พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: made in june ที่ 29-12-2016 23:03:06

หัวข้อ: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: made in june ที่ 29-12-2016 23:03:06
ข้อตกลงเล้าเป็ด และก่อนโพสนิยาย กรุณาอ่านและปฎิบัติตามนะครับ

***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


 นิ ย า ย เ รื่ อ ง อื่ น  
[เรื่องสั้น] กระทงวิศวะ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47285.0)
[เรื่องสั้น] BITE  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57436.0)




(http://www.uppic.org/image-6131_5865340B.jpg) (http://www.uppic.org/share-6131_5865340B.html)

☆•.:*´¨   แ ฟ น ดี ดี  ¨`*:•.☆
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 29/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-12-2016 23:23:37
มาปูเสื่อรอจ้า   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 29/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: made in june ที่ 29-12-2016 23:43:11
แ ฟ น ดี ดี  1/1  ❤





“ ล...เพล ไอ้เพล ไอ้เพลลล!”


ตะโกนหาพ่อง


เอ้ย! ไม่ใช่ๆ


ผมหันไปมองคนที่ร้องเรียกแหกปากโวยวายก็เห็นรุ่นพี่ที่เคยโคตรเท่ห์ยืนมือหนึ่งเท้าเอวอีกมือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์กรังๆเต๊ะท่าทำหน้าเข้มอยู่ ข้างหลังก็เป็นพวกกลุ่มเพื่อนสนิทเขา เดินหอบลังหอบกระดาษเข้ามาในร้าน


 “มึงหายหัวไปไหนมา พวกกูนึกว่ามึงตายโหงไปแล้ว เปิดเทอมก็เสือกไม่มาเรียน” ไม่เจอกันสามเดือนทักทายกันประโยคแรกก็ไม่เป็นมงคลซะแล้วพี่รหัสผม


ผมอ้าปากกำลังจะตอบคำถาม กลายเป็นโดนพวกเพื่อนในกลุ่มแย่งกันสาวไส้ให้พี่ฟังแทบไม่ทัน

“มันไปปรากมาพี่ นึกจะไปก็ไป ไม่บอกเพื่อนสักคำ โทรไปก็ไม่ติด ปกติก็เป็นคนไม่เล่นห่าอะไรอยู่แล้ว นี่มาหายหัวเป็นเดือนๆใครก็ว่ามันตาย”


 “แล้วพี่ดูมันดิ กลับมาตัวดำหน้าลอกยังกะไปเลี้ยงควาย เพื่อนเหี้ยแท้ๆ”


“เด็กจัญไรนะมึงเนี่ย” เฮียหนึ่งเพื่อนพี่รหัสตบหัวผมอีกคน นี่หัวผมหน้าตาเหมือนลูกปิงปองมากสินะ ใครๆดูจะชอบตบชอบตีซะเหลือเกิน เอากลับไปเล่นที่บ้านเลยมั้ย
 

“เออ กูเพลีย”
“มึงไปทำอะไรวะถามจริง”


“ไปเฉยๆ”


“ห้ะ?”


“ก็รวย อยากไปก็ไปเลย”


“สัด แค่นี้?”


“อื้อ”


“ตอนกูอายุเท่ามึงกูก็ไม่ได้ขนาดนี้หรือเปล่าวะ รวยกูเข้าใจ แต่มึงหายไปเฉยๆแบบนี้ไม่ได้นะโว้ยไอ้นี่”
.
.
.
.
นั่งเล่นกันอยู่ได้สักพัก เพื่อนสองคนขอกลับไปก่อน ผมก็เลยนั่งดูพวกพี่กินข้าวกันตาปริบๆ เอาจริงก็ไม่คิดจะชวนน้องกินกันเลยอ่ะ นั่งหัวโด่อยู่นี่ทั้งคน


"เออนี่ไอ้เพล น้องรหัสได้ชิงดาวคณะด้วยนะเว้ย"


"อ่าหะ แล้วได้มั้ย"


"ไม่ได้ น้องตอบคำถามโคตรเหี้ย เพ้อเหมือนเมายาแบบมึงเลย พูดจาอะไรไม่รู้เรื่อง"


"นี่พี่พูดถึงน้อง หรือด่าผมวะ ถามจริง"


"ด่ามึงนี่แหละ ให้กูดูน้องอยู่คนเดียวใช่เรื่องมั้ย กูปีสามละนะไอ้เด็กนี่" พี่รหัสทำท่าจะเอาช้อนเขกหัวผม


"โถ หยุดบ่นเถอะพี่บ่นจนพ่อผมอายแล้วเนี่ย นี่มีงานอะไรกันอ่ะ หอบของมาทำไมตั้งมากมาย"


"งานเปิดสายรหัสนี่ไง ดีเลย กูมีงานให้มึงทำโดยเฉพาะละ"


“โน้ว ผมมีงานทำเหมือนกัน ไปละ” รีบคว้ากระเป๋าวิ่งออกจากร้านแทบไม่ทันเสียงด่าไล่หลังมา


“ไอ้เด็กเหี้ย”


เหี้ยแต่ก็รวยอะ ใครจะทำไม?
.
.
.
.
ผมนั่งรถไฟฟ้ารับส่งในมหาวิทยาลัยมาลงหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์แบบเบลอนิดหน่อย อยู่มาก็เข้าปีที่สองแล้ว ยังไม่เคยมาเหยียบแถวนี้เลย นี่ถ้าร้านปริ้นงานใต้คณะไม่ปิดก็คงไม่ต้องถ่อสังขารมาไกลขนาดนี้ ที่นี่เหมือนแดนสนธยา  ต้องเดินไปตรงไหนต่อ ป้ายบอกทางก็ไม่มี  เดินไปส่องๆข้างลิฟต์ก็ไม่มีอะไรเขียนบอก  โง่งมงุ่มง่ามอยู่นานจนถามคนที่เดินผ่านมาถึงรู้ว่าห้องคอมพ์อยู่ชั้น 5

ระหว่างที่รอลิฟต์เอามือถือขึ้นมากดเล่นเกมส์อยู่สักพักก็รู้สึกว่ามีคนมายืนเป็นเพื่อน อุ่นใจขึ้นหน่อยที่ไม่ต้องขึ้นลิฟต์คนเดียว พอดีผมเพิ่งไปดูหนังผีเรื่องหนึ่งมา คิดว่าคงหลอนกับฉากในลิฟต์ไปอีกนาน


ติ๊ง!


ยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าตอนลิฟต์เปิดเดินเข้าไปด้านใน พอหันหน้าออกมาสวนกับคนที่ก้าวเข้ามาใหม่พอดีถึงมองเห็นคนที่ยืนอยู่ด้วยมาสักพัก


เคยเป็นไหม เวลาเจอใครคนหนึ่งแล้วถูกใจแบบจังๆมันคล้ายโลกหยุดหมุน แถมเสียงรอบข้างก็ดูจะเงียบหายไปแทนที่ด้วยเสียงอัตราการเต้นของหัวใจดัง ตึกตัก ตึกตัก


ตึกตัก


แย่ละ


ผมว่า มีรุ้งกินน้ำให้หัวของผมว่ะ...


ผมยืนนิ่งเหมือนถูกแช่แข็งไปแล้ว ตามองตรงไปข้างหน้าไม่กล้าแม้แต่กระพริบตาด้วยซ้ำ


เขายืนอยู่ข้างผม


ใกล้มากซะด้วย


ไอ้ ชิบ หาย..


คนอะไรมันจะตรงใจ ตรงสเปก เหมือนหลุดออกมาจากจินตนาการขนาดนี้วะเนี่ย มันต้องมีใครแอบมาดูความคิดของผมแน่ๆ เหมือนในหนังไง ขโมยความคิด โลกเกมส์อะไรแบบนี้หรือเปล่า


“ชั้น 5 ด้วย ขอบคุณ”

ผมสะดุ้ง รีบกดปุ่มลิฟต์ตามเสียงเรียกสติแทบไม่ทัน


แอบเอามือกดหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองหวังว่าหัวใจจะไม่เด้งออกมา
เป็นการขึ้นลิฟต์ห้าชั้นที่ทรมานสังขารโดยเฉพาะไอ้อวัยวะที่ใช้สูบฉีดเลือดนี่เหลือเกิน


แอบเหล่มองหน่อยดีมั้ย...


แต่ถ้ามองเขาต้องรู้แน่เลยดิ


ไม่ถึงอึดใจ เสียงติ๊งของลิฟต์ก็ดัง คนทางด้านซ้ายก้าวออกไปแล้วแต่ผมยังยืนนิ่งอยู่ พอตั้งสติได้รีบออกมาก็ไม่เห็นหลังกว้างๆของเสื้อนักศึกษาสีขาวแล้ว


จะว่าไปก็อดรู้สึกเสียดายไม่ได้ ผมยังไม่ได้มองหน้าเขาชัดๆเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่คิดว่าถ้าเจอคนที่มีหน้าตาเหมือนที่จินตนาการตั้งขนาดนี้จะขอมองให้เยอะหน่อยแท้ๆ ไม่มีกำลังใจทำอะไรแล้ว


ผลักประตูห้องคอมพิวเตอร์เข้ามาแบบงงๆ ภายในห้องคอมพ์แต่ละเครื่องจะมีกั้นคอกไว้เป็นส่วนตัวชัดเจน
วิธีการปริ้นงานคือต้องเข้าไปในห้องคอมพ์ก่อนแล้วส่งงานมาที่เครื่องปริ้นข้างนอก กดล็อคอินรหัสนักศึกษาเพื่อสั่งปริ้นงานที่เครื่องปริ้น
ยุ่งยากมาก ต่างกับไปปริ้นร้านตรงไหนตอบหน่อย  ผมไม่เก็ทในความซับซ้อนนี้


เสียบแฟลชไดร์ฟกับจอด้วยใจระทึก หวังว่าคอมพ์ที่นี่จะไม่มีไวรัสนะ ไม่งั้นบรรลัยแน่เลย


ผมเปิดไฟล์ เสร็จแล้วจึงมาต่อคิวรอที่เครื่องปริ้นที่มีประมาณ4เครื่อง โดยสุ่มๆเอาเครื่องที่แถวยาวน้อยที่สุด ยืนรอจนขาแข็งในที่สุดก็ถึงคิวตัวเอง พอเข้าไปที่เครื่อง ผมคืองงมาก งงในงง
ไม่น่าเชื่อว่าในวันหนึ่งคนเราจะสามารถรู้สึกว่าตัวเองโง่ได้หลายครั้งขนาดนี้


ก้มมองจอทัชสกรีนของเครื่องปริ้นสุดไฮเทคตรงหน้า มันต้องกดตรงไหน ทำไมมันขึ้นอะไรมาให้เลือกตั้งมากมายออกแบบมาใช้เองคนเดียวหรือเปล่าวะ


สิ่งที่ทำคือ เยส โอเคไปก่อน


Enter username


 ใส่ชื่อผู้ใช้ตรงนี้  แล้วพิมพ์ยังไง


คือที่มหาวิทยาลัยของผมจะบังคับให้ใช้ยูเซอร์เนมอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับระบบของมหาวิทยาลัยเป็น นามสกุลแล้ว_ต่อท้ายด้วยอักษรตัวแรกของชื่อ ภาษาอังกฤษทั้งหมด ทีนี้ความพั้งค์อยู่ตรงที่นามสกุลผมยาวนี่แหละ ลำพังหาตัวอักษรตัวแรกยังไม่เจอเลย


เดี๋ยวๆขอตั้งสติก่อน


Leac

อ้าวผิด ลบๆ


Learchcha
ตัวเอ็นอยู่ตรงไหนวะ
โอ้ย รู้สึกเหมือนความโง่สามารถฆ่าคนได้ เกิดมาเพิ่งเคยมีความคิดว่านามสกุลทำให้เกิดทุกข์


Learchchanakeitthikul_
พี ... พี


Learchchanakeitthikul_P
... จะใส่รหัส เปลี่ยนหน้าจอเป็นตัวเลขยังไง  จิ้มไปทั่วแล้ว เอาจริงๆนะถ้ายังมีงงกว่านี้อีกจะไม่ทำแล้ว จ้างคนอื่นทำแม่ง


“มึง”


แรงสะกิดที่ไหล่ทำให้ผมรีบหันหน้าไปมองก่อนจะพบว่า ผู้ชายตัวสูงดีจริงๆคนที่ผมเจออยู่ในลิฟต์กำลังยืนอยู่ด้านหลัง หน้าตาเหมือนฝรั่งมีกระเป็นจุดๆที่จมูกโคตรน่ารัก


โอ้ โห...


“ให้ช่วยมั้ย?”


ผมเบิกกว้างที่สุดเท่าที่ตาตี่ๆของตัวเองจะทำได้แล้วกระพริบมองเขาปริบๆ รู้สึกโง่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันก็ช่างมันเถอะ แค่เสียงทุ้มของเขาก็ทำให้ผมนึกคำพูดที่ต้องพูดไม่ออก


“พูดไทยได้หรือเปล่า”


คิ้วขมวดนิดๆนั่นมองหน้าผม โถ่ ถามตัวเองเถอะ หน้าฝรั่งขนาดนี้พูดภาษาไทยได้ยังไง ผมนี่หน้าเจ๊กมาก พูดไทยไม่ได้ก็แปลกแล้วโว้ย


“ชะ ช่วย” หาเสียงตัวเองแทบไม่เจอ “มันพิมพ์รหัสยังไงไม่รู้”


“ไหนขยับหน่อย” เขาว่าแบบนั้นผมรีบเลื่อนตัวออกจากหน้าเครื่องปริ้นให้ทันทีเลย กับหัวใจที่เต้นแรงมากนี้
แอบเหล่มองทางด้านซ้ายมือ เขาเป็นคนตัวสูงดีจริงๆนะ ผมต้องเหลือกตาขึ้นข้างบนจนตาเหล่ถึงจะมองเห็นกกหูขาวกับไรผมด้านข้างของเขา สันกรามคมๆที่ให้ความรู้สึกจะบาดมือหรือเปล่าถ้าไปจับเข้า
เป็นแบบที่คิดไว้อะไรขนาดนี้


ใจเต้นแรงเกินไปจนจะตายแล้วโว้ย


“มึงจะปริ้นอะไร” ผมถึงกับสะดุ้งเพราะอยู่ดีๆเขาหันมาถามแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ถึงจะงงนิดหน่อยที่โดนคนไม่รู้จักเรียกว่ามึงแต่ก็รีบตอบไป


“ก...โปสเตอร์น่ะ”


“A?”


“A2”


“งั้นไปเครื่องนู้น เครื่องนี้ปริ้นได้แต่เอสี่”


ขายาวก้าวนำผมไปที่เครื่องปริ้นอีกเครื่องที่ตั้งโดดเดี่ยวผู้คนออกมาอีกฝั่ง ในใจนึกสะท้อนว่าผมเสียเวลาไปต่อแถวตรงนั้นเพื่ออะไรเหรอ

มือเรียวๆกดนู่นนี่ที่หน้าจอรัวเร็ว “ไฟล์งานชื่อว่าอะไรนะ”


“12/3”


“ขอยูเซอร์เนมอีกที” เขาเลิกคิ้วถาม
“บอกมาเลยเดี๋ยวพิมพ์ให้”


“แอล-อี-เอ-อาร์-ซี-เอช” ผมพยายามสะกดทีละตัวชัดๆให้เขาฟัง


“แอล อี เอ อาร์ ซี เอช”


“ซี-เอช-เอ-เอ็น-เอ”


“ซี เอช เอ เอ็น เอ”


“เค-อี-ไอ-ที-ที-เอช..”


“เค-อี-ไอ-ที-ที นี่นามสกุลหรือชื่อเต็มกรุงเทพ”


คนพูดหน้านิ่ง มองผม บอกทีว่าหน้าที่เงยมองนี่กวนตีนอยู่หรือเปล่า แต่ผมไม่โกรธหรอก ตาผมพร่ายังไม่หายเลยด้วยซ้ำ

พอเห็นว่าผมไม่ตอบ เขาเลยหันกลับไปหาหน้าจอทัชสกรีนของเครื่องพิมพ์ตามเดิม


“ทีแล้วอะไรอีก”


“เอช-ไอ-เค-ยู-แอล”


“เอช ไอ เค ยู แอล”


“อันเดอร์สกอร์ พี”


“อ่าหะ รหัสผ่าน?”


“เอ-บี-ซี-ศูนย์-หนึ่ง-สอง-สาม”


“รหัสนักศึกษา?”


“ศูนย์-สอง-ห้า-เก้า-ศูนย์-หนึ่ง-แปด-หนึ่ง”


“เบอร์โทร?”


“ศูนย์-เก้า-เจ็ด-หื้อ ต้องใช้ด้วยเหรอ”


ผมเงยหน้าจากมือขึ้นมองหน้าคนยืนข้าง
เขาทำหน้านิ่งไม่เปลี่ยนแปลง แต่มุมปากที่กระตุกเป็นรอยยิ้มนั้นให้ความรู้สึกเกินบรรยาย


“ใช้สิ”
“เอาไว้โทรคุยกัน”



ตายโหง เอ้ย! ตายล่ะ บอกทีว่าผมหูฝาด นี่ผมกำลังถูกขอเบอร์โทรเหรอ


“นาย ว่าอะไรนะ?” เอาอีกที ขอถามเพื่อความแน่ใจอีกที?!


“กูชอบมึง ขอเบอร์โทรศัพท์หน่อย” คนด้านข้างยังคนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆแบบเดิม หน้าตาไม่แสดงอารมณ์แบบเดิม แตกต่างจากผมที่เบิ่งตาแทบถลนออกจากเบ้า


พระเจ้า ... มันคือเรื่องจริงเหรอครับ


“ไม่ให้เหร-”


“ให้!”
ผมแทบจะตะโกนออกมา มือไม้ปัดป่ายไม่รู้จะเอาวางไว้ตรงไหน “เอ่อ เอาปากกาเขียนมั้ย หรือ หรือว่านายเอามือถือเราไปพิมพ์เองเลย เม็มไว้เลยนะจะได้ไม่หาย เราชื่อเพล”


“สวัสดีเพล กูชื่อยินดี”


เออ ดี ดีมากๆเลย แทบจะเป็นเรื่องดีเรื่องแรกที่เกิดขึ้นในชีวิตด้วยซ้ำ


พระเจ้าครับ ช่วยตอบผมที นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตไร้แก่นสาร รวยไปวันวันของผมกันล่ะเนี่ย!




Tbc.

เจอกันอีกแล้วว เรื่องมีสองตอนจบค่ะ ชอบหรือไม่ชอบยังไงคอมเมนท์บอกกันได้นะคะ คิดถึงมากๆเลย ❣  
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 29/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 30-12-2016 00:23:21
อ้อยแรงง 55555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 29/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-12-2016 14:12:43
โอ๊ยยยยยยยย   :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
หมั่นไส้  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: made in june ที่ 30-12-2016 18:34:27
แ ฟ น ดี ดี  1/2  (จบ)  ❤





เบื้องหน้าของผมนั้น เป็นผู้ชายหุ่นเท่ห์เร้าใจ ถึงแม้จะสวมเสื้อยืดราคาไม่ถึง 200 จากคลองสานก็ไม่สามารถปิดบังความหล่อแบบออริจินอลของเขาได้ ผมเส้นเล็กตัดสั้นสะท้อนแสงแดดเป็นประกายสีทอง ผิวก่ำแดด สันกรามคม ขนตายาวหนาเป็นแพช้อนขึ้นมองแทบสยบลมหายใจคน ทั้งหมดทั้งมวลเหมือนรูปปั้นทูตสวรรค์ที่มีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น

ทูตสวรรค์กำลังดื่มชามะนาวที่น้ำแข็งละลายด้วยท่าทางบาดตาบาดใจ


พระเจ้าครับ ถ้าผมกำลังฝันอยู่ ก็ช่วยถีบผมแรงๆสักครั้งให้ได้สติทีเถอะ


ผมน่ะไม่คิดเลยนะว่-


พลั่ก!


“เหี้ย!” ผมสบถ เงยหน้าที่คว่ำลงบนโต๊ะอย่างกระทันหันขึ้นมองเจ้าของมือที่ตบลงมากลางหัวด้วยแรงกี่นิวตันก็ช่างมันเถอะ แม่งเจ็บ!


“ตบกูทำไมเนี่ย”


“น้ำลายจะหยดใส่สมุดแล้ว” ทูตสวรรค์สามสิบสี่วินาทีของผมได้กลายร่างเป็นเรดเดวิลไปซะแล้ว ที่อยู่ตรงหน้าเลยมีแค่ผู้ชายปากหมาบ้าอำนาจที่คบหาเป็นแฟนมาได้ปีกว่าเท่านั้น


จะด้วยความตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ด้วยวาจาก็ดี หรือด้วยใจก็ดี อะไรที่เข้าครอบงำสติสัมปชัญญะของผมในวันนั้นกันนะ ถึงได้ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ผมหวังอยากให้ชีวิตกลับไปเรื่อยเปื่อยอย่างเก่าจัง


“เจ็บอ่ะ”  จริงๆก็ไม่ได้เจ็บมากมายเท่าไหร่  แต่การมีความรักมักจะทำให้คนอ่อนแอ ผมอ่านเจอจากในทวิตเตอร์ “ตบกูบ่อยขนาดนี้ ถ้าสมองกูกระทบกระเทือนจะทำยังไง สมองไหลอ่ะรู้จักป่ะ”


“ให้มันไหลออกมาก็ดี กูจะได้กรอกไอ้ที่ฉลาดๆกลับเข้าไปให้มึงแทน”


ปาก... ปาก ปากคอเราะร้ายเกินไปแล้ว! เห็นว่าตัวเองเรียนเภสัชหน่อยทำเป็นฉลาดมากเลยเหรอไง โถ่ ไอ้เลิศวิชาการ ไอ้บ้านมีฐานะ ไอ้หน้าตานายแบบกางเกงยีนส์อะเบอร์คอมบี้


“ไม่ติวแล้วได้มั้ย ปวดตาด้วย หิวข้าว”


ผมทำเสียงหงอยหลังจากได้แต่ทำหน้าพะงาบๆต่อปากต่อคำไม่ออกตอนที่โดนด่า  ยินหรี่ตามอง มันดูเหมือนกำลังชั่งใจว่า จะยอมตามใจผมดีหรือเปล่าหนอ มองหน้าผมสลับกับชีทบนโต๊ะ


สิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมาบนโลกนอกจากแมลงสาบก็วิชาแคลคูลัสนี่แหละมั้ง ฟัคยู


“ทำข้อนั้นให้เสร็จก่อน เหลือแค่ข้อเดียวเอง”


อยากจะตะโกนใส่หน้าว่า แค่ข้อเดียว พ่อง แต่ก็ทำได้แค่ “จ้า”


มีแฟนอะไรก็ดีไปหมด กินข้าวก็ไม่ต้องจ่ายเอง รถก็ไม่ต้องขับเอง ขนาดอาบน้ำยังไม่ต้องอาบเอง เอ้ย ไม่ใช่ โตแล้วก็ต้องอาบน้ำเองสิ
เสียอย่างเดียว แฟนผมโหดไปหน่อย

วันนี้นัดกันมาติวหนังสือ ในความหมายของผมคือต่างคนต่างติวเงียบๆอยู่ในมุมของตัวเอง แต่ในมุมของตัวเองนั้นมนุษย์เพอร์เฟคแมนคงจะเข้าใจว่าคือการเคี่ยวเข็ญผมทำโจทย์แคลนี่แหละ


“เทคสมการผิดแล้วน่ะ”


“หือ?”


“ดูดีๆ”


อ่า


ดูตรงไหนวะแม่ง ฮือออออ เสียงเริ่มต่ำแบบข่มอารมณ์อีกแล้ว


“ตรงไหน...”


“ยกกำลังสองลบเอ็กซ์”


หน้าผมมันคงแสดงออกไปว่า ไหนวะ ชัดเจนเกินไปมั้ง คนนั่งตรงข้ามถึงจ้องตาเขม็งขนาดนั้น พี่ไม่ไหวแล้วอย่าโหดกับพี่


“มึงทำโจทย์แบบนี้มาหลายข้อแล้วนะเพล ไม่เข้าสมองบ้างเลยเหรอ”


“อ่า มันเยอะเกินจำอะไรไม่ได้แล้ว มึงก็รู้ว่ากูโง่” ผมรีบยกมือไหว้ก่อนที่จะโดนด่า


“รู้ว่าโง่ก็ตั้งใจหน่อย คะแนนเก็บยิ่งน้อยๆอยู่ สอบครั้งล่าสุดมึงเลยมีนมานิดเดียวเองนะ”


“มีนสูงจะตาย” ไอ้พวกที่ทำได้มันเป็นบ้า


“รู้ว่าสูงก็พยายามกว่านี้สิ”


“ไม่เอฟหรอกน่า ถึงเอฟ ปีหน้าก็ลงใหม่ได้ ไม่เห็นสนใจเลย”


“พนัท” เสียงเรียกชื่อจริงหนักๆทำให้ผมหดคอ


“ก็มันยาก หัวกูขี้เลื่อยขนาดนี้จำได้เท่านี้ก็บุญแล้ว...”


“ทำไมต้องเคี่ยวกูด้วย”


วันนี้ผมทำโจทย์เยอะกว่าที่เรียนมาทั้งเทอมรวมกันอีกมั้ง  ยินมันถอนหายใจเฮือกใส่หน้าผมแล้วพยักหน้าเบา


“อือ พอแค่นี้ก็ได้ เก็บของเถอะ” สั่งไปอย่างนั้นแหละ พอเอาเข้าจริงคนที่แบกทั้งสมุดชีท แล็ปท็อปของผมให้ก็เป็นยินอยู่ดี ผมมีหน้าที่แค่เดินตัวลีบตามตูดอีกคนต้อยๆ
เปิดประตูรถเข้ามานั่งเรียบร้อย ยินดีเอี้ยวตัวมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้
.
.
.
.
ตั้งแต่มาถึงร้านอาหารจนกระทั่งสั่งอาหารมา อีกคนก็นั่งกินเงียบๆไม่หือไม่อือใดใดเลย ผมพยายามตักนู่นตักนี่ให้ก็ยังนิ่ง ขนาดแก้วเบียร์ยังน่ามองกว่าหน้าผมเลยคิดดู จ้องอยู่นั่นแหละ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ทั้งคนเป็นอากาศไปแล้ว
ปูนึ่งรสชาติเป็นยังไงลิ้นก็สัมผัสไม่รู้รส ผมนั่งไหล่ตกมองจานข้าวเหมือนหมาหงอย เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นง้อยินยังไงดี เอาจริงๆยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าโดนโกรธเรื่องอะไร

หรือเพราะเรื่องผมคิดเลขไม่ได้ แค่นั้นอ่ะนะ?


หรือจะสะสมมาจากวันที่ผมไปซื้อน้ำ แล้วคิดเลข 17+29 ไม่ออก


หรือวันที่ผมขับรถไปชนต้นไม้ข้างทางเพราะมัวแต่มองตุ๊กตาอันใหม่ที่ซื้อมาห้อยกระจกมองหลัง


หรือวันที่ผมไปเล่นบาสแล้วโดนเด็กมัธยมชนล้มข้อมือหัก


หรือว่า... โว้ย! เยอะเกินไปแล้ว


ก็คิดนะว่าตัวเองโง่ แต่ก็ไม่น่าจะโง่ขนาดนี้หรือเปล่าวะ



“ยิน...”


“?”


“สัตว์อะไรไม่มั่นใจในตัวเอง”


คนถูกถามขมวดคิ้ว คงไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆผมถึงถามขึ้น ขนาดผมเองยังไม่รู้เลยว่า ประโยคที่จะอ้าปากขอโทษมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง


“ยอม”


“ไม่ ต้องทายก่อน”


“ม้า”


“ไม่ใช่”


“เป็ด”


“ไม่ ยอมยัง”


“ยอม”


“หอยไง หอยเปล่าฮื้อ? ฮ่าๆๆๆ” ผมเฉลยแล้วก็ปล่อยก๊ากมุกตัวเองจนตัวงอ แต่ก็ต้องค่อยๆเฟดเสียงตัวเองเพราะยินทำไงนะ
เหรอ ก็มองผมเหมือนมองอะไรสักอย่างที่ไร้อนาคตสิ้นหวังอ่ะ


นิ่งสนิท....


นี่ใช่ไหมที่มาของประโยค มุขไม่ฮาพาเพื่อนเครียด


“ไม่ขำเหรอ”


“...”


อา อยากกดส่งสัญญาณขอตัวช่วย ปกติผมเล่นมุขตลก ต่อให้ขำหรือไม่ขำยินก็มีรีแอคชั่นด้วยกับผมตลอด อย่างน้อยก็หัวเราะหึหึในลำคออะนะ ไม่ใช่มองดูด้วยสายตาว่างเปล่าขนาดนี้


พี่ผิดมากเหรอที่ไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร  ; ;


เข้าสู่โหมดหงอยตามเดิมก็ได้ ผมนั่งเล็มอาหารตรงหน้าไป แอบเหลือบตาขึ้นเหล่มองคนที่นั่งจิบเบียร์เป็นพักๆ
คนจะหล่อ ยังไงก็หล่อวันยังค่ำ ถึงแม้โกรธกันก็ยังดูหล่ออยู่ดี ความจริงข้อนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลย


“โอ๊ะ!”
ผมสะดุ้งดึงมือออกแทบไม่ทัน


“มึงนี่มันโง่จนละสายตาไม่ได้เลยนะ”


ยินสบถ เอามือผมกดกับเสื้อเชิ้ตสะอาดของตัวเองจนเลือดซึมที่เสื้อเป็นวง


แอบเหล่มองคนตรงข้ามหน้านิ่งขมวดคิ้วไม่หาย “ไม่เห็นเจ็บเลยโดนหัวกุ้งแทงนิดเดียว เลือดไหลไปงั้น” ผมพูดหวังจะคลายบรรยากาศ กลายเป็นคนนั่งตรงข้ามหน้าตึงกว่าเดิม อึมครึมยิ่งกว่าอะไร


“...”


หลังจากนั้นก็ไม่มีประโยคสนทนาระหว่างเราทั้งคู่อีก  ถึงตอนออกมาจากร้านก็ยังไม่มองหน้ากัน ผมก็ก้มหน้าก้มตามองโทรศัพท์มือถืออย่างเดียว

พอมาถึงห้อง ยินดีหายเข้าไปในครัวสักพักเข้าห้องน้ำ ผมเดินมานั่งจ๋องอยู่หน้าโทรทัศน์ รายการอะไรที่ฉายอยู่ก็ดูไม่เข้าหัว นั่งมองมือตัวเองอยู่นาน

จะว่าไปแล้ว ที่ยินชอบบ่นว่าผมเวลาที่ผมทำผิด มันจะไม่สนใจ เพิกเฉยไปก็ได้ แต่พอเป็นเรื่องของผมแล้วกลับใส่ใจทุกอย่าง นี่หวังดีถึงขนาดติวให้ทั้งที่วันจันทร์หน้าตัวเองก็มีสอบ แถมยังไม่ได้เรียนวิชาเดียวกับที่ผมเรียนด้วยซ้ำ แต่ผมกลับไปพูดแบบไม่ใส่ใจไปแบบนั้น ลองนึกว่าเป็นตัวเองโดนเข้าจะทำยังไง จะอดโกรธได้เหรอ


บางครั้งผมยังคิดเลยว่า เผลอๆความอดทนของผมอาจจะมีไม่เท่านี้ด้วยซ้ำ


ตอนเดินออกมาหาน้ำกินที่ครัว เปิดตู้เย็นมาเจอกล่องกรรเชียงปูร้านที่ไปกินมาเมื่อตะกี้แช่อยู่ก็ยิ่งรู้สึกสะเทือนใจ ยินซื้อมาตอนไหนก็ไม่รู้


แม่ง...

ผมโคตรแย่


อาบน้ำจัดการตัวเองเสร็จจึงเดินเข้าไปในห้อง ยินดีนั่งอ่านสไลด์หันหลังอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ มองแผ่นหลังกว้างเหยียดตรงของแฟนด้วยความรู้สึกผิดที่หน่วงในอก
เดินสาวเท้าเข้าไปหาคนตั้งใจอ่านหนังสือหน้าดำคร่ำเครียด


“?”


“ขอโทษ” ผมพูดเสียงอู้อี้อยู่กับมือที่แนบกระพุ่มไหว้ไปกับหลังอีกฝ่าย ยินหันตัวมาหาแต่ไม่ได้พูดอะไรจึงพูดต่อ


“ขอโทษเรื่องที่หอสมุด ที่พูดไม่ดีใส่ ขอโทษที่ปากเสีย”

“ไม่ตั้งใจพูดให้มึงเสียน้ำใจจริงๆ”

“ขอโทษนะ”


ผมพูดจบแล้วแต่ยินดีนิ่งไม่ตอบคำ  เสียงถอนหายใจทำให้ผมใจหายวาบไปแล้วเกือบครึ่ง


“กูไม่ตั้งใจจริงๆ ตอนที่พูดไปกูไม่ทันคิด  ถ้าเกิดว่า”


“ไม่ได้โกรธมึงเรื่องนั้นหรอก” ยินถอนหายใจอีกรอบ มองหน้าผมจริงจัง “ที่กูโกรธคือ เรื่องสอบมันเป็นเรื่องของตัวมึงเองแท้ๆ ทำไมมึงถึงไม่ใส่ใจเลยต่างหาก”


“แล้วอีกเรื่อง ดูมึงพูดแต่ละอย่าง มันน่าโกรธไหม ลองนึกว่าถ้าพ่อแม่มึงมาได้ยิน จะเสียใจแค่ไหน ที่ส่งมึงเรียนแล้วลูกตัวเองไม่ตั้งใจเลยสักนิด แต่ละอย่างทำก็เป็นเล่นไปหมด  นี่ขนาดกูไม่ได้เป็นพ่อแม่มึงด้วยซ้ำ กูได้ยินแบบนั้นยังโกรธ มึงต้องหัดนึกถึงความรู้สึกคนอื่นบ้าง โตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ ทำอะไรก็คิดบ้าง อย่าเอาแต่สนุก”


“กูขอโทษนะยิน ขอโทษนะ”


“เลิกกราบได้แล้ว” คนพูดดันหน้าผมออกจากบ่าเสียงยังแข็ง “กูไม่โกรธแล้ว ถ้ารู้สึกผิดก็ไปอ่านหนังสือนู่น โจทย์ในสมุดก็ทำให้มันเข้าใจ”


ผมเดินคอตกมาที่กระเป๋าตามคำสั่ง เปิดเอาโจทย์แบบฝึกหัดกับกระดาษออกมาทำบนเตียง ไม่อยากจะยอมรับเลยว่ายินมีอิทธิพลกับความรู้สึกผมขนาดนี้ แค่โดนว่า ผมก็หงอยหูตกหางตูบ
ก็แน่ล่ะ ตั้งแต่คบกันมายินดีด่าผมแบบนี้จริงจังก็ครั้งแรกเลย เทียบไม่ได้กับที่ชอบบ่นว่าบ่อยๆสักนิด


พี่สะเทือนใจจังเลย
.
.
.
.
เพราะว่าวันจันทร์นี้ยินมีสอบ ดังนั้นผมเลยต้องระเห็จตัวเองกลับมาอยู่บ้านชั่วคราวด้วยไม่อยากกวนสมาธิของอีกคน เพราะตั้งแต่คบกัน ก็แทบไปอยู่กินที่ห้องยินไปแล้ว พอกลับมาอยู่บ้านตัวเองแล้วรู้สึกไม่คุ้นเอาซะเลย กลิ่นก็แปลก อะไรก็แปลก


ขับรถมาเรียนเองก็ยังรู้สึกแปลก


ยิ่งตอนที่เสียบกุญแจสตาร์ทรถแล้วเงียบกริบ  นี่ยิ่งรู้สึกแปลกไปกันใหญ่เลย ... แต่ว่า มันไม่น่าใช่ละ


ผมนั่งทบทวนว่าครั้งล่าสุดที่เอารถคันนี้ออกมาขับนั้นเป็นเมื่อไหร่ แล้วครั้งล่าสุดที่เอาเข้าศูนย์เช็คสภาพล่ะมันเมื่อไหร่กัน ก็ให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เพราะเล่นเอานานจนลืม


ตายโหง


ทั้งที่แดดร้อนเปรี้ยงมาทั้งวันแต่พอฟ้ามือก็ลมแรงฟ้าร้องเหมือนฝนจะตก เลิกเรียนทุ่มกว่า คนก็กรูกันออกมา กว่าผมจะเดินอ้อยอิ่งตามคนอื่นมาลานจอดรถก็เคว้งคว้างไร้ผู้คนแล้ว


จะว่าไปเสียงลมพัดใบไม้สีกันโคตรน่ากลัวเลยเนี่ย


ผมเปิดกระโปรงรถก้มๆเงยๆดูเครื่องยนต์อยู่นานกว่าจะนึกขึ้นได้ว่าดูไปก็เท่านั้นเพราะผมไม่รู้เรื่องเครื่องยนต์เลยสักนิด จะเสียตรงไหนก็ดูไม่รู้อยู่ดี

ควานหาเบอร์โทรอู่ซ่อมไม่รู้ว่าเอาไปเก็บไว้ตรงไหน


“น้อง! รถเสียเหรอ”


เฮือก!


ตกใจหมดแม่ง!


ผมเงยหน้าขึ้นจากมือถือเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนมองอยู่ ชุดเหมือนยามที่อีกคนใส่ทำให้ผมรู้สึกโล่งอก พี่แกคงเป็นยามแถวนี้มั้ง


“เห็นรถน้องจอดอยู่คันเดียวเลยเข้ามาดู ฝนก็จะตกแล้ว เป็นไรมั้ย” พลเมืองดีเอ่ยถามต่อ


“รถดับสตาร์ทไม่ติดครับ”


“อ้าวทำไงอ่ะ น้ำมันหมดหรอ”


ผมส่ายหน้า มองไปเห็นรถเขาจอดเปิดไฟเลี้ยวอยู่ข้างทางออก


“น้ำมันมีแต่สตาร์ทไม่ติดเฉยๆเลยอ่ะพี่ สงสัยเพราะไม่ได้ขับนาน”


เขามองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไร ดูลุกลี้ลุกลนพิกล แล้วหันมาถามผม “มีสายพ่วงแบตมั้ยน้อง เดี๋ยวลองจั๊มสตาร์ทดูให้” ว่าแล้วก็กวักมือเรียกเพื่อนที่อยู่ในรถตัวเองมาช่วยดูอีกคน จะว่าไปแต่ละคนนั้นแต่งตัวมิดชิดใส่หมวกแก็ปเหมือนกันทั้งสองคนเลย

ผมปล่อยให้พวกเขาดูเครื่อง จะเดินไปหาสายพ่วงที่กระโปรงหลังมาให้ ยินโทรมาพอดีเลยกดรับเอาบ่าหนีบโทรศัพท์มือถือไว้กับหู มือก็เปิดท้ายรถหาสายพ่วงแบตเตอรี่


“ฮัลโหล”


(อยู่ไหน เลิกเรียนหรือยัง)


“เลิกแล้ว แต่ว่ายังอยู่ที่คณะอยู่เลย รถเสีย”


(ทำไมไม่โทรหากู นี่สองทุ่มแล้วเสียตั้งแต่ตอนไหน)


“ตอนเลิกเรียนออกมาก็สตาร์ทไม่ติดแล้วอ่ะ”


(อยู่ตรงไหน รออยู่นั่นแหละเดี๋ยวกูไปหา โทรตามช่างหรือยัง)


“ตอนนี้อยู่ที่ลานจอดรถหลังตึกเรียนเก่า  มึงเดี๋ยวโทรกลับนะ เอาสายพ่วงแบตก่อน” ผมกดตัดสายเพราะถือโทรศัพท์ไม่ถนัด
“... ผมมีแต่สายสั้นอ่ะพี่ ไม่รู้จะใช้ดะ เฮ้ย! พี่เอาคอมผมออกมาทำไมอ่ะ”

พอเดินออกมาด้านหน้าเห็นผู้ชายหนึ่งในสองกำลังถือคอม 15 นิ้ว สีเทาสเปซเกรย์ของผมอยู่ อีกคนกำลังเปิดประตูรถผมค้นของ หันมาเห็นผมยืนหน้าโง่อยู่ ก็ควักมีดขึ้นมาโชว์

...ชิบหาย สภาพแบบนี้ไม่ใช่พลเมืองดีแล้วล่ะ โจรชัดๆ นี่ผมกำลังถูกโจรปล้น!


แล้วจะปล้นทำไมไม่ปล้นตั้งแต่แรกจะมาหลอกให้ผมหาสายไฟทำไมให้เหนื่อยอะ งงมากเลย งงในงง


“พี่ เอ่อ...พูดกันดีๆ เก็บมีดเถอะ”


“เงียบ! อย่าพูดมาก ไม่งั้นกูแทงไส้แตก” มันเอามีดชี้หน้า บอกได้คำเดียวว่าโคตรเหี้ย ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งมีประสบการณ์เสี่ยงชีวิตครั้งนี้ครั้งแรกนี่แหละ ผมก็ยืนค้างเป็นหุ่นเลยสิ มีดใหญ่ประมาณมีดอีโต้ได้ ไอ้ตายโหง


“ในรถแม่งไม่มีอะไรเลยว่ะ” ไอ้โจรผอมตะโกนบอก พยายามงัดแงะช่องเก็บของคอนโซลรถ พอได้ยินแบบนั้นไอ้ตัวอ้วนเลยหันมาเค้น


“เอากระเป๋าเงินมา ของมีค่าอะไรเอามาให้หมด” สาบานเลยว่าเป็นประโยคแบบที่ได้ยินบ่อยในทีวี “ขับบีเอ็มหลังคาแก้วอย่างหรูเลยนะมึง ให้กูได้อะไรที่สมน้ำสมเนื้อหน่อยเถอะนะ”


ผมโยนกระเป๋าเงินไปให้ “นาฬิกาด้วย” มันชี้มาที่นาฬิกาเรือนเงินในข้อมือ

กระเป๋าตังค์มีเงินอยู่สามร้อยได้มั้ง แต่บัตรแบล็คการ์ดที่พ่อเพิ่งให้สามเดือนก่อนนี่สิ แล้วนาฬิกา Breguet นั่นเรือนละ1.6ล้าน โอยตายแล้ว ต้องโดนพ่อด่าไฟลุกแน่ๆ

พอเห็นผมทำท่าทางอิดออดมันก็ทำท่าหลังมือใส่  “เร็วๆสิวะ ลีลาจังเด็กห่านี่ เดี๋ยวกูตบตาหลุด สร้อยข้อมือ  โทรศัพท์มือถือด้วย นั่นด้วย นั่นอีก...”


“เป็นเด็กเป็นเล็กทีหลังอย่าใช้ของแพงอีกล่ะ จำไว้เป็นบทเรียน” มันชี้หน้าสั่งสอนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพากันวิ่งขึ้นรถขับออกไป ทิ้งเสียงหัวเราะเยาะไว้ให้ผมฟังต่างหน้า

บัดซบแท้ ขนาดรองเท้ายังเอาของผม ไอ้ชิบหาย

ผมยืนเงอะงะทำอะไรไม่ถูก ร้อนเท้าแทบกระโดด  พื้นแม่งยังไม่หายร้อนจากอากาศตอนกลางวันเลยด้วยซ้ำ
อยากโทษว่าเป็นเพราะอะไรสักอย่างที่ทำให้ต้องมาเจอชีวิตแบบนี้แต่ก็ไม่รู้ว่าจะโทษอะไร ผมมันโง่นิ ผมนึกไม่ออกหรอก


“เพล!”


พอหันไปเห็นยินวิ่งมาน้ำตาผมที่กลั้นไว้ก็แตกทันที ฮือออ รองเท้าผมอ่า


“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม!”


ยิ่งเขย่าบ่าผมยิ่งแหกปากเสียงดัง ยินดีตกใจทำอะไรไม่ถูก จะด่าจะกอดผมยกใหญ่ ยิ่งปลอบผมก็ยิ่งร้อง


“เป็นอะไร เงียบ อย่าร้อง เจ็บตรงไหน เป็นอะไร”


“ร้อนเท้า ฮือ”
.
.
.
.
ยินดีตัวโตกว่าผมมาก และมีแผ่นหลังกว้างขวางที่ดูเหมือนจะสามารถแบกทุกอย่างไว้ได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นมันจึงแบกผมขึ้นขี่หลังอย่างไม่สะทกสะท้าน หรือ จริงๆ อาจจะหนักมากแต่ไม่อยากแสดงออกให้ผมใจเสียมากกว่าเดิม


ต้องขอบคุณที่ยินจอดรถไว้ที่ไกลๆโรงพัก ผมเลยได้มีโอกาสขี่หลังอุ่นหนา เอาหน้าซบแผ่นหลังอุดมกล้ามเนื้อแข็งทำตัวสำออยเหมือนสาวน้อยถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจรุนแรงก็ไม่ปาน


“สร้อยโครมฮาร์ทที่มึงให้ก็โดนเอาไปด้วย” ผมส่งเสียงอู้อี้ อยากสูดหายใจเฮือกใหญ่ๆเอากลิ่นอุ่นเหมือนไอแดดของยินดีเข้าปอดถ้าไม่ติดว่าจะทำให้ดูเหมือนคนโรคจิต


“เดี๋ยวซื้อให้ใหม่” ยินพูดเสียงนิ่ง กระชับข้อพับขาผมอีกทีเพราะเลื่อนจะตก “ซื้อให้ใหม่ทุกอย่างเลย ไม่ต้องร้อง”

อันที่จริงนะ ผมหยุดร้องมานานแล้วแหละ ยินมันไม่ทันไม้สำออยของผมหรอก ถึงแบบนั้นก็อดบ่นออกไปไม่ได้


“นาฬิกาอันนั้นแพงด้วย เพิ่งใส่สามสี่ครั้งเอง”


“เคยบอกแล้วว่าอย่าประโคมใส่อะไรเยอะแยะมันอันตราย มึงก็ไม่ฟังเลย นี่ยังดีนะมันไม่ฆ่าแล้วค่อยปล้น ไม่งั้นก็นอนไส้ทะลักอยู่ตรงนั้นไปแล้ว”

โหพูดอะไรวะ ไม่เป็นมงคลเลยไอ้นี่


“ความรวยมันห้ามกันไม่ได้นิ เกิดมารวยก็ผิดเหรอ”


“เหนื่อยว่ะ ด่าอะไรก็ไม่สำนึก”


“หา ด่าตอนไหนอ่ะ”


“เฮ้อ”


“เฮ้ออะไร”


“เฮ้อมึงไง สมองส่วนเหตุผลมันเสื่อมไปแล้วหรือเกิดมาไม่เคยมี” “ต่อมสำนึกถูกผิดก็พิการ ทำอะไรถึงไม่เคยผ่านสมองก่อน”
คำด่าแต่ละอย่างนี่ผู้หญิงปากจัดหลายคนร้องไห้ได้เลยนะ พูดจาแต่ละคำออกมา

ผมเนียนๆฟังยินบ่นบ้างไม่ฟังบ้างจนเงียบไปเองถึงได้เอ่ยขึ้น


“บางอย่างก็ไม่เห็นต้องใช้สมองเลย เช่น รักมึงไง ใช้ใจอย่างเดียวล้วนๆ” ว่าเสียงยานคางเพราะคางเกยอยู่ที่บ่าหนั่นแน่นของยินดี


“กูก็คงไม่ได้ใช้สมองเหมือนกัน เพราะถ้าใช้ คงไม่มารักไอ้คนโง่ๆแบบมึงแน่” โอย เย็นชาจังเลย


“กูจริงจังนะเพล ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีก อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า อย่าตัดสายกูแบบนั้น ห่วงจะตายตอนที่หามึงไม่เจอ”


“ขอโทษ คราวหลังจะระวังตัวมากขึ้นแล้ว”

“...รู้มั้ยกูน่ะคิดว่าตัวเองโชคดีมากๆเลยที่ได้มึงเป็นแฟน ยินทั้งฉลาด นิสัยก็โอเค ยิ่งได้คบก็ยิ่งรักมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนั้นถ้าไม่ได้มึงมาคงจะเสียดายมากเลย”  คิดว่าจะคอยสังเกตเผื่อจะเห็นยินมันเขินกับประโยคหวานของผมจนม้วนต้วน ถึงไฟรอบด้านจะมืดจนมองเห็นแต่ลูกตากันก็เถอะ


“เหรอ”


“จริงๆ”


“แล้วกลับไปนอนบ้านทำไมตั้งหลายวัน ถ้าบอกว่ารักกูนัก”


ยินดีหยุดเดิน หันข้างน้อยๆเพื่อมองผม ซึ่งมันคงจะหันได้เท่านั้นอ่ะนะ
ท่าทางตัดพ้อต่อว่านี่คืออะไร ผมเข้าใจว่ายินโกรธผมนี่ แล้วประโยคเหมือนน้อยใจที่ผมกลับไปนอนบ้านนี่คืออะไร


“ก็วันนั้นมึงทำหน้าเหมือนจะบีบคอกู เลยนึกว่าโกรธ ไม่กล้าวุ่นวายกลัวมึงโกรธมากกว่าเดิม”


“ก็บอกแล้วว่าไม่โกรธแล้ว”


“จะรู้ได้ไง  พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย ถามคำตอบคำ”


“กลัวอดไม่ได้ด่ามึงไปอีกหรอกถึงไม่พูด ...วันนี้จะกลับห้องได้หรือยัง”


“กลับเลย” ผมตอบแบบไม่ต้องคิด ถึงเตียงที่บ้านถึงจะยิ่งใหญ่อลังการก็ไม่อุ่นละมุนเท่าเตียงที่ห้องยินหรอก ความรู้สึกมันต่างกันมากๆ “วันนี้อาบน้ำด้วยกันเนอะ ดูสิ กูเดินจนเท้าพองหมดเลย ขาก็ปวดด้วย”


“สำออย”


ทำไมแฟนปากร้ายแบบนี้ว้า ผมหอมหูหอมหัวมันด้วยความหมั่นเขี้ยว


“เพลอย่าซน”


“อะไร”


“จั๊กจี้ เดี๋ยวปล่อยลง ให้เดินเองเลย”


“จริงๆมึงไม่ต้องแบกกูก็ได้นะ ถ้ากูตัวหนัก” ผมเอ่ยอย่างเกรงใจ


“เหรอเพลเหรอ” ยินทำเสียงระอาใส่ “แล้วขาที่หนีบเอวกูแน่นแบบนี้คือไม่ต้องแบกก็ได้เหรอ”


“อื้ม ฮ่าๆ”


“กวนตีน
.
.
.
.
.
“อ...อะ ยะ ยิน” ผมผวาเฮือกหาที่ยึด ความรู้สึกอึดอัดผสมวาบหวามแผ่ซ่านขึ้นตามสันหลัง มือข้างหนึ่งใช้ดันท้องน้อยอีกคนไว้ไม่ให้ขยับเคลื่อนตามใจง่ายๆ


“เดี๋ยว ยะ อย่าเพิ่ง”


“อื้อ อย่าเพิ่งขยับ มัน อึก... ลึก” เพราะนั่งซ้อนตักกันทำให้ทั้งสองส่วนเชื่อมต่อลึกซึ้งมากกว่าครั้งไหน ถ้าขยับตอนนี้ผมขาดใจแน่


“เพล คลายหน่อย”


“ฮือ” ผมส่ายหัวที่ปะอยู่กับบ่าอีกคน ยินหัวเราะกึกๆอยู่ข้างหู มือลากลูบตามแนวสีข้างไปที่สะโพก เคล้นคลึงจนผมสั่นไปทั้งตัว


“หมั่นเขี้ยว” ผมเจ็บจี๊ดจากการถูกขบกัดที่หัวไหล่ ยินดีแม่งพออยู่บนเตียงโคตรหื่นเลย ไอ้หน้าดุท่าทางเย็นชานั่นหลอกลวงชัดๆ

“คลายหน่อยเพล เกร็งแบบนี้ก็ทำต่อไม่ได้ดิ” ยินกดจูบตามไหปลาร้ามาถึงลาดไหล่บางทีก็หยุดขบจนผมสะท้าน  “นอนเฉยๆก็ดีอยู่แล้ว ไม่ชอบเหรอ” ยินยิ้มส่งมาให้ คว้าแขนผมไปไล่จูบตั้งแต่ปลายนิ้วจนถึงฝ่ามือ แต่ผมดันรู้สึกขัดใจ ความพยายามเป็นคนควบคุมทำให้ไม่อยากยอมแพ้ยกตัวขึ้นเกือบหลุดแล้วทิ้งตัวลงครอบส่วนนั้นทั้งหมดในคราวเดียว รู้สึกจี๊ดจนถึงก้านสมอง


“อึก!”


คล้ายเส้นความอดทนมาถึงจุดสุด ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกดันลงกับที่นอน ยินกดผมแทบจะจมลงไปในฟูก มือใหญ่ควานหาหมอนนิ่มมารองใต้เอวให้ก่อนเริ่มขยับเป็นคนควบคุมจังหวะด้วยตัวเอง ยินเหมือนตบะแตกไปแล้ว 
พอผมครางตรงไหน ก็ตามมากดย้ำๆตรงนั้นจนดิ้นพล่านไปด้วยความวาบหวาม ได้แต่บิดเร้าตามสัมผัสหนักเบาที่เดาทางไม่ได้นั้น

เสียงครางผะแผ่วเกินกลั้น หัวใจเต้นรัวเหมือนจะขาดใจ

สุดท้ายก็ลงท้ายด้วยการอาบน้ำเป็นรอบที่สอง ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแบบหมดสภาพของแท้ เหนื่อยจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย ปล่อยให้ยินจับเท้าพลิกดูนั่นนี่ไปตามเรื่อง บางทีก็รู้สึกสบาย แต่บางทีก็เย็นๆแสบๆ พอเคลิ้มจะหลับก็มีมือเข้ามาลูบหัวลูบผมให้ 

เออ ถ้าผมตื่นอยู่คงจะลุกขึ้นโวยวายไปแล้ว ใครมันให้จับเท้าแล้วมาจับหัวกัน


“ฮื่อ  รำคาญ”


“อย่าถีบผ้าห่ม”


“อือ” ผมลากเสียงอู้อี้ คนจะนอนมาชวนคุยเนอะ


สัมผัสนุ่มหยุ่นประทับลงบนหน้าผากลงมาที่เปลือกตาและข้างแก้ม  ผมเปิดเปลือกตาขึ้นมองคนก่อกวน


“นอนไปดิ มองหน้าอะไร”


“มองคนจะลักหลับ เลยระวัง”


“ไม่ทำหรอก รอบเดียวก็แดงไปทั้งตัวขนาดนี้แล้ว ถ้าทำอีกกลัวมึงขาดใจตาย”


“ความผิดมึง”


“อือ ยอม”


“มีความสุข...”


ผมยิ้มกว้างให้ เลื่อนไปจูบแก้มคนปากร้ายแต่ก็ตามใจ ใช้มือลูบไล้ตามสันคิ้วเรียงตัวสีอ่อนจนไปถึงขมับ
ยินดึงมือผมไปหอม ทำเอาจั๊กจี้จนหลุดหัวเราะ


“...กูรักมึงมากนะ ถึงจะโง่แต่อยากให้พยายามเข้าใจเรื่องนี้ด้วย”


ในความมืดสลัว ผมยิ้มให้  ยินดีก็ยิ้มตอบ เป็นรอยยิ้มที่จริงใจและอบอุ่นที่สุดที่ผมเคยเห็นไม่ว่าจากใครก็ตาม

ผมจูบลงบนหน้าผากแกล้งทำเสียง จ๊วบ ดังๆให้เปียกน้ำลายชื้น ยินก็จูบตอบผมบนจมูก  จูบแล้วจูบอีกจนผมหลับไปทั้งยังยิ้มเต็มแก้มอยู่แบบนั้น



ไม่เห็นต้องพยายามเลย ความรักของยินดีน่ะ เข้าใจง่ายที่สุดในโลกอยู่แล้ว ถึงผมจะโง่ แต่ก็รู้นะว่ารัก



 

The End









จบแล้วค่า เย่!
ตอนนี้มีฉากบนเตียงด้วย เขินและลังเลมาก555
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องรักของผู้ชายที่นอกจากรวยแล้วก็ไม่เก่งอะไรเลย หวังว่าจะทำให้ยิ้มได้บ้างเนอะ
ขออวยพรปีใหม่ล่วงหน้าให้คนอ่านได้เจอแฟนดีดีเป็นของตัวเองกันนะคะ

ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าค่ะ :)  
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-12-2016 19:38:01
ฮืออออออออออ อิจฉามากกกกกก   :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
อยากได้แบบนี้ซักคน
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 30-12-2016 19:59:50
น่ารักมากกกกกกกกกกกก :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-12-2016 23:38:11
ถึงเพลจะมึน จะซึน ไปบ้างแต่ก้อน่ารักอย่างแรง อ่านไปยิ้มไป ชอบจ้า +1เป็ด
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าน๊า    o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 31-12-2016 09:12:13
ไอ้ประโยค เกิดมารวยก็ผิดหรอ นี่คือ หมั่นไส้ค่ะ :laugh:
ที่เหลืออิจฉาล้วนๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 31-12-2016 09:48:03
น่ารักมาก  ยินดูแลเพลอย่างดีเลย  ขอตอนเพิเศษเพิ่มหน่อยสิคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 31-12-2016 12:10:47
อยากได้บ้าง :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-12-2016 13:41:41
อย่าโกรธเรานะเพลถ้าเราจะบอกว่าเพลทั้งฉลาดน้อยทั้งดวงซวยที่โดนปล้นแต่ได้แฟนดี๊ดี :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-01-2017 11:50:24
ถึงจะโง่แต่แฟนดีขนาดนี้ก็โง่ต่อไปเถอะจ้า อิจฉาเลยยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 02-01-2017 16:26:21
น่ารักมาก ๆ ................... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 03-01-2017 07:21:39
น่ารักมาก ยินดีเป็นแฟนที่ดีจริงๆ

ถึงเพลจะโง่แต่ก็รักน๊าาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 03-01-2017 08:38:44
โฮกกกก อิจฉาแรงง อ่านไปตานี่ลุกไปด้วยไฟ ฮ่าๆ  :impress2:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 08-01-2017 16:03:12
น่ารักมากกกก  อิจฉามากกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: NewBaBy ที่ 08-01-2017 21:39:31
ถึงเพลจะโง่ แต่ก็น่ารักมากกก ขอตอนพิเศษหน่อยน้า
 :3123: :pig4: :mew2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 11-01-2017 14:58:10
โอ้ยยย อยากได้ยินดี อยากได้แบบนี้
ฮืออออ เจาาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 11-01-2017 23:44:27
น่าร้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-01-2017 00:33:18
โอ้ยยย น่ารักมาก จะหาแฟนดีๆแบบนี้ได้ที่ไหนบ้างคะ ดีดูแลเพลดีมากเลยอ่ะ อิจค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 22-02-2017 00:14:39
น่ารักมากเลยค่ะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 22-02-2017 08:26:46
โอ้ยยยยย อิจฉาเพลลลลล
ทำบุญมาด้วยอะไรเนี้ย ถึงได้ยินดีเปนแฟน
อยากอ่านอีกจังเลยค่ะ น่าจะเปนเรื่องยาวจัง
ชอบสำนวนการเขียน การเล่าเรื่องมากๆเลยค่ะ
จะรออ่านเรื่องอื่นต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mewalsax ที่ 25-02-2017 00:22:37
รองเท้าก็เอาไป ไอชิบหาย ฮืออ 55555
อยากกอดหนูเพลแรงๆ พี่เข้าใจความร้อนเท้าของหนู
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 25-02-2017 11:29:42
น่ารัก มาก คะ น้องเพล
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 26-02-2017 00:23:15
ฮรืออออออ ดีจางงงงงงง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: iAlexiajang ที่ 26-02-2017 02:49:00
โอ๊ยยยยยยย ค่อดพลาดเลยที่เพิ่งมาได้อ่านตอนนี้ เพลแม่งน่ารักน่าฟัด ถ้าอยู่ใกล้ๆมือนี่จะจับมาบี้ๆๆๆๆๆ ให้หายมันเขี้ยววววว
ถึงจะทั้งมึนๆอึนๆแลดูไปทางโง่. แต่ก็รักยินมากนะะะ อ่อยยยยยยยยย หัวใจแพ้ไปอีก~
ขอบคุณนะคะ ทำเอาเราอ่านไปยิ้มไปเลย อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ อยากอ่านอีกๆๆๆๆ ;D
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 12-03-2017 06:09:22
น่ารักมากเลยยย โฮวววว ชอบค่ะ แต่อิจฉา อยากได้ยินดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 16-03-2017 20:53:19
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-03-2017 03:40:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 18-03-2017 00:05:30
น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี 30/12/59 จบ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 22-03-2017 20:42:34
อิจเพลเลยยยแต่เพลแอบมึนนะเรา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: made in june ที่ 14-04-2017 22:35:12
แ ฟ น ดี ดี  ตอนพิเศษวันสงกรานต์ ❤

เที่ยวสงกรานต์กับเพล ที่ออกเสียงว่าเพลนแต่ไม่ได้แปลว่าเครื่องบิน





หลังจากผ่านค่ำคืนหลังสัปดาห์แห่งการสอบ ร่างสูง ที่รวบรวมเอาความดีงามทั้งหมดทั้งมวลที่แฟนหนุ่มพึงมีไว้ก็ขยับพลิกตัวบนเตียงนุ่ม ก่อนสมองจะทันประมวลผล มือก็ควานไปตามพื้นที่ข้างตัวด้วยความเคยชิน ปกติจะมีสิ่งมีชิวิตน่ากลัวหน่อยๆ นอนกอดก่ายเป็นสัมภเวสีติดตัวในทุกเช้า แต่วันนี้ที่นอนข้างตัวกลับว่างเปล่า


ยินดีลุกขึ้นนั่ง ดวงตาสีอ่อนตามแบบลูกครึ่งยังปรือปรอย หรี่ตามองไปทั่วห้องนอนแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า


ขยับตัวอีกนิด ผ้าห่มที่กองอยู่กับอกอย่างหมิ่นเหม่ก็เลื่อนหล่น เผยให้เห็นแผ่นอกกว้าง ช่วงไหล่ผึ่งผายตึงแน่น เลื่อนต่ำลงมาอีกนิดก็พบกับลอนกล้ามเนื้อเรียงตัวกันบนหน้าท้องจำนวน หนึ่ง สอง สาม สี่ ...น่าเสียดายที่ส่วนอื่นๆต่อจากนั้นถูกซ่อนหลบสายตาไว้ใต้ผ้าห่ม


ชายหนุ่มบิดตัวสองสามครั้ง กล้ามเนื้อช่วงแขนยิ่งปรากฎเด่นชัด เส้นเลือดที่นูนขึ้นมาตามท่อนแขนนั้นทำให้ดูร้อนแรงขึ้นไปอีก10% 


ในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดลง ขายาวก้าวลงจากเตียง ตอนนั้นเองที่ปรากฏกล้ามเนื้อลูกที่ห้าและหกให้ได้เห็น ถัดมาเป็นขอบกางกางนอนสีดำ มันไม่ได้เกาะสะโพกอย่างหมิ่นเหม่เหมือนที่มักเห็นในทีวี ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่า ถัดจากกล้ามหน้าท้องหกลูกนั้น เป็นอะไรต่อ แต่นั่นก็มากพอแล้วสำหรับทำให้ใครคนหนึ่งเลือดกำเดาตกในทุกๆเช้าของการมีชีวิต


ยิ่งท่าทางยกมือขยี้ผมด้วยความหงุดหงิด ทำให้ความเซ็กซี่อย่างนายแบบกางเกงยีนส์พุ่งทะลุปรอท


โคตรดี


ดีมากๆ


ดูเหมือนจะหล่อมาทั้งชีวิต เคยสัมผัสกับคำว่าขี้เหร่บ้างมั้ย


“มายืนทำบ้าอะไรในตู้เสื้อผ้า” ประตูไม้ของตู้เสื้อผ้าติดผนังถูกกระชากเปิด ยินดีทักเสียงแหบเล็กน้อยอย่างคนเพิ่งตื่นนอน คิ้วสีอ่อนนั้นขมวดมองผม ที่เอ่อ...ยืนบรรยายสรรพคุณแฟนตัวเองอยู่


“กูก็กำลังเลือกชุดที่จะใส่ไง ให้ทำอะไรล่ะ”


“ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ทำหน้าโรคจิตน่ะ ออกมา”


สั่งเสียงเอือมระอาเสร็จก็เดินหนีออกประตูห้องไป ผมรีบพาตัวเองออกจากตู้เสื้อผ้าวิ่งตามเหมือนหมาตามเจ้าของ
ยินดีกดเครื่องต้มกาแฟ เอาขนมปังกับแฮมออกมาวาง ผมกระโดดขึ้นไปนั่งบนเคาน์เตอร์ข้างๆ มือเกาพุงขาแกว่งไปโดนอีกคน


“ตื่นตั้งแต่ตอนไหน” แฟนเอ่ยถาม


“ก่อนมึงสักพัก”


“ไปนอนต่อไป” แสดงออกรำคาญชัดเจนเกินไปละ


“หื่อ นอนไม่หลับแล้ว นอนได้ครั้งเดียว”


“งั้นก็ไปหาอะไรทำ อย่าเพิ่งกวนตอนนี้”  "ไปเอากระเป๋าออกมาไป" แขนที่อุดมไปด้วยเส้นเลือดชี้ไปที่ฝั่งประตูห้องนอน แต่ไม่ได้ดูจริงจังมากผมเลยยังปักหลักอยู่ที่เดิมไม่กระดิกไปไหน


ผมแกล้งใช้เท้าเขี่ยกางเกงยินดี คนก็ใช้มือข้างหนึ่งเกี่ยวเอวดึงผมเข้าหา กลายเป็นการประจันหน้ากันโดยที่ยินดียืนอยู่มีขาผมคร่อมหลวมๆบนเคาน์เตอร์ครัว


เป็นทะ ท่า ที่ ล่อแหลมไปละ


"คันอะไรไหนขอดูหน่อย เห็นเกามาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว"


ผมแทบบิดตัวเป็นเกลียวโปเต้ ตอนที่ยินดีสอดมือเข้ามาในเสื้อแล้วเกาที่สีข้างให้


“ไม่รู้ ฮ่าๆ จักจี้ๆๆ”


"อ้ะ! ยินพอๆ ตรงนั้นเจ็บ” ผมรีบดิ้นหนีหน้านิ่วเมื่อเกาถูกที่เจ็บ ยินเลิกคิ้ว เปิดเสื้อผมขึ้นจนเห็นพุงและรอยผื่นเป็นริ้วปรากฎแก่สายตา


“ลมพิษอีกแล้ว ถึงว่าทำไมตัวรุมๆ”


“คัน”


“พออย่าไปเกาเดี๋ยวเลือดออก” “ไปโซฟาไปจะทายาให้”


ผมนอนรออยู่นานยินดีก็ไม่ตามมาสักที ตะโกนเรียกหาก็ยังเงียบ พอว่าจะออกไปดูคนในความคิดก็โผล่เข้ามาพร้อมหยูกยาและถาดใส่แซนวิชไข่ดาวเน้นๆเบคอนแฮมและผักกาดแก้ว โอ้โห ประเสริฐอีกแล้ว


ความดีงามของยินดีกับความต่ำต้อยของผมมันทำให้สงสัยว่าชาติก่อนแฟนไปทำกรรมอะไรไว้ ชาตินี้เลยต้องมามีจุดด่างพร้อยในชีวิตเป็นผมแบบนี้ ฮ่าๆ


ผมนั่งกินไปก็มีคนคอยทายาเย็นๆที่รอยผื่นให้ ตอนแรกแค่ที่พุง แต่ไปๆมาๆก็ถูกสั่งให้ถอดเสื้อออกทีนี้ ด้านหลังจากคอลงมาถึงสะบักก็ถูกละเลงเจลว่านหางจระเข้ด้วย ตอนนี้ตัวผมก็เลยกลายเป็นมนุษย์เมือกไปแล้ว


“เป็นกี่ครั้งบอกว่าอย่าเกาไม่เคยจำ”


“ลืม ไม่รู้ว่าจะเป็นลมพิษ นึกว่าคันอะไร”


“คันอะไร”


“คันอะไรไม่รู้”


“เออแล้วคันอะไรล่ะ”


“โว้ยย ก็ตอนแรกคันอะไรไม่รู้ไง มึงแม่ง”


“อะไร”


“มึงกวนตีนไง”


“มึงน่ารัก”


แฟนหัวเราะกึกๆเหมือนสะใจที่ได้แกล้ง บ๊ะ ไม่มีอะไรจะเล่นแล้วรึ


วันนี้ตอนบ่ายผมจองตั๋วไปเชียงใหม่ไว้ พาฝรั่งกลับบ้านสงกรานต์ ส่วนผมก็ติดสอยห้อยตามไปเที่ยวบ้านอีกคนด้วย แม้ว่าพ่อแม่ยินไปเยี่ยมญาติที่พะเยาไปแล้วจะไม่ได้เจอกันผมก็ยังรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยที่จะได้ไปเชียงใหม่


อันที่จริงผมตื่นเต้นทุกครั้งแหละที่ไม่ต้องอยู่บ้าน


นอนกระดิกเท้ามองคนลากกระเป๋าออกมาจากห้อง เดินพล่านไปทั่วเพื่อเช็คนั่นนี่ แล้วเลยลุกขึ้นใส่เสื้อเมื่อคนทำท่าว่าพร้อมสำหรับการเดินทางเราก็ได้เวลาโบกแท็กซี่มุ่งหน้าสู่สนามบินดอนเมือง


รีวิวโบกแท็กซี่ : ก็ไม่มีอะไรมาก ให้ยินไปโบก ทำหน้าหล่อๆงงๆเหมือนฝรั่งหลงทาง คันไหนก็รับทั้งนั้น


แม้จะยังไม่ใช่วันสงกรานต์ แต่สนามบินก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่จะเดินทางกลับต่างจังหวัด ผมขอไม่เล่ารายละเอียดตอนนี้มากเพราะมันก็จะเป็นแบบทั่วไปหน่อยๆ คือไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไร
.
.
.
.
13 เมษายน


เชียงใหม่ในตอนเช้าค่อนไปทางสายก็ไม่สามารถรอดพ้นจากความร้อนแผดเผาของดวงอาทิตย์ไปได้


บ้านของยินตั้งอยู่ในพื้นที่ที่สามารถเดินขึ้นระเบียงชั้นสองก็มองเห็นดอยสุเทพ ด้านนอกเป็นไม้ด้านในรีโนเวทใหม่เป็นปูนทั้งหลัง ในบ้านเย็นสบายโดยไม่ต้องเปิดแอร์ ต้นไม้เยอะ มีหมา1ตัว ท่าทางเชื่องคนดูโง่ๆชื่อจัมโบ้


รีวิวเชียงใหม่ : เช้าวันที่ 13 เมษายน ร้อน จบ


ผมนั่งเอนหลังบนเก้าอี้ผ้าใบอาศัยร่มต้นไม้หลบแดดหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ มองคนล้างรถ


ผู้ชายอะไรมันขยันขนาดนี้วะ


ดูผู้ชายอย่างผมสิ สันหลังยาวกว่านี้อีกนิดก็เป็นจระเข้แล้ว


นอนเพลินๆกำลังจะหลับแรงกระตุกที่ขากางเกงทำให้ต้องลืมตาขึ้นมอง หมาหน้าเชื่องพันธุ์โกลเด้นกำลังตะกุยขากางเกงผมงุด จมูกและตัวมอมแมมทำเอากางเกงสีดำของผมด่างเป็นจุด ผมขยับขาหนี มันก็ขยับตามมา ยื่นหน้าใหญ่ๆมาดุนไม่หยุด


ผมยกขาขึ้นบนเก้าอี้ ทีนี้หมาก็ยื่นขาหน้าตามมาแปะบนแขนผมด้วย แขนก็เปื้อนดินไปอีกปื้นหนึ่ง


มันก็จะรังเกียจอยู่หน่อยอ่ะ พอดีชอบอะไรที่สะอาดๆ


"ยิน หมามากวนอ่ะ"


"โบ้หิวข้าวมั้ง เข้าไปเอาให้มันหน่อย อยู่ตรงตู้ใต้บันไดอ่ะ" ผมลุกขึ้นยืนตามคำบอก เอ่ยวลีกวนที่เห็นในสติ๊กเกอร์ไลน์


"เปงผัวอ่อมาสั่ง?"


"เดี๋ยวโดน" ยินดีหันมาชี้หน้า


หมาโง่แต่ก็รู้ภาษาว่าตัวเปื้อนไม่ควรเข้าบ้าน มันยืนรอน้ำลายยืดอยู่หน้าประตู ผมเปิดเอาถุงอาหารเทใส่ชามเห็นขวดแชมพูอาบน้ำหมาเลยหยิบติดมือมาด้วย


พอเอาชามวางให้ ไอ้โบ้ผู้มีหน้าตาตลกอยู่ตลอดเวลาก็กัดกร้วมๆอย่างเอาเป็นเอาตาย


"ยิน กูอาบน้ำให้หมาได้มั้ยอ่ะ"


"ได้ อาบให้สะอาดนะ" ถึงจะอนุญาตแต่น้ำเสียงดูระแวงกับผมมากว่าจะทำอะไรหมามันมั้ย โถ่ อาบน้ำหมาจะไปยากอะไร ดูหน้ามึนๆอึนๆของไอ้โบ้ก็รู้


เหรอวะ


ชีวิต!


ผมเปียกโชกฟองฟอดไปแล้วทั้งตัว หมาก็ด้วย มันวิ่งพล่านไปทั่ว พอผมหันหลังให้จะไปหยิบถังมันก็กระโจนเข้าใส่ เอาตัวมาคลุกเหมือนว่าตัวเองตัวเล็กน่ารักนักหนา


"ไอ้หมาผี พอแล้ว!" ผมร้องห้าม ล้มก้นจ้ำเบ้า มันใช้สองขอตะกุยหน้าอกพยายามจะเอาลิ้นน้ำลายยืดมาปัดหน้าผมให้ได้ หมาเวร


"คนอะไรวะ ให้อาบน้ำหมาก็โดนหมาแกล้ง"


ตลกมั้ย มึงดูหมามึงด้วย ตัวใหญ่ยังกะช้าง!


ผมดิ้นกระแด่วอยู่ที่พื้น กวักมือเรียกสุดชีวิต


"ยินช่วยด้วย เอามันออกไป"


คนหัวเราะแต่ก็ช่วยแยกหมาออกจากผม ไอ้โบ้เปลี่ยนไปนั่งสองขานิ่งให้ยินดีเอาสายยางราดน้ำฟองออกจากตัวมัน ตาวาวระริกนั้นจ้องเป๋งมาที่ผมหางแกว่งไปมา


หมาผี หมาผีชัดๆ


ผมหนีมาอาบน้ำในบ้าน ปล่อยให้ยินจัดการหมาไปสักพักเสียงก๊อกแก๊กหน้าห้องน้ำก็ดังขึ้น ผมเลื่อนบานประตูออกให้อีกคนเข้ามาอาบด้วยกัน


เป็นการอาบน้ำธรรมดาๆของยินดีที่ทำหน้ามืดไป1รอบ เนื้อหนังที่เปียกน้ำของมันทำให้ผมดูเหมือนคนบ้ากามไปเลย


แต่ก็นั่นแหละ ผมได้สานต่อจากเช้าเมื่อวานในหัวข้อที่ว่า ต่อจากซิกแพ็คแล้วมีอะไรใต้ขอบกางเกงนอนสีดำ


"จ้องอะไร"


"ห หือ"


"เหม่อด้วยๆ มองเพลินเลย ทะลึ่งเนอะ ช่วงนี้ไม่ได้เจอคิดถึงใช่มั้ย" คนยิ้ม ตาสีอ่อนนั้นพราวระยับ


"มึงสิทะลึ่ง ยังไม่ได้มองอะไรเลย"


"อือๆ ไม่ได้มองก็ไม่ได้มอง ไหนขอดูท้องหน่อย ผื่นหายยัง" ยินจับผมพลิกตัวเข้าหา ตาจ้องมือก็พยายามลูบไปทั่วท้อง ผมขนลุกซู่ด้วยความสยิว


"ขอดูหน่อย เหมือนเห็นแดงๆตรงนี้ด้วย"


"หายแล้วๆ กูออกไปก่อนนะ" อาศัยความลื่นเบี่ยงตัวหลบ ไม่ไหวอ่ะ อยู่แบบนี้ต่อไปเดี๋ยวเกิดอารมณ์แน่ ยินดีมันรู้ว่าผมจุดติดง่ายแต่ยังแกล้งอยู่ได้


"เช็ดผมด้วยนะ บ่ายเดี๋ยวพาไปเล่นน้ำแต่รอให้แดดร่มก่อน"


"รู้แล้ว"


"เช็ดเลือดกำเดาด้วย"


"เออ!" แกล้งเดินลงเท้าขึ้นบันไดหนักๆใส่ไปทีได้ยินเสียงหัวเราะตามหลังมา


“เปลี่ยนใส่แขนยาวมั้ย แดดยังร้อนอยู่เลย”
ก็ร้อนทั้งปีแหละประเทศไทยน่ะ  มันยังบังคับจะให้ใส่แขนยาวอยู่นั่น แล้วดูตัวเองเถอะ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีเทาตัวย้วยอย่างกับนายแบบกางเกงในแบบนี้ยังกล้าว่าคนอื่นได้เหรอ


"ไม่"


“ตามใจ”
คนตัวสูงกว่ายืดตัวยืนตรง เสยผมสีน้ำตาลอมทองไปด้านหลัง หยิบแว่นกันแดดมาสวมทำเอาตาพร่าไปหมด


ยินเดินนำออกประตูไปแล้ว แต่ผมยังยืนพนมมืออย่างล่องลอย


รีวิวยินดี : ฮอตโคตร hot as hell
.
.
.
.
ลงจากรถแท็กซี่มาที่ประตูท่าแพที่คนเยอะมากมาย พูดถึงเชียงใหม่แล้ว บริเวณคูเมือง หน้าประตูท่าแพไปนี่แหละคือซิกเนเจอร์ สาดกันโครมๆจนผมไม่กล้าออกจากรถ


เปิดประตูรถลงมาไม่ถามซัดกันตรงนั้น ทั้งไทยทั้งเทศรุมกันมั่วไปหมด ผมไม่ทันได้ยกปืนฉีดน้ำด้วยซ้ำน้ำมาเป็นถังรดเข้าที่หน้าเลย หัวหางไม่ต้องห่วงเปียกโชกไปทั้งตัว ตลอดทางเหมือนไหลๆตามกันไปมากกว่าเดิน


พยายามหุบปากเพื่อไม่ให้น้ำเข้าปากแต่รู้สึกเหมือนมันเข้าจมูกแทน ยินดีแม่งก็ไม่ได้สู้คนเลย ยืนสมยอมให้คนเขาฉีดน้ำอยู่นั่น ยิ่งกลุ่มผู้หญิงนี่รุมทึ้งมันเหมือนเจอเครื่องสำอางลดราคา70%


มันยังหันมาขำใส่ผมอีก ผมเอามือลูบน้ำออกจากหน้า ใช้ปลายปืนฉีดน้ำช่วยดันปีกหมวกแก็ปไปอยู่ด้านหลัง


ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ปืนฉีดน้ำผมหมดเกลี้ยงกระบอกแล้ว


ผมเหมือนหมาตกน้ำ ยินดีก็เปียกเหมือนกัน แต่สภาพดูดีกว่าผมประมาณ3ชาติ


อีกคนเห็นผมมองหน้าก็ยิ้มออกมา


“ไม่ยิงสู้เขาล่ะ”


“มัวแต่หลบน้ำเข้าหู” อันนี้เข้าจริงไม่ได้สำออยเลย อื้อมากตอนนี้


“ไหนหายยัง ตะแคงหัวดิ เออ เคาะๆ หายยัง”


“อื้ออื้อ”


“เคาะอีกๆ” “ดีขึ้นมั้ย”


“หายและ”


“ร้อนมั้ย ตัวมึงโคตรแดง”
พี่ไม่ต้องมองใกล้ขนาดนี้ก็ได้


“ร้อน แต่สนุก”


“ไม่ไหวบอกเลยนะ แดดร้อนแบบนี้เดี๋ยวช็อค”


“เออ” เสยเหม่งยินไปทีหนึ่ง จริงๆแอบแกล้งไถเล่นแรงๆเพราะหมั่นไส้ในความทำตัวเจิ้นเกินเหตุ



“เอ้ย!”


สาวๆกลุ่มใหญ่มากพุ่งเข้ามา  ผมจะคว้าข้อมือยินดีเตรียมเลี้ยวกลับหลังแต่ไม่ทัน  มีผู้หญิงผู้ชายตามมาข้างหลัง โดนล้อมขยับไม่ได้


“อู้วว ป่อจายหยังมาน่าฮัก หยังมางานดี๋ มีแฟนยังจ้ะ” ผมกลายเป็นไข้แดงอยู่ในวงไปแล้ว


“แฟนมีแล้วครับมีแล้ว” ยืนหัวโด่อยู่นี่ไงแฟนผม! ยืนยิ้มอย่างเดียว ไร้ประโยชน์ชิบหาย!


“จิ๊ อีดอก บะเป็นหยัง”


“มีแฟนละกะเป็นกิ๊กกะได้ มาหอมกำเล๊าะ” (มีแฟนแล้วเป็นกิ๊กก็ได้ ขอหอมหน่อยนะ)


“ห้ะ หอมกำอะไร หอมผมเหรอ ไม่ได้ๆๆ กำก็ไม่ได้ ห้ามกำ” ผมโดนรุมอ่ะ ทั้งมือทั้งหน้ามองไม่เห็นด้วยนมปลอมนมจริงเข้ามาสีเต็มไปหมด


“พอแล้วครับ น้ำเข้าหู แค่ก น้ำเข้า ไม่เล่นอย่างนี้ อย่าทำโผ้มมม อื้อ ยินมือๆ ยินดีช่วยด้วยย”


สภาพผมนี้ลงนั่งยองอยู่กับพื้นเลยเมื่อกี้หอมหน้าหอมคอผมหนักหน่วงมาก


ยินดีแม่งยังยืนหัวเราะ เค้าขอกำกูเลยนะ มึงยืนหัวเราะเฉยๆ?


“เจ็บตรงไหน ไหน เจ็บเปล่า เจ็บท้องเหรอ”


“ลืมตาไม่ได้”


“ไหนขอดูหน่อย อย่าเอามือขยี้แบบนั้น ลืมตาขึ้น” คนว่าจับหน้าผมก้มลงหาเสื้อที่ยกขึ้นมาเช็ดหน้าให้ มันเคือง มันลืมไม่ได้โว้ย


“เจ็บ”


โดนดึงให้ยืนขึ้น “ขอดูหน่อย...”


“ฮื้อ”


“ไม่เจ็บพี่ทำเบาๆ” อย่าทำเสียงนุ่ม แพ้แล้ว


“ตาแดงเลย”
“ไปหาที่หลบก่อน จะได้ล้างหน้า เถอะน่า มาเร็ว”


พากันเดินออกมาโผล่ที่ไหนไม่รู้ ตรงป้ายติดว่าห้ามสูบบุหรี่บริเวณนี้แต่ทำไมคนมันยืนสูบกันเต็มเลยวะผมงง


เอาเป็นว่าก๋มีแต่ตรงนี้แหละที่แห้งและไม่มีคนสาดน้ำ
ผมสำรวจมือถือในซองกันน้ำของตัวเองว่ายังดีอยู่ไหม ระหว่างรอยินดีข้ามไปซื้อน้ำเซเว่นฝั่งนู้น ไถมือถือเล่นไปพลาง


“ร้อนเนอะ” เสียงทักด้านหลังเรียกให้ผมหันกลับมา


หืม ไอ้ผมทรงอันเดอร์คัทนี่ใครวะ


"คุยกับผมเหรอ"


"เออ แดดร้อนบรรลัยเลยว่ามั้ยปีนี้"


อ่า

ไม่รู้ดิ ปกติช่วงนี้ทุกปีผมไม่อยู่ต่างประเทศก็ทำสปาเป็นเพื่อนแม่ที่บ้านอ่ะ


“คนเมืองเปล่ามึง หรือคนกรุง”


“คนที่นี่แหละ"


“เหรอ งั้นก็ดีเลย มึงไปเล่นกาดต่อเปล่า เล่นน้ำด้วยคนดิ ไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นเลย” เดี๋ยวๆ ไอ้ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างหลังมึงสามสี่คนนั้นไม่ใช่เพื่อนเหรอ


ทำไมมึงถึงมาชวนกูคุยสนิทสนมขนาดนี้ เราไม่รู้จักกัน อย่าเนียน


“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไง คนแถวนี้แต่ไม่รู้จักกาดสวนแก้วแหะ”


“ไม่ไปอ่ะ เล่นที่นี่จนถึงเย็นเลย”


“เหรอ…  เสียดายว่ะ แล้ว พรุ่งนี้มาเล่นน้ำด้วยกันป่ะ ขอไลน์หน่อยดิ” โทรศัพท์ถูกยื่นมาให้ผมแบบรวบรัดสุดๆ
“อะ พิมพ์ดิ”


“กูไม่ใ-”


“เพล”


ฝรั่งมาแล้วว


“เอ้ย ไปก่อนนะเพื่อนเรียกแล้วว่ะ” ผมผละหนีออกมาแบบไม่สนจะรักษาน้ำใจ


“หาไม่เจอ บอกแล้วให้ยืนรอนิ่งๆ” เสียงเย็นเปิดฝาขวดน้ำยื่นมาให้ผมรีบรับมากระดกหลายอึก อา สดชื่น
“ล้างตาด้วย เดี๋ยวเป็นตาแดง กระพริบตาถี่ๆ นั่นแหละ”


“มีอะไร” ยินถามทำให้ผมเงยหน้ามองตามสายตาก็ยังเห็นไอ้หนุ่มผมทรงอันเดอร์คัทยืนหน้ายียวนกวนประสาทไม่ไปไหน


เอ้า


“ไม่รู้ ไม่รู้จัก แถมมาชวนไปเล่นน้ำที่กาด”  ผมกระซิบฟ้อง ยินดีเยี่ยมหน้าไปถามด้วยตาขวางๆพอกัน


“มีอะไรให้ช่วยครับ”


คนถูกถามเลิกคิ้ว  “ไม่มีนี่”
“แค่เห็นเพื่อนมึงนั่งอยู่คนเดียวเลยมาชวนคุย”


“เหรอ คุยพอแล้วก็ไปดิ” ไม่มีการถนอมถ้อยคำใดใดทั้งสิ้น


หนุ่มเชียงใหม่คนแปลกหน้ามองหน้าผมสลับกับยินดี


“เอาแต้ๆกูเปิงใจ๋เปื่อนคิงแอ่” (เอาจริงๆ กูถูกใจเพื่อนมึงว่ะ)


“ก้าขอไลน์ บ่เป๋นหยังก้า" (แค่ขอไลน์ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง"


เขาเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม
“อ้อ ...กะว่ามึงขาง" (อ้อ...หรือมึงหวงก้าง)


ขวางอะไรไม่รู้ แต่ผมรู้ว่ามันทำตีนยินดีกระตุกไปหนึ่งสเต็ปเลยอ่ะ คว้าไหล่ไว้แทบไม่ทัน


“กูไม่ให้ว่ะ โทษนะเว้ย”


“เฮ้ย เดี๋ยวดิ”


เขาคว้าผมไว้ตอนจะเดินหนี ยังไม่ทันด่า ยินไวกว่า กระชากแขนผมออก


ผมเพิ่งเคยเห็นยินดีทำหน้าน่ากลัวแบบนี้จริงๆนะ


“คิงบ่ดีมายุ่งกั๊บของๆฮา” (มึงอย่ามายุ่งกับของๆกู)
“พูดทีเดียวให้เข้าใจดีกว่ามั้ง”


ถ้าทีเดียวไม่เข้าใจ ผมว่ามีต่อยกันแน่ๆเลย...
.
.
.
.
อ่า


คิดว่าต่อยกันมั้ย?


สรุปคือไม่ได้ต่อยกัน


ยินดีถึงจะหน้าตาแบบพร้อมตี แต่ก็ไม่ใช่คนใช้กำลังนำหน้า


จริงๆขอบคุณที่ตำรวจเดินเข้ามาพอดี ผู้ชายคนนั้นเลยยอมถอยออกไป ผมกับยินดีเดินหลบฝูงชนออกมาหาที่นั่งกินข้าวซอยเจ้าเก่ากัน อีกนิดเดียวจะค่ำแล้ว


เรานั่งโต๊ะมุมๆ เพราะไฟมันสลัวด้วยมั้งเลยรู้สึกว่ายุงเริ่มกัด


ผมกินอิ่มแล้วเลยเริ่มเขี่ย ส่วนยินดีฟาดไป2ชาม


"ขอหอมหน่อย" อยู่ดีๆยินยื่นหน้ามาหา ผมเลิกคิ้วมองหาในชามตัวเอง


"มันรวมกันไปหมดแล้วอ่ะ"


"เปล่า หมายถึงมึงอ่ะ ขอหอมมึงหน่อย"


"ฮะ หอมไร คนเต็มร้าน..."


จุ๊บ!


"เฮ้ย"


ผมตกใจหน้าผงะเลย


"ก็ไม่ได้หอมอะไรขนาดนั้นนิ ทำไมวันนี้คนมาวอแวจัง" คนพูดเอามือถูปลายจมูกตัวเอง เมื่อกี้มันขโมยจูบ ไม่ใช่หอมแล้วโว้ย
 

นี่ขนาดไม่หอมยังบี้มาขนาดนี้ ถ้าหอมมากแก้มกูคงหลุดติดจมูกไปแล้วมั้ง


"สงสัยเป็นสเปคคนที่นี่" ผมยักไหล่ใส่ยินดีเลยเอามือมาขยี้หัว สรุปคือขยี้กันไปกันมาจนฟูเป็นผีบ้า


"เป็นสเปคกูคนเดียวพอแล้ว"
"ตาแบบนี้...จมูกแบบนี้...ปากแบบนี้ เป็นสเปคกูคนเดียวพอแล้ว"


เอาปืนมายิงกันเลย ตะเกียบตรงนั้นก็ได้ จ้วงแทงมาเลยถ้าจะปล่อยท่าไม้ตายรัวขนาดนี้


ใจพี่บางหมดแล้ว...


"วันนี้สนุกป่ะ" ยินถาม เอามือลูบหัวผมให้หายกระเซิง


"สนุก แต่ชอบอยู่บ้านมากกว่า บ้านมึงสวย"


"ชอบแค่บ้านเหรอ" โอเค ลูบแค่ผมก็ว่าระทวยแล้ว นี่มันเริ่มเลื่อนมาลูบเหนือแก้ม


"ชะ ชอบหมาด้วย"


"ชอบแค่หมา?"


"ชอบ ก็ชอบรวมๆกันไง"


"ชอบแล้วปีหน้ามาด้วยกันอีกนะ"


"อื้อ"


"ตอบก็มองหน้าดิ"


งะ...เงยหน้าก็เห็นตาสีอ่อนล่อลวงแบบนี้ไงงง


ยินดีแม่งรู้ว่าผมแพ้ไอ้หน้าตาท่าทางแบบนี้สุดๆเนี่ย โว้ย


ใจสั่นเป็นบ้าเป็นบอไปแล้ว


"ชอบแล้วปีหน้ามาด้วยกันอีกนะ?"


"อื้อ"


"ปีต่อๆไปด้วยนะ"


"เออ"


"ดีมาก น่ารัก"


"เอาหน้าออกไปได้ยัง"


"โอะ เลือดกำเดาไหลแล้ว"


ห้ะ!


"ไหน ไหนๆ" ผมเอามือสั่นๆปาดใต้จมูกตัวเอง ไม่รู้แหละ แยกไม่ออกว่าเลือดหรือเหงื่อ แม่งร้อนไปหมดทั้งหน้าเลย


"ที่จมูกสิ มาเช็ดให้"


"ไม่เห็นมีเลย ไหนๆ"


"มันไหลนิดนึง...จุ๊บ"


"ยิน!" อันนี้ไม่ได้เรียกเช็ด แถวบ้านเรียกจูบโว้ย!


คนกระทำอุกอาจผละไปนั่งพิงหลังลูบปากตัวเองด้วยสายตาพราวระยับ


"ทำไมตรงนี้หอมวะ :)"


ยินดี ไอ้คนเจ้าเล่ห์!!



รีวิวสงกรานต์ 2560 : ทำไมยินดีชอบจูบจมูกอะ! รำคาญๆๆๆ








ทำไมตอนพิเศษยาวกว่าเนื้อเรื่องอีก โอยย  ใครเล่นทวิตเตอร์ติดแท็ก #แฟนดีดี ได้นะคะ คนเขียนจะแอบไปส่อง :)
สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-04-2017 23:02:46
น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาต่อบ่อยๆนะ สเปไปเรื่อยๆ เพลินดี  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-04-2017 23:13:31
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 14-04-2017 23:45:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: kimkidoy ที่ 15-04-2017 13:48:18
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก
อยากให้เป็นเรื่องยาวจังง ชอบที่ยินมีแอบหวงด้วย :hao6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-04-2017 22:09:38
เพล หน้าตาต้องน่ารักแน่ๆ
ยินดี นี่หล่อสัด แน่เลย
มาต่อบ่อยๆนะ ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-04-2017 22:48:00
อิจฉาเพลทำไมได้แฟนดีแบบนี้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-04-2017 02:10:37
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: NewBaBy ที่ 19-04-2017 11:02:49
ว้าวว มีตอนพิเศษด้วย
อยากอ่านเป็นเรื่องยาวจังอ่ะตัว
 :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 20-04-2017 10:07:43
ฮามากกกก มีรีวิวแฟนด้วย 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 21-04-2017 11:05:17
หาได้ที่ไหนผู้ชายแบบนี้  #แฟนดีดี  :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 21-04-2017 15:41:16
 :impress2: ชอบ..ชอบมาก...ชอบมากๆๆๆๆๆๆ  อยากได้แบบยินดีอะค่ะ  หาได้ที่ไหน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 23-04-2017 03:59:26
55555 เพลแพ้ทางยินดีไปอี๊กกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: heyguy ที่ 29-04-2017 21:56:24
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 02-05-2017 05:11:08
แฟนแบบคุณยินดีนี่หาได้ที่ไหนค่ะะะะะะะะะะะ  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: memomeme ที่ 24-05-2017 14:04:31
ตามมาจากเรื่องกระทงวิศวะค่ะ อ่านแล้วก็เขินอีกเช่นเคย
ภาษาดี อ่านได้ไหลลื่นมากๆค่ะ
อ่านแล้วก็อิจฉาเพล ทำไมถึงได้แฟนดีดีได้ขนาดนี้ :sad4: :o12:
ยิ่งตอนที่หอมในร้านข้าวนี่ อือหือออ  :ling1: :ling1:
อยากจะหาแฟนได้แบบนี้มั่งจังเลย5555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 24-05-2017 15:55:53
น่ารักจังเลยค่ะ
เขินอ่า
 :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 24-05-2017 17:41:44
ละมุนมากเด้ออออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 26-05-2017 01:13:16
น่ารักมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 27-05-2017 10:58:59
น่ารักกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 28-05-2017 06:38:05
น่ารักมากกกกกก :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: somberness ที่ 15-06-2017 01:58:59
น่ารักจังเลยน๊าาาา :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: LoveAlone ที่ 15-06-2017 18:10:13
 :o8: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 17-09-2017 21:27:49
เพล นางได้ของดีมากกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPlai ที่ 17-09-2017 23:03:14
ใจพี่บางไปหมด ฮืออออ ยินดีทำไมดีต่อใจขนาดนี้ TT
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 26-10-2017 10:28:58
ยินดี ดีจริงๆ ดีสมชื่อ ฮืออออออออออออออออออ อยากได้ ขอ!  //เพลตบ 5555555555555555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: pimBNY ที่ 28-10-2017 18:51:11
 อยากมีแฟนเป็นยินดีเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: SoSweetCB ที่ 30-10-2017 11:08:41
เพลได้ของดีไปจริงๆ อิจฉาเบาๆ จะมีใครทนความเด๋อของเพลได้อีก 5555 น่ารักกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 30-10-2017 13:17:37
หูยยยยย...น้องเพลทำบุญมาด้วยอะไร
ขนาดหนูซึนมากแบบนี้
ยังได้สามีแสนดีเพอร์เฟ็คแบบพี่ยินอ่ะ
อิจฉาเบาๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Fufufeel ที่ 30-10-2017 17:04:15
ถ้าเราอิจฉาเพลจะเป็นไรมั้ย5555 อยากมีแฟนแบบยินดี กรี๊ดดด  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 30-10-2017 20:58:09
อยากอัดเสียงแล้วส่งไปว่า รำคานนนนนนนนนนน 55555 เหม็นความรักเว้ยยย เหม็น 5555เรื่องของเรื่องคืออยากมียินดีอ่ะชิ  :mew4: :mew4: :hao7: :hao7: :hao3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 30-10-2017 21:32:15
ฮืออออ น่ารักมากเลยยยย

มีแบบยินอีกไหมคะ? พรีฯได้ไหมเนี่ย??
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 03-11-2017 11:37:02
น่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 09-11-2017 10:23:08
แค่ไปปริ้นงาน

แกก็ได้แล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณบี๋ ที่ 09-11-2017 12:09:33
แบบพี่ยินต้องหาจากที่ไหน น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: JoobbieChu ที่ 09-11-2017 15:08:33
ยินดีเป็นแฟนที่ดีและน่ารักมากๆเลยอะ ถึงเพลจะเด๋อด๋าโง่ๆไปบ้าง ทำผิดมาก็เยอะแต่ยินก็ไม่เคยโกรธจริงจัง ยินดีนี่งานดีมากเลยค่ะ บรรยายผู้ชายคนนี้ออกมาได้แซ่บมาก อิจฉาเพลสุดๆ จะหาแบบนี้ได้ที่ไหนนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: chaotic69 ที่ 22-01-2018 00:43:17
โอ๊ยเพล เหม็นความรัก!
ขอเซ้งพี่ยินต่อได้มั้ยคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 17-02-2018 16:18:34
รีวิวหลังอ่านจบ : อยากได้ยินนนน เนี่ยความดีงามของโลกใบนี้ เพลทำบุญวัดไหนคะ ฮือออ รวยแล้วได้แฟนดีอีกต่างหากก  :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 19-02-2018 22:07:59
ขอยินดีสักคน จะตั้งใจเรียนเลยจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 19-02-2018 23:17:04
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Sasiwan ที่ 22-02-2018 14:51:30
งื้ออออ่านก็รอบก็ชอบ :katai2-1: :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: kikilululu ที่ 22-02-2018 16:55:18
อ่านมาเรื่อยๆก็ฮาดี เด๋อๆทำอะไรไม่ถูก แต่พอถึงบรรทัดที่เนียนขอเบอร์เรานี่หันไปว้ากประตูเลย เขินมากเด้อ5555555
ตลกความกากที่นอกจากรวยและรักยินก็ไม่มีอะไรเลย555555555555555555 เอ็นดูอ่ะ555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: kikilululu ที่ 22-02-2018 17:41:25
ตอนพิเศษนี่หมั่นไส้นน้องเพลมากกว่าเดิม นอกจากรวยและอยู่ให้ยินดีรักก็ทำอะไรไม่เปงแร้วววววว แล้วทำเปงรำคาญเค้าหอมจมูกแต่ตัวเองแอบส่องเค้าในตู้เสื้อผ้านี่ใครน่ากลัวกว่ากัน5555555555 อยากมีเพลเป็นของตัวเองบ้างง อยากวอแวให้แง้วๆตลก555555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: renardette ที่ 05-03-2018 20:39:03
อิจฉาเพลมากกกทำบุญมาด้วยอะไร ทำไมถึงได้ยินดี T^T ขอสักคน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: MacaroonCookie ที่ 27-03-2018 18:03:14
ขอแบบยินดีซักคนแล้วจะตั้งใจเรียนค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: vy0Cik ที่ 29-03-2018 21:26:13
ฮือออฮอ ผู้ชายแบบนี้มีที่ไหนอีกไหมค่ะ อยากได้ !!!  อิจฉาาาา :m31:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 15-04-2018 09:33:03
หมั่นไส้​คน​ได้​ผู้ดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 15-04-2018 11:52:23
ถ้าจะมีผัวต้องหาให้ได้แบบนี้  :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 28-04-2018 17:26:01
ยอมเป็นคนโง่และบื้อถ้าได้แฟนแบบยินดี 5555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: aeiou_376 ที่ 04-05-2018 13:53:43
น้องเพลรวยไม่พอ แถมยังได้แฟนหล่ออีก อิจฉาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Fufufeel ที่ 24-03-2019 16:20:50
ยินดีทำไมดีขนาดนี้คะ อยากมียินดีเป็นของตัวเองจังค่ะ เพลจะตบเรามั้ย55555 เพลบ็องมากๆเลย น่ารัก :katai3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 04-06-2019 09:37:21
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-06-2019 03:27:40
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: zzcors ที่ 08-06-2019 23:49:15
อ่านจนแก้มปวดไปหมด ทำเรื่องยาวเลยเหอะ เขินตัวบิด.
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 11-06-2019 11:58:01
ชอบ พระเอกน่ารัก มีความเป็นออปป้าสูง  :katai3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] - #แฟนดีดี จบ ตอนพิเศษ วันสงกรานต์ (14/04/60)
เริ่มหัวข้อโดย: Elle-sama ที่ 04-12-2019 20:56:11
 o13ว น่ารักมากกก ชอบมากเลย เพลนี่รวยได้มึนๆน่ารัก คุณยินก็เป็นแฟนคนโตสุดเท่เลย