ตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com) ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
《 CONTACT LOVE 》
สัมผัสร้าย สัมผัสรัก
by
MintK
จริงๆแล้วผมไม่ชอบความยึดติดนะ เกลียดการถูกตีกรอบและคำสั่ง
จะเรียกว่ารักอิสระจนมากเกินไปก็ได้แต่นั้นแหละที่เป็นตัวตนของผม
และคิดว่าไม่น่าจะมีใครมาทำให้ผมเปลี่ยนแปลงไปได้ด้วย...
CONTENT
สัมผัสที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3568089#msg3568089) สัมผัสที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3568630#msg3568630) สัมผัสที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3572697#msg3572697) สัมผัสที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3573595#msg3573595) สัมผัสที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3574346#msg3574346)
สัมผัสที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3575069#msg3575069) สัมผัสที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3576872#msg3576872) สัมผัสที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3577320#msg3577320) สัมผัสที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3579178#msg3579178) สัมผัสที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3580266#msg3580266)
สัมผัสที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3581061#msg3581061) สัมผัสที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3581602#msg3581602) สัมผัสที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3582411#msg3582411) สัมผัสที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3584573#msg3584573) สัมผัสที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3586483#msg3586483)
สัมผัสที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3588605#msg3588605) สัมผัสที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3589802#msg3589802) สัมผัสที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3592564#msg3592564) สัมผัสที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3593364#msg3593364) สัมผัสที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3596719#msg3596719)
สัมผัสที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3597144#msg3597144) สัมผัสที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3598341#msg3598341) สัมผัสที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3598894#msg3598894) สัมผัสที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3600901#msg3600901) สัมผัสที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3602014#msg3602014)
สัมผัสที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3603093#msg3603093) สัมผัสที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3605197#msg3605197) สัมผัสที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3606939#msg3606939) สัมผัสที่ 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3609414#msg3609414) สัมผัสที่ 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3611430#msg3611430)
สัมผัสที่ 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3611432#msg3611432) สัมผัสที่ 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3614756#msg3614756) สัมผัสที่ 33 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3616401#msg3616401) สัมผัสที่ 34 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3619248#msg3619248) สัมผัสที่ 35 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3620370#msg3620370)
สัมผัสที่ 36 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3622222#msg3622222) สัมผัสที่ 37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3624427#msg3624427) สัมผัสที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3626119#msg3626119) สัมผัสที่ 39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3626849#msg3626849) สัมผัสที่ 40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3628127#msg3628127)
สัมผัสพิเศษ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3633090#msg3633090)
ภาคสัมผัสที่ไหวหวั่น
สัมผัสที่ไหวหวั่น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3633095#msg3633095) ไหวหวั่นครั้งที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3644763#msg3644763) ไหวหวั่นครั้งที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3645299#msg3645299) ไหวหวั่นครั้งที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3650196#msg3650196) ไหวหวั่นครั้งที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3652232#msg3652232) ไหวหวั่นครั้งที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3652819#msg3652819)
ไหวหวั่นครั้งที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3653895#msg3653895) ไหวหวั่นครั้งที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3654645#msg3654645) ไหวหวั่นครั้งที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3656927#msg3656927) ไหวหวั่นครั้งที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3657525#msg3657525) ไหวหวั่นครั้งที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3658170#msg3658170) ไหวหวั่นครั้งที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3660636#msg3660636)
ไหวหวั่นครั้งที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3662630#msg3662630) ไหวหวั่นครั้งที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3665126#msg3665126) ไหวหวั่นครั้งที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3665838#msg3665838) ไหวหวั่นครั้งที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57589.msg3669607#msg3669607)
MY STORY OTHER
◑ MAKE FRIEND ◐ ★ เพื่อนรัก★ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56604.0) >>> COMPLETE.
[ LOVE YOU DEAR ] ~ รักเหอะ ~ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58623.0) >>> UPDATE
MY FACEBOOK PAGE >>> MINTK (https://m.facebook.com/MintK-791130147657856/?ref=bookmarks)
MY TWITTER >>> @MiniMinnie27 (https://mobile.twitter.com/MiniMinnie27)
สัมผัสที่ 40
ก๊อกๆๆๆ
คริสตัลลืมตาโพล่งขึ้นหลังจากที่หูได้ยินเสียงเหมือนมีใครมาเคาะประตูแล้วเสมองไปยังแขนใครบางคนที่พาดอยู่ตรงเอวคอด
“ทัต”
เรียกใครอีกคนที่ยังคงไม่ยอมตื่นทั้งที่ปกติทัตจะตื่นก่อนคริสแต่หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บและต้องกินยาอย่างต่อเนื่องทัตเลยหลับลึกกว่าปกติจนกลายเป็นคนขี้เซาไปซะอย่างนั้น
“อืม”
“มีคนมาเคาะประตูอะ”
“อืม”
“อืมอะไรเล่า”
“ปล่อยไป”
“ได้ไงวะ ลุกเลย”
ถึงจะบาดเจ็บแต่ก็เป็นที่แขนไม่ใช่ขา เพราะงั้นการเดินเหินย่อมเป็นปกติไม่ควรมาสำออยนอนกอดเค้าทั้งวี่ทั้งวันแบบนี้
“ปล่อยไปเหอะน่า”
พูดแล้วก็หนีบคนในอ้อมแขนให้แนบชิดเข้าไปอีก
“ฮือออ ปล่อยยยย”
ทั้งบอกทั้งดิ้นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนกอดโอดครวญขึ้นมา
“โอ้ย”
“เห้ย! โทษๆ เจ็บมากไหม?”
ผุดลุกขึ้นนั่งแล้วลุกลี้ลุกลนกับแขนคนพี่ที่ยังคงพันผ้าก๊อตไว้อย่างแน่นหนา ถึงจะดูไม่ร้ายแรงเท่าไหร่ตามคำบอกเล่าของทีมแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แต่คนน้องก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี
“อืม สงสัยแผลจะปริ”
“ไปหาหมอกัน”
“หึหึ ใจเย็นๆครับ พี่ล้อเล่น”
คริสตัลที่ตั้งท่าจะลงจากเตียงถึงกับชะงักก่อนจะค่อยๆเหลียวหลังกลับมามองคนพี่ที่ตีหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยอยู่บนที่นอนกว้าง
“มันใช่เรื่องไหมทัต!”
ว่าพร้อมกับจับหมอนมาฟาดใส่หน้าไปเต็มๆ คนพี่หัวเราะร่วนแล้วแย่งหมอนไปจากมือโยนทิ้งไปอีกทางก่อนที่จะดึงคริสให้กลับเข้ามาหา
“โถ่ อย่าทำหน้างั้นสิ พี่แค่ชอบเห็นตอนเราห่วงพี่เอง”
“เหรอทัตเหรอออออ”
นับวันยิ่งทำตัวน่ารักขึ้นเป็นทวีคูณ ว่าแล้วก็อดฟัดแก้มขาวไปด้วยไม่ได้
“อื้อออ ทัตมันจักกะจี้”
“หึหึ”
ยิ่งโดยห้ามก็เหมือนยิ่งยุ คนพี่รู้ว่าที่น้องจักกะจี้นั้นเพราะไรหนวดที่เริ่มผุดขึ้นเป็นตอเล็กๆ พอครูดไปกับผิวขาวๆเลยทำให้เกิดอาการแต่ที่ไม่ชอบคือมันทำให้เกิดรอยแดงๆตามมาด้วยนี่สิ
ก๊อกๆๆๆ
ทั้งคู่ชะงักแล้วเหลียวไปยังทิศทางที่เป็นต้นตอของเสียง ตอนนี้ทั้งคู่กำลังพักอยู่ที่บ้านของทัตเพราะทัตต้องพักรักษาตัวและทั้งพ่อและแม่ของเค้าไม่ยอมให้ไปอยู่คอนโดจนกว่าจะหายดี ส่วนคริสก็โดนหว่านล้อมให้อยู่ดูแลทัตที่นี้ด้วยเช่นกัน
“ใครวะ”
ทัตสบถเสียงแผ่วแล้วลุกขึ้นยีผมตัวเองด้วยท่าทีหงุดหงิด เมื่อร่างใหญ่เดินหายไปกับฉากกั้นห้องคริสเลยลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตามออกไปบ้าง
“ลูกจะนอนก็เรื่องของลูกสิ แต่น้องคริสต้องลงไปทานข้าวกับแม่”
อ้อ เป็นคุณนายนาตาลีนั้นเอง
“อุ๊ย อรุณสวัสดิ์จ้ะน้องคริส หลับสบายดีไหมลูก?”
ทัตถึงกับกรอกตาให้ความลำเอียงของผู้เป็นแม่ ส่วนนาตาลีนั้นยิ้มหวานเดินเข้ามาจับมือถือแขนแฟนลูกชายอย่างหน้าชื้นตาบาน คริสตัลถูกใจคุณนายท่านมากพอควร ไม่สิ ต้องบอกว่ามากๆเลยต่างหาก ตอนพามาที่บ้านหลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลคุณเธอก็แทบไม่สนใจลูกชายเลยด้วยซ้ำ จนพ่อท้วงถึงสาเหตุที่พันผ้าก๊อตนั้นแหละคุณนายถึงรู้สึกตัว
“หลับสบายดีครับ”
“ดีแล้วจ้ะ รีบอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเลยนะ วันนี้แม่ทำอาหารเช้าเองกับมือ รีบลงไปทานด้วยกันนะลูก”
อื้อหือ กลิ่นหมาหัวเน่ามันน่าเศร้าอย่างนี้นี่เอง
“แม่ครับ”
“อะไรยะ?”
น้ำเสียงแข็งกระด้างมาเชียว เกินไปไหมเนี้ย
“ได้ข่าวว่าผมเป็นลูกบังเกิดเกล้าของแม่นะ”
“อุ๊ย ซอรี่จ้ะ แม่ลืม”
“อย่างนี้ก็ได้เหรอแม่”
คริสหัวเราะเสียงแผ่วให้กับความขี้เล่นทั้งแม่และลูก ยอมรับว่าตอนแรกก็เกร็งๆแต่พอกลายมาเป็นคนโปรดแทนลูกแท้ๆก็ชักจะเริ่มชอบขึ้นมานิดๆแล้ว
“เอาละๆ ไปอาบน้ำอาบท่ากันทั้งคู่เลย แต่อย่านานนะ ทัตห้ามแกล้งน้องด้วย ถ้าพี่ทัตแกล้งอะไรมาบอกแม่ได้นะน้องคริส เดี๋ยวแม่จัดการให้”
“ครับ”
สิ้นเสียงคริสตัลตอบรับคุณนายนาตาลีก็ยิ้มแป้นออกจากห้องลูกชายไปในที่สุด ทัตเกิดหมั่นไส้ลูกรักคนใหม่เลยพุ่งเข้าไปกอดคนน้องแล้วฉกหอมแก้มซ้ายแก้มขวาไปอีกทีสองที
“ทัต! บอกแล้วไงว่ามันจักกะจี้”
“เทพทัต! แม่บอกแล้วไงว่าอย่าแกล้งน้อง!!”
ชะงักกึกก่อนจะมองคนเป็นแม่ที่เปิดประตูพรวดเข้ามาตะหวาดว่าคนพี่แล้วก็ปิดกลับหายไปอีกรอบซะดื้อๆ
“อะไรวะ ทำไมพี่โดนตลอดเลยอะ”
“สมควร แล้วก็ปล่อยได้ละ จะไปอาบน้ำ”
“อาบด้วยกันสิ จะได้ประหยัดเวลา”
“จะช้ากว่าเดิมนะสิไม่ว่า ปล่อยเลยนะทัต”
“ไม่เอาน่า อย่าดื้อสิครับ ไหนบอกว่าจะไม่ดื้อกับพี่แล้วไง”
“ไม่ได้ดื้อ คนที่ดื้อนะคือยูต่างหาก”
“นี่ก็อีกเรื่อง ตกลงกันแล้วใช่ไหมว่าจะเปลี่ยนการเรียกกันนะ”
คริสได้แต่จิ๊ปากเบาๆ หน้าหวานเริ่มเห่อแดงเมื่อคิดถึงคำพูดที่ได้สัญญากันไว้
“ไหนเรียกให้ได้ยินหน่อยสิ”
“ไม่เอาอะ”
“อย่าดื้อครับ เรียกหน่อยเร็ว”
“ไม่...”
“อายเหรอ?”
“ก็....”
“อายที่เราเป็นคนรักกันเหรอ?”
คริสตัลถึงกับถอนหายใจเมื่อคนพี่เข้าสู่โหมดน้อยใจอย่างกับเด็กน้อยวัยกระเตาะ แขนแกร่งหดกลับไปกอดอกตัวเองแล้วตั้งท่าจะเดินหนีทว่าคนน้องก็ดึงแขนไว้ซะก่อน
“งอลเป็นเด็กไปได้ ตัวโตอย่างกับควาย”
ทัตยังคงเงียบ
“เออๆ เรียกก็ได้”
“ถ้าไม่สบายใจที่จะเรียกก็ไม่ต้องเรียกก็ได้นะ”
“ไม่งอแงงี้ดิ โตแล้วน๊า”
“ไปอาบน้ำเถอะ”
พูดแล้วก็หันหลังตั้งท่าจะเดินหนีอีกรอบ
“ทัต”
“.....”
“ที่รักครับ ไม่งอลเนอะ”
คนพี่ถึงกับชะงักค้างไหนจะหูที่เริ่มเห่อแดงลามลงมาจนถึงคอ คริสเห็นแล้วก็อดยิ้มพอใจไม่ได้ จากที่เขินอายไม่กล้าพูดกลายมาเป็นความชอบใจไปซะงั้น
“ที่รักครับ หันมานี่หน่อยสิ”
แน่นอนว่าคนพี่ยังคงนิ่ง แหมะ ถึงกับแข็งค้างกันเลยทีเดียว ใครกันนะที่กระเซ้าให้พูดอยู่แหม็บๆ
“ที่รัก”
“พอแล้ว”
“ทำไมอ่า หันมาคุยกันดีๆก่อนสิ”
ทัตถึงกับถอนหายใจไปเฮือกใหญ่ๆก่อนจะหันมาหาตามคำเรียกร้อง คนน้องยิ้มกว้างเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเข้มยังคงแดงจัดไหนจะฟันที่ขบกัดกันจนเกร็งแถมยังมีการหลบตาเสมองไปทางอื่นอีก คริสนึกสนุกจึงยกมือขึ้นโอบรอบคอคนพี่จนบางสิ่งที่ทั้งแข็งและใหญ่โตด้านล่างสัมผัสถูกขาของเค้าเต็มๆ
หืม...เป็นถึงขนาดนี้เชียว ชักไม่ได้การแล้วสิ
“เออ ไอว่าไอไปอาบน้ำดีกว่าเนอะ”
ถกมือกลับด้วยความไวแสงแต่ก็ยังช้ากว่าใครบางคนที่เปลี่ยนท่าทีอย่างกับพลิกฝ่ามือ ทัตยิ้มกริ่มแล้วดึงเอวคนน้องให้เข้ามาประชิดก่อนจะก้มลงหอมแก้มเนียนไปอีกฟอด
“ทะ ทัต แม่รอกินข้าว”
“หิวเหรอ?”
ยังมีการมาย้อนถามอีก คริสเหลือบมองดวงตาสีเข้มที่หรี่ลงเหมือนจะอ้อนวอน ใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างจากเค้าไม่ถึงคืบ ปลายจมูกโด่งเป็นสันยังคงวนเวียนอยู่กับใบหน้าหวานที่เริ่มจะมีสีแดงฝาดๆขึ้นทุกขณะ บางอย่างด้านล่างถูไถไปกับง่ามขาจนอุณหภูมิเห่อร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ที่รัก”
เสียงเอ่ยเรียกที่แผ่วเบาคล้ายกระเซ้าอยู่ข้างหูจนคนฟังแทบทนไม่ไหว คริสตัลโอบกอดคนพี่แล้วซุกหน้าเข้ากับอกแกร่งซ่อนอาการเขินจนแทบระเบิด พอมาโดนเองถึงได้รู้ว่าทำไมทัตถึงมีรีแอคชั่นรุนแรงถึงขนาดนั้น โคตรเขินเลยเว้ย ยิ่งเป็นคนที่ตัวเองรักพูดด้วยแล้วยิ่งใจเต้นตูมตาม โอ้ยยยยยย
“หึ”
ทัตกระชับอ้อมกอดก้มลงหอมหัวคนรักไปอีกทีแล้วจึงพากับไปอาบน้ำอาบท่าแต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่การอาบแบบธรรมดา
“ทัต!”
คริสสะดุ้งเมื่อโดนคนพี่จับอุ้มขึ้นบนเคาเตอร์ล่างหน้า ตอนนี้ร่างกายคนทั้งคู่เปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์จะมีก็เพียงผ้าก๊อตที่พันอยู่รอบแขนแกร่ง ทุกครั้งที่ทัตใช้แรงมากคริสจะนึกหวั่นว่าแผลจะโดนผลกระทบและคอนปรายตามองอยู่ตลอดจนทัตยิ้มพรายก่อนก้มลงจุมพิศที่ริมฝีปากบาง
“อื้อออ เดี๋ยวแผลก็ปริหรอก”
“ช่างมัน”
“มันใช่เรื่องไหมทัต”
“หึหึ”
คิดว่าคนอย่างเทพทัตกลัวซะที่ไหนละ เมื่อมีอาหารอันโอชะอยู่ต่อหน้าก็ต้องรีบกินให้หนำนั้นคือสิ่งที่อยู่ในหัวเค้าตอนนี้ ทัตไล่เล้าโลมตัวบางจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ ส่วนกลางกายของทั้งคู่ชูชันแข่งกันจนทัตต้องเอื้อมมือไปจับให้คนตัวบางสะดุ้งเล่นเบาๆ
“อืออ...เร็ว”
ทัตยิ้มกริ่มเมื่อรู้ว่าคนน้องเริ่มจะร้อนลุ่มจนทนไม่ไหว คนไวต่อสัมผัสเป็นทุนเดิมอย่างคริสมีเหรอจะทนได้เมื่อโดนเล้าโลมโดยคนเจนจัดอย่างเค้า ทัตขบกัดที่ยอดอกจนน้องหลุดเสียงครางพร้อมๆกับเพิ่มจังหวะการรูดรั้งของมือให้ไวยิ่งขึ้น คริสบิดเร้าร่างกายตามแรงกระสันจนร่างแทบหมุนเป็นเกรียว มือเรียวตวัดไปทั่วจนโดนข้าวของล้มระเนระนาด
ทัตสบโอกาสเหมาะตอนคนตัวบางอารมณ์กระเจิงและเริ่มทนไม่ไหวจึงหันไปคว้าขวดเจลที่มีสต๊อคไว้อยู่หลังเคาเตอร์มาชะโลมที่ช่องทางเล็กก่อนจะสอดแทรกเรียวนิ้วเข้าไปช้าๆอย่างค่อยเป็นค่อยไป
“อึ๊ก!...อาส์...”
ทัตแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองเมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนที่ด้านใน การตอดรัดไม่หยุดหย่อนนั้นทำให้เค้าอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเปลี่ยนจากนิ้วเป็นส่วนนั้นของเค้ามันจะรู้สึกดีมากขนาดไหน ทัตหาจุดอ่อนไหวไม่นานก็เจอ คริสตัวกระตุกเกร็งปลดปล่อยทันทีที่นิ้วจี้ไปโดนเพียงไม่กี่ครั้ง
“หึหึ ทำไมไปไม่รอพี่อย่างนี้ละ”
คริสเลือกที่จะยกมือขึ้นมาบิดบังหน้าตาระคนเขินอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี ทัตหัวเราะเสียงต่ำก่อนจะยืดตัวขึ้นแล้วแทนที่นิ้วด้วยส่วนนั้นของตนจนคริสสะดุ้งทันทีที่สัมผัสได้ มือเล็กรีบโอบรอบคอในขณะที่ขาโดนจับแยกกว้างเพื่อการสอดใส่ที่สะดวก ทัตกัดฟันแน่นจนกรามโปกนูน ด้านในร้อนฉ่าและตอดรัดจนแทบทนไม่ไหว ให้ตายสิ ไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่ทีคริสตัลก็เป็นที่สุดของเค้าจริงๆ
“อ๊าาาาา”
เสียงเล็กครางหวานเมื่อแกนกายใหญ่ยักษ์แทรกเข้าไปจนสุดทาง ทัตก้มลงจูบขมับปลอบคนน้องที่ตัวสั่นน้อยๆ ทัตจัดท่าให้ใหม่โดยรวบขาน้องให้ขึ้นมาก่ายอยู่บนไหล่แล้วจึงถอนกายและกระแทกเข้าไปใหม่อีกรอบและอีกรอบอย่างต่อเนื่อง
“อ่า...อึ๊ก...ทัต...เบา”
“เบาไป?”
“บ้า!...อาส์...”
“หึหึ”
มือหนากระชับบั้นท้ายคนน้องให้แน่นขึ้นแล้วเร่งจังหวะไม่สนคำทักท้วงใดๆ เสียงร้องครางหวานดังก้องไปทั้งห้องประสานกับเสียงผิวเนื้อที่กระทบกันดังระงม คริสบลือตาฉ่ำน้ำขึ้นมองคนตรงหน้าในขณะที่ทัตก้มลงมาประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม
“ช้า!”
ทันทีที่โผล่หน้าเข้าไปที่ห้องอาหารผู้เป็นแม่ก็เอ็ดตะโรขึ้นทันที คริสได้แต่ก้มหน้างุดในขณะที่ทัตไหวไหล่แล้วโอบเอวคนรักที่เดินไม่ค่อยสะดวกไปนั่งที่เตรียมทานมื้อเช้า ไม่สิ ต้องเรียกว่ามื้อสายถึงจะถูก
“แม่ทานรึยัง?”
“ยะ! ใครจะไปทนรอไหว”
ทัตส่งยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาให้ผู้เป็นแม่ ดูหมือนจะมีเพียงคริสคนเดียวละมั่งที่รู้สึกผิด
“ผมขอโทษครับ”
“อุ๊ย ไม่ต้องขอโทษหรอกจ้ะลูกคริส แม่รู้ว่าหนูโดนพี่เค้าแกล้งมาใช่ไหม ดูสิหน้าแดงเชียว”
นอกจากจะตกใจกับกับสรรพนามที่ใช้เรียกว่า ‘หนู’ แล้วยังต้องเขินหนักกับการรู้ทันของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอีกต่างหาก คริสตวัดสายตาไปจ้องคนด้านข้างดุๆ ปากหมุบหมิบประมาณว่า ก็บอกแล้วว่าอย่าทำๆก็ไม่เชื่อ ทัตเบ้ปากไม่สนใจพอดีกับที่แม่บ้านนำอาหารมาให้เลยพากันกินในทันที
“พ่อละครับ?”
“ไปบริษัทแต่เช้าแล้ว เห็นว่าจะโอนให้ลูกเต็มขั้นแล้วด้วย”
“ผมจะมีเวลาดูเหรอ เดี๋ยวก็เปิดเรียนแล้วนะ”
“ก็ให้น้องคริสเข้ามาช่วยดูสิ”
คริสตัลถึงกับสะดุ้ง
“หึ ไม่ไหวหรอก คริสไม่ชอบงานบริหาร ถ้าเค้าจะทำเค้าคงทำช่วยที่บ้านเค้าไปนานแล้ว”
“นั้นสินะ งั้นน้องคริสชอบด้านไหนจ้ะ?”
“เออ ก็...พวกฟรีแลนส์ละมั้งครับ ผมไม่ค่อยชอบงานที่มันจำกัดอิสระ”
“งั้นก็มาช่วยงานคุณแม่ได้นะสิ!”
ทัตส่ายหัวเนืองๆในขณะที่คริสกระพริบตาปริบๆ
“งานอะไรเหรอครับ?”
“นายแบบ”
คริสอ้าปากเหวอก่อนจะหันไปหาตัวช่วยอย่างทัตที่กำลังหัวเราะเสียงต่ำ
“ผมบอกแล้วไงว่าคริสไม่ชอบเป็นจุดเด่น”
“แหมๆ ไม่ต้องมาทำทีหวง น้องยังไม่เห็นปฎิเสธอะไรเลย”
คริสถึงกับพูดไม่ออก เค้าก็ไม่ชอบเป็นจุดเด่นจริงๆนั้นแหละ แต่ว่า...
“ว่าไงจ้ะน้องคริส มาช่วยเป็นนายแบบให้คอเล็คชั่นใหม่ของคุณแม่หน่อยนะคะ”
“กะ ก็ได้ครับ”
“เห็นไหมตาทัต น้องคริสออกจะว่าง่ายแถมน่ารักอีกต่างหาก”
เทพทัตหมุนหัวคิ้วในทันที
“คริส”
“อะไรเล่า?”
“รู้ไหมว่าคอเล็คชั่นใหม่ของคุณนายนาตาลีเป็นแบบไหน?”
คริสตัลส่ายหน้าเนืองๆ
“งั้นกินเสร็จแล้วก็ไปดูกับคุณแม่ที่ห้องนั่งเล่นนะจ้ะ แม่มีแฟ้มงานติดมือมาด้วย”
“อ่า ครับ”
ทัตพ้นลมหายใจในขณะที่คุณนายของบ้านกระดี๊กระด๊าเต็มขั้น คริสได้แต่งุนงงแล้วลงมือทานต่อไปจนกระทั่งทั้งสามย้ายสาระร่างพากันมาสิงสถิตอยู่ที่ห้องนั่งเล่นอันแสนกว้างขวาง ทัตกดรีโมตเปลี่ยนช่องไปมาพลางตีหน้าบึ้งในขณะที่คริสตัลเหงื่อแตกซกแต่คุณนายของบ้ากลับยิ้มหน้าบานเสียยิ่งกว่าจานดาวเทียม
“เออ...คือ....”
“เป็นไง สวยไหมจ้ะ? แม่ได้ไอเดียมาจากสภาพอากาศของเมืองไทยที่มีอุณหภูมิสูงแทบจะตลอดทั้งปี ถ้าเป็นที่เยอรมันก็เป็นอีกแบบ การที่เราจะสร้างผลงานให้โดนใจคนประเทศหรือซีกโลกนั้นๆต้องศึกษาถึงสภาพอากาศด้วยนี่เนอะ”
พูดเป็นการเป็นงานจนคริสไม่กล้าทักท้วง ถึงจะไม่กล้าก็เถอะ แต่ชุดแต่ละชุดนี้มันค่อนข้างจะเนื้อ(ผ้า)บาง เว้าลึกคอกว้าง สีสว่างบางตัวเป็นแนวตาข่ายมาเลยด้วยซ้ำ มิน่าละทัตถึงมีสีหน้าไม่สบอารมณ์จนถึงตอนนี้
“ทัต”
“ว่า?”
มีเหรอที่พูดจาขวางแบบนี้ใส่เค้า
“ทัตครับ”
คนถูกเรียกหันมามองด้วยความแปลกใจแต่ก็ต้องเก็บอาการบางส่วนไว้แล้วหลี่ตามามอง คริสส่งสายตาอ้อนวอนไปให้คนคนขี้ใจอ่อนพ้นลมหายใจแล้วดึงเอาแฟ้มในมือคนรักไปพับเก็บวางลงโต๊ะต่อหน้าต่อตาคนเป็นแม่
“อะไรกันยะเจ้าลูกคนนี้”
“ผมไม่ให้ถ่าย”
“นี่มันเรื่องของแม่กับน้องคริส ทัตไม่เกี่ยว”
“แต่ผมเป็นคนรักของคริส เพราะงั้นผมมีสิทธิ์ในตัวเค้ามากกว่าแม่”
“เทพทัต”
“ไว้ถึงคอเล็คชั่น ฤดูหนาวแล้วผมจะพิจารณาอีกทีนะครับ แต่ตอนนี้พวกผมขอตัว”
“เอ๊า จะไปไหนกันนะ?”
“ขึ้นห้อง ผมต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอครับ”
“จะพักก็ไปพักคนเดียวสิ แม่ยังอยากคุยกับน้องอยู่เลย”
“คริสตัลก็ต้องพัก”
“หืม?”
“ก็เมื่อคืนแล้วก็เมื่อเช้า...อุ๊บ!”
ยังพูดไม่ทันจะจบมือเรียวก็อุดปากคนช่างจ่อไว้ได้ทันซะก่อน คริสหน้าแดงจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ถ้าทัตพูดจบเค้าไม่ต้องอยู่บนโลกนี้กันละ ทัตหัวเราะขำเมื่อรู้ถึงปฎิกิริยาของคนน้อง ส่วนผู้เป็นแม่ก็ได้แต่จิ๊ปากขัดใจ
“พวกเราขอตัวเลยแล้วกันครับ เดินไปสิทัต”
พูดเสียงหวานบอกผู้ใหญ่ก่อนจะหันไปแว๊ดใส่คนพี่ที่ยังยิ้มระรื้น หมั่นไส้มันวะ
“ถามจริงๆนะ ถ้าไอไม่ห้ามยูจะพูดออกไปจริงๆเหรอทัต คำว่าอายนะรู้จักไหมห่ะ”
ทัตเบ้ปากไหวไหล่แล้วโอบคนรักขึ้นบันไดไปยังห้องนอนฃของตน
“ถ้าอายคงไม่ได้เมียอย่างคริสตัล เฟรงเบิร์คหรอก จริงไหม?”
จะว่างั้นก็คงได้ เพราะถ้าไม่หน้าด้านหน้าทนจีบทั้งที่โดนเค้าตอกกลับไปสารพัดก็คงไม่ได้มายืนอยู่ด้วยกัน ณ จุดๆนี้ คริสยิ้มให้กับบทสรุปง่ายๆที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะมี เห็นทีเปิดเทอมคราวนี้เค้าคงโดนล่อจนแทบอ้าปากเถียงไม่ได้แหง่งๆ
“ยิ้มอะไรครับ?”
“ยิ้มให้กับอนาคต”
“รู้แล้วเหรอว่าอนาคตจะเป็นยังไง?”
“แน่นอน ก็ต้องสดใสสมชื่อคริสตัลอยู่แล้ว”
~♡~♡~♡~ FIN ~♡~♡~♡~
โปรดอย่าท้วงว่าจบแบบดื้อๆ 55555+
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ เรื่องนี้จะมีตอนพิเศษ(ช่วงเปิดเทอมและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ) อีกอยู่นะ แต่ไม่ชัวร์ว่าจะ1หรือ2ตอน
และ
ที่สำคัญไปกว่านั้น ไรท์จะต่อเรื่องของพี่ครอสในเรื่องนี้เลยนะจ้ะ
ดราม่าแน่นอนบอกไว้ก่อนเลย คริคริ
“เฮ้ย~”
สายตาสี่คู่เหลียวมองมายังเสียงถอนหายใจเป็นครั้งที่สิบโดยคนๆเดียวนั้นก็คือคริสตัล ทุกคนมองหน้ากันไปมา
“มีอะไรหนักใจนักหนาวะ?”
แวนเอ่ยถามขึ้นในที่สุด
“อย่าบอกนะว่าเรื่องที่คุยกันเมื่อวาน?”
ทุกสายตาเปลี่ยนเป้าหมายไปยังคนที่ถามต่อทันที มิกซ์สะดุ้งเฮือกแต่คริสตัลส่ายหน้าปฏิเสธซะก่อน
“ป่าว แค่คิดหาของขวัญไม่ได้”
“เอ๊า มันก็เรื่องเมื่อวานนั้นแหละไอ้เด๋อ”
“อ้อเหรอ”
“หนักแล้วมึงอะ ไปหาหมอไหม?”
“เชี่ยมิกซ์ก็ว่ามัน มันแค่ประสาทอ่อนๆแต่จิตเยอะมาก”
“ฮ่าๆๆ เชี่ยแวนก็กล้านะมึง”
“พวกมึงนี่หุบปากแล้วดูหน้าเพื่อนมึงด้วย มันขำกับมึงไหม?”
เป็นนายที่ปรามคนทั้งคู่ก่อนจะหันไปจ้องหน้าคริสอีกครั้ง
“เล่ามาดิ”
คริสถอนหายใจไปอีกทีแล้วจึงเล่าเรื่องของขวัญที่ตนหนักใจนักหนาว่าจะให้อะไรดี เมื่อคืนก็หลับไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อเช้าก็คุยแต่เรื่องงานเลี้ยงเย็นวันนี้เลยไม่ได้ถามไถ่ความชอบส่วนตัวอะไรเลยสักอย่าง จะว่าไป...แม้แต่การสังเกตุก็ยังไม่เคยเลยสักครั้ง...คิดแล้วก็แอบเศร้า นี่เราเป็นแฟนประสาอะไรวะ
“คิดมากวะมึง กะอีแค่ของขวัญมันจะไปยากอะไร”
ทุกคนเบ้ปากให้คนพูดอย่างนายคมสัน
“บ่ายนี่อาจารย์สาวิตรียกเลิกคลาส งั้นเราไปบุกห้างกันเหอะวะ ไปช่วยไอ้คริสเลือกของกัน”
มิกซ์เป็นคนเสนอและทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย บ่ายวันนั้นทั้งห้าหนุ่มจึงยกโขย่งกันไปให้ห้างได้สั่นสะเทือนด้วยเสียงกรี๊ดกร๊าดและผู้คนที่รายล้อมอย่างกับรอพบศิลปินโอปป้าก็ไม่ปาน
“ขนาดนานๆทีมากันยกทีมนะเนี้ย ดูดิเรตติ้งยังไม่ลดเลยสักนิด”
มิกซ์พูดแล้วฉีกยิ้มกว้างไปให้สาวๆที่จ่อกล้องมาทางพวกเค้า
“ช่างเค้าเหอะน่า”
“แล้วตกลงเราจะซื้ออะไรกันวะ?”
สิ้นเสียงคำถามของชายแวนเหล่าสี่หนุ่มก็เงียบกริบกันเป็นแถบ คริสกำลังถอนหายใจอีกรอบพอดีกับที่เสียงโทรศัพท์ของเค้าดังเค้าจึงคว้ามารับสาย คนโทรมาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นฝาละมีของเค้านั้นแหละ
/ไปห้างเหรอ?/
แหมะ หูตาไวตลอด
“รู้แล้วยังจะถาม”
/หึหึ ก็ไม่เห็นบอกพี่เลยไง นี่ถ้าพี่ไม่เห็นเขาโพสกันในเฟสก็ไม่รู้นะเนี้ย ดังใหญ่แล้วนะเรา/
คริสหลุดยิ้มกับคำแซวของคนที่ปลายสาย จนโดยเพื่อนแซวตามมาอีกระลอก
“แหมะ ทีอยู่กับเพื่อนกับฝูงมาทำเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวด พอผออัวโทรมาปุ๊บนี่ยิ้มหน้าระรื่นชิปหาย”
คริสหันไปแยกเขี้ยวใส่มิกซ์ที่เป็นคนแซว
/หึหึ แล้วตกลงจะเข้ามหาลัยมาอีกรอบไหมหรือให้พี่ไปรับที่นั้น?/
“เดี๋ยวให้พวกนี้ไปส่งที่คอนโดเอง ยูจะเข้าบริษัทก่อนก็ได้นะ งานเริ่มสองทุ่มใช่ไหม?”
/ใช่ งั้นพี่จะกลับถึงห้องสักหกโมงไม่เกินทุ่มหนึ่งแล้วกัน แต่งตัวรอเลยนะครับ/
“รู้แล้วน่า ไม่ใช่เด็ก”
/แก่ว่างั้น?/
“ทัต”
ถึงจะไม่ชอบให้พูดว่าเด็กแต่คำว่าแก่ก็ไม่ชอบเหมือนกันเว้ย
/หึหึ ถึงจะแก่แต่พี่ก็รักนะ/
“เทพทัต!”
เสียงเข้มมาเต็มจนคนปลายสายชิ้งตัดสัญญาณไปก่อน คริสเลยได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่อย่างนั้นก่อนจะเสมองไปยังบรรดาผู้ติดตามที่พากันเดินนำหน้าไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย
“ตกลงมึงคิดได้ยังวะว่าจะซื้ออะไร?”
คมที่หันมาเห็นคริสวางสายพอดีเลยเอ่ยถามขึ้น คริสส่ายหน้าก่อนจะมองไปรอบด้าน ผ่านช็อปของแบรนด์เนมมาเยอะแต่ก็ไม่ยักกะถูกใจ ก็ทัตนะมันมีหมดแล้วไงเลยทำให้หาของที่จะให้ยากเสียยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก
“น้ำหอมไหม?”
นายเสนอ
“มีเยอะแล้ว”
“เสื้อเชิต?”
แวนถามบ้างพลางชี้ไปที่ช๊อปใกล้ๆ
“เต็มตู้”
“นาฬิกา?”
มิกซ์พูดแล้วถลาไปเกาะกระจกหน้าช็อปจนเพื่อนได้แต่ส่ายหน้า
“รุ่นที่มึงจ้องนะ มันพึ่งซื้อเมื่อสัปดาห์ก่อน”
“เห้ย! อะไรจะมีครบครันขนาดนั้นวะ?”
“เข้าใจรึยังว่าทำไมกูถึงคิดหนัก”
“เออวะ ก็ถูกของมึง”
ต่างคนต่างเริ่มเครียดไปตามๆกัน จนกระทั่งนายได้คิดอะไรบางอย่างออก
“ถ้าของตามตลาดทั่วไปใช้ไม่ได้ งั้นก็ต้องเอาพวกของแทนใจที่สั่งทำดิ”
“เสียเวลาไปไหมวะ?”
“ก็เอาพวกพวงกุญแจ แหวนหรือกำไลข้อมือที่สลักชื่อได้ไรงี้ดิ ง่ายๆแล้วก็เร็วด้วย”
คริสแย้มยิ้มในทันที
กริ๊ก
คริสเหลียวมองไปยังต้นทางของเสียงแล้วก็เจอทัตที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าอ่อนเปรี้ยเพลียแรงจนเค้าอดห่วงไม่ได้
“ไหวไหมเนี้ย?”
ถามพร้อมกับเดินไปรินน้ำเย็นใส่แก้วให้คนพึ่งกลับ ทัตเดินไปล้มตัวนั่งลงที่โซฟายื่นมือไปรับน้ำจากคนน้องมาดื่มแล้วไล่มองคนรักตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ทำไมยังไม่แต่งตัว?”
คริสตัลก้มลงมองดูตัวเองที่ยังคงใส่ชุดเสื้อกล้ามกางเกงบ๊อคเซอร์
“ไปงี้ไม่ได้เหรอ?”
“ตลกละครับ”
คริสยิ้มขำแล้วลงไปนั่งอยู่ข้างๆตามแรงดึงของคนพี่ เมื่อได้ที่ทัตเลยล้มตัวลงนอนหนุนตักเอามือน้องมาหอมมาจูบอย่างอ้อดอ้อน
“ทัต”
“หืม?”
ตอบรับคนเรียกเสียงเนืองแต่ก็ยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น
“นอนก่อนแล้วค่อยไปตอนดึกๆไหม?”
เผลอยิ้มให้กับน้ำเสียงที่ฟังดูเป็นห่วงเป็นใยผิดกับเวลาปกติที่เอาแต่ปากแข็งแก้อาการเขินอายของตัวเอง
“ไม่เป็นไร พี่ไหว”
“แน่ใจนะ?”
“ครับ”
“เปิดห้องที่โรงแรมไหม เผื่อไม่ไหวจะได้ค้างที่นั้นเลย”
ทัตลืมตามองสบกับคนด้านบนที่มองเค้าอยู่ก่อนแล้ว ดวงตาสีฟ้าใสนั้นแลดูเป็นห่วงเค้าจากใจจริงจนต้องเอื้อมมือไปรั้งท้ายทอยคนน้องให้ก้มลงมารับจูบอันแสนหวาน เรียวลิ้นของทั่งคู่เกี้ยวกระหวันกันนัวเนียเหมือนถูกดูดกลืนไปด้วยความโหยหาของกันและกัน ก็ใช่ว่าจะขาดจากเรื่องแบบนั้นซะเมื่อไหร่ออกจะมีบ่อยซะด้วยซ้ำแต่ทำไมถึงไม่รู้จักพอก็ไม่รู้สิ
“อื้อออ พอแล้วทัต”
คนพี่ผละถอยแล้วจุ๊บส่งท้ายไปอีกทีก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องไปอาบน้ำอาบท่า คริสเองก็เดินเข้าห้องแต่งตัวไปเปลี่ยนชุดเป็นสูททัดซิโด้สีขาวผ่องรับกับผิวขาวเนียนหน้าหวานและผมสีบรอนด์ทองเปร่งประกาย คริสพรมน้ำหอมเบาๆพอดีกับที่ทัตเข้ามาในห้องแต่งตัวแล้วจ้องเค้าตาปริบๆ
“มองอะไร แปลกเหรอ?”
ทัตส่ายหัว จริงๆแล้วก็เป็นเค้านั้นแหละที่เลือกชุดนี้ให้คนน้องแต่คิดไม่ถึงว่าคริสจะใส่เหมาะถึงขนาดนี้
“งั้นก็มารีบแต่งตัวดิ จะโป๊ไปถึงไหน”
ทัตหัวเราะหึ เค้าไม่ได้โป๊สักหน่อย ยังมีผ้าตั้งผืนหนึ่งพันหมิ่นๆอยู่ที่เอวปกปิดส่วนนั้นอยู่อย่างมิดชิด ถ้าจะไม่มิดชิดก็คงต้องทำให้ผ้าหลุดนั้นแหละนะ ทัตเข้าไปหอมแก้มคนรักด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะหันไปแต่งตัวในส่วนของตัวเองซึ่งก็เป็นทัดซิโด้ขาวเหมือนกันจะแตกต่างก็ตรงที่ของเค้าเป็นกางเกงสีดำและโบว์ก็สีดำเช่นกัน แลดูเหมือนชุดคู่อยู่กลายๆนั้นแหละนะ
“โห คนเยอะโคตร”
คริสตัลท้วงขึ้นทันทีที่ลิฟท์เปิดและเห็นผู้คนออกันอยู่ที่หน้าห้องบอลลูมของโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉองวันเกิดของเจ้าของบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ ที่หน้าแปลกใจไปกว่านั้นคือนอกจากแขกเหรื่อที่มากมายแล้วยังมีกองทัพนักข่าวขนาดย่อมให้คริสได้เหยียดปากเล่นๆไปอีกด้วย
“หึ”
ทัตหัวเราะขำกิริยาของคนรักก่อนจะกุมมือเรียวแล้วพาเดินไปยังบริเวณด้านหน้าของงาน คนแรกที่เห็นการมาของพวกเค้านั้นก็คือนักข่าวนั้นเอง แสงแฟลชถูกกระหน่ำสาดมาทันทีที่พวกเค้าเข้าไปถึงเฟรมฉากหน้างาน ทัตยืนตีหน้ายิ้มการค้าเป็นปกติตามความเคยชินในขณะที่คริสแทบจะลืมตาไม่ขึ้นเพราะแสงที่ถูกสาดเข้าตา
“รบกวนช่วยปิดแฟรชด้วยครับ”
ทัตเอ่ยเพราะรู้ปฎิกิริยาของคนรัก เกิดเสียงอื้ออึงเล็กน้อยแต่เหล่านักข่าวก็พร้อมใจกันทำตามอย่างว่าง่าย มือเล็กกระชับเข้าหาคนกุมจนทัตเหลียวกลับไปมอง คริสยิ้มหวานส่งให้คนรักแทนคำขอบคุณ ทัตยิ้มตอบ
“ไม่ทราบว่า ที่กุมมือกันมาแบบนี้จะประกาศเป็นนัยยะอะไรหรือเปล่าค่ะ?”
นักข่าวสาวคนหนึ่งถามขึ้นและก็เรียกเสียงฮือฮาไปได้มากโข คริสก้มหน้าหลบเลี่ยงเลนส์กล้องเพราะรู้ว่าตนเองเริ่มจะหน้าแดงขึ้นมาแล้วแน่ๆ ทัตหัวเราะเสียงแผ่วเบี่ยงตัวเล็กน้อยให้คนน้องได้หลบแล้วจึงตอบ
“เรื่องนั้นต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการนะครับ”
“แล้วเมื่อไหร่จะประกาศละครับ?”
“เร็วๆนี่ครับ”
ทัตพูดทิ้งทวนไว้แค่นั้นก่อนจะพาคนน้องเข้าไปยังด้านในของงาน ทัตยิ้มรับการทักทายจากผู้คนมากหน้าหลายตาที่เข้ามาหาด้วยความคุ้นชินผิดกับคริสตัลที่เอาแต่ยิ้มรับตามคนพี่เพราะเค้าไม่รู้จักใครเลย ที่มานี่ก็เพราะเป็นงานวันเกิดของพ่อเทพทัตเฉยๆหรอก ไม่งั้นอย่าหวังเลยว่าจะเจอหน้าคนอย่างคริสตัล
“เบื่อไหม?”
คนพี่หันมาถาม
“นิดหน่อย แล้วพ่อกับแม่ละ ตั้งแต่มายังไม่เห็นเลย”
“อยู่ตรงหน้าเวที กำลังโดนรุมอยู่เลยยังไม่พาเข้าไปหา”
“ไปหาเถอะ จะได้อวยพรแล้วให้ของขวัญเลย”
“จะรีบไปไหนครับ”
“รีบพาคนเพลียไปพักผ่อนไงครับ คิดว่าไหวจนจบงานไหมละ”
“เอาน่า พี่อึดอยู่แล้ว เราก็น่าจะรู้ดี”
“อะ ไอ้บ้า”
ทัตยิ้มกว้างก่อนจะหันไปยิ้มรับและทักทายกับผู้มาเยือนรายใหม่ ทั้งคู่พูดคุยกันไม่นานแสงไฟและเสียงเพลงที่คลอเบาๆก็ก็ถูกหรี่ลงเหลือเพียงแสงไฟจากเวทีและพิธีกรคนสวย
การกล่าวต้อนรับเริ่มต้นขึ้นด้วยความครื้นเครงและสดใสไม่นานเจ้าของงานก็ถูกเชิญให้ขึ้นไปยังด้านบนเพื่อพูดคุยทักทายและของคุณการอวยพรและเริ่มต้นการเฉลิมฉลองอย่าเป็นทางการ แต่ทว่า...
“ขอเชิญคุณเทพทัต ลูกชายคนโตและคุณคริสตัลขึ้นมายังด้านบนด้วยค่ะ”
ห่ะ?
คริสหันไปมองคนพี่ที่ยังคงยิ้มอยู่
“ป่ะ”
“เดี๋ยวๆ ไอไม่ขึ้นได้ไหมอะ”
“ไม่ได้ครับ เข้าเรียกทั้งคู่ไม่ได้ยินเหรอ”
คริสได้แต่กรอกตาเพราะคนพี่ได้จูบมือพาขึ้นไปยังด้านบนเป็นที่เรียบร้อย เสียงปรบมือดังเกรียวกราวจนกระทั่งทัตรับไมค์มาถือและกล่าวอวยพรให้ผู้เป็นพ่อ คริสสบโอกาสตอนทัตกล่าวจบเดินเอาห่อของขวัญที่เป็นไวน์ดังราคาแพงไปให้พ่อที่ยืนอยู่ข้างภรรยาอย่างนาตาลี
“อย่างที่ทุกคนได้ทราบกันดีว่าลูกชายผมคนนี้จะกลายมาเป็นประธานบริษัทในภายภาคหน้า แต่นั้นก็เป็นเรื่องในอนาคต ส่วนเรื่องปัจจุบันผมอยากแนะนำให้รู้จักกับ...”
ทรงพลเดินเข้ามาหาคริสตัลก่อนจะโอบเอวหลวมๆเรียกสายตาฉุนกึกของลูกชายไปแว๊บก่อนจะหันหนีแบบโนแยแสใดๆทั้งสิ้น
“คริสตัล เฟรงเบิร์ค ลูกชายคนเล็กของตระกูลเฟรงเบิร์คเจ้าของกิจการในเครือXXX และเป็นคู่หมั้นของลูกชายผมครับ”
คริสตัลตีหน้าเหลอหลาทันทีเพราะไม่คาดคิดถึงการประกาศสถานะอะไรแบบนี้ เสียงฮือฮาและปรบมือจากด้านล่างดังแซงแซ่จนกลบเสียงดนตรีไปหมด คริสหันไปมองทัตที่เดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆแล้วกุมมือเค้าไว้เหมือนเดิม
“ค่ำคืนนี้จะพิเศษยิ่งกว่าเก่าเมื่อมันไม่ได้เป็นแค่ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองให้ผมเพียงคนเดียวแต่เป็นการฉลองให้กับลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ อืม...พ่อพูดถูกใช่ไหมทัต?”
ทัตพยักหน้าให้คนพ่อไปที
“อ่า..ก็ตามนั้นแหละครับ ขอฉลองให้กับคนทั้งคู่จนกว่าเราจะได้ร่อนการ์ดแต่งงานกันในอีกสี่ปีข้างหน้า ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าทำไมนานจัง ผมอยากให้ลูกผมใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนนะพอแต่งไปจะได้ไม่เสียใจที่หมดสิ้นอิสระภาพ ฮ่าๆๆๆ”
เสียงฮาครืนดังตามมาเมื่อสิ้นเสียงพูดของเจ้าของงานพร้อมๆกับคุณนายนาตาลีที่เข้ามาฟาดแขนสามีไปทีในเชิงปราม
“อ้อ คงหมดเวลาของผมแล้วสิ ขอยกเวลาต่อไปนี้ให้กับลูกชายสุดที่รักของผมดีกว่า”
ทัตรับไมค์มาจากพ่อก่อนที่ทรงพลและนาตาลีจะเลี่ยงออกไปยืนอยู่ขอบเวที คริสตัลมองคนพี่ตาปริบๆ จะขยับหนีไปยืนกับพ่อแม่ก็ไม่ได้เพราะคนพี่ยังไม่ยอมปล่อยมือไปอีก
“ขอบคุณสำหรับการต้อนรับพวกเราครับ ผมรักพ่อนะแต่บางทีท่านก็ทำให้ผมอยากจะกลั้นใจตายวันละหลายรอบอยู่เหมือนกัน...”
คริสหลุดหัวเราะไปพร้อมๆกับกลุ่มคนด้านล่าง
“ผมเชื่อว่าพวกท่านทั้งหลายรู้จักตระกูลเฟรงเบิร์คแต่...พวกท่านไม่เคยเจอคนรักของผมคนนี้แน่นอน”
เป็นจริงอย่างที่ทัตพูด คริสตัลแทบไม่เคยออกงานในนามคนของตระกูลแถมไม่หยิบจับงานหรือไม่เข้าไปยุ่งกับบริษัทมีแต่ทีครอสที่รับหน้าจนหลายๆคนคิดว่าตระกูลนี้มีลูกชายเพียงคนเดียวไปแล้วด้วยซ้ำ
“เค้าเป็นคนไม่ชอบความวุ่นวายและเกลียดการเป็นจุดสนใจครับ เพราะฉนั้นการมางานแบบนี้จึงเป็นสิ่งที่เค้าเกลียดด้วยเช่นกัน....แต่วันนี้เค้ากลับยอมที่จะมา ยอมที่จะอดทนเพื่อให้ผมได้ทำหน้าที่ในส่วนของลูกชายและว่าที่ประธานคนต่อไป...”
ทุกคนเริ่มเงียบที่จะฟังเช่นเดียวกับคริสตัลที่เริ่มใจเต้นแรงขึ้นในทุกขณะ
“จริงๆแล้วเค้าเป็นเด็กดื้อมากๆคนหนึ่งเลยนะ แต่วันนี้เค้ากลับว่าง่ายและน่ารักจนผมอดที่จะภูมิใจไม่ได้...อ๊ะ ผมแอบหึงอยู่นะครับที่จุดโฟกัสของกล้องมักจะเป็นเค้าแทนที่จะเป็นผมหรือเจ้าของงาน”
คราวนี้เหล่าบรรดาตากล้องและนักข่าวต่างก็หัวเราะกันระงม
“ที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งมวลนั้น ผมแค่อยากจะแนะนำคนที่ผมรักให้ทุกท่านได้รู้จักและอยากจะบอกว่า…ผมรักเค้า ผมรักคริสตัล เฟรงเบิร์คคนนี้อย่างสุดหัวใจ อยากจะขอบคุณที่ยังอยู่เคียงข้างกันและพี่ขอสัญญา...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่ก็จะรักเราตลอดไปครับ”
ประโยคบอกรักที่แสนหวานนั้นทัตได้หันไปพูดกับคนรักที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ ดวงตาสบประสานเหมือนจะสื่อถึงสิ่งที่มากกว่าคำพูดออกไป มันคือความรู้สึกจากใจมันคือสายใยที่ทักทอเราเข้าหากัน คริสเม้มปากพยายามข่มใจไม่ให้น้ำตาไหลรินลงมา มันคงหน้าอายที่ผู้ชายจะมาร้องไห้ง่ายๆกะอีแค่ได้ยินคำบอกรักที่หนักแน่นในอกแต่ซึ้งกินใจจากคนที่ตนรัก ทัตหัวเราะเสียงต่ำแล้วดึงน้องเข้ามาสู่อ้อมแขนช่วยในการบังสีหน้าของน้องจากสาธารณะชนได้เป็นอย่างดีแต่ก็เรียกเสียงวี๊ดวิ๊วได้ดีเช่นกัน
“พอดีเค้าขี้อายนะครับ ต้องขอโทษด้วย”
คริสทุบอกคนพี่ไปทีด้วยความหมั่นไส้จนทัตหัวเราะร่วน
“ทัต”
“หืม?”
คริสผละจากอ้อมแขนคนพี่แล้วล้วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า ทัตตีหน้างงเหมือนหลายๆคนที่ยังลุ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตรงหน้า คริสตัลเม้มปากแน่นรอบตาแดงนิดหน่อยจากการกลั่นน้ำตาแต่ก็ไม่ถึงกับหน้ากลัว คริสหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำที่มีชื่อแบรนด์เครื่องเพชรชื่อดังออกมายื่นให้คนพี่ เมื่อทัตรับไปตัวเองเลยต้องเอามือขึ้นมาปิดหน้าปิดอาการอายที่แดงไปทั่วทั้งอณูรูขุมขน
“นี่มัน...อะไรครับ?”
ยังจะพูดใส่ไมค์ไม่เลิก แต่เสียงดูอึ้งจริงจนคริสต้องทนเงยหน้าขึ้นมาสบตา
“เปิดดูดิ”
พูดบอกก่อนจะหลบสายตา รอยยิ้มฝุดขึ้นมาบนใบหน้าเข้มอีกครั้งจนกลายเป็นฉีกยิ้มกว้างเมื่อเค้าเปิดเข้าไปดูสิ่งที่อยู่ภายใน มันคือแหวนทองคำขาวที่คริสตัลสั่งสลักชื่อพวกเขาทั้งคู่ไว้ภายในตัววงส่วนด้านนอกเกลี้ยงเกลาเงาวับตามสไตล์ผู้ชายโมเดิร์นไลฟ์
“นี้ขอพี่แต่งงานเหรอ?”
พูดมาได้ไม่อายปาก แล้วที่สำคัญ…จะพูดใส่ไมค์ทำไมวะ!!!
“ไม่ใช่! แค่ของขวัญ”
“หืม? เนื่องในโอกาสอะไรครับ?”
“ก็…”
คริสเหลียวมองไปยังผู้คนรอบข้างที่จ้องมายังพวกเขาเขม่ง ไม่รู้จะลุ้นอะไรกันนักหนานี่มันไม่ใช่การแข่งขันมวยปล้ำซะหน่อย
“ก็?”
“ก็เนื่องในโอกาสที่เรารักกันไง”
“เฮ!!!!”
เป็นเสียงเฮจากผู้เป็นพ่อพร้อมกับเสียงปรบมือจากผู้คนที่อยู่ด้านล่าง คริสตัลซบหน้าลงกับฝ่ามือเค้ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะมอดไหม้ไปทั้งตัวแต่ทัตกลับหัวเราะชอบใจซะงั้น บ้าจริง ไม่น่าเลือกเป็นแหวนมาเล๊ย
“คริสตัล”
“อืม”
“เงยหน้าขึ้นมาก่อน”
คนน้องทำตามในทันทีจนกระทั่ง…
จุ๊บ♡
“ขอบคุณนะครับ”
เชี่ย!!!
หน้าจะระเบิดแล้วอะ
“ผมคิดว่าเราคงไม่ต้องร่อนการ์ดกันแล้วละครับ จับแต่งมันตอนนี้เลยแล้วกัน ไหนๆก็ได้แหวนแถมยังมีจูบสาบานแล้วด้วย บาทหลวงอยู่ไหนใครช่วยไปรับมาให้ผมที”
ทรงพลเอ่ยทีเล่นจนเรียกเสียงฮาไปได้มากโข เค้าเดินเข้ามาโอบไหล่ลูกชายทั้งสองก่อนจะให้หันไปประจันหน้ากันอีกครั้ง
“เอางี้ เดี๋ยวพ่อเปลี่ยนงานจากฉลองวันคล้ายวันเกิดเป็นวันมงคลสมรสของพวกลูกๆไปเลยแล้วกัน เอาละ แลกแหวนกันได้ เดี๋ยวพ่อเป็นบาทหลวงให้ สักขีพยานก็มีเยอะแยะ แล้วก็…ยินดีต้อนรับครอบครัวเฟรงเบิร์คด้วยนะครับ”
คริสอ้าปากเหวอในทันทีที่พ่อปม่และพี่ชายของตนค่อยๆเผยตัวขึ้นมาบนเวที มาได้ยังไงแล้วมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย???
“มิสเตอร์คาร์เตอร์ เฟรงเบิร์ค มิสซิสสิริกิต เฟรงเบิร์ค และ มิสเตอร์ทีครอส เฟรงเบิร์คครับ”
“นี่มันอะไรกันนะทัต!?!”
คริสเอ่ยถามเสียงเบาแต่สีหน้ากลับเล่นใหญ่จนคนพี่หยุดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้
“เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลัง ส่วนตอนนี้…ขอแหวนของเราหน่อยสิครับ?”
คริสหันกลับมาจ้องคนพี่แป๊บก่อนจะหลบตาแล้วควักเอาแหวนอีกวงซึ่งเป็นวงในส่วนของตัวเองไปให้คนพี่ ทัตรับมาเปิดดูเห็นว่าเป็นแบบเดียวกันแต่วงเล็กกว่าก็ระบายยิ้มอ่อนโยนออกมาอีกครั้ง เค้าหยิบเอาแหวนมาไว้ในมือเก็บกล่องใส่กระเป๋าแล้วคว้ามือคนน้องมาจับไว้ก่อนจะคุกเข้าชันขาเงยหน้ามองสบตาคนรักที่หน้าแดงจัดอยู่ตรงหน้า
“I promise this love will never change…”(พี่สัญญาว่าความรักนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน…)
คริสตัลเริ่มหายใจติดขัดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของจังหวะการเต้นของหัวใจ
“I promise I will love and take care of you from now and forever…”(พี่สัญญาว่าจะรักและดูแลเราตั้งแต่นี้และตลอดไป…)
“It's not just you, but it's us.”(ไม่ใช่แค่ยู แต่ต้องเป็นเรา)
ทัตยิ้มรับคำพูดของคนรัก
“Of course we will do that and…”(แน่นอนครับ เราจะทำอย่างนั้นและ…)
“Will i marry you? Why ask, I love and stay with you only one.”(ไอจะแต่งงานกับยูไหมนะเหรอ? ถามมาได้ ไอรักและอยู่กับยูได้แค่คนเดียวเท่านั้นแหละ)
เสียงหัวเราะดังขึ้นแซงแซ่ในขณะที่คนพูดเอาแต่ก้มหน้า ทัตรู้ว่าน้องร้องไห้แต่ยังใจเย็นสวมแหวนให้มือเรียวก่อนจะลุกไปโอบกอดด้วยใจที่รักมั่น เค้าเองก็น้ำตาซึม มันปริมในใจจนแทบล้น ไม่เคยรู้สึกเต็มตื้นในใจมากมายถึงขนาดนี้มาก่อน ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่คิดว่ามันจะมีอยู่จริงเลยต่างหาก คริสเองก็โอบกอดคยพี่แน่นหน้าซบบ่าปล่อยน้ำตาให้ไหลรินอย่างเงียบๆพลางเอียงหน้านิดหน่อยรับสัมผัสจากริมฝีปากของคนรักที่กดจูบลงมาตรงขมับในเชิงปลอบ
ไม่ว่าจะมีอะไรถาโถมเข้ามาหลังจากนี้ เค้าก็จะไม่ปล่อยอ้อมกอดของกันและกันอย่างแน่นอน มันจะยังคงให้ความรักความอบอุ่นแก่กันและกันด้วยความแนบแน่นไม่มีเปลี่ยนแปลง
~ ♡ FIN ♡~
Thank you for Following See you to next story. Jub
สปอยเรื่องราวต่อไป~
สัมผัสที่ไหวหวั่น
สี่ปีต่อมาหลังจากงานรับปริญญาของคริสตัลในช่วงกลางวันจบลงงานสังสรรค์ในช่วงค่ำก็เริ่มต้นขึ้น
“ขอแสดงความยินดีให้กับบัณฑิตจบใหม่ทุกๆคนด้วยคร้าบบบบบ!!!!”
เสียงดีเจประกาศผ่านไมค์หลังจากลดระดับเพลงที่บรรเลงความมันส์ดังขึ้นเรียกเสียงเฮและชูแก้วเครื่องดื่มมึนเมาเฉลิมฉลองด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ วันนี้เจ้าภาพใหญ่อย่างเทพทัตได้เหมาร้านให้ภรรยาสุดที่รักได้ฉลองกับเพื่อนอย่างเต็มที่ ทุกอย่างไม่อั้นไม่ว่าจะเครื่องดื่มหรือของกิน ทุกคนที่มาร่วมจึงสนุกเต็มเหนี่ยวร่วมกินกันอย่างไม่เกรงใจแต่ก็นะ ใครๆก็รู้ว่าหลังจากที่เทพทัตจบเมื่อสองปีก่อนและได้เข้ารับตำแหน่งประธานจริงๆจังๆกิจการก็พุ่งทยานขึ้นมาก เงินทองมีมาไม่ขาดแค่เหมาร้านเลี้ยงแค่นี้ ขนหน้าแข้งไม่กระดิกเลยด้วยซ้ำ
“เพลาๆหน่อยไอ้เกิล มึงยังต้องเจอกูอีกนานเว้ย”
แวนกอดคอนายที่เอาเหล้ากรอกปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า พักหลังมานี่นายเปลี่ยนไปเยอะ เหมือนมีอะไรในใจแต่ก็ไม่มีปริปากบอกเพื่อนสักนิด
“มึงดื่มเยอะไปแล้วนะเว้ย”
คริสตัลปรามพลางยื้อแก้วมาจากเพื่อน
“แค่นี่เอง จิ๊บๆน่า”
“หน้าแดงสัส มึงไปนั่งรับลมข้างนอกหน่อยไหมวะ?”
คมเป็นคนถาม นายส่ายหัวจะคว้าแก้วกลับแต่คริสไม่ยอมให้แล้วเปลี่ยนไปคุยกับคมจนคมหันมาพยุงนายออกไปยังระเบียงด้านนอกที่มีเก้าอี้ไว้ให้นั่งรับลมเย็นๆ
“อยากอ้วกไหมมึง?”
“กูไม่อ่อนขนาดนั้นไอ้สัส”
“เออๆ จะให้กูอยู่เป็นเพื่อนไหมวะ?”
นายส่ายหน้าอีกครั้งก่อนจะเอนตัวพิงไปกับพนักพิงหลังยกมือขึ้นกดที่หัวตาเบาๆเป็นการคลายความเคลียดของเจ้าตัว แต่คมยังไม่กลับเข้าไป เขานั่งลงข้างๆเพื่อนรอคนเพื่อนพ้นลมหายใจจนโอเคดีแล้วจึงเอ่ยปากถาม
“มึงเครียดเรื่องอะไรวะ? บอกพวกกูบ้างก็ได้ เล่นเก็บไว้คนเดียวไม่ปรึกษาใครแบบนี้จะมีพวกกูเป็นเพื่อนไว้ทำแป๊ะอะไร”
นายหลุดหัวเราะออกมาจนได้
“ก็มีไว้เป็นเพื่อนเหมือนเดิมนั้นแหละ”
“สัส ยังจะมากวนตีน”
“หึ”
“อย่าบอกนะว่ายังตัดใจจากเชี่ยคริสไม่ได้”
เรื่องที่นายแอบชอบคริสตัลเพื่อนทุกคนรู้กันหมดแล้วจะมีก็แต่เจ้าตัวนั้นแหละที่ยังโง่ดักดานอยู่เช่นเดิม
“ป่าว”
“แล้วมันเรื่องอะไร งานการก็มีรองรับ เรียนต่อโทก็ไหนบอกว่ารออีกสักปีสองปี?”
“ไม่เกี่ยวสักเรื่อง”
“หรือเรื่องครอบครัว บ้านมึงก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่ หรือ โรงแรมที่บ้านจะมีปัญหาวะ?”
“นี่มึงกลายเป็นคุณหนูจำไมไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้คม”
ถึงฟังดูด่าแต่ปากกลับยิ้มขำให้คนเป็นเพื่อน
“เอ๊า ก็กูอยากเสือก”
“ให้ตาย พากันติดเชื้อเสือกมาจากไอ้มิกซ์ไปซะหมด”
“หรือมึงไม่ติด?”
“ติด”
“บัฟฟาโล่ครับคุณณรงค์”
“มาชื่อเต็มเลยเหรอครับคุณคมสัน”
“หึหึหึ”
ระหว่างที่คนทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างออกรสแสงไฟจากเบื้องล่างที่เป็นลานจอดรถก็เรียกความสนใจของนายจนต้องหันไปมอง
“ว้าว รถใครวะ อย่างสวยเลยแม่ง”
คมเองก็อดที่จะชมไม่ได้ มันคือรถAudi R8 V10 สีดำด้านที่ถูกขัดจนขึ้นเงาไหนจะล้อแม็กสีดำลายเล็กเข้าชุดนั้นอีก เสียงเครื่องยนต์ที่ทุ้มต่ำเป็นเอกลักษณ์ทำให้ยิ่งน่าหลงไหล ทั้งคู่จับจ้องไม่วางตาจนกระทั่งรถถอยเข้าซองจอดนิ่งสนิดและบานประตูเปิดออกเฉยโฉมผู้เป็นเจ้าของอย่าง ทีครอส เฟรงเบิร์ค
“เชี่ย! พี่ไอ้คริสออกรถใหม่เหรอวะ!?”
นายเองก็ได้แต่นิ่งอึ้ง
“กูไม่รู้”
เค้าไม่เจอคนๆนี้ตัวเป็นๆมาร่วมสามปีเห็นจะได้ ตั้งแต่น้องชายอย่างคริสตัลได้ถูกประกาศตัวเป็นคู่หมั้นกับเทพทัต ทีครอสก็ประกาศหมั้นกับมิเกลล่า สาวสังคมผู้ดีจากฝั่งอเมริกาในเวลาต่อมาไม่นานนัก แถมยังไปๆมาๆอเมริกา-ไทยจนเหมือนมันอยู่ใกล้กันเสียนักหนา
“แต่เห็นไอ้คริสมันเปรยๆมาอยู่นะ ว่าพี่มันจะแต่งงาน”
“ห่ะ!?!”
นายหันควับไปจ้องเพื่อนแทบทันที
“กูได้ยินกูก็ตกใจนะ ไม่เห็นจะมีข่าวออกมาเลยด้วย หรือมันตอแหลก็ไม่รู้”
นายเม้มปากแน่นอย่างเผลอตัวก่อนจะหันไปมองคนด้านล่างที่หายไปในบานประตูของร้านในเวลาต่อมา
“เข้าไปถามพี่แกเลยดีไหมวะ?”
“กูว่าอย่าเลย…ถ้าพี่แกอยากบอก ก็คงประกาศมาเองแหละ”
“เออ ก็จริงของมึง”
“เข้าข้างในกันเหอะวะ กูอยากเข้าห้องน้ำ”
“เอาดิ”
ว่าแล้วคนทั้งคู่ก็พากันเข้าไปยังด้านในร้านโดยที่คมเดินกลับไปที่โต๊ะแต่นายแยกไปยังห้องน้ำซึ่งอยู่คนละฝั่งกัน จริงๆแล้วนายไม่ได้อยากเข้ามาทำธุระอย่างที่สมควรทำแต่เค้าแค่เข้ามาวิดน้ำล้างหน้าให้ตื่นจากภวังค์อะไรบางอย่างที่เผลอตกหลุมลงไประหว่างทางแต่ยังไม่ทันจะเตรียมตัวเตรียมใจเค้าก็พาตัวเองขึ้นมาจากภวังค์นั้นไม่ได้ซะแล้ว แต่ทุกอย่างก็พังทลายลงในเวลาอันรวดเร็วเช่นกัน เมื่อเค้าได้ยินคำๆนั้นหลุดออกมาจากปากของเขาคนนั้น
/มันเป็นไปไม่ได้ กูไม่ได้เป็นเกย์และกูไม่เคยพิศวาสเพศผู้ที่มีจู๋เหมือนกันด้วย/
มันเป็นเพียงคำพูดที่ตอบโต้ทางโทรศัพท์ดับใครสักคน แต่นั้นก็ไม่สำคัญเท่าความเป็นจริงที่เค้าได้รับรู้ หลังจากที่ได้ยินเขาก็ค่อยๆตีตัวออกห่างทั้งที่ก่อนหน้ามักจะมาวุ่นวายจนน่ารำคาญใจ มักจะโทรหาทั้งที่ไม่มีเรื่องจะคุย มักจะ…ทำให้ใจสั่นทั้งที่ไม่สมควร นายสะบัดหัวอีกครั้งก่อนจะหันไปดึงทิชชู่สำหรับเช็ดมือมาซับหยาดน้ำบนใบหน้าแต่กลับมีคนนำผ้าเช็ดหน้ามายัดใส่มือเค้าซะก่อน เมื่อมองไปยังผ้าเช็ดหน้าสีครามมีตราประทับยี่ห้อบอกชื่อแบรนด์ดังก็ต้องเหลียวไปมองคนให้ที่อยู่ไม่ไกล
“พี่ครอส”
ทีครอสยิ้มอ่อนให้เพื่อนน้องชาย
“กระดาษมันสกปรก ใช้ไปเถอะ พี่พึ่งซื้อยังไม่เคยใช้เลยรับรองสะอาด”
“เออ…”
“หรือรังเกียจ?”
“เปล่า”
“งั้นก็ดี”
พูดจบก็หันหลังแล้วเดินหนีออกจากห้องน้ำไปในทันที เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมาทำไมไม่เห็นเข้าห้องน้ำหรือทำธุระอะไรเลยละ หรือที่เข้ามาเพราะเห็นเค้าเข้ามากันนะ นั้นไงละ ชอบคิดเข้าข้างตัวเองอยู่เรื่อย
“ไอ้นาย หายไปนานนะสัส ขี้แตกไงวะ”
มิกซ์แซวทันทีที่เห็นเพื่อนเข้ามานั่งที่เดิม ไอ้คมเองก็กลับมาตั้งนานบอกว่าไอ้นายเข้าห้องน้ำ เพื่อนๆเลยรอชนแก้วกันอีกครั้งอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
“เสือกวะ”
“ชิ๊ เอานี่ๆ ยกเว้ย แด่มิตรภาพและความชิปหายที่ฝ่าฟันกันมา เชียส!!!!”
นายรับแก้วมาชนก่อนจะยกกรอกปากทีเดียวหมดแก้ว คนอื่นๆเองก็เช่นกัน นายพึ่งเห็นว่าที่นั่งข้างคริสตัลมีใครอีกคนนั่งอยู่ด้วย เค้าพยักหน้าในเชิงทักทายให้เทพทัตที่ตามมาทีหลังอย่างเป็นกันเอง ทัตเองก็ยกแก้วใหม่รับคำทักเช่นกัน ถึงแม้พวกเค้าจะอายุน้อยกว่าเทพทัตตั้งสองปีแต่เทพทัตไม่ถือตัวถึงขนาดว่าต้องไหว้ทุกครั้งที่เจอ
“คริส”
คริสตัลที่กำลังคุยอะไรงุ้งงิ้งกับทัตหันมามองพลางเลิกคิ้วในเชิงถาม
“หืม?”
“ฝากนี่ไปให้พี่มึงด้วย”
พูดพร้อมยื่นผ้าเช็ดหน้าไปให้ เค้าไม่ได้ใช้มันหรอก
“ทำไมมึงถึงมี…”
“กูเจอพี่มึงในห้องน้ำ เค้าเลยให้ยืมมาเช็ดหน้าแต่กูไม่ได้ใช้”
“งั้นมึงก็ไว้คืนเองก็ได้ อีกเดี๋ยวก็กลับเข้ามามั้ง เห็นว่าจะออกไปสูบบุหรี่”
“ไม่อะ เดี๋ยวกูจะกลับแล้ว”
“อ้าว ไหงงั้นละคุณเพื่อน”
เป็นมิกซ์ที่แทรกเข้ามาด้วยความตกใจ
“กูต้องกลับไปเตรียมตัวนะ”
“เตรียมตัวไรวะ?”
“กูตัดสินใจแล้ว กูจะไปเรียนต่อโทที่เมืองนอกสักสองสามปี”
“ห่ะ!?!”
สี่เสียงสอดประสานแต่นายก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ก็สิ่งที่เค้าพูดออกไป เค้าเองก็พึ่งตัดสินใจได้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี่เอง สงสัยต้องหายไปจากรัศมีพี่น้องตระกูลเฟรงเบิร์คสักพักใหญ่ๆ ไม่งั้นคงได้อกแตกตายเข้าสักวัน
Keep up with the story soon.
เราเอามาล่อค่ะ รอติดตามต่อได้ เร็วๆนี้
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ผมรู้สึกตัวด้วยอะไรบางอย่างเย็นๆที่มาสัมผัสถูกตัวจนต้องถกตัวหนี แต่พอจะขยับกลับแปร๊บไปทั้งร่างไหนจะเปลือกตาที่หนักอึ้งแถมยังออกร้อนอีกต่างหาก
“นาย”
เสียงนี้มัน
…พี่ครอส…
อยากจะขานตอบแต่กลับไร้ซึ่งเสียงใดๆ ผมเลยเปลี่ยนมาขยับแขนจนมีมืออุ่นๆมาจับและบีบเบาๆ
“กูอยู่นี่ มึงนอนพักซะ”
พูดจนก็มีอะไรสักอย่างมาแปะอยู่ที่หน้าผาก ผมพยายามลืมตามองจนเห็นใบหน้าหล่อๆของมันขมวดคิ้วมุ้ย สายตาดูกระวนกระวายใจจนสั่นไหวไม่เหมือนทีครอสคนเดิมที่ผมรู้จัก
นี่เป็นอีกด้านของมันเหรอ
นี่เป็นด้านอ่อนไหวที่มันไม่ค่อยเปิดเผยให้ใครเห็นสินะ
อา…มันก็คนมีหัวจิตหัวใจเหมือนกันนี่เนอะ
“พิ…ครอ..ส…”
“ว่าไงครับ?”
เสียงหวานมาเชียว ถ้าผมปกติดีคงดีดดิ่นเพราะความเขินอายอยู่แน่ๆ ก็เล่นทั้งพูดเพราะพูดหวานซะขนาดนี้
“หิว…น้ำ…”
“แป๊บนะ”
แอบโหวงในใจอยู่วูบหนึ่งเมื่อมันปล่อยมือทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันไปไหน ตอนนี้ผมคงไม่สบายสินะ ผมเคยได้ยินว่าเวลาร่างกายอ่อนแอสภาพจิตใจก็จะอ่อนแอตามไปด้วย อืม ผมได้พิสูจน์มันก็คราวนี้แหละ
“มาแล้วครับ”
พี่ครอสโผล่กลับมาพร้อมน้ำในแก้วใบใหญ่ มันวางแก้วไว้โต๊ะข้างเตียงก่อนจะเข้ามาพยุงผมขึ้นให้พิงอกแล้วนำแก้วน้ำที่มีหลอดเสียบมาจ่อที่ปากจนผมสามารถดูดกินได้ พอได้น้ำอุ่นๆเลนโล่งคอมากขึ้น คราวนี้คงพูดได้ชัดขึ้นกว่าเดิมแล้วแหละนะ
“โอเครึยัง?”
ผมปล่อยหลอกแล้วพยักหน้า แอบนิ่วหน้านิดหน่อยเมื่อคนที่โอบผมอยู่ขยับตัวไปวางแก้วจนผมได้รับผลกระทบไปด้วย
“กูเรียกหมอมาฉีดยาเพิ่มให้มึงแล้ว นอนอีกสักตื่นก็หาย โอเคนะครับ”
ผมพยักหน้าอีกครั้งก่อนจะซุกหน้าเจ้ากับอกแกร่ง มันเองก็โอบกอดผมไว้แน่นแต่ไม่ถึงกับหายใจไม่ออก ผมฟังเสียงหัวใจของคนตัวโตเป็นการกล่อมตัวเอง ก่อนจะหลงเจ้าสู่ห้วงนิทราพร้อมรอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าและสัมผัสนิ่มๆที่แก้มเหมือนโดนหอมยังไงยังงั้น
“คนเก่งของพี่”
ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งเพราะอาการหิวที่รุนแรงเกินกว่าจะทนไหว ทัศนียภาพที่แปลกตาทำให้ผมพระพริบตาปริบๆอยู่หลายครั้งก่อนที่จะเหลียวมองไปเรื่อยๆเป็นการสำรวจจนไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าหล่อเข้มของพี่ครอสที่ยังคงหลับสนิทอยู่ข้างๆ
ผมไม่เคยตื่นก่อนมันเลยสักครั้งเพราะฉะนั้นนี่จึงถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของผมเลยก็ว่าได้
โอ้โห ขนตายาวเป็นแพเลยเว้ย ไหนจะคิ้วหนาๆหน้าเข้มรับจมูกโด่งหนาที่ไม่ได้เรียวรีเหมือนผู้เป็นน้องสักเท่าไหร่ ก็นะ คริสตัลมันได้แม่ไปเยอะส่วนพี่ครอสคงได้พ่อมากกว่านั้นแหละ
พอสำรวจใบหน้าจนพอใจแล้วก็ไล่ลงล่าง ไอ้ห่านี่ไม่ใส่เสื้อนอนอีกแล้ว ผมเคยบอกเรื่องนี้อยู่นะครับว่าให้มันใส่เพราะตัวมันชอบเปิดแอร์แรงๆแล้วแก้ผ้านอนมันจะไม่สบายเอาได้ แต่ก็ไม่เคยฟังอะ ไอ้คนห่วงก็ห่วงไปสิ แต่จะว่าไป…วันนี้อุณหภูมิแอร์มันอุ่นผิดปกตินะ
ยังไม่ทันที่ผมจะได้หันหน้าหนีมือใหญ่ก็คว้าตัวผมเข้าไปกอดโดยที่สีหน้ายังหลับนิ่งอยู่เหมือนเดิม
เห้ย นั้นมึงใส่หน้ากากอยู่รึเปล่าวะ
“โอ้ย!”
แถมกูยังเจ็บตูดอยู่ด้วยนะ เบาๆไม่เป็นรึไงไอ้ซาดิสต์นี่
“จะรีบตื่นขึ้นมาทำไม”
เหมือนมันเอ็ดผมมากกว่าถามนะครับ
“ก็มันหิวนี่”
ผมตอบเสียงแผ่ว หน้านี่ร้อนผ่าวเลยเพราะกำลังซุกอยู่ที่แผงอกเปลือยเปล่าของมัน เนื้อจะแน่นไปไหนวะครับ ทีของกูยังเหลวไม่มีชิ้นดีเลยอะ
มันเงียบไปสักพักก็คลายอ้อมกอดแต่กดดั้งจมูกโด่งๆของทันลงมาที่กลางกระหม่อมให้ผมหายใจสะดุดเล่นๆ เออ ไม่เล่นก็ได้ หายใจสะดุดอย่างจริงจังแถมยังใจเต้นรัวอย่างกับแห่กลองยาวหน้างานบวชเลยด้วย
พ่อแก้วแม่แก้ว ไอ้ฝรั่งโหดคนเมื่อวานมันหายไปไหนครับ ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นคนอ่อนโยนแบบนี้ได้ นี่มึงคงไม่ได้ไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรอกนะ
“ตัวเกร็งเชียวนะมึง”
มันหัวเราะแล้วเอื้อมมือมาทาบตรงหน้าผาก แป๊บๆก็ลุกขึ้นยืนทั้งที่เปลือยหมดทุกส่วนทั้งอย่างนั้นแหละครับ
ไอ้บ้า ไอ้หน้าไม่อาย ไอ้ฝรั่งหรรมใหญ่ เอ๊ย! ไม่ใช่ๆ โอ้ยยยย ช่างแม่งละ กูมุดผ้าห่มดีกว่า ไม่อยากเห็นไปมากกว่านี้อะ
ผมมุดอยู่ใต้ผ้าห่มจนได้ยินเสียงเหมือนมันปิดประตูอะไรสักอย่างดังแกร๊กแล้วก็เสียงน้ำดังซ่าๆ อ้อ เข้าห้องน้ำนี่เอง เมื่อสบโอกาสผมเลยผุดลุกขึ้นนั่งแบบโคตรจะฝืนสังขาร คือปวดเมื้อยเนื้อตัวไปหมดไงครับ เล่นเจอทั้งอุบัติเหตุไหนจะไอ้บ้านั้นกระหน่ำซ้ำซ้อนอีก พอเหลียวซ้ายแลขวาไปเจออุปกรณ์สื่อสารของตัวเองที่โต๊ะเหนือเตียงเลยเอื้อมมือไปคว้ามา
แค่เห็นตัวเลขนาฬิกาเท่านั้นแหละ ร้องโอ้โหแทบไม่ทัน นี่มันบ่ายสองแล้วครับ กูนอนหรือซ้อมตายวะ
แกร๊ก!
ไอ้พี่ครอสออกมาด้วยเนื้อตัวที่พราวไปด้วยหยดน้ำดีหน่อยที่รอบนี้มันมีผ้าขนหนูพันส่วนล่างมาด้วยแต่เชื่อไหวว่าแค่นี้แม่งก็โคตรฮอตแล้ววะ ไม่รู้จะเขินหรืออิจฉามันดี คือปนๆกันจนกูไปไม่เป็นเลยไง
“หน้าแดงใหญ่แล้วมึง ไข้ขึ้นรึไง?”
มันพูดแล้วเดินเข้ามาจับหน้าผากผมอีก
“ก็ไม่ร้อนนี่หว่า”
“ช่างผมเหอะน่า”
“ช่างได้ไง เมื่อคืนมึงไข้ขึ้นเกือบสี่สิบ จับสั่นจนกูนึกว่าจะช็อคตาย เล่นเอากูไม่ได้หลับไม่ได้นอน”
โหปาก สาบานได้ว่ามึงคือแฟนกูนะครับ ปากแช่งอย่างกับไม่ใช่แฟนเลยวะ
จะว่าไปก็เหมือนลางๆว่าตัวเองตื่นขึ้นมาระหว่างที่มันเช็ดตัวให้หรืออะไรนี่แหละ ถึงจะจำไม่ได้แต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่โคตรน่าประทับใจจนเหมือนตกหลุมรักมันซ้ำอีกรอบเลยวะครับ
คือโคตรดี
ผมยิ้มอ่อนก่อนจะช้อนตามองคนตัวโตที่เอาผ้าผืนเล็กในมือขึ้นขยี้หัวตัวเองแรงๆ ผมเลยยันตัวลุกขึ้นจนเซเล็กน้อยดีหน่อยที่ไอ้พี่ครอสมันอยู่ใกล้เลยรับผมไว้ได้ทัน
“ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไร”
“สำหรับทุกสิ่ง”
“……”
ผมยิ้มกว้างกว่าเดิมแต่ไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้าแต่ก็มือขึ้นจับผ้าแล้วเช็ดผมให้คนตัวโตอย่างเบามือ ไอ้พี่ครอสก็ยืนก้มหัวให้ผมเช็ดอย่างรู้งาน ไปๆมาๆก็เข้ามาจุ๊ปปากผมไปอีกทีซะงั้น
“หึ”
เกลียดเสียงหัวเราะของมันจัง
“หัวเราะอะไร?”
“หัวเราะคนเขิน อย่าน่ารักให้มากแค่นี้ก็น่าแกล้งพอแล้ว”
“ไอ้บ้า”
“ถ้าโอเคแล้วก็ไปล้างหน้าแปรงฟัน เดี๋ยวพาลงไปหาอะไรกิน แต่ห้ามอาบน้ำ”
ผมแยกเขี้ยวหมั่นไส้ใส่คนขี้แกล้งแล้วเดินหนีเข้าห้องน้ำไป พอเห็นหน้าที่แดงแปร๊ดของตัวเองผ่านกระจกแล้วก็เข้าใจ
อื้อหือ นี่หน้ากูหรือมะเขือเทศ
แกร๊ก!
เฮือก!!
“ตกใจอะไรนักหนา นี่ผัวไม่ใช่ผี”
กูนี่อ้าปากเหวอเลย ไอ้พี่ครอสมันก็ตีหน้ายุ่งเดินเอาผ้าขนหนูผืนใหม่สีขาวสว่างสดใสมาโป๊ะลงบนหัวผม ก่อนจะเดินไปเอื้อมมือเปิดตู้ด้านบนหยิบเอาซองแปรงสีฟันอันใหม่แกะกล่องออกมาล้างน้ำบีบยาสีฟันใส่แล้วยัดใส่มือผมอย่างเสร็จสรรพ
“ห้ามอาบน้ำนะ กูเช็ดตัวให้แล้วเมื่อชั่วโมงก่อน วันนี้พักผ่อนอีกวันไว้หายสนิทแล้วค่อยอาบ”
“……”
“เข้าใจไหม?”
“อะ อืม”
“ตอบใหม่สิ”
อะไรนักหนาเนี้ย
“เข้าใจแล้ว”
“ครับ?”
“…ครับ”
“ก็แค่นั้น”
ไอ้…
บ้า…
“แล้วมันเป็นไงบ้างอะ?”
เสียงของคริสตัลดังมาจนผมที่กำลังลงบันไดยังไม่ทันจะถึงพื้นยังได้ยินอย่างชัดเจน คือพอผมล้างหน้าแปรงฟังทำธุระส่วนตัวอีกนิดหน่อยเสร็จออกมาก็เจอเข้ากับแม่บ้านที่เตรียมชุดให้เปลี่ยนพร้อมบอกให้ผมลงไปยังห้องนั่งเล่นด้านล่างได้เลยเมื่อเรียบร้อย ไอ้เราก็ไม่มีปัญหาอะไรมากหรอก แต่เดินลงบันไดนะไหว เห็นอย่างนี้ผมก็ลูกผู้ชายนะครับเพราะงั้นเรื่องสำออยออดๆแอดๆนี่ไม่มีในหัวสมองเว้ย
“หายแล้วแปดสิบเปอร์”
“ให้พักที่นี่อีกสักคืนสิ พรุ่งนี้บอกให้มันหยุดงานด้วยเลย”
“ไม่บอกกูก็ทำอยู่แล้วไหม”
“อ้าว มีสมองคิดได้ด้วย?”
“ไอ้น้องเวร”
“แด๊ด ดูดิพี่ครอสมันด่าผมอะ”
ผมชะงักเท้าที่กำลังก้าวลงขั้นสุดท้ายในทันที
“ทีครอส”
เสียงเข้มๆของบุคคลที่สามดังขึ้นเป็นหลักฐานชั้นดีว่าคนที่คริสตัลเรียกว่า แด๊ด นั้นอยู่ในห้องนั้นจริงๆ
“แด๊ดก็ได้ยินว่ามันกวนผมก่อน”
“เมื่อกี้เรียกผมว่ามันด้วยอะแด๊ด”
“ไอ้เด็กขี้ฟ้อง”
“แล้วจะทำม่ะ”
ความพี่น้องนี้…
“อ้าว น้องนาย”
อั๊ยย๊า
ผมค่อยๆเอี้ยวตัวไปหาคนเรียกก่อนจะส่งยิ้มไปให้
“คะ ครับ”
“แอร่!”
แองจี้ร้องพลางชูไม้ชูมือมาทางผมทันทีที่เจอหน้า ผมส่งยิ้มหวานให้เด็กน้อยกำลังจะเข้าไปรับตัวมาอุ้มแต่พอคิดขึ้นได้ว่าตัวเองไม่สบายอยู่เลยรีบถอยปรูดออกมา
“เป็นอะไรไปลูก?”
“คือ ผมไม่สบายอยู่ครับ ถ้าอยู่ใกล้เดี๋ยวน้องจะติดไปด้วย”
“อ้อ ที่ทีครอสเรียกหมอมาเมื่อเช้ามืดนี่เอง ตอนนี้โอเคขึ้นรึยังจ้ะ?”
“โอเคแล้วครับ”
“งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ”
ผมได้แต่ส่งยิ้มตอบกลับแล้วเดินตามหลังนายหญิงของบ้านเข้าไปยังด้านในจนเห็นบุคคลทั้งสามที่เป็นเจ้าของเสียงนั่งเรียงกันอยู่ที่โซฟา ผมยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ที่เป็นชาวต่างชาตินั่งตีหน้าเข้มเหมือนลูกชายคนโตเด๊ะๆ พี่ครอสเห็นผมทำอะไรไม่ถูกเลยตบเบาะข้างตัวเองให้ผมไปนั่งแต่ผมเลือกที่จะนั่งตรงโซฟาเล็กที่แยกออกมาไม่ไกลกันนัก
“ดื้อวะ”
แน๊ะ มีเอ็ดมาอีก
คริสตัลเองก็หัวเราะคิกคักก่อนจะเข้าไปอุ้มหลานมาเล่นตรงเบาะยางสำหรับเด็กวัยเตาะแตะ แองเจลล่าพึ่งตั้งใข่ได้ไม่นานครับ การเดินเลยยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่ แต่ก็ซ่าส์ได้ใจเพราะเมื่อวานเจ้าหล่อนลงพื้นปุ๊บเธอก็ลุกเดินเซๆไปมาในทันที
เห็นแล้วก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ เสียดายที่เข้าไปเล่นด้วยไม่ได้ไม่งั้นคงได้ฟัดแก้มอูมๆนั้นเล่นสักฟอดสองฟอด
“ชื่ออะไรนะเรา?”
ผมสะดุ้ง
“ผมก็บอกไปแล้วไงแด๊ด”
“ไอถามเขา ไม่ได้ถามยูนะทีครอส อย่าเสือก”
อื้อหือ เจ็บไหมละดอกนี้ สวนผมนี่กำมือแน่นจนมือซีดไปหมดแล้วครับ
“ชื่อนายครับ”
“NAAY or NINE?”
“เจ้านายนะครับ”
“อ้อ ความหมายดีนี่”
“ขอบคุณครับ”
“เป็นเพื่อนกับคริสตัลใช่ไหม?”
ผมพยักหน้าก่อนจะหันไปมองคริสตัลที่มองผมสลับกับพี่ครอสและพ่อของตัวเองด้วยสายตาแปลกๆ
“แล้วมาสนิทกับทีครอสได้ยังไง?”
“เออ..คือ..”
“เอาอีกแล้วนะแด๊ด”
“ไอบอกว่าอย่าเสือกไงทีครอส”
“ไม่เสือกไม่ได้วะแด๊ด”
เฮ้ๆ
“ทำไมจะไม่ได้”
เดี๋ยวสิ
“เรื่องของมันก็เหมือนเป็นเรื่องของผมด้วยนั่นแหละ”
ไอ๋หย๋า
“อะไรของยู?”
อย่าบอกนะว่า..
“ก็มันเป็น…”
“พี่ครอส!”
ทุกสายตาจับจ้องมาที่ผมทันทีที่ผมเผลอตะโกนกลบคำพูดของไอ้คนขี้แกล้ง มันเองก็แสยะยิ้มชั่วร้ายตอบกลับมาจนผมอยากจะลุกไปเตะแม่งชิปหาย แต่ที่ผมคาดไม่ถึงนั้นก็คือ…
“หึหึหึ”
คนที่ตีหน้าเข้มเมื่อครู่กลับหัวเราะเหมือนชอบใจอะไรสักอย่างอยู่ซะอย่างนั้น
“อย่างที่ผมบอกไหมละ?”
ห่ะ?
“อืม จริงของยูนะ”
อะไรวะ??
“แกล้งเพื่อนผมอยู่นั้น สนุกนักรึไง?”
แกล้ง???
“แล้วมึงว่าสนุกไหมละ?”
“ก็นะ”
ไอ้สาดดดดดด ตกลงแม่งมีนิสัยขี้แกล้งกันทั้งบ้านใช่ไหมเนี้ย!?!
“น้องนายอย่างไปสนใจเลยนะ พ่อเขาแค่แกล้งเล่น ทีครอสเองก็ยังจะสมทบกับเขาด้วยนะ แย่จริงๆเลย”
“ใช่ๆ แย่ๆ”
“ได้ทีนี่ทับถมใหญ่เลยนะคริสตัล”
“แน่นอน”
พูดแล้วก็ไหวไหล่ก่อนจะกลับไปสนใจหลานตัวเองต่อซะงั้น ผมก็ได้แต่ตีหน้าเหวอมองไอ้ตัวการกับผู้เป็นพ่อไปมาจนมันลุกขึ้นมานั่งลงหมิ่นๆข้างๆผม
“เอ๋ออะไรนักหนา กะอีแค่พ่อกับแม่รู้เรื่องของเราแล้วแค่นั้น”
ผมเบิกตากว้างเผลอกลั้นหายใจไปชั่วขณะแต่พอมองสบตากับผู้เป็นพ่อและแม่ที่ยิ้มให้ผมอย่างอบอุ่นแล้วก็เริ่มจะใจชื้นขึ้นมาหน่อย
“ตอนแรกก็ตกใจแหละนะ แต่คนอย่างทีครอสถ้าตัดสินใจแล้วแสดงว่าคิดมาดีแล้วนั้นแหละ เพราะฉะนั้น…มั่นใจในตัวลูกชายของไอคนนี้ได้เลย”
ผมหันไปมองพี่ครอสพอดีกับที่มันเองก็จ้องผมอยู่ก่อนแล้ว
“แล้วน้องนายละ?”
“ครับ?”
“น้องนายคิดยังไงกับลูกชายแม่จ้ะ อ้อ ต้องเจาะจงว่าเป็นลูกชายคนโตด้วยสินะ”
“เออ…คือ…”
“พูดๆไปเหอะมึง กูจะได้เตรียมแห่ขบวนขันหมากไปสู่ขอ”
ไอ้ห่าคริส!
“คือผม…”
ผมหันมองแม่ของพี่ครอส พ่อของพี่ครอส ก่อนที่จะหันกลับไปสบตากับมันอีกครั้ง พี่ครอสจ้องผมนิ่งๆไม่มีทีท่ากดดันหรือเร่งอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ผมรักพี่ครอสครับ”
“หึ”
“ก็แค่นั้น”
ผมยิ้มกว้างในขณะที่แขนของคนข้างๆโอบอยู่ตรงไหล่อย่างถือวิสาสะ พี่ครอสก้มลงมาจุ๊บหัวผมเบาๆเรียกเสียงแซวจากคริสตัลได้เป็นอย่างดี
ผมไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อวานผมยังเจอเรื่องร้ายแรงถึงขนาดไหน เมื่อก่อนผมต้องเจ็บช้ำน้ำใจแบบมากมายมหาศาล แต่วันนี้ผมกลับยิ้มได้ เป็นยิ้มกว้างที่ออกมาจากความสุขภายใน
ผมมีความสุขจากใจ
ใจที่ตรงกับคนของใจคนนี้เพียงคนเดียว
**** IN THE END ****
ขอบคุณสำหรับการติดตามคร้าาาาาาา
เนื้อหาหลักๆจบลงเพียงเท่านี้
แต่จะมีเนื้อหาแยกย่อยจิปาถะโผล่มาในรูปแบบตอนพิเศษอยู่นะจ้ะ
รอติดตามกันได้
See you soon
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: