WHAT ABOUT U
"อรุณสวัสดิ์ครับครู"
"เช่นกันครับ"ครูชามกล่าว"เมื่อเช้าผมออกไปตลาดมาซื้อกับข้าวมาเยอะเเยะเลยทานด้วยกันสิครับ"ครูหนุ่มเอ่ยอย่างมีไมตรี
"งั้นผมขึ้นไปปลุกน้องเสือก่อนเเล้วครับ"
ไม่นานครูชามก็เห็นน้องเสือเดินจูงมือมากับคุณพ่อด้วยท่าทางน่าเอ็นดู
"อรุณสวัสดิ์ฮะครู"เด็กน้อยพูด้วยท่าทีงังเงีย
"ครับ อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ครูซื้ออาหารเยอะเเยะเลยหวังว่าน้องเสือจะชอบนะ"
"ขอบคุณฮะ"นิ้วป้อมประนมไหว้ครูหนุ่มอย่างรู้ความสร้างความเเปลกใจให้คุณพ่อที่ยืนข้างๆอยู่ไม่น้อยน้องเสือเวลาอยู่ด้วยกันดื้อจะตายเเต่สงสัยอาจจะดื้อเฉพาะอยู่กับเขาเท่านั้น
"งั้นเราทานกันดีกว่าเนอะ"ครูหนุ่มว่า
อาหารตรงหน้าดูเเล้วหน้าทานทุกอย่างเพราะครูชามเลือกสรรมาเป็นอย่างดีเห็นอย่างนี้เล้วครูหนุ่มเลือกทานอยู่พอตัวเเต่สิ่งที่ตนไม่ชอบทานมากที่สุดคือผัก
โตมาป่านนี้ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน รู้ถึงไหนอายถึงนั้น
ครูชามตักผัดผักพร้อมกุ้งตัวโตให้น้องเสือครูชามพลางเหลือบไปเห็นสายตาอบอุ่นที่คุณหนึ่งส่งมาให้
ครูชามเกิดอาการณ์สูญเสียการคุมสีบนใบหน้าไม่บอกก็รู้ว่าครูหนุ่มเขินกับสายตาที่คุณพ่อลูกหนึ่งส่งมามากเเค่ไหน
"ครูชามไม่ทานผักหรอฮะผักมีประโยชน์นะใช่มั้ยฮะคุณพ่อ"เด็กน้อยถามด้วยความสงสัย
"นั้นสิครับครูผักมีประโยชน์ทานซักนิดสิครับ"คุณหนึ่งก็เป็นไปกับเค้าด้วย
ไหนสองพ่อลูกทำให้ครูชามรู้สึกระเเวงเเปลกๆกับคำถามจี้ใจดำด้วยล่ะเนี่ย
เเล้วสายตาที่คุณหนึ่งมองมาที่เค้าก็แปลกไปคำพูดที่เอ่ยมาเหมือนไม่มีอะไรเเต่ทำไมน้ำเสียงเเล้วสายตาทำให้เค้าวูบวาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เหมือนจงใจเเกล้งกันชัดๆเเต่ทำไมคุณหนึ่งต้องอยากเเกล้งเรากันไม่ได้สนิทชิดเชื้อขนาดนั้นซะหน่อย
"พอดีผมไม่ทานตั้งเเต่เด็กเเล้วครับรู้สึกไม่ด้วยชะตาด้วยเท่าไหร่"ครูชามตอบเพื่อเเก้สถานการณ์
เเต่ดูเหมือนว่าเด็กจอมสงสัยยังไม่ยอมหยุด
"งั้นน้องเสือก็ไม่กินผักได้ใช่ไม่ฮะพ่อ"
"ไม่ได้ครับน้องเสือเป็นเด็กต้องทานผักไม่งั้นจะไม่เเข็งเเรงนะเเต่ครูชามโตเเล้วเลยมีภูมิต้านทานเลยไม่เป็นไร"
ครูชามตอบอย่างเร็ว
หลอกเด็กน้อยไปนิดหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง
น้องเสือได้ยินเเบบนั้นก็ไม่ได้ถามต่อลุกขึ้นหยิบถ้วยขนมหวานเเล้วเด็กน้อยก็เดินไปยังทีวีทานต่ออย่างเอร็ดอร่อย
คุณพ่อตัวดีก็ไม่ช่วยกันเเก้ต่างนั่งอมยิ้มอารมณ์ดีมาจากไหนก็ไม่รู้ ฮึ่ย!
"เเล้ววันนี้คุณหนึ่งไม่ไปทำงานหรอครับ"ครูชามเปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้พ่อลูกคู่นี้ถามเขาอีก
ถึงเเม้จะดูเหมือนเป็นการไล่เเต่คุณตนตรงหน้าก็ตอบกับอย่างไม่คิดอะไร
"ผมเคลียงานเรียบร้อยแล้วครับเเล้วครูมีแพลนจะไปไหนหรือป่าวเห็นว่าหยุดยาวนี่"เพิ่งคิดจะถามนะครับคุณ
"ตอนเเรกกะว่าจะไปทะเลเเต่คิดๆดูเเล้วผมคงต้องนอนเเกร่วอยู่บ้านล่ะครับ"ครูชามไม่ได้ประชดแต่อย่างใด เเค่คิดว่าการพักผ่อนที่เเท้จริงคือการนอนเฉยๆโยไม่ทำอะไรเลยดีที่สุดเเล้วในความคิดของคนอื่นเค้าไม่รู้เเต่ตอนนี้
สวรรค์ของเค้าคือความสุขที่ได้จากการนอนโง่อยู่บนเตียงสิ่งนี้ล่ะที่เค้าต้องการ
"ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะครับไปเที่ยวทะเลเเล้วครูเเพลนไว้หรือยังว่าจะไปประมาณกี่วัน?"
"ตอนเเรกกะไปซักสามสี่วันน่ะครับ"
"งั้นดีเลยเดี๋ยวผมช่วยหาข้อมูลอีกเเรง"
"ห้ะ?!"
คนตรงหน้าทำเค้าตกใจเป็นครั้งที่สองไหนจะรู้เกี่ยวกับแผนไปเที่ยวของเค้าตอนนี้ยังพูดเหมือนกับว่ากำลังชวนตนไปพักผ่อนอีก
อ่ายังงี้ก็เหมือนไปเที่ยวกันเป็นครอบครัวเลยไม่ใช่เเล้วครูหนุ่มก็สะบัดหัวไล่ความคิดบ้าๆนี้ออกไป
"ครูเป็นอะไรหรือป่าวครับเห็นสะบัดหัวจะหลุดอยู่เเล้วนั่น"
"ปะ ป่าวครับเอ่อ...คุณหนึ่งพูดเหมือนกำลังจะไปเที่ยวด้วยกันยังไงอย่างงั้นเเล้วงานล่ะครับเห็นว่ายุ่งๆอยู่ไม่ใช่หรอ"ผมถามเพื่อความเเน่ชัดไม่ใช่ผมคิดเองเออเองเเล้วจะหน้าเเตกหมอไม่รับเย็บขึ้นมาทำไง
"ว่าเเล้วผมก็อยากพักผ่อนบ้าง"
เกิดอารมณ์เเปรแปรวนอะไรเนี่ยเเต่ครูชามก็ทำได้เเค่บ่นในใจเท่านั้น
"ครับสรุปคือเรากำลังจะไปเที่ยวกันผมเข้าใจถูกใช่มั้ย"
"ตามนั้นล่ะครับหวังว่าครูชามจะเห็นด้วยนะครับ"ขัดตอนนี้คงไม่ทันเเล้วมั้ง
"ตามนั้นล่ะครับคุณหนึ่ง"คิดซะว่าพาน้องเสือเเละคุณพ่อไปทัศนศึกษาเเล้วกัน
"เเล้วเราจะไปกันวันไหนหรอครับ?"
"พรุ่งนี้เลยเป็นไง?"คนตรงหน้าตอบเเบบทันที
"เเต่เรายังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยเเล้วไหนจะที่ไปพักผ่อนไหนจะโรงเเรมเอยคุณหนึ่งจัดการทันหรอครับ"นี้ก็ดึกเเล้วด้วยน้องเสือก็ขึ้นนอนเเล้วไปพรุ่งนี้ครูชามว่ามันดูหุนหันพันเเล่นไปหน่อย
"ผมให้เลขาจัดการเรียบร้อยเเล้วครูสบายใจได้เเค่ตอนนี้ครูขึ้นไปจัดกระเป๋าเเล้วพรุ่งนี้เราจะได้ออกเดินทางเเต่เช้ากันดีมั้ยครับ"
ทำไมรู้สึกเหมือนกับว่าคนตรงหน้าเตรียมการมาเรียบร้อยแล้ว เหมือนคิดอยู่แล้วว่ายังไงผมก็คงไปเที่ยวด้วยกัน
"ละ แล้วคุณหนึ่งไม่ไปทำงานแล้วหรอครับ"ผมถามด้วยความอยากรู้
"ผมลาหยุดครับ ดีเสียอีกผมน่ะอยากหยุดพักผ่อนมานานแล้ว"
มันง่ายขนาดนั้นเชียว ผมคิดในใจ
"งั้นก็ได้ครับ"
เห็นทีผมคงปฏิเสธไม่ได้เเล้วก็คุณพ่อลูกหนึ่งเล่นมัดมือชกกันซะขนาดนี้
WHAT ABOUT U
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาทำของกินง่ายๆอย่างเเซนวิชเเล้วก็ข้าวเหนียวหมูทอดที่เผื่อเอาไว้กินกลางทาง ผมกลัวว่าคุณพ่อเเละน้องเสือหิวเอาเลยทำไว้เยอะอยู่
"ทำอะไรกินครับครู"พูดถึงสองหนุ่มก็ตื่นกันพอดี
"ของกินระหว่างทางน่ะเเล้วนี้จะออกกันกี่โมงเเล้วเราจะไปเที่ยวไหนครับ?"
"ดีเลยเพราะวันนี้เราจะไปเที่ยวเชียงใหม่กันโดยขับรถไปกันครับ"
นี้ก็เจ็ดโมงนิดๆถ้าออกตอนนี้คงถึงช่วงเย็นๆ
"เเต่ว่ามันไกลมากเลยนะครับอีกอย่างคุณหนึ่งก็ยังไม่ได้บอกผมเลยว่าจะไปเชียงใหม่เห็นทีผมคงต้องจัดเสื้อผ้าใหม่เเล้วล่ะ"ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นเชียงใหม่คงเย็นกว่านี้เเน่ครูชามคิด
"ผมต้องขอโทษครูด้วยนะครับที่ไม่บอกให้เร็วกว่านี้"คุณหนึ่งทำหน้าไม่สบายใจผมเลยรีบตอบกลับเพราะไม่อยากให้เค้าคิดมาก
"ไม่เป็นไรครับงั้นผมขอไปจัดกระเป๋าใหม่ก่อนกับข้าวผมไว้ในครัวคุณหนึ่งกับน้องเสือกินก่อนได้เลยครับ"
"ครูชามใจดีจังฮะครูชามใจดีกว่าคุณพ่ออีก"
"ไม่เอาครับไม่พูดอย่างนั้นคุณพ่อเสียใจนะครับรู้มั้ย"ครูชามปรามเด็กถึงเเม้สิ่งที่น้องเสือพูดมาทำให้ดีใจอยู่ไม่น้อย
"ไม่เป็นไรครับเเกคงพูดอย่างที่เเกคิด"คุณหนึ่งพูดอย่างไม่คิดอะไรเเต่ดูจากเเววตาเค้าคงเสียใจไม่น้อยลูกตัวเองเเท้ๆถึงจะไม่เเสดงออกเเต่ครูชามสัมผัสได้ถึงความเศร้าทางเเววตาคู่นั้น
"ยังไงก็ไม่ดีอยู่ดีครับเอาเป็นว่าน้องเสือต้องขอโทษคุณพ่อไม่งั้นครูไม่สบายใจเเย่เลย"ครูชามพูดด้วยท่าทีโอนอ่อน
เด็กน้อยทำท่าทีไม่ถูกเพราะไม่เคยมีใครบังคับเเกได้เเม้เเต่ป้าภาก็ตามใจน้องเสือตลอดไม่แปลกที่เเกจะทำตัวไม่ถูกเวลาที่ต้องกล่าวขอโทษ
ครูชามจูงมือน้องเสือให้มายืนเผชิญหน้าคุณพ่อพร้อมทำท่ากำมือเเล้วยกขึ้นเหมือนกับให้กำลังใจ
"สู้ๆ"ผมกระซิบให้กำลังใจ
"ผะ ผมขอโทษ ฮะ"เด็กน้อยพูดเสียงเบา
"งั้นกอดกันหน่อยเนอะน้องเสือกอดคุณพ่อเร็วเป็นครอบครัวเดียวกันต้องรักกันไว้นะ"เด็กน้อยกระโดดกอดคุณพ่อเต็มเเรงก็อย่างว่าล่ะนะน้องเสือเเกยังเด็กคิดอะไรก็พูดออกไปเช่นนั้น
ครูชามเเค่อยากช่วยให้ความสัมพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ดีขึ้นไม่มากก็น้อย
"มาฮะครูกอดกันเร็วเป็นครอบครัวรักกันรักกัน"มือน้อยๆสะกิดเเขนครูหนุ่ม
"ครับ"ผมทำตามอย่างว่าง่ายกอดเด็กน้อยทั้งๆทีคุณหนึ่งก็อุ้มเเกอยู่
มือหนาโอบพาดเเผ่นหลังผมไว้อย่างรวดเร็วอุ้มด้วยน้องเสือด้วยเเขนข้างเดียวเกิดคำถามมากมายในหัวผมตอนนี้
"เป็นครอบครัวเดียวกันเเล้วนะครู .. ชาม"
อ่าาาตอนนี้หน้าผมร้อนอย่างไม่มีสาเหตุไม่รู้เป็นเพราะคนตรงหน้าทำสิ่งที่ไม่คาดคิดหรือจริงๆเเล้วผมกำลังเขินอยู่
เเต่ผมคิดว่าอาจจะเป็นอย่างหลังนะ
"เอ่อเดี๋ยวผมไปจัดกระเป๋าก่อนดีกว่า"ผมเอ่ยเป็นครั้งสอง
"ครับเดี๋ยวผมกะน้องเสือรอทานพร้อมกันเนอะ"คุณหนึ่งขอความเห็นจากเด็กน้อยนั่งข้างๆ
เด็กน้อยพยักหน้าเห็นด้วย
ทีอย่างงี้เข้ากันดีเชียว
"น้องเสือรอทานพร้อมครู ครูชามเร็วๆน้าน้องเสือหิวเเล้ว"
"ครับเดี๋ยวครูรีบมานะครับรอเดี๋ยวเดียว"
ไม่นานครูชามก็เดินมายังโต๊ะทานข้าวที่สองพ่อลูกกำลังคุยกันอยู่อย่างสนิทสนมเห็นอย่านั้นครูชามก็ดีใจด้วยกับพ่อลูกคู่นี้
"กินกันเลยดีกว่าครับน้องเสือหิวเเย่เเล้วใช่มั้ย"ผมส่งยิ้มเอ็นดูให้กับน้องเสือที่นั่งตาละห้อยจ้องมองอาหารด้วยความอยากกิน
"ครูชามเมื่อกี้ผู้หญิงที่ชื่อเหมียวทำขนมมาฝากน่ะ"คุณหนึ่งบอก
ขนมดูน่ากินทั้งนั้นเลย ดีเลยจะได้ประหยัดค่าขนมระหว่างทางเห็นอย่างนี้ผมก็ชอบทานขนมเป็นชีวิตจิตใจมากถึงแม้จะอายุจนป่านนี้แล้ว ดูเค้กกับสตรอเบอรี่สีสดใสนั้นสิผมอยากกินมันใจจะขาดแล้ว
"อ้อ พี่เหมียวเธอชอบทำทั้งอาหารและขนมมาฝากผมบ่อยๆเห็นทีผมต้องไปขอบคุณซะแล้ว"
"ครับ ครูสนิทกับคุณเหมียวดีนะ"คุณหนึ่งถามผมเสียงเข้ม
"ก็ประมาณหนึ่งครับ พี่เหมียวเธอเป็นเพื่อนบ้านที่ดีผูกมิตรไว้ไม่เสียหายน่ะครับ"
ที่สำคัญเธอทำอาหารอร่อยด้วย ถึงผมจะแกล้งแซวๆเธอบ้างว่าจะท้องเสียเวลากินอาหารที่เธอทำมาฝากน่ะนะ
"อืม แล้วคุณเหมียวเธอมีแฟนหรือเปล่าครับ"
"อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ คุณหนึ่งคนใจเธอหรอไว้ผมจะได้ติดต่อให้นะครับ"ทำไมต้องรู้สึกเจ็บแปลกที่ก้อนเนื้อด้านซ้ายด้วยนะ
.....แต่ทั้งคู่ก็เหมาะสมกันดี ผู้หญิงก็ต้องคู่กับผู้ชายเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว....
"ป่าวหรอกครับแค่อยากรู้เฉยๆ รีบทานกันดีกว่า...น้องเสือครับทานเสร็จแล้วดูการ์ตูนรอพ่อกับครูชามแปปนึงนะครับ"คุณหนึ่งหันไปบอกน้องเสือที่ตอนนี้กินอิ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างนั้นผมก็ใจชื่นขึ้นมาบ้าง
...เอ่อ ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆสาบานได้
ตอนนี้บรรยากาศระหว่างผมกับคนตรงหน้าก็ดูเหมือนจะอึดอัดแปลกๆ เหมือนทั้งผมและคุณหนึ่งมีเรื่องบางอย่างอยู่ในใจแต่ต่างคนแค่ไม่พูดมันออกมาเท่านั้นเอง
ผมลุกขึ้นเมื่อกินเสร็จแล้วผมก็เดินไปบ้านพี่เหมียวเพื่อจะขอบคุณเรื่องเค้กก็เห็นเธอกำลังนั่งอ่านหนังสือบนเก้าอี้นั่งอยู่พอดี กล่าวขอบคุณเสร็จไม่นานนักก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามา
"ชามผมยกกระเป๋าขึ้นหมดแล้วนะ ออกตอนนี้เลยดีกว่าเดี๋ยวรถจะติดเอา"
ไม่สบายหรือเปล่า ผมคิดในใจ
อยู่ดีๆก็เรื่องชื่อผมทั้งทีที่ก่อนหน้านี้เรียกอย่างสุภาพมาโดยตลอด
แปลกดีที่ผมเหมือนจะหุบยิ้มไม่ได้ ผมยิ้มออกมาโดยอัตโนมัติกับหัวใจตอนนี้ที่กำลังจะบินได้ยังไงยังนั้น
"ไปเถอะน้องชามเดี๋ยวคนแถวนี้จะหึงหน้ามืดเอา"พี่เหมียวเอ่ยแซว
"งะ งั้นผมไปก่อนนะครับเดี๋ยวซื้อของฝากมาฦากนะครับพี่เหมียวคนสวย"ผมแซวคืน แล้วเดินออกมา
"ขอบใจนะสุดหล่อ~"พี่เหมียวตะโกนเสียงดังไล่หลังตามผมมา
"ไปครับคุณหนึ่ง"ผมบอกคนตรงหน้าที่ตอนนี้หน้าตึงอย่ากับอะไรดี
"ต่อไปนี้ให้เรียกผมว่า พี่หนึ่ง แทนนะครับครูชาม"ร่างสูงพูดเสียงเข้ม
"ทำไมล่ะครับเรียกคุณหนึ่งดีแล้วครับผมไม่ได้สนิทกับคุณขนาดนั้น"
"แต่ตอนนี้สนิทกันแล้วครับเรียกพี่หนึ่งได้แล้ว ต่อจากนี้ผมก็จะเรียกครูว่าชามเฉยๆนะครับตกลงตามนี้ ไปครับขึ้นรถ"
ตอนนี้ผมเหมือนคนที่ไม่มีเสียงพูดเลยครับ ความรู้สึกตอนนี้ปนเปกันไปหมด เขิน สับสน กังวล และอีกต่างๆมากมายก็อย่างว่า...ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเอง...
"ขึ้นรถสิชามเดี๋ยวจะถึงนั้นค่ำกันพอดี"
"ครับๆ"
หวังว่าจะแสดงความรู้สึกออกมาให้ผมเห็นมากกว่านี้นะครับ พี่หนึ่ง
To be continued
*************************
สวัสดีค่ะทุกคน เป็นนักเขียนหน้าใหม่ยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ เรียก ฮานา ก็ได้ค่ะ
ตอนหน้าคาดว่าคงจะจบเเล้ว(มาไวไปไว)เเต่ก็ไม่เเน่นอนค่ะ
ยังไม่รับปากว่าจะมาต่ออีกเมื่อไหร่หวังว่าคงไม่นานเกินรอ 5555555
สุดท้ายขอบคุณนักอ่านที่หลงเข้ามาอ่านเรื่องนี้นะคะ
รักเเละขอบคุณค่ะ :-[
WHAT ABOUT U
"แดดแรงขนาดนี้น้องเสือเอาหมวกมาหรือป่าวครับ"ผมถาม
ตอนนี้เราอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่แต่ตอนนี้เป็นเวลาช่วงเที่ยงพอดีทำให้แดดนั้นจ้าเหลือเกินแม้ว่าจะมาในช่วงหน้าหนาวแท้ๆอากาศประเทศไทยนี่มันไม่แน่นอนจริง
"เอามาฮะ คุณพ่อเสือขอหมวกหน่อย"เด็กน้อยดึงมือคุณพ่อ พี่หนึ่งเลยหยิบหมวกใบเล็กสีสันสดใสให้เจ้าตัวเล็กแล้วสวมมันให้ทันที
"รีบเข้าข้างในกันเถอะแดดร้อนเดี๋ยวจะเป็นลมเอา"พี่หนึ่งพลางหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวม
เท่ชะมัดคนแถวนี้มองกันใหญ่เลยแน่ล่ะเขาเหมือนนายแบบมาถ่ายแบบยังไงยังนั้น
ผมจูงมือน้องเสือเข้าไปยังตัวโบสถ์ข้างใน เห็นได้ชัดว่าอากาศภายในนั้นต่างจากของนอกลิบลับ ข้างในทั้งเย็นสบายเพราะมีหน้าต่างบานใหญ่ไว้ระบายอากาศหลังคายกสูงไหนจะต้นไม้รอบๆนั้นอีกอากาศดีจนน่าอิจฉาคนแถวนี้เหมาะแก่ดารนั่งสมาธิมากๆจิตใจอาจจะสงบขึ้นเพราะเดี๋ยวเดียวเขาก็ต้องกลับไปทำงานแล้วครูชามคิด
"ไปให้อาหารปลากันฮะครู"น้องเสือชวน
ครูชามเพิ่งไหว้พระเสร็จไปเมื่อตะกี้ก็เจอเด็กน้อยชวนไปที่อื่นอีกแล้ว
"ครับไปก็ไปครับ"ผมตอบอย่างเสียไม่ได้
"เสือครับให้ครูได้พักบ้างปลาน่ะค่อยไปให้อาหารก็ได้คนอื่นให้กันเยอะแล้วปลามันคงไม่อดหรอก"จริงอย่างที่คุณพ่อพูด
คนที่มาทำบุญไหว้พระเดินทางมาอย่างไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่เมื่อไหว้พระเสร็จก็จะพาลูกพาหลานไปปล่อยนกปล่อยปลา
"อือ ก็ได้ฮะ"เจ้าตัวเหมือนรู้ว่าตัวเองหมดสนุกไปแล้วก็เลยพูดขึ้นต่อ"ครูชามเหนื่อยมั้ยฮะเดี๋ยวน้องเสือแกะน้ำให้"
น้องเสือว่าพลางเปิดขวดน้ำด้วยตัวเองและส่งให้ครูชาม
"แล้วพ่อล่ะเสือ"พี่หนึ่งขอบ้าง
เด็กน้อยยู่ปากใส่เล้วส่งขวดน้ำทั้งขวดให้คุณพ่อโดยไม่ได้เปิดให้แต่อย่างใด นั้นทำให้ผมแล้วพี่หนึ่งอมยิ้มให้กับอาการงอนของเจ้าตัวเล็กน่าหยิกเสียจริง
เรานั่งกันอยู่พักใหญ่แล้วพากันเดินไปยังศาลาขนาดกลางที่ตั้งอยู่ท้ายวัดคนเริ่มน้อยลงแล้วผมและน้องเสือเดินไปซื้ออาหารปลาสองถุงแล้วเดินกลับมายังศาลาที่พี่หนึ่งนั่งรออยู่แล้ว
"ครูชามปลาพวกนี้กินได้มั้ยฮะ"
เป็นคำถามที่ตอนเด็กครูชามก็ได้แต่ถามตัวเองบ่อยๆ
"กินไม่ได้ครับแต่ถ้าอยากกินก็ซื้อได้ที่ตลาดนะรู้มั้ย"
"อ่อฮะ"
น้องเสือทำท่าเหมือนจะเข้าใจผมคิดว่างั้นนะ
"งั้นเราไปกันต่อมั้ยพี่หนึ่งนี่ก็บ่ายเเล้วจะได้เเวะทานอาหารกันเลย"ผมจัดเเจงอย่างเสร็จสรรพ
ส่วนพี่หนึ่งก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเห็นดังนั้นผมก็เดินจูงมือน้องเสือไปยังที่จอดรถ
ร้านอาหารที่เราเเวะทานเเวะร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าเด็ดเห็นได้จากป้ายหน้าร้านที่เขียนตัวเบ้อเร่อเเต่ครูชามว่าคงจะอร่อยสมคำล่ำลือเมื่อมองไปยังร้านค้าที่อยู่ไม่ไกลจากสายตามากนักก็เห็นลูกค้าที่เข้ามาทานกันอยู่เต็มร้าน
เราสั่งอาหารเสร็จไม่นานก๋วยเตี๋ยวรถเด็ดก็ส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่ตรงหน้าเมื่อชิมคำเเรกก้บอกได้เลยว่าไม่ต้องปรุงอะไรมาก น้ำซุปก็กลมกล่อมกำลังดีไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
"น้องเสือกินเองได้ใช่มั้ยเอ่ย"ผมถาม
เพราะตอนนี้เหมือนเเกจะยังงงกับการใช้ตะเกียบเห้นดังนั้นผมเลยหยิบช้อนส้อมยื่นให้
"น้องเสือกินเองได้ฮะครูเเต่ใช้ตะเกียบไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่"เด็กน้อยว่าเเล้วตักเส้นเข้าปากตามด้วยซดน้ำซุปคำโตอย่างเอร็ดอร่อย
ผมยื่นทิชชู่เพื่อให้น้องเสือเช็ดขอบปากที่เลอะเทอะจากการกิน
"ไม่เห็นให้พี่บ้างเลยชาม"คนตรงข้ามเอ่ยขึ้นมาบ้าง
ดูท่าทีเหมือนเด็กเอาเเต่ใจ
"ก็หยิบเอาสิครับพี่หนึ่ง"ผมพูดอย่างปลงๆกับท่าทีเหมือนเด็กนั้น
"พี่อยากให้ชามหยิบให้บ้างหนิ"ร่างสูงทำท่างอน
"ครับๆจะหยิบให้เดี๋ยวนี้ล่ะ"ผมส่ายหน้าให้กับเขาทำอะไรไม่อายลูกตัวเองบ้างเลย
เมื่อทานเสร็จเเละจ่ายเงินกันเรียบร้อยเเล้วเราก็มุ่งหน้ากลับโรงเเรมกันระหว่างทางเราก็เเวะซุปเปอร์เพื่อเเวะซื้อวัตถุดิบในการทำอาหารกันเเละที่สำคัญผมนี่เเหละต้องเป็นพ่อครัวจำเป็นส่วนคุณพ่อตัวดีก็รับปากว่าจะเป็นผู้ช่วยให้อีกเเรงส่วนน้องเสือรายนั้นขอช่วยกินอย่างเดียวเท่านั้น
เมื่อถึงที่พักที่พี่หนึ่งพาเข้ามานั้นไม่ใช่ที่พักเดิมได้ความว่าเป็นบ้านพักส่วนตัวที่ไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่ก็อย่างที่เห็นว่าเขาบ้านงานมากเเค่ไหนส่วนความสะอาดไม่ต้องพูดถึงเเม่บ้านทำความสะอาดเรียบร้อยเเล้ว
หลังจากที่สำรวจบ้านนำกระเป๋าขึ้นไปเก็บกินน้ำกินท่ากันเรียบร้อยเเล้วผมก็ลงมายังห้องครัวที่มีขนาดใหญ่พร้อมด้วยกับคุณป้าเเม่บ้านอีกหนึ่งคนที่ยิ้มต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
"สวัสดีครับป้า"ครูชามเอ่ยทักทาย
"สวัสดีค่ะครูชามใช่มั้ยคุณหนึ่งเเกบอกป้าไว้เเล้ว"
"ใช่ครับเเล้วป้า?"
"ป้าชื่อน้อยค่ะเราเริ่มทำอาหารกันเลยดีกว่าค่ะครูชามพอทำเป็นอยู่ใช่มั้ย"
ป้าน้อยพูดในขณะที่จัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆอย่างมืออาชีพเห็นทีครูชามคงต้องผันตัวเป็นผู้ช่วยเเทนซะเเล้ว
"พอได้อยู่ครับ"ครูชามครูคนเดียวเรื่องอาหารการกินก็คงต้องหัดไว้บ้างหวังจะซื้อข้าวถุงกินก็ไม่ได้ที่สำคัญอาหารที่ปรุงเองกับมือย่อมถูกปากกว่าอาหารที่ซื้อมาเป็นไหนๆ
"งั้นครูชามช่วยป้าตั้งเตาหน่อยค่ะ"วันนี้เมนูของเราคือสุกี้ที่ทำกินกันเองผักนาๆชนิดถูกเคี้ยวเพื่อทำเป็นน้ำซุปสุกี้รสเด็ดส่วนผมก็หันผักที่เหลือเพื่อเอาไว้ใส่หม้อสุกี้บนโต๊ะอาหาร
"กลิ่นหอมถึงหน้าบ้านเเล้วครับเนี่ย"
ผู้ช่วยจำเป็นเอ่ยเสียงดัง
"เเน่นอนอยู่เเล้วค่ะป้ากับครูชามทำสุดฝีมือเลยนะคะเนี่ย"ป้าน้อยพูดอย่างอารมณ์ดี
"มีอะไรให้พี่ช่วยมั้ยชาม"ร่างสูงถามหลังจากที่ยืนดูอยู่นาน
เท่าที่เห็นของต่างๆก็ใกล้จะเสร็จเเล้วของสดก็ล้างเรียบร้อยไหนจะน้ำจิ้มฝีมือป้าน้อยที่ผมชิมเเล้วอร่อยอย่าบอกใครเลยล่ะ
"ใกล้เสร็จเเล้วครับเเต่ถ้าอยากช่วยช่วยผมล้างผักนี่มา"
ผมหั่นผักเสร็จก็ให้ร่างสูงล้างน้ำสะอาดเป็นอันเรียบร้อยผมเดินไปยังซิงค์เพื่อล้างอุปกรณ์ต่างๆ
เเต่ความไม่ระวังทำให้มีดบาดนิ้วซ้ายผมอย่างจัง
ส่วนป้าน้อยเห็นอย่างนั้นก็มีท่าทีตกใจบอกให้รีบออกไปทำแผลส่วนพี่หนึ่งเมื่อเห็นผมได้เลือดก็ทำหน้าไปไม่ถูกพยุงผมออกจากห้องครัวอย่างรวดเร็วเอ่อผมเเค่โดนมีดบาดนะครับคุณพ่อไม่ได้เจ็บร้ายเเรงถึงขนาดต้องพยุงถึงขนาดนี้ผมได้เเต่คิดในใจ
ร่างสูงทำแผลให้ผมอย่างเบามือส่วนขนาดของแผลถึงเเม้จะรอยเล็กๆเเต่ก็ลึกอยู่พอตัว
"วันหลังระวังตัวให้มากกว่านี้นะชามชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย"หน้าตาจริงจังส่งมาให้ผม
"ครับบบบคุณพ่อ"ผมพูดทีเล่นทีจริง
"ไม่ได้อยากเป็นพ่อเเต่พี่อยากเป็นอย่างอื่นมากกว่า"ร่างสูงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
สายตาที่ส่งมาทำให้ผมอึกอักไม่เป็นตัวของตัวเองเเต่เมื่ออยากรู้คำตอบผมเลยเอ่ยปากถามอย่างไม่มีอะไรจะเสีย
"ละ เเล้วพี่หนึ่งอยากเป็นอะไรล่ะครับ"ผมจ้องตากลับอย่างเคอะเขินเพราะสบตาคนตรงหน้าได้ไม่นานก็จำต้องหลบตาซะทุกครั้ง
"พี่ว่าพี่เเสดงชัดเจนเเล้วนะชามยังไม่รู้อีกหรอ"ร่างสูงกุมมือผมเบาๆ
"บางทีผมก็ชอบความชัดเจนครับเพราะผมไม่อยากเข้าข้างตัวเอง"
ถึงจะห่างหายจากการมีคนรักไปเป็นเวลานานใช่ว่าครูชามจะไม่รู้ว่าการกระทำของคนตรงหน้านั้นหมายความว่าอย่างไร
ไม่ได้โง่จนดูไม่ออกเเต่ครูชามต้องการความมั่นใจเท่านั้นคำเดี๋ยวเท่านั้นที่ครูชามต้องการมัน
เมื่อเห็นว่าร่างสูงไม่พูดอะไรออกมาผมเลยดึงมือออกอย่างเสียไม่ได้
"ผมไปช่วยป้าน้อยตั้งโต๊ะก่อนดีกว่าคุณหนึ่งไปตามน้องเสือลงมาทานด้วยกันเถอะครับ"
ร่างสูงคิ้วขมวดหน้าเรียบตึงทันทีที่ครูชามเอ่ยคำว่าคุณออกมาบรรยากาศเป็นใจเเล้วเเท้ๆเเต่ทำไมสถานการณ์กลับผลิกล็อกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ขนาดนี้
ส่วนบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็เงียบเชียบอย่างเห็นได้ชัดเเม้เเต่น้องเสือยังรับรู้ได้เลย
DADDY'S PART
บรรยากาศที่มันเป็นอย่างนี้เป็นเพราะผมเอง ผมไม่ปฏิเสธหรอกเเต่คนตรงหน้าที่มีท่าทีเมินเฉยไม่พูดจากับผมนี่คืออะไรเอาจริงๆผมก็อยากบอกความรู้สึกออกไป
ผมรู้ใจตัวเองตั้งเเต่เจอร่างบางครั้งเเรกเเล้วไม่ใช่ที่เจอกันที่บ้านเจ้าตัวเเต่ผมเจอชามก่อนหน้านี้เเล้วผมเจอที่สถาบันกวดวิชาของเจ้าตัวนั้นล่ะผมจำเหตุการณ์เหล่านั้นได้ดีเรียกได้ว่าความประทับใจเเรกก็ว่าได้
"อันนี้ต่างหากล่ะฮะ"เสือคลี่แผ่นกระดาษขนาดเอสี่ที่พับไว้ออกมาส่งให้ครูตรงหน้า 'ครูชาม'
"น้องเสือครูว่าอย่างนี่ดีมั้ยเดี๋ยวครูจะเล่าเรื่องของคุณเเม่ของครูให้ฟังถ้าน้องเสือฟังก่อนน้องเสืออาจจะคิดอะไรดีๆออกก็ได้"ครูชามพูดกับเสือ
ครูชามเริ่มเล่าเรื่องของตนเเละเเม่ของครูชามให้น้องเสือฟังส่วนผมก็ได้เเต่นั่งมองครูคนนี้ด้วยสายตาที่ประทับใจไม่ใช่เเค่ส่งลูกมาเรียบเเล้วจบๆไปเเต่ครูท่านนี้ยังเป็นที่ปรึกษาที่ดีอีกด้วย
"งั้นน้องเสือไม่เคยเห็นเเม่น้องเสือก็เขียนเรียงความเรื่องนี้ไม่ได้สิฮะ"แกพูดเสียงเศร้า
ความเจ็บปวดทางสายตาของเเกนั้นผมจำได้ดีเพราะผมกับเเม่เเกเพิ่งอย่ากันเมื่อไม่นานมานี้เขามีครอบครัวใหม่ส่วนผมบ้างานทิ้งลูกให้อยู่คนเดียว
เเกคงผิดหวังในตัวของผมมาก
"ครูว่าน้องเสือลองเขียนเกี่ยวกับคุณพ่อดูสิครับเพราะท่านก็คือคนที่เลี้ยงเรามาไม่ใช่คนอื่นไกลเลยไหนจะคุณป้าน้องเสืออีกเห็นมั้ยเอ่ยเรียงความวันเเม่ไม่จำเป็นต้องเขียนถึงเเม่อย่างเดียวนี้หน่า"ครูชามอธิบายอย่างละเอียด
"ครูว่าคุณครูของน้องเสือต้องเข้าใจเเน่นอนเเละที่สำคัญนะครูว่าเรียงความนี้น่ะคุณครูของน้องเสืออยากให้เด็กๆเขียนถึงความรักที่มีต่อผู้มีพระคุณเเก่เราน้องเสือว่ามั้ย?"
ครูชามอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนรอยยิ้มของครูที่ส่งมาให้ลูกของผมนั้นมันเต็มไปด้วยความห่วงใย
นอกจากเป็นครูสอนพิเศษเเล้วผมอยากให้สถานะอื่นกับคนตรงหน้าหวังว่าครูชามจะตอบตกลงนะครับ
กลับมายังโต๊ะอาหารชามก็ไม่พูดกับผมเหมือนเดิมจนผมทนไม่ไหวงานนี้คงต้องหาตัวช่วยซักหน่อยเเล้ว
"เสือครับพ่อฝากถามครูของเสือทีว่าโกรธอะไรพ่อ"ผมพูดอย่างตรงไปตรงมา
ส่วนคนที่ถูกกล่าวถึงเมื่อถูกเอ่ยชื่อก็หันขวับมองค้อนมาที่ผมทันที
"ครูชามโกรธอะไรคุณพ่อหรอฮะ อย่าทะเลาะกันเลยนะดีกันๆ"เเกพูดอย่างไม่รู้เรื่องเเกคงคิดว่าผมกับชามทะเลาะกันอย่างรุนเเรง
"เปล่าหรอกน้องเสือครูไม่ได้โกรธ"ชามตอบน้องเสือเเต่พอสบตาผมปั้บก็หันหน้าหนีเหมือนกับไม่อยากพูดเรื่องนี้ผมไม่ยอมเเพ้เลยถามต่อ
"เสือครับพ่ออยากถามอะไรเลยหน่อยเสือชอบครูชามมั้ย?"ผมถาม
"ชอบครับครูชามใจดีเสือชอบครูชามที่สุดในโลก"ผมก็อยากถามเเกอยู่หรอกว่าระหว่างผมกับชามชอบใครมากกว่ากันเเต่ดูท่าผมก็รู้คำตอบเรียบร้อยเเล้ว
"งั้นจะว่าไงถ้าพ่อ...."
"จะขอครูชามเป็นแฟน"
ชามหันขวับมาที่ผมทันทีที่พูดจบถ้าดูไม่ผิดผมเห็นหน้าเขาเเดงด้วยนะดูน่ารักชะมัด
DADDY'S PART
เมื่อร่างสูงพูดจบเหมือนจิตใจของผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมีอย่างที่ไหนขอเป็นแฟนกันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทั้งยังขอต่อหน้าลูกตัวเองอีกตายๆผมนี่อยากเอาหน้าามุดใต้โต๊ะให้รู้เเล้วรู้รอด
อีกคนก็รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อส่วนน้องเสือเหมือนจะยังมึนๆอยู่
"คุณพูดอะไรน่ะ"ผมพูดรอดไรฟัน
"พี่ถามชามก็ต้องตอบให้ตรงคำถามของพี่ด้วย"ร่างสูงเร่งเอาคำตอบ
"แฟน?!คุณพ่อหมายถึงอยากให้ครูชามมาเป็นเเม่ของเสือหรอฮะ"น้องเสือไปตามอย่างที่คิด
"น้องเสือคิดว่าไงครับพ่อไม่ได้บังคับเสือให้รับครูชามเป็นเเม่เเต่พ่ออยากให้ครูชามมาเป็นคนรักของพ่อ"คุณพ่ออธิบายอย่างจริงจัง
"เสือชอบครูชามครูชามมาเป็นเเฟนพ่อนะครับ"
น้องเสือหันหน้ามาพูดกับผม
"เอ่อ..เสือครับแฟนกันมันต้องรักกันมีความรู้สึกที่ดีต่อกันนะครับ"ผมพูดอย่างไม่กล้าสบตาทั้งสองคน
พอเวลานี้มาถึงผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนผมกลัว กลัวว่าอนาคตจะไม่สมบูรณ์อย่างครอบครัวอื่น
"ชามกลัวอะไรอยู่"ร่างสูงถามอย่างรู้ทัน"ในอนาคตพี่ไม่รู้หรอกนะว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นถึงเเม้ว่าเวลาที่เราเจอกันมันเเค่ไม่กี่วันเเต่พี่รู้สึกกับชามจริงๆ พี่ชอบชาม"
ผมไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะพูดคำนี้ออกมาตอนนี้ผมก็ยังพูดไม่ออกอยู่ดี
"ชามลองเก็บไปคิดดู พี่ชอบชามจริงๆ"ร่างสูงพูดออกมาเป็นครั้งที่สองเขาพูดบ่อยเกินไปแล้วผมหน้าร้อนไปหมดเเล้วนะ
"เอ่อ..เเต่พี่หนึ่งยังไม่ได้จีบชามเลยเเล้วจะเป็นแฟนกันได้ยังไงครับ"ผมพูดหาทางออกเรื่องนี้คนที่ป๊อดที่สุดคงเป็นผมล่ะ
"ห้ะ?"เขาทำหน้าตกใจเเละงงงวย
"..."
"ที่ผ่านมานี่ไม่เรียกว่าจีบอีกหรอ"พี่หนึ่งงัดท่าไม่ตายมาพูด
"กะ กินข้าวกันต่อดีกว่าน้องเสือมาครับเดี๋ยวครูตักกุ้งให้"ครูชามพูดตะกุกตะกัก
"อย่าเปลี่ยนเรื่องสิชามหรือว่าชามไม่รักน้องเสือ"ร่างสูงพูด
"ครูชามไม่ชอบเสือหรอน้องเสือไม่น่ารักหรอฮะ"เด็กน้อยเบะปากเตรียมร้อง
"เปล่านะครับ"ครูชามปฏิเสธ
"งั้นครูชามก็ตกลงเป็นแฟนของคุณพ่อสิฮะเสืออยากอยู่กับครูชาม"น้องเสือพูดอย่างจริงใจ
สถานการณ์กดดันอีกเเล้วสถานการณ์คุ้นๆเหมือนครูชามเคยเจอมันมาก่อนเเต่ตอนนี้ช่างเเตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงมันหมายถึงการตัดสินใจครั้งนี้หมายถึงการใช้ชีวิตที่มีใครอีกคนมีบทบาทที่สำคัญในชีวิต
ถึงเวลาที่ผมต้องตัดสินใจเเล้วหวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้การเดิมพันช่างสูงเหลือเกิน
"ก็ได้ครูตกลงเป็นเเฟนกับพี่หนึ่งเพราะครูรักน้องเสือเลยนะเนี่ย"ในที่สุดครูชามก็ทำตามเสียงหัวใจของตัวเอง
"ได้ไงชามบอกรักเสือเเต่ไม่บอกรักพี่เลยนะ"ร่างสูงทักท้วงอยากออกนอกหน้า
"คุณก็ทำอะไรอายน้องเสือบ้างเถอะ"ครูชามยิ้มอย่างเขินอาย
"ไหนใครให้เรียกคุณบอกให้เรียกพี่ไงเดี๋ยวคืนนี้โดนทำโทษเเน่"พี่หนึ่งชี้นิ้วอย่างคาดโทษ
เป็นเเฟนกันไม่กี่นาทีลายเสือเริ่มออกเลยนะพ่อคุณผมได้เเต่ส่ายหัวให้กับความเจ้าเล่ห์ของคุณแฟนหมาดๆ
"เอ่อ..ขอโทษฮะเสือกินต่อได้เเล้วใช่มั้ย"เด้กน้อยเอ่ยถามเพื่อขออนุญาต
ผมกับพี่หนึ่งได้เเต่มองหน้ากันเเล้วหัวเราะออกมากับความไร้เดียงสานั้นในอนาคตไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ผมก็จะไม่เสียใจ
ขอบคุณนะน้องเสือ
ขอบคุณมาก
รักนะครับพี่หนึ่งของผม...
***************************
จบเเล้วค่าาา หลังจากไม่มาต่อให้จบตั้งหลายวันคนอ่านคงหายกันหมดเเล้วเเต่ไม่เป็นไรค่ะ
หวังว่าเรื่องหน้า(ยังจะกล้าเเต่งอีกเรอะ)คงได้พบกันใหม่
เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องเเรกที่เพิ่งหัดเเต่งคงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เเต่ก็จะพัฒนาต่อไปค่ะ :katai4:
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณGuoJeng คุณboonpa มากๆนะคะทำให้รู้ว่ายังมีคนอ่านอยู่
ไว้พบกันใหม่ค่ะ บ๊าย บายยยย :bye2:
รักเเละขอบคุณ