ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
“ก็แค่เพื่อนไง”
ตอนที่ 1
คนที่ผมชอบ...สดใสเหมือนดวงตะวัน
คนที่ผมชอบ..เป็นที่รักในหมู่เพื่อนฝูง
คนที่ผมชอบ...เป็นคนที่มักสร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่นเสมอ
คนที่ผมชอบ...ก็คือคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนของผม
และเพื่อนผมคนนี้...มันเป็นผู้ชายซะด้วยสิ...[/i]
ผมไม่เคยคิดเลยว่าไอ้ความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ทั้งชีวิตเกิดมาไม่เคยชอบเพื่อนรุ่นเดียวกันแบบจริงๆจังๆสักครั้ง และที่สำคัญไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้จะมีวันนี้ วันที่ชายชาตรีสุดแสนจะมาดแมนอย่าง ‘นิรัตน์’ จะมาตกหลุมรักผู้ชายแบบมัน ‘ไอ้ณัฐนนท์’ เดือนสาขาที่มีดีแค่หน้าตา ส่วนนิสัยก็แสนจะกวนประสาท ผมกับมันเป็นเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกัน แต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกันนะ ผมมีเพื่อนสนิทของผม มันก็มีกลุ่มเพื่อนมัน แต่ก็ไปกินเหล้าด้วยกันบ่อย สาขาผม ถึงแม้จะอยู่คนละกลุ่มกัน แต่ก็คุยกันได้หมด
“นั่งคิดอะไรอยู่วะ”ไอ้อาร์ม เพื่อนสนิทผมถาม
“คิดว่าหน้าอย่างมึงเนี่ย มีดีอะไรน้องเมย์ น้องกิ๊ฟเชอรี่น้องวายถึงได้มาตกหลุมรัก”ผมพูดตอบมันยิ้มๆ ‘ไอ้อาร์ม’ เป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดในสาขาเลยก็ว่าได้ มันไม่ใช่เพื่อนคนแรกในมหาวิทยาลัยแต่เป็นเพื่อนที่ผมคุยแล้วมันได้ว่ะ ไม่ต้องพูดอะไรมากมันก็เข้าใจผม เพราะผมเป็นพวกไม่ชอบพูดเรื่องของตัวเองให้ใครฟังเท่าไร ยกเว้นกับบางคนที่สนิทจริงๆ ก็จะมีพูดบ้าง แต่เชื่อมั๊ยส่วนใหญ่ผมมันเป็นพวกชอบคุยกับตัวเอง จนบางครั้งก็เคยคิดว่ากูแม่งบ้าป่ะวะ แต่เอาเถอะผมว่าพวกคุณก็ต้องเคยเป็น เรื่องบางเรื่องมันก็บอกใครไม่ได้นี่ โดยเฉพาะเรื่องของไอ้นนท์ ไม่ว่ายังไงผมก็ให้ใครรู้ไม่ได้ แม้จะเป็นไอ้อาร์มก็เถอะ...ผมยอมรับตามตรงว่าตอนที่ผมรู้สึกตัวว่าผมตกหลุมรักไอ้หล่อนั่น ...ผมโคตรกลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวมันจะรู้ กลัวจะเป็นเพื่อนกับมันไม่ได้ กลัวว่ามันจะรังเกียจ กลัวว่าอะไรจะไม่เหมือนเดิม กลัวและกระวนกระวายไปหมด คิดไปอยู่คนเดียว..จนเหมือนคนบ้า
“เพราะกูหล่อไง”มันยิ้มกว้าง เพื่อนผมคนนี้หน้าตาไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร มันมีผิวขาวแบบคนจีน คิ้วเข้ม ให้อารมณ์เหมือนพวกหนุ่มตี๋ สไตล์เกาหลี แถมบ้านมันยังรวยอีก ไม่แปลกที่จะมีผู้หญิงมาชอบมันเยอะ ต่างจากผมโดยสิ้นเชิง ผมเป็นผู้ชายที่หน้าตาธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น ผิวก็ไม่ได้ขาวจัด แต่ก็ไม่ถึงกับคล้ำ ฐานะทางบ้านก็ปานกลาง ไม่ได้มีเสน่ห์ดึงดูดให้ใครมาสนใจ เป็นคนที่โดนมองผ่านประจำ แต่ผมก็ชินแล้วแหละ ตอนนี้ใครจะไม่สนใจผม ผมก็ไม่สนใจเท่าไอ้คนหน้าหล่อที่กำลังอยู่ในวงล้อมเพื่อนตรงนั้น ไอ้นนท์ มันก็ไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อมากมายขนาดจะทำให้ฝูงควายล้มตายได้ มองธรรมดาก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง มัน เป็นคนผิวขาว จัดฟัน แต่มันเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ครับ เป็นผู้ชายที่ยิ้มแล้วโคตรมีเสน่ห์ เวลามันพูด เวลามันทำอะไร มันดูน่ามองไปหมด รู้ตัวอีกทีผมก็เอาแต่มองตามมันไปซะแล้ว
“เออ ไอ้หล่อ กูยอม”
“วันนี้ไปมั๊ย”
“ไปไหนวะ”
“อ้าว มึงก็ถามแปลก วันนี้วันศุกร์ กูจะชวนมึงไปไหนละ”
“ใครไปบ้างวะ”ผมถาม
“มีกู มีมึง มีมึง มีกู”
“ไอสัส มึงจะพูดซ้ำทำไม สรุปมีกูกับมึงสองคนว่างั้น แล้วพวกไอ้โชค ไอ้นนท์มันไม่ไปเหรอ”ผมเลียบๆเคียงๆถาม พยายามไม่เจาะจงถึงใครอีกคน ที่ผมอยากจะให้ไปเหลือเกิน
“กูยังไม่ได้ถามเลยว่ะ เดี๋ยวกูไปถามพวกมันก่อนละกัน”ไอ้อาร์มว่า พร้อมเดินไปหาไอ้พวกที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่เหมือนเด็ก ทั้งๆที่ตอนนี้ก็อยู่ปี 2 กันแล้วนะ สักพักมันก็เดินกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแป้น พร้อมยักคิ้วให้ผมอย่างกวนๆ
“สองทุ่ม เจอกัน ‘นั่งเล่น’ ”
“ใครไปบ้างวะ”
“ก็เหมือนเดิม ไอ้นนท์ ไอ้โชค ไอ้กล้า”ได้ยินชื่อไอ้คนแรก หูผมก็ตั้ง หางกระดิกรับแล้วครับไม่ต้องคิดอะไรมาก มันไปไหน ผมไปด้วย
“เออ ตามนั้น” เป็นเวลาเดียวกับที่อาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาพอดี เราเลยเลิกสนใจเรื่องเหล้าแล้วสนใจเรื่องเรียนแทน
- ร้าน นั่งเล่น -
พอสองทุ่มนิดๆผมกับไอ้อาร์มก็มาถึงร้าน พอเห็นที่นั่งประจำที่พวกเรานั่งยังว่างเราก็เดินไปนั่งกันเลยครับ ก่อนจะสั่งเบียร์มารอ พวกไอ้นนท์ ที่ยังไม่โผล่หัวมา
“วันนี้คนเยอะว่ะ ดีนะมาเร็ว”อาร์มมันพูดกับผม แต่สายตานี่กวาดไปทั่วร้าน กูว่าอีกนิดร้านเขาสะอาดแน่
“ก็เป็นแบบนี้ทุกศุกร์ป่ะ แล้วเมื่อไรพวกมันจะมาวะ”
“กูทักไปบอกไอ้โชคแล้วมันบอกเดี๋ยวตามมา”
“เออ”ผมตอบรับแล้วหันไปรินเบียร์ใส่แก้วให้เพื่อน ตามด้วยแก้วตัวเอง แล้วจิบเบาๆ สดชื่นครับ สุดสัปดาห์แบบนี้ การได้จิบเบียร์เย็นๆ ฟังเพลงเบาๆแบบนี้ เป็นอะไรที่โคตรจะสบายใจ ถึงแม้ตอนนี้จะมีแต่เพลงที่ทางร้านเปิดก็ตาม เพราะดนตรีสดจะขึ้นตอนประมาณ สามทุ่ม แต่ก็ไม่เป็นไรครับ ผมชอบร้านนี้เปิดเพลงเพราะดี เพลงที่เปิดส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเก่าๆ แต่ก็ไม่ได้เก่าขนาดรุ่นพ่อนะครับ เก่าแบบคนยุคผมมันฟังกันนี่แหละ
“พวกมันจะมากันแน่นะ นี่ก็สามทุ่มกว่าแล้ว”ผมถามไอ้อาร์มที่ตอนนี้ยังอยู่ในสภาพปกติครับ ไม่มีอาการอะไร
“เออ มันบอกว่าจะมา”ผมก็อยากจะเชื่อนะครับ แต่ครั้งล่าสุดที่ผมชวนมันมากินเบียร์ วันนั้นมันก็บอกมันจะมา แต่มันไม่มา แถมยังไม่บอกผมสักคำด้วยว่ามันจะไม่มาแล้ว ผมก็นั่งรอ ไม่สิ ผมก็แค่ชวนไอ้พวกที่เหลือนั่งกินเบียร์ต่อไปเรื่อยๆ ผมจำได้ว่ารอมันจนเกือบถึงตีสี่ เพราะคิดว่า...มันอาจจะมา ทั้งๆที่ก็เป็นแค่ความหวังลมๆแล้ง ผมจะทำอะไรได้ละ ก็ต้องทำเหมือนไม่เป็นอะไรทั้งๆที่ในใจโคตรเฟล คนอื่นผมไม่เป็น ผมเป็นกับมันคนเดียว ใครจะมาไม่มาผมไม่สน แต่กับมัน ผมโกรธ แต่ก็ทำได้แค่โกรธเอง แล้วก็หายเอง เพราะมันไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไงแล้วก็ไม่มีวันรู้ด้วย คิดไปผมก็เหมือนคนบ้า ที่ทำได้แต่รู้สึกไปเองอยู่คนเดียว
“มึงแน่ใจนะ มึงลอง..”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ ไอ้อาร์มมันก็โบกไม้โบกมือให้ใครก็ไม่รู้ผมเลยหันไปมอง เพราะทางที่ผมนั่งมันหันหลังให้หน้าร้านเลยไม่รู้ว่าใครไปใครมา
“พวกมันมากันแล้วนี่ไง ทีนี้ก็เลิกถามได้แล้วนะมึง”อาร์มมันพูดยิ้มๆ เป็นเวลาเดียวกับที่ชายหนุ่มสามคนเดินมาที่โต๊ะพอดี ไอ้นนท์มันเลือกนั่งข้างๆผม แค่นั้นก็เล่นเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว ถัดไป เป็นไอ้โชค แล้วก็ไอ้กล้า
“มาช้าว่ะ”อาร์มมันพูด พร้อมยื่นแก้วให้พวกที่มาใหม่
“กลุ่มกูนัดทำงานนี่หว่า”ไอ้กล้าตอบยิ้มๆ มันเป็นผู้ชายที่หน้าหวาน ผิวขาวแบบมีออร่า ปากเล็กสีสด แล้วด้วยความที่มันสูงไม่น่าเกิน 175 ยิ่งทำให้มันดูเหมือนผู้หญิงเข้าไปอีก ทำให้มีคนทักว่ามันเป็นทอมบ่อยๆ
“งานวิชาไรวะ”
“อาจารย์น้ำหวานไง พรุ่งนี้พวกเพื่อนในกลุ่มมันไม่ว่างกันเลยนัดกันทำให้เสร็จๆ”ไอ้โชคเป็นคนตอบ ไอ้โชคเป็นคนผิวเข้ม หน้าคม ตามสไตล์ชายไทย
“อ๋อ พวกกูยังไม่ได้ทำเลย พอๆ เลิกพูดเรื่องงาน เสียอารมณ์หมด”ไอ้อาร์มว่า
“เออ แดกๆ มาๆ ชนๆ”ผมก็ยกแก้วไปชนกับพวกมันครับรวมถึงไอ้นนท์ ที่มาถึงก็เอาแต่นั่งเงียบด้วย
“เอ้าเชี่ยนนท์ เป็นใบ้ไงวะ นั่งเงียบเลยนะมึง” ผมหันไปพูดกับมัน คนรอบข้างก็เยอะ เสียงเพลงก็ดัง มันเลยขยับเข้ามาใกล้ๆผม เพื่อคุยถนัดๆ ใจผมเต้นตึกตัก ไอ้นิล มึงคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกการ์ตูนตาหวานรึไงวะ ทำตัวเป็นสาวน้อยแรกแย้มไปได้
“เฮ้ย พูดงี้ได้ไง มาๆชนๆเลย”มันพูดพร้อมยิ้มตาหยี โชว์ฟันเหล็กตามสไตล์มัน ผมก็หัวเราะเบาๆกับท่าทางของมัน เพราะมันเป็นแบบนี้ไง ผมถึงห้ามใจตัวเองไม่ได้ซักที ตอนแรกที่มา ผมบอกกับตัวเองว่าจะไม่พูดกับมัน กูจะไม่สนใจมัน ผมย้ำกับตัวเองซ้ำๆ แต่พอเอาเข้าจริง แค่มันเอาหน้าใสๆของมันมาอยู่ใกล้ๆ ตัวผมก็ถูกดึงเข้าไปหามันอย่างห้ามไม่ได้
ยิ่งพยายามไม่สนใจ..มันก็ยิ่งเข้ามาอยู่ในสายตา
กูนี่ท่าจะเป็นเอามากนะ
“เอ้อ ชน หมดแก้วนะมึง”ผมบอกมันมันก็ยักคิ้วตามสไตล์ พอแก้วชนกันเราสองคนก็กระดกรวดเดียวจนหมด มันเลียริมฝีปากตัวเองนิดๆ ก่อนจะชูแก้วที่หมดให้ผมดู
“หน้ามึงดูเศร้าๆนะ นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงอกหัก”ผมถามเหมือนไม่ได้สนใจอยากจะรู้เรื่องของมัน ทั้งที่ความจริงหูของผมกางออก 360 องศารอรับคลื่นเสียงของมันเรียบร้อยแล้ว
“เปล่า ไม่ใช่เว้ย”
“ไม่ใช่เชี่ยไร ใครก็ดูออก ทำไมวะเขาไม่คุยกับมึงเหรอ”ถามไป ใจกูก็เจ็บไป อีกเรื่องหนึ่งที่ผมต้องทนรับให้ได้ตั้งแต่ที่ผมยอมรับกับตัวเองว่าผมชอบมัน คือมันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว และมันก็อยู่ในช่วงที่กำลังจีบเขา เจ็บไปอีกดิ มึงจะทรมานตัวเองทำไมวะไอ้นิล สนุกเหรอทำร้ายตัวเอง ผมด่าตัวเองทุกวันให้เลิกสนใจมัน เลิกมองมัน แต่ก็อย่างที่ผมพูดไป แค่เจอหน้าใสๆ กับรอยยิ้มของมันผมก็ไปไม่เป็นแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรล่ะ มึงมีอะไรมึงบอกกูได้นะเห็นกูเป็นแบบนี้แต่กูเก็บความลับเก่งสุดๆ”มันก็ยิ้มขำ ไม่พูดอะไร ชัดมั๊ยละ นิรัตน์ ชัดมั๊ย แค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วนะ ย้ำกับตัวเองรอบที่แปดแสนสองหมื่นห้าพันสองร้อยเก้าสิบเอ็ด ย้ำว่ามันไม่อยากให้คนอย่างมึงไปยุ่งเรื่องของมัน มึงไม่ได้สนิทอะไรกับมันขนาดนั้น มึงอย่าลืมดิไอ้นิล
“เออ ไม่บอกก็ไม่บอกช่างแม่ง เรื่องของมึง”ผมพูดไป มันก็ไม่ได้ตอบอะไร
ในแววตาทั้งคู่ ไม่รับรู้อะไร
เธอคงยังไม่เข้าใจว่าฉันไม่ใช่คนเก่า
เรายังคงเหมือนเพื่อน หยอกล้อเหมือนวันวาน
โถ่ว ไอสัส พี่บอยก็มา ดนตรีขึ้น เพลงขึ้นเท่านั้นแหละ ไอ้นิลยกแก้วในมือขึ้นมากระดกรวดเดียว พอหมดก็เติม เติมจนเต็ม ก็แดกจนหมดอีก มองไปหน้าเวทีพี่นักร้องผู้ชายก็กำลังร้องเพลงนี้ด้วยอารมณ์มาเต็มสุดๆ เหมือนพี่แกกำลังอยู่ในฟิลนี้เหมือนกัน ผมอยากจะเดินไปชนแก้วกับพี่แล้วตบไหล่พี่หนึ่งที กระซิบข้างหูเบาๆว่า ผมเข้าใจพี่ ผมเข้าใจ แม่งช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยย
“อ้าวๆ เป็นเชี่ยไรครับไอ้นิล กระดกเอาๆ เหมือนแดกน้ำเปล่า”ไอ้อาร์มมันเลิกคุยกับไอ้กล้า ไอ้โชคแล้วหันมาสนใจผมครับ เสียงของมันก็เรียกไอ้พวกที่เหลือให้หันมามองผมเหมือนกัน
“ไม่มีอะไร เพลงเพราะดี เอ้าชน !”ผมบอกเสียงดัง พร้อมชูแก้วขึ้น พวกมันก็ส่ายหน้านิดๆ แต่ก็ยกแก้วในมือตัวเองมาชนกับผม
ห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่มันคือแสนไกล
ยังไม่จบจากพี่บอย ตอนนี้พี่ดา ก็มาว่ะ พี่แกจับเพลงมาเมดเล่ย์กัน แถมเป็นเพลงแอบรักเพื่อนล้วนๆ โอ้โห พี่กะจะเอาให้ผมกระอักเลือดตายไปเลยใช่มั๊ยพี่ แม่งถ้าพี่ยังไม่หยุดร้อง ผมจะร้อง ตามแล้วนะพี่ ไม่ใช่ร้องเพลงนะ ร้องไห้ ! “ดูมันทำหน้าทำตา ทำตัวเหมือนคนมีความรักนะมึง”อาร์มมันคงเห็นผมแปลกๆเลยพูดแซว
“จริงเหรอวะ มึงชอบใครวะไอ้นิล”คราวนี้ไอ้โชคหันมาสนใจบ้าง
“คนในสาขาใช่มั๊ย ไม่งั้นมึงไม่อินกับเพลงแอบรักเพื่อนแบบนี้หรอก”กล้ามันวิเคราะห์บ้าง ทีเรื่องแบบนี้ฉลาดเชียวนะพวกมึง เวลาเรียนไม่เห็นสนใจแบบนี้วะ
“ใครวะ”ไอ้คนข้างๆหันมาสนอกสนใจผมบ้าง ผมมองหน้ามันนิดนึง ก่อนจะหันไปคุยกับไอ้พวกที่เหลือ
“พวกมึงก็พูดไป กูจะไปชอบใครวะ”
“มึงพูดมาเลย เดี๋ยวพวกกูช่วย”โชคมันยังไม่ละความพยายามที่อยากจะรู้ ถ้ากูบอกว่าเป็นไอ้ฟันเหล็กที่นั่งข้างๆกูเนี่ย มึงยังจะช่วยกูอยู่มั๊ยวะ
“กูชอบ......”
“......”
“ชอบ....”
“.....”
“ชอบใครที่ไหนละ”
“ไอสัส”อาร์มมันเอื้อมมือมาผลักหัวผมแรงๆ ย้ำว่าแรง นี่ถ้าอยู่ใกล้อีกนิดมันคงล่อกบาลผมไปแล้ว
“งั้นกูทาย....แอมใช่มั๊ย ถ้าพูดถึงคนน่ารักๆในสาขาเรากูว่าแอมนี่แหละ ขาว ใส น่ารักสุดๆละ”โชคว่า
“กูว่า ฝ้ายว่ะ”กล้าพูดบ้าง
“กูว่า โบว์ว่ะ ขาวๆ หุ่นดี มีแฟนแล้ว เพื่อนกูต้องชอบแบบนี้แน่นอน”อาร์มบอกอย่างมั่นใจ
“พอเลยพวกมึง ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ กูไม่ได้ชอบคนสวย”
“ไม่ชอบคนสวยแปลว่าคนที่มึงชอบต้องไม่ใช่คนที่โดดเด่นดิวะ....งั้น มายด์ละ ไม่โดดเด่นแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”กล้ามันยังไม่หยุด
“กูว่า ต้องเป็นลูกปลาว่ะ”ไอ้นนท์ก็เอากับเขาบ้าง แม่ง…มึงนั่นแหละมึงเลย
“เดี๋ยวนะ ไม่ได้ชอบคนสวยหรือมึงจะไม่ได้ชอบผู้หญิงวะ”อาร์มมันพูดพร้อมเอามือปิดหน้าอกตัวเอง เหมือนกลัวจะมาลวนลาม ไม่ได้ดูสารร่างเลยนะ
“พอ พอเลยพวกมึงทายไงก็ไม่ถูกหรอก เพราะคนที่กูชอบไม่ได้อยู่ในสาขา”ประโยคเด็ดกูเลย เวลามีใครถามว่าคนที่ชอบคือใคร กูจะโยนไปให้ไกลตัวไว้ก่อน
“ใครวะ สาขาไร ปีไหน”
“แล้วพวกมึงจะสนใจอะไรมากมายวะ แดกดิ เบียร์นิ มาแดกเบียร์ไม่ใช่มาเสือกเรื่องกู เอ้า แดก”ผมตัดบทพวกมันพร้อมชูแก้วในมือขึ้นชน พวกมันเองเหมือนจะสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะมีสาวโต๊ะข้างๆมาขอชนแก้วกับพวกมัน แถมยังแนบชิดกันจนแทบจะมานั่งตัก ดีนะ ฝั่งผมนั่งติดผู้ชาย อย่ามองผมแบบนั้นดิ ไม่ได้ดีใจซักนิดที่ได้นั่งข้างผู้ชาย ถึงผมจะชอบไอ้นนท์ แต่ถ้าให้มองผู้ชายคนอื่นผมทำไม่ได้นะ แค่คิดก็ขนลุกละ ไอ้อาการใจสั่นเป็นกับมันคนเดียว พอเบียร์หมดไอ้โชคก็หันไปสั่งเหล้ามา ซึ่งในนี้มีผมไม่กินเหล้าอยู่คนเดียว ผมเลยสั่งเบียร์มาแยก ขืนแดกรวมกันได้ไปตีกันในท้องพอดี
“ พวกมึงลุก กูจะต่อโต๊ะกับมีน”ไอ้อาร์มบอกพร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้ผู้หญิงที่นั่งติดกับมัน ไอ้พวกที่เหลือก็ไม่ว่าอะไรให้ความร่วมมือกันดีเหลือเกิน เพราะโต๊ะนั้นมีแต่คนสวยๆทั้งนั้น แถมยังมา 5 คนเหมือนพวกผมอีกต่างหาก ครบคู่กันเลยทีเดียว พอต่อโต๊ะเสร็จ ไอ้โชคกับไอ้กล้าก็เนรเทศตัวเองไปนั่งข้างๆผู้หญิงที่มันถูกใจ ทำให้ที่นั่งข้างๆไอ้นนท์มันว่าง อาร์มมันก็แนะนำตัวทีละคน ว่าใครเป็นใคร ฝั่งนั้นก็เอาบ้าง เลยได้รู้ว่า สาวเจ้าอยู่คณะพยาบาล ปี 2
“หน้าแดงแล้วนะมึง เมาแล้วดิ”ผมหันไปพูดกับคนข้างๆที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อรามไปถึงใบหู ตาก็เยิ้มเชียว เวลามันกินเหล้า มันจะมีอาการแบบนี้แหละครับ
“เออ ปกติของกู”
“หึหึ ไม่สนใจสักคนเหรอวะ”ผมพยักพเยิดไปทางหญิงสาวที่นั่งโต๊ะเดียวกัน ถ้าผมเดาไม่ผิด คนที่ชื่อ บีน ดูเหมือนจะสนใจไอ้นนท์อยู่นะ เพราะเธอมองมาทางนี้บ่อยๆ แถมยังหันไปอมยิ้มแปลกๆกับเพื่อนอีก
“กูว่าคนนั้นแม่งชอบมึงแน่”ผมกระซิบบอกมัน มันมองตาม ก็เห็นว่าเขามองอยู่ มันก็ยิ้มให้เขานิดๆ สาวเจ้าได้ทีเลยขยับมานั่งใกล้ๆไอ้นนท์เลย ผมจะว่าอะไรได้ละ ก็ทำได้แค่อมยิ้มให้มันเหมือนแซว ทั้งๆที่ในใจโคตรหงุดหงิด
“ชื่อนนท์ใช่ป่ะ เราบีนนะ ชนแก้วหน่อย นายด้วย”ตอนแรกเธอพูดกับไอ้นนท์ ก่อนจะบอกผมที่นั่งเงียบๆอยู่ใกล้ๆ ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรครับ ก็ชนแก้วกันไป แล้วเธอก็หันไปคุยอะไรสักอย่างกับไอ้นนท์ สักพักเธอก็ยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้ไอ้นนท์ เหมือนขอเฟสขอไลน์ ไอ้ฟันเหล็กก็ไม่มีปฏิเสธหรืออิดออดอะไร ก็ให้เขาไป สาวเจ้าก็ยิ้มกว้างอย่างพอใจ
“นายชื่ออะไรนะ ทำไมเงียบจัง”เธอหันมาชวนผมคุยบ้างครับ เพราะผมไม่คุยกับใครเลยเอาแต่ยกแก้วอย่างเดียว
“เราชื่อนิล เพื่อนเธอน่ารักดีนะ” ผมพูดยิ้มๆสายตาก็มองไปที่สาวน้อยหน้าหวานอีกคนที่้เอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไม่คุยกับใคร เธอน่ารักดีครับ ดูเรียบร้อย แตกต่างจากคนอื่น พอบีนได้ยินแบบนั่นก็ยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนจะสะกิดเพื่อนตัวเองให้ละสายตาจากหน้าจอ
“ขิม พอเลยเลิกเล่นโทรศัพท์ นี่นิล กับนนท์ ส่วนนี่ขิม” บีแนะนำผมกับไอ้นนท์ ผมก็ยิ้มให้หวังผูกมิตร ขิมก็ยิ้มตอบ ไหนๆ มึงก็ไม่สนใจกูแล้ว งั้นกูลองสนใจคนอื่นบ้างก็ได้วะ
“เล่นแต่โทรศัพท์ คุยกับแฟนเหรอ”ผมพูดกับขิม ที่ทำท่าจะกดโทรศัพท์อีก ขิมเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนจะโชว์โทรศัพท์ให้ดู
“เล่นเกมต่างหาก ก็ไม่รู้จะคุยกับใครนี่”
“คุยกับเราไง”ผมบอก ตอนนี้ต่างคนต่างมีคู่ ไม่มีใครสนใจใครเลยครับ
“หืม โอเค นิลเมารึยัง”
“ก็เริ่มๆไปละ ขิมละ”
“ไม่อะ เรากินน้ำเปล่า”
“ได้ไงๆ มาๆ ชนๆ”
“ไม่เอา เรากินได้นิดหน่อย เราแพ้แอลกอฮอล์”สาวเจ้าปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ มองคนข้างๆที่ตอนนี้ไหล่ของมันไม่ว่างซะแล้ว เพราะบีนเล่นขยับเก้าอี้ไปชิดแล้วคลอเคลียอยู่ตรงไหล่มันเหมือนเมามาก เมื่อกี้ยังปกติอยู่เลยนี่หว่า อ่อยชิบ ไอ้นนท์ก็ไม่มีทีท่าจะปฏิเสธ อาจเพราะว่าผู้หญิงเขาเสนอขนาดนี้แล้ว หรือไม่ก็เพราะมันเองก็เมาด้วย
“ไหวมั้ยเนี่ยบีน”มันถาม
“ไหววว”
อ่อย อ่อย ในหัวผมคิดแค่นี้ ผมมองไปทางพวกไอ้อาร์มก็สภาพไม่ต่างกัน
“ขิม ดูบีนหน่อยสิ ท่าจะไม่ไหวนะนั่น”ผมบอกขิมที่เหมือนจะดึงเพื่อนกลับ แต่เพื่อนเธอก็ไม่ฟังเอาแต่จะซบผู้ชายอย่างเดียว
“บีน ไหวมั้ย ลุกก่อนเปล่า”นนท์มันค่อยๆดันบีนออก ตอนแรกเธอก็อิดออดแต่ก็ยอม ผมมองหน้าไอ้นนท์ ตามันก็จะหลับ
“มึงไหวมั้ยเนี่ย”
“ไหวดิวะ”
ตอนนี้ร้านปิดแล้วครับ ส่วนใหญ่ก็เริ่มทยอยกลับกันแล้ว แต่ก็ยังมีคนนั่งต่ออยู่หลายกลุ่ม ไฟในร้านรวมถึงเพลงถูกปิดหมดแล้ว เลยมีแต่เสียงคนเมาคุยแข่งกัน
“มึงจะกลับตอนไหน”ผมหันไปถามไอ้อาร์ม ที่ดูท่าทางจะไม่อยากกลับง่ายๆ
“เดี๋ยวดิวะ กำลังมาเลย”ผมถอนหายใจนิดๆ อยากกลับแล้วครับ ไม่สนุกเลย ตอนนี้ไอ้นนท์มันไม่ได้มีใครคลอเคลียแล้ว เพราะขิมพาบีนออกไป ไม่รู้ว่าไปไหนเหมือนกัน แต่ก็ดีแล้ว ไม่งั้นผมคงหงุดหงิดกว่านี้ คนข้างตัวมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยแชทกับใครสักคน ผมแอบดูก็เห็นว่าเป็นชื่ิอของคนที่มันชอบ แต่ไม่เห็นหรอกว่ามันคุยอะไร มันแชทอยู่พักหนึ่งก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วหยิบแก้วขึ้นมากระดกต่อ เหล้าขวดที่สองที่สั่งมาเหลือประมาณครึ่งขวด ไอ้นนท์มันก็เทใส่แก้วมันเกือบครึ่งแก้ว แล้วยกกระดกแบบเพียวๆ ผมก็ได้แต่มองการกระทำของมันอย่างเงียบๆ เพราะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามให้มันไม่กิน มันยกอยู่ได้ประมาณสองสามแก้ว แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปทางหน้าร้าน โดยไม่พูดอะไร ผมก็เดินตามมันออกมา มันเดินไปมุมมืดๆ ที่ไม่มีคนก่อนจะ
“อ้วกกก!”
“อ่าวเฮ้ย เชี่ยนนท์ ห้องน้ำมีไม่เข้า มาอ้วกอะไรตรงนี้วะ”
“โอ้กก”ผมเดินเข้าไปลูบหลังให้มัน ลูบขึ้น ลูบลงอยู่อย่างนั้น ลูบคอมันด้วย ทั้งหน้าทั้งหลัง มันก็ไม่สนใจอะไรครับ อ้วกอย่างเดียว ก่อนจะทิ้งตัวลงกับพื้น ผมก็นั่งลงกับมันครับ หันไปมองไอหน้าใสที่ตอนนี้หมดสภาพไปเลย มันไม่พูดไม่จา ผมว่าสติมันคงไปแล้ว ความจริงผมเองก็ใช่ว่าสติจะเต็มร้อย มึนๆอยู่เหมือนกันแต่พอเห็นคนอื่นเมาก็เลยเรียกสติตัวเองกลับมาได้อยู่ จะเมาตายกันหมดก็ใช่เรื่อง
“มึงโอเคนะ”
“เออ”
“....”
“....”
“มึงมีไรอยากพูดมั๊ย” ผมเป็นห่วงมันจริงๆนะ ถึงจะไม่ชอบคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ถึงจะอิจฉาผู้หญิงคนนั้นแค่ไหนก็เหอะ
“....”
“เออ กูไม่ถามแล้ว กูขอโทษละกันที่ยุ่ง”
“...”
“...”
“เขา...มีแฟนแล้วว่ะ”
“ห้ะ”
“แม่ง คุยกันอยู่ดีๆ วันนี้เปิดตัวแฟนซะงั้น”มันพูดเสียงเรียบ แววตาที่เคยสดใสตอนนี้หม่นหมองลงถนัดตา
“...”
“....”
“...”ผมเงียบ ไม่ได้พูดอะไรตอบ ผมไม่รู้จะปลอบมันยังไง ใจมันก็เจ็บที่เห็นมันเสียใจแบบนี้ แต่ลึกๆในใจ....กลับเต้นเป็นลิงโลด ผมนี่มัน..เลวจริงๆ
“เออ ช่างแม่งเหอะ ผู้หญิงไม่ได้มีคนเดียวในโลก มึงรู้ตอนนี้ก็ดีกว่าไปรู้ทีหลัง”
“...”
“แล้วมันจะผ่านไปด้วยดี พี่ป๊อบ ปองกูล เขาฝากมาบอกมึง”
“หึหึ ”
“...”
“จะกลับเลยป่ะ ขับรถไหวมั้ย”
“ไหว”
“ไหวพ่องดิ ดูสภาพด้วย มึงรออยู่ตรงนี้เดี๋ยวกูไปบอกพวกไอ้อาร์มก่อน อย่าไปไหนนะ เดี๋ยวกูมา”มันไม่ตอบอะไร ผมเลยเดินกลับเข้ามาในร้านอีกรอบ
“มึง เดี๋ยวกูไปส่งไอนนท์ก่อนนะ มันหมดสภาพว่ะ”
“แล้วจะกลับมายังไง” ที่มันถามก็คงเพราะวันนี้ผมมาพร้อมมัน
“เดี๋ยวกูนอนหอมันก็ได้ มึงจะได้ไม่ต้องไปรับให้มันวุ่นวาย อีกอย่างกูว่า..คืนนี้มึงคงไม่ได้นอน”ผมบอกมันแล้วมองไปทางคนข้างๆมัน ดูท่าราตรีนี้ยังอีกยาวไกล ไอ้อาร์มยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจ มันไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ อ้อ ลืมบอก ผมกับมันเป็นเมทกันครับ เพราะผมก็ไม่มีแฟน มันก็ไม่มีแฟน ส่วนใหญ่ผมก็จะอยู่ห้องตลอด ไอ้อาร์มเลยไม่ค่อยพาใครเข้าห้อง ส่วนใหญ่ก็ไปจบที่ห้องเขา วันนี้ก็เลยเป็นโอกาสของมัน
"อ้าว หลับซะงั้น”พอเดินออกมา ก็เห็นไอ้นนท์มันนอนฟุบอยู่กับถังน้ำใกล้ๆ กูอยากจะถ่ายรูปไว้จริงๆ
“เชี่ยนนท์ ตื่นๆ เอากุญแจรถมึงมา”มันงัวเงียมองผมก่อนจะเปิดกระเป๋าสะพายใบเล็กแล้วควานไปมา ดูเหมือนจะหายังไงก็ไม่เจอ กระเป๋าแม่งก็ใบแค่นั้นมึงจะหาไรมากมายวะ เห็นแล้วหงุดหงิดลูกตาผมเลยดึงกระเป๋าออกมาจากคอมันแล้วล้วงหาเอง มันก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ากูเป็นโจรนี่มึงคงเหลือแต่ตัวแล้วมั้ง ไม่ระวังตัวเลย
“ลุกดิวะ”มันก็ลุกตามอย่างว่าง่าย
“รถมึงจอดไหน”
“กูกลับเองได้”
“รถมึงจอดไหน”
“....”
“เดี๋ยวกูไปส่ง แล้วก็จะนอนหอมึงด้วย เพราะเชี่ยอาร์มดูท่าจะยาว”ตอนแรกมันคงไม่อยากให้วุ่นวายให้ผมต้องไปส่ง แต่พอผมพูดต่อว่าจะนอนหอมันมันก็เลยพยักหน้ารับอย่างยอมๆ
“...หรือว่าหอมึงก็ไม่ว่าง”
“ว่างดิ ไปๆ”คราวนี้เป็นมันที่เดินนำ มันจะรู้มั๊ยว่าตอนผมบอกว่าจะไปนอนหอมันในใจผมมันสั่นระรัวขนาดไหน
“หอมึงอยู่ทางไหนละ”ผมถามขณะที่กำลังจะสตาร์ทรถ
“หอ...อยู่ทาง...”หลังจากรู้เส้นทางผมก็ออกรถ ไอ้นนท์ก็ซบลงที่ไหล่ผม มึงจะง่วงอะไรนักหนาวะ ในใจอยากจะตะโกนด่ามันที่ทำให้ก้อนเนื้อในตัวเต้นไม่เป็นจังหวะ จนเผลอเกร็งตัวไปอัตโนมัติ นอกจากจะต้องตั้งสติจากอาการมึนๆ จากฤทธิ์แอลกอฮอล์แล้ว ยังจะต้องท่องพุท-โธ ให้จิตใจสงบอีก กูคิดผิดคิดถูกที่พามันมาส่งวะ ทรมานตัวเองจริงๆ
:katai5:
ตอนที่ 3
“โอ้โห ไอ้นิลนี่ใครมาหักอกเพื่อนกูรึเปล่าวะ ตาบวมเหมือนคนนอนร้องไห้มาทั้งคืนเชียว”พอขาก้าวเข้ามาในห้องเรียน ไอ้โชคก็เปิดปากทักเป็นคนแรก คำพูดมึงนี่แม่นเหมือนตาเห็น เมื่อคืนมึงคงไม่ได้แอบดูกูอยู่หรอกนะ ทำให้ไอ้นนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆหันมามอง ผมนึกว่ามันจะมองแปบเดียว แล้วหันกลับไป แต่ไม่ใช่ครับ มันจ้องผมนิ่งๆ
“มันอินกับหนังอ่ะดิ ร้องไห้เป็นสาวเลย”ไอ้อาร์มที่เดินตามมาติดๆ เอื้อมมือมากอดคอผม แล้วตอบแทน
“หนังอะไรวะ ทำให้หน้ามึงมีสภาพแบบนี้ได้”
“วันพีช”
“ห๊ะ วันพีชเนี่ยนะ มันเศร้าตรงไหนวะ”
“ก็กูดูตอนที่เอสตายอ่ะ โคตรเศร้า กูกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ พวกมึงไม่เข้าใจหรอก พวกมึงอ่ะมันพวกไร้ต่อมน้ำตา”ผมพูดด้วยเสียงเศร้าๆ แล้วทำท่าจะร้องไห้อีก พวกมันเลยส่ายหน้าให้แบบหน่ายๆกับท่าทางของผม ยกเว้นไอ้นนท์ที่ยังคงจ้องผมอยู่อย่างนั้น ผมไม่ได้หันไปมองมันตรงๆหรอกนะครับ ผมแค่เหล่ตามองมันนิดๆ แล้วก็ทำเป็นเหมือนไม่สนใจมัน ทั้งๆที่ในใจอยากจะคุยกับมันจนจะบ้า (มึงเพิ่งโดนมันปฏิเสธยังมีหน้าจะไปคุยกับมันอีกเหรอ – ไรท์เตอร์) แต่ก็รู้ว่าถ้าผมได้เริ่มคุยกับมัน...ผมคงจะตัดใจได้ยาก และที่สำคัญมันเองนั่นแหละที่อาจจะต้องการให้ผมอยู่ห่างๆก็ได้
“วันนี้ทำไมคึกคักกันจัง”เสียงหวานๆของอาจารย์น้ำหวานอาจารย์ประจำสาขาของพวกผมเรียกให้พวกเราหันไปมองก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายกันกลับที่ ตลอดชั่วโมงเรียนผมแทบจะไม่หันไปทางมันเลย ปกติผมจะชอบทำเป็นมองนู่นมองนี่แล้วก็มองมันแค่แวบเดียวก็เอาอ่ะครับ แต่วันนี้มันต่างออกไป..
ผมรู้สึกอึดอัด ไม่รู้ว่ามันเป็นเหมือนผมมั๊ย บางทีมันอาจจะไม่ได้สนใจอะไรเลยก็ได้...
“เป็นเชี่ยไรไอ้นิล คิ้วมึงจะขมวดไปไหน”ไอ้อาร์มที่นั่งข้างๆกระซิบถามเบาๆ
“นี่หน้าตาตอนตั้งใจเรียนของกู”ผมกระซิบตอบมัน
“ถุ้ย เออ แล้วเรื่องเลี้ยงสายน้อง วันไหนดีวะ”มันถามขึ้นมา ก็ทำผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เลี้ยงน้องรหัสตัวเองแบบจริงๆจังๆเลย
“อาทิตย์หน้า วันศุกร์มั๊ยละ”ขอเวลากูเก็บตังค์แปบ
“เออ ก็ดีกูจะได้ไปบอกพวกไอ้โชค มันก็ว่าจะเลี้ยงพร้อมเรา”
“เออ”แต่เดี๋ยวนะ บอกพวกไอ้โชค ก็หมายความว่า..
“ใครไปบ้างวะ”
“ไอ้โชค ไอ้กล้า ไอ้นนท์” ชัดเจน กูชัดเจน ก็พอจะเข้าใจเพราะช่วงหลังๆก็ไปไหนมาไหนกับพวกมันบ่อยจนตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มเดียวกันไปแล้ว ทำไมต้องมาสนิทกันตอนนี้วะ ตอนที่กูทำเรื่องโง่ๆลงไปเมื่อวานเนี่ย ทำมายยย
“เออ”ได้แต่ครวญครางในใจ ถึงแม้จะไม่อยากไปกับไอ้นนท์แต่ก็ปฏิเสธอะไรไม่ได้ พูดไปมีแต่ไอ้อาร์มมันจะสงสัย
“น้องรหัสมึงนี่ใครนะ กูลืม”
“น้องฝน”
“กูจำได้แล้ว ที่ตัวเล็กๆ ขาวๆใช่มั๊ย”
“เออ นั่นแหละส่วนมึงไอ้เจ เปล่าวะ”
“เออ โคตรเซ็ง อยากได้น้องผู้หญิงมาเป็นอาหารตาอาหารใจซะหน่อย”
“หึหึ”
“แต่น้องของไอ้นนท์แม่งโคตรน่ารักเลย”
“ใครวะ”
“น้องเชอรี่ ตัวเล็ก หน้าหมวย ยิ้มทีกูงี้ใจละลาย”ไอ้อาร์มทำหน้าเพ้อ
“อ๋อ คนนี้น่ารักจริง กูเห็นด้วย”
“นิรัตน์ อารัญ จะคุยกันอีกนานมั๊ย” จากตอนแรกกระซิบกัน ช่วงหลังมันเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อาจารย์พูดออกไมค์เสียงดัง เล่นเอาพวกผมสองคนรีบหุบปากลงแทบไม่ทัน ก่อนจะยิ้มให้อาจารย์กันคนละนิดละหน่อย อาจารย์น้ำหวานส่ายหัวนิดๆ ก่อนจะกลับไปสอนต่อ สรุปคาบนี้กูมาเรียนหรือมาทำอะไร
- ร้าน Share -
วันเลี้ยงสายรหัสมาถึงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผม ไอ้อาร์ม ไอ้โชค อยู่กันที่ร้าน share เป็นร้านอาหารที่มีดนตรีสด และพนักงานสาวสวย บรรยากาศในร้านค่อนข้างสบายๆ คนไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าไร พวกน้องปีหนึ่ง ยังไม่มา ส่วนไอ้กล้า กับ ไอ้นนท์เห็นว่ามันไปรับน้องรหัสพวกมันอยู่ หลังจากสั่งอาหารเสร็จผมก็มองเห็นน้องรหัสตัวเองเดินลิ่วๆเข้ามาด้านหลังมีผู้ชายสองคนเดินตาม ผมโบกมือให้เมื่อเห็นว่าน้องรหัสของผมดูเหมือนจะมองไม่เห็นโต๊ะที่นั่ง สักพักไอ้ผู้ชายที่มาด้วยกันก็สะกิดน้องรหัสผมก่อนจะพากันเดินมา
“สวัสดีค่ะ/ครับ”
“มาๆนั่งๆ”พวกมันยกมือไหว้พวกผมก็รับไหว้ครับ ผมขยับที่นั่งให้ไอ้อาร์มมันนั่งติดกับน้องรหัสมัน
‘เจ’ มันเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างสูงท่าเทียบกับไอ้อาร์ม เห็นไอ้อาร์มมันเคยพูดว่าไอ้เด็กนี่มันเป็นนักกีฬาบาสด้วยครับ หน้าตามันก็จัดว่าดูดีนะ ออกแนวเข้มๆ นักกีฬา ส่วนผู้ชายอีกคน ชื่อ ‘พัต’ ครับเป็นน้องรหัสไอ้โชคมัน ไอ้นี่จะออกแนวตัวเล็กๆ ขาวๆ ตาตีบๆหน่อย หน้าเหมือนจะหลับตลอดเวลา หน้ามันมึนดีครับผมชอบ คนสุดท้าย ‘ฝน’ น้องรหัสผมเอง มองดูเผินๆ ก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักคนหนึ่ง แต่ถ้าได้คุยแล้วจะรู้ว่ามันโคตรแมน ห้าวๆ สบายๆ
“ขอนั่งข้างไอ้เจได้ป่ะพี่นิล”ฝนมันพูดยิ้มๆ
“เออๆ”ผมเลยขยับไปนั่งเก้าอี้ข้างๆอีกตัว ความจริงนั่งตรงไหนก็ได้แหละ แต่พวกผมอยากให้น้องกับพี่มันนั่งข้างกันจะได้คุยแลกเปลี่ยนกัน
“น่ารักที่สุดเลย”มันยิ้มตาหยี ผมเลยอดเอื้อมมือไปผลักหัวมันเบาๆไม่ได้
“ฝนเอาน้ำไรครับ”ไอ้โชคถาม เพราะมันนั่งอยู่กับถังน้ำแข็ง ทำหน้าที่ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
“ฝนเอาโค๊กค่ะ”
“อ้าว แล้วพวกผมสองคนละพี่”ไอ้พัตมันโวยวายครับที่พี่รหัสมันไม่สนใจ
“พวกมึง ไม่มีสิทธิ์เลือก แดกเบียร์กับพวกกูนี่”
“นึกว่าไม่สนใจซะอีก เบียร์ก็เบียร์ครับผมไม่ปฏิเสธ”คราวนี้มันยิ้มให้พี่มันนิดๆ ไอ้โชคก็ส่ายหน้าขำๆ
“เหลือใครอีกอ่ะพี่”ฝนหันมาถามผม ตอนนี้อาหารยังไม่มา ก็ได้แต่มองหน้ากัน แล้วก็ดื่มน้ำกันไป
“นนท์ กับกล้า”
“สายใครพี่รู้เปล่า”
“น้องรหัสไอ้นนท์ น้องเชอรี่ ส่วนน้องไอ้กล้า...ใครวะ พวกมึงรู้ป่ะ” ผมไม่รู้ครับว่าสายไอ้กล้าคือใคร เลยถามไอ้พวกเพื่อนๆที่นั่งฟังอยู่
“ชมพู่ครับ”ไอ้พัตมันตอบแทน
“อ่อ”
“มาแล้วเว้ย ไหนๆ กินกันหมดยัง”เสียงไอ้กล้าดังมาแต่ไกล ข้างตัวมันมี ผู้หญิงตัวเล็กๆ ใส่แว่น ท่าทางเรียบร้อย ที่ดูแล้วน่าจะเป็นน้องรหัสมัน มันเดินมานั่งข้างๆ ไอ้พัต น้องรหัสมันก็นั่งลงข้างๆมัน
“กำลังจะกลับแล้วเนี่ย มาช้าเหลือเกิน”ไอ้อาร์มมันว่า ไอ้กล้าไม่ตอบแต่หัวเราะเบาๆ เป็นเวลาเดียวกับที่อาหารเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ
“มาถูกจังหวะเชียวนะมึง”ผมว่ามัน
“อ้าวเห้ย ไอ้นนท์ทางนี้”ไอ้อาร์มมันหันไปทางหน้าร้าน ก็พบใบหน้าคุ้นตา ที่ทำท่ากำลังมองหาใครสักคน ข้างกายมันเป็น ‘น้องเชอรี่’ น้องรหัสมัน ไอ้อาร์มโบกไม้โบกมือสักพัก ไอ้นนท์ก็เห็นก่อนจะพาน้องเขาเดินเข้ามา ดูสองคนนี้เดินมาด้วยกันแล้วก็เหมาะสมกันดีนะ พี่ก็หล่อ น้องก็น่ารัก ถ้ามันจะชอบน้องรหัสมัน หรือถ้าน้องรหัสมันจะชอบมันผมก็คงจะไม่แปลกใจเลย
“หวัดดีค่ะ”น้องเชอรี่ยกมือไหว้ทุกคนในโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงข้างๆน้องชมพู่ ทำให้ไอ้นนท์ต้องนั่งข้างผมแบบไม่มีสิทธิ์เลือก เพราะทั้งโต๊ะมันว่างอยู่ตรงนี้แค่ที่เดียว ใจผมเต้นไม่เป็นระส่ำเมื่อร่างสูงของมันเดินมาใกล้ๆ ผมไม่กล้าหันไปมองหน้ามัน มันก็ไม่ได้พูดอะไร
“พี่นนท์ เอาน้ำอะไรคะ”เสียงไอ้ฝนน้องรหัสผมยื่นหน้ามาถาม
“อ้าวๆ ทำไมถามแต่ไอ้นนท์ละครับน้องฝน พี่กับชมพู่ แล้วก็เชอรี่ ก็ยังไม่ได้น้ำเหมือนกันนะครับ”กล้ามันพูดเสียงดัง
“โห่ พี่กล้าก็นั่งใกล้ๆพี่โชคแล้วไง แต่พี่นนท์นั่งไกล”
“นึกว่าคิดอะไรกับเพื่อนพี่ซะอีก”อาร์มมันพูดบ้าง
“แล้วคิดได้มั๊ยคะพี่นนท์”มันพูดไม่อาย ทำเอาพวกที่เหลือหลุดหัวเราะ
“ลองถามพี่รหัสน้องฝนดูสิครับ” อ่าว ทำไมมันมาตกที่อยู่กูละ ผมหันขวับไปหามันทันที มันเพียงแค่ยักคิ้วกวนๆให้ผม
“ทำไมต้องถามพี่นิลละ อย่าบอกนะว่าพี่สองคน !”ไอ้ฝนยกมือปิดปาก ทำท่าตกใจแบบโอเว่อร์ เห็นแบบนี้เลยอดเอื้อมมือไปผลักหัวมันไม่ได้ เพราะน้องรหัสผมคนนี้มันชอบเชียร์ให้ผู้ชายได้กันเองนะสิครับ
“คิดอะไรของแกวะ มึงก็เหมือนกัน พูดเชี่ยไรขนลุก”
“น้องฝนไม่รู้อะไร ไอ้สองคนนี้ความจริงแล้วมันเป็นผัวเมียกัน”ไอ้โชคว่า
“เออ ไปกินเหล้าทีไรตัวติดกันตลอดไม่รู้ คิดดูสิผู้ชายเมาๆสองคนอยู่ด้วยกันจะเกิดอะไรขึ้น”ไอ้อาร์มว่าต่อบ้าง
“ยังไม่หยุด ชงเก่งกันจริงจังนะพวกมึง น้องเชอรี่เข้าใจกูผิดหมด”ผมเปลี่ยนเรื่องโดยการโยนไปหาน้องเชอรี่ที่นั่งอยู่ตรงหน้า น้องเขาเลิกคิ้วนิดๆ เหมือนงงๆ ว่าเกี่ยวไรกับน้องเขา
“น้องเชอรี่เกี่ยวไรวะ”
“ก็....”เกี่ยวไงละมึง คิดสิคิด
“....”
“...กูชอบน้องเขาอ่ะ”ไอสัส พูดอะไรออกไป อยากตบปากตัวเองอีกแล้ว
นิล 1 : มึงไปชอบน้องเขาตอนไหน ไอ้คนข้างๆมึงเนี่ยมึงยังตัดใจไม่ได้เลย
นิล 2 : ก็เพราะกูตัดใจไม่ได้นี่แหละ กูถึงได้บอกว่ากูชอบคนอื่นไง จะได้ไม่ต้องโยงไปหามัน
นิล 3 : กูไม่รู้กูเมา
สมองผมเริ่มส่งเสียงตีกันแล้วครับ
“...วิ้ววว”ไอ้โชคผิวปากแซวคนแรก ส่วนน้องเชอรี่หน้าขึ้นสีนิดๆ ไอ้พวกที่เหลือก็มองหน้ากันแล้วยิ้มนิดๆ
“เนี้ย ไอ้นิลคนจริง”ไอ้อาร์มว่าบ้าง
“ออกตัวแรงนะมึง”ไอ้กล้าพูด
“อะไร ยังไง พี่รหัส” ไอ้ฝนเอาศอกมาสะกิดผม
“เออ”
“โห พี่ย้ายมานั่งข้างเชอ มันเลยมั๊ยเนี่ย”น้องชมพู่พูดแซวๆ
“โห่ ไรวะพี่”พัตพูดบ้าง
“กูชอบเพราะเขาน่ารักดีเฉยๆ พวกมึงนี่ก็นะ น้องเขากลัวกูหมดแล้วมั้ง”น้องเชอรี่ไม่พูดอะไร เพียงยิ้มนิดๆเท่านั้น
ครืด ครืด
ผมหยิบโทรศัพท์มาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์แม่ของผมโทรมา เลยลุกขึ้นเดินออกไปทางห้องน้ำเพราะแถวนี้เสียงดัง
“อ้าวๆ เพิ่งบอกชอบน้องเขาอยู่หยกๆ ทำไมหนีไปคุยโทรศัพท์แล้ววะ”ไอ้โชคว่าเสียงดัง
“สัส แม่กูโทรมา”
พอเดินออกมาไกลแล้วผมเลยกดรับสาย
“(อยู่ไหนเนี่ยนิล ทำไมเสียงเพลงดังจัง)”
“นิลมาเลี้ยงสายไงแม่ นิลว่านิลบอกแม่แล้วนะ”
“(เอ้าเหรอ เออแม่ลืม)”
“แม่มีไรเปล่า”
“(ไม่มีอะไร โทรมาไม่ได้รึไง)”
“โห่ โทรได้คร้าบ ก็ปกติไม่เห็นโทรมาเวลานี้เลยสงสัย”
“(วันนี้เห็นแกไม่โทรมาไง)”
“ยุ่งๆนิดหน่อย เลยลืมอ่ะ”
“(เออๆ ยุ่งก็ยุ่ง แล้วจะกลับกันตอนไหน
“นี่เพิ่งมาเองแม่ ดึกๆนู่นแหละ”
“(ตอนกลับก็ขับรถดีๆ อย่าเมามากนะ)”
“ครับ แม่ทำไรอยู่”
“(ดูทีวีอยู่ ไม่มีอะไรแล้วแค่นี้นะ)”
“วางแล้วเหรอครับ ฝันดีนะแม่จุ้บๆ”
“(เออ)”
นี่ละครับแม่ผม ไม่ค่อยพูดอะไรหวานๆ แบบแม่คนอื่นเขาหรอก แต่ผมก็ชอบแบบนี้นะ สบายๆดี
“ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่เชียวนะมึง”ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงคุ้นหูดังขึ้นข้างหลัง ทำให้ต้องหันกลับไปมองทันที
“ไอ้เชี่ย ตกใจหมด”
“ขวัญอ่อนจังนะ”ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ไอ้นนท์ คนดีคนเดิม ไอ้หน้าใส ไอ้คนที่ผมชอบ
“ก็มึงมาเงียบๆนี่หว่า เป็นใครก็ต้องตกใจ”
“...”
“...”
“...”
“...”
มันเงียบ ผมเงียบ บรรยากาศแม่งโคตรจะดีเลย เกือบๆสองอาทิตย์หลังจากวันนั้น ผมแทบจะไม่ได้คุยกับมันเลยอาจเป็นเพราะปกติผมเป็นคนที่พยายามหาเรื่องคุยกับมัน พอผมเงียบ ก็เลยไม่มีบทสนทนาเกิดขึ้นระหว่างเรา อีกอย่าง มันเองก็คงจะไม่อยากคุยกับผม...ต่อให้ผมจะคุยกับมันหรือไม่คุยกับมันบางทีมันอาจจะไม่รู้สึกว่ามีอะไรหายไปเลยก็ได้
“กูว่ากูเข้าไปในร้านดีกว่า”ผมยิ้มให้มันแล้วจะเดินผ่านมันไป แต่ก็ต้องชะงักเพราะมือหนาๆของมันรั้งแขนผมไว้
“อะ อะไรวะ จับแขนกูทำไมเนี่ย”พอผมหันกลับมา มันเลยปล่อยแขนผม
“...มึงแม่งเปลี่ยนใจง่ายจังวะ”
“ห๊ะ”
“...วันนั้นยังบอกชอบกูอยู่เลย”
“...”
“..วันนี้มาบอกชอบน้องรหัสกูซะงั้น”
“...”
“...มึงคงไม่เคยบอกชอบพี่รหัสกูก่อนจะมาบอกชอบกูหรอกนะ”
“ไอสัส มึงคิดอะไรของมึงเนี่ย”หน้ามันตอนนี้โคตรงอ คิ้วขมวด ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร
“แล้วสรุปมึงชอบน้องเชอรี่จริงเหรอวะ”
“...ถ้ากูชอบน้องเขา แล้วมึงจะทำไม”
“น้องเชอรี่ไม่เหมาะกับมึงหรอก”
“แล้วใครละที่เหมาะกับกู มึงรึไง”
“....”ผมแค่นยิ้มนิดๆ ที่เห็นมันเงียบไป ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดไปแบบนั้น แต่มันไม่มีสิทธิ์มาบอกว่าใครเหมาะ ไม่เหมาะกับผม ในเมื่อมันปฏิเสธผมเอง ผมก็มีสิทธิ์ที่จะหาวิธีตัดใจจากมัน...
“มึงแม่ง...”
“....”
“รู้ป่ะ ตั้งแต่กูชอบมึง กูก็รู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ แต่กูยังดันทุรังบอกมึงไป ถึงแม้กูจะพอเดาคำตอบได้แต่พอกูได้ฟังจากปากมึงจริงๆ มันโคตรเจ็บเลยนะเว้ย แล้วถ้ากูยังเอาใจกูไปผูกติดกับมึงอีก...กูก็ไม่รู้ว่ากูจะต้องเจ็บไปถึงเมื่อไร กูไม่อยากเจ็บไปมากกว่านี้แล้ว”
“....”
“เชี่ย กูเอาอีกแล้ว กูตั้งใจจะไม่พูดเรื่องนี้กับมึงแล้วนะ กูขอโทษ กูจะไม่เข้าใกล้มึงอีก มึงเองทีหลังก็ทำเป็นมองผ่านกูไปซะ”ผมสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะมองหน้ามันแล้วยิ้มให้มันอย่างที่เคยยิ้ม
“...”
“...”ผมไม่มีอะไรจะพูด และก็ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้นานกว่านี้ เลยจะเดินออกมา แต่ไอ้เชี่ยนนท์มันก็รั้งแขนผมไว้อีก
“เออ”
“...”
“กูนี่แหละที่เหมาะกับมึง”
“...”
“...”
“อย่าเงียบดิไอสัส กูใจไม่ดี”เมื่อเห็นผมไม่ตอบอะไร มันเลยพูดขึ้นมา
“เมื่อกี้ มึงพูดว่าไงนะ”
“กูจะพูดอีกรอบเดียว ถ้ามึงยังไม่ได้ยินอีกก็เรื่องของมึง”มันทำหน้าหงุดหงิด พร้อมกับถอนหายใจแรงๆ
“กูนี่แหละที่เหมาะกับมึง!”
“….”
“....”
“....”
“แม่ง มึงเล่นแรงเกินไปแล้วนะไอ้นนท์”ถึงปากผมจะว่ามัน แต่ในใจผมมันกลับเต้นแรงและเร็วจนเหมือนมีคนมาตีกลองเป็นจังหวะเพลงร๊อคอยู่ข้างใน
“กูไม่ได้ล้อเล่น กูพูดจริงๆ”
“งั้นกูขอถามเหตุผล”ผมไม่อยากจะเชื่อหรอกครับ ว่าผู้ชายอย่างมัน ผู้ชายอย่างไอ้นนท์ อยู่ดีๆจะมาพูดว่า มันเหมาะกับผม นี่ผมไม่ได้เมาใช่มั๊ย
“...”
“...”
“ตอนแรกกูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึงหรอก แต่พอหลังจากวันนั้นวันที่มึงบอกชอบกู กูก็เอาแต่คอยมองหามึงตลอด คำพูดของมึงมันวนเวียนอยู่ในหัวกูไปมา แถมยิ่งมึงเอาแต่หลบหน้ากูก็ยิ่งทำให้กูหงุดหงิด ทั้งๆที่กูควรจะรู้สึกดีที่ไม่มีมึงมาอยู่ใกล้ๆ”
ตึก ตัก ตึก ตัก
“มึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับกูหรอก มันเป็นเพราะกูบอกชอบมึง มันก็เลยทำให้มึงคิดแปลกๆไปก็เท่านั้นแหละ มึงอาจจะแค่สับสน”
“มันไม่เหมือนกัน กับคนอื่นกูไม่เห็นจะเป็นเลย แต่กับมึง..แม่งกูไม่รู้ กูบอกไม่ถูก”มันขยี้หัวตัวเองไปมา
“...”
“แต่ที่แน่ๆ กูไม่ชอบที่มึงไปบอกชอบคนอื่นที่ไม่ใช่กู”
ตึก ตัก ตึก ตัก
“มึงพูดแบบนี้คือมึงจะคบกับกูว่างั้น”ผมพูดเสียงเบา
“เปล่า”
“อ้าว...”
“อ้าวอะไร มึงยังไม่จีบกูเลย”มันพูดแล้วยักคิ้วกวนๆมาให้
“แล้วถ้ากูจีบ มึงจะยอมเหรอ”
“หึหึ ก็ทำให้กูยอมให้ได้ดิ”
“กูบอกมึงเลยนะ ว่าคราวนี้กูจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ไม่ว่าจะปฏิเสธกูยังไง มึงก็หนีกูไม่พ้นแล้วนะ”
- END -
ชอบไม่ชอบยังไง ก็คอมเม้น ติชม พูดคุยกันได้นะ :)
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้า
:กอด1: