โดย เอ็มเอ็มซี..มานะ เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบห้า>>>*จะได้หรือไม่ ใช่อยู่ที่กูลิขิต แต่อยู่ที่ฟ้า2*
แค่เขาคุยด้วย
ไม่ได้หมายความว่า
เขาจะชอบมึง
ตามเคยช่วงบ่ายๆแบบนี้ ผมชอบมานั่งกินกาแฟในห้องทำงาน แล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าแอพเฟสบุ๊ค ผมนั่งไล่ดูเฟสกดไลค์ไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่เฟสของน้องริว ผมกดเข้าสู้หน้าไทม์ไลน์ เพื่ออยากทำความเข้าใจและรู้จักเขาให้มากขึ้น สถานะยังไม่มีแฟนเสียด้วย ทุกอย่างโอเคเหมาะเลยนี้ แต่เห้ย เจ้าบร์อนก็กำลังคุยๆอยู่กับริวเขานี้หว่า มีบอกฝันดีกันด้วย อย่างไงๆ ซะแล้ว ดูท่าเจมส์จะมีคู่แข่งคนสำคัญเสียแล้วละน้องรัก ไม่คิดเลยว่าบร์อนจะไวนำโด่งได้ขนาดนี้ เอ แล้วจะทำไงดีละ เอ็มเอ็มซี มานะ
“ทำไรพี่” อยู่ๆก็มีเสียงใครบางคนดังจากทางด้านหลัง
“เหี้ย ไอ้ออย แกอีกแล้ว” ผมตกใจสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะหันไปต่อว่า ไอ้คนที่แอบมาเงียบๆด้านหลัง
“ฮาๆ” มันกลับหัวเราะเยาะผมเสียอย่างพออก พอใจอย่างมาก
“มาให้มันเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาหน่อย ไม่ได้หรือไง” ผมละเชื่อมันเลย บอกแล้วว่าไอ้นี้ ถ้าไม่รู้จัก จะคิดว่ามันหยิ่งๆเก๊กๆ แต่พอได้สนิทกันกับมันชะหน่อย มันจะกวนทีนมาก เป็นคนขี่เล่นแบบนี้ละครับ
“แค่นี้ก็ตกใจด้วย ขวัญอ่อนนะพี่” แนะมันยังตีหน้ามึนไม่ฟังที่พูดสักนิด
“เออๆ เอาที่มึงสบายใจ ว่าแต่ที่เข้ามาหาพี่ในออฟฟิตเนี้ยมีอะไร” ผมมองไอ้น้องออยที่กำลังนั่งลงตรงข้ามกับผม อีกด้านของโต๊ะรับแขก
“จะมาถามว่าเรื่องเจมส์ไปถึงไหนแล้วพี่”
“อืม ได้อะไรนิดหน่อยละ กำลังเตรียมแผน ว่าแต่ออยเถอะ กับโอ๊คเป็นไงบ้าง”
“ก็ดีครับพี่ เราเข้าใจกันมากขึ้นทุกวัน ไม่ผมไปค้างบ้านมัน มันก็มาค้างบ้านผม เรารักกันดีครับ” มันพูดไปยิ้มไป
“อืมก็ดี แล้วแนนกับโอ๊คละ เป็นไง”
“เออ เอ้อ เขาก็ยังคบกันอยู่นะพี่ เมื่อวานไอ้โอ๊คมันยังขึ้นสเตตัสเฟสว่า รักแนนมาก :L1: แนนก็ขึ้นสเตตัสเฟส กลับ ว่า รักโอ๊คมาก เช่นกัน” หน้าตาที่ดูเศร้าๆลงอย่างเห็นได้ชัดของไอ้ออยตอนนี้มันอะไรกัน เปลี่ยนอารมณ์ง่ายจังวะ
“แกไหวเปล่าวะออย” จนผมอดห่วงไม่ได้
“ไหวสิพี่ ผมเป็นคนเลือกเอง ไม่ว่าวันข้างหน้าอะไรมันจะเกิดขึ้น ผมก็ต้องยอมรับมันให้ได้” เสียงมันเริ่มสั่นเครือ เหมือนคนกำลังจะร้องให้ อะไรกันของเจ้านี้ มันไหวหวั่นกับโอ๊คมากมายขนาดนี้เชียวหรือวะ
“อะไรกัน ไหนบอกว่าไหว แค่นี้ก็จะร้อง” ผมมองเจ้าออยก่อนจะส่ายหัว แล้วแอบขำมันนิดๆ
“เปล่าจะร้องซะหน่อย แบบ ผมก็แค่รู้สึกแย่ โอ๊คกับแนนสองคนนั้น เขารักกันอยู่ดีๆ แต่ดันมีผมเข้าไปแทรกในชีวิตมัน จนทำให้มันกับแนนหลังๆมานี้เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น สำคัญตอนนี้ แนนเขาเริ่มระแคะระคายบ้างแล้วนะพี่ ว่าไอ้โอ๊คมันกำลังนอกใจแนน เอ้อ แบบนี้ผมเหมือนคนเห็นแก่ตัวมากไหมพี่ ที่ไปรักคนมีเจ้าของแล้ว แถมยังแอบเป็นชู้กับแฟนชาวบ้านได้อย่างหน้าตาเฉย” มันพูดจบแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง ไม่ใช่แค่แกหรอกที่รู้สึกแย่ ออย พี่เองก็ด้วยมีส่วนกับเรื่องนี้เหมือนกัน
“อ้าว แล้วแกรู้ได้ไง ว่าแนนเขาเริ่มคิดว่าโอ๊คมันกำลังนอกใจ โอ๊คบอกแกหรอ”
“เปล่าพี่ โอ๊คไม่ได้บอก มันไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ ว่าแนนกำลังสงสัยมัน เพราะเรื่องนี้แนนเธอเป็นคนพูดกับผมเอง บังเอิญตอนที่ผมไปหาไอ้โอ๊คที่บ้าน เป็นจังเหวะที่แนนเขาก็มาพอดี แบบรถไฟชนกันจะๆ แล้วเมื่อแนนมีโอกาสอยู่กับผมสองต่อสอง เธอเลยถามผมว่า โอ๊คกำลังมีใครนอกจากแนนหรือเปล่า เพราะโอ๊คเปลี่ยนไปมาก” มันพูดกับผมทำหน้าหง่อยๆมองผมตาแป๊ว
“แล้ว ออย คิดจะทำอย่างไงต่อ”
“ผมคงต้องไปต่อละพี่ มาถึงขั้นนี้ละ ผมทิ้งมันไม่ได้จริงๆสำหรับตอนนี้มันก็ขาดผมไม่ได้ ผมก็ขาดมันไม่ได้เหมือนกัน แต่ถ้ามันเป็นฝ่ายทิ้งผมไปก่อน นั้นก็อีกเรื่อง”
“ความรักมันเป็นเรื่องเข้าใจยากเหนอะ บางทีการอยู่คนเดียวมันก็เป็นคำตอบที่ดี แต่มันเป็นวิถีของคนกลัวกับความผิดหวัง แต่ถ้าไม่สู้ จะรู้หรอว่าเราก็มีโอกาส เรื่องแบบนี้มันพูดยาก”
“พูดอะไรของพี่ ผมไม่เข้าใจ ว่าแต่พี่เถอะ อยู่มาได้ไง ไม่เห็นมีแฟนสักคน” มันมองผมจ้องเขม็ง
“เออ ก็อยู่ได้ละกัน “
“จริงหรอ แอบมีซ่อนไว้ตรงไหนหรือป่าว ฮาๆ” มันมองผมอย่างกับจะมองหาความจริงที่ซ่อนอยู่
“ไม่มี”
“แล้วทำไมต้องทำเสียงสูงด้วย”
“พอเลยเชี้ยออย หมดธุระแล้วก็กลับไป ไป” แหมไอ้นี้เริ่มชักจะรู้ทัน ผมรีบออกปากไล่มันทันที
“หมดธุระอะไร ผมยังไม่เริ่มคุยธุระเลย ผมถามเรื่องเจมส์ไปถึงไหนแล้ว เรายังไม่ได้คุยเรื่องเจมส์เลยนะพี่”
“อ้าวหรอ ใช่ๆ ว่าต่อมาสิ”
“อย่างนี้พี่ ผมว่าเจมส์มันหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ ผมว่ามันอ่อยผมพี่”
“หา พูดบ้าๆ ไม่ม้าง”ผมอุทานออกมา อย่างไม่น่าเชื่อ เจมส์เนี้ยนะอ่อยออย มันทำไงนะ
“จริงพี่”
“เห้ย มันทำไง เล่าสิ” เรื่องนี้มันต้องขยาย
“มัน มัน ทำแบบ แบบ เอาน่าพี่ ผมรู้ละกันว่ามันอ่อย” ไอ้ออยทำหน้าเขินๆไม่กล้าเล่า
“อะไร หว่า ไม่พูดแล้วพี่จะรู้หรอ ว่าเจมส์มันอ่อยจริงๆหรือเปล่า” ผมทำตาเจ้าเล่ห์ หลอกล่อให้ไอ้ออยมันพูดออกมาให้ได้
“อย่าบอกใครนะพี่ ผมขนลุก เวลาอยู่กับมันสองคน …..” แล้วมันก็เงียบไป
“อะไร ของแก ออย จะรู้เรื่องมะวันนี้” ผมเริ่มหงุดหงิด
“เอางี้พี่ ผมพูดไม่ออก เอาเป็นว่า มันทำแบบ ที่ผมเคยอ่อยไอ้โอ๊ค แบบไหนแบบนั้นเลย” มันพูดเสร็จแล้วเอามือกุมหน้าด้วยความเขิน
“อารายของมึง เออๆ เอาที่สบายใจละกัน สรุปว่ามันอ่อยแกว่างัน ว่าแต่แกเคยอ่อยโอ๊คมันด้วยหรอ” เห็นท่าทางมันแล้วสงสาร ไม่อยากรู้ก็ได้วะ ว่างๆจะเดียวจะถามโอ๊คดู หุหุ
“ฮาๆพี่ มันก็มีบ้างแหละ” มันหัวเราะกลบเกลื่อน
“ร้าย นะเนี้ย”
“มาเรื่องเจมส์ พี่” มันรีบชวนเปลี่ยนเรื่อง
“เอ้อๆ ก็นี้ไง กำลังดูริวอยู่ ว่าจะพอมีหวังอยู่หรือเปล่า”
“หลังๆ ผมก็เห็นมันสนิทกันดีนะพี่ “
“อะ ดิ “
“วันนี้ไอ้ริวมันก็มาส่งไอ้เจมส์ที่ซุ้มพี่ ผมเห็น” เสียงใครบางคนดังขึ้นมาในห้อง แต่ไม่ใช่เสียงของผมหรือออยแน่นอน ผมมองหน้าออย ออยมองหน้าผม
“ออยแกพูดหรือเปล่า เมื่อกี้ ทำไมเสียงแกเปลี่ยนไป”
“ไม่ใช่ไอ้ออยพี่ ผมเอง “ ว่าแล้วเจ้าของเสียงก็ปรากฏตัวขึ้น
“เชี้ยเต๋า “”ไอ้เต๋า” ผมกับไอ้ออยอุทานออกมาพรร้อมกัน เมื่ออยู่ๆไอ้เต๋ามันโพล่ออกมาจากใต้โต๊ะทำงานผม
“ผมเอง ทำไมต้องตกใจด้วย” ก่อนมันจะเดินมานั่งลงข้างไอ้ออยไม่พอมันยังหยิบขนมจากจานของผมเข้าปาก เชี้ยเต๋า ขนมกู
“มึงมาตั้งแต่เมื่อไร” ไอ้ออยถามมันทันที
“เออ ใช่” ผมย้ำในคำถาม
“อ้าว ก็มาก่อนที่พี่นะจะเข้ามาในห้องไง ก็พี่บอกให้ผมมานอนในห้องนี้เอง ผมขอพี่แล้ว” มันมองหน้าผมแปลกๆก่อนจะพูดอะไรเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่ผมกับไอ้ออยกำลังแทบบ้า
“เออใช่วะ แต่ว่าแล้วทำไมต้องไปนอนใต้โต๊ะ ไม่มานอนที่โชฟานี้ กูจะรู้ไหมว่ามึงอยู่ในห้อง อย่างนี้มึงก็ได้ยินที่พี่กับไอ้ออยคุยกันหมดแล้วสิ” ผมกับไอ้ออยมองหน้ามันอย่างเอาเรื่องแต่มันกลับสนใจขนมที่อยู่ในจานของผมมากกว่า หยิบกินไม่หยุด แถมรินน้ำจากเหยือกใส่แก้วกินอีกด้วย
“ก็มันสว่างผมนอนไม่หลับ เลยไปแอบนอนใต้โต๊ะ จะรู้ไหมว่าพี่จะเข้ามาคุยกันอะไร ออ ว่าแต่ไอ้ออยมึงคบกับไอ้โอ๊คจริงหรอวะ” แนะมันยังมีหน้ามาถามเขาอีก ไอ้ออยมันจ้องจะกินเลือดกันเนื้อมึงอยู่แล้ว
“เอาไงพี่ ฆ่ามันปิดปากเลยไหม” ไอ้ออยมันชะโงกตัวข้ามโต๊ะเข้ามากระซิบผม
“ค_ย เกินไปมะ” ผมบอกมันก่อนจะเอามือดันหัวมันกลับไป นั่งลงที่เดิม
“ผมไม่พูด ไม่บอกใคร สาบาน” ไอ้เต๋าเงยหน้าขึ้นมามองผมสองคน
“แน่นะ มึง “ ผมกับไอ้ออยจ้องมัน
“จริงๆ ให้ผมทำอะไรก็ได้” มันพยักหน้ามั่นเหมาะ
“เอาไงดีพี่” ไอ้ออยชะโชกตัวมากระซิบอีก
“มึงไม่ต้องกระซิบแล้ว” เอาผมนิ้วชี้จิ่มหน้าให้มันกลับไป นั่งลงที่เดิม
“ขนมอร่อยพี่มีอีกปะ” ดูมันครับไม่ได้สนใจอะไรเลย จะโดนไอ้ออยฆ่าปิดปากอยู่ละ ยังห่วงกิน ไอ้เต๋าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับไอ้ออย เรียนที่เดียวกันนั้นแหละ แต่คนละแผนก หนุ่มน้อยหน้าตากวนๆ แต่ชวนให้มีอารมณ์ขันทุกครั้ง ที่ได้อยู่กับมัน
“ดีเหมือนกัน พี่กำลังอยากได้คนช่วยพอดี ไอ้เต๋าเมื่อมึงรู้เรื่องแล้ว พี่มีเรื่องอยากให้ทำหน่อย”
“ได้พี่ ไม่มีปัญหา”
“มึงรับปากแล้วนะ ถ้ามึงเบี้ยว หรือเอาความลับนี้ไปบอกใคร ไอ้ออยเอามึงตายแน่” ผมขู่มัน
“โหพี่ ใครจะกล้าขัดคำสั่งพี่มิทราบ ไม่ต้องเอาไอ้ออยมาขู่ผมหรอก แค่พี่บอกให้เด็กในเอ็มเอ็มซีทำอะไร พวกมันก็พร้อมทำให้หมดแหละ ไม่มีใครหือกับแฟนพี่ใหญ่หรอก” มันมองหน้าผม ยักคิ้วให้ด้วยเหมือนรู้ทันผม ด้วยเรื่องอะไรบางอย่าง
“อะไรของมึงเต๋า ใครแฟนใคร ไอ้เต๋า มึงไม่รู้หรือไงพี่เขาโดนปลดจากตำแหน่งในเอ็มเอ็มซีแล้วนะ ไม่มีสิทธิอย่างเดิมแล้ว” ไอ้ออยแย้งขึ้นมาทำหน้างงๆ
“ไอ้ออย ไอ้ควาย มึงไม่รู้อะไร แฟนพี่นะ อุบ ผัวพี่เขา อุบ กิ๊ก“ ผมกระโดนเข้าไป เอามือปิดปากไอ้เต๋ามันไว้ทันที
“มึงเงียบเลยไอ้เต๋า ไม่งันกูจะฆ่ามึง”
“อะไร ไอ้เต่ามึงพูดมา กูอยากรู้” ไอ้ออยรีบฉุดผมออกจากไอ้เต๋า ท่าทางมันอยากรู้เรื่องเต็มที
“ หยุด” ผมชี้หน้ามัน
“ไม่พูด ก็ไม่พูด” ไอ้เต๋าได้แต่ยิ้ม แหะๆอยู่ตรงนั้น
“เต๋า พี่อยากให้แกตามดูไอ้เจมส์ตลอดทุกฝีก้าว ไม่ว่ามันไปทำอะไรให้มารายงานทุกเรื่อง และอีกเรื่องมันหาวิธีคุยกับริว ว่าริวเขาคิดอะไรกับไอ้เจมส์ เข้าใจไหม”
“ครับพี่ สบายมาก”
“ห้ามให้ผิดพลาดนะโว้ย ไม่งันพี่จะให้ คนที่แกก็รู้ว่าใคร เก็บแกชะ” ผมขู่มันอีกรอบ
“เต๋าๆใครวะ บอกกูดิ ทำไมมึงถึงต้องกลัวด้วย” ไอ้ออยสะกิดไอ้เต๋า
“ไปได้แล้วเต๋า ไป ไป” ผมรีบออกไปไล่
“ไปก็ได้ ว่าแต่ เชี้ยออยกูจะบอกอะไรให้ ผัวพี่นะเขาอะ เป็นพี่ใหญ่ในแก๊งค์ที่โหดที่สุดเก่งที่สุดอย่างไงละ เขารู้กันทั้งซุ้ม ฮาๆ” พูดเสร็จแล้วมันก็วิ่งปร๋อออกจากห้องไป ไม่อยู่รอให้ผมมีโอกาสเตะตูดมันได้
“อย่างงี้นี้เอง มิหน้า ตำแหน่งอะไรในแก๊งค์ถึงไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะอย่างนี้นี้เอง ว่าแต่ใครพี่ บอกหน่อยสิ” ไอ้ออยมันชี้หน้าผม แล้วยิ้มให้อย่างกวนๆ
“พอเลย ห้ามแซว ห้ามรู้ ไป กลับไปได้แล้ว”
ก็อย่างที่ว่าละครับ ไม่ใช่เพราะมีคนหนุนหลังหรือคนคอยปกป้องผมอะไรทั่งนั้น ที่ทำให้ผมกล้าหยัดยืนอยู่ที่นี้อย่างทุกวันนี้ แต่การมีตัวตนในกลุ่มในแก๊งค์ต่างหากที่สำคัญสำหรับผม ขอแค่ได้รับการยอมรับจากทุกคน ว่าผมคือหนึ่งในเอ็มเอ็มซี ก็พอ อย่างอื่นผมไม่ต้องการ ไม่ว่าให้อยู่ที่ใด ก็ใช่จะเป็นปัญหาสำหรับผม คนเราขาดแฟนได้ แต่ขาดเพื่อนขาดฝูงไม่ได้หรอกครับ
แต่หนทางชะตาแห่งรักของริวกับเจมส์กำลังไปได้สวย ดังฟ้าส่งเต๋ามาช่วยสานสายสัมพันธ์ให้คนทั่งคู่ ส่วนจะต่อกันติดหรือไม่นั้น ก็คอยดูกันต่อไป นี้คือภารกิจของผมที่ยังมองหาจุดสิ้นสุดลงไม่เจอ ยังต้องมีอะไรให้ทำอีกเยอะ นี้แค่เพียงเริ่มต้นเท่านั้น
>>>>>>>>>>>>
ติดตามตอนต่อไปครับ(อ่านตอนของmmcมานะ รอตอน ของออยกับโอ๊คไปก่อนนะครับ กำลังบิ้วอารมณ์อยู่ ต่อไปดราม่าเยอะมาก)
done_dirt_cheap
ทฟเืนสรฟ
Bsky
ขอบคุณที่ติดตามนะครับ
>>>>>>>>
โดย เจเจ..โอ๊ค เป็นผู้ดำเนินเรื่อง
mmc ที่นี้..รักแรง…ตอนที่สิบหก>>>*รักยกกำลังสอง ต้องไหว*
เป็นแฟนเด็กช่างต้องอดทน
เพราะพี่มันจน
คงมีให้น้องได้แค่ใจ
ผมนั่งสองเฟสของไอ้พี่ออย โพสอะไรของเขาวะ ขณะรอมันมารับหลังเลิกเรียน แม้วันนี้ผมจะบอกมันว่าไม่ต้องมารับ เพราะผมเลิกเรียนแล้วจะไปเดินเซนทรัลดูหนังกับแนน แต่มันก็ยังยืนยันจะมารับผม ไปส่งบ้านให้ได้ก่อนอยู่ดี ไอ้คนเอาแต่ใจของผมมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด ตั้งแต่คบกันมา ผมเคยถามว่าออยเหนื่อยไหม ต้องมาแต่เช้า เย็นก็มารับอีก มันบอกว่ามีบ้าง แต่ถ้าไม่ได้ทำ มันจะไม่สบายใจ โอ๊คอย่าห้ามเลยนะ ขอออยทำเถอะ พอได้เห็นหน้าโอ๊ค ไปส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย ออยก็หายเหนื่อยแล้ว
“นั่งเหม่อ คิดถึงใครวะ” เสียงของคนเอาแต่ใจดังขึ้น
“เปล่า”
“เปล่า อะไร กูมาตั้งนานละ มึงยังไม่รู้สึกตัวสักนิด กูเห็นนะ มึงจ้องโทรศัพท์แล้วยิ้มอยู่คนเดียว” มันมองผมอย่างไม่พอใจ
“ก็ดูอะไรไปเรื่อย คิดมาก ไปเถอะกลับกัน” ผมรู้สึกเขินนิดๆ ไม่กล้าบอกมันว่าผมกำลังนั่งส่องเฟสมันอยู่
ผมเดินเข้าไปไกล้ๆมันที่ถือหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบรออยู่ แล้วหมวกกันน็อคใบนั้นก็ถูกวางลงที่หัวผมอย่างนิ่มนวล ก่อนมันจะดึงสายล๊อกคาดไว้ที่คางให้อย่างแน่นหนา เสร็จแล้วมันก็ก้าวขาขึ้นควบรถสตาร์ทเครื่องทันที ผมที่รอท่าอยู่ก็ก้าวขาควบขึ้นรถซ้อนท้าย ก่อนจะเกาะเอวมันไว้หลวมๆ แต่มันกลับเอื้อมมือมาด้านหลัง จับเข้าที่มือผมทั้งสองข้างให้กอดเอวมันไว้ ผมต้องเอามือทั้งสองประสานไว้ที่หน้าท้องของมัน เมื่อเป็นอย่างที่มันต้องการทุกอย่างแล้ว ไอ้คนเอาแต่ใจก็ยอมพาผมขี่รถออกไปจากตรงนั้น กลับบ้าน
“กลับมาจากเทียวแล้วโทรหาด้วยนะ” มันบอกขณะจอดรถหน้าบ้านผม
“อืม มึงไม่ไปด้วยกันอ่า แนนบอกให้ชวนมึงไปด้วย” ผมอ้อนอยากให้มันไปด้วย
“ไม่เอา มึงไปกับแนนดีแล้ว เดี๋ยวกูทนไม่ไหวลุกออกจากโรงหนังเป็นรอบที่สอง จะทำไง”
“เออ ตามใจ แล้วมึงจะไปไหนอ่า” ผมมองมันก่อนจะทำหน้างอนิดๆ
“ไปโต๊ะ ไม่ไปหาสาวที่ไหนหรอกน่า สบายใจได้” มันยิ้มให้ผม ทำตาหวานกรุ่มกริมให้
“ก็ลองดูสิ” จนผมอดเขินไม่ได้ อยู่ๆก็รู้สึกดีใจขึ้นมา
“ไปละ รักมึงนะ”
“อืม รักมึงเหมือนกัน ขี่รถดีๆละ อย่างไงคืนนี้จะโทรหา บาย”
ผมยืนยิ้มหวานส่งมันหน้าบ้าน รอจนมันขี่รถหายลับตาไปแล้ว ถึงหันหลังเข้าบ้าน รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วขี่รถออกไปรอรับแนนที่โรงเรียนสอนพิเศษ ก่อนที่เราจะไปดูหนังรอบเย็น ที่เซนทรัลด้วยกัน ตามที่นัดไว้
>>>>>>>>>>>>>>
“โอ๊ค รอเค้านานปะ” เสียงใสๆของสาวน้อยน่ารัก ทักผมทันที ที่เธอเดินมาถึงที่ผมรออยู่
“นานแค่ไหน โอ๊คก็รอได้”
“แฟนเขาน่ารักที่สุด ไปกันเถอะ”
เธอยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะขึ้นขี่ซ้อนท้ายรถเครื่องของผม เธอเลื่อนมือมากอดที่เอวผมแน่น ก่อนจะซบหน้าลงที่แผ่นหลัง ความรักความอบอุ่นของเธอ ส่งผ่านจากการกอดนั้น มันทำให้ผมมีความสุขขึ้นมา ความรู้สึกที่ได้ดูแลคนที่เรารักมันดีจริงๆ ไม่แปลกใจเลยสักนิด ที่ไอ้ออยมันเฝ้าทำ คอยรับส่งผมไม่เคยขาด
“ออยละ เขาไม่มาด้วยหรอ” เธอถามผมจากด้านหลัง
“ไม่มา เขามีธุระนะ”
“ เดี่ยวนี้โอ๊คกับออยสนิทกันนะ เห็นอยู่ด้วยกันตลอด ”
“ก็นิดหน่อย ทำไมหรอ”
“ก็แนนเริ่มจะน้อยใจแล้วนะ โอ๊คเห็นเพื่อนสำคัญกว่าแนน เอะอะอะไรก็ออยตลอด”
“แนนคิดมาก โอ๊ครักแนนเหมือนเดิมแหละ”
“ไม่รู้สิ บางครั้งแนนก็รู้สึกว่าโดนออยแย่งความรักของโอ๊ค ไปจากแนน”
“บ้าแล้ว แนน”
“ไม่เอาไม่พูดดีกว่า แนนคงคิดมากไปเองจริงๆ”
ผมรู้สึกตกใจมากเหมือนกัน ที่แนนเขารู้สึกอย่างนั้น จริงหรือนี้ ผมเปลี่ยนไปมากจนแนนรู้สึกได้ขนาดนั้น แต่ผมว่า ผมก็รักเธอมากไม่เคยเปลี่ยน หรือรักน้อยลงสักนิดก็ไม่มี เพียงแต่ช่วงนี้ จะมีบ้างที่ต้องสลับเวลาไปอยู่กับไอ้ออย เพราะผมก็รักมันมากเช่นกัน ผมจึงลองตั้งคำถามกับตัวเอง สองคนนี้ระหว่างออยกับแนน หากมีใครสักคนถามผมว่า รักใครมากกว่ากัน สำหรับคำตอบนั้น ผมคงตอบ ไม่ได้เลยจริงๆ
“แนนจะดูเรื่องไรอ่าหนัง เดี่ยวโอ๊คไปชื้อตั๋วให้”
“ทีมพลีชีพ มหาวายร้าย suicide squad เขาว่ามันส์สุดๆ แนนรอมานานแล้ว”
“จัดไปครับที่รัก”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ติ๊ง หน่องๆๆ
วันเสาร์แบบนี้ใครมากดออดหน้าบ้านแต่เช้านะ ไม่มีใครอยู่บ้านด้วยสิ แม่กับพ่อออกไปข้างนอก เขาบอกผมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ผมจำใจงัวเงียลุกขึ้นจากที่นอน ลงไปเปิดประตูหน้าบ้าน แต่ทว่า กลับไม่พบใคร รออยู่ที่หน้าบ้านสักคน เด็กที่ไหนมาแกล้งวะ เจอแม่งจะเตะตูดเสียให้ร้องให้กลับบ้าน ไปฟ้องแม่แทบไม่ทันเลยไอ้เด็กเปรต คนกำลังนอนเพลินๆกลับไปนอนต่อดีกว่าเซ็งวะ
“คิดถึงกูเปล่า” เมื่อผมปิดประตูบ้านเสร็จ ขณะจะเดินกลับขึ้นบนห้อง ก็มีคนเข้ามากอดจากข้างหลัง กระซิบที่ข้างหู
“เชี้ย ออย” ผมว่าคนที่กำลังกอดผมแน่นอยู่
“ยังไม่ตอบคำถามกูเลยนะ” มันยืนหน้ามาหอมแก้มผมทีหนึ่ง แล้วเอี่ยวตัวมามองหน้าผม ทำอ้อนเชียว
“อาไร วันเดียวเอง” ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“วันเดียวก็คิดถึงได้ ให้ชื่นใจหน่อยนะ”
“ไม่เอา น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ฟันยังไม่แปรงเลย ดูสิ ปากโอ๊คเหม็นจะแย่แล้ว”
มันไม่ฟังเลยสักนิด กลับจับตัวผม หันหน้าเข้าหาตัวมัน แล้วดันจนตัวผม ติดเข้ากับประตูบ้านก่อนมันจะจับคางผมให้เงยหน้าขึ้น แล้วมันก็ก้มหน้าลงมาจูบปากผมเบาๆ เอาลูกอมรสหวานจากปลายลิ้นมันส่งเข้าปากผม ก่อนจะดูดปากผมเบาๆอีกครั้ง แลกลิ้นผลัดกันชิมรสหวานของลูกอมก้อนนั้นสักพัก ก่อนมันจะถอดปากกลับไป
“ที่นี้ก็ไม่เหม็นแล้วนะ ให้ออยชื่นใจได้หรือยัง” มันมองหน้าผมในระยะประชิด จมูกชนจมูก แบ่งปันลมหายใจกลิ่นสตอเบอร์รี่ให้กันและกัน มันคลอเคลียอยู่แถวใบหน้าผมไม่ห่าง แล้วยิ้มหวานให้อย่างเคย
“อืม”
เอาสิครับ ก็เพราะรสจูบหวานๆนั้น เล่นเอาผมเคลิ้มจนอารมณ์เตลิดไปถึงไหนต่อถึงไหนแล้ว มีใครจะบ้า ทำอะไรโง่ๆ โดยการปฏิเสธที่รักของตัวได้ลงคอละครับ ว่าไหม
“ข้างบนนะ วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านพอดีเลย ขอกอดให้หายคิดถึงสักรอบนะ” ว่าแล้วมันก็อุ้มผมขึ้นอย่างไว ผมรีบคว้าตัวมัน กอดคอไว้แน่น
“รู้ได้ไง ว่าไม่มีใครอยู่บ้าน” ผมถามขณะมันกำลังอุ้มผมเดินขึ้นชั้นบน
“ก็ตอนที่กูมาหามึง จังเหวะเดียวกับที่แม่กับพ่อกับน้องมึงกำลังจะออกจากบ้านพอดี เขาก็เลยเปิดประตูให้กูเข้ามาในบ้าน”
“แล้วมึงก็แกล้งกู”
“ก็แฟนเขาน่าแกล้งนี้น่า”
มันวางผมลงกับที่นอน แล้วจับจมูกผมบี้เบาๆทีหนึ่ง ก่อนจะขึ้นมาค้อมอยู่บนตัว แล้วคนเอาแต่ใจก็ยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมาช้าๆ มันจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง มือสองเราประสานจับกันไว้แน่น ผมเหมือนรอมันมาแสนนาน แม้จะพึ่งเจอกันเมื่อวานนี้ ก่อนจะมองหน้ามันแล้วยิ้มให้อ้อนๆ ผมขออ้อนแฟนให้หายคิดถึงหน่อยนะครับ คนอะไรทำให้ผมคิดถึงได้ขนาดนี้ ถึงปากผมจะหนักพูดไม่เก่ง ว่ารักและคิดถึงมันแค่ไหน แต่ในทุกๆลมหายใจที่เข้ามาก็คิดถึงมัน และทุกครั้งที่หายใจออกก็คิดถึงแนน สองคนนี้สลับหมุนเวียนอยู่ในหัวผมตลอด
“ติ่ง หน่อง” ติ่งหน่องๆ”
อยู่ๆก็มีเสียงกดออดหน้าบ้าน ใครกันนะมาเวลานี้ คนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ผมรีบดันตัวไอ้ออยลุกขึ้น แม้มันจะดื้อสักหน่อยแต่ก็ยอมด้วยดี
“ไปดูก่อนว่าใครมา เดี่ยวค่อยมาต่อก็ได้“
“รีบมานะ“ มันนอนลงกับที่นอนแล้วกอดหมอนข้างไว้ ทำหน้าเซ็งๆ
“เออ รอแปบ” ผมรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าผมเผ้าให้เข้าที่
“แต่ว่า กูไปเองดีกว่า ถ้าเกิดเพื่อนมึงมาแล้วชวนไปข้างนอก กูก็อดดิ”
ว่าแล้วมันก็ลุกขึ้น เปิดประตูห้องนอน กึ่งวิ่งกึ่งเดินลงไปข้างล่าง ปล่อยให้ผมทำหน้าเอ่อๆงงแดกอยู่ตรงนั้น อะไรของมัน ผมตามมันไม่ทันจริงๆครับ
>>>>>>>>>>>>>>>
มันหายไปนานจนผมอดแปลกใจไม่ได้ ผมรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า หวีผมเผ้าให้เข้าที ก่อนจะลุกเดินลงไปข้างล่าง ไม่มีใครอยู่หน้าบ้าน ไอ้ออยหายไปไหน แต่มีเสียงคนอยู่ในครัว มีคนสองคนคุยกันอยู่ เสียงผู้หญิงกับผู้ชาย ผมเดินไปเงียบๆ แอบดูก่อนว่าใคร “แนน” เธอมาได้ไง ว่าแล้วทำไมไอ้ออยไม่ขึ้นไปข้างบนสักที อยู่ๆผมก็ไม่กล้าเดินเข้าไปหาสองคนนั้น แอบหลบอยู่หลังประตู ฟังสองคนนั้นคุยกัน
“แนนทำกับข้าวเป็นด้วย”
“โธ่ออย แค่ทำข้าวต้มเองนะ ง่ายๆ”
“ไปเรียกโอ๊คให้นะ ปานนี้คงตื่นแล้ว”
“อีกแปบก็ได้ แนนยังทำข้าวต้มไม่เสร็จเลย”
“ออยช่วยไหม”
“ออยไปนั่งรอที่โต๊ะเลย รอชิมนะ เดี่ยวแนนจะโชว์ฝีมือเอง รับรองออยจะติดใจ”
อะไรกันสองคนนั้น ดูสนิทสนมกันจัง สนิทกันจนผมรู้สึกแปลกๆ มันหงุดหงิดอะไนวะนี้ หรือผมกำลังคิดไปเอง คงไม่นะ คิดมากไปรึเปล่าโอ๊ค ไม่ดีหรอแบบนี้ แฟนเราสองคนเขาเข้ากันได้ดี ไม่มีปัญหากัน แต่ว่า ถ้าวันหนึ่งแนนรู้เรื่องผมกับไอ้ออยละจะเกิดอะไรขึ้น ไม่อยากจะคิดเลย
“ออย มานี้สิ” แนนเรียกให้ไอ้ออยเข้าไปไกล้ๆ
“อืม”
“ชิมดูให้หน่อย อร่อยยัง”
แนนตักข้าวต้มจากหม้อร้อนๆ ขึ้นมาช้อนหนึ่ง ก่อนเธอจะเป่ามันด้วยปากให้ความร้อนลดลง แล้วป้อนเข้าปากไอ้ออย ทั้งคู่สบตากัน มองหน้ากันนิ่ง ก่อนจะคุยกันอย่างสนิทสนม แล้วหัวเราะคิกคักกันเบาๆ ในตอนนั้นหูผมฟังอะไรไม่ได้ยินแล้ว หูมันอื้อไปหมด ในหัวสมองมันมืดคิดอะไรไม่ออกด้วยแล้ว
“ทำอะไรกัน” ขาของผมพาตัวเองก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว พูดด้วยอารมณ์เหมือนกำลังโกธรอะไรบางอย่าง กำหมดแน่น จ้องคนทั้งคู่ไม่วางตา อย่างเอาเรื่อง ไอ้ออยถอยห่างจากแนน เสียงหัวเราะหายไปเหลือเพียงเสียงเงียบงัน
“แนนทำข้าวต้มให้โอ๊คไง แล้วไอ้ออยชิมว่าแบบนี้ โอ๊คจะชอบหรือเปล่า” เธอยิ้มให้ผมอย่างใจเย็น
“แล้วทำไมต้องไกล้ชิดกันขนาดนั้น”
“โอ๊คมึงฟังกูก่อนนะ” ไอ้ออยขยับตัวเข้ามาจับแขนผมไว้
“กูไม่อยากฟัง” ผมสะบัดมือมันให้หลุดจากแขน ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก ว่าผมโมโหใครกันแน่
“ไม่มีอะไรจริงๆ” ไอ้ออยมันพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผมเย็นลง
“ไม่มีหรอ แฟนตัวเองกับ…” ผมพูดไม่ออก บอกไม่ถูก
“โอ๊ค พอเลยนะ ทำแบบนี้ไม่มีเหตุผลเลยสักนิด แนนไม่คิดเลยว่าโอ๊คจะเป็นได้ขนาดนี้ หึงได้กระทั่งเพื่อนตัวเอง ออยนี้ก็เพื่อนรักของโอ๊คนะ คิดอะไรทุเรศๆแบบนี้ได้ไง เหมือนโอ๊คไม่ไว้ใจแนนเลยสักนิด” แนนมองผม แล้วต่อว่าอย่างรุนแรง
“ก็เพราะ เพื่อน ไง รักด้วย รักมาก โอ๊คถึงทนไม่ได้อย่างไงละแนน คิดว่าโอ๊คไม่เห็นหรือไง แนนมาตั่งนานแล้ว ทำไมไม่ให้ไอ้ออยไปเรียกโอ๊คลงมา ถ้าบอกว่าโอ๊คคิดมาก แล้วที่กำลังป้อนข้าวต้มกันเมื่อกี้ คืออะไร” ผมจ้องหน้าไอ้ออย อยากจะร้องให้ออกมาดังๆ แต่ก็ทนฝืนเก็บอาการ ที่รู้สึกเจ็บ รู้สึกทรมานกับเรื่องแค่นี้ แค่เขาสองคนกำลังชิมข้าวต้มกัน มันอะไรวะโอ๊ค
“ไร้สาระมากโอ๊ค แค่เรื่องนิดเดียว ไม่ใว้ใจกันใช่ไหม ได้ เมื่อพูดอะไรไม่รู้เรื่องด้วย แนนกลับละ ไปละออย แล้วเจอกัน นายดูเพื่อนบ้าๆของนายด้วยนะ บาย” ว่าแล้วเธอก็เดินไปคว้ากระเป๋ากลับออกไป
“แนน แนน เดี่ยวก่อน โอ๊คขอโทษ” ผมคิดอะไรได้ เราไม่ใว้ใจแฟนเราทั้งสองคนขนาดนั้นเลยหรอวะ
“เอาไว้โอ๊คมีสติ คิดได้แล้ว เราค่อยคุยกัน”
ผมร้องเรียกเธอ ตามไปฉุดรั้งเธอไว้ แต่เธอก็ไม่ยอมฟังเหมือนกัน แล้วเธอก็กลับไป เพราะความหึงมันบังตา จนผมทำอะไรบ้าๆแบบที่ไม่เคยจะเป็นมาก่อน เพราะอะไรนะ ผมเคยหึงแนนมาก่อนแต่ไม่เคยรู้สึกโกธรมากแบบนี้ แล้วถามว่าโกธรใคร ไอ้ออย หรือแนน คำตอบที่มีในใจกลับ ไม่รู้
ผมนั่งลงหน้าบ้าน คิดทบทวนกับเรื่องที่เกิด ผมเองที่ออกจะเกินไปหน่อยจริงๆนั้นละ อย่างที่แนนพูด เหมือนผมไม่ใว้ใจแนนกับไอ้ออยเลยสักนิด เธอพูดถูก เพราะตอนนี้ผมกำลังกลัวอะไรหรือเปล่า กลัวว่าสองคนนั้นจะสนิทสนมกันมากเกินไปงันหรอ กลัวออยจะชอบแนน หรือกลัวแนนจะชอบออย ผมสับสนขึ้นทุกขณะ แต่จะเป็นอย่างไงถ้าเกิดสองคนนั้นชอบกันขึ้นมาจริงๆ แล้วผมจะอยู่ได้อย่างไง เพียงแค่คิดเล่นๆผมก็สั่นไปทั้งตัว
“เข้าบ้านได้แล้ว” ไอ้ออยเดินมาฉุดผมให้ลุกขึ้น
“ออย ขอกูอยู่คนเดียวเงียบๆได้เปล่า เมื่อกี้กูขอโทษ กูทำไปโดยไม่รู้ตัว”
“กูไม่โกธรมึงหรอก ปะเข้าบ้าน”
ว่าแล้วผมก็เดินเข้าบ้านแม้จะมีมันเดินตามมา มันพยายามเอาใจผมทุกอย่างเหมือนเคย หาข้าวให้ผมกิน แต่ผมไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั่งนั้น มันพูดด้วยก็ไม่อยากพูดกับมัน อะไรของผมก็ไม่รู้ แต่มันก็นั่งอยู่ข้างๆจับมือผมไว้ ในหัวของผมเอาแต่นั่งคิดเรื่องของออยกับแนนอยู่ตลอดเวลา หาคำตอบที่ชัดเจนให้กับตัวเอง มันอะไรวะ เรื่องแบบนี้ทำไมต้องมาเกิดกับผมด้วย ผมนอนลงหนุนตักไอ้ออย มองหน้ามัน คนที่ควรจะโกธรผมกับเรื่องเมื่อเช้า แต่มันกลับนิ่งเฉย ไม่มีท่าทีว่าโกธรผมสักนิด เพราะอะไรนะ ออยมึงคิดอะไรอยู่ บอกกูได้ไหม กูไม่กล้าถาม
>>>>>>>>>>>>>>>>>
ชอบไม่ชอบ บอกด้วยนะครับ
ติดตามตอนต่อไปครับ[/size]