พิมพ์หน้านี้ - ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Le_Let ที่ 08-05-2017 23:03:06

หัวข้อ: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 08-05-2017 23:03:06
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
 ===============================================================================

(https://scontent.fbkk6-1.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/20032123_1696951620378337_2436785893552516359_n.jpg?_nc_cat=0&oh=8c47506eb1949f9abe97c0aa2dcf159b&oe=5B87D97F)


ผมแค่ช่วยเพื่อน

เดี๋ยวนะ!!!!
ได้ข่าวว่ากูช่วยไอ้ตาลเพื่อนรักมันจีบไอ้พี่โชไม่ใช่หรอวะ…แล้วไอ้พี่โชมันก็เป็นผู้ชาย มีไข่เหมือนกู ไหงทำไมกลายเป็นกูที่ได้มาเป็นเมียไอ้พี่มันซะเองวะ

WTF !!!!!





สารบัญ

Intro (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3631499#msg3631499) 

ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3631506#msg3631506)   ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3631682#msg3631682)  ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3632256#msg3632256)  ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3632775#msg3632775)

ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3633438#msg3633438)  ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3634263#msg3634263)  ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3636192#msg3636192)  ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3637973#msg3637973)

ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3640354#msg3640354)  ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3642240#msg3642240)  ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3643619#msg3643619)  ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3645168#msg3645168)

ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3648615#msg3648615)  ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3650141#msg3650141)  ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3653313#msg3653313)  ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3656889#msg3656889)

ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3658369#msg3658369)  ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3661637#msg3661637)  ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3663382#msg3663382)  ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3668363#msg3668363)

ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3674130#msg3674130)  ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3685450#msg3685450)  ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3694700#msg3694700)  ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3706879#msg3706879)


ตอนที่ 25 (END) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59822.msg3710778#msg3710778)




ปล.อ่านแล้วคุยกะเค้าหน่อยน๊าาาา

คลิกไปคุยกันที่เพจ Le_Let (https://www.facebook.com/Le_let-1696916923715140/?ref=aymt_homepage_panel)


#ผมแค่ช่วยเพื่อน #โชอาร์ท
หัวข้อ: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>Intro
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 08-05-2017 23:12:08
Intro

ผม นาย ปฐวี วีระพงษ์วาณิช หรือเรียกผมว่า อาร์ท ก็ได้ครับ เอ่อก็เรียก อาร์ท นั่นหล่ะครับ ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนหนึ่งมาตลอดชีวิตตั้งแต่จำความได้ มันชื่อ นางสาว วีรนุช บุตรทอง หรือเรียกมันว่า น้ำตาลก็ได้ครับ บ้านมันอยู่ติดกับบ้านผม เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล ขนาดมัธยมต้นผมต้องเข้ามาเรียนในกรุงเทพ มันก็ยังตามผมมาครับ มันให้เหตุผลกับพ่อแม่มันว่ามันขาดเพื่อนดีๆ อย่างผมไม่ได้ครับ พอดีกับที่มันมีญาติอยู่ในกรุงเทพพ่อกับแม่มันจึงยอมได้ง่ายดาย

 

เราสองคนจึงสนิทกันมากจนใครๆ ก็คิดว่าเป็นแฟนกันแหละครับ…แต่ไม่ ผมไม่สิ้นคิดเอามันมาเป็นแฟนเด็ดขาดครับ เอิ่มมม อย่าให้พูดถึงสันดานมันเลยครับจะหาว่าเผาเพื่อนเปล่าๆ

 



น้ำตาลมันเป็นผู้หญิงหน้าตาสวยครับ แต่นิสัยมันออกจะห้าวๆ ไปสะหน่อย เราสองคนอยู่ห้องเดียวกันมาตลอด จนตอนนี้เราสองคนอยู่ม.6 เราเลยตกลงกันว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เดียวกัน

 

“เฮ้ย ไอ้อาร์ท มึงว่าเราสองคนจะสอบเข้าคณะอะไรดีวะ”



“กูอยากเข้าไอทีวะ มึงเอาดกะกูมั้ย”



“ไม่อ่ะ กุไม่เอากะมึงหรอก ฟ้าฝ่าตายกันพอดี อี๋ๆๆๆๆๆ”



มันทำท่าขยะแขยงผมเต็มประดา

“อี๋พ่องงงงงง!!!! กูหมายถึงมึงจะสอบเข้าไอที มหา’ลัย S กะกูมั้ยโว้ยยย”



“อ๋อก็แล้วไป ฮ่าๆ เอาดิมึง กูอ่าเรียนอะไรที่ไหนก็ได้ให้ได้อยู่กะมึงก็พอแล้ว ไอ้เพื่อนร๊ากกกกกก”

 

นี่แหละครับผมกับมันก็สมัครสอบคณะไอที มหาวิทยาลัยS ด้วยกัน แล้วดันสอบติดทั้งคู่ผมกับมันนี่กอดคอกันร้องไห้ทราบซึ้งเลยครับ แต้มบุญกูกับมึงนี่ทำมาคู่กันจริงๆ เอ๊ะ!! หรือแต้มบาปวะ แต่ช่างเถอะ ยังไงเราก็ได้อยู่ด้วยกันหนิเนอะ

 

ก่อนเปิดเทอมจริงๆ จังๆ ประมาณหนึงอาทิตย์ทางมหา’ลัย ก็ได้มีกิจกรรมรับน้อง ผมสองคนก็มาครับมาร่วมกิจกรรม เดินเด๋อด๋ากันมาสองคนยังหอประชุมกลางของมหา’ลัย

 

ประกาศ!!!



“น้องๆ นักศึกษา ปี 1 ที่มาแล้วมาลงทะเบียนรับป้ายชื่อ แบ่งกลุ่ม แล้วเข้าตามกลุ่มที่พี่ๆ จัดไว้ให้ได้เลยนะคะ” พี่ผู้หญิงคนสวยประกาศบอก



“น้องสองคนนี้อยู่คณะอะไรคะ”



“เอ่ออ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศครับ/ค่ะ” ผมกับไอ้ตาลพูดพร้อมกัน



“งั้นเซ็นตรงตรงนี้เลยจ้า”



“ครับ/ค่ะ” ผมกับน้ำตาลตอบรับพร้อมกัน



“นี่จ้าป้ายชื่อของทั้งสองคน...ได้แล้วรีบเข้าไปข้างในเลยนะ”



เราสองคนเดินเข้าไปข้างในหอประชุมแบบงงๆ แล้วก็ต้องแยกย้ายกันไปเข้ากลุ่มตามที่พี่เขาแบ่งให้ กิจกรรมรับน้องก็ดำเนินต่อไป



ถึงเวลาเลิกกิจกรรม เขาก็ปล่อยให้นักศึกษาปี 1 แยกย้ายกันกลับ ผมกับน้ำตาลก็พากันเดินกลับหอ  ระหว่างทางเราก็พูดคุยถึงเรื่องกิจกรรมวันนี้แล้วน้ำตาลก็พูดขึ้น



“เมิงงงงงงง พี่ที่ดูแลกลุ่มกูหล่อม๊ากกกกกกกกกกก  กูชอบเค้า กูรักเค้า กูอยากได้กูจะเอาอ่าเมิงงงงงงงง”



“มึงเป็นบ้าอะไรของมึง เพ้ออยู่ได้ กูรำคาญ”



“มึงแต่พี่โชเค้าหล่อจริงๆ นะมึง แถมยังเก่ง ดูแลกูดี้ดี อีกต่างหาก มึงช่วยกูจีบพี่โชนะ” น้ำตาลทำหน้าและน้ำเสียงออดอ้อน



“NO!!!!! ทำไมกูต้องช่วยมึงจีบผู้ชายมึงจะบ้าหรือไง”



“ไอ้อาร์ทททททท น้าๆๆๆ ช่วยกูหน่อยนะ ช่วยให้คนสมหวังในความรักได้บุญนะมึง”



“ไม่โว้ยยยย กูไม่ช่วยมึงก็จีบของมึงเองสิ” ผมปฏิเสธเสียงแข็ง



“เอางี้ ถ้ามึงช่วยกู กูก็จะไปขอเบอร์ ขอไลน์ ขอเฟสแก้มป่องของมึงให้เลย อ๊ะ กูขอไอจีให้ด้วยอีกอย่างเลยอ่ะ แถมเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ด้วยเลยมึง น๊าๆๆๆๆ”



“โอเค กูช่วยก็ได้ แต่กูต้องได้ทุกอย่างของแก้มป่องของกูนะ”



“OK! ดีล เพื่อนรักกูรักมึงที่สู๊ดดดดดดดด….จุ๊บ” น้ำตาลก็กระโดดจุ๊บแก้มผมหนึ่งที

 

นั่นแหละครับ ตั้งแต่วันที่ผมตบปากรับคำว่าจะช่วยมันชีวิตของผมก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเพราะมึง เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้น้ำตาล ........ WTF!!!!





=====================

TBC.
หัวข้อ: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 08-05-2017 23:15:00
ตอนที่ 1

ก่อนเปิดเทอมได้หนึ่งเดือนผมกับน้ำตาลก็ได้ย้ายข้าวของมาหอพักที่ใกล้กับมหาวิทยาลัย เพราะช่วงก่อนจะเปิดเทอมก็เริ่มมีกิจกรรมให้นักศึกษาปี 1 ได้ทำมากมาย อ่อ แต่เราเราสองคนไม่ได้พักอยู่หอเดียวกันหรอกนะครับ ผมหนะอยู่หอ B ซึ่งเป็นหอปกติ แต่น้ำตาลมันอยู่ F ซึ่งเป็นหอหญิง ซึ่งก็ไม่ไกลกันมาก แม่มันยื่นข้อเสนอว่าถ้าอยากอยู่หอก็ต้องอยู่หอหญิงไม่งั้นมันต้องนั่งรถไปกลับบ้านญาติ น้ำตาลมันเลยยอมโดยง่ายดาย

“เมิงงงงงง กูไม่อยากอยู่หอหญิงโว้ย อย่างงี้กูก็พาผู้ชายมาห้องไม่ได้สิวะ...เฮ้ยพามึงมาห้องไม่ได้สิวะ” น้ำตาลมันละล่ำละลัก

“หร๊า!!! กูว่ากูก็ไม่ได้อยากขึ้นห้องมึงหรอก มึงไม่ต้องห่วงไป ฮ่าๆ”

“หุ้ยย เกลียดมึงไอ้อาร์ท .....แล้วงี้ถ้ากูมีแฟนกูจะพาแฟนขึ้นห้องได้ไงว๊า”

“เดี๋ยวหน้าอย่างมึงเนี่ยนะจะมีแฟน ไม่น่ามีใครหลงผิดนะ” ผมว่าอย่างขำๆ

“มีใครเคยบออกมั้ยว่ามึงเลววววว” มันตะโกนใส่ผม

“ฮ่าๆ แหมๆก ก็ถ้ามึงมีแฟนมึงก็ไปอยู่ห้องแฟนสิวะอย่าโง่ ....พูดถึงมีแฟนกูแม่งอยู่กะมึงมากจนสาวๆ คิดว่ากูเป็นแฟนมึงไปแล้วมั้งเนี่ยะ”

“หึ๋ย!! มึงกูสยองวะ หรือเราต้องห่างๆ กันบ้างวะ ฮ่าๆ” น้ำตาลทำหน้าสยองใส่ผม

“เออ เลิกพูดดีกว่าป่ะ ไปช่วยกูจัดห้องดีกว่าหอกูมึงเข้าได้ จบเนอะ” ผมพูดจบก็ลากมันขึ้นไปใช้งานเยี่ยงทาสบนห้อง

หลังจากผ่านกิจกรรมรับน้องของมหาวิทยาลัยมาได้ 1 อาทิตย์ ก็มาถึงวันเปิดเทอมวันแรกของนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ใช้ชีวิตนักศึกษา จะได้ไปเจอสาวๆ รู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ซะเต็มประดา วันนี้ผมเลยตื่นอาบน้ำแต่งตัวเซ็ตผมอย่างหล่อแต่เช้า
 

Artเองจะใครละ

มึงอยู่ไหน

*สติกเกอร์หมาสงสัย

Sugar_Sweet

กูกำลังจะออกจากห้องแล้ว

มึงอยู่ไหน

 

Artเองจะใครละ

กูกำลังจะออกเหมือนกัน

เจอกันหน้าคณะนะมึง


Sugar_Sweet

*สติกเกอร์หมีทำท่า ok

 

ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า แล้วก็ปิดประตูห้องเดินลงจากหอมาขึ้นวินมอร์ไซต์ พอมาถึงคณะมึงก็มองหามัน แต่ไม่เห็นผมก็ยืนรอมันอยู่ประมาณ 5 นาทีมันก็โผล่กับวินมอร์ไซต์เหมือนกับผมนี่แหละ ผมสองคนไม่มีรถอะไรกับเค้าหรอกครับขับก็ไม่เป็นทั้งคู่แหละครับ
น้ำตาลมาถึงผมก็พากันเดินเข้าคณะและรีบขึ้นไปยังห้องเรียน เพราะตื่นเต้นที่จะได้เป็นนักศึกษาแบบเต็มตัว ตื่นเต้นกับบรรยากาศ วิชาแรกในวันเปิดเทอมของผมคือ แคลคูลัส ใช่ครับ แคลคูลัส วิชาที่เลื่องลือกันมานักต่อนักว่ายากแสนยากที่จะผ่านเพราะต้องเรียนถึงสองตัวถ้าไม่ผ่านตัวแรกจะลงตัวต่อไม่ได้ผมเลยตื่นเต้นเป็นพิเศษหนะครับ
เราเดินเข้ามาในห้องและเลือกที่นั่งหนังห้องกันสองคน ก็มีเพื่อนๆ วนกันเข้ามาทำความรู้จัก พูดคุย ถามชื่อ อะไรไปเรื่อยเปื่อยครับ

“ไอ้อาร์ทถ่ายรูปกัน”
แช๊ะ! มันกดถ่ายรูป

“มึงไม่ต้องถามกูก็ก็ได้นะ ถ้ามึงจะถ่ายตามใจมึงขนาดนี้” ผมพูดไปแล้วก็แย่งโทรศัพท์จากมือมันมาดู เอิ่มมม รูปกูเหี้ยมาตาล กูเกลียดมึ้งงงง
ผมนั่งเล่นโทรศัพท์ไปซักพักก็มีเสียงเตือนจากเฟสบุ๊ค
 
Sugar Sweet รู้สึกตั้งใจเรียนกับ Art Patavee – ที่ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัย S
เปิดเทอมวันแรก เพื่อนอาร์ทตั้งใจเรียนม๊ากกก ดูได้จากหน้าจ้า 555555 #งานเผลอ
*รูปที่ผมหน้าเหวอถ่ายคู่กับมันเมื่อกี้เลยครับ
 
เอกชัย จ้า :
ไอ้อาร์ทอุบาทททท
 
แก้วคนสวย คนเดิม :
มึงสองคนตั้งใจเรียนตรงไหน พู๊ด
 
Art Patavee :
กูเกลียดมึงงงงงงง Sugar Sweet
 
Sugar Sweet :
เอกชัย จ้า  แก้วคนสวย คนเดิม พวกมึงว่างสินะ เจอกันหน่อยมั้ย
 
Sugar Sweet :
Art Patavee ทำไมพูดกับกูแบบนั้นเพื่อน อิอิ
 
ผมก็นั่งหงุดหงิดกะเฟสบุ๊คไป ตอบเพื่อนไป อย่าให้ถึงทีของกูบ้างแล้วกันมึงไอ้ตาลลล
 
“ตรงนี้มีคนนั่งป่ะ” ผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีแต่น้อยกว่าผมแหละครับ เอ่ยขึ้นถามน้ำตาล

“เห็นมีคนนั่งมั้ยละ ตาบอกหรือไง”

“เราถามดีๆ ไม่เห็นต้องกวนตีนนี่หว่า เอ่อ เราชื่อกายนะแล้วเธอชื่...” กายยังพูดไม่ทันจบ

“ใครถามวะ?” น้ำตาลน้ำหน้าและน้ำเสียงกวนใส่กาย

แต่เหมือนกายจะไม่ได้สนใจอะไรกะน้ำตาล กายก็นั่งลงข้างน้ำตาลและหยิบข้าวของในการเรียนขึ้นมาวางบนโต๊ะเพื่อพร้อมเรียน

“มึงชื่อกายหรอกูอาร์ทนะ...เอ่อ กูมึงได้มั้ยวะ”

“ได้ๆ กูไม่ซีเรียส”

“เอองั้นดีเลย เพราะกูแม่งพูดเพราะๆ แล้วกระดากปากวะ ฮ่า..เออมึง นี่มันชื่อน้ำตาล แต่เรียกมันว่าไอ้ตาลนั่นแหละมึงคนอย่างมันไม่เหมาะจะเรียกไพเราะซักเท่าไหร่” ผมพูด พรางแนะนำไอ้ตาลให้กายรู้จัก โดยที่น้ำตาลก็หันมาแยกเขี้ยวใส่ผม ผมได้แต่ทำหน้ากวนบาทามันกลับไป

“ยินดีที่ได้รู้จักนะพวกมึง งั้นกูอยู่กับพวกมึงเลยแล้วกัน”

“เฮ้ย!! ง่ายไปไหมมึง” น้ำตาลโวยวาย

“มึงเป็นอะไรกะกายมันนักหนาวะ ท่าจะบ้า อย่าไปสนใจเลยไอ้กายสงสัยเมนส์มันไม่มา” ผมว่าน้ำตาลเสร็จ ก็หันไปบอกกาย
แปะ
“โอ้ย เจ็บนะมึง ไอ้เชี่ยตาล”

“ก็มึงปากหมาหนิ สม!!”

“ฮ่าๆ นี่น้ำตาลเป็นทอมหรอวะ” กายพลันถามขึ้น

“ทอมป้ามึงสิ สวยเซ็กซี่ขนาดนี้ ฮึ!” น้ำตาลเสียงแหวใส่

“โอเคๆ สวยก็สวย ฮ่าๆๆๆ” กายยอมแบบว่าไม่ได้

เราสามคนก็นั่งคุยนั่งแหย่กัน ถามประวัตินู่นนี่นั่นกันจนพอได้รู้จักแล้วก็แอดเฟสบุ๊ค แอดไลน์กัน สักพักอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามา บรรดานักศึกษาต่างพากันเงียบ
อาจารย์ก็แนะนำตัวและก็เริ่มสอนไปจนท้ายคาบเรียนอาจารย์ก็สั่งให้จับกลุ่มกันกลุ่มละสามคนเพื่อทำงาน แต่เดี๋ยวผมได้ข่าวว่านี่มันเพิ่งคาบแรกเองนะอาจารย์จะสั่งงานกันแล้วหรอ

อ่อยย  ~  ~  ~  ~

ชีวิต!!!

“นักศึกษา อาจารย์จะให้งานจับกลุ่มละสามคน งานนี้อาจารย์ให้ระยะเวลาหนึ่งเดือน อ่าวจับกลุ่มกันได้แล้วก็เดินมารับหัวข้องานจากอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์นะ วันนี้เลิกคลาสได้”

แล้วเสียงเซ็งเซ่ก็ดังขึ้นหากลุ่มกันยกใหญ่ ส่วนผมก็



“กายมึงอยู่กะกูสองคนเนอะ”



“เออตามนั้นแหละ กูอยู่กะมึงสองคน”



“งั้นเราเขียนชื่อแล้วไปรับหัวข้อที่อาจารย์กันเลยดีกว่า”



พวกผมสามคนก็เก็บของลงกระเป๋าแล้วรีบเดินไปยังห้องพักอาจารย์ และก็ได้รับหัวข้องานเรียบร้อยจึงเดินออกมาหน้าห้องจารย์ น้ำตาลก็โพล่งขึ้น

“พวกมึงไปกินข้าวกันกูหิวไม่ไหวแล้วเมื่อเช้ากูไม่ได้กินไรเลย”



“เอาดิ” ผมกับกายพูดขึ้นพร้อมกัน



“แต่กูอยากไปกินที่โรงอาหารคณะสถาปัตย์อะมึง มึงสองคนไปนะ นะๆๆๆๆ” น้ำตาลทำเสียงออดอ้อนผมสองคน



“มึงอย่าบอกนะ มึงจะไปส่องไอพี่โชน พี่โชง อะไรของมึงหนะ”



“พี่เค้าชื่อโชไหมละมึง เอ้อนั่นแหละก็วินๆ ได้กินข้าวด้วย ได้ส่องผู้ชายด้วย ดีจะตาย”



“เอ้อ ไปก็ไปดิกูหิวม๊ากกกกกกก” ผมลาเสียงประชดน้ำตาลมัน

 

เราสามคนก็ไปรอรถรางของมอที่หน้าคณะ เพื่อที่จะขึ้นต่อไปยังโรงอาหารคณะสถาปัตย์ พอรถรางมาเราก็ขึ้นกันไป

เมื่อถึงคณะสถาปัตย์แล้วเราก็เดดินไปยังโรงอาหารแล้วแยกย้ายกันไปซื้อข้าวกินของใครของมันด้วยความหิวโหย ตัวผมอยากกินอาหารตามสั่งก็เดินไปยังร้าน

ปัง!!

โอ้ววว  งานเข้าผมเข้าแล้วครับ ผมชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่ง แล้วทำชีทเรียนเค้าหล่นกระจาย



“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมรีบช่วยเก็บชีทมือเป็นระวิง



“เดินยังไงวะ แม่งกูก็ตัวออกจะใหญ่มึงยังชนได้... เอามานี่” มันพูดเสร็จ มือมันก็ดึงชีทไปจากมือผม



“ก็ขอโทษแล้วไ.....” ผมพูดได้แค่นั้นมันก็เดินลิ่วๆ หายวับไปครับ โอเค โอเค กูผิด



แล้วผมก็หงุดหงิดเดินไปซื้อข้าวซื้อน้ำ เสร็จก็เดินไปนั่งที่โต๊ะ เพราะหิวแหละครับเลยไม่ได้สนใจอะไรนอกจากจ้วงข้าวกิน



“มึงๆ กูจะทำหน้ายังไงดีวะถ้ากูเจอพี่โช โอ๊ย!! กูเขิน” มันเอาอีกแล้วครับ มันโพร่งออกมาอีกแล้วครับ ไอ้น้ำตาล



“เดี๋ยวๆ พี่เขารู้หรือยังว่ามีมึงอยู่บนโลกนี้อ่ะ ฮ่าๆ” ได้ทีผมต้องกัดให้มันตาย



“ไอ้เชี่ยอาร์ท ไอ้เพื่อนเลวว”



“ฮ่าๆ ขำๆ น่ามึงทำเป็นจริงจังไปได้ ป่ะๆ กินข้าวไปเถอะกินให้หมดนะมึง”



“น้ำตาลเป็นไรของมันวะ” กายถามผมด้วยความฉงน



“อ่อ เรื่องมันเป็นงี้มึงเมื่อตอนที่รับน้องมหา’ลัยหนะมึง ตอนที่เขาแบ่งกลุ่มกันมันได้อยู่กลุ่มหนึ่งแล้วมีพี่ที่ดูแลกลุ่มมันคนหนึ่งมันบอกว่าหล่อนักหล่อหนา อยากได้มาทำผะอั๋ว กูก็ไม่เคยเห็นหน้าหรอกว่าแม่งหน้าตายังไง มาเพ้อเจ้อให้กูช่วยจีบอยู่เนี่ย กูละเพลียกับชะนีอย่างมัน มึงอย่าไปใส่ใจเลย ฮ่าๆๆ” ผมเล่าเรื่องราวให้กายฟัง



จากนั้นพวกเราก็นั่งกินกันไปเงียบไม่มีใครพูดอะไรอีก ผมก็เอาโทรศัพท์มากดเล่นไปพรางๆ กินข้าวไป จนเสียงไอ้น้ำตาลดังขึ้นอีกครั้ง



“พวกมึงนั้นไง พี่โช



==========

TBC.

Talk.ได้เจออีพี่โชแล้ว น้องอาร์ทจะได้เริ่มจีบพี่โชซะที แต่เอ๊!! จีบให้น้ำตาลจ้า ให้น้ำตาล จริงจริ๊งงงงง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 09-05-2017 08:16:59
ตอนที่ 2

“พวกมึงนั้นไง พี่โช”
ผมกับกายตกใจเสียงของน้ำตาล เลยรีบเงยหน้าขึ้นมองตามน้ำตาล
"เฮ้ย" ผมร้องออกมาเสียดัง
"มึงเป็นอะไรของมึงวะอาร์ท พี่โชของกูหล่อใช่ไหมล่ะ"
"หล่อตายห่าละมึง ไอนี่เนี่ยนะที่มึงบอกว่าดีดักดีหนา หึ"
"เดี๋ยวนะแล้วพี่โชไปทำอะไรให้มึง มึงถึงพูดถึงเขาแบบนี้"
"ก็เมื่อกี้กูเดินชนมัน กูก็อุตส่าห์ขอโทษ ช่วยเก็บของ แม่งเสือกทำหยิ่งไม่รับคำขอโทษจากกู"
"อ่าว มึงไปทำร้ายพี่โชของกูก่อนหนิ เขาโกรธก็ไม่ผิดหรอก" น้ำตาลว่าผมเสร็จก็พูดต่อ "อ่อ แล้วอย่าคืนคำด้วยนะเรื่องที่รับปากกับกูว่าจะช่วยกูจีบพี่โชน่ะ ลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูดโว้ย"

ผมหน้าเหวอกับเรื่องที่น้ำตาลพูดไปเลยครับ นี่มันเวรกรรมอะไรที่ต้องไปช่วยไอ้ตาลมันตามจีบไอ้พี่เหี้ยนั่น พอตั้งสติได้ผมก็ตอบมันกลับไป
"เอ้อ" เสียงประชดประชัน

ม่ายยยยยยยยยยยย
ชีวิต!!!!

หลังจากวันนั้นพวกเราก็ใบ้ชีวิตกันปกติ ก็ทั้งเรียนทั้งกิจกรรมแน่น จนลืมเรื่องที่สัญญากับน้ำตาลไว้ จนกระทั่ง

ณ.เวลาเลิกกิจกรรม บริเวณลากกิจกรรมขอคณะนักศึกษาก็กำลังแยกย้ายกลับหอพักบ้าง กลับบ้านบ้าง ผมก็เห็นแก้มป่องของผม อ่อ ผมลืมเล่าเรื่องแก้มป่องไปเลย ผมเจอแก้มป่องตั้งแต่วันที่มาสอบสัมภาษณ์ เธอน่ารัก ผมเลยตั้งใจไว้ว่าเปิดเทอมผมจะจีบเธอ แล้วก็เป็นโอกาสดีที่น้ำตาลยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนที่ผมต้องไปจีบรุ่นพี่คนนั้นให้มัน งั้นผมขอใช้โอกาสขอผมก่อนวันนี้เลยแล้วกัน

ผมก็นึกเรื่องที่ต้องไปจีบผู้ชายให้น้ำตาลมาได้ เลยหันไปพูดกับน้ำตาล
"ไอ้ตาลนั่นไงแก้มป่องไปจีบให้กูสิ"
"เฮ้ยได้ไงอ่ะ มึงยังไม่ช่วยกูจีพี่โชเลยเถอะ"
"เหอะน่า มึงช่วยกูก่อน ยังไงกูก็ช่วยมึงอยู่แล้วแหละน่ะ"
"โอเค งั้นมึงรอกูตรงนี้กูต้องกลับมาพร้อมกับเบอร์เขาแน่ๆ"

แล้วน้ำตาลก็เดินทิ้งห่างจากผมกับกายไป และเข้าใกล้แก้มป่องไปเรื่อยๆ ผมได้แต่แอบยืนมองมันคุยกับแก้มป่องยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สักพักแล้วมันก็เดินกลับมายื่นมือถือจ่อหน้าผม

"อ่ะนี่เฟสบ๊คแก้มป่อง เอ้อแล้วเขาไม่ได้ชื่อแก้มป่อง เขาชื่อท้องฟ้าโว้ย"
ผมรับมือถือจากมือน้ำตาลมาดู แล้วเหยียดยิ้ม ผมหยิบโทรศัพท์ผมออกมาจากระเป๋ากางเกงเพื่อทำการใหญ่ครับ กดแอดเพื่อนในเฟสบุ๊คแก้มป่องเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ...
ตึ้ง!
ท้องฟ้า สดใส ได้ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของคุณแล้ว
ครับผมจะเหลืออะไร นอกจากกระโดดโลดเต้นเป็นลิงได้แก้ว แต่จะให้ผมทักไปเหรอครับ เอ่อผมยังไม่กล้าขนาดนั้นหรอกครับ แค่แอดไปก่อนก็พอแล้ว เรื่องแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไป ผมเดินยิ้มแป้นกลับหออย่างนั้น
“มึงยิ้มบ้ายิ้มบออะไรของมึงวะ”
“แก้มป่องรับแอดกูแล้วไอ้ตาล ไอ้กาย โอ้ย!! กูดีใจชิบหายยยย”
“ไอ้อาร์ทกูช่วยมึงแล้วถึงตาของมึงต้องช่วยกูบ้างแล้วละ หึหึ” น้ำตาลพูดจบแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“พวกมึงสองคนเล่นอะไรกันวะ ทำเป็นเด็กๆ ไปได้” ไอ้กายเหน็บแนมผมกับน้ำตาล
“มึงเงียบปากไปไป๊ไอ้กายช่วยอะไรไม่ได้ก็เงียบค่ะ”
“ฮ่าๆ กูงียบก็ได้วะเชิญมึงสองคนตามสบายคร๊าบบบ” กายพูดด้วยน้ำเสียงประชด

ตึ้ง!
กายกรรม ครับผม รู้สึกประหลาดใจ กับ - Art Patavee และ Sugar Sweet
คนประหลาดสองคนอยู่ด้วยกันเจริญดีนะคร้าบบบบบ
Sugar Sweet : ไอ้กายมึงประหลาดกูสองคนปกติโว้ยยยยยยย
Art Patavee : เชี่ยกาย มึงนั่นแหละประหลาด กูออกจะหล่อมาว่ากูประหลาด
Nina Najaa : พี่กายใจร้าย ทำไมว่าเพื่อน
กายกรรม ครับผม : ขอโทษคร้าบบบบบ กายผิดไปแล้ว อิอิ
ทุกคนง่วนอยู่กับการตอบโพสของไอ้กายครับ

“ไอ้อาร์ทมึง กูสืบมาแล้วว่าพี่โชเขาอยู่ชมรมฟุตบอลไม่ได้อยู่ชมรมสันทนาการวันนั้นพี่เขาแค่ไปช่วยเฉยๆ”
“แล้วไงวะ? มันอยู่ชมรมไหนแล้วเกี่ยวไรกับกู” ผมถามน้ำตาลกลับแบบงงๆ
“พี่เขาอยู่ชมรมฟุตบอล มันก็มีแต่ผู้ชายไงที่จะเขาชมได้” น้ำตาลส่งยิ้มหวานมาให้ผม
“แล้วยังไง?”
“เป็นคำถามที่ดี หึหึ.....แล้วมึงก็ต้องไปสมัครเข้าชมรมฟุตบอลไงละคะไอ้คุณอาร์ท”
“เฮ้ยให้กูไปเข้าชมรมฟุตบอลเนี่ยนะ..”
“เยสเซ่อ!! พอมึงได้เข้าไปอยู่ในชมรมแล้ว กูก็จะตามมึงไปด้วยได้ กูก็จะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆ กับพี่โช โอ๊ยยย แค่คิดกูก็ฟินนาเร่ม๊ากกกกกกกก”
ผมหันไปหากายทันที “ไอ้กายมึงไปเข้าชมรมฟุตบอลเป็นเพื่อนกูนะ กูเหงา”
“ไม่ได้วะมึงพี่ที่ชมรมดนตรีมาจองตัวกูแล้ว...เอ่อเขาบังคับกูนั่นแหละโทษทีมึง” มันทำหน้าเศร้าล้อผม
ได้ยินกายพูดแบบนั้นผมถึงกับหงอยแดกเลยครับ นี่นายปฐวีต้องไปเผชิญชะตากรรมคนเดียวในชมรมฟุตบอลยังไม่พอต้องไปตามจีบไอ้พี่โชสันดานเสียนั่นอีก ผมจะโดนมันต่อยเอาไหมวะถ้ามันรู้ว่าผมไปตามจีบมันให้เพื่อน แค่ทำชีทมันร่วงมันยังหัวร้อนใส่ผมขนาดนี้มันเริ่มไม่สนุกแล้วนะปฐวี......
ฮื่อๆๆๆ!!!!

เราสามคนก็แยกย้ายกันกลับหอ เมื่อผมถึงห้องก็รีบอาบน้ำแต่ตัวมาเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อนส่องเฟสบุ๊คแก้มป่องของผมแบบเต็มที่ ส่องไปก็เห็นว่าแก้มเธอป๊อปปูล่าน่าดู ทั้งคอมเม้นต์ ทั้งไลค์ เยอะเหลือเกิน นี่ผมมองของสูงไปหรือเปล่าครับ แล้วเพลงนี้ก็ขึ้นมาในหัวเลยครับ
รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง
รู้ว่าเหนื่อย ถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง
ยังไงจะขอลองดูสักที

รู้ว่าเราแตกต่างกันเท่าไร
รู้ว่าเธออยู่ไกลอยู่สูงขนาดไหน
ใครๆ ก็รู้เป็นไปไม่ได้หรอก
แต่คำว่ารักมันสั่งให้ฉันต้องปีนขึ้นไป

ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที
ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวัน
อยากรักก็ต้องเสี่ยง
ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน

ลำบากลำบนไม่สนใจ
ตะเกียกตะกายสักเพียงใด
ก็ดีกว่าปล่อยเธอไปจากฉัน
ตกหลุมรักจริงๆ เพราะรักจริงๆ
เธอคงไม่ว่ากัน.......

ตึ้ง!
ผมเหลือบมองที่ช่องแชทด้านล่าง มือผมต้องชะงักค้างเติ่ง ตื่นเต้น ใจสั่นเทาไม่เป็นจังหวะ โอ๊ย!! แก้มป่องทักผมมาครับ

ท้องฟ้า สดใส
สวัสดีค่ะ
เธอชื่อ อาร์ท ใช่ไหม
เราท้องฟ้านะ
ยินดีที่ได้รู้จัก
Art Patavee
ครับ
ยินดีที่ได้รู้จักครับท้องฟ้า
ท้องฟ้า สดใส
อาร์ทเป็นแฟนกับน้ำตาลหรอ
Art Patavee
เฮ้ยยยย
ไม่ใช่ดิ ไม่ใช่
เป็นเพื่อนกัน รู้จักกันตั้งแต่อนุบาลแล้ว
ท้องฟ้า สดใส
อ่ออย่างนี้นี่เอง
โอเค เราเข้าใจแล้ว
งั้นเรานอนแล้วนะ
ฝันดี
Art Patavee
ฝันดีครับท้องฟ้า
*สติกเกอร์

หมายความว่าไงวะ แก้มป่องทักมาแถมถามว่าเรากับน้ำตาลเป็นแฟนกันหรือเปล่า แก้มป่องต้องชอบไอ้ปฐวีคนนี้แน่ๆ เลย หึงเขากับน้ำตาลใช่ไหมล้า โอ๊ยยยยย ฟิน ฟิน ฟิน กูฟินนนนนนน
‘ฝันดีแล้วมึงไอ้อาร์ท’
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันหายนะของผมเลยครับเพราะน้ำตาลมันมาเคาะห้องผมแต่เช้าทั้งที่วันมีเรียนบ่ายแท้ๆ ผมกะว่าจะตื่นซักเที่ยง แต่ก็ต้องมาตื่นเพราะน้ำตาลมันบังคับให้ผมอาบน้ำแต่งตัวไปมหาวิทยาลัยเพื่อไปสมัครเข้าชมรมฟุตบอลนั่นแหละครับ
เราสองคนเดินตรงไปยังห้องชมรมเพื่อนทำการสมัคร เมื่อผมกรอกรายละเอียดในใบสมัครเรียบร้อยก็ส่งให้รุ่นพี่ในชมรม เขาก็นัดผมมาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้หลังเลิกเรียนเพื่อนมาวัดทักษะด้านฟุตบอลนั่นแหละครับ

“สมใจมึงหรือยัง ยัยบ้า” ผมมองค้อนมัน นี่มันเวลานอนของผมนะ
“เอาน่าเพื่อนร๊ากกกกกกกกก เข้าชมรมนี้ก็ดีเพื่อสุขภาพของมึงด้วยไง ร่างกายจะได้แข็งแรง” มันยิ้มตาใสใส่ผม
“เอ้อ คุยกับมึงเหมือนคุยกับขี้ ไปหาข้าวกินดีกว่า”
เราสองคนก็เดินเล่นชมวิวในมหา’ลัยเรื่อยเปื่อยไปจนถึงโรงอาหารของคณะเพื่อนหาอะไรกินระหว่ารอเวลาเรียนช่วงบ่าย
กินข้าวเสร็จผมก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะทันที ก็น้ำตาลเล่นปลุกมาตั้งแต่ไก่โห่ใครมันจะไม่ง่วงวะ กว่าผมจะตื่นอีกทีก็ตอนที่น้ำตาลและกายช่วยกันเขย่าตัวผมให้ตื่นไปเรียนนั่นแหละครับ แต่ไอ้กายมาตอนไหนไม่รู้แต่ช่างเถอะครับไปขึ้นเรียนดีกว่า
ตื๊ด!!
“ฮัลโหลว่าไงคุณแม่คนสวย”
(อ้าวจำแม่ได้ด้วยหรอลูกชาย)
“แหมแม่ก็พูดไป ลูกชายจะลืมคุณแม่ได้ไงละคร้าบบบบ”
(เหรอออ เอ่อเข้าเรียนมหา’ลัยแล้วเป็นยังไงบ้าง)
“ก็ดีแหละแม่ แต่ไม่ดีตรงที่ยังต้องมีไอ้ตาลอยู่ด้วยเหมือนเดิมนี่แหละแม่” น้ำตาลได้ยินแล้วหันมาขยับปากด่าผมไม่หยุด
(ฮ่าๆ ว่าไปก็มีแต่ตาลที่ทนลูกชายแม่ได้แหละมั้ง แต่งเลยไหมเดี๋ยวแม่ไปขอให้)
“ม่ายยยย แม่จะมายื่นนรกให้ปฐวีแบบนี้ไม่ได้ ฮ่าๆๆ เอ่อแล้วแม่โทรมามีอะไรหรือเปล่า”
(ก็คิดถึงลูกชายอยากเจอหน้า เย็นนี้เจอกันหน่อยไหม อย่าตอบว่าไม่ได้เพราะฉันอยู่กรุงเทพแล้วไอ้ลูกชาย)
“จริงดิ พ่อกับแม่ลงมากรุงเทพแล้วจริงดิ แล้วทำไมไม่บอกก่อน”
(เฮ้ยฉันก็บอกอยู่นี่ไง งั้นเย็นนี้เจอกันนะปฐวีลูกรัก บ๊ายยย) ตู๊ดๆๆๆ แล้วแม่ก็ตัดสายทิ้งไปแบบนี้เนี่ยนะ
เย็นนี้ต้องเข้าชมรมนี่หว่าแต่ไม่เป็นไรมั้งถ้ามีเหตุผลพี่เขาคงเข้าใจ พรุ่งนี้ค่อยเข้าไปชมรมแล้วกัน

<Cho Time>
ผมโชกุน เรียนอยู่คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ปี 2ครับ ผมรักฟุตบอลมากขนาดเรียนก็แทบจะไม่มีเวลาอยู่แล้วก็อย่างที่รู้กันครับ สถาปัตย์งานเยอะจะตาย แต่ผมก็ยังเลือกจะแบ่งเวลามาเข้าชมรมฟุตบอลที่ผมรักครับ วันนี้อาจารย์เลิกคลาสเร็วผมเลยเข้ามานั่งเลนที่ชมรม....
“ไอ้โชวันนี้มีน้องปีหนึ่งมาสมัครเข้าชมรมกูเลยนัดเข้ามาทดสอบทักษะเย็นนี้ มึงอยู่รอน้องมันด้วยนะโว้ย” ไอ้คิวเป็นเพื่อนกับผมตั้งแต่มัธยมแต่เราเรียนกันคนละคณะแต่ก็รักฟุตบอลเหมือนกันร่ายยาวบอกผม
“อ้าวแล้วทำไมมึงไม่อยู่เองวะ ทำไมต้องให้กูอยู่คนเดียว”
“เอาน่ามึงทำเพื่อชมรมไม่ได้หรือไงวะ พอดีกูมีนัดสำคัญม๊ากกกกกกกก”
“สำคัญอะไรของมึง”
“น้องแยมอักษรนัดกูเลยนะมึง มึงว่าสำคัญกับกูพอไหมละ”
“หึ ไอ้หน้าภาชนะหุ้งต้ม เออกูอยู่เองก็ได้ไหนๆ เย็นนี้กูก็ว่างอยู่แล้วมึงจะไปไหนก็ไปเลยกูหมั่นไส้”
“ฮ่าๆ กูไปก่อนมึง ฝากด้วย” ไอ้คิวมันพูดจบก็รับสะบัดตูดไป

นี่ก็หนึ่งทุ่มแล้วยังไม่มีวี่แววของน้องที่ไอ้คิวมันนัดไว้เลย ผมรอมันตั้งแต่สีโมงเย็นอย่าถามเลยครับว่าผมหัวร้อนแค่ไหน ตอบเลยว่าม๊ากกกก ทั้งหัวร้อน ทั้งเกี้ยวกราด ผมเกลียดคนไม่ตรงเวลาที่สุด
พอคิดได้ผมก็ไปหยิบใบสมัครของไอ้เด็กปีหนึ่งมานั่งดู อ่อมันเป็นเด็กคณะคอมมึงคงไม่เข้าใจการใช้ชีวิตกับมนุษย์สินะ เมื่อผมดูไปก็เห็นเบอร์โทรศัพท์ที่มันกรอกไว้ ผมหยิบโทรศัพท์เพื่อต่อสายทันที
ตู๊ด!
ตู๊ด!
ตู๊ด!
มันยังไม่รับ ผมยิ่งโกรธกว่าเดิม กำลังจะกดวาง แต่ก็ได้ยินเสียง
(สวัสดีครับ)
“…….” ผมเงียบเพื่อฟังเสียงรอบข้างมัน อือหือรอบข้างมึงเสียงครึกครื้นเชียวนะไอ้เด็กเวร
(สวัสดีครับ ได้ยินไหมครับ)
“เออ”
(เอ่อ นั่นใครครับ)
“วันนี้มึงนัดใครไว้หรือเปล่าละ” ผมขอกวนตีนมันเลยแล้วกัน
(ไม่ได้นัดหนิโทรผิดหรือเปล่าครับ)
“มึงชื่ออาร์ท ปฐวี วีระพงษ์วาณิช หรือเปล่าละ”
(ใช่ครับ ผมเอง)
“งั้นก็แปลว่าไม่ผิด ถ้ามึงไม่ว่างทำไมมึงไม่เข้ามาบอกที่ชมรมกูได้ไม่ต้องนั่งรอมึงตั้งแต่สี่โมงยันหนึ่งทุ่มแบบนี้ไอ้เด็กเวร”
(เหี้ย!!)
“…………” มันอุทาน หรือมันด่าผมกันแน่ ไอ้เด็กเวร
(พี่ผมขอโ.......) ผมไม่รอให้มันพูดจบ
“เดี๋ยวมึงโดนหนักแน่”
แค่นั้นผมก็ตัดสายแล้วปิดเครื่องเพราะอารมณ์โกรธมันยังครุกรุ่น ผมได้แต่นั่งคิดวิธีจะจัดการกับไอ้เด็กเวรนี่ ผ่านไปซักพักอารมณ์เริ่มดีขึ้นผมก็เดินดูความเรียบร้อยห้องชมรมแล้วก็ปิดห้องเพื่อกลับไปคิดวิธีจัดการไอเด็กเวรนี่ต่อที่ห้อง
“หึ ไอ้เด็กอาร์ทมึงเจอกูแน่!!”
==============
TBC.
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 10-05-2017 00:05:23
ตอนที่ 3

“นักศึกษาวันนี้พอแค่นี้ค่ะ แล้วเข้าคลาสครั้งหน้าก็อย่าลืมส่งรายงานที่สั่งไปด้วยนะคะ”

เมื่ออาจารย์ปล่อยผมก็ตรงดิ่งไปหาท่านพ่อกับท่านแม่โดยด่วน ที่ร้านอาหารที่ท่านนัดไว้ ผมลืมสนิทเรื่องที่จะเข้าไปบอกพี่ที่ชมรมว่าผมติดธุระ

ถึงร้านอาหารผมก็วิ่งกระโดดกอดพ่อกับแม่ แล้วก็คุยสัพเพเหระไปเรื่อยเปื่อย ก็มันคิดถึงหนิครับ นานๆ ทีจะได้เจอท่านทั้งสอง ผมกำลังมีความสุขอยู่กับครอบครัวแต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้น



Rrrrrrrr

089-999xxxx

ผมมองดูที่หน้าจอโทรศัพท์ เบอร์ไม่คุ้นสักนิด คิดอยู่ว่าจะรับหรือไม่รับดีแต่ก็คิดขึ้นมาว่าเผื่อจะเป็นเพื่อนมีธุระก็ได้เลยตัดสินใจ



“แม่เดี๋ยวอาร์ทไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ” บอกแม่เสร็จผมก็เดินออกมาตรงหน้าร้าน



“สวัสดีครับ”



(…….)



อ่าวทำไมเงียบ “สวัสดีครับ ได้ยินไหมครับ” ผมพูดซ้ำอีกครั้ง เพราะคิดว่าสัญญานอาจจะไม่ดี



(เออ)

“เอ่อ นั่นใครครับ” ผมถามกลับไป



(วันนี้มึงนัดใครไว้หรือเปล่าละ)



“ไม่ได้นัดหนิโทรผิดหรือเปล่าครับ”



(มึงชื่ออาร์ทปฐวี วีระพงษ์วาณิชหรือเปล่าละ)



“ใช่ครับ ผมเอง”



(งั้นก็แปลว่าไม่ผิด ถ้ามึงไม่ว่างทำไมมึงไม่เข้ามาบอกที่ชมรมกูได้ไม่ต้องนั่งรอมึงตั้งแต่สี่โมงยันหนึ่งทุ่มแบบนี้ไอ้เด็กเวร)



“เหี้ย!!” ผมอุทาน ลืมสนิทว่าผมไม่ได้เข้าไปบอกพี่ที่ชมรมนี่หว่า



(…………)



“พี่ผมขอโ........” ผมยังพูดไม่ทันจบ



(เดี๋ยวมึงโดนหนักแน่)



“เดี๋ย........”



(ตู๊ดๆๆๆ) เฮ้ยยังพูดไม่จบเลย ทำไมต้องตัดสายทิ้งวะ



จะรออะไรละครับ รีบโทรกลับสิครับปฐวี

(เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามรถติดต่อได้ในขณะนี้)



‘เฮ้ย! ปิดเครื่อง พี่บ้าหรือเปล่าวะจะปิดเครื่องทำพระแสงอะไรแล้วอย่างนี้จะรู้เรื่องไหมเนี่ย’ ผมสบทอย่างหัวเสีย

‘เดี๋ยวมึงโดนหนักแน่’



“เห้ยยยย!!! .....ไม่เอากูยังไม่อยากต๊ายยยยยย!” เมื่อคิดถึงคำพูดนั้น ผมก็ตะโกนออกมาดังลั่น

ผมเดินคอตกกลับมาที่โต๊ะ สีหน้าผมคงชัดเจนมาจนแม่ผมทัก



“ทำไมทำหน้าแบบนั้นลูกชาย”



“แม่วันนี้ตอนเย็นอาร์ทมีนัดเข้าชมรม แต่อาร์ทรีบมาหาพ่อกับแม่เลยลืมไปบอกพี่ที่ชมสนิทเลย”



“อ้าว..ทำยังไงละทีนี้”



“อาร์ทต้องโดนทำโทษหน่ะแม่ ฮื่อๆๆๆ” ผมเบะปากงอแงใส่แม่



“เอาน่าไอ้ลูกชาย พี่เขาคงไม่ฆ่าเราตายหรอก ฮ่าๆๆ”



“โถ่พ่อ ยังจะมาขำนี่ลูกจะโดนอะไรบ้างยังไม่รู้เลย”



“ลูกชายพ่อเก่งอยู่แล้วน่า”



“ก็จริงผมเก่ง หึ” ผมยกยิ้มพี่มันจะทำอะไรผผมได้



หลังจากกินข้าวเสร็จพ่อกับแม่ก็พาผมมาส่งที่หอแล้วก็ขอขึ้นไปชมห้องลูกชายสุดหล่ออีกสักพัก ท่านสองคนก็กลับไปพักที่บ้านญาติครับ

ผมเอาแต่นอนคิดว่าพรุ่งนี้ผมจะโดนอะไรเมื่อเข้าไปถึงชมรม แต่พี่มันคงไม่ถึงขั้นฆ่าแกงผมทิ้งหรอกมั้ง เอ้อ ว่าแต่พี่คนที่โทรมามันชื่ออะไรวะ? ช่างเถอะนอนเอาแรงไว้ก่อนดีกว่า พรุ่งนี้เป็นไงเป็นกัน



ณ ห้องชมรมฟุตบอล

“ไอ้โชวันนี้มึงไม่มีเรียนเหรอวะ มาแต่หัววันเชียว” คิวถามเพื่อนที่เพิ่งเดินเข้าชมรมมา



“กูจะมารอจัดการไอ้เด็กเวรเมื่อวานนี้ไง”



“มึงก็ไปอาฆาตน้องมัน มันอาจจะมีธุระสำคัญก็ได้เปล่าวะ”



“เดี๋ยวก็รู้ว่าสำคัญแค่ไหน หึหึ” โชกุนยิ้มร้าย



ทันทีที่อาร์ทเดินเข้ามาในชมรม

“สวัสดีครับพี่”



‘ทำไมบรรยากาศมันแปลกๆ วะ ดูอึมครึม นี่กูต้องทำหน้ายังไง ต้องลงไปกราบแทบเท้าพี่มันไหมวะ’ ผมได้แต่คิดในใจแบบนั้น



“เออ หวัดดี พี่ชื่อคิวนะ เราอาร์ทสินะ”



“ครับ”



“แล้วนี่เพื่อนพี่ชื่อโช อยู่ชมรมนี้แหละ”



“ครับผมรู้จักพี่โชครับ”



พี่โชเลิกคิ้ว “มึงมารู้จักกับกูตอนไหน?”



“ก็พี่ออกจะดัง ผมจะไม่รู้จักพี่ได้ไงละพี่” อวยมันไปก่อนครับ จะได้เอามันใส่พานไปถวายน้ำตาลได้ง่ายๆ



“หึหึ”



“พี่คิวครับ เมื่อวานนี้ผมขอโทษนะครับที่ผมผิดนัดพอดีว่าพ่อกับแม่ผมลงมาจากเชียงใหม่ผมเลยต้องรีบไปรับพ่อกับแม่หนะครับ”



“ตอแหลมมม” พี่โชมันโพล่งขึ้น แล้วก็พูดต่อ “เออไอ้คิว ตอไม้หน้าชมรมนี่มันแหลมดีเนอะ”



ผมเลิกคิ้ว มองหน้าพี่โช พี่คิวทีแบบงงๆ



“เออไอ้อาร์ทไอ้โชปากมันก็งี้แหละอย่าไปใส่ใจเลย ฮ่าๆ”



“ผมขอโทษพี่ด้วยที่ให้พี่ต้องรอยันมืด”



“เฮ้ย พี่ไม่ได้มึงนะ นู่นไอ้โชต่างหากที่เป็นคนรอมึง” พี่คิวบุ้ยปากไปทางพี่โช



“เอ่อ พี่โชครับผมขอโทษ” ผมยกมือไหว้มันแบบเสียไม่ได้



“กูจะยกโทษให้ แต่มึงต้องมาเป็นคนรับใช้กูเดือนนึง แต่วันนี้กูขอลงโทษมึงก่อนเลยแล้วกันไปวิ่งรอบสนาม 5 รอบ”



“โหพี่ อะไรวะ 5 รอบเลยเหรอ”



“หรือมึงจะไม่วิ่งก็ได้นะ” แล้วพี่โชก็ยื่นกะดาษมาให้ผม “อ่ะใบลาออก เขียนเลยไหม นี่ปากกา”



ผมทำหน้ากระฟัดกระเฟียด ครับจะทำอะไรได้นอกจากรีบออกไปวิ่งที่สนาม กว่าจะครบ 5 รอบเหนื่อยชะมัด ผมเดินกลับไปที่ห้องชมรมด้วยเหงื่อที่เต็มตัวเปียกซก



“มึงไปซื้อข้าว ซื้อน้ำมาให้กูกินด้วยนะกูให้เวลาสิบนาที” พี่โชสั่งผมหน้าตาเฉย



“ฮ่ะ? พี่จะไม่ให้ผมพักก่อนเลยเหรอ”



“ไม่” พี่โชตอบแค่นั้น แล้วก็จ้องหน้าผมเขม็ง



“โอเค พี่จะเอาข้าวอะไร น้ำอะไรบอกมาปมจะได้เอามาเสิร์ฟให้ถึงปาก” ผมพูดกระแทกเสียง ด้วยอารมณ์ล้วนๆ



“เอาผัดกะเพราไก่ใส่พริก 3 เม็ด ไข่ดาวขอแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ น้ำก็ชาเขียวปั่นหวานน้อยแต่ก็ต้องหวานอ่ะ”



“เอ้อ รอแปป” ไม่สุภาพมันแล้วครับ ตอนนี้มีแต่ความโกรธ



ผมซื้อทุกอย่างเสร็จก็เอามาเสิร์ฟให้พี่มันถึงที่ ผมก็เตรียมตัวจะกลับหอแล้วครับเพราะวันนี้ผมเหนื่อยมากทั้งจากที่โดนสั่งวิ่งรอบสนามแล้วยังต้องไปหาข้าวหาน้ำให้มันกินอีก ผมเปลี่ยนใจไม่ช่วยน้ำตาลมันตอนนี้ทันไหมครับ ฮื่อๆๆๆ



“พี่คิวครับผมกลับแล้วนะครับพี่ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่คิว โดยไม่หันไปมองไอ้พี่โชมันสักนิด



“ไว้เจอกันพรุ่งนี้เว้ย”



“เดี๋ยว...”



ผมหันไปมองต้นเสียง แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม“ครับ?”



“พรุ่งนี้เช้า มึงซื้อโจ๊กมาให้กูที่หอX ด้วย กูมีเรียน 9 โมง มึงคงรู้นะว่าควรมาถึงหอกูกี่โมง”



“เฮ้ยพี่ เกินไปหรือเปล่า”



“หรือมึงจะออกจากชมรม?” พี่โชทำหน้ากวนใส่ผม



“พี่อยู่ห้องไหนว่ามา แล้วผมจะติดต่อพี่ได้ยังไง”



“กูอยู่ห้อง 406 ติดต่อกูเบอร์เมื่อวานนี้ไง”



พี่โชพูดจบผมก็แค่พยักหน้ารับแล้วก็เดินออกจากห้องชมรมมาด้วยอารมณ์โกรธ ทำไมผมต้องมาทนกับคนอย่างมันด้วยวะ ท่องไว้ในใจ ‘เพื่อไอ้ตาล’ ผมสูดลมหาใจเข้าลึกๆ แล้วเดินกลับมาที่หอ



Art Patavee–รู้สึก เกลียด

ผมขอตั้งสถานะระบายความรู้สึกสักหน่อย แปปเดียวก็มีเสียงเตือน

ตึ้ง!!

Sugar Sweet: ใครทำเมิ้งงงงงงงงง

กายกรรม ครับผม: ผมขอโทษพี่อาร์ทคร๊าบบบบ ผมผิดไปแล้วอย่าเกลียดผมเลยน๊า

Bbee_numtip: น้องอาร์ทเกลียดพี่หร๊อ

หรรม หย่ายยยยย: มึงก็ไปเกลียด Sugar Sweetมัน 5555555555555

Art Patavee: Sugar Sweetเพราะมึงคนเดียวทำให้กูต้องมาเจอเรื่องแบบเน้ๆๆๆๆๆๆTT

Art Patavee : ผมไม่ได้เกลียดทุกคนคร๊าบบบ อาร์ทรักทุกโค๊นนนน



ตึ้ง!

Chokun Eieiได้ส่งคำขอเป็นเพื่อนถึงคุณ

‘เฮ้ย!! ไอ้เหี้ยหาเฟสกูเจอได้ไงวะ’ ผมสบถดั่งลั่นห้อง

‘เรื่องอะไรกูจะต้องรับแอดมึง หึหึ’



Chokun Eiei :

รับแอดกูเดี๋ยวนี้ ไอ้ขี้ข้า



แล้วผมก็เผลอไปกดอ่านข้อความมันซะงั้น ซวยแล้วกู ไม่ผมจะไม่รับแอดมันเด็ดขาดชีวิตผมแค่เจอมันที่ชมรมก็แย่พออยู่แล้ว ผมไม่ยอมให้มันมาอยู๋ในโลกขอผมแน่นนอน





Chokun Eiei :

อ่านแล้วไม่ตอบ

มึงจะเล่นใช่ไหม

กูบอกให้รับแอดกูไง

Art Patavee:

เอ้อ

ก็กำลังจะรับอยู่นี่ไง

พี่แม่งใจร้อนไปไหนวะ

Chokun Eiei :

พรุ่งนี้เช้าอย่าลืมนะมึง

ถ้าลืมมึงตายยย

*สติกเกอร์

Art Patavee:

คร๊าบบบบบบ

จากนั้นผมก็ต้องจำใจกดรับแอดเฟสบุ๊คพี่มันครับ ผมทำเวรทำกรรมอะไรมาที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ฮื่อๆๆๆ



วันรุ่งขึ้นผมก็ตื่นแต่เช้าไปซื้อโจ๊กไปถวายมันถึงห้องนั่นแหละครับ อ่ออย่าคิดว่าผมจะเข้าไปเทให้มันกินนะครับ ผมเอาไปแขวนไว้หน้าห้องมันแล้วก็รีบกลับหอ ถึงโทรให้มันออกมาเอาโจ๊กที่หน้าห้องมันครับ



“ไอ้ตาลพี่โชของมึงนี่เล้วเลวเนอะ”



“พี่โชทำอะไรมึงวะ” มันทำตาใสใส่ผม



“ให้กูวิ่งรอบสนาม แถมยังให้กูไปเป็นขี้ข้ามันอีกตั้งเดือนนึง”



“แบบนี้ก็ดีสิ มึงจะได้ใกล้ชิดกะพี่โชแล้วชงกุให้พี่โช” น้ำตาลทำหน้าฟิน



“หึ เออกูช่วยมึงแน่ แต่มึงก็ต้องไปชงกูให้แก้มป่องเหมือนกัน ตามนั้นนะ”



“โอเคเพื่อนอาร์ทสุดที่ร๊ากกกก” น้ำตาลกอดแขนผมแน่น



วันนี้เรามีเรียนกันเต็มวัน กว่าจะได้คุยกันก็ต้องพักเที่ยงนี่แหละครับผมนั่งกินข้าวกับน้ำตาลสองคน ไอ้กายมันขอตัวไปชมรมดนตรีของมันนั่นแหละครับ ไม่รู้ว่าจะซ้อมหนักอะไรขนาดนั้นก็แค่งานดนตรีในมหา’ ลัยเอง อ่อไอ้กายมันเป็นมือกลองของวงมหา’ ลัยหนะครับ ช่วงนี้มันเร่งซ้อมที่จะขึ้นเล่นงาน freshy night



“ท้องฟ้ามานั่งด้วยกันสิ” น้ำตาลตะโกนดั่งลั่นโรงอาหาร



“อ้าวน้ำตาล อาร์ทหวัดดี” แก้มป่องยิ้มหวานให้ผมกับน้ำตาล



“หวะ...หวัดดีท้องฟ้า นั่งก่อนดิ” ผมพูดตะกุกตะกัก



“งั้นฟ้ากับเพื่อนขอนั่งด้วยแล้วกันนะ” แก้มป่องยิ้มแล้วแนะนำ “น้ำตาล อาร์ท นี่กรอย ส่วนกรอย นี่อาร์ทกับน้ำตาล ที่เราเล่าให้ฟังไง” กรอยยิ้มและพยักหน้าให้ผมกับน้ำตาล



“เอ้!! เดี๋ยวนะท้องฟ้าเราถึงเรากับอาร์ทว่าอะไรเหรอ”



“ก็เล่าให้กรอยฟังว่าฟ้ามีเพื่อนเพิ่มมาอีกสองคนไงเล่า เอ้อ เรียกว่าฟ้าเฉยๆ ก็ได้นะ”



“จ้า ฟ้าเฉยๆ”



“ฮ่าๆ น้ำตาลกวนอ่า เราไม่คุยแล้วกินข้าวดีกว่า”



หลังจากนั้นเราก็นั่งกินข้าวกันไปเงียบๆ พอกินเสร็จก็ได้พูดคุยกันนิดหน่อยก็ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันไปเรียนคลาสตอนบ่ายต่อ



=======================

TBC.
Talk.นางทาสก็มา อาร์ทจะเป็นทาสรักของพี่โชหรือเปล่าน๊าาา
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 10-05-2017 00:59:33
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 10-05-2017 14:03:42
 :z2: :z2: :z2: อาวกำลังอ่านเพลินๆ ยังสรุปความรู้สึกไม่ได้ค่ะ เพราะเหมือนกำลังปูเรื่องแต่ จะติดตามค่ะ มีคำผิดนิดโหน่ย โดยรวมสนุกดีจ้า
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 10-05-2017 21:40:51
ตอนที่ 4

<Cho Time>

ผมนอนคิดทั้งคืนว่าจะจัดการกับไอ้เด็กเวรนี่ยังไง ผมก็คิดขึ้นได้ว่าจะจัดการมันทั้งทีขอเอาให้ชีวิตมันวุ่นวายไปเลยก็แล้วกัน มาเป็นขี้ข้ากูสักเดือนนึงแล้วกันไอ้เด็กอาร์ท สะใจดีนี่ผมโรคจิตหรือเปล่าวะมันแค่ผิดนัดเองนะ แต่รู้สึกไม่ถูกชะตะกับมันยังไงไม่รู้ขนาดยังไม่เห็นหน้านะ ยังอยากแกล้งมันขนาดนี้

‘หึหึ!’ คิดแค่นั้นผมก็ขำแล้วครับ

 

Rrrrrrr

 

“โหล”

 

(พี่โชตื่นมาเอาโจ๊กหน้าห้องด้วยนะพี่ ผมแขวนไว้หน้าประตู)

 

“แล้วทำไมมึงไม่เคาะประตู” ผมถามไปด้วยความไม่เข้าใจมัน

 

(พอดีผมรีบหนะพี่)

 

“หึ!” ไอ้เด็กเวรนี่คงไม่อยากเจอหน้าผมสินะ มึงไม่ต้องกลัวมึงได้เจอกูไปอีกน๊านนนน

 

(แค่นี้นะพี่ หวัดดีครับ)

 

วางสายแล้วผมก็ได้แต่ขำ ไอ้เด็กนี่มันคงจะไม่ชอบผม เอ๊ะ หรือเกลียดวะ นั่นแหละมันคงรู้สึกไม่ดีกับผมสักเท่าไหร่  คิดแล้วผมก็เหยียกยิ้มร้ายๆ ออกมา

‘เกลียดกูเยอะๆ เลย เดี๋ยวกูจะทำให้สมกับที่มึงเกลียดกูเลย….หึหึ’

 

“ไอ้โชมึงทำโมอาจารย์แม่เสร็จยังวะ” ไอ้อัครถามผม

 

กลุ่มผมมีกันทั้งหมด 4 คนครับมีผม ไอ้อัคร ไอ้ณัฐ ผมสามคนเรียนคณะเดียวกัน แล้วก็มีไอ้คิว ที่โดดไปเรียนบริหารเพราะที่บ้านมันต้องการให้มันกลับไปบริหารธุรกิจ เราทั้งหมดจบจากมัธยมโรงเรียนเดียวกัน เราสนิทกันมากเพราะเรา 4 คนนิสัยเหมือนกันครับเฮฮาเวลาอยู่ด้วยกันส่วนใหญ่ในชีวิตผมก็มีแต่พวกมัน

 

ก็จะมีแค่ช่วงเข้าชมรมแหละครับที่เราแยกกันไปอยู่ตามความชอบของตัวเอง ผมกับไอ้คิวชอบฟุตบอลก็ไปด้วยกัน ส่วนไอ้อัครกับไอ้ณัฐมันสายสันทนาการครับ

 

“ยังเลยวะกูว่าจะทำเสาร์นี้พวกมึงไปทำที่ห้องกูไหม” ผมถามมันสองคน

 

“เอาดิ ทำเสร็จก็แดกเหล้าต่อตามไอ้เหี้ยคิวไปด้วยนะมึง” ไอ้ณัฐพูดขึ้น

 

“มันจะว่าไปหรอวะกูเห็นช่วงนี้มันติดสาวอักษรวะ ฟุตบอลมันยังไม่ค่อยจะซ้อมเลยมึ้ง”

 

“มึงอิจฉามันหรอวะ กูบอกแล้วให้มึงเอาใครสักคน” ไอ้อัครทำหน้ากวนตีนใส่ผม

 

“แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูไม่ ‘เอา’” ผมยิ้มยียวนพวกมัน

 

“หึหึ! คร้าบบบ ไอ้หล่อ ไอ้พ่อคิ้วบอย ไอ้พ่อแฮนซั่มบอย ตั้งแต่ได้ลงเพจ หนุ่มหล่อมอS นี่ยืดเลยนะคร้าบบบ” ไอ้อัครแซวผม

 

“ฮ่าๆ...ไปขึ้นเรียนดีกว่าวะ”

 

ระหว่างนั่งเรียนผมก็ยกโทรสับขึ้นมาเปิดนู่นเปิดนี่เล่น เลื่อนเฟสบุ๊คดูข่าวสารแล้วก็สะดุดที่เฟสบุ๊คของไอ้เด็กเวรอาร์ทนั่น ผมก็กดเข้าไปส่องดูโพสเก่าๆ รูปเก่าๆ ที่มันเคยลง

 

ไอ้เด็กนี่มันถ่ายรูปสวยครับส่วนใหญ่เป็นรูปวิว รูปอาหาร จะมีรูปมันก็ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนมันแท็ก แต่ตลกชะมัดแต่ละรูปที่มันโดนแท็ก ไม่เผลอทำหน้าเหวอ ก็หลับน้ำลายยืด นั่งๆ ดูไปผมก็เผลอยิ้มไปกะรูปของมัน

 

“มึงยิ้มอะไรวะ?”

 

“กูเจอรูปขำๆ ไอ้เด็กที่ชมรมหนะมึง ไม่มีไรหรอก” ผมตอบปัดๆ ไป

 

“ไหนๆ สวยป่าววะเอามาดูบ้างดิ”

 

“มึงบ้าหรอเด็กชมรมมันจะสวยได้ไงเชี่ยอัคร นั่นมันชมรมฟุตบอลโว้ยย!” ไอ้นัดพูดจบมันก็ตบหัวไอ้อัครไปทีนึง

 

“เออวะกูลืม..แต่เดี๋ยวไอ้โชมึงนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กะรูปผู้ชายนี่นะ” ไอ้อัครทำท่าสยองใส่ผม

 

“เฮ้ย! กูก็แค่ขำที่มันโดนเพื่อนแกล้งแท็กรูปน่าเกลียดๆ โว้ย พวกมึงคิดบ้าไร”

 

“นักศึกษาสามคนนั้นคุยไรกัน เมื่อกี้อาจารย์พูดเรื่องอะไร” ตายห่าผมสามคนโดนอาจารย์แม่เล่นแล้วครับ

 

“เอ่อ” ผมสามคนตอบไม่ได้ครับ

 

“นั่งเงียบๆ ไปนะพวกเธอ ตั้งใจเรียนถ้าอีกครั้งอาจารย์จะให้ไปวิ่งรอบคณะ” อาจารย์แม่ชี้หน้าผมสามคนอย่างคาดโทษ

 

“คร้าบบบ” สามคนตอบรับพร้อมกันเชียวครับ

 

 

เลิกคลาสแล้วก็เที่ยงพอดี พวกผมเลยพากันไปกินข้าวที่โรงอาหารของคณะของผมครับ เมื่อถึงโรงอาหารผมก็กวดสายตาหาที่นั่งแล้วก็สะดุดกับโต๊ะหนึ่ง นั่นมันไอ้เด็กอาร์ทหนิ มันอยู่ไอที ทำไม่ถึงมากินข้าวคณะผม คิดได้แบบนั้นแล้ว ‘ไปแกล้งมันหน่อยดีกว่า’

 

“พวกมึงกูได้โต๊ะนั่งแล้วป่ะ” ผมหันไปบอกเพื่อนสองคน

 

เพื่อนสองคนของผมก็เดินตามมาอย่างว่าง่าย พวกมึงแปลกๆ ไม่คิดจะถามอะไรกูหน่อยหรอปกติมันต้องถาม ขี้สงสัยจะตาย แต่ดูจากอาการพวกมันดูออกว่าคงจะหิวกันมาก

 

“ไอ้เบี้ยวพวกกูนั่งด้วยนะ” ผมไม่ถามครับมันคือประโยคบอกเล่า

 

“นั่งดิพี่ ไม่ใช่โต๊ะผมสักหน่อย แต่เดี๋ยวนะผมไม่ได้ชื่อเบี้ยว ผมชื่ออาร์ท” มันหัวเสียใส่ผมครับ

 

“เออกูจะเรียกอะไรก็เรื่องของกูน่า ไปซื้อข้าวมาให้กูกินดิ เอากะเพราไ.....”

 

“กะเพราไก่พริกสามเม็ด กับ ชาเขียวปั่นไม่หวานแต่ก็หวาน..เอาแค่นี้ใช่ไหม”

 

มันคงจำได้ขึ้นใจว่าผมชอบกินอะไร ก็มันเป็นขี้ข้าผมมาเกือบอาทิตย์แล้วนี่ครับ “แค่นี้”

 

“เชร้ดดดดดด ทำไมน้องมันรู้วะว่ามึงจะกินอะไร” ไอ้อัครทำเสียงล้อเลียนผม

 

ผมไหวไหล่แล้วตอบ “ก็มันเป็นขี้ข้ากูหนิ มันก็ต้องรู้สิ ใช่มั้ย หึหึ!” ผมตอบไอ้อัคร แล้วก็หันไปถามมัน

 

ไอ้เด็กนั่นก็มองหน้าผมแล้วพยักหน้ากับไอ้อัคร ผมเห็นมันกับเพื่อนยุกยิกอะไรกันพยักพเยิดหน้า

 

“เอ่อ พี่โชนี่เพื่อนผมพี่ คนนี้ชื่อกาย ส่วนคนนี้ชื่อน้ำตาล”

 

อยู่ๆ มันก็แนะนำเพื่อนให้ผมรู้จัก ผมก็พยักหน้ารับ แล้วตอบ “ครับพี่ชื่อโชนะ น้ำตาลพี่คุ้นๆ หน้าเรานะ”

 

“พี่โชจำตาลได้หรอคะ”

 

“พี่ว่าพี่คุ้นหน้า” ผมยิ้มให้น้องน้ำตาล

 

“ค่ะตอนรับน้องตาลอยู่กลุ่มเดียวกับพี่โชไงคะ” น้ำตาลยิ้มหวานให้ผม

 

“อ้อ งั้นเราก็รู้จักพี่อยู่แล้วสินะ...แล้วมึงจะนั่งอยู่ทำไมไปซื้อข้าวดิวะ” พูดกับน้ำตาลเสร็จ ผมก็หันไปสั่งไอ้เด็กอาร์ทให้ไปซื้อข้าว

 

ผมก็นั่งคุยกับน้องน้ำตาลแล้วก็กายไปพรางระหว่างรอเด็กอาร์ทและเพื่อนผมไปซื้อข้าวเด็กๆ กลุ่มนี้คุยสนุกครับ มีสัมมาคารวะ ก็คงจะมีแค่ไอ้เด็กอาร์ทคนเดียวแหละครับที่มันไม่รู้จักสัมมาคารวะสักพักทั้งสามคนก็กลับมาที่โต๊ะ

 

“เออน้องๆ ครับ พี่ชื่ออัครนะเป็นเพื่อนไอ้โชมันหนะครับน้องน้ำตาล” ไอ้อัครแนะนำตัวเองกับน้องๆ แต่จะพิเศษกับน้องน้ำตาล

 

“แหมๆ ไอ้อัครมึงนี่มันขี้หลีจริงๆ เลยวะน้องนุ่งก็ไม่เว้น” ไอ้ณัฐด่าไอ้อัคร

 

“ฮ่าๆ นิดนึงน่ามึงอ่า ขัดกูตลอกกก”

 

“พี่ชื่อณัฐนะครับ” ไอ้ณัฐแนะนำตัวบ้าง

 

“ครับ/ค่ะ” น้องๆ ตอบรับพร้อมกัน

 

ผมสามคนก็นั่งกินข้าวไปส่วนน้องๆ เขากินกันหมดแล้วก็นั่งคุยนั่งเล่นกันไป ผมกินเสร็จก็หันไปบอกไอ้เบี้ยว

 

“เสาร์นี้มึงไปช่วยกูทำงานที่ห้องกูด้วยนะ”

 

“งานอะไรหรอพี่” มันทำหน้างงใส่ผม

 

“เออน่าไปถึงมึงก็รู้เอง”

 

“คงไม่ใช่กวาดห้อง ล้างจาน ซักผ้าใช่ไหมพี่”

 

“เดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละน่า….เย็นมึงเข้าชมรมด้วยแล้วกันเขามีคัดตัวฟรอ์มทีม”

 

ผมพูดแค่นั้นก็เรียกเพื่อนสองคนลุกเอาจานไปเก็บ แล้วก็เดินไปเรียนต่อในคลาสบ่าย

 

 ****************************

 

“ไอ้อาร์ทกูบรรลุแล้ว” น้ำตาลเพ้อตั้งแต่พี่โชลุกเดินไปจากโต๊ะ

 

“งั้นกูไปลาออกจากชมรมได้แล้วเนอะ”

 

“บ้านมึงสิกูยังไม่ได้พี่โชมาครอบครองเลยยยย”

 

“กูละสงสารไอ้อาร์ทจริงๆ วะต้องมาช่วยมึงอ่ะตาล” ไอ้กายทำหน้าสงสารผมซะเต็มประดา

 

“ใช่ๆ อาร์ทน่าสงสารเนอะกายเนอะ” ผมกอดแขนไอ้กายแล้วทำเสียงอ้อน

 

“พวกมึงไม่ต้องพูดมากเลย ไปเรียนได้แล้วป่ะ” น้ำตาลว่าจบเราสามคนก็เดินกลับคณะเพื่อจะเข้าเรียนคาบบ่าย

 

“อาร์ทมาแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยเว้ย แล้วพาใครมาด้วยวะ เห้ยยแฟนหรอวะสวยเชียว” พี่คิวทำเสียงแซวผม

 

“ไม่ใช่พี่ เพื่อนผม....ไอ้ตาลนี่พี่คิว” ผมปฎิเสธพี่คิวจบ ก็แนะนำให้สองคนรู้จักกัน

 

“ดีครับน้องตาล”

 

“สวัสดีค่ะพี่คิว”

 

“เออไอ้อาร์ทไปเปลี่ยนชุดได้แล้ววันนี้พี่ปันประธานชมรมเข้ามาดูด้วย ให้ไว้เลย”

 

“คร้าบบบบ” ผมตอบรับแล้วรีบวิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

“น้องตาลเดี๋ยวออกไปนั่งที่แสตนรอเชียร์อาร์ทได้เลยนะครับ” คิวบอกและเดินนำน้ำตาลออกไป

 

“ค่ะพี่คิว”

 

ระหว่างที่คิวและน้ำตาลเดินไปที่แสตนทั้งคู่ก็พูดคุยกัน

 

“แล้วนี่น้องตาลอยู่ชมรมอะไรเอ่ย”

 

“อ่อตาลอยู่ชมรมค่ายอาสาค่ะ”

 

“อย่างงี้ปิดเทอมก็ต้องไปออกค่ายสินะ”

 

“ใช่ค่ะพี่คิว พวกพี่ๆ สนใจไปออกค่ายด้วยกันไหมคะ”

 

“แฮ่ๆ พี่ว่าพี่ไม่ค่อยถนัดหนะน้องตาล” คิวยิ้วหน้าแหยๆ

 

“ฮ่าๆๆ ค่าตาลเข้าใจ”

 

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินตรงไปที่น้ำตาล

 

“อะมึงกูฝากของเดี๋ยวกูไปวอร์มก่อน” ผมโยนกระเป๋าใส่น้ำตาล

 

“เออแต่เดี๋ยวห้าโมงกูต้องไปชมรมกูนะ แล้วของมึงจะให้กูทำยังไง”

 

“เอาวางไว้ตรงนี้นั่นแหละมึงจะไปไหนก็ไป”

 

“โถ ไอ้เชี่ยอาร์ท” น้ำตาลตบหัวผมอย่างแรง

 

วันนี้สมาชิกของชมรมมากันครบตั้งแต่พี่ปันประธานชมรมที่อยู่ปีสี่จนถึงสมาชิกใหม่ปีหนึ่งอย่างผมและเพื่อนอีก 4-5 คน ทุกคนต้องมาทำการคัดตัวเพื่อไปแทนตำแหน่งพี่บัณฑิตที่จบไปและพี่ปีสี่ที่ออกไปฝึกงาน ชมรมฟุตบอลก็คือทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัยนั่นแหละครับแต่สมาชิกทุกคนจะไม่ได้เป็นตัวจริงของทีมจึงต้องมีการคัดตัว

 

ผมก็เพิ่งรู้ว่าพี่คิวกับพี่โชนั้นเป็นนักฟุตบอลของมหาวิทยาลัย ดูจากฟอร์มการเล่นพี่สองคนเก่งใช้ได้เลยครับ ผมเทียบไม่ติดสักนิดแต่ผมก็ไม่ได้หวังจะติดเป็นตัวจริงอยู่แล้วแค่ได้อยู่ในชมรมแค่นี้ก็คงจะพอแล้วในการที่จะช่วยไอ้ตาลมัน

 

“อาร์ทเดี๋ยวมึงลงตอนนี้เลย” พี่ปันหันมาบอกผม

 

“ครับพี่”

 

เมื่อผมลงไปเล่นได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็หมดเวลาครับ ตอนนี้พวกเราเหล่าสมาชิกชมรมมานั่งรวมกันอยู่ข้างสนามเพื่อฟังผลการคัดเลือก

 

“คนที่มีรายชื่อคือคนที่ติดตัวจริงแล้วหลังจากวันนี้ต้องเข้ามาซ้อมทุกวันหลังเลิกเรียนจนกว่าจะถึงวันแข่งกีฬาสามยู” พี่ปันพูด

 

กีฬาสามยูคือมหาวิทยาลัยในเครือเดียวกับมหาวิทยาลัยผม จะมีการแข่งกีฬาทุกประเภทจะผลัดกันเป็นเจ้าภาพกันไปในแต่ละปีแล้วปีนี้ก็เป็นมหาลัยผมที่เป็นเจ้าภาพในการจัดงาน

 

“คนที่ผ่าน 3 คน มี อาร์ท ปี 1 พงษ์  ปี 3 ดิน ปี 2”

 

“เฮื่อ ผมติดตัวจริงพี่คิว” ผมหันไปพูดกับพี่คิว

 

“มึงต้องซ้อมหนักแล้วสิไอ้อาร์ท” พี่คิวขู่ผม

 

“โห่พี่”

 

“ดีมึงจะได้รับใช้กูสะดวกๆ ไง” พี่โชหันมายกยิ้มร้ายให้ผม

 

“ยังไงผมก็รับใช้พี่อยู่แล้วป่าววะ แต่นี่ผมก็ต้องเหนื่อยกว่าเดิม ฮื่อๆๆ” ผมลืมตัวทำเป็นเด็กใส่พี่โชมันซะงั้น

 

“หึหึ”

 

กว่าจะประกาศผมและคุยรายระเอียดกันเสร็จก็เกือบๆ ทุ่มแล้วครับ แน่นอนตอนนี้น้ำตาลกลับไปแล้วเหลือแต่กระเป๋าข้าวของของผมวางกองแอ้งแม้งอยู่ ผมก็เดินไปหยิบเพื่อจะกลับหอเพราะผมเพลียมาก ผมทำการร่ำลากับคนในชมรมเรียบร้อยแล้วกำลังจะเดินกลับ

 

“เบี้ยวเดี๋ยวไปกินข้าวกับกูก่อน” พี่โชพูดกับผม

 

“พี่วันนี้ผมขอพักวันนึงไม่ได้หรอผมเหนื่อย” ผมยอมพูดดี ทำหน้าอ้อนใส่พี่มัน

 

“คำสั่ง” พี่มันพูแค่นี้ แล้วมันก็เดินสะบัดตูดไปที่รถมันครับ

 

ผมก็ได้แค่เดิมตามตูดมันไปนั่นแหละครับ พอถึงรถพี่มัน

 

“ขึ้นดิรออะไร”

 

“ครับ” ผมตอบกระแทกเสียง

 

เมื่อขึ้นรถก็เกิดความเงียบไม่มีใครพูดอะไร จนพี่โชเอื้อมมือไปเปิดเพลงจึงทำให้ในรถไม่เงียบพอถึงเพลงที่ผมร้องได้ผมก็ฮัมตามจนถึงร้านอาหาร

 

“สวัสดีครับกี่ท่านครับ” พนักงานต้องรับเดินมาถามพี่โช

 

“สองครับ”

 

“ทางนี้เลยครับ”

 

เมื่อเราสองคนนั่งลงที่โต๊ะพนักงานก็เอาเมนูมาวางให้ โอ้โห้ทำไมเมนูแต่ละอย่างมันถึงแพงแบบนี้ผมไม่คิดว่าแค่กินมื้อเย็นต้องมากินอาหารราคาขนาดนี้เลยหนิ

 

“มึงอยากกินอะไรสั่งเลยกูเลี้ยง”

 

“พี่จะเลี้ยงผมทำไม” ผมเลิกคิ้วถาม

 

“กูเลี้ยงมึงล่วงหน้าไงวันเสาร์นี้มึงต้องมาช่วยกูทำงานอย่างสาสม หึหึ”

 

“งั้นผมจ่ายเองได้ไหมพี่”

 

“ฮ่าๆ มึงกลัวหรอวะ”

 

“ผมกลัวเหนื่อยหนะพี่”

 

“ฮ่าๆ”

 

เราสองคนสั่งกับข้าวมาสามสี่อย่างแต่ส่วนมากก็ของโปรดผมแหละครับไหนๆ พี่มันก็บอกจะเลี้ยงผมแล้วผมขอสั่งให้เต็มที่เลยแล้วกัน ระหว่างรออาหารผมก็ถามขึ้น

 

“พี่โชผมถามอะไรได้ไหม”

 

พี่โชเลิกคิ้ว เป็นท่าทางว่าจะถามอะไร

 

“พี่โชมีแฟนหรือยัง”

 

“มึงถามทำไม จะจีบกูเหรอ?”

 

“เฮ้ยพี่ บ้าหรอผมเป็นผู้ชายมีไข่เหมือนพี่จะไปจีบพี่ทำไม”

 

“อ้าวก็มึงถามกู”

 

“เหอะน่าพี่แค่ตอบผมมาก็จบ”

 

“ไม่มี” พี่โชพูดแค่นั้น

 

“แล้วพี่ชอบผู้หญิงแบบไหน แบบนิสัย หน้าตา อะไรอย่างนี้อ่ะพี่”

 

พี่โชไหวไหล่ก่อนจะตอบ “มึงนี่ก็ขี้เสือกเนอะ”

 

“โหพี่”

 

“อาหารได้แล้วค่ะ” พนักงานเสิร์ฟพูดเมื่อยกอาหารมาเสิร์ฟ

 

จากนั้นเราก็ตั้งหน้าตั้งตากินกันไม่ได้พูดอะไรกันพอกินหมดพี่โชก็เรียกเช็คบิล พี่โชก็ขับรถมาส่งผมที่หอ

 

“วันเสาร์อย่าลืมนะมึงต้องไปช่วยงานกู” พี่โชพูดทิ้งท้ายก่อนจะขับรถออกไป



========================

TBC.
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 4 [10/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 11-05-2017 00:31:53
เสร็จโชแน่อาร์ท
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 4 [10/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-05-2017 01:35:31
 :z1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน>>ตอนที่ 5 [12/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 11-05-2017 23:55:47
ตอนที่ 5

ผมต้องไปเป็นขี้ข้าไอ้พี่โชมันอีกตั้งหนึ่งเดือนเต็ม นี่เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่กี่วันคิดแค่นี้ชีวิตผมก็หดหู่แล้วครับ ไหนจะต้องทำดีกับมันเพื่อเชียร์ไอ้น้ำตาลกับอีก นี่มันนรกชัดๆ เลยครับ

ยังดีนะที่มันยังไม่ใช้ผมไปกวาดห้องถูกห้องซักเสื้อผ้าให้มันแค่หาข้าวให้มันกินผมก็แทบไม่มีเวลากระดิกตัวไปไหนแล้วครับ

ฮอลลลลลลล
ชีวิต!!!!

Rrrrr

“หืม”

(มึงอยู่ไหน ทำไมมึงยังไม่มาหอกูอีก)

ผมเอาโทรศัพท์ที่แนบหูออกมาดูนาฬิกา หกโมงเช้า ไอ้บ้านี่มันหกโมงเช้า มึงจะให้กูรีบไปป้ามึงหรอเช้าขนาดนี้

“พี่นี่มันหกโมงเช้านะพี่จะรีบไปไหน” ผมโวยวายเสียงดัง

(เออมึงรีบมาเหอะน่า ก่อนเข้ามาซื้อข้าวมากินด้วยนะห้องกูไม่มีอะไรกิน ซื้อมาเยอะๆ หน่อยนะเพื่อนกูอยู่ด้วย)

มึงไม่ฟังกูสินะ ว่ามันยังเช้าอยู่ไม่ควรมารบกวนเวลานอนของกู!!

“ได้ครับเดี๋ยวผมรีบไป” อ่าวนี่แล้วกูยอมมันทำไม

(เออ ไปอาบน้ำ)

มันว่าจบมันก็วางไป วันเสาร์ทั้งทีผมควรจะได้นอนพักผ่อนแต่นี่ทำไมผมต้องมาทรามานตัวเองขนาดนี้ เมื่อไหร่มันจะชอบไอ้ตาลสักทีวะ หรือควรจะบอกมันไปเลยว่าไอ้ตาลชอบได้รู้ๆ ไปเลยว่ามันคิดยังไงถ้าไม่ชอบจะได้ไม่เสียเวลาถ้ามันชอบกันจะได้เป็นแฟนกันไปเลย ผมได้ไปจีบแก้มป่องของผมบ้างสักที
 
ก๊อกๆๆ

“อ้าว ไอ้อาร์ทมึงมาทำอะไรวะ” พี่คิวถามผมอย่างงงๆ

“หวัดดีพี่คิว พี่โชให้ผมมาช่วยทำงานหนะพี่” ผมยกมือไหว้พี่คิว

“อ้อ ไอ้โชมึงยังไม่เลิกแกล้งไอ้อาร์ทอีกหรอวะ” พี่คิวตอบรับผม แล้วหันไปตะโกนถามพี่โช

“กูไม่ได้แกล้งมันสักหน่อย กูลงโทษมันต่างหาก” พี่โชตะโกนกลับมา

“เออมึงเข้ามาก่อน”

“หวัดดีครับพี่ณัฐ พี่อัคร”

“ดีเว้ย ซื้อไรมากินบ้างวะ พวกกูหิวจะแย่” พี่อัครถามผม

“ก็มีผัด......................”ผมก็ร่ายยาวให้พี่อัครฟัง

“เดียวๆ นี่มึงสองคนรู้จักไอ้อาร์ทได้ไงวะ” พี่คิวทำหน้าแปลกใจ

“อ่าวไม่รู้จักได้ไง ไอ้อาร์ทมันไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะกูแทบทุกวันไม่รู้มาตามจีบใครที่คณะหรือเปล่า” พี่อัครพูดพรางมองหน้าผม

ผมชะงักไปทำหน้าเหลอหลาแล้วผมควรจะตอบว่ายังไง เพราะผมก็ไปกินข้าวที่คณะสถาปัตย์เกือบทุกวันจริงๆ แล้วก็เจอพวกพี่เขาเกือบทุกวัน แต่ไอ้เรื่องไปจีบใครนั่นหละก็ ก็ไอ้พี่โชเพื่อนของพวกพี่นั่นแหละแค่ผมไม่ได้จีบให้ตัวเองแต่ไปจีบให้ไอ้ตาลต่างหาก

“เอ่อ...ผมชอบกินกระเพาะปลาที่คณะพวกพี่นั่นแหละ” โชคดีที่ผมชอบกินจริงๆ

“แล้วไปนึกว่ามาตามจีบเพื่อนกูซะอีก” พี่ณัฐพูดเบาจนผมไม่ได้ยิน แล้วก็หันไปยิ้มให้พี่โช

“อะไรนะครับพี่ณัฐ”

“เปล้า กูไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย” พี่ณัฐยิ้มและยักคิ้วให้ผม

“กูหิวแล้วพวกมึงคุยกันเสร็จยังวะ ไอ้อาร์ทไปเทใส่จานมาครัวอยู่ทางนู้น” ไอ้พี่โชมันสั่งผมอย่างกับผมเป็นขี้ข้า แต่ผมก็เป็นขี้ข้ามันนี่หว่า

พวกเรามานั่งกินข้าวกันหน้าทีวี ว่าแต่ห้องพี่โชนี่มันหรูใช้ได้เลยนะครับมีห้องนอนแยกกับห้องรับแขกแถมยังมีห้องครัวอีก นี่มันแทบจะเป็นคอนโดอยู่แล้วคงจะแพงน่าดูสินะ

“มึงกูจะดูโคนัน” พี่อัครโวยวาย

“ไม่เอากูจะดูปลาบูทอง” พี่คิวโต้กลับ

ทั้งสองคนก็ยื้อยุดฉุดกระชากรีโมททีวีกันไปมาแย่งกันดูการ์ตูนกับละครจักรๆ วงๆ ผมก็ได้แต่ขำความเด็กของพวกพี่เขา ทำไมเวลาอยู่ข้างนอกต่อสาธารณะชนพวกพี่เขาถึงได้ดูหล่อเท่น่าเข้าหา แต่ใครจะเห็นอย่างที่ผมเห็นบ้างครับว่า กลุ่มเทพบุตรนี้เหมือนเด็กปัญญาอ่อนกันขนาดไหน

“ถ้ามึงกินอิ่มแล้วก็เอาจานไปเก็บแล้วมาช่วยงานกูได้แล้ว” พี่โชพูด

ผมแค่พยักหน้ารับแล้วเดินเอาจานของทุกคนเข้าไปเก็บแล้วกำลังจะล้าง

“มึงไม่ต้องล้าง แค่แช่น้ำไว้ก็พอพรุ่งนี้เดี๋ยวแม่บ้านก็เข้ามาทำความสะอาด”

“โหพี่แค่จานไม่กี่ใบเนี่ยะนะ พี่ต้องให้แม่บ้านมาล้างด้วยหรอ”

“ก็กูจ้างประจำอยู่แล้ว หรือมึงจะมาทำให้กูแทนแม่บ้านดี”

“โหยยยย ไม่เอาอ่ะพี่แค่นี้ผมก็แทบจะไม่มีเวลาทำอะไรแล้วแต่จานนี่เดี๋ยวผมล้างให้นะ”

“เออแล้วแต่มึงเลย”

ผมล้างจานของพวกพี่เขาที่กินจนเสร็จก็เก็บคว่ำแล้วดูความเรียบร้อยในครัวก็เดินออกมาหาพวกพี่ๆ เขา ผมก็เห็นโมเดลแบบบ้านมีทั้งหมดสามแบบ คงจะเป็นงานของพี่สามคนที่เรียนสถาปัตย์ นี่เรียกผมมาช่วยต่อโมเดลสินะ

“โหไรวะ ทำไมไอ้โชมีคนช่วย” พี่อัครบ่น

“มึงก็ทำไปสิวะมัวแต่บ่นเมื่อไหร่จะเสร็จ มาเดี๋ยวกูช่วย” พี่คิวเดินเข้าไปใกล้พี่อัคร

“มึงออกไปไกลๆ เลยไอ้คิวถ้าโมกูพังขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”

“ฮ่าๆๆ มึงสองคนเลิกะเลาะกันได้แล้ว รีบทำได้ฉลองกูหิวแอลกอฮอเต็มที่แล้ว” พี่ณัฐขัดขึ้นมา

“เอ้อ” พี่คิวกับพี่อัคร กระแทกเสียงตอบพร้อมกัน

“เบี้ยวมึงอ่ะมานี่” พี่โชพยักพเยิดให้ผมเข้าไปหา

“พี่จะให้ผมทำอะไร”

“มึงตัดไม่ส่วนนี้เท่านี้อัน........” พี่โชมันก็สั่งผมมาเป็นชุดเลยครับ

จากนั้นพี่โชก็ใช้ผมตัดนู่นแปะนี่ ใช้ไปหยิบของบ้างทั้งเกี่ยวกับงานทั้งไม่เกี่ยวกับงานจนของพี่โชทำเสร็จเป็นคนแรกพวกเราก็มาช่วยกันทำของพี่อัครกับพี่ณัฐจนเสร็จ ที่พวกพี่เขารีบกันก็เพราะว้อนแอลกอฮอกันนั่นแหละครับ

งานเสร็จผมจะขอกลับไปพักผ่อนก่อนแต่พวกพี่เขาก็ไม่ให้ผมกลับบอกว่าต้องเลี้ยงขอบคุณผมก่อนแต่เดี๋ยวนะ ขอบคุณผมบ้าอะไรนี่จะเอาผมไว้ใช้หยิบของและเก็บของที่พวกพี่ทำกันเรี่ยราดสินะ

ตอนแรกพวกพี่เขาก็นั่งกินเบียร์ดีดกีต้าร้องเพลงกัน ผมก็อยู่ในวงด้วยนั่นแหละครับ พอเล่นกีต้ากันไปสักพักก็เกิดอาการเบื่อครับพี่คิวจึงเสนอ

“มาเล่นเกมกันดีกว่า”

“เกมไรวะ” พี่อัครถาม

“เดี๋ยวกุจะแจกกระดาษทุกคคน คนละสองใบ แล้วให้เขียนสิ่งที่มึงอยากให้คนอื่นทำไว้ข้างในแล้วก็เอามารวมกันจับฉลาก คนจับขึ้นมาได้ก็ต้องทำตามคำสั่งที่เขียนไว้ในกระดาษ ถ้าไม่ทำก็ต้องโดนทำโทษแดกเบียร์หมดกระป่อง”

“แล้วถ้าจับได้ของตัวเองอ่ะ” พี่ณัฐถาม

“ได้ของตัวเองก็ต้องทำ ฮ่าๆ”

“ไอ้ห่าอย่างงี้แม่งก็เขียนกันแบบระวังตัวดิวะ”

“เอาน่ามึงเขียนกันให้เต็มที่เปอร์เซ็นการได้ของตัวเองน้อยจะตาย”

จากนั้นพี่คิวก็ฉีกกระดาษแจกพวกเราทุกคน เราก็หลับกันไปคนละมุนเพื่อเขียนสิ่งที่อยากจะแกล้งคนอื่นลงในกระดาษ เมื่อเขียนเสร็จทุกคนก็เอากระดาษมาหย่อนใส่กระป๋องที่พี่คิวเตรียมไว้
 
“อ่ะไอ้อัครกูให้มึงคนแรก”

พี่อัครล้างมือเข้าไปจับ แล้วคลี่กระดาษอ่าน “ถอดกางเกงนั่งจนกว่าจะจบเกม……ไอ้เชี่ย ใครเขียนอันนี้วะ”

ทั้งวงขำกันแทบตัวงอขนาใบแรกที่ออกยังขนาดนี้ ฮ่าๆ

“อ่าวมึงเอาไงจะทำหรือจะกิน” พี่ณัฐถามเชิงล้อเลี้ยน

“โถ่คนจริงอย่างกู” พูดจบพี่อัครก็ลุกขึ้นปลดกางเกงลงพรวด แล้วนั่งลงที่เดิม

“มาๆ เล่นต่อ”

เล่นไปแล้วก็วนมาถึงผม ผมเอื้อมมือออกไปจับ เมื่อเปิดอ่านผมก็หน้าซีด

“ไงไอ้อาร์ทมึงได้อะไรวะอ่านดิ่”

“เอามือไปจับไข่คนข้างขวาแล้วแช่ไว้ห้านาที โห่พี่ใครเขียนวะเนี่ยะ”

ผมคิดหนักเพราะคนข้างขวาผมคือพี่โช ใช่ครับผมนั่งข้างพี่โชแล้วใครมันเขียนอะไรแบบนี้วะเนี่ยะ ถ้าเป็นจับนมผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง

“เอ้า เอาไงมึงจะจับไข่กูหรือมึงจะแดกเบียร์หนึ่งกระป๋อง” พี่โชเร่งผม

“พี่คิว ผมขอเบียร์กระป๋องนึงพี่”

“โด่ววว ไอ้อาร์ทไม่ใจเลยวะ ฮ่าๆ” พี่คิวค่อนแคะผมก่อนจะโยนกระป๋องเบียร์ให้ผม

ผมก็รีบกระดกเบียร์จนหมดมีผมคนเดียวแหละครับที่ยอมกินพวกพี่เขาหน้าด้านครับทำหมดทุกอย่างที่จับกันได้ เราเล่นกันไปจนครบรอบใบสุดท้ายมาตกที่พี่โช

“ไอ้โชมึงไม่ต้องจับมึงเอาไปอ่านเลย” พี่คิวยื่นกระดาษให้พี่โช

“จูบปากคนที่นั่งข้างซ้ายมือของตัวเอง” พี่โชอ่านจบก็แสยะยิ้ม

ผมที่กึ่มๆ อยู่ถึงขั้นตาสว่างเดี๋ยวนะข้างซ้ายมือพี่มันก็ผมนี่หว่าไม่เอาสิ ไม่เอา พี่โชมึงอย่ามาใจกล้าอะไรแบบนี้นะมึง เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าตายพอดี มึงยอมกินเบียร์ไปเถ้อะไอ้พี่โช ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัวยังไม่ทันได้ฟังอะไรทั้งนั้น

จุ๊บ!
ปากไอ้พี่โชลงมาประกบกับปากผม พี่โชประกบอยู่แปปเดียวแล้วผละออก ตอนนี้ผมยังนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก ผมถูกผู้ชายจูบปากไม่สิ จุ๊บปากต่างหาก ขนลุกไปทั้งตัวเลยครับเมื่อผมตั้งสติได้

“เฮ้ยพี่ พี่ไม่คิดจะถามผมก่อนหรอ”

“อ้าว ก็นี่มันคำสั่งกู กูไม่อยากกินเบียร์ทีเดียวทั้งกระป๋องกูก็แค่ทำตามคำสั่ง” พี่โชไหวไหล่

“นั่นแหละ พี่ก็ถามผมก่อนดิให้ผมตั้งตัวบ้างก็ยังดี หึ้ย!!” ผมหงุดหงิดใส่พี่โช

“งั้นเอาอีกทีมั้ยหละ เอาแบบให้มึงตั้งตัวก่อน มา” พี่โชมันก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้หน้าผม

ผมดันหน้าพี่มันออกไปอย่างแรง

“เฮ้ย พวกมึงยังไงกันวะ” พี่คิวถาม พร้อมกับทั้งวงหันมามองผมกับพี่โชเป็นตาเดียว

“ไม่ยังไงทั้งนั้นแหละ กูก็แค่ทำตามคำสั่ง หึหึ”

“เออ เกมจบละ มาแดกต่อดีกว่า” พี่ณัฐพูดพรางยกแก้วขึ้นมาชน

คืนเราทุกคนก็เมากันเละเทะกลับห้องไม่ได้กันสักคน นอนกันเกลื่อนห้องพี่โช

เช้าตื่นมาอ่อจะว่าเช้าก็ไม่เช้าหรอกครับเพราะมันจะเที่ยงอยู่แล้วก็เห็นสภาพทุกคนแย่ครับ ทุกคนล้างหน้าล้างตาแล้วก็แยกย้ายกันกลับ

“พี่คิวไปส่งผมด้วยนะพี่”

“เออเดี๋ยวกูไปส่ง หอมึงอยู่ไหน”

“หอ B ข้างมหา’ลัยหนะพี่”

“เดี๋ยวกูไปส่งเอง พอดีกูจะไปธุระในมหา’ลัยพอดี รอกูอาบน้ำแปป” พี่โชพูดขึ้น

“เอางั้นหรอ งั้นกูกลับก่อนนะง่วงวะ” พี่คิวพูดจบก็เดินออกไปพร้อมพี่อัครและพี่ณัฐ

ผมก็ได้แต่นั่งรอพี่โช ก็พรางคิดทบทวนว่าเมื่อคืนผมทำอะไรลงไปบ้างเมื่อผมนึกถึงเรื่องที่พี่โชมันจูบผมหน้าผมก็ร้อนขึ้นมา นี่ผมจะไม่สบายหรือเป็นอะไร ไม่หรอกผมไม่มีทางเขินพี่มันเด็ดขาด พี่มันเป็นคนที่เพื่อนผมชอบแถมยังเป็นผู้ชายอีกต่างหาก หึ้ย!! แค่คิดก็ขนลุก
‘ท่องไว้มึง ช่วยไอ้ตาล ช่วยไอ้ตาล’ ผมพึมพำกับตัวเอง

“มึงพูดกะใครวะ”

ผมหันไปก็ต้องสะดุ้งเฮือก ไอ้พี่โชมึงจำเป็นไหมต้องยื่นหน้าเข้ามาจนจะติดหน้ากูขนาดนี้

“เฮ้ย พี่ผมตกใจหมด” ผมตกใจผลักหน้าพี่มันออกจากหน้าผม

“ฮ่าๆ มึงขวัญอ่อนจังวะ ป่ะกูเสร็จแล้ว”

“ครับ” ผมตอบรับแล้วเดินตามพี่โชไปยังที่จอดรถ

พี่โชก็มาส่งผมถึงหน้าหอ ผมลงจากรถพี่โชมาก็เห็นน้ำตาลมายืนรอผมอยู่หน้าหอ

=======================
TBC.
Talk.อีพี่โชนี่ยังไง? ทำไมดูเตาะอีน้องจังเลย มันยังไงนี่ 55555555555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 5 [12/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 12-05-2017 09:12:04
น่าสนุกดีนะถึงบางช่วงบางตอนจะรำคาญนิสัยน้ำตาลก็เถอะ ชอบเขาทำไมไม่จีบเองอะใช้เพื่อนทำไมแล้วนี่ถ้าพี่โชมันมาชอบอาร์ทน้ำตาลจะไม่มาเหวี่ยงใส่อาร์ทใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 5 [12/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 12-05-2017 11:47:43
 :katai1: :katai1: :katai1: กำลัวใจเต้น...แล้วก็จบอ่ะ...หื่ออออออ :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 13-05-2017 12:35:00
ตอนที่ 6

ผมลงจากรถพี่โชมาแล้วก็เห็นน้ำตาล เมื่อกี้มันเห็นหรือเปล่าว่าพี่โชมาส่งผม มันจะรู้ไหมว่าผมไม่ได้นอนห้องตัวเอง

“ไอ้อาร์ทมึงไปไหนมาแล้วเมื่อกี้มึงลงมาจากรถใคร”

“เอ่อ นี่มึงเป็นเมียกูหรอมาดักถามกูขนาดนี้”

“ไม่ใช่เมีย แต่กูแค่ใส่ใจเพื่อน” ไอ้ตาลยกยิ้ม

“ใส่ใจเพื่อนหรือเสือก ฮ่าๆๆ”

“ไอ้เหี้ยอาร์ท” ไอ้ตาลพูดจบมันก็ทุบลงที่ไหล่ผม

“ว่าแต่มึงมาหากูทำไมเนี่ยะ”

“คือกูจะมาชวนมึงไปกินซูชิ”

“ไม่อ่ะ กูไม่อยากกิน”

“แล้วแต่นะ เพราะกูนัดกับฟ้าไว้แล้วกูก็บอกฟ้าไปแล้วว่าจะชวนมึงไปด้วย มึงไม่ไปก็ไม่เป็นไร” น้ำตาลทำหน้ายียวนกวนบาทาผมมาก

“อีผี….แล้วก็ไม่บอกแต่แรก มึงรอกูแปปนึงกูขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”

“ไอ้เลวววววว...พอได้ยินชื่อผู้หญิงนี่ริกๆ เลยนะมึง”

“ไปขึ้นห้องกันได้รีบไป เดี๋ยวแก้มป่องของกูรอนาน”

“โอ๊ย กูหมั่นไส้”

ผมและน้ำตาลรีบขึ้นมาบนห้องผม น้ำตาลก็นั่งเปิดทีวีดูรอผมอาบน้ำแต่ตัว เมื่อเสร็จเราสองคนก็นั่งแท็กซี่ตรงไปที่ห้างดังที่น้ำตางนัดกับท้องฟ้าไว้

“ฟ้า หวัดดีรอนานไหม”

“ไม่เลยฟ้าก็เพิ่งถึงเมื่อกี้ อ่าวนึกว่าอาร์ทจะมาไม่ได้แล้วซะอีก”

“ทำไมเราจะมาไม่ได้ละฟ้า” ผมถามฟ้าไป

“ก็เห็นน้ำตาลโทรมาบอกฟ้าว่าอาร์ทไม่อยู่ห้อง น้ำตาลคงมาได้คนเดียว”

“เดี๋ยวนะนี่มึงมีเบอร์ฟ้าแล้วทำไมไม่เห็นให้กู?” ผมกระซิบน้ำตาล

“เออเดี๋ยวกูก็ให้มึงอยู่แล้วน่า อย่าเรื่องเยอะ” น้ำตาลกระซิบตอบผม

ผมและน้ำตาลหันไปยิ้มให้ท้องฟ้า

“เราต้องมาดิ ซูชิของโปรดเรา ไหนยังได้มากินกับฟ้าอีกดีจะตาย”

“อาร์ทปากหวานเนอะ อย่างนี้ผู้หญิงคงหลงแย่”

“งั้นแปลว่าฟ้าก็หลงเราเหมือนกันสิ”

“ไม่นะ”

“ทำไมอ่า” ผมแสร้งทำเสียงน่าสงสาร

“ก็ฟ้าไม่ใช่ผู้หญิง”

“ฮ่ะ?” ผมกับน้ำตาลอุทานขึ้นพร้อมกัน

“ฮ่าๆ ฟ้าล้อเล่น ไปร้านอาหารกันเถอะฟ้าหิวแล้ว” ท้องฟ้ายิ้มหวานแล้วเดินนำไป

พอกินเสร็จเราสามคนก็ไปเดินดูของในห้าง น้ำตาลมันตั้งใจจะมาซื้อรองเท้าอยู่แล้วด้วย เราจึ้งเดินชั้นรองเท้าและมุ้งหน้าไปยังแบรนด์ที่น้ำตาลตั้งใจจะมาซื้อ

“น้ำตาลจะมาซื้อรุ่นนี้หรอ”

“ใช่เราอยากได้มานานแล้ว เพิ่งจะเข้าไทยเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง”

“ใช่มันเข้าไทยช้า ฟ้าอยากได้ตั้งแต่ออกใหม่ๆ เลยบินไปซื้อที่ญี่ปุ่นมาเมื่อก่อนเปิดเทอมนี่เอง”

“งั้นก็แสดงว่าฟ้ามีรุ่นนี้แล้วดิ โหยยยดีอ่ะ”

“น้ำตาลซื้อสีฟ้าสี”

“แล้วของฟ้าสีอะไร”

“สีน้ำตาล”

ผมเริ่มรู้สึกเหมือนผมเป็นส่วนเกินหรือเปล่านี่มันคือเรื่องผู้หญิงเขาคุยกันสินะ ผมทำได้แค่ฟังทั้งคู่คุยกัน เลือกรองเท้ากัน แต่เดี๋ยวนะนี่ฟ้ากำลังจะให้ไอ้ตาลใส่สีฟ้า ซึ่งฟ้าก็มีสีน้ำตาล มันแปลกๆ แต่ก็ช่างเถอะมันก็คงจะเข้ากับไอ้ตาลฟ้าเลยแนะนำให้แหละมั้ง

ผลสุดท้ายไอ้ตาลมันก็เลือกสีฟ้าที่ฟ้าเป็นคนเลือกให้ครับ น้ำตาลเดินไปจ่ายเงิน จากนั้นเราก็เดินเล่นอีกสักพักก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

“ฟ้าอยู่หอไหนละ” ผมถามฟ้า

“ฟ้าอยู่หอ F”

“อ่าวนี่เราอยู่หอเดียวกันหรอ” น้ำตาลถามอย่างตื่นเต้น

“อ้าวน้ำตาลก็อยู่หอ F หรอ ไม่เคยเจอกันเลยเนอะ”

“นั่นสิฟ้าอยู่ชั้นไหน ห้องอะไร”

“ฟ้าอยู่ชั้น 7 ห้อง 724”

“เราอยู่ชั้น 6 ห้อง 624”

“งั้นห้องเราก็ตรงกันหนะสิ”

“ฮ่าๆ บังเอิญชะมัดเลยเนอะ ป่ะกลับกันดีกว่า”

“งั้นสรุปก็กลับด้วยกันนี่แหละเนอะ” ผมพูดขึ้นมา

เราเรียกแท็กซี่กลับมายังหอกัน ผมบอกแท็กซี่ไปส่งฟ้ากับน้ำตาลก่อนแล้ว

Rrrrrrr

“ไงเพื่อน”

(ไอ้อาร์ทมึงว่างเปล่าวะ)

“ว่าง มีไรวะ”

(ไปรับรถเป็นเพื่อนกูหน่อยดิวะ)

“รับรถอะไรวะ”

(ก็รถกูนี่แหละ กูสอบเข้ามหาลัยได้พ่อกูเลยถอยรถให้วันนี้นัดรับรถที่โชว์รูมมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อย)

“เชร้ดดดด แม่งเท่วะกูไปด้วยก็ได้แต่มึงต้องรับปากกับกูก่อนว่าจะสอนกูขับรถ”

(เออสัส เดี๋ยวกูให้มึงหัดขับรถกูนี่แหละ ตอนนี้มึงอยู่ไหนเดี๋ยวกูไปหามึงที่หอ)

“เออกูรอมึงหน้าหอนี่แหละ”

พอวางจากกายแท็กซี่ก็ถึงหอผมพอดี ผมจ่ายเงินเสร็จก็ลงมานั่งรอไอ้กายหน้าหอ

“ไงมึงรอนานไหม”

“ไม่นานวะมึงกูก็พึ่งกลับมาถึงหอนี่แหละ”

“มึงไปไหนมา”

“ไปห้างกับสองสาว”

“เฮ้ยมึงมีสาวหรอวะ”

“ไอ้ตาลกับท้องฟ้า”

“เฮ้ยยยย ก้าวหน้านี่หว่าได้ไปเดินห้างกับท้องฟ้า” ไอ้กายแซวผม

“มึงอย่าพูดเลยกูแซด”

“ฮ่าๆ ไปเหอะวะเดี๋ยวโชว์รูมปิด กูนัดเขาไว้ทุ่มนึ่ง”

เราสองคนเรียกแท็กซี่ไปโชว์รูมที่ไอ้กายมันต้องไปรับแถวทองหล่อ

“สวัสดีค่ะ”

“ผมมารับรถ BMW M6 ที่คุณ ชัยรัตน์ จองไว้หนะครับ นี่คือหลักฐาน” ไอ้กายยื่นเอกสารให้พนักงาน

“อ่อคะ นั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวตรวจสอบเอกสารสักครู่”

เราสองคนก็เดินดูรถในโชว์รูมไปเรื่อยเปือย

“อ้าว ไอ้อาร์ทมาทำอะไร มาซื้อรถหรอ”

ผมหันไปตามเสียงเรียกอย่างงงๆ

“อ้าวพี่ณัฐ หวีดดีพี่”

“ว่าไงมาซื้อรถหรอ?”

“เปล่าพี่ ไอ้กายมันมารับรถที่พ่อมันซื้อให้”

พี่ณัฐเลิกคิ้วเป็นเชิงถามหาไอ้กาย

“นั่นไงพี่มันเดินมาแล้ว”

“พี่ณัฐสวัสดีครับ” ไอ้กายยกมือไหว้

“ดีเว้ย นี่มึงจองคันไหนไว้วะ”

“M6 พี่”

“อ้อ มึงเองเหรอที่จองรถคันนี้กว่าจะผ่านเข้ามาได้ทำเอาบริษัทกูเหงื่อตกเลยนะมึง”

“ฮ่ะ!” ผมกับกายอุทานพร้อมกัน

“นี่พี่เป็นเจ้าของโชว์รูมหรอพี่” ผมถามอย่างตื่นเต้น

“ก็ไม่เชิงวะ พ่อกูเป็นเจ้าข้องแต่กูก็ต้องเข้ามาช่วยงานบ้าง”

“เจ๋งวะพี่”

“ไอ้อาร์ทมึงกลับถึงห้องกี่โมงวะ”

“ก็บ่ายๆ นั่นแหละพี่ ผมยังไม่ได้พักเลยก่อนมานี่ก็ไปเดินห้างกับไอ้ตาลมา ยังกลับไม่ทันถึงหอไอ้กายก็ลากมานี่แหละพี่”

“มึงนี่ก็อึดจริงๆ ฮ่าๆ”

ไอ้กายมองหน้าผมกับพี่ณัฐสลับกันอย่างสงสัย

“มึงไม่ต้องมองอย่างงั้นเลยไอ้เชี่ยกาย กูแค่ไปกินเหล้ากับพวกพี่ณัฐมา”

“กูก็ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย มึงร้อนตัวอะไร” มันยิ้มกวนตีนผม

“กูนึกว่าไอ้โชจะไม่เอามึงไปส่งซะแล้ว หึหึ” พี่ณัฐพูดพึมพำ

“อะไรนะพี่” ผมได้ยินไม่ชัดนัก

“ป้าววว ไม่มีอะไร ว่าแต่มันไปส่งมึงอย่างรอดปลอดภัยใช่ไหม”

“ใช่สิพี่ ถามแปลกๆ”

“ฮ่าๆ” พี่ณัฐขำผม


“เอ่อคุณ...” พนักงานพูยังไม่ทันจบ

“พี่แนนเอาเอกสารกับกุญแจมาให้ผมเลยครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” พี่นัดบอกพนักงาน

“ค่ะคุณณัฐ” พนักงานก็ยื่นทั้งหมดให้พี่ณัฐ

“นี่เอกสารทั้งหมด มึงเซ็นตรงนี้.....” พี่ณัฐบอกไอ้กาย

“เรียบร้อยงั้นมึงไปรับรถได้เลย ตามมา”

เราสองคนเดินตามพี่ณัฐเข้าไปข้างหลังโชว์รูมที่เป็นที่เก็บรถ ข้างในมีรถหลายคัน แต่ที่เด่นที่สุดก็คงเป็นรถไอ้กายที่ดูจะแพงหูฉีก สวยสมราคาจริงๆ ครับ

“อะกุญแจ”

“ครับพี่”

“ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาบอกมาปรึกษากูที่มหา’ลัยได้นะ ยังไงก็สะดวกกว่าต้องเข้ามาที่นี่” พี่ณัฐพูดพรางแบบมือไปที่หน้าไอ้กาย

ไอ้กายเลิกคิ้ว ทำหน้าสงสัย “ครับ?”

“เอาโทรศัพท์มา เดี๋ยวกูเมมเบอร์กูให้เผื่อมีอะไรมึงได้โทรหากูได้เลย”

กายยื่นโทรศัพท์ให้พี่ณัฐ พอพี่ณัฐบันทึกเบอร์เสร็จก็ส่งคืนกาย เราสองคนก็ล่ำลาพี่ณัฐ ก่อนไอ้กายจะขับรถออกจากโชว์รูมเพื่อไปส่งผมที่หอ รถมันนั่งสบายชะมัด ทำไมผมถึงต้องขับรถไม่เป็นด้วยวะ

“ไอ้กายมึงยังจะกล้าสอนกูขับรถอีกหรอวะ”

“ทำไมวะ”

“รถมึงแพงขนาดนี้มึงกล้าเอามาให้กูหัดหรอ”

“แล้วไงวะ กูรับปากมึงแล้วยังไงกูก็สอนมึงอยู่แล้วน่า อย่าคิดมาก”

“กูเกรงใจ”

“เหอะน่า เสาร์หน้าเดี๋ยวกูพามึงไปหัดขับที่สนาม”

“เอางั้นเหรอวะ เออก็ได้มึงเลือกเองนะถ้ารถมึงพังจะโทษกูไม่ได้นะ ฮ่าๆๆๆ”

เราคุยกันมาตลอดทางจนถึงหน้าหอผม มันก็ปล่อยผมลง

ทันทีที่ผมขึ้นถึงห้องผมก็กระโดดลงบนเตียง ผมได้พักผ่อนจริงๆ สักทีเหนื่อมาทั้งวัน รีบไปอาบน้ำนอนดีกว่าพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้า.........

=================
TBC.
Talk.เอ๊ะยังไง ทำไมทุกคนมีกลิ่นแปลกๆ 5555555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 13-05-2017 15:54:57
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 13-05-2017 18:10:07
แหม ตกลงฟ้าชอบตาล อาร์ทเลยช่วยเพื่อนไม่ได้ แถมเสียตัวอีก อ้าายยยย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 13-05-2017 19:56:25
 :katai5: :katai5: :katai5: มีความยังไม่ทันจะช่วยจีบติดก็สนิทซะเอง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 13-05-2017 22:46:21
จะรอดไหมเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 14-05-2017 00:45:01
เราว่าฟ้าอ่ะชอบตาล แต่โชอ่ะชอบอาร์ท
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-05-2017 16:48:17
55555 อาร์ทอกหักแหงๆ จากฟ้าอ่ะนะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 15-05-2017 22:24:23
ฟ้านี่คิดไม่ซื่อกะน้ำตาลใช่มั้ย  o18
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 6 [13/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 15-05-2017 22:34:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 16-05-2017 20:48:33
ตอนที่ 7

วันนี้ชมรมฟุตบอลจัดการแข่งขันกันภายในชมรม มีการจับฉลากแบ่งทีมของสามาชิกในชมรม เพื่อเป็นการซ้อมการแข่งขันจริง ผมจับฉลากได้อยู่ทีมเดียวกับพี่โชส่วนพี่คิวอยู่อีกทีมนึงครับ

เพราะเป็นการแข่งขันของชมฟุตบอล วันนี้เลยมีคนดูรอบสนามเยอะเป็นพิเศษสาวๆ จากคณะต่างๆ ก็มานั่งเชียร์กันบนแสตน มีทั้งแฟนของสมาชิกในชมรมและสาวๆ แฟนคลับของสมาชิกในชมรมโดยเฉพาะไอ้พี่โช ที่แฟนคลับมันเยอะกว่าใคร

“โชสู้ๆ”

“พี่โชสู้ๆ”

“น้องโช สู้ๆนะน๊า”

เสียงดังรอบสนามส่วนใหญ่เป็นเสียงเชียร์ของพี่โชจากแฟนคลับพี่มันแหละครับ ไหนจะมีทั้งน้ำขนมนมเนยมาเสิร์ฟอีก พวกผมก็สบายท้องไปด้วยเลยครับ

“สวัสดีค่ะพี่โช พี่คิว” น้ำตาลยกมือไหว้ทั้งคู่

“หวัดดีครับน้องน้ำตาล มาเชียร์พี่เหรอ” พี่คิวทำท่าเจ้าชู้

“เปล่าซะหน่อย ตาลมาเชียร์พี่โช” น้ำตาลแกล้งพูดเสียงยียาวน

“โอ๊ย! ใจพี่แหลกละเอียดดดด...แต่เอ๊ะ น้ำตาลพาใครมาด้วยอ่ะ” พี่คิวเอามือกุ้มหน้าอก แล้วหันไปสะดุดกับใครอีกคน

“อ่อ นี่ฟ้าค่ะเป็นเพื่อนที่คณะตาลเอง”

“สวัสดีครับน้องฟ้า พี่ชื่อคิวนะครับ ส่วนนี่ไอ้โช อย่าไปรู้จักมันเลยมันเป็นคนไม่ดี ฮ่าๆ”

“มึงอะสิไอ้คิวคนไม่ดี....น้องฟ้าอย่าไปเข้าใกล้มันมากนะเดี๋ยวเชื้อความเลวจะเปื้อนเอา” พี่โชว่าพี่คิว แล้วหันมาบอกฟ้า

“ฮ่าๆ สวัสดีค่ะ พี่คิว พี่โช”

“นี่ๆ ไออาร์ทมึงต้องชนะนะเว้ยวันนี้กูพากำลังใจมึงมาด้วย” น้ำตาลพูดพรางบุ้ยหน้าไปทางฟ้า

“แน่นอนฟ้ามาเชียร์เราชนะอยู่แล้ว” ผมยิ้มกว้าง

“ฟ้าไม่ได้มาเชียร์อาร์ทซะหน่อย”

“อ่าว ฟ้าใจร้ายอ่า” ผมทำแกล้งเบะปากจะร้องไห้

“โอ๋ๆ ฟ้าล้อเล่นก็มาเชียร์อาร์ทนั่นแหละ” ฟ้าพูดพรางเขย่าแขนผม

“ดีใจจัง....แล้วนี่ไอ้กายไม่มาหรอ” ผมพูดกับฟ้าจบก็หันไปถามน้ำตาล

“มันต้องไปซ้อมดนตรีไงมึงจำไม่ได้เหรอ ไอ้โง่”

“เดี๋ยวๆ แค่นี่มึงด่ากูโง่นี่นะ” ผมเอามือผลักหัวน้ำตาล
 
กึก!
“ไปวอร์มได้แล้ว”

พี่โชกระชากมือผมออกจากหัวไอ้ตาลอย่างแรง พี่โชหึงไอ้ตาลหรอวะ พี่มันชอบไอ้ตาลแล้วงั้นหรอ ทำไมพี่มันต้องหงุดหงิดใส่ผมด้วยวะบอกกันดีๆ ก็รู้เรื่อง ผมเดินฟึดฟัดตามพี่มันไปวอร์มเพื่อลงสนาม

“พี่โชพี่เป็นอะไร หงุดหงิดใส่ผมทำไม”

“มึงเป็นแฟนกับใครกันแน่ฟ้าหรือน้ำตาล” พี่มันตะหวาดใส่ผม

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ หรือพี่ชอบน้ำตาล”

“เสือก”

“อ่าว ผมเสือกซะงั้น พี่ไม่ใช่เหรอที่อยากรู้เรื่องผม?” ผมทำหน้าสงสัย

“เออกูไม่อยากรู้แล้วไปวอร์ม ถ้ามึงทำทีมแพ้มึงเจอดีแน่” พี่มันขู่ผมเสร็จก็เดินไปคุยกับพี่ปันประธานชมรม
 
ตอนนี้สมาชิกทั้งสองทีมเริ่มลงสนาม รอกรรมการสั่งเริ่มการแข่งขัน เสียงเชียร์ เสียงกลอง เสียงเพลงดังกระหึ่มทั้งสนาม ทั้งร้องทั้งเต้นกันสนุกนาน นักฟุตบอลก็เตะกันไปจนเวลาหมดครึ่งแรกสกอร์ก็ยังเสมออยู่ที่ 0-0

นักฟุตบอลออกมานั่งพักข้างนามเพื่อรอแข่งในครึ่งหลังต่อไป ผมเหนื่อยจนลงไปนอนกลิ้งกับพื้น แล้วก็มีอะไรเย็นมาแตะที่หน้าผม

“อ่ะ”

ผมหันไปมองทางต้นเสียง พี่โชนั่งลงข้างๆ เอาขวดน้ำเย็นมาแตะที่แก้มผมแล้วทำหน้าให้ผมรับไป ผมรับน้ำจากมือพี่มันมาแล้วลุกนั่งเพื่อแกะน้ำดื่ม ผมงงกับพี่มันจริงๆ ครับเดี๋ยวดีเดี๋ยวบ้า เมื่อกี้ก่อนลงสนามมันยังหงุดหงิดใส่ผม พอตอนนี้มันกลับเอาน้ำมาให้ผมกินแถมยังพูดดีกับผมอีก

“เหนื่อยสิมึงหมดสภาพเลย”

“เหนื่อยดิพี่ ผมซ้อมน้อยไปหละมั้ง”

“ต่อไปมึงต้องซ้อมหนักได้แล้วอีกไม่นานก็ต้องไปแข่งแล้ว”

“คงต้องเป็นอย่างงั้นแหละพี่ แล้วนี่พี่กินยัง” ผมถามพรางชูขวดน้ำให้พี่โชดู

อึกๆๆ
ผมพูดจบพี่โชก็ดึงขวดน้ำจากมือผมไปกระดกเอา กระดกเอา แล้วทำไมพี่มึงไม่เอามาสองขวดจะมาแย่งกันกินกับกูทำไม น้ำลายกูนะนั่นหนะ แต่จุ๊บปากก็ทำมาแล้วนี่หว่า ผมคิดไปเพลินๆ

“มึงจะเอาน้ำอีกไหม”

“ไม่อ่าพี่”

“เอองั้นมึงนอนพักไปเถอะเดี๋ยวกูไปคุยกับพี่ปันก่อน”

“ขอบคุณ” ผมพูดแล้วยิ้มให้พี่มัน

พี่โชหรี่ตามองผม “ขอบคุณ?”

“ก็ที่พี่เอาน้ำมาให้ผมไง”

“เออ” พี่โชก็ยิ้มตอบผม

ทำไมตอนนี้ผมรู้สึกว่าพี่โชมันยิ้มให้แล้วผมรู้สึกอบอุ่นวะ ทำไมใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะกับรอยยิ้มของพี่มันวะ

‘ไม่กูจะไปรู้สึกอะไรได้ไง’ ผมสะบัดหัวไร้ความคิดออกไป

แล้วก็ถึงเวลาการแข่งขันในครึ่งหลังนักกีฬาทุกคนต่างพากันวิ่งลงสนามและทำการแข่งขันต่อ พอจบครึ่งหลังทีผมชนะด้วยสกอร์ 2-1 

ทุกคนแยกย้ายกันไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด แต่ก่อนแยกย้ายสมาชิกในชมรมส่วนหนึ่งก็ชวนกันไปฉลองที่ร้านเหล้าใกล้ๆ มหา’ลัย พวกเรานัดกันไปเจอที่ร้าน 3 ทุ่ม จากนั้นก็แยกย้านกัน
 
“ป่ะไอ้อาร์ทกลับหอกัน” น้ำตาลเดินมาพร้อมฟ้า

“ไปดิ พี่คิวพี่โช ผมพาน้ำตาลไปร้านด้วยได้ไหมพี่”

“ได้ดิ สำหรับน้องน้ำตาลคนสวยไปได้อยู่แล้ว” พี่คิวทำตาเจ้าชู้ใส่

“โอเคพี่งั้นผมไปแล้ว เจอกันที่ร้านสามทุ่มครับ” ผมลาพี่คิวและพี่โช
 
เราสามคนเดินออกมารอตรงประตูสนามบอลเพราะน้ำตาลบอกว่าโทรให้กายแวะมารับ เมื่อกายมาถึงทุกคนก็ขึ้นรถและคุยกันสัพเพเหระกันไปเรื่อย กายขับไปส่งผมเป็นคนแรก

“ขอบใจนะมึง สรุปคืนนี้มึงจะไม่ไปกับพวกกูจริงๆ หรอ”

“ไม่อ่ะมึง ไว้วันหลังแล้วกัน บายเพื่อน” กายโบกมือลาผมแล้วขับรถไปส่งสองคนนั้นที่หอ
 
Artเองจะใครละ
มึงเสร็จยังวะ
Sugar_Sweet
เออเสร็จแล้ว
มึงลงมาเรียกแท็กซี่มารับกูที่หอได้เลย
Artเองจะใครละ
OK.

ผมลงมาเรียกแท็กซี่ไปรับน้ำตาลที่หอก่อนจะไปร้านเหล้า ที่ผมพาน้ำตาลมันไปด้วยมันจะได้ใกล้ชิดกับไอ้พี่โช เพราะผมบอกให้มันแอดเฟสบุ๊คพี่โชไปมันก็ไม่ยอมแอดเอาแต่ส่งอย่างเดียว เอาเบอร์พี่โชให้มันก็ไม่ยอมโทร มันบอกว่าอยากให้รู้จักสนิทกันมากกว่านี้ก่อนมันเป็นผู้หญิงเดี๋ยวจะดูไม่ดี เหอะ! มันยังเหลืออะไรให้ดูดีอีกหรอวะ

เมื่อรถถึงหอน้ำตาล
“มึงกูสวยยัง”

“เห้ออออออ”

“ทำไมมึงถอนหายใจงั้นว๊า”

“ฮ่าๆ สวยแล้ว มึงจะไปอ่อยพี่โชหรือไง”

“เออสิไม่อ่อยพี่โชจะให้กูอ่อยใครล่ะ”

“พี่คิวไงดูชอบมึงอยู่นะ น่าจะได้มาง่ายกว่าพี่โชนะ หึหึ” ผมทำเสียงกวนประสาทมัน

“หึ้ยยยย พี่คิวแม่งก็หล่อนะ แต่ดูก็รู้ว่าเจ้าชู้กูไม่สนหรอก”

“จ้าอีสวยย”

“แน่นอน”

“แล้วนี่มึงจะให้กูบอกพี่โชได้ยังว่ามึงชอบเขาอะ”

“ถ้ามึงบอกแล้วพี่เขาไม่ชอบกู กูก็เศร้าสิวะ”

“เอาน่าบอกๆ ไปเถอะชอบหรือไม่ชอบได้รู้ไป ยิ่งนานยิ่งเจ็บนะโว้ยย ฮ่าๆๆๆ”

“เอางั้นหรอวะ”

“เออ ยังไงกูก็ยังต้องเป็นขี้ข้าพี่มันอีกหลายวัน เดี๋ยวกูค่อยๆ บอกให้มึงแล้วกันแล้วมึงก็แอดเฟสบุ๊คพี่มันไปได้แล้วแค่นี้กูว่าก็สนิทกันพอแล้วมั้ง”

“เอ้อ กูรู้แล้วหนะ พูดมาก”

“ฮ่าๆ ทีอย่างนี้ละไม่กล้านะมึง ดีแต่ปาก”

น้ำตาลเบะปากใส่ผมแล้วหันหน้ามองออกไปทางหน้าต่างไม่สนใจคุยกับผมอีก

 มาถึงร้านเหล้าที่เขานัดกันแล้ว ผมกับน้ำตาลก็ได้แต่ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าร้าน คิดว่าควรจะโทรหาพี่โชให้ออกมารับไหมแต่

“อ่าวไอ้อาร์ท น้องน้ำตาลเข้าไปพร้อมพี่สิ” สรรพนามต่างกันมากพี่คิว

พี่คิวเดินเข้ามาทักแล้วก็กอดคอมผมพาเดินเข้าไปในร้านโดยมีน้ำตาลเดินตาม เรามาถึงที่โต๊ะก็เลือกที่นั่งกัน ผมจัดให้น้ำตาลนั่งข้างพี่โชแล้วผมนั่งข้าพี่คิว

“ไอ้อาร์ทกูนั่งกับมึงดีกว่า” น้ำตาลเค้นเสียงบอกผม

“ไม่เอามึงนั่งนั่นแหละ กูอยากนั่งกับพี่คิว”

“ไอ้อาร์ทมึงมาพิศวาสอะไรกูเนี่ยะ” พี่คิวทำท่าขยะแขยงผม

“แหมพี่น้องอยากนั่งใกล้แค่นี้ไม่ได้เหรอ”

ผมทำเสียงเย้าแหย่แล้วก็กระแซะไหล่เข้ากับไหล่พี่คิว ขณะเดียวกันผมเผลอหันไปสบตาพี่โชแล้วก็ต้องรีบหันหนี พี่โชมันมองผมตาดุราวกับจะกินหัวผม พี่คิวก็คงจะเห็นเหมือนผมเลยถามขึ้น

“ไอ้โชมึงเป็นไรวะมองมาอย่างกับจะกินหัวกูกับไอ้อาร์ทงั้นแหละ”

ผมกับน้ำตาลก็หันไปมองหน้าพี่โชเพื่อรอคำตอบเหมือนกันครับ

“เปล่า”

ฮ่ะ! พี่มันตอบแค่เนี่ยะ

“เหอะๆ เรื่องของมึงแล้วกัน” พี่คิวพูดแค่นั้นแล้วไหวไหล่
 
“น้ำตาลดื่มน้ำอัดลมแล้วกันนะ” พี่โชหันไปบอกน้ำตาล

“ค่ะ”

ผมก็เห็นสองคนนั้นคุยเข้ากันได้ดี ผมก็ได้แต่แอบเหลือบตามองเป็นระยะ พี่โชอาจจะชอบน้ำตาลก็ได้ พอคิดได้เท่านั้นทำไมผมถึงรู้สึกหน่วงแปลกๆ ผมนั่งอยู่ตรงนั่นสักพักก็ขอตัวไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาหน่อยดีกว่า

“พี่คิวผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะพี่” ผมกระซิบบอกพี่คิว

“เออรีบมานะมึง”

เมื่อถึงห้องน้ำผมก็ไปยืนหน้ากระจกแล้วเอาน้ำขึ้นลูปหน้าตัวเอง ‘นี่กูเป็นไรวะเนี่ยะอยู่ดีๆ ก็หน่วงขึ้นมาซะงั้น’ ผมพึมพำกับตัวเอง พอเงยหน้าขึ้นมามองกระจกต้องถึงกับสะดุ้ง

“เฮ้ยพี่โช”

“มึงขวัญอ่อนอีกแล้วนะเบี้ยว” พี่โชพูดเสียงนุ่ม

“ก็พี่มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ใครก็ตกใจเปล่าวะ”

“แล้วมึงเป็นอะไร ทำไมมาล้างหน้าจนน้ำเปียกไปทั้งเสื้อขนาดนี้”

“ผมเหนื่อยๆ หนะพี่ เรื่องขอมผมเถอะ”

“นี่มึงว่ากูเสือก?”

“เปล๊า ผมไม่ได้พูดนะ”

“ทำไมมึงต้องออเซาะไอ้คิวขนาดนั้นวะ”

“ออเซาะอะไรวะพี่”

“กูเห็นมึงกับมันตั้งแต่เข้ามาแล้ว เดี๋ยวกอดคอ เดี๋ยวถูไหล่ มึงชอบไอ้คิวหรอ”

“บ้าดิพี่ ผมเป็นผู้ชายนะจะไปชอบพี่คิวได้ไง”

พี่โชไหวไหล่ “กูจะไปรู้หรอ เห็นมึงมันก็อ่อยเขาไปทั่ว”

“พี่พูดไรวะ ผมเข้าไปที่โต๊ะแล้ว” ผมทำหน้าเหม็นเบื่อใส่พี่โช แล้วเดินออกมาจนถึงหน้าห้องน้ำ

“เดี๋ยว...”

จังหวะที่พี่โชพูดก็เป็นจังหวะเดียวกับที่พี่โชกระชากแขนผมกลับมาจนผมเซถลา หน้าผมเข้าไปชนกับหน้าพี่โช จนปากเราประกบกัน ผมอึ้งค้างอยู่สักครู่แล้วก็ผละออกเพราะตรงนั้นมันออกมาบริเวณข้างนอกห้องน้ำแล้วไม่รู้ว่าจะมีใครเห็นหรือเปล่า ผมรีบหันซ้ายหันขวากลัวใครมาเห็น

“เฮ้ย! พี่เล่นไรของพี่วะ เดี๋ยวก็มีใครมาเห็น”

“เห็นแล้วไง” พี่โชยกยิ้มมุมปากให้ผม

“หึ้ย เกลียดพี่วะแม่ง” ผมมองค้อนใส่พี่โชแล้วก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ

ผมมาถึงที่โต๊ะก็เห็นว่าน้ำตาลไม่อยู่จึงถามพี่คิว

“อ่าวพี่คิว ไอ้ตาลไปไหน”

“น้ำตาลบอกกูว่าจะไปห้องน้ำนะ”

ใจผมโหวงขึ้นมาเลยครับ ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์หน้าห้องน้ำเมื่อกี้น้ำตาลจะเห็นไหม ถ้าเห็นแล้วน้ำตาลจะคิดยังไง ตอนนี้ผมกังวลไปหมดทุกอย่าง ผมลุกลี้ลุกลน จนเห็นน้ำตาลเดินกลับพร้อมพี่โช

“มึงไปเข้าห้องน้ำมาเหรอ” ผมถามน้ำตาล

“อือ กูไปเข้าห้องน้ำแล้วเดินออกมาเจอพี่โชพอดีกูเลยเดินมาพร้อมกัน”

ผมทำใจดีสู้ถามออกไป “แล้วเมื่อกี้มึงไม่เห็นกูหรือไง”

“หึ ไม่เห็นหนิกูออกมาก็เจอแต่พี่โชยืนสูบบุหรี่จะเสร็จพอดี”

ฟู่!!
ผมพลูลมหายใจออกมาแล้วเหลือมมองหน้าพี่โช มันยกยิ้มมุมปากใส่ผมอีกแล้วครับ ผมละเกลียดรอยยิ้มแบบนี้ของมันจริงๆ

จากนั้นพวกเราก็กินกันไปคุยกันไป ผมก็มีออกไปเต้นกับพี่คิวที่หน้าเวทีบ้าง ไปหลีสาวกับพี่คิวบ้างตามประสาหนุ่มโสดหน้าตาดีแหละครับพอกลับมาที่โต๊ะทุกคนก็บอกว่าเช็คบิลเรียบร้อยแล้วกำลังจะแยกย้ายกันกลับ ผมก็ลากับสมาชิกคนอื่นๆ ในชมรมเรียบร้อย

“สองคนนี้กลับยังไงเนี่ยะ” พี่คิวถามขึ้น

“ผมคงกลับแท็กซี่แหละพี่”

“กลับกับกู” พี่โชพูดแทรกขึ้น

“ไม่เป็นไรพี่เดี๋ยวผมกลับแท็กซี่ดีกว่า แต่เอองั้นพี่ช่วยไปส่งน้ำตาลหน่อยได้ไหมพี่” ผมใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส

“ไอ้อาร์ทถ้ามึงจะให้พี่โชไปส่งกู มึงก็ต้องไปกับกู” น้ำตาลทำเสียงดุ

ผมไม่ได้กลัวนะครับแต่ขี้เกียจมีปัญหา จริงจริ้ง “เอ้อๆ มึงจะดุกูทำไมไปก็ไป”

เมื่อตกลงกันได้เราทุกคนเดินตรงไปที่จอดรถ แล้วก็ล่ำลาพี่คิวเป็นที่เรียบร้อย

“ขึ้นรถ”

พี่โชหันมาทำเสียงเข้มใส่ผม มองให้ผมไปนั่งข้างหน้า เรื่องอะไรละ ผมรีบชิงเปิดประตูข้างหลังขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้วครับ

“พี่โชเดี๋ยวพี่ไปส่งผมก่อนนะแล้วค่อยเลยไปส่งน้ำตาล”

ผมพูดไปแค่นั้นพี่โชก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากพยักหน้ารับ บรรยากาสในรถก็เงียบจนถึงหอผม ผมก็ขอบคุณพี่มันแล้วก้เปิดประตูลงจากรถ

“เบี้ยว”

ผมหันหลังกลับมามอง แล้วถาม “อะไร”

“พรุ่งนี้เช้ากูไม่เอาโจ๊กแล้วนะกูเบื่อ”

“แล้วจะเอาอะไร” ตอนนี้ผมหงุดหงิดอยากพักผ่อนแล้วครับ

“ข้าวผัดแล้วกัน แต่มาสายได้กูไม่ว่า”

“เออ” ผมตอบรับแล้วรีบเดินขึ้นหอก่อนที่พี่มันจะสั่งอะไรให้เยอะไปกว่านี้ครับ

==================
TBC.

Talk.นี่อาร์ทช่วยน้ำตาลเต็มที่แล้วน๊าาาาา อย่าคิดว่าอาร์ทนิ่งนอนใจ แต่ช่วยเพื่อนแล้วทำไมเศร้าๆ นะอาร์ท รอดูต่อปายยยยย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-05-2017 21:10:52
รีบทำคะแนนเข้านะน้ำตาล
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 16-05-2017 21:20:48
มันก็จะงงๆกันหน่อยๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 16-05-2017 21:44:14
อ่านแล้วแบบ อึดอัดกับอาร์ท ทำไมอาร์ทต้องยอมทุกคน ใครจะลากจะทำอะไรกับอาร์ คืออาร์ทดูไม่เปนตัวของตัวเอง อะ เหมือนหุ่นยนต์
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 17-05-2017 17:29:25
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 17-05-2017 17:56:55
ถ้าเราเป็นอาร์ทเราว่าตัวเองอึดอัด แอบมีคำผิดหรือคำตกหล่นนะคะ ในที่นี้เราคิดว่าเพราะรีบพิมพ์กับมองไม่เห็นมากกว่า ไม่ใช่คำที่สะกดผิด บอกเฉยๆเป็นคนอ่านที่ดีค่ะ5555555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-05-2017 18:47:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 17-05-2017 23:03:14
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-05-2017 11:38:53
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 18-05-2017 21:15:05
รอตอนต่อไปค่ะ~
สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 18-05-2017 23:41:55
 :hao7: กำลังรอลุ้นว่าจะไปเสียท่าพี่โชตอนไหน :ling1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 20-05-2017 02:13:33
ตอนที่ 8

วันนี้ผมตื่นสายครับมองนาฬิกาแล้วผมต้องสะดุ้ง เด้งตัวออกจากที่นอนทันที นี่มันสิบเอ็ดโมงแล้วครับผมต้องเอาข้าวเช้าไปส่งให้พี่โชนี่นา ป่านนี้พี่โชคงโมโหจนจะกินหัวผมได้แล้วแน่ๆ

ตายๆๆๆๆ

ผมตาลีตาเหลือกอาบน้ำอาบท่ารีบแต่งตัวเพื่อไปร้านอาหารตามสั่ง เพื่อซื้อข้าวไปให้พี่โช ระหว่างรอข้าวผมก็หยิบโทรศัพทขึ้นมาเล่น

พี่โช (5 Misscall)

‘เชี่ย!!! พี่มันโทรมาด้วยหรอวะ’ ผมอุทานขึ้น

Facebook มีการแจ้งเตือนข้อความใหม่

‘ตามหลอกหลอนกูทุกที่เลยนะไอ้พี่โช’
 
 
Chokun Eiei :
ไอ้เบี้ยว
มึงอยู่ไหน
กูหิวข้าว
Art Patavee :
พี่โช
ผมเพิ่งตื่น
*สติกเกอร์
พี่มันอ่านครับแต่มันไม่ตอบ นี่จะทำให้กูรู้สึกผิดสินะ

“ข้าวได้แล้วหนุ่ม” ป้าแกเรียกผม

ผมรีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า “เท่าไหร่ครับป้า”

“40 บาทลูก”

ผมขวักเงินจ่าย ป้าเสร็จก็รีบไปนั่งวินมอเตอไซด์ตรงไปหอพี่โชอย่างด่วน ไม่รู้ไปถึงผมจะโดนอะไรบ้าง

ฮื่อๆๆ!!!

ก็อกๆๆๆ

“พี่โชเปิดประตูให้หน่อย”

เมื่อประตูเปิดออก “........”

ผมยิ้มแหยๆ อย่างรู้สึกผิด “พี่โชหิวข้าวหรือเปล่าครับ” เวลานี้ผมต้องพูดเพราะสุดชีวิตสิครับ

“กูบอกให้มึงมาสายได้แต่ก็ไม่ใช่ให้มึงมาเที่ยงไหมล่ะ” พี่มันว่าแดกดันผม

“แฮ่ะๆ ผมขอโทษคร้าบบบ ผมหลับเพลินไปจริงๆ”

“เออไปเทใส่จานให้กูหน่อยกูหิว”

ผมพยักหน้ารับคำสั่งแล้วรีบวิ่งไปในห้องครัวเพื่อเทข้าวใส่จานมาเสิร์ฟพี่มันก่อนที่จะโมโหไปมากกว่านี้ เสร็จผมก็เดินถือจานออกมา

“นี่พี่ทำอะไรอยู่หรอ”

“โมแบบบ้าน”

“วันนั้นก็ทำไปแล้วไม่ใช่หรอพี่”

“มึงคิดว่ากูเรียนวิชาเดียวหรือไง?”

“โหงี้พี่ต้องทำโมเดลนี่มันทุกวิชาเลยหรอ”

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็เยอะพอสมควร”

“โหดีแล้วที่ผมไม่คิดเรียนถาปัตย์”

“แล้วของมึงมันง่ายนักหรอวะไอ้เขียนโปรแกรมหนะ”

“มันก็ไม่ง่ายหรอกพี่ แต่ดีกว่ามานั่งทำโมของพี่เยอะเลย” ผมยิ้มตาหยี

“เอาข้าวมาได้แล้ว กูหิว”

ผมยื่นจานข้าววางตรงโต๊ะญี่ปุ่นหน้าพี่โช พี่โชก็ตั้งหน้าตั้งตากิน คงเพราะความหิวนั่นแหละครับ แต่แปลกมาถึงนึกว่าจะโดนอาละวาดแล้วซะอีกสงสัยพี่โชจะหิวจนไม่มีแรง ไหนจะงานที่กองอยู่ตรงหน้าอีก

“แล้วพี่มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” ผมหันหน้าไปถาม

“ก็ถ้าอยากช่วยกูก็มีให้มึงทำ มาตัดโมให้กูแล้วกัน”

ผมพยักหน้ารับ พร้อมกับพูดออกไป “ทำไมพี่ไม่มีแฟนอ่ะ”

พี่โชหรี่ตามองผมเชิงสงสัย “แล้วเกี่ยวอะไรกับมึง”

“เปล่า ก็ไม่เกี่ยวกับผมหรอก ผมแค่อยากให้พี่มีคนดูแลไง”

“ก็มึงไง”

กึก!!!

ผมอึ้งไปกับทำตอบของพี่โช ใจครับใจ ใจผมเต้นแรงตามคำพูดของพี่มันอีกแล้วครับ หน้าผมร้อนเหมือนเอาหน้าไปอังไฟ เมื่อได้สติจึงรีบพูออกไป

“ไม่ใช่แบบนี้ดิพี่ ผมแค่โดนพี่ลงโทษป่าววะ”

“แปลว่าถ้าหมดหนึ่งเดือนมึงก็จะไม่ดูแลกูแล้ว” พี่มันเอียงหน้าถามผม

“ใช่ดิพี่ ก็ผมพ้นโทษแล้วหนิ”

“เหอะ” พี่มันพูดแค่นั้นก็ก้มหน้าก้มตากินต่อ

“พี่โชพี่ว่าน้ำตาลเพื่อนผมเป็นไง”

“ก็ดี”

“เฮ้ยพี่ ก็ดีมันคืออะไร คือแบบน่ารักดี สวยดีงี้หรอ”

“อึ้ม”

“แล้วพี่ไม่สนใจจีบมันหรออยู่กับมันมีความสุขนะพี่”

“คือมึงจะชงเพื่อนมึงให้กู?

“ใช่พี่ ผมก็อยากให้พี่ได้คนดีๆ แล้วก็อยากให้เพื่อนผมได้คบคนดีๆ อย่างพี่ด้วย” หึหึ มึงหนะหรอคนดีไอ้พี่โช ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเชียร์ไอ้ตาลนะกูไม่มานั่งชมมึงหรอก

“เป็นแม่สื่อ?” พี่โชเลิกคิ้ว

“เฮ้ยพี่ พ่อสื่อเถอะพ่อสื่อ” ผมโวยวาย “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนะพี่ ไอ้ตาลมันปลื้มพี่มากเลยนะ พี่ไม่คิดจะลองเปิดใจให้มันหน่อยเหรอ”

“กูไม่ชอบให้ใครมาคิดแทนกูว่ากูควรจะชอบใครไม่ชอบใคร”

กึก!

ช็อตนี้กูตาย นี่กูโดนพี่มันด่าอยู่สินะ มันไม่อยากให้ผมไปเสือกเรื่องของมันนั่นสินะ

“ก็ไม่ใช่แบบนั้นพี่ ผมไม่ได้จะคิดแทนพี่แค่พูดให้พี่ลองคิดดูเฉยๆ” ผมทำเสียงอ่อน

“อือ”

“โอเคผมช่วยพี่ทำงานดีกว่า”

จากนั้นผมนั่งตัดกระดาษไม่กล้าพูดกล้าจาอะไรเลยครับ ไม่แม่แต่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตา พี่โชโหมดนี้น่ากลัวชิบผาย ผมก็ไม่ได้ไปบังคับขืนใจมันสักหน่อยแค่นำเสนอสิ่งดีๆ ให้มันเท่านั้นเอง ฮื่อๆๆๆ
 
“เบี้ยวงั้นพรุ่งนี้มึงมาช่วยกูทำงานให้เสร็จนะ”

“พรุ่งนี้หรอพี่” ผมทำท่าคิด “เฮ้ยไม่ได้ผมมีนัดแล้ว พรุ่งนี้ไอ้กายมันจะพาผมไปหัดขับรถ”

“มึงขับรถไม่เป็นเหรอ?”

“ครับ” ผมตอบรับแค่นั้น

“ไอ้ณัฐบอกกูว่าไอ้กายเพิ่งถอยรถใหม่มาไม่ใช่หรือไง”

“ใช่ๆ มันเลยจะสอนผมนี่แหละ”

“แล้วมึงไม่กลัวไปทำรถมันพังเหรอวะ”

นั่นสิผมก็กลัวอยู่เหมือนกัน แถมยังบอกไอ้กายไปแล้วแต่มันก็ยังยืนยันว่าจะสอน งั้นก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ก็กลัวนะพี่ แต่ไอ้กายมันบอกรับปากผมแล้วก็ต้องสอน”

“งั้นพรุ่งนี้มึงมาช่วยกูทำงานแต่เช้าจะได้เสร็จไว”

“แต่พี่ผมนัดกับไอ้กายมันเก้าโมงเช้า”

“เดี๋ยวกูสอนมึงเอง”

“ฮ่ะ?” ผมทำหน้างงๆ

“ก็กูบอกเดี๋ยวกูสอนมึงขับรถเอง มึงงงอะไร”

“แต่.....”

“มึงจะแต่อะไร โทรไปบอกเพื่อนมึงสิว่าเดี๋ยวกูสอนเองมันไม่ต้องมาสอนมึงแล้ว”

“พี่ผมเกรงใจ”

“รถกูไม่ใช่ป้ายแดงมึงเลยไม่อยากขับเหรอ?” ประชดกูซะงั้น

“ไม่ใช่พี่ เออเดี๋ยวผมโทรบอกไอ้กายแปป”

พูดจบผมก็เดินออกไปโทรศัพท์ที่ระเบียงเพื่อบอกไอ้กายยกเลิกนัดวันพรุ่งนี้ ตอนแรกไอ้กายมันก็ไม่ยอมครับ มันพูดแต่รับปากผมแล้วไม่อยากผิดคำพูด แต่พอผมบอกไปว่าพี่โชเขาจะเป็นคนสอนผมมันก็เข้าใจและยอมโดยดี

คุยโทรศัพท์เสร็จผมก็กลับเข้ามาเดินเข้ามานั่งที่หน้าทีวี หยิบโทรศัพท์มาไถเฟสบุ๊คเล่น เลื่อนไปเรื่อยๆ จนสะดุดกับข้อความหนึ่ง
 
Sugar Sweet – จบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

เอกชัย จ้า : เศร้าไรว๊าาาาาา

แก้วคนสวย คนเดิม : มึงเป็นไรว่ะตาล

Sugar Sweet : กูเป็นคนสวย พวกมึงก็รู้ อิอิ J

กายกรรม ครับผม :กูเกือบอินละ ถ้าไม่เห็นคอมเม้นท์มึงข้างบน ห่านนนนนน

ท้องฟ้า สดใส : อย่าคิดมากน๊า

ผมเห็นสเตตัสน้ำตาลแล้วก็เข้าไปส่องดูคอมเม้นท์ ผมไม่รู้ว่าเพื่อนผมมันเป็นอะไร มันทำให้ผมร้อนใจเป็นห่วงมัน คบกันมาเป็นสิบๆ ปีมันมีอะไรต้องบอกผมทุกเรื่องแต่ทำไมครั้งนี้มันไม่มาปรึกษาผม มึงเป็นอะไรกันแน่น้ำตาล

ผมลุกออกจากที่นั่ง

“ไปไหนอีก”

“ผมขอไปโทรหาไอ้ตาลแปปพี่” พี่โชพยักหน้ารับ
 
ตื๊ด! ตื๊ด! ไม่นานน้ำตาลก็รับสาย

(อือ)

“มึงเป็นอะไรวะ”

(กู?) น้ำตาลทำเสียงสงสัย

“เออก็มันนั่นแหละ สเตตัสมึงหมายความว่ายังไง”

(อ้อ กูก็ขึ้นอะไรไปเรื่อยเปื่อยมึงสนใจอะไรเนี่ยะ)

“จะไม่ให้กูสนใจมึงได้ มึงเป็นเพื่อนกูหนิ”

(จ้ากูซึ้ง ฮ่าๆ ไม่มีอะไรโว้ยมึงคิดมาก เออแล้วมึงอยู่ไหน)

“เอ่อ กูอยู่ห้องพี่โช เอาข้าวมาให้พี่มันตามประสาขี้ข้าไงมึง”

(อ๋อ เออๆ งั้นแค่นี้แหละกูจะดูซีรี่ย์ กำลังฟิน บ๊าย)

แล้วน้ำตาลก็สายผมทิ้งไป ผมคงคิดมากไปเองนั่นแหละครับคงไม่มีอะไร มันคงดูซีรี่ย์แล้วอินไปมั้ง เหอะๆ

=================
TBC.

Talk. เราขอโทษที่ทำให้คนอ่านอึดอัด :monkeysad: :monkeysad: เราอยากให้เห็นความรักของเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ใช่แค่อาร์ทรักน้ำตาลยอมทำตามที่น้ำตาลขออย่างเดียวน๊าาาา น้ำตาลก็รักอาร์ทเหมือนกัน รอดูความรักเพื่อนของน้ำตาลหน่อยน๊า
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-05-2017 14:16:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 20-05-2017 16:32:50
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 20-05-2017 18:11:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: พิศตะวัน ที่ 20-05-2017 22:09:31
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 21-05-2017 23:59:53
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 22-05-2017 08:08:57
พี่โชจะสอนขับรถ
ิาร์ทจะโดนกินหัวมั้ย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 23-05-2017 21:07:42
ตอนที่ 9


ระหว่างทางที่พี่โชกำลังพาผมไปยังสนามแข่งรถที่พี่มันบอกจะพาผมไปสอนขับรถ ผมก็คิดขึ้นมาได้ว่าทำไมพี่มันต้องเรียกผมว่าเบี้ยวด้วยวะ ผมเลยตัดสินใจทำลายความเงียบขึ้น

“พี่โชผมถามไรหน่อยดิ” ผมลองเชิงถามพี่มันก่อน

“ว่า?”

“ทำไมพี่ต้องเรียกผมว่าเบี้ยวด้วยวะ” ผมทำหน้าสงสัย

“มึงจะอยากรู้ไปทำไม” โชตอบเสียงกวนๆ

“อ้าว ก็พี่เอามาเรียกผมนี่หว่าผมก็ต้องอยากรู้ดิ แม่งน่าเกลียดจะตาย” ผมเบะปาก

“หึ เพราะไม่เหมือนใครไง” โชพึมพำในลำคอ

“พี่ว่าไงนะ?” ผมเอียงคอถาม

“ก็กูไม่อยากเรียกเหมือนคนอื่นมึงมีปัญหาอะไร?” พี่มันถามยียวน

“ก็ไม่ได้มีปัญหา แต่แล้วทำไมต้องเรียกว่าเบี้ยววะพี่ คำอื่นมีเยอะแยะ” ผมพูดออกไปอย่างหัวเสีย

“ก็มึงเบี้ยวนัดกูตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ”

“ไม่ใช่สักหน่อย” ผมเถียงกลับทันควัน “ครั้งแรกที่พี่เจอผม ผมเดินชนพี่จนชีทกระจายต่างหาก” นี่ผมลืมตัวเถียงออกไปเพื่ออะไร

“ฮะ มึงเดินชนกู?” พี่โชทำหน้าแปลกใจ

“คือ..เอ่อ ผมว่าแล้วพี่ต้องจำไม่ได้ ก็ที่โรงอาหารคณะพี่นั่นแหละ พอผมจะขอโทษพี่ก็สะบัดตูดหนีผมไปซะงั้น” ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“หึหึ งั้นเหรอถึงยังไงกูก็เรียกมึงว่าเบี้ยวอยู่ดี” พี่โชยักคิ้วและยกยิ้มมุมปาก

“พี่แม่ง” ผมโวยวายก่อนจะเลิกคิ้วเป็นคำถาม“พี่ยิ้มไรวะ”

“งั้นแปลว่ามึงตามกูอยู่นานแล้ว” พี่โชเอียงหน้าถาม

“ปะ...เปล่าสักหน่อยใครมันจะไปตามพี่วะ ผมแค่ไปกินข้าวที่คณะพี่ มันบังเอิญ..ใช่ๆ มันบังเอิญต่างหาก” ผมรีบแก้ตัวตะกุกตะกัก

“หึหึ” พี่โชยิ้มล้อผมไม่หยุด

“เฮ้ย! พี่ยิ้มอะไรเล่า ขับรถไปเมื่อไหร่จะถึงสักทีเนี่ยผมอยากขับรถใจจะขาดแล้ว”

ผมแสร้งพูดไปอย่างนั้น ในขณะที่ในใจของผมมันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ผมทำได้แค่เพียงเงียบเพื่อจบบทการสนทนาแล้วหันหน้าออกนอกหน้าต่าง เพราะตอนนี้หน้าผมร้อนไปหมด นี่ผมเป็นอะไรกันแน่
 
เมื่อรถเคลื่อนมาถึงสนามแข่งรถ ผมก็ได้แต่ตื่นเต้นที่จะได้ขับรถ ผมอยากหัดขับรถมาตั้งนานแล้วแต่ที่บ้านไม่มีใครยอมให้ผมแตะรถเลยสักคน ไม่รู้เพราะว่าเป็นห่วงผมหรือเป็นห่วงรถกันแน่

เมื่อรถจอดสนิทพี่โชทำท่าจะเปิดประตูลงจากรถก่อนจะหันมาพูดกับผม

“มึงลงมาเปลี่ยนที่นั่งกับกู”

เท่านั้นผมก็พยักหน้ารับแล้วรีบเปิดประตูเพื่อสลับไปนั่งยังตำแหน่งคนขับ

“คาดเข็มขัด” พี่โชหันมาบอกผมที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัย

ผมพยามยามดึงเท่าไหร่มันก็ดึงไม่ออก จนพี่โชต้องโน้มตัวมาเพื่อจะดึงสายเข็มขัดนิรภัยให้ผม ทำให้หน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันแค่คืบจนสัมผัสได้ถึงความอุ่นของลมหายใจ เราสองคนสบตากันนิ่ง จริงๆ ไอ้พี่โชนี่หน้าใสมากเลยนะ ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่ง.....เฮ้ย! นี่ผมคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย

เมื่อได้สติผมก็ผละหน้าออกห่างจากพี่โชแล้วรีบหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ส่วนพี่โชก็รีบดึงเข็มขัดนิรภัยไปเสียบให้

“ก็แค่เนี๊ยะ”

“ก็มันดึงไม่ออกนี่หว่า” ผมพูดเสียงอ่อย

“งั้นลองสตาร์ทรถดู”

สตาร์ทรถเสร็จพี่โชก็อธิบายวิธีการใช้งานของแต่ละส่วนไล่ไปเรื่อยๆ พี่โชอธิบายอย่างละเอียดและใจเย็น จะว่าไปพี่มันก็เป็นคนดีนี่หว่า ไม่แปลกเลยที่ไอ้ตาลจะชอบพี่มัน

เมื่อพี่โชอธิบายจบ พี่โชก็สั่งให้ผมเข้าเกียร์เพื่อให้รถเดินหน้า ผมเอื้อมมือไปจับคันเกียร์แบบเก้ๆ กังๆ ผมไม่มั่นใจว่าต้องขยับไปทางไหนแต่แล้วก็มีมืออุ่นๆ มากุมมือผมให้ขยับคันเกียร์ ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเมื่อมีมือพี่มันมากุมอยู่แบบนี้

“ขยับขึ้นไปข้างหน้าแบบนี้ ทำใจให้สบายแล้วค่อยๆ แตะคันเร่ง” พี่โชพูดพรางกุมมือผมไว้หลวมๆ

ผมทำตามที่พี่โชบอก พอผมเริ่มแตะคันเร่งพี่โชก็ปล่อยมือผมแล้วบอกให้ผมใช้สองมือประครองพวกมาลัย

“ผมเกร็งวะพี่ มันตื่นเต้น” ผมพูดออกไปด้วยสีหน้าเหยเก

“ปล่อยตัวให้สบายให้เป็นธรรมชาติ แล้วมองไปข้างหน้า”

พี่โชไม่พูดเปล่า พรางเอื้อมมือมาลูปหัวผมทำให้ผมรู้สึกลืมความตื่นเต้นไป ผมก็ตั้งใจขับรถไปตามถนน เมื่อขับไปได้สักพักพี่โชก็บอกให้ค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้น

“มันก็ไม่ยากนี่หว่า” ผมโพร่งขึ้น

“อืม” พี่โชตอบรับแค่นั้น

ผมเริ่มชินกับรถ จากนั้นพี่โชก็ให้ผมขับวนรอบสนามอีกหลายๆ รอบจนเกือบค่ำ พี่โชก็ตัดสินใจบอกให้ผมเป็นคนขับรถกลับไปยังหอ

“พี่ไม่เอาผมยังไม่กล้า” ผมพูดอย่างรุกรี้รุกรน

“ถ้ามึงไม่กล้าวันนี้ มึงจะกล้าวันไหน”

“พี่วันหลังไม่ได้เหรอ” คิ้วผมขมวดเข้าหากัน

“แต่วันนี้มีกูมึงจะกลัวอะไร” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่ทำไมผมถึงรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกที่มีพี่มันอยู่ข้างๆ

ผมหันหน้าไปสบตาพี่โช ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ หน้าร้อนผ่าวอีกแล้ว วันนี้พี่มันจะทำผมใจเต้นแบบนี้อีกกี่ครั้ง

ผมหันหน้าหนีสายตาพี่โชไปมองถนน แล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม “ก็ได้”

จากนั้นผมก็ทำสมาธิขับรถออกมาจากสนามโดยมีพี่โชนั่งอยู่ข้างๆ คอยบอกทุกอย่าง เมื่อผมรู้สึกกลัวหรือตื่นเต้นพี่โชจะยื่นมือออกมาจับไหล่ผมบ้าง ลูบหัวผมบ้าง

“พี่ทำอย่างกะผมเป็นเด็กสามขวบ” ผมขมวดคิ้วใส่พี่โช

“อ่าวไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆ”

“เฮ้ยพี่ ไม่ต้องมาขำ” ผมแกล้งทำสีหน้าเคืองๆ ใส่พี่โช

“เออกูไม่ขำแล้วก็ได้ กูเห็นมึงกลัวกูก็คอยปลอบมึงนี่ไง”

“คร้าบบบบ” ผมลากเสียงกึ่งประชด

“หึหึ”

วันนี้ผมรู้สึกว่าผมกับพี่โชจะคุยกันรู้เรื่องที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมา ระหว่างทางในรถมีแต่เสียงพูดคุยของเราสองคนจนรถเคลื่อนมาจอดยังหน้าหอของผม

“ขอบคุณครับพี่โช” ผมพูดพรางยกมือไหว้พี่โช

“หือ?” พี่โชเลิกคิ้วทำหน้างง คงเพราะผมไม่เคยยกมือไหว้พี่มันมานานตั้งแต่ที่โดนมันบังให้เป็นขี้ข้านั่นแหละครับ

“ก็ขอบคุณที่พี่พาผมไปสอนขับรถไง” ผมตอบไปพรางยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า

“ไม่เป็นไร” พี่โชตอบ แล้วก็พึมพำต่อ “เดี๋ยวมึงก็ได้ตอบแทนกูอยู่แล้ว”

“ว่าไงนะพี่” ผมถามออกไปเพราะได้ยินไม่ชัด

“เปล้า!”

“ครับเปล่าก็เปล่า พี่ผมขึ้นห้องแล้วนะ ขับรถกลับดีๆ”

“อืม ฝันดี” พี่โชมองหน้าผม

กึก!

ผมอ้าปากค้าง ก่อนตอบออกไปอย่างตะกุกตะกัก “คะ...ครับ ฝันดี”

พูดจบผมรีบวิ่งขึ้นห้องโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองพี่มันอีก ตอนนี้จิตใจผมสับสนไปหมด เรื่องที่เกิดขึ้นกับผมมันคืออะไรอีกทั้งใจยังเต้นแรงกับคำพูดและการกระทำของพี่มัน

‘นี่มันเหี้ยอะไรวะ’ ผมตะโกนออกมาลั่นห้อง

*************

เช้าวันนี้ผมรีบตื่นอาบน้ำแต่งตัวไปซื้อข้าวให้พี่โช วันนี้ผมใส่ชุดนักศึกษาออกมาเลยเพราะคิดว่าเอาของกินให้พี่โชเสร็จจะเข้าไปเรียนเลย ผมเลือกซื้อหลายอย่าง มีทั้งโจ๊ก น้ำเต้าหู้ ปลาท่องโก๋ ข้าวผัด และขนมอีกพอสมควร

วันนี้ผมเลือกจะเคาะประตูแทนที่จะแขวนไว้เหมือนทุกๆ วัน

ก๊อกๆ

รออยู่นานกว่าจะมีคนมาเปิดประตู พี่โชโพล่ออกมาด้วยสภาพที่เพิ่งตื่นนอน

“อ่าว ทำไมวันนี้มึงเคาะประตูได้วะ” พี่โชถามเสียงงัวเงีย

“เฮ้ยพี่ ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้ดีวะ” ผมตะโกนใส่หน้าพี่โช ก็พี่มันเล่นโผล่ออกมาด้วยสภาพที่ทั้งตัวมีแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว

“กูก็ใส่แบบนี้นอนทุกคืน”

“ไม่ใช่ที่พี่ใส่แบบไหนนอน แต่มีคนมาเคาะห้องก็ใส่เสื้อหน่อยไหมล่ะ”

“เหอะ มึงจะเข้ามาไหม ไม่เข้ากูจะได้ไปนอนต่อ” แล้วพี่โชก็ทำท่าจะเอื้อมมือดึงประตูปิด

“เฮ้ย เข้าๆ พี่อย่าเพิ่งปิด” ผมรีบเอื้อมมือไปจับประตู

พี่โชเดินนำผมเข้าไปในห้องแล้วหยุดนั่งลงตรงโซฟาหน้าทีวี ส่วนผมก็เดินเข้าไปในครัว เพื่อเทอาหารใส่จาน สักครู่พี่โชก็เดินตามผมเข้ามาเมื่อเห็นของที่ผมซื้อมาก็พูดขึ้น

“มึงซื้อมาทำไมเยอะแยะ”

“ก็ผมอยากให้พี่กินเยอะๆ”

พี่โชขยับมายืนตรงหน้าผมแล้วหรี่ตามพรางเอื้อมมือมาแตะหน้าผาก “มึงป่วยเหรอ?”

ผมปัดมือพี่โชออก “เฮ้ยพี่ผมไม่ได้ป่วย แค่อยากให้พี่กินเยอะๆ มันผิดตรงไหน”

“อืม”

“แล้วอีกอย่างวันนี้ก็วันสุดท้ายแล้วด้วยที่ผมจะส่งข้าวให้พี่” ผมพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“อะไรวันสุดท้าย?” พี่โชเลิกคิ้ว

“ก็วันนี้ครบหนึ่งเดือนพอดีที่ผมเป็นขี้ข้าพี่ ต่อไปผมก็เป็นอิสระแล้ว” ผมแสร้งทำเป็นดีใจ

“มึงอึดอัดมากเหรอที่ต้องมาเป็นขี้ข้ากู”

กึก!

ทำให้กูรู้สึกผิดซะงั้น ไอ้พี่โช

“เฮ้ย ไม่ใช่พี่” ผมรีบแก้ตัว

“อืม” พี่โชรับคำด้วยสีหน้าที่นิ่งจนน่ากลัว

“พี่โกรธผมเหรอ ผมไม่ได้อึดอัดจริงๆ” ผมตอบไป ก่อนจะพูดตามด้วยเสียงเบา “อยู่ใกล้พี่ก็ไม่ได้แย่นี่หว่า”

“ฮ่ะ? มึงว่าไงนะ”

“ปะ..เปล่า อ๋อผมถามว่าพี่โกรธผมหรอ ผมแค่พูดเล่นผมไม่ได้อึดอัดสักหน่อย”

“ไม่ใช่ ประโยคหลัง”

“ไม่ได้พูดอะไรสักหน่อยพี่หูฝาดแล้ว” ผมทำไม่รู้ไม่ชี้ เทของกินใส่จานต่อ

“หึหึ” พี่โชยกยิ้มมุมปาก แล้วเดินไปอาบน้ำ

ผมจัดการเททั้งหมดที่ผมซื้อมาใส่จาน แล้วเอามาวางหน้าทีวี เพื่อรอพี่โชออกมากิน สักพักพี่โชก็เดินออกมา พอพี่โชมองจานบนโต๊ะก็บ่นออกมาอีกครั้ง

“มึงจะซื้ออะไรมาเยอะแยะ” พี่โชบ่นเบาๆ

“ก็ผมไม่รู้ว่าวันนี้พี่อยากกินอะไร ผมเลยซื้อทุกอย่างที่พี่ชอบมานี่ไง” ผมพูดอย่างเอาใจพี่มัน

“มึงโทรมาถามก็ได้มั้ง”

“ไม่เอาอ่ะ เซอร์ไพรส์ รู้จักไหม เซอร์ไพรส์อ่ะ”

“เหอะๆ” พี่โชทำหน้าระอา

“หรือพี่จะไม่กินก็ได้นะ” ผมเบะปากใส่พี่โช

“งั้นมึงก็มากินด้วยกัน”

“ไม่เอาผมซื้อมาให้พี่”

“มึงคิดว่ากูจะกินหมดนี่?”

“ฮ่าๆ ผมก็ว่าไม่น่าจะหมด”

“รีบมากินจะได้รีบไปเรียน กูมีเรียนเช้า”

ผมลงไปนั่งกินข้างๆ พี่โชเรากินกันไปเงียบๆ เพราะตอนนี้ใกล้เวลาที่จะต้องไปมหา’ลัยแล้ว

จากนั้นพอกินเสร็จพี่โชกับผมรีบเก็บทุกอย่างไปไว้ในครัวแล้วเราสองคนก็เดินออกจากห้องมายังลิฟท์

“เดี๋ยวมึงไปกับกู”

“แหงดิพี่”

“มึงไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอ”

“เรื่องไรล่ะ ผมจะสายเพราะพี่ทำไมผมต้องปฏิเสธ หึหึ” ผมยักคิ้วท้าทาย

“เออเดี๋ยวกูรับผิดชอบมึงเอง” พี่โชพูดแล้วเอื้อมมือมายีหัวผม

“ดีมาก” ผมหันไปยักคิ้วพร้อมกับปัดมือพี่โชออกและแกล้งโวยวาย “เฮ้ย พี่หัวผมยุ่งหมด”

จากกนั้นผมก็นั่งรถพี่โชออกจากหอพักไปยังมหาวิทยาลัย พี่โชขับตรงไปส่งผมที่คณะก่อน

“ตอนเย็นเจอกันที่ชมรม” พี่โชบอกก่อนที่รถจะจอดสนิท

“โอเคพี่” ผมตอบจบก็เอื้อมมือไปเปิดประตู ก่อนลงผมหันไปหาพี่โช “ขอบคุณนะครับ” ผมยิ้มให้พี่โชก็ยิ้มตอบ
 
ผมปิดประตูรถแล้วยืนมองรถพี่โชขับออกไปจึงหมุนตัวเดินเข้าคณะแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นน้ำตาลและกายยืนมองอยู่

“ใครมาส่งมึงวะ” ไอ้กายถามผม

“อ่อ พี่โชอ่ะเมื่อเช้ากูซื้อข้าวไปให้เขา”

“นี่มึงยังไม่หมดสัญญาทาสอีกเหรอวะ ฮ่าๆ” ไอ้กายพูดกลั้วขำ

“วันนี้วันสุดท้ายแล้วโว้ย กูเป็นอิสระแล้ววววว” ผมตะโกน

“งั้นมึงจะชงไอ้ตาลให้พี่โชก็ยากแล้วดิว๊า” ไอ้กายหันไปแซวไอ้ตาล

“เชี่ยกาย” น้ำตาลหันไปด่ากาย

“เฮ้ย แต่กูยังอยู่ในชมรมมึงไม่ต้องกลัวเพื่อนเดี๋ยวกูจัดให้แน่นอน” ผมเดินไปโอบไหล่น้ำตาล

“เออๆ รีบไปเรียนเหอะพวกมึง นี่จะถึงเวลาแล้วเดี๋ยวสายจะโดนอาจารย์ทำโทษ” น้ำตาลพูดแค่นั้นก็พละเดินนำหน้าไป

=================
TBC.

Talk.อ่านแล้วมาเม้าส์กันน๊าาาา  :hao3:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 23-05-2017 21:31:06
น้ำตาลเธอรู้อะไรบางอย่างใช่ไหม.. ฉันว่าเธอน่าจะสัมผัสถึงความใกล้ชิดได้
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-05-2017 10:10:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 24-05-2017 11:32:45
สนุกกกกกกกกกก ต่ออีกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 24-05-2017 12:37:30
 :z3: :z3: :z3: รอออออยากเห็นความคืบหน้าาา :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 25-05-2017 07:57:55
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 25-05-2017 08:17:00
 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-05-2017 08:26:02
หรือว่าพี่โชไปคุยกับตาลแล้วตั้งแต่รู้ว่ามีพ่อสื่อตัวยุ่งมาชง ตาลถึงโพสต์แบบนั้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 9 [23/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 25-05-2017 20:51:45
ใครจะชงใครให้ใคร ลุ้นต่อไป
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-05-2017 01:48:13
ตอนที่ 10

<sugar time>

วันนี้เป็นวันที่ชมรมฟุตบอลจัดการแข่งขันเพื่อซ้อมก่อนที่จะไปแข่งกีฬาสามยู เราต้องไปเชียร์ไอ้อาร์ทมันไม่สิเราต้องไปเชียร์พี่โชต่างหาก แต่สมนาคุณไอ้อาร์ทมันหน่อยแล้วกันด้วยการชวนท้องฟ้าไปด้วย
 
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนอาร์ทต้องรีบแยกตัวไปชมรมเพื่อเตรียมตัวในการแข่งขันวันนี้

“ไอ้ตาลเจอกันที่สนามนะเว้ย”

“เออเดี๋ยวกูตามไป กูขอไปหาอะไรกินก่อน” พูดจบเราก็หันไปชวนกาย “ป่ะไอ้กายไปหาไรกินกัน”

“ป่ะ” กายตอบรับ พรางเดินไปเกาะแขนอาร์ท “แข่งให้ชนะนะพี่อาร์ท นุ้งกายส่งใจไปเชียร์”

“ไอ้เชี่ยกายกูขนลุก” อาร์ททำหน้าขยะแขยง

“ฮ่าๆ พวกมึงสองตัวเล่นห่าไรกันอุบาท” เราทำหน้าเอือมใส่มันสองคน

“เออๆ เลิกเล่นกูไปแล้วช้าเดี๋ยวโดนด่าว่ะ เจอกัน” อาร์ทว่าจบก็รีบเดินจ้ำไปยังสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัย
 
เรากับกายเดินมายังร้านขายของตรงลานกิจกรรมเพื่อหาอะไรกินรองท้องระหว่างที่จะไปดูอาร์ทแข่งและกายมันก็ต้องไปซ้อมดนตรีที่ชมรมต่อ

ระหว่างที่เราซื้อมาม่ามานั่งกินที่โต๊ะ เราก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะทักไปหาท้องฟ้า
 
 
Sugar_Sweet
ฟ้าตอนนี้อยู่ไหน?
รอไม่นานนักท้องฟ้าก็ตอบกลับมา
ท้องฟ้า สดใส
เราอยู่ห้องเรียนชั้นแปด ตาลมีอะไรหรือเปล่า
Sugar_Sweet
เลิกเรียนยัง
เราจะชวนฟ้าไปเชียร์ไอ้อาร์ทแข่งบอลหน่ะ
*สติกเกอร์
ท้องฟ้า สดใส
เลิกแล้ว
เรากำลังจะลงไปข้างล่าง ตอนนี้ตาลอยู่ไหน
 
Sugar_Sweet
ตาลอยู่ที่ลานกิจกรรม
เจอกันนะ
ท้องฟ้า สดใส
OK
*สติกเกอร์
 
เมื่อท้องฟ้าบอกเช่นนั้นเราก็กลับมาสนใจมาม่าในมือต่อ ระหว่างกินไปเราก็คุยกับไอ้กายไปเรื่อยเปื่อย

“เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่สนามแล้วกัน” กายพูดออกมาขณะที่กินอิ่ม

“เออดีกูขี้เกียจเดิน อีกอย่างสงสารฟ้าด้วยถ้าต้องมาเดินไกลขนาดนั้น”

“อ่าวฟ้าไปด้วยหรอวะ?” กายทำหน้าแปลกใจ

“เออกูจะให้ไปเซอร์ไพรส์ไอ้อาร์ทสะหน่อย” เรายักคิ้วให้กาย

“อ๋อตอบแทนที่ไอ้อาร์ทคอยชงมึงให้พี่โชสินะ ฮ่าๆ” ไอ้กายทำเสียงกวนตีน

“มึงนี่แสนรู้เนอะไอ้กาย ไหนไปคาบของตรงนั้นมาให้กูสิ” เราแกล้งชมมันแล้วชี้ไปที่กองขยะ

“สัด!” มันด่าแล้วใช้มือผลักหัวเรา

“หวัดดีกาย ตาล” ฟ้าเดินมาถึงก็โบกมือทักทาย

ทั้งเราและกายโบกมือตอบ

“ดีฟ้า จะไปเชียร์ไอ้อาร์ทกับตาลมันหรอ” กายถามฟ้า

“อื้ม ฟ้าว่างพอดีไปดูฟุตบอลบ้างคงสนุกดีนะ” ฟ้าพูดจบก็ยิ้มหวาน

“โอเคงั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวไอ้อาร์ทมันแข่งสะก่อน” เราพูดพลางลุกขึ้นยืนเพื่อเดินไปลานจอดรถ
 
กายขับรถมาส่งเราทั้งสองคนถึงประตูทางเข้าสนามฟุตบอล ก่อนที่กายจะออกรถ

“ไอ้ตาลถ้าไอ้อาร์ทเตะเสร็จมึงก็โทรมาหากูนะ เผื่อเสร็จพร้อมกันเดี๋ยวกูได้แวะมารับ”

“เออขอบใจมากมึง” เรากับฟ้าโบกมือให้กายก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป
 
เราสองคนเดินเข้าไปในสนามและมองหาว่าไอ้อาร์ทอยู่ตรงไหนจึงเดินเข้าไปหาอาร์ทก็เจอทั้งพี่คิวกับพี่โช เลยทักทายและแนะนำท้องฟ้าให้พี่ๆ รู้จัก

แค่นั้นเราและท้องฟ้าก็ไปจัดการหาที่นั่งเพื่อรอชมการแข่งขันฟุตบอลข้างสนามมีแต่เสียงเชียร์ เสียงเพลงดังเซงเซ่ เรากับท้องฟ้าก็คุยกันหัวเราะเฮฮาไปจนการแข่งขันจบลง เราทั้งสองก็เดินตรงไปหาอาร์ทกับกลุ่มนักฟุตบอล

“ป่ะไอ้อาร์ทกลับหอกัน” เราเดินมาถึงก็รีบชวนไอ้อาร์ทกลับหอเพราะโทรให้กายมารับแล้วเลยกลัวว่ากายจะต้องมารอ

“ไปดิ พี่คิวพี่โช ผมพาน้ำตาลไปร้านด้วยได้ไหมพี่” อาร์ทตอบรับเรา แล้วหันพูดต่อกับพี่โชและพี่คิว

“ได้ดิ สำหรับน้องน้ำตาลคนสวยไปได้อยู่แล้ว” พี่คิวหันมาทำตาเจ้าชู้ใส่เรา เราก็ได้แต่ยิ้มกลับไปให้พี่คิว

“โอเคพี่งั้นผมไปแล้ว เจอกันที่ร้านสามทุ่มครับ” อาร์ทบอกพี่สองคนนั้น

จากนั้นเราก็รอกายมารับไปส่งที่หอเพื่อกลับไปเตรียมตัว เรากลับถึงหอเราก็แยกกับท้องฟ้าเพราะเราอยู่คนละชั้นกัน

เราก็รีบอาบน้ำแต่งตัวพอเสร็จก็รอไม่นานอาร์ทก็นั่งแท็กซี่มารับ ในระหว่างทางที่ไปร้านเหล้าเราก็คุยกันตลอดทางจนถึงหน้าร้าน เราสองคนเจอพี่คิวพอดีจึงเดินตามพี่คิวเข้าไปในร้าน

เมื่อถึงโต๊ะไอ้อาร์ทมันก็จัดแจงให้เรานั่งใกล้ๆ กับพี่โช ‘กูก็อยากจะขอบคุณมึงนะ แต่มันโจ่งแจ้งไปไหมมึง’ เราได้แต่คิดในใจและนั่งต่อไป

เมื่อนั่งไปสักพักพี่โชก็ชวนเราคุยจากที่เกร็งตอนแรกก็ทำตัวตามสบายขึ้นพี่โชเป็นกันเองและใจดีกับเรามากเลย แต่พอเราหันกลับไปมองที่ไอ้อาร์ทก็เห็นว่ามันหายไปจากที่นั่ง สงสัยคงจะไปเข้าห้องน้ำแหละมั้ง

“น้ำตาลพี่จะไปเข้าห้องน้ำจะไปด้วยกันไหม” พี่โชเข้ามากระซิบข้างหูเรา เพราะเสียงดนตรีดังมาก

“พี่โชไปก่อนเลยก็ได้ ตาลยังไม่ปวดเท่าไหร่”

เราพูดจบพี่โชก็พยักหน้ารับแล้วลุกออกจากโต๊ะไป เรานั่งไปสักพักก็รู้สึกปวดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา แล้วคิดว่าเดินไปตอนนี้อาจจะไปเจอไอ้อาร์ทพอดีจะได้ให้มันรอกลับมาพร้อมกันเลย แต่เมื่อเราเดินไปถึงใกล้หน้าห้องน้ำเราก็ต้องชะงัก เมื่อภาพที่เราเห็นคืออาร์ทกำลังจูบอยู่กับพี่โช ตอนนี้เราไม่รู้เราควรจะรู้สึกอะไร เราจะช็อคที่เห็นไอ้อาร์ทจูบกับผู้ชาย หรือว่าช็อคที่เห็นผู้ชายที่เราชอบจูบกับเพื่อนเรา

เรายืนมองอยู่ที่มุมนั้น ตอนนี้ในใจเราวูบโหวง เมื่อเห็นว่าอาร์ทเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วเราจึงเข้าไปในห้องน้ำ พยามยามสงบสติอารมณ์ให้เป็นปกติที่สุด จากนั้นเราก็เดินออกมายังหน้าห้องน้ำก็เห็นพี่โชยืนสูบบุหรี่อยู่ พี่โชหันมาเห็นเราพอดี เราเลยเดินเข้าไปหา

“อ่าวพี่โชมาสูบบุหรี่อยู่นี่เอง” เราทักออกไปแบบนั้น

“อื้ม ตาลมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่ออกมาพร้อมพี่” พี่โชพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ก็ตอนแรกตาลยังไม่ปวดเท่าไหร่นี่นา”

“ป่ะเข้าไปที่โต๊ะกันเถอะ” พี่โชพูดจบก็ดับบุหรี่ในมือแล้วทิ้งลงถังขยะ

เราสองคนเดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นอาร์ทนั่งอยู่แล้ว เมื่ออาร์ทเห็นเรามันก็ทำอาการลุกลี้ลุกลนแล้วรีบโพร่งคำถามมาถามเรา มันคงกลัวว่าเราจะเห็นสินะ ใช่เราเห็น ตอนนี้เรายังไม่อยากเผชิญหน้ากับมันเลยด้วยซ้ำแต่จะทำไงได้ล่ะ

เมื่อนั่งต่อกันไปอีกสักพักใหญ่พวกพี่ที่ชมรมก็ชวนกันกลับเพราะเห็นว่าดึกแล้วจึงเรียกเช็คบิล จากนั้นก็พากันแยกย้ายเราตกลงกันได้คือพี่โชไปส่งเรากับอาร์ท

ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรมีแต่อาร์ทที่บอกให้พี่โชไปส่งมันก่อนแล้วค่อยไปส่งเรา บรรยากาศในรถเงียบมากไปจนถึงหออาร์ทเมื่อส่งอาร์ทเสร็จพี่โชก็ออกรถเพื่อไปยังหอเราซึ่งไม่ไกลจากหออาร์ทเท่าไหร่

“ขอบคุณที่มาส่งนะคะพี่โช”

“ไม่เป็นไร ตาลก็เหมือนน้องสาวพี่ จะปล่อยให้นั่งแท็กซี่กลับได้ไงยิ่งสวยๆ อยู่ ฮ่าๆ” พี่โชพูดพรางหัวเราะแล้วโบกมือให้เรา เราจึงยิ้มและโบกมือตอบ

‘ตาลก็เหมือนน้องสาวพี่’ น้องสาวเราคงเป็นได้แค่น้องสาวของพี่โชแค่นั้นสินะ

เราเดินเข้าห้องด้วยความรู้สึกวูบโหวงในอก มันเรียกว่าอะไรหรอ อกหักหรือเปล่า เราจุกในอกจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก ตอนนี้เราอยากมีใครสักคนที่เราพอจะอธิบายความรู้สึกของเราได้ เมื่อนึกได้ว่าท้องฟ้าอยู่หอเดียวกับเราจึงตัดสินใจไปเคาะประตูห้องท้องฟ้า

ก๊อกๆ

ไม่นานฟ้าก็เปิดประตูออกมา เราโถมตัวเข้าไปกอดฟ้าเต็มแรง มันทำให้น้ำตาที่จุกอยู่ไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้

ฟ้าตกใจแล้วถามขึ้น “ตาลเป็นอะไร ทำไมเป็นแบบนี้”

“…………อึ้ก” เราเงียบเอาแต่ร้องไห้

ท้องฟ้าเข้าใจจึงไม่ซักไซร้เราอีก ปล่อยให้เราร้องไห้อยู่อย่างนั้น ท้องฟ้านั่งลูบหลังมือเราแล้วพูด

“ตาลยังไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ ร้องออกมาเถอะจะได้โล่ง”

“……...” เราได้แต่มองหน้าฟ้าอยู่อย่างนั้น

เวลาผ่านไปสักพัก เราเริ่มรู้สึกดีขึ้น และคิดว่าควรเล่าให้ท้อฟ้าฟังดีไหม กลัวว่าถ้าเราไปแล้วผลที่ออกมามันจะแย่กว่าเดิมหรือเปล่า

“เอ่อ...ฟ้า...คือ” เราอ้ำอึ้ง

“ถ้าไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องเล่าก็ได้ตาล” ฟ้าพูดพรางเอื้อมมือมาลูบไหล่เรา

“ฟ้าสัญญากับเราไหมว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง” เราโพร่งถามฟ้าออกไป

“อื้ม ถ้าตาลไว้ใจเล่าให้ฟ้าฟังจะให้ฟ้าไปทำลายความไว้ใจตาลได้ยังไงล่ะ”

“คือ...เราชอบพี่โช”

“ฮ่ะ ตาลชอบพี่โช” ฟ้าทำหน้าตกใจ

“ใช่เราชอบพี่โช เราเลยขอให้ไอ้อาร์ทช่วยเข้าไปตีสนิทกับพี่โชเพื่อให้เรามีโอกาสได้เข้าใกล้พี่โชแต่.....” เราก็เงียบไป

“แต่อะไร?” ฟ้าทำหน้าสงสัย

“วันนี้เราเห็นไอ้อาร์ทกับพี่โชจูบกัน”

“ฮ่ะ! อาร์ทเนี่ยนะจูบกับพี่โช” ฟ้าดูตกใจมาก

เราพยักหน้ารับก่อนจะพูดออกไป “เราไม่รู้ว่าเขาจูบกันทำไม เพราะอะไร ไอ้อาร์ทมันก็ยังดูจะอยากช่วยให้เรากับพี่โชได้ใกล้ชิดกัน เราไม่เข้าใจอ่ะฟ้าว่ามันคืออะไร ไอ้อาร์ทมันคิดอะไรอยู่เราสับสน”

“ใจเย็นๆ นะตาล มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ตาลเห็นก็ได้ ลองคุยกับอาร์ทตรงๆ ดูไหม”

“ไม่อ่ะฟ้า เรารู้สึกได้มาสักพักนึงแล้วนะว่าพี่โชดูแปลกๆ กับไอ้อาร์ทแต่เราก็คิดว่าเราคิดมาก จนเราเห็นเหตุการณ์กับคำพูดของพี่โชวันนี้เราก็เข้าใจแล้วแหละฟ้า”

“หือ? คำพูด...พี่โชพูดอะไรกับตาลหรอ” ฟ้าพูดพร้อมขมวดคิ้วเข้าหากัน

“พี่โชบอกว่าเขาเห็นเราเป็นเหมือนน้องสาว”

ฟ้าเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นมา “แล้วอย่างนี้ตาลจะทำยังไง ตาลโกรธอาร์ทหรือเปล่า”

เราส่ายหน้า “เราไม่รู้ เราไม่อยากทะเลาะกับไอ้อาร์ท เราไม่ได้โกรธมันนะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเรารู้สึกยังไง เราสับสน”

“เราเข้าใจนะ” ฟ้าพูดปลอบพร้อมกับมือที่ยื่นมาลูบไหล่เรา

“มันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา เรารักมันมาก เราเองก็รู้สึกผิดที่บังคับให้มันช่วยเราตั้งแต่แรก เราไม่กล้าโกรธมันหรอก เราแค่คิดว่าเราต้องการเวลาเพื่อทำใจกับเรื่องนี้เรายังไม่พร้อมจะคุยจะเผชิญหน้ากับมันตอนนี้”

“งั้นเอาอย่างนี้สิ ช่วงนี้นอกจากเรียนตาลก็ไปชมรมค่ายอาสากับเราไปช่วยงานชมรมไปหาอะไรทำเพื่อให้ความรู้สึกของตาลดีขึ้น” ฟ้าเสนอทางออกให้เรา

“แล้วเราจะทำยังไงเวลาเจอหน้าไอ้อาร์ท”

“ก็ทำให้เป็นปกตินั่นแหละถ้าตาลไม่อยากจะให้มันเป็นปัญหา อาจจะเลี่ยงการอยู่ด้วยกันสองคนก็ได้นะ”

“อืมคงต้องเป็นอย่างนั้น” เราพยักหน้า “ขอบคุณมากนะฟ้า เราหาเรื่องมาให้ฟ้าปวดหัวจริงๆ”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิ เราเป็นเพื่อนกันนะตาล” ฟ้ายิ้มเย็ยๆ ให้ มันทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นมา

เราอ้าแขนออก พร้อมพูด “ขอกอดอีกทีนะ”

เราสองคนกอดกันอยู่สักครู่ก่อนจะผละออกจากกันจนเป็นอิสระ เราได้มาคุยกับท้องฟ้าทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมากจนน่าแปลกใจ เพราะเมื่อก่อนไม่ว่าเราจะมีเรื่องอะไรก็จะมีแต่ไอ้อาร์ทที่ทำให้เราสบายใจได้อยู่คนเดียวแต่ตอนนี้มีเพิ่มมาอีกหนึ่งคนมันก็ดีนะ

"ฟ้า...."

"หือ?" ฟ้าทำหน้าสงสัย

"ฟ้ารู้ใช่ไหมว่าที่เราเข้ามาสนิทกับฟ้าเพราะอะไร"

"ก็พอมองออกนะ ตาลมาสนิทกับฟ้าเพราะอาร์ทใช่ไหม"

"อื้ม..แต่เราไม่รู้ว่าตอนนี้อาร์ทมันยังคิดเหมือนเดิมอยู่ไหม แล้ว เอ่อออ ... ฟ้าคิดยังไงกับอาร์ทเหรอ"

"เราหรอ..เราก็คิดกับอาร์ทแค่เพื่อนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" ฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ และพูดต่อแบบยิ้มๆ "อ่อ..แล้วอีกอย่างเรามีคนที่ชอบอยู่แล้วหน่ะ"

"จริงสิ เรารู้จักไหม ให้เราช่วยอะไรหรือเปล่า" เราทำหน้าตาตื่นอยากรู้อยากเห็น

"เดี๋ยวสักวันตาลก็จะรู้เองแหละ แต่ไม่ใช่วันนี้แน่ๆ เรายังไม่พร้อม ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่ตาลได้ช่วยเราแน่ไม่ต้องห่วง" ท้องฟ้ายิ้มหวาน

"เอางั้นหรอ เราขอบคุณฟ้ามากๆ เลยนะ" เราส่งยิ้มให้ฟ้า และเอื้อมไปจับมือฟ้ามาแนบแก้ม อุ่นใจชะมัดที่ได้เพื่อนดีๆ เพิ่มมาอีกหนึ่งคน

หลังจากนั่งคุยกับฟ้าอีกสักพักเราก็ขอตัวกลับมาที่ห้องเราคิดแล้วว่าเราเองจะต้องพยามยามทำใจ ถ้าเกิดอาร์ทกับพี่โชชอบกันจริงๆ เราก็จะต้องรับมันให้ได้เพราะยังไงเราก็ไม่อยากเห็นเพื่อนมีความทุกข์ เราไม่อยากให้อาร์ทต้องไม่มีความสุขเพราะเรา

เรารักเพื่อนคนนี้มาก อาร์ทไม่ได้เป็นแค่เพื่อน มันเป็นทั้งพี่ ทั้งน้อง เป็นทุกอย่างที่เราไม่มีวันยอมเสียมันไปจากชีวิตเด็ดขาด


====================
TBC.

Talk.อ่านด้านของน้ำตาลแล้วเป็นยังไงบ้าง เม้าส์กันหน่อยยยย :)
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-05-2017 09:25:41
ตาลคู่ฟ้า อาร์ทคู่พี่โชซินะ แฮปปี้ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 27-05-2017 10:47:59
แต่ละคนมีคู่แล้ว ส่วนกายอกหักสินะ
 :hao4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-05-2017 13:05:40
อ้าวน้องกายจะคู่ใครละที่นี้ หรือพี่ณัฐหว่าาาา ลูกเจ้าของโชว์รูมรถเลยนะ อิอิอ มโนไปอีก
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-05-2017 13:26:34
 :L2: :pig4:

Artจะเป็นอิสระ รื้อออออ ไม่น่ารอกพี่โช
น้ำตาล สู้ๆ

รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-05-2017 23:18:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 28-05-2017 12:09:46
 :z10: กำลังน่าติดตามมากกำลังงวดดดดกำลังจะได้เรื่องงงงแร้วววว
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 28-05-2017 13:44:35
โช ชอบน้องแล้วอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 29-05-2017 08:59:52
ฟ้าชอบน้ำตาลแหงๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 29-05-2017 09:34:17
ตอนที่ 11

วันนี้มีเรียนเช้า ผมกลับมาตื่นเวลาปกติไม่ต้องรีบตื่นเหมือนหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้เพราะผมไม่ได้เป็นขี้ข้าพี่โชมันแล้ว ผมตื่นก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียน เมื่อถึงคณะผมก็เห็นกายกับน้ำตาลนั่งกันอยู่ที่โต๊ะใต้คณะผมรีบเดินจ้ำเข้าไปหา

“มึงสองคนกินไรกันยังวะ” ผมโพร่งถามกายและน้ำตาล

“กูกินแล้วมีแต่ไอ้ตาลนี่ไม่ยอมกินห่าอะไรเลย” กายบุ้ยปากไปที่น้ำตาล

“มึงเป็นไรวะตาล” ผมถามออกไป

"นั่นสิกูถามก็ไม่ยอมบอก เอาแต่นั่งกล้มหน้ากล้มตาเล่นโทรศัพท์" กายว่าเสริม

“เปล่ากูไม่ได้เป็นไรสักหน่อย” น้ำตาลรีบปฏิเสธ

“เอองั้นเย็นนี้มึงไปดูกูซ้อมบอลนะ..นะๆๆๆ” ผมกอดแขนอ้อนน้ำตาล

น้ำตาลขยับแขนออกจากมือผมแล้วหันมาพูด “กูไปไม่ได้กูรับปากฟ้าไปแล้วว่าจะไปช่วยชมรมเรี่ยไรเงินออกค่าย”

“ของชมรมอะไรวะ” ผมถามออกไป

“ค่ายอาสา” น้ำตาลตอบแค่นั้น

“แล้วอย่างนี้ถ้าเขาไปออกค่ายมึงต้องไปด้วยหรือเปล่า” ผมถามอย่างสงสัย

“กูกำลังคิดอยู่ว่าจะไปดีไหม เพราะเขาจะไปตลอดปิดเทอมนี้ 1 เดือนเต็มๆ”

“ไม่เอามึงไม่ต้องไปอยู่กับกูนี่แหละ กูไม่ให้มึงไป” ผมพูดราวกัเป็นคำสั่งห้ามน้ำตาล

“มึงเป็นผัวมันหรอ?” ไอ้กายถามผมด้วยสีหน้ากวนตีน

“ผัวพ่องดิไอ้กาย มันเป็นแม่กูต่างหาก” พูดจบผมก็ยักคิ้วให้กาย

ผมด่าและเถียงกับไอ้กายอยู่พักใหญ่ก่อนที่น้ำตาลจะเตือนว่าถึงเวลาเรียนแล้ว พวกเราก็กุลีกุจอกันวิ่งขึ้นตึกเพื่อไปเรียน

หลังจากวันนี้ไปเป็นเวลาเกือบสองเดือนหลังเลิกเรียนผมต้องรีบเข้าไปยังชมรมซ้อมฟุตบอลอย่างจริงจังเพื่อแข่งกีฬาสามยู

เลิกเรียนผมก็รีบมาชมรม เพื่อจะได้มีเวลาอู้ก่อนซ้อม ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมานั่งกินขนมเพื่อรอให้สมาชิกในชมรมมาครบ

พี่คิวเดินเข้ามาก็ทักผม “แดกอย่างเดียวเลยนะมึง”

“ก็ผมหิวนี่หว่า”

“เออแดกไวๆ ได้รีบไปวอร์ม” พี่คิวสั่งผม

“คร้าบบบบ”

ผมนั่งกินขนมของผมต่อไปก็เห็นพี่โชเดินเข้ามาในห้องชมรม พี่โชมีสีหน้าเนือยๆ หน้าซีดๆ

“เป็นไรเปล่าพี่” ผมถามออกไปด้วยความสงสัย

พี่โชส่ายหน้าเป็นคำตอบ แล้วทำท่าจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด

“เฮ้ยพี่แต่พี่หน้าซีดมากเลยนะ” ผมเดินเข้าไปใกล้แล้วเอื้อมมือจับแขนพี่โชไว้ไม่ให้เดินหนี

“กูไม่ได้เป็นไร” พี่โชตอบปัดรำคาญ

“ไม่เป็นก็ไม่เป็น” ผมปล่อยมือพี่โชแล้วเดินออกไปวอร์มเตรียมซ้อมข้างนอก
 
ผมกำลังวอร์มอยู่ก็เห็นพี่คิวกับพี่โชเดินมาพร้อมกันทั้งสองคนก็เริ่มวอร์มแต่เมื่อวอร์มไปได้สักพักพี่โชก็ล้มฟุบไปกับพื้น

“เฮ้ยไอ้โช” เสียงพี่คิวตะโกนลั่น ทำให้สมาชิกทั้งหมดหยุดการกระทำแล้ววิ่งกรูกันเข้าไปหาพี่โช

“โชเป็นไรวะ” สมาชิกในชนรมพากันรุมถาม

“ไม่รู้เหมือนกันวะเมื่อกี้เห็นมันบอกว่ามึนๆ กูบอกให้มันลาสักวันก็ไม่ยอม”

“ฝืนตัวเอง เดี๋ยวก็ตายห่า” พี่ปันที่มาทีหลังบ่น

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ พี่โชแล้วพูด “พี่ปันงั้นวันนี้ผมลาได้ไหมพี่ เดี๋ยวผมพาพี่โชไปหาหมอแล้วไปส่งที่หอเอง” ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องเป็นคนอาสาที่จะดูแลพี่โช แต่รู้แค่ว่าไม่อยากให้พี่โชอยู่ไกลจากสายตาผมในเวลาที่พี่โชอาการแย่แบบนี้

พี่ปันเลิกคิ้ว “ทำไมไม่ให้ไอ้คิวพาไป มันเป็นเพื่อนกัน”

“ให้พี่คิวซ้อมเถอะพี่ยิ่งเล่นไม่ค่อยดีอยู่”

"อ่าวไอ้นี่" พี่คิวหันมามองด้วยสายตาคาดโทษผม

“เอองั้นก็ได้ แล้วได้เรื่องยังไงมึงโทรมาบอกกูด้วยแล้วกัน” พี่ปันพยักหน้าเห็นด้วยแล้วฝากฝังผม

ผมพยักหน้ารับก่อนหันไปบอกพี่คิวให้ช่วยกันแบกพี่โชไปที่รถ แล้วก็หันไปบอกสมาชิกในชมรถคนนึงให้ไปหยิบของ ของพี่โชที่อยู่ในล็อกเกอร์ออกมาให้

เมื่อจับพี่โชนั่งที่เบาะเรียบร้อยผมก็ปรับเบาะให้นอนลงจากนั้นก็เดินมายังฝั่งคนขับ พี่คิวตามมาพูดกับผม

“กูฝากด้วยนะไอ้อาร์ท ได้เรื่องยังไงอย่าลืมโทรมานะมึง”

“ครับพี่ตังใจซ้อมนะ” ผมยังทำท่าทะเล้นใส่พี่คิว

"เออมึงรีบไปเลย กูเห็นว่ามึงอาสาช่วยดูแลเพื่อนกูนะ ไม่งั้นมึงโดนบาทากูแน่" พี่คิวทำท่ายกขาเป็นการขู่

ผมรีบขึ้นรถมานั่งตรงฝั่งคนขับ จากนั้นก็สตาร์ทรถ ผมยังไม่หายตื่นเต้นเลยครับนี่ก็เพิ่งจะเป็นครั้งที่สองที่ผมจะต้องขับรถออกถนนใหญ่ แล้วพี่โชก็ยังจะมาหลับอีก ใครจะช่วยให้ผมสงบได้ล่ะทีนี้

“ไม่ต้องตื่นเต้นกูอยู่กับมึงตรงนี้” มีเสียงเบาๆ หลุดออกมาจากคนที่นอนอยู่บนเบาะ เมื่อผมหันไปมองก็เห็นพี่โชปรือตามองผมพร้อมกับยิ้มมุมปากให้ผม

ผมยิ้มตอบพี่โช แล้วรู้สึกว่าอุ่นใจจริงๆ ที่พี่มันอยู่ด้วย จึงตอบกลับไป “ครับ พี่นอนเถอะเดี๋ยวถึงโรงพยาลแล้วเดี๋ยวผมปลุก”

พี่โชแค่พยักหน้า แล้วก็ปิดเปลือกตาลง

จากนั้นผมก็เคลื่อนรถออกตรงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเมื่อถึงโรงพยาบาลผมพยายามปลุกพี่โชแต่เหมือนพี่โชจะหลับลึกไป ผมจึงเรียกให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาพาพี่โชไปที่เปลรับผู้ป่วย

“ผู้ป่วยเป็นอะไรมาครับ” เจ้าหน้าที่ถามผม

“คือเขากำลังซ้อมฟุตบอลอยู่แล้วก็วูบไปหน่ะครับ”

“ครับเดี๋ยวญาติเอารถไปจอดด้านนู้น แล้วขึ้นมากรอกประวัติให้ผู้ป่วยแล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมพาผู้ป่วยไปห้องฉุกเฉินก่อน” เจ้าหน้าที่อธิบายให้ผมฟัง

จอดรถเสร็จผมก็รับจ้ำมายังเค้าเตอร์เพื่อกรอกประวัติให้พี่โช โชคดีที่ผมหยิบกระเป๋าของพี่โชมาด้วยในนั้นจึงมีข้อมูลพี่โชครบทุกอย่าง

ผมนั่งรอหมอที่ตรวจอาการพี่โชอย่างใจจดใจจ่ออยู่หน้าห้องฉุกเฉิก

“ญาติคุณโชกุนค่ะ” พยาบาลเดินออกมาเรียกจากห้องฉุกเฉิน

“ครับ” ผมรีบเดินเข้าไปหาพยาบาล

“เข้าไปพบคุณหมอข้างในเลยค่ะ”

ผมเดินตามพยาบาลเข้าในห้องฉุกเฉิน ก็พบพี่โชนอนหลับอยู่แล้วมีคุณหมอยืนอยู่ข้างๆ

“คนไข้เป็นไข้หวัดธรรมดาครับ แต่อาจจะเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอจึงทำให้วูบไปได้” หมอหันมาพูดกับผม

เมื่อหมอพูดแบบนั้นผมก็โล่งใจที่พี่โชไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง จึงถามหมอกลับไป “แล้วแบบนี้เขาต้องนอนโรงพยาบาลไหมครับ”

“ไม่ต้องนอนก็ได้ครับ เดี๋ยวอีกสักพักคนไข้ก็น่าจะตื่นเดี๋ยวหมอสั่งยาแล้วกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้เลย แต่ต้องคอยวัดไข้เช็ดตัวเป็นระยะนะครับ”

“ครับ”

“งั้นญาติไปรอรับยาและชำระเงินด้านนอกได้เลยค่ะ” พยาบาลบอกผม

ผมเดินออกมานั่งรอด้านนอกเพื่อรอรับยา และทำการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อย ระหว่างเดินกลับมาหาพี่โชที่หน้าห้องฉุกเฉินผมก็โทรรายงานอาการพี่โชให้คนในชมรมทราบเรียบร้อย พอเดินมาถึงเห็นพี่โชนั่งรออยู่แล้ว

“เดินไหวไหมพี่”

พี่โชได้แต่พยักหน้า แล้วผมก็เข้าไปประครองให้เดิน พอถึงรถผมก็เปิดประตูให้พี่โชเข้าไปนั่งที่เบาะ แล้วปรับเบาะให้ตั้งขึ้นนิดนึง ผมจึงปิดประตู้แล้วอ้อมมาขึ้นด้านคนขับ

“ไหนตอนอยู่ห้องชมรมพี่บอกผมว่าไม่เป็นไรไง” ผมพูดเสียงแข็ง

“ก็กูไม่ได้เป็นไรนี่หว่า” พี่โชพูดเสียงพร่า

“นี่นะไม่ได้เป็นไร ดีไม่หัวฟาดฟื้นตาย พี่แม่งบ้า” ผมว่าอย่างหัวเสีย

“เป็นห่วงกูหรอ”

ยังมีหน้ามาถามอีกนะถ้าไม่ห่วงจะมานั่งอยู่ตรงนี้หรอวะ

“ห่วงสิวะ” ผมพึมพำไม่ตั้งใจให้อีกคนได้ยิน

“แค่นี้กูก็หายแล้ว” พี่โชพูดขึ้นลอยๆ ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

“ว่าไงนะ?” ผมหันไปถาม

พี่โชส่ายหน้า แล้วพูด “กูอยากกลับห้องแล้ว อยากนอน”

ผมพยักหน้ารับแล้วรีบออกรถทันที ระหว่างทางโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ผมล้วงออกมาจากกระเป๋าก็เห็นชื่อขึ้นที่หน้าจอ

Rrrr

‘เชี่ยกาย’

“มากูถือให้” พี่โชพูดพร้อมกับแบมือรับโทรศัพท์จากผม

พี่โชกดรับแล้วเอามาแนบหูผมไว้

“เออว่าไง”

(มึงซ้อมบอลเสร็จยังวะไปแดกหมูกระทะกัน)

“มึงไปกันเลยกูบายวะ”

(เห้ยได้ไงวะ นี่ไอ้ตาลอุตส่าห์ชวนฟ้าไปด้วยได้นะมึง)

“เออกูบายวะกูมีธุระ”

(เออๆ ตามใจมึงแล้วกัน ถ้าเปลี่ยนใจจะตามพวกกูอยู่กันร้านหลังมอนะโว้ย)

“เออ”

กายวางสายไป แต่ผมก็คิดว่าทำไมคนที่โทรมาชวนผมถึงไม่เป็นน้ำตาล ทำไมผมรู้สึกว่าพักหลังมามันตั้งใจจะหลบหน้าผมหรือผมคิดไปเอง เออจริงๆ ใครชวนก็เหมือนกันนั่นแหละพวกมันก็อยู่ด้วยกันนี่หว่าคงคิดมากไปเอง ผมคิดเพลินจนลืมไปว่ามีคนอยู่ข้างๆ

“เฮ้ยเหม่ออะไรวะ รถจะลงข้างทางอยู่แล้ว” พี่โชพูดขึ้นทำให้สติผมกลับมา

“อ่อเปล่าพี่ พวกไอ้กายชวนไปกินหมูกระทะเฉยๆ”

“งั้นเดี๋ยวมึงส่งกูเสร็จมึงเอารถกูไปก็ได้”

“ได้ไงอ่า พี่ต้องวัดไข้เช็ดตัวทั้งคืนนะ”

“เดี๋ยวกูทำเองก็ได้”

“ไม่...ผมจะอยู่”

พี่โชยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ “งั้นก็ตามใจมึง”

รถจอกสนิทที่ลานจอดรถหอพัก ผมลงจากรถเพื่ออ้อมไปเปิดประตูประคองร่างพี่โชออกจากรถพร้อมกับหยิบกระเป๋าและถุงยาของพี่มันมาด้วยเมื่อถึงหน้าห้องผมก็ไขกุญแจเข้าไป

ผมพาพี่โชตรงไปที่ห้องนอนแล้ววางร่างพี่โชให้นั่งลงบนเตียง

“พี่นอนไปก่อนเดี๋ยวผมไปหาอะไรในครัวให้พี่กินจะได้กินยา” ผมออกคำสั่ง

พี่โชได้แต่มองผมแล้วล้มตัวลงนอนช้าๆ ผมจึงเดินออกมาเปิดตู้ในครัวดูว่าพอจะมีอะไรทำให้พี่โชกินได้บ้าง แล้วผมก็เจอโจ๊กเป็นซองๆ วางอยู่เต็มตู้ ผมเพิ่งรู้ว่าพี่โชชอบกินโจ๊กขนาดนี้

ผมจัดการเสียบกาน้ำร้อนและเทโจ๊กใส่ถ้วย เมื่อน้ำเดือดก็จัดการกดน้ำใส่ในถ้วย จึงหยิบถ้วยเดินเข้ามาในห้องนอนพี่โช

“พี่โชลุกขึ้นมากินโจ๊กก่อน”

“อื้อ” พี่โชตอบรับแบบรำคาญ แต่ก็ไม่ยอมลุขึ้นมาอยู่ดี

ผมวางถ้วยลงที่โต๊ะแล้วจัดการไปดึงพี่โชให้นั่งพิงกับหัวเตียง

“อ่ะ กินซะจะได้กินยา” ผมยื่นถ้วยโจ๊กให้

“ป้อน” พี่โชพูดแค่นั้น แล้วสบตาผม

“ฮ่ะ?”

“ป้อนหน่อย” พี่โชพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ

“มือพี่ก็ไม่ได้เป็นอะไรหนิ” ผมขมวดคิ้ว

“ไม่มีแรงป้อนหน่อยนะ” น้ำเสียงของพี่โชเปลี่ยนไป ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าพี่โชกำลังอ้อนผม

“นี่พี่อ้อนผมเหรอ” ผมเลิกคิ้วและยกยิ้มมุมปาก

“ไม่ป้อนก็ไม่เป็นไร วางไว้ตรงนั้นแหละเดี๋ยวมีแรงกินไหวค่อยกินก็ได้” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

“โอเคๆ ป้อนก็ป้อน” พูดกลั้วหัวเราะ

หลังจากผมรับคำผมก็ตักโจ๊กไปจ่อที่ปากพี่โช พี่โชอ้าปากรับโดยดีจนหมดถ้วย ผมก็จัดแจงเอายาให้พี่โชกินเรียบร้อย ไม่นานนักพี่โชก็หลับสนิทโดยที่ยังไม่ได้เช็ดตัว

ผมเก็บข้าวของไปไว้ในครัวและกลับมายังห้องนอนเพื่อเฝ้าวัดไข้ให้พี่โช ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาผ้ามาชุบน้ำไว้สำหรับเช็ดตัวพี่โช

โทรศัพท์สั่นขึ้นผมควานหาโทรศัพท์ของตัวเองเมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่าไม่ใช่ ปรากฏว่ามันเป็นของพี่โช ผมจึงหยายหน้าจอขึ้นมาดู

Rrrrr

‘ป๊า’

เมื่อผมเห็นเช่นนั้นก็ปล่อยให้โทรศัพท์สั่นไปเพราะผมไม่กล้ารับ แต่แล้วผมก็ต้องทำใจกล้ารับโทรศัพท์เพราะว่าป๊าพี่โชโทรมาไม่ยอมหยุด อาจจะมีธุระสำคัญก็ได้

“สวัสดีครับ” ผมรับด้วยน้ำเสียงเกร็ง

(โชอยู่ไหนลูก)

“เอ่อ...โชไม่สบายครับ ตอนนี้นอนหลับอยู่”

(แล้วนั่นใครเจ้าณัฐเหรอ)

“ไม่ใช่ครับเพื่อนโชที่มหา’ลัย”

(อ่อโชเป็นอะไรมากหรือเปล่าแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง)

“พะ..เอ้ย โชดีขึ้นแล้วครับ หมอบอกให้กลับมาพักผ่อนเดี๋ยวก็จะหายครับ”

(ฮะ ถึงจั้นต้องไปหาหมอเลยเหรอ งั้นถ้าโชตื่นแล้วให้โทรกลับหาป๊าด้วยนะ)

“ครับถ้าโชตื่นเดี๋ยวผมบอกให้โชรีบโทรกลับครับ สวัสดีครับ” ผมรับคำแล้วก็กดวางโทรศัพท์

เวลาผ่านไปสามชั่วโมงแล้วที่พี่โชนอนหลับผมจึงเข้าไปวัดไข้และน้ำผ้าชุบน้ำไปเตรียมเช็ดตัวให้

“พี่โชเช็ดตัวก่อนนะ” ผมเรียกพี่โชพร้อมเอามือไปเขย่าไหล่

“อื้อ” พี่โชสะบัดมือผมออก

ช่วยไม่ได้งั้นผมจับพี่ถอดเสื้อถอดกางเกงเองเลยแล้วกัน ตอนนี้ร่างกายพี่โชเหลือเพียงบ็อกเซอร์ จากนั้นผมก็นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดจากหน้าลงมาที่คอและเรื่อยๆ ลงมายังลำตัว

“หนาว” พี่โชมันไม่พูดเปล่าพี่มันเอาแขนมาเกี่ยวตัวผมลงไปกอด จนหน้าผมแนบกับอกพี่มัน

“พี่โชปล่อย หนาวเดี๋ยวผมห่มผ้าให้” ผมโวยวาย พยามขืนตัวออกจากอ้อมกอดพี่มัน แต่เหมือนจะไม่เป็นผม เพราะพี่มันยิ่งรัดผมแน่นกว่าเดิม

ผมทำใจอยู่นานกว่าจะยอมอยู่นิงๆ เพราะยิ่งดิ้นก็มีแต่เหนื่อย ผมปล่อยตัวเองให้อยู่ในอ้อมกอดของพี่โชแบบนั้นจนผมเองเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองกำลังใช้แขนทั้งสองข้างกอดเอวพี่โชไว้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้สติจึงค่อยๆ ดึงมือออกมาจากเอวพี่โชแล้วลุกขึ้นมานั่งหันหลังให้คนที่ผมคิดว่ายังนอนหลับอยู่ ตอนนี้ใจผมเต้นแรงไม่เป็นจังหวะและใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมา

“ตื่นแล้วหรอ” ฮ่ะเสียงพี่โชถามผม แสดงว่าพี่มันตื่นก่อนผมแบบนี้พี่มันก็ต้องรู้ว่าผมกอดพี่มันกลมหน่ะสิ

‘โอ๊ยยย ไอ้อาร์ทมึงทำอะไรลงไปวะเนี่ย’ ผมคิดในใจ ทั้งที่ตอนนี้หน้าแดงจนไม่กล้าหันหน้าไปมองพี่โช

“ตะ..ตื่นแล้วเหรอ พะ..พี่...ตื่นนานแล้วหรอ” ผมถามอย่างตะกุกตะกักทั้งที่ยังหันหลังให้พี่โชอยู่อย่างนั้น

“อื้ม”

“งั้น....” ผมพูดแค่นั้นก็เงียบไป

“อุ่นดี” พี่โชพูดเสียงเรียบ

ผมหันขวับไปมองหน้าพี่มันแบบอาฆาตอย่างลืมตัว หน้าผมร้อนจนจะระเบิดออกมา

“กูดีขึ้นเพราะมึงนอนกอดกูสินะ” พี่โชยกยิ้มมุมปากและยักคิ้วให้ผม

“เฮ้ย พี่พูดไรวะ พี่นั่นแหละลากผมไปกอด” ผมว่าอย่างหัวเสีย

“หึหึ” พี่โชขำแค่นั้น ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยผมให้นั่งบ่นงึมงำอยู่บนเตียงอย่างนั้น

หลังจากนั้นไม่นานพี่โชก็เดินออกจากห้องน้ำมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พี่มันมีความสุขอะไรนักหนา แต่ต่างจากผมที่ตอนนี้ทั้งกายและใจอยู่ไม่เป็นสุขเลยสักนิด

ผมนึกขึ้นได้ว่าป๊าพี่โชโทรมา จึงเอ่ยออกไป “เออพี่โชตอนที่พี่หลับป๊าพี่โทรมาหลายสาย ผมเลยถือวิสาสะรับไปกลัวว่าจะมีเรื่องด่วน”

พี่โชพยักหน้ารับแล้วหยิบโทรศัพท์เดินออกไปข้างนอกห้องนอน คงจะไปโทรหาป๊าพี่มันนั่นแหละ สักพักพี่โชก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก คงจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เดาว่าอย่างนั้น ผมได้แต่มองอย่างสงสัยแต่ไม่กล้าถามออกไปจึงหันไปสนใจโทรศัพท์ในมือผมแทน

==============
TBC.

Talk.อ่านแล้วรู้สึงยังไงกันบ้าง ... จริงๆ เราก็เขียนไปล่วงหน้าเรื่อยๆ นั่นแหละ แต่ทยอยลง เพราะเราอยากฟังความเห็นคนอ่าน ถ้าไม่ถูกใจตรงไหน หรืออยากได้แบบไหนอยากให้มาคุยกัน ถ้าปรับได้เรายินดีที่จะปรับให้
จริงๆ เราคุยกันได้น๊าาา อย่าทิ้งกันไว้ลำพัง :))) รักคนอ่าน <3
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-05-2017 10:06:56
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 29-05-2017 10:10:06
 :ling3: :ling3: :ling3: คลื่นลมสงบจนน่ากลัวยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 29-05-2017 10:57:04
พี่โชอ้อน ที่ดึงไปนอนกอดหน่ะ ตั้งใจใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 29-05-2017 13:13:50
เขากอดกันแล้ว
 :man1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-05-2017 15:18:38
พี่โชเนียนตลอด
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-05-2017 17:37:40
พี่โชเนียนกอดใช่ไหม ตอบบบบบบบบค่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 29-05-2017 20:08:54
 :mew2: ขออย่าเศร้ามากนะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 29-05-2017 23:53:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-05-2017 01:03:31
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 11 [29/5/17] P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 30-05-2017 01:22:26
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 01-06-2017 08:22:59
ตอนที่ 12

ตู๊ดๆๆ

(ไงมึง)

“มึงทำงาน.....เสร็จยัง”

(เสร็จแล้วอยู่ที่ไอ้กายมึงไปเอาที่มันได้เลย) น้ำตาลตอบผมเสียงเรียบ

“ไอ้ตาลมึงเป็นอะไรหรือเปล่า”

(เป็นอะไร)

“ก็กูถามมึงนี่ไง กูรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่ามึงพยายามหลบหน้ากู” ผมอึดอัดจนต้องถามออกไป

(เปล่ากูแค่เหนื่อยๆ ที่ไปช่วยชมรมมึงอย่าคิดมาก)

“งั้นหรอ มึงไม่ได้โกรธอะไรกูอยู่ใช่ไหม” ผมถามเพื่อให้แน่ใจ

(เออสิ หรือมึงทำอะไรให้กูต้องโกรธ)

ผมชะงักไป “ปะ..เปล่าสักหน่อย”

(งั้นแค่นี้แหละกูจะอ่านหนังสือ)

“เอออ่านแล้วมาติวให้กูด้วย บายเว้ย” ผมกดวางโทรศัพท์

ผมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่น้ำตาลมีกับผม แต่ผมนึกไม่ออกว่ามันเป็นเพราะอะไร หรือผมจะคิดมากไปอย่างที่น้ำตาลบอก ทำไงได้ล่ะครับก็ผมรักเพื่อนคนนี้มากนี่นาจะไม่ให้ผมแคร์มันก็ไม่ได้

วันนี้ผมไม่มีเรียนทั้งวันเพราะอาจารย์ยกเลิกคลาส ผมก็ได้โอกาสนอนให้เต็มที่เพื่อรอเวลาที่จะเข้าชมรมไปซ้อม
 
เมื่อเข้ามาถึงชมรมก็เห็นพี่คิวนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ผมจึงเดินเข้าไปหา

“พี่คิว พี่โชมาหรือยัง”

“มาถึงก็ถามหาไอ้โชเลยนะมึง คิดอะไรกับมันเปล่าเนี่ย” พี่คิวยักคิ้วหลิ่วตาแซวผม

“คิดดิพี่ คิดว่าพี่อ่ะควรไปซ้อมได้แล้ว มัวแต่อู้อยู่ได้” ผมพูดจบก็รีบใส่เกียร์หมาวิ่งหนีพี่คิวที่กำลังจะลุกขึ้นเตะผม

ปึก!

“โอ๊ย!” ผมชนเข้าอย่างจังกับร่างสูง

“มึงจะรีบไปไหนวะ ไม่ดูตาม้าตาเรือ” พี่โชทำหน้าดุใส่ผม

“ขอโทษครับ” ผมพูดเสียงอ่อย

“มึงอย่าไปดุมันเลยไอ้ห่า มึงก็ไม่ได้เจ็บตรงไหนนี่หว่า” พี่คิวที่เพิ่งมาถึงพูด

“นี่มึงก็วิ่งเล่นกับมันเหรอ เล่นอะไรเป็นเด็กๆ” พี่โชทำเสียงหงุดหงิดใส่พี่คิว

“ไอ้โชมึงจะหงุดหงิดอะไรว๊าาา กูก็แค่เล่นกับน้องมัน” พี่คิวพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“ไปซ้อมได้แล้ว” พี่โชหันหน้ามาดุผม

“คร้าบบ” ก่อนจะไปผมก็นึกขึ้นมาได้ จึงหันกลับมาพูดกับพี่โช "เอ้อพี่โช นี่พี่หายดีแล้วใช่ไหม"

"หายตั้งแต่ที่มึงนอนกอดกูแล้ว" พี่โชพูดจบก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

"เฮ้ยเดี๋ยว มึงไปนอนกอดกันตอนไหน?" พี่คิวโหวกเหวกขึ้นมา

"ไม่ใช่พี่คิว....พี่โชพี่แม่งพูดไรวะ คนอื่นเข้าใจผิดหมด" ผมปฏิเสธกับพี่คิว และหันไปโวยวายใส่พี่โช

พี่โชไม่ตอบอะไร ก่อนจะยิ้มมุนปากส่งเสียงขำในลำคอแล้วเดินจากตรงนั้นไป ปล่อยให้พี่คิวมาเค้นเอากับผมจนผมต้องโกหกไปว่าพี่โชแกล้งพูดให้ผมอายเท่านั้นพี่คิวถึงยอมหยุดเค้นผม


ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่ม ซึ่งสมาชิกชมรมก็ต่างพากันแยกย้าย

“ไอ้อาร์ทไปแดกข้าวกะพวกกูไหม” พี่คิวถามผม

“ไปดิพี่ หิวจะตายอยู่แล้ว” ผมตอบตกลงอย่างไม่ต้องคิด

“งั้นมึงไปรถไอ้โชแล้วกัน กูต้องแวะไปหาสาวที่คณะอักษรฯ ก่อน”

“โห่เห็นหญิงดีกว่าน้อง” ผมทำเสียงโห่ แล้วพูดตัดพ้อ

“แหงสิวะ มึงไม่มีนมให้กูมองนี่หว่า ฮ่าๆ”

ผมเดินไปประชันหน้ากับพี่คิวแล้วเปิดเสื้อขึ้น “นี่ไงนม”

“ไอ้เหี้ยอาร์ทกูจะอ้วก” พี่คิวไม่ว่าเปล่ายังใช้มือผลักหน้าอกผมเข้าเต็มแรง

ผมไม่ทันตั้งตัวจึงล้มลงกับพื้นแต่ไม่แรงนัก ผมขำจนหมดแรงกับท่าทีของพี่คิว

“ไอ้โชมึงเอามันไปไกลๆ เลยก่อนที่กูจะเตะมันซ้ำ เจอกันที่ร้านเว้ยมึง” พี่คิวหันไปบอกพี่โช

พี่โชจึงหันมาพยักหน้าให้ผมลุกขึ้น “ไปได้แล้ว มัวแต่เล่นไม่รู้เรื่องหิวไม่ใช่หรือไง”

ผมหยุดหัวเราะแล้วพยักหน้ารับรีบลุกขึ้นยืนเดินตามพี่โชไปที่รถ ผมก็ไม่รู้ว่าพี่โชกับพี่คิวจะไปกินอะไรกัน แต่ที่แน่ๆ ผมหิวจะกินอะไรก็กินเถอะ ท้องผมร้องจนจะเป็นเพลงอยู่แล้ว

รถจอดลงที่หน้าร้านชาบูซึ่งไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมาก ผมเปิดประตูและรีบเดินนำพี่โชเข้าไปในร้าน แต่ตาก็ต้องสะดุดกับโต๊ะตรงทางเข้า

“เฮ้ย! ทำไมพวกมึงมากินกันไม่ชวนกูวะ” ผมโวยวายเสียงดัง เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ

“อ้าวก็มึงซ้อมฟุตบอล พวกกูจะรู้หรอว่ามึงจะเลิกกี่โมง” ไอ้กายรีบแก้ตัว

ผมหันหน้าไปหาน้ำตาลแล้วพูด “ว่าไงไอ้ตาล ไม่คิดจะชวนกูหน่อยเหรอ” ผมทำเสียงทีเล่นทีจริง

“มึงก็ได้มากินแล้วนี่ไง มึงมากับใครล่ะ” น้ำตาลพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ

“เอ่อ...” ผมพูดยังไม่ทันจบ ไอ้พี่โชก็เดินเข้ามาแล้วพูดแทรก “มึงยังไม่ไปหาโต๊ะนั่งอีกเหรอ”

“อ๋อ มากับพี่โชนี่เอง” น้ำตาลพูดแทรกขึ้น พร้อมกับก้มหน้าลงไปกินต่อโดยไม่สนใจผม

“งั้นกูนั่งกับพวกมึงนี่แหละ” ผมบอกไอ้กายแล้วหันไปหาฟ้า “ฟ้าเรานั่งด้วยนะ”

ฟ้ายิ้มหวานก่อนจะตอบ “นั่งสิอาร์ท พี่โชด้วยนะคะนั่งด้วยกัน”

“จะดีเหรอ พี่เกรงใจเดี๋ยวมีเพื่อนพี่มาเพิ่มอีกนะ" ที่อย่างนี้ล่ะตอบเสียงอ่อนเสียงหวาน ทีกับผมล่ะอย่างกับจะกินหัวกัน

“ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ หลายๆ คนสนุกดีออก”

จบคำของฟ้าผมก็เดินไปนั่งลงข้างๆ น้ำตาล ทว่าน้ำตาลกลับไม่สนใจจะหันมามองผม เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินท่าเดียว ผมจึงใช้นิ้วสะกิดสีข้างน้ำตาลแล้วกระซิบถาม

“นี่ๆ ตัวเป็นไรเหรอ ตัวงอนไรเค้าป่ะเนี่ย” ผมทำเสียงเย้าแหย่

น้ำตาลหันหน้ามามองผม แล้วตอบเสียงเรียบ “ทำไมกูงอนต้องมึง”

“นั่นสิ ถ้ามึงไม่ได้งอนกูแล้วทำไมมึงไม่สนใจกูเลยกูเสียใจนะ” ผมแสร้งทำหน้าเศร้า ตาละห้อย

“ก็มีคนสนใจมึงอยู่แล้วหนิ” น้ำตาลพึมพำอยู่ในคอ

“มึงว่าอะไรนะ” ผมได้ยินไม่ชัด จึงถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“เปล่า กูไม่ได้งอนอะไรมึงทั้งนั้นแหละกูแค่เหนื่อยๆ กับงานที่ชมรมมึงไม่ต้องสนใจหรอก แดกๆ ไป” แล้วน้ำตาลก็คีบหมูยัดเข้ามาในปากผม

นั่งกินไปสักครู่ก็มีพี่คิว พี่อัคร พี่ณัฐ มาสมทบตอนแรกผมไม่รู้ว่าจะมากันครบแก๊งขนาดนี้แต่ดีที่พวกน้ำตาลเลือกนั่งโต๊ะใหญ่จึงสามรถนั่งกันได้หมด

“แดกกันอิ่มยังครับ” พี่คิวมาถึงก็ตะโกนโหวกเหวก

จากนั้นทุกคนก็เลือกที่นั่งกัน พี่ณัฐเดินตรงไปนั่งข้างไอ้กายแล้วก็ทักทายกันอย่างสนิทสนม เดี๋ยว! สองคนนี้ไปสนิทกันตอนไหนทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่องแต่ช่างเถอะตอนนี้กินก่อนดีกว่าค่อยเผือกทีหลัง

“มึงไม่มากันพรุ่งนี้เลยล่ะ” พี่โชพูดประชดเพื่อน

“แหมกูก็นึกว่ามึงจะอยากอยู่กับ...” พี่ณัฐยังพูดไม่จบพี่โชก็แทรกขึ้นมา “หิวก็รีบแดกพูดมากไม่อิ่มครับ”

พี่ณัฐหัวเราะจนพี่โชต้องส่งสายตาอาฆาตใส่ พี่ณัฐจึงหยุดขำแล้วลงมือกินอย่างจริงจัง

บรรยากาศในโต๊ะก็เป็นไปด้วยดีครับ มีเสียงเฮฮาจากกลุ่มพี่โชทำให้พวกผมพากันหัวเราะ เมื่อผมได้โอกาสผมจึงตักอาหารใส่จานฟ้า

“ฟ้าอันนี้อร่อยนะ” ผมคีบไปวางไว้ที่จานฟ้า

“ขอบคุณนะอาร์ท” ฟ้ายิ้มแล้วคีบเข้าปาก

ผมชวนฟ้าคุยนู่นคุยนี่ เอาของกินให้ฟ้ากินบ้าง จนผมรู้สึกได้ถึงสายตามอัมหิตของใครสักคนที่จ้องผมอยู่ ผมหันไปมองก็เห็นพี่โชจ้องผมจนแทบจะกินหัวผม

ไอ้พี่โชมึงเอาอีกแล้ว มึงเป็นบ้าอะไรของมึง ผมรีบหันหน้ากลับไปคุยกับฟ้าต่อเพื่อไม่สนใจสายตายของพี่โชมันอีก

“เช็คบิลด้วยครับ” พี่คิวเรียกเช็คบิล

เพื่อนๆ และผมทุกคนรีบควักกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา แต่ก็ต้องเก็บลงไปเมื่อพี่คิวบอกว่ามื้อนี้พี่โชเป็นคนเลี้ยงพวกเราทั้งหมดเอง ทุกคนก็ขอบคุณพี่โชกันยกใหญ่มีแต่ผมนี่แหละที่นั่งเงียบไม่ยอมพูดอะไร

เมื่อเช็คบิลเสร็จทุกคนลุกขึ้นเพื่อออกจากร้าน เมื่อถึงหน้าร้านก็ร่ำลากันกับพวกกลุ่มพี่โช จากนั้นผมจึงพูดขึ้น

“ไอ้กายกูกลับด้วย”

ไอ้กายมองผมสลับกับพี่โช “เอาดิกูต้องไปส่งตาลกับฟ้าอยู่แล้ว”

“พี่โชเปิดรถให้ผมหน่อยจะเอากระเป๋า”

จากนั้นพี่โชก็กดรีโมทเปิดรถให้ ผมรีบหยิบกระเป๋าแล้วก็เดินไปที่รถไอ้กายที่จอดอยู่อีกทาง 

เมื่อขึ้นมานั่งบนรถได้ผมก็เปิดประเด็นขึ้นมา

“ไอ้กายมึงไปสนิทกับพี่ณัฐตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”

กายชะงักไปแต่แค่แวบเดียวเท่านั้น แต่ก็ทันที่ผมจะเห็น

“สนิทอะไรวะ ก็ปกตินี่หว่า”

ผมหรี่ตามองกาย ก่อนพูด “เท่าที่กูเห็นนี่มึงดูสนิทกับพี่ณัฐมากเลยนะ”

“เหมือนที่มึงสนิทกับพี่โชอ่ะนะ” กายย้อนผมกลับมา

กึก!

หน้าชาไปสิครับเจอประโยคสังหาร ผมทำหน้าเจื่อนก่อนจะตอบ

“ไม่เหมือนเว้ย เรื่องของมึงเถอะจะสนิทหรือไม่สนิทกูไม่สนใจละ มึงขับรถไปเถอะ”

ผมก็เปลี่ยนเป้าหมายไปหาน้ำตาล “ไอ้ตาล มึงลงหอกูนะกูมีเรื่องให้มึงช่วย”

“มึงจะให้กูช่วยอะไร”

“ความลับ เออน่าลงหอกูแล้วกัน”

น้ำตาลหันหน้าไปมองฟ้าที่พยักหน้าให้ก่อนจะตอบ “เออ”

เมื่อรถจอดลงหน้าหอผม ผมก็ลาไอ้กายและฝากให้กายไปส่งฟ้าให้ถึงหอ จากนั้นผมก็ฉุดแขนน้ำตาลเดินขึ้นไปบนห้อง พอเข้าห้องได้ผมก็เปิดประเด็นขึ้นทันที

“ไอ้ตาลมึงเป็นอะไร มึงโกรธอะไรกูหรือเปล่า”

“ไอ้อาร์ท มึงเป็นบ้าอะไรกูบอกว่ากูไม่ได้โกรธมึงฟังไม่รู้เรื่องหรือไง” น้ำตาลปฏิเสธ

“ไม่จริงอ่ะ มึงไม่ค่อยอยากเจอหน้ากุ ไม่อยากคุยกับกูเลยนะพักหลังมานี้”

“ก็กูบอกแล้วว่ากูเหนื่อย”

“หรือมึงโกรธเรื่องพี่โช”

“เรื่องพี่โช?” น้ำตาลขมวดคิ้วทำหน้าเป็นคำถาม

“ก็เรื่องที่มึงกับพี่โชยังไม่มีความคืบหน้าเลยไงล่ะ แต่กูพยามยามอยู่นะมึง กูเชียร์มึงตลอด”

“ถ้ากูจะบอกว่าให้มึงเลิกช่วยกูได้แล้วล่ะ” น้ำตาลพูดออกมาอย่างจริงจัง

“ทำไม” ผมทำหน้าสงสัย

“เพราะพี่โชเขาไม่ได้ชอบกู”

“ไม่จริงมึงรู้ได้ยังไง พี่โชเขายังไม่เคยมีเวลาอยู่กับมึงสองคน กูรับรองได้เลยถ้าพี่โชได้ใช้เวลาอยู่กับมึงพี่มันต้องชอบมึงแน่ๆ เชื่อกู”

“ไม่หรอกเขาไม่ได้ชอบกู” น้ำตาลพูด้วยสีหน้าจริงจัง

“งั้นกูขอลองอีกครั้งได้ไหม มึงอย่าเพิ่งถอดใจ ถ้าครั้งนี้ไม่สำเร็จกูจะเคารพการตัดสินใจของมึง”

“มึงจะทำอะไร”

“เออหน่ะ หลังสอบเสร็จมึงเตรียมตัวเดทกะสุภาพบุรุษสุดหล่อของมึงได้เลย” ผมพูดอย่างมั่นใจ

“มึงอย่าบ้าหน่ะอาร์ท กูไม่อยากให้พี่เขาเกลียดกู" น้ำตาลว่าผมเสียงดุ และถามผมต่อ “งั้นกูถามอะไรมึงบ้าง”

“ว่ามาน้อง” ผมไหวไหล่

“มึงยังชอบฟ้าอยู่ไหม”

“อะ...เอ่อกูก็ไม่รู้ว่ะ ยิ่งได้รู้จักกับฟ้ากูก็ว่ากูไม่เหมาะกับฟ้าหรอก กูคิดว่าฟ้าก็มองกูเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งกูรู้สึกได้”

“เออก็ดี เพราะฟ้ามีคนที่ชอบอยู่แล้วกูอยากให้มึงรู้ก่อนที่มึงจะรู้สึกกับฟ้ามากไปกว่านี้”

“ฟ้าบอกมึงเหรอ”

“เออ ว่าแต่มึงไม่เสียใจใช่ไหม” น้ำตาลถามผมด้วยความเป็นห่วง

“ก็ไม่นะ เออวะทำไมกูไม่เสียใจ” ผมทำสีหน้างงๆ เมื่อความรู้สึกตอนนี้ก็ไม่ได้เสียใจสักนิดที่รู้ว่าท้องฟ้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว

“เพราะมึงมีคนอื่นในใจอยู่แล้วไง”

คำพูดของน้ำตาลทำให้ผมนิ่งไป ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันใช่อย่างที่น้ำตาลพูดไหมถ้าใช่แล้วใครล่ะที่อยู่ในใจผม

“เฮ้ย..ไม่มีโว้ย กูอาจจะชอบฟ้าแต่ไม่ต้องการครอบครองก็ได้โว้ยย พระเอกอะรู้จักมะ”

“งั้นหรอ”

เราใช้เวลาคุยกันไม่นานนักเมื่อคุยกันจบผมก็เดินไปส่งน้ำตาลที่หอ พอถึงหน้าหอ ผมกลับต้องแปลกใจกับภาพที่เห็น คือฟ้านั่งอยู่หน้าหอ

“ฟ้ามานั่งทำอะไรมืดๆ” ผมเอ่ยถามออกไป

“อ่อฟ้ามารอตาลหน่ะ"

“หือ มารอตาล” ผมทำหน้างงๆ

“มึงจะงงอะไร กลับๆ ไปได้แล้วป่ะ"

“ไล่กูเลยนะเออๆ กุกลับก็ได้ บาย” พูดกับน้ำตาลจบ ผมหันมาบอกฟ้าพร้อมโบกมือให้ “ฝันดีนะฟ้า บาย”

ฟ้ายิ้มหวานพยักหน้ารับและโบกมือตอบ

********************

ช่วงนี้เป็นเวลาแห่งการแข่งกีฬาของมหาวิทยาลัย กีฬาสามยู ตั้งแต่วันที่ผมลากน้ำตาลมาคุย เราก็แทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเพราะผมต้องซ้อมฟุตบอลอย่างหนัก เพราะผมเป็นตัวแทนนักกีฬาของมหาวิทยาลัยจึงได้สิทธิ์ในการขาดเรียน ทำให้ผมไม่ค่อยได้เจอหน้าเพื่อนสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเจอก็จะได้คุยกันแค่ไม่กี่คำ

ผมก็อึดอัดนะครับแต่คิดไว้แล้วว่าหลังสอบเสร็จผมต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ความสัมพันธ์ของผมกับเพื่อนรักดีขึ้นแน่นอน

วันนี้ผมเข้าเรียนคลาสตอนเช้า แต่คลาสบ่ายผมต้องโดดเพื่อไปเตรียมตัวแข่งนัดชิง

“พวกมึงวันนี้กูแข่งนัดชิงแล้วไปเชียร์กูนะ” ผมอ้อนน้ำตาลกับกาย

“ไม่อะกูร้อน” ไอกายพูดด้วยเสียงกวนๆ

“สัดกาย นี่กุเพื่อนมึงนะ” ผมด่ากายเสร็จก็หันไปอ้อนไอ้ตาลต่อ “นะๆๆ น้ำตาลคนสวยไปเชียร์กูนะ เห้ยไปเชียร์กูก็เหมือนไปเชียร์พี่โชนะ"

“เออไปก็ได้” น้ำตาลตอบรับแบบตัดรำคาญ

“เพื่อนน่ารักที่สุดเลย ห้าโมงเย็นเจอกันที่สนามนะพวกมึง”

ณ.สนามกีฬา

“ไอ้อาร์ทพวกกูอยู่นี่” ไอ้กายตะโกนโหลกเหวกโวยวาย

เมื่อผมหันไปก็เห็นว่าเพื่อนกลุ่มผมนั่งรวมอยู่กับเพื่อนของพี่โช ผมจึงโบกมือเป็นสัญญานว่ารับรู้แล้ว จากนั้นก็หันกลับมาเตรียมตัวลงสนามเพื่อทำการแข่งขัน

ครึ่งแรกผ่านไปทีมคู่แข่งนำทีมมหาวิทยาลัยผมไป 1-0 ทำให้สมาชิกในทีมเริ่มเครียดกันพอสมควร

“พวกมึงไม่ต้องกดดันนะเว้ย เล่นแบบที่ซ้อมจะแพ้หรือชนะช่างมัน” พี่ปันปลอบสมาชิกในทีม

พวกเราทุกคนได้แต่พยักหน้ารับ และพักไม่นานก็ถึงเวลาลงสนามในครึ่งหลัง แต่ทีมเราก็กลับมาชนะในครึ่งหลังทำให้มหาวิทยาลัยเราเป็นแชมป์ในปีนี้

“อาทิตหน้าก็เริ่มสอบแล้วงั้นไว้ฉลองกันหลังสอบเสร็จแล้วกันพวกมึง” พี่ปันบอกสมาชิกในชมรม

“ครับ” ทุกคนรับคำและแยกย้ายกันกลับ

“เบี้ยวกลับหอเลยไหม” พี่โชเดินมาถามผม

“คงหาอะไรกินก่อนอ่ะพี่”

“งั้นไปกินด้วยกัน.......” พี่โชพูดยังไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากด้านหลัง

“เฮ้ย พวกมึงแม่งเจ๋งวะ” พี่อัครเดินมากอดคอพี่โชแต่หันหน้ามาหาผม

“อยู่แล้วพี่” ผมทำพูดโอ่

แล้วพี่ณัฐก็เดินมากอดคอผมพร้อมบอก “ป่ะเดี๋ยวไปหาไรแดกกันกูตกลงกับเพื่อนมึงเรียบร้อยแล้ว”

พี่ณัฐกอดคอผมอยู่อย่างนั้นจนผมเห็นว่ากายมองหน้าพี่ณัฐแล้วทำตาดุๆ ใส่ พี่ณัฐจึงรีบเอามือออกจากคอผม ทำไมพี่ณัฐต้องกลัวไอ้กายด้วยก็ไม่รู้แต่ช่างเหอะอยากรู้ไปเดี๋ยวจะเข้าตัวอีก เวลานี้หิวไปหาของกินดีกว่า

จากนั้นพวกเราทุกคนก็พาตัวเองไปยังร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ  เราสั่งอาหารกันมาเต็มโต๊ะเพราะความหิว เมื่ออิ่มก็แยกย้ายกันกลับโดยมีไอ้กายเป็นคนไปส่งทั้งสามคนเหมือนเคย
 
********************

และแล้วฤดูการสอบก็มาถึง นักศึกษาทุกง่วนกับการอ่านหนังสือ ผมก็เช่นกัน เราสามคนจะรวมตัวกันอยู่กับเพื่อนในเอกที่หอสมุดของมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะได้ช่วยกันติวเรื่องที่ไม่เข้าใจ

“เห้ยพวกมึงวันนี้ไอ้ฟิวส์จะติวโปรแกรมมิ่งให้ พวกมึงอย่าลืมนะ” เพื่อนในเอกคนหนึ่งเดินมาบอกพวกผมที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะ

“ไอ้ฟิวส์ติวให้ที่ไหนวะ” ผมถามออกไป

“มันจองห้องติวไว้ที่ชั้น4 ตอน บ่ายสามโมง เจอกันนะพวกมึง” เพื่อนผมมาบอกเสร็จมันก็ทำการไปบอกเพื่อนโต๊ะอื่นๆ อีก

“แม่งยากชิบผาย” ผมบ่นพึมพำ

“ได้ข่าวว่ามึงอยากเรียนเองนะ” น้ำตาลหันมันค่อนแคะผม

“กูไม่รู้นี่หว่าว่ามันจะยากขนาดนี้”

“เอออ่านๆ ไปเถอะเดี่ยวก็ไม่มีห่าอะไรไปสอบหรอก” เมื่อน้ำตาลพูดจบมันก็หันไปอ่านหนังสือต่อโดยไม่สนใจผม
 
วันรุ่งขึ้นนักศึกษาส่วนใหญ่ วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้าย ทำให้การจารจรในการเข้ามหาวิทยาลัยค่อนข้างติดขัด แต่โชคดีที่ผมมีพี่วินทำให้ผมมาถึงห้องสอบได้ทันเวลา

เมื่อมาถึงหน้าห้องสอบก็เห็นว่าเพื่อนกำลังจะเดินเข้าห้องสอบผมจึงไม่รีรอที่จะวิ่งเข้าไปในห้องสอบเลย เมื่อลงมือทำข้อสอบเวลาผ่านไปสามชั่วโมง ทุกคนก็ทยอยกันออกมาจากห้องสอบ

“มึงทำข้อสามได้ป่ะวะ” ผมถามกายกับน้ำตาล

“ได้แต่ไม่รู้ถูกหรือเปล่า” ไอ้กายตอบผม ผมกับตาลก็ทำได้แค่หัวเราะไปกับคำตอบของมัน

“เอองั้นกูไปชมรมก่อนนะ วันนี้วันสุดท้ายแล้วที่เค้าจะลงชื่อไปออกค่ายอาสา” น้ำตาลพูดขึ้น

“ไม่กูไม่ให้มึงไป คืนนี้มึงต้องไปเดท” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เดทบ้าอะไรของมึง”

“เออน่า วันนี้หกโมงเย็นพี่โชจะไปรับมึงหน้าหอมึงลงมารอได้เลย ตามนี้นะเพื่อน”

“มึงเล่นบ้าไรเนี่ย”

“กูจริงจัง พี่โชเป็นคนตกลงและนัดเวลาเองเลยนะโว้ยยย”

น้ำตาลทำหน้าระอาผม แต่ก็พยักหน้าเป็นการยอมรับในสิ่งที่ผมบอกไป จากนั้นเราก็แยกย้ายกันกลับ



================
TBC.
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-06-2017 09:41:47
ลุ้นกันไป โช อาร์ท น้ำตาล ฟ้า
แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กายณัฐก็ลุ้นไม่แพ้กัน
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-06-2017 10:17:25
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 01-06-2017 10:44:44
3 คู่ ? รอๆๆๆๆ
ชอบเรื่องนี้ เข้าส่องวันละหลายรอบว่ามาต่อรึยัง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: peettato ที่ 02-06-2017 04:35:19
เข้ามาอ่านรวดเดียวเยย สนุกมากคับรออ่านตอนต่อปายยยย :katai5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 02-06-2017 08:27:24
 o13
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 02-06-2017 09:04:29
ไม่รู้จะรู้สึกนกเหมือนตาล หรือเบื่อในความบื้อของอาร์ทดี เห้อมม เป็นเรางี้แต่งกันไปแล้ว!
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 02-06-2017 10:59:00
บวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: tarotman ที่ 03-06-2017 20:35:46
 o22 o22 o22

แผนการอะไรกัน......

เหมือน โช กำลังจะถูก รังแก...

ฟ้า อย่ายอมให้ น้ำตาล ไป...
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 12 [1/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-06-2017 23:56:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 06-06-2017 20:51:59
ตอนที่ 13



<ChoTime>



เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนผมรู้สึกว่าตัวเองป่วยบวกกับที่ผมต้องปั่นงานส่งอาจารย์จนแทบไม่ได้นอน ไหนยังต้องมาซ้อมฟุตบอลอีกทำให้ผมวูปไป ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือสนามฟุตบอลจนมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเบาะฝั่งคนนั่งของรถ และมีอาร์ทนั่งอยู่ฝั่งคนขับ

 

และดูคนขับรถของผมยังเก้ๆ กังๆ ทำท่าทางตื่นเต้นไม่มั่นใจ ผมจึงส่งเสียงออกไปเบาๆ “ไม่ต้องตื่นเต้นกูอยู่กับมึงตรงนี้” ก่อนจะปรือตาขึ้นมองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยและยิ้มให้เบาๆ

 

แล้วคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็ยิ้มตอบผมกลับมาแล้วบอกให้ผมนอน เท่านั้นผมก็หลับตาลงมารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล

 

เมื่อผมพอจะมีแรงลุกหมอจึงบอกให้ผมออกไปรอคนที่มาด้วยกันกับผมที่หน้าห้อง เนื่องด้วยตอนนี้คนที่มาด้วยกันกับผมกำลังไปจ่ายเงินและรับยาให้ผม ไม่นานนักเจ้าตัวก็เดินกลับมาและพาผมกลับมายังห้องพักของผม

 

อาร์ทยืนยันจะอยู่ดูแลผมทั้งที่เพื่อนของเขาโทรมาชวนไปไหนสักอย่าง เขาก็ปฏิเสธเพื่อที่จะอยู่ดูแลผม งั้นก็ได้ทีของผมแล้วสินะ

 

อาร์ททำโจ๊กมาให้ผมก็อ้อนให้ป้อนเพราะอ้างว่าแขนไม่มีแรงแล้วก็สำเร็จอาร์ทยอมป้อนผมจนหมด จึงหยิบน้ำหยิบยามาให้ผมกินต่อ ผมกินยาไปสักพักก็รู้สึกได้ว่าตัวเองง่วงจึงเผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรเย็นๆ มาโดนที่หน้า ค่อยๆ ลงมาที่คอ แล้วก็กำลังจะลงไปที่ลำตัว ผมจึงหรี่ตามองโดยที่อีกคนไม่ทันเห็น ผมก็พบว่าอาร์ทกำลังเช็ดตัวให้ผม

 

ผมก็คิดอะไรขึ้นมาได้ จึงแกล้งใช้ทั้งสองมือเกี่ยวคนที่กำลังเช็ดตัวให้อยู่ลงมากอดแล้วพูดออกไปว่าหนาว ตอนแรกก็กะแค่จะแกล้งเล่นแต่พออีกคนเลิกดิ้นหนีจนยอมอยู่นิ่งๆ จึงรู้สึกว่ามันก็อุ่นดีเลยนอนกอดไว้อย่างนั้นจนเผลอหลับไปอีกรอบ

 

ตื่นมาก็พบว่าเราสองคนนอนกอดกันกลม ใช่ผมตื่นก่อนคนข้างๆ แต่ก็คิดจะแกล้งเขาต่อจึงแกล้งปล่อยมือออกจากเขาและทำเป็นหลับตาเหมือนว่ายังหลับอยู่ให้เขาตื่นขึ้นมาแล้วคิดว่าตัวเองตื่นก่อน เป็นไปอย่างที่คิดครับเขาตื่นมาคงเห็นว่าตัวเองกำลังกอดผมอยู่จึงรีบดึงมือออกจากร่างกายผมแล้วไปลุกขึ้นไปนั่งหันหลังให้ผม

 

เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ยิ่งอยากจะแกล้งต่อ จึ่งเอ่ยทักเขาไป “ตื่นแล้วหรอ”

 

“ตะ..ตื่นแล้วเหรอ พะ..พี่...ตื่นนานแล้วหรอ” อาร์ทตอบกลับมาอย่างตะกุกตะกักอย่างไม่ยอมหันมามองผม เห็นแบบนั้นผมยิ่งชอบใจ

 

“อื้ม” ผมตอบกลับเสียงเรียบ

 

“งั้น....” อีกคนพูดขึ้นแค่นั้นแล้วก็เงียบไป

 

“อุ่นดี” ผมแกล้งพูดให้อีกคนรู้สึก จนเขาขวับมามองหน้าผมอย่างอาฆาต และผมก็พูดต่อ “กูดีขึ้นเพราะมึงนอนกอดกูสินะ” พูดจบผมก็ยกยิ้มมุมปากและยักคิ้วให้อีกฝ่าย

 

“เฮ้ย พี่พูดไรวะ พี่นั่นแหละลากผมไปกอด” เขาโวยวายอย่างหัวเสีย

 

“หึหึ” ผมขำแค่นั้นแล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำอย่างอารมณ์ดีปล่อยให้อีกคนนั่งบ่นงึมงำอยู่บนเตียงอย่างนั้น

 

จนผมออกจากห้องน้ำมาอาร์ทจึงบอกผมว่าป๊าโทรมา ผมพยักหน้าเป็นสัญลักษณ์ว่ารับรู้แล้วหยิบโทรศัพท์เดินออกไปโทรหาป๊าข้างนอก

ตู๊ดๆ

 

(เป็นไงไอ้เสือหายแล้วเหรอ)

 

"ดีขึ้นแล้วป๊า"

 

(เมื่อวานป๊าโทรหาเรา ใครรับสาย)

 

"อ๋อ เพื่อนที่มหา'ลัยนี่แหละ ว่าแต่ป๊าโทรมามีอะไรครับ"

 

(มีสิ ป๊าอยากให้เราไปทานข้าวที่บ้านลุงนทีวันเสาร์นี้)

 

"เสาร์นี้หรอผมไม่ว่างหรอกป๊า ใกล้จะแข่งฟุตบอลแล้วแถมยังใกล้สอบอีกด้วย" ผมรีบปฏิเสธเพราะคิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมแน่ๆ ที่ต้องไปบ้านลุงนที

 

(สักสามสี่ชั่วโมงไม่ได้เลยรึไอ้เสือ)

 

"ไม่ได้จริงๆ ป๊า"

 

(วะ ไอ้ลูกชายทำไมมันดื้ออย่างงี้) ป๊าส่งเสียงอย่างขัดใจ

 

"โถ่ป๊ารอปิดเทอมก่อนไม่ได้เหรอ" ผมพยายามเลื่อนเวลาออกไปเพื่อจะหาทางเลี่ยงไปเรื่อยๆ

 

(ผลัดแบบนี้ตลอด แล้วเมื่อไหร่เราจะได้สนิทใกล้ชิดกับหนูออยเขาสักที)

 

"นี่ป๊าจะจับคู่ผมกับออยหรอ" ผมว่าแล้วว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมแน่ๆ ผมรู้จักกับออยมาตั้งแต่เด็กแต่ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมาก ผมคิดกับออยแค่เพื่อนที่รุ่นเดียวกันเท่านั้น ออยก็คงคิดกับผมแบบนั้นเช่นกัน

 

(ก็ไม่ใช่แบบนั้น ป๊าก็อยากให้สนิทสนมกันไว้ ได้คอยช่วยเหลือดูแลกัน)

 

"ป๊าผมไม่ได้ชอบออย ออยก็ไม่ได้ชอบผม ป๊าอย่าพยายามเลย"

 

(เรารู้ได้ยังไงว่าหนูออยไม่ชอบเรา หนูออยยังถามหาเราทุกครั้งที่เจอป๊า บอกอยากเจอเรา)

 

"แต่ผมไม่อยากเจอนี่ป๊า"

 

(หรือว่าเรามีแฟนแล้ว)

 

"ถ้าผมมีแฟนป๊าจะเลิกจับคู่ให้ผมหรือเปล่าล่ะ"

 

(ถ้ามีจริงก็พามาเจอป๊าสิถ้าผ่านป๊าก็จะไม่ยุ่งกับเราอีก แล้วก็อย่าคิดไปจ้างหรือไปวานใครมาแกล้งเป็นแฟนด้วยถ้าป๊าจับได้ เราอาจจะไม่ได้แค่ไปทานข้าวกับหนูออย ป๊าจะไปขอหมั้นหนูออยให้เราซะเลย)

 

"โห่ป๊า"

 

(ตามนี้นะไอ้เสือ งั้นป๊ายืดเวลาให้เป็นปิดเทอมแล้วกันเรื่องที่จะไปทานข้าวที่บ้านหนูออยหน่ะ หรือถ้าไม่อยากไปทานที่บ้านก็ไปรับหนูไปทานที่ร้าน เข้าใจนะลูกชาย)

 

"ครับ" ผมตอบป๊ากลับไปด้วยเสียงห้วนๆ แล้วกดตัดสายทันที

 

ผมเดินกลับเข้าไปในห้องแบบไม่สบอารมณ์นัก ทั้งที่เมื่อกี้ยังอารมณ์ดีอยู่แท้ๆ อาการป่วยก็ดูจะดีขึ้นไวจนเห็นได้ชัด แต่เพราะป๊าคนเดียวเลยทำให้ผมหงุดหงิดและอยากจะป่วยๆ ตายไปเลย

 

 

**********************

 

ช่วงนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูของการสอบ นอกเหนือจากเวลาเรียนแล้วผมจึงขังตัวเองไว้ในห้องเพื่อที่จะอ่านหนังสือและปั่นงานส่งให้ทันก่อนสอบ คณะที่ผมเรียนส่วนใหญ่ต้องทำงานออกมาเป็นชิ้นเป็นอันจึงต้องให้เวลากับมันมากเป็นพิเศษ

 

ผมนอนสิงอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีเพื่ออ่านหนังสือ มันสบายเมื่อผมอยากหลับตอนไหนก็หลับได้เลย ขณะที่ผมกำลังเคลิ้มๆ จะหลับนั้น ก็ได้ยินเสียงเตือนจากโทรศัพท์

 

Rrrrr

'เบี้ยว'



“ไง”



(อยู่ไหนพี่)



“ทำไม”



(ผมอยากคุยด้วย)



“กูอยู่ห้อง”



(ผมไปหาได้ไหม)



"จะมาก็มา"



(ครับอีกสิบนาทีเจอกัน)



ไม่นานจากที่อาร์ทวางสายไปผมก็ได้ยินเสียงเคาะประตู



ก๊อกๆ



“ไม่ได้ล็อค” ผมตะโกนตะโกนออกไป



ผมได้ยินเสียงเปิดประตู และก็เห็นร่างที่เล็กกว่าผมเล็กน้อยเดินมาหยุดตรงหน้าผม



“ทำไมพี่ไม่ล็อคห้อง”



“ก็มึงบอกจะมา กูขี้เกียจลุกหลายรอบ”



“อ่อ แล้วพี่มีสอบกี่ตัว วันไหนบ้างแล้วสอบเสร็จวันสุดท้ายวันไหน”



ผมเลิกคิ้วก่อนจะแกล้งพูดไป “มึงจะอยากรู้ไปทำไม จะชวนกูไปเดทหรือไง”



“ใช่ พี่รู้ได้ไงวะว่าผมจะชวนพี่ไปเดท” อาร์ทตอบมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง



ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากถลึงตา อ้าปากค้าง อึ้งกับคำตอบรับหน้าตาเฉยของอาร์ท



“ฮ่าๆ พี่ไม่ต้องตกใจขนาดนั้นก็ได้ ผมจะชวนพี่ไปเดทกับไอ้ตาลน่ะไม่ใช่กับผม”



“ฮ่ะ?” ผมยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่กับประโยคที่ตามมา



“ใช่พี่ ผมอยากให้พี่ลองใช้เวลาอยู่กับมันดูแล้วพี่จะรู้ว่าไอ้ตาลมันน่ารักแค่ไหน”



“กูเคยบอกมึงแล้วว่ากูไม่ชอบให้ใครมาบังคับกูเรื่องนี้”



“ผมไม่ได้บังคับพี่นะ นี่ผมมาขอร้อง นะพี่ แค่ครั้งเดียวถ้าพี่ไม่โอเคกับมันผมจะไม่วุ่นวายกับพี่เรื่องนี้อีกเลย”



“มึงจะไม่วุ่นวายกับกูแค่เรื่องน้ำตาล?”



“ใช่ พี่ก็น่าจะดูออกว่าที่ผมมาวุ่นวายกับพี่เพราะอะไร”



“เพราะน้ำตาลสินะ” ผมพูดออกมาเบาๆ ซึ่งในใจก็ผิดหวังเล็กน้อยที่มันเข้าหาผมเพราะคนอื่น



“นั่นแหละพี่ ผมขอร้องนะๆ พี่ลองไปเดทกับมันสักครั้งนะ” อาร์ทพูดพร้อมเขย่าแขนผม



“เออถ้ามึงต้องการแบบนั้นกูก็จะไป” ผมตอบรับออกไปด้วยการประชดประชัน



“เย้ ถึงพี่จะไม่เต็มใจแต่ผมก็ดีใจนะ ที่พี่ให้โอกาสเพื่อนผม”



“งั้นเป็นหลังสอบเสร็จแล้วกัน กูสอบวันสุดท้ายเสร็จสี่โมงเย็น แล้วหกโมงกูจะไปรับตาลที่หอ”



“พี่โชน่ารักที่สุดเลย”



ไม่รู้ว่าอาร์ทดีใจแล้วลืมตัวหรืออะไร อยู่ๆ ก็กระโดดเข้ามากอดผมแน่น



“อือ” ผมตอบรับนิ่งๆ



เมื่ออาร์ทนึกได้ก็รีบผละออกจากตัวผม “ขอโทษพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจ”



ผมมองอาร์ทนิ่งๆ จนอาร์ททำอะไรไม่ถูกจึงขอตัวกลับ ส่วนผมก็นั่งคิดนอนคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้ยัง จนนึกถึงเพื่อนสนิทขึ้นมา ผมจึงพรวดพราดลุกขึ้นแต่งตัวเพื่อไปหาไอ้ณัฐ

 

 

ผมขับรถเข้ามายังคอนโดของไอ้ณัฐ เมื่อจอดรถเสร็จผมก็รีบขึ้นไปยังห้องมัน ผมมาบ่อยจนทั้งยามและนิติบุคลที่นี่จำผมได้เลยไม่ใช่ปัญหาที่จะขึ้นไปโดยง่าย



เมื่อผมออกจากลิฟท์ก็ตรงดิ่งไปที่ห้องไอ้ณัฐกำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตู แต่ไม่ทันได้เคาะประตูก็เปิดออก เมื่อเห็นคนที่เปิดประตูออกมาก็ทำให้ผมตกใจ



“เฮ้ย!” ผมตกใจกับสิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า



กายชะงัก และเอ่ยทักผมอย่างตะกุกตะกัก “อะ..เอ่อ พี่โช สะ..สวัสดีครับ” ก่อนยกมือขึ้นไหว้



“หมูมีไรเหรอ?” เสียงไอ้ณัฐลอยออกมาจากข้างในห้อง



“พะ..พี่โชมาหาหน่ะหมี..เอ้ยพี่ณัฐ” กายหันไปตะโกนบอกไอ้ณัฐ



“ฮ่ะ” สิ้นเสียงตกใจของไอ้ณัฐ เจ้าตัวก็วิ่งทะเล่อทะล่าออกมาด้วยสภาพที่นุ่งผ้าขนหนูติดตัวเพียงผืนเดียว



ผมเลิกคิ้วมองดูสภาพของเพื่อผมกับผู้ชายอีกคนตรงหน้า ก่อนจะพูดออกไปอย่างกวนๆ “ไงเพื่อน กูไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้มึงเลี้ยงหมูไว้ที่ห้องด้วย”



“ไม่ใช่พี่โช ผมกำลังจะกลับแล้วแค่แวะมาคุยธุระเรื่องรถกับพี่ณัฐน่ะพี่” กายพูดจบก็โค้งหัวให้ผมพร้อมรีบก้าวฉับๆ ไปยังลิฟท์



“ไว้เจอกันนะหมู...” ผมตะโกนแซวกายที่ไม่ยอมแม้แต่จะหันหลังกลับมา แต่ก็ทันเห็นกายสะดุ้งเมื่อได้ยินผมตะโกนแบบนั้นออกไป



“มะ..มึงจะมาทำไมไม่โทรมาบอกกูก่อนว่ะ” ไอ้ณัฐทำหน้าไม่ถูก



ผมไหวไหล่ก่อนที่จะพูด “อ้าวปกติกูมาหามึงก็ไม่เห็นต้องโทรบอกนี่หว่า แล้วมึงอะไรเนี่ยดูสภาพ เพิ่งอาบน้ำให้หมูเสร็จหรอ”



“หมูพ่องดิ สัดโช” ไอ้ณัฐมองผมแค้นๆ “แล้วมึงมาหากูมีไร”



ผมเปลี่ยนท่าทีจากที่แกล้งหยอกไอ้ณัฐเป็นท่าทีที่จริงจังขึ้นมา “กูมีเรื่องจะปรึกษาวะ”



“เออเข้ามาคุยในห้อง”



ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินตามมันเข้าไปในห้อง และหยุดลงตรงโซฟาที่ห้องรักแขก เราทั้งสองนั่งลงพร้อมกัน



"จะปรึกษาอะไรกู"



"มึงจะคุยกับกูสภาพนี้จริงๆ ดิ่" ผมพูดจบก็ส่งสายตามองมั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า



"ไอ้สัดโช เอ้อมึงรอกูแปปนึงกุไปใส่เสื้อผ้าก่อน" ไอ้ณัฐว่าอย่างหงุดหงิด



ไม่นานไอ้ณัฐก็เดินออกจากห้องนอนมาด้วยสภาพที่สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เดินมานั่งลงที่โซฟาเดียวกันกับผม



"ว่าไงมีเรื่องอะไรจะปรึกษากู"



"เรื่อง........." ผมก็พูดไม่ออกซะอย่างนั้น



"เรื่อง?" ไอ้ณัฐมองหน้าผมเป็นคำถาม



“กูสับสน” ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง



“สับสน?”



“เออ”



“สับสนเรื่องอะไรวะ”



“มันหลายเรื่องไปหมดวะ”



“ไหนมึงลองเล่ามาให้กูฟังดิ”



“แม่งกูไม่รู้จะเริ่มยังไงนี่หว่า”



“มึงก็เล่ามาทีละเรื่องดิวะ”



“คืองี้ป๊ากูแม่งจะจับคู่กูให้ลูกสาวเพื่อน โทรมาบอกให้กูไปกินข้าวบ้านเขา”



“ก็ดีดิวะ ว่าแต่สวยเปล่าวะ”



“ดีกับผีมึงสิ สวยก็สวยอยู่หรอกแต่กูไม่ชอบนี่หว่า แต่ป๊ายื่นข้อเสนอให้กูว่าถ้ากูมีแฟนป๊าก็จะเลิกยุ่งกับกูเรื่องนี้อีก”



“งั้นแสดงว่ามึงจะหาแฟน เอ๊ะ! หรือว่ามึงมีใครในใจอยู่แล้ว”



“นี่แหละที่กูสับสน กูไม่รู้ว่าความรู้สึกที่กูเป็นมันคืออะไร”



“แล้วกูจะรู้ไหมวะ”



“คืองี้ กะ...กูรู้สึกแปลกๆ เวลากูอยู่กับไอ้อาร์ทวะ”



“แปลกยังไง”



“ก็รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่กับมัน ใจเต้นแรงเวลาที่เข้าใกล้กับมันมากๆ หงุดหงิดเวลาเห็นมันทำตัวสนิทกับคนอื่น เชี่ย”



“มึงชอบมัน” ไอ้ณัฐโพร่งออกมา



“เฮ้ย...แต่กูไม่ได้ชอบผู้ชาย”



“ก็ใช่มึงไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่มึงชอบไอ้อาร์ท”



“ยังไง กูไม่เข้าใจ ไอ้อาร์ทมันก็เป็นผู้ชาย” ผมทำหน้าฉงน



“ก็ถ้ามึงตัดเรื่องเพศออกไป มึงก็จะรู้ว่าความรักความชอบมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศเว้ย มันขึ้นอยู่กับคนและความรู้สึกที่มึงมีกับคนๆ นั้น แล้วเท่าที่กูสังเกตมึงมานะกูพอมองออกว่ามึงชอบไอ้อาร์ท”



“อึ้ม!! มึงดูเข้าใจดีเนอะ อย่างกับเป็นเรื่องของตัวเอง” ผมทำท่าเข้าใจพร้อมกับกวนตีนมันกลับไป



“สัด” ณัฐด่าผมก่อนจะส่งสายตาค้อนขวับใส่ผม



“ไอ้อาร์ทมันนัดกูไปเดท” ผมพูดลอยๆ ขึ้นมา



"มึงว่าอะไรนะ" ณัฐเอียงคอถามผม



"ไอ้อาร์ทมันนัดกูไปเดท" ผมพูดซ้ำอีกครั้ง



“อ่าวก็ดีแล้วนี่มึงจะได้รู้ว่าความรู้สึกที่มึงมีกับมันเป็นยังไง”



“แต่มันนัดให้กุไปเดทกับน้ำตาล”



“เห้ย นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรวะ” ไอ้ณัฐทำท่าตกใจก่อนจะสบถออกมา



“ใช่ไง ไอ้อาร์ทมันมาบอกกูว่าที่มันเข้ามาวุ่นวายกับกูเพราะน้ำตาล”



“’งั้นแปลว่าน้ำตาลชอบมึง”



“คงงั้น” ผมตอบแบบไม่ใส่ใจอะไร



“มึงรับนัดไปหรือเปล่า”



“รับ” ผมรอบรับเสียงเรียบ



“ไอ้เชี่ย แล้วมึงไปรับนัดทำไม” ไอ้ณัฐโวยวายขึ้นมา



“ก็กูโมโหที่มันพยายามยัดเยียดกูให้คนอื่นนี่หว่า กูเลยประชดรับคำไป” ผมพูดจบก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา



“โอ้ยย ไอ้เหี้ยโช แล้วมันจะรู้กับมึงไหมว่ามึงประชดมัน”



“กูไม่รู้” ผมตอบออกไปจากความรู้สึก ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น



“แล้วทีนี้มึงจะเอายังไงต่อ”



“กูไม่รู้”



“สัดมึงพูดเป็นอยู่คำเดียวหรอวะ งั้นหรือมึงจะลองเปิดใจให้น้ำตาลดู จะได้มีข้ออ้างบอกพ่อมึงว่ามึงมีคนที่กำลังคุยด้วยอยู่แล้วพ่อมึงจะได้เลิกจับคู่ให้มึงสักที”



“แต่กูไม่ได้ชอบน้ำตาลนี่หว่า”



“ก็กูบอกให้ลองเปิดใจไง ไอ้ห่า”



“แล้วไอ้อาร์ทละ”



“ก็มึงเองยังสับสนอยู่เลยไม่ใช่หรือไงว่ามึงชอบหรือไม่ได้ชอบมัน”



“มันก็ใช่ แต่....”



“มึงจะแต่อะไรวะ กูว่านะมึงกลับไปคิดทบทวนตัวมึงเองก่อนดีกว่าว่ามึงรู้สึกยังไงกับไอ้อาร์ทมันกันแน่ เพราะถ้ามึงตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้วมันย้อนกลับมาแก้ไขไม่ได้นะมึง แต่ถ้าถามกูนะกูก็ยังยืนยันคำเดิมว่ามึงชอบมัน”



“เห้อออ.....กูต้องทำยังไงวะเนี่ย” ผมถอนหายใจก่อนเอามือทึ้งหัวตัวเอง



“ถ้ามึงชอบมัน มึงก็ทำให้มันถูกต้อง มึงต้องบอกน้ำตาลไปตามตรงอย่างน้อยมึงก็จะได้ตัดเรื่องน้ำตาลไปไอ้อาร์ทมันจะได้ไม่ต้องคิดว่ามึงเป็นของเพื่อนมัน แต่ถ้ามึงคิดทบทวนแล้วว่ามึงแค่หวั่นไหว ไม่ได้รู้สึกกับมัน มึงก็ลองเปิดใจให้น้ำตาลดูก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร”



“ถ้าเกิดว่ากูชอบไอ้อาร์ทมันจริง แล้วมันจะชอบกูหรอวะ” ผมคิดไม่ออกว่าอาร์ทจะชอบผมได้ยังไง เพราะเราสองคนก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน



“นั่นมันเป็นเรื่องที่มึงต้องคิดต่อจากที่มึงรู้ความรู้สึกของตัวเองแล้วเว้ย ไม่ใช่ตอนนี้”



“แม่งงง ทำไมมันยากจังวะ”



“มึงนัดเดทวันไหน”



“สอบวันสุดท้ายเสร็จ”



“งั้นมึงยังมีเวลาคิดทบทวนอีกเป็นอาทิตย์ก่อนที่มึงจะตัดสินใจ”



“ทำไมชีวิตกูมันยากจังวะ”



“เอาน่า มึงคิดดีๆ แล้วกัน ทุกอย่างมันอยู่ที่มึงเลือก” ไอ้ณัฐเอื้อมมือมาตบบ่าผมเป็นการให้กำลังใจ



“เออ” ผมตอบรับไอ้ณัฐก่อนจะนึกขึ้นมาได้ “ว่าแต่เมื่อกี้มึงอาบน้ำหมูไปกี่น้ำวะ” พูดจบผมก็ยักคิ้วให้ไอณัฐ



"เหี้ยโชมึงกลับไปได้แล้วป่ะ กูรำคาญมึงแล้ว" ไอ้ณัฐก่นด่าผมก่อนที่หน้าจะเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมา



"รีบไล่กูเลยนะ พอจะเป็นเรื่องตัวเองเนี่ย อ่าๆ เออกูไปแล้ว ขอบใจมึงวะเพื่อน"



"ไม่เป็นไรเว้ย..อ่อ แต่วันหลังถ้ามึงจะคุยแค่นี้มึงโทรมาก็ได้นะสัด ไม่ต้องถ่อมาถึงห้องกูหรอก"



"ที่ไม่อยากให้กูมานี่เพราะเรื่องของกูมันแค่นี้ หรือกลัวว่ากูจะมาเห็นมึงกกใครไว้กันแน่ ฮ่าๆ"



"สัด รีบไปเลยก่อนกูจะถีบมึงออกจากห้องกู" ไอ้ณัฐไม่ว่าเปล่า ยกเท้าขึ้นมาทำท่าจะถีบผม



"โอเคๆ กูไปแล้ว" ผมพูดพร้อมกับยกมือยอมแพ้แล้วเดินออกจากห้อง



ยังไม่ทันพ้นประตูห้องไอ้ณัฐก็ตะโกน "โชคดีเว้ย"



ไอ้ณัฐยกมือขึ้นโบกให้ก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้องมัน ผมจึงยกมือขึ้นโบกตอบรับมันไปเป็นอันว่ารู้กัน



******************



วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของผมเมื่อผมสอบเสร็จผมก็ต้องทำตามคำพูดที่รับปากไว้กับอาร์ท ผมออกจากห้องสอบมาก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆ เรื่องข้อสอบ และเรื่องจะไปฉลองกันหลังจากสอบเสร็จและก่อนที่จะปิดเทอมหนึ่งเดือน



Rrrrrr



“ไง”



(พี่โชไม่ลืมที่นัดกับผมไว้ใช่ไหมพี่)



“เออ”



(งั้นหกโมงพี่ไปรับไอ้ตาลที่หน้าหอมันเลยนะพี่)



“เออ เอาเบอร์น้องน้ำตาลมาเผื่อกูไปถึงแล้วไม่เจอ”



(ครับ เดี๋ยวผมส่งไปให้ในแชท ขอบคุณนะครับ)



“ขอบคุณกูทำไม”



(ขอบคุณที่พี่ยอมทำตามที่ผมขอร้อง)



“แค่นี้นะ”





 

เวลาหกโมงเย็น ผมขับรถไปจอดที่หน้าหอของน้ำตาล ผมก็เห็นน้ำตาลยืนรออยู่แล้ว



"สวัสดีค่ะพี่โช"



"หวัดดีตาล"



"ไอ้อาร์ทมันบังคับพี่หรือเปล่า"



"ไม่หรอกพี่เต็มใจ พี่ก็อยากคุยกับเราอยู่พอดี เดี๋ยวไปคุยกันต่อที่ร้านอาหารแล้วกันเนอะ"



"ค่ะพี่"



เมื่อถึงร้านอาหารเราสองคนคุยกันหลายเรื่อง จริงๆ แล้วน้ำตาลเป็นคนน่ารัก คุยเก่ง คุยสนุก อยู่ด้วยแล้วมีความสุขจริงๆ เรากินข้าวกันไปคุยกันไปจนผมมองนาฬิกาตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มเกือบจะสี่ทุ่มผมจึงชวนน้ำตาลกลับ



ผมพาน้ำตาลกลับมาส่งที่หอพัก



"ขอบคุณมากนะคะพี่โช วันนี้ตาลรู้สึกดีมากเลย"



"ไม่เป็นไรพี่ก็มีรู้สึกดีเหมือนกัน" ผมตอบพร้อมยกยิ้มให้น้ำตาล



"ตาลไปแล้วนะไว้เจอกันค่ะพี่โช"



"ฝันดีนะตาล" ผมพูดจบก็ยกมือขึ้นโบกให้น้ำตาล



"เช่นกันค่ะ" น้ำตาลพูดพรางโบกมือตอบผม

 

ก่อนออกรถผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นหน้าเฟสบุ๊คของเพื่อนผมได้โพสรูปใครคนนึงพร้อมกับแท็กชื่อเจ้าตัว ผมจึงกดเข้าไปดูรูปเห็นแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้

 

'Chokun Eiei : เมาเหมือนหมาจริงๆ ด้วย'

 

ผมกดส่งความคิดเห็นเสร็จผมก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วรีบออกรถไปยังร้านด้วยความเป็นห่วงคนที่ผมเพิ่งจะเปิดดูรูปเมื่อสักครู่

================
TBC.

Talk.อ่านกันแล้วเป็นยังไงกันบ้าง เม้าให้ฟังบ้างน๊าา อย่าทิ้งเค้าน๊าา
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-06-2017 22:29:45
 :เฮ้อ:

สับสนเนาะ อึนๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-06-2017 13:32:24
อ้างถึง
เมื่อถึงร้านอาหารเราสองคนคุยกันหลายเรื่อง จริงๆ แล้วน้ำตาลเป็นคนน่ารัก คุยเก่ง คุยสนุก อยู่ด้วยแล้วมีความสุขจริงๆ เรากินข้าวกันไปคุยกันไปจนผมมองนาฬิกาตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มเกือบจะสี่ทุ่มผมจึงชวนน้ำตาลกลับ
คือไรอ่ะโช ที่ว่าอยู่กับน้ำตาลแล้วมีความสุขจริงๆ
แถมอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 6 โมงยัน 3 ทุ่ม
แล้วไหนว่ามีเรื่ีองจะคุยกับน้ำตาล
แบบนี้มีสิทธิ์สานต่ออ่ะดิ เลือกแล้ว ย้อนไม่ได้นะโช
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 07-06-2017 13:58:14
อ้างถึง
เมื่อถึงร้านอาหารเราสองคนคุยกันหลายเรื่อง จริงๆ แล้วน้ำตาลเป็นคนน่ารัก คุยเก่ง คุยสนุก อยู่ด้วยแล้วมีความสุขจริงๆ เรากินข้าวกันไปคุยกันไปจนผมมองนาฬิกาตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มเกือบจะสี่ทุ่มผมจึงชวนน้ำตาลกลับ
คือไรอ่ะโช ที่ว่าอยู่กับน้ำตาลแล้วมีความสุขจริงๆ
แถมอยู่ด้วยกันตั้งแต่ 6 โมงยัน 3 ทุ่ม
แล้วไหนว่ามีเรื่ีองจะคุยกับน้ำตาล
แบบนี้มีสิทธิ์สานต่ออ่ะดิ เลือกแล้ว ย้อนไม่ได้นะโช

เราขออุ๊ปส์ไว้ก่อนนะว่าโชคุยอะไรกับน้ำตาล แต่บอกได้แค่ว่าความสัมพันธ์ของโชกับน้ำตาลดีขึ้น แต่ไปในทางไหน รออ่านของเค้าต่อน๊า
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 07-06-2017 15:35:55
 :o12: เราต้องรออออต่อปายย ทำไมชีวิตคนอ่านมันอยู่ยากขนาดนี้โฮ โฮ โฮ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 07-06-2017 16:50:05
อะเพิ่งรู้ ว่ากายเป็นหมู เอ้ยชื่อหมู ณัฐเป็นพี่หมี ดูเหมาะสมกันจริง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 07-06-2017 17:20:57
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก
อยากรู้จริงว่าพี่โชคุยไรกับน้ำตาล

แล้วอาร์ทนี่เมาใช่ไหม  หึหึ
เมาเพราะอย่างที่เราคิดหรือเปล่า 555+
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 07-06-2017 20:07:59
มาตีออีกครับน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-06-2017 21:30:18
ใคร เมาเหมือนหมา  :katai1: :katai1: :katai1:
อาร์ท ใช่มั้ย

ก็ว่าพี่โช คงบอกความรู้สึกที่มีต่ออาร์ทให้น้ำตาลรู้แล้ว

ฟ้า คงชอบน้ำตาลแน่เลย

ส่วนกาย กับพี่ณัฐ ก็ตั้งแต่เจอที่โชว์รูมรถ
ดูพี่ณัฐ เหมือนๆ ชอบกายแล้ว
ตอนเแข่งบอลชนะพี่ณัฐกอดอาร์ทกายก็มองดุๆ
นั่นเพราะกายคบกับพี่ณัฐแล้วล่ะสิ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-06-2017 22:05:11
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 08-06-2017 00:14:13
อ่านรวดเดียวเลย สนุกมาก
อยากรู้จริงว่าพี่โชคุยไรกับน้ำตาล

แล้วอาร์ทนี่เมาใช่ไหม  หึหึ
เมาเพราะอย่างที่เราคิดหรือเปล่า 555+

อยากรู้ต้องอย่าทิ้งกันน๊าาาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 08-06-2017 00:16:45
ใคร เมาเหมือนหมา  :katai1: :katai1: :katai1:
อาร์ท ใช่มั้ย

ก็ว่าพี่โช คงบอกความรู้สึกที่มีต่ออาร์ทให้น้ำตาลรู้แล้ว

ฟ้า คงชอบน้ำตาลแน่เลย

ส่วนกาย กับพี่ณัฐ ก็ตั้งแต่เจอที่โชว์รูมรถ
ดูพี่ณัฐ เหมือนๆ ชอบกายแล้ว
ตอนเแข่งบอลชนะพี่ณัฐกอดอาร์ทกายก็มองดุๆ
นั่นเพราะกายคบกับพี่ณัฐแล้วล่ะสิ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ต้องตามหาคำไปด้วยกันน๊าาา 
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 13 [6/6/17] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-06-2017 00:29:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 09-06-2017 09:04:52
ตอนที่ 14

เมื่อถึงเวลาสอบเสร็จผมก็ออกมานั่งคุยนั่งเล่นกันเพราะวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายซึ่งผมสอบแค่ช่วงเช้าเสร็จผมก็เป็นไทแล้ว ผมจะได้หยุดพักผ่อนหนึ่งเดือนเต็มๆ

 

“ไอ้อาร์ทคืนนี้แดกเหล้ากัน” ไอ้กายเดินมากอดคอผม

 

“มึงกะกูสองคนเนี่ยนะ” ผมเลิกคิ้วมองกายอย่างสงสัย

 

“ห่าดิ ไปแดกกับพวกพี่ณัฐ”

 

“พี่ณัฐชวนมึง?” ผมถามอย่างสงสัย

 

“เออเขาก็ชวนทุกคนนั่นแหละ”

 

“กูไปด้วย” ไอ้ตาลพูดแทกขึ้นมา

 

“มึงไปไม่ได้ มึงต้องไปเดทกับพี่โช” ผมรีบเบรกน้ำตาล

 

“เห้ยจริงสิพี่ณัฐบอกกูว่าคืนนี้พี่โชไม่ไปเพราะมีเดท ที่แท้ก็เดทกับมึงนี่เอง” ไอ้กายพูดเสียงล้อเลียน

 

“เพื่อนจะมีผัวก็คืนนี้แหละโว้ย” ผมแซวน้ำตาล แต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกยินดีด้วยเลยสักนิด นี่ผมเลวไปหรือเปล่า ผมควรจะยินดีสิที่เพื่อนจะสมหวัง

 

“ไอ้เชี่ยอาร์ทปากหมา” น้ำตาลรีบด่าผมทันควันก่อนจะเอื้อมมือมาตบที่หัวผมอย่างไม่แรงนัก

 

“โอ้ย กูเจ็บนะสัด” ผมทำสำออยเอามือลูบตรงที่น้ำตาลตบ

 

“พวกมึงแยกย้ายดีกว่า ไอ้กายหนึ่งทุ่มมารับกูที่หอด้วย” ผมบอกไอ้กายจบแล้วหันไปหาน้ำตาล “ไอ้ตาลหกโมงเย็นมึงลงมารอพี่โชหน้าหอได้เลยเดี๋ยวกูโทรคอนเฟิร์มตอนพี่โชสอบเสร็จอีกที ตามนี้นะ”

 

“เอ้อ” ทั้งน้ำตาลและกาย กระแทกเสียงตอบพร้อมกัน

 

พวกเราแยกย้ายกันกลับ ผมและน้ำตาลเดินไปเรียกวินมอเตอร์ไซค์ส่วนกายมันต้องเข้าไปชมรมของมันก่อน

 

เมื่อผมดูนาฬิกาแล้วพบว่าเป็นเวลาที่พี่โชน่าจะออกจากห้องสอบผมจึงตัดสินใจโทรไปกำชับพี่โชให้แน่ใจ

 

ตู๊ดๆๆ

 

(ไง)

 

"พี่โชไม่ลืมที่นัดกับผมไว้ใช่ไหมพี่"

 

(อืม)

 

"งั้นหกโมงพี่ไปรับไอ้ตาลที่หน้าหอมันเลยนะพี่"

 

(เอาเบอร์น้องน้ำตาลมาเผื่อกูไปถึงแล้วไม่เจอ)

 

"ครับ เดี๋ยวผมส่งไปให้ในแชท ขอบคุณนะครับ"

 

(ขอบคุณกูทำไม)

 

"ขอบคุณที่พี่ยอมทำตามที่ผมขอร้อง"

 

(แค่นี้นะ)

 

ผมวางสายพร้อมกับความรู้สึกโหวงในใจ ทำไมผมต้องเศร้าทั้งที่จะทำให้เพื่อนสมหวังด้วย ผมรู้สึกอะไรกันแน่ ทำไมลึกๆ แล้วผมไม่อยากให้ทั้งคู่ตอบรับที่จะไปเดทกันด้วยซ้ำ นี่ผมคิดแบบนี้กับเพื่อนผมได้ยังไง

 

ผมยังนั่งจมอยู่กับความคิด นี่ผมชอบไอ้ตาลเหรอ ผมคิดพิจารณาแล้วก็พบว่าไม่ใช่ ไม่มีทางที่ผมจะชอบไอ้ตาลถ้าจะชอบคงชอบไปนานแล้ว หรือว่าผมชอบพี่โช แต่ผมไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าผมจะชอบผู้ชายแล้วยิ่งเป็นผู้ชายที่เพื่อนสนิทผมชอบนี่ผมควรจะทำยังไง ตอนนี้ผมสับสนไปหมด

 

เวลานี้ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้วพี่โชกับน้ำตาลคงกำลังกินข้าวด้วยกันมีความสุขกันอยู่ ผมควรจะดีใจกับเพื่อนสิ แต่ไม่เลย ผมยิ้มไม่ออกสักนิด ผมรู้สึกเจ็บที่หัวใจแบบบอกไม่ถูก นี่ผมเป็นอะไร

 

Rrrrrr

 

“โหล"

 

(ไอ้อาร์ทมึงจะลงมาได้ยังมึงนัดกูทุ่มนึงกูก็มาตรงเวลานะเนี่ย) ไอ้กายใส่ผมมาชุดใหญ่

 

“เอออ” ผมตอบรับแล้วกดสายทิ้ง

 

วางสายแล้วจึงรีบปิดไฟล็อคห้องวิ่งลงไปหน้าหอ ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อรถที่จอดอยู่ไม่ใช่รถไอ้กาย ผมยืนมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นรถไอ้กาย จนกระจกฝั่งคนขับลดลงจึงได้เห็นว่าคนขับเป็นกาย

 

“มึงจะขึ้นรถได้ยัง” ไอ้กายตะโกนใส่ผม

 

“นี่ไม่ใช่รถมึงนี่หว่า” ผมตอบกลับไปอย่างงงๆ

 

“เออรถพี่ณัฐ มึงขึ้นมาเถอะน่า”

 

เมื่อขึ้นรถมาได้ผมก็ยิงคำถาม “ทำไมมึงขับรถพี่ณัฐมาแล้วทำไมถึงมาด้วยกัน ทำไม.....”

 

“มึงจะทำไมอีกนานไหม”

 

“นั่นแหละทำไมมาด้วยกันละ”

 

“กูกะจะเมา เลยไม่อยากเอารถไป”

 

“แล้วพี่ณัฐจะไม่เมางี้” ผมเอียคอถามอย่างจับผิด

 

“เรื่องของกูเหอะน่านั่งเงียบๆ ไปมึงอ่ะ” กายสั่งผมเพื่อตัดรำคาญ

 

“เอ้อ” ผมกระแทกเสียงตอบ

 

เมื่อกายออกรถผมก็ได้แต่เงียบ และนั่งหน้าหงอย ผมไม่รู้อารมณ์ตัวเองตอนนี้ จะว่าอกหักมันก็ไม่ใช่ เพราะผมไม่ได้มีแฟนแต่รู้ว่าผมไม่มีความสุขเอาซะเลย ตอนนี้ผมอยากเมาให้ลืมทุกอย่าง

 

สักพักรถก็เคลื่อนไปจอดยังลานจอดรถของร้าน ผมก็ยังเอาแต่นั่งนิ่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกายต้องเรียกทัก

 

“ถึงร้านแล้วเชิญลงครับคุณอาร์ท” ไอ้กายหันมาเรียกผม

 

ผมตกใจนิดหน่อย ก่อนตั้งสติเปิดประตูลงจากรถและเดินตามพี่ณัฐกับไอ้กายเข้าไปในร้าน ที่โต๊ะมีพี่คิวกับพี่อัครนั่งรออยู่แล้ว

 

“ไอ้อาร์ทวันนี้เป็นไรวะหงอยแดกเชียวมึง”

 

“ป่ะ..เปล่าพี่”

 

“เปล่าห่าไร หน้านี่หงอยอย่างกับลูกหมาถูกทิ้ง”

 

“ผมคงเครียดๆ เรื่องสอบอ่าพี่ กลัวไม่ผ่าน” ผมอ้างไปส่งๆ

 

“อะไรวะ ไหนตอนออกจากห้องสอบบอกทำได้เกือบหมดไง” ไอ้กายทำหน้าสงสัย

 

“เฮ้ย แล้วพวกมึงจะไปเค้นเอาอะไรจากมันนักหนาวะ นั่งๆ แดกดีกว่า”พี่ณัฐรีบพูดตัดบท

 

พี่ณัฐเป็นฮีโร่ของผมจริงๆ

 

เมื่อผมนั่งได้พี่คิวก็รีบชงเหล้าแล้วส่งแก้วให้ผม เหมือนกลัวว่าผมจะตามพวกพี่เขาไม่ทัน ถึงได้ชงเข้มซะขนาดนี้ แต่ผมเองก็กระดกเอา กระดกเอา จนพี่อัครต้องทักขึ้น

 

“ไอ้อาร์ทมึงหิวน้ำหรอวะ”

 

“ผมคอแห้งว่ะพี่” ผมตอบอย่างขำๆ พี่อัครจึงหัวเราะให้ผม

 

“ค่อยๆ แดกครับเพื่อนเปลืองเหล้าครับ” ไอ้กายหันมาแซะผม

 

“แหมไอ้กาย สั่งเพิ่มก็ได้มั้ง” ผมพูดพร้อมมองค้อนไอ้เพื่อนกวนตีนของผม

 

ครืด!!

 

โทรศัพท์ในกระเป๋าผมสั่นเป็นสัญญานเตือนของแอพอะไรซักอย่างผมจึงล้วงกระเป๋าขึ้นมาดู

 

Nutt Bear ได้แท็กคุณในโพส

 

ผมเงยหน้ามองพี่ณัฐ แล้วถามออกไป “พี่แท็กอะไรผม”

 

“ก็เปิดดูสิวะ”

 

ผมเลื่อนปลดล็อคโทรศัพท์

 

Nutt Bear กำลังดื่ม นม กับ Art Patavee – ที่ ร้านเล่าหวาน

มันไหวไหมให้ทาย ทำหน้าอย่างกับลูกหมาโดนเจ้าของทิ้ง....ใครเป็นเจ้าของมารับกลับด้วยครับ #โหดสัด #แดกเพียว

*รูปภาพ

 

Art Patavee : เฮ้ยพี่ผมไม่ใช่หมา ไม่ได้มีเจ้าของด้วย

Nutt Bear : Art Patavee อ่าวหรอวะ กูเข้าใจผิดหรอเนี่ย 555555

Lyn naja : อ๊ายยยยย พี่ณัฐ เค้าคือใคร น่องอยากดั้ยยยยยย

Nutt Bear : Lyn naja มันมีผัวแล้วครับน้อง

Lyn naja : อารายอ๊าาาาา ทำไมผู้ชายกินกันเองแบบเน้ น่องเศร้าาาาา

Art Patavee : อย่าไปเชื่อพี่ณัฐคร๊าบบ ผมโสด

Chokun Eiei : เมาเหมือนหมาจริงๆ ด้วย



เมื่อคอมเม้นท์ล่าสุดเด้งขึ้นมา เห็นชื่อคนที่เม้นท์แล้วก็ไม่อยากไปตอบโพสนั้นอีกเลย ผมเก็บโทรศัพท์แล้วหันมากระดกเหล้าแบบไม่คิดอีกรอบ ตอนนี้ผมอยากเมาไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น

 

ตอนนี้สติที่เหลืออยู่น้อยนิดทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมองบรรยากาศตรงหน้าอย่างพร่ามัว ผมกลับเห็นพี่โชนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม นี่ผมคิดถึงพี่มันจนตาฝาดขนาดนี้เลยงั้นหรอ มองใครก็เป็นพี่มันไปหมดแบบนี้หรอ ผมรีบก้มหน้าลงเพราะไม่อยากมองใครทั้งนั้น ตอนนี้ดนตรีในร้านเป็นวงดนตรีที่เล่นสดเมื่อเพลงขึ้นผมจึงตั้งใจหันฟัง

เป็นบททดสอบของเบื้องบน ให้ค้นหาหัวใจ

ส่งมาให้ตัวฉันข้ามไป

อยากจะลองใจฉันหรือเปล่า

จะได้รู้ว่ารัก ลึกแค่ไหน

ให้เห็นเงา สะท้อนหัวใจ

เก็บเธอไว้แค่ฝัน ได้ไหม

เพราะหัวใจฉันก็เสียดาย

 

 

ผมจึงลองหันหน้ากลับมามองฝั่งตรงข้ามอีกครั้งก็ยังเห็นใบหน้านั้นเป็นใบหน้าของพี่โชเหมือนเดิม ซึ่งพี่โชกำลังมองมาที่ผมอย่างไม่กระพิบตา เราสองคนสบตากัน

 

รักไม่ได้ บอกกับตัวเอง หัวใจตัวเอง

ต้องห้ามตัวเอง บอกมันอย่าหวั่นไหว

รักเขาไม่ได้ เขาดียังไง

ชอบเขาเท่าไหร่ก็ต้องหยุดไว้เอง
*เพลง รักไม่ได้ Groove Riders

 

ผมเบือนหน้าหนีก่อนน้ำตาที่ซึมๆ อยู่จะหยดออกมา ผมกลัวว่าใครจะเห็นจึงรีบใช้มือขึ้นมาปาดเช็ดจนแห้ง

 

ผมคว้าแก้วขึ้นมากระดกอีกครั้ง และแล้วก็มีมือปริศนามาแย่งแก้วไปจากมือ ผมฮึดฮัดขึ้นมาจึงรีบหันขวับไปมองอย่างเอาเรื่อง แต่ก็พบว่าคนที่แย่งแก้วจากมือแล้วเข้ามายืนประชิดตัวผมคือพี่โช นี่มันพี่โชจริงๆ ผมไม่ได้ตาฝาดพี่โชมาอยู่ข้างผมจริงๆ งั้นหรือว่าพี่โชปฏิเสธน้ำตาลไปแล้ว

 

คิดได้เท่านี้ผมก็รู้สึกหัวใจพองโตขึ้นมา ผมจึงคว้าเอวพี่โชเข้ามากอดและสัมผัสได้ว่าพี่โชยกมือขึ้นลูบหัวของผมอย่างแผ่วเบา ผมจำได้เท่านั้น จากนั้นภาพก็ดับไป เมื่อรู้สึกตัวอีกที ผมก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงและตอนนี้ผมหิวน้ำมาก

 

“ขอน้ำ หิวน้ำ” ผมพูดเสียงแหบพร่า และทำท่าจะลุกขึ้น

 

“นอนเฉยๆ เดี๋ยวไปหยิบมาให้” ผมมองไม่ชัดว่าใครที่พูดกับผม

 

“หื้อ...หิวน้ำ” ผมงัวเงียทำท่าจะลุกขึ้นนั่ง

 

“นอนไปเดี๋ยวเอาน้ำมาให้” เสียงนั้นเข้มขึ้นกว่าเดิม

 

ผมฟังแล้วนอนลงตอนนี้ผมมึนไปหมด ทั้งปวดหัว ทั้งหิวน้ำ

 

“ลุกขึ้นมานั่งกินดีๆ”

 

ผมได้ยินเสียงนั้นผมก็ลุกขึ้นตามคำสั่ง พยายามลืมตาอย่างยากเย็นและถามออกไป “ใครว๊าาาา”

 

“กูเอง”

 

“ใครว๊าา..กูเองหนาย” ผมพูดยืดยานเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

 

“จะใครก็ช่างเถอะ รีบกินซะเดี๋ยวกูจะได้เช็ดตัวให้”

 

ผมพยักหน้าแล้วรับแก้วน้ำมากระดกอึกๆ เข้าไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นผมจึงยื่นแก้วคืนไปก่อนจะไถตัวลงให้ราบกับที่นอน

 

 “เดี๋ยวเช็ดตัวให้รอแปปนึง”

 

“อื้อ” ผมได้ยินเสียงนั้นจึงตอบไปแบบปัดรำคาญ เพราะตอนนี้ผมง่วงนอนมาก

 

“อยู่เฉยๆ จะเช็ดตัวให้”

 

ผมได้ยินเสียงใครสักคนดุผม เพราะผมนอนดิ้นไปดิ้นมาก็มันรู้สึกไม่สบายตัวนี่นา ผมรู้สึกว่าผมกำลังโดนปลดกระดุมเสื้อจึง เอื้อมมือไปจับแขนนั้นไว้แล้วดึงมือมาคลอเคลียร์กับหน้า

 

“เบี้ยวอยู่เฉยๆ”

 

"อื้อ" ผมไม่สนใจเสียงและยังเอามือนั้นมาถูกับหน้าของผมอยู่อย่างนั้น มือนั้นทำให้ผมรู้สึกอุ่น

 

“ถ้ามึงยังไม่อยู่เฉยๆ เดี๋ยวมึงได้โดนดีแน่ กูเตือนมึงแล้วนะ” มือนั้นพยามจะรั้งออกจากมือผม

 

“อื้อ ...ม่ายอาววว อยากกอด มันอู่นนนนนนน”

 

"เบี้ยวมึงจะทำกูทนไม่ไหวแล้วนะ" เสียงเบาๆ หลุดออกมาจากอีกคนหนึ่ง

 

ผมได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่ จึงเอื้อมมือปัดป่ายไปทั่วแล้วก็สัมผัสได้กับอะไรสักอย่าง ผมจึงลูบๆ คลำๆ จนมั่นใจว่าคือหน้าของอีกฝ่ายจึงใช้สองมือลากใบหน้านั้นลงมาใกล้กับใบหน้าผม เพื่อจะดูให้ชัดว่าเป็นใบหน้าของใคร จนรู้สึกได้ถึงความอุ่นของลมหายใจอีกฝ่าย

 

"พี่โชเหรออออ" ผมลากเสียงยาว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมา ผมจึงใช้มือทั้งสองที่จับใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่บังคับให้ใบหน้านั้นลงมาแนบชิดกับใบหน้าผมจนริมฝีปากประกบกันพอดี

 

เมื่อริมฝีปากของทั้งสองประกบกันโชกุนเลือกที่จะประกบปากไว้แค่นั้น ไม่นานนักอาร์ทก็ใช้ลิ้นรุกไล้กับริมฝีปากของโชกุนเพื่อต้องการให้โชกุนเปิดริมฝีปากรับลิ้นของเขา ในทีแรกโชกุนเม้มริมฝีปากไว้แน่นเพราะโชกุนรู้ดีว่าตอนนี้อาร์ทกำลังเมาเขาไม่อยากฉวยโอกาสตอนที่อาร์ทกำลังเมา แต่อาร์ทก็ไม่ละความพยายามที่จะส่งลิ้นมาไล้กับริมผีปากของโชกุนตอนนั้นทำให้อารมณ์ของโชกุนก็พุ่งพล่านขึ้นมา โชกุนจึงเผยอปากออกเล็กน้อยเพื่อเปิดรับลิ้นเย็นของอาร์ทเข้ามาในโพรงปาก

 

อารมณ์ของทั้งคู่ตอนนี้พุ่งพล่านไม่ต่างกันเขาทั้งสองต่างส่งลิ้นเข้าไปสำรวจในโพรงปากของอีกฝ่ายโดยไม่มีใครยอมใคร ทั้งคู่ดูดดื่มกันอย่างเอร็ดอร่อย มือของโชกุนปัดป่ายไปตามร่างกายของอาร์ท

 

"อื๊อออออ...." อาร์ทส่งเสียงครางออกมา

 

โชกุนใช้มือหนึ่งประครองหน้าของอาร์ทไว้และใช้อีกมือที่ว่างจัดการดึงเสื้อออกจากร่างกายของอาร์ทและขยับมือลงมาที่กางเกงของอาร์ทเพื่อปลดกระดุมจากนั้นโชกุนจึงผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของอีกฝ่ายเพื่อมาดึงกางเกงและบ็อคเซอร์ออกจากร่างกายอาร์ท เมื่อสำเร็จโชกุนก็หันมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออกจากร่างกายทั้งหมดโดยใช้เวลาไม่นาน

 

ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า โชกุนก้มหน้าลงเข้าไปใกล้กับใบหน้าของอาร์ทอีกครั้งและกดจูบลงที่ขมับและขยับไล้มาเรื่อยๆ จนทั่วใบหน้า แล้วมาหยุดตรงริมฝีปาก ทั้งคู่ใช้ลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงปากของกันและกันอีกครั้งโชกุนเลื่อนมือลงต่ำไปวนๆ อยู่แถวหน้าท้องของอาร์ทในขณะที่อาร์ทก็ใช้ทั้งสองมือขึ้นมาเกี่ยวรอบคอของโชกุนไว้

 

"อื้ม!" โชกุนครางออกมา

 

 ตอนนี้ร่างกายของอาร์ทสะท้านกับสัมผัสจากโชกุนจนบิดเบี้ยวไม่เป็นท่า โชกุนไล้ลิ้นจากริมฝีปากลงมาถึงลำคอก่อนจะดูดจนเกิดรอยแดง เมื่อสีแดงขึ้นจนพอใจ โชกุนไล้ลิ้นลงมาเรื่อยๆ จนถึงตุ่มไตสีชมพูกลางอก

 

"อ๊าาา..สะ..เสียววว" อาร์ทครางออกมาไม่เป็นภาษา

 

โชกุนตวัดลิ้นวนๆ อยู่ที่ตุ่มไตสีชมพู และใช้มือคลึงตุ่มไตสีชมพูอีกข้างเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของอาร์ท

 

อารมณ์ของอาร์ทตอนนี้กำลังซาบซ่านจนโชกุนผละออกจากตุ่มไตสีชมพูแล้วเคลื่อนใบหน้าลงมายังกึ่งกลางลำตัวของอาร์ท ทำให้โชกุนเห็นตัวตนของอาร์ทกำลังพองตัวขึ้นมา

 

โชกุนค่อยๆ เอื้อมมือเข้าไปจับตัวตนของอีกคนไว้แล้วเริ่มทำการขยับขึ้นลงช้าๆ ทำให้อาร์ทเกร็งร่างกายจนบิดเบี้ยว

 

"อ๊ะ...อ๊ะ..อื้มม" อาร์ทครางออกมาพร้อมกับร่ายกายที่บิดเบี้ยว

 

จากนั้นโชกุนค่อยก้มลงไปใช้ปากงับตัวตนของอีกคนไว้ เท่านั้นอาร์ทก็เอื้อมมือทั้งสองข้างมาจับหัวของโชกุนก่อนจะขยับขึ้นลงเป็นจังหวะพร้อมๆ กัน

 

"อ๊ะ..อ๊ะ...กะ...ใกล้....ละ..แล้ว....อ๊าาา" อาร์ทครางไม่เป็นภาษา

 

ไม่นานนักร่างกายของอาร์ทก็กระตุกเกร็งพร้อมกับพ่นน้ำข้นๆ ออกมาจากตัวตนของเขาจนเปอะเปื้อนเต็มปากของโชกุน

 

"อ๊าาา" อาร์ทส่งเสียงครางขณะที่ร่างกายยังกระตุกเกร็งอยู่

 

 

"มึงเสร็จแล้วถึงคราวที่มึงต้องช่วยกูบ้างแล้ว" โชกุนเช็ดปากแล้วขยับใบหน้าเข้าไปกระซิบข้างๆ ใบหูของอาร์ท

 

"อื้ออ" อาร์ทส่งเสียงออกจากลำคอ

 

โชกุนค่อยๆ เคลื่อนตัวลงไปนั่งระหว่างขาสองข้างของอาร์ทที่โชกุนจัดการจับแยกออกจากกัน จากนั้นโชกุนก็เอานิ้วไปป้ายน้ำข้นๆ ของอาร์ทที่เพิ่งปลดปล่อยออกมาเมื่อครู่แล้วนำมาวนๆ ครึงๆ ทางช่องทางด้านหลังของอาร์ทก่อนจะใช้นิ้วชี้ค่อยๆ สอดเข้าไปภายในช่องทางนั้น

 

"โอ้ยย.. เจ็บ...เอาออก" อาร์ทโวยวายเสียงดังพร้อมกับดิ้นตัวหนี

 

ทันทีที่โชกุนจับอาร์ทให้อยู่นิ่งได้ ก็ทำการประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของอาร์ทเพื่อดึงความสนใจจากความเจ็บของช่องทางด้านหลัง เมื่ออาร์ทเริ่มสงบลงโชกุนจึงค่อยๆ ขยับนิ้วเข้าออกอยู่อย่างนั้นจนอาร์ทเริ่มจะชินกับนิ้วของเขา จึงเพิ่มเป็นสองนิ้วค่อยๆ ดันเข้าไปภายในช่องทางนั้น และค่อยๆ ดันเข้าออกอย่างช้าๆ

 

โชกุนถอนนิ้วออก ก่อนจะผละริมฝีปากออกจากริมฝีปากของอาร์ทไปกระซิบข้างหู "ไม่ต้องกลัว.... ถ้าเจ็บก็กัดกูหรือจะจิกจะข่วนกูก็ได้ เชื่อใจกูนะ"

 

อาร์ทพยักหน้าแทนคำตอบ

 

โชกุนจับขาทั้งสองข้างของอาร์ทแยกออกจากกันแล้วใช้หมอนรองช่วงสะโพกของอาร์ทไว้ ก่อนจะใช้มือคลึงช่องทางด้านหลังของอาร์ทอีกครั้ง ไม่นานนักโชกุนก็นำตัวตนของเขาที่กำลังขยายจนแข็งเข้าไปสัมผัสกับปากทางเข้าเพื่อทำความคุ้นชินกับช่องทางด้านหลังของอาร์ทก่อนจะค่อยๆ ดันตัวตนของเขาไปข้างในอย่างช้าๆ

 

"เจ็บบ ไม่เอา..เอาออก เอาออกไป" อาร์ทร้องโวยวายพร้อมกับพยายามดิ้นหนี

 

โชกุนจับอาร์ทไว้แน่นเพื่อให้อยู่นิ่งๆ ก่อนจะกระซิบเบาๆ ทีข้างหู "กัดไหล่กู มึงเจ็บแค่ไหนมึงระบายกับกูได้เลย"

 

อาร์ทหันหน้าหนีใบหน้าของโชกุนจากความอายก่อนจะใช้เล็บจิกที่ไหล่ของโชกุนเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาเจ็บแค่ไหน จนตอนนี้ตัวตนของโชกุนเข้าไปในช่องทางด้านหลังของอาร์ทจนสุด โชกุนค้างตัวตนของเขาไว้อย่างนั้นเพื่อให้ช่องทางด้านหลังของอาร์ทได้คุ้นชินก่อนจะเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆ ทำให้อาร์ทเจ็บจนต้องกัดเข้ากับไหล่ของโชกุนเพื่อระบายความเจ็บ โชกุนขยับตัวตนของเขาเข้าออกจนอาร์ทเริ่มชินกับตัวตนของเขา ช่องทางด้านหลังของอาร์ทตอดรัดตัวตนของโชกุนแน่น จากนั้นโชกุนจึงค่อยๆ ขยับเข้าออกเป็นจังหวะ

 

"อ๊ะ..สะ..เสียว.ผะ..ผม เสียว" อาร์ทครางไม่เป็นภาษา

 

"อื้มมม!" โชกุนครางออกมา

 

"แรง อะ..อีก อึ้ม" อาร์ทกระตุ้นอารมณ์โชกุนด้วยคำพูดที่เชิญชวนทำให้โชกุนขยับตัวตนของเขาเข้าไปจนลึก

 

"ละ..ลึกไป" อาร์ทบอกก่อนจะขยับสะโพกหนี

 

โชกุนเอื้อมมือไปดึงสะโพกของอีกคนกลับมาในท่าเดิมและค่อยๆ เริ่มขยับตัวตนของเขาอย่างช้าๆ อีกครั้งเมื่อผ่านไปสักพักโชกุนก็เร่งจังหวะการเข้าออกให้เร็วขึ้นผ่านไปไม่นานนักร่างกายของโชกุนก็กระตุกเกร็ง

 

"อ๊าาา"



โชกุนส่งเสียงออกมาก่อนจะมีน้ำข้นๆ พรั่งพรูออกมาจากตัวตนของเขา เขาปล่อยน้ำข้นนั้นให้คลั่งค้างอยู่ภายในช่องทางด้านหลังของอีกคน

 

โชกุนยังแช่ตัวตนของเขาค้างไว้ในช่องทางด้านหลังของอีกคนแบบนั้นสักครู่ก่อนจะขยับดึงตัวตนของเขาออกมาแล้วทิ้งตัวนอนทับลงบนร่างของอีกคนที่นอนอยู่ข้างใต้อย่างหมดแรง

 

เขาทั้งสองนอนกอดกันแบบนั้น เพราะความเมาและอีกทั้งยังเพิ่งผ่านกิจกรรมเร่าร้อนมาเมื่อสักครู่ ทำให้เขาทั้งสองหมดแรงและเพลียจนเผลอหลับไปอย่างเงียบๆ

=====================
TBC.

Talk.ไหนบอกน้ำตาลจะมี ผ. ไงอาร์ท เธอมันร้ายยยยย อ่านแล้วเม้ากันด้วยน๊าาาา อย่าทิ้งเค้า  :mew6:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 09-06-2017 09:53:23
เขาได้กันแล้ว  :m25:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-06-2017 11:09:32
 :m25:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 09-06-2017 12:44:12
ไหนพี่โซ บอกว่าไม่เคยอะไรกับผู้ชาย แต่การปฎิบัติชำนาญมาก
แถมใช้ปากด้วย งานนี้เรียกว่าตัวพ่อแล้วละ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 09-06-2017 12:54:40
ไหนพี่โซ บอกว่าไม่เคยอะไรกับผู้ชาย แต่การปฎิบัติชำนาญมาก
แถมใช้ปากด้วย งานนี้เรียกว่าตัวพ่อแล้วละ
 :hao7:

พี่โชนางร้ายกาจ สงสัยต้องแอบไปศึกษามาแน่ๆ เอ๊ะ หรือเพราะเมา ทำให้อารมณ์พาไปน๊ออ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-06-2017 13:34:37
ตื่นมาอาร์ทจะเข้าหน้าพี่โชติดหรือ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: tarotman ที่ 09-06-2017 14:03:05
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
เจ็บดิ เล่นให้อีกฝ่าย เสร็จก่อน แบบนี้
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-06-2017 15:18:02
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-06-2017 17:26:39
ตื่นมาจะเป็นยังไงนะอาร์ท  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 09-06-2017 17:54:17
ดีงาม
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-06-2017 21:19:33
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: somakimi ที่ 09-06-2017 21:49:22
 o22 เสร็จพี่โชซะแล้วน้องอาท์ดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-06-2017 23:38:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 10-06-2017 01:09:41
แย่แล้วววววว :hao7:
พันพัว นัวเนีย ยุ่งเหยิงไปหมด :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 10-06-2017 14:55:21
ได้กันแล้วๆอยากได้มั่งๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 10-06-2017 15:10:19
 :o8:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 11-06-2017 15:33:37
ตกลงเป็นอาร์ทที่มีผัวนี่เอง 555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 14 [9/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 12-06-2017 14:18:11
จับปล้ำซะแล้ว ทีนี้อาร์ทก็คงหนีไม่ได้ละ สามีห่วงหวงขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 14-06-2017 08:43:19
ตอนที่ 15

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าร่างกายของผมและพี่โชเปลือยเปล่านอนกอดกันอยู่อย่างนั้น พี่โชยังหลับตาพริ้มจนผมเผลอเอื้อมมือไปลูปเบาๆ ที่แก้มของเขา จากนั้นผมจึงค่อยๆ ขยับตัวออกมาจากร่างกายของอีกคนอย่างเบาที่สุด เมื่อผมเริ่มขยับร่างกายมันทำให้ผมเสียดไปทั้งร่างโดยเฉพาะบริเวณช่องทางด้านหลัง

ผมแข็งใจลุกขึ้นเดินเพื่อไปควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่หล่นอยู่ปลายเตียงขึ้นมาเพื่อดูเวลา แต่ก็ต้องสะดุดกับข้อความแจ้งเตือนของแอพพลิเคชั่นไลน์ที่ค้างอยู่

Sugar_Sweet : ไอ้อาร์ทมึงอยู่ไหน
Sugar_Sweet : กูมีข่าวดีจะบอก
Sugar_Sweet : กูขอบใจมึงมากนะสำหรับเรื่องเมื่อคืน
Sugar_Sweet : มันดีมากเลยมึง

ผมเห็นแค่นั้นผมก็ทรุดลงกับพื้นจนลืมความเจ็บที่ร่างกาย นี่น้ำตาลกับพี่โชตกลงคบหากันแล้วงั้นหรอ แล้วเรื่องเมื่อคืนล่ะ มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงผมกำลังทำร้ายเพื่อนรักของผม ตอนนี้ส่วนที่ผมเจ็บที่สุดคือหัวใจไม่ใช่ร่างกายของผมเลยสักนิด ผมจะมองหน้าพี่โชยังไงถ้าพี่โชตื่นขึ้นมาและผมคงไม่กล้าสู้หน้าน้ำตาลในตอนนี้แน่ๆ

เมื่อผมคิดได้อย่างนั้นจึงรีบใส่เสื้อผ้าโดยไม่คิดจะปลุกคนบนเตียง ก่อนออกไปจากห้องผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียงฝั่งที่พี่โช นอนหลับอยู่ และกดริมฝีปากลงไปที่หน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบาก่อนจะผละออกแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมาอีก

เมื่อผมกลับมาถึงห้องจึงทำการจองตั๋วเครื่องบินกลับเชียงใหม่ด้วยเที่ยวบินที่เร็วสุดแล้วรีบปิดเครื่องโทรศัพท์ก่อนจะพาร่างกายของตัวเองเข้าไปในห้องน้ำ ผมยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกก็เห็นว่าร่างกายมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ อยู่ประปรายทั่วร่างกาย เท่านั้นผมจึงตัดสินใจรีบอาบน้ำเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

ผมใช้เวลาไม่นานในการเก็บเสื้อผ้าและเดินทางไปสนามบินเพื่อรอเวลาตอนนี้อาการของผมไม่ค่อยดีนัก ผมหน้าซีดและเจ็บช่วงล่างไปหมดแต่ผมก็แข็งใจที่จะเดินทางเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้าพี่โชและน้ำตาลในเวลานี้ อย่างน้อยก็ขอเวลาช่วงปิดเทอมให้ผมได้ตั้งหลักเตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วกัน
 
เมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินเชียงใหม่ ผมจึงเดินมาหาที่นั่งและทำการเปิดเครื่องโทรศัพท์เพื่อจะโทรตามให้พ่อมารับที่สนามบินแล้วก็พบว่ามีข้อความจากสายที่โทรไม่ติดเข้ามาและข้อความจากแอพพลิเคชั่นต่างๆ เยอะพอสมควร หลักๆ ก็เป็นของพี่โชและน้ำตาล แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจข้อความพวกนั้น ผมทำแค่เพียงกดโทรศัพท์โทรออกหาพ่อ

ตู๊ดๆ

(ว่าไงไอ้ลูกชาย)

“พ่อมารับหน่อย”

(อยู่ไหนลูก)

“อาร์ทอยู่สนามบิน”

(ฮ่ะ? สนามบินไหนลูก) พ่อทำเสียงตกใจ

“สนามบินเชียงใหม่นี่แหละพ่อ อาร์ทนั่งรออยู่ตรงที่นั่งฝั่งขาออกนะ แบตโทรศัพท์จะหมดพ่อมาถึงอาจจะโทรไม่ติด” ผมร่ายยาวให้พ่อฟัง

(งั้นรอพ่อแป๊บนึงนะลูก)

"ครับพ่อ"

ผมตัดสายโทรศัพท์และกดปิดเครื่องทันที ผมยังไม่พร้อมจะรับอะไรตอนนี้จริงๆ

ผมนั่งรอพ่ออยู่ที่สามบินเป็นเวลาเกือบชั่วโมงทำให้ผมมีเวลานั่งคิดทบทวนเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อไป ตอนนี้ผมรู้สึกแย่ไปหมดทุกอย่างทั้งสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ

“จะกลับมาบ้านทำไมไม่โทรบอกก่อน ทำแบบนี้รู้ไหมว่าพ่อกับแม่เป็นห่วง”

เสียงของพ่อลอยเข้ามาในหู ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองจึงพบกับใบหน้าดุๆ ของพ่อ

"ก็ผมคิดถึงพ่อกับแม่นี่ สอบเสร็จก็รีบกลับมาเซอร์ไพรส์นี่ไง" ผมเดินเข้าไปกอดอ้อนพ่อ

จากที่หน้าดุๆ ในตอนแรก เปลี่ยนเป็นหน้ายิ้มและเอื้อมมือมาลูปหัวผม "ไอลูกชายเอ้ย พ่อก็คิดถึงเรา ป่ะรีบกลับบ้านกันดีกว่าแม่รออยู่"

ผมดีใจที่ครอบครัวของผมถึงจะอยู่ห่างกันแค่ไหนแต่ไม่เป็นปัญหาในการแสดงความรักต่อกันเลยสักนิด ตั้งแต่เด็กมาพ่อกับแม่มักจะกอดจะหอมผมจนเป็นเรื่องปกติ ผมไม่เคยอายในการแสดงความรักกับครอบครัวผมเลยสักครั้ง

พ่อเดินกอดคอผมจนมาถึงรถจึงคลายมือออกและเดินไปยังประตูฝั่งคนขับ

"พ่อให้อาร์ทขับรถให้นั่งไหม" ผมส่งยิ้มให้พ่อ

พ่อเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย "เรานี่นะจะมาขับรถให้พ่อนั่ง ไปขับเป็นตอนไหน หือ?"

"เป็นได้สักพักแล้วพ่อมีพี่ที่มหาลัยสอนให้น่ะ อาร์ทขับออกถนนได้แล้วด้วยน้า" ผมคุยโอ่ให้พ่อฟัง

"พี่ที่ไหนใจดีขนาดนั้นเลย" พ่อยังคงถามผม

"เอ่ออ...เขาก็ไม่ได้ใจดีอะไรหรอกพ่อ" ผมตอบไปแค่นั้นเพราะผมไม่อยากพูดถึงคนที่สอนผมเท่าไหร่

"งั้นขึ้นรถเถอะ วันหลังค่อยขับให้พ่อนั่งแล้วกัน ตอนนี้แม่รอแย่แล้ว" พ่อว่ายิ้มๆ

ผมพยักหน้ารับเปิดประตูเข้าไปนั่งและโยนกระเป๋าไปไว้ที่เบาะด้านหลัง ตอนนี้ผมยังเสียดๆ ทุกครั้งที่นั่งแต่ก็ต้องเก็บอาการไม่ให้แสดงออกมา

ระหว่างทางพ่อก็ถามผมขึ้นมา "แล้วเจ้าตาลล่ะได้กลับมาด้วยกันหรือเปล่า"

ผมชะงักกับคำถามก่อนจะตอบ "ไม่ได้กลับมาด้วยกันน่ะพ่อ"

"อ้าวทำไมล่ะ ปกติเห็นตัวติดกันตลอด"

ผมทำท่าคิดก่อนจะเอ่ย "อ้อ ไอ้ตาลมันไปลงชมรมค่ายอาสา เลยต้องไปออกค่ายตลอดปิดเทอมนี้น่ะพ่อ"

"แล้วเราไม่ไปกับเจ้าตาลล่ะ..หืม"

"ก็ผมคิดถึงพ่อกับแม่นี่นา อยากกลับมาอ้อนพ่ออ้อนแม่มากกว่า" ผมยิ้มตาหยี

"ปากหวานจริงๆ ไอ้ลูกชายคนนี้" พ่อพูดขำๆ แล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวผม

"แน่นนอน" ผมยักคิ้วให้พ่อ

"ปากหวานอย่างงี้มีสาวมาชิมหรือยังเนี่ยไอ้ลูกชาย"

"เยอะแยะ เลือกไม่ถูกเลยแหละพ่อ"

"ฮ่าๆ ไอ้อาร์ทเอ้ย" พ่อพูดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้

ไม่นานนักรถก็แล่นเข้ามาในซอยที่ต้องผ่านสวนลำไยของครอบครัวผมก่อนจะถึงตัวบ้าน

"โหพ่อช่วงนี้ลำไยออกเยอะจัง จอดเก็บไปกินก่อนได้ป่ะ" ผมไม่ได้กลับบ้านนานผมจึงตื่นเต้นกับทุกอย่างที่ไม่ได้สัมผัสนานๆ

ผมพูดจบพ่อก็จอดรถ แล้วบอกให้ผมลงไปเก็บ "เอาสิ ลงไปเก็บมาเอาแค่พอกินล่ะ ถ้าเอาไปทิ้งขว้างจะตีให้ก้นลาย"

"โถ่พ่ออาร์ทโตแล้วน่า ยังจะตีกันอีกเหรอ"

"ฮ่าๆ รีบไปเก็บเร็วๆ"

เมื่อผมเก็บได้ตามที่ผมต้องการแล้วผมก็เดินมาขึ้นรถ พ่อจึงออกรถไม่กี่นาทีรถก็จอดลงตรงหน้าบ้าน บ้านที่ผมไม่ได้กลับมาบ่อยนัก ผมคิดถึง คิดถึงทุกอย่างที่นี่ ผมรีบเปิดประตูแล้ววิ่งลงจากรถเข้าไปในบ้าน

เมื่อเข้ามาถึงในบ้านแต่มองไม่เห็นใคร แม่ต้องอยู่ในห้องครัวแน่ๆ คิดได้เท่านั้นผมก็วิ่งตรงไปที่ห้องครัวก็เป็นอย่างที่คิด แม่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเตา ผมค่อยๆ ย่องเข้าไปแล้วก็กอดเข้าทางด้านหลังทำให้แม่ตกใจอุทานออกมา

"ว๊ายย แหกๆๆ"

ผมขำดังลั่น แม่รีบหันหน้ามาหาผมและตีเข้าที่แขนหนึ่งทีแต่ไม่แรงนัก

"เล่นอะไร ถ้าแม่ถือมีดอยู่จะทำยังไง" แม่ว่าผมด้วยเสียงดุๆ

"แม่ก็ไม่ได้ถืออยู่สักหน่อย" ผมทำเสียงกวนๆ

"เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ ไอ้ลูกคนนี้"

ผมรั้งแม่เข้ามากอด แล้วหอมแก้มซ้ายหอมแก้มขวา "คิดถึงแม่จังเลยยย"

แม่กอดตอบผม "ทำไมอ้อนขนาดนี้ ลูกชายฉันเป็นอะไรเนี่ย"

ผมก้มหน้าหลบตาแม่ แล้วอ้าปากตอบ "ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยอาร์ทคิดถึงแม่จริงๆ นี่นา"

แม่เอามือลูบหัวผมก่อนจะพูด "แล้วจะมาอยู่กี่วันคะคุณลูกชาย"

"ก็จนกว่าจะเปิดเทอมนั่นแหละอยู่ให้พ่อกับแม่เบื่อไปเลย"

"หึหึ แม่จะคอยดูว่าใครมันจะเบื่อใครจนรีบหนีกลับ"

"ไม่ใช่อาร์ทแน่นอน" ผมไหวไหล่อย่างมั่นใจ

"ไปรอข้างนอกไปเดี๋ยวแม่ยกข้าวออกไปให้"

"คร้าบบบบ"

ผมเดินออกจากห้องครัวมายังโต๊ะกินข้าวตามที่แม่บอก วันนี้แม่รีบทำอาหารที่ผมชอบไว้รอเมื่อรู้ว่าพ่อจะออกไปรับผมที่สนามบิน พ่อกับแม่ผมน่ารัก เพราะแบบนี้เวลาที่ผมรู้สึกแย่อยู่อย่างนี้ผมถึงอยากกลับมาอยู่ในอ้อมกอดของท่านทั้งสอง

ผมกินข้าวเสร็จก็ขนของขึ้นไปไว้บนห้องนอนชั้นบน เมื่อถึงห้องนอนผมก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง การอยู่เฉยๆ มันทำให้ผมคิดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา ตอนนี้พี่โชจะทำอะไรอยู่แต่ก็คงไม่เกี่ยวอะไรกับผม พี่โชคงจะไม่สนใจอะไรผมนักหรอก เพราะผมมันเป็นคนเริ่มเองทุกอย่าง ผมนึกเกลียดตัวเองที่ทำแบบนั้นลงไป

หน้าบ้านของผมมีสวนหย่อมและมีม้านั่งตอนเด็กๆ ผมชอบมานั่งดูดาวตอนกลางคืนเช่นเดียวกับคืนนี้ผมออกมานั่งเหม่อคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย สีหน้าของผมคงจะผิดปกติจนพ่อสังเกตได้

พ่อเดินเข้ามานั่งข้างๆ แล้วยกมือขึ้นกอดคอผมก่อนจะเอ่ยทัก "เป็นอะไรไอ้ลูกชาย"

"เปล่าสักหน่อย" ผมตอบไปโดยไม่กล้าหันไปสบตาคนถาม

"พ่อเป็นพ่อเรานะ ทำไมพ่อจะไม่รู้ว่าลูกชายพ่อกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ"

ผมหันไปมองหน้าพ่อ ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่น "พ่อ" เท่านั้นน้ำตาที่คลั่งอยู่ก็ทะลักออกมาอย่างหยุดไม่ได้

"ร้องออกมาลูกเอาออกมาให้หมดแล้วค่อยเล่าให้พ่อฟัง" พ่อยังดึงเอาหัวผมเข้าไปกอดแล้วใช้ฝ่ามือลูบเพื่อเป็นการปลอบ

ผมอยู่ในสภาพแบบนั้นสักพักก่อนที่จะหยุดร้องไห้และยกมือขึ้นปาดน้ำตา

"พ่อเคยชอบคนคนเดียวกับเพื่อนไหม" ผมเอ่ยถามขึ้น

"พ่อหรอ เคยสิ" พ่อทำหน้าเป็นคำถามก่อนจะตอบออกมา

"แล้วพ่อทำยังไง" ผมถามด้วยความสนใจ

"ก็บอกกับเพื่อนไปตรงๆ ว่าพ่อก็ชอบคนนั้นเหมือนกัน"

"แล้วเพื่อนพ่อไม่โกรธหรอ"

"โกรธสิ"

"แล้วพ่อทำยังไง"

"พ่อก็ให้เวลาเป็นตัวช่วยนั่นแหละ"

"ทำไมพ่อถึงบอกแบบนั้นกับเพื่อนล่ะ"

"พ่อคิดว่า พ่อควรพูดความรู้สึกของตัวเองออกไปดีกว่าจะเก็บเอาไว้พ่อคิดว่าเพื่อนพ่อต้องเข้าใจ" พ่อพูดจบก็ยิ้มออกมา

"แล้วเพื่อนพ่อเข้าใจไหมล่ะ"

"ไม่เลย เพื่อนพ่อไม่เข้าใจในตอนที่พ่อบอกแต่เมื่อเวลาผ่านไปเพื่อนของพ่อเขาก็เข้าใจได้ว่าพ่อไม่ได้ผิดอะไรที่จะชอบคนคนนั้น แล้วยิ่งคนนั้นยังบอกกับเพื่อนพ่อว่าเขาเองก็ไม่ได้ชอบเพื่อนพ่อแต่เขาชอบพ่อ เพื่อนของพ่อเลยยิ่งเข้าใจ"

"มันง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ"

"มันไม่ง่ายหรอกลูก อย่างที่พ่อบอกมันต้องใช้เวลาเป็นตัวช่วย ทุกอย่างมันจะผ่านไปและจะดีขึ้นถ้าเราให้เวลากับมัน"

"งั้นเหรอพ่อ" ผมถามออกไปอย่างอ่อนใจ

"ใช่ เรื่องทุกเรื่องมันต้องการเวลาเพื่อเยียวยาทั้งนั้นแหละลูกเอ้ย" พ่อไม่พูดเปล่ายังเอามือมาลูบหัวผมไปด้วย

"แล้วความรู้สึกของพ่อกับเพื่อนยังกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม"

"ได้สิ ทุกวันนี้พ่อก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกับมันอยู่นี่ไง"

"ลุงทัชหรอพ่อ" ผมถามออกไปอย่างสงสัย เพราะพ่อมีเพื่อนสนิทอยู่ไม่กี่คนนัก

"อื้อ ลุงทัชนั่นแหละ"

ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับออกไปเท่านั้น

"ทำไม เราไปชอบใครคนเดียวกับเพื่อนหรือไง"

"ก็ไม่เชิงหรอกพ่อ" ผมตอบปัดไปอย่างนั้น

"เอาน่าเดี๋ยวเวลาจะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นเอง ไอ้ลูกชายพ่อเก่งอยู่แล้ว"

"อาร์ทก็หวังว่าจะเป็นแบบนั้นพ่อ" ผมพูดอย่างอ่อนใจ

"งั้นเข้าไปนอนได้แล้วมั้ง"

"อาร์ทขอนั่งต่ออีกสักพักนะพ่อ"

พ่อลุกขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือมาจับหัวผมแล้วพูด "งั้นก็อย่าให้มันดึกมากแล้วกันลูก ตากน้ำค้างนานๆ เดี๋ยวจะไม่สบายไปพ่อไปนอนแล้ว"

"ครับ" ผมพยักหน้าตอบรับ

ผมตัดสินใจแล้วว่าในช่วงที่อยู่บ้านผมควรใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์จะได้ไม่คิดอะไรฟุ้งซ่าน ผมจึงขอแม่เข้าไปช่วยงานในสวนลำไย ผมก็ไปหยิบๆ จับๆ ช่วยคนงานตรงนู้นทีตรงนี้ที จนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมมีความสุขกับการทำสวนทำไร่ไปแล้ว

ผ่านมาสามวันผมก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิมซ้ำๆ เย็นวันนั้นผมเดินกลับมาจากสวนเช่นเคยก็รีบตรงเข้าไปในบ้านเพราะความเหนื่อยจึงจะรีบขึ้นไปอาบน้ำบนห้องนอนแต่ก็พบว่าในบ้านมีแขกที่นั่งหันหลังคุยอยู่กับแม่ผม ผมเลยจะเดินเลี่ยงไปทางบันไดขึ้นชั้นสอง แต่ไม่ทันที่ผมจะก้าวถึงบันไดแม่ก็หันมาเห็นผมซะก่อน 

"กลับมาแล้วเหรอลูก" แม่ร้องทักผม ก่อนที่ทุกสายตาจะหันมารวมอยู่ที่ผมคนเดียว

ผมชะงักค้างกับภาพตรงหน้าที่เห็น ก่อนจะหลุดเสียงออกมา "พะ..พี่โช...ไอ้ตาล" 

=====================
TBC.


หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 14-06-2017 10:18:32
้เขาตามกันมาถึงเชียงใหม่เลย

อยากกินลำใยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 14-06-2017 11:04:26
พี่โชน่าจะขอให้ตาลช่วยพามา
สองคนนี้ที่ไปเดทตอนนั้นน่าจะคุยกันแล้ว ไม่งั้นพี่โชคงไม่ทำงั้น
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 14-06-2017 11:09:56
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-06-2017 13:01:31
 :katai1: :ling1:

อยากอ่านตอนต่อไปมากกกกกกกเลย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 14-06-2017 13:06:32
ผมหันไปมองหน้าพ่อ ก่อนจะเอ่ยเสียงสั่น "พ่อ" เท่านั้นน้ำตาที่คลั่งอยู่ก็ทะลักออกมาอย่างหยุดไม่ได้

ในตอนที่อ่อนแอที่สุด ถึงจะทำตัวเข้มแข็งแต่เมื่อเจอสิ่งที่ยึดเหนี่ยวได้
ตัวตนที่แท้จริง ความรู้สึกก็ถูกปล่อยออกมา ไม่สามารถคุมไว้ได้
 :ling3:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 14-06-2017 16:54:20
ค้างคาไปอีำมาต่อเร็วๆเลยถ้าช้าเบิ้ล2ตอน
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-06-2017 17:01:49
ค้างนะแต่ไม่เป็นไร พี่โชมาคราวนี้คงมีข่าวดีมาบอกกับอาร์ทด้วยล่ะมั้ง
แถมพาตาลมาด้วยแบบนี้คงเตรียมพร้อมที่จะสารภาพความจริงทั้งหมดแล้วล่ะมั้งนะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-06-2017 18:05:18
ก็พูดเปิดอกกันไปเลย จะยังไงกันแน่
ไม่ต้องซ้อนกล เล่นกับอาร์ท

หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 14-06-2017 18:44:32
พี่โชมารับน้องกลับใช้ม่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 14-06-2017 19:44:42
หุหุ พี่โชตามมาถึงบ้านน้องเลยวุ้ย
แล้วหวังว่าคงเคลียกับตาลรู้เรื่องนะ

อยากอ่านตอนหน้าแล้ว มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-06-2017 23:55:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 15-06-2017 02:15:38
 o13 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 16-06-2017 16:50:33
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว  :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 15 [14/6/17] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: peettato ที่ 18-06-2017 14:30:10
มาถึงบ้านแล้วก็ขอพ่อแม่เค้าไปเลยพี่โช :hao3:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 20-06-2017 08:00:34
ตอนที่ 16


<ChoTime>
 
ทันทีที่รู้สึกตัวตื่นก็รีบเอื้อมมือออกหวังจะคว้าคนข้างกายเข้ามากอดแต่กลับต้องพบกับความว่างเปล่า ผมจึงรีบผุดลุกขึ้นจากที่นอนมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกคน เสื้อผ้าที่กองอยู่ที่พื้นก็เหลือแต่ของผม ผมเดินไปเปิดประตูห้องน้ำดูก็ไม่พบร่างของคนที่กำลังหาอยู่ ผมเริ่มอยู่ไม่เป็นสุขเดินพล่านทั่วห้อง
 
"เบี้ยว!" ผมตะโกนออกมาดังลั่นห้องแต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับผมจึงตัดสินใจเรียกอีกครั้ง
 
"อาร์ท!!" ผลออกมาเหมือนเดิมคือไม่มีเสียงตอบกลับ
 
 
เมื่อมั่นใจแล้วว่าคนที่ผมกำลังหาไม่ได้อยู่ในห้องแล้วจึงรีบเดินไปคว้าโทรศัพท์มากดโทรหาคนที่ตามหาอยู่นั้นปรากฏว่าเบอร์ที่ผมได้กดโทรออกไปนั้นติดต่อไม่ได้
 
ผมร้อนรนไม่รู้จะทำยังไงจึงรีบพาร่างกายตัวเองเข้าไปอาบน้ำเพื่อจะรีบไปตามหาอีกคนที่หอของเขา ไม่นานนักผมก็จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ
 
ผมคว้ากุญแจรถ โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ที่เป็นสิ่งจำเป็นและเดินลิ่วออกจากห้องไปยังรถ ผมขับตรงไปยังหอของอีกคนอย่ารวดเร็ว เมื่อถึงหน้าหอนั้นผมก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งตรงไปยังห้องของอีกคน
 
ก๊อกๆ
 
"เบี้ยว"
 
ผมยืนเคาะประตูอยู่หน้าห้องก็มีแต่ความเงียบที่ตอบกลับมา ผมพยามบิดที่ลูกบิดประตูและเคาะประตูอีกหลายๆ ครั้งเพื่อหวังให้อีกคนเปิดออกมา ก่อนจะแนบหูกับประตูก็พบว่าเสียงข้างในห้องเงียบสงบเหมือนไม่มีคน
 
เขาคงไม่อยู่จริงๆ แล้วผมจะไปตามหาเขาที่ไหน ตอนนี้ผมมืดไปหมด จู่ๆ ผมก็นึกถึงน้ำตาลขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
 
ตู๊ดๆ
 
(ค่ะพี่โช)
 
"ตาลอาร์ทอยู่กับตาลหรือเปล่า" ผมถามด้วยเสียงร้อนรน
 
(ไม่ได้อยู่นี่คะพี่มีอะไรหรือเปล่า)
 
"มีปัญหานิดหน่อยพี่ติดต่ออาร์ทไม่ได้เลย"
 
(เดี๋ยวตาลลองโทรให้ก็ได้ค่ะ)
 
"โทรไม่ติดหรอกมันปิดเครื่อง นี่พี่อยู่หน้าห้องมันเคาะประตูเรียกก็เหมือนไม่มีคนอยู่"
 
(นี่พี่โชอยู่หน้าห้องไอ้อาร์ทหรอ)
 
"ใช่ พี่ไม่รู้จะไปตามหามันที่ไหน"
 
(มีเรื่องอะไรกันหรอคะ)
 
"มันยาวช่วยพี่ตามหามันก่อนได้ไหม ไว้พี่จะเล่าให้ฟัง"
 
(ถ้าอย่างนั้นพี่รอตาลอยู่ที่ห้องมันนั่นแหละค่ะ ตาลมีกุญแจสำรองมันเคยให้ไว้)
 
"โอเค พี่รออยู่นี่นะตาล"
 
(ค่ะ)
 
ผมกดตัดสาย แล้วหันกลับมายืนสงบสติอารมณ์ไม่ให้ร้อนรนจนเกินไป ตอนนี้ผมอยากเจอไอ้เบี้ยวของผมที่สุด อยากรู้ว่ามันจะหนีผมไปทำไม ทำไมไม่รอผมตื่นแล้วคุยกัน ทำไม....ตอนนี้ในหัวผมมีแต่คำว่าทำไมเต็มไปหมดที่อยากจะถามมัน
 
 
ผมรอไม่นานนักน้ำตาลก็วิ่งมาหยุดตรงหน้าผมด้วยอาการหอบ
 
 "โทษทีค่ะพี่โช ตาลมัวแต่หากุญแจอยู่"
 
ผมส่ายหัวและตอบกลับ "ไม่เป็นไร พี่สิต้องขอโทษตาลที่รบกวน"
 
"ไม่หรอกพี่ ไอ้อาร์ทมันก็เพื่อนตาล"
 
"พี่ขอกุญแจ" ผมพูดเสียงเรียบ
 
ตาลส่งกุญแจให้ผมยื่นมือไปรับและรีบไขประตูทันที เมื่อประตูเปิดออกก็พบว่าภายในห้องมีแต่ความว่างเปล่า
 
น้ำตาลเดินตรงไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะหันหน้ามาหาผม "มันคงกลับเชียงใหม่ไปแล้ว"
 
"ฮ่ะ? เชียงใหม่"
 
"ใช่ค่ะ เชียงใหม่"

“ทำไมตาลถึงคิดว่ามันไปเชียงใหม่”

“เพราะเสื้อผ้าในตู้หายไปเกือบครึ่งมีอย่างเดียวมันคงจะกลับบ้านที่เชียงใหม่”
 
"ถ้าอย่างนั้นตาลบอกทางพี่ได้ไหม"
 
"เห้อ นี่พี่ทะเลาะกับมันกันแน่ ทะเลาะกันแรงมากเลยหรอมันถึงต้องหนีขนาดนี้" น้ำตาลถอนหายใจอย่างกังวล
 
ผมไม่ตอบแต่แค่พยักหน้ารับกับคำถาม
 
"ถ้าอย่างนั้นตาลจะเป็นคนพาพี่ไปบ้านมันเอง"
 
"จะดีเหรอตาลพี่เกรงใจ"
 
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะพี่โช ตาลจะได้ถือโอกาสกลับบ้านด้วยเลย" น้ำตาลหันมายิ้มหวานให้ผม
 
"เรากลับไปเก็บของเตรียมตัวกันเถอะ" ผมบอกอย่างใจร้อน
 
"ค่ะ เราออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าแล้วกันนะคะ วันนี้พี่กลับไปพักผ่อนก่อนนะคะ"

“ไปวันนี้ไม่ได้หรอตาล”

“พรุ่งนี้ดีกว่าค่ะเพราะตอนนั้นก็บ่ายแล้วแถมสภาพพี่ตอนนี้ก็ดูแย่มาก เดินทางแบบไม่พร้อมมันอันตรายเชื่อตาลเถอะ”
 
"ก็ได้ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งที่หอนะ"
 
เราสองคนเดินออกจากห้องอาร์ทลงไปขึ้นรถจากนั้นผมก็ไปส่งน้ำตาลที่หอ ก่อนจะนัดแนะเวลากันเรียบร้อย
 
รุ่งขึ้นอีกวันผมขับรถมารับน้ำตาลที่หอพัก น้ำตาลเสนอให้ขับไปเรื่อยๆ ถ้าเหนื่อยก็พัก เพราะรีบไปก็ไม่มีประโยชน์ กลัวจะเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะยังไงอาร์ทก็คงไม่หนีไปไหนอยู่แล้ว ผมจึงเห็นด้วยกับน้ำตาล
 
Rrrrrrr
‘ณัฐ’

"ไงมึง"
 
(เป็นไงบ้างวะ)
 
"เรื่อง?"
 
(ก็เรื่องที่มึงเครียดมึงสับสนอยู่นั่นไง)
 
"คือ..." ผมตอบไปอย่างอึดอัด

(มึงจะอึกอักทำไม ก็เล่ามาสิวะ)

“ตอนนี้กูไม่สะดวก”

(นี่มึงอยู่ไหน)
 
"กูกำลังจะไปเชียงใหม่"
 
(ฮะ เชียงใหม่)
 
"เออ"
 
(ไปทำอะไร ไปกับใคร)
 
"กูมีปัญหานิดหน่อย"
 
(ปัญหาอะไรแล้วนี่มึงไปกับใคร)
 
"กูมากับน้ำตาล"
 
(เดี๋ยวนะ นี่สรุปมึงกับน้ำตาล...) ไอ้ณัฐเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ
 
"เรื่องนี้เดี๋ยวค่อยคุย"
 
(เออ ว่าแต่มึงจะกลับวันไหน)
 
"กูยังไม่รู้"
 
(แล้วทำไมมึงต้องไปเชียงใหม่วะ)
 
"ก็บ้านน้ำตาลกับไอ้อาร์ทอยู่เชียงใหม่"
 
(แล้วมันเกี่ยวอะไรกับไอ้อาร์ท)
 
"เออ กูบอกว่าเดี๋ยวค่อยคุยไง ว่าแต่มึงเหอะอยู่ไหน”

(ตอนนี้กูอยู่คอนโด)

“แล้วมึงไม่กลับบ้านหรือไงปิดเทอมแล้วนะ”

(ไม่วะกลับไปก็ไม่มีใครอยู่ พ่อกับแม่กูไปดูงานที่อังกฤษสองอาทิตย์กูเลยไม่รู้จะกลับไปทำไม)

“มึงอยากมาเที่ยวเชียงใหม่ไหมวะ"
 
(มึงจะชวนกูไปเที่ยวนี่นะ)
 
"เออ ชวนพวกมึงทั้งหมดแหละไอ้กายด้วย"
 
(อะ..เออ เดี๋ยวกูไปถามพวกมันก่อน)
 
"พี่โช" น้ำตาลหันมาเรียกผม
 
"ไอ้ณัฐแป๊บนะ" ผมบอกคนในโทรศัพท์ แล้วหันมาถามน้ำตาล "ว่าไงตาล"
 
"พี่โชชวนพวกพี่ณัฐมาเชียงใหม่ด้วยหรอ"
 
"อึ้ม"
 
"ถ้าอย่างนั้นตาลชวนฟ้ามาด้วยนะพี่"
 
"เอาสิ มาหลายๆ คนเผื่อจะง่ายขึ้น" ผมหวังอย่างที่พูดออกไป
 
"ถ้าอย่างนั้นตาลฝากให้พี่ณัฐรับฟ้ามาด้วยได้ไหมคะ เมื่อกี้ตาลได้ยินว่าพี่โชชวนไอ้กายด้วย"
 
"ได้สิตาล อ่อส่วนไอ้กาย ถ้าไอ้ณัฐอยู่ที่ไหนไอ้กายก็คงอยู่ที่นั่นแหละ" ผมพูดจบก็ยิ้มให้น้ำตาล พร้อมกับหัวเราะคนในสายที่โวยวายไม่เลิก
 
(สัดโช)
 
"อ่าวมึงยังอยู่หรอวะ ฮ่าๆ"
 
(มึงอย่ากวนตีน)
 
"เออกูไม่กวนตีนก็ได้ ว่าแต่มึงได้ยินที่ตาลพูดแล้วใช่ไหม"
 
(เออได้ยินแล้วถ้าอย่างนั้นอีกสองวันกูค่อยตามมึงไปแล้วกัน เพราะกายมันเพิ่งกลับบ้านไปเมื่อเช้า ให้เวลามันอยู่กับครอบครัวอีกสักวัน)
 
"อ่อ ที่แท้ก็ห่วงผัว" ผมพึมพำเบาๆ แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายได้ยิน
 
(เหี้ยโช หุบปาก ผัวบ้านมึงสิ)
 
"โอเคๆ กูไม่แกล้งมึงแล้ว อีกสองวันเจอกันเว้ยเพื่อน"
 
(เจอแล้วก็อย่าลืมเล่าให้กูฟังด้วยละ)
 
"รู้แล้วน่า บางทีกูก็แยกไม่ออกเลยว่ามึงห่วงกูหรือมึงแค่เสือก ฮ่าๆ"

(ไอ้สัด กูก็ห่วงเพื่อนสิวะ)

“เออๆ แค่นี้แหละกูจะขับรถ”

(เอ้อ) ไอ้ณัฐกระแทกเสียงก่อนจะตัดสายโทรศัพท์ไป
 
 
ระหว่างทางเราสองคนก็มีแวะปั๊มเข้าห้องน้ำ แวะกินข้าวกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้เวลาผ่านไป 8-9 ชั่วโมงที่ออกจากกรุงเทพมากำลังจะเข้าสู่จังหวัดลำปาง น้ำตาลจึงเสนอขึ้น
 
"พี่โช เราพักกันที่ลำปางก่อนไหมคืนนี้"
 
"ทำไมล่ะ"
 
"คือจากลำปางไปเชียงใหม่ก็อีกประมาณเกือบสองชั่วโมง กว่าจะถึงบ้านตาลก็น่าจะดึกพ่อแม่ตาลก็คงจะหลับแล้ว ถ้าเราพักที่นี่แล้วเช้าค่อยออกจะดีกว่านะพี่โช"
 
"อืม ก็ดีเหมือนกัน พี่ก็ไม่อยากรบกวนพ่อกับแม่ตาลดึกๆ"
 
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวพี่โชเลี้ยวเข้าในตัวเมืองข้างหน้าเลยนะ จะได้วนดูที่พักกัน"
 
ผมพยักหน้ารับ เมื่อถึงทางเลี้ยวก็เลี้ยวเข้าไปในตัวเมืองวนหาไม่นานนักก็เจอโรงแรงสภาพไม่ดีหรือแย่จนมากเกินไป
 
ผมตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าไปและลงไปเปิดห้องพักสองห้อง

ทันทีที่ทำการตกลงห้องพักเสร็จน้ำตาลก็ทำท่าจะหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าจนผมต้องรีบร้องห้าม
 
"ตาลไม่ต้องจ่าย เดี๋ยวพี่จ่ายเอง"
 
"เฮ้ยได้ไงพี่โชเดี๋ยวตาลจ่ายของตาลเองก็ได้พี่"
 
"ไม่เอาสิตาล พี่เป็นคนพาตาลมาลำบากแท้ๆ ให้พี่จ่ายเถอะนะ"
 
"โถ่พี่โช ก็ได้ค่ะ" น้ำตาลทำหน้าเห็นใจก่อนจะยอมรับโดยดี
 
ผมยิ้มให้ตาลก่อนจะรับกุญแจห้องพักมา แล้วเดินนำน้ำตาลไปยังลิฟท์เพื่อขึ้นไปยังห้องพัก เราต่างแยกย้ายกันเข้าห้องพักเพื่อพักผ่อน แต่ก่อนที่ผมจะปิดประตูน้ำตาลพูดก็พูกขึ้นมา
 
"พี่โชพรุ่งนี้ไม่ต้องรีบตื่นนะ พรุ่งนี้เราออกสักสิบโมงก็ได้ สบายๆ น่ะพี่"
 
"อืม" ผมพยักหน้าพร้อมตอบออกไป
 
ผมปิดประตูเมื่อรับคำกับน้ำตาลเสร็จ ผมเข้าไปอาบน้ำอาบท่า เมื่อเสร็จออกมาก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง และคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนคิดถึงเรื่องคืนนั้นผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาลองกดหาคนที่ผมคิดถึงอยู่อีกครั้ง
 
'หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้'
 
 
เจ้าของเครื่องยังไม่ยอมเปิดเครื่องโทรศัพท์อีก ผมทำได้แค่เลื่อนดูความเคลื่อนไหวในเฟสบุ๊คแต่ก็ไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ ของคนคนนั้น ผมทำใจปิดหน้าจอโทรศัพท์ลงแล้วข่มตาหลับไปให้ถึงพรุ่งนี้เช้า
 
เช้านี้เวลาสิบโมงตามที่น้ำตาลนัดกับผมไว้ เราลงมาเช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ก่อนจะออกจากลำปางเราสองคนไปแวะกินข้าวกันก่อนจะขับรถตรงไปเชียงใหม่บ้านของน้ำตาล
 
ผมแล่นรถเข้ามาถึงปากซอยเข้าบ้านน้ำตาลก็เห็นสวนลำไยเต็มสองข้างทาง น้ำตาลจึงชี้บอกผม
 
"พี่โชเห็นสวนลำไยพวกนี้ไหมพี่"
 
ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้ากลับไปเท่านั้น
 
"ของบ้านไอ้อาร์ททั้งหมดเลยนะพี่"
 
"หืม เยอะขนาดนี้เลยหรอ" ผมตกใจเล็กน้อย
 
"ใช่ค่ะ"
 
"แล้วใครเป็นคนทำ"
 
"พ่อกับแม่ไอ้อาร์ทนั่นแหละพี่"
 
"ทำหมดนี่เนี่ยนะ สองคนไหวเหรอ"
 
"ก็มีคนงานแหละพี่ พ่อกับแม่ก็แค่มาคุมงานและช่วยนิดๆ หน่อยๆ"
 
"อ่อ"
 
ผมตอบรับแล้วขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ ก็เห็นบ้านไม้ทรงไทยหลังใหญ่โดดเด่นอยู่ตรงหน้า
 
 "นี่ไงพี่โช บ้านไอ้อาร์ท" น้ำตาลไม่พูดเปล่ายังใช้นิ้วชี้ให้ผมดู
 
"หลังใหญ่ใช้ได้" ผมพูดออกไปจากที่เห็น
 
"แถวนี้คนเขาก็เรียกพ่อกับแม่ไอ้อาร์ทว่าพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงทั้งนั้นแหละพี่"
 
"ทำไม?" ผมถามอย่างสงสัย
 
"คือที่เชียงใหม่เขาจะเรียกคนที่มีฐานะค่อนข้างดีว่าพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงน่ะพี่"
 
"อ่อ" ผมตอบรับอย่างเข้าใจ
 
"เลี้ยวเข้าประตูรั้วข้างหน้านั้นเลยค่ะพี่โช ถึงบ้านตาลแล้ว"
 
ผมพยักหน้ารับแล้วหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในรั้วบ้านหลังไม่ใหญ่มากแต่ก็ไม่เล็ก
 
"ลงไปกันเถอะพี่โช มาถึงเวลานี้เจอแค่แม่คนเดียวแหละพ่อไปทำงาน แต่ถึงพ่อตาลอยู่ก็ไม่ดุนะ ไม่ต้องกลัว ฮ่าๆ"
 
"ฮ่าๆ ทำอย่างกับพี่จะมาขอตาล"
 
"อ่าวไม่ใช่หรอ ว๊าตาลเสียใจนะเนี่ย"
 
"หึหึ"
 
"ฮ่าๆ ไม่เล่นแล้ว ไปกันเถอะพี่โช"
 
ผมพยักหน้าแล้วเดินตามน้ำตาลเข้าไปในตัวบ้าน เมื่อเข้ามาในบ้านก็ไม่พบใคร ในบ้านเงียบเหมือนไม่มีคนอยู่ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีเสียงเอ่ยทักขึ้นมาจากทางด้านหลัง
 
"ใครน่ะ" เสียงผู้หญิงดังขึ้น
 
ผมตกใจรีบหันกลับไปมองพร้อมกับน้ำตาล
 
"โถ่แม่ ตกใจหมด"
 
"อ้าว ลูกสาวแม่นี่เอง แล้วมายังไง จะมาทำไมไม่โทรบอก"
 
"ก็จะมาเซอร์ไพรท์แม่ไง แล้วแม่ไปไหนมา" น้ำตาลเดินเข้าไปกอดแม่
 
"ไปบ้านน้าจันทร์มาหน่ะสิ"
 
"หืม แม่ไปบ้านน้าจันทร์ทำไม"
 
"ก็เห็นพ่อเราบอกว่าเจ้าอาร์ทมันกลับมาบ้าน แต่เราไม่กลับมาด้วย แม่เลยจะไปถามเจ้าอาร์ทน่ะสิว่าทำไมไม่มาด้วยกัน"
 
"แล้วมันว่ายังไงล่ะ"
 
"เจอที่ไหนละ น้าจันทร์บอกตั้งแต่กลับมาก็หงอย แล้วก็ขอออกไปทำงานที่สวนทุกวันกว่าจะกลับเข้าบ้านก็เย็นๆ"
 
แม่น้ำตาลพูดจบก็หันมาสบตากับผม
 
"แล้วพ่อหนุ่มนี่ใคร"
 
"อ่อ ลืมแนะนำเลย แม่นี่พี่โช เป็นรุ่นพี่ที่มหา'ลัย"
 
"สวัสดีครับ" ผมพูดพรางยกมือไหว้แม่ของน้ำตาล
 
"ไหว้พระเถอะลูก" แม่น้ำตาลตอบผมกลับมา
 
ผมทำตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้มให้แม่ของน้ำตาลกลับไปเท่านั้น
 
"พี่โชไม่ต้องเกร็ง แม่ตาลไม่ดุน่า"
 
"นี่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันแน่เหรอ" แม่น้ำตาลเหล่ตา
 
"ใช่สิแม่ พอดีพี่โชอยากมาเที่ยวเชียงใหม่ตาลเลยอาสานำเที่ยว แล้วจะได้มีรถกลับบ้านฟรีด้วยไงเล่าแม่"
 
"ไอ้ลูกคนนี้นี่ ไม่รู้จักเกรงใจพี่เขา" แม่น้ำตาลหันไปดุน้ำตาลแล้วตีลงที่แขนเบาๆ หนึ่งที
 
"ไม่เป็นไรหรอกครับแม่ ผมสิต้องเกรงใจตาล ที่ให้มาเป็นไกด์พาเที่ยว" ผมตอบแม่น้ำตาลกลับไป
 
"เออว่าแต่ทำไมเราไม่กลับมาพร้อมกับเจ้าอาร์ท"
 
"เห้อ ตาลก็อยากรู้เหมือนกันนั่นแหละแม่ ว่าทำไมมันกลับมาไม่บอกตาลสักคำ" น้ำตาลตอบแม่พรางทำหน้าเศร้าขึ้นมา
 
"ทะเลาะกันหรือเปล่า"
 
"ไม่ได้ทะเลาะกันนะแม่ ตาลก็อยากจะไปถามมันนี่แหละว่าทำไมรีบกลับมาไม่บอก"
 
"ไปตอนนี้ก็ไม่เจอหรอก รอเย็นๆ ค่อยไปแล้วกัน ตอนนี้ไปกินข้าวกินปลากันก่อนไป ทั้งคู่"
 
"ครับ/ค่ะ" ผมกับน้ำตาลตอบรับพร้อมกันแล้วเดินตามแม้น้ำตาลเข้าไปในครัว
 
อย่างที่แม่ของน้ำตาลบอกว่ากว่าอาร์ทจะกลับจากสวนมาถึงบ้านก็สี่โมงเย็น แต่ผมกับน้ำตาลเลือกที่จะไปถึงบ้านของอาร์ทก่อนที่จะถึงเวลากลับมาของอาร์ทเพื่อไปคุยทำความรู้จักกับแม่ของอาร์ทก่อน ทุกอย่างน้ำตาลคิดให้ผมเสร็จสรรพ
 
ตอนนี้เราสองคนเดินออกจากบ้านน้ำตาลมาตรงไปยังบ้านของอาร์ทที่อยู่ไม่ไกลกันนัก สักพักก็เดินเลี้ยวเข้ามาในบ้าน น้ำตาลเดินนำผมเข้าไปยังในตัวบ้านก็พบผู้หญิงวัยกลางคนกำลังนั่งทำอะไรสักอย่างอยู่หน้าทีวี
 
"น้าจันทร์สวัสดีค่ะ" น้ำตาลยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ที่โซฟา
 
"สวัสดีครับ" ผมพูดพร้อมกับยกมือไหว้ตามน้ำตาล
 
หญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่เงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะพูดตอบกลับมา "สวัสดีจ้า"
 
เมื่อผมเห็นหน้าชัดก็ไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นใคร ใช่ผู้หญิงคนนี้คือแม่ของอาร์ท อาร์ทมันหน้าตาเหมือนแม่นี่เองถึงได้น่ารัก เมื่อผมคิดได้เท่านั้นก็ อมยิ้มออกมา
 
"ไงยายตาลพาแฟนมาไหว้น้าเหรอลูก"
 
ทั้งผมและตาลไม่ตอบอะไร แค่ยิ้มให้แม่ของอาร์ท
 
"น้าจันทร์ นี่พี่โช" ตาลแนะนำผมให้แม่อาร์ทรู้จักและหันมาหาผม "พี่โชนี่แม่ไอ้อาร์ท พี่โชก็เรียกว่าแม่ก็ได้" และน้ำตาลหันกลับไปหาแม่ของอาร์ทอีกครั้ง "เรียกแม่ได้ใช่ไหมคะน้าจันทร์"
 
"จ้า จะเรียกอะไรก็ได้ลูกแม่ไม่ว่าหรอก" แม่อาร์ทหันมาบอกผมอย่างใจดี
 
"ครับถ้าอย่างนั้นผมเรียกแม่แล้วกันนะครับ"
 
แม่อาร์ทไม่ได้ตอบ แต่ยิ้มใจดีให้ผม ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาที่แม่อาร์ทไม่ได้เป็นคนดุ ทำให้ผมไม่เกร็งเหมือนที่คิดไว้
 
"แล้วนี่มาหาอาร์ทกันเหรอลูก"
 
"ใช่น้าจันทร์แม่บอกกว่าไอ้อาร์ทจะกลับมาก็สี่โมงก็เลยมาก่อนเวลาจะได้มาคุยกับน้าจันทร์ให้หายคิดถึงเลย" น้ำตาลไม่พูดเปล่ายังขยับเข้าไปกอดแม่ของอาร์ทอีกด้วย
 
"ปากหวานนะยายตาล เห็นเจ้าอาร์ทบอกเราไปค่ายอาสาอะไรไม่ใช่เหรอถึงไม่ยอมกลับมาด้วยกัน"
 
"ฮะ ตาลเนี่ยนะไปค่าย"
 
"อืม อาร์ทบอกน้าอย่างนั้น"
 
"ไอ้อาร์ทคงเข้าใจผิดแหละน้าจันทร์ ตาลไม่ได้ไปลงชื่อถึงได้ว่างลอยไปลอยมาอยู่อย่างนี้" น้ำตาลพูดจบก็ยิ้มแป้น
 
"แล้วนี่มากันยังใครน่ะ" แม่อาร์ทหันมาถามผม
 
"ผมขับรถมาครับ"
 
"ฮะ จากกรุงเทพน่ะหรอลูก" แม่อาร์ททำท่าตกใจ
 
"ใช่ครับ ผมไม่ได้รีบร้อนอะไรจึงขับมาเรื่อยๆ กับตาลสองคนครับ"
 
"แล้วจะไปเที่ยวไหนกันต่อหรือเปล่า"
 
"ผมยังไม่ได้คิดไว้เลยครับ"
 
"แต่ตาลว่าเย็นนี้จะพาพี่โชไปถนนคนเดินค่ะน้าจันทร์จะขอเอาไอ้อาร์ทไปด้วย"
 
"เจ้าอาร์ทจะไปเป็นก้างขวางคอเปล่าๆ น่ะ" แม่อาร์ทพูดแซว
 
"หืม น้าจันทร์อ่า ให้อาร์ทไปนะน้าจันทร์"
 
"ไปสิลูก เดี๋ยวรอเจ้าตัวกลับมาก็บอกกันเองแล้วกัน น้าอนุญาตแล้ว"
 
"น้าจันทร์น้ารักที่สุด" น้ำตาลกอดแม่อาร์ทอีกครั้ง
 
นั่งคุยกับแม่อาร์ทไปสักพัก ก็เห็นแม่อาร์ทมองไปทางด้านหลังของผมและน้ำตาลก็จะเอ่ยขึ้น
 
"กลับมาแล้วเหรอลูก"
 
ทั้งผมและน้ำตาลหันไปตามสายตาของแม่อาร์ท ก็เห็นคนที่ถูกทักชะงักค้างไปก่อนจะส่งเสียงเรียกผมและน้ำตาลออกมา

==================
TBC.
Talk.มาช้าเลยตอนนี้ เค้าขอโทษอย่าเพิ่งโกรธกันน๊าา พอดีไปต่างจังหวัดแล้วไม่ได้เอาคอมไปด้วยเราเลยลงไม่ได้เลยยยย ....
ปล.ตอนนี้อยู่พาสพี่โชก่อนน๊า รอตอนต่อไปน๊า ว่าพี่โชกับน้องอาร์ทจะเคลียร์กันยังไง  พี่โชจะมาง้อน้องหรือเปล่ารอน๊าา (รักนักอ่านทุกคน อย่าทิ้งเค้าน๊าาาาา)
 
  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 20-06-2017 11:09:43
ทำไมตาลทำเหมือนเป็นแฟนงี้อ่ะ ไม่แก้ไม่อะไรเลย วางแผนอะไรไว้รึเปล่า
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 20-06-2017 13:46:40
ทำไมตาล ถึงได้ทำเปนแฟน กับโชว์ ถ้าเราเปนอาร์ท คงถอยออกมาทั้งโช ทั้งตาลแหละ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 20-06-2017 15:03:20
 :hao4:


งง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 20-06-2017 16:10:23
 :pig4: :pig4: อ่านๆไปนี่เหมือนตาลกับโชเป็นแฟนกันเลย โชไม่แก้ ตาลก็ไม่แก้ -*-
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 20-06-2017 16:38:26
ตามลุ้นต่อไปค่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-06-2017 16:55:26
ทำไมถึงยิ้มรับ ไม่แก้หน่อยเลยเหรอว่าเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องอ่ะ ดีที่อาร์ทไม่ได้ยินไม่งั้นเข้าใจผิดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 20-06-2017 19:15:40
โว๊ะ นึกว่าตอนนี้่จะวิ่งไล่กอดกันแล้ว อีกคนวิ่งหนี อีกคนวิ่งไล่
ขึ้นต้นลำไยต้นนั้น และลงต้นนี้ เหนื่อยหอบนิดๆ แล้วก็วิ่งต่อ

้แต่ไม่เป็นไรนะ เราไม่รีบเร่งให้คนเขีนนลำบากใจหรอกนะ
จะรอนะจ๊ะ
 :katai4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: AFTERJ ที่ 20-06-2017 19:20:58
รีบๆมาต่อนะ ชอบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-06-2017 19:37:51
นึกว่าจะไปต่อ  :ling1: :ling1: :ling1:

โช กับน้ำตาล ยังไม่เลิกแผนที่วางไว้กันอีกหรือ  :hao3:
แค่นี้อาร์ท ก็เข้าใจผิดไปแล้ว  :z3:
นี่ทำให้แม่อาร์ท เข้าใจว่าเป็นแฟนกัน แล้วไม่แก้ให้ถูก
ถ้ามีคนที่ชอบอาร์ท โผล่มาแสดงตัว
แล้วอาร์ท ก็ทำเฉยๆเหมือนยอมรับ โชจะอยู่เฉยอีกหรือเปล่า  :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 20-06-2017 22:01:36
พี่โชกับน้ำตาลเนี่ยเค้าเข้าใจกันหรือยังน้ออออออ :monkeysad:
ลุ้นจะแย่แล้วววววว :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 20-06-2017 22:26:15
สรุปแล้วโชมาเชียงใหม่ในฐานะแฟนน้ำตาลซินะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-06-2017 23:33:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 16 [20/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 21-06-2017 13:34:48
เล่าต่อจิๆอย่าย้อนเค้ารออยู่นะเมื่อไหร่จะง้อ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 22-06-2017 21:58:10
ตอนที่ 17

"ไอ้ตาล..พะ..พี่โช"

 

ผมยังงงกับภาพที่อยู่ตรงหน้าผม สองคนนี้มาด้วยกันและที่สำคัญทั้งสองคนมาอยู่กันที่บ้านของผม คำถามมากมายในหัวหัวผมตอนนี้ว่าทั้งสองคนมาที่นี่ได้อย่างไร มาเพื่ออะไร....

 

"มานี่สิลูกยายตาลมาหาน่ะ แล้วยังพาแฟนมาไหว้แม่อีกต่างหาก" แม่ไม่พูดเปล่ายังขวักมือเรียกผมเข้าไป

 

ผมอ้าปากค้างกับคำที่แม่พูดออกมาทั้งที่ผมก็น่าจะเข้าใจตั้งแต่วันที่ผมเห็นข้อความของน้ำตาลแล้วแต่พอมาได้ยินกับหูมันทำให้รู้สึกจุกข้างในอกอย่างบอกไม่ถูก นี่เขาสองคนเป็นแฟนกันอย่างนั้นเหรอ เมื่อผมตั้งสติได้จึงเดินเข้าไปยังวงสนทนาของทั้งสามคน

 

"ไอ้อาร์ทมึงกลับบ้านไม่คิดจะชวนกูสักคำเลยหรือไง" น้ำตาลว่าผมด้วยน้ำเสียงงอนๆ

 

"กะ..ก็กูจำได้ว่ามึงบอกจะไปค่ายตอนปิดเทอม" เสียงผมสั่นเมื่อเริ่มพูดออกไป

 

"มึงไม่ใช่หรอที่ไม่ให้กูไป" น้ำตาลพูดด้วยเสียงเคืองๆ

 

"อะ..เอ่อ กูคงลืมเอง"

 

"แล้วมึงปิดโทรศัพท์ทำไม"

 

"โทรศัพท์กูพังน่ะ กูเลยกะว่าจะซื้อใหม่ตอนเปิดเทอม" ผมอ้างไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้จบคำถามไป

 

"อ้าง" เสียงพี่โชพูดแทรกขึ้นมา

 

ผมหันไปมองค้อนต้นเสียงก่อนจะพูด "แล้วนี่มึงตั้งใจมาหากูหรือแค่พาพี่โชมาไหว้แม่กูเฉยๆ"

 

"ทั้งสองอย่าง"

 

"อืม" ผมตอบกลับไปแค่นั้นโดยไม่กล้าสบตาใครทั้งนั้นเพราะในอกมันอัดแน่นจนจะระเบิดออกมา

 

"มึงไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไปถนนคนเดินกัน กูอยากพาพี่โชเดินเล่น"

 

"กูไม่ไป" ผมตอบด้วยเสียงเรียบ

 

"ได้ไงอ่า กูขอน้าจันทร์ให้แล้วน้าจันทร์ก็อนุญาตแล้วด้วย" น้ำตาลโวยวาย

 

"มึงก็ไปกับพี่โชสองคนนั่แหละ จะเอากูไปเป็น...." ผมพูดไม่ทันจบ

 

"ก็เอามึงไปเป็นเพื่อนไง เดินกันสองคนจะสนุกอะไร ไปมึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กูรอ" น้ำตาลไม่ได้เอ่ยเป็นประโยคขอร้อง แต่มันเป็นประโยคคำสั่งชัดๆ

 

"มึงแม่ง" ผมพูดแค่นั้น ก็รีบเดินขึ้นไปบนห้องเพื่ออาบน้ำแต่งตัว

 

ผมใช้เวลาไม่นานในการจัดการตัวเอง จากนั้นผมจึงเดินลงมาจากบนห้อง เมื่อเดินลงบันไดมาสิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจคือ พ่อผมกลับมาแล้ว ทั้งพ่อและแม่ผมนั่งคุยกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งจะได้เจออย่างสนุกสนาน ปกติพ่อผมคุยไม่เก่งกับคนที่ไม่รู้จักนี่ ผมงงนิดๆ ก่อนจะเดินมาหยุดที่วงสนทนา

 

"อ้าวไอ้ลูกชาย อยู่มหาลัยเป็นนักฟุตบอลไม่เห็นบอกพ่อเลย" พ่อเอ่ยทักผม

 

"เทอมหน้าอาร์ทก็จะลาออกอยู่แล้ว"

 

"ฮะ จะลาออก" พี่โชพูดแทรกขึ้นมา

 

"....." ผมได้แค่มองหน้าพี่โชแต่ไม่ได้ตอบอะไร

 

"ไอ้อาร์ทมึงจะลาออกทำไม" น้ำตาลถามออกมา

 

"ก็กูไม่ต้องช่วยมึงแล้วนี่" ผมพูดพรางเบือนหน้าหนีสายตาพี่โช

 

"ไร้สาระ" พี่โชพูดลอยๆ

 

ผมได้แค่ส่งสายขวางๆ ออกไปมองต้นเสียง ก็เพราะผมไม่ต้องไปช่วยไอ้ตาลมันแล้วนี่นะ เขาสองคนเป็นแฟนกันแล้วจะมีประโยชน์อะไรที่ผมต้องอยู่ในชมรมต่อไปอีก

 

"นี่อาร์ททำไมมองพี่เขาแบบนั้นเดี๋ยวเถอะ" นี่แม่ผมก็เข้าข้างไอ้พี่โชมันแล้วหรอ เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง มันต้องทำอะไรใส่พ่อกับแม่ผมแน่ๆ

 

"ไม่เป็นไรครับแม่ ผมไม่ถือน้อง" ไอ้พี่โชทำเป็นใจดี

 

เดี๋ยวนะไอ้พี่โช มึงเรียกกูว่าน้องเนี่ยนะ ผมทำท่าประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยินออกจากปากพี่มัน

 

"ไม่ได้ลูก อาร์ทขอโทษพี่เขา" แม่บอกพี่โช แล้วหันมาสั่งผมพร้อมกับส่งสายตาดุๆ มายังผม

 

"ขอโทษ" ผมพูดออกไปเสียงเบาอย่างไม่เต็มใจนัก

 

"ไอ้ลูกคนนี้นี่" พ่อทำท่าเอือมระอากับผม

 

"งั้นตาลพาไอ้อาร์ทไปแล้วนะ น้าจันทร์ น้าเชษฐ์" น้ำตาลรีบตัดบท

 

"จ้า ขับรถกันดีๆ ล่ะ" แม่ผมบอกก่อนที่จะลุกเดินตามไปส่งที่หน้าบ้าน

 

"ไอ้อาร์ทเดินไปขึ้นรถที่บ้านกูหรือจะรอที่นี่"

 

"เดินไปกับมึงนั่นแหละ"

 

น้ำตาลเดินนำไป ทำให้ผมและพี่โชเดินตีคู่กันอยู่ด้านหลัง ผมพยายามไม่สนใจคนที่เดินข้างๆ แต่แล้วก็ต้องหันไปมองหน้าพี่โช เมื่อพี่โชเอื้อมมือมาคว้ามือของผม

 

 ผมหันไปส่งสายตาดุให้คนที่คว้ามือของผมไปจับ และพยายามดึงมือออกจากมือของเขาแต่ก็เหมือนไม่เป็นผล เพราะพี่โชยังจับมือของผมไว้แน่น ทำให้ผมต้องส่งสายตาดุกว่าเดิมเพื่อเป็นการสั่งให้ปล่อย ไม่นานพี่โชยอมปล่อยมือเพราะน้ำตาลหันกลับมาเพื่อที่จะถามอะไรสักอย่าง

 

"พี่โชอีกสองวันเราจะไปเที่ยวไหนกันดี"

 

"พี่ยังไม่รู้เลย"

 

"ไอ้อาร์ทว่าไง เราจะไปเที่ยวไหนกันดี"

 

"เรา?" ผมเลิกคิ้วเป็นคำถาม

 

"เออสิก็เราสามคนไง"

 

"กูไม่ไป มึงไปกับพี่โชสองคนเถอะ"

 

"มึงไม่อยากไปกับกูขนาดนั้นเลยเหรอ" น้ำตาลพูดเสียงเศร้าก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทางข้างหน้าต่อ

 

ผมรีบเดินขึ้นไปตีคู่กับน้ำตาล แล้วเอื้อมมือขึ้นกอดคอน้ำตาล "ไม่ใช่สักหน่อย กูแค่อยากให้มึงมีเวลาอยู่กับพี่โชสองคน"

 

น้ำตาลไม่พูดอะไรได้แต่เงียบแล้วเดินตรงไปยังบ้านของน้ำตาล เมื่อถึงบ้านก็ตรงไปที่รถ เราทั้งสามขึ้นมานั่งบนรถ ตอนนี้บรรยากาศในรถเงียบจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจ ทำให้บรรยากาศชวนอึดอัด ผมจึงตัดสินใจพูดขึ้น

 

"เออๆ กูไปด้วยก็ได้ มึงจะไปเที่ยวไหนละ"

 

น้ำตาลรีบหันหน้ามาหาผมที่นั่งอยู่เบาะหลังอย่างดีใจ "จริงนะ กูอยากขึ้นดอย"

 

"ดอยอะไร" ผมถามออกไป

 

"ดอยหมึง"

 

น้ำตาลโพร่งออกมา ทำให้ทั้งผมและพี่โชหันมองหน้าน้ำตาลอย่างแปลกใจ ในเวลาแบบนี้มึงยังจะมาเล่นมุขห้าบาทสิบบาทได้ลงคอนะไอ้ตาล

 

"ไอ้เชี่ยตาลนี่มุขมึงหรอ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงระอา

 

"ก็เห็นเงียบๆ ก็อยากให้ขำกัน แต่มันคงไม่ขำแหละเนอะ ฮ่าๆ"

 

"พี่อยากไปดอยผ้าห่มปก" พี่โชพูดขึ้นมา

 

"พี่โชรู้จักด้วยเหรอ"

 

"พี่ลองเสิร์ชจาก Google น่ะ เห็นมันสวยดี"

 

"ว่าไงไอ้อาร์ท ไปดอยผ้าห่มปกโอเคไหม"

 

"อื้ม"

 

"มึงเป็นอะไรเนี่ย กูไม่เห็นมึงจะคุยกับพี่โชเลย มีอะไรกันหรือเปล่า" น้ำตาลมองหน้าผมสลับกับพี่โช

 

"เปล่า" ผมตอบออกไปทันควัน

 

"แล้วมึงเป็นอะไร"

 

"แค่ไม่อยากคุย ไม่เห็นต้องมีเหตุผล"

 

"หึ" เสียงพี่โชหลุดออกมา ทำให้ผมมองหน้าพี่โชผ่านกระจกมองหลังรถตาขวาง

 

"เออ มึงไม่ต้องสนใจหรอก" ผมบอกปัดเพื่อให้น้ำตาลเลิกสนใจเรื่องของผมกับพี่โชสักที

 

"เอ้าไอ้เพื่อนบ้า" น้ำตาลว่าผมอย่างหงุดหงิด

 

เท่านั้นทุกคนก็เงียบ รถก็แล่นเข้าใกล้กับที่หมายไปเรื่อยๆ ไม่นานนักก็เคลื่อนมาถึงที่จอดรถใกล้กับบริเวณถนนคนเดิน

 

เมื่อรถจอดสนิท

 

"ป่ะ" น้ำตาลหันมาพยักหน้าให้ผม

 

ผมพยักหน้าตอบ

 

"เราเดินเล่นก่อนแล้วกันเนอะพี่โช ค่อยไปหาอะไรกินร้านอาหารใกล้ๆ นี่" น้ำตาลหันไปบอกพี่โช

 

"อึ้ม เอาสิแล้วแต่ตาล พี่ตามใจไกด์สาวสวยของพี่" พี่โชพูดตอบและส่งยิ้มให้น้ำตาล

 

ทำไมผมถึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเมื่อมองภาพตรงหน้า ทั้งคู่เดินนำผมไปด้วยกัน ดูคุยกันสนิทสนมดีอยู่แล้วไม่รู้จะให้ผมมาเป็นส่วนเกินทำไม ผมเดินมองภาพข้างหน้าไปเงียบๆ พร้อมกับความรู้สึกเจ็บในอกที่เห็นภาพตรงหน้า

 

เมื่อเดินเข้ามาในถนนคนเดินเราสามคนก็เดินกันไปมีแวะดูของบ้าง เมื่อเดินมาถึงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์น้ำตาลก็พูดขึ้น

 

"พี่โชเดี๋ยวตาลไปเข้าห้องน้ำแป็บนึงนะคะ"

 

"ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม"

 

"ไม่เป็นไรคะ แค่ตรงนี้ใกล้ๆ เอง พี่โชกับไอ้อาร์ทไปนั่งรอตาลตรงนั้นก่อนก็ได้ค่ะ" น้ำตาลพูดพรางชี้มือไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ตรงสวน

 

"ไม่เอา เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน" ผมรีบเสนอตัวเพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่กับพี่โชสองต่อสอง

 

"ไม่เอา มึงอยู่เป็นเพื่อนพี่โชนี่แหละ เดี๋ยวพี่โชหลง พี่โชยิ่งไม่เคยมา" น้ำตาลสั่งผม

 

"เอ้อ" ผมกระแทกเสียงก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดไปยังเก้าอี้ที่น้ำตาลชี้เมื่อครู่ แต่พี่โชไม่ได้เดินตามผมมา ผมหันมองซ้ายมองขวาก็ไม่พบร่างของอีกคนแต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ ผมจึงนั่งลงอย่างสงบที่เก้าอี้นั้น

 

"อ่ะน้ำ"

 

ผมหันไปมองตามเสียง เมื่อเห็นเป็นโช ก็หันหนีไม่ตอบอะไร

 

"อ่ะน้ำ กินสิ"

 

"ไม่"

 

"เป็นอะไรทำไมไม่กิน"

 

"เปล่า"

 

"เปล่าก็กิน" ไม่พูดเปล่าพี่โชเอาหลอดมาจ่อที่ปากทำท่าจะป้อน

 

ผมแย่งแก้วมาถือในมือมาถือเพื่อที่จะได้ดูดเอง ผมไม่อยากให้ใครมาเห็นทั้งนั้น และผมก็ไม่อยากอยู่กับเขาสองต่อสองเท่าไหร่นัก

 

"จะไม่ยอมพูดกันจริงดิ" โชกุนถามยียวน

 

"ไม่มีอะไรจะพูด"

 

"ก็เรื่องของเร......" โชกุนยังพูดไม่ทันจบ

 

"เรื่องอะไร พี่อย่าพูดอะไรบ้าๆ"

 

"ก็เรื่องของเราคืนนั้น" พี่โชก้มลงมากระซิบที่ข้างหูอาร์ท

 

คำพูดของพี่โชทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา ก่อนจะตวาดออกไป "ไอ้พี่โช" ผมส่งตาขวางใส่พี่โช

 

“หายเจ็บหรือยัง” พี่โชถามอย่างเป็นห่วง

 

“เสือก” ผมตอบกลับด้วยความโมโหหรือเพราะผมอายก็ไม่รู้

 

“กูถามดีๆ เพราะกูเป็....” พี่โชยังพูดไม่ทันจะจบประโยค

 

“พี่เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว” ผมขมวดคิ้ว

 

โชกุนไหวไหล "กูพูดเรื่องจริง"

 

"พี่ลืมเหอะ ผมลืมมันไปหมดแล้ว"

 

"งั้นหรอ แต่กูไม่ลืม"

 

"แต่พี่เป็นแฟนกับไอ้ตาล" ผมพูดแล้วหันหน้าหนี

 

"กูบอกมึงหรอว่ากูเป็นแฟนกับตาล" พี่โชเอียงหน้ามองผม

 

"ก็ที่แม่ผมบอก......เออช่างเถอะ" ผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องที่ทำให้ผมเจ็บสักเท่าไหร่

 

"แล้วจะให้กูบอกแม่ว่าเป็นผัวมึงได้ไหมละ"

 

ผมหันขวับไปกำหมัดง้างมือออกทำท่าจะต่อยหน้าไอ้พี่โช "ไอ้เหี้ย"

 

พี่โชคว้ามือผมไว้ทัน "จะต่อยผัวได้ลงคอเหรอ"

 

"พี่เล่นเหี้ยอะไรของพี่วะ"

 

"กูไม่ได้เล่น" พี่โชทำท่าจริงจัง

 

"งั้นก็เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว แล้วก็เลิกเรียกตัวเองว่าผัวกับผมด้วย ตอนนี้พี่กับเพื่อนผมกำลังคบกัน อย่าทำให้ผมกับเพื่อนต้องมีปัญหากันเลยพี่โช ผมขอร้อง" เสียงของผมอ่อนลงจนเกือบจะขาดตอน

 

"เพราะแบบนี้ไงกูกับมึงถึงต้องคุยกัน"

 

"แต่ผมไม่มีอะไรจะคุย"

 

"กูไม่ได้เป็....." พี่โชยังพูดไม่ทันจบน้ำตาลก็เดินกลับมา

 

"คุยอะไรกันอยู่หนุ่มๆ" น้ำตาลถามอย่างร่าเริง

 

ผมทำหน้าเลิกลั่กก่อนจะตอบไป "เปล่า มึงไปไหนมา ทำไมนานจัง"

 

"นานบ้าอะไร กูก็ไปต่อคิวเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว"

 

"อือ" ผมตอบแค่นั้นแล้วรีบหันหน้าไปมองทางอื่น

 

"เราไปหาอะไรกินกันเถอะพี่โช ตาลหิวแล้ว"

 

"เอาสิ พี่ก็หิวเหมือนกัน" พี่โชเดินเข้าไปหาน้ำตาลก่อนทั้งคู่จะเดินคู่กันนำหน้าผมไป

 

ผมมองภาพของทั้งสองคนเดินพูดคุยอย่างสนิทสนมกัน ผมก็รู้สึกตุ๊บๆ ที่อกอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เมื่อกี้พี่โชยังแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวผมอยู่เลย เป็นแบบนี้แล้วยังจะต้องคุยอะไรกันอีกนี่ผมต้องทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้

 

ทั้งคู่เดินนำผมไปยังร้านอาหารที่อยู่บริเวณใกล้ๆ กับถนนคนเดิน เราใช้เวลาไม่นานในการกินข้าว จากนั้นเราก็กลับไปที่รถเพื่อเดินทางกลับบ้าน

 

เมื่อรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้าน ผมก็เปิดประตูลงจากรถโดยไม่พูดไม่จากับใครทั้งนั้น ก็เห็นว่าแม่เดินออกมารับที่หน้าประตูบ้านเมื่อผมเดินมาถึงแม่ก็เพิ่งรู้ว่าน้ำตาลกับพี่โชเดินตามลงมาด้วย

 

"น้าจันทร์คืนนี้ตาลฝากพี่โชนอนบ้านน้าจันทร์ด้วยนะจ๊ะ" ตาลไม่พูดเปล่า เข้ามากอดเอวแม่ผมอย่างออดอ้อน

 

"ได้สิลูก" แม่รับคำทันที

 

"ไม่ได้ มึงก็ให้พี่โชไปนอนบ้านมึงสิ" ผมค้านขึ้นทันควัน

 

"ไอ้อาร์ทมึงมันใจแคบ ถ้าพี่โชไปนอนบ้านกูแล้วคนแถวนี้เค้าจะมองกูยังไง มึงอยากเห็นคนนินทาว่ากูเป็นผู้หญิงไม่ดีหรือไง" น้ำตาลชักเหตุผมมาอ้าง

 

"นี่อาร์ท ห้องบ้านเรามีเยอะแยะจะมาไม่ได้อะไร เรานี่มันน่าตี" แม่ดุผมก่อนหันไปพูดกับพี่โชต่อ "โชนอนบ้านแม่นี่แหละลูกไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวแม่ไปเตรียมที่นอนกับกวาดห้องให้นิดหน่อย"

 

"ไม่เป็นไรครับแม่"

 

ได้ยินอย่างนั้นผมรีบหันไปหาพี่โชทันที "พี่โชจะไปนอนกับไอ้ตาลใช่ไหม"

 

“เปล่า”พี่โชหันมาตอบผมและหันไปพูดกับแม่ผมต่อ “จะบอกว่าแม่ไม่ต้องทำความสะอาดห้องใหม่หรอกครับ ผมนอนห้องเดียวกับอาร์ทก็ได้ อยู่กรุงเทพก็นอนด้วยกันอยู่บ่อยๆ ครับ”

 

“ไม่เอา” ผมปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

 

“เดี๋ยวเถอะอาร์ท ทำไมทำนิสัยแบบนี้ ห้องเราตั้งกว้างเตียงก็ใหญ่ ให้พี่เขานอนด้วยจะเป็นอะไร”

 

แม่ดุผมอีกแล้ว ทำไมแม่ถึงเข้าข้างคนอื่นที่เพิ่งเจอกัน

 

“โถ่แม่ ก็อาร์ทอยากนอนคนเดียวนี่”

 

“ให้พี่โชนอนกับเรานั่นแหละอย่าดื้อ” แม่พูดพร้อมกับส่งสายตาพิฆาตใส่ผม

 

“ก็ได้แม่” ผมตอบแค่นั้นแล้วก็ชักสีหน้าไม่พอใจออกมา

 

“ถ้าตกลงได้แล้วตาลกลับบ้านแล้วนะน้าจันทร์”

 

“อ้าวจะกลับยังไงยายตาล”

 

“เดินกลับไงน้าจันทร์แค่นี้เอง”

 

“เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งดีกว่า” พี่โชพูดแทรกขึ้นมา

 

“ใช่น้าว่าให้โชกับอาร์ทไปส่งนั่นแหละ” แม่บอกน้ำตาล แล้วหันมาสั่งผม “เราไปส่งยายตาลเป็นเพื่อนพี่โชแล้วก็พาพี่โชขึ้นไปนอนบนห้องด้วยเข้าใจไหม”

 

“ครับแม่” ผมได้แต่ตอบรับตามคำสั่งแม่อย่างขัดไม่ได้

 

เราสามคนเดินกลับไปขึ้นรถ คราวนี้ผมต้องเป็นคนนั่งข้างหน้าคู่กับพี่โชเพราะไอ้ตาลให้เหตุผลว่าเมื่อส่งมันแล้วจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

 

“พี่โชตาลไปแล้วนะ ฝันดีค่ะ” น้ำตาลยิ้มหวานและโบกมือให้พี่โช

 

“ฝันดีตาล” พี่โชยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

 

“กูไปและไอ้อาร์ท บ๊ายบาย” น้ำตาลทำท่ายียวนใส่ผม

 

“เอ้อ” ผมตอบโดยไม่หันไปมองหน้าอีกฝ่าย

 

เมื่อน้ำตาลลงไปพี่โชก็ยังไม่ออกรถทันที พี่โชกลับหันหน้ามามองผมเหมือนกับว่าจะพูดอะไรแต่ก็ไม่ยอมพูดออกมาจนผมอึดอัดเลยต้องพูดออกไป

 

“มองหน้าผมทำไม”

 

“ยอมคุยกันแล้วหรอ”

 

“ก็แค่อยากรู้ว่าพี่มองหน้าผมทำไม”

 

“ไม่ทำไมหรอกแค่......คิดถึง”

 

คำตอบของพี่โชทำให้ผมนิ่งอึ้งไป ตอนนี้ใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะคนตรงหน้า เขาจะเล่นตลกอะไรกับผมแบบนี้ เขาต้องการอะไรจากผมกันแน่ทั้งที่เขาคบหากับเพื่อนของผมอยู่แท้ๆ บรรยากาศในรถกลับมาเงียบอีกครั้งก่อนที่พี่โชจะทำลายความเงียบขึ้น

 

“มึงอยากให้กูไปคบกับน้ำตาลจริงๆ เหรอ”

 

ผมทำหน้าไม่ถูกก่อนจะรวบรวมสติตอบกลับไป “ใช่”

 

“ทำไม”

 

“เพราะไอ้ตาลมันชอบพี่”

 

“แล้วกูล่ะ มึงไม่ถามกูหรอว่ากูชอบใคร”

 

“มันไม่เกี่ยวกับผม”

 

“แล้วเรื่องของเรา?”

 

“ก็ผมบอกแล้วไงว่าให้พี่ลืม ผมก็จะลืมเหมือนกัน มันก็แค่เมา” ผมกลั้นใจพูดออกไปเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ในใจมันสลายจนอยากจะร้องไห้ออกมาซะอย่างนั้น

 

“แค่เมา...แค่นั้นจริงๆ สินะ” พี่โชทวนคำของผมก่อนจะพูด เท่านั้นพี่โชก็หันกลับไปออกรถกลับไปยังบ้านผม

 

ทำไมผมรู้สึกแย่ที่พี่โชยอมรับง่ายๆ รู้สึกเจ็บที่อกที่พี่โชไม่คิดจะยื้ออะไรเลย เราสองคนเงียบกันมาจนรถเข้าจอดที่จอดรถของบ้านผม

 

ผมเปิดประตูรถลงมาก่อนและยืนรอพี่โชที่ตามลงมาแล้วอ้อมไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าด้านหลังรถ เมื่อพี่โชหยิบกระเป๋าเสร็จก็เดินมาหาผม

 

เราสองคนเดินเข้ามาในบ้านตรงขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นห้องนอนของผมเมื่อเข้าห้องมาได้ผมก็หยิบผ้าขนหนูเพื่อจะเข้าไปอาบน้ำ

 

ห้องนอนตอนนี้มีแต่ความเงียบเราสองคนไม่พูดอะไรกันจนผมเดินเข้าไปอาบน้ำและเสร็จออกมาพี่โชก็เข้าไปอาบน้ำต่อ

 

ระหว่างนั้นผมคิดว่าผมควรรีบนอนก่อนที่จะต้องเผชิญหน้าพี่โชอีกครั้ง ผมจึงลมตัวลงนอนบนเตียงแกล้งหลับตาให้ดูเหมือนว่าไปแล้วทั้งๆ ที่ผมหลับไม่ลงสักนิด

 

ผมได้ยินเสียงพี่โชเปิดประตูห้องน้ำออกมา ทำให้ผมนอนเกร็งจนแทบไม่กระดิกตัว

 

“หลับแล้วหรอ” พี่โชพูดขึ้นมาลอย

 

“………….” ผมเงียบเป็นคำตอบ

 

แล้วเสียงฝีเท้าของอีกคนก็เดินมาหยุดตรงข้างเตียงฝั่งที่ผมนอนอยู่ ตอนนี้ใจผมเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ กลัวว่าพี่โชจะจับได้ว่าผมแกล้งหลับ

 

แต่เปล่าเลยเมื่อพี่โชโน้มตัวลงมาแล้วจูบลงบนหน้าผากของผม พร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของผม

 

“ฝันดีนะเบี้ยวของพี่” พี่โชพูดจบก็ผละออกไปแล้วเดินวนกลับมาอีกฝั่งของเตียง

 

ประโยคที่พี่โชพูดทำให้ผมหน้าร้อนผ่าว ใจเต้นแรง ตอนนี้ผมตัวเกร็งจนจะเป็นตะคิว นี่พี่โชมันเล่นอะไรของมัน พี่มันเล่นกับความรู้สึกกันเกินไปแล้ว

 

เมื่อพี่โชล้มตัวลงนอนได้ก็ดึงร่างของผมที่เหมือนหลับไปแล้วเข้าไปกอดไว้อย่างหลวมๆ ตอนนี้ใจเต้นแรงจนผมกลัวว่าพี่โชจะรู้ว่าผมไม่ได้หลับจริงๆ แต่อ้อมกอดของพี่โชมันก็อุ่นจนทำให้ผมหลับไปในเวลาไม่นาน



==========================

TBC.
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 22-06-2017 22:31:30
ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่า อ่านตอนนี้แล้วกรอกตามองบนให้กับการแสดงออกของน้ำตาล เธอเห็นอาร์ทเป็นเพื่อนจริงรึเปล่า เห็นแต่ความเห็นแก่ตัวที่ฉายชัดตั้งแต่ตอนก่อนๆ ละ โห เขาเรียกว่าอะไรนะ ตอแหล ใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 22-06-2017 22:58:39
เออ..นะ เล่นกับความรู้สึกของกันและกันไปมาเนี่ย
ไม่สนุกหรอก มันเจ็บปวดนะเออ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 22-06-2017 23:02:11
ยังต้องลุ่นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 22-06-2017 23:35:44
ทำไมตาลไม่เคลียกับอาร์ทไปเลย
คือดูก็น่าจะรู้ว่าเพื่อนคงอึดอัด ตัวเองก็ทำเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว

พี่โชอีก นอนห้องเดียวกันแท้ๆ น่าจะเปิดใจคุยไปเลย เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-06-2017 23:58:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 23-06-2017 00:21:15
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 23-06-2017 03:12:48
ทำไมไม่คุยกันตรงๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2017 04:42:50
โช น้ำตาล  เล่น แกล้งอาร์ท นานไปมั้ย
รู้ทั้งรู้ว่าอาร์ท หนีกลับบ้านมาก่อนเพราะอะไร
เจอกันยังเล่นเป็นแฟน ไม่เลิก
หรือน้ำตาลโกรธ เอาคืนอาร์ท ที่มีใจให้โช
แต่มันเกิดเพราะความต้องการเข้าหาโชของตัวเอง
อยากได้เขามาเป็นแฟนแต่ใช้เพื่อนทำทุกอย่าง น้ำตาลแย่มากกกกก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-06-2017 05:32:39
คุยกันดีๆ นะน้องน้ำตาล กับอาร์ท ส่วนพี่โชก็เคลียร์ๆ กับน้องอาร์ทไปได้แล้วนะครับ สงสารน้อง ท่าทางอึดอัดมากมายเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 23-06-2017 05:42:23
สงสารอาร์ทจัง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 23-06-2017 08:16:05
เปนอาร์ท เลิกคบ กับอีตาลละ อีตอแหล รังเกลียด อาร์ทก้อเหมือนกัน เลิกยอมอีห่าตาลได้แล้ว ส่วนไอ้เหี้ยโชว์จะง้ออาร์ทแต่มึงแสดงว่าเปนแฟนกับอีตอแหลตาลเหลือเกิน เกลียดดดดดดดดดดด แม่งทั้งคู่ ขอให้อีตาลโดนกระทำแบบนี้บ้าง ลำไย ชะนีตอแหล ตอนหน้าขอให้มีคนเขามาจีบอาร์ทีเถอะ สาธุ สาธุ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 23-06-2017 09:05:29
ตั้งแต่แรกที่เริ่มอ่านรู้สึกว่าชะนีตัวนี้เห็นแก่ตัวในทุกเรื่องเอาตัวเองเป็นที่ตั้งต้องการอะไรก็บังคับให้คนอื่นทำตามคิดถึงแต่ตัวเองคนแบบนี้ที่จริงไม่น่ามีคนคบเป็นเพื่อนหรอกส่วนไ อตัวผู้แม่งก็ไม่ชัดเจนในทุกๆเรื่องอ่ะเอาไงก็พูดมาเลยดีกว่า :z6:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 23-06-2017 10:28:17
มันหน่วงๆไงไม่รู้
เพื่ออะไรนะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-06-2017 11:20:07
ที่ตาลไม่พูดนี่ก็เอาคืนที่น้องเบี้ยวของพี่โชใช่ป่ะ ที่ไม่ยอมบอกว่าก็ชอบพี่โชเนี่ย
ระวังเถอะเรื่องเล็กจะเป็นเรื่องใหญ่นะตาล
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 23-06-2017 19:30:29
มีความงุนงงพี่่โชว์กับนำ้ตาลมาก ตกลงอะไรยังไงกัน-..-
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 23-06-2017 23:30:07
แง่ๆๆน่าสงสาร :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 24-06-2017 14:07:24
โหไรฟะ เอาจริงจังดิ แม่บผัวมึงนะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 25-06-2017 23:57:56
คืออะไรยังไง. ไม่เคลียร์เลย,,,
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 17 [22/6/17] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 26-06-2017 00:48:02
พี่โชว์นี่น่ารำคาญเหมือนหมาหยอกไก่จะชอบไม่ชอบก็ไม่พูดดีแต่หาเรื่อง เป็นผู้ชายที่ไม่น่าเอามาเป็นแฟน โลเลอยู่นั่นแหละ เท
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-06-2017 20:57:12
ตอนที่ 18

แสงอาทิตย์สาดส่องลอดผ้าม่านเข้ามาทำให้ผมต้องขยี้ตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคน ผมมองหน้าคนที่หลับตาอยู่ข้างๆ ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว คิดถึง...ผมคิดถึงเขา

 

ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องมาก็มีวันนี้นี่แหละที่ผมได้มองหน้าพี่โชแบบเต็มตา ผมเฝ้ามองอยู่อย่างนั้นจนเผลอยื่นหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าของอีกฝ่าย ไวกว่าความคิดผมประกบริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ทิ้งไว้ไม่นานผมก็ผละออกมาและลุกออกจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ

 

“จะรีบไปไหน” เสียงของคนที่ผมคิดว่าหลับอยู่ดังขึ้น

 

ผมสะดุ้งกับเสียงที่ได้ยินจึงรีบหันกลับมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายลืมตาตื่นแล้วจึงหันหน้ากลับมาเพื่อเดินไปอาบน้ำโดยไม่พูดอะไร

 

"เบี้ยว"

 

"อะไร" ผมตอบกลับไปโดยไม่หันไปมอง

 

“จะไปไหน”

 

“อาบน้ำ”

 

“อาบด้วย”

 

ผมหันขวับกลับไปมองค้อนก่อนจะด่าออกไป "ปัญญาอ่อน"

 

“ปัญญาอ่อนตรงไหน แค่ขออาบน้ำด้วย” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงปกติ

 

ผมเงียบไม่ตอบและหันหน้าหนี ก่อนที่พี่โชจะเห็นว่าหน้าของผมกำลังมีสีแดงระเรื่อขึ้นมา

 

“อายเหรอ”

 

“อะไร” ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุดเพื่อไม่ให้อีกคนจับได้ว่าตอนนี้ผมกำลังรู้สึกอย่างไร

 

"จะอายทำไม ก็เห็นกันมาหมดแล้วนี่"

 

"เลอะเทอะ พี่จะอาบก็ไปอาบคนเดียวเลยเดี๋ยวผมลงไปอาบข้างล่าง" ผมพูดแค่นั้นจึงหยิบผ้าขนหนูเดินออกจากห้องไปแต่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของอีกคนตามหลังมา ทำให้ผมหงุดหงิดขึ้นมา

 

เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมเดินตรงเข้าไปในครัวเพื่อจะหาของกินแต่ดันเห็นไอ้พี่โชเข้าไปเสนอหน้าอยู่กับแม่ผมก่อนแล้ว ผมจึงชะงักไม่เดินเข้าไปข้างใน แต่ก็ไม่ทันที่แม่ผมจะหันมาเห็นเข้าซะก่อน

 

“อ้าวตื่นแล้วหรอลูกชาย”

 

“ตื่นนานแล้วเถอะแม่”

 

“ก็เห็นพี่โชเขาลงมาก่อนก็นึกว่าเรายังไม่ตื่นน่ะสิ”

 

“ใช่ที่ไหนเล่า อาร์ทตื่นก่อนมันอีก”

 

“ทำไมเรียกพี่เขาแบบนั้น”

 

“อาร์ทตื่นก่อนพี่โชอีกแม่ อาร์ทลงมาอาบน้ำตั้งนานแล้วเถอะ” ผมเน้นเสียงที่ชื่อพี่โชเป็นการประชดประชัน

 

“จริงๆ ก็ตื่นพร้อมกันนั่นแหละครับแม่” พี่โชพูดแทรกขึ้นมา

 

เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ทำให้ผมคิดถึงสิ่งที่ผมทำลงไปเมื่อเช้า ในเมื่อพี่มันบอกว่าตื่นพร้อมกันก็แปลว่ามันรู้น่ะสิว่าผมจูบปากมัน ตอนนี้หน้าผมร้อนผ่าวจนจะระเบิดออกมาแล้ว นี่ผมทำอะไรลงไปแบบไม่คิดอีกแล้ว

 

“อ่ออย่างนั้นหรอลูก” แม่ผมหันไปเออออกับพี่โช

 

“อ่าวแม่ทีอาร์ทพูดไม่เชื่อ”

 

“ก็เรามันไม่น่าเชื่อถือนี่นา ฮ่าๆ” แม่ว่าขำๆ

 

เมื่อแม่ผมพูดจบไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังแม่ผมก็ทำหน้าทำตาล้อเลียนใส่ผมจนน่าหมั่นไส้ พี่มันมาได้แค่วันเดียวทำไมถึงได้แย่งแม่ผมไปได้ ผมได้แต่มองค้อนพี่มันไปอย่างนั้น จะทำอะไรได้ล่ะก็แม่ผมเล่นให้ท้ายพี่มันขนาดนั้นนี่

 

“แม่อาร์ทหิวแล้วมีอะไรกินบ้าง”

 

“มีของโปรดเราทั้งนั้น มาช่วยกันยกออกไปที่โต๊ะเร็วๆ สิ”

 

แม่พูดจบผมก็ก้าวเข้าไปหยิบจานใส่กับข้าวแล้วเดินตรงออกมายังโต๊ะด้านนอก

 

“อ้าววันนี้ลูกชายพ่อตื่นแต่เช้า”

 

“ก็ปกติไหมละพ่อ”

 

“ก็เห็นว่าวันนี้ไม่ต้องเข้าสวนจะรีบตื่นทำไมละฮ่ะ”

 

“ใครบอกพ่อว่าอาร์ทจะไม่เข้า”

 

“ก็เพื่อนเรามาแล้วเราจะไปทำไม อยู่กับพี่โชกับเจ้าตาลไปเถอะ”

 

“ไม่เอาอาร์ทจะไป”

 

“ไอ้ลูกชายคนนี้นี่ ดื้อจริงๆ”

 

ผมทำปากยื่นปากยาวใส่พ่อ ก่อนจะเห็นว่ามีคนกำลังยืนมองผมเถียงกับพ่ออยู่

 

“ไม่เป็นไรหรอกครับพ่อ ให้อาร์ทไปเถอะ เดี๋ยวผมจะไปกับอาร์ทด้วย” พี่โชบอกพ่อผมอย่างมั่นอกมั่นใจ

 

“เฮ้ย พี่จะไปทำไม”

 

“ก็ไปช่วยทำงานไง”

 

“ไม่ต้อง พี่ก็ไปเที่ยวกับไอ้ตาลสิ”

 

“ไม่ไปอ่ะอยากอยู่นี่มากกว่า”

 

“อะ..เอ่อ พ่อบอกพี่โชหน่อยสิว่าไม่ต้องไปมันร้อน มันไม่สนุก” ผมหันไปหาพ่อเพื่อขอความช่วยเหลือ

 

“เอาสิโช ลองเข้าไปในสวนพ่อดูมีลำไยให้เก็บกินเต็มที่เลย” พ่อว่าด้วยน้ำเสียงเชิญชวน

 

“ครับ” พี่โชตอบรับ

 

“เฮ้ย พ่อไม่ใช่แบบนี้สิ”

 

“เอ้ เรานี่มันยังไงให้อยู่บ้านเป็นเพื่อนพี่เขาก็ไม่เอาอยากไปทำงาน นี่พี่เขาก็จะไปทำงานเป็นเพื่อนแล้วยังจะมาโวยวาย”

 

“โถ่พ่อ”

 

“อ่าวหนุ่มๆ นั่งกันได้แล้วค่ะ มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ” แม่ออกมาขัดการสนทนาทั้งหมด

 

“แม่ช่วยพูดหน่อยสิ”

 

“ช่วยพูดอะไร”

 

“พี่โชจะตามอาร์ทไปทำงานในสวนมันร้อนพี่โชเป็นแขกไม่ต้องให้ไปหรอก”

 

แม่มองผมสลับกับพี่โชก่อนจะพูด “ก็ให้พี่โชไปด้วยนั่นแหละ ถือว่าจะได้หาอะไรทำแก้เบื่อไปด้วยนะลูกโช”

 

“ครับ” พี่โชตอบรอบด้วยสีหน้ายิ้มระรื่น

 

“อ้าว” ผมอ้าปากหวอ เมื่อไม่มีใครเข้าข้างผมสักคน

 

ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกหาน้ำตาลเพื่อหวังให้น้ำตาลมาพาพี่โชกลับไป

 

ตู๊ดๆ

 

(ว่าไงคะ)

 

"มึงมาเอาคนของมึงกลับไปเลยนะ"

 

(อะไรของมึงเนี่ย)

 

"ก็ไอ้พี่โชไง วันนี้มึงจะพาพี่มันไปไหนก็รีบมาพาไปเลย"

 

(เออกูลืมบอกมึง กูฝากพี่โชไว้ที่มึงก่อนนะวันนี้กูต้องไปบ้านย่า)

 

"อ้าว มึงก็พาพี่โชไปด้วยสิ"

 

(ไม่ได้ มึงก็รู้ว่าย่ากูดุจะตาย)

 

"มึงนี่แม่ง สร้างภาระให้กูจริงๆ"

 

(เอาน่า พี่โชกับมึงก็ออกจะสนิทกัน มึงจะอะไรมากมายเนี่ย)

 

"เอ้อ" ผมกระแทกเสียง

 

(เย็นนี้เจอกันนะคะเพื่อนรัก)

 

"เอ้อ แค่นี้นะ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

 

ผมเก็บโทรศัพท์แล้วเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับไอ้พี่โช ผมตั้งหน้าตั้งตากินโดยไม่พูดอะไร ในขณะที่ไอ้พี่โชคุยจ้อทั้งกับพ่อและแม่ของผม มันมีอะไรดีทำไมมันถึงได้รับความเอ็นดูจากพ่อแม่ผมไปขนาดนั้น คิดแล้วก็หงุดหงิด ผมเหมือนเป็นหมาหัวเน่านั่งอยู่บนโต๊ะ

 

"โชเรียนอยู่คณะเดียวกับอาร์ทหรอลูก"

 

"เปล่าครับ ผมเรียนสถาปัตย์"

 

"อ่อ แล้วที่บ้านเราทำอะไรล่ะลูก"

 

"พ่อผมเปิดบริษัทเกี่ยวกับพวกบ้านจัดสรรครับ"

 

"แบบนี้โชเรียนจบก็ต้องกลับไปทำงานที่บริษัทพ่อเราหน่ะสิ”

 

“ก็คงต้องเป็นแบบนั้นมั้งครับ”

 

“แต่เราก็ถือว่าเรียนตรงสายแหละเนอะ ไอ้ลูกชายพ่อนี่สิดันไปเรียนคอมอะไรก็ไม่รู้ แล้วแบบนี้จะกลับมาช่วยพ่อกับแม่ได้ยังไง”

 

เมื่อพ่อพูดจบผมก็รีบแย้งขึ้นมา “ไม่เห็นเกี่ยวเลยเถอะพ่อ เรียนอะไรก็ช่วยงานพ่อได้ทั้งนั้นแหละ”

 

“โถไอ้ลูกชาย ช่วยได้ก็ช่วยได้ ฮ่าๆๆ” พ่อพูดอย่างอ่อนใจก่อนจะขำท่าทางของผม

 

จากนั้นบนโต๊ะอาหารก็เงียบลงทุกคนบนโต๊ะตั้งหน้าตั้งตากินกันไปเพื่อที่จะได้รีบเข้าไปทำงานในสวนก่อนจะสาย

 

"ไปลูก เราไปสวนกันดีกว่า" พ่อลุกขึ้นแล้วพยักหน้าให้พี่โช

 

"ครับ"

 

"เราก็ลุกสิเจ้าอาร์ท" พ่อหันมาดุผม

 

"คร้าบบบ" ผมตอบด้วยน้ำเสียงล้อเลียน

 

"หึๆ ไอ้ลูกคนนี้"

 

พ่อว่าแค่นั้นทุกคนก็เดินตามกันออกมา

 

"พ่อเอาพี่โชไปช่วยงานพ่อเลยนะ เดี๋ยวอาร์ทไปช่วยคนงานทางโน้น" ผมชี้มือชี้ไม้เป็นการบอกพ่อ

 

"ไม่ต้อง เราน่ะมานี่มาช่วยพ่อทางนี้แหละ ทางนู้นคนงานเยอะแล้ว"

 

ผมหายใจฟึดฟัดก่อนจะตอบออกไปอย่างไม่เต็มใจ "ก็ได้"

 

ผมเดินตามพ่อกับพี่โชไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด เมื่อถึงตรงที่พ่อจะให้เราสองคนทำงานพ่อก็หันมาบอก

 

“อย่างนั้นอาร์ทสอนพี่โชแต่งกิ่งต้นลำไยตรงนี้นะ”

 

“พ่อก็สอนสิ” ผมเบ้ปากใส่พ่อ

 

“เรานั่นแหละสอน พ่อจะไปดูตรงนู้นหน่อย เดี๋ยวคนงานเก็บผลออกมาไม่เรียบร้อย”

 

“อ้าวพ่อ...แล้วเมื่อกี้บอกว่าทางนู้นคนงานเยอะแล้ว”

 

“ก็คนทำเยอะแล้วไง แต่พ่อต้องไปคุม เราไปคุมได้ที่ไหนละ ไอ้ลูกคนนี้”

 

“จิ๊” ผมส่งเสียงหงุดหงิดในลำคอ

 

“สอนพี่โชแต่งกิ่งต้นที่เก็บผลไปแล้วนี่แหละ เข้าใจไหมไอ้ลูกชาย”

 

“จ้าาาาาา คุณพ่อ” ผมมองค้อนใส่พ่อ

 

เมื่อพ่อเดินออกไปจากตรงนั้นแล้ว พี่โชก็รีบเดินเข้ามาใกล้ผมจนผมต้องออกปากไล่

 

"เขยิบออกไปหน่อยสิ"

 

"ทำไมอยู่ใกล้ๆ แบบนี้อุ่นดี"

 

"พี่บ้าเหรออากาศร้อนจะตายห่า อุ่นบ้านพี่สิ"

 

"หึหึ" มันขำแต่ก็ยังไม่เขยิบออกไปไกลๆ

 

"พี่จะไม่ขยับจริงๆ ใช่ไหม"

 

"อือ"

 

"งั้นผมไ...."

 

หมับ!

 

"อยู่ใกล้ๆ กันนี่แหละดีจะตาย" พี่โชไม่พูดเปล่ายังใช้มือโอบเอวผมไว้จนตัวแนบชิดกัน

 

"ปล่อยเดี๋ยวคนเห็น" ผมหน้าตาเลิ่กลักมองซ้ายมองขวา

 

"แล้วไง"

 

"พี่โชเล่นให้รู้เรื่องสิวะ เดี๋ยวพ่อเห็น"

 

จุ๊บ!

 

ผมชะงักค้างไปเมื่อพี่โชโน้มหน้าลงมาหอมที่แก้มผมอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว เมื่อสติกลับคืนมาผมจึงทุบเข้าไปแรงๆ ที่อกของเขาหนึ่งที

 

ปึ๊ก!!

 

“เล่นห่าอะไรของพี่เนี่ย”

 

“เล่นที่ไหน แค่อยากหอมแก้มเมียผิดตรงไหน”

ผมเกลียดเวลาที่พี่โชมันเรียกผมว่าเมีย และมันแทนตัวเองว่าผัวที่สุด ถึงแม้มันจะทำให้ผมใจเต้นแรงก็เถอะ แต่ผมเป็นผู้ชายจะไปเป็นเมียได้ยังไงเล่า

 

“ผมบอกให้เลิกเรียกแบบนี้ได้แล้วไงเล่า เดี๋ยวใครมาได้ยินก็เข้าใจผิดกันหมด”

 

“ผิดตรงไหน ก็มึงเป็นเมียกูจริงๆ”

 

“พี่แม่งพูดไม่รู้เรื่องว่ะ แล้วจะทำไหมงานน่ะ ถ้าทำก็หยิบกรรไกรแต่งกิ่งมา”

 

“คร้าบเมีย”

 

ผมได้แต่ชักสีหน้าใส่พี่มันเพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับพี่มันอีก

 

พี่มันจะทำให้ผมสับสนไปขนาดไหน ทั้งๆ ที่พี่มันก็แสดงออกชัดเจนว่าเป็นแฟนกับไอ้ตาลแล้วมันยังจะต้องการอะไรจากผมอีก พี่มันมาทำแบบนี้กับผมทำไม ทำเหมือนผมไม่มีความรู้สึกรู้สาอะไรทำไม

 

ผมและพี่โชต่างก็ช่วยกันตัดแต่งกิ่งต้นลำไยระหว่างที่ผมสอนพี่โชก็มีเล่นมีแหย่กันบ้างอย่างลืมตัว เวลานี้ผมลืมน้ำตาลและสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไปสนิทจนรู้สึกว่าผมเอาแต่ตักตวงความสุขอย่างคนเห็นแก่ตัว

 

 

“เป็นไงบ้างลูก เหนื่อยไหม” พ่อเดินตรงเข้ามาถามพี่โช

 

“ไม่เหนื่อยเลยครับพ่อ”

 

“แต่อาร์ทเหนื่อยนะพ่อ”

 

“ไม่ต้องเลยเรา ไปกลับบ้านกันดีกว่าเย็นแล้ว”

 

“ครับ” ทั้งผมและพี่โชตอบรับพร้อมกัน

 

เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านผมก็ต้องงงเมื่อเห็นรถตู้จอดอยู่หน้าบ้านแถมยังได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากข้างในบ้าน นี่บ้านผมมีแขกอีกแล้วเหรอ

 

“พ่อรถใคร” ผมถามพ่อออกไป

 

“พ่อจะไปรู้เหรอ ก็อยู่ในสวนกับเรา”

 

“บ้านเราจะมีแขกทุกวันเลยหรือไง” ผมบ่นตามประสา

 

เมื่อผมเดินเข้าไปในเขตบ้านก็มีเสียงเรียกออกมาพร้อมกับเจ้าของเสียงที่วิ่งปรี่ออกมา “ไอ้อาร์ท”

 

ผมชะงักเมื่อเห็นพี่คิววิ่งปรี่มากอดคอผม “เฮ้ยพี่คิว มาได้ไง”

 

“กูนั่งรถตู้เนี่ยมา” ไม่พูดเปล่าพี่คิวยังชี้มือไปยังรถตู้คันที่จอดอยู่หน้าบ้าน

 

“ไม่ใช่พี่ ผมหมายถึงมาบ้านผมได้ยังไง แล้วมาทำไม”

 

“แหมไอ้นี่ กูมาหาแทนที่จะดีใจ ถามมาได้ว่ามาทำไม”

 

ผมยังไม่ทันตอบก็มีเสียงจากคนด้านหลังดังขึ้นมา “เอามือออกได้แล้วมั้งไอ้คิว”

 

“อุ่ย ขอโทษครับเพื่อนโช” พี่คิวทำเป็นทีเล่นทีจริงกับเพื่อนเขา

 

“ไอ้คิวนี่พ่ออาร์ท” พี่โชผายมือไปที่พ่อของผม

 

พี่คิวยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับพูด “สวัสดีครับพ่อ”

 

พ่อผมยิ้มให้พี่คิวก่อนพยักหน้ารับ “ไปงั้นเข้าไปในบ้านกันเถอะ”

 

เราทุกคนเดินตรงเข้าไปในบ้านก็พบว่าทั้งเพื่อนผมและเพื่อนพี่โชนั่งกันหน้าสลอนอยู่ที่โซฟาตรงห้องรับแขก

 

“นี่มากันครบขนาดนี้เลย” ผมถามไปอย่างงงๆ

 

“แหงดิวะ เพื่อนเล่นหนีมาเที่ยวคนเดียวไม่บอกใครเลยนี่หว่า” กายพูดเหน็บแนม

 

“เดี๋ยวไอ้กาย กูกลับบ้านไหมล่ะ ไม่ได้เที่ยว”

 

“นั่นแหละ เขาตามหามึงกันให้วุ่น”

 

“เออมึงเงียบปากไปเลย” ผมเริ่มไม่อยากฟังไอ้กายพูดต่อเท่าไหร่

 

“แล้วมึงกับไอ้โชเป....” พี่ณัฐพูดยังไม่ทันจบ

 

“เป็นอะไรล่ะพี่ ไม่ได้ได้เป็นอะไรทั้งนั้นแหละ” ผมพูดแทรกขึ้นมา ก่อนจะเหลือบตาไปมองหน้าน้ำตาลอย่างพิรุธ

 

“กูยังพูดไม่ทันจบ” พี่ณัฐโวยวาย

 

“นั่นแหละพี่ไม่ต้องพูดแล้ว และนี่จะไปนอนไหนกัน”

 

ผมถามจบก็เห็นแม่เดินออกมาจากห้องครัวแล้วพูดขึ้น

 

“ก็นอนบ้านเรานี่แหละ พวกพี่ๆ กับเพื่อนๆ เราช่วยกันทำความสะอาดห้องเรียบร้อยแล้ว”

 

“ฮ่ะ” ผมต้องตกใจอีกกี่รอบถึงจะหมดเรื่องเซอร์ไพรส์พวกนี้เนี่ย

 

“ก็พรุ่งนี้พวกเราจะขึ้นดอยกันไง คืนนี้กูเลยขอแม่มึงนอนบ้านมึง หรือมึงมีปัญหา” พี่คิวถามผมอย่างยียวน

 

“ขึ้นดอย?”

 

“ใช่ก็ดอยผ้าห่มปกอะไรนั่น ที่ไอ้โชมันอยากไปไง”

 

“นี่พี่โชชวนพวกพี่มาหรอ”

 

“เออน่ะสิ” พี่อัครจากที่เงียบมานานก็ส่งเสียงขึ้นมา

 

“โอเคงั้นตามสบายพวกพี่เลย ผมจะขึ้นไปอาบน้ำแล้ว” ผมรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะคุยกับพวกนี้ต่อไปจึงตัดบท

 

“เอ้อ”

 

ผมเดินตรงไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปบนชั้นสองก็ชะงักอีกครั้งเมื่อเห็นฟ้าเดินออกมาจากห้องน้ำชั้นล่าง

 

“อ้าวอาร์ทหวัดดี”

 

“หะ..หวัดดี ฟ้าก็มากับเขาด้วยเหรอ”

 

“อื้อ อาร์ทเป็นอะไรหรือเปล่าดูหน้าซีดๆ”

 

“อ่อเปล่าหรอกเราไปทำงานในสวนมาน่ะว่าจะขึ้นไปอาบน้ำ”

 

“งั้นไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวค่อยลงมาคุยกันเนอะ”

 

ผมยิ้มให้ฟ้ากำลังอ้าปากจะตอบแต่กลับมีร่างของใครบางมายืนประชิดแล้วชิงพูดขึ้นก่อน

 

“ชักช้าแล้วเมื่อไหร่จะได้อาบน้ำ”

 

ผมหันไปมองอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ยุ่ง”

 

เท่านั้นพี่โชก็ไม่พูดอะไรต่อแต่เปลี่ยนเป็นมาลากแขนผมให้ตามขึ้นไปข้างบนห้องแทน ผมเหวอทำหน้าไม่ถูกเพราะทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมและพี่โช แต่ไม่ทันคิดอะไรทั้งผมและพี่โชก็เข้ามาอยู่ในห้องแล้ว

 

“พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย”

 

“ก็มึงมันขี้อ่อย”

 

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่วะ”

 

“ต้องให้กูพูดอีกครั้งไหมว่ามึงเมี......”

 

พี่โชยังพูดไม่จบผมก็ยกมือขึ้นไปปิดปากพี่มันไว้อย่างนั้นก่อนที่ผมพูด “ผมบอกพี่แล้วไงว่าอย่าพูดแบบนี้อีก”

 

“อ่ออึงออบอ่อยเอ้าไออั่วอ่ะ” พี่โชพูดอะไรออกมาแต่ผมฟังไม่รู้เรื่องจึงเอามือออกให้เขาพูดใหม่

 

“พี่ว่าไงนะ”

 

“ก็มึงชอบอ่อยเขาไปทั่วไง”

 

“ผมไม่ได้อ่อยโว้ย พี่แม่งบ้า”

 

“งั้นมึงก็ห้ามไปทำแบบนี้กับใครอีก ไม่งั้นกูประกาศแน่ว่าเรา” พี่โชพูดถึงแค่นั้นก่อนจะยกยิ้มร้ายให้ผม

 

ผมได้แต่มองค้อนไอ้พี่โชมันไปอย่างนั้น แล้วก็รีบพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำเพาะตอนนี้หน้าทั้งหน้าผมร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

 

เวลาอาหารเย็นจบลงพร้อมกับการจัดการแบ่งห้องนอนของพวกพี่ๆ และเพื่อนๆ ผม

 

“ไอ้ณัฐมึงนอนกับไอ้กาย ส่วนกูนอนกับไอ้อัครแล้วน้องฟ้าไปนอนกับน้องตาลที่บ้าน และไอ้โชก็นอนกับไอ้อาร์ทเหมือนเดิม ตกลงตามนี้นะ” พี่คิวมันสรุปของมันอยู่คนเดียวไม่เห็นมีใครตกลงอะไรกับพี่มันสักคน

 

“เฮ้ยพี่เดี๋ยวดิ พี่คิวเอาพี่โชไปนอนด้วยสิ”

 

“อ่าว ไอ้โชก็นอนกับมึงอยู่แล้วนิ่จะให้มาเบียดกับพวกกูทำไม”

 

“ถ้างั้นพี่มานอนกับผมแล้วให้พี่โชไปนอนกับพี่อัคร”

 

“เออได้” พี่คิวตอบตกลงอย่างง่ายดาย

 

“ไม่” เสียงไอ้พี่โชค้านขึ้น

 

“แล้วมึงจะนอนกับใครครับเพื่อนโชไหนบอกสิ”

 

“ก็นอนกับพวกมึงสองคนนั่นแหละ”

 

“เฮ้ยจะเบียดกันทำไมวะห้องไอ้อาร์ทก็ว่าง”

 

“กูบอกว่าจะนอนกับพวกมึงสองตัวไง”

 

“ก็ตามนั้นแหละไอ้คิว มึงจะอะไรนักหนาวะ” พี่ณัฐเอ่ยตัดรำคาญ

 

“เออ” พี่คิวตอบรับแบบหงุดหงิด

 

“พรุ่งนี้ก็ตื่นแต่เช้านะครับทุกคน ไปแยกย้าย” พี่ณัฐพูดเสียงดังบอกทุกคน

 

เมื่อตกลงกันได้ทุกคนก็ต่างคนต่างแยกย้ายไปนอนเพื่อพรุ่งนี้ต้องเตรียมตัวออกกันแต่เช้า

 

พรุ่งนี้เราจะไปขึ้นดอยผ้าห่มปกกัน!!



======================

TBC.



Talk.มันก็จะอึมครึมอย่างนี้ไปก่อนนะ ขอเวลาให้พี่โชทำคะแนนกับคุณพ่อคุณแม่น้องอาร์ทก่อนเน้อๆๆ  ตอนต่อไปเค้าจะได้เคลียกันแน่ๆ มารอลุ้นกันว่าเค้าสามคนจะเป็นยังไง อย่าเพิ่งทิ้งกันน๊าา รอไปที่ที่บรรยากาศดีๆ มาช่วยคลี่คลายก่อนน๊าาา
อย่าเกลียดพี่โชกับน้ำตาลเบยยย  สงสาร อิอิ  :mew4:  :mew4: :mew4: :mew2:

ปล.ตอนหน้าเค้าาจะมาให้ไวๆ นะ อย่าทิ้งเค้าน๊าาาา

 
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 27-06-2017 22:09:23
เย่ๆเมื่อไหร่จะคุยรู้เรื่องซักทีเนี้ย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 27-06-2017 22:12:04
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-06-2017 22:53:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-06-2017 23:26:41
จนป่านนี้ พี่โช ก็ยังไม่พูด
ทั้งที่มีโอกาส อยู่ในสวนลำไยกับอาร์ทสองคน
เอาแต่ลวนลามอาร์ท

เพื่อๆตามมาเป็นโขยง
แล้วอาร์ทจะไปเที่ยวดอยผ้าห่มปก กับเขามั้ยเนี่ย

สงสัย น้ำตาล พี่โช จะบอกความจริงกับอาร์ทบนดอยแน่เลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 27-06-2017 23:42:34
แอบย่องไปนอนห้องอาร์ทแน่ๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 28-06-2017 17:52:36
รู้สึกลำไยทั้งโชทั้งน้ำตาล มีอะไรไม่รีบๆเคียร์ โว๊ะ รำ!!  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 28-06-2017 21:40:50
รีบเคลียร์กันไวๆเน้อออ คนอ่านจะตายแล้ว  :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-06-2017 22:55:40
อยากกินลำไยจากต้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 28-06-2017 23:21:46
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 29-06-2017 11:39:44
อ่านแล้วท้องผูก...มันอึดอัดเหลือเกิน.... :z3:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 29-06-2017 12:05:29
หวังว่าไปขึ้นดอยคราวนี้ คงหาเวลาเคลียกันให้รู้เรื่องนะ

อ่านแล้วอยากมีสวนผลไม้บ้างเลย 555+
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 29-06-2017 12:39:29
ตาลทำไมยังกั๊กเพื่อนไว้อีกอ่ะ
พี่โชก็ฟันธงน้องเร็วๆ หน่อย
จะบอกทีไรมีเหตุมาขัดจังหวะทุกที
ลุ้นๆๆ
:mew3:


รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 29-06-2017 13:37:27
จะค้างคาแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่!! โว้ หงุดหงิดแทน สงสารอารท รักเขา รู้สึกแฮปปี้มีความสุขก็ทำได้ไม่เต็มที เพราะรู้สึกผิดต่อเพื่อน แล้วน้ำตาลทำแบบนี้เพื่ออะไร
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 18 [27/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tarotman ที่ 30-06-2017 15:40:08
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:
 แผนการล้ำลึก
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 30-06-2017 21:36:34
ตอนที่ 19

พวกเราเดินทางมาถึงดอยผ้าห่มปกในเวลาเจ็ดโมงเช้า ที่พักที่นี่เป็นแบบกางเต็นท์ซึ่งจากจุดที่รถจอดก็ยังต้องต้องเดินขึ้นไปยังจุดกางเต็นท์ที่จะเป็นที่พักสำหรับเราคืนนี้อีก กว่าจะถึงก็กินเวลาไปไม่น้อย

 

เมื่อถึงยังจุดกางเต็นท์ทุกคนก็ตกลงจับคู่นอนกันอีกครั้งเพราะเต็นท์หนึ่งสามารถนอนได้แค่สองคน

 

การถกเถียงเรื่องที่นอนนั้นก็กินเวลาไปอีกสักพักใหญ่จนได้ข้อสรุปว่า ผมนอนกับกาย พี่โชนอนกับพี่ณัฐ พี่คิวนอนกับพี่อัคร และฟ้านอนกับน้ำตาล

 

ทุกคนช่วยกันกางเต็นท์อย่างสนุกสนาน จะว่าไปเวลานี้ผมก็มีความสุขไม่น้อยที่ได้มาเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้ แถมยังมาอยู่ที่อากาศดีๆ อย่างนี้ด้วยแล้วมันทำให้ผมลืมเรื่องที่หนักอกหนักใจไปชั่วขณะ

 

ผมลืมตัวเผลอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายภาพบรรยากาศรอบๆ

 

“ไอ้อาร์ทไหนมึงบอกว่าโทรศัพท์มึงเสียไง” น้ำตาลเดินมาจากด้านหลังของผม

 

“อะ..เออ ก็อยู่ดีๆ มันก็เปิดติดเองนี่หว่า” ผมทำตีมึนอย่างไม่รู้ไม่ชี้

 

“มึงมันขี้โกหก”

 

“เฮ้ย กูไม่ได้โกหกสักหน่อยทำไมมึงว่ากูแบบนี้ละ กูเสียใจนะ” ผมแกล้งทำหน้าตาน่าสงสาร

 

“หึ” น้ำตาลทำแค่นั้นแล้วเดินกลับไปช่วยคนอื่นกางเต็นท์ต่อ

 

ผมก็ยังคงใช้โทรศัพท์มือถือเก็บภาพบรรยากาศและวิวต่างๆ ต่อไปโดยไม่สนใจใคร นี่ผมเป็นคนเชียงใหม่แท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้มาที่นี่ ผมไม่รู้เลยว่ามีดอยที่สวยงามขนาดนี้อยู่ในจังหวัดบ้านเกิดผม

 

“ไอ้อาร์ทอย่าอู้ มาช่วยกูกางเต็นท์เลยสัด” ไอ้กายตะโกนโววายใส่ผม

 

“เอ้อ รู้แล้วน่า โวยวายจริงๆ เลยมึง”



ผมเดินตรงกลับไปที่เต็นท์เพื่อช่วยกายและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ข้างในเต็นท์

 

“นี่มึงมีปัญหาอะไรกับพี่โชหรือเปล่าวะ” อยู่ๆ ไอ้กายก็โพร่งถามขึ้นมา

 

“ไม่มี” ผมตอบไป

 

“กูเพื่อนมึงนะเว้ย ถ้ามีอะไรก็บอกกูได้”

 

“กูไม่มีอะไรจริงๆ”

 

“เออไม่มีก็ไม่มีแต่ถ้ามึงอยากเล่าเมื่อไหร่ก็เล่าแล้วกัน กูพร้อมรับฟังมึงเสมอ”

 

“นี่มึงรู้อะไรมา” ผมอดที่จะถามออกไปไม่ได้

 

“กูก็ไม่รู้อะไรเท่าไหร่หรอก กูรอฟังจากปากมึงเองดีกว่า”

 

“กูก็รอฟังจากปากมึงอยู่เหมือนกันนะ” ผมได้ทีย้อนไอ้กายกลับไป

 

“เรื่อง?”

 

“มึงกับพี่ณัฐ” ผมเอียงหน้าตอบมัน

 

“หึ มึงยังต้องถามกูอีกเหรอวะ”

 

“กูก็อยากได้ยินจากปากมึงเหมือนกันนั่นแหละ”

 

ไอ้กายยิ้มให้ผมแล้วส่ายหัว “งั้นกูรอพูดพร้อมมึงแล้วกัน”

 

“หึหึ” ผมได้แค่ส่งเสียงออกไปอย่างนั้น

 

“บางทีมึงทำอะไรตามหัวใจบ้างก็ได้นะ” กายพูดขึ้นมาลอยๆ

 

“มึงว่าไงนะ”

 

“กูบอกว่า ให้มึงทำตามหัวใจมึงบ้างก็ได้”

 

“แต่ถ้าทำตามหัวใจแล้วมันผิด กูก็ต้องห้ามใจหรือเปล่าวะ”

 

“มึงเอาอะไรมาตัดสินว่ามันผิดหรือไม่ผิด กูจะบอกให้นะเรื่องหัวใจมันไม่มีผิดไม่มีถูกหรอกเว้ย หัวใจมันบังคับกันไม่ได้”

 

“มึงต้องการจะบอกให้กูทำตามหัวใจโดยไม่สนใจความรู้สึกคนอื่นนี่นะ กูทำไม่ได้วะ”

 

“เห้อ งั้นมึงก็ลองตัดสินใจดูแล้วกัน แต่ยังไงกูก็อยู่ข้างมึงเว้ยเพื่อน” ไอ้กายถอนหายใจก่อนจะยกแขนขึ้นมาโอบไหล่ผมเป็นการปลอบใจ

 

“ขอบใจมึงวะ” ผมยกมือขึ้นมาจับมือมันไว้ให้รู้ถึงความหวังดีของมัน

 

แกรก!

 

เสียงซิบเปิดออกจากทางด้านนอก ผมสองคนหันไปมองก็พบว่าคนที่เปิดซิบออกคือพี่ณัฐ ทำให้ผมและกายผละออกจากกัน ดูเหมือนว่าพี่ณัฐจะชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงปกติ

 

“จัดของเสร็จกันยัง พวกนั้นให้มาตามไปกินข้าวน่ะ”

 

ไอ้กายรีบพุ่งตัวเข้าไปดึงแขนพี่ณัฐก่อนที่พี่ณัฐจะหันหน้าออกไป “เดี๋ยวก่อน”

 

“อะไร” พี่ณัฐพูดเสียงเรียบ

 

“มันไม่มีอะไรนะ เมื่อกี้แค่ปลอบไอ้อาร์ทมันเฉยๆ” กายวางหน้าไม่ถูก

 

“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” พี่ณัฐบอกกับกาย และหันมาพูดกับผม “ไปมึงไปกินข้าวได้แล้ว”

 

“ครับ”

 

เท่านั้นผมก็รีบพุ่งตัวออกจากตรงนั้นไปหากลุ่มเพื่อนๆ และพี่ๆ คนอื่นอย่างไว เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศตรงนี้จะอึดอัดเกินไป ให้เขาสองคนเคลียร์กันเองดีกว่า

 

“อ้าวไอ้กายกับไอ้ณัฐละ”

 

“เอ่ออ กำลังตามมาแหละพี่”

 

“มึงมานั่งนี่” พี่คิวกวักมือเรียกผมไปนั่งข้างๆ

 

ผมมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะไปหยุดสายตาที่พี่โช ก่อนที่พี่โชจะพยักหน้าให้ผม นี่ผมกำลังขออนุญาตพี่มันอยู่งั้นหรอ ผมงงตัวเองชะมัดแต่ผมก็เดินไปนั่งลงข้างๆ พี่คิว

 

ผมนั่งมองไปรอบๆ จนผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าว่าตั้งแต่ที่พวกเพื่อนพี่โชและเพื่อนของผมมา น้ำตาลก็เอาแต่ตัวติดอยู่กับฟ้าไม่เห็นได้สนใจพี่โชเหมือนเมื่อวันแรกๆ ที่มาถึง แต่ผมคงคิดมากไป

 

“กินข้าวเสร็จแล้วจะทำอะไรกันวะ” พี่คิวถามขึ้น

 

“ไปเดินถ่ายรูปเล่นกันเถอะค่ะ” ท้องฟ้าเสนอขึ้นมา

 

“โอเคตามนั้นครับน้องฟ้า” พี่คิวทำท่าเจ้าชู้

 

“แหม ที่กับผู้หญิงนี่น้องอย่างนู้นน้องอย่างนี้ ที่กับผมล่ะ” ผมอดจะค่อนแคะพี่คิวไม่ได้

 

“ก็มึงไม่สวย” พี่คิวยักคิ้วท้าทาย

 

ผมเบะปากใส่พี่คิว ก่อนจะหันไปสนใจจานข้าวตรงหน้า

 

เมื่อกินข้าวเสร็จเรียบร้อยทุกคนก็เตรียมตัวออกไปเดินชมธรรมชาติเพื่อจะได้ถ่ายรูป เดินไปสักพักก็เริ่มแยกกันไปเป็นสองกลุ่ม

 

ผมไปกับพี่คิวพี่อัครและพวกที่เหลือก็ไปด้วยกันเราตกลงกันว่าจะกลับมาเจอกันที่ที่พักเพื่อกินอาหารเย็นและมีปาร์ตี้เล่นดนตรีกัน

 

“ไอ้คิวไปหยิบกีต้าร์ในเต็นท์มาสิ” พี่อัครสั่งพี่คิว

 

“ทำไมต้องเป็นกู”

 

“ก็มึงไม่เล่นกูเป็นคนเล่นมึงก็ต้องเป็นคนไปหยิบสิวะ”

 

“ตรรกะห่าอะไรของมึง” พี่คิวโววายแต่ก็ยอมลุกขึ้นไปหยิบแต่โดยดี

 

“ฮ่าๆ” พี่อัครขำตามหลังเพื่อนสุดเกรียน

 

พี่คิวเดินกลับมาพร้อมกีต้าร์โปร่งหนึ่งตัว

 

“ไอ้คิวกูขอกีต้าร์” พี่โชพูดพรางยื่นมือออกเพื่อจะรับกีต้าร์

 

“อ่าวไอ้โช กูอุตส่าห์หลอกให้มันเดินไปหยิบมึงจะมาแย่งกูเล่นซะงั้น” พี่อัครโวยวาย

 

“กูขอเพลงเดียว” พี่โชพูดขึ้น

 

“เอ้อ”

 

พี่โชหยิบกีต้าร์ขึ้นมาดีด พร้อมกับส่งสายตามาที่ผมอย่างไม่กระพริบก่อนจะร้องออกมา

 

“ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยอมหายโกรธ

ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยกโทษให้ฉัน

อย่าทรมานโดยการไม่มองหน้ากัน

นึกว่าสงสาร คนรักกัน ฉันขอโทษ”
*i'm sorry - ab normal

 

ในระหว่างที่พี่โชเล่นเพลงนั้นผมกับไม่กล้าที่จะสบตา เพราะหน้าของผมกำลังร้อนขึ้นมาสะดื้อๆ

 

“อ่ะคืน กูเล่นแค่นี้แหละ” พี่โชเล่นเสร็จก็ส่งคืนให้พี่อัคร

 

ผมเห็นทุกคนร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานผมจึงถือโอกาสตอนที่ทุกคนสนใจอยู่กับดนตรีและเสียงเพลงลุกออกมาเดินเล่นเพื่อไปหาที่เงียบๆ นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนได้ยินเสียง

 

“ทำไมมานั่งคนเดียว”

 

ผมหันไปมองตามเสียงเมื่อพบว่าเป็นพี่โช ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่หันหน้ากลับมามองวิวตามเดิม จนรู้สึกได้ว่าพี่โชนั่งลงข้างๆ เห็นอย่างนั้นผมจึงจะลุกเพื่อจะเดินกลับไปที่กลุ่มปาร์ตี้

 

“เหวอ!!”

 

ไม่ทันจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก็ถูกคนที่นั่งอยู่ฉุดข้อมือจนผมลงไปนั่งบนตักของเขา

 

หน้าของเราสองคนห่างกันแค่คืบจนรู้สึกถึงลมหายใจของกันและกัน ผมและพี่โชเราสบตากันอยู่แบบนั้นก่อนที่ผมจะได้สติและพยายามขืนตัวออกจากพี่โช

 

“ปล่อย”

 

“จะไปไหนนั่งตรงนี้แหละ”

 

“ไม่เอาบอกให้ปล่อยไงจะก....”

 

ผมพูดยังไม่ทันจบก็ถูกมือที่ว่างอยู่ของพี่โชรั้งท้ายทอยของผมเข้าไปหาจนริมฝีปากของผมและเขาประกบกัน ผมนิ่งอึ้งไปทำอะไรไม่ถูกก่อนที่หางตาผมจะเหลือบไปเห็นว่ามีคนยืนมองอยู่

 

ผมรีบผละออกจากพี่โชแล้วรีบเดินเข้าไปหาคนที่ผมเห็นว่ายืนมองอยู่แต่เขาก็เหมือนทำท่าจะเดินหนีผมออกไป

 

“ไอ้ตาล” ผมเรียกน้ำตาลที่หันหลังให้ผมกำลังจะเดินหนีจากตรงนั้น

 

น้ำตาลก็ยังไม่ยอมหยุดเดิน

 

"ตาลฟังกูก่อน"

 

น้ำตาลหยุดเดินเมื่อรู้สึกว่าเราสองคนเดินไกลออกไปจากตรงที่น้ำตาลเห็นภาพเมื่อสักครู่

 

"ตาลมึงฟังกูก่อน มันไม่มีอะไร"

 

"...." น้ำตาลมองผมนิ่งๆ

 

"กูขอโทษ"

 

"มึงจะขอโทษกูทำไม" น้ำตาลพูดด้วยเสียงเรียบ

 

"ก็..." ผมพูดไม่ออกซะอย่างนั้น

 

"กูไม่ได้โกรธที่มึงจูบกับพี่โช แต่กูโกรธที่มึงมีอะไรรู้สึกอะไรแต่มึงกลับไม่บอกกู ทำไมมึงต้องฝืนตัวเองขนาดนี้"

“กะ...กูไม่ได้ฝืนอะไร”

 

“มึงพอได้แล้วอาร์ท กูไม่ได้เป็นแฟนกับพี่โช”

 

ผมอ้าปากค้าง “อะ..อะไรนะ”

 

“กูบอกว่ากูไม่ได้เป็นแฟนกับพี่โช”

 

“แล้วที่มึง” ผมพูดอะไรไม่ออก

 

“มึงจำวันที่มึงนัดให้กูไปกินข้าวกับพี่โชได้ไหม”

 

ผมไม่ได้ตอบอะไรเพียงพยักหน้าไปเท่านั้น

 

“กูจะเล่าให้มึงฟังนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

 

 
***********************

ณ.ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

 

เมื่อรถจอดที่ลานจอดรถหน้าร้านอาหาร

 

“เข้าไปในร้านกันเถอะตาล” โชกุนหันมาพยักหน้าให้น้ำตาล

 

“ค่ะ” น้ำตาลตอบรับ

 

เมื่อเดินมาถึงหน้าร้านก็มีพนักงานบริการมาต้อนรับ

 

“ได้จองไว้หรือเปล่าครับ”

 

“จองไว้ครับ ชื่อโชกุน”

 

“สักครู่นะครับ”

 

พนักงานเดินหายไปสักครู่ก่อนจะเดินกลับมา

 

“เชิญทางนี้เลยครับ”

 

โชกุนและน้ำตาลเดินตามพนักงานบริการเข้าไปยังโต๊ะที่จองไว้ โชกุนเลือกจองโต๊ะที่หลบมุมเงียบๆ เพื่อจะได้คุยกับน้ำตาลได้สะดวก

 

“ตาลอยากกินอะไรสั่งเลยนะ”

 

“ค่ะพี่โช”

 

“ไม่ต้องเกร็งนะ พี่ง่ายๆ สบายๆ”

 

น้ำตาลส่งยิ้มหวานให้โชกุนก่อนจะพูด “ค่ะ งั้นตาลไม่เกรงใจแล้วนะ”

 

“ฮ่าๆ ตามสบายเลย” โชกุนหัวเราะกับท่าทีของน้ำตาล

 

น้ำตาลหันไปสั่งพนักงาน “งั้นเอาข้าวผัดปู 1 แกงส้มแปะซะ 1 ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 แล้วก็.......”

 

น้ำตาลสั่งไปอีกหลายอย่าง ก่อนจะหันมาถามโชกุน

 

“พี่โชจะสั่งอะไรเพิ่มไหมคะ”

 

“พี่ว่าแค่นี้เราก็ไม่น่าจะกินหมดกันแล้วนะ” โชกุนพูดออกไปแบบยิ้มๆ

 

“หือ พี่โชอ่า” น้ำตาลทำท่าเขินโชกุนก่อนจะหันไปบอกพนักงาน “พอแค่นี้ก่อนค่ะ”

 

พนักงานโค้งตัวรับและเดินกลับไปยังครัว

 

“พี่โชคะ”

 

“หือ?” โชกุนเลิกคิ้วสงสัย

 

“พี่โชรู้ใช่ไหมว่าน้ำตาลรู้สึกยังไงกับพี่โช”

 

“พี่ว่าพี่พอจะรู้”

 

“งั้นตาลขอพูดตรงๆ เลยแล้วกันนะคะ”

 

“อึ้ม” โชกุนตอบรับ

 

“ตาลเคยชอบพี่โชค่ะ”

 

“หือ....เคยชอบ หมายความว่า?”

 

“ก็หมายความว่าอย่างนั้นแหละคะ ตาลเคยชอบพี่โชแบบอยากได้เป็นแฟนแต่ตอนนี้ตาลรู้สึกกับพี่โชแค่เป็นพี่คนหนึ่งที่ตาลปลื้ม ปลื้มที่พี่หน้าตาหล่อ ปลื้มที่พี่นิสัยน่ารักเวลาอยู่กับพวกตาลเหมือนปลื้มดาราแบบนั้นมั้งคะ”

 

“พี่ถามได้ไหม”

 

“คะ?” น้ำตาลเอียงคอถามโชกุน

 

“ทำไมน้ำตาลถึงเลิกชอบพี่”

 

“ตาลก็ขอตอบตรงๆ เลยนะคะ ตอนแรกตาลก็ไม่ได้คิดอะไรที่พี่สนิทสนมกับไอ้อาร์ท แต่ตาลก็รู้สึกอยู่หรอกว่ามันแปลกๆ”

 

“แปลกยังไง”

 

“ก็รู้สึกว่าเวลาไอ้อาร์ทกับพี่โชอยู่ด้วยกันมันมีอะไรบางอย่างที่บอกว่ามันไม่ใช่แค่พี่น้องที่สนิทกันธรรมดา แล้วยิ่งตาลเห็นกับตาตาลเลยยิ่งมั่นใจ”

 

“เห็นกับตา?” โชกุนทำหน้าสงสัย

 

“ก็วันที่ไปร้านเหล้ากันวันนั้นไงคะ”

 

“งั้นแสดงว่าตอนนั้นตาลเห็นพี่จูบกับอาร์ทที่หน้าห้องน้ำใช่ไหม”

 

“ค่ะ ตอนนั้นตาลยอมรับเลยนะว่าตาลเสียใจ ตาลคิดว่าทำไมเพื่อนถึงทำกับตาลแบบนั้น”

 

“พี่ขอโทษ” โชกุนรู้สึกผิดจึงเอ่ยออกไป

 

“ไม่ต้องขอโทษค่ะพี่โช จากเหตุการณ์วันนั้นตาลก็กลับมานั่งคิดทบทวนกับตัวเอง ตาลก็พบคำตอบว่า พี่โชกับอาร์ทไม่ผิดถ้าทั้งสองคนจะชอบกัน เพราะตาลเป็นคนบังคับให้ไอ้อาร์ทมันเข้าหาพี่โชเองตั้งแต่แรก ก็ไม่ผิดอะไรที่พี่จะชอบมันแล้วมันจะหวั่นไหวกับพี่ เพราะตาลเป็นคนเปิดโอกาสทุกอย่างให้เองต่างหากเพราะความเห็นแก่ตัวของตาลเองทั้งนั้น”

 

“เรื่องมันเป็นยังไงเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ”

 

ระหว่างที่คุยกันไปอาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟเรื่อยๆ แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่มีแตะต้องอาหารตรงหน้า สนใจแต่เรื่องที่พูดกันอยู่เท่านั้น

 

“คืออย่างนี้พี่โชวันที่มีรับน้องของมหา’ลัยก่อนเปิดเทอม ตาลได้อยู่กลุ่มเดียวกับที่พี่โชดูแล แล้วพี่ดันน่ารักเองนี่ ตาลเลยชอบพี่แล้วมาบังคับให้ไอ้อาร์ทมันไปช่วยจีบพี่ให้ตาล”

 

“ให้อาร์ทมาจีบพี่ให้เนี่ยนะ” โชกุนเลิกคิ้วทำท่าไม่อยากจะเชื่อ

 

“นั่นสิตาลคิดบ้าอะไรอยู่ ตอนนั้นตาลคิดแค่ว่าถ้าส่งไอ้อาร์ทไปตีสนิทกับพี่ ตาลก็จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพี่ค่อยๆ ซึมซับตัวเข้าไปอยู่ในชีวิตพี่”

 

“หึ แล้วเป็นยังไงล่ะ”

 

“ตอนนี้กลายเป็นไอ้อาร์ทคนเดียวเลยที่เข้าไปอยู่ในใจพี่ใช่ไหมล่ะ”

 

“หึ” โชกุนทำได้แค่หัวเราะออกมาจากลำคอ

 

“พี่โชชอบเพื่อนตาลจริงๆ ใช่ไหม”

 

“ตอนแรกพี่ก็ไม่แน่ใจกับความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน”

 

“แล้วตอนนี้ล่ะคะ”

 

“ชัดเจนเลยแหละ พี่ชอบเพื่อนตาลจริงๆ พี่มีความสุขเวลาได้อยู่ใกล้ๆ รู้สึกอยากแกล้งให้มันโมโหเพราะตอนมันโมโหมันน่ารัก แล้วพี่ก็หงุดหงิดที่เห็นมันไปทำตัวสนิทสนมหรือเล่นถึงเนื้อถึงตัวกับคนอื่น” โชกุนพูดไปพรางยิ้มไปอย่างมีความสุขเมื่อพูดถึงอาร์ท

 

“แหม พี่โชพอพูดถึงมันนี่ยิ้มไม่หุบเลยนะ เห็นใจตาลที่เคยอยากเป็นแฟนพี่ด้วย” น้ำตาลมองค้อนใส่โชกุนอย่างเล่นๆ

 

“ฮ่าๆ โทษทีพี่ลืมตัวไปหน่อย”

 

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรค่า ตาลก็ล้อเล่นแค่รู้ว่าพี่ชอบมันจริงๆ ตาลก็ดีใจแล้ว”

 

“แล้วตาลไม่โกรธเหรอ”

 

“ไม่นะคะ ตาลพูดได้เลยตาลไม่เคยคิดจะโกรธมันเลย แต่เสียใจน่ะมันก็มีบ้างแหละค่ะ”

 

“ตาลนี่รักอาร์ทจริงๆ เนอะ”

 

“ตาลรู้ว่ามันก็รักตาลไม่ต่างกันหรอกค่ะ จากนี้ไปนี่แหละพี่โชมันจะเป็นงานยากสำหรับพี่แล้ว”

 

“นั่นสินะ”

 

“ถึงมันจะชอบพี่ก็เถอะ มันก็จะไม่ยอมทำตามหัวใจมันแน่ๆ เพราะยังไงมันก็ต้องเลือกจะแคร์ความรู้สึกตาลมากกว่าหัวใจมันอยู่แล้ว ตาลรู้จักมันดี”

 

“นี่ไงพี่ถึงดีใจที่ตอบรับนัดอาร์ทไปวันนั้น เพราะพี่คิดว่าพี่ต้องคุยกับตาล”

 

“ค่ะ ตาลก็ดีใจเหมือนกันที่มันนัดให้เราได้มาเปิดอกคุยกัน”

 

“ถึงเวลาที่พี่ต้องขอร้องให้ตาลช่วยพี่แล้วสินะ”

 

“ได้เลยค่ะพี่โช แต่ตาลบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าพี่โชทำเพื่อนตาลเสียใจ ตาลไม่เอาพี่โชไว้แน่” น้ำตาลพูดพรางกำหมัดขึ้นมาชูใส่โชกุน

 

“พี่ไม่เกเรแน่นอน”

 

“ถ้าพี่รับปาก ตาลก็จะช่วย ตาลขอกลับไปคิดแผนก่อนแล้วกันไว้ค่อยว่ากัน หึหึ จะแกล้งเอาให้มันหงอยสักหน่อยโทษฐานมาแย่งแฟนในอนาคตของตาลไปเป็นของตัวเอง” น้ำตาลทำหน้าชั่วร้าย

 

“จะดีเหรอตาลพี่กลัวมันจะโกรธ”

 

“แค่หยอกมันเล่นนิดเดียวเอง”

 

“งั้นก็อย่าถึงกับให้อาร์ทเกลียดพี่ละ”

 

“ไม่หรอกน่าพี่โช แค่นิดๆ หน่อยๆ” น้ำตาลยิ้มชั่วร้ายออกมา

 

“งั้นกินข้าวกันเถอะ เย็นหมดแล้ว” โชกุนชี้นิ้วไปที่อาหาร

 

“ไม่เกรงใจแล้วนะ หิวจะแย่อยู่แล้ว”

 

น้ำตาลและโชกุนกินอาหารกันไปคุยกันไปสัพเพเหระ ทำให้ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้น ตอนนี้กลับกลายเป็นน้ำตาลที่ต้องมาช่วยโชกุนจีบอาร์ท ช่วยทำให้อาร์ทรู้หัวใจตัวเองและทำตาหัวใจตัวเองสักที

 

 
************************

 

“หลังจากกลับจากร้านมากูก็มานอนคิดว่ากูจะแกล้งมึงยังไงดี จนคิดได้ว่ากูจะแกล้งเป็นแฟนกับพี่โชเพื่อให้มึงอึดอัดจนต้องระเบิดความรู้สึกของมึงออกมา แต่ก็ดันมารู้จากพี่โชว่ามึงกับพี่โชมีปัญหากันซะก่อน”

 

“แล้วพี่โชบอกมึงหรือเปล่าว่ากูมีปัญหาอะไรกัน”

 

“เอ่อ บะ....บอก”

 

เมื่ออาร์ทฟังน้ำตาลเล่าจบก็เงียบไปไม่แม้แต่จะแสดงสีหน้าว่ารู้สึกยังไง ใบหน้ายังคนเรียบเฉยจนน้ำตาลเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาแทนความเงียบ

 

"แล้วมึงจะเอายังไงต่อ"

 

"ไม่รู้" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ข้างในผมมันร้องไห้ที่รู้ว่าเพื่อนเล่นกับความรู้สึกผมขนาดนี้

 

"นี่มึงโกรธกูใช่ไหม"

 

"มึงคิดว่ากูสมควรโกรธไหมละ นั่นมันความรู้สึกกูนะ มึงเอาความรู้สึกกูมาเล่นแบบนี้เหรอ" ผมพูดไปด้วยเสียงที่สั่นจนแทบคุมไม่ได้

 

"กูขอโทษ อาร์ทกูขอโทษ กูแค่คิดว่ากูจะแกล้งมึงให้มึงพูดความรู้สึกตัวเองออกมาแต่กูไม่คิดว่ามันจะไปทำร้ายความรู้สึกของมึงแบบนี้ กูคิดน้อยไปจริงๆ" น้ำตาลพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

 

น้ำตาลสวมกอดเข้าที่เอวผมและแนบหน้าลงกับแผ่นหลัง ผมสัมผัสได้ถึงน้ำที่เปียกด้านหลัง ผมจึงแกะมือน้ำตาลออกแล้วหันหน้ามาน้ำตาล

 

ตอนนี้น้ำตาลร้องไห้จนน้ำตาอาบแก้ม ภาพนั้นทำให้ผมโกรธมันไม่ลง ผมยื่นมือไปปาดน้ำตาที่แก้มของน้ำตาลอย่างหนักใจ

 

"อาร์ทกูขอโทษ มึงจะโกรธกูก็ได้นะกูจะตามง้อจนกว่ามึงจะหายโกรธ แต่ขออย่างเดียวมึงอย่าเกลียดกูนะ"

 

"อื้ม กูไม่เกลียดมึงหรอก กูแค่เสียใจที่มึงเห็นความรู้สึกกูเป็นของเล่นแบบนี้"

 

"กูขอโทษ"

 

"มึงก็อย่าเลิกง้อกูแล้วกันแต่ตอนนี้กูโกรธมึงอยู่" ผมว่าอย่างขำๆ ทั้งที่ยังมีน้ำตา

 

"อื้ม" น้ำตาลตอบรับพยักหน้ารัวยิ้มหวานให้ผม

 

"แต่มึงอย่าไปโกรธพี่โชเลยนะ ทั้งหมดเป็นความคิดของกูคนเดียวทั้งที่พี่โชเตือนกูแล้วแท้ๆ กูก็ยังบังคับให้พี่โชมาเล่นกับกู"

 

ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากฟังเฉยๆ

 

"มึงชอบพี่โชใช่ไหม"

 

"มันไม่มีประโยชน์อะไรที่กูจะต้องไปชอบคนแบบนั้น"

 

"แต่พี่โชเขาชอบมึง"

 

"ชอบเหรอ ชอบแล้วทำแบบนี้เหรอ"

 

"กูบอกแล้วว่าพี่โชแค่โดนกูบังคับ"

 

"ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ มันฉวยโอกาส...เออช่างเถอะ" ผมไม่อยากพูดต่อ

 

"มึงก็ลองให้โอกาสพี่โชได้อธิบายไม่ได้เหรอ"

 

"อธิบายเพื่ออะไรยังไงกูกับเขาก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อยู่ดี"

 

"มึง กูขอโทษนะ"

 

"มึงพูดคำว่าขอโทษเยอะไปแล้วไอ้ตาล"

 

"ก็เผื่อจะทำให้มึงหายโกรธเร็วขึ้น" น้ำตาลยิ้มให้ผมอย่างมีความหวังก่อนจะมีเสียงหนึ่งลอยมา

 

"ตาลพี่ขอคุยกับอาร์ทหน่อยได้ไหม" เท่านั้นน้ำตาลก็พยักหน้าแล้วเดินกลับไปทางที่พัก

 

"ผมไม่คุย"

 

"แค่ฟังกูอย่างเดียวก็ได้"

 

"....."

 

"กูขอโทษ"

 

"พี่จะมาขอโทษผมเรื่องอะไร"

 

"ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องที่กูเอาความรู้สึกของมึงมาเล่น และเรื่องที่กูฉวยโอกาสกับมึง" พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

 

"หึ"

 

"เรื่องที่กูทำกับตาลกูไม่อยากโทษตาลคนเดียวเพราะกูก็เลือกจะทำตามตาลโดยไม่ห้ามอย่างจริงจัง"

 

"...."

 

"ส่วนเรื่องที่กูฉวยโอกาสกับมึงเพราะกูไม่ควบคุมอารมณ์ของกูเอง"

 

"พี่ก็รู้ว่าผมเมา"

 

“มึงยั่วกู”

 

“เฮ้ย” ผมมองพี่โชตาขวาง

 

"เพราะเป็นมึงไงกูถึงคุมอารมณ์ไม่ได้"

 

"..."

 

"มึงจะให้กูควบคุมอารมณ์กับคนที่กูรักได้ยังไง”

 

“.....” ผมอึ้งไปกับคำที่ได้ยิน ‘รัก’ พี่โชรักผมงั้นหรอ

 

พี่โชเดินเข้ามาใกล้และโอบเอวผมเข้าไปกอดทำให้สัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย

 

“ขอโทษ” พี่โชพูดเบาๆ ข้างหูผม

 

ผมได้นิ่งไม่ตอบอะไร ตอนนี้ผมสับสนไปหมด

 

“ขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจยกโทษให้กูได้ไหม”

 

“.......”

 

“มึงยังไม่ต้องยกโทษให้กูตอนนี้ก็ได้แต่กูขอโอกาสให้กูได้แก้ตัวที่ทำกับมึง”

 

“ยังไง?”

 

“มึงอยากให้กูทำอะไรกูยอมทั้งนั้น”

 

“งั้นพี่ก็ไม่ต้องมายุ่งกับผมอีก”

 

“แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้กูกำลังง้อมึงอยู่แต่มึงจะไม่ให้กูยุ่งกับมึงได้ยังไง”

 

“.....”

 

“แล้วอีกอย่าง มึงจะไม่ให้กูยุ่งกับคนที่กูกำลังจีบอยู่ได้ยังไง”

 

ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูก บอกตรงๆ ในสมองผมตอนนี้มันโล่งไปหมดในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกได้ว่าหน้าผมร้อนจนจะระเบิดออกมา ผมไม่พร้อมจะตอบอะไรตอนนี้จริงๆ

 

“มึงไม่ต้องตอบอะไรก็ได้แค่อย่าปิดโอกาสที่กูจะง้อและจีบมึงก็พอ”

 

พี่โชพูดจบก็ก้มลงมาจูบที่ขมับผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะผละออก ตอนนี้ผมยัง งงไม่หายกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมควรจะทำอย่างไรต่อไป

 

“กลับไปที่ปาร์ตี้เถอะ หายออกมานานแล้ว” ไม่พูดเปล่าพี่โชยังลากแขนผมให้เดินตามไปด้วย

 

“มึงสองคนไปไหนกันมาวะ” พี่คิวถามเมื่อเห็นผมกับพี่โชเดินกลับมาพร้อมกัน

 

“เสือก” พี่โชตอบกลับไปอย่างทันควัน

 

“โหไอ้โช เพื่อนก็เป็นห่วงไหมล่ะสาดด”

 

“หึหึ”

 

ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ ฟ้า ทันทีที่ผมนั่งลง พี่โชก็เดินตามมายื่นแก้วน้ำให้

 

“อ่ะน้ำ”

 

“ไม่จะกินเบียร์”

 

“ไม่ให้กิน”

 

“มันไม่เกี่ยวกับพี่ พี่ไม่มีสิทธิ์มาสั่งผมพี่อย่าลืม”

 

สีหน้าของพี่โชสลดลง ตอนนี้ผมถือไพ่เหนือกว่าพี่โชและน้ำตาล คราวนี้ก็ถึงทีที่ผมจะเอาคืนบ้างแล้วสินะอย่าคิดว่าผมจะหายโกรธกันง่ายๆ เล่นกันจนความรู้สึกผมพังไม่เป็นท่าขนาดนั้น

 

“อาร์ทจ๋ากินบาร์บีคิวสิ” น้ำตาลเดินมาพร้อมกับยื่นบาร์บีคิวให้ผม

 

“ไม่อยากกิน” ผมตอบกลับไปเสียงเรียบอย่างไม่ใส่ใจแล้วหันไปหาพี่คิว “พี่คิวผมอยากกินเบียร์”

 

“ได้ครับน้องอาร์ท” พี่คิวพูดประชดผมก่อนจะยื่นมือมาตบหัวผม “แหมไอ้อาร์ทได้ทีใช้กูเลยนะ”

 

“โด่วว ผมแค่วานพี่นิดหน่อยน่า”

 

“ไอ้โชไม่ให้มึงกินนี่”

 

“เกี่ยวอะไรกับเขานี่มันเรื่องของผม” ผมพูดกับพี่คิวแต่สายตามองไปที่พี่โช

 

ผมหันมาสนใจคุยกับฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆ แทน “ฟ้ากินอะไรยัง”

 

“กินแล้วอาร์ทล่ะหิวไหม ฟ้ายังไม่เห็นอาร์ทได้กินอะไรเลย”

 

ผมยกยิ้มก่อนจะตอบ “แค่นั่งข้างฟ้าก็อิ่มแล้ว”

 

“ก็พูดไป ฮ่าๆ ลองชิมอันนี้สิอร่อยนะ” ฟ้ายื่นบาร์บีคิวให้ผม

 

“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มให้ฟ้า

 

ฟ้ายิ้มตอบโดยไม่ได้พูดอะไร ผมเหลือบตาไปมองทั้งพี่โชและน้ำตาลที่นั่งอยู่ด้วยกัน ก็เห็นว่าทั้งสองคนมองมาที่ผมและฟ้าอยู่แล้วและทำหน้าหงอยทำให้ผมรู้สึกสะใจขึ้นมา

 

“อาร์ทเดี๋ยวฟ้าไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฟ้าทำท่าลุกขึ้น

 

“เดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อนนะ” ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นตามฟ้าไปโดยไม่สนใจใครที่มองตามหลังมา

 

ตอนนี้ผมคิดได้อย่างเดียวคือต้องหาวิธีเอาคืนสองคนนั้นให้สมกับที่เล่นกับความรู้สึกของผมขนาดนี้และฟ้าก็คือตัวช่วยของผม



===============

TBC.

Talk.น้องอาร์ทได้รู้ความจริงสักที ได้เคลียร์กันแล้วนะแต่เหมือนจะไม่จบ น้องอาร์ทไม่ยอมยกโทษให้สองคนนั้นง่ายๆ แน่ มารอดูน้องอาร์ทเอาคืนสองคนนั้นกัน จะมายอมกันง่ายๆ ไม่ได้หรอกกกกก
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 30-06-2017 22:00:31
เออนะ แกล้งกันไป แกล้งกันมา
แล้วไม่เสียใจทีหลังนะ
 :ling1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 30-06-2017 23:42:15
เมื่อไหร่จะหวานสักที  :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 01-07-2017 07:50:15
เปนเราก้อไม่ยกโทษ ถ้าโชพูดความจริงแต่แรกก้อจบ นางตาลด้วยเจ้าแผนการดีนัก เอาให้หนัก
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 01-07-2017 10:00:03
อาร์ทเอาคืนให้หนักๆเลย นี่ทำหน่วงมาหลายตอน
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 01-07-2017 11:53:36
อาร์ทจัดหนักเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-07-2017 17:26:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 01-07-2017 17:27:55
พี่โช กับ น้ำตาล คบกันเองไปดีแล้วมั้ง
ดูศีลเสมอกันทั้งคู่  ทำอะไรไม่คิด

 :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-07-2017 21:00:08
แกล้งกลับน่ะไม่ว่า แต่ดึงฟ้ามาเกี่ยว
ถ้าฟ้าเกิดแกล้งมีใจกลับ คราวนี้อิรุงตุงนัง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 01-07-2017 21:57:43
ง้อ หมาหงอยเลย รีบๆปล้ำเร็วอยากเห็นๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tarotman ที่ 02-07-2017 03:31:21
 :mc4:มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 03-07-2017 23:23:15
จะเอาคืนสักกี่วันเชียว. 555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 04-07-2017 00:48:51
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 19 [30/6/17] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ZE:EZ ที่ 05-07-2017 00:37:24
อย่าเล่นน่าาา  เดี๋ยวเข้าตัวนะ 5555
เกิดฟ้าสวนกลับมาว่าชอบตาลนี่หงอเลยนะ ถถถ :laugh:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 08-07-2017 13:57:16
ตอนที่ 20

ระหว่างที่กำลังเดินไปห้องน้ำทั้งผมและฟ้าก็ต่างคนต่างเงียบจนเดินมาได้สักครู่ฟ้าก็เลือกเป็นคนทำลายความเงียบลง



"อาร์ทดูแปลกๆ นะ"



"หือ แปลกยังไง" ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้



"อย่ามาเนียนอาร์ทคิดจะทำอะไรอยู่หรือเปล่า" ฟ้ายกยิ้มทำท่าอย่างรู้ทัน



"ฟ้ารู้หรอ" ผมถามออกไปเสียงเบา



"ก็แหมอยู่ๆ อาร์ทมาทำตัวติดฟ้าจนออกนอกหน้าขนาดนี้"



"ฮ่าๆ"



"ว่าไงจ๊ะ คิดจะทำอะไร"



"แค่จะยั่วคนเล่นเท่านั้นละ"



"หือ ยั่วคน" ฟ้าทำหน้าเป็นคำถาม



"ใช่ยั่วคนเล่น"



"แล้วยั่วใคร?"



"ไอ้ตาล"



"ยั่วตาลเนี่ยนะ ยั่วยังไง หรือตาลชอบอาร์ท"



"อย่ามาทำเป็นไก๋น่ะฟ้า เรารู้นะว่าฟ้าคิดอะไรกับไอ้ตาล" ผมยิงตรงจนไม่ทันให้ฟ้าได้ตั้งตัว



"บ้าหรออาร์ท คิดอะไร" ฟ้าตอบเสียงสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดอีกทั้งหน้ายังแดงระเรื่อขึ้นมาจนลามไปถึงหู



"แหมฟ้ายอมรับมาเถอะว่าชอบไอ้ตาลมันน่ะ"



"อาร์ทอ่ะพูดอะไร"



"หน้าแดงจนไม่มีสีขาวแล้วฟ้า ฮ่าๆ" ผมแซวฟ้าอย่างขำๆ



ฟ้าได้แต่มองค้อนอย่างอายๆ



"เราแค่ยั่วไอ้ตาลมันเล่น อีกอย่างฟ้าจะได้รู้ไงว่ามันคิดยังไงกับฟ้า"



"ตาลไม่ชอบเราหรอก" ฟ้าพูดเสียงเบา



"ทำไมถึงคิดแบบนั้น"



"ตาลชอบพี่โช” ฟ้าตอบเสียงอ่อยๆ ก่อนจะพูดต่อ “ตาลชอบผู้ชายแต่ฟ้าเป็นผู้หญิง"



"ฟ้ามั่นใจได้ยังไง"



ฟ้าส่ายหน้า



"ฟ้าไม่อยากรู้หรอว่าไอ้ตาลมันคิดยังไงกับฟ้า"



"แล้วเราต้องทำยังไง"



"ฟ้าไม่ต้องทำไรเลย แค่ตามน้ำเราไปก็พอ"



"จะดีเหรอ ฟ้ากลัวคนอื่นเข้าใจผิด"



"คนอื่น?"



"กะ..ก็ พี่โช"



"ช่างเขาสินั่นมันเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเรา"



"แต่.."



"ไม่ต้องแต่เลยฟ้าเชื่อเราเถอะ ผลออกมาดีแน่นอน" ผมยิ้มร้ายส่งให้ฟ้า



เมื่อเราคุยกันเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวแล้วก็รีบกลับไปนั่งรวมกับกลุ่มแบบเดิม เราปาร์ตีกันต่ออีกไม่นานนักก็แยกย้ายกันกลับไปนอน



ผมเดินไปส่งฟ้าที่เต็นท์ “ฟ้าฝันดีนะ” ผมพูดพร้อมยกมือขึ้นเป็นการลา



“เหมือนกันนะอาร์ท” ฟ้าตอบก่อนจะมุดตัวเข้าไปในเต็นท์



น้ำตาลยืนมองผมแบบไม่ละสายตา ก่อนที่จะลากแขนผมให้เดินตามออกห่างจากตรงนั้น



“ไอ้อาร์ทไหนมึงบอกมึงไม่ได้ชอบฟ้าแล้วไง”



“แล้วเกี่ยวอะไรกับมึงไม่ทราบ”



“ไอ้อาร์ทถ้ามึงแค่จะประชดกูกับพี่โชมึงอย่าไปทำกับฟ้าแบบนี้”



“กูทำกับฟ้าแบบไหน”



“ก็มึงทำเหมือนมึงสนใจฟ้า”



“แล้วกูจะยังสนใจฟ้าอยู่ไม่ได้หรือไง”



“หมายความว่ามึงยังไม่เลิกชอบฟ้างั้นหรอ”



“กูบอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับมึงไง”



“ไอ้อาร์ท!” น้ำตาลเผลอขึ้นเสียงใส่ผม



“ทำไมมึงหวงฟ้าเหรอ”



“มะ..ไม่”



“หรือหึง”



“ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละกูแค่เป็นห่วงฟ้าถ้ามึงจะเอาความรู้สึกฟ้ามาเล่น เพราะแค่จะเอาคืนกูกับพี่โช”



“มึงอย่าคิดว่าทุกคนจะทำเหมือนมึง”



“…….” น้ำตาลพูดไม่ออก



ผมไม่คิดจะคุยต่อจึงเดินหนีกลับมายังเต็นท์

 

เช้าวันรุ่งขึ้นพวกเราตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นผมจงใจที่จะเดินคู่กับฟ้าโดยไม่สนใจใคร



"พระอาทิตย์ขึ้นสวยจัง" ฟ้าพูดขึ้นมา



ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดกล้องแล้วหันไปทางฟ้า "ฟ้า"



แชะ!



"เห้ย อาร์ทอ่า เรายังไม่ได้ตั้งตัวเลย" ฟ้ายู่หน้า



"แบบนี้ก็สวยดีออก" ผมพูดพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้ฟ้าดู



"หือสวยตรงไหน" ฟ้าทำหน้างอนๆ



"โอเคๆ งั้นถ่ายใหม่ก็ได้" ผมว่าขำๆ เมื่อเห็นท่าทางของฟ้า



"ถ่ายด้วยสิ" น้ำตาลพูดพร้อมกับเดินเข้ามาเกาะแขนฟ้า



ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะถามออกไปอย่างประชดประชัน "มึงไม่ไปให้แฟนมึงถ่ายละ"



"แฟนที่ไหนกูไม่มีแฟนสักหน่อย"



ผมหันหน้าไปทางพี่โชแล้วพยักหน้าให้น้ำตาล "นั่นไง"



"โถ่ไอ้อาร์ทหายงอนกูได้แล้วน๊าาาา"



ผมไมได้ตอบอะไรน้ำตาล เพียงแต่หันไปพูดกับฟ้า "ฟ้าไปถ่ายรูปตรงนั้นกัน วิวสวยดี"



ฟ้าพยักหน้าตอบรับผม ก่อนหันไปหาน้ำตาล "ตาลเดี๋ยวฟ้าไปถ่ายรูปกับอาร์ทก่อนนะ"



น้ำตาลทำหน้าหงอยแต่ก็พยักหน้ารับ ปกติแล้วฟ้ากับน้ำตาลแทบจะตัวติดกันแต่ตอนนี้มีผมไปคั่นกลางน้ำตาลก็คงจะรู้สึกแย่ไม่น้อย



ผมหันไปมองหน้าพี่โชก่อนที่จะเดินไปกับฟ้า สายตาพี่โชก็หงอยไม่ต่างกับน้ำตาล นี่ถือว่าผมทำสำเร็จหรือเปล่านะ แต่ก็สะใจไม่น้อยที่เห็นสองคนนั้นหงอยแบบนี้



เราต่างคนต่างถ่ายรูปกับวิวที่สวยงามก่อนจะเดินกลับมาที่ที่พักเพื่อกินอาหารเช้ากัน และวันนี้เราก็จะลงจากดอยเพื่อไปเที่ยวที่ต่อไป



กินข้าวเสร็จทุกคนต่างแยกย้ายไปเก็บข้าวของและเต็นท์ เมื่อทุกคนเรียบร้อยก็เดินลงจากดอยไปยังรถ



"ฟ้าเรานั่งด้วยนะ"



"เอ่อแล้วตาล" ฟ้าทำหน้าลำบากใจ



"มึงไปนั่งตรงอื่นได้ใช่ไหม" ผมหันไปถามน้ำตาลอย่างบังคับกลายๆ



"อือ" น้ำตาลตอบแค่นั้นก้เดินไปนั่งลงข้างๆ พี่โช



ไอ้กายเดินตรงมาที่ผม "พวกมึงเป็นอะไรกันวะ"



"กู?"



"เอ้อ ก็มึงกับไอ้ตาลนั่นแหละกูเห็นแปลกๆ ตั้งแต่เมื่อคืน"



"มึงไปถามมันสิ"



"เอ้าไอ้นี่"



ผมยักคิ้วไม่ตอบอะไรก่อนเดินขึ้นรถไปนั่งข้างๆฟ้า



วันนี้เราจะไปเที่ยวต่อกันที่ดอยอ่างขางที่พวกเรายังไม่กลับเพราะพี่คิวบอกว่าไหนๆ ก็ถ่อกันมาจากกรุงเทพแล้วก็เที่ยวดื่มด่ำบรรยากาศให้หนำใจ



เมื่อเดินทางถึงเราก็ทำกันเหมือนเดิมไม่ต่างกันกับที่ดอยผ้าห่มปก เราแยกย้ายกันกางเต็นท์โดยจับคู่นอนกันเหมือนเดิม



เวลาล่วงเลยมาจนตอนนี้ใกล้ที่จะมืดแล้ว ทุกคนจึงช่วยกันจัดเตรียมอาหารสำหรับมือเย็น เนื่องจากพวกเราแวะซื้อของสดกันก่อนจะขึ้นดอย และผู้หญิงอย่างฟ้ากับน้ำตาลก็รับหน้าที่ทำอาหารผมเองก็อาสาเป็นลูกมือให้ฟ้า ส่วนกายและพวกพี่ๆ ก็ก่อไฟเตรียมไว้ให้

 

เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อยฟ้าจึงตะโกนเรียกทุกคนที่เตร็ดเตร่อยู่แถวบริเวณนั้น “ทุกคนมากินข้าวกันได้แล้วค่ะ”



เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็เดินมารวมกลุ่มกันทันที ตอนนี้ฟ้ามืดลงแล้วทำให้อากาศค่อนข้างจะเย็นพอสมควร พี่อัครจึงก่อกองไฟเพื่อไว้ช่วยคลายความหนาว



กิจกรรมคืนนี้ก็ไม่ต่างกับคืนก่อนเท่าไหร่ เรายังคงนั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงและกินเบียร์กันอย่างสนุกสนาน



นั่งไปสักพักผมก็รู้สึกหนาวและเพลียอยากนอนพักขึ้นมาจึงหันไปถามฟ้าที่นั่งข้างๆ “ฟ้าง่วงหรือยัง”



“ยังเลย อาร์ทง่วงแล้วหรอ”



“มันหนาวแล้วก็รู้สึกเพลียๆ น่ะ” ผมพูดออกไปเสียงเนือยๆ



“งั้นอาร์ทไปนอนก่อนเถอะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ฟ้าพูดพรางเอื้อมมือมาจับแขนผม



“แล้วฟ้าละ”



“เดี๋ยวเราขอนั่งเล่นก่อนแล้วกันนะ”



“โอเค งั้นเดี๋ยวเรากลับไปนอนก่อนนะ”



“อึ้ม ฝันดีนะอาร์ท”



ผมพยักหน้าแล้วยิ้มให้ฟ้าก่อนจะหันไปพูดกับคนอื่น “ทุกคนเดี๋ยวผมไปนอนก่อนนะ รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย”



“เป็นอะไร” พี่โชถามขึ้นมา



ผมมองแต่ไม่ได้ตอบอะไรแล้วก็หันหน้าหนีเพื่อจะเดินไปทางเต็นท์



ผมเดินมาถึงเต็นท์ก็เปิดเข้ามานอน ผมรู้สึกเพลียอย่างบอกไม่ถูกทำให้เมื่อหัวถึงหมอนก็เผลอหลับไปอย่างง่ายดาย



ผมกำลังหลับสบายจนถึงตอนนี้อยู่ๆ ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาจนต้องพยายามฝืนลืมตาขึ้นมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของผม เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าร่างของผมถูกสวมกอดด้วยใครอีกคน ก็คงเป็นใครไม่ได้นอกจากกาย



ผมพยายามแกะแขนออกจากตัวผมแล้วพูด “ไอ้กายมึงจะมากอดกูทำไม”



“………..” ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ แต่ก็ไม่ยอมเอามือออกจากร่างกายผม



“ไอ้เหี้ยกาย” ผมโมโหจนทนไม่ไหวจึงด่ามันออกไปแล้วกำลังจะพลิกตัวกลับไปหาแต่ก็โดนอีกคนขืนเอาไว้



“จะโวยวายทำไม” เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่เสียงกายแต่เป็นเสียงพี่โช



“เฮ้ย..พี่เข้ามานอนนี่ได้ไง” ผมทำเสียงตกใจ



“ก็เดินเข้ามา”



“กวนตีนละผมหมายถึงทำไมพี่ไม่ไปนอนเต็นท์ตัวเองมานอนเต็นท์ผมทำไม” ผมพูดไปอย่างหงุดหงิด



“ก็อยากนอนกอดเมีย” พี่โชพูดเสียงเรียบ



“เมียบ้านพี่สิ ปล่อยเดี๋ยวไอ้กายกลับมา”



“ไม่ต้องกลัวไอ้กายเห็นหรอก มันไม่กลับมาหรอก”



“.......” ผมเงียบ



“มันไปนอนกับเมียมันแล้ว” พี่โชเลื่อนหน้ามากระซิบข้างหู



“พี่แม่งปล่อยดิวะ ลืมหรือไงว่าพี่ทำอะไรผมไว้”



พี่โชจับให้ผมหันหน้าเข้ามาหาแล้วใช้สองมือจับที่ไหล่ผมไว้ก่อนจะพูด “ไม่ลืม ก็ง้ออยู่นี่ไง หายโกรธเถอะนะเบี้ยว”



“……….” ผมไม่ตอบอะไรได้แต่สบตาพี่โช สายตาของพี่โชดูอ้อนวอนอย่างที่ผมไม่เคยเห็น



“พี่ขอโทษ” พี่โชพูดจบจึงแตะริมฝีปากลงมาที่หน้าผากผม



“ผมจะจีบฟ้า” ผมพูดออกมาอย่างไม่ได้คิด



“มึงเนี่ยนะจะจีบฟ้า อาร์ทมึงเป็นผัวใครไม่ได้หรอกอย่างมึงเป็นเมียกูคนเดียวก็พอ”



“เฮ้ย พี่ไม่เห็นหรือไงวะว่าผมกำลังไปได้ดีกับฟ้า”



“มึงประชดกู”



“ผมไม่ได้ประชด”



“งั้นก็บอกกูสิว่ามึงรักฟ้าไม่ได้รักกู”



คำถามนั้นทำให้ผมเงียบไป



“เห็นไหมมึงแค่ต้องการประชดกูยั่วกูแล้วมันก็ได้ผลดีซะด้วยเพราะกูหึงและก็หวงมึงมาก...." พี่โชเอื้อมมือมาจับที่แก้มผมก่อนจะพูดต่อ "อาร์ทอย่าทำแบบนี้เลยนะ มึงจะโกรธกูงอนกูยังไงก็ได้แต่มึงอย่าดึงคนอื่นเข้ามาแบบนี้ ถึงกูรู้ว่ามึงแค่ประชดกูก็ไม่ชอบกูหวง”



แค่คำพูดของไอ้พี่โชมันแค่นี้ทำให้ผมถึงกับไปไม่เป็นหน้าร้อนจนจะระเบิด ดีที่ในนี้ไม่มีแสงไฟมีเพียงแค่แสงจันทร์ที่สาดเข้ามา ไม่งั้นพี่โชต้องเห็นหน้าผมที่กำลังแดงจัดแน่ๆ



“ต่อจากนี้ขอแค่มึงให้กูเข้าใกล้มึงแล้วมึงไม่คิดจะหนีออกห่างจากกูได้ไหม”



“ทำไมผมต้องให้”



“เพราะกูกำลังง้อกับจีบมึงอยู่ไง”



“.............”



พี่โชดึงผมเข้าไปกอดไว้ทำให้หน้าของผมซบลงอยู่ตรงอกของพี่มัน



“เบี้ยวอย่าใจแข็งกับกูนักสิวะ”



“ก็พี่มันเหี้ย”



“กูก็กำลังทำให้มันดีขึ้นอยู่นี่ไง มึงให้โอกาสกูสิ”



ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากอดของพี่โชมันอบอุ่นทำให้ผมรู้สึกดี ผมช่างใจคิดอยู่นานในอ้อมกอดของพี่โช ก่อนจะตัดสินใจตอบ “อืม”



“นี่มึงให้โอกาสกูแล้วใช่ไหม”



“จะถามอะไรเยอะแยะวะ”



“ก็กูดีใจ นี่เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ป่ะ”



“อย่าเอ๋อ ผมให้โอกาสพี่ทำให้ผมหายโกรธ”



“อ๋อให้กูง้อ”



“เออ”



“แล้ว....”



“.....” ผมทำหน้าสงสัย



“แล้วให้โอกาสกูจีบด้วยป่ะ”



“โว้ย อะไรของพี่วะแม่งพูดไม่รู้เรื่องผมง่วงจะนอน” ผมทำหน้าไม่ถูก ก็ที่ตอบ ‘อืม’ ไปเมื่อกี้มันก็คือให้โอกาสทุกอย่างไงละวะแม่งเข้าใจยากตรงไหน



เท่านั้นผมได้ยินเสียงหัวเราะจากพี่โชและพี่มันก็กระชับอ้อมกอดจนแน่นขึ้นแต่มันก็ทำให้ผมหายหนาวและนอนหลับไปอย่างสบาย

 



“อาร์ททำไมวันนี้ตื่นเช้าจัง” ฟ้าเดินเข้ามาทัก



“คงเพราะเข้านอนไวมั้งฟ้า” ผมตอบไปอย่างนั้นแต่ที่จริงมันมีคนปลุกต่างหาก



“หิวหรือยัง” ฟ้าเอ่ยถามอย่างเรียบๆ



“ยังเลยแล้วฟ้าล่ะ”



“หิวนะแต่ทนได้ ฮ่าๆ” ฟ้าพูดจบก็ขำในความหิวของตัวเอง



“เบี้ยวอ่ะโอวันติน” พี่โชเดินมาจากทางด้านหลังพร้อมยื่นแก้วให้



ทั้งผมและฟ้าหันไปมอง ฟ้าหันกลับมามองหน้าผมอย่างสงสัยเป็นคำถาม



“พี่ก็กินไปสิผมจะไปกินกับฟ้า”



“นี่มึงยังไม่ยอมเลิกใช่ไหมเบี้ยว”



“อะไร”



“จะไม่เลิกประชดประชันกันใช่ไหม”



“แล้วผมต้องเลิกยุ่งกับฟ้าเลยหรือไงเล่า ฟ้าเป็นเพื่อนผมนะ” ผมตอบไปอย่างหงุดหงิด



“แค่เพื่อน?”



“เอ้อ” ผมกระแทกเสียงก่อนจะดึงมือฟ้าเพื่อไปหาอะไรกินแล้วทิ้งให้พี่โชยืนอยู่ที่เดิม



“อะไรยังไงเนี่ยอาร์ท” ฟ้าพูดอย่างจับผิด



“อะไรเล่า”



“ดีกับพี่โชแล้วหรือไง”



“เปล่าสักหน่อย แค่โดนจับได้เรื่องฟ้าแค่นั้นแหละ” ผมทำหน้าเจื่อนๆ



“ฮ่าๆ”



“ขำอะไรเล่า”



“ถ้าชอบเขาก็ยอมคืนดีกับเขาไปเถอะอาร์ท”



“ฟ้า!” ผมขึ้นเสียงอย่างลืมตัว



“ฮ่าๆ เราพูดจริงๆ นะอาร์ท โกรธกันแล้วมันมีความสุขเหรอ”ฟ้าเอียงคอถาม



“ก็ไม่” ผมพูดเสียงเอื่อยๆ



“เห็นไหมละ สู้ดีๆ กันไปแล้วทำเวลาหลังจากนี้ให้มีความสุขดีกว่า”



ผมได้แต่ยิ้มไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่ถึงยังไงผมก็ไม่ยอมหายโกรธสองคนนั้นง่ายๆ หรอก อย่างน้อยก็ต้องให้สองคนนั้นรู้สึกซะบ้างว่าทำอะไรลงไปและมันทำร้ายผมแค่ไหน

 

เมื่อทุกคนกินอาหารเช้ากันเสร็จก็แยกย้ายกันไปเก็บเต็นท์เพื่อเดินทางกลับ วันนี้เราต้องเดินทางกลับกันจริงๆ



ทุกคนเดินหิ้วข้าวของกันมาจนถึงรถตู้แต่วันนี้พี่โชชิงลากแขนผมให้ไปนั่งด้วยซะก่อนที่ผมจะพูดอะไร ผมจึงยอมนั่งไปโดยไม่พูดไม่จา



รถเคลื่อนตัวเข้ามาจอดลงที่หน้าบ้านผม เพราะต้องมาส่งผมและรถพี่โชเองก็จอดอยู่ที่บ้านผมด้วย



“กลับมากันแล้วเหรอลูก” แม่ผมเดินออกมารับที่หน้าบ้าน



“ครับ/ค่ะ” ทุกคนตอบรับพร้อมกัน



“แล้วนี่จะนอนที่บ้านแม่กันอีกคืนไหมลูก”



“ไม่ดีกว่าครับแม่พวกเราว่าจะกลับกันเลย” พี่คิวรีบตอบแม่ผม



“เอาแบบนั้นเหรอ” แม่พูดกับพี่คิวแล้วหันไปถามพี่โช “แล้วโชละลูกจะนอนต่ออีกสักคืนไหม”



“ไม่ดีกว่าครับแม่รบกวนแม่มาหลายวันแล้ว” พี่โชตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม



“เพิ่งคิดได้หรือไง” ผมพึมพำเบาๆ



เพี๊ยะ!



แม่ตีลงมาที่แขนผมไม่แรงนักก่อนจะดุ “เรานี่มัน”



“โอ๊ย แม่อาร์ทเจ็บ” ผมทำท่าลูบแขนตรงที่แม่ตี



“แล้วยายตาลล่ะรอกลับกรุงเทพพร้อมเจ้าอาร์ทหรือเปล่า”



“ตาลว่าจะกลับพร้อมพี่โชจ่ะน้าจันทร์ นั่งไปเป็นเพื่อนพี่โชด้วย”



“อ่อ อย่างนั้นก็รีบเตรียมตัวกันเถอะ เดี๋ยวต้องเดินทางอีกนานกว่าจะถึง”



“จ้า”



เมื่อทุกคนเตรียมตัวกันเสร็จก็เดินไปขึ้นรถกันทั้งผมและแม่ก็เดินออกไปส่ง พวกคนที่กลับกับรถตู้ก็ออกนำไปก่อนแล้วตอนนี้เหลือแต่พี่โชกับน้ำตาลที่กำลังจะขึ้นรถ



“โชค่อยๆ ขับไปนะลูก ถ้าง่วงก็แวะหาที่นอน”



“ครับแม่”



“ยายตาลคอยคุยเป็นเพื่อนพี่เขาล่ะ”



“จ้าน้าจันทร์”



"โชไว้มาเที่ยวใหม่นะลูก"



"ครับแม่ถ้ามีโอกาสผมจะมาเที่ยวอีกคราวหน้าอาจจะพาครอบครัวมาเที่ยวด้วยนะครับ" พี่โชพูดอย่างอารมณ์ดี



"ได้เลยลูกแม่จะรอนะ" แม่ผมฉีกยิ้มให้พี่โชจนแก้มจะปริ



"งั้นแม่เข้าบ้านแล้วคุยกับเจ้าอาร์ทไปแล้วกันนะ"



"สวัสดีครับแม่" พี่โชยกมือขึ้นไหว้แม่ผม



"สวัสดีจ้าน้าจันทร์" น้ำตาลก็ยกมือไหว้ตามอีกคน



"จ้า โชคดีนะลูก" เท่านั้นแม่ผมก็เดินเข้าบ้านปล่อยให้ผมร่ำลากับพี่โชและน้ำตาล



“เบี้ยวไปแล้วนะ”



“เออ” ผมทำเป็นตอบรับส่งๆ



“แล้วรีบกลับกรุงเทพนะ” พี่โชเสียงออดอ้อน



“เดี๋ยวใกล้เปิดเทอมก็กลับเองแหละน่า”



“ไอ้อาร์ทกูไปแล้วนะ” น้ำตาลบอกผมเสียงอ่อยๆ



“เออถึงแล้วโทรมาบอกกูด้วย” ผมบอกมัน



“ได้ค่ะเพื่อนรัก” มันรีบรับคำอย่างกระตือรือร้น พร้อมเข้ามากอดแขนอ้อนผม “หายโกรธเค้าแล้วใช่ป่ะ”



“ไม่รู้โว้ย รีบไปได้แล้ว” ผมทำเฉไฉแล้วรีบไล่น้ำตาลไปขึ้นรถ



“เดี๋ยวโทรหานะเบี้ยว” พี่โชพูดทิ้งท้ายก่อนจะยัดตัวเองเข้าไปในรถไม่รอให้ผมตอบสักคำ ผมไม่ได้อยากให้โทรมาสักหน่อย

 

หลังจากที่เพื่อนและพี่ๆ กลับไปผมก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม เข้าไปช่วยพ่อกับแม่ทำงานเหมือนเดิม ส่วนที่ไม่เหมือนเดิมคือ จะมีสายเข้าของโทรศัพท์จากพี่โชและน้ำตาลตลอด น้ำตาลนี่ไม่เท่าไหร่แต่พี่โชนี่เช้ากลางวันเย็น แรกๆ ผมก็ไม่รับสาย เขาส่งข้อความไลน์มาก็อ่านแต่ไม่ตอบ แต่พอมากๆ ขึ้นผมก็รับบ้าง พี่โชก็มักจะถามนู่นถามนี่ชวนคุยและก็เล่าเรื่องในชีวิตให้ฟัง



' นี่มันคงเป็นการง้อของพี่มันสินะ' ผมคิดในใจก็ทำให้ยิ้มออกมา



ตอนนี้ใจของผมเริ่มอ่อนลงมาแล้วจนตอนนี้มันทำให้ผมอยากกลับกรุงเทพขึ้นมาซะอย่างนั้น.......



==============

TBC.

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 08-07-2017 15:31:35
อาร์ท หายงอนแต่เล่นตัวนะ ระวังพี่โซงอนบ้างละกัน o18
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 08-07-2017 15:57:10
ก็ยังคงไม่ชอบทั้งโชทั้งตาลอยู่ดี เททิ้งทั้งคู่เลย อาร์ทควรได้เพื่อนและผู้ใหม่ค่ะ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-07-2017 17:03:29
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-07-2017 19:41:04
ยังไม่โอ กับน้ำตาล และโช
คนที่ทำให้เกิดเรื่อง และเรื่องบานปลาย คือน้ำตาล

ใช้ให้อาร์ทไปสนิทกับโช เพราะตัวเองชอบโช
พออาร์ทกับโช มีทีท่าชอบกัน ก็ทำเป็นว่าเสียใจ

อาร์ทรู้ว่าตัวเองผิดที่ชอบคนที่เพื่อนชอบ
เลยตัดใจจากโช และให้โช ได้นัดพบกับน้ำตาล
แต่น้ำตาลกลับชักชวนโช มาแสดงเป็นแฟนกันหลอกอาร์ทอีก
มีโอกาสพูดความจริงก็ไม่พูด ทั้งที่รู้ว่าอาร์ทเสียใจ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 08-07-2017 22:10:24
น่ารักดีมุ้งมิ้ง
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 08-07-2017 23:18:05
อาร์ทงอนไปนานๆเลยยย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 09-07-2017 00:33:26
พวกนี้นี่ เล่นอะไรกัน เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-07-2017 00:51:25
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-07-2017 03:39:35
ใจอ่อนแล้วจริงๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 20 [8/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 09-07-2017 05:29:36
พี่โชว์ทำไมต้องรีบกลับ :m16:
อยู่ช่วยเมียเก็บผลไม้ก่อนสิ :laugh:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> เอาพี่โชกับน้องอาร์ทมาฝาก [16/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 16-07-2017 22:44:31
อย่าเพิ่งหนีเราไปไหนกันน๊า เราอาจจะมาช้าหน่อย แต่เราไม่ทิ้งไปไหนแน่นอน  :katai4:  :katai4:

เอาพี่โช กับ น้องอาร์ท มาอวดดดดดด

(http://www.mx7.com/i/229/kbTjM1.jpg) (http://www.mx7.com/view2/zZvKe2vfWVxejvz3)

 :mew1: :mew2: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> เอาพี่โชกับน้องอาร์ทมาฝาก [16/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-07-2017 23:27:10
ไม่เห็นภาพเรยยยยย

 :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> เอาพี่โชกับน้องอาร์ทมาฝาก [16/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 17-07-2017 03:12:44
อาทก็งอนนานไปนะ หายงอนได้แล้ว ทำตัวเองให้มีความสุขกับความรักดีกว่าน่า  :hao6:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> เอาพี่โชกับน้องอาร์ทมาฝาก [16/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 17-07-2017 06:38:23
ไม่เห็นภาพเรยยยยย

 :katai4: :katai4: :katai4:

ลองดูใหม่นะคะ

(http://www.mx7.com/i/229/kbTjM1.jpg) (http://www.mx7.com/view2/zZvKe2vfWVxejvz3)

แบบนี้คนอื่นเห็นมั้ยอ่าาาา...... :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> เอาพี่โชกับน้องอาร์ทมาฝาก [16/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-07-2017 09:03:13
อ่ะๆ ถ้าเบี้ยวใจอ่อน คนอ่านใจอ่อนด้วยก็ได้

ภาพเห็นปกตินะคะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> เอาพี่โชกับน้องอาร์ทมาฝาก [16/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 17-07-2017 10:33:20
รอพี่โชโขว์หวาน
ไม่ต้องแกล้งตาลก็ได้ครับ
ให้ตาลกับฟ้าไปหยดย้อยกันเองซะ
ดอยจะมดขึ้นก็งานนี้
รอๆๆๆ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> เอาพี่โชกับน้องอาร์ทมาฝาก [16/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-07-2017 15:32:43
ตามอ่านทันแล้วจ้าสนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 18-07-2017 07:17:28
ตอนที่ 21

ตึ้ง!



เสียงเตือนเฟสบุ๊คดังขึ้นจากโทรศัพท์



Chokun Eiei ได้แท็กคุณในรูปภาพ

 

Chokun Eiei รู้สึกคิดถึง กับ - Art Patavee

คิดถึงคนทางนู้นใจจะขาด เมื่อไหร่จะใจอ่อนสักที

*รูปแอบถ่ายผมตอนเผลอที่อยู่บนดอย



Nutt Bear : จะอ้วก หมั่นไส้



Yayo Jung : What happened?????????



คิวคนจริง : ไตล้าวววว อวดไปอี๊กกกก แต่ไม่เห็นหน้าว่ะ



Akksara o : นี่มึงดีกันแล้วหร๊า



Sugar Sweet : Art Patavee เพื่อนมีปั๋ววววววว



Art Patavee : Chokun Eiei รูปดีๆ ไม่มีหรอว่ะ



Chokun Eiei : ก็เบี้ยวงอนอยู่จะไปถ่ายรูปดีๆ ตอนไหนล่ะคร๊าบ



Art Patavee :เอ้อ



Chokun Eiei : Art Patavee หายโกรธดิ เดี๋ยวตามถ่ายรูปดีๆ ให้ตลอดชีวิตเลย



Art Patavee : Chokun Eiei ไม่!!!



Nutt Bear : คิวคนจริง Akksara o เค้าคุยกันสองคนว่ะ เค้าไม่คุยกับพวกเลาแหละ



Chokun Eiei : Nutt Bear ฆวยยยยยย



Chokun Eiei : Yayo Jung ตามนั้น

 

ผมนั่งอ่านข้อความไปก็ขำไป



หลังจากที่เพื่อนๆ พี่ๆ ทั้งหมดกลับไปได้อาทิตย์กว่าๆ แล้ว ผมก็เกิดรู้สึกเหงาขึ้นมา จนอยากจะกลับกรุงเทพ จากที่ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะอยู่บ้านจนเปิดเทอม ผมจึงเลื่อนที่จะกลับให้เร็วขึ้นเป็นวันพรุ่งนี้เลย



เมื่อคิดได้อย่างนั้นผมจึงลุกขึ้นจากเตียงลงเดินมาข้างล่างเพื่อบอกพ่อกับแม่ให้รับรู้

 

“พ่อแม่พรุ่งนี้อาร์ทจะกลับกรุงเทพแล้วนะ”



“อ่าวไหนบอกจะอยู่ด้วยกันยันเปิดเทอมไง”



“ก็....” ผมอึกอักพูดไม่ออก



“จะรีบกลับไปหาใครหรือเปล่า หือ?” แม่ถามอย่างจับผิด



“หาใครที่ไหนเล่า อาร์ทแค่อยากกลับไปทบทวนบทเรียนก่อนเปิดเทอมเฉยๆ น่า”



“หึหึ ปากแข็งจริงๆ”



“ปากแข็งอะไรแม่”



“อาร์ท จำไว้นะลูกไม่ว่าอาร์ทจะเป็นอะไร เป็นแบบไหนพ่อกับแม่ไม่เคยว่าและรับได้ทุกอย่าง พ่อกับแม่รักอาร์ทเสมอรู้ไหมลูก” แม่ไม่ว่าเปล่ายังยกมือขึ้นมาลูปหัวผม



“แม่หมายความว่าไง” ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร



“โชน่ะไม่ใช่แฟนยายตาลใช่ไหมล่ะ”



“อะ..อะไรแม่”



“เรากับโชน่ะมันมากกว่าพี่น้องกันใช่ไหม แม่ว่าแม่พอจะมองออก”



“แม่” ผมเรียกแม่ก่อนจะหันไปเรียกพ่อ “พ่อ”



“ว่าไง หือ”



“พ่อกับแม่ผิดหวังในตัวอาร์ทหรือเปล่า อาร์ทเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อกับแม่แต่อาร์ทมาเป็น.....แบบนี้” ผมพูดด้วยความรู้สึกผิดที่จุกอยู่เต็มอก



“ไม่เลยพ่อกับแม่ไม่ผิดหวังในตัวเราเลยสักนิด ไม่ว่าอาร์ทเป็นยังไงพ่อกับแม่ก็ไม่ผิดหวังในตัวเราอยู่ดี เพราะลูกแม่ออกจะเป็นเด็กดีน่ารัก จริงไหม” แม่พูดไปแล้วจับหน้าผมให้เงยมองหน้าแม่



“แม่อ่ะ” ผมยิ้มหวานให้แม่และหันไปยิ้มหวานให้พ่อ



"งั้นอยากกลับวันไหนก็กลับเถอะลูก"



"นี่แม่ไล่อาร์ทเหรอ" ผมทำหน้าเคืองๆ



"หรือจะให้แม่ห้ามไม่ให้กลับดีล่ะลูกชาย" แม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบแต่รู้สึกถึงความน่ากลัวขึ้นมา



"ไม่เอานะแม่ อาร์ทขอกลับกรุงเทพนะคร๊าบบบบ" ผมอ้อนแม่ไปอย่างนั้น



"ไปจองตั๋วให้เรียบร้อยนะลูก เดี๋ยวพรุ่งนี้พ่อกับแม่ไปส่งที่สนามบิน"



"ครับ รักพ่อกับแม่จังเลย" ผมเข้าไปกอดพ่อทีแม่ที



 

ผมรู้สึกโชคดีที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้ พ่อกับแม่ไม่เคยบังคับผม และยังให้ความรักแก่ผมไม่เคยขาด ผมไม่เสียใจเลยที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อกับแม่



เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งพ่อและแม่เดินทางมาส่งผมที่สนามบิน



"ตั้งใจเรียนนะลูก ถึงแล้วโทรบอกพ่อกับแม่ด้วย" แม่ผมกำชับก่อนที่ผมจะเดินเข้า gate



"ครับถึงแล้วอาร์ทโทรหาพ่อกับแม่นะ" ผมพูดก่อนจะขยับตัวเข้าไปกอดท่านทั้งสอง "อาร์ทขอบคุณพ่อกับแม่สำหรับทุกอย่างรักพ่อกับแม่นะ"



ทั้งพ่อและแม่กอดตอบผมพร้อมกับพูด "พ่อกับแม่ก็รักเรา"



"เดินทางปลอดภัยไอ้ลูกชาย" พ่อใช้มือขยี้หัวผมพร้อมกับพูดต่อ "รีบไปได้แล้วเดี๋ยวตกเครื่อง"



ผมจึงยกมือไหว้พ่อกับแม่ก่อนจะยกมือโบกให้ท่านทั้งสองแล้วเดินตรงเข้าไปขึ้นเครื่อง



ผมยังไม่ได้บอกใครว่าผมจะกลับกรุงเทพก่อนกำหนด เมื่อผมถึงสนามบินที่กรุงเทพผมก็โทรศัพท์หาน้ำตาลทันที



“ไอ้ตาลมึงอยู่ไหน”



(อยู่หอ มึงล่ะเมื่อไหร่จะกลับกูคิดถึงแล้วนะ)



“กูอยู่สนามบิน กำลังจะนั่งแท็กซี่กลับหอ”



(มึงกลับมาแล้วหรอ) น้ำตาลทำเสียงตื่นเต้น



“เออ มาหากูที่ห้องหน่อย”



(ได้ค่ะเพื่อนรัก เดี๋ยวเจอกันนะคะ)

 

ก๊อกๆ



เสียงเคาะประตูดังขึ้นผมจึงลุกขึ้นไปเปิดประตูออก



“ไงมึง กลับมาเร็วกว่าที่คิดนี่” น้ำตาลว่าขำๆ



“พูดมาก รีบเข้ามาเถอะ”



เราสองคนเดินตรงเข้ามานั่งยังโซฟา ก่อนที่น้ำตาลจะเปิดปากพูด



“คิดถึงกูเหรอถึงรีบตามกูมาหาเนี่ย”



“เออกูคิดถึงมึงม๊ากกกกก”



“ไอ้อาร์ทมึงไม่ต้องมาพูดประชด”



“ฮ่าๆ”



“ว่าแต่….” น้ำตาลไม่พูดเปล่ายังขยับตัวเข้ามาใกล้พร้อมเอื้อมมือมาจับแขนผมไว้แล้วพูดต่อด้วยเสียงออดอ้อน “หายโกรธกันแล้วใช่ไหมเพื่อนรัก”



“เอ้อหายโกรธ...แต่มึงต้องเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นกู”



“ได้สิเพื่อนอาร์ท จะให้เพื่อนตาลเลี้ยงอะไรก็ได้สั่งมาเลย”



“ดีมาก”



“แต่...กูชวนพี่โชไปด้วยได้ไหม” น้ำตาลพูดด้วยน้ำเสียงกล้าๆ กลัวๆ



“เรื่องของมึง” ผมพูดอย่างไม่ใส่ใจ



“มึงหายโกรธพี่โชแล้วเหมือนกันใช่ไหม”



“ก็ยังอ่ะ”



“แล้วทำไมมึงถึงยอมให้กูชวนพี่โชไปด้วย”



“ก็กูให้โอกาสมันง้อกูอยู่นิ่”



“อ๊อออออ”



“แต่มึงไม่ต้องบอกนะว่ากูกลับมาแล้ว”



“ทำไมวะ?”



“เออน่า” ในใจผมตอนนั้นคิดแค่อยากจะให้พี่โชตกใจที่เจอผมจึงไม่อยากให้ตาลบอกว่าผมจะไปด้วย



“ค่าคุณเพื่อน”



เท่านั้นน้ำตาลก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาพี่โชเพื่อที่จะนัดออกไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน น้ำตาลคุยได้ไม่นานก็วางโทรศัพท์แล้วหันหน้ามาหาผมอย่างเศร้าๆ



“มึงพี่โชไม่ว่างว่ะ”



“ไม่ว่าง?”



“อือ พี่โชบอกว่าพรุ่งนี้ต้องไปทำธุระให้พ่อ”



“เอองั้นก็ชั่งเขาเถอะกูไปกับมึงสองคนก็ได้”



“งั้นพรุ่งนี้ไปหาอาหารญี่ปุ่นแดกที่ห้างกัน ไปเดินเล่นดูหนังด้วย”



“เออตามนั้น”



เราสองคนนั่งคุยนั่งเล่นกันไปเรื่อยเปื่อยจนเวลาก็ล่วงเลยไปจนเย็นน้ำตาลจึงขอตัวกลับก่อน

 

 

วันรุ่งขึ้นน้ำตาลมาหาผมที่หอก่อนที่เราจะเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากหอพักมาก ทันทีที่เราสองคนเข้ามาเดินอยู่ในห้างแล้วน้ำตาลจึงถามความต้องการของผม



“มึงจะแดกร้านไหนคะ” น้ำตาลถามเพื่อให้ผมเป็นคนเลือกร้าน



“กูอยากแดกพวกซูชิ”



“โอเคงั้นซูชิเดน”



“เออ” ผมรับคำแล้วก็นึกถึงเพื่อนอีกคนขึ้นมา “น่าจะชวนไอ้กายมาด้วยเนอะ”



“มึงนั่นแหละไม่ชวนกูไม่ผิดนะโว้ย”



“โยนขี้ให้กูเลยนะมึง”



น้ำตาลได้แต่ขำไม่ตอบอะไร จากนั้นเราก็เดินตรงไปยังร้านซูชิเดนแต่ผมก็ต้องชะงักเมื่ออยู่ๆ น้ำตาลก็หยุดเดินเอาดื้อๆ โดยไม่บอกไม่กล่าว



“ไอ้อาร์ทนั่นใช่พี่โชหรือเปล่าวะ” น้ำตาลไม่ว่าเปล่ายังชี้มือไปยังผู้ชายและผู้หญิงที่เดินอยู่ด้วยกัน



ผมมองตามมือของน้ำตาลไปก็พบว่านั้นคือพี่โชจริงๆ ซึ่งเดินอยู่กับผู้หญิงสาวสวยหุ่นดี ภาพนั้นมันทำให้ใจผมวูบไป นึกถึงคำที่น้ำตาลบอกเมื่อวานว่าพี่โชไปทำธุระให้พ่อ นี่หรอธุระที่ว่านั้นคือมาเดินห้างกับผู้หญิงอย่างนี้หรอ



“อือ”



“ไหนบอกว่าไปทำธุระให้พ่อไงวว่ะไหงมาเดินอยู่กับผู้หญิง” น้ำตาลพูดงงๆ



“ช่างเขาเถอะ เราไปกินของเราเถอะ” ผมพูดไปด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่ปกติ พร้อมยกมือขึ้นลากแขนน้ำตาลให้เดินไปอีกทาง



น้ำตาลขืนตัวเอาไว้ไม่ให้ไปตามแรงดึงแล้วพูด “ได้ไงละมึง ทีตอนมาขอจีบมึงกับกูบอกว่าจะไม่ทำมึงเสียใจ ชอบมึงจริงๆ แล้วนี่อะไร กูไม่ยอมหรอก”



“อย่าไปยุ่งกับเขาเลยมึง” ผมพูดด้วยท่าทางขอร้อง



“ไม่ มึงมานี่” ไม่ว่าเปล่าน้ำตาลยังเปลี่ยนจากที่ผมเป็นคนจับแขนอยู่เป็นดึงแขนผมไปจับแล้วลากให้เดินตรงไปยังชายหญิงคู่นั้น



เมื่อน้ำตาลและผมเดินไปหยุดตรงหน้าพี่โช ก็เห็นได้ว่าพี่โชมีอาการตกใจที่เจอเราสองคน และชะงักทำอะไรไม่ถูก



“นี่ธุระของพี่เหรอ” น้ำตาลพูดออกไปทั้งที่ตามองหน้าผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ข้างพี่โช



“นี่มันอะไรคะโช” ผู้หญิงคนนั้นหันไปถามพี่โชอย่างสงสัย



“อะ...เอ่อ ออยนี่ ตาลกับอาร์ท” พี่โชผายมือแนะนำผมและน้ำตาลให้ผู้หญิงคนนั้นรู้จักและหันมาแนะนำผู้หญิงคนนั้นกับน้ำตาลและผมต่อ “อาร์ท ตาล นี่ออย เพื่อนพี่”



ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แค่มองหน้าพี่โชอย่างนิ่งๆ ตอนนี้ความรู้สึกของผมมันแย่ไปหมดแล้ว รู้สึกหน่วงๆ ในอก ยิ่งเห็นใกล้ๆ ว่าผู้หญิงคนที่ชื่อออย นั้นสวยขนาดนี้ ผมยิ่งหวั่นใจขึ้นมา



“ผู้หญิงนี่เป็นเพื่อนพี่โชแน่หรอ” น้ำตาลย้ำคำตอบของพี่โช



“ทำไมเหรอฉันจะเป็นอะไรกับโชแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ เธอน่ะเป็นใคร” ผู้หญิงคนนั้นแย่งพี่โชพูดขึ้นมา



“พี่โชคะ ตาลกับอาร์ทเป็นใครบอกเขาไปสิคะ” น้ำตาลลอยหน้าลอยตาพูด



“ออย ตาลกับอาร์ทเป็นรุ่นน้องโชที่มหา’ลัยน่ะ” พี่โชตอบอย่างลำบากใจ



“เหอะ ก็แค่รุ่นน้อง” ผู้หญิงที่ชื่อออยทำเสียงเย้ยหยัน



“แต่เป็นรุ่นน้องคนสำคัญน่ะออย” พี่โชรีบแย้งเพื่อแก้สถานการณ์



“ได้ยินไหมเจ๊ รุ่นน้องคนสำคัญอ่ะ” น้ำตาลทำท่ายียวน



ผู้หญิงคนนั้นทำท่าจะตอบกลับน้ำตาลแต่พี่โชพูดแทรกขึ้นมาก่อน



“แล้วสองคนมาทำอะไรกัน” พี่โชมองมาที่ผมแล้วยิ้มเจื่อนๆ



“มาหาอะไรกินค่ะไอ้อาร์ทมันอยากกินซูชิ”



“งั้นไปด้วยกันสิพี่ก็กำลังจะไปกินพอดี”



“โชออยว่าเราไปกันสองคนดีกว่า” ผู้หญิงชื่อออยพูดแย้งพี่โชขึ้นมา



“ค่ะ อาร์ทกับตาลไปด้วย กินกันหลายๆ คนน่าจะอร่อย” น้ำตาลตอบรับโดยไม่สนใจเสียงพูดของผู้หญิงอีกคน



“ไอ้ตาล เราไปกันเองเถอะ” ผมรีบดึงแขนน้ำตาลมากระซิบ



“มึงจะให้อีเจ๊นี่คาบพี่โชไปแดกหรือไง” น้ำตาลหันมากระซิบแล้วมองหน้าผมอย่างดุๆ ก่อนจะหันไปหาพี่โชแล้วพูดต่อ “ไปค่ะพี่โช ไปร้านกันตาลหิวแล้ว”



น้ำตาลพูดจบก็เดินไปตีคู่กับพี่โชเพื่อเดินไปยังร้านอาหาร ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นทำท่าทางไม่สบอารมณ์นักมองผมกับน้ำตาลตาขวางอย่างเอาเรื่องจนมาถึงร้านเธอก็ยังมองผมสองคนอย่างไม่เป็นมิตร



“สั่งเลยนะตาลเดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยง”



“จริงสิ งี้ตาลไม่เกรงใจแล้วนะ”



พี่โชยิ้มให้น้ำตาลเมื่อเห็นน้ำตาลดี๊ด๊าสั่งอาหารอย่างสนุกสนาน



“โชคะ เอานี่ไหม ออยว่าโชน่าจะชอบ” ผู้หญิงคนนั้นทำท่าออเซาะพี่โช



“ออยสั่งเลยโชกินได้หมด”



ผมทนมองภาพของสองคนตรงข้ามผมอยู่สักพักก่อนที่ผมจะตัดสินใจออกไปจากตรงนั้นเพราะตอนนี้ผมรู้สึกแย่จนจะเก็บอาการไม่ไหว



“เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมบอกน้ำตาลพร้อมกับลุกขึ้นยืน



ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวเท้าออกไปพี่โชก็พูดขึ้น “ออยเดี๋ยวโชไปเข้าห้องน้ำนะ ออยสั่งไปก่อน” พี่โชพูดเท่านั้นก็รีบลุกเดินตามผมออกมา



ผมพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อที่หนีให้พ้นจากคนที่เดินตาม



“เบี้ยว”



“.......”



“อาร์ท”



“..........”



“อาร์ทครับ”



ผมได้ยินเสียงเรียกนั้นผมถึงกับชะงัก หยุดเดินอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นพี่โชก็เดินมาดักหน้าผม



“เป็นอะไร”



“เปล่า”



“ไม่พอใจอะไร”



“เปล่า”



“แล้วทำไมต้องหนี”



“ไม่ได้หนีผมปวดฉี่ หลบไป”



ผมไม่พูดเปล่ายังเดินเบี่ยงตัวหนีให้พ้นจากพี่โชแล้วรีบเร่งฝีเท้าเข้ามาในห้องน้ำ ผมพาตัวเข้าไปในห้องน้ำกำลังจะปิดประตูแต่ก็ไม่ทันที่พี่ใช้มือยันประตูไว้แล้วสอดตัวเองเข้ามาก่อนจะล็อคประตูห้องน้ำ



พี่โชเอื้อมมือไปปิดฝาชักโครกลงแล้วดันตัวผมให้นั่งลงไปกับชักโครกก่อนที่พี่โชจะนั่งคล่อมลงมาบนตักผม



“พี่จะทำอะไรเนี่ย”



“ก็มึงไม่ยอมคุยกับกู”



“ต้องคุยอะไร”



“มึงโกรธกู”



“ใช่ก็ผมยังโกรธพี่อยู่ผมจำได้ พี่รู้แล้วก็ออกไป”



“ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่มึงโกรธที่กูมากับออย”



“พี่จะมากับใครมันก็สิทธิ์ของพี่ไม่ได้เกี่ยวกับผมสักหน่อย”



“เกี่ยวสิ”



“..........” ผมไม่ตอบ



“ที่กูพาออยมากินข้าววันนี้เพราะกูแค่ทำตามคำพูดที่เคยรับปากป๊าไว้”



“ถ้าป๊าพี่บอกให้ไปนอนกับเขาพี่ก็คงต้องไปงั้นสิ”



"นั่นไงมึงโกรธที่กูมากับออยจริงๆ"



"..........." ผมเลือกจะไม่ตอบอะไรเพราะพูดออกไปก็ยิ่งเข้าตัว



“อาร์ทฟังเหตุผลหน่อยดิว่ะ” พี่โชทำเสียงจริงจัง



“………”



“กูรับปากกับป๊าไว้ตั้งแต่ก่อนที่กูจะ..” พี่โชพูดถึงตรงนี้ก็เงียบขึ้นมา



“ก่อนอะไร”



“ก่อนที่กูจะรักมึงไง”



“เหอะ” ผมตอบออกไปแค่นั้น



อยู่ๆ พี่โชก็ใช้สองมือขึ้นมาประครองหน้าผมให้หันตรงกับหน้าของพี่โชแล้วโน้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากลงที่ริมฝีปากของผม ในทีแรกผมปิดปากแน่นไม่ยอมเปิดปากแต่เมื่อผ่านไปสักพักผมก็ถูกพี่โชนำไปจนผมจูบตอบกลับไป



เราจูบกันอย่างค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้รุนแรง พี่โชงับที่ริมฝีปากล่างของผมเบาๆ ก่อนจะส่งเสียงออกมา



“พี่รักเบี้ยวคนเดียวนะ เชื่อใจกันหน่อยสิ”



“หึ”



“พี่แค่ทำตามคำพูดที่รับปากกับป๊าไว้ ครั้งนี้ครั้งเดียวสัญญา เรื่องแบบนี้จะไม่มีอีก” พี่โชพูดทั้งที่ริมฝีปากของเรายังสัมผัสกันอยู่



“อืม” ผมตอบกลับไป ไม่รู้อะไรทำให้ผมเชื่อว่าพี่โชจะไม่โกหกผม ผมเกลียดตัวเองที่เวลาพี่โชมันแค่อ้อนพูดดีกับผมนิดหน่อยก็ยอมมันไปสะทุกอย่าง



พี่โชได้ยินอย่างนั้นจึงผละหน้าออกแล้วพูดอย่างดีใจ “เข้าใจกันแล้วใช่ป่ะ”



“อื้มม”



จุ๊บ!



พี่โชจูบหนักๆ ลงมาที่แก้มใกล้กับปากของผม จนตอนนี้หน้าผมร้อนไปถึงหูผมทำอะไรไม่ถูกจึงผลักอกพี่โชแล้วพูดออกไป



“ลุกได้แล้วผมปวดฉี่ ตัวก็หนักนั่งทับมาได้”



พี่โชยิ้มแป้นก่อนจะลุกขึ้นยืน



“พี่ออกไปสิผมจะฉี่”



“ก็ฉี่ไปสิ” พี่โชพูหน้าตาเฉย



“ก็พี่อยู่ผมจะฉี่ยังไง”



“ไม่เห็นต้องอาย”



“ได้ไม่ออกงั้นก็ดูผมฉี่ไปนี่แหละ" ทั้งที่อายแต่ก็ยังทำใจกล้าพูดออกไป



เมื่อดูแล้วว่าพี่โชคงไม่ออกไปจริงๆ ผมจึงปลดกระดุมกางเกงทำธุระส่วนตัวของผมไปโดยทำเป็นไม่สนใจคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง ทั้งที่จริงผมอายจนหน้าจะระเบิดออกมา ไอ้พี่โชมันชอบเล่นอะไรบ้าๆ จนผมขี้เกียจจะคร้าน

 

เราสองคนเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทั้งคู่ผิดกับตอนที่เดินออกไป จนน้ำตาลต้องเอ่ยทัก



“แหมดูมีความสุขกันจังนะคะตอนออกไปนี่หน้าอย่างกับปวดขี้ ตอนกลับมานี่ยิ้มหน้าบานกันเชียว”



ผมกับพี่โชไม่ได้ตอบอะไร ได้แค่ยิ้มให้กับน้ำตาลเท่านั้น



“โชไปนานจัง ออยรอตั้งนาน”



“คนเยอะน่ะออย แล้วก็รอกลับมาพร้อมอาร์ทด้วยเลย”



“สบายตัวแล้วสิมึงยิ้มหน้าบานขนาดนี้” น้ำตาลมากระซิบที่ข้างหูผม



“K” ผมตอบกลับทันควันด้วยความเขิน

 

กินอาหารกันเสร็จพี่โชก็เรียกเช็คบิลและเตรียมตัวที่จะแยกย้ายกันเพื่อผมและน้ำตาลจะได้ไปเดินเที่ยวกันต่อแต่พี่โชก็ถามขึ้น



“แล้วนี่จะกลับกันยังไง”



“ก็คงแท็กซี่แหละค่ะ” น้ำตาลตอบไปทั้งที่เราสองคนยังไม่ได้คิดจะกลับกันเลยด้วยซ้ำ



“งั้นกลับด้วยกันนี่แหละเดี๋ยวพี่ไปส่ง”



“แล้ว....” น้ำตาลพูดแล้วเบนสายตาไปที่ผู้หญิงชื่อออย



“ก็ไปด้วยกันนี่แหละ พี่ขอแวะไปส่งออยที่บ้านก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยไปส่งอาร์ทกับตาล”



น้ำตาลหันมองหน้าผม ผมจึงรีบส่ายหน้าไม่ให้น้ำตาลตอบตกลง แต่เหมือนจะเป็นผล



“ตามนั้นค่ะพี่โช เรากลับกันเลยนะคะ”



น้ำตาลพูดแค่นั้น พี่โชพยักหน้าและเดินนำทุกคนไปที่รถ ดูจากอาการของผู้หญิงที่ชื่อออยแล้วท่าทางจะไม่พอใจเราสองคนอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินต่อไป....



========================

TBC.



Talk.อ่านแล้วเป็นไงบ้างเม้ากันด้วยน๊าาา อย่าทิ้งเค้าไว้ลำพัง :) เอาภาพปกมาฝากด้วย หวีดพี่โช



(http://www.mx7.com/i/039/DKVwwg.jpg) (http://www.mx7.com/view2/zZDVRf8DyIDn3C9I)
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 18-07-2017 08:14:10
 :hao7:
ห้องน้ำห้างก็ไม่เว้นนะพี่โช
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-07-2017 09:28:49
ขอให้เป็นไปตามคำขอของป๊า แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะพี่โช
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: แม่น้องเปา ที่ 18-07-2017 09:29:27
ฮึ่ยๆ..ขัดใจ :serius2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 18-07-2017 10:07:51
อ่านแล้วลำคานคะ ตอนนี้ ขอพูดตรงๆๆนะ พระเอกก้อโอ้ย ส่วนนายเอกน่าลำคานสุด น่าจะโดนสวมเขานะ ขนาดมันจะง้อ มันยังทำตัวแบบนี้  อ่านตอนนี้แล้วหงุดหงิดมาก นายเอกแลโง่ พระเอกพูดอะไรเชื่อหมด ควรโกรธนะตอนนี้ โกหกขนาดนี้ แต่กลับไม่โกรธเออ เอาสิ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 18-07-2017 11:16:55
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก
อย่าให้มีอีกนะพี่โช ถ้ามีอีกอาร์ทคงไม่ยอมง่ายๆอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 18-07-2017 11:45:21
มาแล้ววววววววคิดถึง  :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 18-07-2017 15:28:34
ขัดใจ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-07-2017 19:06:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 19-07-2017 03:22:42
ไม่โอเคเลยอ่า
ทำตามคำสั่ :hao4:งป๊าหรอ
คงไม่ใช่ถ้าป๊าสั่งคราวหน้ากฌมีอีกนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 19-07-2017 13:44:42
เอาแล้วๆๆๆๆๆจูบในห้างก็ได้หรอ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 19-07-2017 19:49:06
 :-[
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 19-07-2017 22:44:40
ไม่น่าจบนะ. ออยน่ะ. มีมาแย่งต่อแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 20-07-2017 06:43:46
น้ำตาลจะเป็นตัวขัดขวางชะนีที่เข้าหาพี่โช
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: peettato ที่ 20-07-2017 14:22:50
ออกมาแล้วววตัวละครดกทง :beat:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 20-07-2017 18:19:34
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 21 [18/7/17] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: datytime ที่ 21-07-2017 18:16:05
เริ่มมีความสงสารนายเอก เหมือนโดนหักหน้า
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 07-08-2017 23:48:49
ตอนที่ 22


รถแล่นเข้ามาจอดที่บ้านหลังใหญ่ทั้งผมและน้ำตาลมองสำรวจภายนอกไปรอบๆ ก็ต้องสะดุดกับร่างของใครบางคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ที่หน้าประตูบ้าน

“มึงนั่นมันไอ้กายนี่หว่า” น้ำตาลหันมาพูดกับผมก่อนจะหันกลับไปมองกายกำลังยืนคุยโทรศัพท์สีหน้ายิ้มแย้มอยู่

“มันมาทำอะไรที่นี่วะ” ผมพึมพำออกไป

“หรือว่ามันเป็น....” เหมือนน้ำตาลจะพูดอะไรแต่พี่โชพูดแทรกมาก่อน

 “ออยกายมาทำอะไรที่บ้านออยหรอ”
 
“อ้าวโชรู้จักกายด้วยหรอ” ผู้หญิงชื่อออยทำเสียงตื่นเต้น
 
“กายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับสองคนนี้น่ะ”
 
“อ่อ ไม่นึกว่ากายจะคบกับพวกนี้” เธอพูดเสียงเหยียดๆ และหันมามองเราสองคนด้วยสายตาแบบดูถูก
 
น้ำตาลทนกับสายตาของเธอไม่ไหวจึงทำท่าจะพุ่งตัวขึ้นไปหน้ารถดีที่ผมดึงแขนไว้ทัน “อ่าวเจ๊ พวกเราทำไมหรอ”

“ไม่เอาน่ามึง” ผมต้องรีบพูดปรามไม่ให้น้ำตาลวู่วาม

“ว่าไงออย กายมาทำอะไร” พี่โชถามซ้ำอีกครั้ง

 “ก็คงจะมาหาคุณพ่อกับคุณอาดิเรกหรือไม่ก็มาหายายอิน”

 “มาหาอิน?” พี่โชทำหน้าแปลกใจ

 “ค่ะ คุณพ่ออยากให้ยายอินสนิทสนมกับกายไว้น่ะค่ะ”

 “อืม” พี่โชตอบแค่นั้นจึงหันมาพูดกับผมและน้ำตาล “อาร์ท ตาล จะลงไปหาเพื่อนด้วยหรือเปล่า”

“ไปค่ะ” น้ำตาลตอบรับทันที

เท่านั้นทุกคนเปิดประตูลงจากรถเดินตรงเข้าไปหากายที่เพิ่งจะคุยโทรศัพท์เสร็จ

 “เฮ้ย พวกมึงมาได้ไงเนี่ย” กายเอ่ยทักอย่างตกใจและมีสีหน้างงนิดๆ

 “พวกกูน่ะมากับพี่โช แล้วมึงล่ะมาทำไม” ผมตอบคำถามกายพร้อมกับถามคำถามกลับอย่างอยากรู้ไม่ต่างกัน

 “กูมาธุระกับพ่อ”
 

ผมเข้าไปยืนใกล้ๆ กายก่อนจะกระซิบข้างหูกาย “มาแบบนี้หมีรู้ยังหนอ” ผมเคยแอบได้ยินมันเรียกพี่ณัฐแบบนั้นตอนอยู่ด้วยกันสองคนเมื่อตอนที่เราอยู่บนดอยแถมพี่ณัฐยังเรียกมันว่าหมูอีกต่างหากขนลุกเป็นบ้า
 
“ไอ้อาร์ทมึงเงียบไปเลย แล้วอย่าให้กูรู้นะว่ามึงเอาไปบอกพี่ณัฐอ่ะ”

“ฮ่าๆ นู่นมึงไปขอร้องพี่โชนู่น พี่ณัฐเป็นเพื่อนเขาไม่ใช่กู”

 กายมองหน้าพี่โชอย่างเว้าวอน “พี่โชผมมาเป็นเพื่อนพ่อจริงๆ นะพี่ไม่มีอะไรอย่างอื่น”

พี่โชเลิกคิ้วทำเป็นไม่เข้าใจ “แล้วมึงจะมาบอกกูทำไม”

 “พี่โชผมขอร้อง” กายพูดเสียงจะร้องไห้

พี่โชยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ “มึงร้องสิ กูรอฟังอยู่”

 “พี่โชจะแกล้งมันทำไม” ผมเผลอตะหวาดพี่โชออกไป

 “ครับพี่จะไม่แกล้งไอ้กายครับ” พี่โชรับคำด้วยน้ำเสียงล้อเลียนพร้อมส่งสายตาวาววับจนน่าหมั่นไส้

“โชคะเข้าไปลาคุณพ่อในบ้านเถอะค่ะ” ผู้หญิงชื่อออยไม่พูดเปล่ายังยื่นมือมาคว้าแขนพี่โชไปจับดึงเพื่อให้เข้าไปข้างในบ้าน

 “งั้นตาลกับอาร์ทรอพี่อยู่ข้างนอกนี่กับกายก่อนนะเดี๋ยวพี่ไปลาผู้ใหญ่ข้างในแป๊บเดียว” พี่โชบอกก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน

 
พวกเราสามคนยืนคุยกันเรื่อยเปื่อยเพื่อรอพี่โช กายเล่าให้ฟังว่าพ่อของผู้หญิงที่ชื่อออยพยายามจับคู่ลูกสาวคนเล็กให้กับกาย โดยให้พ่อของกายพามาให้ทำความรู้จักกันแบบที่พ่อของกายก็ปฏิเสธไม่ได้

 ไม่นานนักพี่โชก็เดินออกมาพร้อมกับผู้หญิงที่ชื่อออยและผู้หญิงอีกคนซึ่งน่าจะเป็นน้องสาวเธอ ผู้หญิงคนนั้นเดินตรงมาที่กายทันที

“กายออกมานานแล้วนะคะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดพร้อมกับเดินมาเกาะแขนกายอย่างออดอ้อน

พี่โชและเราทั้งสองคนมองตามการกระทำของผู้หญิงคนนั้นที่ทำกับกายอย่างไม่สบายใจนัก เพราะทุกคนก็พอจะรู้อยู่ว่ากายกับพี่ณัฐเป็นอะไรกัน ถึงเจ้าตัวจะไม่ได้พูดหรือประกาศก็เถอะ

“พอดีเพื่อนกายมากับพี่โชน่ะ เลยอยู่คุยกับเพื่อน” กายพูดพร้อมกับใช้มือที่ว่างแกะมือของผู้หญิงคนนั้นออกจากแขน

 ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าบึ้งก่อนจะพูด “อินรออยู่นะ”

 “อินจะรอกายทำไม กายแค่มาเป็นเพื่อนพ่อคุยธุระแค่นั้น” กายพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ สายตาพยายามมองไปพี่โชอย่างอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ

 พี่โชเห็นสถานการณ์อึดอัดนั้นจึงพูดขึ้น “ไอ้กายแล้วมึงจะกลับกี่โมง จะไปทันนัดพวกกูไหมเนี่ย”

 กายทำหน้างงก่อนจะเอ่ย “นัด?”

 “นี่มึงลืมหรอวะเดี๋ยวพวกไอ้ณัฐไอ้คิวได้ฆ่ามึงตาย” พี่โชทำหน้าจริงจังอย่างสมบทบาท

 “อ๋อที่จะไปเตะบอลกันอ่ะนะพี่”

“เออป่านนี้พวกมันถึงสนามกันแล้วมั้ง หรือมึงจะไปพร้อมกูเลย”

 “ได้พี่ เดี๋ยวผมเข้าไปบอกพ่อก่อน” กายพูดเท่านั้นก็ก้าวยาวๆ เข้าไปในตัวบ้านเพื่อจะไปบอกพ่อ ทำให้ผู้หญิงที่ชื่ออินหน้าเหวอไปทำอะไรไม่ถูกจนต้องเดินตามกายเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

 “โชคะไว้วันหลังเราไปเที่ยวกันอีกนะคะ” ผู้หญิงที่ชื่อออยพูดไปพร้อมกับกอดแขนพี่โชไปด้วย ภาพตรงหน้ามันทำให้ผมหงุดหงิดรู้สึกไม่ชอบใจที่จะได้เห็น

“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวออย โชบอกแล้วว่าที่โชมารับออยไปทานข้าวเพราะโชรับปากกับป๊าไปแล้วโชแค่ทำตามคำพูด คงไม่มีครั้งต่อไปแล้วล่ะออย” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะแกะมือเธอออกจากแขน

 ผู้หญิงชื่อออยหน้าเสียทำอะไรไม่ถูก เธอคงจะรู้สึกเสียหน้าที่โดนปฏิเสธต่อหน้าผมสองคน เธอจึงไม่พูดอะไรต่อเดินสะบัดตัวเข้าไปในบ้านอย่างไม่พอใจทำให้น้ำตาลหลุดขำขึ้นมา

 
“ฮ่าๆ สมน้ำหน้า”

“ไอ้ตาล” ผมเรียกชื่อน้ำตาลเสียงดุ

 “ทำไม มึงดูนางสิทำท่าอย่างกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของพี่โช”

 ผมมองค้อนน้ำตาลโดยไม่พูดอะไร

 “ออยไม่ได้เป็นเจ้าของพี่หรอก พี่มีเจ้าของอยู่แล้วนี่” พี่โชพูดพร้อมทำตาหวานส่งมาให้ผมทำให้ผมต้องหลบตา

 “แหมๆ หมั่นไส้คนมีความรัก หวานจนเลี่ยน” น้ำตาลแซว

 ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไรกายก็เดินออกมาจากบ้าน “ไปกันเถอะพวกมึง..พี่โช” กายพยักหน้าให้ผมสองคนและหันไปพยักหน้าให้พี่โชต่อ

 “รอดแล้วเหรอมึง” พี่โชว่าขำๆ

 “ใช่ดิพี่กว่าจะรอดออกมาได้” กายพูดด้วยท่าทางขยาด

“แล้วมึงจะให้กูไปส่งที่ไหน” พี่โชถาม

“ไปอยู่ห้องกูก่อนก็ได้ไอ้กาย กูเหงาอยู่คนเดียว” ผมพูดชวนกายอย่างดีใจเพราะผมไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียวจริงๆ

 “ไม่ได้” พี่โชตอบแทบจะทันควัน

“เฮ้ย ผมชวนไอ้กายไปห้องผมเกี่ยวไรกับพี่ พี่ไม่มีสิทธิ์มาห้าม” ผมร้องโวยวาย

 “ก็ไม่ได้ไงห้ามอยู่กับผู้ชายคนอื่นสองต่อสอง” พี่โชตอบกลับมา

 “ไอ้กายมันเป็นเพื่อน” ผมโวยวายไม่หยุด

 “นั่นแหละเพื่อนก็ไม่ได้ ‘หวง’”

 ผมชะงักกึกเมื่อได้ยินอย่างนั้นอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น ก่อนจะถามกายด้วยเสียงแผ่วเบา “มึงจะไปลงที่ไหน”

 กายมองหน้าผมสลับกับพี่โชแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะพูด “ไปส่งผมที่คอนโดพี่ณัฐก็ได้พี่”

 “มึงเป็นอะไรกับพี่ณัฐถึงเสนอหน้าไปคอนโดเขาน่ะ” น้ำตาลถามและทำท่าทางกวนบาทา

 “ไม่แจ๋นสักเรื่องจะได้ไหมครับเพื่อนตาล” กายว่าอย่างเสียดสี

 “ฮ่าๆ พอๆ ไม่ต้องเถียงกันตอนนี้รีบออกจากบ้านนี้ดีกว่า” พี่โชบอกเราทุกคน

 

เราทุกคนขึ้นรถโดยที่กายกับน้ำตาลรีบยัดตัวเองเข้าไปนั่งข้างหลังจึงเหลือแต่ที่นั่งข้างคนขับไว้ให้ผม ผมจึงต้องจำใจยัดตัวเองเข้าไปยังที่นั่ง

 พี่โชขับตรงไปยังคอนโดพี่ณัฐเพื่อไปส่งกายก่อนจึงขับไปส่งน้ำตาลและจึงวนไปส่งผมเป็นคนสุดท้าย

 “ขอบคุณที่มาส่ง” ผมพูดโดยที่มือกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ

“เดี๋ยวเบี้ยว”

 “อะไร”

 “คิดถึงนะ”

 “อะ..เออ” ผมตอบแบบตะกุกตะกัก ทั้งที่ผมรู้สึกร้อนที่หน้าอย่างบอกไม่ถูก ใจก็เต้นแรงจนเกินจะควบคุม

 “เจอกันเปิดเทอมอาทิตย์หน้าเลยนะ กูต้องไปช่วยป๊าทำงานที่บริษัทคงไม่มีเวลาแวะมาหา”

 “เออ”

 “เดี๋ยวโทรหานะเบี้ยว” พี่โชพูดจบผมก็ลงจากรถปิดประตูโดยไม่ตอบอะไร

 
 วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของภาคเรียนที่สองผมก็ขี้เกียจตื่นนิดๆ เพราะได้นอนตื่นสายมาตั้งหลายวันก่อนจะเปิดเทอมถ้าไม่นับรวมกับที่ผมอยู่บ้านอ่านะ แล้วต้องกลับมาตื่นเช้าเพื่อไปให้ทันเข้าเรียนนี่ยิ่งคิดยิ่งขี้เกียจ

ผมรีบจัดการกับตัวเองทันทีที่มองเห็นนาฬิกาที่บอกเวลาว่าอีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ผมจึงใช้เวลาจัดการตัวเองไม่ถึงสิบนาทีผมก็รวบทุกอย่างที่จำเป็นลงกระเป๋าทีเดียวและรีบใส่รองเท้าลวกๆ จนกำลังจะล็อคประตูห้องเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา

Rrrrrrr

ผมกดรับทันทีโดยที่ไม่ได้ดูว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา ผมยังไม่ทันจะได้พูดอะไรปลายสายก็ตะโกนออกมาดังลั่น

"ไอ้อาร์ทมึงอยู่ไหน มันจะเข้าเรียนแล้วนะโว้ย ทำไมมึงยังไม่ถึงอีก" น้ำตาลโวยวายรัวคำถามมาจนไม่เว้นช่องว่างให้ผมพูดอะไรได้เลย ผมจึงปล่อยให้โวยวายให้พอค่อยตอบกลับไปทีเดียว

"เออกูอยู่หอตื่นสาย แต่กูกำลังรีบไปเว้ย ถ้ามึงไม่โทรมาขัดจังหวะกูซะก่อนป่านนี้กูถึงคณะแล้ว" ผมเลยแกล้งทำเป็นหงุดหงิดโยนความผิดไปให้น้ำตาล

"อ่าวเหรอวะ งั้นแค่นี้แหละรีบมาค่ะมึง" น้ำตาลทำเสียงอ่อนลงเหมือนจะสำนึกผิดผมก็รู้สึกสะใจนิดหน่อยจึงบอกว่าแค่นี้ก่อนกดวาง

ผมรีบลงบันไดอย่างกึ่งวิ่งกึ่งเดินแต่ยังไม่ทันจะลงมาถึงชั้นหนึ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง


Rrrrrrr

"อะไรอีกวะ กูบอกว่ากูกำลังรีบไปไง" ผมกดรับก็รัวใส่ปลายสายไปทันทีไม่ทันได้ดูด้วยซ้ำว่าเป็นใครโทรเข้ามา

"เออรีบลงมา กูรออยู่หน้าหอ" เสียงตอบกลับมาเป็นเสียงผู้ชายที่ผมคุ้นเคยทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ที่แนบหูอยู่เพื่อออกมาดูชื่อ 'ชิบหายไอ้พี่โชนี่หว่า' ผมอุทานอยู่ในใจก่อนจะเอาโทรศัพท์กลับมาแนบหูอีกครั้ง

"อะ..เอ่อ พี่มารอผมทำไม"

"ก็มารับมึงไปเรียนไง"

"แต่.."

"มึงจะแต่อะไรนี่สายแล้วรีบลงมาเลย" พี่โชพูดแค่นั้นก็ตัดสายทิ้งทันที

ผมจึงรีบวิ่งลงมาจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าหอที่มีรถพี่โชจอดอยู่ ผมยืนหอบหายใจแรงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่พี่โชจะเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่ใบหน้าผมออกอย่างนุ่มนวล

"ไปขึ้นรถสายแล้ว"

ผมไม่พูดอะไรก็ดีเหมือนกันมีรถไปส่งถึงคณะเพราะตอนนี้ก็สายแล้วผมอยากรีบไปให้เร็วที่สุดจะมัวมาเถียงก็ไม่ใช่เวลาสักเท่าไหร่

รถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคณะผมด้วยความรีบผมจึงไม่ได้พูดอะไรกับพี่โชเปิดประตูลงจากรถทันที แต่ประตูยังไม่ทันปิดพี่โชกะรีบพูดออกมาซะก่อน

"เดี๋ยวกลางวันมากินข้าวด้วย" ผมไม่ได้ตอบรับอะไรได้แต่รีบปิดประตูและจ้ำไปขึ้นห้องเรียนให้เร็วที่สุด

เมื่อขึ้นมาถึงห้องเรียน "โหยหอบเป็นหมาเลยมึง" ทันทีที่ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยหอบก็มีเสียงแซวมาจากกาย

"สัสเหนื่อยชิบหาย"

"มึงลืมเหรอว่าวันนี้เปิดเทอม" กายถามพร้อมกับที่น้ำตาลหันหน้ามาหาผมเตรียมกำลังจะอ้าปากพูด

"มึงมัวไปทำอะไรอยู่วะ?"

"กูตื่นสาย" ผมตอบด้วยเสียงหอบๆ

"นักศึกษาคุยอะไรกัน" น้ำตาลยังไม่ทันได้พูดต่ออาจารย์ก็ว่าขึ้นมา เราจึงไม่ได้คุยกันอีกหันไปสนใจอาจารย์อย่างตั้งใจ


ทันทีที่อาจารย์ปล่อยทุกคนต่างรีบเก็บของแล้วรีบเดินตรงไปยังโรงอาหารกันอย่างหิวโซ พวกผมเดินเข้ามาถึงโรงอาหารก็เห็นว่าวันนี้โรงอาหารดูแออัดจนแทบไม่มีที่จะนั่งจนมีเสียงเรียกจากโต๊ะด้านในส่งออกมา

"ไอ้อาร์ททางนี้" พี่ณัฐและพี่อัครโบกมือหยอยๆ ให้ผมเข้าไปหา

ผมกับเพื่อนจึงเดินตรงเข้าไปเพื่อจะได้เอากระเป๋าไปวางก่อนไปซื้อข้าว "หวัดดีพี่ แล้วทำไมวันนี้มากินกันที่นี่ได้" ผมสวัสดีพี่ณัฐและพี่อัครก่อนจะเอ่ยถามออกไปโดยไม่คิดจะทักอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยเลยด้วยซ้ำ

"กูพาเพื่อนมาจีบเด็กคณะนี้ว่ะ" พี่อัครพูดขำๆ โดยส่งสายตาไปทางพี่โช

"งั้นผมไปซื้อข้าวก่อนนะพี่" ผมไม่คิดจะถามอะไรต่อเพราะรู้สึกว่าจะไม่พ้นหาเรื่องใส่ตัวเองแน่ๆ

หมับ!

พี่โชจับข้อมือผมไว้เบาๆ "กินอะไรเดี๋ยวไปซื้อให้"

ผมชะงักนิดหน่อยและส่องสายตามองไปรอบๆ เพราะกลัวว่าคนจะมอง "ปล่อย มีตีนไปซื้อเองได้"

"อาร์ท" พี่โชเรียกชื่อผมเสียงอ่อยๆ และมองผมด้วยสายตาน่าสงสาร

"เออ เอาคะน้าหมูกรอบร้านสุดท้ายนู่น" เห็นแก่สายตาน่าสงสารของพี่มันผมยอมก็ได้ ดีผมจะได้ไม่ต้องไปต่อคิว

"น้ำละ?"

"ชามะนาว"

พี่โชพยักหน้าแล้วเดินตรงไปยังร้านที่ผมบอกเวลาไม่นานพี่โชก็เดินกลับมาพร้อมข้าวและน้ำ ทุกอย่างถูกวางลงตรงหน้าผมโดยที่มีพี่โชนั่งมองผมจากฝั่งตรงข้าม

ผมเริ่มลงมือกินไม่ได้สนใจใครก่อนเงยหน้าขึ้นมองคนตรงข้าม ก็พบว่าเขานั่งมองผมอยู่แล้ว "แล้วพี่ไม่กินข้าวหรือไง"

"แค่เห็นมึงกินก็อิ่มละ" พี่โชนั่งเท้าคางและส่งยิ้มมาให้ผม ทำอย่างกับทั้งโต๊ะมีแค่ผมกับพี่มันสองคนไปได้ เพื่อนๆ ของผมและของเขาก็อยู่ไม่รู้จักอายบ้างหรือไง

"โอ๊ย กุจะอ้วก" พี่อัครพูดขึ้นมาลอยๆ ทำให้คนทั้งโต๊ะพากันอมยิ้มส่งมาให้ผมกับพี่โช

"ยิ้มไรกัน" ผมถามอย่างหงุดหงิด

"เปล๊าา" ทุกคนประสานเสียงกันตอบอย่างเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ผมจึงไม่สนใจหันมากินข้าวต่อ "ไปซื้อข้าวมากินดิ" ผมบอกกับพี่โชเบาๆ

พี่โชอมยิ้ม "เป็นห่วง?"

"เลอะเทอะ ไม่กินก็เรื่องของพี่เถอะ"

เวลาพักกลางวันผ่านไปพวกเรากับกลุ่มพี่โชจึงต้องแยกย้ายกันกลับไปเรียนก่อนจะไปพี่โชก็เรียกผมไว้

"เดี๋ยวตอนเย็นมารับนะ"

"มารับทำไม?"

"ก็อยากมารับ เป็นห่วงอยากพาไปส่งให้ถึงหอได้เห็นกับตาว่าปลอดภัย"

"ประสาท"

"เลิกแล้วจะรีบมารับนะ" พี่โชพูดก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วก้มลงกระซิบที่ข้างใบหู "ตั้งใจเรียนนะที่รัก"

ผมยื่นอึ้งทำอะไรไม่ถูกหน้าก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา "เอ้อ ไปได้แล้วไป" ผมพูดเร็วๆ จนพี่โชหลุดขำออกมา



Chokun:

เลิกยัง?

Artเองจะใครละ:

กำลัง

Chokun:

รออยู่ลานจอดรถหน้าคณะนะ

*สติ๊กเกอร์

Artเองจะใครละ:

อืม



ผมลงมาก็ร่ำลากับเพื่อนนิดหน่อยก่อนจะเดินไปขึ้นรถพี่โชระหว่างทางเราไม่ได้คุยอะไรกันมีแค่เสียงเพลงคลอเบาๆ จากวิทยุเท่านั้น ไม่นานรถก็มาจอดลงที่หน้าหอ ผมกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูแต่ไวกว่าคือมือพี่โชมาคว้าแขนผมไว้

"เดี๋ยว"

ผมมองหน้าพี่โชพร้อมเลิกคิ้วเป็นคำถาม

พี่โชกำมือข้างขวาที่ไม่ได้จับแขนผมแล้วยื่นมาตรงหน้า "อ่ะ"

"อะไร?"

"แบมือสิ"

ผมจึงแบมือรับของในมือพี่โช เมื่อพี่โชปลอยของในมือลงบนมือผมก็พบว่ามึนคือกุญแจ ผมทำหน้างงๆ ทำให้พี่โชรีบพูดออกมา

"กุญแจห้องกู"

"แล้วให้ผมทำไม"

"เผื่อมึงคิดถึงกูจะได้ไปหากูไง"

"ใครจะไปคิดถึงวะ" ผมพูดจบก็ทำท่าจะเอากุญแจคืนให้พี่โช

"เก็บไว้เถอะ..กูอยากให้มึง"

"อืม" ผมตอบแค่นั้นแล้วยัดกุญแจลงกระเป๋ากางเกงก่อนจะเปิดประตูลงจากรถโดยไม่พูดอะไรอีก


หลังจากที่มหาวิทยาลัยเปิดเทอมพี่โชก็มารับมาส่งผมทุกวันถ้าไม่ติดงานอะไรพี่โชก็แวะมากินข้าวกลางวันด้วยเสมอ ถ้าเย็นวันไหนต้องเข้าชมรมก็จะมารับผมเข้าไปพร้อมกันอย่างนี้ทุกวัน พี่โชให้กุญแจห้องของเขาเก็บไว้ที่ผมชุดหนึ่งตอนแรกผมก็ไม่อยากรับไว้ แต่พี่โชก็บังคับให้ผมเก็บเอาไว้แล้วยังบอกว่าเผื่อผมคิดถึงเขาอยากไปตอนไหนก็ไปได้เลย ใครมันจะไปบ้าคิดถึงวะเล่นโผล่มาวันละสามเวลาขนาดนี้

 
จนสามวันมานี่พี่โชได้แต่ส่งข้อความมาบอกว่าช่วงนี้จะไม่ได้มารับเพราะไม่ว่างต้องทำงาน ตั้งแต่ได้รับข้อความนั้นพี่โชก็หายเงียบไปเลย

 “ไอ้ตาลมึงได้คุยกับพี่โชบ้างไหมวะ” ผมถามไอ้ตาลที่เพิ่งจะเดินมาผม

 “ไม่นี่ ทำไมหรอวะ” มันถามกลับมาแบบงง

“เปล่า” ผมตอบปัดไป

“ทำไมผัวหายหรือไงวะ” ไอ้กายทำเสียงกวนตีน

“ผัวบ้านมึงดิ...เออว่าแต่มึงเจอพี่โชบ้างป่าววะ” ผมถามไอ้กาย

“ไม่เลยวะ”

“แล้วพี่ณัฐละ”

“ก็เจอทุกวัน”

“เหรอ” ผมตอบรับเสียงอ่อย พี่โชเรียนเหมือนพี่ณัฐแต่พี่ณัฐกลับมีเวลามาเจอไอ้กายทุกวัน งั้นพี่โชก็คงไม่ได้ยุ่งเรื่องเรียนแน่ๆ

เรานั่งเล่นกันไป จนพี่ณัฐเดินที่โต๊ะพร้อมกับเอื้อมมือมาจับไหล่กาย “กลับกันเถอะ”

 กายหันไปพยักหน้ารับ ก่อนจะถามขึ้น “ช่วงนี้เรียนหนักหรืออาจารย์สั่งงานเยอะหรือเปล่า”

พี่ณัฐทำหน้างงๆ ก่อนจะตอบ “ไม่นะ ทำไมหรอ”

 กายชี้มือมาที่ผมแล้วพูด “ก็เห็นไอ้นี่มันถามหาพี่โชก็นึกว่างานยุ่ง”

 พี่ณัฐเลิกคิ้วมองหน้าผมอย่างสงสัย

 “ก็นั่นแหละพี่ แค่เห็นพี่โชหายเงียบไปหลายวัน ไม่มีอะไรหรอก” ผมตอบปัดๆ

 “นั่นสิกูก็อยากรู้ว่ามันไปไหน มันหายหัวโดดเรียนมาสามวันแล้วเนี่ย โทรไปก็ไม่รับไปเคาะห้องก็ไม่มีคนเปิด กูก็คิดว่ามึงจะรู้” พี่ณัฐได้โอกาสร่ายยาวออกมา

 “พี่โชเป็นอะไรหรือเปล่า” ผมทำหน้าเลิกลัก

“กูก็ไม่รู้กะว่าถ้าครบอาทิตย์มันยังไม่มากูจะไปบุกบ้านมันเหมือนกัน”

 เมื่อไม่ได้คำตอบว่าคนที่เงียบไปหายไปไหนผมก็นึกเป็นห่วงขึ้นมา จนนึกได้ว่าผมมีกุญแจห้องเขาอยู่นี่นา คิดได้เท่านั้นผมก็ลุกพรวดขึ้นมา

 “ถ้างั้นผมไปก่อนนะพี่ณัฐหวัดดี” ผมยกมือไหว้พี่ณัฐก่อนหันมาบอกเพื่อนๆ “กูไปก่อนนะพวกมึง”

 ใช้เวลาไม่นานผมก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์มาลงที่หน้าหอพักพี่โชผมไม่รีรอรีบขึ้นไปยังห้องพี่โช ผมลองเคาะประตูแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงตัดสินใจไขประตูเข้าไป

 สภาพที่ผมเห็นคือห้องรกสกปรกไปหมดมีแต่เศษไม้เศษกระดาษน่าจะมาจากขยะที่ทำโมเดลของเขานั่นแหละ ผมเดินสำรวจดูก็พบว่าพี่โชนอนหลับขดตัวงออยู่บนพื้นหน้าทีวี

 ผมตกใจกับสภาพของพี่โชจึงรีบทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆ แล้วใช้มือขึ้นทาบลงบนหน้าผาก ปรากฏว่าตัวพี่โชร้อนจี๋ ผมตกใจรีบเขย่าตัวเรียกพี่โชแต่ก็ไม่มีผลเพราะพี่โชเหมือนจะหลับลึกอาจจะเพราะพิษไข้ด้วย ผมจึงเดินเข้าไปในห้องหาผ้ามาชุบน้ำเพื่อเช็ดตัวให้ไข้ลดลง

เมื่อเช็ดตัวเสร็จผมก็จัดท่าให้พี่โชนอนดีๆ ก่อนที่ผมจะล้มตัวนอนข้างๆ และกอดพี่โชไว้จากด้านหลัง ผมไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่โชขยับตัวหันหน้ามาหาผม

 “เบี้ยว” พี่โชเรียกผมด้วยเสียงที่แหบพร่า

“หือ” ผมตอบกลับไปด้วยเสียงงัวเงีย

 “มาได้ยังไง”

 “วิน” ผมยักคิ้ว

 “กวนจังนะ” พี่โชพูดขำๆ พร้อมยกมือมาจับแก้มผม

 “แล้วไม่สบายทำไมถึงไม่บอก” ผมพูดเสียงเข้มขึ้น

 “ก็ไม่อยากให้ห่วง”

 “บ้ารึไง แล้วทำแบบนี้ไม่คิดหรือไงว่ามันน่าห่วงมากกว่าอ่ะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ

“ตอนแรกก็ไม่คิดว่ามันจะป่วย กะแค่จะเร่งทำงานให้เสร็จจะได้มีเวลาไปอยู่ด้วย”

เมื่อพี่โชพูดถึงเรื่องงานขึ้นมาก็ทำให้ผมดีดตัวขึ้นมานั่ง ก่อนพี่โชจะลุกขึ้นมานั่งตาม

“เออแล้วไอ้ที่บอกทำงานยุ่งเนี่ยมันงานอะไร”

“ก็งานออกแบบนี่ไง” พี่โชชี้ไปที่โมเดล

“ผมถามพี่ณัฐ เห็นบอกว่าไม่มีงานอะไรเรียนก็ไม่ได้ยุ่งแถมพี่ยังไม่ไปเรียนอีกต่างหาก”

“จะไปเรียนได้ยังไงล่ะ ก็งานมันไม่เสร็จนี่นาอีกสองวันก็ต้องส่งเข้าประกวดแล้ว”

 “ฮ่ะ?”

“อือ พี่ชายกูสั่งให้ส่งงานเข้าประกวด”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมมาตรงๆ วะ” ผมพูดอย่างไม่สบอารมณ์

 “คิดถึงกูเหรอ” พี่โชถามด้วยน้ำเสียงยียวน

 ผมไม่ได้ตอบอะไรได้แต่มองหน้าพี่โชนิ่งๆ

 พี่โชขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วดึงผมเข้าไปกอด “ใจอ่อนให้กูบ้างแล้วหรือยัง”

 “………….” ผมไม่ได้ตอบอะไรทำเพียงแค่กอดพี่โชตอบไปเท่านั้น

 พี่โชคลายอ้อมกอดออกแล้วใช้สองมือจับไหล่ผมไว้ก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนหน้าเข้ามาจนใบหน้าของพี่โชใกล้กับใบหน้าผมจนลมหายใจอุ่นสัมผัสเข้าที่จมูก

 “อื้อ เดี๋ยวติดไข้”

 “ไม่ติดหรอกน่า” พี่โชพูดจบก็ประกบริมฝีปากเข้ามาที่ริมฝีปากผม

 ไม่รู้อะไรทำให้ผมเปิดริมฝีปากรับสัมผัสจากลิ้นของพี่โชที่เข้ามาตวัดเกี่ยวอยู่ภายในโพรงปาก เราต่างดูดดื่มกันอย่างเชื่องช้าค่อยเป็นค่อยไปด้วยความโหยหา

 

แกร๊กก!

ประตูเปิดออกพร้อมกับผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ตะโกนเข้ามา

 “โชกุนฉันมาแล้ว อาหารและยาพร้อมค่ะ” เธอตะโกนออกมาก่อนมามาหยุดสายตาที่ผมกับพี่โชซึ่งกำลังจูบกันอยู่ “ว๊ายยย!!”

 ผมและพี่โชตกใจจึงผละออกจากกัน

 “น่ะ...นี่มันอะไรกันน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดตะกุกตะกัก

ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นชัดๆ ใจผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนโดนอะไรมาทิ่มแทง มันเจ็บอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าที่พี่โชหายไปสามวันนี้ พี่โชอยู่กับผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า แค่คิดใจก็วูบโหวงแบบบอกไม่ถูก ผมเหมือนกำลังจะร้องไห้

“อ่ะ..เอ่อ” ผมพูดอะไรไม่ออกพร้อมยกมือเกาหัว “ง่ะ...งั้น..ผ..ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า”

 พี่โชดึงมือผมไว้ไม่ให้ลุกแล้วพูด “ไม่ต้องกลับ”

“โชนี่ใคร” ผู้หญิงคนนั้นถามเสียงเข้ม

 “แฟน ชื่ออาร์ท” พี่โชตอบเสียงเรียบทำให้ผมหันมองตาพี่โชอย่างตกใจ

 “อ๋อ นี่เองหรอคนที่ชื่ออาร์ทน่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาอย่างคลายสงสัย พร้อมแนะนำตัวเองต่อ “พี่ชื่อซาโยนะ เป็นพี่สาวมัน”

“พ..พี่สาว?” ผมเอียงคอมองพี่โช

พี่โชพยักหน้าพร้อมกับพูดต่อ “อืม พี่สาวกูเอง มึงคิดว่าเป็นอะไร”

“กะ..ก็” ผมพูดไม่ออก

 “หึงกู?” พี่โชไม่พูดเปล่ายังดึงผมเข้าไปกอด

 “นี่น้อยๆ หน่อย ฉันอยู่ด้วยนะยะ” พี่ซาโยแซวน้องชาย

 เมื่อผมตั้งสติได้ผมจึงยกมือไหว้พร้อมกับพูด “สวัสดีครับพี่ซาโย”

 “หวัดดีจ้า ตามสบายนะพี่แค่แวะเอาอาหารกับยามาให้มันแต่มีคนดูแลแล้วแบบนี้เดี๋ยวก็จะกลับแล้วล่ะ”

“รีบไปไหน” พี่โชถามพี่สาวตัวเอง

“โอ๊ย ฉันก็มีธุระของฉันนะแกมีคนดูฉันก็ไม่ห่วงแล้ว”

“ซาโย...”

“หือ?”

“อย่าเพิ่งบอกป๊ากับหม่าม้านะ” พี่โชพูดเสียอ่อยๆ

 “รู้แล้วน่า แกพร้อมเมื่อไหร่แกก็จัดการเองเถอะฉันไม่ยุ่งด้วยหรอก” พี่ซาโยพูดเรียบๆ

 ผมได้แต่มองหน้าพี่โชอย่างลำบากใจ ผมไม่รู้ว่าเรื่องของผมกับพี่โชที่บ้านของเขาจะรับได้ไหม และดูเหมือนพี่ซาโยจะมองออกว่าผมคิดอะไร

“ไม่ต้องคิดมาหรอกน่าน้องสะใภ้ เดี๋ยวไอ้โชมันต้องหาวิธีได้อยู่แล้ว”

คำเรียกของพี่ซาโยทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาจนแดงไปหมด

 “เป็นอะไรหน้าแดง” พี่โชแกล้งแซวผมจนผมทุบที่ไหล่ไปแรงๆ

 จากนั้นพี่ซาโยก็อยู่คุยต่อกับเราสองคนอีกพักหนึ่งก่อนจะขอตัวกลับเพราะจะไปทำธุระ พี่ซาโยแก่ว่าพี่โชสองปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ปีสี่แต่คนละมหาวิทยาลัยกับเราสองคน จึงไม่ค่อยมีเวลาว่างมากนักเพราะปีสี่กำลังจะจบงานจะเยอะและโปรเจ็คจบอีก

เมื่อพี่ซาโยออกไปผมก็จัดการนำอาหารที่พี่ซาโยซื้อมาเทใส่จานให้พี่โชกินเพื่อที่จะได้กินยา

 “กินข้าวจะได้กินยา”

“กินด้วยกันดิ” พี่โชพูดพร้อมมองไปที่จาน

 “ไม่อะพี่กินเหอะผมกินมาแล้วก่อนจะมา” ผมโกหกออกไปเพราะผมอยากให้พี่โชกินเยอะๆ เพราะกำลังป่วยต้องการพลังงาน

ระหว่างที่พี่โชกำลังกินข้าวอยู่ก็พูดขึ้น “เบี้ยว”

“หือ?”

“นี่เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ป่ะ” พี่โชพูดออกมาหน้าตาเฉยแล้วตัวข้าวใส่ปากต่อ นี่พี่มันกำลังขอผมเป็นแฟนอยู่นะ

 “ไม่ใช่ ยังไม่ได้เป็นแฟน”

 “เฮ้ยได้ไงอ่ะ”

“ก็ผมไม่ได้เป็นแฟนกับพี่ไง”

“แต่กูบอกซาโยไปแล้ว”

“นั่นมันก็เรื่องของพี่ไม่เกี่ยวกับผม”

“เบี้ยวแม่งงงง” พี่โชทำหน้าบูดหน้าบึ้ง

ผมขำกับท่าทางของพี่โชก่อนจะดุออกไป “กินเร็วๆ จะได้กินยา”

 พี่โชไม่ตอบได้แต่ก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่สนใจผมอีก

"พี่โช" ผมเรียกพี่โชขึ้นเบาๆ

พีโชเลิกคิ้วเป็นคำถาม "หือ?"

"ถามไรหน่อยดิ" ผมพูดจบพี่โชก็พยักหน้าเป็นคำตอบว่าให้ถามได้  “พ่อแม่พี่นี่ชอบดูอิคคิวซังหรือไงถึงตั้งชื่อพี่กับพี่สาวอย่างนี้”

“เออใช่ หม่าม้ากูชอบการ์ตูนเรื่องนี้ พี่คนโตกูชื่ออิคคิว ยังดีนะที่หม่าม้ากูยังปราณีไม่ตั้งชื่อกูเป็นเจ้าอาวาสวัดอังคะคุจิ” พี่โชเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง

“ฮ่าๆ ยังดีที่แม่พี่ยังปราณีเนอะ” ผมขำกับเรื่องที่พี่โชเล่า ถ้าแม่พี่โชตั้งชื่อเป็นเจ้าอาวาสวัดขึ้นมาคงจะตลกน่าดู

“แหมเบี้ยว ได้ทีขำใหญ่นะ” พี่โชพูดพร้อมกับเอื้อมมือมาขยี้หัวผมอย่างหมั่นเขี้ยว

ผมปัดมือพี่โชออกแล้วพูดเสียงเข้มๆ ออกไป "เออกินๆ ไปเลย"

วันนี้ผมจึงไม่ได้กลับห้องเพราะอยู่ช่วยพี่โชแล้วคอยหาข้าวหายาให้พี่โชกินและช่วยพี่โชตัดนู่นตัดนี่เพราะงานของพี่โชต้องเสร็จให้ทันที่จะส่งเข้าประกวด

 ========================

TBC.

(https://www.img.in.th/images/d033844c6fd7086acbcf7eb070e056c0.jpg)
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-08-2017 00:20:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 08-08-2017 10:21:17
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-08-2017 10:37:30
กาย มีดราม่าจากพ่อแน่
เพราะพ่อกาย เชียร์อิน

ส่วยพี่โช ก็เหมือนกายนะ
พ่อพี่โช เชียร์ออย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 08-08-2017 23:30:45
 :haun5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 09-08-2017 00:07:13
น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 09-08-2017 15:25:03
เจ้าอาวาสวัดอังคะคุจิ55555555555555555555555
ตระกูลออ จ้องจับ2หนุ่มนี่
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-08-2017 23:07:02
น่ารักมาก,,,
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 22 [7/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 10-08-2017 03:21:50
หอบแฮ่กกก. ตามอ่านจนทัน. เพิ่งเข้ามาอ่าน
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคน
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 26-08-2017 10:26:46
ตอนที่ 23

หลังจากที่พี่โชส่งงานเข้าประกวดเรียบร้อยและกลับมาเรียนปกติ พี่โชคอยรับส่งผมเหมือนเดิมทุกวันเช่นเดียวกันกับวันนี้ที่พี่โชเลิกเรียนก่อนจึงมานั่งรอผมใต้คณะ

"หมั่นไส้จริงๆ" น้ำตาลพูดกระแนะกระแหน

“หมั่นไส้ใครตาล” พี่โชเลิกคิ้ว

“หมั่นไส้คนที่เขามีคู่มารอรับทุกวันน่ะพี่โช” น้ำตาลลอยหน้าลอยตาตอบพี่โช

“เงียบปากไปเลยมึงอ่ะ” ผมพูดพร้อมกับใช้มือผลักหัวน้ำตาลเบาๆ

“มึงแม่งพอเถียงไม่ได้ก็ใช้ความรุนแรงตลอด” น้ำตาลบ่นอุบอิบก่อนจะหันไปฟ้องพี่โช “พี่โชดูไอ้อาร์ทมันแกล้งตาลดิ่”

“ฮ่าๆ โทษทีตาลพี่ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวแฟนโกรธ” พูดจบพี่โชยักคิ้วให้ผม

“ใครแฟนพี่พูดให้ดีๆ” ผมชี้หน้าพี่โชคาดโทษ

“เล่นอะไรกันอยู่เหรอ” ฟ้าเดินมาจากด้านหลังมาเกาะแขนน้ำตาล

“ฟ้ามาแล้วเหรอ ไปหาอะไรกินกันดีกว่าตาลหิวมากเลย” น้ำตาลหันไปสนใจพูดกับฟ้าพร้อมยกมือลูบท้องตัวเองปอยๆ

“แหมพอฟ้ามาก็ไม่สนใจกูเลยนะ” ผมแกล้งแซวน้ำตาล

“บางทีมึงก็พูดมากนะไอ้อาร์ท” น้ำตาลทำเป็นเสียงดังกลบเกลื่อนทั้งที่หน้าของน้ำตาลกำลังมีสีแดงระเรื่อขึ้นมา

“มึงร้อนหรอตาลหน้ามึงดูแดงๆ” ได้ทีผมก็เอาคืนน้ำตาลมันบ้างเลยแล้วกัน

“แดงเดิงอะไร มึงจะไปไหนก็ไปป่ะ กูหิว” น้ำตาลพูดจบก็หันไปหาฟ้า “ฟ้าไปกันเถอะ”

ฟ้าพยักหน้ารับน้ำตาลก่อนจะหันมาล่ำลา “ไปก่อนนะอาร์ทกายพี่โช” ก่อนไปฟ้าจึงโบกมือให้พวกเรา

“ไอ้ตาลกับฟ้านี่ยังไงวะ” กายพูดขึ้นมา

“ไม่รู้ว่ะ ไอ้ตาลมันคงไม่ยอมรับอะไรง่ายๆ” ผมพูดไปเพราะรู้จักเพื่อนคนนี้ของผมดี

“เหมือนมึงอ่ะนะ” ไอ้กายย้อนผมทันควัน

ผมไม่ตอบได้แต่ยกนิ้วกลางให้มันก่อนจะหันไปหาพี่โชที่นั่งอยู่อีกฝั่ง “ไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้ว”

“หือ?” พี่โชเอียงหน้าถามอย่างแปลกใจ

ผมไม่อยากอยู่เถียงกับกายเพราะเถียงไปก็มีแต่เข้าตัวจึงหาข้ออ้างออกไปจากตรงนี้ดีกว่า “ก็บอกว่าหิวไง”

“พอเถียงไม่ได้ก็ชิ่งเลยนะมึง ฮ่าๆ” กายทำเสียงล้อเลียน

“มึงนั่งเงียบๆ รอเมียมารับไปนะ ไม่ต้องพูดมาก กูไปละ” ผมแขวะกายก่อนจะยันตัวลุกขึ้นยืนและโบกมือให้กาย

จากนั้นพี่โชก็เดินตามผมไปยังลานจอดรถ ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามานั่งในรถพี่โชก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน

“วันนี้อยากกินอะไร....หือเบี้ยว”

ผมมองหน้าพี่โชนิ่งๆ ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วยกมือขึ้นมาผลักเข้าไปที่หน้าผากของพี่โชเบาๆ

“จะพาไปกินอะไรก็พาไปเถอะน่า ถามมาก” พูดจบผมก็หลุบตาลงต่ำเพื่อหนีสายตาคนข้างๆ

“เขินเหรอ” พี่โชทำเสียงล้อๆ

“พูดมากขับรถไปป่ะ”

“หึหึ” พี่โชไหวไหล่ก่อนจะกลับไปตั้งใจขับรถ

“เออพี่โชแล้วทำไมวันนี้พี่ณัฐไม่มาพร้อมพี่วะ” ผมลืมว่าจะถามตั้งแต่ที่คณะแล้วปกติต้องมาพร้อมกันตลอดนี่นา

“มันเข้าไปทำอะไรที่ชมรมมันไม่รู้”

“อ่อ” ผมพยักหน้าเข้าใจ

เราสองคนมาจบกันที่ร้านอาหารเปิดใหม่แถวมหาลัย พี่โชคงจะพาผมมาลองอาหารร้านใหม่ ผมนั่งคุยกับพี่โชระหว่างรออาหารก็ได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้น

“อาร์ท อาร์ทใช่ไหม”

ผมไม่แน่ใจนักว่าเป็นเสียงของใครจึงหันไปมองอย่างเต็มตา “อ้าวแพร”

“อาร์ทจริงๆ ด้วย แหมเดี๋ยวนี้หล่อขึ้นนะเนี่ย”

“แพรก็เหมือนกันสวยจนอาร์ทจำแทบไม่ได้”

“ปากหวานเหมือนเดิม”

“เคยชิมแล้วนี่เนอะ” ผมพูดแล้วแกล้วส่งตาหวานเยิ้มให้แพรตามนิสัยที่ขี้เล่นของผม

“อาร์ทอ่ะ” แพรทำท่าเขินก่อนจะใช้มือตีลงมาที่แขนผมเบาๆ

“แล้วแพรมาทำอะไรแถวมหา’ลัยอาร์ทเนี่ย”

“อ๋อ แพรมาหาเพื่อนน่ะ”

“เพื่อน?”

“ปิ่นไง”

ผมทำท่านึกก่อนจะนึกออกแล้วร้องออกมา “อ๋อ” ปิ่นเป็นเพื่อนในกลุ่มแพรแต่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่สนิทที่สุดผมเลยต้องนึกนานหน่อย

“แล้วอาร์ทมากับใครหรอ” แพรถามผมก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหู “หล่อเชียว”

“เอ้อ ลืมแนะนำเลยแพรนี่พี่โช เป็น...” ผมเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ย “พี่ที่ชมรมน่ะ”

“สวัสดีค่ะ แพรนะคะ” แพรยิ้มหวาน

พี่โชพยักหน้าแล้วยิ้มตอบ

“พี่โชส่วนนี่แพรเป็น...” ผมพูดยังไม่ทันจบแพรก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

“เป็นแฟนเก่าอาร์ทค่ะ” แพรพูดจบก็ส่งยิ้มหวานไปให้พี่โช

พี่โชนิ่งไปสักครู่ก่อนจะยิ้มแล้วพูด “ไอ้อาร์ทเคยมีแฟนสวยขนาดนี้ด้วยเหรอ”

“แหมพี่โชก็พูดเกินไปค่ะ” แพรทำท่าเขินอาย

“ผมก็หล่อเถอะแปลกตรงไหนจะมีแฟนสวย”

“หึ” พี่โชตอบแค่นั้นก็เงียบไป

“แพรนั่งด้วยกันก่อนสิ” ผมเพิ่งคิดไว้ว่าควรจะชวนแพรนั่งด้วยเพราะปล่อยให้ยืนคุยกันอยู่ตั้งนาน

เท่านั้นแพรก็นั่งลงข้างผม พร้อมกับพูดต่อ “แล้วตาลไปไหนละปกติเห็นตัวติดกันเป็นตังเม”

“อ่อมันไปกับแฟนน่ะ”

“ฮ่ะ? ตาลมีแฟน” แพรทำท่าตกใจ

“มันแปลกตรงไหนแพรไอ้ตาลมีแฟนเนี่ย”

ที่แพรตกใจก็คงไม่แปลกอะไรเพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมกับแพรเลิกกันก็คงเป็นเพราะผมที่สนิทกับตาลเกินไปจนตอนนั้นแพรเองก็ไม่เข้าใจ ยื่นคำขาดให้ผมเลือกระหว่างแพรและตาล ซึ่งผมเองก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระเพราะไม่เห็นจำเป็นต้องเลือกเลยระหว่างเพื่อนกับแฟน จึงทำให้เราสองคนไม่เข้าใจกันและไม่คิดจะหันหน้ามาคุยกันประกอบกับเป็นช่วงที่ปิดเทอมจะเข้ามหา’ลัยพอดีจึงทำให้เราห่างกันจนแพรเป็นคนขอเลิกไปเองแต่เราก็จบกันด้วยดีและยังสามรถเป็นเพื่อนกันได้

“ก็แพรนึกว่าตาลกับอาร์ทจะติดกันจนแยกไปมีแฟนกันไม่ได้นี่นา” แพรทำหน้าเศร้าๆ

“แพรอย่าพูดเรื่องนี้เลย เออว่าแต่แพรเป็นไงบ้างสบายดีไหม” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่มันจะลงลึกไปมากกว่านี้

“ก็ดี อาร์ทล่ะ”

“สบายดีมาก” พูดจบผมก็ฉีกยิ้มให้แพรแบบแก้มแทบปริ

“แล้วยังใช้เบอร์เดิมอยู่หรือเปล่า”

“ก็เบอร์เดิมนะแพรคงจะลบเบอร์อาร์ททิ้งไปแล้วสินะ” ผมแสร้งทำพูดตัดพ้อ

“ไม่ได้ลบทิ้งซะหน่อย เครื่องเก่าหายนี่ก็ไม่ค่อยมีเบอร์ใครเลย” พูดจบแพรก็ยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้ “เมมเบอร์ให้หน่อยเผื่อมาครั้งหน้าได้นัดกันกินข้าวนะ”

ผมพยักหน้าแล้วรับโทรศัพท์มาเพื่อบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของผมให้แพร ผมจึงแอดไลน์แอดเฟสบุ๊คไปด้วยเลยจะได้ติดต่อกันง่าย เพราะตอนนี้ผมรู้สึกกับแพรเป็นเหมือนเพื่อนเก่าคนหนึ่งเท่านั้น มันก็คงไม่ผิดอะไรถ้าจะมีข้อมูลการติดต่อกัน

เมื่อบันทึกเบอร์เสร็จผมส่งโทรศัพท์คืนแพรก็นั่งคุยกันต่ออีกสักครู่จนลืมไปว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยเมื่อผมนึกได้จึงรีบหันหน้าไปหาคนที่นั่งเงียบอยู่

พี่โชมองผมด้วยสายตาที่นิ่งสนิทซึ่งทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ผมจึงส่งยิ้มเจื่อนๆ ไปให้พี่โชอย่างเสียไม่ได้

“อาร์ทงั้นแพรไปก่อนนะปิ่นไลน์มาแล้ว” แพรพูดพลางยกโทรศัพท์ขึ้นให้ดูหน้าจอ

“อืม บายแพร”

“ไว้เจอกันนะอาร์ท” แพรบอกผมก่อนหันไปหาพี่โช “ไปก่อนนะคะพี่โช” พี่โชจึงพยักหน้าและส่งยิ้มให้แพร

เมื่อแพรไปบรรยากาศในโต๊ะก็เงียบอึมครึมขึ้นมา ทำให้ผมไม่กล้าพูดอะไรหรือแม้กระทั่งจะสบตาคนที่นั่งตรงข้าม ผมก้มหน้าก้มตากิน จนพี่โชเรียกเก็บเงิน ผมจึงเดินตามพี่โชไปขึ้นรถอย่างเงียบๆ

บรรยากาศในรถช่างแสนเงียบจนรู้สึกอึดอัดทำให้ผมโพล่งทำลายความเงียบขึ้นมา “เป็นอะไร”

“เป็นพี่ในชมรม” พี่โชตอบเสียงห้วนๆ โดยที่ไม่มองหน้าผม

เมื่อผมเข้าใจสาเหตุที่ทำให้คนข้างๆ เงียบไป มันทำให้ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ “นี่งอนเรื่องนี้เหรอ”

“……….” พี่โชเงียบสนใจแต่ถนนด้านหน้าไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้น

“ก็จริงนี่พี่เป็นพี่ในชมรม” ผมพูดเสียงเรียบ

พี่โชไม่ตอบแต่สีหน้าบ่งบอกได้ว่ากำลังหงุดหงิดเหมือนกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมา

ผมเห็นแบบนั้นยิ่งอยากจะแกล้งไปกันใหญ่จึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วถาม “แล้วจะให้บอกแพรว่าพี่เป็นอะไรกับผม”

“……….” พี่โชยังนิ่งแถมสีหน้ายังไม่มีทีท่าว่าดีขึ้นอีก

“จะให้บอกว่าเป็นแฟนเหรอ” ผมพูดด้วยท่าทียียวน

พี่โชไม่ตอบอีกตามเคยได้แต่ปรายตามองผมชั่วครู่แล้วหันไปสนใจถนนด้านหน้าตามเดิม เวลาไอ้พี่โชมันงอนนี่ก็เหมือนสาวน้อยจริงๆ เลยตลกชะมัด

ผมจึงยื่นหน้าเข้าไปใกล้พี่โชอีกครั้งก่อนจะพูด “เข้าใจหน่อยสิอยู่ๆ จะให้ไปบอกแฟนเก่าที่เป็นผู้หญิงว่ามีแฟนใหม่เป็นผู้ชายนี่นะ”

อยู่ๆ พี่โชก็หันขวับมามองผมตาโตก่อนจะพูดตะกุกตะกัก “อะ..อะไรนะ คะ..ใครเป็นแฟนใหม่”

“อ่าว ก็จะใครเล่า” ผมกระแทกตัวเองลงเบาะพร้อมกับกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์

“เบี้ยวครับ ใครเป็นแฟนเบี้ยวครับ” พี่โชพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน

“ก็จะใครเล่า แม่งก็อยู่ด้วยอยู่คนเดียว” ผมกอดอกงึมงำแต่ก็พอที่พี่โชจะได้ยิน

“นี่เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ะป่ะ " พี่โชถามด้วยเสียงตื่นเต้น

ผมไม่หันมองหน้าพี่โชแต่ก็พยักหน้าเบาๆ

เท่านั้นพี่โชก็เปิดไฟเลี้ยวแล้วชะลอความเร็วจอดลงข้างทาง ผมจึงหันไปมองหน้าพี่โชและเอียงคอมถามอย่างงงๆ

แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรพี่โชก็ดึงผมเข้าไปกอด จรดริมฝีปากลงมาที่หน้าผากผมอย่างอ่อนโยน ก่อนจะไล่ริมฝีปากลงมายังจมูกและเลื่อนลงมาหยุดที่ริมฝีปากของผม

พี่โชทำแค่เพียงประกบริมฝีปากไว้อย่างนั้นโดยไม่รุกล้ำอะไร ผมรู้สึกว่าผมกำลังหน้าร้อนอย่างบอกไม่ถูกและทำอะไรไม่ถูกก่อนจะหลุดพูดออกมา

"ทะ...ทำอะไร"

"อยากกอด"

พี่โชดึงมือผมไปทาบไว้ที่อกแล้วพูดต่อ "รู้ไหมว่าใจกูเต้นแรงแค่ไหนที่มึงยอมรับว่าเราเป็นแฟนกัน มึงยอมให้กูเป็นแฟนมึงแล้ว" พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ในใจผมเองก็เต้นแรงไม่แพ้พี่โชหรอกนะ

พี่โชจับมือผมไปแนบแก้มแล้วบอก "กูรักมึงนะเบี้ยว"

ผมอายจนหน้าแดงพยายามหลบหน้าไปยอมสบตากับพี่โช

พี่โชจึงพูดขึ้นอีก "กูรักมึง แล้วมึงรักกูไหม"

ผมยิ่งอายกว่าเดิมก้มหน้าลงต่ำและพึมพำ "อือ"

พี่โชจับหน้าผมหันมาหาแล้วถาม "ว่าไงนะ"

"อือ" ผมตอบแบบเขินๆ

"อืออะไร"

"ก็รักไง" ผมพึมพำเบาๆ

พี่โชขยับหน้ามาใกล้แกล้งผมอีก "รักใคร?"

ผมข่มความอายและตะโกนขึ้น "รักพี่ไงเล่า ผมรักพี่ ชัดไหม" พอผมตะโกนเสร็จก็หันหน้าหนีออกหน้าต่าง

"ก็แค่นี้" พี่โชยิ้มอย่างพอใจจึงยอมปล่อยผมแล้วออกรถ

พี่โชได้แต่ยิ้มจนแก้มปริและหันไปขับรถอย่างตั้งใจ แต่ผ่านไปสักพักผมก็รู้สึกเอะใจว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางกลับหอ ผมจึงโวยวายขึ้นมา

“พี่โชนี่มันไม่ใช่ทางกลับหอผม”

“แล้วใครว่าจะไปส่งที่หอ” พี่โชพูดโดยไม่หันมามอง

ผมทำได้แค่อ้าปากค้างในคำตอบเมื่อรู้ว่าทางที่พี่โชกำลังขับไปอยู่นั้นคือทางกลับหอของพี่โช ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยไปนอนค้าง มีอะไรกันก็มีกันมาแล้ว แต่นี่มันเพิ่งจะเปลี่ยนสถานะไงจะไม่ให้ผมเขินผมอายเลยหรือไงเล่า

“คืนนี้ไปนอนกับแฟนแล้วกันเนอะ” พี่โชพูดออกมาหน้าตาเฉย

“ไม่เอาผมจะกลับหอ” ผมโวยวายไม่ยอม

“ไม่เอาเหมือนกันอยากนอนกอดแฟน” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงมีความสุขแต่ตาก็ยังคงมองตรงอยู่ที่ถนน

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากจะมองค้อนส่งไปให้คนที่กำลังขับรถอยู่ก่อนจะชักสีหน้าให้รู้ว่าไม่สบอารมณ์แล้วหันออกไปมองนอกหน้าต่างไม่พูดไม่จาอีก

ไม่นานรถก็แล่นเข้ามาจอดในที่จอดรถของหอพี่โช

พี่โชลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ผม “เบี้ยวลง”

ผมไม่ตอบอะไรแต่นั่งนิ่งไม่สนใจคนที่กำลังยืนพูดอยู่

“จะลงเองหรือจะให้อุ้มครับแฟน”

ผมคิดว่ามันก็คงจะเป็นแค่คำขู่ของพี่โชเท่านั้น จึงทำเป็นไม่สนใจและไม่ยอมตอบอะไร

พี่โชก็ไม่ถามซ้ำอีกแต่โน้มตัวลงมาช้อนตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดจนผมเหวอรีบคว้าคอพี่โชไว้อย่างตกใจ ทำให้พี่โชยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะใช้ขาดันประตูรถให้ปิดลงและใช้รีโมทกดล็อคอย่างทุลักทุเล

พี่โชยังคงอุ้มผมไว้แบบนั้นจนมาถึงหน้าลิฟท์

“ปล่อยเดี๋ยวเดินเอง” ผมโวยวายเพราะกลัวใครจะมาเห็นสภาพที่น่าเกลียดแบบนี้

“ไม่เอาไม่ปล่อย แบบนี้ดีแล้วเหมือนอุ้มเจ้าสาวเข้าหอ”

ผมได้ยินแบบนั้นจึงโวยวายจนลิฟท์มาพี่โชก็อุ้มผมเข้าไปข้างใน ผมทำได้แค่มองค้อนคนอุ้มผ่านกระจนสะท้อนในลิฟท์เท่านั้น มันทั้งเขินทั้งอายทั้งโมโหอารมณ์มันผสมปนเปกันไปหมด

เมื่อออกจากลิฟท์พี่โชเดินตรงมายังหน้าห้องและเพราะมือพี่โชไม่ว่างจึงได้พูดขึ้น

“เบี้ยวหยิบกุญแจห้องในกระเป๋าให้หน่อยครับ” พี่โชพูดด้วยเสียงออดอ้อน

ผมได้ยินแต่ผมทำเฉยไม่สนใจเสียงของพี่โช

“ถ้าไม่หยิบ งั้นก็ตรงนี้เลยแล้วกัน”

พี่โชพูดจบก็ก้มหน้าลงมาหาผมเพื่อประกบจูบลงมาที่ปาก ผมตกใจไม่คิดว่าพี่โชจะเล่นแบบนี้จึงร้องห้ามเสียงหลงก่อนจะปล่อยมือออกจากคอพี่โชข้างหนึ่งเพื่อล้วงกระเป๋าหากุญแจห้อง

เมื่อได้กุญแจแล้วผมก็เป็นคนไขกุญแจเข้าไปพอประตูเปิดออกพี่โชก็เดินพรวดเข้าไปข้างในห้องโดยใช้เท้าถีบประตูให้ปิดลงจากนั้นพี่โชก็เดินตรงดิ่งไปยังห้องนอนที่ไม่ได้ปิดประตูไว้

พี่โชจับผมวางลงบนเตียงและนั่งลงข้างๆ ผมจึงทำท่าจะลุกหนีลงจากเตียงแต่ก็ไม่ทันที่พี่โชจะใช้ตัวเองมาค่อมทับผมไว้จนผมขยับไม่ได้

"จะไปไหน" พี่โชพูดและทำท่าทางเจ้าเล่ห์อย่างไม่น่าไว้ใจ

"กลับห้อง" ผมตอบโดยที่ไม่กล้าสบตากับคนถามสักเท่าไหร่

"นอนด้วยกันนี่แหละ" พี่โชก้มลงมากระซิบข้างหูเบาๆ

"พี่โช ผมอยากกลับห้อง" ผมรู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่ปลอดภัยยังไงไม่รู้

"นอนด้วยกันนะครับ"

พี่โชพูดจบก็ก้มลงมาประกบริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของผมเพื่อไม่ให้ผมปฏิเสธอะไรได้อีก พี่โชค่อยๆ ส่งลิ้นเข้ามาสำรวจข้างในโพรงปากของอย่างละเมียดละไม ผมก็จูบพี่โชตอบกลับไปโดยส่งลิ้นไปตวัดเกี่ยวกับลิ้นพี่โช เราสองคนเริ่มจูบกันอย่างดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ จนน้ำใสๆ ไหลเปื้อนออกมามุมปาก ทำให้พี่โชใช้ลิ้นตวัดเลียจนน้ำใสๆ หายไป

พี่โชค่อยๆ เคลื่อนหน้าจากริมฝีปากลงมาที่คอแล้วใช้ปลายลิ้นหยอกล้อกับลำคอของผมจนผมเสียวสะท้านจนร่างกายบิดเกร็ง จากนั้นพี่โชก็งับเบาๆ เป็นเชิงหยอกล้อก่อนจะดูดจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ ร่างกายผมบิดเบี้ยวจนทำอะไรไม่ถูก แต่สมองก็สั่งให้ผมพูดออกมา

"พะ..พีโช" ผมเรียกพี่โชเสียงสั่น

พี่โชไม่ตอบอะไรแค่ปรายตาขึ้นมามองอย่างเป็นคำถามโดยที่ปากก็ยังดูดดุนอยู่ที่บริเวณลำคอของผม

"มะ..ไม่ทำได้ไหมพี่"

พี่โชคลายริมฝีปากออกจากลำคอก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "ทำไมล่ะ"

"ผ...ผมเจ็บ" ผมตอบก่อนจะหันหน้าหนีจากสายตาพี่โชและพูดต่อ "ครั้งก่อนผมเจ็บตั้งหลายวัน...กะ..ก็มันไม่มีของช่วย" หลังจากครั้งก่อนผมจึงไปศึกษาข้อมูลพอสมควรเพราะตอนนั้นผมก็กลัวสารพัด

พี่โชยันตัวขึ้นจากร่างของผมก่อนจะขยับตัวไปเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงแล้วหยิบทั้งกล่องทั้งหลอดอะไรออกมาวางข้างตัวผม

"นี่ไงมีแล้ว งั้นก็ทำได้เนอะ" พี่โชพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์

ผมตาโตเมื่อเห็นของที่พี่โชนำมาวางไว้ข้างตัวผม มันมีทั้งถุงยางและเจลหล่อลื่น นี่พี่มันมีของแบบนี้ไว้ที่ห้องด้วยเหรอ ผมอดสงสัยไม่ได้จึงเอ่ยปากถามไป

"นี่พี่มีของแบบนี้ติดห้องหรอวะ"

"อืมตั้งแต่ครั้งนั้นกูก็คิดว่ากูควรจะซื้อมาเก็บไว้ เพราะกูไม่ทำมึงแค่ครั้งเดียวแน่" พี่โชพูดอย่างเจ้าเล่ห์

คำตอบพี่โชทำให้ผมหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา นี่พี่โชเตรียมไว้ใช้กับผมแสดงว่าพี่โชก็คงจะไปศึกษามาหมดแล้วเหมือนกันสินะ

"มีแล้วงั้นเอาได้แล้วใช่ป่ะ" พี่โชก้มลงมากระซิบข้างๆ หู พร้อมกับใช้ปากงับหูผมจนเสียวแบบบอกไม่ถูก

ผมไม่ได้ตอบอะไรทำได้แต่หลบตาพี่โชด้วยความกระดากอายและไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เสื้อผ้าของเราสองคนไม่ได้อยู่ติดร่างกายของเราทั้งคู่แล้ว

ต่อข้างล่างจ้า
VVVVV
 VVV
   V
   V
   V
   V
   V
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 26-08-2017 10:34:20
ต่อจ้า!!!

พี่โชค่อยๆ รุกล้ำเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างหื่นกระหายดูดตวัดลิ้นจนพอใจก็ค่อยขยับลงมาซุกไซร้อยู่บริเวณคอของผมอย่างหลงใหล ผมบิดไปมาอย่างทรมานมันเสียวจนบอกไม่ถูกถึงกับหลุดครางออกมา

“อื้มมมม..พะ..พี่โช ส...เสียว”

เมื่อพี่โชได้ยินเสียงครางของผมก็เหมือนทำให้อารมณ์ของเขานั้นพุ่งพล่านขึ้นมาอย่างง่ายดาย พี่โชไล้ริมฝีปากลงมาหาตุ่มไตกลางอกและขบเม้นอย่างสนุก โดยใช้มือที่ว่างอยู่คลึงระหว่างกลางอกอีกข้างหนึ่งไว้ เมื่อพอใจแล้ว พี่โชจึงไล้ปากลงมาวนๆ อยู่แถวบริเวณหน้าท้องของผมและใช้ปลายลิ้นสัมผัสเบาๆ จนผมเสียวซ่านไปทั้งร่าง

ส่วนมือผมที่ว่างอยู่ก็ปัดป่ายไปมาจนต้องวางมือลงกับที่นอนแล้วกำผ้าปูที่นอนไว้แน่นเพื่อระบายความรู้สึกนั้น พี่โชไล่ลิ้นไปยังต้นขาของผมอย่างอ่อนโยนที่ละข้างและใช้มือที่ว่างอยู่จับน้องชายผมไว้จนผมถึงกับสะดุ้งเฮือก

“ฮึก!...” ผมก้มลงมามองการกระทำของพี่โชก่อนจะเขินและหันหน้าหนีไปทางอื่น

พี่โชขยับมือขึ้นลงช้าๆ ก่อนจะเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้กับส่วนที่แข็งของผมและใช้ลิ้นวนรอบๆ บริเวณส่วนปลายจนผมตัวบิดเกร็ง

“ซี๊ดดด..อ๊า...อ่า..สะ..เสียว” ผมครางไม่เป็นภาษามันทั้งเสียวทั้งตื่นเต้นแต่มันก็รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก

พี่โชค่อยๆ ขยับปากเข้าไปครอบตัวตนของผมไว้เกือบสุดโคนก่อนจะขยับปากขึ้นลงเป็นจังหวะ ทำให้ผมต้องขยับมือมากุมหัวของพี่โชไว้และขยับเป็นจังหวะโดยไม่รู้ตัว

“พะ..พี่โช..ผมจะ..จะ..สะ..เสร็จ” ผมพูดไม่รู้เรื่องพยามจับดึงหัวของพี่โชออกจากส่วนนั้นที่กำลังจะพ่นน้ำรักออกมาแต่พี่โชไม่ยอมแล้วขืนเอาไว้
“อ๊า.....” ผมร้องออกมาพร้อมกับน้ำขุ่นๆ ที่ปล่อยออกมาคาปากของพี่โช

“เอื๊อก..” เสียงพี่โชกลืนน้ำนั่นลงคอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมที่นอนหมดแรงอยู่ “อร่อย”

พี่โชพูดแบบนั้นมันทำให้ผมเขินจนหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ไม่นานที่จะได้ตั้งตัวพี่โชก็โน้มตัวลงมาประกบปากผมอีกครั้งโดยใช้สองมือบีบคลึงบริเวณสะโพกของผมเพื่อกระตุ้นความต้องการของผมอีกครั้ง

พี๋โชผละออกจากริมฝีปากและก้มหน้าลงมาที่กลางลำตัวของผมอีกครั้งก่อนจะไล้ลิ้นจากส่วนหน้าลงมาเรื่อยๆ จนถึงส่วนหลังทำให้ผมสะดุ้งเฮือก

“พะ..พี่โช ทะ..ทำอะไร” ผมพยายามขยับตัวหนีแต่พี่โชก็จับล็อคไว้แน่นก่อนจะใช้ลิ้นหยอกล้อกับช่องทางด้านหลังของผม มันเสียวจนตัวผมบิดเกร็งนิ่วหน้าอย่างทรมาน

“พะ..พี่โช มันสกปรก” ผมยังพยามจะห้ามพี่โช

พี่ช้อนสายตาขึ้นมองและยกยิ้มมุมปากก่อนจะพูดขึ้น “สกปรกตรงไหน หวานออก” พูดจบพี่โชก็ใช้ลิ้นไล้บริเวณช่องทางด้านหลังอีกครั้งก่อนจะพยายามสอดลิ้นเข้าไปข้างในทำให้ผมตัวบิดเร่าอย่างทรมาน

พี่โชผละออกจากช่องทางของผมก่อนจะเอื้อมไปหยิบหลอดเจลหล่อลื่นมาบีบใส่มือและนำลงไปชโลมตรงช่องทางเข้าของผมจากนั้นก็ค่อยๆ ส่งนิ้วเข้าไปอย่างช้าๆ

“โอ้ย” ผมร้องด้วยสีหน้าเหยเกพร้อมกับถดตัวหนีจากพี่โช

“ไม่ต้องเกร็งนะคนดี” พี่โชขยับตัวขึ้นมาอยู่ในท่าที่คล่อมร่างของผมไว้และก้มลงกระซิบข้างหูผมอย่างปลอบปะโลม

พี่โชใช้ลิ้นเลียใบหูจนผมเสียววาบไปทั้งร่างก่อนจะค่อยๆ ส่งนิ้วเข้าไปอีกครั้ง พี่โชค่อยๆ ขยับควานนิ้วภายในช่องทางด้านหลังเพื่อหาจุดความเสียวของผม

อารมณ์ของผมตอนนี้ทั้งเจ็บและทั้งเสียวไปพร้อมๆ กันจนแสดงออกมาไม่ถูก พี่โชค่อยๆ เพิ่มนิ้วส่งเข้าไปอีกหนึ่งนิ้วและขยับเข้าออกอย่างช้าๆ จนผมเริ่มชินกับสิ่งที่เข้าไปพี่โชจึงดันตัวนั่งขึ้นก่อนจะหยิบถุงยางอนามัยมาสวมใส่ของตัวเองที่โตเต็มที่แล้ว ผมมองทุกการกระทำของพี่โชแบบเขินๆ ทำหน้าไม่ถูก

“เบี้ยวเชื่อใจพี่นะ” พี่โชคล่อมร่างของผมไว้ก่อนจะก้มลงไปบอกอย่าอ่อนโยน

ผมพยักหน้าตอบแบบอายๆ หน้าร้อนฉ่าขึ้นมา

พี่โชชโลมเจลลงบนส่วนแข็งของตัวเองและชโลมไปบริเวณด้านหลังของผมจนชุ่ม พี่โชจับขาของผมให้อ้ากว้างขึ้นและสอดแขนตัวเองไว้ใต้ขาทั้งสองข้างของผมก่อนจะค่อยๆ นำของตัวเองเข้าไปสัมผัสกับทางเข้าของผมทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ กดเข้าไป แต่ช่องทางด้านหลังของผมยังคับแคบจนทำให้ผมนิ่วหน้าร้องออกมา

“โอ๊ย เจ็บ...ไม่เอาพี่โช เจ็บๆ” ผมโวยวายพยายามดันตัวพี่โชออก

พี่โชค่อยๆ โน้มหน้าลงไปประกบกับริมฝีปากผมเพื่อเบนความสนใจให้ผ่อนคลายขึ้น พี่โชจึงค่อยๆ ขยับส่วนแข็งเข้าไปอีกครั้งจนเข้าไปสุด

“อึ่ก” ผมร้องในลำคอโดยที่ริมฝีปากยังประกบกันอยู่

พีโชค่อยๆ ขยับโดยใช้มือที่ว่างจับส่วนหน้าของผมรูดขึ้นลงให้เป็นจังหวะไปด้วยทำให้ผมมีอารมณ์ร่วมตาม

พี่โชขยับตัวเข้าออกเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอและส่งเสียงครางออกมาจากลำคอ “อึ้ม...ตอดกูนะเบี้ยว”

“อ๊า..อ๊า...พะ..พี่..ชะ..” ผมครางไม่เป็นภาษา

พี่โชยังขยับเข้าออกอย่างต่อเนื่องพร้อมกับพูดออกมา “เบี้ยวเรียกชื่อกูหน่อย” พี่โชขอร้องผมด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า

“พะ..พี่โช…อ๊า”

“อืมมม..ดีเบี้ยว” พี่โชชื่นชมผมด้วยสีหน้าที่สุขสมและดูพอใจเมื่อผมทำตามคำขอ

“พะ...พี่โช..ผม..กะ..ใกล้จะ.ออก” ผมบอกไม่เป็นภาษาเพื่อให้พี่โชช่วย

พี่โชเริ่มขยับมือเร็วขึ้นไม่นานน้ำข้นๆ ก็ไหลเปื้อนเต็มมือของพี่โชและเปื้อนไปเต็มหน้าท้องของผม

“อ๊า......” ผมครางออกมาอย่างสุขสมพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเกร็ง

เมื่อผมไปถึงฝั่งแล้วถึงสองรอบทำให้พี่โชเร่งจังหวะของตัวเองให้เร็วขึ้นพร้อมกับบอก “เบี้ยวอีกนิดเดียว”

จากนั้นพี่โชก็กระแทกเข้าออกอย่างแรงๆ เข้าไปอีกไม่กี่ครั้งก็ทำให้เขากระตุกเกร็งพร้อมกับครางออกมา “อ๊า...อ่า”

พี่โชยังแช่ตัวเองไว้ในตัวของผมอย่างนั้นก่อนจะทิ้งตัวลงไปจูบขมับผมอย่างอ่อนโยน

“กูรักมึงนะอาร์ท” พี่โชกระซิบเบาๆ ข้างหูผม มันทำให้ผมรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัว ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ผมยกมือสองข้างขึ้นโอบกอดคนที่นอนทับอยู่บนของร่างผมแน่น “ผมก็รักพี่”

เราอยู่กันในสภาพนั้นสักครู่เพื่อให้ลมหายใจกลับมาเป็นปกติก่อนพี่โชจะดึงตัวเองของจากช่องทางด้านหลังของผมทำให้ผมรู้สึกวูบโหวงจนเสียววาบขึ้นมา จากนั้นพี่โชจึงอุ้มผมขึ้นเพื่อพาเข้าไปทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำ แต่ระหว่างที่พี่โชกำลังจัดการทำความสะอาดให้ผมอยู่ก็ดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกรอบจนเราทั้งคู่มีอะไรกันอีกรอบในห้องน้ำ ก่อนพี่โชจะทำความสะอาดให้ผมจริงๆ แล้วถึงพาผมออกมาวางไว้บนเตียง

พี่โชจับผมใส่ชุดนอนของเขาและดึงผ้าห่มคลุมตัวให้ผมก่อนที่พี่โชจะไปใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้วลงมานอนข้างๆ และกอดผมไว้หลวมๆ

"เบี้ยวคืนห้องแล้วย้ายมาอยู่ด้วยกันนะ" พี่โชพูดขึ้นมา

"ไม่เอาอ่ะ" ผมตอบกลับทันควันทั้งที่ตัวเองก็แทบไม่มีแรงอยู่แล้ว

"จะเอาไว้ทำไมอยู่ก็ไม่ได้อยู่ เปลืองเงินเปล่าๆ"

“เฮ้ย เดี๋ยวผมก็กลับไปนอนห้องเหอะ”

“ไม่ให้กลับ”

“.....”

“นะไปคืนห้องเถอะกูอยากนอนกอดมึงอย่างนี้ทุกคืน”

"ถ้าผมคืนห้องเวลาพี่ไล่ผมก็ไม่มีที่อยู่สิ" ผมพูดเสียงเบาเมื่อคิดว่าโดนพี่โชไล่จริงๆ ผมคงต้องบ้าตายแน่ๆ

พี่โชกระชับกอดให้แน่กว่าเดิม "ใครจะกล้าไล่เมียตัวเองครับ"

"เออเก็บเอาไว้อย่างนั้นแหละ" ในความคิดผมกลัวว่าเวลาที่เราทะเลาะหรือมีปัญหากันผมจะไม่มีที่ไปแล้วอีกอย่างขืนอยู่ด้วยกันทุกวันผมต้องโดนรังแกจนไปเรียนไม่ไหวแน่ๆ

"ไม่สงสารพ่อกับแม่หรือไงต้องเสียเงินเปล่าๆ ทุกเดือน" พี่โชเอาพ่อกับแม่ของผมขึ้นมาอ้าง

"เอ่ออออ.." ผมอ้ำอึ้ง

พี่โชจับคางผมให้หันหน้าตรงกันก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม "เบี้ยวกลัวอะไรไหนบอกสิ"

ผมเม้มปากทำท่าคิดหนักก่อนจะพูด "ก็ถ้าเราทะเลาะกันหรือละ...เลิกกัน ผมจะได้มีที่อยู่ไง"

"นี่เพิ่งจะเป็นแฟนกันคิดจะเลิกกันแล้วหรอ" พี่โชพูดเสียงเข้มขึ้นมา

"เปล่า!" ผมพูดออกเสียงดัง "ก็เผื่อไว้เฉยๆ ใครจะไปรู้ถ้าเกิดพี่เบื่อผมขึ้นมาอาจจะทิ้งผมก็ได้"

"ไร้สาระน่าเบี้ยว" พี่โชพูดพร้อมกระชับกอดเข้า และหอมแก้มผมแรงๆ "ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้จะไปทิ้งได้ยังไง"

ผมได้ยินแบบนั้นก็เขินจนทำอะไรไม่ถูกหน้าแดงจนแทบจะระเบิด

"นะไปคืนห้องแล้วย้ายของมาอยู่ด้วยกันเถอะ" พี่โชทำเสียงออดอ้อน

"อื้ม...แต่เดี๋ยวขอพ่อกับแม่ก่อนนะ"

"เดี๋ยวขอให้เองรับรองพ่อกับแม่ยอมง่ายกว่าเบี้ยวไปขอเองแน่นอน"

"เหรออออออออ" ผมพูดเสียงยานด้วยความหมั่นไส้

ผมหยิบโทรศัพท์เพื่อที่จะโทรออกหาแม่

ตู๊ดๆ

(ว่าไงลูก โทรมาสะมืดเชียว)

"แม่ทำอะไรอยู่หรือว่านอนไปแล้ว"

(ยังหรอกแม่นั่งดูละครอยู่ เราล่ะทำอะไรอยู่)

"อาร์ทเพิ่งกินข้าวเสร็จ" ผมไม่ได้โกหกนะก็เพิ่งกลับจากกินข้าวจริงๆ นี่นา

(อยู่ไหนล่ะลูก)

"ห้องพี่โชอ่าแม่" ผมพูดเสียงอ่อย

(อ่าวทำไมไปอยู่ห้องพี่เค้าละ) แม่ว่าเสียงขำๆ

"แม่อ่ะ"

(อ้าวแม่ก็ถาม)

"แม่"

(ว่าไง)

"อาร์ทย้ายหอมาอยู่กับพี่โชนะ"

(แล้วทำไมต้องไปอยู่กับพี่เขาละ)

"แม่..."

(ตอบสิ แม่จะได้บอกว่าอนุญาตหรือไม่อนุญาต)

"ก็พี่โชชวนมาอยู่ด้วยจะได้ประหยัดค่าหอไง" ผมอ้างไปอย่างนั้น

(เหรอออออ เงินที่แม่ให้ก็น่าจะมากพอม้างง) แม่ทำเสียงแซว

"แม่อ่ะ"

(ให้แม่คุยกับโชหน่อยสิ)

"แม่จะคุยทำไม ไม่ต้องคุยหรอก"

(ก็จะมาขอลูกชายเขาไปอยู่ด้วยก็ต้องฝากฝังหน่อยสิ)

"แม่!!"

(เร็วให้โชมาคุยกับแม่)

"ก็ได้รอแป๊บนะแม่"

"พี่โชแม่ขอคุยด้วย" ผมพูดแค่นั้นพี่โชก็รีบเสนอหน้าคว้าโทรศัพท์จากมือผมไปอย่างไม่สนใจอะไร

ผมนอนมองพี่โชที่เดินไปไกลจากผมเพื่อคุยกับแม่ผมไปสักพักใหญ่แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันบ้างเมื่อวางสายพี่โชก็เดินเข้ามาหาผมแล้วพูด

"แม่อนุญาตแล้ว"

"อือ"

"ไปย้ายเลยป่ะ"

"แล้วแต่พี่เลย อยากทำอะไรก็ทำเลย" ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชด

"งอนเหรอ"

"เปล่าสักหน่อย"

"เออลืมไปตอนนี้มืดแล้วและก็คงไม่น่าจะเดินไหวพรุ่งนี้เบี้ยวไม่มีเรียนย้ายพรุ่งนี้ก็ได้เนอะ" พี่โชพูดเองเออเองทุกอย่าง

ผมได้แค่เบะปากไม่พูดอะไรใส่พี่โช ทำให้พี่โชหลุดขำออกมากับท่าทางผม

และก็เป็นไปอย่างที่พี่โชพูดไว้รุ่งขึ้นอีกวันเราตื่นกันก็เกือบบ่าย ร่างกายของผมมันปวดร้าวไปหมดแต่ก็พอที่จะลุกไหวเพราะก่อนนอนพี่โชทั้งหายาแก้อักเสบให้กินและทายาให้ พี่โชจึงชวนผมไปหาอะไรกินข้างนอกและต่อด้วยไปทำเรื่องขอคืนห้อง

ผมทำเรื่องเสร็จพี่โชก็อาสาเป็นคนแพ็คของคนเดียวเพราะกลัวผมเจ็บผมจึงนั่งมองพี่โชอย่างเดียว พี่โชเลือกเก็บเฉพาะของใช้จำเป็นก่อน จริงๆ ของผมก็ไม่มีอะไรมากมีแค่เสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวไม่กี่อย่างกับหนังสือเรียนและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คอีกหนึ่งเครื่องเท่านั้น ทำให้เราขนของออกได้ภายในวันนี้ทีเดียวหมดเลย

เมื่อขนของเสร็จผมก็นำกุญแจและคีย์การ์ดไปคืนเจ้าของหอ และต่อจากนี้ไปผมต้องใช้ชีวิตร่วมกับพี่โชจริงๆ แล้วสินะ


==================
TBC.

Talk. มาแว้วววว เค้าได้กันอีกแล้วอ๊าาา แต่คราวนี้เค้าเป็นแควนกันแล้วน๊าาา มาเม้าส์กันนะทุกโคน อย่าทิ้งเค้าน๊าา  :monkeysad:  รักคนอ่านนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 26-08-2017 10:45:26
เปิดมาเจอพอดี ฟินไปหลายรอบเลย อิอิอิ
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-08-2017 11:41:04
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 26-08-2017 12:35:18
อยากโดนมั่ง 5555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 26-08-2017 13:31:50
เป็นแฟนกันซะที :hao3:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 26-08-2017 19:27:00
 :o8:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-08-2017 21:52:16
 :haun5:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-08-2017 22:20:05
 :hao5: :sad4: :heaven
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-08-2017 23:27:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 27-08-2017 15:55:12
อยู่กินกัน ฉันสามีภรรยา :-[
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 27-08-2017 21:25:22
แหมเข้าหอก็แล้ว ย้ายมาอยู่อย่างนี้หวังว่าคงไม่มีดร่าม่าอีกนะ

ตอนนี้คงเหลือแต่ด่านพ่อแม่พี่โชแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 27-08-2017 23:45:03
หนีไปอยู่ด้วยกันละหรอ??
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 31-08-2017 11:37:17
รวดเร็วทันใจ หลังจากที่พี่โชรอคอยมายาวนาน เป็นแฟนปุ้บ จับกินเสร็จ ให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันทันที
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 23 [26/8/17] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 31-08-2017 11:47:32
 :L1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 19-09-2017 11:49:00
ตอนที่ 24

วันนี้ผมต้องฝืนสังขารตัวเองมาเรียนเพราะอาจารย์บอกไว้ว่าจะมีสอบเก็บคะแนนแต่ทั้งที่ร่างกายของผมมันเพลียมันเปลี้ยจนแทบจะเดินไม่ไหว ทั้งยังเสียดช่วงล่างจนรู้สึกได้ว่าเดินแปลกไป ที่คอก็ยังมีแต่รอยเป็นจ้ำจากฝีมือของพี่โช ซึ่งพี่โชก็บอกแล้วว่าให้หยุดพักผ่อนแต่ผมก็ไม่ฟังเพราะไม่อยากขาดสอบถึงจะเป็นสอบย่อยผมก็ไม่อยากที่จะต้องไปตามสอบคนเดียวทีหลัง นี่ถ้าใครเห็นสภาพผมตอนนี้ก็ต้องรู้ว่าผมโดนอะไรมาแน่ๆ ผมทำใจไว้แล้ว จนก่อนออกจากห้อมผมต้องทำข้อตกลงกับพี่โชใหม่ว่าถ้าวันที่มีเรียนห้ามทำอะไรผม ตอนแรกพี่โชทำท่าจะไม่ยอมผมเลยยื่นคำขาดถ้าไม่ยอมผมจะย้ายออกพี่โชจึงยอมตกลงโดยดี



เมื่อพี่โชขับรถมาส่งผมที่คณะพี่โชก็บอกจะเดินลงไปส่งผมให้ถึงเพื่อนแต่ผมต้องรีบห้ามไว้ เพราะอย่างน้อยโดนเพื่อนแซวตอนอยู่คนเดียวยังดีกว่าที่มีพี่โชอยู่ด้วย ไม่งั้นผมคงจะอายจนทำอะไรไม่ถูกแน่

ผมเดินลงจากรถตรงมาที่ใต้คณะโต๊ะประจำของพวกผมก็เห็นเพื่อนทุกคนนั่งอยู่แล้ว



“ไอ้อาร์ททำไมสภาพมึงเป็นอย่างนี้วะ” น้ำตาลทำท่าทางตกใจเมื่อเห็นสภาพเหมือนผีเดินได้ของผม

“กะ..กู ไม่...” ผมยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรกายก็ชิงพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

“โดนฟัดมาสิมึง”

เมื่อกายพูดจบหน้าผมก็ร้อนขึ้นมาจนต้องหลุบตาลงต่ำมองพื้นไม่กล้าสบตาเพื่อน

“ว่าไงมึงโดนฟัดมาแบบที่ไอ้กายบอกหรือเปล่า” น้ำตาลพูดอย่างหยอกล้อคลายอาการตกใจเมื่อครู่ไปจนหมด

ผมจึงเลือกที่จะเงียบไม่ตอบอะไร แล้วหันไปสนใจฟ้ากับเพื่อนของฟ้าแทน “อ้าวฟ้ากับกรอยก็อยู่หรอ”

“ใช่สิอาร์ทเรากับกรอยก็นั่งอยู่ตั้งแต่แรกแล้วนะ” ฟ้าไม่พูดเปล่ายังทำสายตาล้อเลียน

“ฮ่าๆ เราขอโทษไม่ทันได้มอง” ผมตอบเฉไฉไปทั้งที่ผมก็เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าสองคนนั่งอยู่แต่อย่างน้อยก็หวังจะทักเพื่อเบี่ยงประเด็กให้พ้นตัวเท่านั้น

“มัวแต่เขินอยู่ละสิ” ฟ้าแซวผม

ผมยิ้มกลับไปให้ฟ้าไม่ได้ตอบอะไร แล้วจึงตัดสินใจนั่งลง ระหว่างที่ช่วงล่างที่สัมผัสกับเก้าอี้มันก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาจนผมนิ่วหน้าโดยทันทีจนกายเข้ามากระซิบ

“มึงกินยาแก้อักเสบกับทายาหรือยัง”

ผมตาโตอ้าปากพะงาบและรู้สึกอายขึ้นมาแต่ก็กระซิบตอบกลับไป “ยากูกินแล้วส่วนทาพี่โชจัดการให้กูแล้ว” ผมตอบออกไปและชั่งใจคิดสักครู่แล้วก็ถามกายออกไป “มึงรู้ได้ไงว่ากูต้องเป็นคนกินยา”

กายยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ “หึ! ไอ้อาร์ทเอ้ย อย่างมึงไม่มีปัญญากดพี่โชแน่นอน”

“ฆวย” ผมแยกเขี้ยวใส่กายอย่างโมโห

“มึงสองคนกระซิบไรกันวะ” น้ำตาลหรี่ตามองผมกับกายอย่างจับผิด

“ทุกเรื่องนะมึงอ่ะ อ่านหนังสือไปป่ะ” กายว่าน้ำตาลอย่างไม่จริงจังนัก

“เชอะ!” น้ำตาลสะบัดหน้าใส่ผมสองคนก่อนจะหันไปหาฟ้า “ฟ้าอธิบายตรงนี้ให้เราฟังหน่อยเรางงอ่ะ”

“ฟ้าสอนเราด้วย” ผมพูดต่อจากน้ำตาล

“ไม่โว้ย กูไม่ให้ฟ้าสอนมึงฟ้าจะสอนกูคนเดียว” น้ำตาลพูดแล้วยักคิ้วท้าทายผมก่อนหันไปเอาคำตอบจากฟ้า “ใช่ไหมฟ้า”

ฟ้าทำได้ยิ้มและท่าทางเหนื่อยใจกับผมสองคน จากนั้นพวกเราจึงตั้งใจอ่านหนังสือโดยมีฟ้าคอยอธิบายในส่วนที่ไม่เข้าใจบ้าง ไม่นานนักก็ถึงเวลาเข้าเรียนจึงแยกย้ายกันไป

เมื่อสอบเสร็จพวกผมก็พากันลงมาใต้คณะเพื่อหาอะไรรองท้องก่อนที่จะเรียนในช่วงบ่าย พอลงมาถึงใต้คณะก็เห็นกลุ่มพี่โชเกือบครบกลุ่มขาดแค่พี่คิวมานั่งรอกันอยู่แล้ว พวกเราจึงเดินตรงเข้าไปหา

“มากันทำไมเนี่ย” ผมถามขึ้น

“มาดูแลเมี...” พี่โชยังพูดไม่ทันจบคำผมก็รีบใช้มือตะปบปิดปากพี่โชอย่างเร็ว

“ฮ่าๆ” เสียงขำหลุดออกมาจากทั้งเพื่อนผมและเพื่อนพี่โช

ผมจึงหาทางเปลี่ยนเรื่อง “แล้วพี่คิวไปไหนอ่ะ”

“มันนัดสาวมั้ง” พี่โชตอบ

ผมพยักหน้าไม่ได้ใส่ใจอะไรนักเพราะแค่ต้องการเปลี่ยนเรื่องเท่านั้น

“เออเย็นนี้พี่ปันนัดเข้าชมรม” พี่โชบอกแล้วมองสภาพผมก่อนจะถาม “ไหวไหมถ้าไม่ไหวเดี๋ยวมารับไปส่งที่ห้องก่อนแล้วจะบอกพี่ปันให้”

ผมทำหน้าเลิ่กลักเมื่อทุกสายตาบนโต๊ะมองมาที่ผมเป็นตาเดียว “ไหวดิทำไมจะไม่ไหวเย็นนี้เจอกันที่ชมรม”

“ไม่ เดี๋ยวเลิกเรียนแวะมารับ” พี่โชพูดเสียงแข็ง

“แหมไอ้โช มึงจะประคบประหงมมันมากไปหรือเปล่า” พี่อัครแซวพร้อมทำสายตาล้อผม

“ไม่ได้ดิไอเชี่ยอัคร แฟนกูทั้งคน”

“อ้าว เป็นแฟนกันแล้วเหรอวะไม่บอกกูไม่รู้นะเนี่ย” พี่อัครพูดพร้อมทำท่ากวนๆ ก่อนจะหันมาหาผมแล้วยกยิ้มร้ายๆ ออกมาก่อนจะพูด “มึงไปใจอ่อนให้มันตอนไหนวะไอ้อาร์ท”

ผมไม่ตอบพี่อัครได้แต่ส่งสายตาให้พี่โชช่วยตอบแทนหรือไม่ก็ทำอะไรก็ได้ที่ให้พี่อัครเลิกถาม เพราะตอนนี้หน้าผมร้อนจนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

“มึงนี่ก็เสือกเหมือนกันเนอะ” พี่โชว่าเพื่อนขำๆ

“เออไอ้อัครวันนี้ทำไมมึงอยากรู้อยากเห็นจังวะ ปกติต้องเป็นไอ้คิวนี่ไม่ใช่มึงที่ขี้เสือก” พี่ณัฐพูดเสริมทำให้ขำกันทั้งโต๊ะ

พี่อัครมองค้อนพี่ณัฐก่อนจะโวยวายขึ้นมา “มึงก็อีกตัวไอ้ณัฐตัวติดกับไอ้กายเป็นตังเม”

พี่ณัฐยักคิ้วท้าทายพี่อัครก่อนจะพูด “เรื่องของกู”

เท่านั้นพี่อัครก็เงียบไปเพราะไม่มีพวกปกติแล้วจะเป็นพี่คิวที่คอยแซะคนอื่นเพราะพี่คิวคู่หูไม่อยู่พี่อัครเลยสู้ใครไม่ได้

เมื่อหมดเวลาพักเราก็แยกย้ายกันไปเรียน พอเรียนเสร็จผมจึงลงมาใต้คณะก่อนจะหยิบโทรศัพท์เพื่อจะโทรหาพี่โช แต่ไม่ทันได้โทรก็เห็นรถพี่โชจอดรออยู่แล้วผมจึงหันไปบอกลาเพื่อน

“กูไปก่อนนะพวกมึงต้องเข้าชมรม”

เท่านั้นเพื่อนๆ ก็พยักหน้ารับ ผมจึงเดินตรงมาเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ

“มานานยัง” ผมถามขึ้น

“ไม่เท่าไหร่ ว่าแต่ไหวแน่เหรอยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” พี่โชถามพลางยื่นมือมาลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยน

แก้มผมร้อนผ่าวขึ้นมาก่อนจะเบนหน้าหลบสายตาของพี่โช “ก็เจ็บแต่ไม่มากเท่าไหร่ น่าจะไหวถ้าไม่ได้เล่นหนักมาก”

“อืม ถ้าไม่ไหวอย่าฝืนนะ” พี่โชบอกด้วยน้ำเสียงห่วงใย

ผมพยักหน้ารับ จากนั้นพี่โชจึงกลับไปสนใจที่พวงมาลัยรถมองออกไปยังถนนและเร่งเครื่องออกจากตรงนั้นเพื่อไปยังสนามฟุตบอล

รถจอดสนิทผมก็เปิดประตูลงจากรถแล้วยืนรอพี่โชหยิบของจากท้ายรถจึงเดินเข้าไปในชมรมพร้อมกัน ทันทีที่พี่ปันเห็นสภาพผมจึงเอ่ยทักอย่างตกใจ

“เฮ้ย ทำไมสภาพไอ้อาร์ทเป็นอย่างงี้วะ” แล้วหันไปหาพี่โช “มึงทำอะไรมันไอ้โช แล้วแบบนี้มันจะเล่นไหวไหมวะวันนี้อาจารย์จะเข้ามาดูด้วย”

พี่โชทำหน้าไม่ถูกผมจึงตอบแทนพี่โชออกไป “ไหวพี่ ผมไหว พี่โชไม่ได้ทำอะไร”

“แหมปกป้องกันดีเหลือเกินนะมึง” พี่ปันแซวก่อนจะพูดต่อ “เออไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัว วันนี้แบ่งทีมเล่นให้อาจารย์ดูด้วย”

“ครับ” ผมและพี่โชตอบรับพร้อมกัน

เมื่อผมเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาพร้อมกับมาเจอแดดผมก็รู้สึกมึนๆ ขึ้นมาผมเซเกือบจะล้มดีที่พี่โชรับเอาไว้ทัน

“ไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน นั่งรอข้างสนามนั่นแหละ” พี่โชพูดเสียงดุๆ

ผมจึงพยักหน้าตอบก่อนจะยอมให้พี่โชพยุงไปนั่งข้างสนาม สรุปแล้วผมก็ต้องนั่งดูคนอื่นเล่นเพราะร่างกายของผมมันไม่ไหวจริงๆ

เมื่อเล่นเสร็จทุกคนก็มารวมตัวกันที่ข้างสนามเพื่อคุยอะไรกันเกี่ยวกับชมรม ก่อนจะกลับพี่ปันเลยบอกว่าวันนี้เป็นวันศุกร์เลยจะเลี้ยงสมาชิกในชมรมที่ติดไว้ตั้งแต่เทอมที่แล้ว จึงนัดกันไปเจอที่ร้านเหล้าสามทุ่ม

พี่โชเห็นว่าสภาพร่างกายของผมไม่ไหวคงไม่สามารถไปนั่งนานๆ ขนาดนั้นได้พี่โชจึงปฏิเสธไป

“โถวไอ้โช เดียวนี้หงอเลยนะมึงไอ้อาร์ทไม่ไปมึงก็ไม่ยอมไปเลยนะ” พี่ปันแซวขำๆ เพราะพี่ปันรู้อยู่แล้วว่าผมกับพี่โชเป็นอะไรกันมากกว่าพี่น้อง จริงๆ ก็รู้กันทั้งชนรมนั่นแหละ ถึงตอนแรกจะยังไม่ได้เป็นแฟนกันแต่พี่โชมันก็ทำกับผมไม่ต่างกับตอนเป็นแฟนกัน

“ไม่ได้ดิพี่เดี๋ยวโดนเมียตี” พี่โชก็ตอบกลับขำๆ ผมจึงทุบไหล่พี่โชแรงๆ ไปทีหนึ่ง

“เห็นไหมพี่นี่ขนาดผมไม่ไปกินกะพวกพี่ผมยังโดนตีเลย” พี่โชทำท่าฟ้องพี่ปัน

พี่ปันขำก่อนจะพูด “ฮ่าๆ กลัวเมียนี่หว่า”

ผมทำอะไรไม่ถูกจึงรีบเดินหนีเข้าไปในห้องล็อคเกอร์เพื่อเก็บของ ปล่อยให้พี่โชคุยกับพี่ปันต่อไป

ผมเดินออกมาพร้อมกับของผมและของพี่โชจึงเดินตรงไปที่รถเลยเพราะพี่โชนั่งรออยู่ในรถอยู่แล้ว

ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปนั่งเสียงพี่โชก็ลอยมา “อยากกินอะไร”

“อยากกินซูชิอ่ะ” ผมหันไปตอบ

“ครับเมีย” พี่โชทำหน้าล้อผม

ผมมองค้อนพี่โชก่อนจะเอื้อมมือไปทุบต้นขาพี่โชอย่างไม่แรงนัก

พี่โชพาผมไปกินซูซิร้านใกล้ๆ มหา’ลัย เมื่อกินเสร็จพี่โชจึงชวนผมแวะซุปเปอร์ก่อนจะถึงหอเพื่อซื้อของใช้และของสดไว้ทำกินซึ่งจริงๆ แล้วก็ทำอาหารกันไม่ค่อยจะเป็นทั้งคู่นั่นแหละครับ ทำได้แค่พวกง่ายๆ ไข่เจียว หมูทอดอะไรประมาณนี้แหละ

“ซื้อไปเยอะๆ เลยนะ” พี่โชบอกขณะที่เรากำลังยืนกันอยู่ตรงแผนกของสด

“จะซื้อไปทำไมเยอะแยะ” ผมถามอย่างสงสัย ในเมื่อถ้าหมดก็ค่อยออกมาซื้อใหม่ก็ได้

“ก็เสาร์อาทิตย์นี้เราจะไม่ออกไปไหนไง” พี่โชพูดอย่างเจ้าเล่ห์

ผมได้ยินแบบนั้นหน้าก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างทำอะไรไม่ถูกได้แต่หยิบนู่นหยิบนี่ลงรถเข็นโดยไม่มองด้วยซ้ำว่าหยิบอะไรลงมาบ้าง สุดท้ายเสาร์อาทิตย์นั้นผมและพี่โชก็ไม่ได้ออกจากห้องกันจริงๆ





วันนี้ผมเลิกเรียนเร็วกว่าพี่โชครึ่งชั่วโมงเพราะอาจารย์มีประชุมจึงเลิกคลาสก่อนเวลาพอดีกับที่กายก็ต้องไปรับพี่ณัฐอยู่แล้วผมจึงขอติดรถกายไปหาพี่โชที่คณะด้วยเลย

“พวกมึงเดี๋ยวนี้พอเลิกเรียนก็ทิ้งกูกันเลยนะ” น้ำตาลว่าอย่างงอนๆ

ผมเดินเข้าไปกอดคอน้ำตาลแล้วดึงเข้ามาหอมแก้มเบาๆ “โอ๋ๆ ไม่งอนนะไว้เดี๋ยวพี่พาไปกินขนม”

“ไม่ต้องเอาขนมมาล่อกูเลยพวกมึง...กูงอน” น้ำตาลพูดกระชากเสียงก่อนจะผลักหัวผมออกให้ไกลๆ

“แหมทำอย่างกับมึงมีเวลามาอยู่กับพวกกูตายแหละเห็นมึงก็ติดฟ้าไม่ต่างกัน” กายว่าจนน้ำตาลอยู่ๆ ก็เงียบเถียงไม่ออกแถมหน้ายังมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาอีก

“ไปป่ะพวกมึงจะไปไหนก็ไป” น้ำตาลพูดไล่พวกผมแล้วหันหลังเดินไปยังห้องที่ฟ้ากำลังเรียนอยู่ พวกผมหันมองหน้ากันแล้วยิ้มเหมือนว่ารู้กัน น้ำตาลมันปากแข็งบอกไม่มีอะไรแต่การกระทำมันนี่สิชัดยิ่งกว่าอะไร



เราสองคนขับรถมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของคณะสาถาปัตย์แล้วลงไปหาที่นั่งรอบริเวณใต้คณะเพราะเราไม่ได้บอกคนของเราก่อนว่าเลิกเรียนแล้ว

ผมหยิบโทรศัพท์มองนาฬิกาเวลาบอกว่าอีกห้านาทีจะเป็นเวลาเลิกเรียนของพี่โช ผมเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ภาพที่เห็นคือพี่โชเดินลงบันไดมากับผู้หญิงคนหนึ่งเดินคุยกันมากระหนุงกระหนิง

ผมมองภาพตรงหน้าอย่างหงุดหงิด ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเพื่อนพี่โชมันก็ได้ ไม่ทันที่ผมจะลุกขึ้นยืนเพื่อเดินไปหา ผู้หญิงคนนั้นยกมือขึ้นลูบที่แก้มพี่โชเบาๆ พี่โชก็ยิ้มให้ก่อนจะพูดอะไรสักอย่าง มันทำให้ผมโมโหอยากอาละวาดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ไม่รู้ทำไมตั้งแต่ที่ตกลงเป็นแฟนกันผมโคตรขี้หึง ขี้หวง โคตรงี่เง่า ผมก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันที่เป็นแบบนี้

ผมลุกขึ้นยืนกำลังจะเดินตรงไปที่ชายหญิงคู่นั้นแต่ก็มีมือกายดึงแขนผมไว้ “ใจเย็นๆ มึง เขาอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้”

“เออ” ผมหันมาตอบกายพร้อมกับดึงแขนตัวเองกลับมาแล้วรีบเดินไปหยุดตรงหน้าทั้งสองคนนั้น

พี่โชหันหน้ามามองผมโดยทำสีหน้างงๆ นิดหน่อยก่อนส่งยิ้มมาให้ “อ้าวทำไมวันนี้มานี่ได้อ่ะ”

“ถ้าไม่มาแล้วจะได้เห็นเหรอ” ผมพูดในขณะที่ส่งสายตาดุๆ มองจ้องหน้าพี่โชอย่างไม่สบอารมณ์

พี่โชเลิกคิ้วไม่เข้าใจก่อนจะมองตามสายตาผมไปหยุดที่ผู้หญิงข้างๆ “อ๋อ นี่เพื่อนกูชื่อเอีย”

ผู้หญิงชื่อเอียหันมายิ้มให้ผม “นี่แฟนมึงที่พวกไอ้ณัฐชอบพูดถึงใช่ป่ะ”

“เออนี่อาร์ทแฟนกู” พี่โชบอกผู้หญิงคนนั้นยิ้มๆ

“โหยหล่อนี่หว่า”

“แต่น้อยกว่ากู” พี่โชยักคิ้วกวนๆ

“ถุย” ผู้หญิงชื่อเอียทำท่าหมั่นไส้พี่โช “อายมาละงั้นกูไปก่อน พี่ไปก่อนนะน้องอาร์ท” เขาบอกพี่โชก่อนหันมาบอกผม ผมไม่ได้ตอบอะไรแค่มองเฉยๆ และมองตามเขาไปก็เห็นมีผู้หญิงอีกคนยืนรออยู่ซึ่งหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะคงจะเป็นฝาแฝดกันละมั้ง

“ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้ยังไม่ตอบกูเลยนะเบี้ยว” พี่โชเดินเข้ามาโอบไหล่ผมพลางพาเดินไปยังโต๊ะที่ผมเดินมาเมื่อสักครู่

“อาจารย์ปล่อยไว” ผมตอบห้วนๆ เพราะยังหงุดหงิดไม่หาย

พี่โชพยักหน้ารับ “งั้นกลับห้องกัน”

“อ่าวไม่เข้าชมรม?”

“ไม่ต้องเข้าหรอกวันนี้พวกสมาชิกไม่ค่อยอยู่กัน ไอคิวก็ไปต่างจังหวัดกับครอบครัวตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว”

“อือ”

จากนั้นผมก็ไม่พูดไม่จาไม่ร่ำไม่ลาใครทั้งนั้นรีบเดินดุ่มๆ ตรงมาที่รถเลยจนพี่โชต้องลาเพื่อนเร็วๆ แล้วรีบเดินตามผมมาอย่างไวๆ ทันทีที่มาถึงพี่โชปลดล็อคผมก็เปิดประตูกระแทกตัวลงนั่งอย่างไม่สบอารมณ์

“เบี้ยวเป็นอะไร” พี่โชถามเสียงเข้มๆ

“......”

“หรือว่าหึงไอ้เอีย”

“.....”

“มันไม่มีอะไรเป็นเพื่อนในเซค”

“เพื่อนกันต้องมายืนลูบแก้มกันด้วยเหรอวะ” ผมกัดฟันถามด้วยอารมณ์ที่มันสุมอยู่ในอก

“เฮ้ยไม่ใช่มันแค่เช็ดรอยเปื้อนดินสอออกให้เฉยๆ”

ผมไม่ตอบพี่โชจึงถอนหายใจก่อนจะหันไปสตาร์ทรถและขับออกกลับไปยังหอทันที



กลับมาถึงห้องด้วยความที่เหนื่อยๆ ไหนยังจะหงุดหงิดเรื่องที่เห็นไอ้พี่โชมันอยู่กับผู้หญิงอีก ถึงมันจะบอกแค่เพื่อนก็เถอะแต่มันหงุดหงิดโว้ย เกลียดอารมณ์แบบนี้ฉิบหายผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปอาบน้ำเผื่ออารมณ์จะเย็นลงมาบ้าง

ผมจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมดและกำลังจะเปิดฝักบัวเพื่ออาบน้ำแต่ตาก็เหลือบไปเห็นเข้ากับอะไรบางอย่างทำให้ผมสติหลุดกระเจิงร้องโวยวาย



“พี่โช!!!” ผมตะโกนดังลั่นห้องน้ำด้วยความตกใจ

“.........”

“ไอ้พี่โช!!” ผมตะโกนจนสุดเสียง

พี่โชรีบเดินเข้ามาเคาะหน้าประตูห้องน้ำพร้อมกับถามออกมาด้วยเสียงตกใจ “เบี้ยวเป็นอะไร”

“ไอ้ห่าพี่โช มึงๆๆๆๆ” ผมพูดไม่เป็นภาษาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตัวประหลาดตรงหน้า

“เบี้ยวเปิดประตูสิวะ เป็นอะไร” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนเพราะความเป็นห่วงพร้อมกับเคาะประตูให้ผมเปิด

ผมกลั้นใจขยับตัวไปหมุนลูกบิดประตูแล้ววิ่งออกมาทั้งที่ร่างกายไม่มีผ้าปกปิดอยู่สักชิ้นเดียว



ผลั่ก!

เมื่อวิ่งออกมาก็ประทะเข้ากับร่างพี่โชอย่างแรง

“โอ๊ยแม่ง” ผมอุทานออกมา

“เบี้ยวเป็นอะไร” พี่โชถามอย่างตกใจ

“ตัวห่าอะไรอยู่ในห้อง พี่มึงเอาตัวห่าอะไรไปไว้ในห้องน้ำ” ผมตะหวาดใส่พี่โชอย่างโมโห

“อ๋อ กิ้งก่า” พี่โชพูดอย่างหน้าตาเฉย

“เออนั่นแหละ พี่ไปเอาไอ้ตัวห่านี่มาจากไหน แล้วไปเอามาทำไม” ผมโวยวายไม่ยอม

พี่โชใช้สายตามองผมตั้งแต่หัวลงต่ำมาเรื่อยๆ จนมาหยุดสายตาที่กลางลำตัวผมก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาแล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้ๆ

“หยุด!” ผมตะคอกพี่โชจนพี่โชชะงัก

“เบี้ยวไม่ใส่เสื้อผ้า” พี่โชพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์แถมยังส่งสายตาหื่นๆ มาให้ผมอีก

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ตอบมาก่อนว่าไปเอาไอ้ตัวห่านั่นมาไว้ในห้องทำไม” ผมยังไม่เปลี่ยนประเด็น

“กิ้งก่าไอ้คิวมันฝากเอาไว้ มันต้องไปธุระต่างจังหวัดกับครอบครัวไม่มีคนให้อาหาร”

“แล้วไปเอามาตอนไหนวะ เมื่อเช้ายังไม่เห็นมี”

“ก็ตอนเช้าเรียนเสร็จมันก็ลากไปเอาจากหอมันมาไว้ที่ห้องนี่แหละ”

“แล้วจะรับมาทำไม”

“ก็มันฝากไง แค่สองวัน”

“วันเดียวก็ไม่ได้โว้ย”

“นี่มึงกลัวกิ้งก่า?”

“ไม่ได้กลัวโว้ย แต่รังเกียจ” ผมตะโกนเสียงดัง

“มึงก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันสิแค่สองวันเอง”

“แล้วพี่มึงจะเอาไปไว้ในห้องน้ำทำฆวยอะไร”

“ก็ไอ้คิวมันบอกให้อยู่ที่ชื้นๆ กูก็คิดว่าน่าจะเป็นห้องน้ำ”

“ไอ้พี่โช!” ผมโมโหจนขยับเข้าไปใช้มือบีบคอพี่โช

“เฮ้ยๆ หายใจไม่ออก ใจเย็นๆ ดิวะ จะไปรู้เหรอว่ามึงกลัวอ่ะ...แค่กๆ” พี่โชพูดไปพร้อมไอออกมาเหมือนจะหายใจไม่ออก

“บอกไม่ได้กลัวไงเว้ย รังเกียจอ่ะ..รังเกียจเข้าใจไหมวะ”

“เออนั่นแหละ ใครจะไปรู้เล่า” พี่โชยังคงหอบหายใจแรงขณะที่พูด

“ถ้ารู้แล้วพี่มึงก็ช่วยเอามันออกไปจากห้องนี้ด้วย” ผมออกคำสั่งเด็ดขาดด้วยสายตาแข็งกร้าวก็คนมันไม่ชอบนี่หว่าจะให้มาอยู่ร่วมห้องทำไม่ไหวแน่ๆ

“เฮ้ยก็ไอ้คิวไม่อยู่”

“นั่นแหละก็เอาไปฝากพี่อัครหรือพี่ณัฐก็ได้นี่หว่า”

“แต่กูรับปากมันไปแล้วจะให้กูเอาไปโยนให้คนอื่นได้ไง”

“ถ้ามีไอ้ตัวเหี้ยนี่อยู่ในห้องก็ไม่มีไอ้อาร์ทในห้องนี้โว้ย” ผมพูดใส่หน้าพี่โชก่อนจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อผ้าออกมาใส่อย่างลวกๆ แล้วเดินออกไปโทรศัพท์ที่ด้านนอกห้องนอน

ต่อข้างล่างจ้า
VVVVV
 VVV
   V
   V
   V
   V
   V
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 19-09-2017 11:50:43
ต่อจ้า!!!

ตู๊ดๆ

(ไงเพื่อน)

“ไอ้กายมึงอยู่ไหนกูขอไปนอนห้องมึงได้ไหมวะ”

(มึงทะเลาะกะผัวไม่เลิกหรือไง)

“เชี่ยกาย ตกลงกูไปนอนด้วยได้ไหม”

(เออ จะมาก็มาแต่พี่ณัฐอยู่ด้วยนะ)

“เออเดี๋ยวเจอกัน”

ผมวางสายก็เห็นว่าพี่โชกำลังนั่งมองผมอย่างไม่เข้าใจจึงถามออกมา

“จะไปไหน”

“.......”

“อาร์ท” เสียงพี่โชเข้มขึ้น

“ไปนอนห้องไอ้กาย”

“ได้ไงอ่ะ นี่วันศุกร์นะ” พี่โชทำตาละห้อย

“ก็พี่ไม่ยอมเอามันออกไปอ่ะ”

“เดี๋ยวเอาออกไว้นอกห้องนอนก็ได้ จะไม่ให้เกะกะสายตาเลยอ่ะ”

“ไม่”

“โหไรอ่ะ เบี้ยวทำไมเอาแต่ใจแบบนี้” พี่พูดอย่างเหนื่อยใจ

“เออ งั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกัน” ผมพูดเสียงดังทำท่าจะเดินออกไปเปิดประตูพี่โชจึงใช้มือรั้งแขนไว้

“ไม่เอาดิ”

ผมสะบัดแขนออกจากมือพี่โชแล้วรีบเดินออกไปลงลิฟท์ไปเรียกแท็กซี่ตรงไปหอกาย ก็แม่งผมกำลังโกรธพี่มันเรื่องผู้หญิงอยู่ว่าจะอาบน้ำให้อารมณ์เย็นลงหน่อยแม่งก็ต้องมาเจอไอ้ตัวห่านั่นที่ผมเกลียดฉิบหายอยู่ในห้องน้ำอีก อารมณ์ผมยิ่งระเบิดกว่าเดิมตอนนี้ยังไม่อยากคุยอะไรทั้งนั้นแหละ



ก๊อกๆ

รอไม่นานกายก็เดินมาเปิดประตูห้องออกให้ผมเข้าไปข้างใน ผมมองสอดส่องไปรอบห้องจึงเห็นว่าพี่ณัฐนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี

“ไงมึงทะเลาะไรกันวะ?” ทันทีที่ผมเดินก้าวเข้าไปยังโซฟาพี่ณัฐก็ทักขึ้นทั้งที่มือก็ถือโทรศัพท์เหมือนคุยกับใครอยู่

“......” ผมไม่ได้ตอบเพราะเห็นว่าพี่เขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่จึงก้มหัวทักทายออกไปแค่นั้น

“เออมันถึงละ ไม่ต้องห่วงแค่นี้แหละ” ผมได้ยินพี่ณัฐพูดกับคนในโทรศัพท์ผมคาดว่าน่าจะเป็นพี่โช

ผมรู้สึกว่าตั้งแต่ผมได้สถานะเมียมานี่รู้สึกตัวเองงี่เง่าฉิบหายเลยอะไรนิดอะไรหน่อยก็งอนอย่างกับตุ๊ด คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองชะมัด

“ไงมึงทะเลาะไรกันมาวะ” พี่ณัฐถามอีกครั้งเมื่อผมนั่งลงข้างๆ

“นิดหน่อยพี่ไม่มีไรมาก”

“ไอห่าไม่มีไรมากแล้วมึงจะหนีมันมาทำไม”

“ก็....”

“เออแม่งไม่บอกก็ไม่บอก แต่กูอยากให้มึงมีอะไรก็คุยกันดีๆ ไม่อยากให้มึงหนีแบบนี้”

“มันก็จะคุยดีๆ ได้หรอกพี่ถ้าไม่มีไอ้ตัวห่านั่นอ่ะ” พูดถึงไอ้ตัวนั้นแล้วผมก็อารมณ์ขึ้น

“ตัวไรของมึงวะ? หรือพี่โชมีกิ๊ก” กายพูดแทรกขึ้นมาขณะที่กำลังเดินมานั่งพร้อมกับในมือที่ถือขวดน้ำมาให้ผม

“ไม่ใช่กิ๊กเว้ย แต่แม่งเป็นกิ้งก่า”

“ฮ่ะกิ้งก่าเนี่ยนะ” ทั้งสองทำหน้าแปลกใจ

“เออก็ผมเกลียดนี่หว่า เพื่อนพี่แม่งดันเอามันมาไว้ในห้องบอกให้เอามาฝากพวกพี่ก็ไม่ยอม” ผมพูดจบทั้งกายและพี่ณัฐถึงกับฮาก๊ากกันขึ้นมา แม่งไม่เคยเกลียดสัตว์อะไรสักอย่างกันเหรอวะขำกันอยู่ได้

“แล้วมันไปเอามาจากไหนวะ” พี่ณัฐถามทั้งที่ยังขำไปด้วย

“ของพี่คิวอ่ะดิ มาฝากไว้เห็นบอกว่าไปต่างจังหวัดอะไรไม่รู้”

“อ๋อ ถึงว่าเมื่อกลางวันไอ้คิวมารับไอ้โชไปไหนกันสองคน”

“นั่นแหละพี่ ผมแม่งหงุดหงิด”

ทั้งพี่ณัฐและกายต่างก็มองหน้ากันแล้วหันมาขำใส่ผมจนผมไม่อยากจะพูดอะไรต่อ เพราะเหตุผลผมมันคงจะปัญญาอ่อนไปนั่นแหละมั้ง ก็ทำไงได้คนมันเกลียดจริงๆ นี่หว่า

“เออมึงนอนรวมกับพวกกูได้ไหมละห้องนอนมันมีห้องเดียว” กายถามผม

“ไม่เป็นไรกูนอนโซฟาข้างนอกนี่แหละ มึงนอนข้างในกับพี่ณัฐเถอะ” ผมไม่ได้อะไรกับที่นอนอยู่แล้วแค่ไม่อยากอยู่ห้องร่วมกับไอ้ตัวห่านั่นเฉยๆ พอมาแบบนี้ก็เกรงใจสองคนนี้จะแย่ ไม่อยากให้เค้าต้องมาลำบากเรื่องที่นอนเพราะผมอีก

“ไม่เอาดิวะไอ้อาร์ท มึงจะมานอนเมื่อยที่โซฟาทำไม” กายทำสีหน้าจริงจังไม่ยอมให้ผมนอนโซฟา จนพี่ณัฐคว้าคอกายเข้าไปกระซิบอะไรซักอย่างจนกายพยักหน้ารับก่อนหันมาผมอีกครั้ง “เออแล้วมึงแดกไรมายัง?”

“เรียบร้อยว่ะ มึงไม่ต้องห่วงกู” ผมโกหกออกไปเพราะผมไม่อยากกินอะไรทั้งนั้นตอนนี้และก็ไม่อยากรบกวนกายกับพี่ณัฐมากกว่านี้แล้ว

“เอองั้นมึงตามสบายว่ะ เดี๋ยวกูกับพี่ณัฐทำอะไรกินในครัวนะ”

“เออๆ”

ผมหยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ เพื่อหารายการที่ถูกใจดูแต่ก็เหมือนไม่มีอะไรที่ถูกใจหรือว่าใจผมมันไม่ได้อยู่กับทีวีกันแน่

นี่พี่โชมันจะไม่มาตามผมกลับจริงๆ เหรอ ผมก็ออกมาพักใหญ่แล้วนะมันไม่คิดจะมาง้อกันเลยเหรอทั้งที่ทั้งหมดเป็นความผิดพี่มันทั้งนั้นเลยนะ ผมกระวนกระวายใจจนมันคงแสดงออกมาทางสีหน้าชัดเจน

“มึงโอเคไหมวะอาร์ท” กายเดินถือจานผมไม้ออกมาวางที่โต๊ะหน้าโซฟาแล้วนั่งลงใช้มือตบไหล่ผม

ผมไม่ตอบได้แต่ส่ายหน้ากลับไปให้กาย

“มึงกลับไปเคลียกับพี่โชไหมเดี๋ยวกูไปส่ง”

“นี่มึงไล่กูเหรอวะ”

“ไม่ใช่สัด” กายปฏิเสธทันควันก่อนจะใช้มือผลักหัวผม “กูแค่ไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบนี้ไอ้ห่า อยากให้มึงเคลียๆ ไปได้ไม่ต้องมานั่งหน้าบูดเป็นตูดลิงอย่างนี้”

“แม่งทีพี่มันยังไม่สนกูเลย กูบอกว่ากูไม่ชอบไอ้ตัวห่านั่นแม่งก็ไม่เห็นจะทำอะไรเลย กูออกมาขนาดนี้มันยังไม่เห็นตามมาเลย” ผมพูดออกไปด้วยความอัดอั้น

“สรุปมึงกลัวกิ้งก่าขนาดนั้นเลยหรอวะ”

“กูเกลียด”

“ก็นั่นล่ะไอห่า” กายทำหน้าเอือมที่ผมไม่ยอมรับความกลัวของตัวเอง

“............” ผมหน้ามึงใส่กายแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

“เรื่องแค่นี้มึงต้องหนีออกมาเลยหรอวะ”

“แค่นี้ที่ไหนวะ ก่อนหน้านี้ก็แม่งไปยืนให้ผู้หญิงลูบหน้าลูบตากูยังโมโหไม่หาย พอกลับมาถึงห้องยังจะมีเรื่องไอ้ตัวนั้นอีกแม่งกูหงุดหงิดฉิบหาย”

“กูว่าแล้ว” กายพูดขึ้นมาพร้อมกับเอามือตีขาตัวเอง “สรุปคือหึงผู้หญิงคนนั้นมึงเลยพาลไปหมด”

“ไม่รู้โว้ยกูหงุดหงิด” ผมพูดแค่นั้นเสียงประตูก็ดังขึ้นทำให้ใจผมเต้นแรงเพราะคิดว่าคงจะเป็นคนที่ผมกำลังโกรธอยู่มาง้อกันแน่ๆ



ก๊อกๆ

กายลุกจากโซฟาไปเปิดประตูผมหันมองตามไปเพื่อหวังว่าจะเห็นคนที่ผมกำลังคิดถึงอยู่แต่เปล่าเลย

“น้องกายคะ พี่ทำต้มพะโล้เลยเอามาแบ่งให้” ผู้หญิงหน้าหวานส่งถ้วยที่ถืออยู่มาตรงหน้ากาย

กายรับถ้วยมา “ขอบคุณครับพี่แบม พี่จะรอเอาจานไปเลยไหมครับ”

“ไว้วันหลังก็ได้จ้า พี่ไปล่ะสามีกับลูกรอทานข้าวอยู่” เธอยิ้มหวานก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไป

กายเดินเอาถ้วยเข้าไปให้ครัว



ก๊อกๆ

“ไอ้กายมีคนมา” ผมตะโกนบอกกายที่อยู่ในครัว

“เออมึงไปเปิดเลยพี่แบมอาจจะเอาอะไรมาให้เพิ่ม” กายตะโกนกลับมาแบบนั้นผมจึงลุกขึ้นยืนเดินไปยังประตู

เมื่อประตูเปิดออกคนที่ผมเห็นกลับไม่ใช่พี่แบมคนเมื่อครู่กลับเป็นพี่โชที่ยืนถือกล่องไอ้ตัวห่านั่นอยู่ เมื่อเห็นเช่นนั้นผมจึงไม่พูดอะไรแต่รีบเดินจ้ำเข้ามานั่งที่โซฟาตามเดิม

“อ้าวไอ้โช” ทันทีที่พี่ณัฐเดินออกมาก็เห็นว่าเพื่อนตัวเองกำลังเดินเข้ามาภายในห้องจึงเอ่ยเรียกออกไปแบบนั้น

“เออ กูจะเอาไอ้ตัวห่านี่ของไอ้คิวมาฝากมึงเลี้ยงวะ” พี่โชไม่พูดเปล่ายังชูกล่องขึ้นให้พี่ณัฐเห็นชัดๆ “แล้วก็จะมารับเมียกลับด้วย”

ผมหันขวับไปหาพี่โชทันทีที่ได้ยิน

“ไงมึงมันเอาไอ้นี่มาไว้ห้องกูแล้ว” พี่ณัฐพูดพรางชูกล่องขึ้นให้ผมดู “มึงจะกลับไปกับมันไหม”

ผมยิ่งไม่ตอบและหันหน้ากลับมามองที่ทีวีต่ออย่างไม่สนใจ แต่ในใจนี่ดีใจฉิบหายที่พี่มันมาง้อ แต่เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นมายืนลูบแก้มพี่มันผมยังไม่ได้สระสรางไม่งั้นผมคงไม่ยอมกลับง่ายๆ แน่

พี่โชเดินมานั่งลงข้างๆ “อาร์ทกลับห้องกัน”

“…….”

“แฟนครับกลับห้องกันเหอะนะ”

“ไม่” ผมไม่มองหน้าพี่โชเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้โชกูให้ยืมห้องนอน” พี่ณัฐพูดแทรกขึ้นมาแถมส่งสายตาเจ้าเล่ห์ให้เพื่อนอย่างไม่น่าไว้ใจ

ผมมองพี่ณัฐอย่างหงุดหงิด “พี่แม่...” ผมพูดไม่ทันจบพี่โชก็ช้อนตัวผมขึ้นแล้วเดินตรงเข้าไปที่ห้องนอนตามที่พี่ณัฐบอก จนผมได้ยินเสียงขำของกายและพี่ณัฐตามหลังมา

“ปล่อยนะเว้ย” ผมโวยวายทุบไหล่คนที่อุ้มผมอย่างไม่ออมแรง

พี่โชไม่พูดไม่จาปิดประตูล็อคห้องอย่างหน้าตาเฉย “ไหนบอกซิโกรธอะไร”

“..........”

พี่โชเดินมานั่งลงข้างแล้วดึงมือผมไปจับ “ถ้าไม่บอกแล้วจะอธิบายถูกไหมละ”

“อธิบายไม่ถูกก็ไม่ต้องอธิบายไง” ผมพูดประชดออกไป

“ไม่ใช่แค่เรื่องกิ้งก่าใช่ไหม” พี่โชบีบมือผมแน่น

“.......” ผมไม่ตอบแต่สีหน้าก็บูดบึ้งไม่หาย

“เรื่องเอียหรือเปล่า”

“......”

“นั่นไง เอียเป็นเพื่อนในเซคอย่างที่บอกไปตอนแรกจริงๆ ไม่เชื่อถามไอ้ณัฐได้เลย”

“แล้วไง เพื่อนเขาต้องไปยืนลูบแก้มกันอย่างนั้นหรือไง” ผมหันไปเสียงแหวใส่พี่โช

“ก็บอกแล้วว่าแก้มกูเปื้อนดินสอ เอียมันเลยเช็ดให้”

“เช็ดก็เช็ดดิวะ นี่ลูบซะอ่อนโยนแม่ง” ผมไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

“มึงไม่ชอบ?” พี่โชเอียงหน้าหรี่ตาถาม

“เออดิวะ ใครจะชอบให้คนอื่นมาลูบหน้าลูบตาแฟนตัวเองวะ”

พี่โชยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ เดี๋ยวก่อนนี่กูกำลังหงุดหงิดพี่มึงอยู่ไง

“ยิ้มอะไร” ผมถามพร้อมกับมองค้อนแฟนตัวเองกลับไป

“ก็ยิ้มที่แฟนขี้หึงขี้หวงไง” พี่โชยังลอยหน้าลอยตายิ้มไม่เลิก

“ถ้าคนที่โดนลูบแก้มเป็นผมพี่จะรู้สึกยังไง”

พี่โชชะงักกับคำถามของผมก่อนจะตอบ “กูฆ่าทิ้งตรงนั้นแน่ ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะ”

“เห็นไหม แล้วจะไม่ให้ผมรู้สึกอะไรเลยได้ยังไงวะ” ผมว่าอย่างหัวเสีย

“โอเคเข้าใจแล้วครับ ทีหลังกูจะระวังตัวกว่านี้”

“ระวังไม่ให้ผมเห็น?” ผมถามแบบจับผิด

“ไม่ใช่ดิครับ ระวังไม่ให้ใครมาโดนตัวสิครับ” พูดไม่พอยังดึงผมเข้าไปกอดจนแน่นอีกต่างหาก “รู้ว่าแฟนหวงขนาดนี้ก็ต้องหวงเนื้อหวงตัวเก็บไว้ให้แฟนคนเดียวดิครับ”

ฟอด!!

พูดจบพี่โชก็ตะโบมจูบเข้ามาที่แก้มผมซ้ายทีขวาทีอย่างไม่ปราณีจนผมต้องผลักหน้าพี่โชออกแล้วร้องห้าม

“พอเลย”

“หายโกรธกูยัง” พี่โชทำท่ากระลิ้มกระเหรี่ย

“ยัง” ผมเก็กหน้าให้ขรึมทั้งที่ในใจตอนนี้มันเขินไปแล้ว

“แล้วจะทำยังไงให้เบี้ยวหายโกรธอ่ะ” พี่โชทำหน้าอ้อนๆ เหมือนลูกแมวน่าเอ็นดูจนผมหลุดยิ้มออกมา

“อยากดูหนัง” จริงๆ ผมก็ไม่ได้อยากดูเท่าไหร่แต่แค่ยังไม่อยากรีบกลับห้องก็เท่านั้นเพราะรู้ดีว่ากลับห้องไปผมจะต้องเจอกับอะไร

พี่โชยกแขนขึ้นดูนาฬิกา “เวลานี้เนี่ยะนะ”

“อืม ไม่ได้เหรอ”

“ได้สิครับ เมียอยากทำอะไรผัวพาไปหมดเลย”

ผมฟาดแรงๆ เขาที่แขนพี่โช “อย่ามาเรียกแบบนี้ได้ไหมวะ”

“ทำไมอ่ะ ไม่ชอบเหรอ”

“เออไม่ชอบ”

“แต่กูชอบนะ” พูดจบพี่โชก็ขโมยจูบที่ปากผมเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาให้ผมจับ “ป่ะ”

ผมส่งมือให้พี่โชจับและดึงผมให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตรงไปเปิดประตูห้องนอนออกไปหากายกับพี่ณัฐที่นั่งกันอยู่ที่โซฟา

“อ้าวดีกันแล้วหรอ” พี่ณัฐเอ่ยแซวเมื่อเห็นพี่โชเดินจูงมือผมออกมา

“เออ กูฝากลูกไอ้คิวมันด้วย” พี่โชบอกพี่ณัฐพร้อมกับฝากฝังไอ้กิ้งก่านั่น

“รับทราบ” พี่ณัฐทำตาล้อเลียน “แล้วอย่าตีกันอีกละครับ”

พี่โชไม่ตอบได้แต่ไหวไหล่แล้วเดินจูงมือผมออกจากห้องกายไปขึ้นรถ เราสองคนไปดูหนังกันต่อตามที่ผมบอกไว้

วันนั้นกว่าจะกลับถึงห้องก็ปาเข้าไปเกือบจะตีสามทำให้เราสองคนเพลียหัวถึงหมอนได้ก็รับเป็นตายกันทั้งคู่

===============
TBC.
Talk. ตอนนี้เกือบสุดท้ายแว้ว.....เหลืออีกตอนเดียวก็จบแล้วจ้าา หลังจากตอนจบจะมีตอนพิเศษ อีก 5 ตอน จะลงขายเป็น e-book ถ้ายังไงเดี๋ยวเอารายละเอียดมาบอกกันนะคะ ขอบคุณที่ตามอ่านกันนะคะ รักคนอ่านนะคะ :)
       
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-09-2017 14:58:13
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Mus_melon ที่ 19-09-2017 20:26:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 19-09-2017 20:36:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-09-2017 21:36:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 19-09-2017 23:24:25
ขี้หึงมากๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 20-09-2017 06:39:52
คืนวันศุกร์รอดใช่ว่าวันเสาร์อาทิตย์จะไม่รอดนะ 55555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 21-09-2017 13:18:01
แตกเนื้อสาวแล้วอาร์ท 555
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: OoniceoO ที่ 21-09-2017 14:00:39
เป็นผมจะจัดหนัก ทั้งวันทั้งคืนเลบ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-09-2017 14:12:33
มันก็น่าโมโหนะ มาลูบแก้มแฟนตัวเอง
ถึงจะเพราะเปื้อนดินสอก็ตาม

พออาร์ท ย้อนถามว่าถ้าอาร์ท ถูกลูบบ้างจะรู้สึกอย่างไร
โช ก็อารมณ์ขึ้นเลย ผู้หญิงก็ไม่ยอมฆ่าตรงนั้น
นี่ไง เข้าใจอารมณ์อาร์ทแล้วสินะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 24 [19/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 22-09-2017 13:21:05
จะจบแล้วววววว   :mew2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-09-2017 06:50:11
ตอนที่ 25
(ตอนจบ)

Birthday chokun
Nuttt :
????
Akk_kub:
กลุ่มไรวะ
Q :
เออ ใครลากกูมาวะ
Sugar_Sweet :
ไอ้อาร์ทลากกูมาทำไม
 
Guyyy :
อะไรอ่า
ท้องฟ้า :
?
Artเองจะใครละ :
ก็อาทิตย์หน้าจะวันเกิดพี่โชเลยหาแนวร่วม
Guyyy :
จะเซอร์ไพรส์ผัวว่างั้น
Artเองจะใครละ :
เชี่ยกาย
*สติกเกอร์โกรธ
Q :
ไหนมึงจะทำอะไร
 
Artเองจะใครละ :
วันเกิดพี่โชผมอยากให้ทุกคน.......

และจากนั้นผมก็พิมพ์อธิบายแผนการทั้งหมดให้ทุกคนในกลุ่มไลน์เข้าใจ ทุกคนจึงตกลงที่จะช่วยกันเซอร์ไพรส์วันเกิดพี่โช

เมื่อผมตกลงแผนการกับเพื่อนของผมและเพื่อนของพี่โชเรียบร้อย ผมก็แอบไปสั่งทำสร้อยที่เป็นชื่ออักษรชื่อของพี่โชและผมไว้เป็นของขวัญที่จะเซอร์ไพรส์
 
ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์วันนี้เป็นวันเกิดพี่โชแต่ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาผมตั้งใจว่าจะออกไปหาซื้อเค้กและไปรับของขวัญที่ผมสั่งทำไว้ด้วยจึงอ้างกับพี่โชว่าเพื่อนเก่าสมัยมัธยมนัดเจอไปกินอาหารกัน

“พี่โชผมไปหาเพื่อนก่อนนะ”

“จะไปจริงดิ แต่วันนี้มันวัน....” พี่โชพูดแค่นั้นก็หยุด

“วันอะไร” ผมแสร้งทำเป็นถามออกไป

“เปล่าไม่มีอะไร จะไปก็ไปเถอะ” พี่โชพูดเสียงหงอยๆ จนผมรู้สึกผิดจนอยากเข้าไปกอดแต่ก็ต้องห้ามตัวเองเอาไว้

“อืม แล้วตอนเย็นจะกินอะไรจะได้ซื้อกลับมาหรือจะออกไปกินข้างนอก”

“ซื้อมาเถอะอะไรก็ได้” พี่โชพูดก่อนจะเดินเข้ามาหา “แล้วนี่จะไปยังไงให้ไปส่งไหม”

“ไม่เป็นไรเพื่อนผมขับรถมารับ”

“อืม รีบกลับมานะ” พี่โชพูดจบแล้วก็ทำหน้าหงอยจนผมอดสงสารไม่ได้

ผมพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องลงมาเรียกรถแท็กซี่ที่หน้าหอเพื่อไปยังห้างที่นัดกับเพื่อนไว้

ผมก็ไม่ได้โกหกซะทีเดียวเพราะวันนี้มีโอกาสที่ผมและเพื่อนเก่าว่างตรงกันจึงนัดมาเจอกันด้วยเลย

ทันทีที่ผมมาถึงห้างก็ตรงไปยังร้านที่นัดกับเพื่อน ไว้

“กว่าจะมานะมึง” แสตมป์เพื่อนสนิทของผมอีกคนเอ่ยทักขึ้น

“โหแม่งรถติด” ผมตอบไปก่อนจะหันไปหาพี่ชายของแสตมป์ “หวัดดีพี่ตางค์”

“ดีอาร์ทไม่เจอกันนานเลย” พี่สตางค์ยิ้มหวานส่งมาให้ผมจนน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ส่งสายตาดุให้ พี่สตางค์จึงหุบยิ้ม

“แหมไอ้แตมป์มึงยังติดพี่หวงพี่เป็นเด็กๆ เหมือนเดิมเลยนะมึง” ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ของมันกับพี่ชายมันเท่าไหร่หรอกเพราะตั้งแต่รู้จักกับมันมามันก็ติดและหวงพี่สตางค์แบบนี้มาตลอด พี่สตางค์หน้าตาน่ารักก็คงไม่แปลกที่น้องชายจะหวงขนาดนั้น ‘เอ๊ะหรือแปลก’

“ทำไมล่ะ ก็ของๆ กู” แค่คำพูดที่แสตมป์พูดมาแค่นั้นทำให้พี่สตางค์ทำหน้าไม่ถูกและรีบหันหน้าหนีก่อนที่จะเห็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาเรื่อยๆ บนใบหน้า

“หึหึ” ผมไหวไหล่ให้มัน “เออแล้วไอ้ตาลยังไม่มาอีกเหรอวะ”

“กูต้องถามมึงหรือเปล่าเชี่ยอาร์ทเพราะมึงอยู่มอเดียวกับมัน”

“ฮ่าๆ เออว่ะเดี๋ยวกูโทรหามันแป๊บ” ผมพูดจบก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกหาน้ำตาลทันที
 
ตู๊ดๆ

(ไงคะ)

“อยู่ไหนแล้ววะ”

(อยู่หน้าห้างแล้วพวกมึงถึงกันแล้วหรอ)

“เออดิรอมึงคนเดียวเนี่ย”

(เออแป๊บกูกำลังเดินไป)

“งั้นแค่นี้แหละ”

เท่านั้นผมก็วางโทรศัพท์แล้วหันกลับมาคุยกับสองพี่น้องนี่ต่อ

“มึงจะกินไรวะ” แสตมป์ถามขึ้น

“กูอยากแดกปูผัดผงกะหรี่วะ”

“งั้นสั่งอาหารเลยนะ” แสตมป์บอกพลางยกมือเรียกพนักงานมารับเมนู

น้ำตาลเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ผมพอดีกับที่พนักงานเดินมารับเมนู “พวกมึงสั่งกันยัง”

“ยังก็รอมึงเนี่ย” ผมหันไปบอก จากนั้นทุกคนก็รัวกันสั่งอาหารกันยกใหญ่คงเพราะหิวกันมาอยู่แล้ว

“ทำไมมึงมาช้าวะ” ทันทีที่สั่งอาหารเสร็จจนพนักงานไปแสตมป์ก็เลงเป้าไปที่น้ำตาล

“โหยไอ้ห่ารถโคตรติด” น้ำตาลพูดก่อนหันไปมองคนข้างกายแสตมป์พร้อมยกมือไหว้ “หวัดดีพี่ตางค์ ไม่เจอนานพี่ตางค์หน้าหวานขึ้นนะเนี่ย”

“ดีตาล เราก็ใช่ย่อยนะเดี๋ยวนี้สวยขึ้นเป็นกอง” พี่สตางค์ก็ยอน้ำตาลกลับมา

“อย่ามาหลอกตาลเลยพี่ตางค์” น้ำตาลยิ้มหวานๆ ส่งให้พี่สตางค์ “เอ๊ แต่ที่พี่ตางค์น่ารักขึ้นแบบนี้เพราะมีแฟนหรือเปล่าน๊า”

พี่สตางค์ทำหน้าเขินก่อนจะตอบ “มงมีอะไรกันเล่า พี่ไม่มีหรอก”

“มึงเงียบปากไปเลยไอ้ตาล” แสตมป์ชี้นิ้วมาที่น้ำตาลก่อนจะใช้อีกมือโอบไหล่พี่ชายตัวเอง “ไม่ต้องมายุ่งกับพี่กู”

“แหมหวงตลอด นี่ถ้ากูไม่รู้กูนึกว่ามึงหึงพี่มึงนะเนี่ย” ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าแต่เมื่อน้ำตาลพูดจบพี่สตางค์ก็หน้าแดงขึ้นมาซะอย่างนั้น

“พอๆ พวกมึงจะตีกันทำห่าไรวะ” ผมรำคาญจึงทำการยุติศึกน้ำลายของทั้งคู่

“เออว่าแต่กินเสร็จไปไหนต่อวะ” แตมป์ถามขึ้น

“ไปดูเค้กให้ผัวเพื่อนมึงไงล่ะ” น้ำตาลว่าก่อนจะหันมายักคิ้วกวนประสาทผม

“ฮ่ะ?” ทั้งแสตมป์และพี่สตางค์ตกใจไม่ต่างกัน “นี่กูไม่เจอมึงแป๊บเดียวมึงไปเป็นเมียเขาแล้วเหรอวะ”

“ฆวย” ผมไม่รู้จะตอบอะไร

“ไหนเรื่องเป็นไงมึงเล่าดิ่” แสตมป์คะยั้นคะยอถาม

“วันนี้ที่มันนัดกูกับมึงออกมาได้ก็เพราะวันเกิดแฟนมันไงมึงเลยให้พวกเรามาช่วยเลือกเค้ก ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าจะได้เจอหน้ามันเล้ย” น้ำตาลเล่าอย่างออกรสออกชาติ “อ่ออีกอย่างมึงจะไปช่วยกูจัดงานที่ห้องของมันไหม”

แสตมป์ทำท่าคิดก่อนจะหันไปขอความเห็นของพี่ชายตัวเอง เมื่อพี่สตางค์พยักหน้าให้ แสตมป์จึงหันกลับมาหาน้ำตาล “เออเอาดิกูก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครวะที่มันเป็นผัวเพื่อนกู”

“หล่อมากมึง กูยังเคยชอบเลย” น้ำตาลพูดแค่นั้นก็หยุด

“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“เพราะกูให้มันไปช่วยจีบเขาแต่แม่งไปแดกกันเองซะงั้น” น้ำตาลน้ำหน้าเซ็ง

“ฮ่าๆ ไม่มีที่ยืนให้ชะนีอย่างมึง” เมื่อแสตมป์พูดจบอาหารก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟ จึงทำให้ไม่มีการพูดคุยกันต่อเพราะทุกคนตั้งหน้าตั้งตากินอาหารตรงหน้ากันอย่างหิวโหย

กินอาหารเสร็จแล้วเราก็ออกจากร้านไปยังร้านเค้กในห้างเพื่อเลือกซื้อเค้กก่อนจะลงไปยังชั้นที่เป็นซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อของสดและขนมเพื่อปาร์ตี้คืนนี้
 
ติ๊ง!

เสียงไลน์เตือนเข้ามาทำให้ผมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู
 
Nuttt :
พวกมึงไอ้โชบอกจะมาหากูว่ะ
Akk_kub:
ห่าในแผนกูกับไอคิว
ต้องเป็นคนชวนมันออกมาตอนสี่โมงไม่ใช่หรอวะ
Nuttt :
เออดิ แต่แม่งโทรมาเหมือนนอยด์ๆ
เลยบอกจะเข้ามาหากู
 
Artเองจะใครละ :
ถ้างั้นก็เปลี่ยนแผนแล้วกันพี่
พี่ณัฐถ้าพี่โชไปหาแล้วพี่ก็ดึงเวลา
ให้พี่โชอยู่กับพี่นานๆ แล้วกัน
Nuttt :
เออโอเค
ถ้ามันมาถึงแล้วเดี๋ยวกูโทรหา
Artเองจะใครละ :
*สติเกอร์โอเค
ส่วนทุกคนที่เหลือ
ก็ไปเจอกันที่ห้องผมเลยแล้วกัน
ถ้าผมถึงห้องจะไลน์บอกอีกที

Q :
OK
Akk_kub:
OK
ท้องฟ้า :
OK
Guyyy :
OK

ผมยิ้มเมื่อเห็นทุกคนพร้อมใจกันตอบก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วเลือกซื้อของต่อ

เมื่อซื้อของเสร็จผมก็บอกให้ทุกคนไปรอที่รถก่อนที่ผมจะเดินตรงไปยังร้านที่ผมมาสั่งทำสร้อยไว้

“มารับสร้อยครับ” ผมพูดพร้อมกับยื่นบัตรรับของให้แก่พนักงาน

พนักงานรับบัตรไปก่อนจะเดินหายเข้าไปเพื่อไปหยิบกล่องที่ใส่สร้อยมาวางตรงหน้าผม “นี่ครับ ตรวจสอบของข้างในก่อนนะครับว่าถูกต้องไหม”

ผมหยิบขึ้นมาเปิดดูของข้างในก็ทำให้ผมยิ้มจนแก้มปริ มันสวยมากจริงๆ มันเป็นจี้ที่ด้านหนึ่งเขียนว่า CHO ส่วนอีกด้าน ART “มันสวยมากครับ”

พนักงานยิ้มให้ผมก่อนจะรับกล่องไปจัดการใส่ถุงให้เรียบร้อยแล้วยื่นให้ผม

ได้ของครบตามที่ต้องการแล้วจึงรีบเดินตรงไปยังรถของแสตมป์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถของห้างแต่ยังไม่ทันถึงก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

Rrrrrrr
‘p’nut’
เมื่อเห็นเป็นชื่อพี่ณัฐผมจึงกดรับสายทันที

“ครับพี่”

(มันมาถึงแล้ว /มึงคุยกับใครวะ/) หลังจากพี่ณัฐพูดจบก็มีเสียงพี่โชโผล่ขึ้นมาทำให้ผมเงียบเพื่อรอฟัง

(ไอ้กาย/เออกูมากวนมึงเปล่าวะเดี๋ยวกูกลับก็ได้/)

(กวนห่าไร) พี่ณัฐหันไปพูดกับพี่โช

“ผมรอฟังเงียบๆ ก็ได้ พี่ทำเหมือนวางสายแล้ววางโทรศัพท์ไว้ใกล้ๆ แล้วกัน”

(เอองั้นแค่นี้นะ)

(ไหนมึงเป็นอะไรวะถึงรีบมาหากู /แม่งไม่รู้จะพูดยังไงวะ/)

(งั้นก็ไม่ต้องพูด /สัด วันนี้วันเกิดกูนะมึง/)

(เออแล้วไงวะ /ก็ไอ้อาร์ทแม่งไม่รู้ว่ามันลืมหรือมันไม่ได้จำตั้งแต่แรก/) ผมยิ้มเมื่อได้ยินพี่โชพูดน้อยใจเป็นเด็กๆ

(โถที่แท้ก็น้อยใจเมีย ฮ่าๆ /ไอ้เชี่ยณัฐ/)

(โอเคๆ กูไม่แซวแล้ว แล้วมึงจะเอาไง /ไม่รู้เว้ย เบื่อๆ เลยมาหามึง/)

(แล้วไอ้อาร์ทมันไม่อยู่ห้องหรือไงมึงถึงถ่อมาหากูเนี่ย /เออไงสัดแม่งออกไปกินข้าวกับเพื่อนหน้าตาเฉย กูถึงต้องถ่อมาหามึงนี่ไง/)

(ฮ่าๆ ไอโชมึงนี่เป็นเอามาก งั้นมึงก็นั่งเล่นห้องกูก่อนแล้วกันพอดีเลยไอ้กายก็กลับบ้าน /เออเย็นๆ กูค่อยกลับแล้วกันแม่ง เซ็ง/)

ผมฟังจนถึงแค่นั้นก็กดวางสายโทรศัพท์เพราะเดี๋ยวจะไม่ทันเวลาและรีบเดินตรงไปยังรถของแสตมป์ที่จอดรออยู่

“ช้านะไอ้อาร์ท” แสตมป์บ่นอุบอิบเมื่อผมเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ

“โทษทีสัด รีบไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน”

ผมพูดจบแสตมป์ก็เหยียบคันเร่งออกรถทันที เราคุยกันอย่างสนุกสนานลั่นรถ คงเพราะคิดถึงกันมากไม่ได้เจอกันมานาน หลายๆ อย่างดูเปลี่ยนไปแต่ที่ไม่เปลี่ยนไปเลยคือความกักขฬะของพวกเราสามคนที่ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน ไม่นานรถก็แล่นเข้าสู่ลานจอดรถของหอพัก

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อส่งไลน์บอกทุกคนในกลุ่มว่าตอนนี้ผมกลับมาถึงหอแล้วให้ทุกคนมาที่ห้องผมได้เลยก่อนจะเปิดประตูลงไปขนของหลังรถขึ้นไปบนห้อง

ก๊อกๆ

เสียงประตูดังขึ้นเมื่อพวกเราช่วยกันเตรียมอาหารอยู่ในครัว ผมเดินตรงไปเปิดประตูก็พบว่าเพื่อนผมและเพื่อนพี่โชมาถึงพร้อมๆ กัน

“ทำไมมาพร้อมกันหมดเลยอ่ะ”

“ก็นัดกันสิโว้ยไอ้อาร์ท” พี่คิวว่าพร้อมกลับใช้มือผลักหัวผมเบาๆ

“ฮ่าๆ เข้ามาเลยมาช่วยกันจัดห้องเลย”

“แหมวันเกิดผัวมึงนี่ทำพวกกูลำบากกันไปหมด” พี่คิวยักไหล่กวนๆ ใส่ผม

“พี่โชมันก็เพื่อนพี่เปล่าวะ” ผมตบกลับอย่างกวนๆ

“เออๆ กูไม่เถียงกับมึงแล้วแม่ง”

ผมมองพี่คิวขำๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอบคุณทุกคน “ขอบคุณทุกคนนะที่มาช่วย”

ฟ้ายิ้มหวานส่งมาให้ผม “ไม่เห็นต้องขอบคุณเลยเหอะอาร์ท พี่โชก็เหมือนพี่ชายเราอยู่แล้ว” ฟ้าพูดกับผมจบก็หันไปหากาย “ใช่ไหมกาย”

กายยิ้มพร้อมกับพยักหน้า “ใช่เป็นทั้งพี่ชายแล้วก็เป็นเพื่อน.....” กายพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรพูด

“เพื่อนใครว๊าไอ้กาย” พี่อัครแซวขึ้นมาทันที

กายได้แต่ยิ้มให้พี่อัครไม่ยอมตอบอะไร จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันเตรียมของจนแสตมป์กับพี่สตางค์เดินออกมาจากครัวทำให้ทุกคนมองอย่างงงๆ

“ทุกคนนี่เพื่อนผมชื่อแตมป์” ผมผายมือไปที่แสตมป์ก่อนจะผายมือไปที่พี่สตางค์ “ส่วนนี่พี่ตางค์เป็นพี่ชายไอ้แตมป์มัน”

ทุกคนพยักหน้ายิ้มรับทักทายกันก่อนจะแนะนำตัวเองให้เพื่อนใหม่ทั้งสองคนรู้จัก

“อาหารเตรียมใกล้เสร็จแล้วละ” น้ำตาลพูดขึ้นมา

“อืม พวกข้างนอกก็จัดเรียบร้อยแล้วงั้นไลน์ไปบอกไอ้ณัฐเลยแล้วกัน” พี่อัครบอกก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ส่งข้อความหาพี่ณัฐ

ตึ้ง!
โทรศัพท์ทุกคนดังขึ้นจึงหยิบขึ้นมาดูพร้อมกัน
Nuttt :
กำลังจะไปขึ้นลิฟต์แล้ว
พร้อมนะทุกคน

ทุกคนอ่านจบก็รีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วทำการไปหยิบเค้กมาปักเทียนกันอย่างวุ่นวายทั้งช่วยกันจุดไฟอย่างรีบรน

แกร๊ก!
เสียงไขประตูดังขึ้นทำให้ผมตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเพราะยืนถือเค้กอยู่หน้าประตู นึกภาพไม่ออกเลยว่าเมื่อพี่โชเปิดมาแล้วเห็นผมแบบนี้จะทำหน้ายังไง

ทันทีที่ประตูเปิดออก

‘happy birthday to you’
‘happy birthday to you’
‘happy birthday’
‘happy birthday’

พี่โชยืนอึ้งอ้าปากค้างทำหน้าไม่ถูก

ผมถือเค้กขยับเข้าไปใกล้พี่โชกว่าเดิม “อธิษฐานแล้วเป่าเค้กสิ” ผมพูดยิ้มๆ

พี่โชหลับตาอธิษฐานก่อนจะก้มลงมาเป่าเมื่อเทียนดับหมดแล้วทุกคนก็ร้องเพลงทิ้งท้าย

‘happy birthday to ‘CHO’’

ปุง! ปัง!

เมื่อจบเสียงเพลงทุกคนก็ดึงพลุที่ถือกันอยู่ในมือให้พี่โช

“เบิร์ธเดย์เว้ยมึง” พี่ณัฐบอกพร้อมกับยื่นกล่องให้พี่โช “อ่ะของขวัญของกูกับกาย” พี่โชยิ้มให้เพื่อนก่อนจะรับของขวัญมาพร้อมกล่าวขอบคุณเพื่อน

“สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่โช” ฟ้าพูดพ้อมกลับยื่นถุงอะไรซักอย่างให้พี่โชจนพี่โชเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย “อ๋อ ของขวัญค่ะ” พี่โชยิ้มให้พร้อมกับพยักหน้า

“แฮปปี้เว้ยมึง/ปี้ปี้เว้ยมึง” พี่อัครกับพี่คิวพูดพร้อมกันทำให้พี่โชขำออกมา “กูสองคนไม่มีของขวัญว่ะ แต่พวกกูมาช่วยเมียมึงเตรียมงานนะโว้ย”

“เออ ขอบใจพวกมึงกูซึ้งในน้ำใจพวกมึงจริงๆ”

“มีความสุขมากๆ นะคะพี่โช อ่อแล้วอีกอย่างดูแลเพื่อนตาลให้ดีๆ ด้วยห้ามทำให้มันเสียใจเด็ดขาด” น้ำตาลอวยพรพร้อมกับขู่

“ฮ่าๆ คร๊าบจะดูแลอย่างดี”

“ถือว่าตาลเอามันเป็นของขวัญให้พี่แล้วกันโน๊ะ”

“เดี๋ยวไอ้ตาล” ผมรีบโวยวายขึ้นมา “มึงมีสิทธิ์อะไรเอากูไปเป็นของขวัญของมึง”

น้ำตาลไม่ตอบทำให้ทุกคนพากันขำก่อนที่พี่โชจะมองไปยังแสตมป์และพี่ชายแล้วทำหน้าสงสัย

“อ่อ นี่เพื่อนผมชื่อแตมป์กับพี่ชายแตมป์ชื่อพี่ตางค์” ผมแนะนำทันทีที่พี่โชทำหน้าเป็นหมาสงสัย พี่โชจึงพยักหน้าและยิ้มให้กับสองคนนั้น

“เบี้ยวไม่ได้ลืมวันเกิดกูเหรอ”

“ใครจะลืมวะ”

“ก็นึกว่าไม่สนใจ” พี่โชพูดเบาๆ

“สนใจดิวะ แฟนทั้งคนนะเว้ย” ผมก็ตอบกลับเบาๆ ที่ทำให้ได้ยินกันแค่สองคนเช่นกัน

“ไปๆ ฉลองกันดีกว่า” พี่คิวพูดแทรกขึ้นมา

จากนั้นเราทุกคนก็มานั่งลงตรงกลางห้องกินอาหารและเครื่องดื่มกันอย่างมีความสุข ผมเหลือบมองหน้าพี่โชแล้วผมก็ยิ้มตามเมื่อเห็นว่าวันนี้พี่โชยิ้มกว้างอย่างมีความสุขกว่าที่เคย ผมดีใจอย่างน้อยผมก็ได้ทำให้คนรักของผมมีความสุขได้ถึงมันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

เมื่อตกดึกทุกคนเริ่มเมาพี่คิวกับพี่อัครนี่สติแทบไม่เหลือนอนเกือกกลิ้งอยู่ที่พื้นแต่ก็ยังไม่ยอมเลิกกินกัน พี่ณัฐเองก็แทบจะไม่ไหวกายจึงขอตัวพาพี่ณัฐกลับ

“ไอ้อาร์ทกูกลับก่อนนะเว้ย พี่ณัฐแม่งไม่ไหวแล้ว” กายหันมาบอกผมก่อนหันไปหาพี่โช “กลับก่อนนะครับพี่โช มีความสุขมากๆ ครับพี่”

ผมแค่พยักหน้ายืนอยู่ข้างๆ พี่โช

“เออขอบใจมากขับรถดีๆ ถึงแล้วไลน์มาบอกด้วย” พี่โชบอกกับกายก่อนจะเอามือโอบไหล่ผมไว้
 
ตอนนี้ทุกคนที่เหลือเริ่มเมาขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็สลบไปแล้ว เช่นพี่คิว ตอนนี้ไม่มีสติใดๆ ผมมองรอบๆ จนเห็นน้ำตาลเองก็ไม่ไหวแต่ยังมีฟ้าคอยนั่งดูแลอยู่ข้างๆ ผมจึงเดินเข้าไปหาฟ้า

“ฟ้าพาไอ้ตาลเข้าไปนอนในห้องเถอะ”

ฟ้าเงยหน้าขึ้นมองผมก่อนจะพูด “แล้วอาร์ทกับพี่โช?”

“ไม่เป็นไรเรากับพี่โชนอนข้างนอกกับพวกนี้ได้”

ฟ้าหันหน้าไปหาพี่โชเหมือนจะถามความเห็น

“อึ้ม ฟ้ากับตาลเข้าไปนอนในห้องเถอะเราสองคนเป็นผู้หญิง พี่กับอาร์ทนอนข้างนอกกับพวกมันได้”

“ขอบคุณค่ะพี่โช” ฟ้าก้มหัวขอบคุณก่อนจะพยายามพยุงร่างน้ำตาลขึ้นแต่ดูเหมือนจะทุลักทุเล

พี่โชเดินตรงเข้ามาเพื่อจะช่วยพยุงน้ำตาล ทำให้ผมต้องรีบเข้าไปแทรกเพื่อพยุงน้ำตาลแทน

“ไม่ต้อง เดี๋ยวพามันเข้าไปเองกลับไปนั่งเลยป่ะ” ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำไมผมต้องโมโหขนาดนี้แต่ก็นะไม่ชอบให้พี่มันไปโดนตัวใครนี่นา

“เอ้า นี่จะช่วยนะเนี่ย”

“บอกให้ไปนั่ง” พี่โชก็ยังทำท่าเหมือนจะไม่ยอม ผมจึงต้องพูดขู่ขึ้น “หรือจะนอนระเบียงคนเดียว”

พี่โชยกมือยอมแพ้และยอมหมุนตัวเดินกลับไปนั่งที่โซฟาเพื่อรอผมแทน

ผมพยุงน้ำตาลเข้ามาในห้องโดยมีฟ้าคอยช่วยอยู่ข้างๆ เมื่อถึงเตียงผมก็ค่อยๆ วางน้ำตาลลง และหันไปบอกฟ้า “ฟ้าใช้ห้องน้ำข้างในนี้เลยนะ อาบน้ำได้ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้ แต่เสื้อผ้าคงต้องชุดเดิมนะ” ผมยิ้มให้ฟ้า

ฟ้าพยักหน้า “ขอบคุณนะอาร์ท”

“อื้ม เราฝากเช็ดตัวให้มันด้วยแล้วกัน เดี๋ยวเราออกไปข้างนอกก่อนนะ”

“อึ้ม”

ก่อนออกไปผมก็ฝากฟ้าอีกครั้ง “ฝากมันด้วยนะ”

ฟ้าส่งยิ้มกลับมาให้และพยักหน้า

ผมเดินออกมาก็พบว่าพวกที่เหลือล้มตัวลงนอนกันเรียบร้อยแล้ว พี่โชยังคงนั่งรอผมอยู่ที่โซฟาเหมือนเดิม ผมจึงค่อยๆ เดินเข้าไปหาและจับมือพี่โชดึงให้ลุกขึ้น พี่โชเลิกคิ้วมองผมแบบสงสัย

“มานี่ดิ”

“ไปไหน?”

“ตามมาเถอะน่า”

ผมพูดจบก็ดึงพี่โชไปที่ระเบียงก่อนจะถึงระเบียงผมเดินผ่านพี่คิวกับพี่อัครที่นอนกอดกันกลมและที่ตกใจคือพี่สตางค์กับแสตมป์กำลังจูบกัน ผมรีบหันไปมองพี่โชที่อาการไม่ต่างกับผม พี่โชชี้นิ้วไปที่สองคนนั้น ผมจึงต้องรีบดึงพี่โชให้เดินเร็วๆ ออกไปยังระเบียงเมื่อออกมาระเบียงพี่โชก็ถามขึ้น

“ทำไมสองคนนั้น?”

“ช่างเขาเถอะน่า”

ผมทำการปิดประตูระเบียงจากด้านนอกแล้วจับให้พี่โชนั่ง ลง ผมยืนทำใจสักครู่ก่อนทำใจกล้านั่งคล่อมลงบนตักพี่โชแบบหันหน้าเข้าหาพี่โชแล้วใช้สองแขนคล้องคอพี่โชไว้

พี่โชเลิกคิ้วงงๆ กับการกระทำของผมก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ “นี่มันระเบียงนะเบี้ยว”

“อือ ก็ระเบียงไงใครว่าห้องนอน”

“จะทำจริงดิ?” พี่โชยกยิ้มร้าย

ผมไม่ตอบแต่เพียงแต่ก้มหน้าลงไปใช้ริมฝีปากสัมผัสแผ่วเบากับริมฝีปากของพี่โช ทำให้พี่โชยกแขนสองข้างขึ้นโอบกอดรอบตัวผม พี่โชกำลังจะอ้าปากเพื่อรับสัมผัสแต่ผมก็ผละออกมาก่อน

ผมยกมุมปากยิ้มเจ้าเล่ห์ให้พี่โชก่อนจะยักคิ้ว

พี่โชยิ้มกลับมาให้ผมก่อนจะพูด “จะเล่นอะไร หือ?”

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมหยิบกล่องเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นไว้ตรงหน้าพี่โช

พี่โชทำหน้างงก่อนจะถามขึ้น “อะไร?”

“เปิดสิ”

พี่โชรับกล่องจากมือผมไปเปิดออกดู เมื่อเห็นของในกล่องพี่โชจึงเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม

“สุขสันต์วันเกิดนะครับ” ผมยิ้มและโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มพี่โชเบาๆ “ขอให้พี่มีความสุขมากๆ”

พี่โชยิ้มหวานส่งมาให้แล้วหยิบสร้อยที่มีจี้เป็นตัวอักษรชื่อเราสองคนขึ้นมาถือแล้วพูดออกมา “ใส่ให้หน่อยสิ”

ผมใช้มือหยิบสร้อยมาและทำการใส่ลงบนคอให้พี่โชอย่างเบามือก่อนจะก้มลงจูบเบาๆ ที่ต้นคอพี่โช

พี่โชรวบตัวผมเข้าไปกอดและหอมลงเบาๆ ที่หัว “งั้นวันนี้ที่ระเบียงเลยแล้วกันเนอะ นานๆ ทีเมียจะทำตัวน่ารักขนาดนี้” พี่โชพูดจบก็ไซร้ลงมาที่ซอกคอผมอย่างหยอกล้อ

“อื้อ..มะ..ไม่เอา พวกนั้นอยู่ในห้อง”

“หลับกันหมดแล้ว” พี่โชกระซิบแผ่วเบาข้างใบหู

“ไม่เอาพี่โช” ผมพูดเสียงเข้มจริงจังขึ้นมา

“โอเคๆ ไม่ทำๆ งั้นขอกอดอย่างนี้ทั้งคืนนะ”

“อึ้ม”

ฟอด!!

“วันนี้น่ารักจริงๆ”

“น่ารักทุกวันเหอะ” ผมยักคิ้วให้พี่โช

“หึหึ”

“ชอบไหม” ผมถามออกไป

“ชอบอะไร” พี่โชถาม

“ของขวัญไง ชอบไหม”

“ชอบสิ ชอบมากเลย” พูดจบพี่โชก็หอมแก้มผมแรงๆ “ไม่ได้ชอบแค่ของขวัญนะ พี่ชอบทุกอย่างที่อาร์ททำให้พี่วันนี้ทั้งหมดเลย”

“พี่โชถามไรหน่อยดิ”

“อืม”

“พี่ชอบผมเพราะอะไรแล้วก็ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่”

พี่โชทำท่าคิด “ชอบเพราะอะไรกูไม่รู้วะ แต่กูรู้ว่ากูชอบทุกอย่างที่เป็นมึง แล้วชอบตอนไหนนี่กูยิ่งไม่รู้ไปใหญ่เพราะกูรู้ตัวอีกทีกูก็มีความสุขที่ได้อยู่กับมึงและหงุดหงิดทุกครั้งเวลาเห็นมึงไปสนิทสนมกับคนอื่นที่ไม่ใช่กู จนทุกวันนี้กูขาดมึงไม่ได้แล้วอาร์ท” พี่โชยกมือขึ้นลูบแก้มผมอย่างแผ่วเบาพร้อมกับส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ “แล้วมึงละ”

ผมยิ้มหวานยกมือขึ้นโอบคอพี่โช “ผมก็เหมือนพี่นั่นแหละไม่รู้กันว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่พอรู้ตัวอีกทีก็ขาดพี่ไม่ได้แล้ว” พูดจบผมก็แนบหน้าผากเข้ากับหน้าผากพี่โช

“ต้องขอบคุณตาลสิเนอะที่ชอบกู” พี่โชยกยิ้มมุมปาก ทำให้พี่โชดูดีดูน่ามองจนผมหวงรอยยิ้มของพี่โชขึ้นมาแบบไม่อยากให้ใครเห็น

“นั่นสินะ ผมแค่ช่วยเพื่อนเอง ใครจะรู้ว่าจะได้มาเอง” ผมพูดจบก็ก้มหน้าลงไปประกบจูบกับพี่โชเบาๆ

“กูรักมึงนะอาร์ท” พี่โชพูดทั้งที่ปากของเรายังประกบกันอยู่

ผมผละออก “ผมก็รักพี่” เท่านั้นเราสองคนก็โน้มตัวเข้าหากันกอดกันไว้แบบนั้น

บรรยากาศรอบๆ เงียบสงบทำให้ผมและพี่โชกอดกันซึมซับความรู้สึกที่เรามีให้กัน ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าชีวิตของผมกับพี่โชจะเป็นยังไง ผมไม่สนอีกแล้วขอแค่เวลานี้ ปัจจุบันนี้ผมมีพี่โชอยู่ข้างๆ แบบนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมพร้อมจะก้าวเดินไปข้างหน้าพร้อมกันกับพี่โชอย่างที่คนเป็นแฟนเขาทำกัน......

END

 ======================

TBC.

Talk. พี่โชกับน้องอาร์ทจบแล้ววววว ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ตามอ่านกันมาตั้งแต่ต้นนะคะ เราอ่านทุกคอมเม้นท์ของทุกคน เพราะทุกคอมเม้นท์ทุกยอดวิวเป็นกำลังใจให้เราอยากเขียนเรื่องนี้ออกมาให้ดี และจบอย่างแฮปปี้ที่สุด และบางตอนอาจจะไม่ถูกใจใครหลายคนเราต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ แล้วเราจะกลับมาพบกันใหม่ในเรื่องหน้า เป็นคิวของ คิว X อัคร คู่หูที่คอยแซะคนอื่น ดูซิว่าถ้านางสองคนสปาร์คกันเองจะเป็นยังไง รอติดตามกันนะคะ เรารักนักอ่านทุกคนนะคะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 27-09-2017 09:59:42
จบแล้วววว
HAPPY ENDING
2คนนี้รักกันได้ต้องขอบคุณตาล เอ้ย! คนเขียน ที่ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสใกล้ชิดกันหล่ะนะ

สนุกมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-09-2017 10:04:51
 :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 27-09-2017 10:17:35
ยินดีด้วยน้าาาาา รักกันนานๆ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-09-2017 15:59:15
จบแล้ว ยินดีด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-09-2017 16:12:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-09-2017 20:55:37
จบแล้วววว
HAPPY ENDING
2คนนี้รักกันได้ต้องขอบคุณตาล เอ้ย! คนเขียน ที่ทำให้ทั้งคู่มีโอกาสใกล้ชิดกันหล่ะนะ

สนุกมากๆๆๆ

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกัน  :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-09-2017 20:57:49
:mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-09-2017 20:58:13
ยินดีด้วยน้าาาาา รักกันนานๆ  :mew1: :mew1:

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-09-2017 20:58:36
จบแล้ว ยินดีด้วยนะคะ

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-09-2017 20:58:58
:pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณนะคะที่ติดตามอ่านกันมาจนจบ  :L1: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-09-2017 21:44:58
จบแล้ว อย่างมีความสุข  :mc4: :mc4: :mc4:

อาร์ท แค่ช่วยเพื่อนตาลจีบพี่โช
แล้วอาร์ได้พี่โช ซะเอง
นี่ตรงกับคำพังเพยที่ว่า แม่สื่อแม่ชัก
ของอาร์ทต้องเป็น
พ่อสื่อพ่อชัก  อาร์ทชักพี่โชซะเอง
ขอบคุณไรท์มาก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 27-09-2017 22:03:22
จบแล้ว อย่างมีความสุข  :mc4: :mc4: :mc4:

อาร์ท แค่ช่วยเพื่อนตาลจีบพี่โช
แล้วอาร์ได้พี่โช ซะเอง
นี่ตรงกับคำพังเพยที่ว่า แม่สื่อแม่ชัก
ของอาร์ทต้องเป็น
พ่อสื่อพ่อชัก  อาร์ทชักพี่โชซะเอง
ขอบคุณไรท์มาก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณมากเลยนะคะ ที่ตามอ่านกันมาจนจบ รักกกกกก  :L1: :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 27-09-2017 23:33:40
ขอบคุณคนเขียนนะครับ สนุกมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) [27/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 28-09-2017 00:03:34
ขอบคุณคนเขียนนะครับ สนุกมากครับ,,,

ขอบคุณเหมือนกันนะคะ ที่ตามอ่านกันมาจนจบ รักกกก  :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >>สำรวจเรื่องการทำเล่มค่ะ<< [28/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 29-09-2017 20:42:45
น่ารักละมุน
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >>สำรวจเรื่องการทำเล่มค่ะ<< [28/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 30-09-2017 18:01:58
หนุกดี รออ่านคู่ต่อไป  o13
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >>สำรวจเรื่องการทำเล่มค่ะ<< [28/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Mus_melon ที่ 01-10-2017 15:30:27
 :mew1: :mew1: :mew1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >>สำรวจเรื่องการทำเล่มค่ะ<< [28/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-10-2017 20:23:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >แจ้งข่าว!! Pre-Order หนังสือ< [3/10/17] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 05-10-2017 13:20:10
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >>สำรวจเรื่องการทำเล่มค่ะ<< [28/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 05-10-2017 20:46:35
น่ารักละมุน

 :pig4: :pig4: :pig4:  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >>สำรวจเรื่องการทำเล่มค่ะ<< [28/9/17] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 05-10-2017 20:47:43
หนุกดี รออ่านคู่ต่อไป  o13

ขอบคุณค่าา รอได้เลยจ้าาาาา :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >แจ้งข่าว!! Pre-Order หนังสือ< [3/10/17] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 10-10-2017 10:04:14
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) >แจ้งข่าว!! Pre-Order หนังสือ< [3/10/17] P.10
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 15-10-2017 17:48:07
 :-[
หัวข้อ: Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Le_Let ที่ 20-08-2018 20:17:17
แจกหนังสือผมแค่ช่วยเพื่อน

ตอนนี้มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกกัน ในการลุ้นรับ หนังสือ ผมแค่ช่วยเพื่อน 

ติดตามกติกาการร่วมสนุกได้ที่ลิงค์นี้เลยจ้า >>> https://www.facebook.com/lelet0/posts/2343809512359208



ร่วมสนุกกันนะคะ อยากแจกกกก อ่านกติกาให้ละเอียดน้าาาา