พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ไอจัง ที่ 05-02-2017 22:43:19

หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 05-02-2017 22:43:19
ประกาศที่สำคัญ

ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432

รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0
...
 คู่จิ้นที่รัก ตอนบลูสกาย

ประกาศ!!
ขอเชิญหนุ่มหล่อ น่ารัก สวยและ ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ "คู่จิ้นที่รัก"สมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ ลานคณะวิทยาการสื่อสาร ชั้น2 ในวันพุธ ที่ 23 พ.ย.2559 เวลา 13:00-17:00 น.เป็นต้นไป
รายละเอียด :: สอบถามติดต่อได้ที่ FB : BLUESKY_BOY'SLOVE แล้วพบกันนะครับบบบบบ
---ท้องฟ้าเดือน10---

ผมยืนมองแผ่นป้ายที่ตัวเองติดแปะประกาศไว้ด้วยความท้อใจ ไม่มีใครมาสมัครสักคนเลย
"น้องๆๆ สนใจสมัครหรอ?"อยู่ๆพี่แว่นคนนึงก็มาสะกิดถามผม ผมจะสมัครไปเพื่ออะไร ก็ผมเป็นเริ่มต้นโครงการนี้เอง
"อ้อ เปล่าหรอกพี่ ผมเป็นประธานโครงการนี้เอง!"บอกอย่างอายๆครับ ไม่มีใครสักคนมาสมัคร สงสัยโครงการผมไม่รุ่ง
"จริงหรอ? งั้นดีๆๆเลย"เขายิ้มกว้างให้ น่ารัก แต่ผมไม่เข้าใจ รุ่นพี่ตรงหน้ายื่นโทรศัพท์มา
"ช่วยรับเป็นแอดมินแทนพี่ให้หน่อย คือพี่ไม่ว่างเป็นแอดมินเพจชั่วขณะน่ะ นะๆๆ ช่วยเป็นแทนหน่อยนะ"
ผมมองดูเพจที่พี่แกยื่นให้ดูแล้วถึงกับอึ้ง เพจนี่มัน...เพจในดวงใจผมเลย ผมเคยคิดว่าอยากมีคนติดตามมากมายเหมือนเพจนี้ ผมเลยก่อตั้งโครงการ ‘คู่จิ้นที่รัก’ นี่ขึ้นมา
"กดเฟสมาน่ะ เดี่ยวพี่รับแอดแล้วดึงน้องเป็นแอดมินเพจเลย!!"ผมยังคงอึ้งอยู่แต่ก็กดชื่อเฟสตัวเองให้พี่เขา ก่อนจะรับแอดเฟสพี่เขาและแล้วเพจในดวงใจก็กลายเป็นของผมไปโดยปริยาย
"ช่วงนี้ก็โพสต์ประกาศโครงการนี้ได้เลยนะ มันน่าสนใจมากๆเลยนะพี่รับรองโครงการนี้ต้องปังแน่นอน พี่ไปนะ"
"เดี่ยวพี่ แล้วพี่ชื่ออะไร?" ผมตะโกนถามพี่แกที่ดูจะรีบร้อนมาก
"พีช พี่ชื่อพีช"แล้วพี่แกก็จากไป ผมได้แต่งงๆแต่ที่แน่ๆตอนนี้คือ ....
"ไอ้สกาย ไอ้ตุลย์ กูได้เป็นแอดมินเพจนี่ๆๆๆแล้วเว้ย"ผมชูโทรศัพท์ให้เพื่อนรักทั้งสองดู ทั้งไอ้ตุลย์และไอ้สกายมองผมอย่างแปลกใจ
"พี่พีชเขาให้กูดูแลเพจไปชั่วขณะนะมึง ฝันกูเป็นจริงแล้ว ฝันกูเป็นจริงแล้วเว้ย!!"ผมกระโดดกอดเพื่อนรักตัวเองอย่างดีใจ มันคงจะมีไม่สักกี่ฝันหรอกที่มันจะเป็นจริงได้
"งั้นก็ดีสิ มีเพจดังขนาดนี้อยู่ในมือ รับรองโครงการที่มึงวาดฝันคงจะเป็นจริงอีกหลายเท่าเลย"ไอ้สกายพูดเหมือนรู้ใจผม “อือๆ” ผมเลยพยักหน้าให้ ไอ้ตุลย์ได้แต่ยิ้มดีใจ ผมโชคดีที่มีเพื่อนรักคอยสนับสนุนทุกเรื่อง แม้บางเรื่องพวกเราจะทำไม่ได้ก็ตาม
"ดีเลย งั้นเรากลับไปโพสต์ประกาศกันเถอะ กูอยากจะเป็นสต้าฟงานนี้ใจจะแย่แล้ว"ผมว่าไอ้ตุลย์เวอร์กว่าผมอีก
"ไปๆ กูจะเป็นรองประธานใจจะขาด ฮ่า"
"อืมๆ ไปกันเลยพวกเรา ไปดังให้โลกรู้จักแก้งค์ท้องฟ้าเดือนสิบกันไปเลย"

"เอาล่ะนะ 1 2 3 อัพโหลดดดดดดดด!!"
เราทั้งสามคนลุ้นระทึกกันพอกัน หลังจากที่อัพโหลดไฟล์ประกาศรับสมัครไปปุ้ป ..
ข่าวคราวของโครงการเริ่มหูหนาและเป็นที่น่าสนใจของนักศึกษาทุกชั้นปี มีการเข้ามาสอบถาม คอมเม้นและกดแชร์โครงการของพวกเราอย่างล้นหลาม ผมดีใจมากที่โครงการของพวกเราได้รับความนิยมโดยผมยังคงใช้ชื่อแอดมินเพจว่า ท้องฟ้าเดือน10 เช่นเคย ในวันที่รับสมัครมีผู้สนใจเข้าร่วมเยอะกว่าที่พวกเราคาดคิดไว้อีก..


"โห เกินคาดนะเนี้ยะ ดีใจไหมไอ้บลู"ไอ้ตุลย์หันมาถามผม
"มากกกกกก ก.ไก่ สิบล้านตัวเลย"ไอ้ตุลย์ไอ้กายเลยยิ้มให้กัน เวลานี้พวกเรามีความสุขมาก แต่กองใบสมัครการคัดเลือกเป็นคู่จิ้นเป็นร้อยขนาดนี้ พวกเราจะจัดการยังไงดี
"ประกาศสมัครคู่จิ้นแค่ 9 คู่ แต่มาเป็น ร้อยๆขนาดนี้ เริ่มทำใจลำบากแล้ว"
"ใช่..แต่ละคน หน้าตาดี เกรดดีทั้งทางบ้านและประวัติส่วนตัวเลย!!"ไอ้ตุลย์ ไอ้สกายบ่น ผมก็ว่าอย่างนั้น
"งั้นสุ่มเซียนซีเอาล่ะกันนะ กูชอบ!!"
"เอาไงก็เอากันว่ะ แต่มึงแปะชื่อบนเซียนซีเองนะ" เพื่อนรักทั้งสองต่างเห็นด้วย สุดท้ายผมเลยต้องแปะชื่อแต่ละคนบนใบสมัคร แล้วทำการเขย่าเซียนซี โดยมีไอ้ตุลย์ถ่ายกล้องวีดีโอไว้เป็นหลักฐานให้ทุกคนที่สมัครรับรู้ว่าเราไม่ได้คัดเลือกเอง แต่พรหมชะตาลิขิตไว้ต่างหาก จนสุดท้ายก็ได้ครบมาทั้ง 18 คน ที่จะมาเป็น คู่จิ้นที่รัก ให้โครงการผม..
ขอบคุณวิธีการสุ่มแบบเซียนซี ผมศรัทธาและเชื่อเสมอว่าเซียนซีนำพาแต่ความรักดีๆเข้ามาสู่หัวใจทุกดวงเสมอ..
"เอาล่ะ ได้รายชื่อมาแล้ว เดี่ยวกูอ่าน มึงพิมพ์นะไอ้สกาย"
"อืม จัดไปคร้าาาบเพื่อนบลู"
ไอ้ตุลย์ขอตัวไปซื้อน้ำปั่นมาให้ระหว่างที่ขนมมากมายของพวกเราเริ่มจะหมด ที่มันไป ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก พี่ริทผัวมันมาตามมันไปกินข้าวครับคนมีคู่ก็งี้ สู้โสดอย่างผมกับไอ้สกายไม่ได้ ว่างจัดเหงามากก็ไปหาอะไรแดกเอง แค่นั้น!!
"อ่านดิ กูรอพิมพ์อยู่"ไอ้สกายสะกิด
"เออๆๆ จะอ่านล่ะน้าา"ผมอ่านรายชื่อเรื่อยๆให้ไอ้สกายได้พิมพ์ชื่อ อีก2 วันจะถึงวันประกาศรายชื่อแล้ว ผมแอบตื่นเต้นไม่น้อย..สองวันมานี้ พวกเราเตรียมงานทุกอย่างกันอย่างเป็นระบบ มีการแบ่งหน้าที่ทุกอย่างพร้อม ไอ้ตุลย์กับไอ้สกาย ทำทุก
อย่างเพื่อผมได้เสมอจริงๆคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วที่ผมเฝ้ารอ
ก้อกๆๆ
"ไอ้สกาย ขอนอนด้วยดิ มันตื่นเต้นนอนไม่หลับ"
"อ่อเข้ามาดิ"ไอ้สกายเข้าใจดีเลยปล่อยให้ผมมานอนด้วยได้..ขอบคุณนะเพื่อน!

"โหลเทสๆๆ
"เสียงไมค์จากไอ้สกายที่กำลังทดลองเสียง เรียกสายตาผมเป็นอย่างดี และแล้ววันที่ผมรอคอย วันนี้ก็มาถึง!!
ตื่นเต้นแหะ..เหล่าบรรดาคนสมัครมากมายต่างทยอยเข้ามา ผมยิ้มต้อนรับทุกคนที่สนใจกับโครงการในครั้งนี้ ในมือก็ถือกระดาษผู้ผ่านการคัดเลือกไว้เรียบร้อย ไอ้ตุลย์ ไอ้สกายมาช่วยงานผมทุกอย่าง เราขอช่วยเพื่อนๆที่สมัครใจมาเป็นสต้าฟให้ชั่วคราวในวันนี้ ทุกคนทำงานที่ พวกเราขอช่วยไว้เป็นอย่างดี ทั้งแสง สี เสียงและการตรงต่อเวลาของทุกฝ่าย ในรอบการประกาศผลวันนี้ ผมเลือกที่จะใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเพื่อประกาศผลรายชื่อของผู้ผ่านการคัดเลือกครับ เรามีขนมเล็กน้อยไว้แจกจ่ายโดยการสมนาคุณจากผัวไอ้ตุลย์ นั้นคือพี่ริท และที่ผมคงไม่เอ่ยถึงไม่ได้ นั้นก็คือ เหล่าบรรดาคู่จิ้นสุดฟินที่ดังถล่มทลายในเพจต่างก็พากันมาดู ร่วมลุ้นกับการคัดเลือกคู่จิ้นเจนใหม่นี้ด้วย แถมบางคนยังร่วมเข้าประกวดอีก เห้ออ
"เทสครับๆๆ โหลๆไอ้บลูๆๆได้ยินกูป่ะ?"
ไอ้สกายถามผ่านไมค์ ผมเลยชูมือโอเคให้ มันอยู่บนเวทีครับ ส่วนผมกับไอ้ตุลย์ยืนอยู่หน้าประตูต้อนรับทุกคน
"โอเค เทสผ่านนะ สวัสดีผู้มีเกียรติ์และผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการนะครับ ตอนนี้ยังมีเวลาอีก10 นาทีก่อนเริ่มประกาศรายชื่อนะครับ ก่อนอื่นเลยผมขอแนะนำชื่อก่อนนะครับ...ผมชื่อ สกายครับ เมฆา อารีรัตประชากิจ วิทย์ทั่วฯ ปี1 คร้าาาบ @#$$%^^&&*****"ฟังไอ้สกายพล่ามๆ บทที่มันอุตส่าห์ท่องมาสองวัน แล้วอยากจะยิ้มให้ฟันหลุดมันพูดตามสคลิปจริงๆด้วย ไอ้เพื่อนต๋องเอ้ย..
"บลูเรียกสกาย อีก1 นาทีพร้อมเริ่มงาน สแตนด์บายรอได้เลย"ผมวอหาไอ้สกาย เห็นมันวิ่งเข้าห้องน้ำนานเลยต้องวอ
หากันหน่อย
"แสตนด์บายหลังเวทีพร้อม"เสียงไอ้สกายวอกลับมา ผมก็ชื้นใจ ไอ้ตุลย์ขยับเข้ามาจับมือให้กำลังใจผม
"ตื่นเต้นว่ะ!"
"อื้ม..ไงก็ทำให้เต็มที่นะ"ไอ้ตุลย์ให้กำลังใจก่อนตัวมันจะไปยืนรอหน้าเวที งานในครั้งนี้ ผมกับไอ้สกายเป็นพิธีกรครั้งแรกซะด้วยสิเลยตื่นเต้นกันยกใหญ่ครับ
"พิธิกรสแตนบายพร้อมนะครับ!!"โอเค เริ่มนับเวลาถอยหลังกัน...
5
4
3
2
1
"สวัสดีคร้าาาาบ"
ทั้งผมและไอ้สกายเดินออกมาสู่เวที มันตื่นเต้นมากยิ่งเห็นทุกคนที่มากันมากมายยิ่งตื่นเต้น..
"สวัสดีพี่ๆน้องๆชาวศรีตรังฯทุกคนที่ให้ความสนใจกับโครงการ 'คู่จิ้นที่รัก'
ในครั้งนี้ด้วยนะครับ ผม นาย สกายครับ เมฆา อารีรัตประชากิจ วิทย์ทั่วฯ ปี1 คร้าาาบ "
"และผมนาย บลู อภิรักษ์ วิเศษแก้วขวัญ ปี1 วิทย์ทั่วฯ ผู้ริเริ่มโครงการนี้ครับ"
ทั้งผมและไอ้สกายต่างมองหน้ายิ้มกันระหว่างแนะนำตัว วันนี้พวกเราเซตผมอย่างเนี๊ยบ ผูกเน็กไทได้หล่อกันเลยทีเดียว ได้รับเสียงปรบมาให้ก็ยิ่งตื่นเต้นไปกันใหญ่ครับ ไอ้สกายหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง
"เอาล่ะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมและบลูจะเริ่มประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเป็น 'คู่จิ้นที่รัก' แห่งมอ.
เรานะครับ"
"ครับ"ผมเตรียมรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกพร้อม ทุกคนข้างล่างเวทีต่างตื่นเต้นลุ้น
"ครับ สำหรับคนที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ทันทีที่ผมประกาศชื่อ ผมขอเชิญให้เดินขึ้นมาบนเวทีเลยนะครับ"ได้รับเสียงตอบกลับมา ผมกับไอ้สกายก็เริ่มคลายตื่นเต้นลงไปบ้าง ไอ้สกายหยิบไมค์มาจ่อปากก่อนจะประกาศรายชื่อคนแรก
"พี่ปิ้ก ปติณธร สุขสวัสดิ์ ปี3 เคมี-ชีวะครับบบบ"ไอ้สกายประกาศรายชื่อไป ข้างล่างเวทีมีเสียงเฮยกใหญ่ก่อนร่าง
สูงบาง ท่าทีกวนโอยเล็กน้อยเดินขึ้นมาบนเวทีด้วยความดีใจ
"ครับ เรามาลุ้นคนต่อไปเลยนะครับ บลูครับ ประกาศรายชื่อต่อเลยคร้าาบ"เกลียดเวลาไอ้สกายพูดครับเหลือเกิน มันสแลงหูจริง ฮ่าๆ
"ครับ ว่าน วิษณุ ธรรมะ ปี1 ศิลปประยุกต์ ครับ"ผมประกาศ ไอ้ว่านเพื่อน
ต่างเอกของผมดูจะไม่ดีใจเท่ากับเพื่อนที่มาเชียร์เท่าไรนัก มันคงโดนบังคับมา แน่ ไอ้นี่มักจะโดนแกล้งตลอด
"พี่เตอร์ อติรุท ปกรณ์ พูวาร์ด ปี2 เยอรมัน ครับ"ได้รับเสียงปรบมือดังสนั่น เมื่อเดือนเอกเยอรมันยอมร่วมกิจกรรม สักครั้งในมหาลัย ทั้งที่ไม่เคยยอมเข้าร่วมโครงการไหนมาก่อน
"พี่แพน อนันติรักษ์ กิจจารัตนวัฒณ์ ปี2 จีนสากล พี่ชายแพมเดือนมหาลัยปีนี้คร้าาาบ"เสียงโห่ดังสนั่นอีกครั้งเมื่อเดือนมหาลัยปีนี้ส่งตัวแทนพี่ชายตัวเองเข้าร่วมโครงการ ทั้งที่เจ้าตัวเองดูไม่เต็มใจเอาซะเลย ผมยังแอบกลัวๆเลยว่างานนี้จะล่มไหม?
เพราะพี่แพนขึ้นชื่อเรื่องความอดทนต่ำที่สุดในตำนาน
"เอาล่ะครับต่อไปก็ต้องแสดงความยินดีกับพี่ไทม์ กาลวิน ทานทอง ปี4 นวัตกรรมฯครับ"ไอ้สกายประกาศ พี่ไทม์สุดหล่อของผมเดินถือกล้องขึ้นมาอย่างสุภาพ อยากเป็นนายแบบเหลือเกิน พี่ไทม์จะได้มองเราทั้งวัน ผมแอบอมยิ้มนิดๆ
"พี่ไลน์ ภาสกร ยุทธนา ปี4 ประวัติศาสตร์ครับ!!"
หนุ่มยิ้มหวานรีบวิ่งขึ้นมาบนเวทีพร้อมเสียงตบมือสนั่น พี่ไลน์ขึ้นชื่อ่ เรื่องอีเว้นรับถ่ายรูปนอกสถานที่ที่สุด ก็ไม่แปลกที่ใครจะรู้จัก แม้เขาเองจะปิดตัวเองจากผู้คนไปนิด ผมยิ้มให้พี่ไลน์ที่เดินขึ้นมายืนรอถัดจากพี่ไทม์
"พี่ฟิน ฟินแลนด์ บวรสุขสม ปี2 สารสนเทศฯ เจ้าชายของเรานั้นเอง"ที่ไอ้สกายบอกว่าพี่ฟินเป็นเจ้าชาย นั้นก็เพราะว่าวันปฐมนิเทศปี 1 พี่ฟินแสดงเป็นเจ้าชายกบสุดหล่อให้พวกเราได้หัวเราะ สนุกสนาน มีรอยยิ้มนั้นเอง
" พี่แต้มแต้ม ปวินต์ รัตนใส ปี3 เศรษศาสตร์ ครับ "คนนี้เงียบกริบครับ ไม่มีใครรู้จักเขาเลย แม้แต่พวกผมก็ไม่รู้จัก หน้าใหม่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่เคยพบเจอเลย แต่ว่าโคตรขาวเว่อร์จนพวกเราแอบอึ้งกับความสวยคมของหน้าพี่แก
วี้ดวิว.. ได้ยินเสียงแซ่วมาข้างล่าง คงจะตะลึงและหลงเหมือนกับพวกผมล่ะสิท่า
"มิกซ์ มิกซ์ จันทรามิตร ปี1 บริหารครับบบบ"เสียงโห่ร้องดังทั่วเมื่อหนุ่มร่างสูงโปร่งลุกขึ้นแอ็คท่าซะมั่นใจในความหล่อของตัวเอง ผมกับไอ้สกายอด ที่จะขำด้วยไม่ได้
"พี่วันไนท์ อนา เพียงพอ ปี4 เอกพัฒน์ คร้าาาบ"หนุ่มมาดเซอพร้อมกระเป๋าย่อมใบโปรดเดินขึ้นมาทันทีที่ไอ้สกายประกาศ เสียงเชียร์ยังคงดังต่อเนื่อง อีกตั้งแปดคน บางทีก็เหนื่อยนะ
"ต่อไปนะครับ พี่ครูส วิลเลี่ยม ครุสลี่ย์ ปี 2 เทคโนฯ โน โน โน"ไอ้สกายกวนไปล่ะ ผมแอบยิ้ม เห็นเพื่อนๆพี่ครูส ปรบมือแสดงความยินดีให้พี่ครูสแล้ว กวนตีนยิ่งกว่าไอ้สกายอีก ชายหนุ่มในชุดเสื้อช้อปดำดูมีออร่ามากเมื่อขึ้นเวที
"ต่อไปจากพยาบาลนะครับยินดีกับพี่เรย์ โรเบิร์ด เจษณกิจ ปี3 ด้วยครับ"นางฟ้าชุดขาวของงานนี้ได้รับเสียงปรบ มือมากมายกันเลยทีเดียว นอกจากพี่เรย์จะน่ารักแล้ว ยังใจเย็นเป็นผมก็ชอบที่จะอยู่ใกล้ครับ
"จากพยาบาลอีกคนนะครับจินถัง อนุวัต ประวิย์ ปี1!!!!"ไอ้สกายดูจะดีใจมากกว่าคนอื่นๆที่เพื่อนโรงเรียนเก่ามันผ่านคัดเลือกด้วย
"ครับ ต่อเลยนะครับ ฟิช ฟาโรห์ คงอยู่ดี ปี1 ภูมิศาสตร์ "ผมประกาศไปด้วยเสียงสั่นๆ ไมค์จ่อปากแล้วตื่นเต้นครับ
ชายหนุ่มยิ้มหวานแจกยิ้มให้เพื่อนแล้วเดินขึ้นมายังเวที
"พี่ธาร สายน้ำ จิตเมตตา ปี2 อังกฤษ สุดเท่คร้าาาบ"ไอ้สกายประกาศด้วยความคึกคัก คงชินกับไมค์และหายตื่นเต้น
แล้วสินะพี่ธารคนนี้ ผมไม่รู้จักด้วยสิ ดูจากท่าทีแล้ว น่าจะยิ้มยากอยู่
"เอาล่ะครับ ต่อไปเป็นรายชื่อ 3 คนสุดท้ายแล้วน้าาา ยินดีกับพี่ดีเลย วายุ ใจภักดีวัฒนา ปี4 ดีไซน์ฯคร้าาบ"
เสียงปรบมือกลับมาดังสนั่นอีกหน ผมเองก็ตบมือกับเขาตลอดไม่หยุด ไอ้ตุลย์ยังคงมองให้ดำลังพวกเรามาเรื่อยๆ
"คนต่อไปคนรองสุดท้ายแล้ว ยินดีกับ่ ลูกเสี้ยวเกาหลี-ไทย-ฝรั่งเศส พี่ซัน อาทิตย์ อนันตภาส ปีเอตาอีมุส ปี3 ฝรั่งเศส"หนุ่มร่างสูงเฉียด 200 เมตรลุกขึ้นเต็มความสูง ทำเอาคนอื่นๆพากันมั่นไส้ พี่ซันแกสูงจริงๆ ผมเองยังไม่กล้ายืนใกล้พี่แกเลย
และคนสุดท้าย ท้ายสุด เพื่อนตัวเล็กของผมเอง ยินดีกับเพื่อนทาน เชว ทานตะวัน ปี1โภชนาการด้วยคร้าาาาบ"
ร่างเล็กจิ๋วของไอ้ทานวิ่งขึ้นมาด้วยความดีใจ เพราะตัวเล็กกว่าคนอื่นๆ แถมยังยืนใกล้พี่ซันด้วยนั้นยิ่งทำให้ถูกเปรียบเทียบกันพอดี ทุกคนหัวเราะตลกกับความสูงของพี่ซันและทาน เชื่อเถอะครับ เป็นผม ผมก็อาย พี่ซันแกสูงซะขนาดนั้น..
"และนี่คือโฉมหน้าผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมาทั้ง 18 คนครับ ขอบคุณที่ให้ความสนใจกับโครงการในครั้งนี้ "ผมพูดผ่าน
ไมค์ด้วยความขอบคุณปลื้มปิติที่ทุกคนให้ความสนใจกันมากมายขนาดนี้
"และสำหรับคนที่ไม่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ ผมก็หวังว่าคุณจะโชคดีในปีหน้านะครับ!!!" หลังเสร็จสิ้นการประกาศผมกับไอ้บลูปล่อยให้ว่าที่คู่จิ้นนิวเจนฯได้แนะนำตัวพอคร่าวๆ ข้างล่างเวทีเฮฮากันยกใหญ่ และเริ่มมีการทยอยกลับเมื่อสิ้นสุดการประกาศรายชื่อ
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก (เตอร์แพน) 14/02/60
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 05-02-2017 23:06:09
-ประชุมครั้งแรก...
"ก็อย่างที่ได้ประกาศให้ทราบกันแล้วนะครับ สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกนอกจากจะได้เป็นตัวแทนของคู่จิ้นคู่ใหม่แล้ว โครงการของเรายังมีกิจกรรมย่อยๆเพื่อปลุกระดมให้ชาวศรีตรังฯทั้งหลายรักโลก, รักมอ.และสามัคคีปรองดองกัน
เป็นหนึ่งเดียว ภายใต้แกนนำของนำการ ชักชวนของพวกคุณนะครับ"ไอ้ตุลย์เริ่ม อธิบายวัตถุประสงค์หลักของโครงการอย่างแท้จริงให้ทุกคนได้ฟัง
"แล้วกิจกรรมย่อยที่ว่านี้มีอะไรบ้างครับ น้องตุลย์"พี่ไทม์ยกมือขึ้นถาม
"กิจกรรมย่อยก็จะมีดังนี้ครับ
1.ฐานรักษ์โลก เช่น ปลูกป่า,บิ้กคลีนนิ่งมหาลัย ฯลฯ
2.ฐานรอยยิ้มของโลก เช่นดนตรีบำบัด,การละคร หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้สร้างรอยยิ้มขึ้นมาได้นะครับและสุดท้าย
3.ฐานรวมใจเป็นหนึ่งเดียว อันนี้จะเป็นแนวการทำกิจกรรมหมู่คณะนะครับ เช่น กาลเล่น,กีฬาหรือสร้างสรรค์กิจ
กรรมเพื่อนน้องก็ได้ครับ"ผมอธิบายต่อก่อนไอ้สกายจะมาเสริม
"ทุกๆกิจกรรมจะมีการร่างโครงการ มีเกียรติบัตรให้และมีชั่วโมงกิจกรรมของการจัดอีกด้วยครับ"
"แล้วอย่างนี้ใครจะเป็นคนร่างโครงการล่ะครับ?"เหมือนจะเป็นพี่วันไนท์ที่ถามขึ้น
"แน่นอนครับ พวกเรามีแบบฟอร์มให้อยู่แล้ว พวกคุณแค่เปลี่ยนเป็นกิจกรรมของพวกคุณแค่นั้น"มีเสียงโห่เข้าแทรก ทันที พอทีแบบนี้ล่ะเซ็งขึ้นมาเลย อันที่จริงความคิดของผมกับไอ้ตุลย์ ไอ้สกายก็แค่เฟ้นหาคู่จิ้นคู่ใหม่แค่นั้น แต่พวกพี่ๆคู่จิ้นรุ่นก่อนมีโพลสำรวจกันว่า คู่จิ้นรุ่นใหม่นอกจากจะต้องมอบความฟินแล้ว จะต้องมีปลูกจิตใต้สำนึกให้ศรีตรังทั้งหลายรักมอ.เราอย่างแท้จริงๆ และกิจกรรมทุกอย่างก็มาจากพวกคู่จิ้นรุ่นก่อนๆนั้นเอง ซึ่งผมก็ไม่เห็นว่าพวกพี่ๆแกจะรักมอ.กันมากมายอย่างที่เสนอกันมา พวกผมเองเมื่อผ่านการพิจารณาจากพี่พีเจ้าของเพจตัวจริงว่าเห็นชอบ พวกเราจึงต้องทำตาม ก็แค่นั้น!!
"หากแต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะมีสต้าฟให้คู่ละคนในการช่วยงานเรื่องโครงการครับ"เหมือนวิญญาณที่กำลังจะหลุดลอยไปกลับเข้าสิงคืนมา
"ถามหน่อยได้ไหมครับ?"จินถังยกมือขึ้นถาม
"ครับ ว่ามาเลยครับ?"ไอ้ตุลย์อนุญาต
"เราต้องทำกิจกรรมแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไรครับ แล้วเมื่อไรเราจะรู้ว่าใครคือคู่จิ้นของเรา?"
"อ้อ กิจกรรมจะมีแค่ครั้งเดียว วันเดียวนะครับ คู่ไหนจัดก่อนก็ถือว่าผ่านกิจกรรมวิชาการก่อนหลังจากนั้นก็จะเป็น การฟิตติ้งถ่ายแบบเพื่อจัดหาคู่จิ้นแต่ละคู่ครับ งานฟิตติ้งจะมีในอีก 24ชั่วโมงนะ เราจะเริ่มกันพรุ่งนี้ 9 โมงเช้าที่สตูฯคณะวสส.ครับ คงไม่มีใครเลทเกินเที่ยงนะครับ"ไอ้สกายพูดติดตลก ขืนเลทเกินเที่ยง ผมว่าตัดสิทธ์ออกไปเลย
"และโปรดจำไว้ด้วยนะครับต่อจากนี้ไป เราจะปั้นพวกคุณเป็นสตาร์ที่เฟรชเพื่อนิวเวิร์ล"เอิ่มมม ไอ้สกายมันหมายถึง
เราจะปั้นพวกคุณเป็น... 'ดวงดาวที่สดใสเพื่อโลกใบใหม่' นะครับ ไอ้นี่ก็เว่อร์ตลอด ทุกคนดูจะหน้าเออกันหมดกับคำพูดของมัน ฮ่าๆ
หลังทุกคนกลับกันหมด พี่ริทมารับไอ้ตุลย์กลับ ผมกับไอ้สกายเลยแวะมาหาอะไรกินรองท้องก่อนกลับหอ ระหว่างนั่งรอข้าวที่สั่งไป ไอ้สกายก็ดูดน้ำชาเขียวแก้วใหญ่ดูละครที่ใครก็ไม่รู้ใครเปิดทิ้งไว้ราวกับเหนื่อยล้า ผมจับมือมันแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ไอ้สกายหันมามองผมด้วยความแปลกใจ
"มึง วันนี้ขอบคุณนะ"ผมพูด
"อื้ม"ไอ้สกายพยักหน้าตอบแล้วก็สนใจละครต่อ
"มึง ขอบคุณที่ทำฝันกูเป็นจริงนะ"ผมบอกอีก ยังมีอีกหลายคำที่อยากพูดมันตื่นตันที่ไอ้สกายยอมเพื่อผมทุกอย่าง มันไม่รู้หรอกว่าผมดีใจแค่ไหนที่เจอมัน และมันก็คงไม่รู้ตามเคยว่าผมชอบมันเกินเพื่อนจริงๆ
"อื้ม"

"และก็มึง...!!"
"..."อะไรของมันอีกว่ะ มึงๆๆๆอยู่นั้นแหละ ผมจะดูละครก็ไม่ได้สักที วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน
"กูรักมึงนะเพื่อน"ไอ้บลูบอก
"อื้ม..กูก็รักมึง!"ผมรักมันจริงๆนะ
แต่บางทีการที่เราเป็นเพื่อนกัน มันอาจ ยาวกว่าการที่เราเป็นแฟนกันก็ได้ ผมยังอยากมีไอ้บลูข้างกาย ยังไม่อยากห่างหายไปไหน และยังสนุกกับการช่วยสานฝันให้ฝันของมันเป็นจริง
"แล้วความฝันของมึงล่ะ มีอะไรบ้าง กูจะได้ช่วยมึงด้วยไง?"ไอ้บลูถามผมอีกครั้ง วันนี้มันพูดมากจริง แต่ผมเสียง
แหบไปแล้ว ผมแค่ยิ้มไม่ได้ตอบอะไรมัน
ฝันของผมนะหรอ?
“มึงแม่ง ถามเยอะแยะ กูเจ็บคอเว้ย หิวด้วย”แกล้งเหวี่ยงไปอย่างนั้นล่ะครับใจจริงอยากดูละครเสียมากกว่า แต่ดูเหมือนไอ้คนข้างกายจะไม่ได้ชอบละครที่ผมเบิ่งตาดูทั้งที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน
“เออ กูไปเร่งป้าให้!”ว่าไปพร้อมลุกขึ้นเดินไปบอกป้าที่ทำอาหารตามสั่ง มันงอนผมแล้วแน่ ช่างเถอะค่อยง้อที่หอล่ะกัน ผมหันไปสนใจละครที่ตัวเองอยากดูต่อ รอบกายมีผู้คนมากมายที่นั่งกินอาหาร พูดคุยหรือแม้แต่ประชุมกลุ่มงาน ผมดูจนละครจบไปตอนเดียวซึ่งใช้เวลาไปแค่ 3 นาทีเท่านั้นแต่ทำไมไอ้บลูไม่ยักจะเดินมานั่งด้วยกัน สองตาเหลือบไปมองหาเพื่อนรักและเห็นไอ้บลูยืนคุยจ้อกับไอ้พาร์ม ไอ้นี่อีกล่ะ ตามจีบไอ้บลูไม่เลิกนะมึง รู้ทันรู้ว่าผมไม่ชอบขี้หน้ามัน(?)

‘มึงจะเดินกลับมาหรือจะให้กูเดินไปต่อยไอ้พาร์ม’ผมกดส่งไลน์หาไอ้บลู มือขวากดเปิดอ่านพร้อมหันมาหาผม ไอ้พาร์มก็หันมาเช่นกัน มันยักคิ้วทักทายผมแต่ไกล
‘คุยกับพาร์มอยู่ คุยเสร็จเดี่ยวไป’
หึ เลือกไอ้พาร์มอย่างนั้นสินะ เมื่อมันไม่ยอมมาหาผมผมเดินไปหามันก็ได้ ผมไม่ปล่อยมันไปให้ใครแน่ ไม่มีวัน!!

“ไง”
“...”ผมยืนขนาบข้างไอ้บลู ไม่คิดจะยิ้มทักทายอะไรกับคนที่ต้องฝืนใจด้วยหรอก เกลียดก็คือเกลียดครับ ไม่ชอบก็ไม่ยุ่ง มือหนากอดเอวไอ้บลูไว้ชิดตัว ไอ้บลูหันมามองผมขมวดคิ้ว
“กลับไปนั่งได้แล้ว!!”ผมบอกย้ำอีกครั้ง ต้องให้มาตามด้วยตัวเองเหลือเกินนะ ตามด้วยไลน์ไอ้บลูไม่มีวันเดินกลับมาแน่
“เป็นบ้าอะไรเล่า มึงหิวนี่กูก็ยืนรอเร่งป้าให้ไง”ร่างขาวเถียง เออเถียงได้เถียงดีนะอยากคุยกับไอ้พาร์มมากกว่าล่ะสิท่า คิดว่าผมตามความคิดมันไม่ทันหรือไงกัน ไอ้พาร์มมองผมสลับร่างขาว
“ไม่ต้องแล้ว กลับหอ!! ป้าครับเมนูที่สั่งยกเลิกนะครับ”ผมลากไอ้บลูออกห่างจากพื้นที่ไม่ปลอดภัยแต่โดยเร็ว ไม่สนป้าเจ้าของร้านจะบ่นตามหลังเพราะป้าแกกำลังลงมือทำอาหารที่ผมสั่ง ไอ้บลูโวยวายไม่ดังเท่าไรเพราะกลัวจะเป็นที่สนใจของใครสองขาเดินตามผมมาแต่โดยดี ผมผลักไอ้บลูชนรถของตัวเอง แม่ง รู้ทั้งรู้ว่าผมไม่ชอบขี้หน้าไอ้พาร์ม มันก็ยังคิดจะคุยกับไอ้พาร์มอีก
“เป็นบ้าอะไรของมึง ลากมาอยู่ได้แล้วนี่ไม่หิวหรือไง?”ไอ้บลูต่อว่าผมแต่ก็ยังเป็นห่วงผมไม่เปลี่ยน
“หิว!! แต่กูไม่แดกที่นี่แล้ว ไม่ชอบไอ้พาร์ม เหม็นขี้หน้ามัน ขึ้นรถเร็ว!”ยังโมโหไม่หาย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันกับความรู้สึกที่เป็นอยู่ทุกครั้งที่ไอ้บลูใกล้ไอ้พาร์ม ร่างขาวขึ้นรถอย่างว่าง่าย ผมเดินไปฝั่งคนขับ ขับรถออกไปหาอะไรกินข้างหน้าแทน ไอ้บลูหันมามองหน้าผมสงสัย
“มองเพื่อ..?”ผมเหลือบหันมาถามคนข้างกาย
“ก็แค่สงสัย มึงนะเกลียดอะไรพาร์มมันนักหนานะ กูเห็นพาร์มก็ทักทายมึงดีนะ”
“ไม่ ไม่รู้เว้ย มึงก็ช่วยหยุดพูดถึงมันด้วย กูไม่ชอบ”ผมฉุนเริ่มจะเคืองๆเพื่อนข้างกายที่เอาแต่พูดถึงคนที่ผมเกลียดขี้หน้า
“ก็แล้วทำไมไม่ชอบล่ะ?”
“ก็มันชอบมึงไง!”ผมโผล่งปากบอก ร่างขาวข้างกายเผลอยิ้มก่อนจะหมดคำถามหรือพูดอะไรๆถึงไอ้พาร์ม อะไรคือความหมายของรอยยิ้มมัน มันชอบไอ้พาร์มหรอ?
“มึงยิ้มอะไร ทำไมหรือมึงไม่รู้ว่าไอ้พาร์มชอบมึง?”ผมจอดรถข้างทาง มันคาใจมานานแล้ว “หรือที่มึงชอบอยู่กับไอ้พาร์มนั้นเพราะมึงชอบมัน”
“ไปกันใหญ่แล้วไอ้สกาย กูไม่ได้ชอบพาร์มสักหน่อย กูมีคนที่กูชอบอยู่แล้ว!”ไอ้บลูมีคนที่มันชอบด้วยหรอ ใครว่ะใครกัน วันๆเราตัวติดกันแจ ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะไปหลงชอบใครด้วยซ้ำ ร่างขาวนิ่วหน้าเมื่อผมบีบแขนมัน
“ไอ้นั้นมันเป็นใครห๊ะ มันเป็นใคร คนที่มึงชอบนะ?”
“กูต้องบอกหรือไง กูเจ็บนะสัส!”ไอ้บลูพยายามแกะมือผมออก ให้ตาย แม่งหงุดหงิดแล้วนะเว้ย ไอ้บลูมีคนที่ชอบได้ไง ผมไม่ยอมไม่ยอมเด็ดขาด
“ต้องบอก บอกกูมาเดี่ยวนี้ไอ้บลู คนที่มึงชอบมันคือใคร?”
“...”
เงียบ ไอ้บลูยังคงเม้มปากแน่น มันไม่ยอมบอกผมง่ายๆ ใครกันว่ะที่มันไปชอบนะ ผมอยากรู้จนลมออกหูอยู่แล้ว
“กูถามอีกครั้งไอ้บลู มึงชอบใครอยู่?”ต้องกัดฟันพูดเลยครับ ใจหนึ่งไม่อยากได้ยินชื่อคนอื่นออกจากปากมัน แต่อีกใจก็อยากรู้ว่ามันชอบใคร ไอ้บลูพยายามแกะมือผม สิ่งหนึ่งที่ไอ้บลูมีคือความใจเย็นและยอมผมทุกอย่าง เพราะอย่างนี้คนใจร้อนที่ไม่มีอนาคตอะไรอย่างผมเลยไปไหนจากมันไม่ได้
“กูบอกก็ได้”ไอ้บลูสูดลมหายใจหอบใหญ่ มันต้องใช้แรงใจมากขนาดนั้นเลยหรือไงวะ ไอ้นั้นมันเป็นใครผมชักยากจะรู้แล้ว
“ก็ไม่รู้ว่าถ้าบอกไปแล้วได้หัวใจคนนั้นกลับมาไหม แต่คนที่กูชอบนะ กูชอบเขามาตั้งแต่ม.2 เราเจอกันตอนเขาย้ายมาเรียนโรงเรียนกู เขาเป็นเด็กท้ายห้อง เรียนก็ไม่เก่งแถมยังเกเรอีก เช้าๆก็มักจะมาสายประจำจนโดนทำโทษทุกวัน การบ้านต่างๆก็ลอกเพื่อนไปทั่ว กูก็ไม่รู้ว่าไปชอบคนนั้นตั้งแต่ตอนไหน มารู้ตัวก็ตอนที่ชอบหันหลังไปมองคนนั้นเกือบทุกสิบนาทีแต่ว่าพอหันไปทีไรเด็กท้ายห้องคนนั้นก็หลับคาโต๊ะทุกที แปลกดีที่พอคนนั้นไม่มาเรียนหรือหายไปกูมักจะเดือดร้อน อยู่ไม่เป็นสุขและก็เอาแต่คิดถึงคนๆนั้น จนเมื่อเราขึ้นม.ปลาย กูตัดสินใจอยากอยู่ใกล้ใครคนนั้นกูเลยยอมเสนอตัวเองเป็นติวเตอร์ให้คนโง่ๆคนนั้นผ่านไอ้ตุลย์เพราะกูรู้ดีว่าใครคนนั้นสนิทกับไอ้ตุลย์”ผมปล่อยมือจากการบีบแขนไอ้บลู เรื่องราวทั้งหมดที่มันกำลังพูดถึงนั้นเกี่ยวข้องกับตัวผมโดยตรง ไม่มีทางผิดแน่ อยากบอกนะว่าคนที่ไอ้บลูมันชอบนั้นคือ..
“กูชอบมึง/กูชอบมึง!”เราสองคนต่างเงียบลงหลังได้เอ่ยคำพูดที่เก็บซ่อนไว้มาเนิ่นนาน มันจะเป็นไปได้ยังไงวะที่เด็กเรียน มีอนาคตไกลอย่างไอ้บลูจะยอมลดตัวมาจับมือเคียงข้างผมแล้วลากผมเดินไปพร้อมบนเส้นทางพร้อมๆกับมัน
“ไอ้สกาย”
“หื้ม..?”
“พูดอีกทีได้ไหม ที่มึงพูดเมื่อกี้นะกูอยากฟัง อยากได้ยินมานาน”ผมมองหน้าไอ้บลูใจสั่น แม่ง เสือกมาหน้าแดงใส่กูอีก อยู่ด้วยกันทุกวัน มันขาวกว่ามากผมก็รู้นะ แต่ไม่ชอบเลยเวลามันร้อนหรือมันเขินอาการหน้าแดงจะชัดเจนมมากจนมองเห็น
“เห็นกูเป็นคนชอบพูดซ้ำหรือไง ไม่มีเว้ย!”ผมกลบเกลื่อนใจสั่น หิวก็หิวแต่ไม่มีอารมณ์แดกแล้ว ตอนนี้ใจมันโฟกัสเรื่องของเรามากกว่า ไอ้บลูเงยหน้าสบตาร้องขอหน้าเสีย
“กูก็แค่อยากฟัง มึงไม่รู้หรอกว่าการต้องปิดบังความรู้สึกที่มีต่อมึง มันทรมานมากแค่ไหน เพราะกูมีมึงอยู่ข้างกาย อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่กูกลับเผยความรู้สึกที่มีไม่ได้”อ้าว ดราม่าก็มา โอเคๆผมเข้าใจแล้ว เข้าใจดีเพราะผมเองก็ไม่ต่างไปจากมัน ความทรมานที่มีทุกวัน ผมซาบซึ้งมันดี
“เออๆ กูชอบมึง พอใจยัง?”
“อื้อ ห้วนไป”ไอ้บลูส่ายหน้าไม่ชอบใจ
“กูชอบมึง!!”ผมตะโกนดังลั่นทั่วรถของเรา ไอ้บลูรีบปิดหูตัวเองหนี
“ไม่เอาสิ ให้พูดไม่ใช่ให้ตะโกน”
“วุ้ยรำคาญจริงนะมึง ไอ้นู้นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่ดี ตกลงมึงจะเอายังไง?”ผมเริ่มตีขรึม มันเขินครับสัส ให้มาบอกรักผมเขิน
“เอาใจมึงนะ กูขอ”ไอ้บลูเอื้อมมือมาเตะหน้าอกผมแล้วจิ่มๆเบาๆ แหม นี่ก็ไวเหลือเกิน อ่อยระดับสองใส่ผมด้วย ผมแสยะยิ้มร้ายแล้วรวบมือไอ้บลู
“หึ เอาตัวกูไปเลยดีกว่า กูยกให้!”ไอ้บลูหน้าแดงขึ้นมาเป็นกอง หลังเข้าใจความหมายที่ผมสื่อ มันถามผมใช่ไหมว่าก่อนหน้านี้นะที่ถามผมว่า ผมเคยมีความฝันไหม? แล้วความฝันของผมคืออะไร?
ฝันของผมนะหรอ?
'ก็อยู่เคียงข้างมันตลอดไป แค่นั้นเอง'
--- The end --[/center][/size][/left]


ดีค้าาา ลองแต่งเรื่องสั้นดูนะคะ เรื่องนี้มีทั้งหมด  9 คู่นะคะ  :mew3:
เดี่ยวคืนพรุ่งนี้จะต่อด้วยคู่พี่ปิ้กสายเปย์กับน้องว่านค่ะ ยังไงก็ฝากน้องๆทุกคนไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ
 เพจ ตีนกระต่าย จะเริ่มอัพจนกว่าจะหมดทุกคู่ 555 https://web.facebook.com/teenrabbit/?ref=settings
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก (บลูสกาย)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-02-2017 23:28:14
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก (บลูสกาย)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-02-2017 23:51:54
น่ารักดี มาอัพให้ครบทุกคู่น๊า จะรออ่าน เป็นกำลังใจให้ค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก (บลูสกาย)
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 06-02-2017 17:02:24
สนุกจ้าชอบเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก (บลูสกาย)
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 06-02-2017 21:38:55
รอค่ะรอ  มีอีก 9 คู่ ขอหวาน ๆ นะคะ o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก (บลูสกาย)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-02-2017 22:51:17
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก (บลูสกาย)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 07-02-2017 00:21:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 08-02-2017 23:24:24
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ


เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 08-02-2017 23:34:29
                                                                                           
                                                                                       คู่จิ้น1 ปิ๊ก-ว่าน



เสียงเพลงบรรเลงเบาเสนาะหูกับเสียงอันไพเราะปนเศร้าที่ได้ยินกี่ครั้งต่อกี่ครั้งผมก็ร้องไห้น้ำตาไหลทุกที...
~โปรดกลับมาได้ไหม?
โปรดอย่าจากผมไป
คำขอโทษที่ผมควรเอ่ย..
แต่วันนี้ผมกลับไม่กล้าพอ
 ในสายตาคุณ ผมอาจไม่ดีไปแล้ว
 โปรดอยู่กับผมนะกลับมาอยู่กับผมเหมือนเดิม~

ทั้งที่เป็นเพลงต่างภาษาที่ผมเกลียดนักเกลียดหนา แต่ผมกลับจำท่อนร้องนี้ได้แม่นยำเมื่อดูซับแค่ครั้งเดียว เพื่อนๆมากมายที่นั่งบนรถบัสพร้อมกับผมต่างร้องเพลงกันสนุกสนานมีเพียงผมที่ นั่งซึมฟังเพลงเบาๆคนเดียวกับหูฟังตัวโปรด

เช้านี้ผมมีนัดฟิตติ้งเลือกคู่จิ้นของตัวเองด้วยแต่เพราะติดมาถ่ายสารคดีนอกสถานที่กับเพื่อนในกลุ่มเลยทำให้พวกเรากลับมาดึกเพราะไอ้เพื่อนทั้งหลายเที่ยวเล่นกันเยอะมากกว่ามาทำงาน ผมเองก็อดที่จะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ

ตอนนี้ เข้าตี 3 แล้วแต่พวกเรายังอยู่อีกไกลกว่าจะถึงมอ. หวังว่าจะถึงมอ.ก่อน 8 โมงเช้านะ ผมไม่อยากผิดนัดวันแรกด้วย..


ปริ้นๆๆ

 
"เอาล่ะครับทุกคน ตื่นๆกันได้แล้ว ถึงมอ.แล้ว!"เสียงเพื่อนคนนึงโทรโค่งประกาศให้พวกเราตื่นจากการนอนเมื่อถึงมอ.เราแล้ว ผมรีบมองดูนาฬิกาทันที


08:34 น.

ให้ตาย สายขนาดนี้ ป่านนี้คนอื่นคงเลือกคู่จิ้นของตัวเองไปหมดแล้ว ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย เสื้อก็เหม็นเพราะใส่ตั้งแต่เมื่อวานไม่ได้เปลี่ยนด้วย

เอียดดดด ผมค่อยๆเปิดประตูห้องสตูฯที่นัดไว้อย่างกล้าๆกลัว ทุกคนในห้องต่างหันมามองกันเป็นตาเดียว

"เข้าๆดิว่ะ มัวยืนขวางอยู่ได้"ผมไม่ทันได้พูดอะไร เสียงคนข้างหลังที่มาสายกว่าผมขัดขึ้น นี่ยังมีคนมาสายกว่าผมอีกสามคนหรอ? ผมว่าผมสายแล้วนะ ยังจะมีอีกหรอ??

"เอ้าๆๆ เข้ามาๆค่าา อย่ามัวแต่ยืนเลยจ้า"
หนุ่มร่างอ้วนที่ดูจะดัดจริตเกินชายเข้ามาเชิญชวนพวกเราทั้งสี่คนเข้ามา

"เออ ขอโทษนะครับ ที่มาสาย"ไม่รู้ว่าเจ้แกคือใคร แต่ไหว้ขอโทษก่อนดีกว่า เพราะผมผิดเวลาจริงๆ ไอ้พวกรุ่นพี่ 3 คน ผมดูจากการใส่เสื้อนะครับน่าจะเป็นรุ่นพี่ไม่เห็นจะรู้สึกรู้สาอะไรทั้งที่มาสายด้วยกันเลย

"ว่าน มาสายมากเลยน่ะ"ไอ้ตุลย์เข้ามาทัก ผมเคยเรียนวิชามหาลัยกับไอ้ตุลย์มาวิชาหนึ่งครับ เราอยู่กลุ่มเดียวกันเลยรู้จักกัน
"อือ ไปถ่ายสารคดีนอกสถานที่นะเลยกลับมาเลท ขอโทษนะ"ผมบอกเหตุผลให้ไอ้ตุลย์เข้าใจ

"อ้อๆ ไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ก็มีคนขาดๆไปด้วย"

"อ้าว ยังมาไม่ครบอีกหรอ ก็นึกว่ามาสายคนเดียวซะอีก!"ไอ้ตุลย์หัวเราะออกมา คงมีคนมาสายกว่าผมอีกแน่

"เออลืมแนะนำไปเลย นี่พี่สอง เอ้ย เจ้สองน่ะ เจ้มาช่วยงานฟิตติ้งถ่ายโปสเตอร์ให้น่ะ"ยัยเจ้สองยิ้มแป้นทักทายผมทันที ดูจากท่าแล้วเจ้แกก็คงน่าคบด้วยได้มั้งนะ


"ดีครับเจ้สอง!!"
"จ้า ดีๆ น้องว่านสินะ ว่านคู่กับพี่ปิ้กนะ เชื่อสายตาเจ้เถอะ รับรองรุ่ง!!!"
ผมแทบอึ้งเมื่อได้ยินชื่อพี่ปิ้กลอยมา

เมื่อกี้ๆ เจ้แกพูดว่าผมคู่กับพี่ปิ้กใช่ไหม?

"เออ เออ เดี่ยวผมมาน่ะครับ"ทั้งเจ้สองและไอ้ตุลย์ดูจะตกใจที่ผมรีบวิ่งออกไปหลบหลังประตูที่เข้ามาเมื้อกี้


วูฮฮฮฮฮ พี่ปิ้กๆๆๆๆๆๆ

ผมอยากจะกรี้ดดังๆให้คนได้รู้ว่าตัวเอง มีความสุขแค่ไหนที่จะได้ใกล้ชิดพี่ปิ้ก รุ่นพี่ที่ผมแอบชอบ!!!!...
ผมดิ้นดุกดิกๆดีใจบ้าคนเดียวจนพอใจแล้วกลับเข้ามาใหม่ด้วยท่าทีนิ่งปกติ ไอ้ตุลย์กับเจ้สองมองหน้ากัน ยังงงอีก

"ผมพร้อมแล้วครับ ไปกันเถอะ"

"จ้าาน้องว่านแต่พี่ปิ้กมีติดเรียนธีสีสด่วนนะเช้านี้ อาจจะมาเลทสัก2ชั่วโมงจ้ะ"
อ้าว ไหงเป็นงั้นล่ะ?

"แล้ววันนี้ผมจะถ่ายกับใครล่ะครับ หรือต้องรอพี่ปิ้กครับ?"

"ต้องรอพี่ปิ้กค่ะ!!"เป็นอันจบข่าวครับ ผมเลยได้แต่จำใจเข้าไปแต่งตัวตัวคนเดียว เหงาหงอยกันไปเลย คอนเซปเป็นคู่ ให้ถ่ายเดี่ยวก็ไม่ได้ด้วย ผมเดินมานั่งดูทุกคนถ่ายรูปพร้อมเสียบหูฟังฟังเพลงเบาๆก่อนจะเคลิ้มหลับไป



เคาะๆๆ

เสียงเคาะโต๊ะสามครั้งปลุกให้ผมสะดุ้งตื่น หูฟังของผมร่วงลงไปตอนไหนก็ไม่รู้ แสงไฟส่องเข้ามากระทบโดนใครคนนึงที่ยืนอยู่ต่อหน้าผม ผมค่อยๆเพ่งมองเขาก่อนจะตกใจเมื่อร่างสูงขยับหน้าลงมาใกล้หน้าผม นี่มัน มัน...

"ดีครับ น้องว่านใช่ไหม รอพี่นานหรือเปล่า?"เสียงนุ่มรื่นหูทักทายผม นี่มันพี่ปิ้กนี่น่า พี่ปิ้กจริงๆด้วย!!

"พะ..พี่ปิ้ก@_@"กระพริบตา 3 ที..

ผมตกใจล้นลานจนลุกตกเก้าอี้อย่างจังพี่ปิ้กรีบเข้ามาช่วยผม

"เฮ้ น้อง...ค่อยๆลุกนะ!"

มีความเขิน มีความหวั่นไหวครับ ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลย พี่ปิ้กก็มายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว

 
"พี่ปิ้ก สวัสดีครับ"ผมเก้ๆกังๆยกมือไหว้ทักทายพี่ปิ้กซะเลย

"เออ หวัดดี!"

"ครับ!!"เรายืนเงียบกันชั่วหนึ่ง พี่ปิ้กปล่อยมือจากผม เสียดาย~~"
"อ้าว มาสักทีนะคะน้องปิ้ก มาๆค่ะตามเจ้มา เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วจะได้ถ่ายโปสเตอร์คู่สักที ดูสิค่ะน้องว่านนอนรอจนน้ำลายไหลยืด ผม หมดหล่อแล้ว"เจ้สองว่า ผมรีบเช็คน้ำลายของตัวเองอย่างรวดเร็ว ไหนว่าน้ำลายผมไหลไง ก็ไม่เห็นมี พี่ปิ้กหัวเราะที่ผมโดนหลอกก่อนเจ้าตัวจะถูกเจ้สองลากไปเปลี่ยนเสื้อ ผมแวะเข้าห้องน้ำตรวจดูตัวเองแล้วเดินกลับมา

ตึกตักๆๆๆ
เสียงหัวใจผมเต้นแรงก่อนจะหยุดนิ่งไป1วินาที วินาทีนี้ผมตะหลุมรักพี่ปิ้กอีกครั้ง
โ อ ม า ย ก้ อ ด!!!
พี่ปิ้กแต่งตัวออกมาแล้วยิ่งหล่อเกินต้านทาน

"แหมๆๆ อย่ามัวแต่อึ้งในความหล่อของพี่ปิ้กสิค่ะน้องว่าน มาค่ะมา มาซับหน้าก่อนค่ะ!"
ผมล่ะเกลียดคนรู้ทัน พี่ปิ้กอมยิ้มน้อยๆ นั้นยิ่งหล่อขึ้นกว่าเดิม

"เฮ้..นี่พี่หล่อจนถึงกับอึ้งจริงๆหรอ?"ยังจะมาถามอีกเนาะ คนเรา เห้อ!!
"บ้า ใครอึ้ง ไหนๆ หมาตัวไหนมันอึ้งในความหล่อของพี่ ไม่มี๊ไม่มี!!"บางทีผมก็ว่าพี่ปิ้กคงไม่เชื่อหรอก เห็นเจ้าตัวยิ้มชอบใจพลางสำรวจตัวเองอีกครั้ง

หล่อทะลุกำแพง...แล้วพี่^^"

"เอาล่ะจ่ะ เรามาเริ่มถ่ายรูปคู่กันสักทีนะค้า น้องปิ้ก น้องว่านขยับเข้ามาใกล้กว่านี้หน่อยนะคะ ชิดๆเลยค้าา"เราทั้งคู่ต่างขยับเข้าหากันและก็เริ่มถ่ายรูปสักที

"ขออนุญาตินะครับ"พี่ปิ้กเดินมายืนข้างหลังผมแล้วสวมกอดผมไว้ เสี้ยวหน้าของเขาตั้งพิงบนบ่าผม ผมยืนทื่อเกร็ง มันไม่คิดว่าพี่ปิ้กจะกล้าทำขนาดนี้

"ครับ"ผมก้มหน้างุด แอบเขินเขา
"น้องว่านจ๋าาา เงยหน้าแล้วหันมองพี่ปิ้กเขาสัก 45 องศานะคะ"เสียงเจ้สองดังลอยเข้ามา ผมเลยจำต้องทำ แต่พอหันหน้ามาเจอพี่ปิ้ก ทุกสิ่งรอบข้างเหมือนจะมลายหายไป ไม่อยากเชื่อเลยว่า วันนี้พี่ปิ้กจะอยู่ใกล้กับผมขนาดนี้


การถ่ายรูปคู่ของพวกเราดำเนินการไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่พี่ปิ้กจะเป็นคนโพสท่า แล้วให้ผมทำตาม ผมเริ่มจะคลายอาการเกร็งเพราะพี่ปิ้กชวนผมคุยและก็ยังใจดีมากกว่ายัยป้าเจ้สองนั้นอีก เราสองคนสบตากันหลายครั้งมาก มากจนผมหวั่นไหวสั่นสะท้านไปหมด ผมควบคุมรอยยิ้มตัวเองให้หุบไม่ได้เลย

"เอาค่ะ ภาพสุดท้ายแล้ว เจ้ขอให้น้องว่านนั่งบนตักน้องปิ้กเลยค้าาา ส่วนมือก็โอบพี่ปิ้กไว้นะคะน้องว่าน น้องว่านจ้า รู้งานตลอดเลยนะคะ"ผมนั่งลงบนตักพี่ปิ้กและโอบกอดอย่างที่เจ้สองขอ พี่ปิ้กกอดเอวผมไว้พลางยื่นหน้าเข้าใกล้ผม แบบนี้มันจะดีหรอ?? หัวใจผมเต้นตุบตับๆจนหน้าแดงกันไปหมดแล้ว

"น้องว่านจ้ะ ไม่สบายหรือเปล่าค้าา หน้าแดงๆ"เจ้สองถามผมอย่างแปลกใจพี่ปิ้กยกยิ้มนิดๆ

"อ้อ เปล่าครับ ว่านมันร้อนมากกว่า จริงไหมว่าน?"พี่ปิ้กเป็นคนตอบแทน แถมยังมีหน้ามาถามผมอีก มันใช่เรื่อง
ไหมที่จะมาแกล้งผมตอนนี้
"...."
"แหม เจ้ก็เป็นห้วง เป็นห่วง!"ผมควรดีใจไหมที่เจ้แกแทคแคร์ดีขนาดนี้ แต่ไม่เอาจับนิดจับน้อยได้ไหม ผมกลัว

"ขอบคุณนะครับเจ้"
พี่ปิ้กแอบยิ้มขำคนเดียว กว่าเจ้แกจะไป ผมกับพี่ปิ้กก็เปลือง ตัวไปไม่น้อย

"เอาค่ะๆๆ พร้อมนะคะ รูปสุดท้ายแล้ว ขอหล่อๆนะคะทั้งสองคน"ผมกับพี่ปิ้กต่างมองตากันอีกครั้ง อีกนิดได้ไหม? ใกล้อีกนิดได้ไหม ผมจะจูบกับพี่ปิ้กแล้ว
แชะ!!
"โอเค จบงานค้า สลายตัวได้ค่ะทุกคน"
ทุกคนในสตูฯต่างวุ่นวายกับการเก็บเข้าของ ผมกับพี่ปิ้กยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
"เสร็จจากนี้แล้วไปหาอะไรกินไหม เดี่ยวพี่เลี้ยงเอง!"
"@_@"ผมไม่ได้หูแว่วไปใช่ไหม??
เมื่อกี้พี่ปิ้กชวนผมไปหาอะไรกินด้วยกันงั้นหรอ?
"ว่าไง ตกลงไปนะ"พี่ปิ้กถามย้ำ โอ้ยๆผมจะละลายหมดแล้ว
"คือพี่ปิ้กครับ ผมปวดฉี่ ขออนุญาตไป เข้าห้องน้ำก่อนนะครับ"ผมรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว มันอั้นมานานแล้ว
พี่ปิ้กอดที่จะยิ้มมาให้เมื่อผมแวบหันไปมองเขา
"ตกลงว่าไงครับ ไปด้วยกันนะ?"
"ครับ!"ต้องรออะไรอีกล่ะครับ นาทีทองแบบนี้ต้องคว้าไว้ก่อนละครับ

พี่ปิ้กยืนรอผมเปลี่ยนเสื้อนักศึกษาเสร็จแล้วพาผมมาหาอะไรกินกันจริงๆ ผู้คนรอบข้างต่างมองพวกเรากันจนผมเริ่มจะรู้สึกแปลกๆ พี่ปิ้กหันไปแจกยิ้มให้คนรอบข้างที่มองมา ผมเลยยิ้มตาม
"เขามองพวกเราทำไมครับพี่ปิ้ก?"ผมกระเทิบตัวถามพี่ปิ้กใกล้ๆ เห็นทุกสายตาจ้องมองมาแล้ว ทำตัวไม่ถูก
"ก็พวกเราดังไง อย่าบอกนะว่าไม่เปิดเพจดูนะ?"พี่ปิ้กบอก ผมเลยสั่นหัวให้
"ผมยุ่งๆกับการถ่ายสารคดีงานกลุ่มนะพี่ เลยไม่ได้เปิดดูเลย ทำไมหรือครับ หรือว่ามีอะไรอัพแล้ว?"พี่ปิ้กไม่ตอบแต่ยื่นมือถือตัวเองเปิดเพจให้ผมดู


10Minutes
สิบนาทีที่แล้ว มีการอัพรูปที่ผมกับพี่ปิ้ก

ถ่ายคู่กันด้วย โอโน่ววว!!

"โห!!! มีคนกดไลค์ให้พวกเราด้วย!!"
ผมแอบตะลึง มันแบบไม่ถึงชั่วข้ามคืนมีคนรู้จักเรามากขนาดนี้เลยหรอ ทั้งที่วันก่อน ผมยังเป็นไอ้ว่าน เด็กธรรมดาๆที่ชอบปลีกตัวอยู่คนเดียวอยู่เลย ที่ผมมาสมัครโครงการนี้ เหตุผล ข้อเดียวเลยครับ อยากเก็บชั่วโมงกิจกรรมให้ครบ 100 ชั่วโมงก่อนหมดเทอมนี้ก็แค่นั้น แต่ไม่คิดว่าชั่วข้ามคืนผมจะกลายเป็นคนที่คนอื่นรู้จักไปแล้ว

"อื้ม..พี่เองก็แปลกใจ แต่มาได้คู่กันแบบนี้ก็ดีน่ะ นายไม่เรื่องมากแถมไม่บ่นด้วย พี่ชอบ"
"...."เอิ่ม พูดมาแบบนี้ ผมก็ไปไม่ถูกสิครับพี่ปิ้ก

"อ่าครับ สั่งอาหารไหมครับ ผมหิวแล้ว!"ต้องรีบเปลี่ยนเรื่องครับ เดี่ยวพี่ปิ้กจับได้ว่าผมกำลังจะหน้าแดงอีกเพราะเขิน
"งั้น เรามาทำความรู้จักกันใหม่นะ พี่ชื่อปิ้กนะ"

"ครับ ผมชื่อว่านครับ"เราสองคนจับมือแนะนำตัวกันไป แต่มันใช่หรอ?? ก็ถ้าพี่ปิ้กจะแนะนำแค่นี้ ไม่ต้องดีกว่าไหม ไหนๆผมก็รู้จักชื่อเล่นพี่ปิ้กแล้ว

"โอเค งั้นจะเอาอะไรเป็นพิเศษไหม เดี่ยวพี่ไปสั่ง"

"ขอข้าวผัดน้ำพริกปลาทูเผ็ดๆนะครับ แล้วก็โกโก้เย็น"

"ครับผม รอแปปนะครับ เดี่ยวพี่มา"พี่ปิ้กหยีหัวผมพลางยิ้มแล้วลุกไปสั่งอาหาร นี่ผมได้ใกล้ชิดกับพี่ปิ้กเร็วขนาดนี้เลยหรอ? ไม่อยากจะเชื่อเลย ระหว่างพี่ปิ้กไปสั่งอาหาร ผมเลยลองหยิกแขนตัวเองเบาๆ นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?? ทำไมๆๆพี่ปิ้กถึงได้หล่อขนาดนี้...

"แล้วตกลงคู่เราจะเอากิจกรรมอะไรดี บอกเลยพี่ไม่เอาปลูกป่าฯน่ะ กลัวดำ!" คู่เราๆๆๆ คำๆนี้ยังสะท้อนก้องในก้นบึ้งของสมอง ผมไม่รับรู้อะไรนอกจากพี่ปิ้กที่อยู่ตรงหน้าแล้ว พี่ปิ้กเดินกลับมานั่งพร้อมโกโก้เย็นของผมกับน้ำเปล่าขวดหนึ่งของตัวเอง
"ขอบคุณครับ จริงๆมันมีสิ่งที่ผมคิดๆนะครับ เป็นความต้องการที่ผมอยากทำ คือผมอยากจะไปเยี่ยมน้องๆผู้ด้อย
โอกาสหรือว่าเด็กกำพร้าสักครั้งนะครับ คือผมคิดไว้นะครับว่าจะทำโครงการนี้ระหว่างที่อยู่ในมหาลัย ไม่รู้พี่ปิ้กจะเห็น
ด้วยหรือเปล่า?"

"เอาดิ ถือว่ายังดีกว่าไปตากแดดปลูกป่าก็แล้วกัน"

"^____^" พี่ปิ้กเห็นด้วยกับผม ผมยิ้มออกทันที ตอนแรกก็ใจเต้นลุ้นอยู่ว่าพี่ปิ้กจะเห็นชอบไหม การได้ไปเยี่ยมเยือน
บ้านเด็กกำพร้าหรือผู้ด้อยโอกาสมันเป็นเสมือนการเตือนสติตัวเองไม่ให้หลงลืมแถมได้กลับไปยังสถานที่ที่ให้ชีวิตใหม่กับผมด้วย
ผมเติบโตมาที่นี่ครับ บ้านเด็กกำพร้า และผมจะไม่มีวันลืมพระคุณของที่นี่เลยแม้ผมจะได้ดิบได้ดีแค่ไหนก็ตาม



"จริงๆนะครับ พี่ปิ้กเห็นด้วยแล้วนะ ห้ามเปลี่ยนใจนะ ขอบคุณนะครับพี่ปิ้ก"
ผมนั่งอึ้งกับความคิดของเด็กตรงหน้า ตัวก็แค่นี้แต่ความคิดมันยิ่งใหญ่มาก ผมเองมากกว่าสุขสบายมาตลอดจนลืมที่จะใส่ใจคนที่ไม่มีเหมือนกับผม ทั้งที่แม่ผมออกจะใจดี ทำบุญเยี่ยมเยียนเด็กกำพร้าและเด็กผู้ด้อยโอกาเสมอ ถ้ามันกับแม่ผมเจอกันนะคงจะคุยกันถูกคอแน่

"ครับ"ยิ่งเห็นน้องว่านยิ้ม ผมยิ่งคิดถึงแม่ รอยยิ้มของมันเหมือนแม่ผมจริงๆ  แต่ว่ามันนะจะเป็นคนแบบไหนนะ? ผมเริ่มจะอยากรู้จักซะแล้วสิ นอกจากความคิดแล้วนิสัยจะคล้ายแม่ผมไหมนะ?

ระหว่างนั้นข้าวที่สั่งก็มาเสิร์ฟทันที ผมสั่งพิเศษให้มันด้วย กินอะไรก็ไม่รู้ 'ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู' อย่างกับอาหารแมวเลย ส่วนของผมนี่เลยครับ ซุปเนื้อรสเลิศ ปลาสามรส ไข่เจียวสี่สหาย และผัดเผ็ดปลากะพง ส่วนของหวานก็มีฝักทองเชื่อม บัวลอยและก็สุดท้ายพิเศษสุดของโปรดผมเองโค้กขวดใหญ่บิ้กที่ผมรู้ดีว่าร้านนี้มี เพราะผมแวะมาฝากท้องเสมอ..

"เออ...พี่ปิ้กครับ นี่จะมีคนมากินเพิ่มหรือครับ?"น้องว่านถามผมอย่างไม่ค่อยแน่ใจ ผมแอบสังเกตสีหน้าน้องมันเริ่มเหวอ
ตั้งแต่อาหารเริ่มเสิร์ฟจนเด็กเสิร์ฟจากไปมันก็ยังคงเอ่อๆอยู่

"ก็ไม่นะ พวกนี้พี่สั่งมาเพื่อฉลองกับว่านไง?"ผมบอกน้องมันไปตามความจริง

"ฉลอง??"

"ฉลองที่เราได้เป็นคู่จิ้นกันไง!!"ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่น้องมันก็ยังไม่ดีใจอยู่ดี ความจริงคือ ปกติทุกๆมื้อ ผมจะกินแบบนี้เสมอ อาจเพราะเคยชินกับการกินแบบที่บ้าน กินไม่หมดก็เทให้ไอ้จ่อยกิน ไอ้จ่อยคือ หมาของผมเอง++

"ปกติพี่ปิ้กกินแบบนี้ทุกวันหรือครับ?"หน้าน้องที่ถาม คือแบบโคตรเหมือนผมดูเป็นตัวประหลาดเลย

"ก็ใช่ พี่กินแบบนี้ทุกวัน ทำไมหรอ?"

"อ้อ เปล่าครับ แค่ผมไม่เคย แล้วเยอะขนาดนี้จะกินหมดหรือครับ?"
ผมตักกับข้าวใกล้ตัวใส่จานระหว่างที่ฟังน้องถาม เหมือนกำลังถูกสัมภาษณ์ยังไงไม่รู้
 
"กินไม่หมดก็เทสิครับ!"ผมโดนน้องตีแขนอย่างไม่เข้าใจ

"ตีทำไมนี่ พี่เจ็บนะ!!"ผมหันมาโวยน้อง

"ก็พี่ปิ้กนิสัยเสีย กินทิ้งกินขว้าง ไม่นึกถึงคนที่เขาไม่มีอันจะกินเลย "

อ้าว โดนสวดเหมือนแม่เลย ผมตักเอาซุปเป่าเบาๆเลยป้อนไอ้น้องว่านเลย หูจะพังเหมือนอยู่บ้านจริง
"กินไปเลยนะครับ กินเลย พี่รวยพี่เลี้ยงน้องว่านได้ครับแล้วก็เลิกบ่นเป็นแม่พี่เลยนะ!!"
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 08-02-2017 23:54:09
[ต่อ]
"กินไปเลยนะครับ กินเลย พี่รวยพี่เลี้ยงน้องว่านได้ครับแล้วก็เลิกบ่นเป็นแม่พี่เลยนะ!!"

ผมบีบแก้มน้องว่านเมื่อป้อนมัน ทำไมทีแบบนี้สวดเอาจริงเอาจัง มันนิสัยเหมือนแม่ผมชัดๆ พอป้อนเสร็จไอ้น้องว่านก็งอนผมใส่ สงสัยซุปคงจะร้อนแต่เวลาน้องมันงอนก็ น่ารักดีนะ ผมอดที่จะหยีหัวเอ็นดูไม่ได้

"พี่ปิ้กอย่าเล่นหูสิครับผมโกรธจริงๆด้วย"น้องมันว้าพร้อมตักเอาข้าวกิน แถมยังไม่ยอมเตะต้องอาหารมากมายที่ผมสั่งไว้ด้วย

"อ้าว ไมไม่กินล่ะ พี่สั่งมาเต็มเลยน้าา"

"ไม่เอาล่ะครับ แค่จานเดียวผมก็อิ่มแล้ว พี่ปิ้กกินไปเถอะครับ"มีหยิ่งด้วย ผมแอบขำพร้อมทั้งตักซุป ตักปลาให้น้องมันเอง พออาหารอยู่ในจาน ไอ้เด็กที่บ่นๆไม่กินๆก็ต้องกินล่ะครับ เรากินข้าวกันเงียบๆสักครู่ พอผมเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นกิจกรรมที่เราต้องทำน้องมันก็เริ่มคุยต่อ จนเราทานข้าวเสร็จ ผมว่าผมคุ้นๆหน้าน้องมันนะ เหมือนๆเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน...

"อิ่มไหม?"เห็นน้องมันกินข้าวหมดเกลี้ยงแล้วอดคิดถึงแม่ไม่ได้ รายนั้นนะบ่นผมตลอดที่ผมกินเหลือ

"อิ่มครับ ผมกินเพื่ออยู่ ไม่ได้อยู่เพื่อกิน"โดนอีกล่ะครับ ผมยังไม่ว่าอะไรเลย

"ครับๆ งั้นเช็คบิลนะ หรือว่าอยากกินอะไรอีกหรือเปล่า สั่งได้นะ?"

"ไม่เอาล่ะครับ"น้องส่ายหัวให้ คงอิ่มจริงผมเลยเรียกเด็กมาเช็คบิล

"เออคือ..เอาใส่กล่องกลับหน่อยได้ไหมครับ ผมเสียดาย" ผมกำลังจะยื่นบัตรเพื่อจ่ายเงินมีถึงกับอึ้ง น้องมันขอให้ใส่กล่องกลับด้วย

"ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้อง"ผมเงยหน้าสั่งเด็กเสิร์ฟที่มาเช็คบิล ให้หอใส่กล่องนี่นะ ใครเห็นเข้าว่าทายาทคนเดียวของคุณหญิงป่านขี้งกขนาดนี้ มีหวังอายคนตายเลย

"เอาใส่กล่องเถอะครับ ใส่!!"ก็ลองดูสายตาอ้อนนั้นสิครับ กระพริบตา3ทีอีกแล้ว

"โอเค ใส่ก็ใส่ แต่นายเอากลับไปกินล่ะกัน บอกก่อนว่าพี่ไม่กินข้าวซ้ำ"

"ครับ"ไอ้น้องว่านยิ้มออกทันที จะเอาของเหลือกลับทำไมไม่รู้...อายเขาจะตาย ระหว่างกำลังขับรถกลับไอ้น้องว่านเอาแต่ชะเง้อมองร้านโดนัทไม่วางตา

"อยากกินหรอ? เดี่ยวพี่ลงไปซื้อให้เอาไหม?"ร่างเล็กที่หอบเอาถุงกับข้าวที่ขอพากลับส่ายหัวพลางยิ้มมาให้

"ขอบคุณครับ..พอดีผมแค่รู้สึกว่าพรุ่งนี้อยากกินโดนัทนะครับ!"แปลกเนาะ คนเราจะรู้ด้วยหรือว่าพรุ่งนี้จะหิว จะอยากกินอะไรน่ะ?? ผมหันไปสนใจทางเดินต่อ ไอ้น้องว่านติดหูฟังมาก มันมักจะใส่ทุกที ใส่จนชินแน่ผมว่า เพราะไม่ว่าจะเริ่มทำอะไรมันจะหยิบเอา หูฟังมาเสียบตลอด

"แล้วนี่พักหอในหรือหอนอก พี่จะได้ไปส่งถูก"

"หอในครับ หอ4 ชั้น2ห้อง6 ครับ"โห บอกมาละเอียดเลยครับ 04206สินะ ผมจำได้ล่ะเดี่ยวจะขึ้นไปหา หึหึ!!

"ว่านๆ ถึงหอแล้วนะ!"ผมปลุกเจ้าตัวเล็กที่ดูท่าจะหลับสนิทคงเพราะหนังท้องตึงหนังตาเลยหย่อน มันเลยหลับนะครับ ผมอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ทำไมยิ่งมองแล้วยิ่งคุ้นนะ เคยเจอมันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้

"อ่อครับ ขอบคุณนะครับพี่ปิ้ก ถ้ายังไง เรื่องกิจกรรมเดี่ยวค่อยพูดกันอีกทีนะครับ?"ใจจริงอยากจะชวนมันไปคอนโดผมมากกว่า แต่ดูแล้วน่าจะไม่เหมาะมันคงจะมีธุระที่ต้องทำ ไม่ก็คงมีเรียน วันนี้ผมว่างด้วยสิ ขี้เกียจกลับบ้านด้วย นอนตากแอร์คนเดียวก็แล้วกัน..

"อื้ม!!"เห็นน้องมันเดินเซๆจะข้ามหญ้าเหมือนแม่ปูแล้วอดขำไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังเดินชนประตูใสทางเข้าอีก ให้ตาย โก้ะจริงๆเลย!! ตอนเจอเมื่อเช้ามันก็ตกเก้าอี้ล้มพับด้วย

Rrrrrrrrrn Rrrrrrrrrn
"ครับมามี้ กำลังคิดถึงพอดีเลย"ผมยังจอดรถไม่ขับไปไหน พอแม่โทรมาหน่อยเลยถือโอกาสรับสายเลย เห็นไอ้น้องว่านเดินขึ้นบันไดไปชั้น2 เรียบร้อย เดี่ยวสิ เรายังไม่ได้แลกเบอร์กันเลยแล้วอย่างนี้จะนัดเจอกันได้ยังไง??

"ไม่กลับมาบ้านหรือค่ะลูกปิ้ก มามี้รออยู่น้าาา"เสียงใสของแม่ดังลอดมา แม่คงคิดถึงผมแน่ ปกติผมเรียนเสร็จแล้วจะตรงดิ่งไปหาทันที

"วันนี้ขอผ่านนะครับมามี้ ผมขี้เกียจกลับ นะครับ เหนื่อยจะขับรถครับ"บางวันที่ไม่ทีอารมณ์ผมเองก็ไม่อยากฝืนตัวเอง

"โถ งั้นมามี้ส่งคนรถไปรับดีไหมครับลูก ฟิตติ้งรูปคู่คงเหนื่อยสินะคะ?"แม่ถามถึงเรื่องเมื่อเช้า จะว่าไปก็ไม่ได้เหนื่อย
อะไรมาก แต่ผมขี้เกียจไปๆมาๆ ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องมาเรียนแต่เช้าอีก..

"ไม่ดีกว่าครับผมไม่มีอารมณ์กลับนะครับ คิดถึงมามี้นะครับ จุ้ฟๆๆ"กับแม่ต้องอ้อนเยอะๆครับ มีแม่คนเดียวต้องรักกัน หน่อย..

"จ้ะ ไม่กลับก็ไม่กลับ ดูแลตัวเองนะลูก ปิ้ก แม่คิดถึงลูกจ้ะ!"ผมวางสายแม่ไปแล้วขับรถออกจากมอ.


Rrrrrrrrrn Rrrrrrrrrn
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ผมหยิบมันขึ้นมามอง คราวนี้ไม่ใช่แม่แต่เป็นเพื่อนผมมากกว่า'ไอ้ริท'
"ว่า???"
(มารับกูหน่อยดิ รถเสีย!!)เจริญล่ะเพื่อน

"เออๆๆ มึงอยู่ตรงไหนว่ะ? เดี่ยวไปรับเลย ตอนนี้อยู่ในมอ."

(หลังติดวิทย์ว่ะ มาเร็วๆกูร้อน!) สัสริทนี่! "เออ ให้ไปรับแล้วเสือกเร่งนะมึง"

ตู้ดๆๆๆ
ไม่ทันครับ ไม่ทันจะด่าไอ้เพื่อน อนุบาลก็วางสายไป แม่ง..ไม่น่าคบกับมันเลย ผมเลยจำต้องเวียนพวงมาลัยขับไปยังตึกวิทย์ไปรับเพื่อนสมัยอนุบาลอย่างไอ้ริทที่รถมันเสียนะครับ กับไอ้ริทแล้ว เราเคยเรียนอนุบาลด้วยกัน หลังจากผมย้ายไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งแต่เด็ก เราก็ไม่เจอกันเลย เพิ่งมาเจอก็ตอนเรียนมหาลัยนี่ล่ะ โชคดีที่ครอบครัวเราสองฝ่าติดต่อกันมาตลอด เราเลยไม่ได้หายกันไปไหน พอเจอกัน พ่อแม่แนะนำให้รู้จักพร้อมมีภาพสมัยใสๆเป็นหลักฐานประกอบด้วย

 "แหม กว่าจะมานะ กูร้อนตายห่าแล้วมึง?"แทบจะทันทีที่ผมจอด ไอ้ริทก็บ่นเป็นหมีอดกินน้ำผึ้ง ผมส่ายหน้าไม่แยแส

"กูมาก็บุญล่ะ มึงเหอะโทรตามช่างหรือยัง?"ไอ้ริทเดินเข้าในรถ ตากแอร์ไล่เหงื่อไม่เกรงใจเจ้าของอย่างผมเลย

"เรียบร้อย อีก5 นาทีคงมาลากรถไปนะ มึงหาไรกินกัน กูหิว!"

"แต่กูอิ่ม เพิ่งกินมาเอง"ผมเถียง

"ท้องมึงป่ะ? แต่นี่ท้องกู มันหิวๆๆๆๆ"ไอ้นี่ โตจนมีเมียแล้วยังเสือกงอแงเป็นเด็ก

"ให้กูโทรเรียกเมียมึงมาไหม?"พอพูดถึงเมียมันเท่านั้นแหละไอ้เพื่อนตัวดีก็สงบลง

"เฮ้ย เอาดิๆ เดี่ยวนี้น้องตุลย์เอาเวลาสนใจเรื่องโครงการคู่จงคู่จิ้นของมึงจนไม่มีเวลาให้กูแล้วT^T"ไอ้ริทฟ้อง ฟ้องเพื่อ...?

"แล้ว ความผิดกูหรอ?"เห็นสาวๆหลายคนที่เดินผ่านไปผ่านมายิ้มส่งมาให้ ผมเลยยิ้มตอบ ตอบไปตามมารยาทล่ะครับ ไม่รู้จักสักคนเลย..
"เออ เมื่อก่อนก็ฮอตเพราะสายเปย์บ่อย เดี่ยวนี้ฮอตเพราะคู่จิ้นนี่ มีคู่แล้วลืมเพื่อนดิ!" ไอ้ริทเริ่มพาลแล้ว ไม่รู้กับเมียมันจะทำตัวแบบนี้หรือเปล่า?

"เออดิ เหมือนมึงไงมีเมียแล้วลืมกู!!"ผมก็ไม่อยากจะหยอกย้อน แต่พอคิดถึงตอนที่มันเจอน้องตุลย์..มันไม่คิดจะโทรหาผมเลย
"อ้าว จริงหรอ? ทำไมเค้าไม่รู้ตัวเลยตะเอง^~^"เกลียดเพื่อนสมัยอนุบาลของตัวเองจริงๆ

"พอๆๆเลิกทำแอ็บแบ้วได้ล่ะ พอรู้กูแพ้ลูกอ้อนหน่อย เสือกใช้บ่อยนะมึง!"ก็อย่างที่ว่าล่ะครับ ผมแพ้ลูกอ้อน ใครส่งสายตามางี้ คือยอมครับ! ไอ้ริทรู้และก็ใช้บ่อยเวลาจะให้ช่วยอะไรสักอย่าง..

"ขับรถสิแล้วพากูไปหาไรแดก"ผมก็ยอมทุกทีและก็ไม่วายโทรหาเมียมันให้ไปกินด้วย น้องตุลย์ยอมมาแต่โดยดี..

หลังกินข้าวบ่ายเสร็จผมเลยแวะซื้อโดนัทติดมือมาด้วยเลย ไหนๆก็ขี้เกียจกลับไปนอนที่ห้องคนเดียว ผมเดินตามหาห้อง04106 ตามที่ไอ้คู่จิ้นตัวเองบอกไว้ พอเดินขึ้นมาเดินหาไม่กี่ก้าวก็เจอ บานประตูห้องมันเปิดทิ้งไว้ ผมจึงถือวิสาสะมารอหน้าประตู..

เอาตามตรงผมไม่เคยอยู่หอในสักครั้ง สภาพห้องที่กว้างพอควรแต่อยู่กันตั้ง 6 คน ผมว่ามันแคบไปนะสู้คอนโดผมกว้างกว่านี้อีก


"มาหาใครหรือครับ?"
เสียงเด็กคนนึงซึ่งน่าจะเป็นรูมเมทไอ้น้องว่านแหละเดินมาถามผม

"เออ มาหาว่าน ว่าจะเอาโดนัทมาฝาก!"ผมยกกล่องโดนัทกล่องใหญ่เป็นหลักฐานให้น้องมันดู

"เอ้ๆๆ พี่ปิ้กไหมครับนี่ พี่ปิ้กจริงๆด้วย เชิญครับเชิญ ไอ้ว่านนอนอยู่พี่ไปปลุกมันเองเลยครับ"น้องอีกคนเดินมาดูผมให้แน่ชัดพลางเชิญให้ผมเข้ามาข้างใน

"ใครว่ะ?"น้องคนก่อนหันมาถามเพื่อน
"ก็พี่ปิ้กที่เป็นคู่จิ้นกับไอ้ว่านไง มึงมันเอ้าท์ว่ะนนท์ มือถือน่ะเปิดเล่นบ้าง จะได้ทันโลกกับเขา ไม่ใช่วันๆสนแต่สารเคมีคลุกอยู่ห้องแลปตลอดเวลา"เป็นอันต้องมีการเทศนาระหว่างเพื่อนกันเลยทีเดียว ผมเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเตียงไอ้น้องว่านที่มันหลับ ก็อยากปลุกแต่เกรงใจมัน

"ไม่ปลุกหรือพี่ เดี่ยวผมปลุกให้ก็ได้?" น้องใจดีคนเดิมเตรียมจะปลุกว่านแต่ผมห้ามไว้ก่อน

"ไม่เป็นไรครับ ปล่อยว่านนอนเถอะ ดูสินอนตัวคดตัวเล็กจริงๆ"

"มันนอนแบบนี้แหละพี่ นอนเหมือนจะเหลือที่ให้อีกคนมานอนเลย!"ผมแอบแสยะยิ้ม ให้อีกคนนอนด้วยงั้นหรอ ไหนๆ
ก็ตั้งใจมาหามันแล้ว นอนกับมันเลยก็แล้วกัน ไอ้เด็กสองคนก่อนหน้านี้ชิงไปเข้าแลปคนหนึ่งและอีกคนก็ลงไปหาซื้ออะไรกิน มันเลยเหลือเพียงผมกับมัน

จิ่มๆๆ(สะกิดมันนะครับ)

"นี่ๆๆว่าน พี่ขอนอนด้วยนะ?"แอบกระซิบใกล้ๆหูมัน

"อื้อออ!"ได้ยินมันเออออแล้วผมจึงล้มตัว นอนกอดมันเสียเลย เอวมันเล็กมากจริง


 "คุยกับใครนะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว?"

ผมอดที่จะแปลกใจเมื่อเห็นไอ้น้องว่าน แอบตื่นมาคุยโทรศัพท์หลังห้อง ตื่นก่อนก็ไม่รู้จักปลุกผมด้วย ไอ้เราก็อุตส่าห์ซื้อโดนัทที่มันอยากกินพรุ่งนี้มาให้

"พี่ปิ้กตื่นแล้วหรือครับ?"ไอ้น้องว่านรีบวางสายไปด้วยรอยยิ้ม หงุดหงิดจัง รอยยิ้มแบบนั้นทำไมต้องยิ้มให้คนอื่นด้วย หรือว่าแฟนของมัน หรือมันมีแฟนแล้ว โอ้ย แล้วผมเป็นบ้าคิดอะไรคนเดียวด้วยเล่า

"ผมโทรไปคุยขออนุญาตเรื่องสถานที่ ที่เราจะไปทำกิจกรรมครับ เขาอนุญาตแล้วด้วย ดีใจไหมครับ?" อ้อ แบบนี้นี่เอง ก็นึกว่ามันดีใจอะไรกับใครซะอีก!!

"ก็ดี อ่ะนี่โดนัท ที่บอกว่าอยากกินพรุ่งนี้นะ!!"

"โหพี่ปิ้ก ซื้ออะไรมาเยอะแยะครับผมกินคนเดียวไม่หมดหรอก?"น้องมันดูตกใจเหมือนเดิม เยอะอะไรกันแค่ 100 ลูกเอง ซื้อมาให้มันทุกรสเลยเพราะไม่รู้มันชอบกินรสไหนบ้าง?

"ไม่หมดก็ทิ้งดิ โอ้ย ตีอีกแล้วน่ะ!!"ผมลูบแขนตัวเองไล่อาการเจ็บที่น้องว่านตี..

"กินทิ้งกินขว้างอีกแล้วนะครับพี่ปิ้ก อีกอย่างที่ผมอยากกิน ผมก็แค่อยากชิมแค่นั้นไม่ได้หวังจะกินจนพุงแตกขนาดนี้!!"ไอ้น้องว่านยังตีผมไม่เลิก แถมยังบ่นเป็นแม่อีก

"โอเคๆ เข้าใจแล้วๆ งั้นเรามากินกันเถอะ นายอยากกินไม่ใช่หรอ?"

"ที่ผมบอกอยากกิน ผมอยากกินพรุ่งนี้จริงๆไม่ใช่วันนี้สักหน่อย!"ให้ตาย นี่น้องมันคิดจะกินพรุ่งนี้จริงๆงั้นหรอ?

"ว่าแต่พรุ่งนี้มันจะบูดไหมครับ เสียดายของจัง^^" ดูท่าทางจะเสียดายจริงๆ

"ก็ถ้าไม่อยากให้บูดล่ะก็ พี่มีวิธีนะ!!"


ผมพลิกตัวหันมาแทบตกใจเมื่อเห็นพี่ปิ้กนอนกอดผมอยู่ พี่ปิ้กมาได้ไง??แต่ผมก็เลิกสนใจเมื่อเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นแล้วลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ข้างหลังห้องกลัวรบกวนพี่ปิ้กนอนครับ หลังเราคุยเรื่องที่จะเก็บโดนัทไม่ให้บูด พี่ปิ้กก็เลยลากผมมายังคอนโดของเขา

"พาผมมานี่ทำไมครับ?"
ผมยังคงหอบโดนัทกล่องใหญ่แนบกาย กับข้าวที่เอากลับมาเมื่อช่วงบ่ายผมก็หอบพามาด้วยแม้พี่ปิ้กจะบอกให้โยนทิ้งตลอดเวลา..

 "พามาหาที่เก็บโดนัทไม่ให้บูดไง?"พี่ปิ้กผายมือเชิญให้ผมเข้ามาในห้องของเขา มันหรูหราอลังการเว่อวังจริงๆเมื่อเทียบกับที่ที่ผมเคยได้รู้จักมา

"โห..เดือนเท่าไรล่ะครับนี่ คงแพงน่าดู"

ผมพูดจริงๆเลยว่า คนอย่างผมคงไม่มีปัญญาเช่าคอนโดแพงๆแบบนี้แน่ แค่อยู่หอในก็เพียงพอแล้ว!!
"แค่ไม่เท่าไรเอง เดือน 25,000 นะ"

@_@ 25,000 เลยหรอ? ค่าหอเทอมเดียวของผมแค่ 2,800 เอง พี่ปิ้กนี่โคตรคุณหนูเลย ผมเคยคิดอยากใกล้ชิดเขานะแต่พอรู้ แบบนี้แล้ว ผมว่าผมอยู่ที่เดิมดีกว่า...


"เออ อาบน้ำก่อนก็ได้นะถ้าจะอาบนะ หรือว่าจะดูหนังอะไรเชิญเลือกดูตามสบายเลยนะ เดี่ยวพี่มา แปปๆ"
พี่ปิ้กเดินไปคุยอะไรสักอย่างกับโทรศัพท์บ้าน ผมเลยเลือกที่จะตั้งข้าวของที่หิ้วมาด้วยวางไว้ที่โต๊ะอาหารแล้วไปนั่งเลือกหนัง มาดูมีเรื่องมากมายเลยที่ผมบอกกับตัวเองว่าอยากดูแต่ก็ไม่มีเวลาดูจริงๆจังๆสักที พอเลือกเรื่องที่จะดูได้ผมก็เปิดเครื่องเล่นดีวีดีจอใหญ่มาดูอย่างตื่นเต้น พี่ปิ้กเดินเลยไปอาบน้ำ เพราะบ่นๆว่านอนอยู่ในห้องผมมันร้อน

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป..
ติ้งต้องๆ
"อาหารมาเสิร์ฟครับ?"เสียงกดกริ่งข้างนอกดัง ผมรีบหันไปอย่างแปลกใจ แต่พอดูที่จอมอนิเตอร์ข้างประตูแล้วมีคนมายืนหน้าห้องพี่ปิ้ก จึงรู้ได้ทันทีว่า พี่ปิ้กสั่งข้าวมาอีกแล้ว ทั้งที่ของเมื่อเช้า ยังกินไม่หมดเลย

"พี่ปิ้ก มีคนมาเสิร์ฟข้าว พี่ปิ้กสั่งหรือครับ?"ผมเคาะประตูห้องน้ำถามพี่ปิ้ก ร่างสูงเปิดประตูออกพร้อมสั่ง

"ครับน้องว่าน!!"พี่ปิ้กออกไปจ่ายบิลทั้งที่ยังอยู่ในชุดอาบน้ำ คนนี้ก็ชอบทำผมหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มและเสียงนุ่มๆของ เขาเสมอ
"ขอบคุณนะครับ!"พี่ปิ้กจ่ายค่าอาหารเรียบร้อย อาหารถูกนำมาวางบนโต๊ะมากมาย ผมมองพี่ปิ้กด้วยความเซ็งจิต ฟุ้งเฟ้อจริงๆเลยผู้ชายคนนี้ ก็รู้ว่าบ้านรวยแต่กินแบบนี้ทุกมื้อมีหวังจนได้สักวัน

"ว่านนั่งรอพี่แปปนะครับ ขอแต่งตัวก่อนแล้วจะออกมากินด้วยกัน"ผมไม่ได้ตอบอะไรพี่ปิ้กแล้วเลือกที่จะเดินไปดูหนังที่ค้างต่อ มารู้ตัวอีกทีทั้งโดนัทและอาหารเมื่อตอนบ่ายก็ไม่อยู่บนโต๊ะแล้ว นั่งรอจนพี่ปิ้กแต่งตัวเสร็จ ร่างสูงก็ลากผมมากิน ข้าวด้วยกัน ผมเลยต้องหยุดค้างหนังอีกครั้งเพื่อไปกินข้าว ว่าแต่เราสนิทกันหรอ? พี่ปิ้กถึงได้ทำตัวแบบนี้กับผม!!

"พี่ปิ้กครับ แล้วอาหารที่ผมถือมาล่ะครับ โดนัทด้วย?"

"อ้อ โดนัทพี่ก็เก็บไว้บนนั้นไงครับ นั้นไง ส่วนอาหารที่เหลือพี่เอาให้แม่บ้านไปทิ้งแล้วครับ!"ชัดเลย นิสัยน่ะพี่ปิ้ก ถ้าจะเอาไปทิ้งแบบนั้นผมจะหิ้วพากลับมาทำไมกันล่ะ พี่ปิ้กห้ามผมถามอะไรอี ก เจ้าตัวจัดการตักกับข้าวป้อนให้ผมกิน ผมยังไม่หิวเท่าไรแต่ก็ต้องกินอยู่ดี พี่ปิ้กห้ามผมจะล้างจานโดยบอกว่าเดี่ยวจะมีแม่บ้านขึ้นมาล้างจานให้ทันทีที่เขาเรียกแต่ผมไม่ยอมหรอกเรื่องอาหารก็ตามใจเขาแล้วเรื่องล้างจานผมขอตามใจตัวเองบ้าง ไม่ทำอะไรทั้งวันเดี่ยว เป็นง่อยกันพอดี

"พี่ปิ้กก็อย่าเบียดสิครับ ผมล้างจานอยู่ นะครับ?"

ผมโคตรจะหงุดหงิดพี่ปิ้ก ก็เจ้าตัวนะสิ ไล่ให้ไปนั่งก็ไม่ยอม บอกไม่อยากดูหนังคนเดียวแต่พอให้ล้างด้วยกลับบอกว่าล้างไม่เป็น เดี่ยวมือเสีย กระแด้ะเหลือเกิน.. แต่พอผมล้างจานอยู่คนเดียวเขากลับมาโอบกอดผมเฉยเลย เป็นบ้าอะไรของเขาอีกนะ เอาแต่ใจจริงๆ

"ก็ล้างไปดิ นี่เป็นบริการจากการเป็นคู่จิ้นหรือเปล่าหื้ม?"เขาถามขณะกอดผมอยู่มือพี่ปิ้กจุ่มลงน้ำฟองสบู่จับมือผมไว้ทั้งสองข้างแล้วล้างจานไปด้วยกัน

"บริการอะไรเล่า แค่ล้างจาน แขกที่ดีเขาก็ทำกัน มีแต่พี่สิที่ไม่ทำแน่นอน!"ผมเชื่อว่าถ้าเป็นพี่ปิ้ก เวลาเขาไปไหนเขา
ไม่ทำแบบนี้แน่นอน คุณหนูซะ!

"ฮ่าๆ รู้ใจด้วย ถือว่าเป็นคู่จิ้นที่น่ารักมาก"ปากหวานอีกล่ะ ผมไม่หวั่นไหวง่ายๆหรอกนะ


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-02-2017 08:58:10
Copy กฎของเล้าไม่ครบนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 09-02-2017 13:13:35
อ๊ายๆ มาต่อแล้ว รอตอนต่อไปจ้าา  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (ต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 09-02-2017 13:30:53
รบกวนพิมพ์วันที่ที่ลงไว้ด้วยนะคะ   จะได้ทราบว่าเป็นหัวข้อเก่าหรื่อที่ลงใหม่  ขอบคุณค่ะ :3123:
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน [End] 9/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 09-02-2017 18:38:57
ปิ้กว่าน (จบ)


"ไม่ต้องมาพูดเลยพี่ปิ้กก็ล้างน้ำเปล่าสิครับเดี่ยวผมล้างน้ำสบู่เอง"ผมพยายาม ไล่เขาให้ออกห่างจากตัวแต่พี่ปิ้กก็ไม่ยอมยังคงยืนยันจะล้างจานกับผมอยู่ดี แต่อยู่กันแบบนี้ผมเองก็รู้สึกแปลกๆนะ

"ไม่ล่ะ อยู่กับว่านดีกว่า ตัวก็หอม แก้มก็นุ่มๆ มือก็เล็กถนัดมือด้วย แบบนี้พี่ชอบ!"


นับจากที่พี่ปิ้กบอกแบบนั้นผมยิ่งทำตัวไม่ถูกกับเขา อะไรคือความหมายที่เขาบอก แต่แปลกที่หลังจากนั้นพี่ปิ้กติดตัวผมแจ

เวลาดูหนังพี่ปิ้กก็ขยับมานั่งชิด แถมยังอ้าแขนไปโอบเอวผม ขนมขยะมากมายที่พี่ปิ้กหยิบมาตั้งไว้บนโต๊ะมีมากจนผมไม่ไหวจะ

หยิบมากิน พี่ปิ้กยังกินได้อีกแถมยังป้อนผมให้กินด้วย การเป็นคู่จิ้นกันเขาเป็นกันแบบไหนนะ??

"พอแล้วครับ อิ่มแล้ว พุงยื่นแล้ว!"ผมกระซิบบอกพี่ปิ้ก หนังก็อยากดูแต่กระจิตกระใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวล่ะ

"จริงหรอ ไหนดูสิ ดูพุงหน่อย!!!"พี่ปิ้กเลื่อนมือมาเปิดเสื้อผม ผมรีบห้ามอย่างไว มันไม่เหมาะนะแบบนี้

"อย่านะครับพี่ปิ้กๆๆ"

"ไหนดูๆ นี่สินะพุงน้อยของน้องว่าน"จุบ พี่ปิ้กเปิดเสื้อผมจนได้ก่อนจะจุบพุงของผม ใจจริงก็ไม่ใช่พุงหรอกผมก็แค่พูดให้พี่ปิ้กเลิกป้อนผมสักที ผมอิ่มจนท้องแน่นไปหมดต่างหาก แต่พอพี่ปิ้กจุบหน้าท้องผมแล้ว บอกเลย ตอนนี้ผมเริ่มจะหวั่นไหวกับพี่ปิ้กแล้วร่างสูงที่คร่อมตัวผมยิ้มหวานส่งให้

โอ้ยๆ ตึกตักๆๆๆๆ

"พี่ปิ้กสายเปย์เป็นสามีน้องว่านน่ะ!!!"

"ครับ"@_@

ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หลงกลตอบไปอย่างนั้น พี่ปิ้กดูจะดีใจมาก ฉวยโอกาสจุบแก้มนุ่มของผมอีก.เรากลับมานั่งดูหนังกันอีกครั้งจนจบ พี่ปิ้กหากิจกรรมให้เราสองคนเล่นเพื่อจะได้รู้จักอีกฝ่ายให้มากขึ้น ผมก็ไม่คิดนะว่าเกมจ้องตาตอบคำถามจะทำให้เราใกล้ชิดกันขนาดนี้



กติกาก็ง่ายๆครับ... ใครกระพริบตาก่อนคนนั้นแพ้และต้องตอบคำถามของอีกฝ่ายแค่นั้น!!

"นายแพ้แล้ว พี่ถามล่ะ?"พี่ปิ้กเหมือนจะดีใจมากที่ผมแพ้ เขาหัวเราะ หัวเราะแล้วน่ารัก!

"ถามว่า..เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า?" เอาแล้วไงคำถามนี้ตอบยากด้วยเราเจอกันนับครั้งไม่ถ้วนแต่พี่ปิ้กเองคง จำไม่ได้..

"เคยครับ!"เพราะคำถามไม่ได้ถามว่าที่ไหน ผมเลยบอกเฉพาะแค่เท่าที่พี่ปิ้กอยากรู้ และพอเล่นเกมอีกครั้ง ผมก็แพ้อีก

"งั้นถามต่อนะ เราเจอกันครั้งแรกที่ไหน?"

โอะโอ คำถามนี้ผมไม่อยากบอกเลย โอโนววววววว!!

"เจอกันที่ห้องแลปครับ ผมโกะคิดว่าประตูเปิดเลยวิ่งตรงเข้าไปแต่ก็อย่างว่าล่ะครับ ชนกระจกประตูไปอย่างจัง พี่ปิ้กกับเพื่อนหัวเราะดังลั่นเลย อาย!"

"ฮ่าๆๆ ก็ว่าอยู่ทำไมคุ้นๆหน้า!"พี่ปิ้กหัวเราะยกใหญ่คงเพราะนึกภาพวันนั้นได้ ผมเลยตีเขา ทำไมชอบหัวเราะเยาะผม ก็ไม่รู้..เราเล่นเกมกันอีกครั้ง คำตอบที่ได้ของพี่ปิ้กคือ..

พี่ปิ้กชอบสีน้ำเงิน ,
 ชอบกิน,
รวยมาก,
ไม่ชอบเลข3,
แต่ก่อนไม่มีคนที่ชอบแต่ตอนนี้มีแล้ว,
พี่ปิ้กชอบฤดูฝนเกลียดฤดูร้อน,
แพ้ไม่มี..ยิ้มคืออาวุธร้ายและเป็น สายเปย์มาตลอด

 ผมควรจะดีใจไหมที่ รู้เรื่องแต่ละอย่างของพี่ปิ้กแล้ว เราหยุดเล่นลงเมื่อผมจะขอตัวกลับ
"พี่ปิ้กผมอยากกลับหอแล้ว!"

 "กลับทำไมล่ะ นอนนี่ล่ะ มีเรียนกี่โมงเดี่ยวพรุ่งนี้พี่ไปส่ง?"ผมยึดยักจะกลับแต่พี่ปิ้กก็รั้งไม่ให้กลับ...

"บ่ายโมง ผมว่าผมกลับดีกว่านะครับ มันแปลกๆเราเพิ่งจะรู้จักกัน พี่ปิ้กกล้าชวนผมนอนหอตัวเองเลยหรือครับ?"

"ก็แล้วไง ถ้าของหาย นายแหละที่ขโมยเพราะพี่ไม่เคยพาใครเข้าห้องตัวเองสักครั้ง"

ตึกตักๆๆ หัวใจผมหวั่นไหวอีกแล้ว พี่ปิ้กจะบอกผมเพื่อ...?
 
แค่นี้ผมก็หวั่นไหวไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรของวันแล้ว ผมไม่อยากยุ่งกับเขาแล้ว แต่ทำไมเหมือนพี่ปิ้กจะให้ความหวังผมนะ เป็นแบบนี้ตลอดไปสักวันผมคงใจอ่อนเพราะเขาแน่

"พี่ปิ้กครับผมอยาก.."

"นอนนี่นะ"
.
.
.
.
"นะครับ^^"

"ครับ!!"เกลียดตัวเองที่หวั่นไหวไปกับเขา...



ผมอดแปลกใจไม่ได้เมื่อกลับมาเรียนตามปกติของช่วงภาคบ่ายในวันนี้ พี่ปิ้กมาส่งนั้นก็เรียกสายตาทุกคนได้เป็นอย่างดี ไม่รู้ในเพจมีอะไรเคลื่อนไหวไหมผมว่า คนอื่นๆมองผมแปลกๆ พอตกเย็นหน่อย พี่ปิ้กก็มารับผมอีก

"พี่ปิ้กมีอะไรหรือเปล่าครับ?"ผมถามเมื่อเห็นพี่ปิ้กยิ้มๆแปลกๆ

"อ่ะ ไปซื้อมาให้ก็บ่นว่าอยากกินวันนี้ไม่ใช่หรอ?"ผมมองกล่องโดนัทอย่างแปลกใจ ไปซื้อมาให้ คืออะไร คือพี่ปิ้กซื้อมา
ให้ใหม่หรอแล้วของเมื่อวานล่ะ?

"ซื้อมาใหม่แล้วที่ซื้อมาเมื่อวานล่ะครับ?"

"อ้อ พี่ให้แม่บ้านทิ้งล่ะมันแข็งนะเดี่ยวไม่อร่อย!"

"พี่ปิ้ก!!"
นิสัยนะผู้ชายคนนี้แต่พี่ปิ้กกลับยิ้มที่โดนผมตีแขนอีก คนอื่นต่างมองพวกเรา

"ว่าแต่อยากรู้นะ ทำไมอยากกินวันนี้?"ผมจำต้องเอาโดนัทมาเพราะอายที่จะถูกคนอื่นมอง

"ก็วันนี้วันเกิดผมนะครับ เลยอยากกินวันนี้"
ได้ยินเสียงอ้อ จากพี่ปิ้ก รายนี้ก็สายเปย์ตลอด เปย์จนไม่รู้จักถามคนที่อยากได้เลย ผมยังอดเสียดายโดนัทเมื่อวาน แค่แข็งก็ยังกินได้ เสียดายจริงๆ...ผู้ชายคนนี้นี่..ไม่น่าคบด้วยแล้ว!!




"โอ้ยพี่ปิ้กๆ จะพาผมไปไหนๆ?"
ผมร้อง โวยวายเมื่อหลังจากที่แยกกันช่วงเย็น ตกค่ำราวห้าทุ่ม ผมนอนหลับอยู่บนห้อง อยู่ดีๆพี่ปิ้กก็เข้ามาอุ้มผมจากห้อง นี่มันเข้าข่ายอุ้มผมเลยนะ!!!

จะพาผมไปไหน???

ผมยังอยากจะรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเองอยู่นะครับบบบ

"ไม่พาไปปล้ำหรอกน้า"และดูสายตาเจ้าเล่ห์นี่สิ จะไม่ให้ผมกลัวได้ไง?
 
"ใครจะยอมให้พี่ปล้ำล่ะ!!"ผมหันมาต่อว่าเมื่อพี่ปิ้กขับรถพาผมมายังคอนโดของเขา บอกดีๆผมก็ยอมมาเหอะ>^^<


"เอาล่ะ จะเปิดล่ะน้า แอ้นๆๆๆ"

ผมยืนมองพี่ปิ้กที่กำลังทำตัวแปลกหน้าห้องตัวเองอย่างสงสัย แต่พอประตูเปิดเท่านั้นแหละ

โอโห@_@

พี่ปิ้กจัดฉากมาให้เรียบร้อยนี่มันงานวันเกิดที่หรูจริงๆสำหรับผมเลยป้ายวันเกิดตัวใหญ่ กับไฟกระพริบรอบข้าง จัดได้ถูกใจผมจริงๆ

"พี่ปิ้กครับนี่มัน.."ผมซาบซึ้งจริงๆ

"ก็เพิ่งบอกเลยจัดได้แค่นี้นะ ยังไงก็แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะมีความสุขมากๆ อยู่เป็นคู่จิ้นกับพี่ไปนานๆนะครับและก็ มาสร้างความสุขไปด้วยกันนะ"ผมพยักหน้ารัวๆ พี่ปิ้กใจดีกับผมจังทั้งที่เราเพิ่งจะได้รู้จักกันเอง

การฉลองวันเกิดปีนี้ของผม ผมไม่ได้ฉลองคนเดียวอีกต่อไปแล้ว พี่ปิ้กซื้อของขวัญให้ผม 19 กล่อง เพื่อให้เท่ากับอายุของผม

มันเป็นวันเกิดที่ผมได้ของขวัญเยอะกว่าทุกปีเช่นกัน กับผู้ชายที่ชื่อพี่ปิ้ก สายเปย์ของเขาไม่ลดหย่อนลงจริงๆสินะ ไว้ผมค่อยๆ

สอนเขาประหยัดล่ะกัน ขืนเป็นแบบนี้ตลอดชีวิต เขาได้จนสักวันแน่

และอาจจะไม่มีเงินเป็นมรดกให้ลูกหลานแน่นอน!



และแล้ววันแห่งการดำเนินกิจกรรมก็มาถึง ผมกับพี่ปิ้ก เราช่วยกันสร้างโครงการเล็กๆนี้ทุกอย่าง ทั้งการดำเนิน งานเบื้องหลังและ

เบื้องหน้า มีพี่ๆจากทีมสต้าฟของพวกไอ้ตุลย์บลูสกายมาช่วยด้วยอีกแรง ในวันนี้เรากำลังไปร่วมเพิ่มรอยยิ้มให้กับเด็กที่ด้อย

โอกาสและเด็กกำพร้าที่ผมเคยอยู่ สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าบ้านเอมิเรตส์ หรือที่ผมกับน้องๆมักจะเรียกสั้นๆว่า บ้านเอฯ ผม

แอบตื่นเต้นที่วันนี้ได้กลับมาบ้านตัวเองแล้วระหว่างรถกำลังจะจอดสนิท น้องๆและแม่ณี แม่บุญธรรมของพวกเรายืนรอต้อนรับด้วยรอยยิ้ม

"พี่ว่าน คิดถึงจังเลย!!"
ไม่ทันได้ก้าวลงจากรถถึงพื้น น้องๆก็ต่างกันมากรูหาผมและยังกอดด้วยความคิดถึง ผมเองก็เช่นกัน

"แม่ณีสวัสดีครับ"
ผมไหว้ทักทายแม่บุญธรรมที่ดูแลพวกเราทุกคนที่นี่พร้อมกอดแม่ณีสักครั้งหลังจากหายไปนาน ทุกคนต่างทยอยลงมา น้องๆของ

ผมเลยถือโอกาสมอบพวงกุญแจที่ทำเป็นที่ระลึกแจกต้อนรับครับ พี่ปิ้กอดแปลกใจไม่ได้เมื่อมองผมที่ดูจะรู้จักกับคนที่นี่ด้วย

"แม่ณีครับ นี่พี่ปิ้กครับ พี่ปิ้กครับ นี่แม่ณี แม่บุญธรรมของผม"พี่ปิ้กไหว้สวัสดีแม่ณีตามขนมธรรมเนียม แม่ณีเองก็ยิ้ม
หน้าบานเมื่อได้พบหน้าพี่ปิ้ก รุ่นพี่ที่เป็น คู่จิ้นของผมนะครับ

"ดีจ้ะลูก บ้านเรายินดีต้อนรับจ้า"
แม่ณี เชิญชวนพี่ปิ้กและทุกๆคนเข้ามายังสถานที่ที่เตรียมเอาไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน มีพิธีการกล่าวต้อนรับและการแจกของว่างมาดูแลทุกคนเช่นเคยจำได้ว่าตอนผมอยู่ที่นี่ผมเคยอยู่ในตำแหน่งเด็กล้างจานตลอดเลย ฝ่ายต้อนรับ ฝ่ายบริการนะหรอ ผมขอบายครับ เป็นเด็กก้นครัวสบายออก หิวเมื่อไรก็แอบกินได้ ฮ่าๆ


กิจกรรมของพวกเราได้เริ่มต้นขึ้นโดยพี่ปิ้กและผมขึ้นไปเล่นทายเกมส์และแจกรางวัลกับน้องๆ เหล่าเพื่อนๆแฟนคลับ
ที่มากัน53คนต่างก็ร่วมเล่นกิจกรรมกับน้องๆอย่างสนุกสนาน

ผมเองก็สนุก พี่ปิ้กก็สนุกๆ แฟนคลับของเราก็สนุก น้องๆก็สนุก ยิ่งแม่ณียิ่งยิ้มตลอดวันเมื่อเห็นเราทุกคนมีความสุข


และเชื่อเถอะครับ... เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ



Rrrrrrrrrn
 เสียงริงโทนเพลงใหม่ ซิมใหม่ เครื่องใหม่ที่พี่ปิ้กซื้อมาให้ผมใช้ดังขึ้น ทำเอาผมตกใจเพราะตั้งใจว่าจะนอน เรากลับมาจากบ้าน

เอฯได้ถึงสองทุ่ม พี่ปิ้กตั้งใจจะลากผมไปนอนหอเขาด้วยแต่ผมเกรงใจเลยขอปฏิเสธ แม้ระยะเวลาสามเดือนที่รู้จักกันมาจะทำให้

เราสนิทกัน รู้จักกัน แต่ผมก็ยังอดที่จะเกรงใจพี่ปิ้กไม่ได้ พี่ปิ้กใจดีเสมอ สายเปย์ตลอด ขนาดมือถือยังซื้อมาให้ผมใช้ฟรีๆอีกต่าง

หาก เหตุผลง่ายๆครับ พี่แกบอกว่า ฮีโร่ของผมมันเชย.. ยุคนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว เขาเลยซื้อเครื่องใหม่ มาใหม่ล่าสุดและแพงหูฉี่

จนผมไม่กล้าใช้สักเท่าไร ตั้ง 29,999 บาทอยู่ ชาตินี้ผมไม่คิดจะซื้อมันแน่!!

 และเครื่องนี้ผมจะใช้ก็แค่โทรหาพี่ปิ้กคนเดียวเพราะเมมไว้แค่เบอร์เดียวในเครื่องนี้ ส่วนฮีโร่ของผม ผมก็ยังใช้ปกติ โชคดีที่ไม่ถูกพี่ปิ้กโยนเข้ากองขยะน่ะ!!

"ครับพี่ปิ้ก"ผมรับสายพลางนอน เพื่อนๆคนอื่นในห้องพากันหลับหมดแล้ว ห้องปิดไฟมืดสนิท

(นอนยัง?) พี่ปิ้กถามคำถามเดิมๆ

"กำลังจะนอนครับแต่พี่ปิ้กโทรมาก่อน"

(งั้นหรอ เออ งั้นนอนเถอะ)
ผมแอบไม่เข้าใจ พี่ปิ้กเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่ยอมพูด

"ครับ แล้วพี่ปิ้กเป็นอะไรหรือเปล่าครับ หรือไม่ง่วง?"

(เปล่าๆ นอนเถอะไม่มีอะไร)
ก็พี่ปิ้กบอกอย่างนั้น ผมเชื่อก็ได้..

(งั้น ฝันดีนะ)
พี่ปิ้กบอกลาผม


"ครับฝันดีเช่นกัน ผมจะวางนะครับ?"บอกเพื่อจะได้แน่ใจว่าพี่ปิ้กจะไม่บอกหรือถามอะไรที่อ่ำอึ้ง

(เฟสบุ้คนะ ถ้าว่างๆเปิดดูบ้างนะ รอกดแอดเพื่อนมานานแล้ว!!)

พี่ปิ้กละลักละล่ำบอกผมก่อนจะกดวางสายไป ผมลืมไปเลยว่ามือถือใหม่ที่พี่ปิ้กซื้อให้มีโปรเน็ตตลอดปีแต่ผมก็ยังเคยชินกับการไม่ติดโซเชียอยู่ดี

ผมเปิดเอาโซเชียวที่พี่ปิ้กต้องการให้เปิด แอบตกใจกับยอดเพื่อนที่แอดเข้ามาขอเป็นเพื่อน หนึ่งในนั้นคือเฟสพี่ปิ้ก แต่ผมไม่รู้ว่าเฟสไหนคือเฟสพี่ปิ้กเพราะ มันมีเฟสแฟนคลับที่คลั่งไคล้หยิบเอารูปพี่ปิ้กใส่รูปโปรมาด้วย


"พี่ปิ้กครับ คือว่าเฟสพี่ปิ้กเฟสอะไรหรือครับ?"ผมโทรไปถามพี่ปิ้กตรงๆ ให้ตายสิครับ ผมนี่มันเป็นคู่จิ้นที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย

(PIC PATINTORN SUKSAWAD เดี่ยวพี่แอดเพื่อนไปใหม่ก็แล้วกันนะ)

"ครับ^^"
ผมวางสายพี่ปิ้กแล้วรอการแอดเพื่อนมาใหม่ของพี่ปิ้กไม่กี่วินาทีต่อมาพี่ปิ้กก็กดแอดเพื่อนมา ผมกดรับแอดเพื่อนทันที เลื่อนดูหน้าวอลตัวเองก่อนและก็พบว่าหน้าวอลตัวเองมีแต่สิ่งที่แฟนคลับคู่เราแท็กผมกับพี่ปิ้กเต็มไปหมด

'กดเลื่อนดูหน้าวอลพี่ปิ้กหน่อยดีกว่า'

ผมแอบคิดเฉยๆแต่มือกลับเลื่อนไปหน้าวอลพี่ปิ้กแทบทันที บนหน้าวอลพี่ปิ้กมองไม่เห็นสิ่งที่แฟน คลับแท็กมา พี่ปิ้กคงตั้งค่าไว้แน่ จะเห็นก็แต่สิ่งที่พี่ปิ้กโพสต์ไว้เท่านั้น ...

ผมแอบตะลึงเมื่อหน้าวอลพี่ปิ้กมีแต่รูปของผม รูปผมทุกรูป เลื่อนลงไปดูตั้งแต่วันแรกๆที่เรารู้จักกัน พี่ปิ้กโพสต์รูปผมตั้งแต่วันแรกที่เรามาฟังการประกาศผลคนที่ผ่านการคัดเลือกคู่จิ้นทั้ง18คน...เราอยู่ด้วยกัน ใกล้กันแต่ทำไมผมไม่เคยสังเกตเลย..

ภาพแรกคือภาพที่ผมกำลังจะขึ้นมาบน เวทีในวันที่ประกาศผลคนผ่านคัดเลือก พร้อมกับแคปชั่นสั้นว่า

#จองคนนี้ #คู่จิ้นของผม #ปิ้กว่าน^^"

ผมเผลอยิ้มออก นี่พี่ปิ้กจองเป็นคู่จิ้นกับผมตั้งแต่ตอนนั้นเลยรึไง จำได้ว่าตอนที่ไปยืนเคียงข้างพี่ปิ้กบนเวที พี่ปิ้กส่งยิ้มหวานมาให้ด้วย ผมก็แค่ยิ้มทักทายแค่นั้น ไม่คิดว่าในวันนี้เราจะได้มาเป็นคู่จิ้นกัน..

ภาพสองเป็นภาพที่ผมนอนรอพี่ปิ้กในวันที่ถ่ายภาพฟิตติ้งคู่จิ้นกัน พี่ปิ้กถ่ายไว้ด้วย น่ารักจัง!
#รอจนหลับเลย #ขอโทษนะ #ปิ้กว่าน


#พาน้องมากินข้าวครั้งแรก #ปิ้กว่าน
ผมแอบตกใจ วันนั้นพี่ปิ้กถ่ายแผ่นหลังผมด้วย คงเป็นตอนที่เขาวิ่งไปสั่งอาหาร

#คนอะไรรู้ด้วยว่าพรุ่งนี้จะหิวโดนัท ^^#ปิ้กว่าน
คราวนี้เป็นรูปโดนัทมากมายที่พี่ปิ้กซื้อให้วันนั้นแต่ผมก็ไม่ได้กินสักชิ้น อีกวันพี่ปิ้กก็ซื้อมาใหม่ เปลืองเงินจริงๆผู้ชายคนนี้...

#วันเกิดน้อง #เพิ่งรู้ #จัดให้ได้แค่นี้หวังว่าคงจะชอบนะ #HBDว่าน #ปิ้กว่าน
ภาพตอนที่ผมกำลังจะเป่าเค้กในห้องที่มืดนั้น พี่ปิ้กก็ยังถ่ายทันอีก เหลือเชื่อจริงๆ วันนั้นผมได้ของขวัญตั้ง 19 กล่องด้วย แต่ละ

อย่างที่เปิดออกมานั้นทำเอาผมแทบอึ้ง ทั้งนาฬิกาทอง ทั้งเงิน ทั้งบัตรกำนันต่างๆ บัตรเครดิตของตัวเองที่ยกให้ ไหนจะบัตรดู

หนังฟรีตลอดปี บัตรช้อปปิ้ง ตั๋วเที่ยวฟรีทั่วโลก ตุ้กตาหมีพูดได้ ซึ่งแต่ละอย่างที่พี่ปิ้กจัดมาให้นั้นผมแทบจะแกะเปิดดูครั้งเดียว

และก็ไม่เตะต้องอีกเลย เคยคืนเขากลับหลายรอบแล้วแต่ก็ถูกนำมาวางให้ห้องผมเช่นเดิม อีกสิ่งหนึ่งที่พี่ปิ้กให้ผมเป็นของขวัญ

วันเกิดคือกุญแจห้องพัก ห้องตรงข้ามพี่ปิ้กนี่เอง ผมอยากจะบ้าตายกับความใจดีของเขา มันเยอะไปผมไม่กล้ารับและยังมีอีก

ทุกๆวันที่พี่ปิ้กแอบถ่ายแล้วอัพในสามเดือนที่ผ่านมา คนอื่นรู้ทั่วโลก แต่มีแค่ผมที่ไม่รู้ ผมไม่เคยรู้เลยว่า ผู้ชายใจดีคนนี้จะดีกับผมมากขนาดนี้..

#วันนี้เห็นน้องสนุกพี่ก็สนุก #ปิ้กว่าน
ผมอ่านโพสต์ล่าสุดที่พี่ปิ้กอัพ เป็นรูปที่ ผมกำลังเล่นเกมส์กับน้องๆและแฟน คลับของเรา พี่ปิ้กก็ยังคงถ่ายมาอีก
ยิ่งรับรู้ ผมยิ่งรู้สึกผิดที่ผ่านๆมาผมไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของพี่ปิ้กเลย...เอาแต่คิดว่าที่เขาให้นู้นให้นี่เยอะแยะ เพราะคิดว่าเขาอวดรวย ติดนิสัยคุณหนูเอาแต่ใจ ตามใจตัวเองทุกอย่างและ ทำทุกอย่างเพราะการแสดง ว่าเราเป็นคู่จิ้นแค่นั้น...



"มาแล้วครับ น้ำแข็งใสหวาน ว่านอยากได้ขนมอะไรอีกไหมเดี่ยวพี่ไปซื้อมาให้เพิ่ม"
วันนี้เรานัดมากินน้ำแข็งใสกันสองคนและพี่ปิ้กก็ยังใจดีเหมือนเดิม ผมส่ายหัวไม่ต้องการพี่ปิ้กเลยนั่ง

"พี่ปิ้กครับ"


"หื้อ.."


"ถ้าเมื่อไรเหนื่อยจะถ่ายรูปผมแล้ว เรามาถ่ายรูปด้วยกันนะครับ"ผมบอกพี่ปิ้กไป มันคงถึงเวลาแล้วที่ผมควรจะใส่ ใจคนที่ดีกับผมบ้าง พี่ปิ้กเพียงยิ้ม


"ไม่ครับ ไม่เหนื่อยเลย มีความสุขที่ได้ทำมากกว่า อีกอย่างรูปเราสองคนนะมีเยอะแล้ว แฟนๆเราถ่ายเต็มหน้าวอลแล้ว แต่รูปว่านที่พี่เป็นคนถ่ายนั้นมีแค่พี่คนเดียวที่ถ่ายได้ก่อนใครแถมยังถ่ายด้วยตัวเองด้วย น่าภูมิใจออก!!"

ผมนั่งกินน้ำแข็งใสฟังพี่ปิ้กนิ่งๆเมื่อร่างสูงป้อนให้ผมกิน


"ถามหน่อยได้ไหมครับ??"


"ว่า???"

"ที่พี่ปิ้กทำทุกอย่างให้ ใจดีกับผมนี้ พี่ปิ้กคิดอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?"ใจผมเต้นกระหน่ำเมื่อเราสบตากัน


"คิดครับ คิดอยากจะดูแลตลอดไป ไม่รู้ว่าใช่ความรู้สึกรักไหม แต่ตอนนี้ขาดคนนี้ไปไม่ได้แล้ว"พี่ปิ้กบอก..

"ผมคิดมาตลอดว่าที่พี่ปิ้กทำดีกับผมเพราะเราเป็นคู่จิ้นกันซะอีก"

"กับคนที่พี่ไม่รัก ไม่ชอบด้วยนะ พี่ไม่เปย์มากขนาดนี้แน่!!"

เออเนอะ ผมก็ลืมคิด ใครเขาจะให้อะไร หรือทำดีกับคนที่ตัวเองไม่รู้สึกอะไร?

"จริงด้วยครับ แต่ก็ขอบคุณกับทุกอย่างนะครับ ผมเริ่มจะชอบพี่ปิ้กจัง!!"

"สรุปแล้วที่ว่านเริ่มชอบพี่เพราะพี่สายเปย์ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ" ก็เอากับพี่เขาสิครับ ผมอุตส่าห์บอกความรู้สึกแล้วยังจะวกห่วงเรื่อง

ความสายเปย์ของเขาอีก


แต่เอาเถอะ วันนี้ผมกับพี่ปิ้กอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว

ขอบคุณโครงการดีๆที่พาผมมาใกล้ชิดกับพี่ปิ้ก

ขอบคุณแฟนคลับของเรา


และขอบคุณที่เรารู้สึกดีต่อกัน!!

--The end--
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (จบ) 8/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 09-02-2017 19:07:55
เย้ๆ จบแล้ว น่ารักมากเลย  :-[ เขินๆฟิน จริงๆเราฟินฉากตอนถ่ายรูปอะ555มันน่ารักจริงๆนะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (จบ) 8/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-02-2017 21:36:35
พี่ปิ๊ก เปย์แรง....งงงงงงงงงงงง รอคู่ต่อไปครัช  :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (จบ) 8/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 11-02-2017 09:55:11
บลูสกายน่ารักจัง ความเพือนนี้ 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (จบ) 8/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 11-02-2017 09:58:43
โอ้ย คืออิจจาาาาน้องว่านตัวโตๆ พี่ปิ้กโครตเปย์ทุกอย่าง อยากจิได้ของขวัญมากมาย

พี่ปิ้กขาาาา เลิกเปย์น้องว่านแล้วมาเปย์หนูเถอะ พลีสสสสส 55
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ปิ้กว่าน (จบ) 8/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 11-02-2017 19:51:19
พี่ปิ้กสายเปย์ ชอบบ
บลูสกายน่ารักกกก ความเพื่อนก้อมา
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 11/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 11-02-2017 21:55:46


                                                                           คู่จิ้น2 เตอร์-แพน

                         ผมมองหนุ่มผมหยิกยาวที่มัดรวบขึ้นไว้ข้างหลังเห็นแล้วขัดตาชะมัด ถูกคัดเลือกมาได้ไง หน้าก็ดูเลวน่ากลัว แถมหนวดเคราเต็มหน้าไปอีก ดูยังไงๆก็รู้ว่าซกมกไม่ใช่สไตล์สักหน่อยแต่ทำไมคนอื่นถึงกรี้ดและชื่นชมเขามาก ผมไม่เข้าใจ

 ผมเกลียดคนแบบเขา

คนที่เหมือนจะดูดีแต่จริงๆแล้วไม่เห็นมีอะไรดีเลย

 ก็ทั้งที่เลือกเรียนภาษาแล้วแต่ทำไมยังทำตัวอาร์ตๆ

ก็ถ้าอยากจะอาร์ตมาก ผมแนะนำให้ไปเรียนศิลป์ไม่ดีกว่าหรอ จะได้ไปถูกทางหน่อย


"โย่ว!"
ไอ้เตอร์ทักมาเช่นทุกครั้ง ผมเลยได้แค่เปรยตามองมันนิ่ง ก็แค่คนเคยรู้จักแต่เราก็ไม่ได้สนิทกันมาก

 เราแค่เป็นเพื่อนร่วมคณะ ที่บ้านติดกัน พ่อแม่เป็นเพื่อนรักกัน และเรียนชั้นเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาลยันม.ปลาย มันเป็นเด็กท้ายห้องแต่ผม

เป็นเด็กเรียนดี นั่งหน้าอาจารย์เสมอ ก็แค่นั้น...

 ก็แค่คนรู้จักกันชั่วชีวิตเท่านั้นแต่ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก

 เพราะผมไม่ชอบขี้หน้าไอ้เตอร์มัน และไม่ชอบเข้ากระดูกดำ!!!


"กองไว้นั้นแหละ"มันยกยิ้มชอบใจแต่ผมเกลียด เกลียดที่ทำไมมันยังคอยมาวนเวียนตามผมตลอดเวลาอย่างนี้

"หึ ยังคงพูดไม่เพราะกับสามีเหมือนเดิมเลยนะแพน"

มันขยิบตาหลังพูดเบาๆให้ได้ยินกันแค่เรา ผมจ้องมองมันด้วยความข่มใจต้องระงับความโกรธเกลียดครับ เดี่ยวคนอื่นรู้ว่า

เราแต่งงานกันแล้ว!


ผมค้อนใส่มันก่อนจะหันไปแจกยิ้มหวานให้เพื่อนๆที่มารอฟังการประกาศในวันนี้..




ม้วฟ~

ไอ้เตอร์ส่งจุบพร้อมขยิบตาข้างนึงก่อนจะเดินไปหาที่นั่งเมื่อน้องบลูสกาย เรียกรวมตัว

ยี๋!! เกลียดๆๆๆรังเกียจที่สุด ผมหันไปมองหาน้องชายตัวเองที่เป็นถึงเดือนมหาลัยของปีนี้วิ่งเข้ามาหา

"สุดยอดเลยพี่แพน เห็นไหมแพมบอกแล้วว่าพี่ต้องผ่านคัดเลือก"เจ้าน้องชายตัวแสบที่ส่งชื่อผมเข้าประกวดวิ่งหน้าตาระรื่นอย่างกับตัวเองได้ยังไงยังนั้น


"เออพี่! ป๋าบอกวันนี้ไม่มารับนะให้พี่กลับกับพี่เตอร์เลย"

"ห้ะ ได้ไง งั้นพี่กลับกับนายด้วยสิ!"
ผมรีบขอน้องชายกลับบ้านด้วยกันเลย แพมขับรถเป็นแต่ผมไม่...ป๋าเลยต้องมารับมาส่งเพราะยังไงๆก็ทางผ่านกลับบ้านและที่ทำงานของป๋าแล้ว ป๋าผมเป็นอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ที่นี่ครับ

ถามว่าทำไมไม่กลับกับไอ้เตอร์มันนะหรอ??

คำตอบง่ายนิดเดียว ผมเกลียดมัน และไม่อยากให้คนอื่นรู้ด้วยว่าเราเป็นอะไรกัน?

"อะๆได้ไงกันครับ พี่มีสามีแล้วก็กลับกับสามีพี่สิ หึหึ!"เกลียดน้องตัวเองอีกคน ผมพี่มันแท้ๆแต่มันกลับเข้าข้างไอ้เตอร์

"ไอ้แพม!!"มีเคืองสิครับแต่หน้าน้องผมระรื่นมากวิ่งขึ้นไปหาไอ้เตอร์คงจะบอกเรื่องให้ผมกลับกับมันนั้นแหละ



"ผมบอกพี่เตอร์แล้วนะพี่แพน ไปล่ะ!!" ก็ดูน้องผมสิครับ กับพี่มันก็พากลับด้วยไม่ได้ ..ไอ้น้องไม่รักดี

"เอาล่ะครับทุกคนมารวมตัวกันครับ"
เสียงตะโกนเรียกพวกเรารวมตัวดังขึ้นซึ่งนั้นทำให้น้องผมเดินจากไปด้วยอารมณ์ดี

แปะๆ
 ผมกำลังยืนหาที่นั่งแต่ไอ้บ้าเตอร์ดันตบเก้าอี้ข้างๆเบาเป็นสัญญาณว่าตรงนี้ว่างให้ผมมานั่งได้ ผมเบ้ปากพร้อมสะบัดหน้าแรงๆแล้วเดินไปนั่งข้างๆพี่ไทม์


วุ้ย น่ารำคาญ น่ารำคาญไปหมดนั้นแหละ วันนี้จะมีอะไรดีบ้างไหม?


"เมียจ๋า ขึ้นรถจ้ะ"
 ผมเงยหน้าจากหน้าจอมือถือเครื่องโปรดระหว่างรอไอ้เตอร์ไปเอารถมารับ เมียบ้าเมียบออะไร ผมไม่เห็นว่ามันจะน่าเรียกเลย ผมเปิดประตูรถขึ้นอย่างจำใจ

ในเมื่อป๋าไม่ว่างมารับ

 น้องรักก็ไม่ยอมให้กลับด้วย

ผมก็คงต้องกลับกับไอ้เตอร์สิ


 เกลียดๆๆๆ




เกลียดตัวเองที่ขับรถไม่เป็น++


"ขับสิ มองอยู่ได้"ผมหันไปสั่งมันอย่าง หงุดหงิด หงุดหงิดโว้ยยยยยย!!

"ก็มองเมียไงจ๊ะ ดีใจที่ผ่านคัดเลือกด้วยกัน"เหอะเชื่อตายล่ะ ผมไม่ใส่ใจอะไรกับไอ้เตอร์มาก ปล่อยมันพล่ามคนเดียว
ไป เดี่ยวสักพักมันก็คงต้องหยุดเอง

ไอ้เตอร์ขับรถพาผมกลับมาบ้านมันอย่างปลอดภัย ผมรีบลงจากรถ เห็นประตูบ้านปิดสนิท พ่อแม่ไอ้เตอร์คงยังไม่ได้กลับมาบ้านอีกแน่

"ไม่ต้องมองหาพ่อแม่กูหรอก คืนนี้พ่อแม่ไปเมืองเพชรงานวันเกิดเพื่อน กูเลยลั้นลาได้ เมียล่ะจ่ะคืนนี้มาสร้างสรรค์ด้วยกันไหม?”

นี่ล่ะครับ ธาตุแท้ของไอ้เตอร์ มันไม่ได้ รักหรือชอบผมหรอก เราเกลียดกันและกันและทุกอย่างที่มันทำ มันตอแหล เล่นละครเท่านั้นล่ะครับ

"ไม่!! เชิญมึงสนุกกับงานเลี้ยงสร้างสรรค์ของมึงคนเดียวไปเลย"ผมปิดประตูรถมันจนดังปังแล้วเดินออกจากกำแพงบ้านมันที่มีประตูเชื่อมกับบ้านผม



"กลับมาแล้วครับม๊า"ผมเข้ามาบ้านตัวเองอย่างหงุดหงิด เห็นม๊ากำลังวุ่นอยู่ในห้องครัวเลยเข้ามาทักสักหน่อย

"จ้ะพี่แพน เดี่ยวไปตามเตอร์มากินมื้อค่ำ ด้วยนะลูก"

"โหม๊า เดี่ยวแพมกลับ ม๊าก็สั่งให้มันไปบ้านนู้นดิ แพนไปนอนน่ะ วันนี้เซ็ง เซ็งไปหมด เซ็งป๋า เซ็งม๊า เซ็งแพม เซ็งลุงกิจป้าณิด้วย แล้วก็เกลียดๆๆๆๆๆไอ้เตอร์ที่สุดเลย!"ผมระบายความอัดอั้นที่แบกไว้ก่อนจะเดินขึ้นห้องตัวเองปิดประตูล็อกห้องสนิท

ภายในห้องตัวเองที่เต็มไปด้วยความมืดสนิทผมเปิดไฟเรือนแสงพลางล้มตัวนอน คืนนี้ไอ้เตอร์จะสร้างสรรค์อีกแล้ว

เวลามันสร้างสรรค์ที่ไรก็จบด้วยการนอนกับผู้หญิงที่มันชวนมาทุกที ผมเองก็อยากจะว่าอะไรมันหรอก
แต่เรื่องของเรามันก็แค่ความเห็นชอบของผู้ใหญ่ที่ต้องการ ในขณะที่เราสองคนไม่เห็นด้วยเลย แต่พอยิ่งนับวันผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า หัวใจผมวันนี้ ยังเป็นของผมอยู่ไหม?

ทำไมผมจะต้องมานอนร้องไห้ด้วยตอนนี้ มันจะนอนกับใครก็เรื่องของมันสิ ผมไม่ได้รักมันสักหน่อยจะแคร์ทำไม?


ปังๆๆๆ
"พี่แพนไปตามเตอร์มากินมื้อเย็นด้วย น้องแพมกลับบ้านดึกจ้ะคืนนี้ ม๊ารอข้างล่างนะลูก"ไอ้น้องตัวดีไม่รู้จักเวล่ำเวลากลับบ้านกลับช่อง

 ผมสะดุ้งตื่นเพราะแรงเคาะประตูจากม๊า พอสั่งเสร็จม๊าก็ลงไปรอก็รู้ๆว่าบ้านนั้นเปิดงานเลี้ยงสร้างสรรค์อยู่ยังจะให้ผมไปเรียกมันมากินจ้าวอีกทำไม

ผมเลยจำเป็นต้องลากสังขารตัวเองไปยังบ้านข้างๆโดยใช้สะพานทางเชื่อมระหว่างห้องผมกับห้องไอ้เตอร์ที่ทุกคนตั้งใจสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะหลังจากที่สองบ้านเกี่ยวดองกันผมไม่ลืมหยิบกุญแจห้องไอ้เตอร์มาด้วยคงต้องทำใจอีกแล้วเดี่ยวก็คงเห็นมันนัวเนียกับใครสักคนอีกแน่

ผมไม่ชอบเอาเลย


แกร็ก
เปิดประตูออกมาจากห้องตัวเองได้เสียงดังของเพลงจากบ้านมันก็แล่นเข้าหู ดีนะที่ห้องผมอัดเสียงไว้เลยไม่หนวกหู

ผมเดินข้ามสะพานมายังตรงประตูห้องมันแล้วไขกุญแจห้องไอ้เตอร์ สภาพบ้านไม่แตกต่างจากผับๆหนึ่งเลยจริงๆ เ

พื่อนๆมันที่มาต่างก็เมามาย หลายคนหันมามองผมอย่างคุ้นตา เพื่อนไอ้เตอร์หลายคนผมไม่ค่อยจะรู้จักเท่าไรไม่รู้มันไปรู้จักกันตอนไหนแต่ที่คุ้นตาเพราะผมมักจะมาเรียกไอ้เตอร์ไปกินข้าวตามที่ม๊าสั่งเสมอ

"งายยยแพน วันนี้มาหาไอ้เตอร์อีกหรอ?"
เสียงยานๆของเพื่อนไอ้เตอร์ที่เมาได้ที่เข้ามาสกัดทางผมไว้เมื่อผมกำลังเดินฝ่าพวกนี้มองหาไอ้เตอร์

"เออ รู้แล้วก็หลีกด้วย!"ผมสะบัดแขนออก เมื่อไอ้ขี้เมากำลังจะต้องตัวผม

"แหม ผัวแบบไอ้เตอร์เอาทำไมก็ไม่รู้ ตอนนี้มันเองก็กำลังสนุกกับคนอื่นอยู่ สนใจมาสนุกกับพี่ไหมน้อง?"

ผลั้วะ!!ผมซัดปากไอ้ขี้เมาไปหนึ่งมัด
"อย่างน้อยไอ้เตอร์ก็ผัวกู มึงอย่าเสือก และกูก็ไม่เอากับคนอย่างมึงแน่!"ผมผลักอกมันออกห่าง ทุกคนกำลังเต้นกัน อย่างเมามันส์แข่งกับดนตรี
ไอ้ขี้เมานั้นเดินตามผมมาพร้อมกับกระแทกผมชนผนังห้องและโน้มตัวหวังจะจูบปากแต่ผมหลบทัน

"ไอ้เตอร์ๆๆๆๆ ช่วยด้วยยยยยยย"
ไม่รู้ไอ้เตอร์จะได้ยินไหม แต่ผมก็ร้องไว้ก่อน ร้องตามที่ใจคิด ไอ้บ้าขี้เมายังไม่เลิกจะเอาชนะผมอีก

"เชี่ยเตอร์ช่วยกูด้วยยยยยยยยยยยย!!"



ผลั้วะๆๆๆๆ
"สัสเอ็มแม่ง เลิก!"
อยู่ๆไอ้เตอร์ก็ไม่รู้มาจากไหนเล่นเข้ามาต่อยเพื่อนตัวเองออกห่างจากผม ทุกคนแตกตื่นก่อนจะ ทยอยกลับเมื่อเจ้างานสั่งเลิกงาน

ไอ้เตอร์จับมือผมแน่นไม่ยอมปล่อย มันดูหน้าเครียดจัดระหว่างรอเพื่อนทุกคนออกจากบ้านมัน

"กลับไปได้ล่ะ บอกม๊ามึงด้วย กูไม่หิว" ไอ้เตอร์ผลักผมออกห่างจากตัวอย่างรังเกียจ คิดจะจับก็จับ คิดจะปล่อยก็ปล่อย อะไรของมันนะ

"ไม่หิวก็ต้องไป เดี่ยวม๊าไม่เชื่อว่ามาตาม"ใช่ว่าผมจะทำตามมันสักหน่อย ไม่ได้เป็นขี้ข้ามัน ฉะนั้นอย่าสั่ง ไอ้เตอร์ มองผมเขม่ง
"แม่ง ทำไมชอบมาตามเวลาแบบนี้วะ ทำไม หรือว่าชอบเวลาคนอื่นมันถึงตัวนะ!"พูดอะไรของเขา ผมไม่เข้าใจ สองคิ้วชนกันสนิท

"ม๊าให้มาตามไปกินข้าว เดินมาล่ะกัน" ผมไม่อยากจะทะเลาะกัยคนแบบไอ้เตอร์ ปล่อยมันไว้คนเดียวเดี่ยวก็ดีขึ้นเอง สองเท้าเดินออกจากบ้านมันไปยังสะพานเชื่อม ไม่นานไอ้เตอร์ก็เดินตาม มันปิดประตูดังปังจนผมสะดุ้งหันไปมอง

"วันหลังโทรมาเรียกก็พอ ไม่ต้องเสือกมา"ร่างสูงสวมเสื้อที่หยิบมาตัวใหม่ใส่ไว้อย่างเร็ว ผมได้แต่มองมัน อย่างเคืองๆ ทำอย่างกับโทรแล้วมันจะรับงั้นแหละ ไอ้เตอร์ผ่านหน้าผมลงไปนั่งกินข้าวกับม๊า

ผมเดินไปนั่งข้างม๊า ป๊ากลับมาแล้ว และไอ้แพม น้องชายสุดที่รักก็กลับมาพอดี แต่ขอตัวไม่กินเพราะกินข้างนอกมาเรียบร้อย ชีสส์..ไอ้น้องไม่รักดี!!







"เอาล่ะครับ ไหนๆก็มากันเยอะพอสมควรแล้วเดี่ยวให้ทุกคนแต่งตัวกันได้เลยค่ะ ผ่านสายตาเจ้สองแล้วรับรองปังค้า" ผมหันไปยิ้มให้คนรอบข้างที่มาแต่เช้ากันในวันนี้

วันนี้เรามีนัดฟิตติ้งถ่ายรูปโปสเตอร์คู่จิ้น พี่คนนึงที่เป็นคนของเจ้สองพาผมมาหาเสื้อผ้าและเซตผมใหม่ให้ ผมอดที่จะตกใจตัวเอง เวลาแต่งหน้าแต่งตาเซตผมแล้ว ผมก็หล่อไปอีกแบบ

ในการฟิตติ้งผมครั้งนี้ เจ้สองเล็งเห็นว่าผมเหมาะกับพี่ไทม์เราเลยได้เป็นคู่จิ้นต่อกันผมเหลือบแอบมองไอ้เตอร์มันได้คู่กับพี่ไลน์

เห็นพี่ไลน์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เวลาถ่ายรูป ก็ไอ้เตอร์เล่นถ่ายท่ายาก ทั้งยกที่ไลน์ขึ้นบ่า ทั้งอุ้มท่าเจ้าหญิง ไหนจะท่าพิศดารต่างๆนานาเพราะพี่ไลน์ตัวเล็กกว่ามัน มันเลยสะดวกยก ทีกับผมที่เป็นคนที่แต่งงานกับมันถูกต้องตามนิตินัยยังไม่เคยใกล้ชิดมันขนาดนั้นเลย

 อิจฉาพี่ไลน์ชะมัด!!

"นี่ เป็นอะไรรึเปล่าหือ ดูลอยๆนะ"พี่ไทม์ สะกิดเรียกผมระหว่างที่เซตผมตัวเองให้ดูเรียบร้อย

"เปล่าครับ แค่กำลังคิดว่าเราจะถ่ายออกมาเป็นยังไงนะครับ?"รู้สึกผิดจังที่โกหกพี่ไทม์แต่ผมยังไม่พร้อมบอกความจริงออกไปหรอกว่า ตอนนี้กำลังอิจฉาพี่ไลน์อยู่ พี่ไทม์นั่งลงข้างๆผมพร้อมผูกโบว์ทักซิโดของผมให้ดูเรียบร้อยกว่าเดิม สายตาผมยิ้มน้อยๆ เป็นไอ้เตอร์ก็คงดีกว่านี้...

"โกหกบาปนะ ที่สำคัญนะพี่เชื่อว่าเราสองคนต้องทำได้" พี่ไทม์ดูมีเลศนัยเหมือนรู้เลยว่าผมกับไอ้เตอร์เป็นอะไร?

"โกหกอะไรครับไม่มี๊ไม่มี!"ผมแถไปเรื่อย เห็นพี่ไทม์ยิ้ม ผมก็ยิ้มตาม เราคุยกันต่ออีกนิดไม่นานก็ถึงคิวการถ่ายรูปคู่ของเรา ผมกับพี่ไทม์เลยลุกขึ้นจะไปถ่าย ระหว่างทางเดินไอ้เตอร์กอดเอวพี่ไลน์ไว้หลวมๆพลางมองมาที่ผม ผมเชิดใส่มันเดินไปจับมือพี่ไทม์ไว้

การถ่ายรูปของเราเป็นแบบสบายๆ ไม่หรูหราอะไรมาก ส่วนใหญ่พี่ไทม์จะเป็นคนเปลี่ยนท่าส่วนผมเพียงนั่ง ยืน หรือไม่ก็เกาะหลังพี่ไทม์ถ่ายแค่นั้น

แปะๆๆ
"สวยงามเลิศหรู ดูดี สบายๆมากเลยค่ะพี่ไทม์น้องแพน ผ่านค่ะผ่าน เชิญเปลี่ยนเสื้อกลับบ้านได้เลยค่ะ!"เสียงเจ้สองดังขึ้น ผมกับพี่ไทม์อดที่จะยิ้มรับกับคำชมไม่ได้

"ครับ ขอบคุณทุกคนที่เหน็ดเหนื่อยด้วยกันนะครับ แพนด้วยนะ"
โหพี่ไทม์หล่อเลย ยิ้มทีนึง ผมงี้ละลาย..ผมแยกกับพี่ไทม์ไปหาเสื้อผ้าตัวเอง

"โอ้ย ไอ้เตอร์!"ไอ้เตอร์ที่ผมคิดว่าเขากลับไปแล้วเดินมาจากไหนไม่รู้ประชิดตัวผม


"แค่ถ่ายรูปโปสเตอร์ ระริกระรื่นเลยนะ"


 ผมมองไอ้เตอร์ที่เดินมาต่อว่าผมจบแล้วก็จากไปอย่างหัวเสีย หลังจากนั้นมาชีวิตในแต่ละวันของผมกับไอ้เตอร์ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก
ช่วงนี้ผมสนิทกับพี่ไทม์ พี่ไทม์เลยมักจะมารับมาส่งผมบ่อยๆ จะติดก็ตรงที่พวกเราเลือกกิจกรรมปลูกป่าแล้วไอ้เตอร์กับพี่ไลน์ก็เลือกกิจกรรมนี้ด้วย เราสี่คนเลยต้องทำกิจกรรมด้วย

นัดประชุมทำโครงการพร้อมกัน โปรโมทเชิญชวนแฟนคลับและผู้ที่สนใจด้วยกันแล้วไหนจะตระเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือต้นไม้ด้วยกันอีกผมเลยจำเป็นต้องเจอกับไอ้เตอร์บ้าง..

"มานี่ อ่อนแอปวกเปียกไปได้ ต้นไม้เล็กๆแค่นี้ก็แบกไม่ไหว"
ผมมองไอ้เตอร์ที่ฉุดเอาต้นไม้ไปจากมือผมอย่างเคืองแค้น ปากมันน่าต่อยให้แตกไปเลย ก็ถ้าอยากจะช่วยผมก็ไม่น่าพูดจาแบบนั้นเลย

 บอกดีๆผมจะได้รู้สึกดีกับมันมาบ้าง

เราหมางเมินกันมาหลายอาทิตย์แล้ว ผมเลือกที่จะไม่สนใจมันและทำหน้าที่ของตัวเองไป พี่ไทม์โคตรดี อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสงบ ปลอดภัย หัวใจไม่ว้าวุ่นหรือวุ่นใจนัก จะมีก็แต่ไอ้เตอร์นี่ล่ะ พอเห็นหน้ามันแล้ว ผมใจร้อนรนทุกที เกลียดหน้ามัน!


"โหลเทสๆๆ เชิญน้องๆทุกคนและแฟนคลับทุกท่านของเราร่วมกันลงทะเบียนรับต้นไม้ของหวานและของสมนาคุณจาก ไทม์แพน&เตอร์ไลน์ตรงจุดที่1ทางนี้ก่อนนะครับ"
พี่ไลน์ประกาศผ่านไมโครโฟน กิจกรรมในวันนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมถึง 250 คนมันจึงดูเยอะมากสำหรับผมกับการเป็นผู้จัดกิจกรรมในครั้งแรก เห็นพี่ไทม์วิ่งวุ่นถ่ายรูปเก็บภาพน้องๆแล้ว ผมอดจะยิ้มไม่ได้ พี่ไทม์วันนี้หล่อ

ป้าดดด
 อี๋!! ไอ้เตอร์ไอ้สามีเลว มันกล้าดียังไงเอาสีที่จะใช้ทาบนใบหน้าให้ผู้ที่เข้าร่วมมาแปะหน้าผมเต็มหน้า

"ให้มาทำงาน มาได้มาดูผู้อื่น เข้าใจนะจ้ะเมียจ๋า!!"
ผมหันไปมองมันด้วยความแค้นผ่านใบหน้าที่เรียกได้ว่ามอมแมมสุดๆ ไอ้เตอร์กระซิบจบก็เลื่อนไปล้างมือจากนั้นก็ขนต้นไม้แจกผู้ที่ยืนต่อแถวรอรับต้นไม้

มีเสียงกรี้ดกราดแซ่วดังขึ้นมา แต่ผม เลือกที่จะไม่สนใจยังคงยิ้มและส่งมอบต้นแห่งความรักที่พวกเราตั่งใจกันมาปลูกในวันนี้เพื่อโลกที่สดใสในวันหน้า

"โห น้องแพน นี่ลงทุนมอมแมมเลยนะ"พี่ไทม์เดินเข้ามาทักผมและไม่ลืมจะถ่ายรูปเก็บไว้แบล็กเมล์ผมต่อด้วย

"พี่ไทม์อ่ะ ล้อผมหรอเดี่ยวเหอะของพี่นะผมจะปาดให้เต็มหน้าเลย"ผมเถียงพี่ไทม์ด้วรอยยิ้ม คิดจะแกล้งพี่ไทม์เล่นๆ แต่ไอ้เตอร์มาจากไหนไม่รู้เดินเข้ามาใกล้ผมหยิบเอาต้นไม้มาวางไว้ในมือผมแล้วให้ผมไปแจกต้นไม้แทน

"ไปแจกต่อเลย กูเหนื่อย ให้มาทำงานนะเว้ย ไม่ได้ให้มายืนคุยกัน"
ผมชักสีหน้าใส่ไอ้เตอร์แล้วเดินไปแจกต้นไม้แทนมัน คนจะทำแต่แรกมันก็ขโมยทำก่อนพอยืนแค่แปปเดียวก็โดนต่อว่าอีก หลังลงชื่อและแจกต้นไม้ให้ทุกคน

 พวกเราทั้งสี่และสต้าฟคนอื่นๆอีกสิบคนที่น้องบลูสกายส่งมาให้จึงพาทุกๆคนเดินไปยังหลังตึกวิทย์ที่เป็นสถานที่ปลูกป่าชายเลน เราเดินกันเรียงรายมาเกือบครึ่งชั่วโมงจากจุดนัดพบ

แดดจ้าเริ่มเจิดฉายเมื่อตอนนี้เวลาเข้า10โมงเช้าแล้วพี่ไทม์พี่ไลน์คุมข้างหน้าส่วนผมกับไอ้เตอร์คุมข้างหลังสุดท้ายขบวนมันชิดผมแจไม่ยอมออกห่างหลายๆคนเริ่มไม่เข้าใจคู่ของพวกเราและสลับคู่กันไปเรียบร้อยเพราะไอ้เตอร์บ้านี่ล่ะเลยทำให้คนอื่นๆเข้าใจผิดกันอย่างนี้.


"จะเบียดอะไรกันหนาเล่า ถอยห่างๆไปเลย"ผมไล่ไอ้เตอร์ให้ออกห่างก็ดูมันสิ จะเบียดชิดผมทำอย่างกับผมจะห่างไปไหนไกล

"ทำไมจะเบียดไม่ได้ มึงเมียกูนะ อย่าลืมสิครับเมีย!"ผมตบปากมันทันที โชคดีที่แถวสุดท้ายอยู่ห่างออกไปหน่อยเลยไม่ได้ยินที่เราคุย

ไอ้เตอร์กอดเอว ผมคลึงตาใส่มันและพยายามแกะมือมันออกจากเอว มีคนหันมามองพวกเรา ผมจึงยิ้มให้ไป ไม่อยากให้ใครเข้าใจเราผิด


"เมียแล้วไง อย่าลืมสิตอนนี้กูเป็นคู่ของพี่ไทม์แล้ว แล้วกูก็มีความสุขมากๆด้วยที่อยู่กับพี่ไทม์"

"ไอ้แพน!!"
.
.
.
.
...ผมว่าผมถูกไอ้เตอร์โกรธเข้าแล้ว






เอาคู่ ปีเตอร์แพน มาส่งความหวานจี้ดๆก่อนนอนค่ะ พี่เตอร์มีการหวงเมียหน่อยหนึ่ง แค่หน่อยหนึ่งจริงๆนะ >///<
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 11/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 11-02-2017 22:50:25
เตอร์หึงนิดหน่อยจิงๆๆๆ
คิคิ ปีเตอร์แพน ตั้ลลลาคคค
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 11/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-02-2017 23:01:14
มีความพ่อแง่แม่งอนสูง น่าย๊าก...กกกกกก    :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 11/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 13-02-2017 00:16:04
เตอร์ปากหนักนะ   พูดแต่เมีย เมีย  แต่ตัวเองทำตัวยังไง  กินเหล้าคั่วผู้หญิง น่าโมโห  :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 11/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 13-02-2017 12:03:24
เรียกร้องให้เมียสนใจสินะเตอร์
แต่เตอร์ทำตัวไม่ดีนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 11/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 14-02-2017 09:53:57
ต่อ

"ทุกครับๆๆ ก่อนจะเริ่มปลูกต้นไม้กัน เรามาเรียงแถวถ่ายรูปหมู่ก่อนนะครับ"สต้าฟคนนึงเรียกทุกคนรวมกลุ่มเพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เมื่อเห็นว่าทุกคนมากันครบและคนที่มาถึงแรกๆนั้นเริ่มจะนั่งเซ็ง รอจนเหงื่อเล็ด

 บางคนก็เซลฟี่กันอย่างสนุกสนาน ผมมองเท้าเปล่าตัวเองที่เลอะโคลน สองมือถือต้นไม้ไว้สองต้น ไอ้เตอร์ยืนข้างผมไม่ห่าง

"พี่เตอร์พี่แพนนี่มันยังไงๆกันค้าา"

"นั้นสิค่ะ นี่ถ้าหนูไม่ชิปไทม์แพน&เตอร์ไลน์หนูคงชิปปีเตอร์แพน แล้วนะคะ"

"เฮ้ย คู่ชิปปีเตอร์แพนก็เหมาะน่าแกรร"
เสียงแฟนคลับดังขัดจังหวะผมที่เตรียมจะด่าไอ้เตอร์อีกรอบ ผมกับไอ้เตอร์หยุดฟัง ผมหันหลังไปแอบขำกับฉายาใหม่ ที่พวกแฟนคลับตั้งให้

'ปีเตอร์แพน'

 555 ใครช่างกล้าตั้งเนอะ !!


พวกเรารวมตัวกันถ่ายรูปหมู่อย่างพร้อมเพรียง แฟนๆต่างขอร่วมถ่ายรูปกับพวก เรากินเวลาไปนานพอสมควร ผมมองไอ้แพนที่กำลังยืนคู่ถ่ายรูปกับพี่ไทม์อย่างที่แฟนคลับต้องการ

เอาตามตรงผมหงุดหงิดใจตั้งแต่วันฟิตติ้งแล้ว ยัยเจ้สองกระเทยอ้วนหมูอะไรนั้นนะไม่น่าจับคู่ไอ้แพนกับพี่ไทม์เลย ผมเองก็อยากจะขัดใจแทบขาดแต่ทำแบบนั้นไป มีหวังคนได้รู้กันหมดความลับของเรา

ในวันที่เราตัดสินใจแต่งงานกันเพราะผู้ใหญ่ เราสัญญากันไว้ว่าเรื่องของเราต้องเป็นความลับเท่านั้น ผมเลยจำเป็นต้องทนให้มันสนิทสนมกับไอ้พี่ไทม์ แต่มีหรือผมจะยอมให้มันมีความสุข กับไอ้พี่ไทม์กันล่ะ คนอย่างผมนะการแกล้งไอ้แพนล่ะงานถนัด

ใช่ว่าผมจะหึงมันนะ แค่ไม่ชอบเห็นมันยิ้มกับคนอื่นแค่นั้น


"จะมาเบียดทำไมกันล่ะ?"ไอ้แพนกัดฟันพูดเมื่อผมดึงมือพี่ไลน์ให้เดินมาถ่ายรูป ด้วยกันกับมันและพี่ไทม์ ผมยืนชิดเบียด
มันกอดเอวมันกับพี่ไลน์อีกด้านของมันก็มีพี่ไทม์เคียงคู่ถ่ายรูป

"แหม ก็ถ่ายรูปรวมกันไง ก็ต้องชิดๆกันหน่อย"แถไปงั้นแหละครับ เห็นไอ้แพนหงุดหงิดได้หงุดหงิดดีแล้วก็สุขใจชะมัด เราถ่ายรูปแปปเดียวก็เริ่มกันปลูกป่าสักที

"ก็นี่มันต้นของกูนะไอ้เตอร์ เอาคืนมาเลย"เห็นไอ้แพนกำลังจะหยิบต้นไม้ ผมเลยเข้ามาแย่งมันหน่อย สนุกดี!!

"ได้ไง ไม่เห็นมีชื่อเลยว่าเป็นของมึง"
ไอ้แพนมองหน้าผมเคืองๆ พี่ไทม์พี่ไลน์หยิบเอาต้นไม้ไปร่วมปลูกกับแฟนๆกันกลุ่มหนึ่ง

"ไม่ต้องมากวนตีนแถวนี้เลยนะ ต้นตัวเองไม่มีนะสิเลยมาแย่งต้นของคนอื่นแบบนี้"ไอ้แพนเถียงพลางดึงต้นของมันในมือผมกลับ ผมเลยแย่งคืนกลับมาเลยกลายเป็นว่าเราสองคนยื้อแย่งต้นไม้กันไป มาจนผมปล่อยเท่านั้นไอ้แพนจึงจะ หงายหลังผมจึงรีบรับมันไว้แต่ไม่ทัน ไอ้แพนล้มลงไปกองดินแชะซ้ำมือมันยังดึงผมล้มลงไปกับมันด้วย

"ไอ้เตอร์!!!"
ไอ้แพนโวยวายใส่ผมใหญ่เมื่อแก้มมันโดนผมสัมผัสเมื่อล้มทับมัน เหล่าคนมากมายต่างกรี้ดใหญ่ พี่ไทม์พี่ไลน์วิ่งเข้ามาดูด้วยความอยากรู้ว่าเกิดอะไร ไอ้แพนผลักผมออกห่าง อย่างเขินๆเมื่ออยู่ท่ามกลางสายตาหลายร้อยคน และก็เป็นอย่างที่ผมคิด รูปเราสองคนวันนี้เต็มหราหน้าฟีคข่าวและแฟนเพจอย่างไม่ต้องสงสัย ไอ้แพนเรียกผมมาบ้านมันพร้อมกับทุกคนในบ้าน

"ป๋า ม๊า ลุงกิจป้าณิ ครับ ผมจะหย่า"ทั้งผมและทุกๆคนรวมถึงแพมด้วยต่างหันไปมองไอ้แพนเป็นตาเดียว นี่นะเรื่องสำคัญที่มันบอก

"นี่มันอะไรกันนะเตอร์ พี่แพนล้อเล่นอะไรม๊าหรือเปล่า?"ม๊ามันถามผมขึ้น ซวยแล้วไง ไอ้แพนก่อเรื่องแต่ผมกลับ
เป็นคนต้องรับผิดชอบ

"เออ...."

"หย่ากันจริงดิพี่?"ดูไอ้แพมมันถามมาได้ เรื่องนี้ผมไม่เกี่ยวเลย ไอ้แพนพี่มันต่างหากที่ก่อประเด็น

"เออ..."

"จะหย่าหรือลูก?"

"เออ..."ไม่ทันจะตอบกันเลยทีเดียวครับ ม๊าผมเองก็แย่งถามกับเขาด้วย

"หึ แต่งงานกันไม่ถึงข้ามปีก็จะหย่ากันล่ะ ฉันบอกแกแล้วไงอาจิ้น ลูกเรานะมันอยู่กันไม่รอดหรอก"ป๊าผมขุดเรื่องเก่ามาอีกล่ะ ผมหันเป็นมองไอ้ตัวต้นเรื่องที่ก่อประเด็นแต่ตัวเองกลับเงียบ

"ม๊าถามอีกครั้งนะพี่แพน พี่แพนจะหย่ากันเพราะอะไร?"ม๊ามันผุดถามขึ้นเพื่อห้ามศึกน้ำลายของป๊าผมกับป๊ามัน

"ไม่รู้ แพนจะหย่าก็คือจะหย่า!!"

 "อ้าว!!!"
ทุกคนรวมทั้งผมด้วยล่ะครับมีอันต้องงงไปกับมัน จะมาขอหย่ากับผมแต่ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมจึงอยากหย่า

"ไอ้ลูกคนนี้นี่ คิดจะหย่าก็จะหย่ากันง่ายๆหรอ เห็นเรื่องหย่าเป็นเรื่องขายของหรือไง นึกจะหย่าก็หย่าเลยนะห๋า!"

"ก็ไม่รู้แหละ ทีทุกคนจับผมแต่งงานกับไอ้เตอร์ยังเป็นเรื่องง่ายเลย ทำไมเรื่องหย่าจะไม่ง่ายแบบนั้นด้วยล่ะ ผมจะหย่า ก็คือหย่า!"ผมยังคงนั่งนิ่ง สยบทุกความเคลื่อนไหว นิสัยอย่าหนึ่งของไอ้แพนมันมีความอดทนต่ำ อยากได้อะไรก็โวยวายใส่เลย แต่มีเรื่องเดียวที่มันถูกขัดใจ คือเรื่องที่ต้องแต่งงานกับผม ป๊า ม๊าผม และป๊าม๊ามัน รวมถึงไอ้แพมต่างส่ายหัว
ระอากับนิสัยของมัน

"พี่แพนนะพี่แพน"ผมยกยิ้ม มันนี่นะไร้สาระจริงๆ เรื่องหย่านะหรอ อย่าหวังเลย

"อ้อ ม๊ารู้แล้วที่แพนขอหย่านั้นก็เพราะเบื่อหน่ายใช่ไหมเหงาหงอยไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับอาเตอร์ใช่ไหมลูก เอางี้อา
เตอร์ ลูกก็ย้ายมาอยู่บ้านนี้อาทิตย์นี้ พออาทิตย์หน้าก็ให้อาแพนไปอยู่บ้านเราผลักกันอาทิตย์ล่ะหนึ่งบ้านดีไหมลูก?"ผมแทบอยากจะขำกลิ้งดูเหมือนแผนไอ้แพนกำลังจะไม่ได้ผลนะ ฮ่าๆ ผมหันไปเห็นไอ้แพนส่ายหัวปฏิเสธอย่างรวดเร็ว

"พี่แพนก็แปลก บอกดีๆพวกเราก็เข้าใจนะ เล่นบอกจะขอหย่ากันแบบนี้ มันไม่ดีนะพี่ พี่กับพี่เตอร์นะเนื้อคู่กันแล้ว"อื้มมม ไอ้แพมน้องมันพูดถูก

"เออจริงด้วย คู่แต่งงานมันก็ต้องอยู่ด้วยกันเนอะ อ้อ นี่ลูกพร้อมแล้วใช่ไหมที่จะใช้ชีวิตกับเตอร์แบบสามีกันแล้วใช่ไหมลูกเลย"
"งั้นก็สิ ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลยจะได้ไม่ฟุ้งซ่านแบบนี้ ป๊าๆว่าไงค่ะ?"ทั้งป๊าผม ป๊ามันมองหน้ากันพยักหน้าเห็นด้วย

"ก็ดีนะเผื่ออยู่ด้วยกันแล้วอาแพนจะได้เลิกฟุ้งซ่านขอหย่าแบบนี้อีก!"




"ไอ้เตอร์บ้าๆๆๆ ออกไปเลยนะไอ้เตอร์ ออกไปเลย กล้าดียังไงเข้ามาห้องนี้ห๊าา!"ผมมองไอ้แพนดิ้นพล่านเอาหมอนไล่ผมออกจากห้องมัน ผมยื้อประตูไว้เมื่อมันต้อนไล่ผมไปที่ประตู ผมอดที่จะขำกับความคิดมัน ตอนแรกมันหาเรื่องจะหย่าร้างกันแต่ไปๆมาๆเรากลับต้องมานอนห้องด้วยกัน แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบได้ใกล้ชิดโดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรเลย

"ถึงต่อให้เมียไล่แค่ไหน เตอร์ก็ไม่ไปไหนหรอกจ๊ะ รอเวลาได้อยู่ด้วยกันมานานแล้ว ม้วฟๆๆ"เห็นไอ้แพนยี๋ ขยะแขยงแล้วผมชอบๆ

"ยี๋!! ไปส่งจุบให้คนอื่นเลยไป๊ น่าเกลียด!"ผมเข้ามารวบตัวไอ้แพนแล้วหอมแก้มมันหนักๆ

"ไม่จุบคนอื่นหรอก อยากจุบเมียมานานแล้ว รู้ตัวไหม?"

"ไอ้เตอร์ นี่มึงกล้าเตะต้องตัวกูหรอ มึงตาย!!!"ผมจำต้องวิ่งหนีลูกตบของไอ้แพน มันยอมให้เตะต้องตัวเสียที่ไหนเล่า

"โอเคๆ หยุดไล่ตีได้แล้วนะแพน นั่งคุยกันดีดีหน่อยนะ"ผมลากไอ้แพนให้มานั่งคุยกันดีดี เกิดอะไรขึ้นกันแน่ทำไมมัน
จึงได้คิดจะหย่ากับผมทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด

"งั้นมึงก็ย้ายนั่งบนเก้าอี้ไปเลย ไม่ต้องมานั่งบนเตียงกู"ผมถึงกับส่ายหัวแต่ก็ยอมขยับลุกขึ้นยืนไปนั่งบนเก้าอี้ ไอ้แพน
จึงได้มานั่งง่ายๆและก็ไม่วายเอาไม้บาสเก็ตบอลหยิบติดมือด้วย หวงตัวจริงเลย

"อ่ะไม่นั่งบนเตียงแล้วที่นี่จะคุยกันดีดีได้ยัง?"

"ก็คุยดิ มีอะไรคุยเลย คุยเสร็จมึงขนเสื้อผ้ามึงกลับห้องไปเลย"

"เอาล่ะแพน เรามาคุยกันดีดีนะ กูแค่อยากรู้ว่าอะไร ทำไมอยู่ดีดีถึงคิดจะหย่า?"ถามเพราะผมอยากรู้ อยากรู้เหตุ
ผลของมัน

"อยากรู้ทำไม มึงเองก็ไม่ได้อยากแต่งงาน เหมือนกันนี่ ที่เราต้องทนอยู่ ทนแต่งงานก็เพราะผู้ใหญ่ หรือไม่จริง"

"มันก็จริงที่กูเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานเหมือนมึง แต่ที่ไม่เข้าใจและอยากรู้คือ ทำไมวันนี้ถึงได้ลุกขึ้นบอกป๊าม๊าแบบนั้นล่ะ หรือกูทำอะไรผิด?"เห็นไอ้แพนหน้าครุ่นคิดเหมือนจะบอกแต่ก็ไม่บอก

"เออมึงแหละผิด ผิดหมดแหละ เดี่ยวนี้มึงเป็นอะไรก็ไม่รู้ ชอบทำตัวแปลกๆ คอยขัดขวางเวลากูอยู่กับพี่ไทม์ตลอด ทีมึงอยู่กับพี่ไลน์กูยังไม่ขัดอะไรเลย แถมมึงก็ชอบโมโหใส่กูบ่อยๆด้วย ไม่เหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนมึงนะ เอะอะๆก็เตาะกู จีบกู ล้อกูตลอด แบบนั้นนะยังน่ารักกว่าตอนนี้อีก กูเลยคิดว่ามึงนะคงอาจจะอยากหย่ากับกูแล้วได้อิสระคืนไปนะ กูเลยขอหย่า เรื่องของเราใครขอหย่าก่อนใคร ก็ไม่มีใครเสียใจไม่ใช่หรอ ยังไงก็จะถึงปีแล้ว หย่าตอนนี้ดีกว่าไหม?"ผมนั่งไตร่ตรองสิ่งที่ไอ้แพนพูด

"แล้วทำไมถึงคิดว่ากูอยากหย่ากับมึงล่ะ?"ผมถาม ไอ้แพนเม้มปากแน่น

"ก็มึง มึง มึงนั้นแหละ"ไอ้แพนพูดไปๆมาๆก่อนจะโยนไม้บาสเก็ตบอลทิ้งเหมือนกำลังวุ่นใจกับตัวเอง อะไรของมัน

"มึงแหละ มึงทำกูสับสนหลายเรื่อง กูเลยว่าถ้าหย่ากัน เราเลิกกันไปแล้ว เผื่ออะไรๆมันจะดีขึ้นกว่านี้ เอ่อ หมาย
ถึงจิตใจกู!"ยิ่งมันพูด ผมยิ่งไม่เข้าใจ

"คือกูไม่เข้าใจ เอาแบบคำที่เข้าใจง่ายๆ ได้ไหมแพน กูงง!"ไอ้แพนช่างใจอยู่นาน มันคงรู้ตัวดีว่าพูดวกไปวนมาจนผมงง

"ก็แค่ง่ายๆ หลังๆมานี้มึงทำตัวเหมือนกับหวงกู หึงกู และก็ชอบกู ซึ่งนั้นทำให้กูสับสนกับตัวเอง ว่ากูควรชอบมึงต่อหรือปล่อยมึงไป แต่กูเลือกอย่างหลัง คือการหย่า เหตุผลข้อเดียวง่ายๆเพราะมึงไม่รักกูจริงๆและกูก็ไม่อยากจะรักมึงต่อทั้งที่มันไม่มีหวังแบบนี้แล้ว"ผมนั่งนิ่งฟังสิ่งที่ไอ้แพนพูด นี่มันกำลังสารภาพรักผมอยู่หรือเปล่านะ?

"ก็แล้วทำไมเราสองคนต้องหย่าด้วยล่ะ ก็ถ้ารักกันแล้วทำไมเราสองคนไม่ลองรักกันดูเผื่อใจจริงของเราสองคนอาจจะอยากอยู่ด้วยกันอย่างที่พวกผู้ใหญ่ว่าก็ได้!"ผมลากเก้าอี้เขยิบเข้ามาใกล้ไอ้แพน

"พูดอย่างกับมึงรักกูงั้นแหละ?"

"ก็แล้วมึงพร้อมจะอยากให้กูรักมึงหรือยังล่ะ?"ผมถามไอ้แพนกลับไปบ้าง เรื่องระหว่างเรามันควรจะจริงจังกันได้แล้ว

"มึงรักกูหรอ?"


"..."


"แต่มึงชอบนอนกับผู้หญิงพวกนั้น เรื่องนี้กูยังเคือง!"ผมหัวเราะออกมา ให้ตาย ก็ถ้าหึงก็น่าจะแสดงออกมาให้
ผมเห็นบ้างก็ดี ผมจะได้รู้ว่ามันเองก็รักผมเช่นกัน

"ทำไมหึงหรอครับเมีย ถ้างั้นต่อจากนี้กูจะมีแค่มึงตกลงป่ะ?"
ผมยื่นนิ้วให้มันเพื่อทำการสัญญา

"เออ เกี่ยวก้องสัญญาก็ได้"ไอ้แพนว่าพลางยื่นนิ้วก้อยมาสัญญา

"พิมพ์ลายนิ้วมือด้วย!"มันสั่ง เราเลยยกนิ้วโป้งกันและกันมากดพิมพ์นิ้วมือต่อกัน

"สุดท้าย ประทับตรา"เราต่างพายมือสัมผัสกันแล้วเลื่อนจบการประทับมือกันเป็นอันจบการทำสัญญา ผมกระเด้งตัว ล้มนอนบนเตียงไอ้แพนอย่างโล่งใจ

"โอ้ย ทำสัญญาเรียบร้อย งั้นเตอร์ขอนอนห้องเมียนะคืนนี้ อยากนอนกอดเมียใจะขาดแล้ว"

"ไอเตอร์!!! ออกไปนอนห้องมึงเดี่ยวนี้เลยนะ ก็ไหนสัญญาแล้วไงว่าคุยจบแล้วมึงจะกลับห้องมึงไง!"ไอ้แพนโวยวายเอา หมอนตีผมใหญ่ ผมรวบหมอนที่มันตีไว้ในอ้อมกอดพร้อมมองหน้ามันกวนๆ

"อ้าวหรอ กูไม่เห็นรู้เรื่องเลย ไปสัญญาตอนไหนน้าาว่าถ้าคุยจบแล้วจะกลับห้องกูนะ"

"ไอ้เตอร์!!!"ไอ้แพนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จะตีผมอีกแต่ผมขู่ห้ามไว้มันเลยไม่กล้า



แพนไหวไหมลูก จะขอหย่ากลับโดนบังคับให้นอนด้วยกัน ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 14-02-2017 12:03:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-02-2017 16:57:58
เกี่ยวก้อยสัญญา น่ารัก ว่าแต่แพนจะรอดมั้ยหนู พี่เตอร์แลดูแอบหื่น   :hao6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 14-02-2017 19:08:19
น่ารัก
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน End 16/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 16-02-2017 23:21:13
ต่อ..


"อ่ะ อ้าปาก"
ผมสะกิดเรียกไอ้แพนให้หัน มาเพื่อป้อนน้ำให้มันดื่ม วันนี้เรามีงานแจกลายเซ็นของพวกเราทั้ง18 คนครั้งแรก

ผมกับไอ้แพน เรากลับมาเป็นคู่รักกันอย่างแท้จริง ไม่หลอกลวงใจตัวเอง ไม่ปิดบังคนอื่นอีกต่อไป

เรื่องการแต่งงานของเราถูกแฟนคลับมือดีรู้ ปล่อยโครมดังสนั่นจนเขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง และมอ.เราเลย

ไอ้แพนโวยวายกันลูกใหญ่ลั่นบ้าน บอกพวกป๊าม๊าให้หาต้นต่อคนที่เผยแพร่รูปเราสองคนในวันที่แต่งงานกันมาให้ได้ แต่เชื่อผมเถอะเรื่องนี้ไอ้แพมทำแน่นอน

ไอ้แพนหันมาอ้าปากดูดน้ำดื่มสบายใจ เดี่ยวนี้เราหันมาดูแลกันและกันอย่างดี จะมีก็แต่เรื่องเดียวคือที่ยังค้างคาใจคือเรื่องที่เจ้สองอะไรนั้นไม่ยอมให้เราคู่กันสักที ยังยืดติดคู่เดิมอยู่อีก ทั้งที่พี่ไทม์กับพี่ไลน์และคนอื่นๆก็รู้เรื่องของเราแล้ว

"เอาล่ะครับ เข้าสู่เกมแห่งการสร้างความสัมพันธ์ให้กระชับยิ่งขึ้นแล้วนะคะ นั้นก็คือเกม ป้อกกี้สื่อรักค้าา"เสียงพิธี
กรดังขึ้นเรียกเสียงกรี้ด ผมและไอ้แพนต่างมองหน้ากัน 'ซวยแล้วไงครับไอ้แพนจ้องผมเขม่ง

"อะไรเล้วมองแบบนี้ทำไม เค้ายังไม่ได้ ทำอะไรเลยนะ?"ต้องยึดอกหน่อยครับ เดี่ยวนี้ไอ้แพนใหญ่ เตะต้องเตะหน่อยกับพี่ไลน์มันมีเคือง ไล่ให้กลับไปนอนห้องผมทุกที..

"ก็อย่าให้รู้ว่าสอดไส้แลกลิ้นกับพี่ไลน์ล่ะกัน!!"แหมขู่จริงขู่จังนะครับ ผมไหวไหล่ไม่แคร์ ไม่ทำอยู่แล้วล่ะครับ เมียจ้องอยู่ผมทำไม่ได้หรอก ลับหลังก็ ค่อยว่าอีกที

"หึ ก็อย่าให้เห็นนะว่าเตะปากไอ้พี่ไทม์ล่ะกันไม่งั้นคืนนี้โดนจัดหนักอีกนะเมีย"ไอ้แพมไหวไหล่กลับตามแบบที่ผมทำเมื่อกี้ มันน่านักคนนี้

"แต่เอะ งานนี้ น้องเตอร์น้องแพน จะทำใจได้หรือค่ะ คงไม่มีหึงนอกรอบนะคะ"ไอ้แพนหันไปยิ้มใจดีบอก

"อ้อ ไม่ครับ ไม่เลย เราเข้าใจว่านี่คือเกมนะครับ?"เชื่อเถอะไอ้แพนทนดูไม่ถึง 1 วินาทีหรอก มันก็ฟิวส์หลุดแล้ว!!

"แหม น่ารักกันจริงๆเลยนะคะคู่นี้ ได้รับการยินยอมแล้วค่ะ สบายใจได้เลยพี่ไทม์พี่ไลน์"ทั้งพี่ไทม์พี่ไลน์และทุกๆคนต่างยิ้มชอบใจ ใครว่าผมยินยอมอนุญาตกันเล่า เมียทั้งคนนะจะเที่ยวชนปากกับใคร ผมก็หวงบ้างแต่ ทนยอมไปก่อนล่ะกัน ไอ้แพนสนุกผมก็มีความสุขแล้ว


"เอาล่ะค่ะ งั้นเรามาเริ่มแจกป้อกกี้กันเลยค้าา รอบนี้ขอสองคู่เช่นเคยค่ะ คู่เตอร์ไลน์และไทม์แพนที่รอคอยเลยค่ะ"สิ้นเสียงเราทั้งสี่ยืนเรียงกันหน้ากระดาน โดยเริ่มจาก พี่ไลน์ ผม ไอ้แพนและพี่ไทม์

เห็นไอ้แพนถือป้อกกี้สั่นๆแล้วผมนึกสนุกขึ้นมา ก็อย่างว่าล่ะครับคู่อื่นๆที่ผ่านมาแทบจะแลกลิ้นกันเลยทีเดียว ไอ้แพนมองผมราวกับขู่ทางสายตาตลอดเวลา หวงผมก็บอกมาได้...

"ค่ะ กติกาเดิมนะคะ ทีมไหนกินหมดก่อนทีมนั้นชนะค่ะ นับถอยหลังนะคะ 5" ผมหันมามองไอ้แพนนิดๆ ก่อนจะเตรียม ความพร้อมจะแข่งเกมกับพี่ไลน์


"4"ไอ้แพนมองผมสลับกับมองพี่ไทม์กระสับกระส่าย


"3"ผมกอดเอวพี่ไลน์ไว้ พี่ไทม์เองก็ยื่นป้อกกี้ให้ไอ้แพนกัดด้ามมันไว้



"2"ผมส่งยิ้มให้พี่ไลน์ก่อนจะพร้อมแข่งขันกันสักที




"1"

ฟวบบบ!

ร่างเล็กของไอ้แพนดึงตัวผม ออกห่างจากเอวพี่ไลน์แล้วจูบผมกลางเวที

เสียงฮือฮาดังใหญ่ทั่วห้องโถง เชื่อเลยว่าคราวนี้เราต้องโดนพวกป๊าม๊าสวดกันยาวอีกแน่ ผมโอบเอวไอ้แพนจูบตอบมันอย่างหนักหน่วง



"ไง คราวนี้ยอมรับมาเถอะว่าหวงกู"
ผมกระซิบบอกให้ได้ยินกันแค่สองคน ไอ้แพนเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวว่ามีคนนับร้อยมองเราอยู่ ร่างเล็กอายม้วนซบอกผมไม่
ยอมมองหน้าใคร

แต่นั้นกลับเรียกเสียงกรี้ดลั่นห้องอีกครั้ง ผมสุขใจเหลือเกินที่วันนี้รักของเราไม่ต้องปิดบังใครอีกแล้ว บางทีเรื่องบางเรื่องก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแค่เรายอมรับความรู้สึกของเราก็พอ..

"ครับ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมขอพูดอะไรกับทุกคนหน่อยนะครับ"ผมปรับไมค์ให้ได้ยินชัดเจน ไอ้แพนและคนอื่นๆต่าง
มองหน้าผม ผมพยักหน้าให้สต้าฟคนนึง เอาของที่ผมฝากเธอมาให้หน่อย


"ก่อนอื่นเลย ก็อย่างที่ทุกคนได้รับรู้นะครับว่าผม เตอร์ และไอ้นี่ แพน 'เราแต่งงานกันแล้ว!! ' "

เสียงกรี้ดดังขึ้น เมื่อผมพูดถึงเรื่องที่เราสองคนแต่งงาน



"และก็อย่างที่เห็นล่ะครับ เราไม่ค่อยจะ ลงรอยกันเท่าไร รักของเราสองคนเริ่มต้นเพราะผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบ ใน วันแต่งงานผมยังไม่ได้เต็มใจสวมแหวนให้แพน แต่ในวันนี้ผมอยากแก้ตัวอีกครั้ง

ผมอยากจะมอบแหวนวงนี้แทนใจเราสองคนไว้เป็นหนึ่งเดียวและสวมให้แพนมันด้วยใจจริง ทุกคนช่วยเชียร์ผมด้วยนะครับ เพราะผมไม่รู้เลยว่า แพนจะยอมรับแหวนวงนี้จากผมไหม?"

ผมพูดชัดเจนชัดคำให้ทุกคนได้ยินแต่ที่อยากให้ได้ยินสุดก็คือคนที่ยืนน้ำตาคลอต่อหน้าผม



"รับเลยๆๆๆๆๆ"เสียงเชียร์ดังทั่วห้องโถง ไอ้แพนยิ่งตื้นตันเมื่อผมเอาแหวนที่สลักอักษรย่อของเรา


"ว่าไงหื้อ แพนยังยินดีจะรับรักเตอร์คนเป็นสามีตัวจริงคนดีคนเดียวไหม?"ผมถามมันช้าๆ แบบไม่ค่อยจะหลงตัวเอง ไอ้แพนพยักหน้ารับทั้งน้ำตา


"รับสิ รอมานานแล้วนี่!"ฮ่าๆ มันน่ารักเสมอ ผมค่อยๆสวมแหวนนิ้วนางข้างซ้ายให้มัน แล้วยกอีกวงให้มันสวมให้ผม
บ้าง เสียงปรบมือดั่งสนั่นราวกับทุกคนแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวยังไงอย่างนั้น


"หอมเลยๆๆๆ"
เสียงกึกก้องดังขอมา ผมเลยทำตาม จัดหอมแก้มไอ้แพน มันอายตีอกผมเบาๆแต่ก็ยอมหอมแก้มผมกลับและสต้าฟคนเดิมก็เอาเสื้อยืดสองตัวมาให้ พาให้ผมกับไอ้แพนแปลกใจ


"อันนี้เจ้สองเตรียมไว้ให้จ้ะเพื่อปีเตอร์แพนโดยเฉพาะ"ผมและไอ้แพนหันไปมองเจ้สองอย่างไม่เข้าใจ


"เสื้อคู่จ้ะ คู่รัก 'ปีเตอร์แพน' เจ้และแฟนคลับของน้องๆตั้งใจออกแบบมาให้ค้าา" ผมพลิกเสื้อเปิดออกมาดู เสื้อคู่ที่สกรีน คู่รัก ปีเตอร์แพน ไว้ข้างหลัง ส่วนข้าง หน้าสกรีนคำว่า สามี ภรรยา กำกับไว้..

ไอ้แพนได้คำว่า ภรรยา ส่วนผมได้คำว่า สามี มันน่ารักดีแต่แมนๆแบบผมขอผ่าน!



"ไงจ้ะ สวยไหมๆ?"เจ้สองก็ถามมาได้

"สวยครับ ผมชอบ"อ้าว..ไอ้แพนก็!



"ดีเลยจ้ะน้องแพน งั้นใส่เลยค่ะๆ"ให้ตาย ไอ้แพนใส่จริงๆ ผมยังเงะงะไม่กล้าใส่ แต่ก็โดนไอ้แพนอ้อนขอให้ใส่จนได้

เสียวกรี้ดดังสนั่นทั่วห้องอีกครั้งเมื่อไอ้แพนเกาะแขนผมถ่ายรูปคู่กันอย่างหน้าระรื่น ผมเลยได้แต่ฝืนยิ้ม เสื้อสีชมพู
แบบนี้มันมุ้งมิ้งเกิน ไป ผมอาย!!


ม้วฟฟฟฟ~

"ขอบคุณนะเตอร์ วันนี้แพนมีความสุขจัง"ผมดึงให้ไอ้แพนนั่งซบอกตัวเองแล้ว นอนดูหนังด้วยกันก่อนนอน ภาพเราสอ
งคนวันนี้เต็มหน้าฟีคจนผมไม่กล้าเปิดโซเชียวดู อายตัวเองแท้ใส่เสื้อนั้นไปได้..

"ครับ นี่แพน?"ผมเรียกไอ้แพนที่กำลังกินป้อปคอร์นเคี้ยวตุ้ยๆอย่างสุขใจ

"หื้อ..มีอะไรหรอ?"


"กูเคยบอกมึงยังว่า กูรักมึง?"ไอ้แพนยิ้มๆ ทำปากมุบมิบ มันน่านักคนนี้



"ก็บอกแล้วไง เมื่อกี้นะ!"ผมเค้นยิ้ม เคาะหัวเมียไปหนึ่งที หมั่นเขี้ยวหนัก ร่างเล็กหันไปซบอกดูหนังต่อ และก็หันมามองหน้าผมอีกครั้ง ทำเอาผมตกใจ



"ไอ้เตอร์ กูจะบอกมึงอีกครั้งนะ กูก็รักมึง"สองมือน้อยโอบคอผมไว้ก่อนสองเราจะส่งมอบความสุขให้กัน






---The end ---







จบนะคะคู่นี้พี่เตอร์ก็น่ารัก ชอบน้องแพน  ขอโทษที่หายไปนานค่ะไปงานมีตมาเลยลืมค่ะ

อัพครั้งหน้าคู่พี่ไทม์พี่ไลน์น้าาาา.....จะเป็นรักแนวไหนฝากติชม ติดตามได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน จบ 16/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 17-02-2017 09:23:00
คู่นี้น่ารักวุ้ย..ยยยยยยย   :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน จบ 16/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 19-02-2017 07:14:13
ทีมพี่ปิ้กสายเปย์

ทีมปีเตอร์แพน

คิคิ น่ารักกกกทั้้งสองคุ่เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน จบ 16/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 20-02-2017 16:25:51
น่ารักทุกคู่เลยครับ แต่ชอบคู่ เตอร์-แพนมากที่สุด


ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ เตอร์แพน จบ 16/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 20-02-2017 20:40:35
ดีใจที่ทุกคนชอบนะคะ ฝากติดตามทุกคู่ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพ ไทม์ไลน์ 20/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 20-02-2017 23:30:23
                                     คู่จิ้น3 ไทม์-ไลน์

"คุณครับๆ ขอถ่ายรูปหน่อย?"

ผมถือกล้องเล็งเป้าหมายที่เอาแต่ถ่ายรูปคนอื่นอยู่นาน ร่างสูงบางหันมาตามเสียงเรียกของผมพร้อมกับกล้องตัวโปรดที่ไม่ห่างไปจากสายตาที่โฟกัสไว้

"นับนะครับ 1 2 3" แชะๆๆ


เราต่างถ่ายรูปกันและกัน โดยภาพที่ได้ เราทั้งคู่เห็นเพียงแค่ครึ่งหน้าเท่านั้นเพราะอีกข้างมีกล้องที่แต่ละคนเอาแต่โฟกัสไม่ยอมเอาออกห่างจากใบหน้าเลย

หลังจากนั้นผมก็เดินจากไปตามเส้นขอบน้ำทะเลไปเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทีก็ตอน เปิดรูปเพื่อดู


ตึกตักๆ


ผมว่าผมรู้สึกอยากรู้จักเขาคนนั้น..


ผมว่าผมตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว..


รัก..ทั้งที่มองไม่เห็นหน้าเต็มของเขาเลย


แต่พอเดินกลับไปที่เดิมที่เขายืนเมื่อกี้ปรากฏว่าเขาหายไปแล้ว หัวใจผมสลายแล้ว...

แต่ผมไม่ท้อแค่นี้หรอก ผมเชื่อในปาฏิหาริย์ของความรัก เชื่อว่าสักวันเราคงจะได้พบกันอีกครั้งแน่..


หลังจากนั้นผมจึงกลับไปตามหาเขาคนนั้นจากโลกโซเชียวทุกช่องทาง

"#ประกาศตามหาผู้ชายคนนี้ครับ ผมรู้จักเขาเพราะขอเขาถ่ายรูป ยังไม่ทันเห็นหน้าจริงๆของเขาเลย มารู้ตัวอีก
ทีเขาก็จากไปแล้ว ใครพบเจอหรือรู้จักเขา โปรดติดต่อมาด้วยนะครับ ผมว่า ผมตกหลุมรักเขาเข้าแล้ว'

ไทม์ ช่างภาพสุดหล่อ โพสต์ลงเพจ ท่องเที่ยวทั่วไทย สบายใจรักษ์ไทย..

ผมโพสต์เสร็จแล้ว มีคนมาแชร์และคอมเม้นมากมาย ซึ่งนั้นเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากๆ

Nan nantiya :: เห้ย น่ารักอ่ะพี่ ขอให้เจอพี่คนในรูปไวๆนะคะ

เฟื้องฟ้า อำนวยกิจ:: คุ้นๆน่ะไม่รู้ว่าใช่แกไหมต้น Ton tannakit dee.

V veenus rattacha :: อนุภาพรักนี้ช่างยิ่งใหญ่จัง ขอให้หากันจนเจอนะคะ..

พิษณุ สายเสมอ:: น่ารักครับ ขอให้หากันจนเจอนะครับ ขอแชร์ให้หากันเจอกันอีกแรงน้า

แรไร ไรแร :: ขอให้เจอกันนะคะพี่

Sud sawaddee :: โหพี่..สุดยอดเลย! เจอกันเร็วนะ ผมแชร์ให้แล้วนะ สู้ๆ

เพียง'ออ ::ไฟติ้งค่ะ!!

Jame kitti :: หล่อเลยพี่ สู้ๆครับ!!

ผมอ่านคอมเม้นมากมายที่ทุกคนตั้งใจให้กำลังใจ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แววที่จะหาเขาคนนั้นเจอเลย และนี่ก็ร่วม 2 วันแล้ว แต่ผมก็ยังหาเขาไม่เจอ..


"อ้าวเฮ้ยยยย" เพล้ง!

กล้องที่อีกฝ่ายถือมานั้นร่วงหล่นแตกกระจัดกระจาย ผมยืนถือกล้องตัวเองไว้แน่นกลัวจะตกไปอีก ร่างสูงบางยืนค้างท่าที่จะรองรับกล้องแต่กลับรับไม่ทันกล้องร่วงลงไปก่อนผมค่อยๆเข้าไปสะกิดจิ้มๆตัวเขาเบาๆ

"โอะ กล้อง กล้อง กล้อง"ร่างสูงบางกระพริบตาถี่ๆ แต่แบบรู้สึกตัวช้าไปไหม?

"เออ คือ เราทำพังเอง เราจ่ายให้คืนก็ได้น่ะ!"เห็นหน้าอึ้งนิ่งแล้ว

 ไม่รู้ผมจะกลัวตัวเองที่เผลอชนทำของๆคนอื่นแตก หรือกลัวคนตรงหน้าดี!

"มันแตกแล้ว ของพ่อเราซื้อให้ด้วย"อ้าว ซวยแล้วไงตรู

 ร่างสูงบางค่อยๆก้มลงไปเก็บเศษกล้องมารวบไว้ที่เดียวกันผมเลยช่วยเขาด้วย

 
"นี่ ขอโทษ ไม่ทันดูคนนะเมื่อกี้เลยชน เลยทำกล้องพัง"

"ฮึก ฮึก หือๆๆT^T"เอาแล้วไง ผู้ชายอะไรวะ ร้องไห้กับเรื่องแค่นี้..

"ของขวัญของพ่อ ของขวัญก่อนพ่อจะ ตาย ฮือๆๆๆ"พี่ไทม์ซวยแล้วววววว!!!

หลังพยายามช่วยผู้ชายขี้แยเก็บกวาดเศษกล้องของเขาจนครบแทบจะเกือบหมดแม้แต่ชิ้นเล็กชิ้นน้อยนั้น

ร่างสูงก็ไม่เอาเรื่องผมแต่อย่างใด บอกจะจ่ายซ่อมให้ จะซื้อใหม่ก็ไม่ยอม ผมเลยได้แต่ยืนมองเขาจากไปด้วยความรู้สึกผิด

ทั้งๆที่ควรจะดีใจแต่ผมกลับไม่เป็นอย่างนั้นเลยเพราะกล้องตัวนี้ของผมก็เป็นรางวัลที่พ่อซื้อไว้ให้ในวันที่ผมสอบเข้ามหาลัย 4 ปีที่ผมพกติดตัวตลอดเวลา เลยเข้าใจความรู้สึกนั้นดี เขาคนนั้นก็คงจะเป็นเช่นกัน!!


"เฮ้ย!"โครม!!~

ระหว่างทางจะเลี้ยวรถกลับ รถคันนึงที่ถอยรถมานั้นถูกผมชนเข้าอย่างจัง เสียงกรี้ดตกใจมาจากคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ ผมรีบลงไปตรวจดูคู่กรณีเผื่อเขาเป็นอะไรไป

"อ้าวคุณ!!"ทั้งผมและเขาต่างมองหน้าตกใจด้วยกัน เจอกันอีกแล้ว ครั้งก่อนที่เจอ กล้องเขาเสียหาย

ครั้งนี่เจอกันอีก รถเขาถูกผมชนกระแทกเข้าจนได้ แต่ผมไม่คนผิดนะครั้งนี้


"เออ คือ ขอโทษนะครับ ผมเพิ่งจะหัดขับรถ คุณโอเคนะครับ?"ในเมื่อเขาเอง ก็ยอมรับผิด ผมก็ไม่เอาเรื่องอยู่แล้ว...

"แล้วรถคุณเป็นอะไรไหมครับ ขอโทษจริงๆ?"
ผมเหลือบหันไปเห็นรถตัวเองที่มี รอยถลอกเพราะกระแทกกันเล็กน้อย ถือว่าเจ๋าก็แล้วกันครั้งก่อนเขาไม่ยอมให้ผมจ่ายค่าซ่อมครั้งนี้ทั้งรถผมรถเขาก็ เสียหายกันทั้งคู่

"อ้อ เล็กน้อยครับ ไม่เป็นไร รถคุณเองก็เสียหายนะครับ?"ผมบอกร่างสูงที่ยังคงอยู่ในรถคุยกับผมผ่านกระจกรถ

"ครับ ถ้าอย่างงั้นผมขอตัวนะครับ?"ดูเหมือนเขาจะรีบผมเลยจำต้องถอยออกห่าง ปล่อยเขาจากไปอีกครั้ง หวังว่า
ถ้าเจอกันอีก เราคงจะเจอกันแบบดีๆนะ



"นั้นมันเขาคนนั้นนี่!"

ผมยืนมองร่างบางที่คุ้นตาเมื่อเข้ามาสู่ลานอาหาร วันนี้ผมตื่นสายไปหน่อย การหาอะไรกินในมอ.ก็ถือเป็นมื้อที่ง่ายและรวดเร็วที่สุดแล้ว

ร่างสูงบางกำลังยืนสั่งน้ำผลไม้ปั่น ผมกำลังจะ เดินไปสั่งน้ำปั่นเช่นกัน แต่สองเท้ากลับหยุดนิ่ง ไม่กล้าเข้าไปยืนใกล้กลัวว่าเราทั้งคู่จะได้รับความเสียหายอะไรอีก

ผมยืนจนกระทั้งร่างสูงโปร่งสั่งเสร็จแล้วเดินไปสั่งก๋วยเตี๋ยวต่อ ผมเลยเดินเข้าไปสั่งน้ำปั่นแล้วเดินไปสั่งข้าว เห็นร่างโปร่งเดินไปนั่งรอที่โต๊ะกลางลานอาหาร


"สวัสดีครับ ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ พอดีโต๊ะเต็มหมดแล้ว"ผมเดินเข้าไปนั่งโต๊ะของเขาอย่างหน้าด้านๆ ร่างโปร่งหันไป
มองรอบข้างพลางยิ้มหวาน


"ครับ เจอกันอีกแล้ว"

"และก็หวังว่าคราวนี้เราคงจะไม่ทำอะไรแตกอีก"ทั้งผมและเขาต่างหัวเราะกัน มันจริงที่เวลาเราเจอกันแล้วมันต้องมีเหตุการณ์ให้มีอะไรแตกหักตลอด


"แล้วรถคุณเป็นไงบ้างครับ?"เขายังใจดีถาม เราต่างก็ยังคิดถึงกันและกันสินะ

"อ้อ เข้าอู๋เรียบร้อย ของคุณล่ะครับ ทั้งรถ ทั้งกล้อง เป็นไงบ้าง?"

"ก็เข้าอู๋ตรวจซ่อมเหมือนกันครับ แต่กล้องเอาเข้าตู้โชว์ที่บ้านแล้ว เสียดาย" ยิ่งเขาพูดผมยิ่งรู้สึกผิด

"เออ ขอโทษอีกครั้งนะครับ"

"ไม่เป็นไรจริงๆครับ ผมมากกว่าที่ซุ่มซ่าม เอะอะนิดเอะอะหน่อย มีอันต้องชนนะครับ >< คุณสั่งอะไรหรือยังครับ?"

"ครับสั่งแล้ว"เราคุยกันไม่นาน อาหารที่สั่งก็เสร็จ เราทั้งสองจึงลุกขึ้นไปเอา

"แปลกดีนะครับ ที่เรามานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้?"

"นั้นนะสิครับ แปลกๆมาก อยู่มาสามปี เราไม่ยักจะได้คุยกันทั้งที่เจอกันบ่อย?"

"ใช่ ผมก็พอรู้จักคุณนะแต่ไม่เคยมีโอกาสได้คุยกันเลย สามปีเราคงเดินผ่าน ไปมาหลายรอบแล้วแน่เลย"น่ารักครับ

 เวลาคนตรงหน้ายิ้มทำไมหัวใจผมเต้นแรง ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กรสจืดถูกคาบกิน ผมหันกลับมามองจานตัวเองแล้ว

ข้าวผัดพริกทะเล แดงจ๊าบไปด้วยพริก หลายชนิดบ่งบอกถึงรสชาติเผ็ดจัดจ้านที่ผมชอบ ผมตักคำโตกินบ้างเมื่อเห็นว่า

คนตรงหน้ากินก๋วยเตี๋ยว เงยหน้ามาอีกทีก็พบหน้าสวยๆ ทำหน้าระคนสงสัย


"คุณชอบกินเผ็ดหรือครับ ดูท่าน่าจะเผ็ด"เขาดูดน้ำแตงโมปั่นที่สั่งแก้คอแห้ง


"ครับชอบ ชอบกินเผ็ดมาก ผมเป็นคนกินรสจัดนะครับ คุณคงไม่"ดูจากก๋วยเตี๋ยวแล้วเดาได้เลยว่าคนตรงหน้าไม่กินเผ็ดแน่ ร่างบางยิ้มรับทันที


"กินเสร็จแล้วไปไหนต่อไหมครับ?"ผมถามขึ้นระหว่างเรากินข้าวต่อ

"อ้อ จริงๆบ่ายโมงวันนี้มีถ่ายรูปฟรีแว้ดดิ้งครับ แต่กล้องพังผมเลยโทรยืมกล้องเพื่อนนะครับ นี่ก็ว่ากินเสร็จแล้วจะไป
เอากล้องมันครับ?"

"งั้นเดี่ยวผมไปส่งนะ?"ผมรียอาสาทันที ถือเป็นการขอโทษเขานัยๆ อย่างน้อยก็ ได้ทำอะไรเพื่อไถ่ความรู้สึกผิดก็ว่าได้

"ไปส่ง ไปส่งไหนครับ ส่งหอเพื่อนหรือส่งที่ทำงาน?"คนตรงหน้าถามยิ้มกว้าง ผมอดที่จะยิ้มด้วย เราสองคนต่างมอง หน้ากัน


"ไปทุกที่เลย ให้ไปหรือเปล่าครับ?"ร่างบางอมยิ้มน้อยๆ แก้เขินด้วยการเขี่ยก๋วยเตี๋ยวเล่น น่ารักครับ





"คุณเลี้ยวรถเข้าซอยขวานี่เลยครับ เพื่อนผมรออยู่หน้าหอมันเลยครับ นั้นนะครับ ตรงนั้นเลย"ผมมองคนที่นั่งข้าง
กายชี้เพื่อนตัวเองให้ผมดูเพื่อขับรถไปจอด เพื่อนเขายืนรอถือกล้องให้เขาอยู่


 "พีท รอนานไหม?"ร่างโปร่งรีบลงไปหาเพื่อนรวดเร็ว ผมไม่ค่อยชอบขี้หน้าไอ้เพื่อนเขาสักเท่าไร ไอ้พีท คู่อริผมเอง เราเขม่งหน้ากันตั้งแต่ปี1 ล่ะ!!

"ไม่ล่ะ เพิ่งมายืนเอง มึงเหอะ เป็นไงมาไงกับไอ้นี่ว่ะ?"อ้าวสัสพีท กวนตีนล่ะ ผมแค่ออกมายืนเฉยๆก็โดน
จ้องหยามหน้ากัน

"อ้อ เพิ่งรู้จักกันนะ ขอบใจสำหรับไอ้นี่นะ ใช้งานเสร็จจะคืนให้นะ ไปล่ะ"

"อื้ม ระวังตัวด้วยล่ะ ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องสนิทกับไอ้นั้นมาก"ผมจ้องมองไอ้พีทไม่วางตาพอๆกับมัน ร่างบางถืออุปกรณ์ในขึ้นรถ
ก่อนผมจะขึ้นตาม


"ไอ้นั้นเพื่อนหรอ?"


"อื้ม พีท เพื่อนสนิทเราเอง คุณกับพีทไม่ชอบหน้ากันหรอ?"เห็นร่างบางถามผมเลยอดแปลกใจ รู้ด้วยหรอ

"รู้ด้วย??"

"ก็ไม่เชิงรู้ แต่พีทก็เรียกคุณไอ้นั้น คุณเองก็เรียกพีทว่าไอ้นั้น คงจะชอบหน้ากันมากเลยนะครับ"เห็นร่างบางยิ้ม เหมือนเรื่องสนุกที่ผมกับไอ้พีทไม่ชอบหน้ากัน บอกเลยกับไอ้พีท ผมไม่มีวันนับเป็นเพื่อนแน่นอน...

"ไปสวน แวดดิ้งพาร์ค นะครับ ซ้ายเลยๆ"ผมวนรถเข้าซ้ายมืออย่างที่เขาบอกรอ เพียงไม่นานเครื่องมืออุปกรณ์ก็เตรียม พร้อม เจ้าบ่าว-เจ้าสาว แต่งตัวเรียบร้อย ออกมาถ่าย ผมนั่งรอดูเขาถ่ายรูปเงียบๆ มีบ้างที่เผลอหยิบเอากล้องตัวเองมาถ่าย เวลาที่ร่างบางทำงานมันดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ


"คุณรอนานไหมครับ จริงๆคุณกลับก่อน ก็ได้น่ะผมกลับเองได้?"

"ไม่ครับ สนุกดี อีกอย่างก็อยากจะถ่ายรูปบ้างแล้วสิ เห็นคุณถ่ายรูปเลยคันไม้คนมืออยากถ่าย เย็นนี้ไปหามุมถ่ายรูปกันนะครับ?"ผมเอยชวนเขาไปถ่ายรูปด้วยกัน มีอยู่มุมหนึ่งที่ผมอยากไปถ่ายเอามากๆ เคยไปครั้งหนึ่งตอนเพื่อนขับรถเล่น แต่ตอนนั้นผมลืมพกกล้องไป แต่วันนี้รู้สึกอยากไปแล้ว

"อื้ม..ก็ได้ครับ แต่คุณรออีกหน่อยนะครับ อีกเซตเดียวก็จบงานครับ"ผมพยัก หน้ายิ้มรอได้ นานแค่ไหนก็รอได้ ขอแค่ ไปทันพระอาทิตย์ตกก็พอ ผมมองดูร่าง บางทำงานไปเรื่อยๆจนงานเสร็จ


"ครับ ในส่วนของรูปภาพ ผมจะส่งไฟล์ และรูปแต่งทุกอย่างตามที่กำหนดนะครับ ถ้าไม่พอใจหรือจะเปลี่ยนอะไร บอกผมได้ตลอดเวลานะครับ ขอบคุณที่วันนี้เหนื่อยกันมาด้วยกันนะครับ"

"ยินดีมากๆเลย งานไลน์ดีอยู่แล้ว ไม่งั้นยีนส์คงไม่เจาะจงเอาตากล้องเป็นนายแน่ล่ะครับ"ว่าที่เจ้าบ่าวเป็นคนตอบแทนเจ้าสาวที่ดูจะเขินๆ อะไรว่ะรอยยิ้มแบบนั้น รอยยิ้มเหมือนเจ้าสาวชอบตากล้องแต่เจ้าบ่าวไม่หึงหวงนี่นะ

เป็นผมหน่อยไม่ได้มีอันต้องต่อยแล้ว


"ยินดีเสมอครับพี่น้อคยังไงก็แสดงความยินดีอีกครั้งกับการแต่งงานนะครับ"แหม ร่ำลากันยาวเหยียดเหลือเกิน เหอะ!

"คุณ..ไปกันเถอะครับ ผมเสร็จงานแล้ว"

"ครับ"ผมช่วยร่างบางถืออุปกรณ์กล้อง ขึ้นรถก่อนจะตระเวนออกไปยังสถานที่ที่ผมอยากมา


"จะไปถ่ายที่ไหนหรือครับ ไกลไหม พอดีผมหิวแล้ว?"ร่างบางพูดขึ้น นั้นทำให้ผมฉุดคิดได้

"อ้อ จริงด้วยผมลืมไปซะสนิทเลย เดี่ยว แวะซื้อขนมกันก่อนก็ได้นะครับหรือคุณ หิวข้าว ผมจะได้แวะซื้อ?"

"หิวข้าวครับ ตอนเที่ยงกินก๋วยเตี๋ยวไปไม่อิ่มท้องเท่าไร?"อ้อ ผมรับรู้ ปล่อยให้เขาลงไปซื้อขนมส่วนผมก็ลงไปซื้อข้าวแกงมาให้..เราสองคนกลับเข้ารถอีกครั้งเพื่อเริ่มออกเดินทาง

"เสบียงพร้อม รถพร้อม คนพร้อม ลุยเลย!"ผมมองร่างบางที่หยุดซื้อลูกชิ้นติดมือมาตอนไหนก็ไม่รู้กัดกินอย่างหิวโหย


"อ่ะ อ้าปากสิครับ"มือเรียวยื่นลูกชิ้นไม้หนึ่งจ่อปากผมที่กำลังขับรถ ผมอ้าปากอย่างว่าง่าย เราคุยกันเรื่องการถ่ายภาพและเทคนิคต่างๆที่ชอบใช้

ไปๆมาๆเรา กลับคุยกันถูกคอยิ่งกว่าเดิม อาจเพราะ เรามีรสนิยมที่เหมือนกันด้วยมั้ง เลยคุย กันได้ ผมขับรถเรื่อยๆจนมาที่หมายอย่างที่หวังไว้สักท ท้องทะเลกว้างกับท้องฟ้าที่พระอาทิตย์กำลังทอแสงอ่อนๆ

ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว ยังพอมีเวลาถ่ายรูป ลมแรงที่กระทบจนตัวเย็นโอน

ผมมอง ร่างบางที่มาด้วยสูดออกซิเจนเข้าปอดด้วยรอยยิ้ม


"โอ้ย สวยมากเลยคุณ ทำไมไม่เคยรู้เลยว่าห่างออกไปจากมอ.20 กว่ากิโล จะมีทะเลสวยอย่างนี้ ผมชอบทะเล"

ร่างโปร่งอ้าแขนรับแดด รับลม มีความสุข ผมหยิบเอากล้องตัวเองขึ้นมาพลางเดิน ตามถ่ายเจ้าตัวข้างหน้า


"คุณๆ ผมอยากได้รูปบนนั้นน่ะ เห็นทะเล ท้องฟ้างาม คงสวยน่าดู"่ร่างบางชวน ขึ้นสะพานไปถ่าย ผมเองก็ตั้งใจจะมาถ่ายตรงนี้อยู่แล้ว เราสองคนเดินขึ้นสะพานที่ยาวเหยียด ผมถ่ายรูปร่างบางไปเรื่อย คนตรงหน้าเองก็โพสท่าไม่หยุด..



แชะ แชะ แชะ!!!


ทุกรูปภาพบันทึกไว้เป็นความทรงจำ ผมไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าที่ติดจะนิ่ง เงียบเก็บตัว จะมีรอยยิ้มหวาน ชอบคุย ชอบกินและแตกต่างไปจากที่ผมเคยจินตนาการมาก่อน เขาไม่หยิ่งเลยสักนิด ออกจะสนิทด้วยง่ายอีกด้วย


ร่างบางขยับเข้ามาหาดูรูปในกล้องที่ผม เปิดให้เขาดู ดูไปยิ้มไปจนตัวเราเริ่มจะ ชิดจมูกชนกันแล้ว


"รูปนี้สวยนะคุณ"หน้าสวยยิ้มหันมามอผมจนแก้มนุ่มฝั่งจมูกผมเข้าอย่างจัง เราสองคนรีบถอยห่างออกจากกัน


"เอ่อ เอ่อ เดี่ยวผมถ่ายรูปให้คุณด้วยดีกว่า มาครับ?"เจ้าตัวรีบแย่งกล้องจาก
มือผมไปถ่าย ผมชิดกับการถ่ายคนอื่นมากกว่า ให้มาเป็นนายแบบเองแล้ว มันแปลกๆ


"คุณโพสต์ท่าหล่อๆนะ เร็วๆแหละเดี่ยวแสงอาทิตย์หมดพอดี"ผมทำตามเขาบอกอย่างว่าง่าย พระอาทิตย์กลับจะทยอยตกฟ้าแล้ว ร่างบางชวนผมไปถ่ายในทะเลด้วยกัน ถ่ายไปจนแสงอาทิตย์ดับลง ผู้คนมากมายที่แวะมาพักผ่อนก่อนหน้านี้ทยอยกลับกันทีละคน ผมและเขาเลย ทยอยกลับบ้าง


"วันนี้สนุกมากๆเลยนะ ขอบคุณอีกครั้งนะคุณ"

"อื้ม สนุกเหมือนกัน ไว้ถ้ามีโอกาสคงจะได้สนุกกันอีกนะ"ทั้งผมและเขา เราต่างแยกย้ายไปมีชีวิตของกันและกันเราสองก็แค่มีช่วงเวลาหนึ่งที่ชีวิตได้พบกันและก็จากกันไป จนมาถึงวันนี้


"เอาล่ะครับต่อไปก็ต้องแสดงความยินดีกับพี่ไทม์ กาลวิน ทานทอง ปี4 นวัตกรรมฯครับ"

เสียงประกาศดังขึ้นผมเดินถือกล้องขึ้นมาอย่างสุภาพ และก็ต้องแปลกใจเมื่อชื่อของคนที่ถูกคัดเลือกคนถัดไปเป็น เขาคนนั้น คนที่เราต่างห่างหายกันไปนาน

"พี่ไลน์ ภาสกร ยุทธนา ปี4 ประวัติศาสตร์ครับ!!"หนุ่มยิ้มหวานรีบวิ่งขึ้นมาบนเวทีพร้อมเสียงตบมือสนั่น ผมเองก็ยิ้มเมื่อมองเขาตลอดทุกย่างก้าว

"ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ"เขาทักผม"ไง!"ผมพูดไม่ออกเลย มือนุ่มขยับเข้า
จับมือผมจนผมต้องก้มลงมอง ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เขาจับมือผมด้วย ผมเลยบีบมือเขากลับ เราต่างยิ้มให้กัน

"คุณ มานั่งนี่เลยๆ!"

ร่างบางดูจะตื่นเต้นไม่น้อยที่เราเจอกัน มีการเว้นที่นั่งเรียกให้ผมนั่งข้างกายด้วย ผมไม่รี่รอรีบไปนั่งด้วยกันเลย น้องบลูสกายได้อธิบายกติกาให้พวกเราได้ฟัง พร้อมบอกให้ พรุ่งนี้พวกเราต้องมาถ่ายรูปโปสเตอร์โปรโมท ทุกคนต่างแยกย้ายกลับ

"นี่คุณ พรุ่งนี้มารับผมได้ไหม?"ร่างบางพูดขึ้นระหว่างที่เราเดินออกมาจากห้องโถงใหญ่เป็นคนเกือบสุดท้าย

"ได้สิ หอเดิมใช่ไหม จะได้ไปรับ?"จริงๆก็แวะเวียนไปแอบดูคนๆนี้หน้าซอยเขาบ่อยแต่ไม่กล้าเข้าไปทัก มันไม่กล้า

"ครับ ที่เดิม ผมก็อยู่ที่เดิมไม่ได้หายไปไหน?"เอะ ร่างบางกำลังจะสื่ออะไรผมหรือเปล่า?

"ว่าแต่คุณมีเรียนต่อไหม?"ผมหันมาถามเขา มันแค่แบบ เราต้องจากกันอีกแล้วหรอ เพิ่งจะได้เจอกันเอง

"ไม่ครับ ไม่มี เราจะไปถ่ายรูปด้วยกันต่อไหม คิดถึงวันนั้นมากเลย""ครับ แน่นอนอยู่แล้ว ผมมีที่ที่อยากถ่าย กับคุณหลายที่เลย
ไปกันเลยไหม?"


"อื้อ ไป ไปครับไป โอ๊ะ!"เพราะมัวแต่ดีใจจนลืมดูทางออก คนข้างกายผมเลยเดินชนกระจกประตูเข้า ให้ตายสิครับ อะไรจะโกะขนาดนี้


"โอ โอเคไหมครับ?"ผมแอบขำกับตัวเอง ความโกะของเขามีอยู่ตลอดเลยใช่ไหม

"เจ็บ! คุณน่ะทำไมไม่บอกว่าประตูมันปิดอยู่ล่ะ?"อ้าว ผมผิดซะงั้น

"โอเคๆ ผมผิดก็ผิด เจ็บมากไหมครับนี่?"

"อื้อ เปล่าหรอกครับ เรียกร้องความสนใจเฉยๆ"หือออ มีงี้ด้วย ร่างบางฉีกยิ้ม กว้างจับหน้าผากคลายอาการระบม ผมเอื้อมไปกอดไหล่เขา ขยับตัวเขาเข้าใกล้ตัว

"ใกล้กัน อุ่นใจเนาะ ว่าไหม?"

ผมแอบอมยิ้มเมื่อมือหนาชิดผมเข้าใกล้ตัว เราออกไปเที่ยวเล่น ถ่ายรูปกันตามที่ใจต้องการ


Rrrrrrrrrn

ระหว่างที่กำลังถ่ายรูปเพื่อนผมดันโทรมาตาม จริงๆแล้วผมมีเรียน แต่โดดสักคาบคงไม่เป็นไรหรอก

(ไอ้คุณไลน์ ต้องให้โทรมาตามหรือครับถึงจะเสด็จมาเรียนได้?)แหม เพื่อน ก็พูดให้เกียรติ์เกินไป

"ปืน ลาคาบนี้ให้หน่อยนะ วันนี้ขอโดด"

โดดคาบเดียวเอง เพื่อคนของหัวใจ ไลน์ขอสักวัน!


(เออ กูลาน่ะได้ แต่หาข้อแก้ตัวกับป้าคุณไลน์เองล่ะกันนะครับ วันนี้ป้าคุณไลน์มาสอนแทน) เอาแล้วไง ซวยแล้ว อาจารย์อนุวัฒน์จะมาลาอะไรเอาเวลานี้ ช่างๆเถอะค่อยหาโอกาสแก้ตัวกับป้าก่อนที่ป้าจะฟ้องแม่ก็แล้วกัน

"อื้มๆ ได้ๆ"แล้วเพื่อนปืนก็วางสายไป

"ใครโทรมาหรือครับ?"คนที่กำลังเช็ดกล้องเงยหน้าขึ้นมาถามผม เพราะเราอยู่
ไกลกันนิด เขาเลยไม่ได้ยินสิ่งที่ผมพูดกับเพื่อน

"เพื่อนครับ โทรมาชวนไปดื่ม แต่ผมไม่ไปนะครับ"แหม แอคติ้งของผมคงผ่านนะครับ ร่างอวบมีน้ำมีนวลกว่าผมจ้อง มองเขม่ง

"เพื่อน เพื่อนไหนครับ ไอ้พีทหรือเปล่า?"
ชอบจัง สายตาที่จ้องจับผิดนั้น เหมือนแฟนหึงกลัวแฟนตัวเองจะมีกิ้กยังไงอย่างนั้นแหละ


"เปล่าครับคนนี้ชื่อปืน ไม่เชื่อก็ดูเอาเองเลย"ผมขยับตัวเข้าใกล้พร้อมยื่นหน้าจอ มือถือให้เขาดูว่าคนที่โทรมาคือปืนจริงๆ

"ก็ช่างเถอะ มาถ่ายรูปกันต่อดีกว่า" ชีสสส ทีแบบนี้ล่ะยิ้มออกเชียว!!

ผมกับเขาเริ่มถ่ายรูปกันอีกครั้ง วันนี้เรา แวะมาถ่ายแถวสวนสาธารณะ บรรยากาศยามเย็นดีมากๆ เราแวะกินข้าว เที่ยวเล่นอีกหน่อย ก่อนจะจบด้วยการแวะมาร้านของน้อง โซดาหลังมอ. หลังดื่มกันจนเมาพอตัว เขาก็ขับรถส่งผมพากลับมาที่หอ.. สุภาพบุรุษจริงๆ


"พรุ่งนี้จะมารับนะครับ ฝันดี!!"




**หายไปนาน ไม่สบาย ขอโทษนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ 20/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 21-02-2017 17:55:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ 20/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 21-02-2017 22:54:57
ไทม์ไลน์น่ารัก
รักแบบละมุนค่าชอบบบบ
รอค่ะต่อๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ 20/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 22-02-2017 23:02:40
น่ารักกกกทั้งสามคุ่เลยค่าา
มาต่อเร้วน่าค่าา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ 20/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 26-02-2017 23:13:22
 :katai2-1:ๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ 26/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 26-02-2017 23:26:42
6 โมง 30 นาทีของเช้าวันใหม่

"สวัสดีครับคุณยืนรอนานไหม?"เพราะนัดกันเมื่อวานว่าจะมาด้วยกัน ผมเลยรีบแต่งตัวมายืนรอหน้าหอแต่เช้า เขาถามขึ้นอย่างนุ่มนวล

"ไม่ครับ เพิ่งมาเอง"มารอแค่ครึ่งชั่วโมงเอง ผมรีบขึ้นรถแต่โดยดี

"ไปหาอะไรกินกันนะครับ หิวแล้ว ข้าวต้มกุ้ยหน้า 5 แยก เขาว่าอร่อย ลองไปกินกันไหมครับ?"อ่อยขนาดนี้แล้ว ถ้าเขาไม่รู้ก็ซึนมากแล้วล่ะ

"อร่อยครับ อร่อยจริง ผมเคยไปกินมาแล้ว!"เคยกินมาแล้ว กับใครล่ะ?ผมจ้องมองเขาอย่างอยากรู้

"ไปกับเพื่อนครับ ไอ้นนท์พาไป คืนนั้นทำธีสีสจนเช้าเราเลยออกมาหาอะไรกินก่อนนอนครับ!"ผมแถไปมองทางข้างนอกทั้งๆที่ปากฉีกยิ้มกว้างพอใจ

"เอิ่ม ผมอัดรูปมาให้แล้วนะครับ อยู่ในถุงใบเล็กเบาะหลัง คุณหยิบดูได้เลย"ผมรีบเอียงตัวไปหาถุงที่ใส่รูป ร่างอวบที่ ขับรถอยู่มองทางตลอด

"ถุงไหนหรือครับ หาไม่เจอเลย?"ผมถามเพราะหาไปก็หาไม่เจอ

"ถึงสีเขียวครับ เจอไหม?? ผมใส่ไว้ในถุงใบผ้าอีกทีนะครับ"ก็อะไรมันจะลึกลับซับซ้อนขนาดนี้ล่ะ ผมหยิบเอาถุงผ้ามาไว้ข้างตัวพร้อมเปิด หาถุงสีเขียว แล้วก็เจอจริงๆด้วย

"ค่อยเปิดดูก็ได้นะ ถึงร้านแล้ว โน้น!"ผมเงยหน้าดูที่เขาชี้ มันจริงด้วย ขับเร็วจัง..

"ครับผ๊ม!!"ผมฉีกยิ้มให้เขา ร่างอวบกว่าจอดรถก่อนเราสองคนจะหาที่นั่งกินข้าวเช้ากัน เช้าขนาดนี้คนยังเต็มเลย ระหว่างทางหาโต๊ะมีคนรอบข้างหันมามองเราแล้วซุบซิบๆกัน มีบ้างที่ถ่ายรูป


"โต๊ะนี้ก็แล้วกันนะคุณ"ผมเลือกโต๊ะริมผนัง เพราะเห็นว่างพอดี ร่างอวบเองก็ไม่ เถียงอะไรแถมยังบอกให้ผมนั่งรอไปก่อน ส่วนตัวเองก็เดินไปสั่งข้าวต้มให้



"สั่งแล้วนะ ข้าวต้มจื๊ดจืด กับข้าวต้มรสแซ่บนะ"ผมเงยหน้าละจากรูปที่กำลังดูอย่างเพลินๆ พลางย่นหน้ามั่นไส้ให้เขา
ตัวเองกินรสเผ็ดได้ทำมาข่ม เหอะ!!

"รูปนะครับ น่ารักมาก ผมชอบ มุมสวย!"
ผมยังคงตื่นเต้นไม่หยุดเวลาดูรูปที่เขาถ่ายมาให้ รูปเราสองคนถ่ายคู่กันยิ่งน่ารักเข้าไปอีก

"ผมชอบรูปนี้ ขอนะ!"ผมชูรูปที่เราสองคนถ่ายด้วยกันระหว่างเล่นน้ำทะเล

"เอาไปหมดก็ได้ ผมอัดมา2 ชุด"หื้อออ อ้อยผมนัยๆหรือเปล่านะ ..

"งั้น ขอหมดเลย!!"เราสองคนนั่งกินข้าวเช้ากันด้วยรอยยิ้มแต่ผมก็ต้องมาเซ็งเป็ดเมื่อเจ้สองจับผมคู่กับน้องเตอร์ ส่วนเขาคู่กับน้องแพน มันอิจฉา!!


"เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเงียบๆไปนะ?"เพราะต้องขับรถพาผมกลับมาส่งที่หอ ร่าง อวบเลยถามขึ้นเมื่อผมไม่พูดอะไร

"ก็ไม่เป็นอะไรนี่ครับ ผมง่วงแล้ว!!"ตัดบททันทีครับ ผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลย


Rrrrrrrrrn
"ฮัลโหลพีท อื้มๆ กำลังกลับพอดีเลย!"
เอียดด..ผมแทบหน้าคว่ำชนกับหน้ารถ

"คุณ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?"ผมรีบถาม เพราะคิดว่าที่เขาหยุดกะทันหันคงเพราะมีเหตุอะไร ร่างอวบฉวยเอามือถือผม
กดวางสายพีทอย่างเสียมารยาท

"ไอ้พีทอีกล่ะ เป็นอะไรกับมันกันแน่?"
ผมขมวดคิ้วชนกัน เขาโกรธอะไรผมกับพีทเล่า เราเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ

"ก็เพื่อนจริงๆ แล้วคุณโกรธอะไรล่ะครับนี่ บาดเจ็บหรือเปล่า?"ผมรีบตรวจดูร่างกายเขา เผื่อเขาจะได้แผล แต่ไม่มี..
ร่างอวบดูจะสงบใจลง

"ไม่ได้โกรธ แค่ไม่ชอบ!"ไม่ชอบ แปลว่า เขาไม่ชอบพีทเลยไม่อยากให้ผมยุ่งกับพีทสินะ

"แล้วจะไปไหนกับมัน?"อยู่ๆก็ถามขึ้น

"อ้อ พีทโทรมาจะมารับไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันนะ"ผมรับบอก

"งั้นก็โทรไปบอกมันว่าไม่ไป เที่ยงนี้มีคน เลี้ยงแล้ว!"ผมเผลอยิ้มเมื่อเขายื่นมือถือผมให้กดโทรหาพีทเพื่อบอกว่าไม่ว่างไป

"จะเลี้ยงหรือครับ?"ร่างอวบไม่ตอบ ยังคงย้ำให้ผมโทรบอกพีทว่าไปไม่ได้
ผมกดสายหาพีทและพีทก็รับ พีทดูจะเป็นห่วงเพราะผมตัดสายไปดื้อๆ

"อื้ม คงไปด้วยไม่ได้นะ ติดธุระ อื้มๆแล้วก็ไม่ต้องห่วงนะเที่ยงนี้มีคนเลี้ยงแล้ว"ร่างอวบพาผมมากินข้าวเที่ยงที่ห้องของ เขา เหตุผลหลักๆคือหงุดหงิด ไม่มีอารมณ์กินข้างนอก ผมเลยจำต้องเดินเข้า มาในห้องเขาอย่างงงๆ

"นั่งไปก่อนล่ะกัน ผมจะอาบน้ำ!"อ่าหะ.. ผมพยักหน้ารับรู้ ระหว่างที่เขาอาบน้ำ ผมก็เดินสำรวจห้องเขา เตรียมจาน น้ำ เพื่อรอเขาออกมากินข้าวเที่ยงพร้อมกัน ทีวีเครื่องใหญ่ ผมเปิดข่าวดูฆ่าเวลา

ร่างอวบเดินออกมาในสภาพที่ฆ่าหัวใจผม เพราะผ้าขนหนูผืนหนาที่พันรอบเอวแค่นั้น เม็ดน้ำสะอาดยังคงเกาะผมและ
ตัวเขา เขาเดินมานั่งข้างกาย

"เตรียมซะพร้อมเชียว หิวก่อนก็กินก่อนได้เลย"ผมเพียงยิ้ม พยายามเพ่งมอง ข่าวไม่ใส่ใจเขามากนัก แต่สายตาบ้า กลับวอกแวกหันไปมองอยู่ได้..

"ก็กินคนเดียวไม่อร่อย กินหลายคนอร่อยกว่าเนอะๆ"ฮือๆ ผมอยากจะตาย ทำไมเขาไม่ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนเล่า แล้วแบบนี้ผมจะมีสมาธิกินข้าวไหม?

"งั้นก็กินเลยแล้วกัน หิวล่ะ"ช้อนตักคำโตเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยก่อนผมอีก ผม ตักกระเพรารสจืดกินบ้าง แอบมองมานานล่ะ รสเผ็ดจัดขนาดนั้น ทำไมร่างอวบกินแล้วไม่รู้สึกอะไร"มันไม่เผ็ดเลยรึครับ ผมเห็นคุณกินแล้วธรรมด๊าธรรมดา?"

จริงๆคืออ้อนทางอ้อมอยากจะลองกินดูบ้าง ร่างอวบหันมามองผมหางตา

"อยากลองกินว่างั้น?"ผมพยักหน้างึกๆยิ้มหวานส่งไป น้ำก็เตรียมพร้อมแล้วคงไม่เผ็ดมากหรอกมั้ง!

"อ่ะ งั้นก็อ้าปากกว้างๆเลย!!"คนตรงหน้า ตักข้าวกระเพราในจานคำโตพร้อมบีบแก้มผมให้อ้าปาก สัมผัสรสจัดที่เตะลง
ลิ้นทำเอาผมตาโต มันเผ็ดปรี้ดดดดดด!

ถุย!! ผมรีบวิ่งหาถังขยะแล้วคายอย่างรวดเร็ว เผ็ดๆๆๆๆ เผ็ดจนหน้าแดงเถือกร่างอวบวิ่งเอาน้ำยื่นให้

"อ้าวน้ำ ค่อยๆกินนะ!"เขาเองก็ดูจะตกใจที่ผมแพ้มากขนาดนี้

"มันเผ็ดนะคุณ!!"ผมดิ้นพล่าน ลิ้นทั้งเผ็ด ทั้งร้อน ทั้งแสบทั่วปาก ทำไงดีๆๆๆ เขาเองก็วุ่นเอาน้ำมาให้อีก

"เออนม นมช่วยแก้เผ็ดได้"เขาว่าแล้วก็วิ่งไปเปิดตู้เย็น ผมเองก็เผ็ดร้อนจนหมด หวัง ในตู้เย็นมีแต่เบียร์เต็มไปหมด นมสักหยดหาไม่เจอเลย

"โถเว้ย..เดี่ยวลงซื้อให้ รอหน่อยนะ กินน้ำแก้เผ็ดก่อนล่ะกัน?"ผมพยักหน้า เออออ ตอนนี้เขาพูดอะไรว่าง่ายหมดร่างอวบเข้าห้องตัวเอง แต่งตัวแว็บเดียว แล้วลงไปซื้อนมมาให้ ผมมองตัวเองในกระจกแล้วแทบไม่เชื่อสายตา ปากผมบวมเจ๋อนิดๆ

รอบๆขอบปากก็แดงจี้ดจนผมเริ่มคันขึ้นมา ผมแพ้เผ็ดผมรู้ แต่ไม่รู้ว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ จำได้ว่าพอโตพอจำความได้ แม่ก็ป้อน
ข้อมูลในสมองว่าผมกินเผ็ดไม่ได้เพราะผมแพ้ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว มิน่า... แม่ถึงดูแลผมแจ ผมดื่มน้ำเข้ามากๆแต่ความ
เผ็ดก็ยังไม่จางหาย หาก้อนน้ำแข็งในช่องแช่ฟีตมาประคบเย็นเพื่อคลายร้อนไม่นานร่างอวบก็วิ่งเข้ามาพร้อมนมขวดใหญ่ เปิดฝาให้อย่างทุลักทุเลผมรีบดื่มนมรสจืดจนสำลักออกมา

"ให้ตาย ดื่มดีๆสิวะ เดี่ยวก็ได้ตายกันพอดี แพ้เผ็ดแล้วยังเสือกจะกินอีก!"เป็น ครั้งแรกที่เขาพูดไม่เพราะกับผม คงเพราะห่วงผมมากไปมั้งเลยลืมตัว..ผมตั้งนมขวดใหญ่ไว้ เสื้อนักศึกษาเลอะไปด้วยนมที่ดื่ม

"ก็แค่อยากลองหนิครับ!"ผมบอกเขาดีๆ ร่างอวบสงบปากไม่พูดอะไรแต่ก็ยังใจดี หาผ้าขนหนูและเสื้อให้ผม

"ไปอาบน้ำซะ หายเผ็ดแล้วค่อยมากินข้าว"ผมรับเอาผ้าขนหนูและเสื้อมากอดแนบอก ก่อนจะเข้าห้องน้ำก็ไม่วายหยิบ
นมขวดใหญ่มาด้วย ยังเผ็ดก็ต้องกินกันอีกหน่อย


"วันหลังไม่ต้องกินแล้วนะอะไรที่มันเผ็ดๆ ระวังด้วยก็แล้วกัน!"แง่ว ออกมาจากห้องน้ำก็โดนว่าสั่งสอนเหมือนแม่เลย เขา เรียกให้ผมมานั่งข้างกาย รสเผ็ดยังคงติดลิ้นผมไม่จางหายทั้งที่ผมกินนมไปเกือบหมดขวด

"คุณ..มันยังเผ็ดอีก!!"บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ3-4ปีที่ผมมีน้ำตาเขาจ้องมองปากบวมเจ๋อของผมอย่างเป็นห่วง

"หาหมอนะ แล้วก็ขอโทษที่ทำให้เป็นแบบนี้"

"อือ ไม่ใช่ความผิดคุณสักหน่อย!"สุดท้ายเราก็ไปคลีนิคกันได้ยาแก้แพ้แก้คัน มากิน ผมเผลอหลับไปในอีกชั่วโมงต่อ
มา กว่าจะตื่นอีกทีก็ดึกเอาการ เขาไม่ยอมปล่อยให้ผมกลับไปหอตัวเอง ในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน เราเริ่มสนิทกันมาก
ขึ้น \

เขาสังเกตได้ว่าน้องเตอร์กับน้องแพนมีซัมติ่งต่อกันเราเลยต้องช่วยเหลือ หาโอกาสให้สองคนนั้นหึงกันหรือแสดงออกความรักของตัวเองกันให้มาก แต่ผมไม่คิดว่าวิธีนี้จะเวิร์คตรงไหนเลย ยิ่งเขาชิดใกล้น้องเตอร์ผมยิ่งหงุดหงิดแต่เพื่อแผนการ ถ้าน้องเตอร์แพนเขารักกันจริงแล้วได้คู่กัน ผมกับเขาก็จะได้เป็นคู่ จิ้นกันสิ เหมือนจะเป็นความคิดที่ง่ายๆแต่มันไม่ง่ายเลยต่อความรู้สึกของผม


"ปิ้นๆๆๆ หลีกหน่อยๆๆ"เสียงน้องโอตัว ใหญ่กว่าพวกผมทั้งที่อยู่แค่ปี2 ตะโกน บอกตลอดทางเพราะโชเล่ที่ขับบรรทุก แกนพยาบาล7-8คนเพื่อไปดูแลน้องเนื่องจากมีน้องหลายคนเกิดแพ้แดดแพ้ลม เขาลากผมขึ้นมาด้วยทั้งที่ผมเพิ่งพักงาน

"เชี่ยโอ มึงขับดีๆสิวะ พี่ไทม์พี่ไลน์ก็อยู่นะเว้ย!"เพื่อนน้องโอเริ่มเตือนสติ ไอ้น้องโอขับบิด160 แซงเร็วจนจะอ้วก ผมมองหน้าเขาเริ่มกลัว เพราะใช้ทางลัดถนนลูกรังหนึ่งเลนด์นั้นยิ่งทำให้พวกเราเด้งไปมาตลอดเวลาจนก้นช้ำ เขาจับมือผมให้กำลังใจ

"เห้พี่! ไม่ต้องห่วงนะอยู่กับโอสบายใจหายห่วง!"น้องมันตะโกนบอกพวกเราแต่ ผมมองเห็นรถบรรทุกคันใหญ่กำลังตรงเข้ามาข้างหน้า

"สัสโอ มึงชิดซ้ายสิวะ ลดความเร็วด้วย" เราทุกคนต่างตื่นตระหนก รถบรรทุกเริ่มคืบคลานเข้ามา น้องโอเองก็พยายา
มลดความเร็ว

"เชี่ยกัมส์ แบรคเสีย!!"

"ห๊า!!!!"เอียดด พลั้วะ!! น้องโอหักเลี้ยวเข้าซ้ายมือไปชนต้นไม้เล็กที่พอจะหยุดรถเราได้ กระแทกของการชนทำให้พว
กเราเด้งตัวไปข้างหน้าก่อนจะหงายหลังตกจากรถ วินาทีนั้นผมกลัว กลัวตัวเองจะตายไปเพราะไม้มากมายที่แหลมชันเฉียดตัวโดนแขนไปนิด เขายังคงจับมือผม เราเด้งตกลงมาพร้อมกัน หากเพราะไม่ใช่แรงดึงเข้าอ้อมอกเขาผมว่าผมตกลงมาโดนเสียบไม้ไปเต็มๆ ตายคาที่แน่!!

"เป็นอะไรไหมๆ?"เขาลุกขึ้นถามผมซ้ำๆ ผมส่ายหัว มันกลัวจริงๆ ภาพเมื่อกี้ยังติดตาผมไม่หาย

"ผมกลัว"ผมจับมือเขาแน่นตัวสั่นเพราะ ความกลัว น้องคนนึงลุกขึ้นมาดูเพราะเห็นผมเลือดออด

"ทุกคนไม่เป็นไรนะ เห้พี่ไลน์ พี่เลือดออกนะครับ?"ผมรู้ว่าผมได้แผล คนอื่นที่มา ด้วยบางคนก็ทลอกแขน ทลอกมือกัน
บ้างจะมีก็แต่ผมที่เลือดออก

"มึงๆทำแผลให้พี่ไลน์ก่อน สัสโอนะมึง เชี่ยจริง!!"น้องโอโดนเพื่อนต่อว่าหนัก

"ไม่เป็นหรอกน้า น้องโอเองก็โอเคนะ?"เห็นน้องเองโดนรถทับเพราะแรงกระแทกทำให้รถล้มทับตัวน้อง น้องบางคนก็ก
ระเด็นออก บางคนไหลทับตัวน้องโอบ้างก่อนจะรีบช่วยพยุงรถขึ้น

"คงช้ำแน่เลยพี่ ไม่เป็นไรคืนนี้พวกผมดูแลมันเอง"ก็ดีนะมีเพื่อนดีรอบตัว

"พี่ ขอโทษนะ!"น้องโอคงรู้สึกผิดจริงๆ

"เออๆ"เป็นเขาที่ตอบปัดๆระหว่างที่น้องคนนึงทำแผลให้ผม ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มๆ ไม่เป็นไร หลังทำแผลเสร็จน้องคนอื่น
เปลี่ยนตัวคนขับจนพวกเรามาถึงป่าชายเลนด์ที่ปลูกป่ากัน บอกน้องเตอร์แพน ว่าจะคุมน้องๆข้างหน้าแต่ถึงตอนนี้มี..น้องถึงที่หมายแล้ว พวกเรายังโอ้เอ้ไปไม่ถึงสักที แกนพยาบาลรีบลงไปปฐมพยาบาลให้น้องที่เป็นลมเป็นแล้ง ผมกับเขารีบวิ่งมาดูแลน้องๆที่มาถึงอย่าให้เพิ่งปลูกต้นไม้ก่อน

ร่างอวบชิดตัวผมไม่ห่างเพราะกลัวผมเป็นอะไรขึ้นมาอีกคน เราร่วมปลูกป่าด้วยกันกับน้องๆ มีฉากจุบของน้องเตอร์แพนให้ได้แก้มแดงดูด้วย คู่นี้ก็แปลก หึงไปหึงมากันอยู่นั้นล่ะ เขาบอกว่าแผนพวกเราได้ผลจริงๆ หลังจบกิจกรรม ผมแทบสลบ นอนหลับสนิทเมื่ออาบน้ำเสร็จ วันนี้ร่างอวบแวะมานอนห้องผม

สวบ~
ผมลืมตามามองคนข้างกายที่นั่ง บนเตียงผมจนเตียงยุบพร้อมกับมือที่บีบ ยาคลายกล้ามเนื้อแตะลงบนเท้าจนผมเย็นสะดุ้ง เขาเพียงยิ้มบางๆ

"ทายานะ คลายกล้ามเนื้อ"

"ครับ ขอบคุณนะครับ"ผมเองก็ปล่อยให้เขาทาไปอยากจะลืมตากว้างๆหน่อยแต่ตามันไม่ยอมตื่น
"นอนต่อเถอะนะ ไม่ต้องห่วง จะดูแลให้เอง"ผมควรดีใจหรือควรตื่นมาเต้นลั้ลลา ดี เขาน่ารักจัง แต่เพราะความเหนื่อย ผมจึงผลอยหลับไปในที่สุด แต่พอลืมตามาอีกทีคนข้างกายก็หายไปเรียบร้อย

'คงจะหายไปอีกนาน เจอกันวันแจกลายเซ็นนะครับ'เพราะรู้ดีว่า โปรเจ็ตสุดท้ายของเขาทำไกลถึงประเทศสหรัฐโน้น ..


120 วันผ่านไป..

เป็น120 วันที่ผมคิดถึง คนนั้นๆสุดหัวใจ ในส่วนของคู่จิ้นของเขากับน้องเตอร์ยังคงเงียบข่าวคราวไปแต่ก็ไม่ได้ถูกสลับคู่ทั้งที่คนอื่นทั่วโลกรู้กัน หมดแล้วว่า น้องเตอร์น้องแพนรักกันและแต่งงานกันจริงๆ เรื่องการแต่งงานบอกเลยผมเองก็ช้อคแต่ความคิดถึงใครคนนึงมันมีมากกว่า

เพราะโพสต์แต่อะไรๆ เศร้าๆ แฟนๆหลายคนเลยพากันสงสารผมที่กลายเป็นคนโดดเดี่ยวไร้คู่ ผมอ่าน แล้วขำกลิ้งจนท้องแข็งเลย..แต่แค่แปป เดียว แปปเดียวจริงๆและก็หวนคิดถึงเขาขึ้นมาอีก

้เบอร์ก็มี ไลน์ก็มี เฟสบุ้คก็มี ไอจีก็มี ทวิตก็มี Ask.fmก็มี แต่ทำไมเขาไม่ทักผมมาสักวันเลย

ผมนอนเลื่อนดูข่าวคราวหน้าฟีคเฟสบุ้ค ไปเรื่อยๆจนเบื่อ มือแอบลั่นกดดูหน้าเฟสเขา เงียบเช่นเคย ไม่มีอะไรอัพเดท
สักนิด น่าเบื่อ น่าเบื่อไปหมด ผมทิ้งมือ ถือลงข้างกายแล้วไปอาบน้ำเพื่อนอน



เด้งๆๆๆ
ผมแปลกใจที่มีการแจ้งเตือนเข้ามามากมายหลังออกมาจากห้องน้ำ ผมกดมันเพื่อดู

                                      ศิริวรรณา มีประโยชน์แท็กคุณและไทม์ ช่างภาพสุดหล่อ

อะไรนะ แท็กผมกับเขานี่นะ??

>>กรี้ดด เอ้ะๆพี่ไทม์พี่ไลน์นี่ยังไงกันค่ะ อยู่ด้วยกันหรือค่ะ ภาพปกพื้นหลังเฟสนี่เหมื้อนเหมือน<<<

ผมกดดูภาพปกของเขาที่น้องศิริวรรณา แคปมาพร้อมกับของผม มันเหมือนจริงๆ เพียงแต่คนในรูปที่เขาโพสต์นั้นคือผม ถ้าอย่างนั้นผู้ชายในภาพปกผมก็...


เขา!!


เป็นไปได้ไง ผมตามหาผู้ชายในวันนั้นที่ขอถ่ายรูปผมแล้วเขาก็จากไป ผมตกหลุมรักเขาตั้งแต่วินาทีที่ถ่ายรูปเขาแล้วแม้จะไม่ได้เห็นหน้าเขาจริงๆจังๆ

คอมเม้นมากมายจากแฟนๆเด้งขึ้นมา หลายคนเชียร์คู่เราสองคนเพราะเห็นว่าอกหักช้ำชอกจกคู่น้องเตอร์น้องแพน ในวันนี้ผมตามหาเขาคนนั้น..เจอแล้ว!!


และแล้ววันของการแจกลายเซ็นก็มาถึง
งานในวันนี้ ผมแค่ได้เห็นหน้าเขาเพราะเขามาสายไปชั่วโมงกว่าแถมยังอยู่ติดกับน้องแพนด้วย ผมอยู่ใกล้น้องเตอร์ เรา อยู่ห่างกันสองที่นั่งเลยไม่ได้คุยกันการแจกลายเซ็นจบลงด้วยดี น้องเตอร์แพนประกาศเป็นคู่รักอย่างเป็นทางการ ร่างอวบที่ผมคิดถึงจูงมือผมขึ้นรถขับพาไปที่ไหนสักแห่ง เราต่างยิ้มให้กัน ทุกนิ้วของเราที่จับมือกันสอดกันแน่นขึ้น มันนานจริงๆกว่าเราจะได้พบกัน

"คุณครับๆ ขอถ่ายรูปหน่อย?"ผมถือกล้องเล็งเป้าหมายที่เรียกผมด้วยรอยยิ้ม เขาเองก็ยิ้ม ภาพในวันวานหวนกลับคืนมา เขาพาผมมาในที่ที่เราเจอกันครั้งแรก

"นับนะครับ123"แชะๆ
เราต่างถ่ายรูปกันและกันเหมือนวันวาน ร่างอวบยกกล้องลงเผยให้เห็นใบหน้าที่ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ผมได้แต่สุขใจจนหุ บยิ้มไม่อยู่


"สวัสดีครับ ผมไทม์"เขายื่นมือมาทักทาย ผมเลยยื่นมือทักทายเขากลับไปบ้าง

"ดีครับ ผมไลน์"ถ้าในวันนั้นเรากล้าพอที่ จะหยุดเวลาทักทายกัน ชีวิตเราก็คงไม่ หวนกลับมาวนเวียนตามหากันนานอย่างนี้ หรือเพราะเหตุในวันนั้นที่เราไม่กล้า จะรู้จักกันเป็นจุดเริ่มต้นให้ชีวิตเราเลยหวนกลับมารู้จักกันในวันนี้กันแน่ เราสองคนจับมือกันไว้มั่น ต่อจากนี้ไปเราจะไม่หายไปไหนและคงไม่ตามหากันอีกแล้ว

"นี่คุณ ของขวัญผมล่ะ?"

"ของขวัญหรอ อะไรล่ะ ตัวผมไหม? ผมคิดถึงคุณจะแย่"

"แหวะ ไม่เอาหรอก หายไปตั้ง 120 วัน ไม่โทร ไม่ไลน์ ไม่อะไรเลย ผมคิดถึง!"

"แหงสิ แฟนหล่อและเท่ห์ขนาดนี้คุณก็ ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา?"เขามั่นหน้าจริง

"แฟนบ้าบออะไรเล่า อย่ามโนครับ?"

"อ้าวหร่อ เรายังไม่เป็นแฟนกันอีกหรอ งั้นคุณไลน์ครับเป็นแฟนกับคุณไทม์นะ?"


"ครับ^___^"




--- The end ---

*** จริงๆ ชอบพรหมลิขิตของคู่นี้นะคะ น่ารัก  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ จบ 26/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 26-02-2017 23:40:35
 :mew3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ จบ 26/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ม่อน ที่ 27-02-2017 08:17:25
 :sad4:เค้าหากันจนเจอ
ดีต่อใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพไทม์ไลน์ จบ 26/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-02-2017 15:40:03
งืมๆๆๆ น่ารักทุกคู่เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพฟินแลนด์ตินติน 26/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 28-02-2017 20:05:11

                                                                             
                                                                 คู่จิ้น4 ฟิน-ตินติน


"ดีพี่ ผมฟินฟินแลนด์ บวรสุขสม ปี2 สารสนเทศฯนะ"ผมมองรุ่นพี่ที่ตัวเล็กกว่าผม 15 เซนฯ

"เอ่อเรา แต้มแต้มนะ ปวินต์ รัตนใส ปี3 เศรษศาสตร์ นะ..ครับ"ผมมองร่างเล็กที่ ตะกุกตะกักบอก อะไรของพี่แกน่ะ

"อ้อ ผมนะเป็นปริ้นส์ของน้องปี1น่ะ แล้ว พี่ล่ะ เป็นใครล่ะไม่คุ้นหน้าเลย?"ผมลากเก้าอี้มานั่งถามรุ่นพี่ที่นั่งรอก่อนเพราะน้องบลูสกายเรียกรวมตัวเพื่อบอกกฏกติกาของโครงการอะไรประมาณนี้นะครับ

"อ้อ เราเพิ่งย้ายมหาลัยมาน่ะเทอมนี้"

โอเค เก็ตล่ะถึงว่าล่ะไม่เคยเห็นหน้าเลย ทั้งที่ผมออกจะป๊อปฯและรู้จักคนมากมายน่ะ ร่างเล็กดูหลบตาคนอื่นไปทั่วแต่
กลับสนใจฟังสิ่งที่พวกน้องบลูสกายรายงานซ้ำยังจดกิจกรรมอย่างกับจดเล็ทเชอร์เหมือนเวลาอาจารย์สอนอีก

หลังจบการประกาศจากน้องๆทุกคนต่างทยอยกันกลับ ผมเองก็เดินตามร่างเล็กต้อยๆ ดูแปลกๆนะคนนี้


"นี่พี่!"

"ห้ะห้า!"ผมกอดคอเขาจนร่างเล็กสะดุ้ง ใจเสาะขนาดนั้นเชียว

"อะไรวะ แค่จะชวนไปกินข้าวเอง!!" ผมบอกร่างเล็กที่มองผมอย่างหวาดกลัว หรือเป็นโรคกลัวคนนะ

"อ้อๆ ไม่ว่างนะต้องรีบกลับบ้าน ขอบคุณนะฟิน"ร่างเล็กพยายามแกะมือผมออกจากบ่าแต่ผมไม่ยอม แรงน้อยๆนั้นมี หรือจะสู้แรงผมได้..

"ไม่เป็นไร งั้นผมไปกินข้าวบ้านพี่ก็ได้ ไปกัน!"นิสัยอย่างหนึ่งของผมคือหน้าด้านและด้านสุดๆ อยากรู้จักใครก็ต้องรู้จัก
ให้ได้ ร่างเล็กตาโตเบิกกว้างกว่าเดิม

"เห้ยไม่ต้องดีกว่า งั้นกินข้าวที่นี่ก็ได้"หึๆ ผมแอบอมยิ้ม ใช้วิธีนี้ทีไรได้ผลทุกที

"นั้นนะสิ ผมก็ว่า ยังไงเราสองคนก็ต้องกินข้าวด้วยกัน พี่ว่าไหม?"

"อื้ม@~@"ผมลากร่างเล็กมานั่งซื้อข้าวกินหลังมอ. พี่แกดูตื่นๆเหมือนแปลกที่ สงสัยจะไม่เคยมา ระหว่างที่พี่แกกำลัง เลือกเมนู ผมหยิบมือถือเครื่องหรูที่มามี๊ถอยมารุ่นใหม่ล่าสุดสดๆร้อนๆเมื่อเช้านี้เอง


"สวัสดีเพื่อนๆ 1000 กว่าคนในไลฟ์นะครับ วันนี้ผมมีข่าวดีจะบอกครับ ผมผ่านคัดเลือกคู่จิ้นด้วยคร้าาบ มีใครดีใจกับผมบ้าง?"ผมกำลังไลฟ์สดอยู่คนเดียว พี่แต้มแต้มละจากเมนูเงยดูผมนิ่งๆ

"เมื่อผ่านการคัดเลือกก็ต้องมีฉลองสิครับ ตอนนี้ผมกำลังมาฉลองที่ผ่านคัดเลือกกับคนนี้เลย พี่แต้มแต้มคร้าาบ เป็นไงครับน่ารักไหม?"ผมขยับตัวเองไปอยู่ฝั่งเดียวกับพี่แต้มแต้มพร้อมไลฟ์คู่กับพี่แก พี่แกดูจะเขินๆ น่ารักดี

"พี่ โบกมือสิ โบกมือทักทายแฟนๆผมนะ"ผมบอกร่างเล็กให้ทำ เขาเพียงยิ้มแล้วโบกมือทักทาย

"ดีครับ แต้มแต้มครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วย"หลังร่างเล็กน่ารักพูดหวานๆไปปรากฏว่าคอมเม้นมากมายส่วนใหญ่ถามถึงพี่แต้มแต้ม อยากรู้ว่าพี่เขาคือใคร ทำไมถึงได้หน้าสวยแถมยังเสียงหวานอีก ผมยังไลฟ์สดคุยโน้นนี่ตอบคำถามที่แฟนๆถามมา ส่วนใหญ่ก็เป็นน้องๆที่ถามเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว ไม่ก็ทะเลาะกันแย่งผม ตลกจริงๆ

"อ่ะ!"พี่แต้มแต้มที่กินข้าวเงียบๆคนเดียว ตักข้าวมาคำหนึ่งจ่อปากผม ทำเอาผมอึ้ง ไม่เคยมีใครใส่ใจผมขนาดนี้เลย

"กินบ้างนะ ข้าวเย็นหมดแล้ว รู้ว่าเพื่อนแชตเยอะแต่ดูแลตัวเองบ้างสิ!"

ผมอ้าปากกินอย่างว่าง่าย หลังจากนั้นผมนั่งไลฟ์สดไปพลางกินข้าวที่พี่แต้มแต้มป้อนให้จนหมดชาม และไม่เชื่อว่า ภาพไลฟ์สดของพวกเราจะมียอดวิว และยอดการ แชร์และถูกพูดถึงในชั่วข้ามคืนมากมายขนาดนี้




"นี่พี่แต้มแต้ม เห็นหรือยัง มีคนพูดถึงคู่เราเยอะเลยน้าา"ผมมาดักรอร่างเล็กหน้าคณะเมื่อวันนี้มีการถ่ายรูปโปสเตอร์คู่ พี่แต้มแต้มกระพริบตาพริบๆ

"พูดถึง พูดถึงอะไร พูดถึงในไหนหรอ?" เขาถามเหมือนไม่รู้จริงๆ

"ก็ในเฟส อินสตาแกรม แถมในเด็กดี พันทิปก็มีนะพี่ เพราะพี่สวยน่ารักแน่เลย เคมีเราเลยเข้ากัน"จริงๆผมก็ดังอยู่แล้วนะ แต่พอมีพี่แต้มแต้มเราเลยดังมากกว่าเดิมเข้าไปอีก

"คือ..ขอโทษนะพี่เล่นของพวกนั้นไม่เป็น"ห้ะ!! บอกเลยผมแทบช้อค สมัยนี้ยังมีไม่เล่นแอพลิเคชั่นนี้อีกหรอ เอ้าท์ว่ะ?

"ถามจริง?"

"พูดจริง!"ครับ เป็นอันรู้เรื่อง สงสัยพี่แต้มคงเกิดก่อนผม 1รอบ ไม่ใช่1ปีแน่นอนผมยืนประมวลผลอยู่นานกว่าจะคิดออก

"เห้ย ไม่เป็นไรหรอกเนอะ เดี่ยวผมสอน ให้ก็ได้ รับรองแปปเดียวเป็น"ผมมันเซียนสอนแปปเดียว รับรองพี่แต้มดังกระฉูด จนวางมือถือจากมือไม่ได้เหมือนผมแน่

"อ้อ ขอบคุณนะ แต่เราไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้นะ เราใช้ฮีโร่รุ่นอาม่าก็พอแล้ว"

เงิบ เป็นรอบที่สองครับ สมัยนี้แล้วพี่แกยังใช้ฮีโร่รุ่นอาม่าปาใส่หัวหมาก็ไม่เจ๊งอีกนี่นะ สุดยอดดึกดำบรรพ์เลยพี่แต้มแต้ม ผมมองร่างเล็กที่ติดจะหน้านิ่งๆเดินเข้าคณะไปยังชั้นสองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะตั้งสติแล้ววิ่งตามพี่แกไปด้วยคน

"แหมๆ คู่ฟินแต้มนี่ออกตัวแรงก่อนใครเลยนะคะ เอาค่ะไปแต่งตัวกันค่ะ เจ้ว่าคู่นี้ปังๆแน่นอนค่ะ"ผมก็ไม่รู้หรอกว่าอีเจ้แกเป็นใคร มาถึงก็แสดงความดีใจยกใหญ่แถมยังให้เปลี่ยนชุด มารู้ก็ตอนที่อยู่ข้างในห้องแต่งตัว เพิ่งนึกออกว่าเจ้แก

คือพี่สองหรือเจ้สอง สไตลลิสต์ของมอ.เรา รู้และสายตาเฉียดคม ใครได้ทำงาน ด้วยมีอัน ปังๆๆๆตลอด



"คอนเซ็ปของคู่นี้ เจ้ขอเป็นแบบอารมณ์ ประมาณว่า เรารักกันแต่รักกันไม่ได้ โดยน้องฟินหลงรักน้องแต้มสุดหัวใจ แต่น้องแต้มรักน้องฟินไม่ได้ เพราะตัวเองมีความลับที่ซุกซ่อนไว้เบื้องหลัง โอเคนะคะ พอจะเข้าใจอารมณ์เนอะ?"

ผมพยักหน้างึกๆเข้าใจ เราสองคนต่าง โพสท่าอย่างที่เจ้สองต้องการ ตากล้องเองและทุกๆคนก็ช่วยได้เยอะ ภาพเราสองคนออกมาดูดีมาก ผมขอให้ น้องๆแถวนั้นถ่ายด้วยรูปหนึ่งกับมือถือ ตัวเอง ไม่ลืมที่จะโพสโปรโมทคู่ของเรา



Finland's Wonderland เปลี่ยนรูปประจำตัว




ผมมองดูรูปโปรที่อัพอย่างภาคภูมิใจหัน มาดูอีกทีร่างเล็กก็เดินเกือบถึงประตู


"นี่พี่ๆจะรีบไปไหนนะ?"ผมวิ่งเข้าไปกอดแขนร่างเล็กอย่างรวดเร็ว รายนี้ถ้าไม่จับไว้มีหวังอันตรทานหายไปกับกลีบเมฆ


"มันหิวนะ ตอนเช้าตื่นมาไม่ได้กินอะไรมาเลย จะไปด้วยไหม?"ผมขมวดคิ้วชนกัน บทจะชวนกันง่ายก็ชวนแหะ แปลก!


"ไปสิ หิวพอดีเลย งั้นไปร้านไหนดี พี่เลี้ยงนะรอบนี้?"ผมต่อรองเพราะครั้งก่อนผมเลี้ยงข้าวเขา

"อื้ม ได้สิ ขับรถตามมาล่ะกันนะ เราขี่จักรยานมาน่ะ!"


"???"
ถามจริงสมัยนี้ยังมีคนขี่จักรยานกัน อีกหรอ โอ้ยตาย!!ผมคุยอยู่กับปู่โสม หรือเปล่า พี่แต้มแต้มมักมีอะไรให้ผม
แปลกใจตลอดเวลา


"อ้อ ได้ๆเชิญนำเลยคร้าาาบ"ผมฉีกยิ้ม กว้างจักรยานรุ่นปู่ออกแนววินเทจที่ผมเอาไว้ตั้งโชว์ที่บ้านจนสนิมขึ้นนั้นพี่แต้มแต้มกลับใช้มันเป็นยานพาหนะในชีวิตประจำวัน ผมดูแล้วอึ้ง


"เออพี่ จริงๆผมเองก็อยากลองขี่ไอ้นั้นบ้างเหมือนกันนะ ผมขี่ได้ไหม?"เห็นพี่เขาขี่แล้วดูแนวดี ผมเลยอยากลองดู ร่างเล็กเม้มปากคบคิดพลางมองแดดจ้าตรงหัวพอดี

"แต่มันจะร้อนนะ ทนได้หรอ?"พี่แต้มแต้มถาม ตัวเองก็หน้าแดงเพราะแดดแล้ว


"ทนได้ สบายมาก พี่นั่งเลย รับรองนั่งสบาย"ผมทำท่าจะแย้งจักรยานขี่เองแต่พี่เขาไม่ยอม คงไม่ไว้ใจผมละมั้ง


"งั้นเราขับ ฟินซ้อนหลังไหม ผ่านถนนใหญ่แล้วค่อยเป็นคนถีบ โอป่ะ?"


"โอ'เค!"ผมรีบซ้อนหลังจักรยานคันเก่า ที่พี่แต้มแต้มใช้เป็นยานพาหนะอย่าง รู้สึกสนุก ร่างเล็กถีบจักรยานอย่างเก้ๆ
กังๆแรกๆก่อนจะขับปกติ ผมเปิดเฟสบุ้ค ไลฟ์สดอีกเช่นเคย




"สวัสดีแฟนๆ4พันคน วันนี้ผมกำลังจะไปกินข้าวกับพี่แต้มแต้มอีกแล้ว และที่สำคัญเราถีบจักรยานกันตอนเที่ยงด้วย นี่ดูหน้าพี่แต้มแต้มครับ ถีบเก่งมาก ว่า แต่ทุกคนว่าไงบ้าง โปสเตอร์คู่ของพวกเราสองคน?"

ผมยังคงไลฟ์สดและคุยจ้อคนเดียว พอมีน้องถามถึงพี่แต้มแต้ม ผมอ่านให้เขาฟัง เขาก็ตอบ น่ารักครับ! น้องๆหลายคนปลื้มพี่แต้มแต้มมาก มีแต่ คนถามและอยากรู้จักพี่เขาทั้งนั้นยิ่งเป็นคนที่หาในโลกโซเชียวไม่เจอ คนยิ่งสนใจอยากรู้จักมากขึ้น พี่เขาหยุด จอดข้างทางซึ่งเข้าถนนเล็กอย่างเหนื่อยหอบ ผมมองร่างเล็กที่จอดจักรยานยิ้มๆ ถึงที่ผมแล้วสินะ


"คิวผมถีบ พี่แต้มถือกล้องดีๆนะ ตอนนี้ กำลังไลฟ์อยู่"

5 นาทีที่ไลฟ์สด พี่แต้มถือมันไว้เฉยๆจริงๆ เอาแต่มองว่าคนอื่นเขียนอะไรบ้าง มีบ้างที่ตอบเบาๆ



"ตอบดังๆ อ่านดังๆก็ได้พี่ น้องเขาจะได้ ได้ยินชัดนะ"ผมถีบจักรยานไปพูดไป


>พี่แต้มพี่ฟินน่ารัก<                          "ขอบคุณครับ"
>พี่แต้มพี่ฟินกำลังจะไปไหนค่ะ?<        "ไปบ้านพี่แต้มครับ ไปกินข้าวด้วยกัน"
ผมขำเมื่อร่างเล็กอ่านคอมเม้นต่างๆนานาแล้วตอบไปแบบงงๆมึนๆ น่ารัก!!


"จอดๆๆถึงแล้ว!"มือเล็กขยำเสื้อผมเพื่อให้ผมหยุดจอด เรามาถึงที่หมายแล้ว ผมหันไปมองรอบๆไม่เห็นมีบ้านคนเลย มีแต่ร้านขนมเล็กๆ

"ที่นี่หรือพี่ แน่ใจนะว่าบ้านพี่นะ?"ผมอดที่จะไม่เชื่อ ร้านขนมนี่เป็นบ้านของพี่แต้มแต้มจริงๆหรอ? ร่างเล็กพยักหน้าเลื่อน จักรยานเข้ามาจอดใกล้ทางเดินประตู

"เข้ามาเถอะ นี่ร้านเราเอง"ก็อย่างที่บอก พี่แต้มแต้มมักมีอะไรให้ผมแปลกใจเสมอ

"ร้านพี่จริงๆดิ เหลือเชื่อ!!"

"ใช่ จริงๆก็เป็นร้านแม่มากกว่านะแต่เรา ได้มานะ เอามาทำร้านขนมไทยขาย ฟินกินขนมไทยเป็นไหม?"

"...?"ผมอึ้งไปอีกรอบพี่แต้มแต้มทำขนมไทยเป็นแถมทำขายอีกด้วย

"อ้อ เดี่ยวเราทำกับข้าวไว้ก่อนล่ะกันนะ รีบไปไหนไหม จะชวนมาเป็นลูกมือ เอาไหม?"ผมส่ายหัวเป็นคำตอบว่าไม่รีบไปไหนและสามารถที่จะเป็นลูกมือของเขาได้ มันน่าเหลือเชื่อไปหมดเมื่อยิ่งได้ รู้จักกับคนๆนี้เสมอ

"อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า แกงเขียวหวาน แกงกะทิ หรือแกงมัสมั่นอ่ะ คือเราอยากกินแต่เลือกไม่ถูกว่าจะเลือกกินอันไหนดี?"

"เอาแกงเขียวหวานดีกว่า ขอไข่เจียวด้วย อ้อ ทำน้ำพริกเป็นไหมพี่ ทำด้วยนะอยากกิน ว่าแต่พี่ทำเป็นแน่หรอ ผมชัก
อยากจะลองชิมแล้วสิ?"ผมสั่งเป็นชุดเลย ไหนๆก็ไหนๆแล้วพี่แต้มแต้มจะทำให้ กินทั้งทีขอกินแบบอร่อยเหาะไปเลย

"หึ อย่าขอให้ทำอีกล่ะกัน"เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพี่แต้มแต้มย่นจมูกขี้เล่นกับใครเขาด้วย มันน่ารักที่เขายิ้มมีความสุข!
ผมชอบ..



"เป็นไงบ้าง กินกันเลยไหม?"

"ผมรอคำนี้มานาน"ทั้งผมและพี่แต้มแต้มตักข้าวกินกันอย่างหิวโหยเมื่อเราหิ้วท้องถึง3ชั่วโมง
ผมหยิบมือถือขึ้นมาและไลฟ์สดเช่นเคย พี่แต้มแต้มดูมีความสุขที่ได้กินฝีมือตัวของผมหยุดการไลฟ์แล้วตัดสินใจกินข้า วกับพี่แต้มแต้มกันสองคน

อย่างหนึ่งที่พี่แต้มแต้มสอนผม คือการ รู้จักใช้เวลากับคนใกล้ตัวให้มากที่สุดไม่ใช่มัวแต่สนใจคนในโซเชียวอย่างเดียว ผมตักข้าวคำแรกกินตกใจตาโตมันอร่อยมากกก ฝีมือพี่แต้มแต้มระดับ เชฟเลยก็ว่าได้ ไม่น่าเชื่อ!!

"เป็นไงๆ อร่อยละสิ?"ยังจะถามอีกนะ ผมยกนิ้วโป้งให้ทั้งสองมือเลย อร่อยจริง

"แล้วพวกขนมไทยนะ พี่ขายแบบไหนล่ะพี่ทำให้นี่เรียกว่าอะไรหรอ?"ร่างเล็กวางช้อนดื่มน้ำกินก่อนจะตอบคำถามผม

"ถ้วยนี้เรียกว่าบัวลอยขนุน ของโปรดเรานะ ส่วนที่ถามว่าพี่ขายยังไงนะหรอ? นอนที่นี่ไหมล่ะแล้วจะรู้?"เดี่ยวนี้ร่างเล็ก ดูจะมีทักษะการพูดที่ขี้เล่นมากว่าเมื่อวาน คงเพราะเราเริ่มสนิทใจมั้ง พี่แกเลยเริ่ มไว้ใจผมบ้างแล้ว

"แหม รู้จักกันเมื่อวาน ชวนผมนอนที่บ้านเลยนะพี่^_^"ผมแอบเล่นมุขกับร่างเล็ก บ้าง พี่แต้มแต้มเอาส่อมจะจิ้มตาผมด้วย ความมั้นไส้

"เดี่ยวเหอะ ไม่อยากรู้ก็ไม่ต้องนอน แค่นี้ก็จบ แต่บอกไว้ก่อนนะ มีน้อยคนนะที่จะมีโอกาสถูกเชิญมานอนบ้านเรา" อันนี้ผมว่าจริง ดูจากการเป็นอยู่ของพี่ แต้มแต้มแล้วผมว่าน้อยคนที่จะเข้าถึงตัวเขาได้

"โอ๋ๆ โอเคๆเพราะอยากรู้ด้วยหรอกนะ เลยต้องนอนแต่ผมขอกลับไปเอารถแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยนะแล้วค่อยมาใหม่
ได้ไหมครับ?"ผมตักข้าวกินอีกคำเมื่อเห็ นร่างเล็กสนใจกินมากกว่าจะฟังผม

"จะไปก็ไปสิ ใครสน ล่ามโซ่ไว้หรอ?"พี่ แต้มแต้มล้อเลียนผมระหว่างที่พูด คนๆนี้มีมุมแบบนี้ด้วย เราสองคนต่างยิ้ม และกินไปเถียงไปพูดไปจนกับข้าวหมดเกลี้ยง พี่แต้มแต้มจัดการล้างจานกองโตแล้วให้ผมเช็ดโต๊ะให้เรียบร้อย ผมเช็ดโต๊ะเสร็จแล้วเดินไปช่วยพี่แต้มแต้มล้างจานด้วย ระหว่างที่ล้างจาน ผมก็เปิดไลฟ์สดอีก เราหยอกล้อกันซึ่ง พี่แต้มแต้มเริ่มมีปฏิกิริยาที่ดีขึ้น เขาเริ่ม
พูดคุยและเถียงผมมากกว่าเดิมแถมยังใจฟังผมบอก

"เอิ่ม..เราหมายถึงออกกำลังกายในสวนฯนะ สวนสาธารณะหลังมอ.นี่ล่ะ เราไปออกทุกวัน นักศึกษาก็ไปออกเยอะน่ะ ไม่ต้องมีคอร์สอะไรอย่างที่ฟินบอกหรอก!"อ้อ หน้าแตกเลย ผมก็นึกว่าพี่แกจะ หมายถึงออกกำลังกายในฟิสเนสซะอีก ที่ไหนได้ไปออกที่สวนสาธารณะนี่นะ ผมก็ไม่ค่อยอยากไปนะ ไม่มีเทรนเนอร์ ไม่มีคลาสเอาซะเลย

"ไปไหม ไปออกที่สวนฯก็สนุกไม่แพ้ฟิส เนสหรอก เชื่อเราสิ!"แต่เห็นร่างเล็กรับ ประกันแบบนั้น มันคงจะน่าสนุกมั้ง??
ใจฟังผมบอก

"ลองดูก็ได้แต่นี่ก็บ่ายสามแล้ว เราค่อย ไปออกสักห้าโมงเย็นนะ ว่าแต่พี่มีเรียนอีกไหมล่ะวันนี้?"ผมห้าวนอนขึ้นมาทันที ร้านขนมไทยของพี่แต้มแต้มเปิดหน้าต่างรับลมเย็นพร้อมพัดลมเย็นๆพัดส่ายหน้าจนผมเริ่มเตลิ่มจะหลับ

"ไม่มีหรอก ว่าจะอาบน้ำสักหน่อยเสร็จแล้วก็ว่าจะดูซี่รี่ย์ฝรั่งที่ค้างไว้จนจบนะจากนั้นก็ไปออกกำลังกายแล้วก็กลับมานอน โปรแกรมวันนี้ก็มีแค่นี้"ผมมองพี่แต้มแต้มที่นั่งเล่าโปรแกรมวันนี้เป็นสเต็ปๆ ผู้ชายคนนี้วางแผนชีวิตในแต่ละวันสินะ แตกต่างกับผมที่ใช้ชีวิตว่างเปล่าไปวันๆ มีเรียนก็เรียนบ้างขาดบ้าง ใช้ชีวิตชิวๆก็งี้ล่ะครับ หรือจะเรียกอีกว่า ผมไม่ค่อยมีเป้าหมายอะไรเท่าไรในแต่ละวันและชีวิต เพราะชีวิตผมมีพร้อมทุกอย่างพร้อมจนไม่ต้องควญขวายอะไรอีกแล้ว

"นี่ ฟิน ฟิน เป็นอะไรหรือเปล่า เรียกตั้งนานก็ไม่ขาน ถ้าง่วงก็นอนได้นะข้างบน มีห้องนอนด้วย นอนได้!"พี่แต้มแต้มโบก
มือเรียกสติผมตั้งนานกว่าผมจะรู้สึกเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องของเขาคนเดียว

"ผมว่าบางทีผมคงง่วงแหละพี่"พักผ่อน สักงีบเดี่ยวค่อยตื่นมาสักหน่อยคงดี หนังท้องตึง หนังตาหย่อน เป็นแบบนี้นี่
เอง ผมก็เพิ่งจะเข้าใจ พี่แต้มแต้มพาผมมานอนในห้องนอนของเขา ส่วนตัวเขาเองก็เลือกที่จะอาบน้ำ ผมหลับไปนานมากมารู้สึกอีกทีก็ตอนที่ ได้ยินพี่แต้มแต้มคุยโทรศัพท์กับใครบางคน แต่ว่าตอนนี้มันเกือบจะหกโมงเย็นแล้ว ผมรีบลุกขึ้นไปหาพี่แต้มแต้มริมระเเบียงชั้นสอง ร่างเล็กเห็นผมตื่นเลยรีบวางสาย

"โหพี่ ไมไม่ปลุกล่ะ อดไปออกกำลังกาย เลย?"ผมว่างัวเงีย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมตั้งเป้าหมายชีวิตไว้แต่ดันหลับสนิทเฉย
เลย พี่แต้มแต้มอมยิ้มบางๆ
"ออกกำลังกายไปได้ทุกวัน พรุ่งนี้ก็เอาใหม่ได้ พอดีเราเห็นฟินนอนหลับสนิทเลยไม่กล้าปลุกนะ ไปพรุ่งนี้กันนะ?"

"อื้อ!"จะให้ทำไงได้ ก็ในเมื่อเวลามันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว คืนนี้ผมเลือกที่จะนอนบ้านพี่แต้มแต้ม พี่ แต้มแต้มทำมื้อเย็นไว้แล้วระหว่างที่ผมนอน ตกดึกประมาณตี2 พี่แต้มแต้มก็ปลุกผมมาดูเขาทำขนมไทยอย่างที่ต้อง การ กลวิธีและเวลาถือว่าใช้เยอะพอสมควร พี่แต้มแต้มติดจะมือนิ่มมาก หยิบจับอะไรก็อ่อนนวลไปหมดผมเองมากกว่าที่ตื่นมาเป็นภาระของพี่เขา

วันนี้พี่แต้มแต้มทำขนมโค ขนมชั้น และไข่ระเบิด แค่สามอย่างก็กินเวลาถึง หกโมงเช้าแล้ว พอเสร็จร่างเล็กก็เตรียมขนมใส่ตะกร้าไว้แบ่งเป็นสามเจ้า พี่แต้มแต้มให้ผมถีบจักรยานไปยังร้านที่ตัวเองฝากขาย สามเจ้าก็สามที่ ถีบจักรยานช่วงเช้าๆ
แบบนี้ สมองมันปลอดโปล่ง เงียบสงบได้ยินเพียงเสียงนก เสียงลมเสียงป่า มัยช่างน่ามหัศจรรย์แตกต่างกับชีวิตผม โดยสิ้นเชิง ผมว่าผมเริ่มจะชอบผู้ชาย คนนี้ขึ้นมาแล้วละสิ!!




1เดือนที่แล้ว
"พี่ติน ช่วยแต้มหน่อยล่ะกันนะ ตัวแต้มต้องเข้าเฝือกแบบนี้คงไปดูผลประกาศไม่ได้แน่ ไปให้หน่อยนะแต้มเชื่อว่าแต้ม
ผ่านแน่นอน"
ผมมองน้องชายตัวเองที่ขับรถประมาทจนเกิดอุบัติเหตุจนต้องพันเฝือกทั้งตัวนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล พ่อมองหน้าผมแกมบังคับให้ผมทำ ผมกับน้องเราเป็นฝาแฝดกัน พ่อเอาน้องไปเลี้ยงในวันแยกทางกับแม่ แต่ตอนนี้แม่มีสามีและลูกใหม่แล้ว ผมเลย
อยากอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตเฉกเช่นผู้ใหญ่ เลี้ยงดูตัวเองให้เป็นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้แม่จะส่งเงินมาให้ทุกเดือนก็ตาม

"ทำเพื่อน้องหน่อยล่ะกัน ถือว่าพ่อขอ!"ก็ แล้วจะให้ผมปฏิเสธได้หรือไร?พ่อรักน้องมากกว่าสิ่งอื่นใด ตามใจน้องทุกอย่าง

"ครับ"เพราะคำตกลงนั้น เลยทำให้ผมได้พบกับเด็กผู้ชายคนนึงที่เป็นรุ่นน้องอ่อนกว่าผม1ปี แต่ตัวโต กว่าผมแค่นั้น รายนี้ก็เหมือนแต้มแต้มแหละ ใช้ชีวิตไปวันๆแบบไร้ขีดจำกัด อิสระเสรีและไร้จุดหมาย ตอนแรกๆที่เขาเข้ามาตีสนิทด้วย ผมก็ ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็แค่คู่จิ้นของน้องเดี่ยวพอน้องหายเป็นปกติ เราก็สลับตัวกลับเหมือนเดิม ผมใช้ชีวิตของผมและน้องก็เข้ามาอยู่ในที่ของน้องเช่นเดิม

ในส่วนของสื่อโซเชียวทั้งหลาย ผมเล่น เป็นและก็มีด้วย แต่เพราะระหว่างที่สลับ ตัวกันอยู่ ผมมีข้อแม้กับแต้มแต้มคือให้
เราปิดสื่อโซเชียวไว้ชั่วคราวเพราะผม ไม่ต้องการให้ใครระแคะระคายหรือจับ ได้ว่าพวกเราสลับตัวกัน มันเสี่ยงที่จะโด นจับได้ ผมว่ากันไว้ดีกว่าแก้แต่พอยิ่งนับวันผมกลับผูกพันและสนิทกับน้องฟินเขามากกว่าที่ควร เราสองคนสนิทกัน ขนาดไปไหนมาไหนด้วยกันยิ่งกว่าที่...ควรเป็น เขาไม่ได้เป็นคู่จิ้นของผมด้วยซ้ำ เป็นของน้องชายผมแต่แรกแล้ว แล้ว อย่างนี้ผมจะทำใจจากเขาไปได้ยังไง


เมื่อวันนี้แต้มแต้มกลับมาทวงที่ที่เป็นของน้องสักที .



**เอาคนน่าสงสารอย่างพี่ตินตินมาเสิร์ฟค่าาา ชอบพี่ตินตินนะนางน่ารัก ไม่รู้ว่าถ้าฟินแลนด์รู้ความจริงแล้วจะว่าอย่างไร??
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพฟินแลนด์ตินติน 28/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-02-2017 20:54:44
เอ้าผิดฝาผิดตัว พี่ตินๆแนวดี ชอบอ่ะ   o13
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพฟินแลนด์ตินติน 29/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 29-05-2017 20:29:57

"พี่ตินวันนี้..ทำขนมจีบให้หน่อยนะคู่จิ้นของแต้มชอบกินใช่ไหม? ตื่นเต้นจะได้เจอกับคู่จิ้นของตัวเองสักที!"ผมเงยหน้ามองน้องชายตัวเองที่ยังคงตื่นเต้นไม่หยุดเมื่อจะได้พบกับฟินแลนด์

"อื้อได้ๆ จะไปกี่โมงล่ะ?"ผมถามน้องอีกครั้ง จำไม่ได้แล้วว่าน้องบอกจะไปเจอตอนไหน?

"บ่ายโมง พี่นี่ก็ขี้หลงขี้ลืม เป็นอัลไซเมอร์หรือไง เรื่องแค่นี้ก็จำไม่ได้ แต้มไปเดินเที่ยวกับเพื่อนก่อนล่ะกัน เดี่ยวเที่ยงตรง ย้ำนะพี่ตินเที่ยงตรง แต้มจะให้คนรับใช้มารับ!"ว่าจบหน้าสวยที่เหมือนผมก็หมุนตัวออกจากบ้านผมไปอย่างหัวเสีย ผมคงทำให้น้องอารมณ์เสียอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คงต้องทำขนมจีบของโปรดของฟิน จากนี้ไปผมคงไม่เจอ
กับเขาแล้ว แหวนเงินที่สวมไว้บนนิ้วก้อยที่เขาคนนั้นซื้อให้เป็นวันครบรอบ1เดือนที่รู้จักกัน ผมยังคงสวมมันไว้เช่นเคย คงมีแต่แหวนวงนี้ที่เป็นของไว้ดูต่างหน้ายามเราไม่ได้พบกัน
วันนี้ผมคิดถึงเขาคนนั้น ..ฟินแลนด์!!

"คุณหนูติน สบายดีนะครับ?"
ผมฉีกยิ้มให้ลูกน้องของพ่อที่แวะมารับ ขนมจีบตามคำสั่งของแต้มแต้ม ถึงจะไม่ได้เข้าไปอยู่บ้านพ่อโดยตรงแต่ ลูกน้องทุกคนในบ้านพ่อก็เคารพผมและให้เกิยรติผมเหมือนกับแต้มแต้ม

"ครับสบายดี พี่ชิมล่ะครับสบายดีไหม?"

"ก็เหมือนเดิมครับ ยังสบายดี!"ผมยื่นขนมจีบให้พี่ชิม ลูกน้องร่างสูงหล่อยังคงยิ้มบางๆ คนนี้ค่อนข้างจะเย็นชานัก แต่แปลกที่ทนอยู่กับเด็กเอาแต่ใจ นิสัย เสียอย่างแต้มแต้มได้

"กล่องนี้ให้แต้มแต้มนะครับ ส่วนถุงนี้ผมให้พี่ชิมและก็ทุกคนครับ แบ่งๆกันกินนะครับ!"

"ครับคุณหนู ขอบคุณนะครับ!"หลังพี่ชิม ขับรถออกไป ผมได้แต่ถอนหายใจนั่ง เงียบเหงาคนเดียว หมดเวลาของตัวสำ รองอย่างผมแล้วสินะ ทำไมเวลาของเรา ช่างน้อยเหลือเกิน ผมว่าผมรักเขาแล้ว!!


"พี่ติน แหวนของแต้มอยู่ไหน? แหวนที่ฟินให้ครบรอบ1เดือนที่รู้จักกันนะอยู่ไหน?"ผมสะดุ้งตื่นเมื่ออยู่ๆแต้มแต้มก็เข้ามาบ้านผมอย่างเสียมารยาท

นี่มัน 4ทุ่มแล้วทำไมน้องถึงนิสัยเสียขนาดนี้นะ!

ร่างสวยในชุดนักศึกษาผ้าเนื้อดีแสนแพงตรงเข้าอาลาวาดใส่ผมทั้งที่ผมยังตื่นไม่เต็มที่

"เออคือ..พี่เอ่อ พี่ลืมให้นะ!"ถึงขนาดนี้แล้วจะให้ผมยื้อเก็บไว้ได้ยังไง มันควรเป็นของน้องแต่แรกแล้ว แต้มแต้มชักสีหน้าหงุดหงิดเดินถึงตัวมือผมแล้วถอดแหวนบนนิ้วก้อยเอง "อย่าให้แต้มรู้นะว่ามีอะไรที่ยังไม่บอก ไม่คืนแต้มอีก พี่ตินควรรู้ไว้ด้วยนะว่าฟินเขาเป็นคู่จิ้นของแต้ม และของทุกชิ้นทุกอย่างที่เขาให้เป็นของแต้มไม่ใช่ของพี่ติน"

ผมถึงกับนั่งเม้มปากแน่น เข่าอ่อนลงบนโซฟานอน จริงอย่างที่น้องว่าผมไม่มีสิทธ์อะไรทั้งนั้นทุกอย่างเป็นของแต้มแต้มตั้งแรกอยู่แล้ว ผมจะครอบครองได้ยังไง?


เมื่อนั่งอยู่คนเดียวเงียบเหงา ภาพความ ทรงจำเรื่องวันวานก็หวนกลับมานั้นยิ่งทำให้ผมเริ่มจะมีน้ำตานองจะไหลลงมา
ผมเปิดมือถือเครื่องหรูที่นอกเหนือจากฮีโร่รุ่นอาม่าของแม่มาดูข่าวคราวรอบโลก ผมกับเขาคนนั้นเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันบนเฟสบุ้คเพราะยอดการเป็นเพื่อนของเขาเต็ม ทำได้เพียงแค่ติดตามเท่านั้น แต่นั้นมันเป็นผลดีกับผมที่เราจะได้ไม่ต้องรู้จักกัน ให้ผมหายไปกลายเป็นฟองอากาศอย่างกับนางเงือกในนิทานที่หลงรักเจ้าชายจะดีกว่า เพราะระหว่างเรามันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว..


ตินติน วินเธอร์ สตรอรี่ย์ อัพสเตตัส :: ฟองอากาศที่เลือนลาง T^T

ผมพิมพ์สเตตัสลงไปอย่างเหนื่อยล้า ใจแอบคิดว่าอยากจะแวะหาอะไรทานข้างนอกหน่อยแต่แรงจะไปไม่มี มันหนักอึ้งไปหมด ทำได้เพียงกดดูไลฟ์สดของผมกับฟินตั้งแต่ไลฟ์แรกจนถึงไลฟ์ล่าสุดที่เป็นไลฟ์ของเขากับแต้มแต้มหากมีโอกาสบอกได้ ผมอยากให้ฟินรู้ว่า ผมอยู่ตรงนี้และดีใจที่ได้พบกัน เวลา1 เดือนที่รู้จักกันมา มันคุ้มค่าและมีความ หมายกับผมจริงๆ


ก้อกๆ

หนึ่งอาทิตย์ที่แสนจะหมองหม่น ของผมผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า ผมรีบ เดินไปเปิดประตู แม่กับยายบอกจะมาหาผมวันนี้แต่ก็ยังมาไม่ถึงสักที นี่ก็คงมาถึงล่ะ?

"ไง?"

"..."ผมแทบล้มทั้งยืนเมื่อร่างสูงที่ผมไม่เจอหน้ากันมาหนึ่งอาทิตย์เต็มยืนอยู่หน้า ประตู

"ไง!"ผมยิ้มบางต้อนรับเขาในครั้งแรกที่เจอกันในรอบอาทิตย์ ฟินถือวิสาสะเข้า มาในบ้าน ซวยแล้วไงถ้าแม่กับยายมาล่ะก็ ความลับแตกแน่!

"แต่งตัวหล่อเชียว จะไปไหนรึครับ?"นั้น ไง ซวยๆๆๆ

"คือแม่กับยายจะมารับกลับบ้านนะ เราเลยแต่งตัวรอนะ"

"อ้อ!!"ร่างสูงพยักหน้ารับรู้

"แล้วสบายดีไหม?"ที่ถามเพราะผมไม่รู้จะเริ่มต้นพูดอะไรดี เราห่างกันไปสักพักแล้ว

"ก็สบายดีพี่ล่ะ?"เอาแล้วเอาล่าว ถามยังกับเราไม่เจอกันนานเหมือนกันนั้นแหละ ทั้งที่ฟินเจอกับแต้มแต้มทุกวันนี่น่า

"ก็สบาย สบายดี"ผมตะกุกตะกักตอบ โอ้ยๆขออย่าให้ฟินจับได้เลย ร่างสูงถอนหายใจแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ เป็นอะไร
ของเขานะ

"พี่รู้ไหม? ผมรู้สึกแปลกๆมาตลอดทั้งอาทิตย์เลย เหมือนพี่ไม่ใช่พี่?"ผมสะดุ้งเฮือกคงไม่ได้แปลว่าฟินรู้เรื่องแล้วใช่ไหม?

"หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา พี่ทำตัวแปลกหลายอย่าง พี่ไม่แทนตัวเองว่าเรา แต่กลับแทนตัวเองว่า แต้ม แถมนิสัยก็เปลี่ยนด้วย พี่ดูหงุดหงิด เอาแต่ใจ ใจร้อนแถมยังไม่เหมือนก่อน ด้วย ถามเกี่ยวกับเรื่องขนมไทยพี่ก็ดูอึดอาดยืดยาดไม่เหมือนกับคนตรงหน้าผมตอนนี้เลย ผมรู้สึกแบบนั้น!"

ฮึก ผมหันหลังกลั้นน้ำตา ฟินเองรู้ดีว่า ผมกับแต้มต่างกันขนาดไหนแม้คนอื่นๆ(แฟนๆ)จะแยกเราไม่ออกก็เถอะ แค่ร่างสูงรับรู้และรู้สึกได้ก็เพียงพอแล้ว

"พี่..ผมนะชอบเวลาอยู่กับพี่ตรงหน้ามากกว่านะ แค่นี้ล่ะที่ผมอยากแวะมาบอก!" ฟินพูดจบและก็เดินจากไป ครั้งนี้ผมน้ำ
ตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆเพราะครั้งนี้ที่ผมร้องไห้เพราะผมดีใจ ดีใจที่ฟินชอบอยู่กับผม เหมือนที่ผมชอบเวลาอยู่กับเขา..

ปิ้นนนน..
"ตินตินลูก กลับบ้านเรากันเถอะ!!"

แม่กับยายมารับผมกลับบ้านเรือนไทยอย่างที่ผมต้องการ ผมกอดแม่ไว้อย่างแสนคิดถึง ถึงแม่จะมีน้องกับพ่อใหม่แล้วแต่แม่ก็ไม่ ได้ถอดทิ้งผมไปไหน ผมยังสามารถเจอแม่ในวันที่ผมต้องการ

"ถังถังกับถุงถุงไม่มาด้วยหรือครับแม่?"ที่ถามถึงน้องคนละพ่อวัย4ขวบวัยกำลังแสบ ซน ซ่าห์นั้นก็เพราะว่าไม่เห็นเจ้าลิงสองตัววิ่งมาด้วย แม่ยิ้มบาง

"มาจ่ะลูก แต่ไปคันเดียวกับพ่อเขานะ เราไปกันเถอะ แม่ละกลัวว่าลิงจอมแสบ จะป่วนเรือนไทยพังก่อนนะสิ!"

แม่พูดซะเห็นภาพเลย โชคดีที่พ่อเลี้ยงคนนี้ของผมใจดี รักและเอ็นดูผม ไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับในข่าวที่ว่าคนที่เป็นพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงจะใจร้ายและทำร้ายลูกเลี้ยง ถึงพ่อจะไม่รักผมเท่าน้องแต้มแต้ม แต่ผมก็รู้สึกได้ถึงความรักของทุกคน ทั้งพ่อ ทั้งแม่ และพ่อเลี้ยง

ผมเดินเข้ามาในรถ ยายหอมแก้มผมทันที ยายคิดถึงผม ผมก็คิดถึงยาย การมาพักผ่อนในครั้งนี้ ผมว่าถ้าได้กลับไปชีวิตผมคงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม


9 วันผ่านไป..วันนี้ผมพร้อมจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว ชีวิตที่เรียบง่าย เรียนและทำขนมขายเช่นเดิม ไม่มีฟินแลนด์ ไม่มีแฟนๆ และไม่มีโครงการคู่จิ้นใดๆ

เพี้ยะ!!
ทันทีที่เปิดบ้านตัวเองเข้ามา มือเรียวของใครคนนึงก็หันผมมาตบหน้าโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว

"แต้ม นายตบหน้าพี่ทำไม?"ผมก็มีโมโหบ้างสิครับ ถึงน้องจะนิสัยเสีย แต่การมาทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ ผมมีสิทธ์ฟ้องน้องกลับได้..

"นี่พี่โง่หรือคิดจะแฉแต้มกันแน่ หายหัวไปไหนมาหลายวัน ไม่รู้หรือไงว่าแต้มเดือดร้อน ฟินเอาแต่ถามหาถึงเรื่องของพี่ ขนมของพี่ พี่คิดจะแฉแต้มสินะเลยจงใจหนีหายไปแบบนี้เพื่อที่จะให้แต้มอับจนหนทาง และฟินก็จะได้จับได้ว่าเราสลับตัวกัน!!"

เหมือนแต้มแต้มจะรอเวลาระบายมานาน ผมลูบแก้มตัวเองเพื่อบรรเทาอาการแสบ เรื่องแค่นี้ ผมลืมคิดไปเลย ก็ไม่แปลกที่น้องจะโกรธผม แต่จะให้ผม เป็นเงาตลอดไป ผมไม่อยากเป็น!


แปะๆๆ
เสียงตบมือดังขึ้นมาเมื่อเราสองคนพี่น้องมองหน้ากัน

"กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้?"

"ฟิน!!"ทั้งผมและแต้มแต้มมองหน้าร่างสูงที่มาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้

"คือฟิน แต้มอธิบายได้นะ"แต้มแต้มหน้าซีดเผือกพยายามที่จะอธิบายแต่ร่างสูงกลับไม่ยอมฟังแถมยังเดินเข้ามากอดเอวผมไว้อย่างเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

"หยุดคำอธิบายของคุณเถอะ เพราะต่อให้คุณจะเป็นแต้มแต้มตัวจริง แต่ผมก็ไม่ได้อยากฟังคำอธิบายจากคุณ
ผมอยากฟังคำอธิบายจากคู่จิ้นที่อยู่กับผมเมื่อ1 เดือนก่อนมากกว่านะ"ผมรับรู้ ถึงแรงกอดที่แน่นกว่าเดิม ซวยแล้วสิ ฟินกำลังโกรธผมอยู่ ผมรู้.. แต้มแต้มมองผมกับฟินอย่างเคืองๆ

"ทำไมแต้มต้องหยุดพูดด้วย จะบอกอะไรให้นะ พี่ตินก็เป็นแค่เงาเท่านั้นแหละ เป็นเงา เป็นขี้ข้าให้แต้มเสมอ และครั้งนี้ก็เหมือนกัน ถ้าแต้มไม่เข้าเฝือกเพราะอุบัติเหตุล่ะก็ ฟินอย่านึกเลยว่าจะได้รู้จักคู่จิ้นจอมลวงโลกคนนี้แน่ แต้มเป็นคู่จิ้นตัวจริงของ
นายนะฟิน ไม่ใช่พี่ติน!"

แต้มแต้มแฟดเสียงดังเหมือนโมโหมากที่ฟินเลือกที่จะอยู่ข้างผม จริงๆฟินไม่ได้เลือกผมเลย เขาแค่จับตัวผมไว้เป็นตัวประกัน กลัวผมหนีเขามากกว่า

"หึ งั้นฉันก็คงโชคดีที่นายเกิดอุบัติเหตุ และพาพี่ชายฝาแฝดของนายมาให้ฉันได้รู้จักก่อนนาย เพราะหากฉันรู้จักนายก่อนพี่นายล่ะก็ บอกเลยว่า ฉันขยะแขยงและรังเกียจนายสุดๆ"

"ไม่จริงๆ!!"ผมพยายามห้ามไม่ให้ฟินพูดอะไรอีกเพราะตอนนี้ดูเหมือนฟินกำลังทำน้องผมโกรธจนคุมสติไม่อยู่..

"จริง..และฉันก็ขอบอกไว้เลยว่า นายเทียบพี่ชายนายไม่ได้เลย ทั้งขี้โมโห เอาแต่ใจ น่ารำคาญขนาดนี้ ฉันไม่เคย คิดอยากอยู่ด้วยหรอก!!"

กรี้ดดดดด...แต้มแต้มอาลาวาดหนัก เข้ามาจะตบตีผมกับฟินแต่ดีที่พี่ชิมยืนดู เหตุการณ์ว่าย่ำแย่เลยเข้ามาห้ามปรามพี่ชิมลากแต้มแต้มกลับขึ้นรถไปอย่างยากลำบากพอตัว ผมจะไปปลอบให้น้องสงบลงแต่ร่างสูงของฟินกลับกอดผมไว้ ไม่ให้ผมไป

"ฟิน ปล่อยเราเถอะนะ ฟินทำน้องเราโกรธใหญ่แล้ว!!"

"โกรธก็ช่างสิ แต่เรื่องของเรายังเคลียร์ไม่จบกันเลยนะพี่ตินติน!!"ผมซวยแล้ว ร่างสูงรู้จักชื่อผมด้วย แม่จ้า ยายจ้า มาช่วยผมที...



"เออคือ ฟิน สบายดีไหม?"ผมรู้ว่าผมควรจะโกรธที่ร่างสูงลากผมเข้าบ้านตัวเองแถมยังเป็นห้องนอนตัวเองด้วย แต่อารมณ์ฟินตอนนี้ บอกได้คำเดียวว่า เดาไม่ถูกเลยจริงๆ

"ก็คงจะสบายล่ะครับ หายโง่สักทีที่โดน หลอกมาตั้งเดือนหนึ่ง"แหม รายนี้ก็ช่าง ประชดประชันน้าาา

"โถฟิน ฟินไม่โง่เลยนะ เราผิดเองแหละที่ยอมทำตามที่น้องสั่ง"ผมรีบบอกเขา กลัวเขาจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้

"โง่ไม่โง่ไม่รู้ แต่ที่ผมรู้ พี่หลอกผม หลอกผมมาตั้งเดือน"ร่างสูงตะคอกใส่ เบาๆก็ได้นะ อยู่กันสองคนเอง

"ก็มันจำเป็น เราขอโทษนะ"ยอมขอโทษดีดีก็ได้เพราะผมรู้ ผมผิดเองนี่น่า

"ขอโทษ แค่ขอโทษพี่คิดว่าผมจะหายหรอ?"อ้าว...แล้ว??

"งั้นฟินจะเอายังไงล่ะเราผิดเราก็ยอมรับ ตอนนั้นที่ตกลงทำตามน้องเพราะพ่อขอ ด้วย แต่ตอนหลังไม่ชอบเลยเวลาเห็น ฟินอยู่ใกล้กับแต้มแต้ม"

"เออ ก็แล้วไม่ชอบเห็นแต่ทำไมถึงปล่อยให้ผมอยู่ใกล้กับน้องพี่อีกล่ะ รู้ไหมถึงต่อให้พวกพี่สองคนจะหน้าเหมือนกันมากกว่านี้แต่ผมก็จะยังชอบพี่อยู่ดี และก็จะแยกออกให้ได้ด้วย พี่รู้ป่ะ ผมพยายามหาทุกช่องทางเพื่อที่จะพิสูจน์ลางสังหรณ์ตัวเองมาโดยตลอดหลังจากที่น้องพี่มานะเพราะผมเชื่อ คนที่ผมรักไม่นิสัยแบบนั้นแน่ น้องพี่แม่งนิสัยเสียว่ะ!"ผมนั่งฟังฟินระบายความอัดแน่นด้วยความขบขันไม่ออกที่ร่างสูงกำลังด่าฉอดๆๆนั้นมันน้องชายฝาแฝดผมนะ และก็ได้ข่าวว่าร่างสูงเอง ก็มีนิสัยแบบนี้เหมือนกันเมื่อก่อนหน้านี้..

"นิสัยก็เหมือนกันนั้นแหละ ทำบ่น"
ผมพูดมุบมิบกับตัวเองเบาๆ แต่เพราะความเงียบเลยทำให้ร่างสูงอารมณ์เสียอยู่นั้นได้ยิน

"เออนิสัยเสีย แต่ตอนนี้โอเคแล้ว ทำได้แล้วเห็นไหม?"เอิ่ม ผมว่าไม่นะ ก็ดูสิ เขายังโมโหโกรธเคืองผมจนแทบ
จะกลืนกินผมทั้งตัวแล้ว

"อื้ม เห็นแล้วว่าเปลี่ยนไปจริงๆ คือเราเหนื่อยเดินทางมา ฟินกลับก่อน นะเรื่องของเราค่อยคุยกันพรุ่งนี้น้า?"

"ไม่!!"อะเฮือก~ ทำไมต้องตะคอกด้วยเล่า คุยเฉยๆตินก็ได้ยินนะ.. ร่างสูงเดินเข้ามาถึงตัวผมโดยไม่ทันตั้งตัว มันไวจนผมหนีไม่ทัน ผมเลยตกอยู่ใต้อาณัตคนตัวโตที่อายุน้อยกว่า1 ปี ผมเป็นพี่มันนะเกรงใจกันบ้างสิ!
"ฟิน หยุดนะฟิน อย่าทำอะไรแบบนี้!!"

ผมพยายามผลักร่างสูงออกห่างเพื่อเรียกสติ ฟินแลนด์บ้าไปแล้วหรือไง ทำไมต้องมาทำอะไรกับผมแบบนี้ด้วย ผมไม่ชอบนะ ถึงผมจะชอบเขาก็เถอะ..


ร่างสูงยังคงจูบหนักๆเพื่อสร้างรอยตรงซอกคอและบนตัวผมไม่หยุด ผมกลัวจริงๆนะ เขาเหมือนหมาบ้าที่ทุบตีเท่าไรก็ยิ่งอาลาวาดยกใหญ่ ผมพยายามดิ้นหนีจนเริ่ม จะหมดแรงเอง เสื้อที่ใส่กลับมาถูกร่างสูงเลื่อนขึ้นมาจนเหนืออก ซ้ำปากร้ายก็ดูดเม้มหัวนมบ้าง กัดหนักๆบ้างเพื่อหยอกล้อหรือแกล้งผม กันแน่ ผมบิดตัวเสียวซ่านเมื่อมือหนาเลื่อนเข้ามาในกางเกงยีนส์ตัวโปรดแล้ว กอบกุมน้องรักผมไว้หนึ่งกำมือ
"โทษฐานที่พี่โกหกผม ผมจะลงโทษพี่..ทั้งคืน แต่โทษฐานที่พี่คิดหนีผมไป ผมจะลงโทษ...ทั้งชีวิต!!"ผมมองร่างสูงที่ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าตัวเองด้วยหัวใจเต้น ตุบตับ อะไรนะคำเมื่อกี้..มันแปลว่าอะไร ฟินแลนด์กำลังสื่อว่าเขาอยากให้ผมอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตใช่ไหม? ผมอดที่จะมือสั่น ตัวสั่น เมื่อร่างสูงดึงผมให้นั่งบนเตียงถอดเสื้อผมและกางเกง หน้าตาดูอารมณ์ดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

"ฟะ ฟิน ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม?"ผมถามร่างสูงอีกครั้ง สองมือปกปิดเนื้อตัวไว้ มันอายครับ ฟินยกยิ้มร้ายเป็นยิ้มที่ผมไม่ชอบเอาเลย

"ไม่ทันล่ะครับเพราะพี่ปล่อยให้ผมอยู่กับน้องพี่นานไป นิสัยเสียๆของผมเลยกลับมา หึ ที่นี้ก็หาทางแก้นิสัยผมเองอีก ก็แล้วกันนะครับ แต่ตอนนี้ เย็นนี้และคืนนี้ถ้าผมทำแรงไปพี่ร้องครางดังๆนะครับ ผมชอบ!!"

ผมยิ่งหน้าแดงก่ำ ฟินพูดเอา แต่ใจทั้งนั้น รางสูงจ้องมองผมไม่วางตา แถมยังปลดกางเกงตัวเองลงไป ผมตา ลุกวาว ใหญ่ขนาดนั้นจะเข้าไปในตัวผมได้ไง?

"แต่ แต่ฟินลงโทษแบบอื่นก็ได้หนิ?" บอกเลยว่าผมกลัวทันทีที่เห็น

"ไม่ครับ แบบนี้แหละ เขาเรียกว่าลงโทษเพราะความรักครับ"



ผมถูกปลุกขึ้นมาในช่วงดึก ฟินกำลังไลฟ์สดอยู่ ให้ตายเด็กคนนี้ทำบ้าอะไรอีก ผมรีบเอาผ้าห่มปิดรอยช้ำแดงที่ปีศาจร้ายจงใจทำไว้และเปิดโชว์ให้คนอื่นเห็น มือหนาที่ให้ผมหนุนนอนแทนหมอนกลับสะบัดผ้าห่มออกเพื่อแกล้งผมอีก ผมเลยต้องรีบปกปิดร่างกายไว้แล้วขยับเข้าหาเขาโดยเร็วเพื่อหาที่บังกาย หากแต่รอยช้ำข้างหลังก็บ่งบอกชัดเจน ผมอายจนหน้าแดง ตัวแดง แต่ร่างสูงกลับยิ้มมีความสุขคุยจ้อกับแฟนๆไม่หยุดซ้ำยังหอมแก้มผม และจูบจริงๆโชว์แฟน ๆ ผมพยายามผลักเขาออกห่าง นี่มันเกินไปแล้วนะ ประกาศให้คนอื่นรู้แบบนี้ถ้าแม่กับยายรู้เข้าเอาผมตายแน่มือหนากดปิดการทำงานของมือถือเครื่องหรูแล้วโยนมันทิ้งบนโซฟาอย่างไม่ใยดี

"อย่านะฟิน ปล่อยเรานะเราไม่ชอบแบบนี้!!"ผมพยายามจะหนีเขาสุดชีวิต

"ก็ผมบอกพี่แล้วไง พี่ปลุกปีศาจนิสัยเสียของผมขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นพี่ก็หาทางแก้ไขมันเองนะก่อนที่ผมจะลงโทษพี่จนช้ำในตาย!!"


หึเกลียด!!! สักวันผมจะ ทำให้ฟินคนเก่าคนดีกลับมา





The end..จบไปอีกคู่ 555 หายไปนานมาก (สามเดือนพอดี) จะพยายามมาอัพนะคะ ขอโทษจริงๆ T^T
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพฟินแลนด์ตินติน 29/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-05-2017 22:48:36
กลับมาแล้ว เย้ๆๆๆๆๆ คิดถึง หายไปนานเลย รออยู่ทุกวัน แอบจิ้น พี่ขิมกับแสบแต้ม  :hao7:
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพวันไนท์มิกซ์ 30/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 30-05-2017 20:37:56


วันไนท์-มิกซ์


         ผมนั่งเหม่อมองร่างสูงสง่าที่ติดจะขรึมราวกับเจ้าชายอย่างพี่ครูสด้วยความนับถือ ร่างสูงเป็นเหมือนคนในฝันที่ผมตั้งสเป็กไว้ ยิ่งได้ถูกคัดเลือกมาด้วยกันในโครงการนี้ผมก็หวังยังอยากจะเป็นคู่จิ้นกับเขา
ถ้านะถ้า ถ้าได้เป็นก็คงดี.. ตอนนี้พวกเรามารวมตัวเพื่อถ่ายโปสเตอร์รูปโปรโมทแต่ที่ผมต้องมานั่งเซ็งๆนั้นก็เพราะคนนี้

"แหม จ้องเป็นมันขนาดนั้น ใครดูไม่ออก นี่ควายเลยนะ!"ผมเซ็งเป็ด เซ็งไก่ยิ่งกว่าเรื่องอะไรทั้งสิ้นเมื่อต้องมาเป็นคู่จิ้นกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้ากัน

"แหม ส่งยิ้มหวานทุกครั้งขนาดนั้น ใครดูไม่ออกนี่ควายคูณสองเลยเนาะ"ผมเองก็ใช่ย่อย เถียงเขาฉอดๆๆ มันน่าหงุดหงิดที่ต้องมาเป็นคู่จิ้นกับเขา แถมคนที่เราชอบทั้งสองคนดั้นเป็นคู่จิ้นกันเองอีก โอ้ย ผมอยากจะว้อนส์ให้สลับคู่กันใหม่จริงๆ ไม่ได้อยากจะได้คู่กับไอ้พี่วันไนท์จอมเซอร์คนนี้เลย เกลียดขี้หน้า..

"เรื่องของพี่ไหมน้อง!"หนุ่มเซอร์ยังคงเถียงไม่จบ

"แล้วเรื่องของน้องไหมล่ะพี่!!"ผมยักคิ้วกวนเขากลับไปบ้าง

"จ้าๆรู้แล้วจ้าว่ารักกันมากเลยคู่นี้ มาค่ะๆ มาถ่ายรูปคู่กันเลยน้า ถึงคิวแล้วค่ะ"เจ้สองเดินเข้ามาห้ามทัพ เราสองคนก็รู้ว่าเกลียดขี้หน้ากันยังจะให้เราคู่กันอีก ผมรีบลุกขึ้นยืนเห็นพี่ครูสกับพี่เรย์ออกมาจากการถ่ายรูปคู่ที่แสนจะราบรื่นและหวานหยดย้อยจนน่าอิจฉา

"น้องเรย์ถ่ายรูปหล่อมากเลย"หนุ่มเซอร์ ข้างกายผมหยอดคำหวานใส่พี่เรย์คนที่ตนรัก แหวะ น่ารำคาญหูจริงๆ พี่ครูสเดินผ่านหน้าพวกเราไปแถมยังจูงมือพี่เรย์ไปด้วย เหอะ โคตรอิจฉาตัวโตๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!! ผมเย้ยหยันหนุ่มเซอร์ที่เอาแต่ยิ้มกว้างให้พี่เรย์แต่กลับถูกร่างเล็กไม่ทันได้พูดอะไรก็ต้องเดินตามพี่ครูสไปแล้ว

"สงสารเนอะ เขาไม่แล"ผมทิ้งท้ายแล้วเดินไปประจำที่ถ่ายรูป ร่างเซอร์เดินเข้ามาติดๆ กระชากแขนผมกลับ

"สงสารเหมือนกัน แม้แต่หน้าเขาก็จำไม่ได้"เฮือก เจ็บ เจ็บถึงทรวงในเลย

"ไงล่ะโถ ถัง กะละมัง ไห เลยสิ"
ร่างเซอร์เดาะลิ้นจนได้ยินเสียงกรอกเย้ยผม แค้นครับแค้น อยากด่าแต่ด่าไม่ออก ผมมองเขาหางตาอย่างโกรธแค้น

ฟุบ!!
"โอ้ย ไอ้..ไอ้.."ผมเหยียบเท้าร่างเซอร์เพื่อคลายแค้น พี่วันไนท์มองผมกลับอย่างเจ็บแค้น ขาข้างที่โดนผมเหยียบ เขายกขึ้นมาถูๆคลายความเจ็บ

"จู้กๆๆๆๆๆๆๆ"ผมทำเสียงจิ้จ้ะเลียนแบบจิ้งจก

"อย่าเอะอะโวยวายพ่นคำหยาบสิครับ มันไม่ดี ไม่เพราะ เดี่ยวพี่เรย์รู้ตัวตนเข้า แย่เลย!"ร่างเซอร์หยุดคำที่จะพ่นออกมา เชื่อเถอะครับ ผมกับพี่วันไนท์ก็ไม่ได้ต่างกันเลย เราต่างแสร้งเป็นคนดีในสายตาของคนที่เราชอบแต่มันจะต่างก็ตรงที่พี่ครูสไม่เคยรู้ว่ามีผมที่แอบชอบเขาอยู่ แต่พี่เรย์รู้ว่าพี่วันไนท์ชอบเขาแค่นั้น..

"อะๆๆ เลิกหวานกันได้แล้วค้าา ถ่ายรูปกันได้แล้วนะคะ เจ้ขอ!!"เป็นอันจบข่าวครับ ถ่ายก็ถ่าย ผมเองก็ไม่ได้ อยากอยู่
กับหนุ่มเซอร์ปากหมาด้วยหรอก


การถ่ายรูปของเราเป็นไปอย่างฉุดละฮุดวุ่นวายภาพแต่ละภาพที่ออกมาเป็นภาพที่เราถกเถียงกันหมางหน้ากันและทะเลาะกันอย่างเห็นได้ชัด เออ..ก็คนมันเกลียดกันจะให้ทำหน้าระรื่นถ่ายรูปกันหรือไง ไม่ล่ะ!!



"โว้ย นี่พี่ไม่คิดจะไปกินร้านอื่นหรือไง ตามผมไปทุกทีเลย เป็นสัมพเวสีว่างั้น" ผมบ่นอุบมันน่ารำคาญคนตรงหน้าที่ลอยหน้าลอยตาตามผมออกมาจากห้องถ่ายรูปจนมาซื้อข้าวซื้อน้ำแถมยังมากินโต๊ะเดียวกับผมอีก แบบนี้จะไม่ให้เรียกว่า

สัมพะเวสีได้ไง ?

"โห้ย มั่นหน้านะคนเรา นี่ๆนี่ที่สาธารณะนะครับน้อง ดูดีดีสิครับบบ"เหอะ อยากตบปากคนเป็นพี่จริง ผมเบะปากมั้นไส้

"รู้ครับพี่ว่านี่ที่สาธารณะ แต่พี่ก็แหกตาดูบ้าง มีแค่เราสองคนนั่งกินตอนนี้ พี่ก็เลือกสักที่สิครับบบ ชิ่วๆๆ"
มีไล่ละครับ จะบ่ายสองครึ่งแล้ว ผู้คนเลยไม่มีเท่าไรที่ลานอาหารของมอ. ผมชอบมาทานข้าวเที่ยงประมาณช่วงนี้ เหตุผลง่ายๆครับขี้เกียจต่อแถวยาวเหยียดแย่งกับคนอื่นๆ

"แหมๆ ไล่จังนะ นี่ถ้าเป็นไอ้ครูสก็คงจะยิ้มหน้าบานล่ะสิท่า"

"เออ เหมือนพี่ป่ะ เจอหน้าพี่เรย์ทีไร หน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลย"ยังเถียงเขาไม่เลิก เข้าใจอารมณ์ไหมครับ คนไม่ชอบหน้ากันแต่กลับมานั่งกินข้าวด้วยกัน ผมล่ะเบื่อ..

"เออ อยากถามตั้งแต่เมื่อวานล่ะ?อยากรู้วะชอบไอ้ครูสตรงไหน แม่งหน้าก็เย็นชาซะคุณชายผีดิบขนาดนั้นหลงชอบไปได้ไงคนแบบนั้น?"

"อ้าวพี่ พูดงี้ต่อยกันเลยป่ะวะ ก็แล้วจะทำไมวะพี่ คนมันชอบ เห็นปุปมันบลิ้งงงงง มันก็ใช่ป่ะว่ะพี่ ทำเป็นว่าพี่ครูส เหอะ ตัวเองสู้ไม่ได้เลยพาลว่างั้น อย่างพี่ครูสนะน่าหลงใหลน่าค้นหามาก"ผมรีบแย้งข้อกล่าวหาที่พี่เขาว่าพี่ครูส ก็แหม..ตัวเองไม่มีอะไรเทียบพี่ครูสเลยพาลสินะ

"น่าค้นหาบ้านป้ามึงดิน้อง แหกตาดูนะ กับคนเย็นชาขรึมๆแบบนั้นออกแบบความรักไม่ได้หรอก!"



ผมนั่งจิ้มมือถือตัวเองไปเรื่อย คำพูดของพี่วันไนท์ยังตามมาหลอกหลอนถึงหอพัก เราแยกย้ายกันกลับหอใครหอมันหลังจากกินข้าวหมดจาน

มิกซ์ จันทรามิตร อัพสเตตัส ::
#ถึงความรักจะออกแบบไม่ได้ แต่ความรักแอบบอกได้นะ #MK

ผมอัพสเตตัสของตัวเอง แล้วตัวย่อMK ก็มาจาก M = Mix และ K = Kruz ครับ ตัวอักษรย่อสองตัวที่ผมใช้เป็นแฮ็กแท็ก ของตัวเองมาร่วม 180 วันที่ผ่านมา นับจากวันที่ผมแอบชอบพี่ครูส ผมตกหลุมรักหนุ่มหมาดขรึมตั้งแต่วินาทีที่เห็นร่างสง่าลงมาจากรถคันงามของตัวเองในวันที่ผมเข้ามารายงานตัวเข้าเป็นนิสิตนักศึกษาที่นี่

ไม่ทันผมจะวางมือถือเพื่อลุกขึ้นไปอาบน้ำนอน ข้อความแจ้งเตือนก็เด้งเข้ามา ผมกดอ่านอย่างรวดเร็ว ไม่รู้หรอกว่าใครมาคอมเมนส์สเตตัสที่ผมเพิ่งอัพไปก็ชื่อมันยาวแปลกๆ

อภิมหาเศรษฐีผู้หล่อเหลาและร่ำรวย วันไนท์สเตย์รักใครรักจริง :: แหมน้อง.. สเตตัสอย่างคม พี่ช้อบชอบ ^3^

ยี้!! คนบ้าอะไรชื่อยาวเป็นหางว่าวเนี่ย แล้วยังจะตามมาเผือกบนไทม์ไลน์ผมอีก เดี่ยวนะประเด็นคือเราเป็นเพื่อนบน
เฟสบุ้คตอนไหนกัน ผมว่าผมไม่น่าหลงผิดรับชื่อนี้เป็นเพื่อนแน่..ไอ้พี่วันไนท์!!

มิกซ์ จันทรามิตร :: คมแล้วบาดป่ะล่ะ?ถ้ายังเดี่ยวส่งมีดไปให้ รับรองคมอย่างที่พี่ช้อบชอบเลย.. ^6^

ผมขี้เกียจจะมาทะเลาะกับพี่วันไนท์อีกตัดใจวางมือถือแล้วไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน ป่วยกะบาลจะคุยกับคนแบบนี้สู้อาบให้ผ่อนคลายแล้วนอนดีกว่า

ฟึบ!!
 อะไรๆไฟดับหรอ? มันมืดไปหมด
 ระหว่างที่ผมออกมาจากห้องน้ำด้วยความมืดเพราะไฟดับนั่น ผมตรงไปหยิบมือถือที่ตั้งบนเตียงขึ้นมาเปิดให้แสงไฟพอนำทางในความมืด ผมออกมาข้างหน้าห้องปรากฏว่ามีการประกาศว่าคืนนี้ไฟจะดับทั้งคืน ทุกคนแต่ละห้องในอพาร์ตเมนส์ต่างโวยวายยกใหญ่จำใจกลับเข้าห้องตัวเอง ผมเกลียดความมืดไม่ชอบบรรยากาศแบบนี่เลย สองมือสั่นๆเลื่อนหาเบอร์เพื่อนแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อพี่วันไนท์โทรเข้ามาด้วยระบบเฟส ผมรีบกดรับ


"พี่ มารับหน่อยสิ ไฟดับผมกลัว!"ผมพูดเสียงสั่นกลัว มันน่ากลัวไปหมด

(เออ หอไหนเดี่ยวไปเลย)
ก็ไม่รู้ทำไมพี่วันไนท์ถึงได้ยอมกันง่ายๆทั้งที่เราทะเลาะกันทุกครั้ง

"หอแพรพีร์ ซอยพู่กันนะพี่ ห้อง1203 เดี่ยวพี่ พี่ห้ามวางสายผมนะ?"ผมขอไว้ ไม่อยากอยู่คนเดียวกับความมืด พี่วันไนท์ไม่วางสายอย่างที่ผมขอ

(โอเค ขับรถอยู่นะอยู่หน้ามอ.กับเพื่อนพอดี แล้วกินอะไรยังล่ะ?) ผมรู้พี่วันไนท์ พยายามชวนผมคุย

"ก็ยัง ว่าจะไม่กินแล้วจะนอน"

(อ้อ งั้นพี่พาข้าวขึ้นไปกินนะ หิววะซื้อมาแล้วด้วย แล้วเทียนมีป่ะ?)

"ไม่ ไม่มี พี่ซื้อมาก็ได้ แต่ห้ามวางสายนะ อย่าวางสายเด็ดขาด"

(แหม สั่งจังนะ กลัวอ่ะดิ")เหอะ.. ยังจะมีอารมณ์มาแกล้งผมอีก ผมยิ่งกลัวๆอยู่ ..

"จะกลัวไม่กลัวก็เรื่องของผมป่ะ พี่รีบมาเร็วๆเลย!"สั่งซะเลยครับ พูดเยอะจริง

(โห มีสั่งรอบสองนะ เดี่ยวขึ้นไปล่ะ นี่ถึงหอแล้ว เอาไฟฉายล่ะกันนะ ขี้เกียจ วนรถไปซื้อเทียนแล้ว)

อ้าว..มาถึงแล้วหรอ เร็วดีจัง??

"อื้มๆๆ ไฟฉายก็ได้ ดีกว่าอยู่มืดๆนะ"

(อ่าคร้าาบ) จะตอบทำไม ผมบ่นคนเดียวหรอกไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสักหน่อย


(กำลังเข้านะ ห้องอยู่ปีกไหนล่ะ ซ้ายหรือขวา?)

"ขวามือๆ เดี่ยวผมออกไปรอหน้าห้องนะ 203 นะพี่.."
ผมพึ่งแสงมือถือเป็นแสงนำทางไปที่ประตู เห็นเงาร่างสูงที่ฉายไฟฉายก็เดาได้เลยว่าพี่วันไนท์มาถึงแล้วแถมถือกล่องสี่เหลี่ยมที่บรรจุเค้กมาด้วยนั้น ยิ่งทำให้ผมแปลกใจไหนว่าไม่มีเทียนไงแล้วเทียนจะจุดเค้กไม่มีหรอ ว่าแต่วันนี้วันเกิดใครล่ะ พี่วันไนท์ถึงถือเค้กมาด้วย

"เห้ๆ ไงกลัวความมืดหรือน้อง..มึง?"

เหอะ นิสัยไม่ดี พูดเพราะจังเลยน้า อยากจะรู้จริงถ้าพี่เรย์อยู่ด้วยจะพูดแบบนี้ไหม? ผมเปิดประตูเข้าห้องแล้วให้พี่วันไนท์เดินเข้ามา

"แล้ววันเกิดใครล่ะ ถึงได้พาเค้กมาด้วยพี่..มึง?"ร่างสูงถอดรองเท้ามากระทบตัวผมอย่างแรง ไอ้..พี่เลวนี่วอนล่ะ ห้องก็ห้องผมยังจะกล้าทำร้ายร่างกายแสนบอบบางของเจ้าของห้องอีก

"เห้ยๆลามปามล่ะ นี่พี่นะน้อง..มึง!!"

"ก็นี่น้องไหมล่ะพี่..มึง!"ร่างสูงแยกเขี้ยวใส่ผมพลางวางเค้กลงเบามือ เรายุติการต่อปากต่อคำเมื่อนั่งลงเคียงข้าง


"อ้าว ว่าแต่เค้กไม่มีเทียนหรอพี่?"ผมเงยหน้าถามพี่วันไนท์อย่างสงสัย ซื้อเค้กวันเกิดทั้งทีแต่กลับลืมเทียนนี่นะ พี่วันไนท์เกาท้ายคอเหมือนแก้เก้อ

"คือจริงๆนะ ไม่ใช่วันเกิดใครหรอกพอดีน้องกูมาหานะเลยเอาเค้กมาให้ลองชิม นี่ก็ยังไม่รู้เลยว่าถ้ากินแล้วจะท้องเสียอีกหรือเปล่า?"อ้อกำลังหาหนูทดลองสินะ"แต่หน้าตาเค้กก็ดูดี น่าทานนะพี่?"ผมบอกพี่วันไนท์ตามที่ตาเห็นร่างสูงหัวเราะ หึ ในลำคอ

"เพราะน่าทานแบบนี้ไง เลยไม่กล้าปฏิเสธ น้องรู้ป่ะเวลาน้องพี่ทำขนมว่างให้กินทีไรพี่กับพี่ชายท้องเสียทุกที ป๊ากับม๊าก็ยังไม่เว้น"ผมฟังแล้วสยองแทน ดีนะที่ไม่หลงกินเข้าไปแต่หน้าตาเค้กดูน่ากินจนผมอยากลองชิมบ้าง

"โห ดูน่ากลัวเนอะ แล้วพี่ไมไม่บอกน้องพี่ไปตรงๆล่ะ แบบนี้น้องพี่ยิ่งได้ใจคิดว่าตัวเองทำได้ เลยทำให้กินตลอดสิ?"ผมลองไปดมๆเค้ก ลิ่นหอมเย้ายวนด้วย กินหน่อยคงไม่ ท้องเสียหรอกมั้ง!

"ใครว่าไม่บอก นี่บอกมันทุกวันลยว่าอย่าเปิดร้านเค้กเลยฝีมือมันไม่ถึงนะแต่มันดั้นบอกจะทำให้กินทุกวันจนกว่าฝีมือจะดี คิดดูพี่กับพี่ชายโคตรเป็นพี่ที่ดีไหมล่ะ?"เอิ่มมม..เป็นผมคงเอือนตายเลยต้องมานั่งชิมเค้กทุกวัน

"แหมๆ..ทำดีนิดหน่อย ทำเป็นคุยโว แต่น้องพี่นี่ดีนะมีฝันด้วยแถมยังตามล่าฝันเต็มที่ มีแต่พี่ล่ะมั้งที่ไม่เห็นมีฝันอะไรกับน้องพี่เลย!"

"เห้ยๆใครว่าพี่ไม่มี น้องมากกว่าไหมที่ไม่มีนะ?"เหอะ ข่มหรอๆ ผมเองก็มีฝันนะ

"ผมมี ฝันของผมคือการบอกรักพี่ครูสสักครั้งก่อนจะจบป.ตรี!!"อุบส์..ไม่น่าๆหลุดปากเลย ผมรีบปิดปากตัวเองไว้ พี่วันไนท์หัวเราะหึหึชั่วร้าย

"ฝันพี่ก็เหมือนกัน พี่จะขอน้องเรย์เป็นแฟนให้ได้!!"ผมมองร่างสูงที่ชูมือสู้ตายราวกับจะไปทำสงครามโลกเสียอย่างนั้น


"นี่น้อง..มึง?"ฟุบ..ผมตกใจที่อยู่ๆมือพี่วัน ไนท์ตั้งลงบนบ่าผม

"สนใจมาร่วมมือเพื่อความฝันและคนรักของเราไหม?"ผมเอือมไปมองหน้าหล่อที่เข้าเคลือบใกล้ตัวคิ้วชน

"สนไหม พอดีพี่เตรียมแผนมาเรียบร้อย"

"โอเค ตกลงพี่..มึง!!"เราต่างจับมือกันทำสัญญาต่อกันเมื่อผมได้ฟังพี่วันไนท์เล่าถึงแผนการที่เขาว่า ผมถือคติที่ว่า 'คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย' งานนี้พี่วันไนท์ตายก่อนก็โอเค ผมไม่สน สนอยู่คนเดียวคือพี่ครูส

"จัดไป เริ่มแผนการพรุ่งนี้นะน้องมึง!!"

"ได้เลยพี่มึง"เราสองคนยอมสยบรบกันก่อน เป้าหมายของเราทั้งคู่คือการแย่งคนที่เรารักกลับคืนมาสู่การเป็นคู่จิ้นให้ได้..ข้าวและเบียร์ที่พี่วันไนท์พามาด้วย เราชนแก้วกินกันเพื่อความสามัคคี ที่ผม แปลกใจคือ ก็ถ้าพี่วันไนท์ไม่กินเค้กแล้วทำไมไม่ยอมทิ้งลงถังขยะไปเลยเล่า เปิดล่อตาล่อใจผมอยู่ได้ เห็นแล้วอยากกิน!!

"เออพี่ แล้วพี่นะชอบพี่เรย์ตั้งแต่เมื่อไรหรอ?"ผมซดเบียร์ไปครึ่งแก้วแล้วหันมาถามพี่วันไนท์ที่หน้าแดงซ้านในความมืด ที่มีแสงไฟฉายส่องไว้

"เฮิก อ้อเรื่องนั้นหรอ ก็ชอบมาตั้งแต่วันที่น้องเรย์เข้าประกวดเดือนคณะแล้วล่ะ น่ารักขนาดนั้นใครไม่หลงก็บ้าแล้ว"คนเริ่มเมาบอกด้วยรอยยิ้ม คงชอบมากๆจริงๆแหละ

"แล้วน้องมึงล่ะชอบไอ้หน้าวอกผีดิบนั้นตอนไหนล่ะ คนแบบนั้นรักไปได้ไง มันเคยรู้ไหมว่าน้องมึงชอบมันก็ไม่รู้??"ยิ่งร่างเมาพูด มันก็ยิ่งถูก แต่ว่ารักไปแล้วจะให้ผมทำไงได้..

"180 วันแล้วล่ะพี่!"

"หึ มีนงมีนับวันด้วยนะน้อง..มึง โรแมนติกไม่เบานะ"ท่าทีเมาๆของพี่วันไนท์ทำให้ผมอดที่จะคลายความกลัวลงไปได้นิดนึง เรานั่งกินกันสักพักร่างเซอร์ที่ซดเยอะสุดก็คอพับนอนทั้งที่ยังนั่ง ไฟฉายที่เขาพามาด้วยกระพิบแว่บๆก่อนจะดับวูบไป หมดเข้าไปกอดแขนร่าง เซอร์ด้วยความกลัว"พี่วันไนท์ พี่ตื่นก่อนสิ ไฟฉายมันดับแล้วนะพี่?"เกลียดร่างสูงจริงๆมาห้องคนอื่นแล้วเสือกหลับก่อนเจ้าของห้องอีก ผมเขย่าตัวเขาแรงๆ ทั้งทุบทั้งตีแต่เขาก็ไม่ยอมตื่น เมาแอ๋หลับสนิทได้ยินเสียงอือๆในลำคอ ไอ้พี่วันไนท์!!
มีเพียงแสงจากหน้าจอมือถือของพี่วันไนท์ที่สาดส่องกลางวง ผมเอื้อมไปหยิบ

"นี่พี่..ขอเล่นมือถือพี่นะ?"ผมเขี่ยๆสะกิดถามคนเมาข้างกาย

"อือๆ"โอเค เล่นได้เจ้าของอนุญาต ผมยิ้มกับความเจ้าเล่ห์ของตัวเองที่เป็นคนบังคับพี่วันไนท์ให้พยักหน้าอนุญาต
ผมเลื่อนดูรูปต่างๆในอัลบั้มแล้วหัวเราะคิกคัก แต่ละรูปของพี่วันไนท์มีแต่รูปตลกๆ น่าเกลียดกันทั้งนั้น ไม่แปลกที่ ร่างเซอร์จะเป็นคนอารมณ์ขัน เห็นรูปมีแต่สามคนพี่น้อง ก็น่ารักดี ตอนแรกที่พี่วันไนท์พูดถึงน้อง ผมนึกว่า น้องสาวที่เป็นคนทำเค้กแต่ที่ไหนได้ พี่วันไนท์มีพี่น้องชายหมดเลย หน้าตา หล่อหลากันคนละแบบแต่ก็แอบเหมือนกัน ดูก็รู้ว่าพ่อพิมพ์แม่พิมพ์เดียวกัน

"อือ น้องเรย์คร้าาบ"ผมตัวแข็งทื่อเมื่อมือหนักของพี่วันไนท์เลื่อนเข้ามาโอบกอดผมไว้เพราะคิดว่าผมเป็นพี่เรย์..

"พี่เรย์บ้าบออะไร พี่ปล่อยผมนะ!"ผมหันไปต่อว่าเขาพร้อมเอามือถือจ่อหน้าเขาให้ตื่นจากอาการเพ้อ ร่างสูงปัดมือถือทิ้ง
อย่างไม่ใยดีทั้งห้องดับวูบลง นั้นทำให้ ผมเริ่มจะกลัว

"ทำบ้าอะไรของพี่!! ผมกลัวความมืดนะ ปล่อย ผมจะหยิบมือถือ"ผมผลักคนตัวโตออกห่างจากตัวแต่คนเมากลับยิ่งโลมเลียผมไม่หยุดเพราะคิดว่าเป็นพี่เรย์

"อือ น้องเรย์ครับ น้องเรย์ของพี่.."ปากร้ายยังคงสำรวจซอกคอผมแม้ผมจะผลักไสเขาก็ตาม ผมถูกร่างหนาผลักให้ล้มลง
พื้นห้องก่อนจะทาบตัวหนักตามมา

"พี่ พี่วันไนท์..พี่ปล่อยผมนะ ผมมิกซ์นะ ไม่ใช่พี่เรย์ อื้อๆ!!"ผมถูกประกบปากไว้ อย่างชำชอง ลิ้นร้ายสำรวจปากผมไม่ ยอมหยุดพัก ผมทุบตีเขาเมื่อเริ่มจะขาดอากาศหายใจ พี่วันไนท์ปล่อยให้ผมได้ หายใจบ้าง ผมเอามือชันร่างหนาไว้เมื่อเขาจะทับตัวผมอีกครั้ง ปากหนายังคงไม่ยอมให้ผมหยุดพักนาน

เขาเริ่มจูบผมอีกและคราวนี้มือร้ายก็ทำหน้าที่ของมันด้วยการถอดชุดนอนของผมไปอยางง่ายดาย ผมใจเต้นกระส่ำ เมื่อผมถูกร่างสูงสอดนิ้วเข้าไปสำรวจ ในช่องรักข้างหลัง ภายในความมืดที่ผมเคยกลัว บัดนี้สิ่งที่ผมกลัวกว่าคือเขา แรงตอดรัดนิ้วมือจากการเสียดสีส่งผลให้พี่วันไนท์พอใจครางทุ้ม ผมครางดังเมื่อเขาขยับนิ้วถี่และเรียกน้ำรักไหลออกเปรอะหว่างขา นิ้วร้ายถอนออกมา พี่วันไนท์จูบซับหน้าผากผมให้รางวัลปลอบใจก่อนจะส่งเจ้าน้องชายเข้ามาแทนนิ้วมือ ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเขาแน่น เพื่อคลายความเจ็บปวดจากการเสียดสี ของช่องทางรัก แรงกระแทกแรงตามใจพี่วันไนท์ ผมเองก็ได้แต่ตามเขาอย่างเงะงะ มันเป็นครั้งแรกและผมไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน เขาคือคนแรกของผม แต่ผมไม่ใช่คนที่เขาต้องการแน่นอน

"อะอ่ะ พี่วันไนท์ เบา เบาครับ"

"อาหห์ น้องเรย์ น้องเรย์ของพี่!!!!"




>/////< คู่นนี้นี่มัน..... :hao7:

***กลับมาแล้วนะคะพี่ทูมิน คิดถึงพี่เหมือนกันค่ะ จะอัพเรื่อยๆ ดีใจที่พี่ทูมินคิดถึงกันนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพวันไนท์มิกซ์ 30/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-05-2017 21:40:03
***กลับมาแล้วนะคะพี่ทูมิน คิดถึงพี่เหมือนกันค่ะ จะอัพเรื่อยๆ ดีใจที่พี่ทูมินคิดถึงกันนะคะ   :pig4:
ก้อนักเขียนขวัญใจ จะไม่คิดถึงได้ยังไง  :m3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพวันไนท์มิกซ์ 30/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 30-05-2017 23:08:52
 :ruready :ruready
หัวข้อ: Re:[เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพวันไนท์มิกซ์ [จบ] 31/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 31-05-2017 22:59:30

ผมตื่นมาด้วยความตกใจ เหี้ยแล้วไง ผมดั้นทำอะไรเด็กปากหมาที่เถียงผมไม่เลิกได้ไง เมื่อคืนเรายังสามัคคีกันจะแย่งคนที่เรารักกลับคืนมาเลย แต่พอเป็นแบบนี้ เกิดเรื่องแบบนี้ จะเข้าหน้าติดกันได้ไงวะ? ผมเลิกผ้าห่มดูและยิ่งมั่นใจ เรามีอะไรกันแล้ว!!
ร่างเล็กที่เหมือนจะรู้สึกตัวก่อนหันหลังให้ผม ไม่กล้าขยับเพราะกลัวผมจับได้ โว้ย ไม่น่าเลยไอ้วันไนท์ รู้ทั้งรู้ว่าถ้ากินเบียร์แล้วจะเมาปล้ำคนอื่น แค่ไม่คิดไง ไม่คิดว่าตอนเมาจะไม่เลือกคนขนาดนี้ เราสองคนดูจะไม่ชอบหน้าด้วยซ้ำแต่กลับมีอะไรกัน พับผ่าสิ!

"นี่น้อง ถ้าลืมตาแล้วก็ตื่นเถอะ"ผมพูดขึ้นเหมือนใจกล้าเลยจริงๆก็ใจสั่นกลัวไม่น้อย จะรับผิดชอบยังไงวะเมื่อใจผมมีน้องเรย์อยู่ตลอดเวลา ร่างเล็กขยับตัวหันมามองผมตามที่ผมเรียก ใบหน้าแดง นั้นทำให้ผมอดที่จะสะดุดตา มันสวยจัง!
"พี่ไปอาบน้ำก่อนก็ได้ ผมค่อยเข้าทีหลัง"มันพูดไล่ผมไม่มองหน้า เอาแต่มองผ้านวมที่คลุมตัวไว้.. อายว่างั้น

ผมลุกขึ้นนั่งตามมันบ้าง ปล่อยผ้าห่มคลุมไว้แค่ท่อนล่างส่วนอกแน่นก็โชว์ไว้ในน้องมันได้เห็นว่ามันข่วนผมเยอะแค่ไหน?

"เรื่องเมื่อคืน..

"เรื่องเมื่อคืนก็เรื่องเมื่อคืนเถอะ ผมไม่ว่า แต่วันนี้เรามีภารกิจของหัวใจเรานะพี่ อย่าลืมสิ?"น้องมันแย่งผมพูดก่อนจนจบ แล้วจะให้ผมทำยังไงในเมื่อมันอยากให้เป็นแบบนี้ แต่ก็ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่..ต้องรับผิดชอบอะไร ระหว่างเราก็จะได้เหมือนเดิม ตามแผนเดิม ผมได้น้องเรย์ ส่วนน้องมันก็ได้ไอ้ครูสไป เป็นอันแฟร์!

"โอเค ก็ดีเหมือนกัน งั้นอาบน้ำด้วยกันนะ เมื่อคืนคงเมาแล้วปล่อยในแน่"ผมถือวิสาสะอุ้มไอ้ตัวเล็กขึ้นมา น้องมันเองก็ไม่เถียงอะไรเอาแต่พยักหน้าเออออเขิน น่ารักดี..


"เอาล่ะทุกคนที่ผมเรียกทุกคนมาวันนี้เพราะอยากรู้ความคืบหน้าของเรื่องที่แต่ละคู่ต้องการแสดงนะครับ สรุปแล้วใครจะแสดงละครเพลง ใครจะแสดงละคร?่"ผมถามเพื่อนๆอีก3คู่ที่ต้องการจะเล่นละครเวทีด้วยกัน นั้นคือมีคู่ผม คู่ไอ้ครูสน้องเรย์ คู่น้องจินถังน้องฟิช และคู่น้องซันน้องทาน

"ผมกับฟิชขอเป็นละครเวทีน่ะพี่"น้องจินถังยกมือตอบ เมื่อหันไปหาน้องฟิช ร่างสวยพยักหน้าเห็นด้วยมั่นใจมาก

"ผมกับไอ้โย่งนี่ก็เอาละครเวทีครับ"น้องทานเป็นคนบอก

"แหมเตี้ยก็ว่าเค้าเรื่อยเลยน้า"เกลียดคู่นี้ เถียงเรื่องความสูงกันจัง

"โอเค แล้วน้องเรย์ละครับ เลือกละครเพลงเหมือนคู่พี่นะ?"ผมอ้อน เมื่อได้อยู่ใกล้น้องเรย์ แต่จะรำคาญตาเพราะไอ้คุณชายเย็นชาที่บังคับให้น้องเรย์นั่งบนตักมันอย่างเกินหน้าเกินตา

"ผมตามใจคุณครูสครับ คุณครูสสนใจละครเพลงไหมครับหรือละครเวที?"น้องเรย์พูดกับผมตอนแรกก่อนจะหันไปถามไอ้คุณชาย แม่งให้น้องเรย์เรียกคุณด้วย วิเศษวิโสจริงๆ หมั่นใส้มัน!

"ละครเพลงล่ะกัน"เสียงทุ้มเย็นชาบอก

"ครับ พี่วันไนท์ครับผมกับคุณครูสเลือกละครเพลงครับ" เจ็บปวดที่ต้องทนเห็นคนที่เรารักยิ้ม หวานให้ศัตรูหัวใจ

"ครับน้องเรย์"ผมแจกยิ้มหวาน เข้าทางแผนผมกับคู่จิ้นของผมแล้ว เราต่างหันมายิ้มกริ่มพอใจกันสองคน

"ก็ดีเลย ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันแบ่งตารางเวลาที่พี่วางไว้ก็แล้วกันนะ เวลาในการจัดแสดงจะมีทั้งหมด2ชั่วโมง ดังนั้นแต่ละคู่จะมีเวลาแสดงแค่ครึ่งชั่วโมง พี่ขอเสนอให้เป็นการแสดงละครเวทีก่อนครึ่งแรกในส่วนของคู่ที่แสดงละครเวทีนั้นกลุ่มของเราทั้งสองคู่เลือกเลยล่ะกันนะว่าใครจะแสดงเป็นคู่แรกและครึ่งชั่วโมงต่อมาก็เป็นของละครเพลงเราจะสลับกันตามนี้นะครับ มีใครไม่คัดค้านหรือไม่เข้าใจอะไร ถามได้นะ?"ผมอธิบายในสิ่งที่คิดมาให้น้องๆฟัง บางคนก็เข้าใจแต่รำคาญหน้านิ่งๆของไอ้ครูสเหลือเกิน คู่จิ้นของผมก็มองมันตาไม่คลาดเลย

"ตามนั้นก็ได้ครับ แล้วในส่วนของเนื้อหานี้แล้วแต่คู่เราเลยใช่ไหมครับหรือว่าพี่มีบทเตรียมไว้ให้แล้ว"น้องซันถามขึ้น น้องฟิชเองก็พยักหน้าอยากรู้ คู่จิ้นของผมหยิบบทละครที่ใช้แสดงออกมาเพื่อแจก

"ถูกต้องแล้วครับ ในส่วนของบทละครพี่เตรียมไว้ให้เรียบร้อย ทุกคนลองเอากลับไปทบทวนบทตัวเองนะครับ ในวันที่จะนัดการมาซ้อมครั้งหน้า เดี่ยวพี่นัดวันกันมาอีกที"คู่จิ้นผมทำหน้าที่แจกเป็นอย่าง มันดูจะมือสั่นๆเมื่อต้องยื่นให้ไอ้ครูส ร่างซีดราวผีดิบไม่รับเลยนั้นยิ่งทำให้ผมอยากจะชกมัน เป็นน้องเรย์คนงามของผมที่หยิบบทเผื่อมันด้วย อยากเตะคนโว้ย!!

"ละครเวทีครั้งนี้ที่เราจะแสดงเป็นเรื่องราวของเจ้าชายสี่คนเพื่อนรักที่ตามหารักแท้ของตัวเองแต่กลับมีอุปสรรค์เข้ามาขัดขวางในส่วนของความรักแต่ละคู่"

"โอะ มีบทสลับคู่ด้วยเพราะความเข้าใจผิดอย่างนี้ผมกับพี่วันไนท์ก็ได้แสดงด้วยกันใช่ไหมครับ ตื่นเต้นดีจัง!"หึหึ นี่ล่ะแผนผม อย่างน้อยๆก็หาทางสนิทกับน้องเรย์ได้แบบเนียนๆไม่ต้องลงทุนใดๆ ฮ่าๆ "ครับน้องเรย์"ผมยิ้มบอก
"ของพวกนายล่ะ อยากเปลี่ยนแปลงบทไหม บอกได้นะละครเพลงก็ไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรกับใครมาก แค่ความเข้าใจผิดของ
แต่ละคู่แค่นั้น แต่ในส่วนละเวที พี่อยากให้มันเชื่อมต่อกับรอบหลังด้วยเลยเพิ่มบทให้คนดูลุ้นและติดตามรอบหลังนะครับ"ผมโกหกล้วนๆล่ะครับ แถไปอีก!!

"พวกเราโอเคครับ ไม่มีปัญหา!"ดีมาก ผมพยักหน้าเป็นอันรับรู้ก่อนพวกเราจะแยกย้ายแล้วนัดกันอีกในสองอาทิตย์ต่อมา
สองอาทิตย์ผ่านไป ณ..ห้องซ้อมละคร..

ชีวิตของผมกับคู่จิ้นที่รักยังคงดำเนินตามปกติ เราปากหมาใส่กันทุกวันแต่ก็กลับสามัคคีกันกับเรื่องของการแย่งคนที่เราต่างรัก หลังๆมาผมเข้าออกห้องน้องมันยังกับห้องตัวเองอีกมันกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสให้ผมได้ใกล้ชิดน้องเรย์หัวใจผมกลับรู้สึกไม่เหมือนเมื่อก่อน

"องค์ชายสอง ผมทำอะไรผิด ฮึกๆ ทำไมองค์ชายหนึ่งถึงได้โกรธผมจนต้องไล่ผมไปไกลๆด้วย ฮือๆ"น้องเรย์ที่วิ่งมากอดผมไว้ตามบทที่ได้รับ บทนี้เป็นบทที่ไอ้ครูสเข้าใจน้องเรย์ผิดแล้วไล่ตะเพิดร่างเล็กไปไกลตัว ผมที่บังเอิญเดินอยู่หน้าสวนถูกร่างเล็กวิ่งชนเข้าเลยกอดไว้เป็นที่พึ่งเพื่อระบายอาการเศร้า พล็อตเรื่องน้ำเน่ามาก คือผมแต่งมาได้ไง จึ๋ย~~"

"เกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ชายถึงได้ไล่เรย์ลิก้ามาได้ ?" ผมก็เล่นไปตามบทครับแต่ใจไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไรเมื่อเหลือบเห็นคู่จิ้นของตัวเองยืนยิ้มกว้างหัวเราะคิกคักกับไอ้ครูส เหอะ ทีกับผมเถียงเอาๆ

"ผมก็ไม่รู้ ไม่รู้จริง องค์ชายรองช่วยผมด้วยนะครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว องค์ชายหนึ่งไม่ฟังที่ผมพูดเลย"ผมโอบกอดปลอบร่างเล็กตามบทบาทก่อนสองคนที่เป็นสาเหตุให้เรย์ลิก้าร้องไห้เดินผ่านมา

"โอะ องค์ชายหนึ่งดูสิครับ เพิ่งโดนองค์ชายไล่ไปไม่ถึงวันก็มีที่พักใหม่ทันที เรย์ลิก้า นายช่างว่านเสน่ห์ผู้ชายเก่งเหลือเกิน" เกลียด เกลียดทั้งท่าทีดัดจริตตามบทที่คู่จิ้นผมได้รับ แต่ยิ่งเกลียดยิ่งกว่า คือมือหยาบๆของไอ้ครูสที่มันโอบเอวน้องมันนั้นอีกด้วย ทำไมต้องกอดกันด้วยวะ ในบทไม่เห็นมีเลย ยืนเฉยๆก็ได้นี่ว๋า!

"มิกซาวน์ คุณพูดแบบนี้ได้ไง ผมไม่ได้ทำอะไร และผมกับองค์ชายรองเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย จริงไหมครับองค์ชาย?" น้องเรย์ในบทเรย์ลิก้าหันมาถามผมน้ำตาคลอ ไอ้ครูสยังคงหน้าเป็นมองน้องเรย์นิ่ง แม่ง หงุดหงิดเอามือออกจากเอว
คู่จิ้นกูด้วยครับไอ้ครูส..

"ใช่ พี่หนึ่ง ผมว่าพี่คงมีเหตุอะไรเข้าใจผิดแน่?"โอ้ยเจ็บใจตัวเองที่ต้องมาเรียกศัตรูว่าพี่..เกลียดมันๆๆๆ

"หึ เท่าที่จำได้ข้าไม่มีคนรักชื่อเรย์ลิก้าอีกแล้ว ไปกันเถอะมิกซาวน์ ที่สุดในจักรวาลนี้คงมีแต่เจ้าที่รักข้า"น้องเรย์สวมบทเรย์ลิก้าได้ดี ร้องไห้หนักมากเมื่อคนรักไม่ฟังคำอธิบายแถมยังตัดเหยื่อใยไปหมด ไอ้ครูสในบทองค์ชายหนึ่งจับมือไอ้คู่จิ้นผมไว้แล้วเตรียมพร้อมจะเดินกลับเข้าไปหลังม่านแต่เพราะว่าไอ้น้องมันเกิดขาพลิกหรือสะดุดขาบ้าบอของมัน จึงทำให้ร่างเล็กเซซบอกไอ้ครูส ไอ้คุณชายเย็นชาก็ยังประคองมันไว้อัตโนมัติตามปฏิกิริยาด้วยการจับร่างบางไว้ แต่แม่ง แอบแตะอั๋งเมียกูนี่ว๋า ผมเดินเข้าไปกระชากไอ้คู่จิ้นมาจากอกไอ้ครูสทันที ทุกคนที่มาซ้อมด้วยกันต่างพากันมองอย่างแปลกใจที่ผมทำตัวแบบนี้ น้องเรย์เองก็รีบวิ่งเข้ามายืนใกล้ไอ้ครูส

"น้องมิกศ์เป็นอะไรครับคุณครูส?"เพราะมัวแต่ตามบทร้องไห้อยู่ น้องเรย์เลยไม่ทันสังเกต

"สะดุดเท้าตัวเอง"แม่ง ตอบได้อารมณ์มากไอ้คุณชายผีดิบ

"ขอโทษนะครับเราหยุดซ้อมกันสักครู่นะครับ"เพราะไม่ได้มีแค่บทเจ้าชาย แต่มีน้องๆสต้าฟที่เข้ามาสมทบบทเล็กๆน้อยๆอีกในการแสดงละครเวทีครั้งนี้เลยใช้คนแสดงเกือบ30กว่าชีวิต

"โอเคครับ พวกเราพัก 15 นาทีนะ"
เสียงของน้องที่เป็นคนเล่าเรื่องราวในบทละครดังเข้ามาในไมค์เพื่อประกาศ ผมไม่สนสายตาใครทั้งนั้น ลากไอ้คู่จิ้นตัวเองที่ลัลล้าเกินหน้าเกินตาสะดุดเท้าตัวเองเพื้อให้ไอ้ครูส

"โอ้ย นี่พี่ทำบ้าอะไรห๊า!! ผลักมาทำไม ผมเจ็บนะ"ผมลากมันเข้ามาเคลียร์ใน ห้องน้ำ ล็อกประตูเรียบร้อย ผมเดินย่างเข้ามาถึงตัวมันจับแขนมันไว้แน่น จนมันเจ็บ

“ปล่อยนะเว้ย"ร่างเล็กพยายามแกะมือผมออกแถมยังมองผมด้วยสายตาเกลียดชังอีก ก็ให้มันโกรธไปผมเองก็หงุดหงิด
เพราะมันเหมือนกัน เอะอะๆก็ให้ไอ้ครูสแตะอั๋งไม่หวงตัวเลยหรือไง

"ไม่ปล่อย!!ทีกับไอ้ครูสทำไมไม่รู้จักหวงตัวบ้าง ตอนมันกอดมันจับ ทำไมไม่รู้จักสะบัดออกไปบ้างล่ะ?"ผมบีบแขนมันแน่นยิ่งกว่าภาพตอนไอ้ครูสกอดจับมันยังติดตา "แล้วจะทำไม ทีพี่เองก็ให้พี่เรย์กอด พี่เรย์จับมือได้ ผมก็แค่เล่นไปตามบท อย่าลืมสิครับบทนี้พี่เป็นคนแต่งเอง"

"ไม่เหมือนในบทมันไม่มีสะดุดขาตัวเองแล้วแกล้งซบอกไอ้ครูสแบบนั้น!"ผมเถียงทันควัน

"อ้าว คนมันสะดุดนี่วะจะให้ทำไง? อีกอย่างอกพี่ครูสก็แน่นๆ ได้ซบทุกวันคงไม่อยากลุกไปไหนแน่"

"ไอ้มิกซ์!!"ผมผลักร่างเล็กไปด้วยความโมโหสุดขีด ร่างเล็กเองก็ไถลไปชนประตูห้องน้ำที่เรียงรายสี่ห้องแต่เพราะประตูห้องน้ำนั้นไม่ได้ปิดสนิทเลยทำให้มันไหลเข้าชนกับโถส้วมและลื่นเพราะน้ำที่ขังอยู่บนพื้นห้อง
"โอ้ยมือๆๆ พี่ผมเจ็บมือ"ร่างเล็กร้องโวยวาย ผมรีบวิ่งเข้าดู แขนซ้ายมันโดนตัวมันทับไว้ ผมค่อยๆพยุงร่างเล็กพยายามไม่จับให้โดนแขนกลัวมันเจ็บ

"เป็นอะไรๆ?"ผมถามร้อนรน

"เจ็บแขนๆ เพราะพี่นะแหละๆๆ"เหมือนแขนมันจะแดงช้ำ แต่อีกมือก็ไม่ยอมวาง ยังทุบตีผมไม่เลิก

"โอเคๆ กูผิด กูขอโทษ ลุกขึ้นมาเร็ว ไปหาหมอกัน?"

"ไม่ต้องมาจับและก็ไม่ต้องช่วยด้วย ผมเกลียดพี่ เกลียดพี่ที่สุด เกลียดๆๆๆๆ"
ผมมองร่างเล็กที่งอแงโวยวายไม่หยุด เวลาแบบนี้ยังจะไม่ยอมให้พาไปหาหมออีก ดื้อจริง

"พูดเกลียดอีกคำ กูจับมึงปล้ำมึงแน่"เป็นอันเงียบกริบครับ น้องมันรู้ดีว่าผมปล้ำมันแน่!! เราเถียงกันตลอดและสุดท้ายถ้า
มันลามปามมากไป หรือเถียงไม่ตกฟาด ผมก็จัดการมันเสร็จลงเตียงทุกครั้ง

"ผมจะฟ้องแม่ ฮึกT^T"สุดท้ายก็อุ้มมันพาไปหาหมออยู่ดี เด็กหน่อเด็ก เอะอะๆ ร้องไห้ฟ้องแม่ ฟ้องไปเลยผมเองก็อยาก
จะไปกราบพ่อตาแม่ยายเหมือนกัน


"เดี่ยวพี่ไปซื้อข้าวมาให้นะ อยู่ในห้องดีๆ อย่าทำอะไรให้ตัวเองเจ็บตัวอีก"ผมบอก ร่างเล็กที่นั่งหันหลังให้ผม น้องมันยังคง โกรธผมจนไม่ยอมมองหน้าผมอีกทั้งเรายังมาทะเลาะกันเรื่องเสื้อมันด้วย ที่มันไม่ยอมใส่เสื้อเพราะให้เหตุผลว่ากลัวลำบากใส่ไปใส่มาสู้ไม่ใส่เลยก็ดี สุดท้ายผมก็บังคับให้น้องมันใส่เสื้อให้เสร็จก่อนผมจะกลับมาจากการซื้อข้าว

"แล้วก็อย่าลืมใส่เสื้อด้วยล่ะ?"ผมย้ำก่อนจะปิดประตู เดินกลับมาจากซื้อข้าวเห็นเงาร่างสูงคุ้นๆยืนอยู่ใกล้ๆห้องน้องมิกซ์ ใครวะ?

"นี่พี่!"อ้อ ไอ้ครูสนี่เอง มาทำอะไรที่นี่วะ

"ผมแค่มีเรื่องอยากบอกไม่รู้นะว่าพี่เคืองอะไรผมนะแต่ถ้าเป็นเรื่องของมิกซ์ล่ะก็พี่สบายใจได้ มิกซ์นะหลังๆมา ถ้าพี่สังเกตดีๆสายตาหวานคู่นั้นมองหาแต่พี่ตลอดเวลาเลย ผมบอกแค่นี้แหละ ไปล่ะ!"เห็นร่างสูงที่กอดอกราวกับคุณชายกำลังยืนคุยเรื่องธุรกิจพันล้านอย่างใจเย็น ผมรับฟังไอ้ครูสพูดจนจบ ในตอนแรกก็แอบมีเคืองๆ ไม่รู้มันจะพูดอะไรแต่พอมันมาพูดแบบนี้ ก็ถือว่าให้อภัยก็แล้วกัน สรุปแล้วมิกซ์เลิกสนใจไอ้ครูสแล้วสินะแล้วหันมามองผมแทน ฮ่าๆๆสบายใจล่ะ

"อ้อ จะว่าไป ร่างมิกซ์ก็น่ากินนะพี่ ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่า หัวนมมันจะชมพูแดงขนาดนั้น

"ไอ้..ไอ้มิกซ์ นี่มันกล้าเปิดประตูให้ไอ้ครูสทั้งที่ไม่ ใส่เสื้ออย่างนั้นหรอ?ร่างสูงของไอ้ครูสเดินหันหลังกลับ ผมรีบตรงไปยังห้องไอ้มิกซ์ทันที..
ปัง! ผมเปิดประตูมาอย่างหงุดหงิด

"พี่วันไนท์ เปิดประตูเบาๆก็ได้ นี่ห้องผมนะ!"หึ ถ้าเป็นไอ้ครูสเปิดก็คงฉีกยิ้มกว้างต้อนรับแล้วสินะ พูดถึงไอ้ครูส จริง อย่างที่มันบอก ไอ้มิกซ์ไม่ใส่เสื้อจริงๆ

"อื้อๆพี่วันไนท์ พี่จะทำอะไรผม ผมยังไม่ ได้ทำอะไรเลยน่ะ?"ผมทิ้งข้าวที่อุตส่าห์ซื้อมาแล้วตรงดิ่งไปจับไอ้ตัวแสบติดผนังห้องอย่างหึงหวงพร้อมระดมจูบแผ่นอกบอบบางที่มันอวดโชว์ไอ้ครูส

"หึ ไม่ได้ทำอะไรผิดงั้นหรอ แล้วทีเปิดประตูโชว์หน้าอกให้ไอ้ครูสดูนี่ยังไม่ผิดอีกหร่อ?"ร่างเล็กพยายามใช้มือข้างเดียวปกป้องตัวเอง

"พี่พูดเรื่องอะไร พี่ครูสเกี่ยวอะไร ปล่อยผมนะแล้วก็หยุดดูดหัวนมผมสักที พี่วันไนท์ พี่"


"หึ ดื้อ ขัดคำสั่ง แล้วยังจะมาโกหกหน้าตายอีกแบบนี้ต้องจัดการลงโทษ ปราบเด็กไม่เชื่อฟัง"ผมยังคงจัดการเด็กดื้อที่ไม่เชื่อฟัง ก็ถ้าใส่เสื้อตั้งแต่ผมบอก ก็จบเรื่องป่ะ ไอ้ครูสก็จะได้ไม่เห็น

"พูดบ้าบออะไรผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ออกไปจากตัวผมนะพี่วันไนท์ อือ ออกไป!"



"ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังเลย"หลังจัดการเพราะแรงหึงหวงจนร่างเล็กเตะขอบสวรรค์ไปสองรอบ ผมก็ต้องปลุกให้มิกซ์ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวจะได้กินข้าวกินยา แต่เจ้าตัวกลับยังอิดออด ยังโกรธผมไม่หาย

"ไม่ต้องมางอน ไปอาบน้ำเร็วจะได้กินข้าว เร็ว!"ผมไล่ให้น้องลุกขึ้นแถมโยนผ้าขนหนูให้ด้วย

"ใครงอน ผมโกรธ พี่ไม่มีเหตุผล ไม่ฟังผมเลยเอะอะปล้ำๆ"

"แต่มึงก็ชอบนี่ เห็นร้องให้กูเอาตลอด"

"ไอ้พี่วันไนท์!!"ร่างเล็กหยิบเอาผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปหน้าแดงซ่าน ผมรอจนน้องมันอาบน้ำเสร็จแล้วสั่งให้ร่างเล็กที่ใช้เวลานานมากกับการอาบน้ำและใส่กางเกงสั้นมานั่งอย่างบึ้งตึง

"ถ้าจะใส่แบบนี้ก็ใส่ในห้องอย่างเดียว ถ้าจะออกไปข้างนอกห้าม มีคนมาหาก็ห้าม!!"ผมเทน้ำเย็นใส่แก้วเลื่อนให้น้อง ที่กำลังกินข้าวไม่มองหน้าผม ในเมื่อไม่อยากใส่ก็ไม่ต้องใส่ ห้ามไปก็เท่านั้น

"กินผักบ้างอย่าเอาแต่กินเนื้อ"ผมเขี่ยผักที่น้องมันเขี่ยออกจากแกงให้น้องมันกิน รายนี้ต้องบังคับให้กินผักตลอด ยังกับหลานผมวัย 2ปีเลยต้องให้บังคับ

"ไม่กิน ก็คนมันไม่ชอบยังจะบังคับให้กินอยู่ได้"

"อ้าว พาปากมาด้วยหรอ?นึกว่าไม่เอาปากมาจากห้องน้ำซะอีก"มิกซ์หันขวับ มองหน้าผมไว้อย่างเคือง"มิกซ์ ทำไมต้องเปิดให้ไอ้ครูสเข้ามาในห้องด้วย พี่ไม่ชอบเลยนะ ยิ่งตอนไอ้ครูสมันบอกว่าเห็นมิกซ์ไม่ใสเสื้อแล้วน่ากินแบบนี้พี่ไม่ชอบ"

"พี่จะบ้าหรอ พี่ครูสมาทีไหนกันเล่า มีแต่พี่เรย์ที่มาเยี่ยมผมแต่แค่แวะมาน่ะ นั้นไงขนมฝากเยี่ยม อีกอย่างพี่ครูส
ไม่ได้เข้ามาเลย ถ้าเข้ามาก็ดีสิ ผมจะได้อ่อยให้พี่ครูสสนใจ ว่าแต่พี่ครูสบอกว่าหุ่นผมน่ากิน จริงหรอๆ โอ้ย!!"ผมแคกหัวไอ้ตัวแสบไว้

"เสียใจด้วย ไอ้ครูสมันบอกว่ามันสนมึง และมึงก็ไม่สนใจมันเลยเพราะมึงสนใจกูอย่างที่กูสนใจมึง"ร่างเล็กที่กินข้าวอยู่เงยหน้ามายิ้มกว้างที่ก็พยายามฝืนยิ้ม

"เอ้าหรอ พี่สนใจผมหรอ ก็เห็นวันๆเอาแต่พูดถึงแผนการจะเข้าใกล้พี่เรย์ไม่ใช่หรอ แล้วสนผมทำไมล่ะ?"

"เอ้า ก็เพราะเรื่องสองคนนั้นไม่ใช่หรอที่ทำให้เราคุยกัน รู้จักกันและได้กัน!"ป้าบ..ผมเจ็บแสบแขนมากเมื่อร่างเล็กเขินหน้าแดง ให้ตายสิเมียมือหนักชิบ!

"แล้วตกลงสนพี่จริงป่ะ?"

"แล้วพี่ล่ะสนผมไหม?"มันยักคิ้วกวน ผมเลยเล่นผมมันอย่างเอ็นดู.. "จริงๆกูว่า สายตากูเริ่มมองมึงตั้งแต่วันที่เราตื่นขึ้นมาเจอหน้ากันตอนเช้าแล้ว"ผมขยับเข้าไปใกล้ร่างเล็ก ต่อจากนี้ไปเราคงต้องยอมรับหัวใจของเราสักที"จริงๆผมก็สนพี่ตั้งแต่คืนที่พี่มาอยู่เป็นเพื่อนผมตอนไฟดับแล้วล่ะ ไม่งั้นผมจะยอมให้พี่แอ้มหรอ?"

"เด็กแสบนะน้องมึง"ผมยิ้มกว้าง โล่งใจเมื่อเราต่างเคลียร์ใจกันและกัน

"พี่มึง?"

"หื้ม??"


"เรามาเริ่มรักกันนะ!!"

--- The end ---

**** คู่นี้เอิ่มมมม..คุณครูสร้ายยยย ฮ่าๆๆๆ   o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพวันไนท์มิกซ์ [จบ]31/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-06-2017 06:01:01
พี่มึง-น้องมึง เรียกกันน่ารักอ่ะ 555  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพวันไนท์มิกซ์ [จบ]31/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-06-2017 21:45:15
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพวันไนท์มิกซ์ [จบ]31/5/2560
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-06-2017 19:31:55
สนุกทุกคู่เลยครับ ^^
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพคุณครูสน้องเรย์ 3/6/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 03-06-2017 20:30:52

               ครูส-เรย์

"คุณครูส เรียกฉันว่า คุณครูส"

"ห๊ะ ว่าอะไรนะครับ?"ผมเงยหน้ามองคนตัวโตที่ถือวิสาสะเข้ามารวบตัวผมไว้แล้วบอกกับเจ้สองว่า ผมคือคู่จิ้นของเขา เจ้สองเองก็เห็นชอบ ไม่ถามความยินยอมของผมเลยแล้วยังลากผมมาแต่งตัวเพื่อถ่ายโปสเตอร์คู่ด้วยกัน

"ฉันชื่อครูส วิลเลี่ยม ครุสลี่ย์ ทายาทรุ่นที่3 แห่งไดม่อนพริ้น"เขาบอก

"อ้อผมเรย์ โรเบิร์ด เจษณกิจ ครับ"

"ฉันรู้ นายมันก็แค่เด็กเร่ร่อนที่พ่อแม่ทิ้ง ประวัติของนายฉันรู้หมดแล้ว"จุกครับ มันเกินไปแล้วจริงๆมีการสืบประวัติของผมล่วงหน้าด้วยทำไม จริงอย่างที่เขาพูดนั้นแหละ ผมมันเด็กที่พ่อแม่จริงๆทิ้งไว้หน้าบ้านพี่โรมัน มันแปลกมากหรอที่ผมไม่อยากจดจำอดีตของบุพการีที่ไม่เคยอยากเลี้ยงดูผม

"ครับ"ผมยังไม่อยากจะหงุดหงิดจนเผลอชกหน้าเขาตอนนี้เท่าไร

"บังเอิญฉันเป็นเพื่อนโรมัน"เพื่อนพี่โรมันหรอ เหอะ..นี่เพื่อนพี่ชายผมหรอ? ทำไมผมไม่เคยรู้จักเลย

"ครับ ไว้กลับบ้านผมจะถามพี่โรมให้ครับ?"ป่วยจิตจะคุยกับคนจอมหยิ่งไม่น่าคุยแบบนี้เลย มันทำให้คิดถึงคนที่ทอดทิ้งผมไปขึ้นมาร่างสูงดึงรั้งผมไม่ให้เดินหนี

"เวลาฉันคุย ห้ามเดินหนี!"ประสาทล่ะ ผมหันไปมองหน้าเขา มีสิทธ์อะไรมาถูกตัวผม

"ผมไม่ชอบคุณและผมจะเปลี่ยนคู่ด้วย"ผมประกาศต่อหน้าเขาดังจนคนอื่นๆรอบข้างหันมามอง

"ทำได้ก็ลองดู"สุดท้ายผมก็ต้องมานั่งถ่ายรูปคู่กับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะไม่กล้ามีใครขัดคำสั่งเขาสักคน เจ้สองเองก็เช่นกัน แต่เพราะผมแยกออกได้ระหว่างงานกับอารมณ์เราเลยถ่ายรูปกันได้ดีและใช้เวลาน้อยที่สุดก็ได้รูปที่สวยออกมาตามใจเจ้สอง

"น้องเรย์ถ่ายรูปหล่อมากเลย"นี่พี่วันไนท์ครับ พี่เขาน่ารักมาก ผมชอบพี่เขานะแต่ไม่ดีกว่าพี่เขายังไม่ใช่คนที่ผมตามหาแม้ลึกๆแล้วผมจะรู้ว่าพี่วันไนท์เองก็ชอบผมเหมือนกัน

"..."ไม่ทันผมจะพูดอะไรร่างสูงก็ลากผม ผ่านหน้าพี่วันไนท์และอีกคนนี่ใคร(?) ผมไม่รู้จัก คงเป็นคู่จิ้นของพี่วันไนท์ น่ารักดีนะ ดูแซ่บๆแสบๆพอตัว คงเป็นคู่ที่เข้าขาได้ดีกับพี่วันไนท์นะ..


"ขับรถเป็นไหม?"ผมถูกลากมาตลอดทางจนถึงลานรถที่เขาจอด

"เป็นครับ"

"ก็ดีงั้นขับให้หน่อย ฉันไล่คนขับรถและคนติดตามกลับหมดแล้ว"อ้าว??

ฟิ้วว!! สองมือรับกุญแจรถที่ถูกเขาโยนมาอย่างอัตโนมัติ เป็นบ้าอะไรเนี้ย!! อย่าบอกว่าเขาพูดจริงที่จะให้ผมขับรถให้ ไม่ทันจะถามร่างสูงเองก็เข้าในรถแถมยังนั่งเบาะหลังด้วย แหมคุณชายจริงๆเลย..

"ปราสาทไดม่อนพริ้นต์ คงรู้จักทางนะ?"

"ครับ"เกลียดตัวเองที่เป็นคนยอมคนอื่นตลอดเวลาอย่างนี้
ระหว่างทางขับรถพาเขากลับประสาท อันทรงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกนั้นเราไม่ได้พูดคุยอะไรเลย มันน่าอึดอัดไปหมด ผมอยากจะเปิดเพลงฟังสักหน่อยในรถแต่ก็ไม่กล้า หน้านิ่งๆขรึมๆติดจะเย็นชา ทำให้ผมเดาอารมณ์ของเขาไม่ถูก และเมื่อเข้ามาถึงหน้าปราสาทที่เทียบได้กับวังใหญ่หลวงนั้นทำเอาผมตะลึง ตาค้าง มันสวยราวกับเทพนิยายที่ผมฝันใฝ่อยากจะมีสักวันในชีวิตต่างหากล่ะ ไหนสายตาที่จ้องมองผมราวกับเอาเรื่องยามผมเรียกเขาว่าพี่ แปลกคนจริงเลย ให้เรียกตัวเองว่าคุณครูสด้วย ผมล่ะเพลียกับเขา

"เป็นแค่คู่จิ้นของฉัน นายไม่มีสิทธ์ตัดสินใจแทนฉัน ทุกสิ่งทุกอย่างนับจากนี้ ฉันจะเป็นคนตัดสินเอง"^^ หน้าผมตอนนี้คือมึนตึบไปเลยครับ มีด้วยหรอคนแบบนี้

 "แต่เดี่ยวนะพวกเราแค่เป็นคู่จิ้นกันเองนะ พวกเรายังใช้ชีวิตปกติของเราได้ แค่คู่จิ้นนะพี่ เอ้ย คุณครูส!!" โอ้ย ต้องอธิบายยังไงให้คนตรงหน้าเข้าใจนะ ก่อนอื่นเลยผมคงต้องชินที่จะเรียกเขาว่าคุณครูสแล้วล่ะ ไม่อยากมีปัญหา..

"ใช่ เพราะเราเป็นคู่กันไง และคู่จิ้นสำหรับฉัน ฉันนิยามมันเอง นายจะอยู่ห้องเดียวกับฉันนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะอยู่ด้วยกัน ตัวติดกันตลอดเวลา ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ และฉันขออนุญาตให้นายอยู่บ้านฉันจากโรมเรียบร้อยแล้ว ตามนี้" ห้ะ ห้ะ ห้ะ!!! นี่มันเรื่องบ้าบอหอยแตกหรอ? ผมว่าอีตาคุณชายนี่แหละเพี้ยนสุดเลย


Rrrrrrrrrn ผมรีบรับสายทันที..


"อัลโหลพี่โรม เรย์ไม่เข้าใจนะ ทำไมพี่โรมถึงได้ยอมให้คุณครูสเขาเอาตัวเรย์มาอยู่ที่บ้านเขาด้วย พี่โรมไม่รักเรย์แล้ว
ใช่ไหมครับถึงได้ยกให้เรย์อยู่กับคนอื่นแบบนี้?"ผมรีบหันหลังรับสายพี่ชายบุญธรรมพลางกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน

(คนอื่นที่ไหน นั้นเพื่อนพี่เอง แล้วถึงบ้าน คุณครูสแล้วใช่ไหม พี่กะจะโทรมาบอกเรย์เรื่องนี้พอดี)แหม..บอกช้าไปไหมพี่ชาย อีกนิดเดียวผมถูกเพื่อนพี่ลากทำต้ม ยำเละแล้ว..

"ถึงแล้ว แล้วก็ไม่ชอบด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่อยากอยู่ที่นี่ พี่โรมเองก็ช่วยโทรบอกเพื่อนพี่ด้วยว่าให้ปล่อยผมไปได้แล้ว ผมจะกลับบ้าน โอเค?"ถึงที่บ้านพี่โรมันจะไม่ได้ใหญ่โตมโหฬารเท่าที่นี่แต่ที่บ้านพี่โรมันยังอยู่แล้วสบายใจมากกว่า

(อย่าเอาแต่ใจเป็นเด็กสิเรย์ เรย์โตแล้วนะ พี่คงอยู่ดูแลเรย์ตลอดไป ไม่ได้ อยู่ที่นั้นดีแล้วจะได้ไม่ต้องโดน ริทกับรัทรังแกด้วยไง พี่รักเรานะเรย์ อยู่กับครูสไปก่อนนะถือว่าพี่ขอร้อง อีกอย่างห้องนอนในฝันของเรย์ครูสเขาจัดการตามที่เรย์เคยบอกพี่นักหนาว่าอยากได้ด้วย ไม่เชื่อลองเข้าไปดูในห้องนอนเรย์สิ ครูสเขาใจดีแค่ไหน เห็นไหม?)

"จริงหรอ?"ผมหันกลับมามองร่างสูง เห็นเขาเดินไปยังประตูอีกห้องแล้วพายมือให้ผมมาดู
"พี่โรมแค่นี้ก่อนนะครับเดี่ยวผมโทรไปใหม่"สองเท้าก้าวย่างค่อยๆ ภาพที่เห็นภายในห้องนอนราวกับสิ่งที่ผมวาดฝันมันเลยจริงๆ

"นี่คุณครูสทำให้ผมจริงๆหรือครับ?"โอ้ย..ดีใจๆๆ หัวใจผมเต้นรัว มันตื่นตันจนบอกไม่ถูก ผมเคยอยากมีห้องนอนเป็นของตัวเอง แต่เพราะพี่ริทพี่รัทชอบมาก้าวก่ายห้องผม ห้องนอนผมเลยไม่มีความเป็นส่วนตัว จะเรียกว่า ห้องเก็บของ ห้องนั่งเล่นของพี่ๆเขาก็ว่าได้

"..."ไม่มีเสียงตอบอะไร ผมเลยไม่สนใจเขา เข้าไปสำรวจห้องนอนตัวเองที่มีทุกสิ่งเกี่ยวกับวันพีชรอบกาย นี่ล่ะความสุขของผมเลย


 “โอ้ย ชอบหมดเลย ตู้การ์ตูน ตู่หนังสือทุกเล่มทุกตอนด้วย โอ้ยรักๆๆๆ นี่ด้วยๆ ผนังเรืองแสงที่วาดภาพได้ตลอดเวลาที่ต้องการ นึกอยากลบก็ลบ อยากเขียนก็เขียน ผมคิดมาตลอดเลยว่าอยากมีห้องนอน แบบนี้ คุณครูสจัดได้ถูกใจผมมาก"
ผมมัวแต่สนใจห้องนอนห้องใหม่จนลืม ความเกลียดความโกรธเขาไปแล้ว ร่างสูงไม่ตอบ ได้แต่กอดอกมองผมที่ยังคงดีใจยิ้มกว้างและสำรวจเข้าของภายในห้อง นี่มันแทบจะเป็นมากกว่าสิ่งที่ผมวาดฝันไว้อีก คุณครูสสุดยอด เนรมิตสิ่งที่ผมคิดเป็นภาพจริงด้วย..
"จริงๆแล้ว...ที่นี่ก็น่าอยู่!!"
 "ก็ถ้าดูจนพอใจแล้วล่ะก็..ออกมาหาฉันหน่อยล่ะกัน จะพาไปหาซื้อของใช้จำเป็นที่ต้องการนะ?"คุณครูสบอกก่อนจะพาร่างสูงๆไปนั่งรอบนเตียงกว้างของตัวเอง ผมพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปสนใจห้องตัวเองต่อ


ลา ลัน ลา ลัน ลา ล้า
 ผมฮึมฮัมเป็นเพลง เบาๆในลำคอ มีความสุขครับมีความสุข คุณครูสนอนรอจนผมเดินออกมาจากห้องตัวเอง จะว่าไปแล้วถ้าห้องผมอยู่ในห้องคุณครูสแบบนี้ อย่างนี้เวลาที่ผมจะเข้าออกห้องตัวเองก็ต้องผ่านห้องคุณครูสนะสิ แบบนี้ก็ลำบากแย่สิ!

"คุณครูส คุณครูสครับ"ผมเดินมาสะกิดเขาเบาๆ ร่างสูงสะดุ้งตื่นลืมตาจ้องมองผม

"อะไร?"

"เออ ก็คุณครูสบอกให้ผมมาหาเพราะจะพาไปหาซื้อของมาเพิ่ม"

"อ้อ ไปสิ"แหม คนนี้ก็ตรงไปตรงมาเกิ้น ไม่คิดจะยิ้มจะพูดคุยอะไรที่นอกเหนือจากสิ่งที่คิดเลย ผมเดินตามร่างสูงจอมเงียบขรึมเขาต้อยๆ รถคันหรูพาเรามาห้างแห่งหนึ่งซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นห้างของตระกูลคนตรงหน้า

"ที่นี่ห้างไดม่อนวอลล์ เป็นห้างของพี่ชายคนโตของฉัน"
อ่าห้ะ รู้แล้วๆ ห้างออกจะโด่งดัง ใครจะไม่รู้จักกันล่ะ แต่ผมแค่ไม่คิดว่าห้างนี้จะเป็นห้างของพี่ชายอีตาคุณชายผู้นิ่งขรึมคนนี้ อยากจะรู้เหลือเกินว่าพี่ชายจะแตกต่างจากน้องชายมากแค่ไหนหรือจะนิ่งขรึมเหมือนกันหมด

"ครับ แล้วๆๆ"

"แล้วอะไร?"

"อ้าว ก็แล้วไงต่อล่ะครับ ผมตั้งใจฟังอยู่"

"ไม่มี"ห้ะ จบแค่นี้หรอ? ผมก็นึกว่าเขาจะ อวดอะไรอีก!!

"ต้องการอะไรเพิ่ม เลือกได้เลยๆ"ผมหันมามองร่างสูงที่ยังคงนิ่งเชย ใจดีแปลกๆแหะ แต่ไม่เป็นไรนิ่งขรึมแต่ใจดี เรย์ชอบ

"โอเคครับ"งานนี้งานถนัดผมเลย ผมยิ้มให้ร่างสูงก่อนจะแยกตัวหาของที่อยากได้ ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงกว่า เข้าของเต็มรถเข็ญเมื่อผมเข็ญมาจ่ายเงินก่อนกลับ แต่คนที่จ่ายคือคุณครูสครับ ไม่ใช่ผม


"ทั้งหมด 98,523 บาทนะคะ"ผมแค่รับรู้ แต่ไม่จ่ายครับคุณครูสจ่ายสิ ร่างสูงยืนบัตรสีเงินให้พนักงานสาวด้วยท่าทีนิ่งๆ เป็นไงล่ะครับถึงกับอึ้งเงียบพูดไม่ออกเลยล่ะสิ ก็เป็นคนพูดเองว่า ผมอยากได้อะไรเพิ่มก็เลือกได้เลย นี่ยังเลือกไม่หมดเลย ยังมีของอีกหลายอย่างที่ผมยังอยากได้

“อู้ยสวัสดีครับคุณครูส มาถึงที่นี่เลยนะครับวันนี้?”ผมมองร่างท้วมมีอายุอานามแถมยังแต่งตัวระเบียบทุกระเบียบนิ้วเหมือนวิ่งหอบเดินเข้ามาทักเขา เหล่าบอดี้การ์ดที่ตามมาด้วยสองคนคุมกันผู้มาใหม่ไม่ให้เข้าใกล้คุณครูส เขาเพียงยกยิ้ม ยกยิ้มพ่องสิครับ พูดอะไรบ้างสิ คนเขาอุตส่าห์เดินเข้ามาทักทาย ไร้มารยาทสิ้นดีไอ้คู่จิ้นของผมคนนี้

“ชำระไว้ในชื่อ วิลเลี่ยม ครุสลี่ย์ทั้งหมด 98,523 บาทเรียบร้อยคะ”พนักงานสาวขัดจังหวะการสนทนาขึ้น ร่างท้วมหันมามองสาวเจ้าด้วยท่าทีเอ็ดตะโร

“ว้าย ตายแล้ว เธอนี่มันยังไงกัน ให้เจ้าของห้างชำระเงินของห้างตัวเองได้ไง?”สาวเจ้าหน้าเสียลง มองร่างสูงด้วยความรู้สึกผิด แต่คุณครูสเพียงแค่รับบัตรของตัวเองเก็บไว้และยื่นใบบิลยื่นให้ผม

“จริงหรือค่ะ ดิฉันขอโทษจริงๆค่ะ ดิฉันเพิ่งมาทำงานที่นี่สองวันเองค่ะ”เธอรีบบอก ผมมองพี่สาวคนนั้นสลับกับร่างท้วมจอมโวยวายและคุณครูส

“เธอนี่มันโง่จริงๆ ไม่รู้จักพี่น้องเจ้าของห้าง ใครๆใครรับเธอเข้าทำงาน”ผมมองคนตรงหน้าด้วยความน่ารำคาญ ใครๆใครเอาคุณคนนี้เข้ามาทำงานในห้างนี้ด้วย ผมจะยุให้คุณครูสไล่เขาออก

“ไม่ต้องหรอกครับคุณพนา ผมเองก็ไม่ชอบให้ใครมาประจบอยู่แล้วและเธอก็ไม่ผิดที่ไม่รู้จักผมเพราะผมเองก็ไม่ได้รู้จักพนักงานในห้างของพี่ชายหมดทุกคนเช่นกัน”ผมแอบพอใจกับการตอกหน้าร่างท้วมที่ดูยังไงๆก็รู้ว่าขี้ประจบประแจง เอาหน้าสุดๆ คุณครูสจูงมือผมเดินออกมาพร้อมบอดี้การ์ดของเขาที่ขนของมากมายที่ผมซื้อ ไม่สิ ต้องบอกว่าที่ผมเลือกจิ้มใส่ๆในรถเข็น โดยที่ไม่ต้องจ่ายสักสตางค์เดียว

‘จะว่าไปแล้วคุณครูสก็จิตใจดีเหมือนกันนะ ผมชักจะชอบเขาแล้วสิ!!’




“สวัสดีครับแฟนๆ40,000กว่าคน เรย์กลับมารายงานตัวแล้วครับบบบบ”

ผมโบกมือทักทายในกล้องตัวเองเมื่อเปิดแอพไลฟ์สดที่มีคนดูเพียง 4คนเท่านั้น ใช่ครับ 4คนจริงๆไม่ใช่40,000 คนอย่างที่พูดไป ก็คนมันไม่ดังนี่ครับ เป็นแค่คนธรรมด๊าธรรมดาที่มีเพื่อนในเฟสบุ้คแค่ 4คน นั้นก็คือ เพื่อนรักสามคนและพี่เรย์ ถามว่าไม่มีใครอยากคบหรอถึงได้มีเพื่อนเพียงแค่นั้น บอกเลยว่าไม่ใช่ครับ ผมมันก็แค่พวกเลือกเพื่อนในเฟส

ใครแอดมาไม่รู้จักก็ลบทิ้ง

ใครแอดมา รู้จักแต่ไม่อยากรับก็ลบทิ้ง

ใครที่ชื่นชอบตามจีบแอดมาผมก็ลบทิ้ง

สรุปคือใครแอดมาในเฟสผมลบแม่งหมดเลย นิสัยนะ ฮ่าๆๆ


เพื่อนหนึ่ง:: กว่าจะไลฟ์นะมึง หายเงียบไปเลยนะวันนี้ หายไปไหน ตอบ! ว่าแต่นั้นห้องใครว่ะ?

เพื่อนสอง :: ปล่อยพวกกูรอแดกข้าวเที่ยง มึงไปสร้างท่อส้วมหรอ? เออ ห้องใครว่ะ?

เพื่อนสาม :: เชี่ยเรย์ การบ้านอิสตอรี่ส่งพรุ่งนี้เช้ามึงถ่ายเอามาให้กูลอกด่วน!!

ข้อความจากเพื่อนรักทั้งสามเด้งขึ้นมาต่อเนื่อง แหม รักเหลือเกินพวกมัน ห่างกันหน่อยเดียวพวกมันก็บ่นคิดถึงผมแล้ว แบบนี้ไงผมจึงขาดพวกมันไม่ได้


“อ้อครับ วันนี้เรย์ก็ไม่ได้ไปไหนใกล้ไกลเลย นี่ครับไปที่นี่เอง”ผมชูถุงของมากมายที่ติดตราของห้างพี่ชายคุณครูสให้เพื่อนๆในไลฟ์ได้ดู


เพื่อนหนึ่ง :: ป้าดดดด นี่มึงเข้าห้างดังขนาดนั้นเลยหรือว่ะ?

เพื่อนสอง :: นี่มันห้างพวกเซเลประดับท้อปโลกนี่หว่า มึงมุดท่อส้วมไปหรอ?

เพื่อนสาม ::ไอ้เรย์ การบ้านๆๆ มึงหยุดไลฟ์แล้วส่งมาให้กูก่อน

เอิ่มมม ในเย็นๆเพื่อนทุกคน ทีละคนนะทีละคน ไม่ต้องแย่งกันพิมพ์รัวๆนะ เรย์จะตอบทุกข้อเลย

ยวบ !!

“ไปอาบน้ำได้แล้วเรย์”
ผมหันมองร่างสูงหล่อที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำแล้วเดินเข้ามานั่งข้างกายผม โชว์หุ่นสุดเฟอร์เฟ็กให้เพื่อนผมได้ดูด้วยเช่นกัน เดอะแก็งค์ทั้งสามของผมเงียบกริบ ผมยิ้มเห่ยๆให้ร่างวสูงแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างที่หมอนั้นสั่ง ว่าแต่จะถูกจับได้ไหมนะว่าแอบอวดเพื่อนอยู่

ผมฮัมเพลงเพราะเสนาะหูตัวเองระหว่างกำลังอาบน้ำ แอบเงี่ยหูฟังคนข้างนอกแต่ก็เงียบไร้คำตอบ คุณครูสนิ่งเงียบจนผมแปลกใจ มาใจดีใส่ทั้งที่หน้าเขาบ่งบอกได้ชัดเลยว่า ไม่น่าจะใจดีด้วยสักนิด


“คุณครูสๆๆ”ผมเดินย่องออกมา แลซ้ายแลขวาไม่เห็นว่าร่างสูงจะอยู่ห้องตัวเอง โล่งแล้วเว้ย คุณครูสไม่อยู่ อวดเพื่อนต่อ

“ทำไม?”
จึ๋ย ผมตกใจแทบจะวางมือถือกลับไม่ทัน คุณครูสจะรีบเข้ามาทำไมผมยังไม่ได้แม้แต่จะเปิดมือถือเลย ร่างสูงเพ่งมองผม กอดอกสง่าจนผมขนลุก

“เปล่าๆๆๆ ไม่มี๊ไม่มีอะไรเลย แค่เรียกเฉยๆเมื่อกี้ไม่เห็นไง!!”

“หึ นั้นเรียกหรอ นึกว่ากระซิบ?”ผมแบะปากใส่ เขาพูดได้ขวานฝ่าสากมาก ตบปากเลยดีไหม?

“ก็เรียกเบาๆไง ถ้าเสียงดังไปเดี่ยวก็รบกวนคุณครูสอีก?”
ผมจ้องมองร่างเล็กอย่างขบขัน ก็เห็นๆอยู่ว่าจะหยิบมือถือเล่นยังจะแถไปโน้นนี่นั้นอีก ก็ไม่รู้จะเล่นเป็นเด็กไปถึงไหน โตๆกันแล้วน่าจะทำตัวเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว

“เรื่องโครงการของเราสองคนสรุปฉันให้นายเป็นคนจัดการทั้งหมด จะเอาอะไร สนใจเรื่องไหนนายทำเองเลย ฉันยกให้เป็นหน้าที่นาย”ผมสั่งร่างเล็กที่นั่งหน้าเปลี่ยนเมื่อได้ยินผมสั่งการ

“.....”

“ทำไม หรือจะไฟท์?”ผมถามกลับ ร่างเล็กถึงกับมองหน้าผมแล้วส่ายหัว

“อูย ไม่ครับ ไม่เลย ไม่มีทาง ผมเต็มใจทำคนเดียวครับ”หึหึ มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้ว ผมยกยิ้มมุมปากแล้วเดินกลับไปยังเตียงนอนตัวเอง หลายครั้งที่ผมแหงนมองห้องตรงหน้าที่มีอีกคนนอนอย่างครุ่นคิด ร่างบางจะรู้ไหมว่าที่ตัวเองต้องมาอยู่กับผมนั้นมันไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลที่เราบังเอิญได้เป็นคู่จิ้นแต่เพราะมันมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางบ้านของเราสองคนมากกว่าจึงทำให้โรมันขอร้องให้ผมช่วยดูแลน้องมันให้ดีๆ ผมเองก็จำต้องรับปากไปสิครับ ก็น้องเพื่อนนี่ครับจะปฏิเสธได้ยังไง


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพคุณครูสน้องเรย์ 3/6/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 03-06-2017 22:35:45
พี่โรมของคุณคุณ เป็นพี่น้องเรย์อ่อ? รอ..ออออออออ    :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพคุณครูสน้องเรย์ 3/6/2560
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-06-2017 23:05:05
คุณครูสอย่าแกล้งน้องเรย์นะครับ ^^
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพคุณครูสน้องเรย์ 5/6/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 05-06-2017 22:33:38

“นี่คุณครูส”

“???”ผมสะลึมสะลือตื่นมองร่างเล็กที่ไม่รู้ว่าเดินเข้ามาถึงตัวเมื่อไร สะกิดเรียกผมเบาๆ ผมยกข้อมือเพื่อดูนาฬิกา ตีสามแล้ว เรย์ยังไม่นอน?

“ผมหิว”ร่างเล็กทำท่าวนท้องตัวเองที่มีเสียงประกอบ ให้ตายนิสัยเด็กจริงๆ ผมลุกขึ้นอย่างจำใจพาเด็กตัวน้อย (?)ไปหาอะไรกินในห้องครัวข้างล่าง บอดี้การ์ดและแม่บ้านที่อยู่เวรดึกต่างพากันมองอย่างสงสัย ก็ผมเคยลุกขึ้นมาหาอะไรกินกลางดึกเสียเมื่อไร

“ช่วยทำอะไรง่ายๆให้คุณเรย์ด้วยล่ะกันนะครับ”ผมสั่งอย่างเหนื่อยระอา ง่วง อยากนอนแต่กลับต้องมานั่งรอเด็กบางคนที่เพิ่งจะได้ใกล้ชิดกันที่เกิดหิวอะไรๆเอาตอนตีสาม เรย์ฉีกยิ้มกว้าง รออึดใจเดียวก็เงียบกริบเมื่ออาหารเมนูง่ายๆสองสามอย่างถูกวางเสิร์ฟตรงหน้า

“รับอะไรเพิ่มบอกได้เลยนะคะคุณเรย์?”

“ครับ งั้นผมขอนมเย็นแก้วหนึ่งครับ ขอบคุณครับ”หึ โตจนป่านนี้ยังกินนมอีก เด็กเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าที่บ้านโรมันเลี้ยงน้องกันยังไงถึงได้ดูเด็กอย่างนี้ ผมเงียบมองร่างเล็กกินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ของกินบนห้องที่ขนมามากมายก็มีแต่ไม่เห็นร่างเล็กจะกิน แปลกคนจริง

“คุณครูสกินด้วยกันไหมครับ?”ผมเพียงสบตาร่างเล็กแต่ไม่ตอบ กอดอกรออย่างใจเย็น ก็มันง่วงหนิครับ

“แหะๆ งั้นผมขออนุญาตกินเลยนะครับ จะได้เข้านอนกัน”ก็รู้ตัวแต่ใบหน้าเล็ก ไม่ได้บ่งบอกเลยว่ารู้สึกผิดหรือกลัวผม
ผมเพ่งมองใบหน้าเล็กที่ก้มกินไม่สนใจอะไรแล้วเค้นยิ้มมุมปาก จะว่าไปแล้วเรย์ก็น่ารักดีนะ โรมันชอบพูดถึงน้องบ่อยแต่ผมไม่เคยคิดจะสนใจ เพิ่งจะมารู้สึกตัวก็ตอนนี้ว่า น้องของเพื่อนตัวเองน่ารักจริง

ผมสบตากับใบหน้าเล็กที่เงยหน้ามา หลายคนมักกลัวผม กลัวการเข้าใกล้ กลัวการพูดคุยด้วยแต่กับร่างเล็ก ผมว่าเขาแปลก เขาไม่กลัวผมสักนิดแม้ว่าผมจะแกล้งตีขรึมดุเขา สั่งเขา หรือแกล้งใจแข็งทำใจร้ายด้วยก็เถอะ


“คุณครูสอยู่หนายยยย?”ผมมองข้อความที่ร่างเล็กส่งเข้ามา เพื่อนร่วมเฟสบุ้คของเรย์มีแค่ 5 คนรวมผม มันน่าภูมิใจไหม? ผมอ่านแต่ไม่ตอบมันขี้เกียจพิมพ์ เราอยู่ด้วยกันมาร่วมสองอาทิตย์กว่าแล้ว ผมตระหนักเลยว่าเรย์เป็นบุคคลที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตผม!!!!

“คุณครูส ผมอยากไปเยี่ยมน้องมิกซ์ครับ คุณครูสไปด้วยกันนะคร้าบบบ”ผมกุมขมับเมื่ออ่านจบ แค่แวะมาเข้าห้องพักส่วนตัว หลังจากที่ซ้อมละครเวทีกับน้องมิกซ์แล้วบังเอิญน้องเขาเกิดสะดุดเท้าตัวเองจะล้มผมเลยช่วยพยุงไว้แต่ไม่คิดว่าพี่วันไนท์จะหึงหนักอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้เวลาพัก 15 นาทีผมเลยขอตัวเข้าห้องพักส่วนตัวตัวเองนอนเอาแรง ส่วนเรย์นะหรอครับปล่อยร่างเล็กไปเถอะ รายนี้ยิ้มแย้มไปทั่ว รู้จักสนิทชิดเชื้อกับคนอื่นเขาทั้งกอง ยังไงก็ไม่เหงาแน่

เคาะๆๆๆ
“คุณครูสอยู่ในห้องนี่ใช่ไหมครับ ออกมาเลยๆๆๆ ผมจะรออยู่ตรงนี้แหละ ผมจะไปเยี่ยมน้องมิกซ์ พี่วันไนท์ทำน้องมิกซ์เจ็บตัวจนต้องเข้าโรงพยาบาล”ให้ตาย นี่ไงล่ะครับที่ผมบอกว่าร่างเล็กเป็นคนที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตผม ตั้งแต่ร่างเล็กย่างก้าวเข้ามาชีวิตที่สงบสุขของผมก็มลายหายไป

เคาะๆๆๆๆๆ
“คุณครูสครับ คุณครูสๆๆๆๆๆ”วุ้ย น่ารำคาญจริงน้องชายโรมันคนนี้ ผมจำต้องลุกขึ้นไปเปิดประตู เพราะถ้าไม่เปิดเชื่อเถอะครับเรย์ก็คงยืนเคาะประตูอีกแน่ มือเรียวค้างไว้กลางอากาศเมื่อผมเปิดประตูอย่างหงุดหงิด

“ผมอยากไปเยี่ยมน้องมิกซ์ เราไปด้วยกันนะครับ นี่ก็เย็นแล้วด้วย ผมไม่มีรถขับไปเอง”ก็แหงสิครับ เรามาด้วยกันไปด้วยกันมาตลอด ก็ไม่แปลกที่ร่างเล็กจะต้องพึ่งผมทุกอย่าง ผมถอนหายใจแล้วเดินออกนำร่างเล็กไปไหนก็ได้ตามใจร่างเล็กเลย เดี่ยวนี้ผมขับรถเองและเรย์นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้อย่างสบายใจ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เราเริ่มสนิทกันจนผมเลือกที่จะขับรถเองแล้วชินกับการมีร่างเล็กนั่งข้างกาย

“พี่วันไนท์นี่ไม่ได้เรื่องเลยนะครับ ทำน้องมิกซ์เจ็บตัวตกห้องน้ำ”ผมฟังครับแต่ไม่อยากจะพูด เวลาอยู่ด้วยกัน เรย์จะกลายเป็นคนพูดมากและผมกลายเป็นคนฟัง เราแวะซื้อของฝากติดไม้ติดมือไปฝากน้องมิกซ์ข้างทาง ระหว่างไปเยี่ยมน้องมิกซ์ ผมติดธุระคุยกับพี่คุณเลยไม่ทันได้ขึ้นไปหาน้องมิกซ์ เรย์ก็เดินกลับมาล่ะ เยี่ยมอะไรจะเร็วขนาดนั้น ผมลดโทรศัพท์ลงปล่อยพี่คุณรอผมในสาย

“ทำไมเยี่ยมเร็ว?”ผมถามร่างเล็กที่เดินมาใกล้

“น้องมิกซ์โป๊อยู่ครับ หัวนมนี่ชมปูวววววมากเลย ผมเลยรีบลงมาไม่อยากให้คุณครูสเห็นด้วยเดี่ยวพี่วันไนท์หึง”ร่างเล็กบอกจบก็เดินผ่านหน้าผมไปรอในรถ ผมตั้งใจจะคุยลาพี่คุณแต่บังเอิญเห็นพี่วันไนท์เดินผ่านมาพอดี ขอแกล้งให้หึงหน่อยก็แล้วกัน มั่นไส้พี่แกนานล่ะ ก็ทั้งๆที่เริ่มสนใจน้องมิกซ์แล้วแต่กลับมาวอกแวกกับร่างเล็กคนของผมอีก

"นี่พี่!"ผมทักพี่วันไนท์ที่เดินกลับเข้ามาจากไหนก็ไม่รู้ ถือขนมมามากมาย

"ผมแค่มีเรื่องอยากบอกไม่รู้นะว่าพี่เคืองอะไรผมนะแต่ถ้าเป็นเรื่องของมิกซ์ล่ะก็พี่สบายใจได้ มิกซ์นะหลังๆมา ถ้าพี่สังเกตดีๆสายตาหวานคู่นั้นมองหาแต่พี่ตลอดเวลาเลย ผมบอกแค่นี้แหละ ไปล่ะ!"ผมแอบสะใจเล็กๆแต่ยัง มันยังไม่สุดพอ

"อ้อ จะว่าไป ร่างมิกซ์ก็น่ากินนะพี่ ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่า หัวนมมันจะชมพูแดงขนาดนั้น"หึหึ ไปล่ะครับ เคลียร์กันแล้วนะพี่ เห็นหน้าพี่ตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าพี่นะชอบน้องมิกซ์มากจนลืมคนของผมไปแล้ว

“คุยอะไรกับพี่วันไนท์หรือครับ ดูพี่วันไนท์หน้าเครียดเลยโน้น”ผมกลับมานั่งในรถอย่างอารมณ์ดี เรย์ถามผมเมื่อเห็นพี่วันไนท์เดินจ้ำอ้าวไปด้วยท่าทีโกรธเคือง หวังว่าน้องมิกซ์ไม่โดนอะไรร้ายแรงนะครับ ผมแค่แกล้งให้พี่วันไนท์รู้ใจตัวเองแค่นั้น

“ก็เปล่า”เรย์หันมามองผมอย่างไม่เชื่อแต่ก็ไม่ได้ถามเซ้าซี้ เราวนรถกลับบ้านเมื่อเรย์ไม่มีโปรแกรมจะไปที่ไหน



“คุณครูส”

“??”ผมหันมามองร่างเล็กที่เดินเข้าหาผมถึงเตียงนอนผมอีกแล้ว

“ผมคิดถึงพี่โรม ผมโทรหาพี่โรมไม่ติด คุณครูสช่วยโทรหาพี่โรมให้หน่อยได้ไหม?”จะบอกยังไงดีล่ะ พี่คุณเพิ่งจะโทรมาสั่งห้ามโทรคุยกับโรมันเมื่อเย็นนี้เอง สงสัยป่านนี้โรมันโดนยึดโทรศัพท์ไปแล้ว พี่ชายผมยิ่งโหดร้ายอยู่ด้วยใครเขาจะกล้าขัดคำสั่งล่ะครับ ผมเองก็อยากติดต่อหาเพื่อนแต่ดูเหมือนพี่ชายสั่งห้ามเหมือนหวงก้างยังไงชอบกล เกิดอะไรขึ้นระหว่างโรมันกับพี่คุณหรือปล่า ผมเองก็ไม่ได้สนใจใครกับเขาซะด้วยด้วยสิ

“ก็เอาไปโทรเองก็แล้วกัน ฉันไม่ว่าง”ผมโยนโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองให้เรย์ สองมือเรียวรับอัตโนมัติแล้ววิ่งกลับไปยังห้องตัวเอง แต่หายไปสักพักร่างเล็กก็เดินคอตกกลับมา คงติดต่อไม่ได้เหมือนกันสินะ ผมว่าพี่คุณยึดมือถือโรมันไปแล้วล่ะ

“โทรไม่ติดเลย ทำไงดีผมรู้สึกคิดถึงพี่โรม”อยู่ๆร่างเล็กที่ยิ้มเก่ง มีเรื่องนั้นโน้นนี่เล่ามากมายสารพัดก็กลับเหงาจ่อย มันไม่เหมือนเรย์คนเดิมที่ผมรู้จัก

“ทำอย่างกับว่ามีพี่ชายคนเดียว?”ผมบอกเรย์ ก็ใช่ว่าร่างเล็กจะมีแค่โรมันสักหน่อย รัทกับริทก็เป็นพี่ชายด้วยแต่ร่างเล็กกลับไม่ค่อยจะพูดถึงสักเท่าไร

“พี่รัทกับพี่ริทก็คิดถึง แต่สองคนนั้นชอบแกล้งผม ผมคิดถึงพี่โรมมากกว่า คุณครูสว่าวันที่พวกเราขึ้นแสดงละครเวทีพี่โรมจะมาได้ไหม ผมอยากให้พี่โรมมา”แล้วผมควรตอบร่างเล็กยังไงดี ขนาดตัวผมเองยังโดนกีดกั้นไม่ให้เข้าใกล้เพื่อนตัวเองเลย เป็นโชคดีหรือโชคร้ายของเพื่อนผมนะที่ต้องมาเจอเจ้าหนี้อย่างพี่ชายคนโตของผม

“กลับห้องไปนอนเถอะ ดึกแล้ว”ผมไล่เรย์ให้ไปนอนมันแบบไม่อยากเห็นร่างเล็กดราม่าเอาดึกๆ เป็นเด็กเป็นเล็กควรไปนอน

“ขอนอนกับคุณครูสได้ไหมครับ ผมสัญญาจะนอนนิ่งๆ ไม่กวนใจเลย”

ไหนใครบอกว่าไม่กวนใจเลย

.

.

.

ผมตกเตียงเป็นรอบที่สามของคืนนี้ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าร่างเล็กบอบบางน่ารักที่น่ารำคาญจะนอนดิ้นถีบผมแล้วถีบผมอีก โอ้ย ให้ตาย ผมเอาหมอนกดเรย์เลยได้ไหม??


“เรย์ ลุก!”ผมยืนเต็มความสูงบนเตียงตัวเองพร้อมสะกิดๆเอวบางให้ตื่น จะตี 1 แล้ว แต่ผมยังไม่ได้นอนเต็มที่เพราะโดนถีบจนตก
เตียง ร่างเล็กสะลึมสะลืองัวเงียเพ่งมองผม

“คุณครูสยังไม่นอนอีกหรือครับดึกแล้ว นอนได้แล้ว”หึ ช่างกล้าจริงๆเลยนะเรย์ ถีบผมตกเตียงถึงสามครั้งแล้วยังจะบอกให้ผมนอนอีก

“ลุก ไปนอนห้องนายไป!”ผมสั่งอย่างหัวเสีย เรย์หน้ายู่มองผมอย่างเคืองๆ

“แค่นี้ก็ต้องไล่ด้วย ผมผิดอะไรหรือไง ผมแค่นอนนิ่งๆเอง”แต่ถึงจะบ่นมคนเดียวให้ผมได้ยิน แต่ร่างเล็กก็ยอมลุกแต่โดยดี ผมครอบครองเตียงตัวเองอย่างสบายใจเมื่อไม่มีร่างเล็กที่นอนถีบตกเตียงแล้ว




เช้ามาเรย์ก็งอนผม ไม่คุย ไม่เล่าอะไรให้ฟังทั้งวัน ผมลื่นหูมาก แต่ก็รู้สึกโหวงๆแปลกๆเมื่อไม่มีเสียงเจี๊ยวจ๊าวของเรย์เช่นทุกวัน เห็นร่างเล็กเก็บกระเป๋าตัวเองอยู่ในห้องเล็กๆนั้นผมเลยเดินเข้าไปถาม

“จะไปไหน?”ถามแต่เรย์ไม่ตอบ สงสัยยังงอนเรื่องเมื่อคืน

“เรย์ ฉันถาม??”

“จะกลับบ้าน คิดถึงพี่โรม”ร่างเล็กตอบกลับมา ผมเลยไม่ต้องเค้นอะไรเยอะ จัดการยึดกระเป๋าเล็กเข้าตัว

“ไม่ต้อง อยู่นี่แหละ กลับบ้านไปใครจะคุยกับฉัน ใครจะคอยกวนใจ ใครจะคอบงอแงใส่ฉันล่ะ?”

“ก็ไม่ต้องมีไง ผมเห็นคุณครูสเองก็รำคาญผมจะตาย คุยด้วยก็ไม่เคยตอบอะไร อยู่กับคุณครูสผมเหมือนคุยคนเดียวมากกว่า”ร่างเล็กงอแงใส่ ก็จริงอย่างที่เรย์บอก

“แล้วไม่สงสารฉันหรอ?”

“สงสารทำไม คุณครูสก็มีพร้อมทุกอย่างที่รายล้อมแล้ว ผมซะอีกที่ไม่มีอะไรกับใครเขา มีพี่โรมพี่โรมก็ทิ้งผมให้อยู่กับคุณครูส แต่พอมีคุณครูส คุณครูสก็เอะอะๆไล่ผมไปนี่ครับ ก็รู้ว่าผมน่ารำคาญมากก็น่าจะให้ผมไปสิครับ?”เรย์เถียงผม สงสัยจะงอนจนน้อยใจเข้า นี่ผมทำเด็กงอแงแล้วสินะ

“ก็ได้ๆ วันหลังไม่ไล่ไปไหนแล้ว พอใจไหม?”

“....”

“อยู่ด้วยกันเถอะนะ ฉันไม่อยากอยู่เงียบๆเหงาๆเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว การมีนายเข้ามาในชีวิต ถึงนายจะเป็นคนที่น่ารำคาญที่สุดในชีวิตของฉัน แต่ฉันกลับชอบที่มีนายข้างกาย ฉันไม่เคยยอมฟังใครพูด ไม่เคยขับรถให้ใครนั่ง ไม่เคยต้องมาทนใครขอนั่นโน้นนี่แต่สุดท้ายก็ยอมทำตามเลย นายคือคนแรกที่ฉันยอมเลยนะ”ผมพูดกล่อม มันบอกไม่ถูก ถ้าร่างเล็กจากผมไปแล้ว ผมจะทำตัว จะวางตัวยังไง ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลย


“...”


“แต่ว่าถ้านายคิดถึงโรมันล่ะก็ เราไปเยี่ยมพี่ชายนายกันไหม ไปตอนนี้เลย”


“...”


“อยู่กับฉันนะ อยู่กับฉัน นายจะได้ทุกอย่าง และฉันจะกวาดซื้อวันพีชทุกอย่าง ทุกอย่างที่เป็นวันพีชฉันจะซื้อให้นาย เอาไหม?”

“ก็ได้ ผมจะอยู่ต่อ แต่ที่ผมยอมอยู่ต่อเพราะพี่โรมันหรอกนะครับไม่เกี่ยวกับวันพีชเลย!”ผมควรเชื่อใช่ไหม?

“ไปกันครับ?”อยู่ๆเด็กน้อยที่ยอมหายงอแงก็โผล่งขึ้นมา

“ไปไหน?”

“ไปซื้อเสื้อคอเล็กชั่นวันพีชครับ แล้วค่อยไปหาพี่โรมัน”ผมหยิกแก้มนวลที่ออกแก้มเข้ายิ่งนับวันนับตั้งแต่ที่เรย์ได้มาอยู่ด้วยกันกับผม ผมว่าเรย์มีน้ำมีนวลออกแก้มน่าจับกอด น่าจับฟัดมากกว่าเรย์เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเสียอีก

“อื้ม ไปสิ”มันแปลกที่ผมยอมตามใจเรย์ทุกอย่างหรือใจคิดอะไรกับเรย์เข้าแล้ว



“อะ คุณครูสผมเจ็บๆๆๆ ฮึก”เสียงเด็กแสบบ่นๆหลังเวทีแถมยังร้องไห้ออกมาอีก วันนี้เป็นวันมีตติ้งของพวกเราทั้ง 18 คนครั้งแรกในรอบสองเดือน ให้ตายสิครับ ห่างออกไปเข้าห้องน้ำแปปเดียวกลับมาผมตกใจสุดขีดเมื่อเห็นร่างเล็กสะดุดสายไฟจนล้มจนแขนถลอก

“แล้วเดินยังไงไม่ดูสายไฟ?”ผมบ่นไปอย่างนั้น ทุกวันนี้แทบจะห่างเรย์ไปไหนไม่ได้ นับวันผมกลับยิ่งติดตัวเรย์จนกลายเป็นปาท่องโก๋และนอนเตียงเดียวกันแล้ว โรคละเมอถีบของเรย์ผมจัดการได้ด้วยการนอนกอดตัวเรย์ทั้งคืน


“ก็รีบวิ่งมาหาคุณครูสนั้นแหละครับ พี่ๆเขาเรียกรวมตัวกันแล้ว?”เรย์ปาดน้ำตาราวกับเด็กน้อย ผมพยุงแขนที่ถลอกของเรย์ไว้ให้ลุกขึ้นแล้วพาไปนั่งบนเก้าอี้ห้องแต่งตัวของพวกเรา ทุกคนต่างพากันมองอย่างเป็นห่วงแต่ไม่มีใครเข้าใกล้ถึงเรย์หรอกครับ ผมหวงของผม บอดี้การ์ดที่ตามมาด้วยเรียกทีมพยาบาลมาดูแลเรย์อย่างรู้หน้าที่ ผมมองมือที่คล้องผ้าพันแผลของเรย์อย่างนึกห่วงเมื่อทีมพยาบาลทำแผลให้เสร็จเรียบร้อย


“แน่ใจนะว่ายังอยากจะขึ้นไปอีกนะ?”ผมเดินชิดร่างเล็กที่ยิ้มกว้างเหมือนไม่ได้เจ็บงอแงอย่างตอนที่หกล้ม เรย์เงยหน้ายิ้มกว้างให้ผม ตอนนี้เรายืนอยู่หลังเวที อีกมือข้างซ้ายที่ไม่เจ็บของเรย์เลิกผ้าม่านลง


“อยากครับอยากขึ้นไปพบแฟนๆมากเลย คุณครูสก็รู้นี่ครับว่าผมรอวันนี้มานานแค่ไหน?”ใช่ผมรู้ รู้ว่าเรย์ตื่นเต้นมากแค่ไหนที่จะได้มาในวันนี้ ร่างเล็กตื่นเต้นมากจนนอนไม่หลับ กวนใจผมทั้งคืน คุยจ้อเลยว่า ถ้าได้เจอแฟนๆของเรา ร่างเล็กจะทำอะไรขอบคุณพวกเขาที่ชื่นชอบพวกเรา รักพวกเรา แต่ผมไม่เห็นว่าอยากจะมาสักเท่าไรนักถ้าไม่ใช่เพราะกฎบังคับของโครงการนะครับ

“ก็รู้แต่เจ็บแบบนี้ยังจะขึ้นไปอีก!”เชื่อเถอะครับ เด็กแสบไม่ฟังผมหรอก ยิ่งช่วงหลังๆยิ่งไม่ฟัง เป็นผมมากกว่าที่เชื่อฟังเรย์


“ก็เจ็บแค่มือเองนี่ครับ อย่างอื่นไม่เจ็บเลย นะครับคุณครูส คุณครูสก็รู้ว่าผมโหยหาความรักจากคนอื่นมากแค่ไหน?”นิ้วเรียวจิ้มๆบริเวณอกผมราวกับเด็กน้อยขี้อ้อน ผมรวบมือนั้นไว้ เล่นวนมากไปเดี่ยวของขึ้นครับ มันจักจี้


“หึ คนอื่นหรอ แล้วที่ฉันให้ล่ะ ยังไม่พอ???”พูดแบบนี้มีเคลียร์กันบนเตียงแน่ครับ เรย์ช่างกล้าพูด!!

“ไม่ใช่ไม่พอ แล้วก็ไม่ใช่แบบที่คุณครูสเข้าใจด้วย ผมก็แค่ดีใจที่วันนี้มีคนรักผมบ้าง คุณครูสก็รู้ดีนี่ครับ พ่อแม่ก็ไม่ต้องการผม พี่
รัทพี่ริทก็ไม่ชอบขี้หน้าผมแกล้งผมบ่อยๆ มีพี่โรม พี่โรมก็ทิ้งผมให้อยู่กับคุณครูสอีก ถ้าผมไม่มีคุณครูสข้างกายแบบนี้ วันนี้ผมก็คงไม่รู้ว่ามีใครอีกหลายๆคนรักผมและชอบผม”

ร่างเล็กบอกผมเสียงอ้อน ยิ่งอยู่ใกล้เรย์นับวันผมยิ่งอยากทลายกำแพงบ้าๆนั้นที่ทำให้ร่างเล็กเสียใจออกไปจากใจเรย์ให้หมด ผมว่าผมแปลกขึ้นนะก็ทั้งๆที่เรย์เป็นคนที่ออกจะน่ารำคาญสำหรับตัวเองแต่ผมกลับสลัดร่างเล็กให้ออกห่างสายตาไม่ได้


“ผมรู้ดี ผู้คนส่วนมากที่ติดตามชื่นชอบคู่เรานั้นส่วนใหญ่ตามมาเพราะคุณครูส ก็คุณครูสหล่อ รวย สมบูรณ์แบบทุกอย่างแต่คนที่เขารักผมบ้างก็มีนะครับ แค่คนสองคนผมก็ดีใจแล้วและผมอยากขอบคุณพวกเขาจริงๆ”

“...”ผมยังคงเงียบฟังเรย์พูดจนจบ

“อีกอย่าง...”เรย์พูดแล้วเงียบไป แต่ใบหน้ากลับยิ้มแย้มก้มหน้างุดเหมือนเขินอาย

“อีกอย่างอะไร??”ผมเชยคางเรย์ให้สบตากัน แก้มนวลระเรื่อขึ้นแดงกว่าเดิม


“อีกอย่างผม ผม..”

“..........”

“ผมเตรียมเซอร์ไพรส์จะให้คุณครูสด้วย เพราะฉะนั้นเราขึ้นไปบนเวทีนะครับ ผมไม่อยากเสียดายภายหลังนะครับคุณครูส?”อ้อ เข้าใจแล้วครับ เซอร์ไพรส์ที่ว่านั้นคือการบอกรักผมบนเวที จะไม่ให้ผมรู้ได้ไงล่ะครับ ก็โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ผมซื้อมาให้เรย์เป็นระบบคู่รัก มีคนโทรมาหาอีกคน อีกคนก็รับรู้ด้วย ผมเคยบอกเรย์แล้วนะแต่ดูเหมือนเรย์จะลืมไป ไอ้แผนการเซอร์ไพรส์จะบอกรักผมบนเวทีนั้นผมรู้ตั้งแต่วันนั้นที่เรย์ปรึกษาหารือกับเพื่อนแล้ว


“งั้นหรอ สรุปคือฉันต้องขึ้นสินะ?”ผมกอดอกครุ่นคิด เรย์กัดปากตัวเองอย่างยั่วยวน


“ครับต้องขึ้นและผมรู้คุณครูสก็ต้องยอมผมอีกตามเคย”ร่างเล็กขยับชิดเข้าใกล้ นิ้วร้ายไล้จากขนาบแก้มผมสู่ลำคอและเรื่อยลงมาจะเข้าสาบเสื้อผมถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือที่สาธารณะล่ะก็ผมจัดการเรย์แน่


“หึ รู้ใช่ไหมถ้าฉันยอมแล้วต้องแลกด้วยอะไร??”เราสองคนต่างสบตากันอย่างรู้ความหมายในข้อกันดี กฎของเราสองคนง่ายนิดเดียว เมื่อไรที่ผมตามใจเรย์ ตกดึกเรย์ก็ต้องตามใจผมบนเตียงเช่นกัน


“ครับคุณครูส...ของผมคนเดียว >///////< ”

ผมชอบจังเวลาที่ตัวเองเป็นคนสำคัญที่สุดของชีวิตเรย์



ผมจะค่อยๆทลายกำแพงเศร้าๆของเรย์ให้หมด แม้ผมไม่ใช่พระอาทิตย์ที่สดใสที่สุดแต่ผมจะเป็นไออุ่นที่อบอวลให้เรย์มากเท่าที่ตัวเองจะมอบให้คนที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดหายไปไม่ได้..


ผมรักเรย์รึเปล่าน่ะหรอ ผมว่าให้การกระทำของผมบอกชัดๆให้เรย์รับรู้ไว้ก็พอ เพราะนอกจากเรย์แล้วผมก็ไม่เคยมีใคร!!






---- The end ----
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพคุณครูสน้องเรย์ [จบ] 5/6/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-06-2017 00:21:55
ว๊าวๆๆๆๆ มันออกจะใสๆ ครูส-เรย์ นี่หนังคนละม้วนกะ คุณ-โรมเลยที่เดียว   o17
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพคุณครูสน้องเรย์ [จบ] 5/6/2560
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-06-2017 01:05:41
น้องงอนเลยเป็นไง
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพคุณจินถังฟิช 23/06/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 24-06-2017 00:06:29

                                                                        จินถัง-ฟิช

“แม่ครับ พี่ยา พี่มา  นี่จินถังครับ จินถังนี่แม่และก็พี่สาวเรา”

ผมแนะนำแม่และพี่สาวฝาแฝดให้จินถังรู้จัก เราก็แค่บังเอิญตื่นสายเลยทำให้ไปถ่ายรูปโปสเตอร์เป็นคู่สุดท้าย และก็ไม่มีทางเลือกครับ ต้องคู่ด้วยกันแถมจินถังยังบ่นอุบตลอดทางว่าหิว ผมเลยลากเขามาฝากท้องที่บ้านเลย เพราะแม่และพี่ๆกำลังเตรียมอาหาจานใหญ่เพื่อทำบุญให้พ่อ เอาเข้าจริงๆล่ะก็แม่ทำบุญให้พ่อแทบจะทุกวันนับจากวันที่พ่อตาย แม่ไม่เคยบอกว่ารักพ่อมากแค่ไหนแต่การกระทำและความคิดถึงที่แม่มีให้พ่อทำให้ผมรู้เลยว่าพ่อโชคดีมากแค่ไหนที่เจอผู้หญิงอย่างแม่


“จ๊ะไหว้พระนะลูก นี่เพื่อนพี่ชายหรอ ไม่เห็นเคยพูดถึงเลย?”แม่ชอบแทนตัวผมว่าพี่ชายครับ นั้นก็เพราะที่บ้านเรามีน้องคนเล็กอีกตัวหนึ่ง ใช่ครับตัวหนึ่ง เพราะน้องคนเล็กของบ้านคือกระต่ายน้อยตัวอ้วนน่ารัก น่าชัง กินเค้กช็อกโกแล็ตเป็นอาหารหลักส่วนผักบุ้งนะหรอ คืออะไร นางไม่กินครับแถมยังเมินอีกต่างหาก ก็ไม่รู้ว่าผมจะร้องงอแงจะเลี้ยงไว้ทำไมเมื่อ8 ปีก่อน

โตมาหน่อยไอ้โกโก้ อ้วนลงพุง ขยับหยุกหยิกๆเดินทั่วบ้าน อิ่มก็นอน หิวก็เดินลากพุงมาหา แล้วก็ที่สำคัญเวลาแมวเข้าบ้านหรือมีอะไรเอะอะเสียงดังนิดหน่อย ไอ้น้องคนเล็กของบ้านหนีเข้ากรงก่อนเสมอ


“อ้อครับแม่ พอดีเราเพิ่งรู้จักกันแต่อีกหน่อยก็จะสนิทกันแล้วล่ะครับ”ประสาท! ผมหันไปตบแขนมันทีหนึ่ง กับแม่ผมยังจะพูดเล่นอีก


“แม่กูไม่ใช่เพื่อนเล่นเว้ย จะสนิทหรือเปล่า ดูความประพฤตเว้ย”ป้าบบ..โอ้ยแสบ แม่ตีแขนผมทันทีที่ผมตีไอ้คนข้างๆ

“เว้ยๆ อะไรกันพี่ชาย เรานี่รังแกเพื่อนนะ”พี่สาวฝาแฝดของผมต่างหันมายิ้มเมื่อผมโดนแม่เอ็ด ไอ้คนข้างกายก็เช่นกัน เพราะมันแท้ๆผมเลยโดนแม่ทั้งตีทั้งเอ็ด

“โธแม่ง่ะ”ผมกอดแม่รีบอ้อน ไม่อยากให้แม่อารมณ์เสียครับ วันนี้ว่าจะขอตังค์เพิ่มสักหน่อย อยากไปซื้อมือถือเครื่องใหม่สักหน่อยเครื่องที่มีอยู่สัมผัสหน้าจอเริ่มจะใช้การไม่ค่อยดีเท่าไรแล้ว


“แหวะ อ้อนแม่หรอๆ แม่ค่ะหนูกอดด้วยๆ”พี่มารีบเข้ามากอดแม่อีกคน ผมกับพี่มามักจะชอบแย่งกันอ้อนแม่ครับ อาจเพราะเมื่อก่อนพี่มาเป็นน้องคนเล็กของบ้านแต่พอ9 ปีต่อมาผมเกิดมาเลยกลายเป็นน้องคนเล็กแทน เราเลยมักจะแย่งกัน ทะเลาะกัน แต่ก็รักกันมากนะครับ ถึงพี่ยาจะเกิดมาไม่กี่นาทีกับพี่มา แต่พี่ยาใจดีและตามใจผม เพราะอย่างนี้พี่มาเลยเหมือนจะเป็นคู่กัด คู่แข่งกับผมเสมอ แต่เราสามคนก็รักกันดีครับ


“เอ้าๆ เอาเข้าไป อ้อนแม่เข้าไป ระวังเถอะเค้กไหม้ล่ะก็อดทั้งคู่”พี่ยายืนน้ำเย็นมาเสิร์ฟรับแขกที่นั่งมองผมกับพี่มาแย้งกันกอดแม่

“เชอะ อิจฉาเค้าล่ะสิที่ได้กอดแม่!”ทั้งผมและพี่มาต่างหอมแก้มแม่แล้วพูดเป็นประโยคประจำที่พวกเรามักจะพูดใส่พี่ยาเสมอ พี่คนนี้ไม่ค่อยเก่งเรื่องการอ้อนแม่ครับ จะพูด จะบอก หรือจะแสดงออกก็ยังไม่กล้าเลย แปลกกับพวกเราสองคนที่แม่เหนื่อยจะรับลูกอ้อนของเราแล้ว

จินถังดื่มน้ำเย็นจนเกือบหมดแก้ว ดูท่าน่าจะหิวจริงๆ ผมกับพี่มาแยกย้ายกันออกห่างจากแม่ ปล่อยให้แม่อบเค้กต่อดีกว่า ขอยืนรอแต่งหน้าเค้กแล้วกัน


“แล้วนี่หิวกันมาใช่ไหม แม่กับพี่ๆกินเรียบร้อยแล้ว พี่ชายเถอะไปตักเข้ากินได้เลย จินถังก็กินให้อิ่มนะลูกถ้าไม่อิ่มก็รอกินเค้กฝีมือแม่ คัพเค้กฝีมือพี่ยาและก็”


“ถั่วเขียวรสอร่อย กลมกล่อมฝีมือพี่มาสุดสวยจ๊ะ”ไม่ทันแม่จะพูดจบพี่มาก็แทรกอวดสรรพคุณฝีมือตัวเอง ยัยพี่คนนี้นี่..

“แหวะ ระวังนะจินถัง กินเข้าไปแล้วจะท้องเสีย แบร๊ๆๆ”

“ไอ้ฟิช ไอ้ปลา ไอ้น้องปากเสีย แม่ดูน้องสิว่าหนูอีกแล้ว”ผมรีบหลบหลังจินถังทันที ดีที่พี่ยาห้ามไว้ก่อนไม่อย่างนั้นร่างเล็กๆของพี่สาวคนเล็กของผมได้เดินเข้ามาข่วนหน้าผมแน่ แม่ยิ้มไม่หยุด

“จินถังไปเถอะ เดี่ยวเราจะโดนเขมือบก่อนจะเขมือบข้าว”

“ไอ้น้องเลว”ผมได้ยินเสียงพี่มาดังมาจากห้องครัวเมื่อลากจินถังมายังโต๊ะอาหาร แม่เตรียมกับข้าวไว้ให้ผมเต็มโต๊ะเสมอ



“ไม่ยักรู้ว่าคนแบบนี้ ชอบแกล้งพี่สาว”ไอ้คนที่นั่งเก้าอี้ก่อนไม่คิดจะช่วยผมตักข้าว ชี้นิ้วมาที่หน้าผมเป็นวงกลมก่อนจะหยุดตรงที่จมูกผม ลามปามแหละ 

“แบบนี้ แบบไหน นี่ข้าวจะเอาอีกก็ตักเอง”ผมปัดนิ้วที่จิ้มจมูกออกพลางวางข้าวในจานให้ มากินฟรีแล้วยังจะมาว่าเจ้าของบ้านอีก ผมตักในส่วนของผมบ้างหันมาดูอีกทีไอ้คนที่นั่งตรงข้ามก็จ้องมองผมอยู่นานพร้อมรอยยิ้มสวย


“มองอะไรมิทราบ?”


“มองว่าที่เมีย โอ้ย!!”ผมตบปากคนโมเมด้วยช้อนที่ถือ สมน้ำหน้าอยากจะพูดพล่อยๆดีนัก


“ก่อนจะเป็นเมีย เป็นเพื่อนให้ได้ก่อนเถอะ!”ทั้งผมและไอ้คนตรงหน้าต่างยิ้มให้กัน บ้าบอคอแตก ขืนผมอยู่ใกล้มากกว่านี้ผมว่าผมเองนี่ล่ะที่จะหลงความขี้เล่นของคนตรงหน้า


“อืม กินข้าวเสร็จแล้วไปช่วยเลือกมือถือด้วยกันสิ เมื่อเช้ารีบมาเลยทำตกแตกนะนี่ก็ดับสนิทเลย”ผมมองซากมือถือที่จินถังนำออกมาให้ดูอย่างสงสาร ไม่น่าจากกันไปเลยดูท่าจะยังใหม่ซะด้วย

“โห เสียดายนะเหมือนใหม่อยู่เลย”

“ใช่ เพิ่งซื้อเมื่อเดือนก่อนเอง เดือนนี้ตายล่ะ!”

“แหม พูดเหมือนจะเศร้านะแต่หน้านี่ยิ้มหน้าบานเลย?”ร่างสูงที่กินข้าวอยู่อดยิ้มไม่ได้

“แหม ก็มองโลกในแง่ดีสิครับเมีย อย่างน้อยก็จะได้ใช้ของใหม่นะครับ”ผมชักสีหน้าใส่ไอ้คนโลกสวย

“ก็บังเอิญเมียมองโลกในแง่ร้ายซะด้วย หาเรื่องเสียเงินมากกว่า”ผมเถียงคนตรงหน้าไม่เลิก จินถังที่กำลังจะตักข้าวกินหยุดค้างไว้พลางมองหน้าผมยิ้มๆ


“แหนะ ยอมให้เป็นมากกว่าเพื่อนแล้วสินะ”ป้าบบบบ ผมตบหัวไอ้คนโมเมอีกครั้ง แต่คนหน้าด้านหน้าทนก็ยังยิ้มหน้าบานให้อีก พอคิดถึงเรื่องมือถือ จริงด้วยสิผมก็กำลังจะไปซื้อมือถือเหมือนกันนี่น่า แต่ติดตรงที่ไม่กล้าขอตังค์จากแม่


“นี่จินถัง”ผมเลยเชิดๆเรียกร่างสูงที่ยังคงยิ้มมาให้

“หื้ม เรียกทำไมครับเมีย?”คำก็เมีย สองคำก็เมีย เป็นเพื่อนให้ได้ก่อนเถอะ

“นายรวยป่ะ?”เอาว่ะถามตรงๆไปเลย เพราะดูจากสารรูปน่าจะพอมีกิน

“ถาม ทำไมล่ะ?”

“ก็ถ้ารวยจะเลื่อนขั้นให้เป็นแฟนเลย ไม่ต้องเป็นเพื่อนก็ได้”โอ้ย อยากจะกัดปากตัวเองจริง นี่ถ้าแม่มาได้ยินมีหวังโดนหยิกตายแน่ จินถังเหมือนจะครุ่นคิดหน่อยก่อนจะยิ้มกว้างถูกใจ

“รวยนะรวยมากด้วย พูดแบบนี้เหมือนอยากได้อะไรเลยเนาะ?”เหอะ ยังจะสูรู้อีก ผมอมยิ้มบางก่อนจะเดินขยับเข้าไปนั่งข้างๆจินถัง ขออ้อนหน่อยละกันเผื่อฟลุ๊คได้มือถือฟรีๆ

“ก็นี่ไง มือถือเครื่องนี่สัมผัสใช้ไม่ได้แล้วนะ แฟนพอจะใจดีซื้อให้ได้ไหม?”ยี๋! ขนลุกตัวเอง ผมทำลงไปได้ยังไงที่เข้ามาลูบไล้แขนไอ้คนข้างกายเพื่ออ้อนเพราะโทรศัพท์เครื่องเดียว มือหนาที่ไม่รู้ว่าโอบเอวผมตอนไหนกอดกระชับแน่นจนหน้าเราเฉียดชนกัน


“ได้อยู่แล้วล่ะครับ เมียขออะไรแฟนก็ให้ได้ทุกอย่าง”เสร็จโจรล่ะ เพื่อมือถือฟิชยอมเป็นเมียจินถังสักวันก็ได้


“แม่ครับ ผมขอตัวฟิชไปทำธุระหน่อยนะครับ ไว้ธุระเสร็จจะพากลับมาบ้านเลย ไม่เถลไหลที่ไหนแน่นอน”จินถังลากผมมาหาแม่เพื่อขออนุญาตออกไปข้างนอกหลังเราตกลงกันเสร็จ

“จ้ะ”แม่ผมก็ใจดีเกิ้นไม่คิดจะห่วงลูกสักนิด เกิดจินถังเป็นคนไม่ดีผมไม่ต้องเป็นอะไรหรือไง?

“เดี่ยวฟิชกลับมานะครับแม่”นี่ก็ไม่ห่วงตัวสักนิดเลย ฮ่าๆ

“เอารุ่นนี้ดีกว่านะ นะ”ผมชูมือถือรุ่นที่จับจ้องมาเนินนาน เก็บออมมาทั้งเทอมก็ยังได้ไม่ถึงเลย ตอนแรกก็กะว่าจะขอแม่เพิ่มแต่ไม่
ล่ะ ในเมื่อจินถังบอกเองว่าตัวเองรวย เพราะฉะนั้นก็แบ่งเงินมาเผื่อแผ่ให้ผมใช้บ้างก็คงไม่เป็นไรมากหรอก ก็เราเป็นคู่รัก เอ้ย คู่จิ้น แค่คู่จิ้นเท่านั้น ไม่ใช่คู่รักสักหน่อย


“อื้ม เอารุ่นนี้สองเครื่องครับ”งอววว์ น่ารักจริง จินถังตามใจผมด้วย เราเลือกกรอบมือถือกันหลังจากได้มือถือที่ต้องการ เห็นจินถังออกแบบเองเป็นตัว J ใส่กรอบ ผมเลยขอแบบเหมือนกันแต่เปลี่ยนเป็นตัว F แทน เหมือนมือถือคู่รักเลย


“อ่ะอันนี้เครื่องเมีย ส่วนอันนี้ของแฟน”พนักงานสาวสวยแอบอมยิ้มเมื่อไอ้คนโมเมยื่นมือถือกรอบตัว J ให้ผมส่วนตัวเองก็ยึดเอาเครื่องเคสตัว F ไป ทำแบบนี้นี่มัน ยิ่งเหมือนคู่รักกันไปใหญ่ ผมหันหน้าหนีเมื่ออดจะเขินไม่อยู่


“จ่ายๆเงินไปสิ เดี่ยวจะไปรอที่รถนะ”ผมหยิบมือถือที่ร่างสูงซื้อให้ด้วยความเขินก่อนจะวิ่งออกมารอในรถ ผมมันควบคุมสีหน้าไม่เป็นด้วยสิ ขืนจินถังรู้ว่าผมเขินมีหวังเขาล้อผมตลอดแน่ ร่างสูงเดินกลับมายังรถเมื่อจัดการจ่ายทุกอย่างเรียบร้อย ผมยังคงลองเล่นแอพลิแคชั่นต่างๆเพื่อความแน่ใจว่าแอพทุกอย่างใช้ได้ดี


แชะ! ผมหันมามองจินถังที่ถือโอกาสถ่ายรูปผมโดยไม่ขออนุญาต ก่อนจะโพสลงไอจีแล้วชูให้ผมดู

‘เมียอ้อนให้ซื้อ s7’
ผมอมยิ้มเมื่ออ่านแคปชั่นที่เขาโพส ก่อนจะถ่ายรูปเขาบ้าง แชะ!

‘แฟนน่ารักยอมซื้อ s7 ให้ด้วย’
ผมชูให้จินถังดูแคปชั่นตัวเองบ้าง โอ้ยๆ ทำไมมันร้อนๆนะ ร่างสูงฉีกยิ้มกว้าง เรายังไม่มีอะไรไว้ติดต่อสื่อสารกันเลย เอาไงดีๆ ขอเลยดีไหม? ผมรออยู่ในรถจนจินถังเดินเข้ามานั่งฝั่งคนขับ

“ขอมือถือหน่อย?”ผมขอ แล้วร่างสูงก็ยื่นให้ ใจดีไปล่ะ?

“กลับบ้านเลยไหมหรืออยากไปไหนต่อ?”ผมละจากมือถือของจินถัง แหนะมีชวนไปที่อื่นอีกด้วย อยากอยู่ใกล้ผมนานๆล่ะสิท่า

“ไปบ้านแฟนสิ ไปได้ไหมล่ะ?”โอ้ย อะไรของผมนะ จะไปบ้านหมอนี่ทำไม ได้มือถือก็พอเถอะ จินถังพยักหน้าเข้าใจก่อนจะขับรถ
ออก เห้ยๆๆๆอย่าบอกว่าเอาจริงนะ ผมล้อเล่นเอง

“แต่บ้านแฟนไกลนะ ไปอพาร์ตเมนส์ล่ะกันนะ”ห้ะ อพาร์ตเมนส์หรอ?

“แล้วอยู่กี่คนง่ะ อยู่กับเพื่อนหรือเปล่า?”

“เปล่า อยู่คนเดียว”คนเดียวหรอ ไม่เอาๆ ฟิชกลัว

“อื้ม งั้นกลับบ้านเลยดีกว่า ไม่อยากอยู่สองคน กลัวแฟนทำมิดีมิร้าย”จินถังหัวเราะดังหลังผมพูดจบแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่หยุดวุ่นวายกับมือถือของเขา รถเลื่อนเข้าจอดบ้านผมเมื่อจินถังพาผมมาส่งตามที่ผมต้องการ


“ถึงแล้วครับเมีย”รายนี้ก็เกินไป เรียกเมียๆจนชินปากไปล่ะ

“แล้วเออ ไม่เข้าบ้านก่อนหรอ?”ผมถามร่างสูงดูก่อนจะลงจากรถแต่เขาส่ายหน้า


“ไม่ล่ะ มีงานต้องฟรีเซ็นส์ส่งอาจารย์พรุ่งนี้เช้านะ กลับไปทำงานต่อดีกว่า ฝากลาแม่ด้วยนะ กับข้าวอร่อยมาก”เขาสั่งลายาวๆ ผมเลยพยักหน้ารับปากให้ มือเล็กๆส่งมือถือของเขาคืน


“ขอบคุณนะสำหรับมือถือ”ร่างสูงรับมือถือไปอย่างว่าง่าย ไม่สงสัยหรือไงนะว่าเขาไปยุ่งอะไรกับมือถือเครื่องนั้น

“ครับเมีย”ผมเดินลงมาจากรถอย่างเขินๆ มันคุมอาการเขินไม่ได้จริงๆ  รถหรูจากไปผมเลยเดินเข้ามาในบ้าน


“อ้าวพี่ชาย แล้วจินถังล่ะ?”

“แหมแม่ก็ถามถึงคนอื่นก่อนลูกชายคนเดียวเลยนะ”ผมแซ่วแม่เล่น อดนอยด์ไม่ได้ ผมลูกแม่นะไม่ใช่จินถังสักหน่อย พี่สาวฝาแฝดของผมหายเงียบไปเลย ผมมองหาไม่เจอ เจอแต่แม่คนเดียว

“คนอื่นที่ไหน นั้นเพื่อนนี่ อีกอย่างแม่ก็นึกว่าเขาจะเข้ามาทานของหวานก่อนกลับไง”อ้อ ก็เข้าใจๆ แต่รายนั้นมีงานจะให้ทำไงได้

“อ้อ จินถังติดงานนะแม่เลยต้องรีบกลับไปทำ เห็นบอกว่าต้องรีบฟรีเซ็นส์ส่งอาจารย์พรุ่งนี้นะ เออแม่จินถังฝากบอกด้วยว่ากับขาวฝีมือแม่อร่อยมากๆ”แม่ดูจะภูมิใจเหลือเกินกับเสน่ห์ปลายจวัก เห็นแม่ยิ้มได้ผมก็ดีใจ

“เอ้า แล้วนี่มือถือใครล่ะ ของจินถังหรือเปล่า?”แม่สังเกตเห็นมือถือที่ผมถือด้วยแหะ สวยล่ะสิท่าแม่เลยสังเกต

“อ้อ ผมอ้อนให้จินถังซื้อเองนะแม่ อ้อนนิดเดียวจินถังก็ซื้อให้ฟรีๆเลย โอ้ยๆๆๆแม่ๆๆ แม่หยิกผมทำไมเนี่ย”ผมหนีจากการหยิกแขนของแม่ แสบเหลือเกิน

“เรานี่ยังไงห๊ะ ไปขอให้เพื่อนซื้อเครื่องแพงๆมาได้ไง เท่าไรบอกมาเท่าไร”ผมเม้มปากแน่นไม่ยอมบอก ขืนบอกก็โดนตีแน่

“ไปเลยนะ เอาเงินเก็บที่มีอยู่ไปคืนเพื่อนเลย แล้วก็พาจินถังมาพบแม่ด้วยจะได้รู้ว่าคืนเงินให้เพื่อนจริงๆ แล้วถ้าเกิดเงินเก็บไม่พอ
จ่ายอีกก็ผ่อนเพื่อนไปจนกว่าจะหมด”


“โห้ยแม่อ่ะ!”





5555 น้องมีความน่ารักแบบซื่อๆดี พี่จินถังก็ตามใจทุกอย่าง ....
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพจินถังฟิช 23/60/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-06-2017 06:18:18
พี่จินถังสายเปย์... o13
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพจินถังฟิช จบ 26/60/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 26-06-2017 22:17:13


“โห้ยแม่อ่ะ!”

ผมหน้างอคอตกเดินเข้าห้องตัวเอง โดนแม่หยิก แม่บ่นไม่พอ ยังโดนให้เอาเงินเก็บคืนจินถังด้วย ก็จินถังเป็นคนยอมซื้อให้ผมเอง ผมผิดตรงไหน? กระปุกหมูน้อยถูกทุบพร้อมเศษเหรียญมากมายหล่นกระจาย บัญชีเล่มเดียวที่มีอยู่บ่งบอกถึงยอดการออมของผมแต่ละเดือน ช่างน่าเศร้าที่ผมกำลังจะเหลือแต่ตัวแล้ว ผมรวบทุกอย่างไว้ในถุงผ้าใบเดียวหลังนับเงินเหรียญที่ออมไว้ ยังขาดอีก ห้าพันสามร้อยบาทถ้วน ค่อยทยอยจ่ายจินถังล่ะกัน แม่นะแม่ ไม่ฟังกันเลย ฮือๆ
ระหว่างทางผมบังเอิญเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังทะเลาะกับผู้ชายคนหนึ่ง ผมเลยรีบหลบหลังป้ายโฆษณา เรื่องผัวๆเมียๆ อย่าไปยุ่งเลยครับแต่สอดแหนมได้

‘เลวที่สุด ตอนเอาทำไมมึงไม่คิด พอท้องขึ้นมามึงบอกให้ไปทำแท้งนี่นะ’โอวไม่! เลวจริงๆนั้นแหละ ไมผู้ชายมันเหี้ยแบบนี้วะ อุ้ยโทษๆผมเองก็ผู้ชาย

‘อ้าว อย่าให้กูพูดนะ มึงเองก็แรดใช่ย่อย ที่กูบอกให้ไปทำแท้ง เพราะกูมันใจไงว่ามันไม่ใช่ลูกกู’โอว โนว! อ้าวเจ้แรดเองหรอนี่ งั้นก็สมแหละที่โดนเขาปฏิเสธนะ

‘เออ จำไว้กูได้ดีเมื่อไรจะตามมาล้างแค้นมึง’โอว พิษรัก...มักแรงฤทธิ์เสมอ ไม่น่าเลยคนเรา ก็อย่างที่เขาว่าล่ะครับ ความรักบางครั้งก็ไม่จบลงสวยงามเสมอไป หลังสองคนนั้นแยกย้ายกันไปทางใครทางมัน ผมค่อยๆเดินจากการหลบหลังป้ายโฆษณา จะว่าไปแล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นก็หน้าคุ้นๆนะแต่จำไม่ได้นะ ช่างเถอะ ตอนนี้แวะไปหาของกินก่อนแล้วกัน หิวครับ..


“อ่ะ แม่ให้มาคืน”ผมยื่นถุงขนมและถุงเงินที่เก็บออมไว้ให้ร่างสูงเมื่อเข้าเดินมาเปิดประตู

“อ้าว มาได้ไง?”เขาเชิญให้ผมเข้ามา ห้องโคตรเรียบร้อยแหะ

“แหม ก็โพสที่อยู่หน้าวอลขนาดนั้น ใครมันจะไม่รู้ล่ะครับ”

“โห ตั้งแต่เทอมหนึ่งแล้ว นี่อย่าบอกนะว่าแอบส่องเฟสแฟน?”ผมเบ้ปากมั่นไส้ นี่ก็ยังไม่เลิกแทนตัวเองว่าแฟนอีก ผมไม่ใช่เมียมันแล้ว แม่ห้ามอ้อนมันอีก เออใช่ นึกออกแล้วพี่ผู้หญิงคนนั้นมันแฟนจินถังนี่น่า แอบเห็นว่าเขาเคยคบกันแปปเดียวแล้วก็เลิก เลิกแหละดีแล้วจินถัง

“แม่ให้มาคืนนะ แม่บอกว่าไปหลอกเอาเงินคนอื่นได้ไงเลยสั่งให้เอาเงินเก็บมาจ่ายคืน ขาดอีก 5,300 บาทนะ เดี่ยวจะทยอยจ่าย”ผมยื่นเงินที่มีอยู่อย่างจำใจ ลาก่อนนะเงินออม

“เห้ยได้ไง บอกว่าซื้อให้ก็ซื้อให้สิ ไม่ต้องคืนเงินหรอก เต็มใจให้จริงๆ”

“แน่นะ’ผมเผลอยิ้มชั่วร้ายในใจแต่ไม่ล่ะ เดี่ยวแม่ด่าอีก

“จริง”

“ไม่อ่ะ แม่บ่นหูชาแน่ จินเอาเงินไปเถอะนะ นี่ขนมไข่นกกระทาร้านโปรด เราชอบกินนะเลยเดินมาหาเอง จะว่าไปเราก็อยู่ใกล้กัน
แค่ซอยเดียวเนอะ!”

“อื้มใช่ แต่แปลก ไม่เคยเจอกันเลย”

“นั้นสิ”ทั้งผมและจินถังต่างยิ้มให้กัน เห็นจินถังวุ่นอยู่กับพอยส์ฟรีเซนส์งานอย่างที่เขาบอกจริงๆผมเลยว่าจะขอตัวกลับก่อนก็แล้วกัน

“ไปไหนอ่ะ?”เขายังไม่ละจากคอมแต่กลับถามผม เมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้นจะกลับ

“กลับบ้านสิ ไม่กวนดีกว่า”

“เห้ยไม่กวนเลย อยู่เป็นเพื่อนก่อนนะ อยู่คนเดียวมันเบื่อๆ นี่งานก็ใกล้เสร็จล่ะ?”อ้อ แบบนี้ค่อยน่าอยู่หน่อย เพราะร่างสูงรั้งให้อยู่ผมเลยทั้งเล่นเกม ดูทีวี และกวาดขนมในห้องจินถังเรียบ หลังดูรายการทีวีคนเดียวไปเรื่อยก็ย่างเข้าสู่ชั่วโมงที่ 3 แล้วที่ผมแวะมาห้องนี้ ไหนจินถังว่าแค่แปปเดียวก็จะเสร็จล่ะ นี่อะไรนานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่เสร็จอีก
ผมหันไปเตรียมจะต่อว่าแต่พอเห็นร่างสูงที่เหนื่อยล้าหลับสนิทอยู่เลยไม่กล้ากวน ปล่อยให้จินถังนอนก่อนดีกว่าแล้วเดี่ยวค่อยปลุก ผมค่อยๆเลื่อนตัวทั้งที่นอนล้มเตียงเข้าไปใกล้ๆร่างสูงที่นอนหลับสนิทจมคางาน แพขนตางอนนั้นช่างน่าหลงใหลจริงๆ อยากรู้จังว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนแบบไหนนะ แต่ยังไงก็ขอบคุณในความใจดีของเขาที่มีให้ผมวันนี้ คนปกติที่ไหนจะซื้อมือถือให้คนที่เจอกันแค่ไม่ถึงวัน

พริบ ดวงตากลมโตลืมตาตื่นมานั้นทำให้ผมตกใจ จินถังตื่นมาเห็นผมมองเขาเต็มๆ คราวนี้จะหาขอแก้ตัวอะไรอีกล่ะนี่

“.....”เราต่างสบตากันและกัน ผมใจเต้นรัวเมื่อร่างสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้และจูบหน้าผากแผ่วเบาและอ่อนโยน อะไรกันนี่พวกเราทำอะไรกันอยู่ ผมรีบลุกขึ้นนั่งดูทีวีต่ออย่างเขินอาย เห็นร่างสูงเดินเข้ามานั่งข้างกายแล้วใจเต้นแปลกๆ

“หิวไหม ไปหาอะไรกินกัน?”เสียงกระซิบนั้นช่างอ่อยเหลือเกิน

“อื้ม”ผมพยักหน้าให้มือเราทั้งคู่ยังจับกันไว้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องเขินอายขนาดนี้ด้วย เราต่างเป็นผู้ชายกันทั้งคู่แต่ทำไม
ผมหวั่นไหวกับเขาได้มากขนาดนี้นะ ร่างสูงลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าผมเลยขอตัวออกไปริมระเบียง ใจมันเต้นตุบตับๆจนคุมไม่อยู่แล้ว แต่พอออกมาข้างหลังห้องแล้ว ผมยิ่งฉีกยิ้มกว้าง วิวบนห้องจินถังน่าดูมาก เห็นรอบๆตัวเมืองเลย สุดยอด

“เป็นอะไรไปนะ เห็นยืนนานแล้ว”จินถังเดินเข้ามาทักเรียกสติผม

“จิน มันสวยนะ ยิ่งท้องฟ้าจะลับขอบฟ้าแบบนี้ยิ่งสวย ชอบ!”เหมือนเขาจะชินไปแล้วกับบรรยากาศแบบนี้ ผมเห็นมือถือในมือเขาเลยขอให้เขาถ่าย

“ถ่ายรูปหน่อยๆ”ผมอ้อน ร่างสูงเองก็ไม่ได้ว่าอะไรกดเลื่อนเปิดกล้องเพื่อกดถ่าย แต่ไม่ล่ะ ไม่เอาดีกว่า

“เปลี่ยนใจล่ะ เซลฟี่ดีกว่า”ผมอ้อยกลับไปครับ พี่สาวแฝดของผมสอนเสมอว่า ‘ใครอ่อยมาเราอ้อยกลับจะได้ไม่นกครับ’

“นับละนะ 1 2 3”จุบ แชะ ผมเขย่งเท้าจูบแก้มร่างสูงคืนบ้างเมื่อเขาเองยังกล้าจูบหน้าผากผมเลย ร่างสูงกอดเอวผมไว้แล้วระดุมจูบผมแทน เราหยอกล้อกันสักพักก่อนจะถ่ายรูปด้วยกันต่อ

JinTanG: #เมียขี้อ้อย (ภาพที่ผมจุบแก้มจินถัง)

Fish-fish: #แฟนขี้อ่อย (ภาพที่จินถังถอดเสื้อโชว์) ผมแอบถ่ายไว้ทัน หุหุ

นับจากวันนั้นเป็นต้นมา แฮกแท็ก เมียขี้อ้อยและแฟนขี้อ่อย ก็กลายเป็นแฮกแท็กของเราสองคน ผมมีความสุขดีที่ได้รู้จักกับผู้ชายที่ชื่อจินถัง คนที่มีสไตล์การชอบเพลงแนวเดียวกับผม เราไม่จำเป็นต้องรักกันมากเราก็แค่ค่อยๆรักกันก็ได้แม้แฟนๆของเราจะจิ้นให้เรารักกันมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ตาม แต่ผมว่าเท่าที่เป็นอยู่เราก็สนิทกันดีแล้วนะ

ฟุบ! น้ำแดงเย็นลอยเข้ามากลางโต๊ะที่ผมและเพื่อนๆนั่ง นี่มันยัยพี่ผู้หญิงคนวันนั้นนี่น่า คนที่เคยเป็นแฟนจินถัง

“มีความสุขมากสินะ รู้ไว้ด้วยว่าผู้ชายที่นายควงเป็นคู่จงคู่จิ้นอะไรนั้นนะคือพ่อของลูกฉัน!”อ้าว ยัยป้านี่วันนั้นยังให้พี่ผู้ชายเลวๆคนนั้นรับผิดชอบเป็นพ่ออยู่เลย วันนี้มากล่าวหาว่าจินถังเป็นพ่อของลูกอีก

“อ่ะนี่เจ้ จินถังอยู่ในสายพอดี ไปเคลียร์กับเขาเองนะ”ผมชูให้จินถังได้เห็นอดีตแฟนสาวที่มาอาลาวาดใส่ผมแถมยังมาพูดจามั่วสั่วอีก โชคดีที่เราวิดีโอคอลพอดี ร่างสูงจะได้เห็นตำตาด้วยว่าอดีตแฟนของเขาเป็นคนยังไง

(ผมว่าผมเคลียร์กับพี่รู้เรื่องแล้วนะครับ เด็กในท้องไม่มีทางเป็นลูกของผมแน่นอน พี่ก็รู้คำตอบดีแก่ใจ) อ่าหะ ตามนั้นนะเจ้
กรี้ดดดดด เสียงเปรตโหยหวนดังจนทุกคนในลานอาหารต่างมองเจ้แกเป็นตาเดียวหลังโดนจินถังปฏิเสธอีกครั้ง ประสาทล่ะคนเขาไม่ยอมรับแล้วยังจะมาพาลใส่ผม จะมาหวังอะไรจากผมกันล่ะ ผมกับจินถังเราแค่คู่จิ้นนะ ไม่ใช่แฟนกันสักหน่อย อีกอย่างผมรู้อยู่แล้วว่าเจ้แกท้องและกำลังหาพ่อของลูกอยู่ เสียใจด้วยนะเจ้ ไปหาผู้สถานีต่อไปครับ

(ฟิช โอเคหรือเปล่า พี่เปรี้ยวไปหรือยัง?)จินถังถามผมอย่างห่วงใย มันดีที่เราสนิทกันและเป็นห่วงกันเร็วขนาดนี้

“ไปแล้ว แต่พี่แกเถอะ บ้า”ร่างสูงยิ้มหวาน ก็จริงยัยพี่เปรี้ยวนะ บ้าแหละ วิ่งตามหาผัวไม่เลิกทั้งที่ตัวเองมีผัวเป็นสิบๆ

(ขอโทษนะ ขอโทษแทนจริงๆ แล้วเสื้อเลอะนะ จะเข้าเรียนยังไง?)

“ไม่เป็นไร มีเสื้อสำรองไว้ในรถ เจอกันเย็นนี้นะจะได้ซ้อมเพลงแสดงเพลงละครเวทีอีกด้วยนะ”

(ครับเมีย)

"อื้มแฟน..." เหอะ นานแล้วนะที่ไม่ได้ยิน หลังๆมาพวกเรามักจะแทนชื่อเล่นของอีกคนเวลาเรียก แต่เวลาหยอกล้อ อัพสเตตัสเท่านั้นที่จะแทนเมีย กับ แฟน


“ไหนลองขึ้นเพลงสิจิน?”ผมวางโน้ตเพลงไว้เมื่อปริ้นต์เตรียมพร้อมทั้งเจ็ดเพลง จินวางขนมว่างกลางโต๊ะพร้อมวอร์มร้องเพลง เราสองคนเลือกละครเพลงเพื่อใช้ในการแสดงคู่ของเราสองคนในงานคู่จิ้นชวนฟินที่จะเกิดขึ้นในอีกเดือนข้างหน้า ตอนแรกการแสดงจะเริ่มในอีกอาทิตย์หน้าแต่เพราะพี่วันไนท์ได้รับอุบัติเหตุแขนหักเลยทำให้ต้องเลื่อนไปอีกสามอาทิตย์กว่าพี่วันไนท์จะหายดี สำหรับเนื้อเรื่องของเราสองคน สื่อถึงความรักขององค์ชายสามที่แสดงโดยจินถัง และชอว์ที่แสดงโดยผม
ผมเป็นแค่สามัญชนธรรมดาที่บังเอิญรักองค์ชายสามแต่เรากรักกันไม่ได้เพราะต่างชนชั้น เราเลยมักจะแอบมาพบเจอกันทุกวัน แต่ละวันที่เจอเรามักจะร้องเพลงหนึ่งเพลง จนวันที่เก้าผมมาพบองค์ชายสามไม่ได้เพราะอาการป่วยที่มี องค์ชายสามตรอมใจตายในเย็นวันนั้นและตัวผมเองก็ตายตามองค์ชาย เรื่องจบได้แบบโซแซดมาก เกลียดคนเขียนบทจริงๆ

“โอเค จะเริ่มละนะ ลา ลา ลา ลา”

“ไม่ใช่คีย์นี่สักหน่อยจิน ต้องคีย์นี้ ลา ลา ลา ลา”

“แต่จินว่าจินร้องถูกแล้วนะ”

“จิน!!”ผมตีแขนเขาป้าบ รายนี้ชอบแกล้งผมตลอดที่มีโอกาส ตัวเองร้องผิดคีย์ทุกที ซ้อมทีไรมีเพี้ยนทุกทีแล้ววันแสดงจริงจะได้เรื่องไหม

“โอเคๆ เอาจริงๆแล้วนะ”

ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา

ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร มาดลจิตมาดลใจ เสน่หา

รักนี่จริงจากใจหรือเปล่า หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา

หรือใกล้เพียงแต่แลตา ยั่วอุรา ให้หลง ลำพอง
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา

สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้างรอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย

ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
สงสารใจฉันบ้าง วานอย่าสร้างรอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง ถ้าเป็นสอง ฉันคงต้องขาดใจตาย

ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา
ลา ลา ลา ลา

เสียงปรบมือดังสนั่นทั่วฮอลล์ หลังผมกับจินถังร้องเพลงเป็นเพลงสุดท้าย จากนั้นทุกคนก็ต่างสลดน้ำตานองไหลพรากเมื่อตอนจบของละครเพลงครั้งนี้องค์ชายสามและชอว์ต่างตายจากกันโดยที่ไม่ได้บอกลากัน




“จิน นี่มันอะไรหรอ?”หลังการแสดงจบลงไปได้สองอาทิตย์ ผลตอบรับและกระแสมากมายดังใหญ่ ผมและจินถังมีความ
สุขกันดีแต่วันนี้ดูเหมือนความสุขที่มีกำลังจะเลือนหายไป ผมตกใจกับตัวอักษรบนกระดาษซองใหญ่ คงไม่ใช่อย่างที่ผมคิดนะ จินถังกำลังจะไปเรียนต่างประเทศ

“ฟิช จินต้องไปเรียนต่อสหรัฐฯนะ จริงๆจินอยากเรียนด้านศัลยแพทย์นะเลยหาทุนรอระหว่างเรียน วันก่อนจดหมายทุนเพิ่งส่งตอบรับกลับมาจากมหาลัยที่นั้น”ผมแทบอึ้งเมื่อสิ่งที่สงสัยในกระดาษขาวที่ถืออยู่ได้รับความยืนยัน จินถังกำลังจะไปเรียนต่างประเทศอย่างที่ผมสงสัยจริงๆ ร่างสูงเองก็ดูเหมือนจะตกใจไม่น้อยที่ผมเห็นซองจดหมายเรียกตัวเขาให้มาเรียนฟรีที่นี่

“แล้ว แล้วจะไปเมื่อไรหรอ?”

“ก็หลังจากงานแจกลายเซ็นนะ หลังมีตจบก็ขึ้นเครื่องเลย”ก็อีกไม่กี่อาทิตย์แล้วสินะ จินถังเองก็คงรู้สึกใจหายเหมือนกับผมไม่ใช่น้อยหรอก ไม่งั้นสองวันมานี่เขาคงไม่เงียบกังวลแน่

“แฟนดูมีอนาคตเนอะ”หลังเงียบนานผมโพล่งบอกร่างสูง ไม่ได้นึกเสียใจเลยที่จินถังจะต้องไปเรียนต่างประเทศ ก็ความฝันของเราแต่ละคนต่างกัน ผมก็เข้าใจและฉีกยิ้มกว้างให้กำลังใจและสนับสนุนความฝันของร่างสูง

“แล้วทำไมอ่ะ?”

“ก็เปล่า แค่..แค่ฝากเลี้ยงดูเมียตลอดชีวิตนะ”ร่างสูงยิ้มออกได้เมื่อผมพูดติดตลก จริงๆผมไม่ตลกเลย นับจากนี้ไม่กี่อาทิตย์ผมจะใช้ทุกๆวันเพื่ออยู่กับจินถังให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ร่างสูงเข้ามากอดผมไว้อย่างขอบคุณ เรายืนดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าของวันไปด้วยกัน



“จินเป็นไงบ้างวันนี้ เรียนสนุกหรือเปล่า?”ผมวิดีโอคอลทักทายจินถังอย่างตื่นเต้น วันนี้เป็นวันแรกที่แฟนของผมได้เรียนศัลยแพทย์อย่างที่เขาใฝ่ฝัน

(แหมเมียจ๋า ตื่นเต้นยิ่งกว่าแฟนอีกนะ) ผมยิ้มกว้างอายเก้อเลย แฟนก็งี้แหละพอไม่อยู่ใกล้แล้วชอบแขวะ พออยู่ด้วยกันแล้วชอบอ่อย ชอบแตะอังตัวผมบ่อย

“ก็ตื่นเต้นแทนไง ตกลงเป็นไงบ้าง สบายดีนะ?”อยู่ๆก็คิดถึง เริ่มเข้าสู่โหมตดราม่าซะงั้น 

(อ้าว หน้าหงอยซะงั้น จินสบายดี เรียนวันแรกก็ดีครับ คิดถึงไหม?)

“ยังจะถามอีก คิดถึงสิ คิดถึงมากด้วย”พอเห็นหน้าคนที่เคยนอนจับมือมองตาก่อนนอนแล้วยิ่งอยากร้องไห้ เราอยู่กันคนละซีกโลกขนาดนี้

“ไปหาได้ไหม?”ผมนี่ก็พูดเป็นการ์ตูนนะ พรุ่งนี้ก็เริ่มสอบซัมเมอร์แล้วยังจะมาม่าทำให้จินถังลำบากใจอีก

(ให้กลับไปหาไหมล่ะ?)ผมส่ายหัวแทนคำตอบ

“ไม่เอา เสียการเรียน เปลืองค่าเครื่องด้วย ไม่รู้แล้วอยากร้องไห้ คิดถึง!”จินถังที่มองผมเผลอยิ้มให้กำลังใจก่อนจะส่งจุบผ่านหน้าจอเล็ก เราไกลกันขนาดนี้ร่างสูงจะลืมผมแล้วมีใครใหม่หรือเปล่านะ

(ฟิช) ผมสบตามองร่างสูงที่เรียกผมไว้

(สอบซัมเมอร์เสร็จแล้ว บินมาเยี่ยมจินด้วยนะ ส่งตั๋วไว้ที่แม่แล้ว ขออนุญาตแม่แล้วด้วย กลับบ้านไปก็อย่าลืมเก็บกระเป๋ารอนะ) คำบอกเล่าของจินถังทำให้ยิ้มกว้างตื่นตัน

“จริงๆนะจิน จริงๆนะ อื้อออ แฟนฟิชน่ารักที่สุดเล้ยยยยยยยย รักจินที่สุดนะ!”

(ครับ คิดถึงเมียนะ จุบ!!) งอว์ แฟนดีเป็นศรีแก่ตัวครับ..





--- The end ---
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพจินถังฟิช จบ 26/60/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 26-06-2017 23:06:32
คู่นี้ใสๆ น่ารักแฮะ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 09-07-2017 22:28:41


“หวัดดี”
ผมมองร่างสูงที่เคยผูกพันกันเมื่อไม่นานมานี้ เราไม่น่ามาเจอกันอีกเลย ทั้งที่พยายามหลบหน้า ทั้งที่ไม่อยากพบเจอ แต่เหมือนโชคชะตาชีวิตของเราทั้งสองยังคงต้องพบเจอกันและวงเวียนกันไม่เลิก เขาย้ายมาเป็นรูมเมทคนใหม่ของผมแทนเพื่อนคนเก่าที่สิ่วไปเรียนเชียงใหม่

“...”ผมแค่มองร่างสูงที่ไม่พบกันมาสักระยะหนึ่งด้วยความสับสน น้ำตาในใจผมยังไม่แห้งขาดเลย

เพิ่งโดนบอกเลิก

เพิ่งเลิกกันไปเอง

ผมยังไม่พร้อมจะเจอหน้าเขาในตอนนี้

“เดี่ยวสิดี สบายดีนะ”ผมถูกมือหนารั้งแขนไว้เมื่อจะเดินผ่านหน้าเขา อย่ามาแตะต้องผม รังเกียจ ผมสะบัดมือเขาออก

“ต่างคนต่างอยู่ นั้นห้องนาย นี่ห้องฉัน!”ผมประกาศชัดเจนก่อนจะเข้าห้องตัวเองปิดประตูดังปัง เคยเป็นไหมครับหมดแรงแต่ก็ต้องเดินต่อ ผมฝืนน้ำตาทรุดลงพิงประตู

ก้อกๆๆ
ผมเดินไปเปิดประตูอย่างเซ็งๆ จะมีใครอีกล่ะถ้าไม่ใช่เขา คนตรงหน้าชูข้าวกล่องและผลไม้มากมายที่ลงไปซื้อมาให้

“กินด้วยกันนะ ซื้อมาเพียบเลย”ผมแค่มองเขานิ่งๆ เรื่องที่เขาทำไว้ผมยังจำได้ดี

“ไม่!”และเป็นอีกครั้งที่ผมปิดประตูดังใส่หน้าเขา ผมกลับไปนั่งพิมพ์นิยายแฟนตาซีของตัวเองต่อเงียบๆ


ก้อกๆๆ อีกล่ะ โว้ยน่ารำคาญ ผมจำต้องลุกขึ้นไปเปิดประตูอีกครั้ง

“กินอะไรบ้างนะ ดีชอบทำงานเลยเวลาแล้วก็ขี้เกียจกินข้าวด้วย”จะบอกเพื่ออะไรในเมื่อหน้าที่ตรงนั้นมันไม่ใช่ของเขา
ผมชักจะหงุดหงิดเขาแล้ว

“เลิกทำเป็นห่วงโน้นห่วงนี่ได้ไหมธาร ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วก็อยากทำเหมือนเป็นห่วงเรา ให้ความหวังเรานะ น่ารำคาญจริงๆ”ผมปิดประตูใส่หน้าเขาอีกรอบ ครั้งนี้ผมเปิดเพลงลั่นห้องตัวเอง รำคาญคนข้างนอกจริง รูมเมทคนเก่าไม่น่าออกเลย ผมนั่งพิมพ์นิยายของตัวเองขังตัวเองในห้องที่ดังไปด้วยเพลงคนเดียวไปร่วมสามชั่วโมง

ครอกๆ ท้องร้องบอกเวลาว่ากัดกระเพาะจนหิวอย่างอื่นบ้างแล้ว ผมเลยตัดสินใจจะไปหาอะไรกินนอกห้อง แต่พอเปิดประตูก็ต้องแปลกใจเมื่อข้าวใส่กล่องและผลไม้ยังอยู่หน้าประตู โพสอิทเล็กๆเสียบไว้ผมเลยหยิบขึ้นมาอ่าน


‘กินบ้างนะ ดีผอมมากแล้ว ผมมีเรียนบ่าย ค่ำๆกลับมาน่ะเดี่ยวซื้อไข่นกกระทาที่ดีชอบมาให้ด้วย’

จะมาทำดีกับผมเพื่ออะไร ระหว่างเราไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ผมหยิบถุงข้าวและผลไม้ไปไว้หน้าห้องเขาแทน แล้วเดินลงไปหาอะไรกินข้างนอก ร้านน้าเล็กใกล้หออร่อยหมดทุกอย่าง ผมชอบฝากท้องที่นี่เสมอ

“เอาต้มยำกุ้งที่นึง ไข่เจียวสามฟองและก็ปลากะพงสามสหายนะครับ อ้อ ระหว่างรอผมขอไอศกรีมสองถ้วยนะครับ”ผมสั่งบดีกรหนุ่มเด็กในร้านน้าเล็ก ลูกค้าเต็มร้านขนาดนี้คงต้องรอนานแน่ผมเลยสั่งไอศกรีมรอ เอาสองถ้วยไปเลย มันเซ็ง มันหงุดหงิดนะครับเลยต้องเบิ้ลหน่อย

“ขอบคุณครับ”ผมยิ้มขอบคุณพี่บดีกรที่เอาไอศกรีมถ้วยมาเสิร์ฟ ระหว่างกินไอศกรีมผมหยิบมือถือตัวเองมาดู ภาพของธารในวันวานยังคงอยู่ในไอจีที่ผมสร้างเพื่อเก็บรูปภาพเขาระหว่างที่เราคบหาดูใจกันโดยใช้ชื่อแอ็คเคาว์ว่า สายธาร  ผมเก็บไว้ทุกอริยะบทของเขาเพียงแต่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าถูกผมแอบถ่าย จริงๆแล้วก็คิดนะว่าจะให้ในวันครบรอบ5 เดือนของเรา แต่ก็ไม่ทันให้เพราะเขาชิงบอกเลิกผมก่อน


24052559 วันแรกที่เราพบกัน ขอบคุณที่ช่วยเรานะ ^_^
ภาพที่ธารเดินเข้ามาช่วยผมหลบจักรยานที่เกือบจะชนผมเข้ามาในหัว คิดๆแล้วก็คิดถึงวันนั้น

26062559 วันเกิดธาร แฮชบีดีนะ มีความสุขมากๆ ของขวัญที่ให้ไปชอบไหม?
ผมเผลอยิ้มออกเมื่อจำได้ดีเลยว่า ธารชอบของขวัญที่ผมให้จนอกโพสต์อวดเพื่อนในเฟสเลย มันเป็นสมุดทำมือนะครับโดยผมสั่งทำชื่อผมเป็นพิเศษให้เพื่อธาร

06072559 ชอบเรานานๆนะ #ดีเลยมีแฟนแล้ว
ผมอ่านข้อความที่แคปไว้เมื่อวันนั้นผมตัดสินใจถามธารว่า นายชอบเราหรอ? แล้วธารก็ตอบกลับมาว่า ใช่ ชอบ คบกันไหม? วันนั้นผมยิ้มกว้างดีใจสุดๆเมื่อหัวใจเราตรงกันและข้อสงสัยของผมก็เป็นจริง ที่ธารทำดีกับผมนักเพราะเขาชอบผม

24072559 ธารเล่นกับเด็กด้วย น่ารัก #ไหนบอกว่าเกลียดเด็กล่ะครับ?
วันนั้นเรานัดเจอกันที่สวนสาธารณะ บังเอิญผมไปสายและเห็นธารวิ่งไปช่วยเด็กผู้หญิงตัวเล็กหกล้ม ร้องไห้งอแงเรียกแม่ จนแม่น้องมา

12082559 ฤดูสอบอีกแล้ว สู้ๆนะธาร ไฟต์!! ปล.น้ำลายไหล 555
เห็นธารนอนจมกองหนังสือและชีสแล้วอดที่จะถ่ายไว้ไม่ได้

16082559 เอาน่า อย่าเครียดดิ ธารทำได้อยู่แล้ว!!
เห็นธารเครียดแล้ว ผมอดที่จะเครียดตาม วิชาแม็ตส์ทำเอาเครียดจริงๆนั้นแหละเนอะ

30082559 มาเสม็ด เสร็จทุกราย 555
วันนั้นเราเล่นน้ำกันอย่างมีความสุขมาก ผมไม่เคยลืมวันนี้เลยสักวัน จะว่าไปแล้วก็อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมเหมือนกัน

09092559 ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า เหมือนธารกำลังจะเปลี่ยนไป #ดีทำอะไรผิดหรือเปล่า?
ผมถ่ายรูปธารที่อยู่กับเพื่อนที่ลานอาหาร เขายิ้ม ยิ้มอย่างมีความสุข แต่เวลาอยู่กับผม เขาไม่ยิ้มแบบนี้แล้ว ความรู้สึกสับสน วานวายใจในช่วงนั้นผมจำได้ดี มันช่างหมองหม่นไปหมด ผมวุ่นใจมาตลอด พยายามคิดว่าตัวเองผิดอะไรเพราะหลังๆมานี่ธารเหมือนจะเปลี่ยนไป

12092559 ความเงียบ...?
อันนี้เป็นภาพที่ผมแคปหน้าจอบทสนทนาของเราสองคนที่ผมพิมพ์ถามธารไปว่า ‘ครบรอบ 5 เดือนของเรา ไปเที่ยวกันไหมธาร?’ แต่ก็ได้แค่ความเงียบกลับมา เขาอ่านแต่ไม่ตอบ ซึ่งนั้นผมก็ว่าผมควรรู้ตัวแล้วว่า ความสำคัญของผมเริ่มลดลง

15092559 รอยยิ้มนี้ยังเป็นของดีอีกไหม?
เคยไหมครับ อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนถูกถีบห่างจนต้องกลายมาแคปรูปคนที่รักในหน้าวอลของเขา แปลกดี!!

24092559 แค่รู้สึกดี...แต่ไม่ถึงกับรัก
ผมถ่ายโพสอิทที่เขียนไอจีนี้และรหัสผ่านเพื่อจะให้ธารในวันครบรอบ 5 เดือน เมื่อเรานัดเจอกัน ยังไม่ทันจะได้ให้เลย เขาก็ชิงบอกก่อนเลยว่า

‘ขอโทษนะดี ผมมาคิดๆดูแล้ว ผมว่าเรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมดีกว่านะ ผมเพิ่งมารู้ตัวว่า กับดีแล้วผมก็..แค่รู้สึกดี แต่ไม่ถึงกับรัก’ หึ เพื่อนหรอ? ผมจำได้ว่าเราได้เป็นเพื่อนกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ ที่สำคัญมันรุ่นน้องผมสองปีด้วย จุดเริ่มความรักของเราก็มาจากเขาที่เขามาทำดีด้วยแล้วก็จบด้วยการคบกัน หรือว่าผมคนเดียวที่คิดว่าเราคบกัน กันแน่
สุดท้ายแล้วไอจีนี้ก็ปิดตายลงไป นับจากวันนั้นผมก็ไม่เคยได้เปิดเพื่อโพสต์รูปอะไรลงไปอีกเลย จนเมื่อไม่นานมานี่เอง วันที่ผมคิดว่าตัวเองหายดีแล้ว ไม่ร้องไห้และตัดใจจากคนเขาได้ ผมเลยเปิดเพื่อโพสต์รูปตัวเองที่ยิ้มบางๆ โดยใช้แคปชั่นที่หยิกยืมมาจากนางเอกเอ็มวีเพลง No more

‘วันนี้ฉันยิ้มได้แล้วนะ’ พอผมเริ่มหายดีแต่เขากลับกลับมาซะงั้น

“พี่ดี มากินข้าวหรอ มาไม่เห็นชวนเลย?”ผมละสายตาจากมือถือมองดูเพื่อนห้องข้างๆที่ถือวิสาสะนั่งลงด้วย

“อื้ม หิวนะเลยมาหาอะไรกินแล้วเอล่ะมาหาอะไรกินเหมือนกันหรอ?”ใจจริงก็ไม่ค่อยจะอยากสุงสิงกับคนตรงหน้านักหรอก แต่เขาชอบมาเจาะแจะจุ้นจ้านเลยปล่อยเลยไป

“ไม่อ่ะ พอดีเดินผ่านแล้วเห็นพี่ดีนั่งกินไอติมคนเดียวเลยเข้ามาทักนะ ถ้วยนี้ของใครหรอ เอกินนะ”ไม่ทันผมจะอ้าปากพูด มือบอนก็ตักไอติมอีกถ้วยของผมไปหน้าตาเฉย เห้อ ปลงล่ะครับ

“อือ กินได้เลย”กินเสร็จแล้วจะได้ไป ใครเชิญก็ไม่มี เชิญตัวเองทั้งนั้น

“เห็นมีรูมเมทใหม่เข้ามาหรอ หล่อเนอะ ชื่ออะไรล่ะ?”ผมมองคนที่ตักไอติมกินอย่างกล้ำกลืน คนเรานี่มัน...

“น้องสายธารนะ”

“หือ ใช่ น้องสายธาร มนุษย์อิ้งปี2 ไหมนะ ก็ว่าทำไมคุ้นๆหน้า ตอนเห็นแวบๆตอนน้องหอบข้าวของย้ายเข้ามาก็นึกๆอยู่ว่าใคร แต่ตอนนั้นคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก”เออเนอะ ถามเอง ตอบเอง ผมเคยอยากรู้อะไรกับเขาไหม

“อืม คนนั้นแหละ”คนนั้นแหละ!!

“เสียดายนะ ไม่น่าย้ายเข้ามาเป็นรูมเมทห้องพี่ดีเลยน่าจะย้ายมาห้องเอ เราแลกห้องกันไหมพี่ดี?”หืออออออ แบบนี้ก็มีหรอ? ผมทำหน้าทำตาไม่ถูก ก็รู้ว่าเพื่อนข้างห้องนิสัยโคตรไม่น่าคบนะแต่ไม่คิดว่าจะหน้าด้านแบบนี้ด้วยเลย

“ชอบน้องเขาหรอ?”

“อื้ม”ผมพยักหน้ารับรู้แบบข่มขืนเลยครับ พูดตรงชัดเจนดี

“อ่อ เดี่ยวไว้จะเสาร์นี้นะค่อยแลกห้องกัน วันธรรมดาเก็บของไม่ทันนะ”ประชดตอบไปเลยครับ เอยิ้มกว้างดีใจสุดฤทธิ์

“เห้ยจริงดิพี่ ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆนะ งั้นเสาร์นี้ 11 โมงเราย้ายของแลกห้องนะ ไอติมหมดล่ะเดี่ยวเอเอาอีกถ้วยนะ พี่ดีจ่ายด้วย ขอบคุณมาก”ผมมองร่างเล็กที่วิ่งเข้าไปขอไอศกรีมใส่ถ้วยกลับห้องไปด้วยท่าทีร่าเริง
เออเนอะ กูประชดครับไอ้นี่ก็เอาจริง!!

ผมกลับห้องมาหลังกินข้าวคนเดียวจนอิ่ม แลกห้องกับเอก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็ไม่อยากเจอหน้าอีกคนที่อยู่ห้องเดียวกันพอดี ข้าวของเครื่องใช้ผมจัดเตรียมเก็บพร้อมย้ายส่วนหนึ่ง ส่วนของจำเป็นต้องใช้ก็วางไปก่อน วันนี้วันพุธอีกสองวันก็จะย้ายแล้ว ผมว่าผมเตรียมเก็บทุกอย่างก็คงพอมีเวลาพัก ไม่ใช่พอจะย้ายทีก็จัดภายในวันเดียวแบบนั้นเหนื่อยแย่เลย

“ได้ข่าวจากพี่เอว่าดีจะแลกห้องกันนะ แลกทำไมล่ะ?”ผมมองคนที่กล้าเปิดประตูห้องผมโดยที่ผมไม่ได้อนุญาตให้เขาเข้ามาเลย เสียมารยาทสุด

“แล้วนี่อะไรนะดี เตรียมตัวจะย้ายขนาดนี้เลยหรอ?”ผมแย่งลูกบอลที่เขาหยิบไปกำอย่างโมโห ผมว่าผมมากกว่าที่ต้องโมโหเขา มายุ่งอะไรกับผมด้วย

“ออกไปธาร เราไม่ได้สนิทถึงขั้นให้นายเข้ามาเขตส่วนตัวแบบนี้”ผมไล่เขาไปแต่เขาก็ไม่ยอมออกไป ยังคงมองผมคิ้วขมวด

“อย่าย้ายเลยนะธารขอร้อง?”หึ ขอร้องหรอ ครั้งหนึ่งผมก็เคยขอร้องเขาเหมือนกัน วันที่เขาบอกเลิกผมไง

‘ขอโทษนะดี ผมมาคิดๆดูแล้ว ผมว่าเรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมดีกว่านะ ผมเพิ่งมารู้ตัวว่า กับดีแล้วผมก็..แค่รู้สึกดี แต่ไม่ถึงกับรัก’

‘ทำไมอ่ะ ดีทำอะไรไม่ถูกใจธารหรือเปล่า หรือดีวุ่นวายมากไปหรือดีไม่ดีพออีกหรอ?’ในวันนั้นสมองผมตื้อไปหมด รู้แค่เพียงว่าจะหาคำพูดไหนรั้งคนตรงหน้าให้อยู่กับผมต่อ น้ำตาผมเริ่มคลอเมื่อมองสายตาที่ไร้เหยื่อใยแล้วผมจับมือเขาไว้ทั้งสองมือแน่นกลัวเขาหายไปอย่างที่บอก

‘อย่าไปเลยนะ ดีขอร้องนะธาร’ทั้งที่เอ่ยปากขอร้องทั้งน้ำตาแล้ว แต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยจากมือที่ผมรั้งเขาไว้อยู่ดี


หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 09-07-2017 22:38:44

“ดี”

“ออกไป!”เขาไม่รู้หรอกว่า กว่าผมจะมาถึงวันนี้ได้ผมเสียน้ำตาเพราะเขามามากแค่ไหน? ร่างสูงยอมออกไปแต่โดยดี ผมวิ่งไปปิดกลอนประตูใส่ ยังไงซะระหว่างเราก็ไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมหรอก นั่งซึมคนเดียวพิงประตูสักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังคงไม่พ้นอีกคนนั้นแหละ ผมเลยไม่ยอมเปิด

ก้อกๆๆ
“น้องดี นี่ป้าแก้วเองนะ!”ป้าแก้วเจ้าของบ้านเช่านี่นะมาทำไม ผมรีบเปิดประตูออกมา มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?

“ครับป้าแก้ว”ผมยกมือไหว้ทักทาย ย้ายเข้าอยู่เกือบสี่เดือนแล้วผมไม่เคยเห็นป้าแวะมาเลย

“พอดีน้องธารไปบอกให้ป้ารับรู้เรื่องที่น้องดีกับน้องเอจะย้ายห้องกัน ป้าขอเตือนเลยนะคะว่าพวกน้องกำลังจะทำผิดกฎของบ้านนะ คิดดูนะคะว่าถ้าพวกน้องสองคนย้ายได้แล้วน้องๆคนมาใหม่หรือคนที่อยู่อยู่แล้วรู้ ที่นี่เขาไม่ต้องย้ายตามอำเภอใจกันหรือค่ะ แบบนี้คนที่แย่คือป้านะคะ เข้าใจกฎของบ้านนะ บ้านแค่แวะมาเตือนก่อนนะคะ ไว้น้องเอกลับมาแล้วป้าจะเตือนน้องเอเอง”

ผมพยักหน้าเข้าใจ จริงๆก็แค่จะลักลอบเปลี่ยนห้องกับเอเท่านั้น ไม่คิดว่าใครแถวนี้จะเอาไปฟ้องป้าแก้วจนผมโดนเอ็ด ป้าแก้วเดินออกไปจากห้องผมเลยได้แต่มองหน้าเด็กบางคนที่ไม่รู้จักโตอย่างชิงชัง เออ อยากอยู่ดีนักก็อยู่กันในแบบเกลียดขี้หน้ากันนี่ล่ะ ผมปิดประตูใส่เขาอีกรอบของวัน เซ็งๆ ซวยๆ


ก้อกๆ
อีกล่ะ ผมนอนแผ่บนเตียงนอนอย่างเซ็งเมื่อต้องเก็บข้าวของตัวเองกลับที่เดิม รำคาญโว้ยรำคาญคนอีกห้องจริงๆ

“มีอะไร?”อ้าว ไม่ใช่ธารแต่เป็นเอที่มาเคาะ แถมหน้าบอกบุญไม่รับเลย


“กรีดดดดดดดดด”ผมปิดหูทันที อยู่ๆก็เข้ามากรีดใส่หน้าผม บ้าไปแล้ว ธารรีบวิ่งออกมาจากห้องตัวเองคิ้วขมวดเหมือนกับไม่เข้าใจว่าทำไมเอจึงเข้ามากรีดใส่หน้าผม

“อะไรกันนะพี่เอ?”เออ อะไรของมัน แก้วหูผมอือไปหมดล่ะ

“ไหนบอกว่าจะแลกห้องกันไงพี่ดี แล้วนี่อะไรป้าแก้วรู้เรื่องได้ไง รู้เรื่องไม่พอยังจะมาด่าเออีก เพราะพี่ๆๆๆๆ”ผมแคะหูตัวเอง เสียงแหลมเข้ามาในโสตประสาตจนฟังแทบไม่ทัน ส่วนร่างเล็กที่ดิ้นพล่านระบายนั้นก็กระทืบเท้าไม่พอใจอีก

โอ้ย วันนี้นี่มันวันอะไรกันแน่


“พี่ก็รู้ว่าที่ผมอยากย้ายก็เพราะน้องธาร ผมชอบน้องธาร เราก็ตกลงกันแล้วหนิ แล้วทำไมพี่คิดเปลี่ยนใจแบบนี้ล่ะ ทำไม หน้าตัวเมีย เห็นน้องธารหล่อเลยเกิดอยากได้กับตัวเองแล้วสิ”อ้าว อีน้องนี่วอนโดนถีบหน้าล่ะ ผมชักโมโหบ้างเมื่อทนให้น้องมันมารบกวนผมนาน

“ผมว่าพี่เอเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ คนที่เป็นคนบอกป้าแก้วคือผมต่างหาก พี่เออย่าลืมสิครับพี่เป็นคนบอกเรื่องนี้กับผมเอง”ธารโพล่งขึ้นก่อนที่ผมจะอ้าปากสวนเอเขา

“ไม่จริง”

“จริงครับ แหละที่ผมต้องทำแบบนี้เพราะที่ผมย้ายมาก็เพื่อจะมาง้อ ขอคืนดีกับพี่ดี เพราะผมอยากให้พี่ดีกลับมาเป็นแฟนผมอีกครั้ง”

‘ก็ยังลืมตัวโทรหาเธอคนเดิม คิดถึงเธออีกครั้ง
เป็นฉัน...คนที่ไม่พบกันนาน
การไม่เห็นเธอนั้นยากเย็น ไม่อาจเป็นเหมือนที่เคยเป็น
ยังเสียใจเหลือเกิน ที่ถอนหายใจเพราะโง่ที่ปล่อยเธอไป’

เสียปรบมือดังสนั่นทั่วห้องโถงเมื่อผมเดินออกมาร้องเพลงเปิดฟลอร์คนแรก ก่อนจะตามมาด้วยดีเลย วันนี้เป็นวันที่เราได้รับเชิญให้มาออกมีตคู่กันครั้งแรก

‘ก็การที่ได้รับสายของเธออีก ทำให้พูดไม่ไหว
ก็เลย...ได้แต่ระงับหัวใจเอาไว้
จากวันนั้นเธอเป็นยังไง ตอนนี้อยู่ที่ใด
ได้แค่คิดข้างใน ได้แต่ร่ำร้องในใจ

ฟังเสียงหัวใจของเธอแค่นี้ก็พอ...’
ผมมองร่างบางที่ออกมาร้องเพลงต่อจากท่อนแรกของผม เราต่างมองหน้ากันและกันแต่ไม่ยิ้มให้กันเลย ชีวิตของเราก่อนหน้าที่จะได้อยู่ด้วยกันช่างเหมือนกันเนื้อเพลง

‘ได้แค่นี้ แค่ปล่อยน้ำตาร่วงลงเบาเบา
ความทรงจำไม่อาจรั้งเราให้เป็นเหมือนดั้งเดิม แม้ใจยังรักเธอ
รู้ว่าสายเกินแก้ ไม่น่าขอให้เราหลังหันปล่อยมือจากกันไป
ขอแค่เพียงบางที ได้ยินเสียงหายใจของเธอนั้นก็ยังดี’

ผมหันไปมองร่างเล็กที่โบกมือให้แฟนๆข้างล่างเวที ที่ไม่คิดจะหันมาสบตาผมสักครั้ง

‘การที่ฉันต้องทนตื่นขึ้นมาโดยไม่เจอะเจอ ไม่รู้จะผ่านวันนี้เช่นไร’
‘ให้ตายลงไป ก็ยังไม่เสียใจมากเท่านี้

พูดให้ฟังไม่ได้ คำเหล่านี้ยังจำข้างใน’
‘ถอนหายใจ เพราะได้แต่ทำตัวโง่เอง’

เราต่างหันมาร้องประสานเสียงเข้ากันด้วยดี ผมอยากยื้อเวลาให้หยุดอยู่เพียงแค่ตรงนี้ ตรงที่เราสบตากัน

‘ได้แค่นี้ แค่ปล่อยน้ำตาร่วงลงเบาเบา
ความทรงจำไม่อาจรั้งเราให้เป็นเหมือนดั้งเดิม แม้ใจยังรักเธอ
รู้ว่าสายเกินแก้ ไม่น่าขอให้เราหลังหันปล่อยมือจากกันไป
ขอแค่เพียงบางที ได้ยินเสียงหายใจของเธอนั้นก็ยังดี’

‘หลายคำที่ยืนยันในใจ พูดให้เธอได้ฟังไม่ไหว เพียงแค่หลอกตัวเองว่าเราไม่เสียใจทั้งที่ปวดร้าว’

‘พอคิดถึงวันที่เรานั้นยังรักกันแล้วอยากเปลี่ยนใจ’

‘ฉันไม่ควรให้เธอจากไป’

‘ได้แค่นี้ แค่ปล่อยน้ำตาร่วงลงเบาเบาความทรงจำไม่อาจรั้งเราให้เป็นเหมือนดั้งเดิม แม้ใจยังรักเธอ
รู้ว่าสายเกินแก้ ไม่น่าขอให้เราหลังหันปล่อยมือจากกันไป’

‘ขอแค่เพียงให้ใจได้ใกล้เธอ หากบางครั้งฉันคิดถึงเธอ
ขอแค่เพียงบางที ได้ยินเสียงหายใจของเธอนั้นก็ยังดี’

เพลงรักแสนเศร้าจบลงไปด้วยดี เสียงปรบมือของเพลงดังขึ้นมาเมื่อเราร้องเพลงจบ พิธีกรแสนสวยตัวเล็กเดินเข้ามาแปะๆๆ “ร้องเพราะมากๆเลยค่ะพี่ดีเลย น้องธาร”

“ครับ ขอบคุณครับ”เราสองคนเดินมายืนเคียงข้างกัน เมื่อพิธีกรสาวขยับเข้ามา เสียงกรีดของแฟนๆดังขึ้น ขอบคุณมากๆจริงๆที่รู้จักและชื่นชอบพวกเรา

“เอาล่ะค่ะ ก่อนอื่นเลยช่วยแนะนำตัวให้แฟนๆรู้จักกันหน่อยนะคะ เผื่อใครยังไม่รู้จักค่ะ”

“รู้จักแล้วค้า!!”เสียงแฟนๆแทรกมาเมื่อพิธีกรสาวพูดไม่ทันจบ ทั้งผม ทั้งคนข้างกายและพิธีกรต่างก็ยิ้ม

“อูย สงสัยจะรู้จักกันดีเลยนะคะ ฮ่าๆ”ทุกคนต่างยิ้มกัน เราสองคนเลยหันมามองหน้ากัน ผมยิ้มให้ดีเลย เขาเหมือนจะเผลอยิ้มแต่ก็หุบยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่า ยังไม่ให้อภัยผมอีก

นับจากวันที่ผมบอกตอกหน้าพี่เอไปว่า ที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อมาของ้อ คืนดีกับดีเลย พี่เอก็เหมือนจะคอยตามมาวุ่นวายกับเรามากขึ้นโดยให้เหตุผลว่า ตัวเองยังมีสิทธิ์เพราะผมกับดีเลยยังไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆจังๆ
ให้ตาย ผมโคตรรำคาญพี่เอมาก ก็รู้ทั้งรู้ว่าปัญหาของผมกับการง้อดีเลยก็หนักหนาอยู่แล้ว แต่พี่เอก็ยังจะพาตัวเองมาเป็นปัญหาให้ผมอีกแถมเมื่อวานเราก็ผิดใจกับเรื่องของพี่เออีก เพราะพี่เอขอเข้ามานอนห้องเราโดยให้เหตุผลโง่ๆว่า อยู่ห้องตัวเองแอร์ร้อน แต่ห้องผมแอร์เย็น ก็ถ้าทำได้ผมเปลี่ยนแอร์ให้พี่แกเลยอ่ะ และเพราะพี่เอมาวุ่นวายร่างบางข้างกายเลยยิ่งไม่พอใจผมและก็ยังไม่ให้โอกาสอะไรผมอีก

“ผมดีเลยครับ จากโครงการคู่จิ้น”เสียงใสแนะนำตัว ผมเลยขอแนะนำตัวบ้างเมื่อเสียงกรีดหยุดลง

“ครับ ผมธาร มนุษย์หล่อเสียงดีจากโครงการคู่จิ้นกับดีครับ”เสียงกรีดหนักยิ่งกว่าเดิม

“จริงๆใช่ไหมค่ะที่พี่ธารกับพี่ดีเลยเคยเป็นแฟนกัน?”คำถามหนึ่งจู่โจม ผมเผลอยิ้มกว้างแต่คนข้างกายหันมามองผมไม่ชอบใจ พิธีกรสาวเองก็เหมือนจะตกใจที่ยังไม่ได้เชิญพวกเรานั่งเลย แฟนๆก็ถามขึ้นมาแล้ว เมื่อพิธีกรสาวพายมือให้พวกเรานั่ง เราสองคนเลยนั่งลงบนเก้าอี้กัน

“ครับ”ผมรีบบอก

“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่แฟน แค่ลองคบดูใจนะครับไม่ถึง5เดือน ก็เลิกครับ”คนข้างกายรีบแย้ง บอกซะหมดเปลือกเลย

“โอะโอ แล้วอย่างนี้ใครบอกเลิกใครก่อนค่ะ?”เหมือนคำถามนี้จะเลือกสายตาจากทุกคน

“เขาครับ”ผมยิ้มเมื่อร่างบางชี้มาที่ผม โอเค ผมเคยผิดเพราะเลือกที่จะเลิกกับร่างบาง เคยเป็นกันไหมครับ ความสับสนที่แบบ ไม่แน่ใจว่า เราจะรักกันจริงๆหรือเปล่า กับอาการหมดรักนะครับ ตอนนั้นผมคิดว่าผมหมดรักร่างบางแล้วเลยเลือกที่จะบอกเลิก แต่พอเอาเข้าจริงๆสามเดือนที่ห่างกันมันทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่ได้หมดรักร่างบาง ผมก็แค่กลัวว่าเราจะรักกันตลอดไปได้หรอ ก็ความรักของเราเกิดจาการที่ผมชอบร่างบางแล้วตามจีบ พอร่างบบางใจตรงกันเลยรู้สึกแปลกๆ เหมือนเด็กที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อดีนะครับ ไม่รู้สิ บางทีผมก็โง่ที่เผลอทำอะไรโดยไม่คิดแบบนั้น ดูตอนนี้สิครับ อยากจะขอคืนดีแต่กลับมีมารอย่างพี่เอมาคอยขัดขวางอีก แล้วอย่างนี้เมื่อไรร่างบางจะให้โอกาสผม

“ครับ อย่างที่ดีบอกแต่ตอนนี้ผมกำลังตามง้อคืนดี แต่เขาก็ยังไม่ให้อภัยผมเลย”ผมตีหน้าเศร้าเรียกคะแนนสงสารจากแฟนๆ ร่างบางหันมามองหน้าผมเคืองๆ พิธีกรสาวรีบจู่โจมคำถามทันที

“ก็แล้วพี่เลยทำไมไม่ให้อภัยน้องธารอีกล่ะค่ะ น้องธารออกจะหล่อขนาดนี้ เป็นมิ้มล่ะก็ยอมใจอ่อนตั้งแต่หน้าประตูแล้ว”ผมขำกับมุกของพิธีกรสาว นั้นสิเนอะ ไม่รู้ทำไมถึงได้ใจแข็งนัก

“นั้นสิ ให้อภัยธารนะที่ธารเคยบอกเลิกเพราะความโง่นะ เราคืนดีกันนะ?”ผมจ่อไมค์หันมาถามร่างบางข้างกายบ้าง เรียกเสียงกรี้ดจากแฟนๆดังสนั่นจนแสบแก้วหู

“...”ร่างบางเพียงยิ้มแหย่ให้ แต่ก็ไม่ตอบอะไรกลับมา แปลกดีที่ผมไม่ได้รู้สึกว่ากังวลอะไรแล้ว หวังว่าสักวันร่างบางจะให้โอกาสผมแก้ตัว

“อ้อ ใช่ค่ะ ดูเหมือนน้องธารบอกทางทีมงานใช่ไหมค่ะว่ามีเซอร์ไพรส์ให้พี่ดีเลยด้วย ว่าแต่เซอร์ไพรส์นั้นคืออะไรหรือค่ะ?”หลังพิธีกรสาวพูดจบ ดีเลยหันมามองหน้าผมอย่างแปลกใจ โอ้ยน่ารักจัง อยากหยิกแก้มเนียนจริงๆ

“ครับ ผมเตรียมไว้แต่ไม่รู้ว่าคนแถวนี้จะชอบหรือเปล่า? แต่ตามสคริปนี้จะต้องเป็นหลังจะจบงานนะครับ?”ผมแซวพิธีกรสาว บอกแบบนี้คนข้างกายก็ลุ้นแย่สิ ฮ่าๆ

“อุปส์ ลืมค่ะ เอาเป็นว่าพี่ดีเลยค่ะ รอลุ้นเซอร์ไพรส์ของน้องธารได้เลยค่ะ”แหม ช่างยุแหย่เหลือเกิน ก็ดูหน้าดีเลยสิครับมีความอยากรู้มาก แฟนๆเองก็ลุ้นตามแต่ขอเก็บไว้เซอร์ไพรส์ก่อนจบดีกว่า และก่อนจะวุ่นวายไปมากกว่านี้พิธีกรสาวเลยเริ่มการเข้าสู่งานมีตกันสักที โดยเรามีเกมให้เล่นกันโดยให้โอกาสแฟนๆได้ขึ้นมาเล่นเกมกับพวกเราด้วย เล่นไปมาสี่เกมเรียกได้ว่าทุกคนสนุก มีความสุข และได้ของรางวัลกลับไปเยอะแยะ จนถึงคิวการเซอร์ไพรส์ของผมที่มีไว้เพื่อร่างบาง ภายในห้องโถงมืดสนิทเมื่อการเซอร์ไพรส์ของผมเกิดขึ้น ผมมองแต่ร่างบางภายในความมืด

‘เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหมเธอ ยังรอเธอเสมอทุกครั้งที่หายใจ ไม่อยากมีชีวิตอ้างว้างอีกต่อไป ก็มันทนไม่ไหวจริงๆเพราะหัวใจรักแค่เพียงเธอ ก็มันทนไม่ไหวจริงๆเมื่อหัวใจรักเธอคนเดียว’ภาพดีเลยที่ผมแอบถ่ายมามากมายปรากฏบนผนังเมื่อโปรแจ็ตเตอร์ฉาย ผมยืนมองร่างบางจากตรงข้าม เห็นเขาแปลกใจไม่น้อยที่ผมเก็บภาพเขายามเผลอได้ ไม่ใช่แค่เพียงตอนที่ผมย้ายเข้ามาอยู่ห้องเดียวกับเขา แต่เป็นช่วงวันเวลาวินาทีแรกที่ผมเจอเขาต่างหาก

ผมยิ้มให้ตัวเองเมื่อเห็นร่างบางของคนตรงหน้าวิ่งเข้าไปช่วยหมาน้อยที่มอมแมมจะโดดถนน แต่เพราะมัวแต่ดูหมาเลยทำให้เขาไม่ทันสังเกตว่ามีรถกำลังขับตรงมาด้วย ผมเลยต้องวิ่งเข้าไปช่วยเขา ผมวันนั้นเพื่อนผมถ่ายไว้ได้ทัน ผมเลยขอเก็บไว้ จากนั้นก็เริ่มตามจีบเขาจนเราได้คบกัน ผมไม่ค่อยได้เล่นเฟสบุ้ค ทวิตเตอร์เท่าไร แต่ผมถนัดเล่นอินสตาแกรมมากกว่า เพราะฉะนั้นผมเลยมีแอ็คเค้าว์หนึ่งเพื่อเก็บรูปของร่างบางโดยเฉพาะ มันมีมากกว่าสามร้อยกว่ารูป ผมเองก็ยังคิดเลยว่ามันมีมากกว่ารูปตัวเองอีก ผมคงบ้า แต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ผมตั้งใจจะเก็บรวบรวมภาพความทรงจำของร่างบางตลอดไป จะว่าไปแล้วก็คงจะเป็นเหมือนพวกแฟนบอย แฟนเกิร์ล หรือบอทนั้นแหละครับที่มีรูปของคนที่ชื่นชอบเก็บไว้ เพียงแต่ผมเก็บรูปภาพของแฟนตัวเองไว้แค่นั้น ดีเลยกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ คงซึ้งแน่เลย ผมหวังอย่างนั้นเพราะผมอยากคืนดีกับร่างบางจริงๆ อยากจับมือ อยากกอด อยากหัวเราะ อยากร้องไห้ไปด้วยกัน เมื่อเพลงที่พี่ๆสต้าฟเปิดพร้อมกับภาพที่ผมอยากจะเซอร์ไพรส์นั้นจบลง สปอร์ตไลฟ์ดิ่งตรงมายังเราสองคน

“ดีครับ”แอบเขินเหมือนกันนะครับเนี้ย ผมคงจะบ้าตายแน่ ถ้าการง้อกลางคนมากมายไม่ประสบผลสำเร็จนะครับ

“ผมนะ อาจไม่ได้ดีแสนดีมาก ผมผิดผมรู้ แต่ช่วยยกโทษให้หน่อยได้ไหมครับ ผมรู้ตัวเองแล้วว่า ผมรักดีจริงๆ เราเป็นแฟนกันใหม่ได้ไหมครับ คราวนี้สัญญาเลยว่าจะไม่บอกเลิกอีกเว้นเสียแต่ว่าดีจะหมดรักผมแล้ว”ผมลุ้นใจตุบตับๆ ภายในห้องโถงเงียบกริบเนิ่นนานกว่าร่างบางจะเดินเข้ามาหาผม

“พูดอีกครั้งได้ไหม อยากฟัง?”ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“ที่บอกว่ารักดี ที่บอกว่าอยากเป็นแฟนใหม่นะ พูดอีกครั้งนะอยากมั่นใจ!”อ้อ ผมถึงกับโล่งใจ หรือนี่คือสิ่งที่ทำให้ร่างบางไม่แน่ใจที่จะยอมกลับมาเปิดใจให้ผมอีกครั้ง ผมหยิบแหวนคู่ที่เตรียมมาแล้วนั่งคุกเข่าขอโทษร่างบางต่อหน้าทุกคน เสียงกรีดกร้าดดังขึ้นมา จนผมแอบเขินเอง

“ผมรักดีนะ เรากลับมารักกันใหม่นะ”

“อ่ะนี่ ของขวัญครบรอบ 5 เดือนที่ตั้งใจจะให้วันนั้นนะ”หลังจบมีต เราสองคนคืนดีกันเรียบร้อย ร่างบางยอมให้อภัยผมและยอมรับแหวนคู่ของขวัญชิ้นแรกที่เป็นสิ่งเริ่มต้นใหม่ของรักเรา ผมมองข้อความในโพสอิทแล้วกดไอจีเข้าไป สิ่งที่ปรากฎทำให้ผมแอบตกใจ

“นี่ดีก็..”

“อื้ม แต่ไม่คิดว่าเราจะใจตรงกัน”ผมกอดร่างบางไว้ นั้นสินะมันบังเอิญเกินไปแล้ว นี่เราใจตรงกันขนาดนี้เลยหรอ”

“ก็ธารชอบเล่นแต่ไอจี ดีเลยอยากมีรูปเผลอของธารไว้เก็บเป็นที่ระลึกนะ ตอนแรกกะจะเซอร์ไพรส์แต่วันนั้นเจอเซอร์ไพรส์ใหญ่กว่าอีก ดีนะที่ไม่เผลอลบ”ร่างบางซบอกผมบอกสิ่งที่อยู่ในใจมาหมด

“ขอโทษนะ ที่ผมทำอะไรไม่คิดแบบนั้น”ผมรู้สึกผิดแล้วจริงๆ วันนี้ได้ร่างบางกลับมาก็ดีใจมากด้วย

“อื้ม ผ่านมาแล้วหนิ อีกอย่างก็เชื่อด้วยว่า ยังไงเราก็ต้องกลับมาคืนดีกันแน่เลยไม่ลบสักที”

“หื้ม แล้วรู้ได้ไง?”

“ก็เราใจตรงกันไง แล้วเราก็รักกันมากด้วย”ผมเบิกตากว้างตกใจที่ไม่ใช่แค่คำพูดที่จู่โจม ปากสีหวานเองก็จู่โจมจูบผมก่อนด้วย ร้ายไม่เบาเลยคนนี้

กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดด

“พี่ดี น้องธาร นี่มันอะไรกันนะ?”เสียงกรีดร้องหน้าประตูดังขึ้นเมื่อพี่เอเปิดประตูมาเห็นเราสองคนมอบความรักต่อกัน ทั้งผมและร่างบางลุกขึ้นจากกันพร้อมมองร่างเล็กของพี่เอ

“ก็จะอะไรกันอีกล่ะเอ ในเมื่อพี่กับธารตกลงเป็นแฟนกันแล้ว มากกว่านี้ก็ย่อมได้ จริงไหมครับธาร”ผมแอบพอใจที่ร่างบางลูบไล้แผ่นอกผม เชื่อเถอะว่าดีเลยกำลังจะโชว์แหวนให้พี่เอรู้ว่าเราตกลงคบกันจริงๆ เล่นใหญ่ขนาดนี้ผมขอเล่นบ้างเถอะ รำคาญอีพี่เอมานานล่ะ

“ครับ มากกว่านี้ก็เคยมาแล้ว”ผมบีบแก้มก้นงอน เชยคางมนพร้อมบดขยี้ปากหวานอย่างแสนคิดถึง พี่เอควรรู้สักทีนะว่าไม่ว่าจะทำอะไรหรือก่อกวนด้วยวิธีไหนก็ไม่สามารถพรากเราสองคนได้

“กรีดดดดดดดดด ไม่จริงๆ”วุ้ย นี่แม่พี่แกเป็นนกแก้วหรือไง หูผมจะเสื่อมสัมผัสหมดล่ะดีเลยออกห่างจากผมแล้วหยิบเอาเข้าของของพี่เอโยนใส่หน้า น่ากลัวแหะ

“จริง อ้อ น้องเอควรรู้ไว้อย่างหนึ่งนะครับว่า ก่อนจะอยากได้ผู้ชายเขา ดูให้แน่ใจก่อนนะว่าเจ้าของเขามีหรือยัง เพราะสำหรับผู้ชายคนนี้พี่เป็นเจ้าของแล้ว และเจ้าของอย่างพี่ก็แรงใช่ย่อยครับ เชิญเอาหมอนผ้าห่มน้องออกไปจากห้องเราด้วยครับ ชิ่วๆ”


กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พี่เอชักหน้าตึงตังหยิบเอาข้าวของของตัวเองกลับห้องไป ผมอยากจะขำแต่กลัวโดนเล่นงานเป็นรายต่อไปเลยตีขรึมไว้ก่อน

“เอาน่า ผมไม่มองใครหรอกนะ?”ผมเดินเข้าไปกอดร่างบางไว้ให้คำสัญญา ผมไม่มองใครแน่แต่คนอื่นสิชอบมองผม อยากเป็นเจ้าของผมตลอด เห้อคนหล่อเซ็ง

“เออ ก็ลองมองสิ คราวนี้เลิกแล้วเลิกเลย”สะดุ้งครับ ร่างบางยังหงุดหงิดเรื่องพี่เออีก ก็คงต้องทำใจเนอะ มีแฟนหล่อและหล่อขึ้นมากกว่าเหมือนก่อนก็คงต้องมีหึง มีหวงครับ ผมก้มลงไปสูดดมซอกคอเรียว อ่า คิดถึงกลิ่นหอมเย้ายวนนี่จริงๆ ผมค่อยๆพาร่างบางมายังโซฟาตัวเดิมเมื่อกดล็อกประตูเรียบร้อย

“ห่างไปเกือบสามเดือน คิดถึงแทบแย่”ผมพูดเย้าเมื่อเริ่มไล้ลงมาเนื้อสาปเสื้อ แต่แล้วผมถึงกับจุกเมื่อแผ่นหลังพิงผนักโซฟา ร่างบางของพี่ดีเลยแกะกระดุมเสื้อออกแล้วถอดเสื้อทิ้งเมื่อกลายเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมผมแทน

“ใช่ คิดถึง คิดถึงมากด้วย คอยดูเถอะคืนนี้ดีจะทำให้ธารไม่หลับไม่นอนเลย”อ่าห้ะ ยอมเมียเลยครับ เชิญเมียบัญชารักได้เลย ผมยอมรับคำบัญชา


--- ^^ ---

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 10-07-2017 17:51:25
รักเรา..ไม่เก่าเลย #เพลงบอกอายุ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ไอจัง ที่ 10-07-2017 18:12:21
รักเรา..ไม่เก่าเลย #เพลงบอกอายุ




55555  หนุไม่ทันเพลงนี้ค่าาาพี่มิน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 10-07-2017 19:01:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-09-2017 02:40:58
น่ารักดีเน้อ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] คู่จิ้นที่รัก อัพธารดีเลย 09/07/2560
เริ่มหัวข้อโดย: otakuians ที่ 13-09-2017 10:08:52
น น น น่ารักทุกคู่เลย  :o8: :o8: :o8: