พิมพ์หน้านี้ - รักวุ่นวาย ของนายรสแซ่บ [เทียน&ปุ่น] บทที่30 ตอนจบ [THE END] 08-12-60
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: prowprow ที่ 09-02-2017 18:25:29
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
***************************************************************
บ้านไม้หลังกลางเก่ากลางใหม่ที่ตั้งอยู่ในซอยแคบๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิดที่ปลูกประดับประดาไว้อย่างงดงาม รวมไปถึงพืชผักสวนครัวที่เจ้าของบ้านหมั่นดูแลรดน้ำเป็นประจำจนมันสดชื่นงอกงาม และแม้ว่าจะมีผู้อยู่อาศัยเพียงสองคนเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความรักความอบอุ่นภายในบ้านหลังเล็กๆ ลดน้อยลงไปแต่อย่างใด
ปุ่น หรือ ปริญญา เด็กหนุ่มผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวด้วยวัยเพียง 20 ปีไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยอย่างที่เคยตั้งความหวังเพียงเพราะสูญเสียพ่อและแม่ที่ประสบอุบัติเหตุโดนรถชนเมื่อสองปีก่อนทำให้จบแค่เพียงชั้นม.6แล้วออกมาทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียวเพื่อเลี้ยงดูน้องชายวัย15 ปีอีกหนึ่งคน
แต่ใครจะรู้ว่าอาชีพที่สร้างรายได้ของเขาคือการขายส้มตำ และใช่ว่าคนทำจะเคยสัมผัสงานด้านนี้มาก่อนแต่เขาอาศัยการเป็นลูกมือของผู้เป็นแม่และการฝึกฝนจนชำนาญ เพียงเวลาไม่กี่เดือนลูกค้าขาประจำและขาจรก็หลั่งไหลกันมาทุกวันเพราะติดใจในรสชาติอาหารของเขา
เจ้าของร่างบางที่ยังคงง่วนอยู่ในครัวเล็กๆ จัดการหยิบของสดบางส่วนออกมาจากตู้เย็นที่ผ่านการใช้งานมายาวนานกว่าสิบปีและเขาก็ยังไม่คิดจะซื้อตู้เย็นใหม่ในตอนนี้เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สู้เก็บเงินไว้ใช้ในยามจำเป็นจะดีกว่า
“กลับมาแล้วคร้าบ” เสียงที่ดังมาทางปากประตูครัวทำให้ปุ่นต้องหันกลับไปมองตามต้นเสียงก่อนส่งยิ้มให้น้องชายเพียงคนเดียว
“ไปไหนมา กลับซะมืดเลยนะ” คนเป็นพี่ทักทายน้องชายยิ้มๆ ขณะหยิบมะละกอดิบลูกโตและมะเขือเทศผลสีแดงสดออกมาล้างทำความสะอาดในอ่างเพื่อเตรียมสำหรับเปิดร้านในช่วงสายของวันรุ่งขึ้น
“โทษทีพี่ปุ่น” เก้าสีหน้าไม่สู้ดีนักก่อนปลดกระเป๋าเป้ออกจากไหล่วางลงบนเก้าอี้พลาสติกข้างๆ
“เป็นอะไร”
“เปล่า” ผู้เป็นน้องตอบปฏิเสธด้วยสีหน้าหงอยๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับพี่ชายว่ายังไงดี
“โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่ไป” ปุ่นหันมาบอกยิ้มๆ นึกอยากเขกกะโหลกไอ้ตัวแสบสักทีแรงๆ มีกันอยู่สองคนพี่น้องคิดหรือว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีเรื่องไม่สบายใจแต่ไม่กล้าบอก
“พี่ปุ่นรู้ทันผมอีกแล้ว”
“ก็เก้าเป็นน้องพี่”
“แหะๆ” เก้าหัวเราะแห้งๆ ใส่พี่ชายที่ตอนนี้ไม่ได้ตีสีหน้าดุๆ แต่ก็ยังรู้สึกเกรงใจที่จะพูดบางอย่างออกไป
“ตกลงมีเรื่องอะไรเนี่ย”
“ผมกลัวพี่ปุ่นจะไม่สบายใจ”
“พี่ไม่สบายใจก็เพราะเห็นเก้าไม่สบายใจเนี่ยแหละ”
“คือ…” เก้าพยายามจะเรียบเรียงคำพูดให้พี่ชายของเขาฟัง เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่เขาจะปิดบังเรื่องสำคัญ เพราะคงปิดได้ไม่นาน
“ก็วันนี้ผมไปทำ เอ่อ...” คนเป็นน้องทำสีหน้าอึกอัก ชายเสื้อที่ปล่อยรุ่ยร่ายลงมากับคราบน้ำบนตัวของเก้าทำให้ปุ่นเกิดความสงสัยว่าน้องชายไปทำอะไรมา
“หืม?”
“ถ้าผมบอกไปพี่ปุ่นอย่าโกรธผมนะ”
“เออ พี่ไม่โกรธหรอก” ปุ่นกอดอกรอฟังน้องชายว่ามีอะไรจะสารภาพกับเขา
“วันนี้ผมไปช่วยงานที่ร้านอาหารตามสั่งของเจ๊นีมาน่ะครับ” เก้าตัดสินใจหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาแล้วควักเงินจำนวนสองร้อยบาทยื่นไปตรงหน้าคนเป็นพี่ ปุ่นมองการกระทำของน้องชายอย่างอึ้งๆ แถมยังไม่ยอมรับเงินที่อีกฝ่ายยื่นให้ก่อนขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเครียดขรึม
เขาเคยพูดเรื่องนี้กับเก้าหลายครั้งแล้วว่าไม่ต้องไปทำงานหลังเลิกเรียนอีก น้องชายคนเดียวเขามีปัญญาหาเลี้ยงได้ไม่ได้ลำบากอะไร แต่ถึงจะต้องปากกัดตีนถีบเขาก็ทนไหว
“พี่เคยบอกไว้ว่ายังไง?”
“พี่ปุ่นอย่าทำเสียงโหดดิ ผมกลัวแล้วเนี่ย”
“ไม่ตลกเลยว่ะ”
“ก็ผมอยากช่วยพี่ปุ่น เห็นพี่ทำงานคนเดียวตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อต ผมรู้ว่าพี่ไม่อยากให้ผ..”
“แล้วพี่เคยบ่นว่าเหนื่อยหรือเปล่า”
“ถึงไม่บ่นผมก็รู้ ผมเป็นน้องพี่นะ”
“เป็นน้องก็ต้องเชื่อฟังพี่ ไม่ใช่รั้นแบบนั้น”
“ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว” เก้าสีหน้าละห้อยเมื่อเจอสายตาดุๆ ของพี่ชาย
“ทีหลังไม่ต้องไปทำอีก ส่วนเงินนี่เก็บไว้เป็นค่าขนมไปโรงเรียน พี่ไม่เอา”
“ไหนว่าจะไม่โกรธผมไง?” คนตัวเล็กกว่าสีหน้าสลดลงที่พี่ชายเริ่มไม่พอใจก่อนสูดลมหายใจแล้วร้องเรียกคนเป็นพี่เสียงเครืออีกครั้ง
“อย่าโกรธเค้าเลยนะ น่านะ ดีกันๆ” เก้าชูนิ้วก้อยไปตรงหน้าราวกับเด็กๆ
“อืม” ปุ่นยอมเกี่ยวก้อยด้วยแต่ไม่วายสั่งสอนกลับเสียงเข้ม
“อย่าให้เห็นว่าไปทำงานอีกแล้วกัน ไม่งั้นจะไม่ยกโทษให้”
“เย้!! ขอบคุณครับ รักพี่ปุ่นที่สุดเลย” เก้ากระโดดกอดปุ่นแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ก่อนจะถูกพี่ชายดันออกห่าง
“พอแล้ว หายใจไม่ออกโว้ย”
“แหะๆ ก็มันดีใจมากไปหน่อย”
“ขึ้นไปอาบน้ำไป แล้วเดี๋ยวลงมากินข้าวกัน วันนี้มีหมูทอดกระเทียมพริกไทยกับต้มจืดผักกาดดองของโปรดเราน่ะ” ปุ่นบอกน้องชาย ส่วนเก้าตอบรับพร้อมรอยยิ้ม แล้วเดินหายขึ้นไปชั้นสองของบ้านอย่างว่าง่ายโดยไม่เห็นสายตาของพี่ชายที่มองตามแผ่นหลังบางจนหายลับแล้วหันไปจัดการล้างผักต่อ
ชายหนุ่มร่างสูงสง่าในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำราคาแพงแบรนด์ดังเข้ากับกางเกงสแล็คสีน้ำตาลเข้ม ก้าวลงมาจากรถสปอร์ตคันสีขาวป้ายแดงด้วยท่วงท่าสง่างามสมกับเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง
ดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นกันแดดสีชาโกโก้ มองไปยังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่คอยเปิดประตูให้อยู่หน้าโรงแรมหรูระดับห้าดาวอย่างพีเค โฮเทล แอนด์ สปาที่ชายหนุ่มเป็นเจ้าของด้วยวัยเพียง26ปี อธิปรีบก้าวเข้ามาด้านในแล้วกดลิฟท์ตรงไปยังห้องทำงานที่อยู่ชั้นสูงสุดของตึกสูงใหญ่สีขาว
ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าโต๊ะของเลขาวัยสามสิบปี เขาถอดแว่นกันแดดออกเหน็บไว้ที่เสื้อเชิ้ตพลางออกคำสั่งเสียงเข้ม จนคนเป็นลูกน้องนั่งตัวเกร็ง มือเย็นเฉียบ ไม่กล้าเงยหน้าสบตาผู้เป็นเจ้านายเพราะกลัวเจอสายตาพิฆาต
“เอาตารางงานไปให้ผมด้วย”
“ค่ะ” หญิงสาวก้มหน้ารับคำก่อนจะรีบควานหาแฟ้มเอกสารสำคัญบนโต๊ะแล้วเดินตามเจ้านายเข้าไปในห้องทำงานด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เธอยื่นแฟ้มให้เขาแล้วยืนตัวลีบเหลือบมองอีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ เช่นเดิม อธิปพลิกแฟ้มงานดูคร่าวๆ ไม่นานก็โยนลงบนโต๊ะเสียงดังจนเธอสะดุ้งโหยง
“ทำงานประสาอะไร ผมมีนัดกับลูกค้าพรุ่งนี้แล้วทำไมถึงไม่โทรฯ บอกล่วงหน้าก่อน คราวหลังถ้าเป็นแบบนี้อีกผมจะไล่คุณออก!”
“ดิฉันขอโทษค่ะคุณอธิป” หญิงสาวรีบหยิบแฟ้มงานมาถือแนบอกด้วยอาการสั่นเทาไปหมด เธอหวาดกลัวเสียงดุกร้าวของเขาจนฉี่จะราดคาห้องก่อนทำท่าจะก้าวออกจากห้องทำงานไปทำตามหน้าที่ของตนแล้วก็ต้องหยุดการเคลื่อนไหวเอาไว้เพียงเท่านั้นเมื่อเสียงทรงอำนาจดังขึ้นอีกครั้ง
“แล้วนี่อะไร! โต๊ะทำงานผมทำไมมันถึงมีฝุ่นจับหนาเป็นเซ็นแบบนี้ ผมไม่เข้ามาแค่ไม่กี่วันแม่บ้านทำงานสัพเพร่าขนาดนี้เลยเหรอ”
“เอ่อ เดี๋ยวดิฉันจะบอกให้ป้าเขามาทำความสะอาดให้ใหม่นะคะ” พิรดาหันกลับมาตอบคนเป็นเจ้านายด้วยสีหน้าที่อยากจะหายตัวออกไปจากห้องทำงานที่เริ่มร้อนเป็นไฟ เครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพไม่ได้ช่วยให้เย็นลงเลยสักนิด
“ไม่ต้องแล้ว” อธิปบอกเสียงเฉียบก่อนจะกล่าวประโยคถัดมาที่ทำเอาเลขาสาวถึงกับหงายเงิบ
“สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือไปหาแม่บ้านคนใหม่มาให้ผมภายในสองวัน เพราะผมไล่คนเก่าออกตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป”
“อะ...เอ่อ ไล่ออกเลยเหรอคะ”
“ก็ใช่ คุณมีปัญหาอะไรงั้นหรือคุณพิรดา หรืออยากย้ายจากตำแหน่งเลขามาทำงานแม่บ้าน?”
“ไม่...ไม่ค่ะ” พิรดาสั่นหน้ารัวๆ แล้วพาตัวเองออกจากห้องทำงานของเจ้านายไปอย่างรวดเร็วเพราะกลัวจะถูกหางเลขไปด้วยอีกคน ก่อนจะเดินสวนกับชายหนุ่มร่างสูงหน้าหล่อที่เดินเข้ามาในห้องทำงานของอธิปอย่างอารมณ์ดีโดยไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรในห้องทำงานก่อนหน้านั้น
“หวัดดีเพื่อน”
“เออ กองไว้ตรงนั้นแหละ” อธิปมีสีหน้าไม่รับแขกเท่าไหร่ เล่นเอาคนเพิ่งเข้ามาใหม่หุบยิ้มแทบไม่ทัน
“อารมณ์เสียแต่วันเลยนะไอ้เทียน”
“มีเรื่องให้หงุดหงิดนิดหน่อย”
“เรื่องไร เล่าๆ”
“กูเพิ่งไล่แม่บ้านออก”
“มันร้ายแรงถึงกับต้องไล่ออกเลยเหรอวะ” เตวิชที่เป็นเพื่อนสนิทของอธิป ทิ้งกายนั่งลงบนเก้าอี้แล้วถามขึ้นด้วยความอยากรู้เต็มประดา
ไหนๆ ก็มาหามันทั้งที ขอเสือกเรื่องชาวบ้านหน่อยจะเป็นไรไป
“เออ”
“แม่บ้านทำอะไรให้มึงไม่พอใจ”
“เช็ดโต๊ะทำงานกูไม่สะอาด มีแต่ฝุ่นเต็มไปหมดเลยเนี่ย มึงเห็นหรือเปล่า” อธิปตอบกลับเสียงดังฟังชัด ทว่าอีกฝ่ายถึงกับขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนมองหาเศษฝุ่นแล้วเอานิ้วแตะๆ สำรวจก่อนจะเห็นว่ามีติดอยู่นิดหน่อย ซึ่งไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไรถึงกับต้องลงโทษขั้นรุนแรง
“เรื่องแค่นี้เอง สงสารป้าเขานะ ทำงานมาตั้งนานไม่ใช่เหรอวะ บกพร่องนิดหน่อยเราเรียกมาตักเตือนได้นี่”
“กูขี้เกียจพูดซ้ำซาก”
“งานสมัยนี้ไม่ได้หากันได้ง่ายๆ หรอกนะ มึงไม่สงสารเขาเหรอ”
“นั่นมันปัญหาของเขาไม่ใช่ปัญหาของกู”
“เออ งั้นเอาที่สบายใจเลยมึง” เตวิชประชดเข้าให้เมื่ออีกฝ่ายดูท่าจะไม่ได้ฟังคำพูดของเขาเท่าไร ชายหนุ่มผู้มาใหม่จึงหยุดบทสนทนาไว้เพียงเท่านั้นเมื่อเลขาสาวเปิดประตูเข้ามาพร้อมถาดที่มีถ้วยกาแฟสองถ้วยส่งกลิ่นหอมกรุ่น จัดการวางลงบนโต๊ะเบาๆ แล้วเตรียมจะก้าวออกมา
“ชงกาแฟประสาอะไรคุณพิรดา หวานอย่างกับใส่น้ำตาลลงไปสามกระสอบ” คนพูดกระแทกถ้วยกาแฟลงบนจานรองแล้วมองหญิงสาวอย่างตำหนิหลังจิบไปเพียงน้อยนิดแล้วแทบบ้วนทิ้ง
“เอ่อ ดะ..เดี๋ยวดิฉันไปเปลี่ยนมาให้นะคะ”
“ผมให้เวลาคุณสามนาที ถ้ากาแฟถ้วยใหม่ยังไม่มาเสิร์ฟถึงโต๊ะล่ะก็ ผมจะหักเงินเดือนห้าเปอร์เซนต์”
“ค่ะๆ จะไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” หญิงสาวรีบรับคำแล้วก้าวออกไปจากห้องอย่างไม่รีรอก่อนที่ระเบิดจะลงกลางห้องทำงานชุดใหญ่ ส่วนเตวิชที่นั่งอยู่ด้วยถึงกับเอามือกุมขมับแล้วมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ
“มึงจะโหดไปไหนวะไอ้เทียน”
“กูเนี่ยนะโหด?”
“เออ มึงนั่นแหละ”
“มึงก็รู้นิสัยกูดีไม่ใช่เหรอ ว่ากูเป็นคนยังไง”
“คุณพิรดาอยู่กับมึงทุกวันมีหวังประสาทแดกแน่ๆ เจอเจ้านายแบบนี้”
“หุบปากไปเลยไอ้เต”
“เออๆ ไม่พูดก็ได้วะ วันนี้กูว่าง เที่ยงนี้ไปกินข้าวกับกูหน่อยมั้ย กูมีร้านเปิดใหม่อยากจะแนะนำมึง”
“ร้านอะไรแถวไหน มึงนี่ก็ช่างสรรหาร้านอาหารเหลือเกินนะ”
“อยู่แถวทองหล่อ กูจะบอกให้ว่าร้านนี้นะ ส้มตำโคตรอร่อย เผ็ดอย่างกับใส่พริกยกสวน มันถึงใจจริงๆ เพื่อน ถ้ามึงได้ลองสักครั้งรับรองว่าต้องติดใจกว่าสเต็กอกไก่ที่มึงชอบกินอีก” คนพูดชูนิ้วโป้งขึ้นทำท่าประกอบหากแต่เพื่อนของเขากลับทำสีหน้าพะอืดพะอมเมื่อได้ยินชื่อเมนูอาหารที่ว่ามา
“มึงเลิกพูดไปเลยไอ้เต กูไม่อยากฟังมึงพล่ามเรื่องไร้สาระ” อธิปว่าให้ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยสีหน้าบึ้งตึงเพราะไม่พอใจเพื่อนรักเท่าไหร่ แต่อีกฝ่ายกลับอมยิ้มชอบใจยกใหญ่ อยากระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ ด้วยซ้ำ ยิ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของห้องหงุดหงิดจนอยากจะกระโดดเตะตูดมันแรงๆ สักทีสองที โทษฐานที่พูดอะไรไม่เข้าท่า เพราะเตวิชย่อมรู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ชอบกินส้มตำขนาดไหน ก็ยังจะเอามาพูดล้อเล่นเป็นเรื่องสนุกให้ฟัง มันน่าไล่ออกจากการเป็นเพื่อนรักของเขาจริงๆ เลย ไอ้เวรเอ๊ย!
-
แล้วจะได้เจอกันมั้ย
หยิ่ง เหยียด ดูถูกคน เอาแต่ใจแบบเนี้ย
เทียน ปุ่น :mew1:
-
แรงดีทั้งคู่ น่าติดตามครับ
-
ตามคะ แซบพอกันทั้งคู่
-
ตามค่ะตาม :mew2:
-
เจอกันจะโรงแรมแตกรึเปล่าน้อออออ
-
ติดตามๆๆ
-
รอตินต่อไปจ้า ลงเนื้อเรื่อง เขียนตอนที่ลงด้วยนะ มันมีแต่เนื้อเรื่องติดกันเลย
-
ทะเลาะกันขนาดนี้ลูกดกแน่ๆ ฮ่าๆ
-
รอตอนต่อไป~
-
รอตอนต่อไป~~~~~
-
สนุกดี
-
สนุกกกกก
มาต่อเร็วๆ น้าาาา
-
ติดตามผลงานคุณprowprow ทุกเรื่องครับ ชอบมาก
:L2: :pig4: :3123:
-
เริ่มหวั่นไหว...
-
:katai2-1: :L1: :pig4: :L1: :katai2-1:
-
รอตอนต่อไป~
-
เริ่มน่ารักกันล้าววว :katai2-1:
-
:L1: :pig4: :L1:
-
พอรักแล้วนี่ปุ่นทำอะไรก็น่ารักนะพี่เทียน :กอด1:
-
โอ๊ยยยยยยยย น่ารักเกินไปแล้ววววว
-
:กอด1: :man1: :กอด1:
:L2: :pig4: :L2:
-
:-[
-
:mc4:
:L1: :pig4: :L1:
-
ให้กำลังใจนักเขียน :katai2-1: เขียนได้น่าติดตามมากครับ.
:L2: :pig4: :L2:
-
น่ารัก~
-
รอตอนต่อไป~
-
:3123: :pig4: :3123:
-
:m16:
:L2: :pig4: :L2:
-
:3125:
o13
:L1: :pig4: :L1:
-
:pig4:
-
รอตอนต่อไป~
-
:กอด1:
-
:katai2-1:
-
น่าจะจัดการเอมมี่เสียหน่อยนะ เล่นแรงแบบนี้ต้องโดนบ้าง :m16:
-
:กอด1:
-
:L2: :pig4: :L2:
-
:z1: o13 :z1:
:L1: :pig4: :L1:
-
:pig4:
-
:L1: :pig4: :L1:
-
:katai2-1: o13 :katai2-1:
:กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
-
สุดท้ายทำอย่างไง อธิปก็ไม่ชอบส้มตำอยู่ดี :กอด1:
-
:pig4: :pig4: :pig4: :3123:
-
ขอบคุณค่ะ สนุกมากๆเลย
-
ตอนเครียดๆต้องอ่านเรื่องนี้เลย ไม่มีดราม่า อ่านแล้วยิ้มตามเลย ขอบคุณจ้า
-
อ่านไปน้ำลายก็ไหลไป อยากจะสั่งส้มตำ น้ำตกสักชุดจริงๆ 555
-
เรื่องนี้สนุกดีค่ะ
-
:pig4
-
ขอบคุณมากเลยคนเขียน
-
o13 ....................... สนุกมาก ๆ ครับ
ขอบคุณครับ
-
ชอบอ่ะ เอาภาค 2 5555555
-
:mew1:
-
น่ารักมากเลยค่ะ สนุกดีไม่มีม่า
-
:o8: :o8: :o8:
-
สนุกน่ารักดีคะ
-
:pig4:
-
o13 o13
:mew1: :mew1:
:pig4: :pig4:
-
:pig4: