พิมพ์หน้านี้ - ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: qDraftman ที่ 20-03-2017 21:57:04

หัวข้อ: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 20-03-2017 21:57:04

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม










▬ SCORPION & EAGLE ▬
บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง

#หมอกซีนอน #บอกหน่อยครับ


(http://imageshack.com/a/img924/8681/F0c4cK.gif)
“แมงป่องเป็นสัตว์ที่โดยปกติจะสงบเงียบ
แต่ถ้าหากถูกรบกวน จะยกหางชูงอ ๆ ที่ด้านหลัง เพื่อขู่
และจะต่อยเพื่อป้องกันตัวหรือออกล่าเหยื่อ”


.
.
(http://imageshack.com/a/img923/1362/U7ABlC.gif)
“นกอินทรีจะจับคู่เพียงตัวเดียวตลอดชีวิต มีขนาดใหญ่ น่าเกรงขาม
มีความสง่างาม แข็งแรง สายตาคม มองเห็นเป้าหมายได้จากระยะไกล”






________________________________________


*ขอฝากนิยายเรื่องแรกของเราด้วยนะคะ*
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และทุกกำลังใจค่ะ
แนะนำ/ติชมได้นะคะ ♥

หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH01│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 20-03-2017 21:59:43





1







ความสงบ..
  เกิดขึ้นก็ยาก รักษาไว้ยิ่งยาก
  แต่กลับโดนทำลายได้ง่ายๆ พวกคุณว่าไหม ?


ร่างโปร่งผมสีดำสนิทมีเลนส์สายตากั้นระหว่างโลกภายนอกกับแววตาที่ราบเรียบ  เชิ้ตขาวและกางเกงสีดำที่เป็นเครื่องแบบดูเรียบร้อย หน้าตาสะอาดสะอ้านเหมือนเป็นเด็กเรียน แต่สังเกตุดูดีๆจะพบรอยจ้ำสีม่วงเล็กๆที่มุมปาก หางคิ้ว และตามเนื้อตัวบ้างประปราย ตามใบหูมีรอยเจาะไม่ต่ำกว่าสองรูทั้งสองข้าง แต่เพราะผมที่บังอยู่ทำให้มองเห็นได้ยาก ดวงตาสีเดียวกับสีผมเหม่อมองไปบนท้องฟ้ายามเช้าแบบเงียบๆ

"นี่! มึงได้ฟังที่กูพูดอยู่ไหม"

"......ไม่อะ"

"มึงไปมีเรื่องมาอีกแล้วใช่ไหม"

"อือ อย่าบ่นหน่า"
ผมตอบพลางก้มหน้าฟุบลงกับโต๊ะ ก็คนมันไม่อยากพูดถึงนี่หว่า...

"พวกกูเป็นห่วงนะโว้ย ไม่งั้นก็ไม่มากวนมึงให้รำคาญหรอก!"
เสียงแว๊ดๆของเพื่อนผมดังทะลุเข้าหูแถมยังโดนดึงหัวให้เงยหน้ามามองพวกมันอีก ไอ้นาย..ผู้ชายที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มพวกผม แต่ดันมีแรงเยอะไม่เหมาะกับตัว ชอบเจ้ากี้เจ้าการเรื่องของผมเป็นที่สุด  แต่ที่บอกว่าตัวเล็กนี่ไม่ได้หมายความว่ามันเตี้ยนะ แค่เตี้ยกว่าคนอื่นในกลุ่มเท่านั้นเอง มีกันอยู่ห้าคนรวมผม เฉลี่ยจะสูงกันประมาณ 180  แต่มีไอ้นายที่สูงแค่ 170 ไม่ขาดไม่เกิน

"ไม่อยากให้มึงลำบาก" ผมตอบ
นายจ้องหน้าผมก่อนจะถอนหายใจประมาณว่ายอมแพ้ มันรู้ว่าผมเคยหาเรื่องใครก่อนซะที่ไหน

"มึงก็อย่างนี้ทุกทีอะ คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง"

"ใครจะรู้ว่าเด็กเรียนอย่างมึงจะเป็นนักเลงขนาดนี้วะ มีเรื่องให้หน้าเขียวได้ทุกวี่ทุกวัน นี่ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาก็คงไม่เชื่อหรอก"


ฟีฟ่า..ไอ้นี่ก็เหมือนกันแสบใช่ย่อยทะลึ่งตึงตังกันคนเขาไปทั่ว ขึ้นชื่อนักแหละเรื่องความกะล่อน ส่วนอีกสองคนในกลุ่มผมคือ ไอ้แทน กับไอ้ซัน แทนมันเป็นคนอารมณ์ดีอบอุ่นพ่อพระ เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ของพวกผม สมชื่อแทนคุณของมัน ส่วนไอ้ซันชื่อดูสดใสซะเปล่าแต่ดันเป็นคนแปลกพูดน้อยต่อยหนักขนาดผมว่าตัวเองพูดน้อยแล้วมันยังกริบได้มากกว่า แต่มันพึ่งพาได้เป็นที่ค้ำจุนของเพื่อนๆเสมอ


"นายมันเป็นห่วงมึง ดีๆกับมันหน่อยสิวะ" แทนพูดกับผมยิ้มๆ พอเหลือบตาไปมองไอ้นายมันก็จ้องหน้าผมอยู่อย่างเอาเรื่อง หน้าตาประจำเวลาไม่ได้ดั่งใจ


"เออ ขอโทษ" ผมตอบมันไปห้วนๆ ไอ้นายยิ้มแฉ่ง มันรู้ว่าผมอ่อนให้มันขนาดไหน มันใช่วิสัยผมที่ไหนละที่มานั่งขอโทษอะไรแบบนี้

"คราวนี้ไปมีเรื่องกับใครวะ" ไอ้ฟ่าถามอย่างอยากรู้อยากเห็นเต็มที่


"พวกเรื้อน เมาแล้วรุม" ผมตอบอย่างเนือยๆ

"เชดดด เป็นไรมากไหมวะ" ไอ้ฟ่ารีบถามต่อทันทีพร้อมสายตาระริกระรี้อย่างรู้อยากเห็นของคนทั้งโต๊ะ ยกเว้นไอ้ซันที่ยังมันผมนิ่งๆเหมือนเดิม

"ไม่"

"โหย..ก็ไอ้หน้าตาเอ๋อๆใส่แว่นกวนตีนของมึงนี่แหละ เจอครั้งแรกกูยังอยากกระทืบเลย มึงจะใส่แว่น ทำหน้าจืดๆ เพื่ออะไรวะมึงก็ไม่ได้แย่นะเว้ย" ฟีฟ่าพูด


"มึงไม่รู้อะไร ไอ้หมอกน่ะมัน.."


"สงบดี ไม่มีใครวุ่นวาย"


ผมรีบพูดตัดบทไอ้นายพร้อมส่งสายตาปรามๆไปให้ มันเลยเงัยบปิดปากแต่ก็ไม่วายส่งค้อนมาให้ผม ผมกับไอ้นายเรารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม มันเลยรู้อะไรๆเกี่ยวกับผมมากกว่าคนอื่น ส่วนฟี่ฟ่า แทน ซัน พวกนี้ผมเพิ่งมารู้จักตอนเข้ามหาลัยนี่แหละ ไม่รู้ว่ามาสนิทกับพวกมันได้ยังไงเหมือนกัน แต่พวกนี้ก็ดีครับ ผมไม่ใช่คนมีเพื่อนเยอะเพราะนิสัยไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน ไม่เฟรนลี่ ไม่พูดมากของผม ทำให้มีคนเข้าหาน้อย

"เนี่ยนะไม่วุ่นวาย หน้าเละทุกวัน ถึงจะเอาแป้งโปะก็ไม่มิดหรอกเว้ย" แทนพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เชื่อ


ผมไม่ได้ตอบ มองหน้าไอ้แทนแบบเฉยๆ


แล้ว




'หาวววววววววว...'




เพื่อนทุกคนมองผมด้วยสายตาแบบ 'ไอ้นี่...เป็นอย่างนี้ทุกที' ก็คนมันง่วงนี้หว่านี่เพิ่งจะแปดโมงกว่าจะเริ่มคลาสก็สิบโมง แต่นายมันดันอยากให้มานั่งกินโจ๊กหน้า ม. กันก่อนใครจะขัดมันได้หละครับ..มีหวังหูชาแน่ๆ

"กูไปก่อนนะ เจอกันตอนเข้าคลาส"


"ไปงีบหรอวะ"


ไอ้นายเอ่ยถามผมตอนกำลังลุกผมไม่ได้ตอบพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงตอบรับก่อนเดินออกมาจากร้านห้องแถวที่ตอนนี้คนเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  ...


ร่างโปร่งเดินพาตัวเองมาที่ตึกเก่าๆแห่งหนึ่งภายในมหา'ลัย ที่นี่คนมักไม่ค่อยพลุกพล่าน เพราะอยู่หลังแปลงปลูกผัก ของพวกเด็กคณะเกษตร ที่มีกลิ่นไม่ค่อยจะอำนวยกับการมาเดินเล่นเท่าไหร่ แถมอยู่ซะสุดเขตมหา'ลัย

เขามักจะมาอยู่คนเดียวที่นี่บ่อยๆ นั่งอยู่หลังตึกเงียบๆ

ตาสีดำสนิทเหม่อมองไปบนท้องฟ้าอย่างไม่รู้เบื่อ แววตาที่เรียบนิ่งบัดนี้มองเห็นได้ชัดเพราะแว่นตากรอบดำ 'เห่ยๆ' ได้ถูกถอดเอาไปข้างตัว นิ้วเรียวหยิบบุหรี่ออกมาจุดไฟแช็คนั่งสูบอย่างสบายใจ
นี่ถ้าไอ้นายมันรู้คงต้องฟังมันบ่นจนหูกางแน่ๆ คิดไปก็ยิ้มกับตัวเองไป


 ควันสีขาวถูกปล่อยออกมาเรื่อยๆครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกือบหมดมวน ความรู้สึกง่วงเข้ามาทักทาย จนอดไม่ได้ที่จะหาวอีกรอบ แต่ก็ต้องสะดุ้งแผลช้ำที่มุมปาก
"ซี้ดดด เจ็บโว้ย"


เมื่อคืนผมก็ไปนั่งดื่มชิวๆอยู่ที่ร้านประจำ พอเริ่มกึ่มๆ มันก็มีคนเดินมาหาเรื่องผม เหมือนเดิม มันหาว่าว่าผมไปมองแฟนมัน แต่รู้สึกว่าเธอจะมองผมเอง อีกอย่างผมสนใจซะที่ไหนละ หึ แต่สุดท้ายก็ออกไปต่อยข้างนอกกันตามระเบียบ ผมไม่ชอบให้คนมาหยาม ไปๆมามันดันเรียกพวกมาเพิ่มกลายเป็นผมโดนรุมไปเลย ถึงจะรับมือไหวแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เจ็บนะ วันนี้ก็เลยปวดจี้ดๆไปทั้งตัว ต้องเอาแป้งโปะๆปิดรอยมา เดี๋ยวเสียภาพพจน์หมด


'แกร๊กก..'


ผมหันไปตามเสียงที่ดังขึ้นตรงมุมตึกแล้วรีบหยิบแว่นมาใส่พร้อมโยนบุหรี่ทิ้งทันที ไม่นานผมก็เห็นผู้ชายสามคนเดินย่างสามขุมเข้ามา ...ไม่ใช่นักศึกษา หน้าตาอย่างกับควายถึก แต่ละคนหุ่นล่ำบึ้กจนที่แคบๆหลังตึกดูแน่นไปทันที


...โจทย์เก่าเรอะ...




ผมคิดในใจ สายตาประเมินทั้งสามคนอย่างเตรียมพร้อม


"มึงพวกใคร" ผมถามพวกมันนิ่งๆ


"...."


ไม่มีคำตอบกลับออกมา ว่าแล้วสามคนนั้นก็กรูกันเข้ามาทันที อารมณ์ที่ง่วงอยู่เริ่มหายไป กลายเป็นความรำคาญเมื่อเจอเรื่องวุ่นวาย

เมื่อหมัดแรกพุ่งตรงมาที่หน้า ผมหลบได้หวุดหวิด ผมคว้าแขนคนที่ส่งหมัดมาก่อนจะกระชากเข้าหาตัวแล้วศอกเข้าที่ต้นคอจนมันล้มลงไป ยังไม่ทันจะได้หายใจลูกเตะของอีกคนก็อัดเข้าตรงชายโครงก่อนที่จะมีโอกาสจะได้หลบ

ผมเจ็บจี้ดทันทีเดาว่าซี่โครงต้องร้าวแน่ๆ เพราะหน้าแข้งที่เตะเข้ามาเหมือนจะใส่สนับแข็งอยู่ ผมถอยออกมาหนึ่งกว่าก่อนจะส่งหมัดเสยคางคนที่สองเข้าไปเต็มเม็ด ไม่รอช้าก้านคอมันไปอีกทีจนร่วงลงไปกองกับคนแรกคนสุดท้ายดูเหมือนจะมีฝีมือที่สุด เพราะสามารถาหลบหมัดและเข้ามาประชิดตัวผมได้ ผมเตะไปอีกทีแต่ไม่ถนัดเพราะรู้สึกเจ็บสีข้างแปลบๆ เลยทำให้มันไม่เจ็บอย่างที่ตั้งใจ ศอกพุ่งเข้าใส่หน้าผมเต็มๆ รู้สึกถึงเลือดที่ไหลออกมาจากหางคิ้วทันที

ชิบหาย โดนแผลเก่า


ผมง้างมือกะจะสับเข้าที่หลังหูเพื่อให้มันสลบแต่ก็ต้องรู้สึกปวดร้าวเพราะของแข็งที่ฟาดลงที่หลังอย่างเต็มแรง ทำให้ผมชะงักทันที ก่อนที่จะทันได้หันไปเล่นงานไอ้คนที่ลอบทำร้าย ผมก็รับรู้กับความเจ็บแปลบที่บริเวณท้องน้อยกลิ่นคาวเลือดและความรู้สึกอุ่นๆที่ฝ่ามือ ความอ่อนเพลียและดวงตาที่เริ่มมองได้เลือนราง





พลันสติผมก็ดับวูบลงไปทันที..




________________________________________

*ขอฝากนิยายเรื่องแรกของเราด้วยนะคะ*
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และทุกกำลังใจค่ะ
แนะนำ/ติชมได้นะคะ ♥
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH01│
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 20-03-2017 23:17:28
ไม่น้าาา อย่าเพิ่งตายยยย
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH01 20.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 21-03-2017 00:56:20
รออออ เอาอีกกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH01 20.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 21-03-2017 01:43:12
รอจ้ะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH02 21.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 21-03-2017 21:22:27




2




ความรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวทำให้ผมได้สติ ..


"อืออ... "

ผมพยายามส่งเสียงออกไป แต่ดันเป็นแค่เสียงแหบๆ รู้สึกได้ชัดว่าคอแห้ง
และต้องการน้ำมากแค่ไหน ร่างกายที่หนักอึ้งจนไม่อยากขยับ ความรู้สึกเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่หายใจเข้าออก ผมจำได้ว่าภาพสุดท้ายที่เห็นคือมือตัวเองที่ชุ่มไปด้วยเลือด พร้อมกับมีดปักอยู่ที่ท้อง


"หมอกก หมอก พวกมึงไอ้หมอกตื่นแล้ว!!"


ผมพยายามลืมตาขึ้นก็เห็นไอ้นายวิ่งเข้ามากุมมือผมอย่างรวดเร็ว รอบๆเตียงก็มีไอ้พวกบ้านั่นอยู่ครบแก๊งค์ พวกมันทุกคนมีสีหน้าเป็นห่วงชัดเจน จนผมแอบตื้นตันใจ ข้างเตียงผมมีเครื่องและก็สายอะไรเยอะแยะไปหมด

"น้ำ...กูหิวน้ำ"

ผมพูดอีกครั้งด้วยเสียงแหบแห้งอย่างหน้าใจหาย ซันรีบเทน้ำแล้วยื่นมาป้อนให้ผมทันที พอได้จิบน้ำเสียงผมก็เริ่มกลับมา แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บคออยู่ดี


"กูหลับไปนานไหม"


     หันไปถามไอ้นาย แต่ดูเหมือนผมจะถามผิดคนเพราะพอผมถามจบปากมันก็เริ่มเบะ หน้ามุ่ย ตาแดงแถมมีน้ำตาคลอ.. สัญญาณอันตราย..หูกำลังจะดับ


"ไอ้บ้า! ไอ้เวร! ไอ้หมอกไม่รักดี ยังมีหน้ามาถามอีกหรอ ฮืออออ...มึงหลับไปตั้งสองวันเต็มๆอะ ฮึก อยู่ๆก็มีคนโทรมาบอกกูว่ามึงอยู่โรง'บาล กูใจไม่ดี รีบโดดเรียนมาหามึง กูเป็นห่วงมึงแทบตาย เหี้ย ไปเหยียบหางใครเข้าหละถึงโดนตามจ้วงอย่างนี้ ฮึก กูบอกแล้วไงว่าอย่างไปมีเรื่องอีก ฮืออ มึงก็ไม่เคยฟังกู มึงหน้าจะตายไปเลย ฮึก ไอ้บ้าชอบก่อเรื่อง ชอบทำให้กูเป็นห่วง เลววววว แงงงงงงงงงงง"




..เต็มที่..


เล่นเอาผมที่มึนอยู่แล้วมึนหนักกว่าเดิมแถมไม่ว่าเปล่าทุบแขนผมรัวเป็นชุด เอาจริงๆผมก็รู้สึกผิดที่ทำให้มันเป็นห่วง ผมไม่เคยเป็นหนักขนาดโดนแทงอย่างนี้ ส่วนมากก็แค่ฟกช้ำร้ายหน่อยก็กระดูกหัก เพิ่งเคยฟุบไปก็คราวนี้แหละ


   ผมเอื้อมมือไปลูบหัวสีน้ำตาลทุยๆของไอ้นาย มันเงยหน้ามามองผมตาแดงเถือก น้ำมูกน้ำตาเต็มหน้าไปหมด เห็นแล้วก็โหวง ความรู้สึกผิดจุกอยู่ที่คอ ถึงไอ้นายมันจะง้องแง้งบ่อยก็เถอะ แต่ครั้งนี้ดูก็รู้ว่ามันเสียใจ


"ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง"


แต่มันยังทำหน้าเบะไม่หยุด


"ตอแหล กูไม่เชื่อมึงหรอก ไม่ต้องมาอ้อน ฮึก! มึงพูดอย่างนี้ทุกที"

เสียงสะอื้นของมันยังไม่เบาลง ผมกุมมือมันไว้แล้วบีบมือมันเบาๆ


"ขอโทษนะนาย..แล้วก็ขอโทษพวกมึงด้วย"

ผมหันไปของโทษอีกสามคนที่เหลือ พวกมันยิ้มให้ผมเป็นเชิงว่า ไม่เป็นไร


"แล้วกูมาโรง'บาลได้ไงพวกมึงรู้ไหม" ผมถามคำถามที่สงสัยออกมาทันที ก็ตอนนั้นจำได้ว่าสลบไป

"ไม่รู้เหมือนกันวะ หมอบอกว่าตอนมึงมาถึงก็ปฐมพยาบาลไรเรียบร้อยแล้ว คนที่พามึงมาส่งก็ให้เบอร์ไอ้นายไว้ รพ.เลยโทรมาหามัน"

"แล้วเขาทิ้งชื่อไว้ปะ"

"ไม่อะ ไม่มีใครรู้" ฟีฟ่าตอบ

"มึงรู้ไหมวะว่าใครทำมึง" แทนพูดขึ้นมา

"กูก็ไม่รู้วะ นั่งอยู่ดีๆ อยู่ๆก็จ้วงกูเฉย"


     พอพูดถึงเรื่องนี้ผมก็พาลจะหงุดหงิดขึ้นมา ยอมรับว่าคนเหม็นหน้าผมเยอะ แต่ผมก็ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ใครเข้ามาทำร้ายผม ผมก็แค่ป้องกันตัวและเอาคืนนิดหน่อยตามสภาพ ไม่ถึงขนาดเดินกร่างหาเรื่องเขาไปทั่ว ..ก็บอกแล้วไงผมชอบความสงบ อีกอย่างมันแปลกมาก พวกมันเข้ามาทำร้ายผมอย่างไม่ลังเล แถมยังเป็นในมหาลัยฟ้าสว่างโล่งเห็นๆ ทั้งที่ผมทั้งใส่แว่นทำตัวเห่ย ไม่น่าจะมีคนจำผมได้ และไม่น่าจะใช้พวกที่ผมมีเรื่องด้วยเมื่อคืน แสดงว่าพวกนี้ต้องรู้จักผมเป็นอย่างดี หมดกัน..ความสงบสุขของผม

"อาจจะเป็นคนที่ไม่พอใจพ่อมึง.." ไอ้นายพึมพำออกมาเบาๆ มันเริ่มหยุดร้องแล้ว

"ก็เป็นไปได้ แต่มันก็ไม่มีหลักฐาน...ว่าแต่พ่อกูรู้เรื่องนี้ไหม"

"กูไม่ได้บอก บอกว่ามึงนอนบ้านกู ไม่อยากให้มีปัญหา ยิ่งถ้าพ่อมึงคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ คงเสียใจน่าดู"

"อือ ดีแล้วอีกอย่าง ถ้าพ่อรู้ก็สมใจพวกมันสิ"

"แต่ยังไงหมอกก็ควรจะบอกพ่อนะ" แทนพูด

"อืม บอกแน่ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ถ้าพ่อรู้มันจะเป็นเรื่องใหญ่ พวกนั้นก็จะได้ใจ ต่อไปพ่อขัดอะไร มันก็จะเอากูมาขู่ กูไม่ชอบเป็นจุดอ่อน"

ผมตอบไอ้แทนออกไปด้วยสีหน้าจริงจัง ถึงการโดนแทงครั้งนี้ของผม มันจะเกี่ยวกับพ่อ แต่ผมก็ไม่คิดจะโกรธ เกลียดหรือเคืองพ่อหรืออะไรนะ
     อยู่ๆความเย็นเฉียบจนขนลุกก็สัมผัสโดนข้อมือผม จนต้องยกแขนขึ้นมาดู โซ่สีเงินขนาดปานกลาง มีจี้รูปนกอิทรีย์กำลังกระพือปีกพร้อมบิน ทำจากแพลตินัมสีเดียวกับโซ่ กรงเล็บจิกลูกบอลกลมๆ รูปร่างคล้ายโลกเอาไว้ ลวดลายมีความปราณีตราวกับนกตัวนั้นมีชีวิต 'คงไม่ใช่ของถูก' ผมแอบคิดในใจ  มันคล้องอยู่รอบข้อมือข้างซ้ายของผม แต่มันไม่ใช่ของผม พอสังเกตุดูอย่างละเอียดก็เห็นว่า บริเวณจี้มีแทคห้อยอยู่พร้อมสลักอักษรตัวเล็กๆว่า




'mio Xenon'





"นี่ของใคร"  ผมชี้ไปที่สร้อยข้อมือแบบงงๆ ผมไม่ชอบใส่สร้อยมันเกะกะ ทั้งสร้อยคอและสร้อยข้อมือแล้วจะเป็นไปได้ไงที่สร้อยนี่จะเป็นของผม ชีวิตนี้ยังไม่เคยเห็นสร้อยนี้ด้วยซ้ำ


"ไม่รู้วะ เห็นหมอกใส่อยู่ตั้งแต่แรกแล้วนี่"
แทนตอบ มันกำลังเข็นอาหารรพ.เข้ามาให้ เป็นโจ็กขาวๆไม่มีอะไรเลย กับปลาต้มที่ดูยังไงก็กินไม่ลง



"ไม่ใช่ของกูอะ"



ผมเห็นทุกคนทำหน้าไม่รู้เรื่องก็เลยเลิกสนใจ หันมาแกะไอ้สร้อยนี่ออก แต่ทำยังไงก็หาที่ปลดไม่พบ พยายามแงะดูก็พบว่าโซ่ทุกตัวไม่มีรอยต่อให้ง้างออกเลย


"ถอดไม่ได้วะ" ผมมองอย่างเซ็งๆ


"สวยออกใส่ไว้สิไม่เห็นเป็นไร" ฟี่ฟ่าพูดแล้วยังดึงสร้อยไปหมุนๆดูเล่นอีกต่างหาก ขนาดสร้อยมันใช่ว่าจะเล็กซะทีเดียว แถมมีอะไรห้อยตุ้งติ้งดูเกะกะ


"จริงอย่างไอ้ฟ่าพูด ดูเหมาะกับมึงดีด้วย"

"แต่มันไม่ใช่ของกู"

"ช่างมันเถอะ กินข้าวซะ ไอ้ซันไปตามหมอแล้วสักพักคงมาตรวจมึง"

"แล้วถ้าเจ้าของตามหามันอยู่ละ" ผมโต้กลับไปแต่ก็พบว่าไม่มีใครสนใจผมแล้ว ก็เลยปล่อยไม่สนใจไอ้สร้อยนี่ชั่วคราว


     นั่งทำใจกินข้าวรพ.อยู่เงียบๆกับไอ้ซันในห้อง ไอ้นาย ฟี่ฟ่าแล้วก็แทนกำลังลงไปซื้อข้าวขึ้นมากิน ความสงบเริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่ผมฟื้นขึ้นมาไอ้ซันมันยังไม่พูดกับผมซักกะคำ แต่แค่สีหน้ามันที่แสดงออกว่าเป็นห่วงผมก็ดีแล้วครับ ผมนั่งทานอยู่ไม่กี่คำก็เกิดอาการกระเดือกไม่ลง เลยปิดฝากับข้าวดันโต๊ะออกห่างเตรียมล้มตัวนอนต่อ


"กินเยอะๆสิ หน้ามึงตอบลงไปเยอะนะ" เสียงทุ้มที่นานๆจะได้ยินทีพูดขึ้น


"กินไม่ลง ปวดแผล อยากนอน"


     พอเห็นว่าผมตอบอย่างนี้มันก็ไม่เซ้าซี้ต่อนั่งก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือพิมพ์ของมันต่อไป   พวกคุณเคยเห็นวิศวะหน้าหมอไหมครับ มันนี่แหละตัวอย่างที่ชัดเจน ตี๋ๆคมๆ ใส่แว่น ดูเคร่งขรึม ชอบปั้นหนาตายตลอดเวลา ส่วนสูงที่เข้าข่ายเปรต (189 ซม.) เพราะชอบเล่นบาส ผู้หญิงก็หลงมันหัวปักหัวปำ แต่มันไม่ยักกะสนใจ


     ยังไม่ทันที่ผมจะได้งีบก็มีหมอแก่ๆเข้ามาตรวจผม จับนู้นจับนี่ แล้วก็บอกว่าอาการผมไม่น่าเป็นห่วงอะไรแล้วพักที่นี่สักสองสามวันก็กลับบ้านได้ โชคดีที่แผลไม่ลึกมากไม่ถึงกับโดนอวัยวะภายในบวกกับได้รับการปฐมพยาบาลที่ทันท่วงที ซี่โครงที่ร้าวก็ไม่เป็นอะไรมากปล่อยไว้ไม่หักโหมมากเดี๋ยวก็หาย ที่หลับไปนานก็เพราะร่างกายขาดการพักผ่อน สักเดือนนึงแผลก็น่าจะหายสนิท แต่ห้ามทำกิจกรรมหนักๆเพราะแผลอาจจะฉีก
ก่อนที่หมอจะออกไปผมก็อดถามไม่ได้ว่าใครเป็นคนพาผมมาส่งที่นี่ แต่ได้เพียงรอยยิ้มใจดีเป็นคำตอบเท่านั้น


     ผมไล่พวกมันกลับบ้านเพราะนี่ก็เริ่มมืดแล้ว และถ้าให้เดาคงยังไม่มีใครได้กลับบ้านตั้งแต่ผมเข้ารพ. ตอนแรกไอ้นายมันก็ไม่ยอมหรอก แต่ได้แทนมันช่วยกล่อมจนสุดท้ายก็กลับบ้านไป แต่พวกมันก็บอกว่าพรุ่งนี้เช้าจะมาอีกแล้วค่อยไปเรียน ด้วยความเพลียและฤทธิ์ของยา ก็ทำให้ผมหลับสนิทอย่างรวดเร็ว










.
.
.
.
.
ที่นี่คือที่ไหน...


     ความฝันงั้นหรอ แล้วทำไมมันถึงได้เย็นยะเยือกขนาดนี้หละเนี่ย

รอบตัวของผมมีแค่สีดำ ดำสนิทถึงขนาดมือตัวเองก็ยังมองไม่เห็น ความหนาวเย็นสุดขั้วหัวใจทำให้ผมขนลุกเกรียว แต่ไม่กี่อึดใจแสงสีขาวก็สว่างวาบขึ้นมาจนต้องหรี่ตา

     ภาพตรงหน้าที่เห็นยิ่งตอกย้ำว่ามันคือความฝัน... แมงป่องสีดำสนิทตัวใหญ่ ที่กำลังชูหางที่เป็นปล้องของตัวเอง ขู่นกที่มีจะงอยปากสีเหลืองท่าทางสง่างาม ปีกสีขาวของมันสยายจนขนาดของสัตว์ทั้งสองต่างกันลิบลับ ลำตัวสีน้ำตาลเกือบดำ รูปร่างสง่างามน่าเกรงขาม บวกกับสายตาที่เฉียบแหลมและกรงเล็บที่ดูแหลมคมอันตรายสีเดียวกับปาก หมายจะตระครุบเหยื่อ

     แต่แมงป่องตัวนั้นใช่ว่าจะขี้ขลาด ปลายหางที่เต็มไปด้วยพิษร้ายตั้งท่าจะฉกไปที่อินทรีตัวนั้นอย่างหมายมั่นหากมันขยับเข้ามา แต่ในไม่ถึงเสี้ยววินาทีแมงป่องตัวนั้นกลับตกไปอยู่ในกรงเล็บอันตรายของเจ้านักล่าที่ตอนนี้ผมมองว่ามันเริ่มเจ้าเล่ห์เข้าไปทุกที

     เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมากจนผมก็มองไม่ทันว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และไม่รู้ว่าเพราะอะไรผมถึงมั่นใจว่าแววตาของเจ้านภาตัวนั้นไม่ได้หมายชีวิตของเจ้าสีดำตัวเล็กๆในกำมือเลย ดวงตาคมกลับฉายแววอ่อนโยนอย่างปิดไม่มิด

ทันทีที่ตะครุบเหยื่อได้เจ้าอินทรีนั้นก็สยายปีกและบินออกไปในความมืดมิดทันที


ขาสองข้างของผมอดที่จะวิ่งตามไปอย่างอดไม่ได้แต่กลับต้องหยุดกึก เพราะโลหะสีเงินที่อยู่ที่ข้อมือ กลายเป็นโซ่พันธนาการไม่ให้ผมขยับไปไหน..




________________________________________

มาต่อแล้วค่ะ
ตอนนี้กำลังมีปัญหากะความยาวของแต่ละตอนไม่ถูก5555
สั้นไปหรือยาวไปยังไงช่วยบอกด้วยน้า

อดใจรอพระเอกของเราอีกนิดนะคะ อิอิ
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH02 21.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 22-03-2017 02:42:53
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH03.1 22.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 22-03-2017 15:54:48
3

3.1



ผ่านมาแล้ว 1 อาทิตย์กับการที่ผมต้องติดแหง่กอยู่ที่ รพ. วันนี้เป็นวันแรกที่ผมกลับมาเรียนตามปกติ แผลดูดีขึ้นมาก ยังปวดอยู่นิดๆหน่อยๆ  ดูจากตอนที่ล้างแผลแล้ว ผมคิดว่ามันต้องเป็นแผลเป็นแน่นอน


โรงอาหารที่ออกจะวุ่นวายตลอดเวลา กลับถูกกลบด้วยบรรยากาศมาคุของโต๊ะโต๊ะหนึ่งที่นั่งเงียบกริบ มีเพียงสายตาที่จ้องไปยังชายหนุ่มใส่แว่น ท่าทางเรียบร้อยอย่างเอาเรื่อง

อาหารที่ส่งกลิ่นน่ารับประทานไม่ได้ทำให้ใครละสายตาออกไปเลย และมันยิ่งเป็นจุดสนใจเมื่อบุคคลที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นต่างเป็นที่(อยาก)รู้จักของคนในมหาลัย  อ่อ..ยกเว้นผู้ชายที่โดนจ้องคนนึงนะ


"เฮ้อ..เอาหล่ะอยากรู้อะไรก็ถามมา"

หลังจากที่ผมนั่งจ้องกับพวกมันนามากจนบะหมี่ในจานผมเริ่มจะอืดผมก็ยอมแพ้ในที่สุด

"มึงโดนอย่างนี้บ่อยไหมวะ" ฟีฟ่าเริ่มเปิดประเด็นทันที


"ก็บ่อย แต่ไม่ถึงขนาดครั้งนี้"


"คนอยากกระทืบมึงมีเยอะขนาดไหน"


"แต่ก่อนเยอะ แต่ตอนนี้ไม่"


"เนี่ยนะไม่เยอะ" ฟี่ฟ่าทำหน้าไม่เชื่อ


"ส่วนมากตอนนี้มีแต่พวกหน้าเดิมๆ ไม่ยอมเข็ด"


"มึงมันน่าโมโหมากมีอะไรไม่บอกพวกกูซักกะคำ"


"โทษที"


"วันหลังมึงให้พวกกูช่วยบ้างก็ได้ ยังไงก็เพื่อนมึงนะ"

"รู้แล้วหน่า"


"เอาเหอะยังไงพวกกูก็ได้ฟังเรื่องจากไอ้นายมาบ้างแล้ว เพื่อเป็นการขอโทษที่ปกปิดมุบมิบพวกกู มึงต้องเลี้ยงข้าวขออภัยพวกกู"


ฟี่ฟ่าพูดรัวๆ ผมก็พอเดาออกว่านายคงบอกอะไรให้พวกมันฟังบ้างแล้วเดาได้จากการหลบสายตาเป็นพักๆของไอ้นายมัน ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจพวกนี้เลยไม่เล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง แต่ไม่อยากให้พวกมันเป็นห่วงและจะพลอยมาลำบากไปกับผม

"ไอ้ฟ่ามึง น่าเกลียด"


"ไม่ต้องเลย หรือจะบอกว่ามึงไม่อยาแดกไอ้นาย"


สองคนนั้นเริ่มเถียงกันเสียงดัง บรรยากาศบนโต๊ะเลยดูดีขึ้นถนัด ไอ้แทนส่งยิ้มบางๆให้ผม ส่วนไอ้ซันมันยังมองหน้าผมก่อนมองลงที่มือผมที่เผลอไปลูบแผล

"แผลเป็นยังไงบ้าง"


"ดีขึ้นแล้ว อาทิตย์หน้าไปเช็ค"


"ดีแล้ว" มันพูดสั้นๆก่อนจะเริ่มลงมือกินข้าว หลังจากบรรยากาศชวนอึดอัดหายไป ก็มีแต่เสียงเถียงกันของไอ้นายกับฟี่ฟ่าโดยมีไอ้แทนคอยห้ามทัพอยู่เป็นพักๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของพวกมัน

 วันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงบ่าย เลยกะจะกลับบ้านก่อนแล้วค่อยออกมาเจอพวกมันอีกทีตอนเย็นๆประมาณ6โมง

ไอ้นายมันดูแปลกใจมาก มันบอกว่าผมไม่น่าแพ้ไม่น่าจนมุมถึงขนาดโดนแทง ผมยอมรับว่าผมประมาท เพราะช่วงสองปีมานี้พวกที่เข้ามามีเรื่องกับผมมันไม่ค่อยมีฝีมือ ทำให้ผมฝืดลงไปบ้าง บวกกับมีคนเข้ามาน็อคจากข้างหลัง ผมเลยพลาดง่ายๆแบบไม่น่าให้อภัย



คิดแล้วก็โมโหตัวเองแฮะ




ขายาวสองข้างก้าวเข้ามาในร้านออกแนวคาเฟ่นิดๆ ตกแต่งแบบลอฟท์ดูอบอุ่น ที่นี่เป็นร้านอาหารไม่ใหญ่มาก อยู่ใจกลางเมืองมีรถไฟฟ้าผ่านทำให้สะดวกสบายในการเดินทาง จำนวนคนในร้านไม่ถึงกับแออัดมาก แต่ละโต๊ะมีมุมที่เป็นส่วนตัวสูง เหมาะสำหรับมานั่งทานอาหารพบปะสังสรรค์แบบสบายๆ

'พวกนี้มันกะขูดรีดกันชัดๆ' ร่างโปร่งได้แต่บ่นอยู่ในใจ ใครใช้ให้ไอ้ฟีฟ่ามันเป็นคนเลือกร้านหละ

     ถึงแม้หมอกจะเดินเข้าร้านแบบไม่สนใจโลกไปยังโต๊ะในสุดที่พวกทโมนทั้งหลายนั่งอยู่ แต่ตัวเองกลับเป็นที่สนใจของคนในร้านไม่ใช่น้อย ด้วยวันนี้ร่างโปร่งอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมเข้ารูปเล็กน้อยสีฟ้าเทาเรียบๆกับกางเกงยีนขาเดฟที่มีรอยขาดที่หัวเข่าบวกกับรองเท้ากีฬายี่ห้อเครื่องหมายถูกสีเทาเข้ม

     แม้ชุดจะดูธรรมดาแต่ด้วยความสูงและรูปร่างสมส่วนที่ออกจะมีกล้ามเนื้อนิดๆก็ทำให้หลายคนถึงกับมองตาม ถึงแม้บนใบหน้าจะยังคงมีแว่นสายตาปลอมๆอยู่แต่ด้วยการเดินก้มหน้าไม่สนใจใครทำให้คนที่มองเห็นแค่รูปร่างและทรงผมที่ไม่ได้เซ็ตให้ยุ่งหยิงเป็นรังนกเหมือนเวลาไปเรียนเท่านั้น

เอาเป็นว่าถ้าเห็นหน้าเนริดๆของหมอกตอนนี้สาวๆคงหน้าจ๋อยหมดอารมณ์ไปตามระเบียบ


"ทำไมมึงมาช้าอะ กูหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว"
เสียงบ่นงุ้งงิ้งดังขึ้นทันที ทั้งๆที่หมอกยังไม่ได้หย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยซ้ำ


"ทำธุระนานไปหน่อย แล้วทำไมมึงไม่สั่งไปก่อน" หมอกพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆเหมือนเดิม ก่อนออกมาที่นี่เขาต้องกลับไปที่คอนโดหลังจากที่ไม่ได้กลับไปหลายวัน

   แถมกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวโดยไม่ให้สะเทือนแผล มันก็ช่างใช้เวลานานกว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมง แถมเขายังเผลอหลับไปอีกรอบต่างหาก พนักงานสาวเข้ามารับออเดอร์อย่างยิ้มแย้ม เธอคงดีใจมากที่ได้ใกล้ชิดกับหนุ่มหน้าตาดีโต๊ะนี้ แต่เมื่อมองทางทางผม หน้าเธอดูแปลกไปนิดหน่อย ก่อนจะกลับมายิ้มตามเดิม

"เอาไหม"


"หมอห้ามวะ" ผมตอบแทนที่ยื่นแก้วเบียร์มาให้ แม้ใจจะอยากอยู่บ้าง ก็ได้แต่ปฏิเสธไปเพราะอยากให้แผลหายไวๆ
บรรยากาศบนโต๊ะเป็นไปอย่างสนุกสนาน ตัวตั้งตัวตีก็คงหนีไม่พ้นฟีฟ่ากับนาย อาหารเกือบสิบจานหมดไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ทั้งห้าคนก็เลยนั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติ

 ฟีฟ่าโดนไอ้นายแฉเรื่องที่มันโดนผู้หญิงตบเพราะดันไปหาว่าเธอเป็นกระเทย ไอ้นายเลยโดนแฉกลับเรื่องที่มันโดนผู้หญิงจีบเพราะคิดว่ามันเป็นทอม แทนคุณที่นั่งขำอยู่ดีๆดันโดนลากเข้ามาในวงเป็นกรรมการห้ามทัพย่อยๆ ซึ่งดูเหมือนเป็นหน้าที่ประจำไปแล้ว



'แกร็ง..'
เสียงโลหะกระทบกับขอบจานทำให้หมอกชะงักเล็กน้อย สร้อยสีเงินรูปเหยี่ยวที่ตอนนี้เขาก็ยังไม่คุ้น เงาสีเงินสะท้อนวาบราวกับจะร้องเรียก ร่างโปร่งได้แต่เก็บความรู้สึกแปลกๆไว้ในใจ ลงมือทานข้าวต่อโดยมีบรรยากาศสนุกสนานของเพื่อนๆให้ได้อมยิ้มเป็นระยะ


กว่าจะเรียกเช็คบิลก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่มแล้ว ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้าน ซันต้องไปส่งนายกับฟีฟ่า ส่วนแทนเอารถตัวเองมาตอนแรกมันก็จะชวนผมกลับด้วยกัน แต่ผมก็ปฏิเสธไป เพราะคอนโดผมนั่งรถไฟฟ้าไปอีกไม่กี่สถานีก็ถึงแล้ว บ้านอีกฝ่ายก็อยู่คนละทางกับคอนโดเขาอีก





   ความแออัดของคนในรถไฟฟ้าดูไม่ลดลงไปจากช่วงเวลาเร่งด่วนเท่าไหร่นัก ร่างโปร่งผมสีดำก็เลยได้แต่ยืนพิงโบกี้และฟังเพลงในไอพอดอยู่เงียบๆ เพียงแค่ไม่กี่นาทีรถไฟฟ้าก็มาจอดสถานีที่เขาต้องการ ขาสองข้างก้าวเดินออกจากชานชลาอย่างไม่เร่งรีบ  ด้วยจำนวนคนที่ไม่ได้บางตา ทำให้เขาไม่ทันสังเกตุเห็นคนที่ได้แอบตามเขามาตั้งแต่ออกจากร้านอาหาร..




คอนโดของชายหนุ่มนั้นนับว่าสะดวกสบายใช้ได้ ผู้คนในคอนโดส่วนมากมีรถส่วนตัว บริเวณชั้นหนึ่งและสองจึงเป็นที่จอดรถไว้คอยอำนวยความสะดวก คอนโดนี้ถึงจะอยู่ติดถนนใหญ่ แต่เขาก็ต้องเดินต่ออีกสักพัก เพราะระยะทางจากสถานีรถไฟฟ้าถึงคอนโดก็ใช้เวลาเดินประมาณ5นาที



ขณะที่กำลังก้าวเข้าซอยเล็กเพื่อที่จะได้อ้อมเข้าทางหลังคอนโดซึ่งมีลิฟท์ให้ขึ้นที่พักได้ทันที ไม่เหมือนกับทางเข้าด้านหน้าที่เหมาะกับการขับรถเข้ามาจอดแล้วค่อยขึ้นห้องมากกว่า

 เสียงฝีเท้าที่เดินตามมาก็ทำให้ร่างโปร่งเริ่มเอะใจ สัญชาตญาณระวังภัยตื่นตัวเต็มที่ ยิ่งเพิ่งผ่านเหตุการณ์ปองร้ายมาสดๆร้อน หมอกพยายามเดินอย่างใจเย็นให้เป็นปกติที่สุด



...สองคน แต่ยังเจ็บแผลอย่างนี้แค่สองคนก็ลำบากวะ  ซวยจริงๆน่าจะเอารถไปตั้งแต่แรก...



หมอกได้แต่คิดเสียดาย สู้ไปในสภาพนี้รังแต่จะแพ้ รถของเขาก็จอดอยู่ชั้นสองคงขับรถหนีออกไปไม่ทัน แล้วพวกมันก็คงไม่รอจนเดินไปถึงลิฟต์หรอก

     ใบหน้าคมเริ่มแสดงความเคร่งเครียด ความเป็นไปได้ตอนนี้เหลือแค่เขาต้องวิ่งผ่าที่จอดรถนี่ไปให้ถึงล็อบบี้ที่มีพนักงานต้อนรับและรปภ.อยู่ สายตาเริ่มจับจ้องหาทางหนีทีไล่พยายามทำเหมือนตัวเองยังไม่รู้ตัว
ตอนนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นผนังปูนที่กั้นระหว่างถนนกับลานจอดรถที่ไม่สูงมากพอจะเป็นทางลัดเข้าไปล้อบบี้


..น่าจะพอกระโดดได้..


คิดได้ดังนั้นเมื่อถึงระยะที่เหมาะหมอกก็รีบใช้แขนยันรั้วคอนกรีตเตี้ยๆและกระโดดข้าม ความเจ็บแล่นแปร๊บบริเวณแผลทำให้เขาชะงักไปครู่ ใบหน้าเรียวถึงกับทำหน้านิ่ว

     เสียงโวยวายดังตามมาจนเขาต้องกัดฟันวิ่งไปต่อ บาดแผลที่ทำให้การเคลื่อนที่ลำบากลงไปมาก บวกกับช่องทางในการหลบหนีที่คับแคบเพราะมีรถจอดอยู่เต็มลาน ทำให้เสียงที่ดังไล่ตามมาดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
วินาทีที่เขาคิดว่าตัวเองกำลังจะล้มลงกลับมีแรงฉุดที่ข้อมืออย่างแรงจนหมอกผงะไปตามแรงนั่น แผ่นหลังถูกดันชิดกำแพงในมุมอับสายตา ยังไม่ทันที่สมองจะได้ประมวลผลอะไรทำให้มืออีกข้างที่ยังว่างหมายผลักคนข้างหน้าออกทันทีตามสัญชาตญาณ


"อะ.."


"ชู่วววววว...นิ่งๆผมไม่ทำอะไรคุณหรอก"


มือแกร่งยกขึ้นปิดปากคนตรงหน้าทันทีที่กำลังจะส่งเสียงออกมา เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหูนั่นทำให้หมอดดูเบาใจลงอย่างประหลาด



"หายไปไหนแล้ววะ"



"แม่ง ไหนว่ามันเจ็บอยู่ไงวะ"


ผู้ชายสองคนใส่สูทแบบเต็มยศ ดูมีอายุนิดหน่อยยังคงเดินสำรวจรวจอยู่สักพัก เสียงพูดคุยพอให้จับใจความได้ว่าคนพวกนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่มาแทงผมกลางมหาลัย และครั้งนี้มันต้องการจับเป็น




...คงจะเอาเราไปต่อรองกับพ่อ เหี้ยเอ้ย...




พวกมันเดินออกไปดูทางอื่นแล้ว เสียงพูดคุยเริ่มไกลออกไป นั่นทำให้เขาสงบขึ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว  สายตามองไปยังคนตรงหน้าที่อยู่ห่างเพียงคืบ นัยน์ตาสีน้ำเฮเซลนัทเข้มคมกริบดูลึกลับมีเสน่ห์ คิ้วเข้มหนารับกับสันจมูกโด่งที่เข้ารูปเกินกว่าจะเป็นคนเอเชีย ริมฝีปากสวยได้รูปเข้ากับโครงหน้า ปฏิเสธไม่ได้ว่าดูดีมากแต่นี่ไม่ใช่เวลา  หมอกขยับเล็กน้อยเป็นสัญญาณบอกให้ปล่อย โดยเฉพาะมือที่ยังปิดปากเขาอยู่


"โทษที ลืม" คนตรงหน้ากล่าวยิ้มๆก่อนจะละเอามืออกไป


"....ขอบคุณ" ผมตอบกลับเสียงเบา


"ด้วยความยินดีครับ"


" ปล่อยมือ"


แต่แทนที่มือของผมจะเป็นอิสระ คนตรงหน้ากลับนิ่งและยิ้มเล็กๆ ผมจะดึงมืออกแต่แรงยื้อที่มากกว่าทำให้ผมหลุดไปไม่ได้ ผมจ้องหน้าอีกคนนิ่ง ก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสที่ไล้ตรงหน้าท้อง


"ทำอะไร หยุด" ผมสั่งออกไปด้วยเสียงนิ่งๆ มืออีกข้างตะปบแขนไอ้นั่นไว้ไม่ให้ขยับ


"ใจเย็นสิ คุณเลือดออกนะ" ผมมองด้วยความไม่ไว้ใจ ก็ดูสายตามันสิวิบวับเล่นหูเล่นตาจนน่าหมั่นไส้ แต่พอมองที่แผลก็เห็นว่ามีเลือดซึมออกมาจนเลอะพลาสเตอร์สีขาว ผมได้แต่ถอนหายใจ


แล้วเมื่อไหร่จะหาย..


"เห็นแล้ว ปล่อย" ผมทำเสียงแข็งจ้องคนตรงข้ามไม่วางตา แต่มันก็ยังยิ้ม มือหนาที่กุมมือของผมคลายกำลังลง แต่แทนที่จะปล่อยให้เป็นอิสระมันกลับยกมือผมขึ้นมา ก่อนประทับจูบแผ่วเบาลงบนสายโซ่สีเงินที่คล้องอยู่บนข้อมือผมมาเกือบอาทิตย์



......ผมได้แต่นิ่งค้าง



"เจอกันอีกครั้งแล้วนะครับดาร์ลิ้ง ผมชื่อซีนอน”





________________________________________



ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  ♥



หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH03.1 22.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 22-03-2017 19:51:32
 :mew3: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH03.1 22.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 23-03-2017 17:48:33
เกาะค่ะ มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรป่าวน้าาา
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH03.1 22.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนขี้เกียจ ที่ 23-03-2017 18:10:45
ความสงบ..
  เกิดขึ้นก็ยาก รักษาไว้ยิ่งยาก
  แต่กลับโดนทำลายได้ง่ายๆ พวกคุณว่าไหม ? <<<<<<<<< แค่ประโยคนี้ก็โดนใจแล้ว55555 :give2:  ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH03.1 22.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: J029 ที่ 23-03-2017 18:27:08
แลดูจะรักกันด้วยลำแข้งนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH03.2 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 25-03-2017 15:37:19



3
3.2




"เจอกันอีกครั้งแล้วนะครับดาร์ลิ้ง ผมชื่อซีนอน”


ผมมองคนข้างหน้าตาค้างอีกรอบ ผมรู้สึกร้อนที่หน้าไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะอายหรือโมโห

แต่ไม่ทันที่ผมจะได้สรรหาคำมาประเคนใส่คนตรงหน้า หางตาผมเหลือบไปเห็นการเคลื่อนไหวไวๆ ห่างออกไปจากที่ผมอยู่ไม่กี่บล๊อค


“หันหลัง เร็วๆ” ผมออกคำสั่งกับไอ้ฝรั่ง มันออกจะดูงงๆ เลยยืนนิ่งไม่ยอมทำตาม


“บอกให้หันหลังไง เร็วๆ!!” ผมพูดอีกรอบคราวนี้ดึงเสื้อคนตรงหน้าให้หันหลังด้วย ใช้น้ำเสียงที่แข็งขึ้นเพราะจะพูดเสียงดังก็ไม่ได้ ไอ้ฝรั่งยังคงงงเหมือนเดิมแต่ก็ยอมทำตาม ด้วยความสูงของผมที่ไม่ต่างกับมันมากไม่เกินสิบเซน ผมจึงกดหัวมันให้ย่อต่ำแล้วขึ้นขี่หลังมันทันที

“พวกมันวนกลับมา เร็วเข้า” โชคดีที่ซีนอนอะไรนั่นรับผมที่จู่ๆก็กระโดดขึ้นหลังได้ทัน ผมตบไหล่มันสองสามทีแล้วชี้ไปที่ทางเข้าขึ้นลิฟท์

ที่ผมต้องทำอย่างนี้เพราะรู้ตัวดีว่าสภาพแผลตอนนี้คงไม่น่าดูเท่าไหร่ แล้วมันก็เจ็บเกินกว่าที่ผมจะเดินเองได้ด้วย คิดแล้วก็หงุดหงิดชะมัด ผมได้แต่กัดปากทั้งเจ็บแผลทั้งเจ็บใจเลยโว้ย

ซีนอนค่อยๆเดินหลบจนมาถึงลิฟท์ที่ไม่นานประตูก็เปิดออก

ร่างโปร่งที่อยู่บนหลังเริ่มหน้าซีดลงเรื่อยๆ หมอกพยายามล้องหยิบคีย์การ์ดซึ่งจำเป็นต้องใช่จึงจะกดลิฟท์ได้ แต่ดูเหมือนมือจะไม่ค่อยทำตามคำสั่งสักเท่าไหร่

“โธ่เว้ย!..มึง คีย์การ์ด..กระเป๋า...กางเกง...ชั้น..29....”


ผมเร่ง เพราะรู้ดีว่าตัวเองเริ่มไม่ไหวแล้ว ภาพที่ผมมองเริ่มเบลออีกรอบ ก่อนจะดับมืดลงไปในที่สุด










              Xenon




รู้สึกได้ถึงของเหลวอุ่นๆที่ซึมมาถึงหลังผม คนบนหลังผมก็เริ่มหายใจหอบขึ้นเรื่อยๆแถมยังอืมอำไม่เป็นภาษา ผมได้แต่ร้อนใจอยากให้ลิฟท์เต่านี่ถึงชั้น 29 ซักที

 สักพักประตูลิฟท์ก็เปิดออก โชคดีที่ลิฟท์ตัวนี้เป็นลิฟท์ของห้องเพนท์เฮ้าส์ซึ่งทั้งชั้นจะมีอยู่เพียงห้องเดียว ผมเลยไม่ต้องหาห้องให้วุ่นวาย

ออกมาจากลิฟท์ก็เจอประตูห้องอีกชั้น ผมใช้คียการ์ดแนบอีกรอบ แต่มันดันต้องใส่รหัสด้วยทำให้กว่าผมจะเค้นถามรหัสได้ก็เสียเวลาไปพอสมควร จนผมคิดจะพังประตูมันให้รู้แล้วรู้รอด

แต่อย่างน้อยผมก็เบาใจว่าที่นี่คงปลอดภัยระดับหนึ่ง

พอเข้าถึงในห้องผมก็รีบหาห้องนอนและวางหมอกลงบนเตียง

ร่างโปร่งซีดเซียวมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นตามไรผม ที่ร้ายกว่านั้นคือรอยแดงของเลือดที่ซึมออกมาจนทะลุผ้าเต็มไปหมดซึ่งผมก็จัดแจงปฐมพยาบาลอีกรอบ ก่อนจะรีบกดปุ่มโทรออกทันที


“หมอ รีบมาที่......... ด่วนที่สุด เข้าใจไหม เอาอุปกรณ์มาด้วย” ซีนอนพูดอย่างร้อนรน ปลายสายที่ดูจะตกใจกับน้ำเสียงดังกล่าวก็ได้แต่รีบเก็บของและทำตามคำสั่งอย่างเร็วที่สุด

ผมได้แต่คอยเช็ดตัวซับเหงื่อที่ออกไม่ยอมหยุดให้หมอก หน้าสวยของคนตรงหน้าซีดขึ้นเรื่อยๆจนผมเริ่มใจไม่ดี สลับกับดูนาฬิกาแทบจะทุกหนึ่งนาที ใจผมตอนนี้มันอยู่ไม่สุกมากๆ เพิ่งจะได้เจอกันอีกครั้งก็กลายเป็นแบบนี้ไปซะได้ ผมยอมรับว่าผมเป็นห่วงคนๆนี้อย่างน่าประหลาด


     ตอนผมเจอหมอกครั้งแรก ผมแค่ขับรถผ่านหน้าตึกเรียนของเด็กคณะวิศวะ ทั้งๆที่แถวนั้นผมแทบไม่เคยไปเลย เพราะมันอยู่ไกลจากคณะที่ผมต้องไปเป็นโยชน์ แทบเรียกได้ว่าอยู่กันคนละฝั่ง  แป๊ปเดียวแค่ตอนที่รถกำลังวิ่งอยู่ ผมเห็นเค้าแค่กำลังนั่ง นั่งอยู่เฉยๆตรงลานหน้าคณะ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย หรือทำตัวให้เป็นที่สนใจ ผมก็ไม่เข้าใจทั้งๆที่คนบริเวณนั้นมีเยอะแยะ เด็กวิศวะนั่งทำกิจกรรม ต่อหุ่นยนต์ ทำรายงาน จับกลุ่มคุย แต่ผมดันเห็นแค่เค้า เด็กเรียบร้อยหน้าตาธรรมดา ใส่แว่น นั่งเงียบๆในวงล้อมเพื่อนๆที่กำลังเฮฮาอยู่
แค่แวบเดียว แต่แปลกที่ผมกลับจำได้ชัดเจน...หมอก คนที่ดูธรรมดาๆ แต่ผมรู้สึกได้ว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น น่าค้นหา อยากรู้จัก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึก....สนใจ คนๆนึงเข้าอย่างจัง

นับจากวันนั้นผมก็เฝ้าสังเกตุเค้าอยู่ห่างๆ

     นี่..อย่าเพิ่งมองว่าผมโรคจิตสิ จนรู้ว่าหมอกชอบไปแอบหลับที่ตึกหลังแปลงเกษตรบ่อยๆ
กระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมก็เข้าไปในอาคารหลังแปลงเกษตรตามปกติ นั่งอยู่หลังหน้าต่างที่สามารถเห็นบริเวณหลังอาคารอย่างชัดเจน แต่ผมไม่เห็นหมอก แปลก..เพราะปกติเค้าต้องมาแอบนั่งเงียบๆที่นี่ประจำ ครั้งแรกที่ผมเห็นเค้าใกล้ๆเป็นตอนที่เขานั่งสูบบุหรี่ ตอนแรกก็ตกใจอยู่เห็นท่าทางเรียบร้อยๆ ..หึหึ นั่นยิ่งทำให้ผมสนใจเข้าไปอีก ใบหน้าเรียวตอนไร้แว่นนั่นยิ่งสะกดผมอย่างจัง
 

อยากเก็บไว้ดูคนเดียว..


เวลาผ่านไปจนนานผิดปกติผมเลยตัดสินใจเดินอ้อมไปดูหลังตึก เห็นหลังไวๆของคนใส่ชุดดำท่าทางแปลกๆ ความรู้สึกไม่ดีทำให้ผมรีบเดินมากขึ้น ภาพที่หมอกนอนคุดคู้มิอกุมท้องที่ทีเลือดไหลออกมาไม่หยุดทำให้ผมใจเสีย

...หมดสติไปแล้ว..


ผมรีบเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองกดแผลห้ามเลือดเอาไว้ ฉีกเสื้อเชิ้ตของตัวเองมาพันรอบเอวไว้ลวกๆ หน้าซีดๆนั่นยิ่งทำให้ผมลนเข้าไปใหญ่ มือรีบกดโทรศัพท์หาลูกน้องให้เอารถมารับ ผมนั่งกดแผลอยู่อย่างนั้น


ไม่กี่นาทีรถโรสลอยด์สีดำสนิทก็มาถึง ชายฉกรรจ์สองคนคนหนึ่งดูมีอายุนิดหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะร่างกายดูแข็งแรง ทั้งสองรีบกุลีกุจอลงจากรถ

นี่นับเป็นเรื่องแปลกของพวกเขา เพราะเจ้านายของพวกเขาคนนี้ ไม่ชอบการมีลูกน้องคอยติดสอยห้อยตาม แต่กลับโทรเรียกอย่างเร่งด่วนด้วยน้ำเสียงรีบร้อนแบนานๆจะมีที

ภาพที่เห็นต่างพาให้พวกเขาล้วนแปลกใจ ไม่ใช่ภาพคนนอนสลบมีคราบเลือดเลอะเทอะเต็มเสื้อผ้า แต่เป็นภาพเจ้านายของเขาอุ้มคนนั้นเดินมาอย่างระมัดระวังมากกว่า

ทุกคนต่างสงสัยกันว่าเด็กหนุ่มที่สลบอยู่นั้นเป็นใคร ไม่มีใครเคยเห็นหน้า แต่ก็ได้แต่เงียบไม่ถามออกไป

ระหว่างเดินทางพวกเขาต้องเร่งความเร็วเต็มที่ตามคำสั่ง การที่เห็นเจ้านายตัวเองนั่งปฐมพยาบาลให้เด็กคนนั้นอย่างตั้งใจนับได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ในชีวิต


     แต่เรื่องมันชักจะแปลกใหม่เกินรับไหวเพราะเมื่อถึงรพ. เจ้านายของพวกเขายังต้องการให้เจ้าของเคสเป็น ผอ. รพ. คุณวรินทร์ หมอศัยลฯมือหนึ่งของที่นี่เท่านั้นอีกด้วย ซึ่งปกติแล้วหมอวรินทร์จะไม่ค่อยรับเคสผ่าตัดบ่อยเท่าไหร่แล้ว เน้นไปทางด้านบริหารมากกว่า เล่นเอาวุ่นวายไปทั้งรพ.
 แต่เมื่อรู้ว่าใครเป็นคนขอมาทุกอย่างก็ดำเนินการไปอย่างเรียบร้อย ด้วยความสนิทสนมของตระกูลคุณเวหา กับทางรพ. ดูท่าพอจบเรื่องนี้คงต้องหาข้อมูลเรื่องคนที่เจ้านายพวกเขาพามากันอย่างละเอียด


การผ่าตัดเป็นไปอย่างเรียบร้อยตอนนี้หมอกกำลังนอนพักฟื้นอยู่ในห้องพักพิเศษของรพ.ก่อนที่ทางรพ.จะโทรไปแจ้งญาติ ซีนอนก็ขอเข้าไปเยี่ยมก่อน ใบหน้าของหมอกยังคงซีดเซียวแต่ก็ถือว่าดีขึ้นแล้ว

หมอบอกว่าหมอกอาจจะหลับนานสักนิดเพราะร่างกายอ่อนแอขาดการพักผ่อน พอคิดไปถึงว่าใครเป็นคนมาทำร้ายหมอกของเขา ก็พาลให้หงุดหงิด ดูจากรูปการแล้วไม่น่าจะเป็นนักเลงทั่วๆไป เขาสั่งให้ลูกน้องตามสืบเรื่องนี้อย่างลับๆอีกทาง ถ้าเป็นคนในวงการเดียวกับเขาก็คงจะต้องเกรงใจกันบ้าง




     คิดได้ดังนั้นซีนอนเลยถอดสร้อยข้อมือของตัวเองออกส่งให้ช่างดัดแปลงอย่างเร่งด่วนโดยทำให้ถอดด้วยวิธีธรรมดาไม่ได้แถมด้วยสลักชื่อเขาลงไปอีก ก่อนบรรจงใส่ให้ข้อมือบางอย่างทะนุถนอม ใจจริงแล้วเขาอยากเฝ้าอยู่จนหมอกฟื้น เพื่อจะได้สร้างความใกล้ชิดไปอีกขั้น แต่เพราะมีโทรศัพท์ด่วนเข้ามาจากบ้านใหญ่ ทำให้เขาต้องกลับไปก่อน อดที่จะเสียดายไม่ได้แต่ก็เบาใจอย่างน้อยเขาก็ได้มอบจองสำคัญไว้ให้ก่อนแล้ว
และวันนี้ที่เขาได้เจอหมอก เรียกว่าบังเอิญก็คงเว่อร์ไปหน่อย เพราะตอนแรกเขาแค่จงใจขับรถผ่านคอนโดนี้เฉยๆ(?) แต่ดันเห็นคนทำท่าทางลับๆล่อๆอยู่ข้างคอนโดเลยเอะใจลงไปดูและเหตุการ์ณก็เป็นไปตามนั้น

ไม่ถึง15นาทีหลังจากวางสายเสียออดประตูก็ดีงขึ้น ซีนอนหลุดจากภวงค์และรีบไปเปิดประตูทันที

“ไหน มึงเป็นอะไร!!” ไอ้หมอรีบถามอย่างลุกลี้ลุกลน และยิ่งเห็นผ้าขนหนูเปื้อนเลืดที่มือผม มันก็ยิ่งดูจะสติแตกเข้าไปใหญ่

“ไม่ใช่กู ตามมาเร็ว” ผมรีบเดินนำหมอเซนต์มาในห้อง ตอนที่มันเห็นหน้าหมอกก็ดูจะงงอยู่นิดหน่อย แต่พอเห็นแผลของหมอกก็รีบถลาเข้าไปดูอาการทันที

“แย่ละมีไข้ด้วย สงสัยจะติดเชื้อ” ไอ้หมอพึมพัม และรีบมันผมยาวๆของตัวเอง ก่อนเปิดกระเป๋าอุปกรณ์และเริ่มลงมือฉีดยา และเย็บแผลให้หมอกทันที ใช้เวลาไม่นานนักหมอก็พยักหน้าให้ซีนอนเชิงว่าไม่เป็นไรแล้ว ร่างใหญ่ถอนหายใจแล้วทรุดนั่งลงบนโซฟาทันที

“ให้พักผ่อนอีกซักหน่อยก็คงไม่เป็นไร ต้องให้ยาฆ่าเชื้อต่อด้วย ทางที่ดีพาไปโรงพยาบาลเถอะ” ไอ้เซนต์พูดพลางถอดถุงมือยาที่เต็มไปด้วยเลือดออก

“ไม่ได้ มันอันตรายไป” ผมตอบแทบจะทันที ตอนนี้สถานการ์ณของหมอกมันเสี่ยงเกินไป เขายังไม่รู้เลยว่าทำไมหมอกถึงโดนตามทำร้ายขนาดนี้ นี่มันเกินระดับนักเลงทั่วไปแล้ว แถมสองคนนั่นที่เห็นที่ลานจอดรถ เขาก็คุ้นหน้ามาก ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีเลย





“ถึงเวลามึงอธิบายให้กูฟังละ” ไอ้หมอเซนต์ยืนเท้าเอวก่อนจ้องมาที่ผม ผมพยักหน้าก่อนเดินออกมาอธิบายเรื่องราวให้มนฟังข้างนอก  ไม่อยากรบกวนคนที่นอนอยู่






.

.


.

“เรื่องก็เป็นอย่างที่ว่าแหละ” ผมเล่าทุกอย่างให้เซนต์ฟังตั้งแต่ผมเจอหมอกได้ยังไง จนถึงทำไมหมอกถึงเป็นแบบนี้


สีหน้าไอ้เซนต์มีทั้งแปลกใจตลกแล้วก็เครียดวนไปวนมาจนผมเล่าจบ มันกลั้นยิ้มแต่สุดท้ายก็ขำพรืดออกมา


“ตลกมึงวะ เป็นเอามากนะ”

“เออหน่า แล้วสรุปเป็นไง เป็นอะไรมากไหม” ผมพยายามปัด แล้วถามต่อ

“ก็ไม่เป็นไรมาหรอก เช้าไข้ก็น่าจะลด ที่น็อคไปอย่างนี้เพราะพักผ่อนน้อยด้วยแหละ พักอีกสักอาทิตย์แผลก็น่าจะแห้งแล้ว”  ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับแต่เหมือนไอ้หมอยังไม่อยากหยุด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนหน้ามัน

“แต่ก็ว่านะ ผิวสวยๆหุ่นดีๆนั่น ถ้ามีแผลเป็นคงจะแย่....โอ้ย ครับๆ ท่านเวหา ไม่ต้องทำหน้าดุขนาดนั้นก็ได้ ผมไม่ยุ่งหรอกครับๆ”


มือสองข้างโบกไปมา ใบหน้ายังคงนิ้มแย้มถึงจะโดนสายตาอาฆาตจากเพื่อนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

"ปากหาเรื่อง" เหมือนแววตาจะเปลี่ยนไปโดยอัตโนมัติจากสงบนิ่งเป็นดุดันทันทีที่ได้ยินคำพูดน่าขัดใจ

"ก็อดไม่ได้นี่หว่านานๆจะเห็นอะไรดีๆอย่างนี้ ไปหามาจากไหนวะ" แน่นอนว่าไอ้หมอมันต้องสังเกตุเห็นเสน่ห์ของหมอกๆแน่ๆ อย่างกับมันน้อยซะที่ไหนละ เห็นอย่างนี้เปลี่ยนคู่ควงแทบไม่ซ้ำหน้า หน้าใจดีซื่อๆแบบนี้อย่าไปหลงกลเข้าเชียว กลับมาร้องไห้น้ำตานองกันเป็นแถบ

"ไม่บอก นี่ถ้าไม่ติดว่าลุงหมอไปต่างประเทศ กูไม่ให้มึงตรวจหมอกหรอก”

"ทำเป็นหวง โธ่ กูเห็นหรอกสร้อยอะ ยังไม่อยากเป็นไข้โป้งตาย"

"ก็ดี แล้วข่าวที่ให้หาว่าไงบ้าง”

"เงียบจนผิดปกติ พวกมันระวังตัวขึ้นมากเหมือนรู้ว่าฝ่ายเรากำลังหาโอกาสเล่นงานมันอยู่" น้ำเสียงขี้เล่นหายไปเหลือแต่ความจริงจัง แววตาหลังเลนส์เข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

"คิดว่ามีหนอน?" ระดับเสียงในการสนทนาเบาลงไปถนัด หน้าของทั้งคู่เริ่มเครียดขึ้นอย่างชัดเจน ซีนอนขบกรามแน่น ที่เขาเกลียดที่สุดคือคนทรยศ

"เป็นไปได้ พวกมันรอดจากเราไปหลายครั้งแล้ว มันผิดปกติเกินไป ตอนนี้ยังได้ข่าวแว่วๆว่าพวกมันกำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่”

"แจ้งไปที่แฟมิลี่ยัง”

"เรียบร้อย ทางนั้นบอกมาว่ารอดูท่าทีไปก่อน”

“ดีแล้ว"






“ดูท่าคนไข้ของฉันจะตื่นแล้ววะ”  นั่งคุยงานกันอยู่สักพักใหญ่ ผมก็ได้ยินเสียงก้อกแก้กดังมาจากในห้องนอน ไอ้หมอรีบชิงตัดหน้าลุกขี้นก่อนและทำหน้ายียวนใส่ ไม่วายตอนจบก็อดที่จะกวนอารมณ์อีกคนไม่ได้
 ประตูห้องนอนปิดออก พบกับเจ้าของนัยน์ตาสีดำ ที่ตอนนี้ดูกำลังมึนงงกับอะไรสักอย่างพยายามดันตัวเองขึ้นนั่ง ทั้งๆที่ก็น่าจะรู้ว่าสังขารตัวเองไม่อำนวย

“จะทำอะไร นอนนิ่งๆสิ” ทันทีที่สำเนียงแปร่งทัก ดวงตาสีดำเข้มนั่นก็ชักไม่พอใจทันที แถมยังจะฝืนตัวเองลุกขึ้นมาต่ออีก

“อย่าดื้อสิ นอนลงไป” ถึงตาร่างใหญ่ผมสีเฮเซลนัทรีบจ้ำอ้าวแล้วกดร่างโปร่งลงไปนอนราบกับเตียงตามเดิม หมอกจึ้ปากอยางขัดใจ

“..กู หิวน้ำ” เสียงที่ติดจะแหบแห้งนั้นทำให้ซีนอนยิ่งห่วงไปอีก ต่างจากเสียงได้ฟังตอนแรกอย่างสิ้นเชิง

“นอนนี่แหละเดี๋ยวผมไปเอาให้” ซีนอนรีบจัดแจงพาตัวเองออกไปเอาน้ำมาบริการทันที




 


 หมอก



เมื่อห้องตกอยู่ในความเงียบ ทำให้หมอกเพิ่งสังเกตุเห็นผู้ชายอีกคน ผมสีเข้มยาวประบ่าถูกมัดไว้ลวกๆ แววตาใจดีที่อยู่หลังแว่นไร้กรอบ ความสูงที่ไม่ได้ด้วยไปกว่าไอ้ฝรั่งเมื่อกี้อีก หมอนี่เป็นใคร?? ดูท่าว่าหน้าตาสงสัยของเขาจะทำให้อีกคนรู้ตัว

“พี่ชื่อเซนต์ครับ เป็นหมอที่ซีนอนเรียกมาดูหมอกนะ” เสียงนุ่มตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มใจดี จนแอบคิดในใจว่าทำอย่างกับเขาเป็นเด็กๆ

“อ่า..ครับ” ผมได้แต่ตอบกลับไปสั้นๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

“อย่าพยายามขยับมากนักนะ ถ้าต้องเย็บอีกรอบพี่จะไม่ฉีดยาชาให้ด้วย”

ผมทำหน้าเจื่อนๆ ถึงแม้เย็บแผลมันจะเจ็บระดับที่ทนได้ แต่ถ้าให้เลือกใครกันหละจะอยากเจ็บ พอสังเกตุเนื้อตัวตัวเอง ก็ยังเห็นว่าผมยังสวมเสื้อตัวเดิมอยู่ คราบเลือดที่ผมเห็นเองก็ยังตกใจเหมือนกัน ที่แผลถูกปิดไว้อย่างเรียบร้อย ต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่เนี่ยผมถึงจะหายดี

“ขอถามอีกเรื่องนึง... ไอ้ฝรั่งคนนั้นเป็นใคร” ผมรู้แค่มันชื่อซีนอน แล้วก็เป็นคนที่ช่วยผมไว้ทังสองครั้ง

“อ้าว นึกว่ารู้จักกันแล้วซะอีก” หมอถามหน้าประหลาดใจ


“รู้แต่ว่าชื่อซีนอน แล้วก็เป็นคนช่วยผม”


“ฮ่าๆ จริงหรอเนี่ย ..ไอ้ฝรั่งที่ว่านั่นหน่ะ ว่าสิ  พี่ยังสงสัยเลยว่าหมอกไปพูดอย่างนั้นกับมันได้ไง” ประโยคแรกหมอเซนต์เหมือนจะพูดกับตัวเอง แล้วค่อยมาอธิบายให้ผมฟัง ผมเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจ


“ให้ซีนอนเล่าให้ฟังเองจะดีกว่า อยากรู้อะไรก็ถามมันสิน่าจะยินดีตอบอยู่แล้วแหละ” อีกฝ่ายพูดต่อขำๆ
 

“ช่างมันก่อนเถอะครับ ว่าแต่รบกวนช่วยหยิบเสื้อในตู้ให้ผมได้ไหม” หมอพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะชี้ไปที่ตู้เสื้อผ้าที่อยู่อีกฝั่งนึงของห้อง ผมพยักหน้า ก่อนที่หมอจะหยิบเอาเสื้อยืดสีขาวมาให้ผม


“นี่ครับ..ให้พี่ช่วยเปลี่ยนไหม?” ผมส่ายหัวหึ ก่อนจะหยิบเสื้อมาเปลี่ยนเอง ออกจะทุลักทุเลอยู่นิดหน่อย แต่ในที่สุดผมก็สามารถถอดเสื้อตัวเก่าออกได้ ผมเห็นหมอแอบยิ้มแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ระหว่างที่ผมกำลังจะสวมเสื้อตัวใหม่ ประตูห้องก็เปิดออก ไอ้ฝรั่งยืนทำหน้าแปลกๆที่มือถือแก้วน้ำนิ่งอยู่ที่ประตู


ผมนั่งมองมันอยู่พักนึงแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับ


“เอ๋อรึไง น้ำมันคงเดินมาเองได้”  ไม่รู่ว่าทำไมเหมือนกัน เวลาที่พูดกับไอ้ยักษ์นี่ผมถึงเผลอพูดไม่ดีไปหลายครั้ง จะว่าไม่ชอบหน้าก็ไม่ใช่หรือผมจะหมั่นไส้ที่มันหล่อกว่า อ่า..นี่ก็ไม่น่าใช่นะ ยอมรับว่าปกติผมก็ปากหมาอยู่แล้วแต่นี่ บางที่ผมเองยังรู้สึกว่าเกินไปเลย แปลกแฮะ


“ไม่เห็นต้องพูดไม่ดีเลยนี่” แต่ถึงยังไงซีนอนก็ไม่มีท่าทีจะโกรธผมอยู่ดี ผมรับน้ำธรรมดามาดื่นส่วนไอ้ซีนอนหันไปกระซิบกระซาบกับหมอ ผมได้ยินคร่าวๆ ประมาณว่า

‘ใช่อย่างที่กูเห็นไหมวะ’ แล้วหมอก็ขำแล้วพยักหน้า ซีนอนทำท่าทางฮึดฮัดนิดหน่อยก่อนจะบ่นแล้วไล่ให้คุณหมอกลับไปทำงาน

ผมขำ พอจะนึกออกว่าเรื่องอะไรแต่ก็ได้แต่ทำเหมือนไม่ได้ยินไป ไม่นานหลังจากที่ซุบซิบกันเสร็จ หมอก็ยิ้มแล้วก็บ๊ายบายให้ผมและบอกว่า พรุ่งนี้จะมาดูแผลให้อีกที อย่างน้อยผมก็เบาใจว่าไม่ต้องกลับไปนอนเบื่ออยู่ที่รพ.


ส่วนเรื่องไอ้ฝรั่งนั่น ทำไมผมจะไม่รู้ว่ามันสนใจผม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อยที่ผมมีผู้ชายมาสนใจ

ปกติผมก็จะทำเป็นไม่รับรู้แล้วก็ปล่อยผ่านไปแล้วเดี๋ยวก็จะค่อยๆหายกันไปเอง แต่กับไอ้ฝรั่งนี่ผมกลับรู้สึกหมั่นไส้เป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะว่าผมอยู่ในร่างเด็กเนิร์ดมานานเรื่องพวกนี้เลยหายๆไปบ้าง ตอนนี้เลยรู้สึกสนุกเป็นพิเศษ ถัาได้แกล้งนิดแกล้งหน่อย ก็คงรู้สึกไม่เลวอยู่เหมือนกัน




________________________________________

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ซาบซึ้ง :hao5:
พระเอกของเราโรคจิตค่ะ
ชอบให้หมอกทำร้ายจิตใจ555555555

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH03.2 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 25-03-2017 16:47:38
ต๊ายยยเคะราชินี  :hao7: :hao7: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH03.2 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 25-03-2017 20:24:11
อย่าไปแกล้งพี่เขาแรงนะจ๊ะ เดะพี่เขาร้องไห้เอาน๊า  :hao3:
นอกจากเรื่องเจ็บตัว และปริศนาที่ยังไม่เผย เราเห็นความมุ้งมิ้งจากตัวพระเอกแระ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH03.2 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 25-03-2017 20:48:21
ยังงงๆ รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH03.2 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 26-03-2017 00:10:41
 o13
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH03.2 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 26-03-2017 01:15:43
น่าอ่านมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH03.2 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 27-03-2017 18:06:54
ชอบอ่ะ ชอบ สนุก รอค่ะ :katai3:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH04 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 31-03-2017 22:32:31






4



Xenon


     ไอ้เซนต์กลับไปแล้วเหลือแต่ผมกับหมอกอยู่ในห้องเงียบๆ เสียงแอร์เบาๆทำให้ไม่เงียบจนน่าอึดอัด ตอนนี้ผมกำลังทำสมาธิให้ใจเย็นลงและหายตื้นเต้น

ภาพหมอกเปลือยท่อนบนที่ผมเพิ่งเคยเห็นเต็มๆเป็นครั้งแรกมันเกินกว่าที่ผมจะรับไหวจริงๆ

ผมถอนหายใจออกเฮือกใหญ่

แววตาสีดำนั่นยังจ้องผมนิ่งผมไม่ได้หลบสายตา ด้วยหน้าที่ของผมการอ่านนิสัยหรือมองสีหน้าคนให้ขาดเป็นเรื่องจำเป็น

ทั้งในการเจรจาธุรกิจการวางตัวหรือการตัดสินใจ การอ่านนิสัยความคิดของคนๆนึงแทบจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมต้องใช้ทุกวัน ผมมองไปที่ตานั่นมองไปในการกระทำนั้นๆมันมีหลายอย่างเกี่ยวกับเขาที่ผมยังไม่รู้ เป็นคนหนึ่งที่ผมไม่สามารถที่จะใช้เวลาเพียงแว้บเดียวในการอ่านทั้งหมด


ต่างจากคนอื่นมาก




“จะจ้องอยู่อย่างนั้นทั้งวันเลยไหม” วาจาเฉือดเฉือนจิตใจขอหมอกเป็นตัวทำลายความเงียบ

ผมก็ไม่เข้าใจอีกแล้ว ถ้าเป็นคนปกติมาพูดจาปาวๆอย่างนี้ใส่ผมก็คงจะได้ไปนอนเล่นในมหาสมุทรสักที่หนึ่งแล้วแหละ  แต่การกระทำของคนนี้กลับทำให้ผมรู้สึกว่า น่ารักน่าเอ็นดู

เอ้ะ..หรือว่าเราจะเป็นพวกมาโซคิสด์ ผมไม่ได้เถียงอะไรออกไปแต่ยังคงจ้องหน้าเรียวอยู่อย่างนั้น เพราะอยากจะกวนอารมณ์อีกฝ่าย

“หรือว่าจะสนใจ...ไอ้นี้” นัยน์ตาสีดำวาววับก่อนจะลูบไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง เสื้อสีขาวบางๆนั้นยิ่งทำให้ผมเห็น อะไร ที่ผมสงสัยชัดเข้าไปอีก

โดนโต้ตอบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้


โอ้ย..คนแก่หัวใจจะวาย


บทเขาจะยั่วก็ยั่วซะผมเข่าอ่อนเลย ผมหายใจออกจมูกแรงๆพยายามระงับขาตัวเองที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า


หมอกหัวเราะ..


“ตอนเจาะมันก็เจ็บอยู่ แต่อยากลอง..เห็นเขาบอกว่าจะทำให้รู้สึก อะไรๆ ไวขึ้น...ก็นะถ้าจะจริง”

หมอกพูดไปเรื่อยเหมือนได้ใจที่เห็นอาการของผม เข่าผมแทบทรุดยวบลงไปนั่งกองกับพื้น

เกิดมาเกือบจะสามสิบปี เพิ่งเจอคนแบบนี้

ปกติมันต้องเป็นผมสิที่ต้องทำให้คนอื่นขาอ่อน

นิ้วเรียวๆนั้นยังคงเขี่ยหน้าอกของตัวเองไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มันเริ่มขึ้นเป็นไตนูนดันเสื้ออกมา

ทำให้ผมเห็นรอยจิวที่เจาะอยู่ตรงนั้น

ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเจ็บอยู่นะ ผมจะจัดการเอาให้นอนหอบลกไปไหนไม่ได้เลย


“ยั่วพี่อย่างนี้ ระวังจะเจ็บตัวนะครับ” ผมกลืนน้ำลายดับความหื่นของตัวเอง ก่อนจะพูดออกมาโดยพยายามให้เสียงสั่นน้อยที่สุด

แต่ไม่รู้ทำไม หมอกเลยหลุดหัวเราะออกมาอีกรอบ

“ ‘อย่างอื่น’ ก็มีนะ แต่คงไม่ได้เห็นหรอก” แต่เหมือนอีกคนจะไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรเลย ถึงยังพูดออกมาแบบนั้น ผมแยกเขี้ยว ต่อให้เป็นพระอิฐพระปูนก็ทนไม่ไหวหรอกวะ ผมใช้วิชามารก้าวพรึบเดียวไปยืนต่อหน้าคนปากเก่ง หมอกดูตกใจนิดหน่อยแต่ก็กลับมาทำหน้านิ่งได้ในเสี้ยววิ


…...อยากทำให้บนหน้านี่มี อารมณ์ อื่นจริงๆว้อย....


“รับรองว่าพี่ได้...เห็น..หมดทั้งตัวแน่ๆครับ” ผมพูพร้อมโน้มหน้าไปใกล้ แต่อีกฝ่ายใช้มือดันหยุดผมเอาไว้ก่อน

“กลัวหรอ” ผมแกล้งยุ

ที่ผมรู้แน่ๆคือหมอกไม่ใช่คนที่ยอมให้คนอื่นมาสบประมาท ผมเลยใช้ข้อนี้มาจี้จุด

หน้าหมอกกระตุกนิดนึงตามคำพูดของผม



“หึ แค่อยากเป็นฝ่ายรุก.. มันเร้าใจกว่าหน่ะ”


ไม่พูดเปล่าแต่คนตรงหน้ายังดึงคอเสื้อผม จนหน้าเข้าไปใกล้ ประโยคท้ายจมูกเราแทบจะแตะกันด้วยซ้ำ

ตาสีดำนั่นวาววับเหมือนถูกใจ

ผมยิ้ม

ถือว่าประสบผลสำเร็จ

แต่ที่เหนือความคาดหมายกว่านั่นคือการที่หมอกตั้งใจดึงผมเข้าไปใกล้อีก ทำให้ปากบางๆนั้น เฉียดผ่านริมฝีปากผมไป  ก่อนที่จะแกล้งหายใจหนักหนักๆที่ข้างหูผม


“เรามันคนละระดับกันนะครับ ไอ้ฝรั่ง”

เสียงเซ็กซี่นั่นทำให้ผมยิ่งรู้สึกเคลิ้มไปใหญ่

แต่เสียงกริ้กของโลหะก็ทำให้ผมได้สติ


และผมก็เห็น 




..ว่าเข็มขัดของผมโดนถอดออกไปซะแล้ว..


หมอกยิ้มเยาะเหมือนผู้ชนะ ในมือถือสายเข็มขัดหนังสีน้ำตาลที่เมื่อนาทีที่แล้วยังอยู่ดีบนตัวผม

นี่มัน

แย่สุดๆไปเลย

ถ้าหมอกเป็นสายของแฟมมิลี่อื่นมีหวังผมคงโดนเชือดนิ่มๆไปแล้ว แต่ยังไงมันก็ถือว่าคุ้มอยู่ดีละวะ


“ถ้าแค่นี้ยังตาย ก็อย่าหวังได้แอ้มกูหรอก”


“ก็คอยดูแล้วกันครับ” ผมพูดยิ้มๆ ก่อนจะผละตัวออกมาเพราะเสียงออดที่ประตู



“คนของผมเอง เดี๋ยวมานะ” ตอนออกไปหยิบน้ำให้หมอก ผมโทรสั่งให้คนส่งการ์ดมาเฝ้าที่คอนโดนหมอกกลุ่มหนึ่งเพื่อความปลอดภัย ส่วนคนที่ขึ้นมาน่าจะเป็น เจย์ มือซ้ายของผม



“แต่ขึ้นมาได้ไง ไม่มีคีย์การ์ด”  หมอกพูดพร้อมทำคิ้วยุ่ง



“ระดับผมแล้ว แค่นี้เล็กน้อย”

เหมือนหมอกจะบ่นพึมพำอะไรสักอย่างแต่ผมได้ยินไม่ถนัด เพราะเดินออกมาจากห้องแล้ว


“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับนายน้อย” เมื่อประตูเปิดออกก็เจอกับลูกน้องคนสนิทในสูทสูทสีดำที่ผมเห็นอยู่ทุกวัน

“ดี เข้ามาสิ” อีกฝ่ายโค้งรับคำสั่งก่อนหยิบกระเป๋าอุปกรณ์ขึ้นมาวางตรงเคาท์เตอร์ห้องครัวและเริ่มทำงาน

“คุณคาลตันฝากมาบอกว่า นายน้อยต้องกลับไปเคลียร์งานภายในพรุ่งนี้นะครับ” เจย์พูดยิ้มๆ

“อืม ไว้พรุ่งนี้ฉันจะกลับไปแล้วกัน ตามฉันมาก่อนมีคนจะแนะนำให้รู้จัก”


บอดี้การ์ดหนุ่มโค้งอีกครั้ง เขายังเด็กอายุประมาณยี่สิบต้นๆเห็นจะได้ ชีวิตของเขาถูกเลี้ยงดูในแฟมมิลี่ของซีนอนมาตั้งแต่เกิดเพราะพ่อแม่ของเขาก็ทำงานให้กับแฟมมิลี่

เจย์ไว้ผมสั้นเซทเป็นทรงดูเรียบร้อย ความสูงของเจย์อาจดูน้อยเมื่อเทียบกับเจ้านาย แต่ก็ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับคนทั่วไป

หุ่นที่เพรียวบางแทบจะไม่เหมาะกับการเป็นบอดี้การ์ดแต่ก็ดูปราดเปรียวต่างจากหมอกที่จะดูมีกล้ามเนื้อมากกว่า จะว่าไปแล้วเจย์จะเน้นทำงานด้านบริหารมากกว่าการออกไปคุมลูกน้องหรือไปบู๊นอกสถานที่

ถึงยังไงขึ้นชื่อว่าเป็นมือซ้ายของเจ้าพ่อมาเฟียเขาเองก็ต้องมีของดีติดตัวอยู่เหมือนกัน

เจย์เดินตามเจ้านายของตัวเองเข้ามาในห้อง นั่นทำให้เขาได้เห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งนิ่งอยู่บนเตียง แถมยังมองเขาด้วยสายตาเย็นเฉียบจนเขาเดินสะดุดไปจังหวะหนึ่ง

พอมองดีๆก็พอจะนึกออก ว่าคนๆนี้คือคนเดียวกันกับคนที่นายน้อยของเขาช่วยไว้จากคราวที่แล้ว ครั้งนั้นเล่นเอาวุ่นวายไม่น้อยเลย ถึงกับต้องตามผอ.มาเป็นคนรับเคสเอง

เจย์เพิ่งได้สังเกตุหมอกชัดๆเป็นครั้งแรก ยอมรับเลยว่าคนตรงหน้ามีบรรยากาศประหลาดทำให้ไม่กล้าเข้าใกล้ ถึงอย่างนั้นก็ดูมีเสน่ห์ลึกลับจนอยากเข้าไปทำความรู้จัก แต่พอต้องบวกลบกับใบหน้านิ่งๆและท่าทีที่ดูไม่สนใจอะไรนั่นแล้ว เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องยอมถอยหลังออกมาแน่ๆ

เจย์ยืนเว้นระยะจากเตียงอยู่พอสมควร ไม่ใช่ว่าเกรงใจคนที่อยู่บนเตียงหรอกนะ แต่เกรงใจเจ้านายตัวเองมากกว่า


“ผมชื่อเจย์เลน เป็นคนที่จะมาคอยดูแลคุณช่วงที่นายน้อยไม่อยู่ครับ”  หมอกถลึงตาอย่างสงสัยเมื่อได้ฟังจบประโยค ก่อนจะหันไปส่งสายตาเย็นเฉียบใส่ซีนอน

“กูไม่ใช่เด็กนะถึงต้องมีคนมาคอยดูแล” ร่างโปร่งบนเตียงเถียงขวับ สีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด


“แล้วถ้าเกิดเรื่องแบบวันนี้อีกละครับ ให้เจย์อยู่เป็นเพื่อเถอะ ไม่งั้นผมไม่สบายใจ” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อน นั่นก็พอจะสร้างความสงสัยในหัวของเจย์เลนได้พอสมควร


“เสือกนะมึง” หมอกบ่นต่อไม่ได้ด่าผมแรงๆเหมือนปกติที่ทำ ถือว่าผมค้นพบอีกวิธีที่จะทำให้หมอกฟังก็แล้วกัน ผิดกับบอดี้การ์ดของผมที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกตาถลนตั้งแต่หมอกชักสีหน้าใส่ผมแล้วหละครับ


“รับรองว่าผมจะอยู่แบบเงียบๆครับ” เจย์พูดขึ้นมาบ้าง


“ผมไม่ว่าอะไรนายหรอก ไอ้ฝรั่งเจ้ากี้เจ้าการนี่ต่างหาก” ไม่วายผมก็โดนแขวะอีกรอบ แถมยังโดนแยกเขี้ยวใส่อีก แต่ผมหัวเราะนะ  ก็มันน่ารักนี่

ต้องกระแอมเพื่อเรียกสติกลับมาเพราะลืมตัวไปว่ามีเจย์อยู่ในห้องนี้ด้วย ไม่ค่อยอยากหลุดฟอร์มต่อหน้าลูกน้องตัวเองเท่าไหร่แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ทันแล้วเมื่อมันตั้งใจยืนกลั้นขำอยู่


“ผมว่าผมออกไปรอข้างนอกดีกว่าครับ” เจย์มองหน้าผมแล้วยิ้ม พลางโค้งตัวลาก่อนจะเดินไปที่ประตู แต่ก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาก่อน


“นายหน่ะไม่ต้อง ที่ต้องออกไปคือมึงไอ้ฝรั่ง”

“แต่..”

“ให้ไว”

สุดท้ายก็เป็นผมนี่แหละครับ ที่ต้องอันเชิญตัวเองออกมานั่งที่โซฟาข้างนอกเงียบๆ









      หมอก 



“อืม..เจย์ ผมหมอก” ผมเริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงไม่ซีเรียสนัก ดันตัวเองนั่งขัดสมาธิพิงหัวเตียง

“ครับ นายน้อยเล่าเรื่องคร่าวๆของคุณให้ฟังแล้ว” เสียงสุภาพตอบกลับมา ดูแล้วคนๆนี้ไม่เห็นจะเหมาะกับงานบอดี้การ์ดตรงไหนเลย ดูเรียบร้อยแล้วก็สุภาพมาก เหมือนเอาเด็กม.ปลายมาใส่สูทมากกว่า แตกต่างจากการพูดจาและวางตัวก็แสดงได้ว่าถูกอบรมมาอย่างดี

“ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้”


เจย์ทำท่าจะเถียง ผมเลยต้องส่งสายตาดุๆออกไปให้หยุด มันไม่ชินหรอกนะครับที่อยู่ๆก็มีคนมาพูดเพราะๆด้วยทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้เป็นคนสุภาพอะไรมันทำให้รู้สึกจั้กจี้มากกว่า จุดประสงค์ที่ผมไล่ไอ้ซีนอนออกไปอย่างนั้นก็เพื่อจะได้ถามอะไรนิดๆหน่อยๆเกี่ยวกับหมอนั่นจากเจย์ ถ้าให้ไปถามกับเจ้าตัวผมขอบายดีกว่า



รู้ไว้ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย



ในเมื่อยังไงๆก็ดูเหมือนจะเลี่ยงกันไม่ได้งั้นสู้ทำให้รู้จักดีไปเลยดีกว่าอีกอย่างผมก็แอบจะติดใจการแกล้งหมอนั่นเล่นอีกด้วย


สรุปก็คือซีนอนมันเป็นลูกครึ่งไทย-อิตาลี  แถมครอบครัวของมันก็ยังไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาแต่เป็นถึงเจ้าพ่อมาเฟียรายใหญ่ของแถบยุโรป ควบคุมกิจการประเภทโรงแรม คาสิโน คลับและอื่นๆอีกมากมาย

ซีนอนมาอยู่ไทยกับแม่แค่สองคนส่วนเรื่องพ่อของมันเจย์พยายามที่จะตอบเลี่ยงๆ ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรมาก ผมรู้แค่ว่าหัวหน้าครอบครัวของซีนอนคือปู่ซึ่งยังอาศัยอยู่ที่อิตาลีบ้านเกิด ปกติซีนอนจะเทียวไปเทียวมาระหว่างอิตาลี-ไทย เป็นประจำ


ส่วนคำถามที่ว่าซีนอนมาเจอผมได้ไงตอนที่ผมโดนแทงนั้นเจย์ก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะปกติตัวเองจะทำงานอยู่ที่บริษัทมากกว่า หน้าที่ตามติดซีนอนไปไหนมาไหนก็คือมือขวาที่เจย์บอกว่าชื่อ ราฟ แต่จากที่ราฟ เล่ามาก็ประมาณว่าแอบตามผมไปแล้วก็เจอผมนอนจมกองเลือดอยู่

ว่าไปแล้วก็ถือว่าผมโชคดีแหละ ถึงแผลจะไม่ลึกมาก แต่ถ้าต้องนอนอยู่อย่างนั้นแล้วไม่มีใครเจอก็ท่าจะแย่ดีไม่ดีอาจจะเลือดหมดตัวตายก็เป็นได้


พอคุยกันได้สักพักหนึ่งผมก็เริ่มง่วงอีกรอบ เลยบอกให้เจย์ออกไปพักผ่อนตามสบาย โดยไม่ลืมที่จะสั่งให้ล็อคห้องให้ก่อนออกไปด้วย กันผีบ้าเข้ามาทำอะไรพิเรนทร์ๆในห้อง



________________________________________



มาต่อแล้วค่ะ ♥
วันนี้มาต่อแบบยาวๆ
ตอนแรกกะว่าจะแบ่งเป็นสองพาร์ท
แต่ตัดสินใจลงรวดเดียวไปเลยดีกว่า555
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดพรุ่งนี้จะมาต่ออีกตอนค่ะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนเลย

 :pig4: :pig4:



หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH04 25.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 31-03-2017 23:02:11
เย้ นักเขียนมาอัพล้าวววว
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │UP!! CH04 31.3.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 01-04-2017 23:09:49
น่าอ่านมากครับ. มาต่อเน็วๆนะครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพเดต CH05.1 2.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 02-04-2017 14:19:56


5

5.1


พอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นว่าเกือบเที่ยงแล้วแถมท้องยังร้องอีกด้วย ผมค่อยๆลุกจากเตียงแล้วเดินช้าๆจนมาถึงประตูรู้สึกตึงๆที่แผลแต่ก็ไม่ได้เจ็บมากเหมือนเมื่อคืน

ด้านนอกไร้เงาของเจย์เลนมีแต่ซีนอนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะกินข้าว มันเงยหน้าขึ้นมาเห็นผมก็รีบลุก ก่อนจะก้าวฉับๆเข้าไปในครัวแล้วหยิบถ้วยโจ๊กมาวางที่โต๊ะ

“ทานอะไรก่อนนะครับ”

หน้าตายิ้มแย้มของมันน่าหมั่นไส้จนผมหลุดทำเสียง หึ ฟอร์มมาอย่างกับทำเองแต่ผมแอบเห็นถุงร้อนที่อยู่หลังเคาท์เตอร์ ผมยิ้มในใจกับถ้วยโจ้กตรงหน้า ก่อนจะค่อยๆลงมือทานโดยที่มีตาสีน้ำตาลนั่นจ้องสลับไปมากับหนังสือพิมพ์

“ไม่มีการมีงานทำหรือไง”



โจ้กหมูร้อนๆส่งกลิ่นหอม ถูกผมจัดการไปด้วยความรวดเร็ว ผมหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะส่งข้อความสั้นๆไปหาปลายทาง แอบเหลือบมองซีนอนแวบนึงก็เห็นว่ามันยังคงสนใจหนังสือพิมพ์ในมือมันอยู่



ไม่นานเสียงโทรศัพท์ที่ผมรอก็ดังขึ้น เป็นหมายเลขไม่โชว์เบอร์ ผมสูดหายใจเข้าเพื่อเรียกสติก่อนจะกดรับ

"Ciao?"

ทันทีที่ผมกดรับโทรศัพท์เสียงจากปลายสายก็รัวใส่หูผมไม่หยุด และให้ซีนอนที่ทำหน้างงๆ



" Papa, ti devi calmare, okay? .. Right now am fine ลูกพ่อแข็งแรงจะตาย"
(ใจเย็นครับพ่อ ตอนนี้ผมไม่เป็นอะไร ลูกพ่อแข็งแรงจะตาย)



ผมเหลือบไปเห็นซีนอนที่นั่งทำตาโต จะว่าไปที่ผมพูดเมื่อกี้ก็เป็นภาษาบ้านเกิดของไอ้ฝรั่งซีนอนนี่หว่า พ่อของผมเป็นคนไทยนะคนไทยแท้ๆนี่แหละแต่แม่ของผมเป็นลูกครึ่งสเปน  พ่อทำธุรกิจตระเวนไปตระเวนมาอยู่หลายประเทศ ทำให้ผมต้องย้ายบ้านตามอยู่บ่อยๆ เพราะงั้นสกิลด้านภาษาผมเลยมีหลากหลายมาก แต่6-7ปีหลังมานี้พ่อกำลังขยายธุรกิจในแถบยุโรป อิตาลีก็เป็น 1 ในประเทศเหล่านั้นแถมยังเป็นที่ตั้ง HQ ของบริษัท  เพราะงั้นทั้งพ่อและแม่ของผมจึงอยู่อิตาลี แต่ก่อนผมก็อยู่นู่นนะ


แต่ไม่เอาแล้วหล่ะ ผมค้านหัวชนฝาว่ายังไงก็จะย้ายกลับมาไทยให้ได้ ต่อให้ต้องมาอยู่คนเดียวก็ยอม อีกอย่างเพราะความอิสระในชีวิตที่ผมได้รับ ผมเพียงแค่ไปหาพวกท่านบ้างเช่นช่วงซัมเมอร์

ผมเดินกลับเข้าห้องนอนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการคุยโทรศัพท์ พ่อซักไซ้ถามอาการผม ซ้ำแล้วๆซ้ำอีกผมก็ได้แต่ตอบว่าไม่เป็นอะไรแล้ว


'มาอยู่นี่ดีไหม'  นี่เป็นคำถามที่ผมกลัวที่สุด ผมอยากอยู่ไทย ไม่อยากกลับไป ที่นั่น อีกแล้ว

"พ่อก็รู้ว่าผมไม่ไปหรอก อีกอยากเรื่องนี้อาจจะเป็นแค่นักเลงทั่วไปที่หมอกเคยมีเรื่องด้วยก็ได้"

'พ่อรู้ว่าหมอกดูแลตัวเองได้ แต่พ่อกลัวว่าสักวันต้องรับโทรศัพท์จากโรงบาลเรื่องของลูกนะ'

"ผมเก่งนะ พ่ออย่าลืมสิ"  ผมพูดเสริมให้พ่อไม่ต้องคิดมาก

'กลัวว่าจะเป็นเพราะพ่อ'

"ไม่มีใครรู้หรอกครับ เรื่องผมเป็นลูกพ่อหน่ะ" ผมพูดติดตลก มันเป็นเรื่องจริง ผมไม่เคยบอกใครเลยว่าพ่อผมทำงานอะไร แม้กระทั่งนาย มันยังเข้าใจว่าพ่อผมแค่ทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศเฉยๆ อีกอย่างที่ทำให้คนอื่นไม่รู้เพราะผมใช้นามสกุลแม่

'นี่ถ้าแม่รู้พ่อหูชาแน่เลย แล้วนี่พ่อจะเอาอะไรมาประกันได้ว่าลูกพ่อจะปลอดภัย'

"ก็เชื่อผมไง"

'ยังไงพ่อก็ต้องทำอะไรซักอย่าง ให้พ่อส่งคนไปอยู่ด้วยไหม?'

"พ่อก็รู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ลำพังไอ่ฝรั่งที่อยู่ด้วยตอนนี้ก็วุ่นวายจะแย่"

'หืม ใคร' น้ำเสียงของพ่อไม่ใช่โมโหแต่เป็นแนวประหลาดใจสะมากกว่า

"อ่อจริงสิ มันก็เป็นลูกครึ่งอิตาลีนะพ่อ ซีนอน  จี.."

'จีโอวานี่!!?'

"ใช่ แล้วพ่อจะตะโกนทำไมเนี่ย"

'พระพาย หนูไปรู้จักกับคนพรรคนั้นได้ยังไง! มันไม่ปลอดภัย คบไม่ได้! เลิกยุ่งกับคนพวกนั้นเดี๋ยวนี้!....'


ผมถอนหายใจเฮือก ถ้ารู้ว่าฟีตแบคออกมาเป็นอย่างนี้ก็จะไม่เล่าให้ฟังหรอก


"หนูดูแลตัวเองได้หน่า แค่นี้แล้วกันนะคุณพันนที"


ผมพูดตัดบทแล้วรีบดตัดสายไปอย่างช่วยไม่ได้ ลองคุณพันนทีเรียกพระพายเมื่อไหร่ สามชาติแปดชาติก็ยังบ่นไม่หมด แต่หลังจากวางสายผมก็ส่งข้อความไปบอกพ่อว่าผมไม่เป็นไรจริงๆ ผมดูแลตัวเองได้


ผมเดินออกมาเพื่อจะกินข้าวต้มที่เหลืออยู่ให้หมด ฝรั่งมันก็ยังนั่งทำหน้าครุ่นคิด และจ้องหน้าผม

"ห้ามถาม ห้ามสืบ" พูดขู่เตือนเอาไว้ เพราะจากที่ผมรับโทรศัพท์เมื่อกี้ก็น่าจะทำให้มันอยากรู้อะไรอยู่มากเหมือนกัน

"หรือทำไปแล้ว?" ผมพูดเสียงเข้ม ไอ้ซีนอนส่ายหน้า

"เปล่า"

"ดี ถ้ากูอยากบอกกูจะบอกเอง" เห็นมันทำหน้าจ๋อย ปากพาจนก็เลยเผลอพูดเป็นความหวังไปให้ ไอ้ฝรั่งเลยยิ้มกระหย่อง



แม่ง



     มองออกไปนอกหน้าต่างแดดบ่ายที่ส่องเข้ามา ไม่ได้ทำให้อากาศร้อนเลยกลับกัน พอเปิดประตูระเบียงออกไปก็มีลมเย็นๆพัดผ่าน ร่างโปร่งล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงด้วยความเคยชิน แต่ไม่พบสิ่งที่ตัวเองต้องการ ปากบางส่งเสียงจึ้เบาๆด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเปิดประตูเข้ามาถามคนในห้อง


"มีไฟแช็คไหม"


ซีนอนไม่ตอบแต่เดินเข้ามาใกล้ และหยิบไฟแช็คที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อออกมา ผมกำลังจะเอื้อมมือไปหยิบ แต่มันก็ชักออกก่อน กวนตีน

แล้วยังมาลอยหน้าลอยตา มันถือวิสาสะดันผมออกมาที่ระเบียงก่อนจะปิดประตู

"มึงไม่คิดว่ากูจะอยากอยู่คนเดียวหรอ"  ผมเคาะบุหรี่ออกมาจากซองและคาบไว้ กำลังจะเอื้อมไปเอาไฟแซ็ค แต่ฝรั่งมันเอาหลบก่อนจะหยิบบุหรี่ตัวเองขึ้นมาจุดเฉย ปล่อยให้ผมยืนเอ๋อคาบบุหรี่อยู่นั่น

"ก็พี่อยากอยู่ด้วย" มันพูดแล้วยิ้ม

“เสือกจริง" ผมตอบพร้อมกับที่มันก้มลงมาใกล้  จนปลายสแดงของบุหรี่มันมาจ่ออยู่ตรงหน้า ผมเขยิบเข้าไปต่อไฟจากคนตรงหน้าก่อนพ่นควันขาวใส่หน้าอีกคน แต่มันกลับยิ้มไม่ถือสา

"นี่ที่ยอมให้สูบเพราะมันดูเซ็กซี่หรอกนะครับ ที่จริงคนป่วยต้องงดนะ"

"ก็เสือกอีกอะ" แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็รู้เลยว่ามุมปากตัวเองแอบยก ผมก็อยากรู้ว่าอย่างมันจะทนปากผมไปได้ถึงเมื่อไหร่


"น่าจะจับจูบให้มันหายดื้อไปซะนะครับ" ไอ้ฝรั่งก็ยังคงพูดจายียวนผมต่อ เหมือนโรคจิต ยิ่งโดนด่าก็ยิ่งยิ้ม ไม่ว่าเปล่ามันเริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้



"อย่างกับทำแล้วกูจะติดใจ" ผมตอบไม่ได้หลบสายตาอีกคนแม้แต่น้อย สงสัยนิสัยเก่ามันจะกำเริบ ไอ้ที่ชอบความท้าทายเนี่ย บางทีกับบางเรื่องมันก็ดีนะครับ แต่บางเรื่องก็อาจจะพาตัวเองไปตกที่นั่งลำบากเหมือนกัน



มือข้างหนึ่งของคนตัวใหญ่ยกขึ้นมาจับหน้าผม ในใจก็คิดว่าฝรั่งนี่มันจะมาไม้ไหน ผมดับบุหรี่ที่ใกล้จะหมดมวนลงกับดินของต้นไม้ที่อยู่ราวระเบียง สายตายังไม่ละจากคนช้างหน้า ในตอนที่ใบหน้าเริ่มเข้ามาใกล้ และปากของเราแทบจะชนกัน เสียงทุ้มก็เปล่งออกมา

"Caligo แปลาว่าหมอก ..ส่วนแมงป่อง ภาษาอิตาลีว่าไงรู้ไหมครับ?"

เท่านั้นตาผมก็เบิกโพลง อารมณ์จะฟาดคารมหายไปทั้งหมด

"มึง..แอบดูกูหรอ!!!?"



ผมจับหลังตัวเองทันที มันจะเป็นไปได้ไงในเมื่อรอยสักนี่มีแค่ไอ้นายคู่ขาสมัยก่อนแล้วก็คนในครอบครัวที่รู้ caligo แปลว่าหมอกเป็นคำภาษาละติน



ผมชอบก็เลยสักไว้ที่กลางหลังลงมาจากต้นคอหน่อยนึง ประมาณ4ปีที่แล้วก่อนเข้ามหาลัย เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเคยเห็น ผมแต่งตัวระวังมากยิ่งตั้งแต่เข้ามหาลัยมายิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมทั้งแต่งตัวเรียบร้อยพยามทำตัวไม่ให้เป็นจุดสนใจ ต่างหงต่างหูอะไรถอดหมดไม่เคยใส่ 


ลำพังไอ้คำว่าหมอกนี่ยังไม่น่าเป็นห่วงมันอาจจะเห็นตอนผมเปลี่ยนเสื้อเมื่อวานแต่รอยสักรูปแมงป่อง..

เชี่ยเอ้ย


จะไม่ให้ผมหงุดหงิดได้ยังไง ในเมื่อรอยนี้มันอยู่ที่ท้องน้อยด้านซ้ายค่อนไปทางล่าง พูดง่ายๆก็คือใกล้ จุดนั้น แบบหมิ่นเหม่มากๆ
มีแค่คนเดียวที่รู้ว่าผมมีรอยสักนี้ ขนาดกับพวกคู่ขาบางทีผมยังใช้คอนซีลเลอร์ปิดไว้ด้วยซ้ำ มีแค่น้อยคนมากจริงๆที่เคยเห็น
ผมถือว่าผมสักเพราะความชอบ..แล้วมันก็มีความหมายมากกว่าที่จะเอาไปอวดใครต่อใครแบบนั้น

แล้วตอนนี้ก็มีไอ้ห่าฝรั่งที่ไหนไม่รู้มาเห็นอีก เจ้าตัวมันยังยืนยิ้มไม่ทุกข์ร้อนแต่ผมนี่สิร้อน ร้อนไปทั้งตัวแล้ว ไม่รู้ทำไมตอนนี้ทั้งอายทั้งหงุดหงิด อายที่มันเห็นแล้วก็หงุดหงิดที่ตัวเองอาย ผมหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติ ก่อนจะยิ้ม

“เอาเถอะ ถ้าจะอยากเห็นผิวของกูขนาดนั้น”  ผมพูดพลางเอานิ้วชี้จิ้มอกแกร่งของคนตรงหน้าย้ำๆ

“แหม พี่ก็เห็นตอนที่ไปช่วยหมอกนั่นแหละ"

“แผลอยู่อีกข้างแถมมันก็ไม่ได้ใกล้ด้วย แถเก่งจริงมึง” ว่าแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้อง แต่ไอ้ฝรั่งนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีจะสำนึกอะไร กลับหัวเราะชอบใจด้วยซ้ำ

พอเดินไปที่โต๊ะก็เห็นว่าเจย์จัดการกับชามข้าวที่อยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ผมจึงเดินกลับเข้าห้องนอนและเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมจะออกไปข้างนอก เมื้อกี้นึกขึ้นได้ว่าวันมะรืนเป็นวันเกิดนาย อันที่จริงผมก็ไม่ได้ให้อะไรมันมาหลายปีแล้ว จะว่าเป็นข้ออ้างก็ได้ ถึงจะยังตึงๆที่แผลอยู่ แต่ใครจะอยากนั่งอยู่เฉยๆให้คนอื่นเฝ้ากันหละ




________________________________________



ต่อด้านล่าง

หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH05.2 2.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 02-04-2017 21:53:53



5.2




Xenon

ตั้งแต่เดินเข้ามาในห้าง หลายครั้งที่ผมต้องใช้รังสีอำมหิตเพื่อกันไม่ให้คนเข้ามาทักหมอก


อืมจะว่าไงดีหละ


แทบจะทุกสายตาที่พอเห็นหมอกบางคนถึงกับเหลียวหลัง ไม่นับเด็กนักเรียนหญิงบางคนที่แอบเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปด้วยซ้ำ จนหมอกทนไม่ไหวต้องเดินเข้าไปซื้อหมวกแก็ปมาใส่ แต่กว่าผมจะขอออกมาด้วยได้นี่ก็ถือว่าเสียเหงื่อไปหลายหยดเหมือนกันครับ


หมอกออกจากคอนโดมาด้วยชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนธรรมดาแต่มันกลับดูมีเสน่ห์มากๆเมื่ออยู่บนตัวเขา


และเพราะผมพาเจย์มาด้วย เลยต้องให้คนของผมไปเฝ้าอยู่ที่คอนโดของหมอกแทนเจย์ที่คอยตามดูพวกผมอยู่ห่างๆ (ซึ่งรูปที่ผมกับหมอกโดนแอบถ่ายไป ก็มีเจย์คอยช่วยจัดการให้)


‘เชี่ยเอ้ย มองหาพ่อหรอ’ ไม่รู้เหมือนกันว่าหมอกบ่นคำนี้ออกมาแล้วกี่ครั้ง เจ้าตัวดูจะรำคาญคนที่มองตนมากๆ


ขายาวๆของหมอกก้าวเดินฉับๆ แต่ก็ต้องสะดุดกึกเมื่อมีมือมาคว้าแขนหมอกไว้


เธอเป็นผู้หญิงรูปร่างสูงปราดเปรียว หุ่นเนื้อนมไข่เน้นๆ หน้าตาจัดได้ว่าอยู่ในขั้นสวยมาก ใส่ชุดเดรสสายเดี่ยวโชว์อกที่ตอนนี้เจ้าหล่อนตั้งใจดึงแขนให้ไปโดน

“พาย พายจริงๆด้วย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงดีใจกอดแขนหมอกไว้แนบกับตัวและส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้ แต่เรียวหน้าคมกลับคิ้วกระตุกและขืนดึงแขนตัวเองออกจากการกอดรัดนั้น

“วันนี้ไม่ว่าง” หมอกได้แต่ตอบกลับไปสั้นๆน้ำเสียงเจือความหงุดหงิดอย่างไม่ปิดปัง

ทีแรกเขาเข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้ทักคนผิด แต่พอได้ยินหมอกตอบไปอย่างนั้นก็แปลกใจไปมีชื่ออื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมยืนมองอย่างสนใจ ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเพราะท่าทีหมอกเห็นชัดว่าไม่ได้เล่นด้วย หมอกเหลือบสายตามามองผมแวบนึงก่อนจะกลับไปจ้องผู้หญิงตรงหน้า


“อะไรกันคะ นี่เปรียวคิดถึงพายนะ ตั้งแต่คืนนั้น เปรียวก็ไม่เคยลืมพายได้เลยนะ” เสียงสูงเอ่ยอย่างออดอ้อนพร้อมขยับตัวเข้ามากอดหมอกอีกครั้ง ร่างเพรียวกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“แต่มันเป็นปีแล้วนะ” คำตอบนั่นทำเอาผมหลุดขำ ทั้งตัวคำพูดเองและน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายจากปากของหมอก มันจะเป็นไปได้จริงๆหรอที่ว่าเป็นปีแล้วหน่ะ ดูยังไงผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่แฟน น่าจะเป็นคู่ขามากกว่า

“แต่มันดี จนจำได้ขึ้นใจนี่คะ” อีกฝ่ายยังไม่ยอมหยุดมือไม้เริ่มลูบไล้ไปทั่วอกของหมอกและนั่นเริ่มทำให้ผมยิ้มฝืน

เฮ้ ได้ไงหละ ผมแทบจะยังไม่เคยได้ลูบด้วยซ้ำ

“แต่สำหรับผมมันไม่ได้ดีจนขนาดจำได้ ชื่อคุณผมก็จำไม่ได้ อา หยุดจับเถอะ แฟนผมหึงแล้ว”




ประโยคยาวๆที่นานๆได้ยินทีกับคำพูดเจ็บแสบนั่น คงทำให้ผู้หญิงคนนั้นหน้าชาไปอีกพักแน่ๆ สังเกตุจากการที่เจ้าหล่อนนิ่งค้างไป

เอาเถอะผมว่าผมเข้าใจ เพราะถ้าโดนนั้นกับตัวเอง มีหวังเสียความมั่นใจไปมากเหมือนกัน แต่ก็ต้องยิ้มให้กับประโยคสุดท้าย เพราะหมอกผละออกมาจากคนนั้นและหันมามองผม ก่อนจะเดินเข้ามาคว้าคอผมและพาออกจาจุดเกิดเหตุ ปล่อยให้เปรียวยืนมองตาค้างจากที่เดิม


“ไปเล่นหูเล่นตากับใครไว้เยอะสิท่า” ถามออกไปด้วยน้ำเสียงสบายๆ เข้าใจเหมือนกันมันเป็นชีวิตปกติของผู้ชาย



“เล่นเยอะ แต่ไม่ได้เอาเยอะ” หมอกตอบผมด้วยยิ้มเจ้าเล่ห์ หน้าของผมเลยเขาไม่ได้ห่างกันมากนักเพราะเขายังคงกอดคอผมอยู่ มันไม่ได้เป็นอุปสรรคเท่าไหร่เพราะผมกับหมอกไม่ได้มีความสูงต่างกันมากนัก


“แล้วอย่างพี่นี่มีสิทธิ์จะ ได้เอา  บ้างไหมครับ” ผมยิ้มตาหยีไปให้จงใจพูดสองแง่สองง่ามให้อีกคนจักจี้เล่น แต่หมอกแค่เม้มปาก















.

.
.


.
“ก็ลองอ่อยบ่อยๆสิ”








หมอก


ร้านหนังสือเป็นจุดหมายแรกและสุดท้ายที่ผมจะแวะ หลังจากที่เดินหงุดหงิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจได้ว่าจะซื้อหนังสือให้เป็นของขวัญวันเกิดของนาย แล้วก็ซื้อไปอ่านเองสักสองสามเล่ม หนังสือที่นายชอบเลือกไม่ยาก มันคือหนังสือภาพการ์ตูนต่างๆของดีสนีย์ ปัญญาอ่อนเหมาะกับมันใช่ไหมละ

ตอนนี้ผมกำลังเดินเลือกหนังสือสืบสวนสอบสวนแบบที่ตัวเองชอบอยู่ที่บริเวณมุมสุดหลังร้าน ส่วนไอ้ฝรั่งนั่นผมไล่ให้มันรออยู่ด้านหน้า


ผมหยิบหนังสือมาอีกสองสามเล่ม ทำให้ตอนนี้ในมือผมมีหนังสืออยู่เป็นตั้ง


พลั่ก


“Oh I’m so sorry”

ช่วงนี้ผมเป็นอะไรกับฝรั่งพวกนี้เยอะแยะวะ

ได้แต่บ่นในใจเมื่อได้ยินเสียงขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ เงยขึ้นมาก็เห็นหน้าคนที่มาชนเขาจนหนังสือทั้งหมดลงไปกองอยู่บนพื้น ตาสีฟ้าอ่อนกับยิ้มที่ทำให้ผมสยองชอบกล ขัดผมสีดำสั้นที่ตอนแรกมองเห็นนึกว่าเป็นคนเอเชีย เขานั่งลงช่วยผมเก็บหนังสือที่หลุ่นอยู่ก่อนจะยื่นมาให้

ผมพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร


บอกตรงๆว่าไม่อยากเข้าใกล้แปลกๆ เลยรีบพาตัวเองเดินไปที่เคาท์เตอร์คิดเงินด้านหน้า พอคิดเงินเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกมาจากร้าน ที่มีฝรั่งหัวน้ำตาลตัวโตนั่งรออยู่

“กลับกัน”




________________________________________

แวะมาลงเพิ่มตามสัญญาค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH05.2 2.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 02-04-2017 23:38:12
ใครนะ???

จะใช่ศัตรูพ่อรึป่าว???
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH05.2 2.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 03-04-2017 09:17:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH06 9.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 09-04-2017 19:31:19
6






     วันหลังแค่ออกไปห้างจะแต่งตัวธรรมดาไม่ได้เลยหรอวะ คิดไปก็ได้แต่หงุดหงิด ผู้หญิงเมื่อวานตามที่ผมพูดคือผมจำเขาไม่ได้จริงๆ เซ็กส์สำหรับผมคือการระบายอารมณ์ล้วนๆไม่เคยมีความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งส่วนใหญ่ผมจะต้องมีแอลกอฮออล์เป็นตัวช่วย ถ้าจะพูดให้ถูกคือตอนสติเต็มร้อยผมไม่มีทางไปมีอะไรกับใครแน่ๆ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็คงแค่จะผ่านมาในวันที่ผมเครียดหงุดหงิดหรืออะไรสักอย่าง อีกเรื่องนึงคือผมเลิกนอนไปทั่วอย่างนั้นมาเป็นปีแล้ว มันไม่สามารถตอบสนองการระบายอารมณ์ให้ผมแบบที่ผ่านมาได้

คุณอาจจะคิดว่ามันเป็นไปได้อย่างไรที่ไม่ได้ระบายกับใครเลยเป็นปีๆ แต่อย่างที่บอกเรื่องนี้สำหรับเขาแล้วเป็นแค่สิ่งที่ทำให้สมองโล่งได้ชัวคราวเท่านั้น แอลกอฮอล์และการออกแรงสามารถแทนที่มันได้


มือเรียวไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำแก้วสีอำพันในมือแน่นขนาดไหน ลมเย็นๆกับความรู้สึกร้อนที่ลงผ่านลำคอไม่ได้ทำให้ความคิดในหัวสงบลงได้เลย ตอนนี้ในคอนโดมีเพียงเขาเพราะตนได้ไล่ให้พวกที่คอยเฝ้าอยู่แค่หน้าห้องหรือล่างคอนโดเท่านั้น แลกด้วยการติดอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ซีนอนหามาให้ ขายาวก้าวเขาไปในห้องน้ำถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดเหลือเพียงร่างกายที่เปลือยเปล่า มีเพียงพลาสเตอร์กันน้ำปิดแผลอยู่เท่านั้น น้ำเย็นๆจากฝักบัวไหลลงกระทบหน้าไหลลงเปียกไปทั้งตัว เพื่อช่วยดับความร้อนจากบรั่นดีหลายแก้วก่อนหน้านี้




ความรู้สึกเจ็บที่รอยสักรูปแมงป่อง




แผลเก่า ใต้การปกปิด ที่วันนี้ก็ยังไม่หาย ..








     แม้แต่แผลที่โดนแทงยังสู้ไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะบางแผลต่อให้มันจางไปก็จะยังมีความรู้สึกหนึ่งที่ยังหลอกหลอนทุกครั้งที่เผลอไปนึกถึง แต่เขาดีขึ้นมากเพราะมันได้กลายเป็นเพียงความรู้สึกที่ผ่านมาและไป ทั้งทำให้เขารู้สึกแย่ได้และเข้มแข็งขึ้นได้ ถ้าไม่มีความรู้สึกนี้ก็จะไม่มีเขาแบบในวันนี้เช่นกัน

มันไม่ใช่ความรู้สึกเสียใจทรมาณหรืออะไรเหมือนก่อนอีกแล้ว มันกลายเป็นความน่าหงุดหงิดรำคาญใจและโมโหตัวเอง
หมอกถอนหายใจแรงและโขกศีรษะเข้ากับผนังเบาๆเป็นการเรียกสติ






..แล้วทำไมอยู่ๆต้องไปนึกถึงด้วยวะเนี่ย...
















สักหน่อยก็ได้วะ





ร่างบางตัดสินใจจะหยุดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองและทำให้สมองว่างด้วย มือ ของเขา มือเรียวเอื้อมลงไปแตะที่กลางลำตัวของตน  เพียงแค่สัมผัสเบาๆบวกด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์ก็ทำให้ส่วนนั้นตื่นได้ไม่ยากนัก ก่อนจะค่อยๆขยับช้าๆเพื่อเพิ่มอารมณ์ ไม่นานขนาดของมันก็เพิ่มจนสุด ก่อนที่ความรู้สึกดีจะเริ่มก่อตัวจนมีเสียงครางเบาๆในลำคอ


ผิวขาวละเอียดและรูปร่างที่ยั่วยวนนั้นไม่ว่าใครมาเห็นในเวลานี้ก็คงมีอารมณ์ร่วมด้วยไม่ยาก ผิวที่ออกจะขึ้นสีนิดๆ กับสีหน้ากำลังอิ่มเอมไหนจะเสียงนุ่นชวนฟัง ราวกับมันเป็นภาพศิลปะที่ทำให้ทุกคนหลงดื่มด่ำได้


ครั้งนี้แปลกอยู่อย่างเพราะมันมีภาพผุดขึ้นมาในหัว พูดให้ถูกคือหน้าซีนอนลอยเข้ามาในความคิด หมอกไม่เข้าใจตัวเองภาพที่เค้าคอยแกล้งยั่วซีนอนลอยมาเป็นฉากๆแทนที่เขาจะหมดอารมณ์กลับรู็สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก รู้สึกได้ถึงกลิ่นและสัมผัสของคนที่ตนชอบแกล้งอยู่บ่อยๆทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ใกล้





เชี่ย





กระทั่งจินตนาการไปถึงจูบที่เร้าร้อน ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกำลังดีน่าสัมผัส เสียงทุ้มๆที่มากระซิบข้างหู ลมหายใจที่เป่ารดเวลาสบตากัน







เชี่ยมาก














เชี่ยมากๆ









แต่ถึงหมอกจะด่าตัวเองมากเท่าไหร่ แต่กลับไม่ได้หยุดมือตัวเองแม้แต่น้อย มันกลับเพิ่มความเร็วไปตามแรงอารมณ์ ภาพของอีกคนยังฉายอยู่ในความคิดเรื่อยๆ แถมมันยังทะลึ่งขึ้นตลอดเวลาจนตอนนี้หน้าขาวร้อนผ่าวไปหมด รู้สึกว่าตัวเองกำลังใกล้ถึงจุดหมายเต็มที




“ซีนอน.. อือ”




ร่างขาวครางเสียงแผ่วกระตุกเกร็ง ก่อนสิ่งที่สะสมมากว่าเดือนจะพุ่งออกมาเต็มฝ่ามือ หมอกถึงกับหมดแรงพิงกับพนังห้องน้ำหอบหายใจอยู่สักครู่ ก่อนจะล้างตัวปล่อยให้น้ำชำระสิ่งต่างๆออกไป ได้แต่กัดปากตัวเองรู้สึกยิ่งกว่าอายที่เผลอเรียกชื่อออกมา











จะยังมีหน้าไปสบตามันอีกไหมวะเนี่ย







   ตื่นขึ้นมาได้ก็เกือบสาย เพราะเมื่อคืนหลังจากเรื่องน่าอายนั่นกว่าเขาจะข่มตาหลับได้ก็เกือบเช้า ผมรีบเตรียมตัวเพื่อไปเรียน ยังทำใจจะเข้าไปอาบน้ำไม่ได้ หาข้ออ้างว่าเพิ่งอาบเมื่อคืนและไม่ได้ไปไหน หยิบแปรงสีฟันและโฟมล้างหน้าออกไปจัดการธุระที่ห้องน้ำแขกแทน

กลับเข้ามาในห้องเพื่อแต่งตัวถอดจิวต่างหูออกจากตัวทั้งหมดหวีผมให้เรียบร้อยแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเชยๆตัวเดิม สุดท้ายจะหยิบแว่นออกมาใส่

ก่อนจะออกจากห้องผมทำแซนวิชง่ายๆสองชิ้นใส่กล่องเพื่อเอาไปกินระหว่างทาง พอลงลิฟท์มาก็เจอเจย์เลนยืนดักอยู่ ผมชะงักเล็กน้อยมองซ้ายขวาไม่เห็นซีนอนก็แอบถอนใจ



“คุณซีนอนติดธุระครับ แต่กำชับมาว่าให้ผมไปส่งคุณที่มหาลัย” เหมือยเจย์จะเข้าใจไปว่าผมมองหาเขา คนตัวเล็กยิ้มก่อนจะผายมือไปที่ Bentley Mulsanne สีดำคันหรูที่จอดอยู่ข้างหน้า ผมถอนใจอีกรอบ




ไม่มีคันที่ธรรมดากว่านี้รึไง




ไม่นานรถคันหรูก็มาถึงที่หมาย รถราคากว่าสามสิบล้านย่อมเป็นจุดสนใจได้เป็นอย่างดียิ่งนี่คือคณะวิศวะที่ๆคนส่วนใหญ่มีความชอบในเรื่องรถยนต์ แต่ก็ยังโชคดีที่เจย์มาจอดให้ในที่ๆคนไม่พลุกพล่านมากนัก แต่ก่อนที่ผมจะลงจากรถ มือถือในกระเป๋ากางเกงก็สั่น


‘Xenon’ 




ผมหยุดมองหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง ภาพเมื่อคืนย้อนมาทำร้ายผมอีกครั้ง จนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะกดรับ


‘ถึงม.ยังครับ’  เสียงทุ้มจากปลายสายดังขึ้นทันทีที่กดรับ

“อืม” ผมเลือกที่จะตอบกลับสั้นๆเพราะกลัวเสียงตัวเองจะสั่น




โอ้ย จะว่าไปก็หงุดหงิดตัวเอง กระแดะจริง




‘คร้าบๆ ระวังตัวด้วยนะ พี่ขอไปเคลียร์งานก่อน’  อีกคนย้ำ เพราะที่มหาลัยเป็นที่ที่ถือได้ว่าอันตรายที่สุด

ครั้งแรกที่ผมโดนทำร้ายก็เป็นที่นี่ ผมคงปลีกวิเวกไปอยู่คนเดียวไม่ได้สักพัก

หลังจากประโยคสุดท้ายผมก็ตัดสายไปโดยไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะบอกขอบคุณเจย์เลนแล้วลงจากรถ


สายตานับสิบคู่จ้องมาที่ผมตามคาด เลยทำให้ได้แต่เดินตัวเล็กเข้าไปในตึกเท่านั้น

ระหว่างทางก็มีเสียงซุบซิบมากมายทำนองว่า ผมคือใคร เรียนที่นี่หรอ ไม่ได้ใส่ไทด์แสดงว่าไม่ใช่ปี1แล้วทำไมไม่เคยเห็น รวยมากแค่ไหน ทำไมไม่รู้จัก บลาๆ ความพยายามที่จะอยู่เงียบๆนับปีของผมแทบจะทลายลงทันที

ปกติผมจะนั่งรถสาธารณะหรือรถไฟฟ้าแล้วเดินเข้าม.มาเองมากกว่า ไม่นานผมก็มาถึงห้องเรียน อีกประมาณ10นาทีถึงจะได้เวลาเริ่ม คนก็ทยอยๆกันมาจับจองที่นั่งส่วนหลังห้องเป็นส่วนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ผมเลือกที่จะนั่งกลางๆห้องริมหน้าต่าง ซึ่งเป็นเหมือนที่ประจำของผมไปแล้ว ไม่นานกลุ่มเพื่อนๆของผมก็เข้ามาในห้อง ซันเป็นคนแรกที่เห็น แต่นายเป็นคนแรกที่มาถึงตัว




“ไม่มาเรียนตั้งหลายวัน เป็นไรรึเปล่า” นายรีบนั่งลงข้างก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วง


“อืม ไม่เป็นไรแค่ขี้เกียจ” เลือกที่จะปกปิดความจริงที่ว่าผมโดนทำร้ายอีกรอบเพื่อไม่ให้เพื่อนๆต้องคอยเป็นห่วง หลังจากที่พวกมันวางใจว่าผมไม่เป็นไรแล้ว

ต่างคนก็เหมือนจะแย่งกันเล่าเรื่องราวที่ตัวเองไปไปเจอมาระหว่างสุดสัปดาห์ ถ้าพูดให้ถูก คือ นาย กับฟีฟ่าที่แย่งกัน มีผมกับซันนั่งฟังส่วนแทนเสริมบ้างเป็นช่วงๆ แต่ผมก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกรอบตัวแทนคุณ จะว่ามันอืมครึมแปลกๆก็ได้ มันเห็นว่าผมจ้อง คงรู้ว่าผมคิดอย่างไงและตอบมาด้วยยิ้มว่าไม่มีอะไร

“แต่ก็ว่านะไอ้หมอก มึงดูดีแปลกๆวะวันนี้” จู่หัวข้อสนทนาก็กลับมาเป็นเรื่องผม ฟีฟ่าพูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นายมองตามสำรวจผมอย่างละเอียด

“เออวะ มึงดูสดใสแปลกๆนะ” ผมหลบตามันแวบหนึ่ง แอบคิดถึงเรื่องเมื่อคืน

“เห้ย นี่แปลกจริงแล้ววะ บอกกูมาดิเกิดอะไรขึ้น” มันทำตาโต ตกใจที่ผมหลบสายตา
จะว่าไปวันนี้คนในห้องก็มองมาทางนี้กันผิดปกติ คือพวกนายมันเด่นอยู่แล้วก็จริงแต่ผมไม่ได้ถูกนับรวมในกลุ่มเด่นนั่น แต่วันนี้สายตาหลายคู่กลับจ้องมาที่ผม


“ไร้สาระ” เมื่อคืนนนอนไม่ค่อยหลับ มันต้องโทรมมากกว่าสิ นายยังคงมองผมไม่วางตา ก่อนจะทุบกำปั้นตัวเองเหมือนนึกอะไรออก


“กูเคยเห็นหน้าอย่างนี้มาก่อน เหมือนตอนนั้นเลยที่มึงเจอเรื่องถูกใจ ไอ้นักเลงในผับที่หาเรื่องมึงเมื่อปลายปีก่อน ที่มันเก่งมึงเลยจัดหนักจนมันนอนโรงบาลไปสามอาทิตย์ไง” นายจัดแจงเล่าเป็นฉาก

ผมจำเรื่องนี้ได้ ทำนองว่าคนนี้มันมาแก้แค้นให้เพื่อนมันที่เคยมีเรื่องกับผม มันเก่งมากพอตัวเล่นเอาผมได้แผลไปเยอะเหมือนกัน ถือเป็นการได้ออกแรงที่สนุกมากครั้งหนึ่ง ผมยิ้มบางๆให้ความจำที่ดีเลิศของเพื่อน



“ว่าไงละจะเล่าให้ฟังได้ไหม”  ฟีฟ่าคะยั้นคะยอ ส่งสายตาให้ผมเล่า แต่ก็โดนอาจารย์ที่เริ่มสอนขัดขึ้นมาก่อน ผมเลยถือว่าตัวเองได้ผลประโยชน์ไม่ต้องมาอธิบายอะไร




สามชั่วโมงกับวิชาแคลคูลัสน่าเบื่อผ่านไป นักศึกษาแทบจะกรูกันออกจากห้องทันทีที่อาจารย์ปล่อยแต่แทนที่จะได้ออกไป นักศึกษากลับยืนออกันอยู่บริเวณหน้าประตูไม่ขยับไปไหนมีเสียงบ่นมาจากด้านหลังแว่วๆว่า ทำไมไม่เดินไปกันซักที พวกผมทีไม่รีบมากนักตัดสินใจนั่งรอจนคนทยอยออกไปหมด แต่นี่ผ่านมากว่าสิบนาทีแล้ว ที่ประตูทางออกก็ไม่มีวี่แววว่าคนจะน้อยลงไปซักที ฟีฟ่าที่อดใจไม่ไหวอาสาเดินออกไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น สักพักหลังจากที่มันหายไปกับฝูงคนก็กลับมาพร้อมหน้าตื่นๆ



“สรุปแม่งมีไรวะ” นายถามขึ้นเมื่อไอ้ฟ่ายังลีลาทำเป็นหอบไม่มีแรงจะพูด ทั้งๆที่มันก็แค่ชอบที่เพื่อนๆทำหน้าท่าทางรอคอย สองมือของมันยกขึ้นเป็นสัญญาณว่าหยุด

 เหมือนจะยังอยากยื้อเวลาแทนที่จะรีบบอกดันเพิ่มประโยคไม่จำเป็นเลยโดยแทนคุณตบหัวสั่งสอบไปหนึ่งที




“ใจร้ายจริงพวกมึง ก็หน้าห้องแม่งดันมีคนมายืนเก็กอย่างกับตัวเองเป็นนายแบบบอยู่ กรี้ดเหี้ยไรนักหนาหล่อไม่เท่าครึ่งของกูด้วยซ้ำ”

“เอ้าละใครวะ” นายถามต่อ

“ไม่รู้แต่เห็นมีบอดี้การ์ยืนเฝ้าด้วย”


จบคำผมก็ลุกขึ้นยืนจนเสียงเก้าอี้ครืดดังไปทั้งห้อง หลายคนหันมามองผม แต่คนที่แปลกใจกันสุดๆคือพวกเพื่อนๆของผมนี่แหละ คนที่มันจะแบกบอดี้การ์ดมาเฝ้าอย่างนี้มันจะมีสักกี่คนเชียว แต่ไอ้หน้าอย่างนั้นเนี่ยนะ มาทำอะไรที่นี่ เพื่อตอบข้อสงสัยของตัวเองผมเลยรีบเดินฝ่าฝูงชนออกไปดูให้มันเห็นกับตา อาจจะคิดไปเองแต่ผมรู้สึกว่าคนอื่นหลบทางให้ผมแปลกๆ




และ ข้อสงสัยผมก็เป็นความจริง








________________________________________

มาต่อแล้วค่ะ รอบนี้มาช้าหน่อยเพราะงานที่กองเป็นภูเขามากมายที่ต้องเคลียให้ทันก่อนสงการนต์ /เศร้า
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นนะคะ โดยเฉพาะคุณ crazydoii และคุณ PKT ที่เม้นให้แทบทุกตอน
เป็นกำลังใจชั้นดีเลยค่ะ555555 :hao5: :hao5: :hao5:

ตอนนี้มาด้วยความเรทนิดๆหื่นหน่อยๆของน้องหมอก ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มหวั่นไหวบ้างหรือยัง :hao7: :hao7:
ปล.นิยายเรื่องนี้อัพเรื่อยๆนะคะอาจจะเป็นวันครั้ง สองวันครั้ง แต่จะไม่หายไปเกินอาทิตย์แน่นอนค่ะ
ปลล.เนื่องจากเป็นนิยายเรื่องแรกคนเขียนบางทีก็เกิดอาการท้อบ่อยๆได้55555555ขอกำลังใจด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH06 9.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 09-04-2017 22:35:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH06 9.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-04-2017 00:42:34
มาถึงที่เลย,,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH06.2 11.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 11-04-2017 17:36:58
6.2








ซีนอนยืนหน้าตายอยู่ท่ามกลางคนที่พยายามจะมองหรือเข้าไปทำความรู้จัก





ทันทีที่มันเห็นผมหน้านิ่งๆดูน่ากลัวของมันก็ยิ้ม เรียกเสียงกรี้ดเบาๆจากผู้หญิงที่เดินผ่านรอบๆ มันอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงสแลคสีเดียวกันดูภูมิฐาน ขายาวๆขอมันก้าวมาทางผมในขณะที่เหล่าวิศวะมุงก็ค่อยๆหลบทางให้



“มึง? มาทำไม?” คำถามแรกที่คาใจผมโดนถามออกไปทันที ไอ้ฝรั่งมองผมริมฝีปากยกยิ้มคล้ายจะหัวเราะ


“ก็อยากมา”


“ทำไม?” ผมถามเสียงเบา เริ่มอึดอัดกับสายตาที่จ้องมา





“อยากเจอ” คำตอบง่ายๆนั่นแทบทำเอาผมหลุดยิ้ม ยังดีที่สายตากดดันจากรอบๆช่วยทำให้สีหน้าผมไม่เปลี่ยนไป


“วุ่นวาย” ได้แต่ส่งเสียงดุๆไป แต่ก็ใช่ว่าอีกคนจะสะทกสะท้าน กลับเดินเข้ามาจับหัวผมและดันให้เดินไปข้างหน้า




รู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต






และทำให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน...ความกระแดะของกู ผมรีบเอาหัวหลบแต่กว่าจะคิดได้เราก็เดินออกมาจากฝูงชนจนถึงบริเวณลานหน้าคณะ


“กินไหนดี โรงอาหารคณะหมอกดีไหม” ซีนอนถามอย่างขอความเห็น ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาแต่ไม่นานก็ต้องหลบ


“ไม่ คนเยอะ”  ดูมันไม่ค่อยเข้ากันใช่ไหมละ ซีนอนกับโรงอาหารมหาลัย


“อืม งั้นเดี๋ยวพาไปหาอะไรอร่อยๆกินข้างนอก” ยิ้มอ้อนๆที่ส่งมาทำริมฝีปากผมกระตุกยิ้ม ซีนอนเห็นก็ทำหน้าชอบใจ จนผมต้องกระแอมเรียกสติ


“เสือก” ผมเดินนำออกมา ได้ยินเสียงมันหัวเราะเบาๆก่อนเดินตามมาแล้วดึงกระเป๋าผมไปถือ





รำคาญตัวเอง เหมือนตุ๊ดชิบหาย








กว่าสติตัวเองจะกลับมาได้ก็ตอนนั่งอยู่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งในห้างที่ไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก มีเมนูและรูปภาพอาหารมากมายให้ผมเลือกอยู่ตรงหน้า


คนในร้านก็มองพวกผมซะเสียมารยาท เข้าใจว่าไอ้ฝรั่งนี่มันก็หล่อแต่ก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ปะวะ และยังไม่ทันขาดคำก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามานั่งข้างไอ้ฝรั่งแบบไม่กลัวเกรงอะไร

มันดูเด่นมากจริงๆเพราะในรัศมี 2 โต๊ะนี้ไม่มีใครเข้ามานั่งใกล้พวกผมเลยสักคน จากท่าทางแล้วเธอดูเป็นผู้หญืงประเภทเปรี้ยวเข็ดฟันแบบที่ผมเคยชอบ

 เธอทำท่าจะจับแขนของไอ้ฝรั่งแต่โดนสยตาดุๆปรามเอาไว้ก่อน ผมเห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้สนใจก้มหน้าก้มตามองเมนูในมือต่อ


“ซีนอนใช่ไหมคะเนี่ย บังเอิญจังเลยไม่นึกว่าจะมาเจอที่นี่ จำพีชได้ไหม เราเจอกันที่งานสถานทูตวันก่อนไหนบอกจะติดต่อมาไงคะ เงียบไปเลยนะ” พูดไปก็ทำทีเป็นอายไปด้วย แต่หึ แค่ดูก็รู้แล้วแหละครับว่าแสร้งทำ ผมแอบขำเล็กน้อยกับเหตุการณ์ตรงหน้า

ตลกดี เมื่อวานผม วันนี้มัน

“พูดอย่างนี้เดี๋ยวแฟนผมก็เข้าใจผิดหรอกครับ” ซีนอนตอบนิ่งๆแต่โยนขี้มาให้ผมจังๆ เจ้าตัวพยักเพยิดมาทางผมยิ่งทำให้มันชัดเจนขึ้นไปอีกว่าแฟนที่มันว่าหมายถึงคนไหน

ผมได้แต่เลิกคิ้วพร้อมจ้องหน้าคาดโทษกำลังคิดว่าจะตอบกลับไปยังไงดีเพราะตอนนี้ผมไม่ใช่ตัวผม ถ้าตอบแบบปกติไปคงไม่ดีนัก แต่ยังไม่ได้ทันจะอ้าปากพูดเสียงน่ารักดูขี้อายเมื่อกี้ก็กลายเป็นเสียงแหลมๆตวาดขึ้นมาก่อน


“ไอ้เอ๋อนี้นะหรอคะ แฟนพี่ซี” เธอไม่ว่าเปล่าแต่ชี้มือมาที่ผมด้วย

“ซีนอนครับ ไม่ใช่ซี แล้วก็พูดจาให้ความเครพกันหน่อย” ซีนอนตอบ ผมสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจมากขึ้นเพราะสีหน้าเฉยๆของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

แต่ผมกลับยิ่งเห็นว่ามันน่าขำขึ้นกว่าเดิม เหมือนได้มาดูละครหรืออะไรก็ไม่รู้


“นี่มันผู้ชายนะคะ แถมดูก็ไม่มีอะไรสักอย่างแต่งตัวก็เฉยไร้รสนิยมหน้าตาก็จืดชืดดูไม่มีตังด้วยซ้ำ ไม่รู้จะพูดรู้เรื่องรึเปล่าอีกหน้าเอ๋อขนาดนี้”




คำพูดของเธอไม่ได้ทำให้ผมโกรธตรงกันข้ามกลับทำให้ผมก้มหน้าแอบขำเลยด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่กับซีนอนมันดูไม่พอใจมาก


“เธอไม่มีสิทธิ์มาพูดจาอย่างนี้นะ” เสียงของซีนอนดุและดังจนเกือบเป็นตวาด ผู้หญิงคนนั้นดูตกใจมากแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ลุกขึ้นยืนและเริ่มทำเสียงดัง จากเดิมที่คนมองอยู่แล้วกลายเป็นสนใจกันมากเข้าไปอีก ผมเตะขาซีนอนเบาๆ เชืงเตือนว่าอย่าไปใส่ใจ



“ไม่ค่ะ ดูสิพี่กับมันต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว ไม่มีอะไรดีเลยไม่เหมาะสมสักนิด แล้วนี่มันผิดนะคะ ผู้ชายด้วยกันไม่อายบ้างหรอคะ” ดูเหมือนเธอเองก็เริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน ยืนชี้หน้าด่าผมปาวๆ
จากที่ไม่อะไรผมเริ่มไม่ชอบแล้ว ไม่เข้าใจเหมือนกันดูถูกผม ผมโอเค

แต่คำพูดพวกนี้ผมฟังแล้วหงุดหงิดแปลกๆ ซีนอนกำหมัดแน่นเหมือนพยายามอดกลั้น ผมเห็นอย่างนั้นเลยตัดสินใจลุกขึ้นคิดว่าจะลากไอ้ฝรั่งนี้ออกไปก่อนจะมีเรื่องร้ายแรง

แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถึงตัวเธอคนนั้นก็เข้ามาผลักผมเหมือนจะไม่ให้เข้าใกล้ไปมากกว่านี้ ผมไม่ได้สะทกสะท้านอะไรกับแรงเธอมากนักมันแทบจะไม่ได้ทำให้ผมเซด้วยซ้ำ

ผมหยุดและมองตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์โมโหของเธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น


“ถ้านิสัยอย่างนี้ ต่อให้เป็นผู้หญิงก็ไม่มีใครเอาหรอกครับ”


จบคำผม เธอกรี้ดและตบหน้าผมเต็มแรงหนึ่งฉาด ผมหันเพราะแรงตบไม่ได้หนักหน่วงเหมือนโดนต่อยแต่ก็แสบใช่เล่น

ผมรีบเข้าไปดึงแขนไอ้ฝรั่งเมื่อเห็นว่ามันกำลังจะเข้ามากระชากผู้หญิงคนนั้นแล้วออกแรงดึงมันออกมา ผมตั้งหน้าตั้งตาเดินสักพักก็เห็นรถคันเดิมที่มาส่งผมโชคดีที่มันอยู่ไม่ไกลนัก

 ผมแบมือขอกุญแจจากซีนอนที่ตอนนี้หน้าบูดอารมณ์เสียอยู่ข้างๆ


“กูขับเอง” ผมยื่นคำขาดเพราะมันทำท่าจะไม่ยอม เมื่อได้กุญแจผมก็รีบเข้าไปประจำที่คนขับทันทีซีนอนปิดประตูดังปังนั่งลงเบาะข้างๆผม





ใครจะปล่อยให้คนโมโหขับรถกัน





ผมออกรถมาโดยไม่พูดอะไรอีกตรงกลับไปที่คอนโดผมทันที เริ่มรู้สึกได้ถึงกลิ่นสนิมที่คาวอยู่ในปากและปากที่เริ่มรู้สึกตึงๆ มันคุ้มกับที่กูต้องโดนตบไหมวะ พอมาถึงจอดรถเสร็จสรรพคนข้างๆก็ดูจะเริ่มเย็นขึ้นบ้างแล้วแต่ไม่ยอมขยับไปไหนสักที


“จะทำแผลให้กูไหม ทำก็ลุก” พูดทิ้งท้ายก่อนจะออกจากรถ ไม่นานก็ได้ยินเสียงปิดประตู ผมจัดการกดลิฟต์รอ เมื่อถึงหน้าห้องก็แตะคีย์การ์ดแต่และสแกนนิ้วมือกันเครื่องสแกนใหม่ที่ซีนอนมันจัดหามาให้


เดินไปหยิบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลในลิ้นชักก่อนไปนั่งลงบนโซฟา ฝรั่งมันยืนนิ่งแป๊บหนึ่งก็เดินตามมานั่งลงข้างๆ


“เป็นไร” ผมถามออกไปในที่สุด รู้สึกอึดอัดอยู่เหมือนกันที่มันเป็นอย่างนี้มันแปลกๆ จากปกติที่มันเป็นฝ่ายชวนคุยทำหน้าตาทะเล้นๆ กลายเป็นนิ่งเงียบหน้านิ่ง


“มันหงุดหงิดอะ ผมไม่ชอบที่หมอกโดนดูถูกแถมยังโดนทำร้ายอีก” มันเปลี่ยนมาทำหน้างอเอาคางมาเกยผมแบบอ้อนๆ  ผมทำเสียงจึ้จ้ะก่อนจะดันหัวมันออกไป

“มากไป กูยังไม่ได้เอาเรื่องที่มึงโมเมว่ากูเป็นมึงเป็นแฟนกูเลยนะ” ผมเปิดกล่องปฐมพยาบาลก่อนจะหยิบ สำลี แอกอฮอลล์แล้วก็เบตาดีนออกมา ซีนอนจัดแจงเอาสำลีชุบแอลกอฮอลล์อย่างรู้งาน

“ผมแค่ยืมตำแหน่งในอนาคตมาใช้ เมื่อวานหมอกก็ยังทำเลย ดีนะไม่เป็นไรมาก จะไปหาอะไรมาประคบให้นะครับ จะได้ไม่บวม” มันจัดแจงทำแผลให้ผมจนเสร็จแล้ววิ่งไปเอาเจลประคบเย็นที่ผมมีประจำไว้ในตู้เย็นมาให้ ผมจะหยิบมาประคบเองแต่โดนมันปัดมือทิ้งแล้วเสนอตัวจะประคบให้

“กูเป็นผู้ชาย มึงไม่ต้องอะไรขนาดนี้ก็ได้ไหมวะ” ผมพูดไปแบบไม่ได้จริงจังอะไรมาก ซีนอนหัวเราะหึก่อนแกล้งกดเจลประคบให้หนักขึ้น

“ก็ผมอยากดูแลอะ เนี่ยผมไม่ชอบจริงๆนะที่มีคนมาดูถูกหมอก หมอกไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอ”

“ก็นั่นมันคาแรคเตอร์กูตอนไปเรียนนี่หว่า” แต่แววตาของมันไม่ได้พอใจในคำตอบผมมากนัก ผมถอนหายใจก่อนอธิบายเพิ่ม

“มันวุ่นวาย มึงก็เห็นตอนไปห้าง” เหมือนหยุดคิดไปแป็บนึง ก่อนจะทำหน้าเหมือนคนคิดไม่ตก

“อย่างนู้นก็ไม่ดีอย่างนี้ก็โดนดูถูก เฮ้ จริงสิผมเป็นไม้กันหมาให้ไง ไม่อยากเป็นตัวของตัวเองหรอ” ตาสีน้ำตาลนั่นกระพริบปริบๆ เลยใช้นิ้วดันหัวมันออกไปด้วยความหมั่นไส้

ใช่ว่าผมจะไม่อึดอัดที่ต้องทำตัวอย่างนั้นไปเรียน ร้อนก็ร้อนแถมผมยังปิดหน้ารุงรังไหนจะแว่นหนักๆอีก แต่ให้แลกกับไม่มีเรื่องวุ่นวายก็คุ้ม


ยกเว้นวันนี้ที่มันวุ่นวายสุดๆทั้งที่ผมยังไม่ได้ทำอะไร จะโทษใครได้ก็ไอ้ฝรั่งตัวใหญ่นี่ไง



“ไว้กูจะเก็บไปคิดละกัน” ผมยิ้มที่มันทำตัวเหมือนเด็ก




“แต่ว่าไปวันนี้หมอกใจดีแปลกๆนะ ” ไม่ว่าเปล่ายังกระเถิบเข้ามาคลอเคลีย เจลเย็นที่มันเอามาให้ประคบถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะนานแล้ว ครั้งนี้ผมไม่ได้ผละออกแต่หัวเราะหึหึ เรื่องในห้องน้ำยังคงคอยหลอนเป็นระยะๆทำให้การตัดสินใจบางอย่างของผมเขว ถ้าจะบอกว่าวันนี้ผมอ่อนลง ซีนอนเองก็อ่อนลงเหมือนกัน เหมือนเป็นตัวเองมากขึ้น






ก็ดีนะ



________________________________________

แอบมาต่อค่ะ อาจจะสั้นไปนิดนึง
เจอกันตอนหน้านะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH06.2 11.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 11-04-2017 19:36:05
เป็นกำลังใจให้นะคะ แต่แอบโมโหเหมือนกันนะเนี่ย เป็นเราเราก็ไม่เอาชะนีแบบนางค่ะ เกิดมาถูกเพศแต่จิตใจสกปรก  :m16:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 14-04-2017 19:01:11



7






Xenon





“อืม นี่กำลังอ่อยคืนไง”






นัยน์ตาสีดำนั่นวันนี้ดูมาชีวิตชีวามากกว่าทุกวัน ผมชอบมองตาเขามันจะแสดงออกในสิ่งที่เขาคิดในตอนที่เผลอ

อย่างที่ว่าต่อให้จะหน้าตายขนาดไหนแต่แววตายังจะสื่อความคิดของเราเสมอ
วันนี้มีเหตุการณ์ประหลาดคือหมอกเหมือนหลีกเลี่ยงที่จะสบตาผมแต่มันก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนโดนรังเกียจกลับกันมันทำให้ผมรู้สึกดีชอบกล ปฏิเสธไม่ได้ว่าสีหน้าท่าทางและการวางตัวของหมอกถือเป็นเสน่ห์ดูน่าค้นหา





อีกอย่างคือ เขาชอบยั่ว





อย่างเมื่อกี้ก็บอกว่า กำลังอ่อยผมคืน ถ้าพวกคุณเจออย่างนี้บ้างล่ะต่อให้ตายด้านหรือเสื่อมสมรรถภาพก็เถอะมันก็ต้องมีร้อนกันบ้างแหละ


บางทีผมก็แอบคิดเหมือนกันว่าเขาอาจจะแค่แกล้งผมจริงๆก็ได้ แค่มาปั่นหัวกันเล่น หลอกให้อยากแล้วก็จากไป คิดได้อย่างนี้ก็เริ่มหงอย


เกิดมาเคยต้องจีบใครอย่างนี้ที่ไหน





หมอกปล่อยให้ผมคลอเคลียอ้อนอยู่สักพักก่อนผมจะโดนเฉดหัวอีกเหมือนเดิม ขายาวนั่นลุกเดินเข้าไปในห้องนอนเหมือนว่าจะไปเปลี่ยนชุด

ปล่อยให้ผมยังเคลิ้มอยู่กับกลิ่นหมอกที่ยังติดจมูก เห็นไหมว่าวันนี้มันดูใจดีแปลกๆจนเห็นรอยยิ้มชั่วร้ายจากปากบางนั่นแวบนึง ถึงกับต้องกลืนน้ำลายอึกคิดว่าต่อไปต้องเจออะไร





มันเกือบจะเป็นวันที่ดีอยู่แล้วถ้ามันไม่มีเรื่องเกิดขขึ้นที่ร้านอาหารนั่น ดันมีมารผจญที่ตอนแรกผมก็นับถือความกล้าของเธอที่เดินเข้ามาหาผม เพราะผมตั้งใจแผ่รังสีอำมหิตเพื่อไม่ให้ใครเข้ามาใกล้แล้ว

แต่เรื่องความกล้าก็ส่วนนึงแต่นิสัยที่เธอมาดูดถูกคนอื่นผมรับไม่ได้จริงๆ แล้วนี่คือหมอก

ทุกอย่างที่เธอพูดมันไม่ใช่ความจริงสักอย่างนั่นยิ่งทำให้ผมโกรธ ตอนที่หมอกโดนทำร้ายยอมรับว่าผมฟิวส์ขาด


ถ้าหมอกไม่เข้ามาห้ามผมคงได้ลงมือกับเธอไปจริงๆ เวลานั้นจะผู้หญิงหรือผู้ชายผมก็ไม่สนใจหรอก ผมโมโหขนาดที่ไม่มีอารมณ์จะพูดโต้ตอบอะไรกับหมอกด้วยซ้ำ ได้แต่คิดว่าหมอกทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นไปได้ไง



นั่งเชคอีเมลล์เพลินๆระหว่างรอหมอก เริ่มรู้สึกว่ามันชักจะนานแปลกๆ เริ่มเป็นห่วงขึ้นมานิดนึงเลยคิดว่าจะเดินไปตาม เปิดประตูเข้าไปก็ไม่เห็นใครแต่ได้ยินเสียงน้ำและประตูห้องน้ำก็แง้มอยู่


หมอกกำลังล้างหน้าแต่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆอยู่ผืนเดียว พอมองอีกทีก็เห็นว่ามีหยดน้ำเการะพราวตามตัวผมก็เปียกลู่

เหมือนยังไม่รู้ถึงการมีตัวตนของผม ผมจึงได้ถือโอกาสมองสำรวจร่างกายสมส่วนนั้นอยู่นาน

ยิ่งมองผมก็ยิ่งเหมือนจะจมดิ่งลงไปในห้วงความคิด เสียงกระทบกันของจี้รูปนกอินทรีย์กับอ่างล้างหน้าช่วยให้สติผมกลับมา

สร้อยของผม


พอคิดได้ว่าควรเลิกเสียมารยาทจึงกระแอมขึ้นเบาๆ



“เชี่ย..” หมอกสะดุ้งก่อนที่หูจะแดง รอบนี้ยังไงก็ดูเหมือนเขาเขินผมแน่ๆ ผมเลยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ นั่นทำให้หมอกหันขวับและส่งค้อนดุๆให้ผมหนึ่งที ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กอีกผืนมาเช็ดหน้า


“สัด…มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง”


หมอกทำเสียงเข้มแต่ยังไม่ยอมมองหน้าผมยังคนสาละวนอยู่กับการเช็ดหัว

ความเงียบเกิดขึ้นสักพักก่อนหมอกจะทนไม่ไหวเดินชนผมออกไปนอกห้องน้ำ รีบเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วจัดแจงสวมกางเกง


จะว่าตาผมมันไม่รักดีก็ได้ที่เอาแต่คอยจ้องขาขาวๆตอนมันยกขึ้นมาใส่ชุด

หมอกส่งเสียงหึออกมาดังๆ เหมือนจะหัวเราะเยาะผม



มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกแย่ตรงกันข้ามผมอยากเข้าไปฟัดคนขี้อ่อยนี่มากกว่าเดิมอีก


เมื่อผมเห็นว่าหมอกไม่มีทีท่าว่าจะหยิบเสื้อมาสวมก็ได้แต่ยิ้มอยู่ในใจ คิดไปว่าหมอกจะทำอะไรต่อ

ไม่นานหมอกเปิดลิ้นชักและหยิบกล่องสีดำขนาดไม่เล็กมากกล่องนึงออกมา ก่อนจะเดินมาที่หน้ากระจกซึ่งอยู่ข้างๆผม หมอกวางกล่องนั่นลงบนโต๊ะ พอเปิดออกก็เห็นพวกเครื่องประดับซึ่งส่วนมากจะดูเหมือนจิวและพวกต่างหู มีหลายสีแต่ที่เยอะที่สุดดูจะเป็นสีเงินและสีดำ หมอกหยิบกล่องพลาสติกใสออกมาสามกล่องก่อนจะยื่นมาข้างหน้าผม


“เลือกมากล่องละอัน”


พูดนิ่งๆไม่สนใจสายตางงๆของผม ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร ผมมองโลหะสีต่างๆที่วางอย่างเป็นระเบียบอยู่ในนั้น ในแต่ละกล่องมีกว่าสิบอันแต่ละอันก็มีรูปร่างน่าตาแตกต่างกันไป

ผมเลือกแต่แบบเรียบๆออกมา มีสีเงินสองอันและสีดำอีก 1 อัน ก่อนจะส่งให้หมอกที่ยืนแบมือรออยู่
หมอกยิ้มเหมือนชอบใจ

“เลือกดีหนิ ทีนี้มาเล่นเกมส์กัน” หมอกกระตุกยิ้มชั่วร้ายแต่ยังพูดอกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ ผลักผมให้นั่งลงบนเตียง ก่อนตัวเองจะเลื่อนเก้าอีกมานั่งตรงข้าม


“สามอัน อันละที่ เลือกอันที่ชอบที่สุดมา”

“แล้ว?” ตัวเลือกสามอันวางเรียงอยู่บนมือหมอก ผมยังไม่รู้เรื่องอะไรอยู่เหมือนเดิมทั้งไอ้สามอันนี้คืออะไร แล้วหมอกกำลังเล่นอะไร

“เลือกอันไหนจะให้ ลอง อันนั้น”



หึ


ไม่รู้หมอกคิดอะไรแต่ที่แน่ๆยังไงดูเหมือนผมก็จะได้เปรียบ แต่ก็ยังไม่รู้หน้าที่ของสามอันนี้อยู่ดีมันดูเหมือนจิวต่างหูเหมือนกันทั้งสามอัน

แต่ในที่สุดผมก็ชี้เลือกอันสีเงินที่ยาวที่มีลูกกลมๆปิดหัวท้าย หมอกมองหน้าผมแปบนึงก่อนจะยิ้มมุมปาก

“อืม..แปบนึง” หมอกหยิบทั้งสามอันนั้นไปทำความสะอาดค่าเชื้อก่อนมานั่งที่เดิม วางของปริศนาพวกนั่นไว้บนทิชชู่

“อันที่มึงไม่ได้เลือกก่อนแล้วกัน” ว่าแล้วหมอกก็หยิบอันสีดำที่มีอยู่อันเดียวขึ้นมาก่อน มันเป็นรูปสามเหลี่ยมดูแปลกๆแต่ผมว่าสวยดี แกะๆแงะๆอยู่สักพักนึงก็เอามาใส่ที่หู ผมมองอย่าสนใจ แสดงว่าถ้าผมเลือกอันนี้ผมก็จะได้





ไซร้





อืม






คลอเคลีย




อืม...





โอ้ย แค่คิดก็หื่น ไม่ๆ ผมต้องจับตาดูอันที่ผมเลือกเริ่มจะลุ้นว่ามันคืออะไร สายตาหมอกแสดงออกแบบชัดเจนว่าชอบใจก่อนจะหยิบแท่งสีเงินอีกชิ้นที่คล้ายกับอันที่ผมเลือกเพียงแต่ว่ามันเล็กกว่า สายตาหมอกยังคงจ้องผมไม่วางตาเพียงแต่ตอนนี้มันเจือไปด้วยความสนุกเพิ่มเข้าไปอีก


และผมก็ได้รู้สาเหตุที่หมอกยังไม่ใส่เสื้อ







เอาเลย










ฆ่าผมเลย




ผมแทบจะนั่งไม่ติดเตียงอยากเข้าไปช่วยใส่ให้รู้แล้วรู้รอด มือขาวๆที่กำลังง่วนอยู่กับหน้าอกตัวเอง



มันน่า...




เริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพวกตาแก่ตัณหากลับเข้าไปทุกที จากครั้งนั้นที่เคยเห็นเพียงแค่แวบๆตอนหมอกเปลี่ยนเสื้อ ตอนนี้ผมได้เห็นชัดๆละครับ สีเงินของจิวเข้ากับผิวขาวๆและจุดแต้มสีสวยนั้นมากๆ

แถมครั้งนี้ยังมีเจตนาอวดให้มองชัดๆแบบไม่ต้องแอบ หมอกยักคิ้ว ก่อนหยิบอันสุดท้ายขึ้นมาชู แต่แทนที่หมอกจะใส่เลยกลับเดินเข้าห้องน้ำแต่แค่แปบเดียวก็เดินออกมา ผมมองหาความเปลี่ยนแปลงแต่ก็ไม่พบ จน...









“ส่วนอันนี้ที่มึงเลือก ตรงใจกูมาก”



เดี๋ยวนะ..








แวบๆ





เหมือนเห็นอะไรบางอย่าง




สีเงินๆ



.



.

.
ในปาก...




ไม่รอให้ผมงงนาน หมอกก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองอย่างนึกสนุก ทำให้ผมเห็นแท่งสีเงินที่ผมเลือกเมื่อกี้อย่างชัดเจนที่ ลิ้น แววตาเป็นประกายวิบวับ เอาละผมเชื่อแล้วว่าวันนี้หมอกแปลกไปจริงๆ แต่มันก็ดีสำหรับผมอยู่แล้ว


“เคยไหม” หมอกถามยั่ว พลางเล่นกับจิวที่อยู่ที่ลิ้น ดุนไปดุนมา



“หึ” ผมปฏิเสธ มองคนช่างยั่วไม่วางตา



“อืม รับรองติดใจ”







หมอก








เป็นเพราะสลัดเรื่องบ้าๆเมื่อคืนไม่ได้สักที ตอนแรกก็ว่าจะแค่เข้ามาเปลี่ยนเสื้อแต่พอเห็นห้องน้ำเห็นห้องนอนแล้วมัน..

คงไม่ต้องบอกนะว่าเรื่องอะไรที่วนเวียนจนพาลจะปวดหัว พอเผลอเข้าไปอาบน้ำกะให้หายฟุ้งซ่านแม่งก็ฟุ้งกว่าเดิมซะอีกกว่าจะสงบสติอารมณ์ได้ก็คงนานไปจนมีคนเข้ามาตาม


จะไม่อะไรเลยถ้าเป็นเวลาอื่นจะแกล้งให้คอหดเลยด้วยซ้ำ นี่เหมือนโดนเข้ามาตอกย้ำ




อย่าถามว่าไอ้เกมส์นี้คิดขึ้นมาได้ไง


เพราะอยากรู้ล้วนๆ


อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกเหมือนที่จินตนาการเมื่อคืนรึเปล่า




บ้าไหมละ







ปกติชอบแกล้งก็จริงแต่ก็ไม่เคยต้องเปลืองตัวจริงๆแถมครั้งนี้เสนอเองอีกต่างหาก

ไอ้ควายหมอก เป็นไรของมึง อยากจะทุบหัวตัวเองซะหลายๆทีแต่มันก็ค้านกับความตื่นเต้นในเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิด ผมชอบแววตาของคนตรงหน้ามากๆ มันวิบวับมีสายตาท้าทายแบบปิดไม่มิด





ดูเหมือนผมต้องไม่ทำให้ผิดหวังซะแล้ว




มือสวยดันไหล่อีกคนให้ขยับเข้าไปนั่งลึกอีกนิดด้วยสัมผัสเพียงเล็กน้อยก็ยอมตามโดยง่าย ไล้มือไปตามโครงหน้าคม ตาประกายสีเฮเซลนัทจับจ้องไม่วางตา


เจ้าของผิวขาวไร้การปกปิดท่อนบนค่อยๆแทรกตัวลงไปนั่งบนฟูกที่ว่างระหว่างขาแกร่ง นิ้วเรียวค่อยๆไล้เบาๆจากใบหน้าลงมาไหล่และจบลงด้วยการโน้มคอคนตัวใหญ่ลงมาใกล้


“เอาละนะ”


อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรเพียงอยู่นิ่งๆให้คนตัวเล็กว่าเริ่มก่อน รอยยิ้มเหมือนเจอของถูกใจยังไม่เลือนไปจากใบหน้า เพียงชั่ววินาทีที่ริมฝีปากทั้งสองแตะกันเหมือนต่างคนก็ได้คำตอบบางอย่างของตัวเอง

ปากบากหยอกล้ออีกฝ่ายอย่างยั่วยวน ขบเบาๆเหมือนขออนุญาติ จากผิวเผินกลายเป็นลึกซึ้งอดยอมรับไม่ได้ว่าเจ้าเหล็กสีเงินนั่นเพิ่มความตื่นเต้นได้มากทีเดียว

สัมผัสเย็นๆกวาดต้อนไปทั่วปาก จากที่ตั้งใจว่าจะให้อีกคนเป็นฝ่ายนำกลับทนการรุกล้ำนี่ไม่ไหวเร่งจังหวะจากหยอกเย้าให้ร้อนแรงขึ้น กดแผ่นหลังที่เปลือยเปล่านั่นเข้ามาให้ชิดและอดไม่ได้ที่จะสัมผัสผิวลื่นและกล้ามเนื้อที่สมส่วนนั่น

อีกคนก็ไม่ได้น้อยหน้ามือที่โอบรอบคอย้ายไปกำผมนิ่มของร่างโปร่งอย่างระบายอารมณ์ส่งเสียงครางอือในลำคอเหมือนถูกใจ ตอบรับลีลาเร้าร้อนอย่างไม่ยอมแพ้



ไม่รู้ว่ากลายเป็นโดนคร่อมตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะกว่าจะผละริมฝีปากออกจากกันก็ตอนที่ต้องการอากาศเท่านั้น ร่างสูงยังกดจูบซ้ำๆบนริมฝีปากบางที่ตอนนี้เห่อขึ้นสีชมพูระเรื่อไม่ต่างกับใบหน้า

ไม่จำเป็นต้องอาศัยนัยน์ตาสีดำนั่นเพื่อคาดเดาความรู้สึกของออีกฝ่าย เพราะตอนนี้มีรอยยิ้มน้อยๆปรากฎชัดพอให้ได้คำตอบอยู่แล้ว




"ไม่เบานี่"



ประโยคแรกหลังจากความเงียบออกมาจากผมเอง ซีนอนยิ้มรับอย่างภูมิใจจนน่าหมั่นไส้ ผมผละออกจากซีนอนและกลับมาอยู่ในท่านั่งปกติ อืม จะว่าไงดี จูบเมื่อกี้ทำให้ผมรู้สึกหลายอย่าง ทั้งตื่นเต้น รู้สึกหวิวรวมถึงสับสน มันไม่ได้แย่แต่กลับตรงกันข้าม มันทำให้ผมรู้สึกดีมากจนเหมือนว่าตัวเองรู้สึกดีเกินไป ผมควานหาของที่ต้องการในลิ้นชักหัวเตียง



"ไม่ต้องตามมานะ"


อีกคนที่อยู่ข้างหลังดูจะมีสีหน้ากังวลนิดหน่อย แต่ตอนนี้ผมอยากเคลียอารมณ์คุกกรุ่นของตัวเองมากกว่า เมื่อได้ของที่ต้องการก็เดินออกไปที่ระเบียงติดห้องนอน นั่งลงบนม้านั่งเล็กๆ มองพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า












จากที่คิดว่าจะได้ลูกไก่ในกำมือ กลายเป็นได้นกยักษ์ซะงั้น                                                                                                                                                                                                                                               




________________________________________





เล่นอะไรอะหนูลูก55555
เอาตอนเบาๆมาฝาก ฉลองสงกรานต์ค่ะ
ไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านไหมหรือไปเที่ยวสงกรานต์กันหมด /ส่วนดราฟอยู่เฝ้าบ้านยาวๆไปค่ะ เศร้า

สวัสดีปีใหม่ไทย(ย้อนหลัง)กันด้วยนะคะ ♥♥♥









หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 14-04-2017 20:19:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 14-04-2017 22:08:01
ชอบอ่ะะะะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 19-04-2017 10:44:12
สนุกๆๆ. มาต่ออีกนะครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 19-04-2017 12:57:52
ต่างคนต่างเจอสิ่งที่ถูกใจ
หมอกเองก็นะ ทำเป็นไม่สนใจเท่าไหร่ แต่ติดใจจนนึกถึงอยู่บ่อยๆเลยนะ
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 23-04-2017 00:39:43
อ้าาาาาาาา.~~ กลับมาอ่านอีกยาวเลย  ชอบนายเอกแบบหมอก หาอ่านยากอ่ะะ แนวนายเอกงี้  ชอบเนื้อเรื่องด้วยดูมีความลับอีกเยอะเลย  ฮืออออ รักคนแต่งง
ปล.เราจะรออ่านตอนสองคนนี้ได้กันนะ5555
..รักเรื่องนี้เลย..จากใจ5555
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 23-04-2017 01:55:07
ชอบมากเลยค่า หมอกดูมีเสน่ห์มาก มาต่อบ่อยๆนะคะ สู้ๆค่า
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH07 14.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 23-04-2017 17:39:55
มาต่ออีกนะจร้า ^^
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH08 23.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 23-04-2017 20:55:29



8






ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันนั้นนี่ก็ล่วงเลยมาเกินอาทิตย์นึงแล้ว ไอ้ฝรั่งที่หายหัวไปตั้งแต่หลังวันที่เกิดเรื่องยังหายเงียบจนน่าหงุดหงิด มีแค่ข้อความที่ส่งมาบอกว่าธุรกิจของมันมีปัญหา ช่วงนี้ไม่ว่างเท่านั้น




ตอนนี้ผมกำลังลงจากดูคาติคู่ใจ (ducati monster 1200R) เพื่อเดินเข้าไปในสถานที่อโคจรสุดหรูแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพ  ที่เพื่อนๆผมโทรจิกจนผมต้องออกมาตามคำเรียกร้องเนื่องในโอกาสฉลองวันเกิดย้อนหลังให้นาย


วันก่อนผมให้หนังสือมันไปแล้วครับ แน่นอนว่ามันดีใจจนแทบจะกระโดดขี่คอผม


กว่าผมจะหลบพวกลูกน้องของไอ้ซีนอนที่เฝ้าอยู่ด้านล่างคอนโดได้ก็ต้องใช้ความสามารถอยู่พอสมควร


คิดแล้วก็ขำ

ไม่รู้ว่าคนในคอนโดจะกลัวพวกบอดี้การ์ดนั่นกันขนาดไหน


ผมเดินถือหมวกกันน็อคสีดำสนิทเหมือนตัวรถเข้ามาในร้านก่อนจะเดินก้าวยาวๆไปหาพวกนายที่นั่งกันอยู่ก่อนแล้วจัดแจงนั่งลงบนโซฟาโค้งตัวใหญ่ก่อนวงหมวกของตัวเองลงบนโต๊ะ




“นายหล่ะ?” ผมถาม




“เอ่อ..ห้องน้ำ ครับ?” ฟีฟ่าตอบผมงงๆก่อนจะหน้าแดง




“ว่าแต่ นี่ใครอะครับ เพื่อนไอ้นายหรอ” คำถามมันแทบจะทำให้ผมหลุดขำ ฟีฟ่าหน้าแดงยิ่งกว่าเก่า จะว่าไปพวกมันยังไม่เคยเห็นผมแต่งตัวอย่างนี้นี่หว่า




ร่างโปร่งวันนี้อยู่ในเสื้อยืดสีขาวล้วนคอกว้างเข้ารูปสีขาวทับด้วยแจ็คเก๊ตหนังสีดำ กับกางเกงสกินนี่สีเดียวกัน รอยขาดที่กางเกงไม่มากไม่น้อยกำลังดูดีบวกด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาว แต่ที่ทำให้ฟีฟ่าจำไม่ได้มากที่สุดน่าจะเป็นหน้าคมที่ตอนนี้เส้นผมนุ่มสีดำสนิทถูกเซทอย่างเป็นธรรมชาติตาที่มันควรจะเป็นไม่มีทรงรังนกมาบังให้รำคาญตา บริเวณคิ้วและใบหูมีจิวแบบต่างๆประดับ




“ก็ใช่นะ” ผมตอบบวกกลั้นขำ แทนคุณยังนั่ง งงๆเอ๋อๆมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้าดูท่าไอ้ห่านี่ก็จะจำผมไม่ได้เหมือนกัน ซันที่ดูเพิ่งได้ที่สุดวันนี้ก็ดันไม่ว่าง




“หมอกมึงก็ไปแกล้งมัน” ผมหันไปยิ้มให้นายที่เพิ่งเดินมาถึงโต๊ะ ก่อนมันจะเดินมานั่งที่ฝั่งตรงข้าม ฟีฟ่ากับแทนมองผมกับไอ่นายสลับกันงงๆ




"เอ้า งงห่าไร ก็เนี่ยไอ้หมอก"  ไม่พูดเปล่ามันยังชี้มือชี้ไม้มาที่ผมส่วนผมก็ได้แต่แอบเสียดายที่ไม่ได้แกล้งต่อ หันไปยักคิ้วให้สองคนที่ยังงง




พอมันเริ่มรู้เรื่องก็เริ่มมองมาที่ผมแบบไม่เชื่อสายตา






"ไอ้เหี้ย บทมันอยู่ๆจะหล่อแม่งก็หล่อว้อย ไปแดกอะไรผิดสำแดงมารึไง" ผมไม่ได้ตอบฟีฟ่าได้แต่ส่ายหัวให้กับความคิดมัน




"ไปทำอีท่าไหนมาวะ" แทนพูด




"นั่นดิ กลับมาไว้ลายเสือแล้วหรอวะ" นายเสริมอีกเสียง ผมส่ายหน้า




"กูแอบหนีออกมา เลยต้องยุ่งยากนิดหน่อย" ผมตอบเหลือบตาไปมองนายที่มัวทำหน้าล้อเลียน




"กูก็นึกว่ามึงอยากคืนสังเวียนออกหาเหยื่อตอนกลางคืนสะอีก ว่าแต่มึงหนีใครวะ"


จะว่าไปก็ตามที่นายมันพูดแหละ เมื่อก่อนผมชอบบออกมาเที่ยวคนเดียวส่วนมากก็นั่งดื่มนี่แหละไม่ได้ไปจีบใครที่ไหนหรอกแต่นายมันไม่รู้ก็ดันนึกว่าผมมาเที่ยวผู้หญิงไปเรื่อย ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องมานั่งแก้ตัวอะไรหรอกมันคิดอย่างนี้ก็ตลกดี


"บอดี้การ์ดหน่ะ" ถึงมันจะทำหน้างงเป็นคำตอบกลับมาแต่ผมก็ไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่ม ยกแก้วที่แทนผสมให้เรียบร้อยขึ้นมาจิบ




ไอ้แทนกันฟีฟ่ายังบ่นเรื่องหน้าตาของผมไม่หยุด จนมีสาวๆเริ่มเข้ามาทำความรู้จักมานั่งด้วยเท่านั้นแหละถึงหุบปากเงียบ


"พี่ชื่ออะไรหรอคะ ทำไมกวางถามหลายรอบแล้วไม่ยอมบอกสักทีหล่ะคะ" เสียงแหลมๆที่ดังอยู่ข้างหูผมมาได้สักพักเอ่ยขึ้นแทบจะเป็นรอบที่สิบ จนผมรำคาญ เริ่มด้วยจากการที่เจ้าหล่อนเดินมาขอเบอร์ผมถึงโต๊ะกับเพื่อนอีกสองคนที่ตอนนี้นั่งอ้อล้ออยู่กับฟีฟ่า ตอนแรกผมก็ทำนิ่งไม่สนใจแต่เหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเพราะเธอเปลี่ยนจากยืนมาเป็นทำท่าจะนั่งตักจนตอนนี้คือมานั่งเบียดอยู่ข้างๆ


"ชื่อพาย เป็นเกย์ ผัวดุมากด้วย" ในที่สุดผมก็ตัดสินใจตัดบทจบด้วยสีหน้านิ่ง แรงกอดรัดที่แขนผมชะงักนิ่งไปก่อนจะค่อยๆคลายออกท่าทางเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพื่อนผมทั้งโต๊ะนั่งอ้าปากค้างก่อนจะเป็นแทนคุณที่เริ่มขำ




ผมยังคนไม่สนใจเธอต่อไปหยิบแก้วข้างหน้าที่ตอนนี้เป็นแค่น้ำเปล่าเพราะผมนึกได้ว่าต้องขับรถกลับ นั่งฮึดฮัดอยู่สักพักเธอก็ยังไม่ยอมลุกกลับโต๊ะไปสักที


ชื่อพาย มันมีที่มานะครับ มาจาก พระพาย ชื่อจริงของผม เป็นชื่อที่ผมเอาไว้ใช้เวลาออกมาเที่ยวเสียเป็นส่วนใหญ่ ผมไม่ค่อยอยากให้ใครรู้จักผมเยอะเกินไปนัก แถมชื่อพายก็ดูน่ากิน เหมาะมากที่จะเอาไว้จับเหยื่อ


"ไปเข้าห้องน้ำ" พูดเสร็จผมก็ลุกแล้วเดินออกมาทันที


ผมเดินก้าวฉับไม่สนใจสิ่งรอบข้างจนมาถึงห้องน้ำแล้วจัดการธุระส่วนตัว เช็คความเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมาด้านนอก แต่เพราะผมยังไม่อยากกลับไปที่โต๊ะ เลยเดินตรงไปที่เคาท์เตอร์บาร์แทน สั่งน้ำเปล่ามาหนึ่งแก้ว


ก่อนนั่งมองบรรยากาศรอบร้านไปเรื่อย




จนสายตาไปเจอกับคนหนึ่งเข้า






คนตาสีฟ้า ที่เคยเจอในร้านหนังสือ


ไวกว่าความคิดเจ้าของตานั่งก็เดินดุ่มๆมายืนอยู่ข้างๆผมเสียแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนที่คนตรงหน้าจะพูดทักทายผม


“ไฮครับ คุณพระพาย”




เขารู้จักผม?



 “คุณเป็นใคร”




ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี่ไม่น่าไว้ใจ สัญชาตญาณป้องกันตัวของผมทำงานทันที



ผมถอยห่างจากเขาอย่างไม่ปิดบัง 



“ไอเดน  คลิฟฟอร์ด”


ไม่พูดเปล่ามือนั่นยังเอื้อมมาจับผมสีดำสนิทของผม ยกมือขึ้นปัดมือนั้นออกอย่างไม่ลังเล




“มีอะไร”




แต่อีกคนดูไม่ได้ใส่ใจ ยังขยับเข้ามาใกล้จนผมทำท่าจะลุกขึ้น มือนั่นเลยยกมาจับบ่าผมและกดให้นั่งลงที่เดิม ผมขืนตัวออกแต่ก็ต้องหยุดเมื่อแรงบีบนั่เริ่มเปลี่ยนเป็นจิกไหล่ผมจนรู้สึกเจ็บ


“ผมแค่จะมาขอโทษ ที่ส่งลูกน้องไปทำร้ายคุณเมื่อคราวก่อน”




“มึง..”



“ถ้าผมรู้ว่าพระพายสวยขนาดนี้ ผมไม่ปล่อยให้ตายไปเฉยๆหรอกครับ”




ผมพูดอะไรไม่ออก อยู่ๆก็รู้สึกว่าหมดแรงเอาดื้อๆ มือของอีกคนเลื่อนมาจับที่หน้า


น้ำนั่น




แม่งเอ้ย


“แต่เสียดาย ที่มีคนจองแล้ว”  มันพูดแล้วเหลือบมองไปที่ข้อมือของผมก่อนยิ้มเหยียด


ผมโมโหจนตัวสั่นไปหมดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พยายามล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อควานหาโทรศัพท์


“หืม คิดหรอว่าผมจะปล่อยเพื่อนคุณเข้ามาหาได้ง่ายๆหน่ะ”


ผมมองไปด้านหลังก็เห็นว่ามีคนยืนเฝ้าอยู่เป็นจุดๆ ก็ได้แต่กัดฟัน มือนั่นยังไม่ปล่อยไปจากหน้าของผม แถมพอผมยิ่งขัดขืนมันก็ยิ่งยิ้มแบบได้ใจ


ทำไมแม่งไม่มีใครสังเกตเลยวะ ผมโดนไอนี้ทำร้ายอยู่นะว้อย



“ฟ้องไอ้ซีนอนสิ มันจะได้รู้ว่าคนของมัน...กำลังทรมาณ” ยิ้มที่สะอิดสะเอียนนั่นผมอยากจะผลักออกไปให้ไกล แต่มือทีหมายจะผลักอีกคนออกนั้นกลับมีแรงแค่เพียงสะกิดไหล่อีกคนเบาๆได้เท่านั้น



“มึง”




“แจคพอตจังเลยน้า ที่พระพายรู้จักกับซีนอน ผมเลยจะได้ทั้ง AOSCO ทั้งเด็ดหัวไอ้จีโอวานี่ไปพร้อมๆกัน”


AOSCO คือบริษัทขนส่งหรือบริษัทโลจิสติกที่พ่อของผมเป็นเจ้าของ บริษัทให้บริการตั้งแต่ระดับครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีเครดิตดีมากบริษัทหนึ่ง แถมยังมีเส้นสายในหลายๆประเทศ ทำให้การขนส่งจะไม่โดน Blacklist หรือถูกเพ่งเล็งมากนัก ตู้คอนเทนเนอร์แทบจะทุกตู้ไม่ว่าจะท่าเรือหรือสนามบินก็จะมีเครื่องหมายตราบริษัทนี้ให้เห็นอยู่ทั่วไป มันเลยกลายเป็นช่องทางที่พวกธุรกิจใต้ดินต้องการเป็นอย่างมาก พ่อผมจึงมักโดนขู่หรือblackmail ด้วยสาเหตุนี้บ่อยๆ



“ปล่อย”


ผมพูดอีกครั้งพยายามแกะมือที่มันจับหน้าผมออกแต่มันก็ยังไม่เป็นผล แถมมืออีกข้างก็ยังล้วงมาหยิบโทรศัพท์ของผมแบบหน้าตาเฉย




“เรามาดูกันดีกว่า ว่าจีโอวานี่นั่นจะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการมาช่วยพาย”


เจ้าตาฟ้าพิมพ์อะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้ม


“And…sent!  อืม งั้นเรามาหาอะไรทำฆ่าเวลากันดีไหม”


“ไม่! ปล่อย”


เหมือนเดิมคือยิ่งผมดิ้นมันก็ยิ่งเพิ่มแรงจับ จนตอนนี้คางผมระบมไปหมด ไอเดนยังมีสีหน้ายิ้มแย้มดูไม่สะทกสะท้านกับสิ่งที่ตัวเองทำเหมือนเดิม




แต่นั่นยังไม่น่ากลัวเท่าสายตา มันเป็นสายตาที่ปกติจนเกินไปดูพอใจกับเหตุการณ์แบบนี้มากเกินไปและยิ่งผมต่อต้านหรือเจ็บเขาก็ยิ่งดูพอใจขึ้นเรื่อยๆ




ไม่ชอบคนนี้เลย สัญชาตญาณของผมมันฟ้องเต็มที่ คนๆนี่อันตราย ไม่ควรเข้าใกล้เด็ดขาด




เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนผมต้องหลับตา ลิ้นร้อนๆลากผ่านใบหูทำเอาผมขนลุก พยายามจะผลักคนตัวใหญ่นี่ออกอย่างเต็มที่ ก่อนที่ผมจะโดนกระชากเข้าตัวเขาอย่างแรง



ไอเดนโอบเอวผมพามาจนถึงห้องน้ำด้านหลัง ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น


“ไม่ต้องกลัว ผมไม่ฆ่าหรอก แค่อยากจะให้จีโอวานี่มันตกใจเล่นๆหน่ะ”


ผมโดนดันเข้าไปในห้องน้ำเล็กๆจนล้มลงไปนั่งบนชักโครก เสียงหัวเราเบาๆดังมาจากเจ้าตาฟ้า ยิ้มสะอิดสะเอียนนั่นทำให้ผมขยะแขยง บวกกับมือของมันที่เริ่มมาจับตัวผมอีกรอบ


 ผมสะบัดมือนั่นทิ้ง


มันทำท่าไม่พอใจแว้บนึงก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิม หน้าของผมโดนล็อคด้วยมือนั้นไว้อีกรอบ


"ดุได้ใจจริงๆให้ตายสิ"


ผมจ้องตามันอย่างไม่ยอม ผมไม่อ่อนแอและผมก็จะไม่ยอมโดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว

ตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการสะบัดหน้าออกจากมือนั่น ก่อนจะกัดข้อมือนั้นเต็มแรง

"Shit!!"


ไอ้นั้นรีบดึงมือออก ผมเห็นรอยฟันตัวเองอยู่เด่นชัดบนข้อมือนั่นส่วนในปากผมก็ได้กลิ่นคาวเลือด

'เพี้ยะ!!'

ดวงตาของมันวาวโรจน์ก่อนจะใช้มืออีกข้างตบลงมาที่หน้าผมอย่างเต็มแรง ผมหันไปตามแรงตบนั้น

ผมของผมถูกกระชากทำให้สายตาผมจ้องกลับมาที่หน้ามันที่ตอนนี้อยู่ห่างเพียงไม่กี่เซนต์

"แรงๆอย่างนี้แหละดี" ยิ้มเย็นๆนั่นยังคงฉายอยู่บนหน้านั้นตลอดเวลาและมันยิ่งทำให้ผมไม่ชอบ

'ถุด!!'

ผมถุยเลือดที่อยู่ในปากใส่เต็มแก้มของไอ้ตาฟ้าจนคิ้วของมันกระตุกก่อนที่จะสบถด่าผมเบาๆ มือใหญ่นั้นเอื้อมเช็ดคราบนั้นออกอย่างใจเย็น

"You like it hardcore baby?"

ว่าแล้วมันก็กระชากคอผมไปอีกทางก่อนจะก้มลงมาฝังเขี้ยวเข้าเต็มไหล่

"อึ่ก"  ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ

"You bite ,I bite that's sound fair"
(คุณกัดผม ,ผมกัดคุณ ก็ฟังดูยุติธรรมนะ)

ไม่พูดเปล่าลิ้นสากๆนั้นยังลากวนไปรอบแผลทำให้รู้สึกแสบ ก่อนจะไล้ขึ้นมาที่คอเรื่อยๆจนมาถึงหู

"ผมว่าผมชักจะชอบคุณขึ้นมาจริงๆแล้วหล่ะ พระพาย"

มือที่ดึงหัวผมอยู่เปลี่ยนมาบีบคอ หน้าของไอ้บ้านั่นเลื่อนเข้ามาใกล้ก่อนที่ผมจะโดนกัดเข้าที่ปากอีกรอบ ริมฝีปากนั้นพยายามจะทาบทามลงมาผมหันหน้าหนีอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเริ่มหายใจไม่ออก แรงบีบที่คอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเช่นเดียวกับริมฝีปากของผมที่ยังคงโดนบดเบียดและพยานามรุกล้ำ




ภาพเหตุการ์ณเก่าๆ ฉายเข้ามาในความคิดนั้นเริ่มทำให้ผมสั่นและความคุมตัวเองไม่ได้



ไม่



ต้องไม่เป็นอย่างนี้



รับเรื่องราวอย่างนี้ไม่ไหวอีกแล้ว



ใครก็ได้ พาผมออกไปที..









ตึงงง!!



เสียงตึงตังด้านนอกประตูห้องน้ำทำให้ไอเดนผละออก ก่อนร่างนั้นจะยกยิ้มประจำตัวที่น่าสะอิดสะเอียน

"โอ๊ะโอ หมดเวลาสนุกแล้วสิ"

เสียงเปรี้ยงดังขึ้นพร้อมประตูห้องน้ำที่กระชากออก ผมเห็นเงาที่คุ้นเคยกำลังเดินมาข้างในด้วยท่าทีโมโห ในมือของเขากำคอเสื้อผู้ชายคนหนึ่งที่เดาได้ว่าน่าจะเป็นลูกน้องของไอ้คนตาสีฟ้าคนนี้ เมื่อเข้ามาถึงในห้องน้ำร่างในมือนั่นก็โดนเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ไยดี

ผมสบตากับเขา ดวงตาสีเฮเซลนัทที่คุ้นเคย


วินาทีนั้นทุกอย่างในใจผมก็สงบลงอย่างประหลาด



"หมอก!!"

ซีนอนร้องเรียกชื่อผมก่อนจะมองหน้าเจ้าคนตาฟ้าอย่างเอาเรื่อง ผมไม่เคยเห็นสายตาซีนอนแบบนี่มาก่อน มัน ..น่ากลัว มันเป็นสายตาที่ดูเหมือนสามารถที่จะกระชากวิญาณให้ออกจากร่างหรือแม้แต่ทำลายทุกอย่างจนเหลือแต่ซากได้

"20 นาที คุณทำให้ผมผิดหวังนะจีโอวานี่"

สันกรามของซีนอนถูกขบจนนูนอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ เช่นเดียวกับมือที่กำจนสั่น

"ไอเดน แก..!!"

"คนสำคัญของคุณ ยังมาสายขนาดนี้ ผมนี่เสียใจแทนพระพายจริงๆ"

ไม่ต้องรอให้จบประโยคดี ซีนอนก็พุงตัวเข้ามาประเคนหมัดให้จนไอเดนหน้าหัน มันยกมือขึ้นมาแตะมุมปากตัวเองที่มีเลือดซิบก่อนจะหัวเราะ



หึหึหึ



น้ำเสียงยียวนอย่างนั้นขนาดผมยังอยากเข้าไปเตะ ไม่ต้องนับซีนอนที่พร้อมจะพุ่งใส่เจ้าตาฟ้าตลอดเวลา เสียงอึกทึกข้างนอกดังอีกครั้งก่อนจะมีคนใส่สูทดำกรูเข้ามาจนเต็ม ทั้งหมดแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด



"มัวแต่เสียเวลากับผม ถ้าพระพายหลับไปจะแย่เอาน้า"



ไอเดนยังคงหัวเราะ ทิ้งท้ายด้วยประโยคที่ทำให้ซีนอนมองมาหาผมอย่างร้อนรน ก่อนมันเดินออกไปแบบหน้าตาเฉยโดยที่มีลูกน้องควักปืนออกมาทางผมเป็นเชิงขู่ไว้




เมื่อไอเดนออกพ้นประตูไปแล้ว ซีนอนก็รีบถลามาหาผม ก่อนจะดึงเข้าไปกอด

"ขอโทษ หมอก ผมขอโทษ..."

เสียงพรรณนาขอโทษอย่างไม่ขาดสายจากซีนอนทำให้ผมค่อยๆฝืนยกแขนกอดตอบ คำพูดพวกนั้นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเลย มันกลับทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปเสียอีก

“อย่าขอโทษ มึงไม่ผิด”

ผิดที่ผมเองที่หนีออกมาตั้งแต่แรก ผมก้มลงเอาใบหน้าซุกกับอกแกร่ง เริ่มรู้สึกว่าร่างกายล้าไปหมด และสติที่มันเริ่มรางเลือนลงเรื่อยๆ





“พากูออกไปจากที่นี่ที”




________________________________________

มาช้าแบบไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้นค่า  :hao5:
เพื่อเป็นการขอโทษเลยตัดจบตอนแบบไม่ให้ค้างเท่าไหร่55555

ขอบคุณทุกคนและทุกความเห็นที่ติดตามนะคะ /ปลื้มใจ :-[
-ดราฟ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH08 23.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 23-04-2017 23:03:37
เลวสุดๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH08 23.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 24-04-2017 16:19:38
ชอบหมอกกกกก 55555
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH08 23.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 30-04-2017 16:15:43
มาลงชื่อติดตามค่ะ หมอกน่ารักมาก

  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH08 23.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 01-05-2017 01:42:12
 o13...ชอบบบบบมาก
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH08 23.4.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 01-05-2017 20:17:00

9


        โมโหตัวเองเป็นบ้า ที่เจอเรื่องพวกนี้กี่ครั้งก็ไม่เคยจะจำเป็นบทเรียน ผมตื่นขึ้นมาในห้องที่ไม่คุ้น ของใช้ทุกอย่างที่มีในห้องนี้ไม่เป็นสีดำก็สีขาว ทั้งห้องเงียบสนิทมีเพียงเสียงแอร์เบาๆให้พอได้ยินเท่านั้น มองออกไปนอกหน้าต่างท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำสนิท ผมคงจะสติแตกไปแล้วถ้าหากที่หัวเตียงไม่มีโน้ตแผ่นหนึ่งวางไวh


‘ถ้าตื่นแล้ว กดปุ่มที่หัวเตียงเรียกนะครับ
จะไปหาภายใน 3 วิฯเลย
ซีนอน’



ผมยิ้มออกมาบางๆให้กับลายมือภาษาไทยที่เกือบจะอ่านไม่ออกนั่น แต่จะว่าๆผมแอบไม่กล้าสู้หน้าไอ้ฝรั่งนั่นได้รึเปล่าก็ไม่รู้ เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ผมผิดเองเต็มๆที่หนีออกมาโดยที่ไม่ได้บอก เพราะคิดว่าจะดูแลตัวเองได้




ซึ่งมันผิด




ผมรู้สึกว่ามันเป็นความผิดของผมที่ทำให้ซีนอนต้องทำหน้าตาน่ากลัวแบบนั้น




ครั้งนี้เกือบไปแล้วนะพระพาย


พูดเตือนสติตัวเองในใจอีกครั้ง เผื่อมันจะช่วยให้ผมระวังตัวมากขึ้นกว่านี้ได้บ้าง


ผมอยู่ในชุดนอนผ้าซาติสีดำ ตัดกับผ้าปูเตียงสีขาวสะอาด นั่งนิ่งๆอยู่สักพักผมจึงค่อยๆลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ กล้ามเนื้อทั้งตัวรู้สึกเจ็บแปลบ โดยเฉพาะบริเวณไหล่ เดินมาจนหยุดที่หน้ากระจกก็พบว่า ปากของตัวเองแตกและมีรอยช้ำเป็นจ้ำ พอปลดเสื้อตัวเองก็เห็นว่าแผลที่ไหล่ถูกปิดด้วยผ้าก๊อซอย่างดี


เอาเถอะ


ขอแค่อย่าเป็นแผลเป็นก็พอ


ใส่เสื้อกลับตามเดิมพลางถอนหายใจ



อย่างน้อยผมก็ต้องไปขอบคุณ



เพราะไม่อยากลำบากที่ต้องเรียกให้ซีนอนเป็นฝ่ายมาหา ขาสองข้างจึงก้าวไปที่ประตูห้องนอนซึ่งเป็นจุดหมายถัดไป ประตูไม้สีดำถูกแง้มออก ผมมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครเลยตลอดระเบียงทางเดินที่ยาวหลายเมตร


บ้านหลังนี้ใหญ่พอสมควรแต่ไม่ยักกะเห็นใครสักคน ผมเดินไปเรื่อยๆกำลังจะลงไปชั้นล่าง ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายใส่สูทสามคนกำลังจะเดินขึ้นมา เมื่อพวกเขาเห็นผมทุกคนก็ดูนิ่งไปครู่หนึ่ง



“เดี๋ยว อย่าเพิ่งบอกซีนอน” ผมรีบร้องห้ามเมื่อรู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไร และรีบเดินเข้าไปใกล้สามคนนั้น


“พาผมไปหาเขาที” ทั้งสามทำหน้าอึกอักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค้อมหัวและผายมือให้เป็นสัญญาณว่าให้เดินตาม


คนในบ้านทั้งหมดแทบจะมากระจุกกันอยู่ที่ชั้นล่าง ทั้งแม่บ้านและบอดี้การ์ดมากมายหันมามองผมตลอดทางที่เดินผ่าน นั่นทำให้ผมประหม่านิดหน่อย เพราะตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมีคนในบ้านเยอะขนาดนี้ ยิ่งตัวเองอยู่ในชุดนอนด้วยแล้ว


เดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่ด้านหน้าประตูบานหนึ่ง ที่มีบอดี้การ์ดหน้าถมึงทึงอีกสองคนยืนเฝ้าอยู่ ไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่าไอ้ฝรั่งต้องอยู่ในห้องนี้เป็นแน่ คนที่อยู่ด้านซ้ายเคาะประตูสองสามครั้งก่อนจะได้รับอนุญาตในเวลาเดียวกับประตูไม้ที่แง้มเปิดออกมาจากข้างใน


ใบหน้าที่คุ้นเคยนั่นทำให้ผมประหลาดใจอยู่นิดหน่อย ก่อนจะยิ้มบางๆตอบรับรอยยิ้มอบอุ่นจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็น หมอ


"สวัสดีครับ"


"ตื่นแล้วหรอครับน้องหมอก" ผมพยักหน้าหงึกเบาๆพร้อมมองเข้าไปในห้อง เห็นเจย์เลนยืนอยู่ที่ใบหน้ามีรอยฟกช้ำอยู่นิดหน่อย ข้างๆเจย์เป็นผู้ชายอีกคนหนึ่งที่มีรูปร่างแทบจะตรงข้ามกับเจย์ ทั้งตัวใหญ่แถมหน้าก็ยังดุ แต่ทั้งสองคนไม่แม้แต่กระทั่งจะมองมาทางผม กลับยืนก้มหน้าอยู่ในห้องเงียบๆ




"มีอะไรวะหมอ" เสียงเข้มจากด้านในห้องดังขึ้น เรียกเสียงหัวเราะเบาๆจากคนตรงหน้าผม ก่อนที่ร่างนั้นจะกระเถิบออกให้คนด้านในได้เห็นแขกแบบถนัดตา


หมอไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่ดันหลังให้ผมก้าวเข้ามาข้างในแทน ไอ้ฝรั่งที่นั่งอยู่บนโต๊ะประชุมเล็กๆที่มีเอกสารวางกระจายอยู่เป็นกองพะเนินเงยหน้าขึ้นมา


“หมอก! ลงมาทำไม ไม่เรียกผมให้ไปหาล่ะครับ” หน้าไอ้ฝรั่งดูตื่นๆนิดหน่อย มือรีบพับเก็บเอกสารก่อนขายาวๆนั่นจะก้าวพรวดเดียวมาถึงตัวผม สองมือนั่นเอื้อมมาจับแขนผมแล้วเขย่าเบาๆ

“ใจเย็นได้ไหมเนี่ย” ผมพูดปรามแบบไม่ได้จริงจังนัก เจย์เลยกับอีกคนที่ยืนก้มหน้า แอบมองมากทางผมเป็นพักๆจนผมแอบเห็นยิ้มกลั้นขำจากเจย์เลน

“ราฟ เจย์ พวกนายออกไปก่อน มึงด้วยไอ้หมอ”  สามคนที่อยู่ในห้องก่อนหน้า โดนไล่ออกไปจนเหลือแค่ผมกับซีนอน หมอเซนต์ยักไหล่แบบไม่คิดอะไรก่อนปิดประตูให้เมือทุกคนออกไปแล้ว


“ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมครับ” ไม่ว่าเปล่าผมโดนคว้าหมับเข้าไปกอด ผมส่ายหน้า ซีนอนกอดผมอยู่พักหนึ่งก่อนคลายออก มือยังจับไหล่ผมไว้


“มึง..กูขอโทษนะ”


“วันหลังก็อย่าทำให้ต้องเป็นห่วงแบบนี้อีก เข้าใจไหมครับ เล่นเอาผมเกือบบ้าแหน่ะ”


ซีนอนยิ้มตอบกลับมา ผมเบาใจไปเปราะหนึ่งที่เขาไม่โกรธผม โดนพามานั่งบนเก้าอี้โต๊ะประชุมตัวเดียวกับที่อีกคนเพิ่งลุกมา  เอกสารบนโต๊ะยังคงโดนกองไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ คนตัวใหญ่นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ หันหน้ามามองผม


“ขอโทษที่ไปช้า” คำขอโทษที่ทำให้ผมจ้องอีกคนตาเขม็ง


“มึงมาช่วยกูทัน..”


“นั่นแหละ ผมไม่ชอบเลย ผมไม่คิดว่าจะเป็นมัน ไอเดนอันตรายมากนะครับหมอก” เรื่อราวของไอเดนถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของซีนอน พร้อมหยิบแฟ้มบนโต๊ะเล่มหนึ่งที่ด้านในมีรูปและประวัติคร่าวๆของเจ้าตาฟ้ามาให้ผมอ่าน

ไอเดน คลิฟฟอร์ด  อายุ 32 ปี สัญชาติอังกฤษ เป็นบุคคลไม่ธรรมดาด้วยการขึ้นดำรงตำแหน่งกิจการคาสิโนและการค้าอาวุธเถื่อนตั้งแต่อายุเพียง 17 ปี ไอเดนไม่มีญาติพี่น้อง ครอบครัวเขาเพียงคนเดียวคือแม่ที่มอบกิจการทั้งหมดให้ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ข่าวลือบางข่าวก็ว่าเขาเป็นคนฆ่าแม่ตัวเอง ไอเดนควบคุมคนในปกครองด้วยความหวาดกลัว เขามีชื่อเสียงในด้านความเจ้าเล่ห์และโรคจิต ในแฟ้มยังมีหัวข้อข่าวจากหนังสือพิมพ์หลายๆหัวข้อที่ต้องสงสัยว่าพัวพันกับไอเดน มีจำนวนไม่น้อยเลยที่เป็นข่าวที่เขาเคยเห็น ฉากหน้าของไอเดนคือนักธุรกิจหนุ่มเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลางเท่านั้น มาดนักธุรกิจของมันขัดกับยิ้มเย็นที่ยังติดอยู่ในหัวผมมาก


ที่สำคัญคือไอเดนกับจีโอวานี่ซึ่งเป็นครอบครัวของซีนอนไม่ถูกกัน เนื่องด้วยทั้งเรื่องผลประโยชน์ และการทำธุรกิจในแวดวงเดียวกัน ขึ้นชื่อว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมามากันตั้งแต่รุ่นก่อน


“เห็นไหมครับว่ามันน่าเป็นห่วง ผมไม่รู้ว่าตอนแรกมันต้องการอะไรจากหมอก แล้วยิ่งพอมันรู้วาหมอกเป็นคนของผม ผมก็ไม่รู้ว่าต่อไปมันจะมาไม้ไหนอีก” ซีนอนจะไม่ลำบากใจเท่านี้เลยถ้าอีกฝ่ายไม่ใช่ไอเดน สร้อยที่เขาให้หมอกไปถ้าเป็นคนอื่นเห็นคงไม่กล้ายุ่งไปแล้ว แต่นี่มันดันเป็นไอ้หมอนั่นที่คอยจองล้างจองผลาญกันมาหลายปี ตามจริงจากรูปประโยคที่ไอเดนพูดกับผมก็พอจะเดาได้แล้วว่าเขาไม่ชอบซีนอน


คำว่า คนของผม ทำให้หน้าแอบร้อนไม่ได้ แต่ประโยคที่ซีนอนพูดมาก็ทำให้ผมต้องถอนใจยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ซีนอนฟัง ทั้งเรื่องธุรกิจของที่บ้านและเหตุการณ์ตั้งแต่เจอไอเดนครั้งแรกที่ร้านหนังสือ

ซีนอนโทษตัวเองหนักกว่าเดิมที่ไม่ระวังตัวถึงขนาดที่ศัตรูตัวเองอยู่ด้านหน้าแต่ก็ยังมองไม่เห็น บวกกับเรื่องที่เขาคิดว่าเขาไปช่วยผมช้า จนต้องเปลืองน้ำลายอธิบายไปยกใหญ่ว่าผมไม่ได้โดนทำร้านอะไรมากไปกว่าแผลที่เขาเห็น


“ห้ามโทษตัวเอง ห้ามโทษลูกน้องมึง เพราะกูหนีออกมาเองแต่แรก” ผมพูดดักคอ ซีนอนมองหน้าผมทำตาละห้อยเหมือนลูกหมาโดนทิ้ง


“ขอบคุณนะ”


รอยยิ้มที่สดใสนั่นเริ่มฉายชัดบนใบหน้า ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น แต่เหมือนอีกคนจะไม่ยอมหยุดแค่ที่ยิ้มหน้าหล่อๆนั่นเริ่มโน้มเข้ามาใกล้เรื่อย

“ลามปาม”

ผมผลักหัวนั่นออกพลางขำในใจ ซีนอนทำหน้าบูด


“อ้อ ใช่ ต่อไปนี้หมอกย้ายมาอยู่บ้านผมนะ ของใช้ส่วนตัวหมอกผมให้ลูกน้องไปขนมาแล้วจากคอนโด เวลาไปเรียนผมจะให้เจย์ไปเฝ้า แต่ทางที่ดีไม่ต้องไปมันเลยดีกว่า แล้วอีกอย่างเวลาไปไหนมาไหนต้องไปกับผมหรือมีคนติดตาม...”

 “หยุดก่อน” ผมรีบขัดประโยคที่อยู่อีกคนอยู่ๆก็พูดออกมา เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มันพูดว่าอะไร ให้ผมย้ายมาอยู่ที่นี่? ต้องมีคนคอยตาม? แล้วมันจะต่างอะไรกับการที่ผมหนีพ่อมาอยู่คนเดียวเนี่ย


“ไม่อยู่ ไม่ให้ตามด้วย” ค้านเสียงแข็ง แต่ก็ได้เพียงสายตาที่ไม่ยอมเปลี่ยนใจกลับมาเหมือนกัน


“ต้องอยู่ต้องให้ตาม ผมเป็นห่วง”


“บ้านมึงคนเยอะ อีกอย่างกูไม่ชอบที่ต้องมีคนมาคอยเฝ้า” เมื่อเห็นว่าผมไม่ยอมง่ายๆซีนอนก็ถอนหายใจพรืด จ้องตาผมอีกรอบก่อนจะค่อยๆอธายอย่างใจเย็น


“มันไม่ใช่เวลาเอาแต่ใจนะหมอก รู้ไหมว่ามันอันตรายขนาดไหน ปกติบ้านนี้มีแค่ผมอยู่คนเดียว กับการ์ดอีกแค่ไม่กี่คน ที่วันนี้เห็นคนเยอะเพราะผมเรียกมาบรีฟเรื่องไอเดน ส่วนเรื่องคนติดตาม ยังไงผมก็ยืนยันว่าต้องมียกเว้นจะให้ผมไปคอยเฝ้าเอง”

ผมยอมแพ้ ถึงจะกอดอกทำท่าไม่พอใจอะไรต่อไปก็ดูจะไม่ได้ผล


“ได้ แต่ถ้าจะให้คนมาเฝ้าก็ขอให้อยู่เงียบๆอย่าให้กูรู้”


“น่ารักที่สุด” ครั้งนี้ผมหลบไม่ได้เลยโดนกอดเข้าไปเต็มรัก ในใจก็อยากจะบอกว่าเจ็บแผลนะ




แต่หยวนๆให้ก็ได้









________________________________________
ขอฝากไอเดนไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ555555
ตอนนี้หมอกของเรามีความสำนึกบุญคุณเลยทำตัวน่ารักขึ้นมานิดนึง(?)
ถือว่าเป็นตอนเบาๆคลายเครียดจากตอนที่แล้วเนอะ

ช่วงนี้ดราฟน่าจะมาอัพได้ประมาณอาทิตย์ละตอนค่ะ
งานเยอะหนักมาก :hao5: ดีใจที่ทุกคนชอบหมอกค่ะ  :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและทุกเม้นค่ะ อ่านเลยยิ้มตามเลย ♥
ปล.เราว่าพอตอนแต่งในwordมันก็ดูเยอะนะแต่พอเอามาลงเล้าทีไรร้สึกว่ามันสั้นๆทุกทีเลย เศร้า
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH09 1.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 01-05-2017 21:56:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH09 1.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 01-05-2017 23:27:15
มาต่ออีกนะครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH09 1.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 04-05-2017 18:59:47
สนุกจ้า  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH09 1.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 05-05-2017 12:32:41
ชอบ ชอบ ชอบ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH09 1.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 08-05-2017 09:24:26
ชอบบบบบบ รอตอนต่อไปคร้าบบ :hao7:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH10 8.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 08-05-2017 22:40:16
10



Xenon





   เงียบจนไม่มีใครกล้าหายใจ น่าจะเป็นคำอธิบายที่เหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับสถานการณ์นี้ ชายฉกรรจ์ท่าทางน่ากลัวกว่า 20 คนต่างยืนก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบตาคนที่ยืนหลังตรงอยู่ด้านหน้าที่กำลังมองลงบนพื้นที่มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่


“ผมขอโทษครับนายน้อย ทั้งหมดเป็นเพราะผมเองที่ไม่ได้แจ้งเรื่องไปในทันที”


เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลไม่ได้ตอบอะไรกลับมา นั่นยิ่งทำให้บรรยากาศภายในนั้น เย็นยะเยือกลงไปอีก


“นายน้อยครับ” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นมือซ้ายได้แต่เว้าวอน เขารู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่เมื่อคืนเขาไม่ได้ไปเฝ้าด้วยตัวเองเหมือนวันปกติเพราะมัววุ่นวายกับเรื่องด่วนที่ทางอิตาลีส่งมา แถมยังเลินเล่อไม่ได้เน้นย้ำเรื่องอีกบุคลิกหนึ่งของคุณหมอก นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาเห็นนายน้อยโมโหขนาดนี้

   ซีนอนในตอนนี้นั่นไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไร เขาต้องแสดงความเฉียบขาดต่อลูกน้อง แต่อีกใจหนึ่งก็รู้ว่ามันไม่สามารถโทษเจย์เลนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ การที่เจย์ไม่รู้ว่าหมอกหนีออกไป ไม่แย่เท่าการที่มีคนรู้แล้วนำไปบอกกับไอเดน อย่างน้อยในห้องนี้ก็มีคนที่ไว้ใจไม่ได้ เจย์เลนดูจะเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุด จากสายตาเขาที่ต้องการให้ผมลงโทษ เขารู้ เขาจงใจพูดว่าตัวเองเป็นคนไม่ได้แจ้งเรื่อง และจะรับความผิดนั้นไว้ เพื่อไม่ให้ไอ้คนทรยศนั้นไหวตัวทัน ทั้งๆที่เจย์ก็เพิ่งรู้เรื่องที่หมอกหายไปก่อนข้อความนั่นเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น

‘ผลั่ก’

เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าของเจย์เลนเป็นเสียงเดียวที่ทำลายความเงียบในห้องนั้นคนตัวเล็กหน้าหันไปตามแรงตบ ปากที่แตกจนมีเลือดไหลซิบนั่นยิ้มขอบคุณออกมาบางๆ ผมกำหมัดตัวเองแน่น ไม่ได้พอใจกับสิ่งที่ตัวเองมากนัก


“ราฟ จัดการต่อด้วย”


พวกลูกน้องที่อยู่ด้านหลังต่างตกใจกับการกระทำของผู้เป็นนาย พวกเขาไม่เคยเห็นซีนอนลงมือกับเจย์เลนคนที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายเอ็นดูจนเหมือนน้องชายเพราะทั้งยังเด็กและมีนิสัยตรงไปตรงมา ยอมรับว่าถึงแม้นายของพวกเขาจะไม่ได้โหดเหี้ยมถึงขนาดฆ่าคนเป็นผักปลาเท่ามาเฟียคนอื่นๆ แต่ก็มีความน่ากลัวและความเด็ดขาดอยู่เสมอ รวมถึงบรรยากาศน่าเกรงขามและไอของความเย็นชาจากบุคลิกที่นิ่งเฉยอยู่เสมอนั่น แต่น้อยครั้งที่เจ้านายของตนจะลงมือกับลูกน้องของตัวเอง อย่างมากก็คือใช้ให้ราฟจัดการ ยิ่งนี่คือเจย์เลนลูกน้องคนสนิท เจย์เลยถูกราฟพาออกไปที่ห้องด้านหลังห้องทำงานซึ่งไม่มีใครรู้ว่าห้องนั้นมีอะไร คนที่เหลืออยู่ได้แต่หน้ายืนซีดแล้วหน้าซีดอีก ในใจก็ภาวนาให้เจ้านายไม่โหดร้ายกับหัวหน้าเขานัก


“พวกนายออกไปได้แล้ว”



น้ำเสียงไล่กลายๆนั่น ทำให้บางคนแปลกใจเพราะเตรียมใจรับการลงโทษเอาไว้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้ยิ่งจิตตกเข้าไปอีกเพราะไม่สามารถเดาอารมณ์ของเจ้านายตัวเองได้ พวกเขาต่างเดินออกจากห้องกันอย่างเงียบเชียบ
ผมไม่ใช่พวกใช้กำลังกับลูกน้องตัวเองถ้าไม่ใช่เหตุจำเป็น เพราะบางทีการลงโทษแบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นซ้ำดีไม่ดีอาจจะพาลให้พวกนั้นมีความรู้สึกด้านลบกับเจ้านนายอย่างเขาไปเสียอีก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะปล่อยให้พวกเขาเดินออกไปเฉยๆโดยที่ไม่ได้รับความผิด คาลตันพยักหน้ารับคำสั่งของผมโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไร เขาเป็นคนที่อาวุโสที่สุดในบ้านเป็นคนที่คุณปู่ของผมวางใจและให้มาช่วยผมดูแลงานที่นี่



หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนเดินไปนั่งหลังโต๊ะทำงานของตัวเอง




‘Going to fuck your bitch
@Nitro come save him Little Giovani’




ข้อความจากเบอร์ของหมอกเมื่อคืนถูกส่งมาพร้อมกับเจย์ที่โทรมาว่าหมอกหายไปจากคอนโด ผมแทบจะขว้างมือถือทิ้งรีบออกจากบ้านในใจเต็มไปด้วยความร้อนรน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใครที่ส่งข้อความมา โรคจิตแบบนี้มีอยู่คนเดียว ไอระยำไอเดน ผมรีบมากแต่มันก็ใช้เวลากว่า 20 นาทีกว่าที่ผมจะไปถึงที่นั่น มีเพียงราฟและลูกน้องอีกเพียง 4-5 คนที่อยู่ในบ้านเท่านั้นที่ออกมาพร้อมกับผม

ผมเจอหน้าไอ้คลิฟฟอร์ดนั่นยิ้มกวนประสาทก็พาลจะให้สติผมขาดผึ่ง ดูก็รู้ว่าที่มันทำแค่ตั้งใจจะปั่นประสาทผม ถ้ามันเอาจริงไม่เอาลูกน้องแค่ 7-8 คนมาให้ผมฆ่าเล่นหรอก แต่ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่หมอก อย่างที่ผมบอกไอเดนเป็นพวกโรคจิตตัณหากลับ ชอบทรมานคนอื่นจนเรียกได้ว่าเป็นพวกซาดิสม์

   ตัวใหญ่ๆของมันบังหมอกที่นั่งเหมือนคนหมดแรงอยู่ด้านในห้องน้ำทำให้ผมใจหล่นวูบ คิดอยากจะสับไอ้ตาฟ้านี่ออกเป็นชิ้นๆ เสื้อยืดสีขาวของหมอกมีรอบเลือดซึมจางๆที่ไหล่ ผมพยายามจะเดินเข้าไป แต่ก็ต้องหยุดเมื่อ ลูกน้องของอีกฝ่ายยกปืนขึ้นมาเล็งคนนี้กำลังนอนหอบเหมดแรง ไอเดนหัวเราะก่อนจะเดินออกไปแบบไม่สะทกสะท้าน ไม่สนใจแม้แต่ลูกน้องตัวเองที่หมดสติอยู่ในห้องน้ำ หรือคนที่ลูกน้องของผมจัดการไปตั้งแต่ด้านนอก

ผมเข้าไปประคองหมอกที่ดูเหมือนใกล้จะหลับลงไปเต็มที ก่อนจะอุ้มออกมาจากที่นั่น คนในร้านมีบ้างที่จะสนใจพวกผมแต่ก็ไม่ได้มีใครกล้าเข้ามารวมถึงการ์ดของผับคนส่วนใหญ่จึงได้แต่มองอยู่ห่างๆโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไร



‘จัดการที่เหลือให้หมด’


ราฟพยักหน้ารับคำ ขณะที่ผมอุ้มหมอกให้นอนลงในรถก่อนจะขับออกมาอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางผมผมโทรหาไอ้เซนต์เพื่อให้มาดูหมอกอีกรอบจนเจ้าตัวแอบบ่นว่ามีเรื่องให้ยุ่งไม่เว้นอาทิตย์ หมอกไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแค่โดนยาคลายกล้ามเนื้อผสมกับยานอนหลับแต่ที่ทำให้ผมหงุดหงิดก็คือรอยกัดจมเขี้ยวที่ไหล่ขวานั่น



อยากเอาเลือดหัวมันออกโว้ย



ผมกดอินเตอร์คอมบนโต๊ะทำงานก่อนเรียก ราฟ เจย์ แล้วก็ไอ้เซนต์ที่ผมให้เข้าไปช่วยทำแผลให้เจย์ ทั้งสามคนออกมาจากประตูบานเดิม


“โทษทีนะเจย์” เจ้าตัวยิ้มรับดูจะไม่ได้ถือสาอะไร

“ผมเข้าใจสถานการณ์ครับ แล้วนายน้อยพอจะจับพิรุธใครได้ไหมครับ”

ผมพยักหน้า “ให้คาลตันไปดูแล้ว”

ผมย้ายตัวเองมานั่งที่โต๊ะประชุมเจย์เลนและราฟเดินขนเอกสารมากมายว่ากองไว้บนโต๊ะ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเบาะแสและประวัติต่างๆเกี่ยวกับไอเดนและข้อมูลเรื่องสายของมันที่มาแทรกซึมอยู่ฝั่งผม ไอ้หมอนั่งลงข้างๆก่อนจะเปิดอ่านเอกสารเหล่านั้นผ่านๆ

“กูว่ามันชักจะเอาใหญ่แล้วนะ วันก่อนก็ระเบิดคาสิโนมึงที่เวกัส นี่ยังมาหมอกอีก” หมอพูดสาเหตุที่ทำให้อาทิตที่แล้วผมหัวหมุนไปทั้งอาทิตย์ ทั้งบินไปกลับอิตาลี-เวกัส-ไทย แต่ยังดีที่วันนั้นไม่มีลูกค้าเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บเพราะมันจงใจระเบิดแค่ส่วนด้านหลังหรือส่วนพนักงานไม่มีใครเสียชีวิตแต่ก็เจ็บกันนับสิบ

“มันยังไม่เอาจริง เหมือนเข้ามากวนประสาทมากกว่า แต่ปัญหาหนักที่สุดตอนนี้คือพวกคนทรยศ”

ผมนั่งคุยงานและเรียกบรีฟลูกน้องของผมเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยและเรื่องไอเดน ก่อนสั่งให้ลูกน้องเดินขึ้นไปเช็คอาการหมอกเพราะเห็นว่านี่ก็เกือบวันแล้ว ท้องฟ้ากลับมาดำสนิทอีกครั้ง ผมยังไม่ได้นอน ถ้าจะพูดให้ถูกทั้งอาทิตย์นี้ผมนอนรวมกันไม่ถึง 20 ชม.ด้วยซ้ำ

แต่ที่แปลกใจคือหมอกลงมาหาผมเองหน้าขาวๆนั่นยังเหลือร่องรอยความเหนื่อยล้าอยู่ชัดเจนแต่แค่ได้เห็นยิ้มบางๆนั่นก็ทำให้ผมชื้นใจเหมือนความเครียดทั้งหมดก่อนหน้านี้เป็นแค่เรื่องโกหก ประเด็นที่หมอกเป็นลูกชายบริษัทโลจิสติกรายใหญ่ระดับโลกนั่นไม่ได้ทำให้ผมตกใจมากนัก เพราะจากเหตุการณ์ก่อนหน้าผมก็พอจะเดาได้อยู่แล้วว่ามันต้องมีบางอย่างที่ทำให้คนอันตรายพรรคนั้นเข้ามาทำร้าย



ดื้อ



คือคำที่เหมาะจะอธิบายอากับกริยาตอนนี้ของคนตรงหน้ามากที่สุดใบหน้าคมงอง่ำไม่พอใจที่ผมจะให้มีคนคอยติดตามเขา 24 ชม. แถมยังโดนบังคับกลายๆให้หมอกมาอยู่กับผมอีก และผมมีเหตุผลนะ คนระดับไอเดนความปลอดภัยของคอนโดหมอกแค่นั้นมันไม่พอหรอก แต่สุดท้ายแล้วคนน่ารักของผมก็ยอมใจอ่อนเหมือนทุกครั้ง


“หิวไหม” ผมถามหลังจากที่นั่งตอบคำถามนู่นนี่เกี่ยวกับไอเดนให้หมอกฟังอยู่สักพัก

“ไม่ ง่วง” คนตรงหน้าตอบพร้อมทำหน้าเหมือนจะหาว ดวงตาคลอไปด้วยน้ำตาเล็กน้อยทำให้หมอกยิ่งน่าหมั่นเขี้ยวจนผมอดใจไม่ไหวชิงหอมแก้มไปอีกที ก่อนจะโดนหยิกแขนกลับมาทีหนึ่งเป็ค่าตอบแทน หมอกขยี้หัวตัวเองแล้วหาวอีกรอบทำให้ผมขำ เลยอาสาเดินมาส่งหมอกจนถึงห้องซึ่งตามจริงแล้วมันก็คือห้องของผมนั่นแหละ


“ฝันดีนะครับ” แต่หมอกกลับจ้องหน้าผมเขม็งพลางขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่าง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ไม่เข้าใจว่าอีกคนคิดอะไร


“ยังไม่ได้นอนไม่ใช่หรอ” เสียงนั้นถามขึ้นมา


“อือฮึ” ผมตอบ สายตานั่นยิ่งจ้องจนปากบางๆนั่นพูดบางคำที่ทำให้ผมยิ้มไม่หุบ


“ถ้าอย่างนั้นก็ไปอาบน้ำ แล้วมานอน จะรอ”


….พระเจ้าครับ ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม….

ผมรีบอาบน้ำด้วยความรวดเร็วก่อนเปลี่ยนเป็นชุดนอน ออกมาก็พบหมอกที่ยังนั่งรอผมอาบน้ำอยู่จริงๆ เพียงแต่ตาสวยนั่นเต็มไปด้วยความง่วงผมอดไม่ได้ที่จะขำด้วยความเอ็นดู ก่อนเดินไปปิดไฟและล้มตัวนอนลงบนเตียง ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาเริ่มทำให้ผมรู้สึกง่วงแทบจะทันทีที่ได้สัมผัสกับเตียงนิ่มๆ มือคว้าร่างอีกคนเข้ามากอดแทนหมอนข้างก่อนจะก้มลงหอมผมนิ่มที่โชยกลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัวของอีกคน หมอกส่งเสียงจิ้จ้ะนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้โวยวายอะไร นอนให้ผมกอดอยู่นิ่งๆอย่างนั้น


   ความเครียดและความกังวลต่างๆนาๆหายไปจนหมดเหลือแต่บรรยากาศที่น่าซึมซับในคืนนี้ ผมไม่เคยอยู่กับใครแล้วสบายใจแบบนี้มาก่อน ทุกอย่างที่ผมทำกับหมอกออกมาโดยธรรมชาติ ไม่ต้องใส่หน้ากากหรือต้องวางฟอร์มมากมายเหมือนตอนอยู่กับคนอื่น พ่อผมยกผมให้ปู่เลี้ยงตั้งแต่เด็กทำให้ผมเป็นที่เคารพ เป็นคนที่ไม่มีใครอยากมีปัญหาด้วย จนกลายเป็นผมเองที่รู้สึกว่าคนที่เขานับถือนั้นไม่ใช่ผม แต่เป็นปู่  ปู่ของผมเป็นคนมีอำนาจ และมีชื่อเสียงในวงการใต้ดินเป็นอย่างมาก การที่ผมย้ายมาอยู่ไทยซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของแม่ผมนั้น หนึ่งก็เพื่อพิสูจน์ตนเองและทำตนเองให้เป็นที่ยอมรับโดยพึ่งพาบารมีของปู่ให้น้อยที่สุด สองก็คือการได้มาใช้ชีวิตในประเทศที่แม่ที่เสียไปตั้งแต่ผมเด็กๆของผมเติบโตขึ้นมา เขาจำได้เพียงแต่ว่าแม่ของเขาเป็นคนใจดี อ่อนโยน และรักเขามาก

   ความทรงจำวัยเด็กที่รางเลือนนั่นยังทำให้เขายิ้มได้อยู่เสมอ นึกแล้วก็อยากให้แม่ได้เห็นว่าตอนนี้มีคนหนึ่งที่ทำให้เขามีความสุขได้ไม่แพ้กัน

   “ขอบคุณอีกครั้งนะ ซีนอน” เสียงหวานดังอูอี้อยู่ที่อกทำให้ผมยิ้ม กระชับอ้อมกอดแน่น จรดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนนั่นอย่างรักใคร่
“ยินดีเสมอครับ ที่รักของผม”




________________________________________
ตอนใหม่มาแล้วค่ะ ตอนนี้แอบรีบมาลงหน่อยนึงเลยอาจจะมีคำผิดอยู่บ้าง
ตอนต่อไปน่าจะมาประมาน วันที่ 15-16 ค่ะ จะพยายามไม่ให้เกินวันที่ 17
เนื่องจากติดโปรเจต/สอบ
ขอบคุณทุกการติดตามทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าเลยค่ะ กอดด  :กอด1:
เจอกันอาทิตย์หน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH10 8.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-05-2017 09:04:39
สนุกดีครับ,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH10 8.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 10-05-2017 13:43:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH10 8.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 11-05-2017 20:20:05
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH10 8.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 14-05-2017 20:52:29
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH11 21.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 21-05-2017 15:45:36


11






   เขาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง อาจเป็นเพราะเมื่อวานหลับไปเกือบทั้งวัน แถมยังเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ ต่างกับคนที่นอนอยู่ข้างๆที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะตื่น  ความเหนื่อยล้าทั้งหมดของผมหายไปแล้วจะเหลือก็แต่แผลที่ไหล่ที่ยังติดจะปวดๆอยู่นิดหน่อย ส่วนแผลที่โดนแทงครั้งแรกตอนนี้แห้งดีแล้ว ผมค่อยๆขยับตัวลุกจากเตียงเพราะเกรงว่าคนตัวใหญ่จะตื่น ก่อนเดินตรงไปที่หน้าต่างระเบียงกว้างที่สุดในสุดของของ
   

   ลมเย็นๆกับท้องฟ้าสีอมส้มที่แสดงให้เห็นว่ายามเช้าใกล้เข้ามาทุกที ผมมองภาพนั้นอย่างหลงใหล นานเท่าไหร่แล้วที่รอบตัวไม่ได้เงียบอย่างนี้ ทิ้งตัวลงนั่งแล้วหลับตาพริ้มเพื่อซึมซับบรรยากาศ รอบรั้วบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องมลพิษ กระทั่งเสียงรบกวนจากภายนอกก็แทบไม่ได้ยินเพราะตัวบ้านอยู่ลึก ถือได้ว่านับตั้งแต่เรื่องวุ่นวายมานี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับความสงบที่ตัวเองชอบ


...ถ้าหยุดเวลาได้ก็ดี


   เขารู้ตัวว่าตอนนี้เรื่องราวมันชักจะใหญ่จนเกินกำลังของตัวเองไปแล้ว จากที่คิดว่าเป็นเรื่องต่อยตีธรรมดาทั่วไปกลายเป็นแก๊งค์มาเฟียข้ามชาติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เขาถูกไอเดนหมายหัวตั้งแต่ยังไม่รู้จักกับซีนอน คิดภาพไม่ออกเหมือนกันว่าถ้าผมไม่ได้มารู้จักกับเขาวันนี้ตัวเองจะเป็นยังไง อาจจะตายไปแล้วก็ได้ คิดแล้วก็ขำกับชีวิตตัวเอง เขา คนที่ต้องการวิ่งหนีเรื่องวุ่นวายให้ได้มากที่สุด กลับต้องเจอเรื่องวุ่นวายตลอกเวลา

   ควันสีขาวประจำตัวลอยฟุ้งไปในอากาศ ก่อนจะต้องหยุดกึกเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

ชิบหาย ลืมเพื่อนไปเลย

   คิดได้อย่างนั้นผมก็เลยรีบดับบุหรี่ในมือแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน มองหาโทรศัพท์ของตัวเองที่น่าจะอยู่ในห้องนี้ ซึ่งมันก็วางอยู่ข้างหัวนอนเลยด้วยซ้ำไป ผมรีบกดดูโทรศัพท์ก็พบว่ามันดับสนิท แบตคงจะหมด ได้แต่ถอนใจเพราะสายชาร์ตก็ไม่รู้ว่าจะหาได้จากที่ไหน


“ตื่นนานแล้วหรอครับ” เสียงัวเงียดังขึ้นมาจากบนเตียง ตัวใหญ่ๆนั่นเริ่มมุดออกมาจากผ้าห่มก่อนจะจัดแจงตัวเองให้นั่งพิงหัวเตียง ผมที่ติดจะฟูนิดหน่อยเพราะเพิ่งตื่นไม่ได้ดูน่าเกลียดตรงกันข้ามผมคิดว่ามันออกจะน่ารักดีด้วยซ้ำ

“ทำให้ตื่นหรอ” ตาสีอ่อนมองมาสบก่อนที่จะตอบออกมากยิ้มๆ

“อืม ได้กลิ่นอะ”

“บุหรี่หรอ โทษที” ผมตอบยกแขนเสื้อตัวเองขึ้นมาดม

“ไม่เหม็นนะ หอม” ไม่ว่าเปล่าซีนอนยังคว้าแขนผมไปดมเสียจนเสียงดังฟึดฟัด

“มากด้วย” ไอ้ฝรั่งยิ้มยิงฟันจนน่าหมั่นไส้ผมเลยได้แต่ตบหัวเบาๆไปหนึ่งทีแก้อาการสะดีดสะดิ้งจนเกินเหตุของอีกคน


“รีบตื่นทำไม ยังไม่เจ็ดโมงเลย”

“ก็มันหนาวอะ ไม่มีคนให้กอดอุ่นๆ” ผมขำ ลองนึกภาพคนตัวใหญ่ๆทำท่าทางหนาวสั่นอย่างกับตัวเองเป็นลูกนกอย่างนี้ แล้วอยู่ๆไอ้ซีนอนก็จับผมเหวี่ยง เน้นนะว่าเหวี่ยงไม่ใช่ดึง จนผมล้มลงไปนอนบนเตียงตามเดิม ส่วนไอ้ตัวดีก็ทำเป็นนอนยิ้มอยู่ข้างๆ

“มามะๆ ขอป๋าปล้ำหน่อย” ว่าเสร็จมือไม้ก็เริ่มมาป้วนเปี้ยนรอบตัวผมตามเสต็บผมแสร้งทำหน้าเบื่อๆแล้วผลักหัวคนน่าหมั่นไส้ไปอีกหนึ่งที

“ทะลึ่ง อยู่นิ่งๆบ้างเหอะ” คนที่ควรจะสลดก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรอย่างเคย จัดแจงเอาหัวใหญ่ๆของตัวเองมานอนเกยที่ตักผมเฉย ซีนอนคงไม่รู้สึกอะไรกับการปั้นหน้าดุของผมไปแล้วสินะถึงได้นอนหลับตาหัวเราะสบายใจอยู่อย่างนี้ อือ..จะว่าไปผมอาบน้ำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่เนี่ย ดีที่ผมไม่ใช่คนมีกลิ่นตัวแต่ยังไงได้อาบน้ำมันต้องดีกว่านี้แน่ๆ คิดแล้วก็พาลจะเหนียวตัว

“อยากอาบน้ำอะ” ผมร้องเรียกคนที่นอนอยู่ ผมรู้ว่าซีนอนไม่ได้หลับแต่อีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีจะตอบสนองคำพูดของผมตรงกันข้ามยังซุกเข้ามาที่หน้าท้องผม พร้อมพูดเสียงอู้อี้พอให้จับใจความได้ว่า ‘ขออีกสิบนาที’ ผมไม่ได้ว่าอะไรแต่จำเป็นต้องจับหัวยุ่งๆนั่นให้ขยับออกห่าง ‘ตรงนั้น’ ป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์ซีนอนหัวเราะหึหึแต่ก็ไม่ได้ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม ผมทิ้งตัวนั่งพิงหัวเตียง สิบกว่านาทีที่ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรแต่ก็ไม่ได้ทำให้อึดอัด เหมือนทั้งสองคนได้ดื่มด่ำกับความเงียบที่ชวนผ่อนคลายนี้

“อ่า..” สำเนียงแปร่งเป็นฝ่ายทำลายความสงบนั่นก่อน ตาสีน้ำตาลที่เป็นเอกลักษณ์นั่นมองขึ้นมาสบกับตาสีดำของผม พร้อมกับคลี่ยิ้มอ่อนโยนประจำตัว ซีนอนดีดตัวลุกขึ้นนั่ง

“ปะ อาบน้ำกัน อ่า จริงสิ” ประโยคแรกซีนอนพูดกับผมส่วนคำหลังเหมือนพึมพำกับตัวเองก่อนเอื้อมตัวไปคุ้ยของบางอย่างในลิ้นชัก ก่อนหยิบกล่องปฐมพยาบาลเล็กๆออกมากล่องหนึ่ง

“ล้างแผล แล้วก็เปลี่ยนเป็นพลาสเตอร์กันน้ำก่อน”  นั่งมองอีกคนที่ดูกำลังง่วนกับการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆนาๆ ผมยิ้มในใจก่อนตั้งใจจะถอดเสื้อรอให้อีกคนทำแผลให้ ซีนอนก็เหมือนจะรู้ดีเงยหน้าขึ้นมามองตอนที่ผมกำลังจะปลดกระดุมเสื้อพอดี ผมยักคิ้วบวกกับยิ้มกวนไปให้ แอบรู้สึกหนาวนิดหน่อยเพราะในห้องยังเปิดแอร์เย็นเฉียบเลยได้แต่นั่งกอดอกรอให้ซีนอนทำแผลให้
   สัมผัสเย็นๆเมื่อมือหนานั่นค่อยๆลอกผ้ากอซอันเก่าออกทำให้ผมสะดุ้งเบาๆ แต่ไอ้ฝรั่งคงเข้าใจว่าผมเจ็บ เลยกลายเป็นค่อยๆทำช้าๆเข้าไปอีก ผมแทบจะไม่รู้สึกเจ็บหรือแสบอะไรเลยเพราะแผลนี้แห้งเร็วกว่ามาก แต่รอบๆยังมีรอยช้ำเป็นจ้ำม่วงๆให้เห็นอยู่ ล้างแผลเสร็จซีนอนก็ค่อยๆบรรจงแปะพลาสเตอร์ขนาดกำลังดีลงบนไหล่ของผมแตะดูความเรียบร้อยอีกสองสามทีก็ถือเป็นอันเสร็จ

“เออใช่ อยากได้ที่ชาร์ตโทรศัพท์อะ แบตหมด”

จบคำซีนอนก็หยิบสายชาร์ตที่อยู่ในลิ้นชักหัวเตียงอันเดิมพร้อมจัดการเสียบชาร์ตให้เสร็จสรรพ ก่อนจะเอื้อมมาดึงมือผมให้ลุกขึ้นเดินตามไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนหยิบเสื้อยืดสำดำกับกางเกง sweatpants ที่ดูใส่สบายยื่นมาให้

“แต่ชั้นในไม่มีให้ยืมนะครับน่าจะคนละไซส์” ไอ้ฝรั่งพูดขำๆผมได้แต่ถลึงตาไปให้จนเจ้าตัวต้องเสริมทีหลังว่ากำลังให้ลูกน้องไปเอาของใช้ส่วนตัวของผมมาให้ น่าจะได้ไม่เกินเย็นนี้ระหว่างนี้ก็ต้องยอมใส่แบบโล่งๆไปก่อน สุดท้ายที่ส่งมาคือผ้าเช็ดตัว

“ไม่มีทาง” ผมพูดดักก่อนที่อีกคนจะพูดประโยคที่ผมก็รู้ว่าอะไร รีบชิงเดินเข้าห้องน้ำพร้อมล็อคประตู ได้ยินเสียงหัวเราะดังเข้ามาแว่วๆ ผมรีบจัดการทำธุระส่วนตัวจนเสร็จบวกกับแต่งตัวจนเรียบร้อยเหลือก็แต่ผมที่ยังไม่แห้งดี เปิดประตูห้องออกมาก็เจอกับไอ้ฝรั่งที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาข้างเตียง ก่อนจะลุกและเดินเข้าห้องน้ำบ้างและยังบอกผมว่าให้รอมันก่อนจะได้ลงไปกินข้าวพร้อมกัน
   ผมจัดแจงหยิบไดร์ขึ้นมาเป่าผมที่ยังชื้นของตัวเอง อยู่ๆก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาแบบตะหงิดๆโดยที่ไม่มีสาเหตุ ตอนนี้เวลาราวแปดโมงครึ่งท้องฟ้าข้างนอกสว่างดีแล้วได้ยินเสียงคนคุยกับเบาๆดังมาจากด้านล่างคิดว่าน่าจะเป็นบรรดาลูกน้องของไอ้เจ้าพ่อฝรั่งนี่ เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกทำให้ผมหันไปมองก็เห็นว่ามีคน ‘จงใจ’ เดินอาดๆนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาตัวก็ไม่ยอมเช็ดให้แห้ง

คงคิดว่าเซ็กซี่มากมั้ง


ผมส่ายหัวใช่ว่ามันจะดูไม่ดีนะแต่ติดที่มันดูน่าหมั่นไส้มากกว่า ซีนอนทำหน้าบูดที่ผมไม่ยอมเล่นด้วย

“ไม่คิดจะสนใจหน่อยหรอ”

“รีบๆแต่งตัวเถอะ”  ผมแกล้งไม่หันไปมองปิดไดร์เพราะผมแห้งแล้วก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ก็เห็นว่าแบตขึ้นมาประมาน30%แล้ว พร้อมข้อความมากมายทั้งจากนาย ฟีฟ่า แทน ซัน คนละไม่ต่ำกว่าสิบข้อความทั้งนั้น รวมถึงจำนวนสายที่ไม่ได้รับอีกเป็นร้อย และ 1 ในนั้นก็มีเบอร์คุณพันนทีพ่อของผมอีกประมาณ 10 สาย ผมถอนหายใจ ที่รู้สึกไม่ดีเพราะอย่างนี้เองสินะ ผมรีบส่งข้อความตอบกลับทุกคนว่าตัวเองปลอดภัยดี

“อย่าทำหน้าเครียดสิครับ ไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า” หันไปตามเสียงก็เห็นว่าซีนอนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่เจ้าตัวดันอยู่ในชุดเหมือนพร้อมที่จะออกไปทำงานอย่างไงอย่างนั้น

“ลูกน้องเยอะแยะก็ต้องแต่งตัวแบบนี้แหละ” ผมพยักหน้ารับเมื่ออีกคนตอบรับข้อสงสัยของผม ก่อนจะเดินตามออกจากห้อง ชั้นสองยังคงเงียบเชียบไร้วี่แววผู้คนเหมือนเคย ต่างกับเสียงคุยจอแจที่ดังเบาๆมาจากชั้นล่าง ลงบันไดมาก็พบกับบรรดาชายโฉดกับแม่บ้านอีก เกือบสิบคนยืนรออยู่เป็นแถว ถ้ามองบนตอนนี้จะโดนคนในบ้านหมั่นไส้ไหมครับ ก็ดูสิมายืนรับกันอย่างกับว่าใครจะเสด็จ

   แต่จะยังไงก็เถอะครับผมก็ได้แต่เดินตามมาเงียบๆแบบไม่มีปากไม่มีเสียงจนมาถึงโต๊ะทานข้าว ที่มีอาหารประมาณ 4 อย่างวางอยู่กับข้าวสวยร้อนๆชวนให้เริ่มหิวขึ้นมานิดๆ เมื่อจัดแจงทุกอย่างจนเสร็จทุกคนก็ออกจากห้องไปทิ้งให้เหลือแต่ซีนอนกับผมเหมือนเดิม

“พรุ่งนี้จะไปเรียนไหมครับ”

“ไป หยุดบ่อยแล้ว”

“ไปส่งนะ”

“เอาสิ”

   จะปฏิเสธไปทำไมในเมื่อไม่ว่ายังไงมันก็ต้องให้มีคนไปรับไปส่งผมอยู่ดีตามที่ตกลงกันไว้

“แต่ขอรถธรรมดาๆพอนะ”


‘ครืด...’

หน้าจอโทรศัพท์ส่องแสงวาบก่อจะโชว์เบอร์คุณพ่อบังเกิดเกล้าเป็นสายที่โทรเข้า ผมใช้เวลาสามวิในการเตรียมตัวก่อนรับโทรศัพท์

“ครับ”

‘พระพาย ทำไมหนูติดต่อยากขนาดนี้ล่ะ’ เสียงบ่นลอยมาตามสายอย่างที่ผมคิดไว้นึกภาพออกเลยว่าตอนนี้พ่อกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่

“ขอโทษครับ พอดีผมยุ่งๆ”

‘เราเคยตกลงกันไว้แล้วนี่ว่าลูกต้องติดต่อกลับมาทุกวัน อย่างน้อยก็ต้องมีสักข้อความ’ นี่คือข้อตกลงที่พ่อยอมให้ผมบินกลับมาอยู่ไทยคนเดียวติดต่อไปอย่างน้อยวันละ1ครั้ง

“ก็ผมลืมอะ มันยุ่งจริงๆนะ”
‘ไม่รู้หละ ตอนนี้พ่ออยู่บ้านที่กรุงเทพมาหาด้วย’

“ห๊ะ! อยู่บ้าน มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

‘เครื่องลงเมื่อเช้า ให้เวลาชั่วโมงนึงพ่อต้องเห็นหน้าหนูที่บ้าน’ พูดจบคุณพันนทีก็ตัดสายหนีไม่รอให้ลูกได้ตอบปฏิเสธ เงยหน้ามองซีนอนที่กำลังก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่แต่ผมรู้ว่าเขาได้ยินแต่แค่ไม่อยากเสียมารยาท

“พ่อมาไทย ต้องไปหา” ผมสรุปสั้นๆให้อีกคนฟัง

“ครับ เดี๋ยวพาไป กินข้าวให้เสร็จก่อนนะ”

   คิดแล้วก็พาลจะปวดหัว ไม่น่าเลยไอ้หมอก ถามว่าทำไมถึงต้องเครียดขนาดนี้เดี๋ยวก็คงได้รู้เมื่อตอนเจอพ่อผม แล้วจะได้เห็นว่าคนบ้านนี้มันเป็นยังไง นี่ผมต้องเตรียมโดนกอดโดนหอมจนช้ำ แถมยังต้องนั่งฟังคุณพันนทีบ่นจนก้นจมลงไปในพื้นเลยแน่ๆ




________________________________________



ตอนนี้หมอกเรียบร้อยแปลกๆนะ55555
เพิ่งมีเวลาว่างมาต่อค่ะ ขอโทษที่มาช้านะ
ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ ตามอ่านกันเรื่อยๆนะ  :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH11 21.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 21-05-2017 19:00:54
คุณพ่อแลดูน่ารัก
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH11 21.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 21-05-2017 20:30:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH11 21.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 22-05-2017 23:53:34
ถ้าเจอกันจะเป็นยังไงนะ???
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH11 21.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 27-05-2017 03:24:16
ขอบใจจ้า
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH11 21.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 28-05-2017 21:26:00
หมอกก็ดื้อจริงๆนั่นแหละ แต่ละเหตุการณ์เฉียดตายที่เกิดขึ้นนี่ไม่ได้คิดจะเข็ดเลย ซีนอนต้องสู้ๆอะ หมอกดื้อ ขี้ยั่วด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH12 29.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 29-05-2017 23:08:12





12







รถบีเอ็มสีดำสนิทคันใหม่อีกคันที่เขาไม่เคยนั่งจอดอยู่นิ่งๆ หน้าบ้านสีขาวหลังเล็กๆล้อมรอบด้วยรั้วต้นไม้สีเขียวที่หาได้ยากในเมืองหลวง บรรยากาศในบ้านดูเงียบเหมือนไม่มีใครอยู่มีเพียงรถหนึ่งคันจอดอยู่ในบ้านเท่านั้น เขาให้อีกคนจอดอยู่หน้ารั้วบ้านมากว่าสิบนาทีแล้วในขณะที่ตัวเองกำลังพยายามเรียบเรียงคำพูด ก่อนเปิดประตูก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่จนอีกคนแอบขำ
   
   ขายาวๆก้าวก้าวเดินตรงไปที่บริเวณสวนหย่อมด้านข้างของบ้านก็พบกับบุคคลที่เขามาหาอย่างที่คิดไว้ ชายวัยกลางคนรูปร่างสันทัดกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์พร้อมกับแว่นตาไร้กรอบที่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ถึงปลายจมูก ผมสีดำแซมด้วยสีขาวที่เพิ่มขึ้นมาตามวัย โครงหน้าที่คล้ายเขาเกินครึ่งทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเกี่ยวพันกันทางสายเลือด

“พ่อ” ผมส่งเสียงเรียก

“อ้าวมาแล้วหรอ เห็นแต่งตัวอย่างนี้ค่อยดูเข้าท่าหน่อย” ผมเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของพ่อก่อนนั่งลงข้างๆ ทุกครั้งที่ผมแต่งตัวแปลกๆอย่างชุดนักศึกษาตอนไปเรียน พ่อจะมีสีหน้าไม่เห็นด้วยอย่างมากแทบจะมาเผาตู้เสื้อผ้าผมให้ได้ เพราะเจ้าตัวคุยบอกว่าแต่งแล้วมันดูไม่น่ารัก เป็นยังไงล่ะ ยังไม่ทันนั่งลงดีผมก็โดนคว้าหมับเข้าไปกอดรวมถึงหอมซ้ายหอมขวาเข้าเต็มรัก เอาจริงๆนะไม่รู้ว่าแม่ทนนิสัยเด็กๆแบบนี้ของพ่อไปได้ยังไง ถ้าพูดให้ถูกคือทั้งบ้านทนเข้าไปได้ยังไงมากกว่า เชื่อไหมครับว่าตอนเด็กๆผมแทบจะโดนพ่อจับแต่งตัวเหมือนเป็นตุ๊กตา จนเรียกได้ว่าแม่ดูแมนมากกว่าไปเลย

“ใจร้อนรีบบินมาทำไมเนี่ย” ผมเอ็ดเบาๆเป็นเชิงปรามที่พ่อตัวดียังไม่ถอนกอดออกไปจากผม  คุณพันนทีหยุดก่อนจ้องตาผม
“ยังมีหน้ามาพูด หนูทั้งโดนทำร้ายแถมยังหายไปติดต่อไม่ได้เกือบสามวัน ไม่ให้ป๊าเป็นห่วงแล้วจะให้ป๊าทำไงห๊ะ!”

คำพูดเชิงดุมาพร้อมกับมะเหงกเบาๆลงที่หัวทำให้ผมหน้าหงิก

“เอาหน่า ตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแล้วไง”

“งอนโว้ย ลูกไม่เห็นหัว” ว่าแล้วคุณพันนทีก็กอดอกทำเป็นงอนอย่างที่บอก จนผมได้แต่ขำก่อนจะยิ้มกว้างๆให้ไปหนึ่งที

“นี่หมอกก็มาหาป๊าแล้วไง” ก่อนที่คนไม่ได้ดูอายุตัวเองจะทำท่าเขินไปมากกว่านี้ผมก็ตัดบทให้เข้าเรื่องที่พ่อมาไทยนี่สักที ผมไม่ค่อยอยากจะเชื่อหรอว่ามันเป็นแค่เพราะผมไม่ได้รับโทรศัพท์หน่ะ

“ช่วงนี้พ่อได้เมลล์ข่มขู่แปลกๆมาสองสามฉบับ” ว่าพลางหยิบกระดาษที่พับอยู่ในกระเป๋าเสื้ออกมาวางบนโต๊ะ ทั้งหมดทีข้อความคล้ายๆกันซึ่งส่วนมากก็เป็นจดหมายข่มขู่ปกติที่พ่อผมมักจะได้รับ แต่ทั้งหมดนั้นกลับมีข้อความโยงถึงผมบ้าง มีประวัติของผมแนบมาบ้าง ฉบับหนึ่งถึงขนาดมีทั้งรูปของผมตอนอยู่ที่มหาลัยกับรูปผมตอนนออกไปข้างนอกตามปกติแบบเปรียบเทียบกันให้เห็น เนื้อหาในข้อความคือต้องการที่จะให้พ่อของผมยอมรับข้อตกลงเรื่องการปล่อยคอนเทนเนอร์และการยื่นข้อมูลเท็จเรื่องจำนวนหรือสินค้าที่ขนส่งเพื่อให้ง่ายต่อการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ
“อย่างที่หมอกเห็นว่ามันรู้รายละเอียดเกี่ยวกับเราเยอะมาก เมลล์ที่มีรูปนี้เพิ่งส่งมาเมื่อวานก่อนพ่อจะขึ้นเครื่อง” ผมหยิบรูปนั่นขึ้นมาพิจรณาอีกรอบทั้งสองรูปถูกถ่านตั้งแต่ตอนก่อนที่ผทจะโดนทำร้ายด้วยซ้ำ

“ใคร พ่อพอจะรู้ไหม”

“ยัง แต่เล่นแรงอย่างนี้มีอยู่ไม่เท่าไร่หรอก”

“ไอเดน คลิฟฟอร์ด พ่อพอจะรู้จักไหม” หลังจากจบประโยคผมก็เล่าเรื่องราวคร่าวๆเกี่ยวกับไอเดนโดยเลือกที่จะเว้นเรื่องที่โดนวางยาและเรื่องข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับซีนอนไว้ พ่อดูไม่ประหลาดใจเท่าไหร่นักเพราะไอเดนก็เป็นหนึ่งในคนที่สงสัย แววตาที่ดูกังวลมากกว่าเดิมฉายชัดบนใบหน้า

“เอางี้ไม่ต้องไปอยู่กับพ่อ แต่ไปอยู่อเมริกากับพี่สักสองสามเดือน..”

“ไม่เอา!” ผมค้านตั้งแต่ยังไม่จบประโยค ผมไม่มีทางไปอุดอู้อยู่กับพี่ตามลำพังแค่สองคนที่เมืองนอกนานขนาดนั้นหรอกนะ แค่อาทิตย์เดียวผมก็แทบจะ...เอาเป็นว่าเดี๋ยวถ้าได้เจอก็เข้าใจเองแหละครับ

“แล้วหมอกจะดูแลตัวเองยังไง พ่อยอมไม่ได้หรอกนะถ้าต้องปล่อยให้หมอกอยู่คนเดียว”

“ผมดูแลให้เองครับ” เสียงไม่ได้รับเชิญดังมาจากด้านหลัง ไอ้ฝั่งตัวใหญ่ยืนยื้มน้อยๆอยู่ไม่ไกลนัก พ่อยังคงสีหน้านิ่งๆเอาไว้ได้เหมือนเดิมทั้งๆที่จริงๆแล้วพ่อต้องตกใจมากแน่ๆที่อยู่ๆมีใครก็ไม่รู้โผล่เข้ามาในบ้าน

“มึง เข้ามาทำไม” คุณพันนทีมองผมกับซ๊นอนสลับกันแบบงงๆก่อนที่ซีนอนจะเป็นฝ่ายเริ่มอธิบายก่อน

“สวัสดีครับคุณพันนที ผมชื่อ ซีนอน อเลนเดล จีโอวานี่” พ่อเลิกคิ้วขึ้นก่อนหันมามองผมที่ได้แต่พยักหน้าเบาๆตอบกลับไป ซีนอนไม่รอให้ผมพูดอะไรแทรกก็ชิงพูดต่ออกมาก่อน

“คุณพ่อคงรู้จักนามสุกลผมดี เรื่องการให้ผมดูแลหมอกผมจึงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เหมาะสมครับ อีกทั้งไอเดนกับผมก็อยู่ในวงการเดียวกันทำให้รับมือง่ายกว่าการที่บินไปต่างประเทศหรือจ้างบอดี้การ์ดมาเฝ้าเฉยๆนะครับ”


กลายเป็นผมเองที่ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ พ่อผมยังนิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ส่วนอีกคนพอพูดเป็นการเป็นงานเสร็จก็หันมาเล่นหูเล่นตากับผมจนนึกอยากจะเพ่นกะบาลสักรอบ


    “ทำไม?”




      “เพราะผมชอบหมอกครับ”





ผมลุกพรวดจากเก้าอี้เสียงดังจนทั้งคู่สะดุ้ง มองหน้าพ่อกับซีนอนสลับไปมา คนนึงก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้ายังไงใส่อีกคนอยากเตะสักสองสามทีข้อหาพูดจาพล่อยๆ


“พ่อ กลับแล้วนะ เดี๋ยวหมอกโทรมาอีกรอบ”


พ่นลมหายใจออกมาดังๆก่อนจะคว้าแขนตัวต้นเรื่องแล้วลากออกมาจากบ้าน ยัดให้เข้าไปในรถส่วนผมอ้อมไปนั่งด้านคนขับ




“พูดอะไรของมึงเนี่ย” ไม่ว่าเปล่าตีแขนอีกคนแรงๆไปหนึ่งที

“อะไร ก็มันจริงนี่ครับ” นัยน์สีตาสีดำจ้องมองอีกคนตาเขียวปั้ด ลืมว่าตัวเองควรเขินไปเสียสนิท
“บอกไปอย่างนั้นถ้าพ่อกูช็อคตายขึ้นมาจะทำยังไง”

“ก็ดีครับ ผมจะได้ไม่ต้องไปขอให้ยุ่ง...โอ้ย หมอกต่อยผมทำไมอะ เจ็บนะ”

“ยังมีหน้ามาแช่งพ่อกูอีก เดี๋ยวเถอะ” ซีนอนทำหน้าหงอย ผมไม่สนใจจัดการคาดเข็มขัดและสตาร์ทรถ แต่มือที่กำลังจะขึ้นเกียร์กลับถูกจับไว้ก่อน เห็นสีหน้าอีกคนที่อยู่ๆก็เปลี่ยนไปจริงจังก็ทำให้ผมนิ่ง

“แต่ผมพูดจริงนะครับ ผมชอบหมอก ชอบทุกอย่างชอบตอนที่หมอกพูดตอนที่หมอกด่า ชอบตอนที่ทำหน้าไม่พอใจเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ ชอบที่คอยแอบเป็นห่วงผม ชอบการกระทำทุกอย่างแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยเพียงแค่ตอนแอบเปลี่ยนสีหน้า ชอบแววตาที่มีแต่ความจริงใจ ชอบการวางตัว ชอบตอนที่ได้อยู่ใกล้ ชอบตอนที่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆประจำตัว เหมือนตอนนี้”

จบคำหน้าของซีนอนก็เข้ามาอยู่เสียใกล้จนผมเห็นตาสำน้ำตาลอ่อนที่เว้าวอนนั่นอยู่ชัดเจน

“ให้โอกาสผมหน่อยได้ไหม”

คำถามที่ผมยังไม่ทันได้ตอบออกไปก็โดนแรงรั้งที่ท้ายทอยดึงให้เข้าไปหาคนตรงหน้าริมฝีปากของเราแตะกันเบาๆครั้งหนึ่งก่อนเสียงออดออ้อนประจำตัวของอีกคนจะดังขึ้นอีกรอบ

“นะครับ”
   ยกยิ้มที่มุมปากบางๆ แต่เหมือนมันก็พอที่จะให้อีกคนเข้าใจความหมายจนผมได้รับรอยยิ้มกว้างที่สดใสนั้นเป็นการตอบรับ ผมชอบ เพราะมันเหมือนกับว่าเราไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจกันได้ ประมาณว่ามองตาก็รู้ใจหล่ะมั้ง ฮึ คิดอย่างนี้ผมก็เผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้จนแอบเห็นว่าซีนอนหน้าขึ้นสีหน่อยๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผมแพ้รอยยิ้มแบบนั้น แพ้สีหน้าแบบนั้น ทำให้ในใจรู้สึกวูบวาบแปลกๆ

“ก็บอกแล้วไง ว่ากูชอบเริ่มก่อนมันเร้าใจกว่า”

กดริมฝีปากลงบนปากหนาของอีกคนที่ดูจะยิ่งชอบใจแลกสัมผัสอย่างนุ่นนวลและอ้อยอิ่งก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นร้อนแรงจนต้องขอหยุดพักหายใจ มือใหญ่ที่ตอนแรกไม่ทันได้สังเกตกลับเลื้อยขึ้นมาเรื่อยๆจนจะมุดเข้าไปในเสื้อ รู้สึกเหมือนตัวเองโดนทำให้คล้อยตามจนมีอารมณ์ร่วมนิดๆ ตัวผมถูกรุกจนหลังชิดเบาะ มือเย็นๆที่ลากผ่านหน้าท้องทำให้รู้สึกหวิวทำให้บางอย่างในกางเกงของผมเริ่มอยู่ไม่สุก


Shit!


ผมได้แต่รีบดันอีกคนให้ผละออก


 “อะไรอะกำลังเพลินเลย หมอกเองก็ชอบนี่ หรือไม่ใช่หล่ะครับ” ประโยคหลังมาพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองลงมาที่กลางตัวของผม ผมก้มลงมองตามสายตานั่นแล้วมันก็ทำให้ผมแทบจะกระโดดลงจากรถให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย น้องชายของผมมมันเกเรชี้หน้าพ่อตัวเองแบบไม่ได้ดูสถานการ์ณอะไรเลย แล้วที่สำคัญ

วันนี้ผมไม่ได้ใส่กางเกงใน!!

แม่งเอ้ย ไอ้หมอก


สายตาล้อๆของไอ้ซีนอนที่ส่งมายิ่งทำให้ผมทำตัวไม่ถูกมองซ้ายมองขวาไม่เห็นอะไรสักอย่างที่พอจะเอามาปิดเรื่องน่าอายนี้ได้ในใจอยากจะถอดเสื้อมาปิดด้วยซ้ำแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะข้างทางมีรถขับผ่านไปมาอยู่ตลอด เลยได้แต่หลับหูหลับตาสตาร์ทรถก่อนเหยียบคันเร่งทำเหมือนตัวเองจะหนีซีนอนพ้นทั้งๆที่อยู่ในรถคันเดียวกัน เสียงขำเรื่อยๆของมันยิ่งทำให้ผมร้อนฉ่าที่ใบหน้า เท้าก็ยิ่งเหยียบคันเร่งจนมันเร็วมากกว่า 100 กม./ชม. ถนนแถบชานเมืองก็โล่งเหมือนเป็นในให้ผมอย่างเต็มที่ ขับไปเรื่อยๆก็ไม่มีท่าทีว่ามันจะสงบลงบวกกับเสียงและหน้าตากวนๆที่ส่งมาให้อยู่เรื่อยทำให้ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตาขับไปโดยหันมองคนข้างๆให้น้อยมากที่สุด



จนพอรู้ตัวอีกที่ก็ขับรถมาจนถึงชลบุรีซะแล้ว


ห้ะ!!


เดี๋ยวนะ


ชลบุรี!!????

________________________________________

 ไม่รู้เขินอีท่าไหนขับแบบไม่ลืมหูลืมตาจนมาถึงชลฯ5555555555555
ตอนนี้อาจจะสั้นไปหน่อย ติดสอบติดงานวุ่นวายมาก
แต่จะพยายามมาอัพไม่ให้ขาดนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามทั้งหน้าใหม่ / หน้าเก่าเลยค่ะ
มีกำลังใจดีมากกกกกกกกกกกกกกก
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH12 29.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 30-05-2017 09:58:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH12 29.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 04-06-2017 00:47:45
เขินแรง. เขินไกล,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH12 29.5.17│
เริ่มหัวข้อโดย: MorethanMore ที่ 04-06-2017 03:33:04
หมอกน่ารัก เราว่าหมอกไม่ได้ดื้อนะ เพียงแต่หมอกคิดไม่ถึงเลยดื้อออกไปข้างนอกแต่เราว่ามันน่าจะเคยเกิดมาก่อนงั้นบอกอีกทีหมอกดื้อ 5555

ตอนล่าสุดหมอกน่ารัก ว่าแต่เหยี่ยวขาวกับแมงป่องเกี่ยวไรกัน อยากรู้มากมาย

รอใจจดจ่อ แลดูเป็นนิยายรายปักษ์ ฮึกค้างต่อไป
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH13 12.6.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 12-06-2017 20:00:53



13




Xenon


นานๆทีถึงจะได้เห็นคนผมดำนี่หลุดมาด แถมครั้งนี้ยังหลุดมาไกลถึงชลบุรี ผมนั่งยิ้มมาแทบตลอดทางแอบหัวเราะในท่าทีและอาการของอีกคน ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะแกล้งหรืออะไรนะ ผมเข้าใจว่ามันเป็นธรรมชาติของผู้ชาย แต่แอบเห็นว่าแรงดีไม่มีตกอย่างนี้ไอ้ผมก็สบายใจแล้วครับ ส่วนตอนนี้พวกเรากำลังจอดรถพักอยู่ในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในชลบุรี หมอกกำลังพยายามเคลียกับท่าทางงงๆของตัวเองแถมยังสั่งให้ผมไปหาซื้อกางเกงในมาให้อีก

   ผมใช้เวลาครู่หนึ่งในการโทรไปเช็คอินและสั่งงานกับราฟ ตอนแรกทั้งราฟและเจย์โวยวายจะตามมาให้ได้พอผมปฏิเสธก็ยังจะคะยั้นคะยอจะส่งลูกน้องตามมาแถมยังแอบบ่นว่าชอบไปไหนมาไหนไม่บอก ยังดีที่ถ้าขับเลยไปถึงพัทยาจะมีโรงแรมของผมอยู่ ก่อนที่จะเอาของที่ซื้อไปให้หมอกที่พอได้รับปั๊บก็รีบเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมเลยเดินขึ้นมานั่งแทนที่ฝั่งคนขับ ไม่ถึงห้านาทีหมอกก็เดินมาถึงรถด้วยหน้าที่ยังดูจะหงุดหงิดอยู่นิดๆ

“มองอะไร” น้ำเสียงดุๆที่มาพร้อมกับสายตาที่ดุไม่แพ้กันทำให้ผมขำ ถ้าไม่ติดว่าอีกคนยังหูแดงเพราะอายอยู่ละก็ มันก็อาจจะดูน่ากลัวกว่านี้นะ

“ป่าวคร้าบ ผมแค่ช่วยเช็คความเรียบร้อยให้” ผมพูดแหย่ ซึ่งเหมือนจะได้ผลเพราะผมโดนตบหัวเข้าให้เต็มรัก คนสวยเนี่ยยิ่งเขินมือยิ่งหนักหรอครับ ผมก็ได้แต่ลูบหัวตัวเองป้อยๆ หมอกหายใจเข้าหนักๆอยู่สองสามทีก่อนจะกลับมามีสีหน้าปกติแล้วหันมามองผมด้วยสายตาดุๆนั่นอีกที

“อย่าดุสิ ผมแค่แหย่เล่นเอง หมอกหิวไหมครับเดี๋ยวผมพาไปกินข้าว”ตาสีดำมีแววครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก่อนที่ผมจะเปิดโอกาสให้อีกคนปฏิเสธก็ชิงออกรถมาก่อนแล้วมุ่งหน้าขับเข้าตัวเมืองทันที

ทิ้งให้อีกคนยังงงกับการถามที่ไม่สนใจคำตอบของผม ใครสนหล่ะ นานๆได้ออกมาผ่อนคลายอย่างนี้ทีไม่คว้าไว้ได้ที่ไหน ขับรถมาด้วยความเร็วที่ไม่มากนักประมาณครึ่งชั่วโมงก็เริ่มเข้าถึงตัวเมืองพัทยา มองไปที่นาฬิกาก็เห็นว่าเวลาล่วงมาจนเกือบบ่ายโมงแล้ว ตลอดทางหมอกยังคงนั่งเงียบๆมีหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดบ้างเป็นพักๆ ผมคิดว่าน่าจะเป็นการนั่งแชทกับกลุ่มเพื่อนเพราะโทรศัพท์ของหมอกมีการสั่นเตือนแทบจะไม่หยุด รวมถึงข้อความเสียงหลายข้อความที่หมอกไม่กล้าเปิดฟัง สังเกตจากคิ้วนั่นที่ดูจะขมวดจนยุ่งแทบจะตลอดเวลาแสดงว่าข้อความพวกนั้นต้องเป็นข้อความโวยวายที่หมอกหายไปไม่บอกกล่าวแน่ๆ

   ตามจริงตั้งแต่วันนั้นทั้งข้อความหรือสายเข้าจากเพื่อนๆในกลุ่มของหมอกดังเข้ามาไม่ขาดสายจนแบตหมด โดยเฉพาะคนที่ชื่อนายจนผมนี่แทบอยากจะถามให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่ามันมีอะไรยังไง ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจ(?)นะ ข้อมูลที่คนในชีวิตหมอกผมหาได้ภายในไม่ถึง 24 ชม.ด้วยซ้ำ นี่ผมเดาว่าหมอกต้องลืมไปแล้วแน่ๆว่าตัวเองบอกจะโทรหาพ่ออีกรอบ

เลี้ยวรถเข้ามาจนถึงหน้าล็อบบี้โรงแรมหรู 6 ดาวติดหาดจอมเทียนสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของทั้งชาวไทยและต่างชาติ พนักงานรีบเดินเข้ามาเปิดประตูรถให้อย่างกระตือรือร้น ผมลงรถมามองบรรยากาศของโรงงแรมที่คุ้นตาผิดกบอีกคนที่ยังเดินก้มหน้ามองโทรศัพท์ในมือจนเกือบจะเดินชนคนอื่น ผมเลยจัดการคว้าไหล่นั่นให้มาเดินข้างๆ ดูถ้ากำลังจะตั้งใจคุยจริงๆเพราะไม่อย่างนั้นป่านนี้ผมโดนผลักกระเด็นไปไหนต่อไหนแล้ว กลิ่นผมหอมๆกับสัมผัสนุ่มๆทำให้ผมอยากจะพาไปฟัดมากกว่าพาไปกินข้าว แต่ก็ได้แต่คิดอยู่เงียบๆในใจดึงอีกคนให้เข้ามาชิดอีกหน่อยไปพลางๆก่อน

ผู้จัดการที่จำผมได้ในทันทีรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา เพราะสาขาที่นี่เพิ่งเปิดได้ไม่นานช่วงก่อนหน้านี้ผมเลยต้องเข้ามาดูความเรียบร้อยอยู่บ่อยๆ เลยทำให้เป็นที่คุ้นตาของพนักงานอยู่บ้าง

“สวัสดีครับคุณซีนอน วันนี้สนใจเปิดห้องแบบไหนดีครับ private pool suiteที่มาใช้บริการประจำรอบนี้ว่างนะครับ” จบประโยคคนที่ตอนแรกก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์เงยหน้าขวับขึ้นมามอง ก่อนยิ้มที่มุมปากจะเริ่มฉายชัดทำให้อดเสียวสันหลังวาบไม่ได้เลยได้แต่ยิ้มแหยๆกลับไป

“วันนี้ฉันมาทานข้าว นายช่วยจัดการให้หน่อยแล้วกัน อืม..ภายในสิบนาที” เพราะระยะเวลาที่ผมกำหนดให้มันน้อยนิดทำให้ผู้จัดการตัวดีนั่นถึงกับหน้าเจื่อนรีบโค้งลาก่อนเดินกึ่งวิ่งไปประสานงานให้ 

แต่ก่อนผมมักจะพา’เด็กๆ’มาค้างด้วยที่โรงแรมบ่อยๆ จนมันคงเป็นเรื่องทั่วไปสำหรับพนักงานที่นี่ทำให้ประโยคทักทายกลายเป็นแบบนั้นไป แต่แหม ครั้งนี้เล่นมาทักกันต่อหน้า ทูนหัว มันก็น่าทำให้หนาวๆร้อนๆบ้างแหละครับ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้หมอกก็กลับไปก้มหน้าก้มตาไม่สนใจผมเหมือนเดิม
“วุ่นวายจริง” ปากบางนั่นบ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะตัดสินใจปิดโทรศัพท์หน้าตาเฉย ผมมองคิดว่ามันตลกแต่ก็ขำไม่ออก นี่ถ้าวันนี้คืนดีผมโดนปิดเครื่องใส่บ้างมีหวังนั่งจ๋อยกินข้าวกินปลาไม่ลง

“ทำไมใจร้ายจัง” ผมพูดขึ้นลอยๆเรียกคิ้วยุ่งๆนั่นให้เงยขึ้นมาอีกรอบ

“อธิบายไปแล้ว แต่ไม่ฟังเลยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวพวกมันก็หาย” ยักไหล่อย่างไม่คิดอะไรมากส่วนผมได้แต่ส่งเสียงตอบรับเบาๆในคอ พนักงานผู้หญิงคนหนึ่งเดินนำพวกเราทั้งคู่ไปที่เล้าจ์บนชั้น 20 ที่จะเปิดเฉพาะตอนเย็น ทำให้ตอนนี้ไม่มีใครนอกจากเราสองคน หมอกดูพอใจ เพราะบรรยากาศเงียบๆรอบตัวนี้ คนตรงหน้าทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เหมือนหมดแรงก่อนจะเสยผมที่ปิดหน้าของตัวเองขึ้นอย่างลวกๆ แน่นอนว่าผมที่เห็นทุกการกระทำได้แต่แอบกลืนน้ำลายอยู่เงียบๆ คนที่ไม่ว่ามองมุมไหนก็มีเสน่ห์พาลให้มองตามตลอดเวลากลับมีความรู้สึกเหมือนมีไออันตรายไม่น่าเข้าใกล้แผ่ออกมาด้วย  ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหน้านิ่งที่ติดไปทางดุ หรือการวางตัวที่ทำให้เหมือนอยู่กันคนละระดับ แต่รวมๆแล้วนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยากเข้าไปทำความรู้จักให้ได้ใกล้เข้าไปเรื่อยๆ เหมือนยอมกระโดดลงไปในหลุมที่ไม่รู้ว่าข้างล่างมีอะไรรอผมอยู่
ใช้เวลาไม่นานนักอีกคนก็เหมือนจะรู้ตัวว่ามีสายตาที่จับจ้อง แต่แทนที่จะเขินขายหรือไม่กล้าสบตาเหมือนคนทั่วไป ตาสีดำนั่นกลับมองตรงมาอย่างไม่คิดจะหลบแถมยังเจือแววท้าทายอยู่เนืองๆ เสื้อยืดสีดำที่ตอนแรกคิดว่าคอไม่ได้กว้างมากอีกคนกลับจงใจนั่งเท้าคางก้มลงต่ำจนผิวขาวๆนั่นเผยเข้าสู่สายตา ปิดท้ายด้วยรอยยิ้มประจำของคนชอบแกล้งที่มันชวนให้เข้าไปฟัดแรงๆสักสองสามที ผมได้แต่ยิ้มตอบกลับไป

“อยากให้พี่ทนไม่ไหวหรอครับ”

จงใจแทนตัวเองว่าพี่ให้อีกคนหน้าเจือสีขึ้นอีกหน่อย จุดอ่อนข้อนึงของหมอกคือเขาจะเขินเวลาที่ผมพูดเพราะ ลำพังแค่พูดครับบางที่ก็ทำให้อีกคนเกร็งจนทำตัวถูก นี่ไม่นับคำว่าพี่นะ ที่ตอนนี้ทำให้คนผมดำหลบตาแถมด้วยด่าอีกนิดให้ผมพอกระชุ่มกระชวยหัวใจ

ไม่เกินสิบนาทีอาหารก็ค่อยๆทยอยมาวางจนเต็มโต๊ะ ถือว่าผู้จัดการนั่นทำตามที่ผมสั่งได้ดี คนตรงหน้ายังไม่ได้ลงมือทานอาหารเหมือนกำลังรอให้ผมลงมือก่อน ....น่ารักชะมัดเลย

ข้อนี้ทำให้ผมได้แต่แอบยิ้มในใจ

“นั่งทำหน้าโรคจิตอยู่ได้ รีบกินสิ”  พูดกดด้วยน้ำเสียงที่พอให้ได้ยินกันอยู่สองคน เอ้อ ผมเคยบอกไปแล้วใช่ไหมครับว่าหมอกหน่ะน่ารัก แม้กระทั่งในเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นการให้เกียรติและเกรงใจผม แน่นอนว่ารวมถึงเรื่องนี้ด้วย ตลอดเวลาถึงแม้ว่าหมอกจะพูดรุนแรงหรือห่ามไปบ้างแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องหรือคนที่ผมต้องรักษาภาพลักษณ์ด้วย หมอกจะไม่พูดหักหน้าหรือทำอะไรให้ผมดูแย่เลย เรียกได้ว่าเก็บไว้คิดบัญชีทีเดียวตอนอยู่กันสองคนมากกว่า ไม่เหมือนคนควงอื่นๆของผมที่มักจะพูดจาไม่ดีและเอาชื่อของผมไปใช้อวดอ้างอยู่บ่อยๆ

มื้ออาหารดำเนินไปอย่างเรียบง่ายจนกระทั่งมือถือในกางเกงผมสั่น เห็นชื่อคนที่โทรเข้าก็พาลอยากจะเบ้หน้า ไอ้เซนต์
“มีอะไร” ผมกดรับโทรศัพท์กรอกเสียงลงไปไม่ดังมาก

“โว้ว เสียงเข้มอีกละ กระผมขอโทษขอรับที่โทรมาขัดจังหวะ คือกูมาหามึงที่บ้านเนี่ย แต่มาถึงหายเฉยรู้อีกที่ก็พาเด็กไปรังรักเก่าที่พัทยาซะและ”

“พูดให้มันดีๆ รังบ้าไร” พูดพลางแอบเหลือบมองอีกคนที่ยังนั่งทานข้าวไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจผม

“หึหึ ไม่มีอะไรหรอกครับนายน้อย แค่จะแวะมาคุยธุระด้วยนิดหน่อยแล้วก็นะบ้านมึงนี่สกปรกมาก ดูแลยังไงของมึงวะ รีบหาคนมาทำความสะอาดซะ” ผมขมวดคิ้วกับคำพูดของไอ้หมอที่อยู่ปลายสาย บ้านสกปรกของมันคืออะไรผมเข้าใจดี

“ห้องทำงานยิ่งแล้วใหญ่ฝุ่นเยอะจนกูต้องออกมาคุยข้างนอก มึงก็รู้ว่ากูแพ้”  เสียงที่ทำเหมือนตัวเองกำลังหายใจไม่ออกนั่นทำเอาผมนึกภาพหน้าตากวนๆนั่นออก นี่คงมีคนเดินผ่านมาตอนที่มันกำลังคุยกับผม ขยายความคำว่าบ้านสกปรกง่ายๆก็คือมีเครื่องดักฟังหรืออุปกรณ์สปายอย่างอื่นอยู่ในบ้าน

“งั้นสนใจมาเที่ยวพัทยาไหม ที่นี่น่าจะอากาศดีกว่า พาเจย์กับราฟมาด้วยก็ดี”

“เอางั้นก็ได้ รีบๆสวีทให้เสร็จๆ ตอนกูไปจะได้ไม่ต้องมาหงุดหงิดว่ามีก้าง” พูดจบก็ตัดสายไปก่อนที่จะได้ด่า เซนต์ ไอ้เซนต์ หรือหมอเซนต์เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในชีวิตของผม ผมกับมันรู้จักกันมานานก่อนผมจะเข้าวงการนี้ซะอีก หลายครั้งที่ชีวิตมันต้องวุ่นวายเพราะผมแต่ก็ไม่เห็นว่ามันจะหายหัวไปซะที เรื่องที่มันโทรมาบอกทำให้ผมต้องหยุดคิดอยู่พักหนึ่ง ผมไม่รู้ว่าโดนเริ่มดักฟังตั้งแต่เมื่อไหร่เพราะฉะนั้นแทบทุกอย่างจะต้องมาคิดกันใหม่ทั้งหมด รวมถึงเรื่องหมอกบ้างเรื่องด้วย

เนื้อปลาคำเล็กๆถูกวางลงบนจาน นั่นก็พอที่จะให้ผมหลุดยิ้มออกมาได้ไม่ยาก ส่วนคนที่ตักให้เมื่อกี้ยังทำท่าเฉยเหมือนตัวเองไม่ได้เป็นคนทำเสียอย่างนั้น แถมพอโดนมองนานๆยังมีหน้ามาเลิกคิ้วใส่กันอีก

ให้ตายสิ

“กินสะสิ” เสียงนั่นพูดออกมาโดยที่ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองผมแต่หูเล็กนั่นกลับเริ่มขึ้นสี

“คร้าบๆ เมื่อกี้ไอ้เซนต์โทรมา เดี๋ยวตอนเย็นๆมันน่าจะมาถึงที่นี่มีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย”

“ก็มาสิ แล้วจะทำหน้าบูดทำไม” ผมอยากจะเบะปากแล้วเข้าไปอ้อนหมอกให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดอยู่ที่พนักงานสี่ห้าคนที่ยืนมองอย่ไกลๆนั่นทำให้ตอนนี้ทำได้แค่หน้านอยๆแค่นั้น

“ก็เนี่ย นานๆทีจะได้อยู่เงียบๆสองคนก็ดันมีเรื่องเข้ามาให้ปวดหัวอยู่ได้” อดที่จะบ่นไม่ได้ หมอกพ่นลมหายใจพร้อมกับขำ

“โตเป็นควายแล้วยังมานั่งทำหน้างอ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วกูว่าจะไปเดินเล่นสักหน่อย มึงจะตามไปก็ได้นะ”









ตกเย็นหลังจากที่ผมตือนให้หมอกโทรไปหาพ่ออีกรอบซึ่งเป็นไปตามที่ผมคิดคืออีกคนลืมสนิท เราก็ไปเดินเล่นนั่งคุยนู่นนี่ไปตามเรื่องราว พูดให้ถูกคือผมแทบจะพูดอยู่คนเดียวโดยที่มีหมอกเออออด้วยเป็นพักๆมากกว่าแต่มันก็ทำให้ผมรู้เรื่องเกี่ยวกับหมอกเพิ่มขึ้นมาหลายอย่างเช่น หมอกชอบสีฟ้า ไม่ชอบทานอาหารรสเผ็ดและชอบมอเตอร์ไซค์มากกว่ารถยนต์ ขบวนเสด็จของไอ้หมอมาถึงโรงแรมห้าโมงเย็นเป๊ะ เหมือนเวลาที่มีค่าหมดลง พวกเรานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของวิลล่าส่วนตัวหลังหนึ่งที่ผู้จัดการคนนั้นเปิดไว้ให้เสร็จสรรพตั้งแต่เห็นหน้าผม


“ทำไมถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ได้ เราก็เช็คทุกคนที่เข้าออกบ้านนี่” ผมถาม ไอ้หมอยักไหล่เป็นคำตอบว่าไม่รู้เรื่อง

“ขออภัยครับนายน้อย”  ราฟตอบพลางก้มหน้ารับผิดผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ หมอกทำหน้าอึกอักเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองควรอยู่ในวงสนทนานี้รึเปล่าผมเลยจับข้อมือนั้นไว้เป็นเชิงบอกให้นั่งอยู่ต่อ

“อย่าไปว่าราฟเลย วันนี้ที่กูเจอก็เพราะบังเอิญหรอกแม่งแอบไว้สะอย่างดี กูว่าฝีมือคนในแน่ๆ” หมอพูดต่อเจย์รีบพยักหน้าสนับสนุน
“ใช่ครับนายน้อย แต่จากที่พวกผมเช็คดูเรียบร้อยแล้วมีแต่เครื่องดักฟังครับไม่มีกล้องหรืออุปกรณ์อื่นๆ เรื่องนี้มีแค่นายน้อย คุณเซนต์ คุณหมอกแล้วก็พวกผมที่รู้ส่วนเครื่องพวกนั้นพวกผมยังไม่ได้กำจัดแต่จัดการให้ไม่เป็นอันตรายแล้วครับ” ผมพยักหน้าอย่างพอใจกับวิธีดำเนินการ
“ดี ต้องไม่ให้มันรู้ว่าเรารู้ตัวแล้ว เครื่องพวกนี้อาจจะพอทำประโยชน์ให้เราได้บ้าง แล้วก็เรื่องนี้อย่างเพิ่งไปบอกใคร ให้รู้กันแค่ในเฉพาะห้องนี้พอ” ทุกคนพยักหน้าอย่างรับคำ ไอ้เซนต์ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างแต่พอมองไปทางหมอกแล้วก็หยุดหันมาทำสายตาของความเห็นก่อนที่ผมจะพยักหน้า

“อืมแล้วก็แผนเรื่องความปลอดภัยของหมอกพังหมดเลยนะ รวมถึงประชุมอื่นๆของเราในช่วงนี้ด้วย ราฟเช็คคร่าวๆแล้วบัคพวกนี้น่าจะมาติดตั้งก่อนหน้าประมาณ1อาทิตย์ช่วงเดียวกับที่เราโดนวางระเบิด” แทบจะไม่ต้องพูดชื่อทุกคนในห้องก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร ถ้าไม่นับการไม่ชอบขี้หน้ากันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมกับไอเดนก็เป็นคู่แข่งธุรกิจกันชนิดว่าเป็นศัตรูกันแทบทุกอย่าง
“ช่วงนี้ก็จำกัดจำนวนคนในบ้านใหญ่ซะ ใครไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเข้ามาให้ไปอยู่อีกหลังให้หมด” เนื่องจากในบริเวณบ้านของผมมีบ้านๆเล็กๆแยกรวม4-5 หลัง โดยเป็นทุกของลูกน้องแม่บ้าน หรือเป็นบ้านเอาไว้รับรองแขกต่างๆ ส่วนบ้านใหญ่จะมีแค่ผมและลูกน้องคนสนิทอยู่เท่านั้น แต่ดูเหมือนตอนนี้ใครๆก็ไว้ใจไม่ได้ไปเสียหมด

“ตอนนี้ที่ผมยืนยันได้แล้วว่าเป็นสายของไอเดนมีสองคนครับ คนนึงอยู่หน่วยผมส่วนอีกคนเป็นคนสวนที่เราจ้างเข้ามาจะให้จัดการยังไงดีครับ” คนที่อยู่หน่วยของเจย์คนนั้นน่าจะเป็นคนเดียวกับคนที่ทำให้เกิดเรื่องกับหมอกที่คลับ ในระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเอายังไงต่อไปดี ผมก็รับรู้ถึงการสะกิดเรียกเบาๆของคนข้างๆ
“เอ่อ..ขอเสนออะไรหน่อยได้ไหม” ผมเลิกคิ้วยอมรับว่างงนิดหน่อยที่อีกคนกล้าที่จะออกความเห็นไม่ต่างกับอีกสามคนที่มีใบหน้างงอยู่เหมือนกันแตกต่างกันที่ไอ้หมอจะแอบยิ้มปนขำเจย์ที่ดูจะอึ้งๆส่วนราฟที่ทำหน้าตาเคร่งเครียด ผมพอจะเข้าใจว่าราฟคิดอะไรอยู่ราฟเป็นคนเคร่งทั้งกับระเบียบความประพฤติเรียกได้ว่าแทบจะกับทุกอย่าง อีกทั้งยังเป็นคนจริงจัง ผมจึงไม่แปลกใจที่ราฟยังมีสีหน้าท่าทางไม่ไว้ใจหมอกเขาไม่ชอบใจตั้งแต่ที่ผมสั่งห้ามขุ้ยประวัติหมอกตั้งแต่ทีแรก
“เอาสิ” หมอกมองสบตากับทุกคนก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นคง
“ผมคิดว่า ในเมื่อเราตั้งใจจะเก็บบัคของพวกนั้นไว้เพื่อเอามาเป็นข้อได้เปรียบทีหลัง เราก็ควรกำจัดสปายพวกนี้โดยที่เราต้องทำให้มันพอที่จะโน้มน้าวให้ฝั่งนั้นคิดว่าเรารู้แค่เรื่องนี้ มันดีกว่าที่เราจะปล่อยไปเพราะมันจะทำให้พวกนั้นคิดว่าเรายังระแวงและสืบหาสปายอยู่ตลอด สู้กำจัดไปอย่างหนึ่งแล้วแสร้งทำเป็นสบายใจไปดีกว่า”

ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตากลั้นยิ้มที่แทบจะปิดไม่มิด ทำไมน่ารักอย่างนี้ จะไม่ไหวละโว้ย แต่เหมือนจะมีอีกคนที่รู้ทันผมเพราะในตนนี้มันนั่งขำฮึๆแถมยิ้มล้อมาทางผมแบบไม่ปิดบัง หมอกทำหน้างง ไม่เข้าใจทั้งพฤติกรรมของผมและไอ้หมอ
“เอาเป็นว่าพวกนายจัดการตามี่หมอกเสนอแล้วกัน ฉันเห็นด้วย”
เจย์พยักหน้ารับก่อนจะจดบางอย่างลงในในสมุดเล็กๆแล้วเงยหน้าขึ้นมาสีหน้าเหมือนมีเรื่องลำบากใจบางอย่างจะพูด จนไอ้เซนต์ทนไม่ไหวต้องเป็นคนเริ่มต้นประเด็นเอง
“สายของนายที่ส่งไปอยู่กับไอเดนโดนจับได้ไปแล้วหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ตายแต่กูคิดว่าก็คงไม่ต่างกับตายเท่าไหร่” ผมมีคนที่ให้แฝงตัวอู่กับไอเดน ไม่ต่างจากที่มันที่มีสายอยู่ในแฟมิลี่ของผม แต่พอต้องมารับรู้ว่าลูกน้องของตัวเองโดนไอ้คนโรคจิตแบบนั้นจับได้ในใจก็อยากจะส่งคนไปช่วยให้รู้แล้วรู้รอดแต่ติดที่มันทำไม่ได้
“ก็คงต้องปล่อย” ผมเชื่อว่าลูกน้องของผมไม่มีทางปากโป้งเปิดเผยชื่อของคนอื่นๆ แต่นั่นเท่ากับว่าผมต้องเสียลูกน้องที่เชื่อใจได้ไปอีก 1 คน หมอกบีบมือผมเบาๆ ทำให้ได้แต่ยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่เจย์จะพูดเรื่องต่อไปซึ่งส่วนมากก็เกี่ยวกับแผนธุรกิจกับการรักษาความลอดภัยบางอย่างที่ต้อวางแผนใหม่ หมอกนั่งฟังอยู่เงียบๆส่วนเซนต์นานๆจะออกความเห็นที ยกเว้นเรื่องโรงพยาบาลของมันที่มีผมถือหุ้นอยู่ด้วยที่ตอนนี้เป็นธุรกิจเดียวที่ไอเดนยังไม่ยื่นมือเข้ามายุ่ง ถึงมนจะไม่ได้มีกิจการเกี่ยวกับพวก รพ เหมือนผมแต่มันก็ไม่สามารถการันตีได้ว่ามันจะไม่เข้ามายุ่ง เวลายืดเยื้อไปกว่าสองชั่วโมงกว่าที่จะเคลียประเด็นทั้งหมดลงได้
“ทีนี้ก็เหลือแต่เรื่องหมอกแล้วหล่ะ” ไอ้หมอโพล่งขึ้น คนที่ทำท่าเหมือนเริ่มง่วงในตอนแรกเลยกลับมานั่งตัวตรงเหมือนเดิม แถมทำท่าตั้งใจฟังจนอยากหยิก เพราะเกือบทุกแผนที่ผมวางไว้ดูเหมือนจะใช้การไม่ได้แล้ว มันยากตรงที่ว่าจะเปลี่ยนแผนยังไงให้อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเรารู้ทัน กว่าสิบไอเดียที่ช่วยกันเสนอยังไม่สามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ อีกทั้งเจ้าตัวก็ยืนยันว่ายังอยากไปเรียนเพราะอีกปีเดียวก็จะจบ จนบนหน้าไอ้หมอเริ่มมีรอยยิ้มแปลกๆ มองผมและหมอกสลับกันก่อนจะมองมาที่ผมอีกรอบคราวนี้เปลี่ยนเป็นยิ้มกวนตีนที่เจ้าตัวมีประจำเวลาจะทำอะไรแผลงๆ

“ถ้าเราเปลี่ยนหรือเพิ่มคนคุ้มกันหมอกไม่ได้ มึงก็ทำให้หมอกเข้าถึงยากแทนสิ” ทุกคนที่ฟังได้แต่ทำหน้างงเพราะยังคิดไม่ออกว่าความหมายของประโยคที่เพิ่งได้ยินคืออะไร ก่อนมือนั่นจะพิเรนท์เอื้อมมาจับหน้าของหมอกผมที่กำลังจะจัดการไอ้เพื่อนตัวดีที่แกล้งยั่วโมโหไม่เข้าท่ากลับไม่ทันเจ้าตัวที่บิดข้อมือคนที่มาจับหน้าตัวเองจนไอ้เซนต์หน้านิ่ว

“อะ โทษครับ มือมันไปเอง” ถึงเสียงพูดจะนิ่งๆเหมือนปกติแต่ผมก็เห็นว่าแววตานั้นกลับกำลังวาวเหมือนคนกำลังกลั้นขำ

“ใครให้มึงแตะเนี่ยก็รู้ว่ากูหวง” ไม่ว่าเปล่าผมยังแกล้งเอามือไปเช็ดแก้มเนียนนั่นจนหมอกดันมือของผมให้ออกห่างพร้อมสายตาคาดโทษที่ทำให้รู้ว่าตัวเองจะโดนคิดบันชีทีหลังแน่นอน
“ไอ้เวร กับเพื่อนนี่ไม่ได้เป็นห่วงเลย ว่าแต่หมอกเล่นแรงนะครับนี่พี่เจ็บจริงๆนะ”

“หยุดเพ้อเจ้อได้แล้วไอ้หมอ สรุปมึงจะเสนออะไร”

“ไม่ต้องห่วง รับรองว่ามึงต้องไม่ชอบแน่ๆไอ้ซี”

และพอผมได้ฟังแผนของมัน แค่สองสามประโยคแรกก็ทำให้ผมอยากจะตะโกนบอกว่าไม่เป็นสิบๆหนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นแผนที่ดูจะได้ผล แถมยังง่ายอีกด้วย ยิ่งหมอกที่นั่งคิดตามเงียบๆแบบไม่มีท่าทีว่าจะปฏิเสธยิ่งทำให้ผมนี่อยากจะทึ้งหัวตัวเอง

“สรุปง่ายๆก็คือ ทำตัวให้เด่น ยิ่งเด่นได้เท่าไหร่ยิ่งดี โอเคไหม”

ไม่โอเค

ของรักของหวงทั้งที ใครจะอยากให้ชาวบ้านมองกันง่ายๆหล่ะ

ผมจะสรุปแผนสิ้นคิดของไอ้หมอไอ้ฟังอีกที เรื่องก็คือมันต้องการให้หมอกทำตัวให้เป็นจุดสนใจเอาไว้ตลอดเวลา เพราะเดี๋ยวนี้เวลากรี้ดใครสักคนร้อยละร้อยก็แทบจะคอยตามหรือแอบถ่ายรูปอยู่ตลอด ยังไม่นับว่าจะอยู่ในสายตาคนทั่วๆไปแทบจะตลอดเวลา ทำให้เวลาเกิดอะไรไม่ดีขึ้นเป็นอันว่าต้องมีใครสักคนเห็นแน่ๆ อาจจะฟังดูเป็นแผนที่เข้าท่าสำหรับหลายคน แต่มันไม่สำหรับผม

ผมหวง

“โอเค”

แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้หมอกเห็นด้วยกับความคิดนี้ หันไปมองอีกคนก็ได้แต่ยักไหล่น้อยเป็นคำตอบเท่านั้น

“แต่ต้องลดจำนวนคนที่ตามผม แล้วที่สำคัญผมขอเวลาส่วนตัวด้วย”

ไอ้หมอพยักหน้าบวกกับไม่มีเสียงคัดค้านจากสองบอดี้การ์ดที่นั่งฟังอยู่ด้วยและข้อสรุปทั้งหมดก็จบลงด้วยการจับมือให้กับแผนความปลอดภัยระหว่างหมอกกับไอ้หมอ โดยที่มีผมนั่งไม่เห็นด้วยสุดๆอยู่ตรงกลาง










________________________________________

ตอนนี้รีบลงอาจจะทำให้มีคำผิดบ้าง

ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH13 12.6.17│
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 12-06-2017 22:06:21
ชอบบบบบ  รออ่านตอนหน้าค่ะะ อยากเห็นหมอกตอนไปมหาลัย
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH13 12.6.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-06-2017 22:21:55
รอตอนต่อไปครับ,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH13 12.6.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 21-06-2017 13:29:18
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH13 12.6.17│
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 04-07-2017 11:30:00
น่าสนุกกกก รออ่านต่อน้าาาา
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH13 12.6.17│
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 05-07-2017 00:30:59
สนุกมากเลยค่า รอตอนต่อไปนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH14 11.8.17│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 11-08-2017 19:45:55





14




    พอเคลียปัญหาทุกอย่างเสร็จทั้งห้องก็กลับมาเหลือแค่ผมกับไอ้ฝรั่งนี่เหมือนเดิม ส่วนคนอื่นก็ไปเปิดห้องเพิ่มเติมเพื่อพักผ่อน เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม จากที่ผมคิดว่าจะทานข้าวแล้วกลับกลายเป็นต้องค้างที่นี่ไปเสียอย่างนั้น และจากหน้าของซีนอนก็น่าจะรู้สึกคล้ายๆกัน ต่างกันแค่อีกคนดูจะเครียดมากกว่าแล้วเมื่อกี้ก็เล่นอัดยาไมเกรนเข้าไปทีเดียวสองเม็ดรวด แล้วถ้าสงสัยว่าทำไมผมถึงตอบรับข้อเสนอของหมอเซนต์ง่ายๆ

 เหตุผลหลักๆมีด้วยกันสองข้อ หนึ่ง ถ้าตัดเรื่องคามวุ่นวายและความน่ารำคาญออกนี่นับเป็นข้อเสนอที่เข้าท่าและดูเป็นไปได้มาก สอง คือผมยากลดจำนวนคนที่ซีนอนต้องเอามาลงกับผมลำพังจากที่ฟังท่าทางก็ดูจะมีปัญหาภายในกันอยู่ไม่น้อย แล้วจากนิสัยอย่างไอ้ฝรั่งนี่รับรองว่ามันต้องเลือกแต่คนที่ไว้ใจได้ให้มาคอยตามดูผมแน่ ดีไม่ดีก็จะกลายเป็นราฟหรือไม่ก็เจย์เลนไปเสียอีก แล้วอย่างนี้จะเอาคนที่ไว้ใจได้ที่ไหนไปคอยช่วยงานตัวเอง เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วผมยอมทนรำคาญกับสายตาที่มองมาดีกว่าเพิ่มความลำบากให้หมอนั่น ก็คิดซะว่ากลับไปเหมือนเมื่อก่อน


เครื่องดื่มสีอำพันรสชาติดีแก้วที่สามที่ทางโรงแรมจัดมาให้ในมินิบาร์ของห้องหรูบวกกับลมเย็นและเสียงคลื่นกระทบฝั่งที่ได้ยินเป็นจังหวะทำให้บรรยากาศที่ระเบียงตอนนี้เปรียบได้กับสวรรค์เล็กๆสำหรับผม นึกในใจว่าถ้ามีหนังสือดีๆให้อ่านสักเล่มผมคงจะมีความสุขไปอีกทั้งวันแน่ๆ


“อารมณ์ไหนถึงออกมาดื่มเงียบๆละครับ” เสียงดังออกมาจากคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ส่วนผมตอนนี้พร้อมนอนเรียบร้อยกะแค่ออกมาชมวิวแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นแต่บรรยากาศมันคงดีไปหน่อยทำให้นานจนอีกคนอาบน้ำเสร็จ

“ตอนแรกก็ว่าจะไม่ แต่บรรยากาศมันคงดีไปหน่อย”
ว่าแล้วก็ยกแก้วใสขึ้นมาจิบอีกรอบ ความรู้สึกเหมือนของเหลวร้อนๆไหลผ่านลำคอไปนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกดีมากนัก แถมยังมีโทษอีกหลายอย่างที่สิบนิ้วแทบจะนับไม่หมด แต่ก็แปลกที่หลายคนก็ยังชอบ รวมถึงตัวผมเอง ในระดับที่พอดีบางครั้งมันก็ช่วยทำให้เราไม่ต้องคิดอะไรมากนัก บางครั้งก็ช่วยทำให้นิสัยบางอย่างหายไป เหมือนอย่างตอนนี้
ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าผมก็ต้องทำใจนิดหน่อยกับชีวิตที่ต้องกลายเป็นชีวิตที่ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัว ยิ่งต่อจากนี้ไปยิ่งแล้วใหญ่

“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะทำให้ทุกอย่างจบให้เร็วที่สุด”

“นายเองก็อย่าเครียดให้มันมากไปหล่ะ” ซีนอนเลิกคิ้วให้กับสรรพนามใหม่ก่อนจะยิ้มขำ เล่นเอาผมต้องหลบตาอย่างช่วยไม่ได้ ใครจะปิดว่ามันช่างสังเกตขนาดนี้กันเล่า ยอมรับสารภาพว่าอยากจะทำตัวให้ดีขึ้นมาหน่อยแต่ครั้นจะให้เรียกว่าพี่มันก็ยังกระดากปาก จะเรียกมึงก็รู้สึกขัดๆเพราะซีนอนดีกับผมมากแถมยังช่วยผมมาตั้งหลายครั้งอีกทั้งยังอายุมากกว่าตั้งหลายปี รู้สึกได้ว่าหูตัวเองร้อนแบบที่ไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์แน่ๆ

“วันไหนอยากเรียกว่าที่รักก็เรียกได้เลยนะครับไม่ต้องเกรงใจ”

“เสือก” หลุดตอบแบบปากไวไปตามนิสัยแต่อีกคนก็ดูไม่ได้ถือสาอะไรกลับหัวเราะชอบใจด้วยซ้ำ


Ti voglio baciare.
(ผมอยากจูบคุณ)


“HELL NO!” ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด ใครจะไปลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเช้ากัน ส่วนคนตัวสูงก็แสร้งตีหน้าน้อยใจ ทำตาเหมือนคนจะร้องไห้ แถมไม่อยู่นิ่งยังคิดขยับเข้ามาเรื่อยแต่ไอ้จะให้ถอยหนีทิฐิที่ค้ำคออยู่ก็ทำให้ทำไม่ลงได้แต่ยืนปั้นหน้านิ่งไปอย่างนั้น

สุดท้ายก็จบลงที่ริมฝีปากชื้นแตะลงบนหน้าผากเท่านั้น แต่เพราะยังงงๆอยู่เลยถูกคว้าเข้าไปกอดจนเต็มรัก แถมยังไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยง่ายๆ กว่าห้านาทีแล้วที่พวกเรายืนอยู่อย่างนั้นสติของผมฟุ้งซ่านไปไกลตั้งแต่นาทีแรก วันนี้ไอ้ฝรั่งทำตัวแปลกจริงๆ ผมยืนอยู่นิ่งโดยที่ไม่ได้กอดตอบไม่รู้ต้องทำตัวยังไงเลยได้แต่ตบหลังเบาๆสองสามที

“ทำตัวเป็นหมาโดนยาเบื่อแบบนี้ เสียมาดมาเฟียหมด”

“ก็เป็นอย่างนี้กับแค่คนเดียวแหละครับ”

“เป็นอะไร กินยาผิดรึไง” ผมถามอีกครั้งเพราะเริ่มจะรู้สึกว่ามันไม่ปกติแล้วจริงๆ ซีนอนดันผมออก สีหน้าเขาดูไม่ค่อยดีนักทำท่าลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มพูด

“ก่อนหน้านี้ ผมได้รับสายจากที่บ้าน..มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ผมเริ่มทำหน้าไม่ถูก ไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของอีกคน ไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่ยื่นแก้วใบที่อยู่ในมือให้อีกคนแทน แน่นอนว่าในนั้นถูกเติมไปตั้งแต่ก่อนหน้าจากที่วางแผนจะดื่มเอง ตอนนี้ก็ให้ไอ้หมาหน้าหงอยนี่แทน

“ไม่ดีกว่าครับ ยังไม่อยากให้หมอกเห็นตอนผมเมา” ผมยักไหล่ ไม่เอาก็ไม่เป็นไร ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาเล็กๆก่อนที่อีกคนจะนั่งลงข้างๆ ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ จนอีกคนมีสีหน้าไม่สบายใจเข้าใจผิดว่าผมโกรธที่เขาไม่ยอมเล่าให้ฟัง

“ไม่ใช่ว่าเล่าให้ฟังไม่ได้นะครับ แต่..”

“เฮ้ ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย นี่ไม่ได้อยากรู้มันเป็นเรื่องส่วนตัว ผม เอ่อ กู เออนั่นแหละ เข้าใจ” เพราะคำพูดติดๆขัดๆนั่นก็ทำให้ซีนอนหลุดยิ้มออกมาได้

“มันเป็นแค่เรื่องแย่ๆที่ผมไม่อยากพูดถึงหน่ะครับ”

ผมส่งเสียงรับเบาๆแล้วก็ปล่อยให้มันเงียบอย่างนั้นอยู่สักพัก ก็เข้าใจว่าทุกคนมันต้องมีเรื่องแนวนี้ในใจกันบ้างแต่ก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรกลับไป ใจกอยากจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสักมวน แต่เห็นที่อีกคนดูท่ากำลังใช้ความคิดเลยไม่อยากกวน แต่เสียงทุ้มๆดังขึ้นทำลายความเงียบด้วยประโยคเกี่ยวกับความรักสุดคลาสสิก

“ความรักนี่ น่ากลัวจังนะครับ”

ใช่ ความรักมันน่ากลัว

ได้แต่คิดตอบอยู่ในใจ ถึงจะไม่เข้าใจความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัวของอีกคน แต่มันก็เป็นความจริงเพราะบางทีความรักก็ทำให้เราหูหนวกตาบอดจนบางครั้งก็พลั้งมือทำเรื่องโง่ๆไปได้ง่ายๆ

“แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเสียใจนะ อย่างตอนนี้...” เสียงเดิมพูดขึ้นมาอีกรอบมองมาที่ผมเหมือนกับกำลังจะสื่อความหมายบางอย่างก่อนจะเงียบลงไปอีก เอาตามตรงนี่เป็นสถานการณ์ที่ทำให้ผมทำตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ยิ่งคำถามถัดมาผมยิ่งไม่รู้ว่าต้องตอบว่าอะไร

“เริ่มชอบผมบ้างแล้วหรือยังครับ” น้ำเสียงดูเหมือนจะเป็นคำถามที่กวนอารมณ์เหมือนปกติแต่สายตานั่นไม่ได้มองมาที่ผมมันกลับมองทอดออกไปไกลแสนไกลในทะเล มันดูเหมือนอาการของคนที่ไม่กล้าฟังคำตอบมากกว่า แต่ครั้นจะให้ตอบออกไปก็ไม่รู้ว่าต้องใช้คำไหนมันถึงจะเข้าท่า จึงยังมีเพียงเสียงคลื่นเพียงอย่างเดียวที่ยังชัดเจนในเวลานี้

“แล้วทำไม ถึงมาชอบ” ถึงปากจะถามออกไปแต่ก็กลัวกับคำตอบที่จะได้ยินไม่แพ้กัน เวลาที่คนๆหนึ่งจะชอบใครได้นี่มันต้องใช้อะไรบ้างผมก็ลืมไปแล้ว แต่ยังไงซะปัจจัยมันก็คงหนีไม่พ้นแค่รูปลักษณ์ภายนอก ถ้าไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเข้าไปทักก็คงหนีไม่พ้นข้อนี้หรือพวกคุณจะว่ามันไม่จริง

“ผมก็ยังให้ได้แค่คำตอบแบบเดิม คือไม่รู้ครับ”
อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ชอบใจในคำตอบที่ไม่ได้ช่วยทำให้กระจ่างขึ้นหรืออย่างไร ผมเลยขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะเอื้อมคว้ามือนั้นมาสัมผัสหน้าตัวเอง เรียกสีหน้าไม่เข้าใจของซีนอนได้เป็นอย่างดี

“มองที่หน้านี่แล้วคิดดีๆ”

“มึงอาจจะแค่ชอบกูที่หน้าตา ปาก ผิว รูปร่าง น้ำเสียง หรือบางทีอาจจะแค่อยากเอาชนะหรือปราบพยศเพราะรู้สึกว่ามันท้าทาย พอชนะแล้วก็จบ......ดีไม่ดีพอได้ลองมีอะไรกัน เสร็จแล้วนายอาจจะเบื่อไปเลยก็ได้”
    พูดพลางไล้มือนั่นให้สัมผัสไปทั่วใบหน้าของผมกดต่ำมาเรื่อยๆจนมาหยุดที่หัวเข็มขัด ยอมรับว่ากลัวสิ่งที่ตัวเองพูดออกไปเหมือนกันบางที่มันก็เหมือนเป็นคำพูดที่จี้ใจตัวเองเป็นความคิดลึกๆที่ตัวเองไม่อยากยอมรับ แล้วถ้าหากซีนอนเป็นอย่างนั้นจริงๆผมควรทำยังไง รีบหนีออกมาก่อนที่ตัวเองจะเจ็บดีไหมนะ กลับกันคำพูดนั้นก็อาจจะใช้ได้กับผมเหมือนกัน บางทีถ้าผมหมดสนุกแล้ว เขาก็อาจจะไม่ต่างกับคู่นอนคนอื่นๆในชีวิตผมก็ได้....ซึ่งผมไม่อยากให้ตัวเองเป็นแบบนั้น แต่ปฏิกิริยาตอบรับกลับทำให้ผม

ผิดคาด ซีนอนคนนั้นสะบัดมือผมทิ้งอย่างไม่ไยดีแรงจนผมถอยเซถอยหลังไปสองสามก้าว

“ใช้อะไรคิด!”

 “ก็อยู่ๆจะมาชอบกันทั้งที่ไม่ได้มีอะไรเลยแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไง” ผมลุกขึ้นเถียงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องโกรธ ผมก็แค่พูดความคิดของตัวเองออกมา ไม่ชอบเลยที่ทำหน้าแบบนั้นที่โมโหอย่างนั้น มันรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรก็ไม่รู้มาจุกอยู่ที่คอ จะพูดต่อก็พูดไม่ออกจะให้เงียบตอนนี้ก็ในหัวก็มีความคิดหลายอย่างตีกันจนยุ่งเหยิงเกินไป
ซีนอนสูดหายใจเข้าเหมือนพยายามจะระงับโทสะของตัวเองก่อนจะจับไหล่ผมแน่น

“หมอกดูถูกความรู้สึกของผม ผมโกรธไม่เท่าหมอกดูถูกตัวเองเพราะฉะนั้นอย่าคิดดูถูกตัวเองอย่างนั้นอีก คิดดูให้ดีว่าถ้าผมคิดกับคุณฉาบฉวยแค่นั้นผมคงไม่จำเป็นต้องเอาความจริงใจมากมายขนาดนี้เข้าแลกหรอกมั้ง ผมไม่รู้ว่าอะไรมันทำให้ให้หมอกมีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัว แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เข้ามาในชีวิตหมอกจะคิดกันแต่เรื่องพรรคนั้นหรอกนะ” ได้แต่ฟังแล้วกัดปากตัวเองอยู่อย่างนั้น ผมฟุ้งซ่านไปอีกแล้ว จะโทษแอลกอฮอล์ก็พูดได้ไม่เต็มปาก มันเป็นแค่เครื่องมือช่วยขยายความคิดของเราเท่านั้น...แต่จากคำของซีนอนมันก็ทำให้คิดออกว่านี่ มันไม่มีอะไรเหมือนเมื่อก่อนเลยผมก็แค่ ตีตนไปก่อนไข้


“....ขอโทษที่เมื่อกี้งี่เง่า ผิดเองที่คิดไปถึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง” เมื่อรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิดการที่จะขอโทษก็เป็นเรื่องที่สมควร แรงบีบที่ไหล่ผมคลายไปแล้ว  อีกคนก็ยอมรับคำขอโทษนั้นด้วยดีไม่มีแววความขุ่นเคืองในตานั่นอีกแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมซีนอนถึงยังเลือกที่จะเงียบ

มันเป็นความเงียบครั้งแรกระหว่างผมกับเขาที่มันทำให้อึดอัดใจ ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะกระดกของเหลวในแก้วทั้งหมดเข้าไปรวดเดียว เพื่อหวังจะละลายนิสัยบางอย่างได้อีก ถึงตอนนี้ผมจะเริ่มมึนๆแต่มันก็คงยังไม่พอ ผมไม่ชอบพูดเรื่องความรู้สึกมากนัก มันเหมือนกับว่าผมต้องยอมออกมาอยู่ในที่แจ้ง เหมือนต้องเดินออกมาตัวเปล่าโดยที่ไม่รู้ว่าต้องเจออะไรบ้าง มันทำให้ผมรู้สึกไม่ปลอดภัย ปกติแล้วชีวิตส่วนตัวของผมคือชีวิตส่วนตัว การจะยอมให้คนอื่นก้าวเข้ามารู้เรื่องราวที่อยู่ในใจผมไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากทำมากนัก

“สำหรับคำตอบของคำถามก่อนหน้า Stai diventando davvero speciale per me
(You are becoming very special to me. /นายกำลังกลายเป็นคนพิเศษสำหรับฉันขึ้นไปเรื่อยๆ)

เอ่ยคำตอบที่คิดว่าตรงกับความรู้สึกของตัวเองออกไป จับจ้องทะเลอย่างที่อีกคนหนึ่งก็ทำ ผมห่วงเขา แคร์เขา ความคิดและความรู้สึกของเขามีผลต่อการตัดสินใจของผมอยู่ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าจะให้พูดว่าชอบก็ยังรู้สึกไม่เต็มปาก รักยิ่งแล้วไปใหญ่ ตอนนี้มันคล้ายถูกใจหรือชอบใจมากกว่า

ตอนนี้หน่ะนะ


อนาคตก็อีกเรื่อง


   บรรยากาศน่าอึดอัดหายไปแล้ว ถึงแม้อีกคนจังไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่สีหน้าที่เปื้อนยิ้มอย่างนั้น ผมเข้าใจดี เขามองผมแล้วก็ยังยิ้มอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่าในหัวนั่นคิดอะไรอยู่ถ้าเป็นปกติคงถลาเข้ามาลวนลามอย่างเคยไปแล้ว

“เพราะมัวแต่คิดว่าทำไมตัวเองถึงดีใจได้ขนาดนี้ครับ”

หลายครั้งแล้วที่เขาทำแบบนี้ ตอบคำถามเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ มันชวนให้น่าเบ้ปากเมื่ออีกคนรู้ทัน นี่ผมมองออกง่ายขนาดนั้นเชียวหรอ ก็ไม่นะ มีแต่ไอ้ฝรั่งเนี่ยแหละที่ทำตัวเหมือนอ่านใจคนได้

“ผมอ่านใจไม่ได้หรอก แค่หมอกดูออกง่ายมากเวลาที่เขิน”

“ใครเขิน!”

ตอนแรกก็ไม่ได้เขินอะไรหรอก แต่พอโดนทักเข้าอย่างนี้ก็รู้สึกว่าอากาศมันร้อนขึ้นมาถนัด นี่ถ้าไม่ตั้งใจแกล้งกันจะเรียกว่าอะไรได้อีก หนอย เป็นแค่ลูกเจี้ยบไปหน่ะดีแล้ว อย่ามาปีกกล้าขาแข็งอย่างนี้นะ

“นี่ไงเขินอีกแล้ว”

“หุบปากไปเลย!!”

ขึ้นเสียงอีกรอบก่อนจะกอดอกฉับ ส่วนอีกคนยังยิ้มขำ ที่ผ่านมามันก็ทำท่าแกล้งเป็นกลัวผมไปเท่านั้นแหละ ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะไอ้นี้ ฤทธิ์แอลกอฮอล์กับความอายของตัวเองตีกันจนมั่วไปหมด จนแทบอยากเอามือมาพัดให้มันหายร้อน ลืมไปเลยว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อารมณ์มันต่างกันราวฟ้ากับเหวแค่ไหน




________________________________________



ก่อนอื่นเลยต้องขอโทษทุกๆคนมากๆที่หายไปนาน
เนื่องจากผู้แต่งได้มีโอกาศไปเวิคชอปที่ต่างประเทศ
ตอนแรกคิดว่าจะมีเวลาว่างมาอัพบ้าง แต่พอเอาเข้าจริงแทบไม่มีเวลาเลย
ตอนนี้กลับมาแล้วค่ะ จะพยายามลงให้ได้อาทิตย์ละละ 1 ตอนเป็นอย่างน้อยค่ะ

ตอนนี้เฮียแกอารมณ์ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะใกล้เข้าวัยทองเต็มแก่5555
แอบมีดราม่าเล็กๆนิดนึงเนอะ เดี๋ยวรอหมอกเอาคืนตอนหน้าก็แล้วกันนะ5555555
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH14 11.8.17│
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 12-08-2017 07:14:26
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ น้องหมอก พี่ซีนอน รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH14 11.8.17│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-08-2017 11:38:35
รอๆๆๆ ครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │อัพ CH14 11.8.17│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 14-08-2017 21:15:20
ฮือออ มาต่อแล้วดีใจ
คิดถึงหมอกก
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH15 11.8.17 อัพอัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 22-08-2017 20:31:04
15




      เช้านี้เริ่มต้นด้วยการตื่นแต่เช้าเพื่อขับรถกลับเข้ากรุงเทพ โดยมีราฟทำหน้าที่เป็นสารถีให้ เรื่องเมื่อคืนก็จบลงที่ผมโดนบังคับให้นอนแบบไม่เต็มใจเท่าไหร่ บรรยากาศแปลกๆแบบเมื่อคืนหายไปแล้วตอนนี้กลับเข้าสู่ความปกติ ด้วยความที่กว่าจะนอนก็ปาเข้าไปเกือบตี 1 แถมยังต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพราะวันนี้เจ้าพ่อข้างๆนี่ต้องเข้าไปที่บริษัท ผมเลยได้แต่นั่งทำท่าจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่อยู่อย่างนี้

แต่พอสังเกตเห็นสายตาของคนขับรถที่เหลือบมองมาเป็นพักๆก็ทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย อารมณ์ที่อยากจะหลับให้รู้แล้วรู้รอดไปก็ทำไมได้ ผมกับราฟยังไม่เคยได้คุยกันจริงจัง แต่เท่าที่ได้เห็นมาเขาก็ดูเป็นคนเข้มงวดแล้วหัวรุนแรงอยู่ไม่น้อย คนข้างๆผมนั่งอ่านเอกสารหนาเป็นปึกที่เจย์เพิ่งปริ้นมาให้ก่อนขึ้นรถอย่างตั้งใจ ดูผ่านๆก็เห็นว่าเป็นหัวข้อประชุมในวันนี้ 


อยู่ๆหัวผมก็โดนกดวูบเดียวลงมากองที่ตักคนกำลังอ่านเอกสารแถมยังกดค้างอยู่อย่างนั้นไม่ยอมให้ผมลุกขึ้น


"นอนซะ"


ตาสีอ่อนนั่นไม่ได้ละออกจากตัวหนังสือตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่แรงที่มือกลับเปลี่ยนกลายเป็นลูบเบาๆตามด้วยคำพูดกล่อมนอน ผมรู้สึกอึ่กอั่กในใจอยู่นิดหน่อย เหลือบไปสบตากับคนข้างหน้าก็เห็นว่าเขามองมาอยู่เหมือนกันก่อนที่จะรีบละสายตาออกไป


ดูท่าคงจะไม่ชอบผมจริงๆแฮะ


มือใหญ่นั่นยังลูบหัวผมไปเรื่อยๆจนเริ่มรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกแมวยังไงอย่างนั้น สัมผัสอ่อนโยนที่เริ่มทำให้ผมเคลิ้มหลับนั่นยิ่งแล้วใหญ่ ก่อนที่ไม่นานผมก็หลับลงไปจริงๆ กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนอีกคนสะกิด

"พี่ต้องไปทำงานก่อนนะครับ วันนี้ไปเรียนบ่ายใช่ไหม เดี๋ยวไปรับ" คำพูดที่ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองโดนเลี้ยงต้อยนั่นทำให้ผมต้องเกาแก้มแบบทำอะไรไม่ถูก ก่อนตอบรับเสียงเบา สังเกตเห็นว่ารถมาจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าตึกสูงตึกหนึ่งมองออกไปนอกรถก็เห็นคนชุดดำยืนรอรับกันอย่างเป็นระเบียบ ผมลุกขึ้นนั่ง ยังดีที่ฟิล์มรถมันทึบ ไม่งั้นได้อายหนักไปกว่านี้แน่ ซีนอนจัดระเบียบชุดของตัวเองก่อนมองมาอย่างขอความเห็น ผมเอื้อมมือไปปรับไทด์ที่ยังเบี้ยวอยู่นั่นให้เข้าที่ ยิ้มบางๆที่ผมชอบถูกส่งกลับมาให้อดยิ้มตามไม่ได้

"เหมือนภรรยามาส่งสามีที่ทำงานเลย" แต่ปากนั่นก็ไม่วายพูดจาให้ผมต้องเขม่นใส่อีกรอบ แต่ระดับซีนอนแล้วเลยได้แต่หัวเราะแบบไม่คิดอะไรกลับมาเท่านั้น

"เจอกันตอนเย็นนะ"

ผมพยักหน้ารับ มือใหญ่นั่นเอื้อมมาขยี้หัวผมเบาๆก่อนลงไปจากรถ ไม่นานพาหนะที่เงียบสนิทนี่ก็เคลื่อนตัวออกไปอีกรอบ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านหลังใหญ่หลังเดิม ที่วันนี้ผมเพิ่งจะได้สังเกตบริเวณรอบๆ เห็นได้ว่าบ้านแบ่งออกเป็นหลังๆ โดยมีหลังที่ผมอยู่เป็นหลังใหญ่สุดที่อยู่ด้านใน อีกอย่างที่แตกต่างจากวันแรกที่ผมเข้ามาก็คือ มันไม่ได้มีคนอยู่เยอะแยะอย่างเมื่อวันนั้น เห็นเดินไปเดินมาอยู่กันแค่ 4-5 คน



"ตอนบ่ายเจย์จะเป็นคนพาคุณไปส่งที่มหาวิทยาลัยนะครับ" น้ำเสียงเรียบๆที่ผมเพิ่งได้ยินชัดๆจากคนนี้ดังขึ้น บังไม่ทันที่ผมจะได้มองหน้า อีกคนก็ชิงเดินหนีออกไปก่อนแล้ว

"เดี๋ยว" ผมเรียก ส่งผลให้ไหล่กว้างนั้นชะงักหันมามองทางผมโดยที่สีหน้ายังคงเรียบเฉย

"ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบผม" คำพูดที่ชวนให้คนฟังต้องเลิกคิ้ว แต่ก็แค่แวบเดียวก่อนสีหน้านั่นจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าบ้านไม่กล้าเสี่ยงเอาบทสนทนาแบบนี้เข้าไปให้คนอื่นได้ยินทั้งคนในบ้านและดีไม่ดีก็เครื่องดักฟัง

"ใช่ครับ คุณเป็นจุดอ่อนของนายน้อย" คำตอบที่ได้ยินกลับมามันทำให้ผมเข้าใจได้ แต่ที่ทำให้ผมนับถือคือคนๆนี้กล้าที่จะพูดออกมาตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมมากว่า ผมยิ้มรับคำนั่นก่อนจะพูดต่อกลับไป

"ผมไม่เคยอยากเป็นจุดอ่อนของใคร"

"แต่คุณเป็น สำหรับนายน้อยแค่เพียงจุดอ่อนนิดเดียวมันก็สามารถที่จะเป็นเรื่องใหญ่ได้ อย่างกรณีไอเดน คุณก็ทำให้มันยากมากพอแล้ว" สิ่งที่ราฟพูดนั่นพอที่จะทำให้ผมรู้สึกจุกเล็กๆในคอได้


ผมทำตัวเป็นภาระจริงๆ


"เรื่องนี้ผมยอมรับ แต่ต่อไปในอนาคตผมรับรองว่าจะไม่ให้มันมีเรื่องอย่างนี้อีกแน่" ราฟนิ่งยืนรับฟังแต่ในสีหน้านั้นแสดงให้เห็นว่าเขายังไม่มั่นใจในคำพูดของผมเท่าไหร่ จริงสินะ ตั้งแต่เจอกับซีนอนมาทุกครั้งเป็นผมที่เป็นฝ่ายรับความช่วยเหลือมาโยตลอด สมเพชตัวเองจังแฮะ ผมเหยาะแหยะมานานเกินไปแล้ว


"ที่นี่มีห้องที่เอาไว้ยืดเส้นยืดสายไหม มาเจอกันสักนิดสิ" ราฟทำหน้างง สักพักถึงจะพยักหน้าอย่างเข้าใจออกเดินนำผมไปข้างๆตัวบ้านไม่นานก็เห็นโรงฝึกขนาดไม่เล็กมากตั้งอยู่ เดินเข้าไปก็เห็นชายฉกรรจ์เกือบสิบคนจับคู่ซ้อมกันอยู่ ทุกสายตาแทบจะมองมาทางคนที่มาใหม่ แต่ผมไม่ได้สนใจกับการมองพวกนั้น เพราะความตื่นเต้นที่เห็นโรงฝึกที่ครบครันมากขนาดนี้ต่างหาก ทั้งลานซ้อม ทั้งเวทีมวย แม้กระทั่งเครื่องออกกำลังกายและเวทบางชนิดจนเรียกได้ว่าแทบจะเป็นฟิตเนสขนาดย่อม






      ผมเดินนำไปที่เวทีมวยด้วยความตื่นเต้น  ผมหยิบผ้ายืดที่มีวางไว้ให้พร้อมขึ้นมาเริ่มพันมือ เนื่องด้วยชุดจองผมค่อนข้างคล่องตัวดีอยู่แล้วเลยไม่ต้องเปลี่ยนอะไร ต่างกับราฟที่ยังอยู่ในสูทเต็มยศมองไปก็เห็นว่าอีกคนเริ่มมีสีหน้ากังวล

"ไม่ต้องห่วงผมจะบอกพี่ซีนอนว่าผมเป็นคนออกความคิดนี้เอง อีกอย่างไม่ต้องเกรงใจผมดูและตัวเองได้ แค่อยากให้คุณได้รู้ไว้ว่าผมไม่ยอมอยู่นิ่งๆเป็นจุดอ่อนของใคร"


      แม้จะไม่ได้มีเสียงตอบกลับมาแต่การเดินไปเปลี่ยนชุดนั่นเป็นคำตอบให้ได้อย่างดี ผมยิ้มก่อนจะเริ่มวอมร่างกายอยู่ข้างเวที สายตาอยากรู้อยากเห็นพวกนั้นยังไม่ได้หายไปแค่ผมเลือกที่จะไม่สนใจเอง ความตื่นเต้นที่จะได้ออกแรงมันมีมากกว่า เทคนิควิชาป้องกันตัวต่างๆที่เคยได้เรียนมาตั้งแต่เด็กฉายอยู่ในหัว น้อยครั้งที่จะได้เอามาใช้กับคนที่รู้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน เพราะวันๆก็ได้แต่ต่อยตีกับพวกไม่เป็นสับประรดจนวิชาที่เคยได้เรียนมาแทบจะไม่ได้เอามาใช้ ไม่ถึงสิบนาทีอีกคนก็มายืดเส้นยืดสายอยู่ข้างๆก่อนจะนำขึ้นไปบนเวที

"มวยไทย?" บอดี้การ์ดหนุ่มที่ตอนนี้เปลี่ยนมาอยู่ในชัดลำลองสบายๆเอ่ยถามขึ้นระหว่างที่เห็นผมกำลังวอร์มร่างกาย


"ก็ใช่ แต่ไม่ทั้งหมด" เมื่อเห็นอีกคนไม่ได้ตอบอะไรมาแต่หันไปเรียกผู้ชายคนหนึ่งขึ้นมาทำหน้าที่กรรมการก็เข้าใจ


"เต็มที่ ไม่ต้องออมมือ" เสียงเรียบประจำตัวเอ่ยขึ้นแต่ตัวก็ยังคงไม่ขยับ เหมือนรอให้ผมเป็นฝ่ายที่เข้าไปหาเองมากกว่า


"งั้นก็ไม่เกรงใจละนะ" พูดจบก็ออกแรงดันเท้าทีเดียวก็ไปยืนอยู่ข้างหลังอีกคน แววตาประหลาดใจไหววูบก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็วร่างนั้นหมุนกลับมาก่อนจะเป็นฝ่ายออกมันตรงตามแบบเทควันโด แรงจนรู้สึกได้ถึงลมที่ปะทะกับแก้ม ผมยิ้มชอบใจ ต่างคนต่างรุกไล่ไปอย่างไม่ยอมใคร สีหน้าไม่ได้มีความตึงเครียดหรือโกรธแค้นกันเลย มีเพียงแค่แววตาสนุกสนานเหมือนได้เจอของถูกใจเท่านั้น

คนรอบๆจากที่ตอนแรกทำแค่แอบมองอยู่ห่างๆตอนนี้ถึงกับมาติดขอบเวทีแล้วส่งเสียงเชียร์ เพราะนานๆทีถึงจะได้เห็นมือขวาของนายน้อยตัวเองประมือกับคนอื่นได้นานขนาดนี้ ยิ่งอีกคนทั้งตัวเล็กกว่าไม่ได้ผอมแต่ก็ไม่ได้ตัวใหญ่บึกบึน แถมยังดูไม่ได้แข็งแรงเท่าลูกพี่ของตัวเอง แต่เกือบ20 นาทีมานี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะหมดแรงเลยด้วยซ้ำ


 เสียงโห่ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อคนตัวเล็กกว่าเสียจังหวะทำให้โดนอีกคนทุ่มลงบนสังเวียนดังโครม ก่อนที่เจ้าตัวจะโดนคนที่ล้มเตะเอาที่ข้อเท้าให้ลงไปนอนกองเหมือนกัน อาศัยจังหวะนี้รีบพลิกตัวเองขึ้นไปบนตัวอีกฝ่าย ปล่อยหมัดตรงออกไปสุดแรง ก่อนจะหยุดหมัดห่างจากหน้าราฟไม่ถึงเซน


"ยกแรกผมชนะ" ตอบพลางเช็ดเหงื่อที่ไหลชุ่มอยู่บนใบหน้า เสียงหอบของทั้งสองคนชัดเจนอยู่ในบรรยากาศรอบๆ ทุกคนที่ดูอยู่เงียบกริบในใจเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ราฟถอนหายใจก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ ผมลุกขึ้นก่อนจะส่งมือดึงให้อีกคนลุกตามขึ้นมา ในแววตาของราฟเต็มไปด้วยทั้งความประหลาดใจ ความตื่นเต้นและอีกหลายๆอย่าง


"ประมาทคุณเกินไป" ตาที่ออกไปทางสีเขียวนั่นสบเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังติดหอบอยู่นิดหน่อยมือนั่นเอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กกับขวดน้ำที่อยู่ใกล้ๆมาให้ ถึงเมื่อกี้จะเป็นการชนะแบบที่อีกคนยังไม่ได้ลงมือเต็มร้อยแต่ผมก็ยังถือว่าชนะอยู่ดีแหละหน่า ไว้คราวหน้าต่อให้เต็มร้อยผมก็ยังจะชนะให้ดู


"เรียกหมอกเถอะ" ผมรับมาอย่างไม่เกรงใจเพราะตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวผมแทบจะเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เสื้อนี่แทบจะถอดออกมาบิดน้ำได้ยังดีที่กางเกงวอมที่ใส่มาไม่ได้ทำให้อึดอัดเท่าไหร่


"หาตั้งนาน มาอยู่นี่กันนี่เอง" เสียงคนมาใหม่ดังขึ้นมาจากด้านหลังกลุ่มลูกน้องที่อยู่ติดขอบเวที เมื่อได้ยินเสียงมักคนก็รีบสลายตัวกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองทันที เจย์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเป็นกังวลที่เห็นผมอยู่ในที่นี้ มองไปมองมาสลับกันระหว่างผมกับราฟ

"นี่นายไม่ได้ก่อเรื่องอะไรใช่ไหมราฟ"  เจย์หรี่ตามอง

"ผมชวนราฟมาออกกำลังนิดหน่อย เท่าที่เห็นทุกคนก็ยังดูแข็งแรงดีไม่ใช่หรอ"  ผมรีบบอกเจย์ก่อนที่อีกคนจะเข้าใจผิดว่าราฟเป็นคนหาเรื่องผมขึ้นมาซะก่อน กระโดดทีเดียวลงมาจากเวทีก่อนจะดุนหลังเจย์ให้เดินออกมากับผม เร้าให้เจย์พาผมไปอาบน้ำเพราะแค่นี้ก็เริ่มเหนียวตัวจะแย่แล้ว

      จบลงด้วยห้องอาบน้ำที่อยู่ด้านหลังโรงฝึกเพราะผมทนร้อนไม่ไหว ทั้งแดดทั้งเหนียวตัวและระยะทางของโรงฝึกที่ห่างออกมาจากตัวบ้านอยู่ไม่น้อย เจย์บ่นว่าเห็นรถเข้ามาจอดอยู่ในบ้านตั้งนานแล้วแต่ไม่เจอตัวผมเลยเดินหาให้วุ่น นึกว่าผมหายไปไหน ที่แท้ก็มาเล่นอยู่กับราฟ ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆกลับไป ก่อนเข้าไปอาบน้ำ เจย์อาสาเดินกลับไปหยิบชุดที่บ้านใหญ่มาให้ ด้านหลังโรงฝึกมีห้องอาบน้ำรวมอยู่มีห้องน้ำแยกเป็นห้องๆ มีล้อกเกอร์ ที่แต่งตัวครบ ไม่ต่างกับฟิตเนสจนผมแอบนึกไปไม่ได้ว่าไอ้ฝรั่งนี่มันเลี้ยงลูกน้องดีจริงๆ ไม่ถึง 10 นาทีผมก็จัดการธุระของตัวเองเสร็จ เดินพันผ้าเช็ดตัวออกมาด้านนอก ในห้องก็ยังคงไม่มีใคร ผมนั่งลงรอเจย์พร้อมกับเช็ดหัวไปพลางๆ ไม่นานเสียงเปิดประตูจากจากข้างนอกก็ดังขึ้น แต่คนที่เข้ามากลับไม่ใช่เจย์แต่เป็นคนที่ผมเพิ่งชนะไปเมื่อกี้ต่างหาก

"อ้าวราฟ อาบน้ำหรอ” ผมทักแต่อีกคนก็ยังคงไม่ตอบแค่พยักหน้า แต่บรรยากาศคราวนี้ไม่ได้เป็นแบบคนไม่อยากจะคุย เป็นการไม่พูดแบบไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า ผมยืนตัวตรงขึ้นเอาผ้าขนหนูที่เช็ดหัวอยู่พาดบ่า บอกราฟว่าไม่ต้องเกรงใจไปอาบได้เลย ตาสีเขียวนั่นจ้องผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนแววตาจะมืดลงไปสีหน้าเปลี่ยนไปเหมือนคนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

"ราฟ ไม่มีใครบอกนายหรอว่าอย่าเพิ่งเข้ามา" เสียงเจย์ขัดขึ้นมาอีกรอบเพราะเจ้าตัวได้ย้ำนักย้ำหนาก่อนไปกับทุกคนไว้แล้วว่าห้ามเข้าใช้ห้องน้ำจนกว่าผมจะทำธุระเสร็จ สองมือหอบชุดนักศึกษาเข้ามาในห้อง ราฟละสายตาออกไปขมวดคิ้วใส่เจย์ก่อนจะเดินดุ่มๆเข้าไปในห้องอาบน้ำเหมือนคนไม่สนใจ

      เจย์ถอนหายใจพรืด ก่อนจะบ่นงึมงำว่าไม่รู้ราฟจะงอนอะไรตัวเองนักหนา ผมเลิกคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดเจย์ แต่เจ้าตัวก็ยักไหล่ทำนองว่าไม่ต้องใส่ใจ ก่อนยื่นชุดนักศึกษาแล้วของส่วนตัวอีกนิดหน่อยมาให้ เมื่อดูดีๆก็รู้ว่านี่เป็นชุดใหม่ทั้งชุดไม่ได้เป็นชุดประจำของผม เหมือนว่าเจย์จะจัดการไว้ให้แล้ว ขนาดเสื้อชอปที่ผมไม่เคยใส่ยังมี เจย์วางของทั้งหมดเอาไว้ให้ก่อนจะพาตัวเองออกไปรอข้างนอก ผมรีบลงมือเปลี่ยนชุดระหว่างที่ราฟยังอาบน้ำไม่เสร็จนี้ เลือกใส่แค่รองเท้าผ้าใบ เสื้อเชิ้ตแขนสั้นปกติกับกางเกงยีนสีเข้มเข้ารูปเท่านั้น กระดุมยังติดถึงคอ เสื้อยังใส่ในกางเกงเรียบร้อย แต่ไม่เท่าเมื่อก่อนเพราะตอนนี้ทั้งหูทั้งคิ้วเต็มไปด้วยจิวประดับอยู่หลายแบบ ข้อมือมีสร้อยเงินแค่ชิ้นเดียวเป็นของประดับ ผมดูภาพของตัวเองในกระจกแล้วดูภูมิใจอยู่ไม่น้อย หมุนอยู่สองสามรอบถึงเดินออกมาข้างนอก

สิบเอ็ดโมงกว่าๆก็ได้เวลาออกจากบ้าน กลุ่มของผมนัดกันกินข้าวที่คณะกันเหมือนอย่างเคย ฟีฟ่ากำชับว่าผมต้องไปเรียนเพราะขาดวิชานี้อีกไม่ได้แล้ว ใจจริงอยากจะขอแค่รถสักคันขับไปเรียนเอง แต่เหมือนเจ้าของบ้านนี้จะยังไม่ให้ กำชับนักหนาว่าวันแรกต้องให้เจย์ไปส่งก่อน บทสรุปเลยได้นั่ง bentley คันเก่าที่เคยนั่งไปม.ครั้งที่แล้วแทน

      เพราะว่าใกล้ปิดเทอมเข้ามาทุกที บริเวณรอบๆคณะเลยเต็มไปด้วยเด็กมหาลัยที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนเยอะแยะ เรียกได้ว่าเจอหน้ากันครบเฉพาะตอนต้องทำงานส่งเท่านั้นจริงๆ พอเห็นคนเยอะอย่างนี้ในใจก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าแผนที่คิดไว้จะได้ผลหรือเปล่า ตอนนี้รถจอดนิ่งอยู่หน้าโรงอาหาร รอก็แต่พวกเพื่อนของผมที่ใกล้จะถึงกันแล้ว หลายสายตาจ้องมาทางรถที่กำลังจอดอย่างใคร่รู้พอเสียงข้อความดังก็เหมือนเป็นสัญญาณให้ผมต้องลงจากรถ ก้มลงเช็คความเรียบร้อยของตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเปิดประตู

"ให้ผมเปิดให้อาจจะเข้าท่ากว่า" เจย์พูดติดตลกก่อนจะเดินลงจากฝั่งคนขับมาเปิดประตู แค่การแต่งตัวเต็มยศของคนขับรถก็ทำให้สายตาพวกนั่นเริ่มที่จะอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ผมอดจะขำไม่ได้กับท่าทางที่ตื่นเต้นแทนผมของเจย์ แต่พอก้าวขาลงมาก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้ดูนิ่งเฉยเหมือนเก่า เดินไปข้างหน้าเหมือนไม่สนใจกับสายตาที่จ้องมองมา ขาก้าวฉับ สายตามองตรง เดินเข้าไปในโรงอาหารโต๊ะประจำ

"ไง" ผมทักเพื่อนๆบนโต๊ะที่ตอนนี้ยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์กันจนไม่ได้ดูรอบข้าง บนโต๊ะยังไม่มีอาหารอะไรวางอยู่คิดว่าคงรอให้มาครบกันก่อน ฟีฟ่าเงยหน้าขึ้นมาสบตาแบบงงๆก่อนจะตามด้วยแทนคุณ ก่อนทั้งสองคนจะร้องอ๋อนึกออกว่าเป็นผมก็ใช้เวลาอยู่พักนึง

“หล่อวัวตายควายล้มเลยว่ะเพื่อนกู อะไรเข้าสิงมึงอีกเนี่ย” ไม่พูดเปล่าแทนคุณยังตบเข้าที่ไหล่ฉาดๆ ไม่ต่างกับฟีฟ่าที่นั่งหัวเราะเอิ้กอ้าก  ก่อนจะกระแอมลดเสียงเมื่อรู้ว่าสายตามองมาทางนี้อยู่ไม่น้อย

“แต่แม่งบังรัศมีกูหมด ฉายาหนุ่มฮอตกูคงโดนสอยไปวันนี้แหละ” ว่าพลางทำท่าเซตผมตัวเองไปพลางนี่แหละครับไอ้ฟ่า เพ้อเจ้อง่ายๆแบบนี้มีอยู่คนเดียว

“โย่ว วันนี้หิมะจะตกที่ไทยรึไงเพื่อนกูถึงกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้” ส่วนคนที่เสียงมาก่อนตัวประจำก็คือนายเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กของผม

“ไม่กลัวสาวๆจะรุมล้อมแล้วเรอะ กูหล่ะหมั่นไส้” แถมด้วยผมที่โดนตบหัวเป็นการยืนยันว่ามันหมั่นไส้ผมจริงๆ ซันที่เดินตามนายมาเงียบๆ มองหน้าผมงงๆอยู่พักนึงก่อนจะยิ้มให้เหมือนปกติแล้วผลักไอ้นายพรืดเดียวมานั่งจุ่มปุกอยู่บนเก้าอี้ 

“เพื่อนได้ดีมึงก็ต้องดีใจกับเพื่อนสิวะ ไอ้ห่านี่” แทนคุณพูดเสียงดัง ส่วนนายได้แต่ทำหน้างอ

“แม่งไวโคตรๆ ไม่ทันไรสาวในไลน์กูก็ทักมาถามชื่อมึงแล้วอะ”  ฟีฟ่ายังโวยวายอู่เหมือนเดิมเพิ่มเดิมคือคราวนี้ไอ้แทนเริ่มเออออตามไปด้วย สรุปคือขั้นแรกของแผนเป็นไปได้ด้วยดี โต๊ะผมได้รับความสนใจจนมากเกินพอดี แถมไอ้คนในโต๊ะก็ยังพูดจ้อไม่หยุดทั้งๆที่ตัวเองก็ยังกินข้าวไม่เสร็จ



           ........... แต่ท่ามกลางความวุ่นวายในกลุ่มนั้น มีสายตาหนึ่งที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไง เมื่อคนที่เคยมองมาตลอด วันนี้กลับถอดหน้ากากนั่นออกไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เขาทียังใส่หน้ากากอันเดิมไว้ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน














________________________________________


มาต่อแล้วค่ะ ♥

ตอนนี้รีบปั่นมากกกถึงมากที่สุด ถึงขนาดไม่ยอมทำงาน
รู้สึกตื่นเต้นกับการไปมหาลัยของหมอกเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าจะแต่งออกมาดีพอไหม5555555
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH15 22.8.17 อัพอัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 25-08-2017 18:41:24
บรรยากาศในรถดูน่าเอ็นดู55555555
ราฟท่าจะเป็นห่วงซีนอนมาก (หรือจะมีอะไรในก่อไผ่?)
ชอบหมอกอะอยากหยิกแก้ม อยากโดนหมอกดุ /โรคจิต

เป็นกำลังใจให้จ้าาา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH15 22.8.17 อัพอัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 25-08-2017 20:14:53
สนุกค่ะ รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH15 22.8.17 อัพอัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 01-09-2017 19:49:21



16.1







     ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกเพื่อนตัวปัญหาของผมจะนึกออกว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้คือเพื่อนของมัน ไอ้คนที่พอจะพึ่งได้อย่างไอ้นายกับไอ้ซันก็ไม่รู้ว่าหายหน้าไปไหน เหลือแต่ไอ้ซื้อบื้อสองคนนั่งหน้างงสนิท  ทั้งๆที่ก็เคยเห็นผมแบบนี้แล้ว

"กูหมอก ไอ้นายกับไอ้ซันไปไหน?"


     ก่อนที่ไอ้สองตัวนี้จะร้องเหมือนตกใจออกมาเสียงดัง ทำให้จากที่คนมองอยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก ไม่ได้สนใจจะตอบคำถามผมด้วยซ้ำ แถมยังทำท่าทางสำรวจผมกันยกใหญ่ แต่เหมือนสวรรค์ยังเข้าข้างผมเมื่อตัวเตี้ยๆของไอ้นายเดินมาถึงโต๊ะพร้อมของกินเต็มถาด ตาของมันเริ่มเป็นประกายระริกระรี้ พร้อมกับยิ้มที่แทบจะฉีกไปถึงรูหู


"ในที่สุด เพื่อนกูก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมละโว้ย!!" ไม่ว่าเปล่าเจ้าตัวแทบจะโยนถาดลงโต๊ะแล้วพุ่งมากระโดดกอดแบบเต็มรัก


     แต่ติดที่มันตัวสั้น แค่ดันหัวมันไว้แขนนั่นก็แตะไม่ถึงผมแล้ว ขืนถ้าปล่อยให้มันเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงมีหวังร่ายกายที่ระบมจากการออกกำลังเมื่อเช้าต้องทให้ผมโอดโอยแน่ๆ ส่วนไอ้ซันก็ยังคงสไตล์เดิมไม่ได้พูดไรมากแค่ทักทายผมตามปกติเท่านั้นหลังจากทุกอย่างซาลงพวกมันก็นั่งหัวเราะเอิ้กอ้ากบวกกับวิจาร์ณเกี่ยวกับผมแน่นอนว่ามีไอ้นายคอยยุยงเอาเรื่องเก่าๆของผมมาแฉ


"นอกจากมึงจะหล่อขึ้นแล้ว กูรู้สึกว่ามึงพูดมากขึ้นนิดหน่อยด้วยนะไอ้หมอก แต่ที่แน่ๆมึงนี่ปากหมาชิบ" ฟีฟ่าบ่นอุบอิบ หลังจากที่ผมตอบคำถามของมันด้วยการเหน็บแนม


จะไม่ให้พูดมากได้ไงละ ในเมื่อพวกมึงถามกันไม่หยุดอย่างนี้ แต่ก็ได้แต่พูดกับตัวเองไป มันสนใจกันที่ไหนหละ


            นับว่าแผนของหมอเซนต์มันได้ผลมากๆ การันตีด้วยทั้งเบอร์ทั้งไลน์ที่มีคนฝากมาให้ รวมถึงบางคนที่กล้าเข้ามาขอ เรียกได้ว่าทั้งวันแทบจะไม่ได้อยู่สงบเลยจริงๆ เวลาที่เงียบที่สุดเวลาเดียวตอนนี้คือตอนที่อยู่ในห้องเรียน ผมบล็อกสัญญาณโทรศัพท์ไว้หมดแล้วเหลือไว้ก็แต่คนสำคัญๆที่ต้องติดต่อ ถึงจะรำคาญนิดหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าเจอเรื่องแบบที่ผ่านมา แต่ที่คิดผิดน่าจะเป็นที่เล่าเรื่องของไอเดนให้พวกมันฟัง เพราะนอกจากจะต้องอธิบายเรื่องที่อยู่ๆวันนั้นผมก็หายไปแล้ว ผมยังเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของพวกมันด้วย ถึงจะไม่ได้เล่าทั้งหมดแต่ก็ทำให้พวกนั้นเข้าใจและสนับสนุนแผนของผมอย่างดี


อีกปัญหาหนึ่งที่ผมต้องเจอก็คืออาจารย์จำผมไม่ได้ ทำให้กว่าจะได้เช็คชื่อก็พาลให้ลำบากต้องยืนยันตัวเองกันอยู่พักใหญ่ นอกนั้นก็ถือว่าปกติเรียบร้อยดีถ้าไม่นับบางคนที่แอบถ่ายรูปผมตอนเรียนอะนะ ก็ได้แต่ฟังคำปลอบใจของไอ้ฟีฟ่าว่าเดี๋ยวเขาก็เลิกตื่นเต้นกันไปเอง


แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น ตามแผนคือผมต้องพยายามทำให้ตัวเองอยู่ในสายตาคนรอบข้างให้มากจะได้ไม่เปิดโอกาสให้พวกคนไม่หวังดี ความน่ารำคาญนิดหน่อยพวกนี้ผมรับได้ แต่ถ้าผมไม่ทำอะไรสักอย่างสักวันเรื่องน่ารำคาญเล็กๆน้อยๆพวกนี้อาจนำเรื่องน่าปวดหัวมาเพิ่มอีกก็ได้ ผมต้องหาวิธีทำอะไรสักอย่างเพื่อกำหนดขอบเขตพวกนี้



     คิ้วเรียวขมวดลงเล็กน้อยนัยน์ตาไม่ได้สนใจอาจารย์ที่อยู่หน้าห้องมือข้างที่เท้าคางอยู่ก็เผลอไปลูบจิวที่อยู่หางคิ้วอย่างใช้ความคิด ส่วนมือที่เมื่อครู่ยังใช้จดเลคเชอร์ก็ได้หยุดนิ่งไปนานแล้ว ในหัวมีแต่เรื่องที่ต้องคิดจนพันยุ่งเหยิงไปหมดตาเลยได้แต่เหลือบไปมองสิ่งผ่อนคลายจิตใจส่วนตัว สีฟ้าของท้องฟ้า


ท่ามกลางสายตาที่จ้องมายังคนที่กำลังเหม่อบางคนก็ทำหน้าอย่างกับกำลังเคลิ้มฝันบางคนก็มีสายตาอิจฉา ยังไม่นับการลวมลามทางสายตาจากบางคน แต่มีตาอยู่คู่หนึ่งที่ตอนนี้มองมาอย่างไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไรดี เมื่อคนที่เคยมองอยู่ห่างๆตลอดเวลาตอนนี้ได้ถอดหน้ากากที่เคยเห็นออกไปแล้ว ในใจก็แอบสับสนอยู่เล็กๆที่ตอนนี้คนที่เคยอยู่แค่ในสายตาเขากลับเปลี่ยนไปอยู่ในสายตาของทุกคนแทน ความคิดนั้นทำให้มือที่กำแน่นบีบปากกาจนหักดังเป้าะ


กว่าจะได้สติกลับมาก็คือตอนที่ทุกคนทยอยลุกกันออกจากห้องเรียน มองดูนาฬิกาที่อยู่หน้าห้องก็บอกเวลาเกือบห้าโมงเย็น ความคิดเดียวที่ใช้เวลาทั้งคาบในการไตร่ตรองก็คือต้องทำให้คนอื่นมีความรู้สึกว่าได้แค่มองเท่านั้น ทั้งช่วยลดปัญหาการถึงเนื้อถึงตัว ทั้งตัดความหวังพวกที่เพ้อเจ้อว่าจะเข้าหาผมได้ให้ตื่นจากฝันกลางวัน


อยากสูบบุหรี่จัง


"ไอ้หมอกมึงลุกได้ละ" พอเห็นผมที่ยังไม่ลุกออกจากห้องสักทีก็เป็นไอ้แทนที่เข้ามาสะกิด ส่วนไอ้ซันก็จัดการเก็บของแล้วยื่นกระเป๋ามาให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปโดยที่ผมรั้งอยู่ท้ายสุด แต่ก่อนที่จะได้ออกมาจากตึกก็มีแรงหนึ่งรั้งแขนผมเอาไว้ หันมองไปตามแรงก็เห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่งตัวเล็กกว่าผม น่าจะเป็นนักศึกษาด้วยกันละมั้ง


แต่ไม่รู้จักแหะ


ซันเห็นว่าผมหยุดเดินเลยหันกลับมามองทำท่าจะเข้ามาช่วยแต่ผมส่งสายตาให้หยุดไว้ก่อน ยังไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย มองดูคนตรงหน้าผมอีกครั้งก็ยังไม่คุ้นหน้าอยู่ดี จนผมสบตาด้วยอีกคนก็เหมือนจะสะดุ้งหน่อยๆก่อนจะรีบปล่อยมือ


"มีอะไร" ผมถามเสียงเรียบ


"ผมชอบพี่ ผมจีบได้ไหม"คำถามห้วนๆที่ทำให้ผมแทบจะหลุดขำในความใจกล้า เห็นคนที่ถามถึงตอนนี้ก็ยังก้มหน้างุดเลยเห็นหน้าไม่ชัดเท่าไหร่ ส่วนไอ้ซันที่อยู่ใกล้ๆตอนนี้นิ่งค้างไปแล้วเหมือนกัน ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะตบไหล่นั่นสองสามที





"โทษทีนะ ไม่ได้หรอก" เสียงปฏิเสธเรียบๆนั่นพาลให้คนรู้สึกว่าหนุ่มน้อยใจกล้านั่นน่าสงสารไปในทันที ถ้าจะบอกว่าไม่มีใครคิดจะเข้าไปทักทายคนที่กลายเป็นที่สนใจที่สุดในเวลานี้คงต้องบอกว่าผิด เพียงแค่ไม่มีใครกล้าพอเท่านั้นเอง





    ทั้งด้วยการวางตัวและท่าทางที่ดูเฉยชานั่นกับตาที่เหมือนไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตาแบบนั้นทำให้มันยากที่จะตัดสินใจเข้าไปทำความรู้จักอยู่พอสมควร ตอนนี้คนส่วนใหญ่เลยได้แต่คุมเชิงอยู่ห่างๆไปก่อน แถมเจ้าตัวที่เป็นตัวการตอนนี้หลังจากบอกปฏิเสธก็เดินออกไปนอกอาคารเรียนต่อเหมือนไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำ ทำให้เด็กหนุ่มเมื่อครู่ได้แต่คอตกมากกว่าเดิมแล้วเดินออกไปอีกทางแบบเงียบๆ



   ลานหน้าตึกยังคับคั่งไปด้วยผู้คนที่เพิ่งออกมาจากตึกหลังเวลาเลิกเรียน เมื่อกี้เป็น 1 ในเหตุการณ์ที่ผมไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นบ่อยนัก ครั้งนี้โชคดีไปที่ไม่มีปัญหาอะไร ผมหยุดยืนอยู่ที่บันไดหน้าตึก คิดจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาคนที่บอกว่าจะมารับ แต่สายตาก็ดันมองไปเห็นรถคุ้นตา 2 คันที่จอดอยู่ลานด้านหน้าเสียก่อน ก็รู้ทันทีว่าอีกคนคงมารอได้สักพักแล้ว


‘ลงมาจากรถหน่อย’


   ในหัวเพิ่งคิดแผนใหม่ได้สดร้อนๆมุมปาก็ยกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้ ไม่นานจากมุมที่ผมยืนอยู่ก็เห็นซีนอนลงมาจากรถตามข้อความที่ผมส่งไปหาเมื่อครู่ตามลงมาด้วยคนในชุดสูทสีดำอีก 4-5 คนที่ยิ่งทำให้เข้าแผนของผมเข้าไปใหญ่ ส่วนสูงเกือบ 190 นั่นเป็นที่ล่อตาล่อใจใครหลายๆคนยิ่งเจ้าตัวต่างกับเมื่อเช้าที่ยังใส่สูทผูกไทด์ เวลานี้มีเพียงเชิ้ตแขนยาวสีม่วงเข้มปลอดกระดุมลงมาสองเม็ดใส่อยู่ในสแล็คสีดำตัวเดิมอย่างเรียบร้อยเท่านั้น ผมปล่อยให้ซีนอนยืนอยู่อย่างนั้นสักพักจนคนเริ่มสนใจกันมากขึ้น


“พวกมึง กูกลับละนะ” เมื่อคิดว่าได้เวลาผมก็บอกลาพวกนาย ยังไม่ทันให้มันได้ถามอะไรกันผมก็เดินตรงไปทางซีนอนทันที เมื่อความสนใจของคนที่นี่ทั้งหมดไม่อยู่ที่ผมก็อยู่ที่ไอ้ฝรั่งดังนั้นทุกอย่างก็เลยเป็นไปตามแผนของผม ส่วนไอ้ฝรั่งนั่นพอเห็นผมจากที่หน้าบูดๆก็เปลี่ยนมาเป็นยิ้มจนตาหยี ขายาวๆนั่นรีบก้าวเข้ามาเจอผมครึ่งทาง








________________________________________


ขออภัยในความสั้นค่ะ -v- จะชดเชยให้ด้วยการมาต่อเร็วๆนะ


มีความเห็นอย่างไรบ้างก็ช่วยบอกเราด้วยนะคะ
แต่งมาก็สิบกว่าตอนแล้ว แต่เพราะเป็นเรื่องแรกของเราก็เลยยังรู้สึกว่า
ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ค่ะ555555 กลัวทำดีไมพอ (เศร้า) ยังไงก็บอกได้นะคะเราพร้อมจะปรับแก้ไข
เพราะยังไงนี่ก็ไม่ใช่เรื่องสุดท้ายของเราแน่ค่ะ55555 บอกเลยว่าติดใจมาก

สุดท้ายก็ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ รักกกก :L2:
ปล. ทวิตเตอร์ติกแท็ก #หมอกซีนอน #บอกหน่อยครับ ได้นะคะ(เราคิดชื่อแท็กได้แค่นี้จริงๆค่ะ5555)
 
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.1 1.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 01-09-2017 20:05:25
พี่ซีนอนเขาอ้อนนุ้งหมอกตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.1 1.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 01-09-2017 22:22:49
พี่ซีนอนน่ารักกก ชอบ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.1 1.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: KAZUMA ที่ 02-09-2017 03:35:42
ชอบcharacterพระเอก นายเอกเรื่องนี้มาก
รีบมาตอนะคะ กำลังสนุกเลยยยยย
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.1 1.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-09-2017 12:50:58
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.1 1.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 02-09-2017 23:37:01
มาต่อเร็วน้า
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.1 1.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 04-09-2017 01:04:28
มาต่ออีกนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.22 6.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 06-09-2017 19:35:11

16.2





XENON



   สายตาเจ้าเล่ห์นั่นพอที่จะทำให้ผมเดาออกว่าตัวเองเสียท่าตั้งแต่ลงรถมาให้แมงป่องตัวนี้หลอกใช้เสียแล้ว แต่ยังไงในเมื่อผมไม่ได้เสียประโยชน์ก็ไมมีความจำเป็นต้อขัดขวางกลับกันผมจะจัดการเอาคืนให้คุ้มค่าตัวเลย หมอกตอนนี้ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เหมือนเป็นปีศาจตัวน้อยๆที่ปล่อยฟีโรโมนออกมาจนรอบข้างตัวหันมามองกันให้ขวับ รอยยิ้มสดใสที่นานๆจะแย้มสักทีทำให้ผมรู้สึกตาพร่าไปชั่วขณะ




ร้าย




เล่นทำให้เสียหลักกันตรงๆแบบยังไม่ทันได้เริ่ม


      จนกลิ่นหอมเฉพาะตัวนั่นเข้ามาแตะจมูก ไม่ทันได้ตั้งหลักแขนเรียวนั้นก็มาคล้องอยู่ที่คอซะแล้ว หน้าคมๆนั่นอยู่ห่างผมแค่คืบเท่านี้ก็พอจะให้บรรดาไทยมุงทั้งหลายฮือฮากันได้พอสมควรแล้ว แต่เหมือนเจ้าตัวจะยังไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้เลยโน้มหน้าเข้ามาหอมแก้มผมทั้งสองข้างคล้ายการทักทายแบบฝรั่ง


“ถ้าจะใช้พี่ ค่าแรงแค่นี้ถือว่ายังไม่คุ้มนะครับ” ผมพูดกลับเบาๆพอให้ได้ยินกันสองคน แต่ที่ไหนได้หมอกกลับแค่ยักคิ้วตอบมาแบบกวนๆเท่านั้น
 

ได้ ในเมื่ออยากเล่นบทเด็กเสี่ยนัก เดี๋ยวเสี่ยจะจัดให้


     แขนที่อยู่นิ่งในตอนแรกเลยเปลี่ยนเป็นรวบเอวเข้ามาชิดก่อนดันให้เดินไปที่รถด้วยกันพวกผมยังเป็นจุดสนใจเหมือนเดิม ด้วยความสูงที่ไม่ได้ต่างกันมากนักก้มหน้าลงนิดเดียวก็กะซิบข้างหูอีกคนได้สบาย ผมไม่ได้พูดอะไรแต่หัวเราะเบาๆก่อนที่มือที่เกี่ยวเอวอีกคนอยู่จะเลื่อนลงไปขยำบั้นท้ายนั่นแรงๆหนึ่งที ไม่ใช่แค่หมอกที่ตกใจเสียงกรี้ดเบาๆที่หลุดอกมาจากคนรอบข้างทำให้แน่ใจได้ว่าการกระทำเมื่อครู่ต้องอยู่ในสายตาทุกคนแน่ๆ คิดได้อย่างนั้นก็พาลให้มีความสุขไม่น้อยต่างกับเด็กเสี่ยในอ้อมแขนที่ตอนนี้เริ่มส่งสายตาเขียวปั้ดมาให้รางๆ ผมกระแอมสองสามที่ลูกน้องทั้งหมดก็เข้าใจต่างพากันมาเรียงแถวและเปิดประตูรถ ผมส่งให้หมอกขึ้นไปก่อนจะอ้อมไปขึ้นอีกด้านก่อนขึ้นรถก็ไม่ลืมจะทำหน้าตาน่ากลัวใส่พวกไทยมุงที่มองกันอย่างสนอกสนใจจนทั้งหมดนั่นได้แต่มองไปอีกทาง






      ตั้งแต่เข้ามาในรถคนข้างๆก็ยังไม่พูดไม่จาหยิบซองบุหรี่ออกมาเคาะเล่นอยู่ในมือ ปรายตามองมาทางผมบ้างแต่ก็ยังไม่พูดอะไร จะว่าโกรธผมก็ไม่ใช่ แต่จะให้เดาว่าเป็นอะไรผมก็เดาไม่ออก

“แค่อยากบุหรี่” แต่เหมือนว่ายังไม่ทันได้ถามเขาก็ตอบผมมาก่อนแล้ว ผมได้แต่ยิ้ม

“สูบมากไปมันก็ไม่ดีนะครับ” ถึงผมจะสูบแต่ก็ไม่ได้จัดเท่าหมอก ผมไม่ได้นับว่าวันละกี่มวนหรือว่าอะไรนะแต่พอคิดไปคิดดมาหมอกก็สูบหนักจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงไม่ได้มานั่งสนใจแต่คนนี้ผมเป็นห่วง วันไหนว่างๆพาไปตรวจสุขภาพดีไหมนะ คิ้วดำนั่นขมวดกันจนยุ่งมองซองบุหรี่สีเทาในมือตัวเอง


“ติดหน่ะ”


“ค่อยๆลดไปก็ได้” ผมพูดต่อ


“อืม” เสียงตอบรับเบาๆดังตอบกลับมา ผมฉวยมือที่ถือซองบุหรี่นั่นมา ดึงเข้าหาตัว เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ครึ่งตัวของหมอกเสียหลักเซมาอยู่ใกล้ผม เอื้อมมือไปกดปิดสวิซต์ที่กั้นระหว่างคนขับ


“ยังไม่ได้คิดค่าแรงที่ให้ลงไปรับเมื้อกี้เลย”


“แค่จับก้นคนอื่น ยังไม่พอใจอีกรึไง” ถึงน้ำสียงจะยังเรียบเหมือนเดิมแต่ประกายบางอย่างที่อยู่ในแววตานั่นก็ทำให้ผมยิ้ม


"หน่า วันนี้ยังไม่ได้จูบเลย..นะครับ" ผมทำหน้าอ้อนก่อนอีกคนจะพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกเบาๆคล้ายขำ เหมือนกับที่ผมคิดหมอกปากร้ายแต่ใจดี แพ้ลูกอ้อนผมทุกๆครั้งไป

"ต้องจูบทุกวันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" แม้คำพูดจะเหมือนโดนปฏิเสธแต่มือขาวนั่นตอนนี้กลับรั้งคอเสื้อผมเข้าไปใกล้นิ้วเย็นๆที่ลากผ่านตั้งแต่กราม ต้นคอ จนมาถึงไหล่ทำให้ผมอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

"ตั้งแต่วันนี้.." ไม่รอให้อีกฝ่ายมีโอกาสเริ่มก่อนอย่างที่ตนเองชอบ ใช้มือเดียวกดต้นคอนั่นเข้ามารับจุมพิต ตอนแรกก็ออกจะดูเก้ๆกังๆอยู่สักหน่อยเพราะอยู่บนรถแถมหมอกก็ไม่ได้ตัวเล็กขนาดนั้น แถมยังไม่ยอมอยู่นิ่งๆเหมือนเดิม เสียงครางต่ำในลำคอเล็ดรอดออกมาเมื่อจิวเย็นๆแตะเข้าที่ริมฝีปาก ก่อนที่การหยอกล้อกันไปมาจะกลายเป็นเหมือนไฟที่ค่อยๆโหมขึ้นมาช้าๆ เสียงหายใจหนักๆยามผละออกมาก่อนจะเข้าไปแนบชิดใหม่ ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้าของร่างปราดเปรียวนั่นขึ้นไปนั่งคร่อมอยู่บนตัวของอีกคนเพราะต่างคนต่างกำลังยุ่งกับการแลกจูบอันเร้าร้อนแบบไม่มีใครยอมใคร

“Shall we take it to the next level?” เสียงทุ้มต่ำผละออกมากระซิบอยู่ข้างหูปล่อยคนบนตักที่ยังหอบหายใจอยู่น้อยๆให้ได้พักครู่หนึ่ง หมอกไม่ได้ตอบอะไรเพราะอารมณ์ที่เริ่มคุกกรุ่นด้วยความที่คิดว่าตอนแรกจะเป็นแค่จูบธรรมดากลับกลายเป็นจูบอีโรติกขนาดนี้ไปได้


      มือหนาเริ่มไม่อยู่สุขไล้ไปตามเอวคล้ายกำลังยั่วก่อนปากที่เพิ่งจะว่างได้ไม่นานก็ถูกครอบครองไปอีกรอบ จิวในปากถูกหยอกล้อทั้งขบทั้งดูดจนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงพอใจออกมา ไม่ทันได้ตั้งตัวมือที่ลูบอยู่ไปตามสีข้างก็ไล้ลงไปบีบสะโพกกลมพาลให้คนที่อยู่ข้างบนส่งเสียงจิ้จ้ะอย่างขัดใจ คนคุมเกมยังยิ้มกริ่มแกล้งเลื่อนมือมาปัดป่ายแถวอก ใช้นิ้วโป้งหยอกเย้าจนอีกคนได้แต่สะดุ้งถอนตัวออกจากจูบ ซุกหน้าลงไปที่คอแกร่งคล้ายหมดแรงเมื่อกลายเป็นโดนรุกรานทั้งสองข้าง
      ปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติทำให้ทั้งสองจุดบนอกเริ่มแข็งเป็นไตดันนูนออกมาจนเห็นได้ชัดผ่านเสื้อสีขาวบางๆ ในใจคิดว่ายังดีที่ไม่ได้ใส่จิวตรงนี้มาไม่อย่างนั้นเขาต้องไม่ไหวแน่ๆ ไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบนาน ใบหน้าที่ซุกอยู่ที่คอแกร่งเริ่มไล่จูบไปตามสันกราม คาง ลงมาที่คอและต่ำลงเรื่อยๆมือบางเริ่มอยู่ไม่สุขปลดกระดุมคนตรงหน้าออกทีละเม็ดทีละเม็ดมือเย็นๆสัมผัสไปตามอกที่เปล่าเปลือยและยังลงต่ำมาเรื่อยๆ จนคนตัวใหญ่เริ่มหวั่นใจ เขาไม่ได้คิดจะให้หมอกคุมเกมนี้
 


     คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็ออกแรงผลักคนข้างบนให้นอนราบลงไปกับเบาะ มือข้างหนึ่งปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกจนหมดส่วนอีกข้างเปลี่ยนมารวบแขนเรียวนั้นไว้เหนือหัว หมอกได้แต่ลอบตื่นตะหนกอยู่ในใจไม่คิดว่าอีกคนจะแรงเยอะขนาดนี้ แต่ตกใจก็ส่วนตกใจยังไงก็ต้องยอมรับว่าตัวเองก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยส่วนกลางลำตัวเริ่มคับแน่นจนอึดอัด ซีนอนเลื่อนเข่ามาแทรกระหว่างขาทั้งสองข้าง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองภาพข้างล่างอย่างพอใจ แต่ด้วยความที่กางเกงยีนค่อนข้างหนาทำให้เจ้าตัวเลยไม่รู้ว่าอารมณ์ของคนข้างใต้ตอนนี้กระเจิดกระเจิงไปถึงไหน มือที่คิดจะดำเนินการขั้นต่อไปก็ถูกหยุดเอาไว้ก่อน

“ฮึก..อย่า” เสียงที่ปกติจะเรียบเฉยตอนนี้กลายเป็นสั่นๆนิด ยิ่งชวนให้น่าแกล้งจึงไม่ได้สนใจเสียงปราบนั่นเลยแม้แต่น้อย มือหนากลับทาบลงไปที่กลางลำตัวจนอีกคนได้แต่ส่งเสียงฮือออกมาอีกรอบ ใต้ผ้าหนาอารมณ์ที่คุกกรุ่นแทบจะปะทุนั่นส่งมาถึงมือเขาได้ชัดเจน พอเห็นว่าอีกคนไวต่อความรู้สึกขนาดนี้แค่เขาขยับนิดเดียวอาการตอบสนองนั่นกลับชวนให้เขายิ่งดำดิ่งลงไปในห้วงอารมณ์ จนตัวเองได้แต่ลอบยิ้มในใจเมื่อเห็นคนช่างยั่วสิ้นท่าอย่างนี้

“อืม อย่า ไม่ชอบ..ฮึก ในรถ” เสียงค้านไม่ได้ลอยเข้าหู ความรู้สึกของเขายิ่งดำมืดลงไปเรื่อยๆ ปากก็พรำจูบลงไปตามไหล่ลาด มือก็พยายามจะปลดกางเกงของอีกคนแต่ทำยังไงก็ปลดไม่ออกจึงต้องเปลี่ยนมาใช้สองมือช่วย

“พอ..แล้ว” แววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์นั่นขัดกระการกระทำอย่างสิ้นเชิง ในใจนับถือความอดทนของคนข้างล่าง มือที่เพิ่งเป็นอิสระเมื่อครู่ตอนนี้มากุมมือผมเอาไว้หลวมๆเป็นเชิงให้หยุด


“ให้พี่พอ ทั้งๆที่หมอกเป็นอย่างนี้...แน่ใจหรอครับ” หน้าขาวนั่นขึ้นสีแดงเรื่อแต่กลับมองผมตาเขียวปั้ดชวนให้ขำอยู่ไม่น้อย นานๆทีจะได้เห็นคนปากดีสิ้นฤทธิ์ใจก็อยากจะยืดเวลาความสนุกนี้ไปให้นานอีกหน่อย หมอกอาจจะไม่ได้สังเกตแต่รถคันนี้จอดนิ่งมานานพอควร คิดว่าคงจะมาถึงบ้านแล้วพักใหญ่


“อะแฮ่ม...ขอโทษที่รบกวนครับนายน้อยแต่คุณถังมารอพบนายน้อยที่ห้องโถงได้สักพักแล้วครับ” อยู่เสียงอินเตอร์คอมจากในรถก็ดังขึ้น เป็นคาลตัน ได้ยินอย่างนั้นแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือก นานๆทีถึงจะได้มีฉากวาบหวิวกับหมอกสักครั้งดันมีมารผจญอีก แต่เหมือนหมอกจะไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดผมเท่าไหร่นัก เพราะหลังจาดจบเสียงขัดจังหวะของคาลตันสติของอีกคนก็เหมือนจะกลับมาเต็มร้อยแล้ว รีบเด้งตัวออกไปนั่งห่างผมจนชิดประตูแถมยังทำท่าเหมือนกับกำลังนั่งสมาธิอีก พอผมหัวเราะก็หันมาดุ เลยได้แต่แต่งตัวให้เรียบร้อยเหมือนเดิมก่อนลงจากรถ

“หาย ’ร้อน’ เมื่อไหร่ก็ค่อยตามลงมานะครับ” พูดเสร็จก็รีบหนีลงมาก่อนที่จะโดนด่า เจอคาลตันที่ยืนรอยู่ข้างรถเป็นคนแรก ด้านหลังเป็นพวกลูกน้องที่ไปรับหมอกกับผมก่อนหน้านี้สีหน้าแต่ละคนไม่พยายามหลบตาก็ทำหน้าเขินๆ แต่พอเห็นผมทำหน้าขรึมไม่สนใจทุกคนก็เปลี่ยนสีหน้ากลับมาเรียบนิ่งเหมือนเดิม



    คนที่มารอพบผมคือถังอี้หนาน เจ้าสัวอันดับต้นๆของประเทศไทยมีทั้งธุรกิจถูกกฎหมายรวมไปถึงเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ไม่นานมานี้ผมกับเขาเพิ่งร่วมกันลงทุนเปิดบ่อนถูกกฎหมายกันที่ประเทศเพื่อนบ้าน คุณถังเป็นคนใจนักเลง กล้าเสี่ยง แถมยังเป็นคนตรงๆ ทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับเขาอยู่ในฐานะที่ค่อนข้างดี เป็นหนึ่งคนแรกๆที่เข้ามาทำธุรกิจกับผมโดยที่ไม่ได้มาจากอิทธิพลของปู่



     เดินเข้ามาถึงโถงต้อนรับก็เห็นคุณถังนั่งรออยู่อย่างที่คาลตันว่า เจ้าตัวดูไม่ได้รีบร้อนอะไรนั่งกินกาแฟสบายใจ
“ขอโทษที่ให้รอครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เจ้าสัวมีธุระอะไรกับผม” ถึงจะบอกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีแก่กันแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบการที่อยู่ๆคิดจะมาพบก็มาพบโดยที่ไม่ได้นัดล่วงหน้าซ้ำยังเป็นบ้าน ที่ๆผมไม่ค่อยอยากรับแขกเท่าไหร่ แต่เพราะเป็นเรื่องของธุรกิจต่อให้ไม่พอใจขนาดก็ยังต้องยิ้ม มันได้ไม่คุ้มเสีย

“อ้อ ลื้อมาสะที จริงๆที่อั้วมานี่มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอกเพียงแค่ได้ยินข่าวลือแปลกๆมาก็แค่นั้น”

       ผมไม่ได้ตอบ แต่รอให้อีกคนพูดออกมาเอง

“เรื่องเด็กใหม่ของลื้อหน่ะ” ผมลอบถอนหายใจ ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องถูกยกขึ้นมาไม่วันใดก็วันหนึ่งถึงจะไม่ชอบพูดเรื่องส่วนตัวแต่เห็นทีต้องเว้นเรื่องนี้ไว้เรื่องนึง เจ้าสัวถังก็ดูเหมือนจะรู้ว่าผมไม่ได้ชอบการถูกซักไซ้มากนัก แต่เจ้าตัวก็คงคิดมาดีแล้วเหมือนกันถึงได้มาถามกับผมตรงๆ  ตามจริงผมก็พอรู้มาบ้างว่าเรื่องของผมกับหมอกเริ่มเป็นข่าวลือในวงการผมมาได้สักระยะแล้ว ตัวต้นเหตุที่ปล่อยข่าวนี้ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจะไอเดน อีกประเด็นหนึ่งที่น่าจะทำให้เจ้าสัวถังสนใจในประเด็นนี้คือ ถิงถิง จะว่ายังไงดีหล่ะ ถิงถิงเป็นลูกรักของถังอี้หนานแต่ก่อนเขามักจะชอบจับคู่ให้ผมกับเธออยู่บ่อยๆ ว่าไปแล้วสาเหตุที่ทำให้ผมได้ไปเจอหมอกครั้งแรกก็เพราะว่าเจ้าสัวถังวานให้ผมไปรับถิงถิงที่มหาลัยฯ ก่อนที่จะไปประชุมด้วยกัน ผมก็ไม่ต่อยเข้าใจนะว่าเขาจะมาจับคู่ลูกสาวตัวเองกับคนอายุอย่างผมทำไมกัน แต่เอ้ะ ตอนนี้ผมก็จีบเด็กอยู่นี่หว่า


     นั่นแหละครับ เอาเป็นว่าสรุปแล้วผมเคลียเรื่องถิงถิงจบไปแล้วเรียบร้อย เธอเองก็ดูไม่ค่อยสนใจผมด้วยซ้ำ



“เรื่องของผม มันทำไมหรอครับ”




________________________________________

สารภาพตามตรงค่ะว่าเขียนฉากเลิฟซีนไม่ค่อยเก่ง (_ _:)
ถ้าอ่านแล้วขัดๆไปบ้างก็ขออภัยนะคะ55555555555
ตอนต่อไปพระเอกของเราจะเหมาทั้งตอนเลย เพราะงั้นติดตามกันด้วยน้าาา
ใครเล่นทวิตเตอร์ติดแท็กกันได้ จุ้บๆ
ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามเรื่อยๆค่ะ เราจำได้ทุกคนเลยค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.22 6.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-09-2017 00:11:07
เป็นไงต่อนะ???
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.2 7.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-09-2017 10:57:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH16.2 7.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 12-09-2017 20:21:59
งุ้ยยย เค้าเขินซีนอนนน นานๆทีจะได้รุกแรงๆกับเขานะ5555555555555
ขอบคุณค่า มาต่อไวๆ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 24.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 24-09-2017 23:11:48
17


Xenon
 



“เรื่องของผม มันทำไมหรอครับ”
 
   เสียงคุ้นๆที่พาลให้ผมต้องหันหลังไปมองก่อนที่จะยิ้มขำ ดูท่าเจ้าตัวจะโมโหไม่น้อยกับการโดนพูดถึงลับหลัง ก่อนที่ตาสีดำนั่นจะไหววูบหนึ่งคล้ายรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ตัวเองพูดแทรก เหลือบมองไปทางเจ้าสัวถังก็ดูเหมือนยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรเพียงแค่เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆเท่านั้น     
       ผมมองสำรวจคนหัวดำนั้นอีกครั้งก็บพบว่าสายตากลับมาเรียบนิ่งเหมือนปกติอีกทั้งท่าทางก็ไม่มีพิรุจอะไรเหมือนก่อนหน้า
 
ดูท่าจะสงบใจได้เร็วกว่าที่คิดแหะ
 
ผมคิดในใจขำๆเรียกให้รอยยิ้มบนหน้ากว้างขึ้นอีกนิด ก็ได้แต่ใช่มือปิดไว้เพราะไม่อยากหลุดมาดต่อหน้าคู่ค้า หมอกยังยืนอยู่หน้าห้องไม่ขยับ เจ้าสัวเองก็ยังไม่ละสายตาออกจากชชุดนักศึกษานนั่นเหมือนพยายามสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้สึกได้ว่าคิ้วตัวเองมันกระตุกนิดๆอารมณ์ที่ดีเมื่อครู่หายวับเหมือนไม่เคยเกิด
 
"สรุปแล้วข่าวลือที่ว่าก็จริงสินะ" ไม่มีใครตอบอะไรกลับไปแค่ผมแค่นยิ้มออกมาเท่านั้น หมอกเองก็ยังไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่เดินมาอยู่ด้านหลังผมเหมือนรำคาญที่มีคนมองตัวเองอยู่เหมือนกัน
"ยังไงอั้วก็เห็นแต่ผลเสียมากกว่าผลดี" เสียงเดิมเมื่อเห็นว่าไม่มีทั้งการตอบรับหรือปฏิเสธออกมาก็พูดต่อ สายตานั่นยังวนเวียนอยู่ที่หมอกคล้ายอยากจะมองให้ทะลุปรุโปร่งจนผมอยากจะรีบไล่ให้ออกไปจากที่นี่
 
"เห็นว่านี่ก็ทำลื้อเสียเรื่องมาเท่าไหร่แล้วล่ะ ไหนจะเรื่องคาสิโน ไหนจะเรื่องที่ลื้อไปอาละวาดที่ผับนั้นจนเละ วันนั้นต้องฝังไปกี่ศพ เพียงเพราะคนๆเดียวอย่างนั้น มองยังไงอั้วก็ว่าไม่คุ้ม" น้ำเสียงเนิบนาบแต่กลับเกือบทำให้เส้นอารมณ์ผมขาดผึ่ง คำพูดทุกคำคือจงใจให้หมอกรู้สึกแย่ แล้วยังเรื่องคนที่ตายอะไรนั่นอีก ถึงผมจะไม่ได้พูดแต่คิดว่าหมอกก็คงพอเดาออกได้ เพียงแต่...กลัวคำตอบจนไม่อยากถามออกมามากกว่า
 
"เรื่องส่วนตัว ผมจะทำอย่างไรมันก็เรื่องของผม คุณเป็นหุ้นส่วนธุกิจ ตราบใดที่เรื่องนี้ยังไม่ได้ทำให้คุณเดือดร้อน ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นกงการอะไรของคุณ" เริ่มแรกเมื่อได้ยินคำพูดของถังอี้หนาน หมอกเพียงแค่ขมวดคิ้วนิดๆไม่นานก็กลับมามีสีหน้าแบบเดิมคือหน้าเรียบนิ่งบวกกับแววไม่พอใจ กลับเป็นผมเองมากกว่าที่แทบอยากจะสั่งลูกน้องให้ลากไอ้เสี่ยนี่ออกไปให้พ้นหน้า เลยทำให้หลุดประโยคที่ออกจะแรงไปสักหน่อย หลังจากที่ได้ยินประโยคที่ออกมาจากปากของตัวเองแล้วผมก็ต้องทำใจยอมรับผลที่อาจจะเกิดตามมา แต่แปลกที่ตอนแรกผมคิดว่าตาเสี่ยหัวเถิกนี่ต้องร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ สรุปคือเปล่าเลย ตอนนี้ถึงกับนั่งหัวเราะสบายใจเสียอย่างนั้น

“แล้วเรื่องไอเดนหล่ะ ได้ข่าวว่าคนนี้ไปแย่งมาจากมัน จะเชื่อใจได้ ไม่เป็นปัญหารึไง” พอได้ยินว่าตัวเองแย่งหมอกมาจากไอเดนอารมณ์ที่เริ่มเย็นลงก็เดือดขึ้นมาจนไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่นั่นยังไม่เท่าที่ไอ้เสี่ยนี่ว่าๆหมอกเชื่อใจไม่ได้ ถึงจะเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ผมนับถือคนนึงแต่มาพูดอย่างนี้มันก็เริ่มจะไม่เข้าหู ผมกำมือแน่นระงับอารมณ์อยู่ครู่นึงก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ กำลังจะพูดตอบแต่มีแรงกดเบาๆที่ไหล่รั้งเอาไว้
 
“ผมเป็นคนของเขามาตั้งแต่ต้น และยิ่งไม่ใช่คนที่จะทำให้เขาเดือดร้อน ผมรู้ตัวเองดี คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเรื่องของผมมาใส่ใจ” การ์ดที่ยืนอยู่ข้างหลังเสี่ยนั่นมีท่าทีไม่พอใจเล็กน้อยที่หมอกพูดแบบนั้นรวมถึงน้ำเสียงที่เย็นเยียบจนเหมือนไม่ได้ให้เกียรตินั่รด้วย แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ใส่ใจยังทำหน้าเฉยๆได้เหมือนเดิม ได้ยินอย่างนั้นจากอารมณ์ที่เดือดปุดๆก็เย็นลงอีกรอบแถมยังรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อเป็นร้อยๆตัวบินอยู่ในท้อง ลืมเรื่องที่ตัวเองโมโหเมื่อกี้ไปเสียสนิท
 

นี่ถ้าไม่เกรงใจจะจับฟัดซะตอนนี้เลย
 

     หมอกตวัดสายตามามองผมแวบหนี่ง แยกเขี้ยวใส่เหมือนจะรู้ความคิด ก่อนจะหันกลับไปทางเจ้าสัวถังอย่างเดิม พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
 
 
“หวังว่าจะจบประเด็นของผมได้แล้ว ขอตัว”
 
 
     พูดจบเจ้าตัวก็เดินหลังตรงออกไปแบบไม่คิดจะหันกลับมามองอีก หมอกเองก็คงรู้สึกเหมือนกับผมว่าการที่เจ้าสัวถังมาที่นี่วันนี้ไม่ได้แค่จะมาดูหน้าเขา แต่มาเพื่อหยั่งเชิงหมอกและดูผมมากกว่า ถังอี้หนานมองหมอกที่เดินไปจนลับสายตาก่อนจะเริ่มหัวเราะ
 
“ดูท่าอั้วจะเป็นห่วงมากเกินไป เท่าที่เห็นลื้อก็ยังเหมือนเดิม แถมเด็กของลื้อก็ไม่ได้เป็นพวกงี่เง่า” พูดจบก็หยิบกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะมาจิบสบายใจ สรุปก็ใช่จริงๆ ว่าที่มาวันนี้แค่มาดูเชิงพวกผมเฉยๆ ผมทิ้งตัวลงนั่งพิงกับพนักเบาะ ในใจก็คิดว่าดีแล้วที่เมื่อกี้ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงลงไป
 
“แต่ลื้อก็นะ ปฏิเสธถิงถิงของอั้วบอกว่าไม่ชอบเด็ก แล้วนี่อะไรอายุก็พอๆกับลูกอั้วแท้ๆ” ผมได้แต่หัวเราะในคอแล้วหยิบน้ำเปล่าขึ้นมาจิบแบบไม่รู้จะทำอะไรบ้าง
 
“เอาเถอะ อั้วจะไปทำอะไรได้ ที่มาวันนี้ก็อย่างที่ลื้อคิดอั้วแค่มาดูท่าทีของลื้อเท่านั้น ไม่กลายเป็นคนหงอตามใจเมียไปก็ดีแล้ว อีกเรื่องคือไอเดนเหมือนมันกำลังเริ่มทำอะไรบางอย่าง” ผมยังเงียบกำลงคิดว่าจะบอกเรื่องเครื่องดักฟังที่อยู่ในบ้านนี้ดีรึเปล่า แต่ในที่สุดก็ล้มเลิกความคิดไป ตอนนี้ส่วนที่ยังมีเครื่องดักฟังอยู่ก็มีแค่ที่ห้องทำงานของผม กับ ห้องทานอาหารเท่านั้น ส่วนที่อื่นๆผมค่อยๆปิดสัญญาณไม่ก็ทำให้มันพังเหมือนเป็นอุบัติเหตุไปหมดแล้ว
 
“ผมก็พอรู้มาบ้าง” เมื่อเช้าที่ไปประชุมมีอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ เหมือนไอเดนกำลังหาบางอย่างอยู่ถึงกับบินกลับอิตาลีกะทันหันทั้งๆที่ตามจริงเจ้าตัวมีแผนต้องไปดูงานต่อแถบดูไบ แต่นั่นก็เป็นผลดีกับผมเพราะจะได้ไม่มีก้างมาคอยขวางเรื่องอาวุธลอตใหม่ที่จะส่งเข้ามาไทย ผมกับถังอี้หนานนั่งคุยธุระกันอีกนิดหน่อยไม่นานฝ่ายนั้นก็ขอตัวกลับ
 

     กว่าจะได้พักจริงๆเลยกลายเป็นเกือบหนึ่งทุ่ม เจย์บอกว่าหมอกไปเดินเล่นในสวนเพิ่งกลับเข้าบ้านมาได้สักพัก ผมถอนหายใจพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ว่ากันตามจริงแล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการที่ให้หมอกมาอยู่ด้วยอย่างนี้หมอกจะคิดยังไง จะอึดอัดรึเปล่า เพราะเจ้าตัวก็ดูชอบอิสระแถมโลกส่วนตัวสูงอีกต่างหาก เวลาหมอกนั่งเหม่อมองท้องฟ้ามันให้ความรู้สึกเหมือนผมพาเขามาขังไว้ยังไงก็ไม่รู้ คิดไปก็รู้สึกเศร้านิดๆแฮะ

       เอื้อมมือไปปลดปืนกระบอกเล็กในซองพกที่อยู่ด้านหลัง แล้วส่งให้เจย์เอาไปเก็บ ลืมนึกถึงมันไปเลย ถ้าอย่างนั้นตอนที่ผมไปรับหมอกคนอื่นก็คงเห็นกันหมดแล้วหน่ะสิ แต่ก็ดี จะได้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับหมอกของผม นั่งหลับตาสงบใจอยู่สักพักค่อยลุกเดินกลับไปที่ห้อง 

     แต่ก่อนที่มือจะเอื้อมไปถึงลูกบิด ประตูก็ถูกกระชากเปิดออก ไม่แรงนักแต่ก็พอจะทำให้ผมประหลาดใจ ยิ่งกว่านั้นที่ประหลาดใจมากที่สุดคือคนที่เปิดประตูออกมาไม่ใช่หมอก แต่เป็นราฟ อีกฝ่ายก็ดูตกใจไม่แพ้กัน พอเห็นผมก็โค้งให้แล้วรีบเดินออกไป สีหน้าตื่นๆนั่นเรียกได้ว่าไม่ปกติเลยเมื่ออยู่บนหน้าราฟ แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรเจ้าตัวก็เดินไปไกลแล้ว เลยได้แต่ปล่อยไป เหลือไว้แต่คนในห้องที่พาลจะให้ผมคิดหนักมากกว่าเดิม
 
“เกิดอะไรขึ้น?”  ผมได้แต่ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้า

      จะไม่ให้ขมวดได้ไงหล่ะ ในเมื่อตอนนี้หมอกไม่ได้ใส่เสื้อ! นั่งอยู่บนเตียง! แถมกระดุมกางเกงยังถูกปลด!! ใจอยากจะลงไปลากราฟมานั่งคุกเข่าถามให้มันรู้เรื่อง เกือบจะโมโหเลือดขึ้นหน้าจับลูกน้องตัวเองมานั่งยางแล้ว แต่เจ้าตัวต้นเหตุทำแค่ยักไหล่
 
“ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆก็เข้ามา กำลังจะอาบน้ำ” สีหน้าหมอกก็ดูเหมือนยังงงอยู่เหมือนกัน ทำให้เชื่อได้ว่าก่อนหน้านี้ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น แต่มันทำให้ผมยิ่งสงสัยสีหน้าของราฟมากขึ้นไปอีก เอ้ะ หรือว่าตอนนั้นราฟแค่ตกใจผม ไม่ๆ อย่าเพิ่งคิดมากยังไงผมก็รู้จักทั้งสองคนดี แต่พอคิดดูแล้วหน้าตื่นๆแบบนั่นไม่น่าจะใช่สีหน้าของคนคิดไม่ดีกับหุ่นหน้ากินของหมอก ตอนนี้กลับเป็นผมเองนี่แหละที่กำลังทำสีหน้านั่นจนอีกคนทำหน้าแหยงๆแล้วรีบเดินหนีเข้าห้องน้ำ
 
ไอ้ผมก็แค่อยากจะมีโมเมนต์วับๆแวบๆกับหมอกบ้างอะ
 
แต่จะว่าไปก็เพิ่งมีไปนี่หว่า
 
แต่

มัน

ยัง

ไม่พอ

โว้ย!!


      ประตูห้องน้ำก็ล็อค เข้าไม่ได้ คนข้างในคงรู้ทันและกำลังอาบน้ำอย่างสบายใจ ผมเลยได้แต่ล้มเลิกความตั้งใจย้ายตัวเองมานั่งสงบเงี่ยมที่โซฟาแทน
 

‘ติ้ง’
 

   ไม่ได้ตั้งใจแต่ตาก็ดันเหลือบไปเห็นข้อความเข้าใหม่บนโทรศัพท์หมอกที่วางอยู่ใกล้ๆ มีอยู่สองข้อความจากสองคน ต่อจากนั้นก็เพราะความอยากรู้(เสือก)ของผมล้วนๆเลยหยิบมือถือนั่นขึ้นมาอ่าน
 
ฟีฟ่า
มึงดูนี่ ดังใหญ่แล้วนะสั-ว์ ไอ้หมอกคิ้วท์บอยโว้ย www.facebook.com/yycuteboyxxxxxx.com/8855/999f.html’
 
Unknown
Looks like your plan work well! Congrats!!.
You look sooooo sexy today, I just wanna eat you up and
bite into your skin once more!!
Ditch that Giovanni and come stay with me !!!!
Xxxx [photo attached]’

 

      ข้อความที่สองทำเอาผมขมวดคิ้ว แค่อ่านข้อความก็เดาไม่อยากว่าเป็นใครแต่ประเด็นคือรูปที่แนบมานี่ดิ มันต้องใส่รหัสปลดล็อคก่อน แต่ผมอยากเห็นอะ เมื่อไหร่หมอกจะอาบน้ำเสร็จอะ

จะบอกว่าไม่แปลกใจที่ไอเดนมันรู้เบอร์หมอกก็ไม่ผิดหรอกครับ ระดับนี้แล้ว แต่หมอกกับไอเดนติดต่อกันมาก่อนหน้านี้รึเปล่านี่ดิ มันมาวอแวคนของผมนานแล้วยัง ได้แต่นั่งนับเลขให้ใจเย็นอยู่ในใจรอเจ้าของโทรศัพท์ออกมา จวบจนจะถึงหลักพัน หมอกก็ออกมาพร้อม ผิวขาวๆ หน้าท้องซิกแพคจางๆ ผมชื้นหน่อยๆ กับหน้าอกแบบ.....


ฮื้อ

เหนื่อย


"ทำไรโทรศัพท์ผมอะ" สติยังไมทันกลับมาดีก็โดนเรียก แถมตัวขาวๆนั่นก็ยิ่งขยับมาใกล้จนได้กลิ่นสบู่ เจ้าตัวหยิบเสื้อยืดสีขาวมาไพล่ไว้ที่ไหล่ทำท่าเหมือนจะสวม

"...ข้อความเข้า"  ผมยื่นโทรศัพท์

หมอกกดโทรศัพท์ยุกยิกแต่ผิดคาดที่อีกคนกดเข้าไปในข้อความของเพื่อนตัวเองก่อน เจ้าของโทรศัพท์กดเข้าไปในลิ้งค์เว็บไซต์ที่เพื่อนส่งมา ก่อนมันจะพาเข้าไปในเพสเฟสบุ้คเพจหนึ่ง

เพจคิ้วท์บอยของมหาลัย

  รูปที่ถูกโพสเป็นรูปหมอกที่กำลังนั่งเท้าคางเหม่ออยู่ในห้องเรียน พร้อมแคปชั่น 'หมอก วิศวะฯปิโตร ปีสาม นั่งเหม่อไม่ตั้งใจเรียนแบบนี้ขอทำโทษได้ไหมคะ' พร้อมยอดไลค์ที่ปาเข้าไปเกือบครึ่งหมื่น ก็ไม่ได้บอกนะว่ารูปดูไม่ดี มันดูดีมากๆๆๆๆๆๆ เพียงแต่ผมสนใจอีกข้อความหนึ่งมากกว่าเท่านั้น

"ไร้สาระ หืม..ไอเดน?" หมอกงึมงัมกับรูปนั่นก่อนจะกดปิดเข้าอ่านอีกข้อความ

     พอได้อ่านหมอกก็ขมวดคิ้วตามก่อนจะกดเข้าไปดูข้อความเต็ม ถ้าเป็นตอนอื่นที่หมอกทำหน้ามองบนแบบนี้ผมอาจจะขำ แต่ครั้งนี้ไม่ ได้แต่รอให้หมอกส่งข้อความนั้นมาให้ดูบ้าง เหมือนอีกคนจะเข้าใจเลยยื่นมือถือส่งมาให้ดู


"เฮ้อ"


    อย่างที่คิดว่าพอได้ดูรูปแล้วผมต้องหนักใจ อย่างที่คิด เพราะมันเป็นรูปตอนหมอกไปมหาลัยวันนี้จริงๆ เป็นรูปที่เจ้าตัวกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ในตึก หน้าตาอมยิ้มอยู่นิดๆ

"ถอนหายใจทำไม อย่างน้อยรูปก็ออกมาดี" เจ้าตัวพูดออกมายิ้มๆ แถมยังเบียดลงนั่งบนที่วางแขนเก้าอี้ผม

"ตราบใดที่มันยังทำได้แค่เรียกร้องความสนใจง่อยๆแบบนี้ก็อย่าไปเก็บมาใส่ใจเลย"

ตาสีดำนั้นเงยขึ้นมาสบก่อนจะยักคิ้วกวนมาให้ รอยยิ้มชั่วร้ายอีกรอยค่อยๆเผยขึ้นบนใบหน้า เจ้าตัวยังไม่ได้ใส่เสื้อยกมือชี้ที่คอตัวเองยิกๆ


"Hickey please"
(ทำรอยไว้สักหน่อยสิ)



ผมเลิกคิ้ว


"จะเล่นอะไรอีกครับ?" ไม่รอให้ผมได้คำตอบผมตัวเองก็โดนกระชากเบาๆให้หน้าไปซุกที่คออีกคนเรียบร้อย กลิ่นหอมอ่อนๆที่ออกมาจากผิวเย็นๆที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จทำให้ผมเริ่มเคลิ้ม เลยได้แต่จูบหนักๆลงไปที่คอขาวนั่นสองสามที ก่อนจะไล้ลิ้นเลียไปจนถึงติ่งหู หมอกหัวเราะออกมาเบาๆตอนที่ผมดูดเม้มฝากรอยสีชมพูจางๆไว้ที่คอขาว ก่อนจะย้ายลงมาเรื่อยๆจนถึงไหล่

"พอๆ กำไรเกินไปละ" หมอกดันไหล่ผมออกแต่เจ้าตัวก็ยังไม่ลุกไปจากที่นั่ง คราวนี้ทิ้งตัวลงมานั่งพิงอกผมสบายใจ กลายเป็นว่าตอนนี้ผมเกยคางอยู่บนไหล่ลาดไปโดยปริยาย มือขาวกดยิกๆที่โทรศัพท์อีกรอบ

'He still gonna have me
F*ck yourself!! ,xoxo
[photo attached]'

       ผมได้แต่หัวเราะในความร้ายกาจของหมอก ทั้งเนื้อความและรูปที่ส่งตอบกลับไปให้ไอเดน รูปที่ผมกำลังตั้งใจซุกไซร้ลงบนคอขาวๆของอีกคนเหมือนแสดงความเป็นเจ้าของ หน้าของหมอกที่ติดอยู่เพียงเสี้ยวเดียวแต่ทว่ากลับเห็นรอยยิ้มลำพองใจ มือขาวที่กำลังขยุ้มผมสีน้ำตาลของผมอย่างได้อารมณ์ข้อมือประดับด้วยสร้อยรูปเหยี่ยวสีเงินคุ้นตาบวกกับแสงไฟสลัวๆของห้องนอนจึงทำให้ภาพนี้ดูอีโรติกอยู่มาก ท่าทีเหมือนผมกำลังแสดงความเป็นเจ้าของและอีกคนก็ยอมแต่โดยดีนั้นถึงจะไม่ได้เห็นหน้าของเราทั้งคู่ชัดแต่อย่างไอเดนก็คงเดาได้เองไม่ยาก

ไม่ลืมที่จะให้อีกคนส่งรูปนั้นมาให้ผมเก็บไว้ด้วย

"แถมพรุ่งนี้ลุคเด็กเสี่ยจะได้ดูสมจริงขึ้นด้วย คุ้มค่า" หมอกหัวเราะ ผมมองรูปที่เด้งเข้ามาในข้อความบวกกับอีกสี่ห้ารูปที่ถ่ายไว้พร้อมกันแล้วยิ้มกริ่ม

"พี่โดนใช้เป็นเครื่องมืออีกละ ค่าแรงคราวก่อนก็ยังจ่ายไม่ครบ" ผมหอมเข้าที่แก้มนั่นแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว หมอกยังหัวเราะ

"วันนี้กำไรไปเยอะแล้วนี่ ผมจะนอน"

    ยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะโดนเสื้อยืดที่ตัวเองคิดจะใส่ในตอนแรกมาบนตักผมแล้วเดินขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงทั้งๆที่ใส่แค่กางเกงนอนขาวยาวธรรมดา ทิ้งให้แต่ผมที่ยังไม่ได้อาบน้ำต้องรีบลุกตามไปทำความสะอาดตัวเองเพื่อให้รีบได้กลับมานอนข้างๆคนเจ้าเล่ห์นี่
   สรุปเลยตั้งแต่ไปรับที่มหาลัยจนถึงตอนขึ้นไปรอที่เตียงนี่ ไม่รู้ในหัวอีกคนมีแผนการร้ายกาจผุดขึ้นมาได้กี่แผน

เลยได้แต่คิดในใจว่า



'เด็กของผมนี่มันร้ายจริงๆ'





________________________________________

มาต่อแล้วค่าาา
ขออภัยในความล้าช้า ._______.
ตอนหน้าก็อาจจะมาช้าหน่อยเหมือนกันนะคะ /กราบ
ติดสอบ+ออกงานต่างจังหวัด

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 25-09-2017 00:50:10
ร้ายกาจมาก,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-09-2017 10:20:42
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 25-09-2017 18:51:39
หมอกนางร้ายมากเว่อร์ o13 o13
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 26-09-2017 18:41:45
บักราฟต้องมีไรในกอไผ่แน่นวล /เซ้นโคนันทำงาน 55555  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 26-09-2017 19:20:02
แบบน้องหมอกหาไม่ได้แล้วน้าาา
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: KAZUMA ที่ 26-09-2017 22:12:21
แซ่บเวอร์  :man1: :impress2:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 27-09-2017 01:25:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH17 25.9.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 29-09-2017 23:15:57
หมอกร้ายมาก เดี๋ยวให้พี่ซีนอนจับตีเลย ><
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 16-10-2017 20:35:15


18




     จะว่ายังไงดี แผนได้ผลดีไปมั้ง?



       ตอนนี้ถึงได้มาอยู่ในห้องน้ำหลังตึกกับผู้ชายอีกสองคนยืนดักทางออกอยู่ หน้าตาก็ไม่ได้ดูเหมือนคนดีเท่าไหร่ ชุดนักศึกษาก็ยับยู่ยี่ไม่เป็นระเบียบ ผมแค่อยากออกมาหาที่สูบบุหรี่เอง แต่กลับรู้สึกเหมือนหาเรื่องใส่ตัวอีกละ   เอ..จะว่าไปสองคนนี้นี้ก็หน้าตาคุ้นๆ คณะเดียวกันละมั้ง

“หลีกหน่อย”   ผมเป็นฝ่ายทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นหลังจากไม่มีใครพูดอะไรมาเกือบนาที  ตาสองคู่นั่นยังจ้องผมอย่างไม่มีมารยาทตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่รู้ว่าจะยืนกันท่าแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่แถม กลิ่นห้องน้ำนี่มันก็ไม่ได้ชวนพิสมัยเลย

“ขายเท่าไหร่” คนด้านขวามือผมพูดขึ้น ผมขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจ อ้อ เรื่องเมื่อวานนี้สินะ ไอ้แผนเด็กเสี่ยของผมน่ะ ดูถ้าจะมีคนเข้าใจว่าเป็นเด็กขายสะงั้น     

ก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่

“ว่ายังไง” คนเดิมถามซ้ำอีกรอบ เริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ

“หลีก” ผมยังยืนยันคำเดิม คนด้านซ้ายทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาผมแต่โดนอีกคนจับไหล่เอาไว้ก่อน ผมเลิกคิ้ว เปลี่ยนจากล้วงกระเป๋ามาเป็นกอดอก

“กูถามว่าขายเท่าไหร่ อย่ามาเล่นตัว”

“ไม่ขาย” ตอบแล้วก็เดินไปข้างหน้าก้าวนึงหวังว่าพวกนั้นจะถอยหลีกทางให้ผมออกไปสะที แต่เปล่าคนด้านซ้ายที่ดูจะเป็นคนอารมณ์ร้อนกว่าก็คว้าแขนผมไว้ จากที่ไม่อะไรตอนนี้ก็เลยเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง

“ปล่อยกู” ผมกระชากแขนตัวเองกลับ อีกคนดูจะงงที่ผมหลุดออกจากมือนั่นได้เลยก้าวขามาบังทางไว้มิดกว่าเดิมไม่ให้ผมเดินออก


    คนพวกนี้นี่ยังไง ผมไม่เข้าใจ ทำไมคุยไม่รู้เรื่อง


“กูให้หมื่นนึง อย่ามาเล่นตัวโก่งราคา”  ผมแทบจะหลุดหัวเราะ มองภาพตรงหน้าเหมือนแค่ทั้งสองคนเป็นเพียงเด็กเอาแต่ใจ แบบบทอยากได้อะไรก็แค่ใช้เงินฟาด แต่เหมือนทั้งคู่ที่เห็นผมหลุดยิ้มจะไม่ขำด้วยผมเลยโดนผลักจนหลังกระแทกเข้ากับผนัง


อา..ชักจะเกินไปแล้วนะ


   มือหนึ่งกระชากเข้าที่คอเสื้อผมจนกระดุมสองเม็ดบนที่ติดอยู่กระเด็นหลุด ผมยังมองสองคนนั้นนิ่งๆ แต่อีกฝ่ายชักจะเริ่มไม่ปกติ

“มึงนี่ขาวดีนะ หุ่นก็กำลังดี โคตรน่า...” พูดแล้วก็แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่ชวนให้ผมขนลุก บอกตรงๆว่าพวกนักเลงไร้สาระแบบนี้ผมไม่สนใจหรอกครับ แต่ที่นิ่งเนี่ยเพราะอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ

“แต่เสียดาย มีตำหนิว่ะมึง อย่างนี้ราคาตกนะครับ” เพื่อนของในเสริมขึ้นมาหลังจากเห็นรอยช้ำเป็นจ้ำตามลำคอของผมที่ซีนอนทำไว้เมื่อวาน ผมปัดมือที่กำลังจับคอผมออก ตบมึงนั่นอย่างแรงจนเสียงดังเพี้ยะ


“อย่าแตะกู” ถึงฝ่ายนั้นจะทำหน้าน่ากลัวมายังไงผมก็ยังตอบกลับไปด้วยเสียงเย็นๆ แต่อยู่ๆมือของผมโดนคว้าไปทั้งสองข้าง และโดนบีบจนมือซีดขาว


“หรือมึงชอบให้พวกกูใช้กำลัง ห้ะ!! เล่นตัวอยู่ได้”

“มึงก็เริ่มไปเลยดิ มันทำท่าไปงั้นแหละ ในใจก็คงอยากได้เงินจนสั่นละ” คำพูดเหยียดที่ออกมาจากปากหมาๆนั้นทำเอาผมอยากจะเบ้หน้า.. นี่ถ้าคนในห้องน้ำตอนนี้ไม่ใช่ผม ก็ต้องมีคนตกเป็นเหยื่อพวกเดนนรกพวกนี้เพิ่มมาอีกคนสินะ


“งั้นสองคนพร้อมกันเลยนะ ระดับมึง..น่าจะเชี่ยวอยู่แล้วปะ” อีกคนพูดเสริม ผมถอนหายใจ ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเหตุการณ์ตรงหน้านี้ นี่มันฤดูติดสัดหรอวะทำไมถึงมองผมเป็นตัวระบายความใคร่กันไปหมด


“กูจะพูดครั้งสุดท้ายแล้วนะ..ปล่อย กู” ถึงจะพูดอย่างนั้นไปแต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผล สองคนนี้ยังคงหน้ามืดตามัว แถมยังเอาอีกมือมาดันไหล่ผมให้ติดกำแพงเพิ่มขึ้นไปอีก แล้วหน้าโรคจิตนั่นก็ยิ่งขยับเข้ามาใกล้ เสื้อผ้าหน้าผมก็เริ่มไม่เรียบร้อยขึ้นไปทุกที ตอนแรกที่กะจะให้มีคนเข้ามาขัดจังหวะแล้วค่อยชิ่งคงยากแล้วมั้ง ไม่มีหมาตัวไหนเดินโผล่มาสักตัว


     ผมที่ตอนนี้ทั้งเริ่มหงุดหงิดทั้งรำคาญเลยเปิดด้วยการเอาหัวโหม่งคนที่กำลังขยับเข้ามาทำท่าจะซุกคอผมอย่างแรง จนทำให้มันผงะกุมหัว ถึงจะทำให้ตัวเองมึนอยู่นิดหน่อยแต่แลกมาด้วยการที่มันตกใจจนมือผมที่เป็นอิสระก็ถือว่าคุ้ม


     เมื่อมือเป็นอิสระส่วนที่เหลือก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก สองคนนี้เป็นแค่นักเลงโตทั่วไปไม่ได้เก่งอะไรมากมาย ไม่เหมือนกับพวกมาเฟียใหญ่โตที่หลังๆผมเจอแทบทุกวัน ไม่ถึงสิบนาทีพวกนี้ก็กลายเป็นกระสอบทรายนุ่มๆให้ผมซ้อมเล่น

     เพราะสายตาที่พวกมันมองทำให้ผมสะอิดสะเอียนยิ่งพอมือพวกนั้นมาโดนตัวทำให้ผมแทบอยากจะอ้วก  มือที่แค่คิดว่าจะต้องต่อยไปโดนหน้าคนแบบนี้ยังทำให้ผมขยะแขยง รอยแผลบนตัวพวกนั้นส่วนมากเลยเกิดจาก เท้าผม ล้วนๆ ลำพังแค่อารมณ์ผมตอนนี้อัดให้ปางตายไปเลยยังทำได้ ไม่ต้องพึ่งซีนอน



สันดานแบบพวกแม่งนี่...
คิดแล้วก็หงุดหงิด



“ถ้าคิดว่ากูจะอยู่เฉยๆให้เอา พวกมึงก็ยิ่งกว่าโง่”

  ผมคว้าไอ้หัวเกรียนตัวแรกขึ้นมาบีบคอกดเข้าไปที่ผนังห้องน้ำ มันทำท่าหายใจไม่ออกจนหน้าดำสลับเขียว ส่วนเท้าข้างหนึ่งผมก็บรรจงเหยียบลงบนหน้าของอีกคนจนได้ยินเสียงโอดโอย

“สันดานอย่างพวกมึง..” ผมพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมากนัก แววตาหวาดกลัวในตาของพวกมันทำให้ผมพอใจ

“อ้ากกกกกกกก!!!!”


“อย่ามีให้ใช้ไปเลยดีกว่า”


    คงเดากันไม่ยากหรอกมั้งว่าผมทำอะไร สองคนนั้นถึงลงไปนอนคุดคู้แบบนั้น ผมปรายตามองทั้งคู่อย่างสมเพช ก่อนจะเดินไปล้างมือที่ก๊อกน้ำแล้วจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย แต่กระดุมที่หลุดไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วผมก็เดินออกมาโดยไม่ได้หันกลับไปมองอีก

    น่าจะเป็นเพราะว่ายังเป็นเวลาเรียนเลยไม่มีคนเดินพลุพล่านเท่าไหร่ ที่ไม่มีคนเข้าไปขัดจังหวะในห้องน้ำนั่นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก ผมหมดอารมณ์ที่จะกลับเข้าไปเรียนบวกกับอีกแค่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะหมดคลาส เลยนั่งรอพวกไอ้นายอยู่หน้าตึกแทน อย่างที่บอกว่าไม่มีอารมณ์อยากจะเรียนแล้วมือเลยกดโทรออกให้เจย์มารับ คงจะทันลาพวกไอ้นายพอดีกว่าเจย์จะมาถึง
     ระหว่างรอมีหลายคนที่แอบมองผมเป็นระยะและแน่นอนรวมถึงแอบถ่ายรูป แต่ผมก็ไม่ได้สนใจหรอก ตายังมองรอบตัวไปเรื่อยๆ อีกอาทิตย์เดียวก็จะไฟนอลแล้วก็ปิดเทอมเสียที พรุ่งนี้จะมีการเรียนการสอนครั้งสุดท้ายก่อนให้หยุดอ่านหนังสือ ผมมีสอบแค่ 4 ตัว ไม่ยากมากเพราะผมเริ่มอ่านมาตั้งแต่เนิ่นๆคิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ต่างกับพวกเพื่อนที่ตอนนี้แทบจะโต้รุ่งกันอ่าน วิชาอื่นก็ทำโปรเจคส่งไปก่อนหน้านี้แล้ว


ปิดเทอมก็ดี อย่างน้อยผมจะได้เบาใจเรื่องความปลอดภัยของเพื่อนๆ


      แน่นอนว่าถ้าผมเป็นไอเดนจะไม่มีทางเข้าหาผมทางเพื่อนแน่นอน เพราะนอกจากมันจะยุ่งยากแล้วยังไม่คุ้มที่จะไปเสียเวลา ทั้งคนที่ผมวานซีนอนให้ช่วยดูพวกมันอยู่ลับๆ ทั้งทางบ้านพวกมันกันเอง เพราะแต่ละคนมีครอบครัวที่ไว้ใจได้และปลอดภัยระดับหนึ่ง ผมที่พอจะรู้อยู่แล้วก็ยิ่งวางใจมากขึ้นตอนที่ซีนอนมายืนยันให้ฟังว่า ผมไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง


     พอถึงเวลาเที่ยงคนก็เริ่มทยอยกันลงมาแล้ว... ไม่นานนักผมก็เห็นพวกนั้นกำลังเดินมาทางนี้


“หมอก!! เข้าห้องน้ำทีหายไปเลยนะ!! ดีนะที่อาจารย์เช็คชื่อแค่ต้นคาบ” เสียงบ่นของนายดังมาแต่ไกลก่อนที่ตัวจะมาถึงโต๊ะ
“เฮ้ย เดี๋ยว ไปทำไรมาวะทำไมมันดูมอมแมม” แทนร้องทักขึ้นมาเมื่อเห็นเสื้อผมนอกจากกระดุมจะหลุดแล้ว เสื้อมันก็ยังยับขึ้นด้วย ผมยักไหล่ เป็นซันที่ขมวดคิ้ว

“คอ??” พอได้ยินซันพูดแบบนี้ทุกคนเลยมองสังเกตกันใหญ่จนกลายเป็นไอ้ฟีฟ่าที่ร้องออกมาเสียงดัง

“อ๋าาาาา นี่หรือเมื่อกี้มึงไป....” ชี้หน้าผมพร้อมเอามือปิดปากแถมยังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ จนผมอดไม่ไหวเพ่นกบาลมันไปทีนึง

“ตลกละ นี่ตั้งแต่เมื่อวาน” ทั้งหมดทำตาโต ก่อนจะหันไปซุบซิบกันเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ ผมได้แต่นั่งเท้าคางดูว่าพวกมันจะทำอะไรต่อ

“ที่มึงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบเรื่องคนที่มารับมึงเมื่อวานเพราะแบบนี้ใช่มะ” ผมเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้มให้พวกมันสงสัยเล่น ไอ้นายกับฟีฟ่าทำท่าจะทึ้งหัวตัวเองโดยมีซันที่กำลังพยายามห้ามอยู่ ส่วนแทนคุณตอนนี้ทำแค่ยิ้มแหยๆให้ผมอยู่เงียบๆ

“เพื่อนกูกลับมาเหมือนเดิมไม่ทันไรก็กลายเป็นเมียชาวบ้านไปแล้วหรออออ” นายยังร้องครวญครางทำท่าเมือนรับไม่ได้ แต่ผมรู้ว่าตามจริงมันก็แค่ทำให้โอเว่อร์ไปเท่านั้นแหละ แค่อยากได้ยินคำตอบจากปากของผมมากกว่า


“หึหึ คิดเอาเอง บ่ายไม่เรียนนะ กลับละ” ผมเอื้อมมือไปยีหัวยุ่งๆนั่นให้ยุ่งเข้าไปอีกก่อนจะผลักหัวมันทิ้งแล้วเดินหนีออกมาขึ้นรถที่มีเจย์ยืนรอเปิดประตูอยู่ให้ ได้ยินเสียงแว่วๆเหมือนจะมีคนด่าตามหลังมาอีกว่าไม่ห่วงแนวข้อสอบที่อาจารย์จะบอกรึไง


“อ่า เจย์พอดีผมทำเรื่องวุ่นวายที่ห้องน้ำตรงนั้นนิดหน่อย ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ฝากจัดการด้วยสิ” ผมพูดพลางชี้ไปทางห้องน้ำต้นเหตุ เจย์ทำหน้างงในตอนแรกก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเข้าใจ และสั่งการให้ลูกน้องอีกสองคนที่อยู่ด้านหลังไปดูทันที ผมยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะเข้าไปนั่งในรถ



   ไม่นานผมก็กลับมาถึงบ้านที่ยังเงียบเหมือนเคย เวลาที่ไม่มีเรื่องอะไร ซึ่งมันก็ดีแล้วมั้ง ผมเดินตรงขึ้นไปชั้นบน เจย์บอกว่าซีนอนเข้าออฟฟิสบ่ายๆคงจะกลับ ผมเลยได้ถือโอกาสทำอะไรอย่างสบายใจไม่มีคนกวนสักที เริ่มด้วยแช่น้ำกำจัดเสนียดไอ้สองคนนั้นจนพอใจ แล้วออกมานอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง


    อ้อแล้วอีกอย่าง ไอเดนยังส่งข้อความมาหาผมไม่หยุด แต่เป็นข้อความแนวกวนประสาทธรรมดาๆอย่าง ปั่นให้ผมกับซีนอนทะเลาะกัน เล่าเรื่องตัวเองบ้าง กวนตีนผมบ้าง รวมข้อความตั้งแต่เช้าก็ร่วม 10 ข้อความจนผมเลิกใส่ใจไปแล้ว


     ผมหมกตัวอยู่ในห้องนอนนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ รู้แค่อ่านหนังสือไปได้หลายบทอยู่ และคนเดียวที่กล้าเข้ามากวนผมเวลาแบบนี้ก็มีอยู่คนเดียว


“ทำอะไร นั่งมองอยู่ได้” ผมพูดพลางดันหัวอีกคนให้ออกห่างอย่างหมั่นไส้ ไอ้ฝรั่งไม่ได้ตอบแต่หัวเราะหึๆ เริ่มปลดไทด์ถอดสูทตัวเองโยนลงตะกร้า เดินกลับมายีหัวผมทีนึงก่อนจะเดินฉิวเข้าไปในห้องน้ำแบบไม่ทันรอให้ผมด่า

นับวันนี่มันยิ่ง...

   ผมปิดหนังสือแล้ววางมันไว้บนหัวนอนหลังจากอ่านจบ ไม่นานคนที่หายไปอาบน้ำตอนแรกก็ออกมาโดยที่แต่งตัวแปลกตาหมดลุคมาเฟียใหญ่ ปกติถึงอยู่บ้านซีนอนก็จะแต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการอาจะมีเสื้อโปโลบ้าง sweatpantsบ้าง แต่ไม่ถึงขนาดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดาแบบนี้


“วันนี้ขี้เกียจแต่หล่อแล้ว จะอยู่แต่ในห้องกับหมอก” เหมือนจะเข้าใจว่าที่ผมเลิกคิ้วมองหมายความว่ายังไงเจ้าตัวเลยตอบกลับมาแบบนี้ ผมยิ้ม ตลกกับความคิดของซีนอน
“แต่กูกำลังคิดว่าจะออกไปยิม” ได้ยินผมพูดอย่างนั้นคนตัวโตก็รีบพุ่งมากอดเอาหน้าซุกที่พุงผมจนจั้กจี้
“โหไรอะ อุตส่าห์รีบไปอาบน้ำ ไม่กล้ามาเล่นด้วยเพราะกลัวหมอกจะเหม็น แล้วนี่อะไร พี่จะโดนทิ้งอีกละ อุตส่าห์รีบเคลียงานน” เสียงบ่นงุ้งงิ้งที่ดูปัญญาอ่อนนั่นชวนให้ผมหลุดหัวเราะออกมา ตาสีน้ำตาลนั่นจ้องผมใสแจ๋ว แขนยังไม่ปล่อยไปจากเอวผม


“วันนี้ได้ข่าวมาว่าออกแรงไปเยอะแล้วไม่ใช่ไง พักๆ ไม่ต้องไปยิมหรอก อยู่ด้วยกัน” พูดจบเจ้าตัวยังเอาหน้ามาซุกท้องจนผมต้องดันหัวนั่นออก


“วันนี้เป็นไร ทำไมปัญญาอ่อน”  จับหัวอีกคนโยกไปมาด้วยความหมั่นไส้แต่อีกฝ่ายกละบยังยิ้มกว้างเหมือนชอบใจที่ผมเล่นกลับแบบนี้ ตามจริงถึงซีนอนจะไม่ได้พูดอะไรแต่ผมก็แอบเห็นสีหน้าเหนื่อยๆของเขาอยู่บ่อยๆ อย่างเวลาที่เขาคิดว่าผมมองไม่เห็นก็จะชอบทำหน้าเครียดๆ หรือไม่ก็ขมวดคิ้วทำนู่นนี่อยู่คนเดียว บางครั้งถึงขั้นนั่นงถอนหายใจด้วยซ้ำไป

“ก็คิดถึงอะ อยากอ้อนเมีย” คำตอบที่พาลให้ผมอยากจะผลักหัวอีกคนออกไปไกลแต่ก็ทำได้แค่ดีดหน้าผากไปทีนึง

“เดี๋ยวมึง เมียพ่อมึงสิ” คนตัวใหญ่นั่งลูบหัวตัวเองป้อยๆ เริ่มเบะปากอย่างที่ตัวเองคิดว่าน่ารักแต่ผมคิดว่ามันน่าขำ
“เมียโหดๆแบบนี้ซีนอนชอบ” พูดจบเอวผมก็โดนคว้าหมับเข้าไปกอดอีกรอบ สายตาซีนอนเปลี่ยนเป็นอ่อนลงก่อนที่จะซบไหล่ผมนิ่ง

“วันนี้ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วเนอะ..”

     จริงๆแล้วคือตอนนี้ ซีนอนภูมิใจมากที่หมอกจัดการเหตุการ์ณที่ม.ได้ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่มีอะไรที่ทำให้เขาต้องเป็นห่วง เนื้อตัวก็ไม่มีเลยสักแผล ตอนได้ยินเรื่องจากเจย์ครั้งแรกเขาแทบอยากพุ่งกลับมาบ้านทั้งๆที่ยังอยู่ในการประชุม แต่พอได้ฟังเรื่องราวกับคำยืนยันว่าหมอกไม่มีรอยขีดข่วนอะไรแถมสบายดีก็ทำให้เขาเบาใจ ทำให้ตอนนี้ซีนอนเชื่อว่าหมอกดูแลตัวเองได้ แล้วยังทำให้เขาคิดว่าหมอกไม่เหมือนกับคู่เดทคนอื่นๆที่ผ่านมา ที่เอาแต่สักจะใช้อำนาจบารมีของเขาทำกร่างไปทั่ว หรือไม่ก็มาขอให้ช่วยทำนู่นนี่ให้

    นึกแล้วซีนอนก็ได้แต่ดีใจว่าตัวเองเลือกคนไม่ผิด ความเหนื่อยหลายๆอย่างคล้ายจะคลายลงไปตามความคิด แต่นึกๆไปแล้วก็แอบกลัวความซาดิสม์จากเหตุการณ์และสภาพที่ลูกน้องของตัวเองไปเจอสองตัวการณ์นั่นเข้า คิดแล้วก็เสียววาบจนเผลอเลื่อนมือไปบังเป้าตัวเอง

“เล่าเหตุผลให้ฟังหน่อย” ถึงแม้ว่าจะเดาไม่ยากแต่คนตัวใหญ่ก็อดที่จะถามไม่ได้ ผมเลิกคิ้ว ผมยังไม่ได้เล่าเหตุผลให้ใครฟังเพราะ มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าป่าวประกาศสักเท่าไหร่
พยายามที่จะเดาอารมณ์ของอีกคน แต่พอเห็นว่าแววตานั่นไม่ได้มีความต้องการจะจับผิดแถมยังทำท่าเหมือนพอเดาเรื่องออกได้แล้วอีกต่างหาก อีกอย่างคือยังยิ้มแบบนั้น...ผมละหมั่นไส้


“อ่า..ก็ เขานึกว่ากูเป็นเด็กขาย เลยมาบังคับกู แถมยังจับตรงนี้....ตรงนี้...ตรงนี้..แล้วก็ตรงนี้ด้วย” ผมพูดหยอกซีนอน แล้วจิ้มไปตาม มือ แขน คอ แล้วก็อกของตัวเอง ยิ้มที่ผมหมั่นไส้นั่นเลือนหายใบจากใบหน้าแทนที่ด้วยหน้าเครียดๆกับคำพูดใส่อารมณ์
“แบบนี้สั่งเก็บไปเลยดีกว่า ไม่ต้องพาไปรักษาแล้ว” ผมขำ มองคนตัวโตที่กำลังกระฟัดกระเฟียดแล้วเอื้อมมือไปกุมมือนั้นไว้หลวมๆ
“สภาพหนักขนาดนั้นยังไม่พอใจอีกรึไง” ไอ้ฝรั่งเก็บคำพูดของผมไปคิด ทำหน้าสยอง ก่อนสีหน้าตึงๆนั่นจะคลายลง ผมเลยได้โอกาสพูดเสริมเข้าไปอีก
“เก็บไว้อย่างนี้แหละดีแล้ว..ไว้เป็นกรณีศึกษาไง วันหลังจะได้ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับเด็กเสี่ยคนนี้อีก..หึหึ” พูดจบผมก็โดนซีนอนยีหัวอีกรอบ ปากนั่นก็เอาแต่พึมพำว่า ร้ายๆ อะไรก็ไม่รู้ ผมได้แต่ยิ้มคิดในใจว่าทำไมวันนี้ไอ้ฝรั่งมันถึงได้น่ารักนัก



หืม..น่ารักหรอ ?



เพ้อเจ้อไปใหญ่แล้วผม


“นี่ ซีนอน..” พอเห็นว่ายังไม่หยุดเล่นหัวผมสักทีก็ได้แต่ส่งเสียงปราม แต่ระดับไอ้ฝรั่งนี่มีหรือจะหยุดกลับเปลี่ยนเป็นมาหอมผมของผมเหมือนคนโรคจิต ผมเลยได้แต่จิ้จ้ะแล้วดันไอ้ยักษ์นี่ไปให้พ้นตัว

ครืดดดด ครืดดดด.....

เสียงโทรศัพท์ที่ผมเปิดสั่นไว้ ดังอย่างต่อเนื่องประมาณสองสามครั้ง ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหวจนต้องหยิบขึ้นมาดู แล้วข้อความที่เข้าก็ไม่ใช่ใครอื่นหรอกครับ ไอ้ตัวโรคจิตคนเดิม

‘Unknown
You’re so cruel today babyyy. <3
So damn hot!!! Just like that day!
Xx.xx.xxx remember?’

เพียงแต่ข้อความที่เข้าใหม่นี้

พอกดอ่าน ทั่วทั้งร่างก็รู้สึกเหมือนโดนฟ้าฝ่า

มือเย็นเฉียบและสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ..วันที่ผมไม่มีทางลืม



ติ้ง


เสียงข้อความใหม่เข้าอีกรอบ
.
.
‘Unknown
Muderer~ :’)’




________________________________________

ตอนนี้เราว่ายาวววว เอ้ะ หรือไม่ยาวหว่า?
ขอโทษที่หายไปนานค่างานเยอะว้าวุ่นมากๆ
แต่รับรองว่าไม่ทิ้งเรื่องนี้แน่นอน
แวะไปถามไถ่ทวงนิยายกันได้ในทวีตแท็ก #บอกหน่อยครับหมอกซีนอน
สารภาพว่าท้อเป็นช่วงๆเพราะเหมือนไม่ค่อยมีคนอ่าน555555555
แวะไปทักทายกันได้เน้อจุ้บๆ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-10-2017 22:27:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 16-10-2017 22:56:38
ซีนอนน่ารักกก ซีนอนคนหลงเมีย
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 16-10-2017 23:06:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 17-10-2017 00:06:20
หมอกโหดใช่เลนนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Jinglering ที่ 14-11-2017 01:46:20
ยังรออยู่นะ ;_________________;
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 13-12-2017 20:52:34
มารอด้วยคน
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 29-12-2017 12:22:55
อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: zzcors ที่ 31-12-2017 21:12:33
รอค่าาาา
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 24-01-2018 11:56:29
มาอัพพพพพ แต่งให้จบ อยากได้รูปเล่มเรื่องเน้
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-01-2018 21:49:37
มาต่อให้จบเลยน้าาา  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 26-01-2018 22:50:51
โอ๊ยย พลาดอีกแล้ว หลงเขามาอ่านเรื่องที่อัพล่าสุดเดือนตุลา แล้วเมื่อไหร่จะได้อ่านตอนต่อไปล่ะเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 18-03-2018 02:53:29
ตามมาจากกระทู้นิยายแนะนำ.........   :a5: เห็นตอนล่าสุด


ดีนะเรายังไม่อ่าน กดมาดูอัปเดตล่าสุดก่อน
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: zzcors ที่ 30-04-2018 22:00:18
รอนะ
หัวข้อ: Re: ◣ SCORPION & EAGLE ◢ - บอกหน่อยครับ..จะให้รักต้องทำไง │CH18 16.10.17 อัพอัพ!│
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-04-2018 23:02:24
เข้ามาส่องดู สารภาพว่าอ่านไปแล้ว  :hao5: แม้จะไม่มาต่อก็เถอะ