ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
*****************
没有爱 Loveless...รักร้ายผู้ชายอันตราย
+บริสุทธ์..(ใหญ่คิม)
คนๆหนึ่งที่รักเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่จ้องมองเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่โหยหาเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่สูญเสียเธอคือฉัน
คนๆหนึ่งที่รักฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่จ้องมองฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่ทำลายฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่ฉวยโอกาสฉันคือเธอ
คนๆหนึ่งที่ฆ่าฉันคือเธอ
“ ใหญ่ เล็ก นี่พิมพ์ประภาเขาจะมาอยู่ที่นี่ด้วยนะลูก รู้จักคุณน้าเขาไว้ซิ “
“ แล้วตัวเล็กนี่ใครอ่ะป่ะป๊า “ เสียงเด็กน้อยอายุเจ็ดขวบถามขึ้นขณะจ้องมองเด็กตัวน้อยตากลมโตผิวขาวเนียนละเอียดนั่งอยู่บนตักคุณน้าคนสวย เมื่อกี้ก็เห็นแล้วล่ะลงจากรถมาพร้อมปะป๊าแต่เขาไม่สนใจ
“ หึๆๆ น่ารักรึเปล่าเล็ก “ คุณภาคินยิ้มให้ลูกชายคนเล็กของตัวเองทันที เห็นสายตาสนใจออกนอกหน้าของลูกชายแล้วรู้สึกโล่งใจไปได้เปราะหนึ่ง แต่ที่หนักใจคงเป็นลูกชายคนโตของตัวเองใหญ่โตพอจะรับรู้เรื่องนี้ได้ตอนนี้ถึงได้เอาแต่เงียบและจ้องมองผู้หญิงแปลกหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่งตามนิสัย
“ เหมือนตุ๊กตาเลย ลูกคุณน้าเหรอ “
“ ใช่แล้ว น้องกับคุณน้าพิมพ์ประภาจะมาอยู่กับพวกเราด้วยตั้งแต่วันนี้เลย “
“ หา ทำไมหม่าม๊าไม่เห็นบอกไว้เลย จะมีงานเลี้ยงอะไรกันเหรอฮะ “ เล็กหันมาถามแม่ ความประสีประสาของเด็กคงไม่เข้าใจคำว่าเข้ามาอยู่ร่วมกันทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน
“ เปล่าจ๊ะ คุณน้ากับน้องจะมาอยู่กับเราด้วย “
“ ไม่มีบ้านอยู่เหรอถึงต้องมาขออาศัย “
“ ใหญ่พูดอะไรน่ะลูก ขอโทษคุณน้าเขาเดี๋ยวนี้เลยนะ “ ผู้ใหญ่ทุกคนหันมาสนใจคำพูดของคุณชายคนโตพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเกินเด็กวัยแค่สิบขวบ ยิ่งโดยเฉพาะกับคุณผู้หญิงถึงกับเบิกตากว้างเมื่อได้ยิน
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพี่ คุณใหญ่ยังเด็กคงพูดตามประสาเด็กแหละค่ะ “
“ ใหญ่ขอโทษคุณน้าเขาซิลูก พูดแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ “ คุณผู้หญิงพูดกับลูกชายแต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อลูกชายของเธอเอาแต่เงียบแต่มองสองแม่ลูกนั่น
“ ยังไงน้ากับน้องก็ต้องฝากตัวด้วยนะคะ “ พิมพ์ประภายิ้มอ่อนโยนเคลือบยาพิษให้เด็กชายที่จ้องเธอตั้งแต่ที่เธอเหยียบเข้ามาในบ้านกรภัครวัฒน์ ความเย่อหยิ่งเกินเด็กสายเลือดของผู้ชายที่เธอรักไหลเวียนอยู่ในเด็กคนนี้เต็มเปี่ยม แข็งแกร่งและดื้อรั้นไม่ต่างจากท่านเจ้าสัวภาคิน
“ นี่ ไปเล่นกันมั้ยเธอชื่ออะไรล่ะ “ เล็กกระตือรือร้นกับตุ๊กตาตรงหน้ามาก ใหญ่เพียงแค่ปรายตามองแต่ไม่สนใจ
“ บอกพี่เขาไปซิลูก “
“ ค..คิมฮะ “
“ เหรอ ทำไมไม่ใส่กระโปรงล่ะเป็นผู้หญิงนะใส่กางเกงไม่น่ารักเลย “ เล็กย่นคิ้วพูดตามที่เห็น ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่เด็กน้อยน่ารักก็ยิ่งเอียงอายหลบเข้าหาคุณแม่มากขึ้นเท่านั้นจนพิมพ์ประภาต้องอุ้มคิมลงจากตัก
“ น้องเป็นผู้ชายนะตาเล็ก พูดแบบนี้ได้ไงน่าตีจริงๆ “
“ หม่าม๊า นี่มันผู้หญิงชัดๆ “ เล็กเถียงเสียงแข็งพร้อมกับชี้นิ้วไปทางเด็กผู้หญิง
“ พาน้องไปเล่นข้างนอกไปเล็ก ป๊าจะคุยธุระ “
“ ก็ได้ ไปกัน “ เล็กเดินมาคว้าข้อมือน้องคนใหม่แล้วก้าวฉับๆไม่รอให้เด็กตัวเล็กตามทัน
“ เล็กอย่าทำน้องแรงๆนะจริงๆเลยเด็กคนนี้เห็นเป็นของเล่นรึไง “ เสียงคุณผู้หญิงไล่หลังไปแต่ใช่ว่าเจ้าตัวแสบจะสนใจฟัง ยังลากน้องออกไปจากบ้านพาไปหาเพื่อนอีกคนแนะนำให้รู้จักกันไว้
“ น่ารักออกนะคะคุณพี่ “
“ ใหญ่ตามไปดูน้องหน่อยลูก เดี๋ยวเล็กเล่นกับคิมแรงๆจะบาดเจ็บกัน “
“ ผมมีเรียน ขอตัวครับ “ เด็กหนุ่มพูดตัดอย่างไร้เยื่อใยแล้วขอตัวออกมาก่อน คุณชายเดินหน้านิ่งจะว่าไม่พอใจอยู่ก็บอกไม่ถูกแต่คนเป็นพ่อแม่คงรู้ดีว่าตอนนี้ลูกชายคนโตกำลังแสดงอาการต่อต้าน เล็กจูงน้องให้เดินตามตัวเองไปในสวนลัดเลาะไปตามทางเพื่อให้ถึงบ้านเพื่อนสนิทของตัวเองเร็วๆจะได้อวดของเล่นของตัวเองโดยที่ไม่ได้หันมามองว่าเด็กตัวเล็กกำลังพยายามก้าวให้ทันพี่ชาย
“ เอ็ม! ดูนี่ซิปะป๊าพาเด็กคนนี้มาด้วย “ เล็กพูดจ้อทันทีเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองกำลังนั่งทำการบ้านอยู่ตรงโต๊ะไม้หินอ่อน
“ เพื่อนเหรอครับคุณเล็ก “
“ ไม่ พูดไม่รู้เรื่องเหรอบอกว่าปะป๊าพามาไง “ เล็กท้าวเอวพูดเสียงไม่ได้ดั่งใจ
“ สวัสดีครับผมชื่อเอ็ม “ เอ็มยิ้มอ่อนโยนให้เด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเองแน่ๆ เด็กน้อยตัวป้อมมองพี่ชายที่ดึงเขามาแล้วก็มองพี่ที่กำลังยิ้มใจดีให้ด้วยท่าทางไม่ไว้ใจแต่ก็ยอมบอกชื่อของตัวเอง
“ ชื่อคิมฮะ ชื่อจริงๆชื่อคิมหันต์ฮะ “
“ เฮ้ พูดฮะอีกแล้วตัวเองเป็นผู้หญิงนะ “
“ คิมไม่ใช่ผู้หญิง คิมเป็นผู้ชายฮะ “ เด็กตัวเล็กผิวขาวใสส่ายหน้าปฏิเสธแทบทันที
“ คิดว่าโง่รึไง เถียงเหรอๆ “ เล็กขมวดคิ้วเอื้อมมือไปหยิกแก้มนิ่มของเด็กตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว
“ อื้ออ คิมเจ็บ ฮึ่กก ปล่อยนะ “ มือป้อมพยายามดึงมือพี่ชายออกแต่เล็กก็ยิ่งทั้งบิดทั้งบีบ
“ คุณเล็กอย่าทำแบบนั้นครับ “ เอ็มตาโตรีบมาช่วยดึงมือของคุณชายออกแล้วดึงคุณหนูตัวเล็กนั่นมาไว้ในอ้อมแขน
“ ก็มันขัดใจนี่น่า
“ ไม่เจ็บนะครับคุณหนู “ เอ็มก้มลงพูดกับน้องที่เขาปกป้องเอาไว้
“ คิมเจ็บแก้ม “ มือเล็กยกขึ้นกุมแก้มบวมๆของตัวเองไว้มองพี่ชายด้วยดวงตารื้อน้ำ เล่นแบบนี้คิมเจ็บ
“ ขัดใจแบบนี้ไม่เล่นด้วยแล้ว น่าเบื่อ “ คุณชายพ่นลมหายใจเซ็งๆ พวกเบื่ออะไรง่ายๆมองเด็กตรงหน้าน้ำตาคลอหน่วงแก้มขาวแดงระรื่นเพราะโดนบีบ เห็นแล้วก็น่ารักดีอยู่หรอกนะแต่ไม่ไหวขัดใจแบบนี้เล่นด้วยไม่สนุก ร่างสูงของคุณชายใหญ่ของบ้านเดินตามน้องมาเห็นทั้งน้องชาย เอ็มและเด็กที่เขาไม่อยากจะแลอยู่ด้วยกันจนได้
“ เล็ก “
“ พี่ชาย ดูซิเด็กนี่ไม่น่ารักเลย “ น้องชายตัวแสบพูดด้วยท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์ นิ้วเรียวชี้เด็กตัวน้อยที่เขาลากมาเองกับมือ คิมรีบขยับตัวเข้าไปซ่อนด้านหลังของเอ็มแทบทันทีเมื่อเห็นพี่คนนั้นเดินเข้ามา
“ ไม่น่ารักแล้วพามันมาทำไม “
“ ก็จะเอามาให้เอ็มดูเฉยๆ “
“ พากลับไปให้แม่มันซะ “ คุณใหญ่พูดเสียงนิ่งมองเด็กที่แอบอยู่ด้านหลังของเอ็มด้วยสายตาเรียบเฉย คนอื่นอาจจะเคยชินกับคนๆนี้แต่ไม่ใช่กับเด็กน้อยคิมหันต์ แววตาที่มองเขานั้นไม่ควรจะเข้าไปใกล้เลยซักนิดสัญชาตญาณความเป็นเด็กกำลังสั่งไม่ให้เข้าใกล้พี่คนนี้
“ ก็ได้ งั้นไปได้แล้ว “ เล็กเดินมาคว้าข้อมือน้องใช้แรงตัวเองลากให้ไปด้วยกันแต่เด็กน้อยกลับรั้งตัวไว้แล้วรีบเข้ามาหลบอยู่ด้านหลังของเอ็มอีกครั้ง พี่ชายคนนี้ใจดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดสำหรับเขาแล้ว
“ คิมไม่ไป คิมจะอยู่กับพี่เอ็ม “
“ เอ่อ “ เอ็มเลิกละเห็นสายตาน่ากลัวของคุณใหญ่หันมามอคุณหนูด้านหลังอย่างทำอะไรไม่ถูกนอกจากเออออไปด้วย
“ เหมือนลูกหมาเลย เชอะ “ เล็กพูดตามประสาเด็กเอาแต่ใจ
“ เล็ก พากลับไปหาแม่มัน แล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเข้าใกล้ เสนียดบนตัวแม่มันเยอะ “
“ พี่ชายพูดอะไร “
“ ที่พูดน่ะ ได้ยินรึเปล่า “ พี่ชายหันมาพูดกับน้องชายด้วยน้ำเสียงน่ากลัวแต่เหลือบตามองส่วนเกินของครอบครัวเขา เอ็มหันมามองคุณหนูที่เอาแต่หลบอยู่ด้านหลังเขาไม่เข้าใจแม้แต่คำพูดของคุณชายแต่คุณหนูที่แสนเปราะบางคนนี้ช่างน่ารักและน่าเอ็นดู
จุดเริ่มต้นของความแตกแยกเล็กๆในครอบครัวกรภัครวัฒน์ แม้การมีเมียน้อยของผู้ปกครองจะไม่ได้เป็นเรื่องแปลกแต่จุดด่างเล็กๆนี้กลับเป็นจุดบอดสนิทเปลี่ยนเด็กคนหนึ่งที่เคยไร้เดียงสาให้รู้จักความหลงใหลและมัวเมาในรักจนเสียความเป็นตัวเอง
ท่านเจ้าสัวภาคินมีภรรยาสองคน คุณใหญ่และคุณเล็กเป็นลูกชายที่เกิดจากคุณผู้หญิงเป็นเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หญิงสาวสูงศักดิ์ที่มีสายเลือดมังกรอย่างแท้จริง ส่วนเด็กน้อยคิมหันต์เป็นลูกชายของพิมพ์ประภาซึ่งกลายเป็นภรรยานอกสมรสสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ในบ้านกรภัครวัฒน์เมื่อคิมอายุได้สี่ขอบ เด็กชายที่มีใบหน้าน่ารักดวงตากลมโตจมูกเล็กๆและริมฝีปากแดงอิ่มผิวขาวละเอียดราวกับเด็กผู้หญิงแตกต่างจากพี่ชายทั้งสอง
รถแล่นเข้ามาเทียบจอดหน้าบ้านตามเวลากลับจากโรงเรียนพิเศษของคุณชาย เล็กเปิดประตูรถเดินดุ่มๆโยนกระเป๋าลงบนโซฟาแล้วรีบเข้าไปหาแม่นมของตัวเองทันที ยิ่งเห็นน้องชายกำลังเดินผ่านประตูคุณชายตัวแสบก็รีบใส่เกียวิ่งไปดักหน้าเอาไว้
“ ลูกหมาทำอะไร “
“ เอ๋ คิมไม่ใช่ลูกหมาฮะ “
“ ขวางทางจริงๆเลย ป้าอรไปไหน “ เล็กยืนขวางน้องเอาไว้แล้วยังแกล้งไม่ให้คิมออกไปจากประตูได้
“ ป้าอรบอกว่าจะไปเอาขนมมาให้คิม “
“ อ๋อเหรอ “
“ พี่ชาย คิมจะออกไป “
“ ก็ออกไปซิ “ เล็กพูดแต่ก็ยังขยับตัวดักไม่ให้น้องผ่านตัวเองไปได้อยู่ดี คิมเบ้ปากเหมือนถูกแกล้งดวงตากลมโตช้อนมองพี่ชายที่สูงกว่าแต่เล็กก็ยังไม่สนใจยังแกล้งอยู่อย่างนั้น ยิ่งไม่มีผู้ใหญ่ด้วย
“ งื้ออ เจ็บนะ “ คิมร้องลั่นเมื่อโดนเล็กดึงแก้มตัวเองอีกแล้ว
“ อ้วน แก้มก็เยอะ ไม่น่ารักด้วย “
“ เล็ก หยุดยุ่งกับมันซะที “ ใหญ่ยืนมองอยู่ได้ซักพักแล้วชักรำคาญ เล็กหันมาทำหน้าเซ็งๆใส่
“ แค่แกล้งนิดเดียวเอง “ เขาพูดพึมพำ น้องตัวเล็กเหมือนชะงักเมื่อเห็นพี่ใหญ่เดินเข้ามาใกล้ คิมเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายตัวโตกว่ากำลังมองตัวเอง
“ รู้อะไรมั้ย อยากกินขนมก็ต้องเดินไปเอาเอง “
“...........”
“ หรือคิดว่าตัวเองเป็นเด็กแล้วต้องให้คนอื่นมาเอาใจรึไง เป็นแค่ลูกเมียน้อยอย่าบังอาจใช้ให้คนอื่นทำอะไรให้ “
“ พี่ชาย พูดอะไรน่ะ “ เล็กขมวดคิ้ว
“ บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่งกับไอ้เด็กนี่ ห้ามมายุ่งกับมัน “ ใหญ่หันมาพูดกับน้องชายตัวเองแล้วเดินขึ้นห้องไปเลย เล็กมองตามแล้วหันมามองเด็กข้างๆตัวเองเขายังเด็กจนไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ต้องบอกว่าอย่ามายุ่งกับลูกหมาน่ารักตัวนี้ แต่ที่แน่ๆดูเหมือนพี่ชายจะไม่ชอบเอาซะเลย
ใหญ่เดินขึ้นมาบนห้องด้วยสภาวะอารมณ์ไม่ดี เห็นผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านกำลังเดินยิ้มหน้าระรื่นเสแสร้งเข้ามาแล้วยิ่งทำให้เขาต้องหยุดมองผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาที่ประเมินค่าอะไรซักอย่าง
“ กลับมาแล้วเหรอใหญ่ “
“ เธอเป็นใครถึงกล้ามาเรียกชื่อได้ไม่ทราบ “
“ เป็นเด็กเป็นเล็กพูดจาแบบนี้กับผู้ใหญ่กว่า แม่เธอไม่สั่งสอนรึไงจ๊ะ “
“ เมียเก็บ.. เป็นแค่เมียเก็บไม่มีปัญญาจะออกไปชูคอข้างนอกด้วยซ้ำ แล้วคิดจะมาวางอำนาจในบ้านได้รึไง “
“ ห๊ะ! แกว่าอะไรนะ! “
“ ไปฟ้องป๊าซิ อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนอย่างเธอจะมีปัญญาทำอะไรฉันได้ “
“ ไอ้ใหญ่!! “
“ เกิดอะไรขึ้นน่ะ “ ร่างบางของคุณหญิงเดินหน้าตื่นเข้ามาทันทีเมื่อได้ยินเสียงหวีดร้องของผู้หญิง แล้วยิ่งตกใจคือลูกชายของเธอกำลังยืนอยู่ด้วย
“ สั่งสอนลูกยังไงคะถึงได้กล้ามาพูดอวดดีต่อหน้าฉัน! “ พิมพ์ประภาหันไปแว๊ดใส่คุณหญิงอย่างโมโห ร่างบางเดินเข้ามาหาลูกชายตัวเอง
“ ใจเย็นก่อนภา มันเกิดอะไรขึ้น “
“ บอกแม่แกไปซิว่าแกพูดจาบจ้วงอะไรฉัน “ หญิงสายเดือดดานอยากจับไอ้เด็กอวดดีนั่นมาสั่งสอนแม้แต่แม่มันเดินมายังกล้าใช้สายตาเหนือกว่ามองเธอ
“ ใหญ่ เกิดอะไรขึ้นลูก “
“ ม๊าจะสนใจผู้หญิงสันดานไม่ดีคนนี้เหรอครับ “
“ ใหญ่ ทำไมพูดแบบนั้นลูก “ คุณหญิงตกใจเมื่อลูกชายพูดคำแบบนี้ออกมาจากปาก
“ แกว่าใครสันดานไม่ดี “
“ กิ้งก่าได้ทอง “ คุณชายพูดเสียงเรียบนิ่งแต่สายตาเหยียดหยามกันชัดๆ ร่างโปร่งเดินเข้าห้องตัวเองไปทันทีไม่อยากได้ยินเสียงผู้หญิงคนนี้
“ คุณพี่! ถ้าไม่สั่งสอนไอ้เด็กนี่ฉันจะฟ้องคุณภาคินแน่! “ พิมพ์ประภาหันมาหาเรื่องผู้หญิงตรงหน้า
“ ภา ใจเย็นๆได้มั้ยเขายังเด็ก “
“ หยิ่งเหมือนแม่มันน่ะซิ! “
“ หยุดพูดอะไรก้าวร้าวแบบนี้ซักที เธอควรทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ให้เด็กเคารพมากกว่าจะเอาชนะนะ พี่ขอเตือน “ คุณหญิงพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่ายก่อนจะเดินหนีไม่อยากอยู่ใกล้ พิมพ์ประภากัดปากแน่นอยากจะกรี๊ดให้ดังลั่น ไม่ได้ดั่งใจตัวเองเลยซักนิด.. คุณหญิงเปิดประตูห้องลูกชายเข้ามาในห้อง ใหญ่หันมามองเมื่อเห็นแม่เลยทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆใบหน้าเรียบนิ่งแสดงความไม่พอใจชัดเจน
“ อารมณ์ไม่ดีเหรอลูก “ แม่เดินมานั่งใกล้ๆมือบางจับมือของลูกชายมาบีบเอาไว้
“ ม๊า ทำไมถึงยอมให้ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาครับ “
“ ทำไมล่ะ “
“ ผมเกลียดมัน “
“ ใหญ่ ไม่เอานะอย่าคิดแบบนั้น “
“ ผมเกลียดมันทั้งแม่ทั้งลูก ผมเกลียดป๊าด้วย “ ใหญ่พูดเสียงน่ากลัว เขากำลังแค้นเจ็บจนหาที่ระบายไม่ได้ ถึงได้อยู่ในอารมณ์นี้ไม่อยากแม้แต่เห็นหน้าใครทั้งนั้น
“ ใหญ่จะเกลียดป๊าเหรอ “
“...........”
“ ป๊าไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นหรอกนะ แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้วเราทำอะไรไม่ได้หรอกแล้วอีกอย่าง ใหญ่เป็นเด็กจะพูดคำไม่ดีแบบนั้นกับผู้ใหญ่ไม่ได้นะจ๊ะ ต่อให้ไม่พอใจเขาก็ต้องอดทนเอาไว้เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ใหญ่ “
“ ทำไมม๊าต้องปกป้องป๊า ต้องปกป้องพวกมันด้วย! “
“ ม๊าทำให้ลูกคิดแบบนั้นเหรอหื้ม “
“ ........... “
“ เขาอยากทำอะไรก็ปล่อยให้เขาทำไป ถ้าเราเอาตัวเองลงไปเกลือกกลั้วด้วยตัวเราเองนั่นแหละที่กลายเป็นฝ่ายแพ้ ม๊าไม่ได้รู้สึกแพ้พิมพ์ประภาหรือว่าอยากเอาชนะเขา ม๊าอยู่ในที่ของม๊าเราไม่ได้ออกนอกเส้นใครจะทำอะไรเราได้ “
“ แต่ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรไม่ดีกับม๊า แล้วถ้ามันเอาเรื่องแบบนี้ไปบอกป๊าจะทำยังไง ม๊าก็เห็นว่ามันเป็นคนยังไง “
“ ใหญ่คิดว่าป๊าจะกล้าทำแบบนี้กับม๊าเหรอ “
“ .......... “
“ พิมพ์ประภาเป็นเมียอีกคนก็จริง แต่ใหญ่กับเล็กเป็นลูกของป๊า เชื่อม๊านะต่อให้ใครคิดจะทำไม่ดีกับลูกในฐานะพ่อกับแม่จะต้องปกป้องลูกๆ ป๊าเขาก็เหมือนกันใหญ่ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จะถูกผู้หญิงคนนั้นไปพูดอะไรไม่ดีกับป๊าหรอกนะ “
“ ม๊าเชื่อใจป๊าเกินไปแล้วนะครับ “
“ เป็นคู่ชีวิต เป็นสามีเป็นภรรยาเราต้องเชื่อใจกัน ต่อไปถ้าลูกจะมีคนที่รักก็ต้องเชื่อใจเขา “
“............”
“ อีกอย่างใหญ่อย่ามองคิมหันต์ไม่ดีเลยนะลูก น้องยังเด็กเขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วยหรอก “
“ ซักวันมันก็ต้องเหมือนแม่มัน “
“ ตัดสินจากบุพการีก็ไม่ได้อีกเหมือนกัน น้องน่ารักใหญ่ก็เห็นเขายังไร้เดียงสาถ้าเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีเขาก็จะโตขึ้นเป็นเด็กดี ใหญ่กับเล็กเป็นพี่ชายต้องปกป้องน้องรู้มั้ย “
“ ผมไม่ใจดีเหมือนม๊าหรอก จะให้ผมญาติดีกับคนพวกนั้นไม่มีทางครับ “ ร่างโปร่งลุกขึ้นขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ขอคุยถึงเรื่องนี้อีก คนเป็นแม่ได้แค่ถอนหายใจเบาๆถึงจะเป็นเด็กแต่ความคิดแบบนี้ก็ไม่ควร เธอไม่รู้ว่าจะต้องสอนให้ใหญ่คลายอักคติและลดทิฐิของตัวเองลงยังไง
ใหญ่อาบน้ำลงมาด้านล่างอีกครั้ง ป้าอรกำลังจัดโต๊ะอาหารเย็น ส่วนน้องชายตัวแสบหายไปเล่นกับเอ็มตรงสวนข้างบ้าน ตาคมมองเด็กตัวป้อมกำลังนั่งต่อเลโก้ในห้องนั่งเล่นเพียงคนเดียว คำพูดของแม่ดังเข้ามาในหูแต่เจ้าตัวเลือกที่ไม่สนใจ เขาไม่อยากสนใจ ไม่อยากมองหน้า ไม่อยากเห็นใครอยู่ในสายตาทั้งนั้น
“ พี่ชาย “ เสียงเรียกทำให้ใหญ่หันมาสนใจ คิมลุกขึ้นเดินเร็วๆมาจับมือเขาแล้วถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ดวงตากลมโตแสนซื่อจับจ้องเขาด้วยแววตาเหงาหงอย แต่ก็กระตือรือร้นอยากจะเล่นกับใครซักคน
“ ......... “
“ ต่อบ้านด้วยกันมั้ยฮะ “
................................................................................
ปัง ปัง ปัง!
[ ต้าอวี๋ คุณย่าโทรมาน่ะ!] เสียงเรียกของพี่ชายดังเข้ามาเป็นจังหวะที่ใหญ่ดึงแม็กปืนออก มือหนาปลดที่ครอบหูออกแล้วเดินออกไปหาอีกคนที่รออยู่ด้านในกำลังจิบกาแฟกับอาจิน
[โทรมาทำไม] เขาถอดถุงมือออกแล้วรับโทรศัพท์มือถือจากพี่ชาย
[ถามเอาเอง] อาเซิ่นไหวไหล่ไม่อยากรู้อยากเห็นด้วย ใหญ่มองหน้าพี่ชายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู
[ครับคุณยาย]
([หลานอยู่ไหนจ๊ะ])
[ผมอยู่สนามยิงปืน คุณยายมีอะไรด่วนเหรอครับถึงโทรหาผม]
([พ่อกับแม่หลานมาถึงแล้วนะ เมื่อกี้นี่แหละ])
[แต่แม่บอกว่าจะมาถึงพรุ่งนี้นะครับ]
([ตอนนี้มาถึงแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ไปหาย่าของหลานน่ะ])
[เข้าใจแล้วครับ ผมจะรีบกลับไปครับ] ใหญ่พูดเพียงแค่นั้นอีกฝ่ายก็วางสายไป ตอนนี้ทั้งอาเซิ่นและอาจินกำลังมองเขาอยู่
[มีอะไร คุณอามาถึงแล้วเหรอ] อาเซิ่นเลิกคิ้วถาม แต่เหมือนน้องจะไม่ยอมพูดอะไร
[............]
[เตรียมตัวกลับบ้านซะแล้วซิ แบบนี้น่าเบื่อจังเลยผมอุตส่าห์จะแนะนำสาวให้พี่อยู่ด้วยนะ] อาจินยิ้มกวนๆมาให้นิสัยขี้เล่นไม่เปลี่ยน
[เลิกเจ้าชู้ซักทีเถอะแกน่ะ เอาเวลาไปเรียนเถอะเป็นเด็กเป็นเล็กพูดเรื่องผู้หญิงแล้ว] อาเซิ่นว่าน้องแต่เหมือนไอ้นี่จะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ อายุแค่สิบสี่มันเล่นเอาผู้หญิงไปกินแล้วไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าไอ้เด็กนี่หรอก ถ้าไม่หล่อไม่รวยผู้หญิงคนไหนจะเล่นกับมัน
[ทำไมขี้บ่นจังอ่ะ ตัวเองก็ไม่บริสุทธ์แล้วแท้ๆ] อาจินยักคิ้วให้พี่ชายตัวเองอย่างถือชัย ใหญ่เลื่อนเก้าอี้นั่งลงหมดอารมณ์จะทำอะไรแล้ว
[ดูตัวอย่างต้าอวี่นี่ เป็นน้องที่น่ารัก]
[พี่ก็พูดได้ไม่ดูหนังหน้านะ คนนี้แหละตัวดีผมจะบอกให้ว่าโชกโชนกว่าผมเยอะ สาวๆในห้องผมกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่] อาจินเผาใส่ไฟไม่หยุด อาเซิ่นกำลังเรียนมหาลัยเลยไม่ได้อยู่เห็นความคืบหน้าของไอ้สองคนนี้
[ไร้สาระพอรึยัง] ใหญ่พูดอาจินหัวเราะหึๆ
[ไม่อยากกลับก็บอกคุณอาไปตรงๆซิ ไม่เห็นเป็นไรไหนๆแกก็จะคิดจะไปเรียนต่ออยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ]
[ผมบอกตอนไหนว่าอยากเรียนต่อเมืองนอก]
[อ่าว จะไม่ไปจริงเหรอ ]
[ตอนนี้ยังไม่คิด กลับกันเถอะครับ] ใหญ่ตัดบทง่ายๆ ร่างสูงลุกขึ้นกลับไปเก็บปืนกระสุนใส่ซองให้เรียบร้อย สามพี่น้องเดินออกมาจากสนามยิงปืนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวตระกูลโจว พวกเขาถึงได้รับอภิสิทธ์เข้ามาได้ ใหญ่มาอยู่ที่นี่จนกระทั่งผ่านมาเจ็ดปีเติบโตในสิ่งแวดล้อมเดียวกันกับพี่ชาย ครอบครัวตระกูลโจวและเฉินยังแข่งขันอย่างดุเดือดไม่ต่างจากเดิมถึงแม้จะมีการเกี่ยวดองแต่งงานกันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเพราะมีใหญ่เป็นตัวกั้นกลางอยู่ถึงได้ลดทิฐิแรงกล้าลงได้ไม่มากก็น้อย อาเซิ่นต้องรับช่วงต่อเป็นผู้นำกิจการของครอบครัว ลูกชายทุกคนของที่นี่ต้องแข็งแกร่งแม้แต่เรื่องศิลปะป้องกันตัวก็ต้องเรียนอย่างหนัก พวกเขาสามคนอยู่ในอายุใกล้เคียงกันถึงได้เติบโตมาด้วยกันทำอะไรเหมือนๆกันแม้แต่เรื่องที่ต้องเล่นของอันตราย อาจินเป็นคนขับรถเหมือนปกติวันนี้ไม่ได้ไปไหนต่อนอกจากกลับบ้านเท่านั้น เสียงคุยของอาเซิ่นดังอยู่ตลอดเวลาทั้งบ่นอาจินทั้งพูดเรื่องไร้สาระพวกเขามาถึงบ้านมีรถของจอดอยู่แล้ว ใหญ่เดินเข้าไปในบ้าน ห้องโถงใหญ่มีแขกรออยู่แล้ว
[สวัสดีครับคุณอา] อาเซิ่นกับอาจินทักทายคุณอาคนสวย อี๋หลินยิ้มเมื่อเห็นร่างบางลุกขึ้นเดินมาหาลูกชายมือบางยกขึ้นจับใบหน้าเรียวคมแล้วกอดร่างสูงของลูกแทบทันที
“ ม๊าคิดถึงลูกมากเลยนะ “
“ ........... “
“ กลับบ้านเรานะ ป๊ากับม๊ามารับใหญ่กลับบ้าน “ แม่พูดขณะที่กอดใหญ่เอาไว้แน่น
“ แม่บอกว่าจะมาพรุ่งนี้ไงครับ “
“ จะวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็เหมือนกัน ไม่เจอกันเกือบสองปีลูกดูโตกว่าครั้งก่อนมากรู้มั้ย ม๊าแทบจำไม่ได้ “ คุณอี๋หลินยิ้มทั้งน้ำตา ลูกชายสูงขึ้นกว่าเมื่อสองปีมากร่างกายมีกล้ามเนื้อขึ้นโครงหน้าเปลี่ยนไปตามร่างกาย ถึงยังไงเธอก็จำได้เด็กคนนี้เหมือนสามีเธอมาก
“ ผมอายุสิบเจ็ดแล้วนะครับ “
“ ลูกมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุแค่สิบขวบเองนะ เจ็ดปีมานี้ม๊าไม่มีความสุขเลย กลับบ้านเรานะลูก “
“ ถ้าคุณตาอนุญาตผมก็ไม่มีปัญหาครับ “
“ คุณตาสัญญากับป๊าแล้วจ๊ะ “ เธอพูดยิ้มๆ พวกเขาทั้งสองคนมาหาลูกทุกครั้งก็เพื่อมาขอขมาและขอให้ทางนี้ยอมให้ใหญ่กลับไป แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่เคยสำเร็จจนครั้งนี้ดูเหมือนป๊าจะยอมให้แล้ว ผู้ใหญ่ทุกคนตั้งแต่ผู้อาวุโสที่สุดของบ้านคุณลุงทั้งสามคนรวมทั้งพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า เพราะรู้ดีว่าหลานชายกำลังจะถูกพ่อแม่จริงๆพากลับไปแล้วถ้าได้ทานข้าวด้วยกันซักมื้อก็คงจะดี ครอบครัวใหญ่ในบ้านสมาชิกทุกคนถึงได้รวมตัวกันในมื้อเย็นของวันนั้น อาจินเปิดโรงเล่าวีรกรรมของพี่ต้าอวี่ตอนอยู่โรงเรียนให้คุณอาฟังอย่างเมามัน เสือยิ้มยากแต่เก็บหัวใจผู้หญิงได้ไม่จำกัดแต่ถึงยังไงก็ยังพูดถึงความเก่งและเป็นผู้นำอย่างเหนือความคาดหมาย
[จะกลับกันวันไหนล่ะ ]
[ผมมีงานต้องเคลียอีกนิดหน่อยครับ คงต้องขอกลับกันก่อนอาจจะเป็นวันอาทิตย์ครับ]
[แล้วต้าอวี๋จัดการเรื่องโรงเรียนรึยังลูก] คุณยายหันมาถามหลานชายอย่างเป็นห่วงเรื่องนี้ พวกเขาบอกกันอย่างกะทันหัน
[ผมให้คนจัดการเรียบร้อยแล้วครับคุณแม่ เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง]
[อืม ใจหายจังรู้สึกเหมือนอยู่กับยายแค่แป็บเดียวเอง ต้องกลับไปอยู่กับม๊าเขาซะแล้ว นี่ถ้าพาตัวแสบมาด้วยก็คงดีนะไม่ได้เจอจิ๋นอวี่นานแล้วจะโตกว่าอาจินรึเปล่าก็ไม่รู้ซิ]
[คุณย่า หลานคุณย่าหล่อทุกคนครับผมฟันธงล่ะ] อาจินหัวเราะเบาๆ
[จ๊ะ พ่อสุดหล่อ] คนถูกชมได้แต่เชิดหน้าหันไปยักคิ้วให้พี่ชายของตัวเอง หลังจากทานข้าวเสร็จใหญ่ขึ้นมาจัดกระเป๋าของตัวเองเอาไว้ ของบางอย่างเขาก็ทิ้งเอาไว้ที่นี่อาเซิ่นเข้ามาคุยด้วยนิดหน่อยก่อนจะเข้านอนแต่คนที่นอนไม่หลับคงเป็นเขาเองมากกว่า ไม่ได้กลับไปเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าที่นั่นจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างที่แน่ๆเขาต้องเจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง แค่คิดก็แทบอารมณ์เสีย แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังบอกให้เขากลับไปที่นั่น
วันอาทิตย์..
วันอาทิตย์เป็นวันที่ต้องเดินทางกลับ ทั้งอาจินและอาเซิ่นเป็นฝ่ายมาส่งที่สนามบินก่อนหน้านั้นก็ไปลาคุณปู่คุณย่ามาแล้ว ใหญ่ขึ้นเครื่องตอนบ่ายโมงยืนคุยกับพี่อีกนิดหน่อยแล้วก็ต้องไปเช็คอินขึ้นเครื่อง ข้างๆเขาเป็นแม่กับป๊าเกือบสามชั่วโมงที่อยู่บนเครื่อง เครื่องบินลงจอดเมื่อถึงสุวรรณภูมิ ป๊าเดินเคียงคู่ไปกับแม่เมื่อลงจากเครื่องโดยมีเขาเดินตามหลัง คนของป๊ามารอรับอยู่ก่อนแล้วกระเป๋าเดินทางถูกยกขึ้นรถ ตาคมมองออกไปนอกรถตลอดทางที่กลับบ้านมีอะไรเปลี่ยนไปเยอะจนแทบจำเค้าเดิมไม่ได้ แม้แต่บ้านของตัวเองก็ถูกต่อเติมดูใหญ่ขึ้น ต้นไม้ก็ถูกปลูกขึ้นแซมอีกหลายจุด ใหญ่เปิดประตูลงจากรถเมื่อมันจอดเทียบด้านหน้าบ้านเหมือนทุกครั้ง ร่างสูงกวาดตามองเก็บรายละเอียดอย่างรวดเร็วแล้วก้าวเข้าไปในบ้านตามพ่อกับแม่ไป
“ กลับมาแล้วเหรอคะ คุณผู้หญิงไม่โทรมาบอกก่อนล่วงหน้าเลยว่าจะกลับมาวันนี้ “
“ อรดูซิใครมา “ คุณผู้หญิงฉีกยิ้มเมื่อบอกให้คนสนิทของตัวเองหันไปสนใจหนุ่มน้อยอีกคน ใหญ่ยกมือไหว้แม่นมของตัวเอง
“ สวัสดีครับป้าอร “
“ อ่ะ คุณใหญ่ “ มือบางยกขึ้นปิดปากมือไม้สั่นไปหมด เหมือนจะชะงักไปได้ซักพักแต่พอตั้งสติได้เธอรีบเข้าไปกอดคุณชายตัวน้อยที่เลี้ยงมาเองกับมือไม่ได้เจอมานานมาก ตอนนี้โตเป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้แล้ว
“ คุณชายของป้า โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วเหรอคะ “
“ ผมอายุสิบเจ็ดแล้วครับ “
“ เจ็ดปีแล้วเหรอคะ ป้านึกว่าจะไม่ได้เจอคุณใหญ่อีกแล้ว “
“ ผมต้องกลับมาอยู่แล้วครับ “ ใหญ่ยิ้มบางๆให้
“ แล้วเล็กล่ะ “ คุณผู้หญิงถามหาลูกชายอีกคน
“ คุณเล็กน่าจะอยู่กับเอ็มนะคะ เดี๋ยวให้เด็กไปตามให้ค่ะ “ ป้าอรรีบเรียกให้เด็กรับใช้สั่งงานให้ไปตามคุณเล็กมาเร็วๆ
“ เดี๋ยวเอากระเป๋าไปเก็บด้วย ป๊าสั่งให้ขยายต่อเติมห้องนอนของลูกให้ใหม่แล้วนะ “ ร่างสูงของภาคินเดินตามเข้ามาทีหลังสั่งให้เด็กรับใช้ไปขนกระเป๋าท้ายรถ
“ ที่จริงไม่จำเป็นก็ได้ครับ “
“ แกก็โตแล้ว ต่อเติมใหม่น่าจะดีกว่า “
“ งั้นก็ขอบคุณครับ “ ใหญ่พูดขอบคุณ
“ เฮีย!! “ เสียงดังลั่นของน้องชายตัวแสบดังมาลั่นบ้านเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ ร่างสูงของเล็กรีบก้าวเร็วๆเบิกตากว้างอย่างดีใจเข้ามาหาพี่ชาย
“ อะไร ทำเป็นไม่เคยเจอไปได้ “
“ เฮียได้กลับมาแล้วเหรอครับ คุณตาให้เฮียกลับมาแล้วใช่มั้ยครับ! “ เล็กเขย่าร่างพี่ไปมาจนใหญ่ต้องปลดมือน้องออก มันสะเทือนจนเขาปวดหัว
“ โวยวายไปได้ ถ้าไม่ได้กลับจะได้ยืนอยู่ตรงนี้รึไง “ ใหญ่ส่ายหน้าเบาๆ
“ โอ้ยย ผมโคตรดีใจเลยเฮีย ขอกอดทีครับ! “ เล็กร้องโวยวายอย่างดีใจเข้าไปกอดร่างพี่ชายตัวเองแน่น ใหญ่ถอนพ่นลมหายใจเซ็งๆแต่ก็อยู่เฉยๆให้น้องกอดบ่นอะไรของมันไม่รู้เรื่อง ตาคมมองเห็นอีกคนที่ตามน้องชายตัวเองมา เอ็มยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าคุณใหญ่หันมามองตัวเองเขาโน้มตัวก้มหัวลงให้ทันที
“ เสียงดังโวยวาย อ๊ะ คุณพี่กลับมาแล้วเหรอคะ “ ร่างบางที่เพิ่งลงมาจากด้านบนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงดังเลยต้องเดินออกมาดู เห็นเล็กกำลังกอดใครบางคนอยู่เธอไม่คุ้น
“ เพิ่งตื่นรึไง “ เจ้าของบ้านอย่างภาคินถามเมียอีกคนด้วยน้ำเสียงปกติ เล็กผละจากพี่ชายหันมาทำหน้าเซ็งเมื่อใครเข้ามาขัดจังหวะ
“ แหม พูดอะไรแบบนั้นคะแล้วกลับกันมาตอนไหนคะ แล้วนี่.. “
“ ใหญ่ สวัสดีคุณน้าซิลูก “ คุณผู้หญิงบอกลูกชายด้วยรอยยิ้ม ทำให้พิมพ์ประภาหันขวับไปมองคนๆนั้นอีกครั้ง ใหญ่เพียงแค่ไล่สายตามองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายตามนิสัยแล้วยืนเฉยๆไม่ได้ทักทายอะไร
“ ตายจริง คุณใหญ่.. กลับมาแล้วเหรอคะ นึกว่าทางนั้นจะไม่ยอมให้กลับมาแล้วซะอีก “
“ พอดีว่านี่มันบ้านฉัน “
“ จองหองเหมือนเดิมเลยนะคะ “
“ พิมพ์ประภา พูดอะไรน่ะ “ เสียงทุ้มของท่านเจ้าสัวดังขัดขึ้น เธอถึงได้กระแอมไอในลำคอแล้วหันไปยิ้มกลบเกลื่อนเดินเข้าไปทิ้งลงนั่งข้างๆสามีโดยไม่สนใจสายตาเมียหลวง
“ จริงๆเด็กก็ไม่ควรพูดแบบนี้ไม่ใช่เหรอคะคุณพี่ “
“ เธอก็ไม่ควรพูดแบบนั้นเหมือนกัน “
“ ขอโทษค่ะ ขอโทษนะจ๊ะใหญ่ “ พิมพ์ประภาหันมาพูดขอโทษดัตจริตจนน่าหมั่นไส้ ใหญ่หัวเราะหึออกมาอย่างสมเพช เขามองแม่ที่ยังทำหน้าเหมือนเดิมทั้งที่ตอนนี้ตัวเองถูกผู้หญิงอีกคนหยามกันซึ่งๆหน้า
“ ผมขอตัวก่อนนะครับ “ ใหญ่พูดเสียงเรียบนิ่งก่อนจะขอตัวเดินขึ้นห้อง เล็กส่ายหน้าเบาๆมองเมียน้อยของพ่อแต่ก็ยังสาวเท้าเดินมานั่งข้างๆแม่
“ ม๊า ไปพักผ่อนดีกว่านะครับกลับมาเหนื่อยๆ “
“ จ๊ะ “ มือบางของแม่ยกขึ้นลูบเบาๆบนแก้มของลูกชาย ก่อนที่เธอจะขอตัวขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง
“ ป๊า.. ผมนี่ขี้ฟ้องเลยนะครับ ระวังเรื่องนี้จะถึงหูคุณตานะ “
“ นี่มันเรื่องของเด็กเหรอจ๊ะคุณเล็ก พูดอะไรไม่รู้จักกาลเทศะ “ พิมพ์ประภาออดอ้อนสามีตาจิกกัดลูกเมียหลวงอย่างแรงกล้า
“ พูดอย่างกับเธอเป็นผู้ดีเนอะคุณเมียน้อย “ เล็กยักคิ้วให้ยิ้มกวนๆอีกต่างหาก
“ นี่!! คุณพี่ทำไมถึงไม่พูดอะไรบ้างคะ! “
“ อย่าโวยวาย ปวดหัว “ ร่างสูงของภาคินลุกขึ้นกรอกตาเซ็งๆ เขาไม่ได้หูหนวกหรอกได้ยินที่ลูกชายพูดทุกประโยคนั่นแหละ
“ คุณพี่จะไปไหนคะ! “
“ นี่.. รู้จักมั้ยกาลเทศะน่ะ “ เล็กยังย้ำคำนี้เยอะๆเห็นคุณคนสวยกระทืบเท้าอย่างโมโหหันมาจ้องเขาอีกรอบก่อนจะเดินไปให้พ้น ใหญ่เปิดประตูห้องนอนของตัวเองมันถูกจัดแต่งใหม่หมด ห้องก็ถูกขยายกว้างขึ้นทั้งเตียงส่วนของระเบียงด้านนอกทุกๆอย่างไม่มีเค้าโครงเดิมเอาไว้เลยกระเป๋าถูกวางอยู่ตรงกลางห้องร่างสูงเดินออกไปด้านนอกระเบียงด้านหลังเป็นสวนไม่ต่างจากเดิมมาก ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาแต่ที่สะดุดตาคงเป็นต้นที่มีดอกสีขาวอยู่ไม่ไกลมากนัก หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวใหม่จนเสร็จใหญ่ลงไปด้านล่างอีกครั้งโชคดีที่ไม่เจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกไม่งั้นเขาได้ประสาทแตกอีกแน่ ร่างสูงเดินเข้าไปในสวนพวกดอกไม้ที่ปลูกไว้มีหลายต้นหลายสายพันธุ์แต่ที่เด่นตาชัดเจนตอนนี้คงเป็นต้นดอกไม้สีขาวนี่ล่ะ เขาไม่เคยสังเกตมันซักเท่าไหร่รู้แค่มันบานส่งกลิ่นหอมบางๆให้ได้กลิ่น
“ คุณใหญ่มาทำอะไรตรงนี้คะ “ ป้าอรจะเดินกลับไปที่บ้านแต่ดันเห็นคุณชายกำลังยืนดูอะไรซักอย่างอยู่
“ มาเดินเล่นน่ะครับ “
“ ที่จริงน่าจะพักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อนนะคะ “ ป้าอรพูดยิ้มๆ
“ ผมไม่ได้เหนื่อยขนาดนั้น “
“ งั้นจะทานของว่างมั้ยคะ ป้าจะไปเอามาให้ “
“ ไม่ต้องครับ ป้าอรนี่ต้นอะไร “ ใหญ่มองเอื้อมมือไปจับพุ่มดอกไม้สีขาวถามด้วยความอยากรู้
“ อ๋อ ดอกซ่อนกลิ่นค่ะ มันจะเริ่มบานและก็หอมมากตอนกลางคืนค่ะ “
“ อืม “ ใหญ่พยักหน้าเบาๆ กลิ่นหอมเย็นๆเหมือนจะคุ้นแต่ก็จำไม่ค่อยได้แล้ว
“ ส่วนมากไม่ค่อยมีใครปลูกหรอกนะคะ โบราณของคนไทยเขาเชื่อว่ามันไม่ดีค่ะแต่คุณผู้หญิงเป็นคนให้เอามาปลูกเพราะมันหอมมาก “
“ อ่า มันก็แค่ความเชื่อ “
“ ดีใจที่คุณใหญ่ชอบนะคะ “
“............”
“ งั้นป้าขอตัวก่อนนะคะ อ๊ะ คุณคิมไปไหนมาคะป้าตามหาซะทั่วเลย “ ป้าอรหันไปเห็นคุณหนูคิมหันต์เข้าเลยหันไปทักใหญ่หันไปมองตามเสียงของป้าอร เด็กน้อยที่เคยตัวเล็กป้อมตอนนี้สูงขึ้นตามวัยอายุของตัวเองผิวที่เคยขาวชมพูกลายเป็นขาวซีดรูปร่างผอมบางผมสีดำขลับตัดซอยไปตามรูปหน้าใบหน้าเรียวไข่ดวงตากลมโต จมูกโด่งขึ้นเป็นสันไม่มากและริมฝีปากแดงอิ่ม กลิ่นหอมของดอกซ่อนกลิ่นแผ่ซ่านออกมาให้เขาได้นึกออกอีกครั้งว่าความคุ้นเคยคืออะไร เขาเคยได้กลิ่นนี้เมื่อนานมาแล้ว นานจนนึกไม่ออกว่าได้มันมายังไงแต่เด็กคนนี้เป็นความทรงจำสุดท้ายที่เขาเห็นมันก่อนจะไปจากที่นี่
ร่างบางของคิมชะงักที่ถูกเรียกเขาเดินเข้าไปหาไม่กล้ามองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างป้าอร กลัวว่าจะเป็นแขกของที่บ้านแล้วเขาจะเผลอทำนิสัยไม่ดี
“ ป้าอรมีอะไรเหรอฮะ “
“ หายไปไหนมาทั้งวันคะ ป้าตามหาซะทั่วเลย อ๊ะจริงซิ.. จำได้รึเปล่าคะ “ ป้าอรพูดยิ้มๆ คิมเงยหน้าขึ้นมองแล้วยกมือไหว้ตามมารยาท
“ สวัสดีครับ “
“ คุณหนูจำคุณใหญ่ไม่ได้เหรอคะ “ ป้าอรช่วยเตือนสติให้อีกครั้ง คิมชะงักแค่คำว่าพี่ใหญ่ความรู้สึกเหมือนโดนของแหลมทิ่มแทง มือบางที่เคยถือสมุดการบ้านอยู่ถูกบีบเอาไว้แน่นก่อนที่เขาจะรีบก้มหน้าลงทันที
“.............”
“ นั่นซินะ ตอนนั้นคุณคิมยังเด็กอยู่เลยค่ะ “
“ ป้าอร ช่วยบอกให้เด็กเอาน้ำเปล่ามาให้ผมหน่อยนะครับ “
“ อ๋อ ได้ค่ะเดี๋ยวป้าจะเอาของว่างมาให้ด้วยค่ะ “ ป้าอรยิ้มแล้วเดินกลับไปที่บ้านใหญ่ คิมจะเดินตามป้าอรไปให้ได้แต่กลับถูกมือหนาเชยคางมนขึ้นให้สบตาด้วยอย่างจัง หัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักเหมือนโดนอะไรมาทุบแรงๆแม้แต่ร่างกายก็ยังถูกตรึงเอาไว้ พี่ชายในความทรงจำช่างเลือนรางแต่สายตาเย็นชาที่จ้องมองเขายังคงเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ หน้าเหมือนแม่ไม่มีผิด “
สีขาวที่แสนบริสุทธ์ ไร้เดียงสาเหมือนกลิ่นหอมแรกเริ่ม หอมหวานหลอกล่อให้แมลงตัวผู้เข้าไปติดกับ
ดอกซ่อนกลิ่นคือรักซ่อนใจไม่อาจเปิดเผย จะมีใครบ้างจะรู้ความหมายที่ลึกซึ้งนี้ได้...