-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
-
.......❤.......❤........❤........❤........❤.......❤.......❤.......
เรื่องราวต่างๆ เริ่มขึ้นเมื่อ โช เด็กสัตวแพทย์ชั้นปี 1 กับแมวจรจัด 1 ตัว
มาขอหลบฝนที่ร้านกาแฟของ มิลค์ เด็กถาปัตย์ชั้นปี 2 เจ้าของร้านกาแฟตึกแถวเล็กๆ
ที่ตั้งอยู่ซอย 2 หลังมหาวิทยาลัยรัฐแห่งหนึ่ง
ฤดูฝนนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และชีวิตนักศึกษาที่ไม่เคยสงบสุขอยู่แล้วกลับต้องมาวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม
.......❤.......❤........❤........❤........❤.......❤.......❤.......
-
C H A P T E R : 0 1
ขอเข้าไปหลบฝนนะครับ
ซ่าาาา!!
เสียงน้ำหยดกระทบหลังคาเป็นจังหวะ จากที่แค่โปรยปรายก็กลายเป็นกระหน่ำเทลงมาอย่างไม่ขาดสาย ตามมาด้วยความเฉอะแฉะบนท้องถนน ผู้คนที่สัญจรไปมาต่างก็รีบวิ่งหาที่หลบฝน
ฝนเกลียดฝน
เกลียดเสียงของมัน เกลียดความเฉอะแฉะที่มาพร้อมความสกปรก อากาศก็ชื้น ถนนก็ลื่น รถก็ติด น้ำก็ท่วมขัง ยุงก็ชุม ลูกค้าก็น้อยลง แถมยังมีรอยเท้าสกปรกที่ลูกค้าทิ้งไว้ในร้านอีก ผมถอนหายใจไม่รู้กี่ครั้งที่ต้องหยิบไม้ถูพื้นมาทำความสะอาดใหม่ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ผมเดินไปเปลี่ยนป้ายหน้าร้านจากคำว่า Open เป็น Closed ซึ่งจริงๆมันยังไม่สองทุ่มด้วยซ้ำ ปกติผมจะปิดร้านประมาณสี่ทุ่ม แต่ฝนตกแบบนี้ผมมักจะปิดเร็วกว่าปกติเสมอหากไม่มีลูกค้าเหลืออยู่ในร้าน
ผมกลับมานั่งหน้าเคาน์เตอร์ แล้วยกมือสองข้างลูบหัวสีขาวและสีดำ แมวเปอร์เซียสองตัวที่ผมเลี้ยงไว้
“คิดถึงอีกแล้ว” ผมพึมพำออกมาเบาๆ แล้วผมก้มหน้าลงไปหาเจ้าสองตัว ซึ่งมันเองก็รู้งาน ผลัดกันเลียหน้าผมแล้วร้องออกมาเบาๆ ผมหัวเราะออกมาเพราะเริ่มจั๊กจี้
ความจริง เหตุผลที่ผมเกลียดฝน เพราะฝนมันทำให้ผมเหงาและคิดถึง…
“แม่รู้ว่าแกอยู่ได้โดยไม่มีแม่”
“ไม่ ผมอยู่ไม่ได้ ผมอายุแค่ 18 แม่ ผมอยู่คนเดียวไม่ได้”
“งั้นไปอยู่กับย่าแกที่ฮ่องกงไหม”
“ไม่ บ้านผมอยู่ที่นี่ ร้านกาแฟที่แม่รักก็อยู่ที่นี่ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“งั้นก็อย่าทำให้แม่เป็นห่วง ลูกชายของแม่เก่งที่สุดอยู่แล้ว”
“แม่อย่าไปได้ไหม ผม..อยู่คนเดียวไม่ได้จริงๆ”
“อย่าพูดแบบนั้น อย่าทำให้แม่ห่วง เกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันหนึ่งทุกคนต้องตาย แกเองก็ต้องตาย อย่ายึดติด ไม่ยึดติดก็ไม่เจ็บปวด”
“แต่ ฮึก มันเร็วเกินไป ผม ฮึก…”
“ไม่มีคำว่าเร็วหรือช้า นั่นเราไม่ใช่คนตัดสินหรอก แม่มันบุญน้อย ไม่มีโอกาสเห็นแกใส่ชุดครุยรับปริญญา แต่แม่กับพ่อจะมองดูความสำเร็จของแกอยู่บนนั้นนะ อย่าร้อง อย่าทำให้แม่ห่วง แม่รู้ว่าแกดูแลตัวเองได้”
“ฮือออ..แม่ ฮึก..เสียใจรึเปล่าที่มีลูก..ฮึก แบบผม”
“แกคือของขวัญที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตของพ่อกับแม่..”
คำอำลาของแม่ยังก้องอยู่ในหัวของผม บนเตียงคนไข้ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แม่พูดออกมายิ้มๆไม่มีน้ำตาสักหยดให้เห็น แม่เข้มแข็งมากที่ต่อสู้กับโรคร้ายมาได้ตั้งหลายปี แต่เป็นผมที่อ่อนแอร้องไห้แทบจะขาดใจตายแข่งกับเสียงฟ้าคำรามด้านนอก จำได้ว่าฝนในคืนนั้นตกหนักมาก แต่ยังน้อยกว่าน้ำตาและใจที่แหลกสลายของผม ผมไม่เหลือใครแล้ว ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่จากผมไปตอนผมอายุแค่ 18 ปี เด็กเกเรอย่างผม แม่มั่นใจแค่ไหนว่าจะอยู่คนเดียวได้ แม่มั่นใจแค่ไหนว่าจะดูแลร้านที่แม่รักได้
“ขอเข้าไปหลบฝน ได้ไหมครับ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นปลุกให้ผมหลุดจากภวังค์ ผมเงยหน้าขึ้นไป สบเข้ากับนัยน์ตาสีดำสนิทพอดี ผมกระพริบตาปริบๆ เพราะรู้สึกคุ้นหน้าอีกคน แต่ก็นึกไม่ออกสักทีว่าเป็นใคร อาจจะเคยเห็นตามทีวีหรือนิตยสารรึเปล่าผมไม่แน่ใจ
แม้จะเห็นแค่เสี้ยวหน้า แต่ต้องยอมรับเลยว่าเขาทั้งหล่อและดูดีมากจริงๆ เขาสูงเกือบเท่าประตูร้านผมแหน่ะ! ประตูผมสูง 2 เมตรเลยนะเฮ้ย! “ขอเข้าไปหลบฝนได้รึเปล่า” เขาย้ำขึ้นมาอีกครั้ง แล้วยกแมวสีเทาที่เปียกไปทั้งตัวให้ผมดู
“ครับ..เชิญครับ” ไม่ได้จะไม่ให้เข้ามาสักหน่อย แค่กำลังนึกอยู่ว่าเขาหน้าเหมือนใคร
“ขอบคุณครับ” หลังจากที่ผมอนุญาต เขาก็กล่าวขอบคุณ แล้วฉีกยิ้มออกมา เผยให้เห็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง เขาก้าวเข้ามาในร้านแล้วเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ใกล้ๆประตู ผมพินิจมองอีกครั้ง ภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่แนบลู่ไปกับลำตัว เผยให้เห็นมัดกล้ามที่กำลังพอดี ช่วงขาเขายาวมาก อาจจะยาวกว่าผมทั้งตัวเลยด้วยซ้ำ ผิวขาวแทบจะกลืนไปกับสีเสื้อ จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางได้รูปสีชมพูอมส้ม เขาใช้มือข้างหนึ่งขยี้ผมสองสามที จากที่ไม่เป็นทรงอยู่แล้วกลับไม่เป็นทรงยิ่งกว่าเดิม “เก็บของแล้วหรอครับ ผมสั่งกาแฟสักแก้วได้หรือเปล่า” เขาถามกลับมาอย่างสุภาพ
“ได้ครับ” ผมยิ้มรับ แล้วเดินไปหลังร้านหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กมาหนึ่งผืน แล้วกลับเข้าไปในร้านยื่นให้เขา “ให้แมว ไม่ได้ให้คุณ”
“ขอบคุณครับ” เขาขำออกมาเบาๆก่อนจะยื่นมือรับผ้าจากผมไปแล้วกล่าวขอบคุณออกมา
ผมกลับมาที่เคาน์เตอร์เพื่อจัดการกับเมนูตามที่เขาสั่ง แต่ต้องเงยหน้าขึ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมาทางนี้ เขาท้าวคางมองผมนิ่งๆไม่ได้พูดอะไรไม่ยอมหลบตาผมด้วย อืมม มองขนาดนี้ แดกเข้าไปเลยก็ได้นะ ผมละสายตากลับมาสนใจกับเมนูตรงหน้าต่อ แล้วเปลี่ยนจากหยิบด้ามชงกาแฟมาหยิบชาอบแห้งแทน
ผมวางแก้วชาที่กำลังอุ่นๆไว้ตรงหน้าเขาโดยไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม แล้วเดินกลับมาที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อเก็บของใหม่อีกครั้ง
“ชา?”
“ชามะลิมีสรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลาย มีคาเฟอีนในระดับที่ต่ำกว่ากาแฟ แต่รับรองว่าตาสว่างไม่แพ้กาแฟแน่ ช่วงสอบผมดื่มบ่อย” ผมให้ข้อมูลตามที่ได้มาจากอินเตอร์เน็ต แต่มันได้ผลจริงๆนะ ผมดื่มประจำช่วงที่ต้องปั่นงานกันข้ามวันข้ามคืน
“ครับ” เขาพยักหน้าและขานรับเบาๆ “คุณมีอาหารสำหรับเขารึเปล่า” เขาชี้ไปที่แมวสีเทาพันธ์ไทยตัวหนึ่งที่ตอนนี้โดนผ้าขนหนูหุ้มไว้ทั้งตัว ผมไม่ได้ตอบแต่เดินกลับไปหลังร้านอีกครั้ง เทอาหารแมวใส่ชามจนพูน แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะของเขา ผมวางชามไว้ที่พื้น แล้วอุ้มแมวลงมาพร้อมกับนั่งลงกับมันดูมันกินอาหาร ตัวมันผอมมากครับ น่าจะเป็นแมวจรจัดแถวนี้ สีดำกับสีขาวเมื่อได้กลิ่นอาหารมันก็วิ่งมาตามสัญชาตญาณคือมันหวงของน่ะครับ ขู่ฝ่อเลย ผมก็เลยต้องอุ้มมันมาไว้บนตักแล้วลูบหัวเบาๆ
“ไม่ได้ นั่นของสีเทา” ผมดุแมวทั้ง 2 ตัวของผม ที่เริ่มประท้วงรุนแรงขึ้น
“สีเทา?”
“แมวคุณไง ต่อจากนี้มันชื่อสีเทา”
ผมพูดพรางยื่นมือไปลูบหัวสีเทาเบาๆ แรกๆมันก็หลบมือ แต่สุดท้ายก็นิ่งยอมให้ลูบ
...TBC...
1 เม้นต์ = 1 ล้านกำลังใจนะคะ :hao5:
-
รอๆ มาต่อเร็วๆน้า
-
ไปตั้งชื่อให้แมวเขาเฉยเลยนะะะ
แมวมันก็ต้องมีชื่ออยู่แล้วไหมอะ 5555
รออ่านน้าาาา
:mc4:
-
C H A P T E R : 0 2
“โช หรือ ชื่อในวงการคือ โชยะ นายแบบสังกัด K.Killing เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 25XX ปัจจุบันอายุ 18 ปีและกำลังเข้าศึกษาต่อที่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยXX เป็นลูกชายคนโตของตระกูล ควอเกอร์ มีน้องชาย 1 คนชื่อ เชย์ น้องสาว 1 คนชื่อ ริชา พ่อเป็นลูกครึ่งไทย-เยอรมัน แม่เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น แต่มีข่าวลือว่าพ่อของโชมีภรรยานอก-”
“พอ! พอๆๆ ไม่ต้องละเอียดขนาดนั้นก็ได้” หลังจากที่ได้ฟังผมต้องรีบยกมือเบรกไว้ทันที ปากมันก็บอกว่าเกลียดเขานะครับ แต่จำประวัติเขาได้ชนิดที่ไม่ต้องเสิร์ชเลยทีเดียว และสาเหตุที่ต้องให้มันมาสาธยายชายที่มากับฝนให้ฟัง คือเรื่องมันมีอยู่ว่า เช้าวันนี้ที่อากาศแจ่มใส มีมนุษย์อ้วนเตี้ยร่างหนึ่งกำลังนั่งคร่ำครวญอยู่กับสมาร์ทโฟนสุดหรู ผมผู้ซึ่งอยากรู้อยากเห็นจึงรีบชะโงกหน้าเข้าไปดู แหม! ใครช่างมาทำให้อั่งเปาพุ้งย้อยของผมต้องหัวเสียแต่เช้า
ผมเบิกตาเล็กๆของผมให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อเห็นรูปที่มันยื่นมาให้ดู
หน้าแบบนี้!
ที่เห็นวันนั้นหน้าแบบนี้เลย!
หลังจากเสือกคร่าวๆ ก็ได้ความว่า แฟนของมันชอบ โช มากกก ถึงกับลืมวันครบรอบ 1 เดือนของมันไปดูโชเดินแบบ คือเปามันเป็นคนประเภทที่ตื่นเต้นกับทุกวันสำคัญบนโลกใบนี้น่ะครับ พอมีแฟน มันก็เลยอินมากไปหน่อย
“หล่อแล้วไง เหอะ! หล่อแล้วผู้ชายอย่างกูต้องอกหักหรอว่ะ! สาาาธุ๊ ขอให้มันเป็นเกย์วันนี้พรุ่งนี้ด้วยเถิดดด” มันพูดออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นพนม ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมๆ กลับไปให้ เปามันเป็นคนน่ารักนะครับ ขาวๆ อวบๆ จริงๆก็ไม่ได้อวบมากแค่ตัวเตี้ยและมีพุง ตามสไตล์ลูกคนจีนที่ครอบครัวขุนมาดี ไม่ได้ดูหล่อร้ายเหมือนโช กลับกันมันดูใสๆซื่อๆ เป็นผู้ชายประเภทที่จะโดนผู้หญิงหลอกง่ายๆและบ่อยๆ
“พาลนะมึงอ่ะ ไปเรียนไป” ผมผลักหัวมันเบาๆก่อนจะออกปากไล่มันขึ้นไปเรียน
“กูจริงจังนะเว้ย หญิงจะได้เลิกคลั่งแม่งสักที!”
“เออๆๆ กูไปล่ะ” ผมตัดบท
“อ้าว เชี่ยมิลค์ มึงไม่เข้าเรียนไง๊”
“กูจะไปเคลียร์งานสโม เช็คชื่อให้ด้วยนะ”
“โน!” มันสวนกลับมาทันที
“อ้วนพุงนู้มมมมม” ผมรีบเข้าไปกอดเอวมันไว้ทันทีแล้วเอาหัวไปซุกๆพุงมัน นิ่มมากๆครับอ้วนพุ้งย้อยของผม “นะๆๆ อ้วนนะ”เปามันบ้าจี้ครับ พอมันจั๊กจี้แล้วมันก็จะยอม
“ฮ่าๆๆ เอ่อๆๆ“ มันก็ยอมแพ้ในที่สุด
ผลั๊ก!
ผมผลักประตูเข้าไปในห้องสโม ที่แอร์เย็นเจี๊ยบ สถานที่ที่หลับสบายที่สุดในโลกกกก
“กว่าจะโผล่หัวมาได้นะมึง” เสียงทักของพี่เตอร์ พี่รหัสของผมและพ่วงด้วยตำแหน่งประธานทักขึ้น
“ยุ่งๆน่ะพี่” ผมพูดเสร็จก็ทิ้งตัวนอนลงบนโซฟา
โป้ก!
“โอ๊ย!” ผมร้องออกมาเมื่อโดนแฟ้มฟาดลงที่หน้าท้อง จริงๆก็ไม่ได้เจ็บอะไรแต่ต้องร้องเรียกร้องความสนใจเผื่อพี่เตอร์จะสงสารแล้วเลี้ยงไก่ทอดผม “พี่เตอร์แม่ง เจ็บนะเว้ย” ผมประท้วงออกมา
“หึหึ อ่านให้จบก่อนเข้าประชุม”
“คร้าบบบ” ผมขานรับแล้วเด้งตัวขึ้นมานั่งอีกครั้ง พี่เตอร์พอสั่งเสร็จก็เดินออกจากห้องไป ถึงพี่เตอร์จะชอบแกล้งผม แต่จริงๆแล้วเขาใจดีกับผมมากกก สปอยสุดๆ 1 ปีที่รอดมาได้ก็เพราะมีพี่เขาทั้งคอยผลักคอยถีบ ผมก็เลยนับถือเหมือนพี่ชาย และที่สำคัญเลยคือเขาชอบเลี้ยงไก่ทอดกับแป๊ปซี่ผม
ผมหยิบรายงานการประชุมขึ้นมาอ่าน หัวข้อการชุมครั้งนี้คงหนีไม่พ้นการรับน้อง น่าเบื่อมากครับ หัวหน้าชั้นปีที่ได้จากการจับสลากอย่างผมไม่ควรมาอยู่ตรงนี้เลยจริงๆ เฮ้ออ
อ่านไปสักพักชักเคลิ้มแหะ แอร์สโมนี่มันเย็นดีจริงๆ ผมมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครอยู่ ก็เริ่มเอนตัวลงโซฟาอีกครั้ง
ผลั๊ก!
“เชี่ยมิลค์!” ผมสะดุ้งแล้วเด้งตัวกลับมานั่งท่าเดิมอีกครั้ง หัวกำลังจะถึงโซฟาแล้วเชียว “ห่า โดดไม่บอกกูเลย” เป็นเสียงของไอ้องศา ผู้ชายสายง่วงครับ ลักษณะทางการภาพขององศาคือ ส่วนสูง 190 เซนติเมตร ตัวมันจะหนาๆหน่อยตามประสาคนบ้าออกกำลังกาย โครงหน้าก็ถือว่าใช้ได้ถ้าตัดความง่วงออก แต่ที่เป็นเอกลักษณ์เลยคือผมสีชมพู Rose Gold ของมัน พูดก็พูดเถอะครับ มั่นหน้ามั่นโหนกมากกก ย้ำว่ามากกก แล้วตอนไปทำก็ไม่ปรึกษาใครด้วยไง มันเป็นนักบาสมหาลัยด้วยครับ สาวๆนี่กรี๊ดกันตรึม มีขนมนมเนยมาให้ทุกวัน ซึ่งองศามันไม่กินของหวาน ก็เลยต้องไปอยู่ที่พุงไอ้เปาแทน ความหล่อขององศานี่ไม่ใช่เล่นๆนะครับเห็นหน้าง่วงๆแบบนั้น แต่มันติด Top 10 หนุ่มหล่อของมหาลัยเลยนะคร้าบ ผมกับองศารู้จักกันตอนปีหนึ่ง เพราะต่างคนต่างหนีการรับน้อง แล้วผมดันหนีไปนอนที่ประจำของมัน ก็ผมไม่รู้นี่ ดมดูแล้วก็ไม่ได้กลิ่นฉี่ของใครนี่หนา แรกๆ มันก็โวยวายเวอร์วังอลังการมาก แต่พอมันง่วงมันก็หยุดไปเอง
“กูมาเคลียร์งาน” ผมชูแฟ้มให้มันดู
“ง่วงว่ะ เหยิบไปดิ๊กูนอนด้วย” นั่นแหละครับจุดประสงค์จริงๆของมัน
ผลั๊ก!
“มิลลลลลลค์!” เสียงแหลมสูงปรี๊ดทะลุโสตประสาทดังขึ้น ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้ครับนอกจาก ปันปัน หญิงสาวหนึ่งเดียวในกลุ่ม ปันปัน เป็นดาวคณะด้วยนะครับ สวยทีเดียวถ้าจับแต่งตัวดีๆ แต่ถ้าไม่แต่งก็กะโหลกกะลาผีบ้าผีบอไปวันๆ มันตามจีบผมมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ไม่ได้จีบจริงจังหรอกครับ จีบบ้าๆบอๆของมันนั่นแหละ วันไหนเมนส์มาก็ดูจะรักผมมากหน่อย เห็นมันเป็นแบบนี้ มันได้อันดับหนึ่ง จากผลโหวตผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในมหาลัยไปครองนะคร้าบ บ๊ะ! ธรรมดาที่ไหนล่ะ แต่คืออาจจะถามจริงๆว่าเกณฑ์การให้คะแนนนี่ใช้อะไรตัดสิน? การจะคุยกับปันปันผมแนะนำอย่างหนึ่งนอกเหนือจากต้องทำจิตให้ว่างสุดๆ คือ ต้องมือไว้ด้วย เพราะมันมักจะชอบวอแวซุกนู้นซุกนี่ผมทั้งวี่ทั้งวัน อย่างเช่นแบบนี้เป็นต้น
“ไปไหนก็ไปเลยปัน กูจะทำงาน” ผมดันหัวทุยๆของมันที่เอาแต่ซุกนู้นซุกนี่ออก แขนก็กอดเป็นปลิง เบียดกันสามคนอยู่บนโซฟา ดีหน่อยที่โซฟาค่อนข้างใหญ่ พอผมหันไปจะขอความช่วยเหลือจากองศา ปรากฏว่ามันหลับไปเรียบร้อยแล้วครับ
“คิดถึงมิลค์อ่า มาโปะโปะหน่อย” มันทำปากจู๋ยื่นมาหาผม
”โปะโปะเชี่ยไร ไปไหนก็ไปเลยไป” ผมดันหน้ามันออก
“แหม กับกูนี่หวงเนื้อหวงตัวจริ๊งงง” มันเอามือกอดเอวแล้วพูดออกมางอนๆหลังจากยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ
“มึงน่ากลัวว่ะปัน กูชักจะกลัวมึงจริงๆแล้วเนี่ย” ผมตอบกลับ
“ค่าาา ใครมันจะไปแสนดีเหมือนผัวมึงล๊า” มันพูดออกมาด้วยท่าทางงอนๆ
“ผัวเชี่ยไร เดี๋ยวกูต่อย” ผมยกมือขึ้นประกอบคำพูด มันก็เบ้ปากกลับมาให้
ผลั๊ก!
“มิลค์” เสียงผลักประตูครั้งที่สามพร้อมกับเสียงเรียกเรียบๆดังขึ้น พร้อมการปรากฏตัวของอดีตเดือนคณะปีที่แล้ว เจ้าของส่วนสูง 187 เซนติเมตร หนุ่มหล่ออันดับ 2 ของมหาลัยวิทยาลัย ถ้าถามว่าใครคือคนที่ได้ผลโหวตมาเป็นอันดับ 1 คำตอบคือ ไม่มีครับ เนื่องจากคะแนนของเชนกับเติร์ด(เดือนมหาวิทยาลัยจากคณะวิศวะกรรมศาตร์)ออกมาเท่ากัน จึงครองอันดับสองร่วมกัน เชนเป็นผู้ชายที่จัดว่าหล่อหน้านิ่งครับ คือไม่ว่าจะอารมณ์ไหนก็มีหน้าเดียวตลอด ไม่ได้หล่อวัวตายควายล้ม แต่เวลามองก็เพลินๆดีครับ
”หืม?” ผมเงยหน้าขึ้นไปพร้อมขานรับเบาๆ
“กินข้าวกัน”
“เอ่อ ไปดิ กูก็ยังไม่กินตั้งแต่เช้าอ่ะ” ผมลุกขึ้นแล้วเดินเอาแฟ้มไปวางไว้ที่โต๊ะพี่เตอร์เช่นเดิม
“แหมๆๆ ห้องนี้ก็ไม่ได้มีอิมิลค์คนเดียวถูกม่ะ” เสียงปันปันดังขัดขึ้น
เชนหยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ ปันปันมันเลยแยกเขี้ยวกลับมาให้ คือสองคนมันเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่ประกวดดาวเดือนแล้วครับ ชอบแข่งกันมาวอแวกับผม ผมรำคาญใครก่อนคือชนะ
“อิอง! เขาจะไปแดกกันแล้ว อินี่หนิ! ตื่น!” หลังจากที่ปันปันฟาดต้นแขนมันดังเพี๊ยะไปทีหนึ่ง ไอ้องก็งัวเงียลุกมาแล้วสะพัดหัวสองสามทีเพื่อไล่ความง่วงออก
ข้อดีของการมากินข้าวตอน 10 โมงเช้า คือไม่ค่อยมีคนครับ เพราะฉะนั้นทั้งโรงอาหารเป็นของพวกผม ว่ะฮะฮ่า
“ไอ้พวกเพื่อนเวรรร ทำไมไม่ขึ้นเรียนกันห๊ะ!” เสียงอั่งเปาดังมาก่อนตัวมันเลยครับ
“อิอ้วน มานี่มากูซื้อข้าวไว้ให้มึงแล้ว” ปันปันกวักมือเรียกอั่งเปาให้มานั่งข้างมันพร้อมกับเลื่อนจานข้าวไปให้ด้วย อั่งเปามันก็มันนั่งลงแล้วทำหน้างอนๆ
“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังกู!” มันกอดอกแล้วพูดออกมา
“โอเคมึงไม่กิน?” ปันปันจะเลื่อนจานกลับมา ไอ้เปาก็เลยรีบคว้าไว้
“กิน!”
“โธ่ อิอ้วน” มันยกมือขึ้นผลักหัวอั่งเปาเบาๆ เบาๆของมันคือแทบหงายหลังครับ อั่งเปามันถลึงตาใส่ทันทีเลย
“มิลค์ กาแฟเย็น” เชนกลับมาพร้อมกาแฟเย็น 3 แก้ว นมเขียว 2 แก้ว มันวางกาแฟเย็นไว้ให้ผมแล้วก็นั่งลงข้างๆ
“ขอบคุณนะ” ผมกล่าวขอบคุณแล้วฉีกยิ้มกลับไปให้
“จ่ายมาด้วยนะพวกมึงอ่ะ” มันพูดต่อ
“ทีไอ้มิลค์ไม่เห็นทวง” ไอ้เปาครับ
“กูไม่ได้เอากระเป๋าตังค์มาเว้ย!” ผมรีบเถียงทันที
“กูไม่เคยเห็นมึงเอามาสักที” ไอ้องพูด แต่จริงของมันครับ อย่างข้าวนี่ไอ้องก็ซื้อให้ผม กาแฟไอ้เชนก็ซื้อให้ แล้วมันก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันซื้อให้ผมตลอด
“กรี๊ดดดดดดดดด”
“นี่มันโชนี่ ตัวจริงโครตหล่อเลยมึง”
"เขาเรียนสัตแพทย์นี่ มาทำไรที่นี่อ่ะ"
“เอาลงเพจเลยเร็วๆ"
โช? โชไหนว่ะ ใช่โชเดียวกับที่อุ้มแมวตากฝนมาวันนั้นรึเปล่า
เพ้อเจ้ออีกละ สงสัยอยู่กับไอ้เปามากไป
ผมสะพัดหัวเบาๆเพื่อไล่ความฟุ้งซ่านออก พรางเลื่อนมือไปหยิบแก้วกาแฟ แต่ต้องชะงัก เมื่อโดนมือปริศนาคว้าไปก่อน
“น้ำผึ้งมะนาวเย็นๆ ดื่มตอนบ่ายช่วยให้สดชื่น ไม่มีคาเฟอีนเหมือนกาแฟ แต่สดชื่นไม่แพ้กาแฟนะครับ” เสียงเรียบๆดังขึ้นข้างหู เขาวางแก้วน้ำผึ้งมะนาวเย็นไว้แทนที่แก้วกาแฟเย็นของผม ผมเงยหน้าขึ้นไปสบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทคู่เดิม ผมที่ถูกเซ็ตมาอย่างดีแตกต่างจากวันนั้นสิ้นเชิง ทำให้ใบหน้าดูหล่อเหลาขึ้นไปอีก
“เอาคืนมา” ผมกดเสียงต่ำแล้วชักสีหน้าไม่พอใจใส่
“ดื่มให้อร่อยนะครับ” เหมือนสิ่งที่ผมพูดจะไม่เข้าหูเขาสักนิด แทนที่จะส่งแก้วกลับมาให้ ผมกลับได้รับรอยยิ้มระรื่นมาแทน
“โช”
“ครับ” เขาขานรับ
“กวนตีน”
“ฮ่าๆๆ”เขาขำออกแล้วยกกาแฟขึ้นดื่มอย่างท้าทาย แล้วก็หันหลังเดินออกไป
ทุกคนมองมาที่ผม ผมเลยต้องรีบยกน้ำขึ้นมาดูดแก้เก้อ
“อิมิลค์”
“มิลค์”
“มิลค์”
“อธิบายมา”
อธิบายเชี่ยไรล่ะโว้ยยยย
1 เม้นต์ = 1 ล้านกำลังใจนะคะ :mew1:
-
#น้องมิลล์คนแรด 55555555555555 นับแต่นี้ทุกที่มีแต่มิลล์ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
อธิบายไปเลยยาวๆ แต่ความจริงน่าจะสั้นๆ(?) 55555
รู้จักคนดังเลยยยยยย
-
อ่านไปดิ้นไป .. :katai4:
-
สโมนี่มันงานดีจริงๆ 55
น่าติดตามดีฮะ
-
อุ้ยยยยย อะไรยังไงเนี่ย
-
ติดตามค่ะ :mc4:
-
เข้ามารอ เกิดเป็นมิลค์สะสมแต้มบุนด้วยอะไร อิจแรงงง
-
:katai2-1: รอออออ
-
C H A P T E R 0 3
ขอมาจีบคุณได้หรือเปล่า
CHO'S PART
“จากย่อมความกดอากาศดังกล่าวส่งผลให้กรุงเทพและปริมณฑล อาจจะมีฝนตกบ้างเป็นบางส่วน ใครที่กำลังจะออกจากบ้าน อย่าลืมพกร่มกันนะคะ” เสียงใสๆของดีเจรายการวิทยุชื่อดัง ดังออกมาจากมือถือที่เจ้าของร้านเปิดทิ้งไว้แต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้หลังจากที่ผมพึ่งสั่งกาแฟไป ผมถือโอกาสสำรวจรอบๆร้านไปด้วย ร้านกาแฟขนาดเล็ก 1 คูหา ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ดูดิบๆแต่กลับรู้สึกอบอุ่น อาจเพราะของตกแต่งที่ล้วนเป็นรูปแมวจึงทำให้ดูซอฟต์ลง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเจ้าของร้านคลั่งมันมากแค่ไหน
ข้างนอกฝนก็ยังคงตกอยู่ และไม่มีท่าทีจะหยุดลงง่ายๆ
แต่ผมกลับชอบ
อากาศเย็นๆ หยาดน้ำใสๆ ละอองขาวๆ กลิ่นไออ่อนๆหลังฝนตกมันทำให้สดชื่นเสมอ ยิ่งถ้าได้จิบกาแฟร้อนๆไปด้วยนั้นยิ่งแหล่มเลย
สักพักเขาก็กลับมาพร้อมผ้าขนหนูสีขาวเล็กๆ ผืนหนึ่ง ยื่นให้ผมแล้วบอกว่าให้แมว ไม่ได้ให้ผม ผมยิ้มขำแล้วกล่าวขอบคุณกลับไปให้ ไม่ได้คิดจะแย่งแมวหรอกน่า
ผมท้าวคางพินิจมองคนที่กำลังทำกาแฟอยู่ตรงเคาน์เตอร์ พรางนึกย้อนกลับไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ไม่รู้อะไรดลใจให้เปิดประตูเข้ามา ทั้งที่ป้ายหน้าร้านก็เขียนชัดเจนว่าปิดแล้ว หรืออาจจะเพราะรอยยิ้มน่ารักกับตาสระอิที่ยิ้มและเล่นกับแมวมันดูน่ารักและอ่อนโยน อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ รู้ตัวอีกทีก็เผลอขอเข้าไปข้างในแล้ว
เสื้อเชิ้ตโอเวอร์ไซส์สีขาวที่แขนเสื้อร่นขึ้นไปเหนือข้อศอกทั้งสองข้างถูกทับด้วยผ้ากันเปื้อนสีดำ อดจินตนาการไม่ได้ว่ารูปร่างภายใต้เสื้อเชิ้ตนั้นจะบอบบางแค่ไหน ใบหน้าเรียวรูปไข่ดูหล่อไม่น้อยแต่ดูน่ารักมากกว่า ตายิ้มรูปสระอิยิ้มทีไม่รู้ว่ามองเห็นรึเปล่า จมูกรั้นๆ รับกับริมฝีปากอิ่มได้รูปสีชมพูระเรื่อ ผิวขาวอมชมพูเหมือนไม่เคยเจอแดด เหมือนเขาจะเริ่มรู้ตัวเขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างน่าเอ็นดู ผมยิ้มขำออกมาเพราะโดนจับได้ซะแล้วแต่ก็ไม่ยอมหลบสายตา สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายหลบสายตาไปเอง
รู้ตัวอีกทีแก้วชาสีเหลืองอ่อนๆก็ถูกวางไว้ตรงหน้าซะแล้ว
“ชา?”
“ชามะลิมีคุณสมบัติช่วยให้ผ่อนคลาย มีคาเฟอีนในระดับที่ต่ำกว่ากาแฟ แต่รับรองว่าตาสว่างไม่แพ้กาแฟแน่ ช่วงสอบผมดื่มบ่อย” ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ที่เขาพูดมาแบบนั้นทำให้ผมที่ไม่ดื่มชา และไม่คิดจะดื่มมัน พยักหน้าและขานรับเบาๆกลับไป
“ครับ” ผมลองยกแก้วขึ้นแล้วสูดกลิ่นดู กลิ่นหอมอ่อนๆช่วยให้รู้สึกดีขึ้น พอลองจิบๆดู ก็ไม่เลวแหะ “คุณมีอาหารสำหรับเขารึเปล่า” ผมชี้ไปที่แมวที่เก็บมา เขาไม่ตอบแต่เดินกลับไปหลังร้านอีกครั้ง
ผมหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดเข้าไอจี ช่องทางเดียวที่เอาไว้ติดต่อกับแฟนคลับ ถ่ายรูปแก้วชาพร้อมกดพิมพ์แคปชั่น
終わりにしないように 通りすぎる雨がせかしてる
ท่อนหนึ่งของเพลง Ai ai gasa ของ Tegomass ศิลปินชาวญี่ปุ่น ที่ผมมักจะนึกถึงเวลาฝนตก เนื้อเพลงน่ารักดีครับ ลองไปหาฟังกันนะ
ผมวางมือถือลงข้างๆแก้วหลังจากอัปโหลดรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาเองก็กลับเข้ามาพร้อมชามที่ใส่อาหารแมวจนพูน ผมมองตามเขานิ่งๆ เขาวางมันไว้ที่พื้น แล้วช่วยอุ้มแมวลงไปพร้อมกับนั่งลงกับพื้นดูมันกินอาหารไปด้วย แมวสองตัวของเขาเมื่อได้กลิ่นอาหารมันก็รีบวิ่งมาไม่รู้ว่าหวงของหรือหวงเจ้าของนะครับ เขาเลยต้องอุ้มมันไว้บนตักแล้วลูบหัวเบาๆ
“ไม่ได้ นั่นของสีเทา”
“สีเทา?” ผมที่กำลังยกชาขึ้นดื่มชะงักไปก่อนที่จะทวนชื่ออีกครั้งพร้อมก้มหน้าลงไปถามเขา
“แมวคุณไง ต่อจากนี้มันชื่อสีเทา” เขาตอบกลับมาพรางยื่นมือไปลูบหัวสีเทาเบาๆ แรกๆมันก็หลบมือ แต่สุดท้ายก็นิ่งยอมให้ลูบ อ่า ผมชักอิจฉาสีเทาแล้วสิ
“ดูมันชอบชื่อนี้นะ” ผมวางแก้วชาลงแล้วลงไปนั่งพื้นกับเขา “อาจจะเพราะคุณตั้งให้” ผมพูดยิ้มๆ แล้วลองเลื่อนมือไปลูบหัวมันบ้าง แต่มันกลับหลบมือผม ผมลองลูบอีกครั้งมันก็รีบไปซุกใต้ขาเขาทันที
“เหมือนมันจะลืมว่าผมเป็นคนเก็บมันมา” ผมแกล้งพูดงอนๆ
อยู่ๆเขาก็วางแมวทั้งสองตัวลงบนพื้น แล้วลุกขึ้นถือชามเปล่าที่สีเทากินจนหมดภายในเวลาอันรวดเร็วกลับไปหลังร้านอีกครั้ง ผมมองตามงงๆ แมวทั้งสามตัวก็รีบวิ่งตามเขาไป สักพักเขาก็กลับมาพร้อมกับอาหารแมวครึ่งชาม และผ้าขนหนูที่ใหญ่กว่าผืนแรก เขายื่นมันมาให้ผม
“ให้แมวหรอครับ” ผมแกล้งพูดล้อๆ เขามองค้อนแล้วชักมือกลับทันที ผมก็เลยต้องรีบยื่นมือไปดึงกลับมาไว้ก่อน
“ล้อเล่นๆ..ขอบคุณนะ” ผมฉีกยิ้มกลับไปให้แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงใจดีได้ขนาดนี้
“คุณลองเอาอาหารใส่มือให้มันกินสิ” เขานั่งลงแล้วยื่นชามมาให้ผม ผมขมวดคิ้วทันที นี่คือวิธีที่จะทำให้มันไม่กลัวผมหรอ แล้วถ้ามันกัดมือผมล่ะเฮ้ย!
ผมเทอาหารใส่มือแล้วยื่นไปตรงหน้ามัน แรกๆมันก็ไม่กล้ากิน สุดท้ายก็ยอมกิน คงเพราะยังไม่อิ่ม ผมยิ้มออกมา “มันเชื่องนะ จริงๆแมวจรน่าจะกลัวคนมากกว่านี้” เขาพูดออกมา
“คุณเก็บไว้เลี้ยงไหม ดูมันอยากอยู่กับคุณนะ” ผมถามออกไป ไม่ได้อยากจะผลักไส แค่อยากให้มันอยู่กับคนที่น่าจะดูแลมันได้ดีกว่าผม
“ไม่ ผมอยากเลี้ยงแค่สองตัว” เขาพูดออกมาเสียงแผ่ว แว่บหนึ่งผมแอบเห็นแววตาเศร้าๆ ของเขา
“ผมสัญญา จะเลี้ยงมันให้ดีที่สุด” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เห็นเขาทำหน้าเศร้าๆ แล้วรู้สึกแปลกๆ มันไม่เหมาะกับน่าตาน่ารักของเขาสักนิด
“แหงอยู่แล้ว ก็คุณเป็นคนเก็บมันมา!” เขาช้อนตาขึ้นมาแล้วดุผม
“ฮ่าๆๆ” ผมหัวเราะขำ เอ่อว่ะ มันก็จริงของเขา
ตี๊ดๆ ตี๊ดๆ
เสียงนาฬิกาบนข้อมือของผมกับเขาดังขึ้นพร้อมกันเมื่อเข็มยาวชี้เลขสิบสอง ผมก้มดูเป็นเวลา 5 ทุ่มพอดีเป๊ะ
ฝนข้างนอกก็เริ่มจะซาลงบ้างแล้ว ผมควรจะกลับได้รึยัง
คำตอบคือ ผมยังไม่อยากกลับ
"พรุ่งนี้ผมขอมาหลบฝนอีกได้หรือเปล่า"
สุดท้ายก็ต้องจำใจลา
"ผมไม่ได้ใจดีทุกครั้งหรอกนะ"
“แต่ถ้า...ผมจะมาจีบคุณ ผมมาได้ใช่มั้ย” ผมเอ่ยถามขำๆแต่กลับเต็มไปด้วยความประหม่า เขาชะงักมือที่กำลังลูบหัวแมวอยู่เล็กน้อย
“แล้วตอนนี้…”
เขาหยุดพูดแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
“ก็ไม่ใช่ว่าทำอยู่รึไง”
...............................................................................................
แปลเนื้อเพลงท่อนที่โชใช้เป็นแคปชั่น
[ไม่อยากจากเธอเลย...คนดี...และอยากให้ฝนตกหนักกว่านี้]
Cr. http://chaophayu.exteen.com/20090818/ai-ai-gasa
1 เม้นต์ = 1 ล้านกำลังใจนะคะ
:pig4: :pig4: :pig4:
-
หูย อบอุ่น ละมุนละไม ชอบบรรยากาศแบบนี้จังเลย
โชมิลค์ น่ารักมากค่า :o8:
เพื่อน ๆ มิลค์แต่ละคน ก็น่าสนใจ หล่อ ๆ ทั้งนั้น
ติดตามด้วยคนนะคะ ขอบคุณคนเขียนมากค่า :กอด1:
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
อ่อยหนักมากค่ะ :katai2-1:
:-[ :-[
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
งือออ น่ารักทั้งคู่เลยอ่าาา
o18
-
หูยยยยยยยย ชัดเจนมาก ชอบๆๆๆ
-
C H A P T E R : O 4
ห้ามมาหลังร้านปิด [50%]
กรุ๊งกริ๊ง
เสียงกระดิ่งที่ห้อยอยู่ตรงประตูดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน ผมที่กำลังจะเดินไปล็อคประตู
เนื่องจากเลยเวลาปิดร้านมาเกือบ 10 นาทีแล้วต้องชะงักเท้าไว้ก่อน
“บอกว่าไม่ให้มาตอนร้านปิดไง”
“ก็พึ่งเลิกงานนี่นา” เขาแทรกตัวเข้ามาในร้าน ก่อนจะถอดสูทออกแล้วเอาพาดไว้บนเก้าอี้จากนั้นก็นั่งลงที่มุมเดิม
“แล้วทำไมเหงื่อออกแบบนี้” ผมถามออกไปเมื่อเสื้อเชิ๊ตสีขาวแทบจะแนบลู่ไปกับลำตัว ไหนจะเหงื่อตามใบหน้านั่นอีก
“วิ่งมา” เขาตอบพร้อมกับใช้ทิชชู่เช็ดตามใบหน้าไปด้วย
“วิ่งมาจากไหน”
“จากหน้ามอ”
“แล้ววิ่งมาทำไม!” จากหน้ามอระยะทางมันไม่ใช่ใกล้ๆเลยนะ!
“เดี๋ยวปิดร้านก่อน”
“บ้าป่ะเนี่ยโช วันหลังห้ามวิ่งมาแบบนี้อีกเข้าใจมั้ย!”
“ไม่เข้าใจ” ผมพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำตอบ อีกคนฉีกยิ้มโชว์ลักยิ้มบุ๋มสองข้างกลับมาให้
แต่ก็ปกปิดความอ่อนล้าบนใบหน้าไม่ได้สักนิด
“อย่าละเลยสุขภาพตัวเองได้มั้ย หน้าโทรมหมดแล้วรู้ตัวรึเปล่า”
ผมวางนมน้ำผึ้งอุ่นไว้บนโต๊ะตรงหน้าเขาแล้วมองเขาด้วยสายตาจริงจัง
“ขมวดคิ้วทำไม” สัมผัสเบาๆตรงหัวคิ้วทำให้ผมคลายจากอาการขมวดคิ้วแต่เป็นอันต้องพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้งแทน
“ต่อไปถ้ารู้ว้าดึกก็ไม่ต้องมา กลับไปพักผ่อนก่อน วันหลังค่อยมาก็ได้ ร้านก็อยู่ที่เดิมไม่ได้จะย้ายหนีไปไหน”
“งั้นขอเบอร์ ไม่เห็นหน้า ได้ยินแค่เสียงก็ยังดี” เขาแบมือออกมาเหมือนเด็กกำลังขอขนมพร้อมกับทำหน้าอ้อนๆ
ให้ตายเถอะ เด็กอายุแค่ 18 จำเป็นต้องสายตาแพรวพราวขนาดนี้ไหม
“เหมือนสีเทาตอนขออาหาร” ผมปัดมือเขาออกแล้วเดินมาเก็บของตรงหน้าเคาน์เตอร์ต่อ เหลือบสายตาไปมองอีกคน
เขามองมาทางนี้พร้อมทำหน้ามุ่ยเหมือนเด็กโดนขัดใจ ผมหัวเราะขำก่อนจะส่ายหน้าไปมาเบาๆ
“ไม่เจอวันนี้ วันหลังค่อยมาก็ได้” ผมพูดออกไป เมื่ออีกคนไม่ยอมละสายตาจากผมสักที
“ไม่ได้ ต้องเจอทุกวัน” เขาพูดในขณะที่ยกนมอุ่นขึ้นจิบ “ผมขอจากคนอื่นก็ได้ แต่ผมอยากได้จากมิลค์” เขาพูดต่อ
“งั้นก็โทรมาเบอร์ร้านก็ได้” ผมตัดปัญหา ให้เบอร์ส่วนตัวไปเดี๋ยวก็โทรมากวนอีก ไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี
“เบอร์ร้านมันไม่มีไลน์” ผมชะงักมือที่กำลังเช็ดแก้วอยู่ทันที แสดงว่าคงเอาไปลองแล้วสินะ แล้วไหนบอกได้ยินแค่เสียงก็ดีไง
เฮ้ออ ผมถอนหายใจรอบที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้
Ps. กลับมาแล้วนะค๊าาาา หลังจากที่หายไปนานมากกกกกกก 555555
ฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยน้าา ติชมเข้ามาได้เลยยยยย
1 เม้นต์ = 1 ล้านกำลังใจ :mew1:
-
น่ารักจัง บรรยากาศอบอุ่น ชอบมากเลยครับ ^^
-
ติดตามจ้า :L2:
-
:-[ :-[
-
C H A P T E R : O 4
ห้ามมาหลังร้านปิด [50%]
“โช สัตวแพทย์ กับ เอิร์ท นิเทศ ไปโหวตค่าาา!”
เสียงเจื้อยแจ้วของปันปันดังขึ้นในขณะที่ผมกำลังเดินไปม้าหินอ่อนหน้าคณะที่เป็นที่ประจำของพวกเรา
“โหวตน้องโชนะโว้ย! ใครไม่โหวตแม่จะเจาะยางรถให้หมดเลย!” มันขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วชี้กราดรอบทิศ
“ทำไรว่ะ” ผมที่พึ่งเดินมาถึงโต๊ะเอ่ยถามขึ้นพร้อมชะโงกหน้าเข้าไปดูโทรศัพท์ปันปันด้วย
“ก็โหวตหนุ่มฮอตประจำมหาลัยน่ะสิ มึง เอามือถือมา เร็วๆ!” นี่คงจะเป็นประเด็นฮอตของสัปดาห์นี้เลยสินะ มันแบมือขอมือถือจากผม
“ไร้สาระ” ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะวางชีทเรียนลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงข้างๆอั่งเปา
“มึงอ้วนแล้วเปา เอามานี่กูกินแทนเอง” ผมแย่งลูกชิ้นในมือมันมา มันมองตาขวางก่อนจะแย่งกลับคืน
“กูวัยกำลังโตเว้ย อ่ะ แบ่งให้คำหนึ่ง” พูดจบมันก็ยื่นลูกชิ้นมาตรงหน้าผม ผมก้มลงไปงับทันที อร่อยจริงๆ มิน่าล่ะมันถึงกินได้ทุกเช้า
“มิลค์”
“หืม” ผมขานรับปันปันในขณะที่ปากกำลังเคี้ยวลูกชิ้นอยู่
“มึงกับน้องโชอ่ะ ยังไงคะ” มันวางมือถือลงก่อนจะเอามือมาประสานกันไว้ใต้คาง พร้อมทำหน้ากรุ้มกริ่มรอคำตอบจากผม
“อะไร?”
“อย่ามาทำใสซื่อ!”
“มึงอย่าพูดชื่อไอ้โชให้กูได้ยินบ่อยนักได้มั้ยว่ะปัน มันเจ็บ!” เสียงไอ้เปาดังขัดขึ้น
“กินไปอ้วน มึงอย่าพาล”
“พวกมึง!” ไอ้เปาขึ้นไปยืนบนเก้าอี้แล้วตะโกนขึ้น “ใครโหวตไอ้เอิร์ทกูจะเลี้ยง..อื้ออ เอี่ยอัน!” ไอ้เปายังพูดไม่จบประโยคปันปันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมันก็รีบลุกขึ้นไปปิดปากไว้ทันที
“อย่านะโว้ยย ตำแหน่งนี้มันของเพื่อนเขยกู!” พอถูกปล่อยให้เป็นอิสระไอ้เปาก็จิ๊ปากออกมาอย่างขัดใจ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินลูกชิ้นต่อ
“แล้วสรุปยังไง มึงอ่ะ” มันเอาปลายเท้ามาสะกิดเท้าผม
“เรื่องไรล่ะ” ผมตีเนียนต่อ
“ก็เนี่ย!” มันยื่นมือถือมันมาให้ผม
XXCuteboys
ไม่มีไรจะพูด! นี่เขาแอบคบกันอยู่ใช่ไหม หัวอกกระเทยตัวน้อยๆตาดำๆอย่างฉันต้องมาทนเห็นภาพบาดตาบาดใจ
แบบนี้ ช่วยบอกฉันที่ว่านี่มันไม่ใช่เรื่องจริง ฮืออออออ อยู่กับ – มิลค์ ไม่ใช่นม
ปล.ขอบคุณรูปจากฉันเองที่แอบวิ่ง 4x100 เมตรตามน้องโชจนได้เรื่อง!
*แนบรูปภาพ
17.K ถูกใจ ความคิดเห็น 974 รายการ แชร์ 123 ครั้ง
X
เขาน่าจะแอบคบกันสักพักแล้วนะคะ วันก่อนน้องโชลงรูป (แก้วชาจากร้านพี่มิลค์ จำได้เพราะเป็นรูปแมว) ในไอจี
พร้อมแคปชั่นว่า ‘ไม่อยากจากเธอเลยคนดี และอยากให้ฝนตกหนักกว่านี้’ *แนบรูปภาพ
XXCuteboys กรี๊ดดดดด ทำไมพึ่งมาบอกกกก
XX
วันก่อนเห็นโชมาถาปัตพร้อมซื้อน้ำมาเปลี่ยนกับน้องมิลค์ด้วยค่ะ แนบรูปภาพ
XXCuteboys ว๊ายยยย ทำไมฉันไม่เห็น
XXX
โหววว ลงทุนวิ่งไปหาขนาดนั้น คงคบกันแล้วแหละครับ^^
XXCuteboys ฮืออออ นุ้งจะออกเรือนแล้วหรออ ม่ายยย
XXXX
น่าจะพึ่งคบกันนะคะ 2-3 วันมานี้เห็นโชมาที่ร้านพี่มิลค์ทุกวันเลย เค้าน่าจะนัดกันหลังร้านปิดงี้ 555555
XXCuteboys วันนี้เขากลับเที่ยงคืน ฉันแอบอยู่ตรงพุ่มไม้ฉันเห็นนนน
XXXX โหววว แอดมินโครตสตรอง ไปตั้งแต่ 4 ทุ่มยันเที่ยงคืนเลยหรอคะ
XXCuteboys ถ้าฉันไม่สตรอง พวกเธอจะได้เห็นอะไรดีๆแบบนี้หรอย่ะ เอาผู้ชายมาชาบูฉันเดี๋ยวนี้!
XXCuteboys
อันเอิญนุ้งมิลค์ มิลค์ ไม่ใช่นม ถ้าเห็นโพสนี้แล้วกรุณามาแจ้งแถลงไขทีค่าาาาา อกอีแม่จะแตกแล้ววววว
“ก็ไม่มีไรหนิ” ผมส่งมือถือกลับคืนเจ้าของ รูปนี้ผมเห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ก็เล่นแท็กกันซะขนาดนั้น
“แล้วที่เขาพูดมาทั้งหมดเนี่ย มันจริงไหม”
“จริง…”
“!”
“แต่..ไม่ได้คบกัน”
เอาอีก 50% หลังมาเสิร์ฟค่าาา^^
1 เม้นต์ = 1 ล้านกำลังใจนะคะ :mew2:
-
รอตอนต่อไปจ้าาา
โชใช้สีเทาเข้าหาน้องมิลค์เลย อิอิ
-
:ling3:
-
มิลล์ น่ารักดีกำลังพอดี ไม่ดูหวานแหวว รอตอนต่อไปนะคะ
-
รอๆๆ :mew3:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
C H A P T E R : 0 5
ทางกลับบ้าน
ผมถอนหายใจออกมาเมื่อสายฝนตรงหน้าไม่มีทีท่าจะเบาลงสักนิด
“รู้งี้น่าจะเอาร่มติดมาด้วย” เสียงบ่นของปันปันดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปนั่งลงม้าหินอ่อนที่อยู่ใกล้ๆ
“รออีกหน่อยละกัน กว่าจะวิ่งไปถึง คงเปียกกันพอดี” พูดจบผมก็เดินไปนั่งข้างๆอีกคน
เพราะไม่มีร่มจึงทำได้แค่หยิบโทรศัพท์อออกมาเล่นเกมส์แก้เซ็งเท่านั้น
เห็นไหม ฝนตกแล้วมันน่าเบื่อแค่ไหน
วันนี้มีนัดถ่ายรูปตัวแทนดาวเดือนของแต่ละคณะ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ควรจะเป็นหน้าที่ของผมในการไปดูแลน้องๆ เพราะตามธรรมเนียมแล้วดาวเดือนปีที่แล้วจะเป็นคนดูแลเอง แต่ไอ้เดือนคณะผมมันชิ่งไง…ลำบากใครล่ะทีนี้ ก็ผมอีกไง
'แกๆๆ ดูนั่นๆ'
'กรี๊ดดด ถ่ายส่งไปให้แอดมินเลยแก เร็วๆ'
'ยังกะถ่าย MV แหน่ะ หูยยย โครตหล่อเลยอ่าาาา'
'แค่ใส่ชุดนักศึกษาเดินตากฝนจำเป็นต้องดูแพงขนาดนั้นไหมอ่า'
'มาหาพี่มิลค์แน่เลย'
พอได้ยินชื่อตัวเองในบทสนทนาผมก็ละสายตาจากโทรศัพท์หันไปหาผู้หญิงกลุ่มนั้นทันทีซึ่งนั่งถัดออกไปไม่ไกลนัก แล้วก็พบว่าผู้หญิงพวกนั้นกำลังมองไปอีกฝั่งของถนน ผมมองตามออกไป
ร่างสูงถือร่มอยู่และกำลังเดินมาทางนี้ เขาสวมชุดนักศึกษาที่ไม่ถูกระเบียบนัก ชายเสื้อหลุดออกจากกางเกงไม่รู้ว่าเพราะความบังเอิญหรือตั้งใจ แขนเสื้อถูกร่นไปอยู่บริเวณข้อศอก เนคไทก็ไม่มี แต่กลับห้อยป้ายชื่อที่เขียนด้วยตัวหนังสือน่ารักว่า ‘น้องโช’
ไม่นานเขาก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม ปันปันที่กำลังเล่นโทรศัพท์อยู่เงยหน้าขึ้นมาแล้วทำหน้าอึ้งๆมองผมสลับกับโชไปมา
“จะไม่ทักกันหน่อยหรอ” เขาถามออกมาขำๆ เมื่อเห็นผมเงียบไม่พูดอะไร
“มาทำไม” ผมถามออกไปไม่ได้ใส่ใจนักพร้อมก้มกลับไปเล่นเกมส์ต่อ
“มารับไง เห็นบอกว่าติดฝน”
“ใครบอก ไม่ได้บอก”
“พี่ปันบอก” ผมละสายตาจากเกมส์แล้วหันไปหาคนที่ถูกพาดพิงทันที ซึ่งมันก็ส่งยิ้มหวานกลับมาให้
“แหะๆ กูแค่โพสเฉยๆ” มันยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู
Punpun Parawee นุ้งติดฝน มีใครใจดีไปส่งมั้ยน้าาาา
*แนบรูป ผมนั่งหันข้างเล่นเกมส์อยู่
7 นาทีที่แล้ว 410 ถูกใจ ความคิดเห็น 42 รายการ แชร์ 5 ครั้ง
“แต่น้องโชมาก็ดีแล้ว พี่มีไรจะถาม” ปันปันพูดออกมาด้วยแววตากรุ้มกริ่มไม่ต่างกับที่ทำกับผมเมื่อเช้าเท่าไรนัก
“ไม่ต้องเลยปัน” ผมหันไปห้ามมันไว้เพราะรู้ว่าจะถามอะไร มันจิ๊ปากออกมาอย่างขัดใจแล้วมองผมเคืองๆ “โช พี่เขานัด 4 โมงไม่ใช่หรอ ทำไมไม่ไปตามนัด” ผมยัดมือถือใส่กระเป๋ากางเกงแล้วเงยหน้าขึ้นไปจ้องเขาอย่างจริงจัง
“ไปมาแล้ว แต่ขอออกมา” ผมถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ
สมกับเป็นเขาจริงๆ เหมือนกับที่คิดไว้…ไม่มีผิด
“น้องเขาก็มาแล้วมึงจะบ่นทำไมมิลค์ รีบไปเหอะ ป่ะ” ปันปันพูดออกมาก่อนที่โชจะส่งร่มอีกคันให้ มันรับไปพร้อมกล่าวขอบคุณก่อนจะกางออกแล้ววิ่งออกไป
“เฮ้ย ปัน! ไอ้ปัน จะรีบไปไหนว่ะ!” ผมจะวิ่งตามปันปันไปแต่กลับถูกอีกคนจับข้อมือไว้ก่อน
“ไปกับผม” เขาหยิบร่มขึ้นมาแล้วดึงผมให้เข้าไปใกล้ ผมจำยอมต้องทำตามเพราะตอนนี้ก็เลยเวลานัดมามากแล้ว อีกอย่างเขาก็ขอออกมาถ้าไม่รีบไปเดี๋ยวพี่ที่กองประกวดจะว่าเอาได้
“ขาก็ยาวเดินให้มันเร็วกว่านี้หน่อยได้ไหมโช” ผมหันไปเอ็ดคนข้างๆที่เดินช้าอย่างกะหัดเดินจงกลม ระยะทางมันไม่ได้ไกลเท่าไรแต่ตอนนี้เหมือนมันไกลเป็นสิบๆกิโล
“ก็ยังไม่อยากให้ถึงนี่”
“ช่วยจริงจังหน่อยได้ไหมโช นี่มาทำงานนะ” ผมอดไม่ได้จึงเอ็ดเขาไปอีกรอบ เพราะต้องทำงานกับหลายคน ต่างคนต่างความคิด ผมไม่อยากให้คนอื่นมองเขาไม่ดีหรือเอาไปพูดลับหลัง
“คิ้วขมวดอีกละ” เขายื่นนิ้วชี้มาเตะเบาๆ บริเวณหัวคิ้วของผม ผมรีบปัดออกทันที
“อยู่ข้างในห้ามมาวอแวเข้าใจไหม ตั้งใจถ่ายด้วย”
“ไม่เข้าใจ..” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วเบือนหน้าหนี
“โอ๊ยย” ผมร้องออกมาเมื่อเขาใช้มือขวาที่ถือร่มอยู่มาล็อคคอผมไว้ เท่ากับว่าตอนนี้เขากำลังพาดแขนที่ถือร่มอยู่ไว้บนไหล่ของผม
“เข้าใจก็ได้” เขาพูดออกมาก่อนที่ผมจะหันไปแยกเขี้ยวใส่
“นุ้งงงงงงงมิคคคคล์” เสียงเรียกชื่อผมดังขึ้นทันทีที่มาถึงสถานที่ที่นัดหมาย
“พี่สมชายสวัสดีครับ”
“อ๊ายยย นุ้งมิลค์บอกหลายทีแล้วให้เรียกซูซี่” พี่สมชายหรือพี่ซูซี่ ตุ๊ดร่างใหญ่ประจำคณะนิเทศศาสตร์ ชั้นปี 4 ที่ตอนนี้เป็นหนึ่งในทีมงานของกองประกวดดาวเดือน
“ฮ่าๆๆ สมชายก็น่ารักดีออก”
“ไม่ด้ายยย เดี๋ยวผู้ชายเผ่นหมด แล้วผัวขาฉันไปไหนทำไมเธอได้มาแทนซะล่ะ” เขาถามเพราะหน้าที่นี้ต้องเป็นของไอ้เชน ซึ่ตอนนี้ก็ไม่รู้มันไปมุดหัวอยู่ไหน
“ไม่รู้มัน เดี๋ยวนี้แม่งชอบทำตัวพิรุธว่ะพี่….ไปนั่งกับเพื่อนไป” ประโยคหลังผมหันไปบอกโชที่เดินมาสะกิดหลังผม เขาก็ทำตามโดยไม่อิดออด เออดี
“อะไรยังไง ไหนเล่าซิ เอ๊ะ เดี๋ยว เคลียร์ประเด็นตัวเองก่อนดีมั้ยฮึ”
“เคลียร์ไร”
“ก็แฟนเด็กเธอไง”
“ไม่มีไรให้เคลียร์”
“งั้นก็แสดงว่าจริง”
“จริงนิดเดียว นอกนั้นมโนกันหนักมาก”
“งั้นก็ไปแก้ข่าวดิ”
“แก้ให้หน่อยดิ พี่เป็นแอดมินเพจไม่ใช่หรอ ผมรู้นะ”
“ว๊ายยย ฉันอุตส่าห์ปิดบังตัวตน หวังจะได้เต๊ะผู้ชายไปนานๆ”
“เขาก็รู้กันหมดแล้วป่ะ จะมีใครบ้าผู้ชายได้มากกว่าพี่ว่ะ”
“อ๊ายยย ทำไมปากคอเราะร้าย ได้! เดี๋ยวเจอฤทธิ์สมชาย!” พี่สมชายพูดแค่นั้นก่อนจะเดินสะพัดบ็อบออกไป
แชะ! แชะ! แชะ!
เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หมายเลข 17 โช จากสัตวแพทยศาสตร์
ให้ตายเถอะ ผมต้องทำยังไงถึงจะเชื่อว่าเด็กคนนี้อายุ 18 จริงๆ ยิ่งพอได้มาอยู่หน้ากล้อง องค์ประกอบทุกอย่างมันเสริมให้เขายิ่งดูหล่อเหลาไม่มีที่ติ
จริงๆไม่ต้องประกวดก็รู้แล้วป่ะว่าใครจะได้
ไม่ได้อวยเลย พูดความจริง
ท่าโพสที่ดูยังไงก็มืออาชีพแม้จะเป็นท่าสบายๆ เสื้อผ้าหน้าผมที่ถูกเซ็ตมาอย่างดี ส่วนสูงที่เป็นเอกลักษณ์ ลักยิ้มบุ๋มสองข้าง และดวงตาขี้เล่นที่กำลังมองมาที่ผม
“..ดีครับ....มองกล้องด้วยครับ..น้องครับ มองกล้องหน่อยครับ”
xxxCuteboys
น้องโชมองกล้องด้วยค่ะ อย่ามองแต่พี่มิลค์ อยู่กับ มิลค์ ไม่ใช่นม
*แนบรูปภาพ ผมกับโชที่กำลังสบตากันอยู่ โดยที่อีกคนฉีกยิ้มหวานจนเห็นลักยิ้มสองข้าง และผมที่ยิ้มจนตาหยี
โพสใหม่ล่าสุดของเพจ cute boys
xxxCuteboys เหม็นฟามมมรัก
xxxCuteboys คนมีความรักก็จะประมาณนี้ อืมๆๆ
xxxCuteboys How to เปลี่ยนกองประกองยังไงให้มีแค่เราสองคน
xxxCuteboys เขารักกันขนาดนี้พวกเธอจะแจวให้เหนื่อยทำไม ขึ้นฝั่งได้
xxxCuteboys น่ามมคานนนนนน
เหมือนพี่แกจะเหงานะครับ
“สำหรับวันนี้พี่ในนามของตัวแทนกองประกองต้องขอบคุณทุกคนนะคะ ที่สละเวลามา ครั้งหน้าจะเป็นการเวิร์คชอป พี่อยากจะขอนัดเป็นวันเสาร์อาทิตย์นะคะ เวลาและสถานที่เดี๋ยวจะแจ้งผ่านพี่เลี้ยงไปอีกทีค่ะ ขอให้ทุกคนทำตัวให้ว่างกันนะคะ..” หลังจากที่พี่เก๋ตัวแทนของกองประกวดพูดจบพวกเราก็แยกย้ายกันกลับ
“รอก่อน เดี๋ยวมา” โชสะกิดแขนผมก่อนจะพูดขึ้นแล้วเดินออกไป
“มีผัวแล้วลืมเพื่อน ชิ” ปันปันพูดขึ้นก่อนจะเดินสะบัดบ็อบออกไปอีกคน ผมมองตามมันไป อะไรของมันว่ะ
“ไปไหนมา” โชกลับมาแล้วหลังจากที่หายไปไม่ถึง 5 นาที
“ไม่บอก” เขาตอบกลับกวนๆพร้อมฉีกยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มสองข้าง ผมกรอกตาไปมาก่อนจะเดินนำเอาออกไป
ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มละ ยังดีที่มีแสงไฟสีส้มสองข้างทางส่องตลอดทาง จึงไม่ได้ดูวังเวงนัก
จริงๆมันคือ เส้นทางเดิมที่ผมเคยเดินอยู่ทุกวัน ดึกกว่านี้ก็เคยเดินคนเดียวมาแล้ว แต่วันนี้มันกลับแตกต่างออกไป
ผมลอบมองคนข้างๆที่เดินอยู่เงียบๆ
"ยิ้มอะไร" เขาถามก่อนที่จะส่งยิ้มละมุนมาให้ ผมมองคนที่ถามงงๆ เพราะไม่รู้ว่าริมฝีปากตัวเองมันขยับเป็นรอยยิ้มตั้งแต่เมื่อไร
ซ่าาาา
อยู่ๆ ฝนห่าใหญ่มาจากไหนไม่รู้ก็เทลงมา
คือจะตกก็ไม่ส่งสัญญาณไรเลยหรอ ตกกันง่ายๆแบบนี้ก็ได้หรอ
ผมกับโชรีบวิ่งใส่เกียร์หมาทันที อีกนิดเดียวก็จะถึงร้านอยู่แล้วเชียว เปียกจนได้
เราวิ่งมาถึงหน้าร้านแล้ว
ตัวเปียกอย่างกับลูกหมาตกน้ำ
พอหันไปมองหน้ากันต่างคนต่างก็ขำออกมา
เขายื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆในขณะที่ผมหันหลังไขกุญแจร้านอยู่
“จะเข้าไปก่อนไหม” ผมหันไปถามเขา ทั้งที่ก็รู้คำตอบดี
“มาขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่ยอมกลับไปง่ายๆหรอก”
เขาพูดจบก็แทรกตัวเข้ามาในร้านก่อนเจ้าของร้านซะอีก
...........................................................
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ
1 เม้น = 1 ล้านกำลังใจนะคะ :mew1:
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
โซมิลล์ น้องโซชัดเจนมาก ชอบแล้วต้องจีบลูก พี่มิลล์กำลังดี วางต้วดี ชอบค่ะ
-
:pig4:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:pig4: :pig4:
-
น่ารักกกกกกกกกก
-
C H A P T E R : 0 6
สุดยอดแม่บ้าน
“เมี๊ยววว”
ทันทีที่ประตูเปิดออก แมวสองตัวก็รีบวิ่งมาอ้อนให้อุ้มทันที. ผมก้มลงไปอุ้มทั้งสองตัวขึ้นมาก่อนที่จะโดนโชแย่งสีดำไปอุ้มไว้
ผมก้มลงไปฟัดสีขาวจุ๊บหลายๆทีจนชื่นใจ อีกคนมองนิ่งๆก่อนที่จะทำตามทั้งที่ก็ดูกล้าๆกลัวๆอยู่จนผมหลุดขำออกมา
“เอาอาหารหลังร้านมาเทให้มันหน่อย. เดี๋ยวจะขึ้นไปเอาผ้าเช็ดตัวมาให้” ผมกำลังจะเดินขึ้นบันไดไปชั้น2 เอี้ยวตัวไปบอกโชที่กำลังกระหน่ำจูบสีดำไม่หยุด แล้วไม่ดูหน้าแมวผมด้วยนะ. เฉยเมยสุด ไม่อินสุด. ดีนะมันไม่งับเอา. ปกติมันไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้าเท่าไร. เวลาลูกค้ามาก็จะชอบแอบวิ่งไปอยู่หลังร้าน. ต่างจากสีขาวที่จะขี้อ้อนมากๆ เวลาได้ยินเสียงกระดิ่งหน้าร้านก็จะรีบวิ่งออกไปดู. แล้วทำหน้าอ้อนเหมือนกำลังขออาหาร. เห็นแก่กินเหมือนเจ้าของมันไม่มีผิด
“โช! จะเดินตามมาทำไมเนี่ย. บอกให้ไปเอาอาหารมาให้มัน”
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไง”
“ใครจะให้เปลี่ยน. เดี๋ยวจะเอาผ้าเช็ดตัวมาให้ รอนี่แหละ!”
“ได้ไงล่ะ. เป็นหวัดขึ้นมาจะทำไง. ค่าตัวผมแพงนะครับ”
“งั้นก็กลับไปเลยไป”
“อันนี้ยิ่งไม่ได้ใหญ่” เขาพูดจบก็เดินนำผมขึ้นไปข้างบนเหมือนรู้ทาง. พอไปถึงก็ทำหน้าเลิกลั่กจนผมต้องเป็นฝ่ายเดินนำไปเอง
“นี่เสื้อคนหรือเสื้อหมาทำไมเล็กงี้” ผมยื่นเสื้อที่ไซส์ใหญ่สุดไปให้เขา. ก่อนที่อีกคนจะวางสีดำลงบนเตียงแล้วรับเสื้อไปกางออก
“กวนตีน เล็กก็ไม่ต้องใส่ เอาคืนมา” ผมแย่งกลับมาทันที คนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจกลัวจะไม่สบายจริงๆ. แต่กลับมาพูดจาไม่เข้าหูซะนี่
“ล้อเล่น” เขาแย่งกลับคืนแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป. ผมจึงเดินไปหยิบชุดนอนมาอีกชุดแล้วเดินไปอาบน้ำห้องแม่
ผมกลับมาในห้องตัวเองหลังอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว. เห็นอีกคนกำลังเดินสำรวจไปทั่วห้อง. หยิบจับนู้นนั่นนี่ไปเรื่อย
อืมม เอาเลยโช เต็มที่เลย
“มองไร” เขาเอี้ยวตัวมาถามผมในขณะที่กำลังหยิบกรอบรูปขึ้นมาดู
“ใครมอง!” ผมรีบปฏิเสธทันที. แต่จะบอกว่ายังไง โชกับเสื้อที่ว่ารัดแล้วยังมีกางเกงกีฬาสีดำผ้ามัน ตัวเล็กและโครตจะบาง. ที่สำคัญคือไม่ได้ใส่กางเกงใน มันก็จะ เอ่อออ ไซส์ฝรั่งหน่อยๆ
“มองแล้วหน้าแดงหมายความว่าไง” เขายิ้มมุมปากกวนๆพร้อมกับวางกรอบรูปลงที่เดิมแล้วเดินเข้ามาหาผม
“แดงเหี่ยไรล่ะ!” ผมโยนผ้าเช็ดตัวใส่เขาแล้วรีบวิ่งลงบันไดไปชั้นล่างทันทีด้วยความหงุดหงิด
สีขาวกับสีดำเองก็วิ่งตามลงมาผมเดินไปเทอาหารให้มันที่ตอนนี้คงหิวได้ที่เพราะเลยเวลากินอาหารมาสักพักแล้ว. จากนั้นก็เดินไปที่ครัวแล้วเปิดตู้เย็นสำรวจดูว่าพอจะมีอะไรประทังชีวิตได้บ้าง. จริงๆผมชอบทำอาหารมากแต่เพราะขี้เกียจเตรียมและเก็บของก็เลยไม่ค่อยได้ทำ. ของในตู้เย็นก็ไม่ค่อยมีอะไรและดูเหมือนจะเริ่มเสียแล้วด้วย. มื้อนี้คงจะต้องฝากท้องไว้กับมาม่าอีกแล้วสินะ
ไม่นานโชก็อุ้มแมว 2 ตัวเข้ามา. เดินมาช้อนหลังผมแล้วจับขาหน้ามันมาเขี่ยผมผมเล่น
“หลบดิ เกะกะ!” ผมหันไปโวยวายให้อีกคนที่เล่นไม่ดูเวล่ำเวลา เขาหัวเราะขำออกมาแล้วเดินไปวางแมวทั้ง 2 ตัวลงบนโต๊ะกินข้าวเล็กๆมุมห้องที่มีเก้าอี้แค่ 2 ตัว. และช่วงนี้ใช้แทบจะนับครั้งได้. เพราะปกติผมจะกินข้างนอกหรือไม่ก็สั่งมากินอยู่หน้าเคาน์เตอร์. ห้องครัวก็แทบจะไม่ได้ใช้งานเลย
“ให้ช่วยไหม” เขาก้มลงมาพูดกับผม ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ที่เป็นกลิ่นที่ผมใช้ประจำ
“แค่ช่วยนั่งเงียบๆก็พอ” ผมผลักอกอีกคนออกเบาๆแล้วเดินไปหยิบชามมาใส่มาม่าที่ตอนนี้ใกล้จะสุกแล้ว.
“มีแต่มาม่า กินไม่ได้ก็กลับไป”
“ไล่จังเลย” เขาพูดขำๆ ก่อนจะยื่นมือมาเลื่อนชามมาม่าไปตรงหน้า.
“พอแล้ว ไม่กินรึไง” ผมร้องห้ามอีกคนที่เอาแต่คีบลูกชิ้นกับเนื้อหมูมาให้ผม อุตส่าห์ใส่ไปตั้งเยอะเห็นตัวใหญ่นึกว่าจะกินจุซะอีก รู้งี้น่าจะเก็บหมูไว้ทำพรุ่งนี้เช้า
“ให้มิลค์กิน จะได้โตเร็วๆ”
“มันก็โตได้แค่นี้แหละ!”
พอกินเสร็จเขาก็อาสาเป็นคนล้างจานเอง. ผมนั่งเล่นกับแมวอยู่ที่โต๊ะกินข้าวมองคนที่กำลังล้างจานอยู่ พอเขาล้างเสร็จผมก็ลุกขึ้นเดินไปปิดไฟห้องครัว เขาเดินตามออกมาก่อนจะยื่นมือที่เปียกอยู่มาเช็ดเสื้อด้านหลังผม
“โช!!”
“มิลค์. อยากกินนมอุ่น” เขารีบเปลี่ยนเรื่องทันทีแล้วทำหน้าอ้อนๆ เออ. เรื่องแบบนี้น่ะเก่ง!
“ฝนซาแล้ว กลับไปได้แล้วไป”
“มิลค์. อยากกินนมอุ่นจริงๆนะ”
ผมถอนหายใจออกมา โชขยับมากอดคอผมเดินลากไปยังส่วนที่เป็นร้านกาแฟ
“อยากกินไรไม่ดูเวล่ำเวลา. กว่าจะรอเครื่องร้อนอีก” ผมบ่นออกมา
“เกรี้ยวกร้าดจังนะวันนี้” เขายื่นมือที่กอดคอผมอยู่มาบีบจมูกผมเบาๆ ผมรีบปัดออกทันทีพร้อมกับจิ๊ปากออกมาอย่างขัดใจ
“ชอบตอนที่มิลค์กำลังตั้งใจทำให้ผม มันน่ารักดี” เขาพูดขึ้นในขณะที่ผมกำลังสตรีมฟองนมอยู่
“ใครเขาชมผู้ชายด้วยกันว่าน่ารักว่ะ”
“ก็น่ารักจริงๆนี่นา”
“ฟังดูแสลงหูแปลกๆ”
“งั้นคงต้องพูดบ่อยๆแล้วแหละ จะได้ชิน”
พอกินเสร็จเขาก็อิดออดจะอยู่ต่อจนได้. ลากยาวมาจนเกือบจะ 5 ทุ่มก็ยังไม่ยอมกลับ. ผมง่วงจึงพูดประชดไปว่า ‘งั้นก็นอนด้วยกันเลยไหมล่ะ’ แต่ดูเหมือนอีกคนจะตีความหมายผิดเป็นผมชวนให้ค้างด้วยซะงั้น
ผมยืนแปรงฟันอยู่หน้ากระจก เหลือบมองผ่านกระจกไปเห็นชุดนักศึกษาเปียกๆของอีกคนพาดอยู่บนราวแขวนผ้าพอดี
“แปรงสีฟันอยู่ในตู้นะ” ผมเดินออกมาบอกคนที่นอนเล่นกับแมวอยู่บนเตียงพูดแค่นั้นแล้วเดินลงมาข้างล่างอีกครั้ง.
จะปั่นให้ก็กลัวจะเปลืองไฟ มีแค่ชุดเดียวเอง ซักมือแม่งเลยละกัน
พอคลี่ออกก็เจอกางเกงในที่ม้วนเป็นเลขแปด. หน้าตาก็ดีแต่ถอดกางเกงในได้น่าเกลียดฉิบหาย. ชีวิตนี้ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาซักกางเกงเลขแปดให้ใครเลย แต่ถ้าไม่ซักพรุ่งนี้ก็จะโดนว่าว่าเอาเสื้อหมาไปให้ใส่อีกแน่ๆ หรือถ้าให้อีกคนซักเอง ยิ่งแล้วใหญ่เขาต้องพูดว่า ‘ทิ้งไปเลยก็ได้’แน่ๆ รวยอย่างเดียวไม่พอ นิสัยยังรวยด้วย เกลียด
ซักเสร็จก็เอาไปปั่นแห้ง. เพราะฝนยังคงปรอยๆอยู่ กลัวจะแห้งไม่ทันหรอกนะจึงได้ยอมให้เปลืองไฟน่ะ
ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องซึ่งตอนนี้มีแต่แมว 2 ตัวนอนอยู่บนเตียงส่วนอีกคนน่าจะอยู่ในห้องน้ำ. ผมเดินไปเอาผ้านวมในตู้มาปูเป็นที่นอนแล้วขึ้นไปนั่งบนเตียงพร้อมกับโยนหมอนกับผ้าห่มผืนเล็กๆลงไปข้างล่างด้วย
แกร๊ก
เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมา. ทำหน้าตาเลิกลั่กกระพริบตาปริบๆอย่างน่าเอ็นดู จนอดที่จะแกล้งไม่ได้
“ผมนอนไหน” เขาถามออกมา
“นั่นไง” ผมชี้บอก
“ได้ไง! ผมจะนอนกับมิลค์”
“จะนอนได้ไง. เตียงเล็กแค่นี้”
“ทำไมจะนอนไม่ได้” เอาเดินเข้ามาใกล้ผมอีก
“อย่าเข้ามานะ” ผมรีบยกขาขึ้นขู่ไว้ทันที
“มิลค์...” เขาพูดเสียงอ่อย ปากสวยๆนั่นกำลังเบะเล็กน้อยเหมือนเด็กเวลาโดนขัดใจ. พื้นแข็งๆแบบนั้นคงไม่เคยนอนสินะ. เห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ แต่ก็อดแกล้งไม่ได้เช่นกัน
“ไปนอนดีๆถ้าไม่อยากโดนไล่กลับ” ผมยื่นคำขาด พร้อมทำหน้าจริงจัง. เขาก็เลยต้องยอมทำตามแต่โดยดีแม้จะอิดออดเล็กน้อย.
ผมเดินไปปิดไฟแล้วกลับขึ้นมานอนบนเตียง. แอบชะโงกหน้าไปดูอีกคนที่นอนตะแคงข้างไปอีกฝั่ง. ผมส่ายหน้าไปมายิ้มๆ เขานี่มันเด็กน้อยจริงๆ ผมหันไปจุ๊บสีขาวที่นอนอยู่ฝั่งซ้ายและสีดำที่นอนอยู่ฝั่งขวา
ติ่งดิ่ง
เสียงแจ้งเตือนจากเฟสบุ๊คผมดังขึ้น. ผมเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่หัวเตียงขึ้นมาแล้วกดเข้าไปดู
XXCuteboys.
พูดเลยว่าวันนี้เจอหลักฐานเด็ด. มิลค์ ไม่ใช่นม จะพูดเองหรือจะต้องให้แฉ
มิลค์ ไม่ใช่นม. : หลักฐานไร
ผมพิมพ์ตอบกลับไป
XXCuteboys. : นั่งยัน. นอนยัน. ตีลังกาสามตลบยันก็ได้เอ่า! เขา นอน ด้วย กัน!
X : กรี๊ดดดดดดด จริงมั้ยคะ
XXCuteboys. : ฉันเคยโกหกพวกเธอหรอจ้ะ
XX : แนบรูปมาด้วยค่าแอดดด
XXX : ข้ามขั้นเร็วนะคะคู่นี้ กรี๊ดดด
XXCuteboys. : ฉันแอบขับรถตามเขาไป. แอบอยู่เป็นชั่วโมงๆ อุทิศตัวเองเพื่อพวกเธอสุด. จนได้เจอของดีจ้าา. อยู่ๆไฟในห้องพี่มิลค์ก็ดับ พึ่บ! แต่! น้องโชยังไม่ออกมาจ้าาา ซึ่งร้านมีทางออกทางเดียวคือ หน้าร้านนน
XXXX. : โอ้โห ต้องลงทุนเบอร์นี้เลยหรอคะ 5555 กราบบบบ ในความสตรอง
ติ่ง
Cho_official ได้ส่งคำขอติดตามคุณ
ผมชะโงกหน้าไปมองอีกคนทันทีเมื่อคำขอติดตามในไอจีเด้งขึ้นมา. แม้จะมีเพียงแสงไฟจากถนนข้างทางลอดเข้ามาทางหน้าต่างแต่ก็สว่างพอที่จะได้มองเห็นรอยยิ้มละมุนที่กำลังแกล้งหลับและมือที่กำโทรศัพท์ไว้แน่น.
แต่ไม่ยอมรับหรอก หยิ่งเว้ย!
ติ่งดิ่ง
CHO : ฝันดีนะครับ
เข้าเปลี่ยนเป็นไลน์มาแทน
CHO : แต่อย่าฝันถึงผมนะ
Milk : ทำไม
CHO : เพราะมิลค์จะไม่อยากตื่น
มีต่อข้างล่างนะคะ
-
7โมงกว่าๆ ผมเดินงัวเงียเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ในขณะที่แปรงฟันอยู่ก็เหลือบไปเห็นว่าไม่มีแปรงสีฟันของอีกคน. ไม่ใช่ว่าใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งนะ. พวกคนรวยยิ่งชอบทำอะไรสิ้นเปลืองอยู่. ผมบ้วนปากแล้วชะโงกหน้าไปดูในถังขยะก็ไม่เจอ ยิ่งเหลืออันสุดท้ายแล้วนะเว้ย
“โช แปรงสีฟันล่ะ” ผมแต่งชุดนักศึกษาเรียบร้อยแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำถามเขาที่ตอนนี้ถือวิสาสะขึ้นไปนอนบนเตียงผมแล้วเรียบร้อย
“แปรงสีฟันไร” เขาพูดเสียงอู้อี้ในขณะที่ยังซุกอยู่กับหมอนข้าง
“ก็เมื่อคืนได้ใช้มั้ย”
“ก็ใช้ของมิลค์ไง ทำไม” เขาลืมตาขึ้นมาช้าๆแล้วหันมาหาผม. ขนาดพึ่งตื่นนอนแท้ๆแต่ก็ยังคงความหล่อได้สม่ำเสมอจริงๆ ยิ่งหัวฟูๆนั่นมันยิ่งทำให้ดูน่ารัก
“ห้ะ! บ้าป่ะเนี่ย จะมาใช้ด้วยกันทำไม. ก็บอกว่าอยู่ในตู้!”
“หาไม่เจอ”
“ทำไมไม่ถาม!”
“ผมไม่รังเกียจหรอกน่า”
“แล้วไม่คิดว่าคนอื่นเขาจะรังเกียจรึไง!”
“มิลค์ไปใช้ต่อรึไง”
“เอ่อ!” เขาขำออกมาทันที
“ถือว่าจูบทางอ้อมละกัน” ตรรกะไหนมิทราบ คนดีๆที่ไหนเขาจะไปใช้แปรงสีฟันร่วมกับคนอื่นว่ะ.
“จูบทางอ้อมบ้านคุณน่ะสิ! แล้วก็รีบลุกเลยไปอาบน้ำได้แล้ว!” ผมเดินไปดึงผ้าห่มออกจากตัวเขา เผยให้เห็นท่อนบนที่เปลือยเปล่า ดีที่ท่อนล่างยังมีกางเกงกีฬาปกปิดไว้อยู่. ไม่งั้นล่ะ มึงเอ้ยยยย
“มิลค์!”
เขาเข้าไปในห้องน้ำแล้วตะโกนถามผมที่กำลังเก็บที่นอนบนพื้นอยู่
“อะไร!”
“ผ้าเช็ดตัวอยู่ไหน”
“เคยหาอะไรเจอบ้างเนี่ย!”
หลังจากเก็บที่นอนเรียบร้อยแล้วผมก็เดินลงไปชั้นล่างเพื่อเอาชุดนักศึกษาขึ้นมารีดให้คนที่กำลังอาบน้ำอยู่.
ไม่นานเขาก็ออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูสีขาวที่พันช่วงล่างไว้. ท่อนบนเปลือยเปล่า สัดส่วนที่ผู้ชายด้วยกันแท้ๆยังแอบอิจฉาและตอนนี้ยังมีหยดน้ำพราวเกาะตามตัว. ผมเปียกแนบลู่ไปกับใบหน้า. เขาเดินไปหน้ากระจกพร้อมยกผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ขึ้นเช็ดสองสามที. เหมือนอีกคนจะเริ่มรู้ตัวว่าผมกำลังแอบมอง. เขายิ้มล้อๆผ่านกระจกมา. ผมยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจแล้วหันกลับมาสนใจเสื้อต่อ
รีดเสร็จผมก็ยื่นไปให้เขา. เขารับไปพร้อมกล่าวขอบคุณแล้วส่งยิ้มละมุนกลับมาให้. ผมเดินไปที่โต๊ะหนังสือเพื่อจัดตารางเรียนของวันนี้จัดเสร็จเขาก็แต่งตัวเสร็จพอดี
เราเดินลงมาชั้นล่างพร้อมกัน. พร้อมกับอุ้มแมวไว้คนละตัว. สปอยเหลือเกิน. จะเป็นง่อยแล้วมั้งเนี่ย.
“ปวดหลังอ่ะ” เขาบ่นออกมาแล้วเดินมากอดคอผม. ผมหลุดขำออกมา. จะว่าสงสารก็สงสาร แต่ก็นั่นแหละ
พอถึงชั้นล่างผมก็ปล่อยสีขาวลงแล้วเดินไปฝั่งห้องครัว. ส่วนเขาก็เดินไปให้อาหารแมวอย่างรู้งาน ทำตัวมีประโยชน์ก็เป็นนี่หว่า
“กินได้ไหม. มีแค่นี้แหละ” ผมวางข้าวกล่องเซเว่นที่แอบค้นเจอในตู้เย็นสองกล่องลงบนโต๊ะกินข้าวแล้วเลื่อนไปให้อีกคน
“มิลค์ทำไรให้ก็กินหมดแหละ”
“เอ่อ เลี้ยงง่ายดี”
“รับมาเลี้ยงไหม สัญญาจะไม่ดื้อไม่ซน”
“เลี้ยงไม่ไหว. เอาใจยากเกิน” ผมแกล้งพูดขำๆ กำลังจะเดินไปเอาน้ำดื่มก็โดนอีกคนคว้าข้อมือไว้ซะก่อน
“เอาใจยากตรงไหน” เขาถามหน้ามุ่ย. ผมหัวเราะขำออกมาก่อนจะแกะข้อมือเขาออกแล้วเดินไปเอาน้ำดื่มในตู้เย็นออกมารินใส่แก้วให้เขาส่วนผมก็ยกขวดขึ้นดื่มเลย
ชีวิตประจำวันที่เรียบง่ายของผม. ตื่นเช้าขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวให้อาหารแมวแล้วก็ออกไปเรียน เสาร์อาทิตย์ก็เปิดร้าน. ไม่ค่อยได้วุ่นวายกับใครเท่าไร. จะมีก็พวกมัน 4 คนที่มักจะแวะเวียนมาหาผมอยู่บ่อยๆ มาอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงาให้ผมและมักจะหยิบยื่นคำว่าครอบครัวมาให้ผมเสมอ ทำให้ผมไม่รู้สึกขาด. เพราะถึงผมจะชอบพูดบ่อยๆว่าอยู่คนเดียวได้. เพราะผมอยู่คนเดียวมาจนชิน. แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่มีใครอยากจะอยู่คนเดียวหรอก. สิ่งที่น่ากลัวสำหรับการมีชีวิตอยู่คนเดียวก็คือความเหงา การมีใครสักคนให้ห่วง. ให้คุย. ให้ทะเลาะ ให้คิดถึง มันดีจริงๆ
แต่คำว่าเพื่อนมันก็ต้องมีระยะห่าง. มากเกินก็จะกลายเป็นคำว่าล้ำเส้น เพราะผมเป็นพวกโลกส่วนตัวสูง. พวกมันจะรู้เสมอว่าจุดไหนที่ผมจะโอเค
แต่ความเป็นส่วนตัวที่ผมหวงนักหวงหนาวันนี้ผมกลับปล่อยให้คนที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ตรงหน้าแบ่งปันไป. คนที่ชอบทำหน้าหง่อยๆเวลาโดนขัดใจ. คนที่ชอบอ้อนเวลาอยากให้ผมตามใจ.
แม้จะตัวใหญ่กว่าผม แต่เขาจะเป็นน้องชายของผมได้ใช่ไหม...
“เหม่ออะไร”
“เปล่าาา”
ผมเดินออกมารอโชที่หน้าร้าน เพราะอีกคนลืมกระเป๋าตังค์ไว้บนห้อง แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่ามีรถของเชนจอดอยู่หน้าร้าน
“อ้าว มาทำไรว่ะ” ผมทักคนที่ยืนกอดอกพิงรถอยู่เขาสวมแว่นกันแดดสีชากับชุดนักศึกษาที่ดูไม่ค่อยจะเรียบร้อยนัก
“มารับไปเรียนไง”
“ห้ะ. มึงเนี่ยนะมารับกู”
“ตกใจอะไร. กูก็มาส่งมึงออกจะบ่อย”
“ตกใจตรงมึงไม่เคยโพล่หัวมาตอนเช้าไงสัส”
“งั้นต่อไปกูจะมารับมึงไปเรียนทุกวันเอง”
“ไม่เป็นไร กูเดินของกูมาเป็นปีแล้ว กูชินแล้วว่ะ”
“ขึ้นรถเหอะ. จะสายแล้ว”
“มึงไปก่อนเลย เดี๋ยวกูตามไป”
“ทำไม”
“มิลค์” เสียงเรียกชื่อผมดังมาจากข้างหลัง.
“ไปเหอะ” โชเดินมาจับข้อมือผมแล้วลากไปอีกทาง
“โชเดี๋ยว เจอกันคณะนะมึง!” ผมหันไปตะโกนบอกเชน. ที่อุตส่าห์มีน้ำใจมารับ
“เสียดายรึไงที่ไม่ได้ไปกับมัน” อยู่คนข้างๆผมก็พูดขึ้น
“โช เขาเป็นพี่นะ เรียกให้มันดีๆหน่อย” ผมเอ็ดเขาไป ผมไม่รู้หรอกว่าโชที่มักจะสุภาพกับผมเสมอทำไมต้องเรียกเขาแบบนั้น. แต่มันดูไม่น่ารักเลย โชที่ผมรู้จักน่ะ น่ารักจะตาย
“พี่อย่างมันผมไม่จำเป็นต้องนับถือ”
:pig4:
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
น้องโชรุกพี่มิลล์หนักจริงๆ เดี๋ยวนะโชมีอะไรกับเชนมากกว่าหึงป่าว คำพูดแปลกๆ รอตอนต่อไปค่ะ
-
หืออออ โชกับเชนนี่เขารู้จักกันมาก่อนหรือเนี่ย?
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
โชกับเชน ไม่ใช่ว่าเป็นพี่น้อง(?)กันนะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
Chapter : 07
[/size]
สมาชิกใหม่
“โอเคๆ กูยอมแพ้. กูกับมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ไม่ถูกกันตั้งแต่เด็ก เพราะมันเป็นเด็กเหี้ย ขี้หวง เอาแต่ใจ กูก็เลยชอบแกล้งมัน หนักสุดก็แย่งแฟนมันตอนม.4”
“เลว!”
“อ้าว แล้ว..”
“กลับไปนั่งที่มึงเลย อาจารย์มาแล้วนู่น ไปดิ”ผมไล่ไอ้เชนกลับไปนั่งที่ตัวเองเพราะอาจารย์เดินเข้ามาพอดี มันเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ได้แค่ยกมือขึ้นมายีหัวผม ผมรีบปัดออกแล้วยกเท้าจะถีบมัน มันเบี่ยงตัวหลบทันทีแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
ชั่วโมงแลคเชอร์ช่วงเช้าที่โครตง่วงและน่าเบื่อ. ผมวางปากกาลง เอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างหวังจะพักสายตา ปกติเวลาเรียนผมจะใส่แว่นตลอดเพราะสายตาสั้น แต่วันนี้ดันลืมหยิบใส่กระเป๋ามา
พอมองออกไปที่สนามบาสใกล้ๆเห็นดาวเดือนสวมชุดนักศึกษาเป็นระเบียบ
ร่างสูงของนายแบบชื่อดังที่แค่มองผ่านๆก็ยังโดดเด่นเสมอตอนนี้กำลังหลบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้ๆสนามบาส. ยืนเท้าสะเอวทำหน้าเซ็งค่อนไปทางกวนตีนเล็กน้อย พี่เลี้ยงยื่นน้ำยื่นทิชชู่ให้เขาก็เอาแต่ส่ายหน้าปฏิเสธ
“เป็นบ้าหรอ ยิ้มอยู่คนเดียว” เสียงจากคนข้างๆดังขึ้น จากนั้นมันก็ชะโงกหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะหันมาจ้องหน้าผมแล้วยกปากกามาเคาะหัวผมเบาๆ
“อะไร” ผมตีมึนใส่องศา
“มึงน่ะอะไร เดี๋ยะๆ”มันเอาปากกาชี้หน้าผม ผมรีบผลักมันให้หันไปทางอาจารย์ทันทีเพราะอาจารย์เริ่มเหล่มาทางนี้แล้ว
“ได้แดกข้าวแล้วโว้ยยยย”
“กูจะแดกให้เกลี้ยงโรงอาหารเลยแม่ง!” เสียงโหยหวนของไอ้องกับไอ้เปาดังขึ้นทันทีเมื่ออาจารย์ที่มักจะปล่อยเลทตลอดเดินออกจากห้อง
พวกเรามากินข้าวกันที่โรงอาหารคณะเพราะตอนบ่ายผมมีงานที่สโม และพวกมันเองก็มีงานที่ชมรม กลุ่มผมค่อนข้างจะเป็นเด็กกิจกรรม อย่างไอ้องนี่แม้จะอยู่แค่ปี 2 แต่มันก็เป็นกัปตันทีมบาสมหาลัย ไอ้เปาอยู่ชมรมบริดจ์และหมากกระดาน ปันปันกับไอ้เชนก็เป็นพี่เลี้ยงให้กับดาวเดือนและต่อไปก็คงเตรียมละครเวทีต่อหลังจากการประกวดดาวเดือนเสร็จสิ้น
“พี่เตอร์ น้องปีนี้เป็นไงบ้างว่ะพี่ ได้ยินว่าแสบใช่ย่อย” ผมถามพี่เตอร์เมื่อเข้ามาในห้องสโมแล้วเจอพี่มันนั่งทำหน้าเครียดอยู่ที่โต๊ะทำงาน
“อย่าให้กูเล่าเลย เดี๋ยวอารมณ์เสียเปล่าๆ”
“พี่ก็ดึงหน้าโหดเกิน แค่อยู่เฉยๆน้องมันก็กลัวละ”
“กลัวกะผีน่ะสิ ขนาดกูไว้หนวดไว้เคราขนาดนี้มันยังคิดจะปีนเกลียวเลย กูว่าเราควรเล่นบทโหดเหมือนพวกวิศวะแม่งไปเลย”
“เอาหน่าพี่ ไม่ต้องโหดมากหรอก สงสารน้องมัน”
“กูจะพยายามเท่าที่กูพยายามได้ละกัน แล้วมึงอย่าลืมประชุมปี 2 เรื่องรับน้องที่หัวหินสิ้นเดือนนี้ด้วย"
"ครับๆ" มาห้องนี้ทีไรแม่งงานงอกตลอด
"เอ่อ แล้วหลานรหัสกูนี่รู้ยังว่าใคร”
“รู้แล้วว แต่ผมไม่บอกหรอกเดี๋ยวพี่ไปแกล้งมัน” ผมแกล้งตอบไปเพราะจริงๆพี่มันก็คงรู้อยู่แล้วแหละ เป็นถึงพี่ว้ากไม่รู้ก็คงแปลกและโดยกมลสันดานพี่มันขี้เสือกอยู่แล้วด้วย
“หึ เสียใจว่ะ ไม่ทันแล้ว” กูว่าละ แล้วทำเป็นมาถามเนอะพี่เนอะ
“พี่แม่งตลอดอ่ะ”
"ห้ามบอกว่ากูเป็นลุงรหัสมัน"
"รู้แล้ว"
พลั่ก
“มิ... อ้าว ไม่อยู่หรอว่ะ มิลค์! เชี่ยมิลค์!” เสียงแหกปากของไอ้เปาดังขึ้นทันทีที่มันเปิดประตูห้องสโมเข้ามาแล้วไม่เจอใครเนื่องจากไอ้พี่เตอร์นั้นออกไปตั้งนานแล้ว และผมที่กำลังรื้อเอกสารอยู่ใต้โต๊ะ
“อะไร กูอยู่นี่ มึงจะแหกปากไรเชี่ยไร” ผมชะโงกหน้าขึ้นมาพูดกับมัน
“สัส ไม่ต้องมาพูดดี ไปคัดหลีด”
“คัดหลีดเหี้ยไร ไม่ไปโว้ยยย”
“ไม่ไปไม่ได้! กูส่งชื่อมึงแล้ว”
“มึงส่งมึงก็ไปดิ”
“ก็บอกอยู่ว่ากูส่งชื่อมึง หูนี่เอาส้นตีนมาทำรึไงห้ะ ไป ลุก!”
“กู ไม่ ไป ครับ” ผมบอกช้าๆชัดๆทีละคำ
จริงๆผมกับไอ้เปารู้จักกันตั้งแต่ ม.1 เพราะเรียนห้องเดียวกัน แรกๆผมกับมันคุยกันแทบจะนับคำได้ มาเริ่มสนิทกันจริงๆก็ตอนม.3 ผมเป็นเด็กเกเรที่บังเอิญเกิดมาฉลาดเลยบังเอิญได้อยู่ห้องคิง. ไอ้เปาเป็นเด็กเรียนนั่งหน้าห้องใส่แว่นหนาเตอะ วันหนึ่งเกิดวิปลาสอะไรขึ้นมาไม่รู้จากเด็กที่เตรียมสอบแพทย์กลับมาให้ผมสอนวาดแบบ ตัดโม จนสุดท้ายก็ได้มาเรียนถาปัตย์ด้วยกัน และยัดเยียดให้ผมทำนุู่นทำนี่ โดยไม่ถามความสมัครใจสักคำ
“นุ้งงงงมิลลลลค์” เสียงเรียกจากพี่สมชายดังขึ้นทันทีที่ผมเข้ามาในหอประชุม “ไหนเธอบอกไม่มา”
“ไอ้เปาแม่งแอบส่งชื่อผม”
“โอ๋ๆ นะ มานี่มา” จากนั้นผมก็โดนพี่สมชายหิ้วไป..
ถ้ามองในแง่ดี มันก็ดีใช่ไหมล่ะครับ.
ต้องดีสิ
ผมจะพยายามมองแต่แง่ดีก็แล้วกัน
ผมหยิบกระเป๋าขึ้นมาเตรียมจะกลับบ้านหลังจากคัดตัวเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้ประกาศผล ผมล้วงหาโทรศัพท์จะดูเวลา แต่ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นmiss callหลายสายและไม่นานก็สั่นขึ้นใหม่อีกครั้ง
Rrrrrrrr
“โหล”
“ทำไมพึ่งจะรับโทรศัพท์ครับ”
“ไม่ได้ยิน”
“แล้วตอนนี้อยู่ไหนครับ”
“อยู่..ไม่บอก แค่นี้นะ จะกลับบ้าน” ผมรีบกดตัดสายทันที ไม่บอกหรอก หยิ่งเว้ย!
พลั่ก
“ขอโทษครับ” ผมเอ่ยขอโทษออกมาเมื่อจังหวะที่หันหลังกลับไปแล้วดันไปชนใครคนหนึ่ง พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ “โช”
“เฮ้ย อะไรเนี่ยโช เอาคืนมานะเว้ย” อยู่ๆโชก็ยื่นมือมาแย่งกระเป๋าจากผมไป พอผมจะแย่งคืนเขาก็ปัดมือออกแล้วชูกระเป๋าขึ้น
“อยากได้คืนก็ตามมาครับ” สุดท้ายผมก็ได้แต่จิ๊ปากออกมาอย่างขัดใจ ขี้เกียจทะเลาะเพราะเหนื่อยก็เลยยอมตามไปเงียบๆ
เขาเดินนำมาหยุดอยู่ที่รถสปอร์ตสีแดงเพลิงคันหนึ่ง
เนี่ย รถอย่างหรูทำไมชอบพาเดินจังว่ะ
“เห้ย นี่มันไม่ใช่ทางกลับร้านแล้วโช!” ผมโวยวายออกมาเมื่อเส้นทางไม่ใช่ทางกลับร้านแต่กลับออกนอกมอมาอีกเส้นทางหนึ่ง
“.....” เขาไม่ตอบแต่กลับยิ้มออกมาแทน
“อยากกลับบ้าน เหนื่อย! เหนียวตัว! อยากอาบน้ำ! เข้าใจมั้ยห้ะ!”
“ครับ”
นี่เข้าใจจริงๆไหมว่ะ
ไหงโดนลากมากลางพารากอนได้อ่ะ
“มิลค์ กินร้านไหน”
“.....”
“มิลค์”
“ไม่กิน จะซื้อไรก็รีบซื้อ อยากกลับบ้าน”
“เดี๋ยวเลี้ยง”
“อยากกลับบ้าน”
“เอาร้านนี้ละกัน”
เขาเดินจูงแขนกึ่งลากผมมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง พอเข้าไปนั่งเขาก็จัดการสั่งมาชุดใหญ่ ผมทำเป็นไม่สนใจเล่นเกมส์ในมือถือไปเรื่อยๆเพราะขี้เกียจคุยด้วย
“ไม่กินหรอ มิลค์ ไม่กินผมป้อนนะ” เขาคีบซูชิขึ้นมาจ่อปากผม ผมปัดออก วางโทรศัพท์ลงแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบซูชิเข้าปาก
“ก็กินอยู่เนี่ย”
หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็โดนลากมายังโซนที่เป็นอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงทันที โชบอกอยากได้บ้านแมวให้สีเทาซักหลัง
“มิลค์ หลังนี้ีโอป่ะ” เขาชี้ไปที่บ้านแมวที่ทำจากไม้สูงประมาณเท่าตัวผม สวยดี แต่ถ้าสำหรับสีเทาตัวเดียวมันดูใหญ่เกินไปอ่ะ
“อืม สวยดี แต่ดูใหญ่ไปสำหรับสีเทา”
“เอาหลังนี้ครับ” เนี่ย แล้วจะถามเพื่อ
ผมโดนลากมาต่อที่ซุปเปอร์มาเก็ต เขาบอกให้ซื้อพวกของสดไปไว้ ผมอิดออดไม่ยอมซื้อเพราะปกติก็ไม่ค่อยได้ทำอาหารกินเองอยู่แล้ว ซื้อไปไว้เดี๋ยวก็ได้เน่าทิ้งอยู่ดี แต่โชไม่ยอมหยิบของใส่รถเข็นมั่วไปหมดจนผมทนไม่ไหวต้องไปเลือกเอาเฉพาะที่คิดว่าจะได้ใช้จริงๆ
“เลือกเองตั้งแต่แรกก็จบเห็นมั้ย”
“เงียบไปเลยโช”
ผมรู้เหตุผลที่โดนโชลากมาด้วยแล้ว คือให้มาห้ามไม่ให้เขาซื้อของนี่เอง บางอย่างก็ต้องแอบหยิบออกเพราะมันเกินความจำเป็นและโครตจะไร้ประโยชน์สิ้นดี
"โช กลับยัง ยังไม่ให้อาหารแมวเลย"
"ครับๆ"
โชแม่งโครตลีลาเหอะ เข้าร้านโน่นออกร้านนี้เหมือนมีเวลาเป็นชาติอ่ะ ข้าวของก็เต็มไม้เต็มมือแทบจะเอาปากคาบอยู่แล้วซื้อไรนักหนาไม่รู้ หรือที่บ้านเขาผลิตแบงค์ใช้เองว่ะ
“มิลค์ มิลค์ครับ ถึงแล้ว ตื่นเร็ว” แรงสะกิดเบาๆตรงต้นแขน ทำให้ผมรู้สึกตัวแล้วลืมตาขึ้นช้าๆ “ไม่ตื่นผมอุ้มนะ”
“อื้อ ตื่นแล้ว” พอลืมตาขึ้นเห็นประตูรถเปิดออกอยู่แล้วโดยมีโชยืนอยู่ข้างๆ ผมสะบัดหัวสองสามทีเพื่อไล่ความง่วงออกแล้วเดินลงจากรถ
เหมี๊ยววว
พอเข้ามาในร้าน ผมแทบจะยกมือขึ้นกุมขมับ
"เห้ย! สีเทา มาได้ไงอ่ะ" ผมก้มลงไปอุ้มสีเทาไว้แล้วหันไปถามโช
"...." แต่ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย มิหนำซ้ำยังทำเหมือนไม่ได้ยินที่ผมถามอีกด้วย แต่มองจากรอยยิ้มบนใบหน้าก็รู้แล้ว ว่าอีกคนนอกจากจะได้ยินแล้วก็กำลังกวนตีนผมอยู่อีกด้วย
"โช!"
"ก็เอามาเลี้ยงด้วยกัน จะได้ไม่เหงาไง" นี่เห็นบ้านผมเป็นสถานสงเคราะห์ทั้งคนทั้งแมวไปแล้วรึไงว่ะ
"ไม่อยากเลี้ยงแล้วใช่มั้ย"
"ไม่ใช่ จริงๆก็แค่อยากหาเหตุผลมาหามิลค์บ่อยๆ แค่นั้นเอง..." ประโยคสุดท้ายเขาพูดเสียงแผ่ว แล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตากลับผม
"ไปกินข้าวกันเนอะสีเทา" ผมทำเมินไม่สนใจสายตาที่กำลังมองมาทางนี้ แล้วรีบอุ้มสีเทาหนีมาฝั่งห้องครัวทันที
เมื่อให้อาหารแมวทั้ง 3 ตัวเสร็จผมก็รีบขึ้นมาอาบน้ำทันที
พออาบน้ำเสร็จผมจัดการปูที่นอนให้เขา กลิ่นผ้าปูที่นอนหอมฉุยอาจจะทำให้หลับสบายกว่าเมื่อคืนก็เป็นได้ เสร็จแล้วก็ขึ้นไปนอนเล่นมือถือบนเตียง
XXCuteboys ไหนบอกคัดหลีดเสร็จจะรีบกลับบ้านไงคะ #กำก้านมะยมแน่นมาก อยู่กับ -มิลค์ ไม่ใช่นม
*แนบรูปผมกับโชที่ร้านอาหาร ร้านสัตว์เลี้ยง ซุปเปอร์มาร์เก็ต
โอ้โห กลัวแล้ว ตามไปทุกที่จริงๆ
มิลค์ ไม่ใช่นม : ทำมะ
ผมคอมเม้นท์กลับไป
-
(ต่อ)
มิลค์ ไม่ใช่นม : ทำมะ
ผมคอมเมนท์กลับไป
XXCuteboys : จะทำไมได้ล่ะคะ ก็ กรี๊ดดดดด ซิคะ
องศา ององ : กูชวน บอกไม่ว่าง สัส
ปันปัน ปารวีย์ : เป็นกู กูก็จะไปกับน้องโช
องศา ององ : เพราะมึงมัน...
ปันปัน ปารวีย์ : กูทำไม ห้ะ
องศา ององ : ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
ปันปัน ปารวีย์ : เบอร์น้องพิมพ์ อักษรมึงอด
องศา ององ : กูขอไอ้เปาก็ได้ มันก็มี
อั่งเปา สีแดง: กูหลอกให้มึงดีใจเล่นเฉยๆ กูไม่มี แหะๆ
องศา ององ : ค_ย อั่งเปา สีแดง
ผมอ่านที่พวกมันคอมเม้นกันแล้วก็ส่งสติ๊กเกอร์หมาทำหน้างงไปให้
พอเหลือบไปมองนาฬิกา ก็พบว่าตอนนี้ 5 ทุ่มกว่าละ แต่โชก็ยังไม่ขึ้นมาสักที พอเดินลงไปข้างล่างก็เห็นเขากำลังประกอบบ้านให้แมวอยู่ โดยมีทั้ง 3 ตัวเดินล้อมหน้าล้อมหลังให้กำลังใจอยู่ คงเห่อบ้านใหม่ซินะ
“โช”
“ครับ” เขาขานรับทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตาตั้งใจประกอบบ้านให้แมวอยู่
“พรุ่งนี้ค่อยทำก็ได้ ดึกแล้วเนี่ย”
“ใกล้เสร็จแล้วครับ มิลค์ง่วงหรอ นอนก่อนเลยก็ได้” เขาหยุดทำแล้วเงยหน้าขึ้นมาพูดกับผม
“จะรอปิดบ้านเนี่ย จะกลับตอนไหน”
“อยากให้กลับหรอ” เขาเงียบไปสักพักจากนั้นก็ถามออกมาด้วยแววตาอ้อนๆ ให้ตายสิ นี้มันสีเทาตอนอ้อนขออาหารชัดๆ พ่อลูกนี่ถอดแบบกันมาเป๊ะๆ
“กะ..ก็แล้วแต่ดิ. ไม่กลับก็ล็อคบ้านให้ด้วย ง่วง จะนอนแล้ว” ผมพูดจบก็รีบเดินหนีขึ้นบันไดมาทันที แค่จะแกล้งเล่นทำไมต้องจริงจังเบอร์นั้นว่ะ
แรงยุบจากเตียงทำให้ผมรู้สึกตัวอีกครั้ง
“แมวล่ะ” ผมถามออกไปทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“นอนแล้วครับ”
“นอนไหน ทำไมไม่เอาขึ้นมาด้วยอ่ะ” ผมลืมตาขึ้นเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้เอาแมวขึ้นมาด้วย เพราะปกติผมนอนจะมีสีขาวสีดำนอนประกบข้างทุกวัน
“ไม่ต้องเลย ที่เป็นภูมิแพ้ทุกวันนี้ก็เพราะขนแมวไม่ใช่หรือไง”
“ไม่เกี่ยวเลย”
“เกี่ยวครับ ไม่ต้องเถียง นอนได้แล้ว ไหนบอกง่วง” โชยื่นมือมาปิดปากผมให้รู้ว่าเป็นอันต้องเงียบ. จากนั้นเขาก็เลื่อนลงมากอดเอวผมไว้หลวมๆ
“ลงไปนอนข้างล่างดิโช จะมาเบียดทำไม อึดอัดเนี่ยย” ผมโวยวายกลับไป แล้วผลักอีกคนออก
“นอนเถอะน่า”
เสียงข่วนประตูยามเช้าปลุกให้ผมตื่น
“อื้อ โช ไปเปิดดิ” ผมเลื่อนมือไปเขย่าแขนคนที่กำลังนอนช้อนหลังผมอยู่ให้ลุกไปเปิดประตู แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเพราะนอกจากจะไม่ลุกไปแล้วเขายังกระชับอ้อมกอดที่กอดผมอยู่ให้แน่นขึ้น. ผมหมั่นไส้เลยแกะออกแล้วตีต้นแขนไปแรงๆก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตูห้องเองทั้งที่ยังงัวเงียอยู่
“โวยวายอะไรแต่เช้า หืมม” ผมก้มลงไปมอนิ่งคิสทั้ง 3 ตัวก่อนจะอุ้มไปวางไว้บนเตียง จากนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน ได้ยินเสียงโวยวายของคนที่กำลังนอนอยู่แทรกเข้ามาเรื่อยๆ
“โช วันนี้กองประกวดนัดไม่ใช่หรอ” ผมเดินไปยืนข้างเตียงแล้วถามขึ้น
“ไม่ไปโดด” เขาพูดเสียงอู้อี้อยู่ในผ้าห่มจากนั้นก็งัวเงียมากอดขาผมไว้แล้วซุกหน้าลงไป นี่ชักจะเริ่มสงสัยแล้วว่าผมเลี้ยงแมวไว้กี่ตัวกันแน่
“ไม่ต้องเลย ลุก! จะ8โมงแล้ว เขานัด 9โมงไม่ใช่หรอ” ผมดันหน้ากับมือเขาออกเพราะจั๊กจี้ นี่ถ้าซุกสูงกว่านี้อีกหน่อยนี่เป็นเรื่องเลยนะเฮ้ย!
“ไม่ไป จะอยู่กับมิลค์”
“ก็เลิกแล้วค่อยมาก็ได้ ลุกเร็ว จะกินอะไร”
“อะไรก็ได้ครับ”
“อืม งั้นก็ปล่อย รีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้วตามลงมา” คราวนี้เขาก็ยอมปล่อยแต่โดยดี ลุกขึ้นมานั่งแล้วสะบัดหัวสองสามที ผมจึงเดินออกจากห้องไป แต่พอลองเดินเข้ามาดูอีกครั้งกลับเจออีกคนลงไปนอนหลับตาพริ้มอยู่เหมือนเดิม
“โช!!”
“คร้าบบบ” เห้ออ จริงๆเลย
ผมเดินไปซื้อน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ร้านประจำที่ผมมักจะกินทุกเช้าก่อนไปเรียน
“พี่มิลค์จ๋าาา เมื่อวานไม่เห็นมาหาเค้าเลย” เสียงใสๆของแตงทักขึ้น แตงหรือแตงกวาลูกสาวป้าสายเด็กม.4 ที่ชอบผูกแกะสองข้างจนกลายเป็นทรงประจำของเจ้าตัวไปซะแล้ว
“เมื่อวานรีบ เดี๋ยววันนี้ซื้อ 2 ถุงเลย” ผมส่งยิ้มให้แตงแล้วหันไปสั่งป้าสาย “น้ำเต้าหู้ 2 ปาท่องโก๋ 10 สังขยา 1 ครับ”
“ฮั่นแหน่ๆ ซื้อสองถุง ซื้อไปเผื่อใครรึเปล่าน้าาา” แตงถามผมยิ้มๆ
“ก็ไปแซวพี่เขา เขินใหญ่เลยนู่น” ผมหลุดขำออกมาเพราะไม่รู้ว่าตัวเองไปเขินตั้งแต่ตอนไหน แม่กับลูกนี่ชัดจะขี้มโนเกินไปละ
ผมเดินไปซื้อโจ๊กร้านข้างๆ 2 ถุง แม่กับลูกก็ยังจะตามมาแซวผมจนได้
“เดี๋ยวแตงไปส่ง จะไปร้านอาเดือนพอดี” แตงจูงรถจักรยานสีชมพูออกมาแล้วขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับพร้อมกับตบเบาะหลังให้ผมขึ้นไปซ้อน "พี่มิลค์ขึ้นมาเลย"
“ให้พี่ขับมั้ยแตง”
“โห้ยพี่มิลค์ พี่มิลค์ตัวเล็กกว่าแตงอีกมั้งเนี่ย”
“ครับๆๆ ถ้าล้มมาเนี่ยจะหัวเราะซ้ำ”
“ฮ่าๆๆ ไม่ล้มหรอกน่าา ขึ้นมาเร็ว”
“มองอะไร ไอ้เด็กแก่แดด” พอรถจักรยานมาจอดหน้าร้านผม แตงก็ชะเง้อมองเข้าไปในร้านทันที
“ก็มองคนที่พี่มิลค์ซื้อน้ำเต้าหู้กับโจ๊กไปฝากไง”
“ไม่เห็นหรอกอยู่บนบ้านนู่น”
“กรี๊ดดดดด พี่มิลค์ พูดจริงพูดเล่น!"
"รีบไปเลย อาเดือนคอยแล้วมั้งป่านนี้น่ะ" ผมผลักหัวแตงเบาๆ เหมือนที่ชอบเล่นกัน แตงหันมายู่ปากใส่ผมก่อนจะปั่นจักรยานออกไป
“อ้าว”
“ไปไหนมา” โชเดินงัวเงียออกมาจากห้องครัวพร้อมกับอุ้มสีเทาไว้ ผมเผ้าไม่เป็นทรงแทบจะลืมลุคนายแบบชื่อดังไปเลยแถมท่อนบนเปลือยเปล่ายังแอบมีรอยแมวข่วนเล็กน้อยบริเวณหัวไหล่ คงเพราะต่อสู้กันเมื่อเช้าสินะ ผมหลุดขำออกมากับภาพที่ไม่คิดจะได้เห็นพร้อมกับยกถุงที่ซื้อมาขึ้นให้เขาดู
“ทำไมไม่อาบน้ำแต่งตัว”
“ค่อยอาบ”
“มิลค์”
“หืม”
“ไม่กินขิง”
“เฮ้ออ กี่ขวบเนี่ยโช”
“ก็ไม่ชอบ” คนตอบทำหน้ามุ่ย ผมจึงเลื่อนถ้วยเขามาจัดการตักขิงออกมาใส่ในถ้วยตัวเองแล้วเลื่อนกลับไปให้
“อ่ะ กินได้ยัง เอาออกหมดแล้ว”
“ขอบคุณครับ” ผมหมั่นเขี้ยวเลยยกมือขึ้นไปยีหัวฟูๆของคนที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ เขาหน้าเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะยกมือมายีหัวผมบ้าง
จากนั้นก็กลายเป็นสงครามเล็กๆระหว่างผมกับเขา
"นี่พี่นะเว้ย กล้าเล่นหัวหรอ!"
"มากกว่านี้ก็กล้า" เขาพูดแล้วจ้องตากับผมอย่างท้าทาย เราจ้องตากันราวกับว่าใครหลบตาก่อนคือแพ้ แน่นอนว่าผมไม่ยอมแพ้เด็ดขาด สุดท้ายเขาก็ใช้ไม้เด็ดคือยิ้มออกมาจนเห็นลักยิ้มบุ๋มสองข้างแต่ยังไม่ยอมหลยสายตา
"กินไป" สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายหลบตา แล้วก้มลงกินโจ๊กต่อเงียบๆ
"ไม่ต้องตักมา กินเข้าไป จะตักมาทำไมเล่า!" ผมโวยวายออกมาเมื่อโชเอาแต่ตักหมูมาให้ผม ทั้งที่ในถ้วยผมก็เยอะอยู่แล้ว
"ก็ให้"
"ให้ทำไม กินไปดิ"
"ก็วันนี้มิลค์น่ารัก"
ไอ้บ้า น่ารักทุกวันเว้ย!
กรุ๊งกริ๊ง~
“พี่มิลค์ พี่มิลค์อยู่มั้ยคะ”
“พี่อยู่ในครัว!” ผมตะโกนกลับไป
“พะ..พี่มิลค์ สวัสดี ค่ะ” น้ำหวานเหมือนจะตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้ามาแล้วเห็นโชนั่งอยู่ตรงข้ามผม
“เอ่อ น้ำหวานนี่โช รุ่นเดียวกับเรานั่นแหละ โช นี่ น้ำหวาน” ผมถือโอกาสแนะนำทั้งสองคน
“หวัดดีโช” น้ำหวานโบกมือทักทายและยิ้มอย่างเป็นมิตร
“อืม” แต่คนที่ไม่เป็นมิตรคือคนที่กำลังนั่งกินโจ๊กอยู่ตรงข้ามกับผมนี่แหละ
“ทำไมวันนี้มาเร็วล่ะ” ผมถามน้ำหวานเพราะปกติน้ำหวานจะมาประมาณ 9 โมงครึ่ง
“อะ เอ่อ พอดีออกมาทำธุระค่ะ ก็เลยแวะมาเลย” เราคุยกันอีกนิดหน่อยจากนั้นน้ำหวานก็แยกออกไปตรงส่วนที่เป็นร้านกาแฟ
“อิ่มแล้วก็ลุกไปอาบน้ำ จะ 9 โมงแล้วโช”
“คร้าบบ” เขาขานรับทั้งที่ยังก้มลงไปเล่นกับแมวอยู่
“ครับกูลุก!”
-TBC-
หายไปซะนานเลย ยังจำกันได้มั้ยเอ่ย^^
ติชมให้กำลังใจกันได้นะคะ เพื่อจะได้นำไปปรับปรุงในตอนต่อๆไปเนอะ
-
:L2: :pig4:
พี่มิลค์ตามใจเด็ก
-
:L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
-
แมว4ตัวแน่ๆ แต่จะมีตัวนึงดื้อเป็นพิเศษ 55555
ปล โชเนียนมากกกกกก
-
น้องโช นี่ก็เจ้าแผนการใช้ได้เลยนะครับเนี่ย พี่มิลค์ก็อย่าใจร้ายกับน้องมากนะครับ
-
:pig4: :pig4: :pig4: