พิมพ์หน้านี้ - ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => พูดคุยทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: เด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ 08-03-2016 17:28:46

หัวข้อ: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ 08-03-2016 17:28:46
ถามได้เฉพาะเรื่องนิยายเหรอคะ
ปรึกษาปัญหาชีวิตได้มั้ย
หัวข้อ: Re: กระทู้พูดคุย สามรถถามเรื่องอะไรได้บ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 08-03-2016 19:02:31
สามารถปรึกษาได้ค่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: กระทู้พูดคุย สามรถถามเรื่องอะไรได้บ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ 08-03-2016 20:28:58
คือ...ดิฉันอยากฆ่าตัวตายมากๆเลยค่ะ ดิฉันคิดว่าตัวเองอาจเป็นโรคซึมเศร้า เเต่ไม่อยากไปหาหมอเลยค่ะ เพราะไม่บอกที่บ้านว่าตนเองเป็นอะไร แต่รู้สึกว่าช่วงนี้อาการหนักมากขนาดที่อยู่คนเดียวทีไรมักจะคิดเรื่องฆ่าตัวตายตลอด อย่างเมือวานก่อนถูกตำหนิเพราะโดนมีดบาดก็เฝ้าด่าเฝ้าตำหนิตัวเองว่าทำไมเป็นอีโง่แบบนี้ ดิฉันอายุ19ค่ะ ย่าง20 เพิ่งซิ่วจากที่เรียนมหาลัยมา จากที่ปกติเป็นคนเครียดอยู่แล้วรู้สึกช่วงนี้จะเครียดมากขึ้นอีก จนกลายเป็นหวาดระแวงและวิตกกังวลมากเลย ได้ยินเสียงหัวเราะพ่อแม่และน้องชายดังขึ้นมาถึงข้างบนบ้าก็คิดไปค่างๆนาว่าเขาคงกำลังเยาะเย้ยเราแน่ๆ(ดิฉันเป็นพี่คนโตถูกไล่ให้ไปอยู่อีกบ้านคนเดียว) ดิฉันรู้ตัวว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าตอน มัธยมปลายค่ะ ประมาณม.4เพราะดิฉันโดนกดดันและถูกบังคับให้เลิกเรียนเสีย ตอนนั้นดิฉันร้องไห้และขอร้องยายว่า 'อย่าให้เขาเอาอนาคตหนูไปเลยหนูจะไม่เกเรหนูจะตั้งใจเรียน'. จำได้ว่าช่วงนั้นดิฉันกลายเป็นเด็กเก็บตัวมากชอบเหม่อลอยแล้วก็มองท้องฟ้าไปเรื่อย จนยายทนไม่ไหวไปพูดกับแม่. พ่อเลี้ยงที่เป็นแฟนใหม่แม่ก็ช่วยพูดกับแม่ด้วย จนแกยอมรับและยอมให้ดิฉันเรียนต่อ แต่ให้เรียนโรงเรียนวัดที่อยู่ต่างอำเภอ แม่เอาฉันไปฝากไว้กับป้า. ป้าเป็นเเม่ค้าขายส้มตำอยู่ในตลาดใกล้ๆโรงเรียน วันเเรกที่ไปอยู่แกก็พูดดีด้วยค่ะ ดิฉันก็คิดว่าคงจะดีแน่ๆที่ได้มาอยู่กับแก ช่วงนั้นเป็นยังเป็นช่วงปิดเทอมอยู่ ดิฉันจึงต้องช่วยป้าขายด้วย แต่ดิฉันเป็นคนขยับตัวช้าบวกกับช่วงนั้นมีอาการเหม่อลอยเป็นพักๆ ตอนแรกแกก็แซวๆว่าคิดถึงแฟนหรือเปล่า แต่พอนานเป็นอาทิตย์เข้าดิฉันเริ่มถูกด่าทอ แต่ดิฉันก็เอาแต่ขอโทษแกอยู่รำ่ไป ดิฉันพยายามทำตัวให้ดีขึ้นแต่ก็เหมือนจะไม่ถูกใจแก ตอนเย็นแม่ก็โทรมาด่าทอฉันอีก ดิฉันรู้สึกเครียดมากจึงหาทางออกด้วยการขังตัวเองอยู่ในห้องและร้องไห้อย่างเดียว ตื่นเช้ามาตาบวมมากเลยค่ะ แต่พอนานวันเข้าดิฉันก็กลายเป็นชินชา. ดิฉันมักโดนตำหนิเสมอๆ ดิฉันไม่ค่อยยิ้มและไม่ค่อยมีเพื่อน ตอนนั้นดิฉันได้รู้จักกับเว็บไทยบอยเลิฟนี้เป็นครังแรก การอ่านนิยายนั้นทำให้ฉันเริ่มยิ้มได้ดิฉันเริ่มคุยกับคนอื่นมากขึ้น ช่วงนั้นเหมือนจะดีค่ะ แต่สุดท้ายดิฉันก็ต้องกลับมาเป็นอิหน้าเดียวเหมือนเดิม เพราะยายเสียค่ะเมื่อไม่มียายก็เหมือนแม่จะดุด่าฉันมากขึ้นมากขึ้น ฉันไม่รุ้จักพ่อของตัวเองและไม่รู้จักญาติๆเลยนอกจากป้า เหมือนฉันตัวคนเดียวมากค่ะ ฉันมีความคิดจะฆ่าตัวตายตั้งแต่ตอนนั้น  เห็นมีดแล้วเหมือนในหัวมันสั่งให้หญิบมาเชือดคอสะ หยิมมากรีดข้อมือสะ แบบนั้นตลอด  ครั้งนึงดิฉันทนไม่ไหวเพราะทะเลาะกับแม่และป้าก็เอาแต่ด่าทอ ดิฉันหยิบมีดขึ้นมาและกรีดลงไปบนแขนซ้าย แต่มีดไม่คมค่ะ เลยเป็นรอยขีดๆนิดเดียว ตั้งแต่นั้นเหมือนดิฉันไม่เปิดใจและไม่รับรู้อะไรเลยค่ะ ปิดเทอมกลับบ้านไปโดแม่ด่าทอและทำร้ายร่างกายก็แค่ทำหน้านิ่งๆ ส่วนพ่อเลี้ยงและน้องชาย(ลูกใหม่ของแม่และพ่อเลี้ยง)ก็ไม่ได้เข้ามาช่วยอะไร แล้วยังชอบใช้งานเราเหมือนเป็นขี้ข้าเขาเลย เราก็ทำค่ะ เพราะยายชอบสอนเราเสมอว่าให้ทำดีกับเขาเพราะเขาหาเลี้ยงเรา. เราจำคำนั้นใส่หัวมาตลอดและไม่เคยเถียงไม่เคยบ่น เราเป็นคนไม่ค่อยพูด เพราะเราไม่กล้าที่จะเปิดปากพูดกลัวเขาจะลำคาญ ทุกครั้งที่เขาไปเที่ยวไปซื้อของเขาไม่เคยพาเราไปด้วยเลยค่ะ จะไปกันแต่สามคนพ่อแม่ลูก ส่วนเราก็อยู่บ้านค่ะ เขาไม่เคยเรียกเรากินข้าวเลยค่ะ เท่าที่จำได้มีอยู่ครั้งเดียวมั้งตอนญาติพ่อเลี้ยงมาบ้าน เราก็ต้องไปค่ะเพราะรู้ว่าถ้าไม่ไปคงโดนฟาดแน่ๆ ดิฉันไม่ผูกพันธ์กับแม่เลยอาจเป็นเพราะแม่ไม่ได้เลี้ยงดูเราไม่ได้คลุกคลีกับเราเท่ายาย ดิฉันจึงไม่ผูกพันธ์กับเขาเท่าไหร่ จนสันหนึ่งในช่วงปิดเทอมของม.6. ดิฉันแตกหักกับพวกเขารุนแรงมาก เพราะพวกเขาบังคับให้ดิฉันไปทำงานเละไม่ให้เรียนต่อทั้งๆที่ดิฉันสอบได้แล้วในมหาลัยที่อยู่ค่อนข้างใกลจากจังหวัดที่อยู่พอควร ดิฉันที่เคยเงียบมาตลอดเถียงกลับเขาทั้งนำ้ตา จนสุดท้ายเขาอาจสงสารหรือสมเพชจึงส่งฉันไปทำงานเก็บเงินก่อนเปิดเทอม ได้ประมาณหมื่นกว่าบาท. แต่อนิจจาโรคที่ฉันเป็นมันกระทบกับชีวิตประจำวันฉันทำให้ฉันไม่มีใครคบ มีงานมีการที่มหาลัยดิฉันมักได้ทำคนเดียวเสมอ ไหนจะต้องทำงานตอนเย็นทำให้เวลาเรียนไม่พอจึงคิดว่าไม่ไหวแล้จึงซิ่วออกมา ก็ถูกเขาด่าดูถูกดูหมิ่นไปตามระเบียบจนคิดตลอดว่าจะอยูไปทำไม สู้ตายๆไปซะดรกว่า

พิมพ์ในมือถืออาจผิดๆถูก ขอโทษด้วยแล้วกกันนะค่ะ
ขนาดพิมพ์ในมือถือยังยาวขาดนี้
หัวข้อ: Re: กระทู้พูดคุย สามรถถามเรื่องอะไรได้บ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: Baztile ที่ 08-03-2016 23:05:54
สวัสดีค่ะ พอดีผ่านมาเห็น อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย ใจความสำคัญของเราคือลองพบจิตแพทย์ดูนะคะเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้ ข้างล่าง เป็นความคิดเห็นของเรา เราไม่รู้ว่าคุณอ่านแล้วจะรู้สึกแย่กว่าเดิมหรือเปล่า ถ้าเป็นไปได้ ก็รอความเห็นของท่านอื่นก่อนก็ได้นะคะ เผื่อว่าจะดีกว่านี้ เราเองก็มีปัญหาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเหมาะสมไหมที่จะมาเม้นท์อย่างนี้

มันเป็นไปไม่ได้เลยค่ะที่จะหายจากอาการซึมเศร้าโดยไม่พึ่งยา และยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ กับการมองโลกแบบเดิมๆ เราคิดว่าคุณเองก็ยังหวังอยู่ว่าชีวิตจะดีขึ้นกว่านี้จึงตั้งกระทู้ขึ้นมา แสดงว่าคุณเองก็ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ อย่าเพิ่งตัดความช่วยเหลือจากยาของจิตแพทย์เลยค่ะ โรคซึมเศร้าเกิดจากสารสื่อประสาททำงานผิดปกติ ทำให้เซโรโทนินลดลง และการทำให้มันเพิ่มขึ้นมาก็ยากยิ่งกว่าอะไร การหาจิตแพทย์อาจจะทำให้คุณถูกมองในแง่ลบ หรือแม้แต่ทำให้คุณรู้สึกแย่กว่าเดิมเพราะคุณรู้สึกว่าคนรอบข้างไม่เข้าใจปัญหาของคุณเลย แต่มันดีกว่าปล่อยให้ตัวเองอยู่กับโรคโดยไม่ได้ทำอะไร เพราะอย่างน้อยคุณก็ยังสร้างความหวังขึ้นมาได้นิดหน่อยว่าคุณจะหาย มันดีกว่าการคิดอย่างเดียวว่า เมื่อไหร่จะหายไปจากสถานการณ์บ้าๆอย่างนี้สักที  อีกอย่างคือสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณ อาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าเมื่ออยู่ในที่ที่หนึ่ง แต่การพยายามทำให้สภาพแวดล้อมเดิมเปลี่ยนไปแบบที่คุณหวังให้เป็น มันก็ยาก การตามหาที่ที่ทำให้คุณสบายใจอาจจะง่ายกว่าด้วยซ้ำ ตอนนี้คุณพบแล้วว่าคุณสบายใจที่จะระบายปัญหาของคุณในบอร์ด ก็ลองหาที่ที่ทำให้คุณสบายใจในชีวิตจริงดู แล้วมันก็ดีกว่าด้วยซ้ำถ้าได้เจอสภาพแวดล้อมที่ใหม่จริงๆ แบบที่คุณไม่เคยรู้จักใครเลย

เราไม่รู้ว่าจะให้คำปรึกษายังไงกับสิ่งที่คุณเจออยู่ ขอโทษด้วยนะคะ ปกติแล้วเราเล่าปัญหาของเราให้นักจิตวิทยาฟังค่ะ แต่ก็ต้องยอมเสี่ยงด้วยว่า ถ้ารู้สึกว่าทั้งหมอทั้งนักจิตวิทยา ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น จะรู้สึกแย่รู้สึกสิ้นหวังกว่าเดิมหรือเปล่า เพราะเราเองก็ฝากความหวังไว้มากเหมือนกัน ถึงตอนนี้ยังไม่ดีขึ้นกว่าเดิม แต่มันดีกว่าการอยู่กับความคิดด้านลบของตัวเองอย่างเดียว เราอายุเท่าคุณเลยค่ะ 19เข้า20เหมือนกัน คนอายุขนาดเรา ไม่น่าต้องมาจมอยู่กับความรู้สึกแบบนี้เลย ทั้งๆที่น่าจะมีความสุขได้มากกว่านี้ หรือรู้ว่าความจริงแล้ว ชีวิตเรายังมีเรื่องให้เครียดกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ ข้อหลังเรามักจะคิดบ่อยๆเวลาที่ตัวเองรู้สึกแย่ขึ้นมาค่ะ คือพยายามคิดว่า มันไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุดในชีวิตเรา ลองไปรู้จักกิจกรรมใหม่ๆที่เราไม่เคยทำมาก่อน หรือตั้งความหวังกับอะไรสักเรื่อง เล็กๆน้อยๆแล้วพยายามทำให้สำเร็จ ก็ทำให้เห็นค่าเล็กๆน้อยๆของตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้ารู้สึกว่าไม่ช่วยอะไรก็ขอโทษด้วยนะคะ ทั้งหมดที่พิมพ์ไว้ เราจำมาจากเวลาคุยกับหมอ คุยกับนักจิต พรุ่งนี้เราก็ต้องไปพบจิตแพทย์เพราะมีภาวะซึมเศร้าเหมือนกัน ตอนที่ไปครั้งแรก ไม่ได้บอกที่บ้านว่าเป็นอะไร ไม่อยากให้ที่บ้านรู้เหมือนกัน ที่บ้านรู้ตอนที่หมอโทรไปขอแอดมิดเรา (แต่เราไม่ได้แอดมิดค่ะ) อยากให้ลองพิจารณา ว่าจะรับความช่วยเหลือจากคนที่เรียนมาเพื่อรักษาคนอย่างเราไหม หรือถ้ายังอยากสู้ด้วยตัวเอง ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ชีวิตคนมีค่า ไม่ใช่ค่าแบบคุณค่า แต่เป็นค่าในฐานะตัวแปรของระบบ การมีตัวตนอยู่เลยไม่สามารถไร้ค่าได้ และการหายไป ก็ส่งผลกับระบบเหมือนกัน ตอนนี้อาจจะยากที่จะหาว่าอยู่ไปทำไม แต่การอยู่ แล้วได้ตามหาว่าตัวเองอยู่ไปทำไม มันก็ดีเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: กระทู้พูดคุย สามรถถามเรื่องอะไรได้บ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ 08-03-2016 23:50:03
ดิฉันคิดว่า ดิฉันไม่อยากรักษาโรคนี้เลยค่ะ เพราะคิดว่าคนที่บ้านเขาคงไม่เข้าใจโรคที่ดิฉันเป็น เมื่อดิฉันบอกเขา เขาอาจเอาเรื่องที่ดิฉันบอกไปเล่าต่อคนอื่นจนคนรู้ไปทั่ว ดิฉันมักคิดแบบนี้ค่ะ จนกลายเป็นไม่กล้าบอก เพราะหลายครั้งที่ดิฉันพูดปัญหาของตัวเองให้เขาฟังเขามักจะต่อว่าและเล่าให้คนอื่นฟัง ดิฉันจึงไม่กล้าพูด สักครั้งดิฉันอยากไปพบกับจิตแพทย์แต่กลัวค่ะ กลัวตัวเองจะมีประวัติว่าตัวเองเคยเป็นโรคจิตเภท แล้วเวลาไปทำงานเขาจะไม่อยากรับเรา กลัวว่าคนอื่นเขาจะมองไม่ดี ถ้ามีโอกาศได้เรียนอีกก็กลัวมีปัญหา กลัวที่บ้านจะต่อว่าจะตำหนิ กลัวไปหมดค่ะ หวาดระแวงด้วยค่ะบางทีเขาไม่ได้พูดเรื่องเราก็คิดว่าเขาพูด นอนไม่ค่อยจะหลับเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-03-2016 11:08:07
เอางี้นะคะ  พาตัวเองออกมาสัมผัสแสงแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าและเย็นบ้าง

ก็จะช่วยได้เยอะเลย

ลองดูน้า  แล้วอย่าลืมมาบอกผลด้วยนะคะ 
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-03-2016 11:10:21
ปล.  ไม่กล้าบอกใคร  ก็เขียนลงในกระทู้นี้ก็ได้คะ

เวลาเขียนก็ เว้นวรรคหน่อย

อย่าเขียนยาวๆ ติดกันเป็นพืด

คนไทยไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ ค่ะ 5555

สู้ๆ น้า 

ปลล. โรคซึมเศร้า  ไม่ได้น่ารังเกียจหรอกคะ  คนในสังคมเป็นกันเยอะ  บางครั้งขึ้นอยู่กับระดับสารเคมีในสมอง  ทำให้เราต้องไปรับยาเพื่อปรับสมดุล

มันเป็นกลไกของร่างกายคะ  ไม่ต้องคิดมาก  หรือดูถูกตัวเองนะคะ 
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 16-03-2016 13:57:20
สู้ๆน่ะคะเป็นกำลังใจให้  คุยกับเราก็ได้คะ
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 22-03-2016 21:42:55
ถ้ามีโอกาสลองไปพบหมอดูนะ คนไทยอาจมองเป็นเรื่องแปลก แต่จริงๆมันควรรักษานะ รักษาได้อาจรอดนะครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กน้อยไร้เดียงสา ที่ 31-03-2016 15:55:08
คอนนี้ดิฉันรู้สึกว่าอาการดีขึ้นมากเลยค่ะ
เมื่อดิฉันเปิดใจที่จะคุยกับใครสักคนดิฉันพบว่าความเครียดที่หนักหนานั้นมันลดลงได้ แม้จะแค่นิดนึงก็ตาม
แต่ความคิดที่จะฆ่าตัวตายลดลงบ้างแล้ว จากที่เมื่อก่อนทุกครั้งที่เห็นกิ่งไม้ ดิฉันมักมีความคิดว่ากิ่งไม้กิ่งนี้น่าผูกคอตายดีแฮะ
ตอนนี้ลดลงมากแล้วค่ะ แต่มันอาจจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้
เมื่อถึงตอนนั้น ฮ่ะฮ่ะ ดิฉันอาจจะตายไปก็ได้
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: Tim-Tam ที่ 01-04-2016 22:11:01
ขอตอบในฐานะคนทำงานเกี่ยวกับด้านสุขภาพจิตนะคะ

ทางที่ดีที่สุดคือไปหาจิตแพทย์ค่ะ เราไม่จำเป็นต้องเปิดเผยให้คนอื่นทราบว่าไปรักษา ไปหาเองคนเดียวก็ได้ค่ะ

ตอนนี้น้องยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ แสดงว่าอาการไม่หนักมากแต่ไม่ควรปล่อยไว้แบบนี้นะคะ

หากได้ทานยาตามคำแนะนำของหมอแล้ว อาการทุกอย่างก็จะดีขึ้น ยาจะไปช่วบปรับสารสื่อประสาทในสมอง

ทำให้ไม่รู้สึกหดหู่ และซึมเศร้า การไปรักษาไม่น่ากลัวเลยค่ะ หรือจะลองโทรไปที่ 1667 สายด่วนสุขภาพจิตดูก่อนก็ได้ค่ะ

สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 03-04-2016 07:18:30
โรคซึมเศร้าส่วนใหญ่จะเกิดในช่วงมหาลัยคต
สังเกตจากกระทู้ปรึกษาปัญหานพันทิป เพื่อนรอบตัวและตัวเองคะ
ยิ่งช่วงประมาณปี2-ปี4 มักจะเป็นกันอาจด้วยเพราะต้องปรับตัวในหลายๆเรื่อง
และเป็นการเผชิญหน้ากับความจริงในสังคมเป็นรอยต่อระหว่างวัยรุ่นกับผ5้ใหญ่คะ
สิ่งที่ดิฉันบอกอาจไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาเพราะตัวดิฉันยังเป็นอยู่(ตามแต่ดวงในแต่ละเดือน
ถ้าดวงดีดิฉันก็มีความสุขในชีวิต ถ้าดวงเป็นซึมเศร้าดิฉันก็เป็นตามดวง)
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 03-04-2016 07:24:36
วิธรแก้ปัญหาโรคซึมเศร้าที่ดีที่สุดคืออย่าอยู่คนเดียวมิฉะนั้นจะฟุ้งซ่าน
หาคนสนิทหรือไว้ใจได้ ไม่รู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ด้วยเพื่อพูดคุยกัน
งานที่หนักและเยอะจะสามรถแก้โรคซึมเศร้าได้เพราะเราจะเอาเวลาไปเครียดเรื่องงาน
เรื่องสอบเรื่องการกำหนดส่งแทนที่จะเอาเวลาไปหาวว่าควรจะตายยังไงดี
โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่กลัวและวิตกกัลวลในการเดินทางมากๆคะ
แล้วยิ่งคณะเราต้องออกภาคสนามเยอะมากๆแล้วเวลาเดินทางเราไม่มีความสุขเลย
อึดอัด ไม่อยากไป   เครียดและซึมเศร้ามากๆแต่เราต้องฝืนตัวเองตีสนิทกับคนที่น่าจะคุยง่าย
นั่งอยู่คนเดียวไม่มีก๊กแก็งค์เท่าไหร่แล้วเราจะมั่นใจมากขึ้นตอนเดินทางคะ
แต่ถึงกระนั้นดิฉันก็ยังไม่หายขาดจากโรคซึมเศร้า. เชื่อว่าจะสามารถหายขาดได้เมื่อเรียนจบแล้ว
ไม่ต้องเรียนต้องเดินทางซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ชอบ ซึ่งเวลาของฉันก็เหลืออีกตั้ง1ปี
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าคะ
หัวข้อ: Re: ขอคำปรึกษา ปัญหาโรคซึมเศร้า
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 03-04-2016 07:28:16
อีกอย่างคือต้องหาสิ่งที่ตัวเองชอบและมีความสุขห้าได้
ทุ่มเทไปกับมัน ตั้งปณิธานว่าเรามีชีวิตอยู่เพื้อสิ่งร้
ไม่ต้องโลกสวยว่ามีชีวิตอยู่เพื่อใคร ไม่อยากให้ใครเสียใจ
เราต้องมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเองคะ เช่น ถ้าชอบกิน ต้องคิดว่าชาตินี้ต้องตระเวนกินทั่วประเทศไทยก่อนทยอย
ต้องตระเวนกินอาหารอร่อยๆในญี่ปุ่นให้ได้
ถ้ารักการเขียน ต้องเขียนนิยายให้ดีที่สุดแล้วลงให้คนอ่าน