พิมพ์หน้านี้ - ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 24-06-2016 17:21:19

หัวข้อ: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 24-06-2016 17:21:19
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



************************************************************************************************************
The Contrast
(http://i67.tinypic.com/24l8ldg.png)

จู่ๆ 'เตชัส' ก็หายไปจากชีวิตของ 'ติณ' เป็นสิบปีโดยไม่มีคำลา

และกลับมาอีกทีตอนที่ติณมีอาชีพเป็นนักข่าว และเตชัสเองเป็นถึงนักแสดงในค่ายหนังดัง   

#เตติณ

WARNING : ANGST CONTENT

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาดราม่า หดหู่

ผู้ที่รู้สึกซึมเศร้า หรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบทางอารมณ์อย่างมาก

ให้หลีกเลี่ยงนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ

หัวข้อ: Re: THE CONTRAST --- Chapter1 "Hello, Goodbye"
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 24-06-2016 17:23:34
WARNING : ANGST CONTENT

นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาดราม่า หดหู่

ผู้ที่รู้สึกซึมเศร้า หรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบทางอารมณ์อย่างมาก

ให้หลีกเลี่ยงนิยายเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ


1.   Hello, Goodbye.

“รู้มั้ยว่าก่อนจอห์น เลนนอนจะตายวันนึงน่ะ มีนักดนตรีพังก์คนหนึ่งฆ่าตัวตาย”

“เหอะ มีด้วยเหรอวะ”

“ไม่แปลกที่มึงพูดแบบนั้น” มันว่าพลางอัดควันบุหรี่เข้าปอด “แต่ได้ยินคนพูดแบบนี้ทีไรกูเศร้าพิลึก”

“ทำไมวะ”

“ก็ไอ้นักดนตรีคนนั้นน่ะ อ่า...มันชื่อดาร์บี้ แครช วางแผนฆ่าตัวตายเพื่อเป้าหมายเดียว”

“คือ?”

“เพื่อจะได้เป็นตำนานไง เหมือนอย่างราชามือกีตาร์ที่ตายตั้งแต่อายุยังน้อยแบบจิมมี่ เฮนดริกซ์ เออ เคิร์ท โคเบนก็ด้วย พวกศิลปินตำนานก็ตายตั้งแต่อายุน้อยทั้งนั้น เพราะงั้นดาร์บี้ แครชเนี่ย ก็เลยฟอร์มวง ทำดนตรี ออกอัลบั้มดีๆ สักอัลบั้ม แล้วก็ฆ่าตัวตาย เป็นการวางแผนมาแต่แรก”

“ก็หมายความว่ากะจะเป็นตำนาน...ด้วยการปลิดชีวิตตัวเองเนี่ยนะ”

“ใช่” มันยิ้มเศร้า “แต่วันรุ่งขึ้น จอห์น เลนนอน ก็ถูกยิงตาย”

“ข่าวก็เลยถูกกลบไปหมดอะดิ โคตรน่าสงสาร”

“อือ กูก็ว่างั้น” ชายหนุ่มตอบ พลางอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้งและพร่างพรูมันออกมา ลอยไปในอากาศเบื้องบน มองควันเหล่านั้นสักพักก่อนหันมาพูดด้วยแววตาอ่านยาก “กูจะไม่เป็นอย่างดาร์บี้ แครช”





ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงของ The Beatles ผมมักนึกถึงบทสนทนาระหว่างผมกับเตชัส เป็นบทสนทนาในปิดเทอมฤดูร้อนหลังผมจบ ม.ปลายปีแรก ขณะที่เตชัสจบ ม.6 และยังไม่คิดจะเรียนต่อมหาวิทยาลัย

ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นบทสนทนานี้ ทั้งที่ความทรงจำระหว่างผมกับเตชัสก็มีมากมาย มันเป็นเพื่อนบ้านที่ย้ายมาตอนผมอยู่ ป.4 และถึงมันจะแก่กว่าผมสองปี แต่เราก็ทำตัวเหมือนอายุเท่ากัน เล่นด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน ตอนอยู่โรงเรียนเวลาพักก็อยู่ด้วยกัน เรียกว่าสนิทกว่าเพื่อนวัยเดียวกันด้วยซ้ำ

แต่หลังจากเตชัสจบ ม.6 มันก็ย้ายบ้านไป และติดต่อไม่ได้อีก

ผมไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกที่เหมือนถูกหักหลังและทิ้งไว้ข้างหลังยังไง ไม่เข้าใจเหตุผลของเตชัส ไม่เข้าใจที่มันไม่ยอมบอกอะไรเลย

สิ่งที่เตชัสบอกผมเป็นครั้งสุดท้ายมีเพียงเรื่องราวของดาร์บี้ แครช

แต่คงเพราะแบบนั้นล่ะมั้ง ที่ทำให้บทสนทนาเหล่านั้นติดในใจ และล่องลอยอยู่ในบทเพลงของ The Beatles ที่เตชัสชอบฟัง



I say hello, hello, hello.

I don't know why

you say goodbye,

I say hello.



ท่อนสุดท้ายจบลง ถึงเวลาไปทำงานสักที








“ท่านคิดยังไงเกี่ยวกับการออกมาตอบโต้ของท่านรองนายกรัฐมนตรีครับ” ผมจ่อไมค์ที่ติดสัญลักษณ์ของช่องโทรทัศน์ที่ผมสังกัดอยู่ไปตรงหน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่กำลังถูกรุมจากสื่อมวลชนจำนวนมาก ซึ่งการจะแย่งชิงให้ได้สัมภาษณ์และคำตอบมาไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเมื่อโอกาสมาถึงตัวก็ต้องรีบคว้าไว้ และข้อควรระวังคือห้ามถามคำถามโง่ๆ

ถึงจะไม่มีสิ่งยืนยันว่าคำถามที่ดีจะทำให้ได้คำตอบก็ตาม

ผู้ติดตามของรัฐมนตรีกันสื่อมวลชนรวมทั้งผมไม่ให้เข้าถึงตัว หลังมีท่าทีอึกอักกับคำถามก่อนจะแหวกทางออกเพื่อหนีจากวงล้อมของนักข่าว ซึ่งนักข่าวส่วนใหญ่ก็ไม่ลดละ วิ่งตามไปจนรัฐมนตรีขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ถึงจะรู้ว่าไม่ได้คำตอบแล้ว แต่ก็ทำไปตามธรรมเนียมเพราะตากล้องยังตามอัดภาพไว้อยู่ จนเมื่อรถแล่นออกไป ผมจึงเริ่มทำหน้าที่ต่อ

“จากการสอบถามความคิดเห็นท่านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังในการออกมาตอบโต้ต่อข่าวความขัดแย้งทางเศรษฐกิจนั้น ท่านรัฐมนตรีไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด แต่ท่าทีอึกอักและสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนักทำให้อาจเป็นไปได้ว่าท่านรัฐมนตรีการคลังไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่กับการตอบโต้ที่รุนแรงที่เกิดขึ้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าทีมเศรษฐกิจจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร เอกชัย เที่ยงธรรม ถ่ายภาพ ติณ กลิ่นสุคนธ์ รายงาน”

พูดจบ ผมยังอยู่นิ่งแบบนั้นสักพักเพื่อความสะดวกในการตัดต่อ

“โอเค ติณ พอละ” พี่เอก ตากล้องบอกกับผม เป็นการย้ำว่าจบหน้าที่ในวันนี้ “ขนาดเขาไม่พูดอะไรสักคำมึงยังรายงานได้เป็นฉาก จะเทพไปไหน”

“ผมก็แค่ตีความจากภาษากายน่าพี่”

“แต่เป็นกูคงเคว้งอะ ไอ้เหี้ยทำไงวะ แม่งไม่ตอบ ชีวิตจบ ฮ่าๆ” พี่เอกหัวเราะขณะเดินนำกลับไปที่รถตู้ของสถานี

“กลับไปโดนไล่ออกอะ”

“เออ เป็นนักข่าวแม่งก็เสี่ยงเยอะ กูเป็นตากล้องนี่แหละสบายละ”

“ผมว่าไม่สบายตรงแบกกล้องนี่แหละ” ผมออกความเห็นตอนที่พี่เปรมยกกล้องขึ้นเก็บหลังรถ

“ก็หนักแค่กายล่ะวะ” พี่เอกพูดโดยไม่หันมามอง “แล้วมึงไม่คิดไปเป็นนักข่าวสายอื่นบ้างเหรอวะ”

“เหอะ ขี้เกียจอะ”

“เออ ตอนนี้ก็เป็นมือหนึ่งอยู่แล้วนี่”

“มือหนึ่งอะไรพี่ เขาก็เรียกกันไปอย่างนั้น”

“ไม่ต้องถ่อมตัวน่า เบื่อจริงๆ” พี่เอกยิ้ม ตบบ่าผมดังป้าบก่อนจะนำขึ้นรถไปก่อน

ก็จริงที่ว่าชื่อของผมเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สื่อข่าวภาคสนาม และผมค่อนข้างพอใจกับหน้าที่การงานตอนนี้ แต่ก็เป็นนิสัยตั้งแต่ไหนแต่ไรที่ไม่ค่อยชอบให้ใครมายกยอปอปั้นสักเท่าไหร่ เพราะบางครั้งคำพูดเหล่านั้นก็เคล้าคลอมากับอารมณ์เหน็บแนมและอิจฉาลึกๆ ในใจ

ผมรู้ดี เพราะผมมักจะทำได้ดีในทุกเรื่อง

ตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องเรียน กีฬา ดนตรี หรือแม้แต่เรื่องผู้หญิง ผมก็มักจะทำได้ดี และได้รับแต่สิ่งดีๆ เสมอมา

รถของสถานีเริ่มออกตัวขณะที่พี่เปรมคุยโทรศัพท์ ผมเหม่อมองข้างทางและคิดอะไรเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งรถแล่นออกสู่ถนนใหญ่ก็พบกับไฟแดง ติดอยู่เป็นเวลาสักพักจนผมได้แต่มองจอทีวีจอใหญ่ที่แขวนตัวอยู่บนตึกสูง ฉายโฆษณาต่างๆ รวมถึงตัวอย่างหนัง ผมมองมันฆ่าเวลาอย่างไม่คิดอะไร แต่แล้วสมองผมก็ขาวโพลน

นั่นมัน...เตชัส

ทำไมถึงไปอยู่ในซีรีส์เรื่องใหม่ของค่ายหนังน้องที่กำลังมาแรงอย่าง G.D. ล่ะ?

ทำไม...ทำไมล่ะ

ผมถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะคนที่เห็นใช่มันไม่ผิดแน่ หน้าตาแบบนั้น แววตาแบบนั้น  ลักษณะแบบนั้น ต่อให้ภาพที่เห็นจะไกลแค่ไหนผมก็จำได้

และถึงตอนนี้สิ่งที่ปรากฏบนจอภาพจะไม่ใช่มันแล้ว แต่คำถามยังไม่หายไป ผมรู้สึกกระวนกระวาย อยู่ไม่สุข และเริ่มหิวบุหรี่

“ติณ เป็นอะไรวะ ทำหน้าแปลกๆ” พลันพี่เอกถามขึ้น แกวางโทรศัพท์ไปแล้ว

“พี่...”

“ว่า?”

“ผมว่าจะย้ายไปเป็นนักข่าวบันเทิง”













*******************************************
แต่ละตอนจะสั้นหน่อยนะคะ แต่จะทยอยมาลงค่ะ
ยังหน้าใหม่สำหรับที่นี่มากๆ ยังไงแยมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: THE CONTRAST --- Update Ch.3 "I wanna hold your hand"
เริ่มหัวข้อโดย: toutnoir ที่ 26-06-2016 17:33:48
ลองอ่านแบบใส่ตัวเองลงไปในติณ สิ่งเดียวที่รู้สึกคือไม่เข้าใจเตเลย ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ยิ่งไม่เข้าใจก็เลยยิ่งไล่ตามอย่างนั้นหรือเปล่านะคะ
ยังไงก็ สู้ๆ นะ ติณ

 :hao5:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.6 "Can’t buy me love"
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 14-07-2016 14:06:38
คืออะไร กรี๊ด คลิปอะไรน่ะ น้องติณใจดี พูดเยอะแยะแต่สุดท้ายก็ทิ้งไม่ลง น่ารัก ชอบบรรยากาศเทาๆในเรื่องค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.6 "Can’t buy me love"
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 14-07-2016 14:34:32


เห็นด้วยกับความเห็นข้างบน... ชอบความเทา ความหม่นของเรื่องนี้จริง ๆ
อ่านไปก็คิดไปว่า ไม่ใครก็ใครนี่แหละที่รักก่อน... รักฝังใจอีกต่างหาก
แต่เลือกที่จะซ่อนมันเอาไว้ หรือไม่ก็ไม่ทันได้สังเกตเพราะมัวแต่สับสนกับปมในชีวตตัวเองอยู่
รอติดตามค่ะ ^^ เป็นกำลังใจให้นะ

ป.ล. ชื่อล็อกอินน่ารักมาก แต่ทำไมถึงขมล่ะคะ?
ปกติแยมจะหวานไม่ใช่เหรอ? (หรือว่ากวนทั้งลูกเลยขมเปลือก?) - อันนี้สงสัยเฉย ๆ ไม่ได้จะกวนนะ


หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.6 "Can’t buy me love"
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 14-07-2016 16:08:59
ค้างเฉย
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.7 "Love me do"
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 16-07-2016 19:40:21

7. Love me do


“ขณะนี้เรากำลังอยู่ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในโรงเรียนย่านนวมินทร์ อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูงสี่ชั้น โดยไฟลุกลามจากชั้นสี่ลงมาชั้นสาม แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ใช้ถังน้ำยาและน้ำฉีดควบคุมไฟจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนครูและนักเรียนจากอาคารทั้งหมดราวๆ สามร้อยคนได้ออกมารวมตัวกันที่ลานว่างหน้าเสาธง เบื้องต้นพบเด็กนักเรียนมีอาการสำลักควัน 12 ราย ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนแล้ว ขณะที่สาเหตุของเพลิงไหม้คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะมีการดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป”

จบการรายงานข่าว ผมหยุดยืนนิ่งสักพักก่อนที่ตากล้องจะส่งสัญญาณว่าทุกอย่างเสร็จสิ้นและเรียบร้อยดี หันมองฉากหลังที่ใช้ทำข่าว เพื่อให้เป็นภาพข่าวที่ดีจึงต้องอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ แต่ก็ต้องไกลพอจะได้ภาพในมุมกว้างชัดเจน แม้ว่านอกจากกลุ่มควันที่ละล่องแล้วจะยังมีความวุ่นวายของผู้คนปะปนมาในอากาศด้วย แต่ผมกลับไม่รู้สึกร้อนใจนัก ต่อให้ที่เกิดเหตุจะเป็นอาคารโรงเรียนเก่าของผมเอง

อาจเพราะห่างหายมานาน หรือความทรงจำหลายอย่างปิดผนึกไปก็ไม่รู้ได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อไฟจวนมอดดับและไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้คนที่เข้ามารับรู้เหตุการณ์ก็เริ่มบางตา นักเรียนและครูอาจารย์ที่หนีไฟออกมาก็กลับไปพักยังอาคารใกล้เคียง เจ้าหน้าที่เริ่มจำกัดคนนอกออกจากพื้นที่เพื่อไม่ให้วุ่นวายไปกว่านี้ ผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักรวมถึงทีมข่าวของผมเองก็ต้องเริ่มแยกย้ายไปเช่นกัน

“เฮ้ย จะเที่ยงพอดี หาไรกินกัน” พี่เอกบอกกับผมด้วยเสียงกระตือรือร้นเมื่อเก็บอุปกรณ์ถ่ายทำเสร็จ “โรงเรียนเก่ามึงไม่ใช่เหรอ แถวนี้อะไรอร่อยบ้างวะ”

“มันก็ตั้งหลายปีแล้วนะพี่ ไม่รู้ยังเหมือนเดิมมั้ย” ผมบอก ทั้งที่ในหัวก็นึกถึงร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่เจ้าประจำ “ลองไปดูก่อนแล้วกัน

ว่าดังนั้นก็นำทีมข่าวเดินมายังหัวมุมถนนของซอยหน้าโรงเรียน ตอนที่รถรีบร้อนแล่นเข้ามาทำข่าวก็ไม่ทันได้สังเกตข้างทางสักนิด แต่ป้ายชื่อร้าน ‘แววก๋วยเตี๋ยวต้มยำ’ ที่ติดเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าประตูทางเข้าจนเห็นมาแต่ไกลก็ทำให้รู้ว่าร้านยังคงอยู่เหมือนเดิม

“ที่โรงเรียนดับไฟกันได้แล้วเหรอ” ป้าแววที่ตั้งชื่อตัวเองเป็นชื่อร้านถามเพราะเห็นว่าพวกเราเดินมาจากทางโรงเรียน เมื่อผมตอบรับว่าใช่ ทั้งบอกว่าไม่มีใครเป็นอะไร รอยยิ้มโล่งอกก็คลี่บนใบหน้ากลมมนของป้าแวว แกดูไม่เปลี่ยนไปมากนัก อาจมีตีนกาเพิ่มสักหน่อยและท้วมขึ้นอีกนิด “เออดีๆ ถ้าเกิดลูกค้าประจำป้าเป็นอะไรไปด้วยล่ะแย่เลย”

ผมเพียงยิ้มรับคำ ท่ามกลางเสียงทีวีจอแอลซีดีในร้านที่เปิดดังพอประมาณ ผมกวาดตาเลือกที่นั่งภายในร้าน รู้สึกว่าปรับปรุงให้ดีขึ้นเยอะ จากพื้นที่เป็นเสื่อน้ำมันดูสกปรกก็กลายเป็นกระเบื้องแผ่นใหญ่สีขาว โต๊ะที่เคยดูตามมีตามเกิดก็กลายเป็นโต๊ะเก้าอี้อะลูมิเนียม ที่เหมือนเดิมก็คงเป็นตำแหน่งที่ตั้งโต๊ะ...

“จะว่าไปหน้าเราคุ้นๆ นะ” พลันป้าแววพูดขึ้นพร้อมกับเพ่งพินิจใบหน้าของผม “เอ้อ! นึกออกแล้ว คนที่มากับเตเป็นประจำนี่”

“อ่า...ครับ” ผมตอบรับไปตามปกติ แม้จะรู้สึกว่าโดนชื่อนั้นทิ่มแทงเข้ามาก็ตาม

“เราชื่ออะไรน้า... จำได้ว่าชื่อคล้ายๆ เตน่ะ จำได้ว่าเธอชอบขอมะนาวเยอะๆ ส่วนเตจะขอไข่เพิ่มพิเศษตลอด”

“ผมติณครับ”

“ใช่ๆ ป้านึกออกละ ติณกับเตนี่เอง เห็นเธอสองคนอยู่ด้วยกันตลอด แล้วก็จะนั่งตรงนี้ประจำนี่ ส่องสาวไง”

“ฮ่ะๆ ใช่ครับป้า” ผมหัวเราะเจื่อน มองโต๊ะอะลูมิเนียมตำแหน่งหน้าสุดของร้าน จำได้ดีว่าผมกับติณจะนั่งข้างเดียวกันเพื่อมองไปออกไปนอกร้าน มันเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดที่จะมองเห็นนักเรียนทุกคนที่เดินผ่าน แล้วเราก็จะนั่งพูดคุยถึงแต่ละคน บางครั้งก็ชื่นชม บางครั้งก็นินทาและหัวเราะกัน

“แล้ววันนี้เตไม่มาเหรอ”

“พ่อดาราดังนั่นไม่มาหรอกครับ” เป็นเสียงของพี่เอกตอบแทนผม

“แหม ยังไงก็อยู่ในวงการเหมือนกัน สนิทกันด้วย วันหลังพามาร้านป้าบ้างนะ คิดถึ๊งคิดถึง” ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนตอบรับ “อ้ะๆ นั่งเลยติณ เดี๋ยวป้าทำพิเศษให้เลย ใส่มะนาวเยอะๆ เหมือนเดิมเนอะ”

“ครับป้า” ผมตอบรับป้าแววที่ดูอารมณ์ดี ส่วนทีมข่าวของผมก็เริ่มสั่งอาหารบ้างและจับจองที่นั่งกันแล้ว ซึ่งก็เป็นโต๊ะตำแหน่งประจำของผม ทั้งยังเหลือแต่ที่นั่งที่หันหน้าออกนอกร้าน มองเห็นด้านนอกชัดเจนเหมือนเดิม

“ไม่นั่งวะติณ”

ที่ไม่เหมือนเดิมคือไม่มีคนคนเดิมมานั่งข้างๆ อีกแล้ว

“ก็กำลังจะนั่งอยู่นี่แหละ”

แต่แล้วยังไงล่ะ ช่างแม่งเถอะ

รอไม่นานนัก เมนูเดิมก็มาเสิร์ฟตรงหน้า กลิ่นต้มยำหอมมะนาวชวนคิดถึง รสชาติเองก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แม้ผมจะชอบกินเปรี้ยวน้อยลงก็ยังคงถูกปาก

พวกเราพูดคุยไม่กี่คำระหว่างมื้อนี้ ผมมองออกไปนอกร้าน มันเงียบสงบทั้งที่ห่างไปไม่ไกล โรงเรียนคงจะยังวุ่นวายกันอยู่ ตัดกับบรรยากาศของที่นี่ แม้จะได้กลิ่นควันจากไกลๆ และมีเสียงทีวีประดับบรรยากาศก็กลับรู้สึกสงบ อาจเพราะมันเป็นสถานที่ที่ผมคุ้นเคย บรรจุความทรงจำเก่าเก็บ และก็นานแล้วที่ผมไม่ได้เปิดผนึกออกมา

เพราะทุกความทรงจำล้วนมีเตชัสเป็นองค์ประกอบ

ผมแทบนึกหน้าเพื่อนร่วมปีแต่ละคนไม่ออก แม้จะยังติดต่อกันอยู่บ้าง

เหมือนกับมีแค่คนเดียวที่ชัดในความทรงจำ

แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่คิดว่ารู้สึกอะไรกับมันแล้ว

เรื่องสุดท้ายที่ผมเกี่ยวข้องกับมันคงมีแค่สิ่งที่ผมซื้อมาจากเด็กหนุ่มแปลกหน้า ซื้อไว้เพื่อปกป้องเตชัส ซื้อไว้เพื่อเป็นเครื่องยืนยันสุดท้ายถึงความรู้สึกที่มีต่อมัน ก่อนจะปิดตายมันลงในสักมุมของจิตใจ และหลังจากนั้นผมก็ได้ย้ายกลับมาทำงานภาคสนามเหมือนเดิม วงโคจรของมันและผมคงจะไม่ต้องซ้อนทับหรือแม้แต่เฉียดใกล้กันอีกต่อไป

“ติณๆ นั่นเตนี่” พลันป้าแววสะกิดเรียกผมจนสะดุ้ง ก่อนที่แกจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กๆ “ออกทีวีอีกแล้ว ไม่คิดเลยนะว่าโตไปจะเป็นดาราดัง”

เพื่อไม่ให้ดูแปลก ผมจำต้องหันไปมองทางทีวีอย่างช่วยไม่ได้ มันกำลังฉายภาพของเตชัสในข่าวบันเทิงช่วงก่อนเที่ยง เป็นข่าวการให้สัมภาษณ์ของเตชัสซึ่งเป็นพระเอกจากหนังรอมคอมของค่าย G.D. ที่เพิ่งเข้าโรงไปไม่นาน แต่ก็เป็นหนังที่สนุกและเข้าถึงคนเกือบทุกประเภท แน่นอนว่าก็ยิ่งจับชื่อเสียงของพริมนางเอกเบอร์หนึ่งของวงการให้ยิ่งโด่งดัง รวมถึงแผ่อิทธิพลมายังพระเอกหน้าใหม่อย่างเตชัสให้ยิ่งดังเป็นพลุแตก

“ป้ายังไม่ว่างไปดูหนังเตเลยเนี่ย”

อย่างที่ว่า บางทีหนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรียกชื่อว่า ‘หนังของพริม’ หรือ ‘หนังของเต’ ไปแล้ว

ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ ให้ป้าแวว ก่อนจะหันกลับมาวุ่นวายกับเส้นก๋วยเตี๋ยวในชามตัวเอง ปล่อยให้บทสนทนาของป้าแววจับคู่กับคนอื่นในโต๊ะผมไปแทน

‘เป็นกระแสที่ดังมากเลยนะคะสำหรับหนังที่เตกับพริมได้รับบทพระนางคู่กัน เรียกได้ว่าลุงป้าน้าอาที่ต่างจังหวัดถึงกับเหมารถไปดูหนังเรื่องนี้กันเลย เตคิดมั้ยคะว่าหนังเรื่องนี้จะดังถึงขนาดนี้’

แต่เสียงเจื้อยแจ้วของพิธีกรข่าวบันเทิงก็ยังลอดทะลุเข้าโสตประสาทมาอย่างชัดเจน

‘ไม่เคยคิดเลยครับ’

‘แล้วมาถึงจุดนี้รู้สึกยังไงคะ’

‘ก็...ดีใจครับ’ อะไรบางอย่างดลให้ผมหันไปมองจอทีวีอีกครั้งเมื่อมันพูดประโยคนี้ ผมเห็นพิธีกรทำหน้าเหมือนรออยู่ว่าให้พูดอะไรมามากกว่านี้ เตชัสจึงตอบเพิ่มเติม ‘ก็ขอพูดถึงแม่แล้วกันครับ แม่คงเห็นผมแล้วนะครับ’

แม่...งั้นเหรอ?

คำตอบของมันทำให้ผมขมวดคิ้ว ความสงสัยจู่โจมเข้ามามากมาย ทำไมถึงพูดถึงแม่ล่ะ ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยพูดถึงให้ได้ยินด้วยซ้ำ แต่...เอาเถอะ ช่วงที่หายไปมันอาจมีเรื่องราวมากมายที่ผมไม่มีวันได้รู้ และอีกอย่าง ผมก็ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับมันแล้วไม่ว่าทางใด

‘น่ารักจังเลย มีอะไรฝากถึงแม่ด้วย แล้วมีอะไรฝากถึงคนที่ยังไม่ได้ไปดูบ้างคะ’

กระนั้นผมก็ยังไม่ได้หันหน้าหนีไปไหนจากรายการบันเทิงนี้

‘ไปดูเถอะครับ’

‘ง่ายๆ งี้เลยเหรอ’ พิธีกรยิ้มขำด้วยท่าทีเป็นกันเองเมื่อเตชัสตอบสั้นแค่นั้น ทำให้มันยกมุมปากเล็กๆ หัวเราะเฝื่อนในลำคอ ก่อนเอ่ยตอบ

‘ก็ไปดูเถอะครับ เป็นเรื่องที่ผมตั้งใจแสดงมาก และอยากจะพูดว่าจะพยายามต่อไป แต่เอาจริงๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของผมก็ได้ มันยากนะกับการที่หนังเรื่องนึงจะมีรายได้แตะพันล้านในช่วงที่ค่าตั๋วแพงแบบนี้ แบบที่...เรียกว่าถ้าผมตายตอนนี้ก็คงดังมาก เป็นตำนานเลย’

‘แล้วอยากเป็นมั้ยคะ’

‘ก็ดีนะครับ’

‘ทำไมตอบแบบนั้นล่ะคะ’ จบคำถามพิธีกรกับเตชัสก็พากันหัวเราะ บรรยากาศดูเป็นกันเอง และดูว่าการสัมภาษณ์น่าจะจบลงแค่นั้น

‘ก็จริงนี่ครับ’

แต่เตชัสกลับพูดย้ำมาอีกประโยค

ฟังดูย้ำนักย้ำหนาว่าถ้ามันตายตอนนี้จริงๆ จะเป็นเรื่องดี

และมัน...ก็ยกมุมปากขึ้นนิดๆ อย่างที่เป็นมันเสมอมา

พลันผมรู้สึกชาวาบขึ้นมาทั้งตัวจนต้องรีบหันหน้าหลบหนีรอยยิ้มนั้น

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ที่เหลืออยู่ตรงหน้าดูจะไม่อร่อยอีกต่อไปแล้ว

รู้สึกหิวบุหรี่ คิดถึงวิญญาณร้ายของนิโคติน อยากให้มันทำลายความคิดของผมตอนนี้ซะ

เพราะความทรงจำดันไหลย้อนกลับ

ผมลุกจากโต๊ะอาหารโดยไม่เอ่ยคำพูดใดๆ กับเพื่อนร่วมโต๊ะ เดินออกมาและล้วงบุหรี่ออกมาจุดสูบ อัดมันเข้าไปเต็มปอดแล้วปล่อยควันให้ละล่องในอากาศปะปนกับกลิ่นควันไฟไหม้จากที่ไกลๆ ปะปนละอองของซากอาคารเรียนในความทรงจำ พลันผมก็กลัวขึ้นมา กลัวว่าทุกอย่างจะกลายเป็นควัน ล่องลอย และหายไปไม่กลับมาอีก

เหลือไว้แต่เพียงความทรงจำ ไม่ต่างจากภาพทรงจำในบทสนทนาสุดท้ายระหว่างผมกับเตชัส ก่อนที่มันจะหนีหายเป็นสิบปี


“กูจะไม่เป็นอย่างดาร์บี้ แครช”

จำได้ดีว่าเตชัสพูดแบบนั้น แต่นั่นไม่ใช่ประโยคสุดท้าย

มันยังมีอีกประโยคที่พูดออกมาหลังจากควันบุหรี่ที่มันเหม่อมองล่องลอยหายไปจากสายตา


“กูอยากเป็นอย่างจอห์น เลนนอน เป็นที่โด่งดัง เป็นที่รัก แล้วถึงตอนนั้นก็จะตายๆ ไปซะ”









********************************************
ดีใจจังที่มีคนติดตาม และชอบบรรยากาศเทาๆ ของเรื่องนี้  :-[

ส่วนเรื่องชื่อล็อกอินแยมส้มขมคอ ก็ต้องติดตามค่ะทำไมขม 55555
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.7 "Love me do"
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 16-07-2016 20:55:43
งะ ค้าง
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.7 "Love me do"
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 16-07-2016 21:32:09
คุณพระ พูดจาแบบนี้ได้ยังไงคะเต เป็นติณคงใจหายวาบตายเลย น่ากลัวมาก
อ่านตอนนี้แล้วคิดถึงโรงเรียนเก่าเลย อยากกลับไปกินข้าวร้านประจำบ้าง
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.7 "Love me do"
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-07-2016 21:46:05
เต  มีความลับ ที่คิณไม่รู้เยอะมากสินะ
แต่ที่ติณ เพิ่งรู้ติณก็ไม่ยอมรับรู้ ไม่เชื่อซะนี่
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.7 "Love me do"
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 16-07-2016 22:13:46
เต....นายเป็นคนยังไงกันแน่นะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.7 "Love me do"
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 16-07-2016 22:36:33
มาติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.8 "Misery (1)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 17-07-2016 21:11:21


- ตอนที่แล้วลืมบอกไปค่ะว่าตั้งแต่ตอนที่ 8 - 10 จะเป็นพาร์ทของเตชัสนะคะ




8. Misery (1)

Teshut’s Part




โลกกลับด้าน ในตอนที่ลืมตาขึ้นมา

ภาพของจอห์น เลนนอน - พอล แม็คคาร์ตนีย์ - จอร์จ แฮริสัน และริงโก้ สตาร์  ที่ควรจะอยู่หัวเตียงกลับมาอยู่ปลายเท้า

ผมกะพริบตาช้าๆ สองสามครั้งในห้วงเวลาที่เหม่อมองภาพนั้นพร้อมกับปลุกความคิดให้ตื่นตามร่างกาย นึกไม่ออกว่าพาร่างตนเองมาอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอนึกย้อนไปไกลกว่านั้น ก็รู้สึกได้เลยว่าคำถามนั่นไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรนัก

ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเสียงของแม่ที่ได้ยินเมื่อวานอีกแล้ว

ผมมองเหล่าสมาชิก The Beatles อีกครั้ง มุมปากคงกำลังยกยิ้มให้ศิลปินวงโปรดของแม่ เพลงของพวกเขาขับกล่อมวัยหวานของแม่ จวบจนพี่ชายและผมกำเนิดมาแม่ก็ยังไม่ได้ละทิ้ง ใช้เพลงพวกนั้นกล่อมเกลาลูกรักทั้งสองคน ได้ยินแม่พูดกับพ่อบ่อยเหลือเกินว่าในที่สุดฉันก็ได้เปิดเพลงของ The Beatles ให้ลูกตัวเองฟังจนได้ และผมจำได้ดี พ่อยิ้มรับ เป็นยิ้มที่ไม่เจือความเสแสร้งใด จำได้ดีว่าพวกเรามีความสุข

ไม่สิ พวกเราเคยมีความสุข

ไม่สิ ไม่ใช่อีก

มีแค่ผมที่ ‘เคย’ มีความสุข

กว่าจะรู้ตัวว่าความสัมพันธ์ของพวกเราที่เชื่อมต่อกันด้วยท่วงทำนองเพลงนั้นตกร่องบกพร่องมานานก็สายไปเสียแล้ว

จุดเริ่มต้นมันเริ่มจากความแตกต่างระหว่างผมกับพี่ชาย ทั้งที่เคยคิดว่าพวกเราเหมือนกันมาตลอด

พี่ชายหรือที่ผมถนัดเรียกมันว่าชิน จากเตชิน มันแก่กว่าผมสามปี เป็นวัยที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปสำหรับพี่น้อง ขณะเดียวกันก็ทำให้น้องอย่างผมชอบที่จะไล่ตามสิ่งที่มันทำ พฤติกรรมเลียนแบบเป็นเรื่องปกติสำหรับเด็กในวัยนั้น ผมคิดว่าเราจะเหมือนกันได้ทุกอย่าง ซึ่งมันก็แสดงท่าทีรำคาญนิดๆ แต่ก็ยอมให้ผมทำตาม และบางครั้งก็มีแกล้งกันบ้าง ทะเลาะกันบ้างตามประสาพี่น้อง กระทั่งวันหนึ่งรอยแยกก็เริ่มปรากฏตัว

มันคือวันที่เตชินตัดสินใจเริ่มเล่นเปียโน

ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเริ่มสนใจเปียโน และเพลงที่มันอยากเล่นก็คือเพลงคลาสสิก ทั้งที่ตลอดมาแม่ก็กล่อมเกลาเราด้วยเพลงร็อคแอนด์โรล แต่ก็ไม่ได้มีใครติดใจสงสัยอะไรมากนัก แค่มันเอ่ยปาก ทั้งพ่อและแม่ให้การสนับสนุนมันเป็นอย่างดีถึงขนาดที่ว่านอกจากส่งเรียนเปียโนแล้วยังซื้อเปียโนให้มันหนึ่งหลัง

ซึ่งตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร นอกจากไม่ได้อยากเล่นเปียโนเหมือนมัน

เป็นสิ่งแรกที่ผมไม่คิดอยากเลียนแบบชิน

อาจเพราะเครื่องดนตรีที่ผมอยากเล่นคือกีตาร์

ผมอยากเล่นเพลงของ The Beatles ให้แม่ฟัง

และก็เช่นกันเมื่อผมเอ่ยปาก พ่อแม่ก็ให้การสนับสนุนไม่ต่างกัน แต่แม่จะชอบมาขลุกอยู่กับผมมากกว่าเมื่อผมเริ่มเล่นเป็นเพลงได้แล้ว แม้จะเล็กน้อยแต่ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะสัมผัสได้ ผมจำยิ้มของแม่ที่อบอุ่นและประทับใจในตัวผมได้ดี ผมชอบรอยยิ้มแบบนั้น ผมรู้สึกมีความสุข และรู้สึกว่าถูกรัก

จนบางครั้งก็คิดไปว่ายังไงแม่ก็รักลูกคนเล็กอย่างผมมากกว่าลูกคนโตอย่างชิน

เพราะฉะนั้นต่อให้ไอ้ชินจะเล่นเปียโนเก่งแค่ไหนก็ไม่เป็นไร

มันจะไปกวาดรางวัลอะไรมา หรือมันจะเรียนเก่งด้วยก็ช่างหัว

ยังไงแม่ก็ยังยิ้มให้ผมแบบนั้น และรักในสิ่งที่ผมเป็น

แต่แล้ววันหนึ่ง ผมก็ได้ยินชัดเจนถึงท่วงทำนองของความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้น

มันเป็นวันที่ผมรู้ว่าตัวเองสอบเข้า ม.1 โรงเรียนที่ชินสอบเข้าได้สบายๆ ไม่ติด ทั้งที่ก็พยายามเต็มที่แล้ว เป็นวันแรกที่เห็นหน้าตาของความผิดหวังชัดเจน อีกทั้งความเสียใจก็ดูตัวใหญ่กว่าที่ควรจะเป็น

เพราะการมีพี่น้องยังไงก็ถูกเปรียบเทียบ

ยิ่งไอ้ชินสอบเข้า ม.4 โรงเรียนเตรียมอุดมฯ ได้ ผมก็เห็นข้อเปรียบเทียบใหญ่ยักษ์ในสายตาที่พ่อแม่มองมา แม้จะเก็บซ่อนสักเท่าไหร่ก็คงซ่อนไม่มิด ซึ่งในตอนนั้นเองที่ผมสัมผัสได้ถึงความเงียบในความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเตชิน

ขณะเดียวกัน รอยร้าวในความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ก็เริ่มเผยตัวออกมาราวกับเป็นสิ่งที่แอบซ่อนในบทเพลงรักแสนหวานที่พวกเราได้ฟังมาตลอด

แม่มีคนอื่น เป็นเหตุผลให้พ่อฟ้องหย่า

สินสมรสถูกแบ่งครึ่งตามกฎหมาย ขณะเดียวกันลูกชายทั้งสองคนก็ต้องแยกกันเลี้ยงดู

ตอนนั้นถึงรู้สึกราวกับว่าพวกเราสองพี่น้องเป็นสิ่งของ

และผม...ก็ไม่ใช่สิ่งของที่แม่เลือก

ทั้งที่คิดมาตลอดว่าแม่จะเลือกผม รอยยิ้มเหล่านั้นประทับอยู่ในความรู้สึกตลอดเวลา และมันก็ทำให้ผมเชื่อมั่นว่าแม่รักผมมากกว่า

แต่แม่ก็เลือกไอ้ชิน

ส่วนพ่อไม่ได้เอ่ยปากอะไรเลย เพียงยอมแม่ไปง่ายๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยากเลือกผมไปอยู่ด้วยหรือเปล่า

วันที่จะแยกจาก แม่กอดผมแน่นทว่าลูบเรือนผมแผ่วเบา บอกรักอยู่ข้างหู ได้ยินเสียงที่รื้นความอาวรณ์ ก่อนจะผละอ้อมกอด แม่ยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มอบอุ่นเดิมที่ผมรัก ผมยิ้มตอบ แล้วแม่ก็ไป

ไปกับเตชินพี่ชายของผม และแม่ก็ยิ้มให้เตชินด้วยรอยยิ้มเดียวกับที่ผมได้

ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าหัวใจของตนมีหลุมลึกขนาดใหญ่ปรากฏตัวออกมา








นับแต่วันนั้นพ่อก็ไม่ยิ้มให้เห็นอีก

ไม่ยิ้ม ไม่โกรธเกรี้ยว ไม่ดุด่า ไม่ว่ากล่าว พ่อเพียงเฉย เฉยกับทุกสิ่งอย่าง ราวกับมัดความรู้สึกผูกไว้กับแม่ที่จากพวกเราไปแล้ว

ยิ่งอยู่กับพ่อ ผมยิ่งรู้สึกว่าหลุมลึกในใจยิ่งขยายใหญ่

แต่ในเวลานั้น ใครบางคนก็เข้ามาในชีวิตผม และทำให้รู้สึกว่าหลุมลึกนั้นอาจมีทางถมมันหายไป

ติณคือคนคนนั้น

ตอนเจอกันครั้งแรก ผมรู้สึกว่าติณเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ดวงตากลมดูมีชีวิตชีวาและมักจับจ้องไปยังสิ่งที่สนใจแต่ก็ไม่ใช่เด็กพูดมาก และถึงจะอ่อนกว่าผมสองปีก็กลับรู้สึกว่ามันอ่อนต่อโลกกว่าผมหลายเท่า ดูไม่ประสีประสาอะไรจากการถูกเลี้ยงอย่างประคบประหงมเพราะเป็นลูกชายคนเดียวในบ้านที่มีเชื้อจีน แต่ก็อาจเป็นเพราะแบบนั้น จึงทำให้ติณมักจะใช้ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมาที่ผม คนที่ดูแปลกใหม่ในสายตา และเริ่มไล่ตามผม

ไม่ต่างกับที่ผมเคยไล่ตามพี่ชายตัวเอง

ตอนนั้นผมคิดว่าเริ่มจะเข้าใจความรู้สึกไอ้ชินเวลามีคนมาไล่ตาม มันเป็นความรู้สึกที่ดีพิกล แต่แน่นอนว่ายังไงก็คงต่างออกไป เพราะผมไม่ได้มีอะไรดีเลิศเลออย่างไอ้ชิน แต่ติณก็ยังชื่นชมผม

แรกๆ ผมก็คิดว่าคงเพราะโลกของมันยังแคบ ถ้ารู้จักคนมากกว่านี้มันก็คงไปเองสักวัน แต่พอเวลาล่วงผ่าน มันก็เฉลยให้เห็นอย่างจริงใจว่าไม่ใช่

ติณยังคงเป็นติณเสมอต้นเสมอปลาย ติณที่ยังสนอกสนใจในตัวผม แม้ว่าตัวมันเองจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ก้าวนำผมไปแล้วก็ตาม

ติณเป็นคนเก่ง ฉลาดและหัวไว เรียกได้ว่าถ้าตั้งใจจะทำอะไรก็ทำได้หมด ผิดกับผมที่ต่อให้จะพยายามแค่ไหน ไม่ว่าเรื่องอะไร ก็มักจะคว้าน้ำเหลวอยู่เสมอ แม้แต่เรื่องดนตรีที่ผมรักที่สุด อยากจะมีวงดีๆ สักวงและทำเพลงของตัวเอง แต่ทุกอย่างก็ผิดพลาดเพียงเพราะผมจริงจังกับเรื่องนี้เกินไป ในขณะที่เพื่อนร่วมวงไม่ได้มีฝันเดียวกัน

แน่นอนว่าเวลานั้นความเสียใจและผิดหวังก็พาร่างของมันแวะเวียนเข้ามาในชีวิตผมอีกครั้ง

แต่ติณก็ทำให้ผมรู้สึกว่าไม่เป็นไร

เพราะยังไงก็ยังมีมันที่ฟังผมเล่นกีตาร์อยู่ทั้งคน

ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกได้ว่านอกจากจะชื่นชมมันแล้ว ผมยังชอบมัน ชอบมาก ชอบเกินกว่าที่พี่ชายหรือเพื่อนคนหนึ่งพึงจะมีความรู้สึกมากล้นขนาดนี้ให้

ผมรักติณ

รักจนบางครั้งก็กลัวว่าวันหนึ่งผมจะไม่ใช่ที่หนึ่งของมันอีก

สุดท้ายผมจึงบังคับครอบครองมัน ทำลงไปอย่างเห็นแก่ตัว แต่อาจเป็นโชคดีเดียวในชีวิตผมที่ติณก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจอะไรนอกจากหวั่นกลัวสิ่งที่ไม่เคยทำ

พอเป็นแบบนั้นจึงใช้เวลาทั้งคืนครวญคิดว่าควรพูดให้ชัดเจนถึงความรู้สึกที่มี รวมถึงสร้างข้อสัญญาผูกมัดว่าเราจะอยู่ในฐานะอะไรต่อกัน

ผมอยาก...ให้ติณเป็นของผมคนเดียว

แต่ก่อนจะได้ทำแบบนั้น ก่อนจะได้พูดอะไรกับติณในตอนเช้าที่มันยังไม่ตื่นดี ผมก็เห็นได้จากชั้นสองบ้านของติณว่ามีรถคันหนึ่งมาจอดที่หน้าบ้านผม และคนที่ลงจากรถก็ทำให้หัวใจผมกระตุก เป็นแม่ที่มาบ้านของผมพร้อมกับพี่ชายโดยที่ไม่ได้บอกกับผมล่วงหน้า ไม่สิ แม่ไม่เคยติดต่อผมมาเองด้วยซ้ำ ทำราวกับรอยยิ้มอบอุ่นนั้นเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง กระนั้นผมก็ยังยิ้มออกมาเมื่อได้เห็นว่าแม่มาหา

เป็นดังนั้นจึงรีบมุ่งตรงไปหน้าบ้าน มีอะไรอยากจะพูดให้แม่ฟังมหาศาลแต่เวลานี้นึกไม่ออกเลยสักเรื่อง ทว่าสมองก็สั่งให้ช่างมันก่อน ผมอยากจะพบหน้าแม่ที่ไม่ได้พบมานาน แม่ที่ผมคิดถึงมาตลอด แม่ที่ยังทำให้ผมเล่นเพลงของ The Beatles อยู่บ่อยๆ เผื่อว่าสักวันจะได้เล่นให้ฟังอีก แต่แล้วพ่อของผมก็ออกจากบ้านมาพบแม่ก่อนในตอนที่ผมเดินมาถึงหน้าบ้านของติณ

ยังไม่มีใครรับรู้ว่าผมยืนอยู่ไม่ไกล กระนั้นผมก็ไม่ได้เดินเข้าไปหา เพราะบางอย่างสะกดผมเอาไว้ให้หยุดนิ่ง

มันคือ...รอยยิ้มของพ่อ

รอยยิ้มของพ่อเมื่อได้เห็นลูกชายคนโตอย่างไอ้ชิน

‘ไงชิน ปีสองแล้วใช่มั้ย สบายดีนะ’

‘ครับ สบายดี’

‘เรื่องเรียนก็สบายล่ะสิ เก่งอยู่แล้วเราอะ’

ผมเห็นว่าเตชินไม่ได้พูดอะไร มันแค่ยิ้ม ขณะที่พ่อตบไหล่มันก่อนจะกอดคออย่างอยากใกล้ชิดสนิทสนม

‘แล้วไอ้ชัสเป็นไงบ้างพ่อ’

‘มันก็ยังไม่ได้เรื่องเหมือนเคยแหละ’

พ่อตอบแบบนั้น...ทั้งยังยิ้ม

‘ปีหน้าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่ายังไม่รู้’

‘คุณอย่าพูดแบบนั้นให้ลูกได้ยินนะ’ แม่ปราม ผมเกือบจะยกยิ้มอยู่แล้ว ‘ถึงจะไม่ได้ ม.เดียวกับชินแต่ก็คงสอบได้สักที่นั่นแหละ’

เกือบจะยกยิ้มอยู่แล้วถ้าไม่มีประโยคนั้นตามมา

ทำให้ได้รู้ว่าจริงๆ แล้วมีแค่ผมคนเดียวที่ ‘เคย’ มีความสุขกับครอบครัวนี้

เพราะทุกวันนี้ ทุกคนก็สามารถมีความสุขต่อไปได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ต่างจากผม

แม่เองมีไอ้ชินก็พอแล้ว ต่อให้มันไม่เล่นเพลงของ The Beatles ให้แม่ฟัง แม่ก็พอใจกับลูกคนโตคนนั้นที่เป็นคนดีคนเก่งใช่มั้ย

แล้วดูพ่อสิ พ่อยังยิ้มได้เมื่ออยู่กับไอ้ชิน ทั้งที่พ่อไม่เคยยิ้มให้ผมเห็นเลยด้วยซ้ำตั้งแต่วันนั้น

ที่จริงก็คิดมาตลอดว่าถ้าวันนั้นให้พ่อเลือกระหว่างผมกับไอ้ชิน พ่อก็จะเลือกไอ้ชิน

ก็รู้อยู่แล้ว ว่าสักวันหนึ่งอาจต้องเห็นอะไรแบบนี้

ก็รู้อยู่แล้วล่ะ

ตอนนั้นเองที่ผมรู้ว่าหัวใจของผมไม่ได้ ‘มี’ หลุมลึกขนาดใหญ่อยู่หรอก

แต่หัวใจของผมเองต่างหากที่ ‘เป็น’ หลุมลึกขนาดใหญ่

ทั้งยัง...ไร้ก้นบึ้ง









หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.8 "Misery (1)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 17-07-2016 21:31:14
ชอบอารมณ์หม่นๆของเรื่องนี้แหะ เข้าใจอารมณ์ลูกคนเล็กที่มีพี่เก่งกว่าทุกอย่างทั้งหัวสมองและความมีมนุษย์สัมพันธ์ โดนเปรียบเทียบบ่อยมากตอนเด็ก อยากจะร้องไห้
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.8 "Misery (1)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-07-2016 21:52:48
เป็นคนวิ่งตามหาความรักสินะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.8 "Misery (1)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 17-07-2016 21:57:41
นี่มันพ่อแม่รังแกฉัน นี่มันแย่ที่สุด ขอโทษนะเตที่เคยด่าเตไป สู้ๆนะเต
แต่ห้ามทำติณเสียใจนะเฮ้ย!
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.8 "Misery (1)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: toutnoir ที่ 17-07-2016 22:47:51
เราเหมือนจะเข้าใจหลุมดำของเตขึ้นมาอีกนิดนะ ถ้าแค่ 'มี' หลุมคงหาอะไรปิดได้ แต่ 'เป็น' หลุมเนี่ยสิ จะปิดยังไง ..ยังไงก็ สู้ๆ นะเต <3
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.9 "Misery (2)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 18-07-2016 12:34:48

9. Misery (2)

Teshut’s Part



ผมยังคงนอนอยู่บนเตียง มองภาพศิลปินยุค 60 ที่กลายเป็นตำนานกล่าวขานมาถึงปัจจุบันและคงสืบต่อไปตราบเท่าที่มนุษย์ยังมีประวัติศาสตร์ รู้ดีว่าไม่อาจเป็นแบบพวกเขา ไม่ได้แม้สักเศษเสี้ยว แต่แค่ได้ยืนอยู่บนยอดพีระมิดไหนสักแห่งในสังคมที่ตนเองอยู่ พีระมิดที่คนที่ทอดทิ้งผมไปเองก็จะมองเห็น แค่ทำแบบนั้นได้ ผมก็พอใจแล้ว

ตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่บนยอดพีระมิดของความโด่งดัง ดีใจที่เป็นที่หนึ่งได้แล้วสักครั้งในชีวิต แต่ก็รู้ดีว่าสักวันจะไถลลื่นตกลงมา ไม่ด้วยตัวเองก็ด้วยน้ำมือของคนอื่น ไม่ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ กาลเวลาจะพัดพาเรื่องแบบนั้นเข้ามาอยู่เสมอ และบ่อยครั้งเราก็จะถูกกาลเวลาหลงลืมไป

แต่ผมไม่อยากถูกลืม

คิดแบบนั้น ผมก็เห็นความรู้สึกของตัวเองชัดขึ้นมาอีกแล้ว เป็นก้อนเงาทะมึนประหลาดๆ ที่ดูเหนียวข้นไปด้วยความหม่นเศร้า มันคืบคลานเข้ามาจับมือทั้งสองข้างของผมไว้ ก่อนจะบีบเข้าที่คอของผมเองอย่างช้าๆ และแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ

‘เป็นไงบ้างลูก สบายดีหรือเปล่า ทำงานหนักมั้ย’

รู้สึกถึงกระดูกสันหลัง ลูกกระเดือก และกล้ามเนื้อในกำมือ

‘เห็นลูกพูดถึงแม่ในทีวีน่ะ แม่ก็เลยหาทางติดต่อมา’

สัมผัสได้ถึงเส้นเลือดกำลังเต้นตุบๆ คัดค้านการกระทำ

‘คุยกับผู้จัดการลูกอยู่ตั้งนานแน่ะ กว่าเขาจะยอม’

ความอึดอัดเริ่มคัดคั่งในระบบทางเดินหายใจ

‘ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งลูกจะดังขนาดนี้ ดีใจกับลูกด้วยนะ ถ้ายังไงติดต่อแม่มาบ้างสิ แล้วก็...แม่รักลูกนะ’

ฉับพลันผมปล่อยมือ สูดเอาอากาศเข้าไปอย่างโหยหา หายใจลึกและเนิบช้า ขณะที่น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

ผมคิดมาตลอดว่าจะไปมีความหมายอะไรถ้าเกิดมาบนโลกใบนี้แล้วไม่เคยถูกรักแม้สักครั้ง

วันนี้ผมรู้สึกว่าทำตามสิ่งที่คิดมาตลอดได้แล้ว แต่ในหัวใจผมกลับยังเป็นหลุมลึกไร้จุดสิ้นสุดและเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

ผมร้องไห้ เมื่อนึกถึงติณ








ในวันที่พ่อผมยิ้มให้พี่ชายที่ดีกว่าผมทุกอย่าง ผมเริ่มเห็นความรู้สึกของตัวเองเป็นรูปเป็นร่างชัดขึ้น เป็นกลุ่มก้อนเงาประหลาดที่ดูเหนอะหนะและหม่นเศร้า อันที่จริงก็เห็นมันมานานแล้วตั้งแต่ตอนที่สอบเข้า ม.1 ไม่ติด เพียงแต่ในเช้าวันนั้นผมเห็นมันชัดราวกับมีตัวตน คล้ายเป็นภาพซ้อนทับจากมิติไหนสักแห่ง อาจจะมาจากหลุมลึกของจิตใจ อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกว่าผมเห็นมัน และมันก็ตามผมมา

ชวนให้อึดอัดจนพูดอะไรกับติณอย่างที่ตั้งใจไว้ไม่ได้

ผมพูดไม่ออก ต่อให้ดวงตาของติณจะจ้องมองมาอย่างเฝ้ารอคำอธิบายในความสัมพันธ์

ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด ไม่ใช่ว่าอยากทำให้เสียใจ แต่เหมือนความรู้สึกหม่นเศร้านั่นดึงรั้งผมไว้ – ยัง ยังไม่ใช่ตอนนี้ – เหมือนมันกระซิบบอกผมแบบนั้น

จนสุดท้ายผมได้แต่ยกยิ้มให้ติณเหมือนอย่างที่เคยทำ

เป็นรอยยิ้มโง่ๆ เท่าที่ใครสักคนจะผลิตออกมาได้

ในตอนนั้นผมคิดว่าคงต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองเสียก่อน ถึงจะสามารถกลับมาพูดมันกับติณ ทว่าก็ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่คิด

ก้อนเงาประหลาดของความหม่นเศร้านั้นตามติดผมยังกับเป็นเงาตามตัว

ยิ่งผมเห็นมัน ผมยิ่งรู้สึกว่าถูกละทิ้งจากโลกใบนี้ กระนั้นก็ยังถูกสั่งให้ก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตไปซะ

แต่ไม่ ผมจะไม่ก้มหน้าศิโรราบให้แก่มัน

ผมเถียงมันไปเช่นนั้น เพราะคิดว่ายังไงผมก็ยังมีติณอยู่ทั้งคน

ผมจะเผชิญหน้ากับมัน จะไม่ก้มหน้าก้มตาแต่จะเชิดหน้าเอาไว้และรอสักวันที่จะได้เหลือบมองมันลงมาจากตำแหน่งที่สูงกว่า และจะไม่มีใครเหนือไปกว่าผมทั้งนั้น

ถ้าเป็นแบบนั้น ถ้าอยู่ในจุดที่สูงที่สุด คนที่เคยละทิ้งไปก็จะมองเห็นผม

โดยเฉพาะแม่

ผมคิดอย่างนั้น หวังอย่างสุดหัวใจที่เป็นหลุมลึกไร้ก้นบึ้งว่าจะมีสักเรื่องที่ทำได้ดีพอ แต่เหมือนทุกครั้งที่ตั้งความหวังอะไรไว้ก็จะถูกก้อนหม่นเศร้านั้นเข้ากระแทกให้ล้มลง แม้เรื่องเรียนที่ผมพยายามแล้วและพยายามมาตลอดก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ที่จริงก็รู้ดีว่าตัวเองมันเป็นไอ้ห่วย เป็นพวกไม่ได้เรื่อง  ต่อให้พยายามเท่าไหร่ก็จะถูกตราหน้าเช่นนั้น และมันก็เป็นแบบนั้นไม่เปลี่ยนแปลง ยืนยันได้จากการที่พยายามมากเท่าไหร่ ผลการเรียนของผมก็ขยับมาอยู่แค่ในระดับกลาง ไม่โดดเด่นอะไร และพ่อก็ไม่ได้สนใจเหมือนเคย เพราะฉะนั้นอย่าคิดเลยว่าความพยายามนี้จะส่งไปถึงแม่ได้

ผมรู้ เพราะมันไม่ใช่ที่หนึ่งถึงได้เป็นแบบนี้

ผมไม่ได้ยืนอยู่บนยอดสูงสุดของพีระมิด

ความรู้สึกหม่นเศร้าดูจะตัวใหญ่ขึ้นทุกที

ขณะที่ติณไม่เคยต้องมารับรู้ความรู้สึกแบบนี้เลย

มันเป็นคนเก่งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และถ้ามันทุ่มเทเท่าที่ผมทำ อาจจะไปได้ไกลกว่าผมจนมองไม่เห็นฝุ่นเลยด้วยซ้ำ อย่างตอนขึ้น ม.4 มันก็สอบเข้าโรงเรียนที่ไอ้ชินเรียนได้แต่กลับไม่ยอมไป ด้วยเหตุผลบ้าๆ ว่า...อยากอยู่กับผมมากกว่า

ตอนที่ได้ฟัง ถึงจะออกปากด่า แต่ลึกๆ แล้วก็แอบดีใจ

ติณทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองมีค่า

กลับกัน ติณไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก มันก็มีค่าในตัวมันเองอยู่แล้ว

มีค่าจนถ่อมตัวลงมาอยู่บ่อยๆ เป็นการป้องกันตนเอง

ผมชินกับนิสัยแบบนี้ของมัน และก็รู้ดีว่ามันเป็นเพราะคำพูดของผมที่ยืนกรานไม่ให้มันล้มเลิกสิ่งที่อยากจะทำไม่ว่าเรื่องอะไร จะพูดถ่อมตัวแค่ไหนก็ได้แต่อย่าล้มเลิกสละตำแหน่งที่ยืนให้ใครง่ายๆ เพราะต่อให้ทำไปด้วยความหวังดี มันก็จะเป็นการดูถูกคนที่พยายามเพื่อตำแหน่งนั้น

ต่อให้ไอ้คนคนนั้นจะพยายามแค่ไหนก็ไม่ได้ตำแหน่งนั้นมาก็ตามที

ผมรู้ดี เพราะคนแบบนั้นก็คือตัวผมเอง

และผมก็มักจะคอยพูดคำว่า ‘ดีแล้ว’ ให้ติณฟัง ตอนที่มันมาเล่าว่าได้อะไรมาบ้างจากสิ่งที่ตั้งใจทำ พูดไปอย่างจริงใจและรู้สึกว่ายินดีกับมันจริงๆ ถึงจะเป็นแค่คำพูดที่ดูโง่ๆ ก็ตาม

แต่แล้ว...วันหนึ่งความหมายในคำนี้จากปากผมก็เปลี่ยนไป

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่มันเริ่มกลายเป็นคำโกหก

อาจเป็นเพราะตัวตนอีกด้านสะท้อนก้องออกมา ตัวตนที่มืดมนถูกปลุกจากก้อนความรู้สึกระยำนั่น  มันทำให้ผมรู้สึกนึกแค้นกับความพยายามที่ไม่เคยเป็นผลของตนเอง ขณะที่ติณกลับได้ไปทุกอย่าง หนำซ้ำยังแสดงท่าทีถ่อมตนไม่ยอมภูมิใจกับมัน หากผมก็พยายามระงับและกดเก็บความรู้สึกนี้ไว้ แต่มันก็ยังสำแดงฤทธิ์มากขึ้นทุกที

ผมเริ่มไม่ถูกหูกับคำถ่อมตนใดๆ ที่ติณพูดออกมา

รู้สึกสะอิดสะเอียน และอยากจะทำลายมันซะ

กระนั้นผมก็ยังพูดว่า ‘ดีแล้ว’ ไปเหมือนเดิม

พูดออกไปด้วยหวังว่าจะมีอะไรเป็นเหมือนเดิม

ผมพูดออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า

แต่รู้ตัวอีกทีว่าโกหกต่อไปไม่ไหวแล้ว ก็ตอนที่ผมยืนอยู่ในห้องของติณตอนที่มันไม่อยู่ เอกสารทางการเรียนของมันกระจัดกระจาย เรียบเรียงสติก็รู้ได้ว่าตนเองเป็นคนรื้อค้น และตอนที่นึกออกว่าผมทำลงไปทำไม ความศรัทธาที่มีในตนเองก็สูญสิ้น

ผมอยากจะทำลายอนาคตของมัน อยากจะดึงมันลงมาจากยอดพีระมิด ดึงมันลงมาจากที่หนึ่งที่มันไม่เคยภูมิใจให้เห็นเลยสักครั้ง

ความชื่นชมที่เคยมีให้มันถูกความอิจฉากัดกินแหว่งวิ่นจนแทบไม่เหลือตัวตน

ตอนที่รู้ตัวแบบนั้น ผมหวาดกลัวในตัวเอง จิตใจสั่นสะท้านอย่างไม่อาจต้าน รู้สึกสับสนไปหมดระหว่างความรักกับความเกลียดชัง ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองยืนอยู่ตรงเส้นคั่นกึ่งกลางหรือได้ก้าวข้ามไปยังแดนแห่งความเกลียดชังแล้ว กระนั้นผมก็อยากพาตัวเองกลับมา ผมไม่อยากลายเป็นปิศาจร้าย ผมไม่อยากถูกไอ้ก้อนเงาทะมึนหม่นเศร้านั่นครอบงำ คิดได้แบบนั้นผมก็ค่อยๆ เก็บเอกสารของติณกลับที่ทีละแผ่น ด้วยมือที่สั่นเครือ ด้วยลมหายใจที่ติดขัด

และด้วยน้ำตาที่ต้องระวังเหลือเกินไม่ให้โดนเอกสารเหล่านั้น

ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่าจะขจัดความอิจฉานี่ให้หมดไปจากหัวใจ ทว่าได้เห็นหน้าติณทีไร ได้ฟังเรื่องราวที่มันเล่า ได้ฟังถ้อยคำถ่อมตนของมัน ผมก็รู้ดีว่าไม่อาจจะขจัดไปได้ คล้ายก้อนความรู้สึกหม่นเศร้าสีดำมืดที่ไม่เคยหายไปจากสายตา

สิ่งที่ผมทำได้มีเพียงพูดคำว่า ‘ดีแล้ว’ และยกยิ้มโง่ๆ ให้ติณเหมือนเคย ทั้งที่ในใจกำลังถูกกัดกลืนด้วยความอิจฉาจนเกือบจะชิงชัง

ทรมาน

ทรมาน อึดอัด และไม่อาจอธิบายให้ใครฟัง เพราะเชื่อว่าไม่มีใครเข้าใจ

ผมไม่อยากทำร้ายติณ

มันไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ

แววตาที่ติณใช้จ้องมองผมเสมอมาก็ยังเป็นแววตาเดิม เหมือนครั้งยังเป็นเด็ก เหมือนตอนที่เราเจอกันครั้งแรก และไม่เคยเจือความชิงชังอยู่ในแววตาอย่างที่ผมต้องข่มอารมณ์เมื่อมองมัน

ผมไม่อยากมองติณด้วยสายตาแบบนั้น

เพราะฉะนั้น ในตอนที่ผมยังหลงเหลือความรักอยู่ในซากหัวใจที่โสมม ในตอนที่ผมยังพอจะมองติณด้วยความรู้สึกอยากจะเห็นมันยิ้ม อยากจะเห็นมันมีความสุข ไม่ใช่ว่าอยากจะทำร้ายและทำลายอย่างไม่หลงเหลือความคิดห้ามตนเอง ผมจึงต้องไปจากติณ ไปให้พ้นๆ ไปให้ไกลแสนไกลและไม่ต้องพบเจอกันอีก

ผมจากมันมา ด้วยภาพทรงจำที่ติณยังคงเป็นคนที่ผมรัก

หากนับแต่วันนั้น ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ผมก็ไม่เคยอยากมีชีวิตอยู่ต่อเลยสักวัน















****************************************************************************************
เท่าที่เคยเขียนมา เตชัสเป็นพระเอกที่ต่างจากเรื่องอื่นๆมาก (ส่วนใหญ่แยมชอบแนวเมะลูกหมาแต่แท้จริงเป็นหมาป่า) แต่ก็ชอบมากเช่นกันค่ะ

แจ้งนิดว่าเรื่องนี้ไม่ยาวมากนะคะ เหมือนนวนิยายขนาดสั้นเลย อีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.9 "Misery (2)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 18-07-2016 15:50:21
เตเป็นคนน่าสงสารอะ รู้ว่าเตคงไม่อยากให้สงสารแน่ๆ ขอโทษนะ
เข้าใจเตทั่งหมดเลย ยิ่งตอนที่เห็นแม่เตติดต่อมา ประโยคที่พูด แค่อ่านยังรู้สึกว่ามันสร้างหลุมในใจเราเลย
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.9 "Misery (2)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-07-2016 19:27:09
เต จมกับความอิจฉาพี่ ติณ เพราะเขาเก่งกว่าทุกด้าน
เต อยากได้ความรัก ความภูมิใจจากพ่อแม่
ก็มีคนมากมายที่เขาไม่เก่ง เขาก็ทุกข์ แต่เขาไม่จมกับความทุกข์
ให้ความทุกข์ ความอิจฉา ความไม่เท่าเทียม มากัดกินตัวเอง
และยังปิดบังทุกอย่างจากติณ คนที่ดีและรักเตอย่างจริงใจ
ถ้า เต ยังออกมาจากหลุมมืด ถมหลุมมืดของตัวเองไม่ได้
ก็จมหลุมมืดไปจนตายคนเดียวเถอะ
ติณ คงรู้หรอกนะ ถ้าไม่บอก ไม่พูด ให้ฟัง
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.9 "Misery (2)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 18-07-2016 21:11:39
สงสารเต นี่มันโรคซึมเศร้าแล้ว
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.10 "Misery (3)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 19-07-2016 17:09:07
10. Misery (3)

Teshut’s Part


ผมมองลงไปเบื้องล่าง จากคอนโดชั้นที่สามสิบห้า เห็นผู้คนตัวเล็กเท่ามด จนรู้สึกไปว่าชีวิตที่เห็นอยู่นั้นไม่มีสิ่งใดเป็นความจริงสักอย่าง รวมถึงตัวของผมเองด้วย

เป็นแค่ก้อนเนื้อไร้จิตวิญญาณ

รักใครก็ไม่ได้

ถูกรักก็ไม่ได้

ไม่สิ...ต่อให้ถูกรักก็ไม่รู้สึกดีใจอีกแล้ว

ทั้งที่เคยคิดมาตลอดว่าชีวิตคงไร้ความหมายถ้าไม่ถูกรัก

แต่วันนี้ผมก็ได้ค้นพบว่าชีวิตที่ไร้ความหมายกว่าคือชีวิตที่รักใครไม่ได้เลย

ตอนที่ได้กลับมาพบกับติณอีกครั้ง แววตาของมันยังดูเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ชั่ววูบหนึ่งทำให้ผมคิดไปว่าบางทีความอิจฉาจะถูกชะล้างผ่านกาลเวลา ผมดีใจที่ได้พบอีกครั้ง ดีใจจนอยากเข้าไปกอดให้แน่นๆ แต่ก็กดข่มอารมณ์ไว้ และในที่สุดก็ได้พบว่ากาลเวลาไม่เคยช่วยอะไร

คำพูดถ่อมตัวของติณยังทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียน

แต่ผมก็ยังหวัง หวังว่าจะย้อนเวลากลับไปในวันที่หัวใจยังเป็นหัวใจ ไม่ใช่หลุมลึกไร้ก้นบึ้ง ถึงจะรู้ดีว่าก้อนความรู้สึกที่เหนียวข้นไปด้วยความหม่นเศร้าจะทำให้ผมกลับไปเป็นแบบนั้นไม่ได้

คล้ายผมต้องคำสาป

ผมจึงอยากจะฝ่าฝืนความคิดทั้งหมด ฝ่าฝืนความรู้สึกที่อยู่ในเขตแดนของความเกลียดชังและรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของความรัก ไขว่คว้าครอบครองมันอีกสักครั้ง อยากจะรู้เหลือเกินว่าเราจะกลับไปในวันเก่าได้มั้ย แต่สุดท้าย สิ่งที่ผมทำลงไป มันก็แค่ความเห็นแก่ตัว

ต่อให้ติณไม่ผลักไสผมออกมา หลังจากนั้น ผมก็จะพบเจอแต่ความอิจฉาของตนเอง เพราะวันใดที่ผมร่วงหล่นจากยอดพีระมิด ผมรู้ดีว่าตนเองจะกลับไปอิจฉาติณอีกครั้ง

ชีวิตที่ไขว่คว้าหาการเป็นที่หนึ่ง อยากได้รับความสนใจ อยากได้รับความรัก ผมถอนตัวออกจากมันไม่ได้แล้ว

ยิ่งคิด เงาทะมึนทึมเทาก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้นทุกที

เพราะงั้น...ดีแล้วที่ติณผลักไสผม

ดีแล้ว

ดีแล้วที่มันไม่ใช่คนที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตนั้นไม่มีสิ่งใดเป็นความจริงสักอย่าง ไม่เหมือนผู้คนเบื้องล่างที่ผมยังคงทอดมอง

ลมปะทะเข้าใบหน้า เสียงของมันเหมือนกระซิบเชิญชวนให้ทำตามขั้นตอนสุดท้ายของแผนการที่ดำเนินมาเกือบตลอดชีวิต แผนการที่อยากจะเป็นที่โด่งดัง เป็นที่รัก จนได้กลับไปอยู่ในสายตาของคนที่เคยทิ้งไป จากนั้น...จึงค่อยฆ่าตัวตายซะ

พลันเงาของความหม่นเศร้ายิ่งแผ่ขยายตัวตนให้ใหญ่ขึ้นทุกที และอีกครั้งที่รู้สึกเหมือนมันบังคับร่างกายผมให้ขึ้นไปนั่งบนราวระเบียง

สายลมกระซิบกระซาบข้างหูอีกครั้ง เหมือนเป็นถ้อยคำแสดงความยินดีที่ผมกำลังจะสมหวัง

แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรอีกแล้ว

Rrrrrrrr

ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือแทรกเข้ามาในเสียงกู่ร้องยินดีของสายลม แต่นั่นก็ไม่สำคัญเช่นกัน ผมมองลงไปเบื้องล่าง คิดว่าถ้าตกลงไปจะไปอยู่ที่ฟุตปาธบล็อกไหน และจินตนาการว่าสภาพศพตัวเองจะเป็นยังไง

Rrrrrrr


แต่มือถือก็ยังคงกรีดร้อง บางทีก็ฟังดูคล้ายเสียงร่ำไห้

อา จะว่าไป...ถ้าผมตาย ใครจะร้องไห้ให้ผมอย่างสุดหัวใจบ้างนะ

ติณจะร้องไห้ให้ผมมั้ย หรือว่ามันเกลียดผมไปแล้ว

แล้วแม่ล่ะ...

Rrrrrrr


พลันผมฝืนต่อต้านแรงดุนดันของเงาทะมึนหม่นเศร้าที่อยากผลักผมให้ตกลงไปเต็มที เดินตรงไปยังโทรศัพท์มือถือที่นอนแห้งแล้งอยู่บนเตียง ใจคิดไปว่าถ้าแม่โทรมาผมก็อยากจะรับ แม้หลังจากนี้ผมจะกลายเป็นความว่างเปล่าผมก็อยากจะรับ

เบอร์แปลกปรากฏต่อสายตาเมื่อหยิบขึ้นมาดู ผมเหม่อมองอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกดรับสาย แนบหู ไม่พูดอะไร เพียงรับฟัง

[ฮัลโหล เตชัสใช่มั้ยครับ]

และเสียงที่ได้ยินก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองช่างว่างเปล่า ทั้งที่ยังมีชีวิต

มันเป็นเสียงของติณ

“อือ” ผมตอบมันไปแผ่วเบา

[เออ นี่กูเอง ติณ]

“ได้ยินก็รู้แล้ว”

[มึงกำลังทำอะไรอยู่]

“...กำลังจะบิน”

ปลายสายเงียบเมื่อผมตอบแบบนั้น ถ้าเป็นเราสองคนในวันวาน หลังจากความเงียบ ติณอาจด่าอะไรมาสักอย่าง แล้วเราค่อยพากันหัวเราะ หัวเราะอย่างมีความสุข

[เออ กูคิดว่ากูรู้ว่ามึงจะทำอะไร] แต่มันไม่มีเสียงด่าหรือเสียงหัวเราะ [มึงยืนอยู่ในจุดที่มึงต้องการแล้วนี่]

“ก็ใช่”

[แต่กูไม่ให้มึงทำแบบนั้นหรอก]

“ทำไม”

ผมถามไปอย่างนั้นเอง เพราะการที่ติณรู้ว่าผมจะทำอะไรแปลว่าติณจำคำพูดของผมได้ ทั้งยังมาเหนี่ยวรั้งผมไว้ ผมรู้ดีมันแปลว่าอะไร

แต่เพราะแบบนั้น ผมจึงยิ่งอยากหายไปซะ

[ลองเช็กข่าวของตัวเองตอนนี้ดู]

“ข่าว?”

[ใช่ เป็นข่าวที่กูได้มา และปล่อยออกไปเอง] ติณอธิบายเพิ่ม แต่ก็ไม่กระจ่างนัก [มันคงทำให้มึงอยากมาคุยกับกู กูจะรอแล้วกัน]

ไม่ให้ผมได้ถามคำถามใดอีก ติณวางสาย ทิ้งผมไว้กับความสงสัย ถึงจะไม่มากนักเพราะถ้าผมตายไปทุกอย่างก็จะสูญสลาย ไม่มีสิ่งใดทำให้มีความสุขหรือเจ็บปวดได้อีก

แต่ในเมื่อเป็นคำพูดของติณ ผมก็จะลองทำตามที่มันบอก

ผมนั่งลงบนเตียง เช็กข่าวในมือถือจากทั้งเฟซบุ้คและทวิตเตอร์ และไม่ถึงห้านาที ผมก็หัวเราะออกมากับสิ่งที่ได้เห็น

ติณฉุดผมลงจากพีระมิดได้แล้ว

กระแสสังคมกำลังโจมตีผมกันสนุกปาก แต่ผมไม่ได้เจ็บปวดสักนิด ผมได้แต่หัวเราะ หัวเราะจนงอหงาย ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วหัวเราะให้เต็มเสียง

หัวเราะ เพราะรู้ว่าติณไม่อยากให้ผมตาย เลยดึงผมลงจากจุดที่ยืนอยู่

แต่ติณไม่รู้ว่านั่นไม่ใช่เหตุผลแท้จริงที่ทำให้ผมอยากตายอีกต่อไปแล้ว

ผมคิด และยังคงหัวเราะ












*******************************************
แต่ละตอนค่อนข้างสั้นค่ะเลยมาอัพเร็ว  :katai4:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.10 "Misery (3)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 19-07-2016 19:55:18


ติณปล่อยข่าวโดยการเปิดตัวว่าเป็นเตติณใช่ไหมคะ? (เดาไปเรื่อยเนอะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า)

เราชอบความเศร้า ความอึดอัดใจ ชอบอารมณ์เมื่อความหวังถูกทำลายของเตมาก
กระทั่งถึงตอนนี้ ความเทาก็ยังเป็นความเทาอยู่...
แต่พออ่านถึงตอนล่าสุด รู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างสีทองส่องทาบท้องฟ้าในโลกใบเล็กของเตขึ้นมาเลยค่ะ
อยากรู้เสียแล้วสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ... รอติดตามนะคะ ^^

หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.10 "Misery (3)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-07-2016 21:02:04
อ้ากกกกกกกกมันค้างมาก
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.10 "Misery (3)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 19-07-2016 21:50:01
ลุ้นค่ะ ว่าต่อไปจะเป็นยังไง เต มีเหตุผลอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.10 "Misery (3)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 19-07-2016 22:58:40
มันน่าดีใจที่สุดในตอนนี้ตรง 'เตไม่คิดจะตายอีกแล้ว'
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.10 "Misery (3)" [พาร์ทของเตชัส]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-07-2016 23:03:35
เต ดำมืด :katai1:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.11 "Don't let me down"
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 21-07-2016 23:48:11

11. Don’t let me down


“ถ้ามึงเป็นนก มึงอยากบินไปที่ไหน” เตชัสถามผมขึ้นมาในวันหนึ่ง ตอนที่มันกำลังเหม่อมองนกคุยกันในสวนหน้าบ้าน

“นึกไม่ออกว่ะ”

“นึกหน่อยดิ”

“แล้วมึงล่ะ”

“กูเหรอ” พอโดนวกเข้าตัวเอง มันก็ถามย้ำซ้ำ ทำท่าเหมือนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไปไหนก็ได้ ไปให้ไกล แล้วไม่กลับมาอีกเลย”




ตอนที่เตชัสตอบมาตามสายว่ากำลังจะบิน อดีตที่มันเคยคิดอยากเป็นนกแล้วบินหนีหายไปก็พร่างพรูเข้ามาในสมอง ซ้อนทับกับภาพที่มันโดดลงมาจากตึกสูงที่ไหนสักแห่ง และเพราะมันไม่มีปีกเหมือนนก ร่างจึงร่วงหล่น กระแทกพื้นคอนกรีต กระดูกแหลกร้าว เลือดไหลเจิ่งนอง ความฝันและความรักทั้งหมดสูญสลาย

คิดขึ้นมาอีกครั้งก็สั่นสะท้านอยู่ในใจ แม้ว่าตอนนี้ผมจะได้ยืนอยู่เคียงข้างเตชัส ที่ระเบียงห้องซึ่งลมพัดสะบัดม่านสีกรมท่าหลังบานประตูเบื้องหลังจนน่ารำคาญ แต่เจ้าของห้องก็ไม่ได้แยแสอะไร ทำเพียงอัดบุหรี่เข้าปอด ปล่อยควันซึ่งรู้ดีว่าจะโดนลมพัดจางรวดเร็วออกมา

บทสนทนาของเราติดขัดคล้ายว่าเสียงโดนลมกรีดกระจายไม่ต่างจากควันบุหรี่ แม้รู้ดีว่าเวลามีไม่มาก เพราะหลังจากนี้หนึ่งชั่วโมง เตจะไปงานแถลงข่าวที่ตึกต้นสังกัด นักข่าวแทบทุกสำนักจึงไปแสตนด์บายรออยู่ที่นั่นไม่มารบเร้าหน้าคอนโด ทุกคนรอให้มันไปเคลียร์ทุกอย่างให้สังคมเข้าใจราวกับตกเป็นจำเลย ทั้งที่สิ่งที่มันทำก็ไม่ได้หนักหนา เป็นเรื่องส่วนตัวด้วยซ้ำ ต่อให้มันจะบิดพลิ้วตัวตนของเตในความทรงจำผมไปอีกอย่างก็ตาม

เพราะข่าวนั้นคือคลิปภาพการมีเซ็กส์ของมัน และคงไม่มีค่าราคาของความลับมากนักถ้าคนที่มันมีอะไรด้วยไม่ใช่เพศเดียวกัน ทั้งในคลิปมันยังดูรุนแรง ผรุสวาท ทำราวกับข่มขืน และทำราวกับระบายอารมณ์เท่านั้น ไม่ได้มีความใคร่มาข้องเกี่ยวนัก

ไม่แปลกที่จะทำให้ตัวตนของมันดูบิดพลิ้วในความทรงจำ แต่เมื่อได้กลับมายืนอยู่ข้างๆ มันก็กลับยังให้ความรู้สึกเหมือนเดิม ยังเป็นเตชัสคนเดิมที่ผมรู้จัก ต่อให้จะไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว

ผมทอดมองลงไปเบื้องล่างตามสายตาของมัน มองอย่างสงสัยว่ามีอะไรให้เหม่อมองนักหนา แต่เมื่อคิดขึ้นมาได้อีกว่าถ้าสักตำแหน่งในภาพที่ผมเห็นมีร่างของเตทอดกายจมกองเลือดอยู่ ผมคงไม่มีอะไรให้สงสัยอีกต่อไป

“เต” ผมตัดสินใจเรียกมันขึ้นมาหลังความเงียบดำเนินยาวนาน ทั้งที่มันเป็นคนเรียกผมมาคุยกันที่นี่เอง “ที่กูทำลงไปน่ะ อยากให้รู้ไว้ว่าใจจริงไม่ได้อยากทำหรอก”

“เรื่องอะไร” มันกลับถามเสียงเรียบ ไม่มีอะไรดึงความสนใจสายตามันจากภาพเบื้องล่าง

“ก็เรื่องคลิป”

“อ้อ...” ลากเสียงแค่นั้น ดูไม่ยี่หระอะไร “จริงๆ ก็คิดว่าอาจโดนอะไรแบบนี้อยู่แล้ว”

“หมายความว่าไง”

“ไม่ได้หมายถึงมึงนะ หมายถึงไอ้เด็กขายคนนั้น มันคงร้อนเงิน”

“รู้จักกันเหรอ”

“อือ”

“แล้วที่ทำรุนแรงในคลิป...”

“เป็นอารมณ์ของกูเอง” พลันมันก็เฉลยคำตอบที่ฟังดูน่ากลัว “แค่อยากหาที่ลง”

ผมเงียบ ไม่โต้ตอบอะไร บางทีความทรงจำก็ควรเป็นแค่ความทรงจำ เพราะความจริงมันแปรเปลี่ยนเสมอ และไม่เคยสวยงาม

แต่ถึงยังไง...ความรู้สึกที่ผมมีให้มันกลับไม่เคยเปลี่ยน ไม่เคยเลย

“แล้วทำไม...ถึงอยากฆ่าตัวตาย”

สัมผัสจากหัวใจที่เคลื่อนไหวในจังหวะที่รวดร้าวกลัวคำตอบเมื่อตัวเองถามออกไป

กลัว...ว่ามันจะเป็นคำตอบที่ผมช่วยอะไรไม่ได้เลย

“มึงไม่เข้าใจ”

และคำตอบของมันก็ทำให้ผมเจ็บแปลบเข้าจริงๆ

“ก็ไม่พูดจะไปเข้าใจได้ไงวะ” ผมเถียงมัน เสียงเริ่มดังขึ้น “ตั้งแต่ตอนที่มึงหนีหายไปจากกูแล้ว อยู่ๆ มึงก็หายไป ไม่บอกอะไรสักคำ และไม่เคยติดต่อมาเลย มึงทิ้งกูไว้ มึง...มึงทำได้ไงวะ”

รู้สึกว่าเสียงตัวเองเริ่มสั่นเครือสะอื้น แต่ผมก็สะกดกลั้นไว้ พยายามทำใจแข็งและออกคำสั่งกับมันที่เอาแต่มองภาพเบื้องล่าง “เต มองหน้ากู อย่าหนีอีก”

สิ้นคำสั่ง บุหรี่ที่หมดมวนในมือของเตก็ถูกขยี้ลงกับราวระเบียง ก่อนจะดีดทิ้งลงในถังขยะ ทั้งยังคงอยู่ในอิริยาบถโน้มตัวเล็กน้อยเพื่อวางแขนทั้งสองข้างบนราวระเบียง เห็นแล้วก็ชวนให้เผลอคิดว่ามันจะนิ่งงันเช่นนั้นชั่วนิรันดร์ แต่ชั่วขณะหนึ่งที่จับจ้อง เตชัสก็หันมา ดวงตาสีดำไม่ฉายแววอารมณ์ยอมหันมาสบตาผมในที่สุด

“มึงไปเหอะ” แต่เมื่อรู้ว่ามันหันมาสบตาเพื่อพูดคำนี้ หัวใจผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกบีบ “กูไม่อยากฆ่าตัวตายแล้ว”

“แต่...”

“ก็มึงทำให้กูไม่ใช่แบบจอห์น เลนนอนแล้วไม่ใช่หรือไง ที่ต่อให้จะมีใครตายก่อนหน้านั้น หรือต่อจากวันนั้นอีกวันก็ไม่มีทางกลบข่าวได้”

มันอธิบายเพิ่มเติมเพื่อยืนกราน ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ผมห่วงไม่ใช่เรื่องนี้

“แล้วถ้ามึงกลับไปยืนจุดนั้นได้อีก มึงจะอยากฆ่าตัวตายอีกมั้ย”

“มึงเคยเห็นความรู้สึกของตัวเองมั้ย” หากมันไม่ตอบคำถามผม ดวงตาสีดำนั่นละจากการสบตาไปมองสิ่งอื่น ทั้งที่มองตามไปก็เห็นแต่ความว่างเปล่า “กูเห็นนะ ดูเป็นเงาสีดำ หม่นเศร้า ทุกข์ทรมาน ทำยังไงก็ไม่หายไป ตอนนี้ก็ยังอยู่ตรงนี้...อยู่ข้างๆ กู พร้อมจะฉุดกูให้หล่นลงไปข้างล่างนี่ได้ทุกเมื่อ”

ไม่รู้ทำไม มันอาจดูเป็นเรื่องหลอกเด็กถ้ามาจากปากของคนอื่น แต่เมื่อมาจากปากของเตชัส คนที่ดวงตาสีดำสนิทกลับฉายแววหม่นเศร้าขึ้นมาในตอนนี้ ผมก็เชื่ออย่างหมดใจว่ามันเห็นแบบนั้นจริงๆ และความเจ็บปวดที่ทำอะไรให้มันไม่ได้เลยตลอดมาก็เริ่มกัดกินจิตใจ

“แล้วก็...ตัวมันเริ่มใหญ่ขึ้นทุกที จากที่ตัวเล็กๆ ก็เริ่มแผ่ขยายไปถึงหลังม่านแล้ว” พลันเตยกมือชี้ไปยังหลังม่าน ทำให้ผมทนไม่ไหวที่จะเห็นมันเป็นแบบนี้ จับมือข้างนั้นของมันลดลงมา

“พอแล้วเต...” ผมเอ่ย พลางกุมมือของมันไว้ “ให้กูช่วยทำมันให้หายไปได้มั้ย”

“ทำไม่ได้หรอก” เตปฏิเสธแบบไม่คิดสักนิด แต่ผมก็ไม่คิดยอมแพ้เช่นกัน

“แล้วถ้ามีคนรักมึงจริง มันจะหายไปได้มั้ย” มันเงียบ ดวงตาสีดำสนิทกลับมาเป็นแววตาอ่านยากเหมือนที่เคย “กูยังเป็น...ที่หนึ่งของมึงอยู่หรือเปล่า”

สิ้นคำถามนั้น เหมือนว่าทุกสิ่งนิ่งงัน ผมไม่ได้ยินเสียงลมที่พัดสัมผัสใบหน้า ไม่ได้ยินเสียงม่านที่ยังสะบัดตัวอย่างน่ารำคาญ ราวกับโลกใบนี้กำลังเงียบและรอฟังคำตอบจากคนคนเดียว ผมจ้องเข้าไปในดวงตาสีดำสนิทนั้น ดวงตาที่อยากจะอ่านทุกความรู้สึกที่เก็บซ่อน หวัง...หวังเหลือเกินให้มันยอมเผยอะไรออกมาบ้าง

“เป็นสิ เป็นมาตลอด”

และเมื่อคำตอบพร่างพรูจากปาก น้ำตาของผมก็รินล้นออกมา

“ถ้างั้น...กูก็อยากจะบอกมึง มึงก็เป็นที่หนึ่งของกูเหมือนกันนะเต เป็นมาตั้งแต่แรก และตลอดไป”

ผมบอกมันในคำที่อยากจะพูดมาตลอดชีวิต คำที่เก็บกลั้นไว้ในใจมาตลอดและแทบจะล้นทะลักออกมาเมื่อมันหายไป จนกระทั่งวันนี้ที่มันกลับมาอยู่ตรงหน้าผม ผมได้บอกออกไปแล้ว และภาพของคนที่ผมรักก็เริ่มพร่าเลือนไปด้วยน้ำตาของตัวเอง

“กูขอโทษ”

พลันเตชัสพูดคำนี้ออกมา น้ำเสียงฟังดูสั่นเครือไม่แพ้กัน

“ขอโทษ”

มันพูดซ้ำอีกครั้ง

“ขอโทษ”

และอีกครั้ง พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ยากจะเก็บกลืน ตอนนั้นที่ผมปล่อยมือของมันและกอดมันเอาไว้ สัมผัสถึงความอบอุ่นที่เคยโหยหาอย่างลึกซึ้ง มันโน้มตัวที่สูงกว่าเล็กน้อยซบหน้าลงร้องไห้บนบ่าของผม ได้ยินเสียงสะอื้นจนตัวสั่นเทาจากมัน ขณะที่น้ำตาของผมก็รินไหลไม่แพ้กัน

มันไหลรินลงมาจากความดีใจที่ไม่คิดว่าเตจะยอมทิ้งความรู้สึกของมันให้ผม

ดีใจที่มันยอมร้องไห้ออกมาให้เห็นต่อหน้า

และดีใจที่ยอมให้ผมกอดเอาไว้

มันเป็นการร้องไห้ที่ดูยาวนาน แต่นาฬิกาในตัวผมก็ไม่ได้นึกเสียดายเวลาแม้แต่น้อย กระทั่งรู้สึกได้ว่ามันเหนื่อยกับการปลดปล่อยความรู้สึกและผละใบหน้าออก ผมจึงเอ่ยคำพูดที่อยากพูดออกไป

“มึงไม่ฆ่าตัวตายแล้วนะ” ผมปาดน้ำตาตัวเองเพื่อมองเตให้ชัดๆ “ไม่ทิ้งกูไปอีกนะ”

และก็ได้เห็นว่ามุมปากของมันกำลังยกยิ้ม

“กูไม่เป็นไรแล้ว” มันพูดคำนั้นด้วยเสียงที่ค่อนข้างอู้อี้ “ขอบคุณนะ”

“อือ ไม่เป็นไร”

“ดีแล้ว”

“...มาดีแล้วอะไรวะ”

ผมถามอย่างสงสัยกับคำพูดของเตชัสที่ไม่เข้ากับบริบทรอบข้าง กระนั้นมันก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้ม ยิ้มกว้าง ยิ้มจนตาหยี

รู้สึกเหมือนหัวใจที่ถูกบีบรัดมาตลอดกลับผ่อนคลายเมื่อได้เห็นแบบนั้น

เตไม่เป็นอะไรแล้ว

“เออ...นี่กี่โมงแล้ว” พลันมันถามขึ้นมา ทำให้ผมนึกได้ว่ามันต้องไปงานแถลงข่าว หยิบมือถือขึ้นมากดดูเวลาก็เห็นได้ว่าแทบไม่เหลือเวลา

“เฮ้ย รีบไปเหอะ ไปสายเดี๋ยวยิ่งดูแย่อีก” ผมบอกเต

“อือ แต่มึงออกไปก่อนนะ”

“ไม่ไปด้วยกันเหรอวะ”

“เผื่อคนเห็น ให้กูเคลียร์ข่าวทีละอย่างเถอะ” มันบอกเหตุผล ก่อนเดินเข้าห้องไปให้ผมเดินตาม “เอาคีย์การ์ดสำรองไปใช้เลยละกัน”

ว่าพร้อมกับยื่นคีย์การ์ดมาให้ผม “จากนี้อยากมาเมื่อไหร่ก็มาได้นะ”

“แน่ใจนะ?”

“เออดิ” คำตอบของมันทำให้ผมยิ้ม ซึ่งเมื่อมันเห็นก็กลับเบือนหน้าไปทางอื่น ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกว่ามันดูขัดเขินพิกล

แต่ก็ดี น่ารักดี ไม่ได้เห็นมานานแล้ว

“ก่อนออกไปล้างหน้าล้างตาด้วย” มันบอกผม เสียงอู้อี้เริ่มกลับมาเป็นปกติ ซึ่งผมก็ไม่ได้พูดอะไร รู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองได้แต่ยิ้มมีความสุข ต่อให้ล้างหน้าล้างตาแล้วเงยหน้ามองตัวเองในกระจกจะดูไม่จืดหลังผ่านการร้องไห้มาก็ตาม

ล้างหน้าเสร็จ เตก็ส่งผมที่หน้าประตูห้อง แม้ในใจอยากจะอยู่คุยเรื่องราวต่างๆ กับมันต่อ อยากจะถามว่าที่หายไปเพราะอะไร และไปทำอะไรมาบ้าง ที่สำคัญที่สุดคือมันมีชีวิตอยู่มาด้วยความรู้สึกแบบไหนกัน

ทำไมมันถึงได้มองเห็นความรู้สึกหม่นเศร้าของตัวเองชัดขนาดนั้น

“เออเต... ถ้ายังไง ปัญหาของมึงลองปรึกษาจิตแพทย์ดูมั้ย” ผมถามมันตอนที่ตัวเองอยู่นอกห้องแล้ว “ที่พูดแบบนี้เพราะกูเชื่อสิ่งที่มึงพูดนะ...”

“ไม่เป็นไรกูรู้” แต่เตก็เอ่ยมาก่อนผมอธิบายจบ “กูก็คิดอยู่เหมือนกันว่าต้องไป”

“อ่า...งั้นเหรอ” ผมตอบรับ รู้สึกดีที่ได้ยินแบบนั้น ส่วนเตก็ยกยิ้มมุมปากให้ เป็นยิ้มแบบที่เป็นมัน “ถ้างั้น...ไว้ค่อยคุยกันนะ”

“อือ”

เสียงของเตดังอยู่ในลำคอ ยกมุมปากกว้างขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่อย่างเดิมไม่ไปไหน มันก็ออกปาก “ไปได้แล้ว”

“เออรู้แล้ว” ผมสวนกลับ ซึ่งนั่นก็ทำให้เตหัวเราะ ยิ้มตาหยี

“ไว้เจอกัน”

มันพูดแบบนั้นก่อนจะปิดประตูไป

ทั้งที่ไม่เห็นหน้าแล้ว แต่กลับรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก

ผมเดินออกจากหน้าห้องของมันด้วยความรู้สึกเหมือนหัวใจกำลังลอยได้ เหมือนสิ่งที่หนักอึ้งอยู่มานานถูกชำระล้าง จนเมื่อพาตัวเองเข้ามาในลิฟต์และแตะคีย์การ์ดเพื่อจะกดปุ่มชั้นที่จะไป ก็ยิ้มออกมาอีกครั้งเหมือนว่ามุมปากของตัวเองนั้นอยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก ล่องลอยอยู่ในคำพูดที่ว่าอยากมาเมื่อไหร่ก็มาได้

เป็นคำพูดประโยคเดียวที่มีความหมายมากมายบรรจุอยู่

หลังจากนี้ ผมก็จะได้อยู่เคียงข้างมันอย่างที่ไม่ต้องไปคอยไล่ตาม หรือดึงดันไขว่คว้าเอาไว้อีกแล้ว

จะได้คุยเรื่องในอดีตด้วยกัน อยากจะนั่งเถียงกันมานานแล้วว่าความทรงจำของใครแม่นยำกว่ากัน

จะได้ฟังเสียงกีตาร์ของมัน ฟังเพลง The Beatles ที่ทำให้รู้สึกอยากท่องไปในยุค 60

จะได้กลับไปกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่ร้านป้าแววด้วยกันอีก

จะได้เห็นมันยิ้มให้ผม...แบบที่ไม่ใช่แค่ในทีวีอีกแล้ว

รักรอยยิ้มของมันเหลือเกิน และก็อยากจะเห็นมันไปตลอด

ผมคิดนู่นนี่เสียมากมาย เรียกได้ว่าแทบจะมองข้ามงานแถลงข่าวของมันไปแล้ว แต่ก็รู้สึกได้ว่ามันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ในเมื่อเตชัสอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว และเป้าหมายของเตชัสก็ไม่ใช่ความตายอีกต่อไป

ผมพยายามเก็บสีหน้ามีความสุขเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เดินออกมาหน้าประตูทางออกและแตะคีย์การ์ดอีกครั้ง เมื่อก้าวเข้ามาในเขตของล็อบบี้ด้านหน้า ก็รู้สึกได้ถึงเสียงของความวุ่นวายแว่วมาจากด้านนอก จากกำแพงที่กรุด้วยกระจกรอบด้านทำให้เห็นได้ว่าเยื้องไปไม่ไกลทางด้านขวานั้นมีคนไปมุงดูอะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่ภายในนั้นไม่มีใครอยู่เลย

ด้วยความผิดปกติที่ชัดเจน และสัญชาตญาณความเป็นนักข่าว ผมอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่จึงเดินออกไปดู ผ่านล็อบบี้ของคอนโดไปยังความวุ่นวายนั้น มันอยู่บนทางเดินเชื่อมไปยังร้านค้าของอีกอาคารหนึ่ง และพื้นฟุตปาธก็ดูคุ้นตา

เหมือนที่ผมมองลงมาจากห้องของเตชัส

แวบหนึ่งผมสังหรณ์ใจไม่ดี แต่รอยยิ้มตาหยีของมันก็กลบเกลื่อนเรื่องเลวร้ายที่คิดขึ้นมาไปจนหมด ผมเดินเข้าไปใกล้อีก เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคนหลายคนตรงนั้น เสียงคุยโทรศัพท์แจ้งไปยังที่ต่างๆ เสียงพูดคุย เสียงเอ่ยไล่คนไม่ให้มามุงดู และเสียงเสียงหนึ่งก็พาใจความของเรื่องมาให้ผมได้ยิน

“ใจกล้านะ กระโดดตึกตายแบบนี้”

แล้วอะไรบางอย่างดลใจให้ผมมองไปยังด้านบน ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเตชัสกำลังจะออกมางานแถลงข่าวแต่ผมก็ยังมองเหมือนอยากเห็นว่ามันยืนสูบบุหรี่อยู่ริมระเบียง ชวนให้รู้สึกแย่กับตัวเอง แต่ความสงสัยกลับไม่สร่างซา จนในที่สุดผมก็ต้องแหวกวงล้อมของผู้คนที่กำลังมุงดูเข้าไปให้เห็นกับตาว่าร่างที่ร่วงหล่นลงมานั่นไม่ใช่เตชัส

ไม่ใช่

ไม่ใช่อย่างที่คิด

ต่อให้ดวงตาสีดำสนิทของร่างที่แหลกร้าวจมกอดเลือดนั่นจะกำลังเบิกค้าง และไร้ซึ่งแววอารมณ์ความรู้สึกอีกต่อไป



“ไปไหนก็ได้ ไปให้ไกล แล้วไม่กลับมาอีกเลย”

“งั้นเหรอ” คำตอบของมันทำให้นึกอะไรออก “กูไปด้วยแล้วกัน”

“มึงห้ามตามมา”

“อ้าวไรวะ”

“เดี๋ยวลำบากกู”

“ไอ้เต”

พลันมันหัวเราะเมื่อผมทำเสียงเขียวใส่

“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น”

“แล้วทำไมวะ”

“ไม่รู้ว่ะ” มันทำสีหน้าคิดไม่ตก “แต่กูพูดจริงๆ นะ”

ตอนนั้น ผมไม่รู้ว่ามันจริงจังมากแค่ไหนในประโยคถัดมา

“อย่าตามกูมาเลย”

ผมไม่เคยรู้จริงๆ


















****************************************************************
ไม่รู้จะพูดยังไงดีนอกจากบอกว่ายังไม่จบนะคะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.11 "Don't let me down"
เริ่มหัวข้อโดย: toutnoir ที่ 22-07-2016 00:06:53
 o22


ติณ.. ..ขอให้กอดแน่นๆ ทีนึง
o(T__To)
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.11 "Don't let me down"
เริ่มหัวข้อโดย: room ที่ 22-07-2016 00:53:30
ม่ายยยยยยยย :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.11 "Don't let me down"
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 22-07-2016 03:20:41
เยี่ยมมากค่ะ   เข้ามาอ่านโดยที่ไม่ได้มีความคาดหวังอะไรเลย แล้วก็เซอร์ไพรซ์มากๆ
ไม่ได้รู้จักคนเขียนมาก่อน   บอกเลยว่าเป็นความเซอร์ไพรซ์ที่น่ายินดีมากๆ
นี่เป็นการนำเสนอนิยายหน่วงความรู้สึกที่ดีมากๆ น่าชมเชย  เปิดตัวมาก็ดูดเอาความสนใจของคนอ่านอย่างเราไปหมดเลย   เลื่อนแต่ละเมนท์ลงมานี่ภาวนาของให้มีต่อไปเรื่อยๆ   ตัวละครอย่างเตชัสนี่น่าสนใจมากๆ  เราพยายามทำความเข้าใจกับความรู้สึกด้านดาร์กของเตชัส   จากที่มองว่าเตชัสอยากเป็นที่รักของคนอื่น  เรากลับมองว่าเตชัสเหมือนอยากทำร้ายคนที่ใกล้ชิดมากกว่าเพราะว่าหลุมที่ว่ามันกว้างออกมาเรื่อยๆ      มารอติดตามต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.11 "Don't let me down"
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 22-07-2016 07:59:51
...
เมนต์อะไรไม่ออกเลยค่ะ
ติณถูกหักหลังอีกครั้งแล้ว...
เตใจร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.11 "Don't let me down"
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 22-07-2016 09:43:34


ได้แต่หวังว่าสิ่งที่อ่านจะไม่เกิดขึ้นจริง
ตอนนี้อยากรู้อย่างเดียวเลยว่า ชีวิตที่เหลือของติณจะเป็นยังไง
หรือหลุมที่กัดกินใจเต จะย้ายไปอยู่ในใจติณแทน

รอติดตามค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.11 "Don't let me down"
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 23-07-2016 09:53:14
พอ เลิก!ไม่เอาแล้วววววว ขอให้ไม่ใช่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.12-13 "Free as a bird" [END]
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 25-07-2016 15:40:25


12. Eleanor Rigby


ผมนอนอยู่บนเตียงของเตชัส นอนมองตัวอักษรที่มันเขียนไว้ด้วยเลือดของตัวเองเหนือโปสเตอร์วง The Beatles บางตัวอักษรนั้นเลือดไหลเป็นทางลงมาแตะต้องโปสเตอร์ราวจะบ่งบอกว่าหวงแหน กระนั้นทุกตัวอักษรก็เด่นชัด เป็นสีเข้ม ไม่จางหาย และคงล้างไม่ออกนอกจากจะทาสีทับลงไป

พ่อแม่ของเตชัสยังไม่ได้เข้ามาจัดการกับห้องนี้ ต่อให้กองพิสูจน์หลักฐานจะยืนยันแล้วว่าเป็นการฆ่าตัวตาย กระทั่งงานศพของมันผ่านพ้นก็ตาม เหมือนกับว่าไม่มีใครอยากยุ่งกับห้องนี้นัก เพราะยังไงก็เป็นข่าวไปทั่ว และคำสั่งเสียสุดท้ายที่จรดไว้บนกำแพงก็ไม่มีใครไม่เคยเห็นหรือได้ยิน

กระแสสังคมตีความกันไปต่างๆ นานา พากันเฮโลวิจารณ์โน่นนี่ไม่แพ้ตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ บางคนก็ออกมาขอโทษที่ออกความเห็นเอาสะใจเพียงอย่างเดียวตอนที่เตชัสตกเป็นข่าว แต่ผมก็ได้แค่ร้องเหอะออกมาใส่ความเห็นพวกนั้น

ก่อนที่ผมจะปล่อยคลิปออกไป ผมก็รู้ดีอยู่แล้วว่ากระแสสังคมชอบเล่นสนุกและเหยียบย่ำเหยื่อให้จมดิน โดยไม่สนจะตรวจความจริง หรือสนว่าเหยื่อจะรู้สึกอย่างไร แม้หลายเสียงจะชอบพูดว่าไม่นานสังคมก็ลืม แต่นั่นล่ะที่เลวร้ายที่สุด เพราะมันเป็นการลืมแบบที่ลืมนึกด้วยว่าเหยื่อที่ถูกกระทำจะเกิดแผลใจที่ยากจะลบ และไม่เคยหันกลับมาช่วยเยียวยาอะไรเลย

หรือถ้าจะหันกลับมา ก็ต้องพบกับเรื่องที่ทำให้รู้สึกผิดแบบนี้

น่ารังเกียจและน่าสมเพช

และที่น่ารังเกียจไปกว่านั้น คือคนที่ออกความเห็นซ้ำเติมว่าตายไปซะได้ก็ดี ถ้ารับไม่ได้กับเรื่องแค่นี้

สวะ คนที่มีความคิดอย่างมึงน่ะแหละสมควรตาย

คนอย่างมึงควรจะตายไปแล้วเอาเตชัสกลับมา

จะต้องให้แลกพวกมึงไปสักกี่คนเพื่อให้เตกลับมา มันก็คุ้มค่า

แต่ก็รู้ดี ให้ตายยังไง...เตก็ไม่กลับมาแล้ว

เตชัสไม่อยู่แล้ว

คิดแบบนั้นน้ำตาก็เริ่มหลั่งรินลงมาอีกครั้ง และผมก็ไม่คิดห้ามน้ำตาตัวเอง

ในวันที่เห็นร่างไร้วิญญาณของมัน ผมไม่มีน้ำตาไหลออกมาเลยสักหยด ผมร้องไม่ออก ในหัวได้แต่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง และร่างที่เห็นนั่นไม่ใช่ร่างของเต

ผมคิดแค่นั้น และเอาแต่คิดทวนว่าหลังจากนี้จะคุยกับเตเรื่องอะไรบ้าง

อยากถามว่าไอ้ความรู้สึกที่เห็นนั้นมีรูปร่างหรือเปล่า

ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วอยู่กับมันมาตลอดเลยหรือไง

ตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนที่ยังอยู่ด้วยกันหรือเปล่า

แล้วตอนที่ออกจากบ้านไปแล้ว ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไรบ้าง

ระหว่างนั้นไม่เคยมีเรื่องที่ทำให้อยากมีชีวิตอยู่เลยเหรอ

ทำไม...ถึงได้อยากตายเหลือเกิน

โลกใบนี้มันไม่น่าอยู่ขนาดนั้นเลยเหรอ

...โลกที่มีกูอยู่น่ะ

ทำไมล่ะเต

ทำไมล่ะ

คำถามเหล่านี้วนซ้ำในใจ และสะท้อนก้องไปมาเพราะไร้ซึ่งทางออก และดังกังวานมากที่สุดตอนที่เห็นควันจากร่างของเตลอยออกมาจากปล่องเมรุ ตอนนั้นเหมือนหัวใจถูกฟาดอย่างรุนแรงให้ตระหนักได้ว่าเตไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วจริงๆ

เหลือเพียงควัน ล่องลอย และจางหาย

เตไม่กลับมาอีกแล้ว

ไม่กลับมาตอบคำถามใดที่มันสะท้อนก้องไปมาในใจผมอีกแล้ว

ตอนนั้นเองที่ผมร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ

และก็รู้สึกว่านับแต่ตอนนั้น ผมไม่เคยหยุดร้องไห้เลยสักวินาที

ดวงตาผมพร่าเบลอ เหมือนมองไม่เห็นความหมายของสิ่งใด

ไม่เข้าใจแม้กระทั่งคำพูดสุดท้ายที่เตชัสทิ้งไว้

ผมพยายามเพ่งมอง แต่ก็ยังคงไม่เข้าใจซึ่งสิ่งที่มันเขียนทิ้งไว้ด้วยเลือดของตนเอง



‘I don’t want to be like anyone

I just want to love and be loved’




ประโยคแรกผมพอจะเข้าใจว่ามันอาจไม่อยากเป็นอย่างจอห์น เลนนอน ที่มันเคยพูดมาตลอด มันแค่อยากจะเป็นตัวของมันเอง...ที่ได้รัก และถูกรักดังประโยคถัดมา

แต่นั่นทำให้ผมรู้สึกปวดร้าว

ถ้าอยากจะรัก และถูกรัก ทำไมถึงยังจากไป

ในเมื่อผมก็รักมันด้วยทุกสิ่งที่มี

มันเป็นที่หนึ่งของผม และเป็นมาตลอด

ทำไมล่ะ ทั้งที่รักขนาดนั้น

หรือเพราะว่ามันเองไม่เคยรักผมเลย จึงไม่มีค่าอะไร

ที่บอกว่าผมเป็นที่หนึ่งของมันคือคำโกหกเหรอวะ

ทำไมมันถึงไม่บอกออกมาถึงสิ่งที่คิดเลยสักอย่าง

บอกมาสิวะ ว่าต้องการอะไร

ไม่ว่าจะอะไร ก็จะหามาให้ จะทำให้ทุกอย่าง

ขอแค่มึงยังมีชีวิตอยู่ ต่อให้จะทำร้ายกันก็ได้

หรือจะลากกูตามลงไปสุดขอบนรก ก็จะตามไป

จะทรมานแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ขอแค่ให้กูได้อยู่ข้างๆ มึงก็พอ

เพราะที่นี่...ไม่มีคนที่กูอยากเป็นที่หนึ่งด้วยอีกแล้ว










หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.12-13 "Free as a bird" [END]
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 25-07-2016 15:43:42


13. Free as a bird



ถ้าโบยบินไป จะหนีมันไปได้มั้ย

หนีจากความรู้สึกอิจฉาที่กัดกินหัวใจจนแหว่งวิ่นนั้น

ถ้าโบยบินไป จะเป็นอิสระมั้ย

อิสระจากพันธนาการของทุกความรู้สึกที่ทำให้เราปวดร้าว

ถ้าโบยบินไป โลกที่มองเห็นจะเปลี่ยนไปมั้ย

อยากจะมองเห็น...ความรักที่ถูกความหม่นเศร้าบดบังตลอดมา

อยากจะมองเห็น...อนาคตที่ตัวเองอยากมีชีวิตอยู่

อยู่กับคนสำคัญ

แล้วปีกที่ใช้โบยบิน...จะใช้โอบกอดคนสำคัญคนนั้นได้ใช่มั้ย

...ใช่มั้ย




END











สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุกคนทีอ่านจนมาถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะหลงเข้ามา จงใจ หรืออะไรก็ตามแต่ ยังไงก็ขอบคุณนะคะ

แยมขอใช้พื้นที่ตรงนี้เคลียร์ข้อสงสัยสักหน่อยสำหรับคนที่อาจยังมึนๆ งงๆ ไปบ้าง ตามนี้เลยนะคะ

1.   ทำไมเตถึงยังฆ่าตัวตายอีกทั้งที่ถูกติณทำเสียชื่อเสียงแล้ว

-   เตชัสในตอนแรกมีเป้าหมายคือจะฆ่าตัวตายเมื่อตัวเองโด่งดังที่สุด เพราะอยากจะเป็นที่รัก อยากให้คนที่ทิ้งไปนั้นหันกลับมารัก และเตชัสก็ได้สิ่งนั้นมาแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่า จึงเท่ากับว่าการตายตอนโด่งดังที่สุดก็ไม่ได้มีความหมายอะไร แถมเมื่อเจอติณอีกครั้งแต่ก็ยังรู้สึกว่ารักไม่ได้อยู่ดี ง่ายๆ คือหัวใจของเตชัสไม่สามารถรักใครได้อย่างเต็มหัวใจ เพราะมันถูกความอิจฉา ความเกลียดชังกัดกิน และจะยิ่งกัดกินไปเรื่อยๆ จนไม่เหลืออะไร จนทำร้ายติณในที่สุด นั่นเป็นเหตุผลแท้จริงที่ทำให้เตชัสฆ่าตัวตายค่ะ *ถ้ากลับไปอ่านตอนที่ 10 ดีๆ อาจเห็นได้ชัดขึ้นว่ามีรายละเอียดบอกใบ้รายทางอยู่แล้วค่ะ

2.   ทำไมเตชัสไม่พยายามควบคุมความรู้สึกตัวเอง แล้วมีชีวิตต่อไปให้ได้

-   ทำไม่ได้ค่ะ เพราะเตชัสไม่เคยเห็นภาพตัวเองที่มีชีวิตหลังจากเป้าหมายสำเร็จเลย เตชัสอยากตายมาตลอด เพราะงั้นถ้าจะให้ทำแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง จะใช้ชีวิตแบบไหน ที่สำคัญเตชัสก็รู้ดีว่าต่อให้มีติณอยู่ข้างๆ ความรู้สึกเดิมๆ ก็จะกลับมาอีก (เอาตรงๆ จะพูดว่าเตชัสเป็นคนที่จิตใจอ่อนไหวและอ่อนแอก็ได้ค่ะ)

3.   ทำไมในตอนแรกเตชัสถึงตัดสินใจช่วยติณจากการสัมภาษณ์ที่ผิดพลาด

-   เพราะเตอยากลองดูอีกสักครั้ง เตเองก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนที่รักใครไม่ได้หรอกค่ะ



ข้อสงสัยคร่าวๆ ที่คิดว่าหลายคนน่าจะค้างคาใจก็ประมาณนี้ค่ะ ถ้าใครสงสัยอะไรอีกก็คอมเม้นถามมาได้เลย หรือจะเมนชั่นไปพูดคุยที่ทวิตเตอร์ @BitterYam ได้นะคะ

*จริงๆ แยมอยากจะหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักจิตวิทยามาอ้างอิงด้วยเหมือนกัน แต่ต้องวุ่นวายแน่เลย ปกติเป็นคนเขียนอะไรยืดเยื้อออกทะเลอยู่แล้ว เลยเอาตามใจตัวเองไปเลยแล้วกัน แต่เป็นการตามใจตัวเองที่หวังว่าทุกอย่างจะสมเหตุสมผลนะคะ /หรือถ้าใครให้ข้อมูลด้านจิตวิทยาได้ว่าอะไรเหมาะสมหรือบกพร่องตรงไหน จะขอบคุณมากค่ะ

ที่จริงสำหรับแยมเองก็ไม่อยากจะบอกว่าเตชัสป่วยเต็มปากเต็มคำ แต่ขอถือว่าเตชัสเป็นคนที่จิตใจมีปัญหาละกันค่ะ และปัญหาทางใจก็เป็นปัญหาที่ยากที่สุด จะบอกให้เตชัสทำอย่างนู้นอย่างนี้มันก็พูดง่ายน่ะค่ะ แต่เจ้าของใจเองจริงๆ อาจมองไม่เห็นวิธีแก้ไขเลยด้วยซ้ำ

สุดท้ายนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่แยมตั้งใจมากเรื่องหนึ่ง ถ้าชื่นชอบต่อให้มันจบแบบนี้ก็จะดีใจมากเลยค่ะ เพราะแยมไม่คิดจะจบแบบอื่นเลยแม้แต่น้อย มันเป็นความรู้สึกที่ว่า ถ้านิยายเรื่องนี้ไม่จบแบบนี้ ก็ไม่รู้จะเขียนไปทำไมน่ะค่ะ

แหะๆ ยังไงก็หวังว่าเตชัสกับติณจะประทับอยู่ในใจคนอ่านนะคะ ไม่ว่าจะแง่ไหนก็ตาม



หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.12-13 "Free as a bird" [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 25-07-2016 16:00:40


เราชอบ... เราว่ามันสมบูรณ์และสวยงามในแบบของมัน
แม้เราจะแอบหวังว่าตัวเองอ่านช่วงท้ายของตอนในรอบที่แล้วผิดก็ตาม
(พยายามปฏิเสธว่าเตจะไม่ตาย - อีป้านี่ก็ยังไม่ออกจากทุ่งลาเวนเดอร์เนอะ)

เราชอบการบรรยาย จังหวะ ช่องว่าง และความรู้สึกเวิ้งว้างชวนอึดอัดของเนื้อเรื่องมาก
ขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่เขียนมันแบบนี้ ยิ่งพอรู้ว่ามันเป็นแบบที่คุณแยมตั้งใจจะเขียนจริง ๆ โดยไม่บิดเบือนสร้างฝัน
เราว่ามันดีและทรงพลังจริง ๆ  ^^  แต่ก็น่าคิดนะคะ ว่าหลังจากนี้ ติณจะกลายเป็นคนแบบไหน... คนที่เก่งและทำได้ทุก ๆ อย่าง แต่กลับไม่ได้เป็นที่หนึ่งของคนที่ต้องการที่สุด

รอติดตามผลงานเลยค่ะ  :กอด1:
(ไว้เจอกันที่บ้านเมืองเมนะคะ ^^)

หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.12-13 "Free as a bird" [END]
เริ่มหัวข้อโดย: lonesomeness ที่ 25-07-2016 17:18:06
โอ้ยยยย เราฟิลเหมือนตกจากที่สูงลงมาพร้อมๆกับเตเลยอ่ะเธอออ
ปวดหัวใจมากๆ มากแบบมากจริงๆ ไม่เคยอ่านนิยายแล้วร้องไห้ แต่เมื่อกี้เกือบร้องแน่ะ
พออ่านมาเจอว่าสุดท้ายก็โดดมันอึ้งมันเบลอหมดเลย แง
เจ็บปวดหัวใจมากจริงๆที่สุดท้ายแล้วเตก็เลือกที่จะไปอยู่ดี
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.12-13 "Free as a bird" [END]
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 25-07-2016 18:05:34
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ ไม่ใช่ว่าจบแบบนี้ไม่ดีนะคะ ดีมาก มีเหตุผล แต่สงสัยเพราะอยู่พรรคสุขนิยมมานานเกินไปเลยไม่ชิน
ฮือ...
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST --- Update Ch.12-13 "Free as a bird" [END]
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 29-07-2016 16:36:35
นิยายเรื่องนี้เขียนได้ดีเลยนะครับ เป็น short novel ที่ใช้ได้ ขอเจาะทีละประเด็นดังนี้ละกันนะครับ

จุดแรก คือ เรายังรู้สึกว่าเตชัสหน่วงไม่พอ ผมเข้าใจสิ่งที่คุณแยมจะสื่ออย่างลึกซึ้งเลยนะครับ แต่เท่าที่ผมอ่านดู เรายังบรรยายให้เตชัสดู desperate ไม่พอ เรื่องนี้อ่านแล้วหน่วงก็จริง แต่ในความอึมครึม มันยังสะท้อนภาพของจิตใจมนุษย์ออกมาไม่สุด เรายังทำให้เตชัส 'สิ้นหวัง' ไม่พอ

อย่างไรก็ดี ข้อจำกัดนี้อาจจะเพราะเนื่องด้วยคาแรกเตอร์ของเตชัสที่ค่อนข้างพูดน้อย และติณเองก็ไม่ใช่คนพูดเยอะ มันเลยทำให้เราต้องบีบขอบเขตของตัวละคร ส่งผลให้คนอ่านเห็นความลึกซึ้งในอารมณ์ตัวละครไม่สุดครับ

จุดที่สอง ผมเข้าใจดีเลยล่ะครับว่าเตชัสเป็นคนยังไง ในทางจิตวิทยา เราจะถือว่าเตชัสเข้าสู่ขั้นสุดท้ายของ 'ภาวะซึมเศร้า' แล้วนะครับ เตชัสไม่ได้เป็น 'โรคซึมเศร้า' เพราะว่าเค้ามีเป้าหมายในชีวิตที่ค่อนข้างชัดเจน เขารู้ดีว่าเขาต้องการอะไร เสียอย่างเดียวคือ เป้าหมายที่เค้าต้องการ มันเกิดมาจากความสิ้นหวังภายในตัวตนของเตชัส

พูดง่ายๆว่าเตชัสเป็นคนขาดความอบอุ่นนี่แหละครับ ต้องการการใส่ใจและเป็นที่หนึ่งของใครสักคน ซึ่งการที่เค้าเงียบลงๆหรือมี 'จิตใจที่แปดเปื้อน' เพิ่มมากขึ้น (ภาษาอังกฤษใช้ dark spirits แต่ผมว่ามันแปลแรงไปครับ ถ้าตรงความหมายจริงๆน่าจะเป็น polluted spirits มากกว่า) มันทำให้เตชัสเข้าสู่ 'ภาวะ' ซึมเศร้าที่หนักขึ้นเรื่อยๆ

โดยปกติแล้วภาวะซึมเศร้าแก้ไขได้นะครับ ถ้ามียาแก้ที่ถูกต้องและตรงกับอาการ เพราะภาวะไม่ใช่โรค มันเกิดจากจิตใจที่พยายามปิดกั้นตัวเอง ไม่ใช่ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง (แม้มันจะเกี่ยวพันกันหน่อยก็เถอะ) แต่ถ้านับอันตราย ทางสถิติแล้วเราป้องกันภาวะซึมเศร้าได้ยากกว่าโรคซึมเศร้าครับ เพราะว่าในบางเคสเราหายาแก้ไม่พบ เมื่อหายาแก้ไม่พบ คนที่เป็นภาวะซึมเศร้าจะดำดิ่งลงไปเรื่อยๆจนถึงขั้น 'ภาวะสิ้นหวัง' แล้วมีแนวโน้มสูงมากที่จะขาดแนงจูงใจในการมีชีวิตอยู่ ทำให้สามารถทำสิ่งที่ไม่คาดคิดหรืออันตรายได้โดยที่คนอื่นไม่รู้ตัวครับ (คนที่เป็นภาวะซึมเศร้า ส่วนมากมักจะดูไม่ออกเวลาอยู่กับคนหมู่มากนะครับ ยกเว้นคนที่ตาแหลมจริงๆจะจับสังเกตได้)

กลับมาที่เตชัส นับว่าโชคดีมากที่เคสนี้เราเห็นยาแก้มาพร้อมๆกับภาวะ นั่นคือติณครับ ถามว่าเรารู้ได้ยังไง เพราะจากบริบท เราเห็นได้ชัดว่า 'แรงจูงใจในการมีชีวิตถาวร' ของเตชัส คือติณ ติณเป็นคนที่ให้เตชัสเป็นที่หนึ่ง ติณเป็นคนที่ให้ความอบอุ่นกับเตชัส ไม่ใช่เป้าหมายที่ภาวะซึมเศร้าสร้างขึ้นมา และติณเป็นอย่างเดียวที่สกัดกั้นเป้าหมายนั้นได้ แต่เสียดายตรงที่เรามาแก้ปัญหาช้าไป เราให้เตชัสพบยาแก้ในยามที่เค้ากำลังจะก้าวหลุดจากภาวะสิ้นหวังไปสู่ความไร้สติแล้ว ติณเองก็วางใจเกินไป ไม่รู้ว่าเตชัสติดอยู่ในภาวะซึมเศร้านานเกินไปจนขุดตัวเองออกมาไม่ได้ เรื่องเลยต้องจบแบบ bad end ครับ

แต่ถามว่าในชีวิตจริง ถ้ามาเจอแบบซีนสุดท้าย เรายังช่วยเตชัสได้ไหม คำตอบคือได้ครับ แต่เหนื่อยหน่อย ปกติแล้วคนที่กำลังจะหลุดจากภาวะสิ้นหวัง ต้องมีการจับตาตลอด 24 ชม. รวมถึงไม่ให้จับของมีคมใดๆทั้งสิ้นเพื่อป้องกันการกระทำไร้สติ นี่เป็น Standard Protocol แต่ว่าในเคสเตชัส เราโชคดีที่มีติณเป็นยาแก้ตรงอาการ ทางแก้ปัญหาคือ เราต้องให้ติณประกบเตชัส 24 ชม. ทำตาม Standard Protocol แล้วค่อยๆดึงเค้าออกมาจากภาวะสิ้นหวังครับ จะเห็นได้ว่ามันต้องเป็นสเต็ป จาก ภาวะสิ้นหวัง --> ภาวะซึมเศร้า ---> ภาวะปกติ เราจึงสามารถทำให้เตชัสเป็นคนปกติได้ครับ มันจะเหนื่อยหน่อยตรงที่นอกจากติณต้องแสดงออกให้ชัดเจน เตชัสเองก็ต้องให้ความร่วมมือมาพบแพทย์หรือนักจิตวิทยาบำบัดด้วย เพื่อทำให้เตชัส 'เข้าใจ' ในสิ่งที่ติณจะสื่อออกไป
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 23-08-2016 19:49:41
 :sad3:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 23-08-2016 23:00:43
รู้ไว้แค่ว่าเราร้องไห้นะคนเขียน....ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: mass ที่ 24-08-2016 00:10:32
มันหม่นมากเลย สงสารเตนะเข้าใจว่าอยากรักใครและอยากได้ความรักมันเป็นยังไง สงสารติณด้วยถูกทิ้งอีกแล้ว คงรู้สึกว่สความรักที่ให้ไปมันไม่เพียงพอไม่มีค่าต่อเตเลยหรอ ขอบคุณนักเขียนนะคะมันเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมากเลย :seng2ped: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 25-08-2016 16:56:18
เต ในเรื่องนี้ ทำให้เราคิดถึงพระเอกหนังเรื่อง me before you เลย ที่วางแผนจบชีวิตตัวเองไว้

หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 25-08-2016 22:04:02
..อ่านจบแล้วเรารู้สึกไม่รู้จะพูดอะไร
ชอบ และอยากเป็นกำลังใจให้
ขอบุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ohuii ที่ 26-08-2016 02:29:40
นานๆทีจะเจอเรื่องสั้นที่อ่านแค่บรรทัดเดียวแล้วถูกใจ ทำให้อ่านต่อจนจบ
เราชอบอารมณ์นี้นะ ตอนอ่านรู้สึกหัวมันตื้อๆเหมือนมองภาพแคบลง
ลองแต่งเรื่องยาวดูนะคะ เราอยากอ่านภาษาดีๆแบบนี้อีก
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 26-08-2016 05:25:58
ดีใจจังเลยค่ะที่ได้อ่านเรื่องนี้ ชอบมากๆกับทุกอย่างที่เป็นองค์ประกอบรู้สึกได้ถึงความกลมกล่อมลงตัว
อ่านจบปุ๊บอยากอ่านผลงานของน้องแยมเรื่องอื่นๆต่อเลยค่ะ^^

อีกอย่างที่ทำให้ดีใจ คือได้อ่านเม้นท์ของคุณหมออย่างที่คาดไว้ระหว่างเรื่องว่าแนวนี้คุณหมอต้องมาเม้นท์แน่ๆ
ขอบคุณมากๆค่ะทั้งน้องแยมสำหรับนิยายสนุกๆ และขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะสำหรับการให้ความรู้เพิ่มเติม

ยิ่งอ่านเรื่องนี้ยิ่งสงสาร สงสารความไม่รู้เท่าทันจิตใจตัวเองของมนุษย์
ขอพูดในมุมมองของตัวเองว่า ถ้าหากเตมีโอกาสได้บวชในช่วงเริ่มต้นของปัญหา จุดที่จะจบคงไม่ใช่การทำลาย
ยังยืนยันเหมือนที่เคยเม้นท์ไว้ที่อื่นว่า "ธรรมะช่วยได้"
ช่วยพ่อแม่เต ให้เลี้ยงลูกเป็น
ช่วยเตให้เข้าใจว่าความลำเอียงเป็นเรื่องโคตรจะธรรมดา
ช่วยให้เตและติณได้ลงเอยกัน
หรือช่วยติณให้มีชีวิตที่ปกติต่อไปได้ถึงแม้จะช่วยเตไม่ทันแล้วก็ตาม

ไม่ได้ตำหนิบทประพันธ์นะคะ เรื่องนี้เป็นอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว
ถึงแม้ป้าจะลุ้นให้ติณสะดุดใจพอที่จะรีบย้อนกลับเข้าไปที่ห้องก่อนการ'บิน'ของเต
แต่ป้าก็ลุ้นแบบยอมรับลึกๆว่า ยังไงๆก็คงไม่ทันการณ์
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาแบ่งให้อ่านนะคะ รอติดตามผลงานต่อๆไปจ้า :กอด1:




หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 26-08-2016 13:25:29
หน่วงมากๆ ฮือ แต่ชอบค่ะ เสียใจที่เตตาย แต่ก็ยอมรับนะ ฮึกๆ ติณจะเป็นยังไง คงไม่ต้องเดาแล้ว  :hao5: สังคมแบบนี้มีอยู่จริงๆ คนที่นึกสนุกคิดว่ากับอีแค่ขยับนิ้วบนแป้นพิมพ์ วิจารณ์ เพื่อความสะใจ โดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดแต่ว่า ไม่เห็นเป็นไร ไม่ได้ไปฆ่าใครตาย พวกนี้น่ารังเกียจที่สุด ของพวกนี้มันฝังใจนะ คนอื่นลืม แต่คนที่โดนยังไงก็ลืมไม่ได้ ช่วงเวลาแย่ๆมักจะผ่านไปช้าเสมอ หรือบางทีมันอาจจะติดอยู่กับคนๆนั้นไปทั้งชีวิตเลย คนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกลายเป็นฆาตรกรคีย์บอร์ดไปแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: shenta ที่ 26-08-2016 18:50:18
ชอบคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-08-2016 19:53:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: starhihi ที่ 08-09-2016 22:24:28
*ร้องไห้*  :hao5:
ตอนจะจบ คิดไว้แล้วว่าน่าจะเป็นแบบนี้
เพราะจิตใจเตบอบช้ำมานาน ถึงแม้ติณจะบอกว่าเป็นที่1 ก็เถอะ
ในเมื่อใจเตเองยังมีความอิจฉาอยู่ มันไม่น่าจะจบง่ายๆอย่างไม่ฆ่าตัวตายแล้วแน่ๆ สังเกตอีกอย่าง คือตอนสุดท้ายของความคิดเตเรื่องข่าว ยังไงฮีแกก็โดดแน่ๆอ่ะ
ฮือ หลวมตัวมาอ่านเศร้าเลย ไม่ค่อยชอบอ่านแบบจบไม่แฮปซะด้วย ว๊า

แต่เรื่องนี้มันมีเหตุผลในตัวมันเองมาแต่ต้นแล้ว จบแบบนี้ก็ถือว่าดีค่ะ ไม่ขัดแย้งกับตัวละครและก็เนื้อเรื่อง(ยังไงแน่)

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: นุ่งหนิง ที่ 09-09-2016 20:53:18
 :hao5:
อ่านแล้วอ่านอีกอ่านแล้วหน่วงมาก ไม่ยอมรับว่ามันจะจบได้โศกนาฏกรรมขนาดนี้
คนแต่งใจร้ายกะเซตัสมาก. คนเราที่เป็นแบบนี้ ไม่มีทางที่จะช่วยเหลือได้เลยเหรอ
สงสารติณ ความรักของติณช่วยอะไรเซตัสไม่ได้เลยหรอ

ถ้าขอได้อยากให้เวลาในเรื่องหมุนกลับแล้วติณกลับไปห้ามเซตัส และทำให้เซตัสอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป

 :o12:



ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ :m15:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-09-2016 15:30:11
สงสารติณอ่ะ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 15-09-2016 08:55:26
อ่านแล้วขนลุก
เราตามหานิยายที่อ่านแล้วหดหู่  จิตตก  ปวดตับ
แบบนี้มานานแล้ว
เป็นนิยายที่งดงามในความเศร้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: continued ที่ 22-09-2016 01:04:30
แอบอ่านคอมเมนต์ตอนจบก่อนอ่านเรื่องหลัก..
กำลังภาวนาให้ตัวเองกล้าอ่านอยู่

ตามคนเขียนมาจากเรื่องที่กำลังออนแอร์อยู่ตอนนี้

เราค่อนข้างชอบเสพดราม่าแบบหน่วงๆ
สำนวนคนเขียน เป็นอะไรที่ตรงกับความต้องการเราเลย
เราอาจจะไม่คลิกกันจุดเดียวคือ เราเป็นคนสุขนิยม T T
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: montisa2536 ที่ 22-09-2016 02:21:29
เป็นเรื่องที่หน่วงๆหนักๆขมๆ อธิบายไม่ถูกค่ะ ปกติเราชอบดราม่าแต่จบสุขนิยม เรื่องนี้ตอนอ่านรอบแรกก็รู้สึกหน่วงๆแต่พอตอนมาอ่านเก็บรายละเอียด. ตอนประโยคที่บอกว่า "กูพูดจริงๆ อย่าตามกูมาเลย" น้ำตาไหลเลยค่ะ. เข้าใจเลยค่ะว่าทางของเตคงไม่ได้เผื่อช้อยส์อื่นไว้แล้ว. ไม่ว่าจะทำยังไงสุดท้ายคงจบตรงนี้แต่เห็นค่ะว่าเค้าคงพยายามหนีจากจุดนี้เหมือนกันเสียดายที่มันสายไปแผลกัดหนองมันลึกเกินไป ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 28-09-2016 00:15:06
บอกได้คำว่าเดียวว่าโอ้โห อ่านจบแล้วรู้สึกว่าใจเด็ดอย่างที่นักข่าวบอกนั่นแหละ
แต่เด็ดในที่นี้หมายถึงคนเขียนนะคะ 5555555555
พยายามเดาเรื่อง แอบคิดไปในทางที่ดีต่างๆนาๆ แต่พอเป็นพาร์ทเตเราแอบกลัวเตไปเลย
ที่อิจฉาติณแบบนั้น เรื่องนี้สนุกมากค่ะ ส่วนตัวชอบอะไรแบบนี้ มันซาดิสม์ได้ใจดี  :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-09-2016 00:16:58
ถีบเราตกตึกยังไม่เจ็บเท่านี้เลยค่ะ  สงสารเต อยากกอดดดด  แต่สงสารติณมากกว่า ต้องอยู่กับความรู้สึกไม่เข้าใจแบบนี้ต่อไปอีก  :ling3:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-09-2016 20:08:21
แผลทางใจ เกินเยียวยา จมทุกข์ หม่นเศร้า
อยู่กับความรู้สึกไม่สมหวัง ผิดพลาดมาตลอด เลยไม่ช่วยให้คิดบวกได้มากขึ้น

อย่างน้อยติณก็ช่วยปลดปล่อยเตนะ ปลดปล่อยจากสิ่งที่เตยึดติด จนจัดการความคิดความรู้สึกตัวเองไม่ได้

อารมณ์ว่าอยู่ไปก็เท่านั้น

คือเศร้ามากเลยค่ะกับการที่เราไม่สามารถช่วยให้เค้าอยู่กับเราได้
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 06-10-2016 00:35:58
จริงๆ แวบนึงที่อ่านอยู่ก็พอรู้ว่าสุดท้ายเตจะฆ่าตัวตาย
แต่อีกใจก็แย้งว่าไม่น่า เพราะสงสารติณเหลือเกิน
แต่ถือว่าสนุกมากค่ะ ชอบบรรยากาศหม่นๆ สีเทา
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 06-10-2016 20:39:04
อ่านจบแล้ว "ชอบ" มาก
แม้จะจบด้วยการจากไปของเต
แต่นั่นคือความต้องการที่เตสื่อออกมาตลอด


ขอบคุณ คุณแยมสำหรับนิยายค่ะ ติดตามเรื่อวต่อไป
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 06-10-2016 22:04:24
ไปๆมาๆไม่ใช่ว่าติณจะกลายเป็นแบบเตนะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: TimelessOne ที่ 12-10-2016 02:49:55
มีพลังมากครับ
น้ำตาซึมเลย

เข้าใจเต เตเลือกที่จะจากไป ในตอนนี้ที่ยังคงเหลือสิ่งที่พอจะเรียกว่าความรักได้
สงสารติณ จากนี้ไปหัวใจก็กลายเป็นหลุมใหญ่ หวังเพียงให้ได้เจอคนที่จะช่วยปลดคำสาปได้ และเมื่อเวลานั้นมาถึง จะยอมเปิดใจ ให้อภัยตนเอง

อ่านแล้วนอนไม่หลับ คิดวกวน ฮือ TT
จะติดตามผลงานคนเขียนต่อๆไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 12-10-2016 11:30:27
อยากร้องไห้เลย
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 14-10-2016 05:09:25
เขียนได้ดีมากๆ ชอบมากเลยค่ะ ...สำหรับเรา เรื่องนี้ไปได้สุดทางอย่างที่ควรจะเป็นจริงๆ
บรรยากาศ ภาษา พล็อต ทุกอย่าง! ดึงดูดให้น่าอ่าน น่าติดตาม และจบสมบูรณ์แบบมาก ชื่นชมๆ

ปล.ใช้ชื่อเพลง The Beatles เป็นชื่อตอนทุกตอนอีกด้วย นี่ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แอบประทับใจเลยนะเนี่ย ><
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 14-10-2016 11:25:10
ถึงจะไม่ค่อยชอบอารมณ์หน่วงๆแต่เรื่องน้กฌถือว่าถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีแต่ไม่ทำให้เรารู้สึกสิ้นหวังมากซึ่งดีแล้วไม่งั้นเฟลไปหลายวัน ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆนะ ^ ^
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 24-10-2016 23:01:09
หน่วงมากกกกกกกกก  :o12:
แต่คนเขียนบรรยายออกมาได้ดีมากๆค่ะ  o13
เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 27-10-2016 22:15:35
ทำไมนึกถึงพี่สิงห์
เป็นเรื่องที่น่าเศร้านะคะ
และน่าเศร้ายิ่งกว่าที่เรากลับพบปัญหานี้มีมาก
มากเหลือเกินในประเทศเรา
มากเหลือเกินในยุคนี้
ไม่รู้ว่าเตมีอาการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยหรือเปล่า
เป็นเรื่องที่น่าเศร้า และหดหู่ใจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 27-10-2016 22:56:42
ตอนเตบอกให้ติณออกจากห้องไปก่อนก็แอบเอะใจแล้ว ว่าถ้าเข้าใจกันแล้ว ให้ติณรอที่ห้องก็ได้นี่ เดี๋ยวเตก็กลับมา

เศร้าอะ ร้องไห้ด้วย ฮืออออออ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 30-10-2016 02:15:58
ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: GRID ที่ 04-11-2016 20:34:47
ชอบอารมณ์และการบรรยายในพาร์ทของติณมากครับ
ได้ความรู้สึกหน่วงหนืดมืดมนอึมครึมทึมเทาและความไม่เข้าใจเต็มไปหมด
ไม่ค่อยชอบอารมณ์และการบรรยายพาร์ทของเต
เพราะไม่ต้องการความกระจ่าง ไม่ต้องการคำอธิบาย
ไม่อยากรับรู้เหตุผลใดๆ ที่มันชัดเจนเกินไป
แต่อย่างไรก็นับถือและขอบคุณในการเขียนมันออกมาครับ
รู้ว่าเขียนไม่ง่าย และจะหาอ่านงานเขียนอารมณ์ประมาณนี้ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 04-11-2016 23:39:44
อ่านจบแล้วแบบว่า เฮ้อ เอาจนได้นะเต เราตงิดๆตั้งนานละว่าน่าจะจบแบบนี้ แต่ก็คิดเผื่อว่าอาจจะแฮปปี้ สุดท้ายก็เศร้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 05-11-2016 03:31:37
อ่านจบแล้วให้ความรู้สึกล้ายๆตอนที่อ่าน"ใส้เดือนตาบอดในเขาวงกต"เลยค่ะ ถึงจะสั้นแต่ก็บีบความหม่นมืดในจิตใจมาเล่นได้ไม่เลวเลย ชอบกลวิธีการเขียนของนเขียนที่ค่อยๆให้เราเข้าใจความซับซ้อนของจิตใจของตัวละคร เหมือนการเป่าลูกโป่งเลยที่ค่อยๆให้มันมากขึ้นจนแตกโพล๊ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: amewa ที่ 05-11-2016 09:12:29
อยากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่มีแค่13ตอนแต่ใช้เวลาอ่านนานๆมากๆค่ะ น่าจะประมาณ3ชั่วโมงกว่าๆ555555
คือชอบมากตั้งแต่ภาษาเลยค่ะ การดำเนินเรื่องก็ดีมาก คือก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราสัมผัสถึงความคุ้นเคยจากเรื่องนี้
ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่พอเราอ่านไปถึงกลางๆเรื่องก่อนพาร์ทของเตจะขึ้น ที่บอกถึงชื่อยูสเซอร์คนเขียน...
เราก็อ่อเลยค่ะ คือเป็นคนชอบงานเขียนของพี่แยมมากๆ ตามอ่านมาก่อน แล้วชอบความรู้สึกหลังอ่านจบนิยายของพี่แยม
ว่าต้องเอากลับไปคิดหลายๆอย่างไปอีกหลายๆวันเลย ทั้งTimelie และ DSLR ชอบมากๆค่ะ เป็นนิยายที่เก็บเอาขึ้นหิ้ง

มาส่วนถึงเรื่องนี้แรกๆที่อ่านเราก็สัมผัสได้ถึงความหม่นของเรื่อง ความไม่เข้าใจ ไม่ชัดเจน ไม่แน่นอนเหมือนเราเป็นติณเอง..
และอยากจะติดตามมากว่าเรื่องจะพาเราไปถึงจุดจุดไหน
จนถึงที่ค่อยๆเผยความเป็นเตทั้งในอดีตและปัจจุบันมาทีละนิด ยิ่งทำให้เราคิดว่าเตต้องมีปมในใจแน่นอน
แต่ก็ยังมองไม่ออกว่าเรื่องอะไร ถึงพาร์ทของเตคนเขียนก็ทำเราสัมผัสความเจ็บปวดของเตได้
เรียกได้ว่าเราก็พอเข้าใจเตและรู้สึกกับเตจริงๆ จนมองว่าตอนจบก็ไม่ผิดคาดเราเท่าไหร่..
คือชอบมากจริงๆ จบแบบนี้ก็ถือว่าลงตัวในแบบของเรื่องนี้ที่คนเขียนต้องการจะส่งสารออกมาจริงๆค่ะ
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เราเสียน้ำตาให้กับงานเขียนของคนเขียนคนนี้นะคะ ฮื้อ

สุดท้ายขอบคุณที่เขียนงานดีๆแบบนี้มาอีกนะคะ คือดีมากจริงๆจนอยากมีหนังสือเก็บไว้ให้สัมผัม ให้หวนคิดถึง
จะรอรวมเล่มนะคะ ถ้าพี่แยมได้มีโอกาสได้รวม
ขอสารภาพว่าคิดอยากให้มีรวมเล่มตั้งแต่อ่านไปต้นๆเรื่องเลยค่ะ คือมันดีมากกกก กินใจเรามาก 
ด้านภาษาการบรรยายของพี่แยมดีขี้นจริงๆ ยิ่งชอบและจะรอคอยติดตามผลงานของพี่ไปเรื่อยๆเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Frote ที่ 06-11-2016 19:44:36
อ่านจบแล้ว...ใช้เวลาในการอ่านไม่นาน แต่อ่านจบมีหลายๆอย่างให้คิดต่อได้อีกยาวเลยค่ะ
ต้องบอกว่าเข้าใจเตนะคะ การที่พยายามทำอะไรตาม แต่ผลกลับออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
แถมคนที่เรารักคนที่เราอยากให้ชื่นชมดันผิดหวังกับตัวเราซ้ำๆ จนถอดใจ ความรู้สึกนี้มันแย่มากๆ
ที่ซ้ำเติมให้หนักกว่าเดิมคือมีอีกคนให้เปรียบเทียบนี่แหละค่ะ... ตอนโดนแรกๆมันก็ขำๆ ไม่ได้อะไร
แต่ถ้าโดนไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มชินชา แล้วฝังลึกว่าที่จริงแล้ว เราไม่มีอะไรดีเลย ทำอะไรก็แย่ไปหมด
พยายามเท่าไรก็ไม่เคยได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา ต่างจากอีกคนที่ไม่ต้องดิ้นรน ทุกสิ่งกลับเข้ามาหาเอง
ไม่ว่าจะเป็นชื่ือเสียง ความรัก การเรียน พรสวรรค์ต่างๆ คนไม่เจอกับตัวจะไม่เข้าใจว่ามันขมปร่าในใจยังไง...

ทั้งนี้ทั้งนั้นเสียดายชีวิตของเตนะคะ จะยังไงก็เถอะ การทิ้งชีวิตไปง่ายๆ ถึงจะพูดง่ายแต่ทำยาก
เตเองก็ตัดสินใจไว้นานแล้ว แต่เสียดายจริงๆค่ะ ถึงจะแย่จะห่วยจะพยายามไม่ขึ้น ชีวิตของแต่ละคนก็มีคุณค่าเนอะ
อยู่ที่ว่าจะเห็นคุณค่านั้นรึเปล่าหรือเลือกที่จะไม่สังเกต และกล่าวโทษทุกสิ่ง รวมถึงตัวเองก็ตาม
เข้าใจว่าเตรักติณ แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะฉุดรั้งเตออกมาจากความมืดหม่นได้
ดังนั้นประโคยคที่ว่า ความรักชนะทุกสิ่ง คงจะใช้กับเตไม่ได้สินะคะ *ฮา*
ถึงจะไม่ได้เป็นที่รัก หรือได้ตายอย่างมีชื่อเสียง แต่ก็คิดชื่อของเตน่าจะถูกสลักไว้ในความทรงจำของหลายๆคน
อิสระที่คาดหวัง โบยบินออกไปได้เหมือนนก เตได้ทำมันแล้ว มีความสุขกับสิ่งที่เลือกแล้ว
ถึงจะเสียดาย แต่คาดว่าเตมีความสุขกับสิ่งที่เลือกไปแล้วค่ะ หลุดพ้นกับทุกสิ่ง ว่างเปล่าและปล่อยวาง

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ไม่ได้อ่านอะไรแบบนี้มานานแล้ว สมชื่อแยมสมขมคอมากๆค่ะ <แอบแซวชื่อค่ะ 555555
อ่านไปขมไป แต่เป็นรสขมที่บาดลึกดีแท้ เรื่องอื่นๆจะขมแบบนี้รึเปล่าคะ จะได้เตรียมใจไว้ก่อน 55555555
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 25-11-2016 19:34:00
 :m15:K  ไม่อยากให้เตต้องตายเลย....เปลี่ยนบทใหม่ให้ติณอยู่กับเตเลยนะแยม
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 29-11-2016 08:55:18
รู้สึกหดหู่เลยค่ะ

ติณจะมีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความรู้สึกแบบไหนกันนะ :ling3:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-11-2016 18:44:19
เรื่องนี้ดีมากๆ แสดงให้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง
ถึงแม้จะเศร้าไปกับเตและติณ แต่ก็ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ เรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 05-12-2016 20:09:16
เราชอบ ทุกความไม่สมบูรณ์แบบของเต เหมือนกับเรารู้อยู่แล้วว่าตอนจบเป็นยังไง แต่ก็อยากเข้าใจเตใหม่ ไม่อยากให้เป็นอย่างที่เขาหวัง ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ แบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 07-12-2016 11:33:40
เราชอบบบบบบ :hao5

แต่เราว่าเตตายฟรีอ่ะ คนที่เตอยากจะให้หันมามองมากที่สุดน่าจะเป็นครอบครัว แต่กลายเป็นว่าแม้แต่ห้องที่ลูกเคยอยู่ยังไม่เคยมาดู ข้อความที่ส่งต่อให้คนข้างหลังกลับไม่มีใครเห็นไม่มีใครได้ยินยกเว้นติณกับตำรวจ :katai1:

เขียนดีค่ะ แต่ยังดีไม่สุด มันยังหน่วงไม่พอ ต้องแสดงให้คนอ่านเห็นความสิ้นหวังของเตมากกว่านี้ เราเชื่อว่าคุณทำได้ค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-12-2016 15:59:06
ถึงจะจบBad end

แต่เราก็ประทับใจนะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: mmilds ที่ 27-12-2016 10:45:15
อ่านจบละไม่รู้จะพูดอะไรดีเลยค่ะ ...55555555555
มันไม่ใช่ไม่ดี มันดี แต่แบบหน่วงชิบบบบบ (ขอหยาบ)
เราพอเข้าใจในอารมณ์ ภาพหลาย ๆ อย่างในความทรงจำที่มี มันโคตรสะท้อนสิ่งที่นิยายเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมา
เพียงแต่คนละความรู้สึกไปนิดนึง แต่แบบมันใช่เลยอะ พอทุกอย่างมารวม ๆ กัน
นิยาย เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้น อ่านละดาวน์มาก 5555555


แต่ชอบฟิลการถ่ายทอดเรื่องราวของคุณแยม(ใช่มั้ย)นะคะ
เพิ่งเคยได้อ่านแนวนี้แบบจริง ๆ จัง ๆ เห๊ออออออ เลย 55555555

สงสารทั้งคนที่จากไปและคนที่ยังอยู่
การจากไปด้วยความรู้สึกแบบนี้รู้สึกไม่ค่อยดีเลย
คนที่ยังอยู่ต้องรู้สึกไร้ค่ามากแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: มาโซซายตี้ ที่ 06-02-2017 09:47:00
เพิ่งเข้ามาอ่าน
มันดิ่งมาก ในความคิดคือที่เตยังไงก็ทำต่อ
ก็เพราะในที่สุด สุดท้ายก็ได้รู้ว่าตัวเองได้เป็นที่หนึ่งที่รักของติณณ์
จึงตัดสินใจแบบนี้ เพื่อให้เป็นที่จดจำ ติดอยู่ในใจติณณ์ตลอดไป
คือไม่ได้คิดว่าจะทำร้ายติณณ์ แต่คิดว่าอยากถูกรักและถูกจดจำตลอดไป บรรลุขั้นสุดของเตแล้ว
ปล. อ่านคอมเม้นต์เพิ่งรู้ว่าคือคนเดียวกับที่แต่ง DSLR, TIMELINE  เหรอคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: nseboo ที่ 06-02-2017 11:41:14
อานจบแล้วจิตตก ถ้ารู้ว่าเตจะตายแต่แรกคงไม่อ่านอะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: แยมส้มขมคอ ที่ 06-02-2017 14:47:02
เพิ่งเข้ามาอ่าน
มันดิ่งมาก ในความคิดคือที่เตยังไงก็ทำต่อ
ก็เพราะในที่สุด สุดท้ายก็ได้รู้ว่าตัวเองได้เป็นที่หนึ่งที่รักของติณณ์
จึงตัดสินใจแบบนี้ เพื่อให้เป็นที่จดจำ ติดอยู่ในใจติณณ์ตลอดไป
คือไม่ได้คิดว่าจะทำร้ายติณณ์ แต่คิดว่าอยากถูกรักและถูกจดจำตลอดไป บรรลุขั้นสุดของเตแล้ว
ปล. อ่านคอมเม้นต์เพิ่งรู้ว่าคือคนเดียวกับที่แต่ง DSLR, TIMELINE  เหรอคะ

ขอบคุณค่ะ ใช่ค่ะ เราเอง 55
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 14-02-2017 06:46:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Monnee ที่ 26-02-2017 23:07:07
 :jul1: :jul1: เศร้าและเข้าถึง//_เป็นเรื่องจริงใจชีวิตเราที่บางครั้งตัดความอิจฉาออกไปได้ลำบาก!!!
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: palm-metto ที่ 04-04-2017 07:00:42
ตั้งแต่ต้น เราพยายามจะเชื่อว่ามันจะไม่จบ ดราม่าแน่ๆ
แต่พอสักกลางเรื่อง เราเริ่มเข้าใจแล้วว่า นี่มันตัวละครที่มันมีปัญหาจิตใจนี่เอง ถึงแม้จะบอกตัวเองว่ายังไง เตก็ไม่ตายหรอก ไม่ได้
ตอนที่ติณออกมาจากห้อง ยังอยากตะโกนบอกติณเลยว่า อยู่กับเตก่อนได้มั้ย ยิ้มอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องดีหรอก
เพราะคนที่ยิ้มและหัวเราะ ไม่ใช่ว่าจะลืมเรื่องเลวร้ายที่คิดอยู่ได้จริงๆ บางทีอาจจะเป็นตะกอนขุ่นในใจ จนอยากจะกรองออกได้ ..
เราชอบที่ติณพยายามช่วย .. แต่มันก็เท่านั้น เพราะยังไง เป้าหมายสูงสุดของเต คือการจากไป คนที่อยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
เหมือนจะเข้าใจในตัวเตนะ .. แต่ไม่อยากให้จบแบบนี้ สงสารทั้งตัวเตและติณเลย
แต่ก็อีกนั้นแหละ จบแบบสมบูรณ์แล้ว ปูเรื่องมาขนาดนี้ก็ต้องจบแบบนี้แหละ
สนุกมาก .. แต่เหมือนเราจะเวิ้นเว้อเกินไป
อยากติดตามผลงานของคุณต่อไปเรื่อย
ภาษาสวยดี การเล่าเรื่องโอเคดี เราชอบ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: yakkaru ที่ 04-04-2017 09:51:52
หนักหน่วง ทำไมเข้าใจเต ตอนอ่านนี่คิดว่าถ้าปูมาขนาดนี้แล้วเตยังไม่ตายก็แปลก แค่จะให้ความรักจากติณเหนี่ยวไว้ ไม่พออ่ะ
แต่กับติณเราคิดว่าไม่น่าตาย และไม่ควรตายตาม
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-05-2017 22:08:02
นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...

อย่าคิดว่าตัวเองมีความสามารถมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงใครได้  แม้จะใช้ "หัวใจ" ก็ตาม

หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 02-05-2017 13:03:58
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
มันหม่นและหน่วงๆมาทั้งเรื่องเลยอะ
ถึงจะไม่ได้หม่นมากเพราะเรายังพอจะเห็นแสงสว่างอยู่
แสงแห่งความหวังจุดเดียวในเรื่องก้คือติณ
ขอแค่ติณรู้ว่าเตอาการ'หนัก'แค่ไหน แล้วแก้ไขตรงจุด
เราเชื่อว่าเตจะยังมีชีวิตอยู่
แต่นั่นก้ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งเตและติณ
ไม่ใช่ว่าเตเข้มแข็งไม่พอ แต่เพราะความคิดกังวลของเตถูกหล่อหลอมให้เติมโตมาแบบนี้เป็น10กว่าปีแล้ว
มันยากนะที่จะแก้ไขที่จะเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิตเตที่อยากจะตายตลอดเวลาเพียงเพราะคำพูดและความรู้สึกของติณอะ
ติณก้ไม่ได้ผิดที่ไม่รับรู้ความรู้สึกของเต เตไม่เคยพูดไม่เคยแสดงออก ติณก็ไม่ใช่คนที่เก็บรายละเอียดขนาดนั้น
ความหม่นไม่สุดอีกอย่างคือ เรารับรู้นะว่าเค้ารักกันมันเหมือนจะเป็นทางแก้ทางเดียวของเรื่องนี้ 'ถ้าหากติณกลับมาเร็วกว่านี้'
โรคซึมเศร้าหรือภาวะซึมเศร้าเป็นเรื่องน่ากลัวค่ะ
เป็นภัยเงียบที่ถ้าคุณไม่ตระหนักถึงมันก้พร้อมจะพรากชีวิตคนที่คุณรักไปได้ง่ายๆ
โรคทางจิตใจน่ากลัวกว่าโรคทางกายภาพอีกค่ะ อย่าโรคความดันที่เค้าว่ากันว่าเป็นภัยเงียบ
แต่ถ้าเราตรวจเจอและรักษาทันทุกอย่างก้จะดีขึ้น เพราะการตรวจพบสามารถทำได้ด้วยเครื่องมือต่างๆได้
แต่โรคทางจิตใจ ถ้าคนที่เผชิญกับมันเป็นคนที่เก็บทุกอย่าแล้วซ่อนไว้ภายใต้รอยยิ้มแบบเต เราก้แทบจะไม่รับรู้เลย
เท่ากับว่าโรคจะไม่ถูกตรวจเจอเพราะผู้ป่วยไม่แสดงอาการออกมา และมันจะไม่ได้รับการรักษา จนอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ
มันคนโชคดีไม่มากหรอกค่ะที่จะ'บังเอิญ'ค้นพบยารักษาที่ถูกต้องของตัวเองในเวลาที่เหมาะสม
อย่าปล่อยให้ตัวเองติดลบนานจนเคยชินหรือเสพติดกับมัน เพราะนั่นคือจุดเริ่มต้นค่ะ
ส่วนตัวชอบเรื่องนี้มาก ปกติจะอยู่พรรคสุขนิยมเสพติดน้ำตาลบ้างน้ำเชื่อมบ้าง
แต่นานๆทีเจอยาขมๆก้ดีต่อสุขภาพดีค่ะ มันทำให้เราตระหนักถึง'ความจิงในชีวิต'มากขึ้น
ไม่มีความสุขใดคงอยู่ตลอดไป ความทุกข์ก็เช่นกันค่ะ
จะติดตามผลงานนะคะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Siran ที่ 03-05-2017 01:29:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 03-05-2017 07:50:15
จบเศร้า :hao5:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Noah ที่ 04-05-2017 18:16:09
เราว่าเป็นการจบได้กลมดีค่ะ และจะกลมกิ๊กเลยถ้าตายคู่ ถถถถถถถถ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: DarkCat_BK ที่ 06-05-2017 22:27:17
ทำเอาเราพูดไม่ออกเลยค่ะ อารมณ์สีเทาแบบนี้..เข้าใจเตชัสนะคะที่พยายามสื่อออกมา เพราะเราก็มีส่วนคล้ายบางเรื่อง ร้องไห้เลย
แต่ถือว่าเป็นตอนจบที่ดีแล้วค่ะ เป็นนิยายที่ดีมากๆเรื่องนึงสำหรับเราเลยค่ะ ขอบคุณค่ะที่เขียนมาให้อ่าน :pig4: :m15:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: PingPong_Hunlay ที่ 07-05-2017 00:04:50
ไม่ได้ร้องไห้เลย มันหน่วงมากเกินไป
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 07-05-2017 14:18:37
จิตเภทประเภทหนึ่งสินะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 07-05-2017 20:10:14
 :mew5เศร้า
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-06-2017 10:21:11
เจ็บปวด รวดร้าวจริงๆ ความรักที่ส่งไปไม่ถึง ถึงแม้จะรู้ว่ามีคนที่รัก กลับมองข้ามไปมองคนที่ไม่รัก อยากรู้ว่าเคยสงสารคนที่เขารักตัวเองกันบ้างไหม
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: oohseyes ที่ 14-07-2017 05:41:15
เจ็บปวดเหมือนเป็นติณเองฮือ  :m15:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ikkp ที่ 17-07-2017 15:19:01
เราอยากรู้มุมพ่อแม่ของเต ว่าเค้ารู้มั๊ยว่าทำร้ายลูกตัวเองอย่างแสนสาหัส แล้วเตตายไปส่งผลกระทบต่อจิตใจเค้าบ้างมั๊ย

ฆาตกรตัวจริงในเรื่องนี้คือพ่อแม่่ล่ะนะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: lnwgreankak ที่ 26-07-2017 04:22:57
ขมสมชื่อ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 19-08-2017 20:45:54
อ่านจบแล้วไม่รู้จะตอบยังไง
มันรู้สึกเหมือนเรายังไม่ยอมรับความจริง
เหมือนยังรับไม่ได้ว่าเตตายแล้ว

 :ling3:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 21-08-2017 10:04:19
การสื่อออกมา     มันมีความหมาย.  ความเข้าใจในตัวของมันเองว่าจะต้องออกมาในลักษณะแบบใด.   มันต้องจบแบบนี้ล่ะถึงจะเพอร์เฟค.  จากในความรู้สึกของเต    ซึ่งทิ้งปริศนาให้ไว้กับติณ.  ชอบนะ. ขอบคุณ.      เร้าความรู้สึกอย่างดีเยี่ยมจริงๆ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-08-2017 18:36:17
ตามมาอ่านจากที่มีคนแนะนำ หน่วงสมใจอิป้ามาก สมจริงมาก
คิดว่ายังไงเตก็ต้องลงเอยแบบนี้แน่ ยิ่งตอนที่ร่ำลากันนั้น บอกเป็นนัย ๆ อยู่
คนเขียนเก่งอะ ชาบู ๆ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: chocoberry ที่ 11-09-2017 17:35:25
อ่านๆแล้วพอเดาได้เลยว่าสุดท้ายเตก็ตัดสินใจจะจากไป
แบบเตพยายามจะหาจุดที่คิดว่าจะเปลี่ยนตัวเองให้ได้เหมือนกัน
แต่ของแบบนี้มันพูดยาก
เตน่าสงสารอะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 24-10-2017 14:08:33
อ่านจบแล้วชอบมากกว่าที่คิด ปกติไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อนเลย
แต่อ่านแล้วจมดิ่งไปกับตัวละครเลย แต่งเก่งมากๆ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 23-11-2017 02:59:58
สงสารทั้งคนเลือกที่จะจากไปและคนที่จะอยู่ทั้งคู่เลย :sad11:
เขียนดีมากเลยค่ะ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 02-09-2018 20:04:42
เป็นอีกเรื่องหนึ่งของคุณแยมที่อ่านแล้วชอบมาก ชอบอารมณ์เท่าๆ ของเนื้อเรื่อง ชอบการเขียนแบบโมโนล็อกนี้จริงๆ ทำให้เราได้ตามอ่านและพยายามคิดตามว่าความรู้สึกของตัวละครตัวนั้นๆ เป็นอย่างไรในขณะนั้นๆ และจะดำเนินต่อไปอย่างไร ตอนที่อ่านถึงเตชัสให้คีย์การ์ดสำรองกับติณนั้น เราก็เอะใจว่า...น่าจะมีอะไรสักอย่าง แล้วก็ปรากฏว่ามีจริงๆ คือการที่เตชัสเลือกจะโบยบินไปอย่างนก เพื่อมองหาเสรีภาพจากความกดดันและว่างเปล่าที่เผชิญมาทั้งชีวิต

ขอบคุณคุณแยมที่เขียนเรื่องดีๆ อย่างนี้มาแบ่งปันกันอ่านนะคะ เรื่องนี้สอนหลายอย่างเลย เหนือสิ่งอื่นใดคืออย่าใช้โซเชียลเป็นเครื่องมือทำร้ายผู้อื่น/เพื่อความพอใจของตัวเอง

ขอบคุณค่ะ  :mew1:

ป.ล. ปฏิเสธไม่ได้ว่าสภาพจิตใจของเด็กนั้นมาจากครอบครัวเป็นสำคัญ...
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 04-09-2018 12:15:22
จะร้องไห้ทั้งที่กินข้าวแบบนี้ไม่ได้บอกตัวเอง TT  :z3:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 04-09-2018 21:47:35
ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกเป็นคำพูดยังไง แต่คนแบบเต น่าสงสารมากนะ การที่อยากได้รับความรักจากคนที่คิดว่ารักเรามากที่สุด มันทำให้เราทรมานสุดๆเลยล่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 25-09-2018 19:19:52
 :L1:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: เงาเดือน ที่ 19-04-2019 08:55:51
อาการแบบนี้มันโรคซึมเศร้าชัดเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 19-04-2019 23:26:24
 :o12:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: nijikii ที่ 20-04-2019 16:02:21
เป็นอีกเรื่องที่จบแบบแบดเอนดิ้งแล้วรู้สึกว่ามันสมเหตุสมผลกับสิ่งที่ตัวละครแสดงออกมา
ไม่สนับสนุนให้เกิดการฆ่าตัวตายนะ แต่พอจะเข้าใจว่าทำไมเตชัสถึงต้องทำแบบนี้
และเนื้อหาของเรื่องก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้เราเข้าใจถึงภาวะของคนที่เป็นโรคซึมเศร้า หรือจิตเวชอื่นๆ สะท้อนให้เห็นดีมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: water ที่ 14-07-2019 12:05:37
ชอบภาษาการบรรยายมากค่ะ จบในแบบที่ควรจะเป็น
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ต่างขั้ว - THE CONTRAST (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 07-12-2024 23:07:28
ไม่ควรเข้ามาอ่าน และไม่แนะนำให้อ่าน ไม่เหมาะกับเยาวชนหรือใครทั้งนั้น