ตอนพิเศษหนึ่ง: One Step Closer
ติมารู้สึกดีกับพี่ปอมมากๆ รวมถึงคิดไปเองต่างๆ นาๆ และสุดท้ายก็ไม่พ้นต้องเจ็บเอง ถ้าติมาไม่ตัดสินใจเดินไปทักวันนั้น วันนี้ติมาอาจจะเพียงมีความสุขที่ได้เห็นพี่เขาก็ได้
แม้ไม่ถึงกับอกหัก ซึ่งติมาก็ไม่รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน แต่ติมาก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ ว่าติมาก็รู้สึกเศร้าไม่น้อยเหมือนกัน
คนอื่นเขาจีบกันแบบไหนนะ ถึงได้เป็นแฟนกัน ฝ่ายหนึ่งจีบและอีกฝ่ายก็มีใจอย่างนี้ใช่ไหม
แล้วติมาล่ะ ที่ทำไปเรียกอ่อยหรือเปล่านะ อ่อยแล้วแต่เขาไม่เล่นด้วย แล้วถ้าพยายามมากกว่านี้ล่ะ เราจะได้ใกล้กันกว่านี้ไหม แต่ติมาไม่กล้าเสี่ยงอีกแล้ว
คิดเองก็เจ็บเอง ติมาควรตัดใจดีกว่า อย่างน้อยพี่ปอมก็เป็นคนแรกที่ทำให้ติมากล้าเข้าหา เป็นคนที่ติมารู้สึกดีๆ ด้วย แม้จะเป็นได้แค่คนรู้จักกันก็ตาม
.
.
.
ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว ติมากำลังรีบเดินไปห้องเรียน มีการบ้านต้องส่งตอนบ่ายโมงแต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองทำถูกไหมเลยจะปรึกษาเพื่อน ห้องเรียนของติมาเป็นอาคารเดียวกับโรงอาหาร คือชั้นล่างเป็นโรงอาหาร ชั้นสองเป็นห้องอาจารย์ ส่วนชั้นสามเป็นห้องเรียนติมา โรงอาหารคนเยอะเหมือนทุกวัน แต่ติมาไม่ได้กวาดสายตาหาใครอีกแล้ว รีบเดินอย่างเดียวเท่านั้น คนเยอะก็มีส่วนทำให้ติมาเกิดอาการประหม่า
ปอมปอม: ติมา นี่พี่ปอมนะ
มีไลน์เข้าจากคนที่ติมาคาดไม่ถึงว่าจะไลน์มาหา แปลกใจไม่น้อยและดีใจมาก มากจนไม่รู้จะบรรยายยังไง จากที่คิดว่าจะตัดใจ ขอเลื่อนไปอีกนิดได้ไหม ขอติมามีความสุขอีกสักนิด
ปอมปอม: นั่งกินข้าวที่โรงอาหาร เลยเจอติมารีบเดินขึ้นบันได อุตส่าห์โบกมือให้ เก้อเลยนะเนี่ย
ติมาครับผม: สวัสดีครับพี่ปอม พอดีผมรีบครับ จะไปปรึกษาเพื่อนเรื่องการบ้านที่จะส่งบ่ายนี้
ติมาครับผม: ส่งสติกเกอร์ร้องให้
ติมาแปลกใจที่เราคุยกันปกติมาก ทั้งที่เคยคุยกันแค่ครั้งเดียว ทั้งที่ติมาเอ่ยปากจะจีบพี่เขาก่อนและก็หยุดทุกอย่างอยู่แค่นั้น ทั้งที่ระหว่างสองเดือนมานี้เราเพียงยิ้มให้กันไกลๆ
พี่ปอมยังจำติมาได้เหรอ ยังจำได้เหรอว่ามีเบอร์ติมาอยู่ ติมารู้สึกอยากยิ้มกว้างให้ปากฉีกถึงใบหู
ปอมปอม: สติกเกอร์น่ารักนะ ของพี่ไม่เห็นมีน่ารักบ้างเลย
ติมาครับผม: มีน่ารักเยอะกว่านี้อีก อิอิ
ติมาครับผม: ส่งสติกเกอร์
ติมาครับผม: ส่งสติกเกอร์
ติมาครับผม: ส่งสติกเกอร์
ติมาครับผม: ส่งสติกเกอร์
ติมาครับผม: ส่งสติกเกอร์หมีน้อยพูดว่าคิดถึงจังเลย
เห้ย ติมาที่กำลังจิ้มสติกเกอร์น่ารักๆ ส่งให้พี่ปอมถึงกับอุทานกับตัวเองอย่างตกใจ เมื่อเผลอกดไปโดนสติกเกอร์ตัวเมื่อกี้ ทำไงดี จะให้รีบพิมพ์ไปว่าส่งสติกเกอร์ผิดตัวเหรอ
โอ๊ย ติมาคิดไม่ออก
ปอมปอม: หืม สติกเกอร์ตัวสุดท้ายนี่?
ติมาครับผม: ส่งผิด แต่คิดจริงครับ
ให้ตายเถอะ สิ่งที่ติมาอยากทำตอนนี้คืออะไรรู้ไหมครับ
...ติมาอยากแกล้งตาย
แล้วตอนนี้มือถือสั่นไม่รู้พี่ปอมส่งอะไรมา ไม่กล้าเปิดดูเลย เลิกเรียนตอนสี่โมงค่อยดูแล้วกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ปอมปอม: ทางนี้ก็คิดถึง
ปอมปอม: เย็นนี้กินข้าวกันไหม
ปอมปอม: อ้าว ทำไมเงียบไป งั้นพี่ไม่กวนแล้ว
ปอมปอม: ว่างไม่ว่างตอบพี่ด้วยนะครับ
ปอมปอม: โทรมาเบอร์นี้นะ 081-xxxxxxx อยากได้ยินเสียงครับ
ติมาที่เปิดไลน์ดูตอนสี่โมงแทบอยากเป็นลม ช่วยตอบที
...ใครอ่อยใคร
ติมาว่าติมาไม่ตัดใจแล้วนะ แต่จะพุ่งชนแทน
----จบ----
สวัสดีค่ะ :mew1:
จริงๆ แล้วอยากเขียนแบบตอนเดียวจบมากกว่า
แต่เขียนแล้วมันไม่จบ เลยต้องตัดฉับตรงนั้น
แล้วมาต่อตรงตอนพิเศษเอา
เพราะไม่งั้น เรากลัวใจตัวเองเหมือนกันว่าจะดอง ฮ่าๆๆ :hao7:
ใจจริงอยากเขียนเรื่องยาวมากเลยค่ะ แต่ดูท่าจะไม่รอด
แนะนำได้นะคะ อยากให้ปรับปรุงตรงไหน :mew2:
ขอบคุณที่แวะมานะคะ :กอด1:
ขอบคุณคอมเม้นท์จากคุณ changemoo และคุณ twinmonkey0311 นะคะ :pig4:
ตอนพิเศษสอง ใกล้กันไปอีกนิด
วันนี้พี่ปอมและติมานัดเจอกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพราะเป็นจุดนัดพบที่ใกล้พวกเราที่สุดแล้ว ติมาสวมกางเกงยีนส์ขายาว เสื้อยืด รองเท้าผ้าใบเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ที่ไหล่มีกระเป๋าใบไม่โตนักบรรจุกระเป๋าเงิน มือถือและร่ม ไม่พกร่มไม่ได้หรอกครับ แดดร้อนเผาจนแสบผิว ติมาเดาว่าคงร้อนพอๆ กับกระทะทองแดงแล้วแน่ๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เราจะไปข้างนอกด้วยกันหลังจากที่กินข้าวด้วยกันครั้งนั้น จะใช้คำว่าไปเดทก็เขินเกินไป ก็เรายังเป็นแค่คนรู้จักกันเฉยๆ นี่ครับ
ติมาไปถึงป้ายรถเมก็เห็นพี่ปอมยืนรออยู่แล้ว
“พี่ปอม สวัสดีครับ” ติมาทักพี่พลางยกมือไหว้
“สวัสดีครับติมา โห รีบเดินมาล่ะสิ เหงื่อโชกเลย” ไม่พูดเปล่าแต่หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงมาซับเหงื่อให้ติมาด้วย
พี่ปอมคงจะลืมไป นี่พวกเรายืนอยู่ที่ป้ายรถเมที่อนุสาวรีย์นะครับ คนก็ไม่ใช่น้อยๆ การกระทำของพี่เมื่อกี้มีคนมองตั้งหลายคน
แต่ติมาชอบนะ
เขินดี
รู้สึกร้อนๆ ที่ผิวหน้าด้วย
ติมา...ไอ้บ้า
-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/
จริงๆ นัดครั้งนี้เป็นนัดกะทันหัน พี่ปอมทักมาเมื่อวาน ถามว่าวันนี้ซึ่งเป็นวันเสาร์ว่างมั้ย จะชวนไปเดินเล่นกัน
“พี่ปอม พวกเราจะไปไหนกันครับ” ตอนนี้เพิ่งจะเก้าโมงเช้าครับ
“ไปเดินห้างกันมั้ย แล้วหาอะไรกิน จากนั้นก็ดูหนังซักเรื่อง” พี่ปอมเลิกคิ้วเมื่อเห็นติมาส่ายหัวหลังจากตัวเองพูดจบ
“ติมาไม่ชอบเดินห้าง” ติมาเผลอทำเสียงอ่อยจนพี่ปอมขำ
“ทำไมไม่ชอบล่ะ เห็นวัยรุ่นออกจะชอบไปกัน” พี่ปอมคงอดสงสัยไม่ได้
“ก็เดินนานๆ เรื่อยเปื่อยมันเมื่อยนี่ครับ แต่ถ้าจะไปซื้อของก็ว่าไปอย่าง เดินแป๊บเดียวก็เสร็จ อีกอย่างติมาไม่ค่อยได้เดินห้างแถวๆ นี้ด้วย แบบว่ามีแต่คนแต่งตัวดูดี ติมารู้สึกเกร็งยังไงไม่รู้ บางห้างก็ใหญ่ ติมาเดินจนเกือบหลงทางแน่ะ” พี่ปอมพยักหน้าเข้าใจ
“งั้นไปปั่นจักรยานเล่นที่สวนรถไฟกันมั้ย”
ติมายิ้มตาเป็นประกาย รีบบอกอย่างกระตือรือร้น
“ไปครับ ติมายังไม่เคยไปเลยอ่ะ ไม่มีเพื่อนไป”
-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/
สวนรถไฟร่มรื่นมาก มองไปทางไหนก็เขียวชอุ่มไปหมด คนมาปั่นจักรยานเยอะเหมือนกัน บ้างก็มาเป็นครอบครัว มีเด็กน้อยปั่นจักรยานคันจ้อยข้างๆ คุณพ่อ เป็นภาพที่น่ารักมากทีเดียว
“ยิ้มไม่หุบเลยนะ” พี่ปอมที่ปั่นจักรยานข้างๆ แซวติมา
“ก็ติมาชอบอ่ะ” ไม่พูดเปล่า ยิ้มตาหยีแถมด้วย
“แล้วคนพามาล่ะ”
“ครับ?” ติมาตามไม่ทัน มัวแต่มองเนินหญ้าสีเขียว
“แล้วคนพามาล่ะ ชอบป่ะ” พี่ปอมทวนคำถามอีกครั้ง
“ชอบ” ติมาตอบเสียงเบาพลางยิ้มเขิน ตอนนี้มันหมดยุคของการตอบว่า “พูดอะไรก็ไม่รู้” หรือ “บ้า” แล้วครับ คิดยังไงก็ตอบออกไป อีกฝ่ายจะมองว่าเราอ่อยก็ช่าง ก็ตั้งใจอ่อยนี่นา
“แล้วพี่ปอมอ่ะ ชอบคนที่พามาด้วยรึยัง” ติมายังไม่ลืมอุดมการณ์ตัวเองนะ ว่าต้องพุ่งชนด้วยความเร็วสูง เอาเป็นว่าถ้าพี่ปอมเป็นรถ ตอนนี้ก็อาจจะบุบไปทั้งคัน ต้องนอนในอู่เป็นเดือนแน่ๆ
พี่ปอมขำอีกแล้ว ขำก็ได้ครับ แต่ตอบติมาก่อนเถอะ
“พี่ปอมอ่ะ อย่าโกงนะ ตอบมาก่อน” ติมาดึงเสื้อพี่ปอมเบาๆ ให้อีกฝ่ายหยุดรถ เอาสิ ไม่ตอบก็ไม่ต้องปั่นต่อละ
“ไม่โกงสักหน่อย” พี่ปอมมองตาติมาและยิ้มน้อยๆ ติมาก็สบตาพี่ปอมเช่นกัน เราจ้องตากันอยู่อย่างนั้น
นัยน์ตาพี่ปอมมีติมา แล้วในใจพี่ปอมล่ะ มีติมาบ้างไหม
“ชอบมา ชอบกลับ ไม่โกง”
พี่ปอมไม่พูดเปล่า แต่โน้มหน้ามาหอมแก้มติมาด้วย
ติมารู้สึกช็อค ได้แต่กะพริบตาปริบๆ
“อ้าว คนพูดตรงค้างไปเลย” พี่ปอมทำไมชอบแซวติมาจัง ก็คนมันตกใจนี่ครับ ไม่คิดว่าพี่ปอมจะตอบแบบนี้และทำแบบนี้
มีคนปั่นจักรยานผ่านเราไปอีกกลุ่ม บางคนมองพวกเราด้วยความสงสัยว่าหยุดรถทำไม จนถนนว่างอีกครั้ง พี่ปอมถึงได้...
จุ๊บ
พี่ปอมโน้มหน้ามาจุ๊บปากติมาอย่างรวดเร็ว
“เป็นแฟนกันแล้วนะ”
“อ้อ พี่ไม่ได้ถามเรานะ แต่บอกให้รู้ว่าตอนนี้เราเป็นแฟนพี่แล้ว”
“พี่เผด็จการอ่ะ” ติมาอดค้อนไม่ได้ แต่ไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าดีใจมากที่ได้ยินอย่างนั้น
พี่ปอมจุ๊บจมูกติมา แล้วส่งยิ้มละลายใจมาให้
“ใช่ครับ พี่เผด็จการ”
“แต่ก็เป็นคนเผด็จการที่ชอบเราเข้าแล้วนะครับ”
พวกเราปั่นเริ่มจักรยานอีกครั้งเพื่อเอาไปคืนที่ร้านเช่า จากนั้นจะไปหาอะไรกินและดูหนังคลายเครียดจากการเรียนกันซักเรื่อง ก็จะเสร็จสิ้นกิจกรรมการเดินเล่นด้วยกันของสองเราครั้งแรก และติมาก็หวังว่าจะมีครั้งต่อไปอีกหลายๆ ครั้ง
เพราะนี่ก็เป็นอีกก้าวที่เราใกล้กันเข้ามาอีกนิด ยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องเรียนรู้และยอมรับซึ่งกันและกัน
ก่อนแยกจากกันวันนี้ ติมาจับมือพี่ปอมไว้ ใช้ทั้งสองมือประคองมือพี่ปอมเพียงมือเดียว
“ขอบคุณพี่ปอมมากนะครับ” ติมามองสบตาพี่ปอมเพื่อบอกว่าตนเองหมายรวมถึงทุกๆ เรื่องเลย ทั้งเรื่องที่ยอมทำความรู้จักกัน จนถึงยอมเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
พี่ปอมเอามืออีกข้างที่ว่าง มากุมทับมือติมา
“ขอบคุณเหมือนกันครับ ขอบคุณที่ยอมเดินเข้ามาให้พี่ได้รู้จัก ขอบคุณที่เข้ามาทำให้พี่รู้สึกชอบครับ”
-จบ-
สวัสดีค่ะ :-[
ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเม้นท์เลย ดีใจมากๆ ที่บอกกล่าวกันว่ารู้สึกอย่างไร :กอด1:
ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ :mew1:
ตอนพิเศษสาม เป็นทุกอย่าง
ติมากับพี่ปอมเป็นแฟนกันได้สามเดือนแล้ว พอได้มาเป็นแฟนกันถึงได้รู้สึกว่าคนที่เรียนหมอนี่ยุ่งจริงๆ เวลาว่างก็ไม่ค่อยมี เวลานอนก็ไม่ค่อยมี กว่าจะได้เจอกันทีติมาต้องรอให้พี่ปอมยืนยันว่าตัวเองว่างจริงๆ และได้นอนเต็มอิ่มแล้ว เพราะถึงจะอยากเจอแต่ความเป็นห่วงพี่ปอมนั้นมีมากกว่า แต่นั่นเป็นแค่ช่วงแรกๆ นะครับ ช่วงหลังๆ พี่ปอมชวนไปอยู่ด้วยกันเลย เลยจะได้เจอกันบ่อยขึ้น อย่ามองว่าอยู่กินก่อนแต่งอะไรทำนองนั้นนะครับ ฟังประโยคนี้จากเพื่อนพี่ปอมที่แซวเมื่อรู้ข่าวว่าอยู่ห้องเดียวกันแล้วรู้สึกเขินๆ มีอาการหน้าร้อนยังไงไม่รู้ ติมาว่าเราเป็นเหมือนรูมเมทกันมากกว่า ที่ได้แชร์ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตร่วมกัน ซึ่งติมาก็หวังว่าพวกเราจะได้ใช้เวลาร่วมกันไปให้นาน
- - ---- --- ---- -- -- - -
“พี่ปอม ผมยาวแล้วนะ” ติมาทักในเย็นวันหนึ่งที่เราเพิ่งถึงห้องตอนสามทุ่ม
“จะทิ่มตาแล้วมั้งเนี่ย” ติมาเอื้อมมือไปจับผมพี่ปอมที่ปรกหน้าผาก แทบจะบังไปครึ่งแว่นสายตา ก่อนจะโน้มตัวชะโงกผ่านไหล่ไปจับผมด้านหลังต้นคอซึ่งก็ยาวขึ้นกว่าเดิมจนแทบไม่เป็นทรง
“ยังไม่มีเวลาไปตัดเลยครับ ขี้เกียจด้วย”
“อีกอย่างนะ...” พี่ปอมใช้สองมือประคองใบหน้าติมา เป็นเหมือนการบังคับกรายๆ ให้สบตากัน
“มีแฟนแล้ว ไม่ต้องหล่อมากก็ได้”
.
.
โป้งพี่ปอมแล้ว...ทำไมชอบทำให้เขิน
.
.
“ให้ติมาตัดให้มั้ยครับ แป๊บเดียวเสร็จ”
“เอาสิ ตอนนี้เลยนะ เดี๋ยวพี่ไปถอดเสื้อก่อน”
“พี่ปอม แล้วไม่กลัวติมาทำผมแหว่งเหรอ”
“พี่เชื่อใจติมาครับ เพราะถ้าผมแหว่งละก็ พี่จะรักติมาทุกวันจะกว่าผมจะเข้าทรงเหมือนเดิม”
“พี่ปอม!!!!” ติมาได้แต่ตะโกนเสียงดังกลบเกลื่อนความเขิน ในขณะที่อีกคนส่งเสียงหัวเราะลั่นห้อง
.
.
วันนี้ติมากับพี่ปอมมาซื้อของที่ห้างกลางเมืองไม่ไกลจากที่พักพวกเรามากนัก เพราะนั่งบีทีเอสเพียงสองสถานีเท่านั้นเอง
พี่ปอมจับมือติมาพาเข้าร้านเสื้อที่อยู่ตรงหน้า เสื้อผ้าบุรุษหลากหลายแบบละลานตาไปหมด
“ติมาครับ เลือกเสื้อเชิร์ตให้พี่ที เอาสองตัวนะ”
“แล้วพี่ไม่เลือกเองอ่ะ จะได้ถูกใจ”
“ถ้าแฟนเลือกให้พี่ถูกใจหมดแหละ” ติมากลั้นยิ้ม เสไปเลือกเสื้อบนราว ปากก็พูดเบาๆ
“ปากหวาน”
“รู้ได้ไง วันนี้ติมายังไม่ได้ชิมเลย”
“พี่ปอม! นี่มันข้างนอกนะ” ติมาตีแขนอีกคนเบาๆ ทำหน้าดุไปด้วย
“ขอโทษคร้าบ พี่กระซิบข้างหูเรา ไม่มีใครได้ยินหรอกน่า” พี่ปอมยกมือเสมอไหล่ ทำหน้าสำนึกผิด
สุดท้ายก็ได้เสื้อเชิร์ตคอจีนสีกรมท่าและเสื้อเชิร์ตปกธรรมดาสีขาวล้วนอย่างละตัวยื่นให้พี่ปอมไปลองในห้อง ไม่ได้อยากจะอวยแฟนหรอกนะครับ แต่พี่ปอมน่ะดูดีจริงๆ นะ และก่อนจะยื่นให้พนักงานเอาไปคิดเงินที่เคาน์เตอร์ติมาก็พลิกดูตะเข็บเสื้อ ดูรอยเย็บว่าเรียบร้อยดีหรือมีตำหนิตรงไหนหรือเปล่า ถึงจะเป็นร้านมีชื่อ แต่รอบคอบไว้หน่อยก็ดีกว่าไม่ใช่หรือครับ
“พ่อบ้านพ่อเรือนจริงจริ้ง” พี่ปอมแซวเมื่อพนักงานลับตาไปแล้ว
“แล้วไง...” ติมายักคิ้วทำสีหน้าท้าทาย
“ก็ไม่แล้วไงหรอกครับ แค่รักมากกว่าเดิม”
“เอ๊ะ... ทำไมชอบหยอด” จากสายตาท้าทายอีกคนเมื่อกี้ ได้เสหลบไปมองรอบๆ ร้านแทนแล้วครับ
“ก็หยอดแล้วมีคนเขินนี่...น่ารัก” พี่ปอมขยิบตา
.
.
“พี่ปอม พรุ่งนี้วันเกิดพี่ปอมนี่นา อยากทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ” ติมาถามพี่ปอมก่อนนอน
“งั้นไม่ต้องปลุกพี่ครับติมา ปล่อยพี่นอนโง่ๆ บนเตียงไปจนเย็นเลยก็ได้” พี่ปอมพูดเสียงยานคางมาจากอีกฝั่งของเตียง
เราทั้งคู่เป็นคนง่ายๆ วันเกิดก็เพียงบอกอีกคนว่า “สุขสันต์วันเกิด” เท่านั้น ไม่มีอะไรยุ่งยาก ดังเช่นเช้าวันนี้ที่เป็นวันเกิดของพี่ปอม ติมาตื่นตอนเจ็ดโมงเหมือนทุกวัน ทำกับข้าวง่ายๆ สองอย่างคือกะเพราไข่ดาวและแกงจืดหมูสับใส่ผักชี พวกเราไม่ชอบผักทั้งคู่ครับแต่กะเพราและผักชีก็ยังกินได้ พี่ปอมยังไม่ตื่นติมาก็กินข้าวก่อน แล้วก็เอาเสื้อผ้าทั้งของตัวเองพี่ปอมลงเครื่องซักผ้า ส่วนผ้าสีแยกไว้ซักมือผ้าจะได้ไม่หมอง
กระทั่งสี่โมงเย็นพี่ปอมถึงเดินหัวฟูเกาพุงออกมาจากห้อง ส่วนติมากำลังยืนรีดผ้าอยู่หน้าทีวี
“พี่ปอม สุขสันต์วันเกิดนะครับ ติมาขอให้พี่มีความสุขมากๆ นะ”
“ขอบคุณครับ อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะ” พี่ปอมเดินมาโอบติมาที่กำลังรีดผ้าอยู่ ทำให้รีดไม่ถนัดเอาซะเลย
“พี่ปอมปล่อยก่อน เดี๋ยวติมาทำเสื้อพี่ไหม้นะ”
“ก็ได้” อีกคนทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมทำตาม
“บอกให้ส่งเสื้อผ้าซักรีดก็ไม่ยอม พี่ไม่อยากให้ติมาเหนื่อยนะ” พี่ปอมบ่นเรื่องนี้อีกแล้วขณะเดินไปหาอะไรกินที่ครัว
“ไม่เหนื่อยหรอกน่า ก็อยากทำให้แฟนนี่”
“ครับๆ ยอม... ยอมทุกอย่างเลย”
ติมาได้แต่อมยิ้มกับเตารีดอยู่คนเดียว
------------------จบตอน----------------------
สวัสดีค่ะ :pig2:
ชื่อตอนคือเป็นทุกอย่าง แต่อาจเขียนได้ไม่ครบทุกอย่างค่ะเพราะนึกไม่ออก :z1:
คิดอย่างไร บอกกล่าวแนะนำกันได้นะคะ :mew3:
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ :pig4:
:bye2: :bye2:
ขอรวมเรื่องสั้นที่เคยเขียนไว้ตรงนี้นะคะ แบบว่าบางทีเราก็หาไม่เจอเหมือนกัน :katai1:
อยากรู้จัก...อยากให้เธอได้รู้จัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54538.0)
♡♡ลงจากคาน♡♡ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55912.0)
♥ คู่รัก ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=58954.0)