พิมพ์หน้านี้ - ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: เขียนสือ ที่ 13-02-2016 19:42:50

หัวข้อ: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 13-02-2016 19:42:50
ข้อตกลงในการเข้ามา  กรุณาอ่านทุกท่าน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย
หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบน
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้
เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด  คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
ส่วนการพูดคุยนั้น  ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้
หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชาย
เข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
5.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
6.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ยกเว้นแนะนำนิยายหรือเรื่องราวที่อยากให้เพื่อนๆตามไปอ่านแล้วขอมาลงไม่สะดวก และช่วยกรุณาโพสลิงค์ที่บอร์ดนั้นกลับมาที่เวป http://www.thaiboyslove.com แห่งนี้ด้วยนะครับ เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับ
7.ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
8.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
ให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่า
แล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ด
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
9.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
10.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
อ่านเพิ่มเติม ที่นี่เจ้าค่ะ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



นิยายเรื่องนี้เป็นรุ่นลูก ภาคต่อมาจากเรื่อง 'คุณเมียภาคบังคับ' นะคะ

ถ้านักอ่านท่านใดยังไม่เคยได้อ่านหรือกลัวจะอ่านเรื่องนี้ไม่รู้เรื่องก็เชิญไปอ่านรุ่นพ่อแม่ก่อนได้เลยจร้า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง Up.บทนำ (13.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 13-02-2016 19:46:23
 

09/02/59   

 

ภาครักนี้...พี่กะน้อง / ภาคเรียนที่หนึ่ง

(ภีม & เจ้านาย)

 

 

ไม่ว่าน้องภีมของพี่จะเป็นยังไง พี่เจ้านายคนนี้ก็ยังคงรักน้องเสมอและจะรักตลอดไป

พี่ขอสัญญาว่าต่อให้ฟ้าจะถล่ม ดินจะทลาย ถ้าไม่ใช่น้องภีมที่จะมาเป็นเจ้าสาว(?)ของพี่แล้ว

พี่ก็จะไม่ขอรักใครอีกต่อไป...พี่สาบาน.....เปรี๊ยง!!(เฮ้ยๆ เจ้านายแกอย่าสาบานเลย...เดี๋ยวน้ำท่วมโลก)

 

 

 

#

ภีม :: พีรภัทร อัครจินดากรณ์

ลูกชายฝาแฝดคนกลางของเจ้าสัวณัฐภาสและคุณพัสกร อัครจินดากรณ์

เจ้าของธุรกิจค้าเพชรพลอยข้ามชาติแห่งประเทศไทยรายแรกของประเทศ

และยังมีธุรกิจโรงแรมหกดาวในเครือ 'จินดากรณ์' อีกหลายแห่งทั่วประเทศ

 มีพี่น้องทั้งหมด3 คน เป็นแฝดพี่และแฝดน้องของตนสองคนกับน้องสาวคนสุดท้องอีกหนึ่งคน

 

 

 

#

เจ้านาย :: ชลธาร ยศวโยธิน

ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนโตของคุณป๋าเจ้าคุณ เจ้าพ่อสถานบันเทิงขนาดใหญ่

ที่มีทั้งไนท์คลับและสนามแข่งรถเถื่อนในแหล่งท่องเที่ยวตามหัวเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯและภูเก็ต

กับคุณธารา ยศวโยธินที่นั่งแท่นดำรงตำแหน่งประธานบริษัทไทยมุกงามอยู่ในขณะนี้

 

 

 

 

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

มาแล้วจร้า 'ภาคลูก' เรื่องแรกขอเจิมด้วยคู่ที่คุณก็รู้ว่าใครกันดีกว่านะคะจะได้ไม่ต้องลุ้นกันมาก...ฮ่าๆ

ตามกติกาคะ มี่จะลงตามความสนใจและความเรียกร้อง(?)ของประชาชน(?)คนอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ

เม้นๆ กันเข้าไว้ เม้นเยอะมาไว เม้นน้อยไอ้มี่ติสแตก...กลับเข้าสู่สภาวะดองยาวววววว......แล้วเจอกันค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง Up.บทนำ (13.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 13-02-2016 19:47:47
 

13/02/59
 
 
ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทนำ
 
 
 
 
#
 
 
      เป็นเวลาห้าปีที่แล้ว ตั้งแต่เจ้านายและแฝดสามเรียนจบการศึกษาระดับมัธยมต้นที่โรงเรียนนานาชาติ
ในจังหวัดบ้านเกิดในปีเดียวกันและโรงเรียนเดียวกันแล้ว น้องภีมฝาแฝดคนกลางสุดที่รัก ว่าที่เจ้าสาว(?)
ในอนาคตของพี่เจ้านายคนนี้ก็เลือกที่จะเดินทางไปเรียนต่อในชั้นมัธยมปลายที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเพราะ
น้องภีมสอบติดโรงเรียนมัธยมอันดับหนึ่งที่ดีที่สุดของที่นั่นได้
 
       ทั้งที่การเรียนในระดับชั้นมัธยมปลายที่นั่นก็ใช้ระยะเวลาแค่สามปีในการจบการศึกษาเหมือนกัน แต่นี่
ก็ปาเข้าไปตั้งห้าปีแล้วนะ...ห้าปีแล้ว!!! ทำไมน้องภีมสุดสวาทขาดใจของเขาถึงไม่ยอมกลับมาบ้านเกิด
เมืองนอนที่แสนอบอุ่นอย่างประเทศไทยสักที หรือว่าน้องนาง(?)หลงแสงสีหลงวัฒนธรรมของเมือง
มหาอำนาจของโลกอย่างประเทศนั้นจนลืมพี่เจ้านายสุดหล่อว่าที่เจ้าบ่าว(?)ในอนาคตของตัวเองไปแล้ว
อย่างนั้นหรือ.....
 
 
       .......พูดแล้วอยากจะร้องไห้ (แต่ต้องแอบปาดน้ำตาเบาๆ....เดี๋ยวเขาจะหาว่าพี่ไม่แมน) เฮ้ออออ....
 
 
 
 
 
 
_______________________________________________________________TBC.
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทนำ (13.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Forever_Love ที่ 14-02-2016 07:57:30
สงสัยน้องภีมสุดสวาทขาดใจของพี่เจ้านายกำลังฟิตหุ่น
เพื่อกลับมาเป็นเจ้าบ่าว เอ๊ยยย เป็นเจ้าสาวอยู่นะลูก อิ อิ
อยากอ่านรุ่นลูกต่อแล้วคนเขียนกลับมาต่อไวๆนร้า  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หนึ่ง (13.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 14-02-2016 09:44:01
14/02/59

 
ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่หนึ่ง
 
 
 
 
 
       เพี๊ยะ!!
 
       เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อดังลั่นจนนักศึกษาที่เป็นลูกค้าในร้านกาแฟข้างตึกคณะบริหารแห่งนี้ต่างก็ได้ยินกันอย่างทั่วหน้า
ชัดทั้งภาพและเสียงเต็มสองหูสองตา ก่อนที่สถานะการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติเมื่อฝ่ายหญิงที่เป็นคนลงฝ่ามือ เดินฟึดฟัด
ออกจากร้านไปอย่างหัวเสียทิ้งไว้แต่คู่กรณีฝ่ายชายที่กำลังยืนซี๊ดปากดูดนมเย็นสีชมพูอยู่ที่เดิมอย่างสบายใจ(?)
.
.
.
       "มาแล้วโว้ยย!! มาแล้ววว...ไอ้นายมันกลับมาแล้วโว้ยยย...." เสียงโห่ร้องต้อนรับ(?) ชายหนุ่มหน้าหวาน
รูปร่างบางสูงโปร่งจมูกโด่งผิวขาวจ๊วะ ที่กำลังเดินหน้ายุ่งดูดนมเย็นสีชมพู(ยังไม่หมดอีก?) เข้ามาในคณะ
ของตัวเอง หลังจากที่ถ่อเอาหนังหน้าสวยๆที่แม่ให้มาไปรับฝ่ามืออรหันต์ของคู่นอนคน(ที่เก้า)ล่าสุดของตนถึง
คณะบริหารของแม่สาวอกอึ๋มคนนั้น ซึ่งเป็นการเดินทางที่ช่างแสนยาวไกลเสียเหลือเกิน เพราะคณะบริหา
สุดไฮโซนั่นตั้งอยู่ในโซนหน้าของมหาวิทยาลัย  ซึ่งแตกต่างจากคณะประมงของเขาที่เหมือนพวกเด็กดอย
หลังเขาก็ไม่ปาน เพราะตั้งอยู่ในส่วนลึกท้ายสุดขอบเนื้อที่ของมหา'ลัยเลย...กันดารจริงจังเถอะพ่อคุณเอ้ย!!!
 
       "เป็นไงบ้างว๊ะไอ้นายตกลงแล้วน้องน้ำหวานสุดสะบึมเขาเรียกมึงไปหาทำไม? หรือจะเรียกไปนัดเวลา
กินตับรอบต่อไปอย่างที่พวกกูคิดไว้รึเปล่าว๊ะ?" พวกเพื่อนๆในคณะของชายหนุ่มแย่งกันรุมถามด้วยความ
อยากรู้อยากเห็นจนไม่ทันได้สังเกตุรอยแดงรูปฝ่ามือที่ขึ้นโชว์หลาอยู่บนแก้มซีกซ้ายของเพื่อนเลย เพราะ
น้องน้ำหวานสุดสะบึมที่พวกเขาพูดถึงกันอยู่นี่ คือดาวคนล่าสุดของคณะบริหารสุดไฮโซที่โดนไอ้หนุ่มหล่อ
หน้าหวานเสียยิ่งกว่าผู้หญิงประจำคณะประมงสุดโลโซของพวกเขาสอยมาเสียบได้ในที่สุด จึงเป็นเหตุให้
บรรดาหนุ่มกากๆเกรียนๆในคณะประมงแห่งนี้อิจฉาไงครับ
 
       "กินตับบ้านลุงพวกมึงดิ! แมร่ง! เจ๊แกเรียกกูไปกินตบชัดๆ เนี่ยๆ พวกมึงแหกตาดูกันบ้างสิครับ เห็นไหม
ว่ารอยมือเจ๊แกประทับอยู่เต็มแก้มกูเลยเนี่ย!! เชี่ย!! ไม่รู้ที่บ้านเจ๊แกให้แดกอ้อยแดกกล้วยเป็นอาหารหลักรึไง
ถึงได้แรงช้างขนาดนี้...กูเจ็บชิบหายเลย..สาดดด" ชายหนุ่มชี้หลักฐานซึ่งเป็นรอยฝ่ามือให้เพื่อนๆ ของตัวเองดู
พลางพูดบ่นอย่างหงุดหงิดเพราะเริ่มรู้สึกระบมแก้มข้างที่เพิ่งจะโดนตบขึ้นมาบ้างแล้วหลังจากที่ความชาก่อน
หน้านี้เริ่มจะหายไป
 
       'เจ้านาย' หรือ ยอดชายนายชลธาร ยศวโยธิน ลูกชายคนโตของป๋าคุณ เจ้าพ่อสถานบังเทิงที่เป็นเจ้าของ
ไนท์คลับและสนามรถเถื่อนในแหล่งท่องเที่ยวหัวเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ตกับคุณธารา ยศวโยธิน
ที่นั่งแท่นดำรงตำแหน่งประธานบริษัทไทยมุกงาม แทนคุณนายมณีผู้เป็นยายของเจ้าตัวที่ได้วางมือจากธุรกิจ
ลงแล้ว
 
       ยิ่งโตมากขึ้นเท่าไรเจ้านายน้อยตัวแสบทายาทคนโตของป๋าคุณและแม่ธารจ๋าก็ยิ่งมีเค้าเหมือนกับธารา
ผู้เป็นแม่เพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ จะเรียกว่ายิ่งโตยิ่งสวยเหมือนแม่ก็ว่าได้ แถมยังคงพกนิสัยความกากความเกรียน
ของป๋าคุณเจ้าสุดที่รักติดตัวมาเกินร้อยด้วยเช่นกัน ตอนนี้เจ้านายมีอายุครบยี่สิบบริบูรณ์แล้ว และกำลัง
ศึกษาอยู่คณะประมง สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล ในมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครเมืองหลวง
ของประเทศไทย งานหลักคือการเรียนหนังสือให้จบปริญญาตามที่เคยสัญญากับพ่อแม่เอาไว้ ส่วนงาน
รองคือการคุมสนามแข่งรถเถื่อนสาขาใหญ่ในกรุงเทพฯ ตามคำสั่งของป๋าเจ้าคุณ เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินใช้ไง
(ป๋าบอกมาอย่างนั้น) ส่วนไนท์คลับที่เคยมีอยู่หลายสาขาที่กรุงเทพฯในอดีต ป๋าคุณของเขาก็ยุบมาเหลืออยู่
ที่เดียวแต่โคตรจะใหญ่ให้ไอ้เจ้าพระยาน้องชายคนรองของเขาดูแลอยู่ ส่วนไอ้เจ้าสมุทรน้องชายคนสุดท้องที่
เป็นฝาแฝดกับไอ้เจ้าพระยาก็ช่วยป๋าคุณดูแลกิจการและเรียนอยู่ที่ภูเก็ตบ้านเกิดโน่น
 
       "แล้วคราวนี้มึงโดนน้องมันตบมึงเรื่องอะไรวะอย่าบอกนะว่าน้องมันจับได้ว่านอกจากมันแล้วมึงมีกิ๊กซ่อน
เอาไว้อีกแปดคนอ่ะ" มอสหนึ่งในเพื่อนสนิททั้งสองคนของเจ้านายพูดเดา แต่ก็แม่เหมือนกับตาเห็น แต่เรื่องนี้
มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เป็นเรื่องซ้ำๆ เดิมๆ ที่วนลูปซ้ำไปมาอยู่ในวงจรชีวิตของเจ้านายบ่อยๆ เองนี่แหละ
เพื่อนๆ ของเจ้านายถึงไม่ต้องใช้สมองคิดก็ตอบออกมาได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
 
       "เออ!! แถมแมร่งมันยังแช่งให้กูมีผัวอีกต่างหากเพราะมันบอกว่ากูเสือกหน้าสวยกว่ามัน แค่มันยอมนอน
กับกูที่เหมือนนอนกับทอมก็บุญนักหนาแล้วยังจะมาทำสันดานอย่างนี้ใส่มันอีก...มึงดู๊!! มึงดู..มันว่ากูซิแมร่ง!!
อย่าให้กูเจอข้างนอกนะมึง...พ่อจะให้เด็กที่สนามดักจิ้มแมร่ง!!!" เจ้านายเล่าให้เพื่อนฟังอย่างเข่นเขี้ยวเขี้ยวฟัน
เพราะยังไม่หายโกรธเรื่องที่โดนด่าว่าหน้าสวยเหมือนทอม...ทอมบ้านป้ามรึงจิ๊...จะเอาแท่งจิ้มจิ๊...มรึงได้อ่ะ...อีห่าราก!!!
 
       "กร๊ากกกก....น้องมันก็พูดถูกนิ!...กูบอกมึงแล้วไงว่าหน้าอย่างมึงไปเป็นผัวใครเขาไม่รอดหรอกไอ้นาย
กูว่ามึงเปลี่ยนจากมีเมียไปหาผัวเป็นของตัวเองดีกว่ารุ่งกว่าเยอะ!!! ฮ่าๆ" เลย์เพื่อนสนิทอีกคนของเจ้านาย
พูดไปหัวเราะไปอย่างสะใจ เมื่อได้ฟังสิ่งที่เจ้านายเล่า เพราะพวกเขาเคยบอกมันแล้วว่าหน้าสวยๆอย่างมันอ่ะ
ไม่เหมาะที่จะไปเป็นผัวของใครเขาหรอก ให้มันหาผัวเป็นของตัวเองดีกว่า เหมาะกว่าเยอะ...หมอเลย์ฟันดะ!!
 
       กลุ่มของเจ้านายมีทั้งหมดสามคนถ้วนรวมเจ้านายอยู่ในนั้นแล้วด้วย คนแรกคือตัวของเจ้านายเอง
ส่วนคนที่สองคือมอส และเลย์เป็นคนสุดท้าย มอสและเลย์เป็นเพื่อนเล่นและเพื่อนที่เรียนด้วยกันมา
ตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่ของทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว พ่อของมอสและเลย์เป็นตำรวจยศใหญ่ด้วยกัน
ทั้งคู่ ส่วนแม่ๆ ก็เป็นแม่บ้านเหมือนกัน การที่มีมอสและเลย์เป็นเพื่อนทำให้กิจการสนามแข่งรถเถื่อนของ
เจ้านายอยู่รอดปลอดภัยและเคลียร์คดีได้ง่ายขึ้นเเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ เพราะมีพ่อของทั้งสองคนช่วย
เป็นเกาะป้องกันและคอยหนุนหลังให้อยู่.....งานนี้สบายบรื๋อสะดือโบ๋
 
       "โว้ยยย...กูไม่คุยกับพวกมึงแล้วไอ้ไอ้เพื่อนเชี่ย!!!" เจ้านายโวยพร้อมกับคว้ากระเป๋าเป้คู่ใจขึ้นสะพายไหล่
เดินหนีเสียงหัวเราะของสองเพื่อนซี้สองตัว ที่วันๆ ขยันจ้องแต่จะหาผัวแทนเมียให้เขาเสียเหลือเกินไอ้พวกเวร
...อย่างพี่เจ้านายคนแมน(?)คนนี้ไม้ต้องพึ่งใครหรอกว้อยเรื่องนี้อ่ะ เพราะพี่มีนายในดวงใจว่าที่เจ้าสาว(?)ของ
พี่อยู่แล้วโว้ยยย...คนอื่นก็แค่ค่าเวลาเท่านั้นเว้ยยยย....
 
       "เห้ย!! แล้วมึงจะไปไหนน่ะไอ้นาย" มอสตะโกนถามเจ้านายที่เดินไปถึงหน้าตึกคณะแล้ว
 
       "กล้บบ้านสิควาย!!! ไม่มีเรียนแล้วจะอยู่หาป้ามึงหรอ!!!" เจ้านายนายตะโกนบอกพร้อมกับชูนิ้วกลาง
เพื่อเป็นการอวยพร(?)ให้เพื่อนรักทั้งสองกลับบ้านอย่างปลอดภัยอีกหนึ่งดอก
 
       "ฮ่าาา / ฮ่าาา" มอสและเลย์พากันหัวเราะตัวงออย่างชอบใจ เมื่อเห็นหน้าเหวี่ยงๆ กับท่าทางหงุดหงิดของ
เจ้านายเพื่อนรัก
.
.
.
.
.
       เจ้านายขับรถกลับมายังสนามแข่งรถเถื่อนของตัวเอง ที่เป็นทั้งที่ทำงานและบ้านของตัวเองสนามแข่งรถ
ของเจ้านายก็เหมือนกับสนามเถื่อนทั่วๆไป ที่ไม่มีกฏกติกาใดๆ ผลแพ้ชนะและของเดิมพันไม่ว่าจะเป็นเงินทอง
ผู้หญิง ผู้ชาย และของมีค่าทั้งหลายจะขึ้นอยู่กับข้อตกลงในความพึงพอใจระหว่างตัวนักแข่งทั้งสองฝ่ายเอง
เว้นแต่ยาเสพติดและอาวุธสงครามเท่านั้นที่จะเอาเข้ามาเป็นของเดิมพันไม่ได้ โดยที่จะมีเจ้าหน้าที่ของสนาม
เป็นกรรมการทำการตัดสินให้อย่างยุติธรรมไม่ขึ้นกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน เพียงแค่คุณจ่ายค่าเข้า
สนามและทำตามกฏข้อตกลงของสนามเท่านั้น สนามแห่งนี้ก็จะเป็นเหมือนสรวงสรรวค์ที่มีพวกคุณเป็นเจ้า
ของร่วมกัน คุณจะทำอะไรก็ได้เมื่ออยู่ในสนามแห่งนี้ตามความต้องการเพียงแต่อย่าแหกกฏของสนามเป็นพอ
ความเร็ว ความท้าทายและความสะใจกำลังรอให้พวกคุณเข้ามาปล่อยเบรค กระทืบคันเล่งกันอยู่ที่นี่ไง!!!
 
       "เมื่อไหร่น้องภีมสุดที่รักจะกลับมาหาพี่สักทีละครับ พี่คิดถึงเราจนจะขาดใจตายอยู่แล้วนะ เราเคยรู้บ้างหรือเปล่า?"
เจ้านายคว้ารูปน้องภีมเด็กชายจ้ำม้ำตัวขาวแก้มยุ้ยลูกชายฝาแฝดคนกลางของเจ้าสัวณัฐภาสกับคุณพัสกร อัครจินดากรณ์
ที่นั่งแท่นตำแหน่งประธานบริหาร(เป็นเจ้าของร่วมกัน)กิจการค้าเพชรพลอยข้ามประเทศรายใหญ่ของประเทศไทย อีกทั้ง
ตระกูลนี้ยังเป็นเจ้าของโรงแรมหกดาวในหัวเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสุดยอดทั้งแปดสาขาในประเทศ แถมคุณพ่อณัฐภาสของน้องภีมสุดที่รักของเขายังติดหนึ่งในสิบมหาเศรษฐีตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสี่สิบอีกต่างหาก...เป็นอะไรที่โคตรเจ๋งอ่ะ!!! 
 
       ตั้งแต่ภีมเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศเมื่อห้าปีที่แล้ว ภีมก็ไม่เคยติดต่อกลับมาหาเจ้านายอีกเลย
แม้ว่าการสื่อสารในสมัยนี้จะก้าวไกลไปจนคนที่อยู่คนละซีกโลกก็สามารถมองเห็นหน้ากันได้เพียงแค่สไลด์ปุ่ม
โทรออกที่หน้าจอมือถือของตัวเองเท่านั้น แต่น้องภีมก็ไม่เคยทำเลย แถมในทุกๆครั้งที่เจ้านายติดต่อไปภีมก็
จะตัดสายทิ้งและบล็อคช่องทางติดต่อของเขาทั้งหมดทุกทาง มีเพียงแค่คนที่บ้านอัครจินดากรณ์อย่าง พ่อแม่
พี่ และน้องของภีมเท่านั้นที่จะติดต่อไปถามข่าวคราวได้บ้าง แต่เพียงแค่ภีมเห็นหน้าเจ้านายผ่านทางโทรศัพท์
ของพัสกรผู้เป็นแม่แท้ๆของเจ้าตัวเท่านั้น ก็ตัดสายทิ้งและไม่ยอมรับสายของพัสกรอีกเลย และเขาก็ทำได้เพียงแต่
แค่การเฝ้าภาวนากับฟ้ากับฝนให้น้องภีมสุดที่รักของเขากลับมาในเร็ววันเพียงแค่เท่านั้นเอง
 
 
       Tru...Tru...Tru...
 
       "ฮัลโหลว่าไงจ๊ะแม่จ๋า คิดถึงหนูหรอ ถึงได้โทรมาแต่วันอย่างนี้อ่ะ" เจ้านายกดโทรศัพท์รับสายแม่ธารจ๋าสุดที่รัก
ของเจ้าตัวที่โทรเข้ามาก่อนเวลาที่ปกติอย่างที่เคยโทรมาเช็คเขาอยู่ทุกวัน กับคนอื่นเจ้านายอาจจะดูห่ามๆ และหยาบคาย
ไปบ้างแต่กลับแม่ธารจ๋าสุดที่รักนั้นไม่ได้เลย เพราะคนนี้เขาคือที่สุดรักสุดบูชาอันดับหนึ่งในใจของเจ้านาย ชนะดันดับสอง
อย่างป๋าเจ้าคุณไปอย่างขาดลอย ส่วนอันดับที่สามในใจของเขานั้นจะเป็นใครไปเสียไม่ได้นอกจากน้องภีมแฝดกลางสุดที่รัก อันดับที่สี่ที่ห้าก็ไอ้เจ้าพระยา เจ้าสมุทรน้องชายฝาแฝดมหา(หมา)ประลัยของเขาไล่ตามลำดับลงมา
 
       ("น้องภีมกลับมาแล้วนะลูก น้องนายจะกลับมาบ้านวันไหนดีลูก") แม่ธารจ๋าของเจ้าตัวพูดบอกถึงประโยค
ที่เขารอฟังข่าวนี้มาตลอดห้าปีเต็มๆ มันเป็นอะไรที่ดีที่สุดไปเลยสำหรับเขา
 
       "แม่จ๋าเจอน้องแล้วหรอ น้องยังหน้ารักเหมือนเดิมมั้ยฮะ" เจ้านายถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด
 
       ("เจอแล้ว น่ารักเหมือนเดิมเลย...หึๆ") ปลายสายบอกพร้อมกับหัวเราะหึๆ ปิดท้ายคำพูดอย่างมีเลศนัย
แต่ด้วยความดีใจเจ้านายจึงไม่ได้สนใจเสียงหัวเราะแปลกๆ ของแม่ตัวเอง
 
       "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหนูกลับคืนนี้เลยแม่จ๋า อาทิตย์นี้หนูไม่มีเรียนแล้ว แล้วเจอกันที่บ้านนะแม่จ๋าจุ๊บ!!!"
เจ้านายพูดบอก โดยไม่ลืมที่จะจุ๊บแม่ธารจ๋าของตัวเองเป็นการส่งท้ายก่อนวางสาย
 
       "อ๊ากกกก.....ดีใจจังเลยโว้ย!!!!" เจ้านายร้องตะโกนโวยวายเสียงดัง ก่อนที่จะทิ้งตัวนอนดีดดิ้นไปมาอยู่
บนเตียงนอนหลังใหญ่ของตัวเองด้วยความดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเอาอะไรจำนวน
มากมายแค่ไหนถึงจะพอเทียบเท่ากับความดีใจของเขาในครั้งนี้ดี หัวใจที่เคยห่อเหี่ยวเหมือนลูกโป่งโดนเจาะ
ลม อยู่ดีๆ ก็พองโตลุกขึ้นมาเต้นระรัวเป็นจังหวะแทงโก้ซะอย่างนั้น!!!
 
       "แล้วเจอะกันนะครับว่าที่เจ้าสาวสุดที่รักของพี่.....ม๊วฟฟฟฟฟฟ" เจ้านายพูดพร้อมกับกดจูบเด็กชายแก้มยุ้ย
ในกรอบรูปไม้สลักอย่างดีอยู่จ๊วฟใหญ่ ก่อนที่จะเอาไปตั้งวางไว้บนหัวเตียงตามเดิมและลุกไปจัดการเก็บของใช้ส่วนตัว
ลงกระเป๋าเป้ใบโปรด จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวด่วนล่าสุด ปิดบ้านและเดินออกมาจะสั่งงานให้ลูกน้องคนสนิทที่ออฟฟิต
ให้ดูแลสนามแข่งรถของตัวเองให้สักสี่ห้าวัน เพราะลูกพี่เจ้านายสุดหล่อคนนี้จะกลับไปตามหาหัวใจดวงน้อยๆ ของตัวเอง
ที่บ้านเกิดเมืองนอน.....โฮะๆ
 
 
 
 
 
______________________________________________________________________________TBC.
Happy valentine's day ค่ะ!!!
มี่เอาตอนแรกมาเสิร์ฟให้ได้อ่านกันแต่เช้าเลยนะคะ เผื่อตอนเย็นไม่ว่าง(จะไปตามหาแมวต่อ)แหะๆ
ยังไงก็เม้นกัเข้าไว้นะคะ เพราะทุกเม้นของพวกคุณคือกำลังใจชั้นเยี่ยมของมี่
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!! (ไม่เย็นนี้ก็พรุ่งนี้นะคะ)
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หนึ่ง (14.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-02-2016 12:15:13
น้องนายจะกลายเป็นเจ้าวสาวแทนป่ะเนี่ย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หนึ่ง (14.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 14-02-2016 15:29:07
มารอน้องภีมมม
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หนึ่ง (14.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 14-02-2016 16:12:15
ตามมาจากรุ่นกพ่อแม่  นายยังคงไม่รู้ตัว  เจอน้องภีมแล้วจะหนาว  ไม่แคล้วโดนกด  อิอิ  รอจ้า :hao3:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สอง (14.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 14-02-2016 16:22:27
07/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สอง






      "พี่นาย! ทางนี้!" เสียงร้องเรียกชื่อของเจ้านายดังขึ้นทันทีที่เจ้านายเดินออกจากอาคารพักผู้โดยสารทำให้
เจ้านายต้องรีบหันมองไปตามเสียง ซึ่งคนที่มารับเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากไอ้เจ้าสมุทรจอมนิ่งน้องชายคนเล็ก
ของเขานั่นเอง ไม่ได้เจอกันแปปเดียวทำไมมันถึงดูตัวโตจังว๊ะ อายุแค่สิบสี่มันก็สูงเท่าเขาแล้ว นี่ถ้ามันโตเต็ม
วัยอายุยี่สิบเท่าเขามันจะสูงใหญ่ได้อีกแต่ไหนว๊ะเนี่ย?....ไอ้เด็กห่าาาเอ้ย!! พอกันกับไอ้เจ้าพระยาจอมแก่แดดแฝดผู้พี่ของมันที่ริเหิมเกริมคุมไนท์คลับใหญ่ในเมืองกรุงด้วยตัวคนเดียวตั้งแต่พึ่งจะอยู่ม.ต้นเอง...เขาล่ะเบื่อจริงๆ ไอ้พวกลูกป๋าเนี่ย...แมร่งไม่รู้ตอนเด็กๆ แม่ธารจ๋าเอาอาหารเม็ดหรือหญ้าสดผสมนมยัดใส่ปากป้อนให้พวกมันกันแน่ถึงได้โตมาเป็นยักษ์ปักหลั่นอย่างนี้ ฮึ่ย!! แค่คิดก็สยองแล้ว....แมร่ง!! แต่ละคนตัวอย่างกะตึก
เขาเอาหัวเป็นประกันเลยว่าถ้าพวกมันโดนรถชนนะ พวกมันอ่ะไม่เป็นไรหรอก แต่รถคู่กรณีอ่ะบุบแน่ๆ
จะเว้นก็แต่รถสิบล้อน่ะนะ

       "นี่มึงขับคันนี้มา?" เจ้านายตกใจอ้าปากหวอ เมื่อเห็นรถที่น้องชายขับมารับตัวเอง ตอนแรกก็คิดว่ามันจะ
เอามอ'ไซค์ (บิ๊กไบค์) ลูกรักของมันมารับอย่างทุกที แต่ที่ไหนได้ มันเล่นเอาซุปเปอร์คาร์คันโปรดสุดหวงของป๋าออกมารับเขาเลย...มันทำได้ยังไงว๊ะน่ะ! คันนี้นี่เปรียบเสมือนเมียน้อยป๋าเลยนะเว้ย!! จะบอกให้ ป๋านั่งขัดนั่งถู
อยู่ทุกวันวันเช้ายันเย็นถ้าแม่ไม่ด่าก็ไม่เลิก...เจ๋งจริงเว้ยน้องกู!!

       "เออ..ขึ้นดิจะได้กลับบ้านสักที...หิวข้าว" เจ้าสมุทรบอกเสียงเรียบติดลำคาญเล็กน้อย เมื่อพี่ชายมัวแต่
ถามโน่นถามนี่ไม่ยอมขึ้นรถสักที ไอ้เขาล่ะหิวข้าวจะตายอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะแม่ไม่ยอมให้ใครกินข้าวก่อนจนกว่าน้องเจ้านายลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแม่เขาจะกลับถึงบ้านนั่นแหละปัญหา...เฮ้อ!
.
.
.
.
.
       "แม๋ธารจ๋าาาาาา....หนูคิดถึ๊งคิดถึงแม่จ๋าจังเลย" เจ้านายวิ่งเข้ากอดใส่แม่ธารจ๋าของตัวเองทันทีที่
เห็นหน้า ไม่ลืมที่จะหอมแก้มซ้ายขวาอีกหลายๆทีติดกันด้วยความคิดถึง.....คิดถึงที่สุดอ่ะคนนี้

       "แม่ก็คิดถึงน้องนายเหมือนกันครับ หนูอ่ะไม่ค่อยอยากจะกลับบ้านมาหาแม่เลย นี่ถ้าแม่ไม่โทรไปบอกว่า
น้องภีมกลับมาแล้ว แม่ก็คงจะไม่ได้เห็นหน้าลูกชายคนโตของแม่หรอกมั้ง" ธาราพูดพลางแกล้งทำท่าทางน้อยใจใส่ลูกชายสุดที่รักของตัวเอง

       "งานที่สนามหนูเยอะหรอก...อะโด่ววว...หนูอะนะโคตรจะคิดถึงแม่จ๋าอ่ะ!!....โอ๋ๆ หนูง้อนะๆ แม่จ๋าอย่างอนหนูนะ เดี๋ยวคืนนี้หนูจะนอนกอดชดเชยให้แม่จ๋าทั้งคืนเลย จุ๊บๆ" เจ้านายบอกพร้อมกับจุ๊บรัวๆ ที่ปากของแม่จ๋าของตัวเองเพื่อเป็นการง้อขอคืนดี

       "น้อยๆ หน่อยไอ้ลูกหมา ที่มึงจูบปากเล่นอยู่น่ะ...เมียกูนะ" เจ้าคุณที่นั่งดูอยู่ฉากดร่าม่าของสองแม่ลูก
อยู่นาน อดไม่ได้ที่จะพูดขัด ตัดบทของสองแม่ลูกที่ไม่เลิกตีหน้าเศร้าแกล้งนอยด์ใส่กันสักที เขากับเจ้าสมุทร
ลูกชายคนเล็กหิวจะตายอยู่แล้วนะเนี่ย จะกินก่อนก็ไม่ได้ในเมื่อนายพญาของบ้านประกาศิตไว้ว่าห้ามใคร
หน้าไหนแตะต้องของกินที่วางล่อตาล่อใจ ยั่วน้ำย่อยกับน้ำลายของเขามาอยู่เต็มโต๊ะอาหารข้างหน้าอย่างนี้ ก่อนที่ลูกชายสุดที่รักของเขาจะมาก่อนเป็นเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นหลังจากวันนี้ไปเจ้าตัวจะไม่ทำกับข้าวให้
กินอีก.....เหอๆ

       "เมียป๋าแต่ก็แม่หนูเถอะ...เชอะ!! แม่จ๋าน้องนายหิวข้าวแล้วอ่ะ! เรากินมากินข้าวกันเถอะฮะ
น้องนายคิดถึงกับข้าวอร่อยๆ ฝีมือแม่จ๋าที่สู้ดดดด...." เจ้านายพูดบอกพร้อมกับเชิดใส่ป๋าคุณก่อนที่จะหัน
ไปพูดอ้อนแม่ธารจ๋าของตัวเองต่อ อย่างไม่สนใจพ่อสนใจน้องที่นั่งหัวโด่เป็นตุ๊กตาประกอบฉากระหว่างมื้ออาหารอยู่เลย และก็พากันคุยงุ้งงิ้งกันอยู่แค่สองคนแม่ลูกนั่นแหละ!!
.
.
.
.
.
       "ป๋าจ๋าาาา....น้องนายคิดถึงป๋าจังเลยยยยยย...." ระหว่างที่รอแม่ธารจ๋าของตัวเองอาบน้ำอยู่เจ้านายก็
หันไปอ้อนคุณป๋าเจ้าคุณแทน โดยการเอาหัวไปถูไปมาที่หน้าตักคุณป๋าเจ้าคุณที่กำลังนั่งพิงหัวเตียงดูหนัง
ในโทรทัศน์อยู่

       "ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลยไอ้ลูกหมา เดี๋ยวพอแม่จ๋ามึงมา มึงก็ทิ้งป๋าให้เป็นหมาแล้ว" เจ้าคุณบอกพร้อม
กับลูบหัวทุยๆ ของลูกชายที่นอนหนุนตักของตัวเองอยู่ โดยที่ยังไม่ยอมหันกลับมามองหน้าเจ้านาย เพราะ
สายตามัวแต่จ้องหนังที่กำลังฉายอยู่ในจอโทรทัศน์

       "งื้อออ....จริงๆนะ นายอ่ะคิดถึงป๋ากับแม่จ๋าที่สุดอ่ะ! แต่ไม่ค่อยจะว่างสักที พอวันไหนที่ไม่มีเรียนจะกลับ
บ้านทีไร ที่สนามก็ต้องมีปัญหาเข้ามาทุกที แต่พอวันไหนที่ไม่มีเรียนและสนามแข่งไม่มีปัญหา ที่คณะของหนูก็ต้องมีกิจกรรมทุ๊กที...หนูล่ะเซ็ง!!" เจ้านายลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนเลื้อยตัวขึ้นมานอนพาดอยู่บนอกของป๋าเจ้าคุณ ก่อนที่จะเล่าถึงปัญหาที่เขาไม่สามารถกลับมาหาป๋าหาแม่อย่างที่ใจต้องการได้ทั้งที่เขาเองก็คิดถึงป๋ากับแม่มากๆ เหมือนกัน แต่จะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อมันเลี่ยงไม่ได้ ก็ได้แต่ทนคิดถึงกันต่อไป จะมีก็แต่ครั้งนี้นี่แหละที่เหมือนเทวดาฟ้าดินจะเป็นใจให้เขาได้มีโอกาสกลับมาพบเจอหน้าน้องภีมสุดที่ร๊ากกกกของเขาสักที แถมยังได้กลับมาอยู่อ้อนป๋าคุณกับแม่ธารจ๋าได้อีกตั้งหลายวัน

       "มึงเหนื่อยรึเปล่านายที่ต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอย่างนี้ ถ้าเหนื่อยก็หยุดได้นะ เดี๋ยป๋าจะหา คนไปดูแลสนามแทนแกเอง" เจ้าคุณพูดบอกออกจากความรู้สึกของตัวเอง การที่เขาให้ลูกหาเงินใช้เองทั้งที่ต้องเรียนไปด้วยอย่างนี้ก็เพราะว่าอยากจะฝึกความอดทนและฝึกให้ลูกๆ ได้รู้จักดูแลรับผิดชอบชีวิตของตัวเองเป็นตั้งแต่เด็กๆ โตไปจะได้ไม่ต้องไปลำบากและคิดหาทางเอาตัวรอดเองได้เมื่อเกิดปัญหาในวันที่ไม่มีเขากับธาราคอยช่วยพยุงอยู่ข้างหลังอย่างทุกวันนี้ แต่พอเห็นหน้าตาเหนื่อยๆกับร่างผอมแห้งแรงน้อยของเจ้านายเต็มๆ อย่างนี้ เขาก็อยากจะยกเลิกสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้เดี๋ยวนี้เลยจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าวันๆ เจ้านายลูกชายของเขาจะได้กินข้าวกินปลาบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงได้ตัวหดเล็กลงๆ ทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากันอย่างนี้ ไม่เหมือนไอ้เจ้าสมุทรที่เลือกที่จะเรียนและอยู่ช่วยงานเขากับธาราอยู่ที่นี่ ที่กินอิ่มนอนหลับสบายอยู่ทุกวัน ส่วนไอ้เจ้าพระยาลูกชายคนกลางแฝดพี่ของไอ้เจ้าสมุทรรายนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงกินอิ่มเกินสามมื้อแน่นอน เท่าที่สังเกตุดูจากที่มันสไกป์คุยกับแม่มันอยู่ทุกวัน และไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ ในมือและข้างๆตัวมันจะต้องมีของกินให้เห็นอยู่ทุกที และจากที่เห็นผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์แล้วตัวมันก็น่าจะใหญ่พอๆ กันกับไอ้เจ้าสมุทรแฝดน้องมันนั่นแหละ
....ไซส์ลูกวัวชัดๆ

       "ไม่เหนื่อยหรอกฮะ!...น้องนายเป็นลูกของป๋ากับแม่ธารจ๋าซะอย่าง แค่นี้...จิ๊บๆ" เจ้านายบอก

       "หึๆ นกร้องน่ะสิมึงน่ะ จิ๊บๆ อ่ะ!" เจ้าคุณยิงมุขควายใส่ พร้อมกับขยี้หัวลูกชายด้วยความมันเขี้ยว

       "คึๆ หนูรักป๋าจัง.....งืมมๆ" เจ้านายพูดบอกเสียงเบาราวกับคนละเมอ ก่อนที่จะผลอยหลับไปด้วย
ความอ่อนเพลีย แต่ถึงเสียงพูดของเจ้านายจะเบาแค่ไหน มันก็ชัดเจนอยู่เสมอในหัวใจคนเป็นพ่ออย่าง
เจ้าคุณเสมออยู่แล้ว

       "ป๋าก็รักหนูเหมือนกันครับลูกรัก...จุ๊บ" เจ้าคุณค่อยๆ ช้อนประคองหัวของเจ้านายวางบนหมอนอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนการนอนของลูกชาย โดยไม่ลืมที่จะบอกรักและจูบที่หน้าผากของเจ้านายเบาๆอย่างที่ทำตอนที่เจ้าตัวยังเป็นเด็กเล็กๆ....และหวังว่าคืนนี้ลูกชายของเขาคงจะฝันดี

       "อ่าว...หลับไปแล้วหรอ" ธาราที่พึ่งจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เดินออกมาเจอฉากบอกรักที่ทำให้
รู้สึกอุ่นวาบเข้าไปจนถึงส่วนลึกที่สุดของหัวใจอย่างไม่ได้ตั้งใจพอดี แต่ก็เลือกที่จะทำเป็นมองผ่าน
เหมือนไม่เห็นอะไร เพราะขืนพูดแซวออกไป คุณป๋าปากแข็งอย่างเจ้าคุณจะเขินเสียเปล่าๆ

       "อืม...สงสัยจะเพลีย คุยกันได้แปปเดียวก็หลับไปซะแล้ว"  เจ้าคุณบอกทั้งที่ยังคงนอนตะแคงลูบหัวลูบหน้าลูบตาลูกรักไปมา เหมือนกับว่าเจ้าตัวยังไม่แน่ใจว่าที่อยู่ตรงหน้านี้คือลูกชายสุดที่รักที่ตนนั่งนับวันเฝ้ารอให้ลูกกลับมาหาที่บ้านอย่างนี้จะเป็นความจริง หรือไม่ก็อยากจะสำรวจความเสียหายว่ามีส่วนไหนของเจ้านายไหมที่บุบสลายหายไประหว่างที่เจ้าตัวไปอยู่ไกลหูไกลตาอย่างนี้เจ้าคุณน่ะทั้งรักและเป็นห่วงเจ้านายจะตาย เพราะเจ้านายเป็นลูกชายคนแรกที่รักและผูกพันมากกว่าลูกชายฝาแฝดอย่างเจ้าพระยาและเจ้าสมุทรเสียอีก แต่ก็ทำท่ามากไปอย่างนั้นเอง เวลาเขาเฟสไทม์โทรเห็นหน้ากับลูกทีไร เจ้าตัวก็จำต้องแอบนั่งฟังและเขียนคำพูดใส่กระดาษแผ่นเล็กๆให้เขาถามและบอกกับลูกแทนตัวเองทุกที ยกตัวอย่างเช่น กินข้าวรึยัง เงินพอใช้ไหม,เรียนอยากไหม ลำบากหรือเปล่า,กินข้าวเยอะๆ,ดูแลตัวเองด้วยนะ,เป็นห่วง ฯลฯ และก็อีกหลายร้อยคำที่เขาไม่สามารถจะได้หมดหรอก เจ้าคุณน่ะชอบทำปากแข็งเก๊กหน้านิ่งใส่ลูกแต่ก็ทั้งรักทั้งหลงลูกเลยโดยเฉพาะเจ้านายเพราะเจ้านายนั้นแตกต่างกันกับฝาแฝดเจ้าพระยาเจ้าสมุทรอย่างสิ้นเชิง

       "จุ๊บ...ฝันดีนะครับคนเก่ง...แม่รักหนูนะครับ" ธาราจูบหน้าผากตำแหน่งเดียวกันกับเจ้าคุณ ก่อนที่
จะเดินไปปิดไฟและกลับมานอนกอดลูกชาย วันนี้กับเมื่อสิบห้าปีที่แล้วตอนที่เจ้านายอายุห้าขวบวันที่
กลับมาจากไปเล่นสวนน้ำกันแล้วเจ้านายขอมานอนด้วยไม่ต่างกันเลยในความรู้สึกของธารา ถึงแม้ว่า
วันนี้เจ้านายน้อยคนนั้นจะเติบโตขึ้นมาจนมีขนาดตัวพอๆ กับเขาแล้ว ธารายังรู้สึกว่าเจ้านายยังคงเป็น
ไอ้เด็กตัวเล็กจอมแสบของเขาอยู่ดี

       คืนนี้คงจะเป็นอีกคืนแห่งความสุขอีกคืนที่เจ้านายจะรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย หลับฝันดีตลอด
ระยะช่วงเวลาแห่งการนอน เพราะสองผั่งซ้ายขวาของตัวเองนั้นมีคุณป๋าเจ้าคุณกับแม่ธารจ๋าสุดที่รัก
ทั้งสองคนของตัวเองนอนกอดถ่ายทอดความรักและความห่วงใยให้กับเจ้าตัวกักเก็บเป็นพลังแรงใจ
เพื่อไว้สู้ในวันข้างหน้าที่อาจจะมีปัญหาเข้ามาอย่างไม่รู้ตัวตามชะตาชีวิตปกติของมนุษย์โลกที่จะต้อง
มีทั้งสุขและทุกข์หมุนเวียนสลับกันไป





_______________________________________________________________________TBC.
และแล้วมี่ก็ทนเสียงเรียกร้องของ(คุณเพื่อนๆในเดอะแก๊งค์ตัวเอง)ไม่ได้
บวกกับว่ามี่เองก็คิดว่ามันสั้นเกินมากเกินกว่าปกติที่เคยอัพอยู่มาก(2ตอนเท่ากับ1ตอนปกติ)
จึงตัดสินใจมาลงให้อีกตอนและจะ(ลงเช้าเย็น)ทำอย่างนี้ไปจนกว่าในสต็อกที่เขียนไว้จะหมดลง
จากนั้นก็จะลงวันละตอนเหมือนเดิม ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อนๆต้องอย่าลืมกำลังใจสำคัญของมี่ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สอง (14.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-02-2016 17:36:24
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สอง (14.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-02-2016 18:03:22
 o13
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 15-02-2016 12:49:17
15/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สาม






       "แม๋จ๋าาาา...." เจ้านายที่เพิ่งตื่นนอน ยังไม่ทันที่จะล้างหน้าแปลงฟังเลยก็เดินจากห้องนอนชั้นบนลงมา
ซุกหน้ากอดอยู่ข้างหลังแม่ธารจ๋าของตัวเองอย่างงองแง ไม่สมกับเป็นเด็กวัยรุ่นในช่วงอายุยี่สิบเสียเลยจริงๆ
....หนูยังอยู่อนุบาลหมีน้อยห้องไหนอยู่ลูกเจ้านาย

       "ว่ายังไงครับ...ลูกชายแม่ตื่นรึยัง หรือว่ากำลังละเมออยู่" ธาราหยุดมือที่กำลังจำมีดหั่นผักเพื่อเตรียมที่
จะทำอาหารในมื้อเช้าลง หมุนตัวหันกลับไปมองลูกชายคนโตของตัวเองที่กำลังยืนหน้ามุ่ยโงนไปเงนมา
อยู่....ตกลงว่าตื่นรึยังเนี่ย?

       "ป๋าไปไหนอ่าา..." เจ้านายถามเสียงคางยานอย่างคนไม่ตื่นดีพลางลืมตาขึ้นข้างนึงมองหาคุณป๋าเจ้าคุณ
ของตัวเองไปด้วย เพราะลืมทีเดียวสองข้างไม่ไหว...ยังง่วงอยู่เลยอ่ะ!!

       "โน่น...ป๋าคุณของหนูไปนั่งเช็ดนั่งถูเมียน้อยเขาอยู่หน้าบ้านนู้นนน..." ธาราบอกทั้งลูบหน้าลูบหัวลูกชาย
ให้เข้าที่ เพราะกลัวว่าผมจะบังตาแล้วลูกเขาจะไปเดินสะดุดเตะอะไรเข้าให้....เดี๋ยวบ้านจะแตกเพราะเสียง
ร้องของลูกชายคนโตของเขาเสียเปล่าๆ

       "งืมๆ งั้นหนูไปหาป๋าก่อนนะ...จุ๊บ!!" ขยี้ตาเบาๆ พร้อมกับจุ๊บแก้มอรุณสวัสดิ์แม่ธารจ๋าของตัวเองอีกที
เพื่อความเจริญ(?) เริ่มต้นในเช้าวันใหม่อย่างนี้
.
.
.
.
.
       "ป๋า...ป๋าๆ...ป๋าาาาาาาาาา....." เจ้านายลากเสียงยาวร้องเรียกหาคุณป๋าเจ้าคุณของตัวเองดังลั่น
เมื่อออกมาหน้าบ้านตามที่แม่ธารจ๋าบอกแล้ว ไม่เห็นเจอป๋าคุณสุดที่รักเลย เจอแต่อีเมียน้อยที่ยืนตูด
แดงกระพริบไฟท้ายใส่หน้าเขาปริ๊บๆ อยู่เนี่ย....เซ็งว่ะ!...ว่าแล้วก็ขอเตะล้อหลังของเมียน้อยตูดแดง
ของป๋าสักทีเหอะ บังอาจมาแย่งความสนใจจากป๋าไปจากเขา...ฮึ่ย!!...เซ็ง!! ใครไม่เป็นเขาไม่รู้หรอก
ว่าการตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้าแล้วไม่ได้เจอหน้าแม่ธารจ๋ากับหน้าป๋าคุณแล้วมันหงุดหงิดแค่ไหน ทั้งๆ
ที่เมื่อคืนเขาสามคนพ่อแม่ลูกยังนอนกอดกันอยู่ในห้องแท้ๆ....มันเฟลอ่ะ!! เข้าใจป๊ะ!!

       "เอ้าๆ มึงเตะน้องเมอร์ซี่กูอย่างงั้นได้ไงห้ะไอ้ลูกหมา เดี๋ยวเป็นรอยขึ้นมาจะทำไง กูอุตส่าตื่นขึ้นมานั่ง
ล้างนั่งขัดแต่เช้า...ไอ้ลูกห่าหนิ" เจ้าคุณที่พึ่งจะกลับมาจากเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดรถไปเก็บในโรงจอด
รถก็พูดว่าลูกชายอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนที่จะเข้าไปในรถเพื่อดับเครื่องยนต์เพราะเมื่อกี้เขาสตาร์ทติดเครื่อง
เอาไว้

       "ก็ช่างมันเดะ! เมียน้อยป๋าไม่ใช่เมียน้อยของหนูซะหน่อย....ปึก!...นี่แน่ๆ" เจ้านายตอบพร้อมกับเหวี่ยงขาเตะเข้าไปที่ล้อหน้าที่เดิมของน้องเมอร์ซี่หรือเมอร์เซเดสเบนซ์ เอสแอลอาร์สีแดงเพลิงของคุณป๋าเจ้าคุณซ้ำอีกสองสามที ก่อนที่จะรีบชิ่งหนีวิ่งเปิดตูดกลับไปทางเดิมที่ตัวเองพึ่งจะเดินออกมา ไม่วายที่จะหันหลังมาแลบลิ้นปริ้นตาใส่ป๋าคุณของตนอย่างทะเล้นอีกที.....แบร่!!

       "ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ลูกหมา...แม่มึงเผลอเมื่อไหร่...มึงเจอกูแน่" เจ้าคุณบ่นไล่หลังลูกชายไปด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม เขาไม่โกรธที่เจ้านายเตะล้อรถของเขาเมื่อกี้นี้หรอก เพราะเขารู้ว่าลูกชายต้องการที่จะแกล้งแหย่
ให้เขาด่ารับอรุณ(?)มันเท่านั้นเอง...แต่ลองถ้าเป็นไอ้สองแฝดอย่างเจ้าพระยาหรือเจ้าสมุทรลูกชายฝาแฝด
ของตัวเองที่ทำอย่างนี้สิ ป่านนี้เจ้าคุณคงจะไล่เตะไม่เลี้ยงแล้ว เป็นบ่งบอกได้ว่าเจ้าคุณรักลูกเท่ากันทุกคน
ไม่มีลำเอียงเลย(เหรอออออ?)
.
.
.
.
.
       "พ่อภาส แม่พัส สวัสดีครับ...นายคิดถึงพ่อภาสกับแม่พัสที่สู้ดดดดด...." พอถึงบ้านของน้องภีมว่าที่
เจ้าสาว(?)สุดที่รักของตัวเอง เจ้านายก็สวัสดีทักทายเจ้าของบ้านอย่างพัสกรและณัฐภาสหรือที่เจ้าตัว
เรียกว่าพ่อภาสแม่พัสนั่นแหละ เพราะสนิทกันมาตั้งแต่เด็กแต่เล็ก และเขาก็รักทั้งสองคนนี้ไปไม่ต่างกับ
ป๋าคุณกับแม่ธารจ๋าของเขาหรอก...ความผูกพันของสองบ้านนี้มันเหนียวแน่นเกินกว่าที่จะใครจะมายุแหย่
หรือแยกออกจากกันได้แล้ว

       "หืม...ไหนมาดูหน่อยสิว่าเจ้านายน้อยของแม่ผอมลงหรือเปล่าเอ่ย?" พัสกรอ้าแขนรับลูกชาย(?)นอกไส้
ของตนเข้ามาในอ้อมกอดพลางสำรวจดูทั่วตัวไปหมดว่าเจ้านายที่ไปอยู่กรุงเทพฯห่างไกลพ่อแม่อย่างนี้แล้ว
ดูแลตัวเองดีหรือเปล่า

      "ไม่น้า...หุ่นนายกำลังดี...ขนาดนี้แหละหล่อแล้ว" ไอ้เจ้าเด็กหลงตัวเอง มันก็ชอบยกหางตัวเองอยู่วันยังค่ำ
ช่างจ้อไม่ต่างไปจากตอนเด็กเลย

       "คุยกับแม่แล้วตาไม่อยู่ที่แม่นี่มันหมายความว่ายังไงฮึเจ้าตัวแสบ ไหนบอกแม่หน่อยสิว่าหนูกำลังมองหา
ใครอยู่ แม่จะได้ให้เด็กไปตามถูก...น้องภาม?" ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่าเจ้าตัวแสบที่กอดเขาอยู่นี้กำลังมองหาใคร
อยู่ แต่ก็แกล้งตีมึนทำเป็นไม่รู้เรื่อง พาเอาคนอื่นๆที่อยู่รอบข้าง รวมทั้งพ่อและแม่แท้ๆอย่างเจ้าคุณและธารา
ก็พาลหัวเราะขำไปกับสีหน้ายุ่งๆของเจ้าตัวแสบไปด้วย

      "โธ่!..แม่พัสอ่ะ! รู้อยู่แล้วว่านายมองหาใครยังจะมาแกล้งนายอีก" เจ้านายน้อยบอกอย่างกระเง้ากระงอด
นี่ถ้าร้องไห้ได้เจ้าตัวคงจะร้องไห้ไปแล้วแหละ ที่โดนพวกพ่อๆ แม่ๆ ทำท่าทางล้อเลียนออกนอกหน้ากันขนาด
นั้น...พี่นายคนแมนก็เขินเป็นนะเฟ้ยยย!!

       "ฮ่าๆ โอเคๆ แม่พัสไม่แกล้งแล้วก็ได้ครับ พี่น้อยครับ ช่วยไปตามน้องภีมมาให้พัสหน่อยครับ" พัสกรยกมือ
อาการงองแงของลูกนอกไส้ของตัวเองก่อนที่จะวานแม่บ้าน(คนใหม่ไว้ใจได้)ที่กำลังจะเดินผ่านพวกตนที่อยู่
ในห้องรับแขกให้ไปเรียกน้องภีมลูกชายฝาแฝดคนกลางของตนที่ยังคงอยู่บนห้องนอนของเจ้าตัวข้างบนบ้าน
ให้ลงมาหาแขกคนสำคัญของตัวเองหน่อย ก่อนที่ใครบางคนแถวนี้จะขาดใจกันไปซะก่อน
.
.
.
       "คุณแม่เรียกภีมหรอครับ...ขอโทษนะครับที่ภีมลงมาช้า พอดีว่าริกเกอร์งองแงนิดหน่อยน่ะครับ" เสียงทุ้ม
ของเจ้าของร่างสูงใหญ่ดังเข้ามาภายในห้องรับแขกก่อนที่เจ้าตัวจะเข้ามาซะอีก และพอเจ้าตัวก้าวเข้ามายืน
อยู่หน้าประตูห้องรับแขกแล้วก็ทำให้เจ้านายน้อยผู้ดี๊ด๊าร่าเริงเมื่อกี้หน้าเปลี่นสีเป็นซีดซะแทบจะไม่เหลือสี
เลือดให้เห็นอยู่เลย เพราะนอกจากน้องภีมผู้แสนน่ารักและบอบบาง(?)ในวัยเด็กของเขาจะกลายร่างไปเป็น
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่จนผู้ชายแมนๆ(?)อย่างเขาแทบจะเป็นมดอยู่แล้ว ยังพ่วงเด็กน้อยน่ารักลูกฝรั่งตาน้ำข้าวตัวเล็กๆอายุประมาณสี่ห้าขวบเข้ามาด้วยอีกต่างหาก และที่สำคัญสิ่งที่ทำให้หัวใจดวงน้อยๆของผู้ชายแมนๆอย่างพี่เจ้านายคนนี้ต้องปวดหนึบสท้านไปถึงขั้วหัวใจก็เพราะ ไอ้เด็กฝรั่งน้อยตัวนั้นมันเรียกน้องภีม
สุดที่รักของเขาว่าพ่อน่ะสิ!!!....ฮือๆ ไอ้เจ้านายคนนี้อยากจิครายยยยย.....รักของพี่ต้องจบลงทั้งๆ ที่ยังไม่ทัน
ได้เริ่มต้นเลยแท้ๆ ทำไม? ทำไม!!! ทำไมน้องภีมถึงทำกับพี่ได้ลงคอ...จะตัวใหญ่ตัวยักษ์เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมายขนาดไหนพี่ก็ไม่ว่าหรอก เพราะพี่รักน้องด้วยใจจริงใช่สรีระร่างกายภายนอก เพราะตาและหน้าของน้องยังคงหวานถอดแบบแม่พัสมาเหมือนเดิม และสรีระความสูงใหญ่ของร่างกายสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้เป็นปัญหาในแนวนอนอยู่แล้ว ส่วนในแนวตั้งค่อยว่ากันอีกที เพราะยังไงพี่ก็ยังคงรักและเอ็นดู พร้อมที่จะรับน้องภีมสุดที่รักของพี่มาเป็นเจ้าสาวเหมือนเดิมอยู่แล้ว แต่นี่!!...นี่น้องกลับมาทำร้ายหัวใจดวงน้อยๆ ของพี่ด้วยการหอบลูก (ใครบอกเอ็ง?) หอบเมีย(เอ็งเห็นแล้ว?) กลับมาจากอเมริกาด้วยอีกทำไมโฮฮฮฮฮฮฮ........กระซิกๆ
(แอบปาดน้ำตาเบาๆ) (เพราะเช็ดให้คนอื่นเห็นไม่ได้เดี๋ยวเขาจะหาว่าพี่ไม่แมน)





_________________________________________________________________________TBC.
ไว้เจอกันตอนหัวค่ำๆ ต่ออีกตอนนะคะ
เที่ยง(จะบ่ายเหอะ)แล้ว อย่าลืมทานข้าวกันนะคะ
จะได้มีแรงเรียนและทำงานกันช่วงบ่ายต่อ
#แล้วเจอกันค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 15-02-2016 14:08:33
อ้าววววววว พี่นายคนแมน จะทำไงละทีนี้
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 15-02-2016 15:21:22
555 พี่นายคนแมน วิกเตอร์ลูกใครอ่า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-02-2016 15:32:13
อ้าว น้องภีมนั่นลูกใครค่ะ ทำไมถึงทำร้ายจิตใจน้อย ๆ ของพี่นายได้กันเนี่ย
แต่พี่นายค่ะ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนค่ะ ถามน้องภีมก่อนว่าเรื่องเป็นมายังไง
จะได้โวยวายถูกนะคะ อย่าเพิ่งร้องไห้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 15-02-2016 16:00:04
 :o12: :o12: :o12: :o12: หนีไปร้องไห้เลยเจ้านาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-02-2016 16:50:32
รอคำอธิบาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-02-2016 19:02:37
ลูกใครหว่าาา น้องริกเกอร์
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-02-2016 19:36:08
ลูกบุญธรรม? หรือว่าลูกของเพื่อนรึเปล่า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สาม (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 15-02-2016 19:47:26
ลูกใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สี่ (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 15-02-2016 19:50:39
15/02/59



ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สี่





       "เจ้านายๆ หนูเป็นอะไรรึเปล่าครับลูกทำไมถึงได้ทำหน้าอย่างนั้น ไม่ดีใจหรือ...นี่ไงน้องภีมที่หนูอยากเจอน่ะ"
พัสกรที่อยู่ใกล้เจ้านายที่สุดสะกิดเรียกเจ้านายด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นว่าเจ้านายหน้าถอดสีทำเหมือนคนเห็น
ผีทันทีที่เห็นน้องภีมลูกชายฝาแฝดคนกลางของเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวยังดี๊ด๊าตื่นเต้นดีใจอยู่เลยที่กลังจะเจอ
คนที่ตัวเองหมายปองมาตั้งแต่เด็กอยู่เลย

       "ไม่เป็นไรครับแม่พัส นายไม่เป็นไร ว่าแต่นั่น ละ...ลูก..."

       "เออ....ก็อย่างที่แกเข้าใจนั่นแหละ เด็กคนนั้นลูกเป็นลูกของเจ้าภีมมัน" ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คุณป๋าเจ้าคุณของ
เจ้านายนั่นแหละที่เป็นคนตอบคำถามของเจ้านายแทนเจ้าตัวอย่างน้องภีม ทั้งที่เจ้านายยังไม่ทันพูดจบประโยคดี
เลย ทำเอาทุกคนที่อยู่ในห้องรับแขกแห่งนี้ตกใจทำหน้าเหลอหลากันใหญ่กับคำพูดของเจ้าคุณรวมทั้งคนที่โดน
พาดพิงอย่างน้องภีมด้วย

       "เอ่อ..."

       "ก็บอกความจริงไปเลยสิภีม ขืนปิดไป ยังไงๆไอ้นายมันก็ต้องรู้อยู่ดี สู้ให้มันรู้เสียตั้งแต่วันนี้เลยนี่แหละ"
ในขณะที่ภีมกำลังจะพูดเจ้าคุณก็พูดแทรกอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง จ้องหน้าภีมเขม็ง พาให้ภีมและทุกคนที่นั่งอยู่
ในห้องนี้หน้าเสียไปตามๆกัน

       "ครับ..นี่ริกเกอร์ลูกชายของภีมเองครับพี่นาย..ริกเกอร์สวัสดีทักทายลุงนายกับ คุณปู่คุณย่าหน่อยสิครับคน
เก่ง" ภีมบอกพร้อมกับย่อตัววางฝรั่งน้อยตาน้ำข้าวลงยืนกับพื้น

       "ซาหวาดดีฮับ! น้องริกเกอร์ลูกคูณพ่อภีมฮะ!" ฝรั่งน้อยยกมือขึ้นไหว้พวกผู้ใหญ่ข้างหน้าตัวเองอย่างเก้ๆ กังๆ
ก่อนที่จะพูดแนะนำตัวเองด้วยภาษาไทยที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงซักเท่าไหร่ด้วยสีหน้าและท่าทางมั่นใจในตัวเองเต็มที่
ทำเอาพวกปู่ๆย่าๆ อย่างณัฐภาส พัสกร เจ้าคุณและธารายิ้มขำไปกับความหน้าเอ็นดูของฝรั่งตัวน้อยข้างหน้าตัว
เอง จะมีก็แค่เจ้านายคนเดียวเท่านั้นที่ทำเหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลังจะร้องไห้ออกมาอยู่มะลอมมะล่ะ แต่ก็
พยายามฝืนยิ้มให้ได้มากที่สุด ทั้งที่หน้าตาของตัวเองตอนนี้นั้นแทบจะดูไม่ได้เลย มันแย่มากๆ แย่สุดๆ ไปเลย
แต่ก็ไม่มีใครได้ทันสังเกตุเห็นเพราะมัวแต่สนใจฝรั่งน้อยอยู่ ยกเว้นคุณป๋าเจ้าคุณที่นั่งจ้องหน้าลูกชายสุดที่รัก
ของตัวเองอย่างไม่รู้ว่าเจ้าตัวนั้นกำลังคิดอะไรอยู่......สู้ๆนะน้องนาย

       "หืม...น่ารักจังเลยนะไอ้ตัวเล็ก แล้วแม่ไปไหนซะแล้วล่ะ" จึ๊ก!! เจ้านายรู้สึกเหมือนกับมีหอกแหลมคมพุ่งเข้า
มาแทงเข้าที่อกข้างซ้ายของตัวเองทันทีที่คุณป๋าเจ้าคุณสุดที่รักเอ่ยปากถามไอ้ฝรั่งน้อยถึงแม่ของมัน...ป๋าจะรู้บ้าง
ไหมว่าคำพูดและคำถามของป๋าวันนี้มันทำร้ายลูกชายคนนี้ของป๋าไปกี่ครั้งแล้วอ่ะ....นายโคตรเจ็บว๊ะป๋า!!!

       "หม่ามี๊ยางม่ายมาฮะ หม่ามี๊อยู่ยังอยู่ที่โน่นนน...ให้ริกเกอร์มากับคุณพ่อภีมก่อน" ฝรั่งน้อยตอบ
ตามความจริง ด้วยความไร้เดียงสาตามประสาเด็กๆ เล่าได้เท่าที่เจ้าตัวรู้มาจากผู้ใหญ่อีกที

       "แล้วนี่แกกับน้องพัสไม่ตกใจแย่เลยหรอวะ? ที่อยู่ดีๆลูกตัวเองก็หอบลูกฝรั่งของมันติดมือกลับมาบ้านอย่าง
นี้อ่ะ" เจ้าคุณหันไปถามเพื่อนรักที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเองด้วยเสียงที่ดังมา(ก.ไก่แสนตัว) อย่างกับว่านั่งอยู่ห่างคนละ
จังหวัดยังไงอย่างงั้น...ซ้ำกันเข้าไปนะป๋า!!..สักวันนายจะไปกรีดหน้าอีน้องเมอร์ซี่ตูดแดงของป๋าให้หน้ามันแหกพอๆ
กับหัวใจของหนูตอนนี้เลยคอยดู!!!

       "ก็ต้องตกใจสิวะ! แต่ก็นะ! เห็นรูปแม่เจ้าหนูริกเกอร์มันแล้วก็หยวนๆ พออภัยให้ได้เพราะแม่เด็กมันสวย
อย่างนี้เลยว๊ะ!!" ณัฐภาสตอบพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เพื่อนดูประมาณว่าสวยสุดยอดทำนองนั้น

       "หรอวะ..ที่ว่าสวยเนี่ย สวยขนาดไหนเลยวะ?" ไอ้นี่ก็ถามต่อด้วยความสนใจจนออกนอกหน้า

       "หน้าหวานๆ ตากลมๆ สูง ยาวเข่าดี ผิวสีแทน เซ็กซี่โคตรๆ....โอ้ยๆ พัสหยิกพี่ทำไมครับเนี่ย"  ณัฐภาส
ที่กำลังนั่งคุยอย่างออกรสออกชาติทำหน้าหื่นๆ อยู่กับเจ้าคุณเพื่อนรักก็เป็นต้องร้องโอดโอยออกมาดังลั่นด้วย
ความเจ็บปวด เพราะโดนเมียรักอย่างพัสกรบิดหยิกเข้าที่ท้องแขนอย่างเต็แรง...เข้าใจเลือกที่บิดนะเนี่ยแม่พัส!!

        "ก็ดูคำพูดแต่ละคำของพี่สิ...อยากโดนหรอห้ะ!!!" พัสกรกระซิบเสียงโหดถามใส่สามี เพราะอยู่ต่อ
หน้าคนอื่นต้องให้เกียรติสามีเข้าไว้จะมาข่มใส่สามีไม่ได้ แต่ลับหลังคนอื่นค่อยว่ากันอีกที ว่าใครจะเป็น
ใหญ่กว่าใคร...แต่ไม่ต้องบอกก็คงจะรู้กันอยู่ใช่มั้ยว่าบ้านนี้เมียใหญ่...อุ๊บ!! (หลุดปาก) ฮ่าๆ

        "คูณพ่อภีมฮะริกเกอร์เหววววว..." ฝรั่งน้อยร้องบอกกับคุณพ่อภีมของตัวเองพลางใช้มือน้อยลูบพุง
ไปมาเป็นภาพประกอบด้วยว่าตนนั้นหิวจริงๆ หิวจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ด้วยภาษาไทยกระท่อนกระแท่น
ของตัวเองเพราะก่อนหน้านี้ได้ทำข้อตกลงกับคุณพ่อภีมไว้แล้วว่าอยู่ที่นี่ต้องพูดภาษาไทยเท่านั้น ไม่อย่างนั้น
คุณพ่อภีมจะส่งกลับไปอยู่กับหม่ามี๊ที่อเมริกา

       "ไปครับริกเกอร์ไปทานข้าวกับคุณย่าดีกว่า พี่คุณ พี่ธารกับเจ้านายก็อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะครับ
พัสเตรียมไว้รอพวกพี่เยอะเลย เพราะเห็นว่าวันนี้เจ้านายมาด้วย" พัสกรอุ้มฝรั่งน้อยริกเกอร์ขึ้นมา
จากพื้นพร้อมกับจูงมือลากเจ้านายเดินไปด้วย นำทุกคนไปที่ห้องอาหารที่นานๆ จะได้ใช้สักที เพราะ
ส่วนมากก็อยู่กันสองคนกับณัฐภาสสามีนั่นแหละ เพราะลูกแฝดทั้งสามก็ต่างแยกย้ายกันไปเรียนตาม
ที่ตัวเองต้องการส่วน 'เจ้าเพชร' หรือ ชื่อจริงว่า พลอยไพริน ลูกสาวคนสุดท้องของเขาก็ชิงหนีพ่อแม่ไป
เรียนโรงเรียนประจำที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กแต่เล็กเลย...มันน่าตีจริงๆ
.
.
.
.
.
       "พี่นายไม่สบายหรือเปล่าครับ ภีมเห็นสีหน้าพี่ไม่ค่อยดีตั้งแต่แรกแล้ว" ภีมพูดถามขึ้นหลังจากที่
เดินตามหาเจ้านายมาทั่วบ้านแล้ว เจ้าตัวกลับมานั่งแอบอยู่บนก้อนหินประดับก้อนใหญ่กลางลำธาร
น้ำตกจำลองของคุณแม่พัสของเขาทีี่สร้างไว้อยู่ข้างๆกับซุ้มดอกไม้นี่เอง เขาถึงได้มองไม่เห็นทั้งที่เดิน
ผ่านตรงนี้ไปแล้วรอบนึง เพราะหลังจากที่ทานมื้อกลางวันกันเสร็จพี่เจ้านายของเขาก็ชิ่งเดินหนีออกมา
จากในบ้านทันที ปล่อยให้เขาโดนพวกพ่อๆแม่ๆนั่งซักอยู่ได้คนเดียว แถมตั้งแต่เจอหน้ากันเจ้านายก็
ไม่ยอมพูดคุยหรือแม้แต่จะมองหน้าเขาเลย ต่อให้เขาชวนคุณสักแค่ไหนก็ตาม เจ้าตัวก็ทำเป็นหูทวนลม
ปล่อยให้เขาพูดถามอย่างไร้คนตอบอยู่ตลอดเวลาในการทานมื้อกลางวันที่ผ่านมา

       "เปล่า" แค่นั้น...เจ้านายพูดตอบปัดๆออกไปแค่คำเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังไม่ยอมเงยหน้ามองคู่
สนทนาที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างภีมอีกต่างหาก ก้มหน้ามองดูปลาคราฟของคุณพ่อภาสที่ว่ายวน
อยู่ในน้ำรอบๆ ตัวของตัวเองอย่างเดียว.....เฮ้อ!!

       "พี่นายไม่คิดที่จะเงยหน้ามามองหน้าภีมบ้างหรือครับ....แต่ภีมอยากเห็นหน้าพี่นายชัดๆนะครับ"
ภีมพูดพร้อมกับก้าวกระโดดจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่ข้ามไปยืนอยู่ที่บนก้อนหินใหญ่ที่เจ้านายนั่งอยู่

      "ทำอะไรของนายน่ะ!!!" เจ้านายตะคอกถามอย่างตกใจ ที่อยู่ดีๆ ภีมก็กระโดดมายืนอยู่ข้างๆตัว
ของตัวเองอย่างนี้...อย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

       "ดีจังเลยนะครับที่พี่นายยอมหันมามองกน้าภีมและยอมเปิดปากพูดกับภีมแล้ว" ภีมไม่ตอบแต่
กลับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจอย่างที่เจ้านายชอบไปให้อีกคน ทำเอาหน้าและลำคอของเจ้านายเริ่มเห่อแดง
ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเจ้าตัวกำลังเขินที่ได้เห็นรอยยิ้มของคนที่รักนั่นเอง

       "พูดเรื่องบ้าอะไรของนาย ฉันแค่กำลังคิดอะไรเรื่อเปื่อยไปเท่านั้นเอง เลยไม่ค่อยได้สนใจรอบข้าง
สักเท่าไหร่" เจ้านายทำเก๊กนิ่งพูดแก้ตัว ถึงอาการเสียใจบ้าๆของตัวเอง ทั้งที่หน้าของตนขึ้นสีแดงแปร๊ด
อย่างนี้นี่แหละ

       "หรอครับ ภีมพึ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่นายของภีมกลายเป็นคนคิดมากอย่างนี้ไปแล้ว" ภีมทิ้งตัวนั่งข้างๆกัน
กับเจ้านาย

       "เหอะ!! น้ำหน้าอย่างนายมันจะไปรู้อะไร!!" เจ้านายลืมตัวหลุดพูดสบถออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทำเอาภีมกระตุกยิ้มมุมปากออกมาอย่างถูกใจ

       "ไม่เอาสิครับ...อย่างใช้คำพูดหรือทำตัวห่างเหินกับภีมอย่างนี้สิครับ...ภีมไม่ชอบเลย" ภีมบอก
พร้อมกับดึงรั้งตัวของเจ้านายให้ขึ้นมานั่งทับอยู่บนตักของตัวเอง พลางใช้แขนทั้งสองข้างของตัวเอง
เป็นเหมือนคีมเหล็กกอดล็อกตัวเจ้านายไว้ติดกับตัวเอง

       "ทำบ้าอะไรเนี่ย!! ปล่อยเลยนะ!! ใครมาเห็นเข้าจะว่ายังไงห้ะที่ฉันกับนายมานั่งกอดกันอย่างนี้"
เจ้านายพูดบอกพร้อมกับพยายามที่จะแกะมือของภีมที่จับล็อคตัวเองให้หลุดไป แต่ก็เสียแรงเปล่า
เพราะนอกจากจะไม่หลุดแล้ว มันยังเหมือนกับว่าภีมกำลังกอดรัดตัวเขาให้แน่นเพิ่มขึ้นไปอีก จนหลัง
ของเขาแนบชิดติดกับแผ่นอกแน่นๆของข้างหลังอยู่เลย

       "พี่นายก็เลิกใช้คำห่างเหินอย่าง ฉันๆ นายๆ กับภีมสักทีสิครับ ภีมไม่ชอบเลย...เปลี่ยนมาเรียก
พี่นายกับน้องภีมอย่างที่เราเคยเรียกกันตอนเด็กๆ เหมือนเดิมดีกว่า...ดีกว่าเยอะ" ภีมพูดบอกพลาง
ยื่นหน้าเอาคางเกยวางอยู่กับไหล่เจ้านาย ไม่วายที่จะแกล้งงับหูเจ้านายเป็นการส่งท้ายเบาๆ

       "เจ้านาย!! เจ้านายอยู่ไหน..โผล่หัวออกมาซักทีป๋ากับแม่เอ็งจะกลับบ้านแล้วนะเว้ย!!!" ยังไม่ทันที่
เจ้านายจะได้ตอบอะไรภีมกลับไป เสียงตะโกนร้องเรียกหาเจ้านายของป๋าเจ้าคุณก็ดังแทรกเข้ามาเสียก่อน
ทำให้เด็กหนุ่มทั้งสองคนสะดุ้งตกใจ จนภีมเผลอทำเมือหลุดออกจากการกอดเจ้านาย เลยทำให้
เจ้านายรีบลุกออกจากตักของภีมและกระโดดหนีจากก้อนหินกลางน้ำมายืนอยู่บนพื้นหญ้าฝั่งตรงข้าม
ได้ในที่สุด

       "มันไม่มีอะไรที่จะเหมือนอีกต่อไปแล้วหล่ะสำหรับนาย" เจ้านายพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
บอกกับภีม ก่อนที่จะรีบหันหลังวิ่งหนีออกไปจากบริเวณนั้นทันที.....ถึงพี่จะบ้าแต่...พี่ก็ไม่โง่นะครับ!!!


       .......ต่อให้เคยรักสักแค่ไหน(ตอนนี้ก็ยังรักอยู่)พี่ก็ไม่ได้เลวถึงขั้นที่จะแย่งสามีหรือพ่อของใคร
มาเป็นเจ้าสาวของตัวเองหรอกนะครับน้องภีม.....ปล่อยทุกอย่างให้มันผ่านไป...ดีกว่า..พี่ทนได้.....


       "แล้วภีมจะคอยดูนะครับ...พี่เจ้านาย" ภีมพูดพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์อย่างที่ไม่เคย
มีใครได้เห็นเจ้าตัวในมุมนี้มาก่อนเลย



       .......ไม่มีคนใด ไม่มีสิ่งใด ที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลา.......





_____________________________________________________________________TBC.
เอามาลงให้ตามสัญญาแล้วนะคะ
ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป มี่จะลงให้แค่ตอนยาวๆแค่ตอนเดียวเหมือนเดิมนะคะ
แล้วเจอกันค่ะ!!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สี่ (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 15-02-2016 20:25:14
ตามมาจากภาคพ่อแม่
แล่วๆๆๆ
ยังไงล่ะทีนี้น้องนาย
น้องนายจะไม่ได้เป็นเจ้าบ่าวให้น้องภีมละสิ


เพราะน้องภีมต้องเป็นเจ้าบ่าวแทนแน่ๆ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สี่ (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-02-2016 01:13:39
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สี่ (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 16-02-2016 09:05:54
อะไรยังไงจากเจ้าบ่าวกลายเป็นเจ้าสาวซะงั้น
แล้วไหงเจ้าสาวถึงมีลูกซะหละ งง!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สี่ (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 16-02-2016 09:42:53
 :z6:
งง ไปหมด  ทำไมกลายเป็นแบบนี้อ่ะ ลูกโผล่ แม่ของลูกก็มี
แล้วทั้ง ผู้ใหญ่เหมือนเห็นดีด้วย เล่นแบบนี้ แรงจริงๆ
โกรธแทน น้องนาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สี่ (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-02-2016 10:14:18
น้องภีมวางแผนอะไรไว้นี่
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สี่ (15.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-02-2016 11:32:28
ไม่นะ ทำไมทำแบบนี้ สงสารน้องนาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่ห้า (16.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 16-02-2016 18:40:04
16/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่ห้า






       ปึงงงง!!!

       "ปิดเบาๆ เว้ย เดี๋ยวรถกูบุบหมดไอ้ห่านิ!" เจ้าคุณร้องโวยทันทีที่เจ้านายขึ้นมานั่งอยู่บนรถบนเบาะด้านหลัง
คนขับ หลังจากที่ปิดประตูรถกระแทกอย่างแรง

       "ขอโทษฮะป๋า...แฮ่กๆ" เจ้านายบอกด้วยเสียงหอบๆ เพราะเหนื่อยจากที่พึ่งวิ่งหนีภีมออกมา

       "เออๆ ช่างมันเถอะ...แต่ถ้ารถกูบุบขึ้นมาจริงๆกูจะไปเก็บค่าเสียหายทบต้นทบดอกกับแม่มึงเอง" เจ้าคุณ
มองหน้าสบตากับธารา ก่อนที่จะพูดบอกกับลูกชายอีกที่อย่างไม่จริงจังนัก และเหยียบคันเร่งเคลื่อนรถออก
จากประตูรั้วบ้านอัครจินดากรณ์ของภีมได้เสียที.....และถ้าเจ้านายเหลียวหลังกลับมามองข้างหลังสักนิดก็คง
จะได้เห็นว่าใครคนนั้นเดินตามมาส่งตัวเองอย่างเงียบๆอยู่หน้าบ้าน
.
.
.
.
.
       "แล้วกลับมาหาป๋ากับแม่บ่อยๆนะน้องนาย...แม่คิดถึง" ธาราพูดบอก ย้ำกับลูกชายอีกครั้งในขณะที่มาส่ง
เจ้าตัวขึ้นเครื่องที่สนามบินเพื่อที่จะกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯอย่างเดิมหลังจากที่อยู่บ้านจนครบกำหนดตามที่
เจ้าตัวบอกพ่อกับแม่ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ดูจะผิดคาดจากสิ่งที่ทุกคนคิด ก็คือ เจ้านายไม่ได้ไปเหยียบบ้าน
อัครจินดากรณ์หรือเรียกร้องที่จะไปหาน้องภีมของเจ้าตัวอีกเลยหลังจากวันนั้น

       "คร้าบๆ ถ้านายว่างนายจะรีบกลับมาหาป๋ากับแม่ที่บ้านให้ป๋ากับแม่เบื่อหน้านายกันไปข้างนึงเลย
รักนะครับทั้งป๋าทั้งแม่ธารจ๋าเลย จุ๊บ!! จุ๊บ!!" เจ้านายพูดบอกพร้อมกับกดจูบที่ข้างแก้มของเจ้าคุณและ
ธาราเป็นการส่งท้ายอีกคนละทีก่อนที่จะเดินหายเข้าเกทไป

       การที่ได้กลับมาบ้านในครั้งนี้ของเจ้านายมีอะไรหลายๆอย่างได้เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว โดยเฉพาะ
ความรู้สึกของการรอคอยใครบางคนตลอดห้าปีที่ผ่านมา มันเหมือนกับว่าเจ้านายได้ปลดบ่วงโซ่
พันธนาการที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้นมาเมื่อห้าปีที่แล้วโยนทิ้งไปกับคลื่นลมทะเลในบ้านเกิดที่มีโอกาศ
ได้ไปนั่งปล่อยอารมณ์ทำเอ็มวีของตัวเองที่ริมหาดอยู่คนเดียวจนหมดสิ้นไปแล้ว เหลือไว้แต่พี่เจ้านาย
โคตรหล่อ พ่อโคตรรวย โสดแต่ไม่สดคนนี้ กลับไปลั้ลลาฟันดะกับกิ๊กทั้งแปดคน(ที่เหลืออยู่)ของตัวเอง
ที่กรุงเทพฯดีกว่า สบายตัวสบายใจกว่าอยู่ที่นี่เยอะ!!!
.
.
.
.
.
คืนวันเดียวกันในไนท์คลับหรูของคุณป๋าเจ้าคุณที่เจ้าพระยากำลังดูแลอยู่นั่นแหละ...


       "ตกลงมึงเป็นเห้อะไรของมึงเนี่ยไอ้นาย ถึงได้โทรตามพวกกูมานั่งดูมึงกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก
เหมือนน้ำเปล่าอย่างนี้เนี่ยห้ะ...ไหนมึงบอกพวกกูว่าจะกลับบ้านไปหาว่าที่เมียที่ไม่ได้เจอหน้ากันมา
นานหลายปีไงวะ ไหงกลับมานั่งซดเหล้าเพียวๆ เหมือนคนโดนหักอกมาอย่างงี้อ่ะ!!" เลย์พูดถามเพราะ
เมื่อสามวันก่อนเจ้านายเพื่อนรัก ก็โทรมาบอกพวกเขาด้วยเสียงดี้ด๊าว่าจะกลับบ้านไปดูหน้าว่าที่เจ้าสาว
ของมันที่บ้านเกิดหลังจากไม่ได้เจอกันมานานหลายปี แต่ไหงกลับมาวันนี้มันโทรให้พวกเขาออกมานั่ง
ดูมันซดเหล้าเพียวๆเข้าปากเหมือนคนอกหักอย่างนี้ล่ะ?

       "สัส! พูดมากว่ะ! กูให้พวกมึงมานั่งดื่มเป็นเพื่อนกูไม่ใช่พ่อกูนะไอ้เวรเลย์...แดกๆ กันเข้าไปไม่
ต้องเสือกพูดมากไอ้ห่า...กูลำคาญ" เจ้านายตวัดสายตามองเลย์อย่างหงุดหงิด ที่โดนเพื่อนจี้ใจดำ
พูดเดาถูกตรงจุดเจ็บอย่างนี้

       "เออๆ ก็คนมันอยากรู้ขอถามหน่อยก็ไม่ได้วุ้ยไอ้ห่า.....มึงว่าไอ้นายมันเป็นอะไรของมันวะมอส"
เลย์เออออยกแก้วเหล้าชนดื่มกับเจ้านายไปตามที่เพื่อนต้องการ ก่อนที่จะหันมากระซิบถามมอสที่นั่ง
อยู่ข้างๆตัวเองคนละฝั่งกันกับเจ้านายทันทีที่เจ้านายเผลอ

       "มึงว่ากูจะรู้เรื่องกับมันมั้ยล๊ะ? ในเมื่อกูตัวติดอยู่กับมึงแทบจะทั้งวันทั้งคืนประหนึ่งผัวเมียกันอยู่
อย่างนี้น่ะ" มอสตอบพลางทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เลย์.....อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้
ไปกับมันไหมครับ...เพื่อนเวร!!!

       "จิ๊!! ไม่ได้อย่างใจกูเลยนะมึงน่ะ!!" เลย์ชักสีหน้าจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดที่ไม่ได้คำตอบที่ถูกใจจาก
มอส อย่างที่ตนต้องการ......กรรมของไอ้มอสมันที่มีเพื่อนอย่างแกไอ้เลย์!!

       ปึก!! พลั่ก!!!

       "เอ้า!! ไอ้สัส!! มึงต่อยกูทำเหี้ยอะไรเนี่ย!!!" ในขณะที่เลย์กับมอสกำลังเถียงกันเรื่องของเจ้านายอยู่
เจ้านายที่กำลังยืนเต้นอยู่ไม่ไกลจากบริเวรโต๊ะที่ตัวเองนั่งอยู่สักเท่าไหร่ ที่อยู่ดีๆ ก็โดนวัยรุ่นที่น่าจะอายุ
รุ่นราวคราวเดียวกันเดินชนและต่อยเข้าที่หน้าเจ้านายอย่างจัง จนเจ้านายเสียหลักหงายหลังลงไปกับ
นั่งอยู่พื้น แต่พอตั้งตัวได้เจ้านายก็ลุกขึ้นมาต่อยสวนไอ้คนที่ต่อยตัวเองทันที ทำให้เพื่อนๆของไอ้ฝั่งคน
ที่มาหาเรื่องเจ้านายก่อนรีบวิ่งเข้ามาช่วยเพื่อนตัวเอง และเลย์กับมอสที่เห็นว่าเจ้านายกำลังโดนฝ่าย
นั้นลุมทำร้ายอยู่ก็กระโดดเข้าไปเข้าไปในช่วยเพื่อนรักอย่างเจ้านายอีกแรง ทำให้จากที่เป็นการชกต่อย
กันแค่สองคนลุกลามกลายเป็นวงกว้างในที่สุดเพราะเพื่อนของทางฝ่ายนั้นยังมาเพิ่มกันเรื่อยๆ ในขณะ
ที่ทางฝั่งของเจ้านายมีแค่เจ้านาย กับเลย์และมอสแค่สองคนเท่านั้น

       ปังงงง!!!

       "กรี๊ดดดด...." เสียงปืนและเสียงกรีดร้องของพวกผู้หญิงดังขึ้นพร้อมๆกับทุกสิ่งทุกอย่างในไนท์คลับ
แห่งนี้สงบเงียบลงจนแทบจะไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจเลย รวมทั้งพวกที่กำลังมีเรื่องชกต่อยกับพวก
เจ้านายด้วยก็เช่นกัน

       "ไหน? ใคร? ไอ้เวรหน้าไหน!! มันกล้าหาเรื่องพี่กูในถิ่นของพวกกู!!!" เสียงตวาดหวาดถามดังออก
มาพร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่เจ้าของเสียงเดินฝ่าฝูงนักท่องราตรีออกมายืนอยู่กลางวงนักเลงข้างๆ กันกับ
เจ้านาย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกเสียจาก 'เจ้าพระยา' น้องชายคนรองของเจ้านายที่เป็นคนดูแล
ควบคุมไนท์คลับแห่งนี้แทนป๋าเจ้าคุณของพวกเขานั้นเอง.....นี่ถ้าไม่ได้เป็นพี่น้องกันมาเนี่ย เจ้านาย
คงจะเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าพระยาน้องชายของเขานี่คือเด็กหนุ่มอายุยี่สิบรุ่นราวคราวเดียวกันแน่นอน
เพราะไม่มีตรงส่วนไหนของมันเลยที่จะทำให้ชาวบ้านเขาดูออกว่ามันก็แค่ไอ้เด็กอายุสิบสี่เท่านั้น
แล้วยิ่งมาจับปืนคุมไนท์คลับอย่างนี้แล้วด้วย.....หน้าตาเอ็งนี่ช่างทรยศอายุเสียจริงๆ ไอ้น้องรัก!!

       "ตัวเองเป็นอะไรรึเปล่าอ่ะ" เจ้าพระยากระซิบถามเจ้านายเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคนพี่น้อง
เพราะขืนพูดเสียงดังไปใครเขาได้ยินจะพากันเลิกกลัวเจ้าของไนท์คลับ(ตัวหลอก)คนนี้ไปเสียก่อน

       "เค้าไม่เป็นไรอ่ะ แค่เจ็บนิดหน่อย" เจ้านายก็กระซิบตอบน้องชายกลับไป พลางเก๊กหน้าทำโหด
จ้องหน้าไอ้คนที่มาหาเรื่องตนเขม็ง ถามมันผ่านสายตาว่า.....มึงต่อยกูเพื่อ??

       ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วที่เจ้านายกับเจ้าพระยาของคนพี่น้องตระกูลเจ้านี้ชอบทำตัวมุ้งมิ้งเรียกแทนตัว
ว่า 'เค้า' กับ 'ตัวเอง' ใส่กันอยู่สองคน และไม่ต้องเอาไปรวมกับเจ้าสมุทรนะเพราะรายนั้นมันนอกคอก
ทำตัวเป็นคนพูดน้อยเย็นชา ผิดแผกแตกต่างจากพี่จากน้อง(ไม่น่ารักเลยอ่ะ!!) เหมือนกับว่าเจ้านาย
เป็นฝาแฝดกับเจ้าพระยาและเจ้าสมุทรเป็นพี่คนโตอย่างไงอย่างงั้น เพราะก็อย่างที่บอกไปว่ารายนั้น
เขานิสัยนิ่งๆ เงียบๆ แลดูมีความคิดความอ่านกว่าเจ้านายที่เป็นพี่คนโตเสียอีก

       "เอ้า!! เงียบทำเหี้ยอะไรกัน!! กูถามว่าไอ้หมาตัวไหนที่มันกล้ามาหาเรื่องพี่กูในที่ของพวกกู!!!"
เจ้าพระยาเก๊กหน้าเหี้ยมถามเสียงโหดอย่างหน้ากลัวจนไอ้พวกเพื่อนในกลุ่มของไอ้คนที่มาหาเรื่อง
เจ้านายนั่นแหละที่ช่วยกันถีบส่งเพื่อนตัวเองออกมา.....แลดูว่าพวกมึงรักกันมากกกก(?)

       "ผะ..ผม..ขอโทษครับพี่พระยา ผมไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นพี่ของพี่พระยา ไม่งั้นผมไม่ทำหรอกครับ"
ไอ้คนที่มันมาหาเรื่องเจ้านายยกมือท่วมหัวไหว้เจ้าพระยาพูดบอกด้วยเสียงสั่นๆอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ใครที่เป็นลูกค้าประจำที่ไนท์คลับแห่งนี้ย่อมรู้ซึ้งถึงชื่อเสียงของพี่เจ้าพระยาผู้คุมไนท์คลับแห่งนี้ดีว่า
ขึ้นชื่อเรื่องความโหดความเถื่อนแค่ไหน แล้วใครล่ะจะกล้ามาต่อกลอนหาเรื่องพี่เจ้าพระยาคนนี้
ว่าแต่ว่าเจ้านายมีเรื่องสงสัยอยู่เรื่องสองเรื่องว่า พวกมึงเรียกเด็กอายุสิบสี่ว่าพี่(?) และพวกมึงๆทั้งหลาย
กลัวเด็กอายุสิบสี่อย่างไอ้เจ้าพระยาน้องกูจนถึงกลับต้องยกมือไหว้เลย(?) โธ่...นักเล๊งนักเลงเน๊าะมึง!!

       "มึงรู้อะไรไหมว่า แค่มึงเข้ามาก่อเรื่องสร้างปัญหาในถิ่นของกู กูก็ถือว่ามึงลบหลู่กูแล้ว แต่นี่มึงกับ
กล้าพาพวกมึงมารุมกระทืบพี่ชายแท้ๆของกูอย่างนี้มันหยามกันเกินไปว๊ะ...ไอ้เหี้ย!!!  พลั่ก!!!!"
เจ้าพระยาใช้กระบอกปืนที่อยู่ในมือเชิดคางของไอ้นักเลงสมัครเล่นคนนั้น จ้องหน้าอย่างกะจะกินเลือด
กินเนื้อ และทันทีที่พูดจบประโยคเจ้าพระยาก็ยัดปืนใส่มือพี่เจ้านายที่ยืนอยู่ข้างๆตัวเองก่อนที่จะลงมือ
สั่งสอนไอ้เวรตะไลที่มันกล้ามาทำให้ผิวสวยๆของพี่เจ้านายของเขาเป็นรอยช้ำตัวสองมือและสองเท้าที่
มีของตัวเอง กว่าที่เจ้าพระยาจะพอใจได้ไอ้คนนั้นมันก็นอนสลบหลับไหลคาส้นรองเท้เบอร์สี่สิบสองของ
เจ้าตัวไปแล้ว ก่อนที่จะเรียกให้พนักงานในร้านมาลากซากมันและเพื่อนๆมันออกไปจากร้าน และปล่อย
ให้เหล่าผีเสื้อราตรีที่มาเที่ยวในร้านได้เริ่มสนุกกันต่อ ทำเหมือนกับว่าเรื่องเมื่อสักครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้น และ
พาเจ้านาย มอส เลย์ ขึ้นมาทำแผลในห้องทำงานส่วนตัวที่อยู่บนชั้นสองของไนท์คลับ

       "เจ็บมากหรือเปล่าตัวเอง ดูดิผิวสวยๆของตัวเองช้ำหมดเลย เค้าขอโทษนะที่เขาลงไปช่วยช้าเพราะ
มัวแต่นอนหลับอ่ะ! แมร่งเอ้ย!!! น่าไปลากหัวมันกลับมากระทืบอีกสักทีสองทีดูดิ...มันทำแขนตัวเอง
เป็นรอยข่วนด้วย!!!" เจ้าพระยาสบถอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นร่องรอยแผลและรอยฝกช้ำจากการมีเรื่อง
ชกต่อยกับกลุ่มชายแปลกหน้าเมื่อสักครู่นี้อยู่หลายจุดไม่ว่าจะเป็นมุมปากที่แตก หรือรอยเขียวช้ำเป็น
จ้ำๆตามแขนตามตัวอีกหลายจุด

       "ใจเย็นน่า...เค้าไม่เป็นไรหรอก แค่นี้...จิ๊บๆ....ว่าแต่ตัวเองเถอะ มาคุมร้านดึกๆดื่นๆอย่างนี้ทุกวัน
แล้วจะไปเรียนยังไงอ่ะไม่ง่วงหรอ" เจ้านายถามพลางมองหน้าน้องชายที่ยังคงหัวเสียทำหน้างออยู่บน
เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับตนเอง

       "ไม่อ่ะ...ถ้าไม่ไหวจริงๆเขาก็อาศัยงีบตอนดูร้านนี่แหละ อย่างเมื่อกี้ก่อนที่จะลงไปช่วยตัวเองไง ที่ไปช้า
ก็เพราะเผลอหลับเนี่ยแหละ ส่วนเรื่องเรียนก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เขาไม่เคยไปหลับในเวลาเรียนหรือเคย
ขาดเรียนสักวัน...ไว้ใจได้" เจ้าพระยายักคิ้วหลิ่วตาบอกอย่างเจ้าเล่ห์...จะเชื่อมันได้ไหมเนี่ย?

       "อืม...ดีแล้ว ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ ขืนเรียนไม่จบ กลับบ้านไปตัวเองโดนฝ่าตรีนอรหันต์ของป๋าแน่นๆ
เอ้อ!!...ลืมไปเลย! ไอ้สองคนนี้เพื่อนสนิทเค้า คนนี้ชื่อเลย์ อีกคนชื่อมอส มันสองคนเป็นผัวเมียกัน"

      ป๊าบบบบ!!!

       "ผัวเมียบ้านมึงสิไอ้เชี่ยนาย!!....พี่สองคนเป็นเพื่อนกันครับน้องเจ้าพระยา...ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ"
เจ้านายเพื่อนรักพูดยังไม่ทันจบประโยคดีเลย์ก็ประเคนฝ่ามือโบกเข้าไปเต็มหัวทุยๆของเพื่อนรัก ข้อหา
พูดจาไม่รู้เรื่อง ผัวเมียบ้าบอห่าไร....เดี๋ยวน้องเจ้าพระยาคนน่ารัก(แกใช้ตาตุ่มมองเหรอเลย์?)ก็เข้าใจผิด
กันพอดี....ก่อนที่จะหันไปพูดแก้ตัวกับเจ้าพระยาอีกที

       "โอ้ย! ไอ้เลย์! เชี่ยนี่แมร่ง!! มือหรือตรีนมึงน่ะห๊ะ!!....มึนเลยกู" เจ้านายสะบัดหัวไปมาด้วยความ
มึนโวยวายใส่เพื่อนรักอย่างเลย์อย่างไม่จริงจังมากนัก...ติดไปทางแกล้งกันเล่นเสียมากกว่า

       "ฮ่าๆ ยินดีที่ได้รู้จักครับพี่เลย์ พี่มอส ยังไงก็ฝากดูเจ้านายด้วยนะครับ รายนี้ไม่มีไรกะใครเขาหรอก
บ้าๆ บอๆ ไปวันๆ" เจ้าพระยาก้มหัวทักทายเลย์กับมอสนิดหน่อยพอให้ดูไม่น่าเกลียดเกินไป ถ้าเป็นคนอื่น
ไม่ใช่เพื่อนของเจ้านายเขาไม่ยอมก้มหัวให้หรอก(นิดเดียวเนี่ยนะ?) แค่ใช้ตามองผ่านๆก็พอเพราะคิด
ว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร อายุมากกว่าน้อยกว่ายังไงก็คนเหมือนกัน...ทำไมต้องแคร์? ยกเว้นก็แต่คนใน
ครอบครัวและคนที่เขาคิดว่าสำคัญจริงๆเท่านั้นแหละเขาถึงจะยอมยกมือขึ้นมาไหว้หน่ะนะ!!!

       "ว่าแต่ว่า...น้องเจ้าพระยาเป็นน้องไอ้นายจริงๆหรอครับ" เลย์ถามเจ้าพระยาด้วยเสียงกระท่อน
กระแท่น เพราะกลัวว่าน้องเจ้าพระยาของไอ้เจ้านายเพื่อนของเขาจะไม่พอใจ ที่เสือกไปถามเรื่องส่วนตัว
ของมัน แต่ก็นะ..รูปร่างหน้าตาและการวางตัวที่ไม่รวมคำพูดเค้าๆตัวๆกับไอ้เจ้านายพี่มันนะน่ะ มันไม่
เหมือนเด็กสิบสี่อย่างที่เจ้านายมันบอกก่อนหน้านี้เลย นี่ถ้าบอกว่ามันอายุสักยี่สิบสี่ยี่สิบห้าหรือรุ่นราว
คราวเดียวกันกับพวกเขาเนี่ยยังจะน่าเชื่อซะกว่าอีก!.....เด็กห่าไรตัวโตอย่างกะยักษ์แถมยังสามารถคุม
ไนท์คลับใหญ่ๆที่ดูจะยุ่งยากวุ่นวายด้วยตัวคนเดียวอีกต่างหาก.....น่ากลัวชิบ!!

       "ฮ่าๆ ก็จริงสิว๊ะ! นี่มึงกำลังจะชมกูว่าหน้าเด็กหรือกำลังจะด่าว่าน้องกูหน้าแก่วะไอ้เลย์.....ตัวเองเอา
บัตรนักเรียนออกมาให้พวกมันดูดิ๊!" แทนที่เจ้าพระยาจะเป็นคนตอบแต่ก็เปล่าเลย เพราะเจ้านายเป็นคน
ชิ่งตอบคำถามแทนน้องเสียก่อนเมื่อเห็นเจ้าพระยาทำหน้าเอ๋อๆมึนๆเพราะไม่คิดว่าจะมีใครกล้ามาถาม
คำถามไร้สาระอย่างนี้กับตัวเอง แถมเจ้านายยังแบมือขอบัตรประจำตัวนักเรียนกับน้องออกมาให้ไอ้พวก
เพื่อนเจ้าหนูจำไมของตัวเองให้ดูกันชัดๆไปเลย ซึ่งเจ้าพระยาเองก็หยิบบัตรประจำตัวนักเรียนของตัวเอง
จากกระเป๋าสตางค์ส่งให้พี่ชายอย่างงงๆ

       "เด็กชายเจ้าพระยา ยศวโยธิน อายุ 14 ปี 8 เดือน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/5 โรงเรียนxxxx
กร๊ากกกกก........." เลย์และมอสที่พอได้บัตรประจำตัวนักเรียนของเจ้าพระยาก็เริ่มอ่านข้อมูลในบัตร
ด้วยเสียงดังฟังชัด ก่อนที่จะพากันหลุดหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะเห็นรูปตอนที่เจ้าพระยา
ใส่ชุดนักเรียนในบัตรแล้วมันช่างแตกต่างจากไอ้น้องเจ้าพระยาที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาโดยสิ้นเชิง สงสัยชุด
และสถานที่จะหล่อหลอมให้คนเราแตกต่างจากตัวตนจริงๆได้อย่างดีเลยนะเนี่ย พวกเขาถึงได้เห็นความ
แตกต่างจากคนๆเดียวกันได้อย่างชัดเจนอย่างนี้ในช่วงอายุเวลาเดียวกันเพียงแต่คนละสถานที่คนละ
สถานะภาพเท่านั้นเอง.....โลกนี้ช่างอยู่ยากจริงๆ...เฮ้อ!!

       "ขำไรกันว๊ะพี่!!...ผมเขินนะเว้ย!!!" เจ้าพระยาว๊ากใส่เลย์กับมอสด้วยสีหน้าแดงๆติดจะเขินอายพลาง
เอื้อมมือไปคว้าบัตรนักเรียนของตัวเองที่อยู่ในมือเลย์มาเก็บใส่กระเป๋าสตางค์อย่างรวดเร็ว

       "ฮ่าๆ โอ๊ย!..ขอโทษทีครับน้องเจ้าพระยา ที่พี่ขำเพราะว่ารูปนักเรียนของน้องในบัตรมันน่ารักสมวัย
เหมาะกับน้องเจ้าพระยาตอนนี้มากต่างหากล๊ะครับ...อย่าคิดมากน้าาา..." เลย์บอกอย่างอ้อล้อ

       "อย่ามาทำหน้าแป้นแล้นหน้าหม้อใส่น้องกูนะไอ้เลย์ เพราะกูไม่อยากได้คนอย่างมึงมาเป็นน้องสะใภ้
....กูรับไม่ได้จริงๆ" เจ้านายพูดเสียงเอือมๆใส่เพื่อน.....ไอ้เพื่อนห่านี่หม้อน้องกู...เวรจริงๆ

       "แหม...ทำไมล๊ะคะ? พี่เจ้านายก็! น้องเลย์คนนี้ออกจะน่ารักปิ๊งปั๊งสดใสสมวัยดีออก...พี่เจ้านายไม่
ชอบหรอคะ" เลย์แกล้งทำเสียงและท่าทางประหนึ่งว่าตนนั้นคือสาวน้อยบอบบางก็ไม่ปาน ทั้งยังใส่จริต
สะดีดสะดิ้งเสียจนเพื่อนรักอย่างเจ้านายกับมอส และเจ้าพระยาที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากกันทำหน้าแหยงๆ
ใส่กันอย่างไม่ได้นัดหมาย....ฮึ่ย!..ขนลุก!
.
.
.
       "ความจริงคืนนี้ตัวเองน่าจะอยู่นอนกับเค้านะ เราไม่ได้นอนด้วยกันมานานแล้วนะ...เจ้านาย"
เจ้าพระยาพูดอย่างเซ็งๆ ตอนที่เดินมาส่งเจ้านายที่รถของเจ้าตัวหลังจากที่พูดคุยกันอยู่นานพอสมควร
แต่ก็ยังไม่พอใจสำหรับคู่พี่น้องจอมง๊องแง๊งอย่างสองคนนี้

       "เอาไว้วันหลังดีกว่า พรุ่งนี้เค้ามีเรียนเช้า...ไปนะ" เจ้านายบอกพร้อมกับเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ
ในรถตัวเองเพราะตอนขามาก็มารถคนละคันกับมอสและเลย์อยู่แล้ว และสองคนนั้นก็ขอตัวกลับไปก่อน
แล้ว ความจริงเขาก็อยากจะอยู่ค้างกับเจ้าพระยาสักคืนอยู่หรอก แต่ติดที่ว่าพรุ่งนี้คณะของเขามันจะไป
ปิดท้ายการรับน้องปีหนึ่งที่กำลังจะขึ้นปีสองในภาคเรียนต่อไปที่หัวหินและพี่ปีสองที่มีหน้าที่ใน
การรับผิดชอบน้องปีหนึ่งโดยตรงอย่างเขาก็ห้ามป่วย ห้ามขาด ห้ามลาและห้ามตายด้วยน่ะสิ! ไม่อย่างนั้น
โดนตัดสายแน่ๆ(โหดสาสสส) เขาก็เลยอยู่ค้างกับน้องไม่ได้เพราะพรุ่งนี้รถทัวร์ที่ใช้ในการเดินทางในครั้งนี้
ออกจากมหาลัยตั้งแต่ตีห้า เขาก็เลยต้องกลับไปเก็บของก่อนไง...ไอ้ตอนจะมาเมาที่นี่ก็ลืมคิดว่า(พรุ่งนี้กูไม่ว่างนี่หว่า)
เพราะมัวแต่เสียใจเรื่องน้องน้อย(?)ผู้ใจร้ายอยู่ เลยคิดแต่จะเมาอย่างเดียว ทีนี้หล่ะพอนึกได้
ขึ้นมาแล้วเป็นไง......ซวยเลยตรู

       การรับน้องของที่อื่นเป็นยังไงไม่รู้แต่การรับน้องของคณะประมงของเขานี้ในช่วงแรกก็รับน้องปกติ
เหมือนกับมหาลัยอื่นนั่นแหละ แต่ในช่วงสุดท้ายที่จะเป็นการสิ้นสุดการรับน้องจริงๆ คือช่วงที่จะสอบก็
ไม่สอบจะปิดเทอมก็ไม่ปิดเทอมอย่างนี้นี่แหละ เสียเวลาอ่านหนังสือชิบ!(แกเคยอ่าน?) โดยที่พวกพี่ๆ
มันอ้างว่าให้น้องๆมาคลายเคลียดพักผ่อนสมองก่อนที่จะถึงเวลาสอบ แต่เชื่อหัวไอ้นายเถอะว่า...พอมา
ปิดกิจกรรมรับน้องที่นี่แล้วจะเครียดกว่าเดิมอีก!!.....อาเมน
.
.
.
.
.
       พรึ่บ!

       "จากนี้ต่อไปพี่จะไม่วิ่งไล่ตามภีมอย่างที่เคยทำอีกแล้วนะครับ...ถึงแม้ว่าพี่จะยัง 'รัก' ภีมอยู่ก็ตาม"
เจ้านายพูดพร้อมกับคว่ำกรอบรูปของภีมที่อยู่บนหัวเตียง ที่เมื่อก่อนนี้เคยเฝ้ากอดเฝ้าจูบเพ้อฝันอยู่กับ
คนในรูปเป็นวรรคเป็นเวรราวกับคนสติไม่สมประกอบ เพราะเชื่อมั่นอยู่เสมอว่าสักวัน...สักวันเราจะ
กลับมาเป็นคนรักกันได้อย่างจริงจังไม่ใช่แค่คำพูดเล่นๆ เหมือนตอนเด็กๆ ที่ยังไม่รู้ประสีประสาอะไร
แต่หลังจากได้เจอน้องภีมคนใหม่เมื่อสองวันก่อนนี้ ตัวเขาเองนี้คงได้แต่.....'ทำใจ'...เพราะต่อให้รัก
มากมายสักแค่ไหนพี่นายคนแมนคนนี้ก็จะไม่ขอลดศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของตัวเองไปแย่งพ่อและสามี
ของใครหรอกนะ!!!.....พี่แมนพอว๊ะ!!!





__________________________________________________________________________TBC.
มาแล้วค่ะ!!....เห็นแต่ละเม้นแล้วนี่มี่กลัวแทนน้องภีมมันเลยจริงๆ แม่ยกพ่อยกพี่เจ้านายนี่ขาโหดกันทั้งนั้น!!
มี่ก็ไม่มีไรจะพูดหรอกค่ะนอกเสียจาก...ใจเย็นๆกันเข้าไว้นะคะ สู้ๆ (ฮ่าๆ)  แล้วเจอกันตอนต่ไปนะคะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่ห้า (16.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-02-2016 18:57:46
อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกกันนะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่ห้า (16.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-02-2016 19:41:04
เรื่องของความรู้สึกไม่ควรเลยจริงๆ ที่จะมาล้อเล่นนะ
อยากรู้จริงๆ ว่าน้องภีมคนดีของพี่นายมีลูกเมียแล้วจริงๆ หรือเปล่า
ถ้ามีจริงเนี่ย จะยุให้พี่นายคนแมน(?) ไม่สนใจหาคนใหม่ไปเลยยิ่งดี หึ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่ห้า (16.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-02-2016 22:52:47
ตามมาจากรุ่นพ่อ
เจ้านายคิดเองเออเองป่ะเนี่ย!?
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่ห้า (16.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 16-02-2016 23:56:40
พี่น้องบ้านนี้ เค้ามุ้งมิ้งดีเนอะ 555
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่ห้า (16.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-02-2016 00:49:57
เฮ้ออออออ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่ห้า (16.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-02-2016 02:08:52
ก็ยังสงสารเจ้านายอยู่ดี T^T
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หก (17.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 17-02-2016 18:13:13
17/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่หก






       "เอ้า! เร็วหน่อยครับน้องๆ เดี๋ยวจะได้มาจับฉลากเลือกคู่หาบัดดี้จะได้ไปแยกย้ายไปพักห้องใครห้องมัน
กันสักที!!! มาเร็วครับน้อง...อย่าช้า!!!"

        เสียงโหวยเหวกโวยวายของพวกเพื่อนๆปีสองชั้นปีเดียวกับเจ้านายที่กำลังตะโกนเรียกน้องๆปีหนึ่งอยู่
ไม่ได้เข้าหูของเจ้านายเลยแม้แต่น้อย เพราะทันทีที่รถจอดและเจ้านายก้าวเท้าลงมาจากรถบัสที่นั่งออกมา
จากตึกคณะ เจ้านายก็แทบอยากจะเปลี่ยนใจขอให้คนขับรถวนรถกลับไปส่งตนที่กรุงเทพฯเสียอย่างนั้น
เพราะทนเห็นภาพบาดตาของน้องภีมกับไอ้เด็กฝรั่งริกเกอร์นั่นกับแม่สาวลูกครึ่งสุดสวยที่มองดูแล้วตรงตามที่
คุณพ่อณัฐภาสบอกวันนั้นเป๊ะเลยและคงจะเป็นใครไปไม่ได้...นอกเสียจากจะเป็นแม่ของไอ้เด็กฝรั่งนั่นไง!!!....โธ่โว้ย!!!
โลกมันกลมเกินไปหรือมันแคบเกินไปว๊ะเนี่ย!! เขาถึงจะต้องมาเห็นภาพครอบครัวสันต์ของน้องภามให้มันบาดตาบาดใจ
ตัวเองอย่างนี้ด้วยว๊ะ!!!

       "นาย...ไอ้นาย...ไอ้เจ้านายเว้ย!!! มึงจะยืนเหม่อมองหาเหาฉลามอีกนานไหมครับเพื่อน
โน่น...ไอ้ฝ้ายมันเรียกมึงไปจับชื่อรุ่นน้องมาแปดล้านรอบแล้ว!!!" เลย์ตะโกนเสียงดังใส่หูเจ้านายอย่างหงุดหงิด
เพราะเขาทั้งเรียกทั้งสะกิดมัน(อย่างแรง)มากพักใหญ่แล้วเพื่อให้มันออกไปจับฉลากบัดดี้รุ่นน้องของมันสักที
เพราะไอ้ฝ้ายที่มันเป็นประธานรุ่นที่ยืนประจำที่จับฉลากเรียกมันมานานแล้ว เรียกเจ้าตัวมันทำหน้ายักษ์ใส่แล้ว...สงสัยจะวัยทอง

       "เออๆ" เจ้านายตอบรับพร้อมกับรีบจ้ำเดินไปที่กล่องจับฉลากและล้วงมือเข้าไปจับฉลากขึ้นมาส่งให้ฝ้าย
ที่เป็นรับผิดชอบหน้าที่ในส่วนนี้และหันหลังเดินกลับมานั่งที่ของตัวเองข้างๆกันกับมอสและเลย์ทันทีโดยที่ไม่
รอฟังเลยว่าใครจะเป็นผู้ร่วมชะตาในทุกๆกิจรรมปิดการรับน้องตลอดระยะเวลาสองคืนสามวันที่นี่ เพราะมัวแต่สนใจ
ภาพครอบครัวสุขสันต์ของใครคนนั้นมากเกินไปจนไม่คิดที่จะสนใจในสิ่งรอบข้างตัวเองไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ รุ่นพี่
หรือรุ่นน้องที่กำลังสนใจอาการแปลกๆไปของตน.....ทั้งที่บอกพร่ำแต่พูดย้ำเตือนกับตัวเองมาตลอดสองสามวันที่ผ่านมานี้
ว่าจะไม่สนใจคนๆนี้อีกแล้วไม่ว่าคนๆนี้จะเป็นตายร้ายดียังไง เพราะที่ผ่านมามันมากพอแล้วสำหรับความรู้สึกของเขา
แต่ความเป็นจริง มันกลับไม่ใช่เลย จะทำยังไงดี ทั้งๆที่รู้ว่ายิ่งเห็นก็ยิ่งเจ็บ ยิ่งมองก็ยิ่งเสียใจแต่เขากลับละสายตาออก
จากผู้ชายคนนั้นไม่ได้เลยจริงๆ
.
.
.
       "มึงเป็นอะไรหรือเปล่าไอ้นาย บอกพวกกูได้นะ เห็นมึงเป็นอย่างนี้แล้วกูกับไอ้มอสล่ะห่วงมึงชิบ"
เลย์พูดถามเจ้านายในขณะที่ทั้งสามคนกำลังรอให้สมาชิกทั้งหมดในคณะมาพร้อมกันหมดทุกคน
เพราะกิจกรรมตอนบ่ายในวันแรกนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากว่าจับคู่กับบัดดี้ไปรวมกับกลุ่มสีของตัวเอง
ไปเก็บช่วยกันเก็บขยะรอบชายหาดแห่งนี้นั่นเอง ก็นะคณะประมงนี่จะไม่ให้ทำประโยคให้สังคมเกี่ยวกับ
พวกทรัพยากรธรรมชาติก็จะกระไรอยู่ แถมยังเป็นอะไรที่เกี่ยวกับจำพวกแม่น้ำหรือทะเลที่เหมือนกับหน้า
ที่ตรงตัวยิ่งแล้วด้วย หลังจากที่ต่างคนก็ต่างเอากระเป๋าสัมภาระของตนไปเก็บในห้องพักเรียบร้อย โดยที่
มอสกับเลย์ดูเหมือนว่าจะโชคดีกว่าใครเพื่อนเพราะจับฉลากได้เป็นคู่บัดดี้นอนด้วยกันเอง ส่วนเจ้านาย
จับได้รุ่นน้องปีหนึ่งที่มีตำแหน่ง เป็นถึงเดือนคณะในปีนี้ทำให้หญิงแท้ชายเทียมทั้งหลายพากันอิจฉากัน
เป็นแถวๆ แต่เจ้านายกลับไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายอะไรกับใครเขาเลย ติดจะเฉยชาซะด้วยซ้ำ

       "ไม่ได้เป็นไร...กูสบายดี...โอเค๊?" เจ้านายบอกพร้อมกับฉีกยิ้มที่ดูเหมือนจะเป็นการแยกเขี้ยวเสียมากกว่า
ให้เพื่อนทั้งสองคนได้สบายห่ายห่วง...หรือจะห่วงกว่าเดิมก็ไม่รู้?

       "แต่หน้ามึงที่กูเห็นนี่ไม่โอเคเลยนะเว้ย" เลย์พูดแย้ง

       "ช่างกูเถอะน่า...โน่น! พวกไอ้ฝ้ายเรียกรับอุปกรณ์กันแล้วมึง...ไปกัน" เจ้านายบอกพร้อมกับรีบเดินหนี
เพื่อนรักสองคนไปรับพวกอุปกรณ์เก็บขยะที่ชายหาดจำพวกถุงขยะ ถุงมือยาง หมวก ผ้าปิดปากอะไรทำนองนี้
.
.
.
       "พี่เจ้านายไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าครับ?" เสียงนุ่มทุ้มจากคนที่เดินเก็บขยะเคียงข้าง(?)กันกับเจ้านายถามขึ้น
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนยอกเสียจาก 'พอล' เดือนคณะปีล่าสุดที่ได้เป็นบัดดี้กับเจ้านายนั่นเอง

       "ไม่อะ...ถามไมหรอ? หน้าพี่ดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ?" เจ้านายถามกลับพลางเอามือจับๆแตะๆสำรวจหน้าตาตัวเองด้วยหน้าตาเหลอหลาจนพอลหลุดหัวเราะออกมา เพราะความโก๊ะของรุ่นพี่คนสวยประจำคณะคนนี้

       "ฮ่าๆ ก็ไม่ได้แย่อะไรหรอกครับเพียงแต่ดูเหมือนว่าพี่กำลังมีเรื่องอะไรไม่สบายใจอยู่เลย...ถ้าพี่มีปัญหาอะไร
พี่คุยกับผมก็ได้นะครับ...อย่างน้อยผมก็เป็นผู้ฟังที่ดีนะ" พอลบอกด้วยเสียงจริงจังพลางจ้องมองเจ้านายด้วยสายตา
แปลกๆจนเจ้านายทนไม่ไหวต้องเบือนหน้าหนีเสียก่อน

       "ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่มึนๆน่ะ สงสัยจะแฮงค์ เมื่อพี่คงคืนดื่มหนักไปหน่อย วันนี้เลยรู้สึกอึนๆ" เจ้านายบอกปัดๆ
พูดแถ แก้ตัวไปเรื่อย

       "หรอครับ...ว่าแต่..พี่มีแฟนรึยังครับ" ห้ะ!! ทันทีที่พอลพูดจบเจ้านายก็อ้าปากค้างตกใจหน้าเหวอเลย
และอยากจะตะโกนถามใส่หน้าพอลดังๆ ว่า 'มึงถามกูง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ?'

       "พี่ยังไม่มีแฟนหรอก แต่ถ้าคนคุย ก็มีคุยๆ กันอยู่บ้างอ่ะ" เจ้านายตอบไปตรงๆ เพราะคิดว่าพอลคงจะ
ถามเพราะอยากจะหาเรื่องชวนเขาคุยไปอย่างนั้นเอง......ถ้าเป็นเมื่อก่อนเจ้านายคงจะรีบตอบออกไปอย่างภูมิใจ
เต็มปากเต็มคำเลยว่า 'มีแล้ว' เพราะยังเฝ้ารอใครคนนั้นอยู่ แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว

       "แล้วพี่ชอบแบบไหนหรอครับ ผู้หญิง? ผู้ชาย? เกย์?" พอลถามต่อพลางมองหน้าเจ้านายอย่างลุ้นๆ

       "ถามมัยว๊ะ?" เจ้านายถามด้วยความสงสัย

       "ผมเป็นแฟนคลับพี่ไงครับก็เลยอยากรู้เฉยๆ...(แต่ถ้าได้เป็นแฟนครับด้วยก็จะดีมาก)" พอลพูดบอกแต่
ประโยคสุดท้ายไม่ได้พูดบอกมาให้เจ้านายได้ยินด้วย เพียงแค่พูดคนเดียวในใจเท่านั้น

       "อ่อๆ เออดีแล้ว! มีคนหล่อๆ อย่างพี่เป็นไอดอลแล้วจะรุ่ง ฮ่าๆ......เข้าเรื่องดีกว่าว๊ะ!...สำหรับพี่
แล้วจะเพศไหนก็ไม่สำคัญหรอกวะ แค่พี่รักเขาและเขารักพี่ด้วยใจจริงก็พอแล้ว" ถึงจะรู้สึกแย่แค่ไหน
เจ้านายก็ไม่วายที่จะพูดยกยอตัวเองอย่างขำๆอยู่ดี ก่อนที่จะพูดเข้าเรื่องอย่างจริงจัง

       "อ่อครับ" พอลพูดแค่นั้น ก่อนที่จะพากันเดินกลับไปยังจุดรวมตัวเมื่อได้ยินเสียงเรียกรวมของทาง
ฝ่ายประธานผู้ควบคุมดูแลแล้ว โดยที่ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันต่อ 
.
.
.
.
.
       "กูไปเดินเล่นนะ" เจ้านายบอกกับเพื่อนรักอย่างมอสกับเลย์ เมื่อเสร็จสิ้นกิจรรมในวันนี้แล้ว
หลังจากที่ร่วมรับประทานอาหารและฟังกำหนดการกิจกรรมของวันพรุ่งนี้เรียบร้อยแล้ว
พวกรุ่นพี่จึงปล่อยให้น้องๆได้นั่งเล่นเดินเล่นกันตามอัธยาศัยอยู่ตามริมชายหาดนี่แหละ
หรือใครจะขึ้นห้องไปนอนเลยก็ตามแต่ จะดื่มจะสังสรรค์กันก็ได้แต่ขอแค่พรุ่งนี้ให้มีแรง
ตื่นมาทันร่วมกิจกรรมในตอนเช้าก็แล้วกัน

       "เออๆ อย่าไปไหนไกลนะมึงเดี๋ยวหลง" มอสพูดเตือน

       "เออ...กูแค่ไปเดินดูดาวเล่นแถวนี้แหละ" เจ้านายบอกกับเพื่อนก่อนที่จะหันหลังเดินหนีออกจากวง
สังสรรค์ของพวกเพื่อนๆที่เริ่มตั้งวงกันตั้งแต่กินข้าวเสร็จใหม่ๆแล้ว

         "เลิกคิดสักทีสิ!!! เลิกคิดสักที!! เลิกคิดถึงคนพันธุ์นั้นได้แล้วโว้ย!!! แมร่ง!!!" เมื่อเดินออกมาห่าง
จนมองไม่เห็นกลุ่มคณะของตัวเองแล้วเจ้านายก็ตะโกนโวยวายตีอกชกหัวตัวเองอย่างกับคนบ้าอยู่คนเดียว
ก่อนจะทิ้งตัวนั่งกับพื้นทรายหยาบๆ อยู่ริมหาดชิดติดกับผืนน้ำนั่งให้คลื่นซัดเข้าใส่ตัวเองอยู่อย่างนั้นด้วยความหงุดหงิด
ยาวนานจนกลายเป็นเหม่อลอยในที่สุดเมื่อเผลอนึกถึงวันวานในวัยเยาว์ระหว่างตนกับใครคนนั้นที่เคยมีร่วมกันมา

       ตั้งแต่เกิดจนโตรอบข้างตัวเขาก็จะมีแต่สามแฝดภาค ภีม ภาม อยู่เคียงข้างกันเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
จะทำอะไร พวกเราสี่คนเกิดในระยะเวลาปีเดียวกัน เขาอายุห่างจากแฝดสามเพียงแค่หกเดือนเท่านั้น
ถ้าพูดตามหลักความจริงเราก็เป็นเพื่อนกันดีๆนี่แหละ แต่เป็นเพราะว่าพ่อแม่เราเป็นเพื่อนกันเขาจึงกลาย
เป็นพี่ของแฝดสามไปโดยปริยายเพราะพวกพ่อๆ แม่ๆ พร่ำบอกกรอกหูของเขาเสมอว่านี่คือน้อง เจ้านาย
เป็นพี่เจ้านายต้องปกป้องดูแลน้องให้ดี แต่นั่นมันก็ยังไม่เท่ากับว่า เขาเริ่มรู้สึกชอบที่จะเล่น ชอบที่จะอยู่
ใกล้ๆกับน้องภีมแฝดคนกลางมากกว่าแฝดเล็กและแฝดโตที่เหลืออีกสองคน ไม่ว่าจะกิน จะนอน หรือจะไปไหนมาไหน
 เขาก็จะนึกถึงน้องภีมแฝดกลางคนแรกเสมอๆ นึกถึงจนลืมไปว่าตอนนั้นเขายังมีน้องอีกสองนั่น
ก็คือภาคกับภามแฝดพี่กับแฝดน้องของภีม ลืมจนน้องๆ อีกสองคนที่เหลือพากันงอนเขาไปเลยก็มี แต่จะทำ
ยังไงได้ล่ะในเมื่อทั้งตาของเขา ตัวของเขาและใจของเขามันก็มักจะมีแต่เรื่องของภีมอยู่ตลอดเวลา ยามใด
ที่ได้อยู่ใกล้กันเขาก็จะพุ่งหาแต่ภีมตลอดเวลาเช่นกัน และเพราะเขาเป็นอย่างนี้เขาจึงเสียน้องชายที่น่ารักอย่าง
น้องภาคแฝดโตไปหนึ่งคน เพียงเพราะแค่น้องภาคชอบเขา รักเขา มีความรู้สึกดีๆให้เขา ดังเช่นเขามี
ให้กับภีม และเพื่อที่จะตัดปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายหลังเขาในวัยไม่กี่ขวบปีก็ใจกล้าบ้าบิ่นเข้าไปบอกกับพ่อๆ
แม่ๆ คุณปู่คุณย่า คุณปู่ชัช คุณยายมณี บอกต่อหน้าทุกคนว่าเขารักน้องภีม เขาก็จะแต่งงานกับน้องภีม
และตลอดชีวิตนี้จะไม่รักใครอีกเลยต่อไป และเพราะคำพูดนี้ของเขาในวันนั้น หลังจากนั้นน้องภาคน้องชาย
ผู้น่ารักของเขาก็ไม่เคยเข้ามาพูดมาเล่นกับเขาเหมือนอย่างก่อนหน้านั้นอีกเลย และเมื่อใดที่เราบังเอิญเจอกันที่ไหน
น้องก็จะคอยเลี่ยงที่จะไม่คุยกับเขามากเกินกว่าการทักทายที่จำเป็นอีกเลย แต่จะให้เขาทำยังไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจ
ของเขามันมีเพียงแค่คนๆนั้นคนเดียวเท่านั้น แต่พอมาลองคิดๆดูแล้วถ้าคนที่เขารักเป็นน้องภาคแฝดโตที่แสนดีคนนั้น
วันนี้เขาจึงต้องมาเจ็บปวดอย่างนี้!!!!!


       "เจ้านาย!!! / พี่นาย!!! / ไอ้นาย!!!"



      เจ้านายไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าระหว่างที่ตนกำลังคิดฟุ้งซ่านอยู่นั้น เจ้าตัวได้ลุกขึ้นยืนและค่อยก้าวเท้าเดินย่ำลงไป
ในทะเลลึกขึ้นทุกทีๆ จนตอนนี้ลงไปถึงระดับอกของตัวเองแล้ว และอีกนิดเดียว ถ้าเจ้านายยังไม่รู้สึกตัวหรือยังไม่มี
ใครบังเอิญมาเจอและช่วยไว้ได้ทัน หนุ่มน้อยน่ารักนามว่าเจ้านายลูกชายคนเก่งของคุณป๋าเจ้าคุณและแม่ธารจ๋าก็
คงจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแน่นอนในเมื่อคลื่นลมทะเลยามดึกอย่างนี้มันทั้งสูงและแรงขึ้นอีกเท่าตัว.....อันตราย!!!




___________________________________________________________________TBC.
เจอกันตอนหน้าค่ะ!! จะวันไหนก็ยังไม่แน่ใจนะคะ(ไม่ขอรับปาก รอฟังข่าวจากเพจเอาแล้วกันเนอะ)
#หงุดหงิดแมวหาย!!! ปวดฟัน!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หก (17.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-02-2016 00:34:26
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หก (17.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-02-2016 00:48:38
 :sad4: อ่าวน้องเจ้านาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หก (17.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-02-2016 00:54:16
สงสารเจ้านาย จะร้องไห้ T^T
น้องพอลนี่แรดนะ เหมือนจะดี
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หก (17.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-02-2016 01:00:15
โธ หนูเจ้านายน่าสงสารต้องเจอภาพบาดตาเข้าเต็มๆ เลย เจ้านายค่ะสู้ๆ ค่ะ อกหักดีกว่ารักไม่เป็นนะคะ ทำใจและหาคนใหม่ดีกว่าค่ะแบบนี้
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่หก (17.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2016 02:44:37
ถ้าเอาคืนได้เอาใด้เจ็บเลยนะเจ้านาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 18-02-2016 17:21:00
18/02/59



ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่เจ็ด






       "เจ้านาย / พี่เจ้านาย / ไอ้นาย" เสียงร้องเรียกชื่อเจ้านายดังขึ้นพร้อมๆกัน คนละทิศทาง ทั้งภีม พอล
และเลย์กับมอสเพื่อนรักของเจ้านาย และต่างคนก็ต่างวิ่งมาทางเดียวกันโดยมีจุดมุ่งหมายก็คือเจ้านายที่ยืนเหม่ออย่าง
ไม่รู้เนื้อรู้ตัวอยู่กลางทะเล ที่มีระดับน้ำสูงจนถึงใต้คางของเจ้าตัวแล้ว ไหนจะยังคลื่นลมที่พัดพากระแสน้ำเข้า
ปะทะร่างกายของเจ้านายให้โงนไปเงนมานั่นอีก ทำเอาคนที่ได้เห็นใจหายกันเป็นทิวแถว

       "เจ้านาย!!! เจ้านาย!! โธ่!! ฟื้นสิเจ้านาย!!!" แต่กลับเป็นภีมที่ก่อนหน้านี้อยู่ห่างไกลจากเจ้านายที่สุด
ที่กลับเป็นคนพุ่งลงทะเลและถึงตัวของเจ้านายก่อนใครเพื่อน ก่อนที่จะลากเจ้านายขึ้นมาบนชายหาดทราย
และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เจ้านายที่ตอนนี้ได้หมดสติลงไปแล้ว ท่ามกลางความงุนงงของพอล มอสและเลย์
ที่ไม่เคยได้พบเห็นภีมมาก่อน แต่เท่าที่ดูจากความกระวนกระวายความเป็นห่วงของภีมที่เห็นจากตอนนี้บวกกับว่าภีม
เรียกชื่อเจ้านายเหมือนกับรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งสามคนที่เหลืออยู่จึงไม่มีใครได้คัดค้านการกระทำของภีม
เพราะต่างก็เป็นห่วงเจ้านายกันทั้งนั้น

       "โธ่โว้ย!!!.....ผมจะพาเจ้านายไปโรงพยาบาล" ในเมื่อได้ทำทุกๆอย่างที่เป็นการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
สำหรับคนจมน้ำคนสำลักน้ำแล้วเจ้านายยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรภีมจึงอุ้มเจ้านายขึ้นแนบอก บอกกับสามคนที่อยู่ข้างๆ
ตัวเองที่ดูเหมือนกับจะเป็นเพื่อนเจ้านายอย่างลอยๆ ก่อนที่จะรีบก้าวเดินขึ้นไปบนฝั่งโดยที่ไม่รอฟังเสียงตอบรับ
 เสียงคัดค้าน หรือเสียงห้ามอะไรจากคนที่ตนพูดบอกไปเลย......ชีวิตเจ้านายสำคัญที่สุด
.
.
.
.
.

       "ต่อไปนี้เราจะไม่แยกจากกันอีกแล้วนะครับ.....ที่รัก" ภีมพูดพร้อมกับกดจูบที่หน้าผากของเจ้านายเบาๆ
หลังจากที่หมอและพยาบาลได้ออกไปจากห้องแล้ว เมื่อรักษาและดูอาการของเจ้านายจนแน่ใจว่าปลอดภัยดีแล้ว
 ก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งเก้าอี้สำหรับญาติผู้ป่วยที่มีวางตั้งอยู่ข้างๆเตียงของเจ้านายนี่แหละไม่ได้ไปไหนไกลหรอก
.
.
.
       ผมไม่รู้ว่าเรื่องระหว่างผมกับเจ้านายมาถึงตรงนี้ได้อย่างไรในเมื่อเราสองคนยังต่างก็รักและมีความรู้สึกดีๆ
ให้กันอยู่ไม่ต่างจากวันวานเมื่อครั้งที่เรายังเด็ก ผมจำได้ว่าวันนั้นผมมีความสุขและรู้สึกหัวใจพองโตมากมาย
สักแค่ไหน เมื่อถึงวันปีใหม่ที่เป็นเหมือนวันรวมญาติญาติของสองครอบครัวเรา ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ผม
ป๋าคุณแม่ธาร ปู่ย่าแท้ๆของเจ้านาย คุณยายมณี และปู่ชัชของผม ทุกคนต่างก็มารวมตัวกันเพื่อที่จะนับถอยหลัง
ข้างปีด้วยกัน โดยจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ดื่มกินกันอย่างพร้อมหน้าทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ พี่เจ้านายหรือเจ้านายเฉยๆที่ผม
แอบเรียกลับหลังเขามาตลอดเพราะผมไม่อยากให้เขาเป็นเพียงแค่พี่ชายเท่านั้น ซึ่งเราทั้งสองคนก็ต่างรู้ดีว่าฐานะนั้นคืออะไร เพียงแต่ไม่เคยได้พูดกันออกมาเท่านั้นเอง เจ้านายบอกต่อหน้าทุกคนอย่างมั่นใจด้วยสีหน้าจริงจังจนทุกคนก็ต่างเงียบ
และตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดออกมากันทั้งนั้น แค่คำว่า 'นายรักน้องภีม' แค่คำนั้นที่เจ้านายได้พูดออกมา มันทำให้ผมที่มีอายุ
เพียงไม่กี่ขวบปีแทบอยากจะกระโดดจูบปากจิ้มลิ้มช่างจ้อของเจ้านายต่อหน้าพ่อๆแม่ๆเลย แล้วบอกว่าผมก็รักเจ้านาย
ไม่ต่างจากที่เจ้านายรักผมเลย เพียงแต่...เพียงแค่ผมสบตากับภาคแฝดพี่ผมที่แววตาสั่นระริกน้ำตาคลอไปเต็มทั้งสองตา
ผมก็ต้องกลืนคำพูดที่อยากจะพูดเก็บเข้าไปไว้ในใจตัวเองเหมือนเดิมเพราะแฝดพี่ผู้เรียบร้อยของผมก็รักเจ้านาย
ไม่ต่างจากผมเลย.....

       แต่แล้วเหมือนกับเจ้านายเข้าใจผมหรือไม่ก็เป็นเพราะเจ้านายก็คงรู้ว่าภาคก็รักตัวเองเหมือนกัน
เจ้านายจึงไปพูดกับภาคนอกรอบตรงๆว่าไม่ได้รักภาคอย่างที่ภาครักตนได้ เพราะภาคคือน้องชายไม่เหมือนกับผมที่รัก
ในแบบคนรัก แต่สิ่งเหล่านี้ผมมารู้ที่หลังในอีกหลายปีต่อมาก่อนวันที่ผมจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแค่คืนเดียว
อ่อ! แล้วเรื่องที่ผมตัดสินใจไปเรียนต่างประเทศนั่นน่ะหรอ หึๆ มันไม่ใช่ความคิดหรือความต้องการของผมเลย
มันเป็นข้อตกลงระหว่างผมกับป๋าคุณของเจ้านายต่างหากหล่ะ!! ไม่มีใครที่มีแฟนมีความรักแล้วอยากจะจากหรือห่างไกลจากหัวใจตัวเองนักหรอก!!!
.
.
.
.
.
ย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน ตอนที่เจ้านายและแฝดสามมีอายุ 14 ปี (เกรด 8 / ม.2)

บ้านยศวโยธิน(ของเจ้านาย)

       ในวันหยุดสุดสัปดาห์กลางเดือนสิงหาคมของปีนั้น ภีมจำได้ดีเพราะเขานัดกับเจ้านายว่าจะไปช่วยกันเลือก
ซื้่อของขวัญวันเกิดให้เพื่อนคนนึงในห้องที่เกิดเดือนนั้น เพราะภาคกับภามก็ต่างแยกไปกับเพื่อนสนิทของตัวเองกันทั้งนั้น
แต่เขาไม่มีเพื่อนสนิทอย่างทั้งสองคนนั้น มีเพียงแค่เจ้านายเท่านั้นที่เป็นทุกๆอย่างให้เขาในวัยนั้น เพราะเจ้านายไม่ชอบ
ให้ใครเข้ามาใกล้เข้ามาตีตัวสนิทสนมกับเขามากเกินกว่าที่จำเป็น เขาจึงไม่มีใครเลยสักคน นอกจาก.....พี่เจ้านาย

       "ภีมมาหาเจ้านายหรอ? วันนี้มันไม่อยู่หรอก มันไปธุระกับแม่กับยายมัน กลับดึกๆ โน่นแหละ"  เจ้าคุณที่นั่ง
อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะในสวนหน้าบ้านของตัวเองทักภีมขึ้นเมื่อเห็นว่าภีมเดือนเข้ามาในบ้าน

       "อ่าว! หรอครับ ถ้าอย่างนั้นภีมกลับก่อนนะครับ เพื่อจะกลับไปทันภาคกับภาม" เมื่อได้ยินอย่างนั้น
ภีมก็รีบบอกลาเจ้าคุณในทันทีเพราะจะรีบกลับไปบ้านเผื่อบางทีจะไปทันภาคกับภามแฝดพี่แฝดน้องของตน
ไม่ใครก็ใครสักคน เพราะถ้าจะให้ตนไปเดินเลือกซื้อของคนเดียวก็คงจะไม่ดีหรอก ไม่ใช่เพราะว่าไปไหนคนเดียวไม่ได้นะ
แต่เพราะอาจจะไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาเลย เพราะเขาไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรให้ใครยังไงดี

       "เดี๋ยวสิ! มานั่งคุยกับป๋าสักหน่อยได้ไหม" แต่เจ้าคุณกลับเรียกเขาไว้ให้อยู่ต่อ

       "ครับ...ป๋ามีธุระอะไรกับผมหรือครับ" ถึงจะแปลกใจในท่าทีแปลกๆของเจ้าคุณ แต่ภีมก็เลือกที่จะไม่สนใจ
และก้าวเดินเข้าไปนั่งเก้าอี้สนามที่ว่างตรงข้ามกับเจ้าคุณ

       "แปปนึงนะ....เดี๋ยวป๋ามา" เจ้าคุณไม่ตอบอะไรแต่กลับบอกให้ภีมรอและเดินเข้าบ้านไป
.
.
.
       "อะ..เอาไปดู" เจ้าคุณกลับมาพร้อมกับแผ่นกระดาษจำนวนส่งให้กับภีม

       "นี่มันอะไรหรือครับป๋า" ภีมก้มดูเอกสารในมือตัวเองที่มีอักษรตัวโตๆกลางหน้ากระดาษว่า
'รวมโปรแกรมเรียนมัธยมปลายต่อต่างประเทศ' ซึ่งไม่รู้ทำไมพอเขาเห็นประโยคนี้บนหน้ากระดาษ
แล้วทำไมใจเขาหวิวๆ ก็ไม่รู้

       "ป๋าเห็นว่ามันน่าสนใจดี ป๋าก็เลยอยากให้ภีมลองเอาไปคิดดู" เจ้าคุณบอกพร้อมกับเพยิดหน้าไปที่
เอกสารในมือของภีม

       "ทำไมหรอครับ พี่นายจะไปเรียนต่อต่างประเทศหรือครับ?" ภีมถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ไม่เข้าใจว่าทำไม...
ทำไมป๋าคุณถึงเอาเอกสารการเรียนต่อพวกนี้มาให้เขา

       "ป๋าขอถามอะไรหน่อยสิ"

       "ครับ?"

       "ภีมรักลูกป๋าอย่างที่มันรักภีมหรือเปล่า?" เจ้าคุณถามออกไปตรงๆ อย่างไม่ทันให้ภีมได้ตั้งตัวเลย

       "ครับ...ภีมรักเจ้านาย...รักเหมือนกับที่เจ้านายรักภีมนั่นแหละ" เอาสิ! ป๋ากล้าถามเขาก็กล้าตอบเหมือนกัน
ลูกผู้ชายซะอย่าง!!

      "ภีมก็รู้ใช่มั้ยว่ามันจะเอาภีมมาเป็นเจ้าสาวของมัน...ทั้งที่ตัวมันง๊องแง๊งอย่างงั้น"

       "ครับ...ภีมจะเป็นเจ้าสาวให้เจ้านายในวันแต่งงานตามที่เจ้านายต้องการ"

       "แต่ภีม..."

       "แต่...ภีมจะเป็นสามีและพ่อที่ดีของเจ้านายและลูกของเราเองครับ" ภีมจ้องหน้าตอบเจ้าคุณอย่างไม่หลบสายตา

       "ก็ดี! ถ้าอย่างนั้นภีมก็ไปลองเลือกดูนะ ว่าภีมชอบโรงเรียนไหนในนั้นบ้าง" เจ้าคุณบอก

       "ทำไมครับ?"

       "ป๋าอยากให้ภีมอยู่ให้ห่างจากเจ้านายมัน ป๋าบอกตรงๆเลยว่าป๋าไม่ไว้ใจมัน ถ้าเราสองคนยังอยู่ใกล้ๆ
กันอย่างนี้ ไม่ว่าจะยังไงป๋าอยากให้ภีมกับมันเรียนจบกันซะก่อนแล้วหลังจากนั้นจะทำยังไงจะตัดสินใจกัน
ยังไงป๋าจะไม่ขวางเราสองคนอีก...ป๋าสัญญา" เจ้าคุณบอกในคำพูดที่เหมือนจะขอร้องแต่สำหรับคนฟังอย่างภีม
ก็รับรู้ได้ทันทีว่า...นี่คือการ 'บังคับ' ต่างหากล๊ะ!!!

       "แต่มันตั้งหลายปีนะครับป๋า!!!" ภีมหลุดมาดเด็กดี ตะคอกใส่เจ้าคุณอย่างลืมตัว

       "ป๋ารู้! แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็เพื่อตัวภีมกับเจ้านายทั้งนั้น...ทำเพื่อให้ป๋าเห็นหน่อยไม่ได้หรอ
ว่าภีมรักลูกชายของป๋าอย่างที่พูดจริงๆ.....ไม่ใช่ดีแต่ปาก" เจ้าคุณไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองภีมแต่อย่างใดที่โดนเด็กรุ่นลูกพูด
ตะคอกใส่หน้า เพียงแต่พูดออกมาด้วยเสียงติดจะสบประมาทออกมาอย่างชัดเจนในประโยคสุดท้าย
จนภีมต้องกัดฟันกรอดเพื่อระงับอารมณ์โมโหของตัวเองไม่ให้เผลอกระโดดต่อยปากคุณป๋าว่าที่พ่อตาในอนาคตของตัวเอง
....มันจะดูถูกกันเกินไปแล้วนะครับ!!!

       "ครับ!!...ภีมจะไปก็ได้.....แต่ถ้าเมื่อใดที่ภีมกลับมา...เจ้านายจะต้องเป็นของภีมทันทีที่ภีมเหยียบพื้นแผ่นดินไทย
เลยนะครับ!!!" เอาสิ! ในเมื่อป๋ากล้ายื่นข้อเสนอมา ภีมจะสนองให้ แต่เมื่อใดที่ภีมทำสำเร็จแล้ว ป๋าอย่ามาตุกติกก็แล้วกัน
...แล้วจะหาว่าภีมไม่เตือน!!!

       "ได้...แต่ระหว่างที่ภีมอยู่โน่นภีมห้ามติดต่อกับลูกป๋านะไม่ว่าทางใดก็ตาม ถ้าป๋ารู้ป๋าจะยกเลิกข้อสัญญาระหว่างเราทันที และถ้าระหว่างที่ห่างกันภีมหรือไอ้เจ้านายลูกป๋าเนี่ย บังเอิญเจอคนที่ใช่เสียก่อนที่ภีมจะกลับมา ป๋าก็ถือว่าสัญญาของเราเป็นโมฆะเหมือนกันนะ" เจ้าคุณยังคงเพิ่มข้อกำหนดขึ้นมาอีกข้อ จนภีมได้แต่หลับตาลงเพื่อที่จะสะกดกลั้นแรงอารมณ์ของตัวเองที่เริ่มจะประทุมากขึ้นทุกที .....อย่าลืมซิว่าตอนนั้นเขามีอายุเพียงแค่สิบสี่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อยู่ในช่วงฮอร์โมนพุ่งพล่าน
ถ้าคนตรงหน้าเขานี้ไม่ใช่คุณป๋าเจ้าคุณที่เขาเคารพรักไม่ต่างจากคุณพ่อณัฐภาสของตัวเอง เขาคงจะพุ่งเข้าไปประเคนกำปั้นใส่ไม่ยั้งแล้วป่านนี้...แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจาก...รับฟังและก้มหน้ายอมรับมัน

       "ตกลงครับ...ถ้าป๋าหมดธุระแล้วภีมขอตัวกลับก่อนนะครับ" ภีมตอบรับข้อเสนอเจ้าคุณเบาๆ อย่างไม่ค่อย
เต็มเสียงนัก ก่อนที่จะขอตัวกลับทันที ไม่รอฟังคำพูดอะไรของเจ้าคุณอีกต่อไป...เพราะแค่นี้เขาก็จะขาดใจตายอยู่แล้ว
...อย่ามีข้อแม้อะไรไปมากกว่านี้เลย





____________________________________________________________________TBC.
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
สำหรับมี่แล้ว..คนที่เจ็บปวดและทรมาณจริงๆคือคนที่รู้ทุกอย่างแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยต่างหากนะคะ
#ทีมภีม  ฮ่าๆ :z2: แบร่!!! 
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 18-02-2016 17:49:40
ภีมเอ๊ยยย เห็นอย่างนี้แล้วสงสารจริงๆ
แต่
เคลียร์เรื่องเมียและลูกมาก่อนเลย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-02-2016 17:56:47
โดนคุณป๋าแกล้งจนได้ล่ะซิ ก็สงสารนะ แต่เคลียร์เรื่องลูกกับเมียก่อนดีมั้ยว่าเป็นมายังไง
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-02-2016 18:39:31
ว่าละ คุณป๋าต้องมีส่วน เห็นว่าไม่อยากให้ลูกโดนกด
แต่เรื่องผู้หญิงกับเด็กที่มาด้วยนี่ล่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-02-2016 19:08:01
อีเจ้าคุณใจร้ายยยย  :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-02-2016 19:37:17
 :a5:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-02-2016 00:37:07
  ผมตามมาอ่านจากภากแรกคับ
  ว้าว ว้าว ว้าว อ่านตอนล่าสุดที่น้องภีม ""แต่...ภีมจะเป็นสามีและพ่อที่ดีของเจ้านายและลูกของเราเองครับ" ภีมจ้องหน้าตอบเจ้าคุณอย่างไม่หลบสายตา"  แสดงว่าน้องเจ้านายเป็นคนท้องได้ใช่มั้ย ดีจังเลยคับ
   รอ รออ่านตอนใหม่ มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-02-2016 02:43:16
พ่อเจ้านายใจร้ายมากนะครับ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 19-02-2016 04:58:08
ต้นเหตุมาจากป๋าเจ้าคุณนิเอง อยากรู้เรื่องวิกเตอร์มายังไง
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-02-2016 10:36:37
ป๋าคุณอยู่เบื้องหลังนี่เอง!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 19-02-2016 10:53:03
 :fcuk: ป๋าคุณต้องถูกทำโทษ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เจ็ด (18.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 19-02-2016 11:36:00
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 19-02-2016 16:52:08
18/02/59



ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่แปด






       "อื้อออ...."

       "เจ้านาย!!" ภีมที่เผลอหลับนั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างเตียงของเจ้านายทั้งคืนก็เป็นอันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา
เมื่อได้ยินเสียงร้องของเจ้านายเพียงแค่แผ่วเบากับแรงขยับตัวนิดๆ เท่านั้น

       "นาย!!!" เจ้านายตกใจตาเบิกโพลงเมื่อเห็นหน้าของภีมอยู่แทบจะแนบชิดติดกลับหน้าของตน
เพราะเจ้านายลืมตาตื่นขึ้นมาในขณะที่ภีมกำลังก้มหน้ามองดูเจ้านายพอดี เลยทำให้หน้าของทั้งสองคน
ห่างกันแค่ไม่ถึงคืบอย่างนี้

       "ครับ...ภีมเองครับ....เป็นยังไงบ้างครับรู้สึกยังไงบ้างครับ ปวดหัวหรือเปล่า" ภีมถามพลางใช้หลังมือ
วางสัมผัสกับหน้าผากของเจ้านายเบาๆ เพื่อที่จะเช็คอุณภูมิร่างกาย เพราะกลัวว่าเจ้านายจะไข้ขึ้น
ซึ่งก็ถือว่าโชคดีที่เจ้านายไม่มีไข้ ทั้งที่เมื่อคืนลงไปยืนแช่น้ำกลางอากาศเย็นอย่างนั้น

       "นายมาได้ไง....แล้วนี่ฉันอยู่ที่ไหน?" หลังจากที่ตั้งสติอยู่นาน เจ้านายก็เอ่ยปากถามภีมออกมาในที่สุด

       "โรงพยาบาลครับ...ภีมพาพี่นายมาเอง เมื่อคืนพี่นายหมดสติไปเพราะจมน้ำ...นี่พี่จำอะไรไม่ได้เลย
หรือครับ" ภีมบอกตอบคำตามของเจ้านาย.....และในเมื่ออีกคนฟื้นมีสติครบถ้วนแล้ว ภีมก็ต้องกลับมา
เรียกอีกคนว่าพี่เหมือนเดิม

      "ฉันเนี่ยนะจมน้ำ?" เจ้านายชี้นิ้วเข้าหาตัว ถามภีมด้วยความตกใจ เขาเนี่ยนะที่จมน้ำ? เด็กที่โตมา
กลับทะเลอย่างเขาเนี่ยนะจะจมน้ำ? แถมตอนนี้ยังอยู่คณะประมงอีกต่างหาก ซึ่งก่อนที่จะได้เรียนนี่
เขาต้องสอบว่ายน้ำด้วยนะจะบอก.....เหลือเชื่อเลยว๊ะ!

       "ครับ...พี่นั่นแหละจมน้ำ....ดึกดื่นๆ คลื่นลมกำลังแรงอย่างนั้นพี่ลงไปแช่น้ำอยู่อย่างนั้นได้ยังไงครับพี่นาย
ถ้าเกิดภีมไปช่วยไม่ทันหรือไม่มีใครเห็นขึ้นมา ป่านนี้พี่จะเป็นยังไง" เมื่อนึกขึ้นได้ภีมก็ขอถามสักหน่อยเถอะ..
ว่าเป็นบ้าอะไรขึ้นมาถึงได้ไปอยู่กลางทะเลคลื่นลมแรงดึกๆ ดื่นๆ อย่างนั้นได้ ทั้งที่ควรจะรู้ดีที่สุดว่ามันเป็น
เรื่องที่ไม่สมควร เพราะโดนพ่อๆ แม่ๆ สอนมาตั้งแต่จำความได้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

       "ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน.....ไม่เกี่ยวกับนาย" เจ้านายบอกด้วยเสียงเย็นชา ไม่มองหน้าภีม

       "มันจะไม่เกี่ยวได้ไง!!!.....ในเมื่อพี่เป็น"

       ก๊อก...ก๊อก

       "เป็นไงบ้างไอ้นาย!! พวกกูเป็นห่วงมึงแทบแย่รู้ไหม!! กว่าจะตามหาว่ามึงไปอยู่โรงบาลไหนได้ก็"
ยังไม่ทันที่ภีมจะได้พูดจบประโยคเลย์ มอส พอลและเพื่อนๆ ในสาขาของเจ้านายก็เดินกรูกันเข้ามาในห้อง
จนห้องกว้างๆ แทบจะไม่เหลือที่ว่างให้ตนยืน ภีมจึงต้องถอยหลังไปยืนหลบอยู่มุมห้องใกล้ๆกับประตู
เพื่อถอยทางให้เพื่อนๆ เขาได้พูดคุยกัน

       "ไม่เป็นไรแล้ว...ขอบใจพวกมึงมากนะที่เป็นห่วงกู" เจ้านายบอกกับเพื่อนๆด้วยรอยยิ้มซึ่งต่างจาก
ตอนที่คุยกับภีมเมื่อสักครู่นี้โดยสิ้นเชิง

       "เออ!...ไม่เป็นไรก็ดี...ผัวมึงเป็นห่วงมึงจนแทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับแล้ว ตะแง๊วๆ ร้องหามึงจน
พวกกูจะประสาทแดกแล้วห่า...." เลย์พูดบอกพลางพยักหน้าไปทางพอลที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย
จึงทำให้เจ้านายรู้เลยผัวที่เลย์พูดถึงนั้นคือใคร และไม่ได้แก้ต่างอะไรแต่อย่างใด เพราะว่าโดนเพื่อนล้อ
อย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เวลาที่มีเพื่นๆ พี่ๆ น้องๆ แปลกหน้าที่เป็นเพศชายเข้ามามีส่วนร่วม
ในเรื่องต่างๆ ใกล้ๆ ตัวเอง

       "ก็ผมเป็นห่วงของผมนี่ครับ!!" นอกจากจะไม่แก้ต่างให้ตัวเองเรื่องที่โดนเลย์แซวว่าเป็นผัวของ
เจ้านายแล้ว พอลยังยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็นห่วงเจ้านาย

       ปึงงงง.....

       "อ่าว! ใครว๊ะ? มึงรู้จักเขาหรอไอ้นาย? เมื่อวานกูเห็นเขาดูเป็นห่วงมึงน่าดูตอนที่ไปช่วยมึงขึ้นมา
จากน้ำได้" มอสถามขึ้น เมื่อเห็นภีมเดินออกไปจากห้องพักของเจ้านายไปในขณะทุกคนต่างก็สนใจอยู่
แต่กับเจ้านาย จนได้ยินเสียงกระทบของประตูและผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นหายไปนั่นแหละเขาถึงได้
อ้าปากถามเพื่อนออกไปบ้างหลังจากที่ยืนฟังเพื่อนๆที่มาด้วยซักถามเจ้านายจนไม่มีช่องว่างให้ตนได้พูด

       "อือ...น้องข้างบ้านกูที่ภูเก็ตอ่ะ!!" เจ้านายตอบปัดๆ อย่างไม่เต็มเสียงนัก แต่ก็ดังพอที่จะให้คนที่
ยืนหันหลังพิงประตูอยู่ได้ยินอย่างชัดเจน เพราะระหว่างที่เจ้านายพูดเพื่อนๆ ทุกคนของเจ้านายก็พากัน
เงียบเสียงเพื่อที่จะฟังคำตอยจากเจ้านาย มันจึงดังก้องออกมาถึงข้างนอกห้องอย่างนี้
.
.
       "หึๆ น้องข้างบ้าน!...สำหรับเจ้านายแล้ว...ภีมเป็นได้แค่นั้นเองหรอครับ" ภีมหลับตาเรียกสติของ
ตัวเองอยู่พักนึง แล้วก็รีบก้าวเดินออกจากบริเวณตรงนั้น เพราะเขาอ่อนแอเกินกว่าที่จะทนฟังเสียง
หัวเราะของเจ้านายที่มีให้กับคนอื่นในขณะที่เขาเป็นได้เพียงแค่เศษฝุ่นสำหรับเจ้านายเท่านั้น
.
.
.
.
.
       "คูณพ่อภีมกลับมาแล้ววววว...." เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ตะโกนพูดเสียงดังพร้อมกับวิ่งเข้าใส่ภีม
เมื่อเห็นว่าภีมเดินเข้าบ้านพักมา

       "หายไปไหนมาน่ะภีม...ฉันกับริกเกอร์ล่ะเป็นห่วงนายแทบแย่ที่เมื่อเช้าไปเคาะปลุกที่ห้องก็ไม่เจอ"
หญิงสาวลูกครึ่งตากลมหุ่นสวยผิวสีแทนตามฉบับนางแบบอินเตอร์ร้องถามขึ้นอีกคน เมื่อเห็นหน้าภีม

       "ฉันออกไปเดินเล่นมาน่ะ ว่าแต่เธอเถอะเจนนี่ ไอ้โลเวลสามีเธอมันโทรมาบอกรึยังว่าถึงไหนแล้ว
ฉันเบื่อที่จะดูแลไอ้ตัวแสบนี่แทนมันแล้วนะ" ภีมพูดพร้อมกับอุ้มริกเกอร์ที่ยืนเกาะขาตัวเองอยู่ขึ้นมาฟัดเล่น

       "เมื่อกี้เห็นโทรมาบอกว่าอีกประมาณสองชั่วโมงจะมาถึงนี่ เครื่องที่ขึ้นมาดีเลย์น่ะ...อะไรกันๆ
ลูกของฉันสองคนก็เหมือนลูกของนายแหละน่า...นายจะมาเบื่อลูกตัวเองไม่ได้นะภีม คริๆ" เจนนี่บอก
พร้อมกับเดินเข้ามาอุ้มลูกชายของเธอออกจากตัวเพื่อนรักหนึ่งเดียวของเธออย่างภีม เพราะเจ้าหนูน้อย
ริกเกอร์ดูจะสนุกกับการปีนป่ายตัวคุณพ่อภีมของเจ้าตัวเล่นเสียเหลือเกิน

       "ฉันขอไม่รับสิทธิ์นั้นจะได้ไหมเนี่ย" ภีมพูดบอกพร้อมกับแกล้งทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เจ้าหนูน้อยริกเกอร์

       "ไม่ได้นะ!! คูณพ่อภีมก็เป็นแด๊ดดี้เบอร์สองต่อจากแด๊ดดี้ของริกเกอร์นะ!! ริกเกอร์รักเท่ากันเลย"
เจ้าหนูน้อยริกเกอร์แหวเสียงดังพูดวกไปวนมาตามภาษเด็กพลางทำหน้ามุ้ยใส่ภีมอย่างไม่พอใจเมื่อได้ยิน
สิ่งที่ภีมแกล้งพูดออกไปอย่างนั้น

       "ฮ่าๆ คุณพ่อล้อเล่นครับ คุณพ่อรักริกเกอร์จะตาย เดี๋ยวคุณพ่อขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ
แล้วเดี๋ยวเราไปรอรับแด๊ดดี้โลเวลของริกเกอร์กัน" ภีมบอกพร้อมกับขยี้หัวกลมๆ ของเด็กแสบที่ดิ้น
ตะแง้วๆ อยู่ในอ้อมแขนของแม่แท้ๆของตัวเอง

       เจนนี่ หรือ เจนจิรา เพื่อนสนิทหนึ่งในสองคนของภีมตลอดระยะเวลาห้าปีที่ผ่านมาในการศึกษที่
ต่างแดน ภีมและเจนนี่เป็นเพื่อนกันได้เพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน นอกนั้นก็เป็นเด็กต่างชาติทั้งหมด
รวมทั้งโลเวลที่เป็นเพื่อนอีกคนของเขาด้วย เจนนี่กับโลเวลเป็นคนรักกัน และก็มีพยานรักออกมาเป็น
เจ้าเด็กแสบริกเกอร์นั่นแหละ แต่ทำไมริกเกอร์ถึงเรียกเขาว่าคุณพ่อน่ะหรอ? ก็เพราะเขาเป็นพ่อทูนหัว
ของเจ้าเด็กนี่นะสิ ที่เขาเป็นพ่อทูนหัวให้เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ได้ทั้งที่นับถือศาสนาพุทธก็เพราะว่าทั้ง
เจนนี่และโลเวลพ่อแม่แท้ๆ ของริกเกอร์ทั้งสองคนนี้ไม่ได้เคร่งศาสนาอะไรขนาดนั้นนะสิ เพียงแต่เป็น
เหมือนกับถ้าเกิดในวันข้างหน้ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างสองคนนี้จนไม่สามารถเลี้ยงริกเกอร์ได้จริงๆ ก็จะ
เป็นเขาที่จะได้สิทธิเลี้ยงดูริกเกอร์แทนพ่อแม่แท้ๆของเจ้าตัวประมาณนั้นไง...เห็นทั้งคู่บอกเขามาอย่างนี้
ล่ะนะ เขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่ และที่เขาต้องเอาเจ้าริกเกอร์ตัวแสบนี่ติดสอยห้อย
ตามกลับไทยมาก็เพราะว่า โลเวลและเจนนี่พ่อแม่แท้ๆของเจ้าเด็กนี่ขอไปเคลียร์สถานะนะการณ์ที่บ้าน
ของตนก่อนนะสิ ก่อนที่จะพาลูกและสามีหรือภรรยาไปแนะนำตัวกับที่บ้าน เพราะพ่อคุณแม่คุณเพื่อนสนิท
ของเขาทั้งสองคนเล่นมีลูกออกมาเป็นเจ้าริกเกอร์น้อยนี่กันตั้งแต่เรียนยังไม่จบมัธยมปีแรกเลยยังไงล่ะ!!!
เขาถึงต้องกระเตงเจ้าริกเกอร์ตัวแสบนี่กลับบ้านมาพร้อมกันนี่แหละ มาวันแรกคุณแม่พัสกับคุณพ่อภาส
เขาก็ตกใจกันอยู่เหมือนกันนะเพราะคิดว่าเขาไปทำแหม่มหัวแดงที่ไหนท้องมา แต่พออธิบายไปทุกคนก็ต่างเข้าใจ
รวมทั้งป๋าเจ้าคุณที่เป็นต้นเรื่องทั้งหมดนี้ด้วย...แต่ป๋าก็เลือกที่จะแกล้งเขาเหมือนเดิม!!! เหมือนก่อนหน้าที่เขาจะไป
เรียนต่อเลย เพราะทันทีที่เจ้านายเห็นเขาและริกเกอร์จนฟุ้งซ่านคิดเป็นตุเป็นตะเข้าใจผิดไปเองอย่างนั้น และในขณะ
ที่เขากำลังจะอ้าปากปฏิเสธว่าริกเกอร์ไม่ใช่ลูกแท้ๆที่เกิดจากเขาอย่างที่เจ้านายเข้าใจ ป๋าเจ้าคุณก็ชิ่งตอบพร้อมกับขู่
เขาทางสายตาอีกต่างหาก!!! ซึ่งคุณพ่อภาสและคุณแม่พัสรวมถึงแม่ธารก็ต่างตกใจกันเป็นแถว แต่คุณป๋านั่นแหละ!!
เป็นเพราะคุณป๋าขู่ทุกคนทางสายตาอย่างที่ขู่เขานี่ไง แถมยังไม่รู้ว่าคุณป๋าไปคุยกับสามคนนั้นยังไง
พวกนั้นถึงได้ไม่มีใคห้ามคุณป๋าอย่างนี้ อีกทั้งยังเออออกับคุณป๋าไปหมด!!! ส่วนตัวเขานะหรอ? ถ้าจะบอกว่าจนมาถึง
ป่านนี้เขายังเวอร์จิ้นรักษาพรหมจรรย์ไว้รอดปลอดภัยจากสิ่งยั่วยุในเมืองแห่งแสงสีอย่างนั้นล่ะ
จะมีใครเชื่อเขาอยู่รึเปล่า...แต่มันคือเรื่องจริงนะ! ถึงแม้ว่าอีกคนเขาจะไม่ได้รอคอยเขาเหมือนกับที่เขารอคอยคนๆ
นั้นก็ตาม.....แถมพอเขาไปอยู่ที่นู่นได้แค่ปีกว่าๆป๋าคุณก็เริ่มส่งรูปถ่ายที่เจ้านายกอด จูบ ลูบ คลำผู้หญิงในสถานที่ต่างๆ
แทบจะไม่ซ้ำหน้าให้เขาดูอยู่ทุกเดือนๆ แต่สิ่งที่เขาทำได้นะหรอ? ก็ทำใจไง!! จะเจ็บจะปวดหรือรู้สึกอยากจะตายแค่ไหนเขา
ก็ต้องทน..ทน...แล้วก็ทน!!! เขาก็เหมือนไอ้งั่งตัวนึงที่คอยให้ป๋าคุณปั่นหัวเล่น จะเจ็บจะปวดแค่ไหนก็ห้ามตาย....หึๆ ตลกสิ้นดี!!

       "ภีมควรจะทำยังไงกับเรื่องของเราต่อไปดีครับเจ้านาย.....ภีมจะสู้ต่อหรือปล่อยเจ้านายไปดี" ภีมทิ้งตัวนอนห้อยขากับเตียงนอนที่ห้องพักของตัวเอง พลางหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองขึ้นมากางดูรูปของเจ้านายและตัวเองในวัยสิบสี่จะสิบห้าปีที่ถ่ายด้วยกันเป็นรูปสุดท้ายออกมาดู

       การใช้ชีวิตอยู่ตลอดห้าปีของเขาในต่างแดนนั้นมันไม่ง่ายเลย ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในความดูแลของ
โฮสแฟมมิลี่ก็ตาม แต่เข้าใจในอารมณ์ของเด็กที่อายุยังไม่เต็มสิบห้าดีที่จะต้องจากบ้าน ห่างพ่อ แม่ พี่น้อง
และคนรักของตัวเองโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวหรือเปล่า? คุณป๋าคุณจะรู้บ้างไหมว่าในการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นให้ผ่านไป
แต่ละวันเขาต้องทรมาณแค่ไหนในช่วงแรกๆ เขาต้องไปอยู่ในที่ที่แตกต่างทั้งภาษา วัฒนธรรม การอยู่
การกิน การใช้ชีวิต เหอๆ มันไม่ได้มีอะไรง่ายเลย ยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่าช่วงเดือนแรกๆที่เขาไปอยู่
ที่โน่นเขาต้องนอนหลับไปทั้งน้ำตาแทบจะทุกคืน เพราะคิดถึง...คิดถึงทุกๆอย่างที่ประเทศไทยคิดถึงคุณพ่อคุณแม่
คิดถึงภาค ภาม พี่และน้องแฝดของตัวเอง คิดถึงเจ้านายที่ไม่รู้ว่าจะงองแงอะไรกับใครไปแล้วบ้างเมื่อเขาไม่อยู่ให้เจ้าตัว
โวยวายใส่.....เหอะ! อ่อนแอสิ้นดี!! จนความชินชาเริ่มเข้ามาเยือนเขาเริ่มตั้งสติได้ว่าเขามาทำอะไรที่ต่างบ้านต่างเมืองคนละ
ซีกโลกอย่างนี้ในตอนที่วันเวลาล่วงเลยไปตั้งสองปีกว่าแล้ว เขาถึงพึ่งจะมีเจนนี่เข้ามาเป็นเพื่อนกันเพราะเป็นคนไทยเหมือนกัน และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้โลเวลมาเป็นเพื่อนเพิ่มอีกหนึ่งคนเพราะโลเวลเป็นคนรักของเจนนี่ และตัดสินใจที่จะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอีกสองปีในระบบเทียบโอนโดยตรงที่เป็นเครือข่ายเดียวกันกับโรงเรียนมัธยม เขาจึงใช้เวลาทั้งหมดในการศึกษาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองถึงห้าปีอย่างนี้ ก็เพราะว่าเขาต้องการจะทำให้คุณป๋ายอมรับในตัวเขาอย่างไม่มีข้อแม้ ในเมื่อเขาไม่ได้จบแค่มัธยมธรรมดาๆ แต่เขายังสามารถคว้าเกียรตินิยมระดับชั้นปริญญาตรีกลับมาฝากทุกคนได้ในขณะที่เจ้านายและพี่น้องของตัวเองที่อยู่ที่นี่ยังพึ่งจะอยู่แค่ปีสองในระดับมหาวิทยาลัยแต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับศูนย์เปล่าในเมื่อมันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย.....แต่จะโทษใครได้...ในเมื่อเป็นเขาเองที่อ่อนแอเกินไป!!!......

       "คุณแม่ครับ" ภีมหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาโทรหาคุณแม่พัสกรสุดที่รัก...ภีมกรอกเสียงเรียกคุณแม่พัสกรของตัวเองที่อยู่ปลายสายด้วยเสียงอ่อยๆ

       (// ว่ายังไงครับลูกรักของคุณแม่.....น้องภีมเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เสียงไม่ดีเลยนะลูก//) พัสกรถาม
เมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของน้ำเสียงลูกชาย

      "ภีมคิดถึงคุณแม่ คิดถึงคุณพ่อ ภีม...อยากกลับบ้านเราแล้วครับคุณแม่" ตอนแรกภีมเองก็ไม่รู้ว่าทำไม
ตัวเองอยู่ดีๆถึงได้อยากโทรหาแม่ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ภีมรู้แล้วหล่ะว่าทำไม...ก็เป็นเพราะว่าเขามาถึงช่วงที่
แย่ที่สุดแล้วไงไม่อย่างนั้นน้ำตาลูกผู้ชายของเขาคงไม่ไหลออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงแม่หรอก

      (// แม่ไม่รู้หรอกนะครับว่าน้องภีมไปพบไปเจออะไรมา แต่ถ้าหนูกำลังรู้สึกไม่ดีอยู่...ก็กลับมาบ้านเรานะลูก...กลับมาหาแม่กลับมาหาคุณพ่อ...แม่กับคุณพ่อรักหนูมากนะครับลูก//)

       "ครับ...รอภีมด้วยนะครับคุณแม่" ภีมพูดแค่นั้นก่อนที่จะตัดสายคุณแม่พัสกรของตัวเองไป และนอนหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ แบบที่ไม่คิดจะเช็ดออกแต่อย่างใด.....




     .......เขาควรที่จะทบทวนเรื่องระหว่างเขากับเจ้านายใหม่ว่าเป็นแค่ความรักจริงจังแบบผู้ใหญ่ที่ควรจะยื้อ
หรือมันเป็นแค่ความรักในแบบเด็กๆ อย่างที่ป๋าคุณบอกและปล่อยเจ้านายไปดี...เพราะโลกแคบๆใบเก่าของเขาที่มีเพียง
แค่เจ้านายวิ่งวนอยู่ในนั้นคนเดียว.....มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน.......







_______________________________________________________________________TBC.
แค่คำพูดเพียงไม่กี่คำของแม่มันทำให้น้ำตาของเราไหลออกมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวเลยนะคะ
มี่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้โดยตรง ตอนที่มี่เคยทำตัวดื้อสุดๆเกเรสุดๆจนใครๆก็พากันส่ายหน้าหนี
แต่เพียงแค่คุณยายที่มี่เรียกว่าแม่และเป็นคนเลี้ยงมี่มา เดินเข้ามากอดมี่แล้วบอกกับมี่แค่ว่า 'แม่รักหนูนะ'
แค่คำพูดธรรมดาๆ ไม่มีโมเม้นหวานซึ้ง แต่น้ำตาของมี่แมร่งไหลออกมาอย่างกับเปิดก๊อก แถมยังรู้สึกวูบที่
ตำแหน่งของหัวใจตรงหน้าอกข้างซ้ายด้วยนะคะ....มันเหมือนพรวิเศษเลยจริงๆนะคะ
#ปล.ที่นอกเรื่องเล่าให้ฟังก็เพราะ มี่อยากจะบอกว่าถ้าตอนนี้ใครเหนื่อย ใครท้อเหมือนกับภีม ให้เดินตีหน้ามึน
เข้าไปกอดแม่ กอดยายหรือกอดใครก็ได้ที่เราเคยดื้อเคยทำตัวแย่ๆกับเขาและบอกเขาว่า 'หนูรักแม่นะ' แค่นั้น
เดี๋ยวเขาก็รับรู้เองแหละค่ะว่าเรากำลังรู้สึกแย่หรือกำลังไม่สบายใจอยู่ เพียงแต่บางคนอาจจะปากแข็ง ขี้อาย
เลยเลือกที่จะตอบรับเราในแบบแปลกเช่นคำว่า 'อะไรของมึง!!' ก็ไม่ต้องไปสนใจนะคะ แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า
สำหรับมี่มันได้ผลจริงๆ อย่างน้อยเราก็รู้สึกดีขึ้น เหมือนอย่างมี่ที่เดี๋ยวนี้ชอบเดินหน้ามึนเข้าไปกอดยายแล้วบอกว่าหนูรักแม่อยู่ทุกๆวันนั่นแหละค่ะ โดนบอกรักตอบบ้าง โดนทำหน้าโหดใส่บ้างก็อย่าได้แคร์...ตีมึนเข้าไว้
ฮ่าๆ เวิ่นนอกเรื่องซะเยอะเลย เอาเป็นว่า....แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2016 17:06:04
เฮ้อออ. ต่างฝ่ายต่างเข้าใจผิด เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน. คนแต่งแกล้งกันปะเนี่ยะ. งอนคนแต่งดีกว่า โป้งแล้วๆๆๆๆๆ :m16: :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-02-2016 17:22:51
ไม่ค่อยชอบการกระทำของคุณป๋าเท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับการจะใช้ชีวิตร่วมกันของทั้งสองคน
ถ้าผ่านมันไปได้ คุณป๋าคงให้ผ่านแหละ (แอบรู้สึกว่าน้องภีมโดนฤทธิ์หวงลูกของคุณป๋าหนักกว่าเจ้าคุณ)
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 19-02-2016 17:42:01
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 19-02-2016 17:43:16
ขอเปลี่ยนข้างค่ะ
#ทีมน้องภีม กรี๊ดดดดด อีป๋าคุณช่างโหดร้าย แถมเจ้านายยังเย็นชาใส่น้องทั้งที่ไม่ทันได้รู้เรื่องรู้ราวอีก คือถ้าเป็นเจ้านายก็คงช็อกนั้นแหละ แต่เห็นพอได้อ่านพาร์ทของภีมปุ๊บ รู้สึกสงสารน้องภีมจับใจจริงๆ
ขอให้ตอนเจ้านายรู้ โกรธอีคุณป๋าให้สุดๆเหอะ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-02-2016 17:50:54
เฮ้อออออ รู้สึกคุณป๋าเจ้าคุณจะเล่นน้องภีมหนักไปหน่อยนะ

ยังไงน้องภีมก็อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะ พี่นายยังรักน้องภีมอยู่รุกๆ หน่อย

อีกอย่างเราก็รู้ว่าพี่นายเข้าใจผิด ป๋าคุณไม่ให้พูดก็ให้ยัยเจนอะไรนั้นเป็นคนช่วยพูดช่วยบอกแทนก็ได้นี่
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-02-2016 17:54:38
ก็แล้วทำไมไม่เปิดปากคุยกันสักทีล่ะ โอกาสก็ใช่ว่าจะไม่มี
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 19-02-2016 20:56:10
ต้นเหตุมาจากป๋าคุณนิเอง เมื่อไรจะเข้าใจกันหละนิ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 19-02-2016 21:45:51
เอ่า!!! คุณป๋าทำไมแกล้งลูกงี้ล่ะ

เข้าใจไปกันคนละทิศละทางแล้ววววววว

รีบๆเข้าใจกันน้าา
อยากเห็นเจ้านายงุ้งงิ้งใส่น้องภีม :mew2:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-02-2016 22:08:09
เจ้านายเข้าใจผิดว่างั้น!?
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่แปด (19.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 19-02-2016 23:26:28
ทำไมไม่ถามตรงๆ ทำไมไม่พูดไปตามจริง อ๋อ พ่อแง่แม่งอนกันนี่เอง
  รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 21-02-2016 20:09:56
21/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่เก้า






       "เดี๋ยวตอนไปรับโลเวลฉันจะขึ้นเครื่องกลับบ้านเลยนะ...โทรจองตั๋วไว้แล้ว" ภีมเดินสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่
ของตัวเองติดตัวลงมาในห้องชั้นล่างของบ้านพักที่พวกเขาเช่าไว้พักระหว่างที่ครอบครัวของเพื่อนสนิททั้ง
สองคนของเขาอยู่ที่นี่ ในขณะที่ทั้งเขา เจนนี่และเจ้าหนูน้อยริกเกอร์กำลังจะขับรถที่เช่าไว้ไปรับโลเวลพ่อแท้ๆ
ของเจ้าหนูน้อยริกเกอร์ที่สนามบิน

       "อ่าว! ทำไมล่ะภีม ฉันนึกว่านายจะอยู่เที่ยวกับพวกเราก่อนซะอีก...นายเป็นอะไรหรือเปล่าภีมสีหน้านาย
ไม่ดีเลยนะ" เจนนี่ถามด้วยความตกใจเพราะก่อนหน้านี้ภีมยังบอกกับเขาว่าจะอยู่เที่ยวตามคำชวนกึ่งบังคับของ
พวกเขาด้วย เพราะคงอีกนานกว่าจะได้เจอกันเพราะเขากับริกเกอร์จะต้องกลับไปอยู่กับโลเวลพ่อของริกเกอร์
ที่อเมริกาเหมือนเดิมเพราะทั้งเขาและโลเวลก็ต่างเคลียร์กับครอบครัวของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       "ไม่..ฉันไม่ได้เป็นไรหรอก เพียงแต่คุณพ่อฉันเรียกตัวกลับบ้านน่ะ" ภีมพูดโกหกคำโตใส่เพื่อน
 เพราะกลัวว่าเพื่อนจะรู้สึกแย่ที่ตนเป็นคนไร้เหตุผลอย่างนี้ ที่แค่ตัวเองรู้สึกแย่แค่นี้กลับกล้าผิดสัญญา
กับเพื่อนที่มีอยู่ไม่กี่คนของตัวเองอย่างนี้

       "อืม...ถ้างั้นก็ไม่เป็นไรหรอก...ฉันเข้าใจ....และแค่เป็นห่วงกลัวว่านายจะเป็นอะไรเพราะสีหน้า
ของนายตอนนี้มันไม่ดีเลยหล่ะภีม" เจนนี่พูดบอกด้วยน้ำเสียติดกังวลเพราะเท่าที่ตนรู้จักและเป็นเพื่อนกับภีมมา
ภีมไม่เคยแสดงความรู้สึกผ่านทางสีหน้ามาอย่างชัดเจนอย่างนี้เลย เธอจึงรู้สึกเป็นห่วง แต่ในเมื่อเพื่อนบอกว่า
ไม่เป็นไรเธอก็ไม่ควรที่จะเซ้าซี้ต่อไป

       "คูณพ่อภีมจะไปไหนหรอฮะ" เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ที่นอนหลับอยู่ที่เบาะเด็กกลางห้องนั่งเล่นพอลืมตาตื่น
มาเห็นคุณพ่อภีมของตัวเองมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่สะพายอยู่ข้างหลังก็อ้าปากร้องถามทันที

       "ริกเกอร์ครับ คุณพ่อภีมจะกลับไปหาคุณตาภาสกับคุณยายพัสก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวถ้าคุณพ่อว่าง
คุณพ่อจะบินไปเยี่ยมริกเกอร์ที่โน่นนะครับ...เป็นเด็กดีนะครับคนเก่ง" ภีมบอกพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยขึ้นมากอด
ถึงไม่ใช่ลูกแท้ๆของตนแต่ก็ช่วยเลี้ยงช่วยดูแลมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ก็อดที่จะรู้สึกใจหายไม่ได้ที่จะต้องจาก
เจ้าหนูจอมแสบนี่ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การจากกันถาวรก็เถอะ แต่มันก็คงจะอีกนานกว่าจะได้เจอกันอย่างนี้อีก

       "ฮะ...แต่คูณพ่อภีมต้องไปหาริกเกอร์บ่อยๆนะฮะ...แล้วก็ห้ามรักใครมากกว่าริกเกอร์ด้วย! ไม่อย่างนั้น
ริกเกอร์จะงอนคูณพ่อภีมสามวิ(นาที)เลย!!!" เจ้าหนูริกเกอร์รับปากพร้อมกับไม่ลืมที่จะพูดขู่คุณพ่อภีมของตัวเองไว้
เพราะกลัวว่าคุณพ่อจะไปรักเด็กคนอื่นมากกว่าตัวเอง

      "หึๆ ครับๆ" ภีมหลุดหัวเราะขำออกมากับท่าทางที่ดูเหมือนจะน่ากลัวของไอ้เด็กฝรั่งตัวกระเปี๊ยกในอ้อมกอดตัวเอง
และอดไม่ได้ที่จะกอดรัดฟัดตัวนุ่มๆของเจ้าหนูริกเกอร์อีกชุดใหญ่ ก่อนที่จะพากันออกเดินทางเพื่อที่จะไปส่งภีมและ
รับโลเวลพ่อแท้ๆของริกเกอร์เมื่อถึงเวลา
.
.
.
.
.
       "ฉันไปก่อนนะ...ขอโทษที่ไม่ได้อยู่เที่ยวและไม่อยู่ส่งพวกนายกลับอเมริกานะ" ภีมบอกกับเจนนี่และ
โลเวลเมื่อได้ยินพนักงานของสนามบินเรียกแล้ว...คงจะถึงเวลาแล้วสินะ
 
       "ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกกับด้วยนะ...เดี๋ยวไอ้ลูกชายของนายมันจะโวยวายเอาที่คุณพ่อภีมสุดที่รักไม่โทรหา"
โลเวลพูดบอกพร้อมกับเดินเข้ามากอดลาภีม หลังจากที่นั่งคุยกันได้พักใหญ่ๆยังไม่ทันหายคิดถึงเพื่อนก็จะไปอีกแล้ว
พลางบุ้ยปากไปที่เจ้าหนูน้อยริกเกอร์ลูกชายของตนที่นอนหลับสบสไลไปด้วยความเพลียอยู่บนตักเจนนี่แม่ของเจ้าตัว

      "อื้ม...แล้วเจอกัน...ฉันไปก่อนะเจนนี่" ภีมกอดลาเพื่อนอีกครั้ง ก่อนที่จะเดินหันหลังเข้าเกทไป
โดยไม่ลืมที่จะบอกลาเจนนี่อีกคน
.
.
.
.
.
      "คุณแม่ครับ"

      "อ๊ะ!...น้องภีม!...มายังไงครับลูก ทำไมไท่โทรให้แม่ไปรับล่ะครับ" พัสกรสะดุ้งตกใจที่นั่งอ่านหนังสืออยู่
เพลินๆ ก็โดนเจ้าลูกชายคนกลางที่มาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้มาสวมกอดตนจากทางด้านหลัง

       "ภีมไม่อยากรอกเลยมาแท็กซี่ครับ...ภีมอยากมานอนกอดคุณแม่เร็วๆ" ภีมพูดอ้อนพร้อมกับทิ้งตัวลงนอน
หนุนตักพัสกรที่นั่งอยู่บนโซฟายาวพอดี

       "หื้ม...มาอ้อนแม่แบบนี้ อยากได้อะไรหรือเปล่าเนี่ยครับลูกชาย" พัสกรพูดพลางลูบหัวลูกชายไปมา

      "คุณแม่ครับ" อยู่ดีๆ ภีมก็เรียกพัสกรขึ้นมา

       "ครับ...ว่ายังไงครับลูก" พัสกรแสร้งถามทั้งที่พอจะเดาอาการของลูกออก แต่ก็อยากให้ภีมพูดมันออกมาด้วยตัวเองอยู่ดี

       "ภีมเหนื่อยจังเลยครับแม่" ภีมบอกพร้อมกับพลิกตะแคงหันหน้าเข้าซุกท้องของพัสกร

       "เหนื่อยก็หยุดครับ แต่ถ้าภีมหยุดไม่ได้ก็แค่พัก..พักเก็บแรงให้หายเหนื่อย แล้วก็ลองกลับไปสู้กับสิ่งที่หนูต้อง
เผชิญต่ออีกสักครั้งให้สุดแรงแบบไม่ต้องเก็บไม่ต้องกั๊กเลยนะครับ และถ้าคราวนี้ถ้ามันยังไม่ได้ผลอีกภีม
ก็ควรที่จะยอมแพ้และปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน เพราะขืนภีมฝืนไว้หรือยื้อไปมันก็มีแต่ภีมเท่านั้นแหละครับ
ที่จะเจ็บตัวเอง" พัสกรไม่ได้โกรธเจ้านายที่เฉยชากับลูกของตนเพราะรู้ดีว่าเจ้านายก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร
และก็ไม่ได้เกลียดเจ้าคุณที่ทำแบบนี้กับลูกชายตนเพราะเข้าใจดีว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมอยากได้สิ่งที่ดีที่สุด
ให้กับลูกของตัวเองโดยเฉพาะคนรักหรือคู่ชีวิตที่จะเป็นคนรับช่วงต่อคอยดูแลลูกต่อจากเราในวันที่เราไม่มีแรง
พอที่จะอยู่ดูเขาต่อแล้ว แต่ในฐานะของคนเป็นแม่อย่างเขาแล้วเขาก็ไม่ชอบที่จะเห็นลูกของตัวเองต้องเจ็บปวด
และทรมาณเหมือนกัน เขาถึงเลือกที่จะพูดกับภีมแบบนี้ ตั้งแต่เด็กจนโตชีวิตของภีมก็มีแต่เจ้านาย ภีมไม่เคยมี
เด็กคนอื่นเป็นเพื่อนแบบภาคหรือภามแฝดพี่และแฝดน้องของตัวเอง จะหายใจเข้าหายใจออกก็มีแต่พี่เจ้านาย
อะไรๆ ก็พี่เจ้านาย จะเล่นกับเพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้ เพราะพี่เจ้านายไม่ชอบ...เดี๋ยวพี่เจ้านายโกรธ
เรียกได้ว่าโลกทั้งใบของน้องภีมลูกชายฝาแฝดคนกลางของเขานั้นมีเพียงพี่เจ้านายของตัวเองเท่านั้นที่อาศัยอยู่
...ตัวเขาเองมารู้จากณัฐภาสสามีของเขาในภายหลังว่าลูกชายของเขาคนนี้ ต้องไปเรียนต่อต่างบ้านต่างเมืองอยู่
ห่างไกลกันคนละซีกโลกโดยที่ไม่สามารถกลับมาเที่ยวบ้านได้เลยในคราวที่ถึงวันหยุดปิดเทอม เพราะแค่เหตุผลที่ว่า
 'ภีมทำเพื่อเจ้านาย' เหอะ! แล้วไอ้ตอนที่ลูกชายของเขาพูดไอ้คำว่าเพื่อพี่เจ้านายของตัวเองทั้งน้ำตาที่ไหลออกมา
อย่างไม่ขาดสาย มีใครเคยคิดบ้างไหมว่าหัวใจของคนเป็นแม่อย่างเขาที่เลี้ยงดูฟูมฟักลูกรักในอกมาอย่างยุงไม่ให้ไต่
ไรไม่ให้ตอมมากับสองมือตัวเองจะเจ็บปวดเจียนจนจะขาดใจแค่ไหน อยากจะบินไปรับลูกกลับมาบ้านตั้งกี่ครั้งกี่คลา
แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะโดนณัฐภาสสามีของเขาห้ามไว้และบอกว่าอย่าไปทำลายความตั้งใจของลูก เพราะเราอยู่กับลูก
ไปตลอดชีวิตไม่ได้ ให้ลูกได้เผชิญและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองให้ถึงที่สุดเสียก่อน รอให้ลูกร้องเรียกขอความช่วยเหลือก่อน
เราค่อยยื่นมือเข้าไป ซึ่งน้องภีมลูกชายของเขาคนนี้...คนที่ดูเหมือนจะอ่อนแอที่สุดในบรรดาพี่น้องแฝดของตัวเองกลับทำได้
ภีมกลับมาหาเขาพร้อมกับใบปริญญาบัตร อีกทั้งยังได้เกียรตินิยมมาอีกต่างหาก แต่ถ้าสิ่งพวกนี้มันกลับมาพร้อมกับ
ความทุกข์ทรมาณใจของลูกชายเขาอย่างนี้ เขาบอกเลยว่าเขา.....ไม่ต้องการ!!!

     "ภีมทำแบบนั้นได้ด้วยหรอครับแม่" ภีมพลิกตัวกลับมาถามพัสกรด้วยน้ำตา

     "ได้สิครับลูก...ไม่ว่าใครจะพูดยังไง..ชีวิตของภีมย่อมเป็นของภีม ถ้าภีมต้องการให้มันเป็นทางไหนยังไงก็มีแค่
ตัวภีมเท่านั้นที่เป็นคนกำหนด...ไม่ใช่คนอื่น...สู้นะครับลูก...แม่อยู่ข้างหนูเสมอ" พัสกรบอกพร้อมกับกดจูบหน้าผาก
ลูกชายเบาๆ เป็นการให้กำลังใจและปลอบโยนไปพร้อมๆ กัน และหวังว่าภีมจะจำเอาคำพูดทุกๆ คำของเขาในวันนี้
เก็บเอาไปคิดเอาไปใช้เพื่อเป็นเกาะป้องกันตัวเองบ้างไม่มากก็น้อย...พ่อตามากเล่ห์อย่างนั้นสู้ต่อหน้าตรงๆ
ไม่ไหวหรอกนะครับลูกชาย......แต่ถ้าหนูต้องการลูกชายของเขาจริงๆ แม่คนนี้ก็จะช่วยหนูเองครับลูกรัก!!!







________________________________________________________________________TBC.
วันนี้ว่าจะไม่ลงแล้วนะคะ แต่พอดีไอ้เพื่อนบ้าของมี่มันโทรมาทวงซะก่อน
พอบอกว่าจะไม่ลงมันยังว๊ากใส่มี่จนหูชาเลยค่ะ ก็เลยต้องมาลงให้นาง(?)
หน่อยเดี๋ยวฮอร์โมน(นาย)ของนางจะพุ่งพล่านแล้วจะแว๊นมาเผาบ้านมี่ซะก่อน 555
ปล. ตอนนี้สั้นไปหน่อยนะคะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ.....
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-02-2016 20:22:42
หายเหนื่อยแล้วก็สู้ต่อ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-02-2016 20:33:09
โธ่ น้องภีมอดทนหน่อยนะคะ อีกไม่นานพี่เจ้านายต้องรู้ความจริงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-02-2016 20:45:44
พยายามเข้านะภีม
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 21-02-2016 20:56:38
หัวอกคนเป็นแม่น่ะไม่อยากเห็นลูกเสียใจหรอก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-02-2016 21:29:31
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 21-02-2016 22:49:37
สงสารน้องภีมมฮือออออ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 22-02-2016 00:37:19
ภีมสู้ วางยาจับปล้ำเลย ป๋าคุณนิหวงเจ้านายมาดเลยนะนั้น
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่เก้า (21.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-02-2016 00:58:10
ยังไงก็ขอให้เข้าใจกันนะครับ เข้าใจผิดกันอยู่อย่างนี้ (คนอ่าน)ปวดใจ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 22-02-2016 13:20:01
22/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบ






       "ทำอะไรกันอยู่ครับสองแม่ลูก" ณัฐภาสที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นสองแม่ลูกพัส ภีม
นอนหนุนตักคุยงุ้งงิ้งกันอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นกันอยู่สองคน

       "พี่ภาสเคยสนใจด้วยหรอฮะ" พัสกรเชิดหน้าพูดค่อนคอดสามีอย่างประชดประชัน

       "โธ่...พัสก็! ทำไมพี่จะไม่สนใจหล่ะครับ.....พูดประชดทำหน้างอใส่พี่นี่ต้องเป็นเรื่องของน้องภีมแน่เลย....
ใช่มั้ยครับลูก" ณัฐภาสถอดสูททิ้งตัวนั่งที่พักแขนโซฟาข้างภรรยา พลางหันไปถามความเห็นของลูกชายด้วยว่า
ตนพูดถูกใช่หรือไม่

       "ประมาณนั้นแหละครับคุณพ่อ" ภีมพยักหน้าตอบณัฐภาสทั้งที่ยังคงนอนหนุนตักพัสกรอยู่

       "ถ้าเป็นเรื่องนั้นมันจะไปยากอะไรครับ ในเมื่อภีมทำตามสัญญาที่ให้กับเจ้าคุณมันไว้แล้ว ที่เหลือก็........."
ณัฐภาสกระซิบบอกข้างหูลูกชายด้วยสีหน้าทะเล้นท่าทางเจ้าเล่ห์จนหน้ากลัว

       "ได้หรอครับ! ถ้าภีมทำอย่างนั้นแล้วเจ้านายจะกลับมารักภีมเหมือนเดิมใช่มั้ยครับคุณพ่อ!!" เมื่อได้ยินสิ่งที่ณัฐภาสผู้เป็นพ่อบอกแล้วภีมถึงกับตาลุกวาว ถามณัฐภาสกลับอย่างมีความหวัง

       "เดี๋ยวๆ สองคนพ่อลูกนี่กระซิบกระซาบอะไรกันครับ ทำไมถึงได้ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์กันขนาดนั้น...
ว่าไงครับ พี่ภาส...น้องภีม" พัสกรกดเสียงต่ำถามทั้งสามีและลูกชายเพราะเมื่อสักครู่ตอนที่ณัฐภาสกระซิบบอกอะไรสักอย่างกับภีมมันเบาเสียจนพัสกรไม่ได้ยิน...ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กันก็เถอะ

       "ความลับครับ...เน๊าะภีมเน๊าะ" ณัฐภาสบอกพร้อมกับยักคิ้วกวนๆใส่พัสกร

       "ครับ...มันเป็นความลับ" ภีมบอกพลางยิ้มหวานประจบใส่แม่

       "ฮึ่ย! อย่าให้มีปัญหาก็แล้วกัน...แม่ไม่ช่วยหรอกนะ!!" พัสกรพูดบอกอย่างหงุดหงิด...เมื่อกี้ลูกชายยังอ้อน
เขาอยู่เลย แต่พอณัฐภาสสามีของเขามาแค่แปปเดียว...แปปเดียวเท่านั้น!! น้องภีมก็ไปอยู่ข้างโน่นซะแล้ว.....หงุดหงิดที่สุด!!!
.
.
.
.
.
สามเดือนต่อมา

       หลังจากวันที่เจ้านายเข้าโรงพยาบาลวันนั้นแล้ว เจ้านายก็ไม่เคยได้พบเจอกับภีมอีกเลย ถึงแม้ว่าเขา
จะกลับไปบ้านเกิดที่จังหวัดภูเก็ตและแวะเข้าไปไหว้พ่อภาสแม่พัสอย่างทุกทีก็ตาม พอเรียบๆเคียงๆลองถาม
หาดูแม่พัสก็บอกว่าภีมกลับไปทำธุระที่อเมริกาต่ออีกนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ไม่มีใครแม้แต่จะเอ่ยปากพูดถึงผู้ชายคนนั้นอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว

       "ไอ้กล้า...ไอ้กล้า!! ไอ้เหี้ยกล้าโว้ยยยย...เข้ามาหากูหน่อย!!!" เจ้านายตะโกนร้องเรียกลูกน้องคนสนิทที่เปรียบเป็นเสมือนมือขวา เป็นเลขา และอื่นๆ จิปาถะ เพราะว่าไอ้กล้าคนนี้มันช่วย้ขาได้ทุกเรื่องแถมยังไว้ใจได้ เพราะมันจะไม่หักหลังเขาอย่างแน่นอน

       "จ๋าาา...ลูกพี่เรียกกล้าไมอ่ะ" กล้าเดินเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวของเจ้านายที่อยู่ในตึกออฟฟิตหลักของสนามที่ตั้งอยู่กั้นกลางระหว่างสนามกับบ้านที่เขาอาศัยอยู่พอดี สนามจะอยู่ส่วนหน้า ส่วนตัวบ้านเขาจะอยู่ข้างหลังสุดของพื้นที่ทั้งหมด โดยมีต้นไม้ขนาดใหญ่พลางตาคนไว้อยู่ทำให้ไม่มีใครรู้ว่า
ระยะทางระหว่างบ้านและสนามของเขานั้นมันใกล้กันแค่นิดเดียว

       "วันนี้เป็นไงบ้างวะ" เจ้านายถามถึงความเป็นไปในสนามเหมือนยังทุกวันที่เขาคิดว่าจะไม่เข้าไปในสนาม อย่างในวันนี้ก็เช่นกัน

       "วันนี้สนามเราคนโคตรเยอะอะลูกพี่ ลูกพี่จะไม่เข้าไปดูหน่อยหรอ....ผมว่าก่อนกลับลูกพี่แวะเข้าไปดูหน่อย
ก็ดีนะ พวกลูกค้ามันบ่นคิดถึงพี่กันเป็นแถว" กล้าบอกพลางพูดชักชวนเจ้านายเต็มที่เพราะนานนับเดือนแล้วที่เจ้านายไม่ค่อยได้เข้าไปดูสนาม จะดูความเรียบร้อยผ่านทางกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ทุกซอกทุกมุมของสนามก็เท่านั้น จนพวกลูกค้าประจำของสนามบ่นหากันเป็นแถว

       "เออ...ไปก็ไป" เจ้านายบอกพร้อมกับลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมก่อนที่จะเดินนำกล้าออกจากห้องทำงาน...ไหนๆ กลับบ้านไปก็ไม่รู็จะไปทำอะไรอยู่แล้วเข้าไปนั่งดูรถเล่นในสนามแก้เบื่อก็ดีเหมือนกัน เพราะ
ช่วงนี้เขาไม่รู้เป็นไร ไม่ว่าจะเห็นอะไรมองไปทางไหนมันก็ดูขัดหูขัดตาไปเสียหมด รวมทั้งบรรดากิ๊กใหญ่กิ๊กเล็ก
ทั้งแปดคนที่ยังเหลืออยู่ของเขาอีกที่พากันน่าเบื่อไปหมด จะไปดื่มไปดิ๊งค์กับเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างมอสกับเลย์
ก็ไม่ได้ เพราะช่วงที่เขากลับบ้านครั้งล่าสุด(ไม่ได้เจอภีม)ไอ้สองคนมันแอบไปยกพวกตีกับเด็กแว้นกันมาพวกพ่อๆมันสองคนก็เลยสั่งกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปล่อนไปแรดที่ไหนกันอีกสามเดือน....สมน้ำหน้าพวกมัน....เสือกไม่ชวน!!
.
.
.
       "มึงเข้าไปดูหน่อยสิไอ้กล้าว่าไอ้พวกนั้นมันยืนมุงอะไรกันว๊ะ...เกะกะชิบหาย" เจ้านายหันไปพูดบอกกับ
กล้าที่ยืนทำหน้าอึนทำมึนอยู่ข้างๆ กัน หลังจากที่เดินออกจากออฟฟิตมาถึงทางเข้า แต่ยังไม่ทันได้ถึงด้านใน
ของสนามก็เป็นอันต้องหยุดเพราะติดฝูงชนที่พากันยืนมุงดูอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้เป็นกลุ่มเป็นก้อนคากันอยู่ปากทางเข้าตัวสนามนี่แหละ

       "เดอะฟาสเฮีย!! เดอะฟาส!!!" กล้าวิ่งฝ่าฝูงคนพูดบอกออกมาอย่างตื่นเต้น หลังจากที่หายเข้าไปกลาง
วงคนมุงตามที่เจ้านายสั่ง

       "อะไรของมึงวะไอ้กล้า!! ไอ้ห่านี่!! หยุดเขย่ากูก่อนเว้ย!! นี่กูคนนะไม่ใช่กระบอกเซียมซี....หอก!!"
เจ้านายพูดบอกพร้อมกับโบกหัวเรียกสติให้ลูกน้องคนสนิทไปหนึ่งทีแบบเต็มๆแรง เพราะหลังจากที่กล้าวิ่ง
โวยวายออกมาแล้วมันก็พูดแต่คำเดิมว่า ฟาสๆ อะไรของมันสักอย่างนี่แหละเขาก็ฟังไม่ถนัดเหมือนกัน เท่านั้นยังไม่พอมันยังมาเขย่าแขนเขาไปมาเหมือนเด็กเจอของเล่นถูกใจอีกต่างหาก แต่ขอโทษเถอะครับ...ก็ไม่ใช่กระบอกเซียมซีนะโว้ยครับไอ้ลูกน้อง!!!

       "ก็ไอ้ที่เขามุงๆกันอยู่อะเฮีย!! รถๆ รถคันนั้นมันเหมือนกับที่อยู่ในหนังเดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส
จากภาคไหนก็ไม่รู้ ผมจำไม่ได้...จำได้แต่ว่าไอ้รุ่นนี้คันแบบนี้!! เพียงแต่คันนี้มันเป็นสีขาวแต่ในหนังมันเป็นสีแดง ไอ้ฉากที่ดอมมันพาไบรอันขับรถเหินฟ้าข้ามตึกไงเฮียรุ่นนั้นเลย!!! โคตรสวย!!!" กล้าพูดเล่าพลางทำมือทำไม้ประกอบท่าทางให้ลูกพี่เจ้านายของตัวเองดูอย่างตื่นเต้น จนเจ้านายถึงกับขมวดคิ้วสงสัยเพราะเท่าที่เขาจำได้
รถรุ่นนั้นมันติดอันดับหนึ่งในสามรถที่เร็วที่สุดในโลกช่วงนั้นเลยนี่หว่า ส่วนราคานี่ก็ไม่ต้องพูดถึงเลย และไม่ต้องไปพูดถึงค่าตบค่าแต่งอีกด้วยนะเพราะคนชอบรถ ชอบแข่งรถนี่เป็นไปไม่ได้หรอกที่มันจะขับเดิมๆ โดยที่ไม่แต่งเพิ่มอะ!! หึๆ โคตรพ่อโคตรแม่แพงมหาแพงชิบหายเลยนะงานนี้กูว่า แล้วยิ่งวันเวลาผ่านมาสี่ห้าปีอย่างนี้แล้วด้วย เหอๆ ใครมันจะกล้าเอามาขับเล่นในสนามแข่งเถื่อนๆของเขากันวะ?.....เขาก็เป็นหนึ่งในแฟนคลับของหนังเรื่องนี้ที่ปรารถณาที่จะได้รถรุ่นใดรุ่นหนึ่งในบรรดารถทั้งหมดทั้งเจ็ดภาคเหมือนกันนะเฟ้ย...โดยเฉพาะไอ้รถคันที่ไอ้กล้ามันเพ้อให้ฟังอยู่นี่ไง!!!   

       "เออๆ กูจำได้แล้ว...ไหนกูขอไปดูหน้าเจ้าของมันหน่อยสิวะ...ว่ามันคิดไงถึงเอารถเจ๋งขนาดนี้มาคลุกฝุ่นเล่นในสนามกูได้" เจ้านายพูดบอกพร้อมกับเดินนำกล้าเข้าไปในฝูงชนอีกครั้ง โดยที่มีกล้าเดินตามหลังเข้าไปติดๆ
แต่ครั้งนี้เพราะทุกคนเห็นว่าเป็นเจ้านายที่เป็นเจ้าของสนามที่เดินเข้ามา ก็ต่างพากันแหวกทางให้เจ้านายได้
เดินไปถึงตัวรถหรูคันนั้นได้ในที่สุด
.
.
.


       ก๊อก...ก๊อก

       "เฮ้ย! ออกมาคุยกันหน่อยดิ" เจ้านายหยุดยืนอยู่หน้ารถหรูสีขาวคันงามรุ่นเดียวกันกับที่กล้าบอก
ก่อนที่จะเคาะกระจกหน้าต่างรถพร้อมกับพูดเรียกคนข้างในรถให้ออกมาคุยกันหน่อย ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่หรอก
ว่าไอ้คนข้างในมันจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดหรอก แต่ก็นะ! ขอพี่เจ้านายคนนี้วางท่าเท่ต่อหน้าฝูงชนหน่อยเถอะ!!! กร๊ากกกกก....


       คลิ๊ก....(สมมุติว่ามันคือเสียงเปิดประตูรถเอาโน๊ะ!)



       "นะ...นาย...." ทันทีที่คนข้างในรถเปิดประตูออกมาให้เห็นหน้าตาตัวเอง เจ้านายก็รู้สึกปากคอสั่นตกตะลึง
ถึงกับไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำๆ ได้ เพราะไอ้เจ้าของรถหรูในฝันของเขามันคือ ภีม!! ภีมที่เป็นลูกชายฝาแฝดคนกลางของคุณพ่อภาสกับคถณแม่พัสอ่ะ!! ไอ้คนที่อดีตมันเคยเป็นว่าที่เมีย(?)ของเขาไง!! ไม่ว่าจะให้มองกี่ร้อย
กี่พันครั้ง ไอ้หน้าหล่อหัวสีสายไหมใส่เสื้อหนังแก้วลายทหารเท่ๆ ดูแบดๆตรงหน้าเขานี้มันก็คือ ภีม พีรภัทร
อัครจินดากรณ์นั่นแหละ!!!!....โอ๊ย!!...แล้วเขาจะมามัวคิดวกไปวนมาให้มันปวดหัวทำไมว๊ะเนี่ย!!!! โว้ยยยย...

       "สวัสดีครับ... ผมชื่อ ภีม ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครถึงได้มาเคาะกระจกรถเรียกผมอย่างนี้คุณมีธุระอะไร
กับผมหรือเปล่า?" ภีมเลิกคิ้วเอียงคอถามด้วยสีหน้าที่เจ้านายเห็นแล้วไม่คิดว่าไอ้คนตรงหน้านี้มันจะทำท่า
กวนเบื้องล่างเขาได้ขนาดนี้มาก่อนเลยตั้งแต่จำความได้....ให้ตายเถอะ!!!

       "อะไร!! นายกำลังเล่นบ้าอะไรอยู่เนี่ย!!!" เจ้านายโวยใส่คนตรงหน้าอย่างหัวเสียที่มันกวนประสาททำ
เหมือนไม่รู้จักเขาอย่างนี้

       "เล่น? เล่นอะไรหรือครับ...ตอนที่ผมเข้ามาผมก็สมัครสมาชิกจ่ายค่าสนามตามที่กฏกำหนดนี่ครับ
แล้วที่ผมต้องนั่งอยู่ในรถก็เพราะว่าผมกำลังมองหาคนที่น่าสนใจที่ผมอยากจะแข่งด้วยเท่านั้นเอง นี่ผมไปเล่นอะไรกับใครตั้งแต่ตอนไหนกันครับ?" ไอ้หัวสีสายไหม(?)ที่เจ้านายว่ายังคงตีหน้าซื่อถามต่อ

       "แล้วได้รึยังล๊ะ? คู่แข่งที่นายว่าน่ะ...รีบๆ แข่งเข้าสิจะได้รีบๆออกไปจากสนามฉันสักที!!!" เออสิ!! เอ็งมึน
ได้พี่นายคนแมนก็มึนได้เหมือนกันว๊ะ!! จะไล่มันก็ไม่ได้ เดี๋ยวเสียการปกครอง จะทำว่ารู้จะมันต่อก็ไม่ได้
แมร่งก็ทำมึนไม่รู้จักกู.....หน้าแตกสิกู!!!

       "ผมได้ข่าวว่าเจ้าของสนามที่นี่เจ๋ง คุณพอจะรู้จักเขาไหมครับ....ผมอยากท้าแข่งกับเขา" ภีมพูดนิ่งๆ
ด้วยคำพูดสุภาพที่ตนติดปากมาตั้งแต่เด็ก แต่หน้าตาและท่าทางที่กำลังยืนพิงรถสูบบุหรี่ของเจ้าตัวนี่เริ่ม
ไปกระตุกตากระตุกเท้าของใครหลายๆคนเข้าแล้วหล่ะ

       "มันจะมั่นใจมากไปรึเปล่าไอ้น้องเฮียนายเขาไม่แข่งกับพวกเด็กใหม่ปลายแถวอย่างเอ็งหรอก" กล้าที่
ยืนอยู่ข้างเฮียเจ้านายของตัวเองเป็นคนพูดบอกกับภีมแทนเจ้านายที่ตกใจอ้าปากค้างไปแล้ว

       "หืม...จริงหรือครับ? ไม่ใช่ว่าเขาฝีมือ 'ห่วย' จนไม่กล้าลงแข่งกับใครหรือเปล่าครับ" ภีมยังคงพูดยียวน
เพื่อปั่นประสาทของเจ้านายต่อไปอย่างไม่สนสายตาคนรอบข้างตัวเองที่เริ่มจะชักสีหน้าใส่อย่าง
ไม่พอใจที่ภีมไปพูดดูถูกเฮียนายที่เป็นที่เคารพรักของน้องๆนักแข่งทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ทุกคนในที่นี้

       "เฮ้ย!! มันจะมากไปแล้วนะโว้ย!!!" กล้าพูดตะคอกพร้อมกับพุ่งตัวกระโจนใส่ภีม แต่ก็เป็นอันต้อง
หยุดนิ่งเพราะ

       กริ๊ก!!!

       "เอาสิครับ..." ภีมควักปืนพกสั้นสีดำด้านที่แหน็บอยู่ด้านหลังของตนขึ้นมาจ่อตรงกลางหน้าผากของกล้า
ทันทีที่กล้าพุ่งเข้าหาตัวเอง ทำเอาฝูงชนที่เคยยืนมุงอยู่ต่างก็ฮือฮาพากันแตกกระเจิงเมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ในมือของภีม.....ถึงน้ำเสียงและคำพูดของภีมจะสุภาพมากสักแค่ไหน แต่แววตาและการกระทำของเจ้าตัวไม่ได้สุภาพอย่าง
ที่พูดออกมาเลย




.......จากนี้ต่อไป...จะไม่มีอีกแล้ว...น้องภีมคนที่น่ารักอ่อนหวานของพี่เจ้านายคนเดิม......






___________________________________________________________________TBC.
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-02-2016 13:36:25
อูย ... น้องภีมมาภาคโหด แบบนี้พี่เจ้านายจะยังไงดีครับ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-02-2016 13:44:51
แผนของพ่อกับภีมคืออะไรล่ะ
แค่เข้าไปคุยกันให้รู้เรื่องทุกอย่างก็เรียบร้อยไปแล้วมะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 22-02-2016 14:03:22
น้องภีมสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-02-2016 16:15:54
น้องภีมเปลี่ยนไป!!~
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-02-2016 18:31:01
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 22-02-2016 18:47:38
น้องภีมมาแนวใหม่
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 22-02-2016 23:56:25
จับปล้ำเลยเจ้านาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 23-02-2016 00:46:50
ชวนทะเลาะกันใส่อารมณ์พูดความจริงกันยังจะดีกว่าทำเป็นแง่งอนกันเสียอีกนะ น้องภีม 
   รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: moobarpalang ที่ 23-02-2016 08:56:26
ภีมกับเจ้านายไร้เหตุผลมาก นายไม่เคยจะฟังใครอธิบาย. ภีมไม่คิดจะอธิบาย ต่อให้เป็นคนที่รักกันจริงๆ ในชีวิตจริงมันไปกันไม่รอดหรอก

ถึงจะเปลี้ยนตัวเองแต่ถ้าไร้เหตุผลยังไงก็เลิกปะ?
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 23-02-2016 15:39:10
เอาเป็นว่าถ้าคนอ่านที่นี่ไม่ชอบในสิ่งที่มี่แต่งที่มี่เสนอ ในส่วนของตัวละครและการดำเนินเรื่องในนิยายเรื่องนี้
เฉพาะในเล้าเป็นนี้มี่จะตัดจบให้ภีมคุยกับเจ้านายและคืนดีกัน เข้าใจกัน ในตอนหน้าเลยแล้วกันเน๊าะ ดีมั้ยคะ? หรือจะเอายังไง?
มี่จะตามใจคนอ่านที่น่ารักของมี่ทุกคนเลยค่ะ!!!!

      เพราะสิ่งที่มี่เขียนมี่แต่งขึ้นมามันดูงี่เง้าไร้สาระเกินไปจนคนอ่านรับไม่ได้ เขาก็มารวบตึงเขียนบทสรุปให้มันจบไป.
อย่างนี้กันเลยดีกว่าเน๊าะ

       ถ้าใครเป็นแฟนนิยายของมี่มาตั้งแต่คุณเมียภาคบังคับคงจะรู้กันดีเน๊าะว่ามี่เป็นยังไง บางทีมันหมดแรง หมดใจที่จะแต่งต่อ
แล้วหล่ะค่ะ

      ทุกคนย่อมมีเหตุผลและความคิดที่แต่งต่างกัน เช่นเดียวกับนิยายทุกๆตอนทุกๆเรื่องที่มี่แต่งขั้นมา
มันก็มาจากความคิดและจินตนาการของมี่คนเดียวทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ชอบหรือไม่ถูกใจใครมี่ก็ต้องขอโทษไว้
ณ ที่นี้เลยนะคะ.....มี่มี่

ปล.มี่ยังยืนยันคำเดิมว่ามี่ยังคงแคร์คนอ่านของมี่ทุกคน ใครที่ตามมาจากคุณเมียภาคบังคับหรือใครที่มาใหม่มี่ก็จำได้หมดแหละค่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 23-02-2016 23:38:22
ง่าาาาาา
ใจเย็นๆนะคะคุณมี่
กำลังใจและคนรออ่านต่อมีอีกเยอะค่า
แต่งตามพล็อต ตามที่จินตนาการไว้เหอะน้า
สู้ๆนะงับ

 :mew1: :L1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 24-02-2016 19:19:18
24/02/59



ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบเอ็ด






       "ตกลง!! ถ้าจะแข่งกับฉันก็เอาปืนลงจากหัวลูกน้องฉันได้แล้ว.....ส่วนมึงก็เลิกยืนโง่และเข้าไปเอารถ
ที่บ้านมาให้กูหน่อยดิไอ้กล้า!!!" เจ้านายยอมตกปากรับคำท้าของภีมในที่สุด เมื่อมองเห็นถึงแววตา
ที่ไร้ความปราณีของภีมที่ดูแตกต่างจากน้องภีมคนน่ารักคนเดิมของเขาอย่างสิ้นเชิง.....น่ากลัว...คำๆนี้
แล่นวิ่งขึ้นมาในสมองเขาอย่างไม่ทันจะได้รู้ตัว.....ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้ดูน่ากลัวจริงๆ

       "ขอบคุณครับ.....ผมรบกวนขอกระดาษสัญญาด้วยนะครับ" ภีมเก็บปืนเข้าไปเหน็บไว้ที่เดิมพร้อมกับ
พูดขอบคุณเจ้านายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ที่เจ้านายคิดว่ามันเป็นเหมือนรอยยิ้มปีศาจดีๆ นี่เอง ส่วนกล้าที่พอ
รอดตายแล้วก็รีบวิ่งไปเอารถคันเก่งที่มีไว้แข่งโดยเฉพาะของเจ้านายตามคำสั่งของลูกพี่ตัวเองทันที โดยไม่
ต้องรอให้เจ้านายพูดซ้ำเลย

       กระดาษสัญญาที่ภีมพูดถึง คือ แผ่นกระดาษที่จะระบุสัญญาจำพวกกฏกติกาและของเดิมพันหรือ
รางวัลในการแข่งขันของผู้เข้าแข่งทั้งสองฝ่าย เพื่อเป็นการป้องกันพวกนักแข่งที่คิดไม่ซื่อชอบผิดคำพูด
อะไรประมาณนั้นซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า ข้อตกลงในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นของรางวัลหรือบทลงโทษก็ล้วน
มาจากความเห็นชอบของผู้แข่งทั้งสองฝ่ายเท่านั้น และจะต้องไม่ผิดกฏของสนามแข่งแห่งนี้ด้วย

       "ถ้าฉันชนะฉันของของเดิมพันเป็นรถที่นายเอามาแข่งวันนี้.....แล้วนายล่ะ?" เจ้านายลงรายมือชื่อพร้อม
กับเขียนระบุสิ่งที่ตนต้องการจากภีมลงในใบสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเอ่ยถามภีมขึ้นบ้าง

       "เจ้านาย....สิ่งที่ผมต้องการคือเจ้านาย" ภีมพูดบอกพร้อมกับตวัดปากกาเขียนชื่อเล่นชื่อจริงพร้อม
นามสกุลของเจ้านายลงในใบสัญญา และลงลายมือชื่อของตัวเองทับอีกที เรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบข้าง
ที่มาเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนเจ้านายก็ตกใจตาค้างอ้าปากหวอไปแล้วเพราะไม่ทันได้คิด
ว่าภีมจะมาไม้นี้

       "ไม่มีทาง!!!" เจ้านายพูดโวยขึ้นทันทีเมื่อหายตกตะลึงและพอจะตั้งสติได้บ้างแล้ว

       "มีสิครับ...นี่ไงสัญญา....ผมจะไปรอที่จุดปล่อยตัวนะครับ เลิกป๊อดเมื่อไหร่ก็ตามไปนะครับ" ภีมพูดบอก
พร้อมฉีกยิ้มหวานให้เจ้านายอีกที ก่อนที่จะเก็บใบสัญญาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง และเข้าไปในรถ
ของตนและสตาร์ทรถเหยียบคันเร่งผ่าฝูงชนคนมุงไปอย่างเร็วโดยที่ไม่กลัวว่าตนนั้นจะพลาดขับรถชนใครบ้าง
เลยหรือเปล่า

       "ป๊อด? เหอะ!!! เดี๋ยวรู้เลย...เดี๋ยวรู้!! ว่าคนอย่างพี่เจ้านายคนนี้ไม่เคยป๊อดเว้ย!!! ไอ้น้อง!!!"
เจ้านายตะโกนโหวกเหวกโวยวายไล่หลังภีมไปอย่างหัวเสียที่โดนภีมปรามาสไว้ ก่อนที่จะกระโดด
พุ่งขึ้นรถคันที่มีไว้ใช้ในการแข่งโดยเฉพาะที่ให้กล้าไปขับออกมาให้จากบ้านเมื่อครู่นี้ที่กล้านำมาจอด
เทียบรอไว้พอดี
.
.
.
.
.
       "ถ้าแพ้แล้วต้องเสียรถขึ้นมาก็อย่ามาร้องไห้ให้พี่เห็นนะไอ้น้อง" เจ้านายลดกระจกหน้าต่างรถของตัวเอง
ลงแล้วตะโกนพูดเย้ยแหย่ภีมที่จอดรถแทบในขณะที่รอให้พนักงานของสนามมาปล่อยรถกันอยู่
หวังจะให้ภีมเต้นตามคำพูดของตัวเองจนไม่เหลือสมาธิในการแข่งขันอีกต่อไป เขาจะได้ชนะแบบสวยๆ
สบายๆ หน่อย แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบแถมยังยิ้มหวาน(ในแบบที่เขาใจสั่น)ส่งให้เขาอย่างไม่รู้สึกรู้สาอีก
กลายเป็นเขาซะเองที่ตอนนี้มันหัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนแทบจะไม่มีสมาธิเหลืออยู่เลย แต่ก็ต้องทำเป็น
เก๊กหน้าโหดหน้านิ่งเข้าไหว เดี๋ยวเขาจะหาว่าพี่นายคนแมนคนนี้อ่อนด๋อย!!.....ไม่ได้ๆ

       "เดี๋ยวก็รู้ครับว่าใครกันแน่ที่จะร้อง" ภีมพูดตอกกลับเจ้านายไปอย่างนิ่มๆ ก่อนที่ะจะปิดกระจกรถของตน
ปล่อยให้เจ้านายอ้าปากพะงาบๆ อยู่อย่างนั้นเอง เพราะกำลังจะพูดด่าภีมกลับ แต่ก็ไม่ทัน
เมื่อพนักงานสาวสวยนุ่งสั้นของสนามเดินลงมาประจำที่ยังจุดที่ปล่อยตัว

       เสียงเชียร์ดังกระหึ่มเมื่อสาวเจ้าทรงโตนุ่งสั้นเดินไปประจำที่ตรงจุดปล่อยตัวเพื่อที่จะทำการปล่อยรถคู่แข่ง
หยุดโลกระหว่างเฮียเจ้านายขาใหญ่ประจำสนามกับหนุ่มหัวสายไหมรุปหล่อทั้งสองคัน

      ธงคู่ลายตารางสีขาวดำในมือสาวสวยเจ้าหน้าที่โบกสะบัดและพัดลงในที่สุด ก่อนที่รถคู่แข่งทั้งสองคน
อย่างเจ้านายและภีมต่างก็ตั้งสมาธิ เร่งเครื่อง จดจ้องอยู่กับธงในมือสาวสวยนางนั้น เพื่อรอให้ถึง
เวลาที่จะเริ่มต้นใหม่ของเราทั้งสองคนสักที.....ไม่ว่าจะสถานะไหนก็ตาม!!!

" 3 "

" 2 "

" 1"

" Go!!!!!!!!!!! "

       เสียงประกาศของเครื่องปล่อยรถอัตโนมัติสิ้นสุดลงพร้อมกับธงลายตารางสีขาวดำในมือทั้ง
สองข้างของหญิงสาวทรงโตผู้ที่มีหน้าที่เป็นคนปล่อยรถทั้งสองคันโบกสะบัดฟาดทิ้งลงพื้นเพื่อเป็น
สัญญาณว่าสิ้นสุดการรอคอยพร้อมๆกับที่รถทั้งสองคันของภีมและเจ้านายเหยียบคันเร่งกระชากตัว
ออกจากจุดปล่อยตัวรถในทันทีด้วยความเร็วที่ไล่เลี่ยกันทำเอาคนดูทั้งที่อยู่ด้านล่างข้างสนามและ
บนอัศจรรย์ทั้งหญิงและชายพากันนั่งไม่ติิดที่ลุกขึ้นยืนตะโกนเชียร์เสียงดังลั่งไปทั้งสนาม

       "คิดจะเทียบชั้นกับพี่ยังเร็วไปร้อยปีนะ....เด็กน้อย" เจ้านายแสยะยิ้ม สับเปลี่ยนเกียร์อย่าง
ได้ใจเพราะรถของตอนนี้ตนกำลังวิ่งนำภีมอยู่ระยะห่างที่ไม่น้อยเลย.....งานนี้กินเขาได้หมูแน่ๆ
น้องน้อยผู้อ่อนหวานในวันหวานของเขาน่ะหรือจะมาชนะสิงห์สนามอย่างเขา โดยเฉพาะสนามแข่ง
แห่งนี้ที่เขาเป็นเจ้าของและเคยเหยียบลองเครื่องรถมาแล้วไม่รู้จักกี่ร้อยกี่พันรอบ.....เสร็จเขาแน่!!

       "อย่าพึ่งได้ใจไปสิครับ...พี่ชาย" ภีมหัวเราะในลำคออย่างนึกสนุกเมื่อเห็นว่ารถเจ้านายที่ตอนนี้
ขึ้นนำเขาเกือบรอบสนามกำลังลดความเร็วลง เหมือนว่ากำลังจะต่อให้เขาอย่างไงอย่างงั้น

       "ผมไมใช่หมูในอวยที่รอโดนเชือดหรอกนะครับ...หึๆ" สิ้นเสียงพูดของตัวเอง ภีมก็สับเปลี่ยนเกียร์
เร่งความเร็วรถไปเกือบจะจ่อท้ายเจ้านายที่กำลังจะถึงโค้งหักศอกสุดท้ายพอดี และเมื่อเห็นช่องว่างที่
เจ้านายเผลอเว้นช่วงเอาไว้เพราะความประมาท เจ้าตัวก็ใช้จังหวะนี้ดริฟเข้าโค้งตรงช่องว่างหักศอก
จนควันพวยพุ่งบังคับรถแซงเจ้านายเข้าเส้นชัยไปแบบที่เจ้านายคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

       "เฮ้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" เรียกเอาเสียงเฮของผู้ชมคนดูได้ทั้งสนามเลยทีเดียว ไม่เว้น
แม้แต่พวกที่อยู่ข้างเดียวกับเจ้านายและเขม่นภีมเมื่อก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นเมื่อสักพักที่ผ่านมา

       เอี๊ยดดดดดดด!!!!!

       "แมร่งโว้ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!" เจ้านายเหยียบเบรคจนตัวโก่งเมื่อเห็นรถภีมวิ่งแซงรถ
ของตนเข้าเส้นชัยไปอย่างตกใจ....ก่อนที่จะตีอกชกหัวระบายอารมณ์กับพวงมาลัยรถของตัวเอง
อย่างควบคุมอารมณ์โมโหไม่อยู่...เป็นไปได้ยังไง!!! เขาแพ้เด็กหัวอ่อนอย่างภีมได้ยังไง!! โว้ยยย!!!

       ก๊อก...ก๊อก....

       "มาทำไม!! จะมาเยาะเย้ยกันหรอ!!!" เจ้านายเปิดประตูรถออกมาแหวใส่ภีมที่มาเคาะกระจก
รถเรียกตนอย่างถือวิสาสะ

       "เปล่าครับ...ผมแค่มาเอาของเดิมพันเท่านั้นเอง" ภีมบอกด้วยเสียงสุภาพ แต่แววตาที่ส่อออกมา
นั้นมันดูเจ้าเล่ห์มากที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาเลย.....น่าโมโหชะมัด!!!

       "เอาสิจะตบจะต่อยหรือจะซ้อมฉันยังไงก็เอาเลย.....ฉันพร้อมแล้ว" เจ้านายพูดบอกพลาง
หลับตาลงเพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าไม่อยากจะเห็นหน้าของภีมมากถึงมกาที่สุด เพราะคิดว่าภีม
กำลังจะลงมือทำร้ายตน อย่างที่เคยแข่งกับคนอื่นๆ มาเพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นใครได้เขียน
ระบุลงในใบสัญญาว่าของเดิมพันคือตัวเขาที่ไรถ้าเขาชนะก็ดีไป แต่ถ้าเขาแพ้ก็เป็นอันต้องโดน
ซ้อมจนระบมทุกที.....และภีมเองก็คงจะทำเขาเหมืออย่างไอ้พวกนั้นสินะ!!!.....ช่างทำกันได้!!!

       "ถ้าจะเริ่มตั้งแต่ตอนนี้.....ก็คงจะได้แค่ขั้นแรกเท่านั้นแหละครับ" ทันทีที่จบประโยคคำพูด
แปลกๆของภีม เจ้านายก็ลืมตาขึ้นมาเพราะไม่เข้าใจในคำพูดของภีมพร้อมๆ กับที่ภีมก้มหน้าลง
กดจูบปากแนบปากของเจ้านายทันที ทำให้เจ้านายเบิกตาโพลงและพยายามดิ้นลนเพื่อที่จะผลัก
ภีมให้ออกห่างจากตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผล.....กลับกันเขาเผลอเผยอปากให้ภีมได้ถือโอกาศสอด
ลิ้นร้อนเข้าไปดูดดุนโกยความหอมหวานอย่างแนบชิดดูดดื่มมากกว่าเมื่อครู่นี้ซะอีก.....ทำเอา
ผู้ชมคนดูทั้งสนามเป่าปากโห่แซวกันอย่างสนุกสนาน

       "อื้อ!!!~.....นายทำบ้าอะไรเนี่ย!!!" เจ้านายพลักภีมออกจากตัวเองพร้อมกับตะคอกถามอย่าง
มีน้ำโห แต่ภีมก็ใช่จะสะดุ้งสะเทือนแต่อย่างใด แถมยังกระตุกยิ้มใส่เจ้านายอย่างไม่รู้สึกรู้สาถึง
อารมณ์คลุกรุ่นของอีกคนเลย.....ไอ้หน้ามึนเอ้ย!!!!

       "ก็กำลังเช็คของรางวัลยังไงล่ะครับ" ภีมตอบพลางจับหน้าลูบแก้มเจ้านายอย่างถือสิทธิ์ ไม่สน
หน้าง้ำงอของเจ้านายที่พยายามที่จะปัดมือของตนเลย

       "หมายความว่าไง!!!!" เจ้านายกระชากเสียงถามอย่างไม่เข้าใจ

       "ก็หมายความต่อจากนี้ไป...เจ้านายจะเป็นของผมแค่คนเดียวอย่างถาวรไป.....ชั่วชีวิต" ภีมพูด
บอกพร้อมกับชูแผ่นกระดาษที่เป็นสัญญาข้อตกลงระหว่างการแข่งขันของเขาทั้งสองคน ให้เจ้านาย
ได้เห็นอย่างชัดเจนเต็มๆ กับตาทั้งสองข้างของตนเอง

       "!!!" เจ้านายตกใจตาโตอ้าปากค้างไปแล้ว เมื่อได้เห็นสิ่งที่ภีมได้เขียนไว้เป็นของเดิมพันใน
กระดาษสัญญา.....( ของเดิมพันที่ต้องการ คือ 'เจ้านาย' นายชลธาร ยศวโยธิน เป็นของรางวัล
ระยะเวลาในการเดิมพัน.....'ตลอดชั่วชีวิต')






__________________________________________________________________________TBC.
ถ้าฉากที่แข่งรถมีอะไรผิดพลาดตรงไหนมี่ก็ต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะ
เพราะมี่ไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลยจริงๆค่ะ ถึงแม้ว่าจะชอบดูหนังแนวนี้ก็เถอะค่ะ
แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ!!!
ปล.ตอนนี้สั้นไปหน่อยนะคะ เอาไว้มี่จะชดเชยให้น้าาาา....
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 24-02-2016 19:38:51
ง่าาาาาา
ใจเย็นๆนะคะคุณมี่
กำลังใจและคนรออ่านต่อมีอีกเยอะค่า
แต่งตามพล็อต ตามที่จินตนาการไว้เหอะน้า
สู้ๆนะงับ

 :mew1: :L1:

ขอคุณมากๆเลยนะคะสำหรับกำลังใจ มี่สัญญาว่าจะแต่งนิยายออกมาให้ดีเท่าที่มี่จะทำได้เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 24-02-2016 20:09:50
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 24-02-2016 20:40:19
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะค่ะ

เจ้านายไม่รอดแน่หนูภีมเอาจิง 555
อยากอ่านฉากนั้นแล้ว คิๆๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-02-2016 21:00:10
เป็นคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นว่า ทำไมไม่พูดคุยทำความเข้าใจกัน
ตามปกติเวลาดูละคร หรืออ่านนิยาย จากมุมมองของคนนอก ที่รู้(เกือบ)ทุกอย่าง รู้เรื่องของทั้งสองฝ่าย(จากที่คนเขียนสื่อ) ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็นแบบที่คิดว่าเป็นวิธีที่ดีและเร็วที่สุด
แต่เราลืมนึกไปว่าถ้าเราเป็นตัวละครนั้นๆ เราจะทำอย่างไร ในขอบเขตที่รู้เพียงส่วนของตัวเอง ต้องขอโทษคนเขียนด้วยนะคะ ถ้าสิ่งที่เราพิมพ์ไปก่อนหน้านี้ทำให้เสียความรู้สึก หรือหมดกำลังใจ
เราเพียงแค่ลืมนึกถึงสภาวะของตัวละครน่ะค่ะ ขอโทษอีกครั้งที่เอาความคิดในฐานะคนอ่านไปตัดสินตัวละครของคุณ
ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าตัวละครงี่เง่าหรืออะไรหรอกนะคะ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าเป็นนิยายที่ใช้ไม่ได้
จริงๆเราก็รอดูอยู่ ว่าคนเขียนต้องการจะดำเนินเรื่องไปในทางไหนต่อไป
สรุปว่า ขอโทษด้วยนะคะ(ที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเขียนเสียกำลังใจ) และรอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ
สำหรับตอนที่สิบเอ็ดนี้ก็รู้สึกว่าทำได้ดี เหมือนว่าปัญหา(ในเรื่อง)จะมีหนทางให้เห็นว่าจะคลี่คลายไปได้
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ

ปล. การที่เราบอกว่าทำไมตัวละครไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ จริงๆแล้วสำหรับเรามันเป็นการแสดงความคิดเห็นที่เกิดจากการอ่านนิยายแล้วอินล้วนๆเลยค่ะ (แต่วันหลังจะระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ)
ปล2. เรื่องราวของรุ่นลูกน่าติดตามมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 24-02-2016 21:21:59
ป๋าคุณอยู่ไม่สุขแล้วมั้งป่านนี้
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบ (22.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 24-02-2016 21:29:12

ขอคุณมากๆเลยนะคะสำหรับกำลังใจ มี่สัญญาว่าจะแต่งนิยายออกมาให้ดีเท่าที่มี่จะทำได้เลยนะคะ
กิกิ
 o13

แล่วๆๆๆ
น้องภีมเล่นไม้นี้ เอาละเหวยยย
พี่เจ้านายว่ายังไงเดิมพันครั้งนี้ ชั่วชีวิตเลยนะนั่นนนนน
555555555

มีเช็คของรางวัลด้วยอ่ะ
อยากได้มากกว่าจูบล่ะเซ่น้องภีม
 :hao7:


หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 24-02-2016 23:30:42
สุดยอดของเดิมพัน
เป็นกำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-02-2016 07:51:09
คราวนี้พี่เจ้านายจะทำยังไงล่ะ โดนมัดมีชกแบบนี้ซักแล้ว หวังว่าน้องภีมจะเคลียร์ปัญหาต่างๆ ได้ในเร็วไวนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-02-2016 09:26:47
เตรียมตัว เตรียมใจไว้นะเจ้านาย!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 25-02-2016 18:56:25
25/02/59


ภาคเรียนที่สอง...บทที่สิบสอง






       "นี่!! นายจะพาฉันไปไหน!!! ปล่อยฉันไปเลยนะ!! จอดรถ!!! จอดรถเดียวนี้!!!" เจ้านายตะโกน
โหวกเหวกโวยวายพลางพยายามที่จะเอื้อมมือมาดึงเบรคมือของรถเพื่อที่จะให้รถจอด และตัวเอง
จะได้หนีไปใหพ้นๆ จากภีม เพราะหลังจากที่เขาเสียจูบให้ภีมไปไม่นานนัก ภีมก็จับเขามายัดใส่
รถสีขาวคันเท่ของตัวเองและเหยียบมิดคันเร่งออกมาจากสนามแข่งอย่างที่ไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัวเลย

       "บอกให้จอดรถไงว่ะ!!! จอดๆ จอดๆ จอดสิโว้ย!!!" เจ้านายยังคงร้องตะโกนโวยวายต่อไป

       เอี๊ยดดดดดดดดดด......

       โป๊ก!!

       "โอ้ยยยยย....ทำบ้าอะไรของนายหน่ะ!! นึกจะเบรคก็เบรค.....เจ็บนะโว้ย!!!" เจ้านายโอดโอย
พูดตะคอกใส่ภีม เมื่ออยู่ดีๆ ภีมก็เบรครถตัวโก่งจนทำให้เจ้านายทรงตัวไม่อยู่ตั้งตัวไม่ทัน เลยทำให้
หัวของเจ้านายไปชนกับคอนโซนรถที่อยู่ตรงหน้าตัวเองอย่างแรง จนเกิดเสียงดัง

       "ก็บอกให้จอดเองไม่ใช่หรือครับ?" ภีมถามหน้าตาย

       "จอดแล้วก็ปลดล็อคประตูสิว๊ะ!! จะได้ไปสักที!! ส่วนของเดิมพันจะส่งรถคันใหม่เอียมมาให้"
เจ้านายพูดบอกพร้อมกับคลึงหัวโนๆของก็เองไปด้วย

       "ครับ" ภีมตอบรับคำพร้อมรอยยิ้ม

       "เออ!!!.....โป๊ก!!!.....แมร่งโอ้ยยยยย....เล่นบ้าอะไรว่ะเนี่ย!!!!!!" พอใจได้ไม่นานเจ้านายก็ต้อง
กลับมาร้องโอดโอยอีกครั้งเพราะหัวของเขาไปโขลกกลับคอนโซนหน้ารถที่เดิมมุมเดิมอีกครั้ง เพราะ
ในขณะที่เจ้านายกำลังได้ใจ คิดว่าภีมจะปล่อยตัวเองไปจริงๆ เพราะเห็นว่าภีมปลดล็อคประตูรถให้
แต่ก็เปล่าเลย เพราะทันทีที่ภีมปลดล็อครถภีมก็กดล็อครถกลับเหมือนเดิมในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที
ตอนนั้นเดี๋ยวนั้นเลย!!!!

***หมายเหตุ : รถของภีมถ้ากดล็อคแล้วก็ต้องปลดล็อคจากทางฝั่งของคนขับได้อย่างเดียว เจ้านายจึง
ไม่สามารถปลดล็อคและกระโดดลงรถหนีไปเองได้ ถ้าภีมยังไม่ปลดล็อคให้

       "ก็ปลดล็อคให้ตามที่ต้องการแล้วไงครับ..ทำไมยังไม่ลงไปอีกล่ะ?" ภีมเลิกคิ้วถามหน้าตายอีกครั้ง

       "แค่วิ(นาที)เดียวเนี่ยนะ!!!" เจ้านายถามเสียงสูง

       "ก็นั่นแหละครับ" ภีมยักไหล่บอก ประมาณว่า...ก็กูเปิดให้แล้ว มึงเสือกไม่ไปเอง...ช่วยไม่ได้

       "เหอะ!! ให้พ่อภาสมาทำให้ดูก่อนเถอะ! ขนาดซุปเปอร์แมนที่ว่าเร็วๆ ยังใช้เวลาแก้ผ้าเปลี่ยนชุด
ในตู้โทรศัพท์ตั้งสามนาทีนะเลยเว้ยยยยย.....แมร่ง!!!" เจ้านายพูดประชดออกมาอย่างหัวเสีย แต่ภีม
ก็ไม่ได้พูดตอบโต้อะไรกลับไป ปล่อยให้อีกคนได้นั่งคลั่งตีอกชกหัวตัวเองไปอย่างนั้นแหละ...สนุกดี!
.
.
.
.
.
โรงแรมจินดากรณ์ (สาขาใหญ่ในกรุงเทพฯ)


       "มาที่นี่ทำไม?" เจ้านายถามอย่างหวาดระแวง

       "มาเปิดกล่องของเดิมพัน" ภีมตอบพร้อมกับกระชับจับมือเจ้านายให้เดินตามตัวเองเข้าไปภาย
ในตัวตึกของโรงแรม

       "เปิดบ้าเปิดบออะไร!! ปล่อย!! ปล่อยดิว่ะ!! จะกลับบ้าน!!!" เจ้านายพยายามที่จะสะบัดมือและ
ดิ้นหนีออกจากการจับกุมของภีม เมื่อภีมพาตัวเองเข้ามาหยุดอยู่ที่ลิฟท์ส่วนตัวที่จะไปยังสองชั้นบน
สุดของตัวโรงแรมที่เป็นเหมือนเพนท์เฮาส์ส่วนตัวของคนในครอบครัวอัครจินดากรณ์โดยเฉพาะ...ที่เขา
รู้ก็เป็นเพราะว่าตัวเขากับป๋าคุณ แม่ธารจ๋าและน้องๆ ก็เคยได้มีโอกาสไปเที่ยวพร้อมกันกับคนบ้านนี้
และได้ไปพักเพนท์เฮาส์ส่วนตัวที่มีอยู่สองชั้นบนสุดของโรงแรมในเครือจินดากรณ์ของจังหวัดนั้นนั่น
แหละ.....ไม่รู้ว่าพ่อภาสจะรวยไปถึงไหน!!!

       ติ๊ง!!!

       "หึๆ" ภีมหัวเราะหึๆ อยู่ในลำคอเพราะเห็นท่าทางสะดุ้งในแบบตลกๆ ของเจ้านาย ตอนที่เจ้านาย
ได้ยินเสียงลิฟท์เปิดเมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่จะแตะคีย์การ์ดไขประตูเข้าไปภายในห้องชั้นแรก และรีบเก็บทั้ง
คีย์การ์ดและกุญแจห้องเข้าในกระเป๋ากางเกงของตัวเองตามเดิม เพราะจากที่จะเข้าจะออกจากห้องนี้
ได้ก็ต้องใช้ทั้งสองสิ่งนี้ในการปลดล็อคพร้อมกัน ไม่สามารถที่ปลดล็อคจะเปิดประตูออกได้อย่าง
แน่นอนถ้าไม่ได้ใช้คีย์การ์ดกับจุญแจ.....เสร็จแน่ๆ พี่เจ้านายคนแมน...

       "มาเปิดใจคุยกันอย่างลูกผู้ชายแมนๆ เลยดีกว่า....ว่าจริงๆแล้วนายต้องการอะไรกันแน่" เอาว๊ะ!
ในเมื่อหนีไม่ได้แล้วก็ต้องลองพูดเจรจาต่อลองกับไอ้หัวสายไหมนี่ดูสักตั้ง.....เอาให้เสียเปรียบมัน
น้อยที่สุดก็แล้วกัน!!

       ไม่ต้องไปเรียกว่าน้องภงน้องภีมเหมือนเมื่อวันวานแล้ว ในเมื่อไอ้หัวสายไหมตรงหน้านี่มันไม่ได้
น่ารักเหมือรเมื่อก่อนนี้เลย แถมยังดูเจ้าเล่ห์ กวนประสาท และน่ากระทืบที่สุดเลย!!.....ฮึ่ย!!

       "ก็ 'เซ็กส์' ไงครับ....อย่าทำเหมือนว่าไม่เคยสิ.....ทั้งที่เคยทำอยู่ประจำแท้ๆ" ภีมพูดบอกเสียงนิ่ง
เหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งที่ความจริงแล้วหัวใจของเขากำลังเจ็บก็ตาม เพราะยิ่งพูดยิ่งนึกถึงพฤติกรรม
การกระทำของเจ้านายที่ผ่านมาระหว่างที่เขาใช้เวลาศึกษาหาความรู้อยู่ที่โน่น เจ้านายเองที่อยู่ทางนี้
กำลังระเริงร่าอยู่กับอะไรบ้างในสิ่งที่เขาเห็นจากภาพถ่ายที่คุณป๋าเจ้าคุณส่งให้ ถ้าไม่ใช่ แข่งรถ ดื่มเหล้า
มั่วผู้หญิง คั่วผู้ชาย และเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น แทบจะไม่ซ้ำหน้ากันเลย.....เหอะ!!!

       "เซ็กส์?" เจ้านายถามเสียงสูงอย่างตกใจ

       "ครับ...เซ็กส์" ภีมยืนยันคำตอบ

       "เหอะ! แล้วก็ไม่บอกตั้งแต่แรก ฉันจะได้ไม่ต้องดีดดิ้นให้เหนื่อย...เอาเถอะ!อย่างน้อยเมื่อก่อน
นายก็เคยเป็นว่าที่เจ้าสาวฉัน ฉันจะช่วยสนองความต้องการของนายให้ก็แล้วกัน" เจ้านายบอกอย่าง
ที่คิดว่าเป็นต่อ...ก็นะ! ถึงจะไม่ชอบและจะรู้สึกไม่พอใจที่อยู่ดีๆภีมก็มาขอมีเซ็กส์กับเขาง่ายๆอย่างนี้
ทั้งที่เมื่อก่อนภีมเป็นคนขี้อายและหวงตัวแท้ๆ ตอนที่ยังคงเป็นแฟนกันอยู่ อย่าว่าแต่จูบเลยแค่จะกอด
จะหอมน้องน้อยในวันนั้นยังเป็นเรื่องยากเลยเพราะน้องเป็นเด็กที่รักนวลสงวนตัวมากถึงมากที่สุด
แต่นี่อะไร! มาขอมีเซ็กส์กันง่ายๆหน้าตาเฉยอย่างนี้เลยหรอ? มันจะดูเจนจัดมากไปแล้วนะ!! หรือว่าไป
อยู่เมืองนอกเมืองนามานานความเป็นกุลบุรุษ(?) ถึงได้หายไปหมดอย่างนี้!!!.....

       เจ้านายมัวแต่เข่นเขี้ยวเขี้ยวฟันคิดโน่นนี่นั่นอยู่คนเดียวจนลืมไปแล้วว่านอกจากตัวเองแล้วยังมี
คนที่ตนนินทาอยู่ในใจอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วก็เป็นเพราะว่าลึกๆในใจ
ของเขานั้น ยังมีภีมอยู่เต็มหัวใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ถึงไม่ชอบที่ภีมจะมาพูดเรื่องเซ็กส์และทำ
เหมือนว่าการหลับนอนกับใครก็ได้นั้นเป็นเรื่องธรรมดาๆ ทั่วไปไม่ต่างจากการกินข้าวหรือการดูหนัง
ที่จะทำที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแต่ฐานะของเขากับภีมตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว(แค่ในความคิด
เพ้อเจ้อขี้มโนของแกคนเดียวน่ะสิเจ้านายเอ้ย!!)

       "ไปอาบน้ำสิครับ ผมไม่ชอบนอนกับคนสกปรก" ภีมยื่นผ้าขนหนูสีน้ำเงินเข้มผืนใหญ่ส่งให้กับ
เจ้านายที่ยังคงจมอยู่แต่ความคิดของตัวเอง

       "เหอะ! บอกตัวเองเถอะ!!!" เจ้านายสะบัดเสียงพูดใส่ภีมอย่างหงุดหงิดเพราะยังคงโกรธเรื่องของ
ภีมที่อยู่ในความคิดของตนเมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่จะเดินหนีภีมไปทางที่คิดว่า(น่าจะ)เป็นห้องน้ำ

       "เดี๋ยวครับ" แต่ภีมก็เรียกเอาไว้ก่อนที่เจ้านายจะได้เปิดประตูห้องนั้น

       "ทำไม? มีปัญหาอะไรอีก?" เจ้านายเอี้ยวคอหันกลับมามองภีมด้วยหางตา ถามเสียงห้วน

       "นั่นมันห้องครัวครับ ไม่ใช่ห้องน้ำ" ภีมตอบเสียงเรียบพยายามตีหน้านิ่งเก๊กหน้าขรึม ทั้งที่
จริงแล้วเขาอยากจะหัวเราะออกมามากแค่ไหนก็ตาม

       "เอ่อ....ก็..ก็ฉันจะไปกินน้ำก่อนไงค่อยไปอาบน้ำ!!! หิวน้ำโว้ยยย!!!" เจ้านายพูดแก้ตัวตะกุก
ตะกักเพราะไม่อยากให้ภีมรู้ว่าความจริงแล้วตัวเองเปิดห้องผิดคิดว่าห้องครัวเป็นห้องน้ำ....คนแมน
อย่างพี่ห้ามหน้าแตกเด็ดขาดครับพี่น้อง!!! ฮู้!! อายชิบ!!!

       ปัง!!!

       "ฮึๆ ฮ่าาาาาาาาาา" ภีมถึงกลับต้องลงไปดีดดิ้น หัวเราะขำตัวขดตัวงออยู่ที่พื้นห้องทันทีที่
เจ้านายเดินปิดประตูเข้าไปในห้องครัว ที่ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวเข้าใจคิดผิดคิดว่าเป็นห้องน้ำ แต่คนรัก
ศักดิ์ศรี เป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงอย่างเจ้านายแล้ว จะให้มายอมขายหน้าพูดรับออก
มาตรงๆ ว่าตนเข้าใจผิดนั้นคงจะไม่ได้หรอก แต่......แมร่งจี้จริงๆ ว๊ะ!! ฮ่าาาาาาาาา......
.
.
.
.
.
       "น้องภีมครับ"

       "หืม?" ภีมถึงกลับหลุดแสดงสีหน้าออกมาตรงๆ อย่างไม่เคยคิดที่จะทำมาก่อนเมื่อได้ยินเสียง
เจ้านายเรียกชื่อตัวเองด้วยเสียงนุ่มทุ้มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างนี้ แต่ก็หลุดมาดไม่ได้นานหรอกเมื่อ
หันกลับไปมองร่างโปร่งของเจ้านายที่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ผ้าขนหนูสีน้ำเงินผืนใหญ่ที่เขาให้ไปก่อนหน้า
นี้ ผันรอบสะโพกปิดส่วนล่างไว้เท่านั้น สั่นด้านบนก็เต็มไปด้วยหยดน้ำเกาะพราวอยู่บนหน้าอกบาง
ทำให้ดูเซ็กซี่ขึ้นเยอะเลย แต่ติดอยู่อย่างเดียว...เจ้านายไม่เนียนพอ! เพราะเจ้าตัวเผลอแสดงสีหน้าและ
แววตาเจ้าเล่ห์อย่างนึกสนุกออกมาอย่างไม่รู้ตัว.....อ่อ! นีิ่คงอยากจะแกล้งเขานะสินะ!...จะแกล้งโง่
ลองเล่นด้วยดูหน่อยก็แล้วกันนะครับพี่เจ้านาย....หึๆ

       "ว่ายังไงครับ...พี่นาย" ภีมแสร้งทำเป็นหลุดเรียกสรรพนามเดิมที่เคยใช้เรียกกันก่อนที่จะเกิดเรื่อง
ยุ่งๆ ขึ้นมา ทำเอาเจ้านายที่คิดวางแผนมาจากห้องน้ำอย่างดีแล้วถึงรู้สึกเหมือนว่าหัวใจของตนกำลัง
กระตุกเต้นอย่างแรงอย่างที่ตนเองก็แปลกใจเหมือนกัน.....แมร่ง!! จะทะลุหลุดออกมาจากอกแล้วมั้ง
หัวใจของกู!!!

       "เราจะเริ่มกันได้เลยรึยังครับ...พี่พร้อมแล้วนะ" พอตั้งสติได้แล้วเจ้านายก็รีบกลับเข้าแผนเดิมของ
ตัวเองโดยใช้เสียงนุ่มทุ้มอยู่เหมือนเดิม

       "ยังครับ...ผมยังไม่พร้อม...และที่วางอยู่บนเตียงนั่นคือชุดของพี่ครับ" ภีมตอบเสียงเรียบพลางชี้นิ้ว
ไปที่ชุดที่ตนได้หามาวางเตรียมไว้ให้เจ้านายก่อนหน้านี้ หลังจากที่ตัวเขาเองกลับมาจากไปอาบน้ำที่
ห้องน้ำอีกห้องนึงที่อยู่ในห้องนั่งเล่นข้างนอก ส่วนที่เจ้านายเข้าไปอาบนั้นคือห้องน้ำในตัวห้องนอน

       "ทำไม!!" เจ้านายเผลอขึ้นเสียงพร้อมทั้งชักสีหน้าอย่างไม่ชอบใจ ในเมื่อเขาอุตส่าห์เข้าไป
เตรียมตัวเตรียมใจเพื่อที่จะออกมาทำหน้าที่สามี(?)ชั่วคราวให้เจ้าตัวได้โดยที่ไม่หงุดหงิดได้แล้ว
ทั้งที แต่เจ้าตัวกลับบอกว่าไม่พร้อมเนี่ยนะ!!! มันจะตลกเกินไปรึเปล่าห้ะ!!!

       "ผมแค่อยากให้เราได้พูดคุยกันให้เข้าใจก่อน" ภีมทิ้งตัวลงนั่งบนปลายเตียงนอนของตัวเอง
พลางพูดบอกเจ้านายที่ยืนหน้าง้ำงออยู่

       "มีเรื่องอะไรที่เราต้องพูดต้องคุยกันอีกหรอ?" เจ้านายถาม เพราะเขายังไม่เข้าใจว่าภีมกำลัง
พูดถึงเรื่องอะไรอยู่

       "มีสิครับ ทุกเรื่องเลย...ทุกเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเราสองคนตั้งแต่วันที่ผมตัดสินใจไปเรียยต่อ
ม.ปลาย ที่โน่น.....มานั่งนี่สิครับ" ภีมพูดบอกพร้อมกับตบที่ว่างข้างตนบนปลายเตียงเพื่อให้เจ้านาย
ที่แต่งตัวเสร็จแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆ ตน

       "เรื่องอะไรอ่ะ? ฉันไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่" เจ้านายขมวดคิ้วถามเพราะถึงแม้
ว่าภีมจะพูดอย่างนั้นแต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าภีมต้องการจะพูดถึงเรื่องอะไรในเมื่อเรื่องระหว่าง
เขากับภีมมันจบไปแล้ว จบไปตั้งแต่ภีมกลับมาพร้อมกับลูกเมียฝรั่งของตนแล้ว!!!.....แต่ก็ยอมที่จะ
ก้าวเดินเข้ามานั่งที่ปลายเตียงข้างๆ ภีมอยู่ดี

       "เอาจริงๆ ภีมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเรื่องของเรามันเริ่มสะดุดตั้งแต่ตรงไหนเมื่อไหร่ยังไงในความเป็น
จริงและในความคิดของพี่นาย.....แต่ภีมจะเริ่มในสวนที่ภีมอยากจะให้พี่นายรับรู้ก็แล้วกันนะครับ"
ภีมเริ่มพูดเปิดประเด็นขึ้นอย่างที่ตนก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าความรักของพวกเขานั้นมันถึงจุดตกจุดสะดุด
ติดขัดตั้งแต่ตอนไหน จึงขอเริ่มจากสิ่งที่ตนอยากให้อีกคนรับรู้ก็แล้วกัน....เพราะมันคงจะเป็นทางเลือก
ของการเริ่มต้นที่ดีที่สุด

       "อือ..." ไหนๆ อีกคนก็เริ่มเกริ่นขึ้นมาขนาดนี้แล้ว ก็ลองคุยกันหน่อยแล้วกัน เพราะถึงจะไม่ได้
ประโยชน์อะไรที่มันทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นกว่านี้ แต่อย่างน้อยก็อาจจะเคลียร์ความรู้สึกติดค้างที่
อยู่ในใจของตัวเองออกไปสักนิดก็ยังดี.....ก็แค่นั้น ไม่ได้หวังอะไรไปมากว่านั้นเลยจริงจริ๊ง!!!!

       "ที่ผมต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็เพราะว่าผม...ผมทำสัญญาลูกผู้ชายกับป๋าคุณไว้ เพื่อที่
จะเป็นการพิสูจน์กับป๋าว่าผมรักพี่จริงๆ แบบที่จะใช้ชีวิตร่วมกันไปจนตาย ไม่ใช่ความรักในแบบเด็กๆ
ที่ไม่กี่เดือนกี่ปีก็ต้องเลิกกัน และหลังจากที่ผมเรียนจบกลับมาแล้วพี่จะเป็นของผมทันที โดยที่ป๋าจะ
ไม่ขัดขวางและกรีดกันในความรักของเราสองคนอีก...แต่..ความเป็นจริงแล้ว..ป๋ากลับไม่ทำตาม
สัญญาที่เคยพูดกันไว้ แถมยังใส่ร้ายว่าผมหอบลูกหอบเมียฝรั่งกลับมาบ้านอีกต่างหาก!!!" ภีมเผลอ
พูดใส่อารมณ์ในประโยคสุดท้ายเมื่อนึกไปถึงวันนั้น...วันที่ตนเป็นโดนน้ำท่วมปากที่อยากจะพูด
อยากจะบอกแก้ตัวอะไรออกมาบ้างแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย ในเมื่อเขายังเป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ
ของคุณป๋าเจ้าคุณอยู่อย่างนั้น!!! อีกทั้งเจ้านายก็ไม่เคยคิดที่จะเปิดโอกาสรับฟังในสิ่งที่เขาพยายาม
ที่จะพูดจะอธิบายให้เจ้าตัวเข้าใจเลย สุดท้ายจะเป็นใครล่ะที่ต้องเจ็บซ้ำเจ็บซาก เจ็บมาตั้งแต่อยู่
อเมริกาคอยรอรับภาพถ่ายยืนยันความชอกช้ำของตัวเองอย่างนี้!!! ทั้งที่คุณพ่อคุณแม่ของเขาเอง
ก็ต่างบอกว่าเจ้านายเจ็บเพราะเขาเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่เขาก็รับรู้.....แต่ที่เจ้านายเจ็บมันไม่ใช่มา
จากการกระทำของเขาจริงๆ ไง!!! มันเป็นเพียงแค่สิ่งที่ป๋าคุณจอมหวงลูกพูดปลดจัดฉากออกมา!!!

       "จะ...จริงหรอ.....แล้วผู้หญิงกับเด็กฝรั่งที่ฉันเห็นนายจ๊ะจ๋าอยู่ล่ะ พวกนั้นเป็นใครกัน" เจ้านาย
ปากคอสั่นถามออกมาอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อหู เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ปักใจเชื่อไปอีกอย่างนึงแล้ว

       Tru...Tru...Tru...

       "ว่าไงภีม!!! เคลียร์กันเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย" ภีมไม่ตอบแต่กลับเดินไปหยิบมือถือของตนที่วาง
ทิ้งไว้อยู่บนหัวเตียงมาโทรวีดีโอคอลหาใครสักคน ก่อนที่จะมีเสียงของหญิงสาวทางปลายสาย
เล็ดลอดออกมาพร้อมกับหน้าจอที่แสดงภาพเคลื่อนไหวของหญิงสาวและเด็กฝรั่งตัวน้อยที่เป็น
ประเด็นในการสนทนาของเขากับภีมเมื่อสักครู่นี้.....นี่ภีมกำลังเล่นบ้าอะไรอยู่เนี่ย!!!

       "แค่บางส่วนน่ะ ยังไม่ทั้งหมดหรอก พอดีว่าเขาอยากจะรู้ว่าเธอและริกเกอร์เป็นอะไรกับฉัน"
ภีมพูดบอกพลางพยักหน้าไปทางเจ้านายที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้างๆกัน...ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังคิดอะไรอยู่

       ( // อืม....สวัสดีค่ะคุณเจ้านาย ยินดีที่ได้รู้จักกันสักทีนะคะหลังจากที่ฟังภีมบ่นให้ฟังอยู่หลายปี
เข้าเรื่องกันเลยแล้วกัน....ริกเกอร์เป็นลูกของภีมค่ะ ส่วนฉันเป็นแม่ของริกเกอร์ //) เธอทักทายกับ
เจ้านายก่อนที่จะเริ่มไล่บอกถึงความสัมพันธ์แปลกๆ ของภีมกับเธอและลูกของเธอ อย่างกำกวม

      "แค่นี้ใช้ไหมที่นายจะบอกฉัน! ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัวหล่ะ!" ทันทีที่จบคำพูดของเจนนี่ เจ้านาย
ก็พรวดพราดลุกขึ้นพูดเสียงแข็งใส่ภีม พร้อมกับที่พยายามที่จะก้าวเดินหนีออกจากตรงนั้น แต่ก็ติด
ที่ภีมจับแขนตนไว้ด้วยมือเดียวอย่างแน่นหนาเหมือนโดนล็อคกุญแจมืออย่างไงอย่างงั้น

      "หยุด!! แล้วนั่งลงที่เดิมเดี๋ยวนี้!!.....เลิกเล่นได้แล้วเจนนี่!!!" ภีมตะคอกใส่เจ้านายให้สงบสติและ
นั่งลงที่เดิม ก่อนที่จะหันไปพูดดุจนเกือบจะเป็นการตะคอกใส่เพื่อนคนสนิทของตัวเอง

      (// ชิ!! อย่ามาดุฉันนะภีม เพราะฉันไม่ใช่ริกเกอร์ที่จะกลัวนาย เสียใจย่ะ!!.....คุณเจ้านายค่ะ
มันก็จริงที่ภีมเป็นพ่อของริกเกอร์ และฉันเป็นแม่ของริกเกอร์ แต่...สามีของฉันคือคนนี้ค่ะไม่ใช่ภีม
สรุปง่ายๆ คือ ริกเกอร์เป็นลูกแท้ๆของฉันกับสามีของฉันโลเวลคนนี้ ส่วนภีมก็เป็นแค่พ่อทูนหัวที่ไม่
มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆของภีมทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะฉะนั้นคุณเจ้านายวางใจได้เลยค่ะว่า
อีตาภีมเพื่อนรักของฉันคนนี้ยังโสดและ 'ซิง' ไม่มีพันธะใดๆกับใครทั้งสิ้นค่ะ ฉันเอาหัวเป็นประกันเลย
แล้วที่สำคัญนะคะ...ฉันไม่เอา 'หมาป่าห่มหนังแกะ' อย่างภีมมาเป็นสามีและพ่อของลูกให้ปวดหัว
หรอกค่ะ...ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แค่นี้ก่อนนะคะริกเกอร์ง่วงแย่แล้ว เอาไว้ว่างๆ ค่อยไปเที่ยวด้วยกัน
นะคะ...บายค่ะคุณเจ้านาย บายภีม!! //) เธอพูดอธิบายยาวเหยียดจนแทบจะไม่หยุดหายใจ ก่อนที่
จะขอตัวตัดสายสัญญาณไปเพราะเจ้าหนูน้อยริกเกอร์ลูกชายของเธององแงอยากจะนอนกลางวัน
(ของที่โน่น) แย่แล้วเลยไม่สะดวกที่จะคุยต่อ

       "ที่เธอพูด...เรื่องจริงหรอ" เจ้านายพูดถามเสียงเบาหวิว ความรู้สึกที่มีต่อภีมทั้งความโกรธ โมโห
ผิดหวัง เสียใจ และอีกหลายๆอย่างก่อนหน้า มันเหมือนกับพื้นเปียกน้ำที่โดนเช็ดทำความสะอาดแล้ว
ก็กลับมาเอี่ยมสะอาดดังเดิมเหมือนกับไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย อีกทั้งความรู้สึกรัก รู้สึกชอบและ
ความผูกพันที่ตนมีต่อภีมเสมอมาที่ก่อนหน้านี้คิดว่ามันได้หลายไปแล้ว แต่ไม่ใช่เลย มันแค่ถูกความ
มืดมิดในความรู้สึกของเขาบดบังไปชั่วคราวก็เท่านั้นเอง ที่ตอนนี้มันกลับมาชัดเจนแจ่มแจ้งจนทำให้
หัวใจดวงน้อยๆของเขาที่เคยฝ่อแฟบกลับกลายเป็นฟูฟ่องพองโตคับแน่นจนแทบจะทะลุออกมาจาก
หน้าอกของเขาอยู่แล้ว......ของภีมรักเขา!! น้องภีมยังเหมือนเดิม!!! น้องภีมของพี่นาย.....โฮ้โฮ~~~

       "จริงครับ...หลังจากที่เราเคลียร์ปัญหาหัวใจกันได้แล้ว เราก็มาเคลียร์ปัญหา 'ร่างกาย' กันต่อ
ดีกว่านะครับ...พี่เจ้านาย... หึๆ"






_________________________________________________________________________TBC.
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบเอ็ด (24.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 25-02-2016 19:22:51
เป็นคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นว่า ทำไมไม่พูดคุยทำความเข้าใจกัน
ตามปกติเวลาดูละคร หรืออ่านนิยาย จากมุมมองของคนนอก ที่รู้(เกือบ)ทุกอย่าง รู้เรื่องของทั้งสองฝ่าย(จากที่คนเขียนสื่อ) ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความคิดเห็นแบบที่คิดว่าเป็นวิธีที่ดีและเร็วที่สุด
แต่เราลืมนึกไปว่าถ้าเราเป็นตัวละครนั้นๆ เราจะทำอย่างไร ในขอบเขตที่รู้เพียงส่วนของตัวเอง ต้องขอโทษคนเขียนด้วยนะคะ ถ้าสิ่งที่เราพิมพ์ไปก่อนหน้านี้ทำให้เสียความรู้สึก หรือหมดกำลังใจ
เราเพียงแค่ลืมนึกถึงสภาวะของตัวละครน่ะค่ะ ขอโทษอีกครั้งที่เอาความคิดในฐานะคนอ่านไปตัดสินตัวละครของคุณ
ไม่ได้คิดถึงขั้นว่าตัวละครงี่เง่าหรืออะไรหรอกนะคะ แล้วก็ไม่ได้คิดว่าเป็นนิยายที่ใช้ไม่ได้
จริงๆเราก็รอดูอยู่ ว่าคนเขียนต้องการจะดำเนินเรื่องไปในทางไหนต่อไป
สรุปว่า ขอโทษด้วยนะคะ(ที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนเขียนเสียกำลังใจ) และรอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ
สำหรับตอนที่สิบเอ็ดนี้ก็รู้สึกว่าทำได้ดี เหมือนว่าปัญหา(ในเรื่อง)จะมีหนทางให้เห็นว่าจะคลี่คลายไปได้
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ

ปล. การที่เราบอกว่าทำไมตัวละครไม่ทำอย่างนั้นอย่างนี้ จริงๆแล้วสำหรับเรามันเป็นการแสดงความคิดเห็นที่เกิดจากการอ่านนิยายแล้วอินล้วนๆเลยค่ะ (แต่วันหลังจะระวังในเรื่องนี้ด้วยค่ะ)
ปล2. เรื่องราวของรุ่นลูกน่าติดตามมากค่ะ


ไม่ใช่เพราะใครหรอกค่ะ เป็นเพราะมี่ติสแตกเองค่ะ
ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่เผลอทำตัวแย่ออกมาอย่างนั้ัน
#ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 25-02-2016 19:49:36
งื้อออออ
ค้างเลยง้ะ

55555555 ตลกพี่เจ้านายว้าา
เสียหน้าไม่ได้ว้าาาาาาา

 :hao7:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 25-02-2016 21:47:22
พี่เจ้านายเข้าใจน้องภีมแล้วใช่มั้ย
รอๆๆๆๆ  ตอนหน้าขอแบบฟินเว่อร์
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-02-2016 22:21:16
น้องภีมน่าจะบอกด้วยนะว่าตั้งแต่ไปเรียนต่อคุณป๋าก็เพียรส่งรูปพี่นายกับสาวๆหนุ่มๆไปสั่นคลอนจิตใจอยู่ตลอด
รู้สึกไม่ยุติธรรม...
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 25-02-2016 22:22:40
ตอนนี้ฟินมาก อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 25-02-2016 23:16:30
งานนี้ป๋าคุณจอมหวงลูกจะว่ายังไง เจ้านายจะโดนหมาป่าภีมจับกินอยู่แล้ว 555
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-02-2016 02:29:48
อร๊ายยย. ใครจะเสร็จใครเนี่ยะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-02-2016 09:37:02
เคลียร์กันได้ซะที
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 26-02-2016 10:38:09
 :hao7: :hao6: :hao7: :hao6: :hao7: :hao6: :hao7: :hao7: :hao6: :hao7: :hao6: :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสอง (25.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 26-02-2016 15:55:05
อยากให้เจ้านายงอนคุณป๋า. ต้องโดนซะมั่ง
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสาม (26.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 26-02-2016 21:37:35
26/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบสาม






       "จริงครับ...หลังจากที่เราเคลียร์ปัญหาหัวใจกันได้แล้ว เราก็มาเคลียร์ปัญหา 'ร่างกาย' กันต่อ
ดีกว่านะครับ...พี่เจ้านาย... หึๆ" ภีมพูดบอกด้วยเสียงหื่นๆ จนเจ้านายอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกลัว

       "หือ...น้องภีมหมายความว่ายังไงครับ พี่ไม่เห็นเข้าใจเลย" เจ้านายถามหน้าซื่อตาใส ทั้งที่พอ
จะเข้าใจอยู่หรอกว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่ ก็แหม...เขาก็ใช่เด็กน้อยไม่รู้ประสีประสาซะเมื่อไหร่
แต่พอเห็นขนาดตัวน้องแล้วมันหวิวๆ ว่ะ!!

       "ก็ความตั้งใจแรกของเราไงครับพี่นาย~" ภีมตอบเสียงหวาน พลางโอบรั้งให้เจ้านายนอนราบ
ไปกับเตียงโดยที่มีตนนอนคล่อมทับเอาไว้อีกที

       "อ๋ออออ....จะทำแบบนั้นแล้วน้องภีมมานอนทับพี่ทำไมครับ แบบนี้พี่ก็ทำไม่ได้น่ะสิ" เจ้านาย
ลากเสียงบอก เอาว๊ะ! ไหนๆ โอกาสทองก็เป็นของเราแล้ว จะปฏิเสธทำบ้าอะไรอีก! จับน้องซั่มซะ
พอเป็นเมียเราแล้วคราวนี้น้องภีมก็หนีไปไหนไม่ได้อีก โฮ๊ะๆ......เจ้านายกระหยิ่มยิ้มย่องกับความ
คิดของตัวเองอย่างชอบใจ

       "นั่นสินะครับ ภีมก็ลืมไปเลยว่าพี่นายจะมาเป็นเจ้าบ่าวภีม พี่นายก็ต้องอยู่ข้างบนซิเนอะ" ภีม
พูดเสียงหวาน งัดมารยาเด็กเจ้าเนื้อแก้มยุ้ยน่ารักเมื่อในอดีตของมาใช้กับพี่นายคนแมน ก่อนที่จะ
พลิกตัวกลับไปนอนหงายอยู่ที่ว่างบนเตียงข้างๆ กันกับเจ้านาย

       "ดีมากครับคนเก่ง...เดี๋ยวกลับบ้านคราวนี้พี่จะไปเคลียร์กับป๋าให้รู้เรื่อง และจะได้ไปขอภีมมา
เป็นเจ้าสาวให้พี่จากพ่อภาสกับแม่พัสด้วยเลยดีมั้ย" เจ้านายขึ้นคล่อมพูดบอกกับน้องน้อย(?) เสียง
นุ่มทุ้มที่คิดว่าตนดูหล่อที่สุด

       "ครับ...พี่นายว่ายังไงภีมก็ว่าตามกันฮะ" ส่งสายตาหวานให้พี่ชายเคลิ้มอีกนิด

       "ดีครับ น่ารักที่สุดเลยน้องภีมของพี่ จุ๊บ!!!" เจ้านายพูดบอกพร้อมกับลูบหัวน้องเบาๆ ก่อนที่
จะทดลองกดจูบที่ปากสวยๆของน้องเบาๆ.....อ๊า~ ชื่นใจจัง!!

       "ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าเน๊าะ" เจ้านายพูดพร้อมกับกดจูบที่ปากสวยของน้องอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ภายนอกเหมือนครั้งก่อน ลิ้นร้อนเริ่มทำงานชอนไชเข้าไปในโพรงปากสวยของน้อง
ช้าๆอย่างหยั่งเชิง ซึ่งภีมก็เปิดปากให้ความร่วมมือกับพี่เป็นอย่างดี ดูดดุนกันไปมาอย่างโหยหาจน
เกิดเสียงดัง ก่อนที่เจ้านายจะเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนและของน้องน้อยใต้ร่างอย่างรีบร้อน

       อกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งปั๋งอวดโชว์สายตาของเจ้านายที่ตลกตระลึงไปกับร่างกาย
ที่เปลี่ยนไปมาก(ก.ล้านตัว)ของน้องน้อย แต่ไม่เป็นไร...ความรักชนะทุกอย่างอยู่แล้ว!! ขนาดรูปร่าง
มันเป็นเพียงแค่กายหยาบ จิตใจสิของจริง!!

       "..อะ.." ภีมร้องออกมาเบาๆ เมื่อลิ้นร้อนของเจ้านายลากผ่านยอดอกของตัวเองพร้อมกับขบ
เม้มเบาๆ

       "เสียวใช่ป๊ะ? นี่แค่เบสิคครับที่รัก ของจริงมันต่อจากนี้ต่างหากล่ะ" เจ้านายพูดล้อภีมอย่างได้ใจ
เมื่อภีมแอ่นอกตามการดูดดุนของตัวเอง ก่อนที่จะลูบไล้ขบเม้มลงไปจนถึงจุดกึ่งกลางลำตัวของภีม

       // เหี้ย!! ใหญ่กว่าของกูอีก!! แต่ไม่เป็นไร มันเป็นเพียงแค่กายหยาบ จิตใจสิของจริง // เจ้านาย
พูดพลางพยักหน้าอยู่กับท่อนเนื้อชูชันของภีมกับตัวเองในใจ ก่อที่จะเริ่มส่งลิ้นเข้าไปทักทายกับ
ท่อนเนื้ออวบของน้องเบาๆ

       "อ่าาา..." ภีมร้องครางออกมาเบาๆ จนเจ้านายที่อยู่ข้างล่างยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ จึงครอบปาก
งับท่อนเนื้อของน้องเข้าไปเต็มปาก แต่ก็รับได้แค่ส่วนหัวเท่านั้น.....ที่เม'กามันกินไรกันว่ะ น้องน้อย
ของเขาถึงได้ใหญ่และโตไปทั้งตัวอย่างนี้...ใครรู้ก็ช่วยหลังไมค์มาบอกที...พี่นายจะไปหามากินมั่ง!!!

       "อ่า...พอก่อนครับพี่นาย...ภีมอยากทำให้พี่นายบ้าง...นะครับ" ภีมพูดบอก พร้อมกับทิ้งเสียง
อ้อนลงท้ายประโยคอีกที

       "ครับๆ" เจ้านายตอบรับหน้าบาน พร้อมทั้งลุกขึ้นมาทิ้งตัวนอนแผล่กลางเตียงแทนที่ภีม...น้องภีม
อยากให้พี่มีความสุขใช่มั้ยครับ....น่ารักจัง!!

       ภีมเริ่มจากการจูบปากส่งลิ้นเข้าไปดูดดุนเหมือนกับที่เจ้านายทำ และค่อยๆ จูบซับขมับ แก้ม คาง
วนไปที่กกหู ลงไปถึงซอกคอขาว ไล้ลามไปเล่นลิ้นตะหวัดยอดยกเล็กของเจ้านายไปมาอย่างกับเจอของ
ถูกใจ ก่อนที่จะเลื้อยลงไปครอบท่อนเนื้อกลางกายของเจ้านายในที่สุด

       "อ๊ะ!! ภีมจะทำอะไรน่ะ!!" กำลังเคลิ้มๆอยู่ดีเจ้านายก็เป็นอันต้องร้องเสียงหลงเมื่อภีมกดนิ้วชี้สากๆ
ของเจ้าตัวไแที่ช่องลับคับแน่นของเขาสุดแรง

       "อย่าดิ้นสิครับ! แปปเดียวน่า" ภีมบอกเสียงเรียบ พลางใช้มือที่ว่างอีกข้างกดหน้าอกเจ้านายไว้
ไม่ให้ลุกขึ้นมาพยศได้ ส่วนอีกข้างนึงก็ขยับนิ้วไปมาเบาๆเพื่อที่จะขยายช่องทางคับแน่นของเจ้านาย
พร้อมทั้งเพิ่มนิ้วเข้าไปเป็นสองและสามในที่สุด ก่อนที่จะถอนนิ้วออกมา                                                                                                                                                                   
       "ถ้าภีมยังไม่หยุดพี่จะโกรธแล้วนะ!!! ไหนบอกว่าจะเป็นเจ้าสาวให้พี่ไง!!!" เจ้านายตะหวาดใส่
ภีมอย่างโมโห.....ไม่ได้ๆ พี่นายคนแมนจะมาเป็นเมียใครไม่ได้ แม้แต่น้องภีมสุดที่รักก็ตาม!!! มัน
เสียภาพพจน์เว้ยเห้ย!!!

       "ก็ได้ครับ.....ภีมขอโทษด้วยนะครับ ที่ภีมทำไม่ดีกับพี่นาย" ภีมพูดพร้อมแกล้งบีบน้ำตาให้ไหล
ออกมาให้เจ้านายได้ใจเสียเล่นก่อนที่จะผละเดินตัวเปลือยเปล่าออกไปนอกห้อง พร้อมทั้งแกล้งทำ
เป็นเดินเซไปชนโต๊ะหนังสือที่อยู่ข้างประตูห้องจนทำให้หนังสือเล่มนึงตกหล่นลงมากางแบอยู่ที่พื้น
แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจ

       พรึ่บ!!!

       "นะ...นี่มัน..." เจ้านายครางเสียงแผ่วเมื่อเห็นสิ่งที่ร่วงตกลงมาพร้อมกับหยังสือที่ภีมทำตก
รูป...รูปภาพของเขาในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ภีมควรจะรู้เลย ไม่ว่าจะเป็นการกอด จูบ ลูบ
คลำ กับผู้หญิงมากหน้าหลายตาตั้งแต่เขายังอยู่ชั้นมัธยมจนถึงกิ๊กคนล่าสุดที่ตบเขาที่มอวันนั้น
นั่นแหละ.....แมร่งเอ้ย!!! ใครมันทำกับเขาอย่างนี้ว๊ะ!!! จับได้เมื่อไหร่พ่อจะเล่นให้!!!!

       เจ้านายนั่งแก้ผ้าหน้าเครียดอยู่กับรูปถ่ายอันแสนอัปยศของตัวเองและบรรดากิ๊กกั๊กทั้งหลาย
อยู่บนปลายเตียงในขณะที่ภีมที่ตอนนี้มีผ้าขนหนูพันปิดกันโป๊อยู่ที่เอวกำลังนั่งรอเจ้านายออกมา
ง้อตนอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นอย่างเบิกบาน

       แอ๊ดดดด....

       "พี่ขอโทษนะน้องภีม...พี่ผิดไปแล้ว...อย่าโกรธอย่าเกลียดพี่เลยนะครับ" เจ้านายเดินแก้ผ้า
ออกมาโอบกอดภีมจากข้างหลังโซฟา พร้อมกับภาพถ่ายในมือ

       "เรื่องอะไรหรือครับ" ภีมถามหน้าเศร้าตาใส

       "ก็เรื่องนี้ไงครับ...พี่ขอโทษ..ไม่ใช่ว่าพี่ลืมหรือไม่รักภีมแล้วนะ แต่..แต่ฮอร์โมนพี่มันเรียกร้องอ่ะ
ภีมจะให้พี่ทำอะไรพี่ยอมหมดเลย ขอแค่ภีมหายโกรธพี่ก็พอ" เจ้านายพูดบอกเสียงอ่อย แทบจะร้องไห้
อยู่มะรอมมะร่อ

       "แม้แต่การเป็นสามีของพี่นายน่ะหรือครับ" ภีมตีหน้านิ่งถามเสียงเรียบ

        "เอ่อ...เรื่องนั้นมัน...." เจ้านายตะกุกตะกักไม่กล้าตัดสินใจในทันที

        "ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับภีมไม่โกรธพี่นายหรอก...ภีมเข้าใจดี" ภีมพูดเสียงเศร้าทำเป็นจะลุกหนี

        "ครับๆ ยอมครับๆ แค่ภีมยังรักพี่และเป็นเจ้าสาวพี่เหมือนเดิมก็พอ" เจ้านายกระวีกระวาดคว้า
ตัวภีมมากอดไว้เหมือนเดิมในทันที เพราะกลัวภีมจะโกรธจะเกลียดตัวเองไปซะก่อน ที่สำคัญเขา
กำลังรู้สึกผิดต่อภีมมากๆ เลยด้วย เพราะขนาดเขาเห็นแค่ภีมอยู่ใกล้ผู้หญิงที่ชื่อเจนนี่ในวันนั้น
เขายังแทบขาดใจทั้งๆที่สองคนนั้นไม่ได้แนบชิดกันตรงไหนเลย แต่สิ่งที่ภีมเห็นเขาในรูปถ่ายนี่สิ
มีแทบจะทุกอิริยาบถยกเว้นก็แต่ตอนพางูเข้ารูก็เท่านั้นเอง ภีมจะไม่เจ็บปวดจนแทบขาดใจตาย
เลยหรือ และไม่ใช่แค่รูปสองรูปนะ แต่มันเป็นร้อยๆ รูปเลย......แมร่งโว้ย!!!

       "ครับ...ถ้าอย่างนั้นเรามาต่อจากเมื่อกี้นี้เลยเน๊าะภีมปวดไปหมดแล้ว" ภีมเอี้ยวตัวยกตัวเจ้านาย
ข้ามพนักพิงโซฟามานั่งจุ่มปุ๊กทับอยู่บนหน้าขาของเขา ก่อนจะปลอดเปลื้องผ้าขนหนูที่พันไว้รอบเอว
ออกอย่างรวดเร็มพร้อมทั้งนำมือของเจ้านายไปว่างไว้ที่ท่อนเนื้อของตัวเองเพื่อบอกให้เจ้านายรู้ว่า
ตนบอกว่าปวดนั้นคือเจ้าสิ่งนี้ ที่มันเต้นตุ๊บๆอยู่ในมือของเจ้านายนี่ไง ทำเอาเจ้านายหน้าเหวออ้าปาก
หวอเพราะตั้งตัวไม่ทันคนเจ้าเล่ห์ที่เมื่อกี้ยังทำหน้าเหมือนจะตายอยู่เลยไหงตอนนี้ถึงได้ดูเหมือนหน้า
บานยิ่งกว่าจานดาวเทียมอีกนะ!!!

       ภีมผลักเจ้านายให้นอนหงายไปตามความยาวของโซฟาเบาๆ ก่อนที่จะค่อมตัวทาบทับเจ้านาย
อีกที และเริ่มใช้ริมฝีปากออกไล่สำรวจร่างกายของเจ้านายอีกครั้ง ต่อจากที่ค้างมาจากในห้องเมื่อครู่

       "อ๊ะ! เดี๋ยวก่อน.....อื้ออออ" เจ้านายร้องเสียงหลงได้แปปเดียวก็เป็นอันต้องเงียบเสียงไปเมื่อโดน
ภีมประกบจูบปิดปากอย่างลึกซึ้งพร้อมๆกันกับที่ข้างล่างก็โดนเจ้าหนูยักา์ของภีมค่อยๆมุดแทรกเข้า
มาในช่องทางรักของตนอย่างช้าๆ จนหมดทั้งความยาว

       "อ่าา...สุดยอด!!!" ภีมร้องครางออกมาอย่างถูกใจ ถึงเขาจะไม่เคยมีเซ็กส์กับใครจนถึงขั้นสอดใส่
ก็จริงแต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้สึกรู้สาหรือมีประสบการณ์เรื่องนี้เสียเมื่อไหร่ เพราะเคยนั่งดูหนังโป๊อยู่กับ
พวกเพื่อนฝรั่งตาน้ำข้าวอยู่หรอก แถมพอถึงเวลาที่ทนไม่ได้ไอ้พวกนั้นมันก็เล่นกันเองนั่นแหละ ไม่ใช่
ไปต่อที่อื่นหรอก ส่วนเขาก็เคยมีเพื่อนออรัลหรือใช้ปากให้อยู่ตลอดๆ แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่านั้น เพราะ
ว่าเขาตั้งปฏิญาณกับตัวเองไว้แล้วว่าเขาจะมีความสุขถึงจุดสุดยอดกับพี่เจ้านายของเขาเท่านั้น

       "อะ...อะ...เบาๆ ก่อนนะภีม...อ๊ะ!!" เจ้านายผวากอดคอภีมแทบไม่ทัน เมื่อภีมเริ่มที่จะขยับสะโพก
เข้าออกเบาๆ เป็นการวอม ก่อนที่จะเร่งความเร็วขึ้นจนเจ้านายหัวสั่นหัวคลอน

       "อ่า....ช่วยผมหน่อยนะครับพี่นาย" ภีมพูดบอกเสียงหวานติดจะหื่นๆ ยกตัวเจ้านายขึ้นมานั่งค่อม
ตักตัวเองอีกครั้งทั้งที่ช่วงล่างยังติดกันอยู่

       "แต่พี่ไม่....."

       "นะครับ.....น้า...." ภีมบอกทั้งซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอขาวของเจ้านายอย่างเมามัน มือปลาหมึกก็ลู
บโน่นควักนี้อยู่แถวๆ เอวกับสะโพก ไม่ก็แก้มก้นทั้งสองข้างของเจ้านาย ซึ่งเป็นอะไรที่กระตุ้น
อารมณ์ดิบของเจ้านายเป็นที่สุด!!!.....พี่จะไม่ทนแล้วนะ!!!! ฮึ่ย!!

       เมื่อโดนคนใต้ร่าง(แหม..พูดเหมือนกำลังกดเขาอยู่เน๊ะา//เออ..แตามันก็กดเขาอยู่นิหว่า..กร๊ากก)
เล้าโลมกระตุ้นมากๆ เจ้านายก็ทนไม่ไหวเริ่มตั้งหลักใช้สองมือเกาะไหล่ภีมเป็นหลักไว้แน่น ก่อนที่จะ
เริ่มยกสะโพกตัวเองขึ้นลงอย่างช้าๆ เบาๆ โดยที่มีภีมช่วยพยุงสะโพกกลมอีกแรง.....พี่เจ๋งป๊ะล่ะ!!!

       "อ่าา...พี่นายเก่งที่สุดเลยครับ" ภีมแกล้งพูดชมพี่นายคนเก่งของตัวเองเป็นการใหญ่เมื่อเห็นหน้า
เชิดเริดๆของอีกคนที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์และความแน่นแน่(?)

       "อะ...อะ...มะ...ไหว...ไม่ไหวแล้ว...อื้อออออ...." เจ้านายกัดฟันขย่มภีมสุดแรงอย่างเร็วระรัว
สวนทางกับที่ภีมยกสะโพกดันสวนขึ้นมาเหมือนกัน ก่อนจะหวีร้องออกมาอย่างลืมแมนเมื่อตน
ทนไม่ความวาบหวามไม่ไหวจึงปลดปล่อยออกมาเลอะเต็มหน้าท้องของภีม

       "อืมม...อ่าาาา...." ภีมกอดรัดฟัดตัวเจ้านายอย่างแนบแน่นพร้อมทั้งสวนสะโพกเข้าออกอย่าง
เน้นๆ เต็มแรงอยู่อีกพักใหญ่ก่อนที่จะปลดปล่อยเข้าไปในตัวของเจ้านายจนหมดทุกหยาดหยด

       "อ่าา.....โครตมันส์!!!" เจ้านายร้องตะโกนออกมาสุดเสียงอย่างลืมแมนเมื่อหายเหนื่อย จากที่
ปกติแล้วตัวเองจะเป็นคนเสียบชาวบ้านเขา แต่วันนี้กลับมาโดนน้องน้อยสุดที่รักเสียบแทบ ถึงจะ
จุกและเจ็บไปบ้าง....แต่แมร่ง.....มัน(ส์)สุดยอด!!!

       "ถ้างั้นเรามาเริ่มกันต่อเลยดีกว่านะครับ" ภีมพูดบอกก่อนที่จะช้อนสะโพกยกตัวเจ้านายทั้งที่
ส่วนกลางของร่างกายที่เริ่มจะตื่นขึ้นมาอีกแล้วยังเชื่อมต่อกันอยู่พาเดินเข้าห้องไป ก่อนที่จะเริ่ม
บทรักอีกครั้ง อีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ทดแทนระยะเวลาห้าปีที่ห่างหายและเสียไปอย่างชื่นบาน
.
.
.
.
.
บ้านยศวโยธิน(เจ้าคุณ&ธารา) ภูเก็ต

       กลางดึกในคืนเดียวกัน

       Tru...Tru...Tru...

       "ใครว๊ะ!!!" เจ้าคุณรับสายเสียงห้วน เพราะเขาพึ่งจะเข้านอนยังไม่ถึงสองชั่วโมงเลย ก็มีเสียง
โทรศัพท์ดังรบกวนปลุกให้ตื่นขึ้นเสียแล้ว

       (// กล้าเองครับป๋า //) ปลายสายตอบกลับมาอย่างกล้าๆกลัวๆ

       "เออ....ว่าไง" เจ้าคุณถามต่อ ลดเสียงลงมานิด เพราะรู้ดีว่าถ้าไอ้กล้ามันโทรกวนเขามายามวิกาล
อย่างนี้จะต้องเป็นเรื่องของเจ้านายลูกชายสุดที่รักของเขาทันที

       (// เมื่อกี้เฮียนายแข่งรถแพ้ไอ้หัวสายไหมที่ไหนก็ไม่รู้ป๋าผมไม่เคยเห็นหน้า และตอนนี้ไอ้นั่นมันก็
ลากเฮียนายขึ้นรถไปกับมันแล้วครับป๋า //) กล้าบอก

       "แล้วพวกมึงก็ปล่อยให้ลูกกูไปกับมันเนี่ยนะ!!!" เจ้าคุณตะคอกใส่ปลายสายเต็มเสียงอย่าง
หงุดหงิด ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้านายลูกเขาจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้.....ห่วงชิบหายเลยแมร่งเอ้ยยย!!

       (// ผมไม่รู้จักครับป๋า ไม่เคยเห็นหน้ามันมาก่อนเลย แต่ผมส่งรูปจากกล้องวงจรปิดในสนามไป
ให้ป๋าแล้วนะครับ //) กล้าพูดบอกเพราะก่อนหน้านี้เขาให้ลูกน้องที่ทำหน้าที่ควมคุมระบบในสนาม
ครอบรูปหน้าของไอ้หัวสายไหมนั่นส่งให้ป๋าคุณทางอีเมลล์ไปแล้ว จึงโทรบอกนี่แหละ

       "เออๆ เดี๋ยวกูดูก่อน แล้วพวกมึงทางโน้นก็ช่วยกันตามหาลูกกูด้วยนะ ถ้าลูกกูเป็นไรไปพวกมึง
ตายห่าแน่ แค่นี้แหละ!!!" เจ้าคุณบอกพร้อมกับใช้โทรศัพท์มือถือของตนเข้าอีเมลล์เช็คดูรูปที่กล้า
บอกว่าส่งมาให้ตนแล้ว

       กล้ากับเด็กในสนามอีกหลายคนที่ทำงานอยู่ในนั้น ต่างก็อยู่ในความปกครองของเขาทั้งหมด
เพราะก่อนที่เขาจะให้เจ้านายเข้าไปดูแล โดยที่ฝากไอ้พวกนี้ช่วยดูแลลูกเขาอีกที ก็เขานี่แหละที่
เป็นคนควมคุมดูแลสนามด้วยตัวเองในช่วงแรกๆ โดยที่เอาไอ้กล้าและอีกหลายๆคนที่เคยเป็นลูกค้า
ที่มาใช้สนามเข้ามาเป็นลูกน้องซะเลย แถมยังช่วยส่งไอ้พวกนี้เรียนต่ออีก จากที่เคยเป็นไอ้ขี้ยาหรือ
เด็กแว้นที่คอยสร้างปัญหาให้ชาวบ้านก็ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะเพราะ
มันไม่ได้สำคัญอะไรนักหรอก ปัญหาที่สำคัญจริงๆของเขาในตอนนี้คือ..ใครมันกล้าเอาลูกกูไป!!!

       "ฮึ่ม!! ไอ้ภีม..ไอ้ลูกหมา!!!" เจ้าคุณรู้สึกทั้งตาทั้งมือทั้งเท้าพากันกระตุกยิกๆ อย่างหงุดหงิด
เมื่อเห็นคนในรูปที่กล้าส่งมาให้ตน ถึงแม้ว่ารูปอาจจะมืดไปหน่อย แต่กับคนที่เขาเห็น รัก และ
เลี้ยงคู่กันมากับเจ้านายลูกชายเขาอย่างภีมทำไมเขาถึงจะจำไม่ได้ ถึงแม้ว่าภายนอกมันจะดู
เปลี่นนแปลงไปมากกว่าที่เห็นครั้งล่าสุดก็เถอะ.....เจอเด็กเล่นเข้าให้แล้วไงกู!!!







__________________________________________________________________________TBC.
มาช้าไปหน่อยคงไม่ว่ากันเน๊าะ...เพราะมี่ต้องแต่งวันตอนทั้งละสองเรื่องเลยเน๊าะ
ห่างหายเอ็นซีไปนาน มันดูห่วยๆยังไงก็ไม่รู้ เอาไว้โอกาสหน้ามี่จะพยายามแต่งให้ดีกว่านี้แล้วกันนะคะ
แต่ปกติแล้วนิยายที่ผ่านๆมาของมี่ก็ไม่ค่อยมีเอ็นซีอยู่แล้วเน๊าะ....ได้โปรดให้อภัยข้าพเจ้าด้วย ฮ่าๆ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสาม (26.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2016 01:38:06
เจนายเสร็จน้องภีมจนได้นะ. อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสาม (26.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 27-02-2016 04:43:31
555ป๋าคุณเจอแล้วไง
อีกไม่นานได้อุ้มหลานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสาม (26.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-02-2016 09:18:12
เสร็จภีมจนได้นะเจ้านาย~
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสาม (26.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-02-2016 14:50:12
ฮ่าาาาาา จนได้นะครับ ยังไงก็อย่าดราม่าฝั่งครอบครัวมากนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสาม (26.02.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 29-02-2016 18:42:51
 :z13: :z13: :z13: ตามาอ่านจ้าาา
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 01-03-2016 19:27:26
27/02/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบสี่






เช้าตรู่วันถัดมา ณ บริษัทของณัฐภาส (ภูเก็ต)

       ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!

       "ไอ้ภาสโว้ย!!! ไอ้ภาส!!!!" เจ้าคุณทุบประตูห้องทำงานส่วนตัวของณัฐภาสเสียงพร้อมกับร้องเรียก
เพื่อนรักเสียงดังลั่น จนเจ้าของห้องอย่างณัฐภาสที่เพิ่งจะได้นอนเมื่อสองสามชั่วโมงที่ผ่านมาถึงกับต้อง
สะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาจากห้องนอนเล็กที่ซ่อนอยู่ในห้องทำงานอีกทีอย่างหัวเสีย

       "เชี่ย!!! บ้านมึงไฟไหม้หรือมีคนตายรึไงห้ะไอ้คุณถึงได้มาถล่มบริษัทกูแต่เช้าอย่างนี้!!" ณัฐภาส
เปิดประตูออกมาเห็นหน้าของแขกไม่ได้รับเชิญได้ก็อวยพรเจ้าตัวหนึ่งทีก่อนที่จะถาม

       "วันนี้ถ้าจะมีใครตาย คนๆนั้นต้องเป็นไอ้ภีมลูกรักของมึงแน่ๆ ไอ้ภาส" เจ้าคุณเข้นเขี้ยวเคี้ยวฟันบอก
กับเพื่อนรักด้วยสีหน้าโหดๆ แต่แทนที่ณัฐภาสจะโกรธที่เจ้าคุณพูดเหมือนแช่งลูกชายตัวเอง แต่ก็
เปล่าเลย...แถมยังหัวเราะออกมากับท่าทางหัวเสียของเพื่อนรักอีกต่างหาก

       "เออๆ จะทำอะไรก็เรื่องของมึงแต่ตอนนี้กูของอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน...กูไม่
อยากให้ลูกน้องกูมาเห็นกูในสภาพนี้...เสียภาพพจน์กูหมด" ณัฐภาสพูดบอกพร้อมกับเดินหายไปกลับ
เข้าไปในห้องนอนเล็กที่ซ่อนอยู่ในห้องทำงานของตน ปล่อยให้เจ้าคุณนั่งหงุดหงิดยืนอยู่คนเดียวกลาง
ห้องทำงานของตัวเองนั่นแหละ
.
.
.
       "แทนที่เคลียร์งานเสร็จแล้วกูจะได้กลับอยู่กับลูกกับเมียกูสบายๆ มึงเสือกยังมาลากกูไปตามหา
ลูกมึงอีก ห่าาาา....." ณัฐภาสพูดบอกในขณะที่เขาทั้งสองคนอยู่บนเครื่องบินที่จะมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ
เสียแล้ว เพราะหลังจากที่ณัฐภาสจัดการธุรส่วนตัวเสร็จก็โดนเพื่อนรักอย่างเจ้าคุณลากมาสนามบิน
ทันทีเลย ดีนะที่เขายังมีสติพอที่จะคว้ากระเป๋าสะพายที่มีทั้งกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์และของใช้จำเป็น
จำพวกบัตรต่างๆ ติดมาด้วย ไม่อย่างนั้นคงลำบากแย่ถ้าเข้าเมืองกรุงมาโดยไม่มีอะไรติดตัวมาเลย

       แล้วที่เมื่อคืนนี้เขาต้องนอนค้างที่บริษัทก็เพราะว่าเขาต้องการที่จะเคลียร์งานในส่วนที่เหลือให้
เสร็จโดยที่ไม่อยากจะเอากลับไปทำที่บ้านอีกเพราะช่วงหลังๆมานี้เขาโดนพัสกรเมียรักบ่นอยู่บ่อยๆ
เรื่องที่เอางานกลับไปทำที่บ้านทุกวันแถมยังไม่ค่อยมีเวลาให้ครอบครัว เขาก็เลยตัดสินใจที่จะจัดการ
งานในส่วนของเขาทั้งหมดของเดือนนี้ให้เสร็จสิ้น เพื่อที่จะได้หยุดพักอยู่กับเมียกับลูกในอาทิตย์สุดท้าย
ของเดือนนี้ อีกทั้งเมื่อคืนนี้ภามกับเจโล่มานอนค้างอยู่เป็นเพื่อนกับพัสกรที่บ้านด้วย เขาจึงอยู่ทำงานได้
อย่างสบายใจและไม่ต้องคอยเป็นห่วงกังวลเรื่องที่พัสกรจะอยู่คนเดียว เพราะปกติแล้วถ้าไม่มีโปรเจค
ใหญ่ๆ เร่งเข้ามา เขาก็ไม่อยู่ค้างที่บริษัทหรอก....กลับไปนอนกอดเมียที่บ้านดีกว่า!!

       "ก็เพราะลูกมึงมันเอาตัวลูกกูไปไหนก็ไม่รู้ไง มึงเป็นพ่อมันมึงก็ต้องมาช่วยกูตามหามันด้วย"
เจ้าคุณพูดบอกอย่างเหวี่ยงๆ

       "เออๆ" ณัฐภาสก็ได้แต่เออออไปตามคำของเพื่อนรักอย่างขำๆ กับไอ้อาการพ่อหวงลูกสาว(?) ที่
มันไม่ต่างจากจงอางหวงไข่สักเท่าไหร่.....เหอๆ ขอให้ 'ลูกกู' ทำสำเร็จแล้วกันนะครับเพื่อน ฮ่าๆ
.
.
.
.
.
ทางด้านของภีมกับเจ้านาย

       "อื้ออออออ....." เสียงเจ้านายร้องอืออาออกมาเหมือนคนกำลังจะตื่นไม่ตื่นดี

       "ตื่นแล้วหรอครับ" ภีมที่เดินมาพร้อมกับถ้วยข้าวต้มหอมฉุย วางถ้วยข้าต้มลงกับโต๊ะหนังสือข้าง
ประตู ก่อนที่จะเดินมาดูอาการของเจ้านายที่นอนทำตาปรือสะลึมสะลืออยู่ในกองผ้าห่มบนเตียงอยู่
เพราะยังตื่นไม่เต็มตา

       "อื้อ! เจ็บอ่าาา...." เจ้านายบอกด้วยสีหน้าเหยเก เมื่อเผลอพลิกตัวบิดขี้เกลียดแรงไปหน่อย

       "หืม...ไหนขอภีมดูหน่อยนะครับ" ภีมพูดบอกพร้อมกับพลิกตัวเจ้านายนอนคว่ำลงกับตักตัวเอง
ก่อนที่จะดึงร่นกางเกงของเจ้านายแหวกดูช่องทางที่เขาพึ่งจะบุกเบิกเปิดทะลวงเข้าไปเมื่อคืนนี้อย่าง
หนักหน่วงจนเกือบถึงรุ่งสาง

       "อื้อ! เป็นไงมั่งอ่ะ! ฉีกป่ะ?" ก็นะ! เจ้านายก็ยังคงเป็นเจ้านายอยู่วันยังค่ำ.....ถ้าตรงนี้เป็นคนอื่น
ที่กำลังโดนแฟนหรือคนรักแหกก้นอยู่อย่างนี้คงจะมีการเหนียมอายหรือไม่ก็รีบปัดสะบัดตัวพลิกหนี
จากน้ำมือคนรักอ้วยความอายอย่างแน่นอน ไม่ใช่การที่หันหน้ามาถามคนรักอย่างหน้าตาเฉยอย่าง
เจ้านายได้หรอกว่า 'ฉีกป่ะ?' อย่างหรอกครับ

       "ไม่ครับ...แค่ช้ำๆ นิดหน่อย" ภีมบอกพร้อมกับสวมกางเกงใส่คืนให้เจ้านายเหมือนเดิมก่อนที่จะ
เดินเข้าไปล้างมือในห้องน้ำและกลับออกมา

       "อืม...แสดงว่าพี่เจ๋งจริง" เจ้านายพยักหน้าอืออาอยู่กับตัวเองอย่างภาคภูมิใจ

       "กินข้าวก่อนดีกว่าครับสายแล้ว...อย่ามัวพูดเรื่องไร้สาระอยู่เลย" ภีมได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างระอา
กับคนรักของตัวเองที่ไม่มีความอายไม่พอ พี่ท่านกับมั่นหน้าอีกต่างหาก.....เขาล่ะเพลียจริงๆ

       ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!

       "ไอ้ภีม!!! ไอ้ลูกหมาคืนลูกกูมานะเว้ย!!!!" เสียงทุบประตูดังมาพร้อมกับเสียงตะโกนเรียกหาภีม
จากข้างนอกดังมาก จนภีมรับรู้ถึงอารมณ์คลุกรุ่นของคนข้างนอกได้ดีเลย

       "หืม...ใครมาอ่ะ?" เจ้านายถามพลางตักข้าวต้มต้มเข้าปากไปอย่างสงสัย เพราะเมื่อกี้เขามัวแต่
สนใจอยู่แต่รายการโทรทัศน์ที่ตรงหน้าจนไม่ได้ฟังอะไร

       "เดี๋ยวภีมออกไปดูเองครับ" ภีมไม่ตอบเลือกที่จะพูดบอกอย่างนี้

       แอ๊ดดดด......

       พลั่ก!!!

       แค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ภีมหมุนลูกบิดเปิดประตูให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญที่มารบกวนแต่เช้า
อย่างนี้ แต่ก็เป็นอันต้องเซถอยหลังออกมาเมื่อโดนคนข้างนอกต่อยเข้าที่ข้างแก้มอย่างเต็มแรง

       "ป๋าต่อยภีมทำไมเนี่ย!!!!!" ไม่ใช่ภีมหรอกที่เป็นคนถามแต่เป็นเจ้านายที่เดินตามภีมออกมาด้วย
ต่างหากที่ร้องตะโกนถามพ่อของตัวเองพร้อมกับมายืนกางแขนอยู่ข้างหน้าของภีมเพื่อที่จะกั้นกันไม่ให้
เจ้าคุณได้ทำร้ายอะไรภีมได้อีก

       "ก็เพราะมันเอาตัวมึงมากกอย่างนี้นี่ไง!!!" เจ้าคุณตะตอกบอกลูกชายหน้าดำหน้าแดง เมื่อเห็น
สภาพของเจ้านายที่ดูเหมือนจะไม่แย่อย่างที่ตนคิดไว้ แต่ไอ้ลอยคิดมาร์กแดงๆ ที่อยู่ตรงเนิดอกที่
ลอดโผล่ออกจากคอเสื้อกล้ามย้วยๆตัวใหญ่ที่เจ้าตัวใส่นั้นมันก็บอกเขาได้ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้วว่าโดน
ไอ้เด็กติ๋มหงิมแอ๊บเรียบร้อยอย่างภีมแดกเข้าไปทั้งตัวแล้วลูกกู!!!

       "เปล่าสักหน่อย! นายตามน้องมานี่เองอ่ะ! ป๋าจะทำไม?" เจ้านายเชิดหน้าตอบอย่างท้าทาย

       "กูก็จะลากมึงกลับไปอยู่บ้านกับกูนี่ไง!! ไม่ต้องลงต้องเรียนแมร่งแล้ว!! ให้รู้ไปว่าแค่มึงคนเดียวกู
จะเลี้ยงไม่ได้!!!" เจ้าคุณบอกพร้อมกับพยายามที่จะกระชากแขนเจ้านายให้มาหาตนเอง แต่เจ้านายก็
ฝืนตัวไว้ อีกทั้งยังมีภีมที่จับแขนของเจ้านายไว้อีกข้างนึงต่างหาก

       "ไม่! นายไม่ไป! นายไม่กลับ! ป๋าจะให้นายทิ้งน้องได้ยังไงในเมื่อน้องเป็นเจ้าสาวของนายแล้ว
และน้องก็เป็นของนายแล้วด้วย!!!" เจ้านายตะโกนโต้ตอบเจ้าคุณด้วยความจริง(?)ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
จนเจ้าคุณถึงกับตกใจจนต้องปล่อยแขนลูกชาย รวมถึงณัฐภาสที่ยืนนิ่งดูเหตุการณ์อยู่นานก็ถึงกับ
ต้องตกใจอ้าปากค้างกับคำพูดของเจ้านายเลย.....น้องภีมลูกชายเขาเนี่ยนะที่ตกเป็นของเจ้านายอ่ะ?
แถมยังเป็นเจ้าสาว(?)อีกต่างหากทั้งที่ตัวก็ตั้งใหญ่ตั้งโต!! แมร่ง! โคตรเหลือเชื่ออ่ะ!!

       "มึงเนี่ยนะได้ไอ้ภีมมันหน่ะ?" เจ้าคุณถามลูกชายอย่างไม่อยากจะเชื่อ

       "อื้อดิ!! นายได้น้องแล้วน้องเป็นของนาย" เจ้านายตอบด้วยความมั่นใจ

       "แถมมันยังเป็นเจ้าสาวของมึงด้วย?" เจ้าคุณถามต่อ

       "ก็ใช่อะดิ!" เจ้านายกอดอกเชิดหน้าตอบ

       "หมายความว่ามึงอยู่บน?" เอิ่ม!..มันใช่เรื่องที่ควรเอามาถามกันไหมเนี่ย?

       "แน่นอน!!!" ตอบด้วยสีหน้าที่มั่นใจมากกกกกกกก........

       "มันต้องให้ได้อย่างนี้ดิไอ้ลูกชาย" เมื่อได้คำตอบที่ถูกใจ สีหน้าของเจ้าคุณก็เปลี่ยนจากหน้ามือ
เป็นหลังมือ ตบไหล่ลูกชายแปะๆอย่างภาคภูมิใจ ผิดกับณัฐภาสที่ยังคงส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจว่า
มันจะเป็นไปได้หรือ? ที่ภีมจะยอมให้เจ้านายกด

       "หมายความว่าภีมเป็นเมียเราหรือเจ้านาย?" ณัฐภาสอดไม่ได้ที่จะพูดถามออกมา

       "เปล่าฮะ! นายเป็นเมียภีมฮะ แต่ภีมอ่ะเป็นเจ้าสาวของเจ้านาย!!" เจ้านายส่ายหน้าปฏิเสธ
เหรอหรา.....ไม่ใช่ซะหน่อย....พ่อภาสเข้าใจผิดแล้ว!!

       "ถ้าไม่ใช่แล้วมันยังไงล่ะว๊ะ! ในเมื่อมึงบอกว่ามึงเป็นคนกดไอ้ภีมมันแถมยังอยู่ข้างบนอีก แล้วมึง
ก็บอกว่ามันเป็นเจ้าสาวของมึง แต่ก็เสือกบอกว่ามึงเป็นเมียมันอีก สรุปแล้วความจริงเนี่ยคือไอ้ภีมมัน
เสียบมึงหรือมึงเป็นคนเสียบมันห๊ะไอ้นายบอกกูมาให้ได้ฟังชัดๆ หน่อยสิ!! กูล่ะงงชิบหาย!!!" เจ้าคุณ
โวยใส่ลูกชายด้วยคำถามที่ยาวเหยียด จากที่อารมณ์กำลังจะดีขึ้นเพราะได้ยินว่าลูกเป็นคนอยู่บนแถม
ยังเป็นเจ้าบ่าวอีก เป็นอันต้องสะดุดด้วยคำที่บอกว่ามันเป็นเมียเขานี่แหละ!! แถมไอ้ลูกชายเขามันยัง
ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานอีกนะที่เสียเอกราชให้เขาไปหน่ะ!!

       "พอเถอะครับ...แค่รู้ว่าตอนนี้เราเป็นของกันและกันก็พอแล้ว ใครจะผัวใคนจะเมียผมว่ามันเป็น
เรื่องของผมสองคน ไม่ควรที่จะเอาออกมาพูดอย่างนี้หรอกนะครับ แต่ถ้าป๋ากับคุณพ่ออยากจะรู้จริงๆ
ก็รอเอาไว้คอยดูวันข้างหน้าดีกว่านะครับ ถ้าใครท้องก็คนนั้นนั่นแหละครับที่เป็น...'เมีย' หึๆ" เหมือนจะ
ดีอยู่แล้วเชียวในตอนแรกที่ภีมออกมาพูดห้าม แต่ประโยคสุดท้ายที่พูดแบบมีความหมายแฝงส่งไปให้
เจ้าคุณได้รู้นี่สิ ทำเอาเจ้าคุณถึงกับคิ้วกระตุก ส่วนณัฐภาสนี่ก็ยิ้มแป้นเลย.....รู้จักน้องภีมน้อย(ลูก)ศิษย์
เจ้าสัวณัฐภาสอดีตเพลย์บอยตัวพ่อไปแล้วนะครับคุณป๋า!!!! หึๆ






_________________________________________________________________________________TBC.
อืม.....ถ้ามี่หายไปนี่แสดงว่าไม่ป่วยกายก็สำออยป่วยใจนั่นแหละเน๊าะ!!
เพราะมี่ไม่ทิ้งนิยายไปเฉยๆหรอกค่ะ เพราะมันคือความสุขของมี่อย่างหนึ่ง
คนแต่งนิยายก็แค่คนธรรมดาๆ เน๊าะ เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องธรรมดาๆ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-03-2016 19:46:28
อืม บทนี้ขำคุณพ่อทั้งสองมาก... เหนือกว่านั้นก็ขำเจ้านายเนี่ยแหละ จะมึนไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-03-2016 21:05:10
เอ่อมมมม. เจ้านายมั่นหน้ามากเลยคระ อิอิ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 01-03-2016 21:40:29
แหม่ เจ้านายสงสัยแกคงเป็นเจ้าสาวมากกว่า รอเจ้านายท้องป่อง
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 01-03-2016 21:51:52
 o18y น้องเจ้านายลูก สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 01-03-2016 22:09:13
มั่นตลอดเจ้านาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 01-03-2016 22:38:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบสี่ (01.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-03-2016 23:14:25
สถานะไหนก็เอาเนอะเจ้านาย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 02-03-2016 18:23:44
01/03/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบห้า







       "นายขอเหอะนะป๋า...อย่าขัดขวางความรักของนายกับน้องอีกเลยน้าาา...." เจ้านายเห็นสีหน้าตึงๆ
ถมึงทึงของพ่อตัวเองก็รีบพูดอ้อนพร้อมกับโผเข้ากอดเอาหัวทุยๆของตัวเองถูหน้าอกของคนเป็นพ่อไป
มา ไม่ต่างจากลูกแมวน้อย อีกทัั้งยังสายตากลมของเจ้าตัวที่ได้มาจากแม่ธารจ๋าของตัวเองนั่นอีกล่ะ ที่
ทำเป็นกระพิบไปมาปริบๆ เพิ่มเลเวลในการอ้อนขึ้นไปอีกสิบระดับนี่อีก.....แล้วเจ้าคุณที่เป็นคนรักลูก
หลงเมียอยู่แล้วเป็นทุนเดิมจะไม่ใจอ่อนเลยหรือ?

       "เออ.....แต่หลังจากนี้กูขอสั่งว่าเวลามึงมีอะไรกันให้ใส่ถุง(ยางอนามัย)ป้องกันตลอดโอเคมั้ย?
เพราะกูยังไม่อยากมีหลานก่อนที่ลูกกูจะเรียนจบซะก่อน....แต่ถ้าจะให้ดีไม่ต้องมีอะไรกันเลยก็ได้
กูไม่ว่าหรอก!!" เจ้าคุณพูดสั่งเสียงเข้ม แต่สายตานี่มองไปทางภีมแบบข่มๆตลอด เพราะมีความเชื่อใน
ความเป็นไปได้ว่าเจ้านายลูกชายของเขาจะต้องเสร็จภีมแน่ๆประมาณ 98.99% ส่วนอีก 1.01%ที่เหลือ
เก็บเอาไว้เผื่อฟลุ๊คว่าเจ้านายจะลุกขึ้นมา 'รุก' ภีมได้บ้าง....ถึงแม้ว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ก็เถอะ!!!

       "ครับ...ผมสัญญา" ภีมตอบรับคำสั่งของเจ้าคุณเลยทันที พร้อมทั้งพูดสัญญาอีกต่างหาก ทำเอา
เจ้านายยิ้มหน้าบานที่ตอนนี้คนรักของตนดู.....โคตรเท่!!

       "ตั้งแต่เกิดมาจนป่านนี้กูยังไม่เคยเห็นใครให้คำสัญญาได้ตอแหลเท่ามึงเลยภีม" เจ้าคุณบอกอย่าง
ไม่รู้ที่จะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมายังไง เมื่อเห็นภีมให้คำสัญญาด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่สายตานี่แมร่ง
โคตรเจ้าเล่ห์เลย.....จะรอดมั้ยเนี่ยลูกกู!!!

       "ถ้าหมดธุระแล้วก็กลับบ้านกันเถอะไอ้คุณ กูคิดถึงเมียว่ะ!!" ณัฐภาสพูดบอกออกมาพร้อมทั้งแสร้ง
ทำสีหน้าเซ็งๆ ประมาณว่า 'กูคิดถึงเมียมาก' ทั้งที่จริงแล้วเขาแค่ต้องการที่จะกันเจ้าคุณออกจาก
ลูกชายของตัวเองก็เท่านั้น และไม่ใช่ว่าไม่อยากรู้หรือไม่สนใจเรื่องของลูก เพียงแต่...เอาไว้คุยกันแค่
สองคนแค่พ่อกับลูกนอกรอบดีกว่า.....ข้อมูลแน่นกว่าเยอะ!!!

       "เออๆ ปิดเทอมแล้วรีบกลับบ้านเลยนะมึงไอ้ลูกหมา.....ส่วนมึง..ภีม..เรายังมีเรื่องที่ต้องเคลียร์กัน
อีกเยอะ แต่วันนี้กูขอพาพ่อมึงกลับไปกินนมแม่มึงก่อน เดี๋ยวแมร่งจะขาดใจตายห่าไปซะก่อน" เจ้าคุณ
พูดสั่งเจ้านายและภีม ไม่วายที่จะหันไปพูดกัดเพื่อนรักอย่างณัฐภาสที่ตอนนี้ลอยหน้าลอยตาอ้อนตีน
เขาอยู่ในขณะนี้......ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าก็มันนี่แหละที่รู้เห็นเป็นใจให้ลูกมันขนาดนี้ ในเมื่อเป็นเพื่อนกัน
มานานมากกว่าอายุลูกซะอีก....ไอ้เพื่อนชั่ว!!!!!
.
.
.
       "มึงใช่มั้ยไอ้ภาสที่สอนให้ภีมมันเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังตีนขนาดนี้!!!" เจ้าคุณพูดโวยขึ้นมาใน
ขณะที่กำลังขับรถไปส่งณัฐภาสเพื่อนรักที่บ้านของเจ้าตัว หลังจากที่ขึ้นเครื่องจากกรุงเทพฯกลับมา
ภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       "ไม่ใช่...มึงก็รู้หนิไอ้คุณว่าการไปอยู่เมืองนอกหลายๆปีมันสามารถเปลี่ยนอะไรหลายๆอย่างในตัว
ตนของคนๆนั้นได้อย่างไม่มีข้อแม้ ถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเรียบร้อยสักแค่ไหนเพราะสังคมและความเป็นอยู่
ของกลุ่มเพื่อนที่จะเป็นไปตามกัน อย่างที่มึงกับกูเคยเป็นตอนที่ไปเรียนอยู่นอกไง" ณัฐภาสพูดอธิบาย
ให้เจ้าคุณฟังถึงความจริงที่เกิดขึ้น .และสิ่งที่เขากระซิบบอกลูกในวันนั้นวันที่ลูกนอนร้องไห้อยู่ที่ตักของ
พัสกรเมียของเขานั่นก็คือ.....'แค่เป็นตัวของเองเหมือนอย่างที่ภีมเคยเป็นเมื่อครั้งที่อยู่อเมริกาก็พอ' แค่
นั้นเองไม่ได้มีอะไรไปกว่านั้นจริงๆ

       "แล้วมึงรู้ได้ไงว่าภีมมันเป็นยังไง" เจ้าคุณถาม

       "มึงยังส่งคนไปตามดูลูกๆของมึงเลยไอ้คุณ.....แล้วคิดว่ากูจะไม่ส่งคนตามดูลูกกูบ้างหรือ? โดย
เฉพาะลูกรักของกูอย่างน้องภีมที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวที่ต่างบ้านต่างเมืองไกลคนละซีโลกอย่างนั้น"
ณัฐภาสพูดบอก ตั้งแต่ลูกแฝดของเขาทั้งสามคนต่างเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองตั้งแต่อายุสิบห้าเมื่อ
ครั้งที่ต้องแยกกันเรียนแยกกันอยู่เป็นครั้งแรก เขาก็ส่งคนไปตามเฝ้าดูลูกๆของเขาทุกคนนั่นแหละไม่ว่า
ใครจะเป็นยังไงจะอยู่ตรงไหนหรือทำอะไรเขาก็รู้หมดทุกอย่างนั่นแหละ เพียงแต่เขาจะพูดหรือไม่พูด
ออกมาก็เท่านั้น และที่สำคัญถ้าไม่ถึีงตาจนจริงๆเขาจะไม่ยื่นมือไปช่วยลูกๆเป็นเด็ดขาด เพราะถือว่า
นั่นคือสิ่งที่ลูกเลือกและต้องการจะมีชีวิตในแบบนั้นจริงๆ

       "ถ้างั้นก็หมายความว่า..."

       "น้องภีมไม่ได้เหมือนเดิมอย่างที่มึงคิดอีกแล้วเจ้าคุณ...ยกเว้นเรื่องของเจ้านายเรื่องเดียวที่
ลูกกูยังคงรักและมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง.....เชื่อกูเถอะ" ณัฐภาสพูดแค่นั้นก่อนที่จะเงียบไป

       "เจ้านายมันเป็นคนเดียวในจำนวนลูกชายทั้งหมดสามคนของกูที่มีมดลูกเหมือนแม่มัน...กู...กูไม่
ได้รังเกียจภีมมันหรอกทั้งยังรักและเอ็นดูมันไม่ต่างจากลูกแท้ๆกูเหมือนเดิม แต่กูแค่ไม่อยากให้ลูกคน
ที่กูรักมากที่สุดต้องมาทรมาณหรือเจ็บปวดเวลาที่มันต้องท้องและคลอดลูกว่ะ...มึงเข้าใจกูใช่มั้ยภาส"
เจ้าคุณพูดสารภาพบอกเพื่อนรักอย่างณัฐภาสออกมาด้วยเสียงแผ่วๆ

       "กูเข้าใจมึงนะ แต่มึงก็รู้ไม่ใช่หรอว่าการที่เราได้เป็นพ่อหรือแม่ของลูกเราเองมันมีความสุขมากแค่
ไหน โดยเฉพาะคนเป็นแม่ที่ทนอุ้มท้องลูกมาตั้งแปดเก้าเดือน กูยังจำความรู้สึกนั้นได้อยู่เลยนะมึง ในวันที่
พัสคลอดแฝดสาม กับเจ้าเพชรออกมาหน่ะ แต่กูว่าความดีใจของกูคงจะไม่เท่าเมียของกูหรอก ทั้ง
สีหน้าและแววตาที่แสดงออกมามันทำให้กูได้รู้เลยว่าเมียกูรักลูกๆมากแค่ไหน มากกว่ากู และมากกว่า
กระเป๋าและเครื่องเพชรทั้งหมดของที่เจ้าตัวมีอยู่ซะอีก และอีกอย่างนะกูว่ามึงควรดีใจอย่างที่กูดีใจใน
ตอนนี้มากกว่าที่จะมากังวลอย่างนี้ซะอีกถ้ามึงจะได้มีหลานจริงๆอย่างกู"

       "ยังไงว๊ะ?"

       "ก็ตอนนี้กูกำลังจะได้เป็นคุณตาแล้วไงมึง เพราะเจ้าภามแฝดเล็กสุดแสบของกูกำลังท้องอยู่"
ณัฐภาสพูดบอกกเพื่อนด้วยสีหน้าปลื้มปิติที่บ่งบอกได้เลยว่านอกจากเจ้าตัวที่เป็นคนรักลูกหลงเมีย
แล้วในอนาคตก็ยังจะเป็นคนเห่อหลานอีกต่างหาก

       "จริงดิ?" เจ้าคุณถามอย่างไม่อยากจะเชืื่อ

       "จริงดิ! กูก็เพิ่งจะรู้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง......อ่อ! ที่สำคัญนะไอ้คุณ..กูอยากจะบอกมึงว่ามึงควรจะ
ทำใจไว้ได้เลยว่ามึงจะได้เป็นคุณตาแน่ๆ เพราะน้องภีมเป็นคนเดียวในลูกกูที่เป็นชายแท้ๆ
และไม่มีมดลูกเหมือนกับคนอื่นๆ นั่นหมายความว่า...เจ้านายลูกมึงป่องแน่ๆ บ๊ายบายเพื่อนรัก...ขอบใจว่ะที่
อุตส่ามาส่งกูนะครับคุณตา  กร๊ากกกกกก....." ณัฐภาสรีบพูดเร็วๆรัวๆใส่เพื่อนรักอย่างเจ้าคุณโดยที่ไม่
เปิดโอกาสให้เจ้าคุณได้พูดโต้ตอบอะไรได้เลย ก่อนที่จะรีบเปิดประตูลงจากรถของเจ้าคุณเข้าบ้านทันที
ไม่วายที่จะหันกลับมาพูดยั่วพร้อมทั้งยักคิ้วกวนๆใส่เจ้าคุณอีกที

       "K เหอะ!! ไอ้ภาส!! ไอ้เพื่อนเหี้ยยยยยยยยยยย!!!!!" เมื่อตั้งสติได้แล้ว เจ้าคุณก็เปิดกระจกรถ
ตะโกนด่าเพื่อนรักที่ชิ่งหนีเข้าบ้านไปแล้วจนพอใจ ก่อนที่จะขับรถออกจากบ้านณัฐภาสมุ่งหน้ากลับ
ไปยังบ้านของตัวเองทันที.....ขอกลับไปนอนซบอกธาราเมียรักเพื่อทำใจที่จะยอมรับการเป็นคุณตา
อย่างเศร้าๆคนเดียวดีกว่า......โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ...
.
.
.
.
.
       "เฮ้ออออออออ.." เจ้านายถอนหายใจออกมาเสียงดัง หลังจากที่ไปส่งเจ้าคุณและณัฐภาสขึ้น
เครื่องบินกลับภูเก็ตกันไปเป็นที่เรียบร้อยและกลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์ของภีมแล้ว ก็ทิ้งตัวลงนอนแผ่หลา
อยู่กลางเตียงนอนแบบอ่าซ่าอย่างไม่เหนียมอายภีมที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีหมาดๆของตัวเองเลย

       "เป็นอะไรไปครับถึงได้ถอนหายใจออกมาแรงขนาดนั้น" ภีมทิ้งตัวลงนอนค่อมทับเจ้านายก่อนที่จะ
ถามออกมา

       "ก็โล่งอกไง คิดว่าป๋าจะอาละวาดมากกว่านี้ซะอีก" เจ้านายบอกพร้อมกับใช้สองมือประกบแก้ม
ป่องๆของภีมทั้งตบเล่นเบาๆ

       "ไม่หรอกครับ ป๋าเขาคงแค่มาดูให้แน่ใจเฉยๆว่าพี่นายอยู่กับภีมจริงๆ แต่ก็ห้ามอะไรเราสองคน
ไม่ได้หรอกครับ เพราะป๋าเคยสัญญากับภีมไว้แล้วว่าเมื่อใดที่ภีมเรียนจบและกลับมาเหยียบพื้นดินของ
ประเทศไทย เมื่อนั้นพี่นายคือของภีม และที่พี่นายเองก็ยังมีหนังสือสัญญาที่แข่งรถแพ้ภีมอีกต่างหาก
และที่สำคัญตอนนี้ภีมเป็นของพี่นายแล้ว(?)พี่นายจะมาทิ้งภีมได้ยังไง....ใช่มั้ยครับ" ภีมพูดบอกพร้อม
กับก้มลงจูบเจ้านายเบาๆแค่ภายนอกไม่ได้ลุกล้ำเข้าไปแต่อย่างใด

       "นั่นดิ! ภีมเป็นของพี่แล้วนี่หน่าาาาา...." เจ้านายบอกออกเมื่อนึกขึ้นได้ว่า...เมื่อคืนนี้ภีมตกเป็น
ของเขาแล้วจริงๆด้วย(?)........คุณมึงมึนหรือโคตรมึนครับพี่นายถึงได้มั่นหน้าอย่างนี้? (ตอบ!!)

       "นั่นไง...เพราะฉะนั้นพี่นายต้องห้ามทิ้งภีมนะครับ ต้องรับผิดชอบดูแลภีมไปตลอดชีวิตเลยด้วย"
ภีมพูดบอกเสียงหวานพลางซบหน้าลงกับอกแบนๆของเจ้านาย.....ถ้าเจ้านายมึน ภีมก็คงจะโคตรมึน
กว่า แถมยังตอแหลแบบเนียนๆเก่งอีกต่างหาก

       "คร้าบๆ พี่ไม่ทิ้งเจ้าสาว(?)ของพี่หรอกน่าาาา....เชื่อใจพี่ได้เลย" เจ้านายบอกพร้อมกับลูบหัวของ
ภีมเล่นเบาๆ อย่างเอ็นดู

       Tru...Tru...Tru...

       "ครับ" ยังหวานกันไม่ได้เท่าไหร่โทรศัพท์ของภีมที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเจ้าตัวก็ดังขัดจังหวะ
ขึ้นมา ก่อนภีมจะควานหามากดรับสายคนที่คุ้นเคยกันดีอย่างป๋าเจ้าคุณพ่อของเจ้านายที่พึ่งจะกลับ
ไปภูเก็ตพร้อมกับพ่อของเขานั่นเอง

       (// กูกับพ่อมึงถึงบ้านแล้ว อ่อ! แล้วบอกไอ้นายมันด้วยว่าให้รีบกลับไปที่สนามให้เร็วที่สุดด้วย เพราะ
เด็กที่สนามมันโทรมาบอกกูว่ามีคนเข้าไปป่วน ส่วนมึงก็ช่วยลูกกูทำมาหากินด้วยไหนๆ ก็ได้
มันเป็นเมียแล้วหนิ! //) เจ้าคุณพูดเสียงขึ้นจมูกอย่างคนถือดีพูดกรอกบอกภีมมาตามสายสัญญาณ

       "ครับ...เดี๋ยวผมจะช่วยดูแลให้"

       (// เออ!!! //) ยังไม่ทันที่ภีมจะพูดจบประโยคเจ้าคุณก็ตัดสายไปก่อน

       "ใครโทรมาอ่ะ?" เจ้านายถามอย่างสงสัยเพราะเขาไม่ทันได้เห็นชื่อว่าใครโทรมาหาภีม เพราะภีม
ลุกขึ้นจากตัวเขาไปยืนรับสายอยู่ปลายเตียงเสียก่อน

       "ป๋าโทรมาบอกว่าที่สนามมีเรื่องหน่ะครับ....ให้เราไปจัดการด้วย" ภีมบอกเสียงนิ่งพลางกับ
โทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิม ก่อนที่จะคว้ากุญแจรถและกระเป๋าสตางค์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
ติดมือมาด้วย พร้อมทั้งพยักหน้าเรียกเจ้านายให้ตามา ก่อนที่จะพากันมุ่งหน้าสู่สนามเถื่อนของเจ้านาย
ที่ตอนนี้มันเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เขาจะมาช่วยเจ้านายดูแลอีกแรงนึก นอกเหนือจากงานของตัวเอง
.
.
.
.
       "ไหน!!! ไอ้ลูกหมาตัวไหนมันกล้าเข้ามาหาเรื่องในถิ่นของกู!!!!" ลงจากรถได้เจ้านายก็แหวกกลุ่ม
เจ้าหน้าที่ในสนามของตนที่พากันมามุงล้อมไอ้ตัวป่วนที่ว่านั่นไว้ไม่ให้ไประรานที่ไหนได้ ถึงแม้ว่าจะยัง
ไม่มีลูกค้าเข้ามาในสนามเพราะว่ายังไม่ถึงเวลาเปิดก็เถอะ!!!

       "พี่เองครับน้องเจ้านาย" เจ้าของเสียงนุ่มทุ้มร่างสูงใหญ่ที่ยืนกอดอกใส่แว่นดำพิงรถสปอร์ตคันสวย
ของตัวเองอยู่เอ่ยทักทายเจ้านายทันทีที่ได้ยินเสียงเจ้านายเดินฝ่ากลุ่มลูกน้องของเจ้าตัวเข้ามยืนอยู่
กลางวงล้อมตรงกันข้ามกับตัวเอง

       "มะ.....มึง!!!!" เจ้านายตกใจอ้าปากค้างแทบจะแปร่งเสียงพูดออกมาไม่เป็นคำพูดเมื่อเห็นหน้าของ
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง

       "ครับ...พี่เอง...ไม่เจอกันตั้งนานน้องเจ้านายคิดถึงพี่บ้างหรือเปล่า...พี่ล่ะคิดถึ๊งคิดถึงน้องเจ้านาย
มากที่สุดเลยนะครับ" เขาถอดแว่นออกพร้อมพูดบอกกับเจ้านายด้วยท่าทีกระลิ้มกระเหลี่ย จนเจ้านาย
ทำหน้าเหยเกอยากจะอ๊วกเอาเข้าเช้าที่กินไปออกมาเสียให้ได้ แต่ก็เสียดายเพราะข้าวต้มถ้วยนั้นมัน
เป็นอาหารอย่างแรกที่ภีมทำให้เขากินในฐานะคนรักอย่างเต็มตัวเชียวนะ!!

       "อ่อ....แล้วหน้านายก็คงจะคิดถึงฝ่าเท้าของฉันด้วยใช่มั้ย 'จิว' " ภีมที่เดินตามหลังเจ้านายเข้ามา
พูดถามชายหนุ่มตัวป่วนที่ว่านั่นเสียงเรียบด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ทว่าแววตากลับแข็งกร้าว

       "มะ..มึง!!! ไอ้ภีม!!!" จิวร้องเรียกภีมด้วยสีหน้าตื่นตะหนกแบบตกใจสุดขีด จนทำให้เจ้านายที่ไม่ได้
รู้เรื่องรู้ราวถึงกับงงเต๊กเป็นไก่ตาแตกว่าสองคนนี้รู้จักกันหรือ? รู้จักกันได้ไง? ตั้งแต่เมื่อไหร่?

       "ยินดีที่ได้พบกันอีกนะครับ 'เพื่อนรัก' หึๆ"








_______________________________________________________________________________TBC.
 แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!!       
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 02-03-2016 19:29:22
เดี๋ยวก่อนเดี๋ยวววว
เจ้านายคือหน้ามึนอ่ะ
คือมั่นหน้าอ่ะ
555555555

แต่ช้าแต่
คำพูดพ่อภาสคืออาร๊ายยยยยยย
น้องภามท้องแล้ว อยากอ่านพาร์ทน้องภามแล้วววว งื้ดดดด
แถมยังไม่พอ
มีบอกอีก น้องภีมแมนคนเดียว
โอ่ยยยยยย พี่ภาคก็จะป่องด้วยเหรอออ
 :katai2-1:
เรื่องนี้มันน่ารักตรงมีเด็กมาป่วนเรื่อยๆ นี่แหล่ะคุณตาทั้งสอง

 :mew1:
รออ่านต่อไปค่า
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆๆ เลยอ้ะ
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: nuwi ที่ 02-03-2016 20:10:54
มารอด้านมืดของภีม แปลว่าในแฝด3มีภีมคนเดียวที่เมะ เจ้านายจะท้องป่าวก็เล่นสดไปแล้วอิๆๆๆ

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-03-2016 20:45:55
เพื่อนกันจริงอ๊ะ...
ว่าแต่บทนี้คนเขียนดันตกเบ็ดให้อยากรู้เรื่องของภาคกับภามบ้างแล้วสิเนี่ย... ต่อมอยากรู้กระดิกแรงเชียวค่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-03-2016 21:16:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 02-03-2016 22:28:29
  :katai4: เจ้านายคั้งใจเรียนนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-03-2016 23:25:38
น้องภีมสู้ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 02-03-2016 23:52:46
จิวเป็นใคร
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-03-2016 02:53:31
จะได้เป็นคุณตาเร็วนี้เหมือนกันหรือเปล่าหนอ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-03-2016 07:57:11
"จิว"จะมาป่วนคู่ข้าวใหม่ปลามันนี่ยังไงน้า~
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง (ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบห้า (02.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-03-2016 15:19:57
น้องภามแฝดเล็กท้อง!!! กับใครเนี่ย?
ส่วนพี่ภีม-เจ้านาย ก็สู้ต่อไปครับ ดราม่าครอบครัวไม่มีแล้ว แต่จะมีคนนอกสร้างปัญหาให้นี่สิ จะสู้กันไหวไหม
หัวข้อ: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง(ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบหก (08.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 08-03-2016 14:46:20
02/03/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบหก






       "มะ..มึง!!! ไอ้ภีม!!!" จิวร้องเรียกภีมด้วยสีหน้าตื่นตะหนกแบบตกใจสุดขีด จนทำให้เจ้านายที่ไม่ได้
รู้เรื่องรู้ราวถึงกับงงเต๊กเป็นไก่ตาแตกว่าสองคนนี้รู้จักกันหรือ? รู้จักกันได้ไง? ตั้งแต่เมื่อไหร่?

       "ยินดีที่ได้พบกันอีกนะครับ 'เพื่อนรัก' หึๆ" ภีมเดินเข้ามายืนกอดคอเจ้านายแสดงความเป็นเจ้าของ
พร้อมพูดเสียงเย็นด้วยสีหน้าที่เหมือนจะยินดีตามที่ตัวเองพูดยกเว้นแต่สายตาแข็งกระด้างกร้าวร้าว
ที่แตกต่างจากลอยยิ้มเทวดาบนหน้าของเจ้าตัวอย่างสิ้นเชิงบอกกับจิวที่ยืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ที่เดิม

       "รู้จักมันหรอ?" เจ้านายหันถามด้วยความสงสัย.....เตรียมเผือกเต็มที่

       "รู้จักสิ.....รู้จักดีเลยหล่ะ"
.
.
.
.
.
ย้อนไปเมื่อ 2 ปีก่อน (ประเทศสหรัฐอเมริกา)

       เด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่ผมทองมัดจุกครึ่งหัวที่เห็นหน้าแล้วดูยังไงๆ ก็เป็นคนเอเชียอย่างแน่นอนกำลัง
นั่งจ้องมองการแข่งขันคู่ที่สิบในสนามของวันนี้อยู่บนแท่นของราชาที่เป็นที่หนึ่งในสนามแข่งรถเถื่อน
แบบโคตรเถื่อนที่มีทุกอย่างให้เลือกสรรค์อย่างจรรโลงใจไม่ว่าจะเป็นเหล้า ยา ปาร์ตี้ ทุกอย่างที่เป็น
สิ่งผิดกฏหมายที่หาไม่ได้ง่ายๆในท้องตลาดทั่วไป สนามแห่งนี้มีให้หมดตามที่ทุกคนต้องการขอแค่
คุณมีเงินหรือของแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ อีกทั้งที่สนามแห่งนี้เปิดให้เข้าได้ทุดเพศทุกวัย ขอแค่คุณมีใจ
รักในความท้าทายและความเร็วก็พอแล้ว และที่สำคัญอย่ากร่างอย่าเกรียนถ้าคุณไม่แน่จริงและ
ใจไม่กล้าพอ มิเช่นนั้นลมหายใจสุดท้ายของคุณคงจะหมดสิ้นลงกลางเป็นผีเฝ้าสนามอยู่ที่นี่ก็เป็นได้......

       'คิง' ในที่นี้หมายถึงคนที่มีความสามารถโค้นล้มคิงหรือผู้นำคนก่อนมาจากการแข่งรถประจำปีได้
ทุกสิ่งทุกอย่างในสนามแข่งรถเถื่อนอัันดับต้นๆของประเทศที่เหมือนอยู่กลางแจ้งแต่ก็สามารถรอดพ้น
สายตาตำรวจ(อย่างตั้งใจ)เป็นของเศรษฐีเด็กคนหนึ่งที่มีรายได้มหาศาลมาจากการเล่นหุ้น จึงเอาเงิน
ส่วนตัวตรงนั้นมาสนองความต้องการในส่วนลึกของตัวเองโดยที่สร้างสนามแห่งนี้ขึ้นมาเพื่อให้บรรดา
วัยรุ่นคึกคนองทั้งหลายในละแวกนี้ได้มีกิจกรรม(ที่ไม่ควรมี)ได้ร่วมสนุกกันอย่างเปิดเผยอย่างที่ใจ
ต้องการโดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวอะไร ถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะมีความผิดร้ายแรงต่อคนและสังคมภายนอกสนาม
ก็ตาม และจัดการแข่งขันหารคัดสรรสิงห์สนามตีนผีทั้งหลายมารวมตัวกันเพื่อที่จะหา 'คิง' หรือคนที่จะ
มีอำนาจในการตัดสินใจทุกๆอย่างในสนามนี้ด้วยตัวคนเดียวโดยที่ไม่ต้องขออนุญาติหรือรอความเห็น
จากคนที่สร้างสนามนี้ขึ้นมาแต่อย่างใด เพราะคิงก็คือคิงที่สมชื่อเป็นเหมือนกับเจ้าครองสนามแห่งนี้
ที่เปรียบเป็นเหมือนกับของตัวเองนั่นแหละ จนกว่าจะมีใครมาท้าแข่งเพื่อแย่งชิงตำแหน่งความเป็นคิง
คนต่อไป และต่อๆไป อย่างไม่มีสิ้นสุด จนตำแหน่งคิงก็ได้มาตกอยู่ในมือภีมโดยบังเอิญอย่างไม่ได้ตั้งใจ
เพราะตอนนั้นภีมไปช่วยจิวซึ่งกำลังมีเรื่องกับคิงคนก่อนหน้าตัวเองพอดีจึงเกิดการแข่งขันขึ้นมา และดี
ที่ว่า ช่วงหลังๆที่เข้าสนามกับจิวมานั้นภีมได้มีโอกาสรู้ทริกต่างๆเกี่ยวกับการแข่งรถจากพวกเซียนสนาม
รุ่นเก๋าทั้งหลายบวกกับพรสวรรค์ส่วนตัวของเจ้าตัวที่เพิ่งจะแสดงออกมาให้เห็นด้วย ภีมจึงแข่งชนะคิง
สนามคนก่อนมาได้อย่างฉิวเฉียด และได้ขึ้นนั่งแท่นเป็นคิงคนปัจจุบันของสนามมาถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่า
จะมีผู้ถ้าชิงทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่เข้ามาท้าแข่งเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถโค้นล้มภีมลงจากตำแหน่ง
คิงได้สักที

       "เฮ้!! ภีม!! มีหน้าใหม่สนใจที่อยากจะแข่งกับนาย...ว่าไง?" จิว หนุ่มลูกครึ่งไทยอ-เมริกาเพื่อนสนิท
อีกคนของภีมที่อยู่คนละกลุ่มกันกับเจนนี่และโลเวลที่เป็นจำพวกเด็กเรียน แตกต่างกับจิวที่เป็นหัวโจก
ของอีกโรงเรียนนึงที่อยู่ใกล้ๆกันกับโรงเรียนของภีมที่ได้รู้จักกันโดยบังเอิญเมื่อปีก่อนและได้ติดต่อ
พูดคุยกันมากขึ้นจนทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด ภีมที่อยู่ในโรงเรียนอยู่กับเพื่อนอย่างเจนนี่
และโลเวล ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในยามที่อยู่กับจิว จากคนที่เวลาเรียนกลางวันก็เป็นเด็กเรียนที่
สุภาพ เรียบร้อยตามฉบับที่ถูกครอบครัวปลูกฝังมาตั้งแต่เกิด แต่ยามค่ำคืนในเวลาที่ท้องฝ้ามืดมิด
ภีมก็สลับขั้วเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงไม่ต่างกับมนุษย์หม่าป่าที่จำต้องกลายร่างในยามที่จันทร์
เต็มดวง...ภีมเริ่มเข้ามาสู่สนามแข่งรถและอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่างที่อยู่ในเส้นทางสีดำที่วัยรุ่น
ในเมืองเสรีอย่างที่นี่นิยมกัน ภีมก็ผ่านมาหมดแล้ว เพียงแต่เขาควบคุมตัวเองได้และไม่ได้ไปหลงมัวเมา
จมปรักอยู่กับสิ่งเหล่านั้นอย่างที่ใครเขาเป็นกัน เพราะเขาระลึกเตือนสติตัวเองไว้ทุกครั้งก่อนที่จะออก
จากบ้านมาในสถานที่มั่วสุมอย่างนี้...ว่าเขาจะไม่ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ พี่ น้อง และเจ้านายที่ยังรอคอย
การกลับไปของเขาต้องผิดหวังเพราะเขาเลือกเดินทางผิดเป็นอันขาด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่นี้
มันเป็นเพียงแค่การเรียนรู้และประสบการณ์ในชีวิตของเขาก็เท่านั้น!!!.....เขาคงต้องขอบคุณจิวที่ทำให้
เขารู้จักในนิสัยและสันดานอีกด้านหนึ่งของตัวเองอย่างนี้.....เพราะเขาชอบตัวเองในโหมดนี้มากที่สุด
เหมือนกัน เพราะมันทั้งสนุก ตื่นเต้น และท้าทาย...   

       "ก็ดีเหมือนกัน ฉันก็กำลังเบื่อๆอยู่พอดี ว่าแต่ของรางวัลล๊ะ?" ภีมพูดบอกพร้อมกับกระโดดลง
จากแท่นราชาของตัวเองลงมาแค่ครั้งเดียวก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อนรักของตนแล้ว

       "รถ...รุ่นเดียวกับที่โดมินิคพาไบรอันเหินฟ้าในฟาสที่เราเพิ่งไปดูมานั่นแหละเพียงแต่แค่คันนี้เป็น
สีขาวก็เท่านั้น.....พร้อมใบโอนถ้านายชนะ" จิวพูดบอก ติดจะขำนิดๆ เมื่อตอนที่ต้องพูดถึงภาพยนต์ที่
เขาทั้งสองคนพึ่งจะดูมา หลังจากที่เราเลิกพูดถึงกันแล้ว

       "อืม...ท่าทางจะเป็นพวกคุณหนูลูกเศรฐีหลงมา ว่าแต่ทางนั้นต้องการอะไรจากฉันล่ะ?" ภีมพูดเดา
อยู่กับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะถามเพื่อนถึงของเดิมพันที่ทางฝั่งนั้นต้องการจากเขา เพราะเขาก็คิดไม่ออก
เหมือนกันว่าตัวเขาเองมีอะไรที่มีมูลค่าเทียบเท่ากับรถคันที่ว่านั่น

       "ตัวนายกับสนามนี้" จิวพูดบอกเบาๆราวกับเสียงกระซิบ

       "ว่าไงนะ?" ภีมเลิกกคิ้วถามซ้ำเพราะเขาได้ยินไม่ชัด

       "เขาบอกว่าถ้าเขาชนะนายกับสนามนี้จะต้องเป็นของเขา" จิวพูดบอกอีกครั้ง

       "เขา? เขาไหนหรือจิว...นายบอกฉันได้ไหม?" ภีมถามพลางจ้องหน้าเพื่อนอย่างจับผิด เพราะเมื่อกี้
มีอยู่แปบนึงที่จิวหลุดทำสีหน้าแปลกๆออกมา

       "ฉะ..ฉัน....ฉันไม่รู้!!! แต่นายต้องแข่งนะภีมเพราะฉันตอบตกลงเขาไปแล้ว!!!" จิวพูดบอกเสียงดัง
จนแทบจะเป็นเสียงตะคอกก่อนที่จะรีบหันหลังเดินหนีภีมแต่ก็ไม่ทันเพราะภีมเองก็ไวพอที่จะคว้าแขน
เพื่อนเอาไว้ทันเหมือนกัน

       "นายเป็นอะไรจิว!! มีอะไรทำไมไม่บอกฉัน!! แล้วนายมีสิทธิอะไรที่มาตัดสินใจแทนฉันว่าฉันจะแข่ง
หรือไม่แข่งอย่างนี้!!!!" ภีมกระชากคอเสื้อตะคอกถามจิวอย่างหัวเสีย เขาจะไม่เป็นอย่างนี้เลยถ้า
จิวไม่ได้มีท่าทีแปลกๆไปและมาคิดตัดสินใจแทนเขาอย่างนี้! และถ้าจิวมีปัญหาอะไรกับคนที่มาถ้าเขา
วันนี้และขอให้เขาลงแข่งเพื่อช่วยเจ้าตัวเขาก็จะลงแข่งให้ถึงแม้ว่าของรางวัลมันจะเป็นตัวของเขาก็ตาม
และสนามแห่งนี้ที่เขาช่วงชิงมาจากเจ้าของคนก่อนเขาก็ต้องยกให้ใครสักคนอยู่แล้วเมื่อกลับไทยและ
คนๆนั้นจะต้องเป็นจิวที่เป็นเพื่อนรักของเขาและเป็นคนที่รักการแข่งรถอย่างนี้ เพียงแต่สิ่งที่เขาเกลียด
ที่สุดก็คือการบังคับหรือการที่มีคนอื่นมาตัดสินใจโน่นนี่นั่นในชีวิตของเขาแทนตัวเขาเอง แม้ว่ามันจะ
เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ก็ตาม....และตอนนี้จิวก็กำลังกระทำในสิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิตอยู่!!!

       "เฮ้! คิง! ถึงเวลาแล้ว" ยังไม่ทันที่ภีมจะได้ซํกถามอะไรจิวต่อ หนึ่งในเพื่อนสนามที่สนิทระดับหนึ่ง
ที่ทำหน้าที่ในการจัดการดูแลเรื่องการแข่งขันก็วิ่งมาตามเร่งเขาอีกคน

       "เวลา?"

       "อือ....ก็นายลงชื่อแข่งในใบสัญญาแล้วหนิ" เพื่อนคนนั้นย้ำอีกครั้งเพราะมันคือหน้าที่โดยตรง
ของเขาที่ต้องจัดการ

       "อืม...ฉันเข้าใจแล้ว.....เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวแน่จิว!!!" ภีมพูดบอกเพื่อนคนนั้น ก่อนที่จะหันมา
พูดกับจิวด้วยเสียงดังที่เกือบจะเป็นการตะคอก และกลับหลังเดินไปในสนามเพื่อแข่งรถตามที่มีชื่อของ
ตนได้ลงตามคิวไว้แล้ว
.
.
.
       เอี๊ยดดดด.....ปึง!! บึ้ม!!!

       การแข่งขันระหว่างภีมคู่แข่งคุณชายลูกเศรฐีหัวแดง(ฝรั่ง)คนนั้นที่จิวบังคับลงชื่อ(ปลอม)ไปให้ใน
ใบสัญญาการแข่งขันเป็นไปอย่างลุ้นระทึกที่สุดเพราะคู่แข่งคนนี้ของภีมไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าใหม่หรือ
หมูในอวยที่รอให้ภีมมาเฉือดแค่นั้น ความสามารถไม่ธรรมดาๆเลยจริงๆ แต่ภีมก็เป็นฝ่ายขึ้นนำในรอบ
โค้งสุดท้ายและได้ชัยชนะมาในที่สุด เพียงแต่ภีมไม่สามารถหยุดรถลงได้เลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็น
เบรคเท้าหรือเบรคมือ จนทำให้รถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงจากการแข่งขันที่ผ่านมาไม่กี่วินาทีเสียหลักพุ่งชน
กำแพงสนามเข้าอย่างจังจนทำให้รถเกิดระเบิดขึ้นมา และภีมที่ถูกบีบอัดอยู่ในรถนั้นก็ถูกทางแพทย์
ประจำสนามนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะวินาทีนั้นภีมได้หมดสติลงไปเรียบร้อยแล้ว
.....อย่างไร้เงาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทอย่าง 'จิว'
.
.
.
สามเดือนต่อมา (หลังจากการแข่งขันครั้งนั้น)

       ภีมต้องใช้เวลารักษาและฟื้นฟูร่างกายจากอุบัติเหตุครั้งนั้นถึงสามเดือนเพราะว่าขาหัก แขนหัก
และที่ร้ายแรงที่สุดคือ กระดูกซี่โครงของภีมที่โดนโคลงรถอัดทับหักถึงสามที่จึงต้องใช้เวลาในการรักษานานหน่อย
แต่ระหว่างนั้นภีมก็ให้ลูกสมุนที่อยูาในสนามตามสืบเรื่องราวอย่างลับๆมาตลอด เพราะมันจะเป็นไปได้ยังไงที่รถของเขา
ที่มีช่างในสนามตรวจเช็คดูแลให้ตลอดไม่ว่าจะลงแข่งหรือไม่ และจะเช็คดูรถให้เขาอย่างละเอียดรอบคอบทุกครั้งที่เขา
จะลงแข่ง แต่วันนั้นเขากลับควบคุมรถไม่ได้เพราะเบรคแตกเนี่ยนะ!! มันถูกต้องแล้วหรือ? แต่ที่เขารู้มาจากช่างหนึ่งใน
คนที่ดูแลรถของเขามาว่าสายเบรคของเขาโดนตัด!! ก่อนที่คนช่างควบคุมที่ทำหน้าที่จับตาดูความเคลื่อนไหว
สืบสาวราวเรื่องทุกอย่างในสนามผ่านทางกล้องวงจรปิดมาอย่างแน่ชัดแล้วก็ส่งข่าวพร้อมหลักฐานหลายๆอย่าง
มาบอกเขาว่าใครเป็นคนตัดสายเบรคของเขา และใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังบงการเรื่องนี้ทั้งหมด
 และนั่นคือสิ่งที่เขาผิดหวังและเสียใจที่สุดตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาอยู่ใน
วงอโครจรอันมืดมนนี้นี้เลยก็ว่าได้เพราะคำว่า 'เพื่อน'ที่เขาศรัทธาและเชื่อมันมาพร้อมกับคำว่า 'หักหลัง' อย่างนี้!!!

       "ภะ...ภีม!!" จิวร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเงาของภีมที่กระจกมันสะท้อนให้เห็นอยู่ข้างหลังเขาในขณะที่
เขา เงยหน้าขึ้นมาส่องกระจกหลังจากที่ก้มใส่พวกสร้อย แหวน นาฬิกา เรียบร้อยแล้ว

       "ไง! จิว นายดูสบายดีนะ แต่ทำไมไม่ไปเยี่ยมฉันบ้างเลยล่ะ? ฉันล่ะคิดถึงนายแทบแย่..." ภีมพูด
เสียงเรียบนิ่งแบบปกติที่ดูไม่ปกติ เพราะจิวได้ยินแล้วรู้สึกเหมือขนหัวลุกอย่างไงก็ไม่รู้

      หลังจากที่ได้ข้อมูลทั้งหมดมาจากลูกน้องของตัวเองและเช็คข้อมูลอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเอง
เพื่อความแน่ใจเรียบร้อยแล้ว ภีมก็บึ่งรถคันใหม่ที่ได้จากการแข่งขันในวันนั้นที่ทางลูกน้องที่เป็น
เจ้าหน้าที่สนามดูแลในส่วนของรางวัลได้เก็บไว้ให้มุ่งตรงมาหาเป้าหมายของตัวเองทันที ไม่ว่าใครจะ
ห้ามหรือเอาอะไรมาฉุดรั้งไว้ก็ไม่เป็นผล.....เพราะแค้นนี้ต้องชำระ!!!   

       "กะ..ก็...ไปสิ! ทำไมจะไม่ได้ไป แต่ฉันไปทีไรนายก็กลังนอนหลับอยู่ทุกทีเลย ฉันก็เลยกลับก่อน
เพราะไม่อยากจะรบกวนนายไง" ตอแหล!! ภีมอยากจะตะโกนคำนี้ใส่หน้าเพื่อนจอมปลอมคนนี้เหลือเกินว่า
'เมื่อไหร่จะหยุดตอแหลใส่เขาสักที!!' ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่เขาใช้เวลารักษาและพักฟื้นร่างกายอยู่นั้น
เขารอมาตลอด รอให้จิวเข้ามาพูดมาอธิบายว่าเจ้าตัวมีเหตุผลอะไรถึงได้มาทำกับเขา
อย่างนี้ ไม่ต้องมาขอโทษเขาก็ได้ เพียงแค่มาพูดมาแก้ตัวว่าเจ้าตัวมีเหตุจำเป็นที่ต้องทำกับเขาอย่างนี้
จริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโกหกเขาก็จะหลับหูหลับตาทำใจเชื่อเพื่อนอยู่ดี แต่ก็ไม่เลย! จิวไม่เคยไป
เยี่ยมไปดูอาการของเขาที่โรงพยาบาลสักครั้งเดียว และไม่แม้แต่ที่จะถามไถ่อาการเขาจากคนอื่นเลย
แต่กลับมาลอยหน้าลอยตาลั้ลลามีความสุขอยู่ในสนามแข่งเหมือนเดิม!! นี่หรือ? คำว่าเพื่อน!!!

       "นั่นสินะ...เป็นเพราะฉันหลับนี่เองฉันถึงไม่ได้เจอนายเลย...แย่จริง.....แต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะ
วันนี้ฉันก็ตั้งใจจะมาเล่นกับนายให้หายคิดถึงอยู่พอดี!!"







___________________________________________________________________________TBC.
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง(ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบหก (08.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-03-2016 15:18:37
 :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง(ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบหก (08.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 08-03-2016 16:37:44
 :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง(ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบหก (08.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 08-03-2016 21:51:33
ตายแน่จิว
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง(ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบหก (08.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 08-03-2016 22:30:03
นายจิวคนนี้ ทำไปเพื่ออะไร อิจฉาเพื่อนงั้นเหรอ
แต่มันเกินไปรึป่าวถึงขนาดตัดสายเบรคเลยนะ แล้วดันมายุ่งกับเจ้านายอีก คราวนี้ภีมซัดไม่เลี้ยงแน่
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/ภาคเรียนที่หนึ่ง(ภีม&เจ้านาย) Up.บทที่สิบหก (08.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-03-2016 23:01:49
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบหก (08.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 10-03-2016 21:21:48
เพิ่งเจอวันนี้ ในภาคใหม่ ดีใจมากๆครับที่คุณมี่มาต่อภาคของลูกๆให้

 :o8: :o8:

อยากบอกว่ารักทุกคนเลยย

จะรอให้กำลังใจทุกๆตอนน่ะครับ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 14-03-2016 18:13:55
11/03/59


ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบเจ็บ






       "นั่นสินะ...เป็นเพราะฉันหลับนี่เองฉันถึงไม่ได้เจอนายเลย...แย่จริง.....แต่ไม่เป็นไรหรอกเพราะ
วันนี้ฉันก็ตั้งใจจะมาเล่นกับนายให้หายคิดถึงอยู่พอดี!!.....ผลั๊ะ!!!" ไม่รอให้จิวได้ทันตั้งตัวภีมก็ปล่อย
หมัดชกอดีตเพื่อนรักไปเต็มแรงจนจิวหงายเงิบไปกึ่งนั่งกึ่งนอนแผ่หลาอยู่กลางโซฟา

       "มึง! มึงต่อยกูทำไมภีม!!" จิวตะโกนถามภีมด้วยสีหน้าหวาดกลัวสุดขีด พลางขยับตัวหนีภีม
ที่ก้าวเดินเข้ามาหาตัวเองอย่างร้อนรน ด้วยความผิดที่มีติดตัวตัวเองอยู่ถึงแม้ว่าจะยังไม่ค่อยแน่ใจ
ว่าใช่เรื่องนั้นหรือเปล่าที่ทำให้ภีมเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างนี้.....ทั้งน่ากลัว และดูกร้าวร้าว ดุดัน
ทั้งที่เจ้าตัวยังคงมีรอยยิ้มประดับอยู่ที่ใบหน้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ทำไม?...ทำไมเขาถึงได้
รู้สึกว่าไม่อยากจะอยู่ใกล้เพื่อนรักคนนี้แม้แต่วินาทีเดียวเลยนะ.....ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้มันไม่ใช่ภีม
....แต่มันเป็นเหมือนซาตานในร่างคน!!

       "จะไปไหน.." ภีมหันหลังไปถามจิวที่ลุกวิ่งหนีเขาไปทางประตูทางออกที่อยู่ทางด้านหลังเขาด้วย
เสียงเรียบพลางก้าวเดินเข้าหาจิวอย่างไม่รีบร้อน

       "พะ...พวกแก" จิวครางฮือเมื่อเปิดประตูเพื่อจะวิ่งหนีภีมแล้วเจอพวกลูกน้องฝรั่งตัวล่ำๆ
ที่มีอาวุธครบมือมายืนล้อมหน้าประตูกันไม่ให้เขาออกจากห้องนี้ได้

       "อ่อ...ฉันลืมบอกไปว่านอกจากฉันแล้ว ไอ้พวกนี้มันก็คิดถึงนายด้วยเหมือนกันเลยขอตามฉันมา
'เล่น' เป็นเพื่อนนายด้วยกัน" ภีมแสยะยิ้มบอกเสียงขื่นขำ

       "เล่น!...เล่นบ้าเล่นบออะไรกัน!! พวกมึงออกไปไกลๆกูเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!" จิวร้องตระโกนโวยวาย
เหมือนคนสติแตกเพราะแน่ใจแล้วว่าภีมจะต้องรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วแน่นอนถึงได้เปลี่ยนเป็น
คนละคนอย่างนี้....หนี! เขาจะต้องหนี!!

       "ฉันไปแน่จิว แต่ก่อนไปฉันขอคืนในส่วนของฉันก่อนแล้วกันนะ เราจะได้ไม่ต้องติดค้างอะไรกันอีก
ต่อไปไงจิว...ให้ความเป็นเพื่อนและทุกๆอย่างระหว่างเรามันจบที่ตรงนี้" พูดจบภีมก็คว้าไม้เบสบอลหวด
เข้าไปที่ลำตัวของจิวเต็มเแรงก่อนที่จะใช้ไม้เบสบอลอันเดิมฟาดลงไปซ้ำๆที่ลำตัวของจิวจนจิวลงไปนอน
กระเลือดแทบเท้าของภีมอยู่พื้นห้อง แต่ภีมก็ยังไม่หยุด.....เขาปาไม้เบสบอลในมือทิ้งไปก่อนที่จะใช้เท้า
กระทืบซ้ำๆ ที่เดิมตรงกลางลำตัวของจิวที่เป็นจุดเดียวกันกับที่ซี่โครงของเขาหักจนสาแก่ใจถึงได้หยุด
แต่ใช่ว่าการ 'เล่น' ในแบบส่วนตัวของภีมจะจบลงเท่านั้น เพราะเพียงชั่วครู่ที่ปล่อยให้จิวได้หายใจหอบ
เอาอากาศเข้าไปได้ยังไม่เต็มปอด ภีมก็พยักหน้าส่งสัญญาให้ลูกน้องหัวทองของตัวเองหิ้วปีกจิวขึ้นจาก
พื้นไปกึ่งนั่งกึ่งนอนพะงาบๆอยู่บนโซฟาเหมือนก่อนหน้าที่ภีมจะเข้ามา พร้อมกับที่ลูกน้องของภีมอีก
คนนึง ส่งกระบองกลมๆสีดำยาวประมาณศอกนึงส่งให้ภีมมาถือไว้

       "ฉันขอหล่ะภีม อย่าทำอะไรฉันอีกเลย....ให้ฉันได้อธิบาย..." จิวพยายามร้องขอและดิ้นรนให้หลุด
ออกจากการจับกุมตัวของลูกน้องของภีมอย่างคนหมดที่ไปเมื่อเห็นสิง่ที่อยู่ในมือของภีม.....ดูแล้วทั้ง
หน้าสงสารและน่าสมเพศสิ้นดีแต่มาจนถึงขนาดนี้แล้วคิดว่าภีมจะหยุดมั้ย?...เหอะๆ ก็เปล่า...ไม่เลย....ไม่มีทาง!!!
ไม่ว่ายังไง...แค้นนี้ต้องชำระ!!

       "มันสายไปแล้วจิว...ก่อนหน้านี้ฉันมีเวลาให้นายมาอธิบายกับฉันตั้งสามเดือน ทั้งที่ฉันก็รู้แล้วว่า
มันเกิดอะไรขึ้น เพราะใคร หรือเพราะเหตุใด ฉันถึงต้องตกไปอยู่ในสภาพไม่ต่างไปจากคนพิการช่วย
เหลือตัวเองไม่ได้อย่างนั้น!!! ถึงแม้ว่าถ้อยคำเหล่านั้นจะเป็นคำโกหกก็ตาม ฉันก็จะเชื่อนาย.....
แต่ก็ไม่เลย!! นายไม่แม้แต่จะโผล่ไปให้ฉันเห็นแม้แต่เส้นผมของนายสักเส้นเดียว!!! เพราะฉะนั้น...
ให้ทุกสิ่ง ทุกอย่างระหว่างเรามันจบและหมดไปในวันนี้เลยก็แล้วกัน!!!" ภีมพูดพร้อมกับชักมีที่อยู่ใน
ปลอกทรงกระบอกยาวๆ(ที่เขาเรียกว่ามีดกระบอกอ่ะ!) ออกมาจ้วงแทงเข้าไปเต็มแรงตรงจุดซี่โครงที่เดิม
ของจิวตำแหน่งเดียวกันกับที่เขาหักมาก่อนหน้านี้ที่ภีมเน้นเล่นแต่จุดนี้ของจิวมาตั้งแต่แรกเริ่มเข้าไปเต็มแรง
จนปลายมีดทะลุผ่านตัวจิวเข้าไปฝังในพนักพิงโซฟาเลย ก่อนที่จะใช้เท้าเหยียบยันเข้าไปบนหน้าท้องข้างๆ
กันกับที่มีมีดปรักคาอีกทีแบบเน้นๆ จนเลือดสีแดงฉานของจิวไหลออกมาอย่างกับน้ำก๊อกอย่างไง
อย่างงั้น....ช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยองเสียจริง...

       "จะทำอะไรก็ทำ แต่อย่าให้ถึงตายก็แล้วกัน.....ฉันหวังว่าเราสองคนคงจะไม่ได้เจอกันอีกนะจิว"
ภีมบอกกับลูกน้องของตัวเอง ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปพูดบอกกับจิวที่นอนหายใจพะงาบๆอยู่ใต้เท้า
ของตัวเอง ก่อนที่จะยกเท้าออกจากท้องของจิวสะบัดคราบเลือดของจิวที่ติดอยู่ออกจากรองเท้าของ
ตัวเองสองสามครั้งก่อนที่จะเดินหันหลังออกมาจากตรงนั้น โดยที่ไม่สนใจเสียงเนื้อกระทบกันดังตุบตับ
และเสียงโอดครวญของอดีตเพื่อนรักอย่างจิวอีกต่อไป.....ให้ทั้งหมดมันจบลงที่ตรงนี้ก็พอ...
.
.
.
.
.
       "ภีมรู้จักไอ้จิวบ้าหน้าหม้อนี่ได้ไงอ่ะ?" เจ้านายขยับตัวเข้าไปเกาะแขน กระซิบถามภีมซ้ำอีกที
ด้วยความอยากรู้ถึงที่สุด เพราะมาคิดๆ ดูแล้วน้องภีมที่ใสซื่อ(?)ของเขาเนี่ย ไม่น่าจะมีทางไหนที่จะ
พาไปโคจรให้พบเจอกับไอ้บ้าจิวที่เป็นเหมือนกับตัวพ่อด้านมืดนี่เลย....เอ๊ะ! รึยังไง?

       "อืม...ไม่มีอะไรหรอกครับ เราแค่เคยเป็นเด็กฝรั่งหัวดำที่เม'กาด้วยกันเท่านั้นเอง" ภีมพูดปัดๆ
เพราะยังไม่อยากให้เจ้านายรู้เรื่องที่เขาเคยทำไม่ดีๆ เอาไว้ที่ต่างแดนในตอนนี้ เพราะยังอยากจะเป็น
น้องภีมที่น่ารักและใสซื่อของพี่นายอยู่.....จะได้ใช้มารยาจับพี่นายของเขากินให้ง่ายๆหน่อย

       "แต่เมื่อกี้นี้ภีมบอกว่ารู้จักดีเลยไง" เจ้านายท้วง

       "ผมก็พูดไปอย่างนั้นเองครับ.....แค่อยากจะทักทาย 'คนรู้จัก' ก็เท่านั้นเอง" ภีมพูดบอกเจ้านาย
แต่เน้นคำพูดประโยคสุดท้าย ใช้สายตาจ้องมองไปที่หน้าซีดๆของจิว

       "แต่....."

       "ไม่มีแต่แล้วครับ ภีมว่าไม่มีอะไรแล้วเรากลับกันดีกว่า เพราะดูท่าแล้วจิวเขาก็คงจะมีธุระที่จะต้อง
กลับไปจัดการเหมือนกัน.....ใช่มั้ย?" ภีมยกแขนขึ้นโอบไหล่ของเจ้านายอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
พลางหันไปเลิกคิ้วทำเป็นถามความเห็นจากจิวทั้งที่สายตาของตนเองที่จ้องมองจิวอยู่นั้นมันคือการ
ขู่บังคับก็ตามที

       "อะ..อืม...พี่ไปก่อนนะจ๊ะน้องเจ้านายแล้วเดี๋ยวพี่จะกลับมาใหม่" จิวรีบรับคำภีม ไม่วายที่จะพูด
หยอดบอกกับเจ้านายว่า 'เดี๋ยวมาใหม่' ก่อนที่จะหันหน้าเข้าหาประตูรถของตัวเองทันที

       "โบราณเขาว่าตีงูต้องตีให้ตายมันจะได้ไม่มาแว้งกัดเราได้อีก แต่ในเมื่อชาวนาใจดียังมีเมตตา
ปล่อยให้งูเห่าได้มีชีวิตอยู่ชูคอไปมาได้อย่างรื่นเริงมันคงจะไม่ย้อนกลับมาแหว้งกัด ให้เขา 'ฆ่า' มันซ้ำ
อีกใช่มั้ย? เพราะครั้งนี้มันคงจะไม่มีอีกแล้วไอ้คำว่า 'ปราณี' หรือปล่อยมันไป.....จำไว้นะ" ภีมพูด
ทิ้งท้ายเป็นปริศนาอีกครั้งส่งผ่านอากาศไปถึงจิวที่ยืนกำมือแน่นอยู่กับที่จับประตูรถ ก่อนที่จะเดินจูง
มือเจ้านายที่กำลังมึนงงเต็มที่เดินหันแหวกกลุ่มลูกน้องในสนามของเจ้านายกลับไปที่รถของตัวเอง
.
.
.
       "เมื่อกี้ภีมพูดอะไรอ่ะพี่งงว่ะ!" เจ้านายถามในขณะที่นั่งอยู่ในรถกับภีมสองคนที่วิ่งออกมาจาก
สนามได้สักพักแล้ว

       "ไม่มีอะไรหรอกครับ ภีมก็พูดไปเรื่อย" ภีมพูดปัด ทำเป็นจ้องมองถนนเหมือนว่ามันน่าสนใจมาก
เพราะไม่อยากที่จะมองหน้าสบตากับเจ้านายที่จ้องมองหน้าด้านข้างของเขาอยู่

       "ไม่ใช่อ่ะ! พี่รู้สึกเหมือนว่าภีมกำลังมีเรื่องปิดบังพี่อยู่เลยอ่ะ! ต้องใช่แน่ๆ เรื่องอะไรบอกมานะ!!"
เจ้านายหรี่ตาถามคนรักอย่างจับผิด

       "วู้ว! คิดไปทั่ว....ไม่มีอะไรจริงๆ ครับ" แต่ภีมก็ยังคงยืนยันคำเดิมทำหน้าเฉไฉไปเรื่อย

       เอี๊ยดดด....
 
       "อ๊ะ!! โอ๊ย!! เจ็บๆ รถเป็นอะไรหรอภีม!!!" เจ้านายร้องถามด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆ ภีมก็
เหยียบเบรคหยุดรถอย่างกระทันหันแบบที่ตั้งตัวไม่ทันจนทำให้หัวของเจ้านายไปโขลกกับ
คอนโซลรถเข้าเต็มแรง

       "โอ๊ะ! ภีมขอโทษฮะพี่นาย.....รอแป๊ปนึงนะ" ภีมละล่ำละลักพูดขอโทษเจ้านายก่อนที่จะรีบ
เปิดประตูลงจากรถเดินไปทางด้านหน้าของรถตัวเอง ก้มๆ เงยๆ อยู่สักพักก่อนที่จะเดินกลับขึ้น
รถมาพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ขยับดิ้นหยุกหยิกอยู่ในมือ

       "อ๊ะ! นะ..นี่มัน...ลูกหมานี่!!!" เจ้านายร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นจนลืมเจ็บหัวเมื่อเห็นลูกหมาน้อย
ตัวมอมแมมที่ดิ้นไปมาอยู่ในมือของภีม

       "เพราะเจ้าตัวเล็กนี่มันวิ่งตัดหน้ารถไงครับ ที่ทำให้ภีมต้องเบรครถกระทันหันอย่างนี้" ภีมพูดบอก
พร้อมกับยื่นลูกหมาน้อยในอุ้งมือของตัวเองส่งให้เจ้านายรับไปอุ้มต่อ

       "แล้วจะเอายังไงกับมันดีหล่ะ" เจ้านายถามพลางลูบขนฟูๆ แข็งๆ ที่ดูมอมแมมของลูกหมาเล่น

       "อืม...พี่นายชอบมันไหมครับ?" ภีมถาม

       "ก็ชอบนะ ทำไมหรอ?"

       "ภีมว่าจะเลี้ยงมันไว้ เพราะดูแล้วมันน่าจะหลงมาหรือไม่ก็เป็นถูกเจ้าของเอามาปล่อยทิ้งหน่ะครับ
เพราะดูแล้วมันน่าจะเป็นแค่ลูกหมาพันทางธรรมดาๆ ไม่ได้เป็นพันธุ์นิยมหรอกครับ" ภีมบอก

       "ก็ดีนะ...ว่าแต่ภีมจะเลี้ยงได้หรอ? อย่าลืมสิว่าภีมพักอยู่ในโรงแรมนะ" เจ้านายถาม

       "ได้สิครับ....ก็แค่ให้ภีมย้ายไปอยู่กับพี่นายที่บ้านก็เท่านั้นไหนๆ พี่นายก็ต้องรับผิดชอบ(?)
ภีมอยู่แล้วนี่ครับ...หรือไม่จริง?" ภีมพูดบอกด้วยเสียงเจ้าเล่ห์สุดๆ

       "นั่นสิ! พี่ลืมเรื่องนี้ไปเลยนะเนี่ย ขอบใจนะที่ช่วยพูดเตือนพี่เรื่องนี้ น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ยแฟนพี่"
เจ้านายทำท่าเหมือนนึกขึ้นได้ ก่อนที่จะพูดชมภีมพร้อมทั้งดึงแก้มภีมแบบหยอกๆ แบบอารมณ์ดีสุดๆ
.......มึนได้อีกนะนายเอกเรื่องนี้!!

       "ถ้าอย่างนั้นเราเอาเจ้านี่ไปให้สัตวแพทย์ตรวจดูให้แน่ใจก่อนดีกว่านะครับว่ามันไม่เป็นอะไรจริงๆ
และเราสามารถเลี้ยงมันได้อย่างไม่มีปัญหา" ภีมพูดบอกก่อนที่เปลี่ยนเกียร์จะเหยียบคันเร่งออกรถ
อีกครั้ง แต่คราวนี้ภีมเลี้ยวรถไปคนละทางกับที่จะไปโรงแรมของตัวเอง เพราะจะพาลูกหมาตัวใหม่
ของเขาไปให้สัตวแพทย์ตรวจดูสุภาพของมัน ก่อนที่จะเลี้ยงอย่างจริงๆ จังๆ เพื่อที่จะเซฟความปลอดภัย
ทั้งพวกเขาและเจ้าลูกหมาตัวน้อยว่าต่างฝ่ายจะไม่นำโรคภัยต่างๆมาติดต่อกันจริงๆ อย่างน้อยก็เอามัน
ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆเพื่อสุขภาพของหมาน้อยอย่างมัน และที่ขาดไม่ได้คือห้ามลืมที่จะฉีดวัคซีน
ป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับมันเพราะโรคนี้อันตรายมากนอกจากจะทำให้สัตว์เลี้ยงของเราแย่แล้ว
มันยังสามารถแพร่เชื้อติดต่อมาสู่คนอย่างเราได้ด้วย.....อันตรายจริงๆ

       ***ปล. เรื่องวัคฉีนต่างๆโดยเฉพาะวัคซีนพิษสุนััขบ้านี่นี้สำคัญมากนะคะสำหรับคนรักหมารักแมว
ที่ห้ามเผลอลืมหรือมองข้ามมันไปเด็ดขาด

       "อื้อ!! ไปหาคุณหมอกันนะมอมแมม!!" เจ้านายบอกกับลูกหมาน้อบนตักของตัวเอง

       "มอมแมม?" ภีมหันมาเลิกคิ้วถามใส่เจ้านายว่าอะไรคือ 'มอมแมม'

       "ก็มอมแมมไง! มอมแมมมันมอมแมมันก็เลยต้องชื่อมอมแมมไง!!.....ไม่ดีหรอ?" เอ่อ....คือ?
เหมือนว่ายิ่งเจ้านายพูดอธิบายภีมก็จะยิ่งงงเข้าไปใหญ่เลยนะ ฮ่าาาาาา..........

       "ครับๆ ดีครับ ดีที่สุดเลยครับ ใช่มั้ยมอมแมม!" เอาเถอะ! ถึงจะงงๆ แต่ภีมก็ยอมที่จะเออออไปกับ
ความคิดของคนรักอย่างเจ้านาย.....เพราะโบราณเขาบอกเอาไว้ว่าเชื่อเมียแล้วจะเจริญ!!






_____________________________________________________________________________TBC.
มาแล้วค่ะ! ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ
ช่วงนี้อาจจะเป็นอย่างนี้ไปสักพักนะคะจนกว่าเรื่องเรียนและเรื่องอื่นๆ
ในชีวิตอันวุ่นวายของมี่มันจะลงตัว
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!

ปล.ตอนนี้ในอีกเว็บนึงมี่ได้ลง เรื่องของภามและภาค แฝดอีกสองคนที่เหลือแล้วนะคะ
ก็เลยอยากจะถามว่าคนอ่านในเล้าจะอ่านกันเลยไหมคะ? มี่จะได้เปิดให้ทั้งสองเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-03-2016 19:56:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 14-03-2016 20:14:13
ชอบ 3 แฝดมาก ลงเลยค่ะจะตามอ่านแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-03-2016 20:42:16
น้องภีมจะปกปิดพี่เจ้านายได้จริงๆเหรอ
มีลูก(หมา)มาให้เลี้ยงแล้วสินะ ซ้อมก่อนได้เลี้ยงลูกจริง อิอิ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 14-03-2016 23:04:29
รอเจ้านายท้องงงงงง
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-03-2016 23:49:29
ภีมโหดมาก!
ส่วนเรื่องแฝดที่เหลือลงเลยก็ดี อยากอ่าน
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-03-2016 00:16:30
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 15-03-2016 14:00:23
พี่เจ้านายหน้ามึนคนเดิม กิกิ

อ่านค่าคุณมี่ เปิดเลยค่า
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-03-2016 12:58:02
มีลูกหมามาเพิ่มความน่ารักกกก
รอเรื่องแฝดคนอื่นน้าา ฮี่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 16-03-2016 14:32:02
สงสัยภีมจะเจริญจริงๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 21-03-2016 21:43:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 22-03-2016 11:47:01
รอค่าาาาาา อยากอ่านต่อแล้ววววว :call: :call:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 27-03-2016 17:15:00
ตามมาแล้วค่าาา ต่อจากคุณเมียภาคบังคับ อิอิ

ฮาเจ้าคุณตอนโล่งใจที่ลูกอยู่บนนี้ละ 555

รอตอนต่อไปจ้าาาา
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: SaKiNonZa ที่ 27-03-2016 19:04:16
ชอบอ่ะ เพิ่งตามมาอ่าน รีบๆมาต่อน้า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเจ็ด (014.03.59)
เริ่มหัวข้อโดย: หมูหยังสือ ที่ 28-03-2016 19:22:33
ชอบมากค่ะ
เขินแปบ  :o8:น้อง .มอมแมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบแปด (16.04.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 16-04-2016 23:25:20
23/03/59

ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบแปด






       "พ่อไปก่อนนะมอมแมม อย่าดื้อกับคุณแม่เขาล่ะ...จุ๊บ!!! รักนะไอ้หน้าหมา!!" เจ้านายบอกกับ
เจ้าลูกหมาน้อยมอมแมก่อนที่จะลงจากรถเมื่อรถเมื่อภีมหยุดจอดรถให้ที่หน้าคณะประมงของตน
เพราะวันนี้ภีมขอขับรถมาส่งเจ้านายเพราะเป็นทางผ่านที่ตนจะไปทำธุระต่อพอดี หลังจากที่ภีมตกลง
ที่จะขนของย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านเดียวกันกับคนรักอย่างเจ้านายที่อยู่หลังสนามแข่งรถเถื่อนของเจ้านาย
ตามคำชน(บังคับ)ของเจ้าตัวมาได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว และเจ้าหมาน้อยที่อดีตเคยเป็นหมาจรจัดสกปรก
มอมแมมนั้นตอนนี้ก็สะอาดสะอ้านไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัวตั้งแต่ภายในสู่ภายนอกแล้วเพราะภีมได้จัดการ
พาเจ้าหมาน้อยมอมแมมที่ตอนนี้เปรียบเป็นเสมือนลูกชายตัวนึงของพวกเขาไปหาคุณหมอ(หมา)
ตัดแต่ง และตรวจ ดูสุขภาพทั้งภายนอกภายในให้ปิ๊งวั๊บเรียบร้อยน่ารักตามที่มันควรจะเป็นแล้ว

       "หือ? ภีมว่าไม่ใช่มั้ง...เจ้านายต่างหากล่ะที่ต้องเป็นแม่หน่ะ" ภีมพูดแย้งคนรัก เพราะรู้สึกทะแม่งๆ
กับคำว่าคุณแม่ที่คนรักยัดเยียดให้เหลือเกิน

       "เอ้า! ก็ถูกแล้วไม่ใช่อ่อ? ในเมื่อภีมเป็นเจ้าสาวของพี่ก็ต้องเป็นแม่ของไอ้มอมแมมมันด้วยเสะ!!"
เจ้านายเถียง

       "แต่ภีมเป็นผัวเจ้านายนะ จะเป็นแม่ได้ไง ต้องเป็นพ่อดิ" ภีมพูดบอกด้วยเสียงนิ่งๆ และพยายาม
กลั้นขำอย่างสุดกำลังเมื่อเห็นเจ้านายทำท่าครุ่นคิดเรื่องนี้ด้วยสีหน้าจริงจัง เหมือนกับว่าเจ้าตัวกำลัง
คิดแก้ปัญหาระดับชาติอย่างไงอย่างงั้น

       "เออว่ะ! ก็จริงอย่างที่ภีมพูดนะ...ถ้างั้นพี่เป็นแม่ก็ได้ แต่ยังไงๆ ภีมก็ยังต้องเป็นเจ้าสาวของพี่
เหมือนเดิมนะ....เครม๊ะ?" หลังจากที่ครุ่นคิดเรื่อง(ไร้สาระ)นี้อยู่พักใหญ่เจ้านายก็ได้คำตอบให้ตัวเอง
ก่อนที่จะหันมาพูดบอกคนรักอย่างภีม

       "โอเคครับ.....หึๆ" ภีมตอบรับอย่างไม่คิดอะไรเลย เพราะถ้าเป็นคนปกติธรรมดาๆทั่วไป ที่ไม่ใช่
คน(รั่ว+บ้า)อย่างเจ้านาย เขาจะไม่มาคิดเรื่องอะไรอย่างนี้กันเลย.....แต่เจ้านายเป็นอย่างนี้ก็ดีแล้ว
เพราะภีมจะได้หลอกล่อคนรักในเรื่องต่างๆได้อย่างง่ายดาย และที่สำคัญเลยคือ.....ก็น่ารักดี!!

       "ถ้าอย่างนั้นแม่ไปก่อนนะมอมแมม แล้วเจอกันตอนเย็นนะ จุ๊บ!! รักนะไอ้ลูกหมา!!" เมื่อตั้งสติ
และตกลงกันได้แล้วเจ้านายก็บอกลากับลูกชาย(สี่ขา)ตัวน้อยของตนอีกครั้ง ก่อนที่ทำท่าจะเปิดประตู
ลงรถไป แต่ก็ติดตรงที่ว่าโดนคนรักอย่างภีมเรียกเอาไว้ซะก่อน

       "เดี๋ยวสิ!! ใจคอเจ้านายจะจูบลาแค่ลูกคนเดียวเองหรอ? แล้วพ่ออย่างภีมล่ะ? น่าน้อยใจจังเล๊ย!!"
ภีมแสร้งทำเป็นพูดน้อยใจด้วยสีหน้าเศร้าสุดจริต

       "โอ๋ๆ น่าสงสารจังเลย....มามะๆ เดี๋ยวคุณแม่จะจุ๊บปลอบใจคุณพ่อเองนะครับ จุ๊บๆๆๆ  จุ๊บ!!
แล้วเจอกันตอนเย็นนะครับ....รักนะไอ้พ่อหมา!!! ไปล่ะ!!" เจ้านายรู้ว่าคนรักแกล้งพูดเล่น(แต่ไม่รู้ว่า
มันอยากได้จริง หึีๆ) จึงคว้าคอภีมที่นั่งประจำที่คนขับหลังพวงมาลัยรถมากดจูบพรมไปทั่วหน้า
หู ตา คอ จมูก และ ปิดท้ายที่ปากแรงๆหนึ่งที ก่อนที่จะบอกลาและลงจากรถไปด้วยความเขินอาย
ด้วยสีหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดอย่างปิดไม่มิด

       "หึๆ คราวนี้ก็เหลือเราแค่สองคนพ่อลูกแล้วซินะมอมแมม...ปะ!..ไปเที่ยวกับพ่อดีกว่าเน๊าะ!!"
ภีมมองคนรักเดินเข้าไปในอาคารเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็หันกลับมาคุยกับเจ้าหมาน้อยมอมแมม
ลูกชาย(สี่ขา)สุดที่รัก ก่อนที่จะขับรถออกไปยังจุดหมายปลายทางของตัวเองต่อไปด้วยความเริงร่า
.
.
.
       "แน้ๆ..แน...แน๊!! เพื่อนนายครับ! พวกกูเห็นนะครับว่าวันนี้มึงมีรถโคตรสวยเข้ามาส่งถึงหน้าคณะ
ว่าแต่ว่า...เค้าคนนั้นคือใครครับ? กิ๊กใหม่มึงหรอ?" เดินเข้ามาถึงโต๊ะประจำของตัวเองยังไม่ทันได้หย่อน
ตูดนั่งเลย เจ้านายก็โดนเพื่อนรักปากมากอย่างเลย์แซะถามทันที

       "หรือผัว?" ยังไม่ทันที่เจ้านายจะได้ตอบอะไรเพืื่อนมอสผู้ที่ได้ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งจอมนิ่งของ
เจ้านายก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน ซึ่งเป็นอะไรที่ผิดวิสัยเงียบนิ่งปกติของเจ้าตัวไปมาก จนเจ้านาย
ถึงกับต้องหรี่ตามองหาสิ่งผิดปกติจากสายตาของเพื่อน.....หรือว่ามันจะไปรู้อะไรมา?

       "ว่าไงครับเพื่อน มึงจะอึ้งอีกนานมั้ย? ตอบกูมาสักทีครับ...กูอยากเสือก!!!" เลย์พูดเร่งพลางย้าย
ที่มานั่งลงข้างๆกับเจ้านายเพื่อเป็นการกดดัน

       "เออๆ ตอบแล้ว! เสือกจริงนะมึงหน่ะ! วันนี้น้องภีมมาส่งกู" เจ้านายว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก
ก่อนที่จะตอบสิ่งที่เพื่อนอยากรู้ออกไป เพราะเพียงแค่บอกออกไปนั้นทั้งมอสและเลย์ก็รู้ได้ทันทีว่า
น้องภีมที่ว่านั้นคือใคร เพราะว่าตลอดเวลาสองปีเกือบสามปีที่รู้จักและเป็นเพื่อนกันมาเจ้านายมัก
จะพร่ำเพ้อถึงว่าที่เจ้าสาวคนที่ชื่อน้องภีมของตัวเองมาตลอดเวลา เพียงแต่พวกเขายังไม่มีโอกาส
ได้เห็นหน้า เห็นรูป หรือรู้จักตัวเป็นๆของน้องภีมที่ว่านั่นเลย

       "อ่อ...ว่าที่เมียมึงที่ว่าไปเรียนอยู่นอกตั่งแต่ม.ปลายอ่ะหรอ? แล้วนี่เขากลับมาแล้ว?" เลย์ถามต่อ

       "หยาบคายไอ้เชี่ยเลย์!! เมียเมอที่ไหนกัน มึงอย่าไปพูดอย่างนี้ให้ใครได้ยินนะเว้ย โดยเฉพาะกับ
น้องภีมของกู เดี๋ยวน้องมันโกรธเอา" เจ้านายว๊ากพร้อมกับโบกหัวเพื่อนเข้าไปหนึ่งทีอย่างสวยงาม
อย่างไม่ค่อยชอบใจกับคำว่า 'เมีย' ของเลย์สักเท่าไหร่

       "เอ้า!! ไอ่นี่! ก็มึงบอกกูเองหนิว่าน้องเขาเป็นว่าที่เจ้าสาวของมึง ถ้าไม่ให้เรียกเมียแล้วจะให้
เรียกว่าอะไรว่ะ?  รึจะให้กูเรียกว่า 'ผัว'? ไอ้ห่านี่..." เลย์บ่นบอกพร้อมกับลูบหัวตัวเองป้อยๆ บริเวณ
ที่โดนเจ้านายตบไปเมื่อครู่นี้

       "ก็เออไง!!" เจ้านายตอบเสียงดังฟังชัดด้วยสีหน้านิ่งๆ

       "ห๊า/มึงว่าไงนะ" เมื่อได้ยินคำตอบจากปากเจ้านายมอสกับเลย์ถึงกับตกใจจนต้องร้องประสานเสียง
กันออกมา ทั้งที่มอสเองก็พอจะรู้เรื่องราวมาบ้างแล้วนิดหน่อยแต่ก็ตาม แต่ก็อดที่จะตกใจไม่ได้ที่
คนที่รักษาหน้าห่วงความแมนของตัวเองมากถึงมากที่สุดกลับมายอมรับว่าตัวเองนั้นเป็น 'เมีย' ของ
ใครบางคนอย่างหน้าตาเฉยอย่างไร้ความกระดากอายอย่างนี้.....นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนพวกเขาว๊ะ?

       "โอ๊ย..เชี่ย!! พวกมึงจะตะโกนใส่กูหาป้ามึงหรอครับเพื่อน จะตกใจห่าอะไรกันนักหนา มันมีอะไร
ที่ทำให้พวกมึงประหลาดใจอะไรกันขนาดนั้นครับเพื่อน!!" เจ้านายถามเพื่อนรักทั้งสองคนพร้อมกับ
ทำท่าเอียงคอแคะหูตัวเองอย่างกวนๆ

       "ก็ไอ้ที่มึงบอกว่ามึงเป็นเมียของว่าที่เจ้าสาวมึงไงครับไอ้เชี่ยนาย ที่ทำให้พวกกูตกใจอย่างงี้ไง
ไอ้ห่า....." เลย์พูดบอกพร้อมกับส่ายหน้าอย่างรับไม่ได้? หรือไม่เข้าใจ?

       "แล้วมันแปลกยังไงว๊ะ?" เจ้านายขมวดคิ้วถามเพื่อนกลับอย่างไม่เข้าใจ.....ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก
ตรงไหนเลยหนิหว่า เขาก็แค่เป็นว่าที่เจ้าบ่าวที่เป็นเมียของเจ้าสาวก็เท่านั้นเอง(เหรอออออ...?)

       "แปลกสิ! แปลกมากด้วย....มึงคิดดูนะไอ้นาย ว่าตั้งแต่มึงเกิดมาเนี่ย มึงเคยเจอหรือได้ยินข่าว
จากที่ไหนมาบ้างรึเปล่าว่า บ้านไหนเขามีเจ้าบ่าวที่รับหน้าที่เป็นเมียอย่างมึงหน่ะ!!" มอสพูดกับ
เจ้านายนิ่งๆด้วยสีหน้าเรียบเฉยกว่าปกติเพื่อบ่งบอกว่าเรื่องนี้เขาจริงจังไม่ได้พูดเล่นอย่างทุกที

       "ก็ไม่เคยนะ" เจ้านายครุ่นคิดอยู่นานก่อนที่จะตอบเพื่อนกลับไป

       "ก็ใช่ไง! แล้วอย่างงี้มึงจะมาบอกว่าน้องภีมน้องเภิมอะไรนั่นว่าเป็นว่าที่เจ้าสาวของมึงได้ยังไง
ครับเพื่อน!! โอ้ยยย...กูละงงกับมึงชิบหาย" ในที่สุดเลย์ก็ทนไม่ได้ จนต้องว๊ากออกมารอบนึงเพราะ
เขาเริ่มงงและสับสนกับคำพูดและความคิดของตัวเองในเรื่องของเจ้านายเต็มทน

       "ก็กูอินดี้ไง" เจ้านายกอดอกเชิดหน้าบอกอย่างภาคภูมิใจในความคิดของตัวเอง

       "ว่าแต่...มึงทำหน้าปริ่มขนาดนี้เนี่ย...มึงโดนน้องมันจิ้มแล้วรึยังว๊ะ? กูอยากเสือกว่ะ!" อยู่ดีๆ เลย์
ก็ถามคำถามที่ทำให้เจ้านายที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลักออกมา

       "เอ่อ...กู...เอ่อ...คือว่า..." เจ้านายไม่รู้จะตอบเพื่อนออกไปว่ายังไง เลยได้แต่อ้ำๆอึ้งๆ และเผลอ
ทำหน้าหลุกหลิก เลิ่กลั่กออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ นั่นยิ่งทำให้เพื่อนรักจอมเจ้าเล่ห์อย่างมอสยิ่งจับ
พิรุธเจ้านายได้อย่างไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลย

       "กูว่า...คงไม่เหลือ" มอสพูดบอกออกมาอย่างล้อเลียนด้วยเสียงเจ้าเล่ห์อย่างนึกสนุก ซึ่งเป็นอะไร
ที่ผิดวิสัยปกติของเจ้าตัวมาก

       "โว้ยยยยยย....สักเรื่องเถอะไอ้สัส!!" เมื่อไม่รู้ว่าจะตอบเพื่อนออกไปยังไง พี่เจ้านายคนแมนก็
ตะโกนโวยวายออกมาเพื่อกลบเกลื่อน(คิดว่ายังทัน?) ก่อนที่จะตัดสินใจลุกเดินออกไปจากตรงนี้เพื่อ
ที่จะหนีเพื่อนรักสองคนไปยังห้องเรียน......ก็แหม่! ถึงพี่นายจะเป็นคนที่แมนมากๆก็เถอะ...แต่จะมา
ให้พี่พูดเรื่องอย่างนี้กับเพื่อนรักปากหมาสองคนนี้ให้มันล้อเอา...พี่ก็อายเหมือนกันนะเว้ย!!! ปัดโธ่!!
.
.
.
.
.
       "อยู่ในรถก่อนนะมอมแมมเดี๋ยวพ่อมา...อย่าดื้อล่ะ!!" ภีมบอกกับเจ้าลูกชาย(สี่ขา)ตัวน้อยของ
ตัวเองที่กำลังนอนขี้เซาอยู่ที่เบาะหน้าข้างคนขับแทนที่เจ้านายแม่ของมัน เมื่อมาถึงบริเวรหน้าโรงแรม
ของตัวเอง และไม่ลืมที่จะเปิดกระจกหน้าต่างรถทั้งสองข้างไว้พอให้มีอากาศได้ถ่ายเถเข้าไปให้ลูกชาย
ของเขาได้นอนหายใจได้อย่างสบายๆ

       "ลุงชิดช่วยนั่งเฝ้าเจ้าตัวเล็กในรถให้ผมสักพักได้ไหมครับ เดี๋ยวผมขอเข้าไปคุยธุระกับคุณพ่อ
คุณแม่สักครู่นึง แล้วจะรีบมา" ภีมไม่ลืมที่จะพูดสั่งกับคนดูแลตกแต่งสวนประจำโรงแรมที่รู้จักกันดี
ด้วยถ้อยคำสุภาพ ไม่ถือตัวว่าตนนั้นเป็นเจ้านายเหมือนอย่างพนักงานในโรงแรมบางคนที่เป็นแค่
พนักงานเหมือนๆกันแต่ก็ทำข่ม พูดดูถูกแกแค่เพียงเพราะคนเหล่านั้นทำงานในห้องแอร์และลุงชม
ทำงานตากแดดตากลมอยู่ข้างนอกก็เท่านั้น.....ถ้าจะให้พูดตามจริง...มันก็ลูกจ้างเขาเหมือนกันหมด
นั่นแหละว้า.....น่าเบื่อจริงๆ กับพวกที่เป็นแค่ลูกเป็น แต่คิดจะยกตนเทียบชั้นหงษ์ฟ้า!!!

       "ได้เลยครับ...คุณภีมไม่ต้องเป็นห่วงเลยนะครับ เดี๋ยวทางนี้ลุงดูให้เอง" ลุงชมตอบรับด้วยความ
สมัครใจอย่างที่ไม่ลังเลเลยที่ตนจะต้องเปลี่ยนหน้าที่จะคนดูแลสวนมาเป็นคนดูแลไอ้ลูกหมาตัวน้อย
ที่มันกำลังนอนหลับสบายใจเฉิบอยู่บนเบาะรถคันหรูนี่แทน.....เฮ้อ! ไอ้หมาน้อยเอ้ย! เอ็งนี่มันวาสนาดี
กว่าคนอย่างข้าอีกเว้ย!! ฮ่าๆ
.
.
.
       "สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่.....ภีมคิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่จังเลย" ภีมยกมือขึ้นไหว้ทักทายพ่อแม่
ของตนก่อนที่จะเดินเข้าไปโอบกอดทั้งสองคนอีกครั้งด้วยความรักและคิดถึง

       "ฮื้ม...จริงเร้อ? แม่ว่าไม่น่าใช่หรอกมั้ง...เพราะถ้าน้องภีมคิดถึงแม่กับพ่อจริงๆอย่างที่พูดนี่ คงจะ
รีบกลับไปหาแม่กับพ่อที่ภูเก็ตตั้งแต่คุยกับเจ้านายรู้เรื่องแล้วหล่ะ...ไม่ขออยู่ต่ออย่างนี้หรอก" พัสกร
แกล้งพูดแหย่ลูกชายด้วยสีหน้าจริงจัง จนภีมเริ่มหน้าเสีย เพราะทุกอย่างที่พัสกรพูดออกมานั้นมัน
คือเรื่องจริงทั้งนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิดถึงคุณพ่อกับคุณแม่หรอกนะ เพียงแต่...เขาก็แค่ไม่อยากจะ
อยู่ห่างจากเจ้านายก็เท่านั้นเอง....

       "เอ่อ....."

       "พอแล้วครับคุณแม่ เลิกแกล้งลูกได้แล้วครับ ดูสิ! น้องภีมหน้าเสียแล้ว หึๆ" ณัฐภาสพูดปราม
ภรรยาที่ดูเหมือนว่กำลังอินกับบทคุณแม่น้อยใจลูกอยู่ จนเขาเริ่มจะสับสนแล้วว่าตกลงแล้วทั้งหมดนี่
คือ เรื่องจริง หรือ การแสดง...กันแน่!

       "คริๆ โอ๋ๆ คุณแม่ล้อเล่นครับน้องภีม...อย่าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อย่างนั้นสิ! แม่รู้น่าว่าช่วงนี้
เป็นช่วงที่แม่ต้องธรรมใจ เพราะลูกชายของแม่ ต้องดูแลพี่เจ้านายสุดที่รักของตัวเองก่อน" พัสกรบอก
ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์เหมือนว่ากำลังสนุก

       "โธ่....คุณแม่ก็!!" ภีมพูดไม่ออกไปต่อไม่ถูกเลยที่โดนแม่พูดล้อเรื่องจริงต่อหน้าต่อตาอย่างนี้

       "พัส..." ณัฐภาสเรียกชื่อภรรยาเสียงนิ่ง เพราะเขาเกรงว่า ถ้าขืนยังปล่อยให้คุณภรรยาสุดที่รักของ
เขา แกล้งพูดแหย่ลูกชายอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะพากันตกเครื่องเอา เพราะว่าเย็นนี้เขาและพัสกรยัง
ต้องไปงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าที่ภูเก็ตต่ออีก

       "หืม...ไม่เห็นจะต้องทำขรึมเลยนะฮะพี่ภาส?...อะๆ มีเรื่องอะไรจะคุยกับพ่อแม่ก็พูดมาเลยครับ
น้องภีม" พัสกรยู่หน้าใส่สามีเป็นเด็กๆเพราะถูกขัดใจ ก่อนที่จะหันมาถามภีมด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่าง
เป็นทางการ(เสียที?)หลังจากที่เล่นอยู่นาน.....ก็นะ! นานๆทีเขาจะได้เจอลูกชายของเขาคนนี้หนิ!!

       "เกี่ยวกับโรงแรมนี้หนะครับคุณพ่อคุณแม่ ภีมแค่อยากจะขอ........." ภีมเริ่มพูดถึงสิ่งที่ตนตั้งใจ
ที่จะมาปรึกษาและขอความคิดเห็นจากพ่อและแม่อย่างละเอียดตามที่ตนได้คิดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

       "อืม...พ่อก็ว่าดีเหมือนกันนะเพราะช่วงนี้ธุระกิจเกี่ยวกับแนวนี้กำลังมา เอาเป็นว่าถ้าภีมอยากจะ
ทำจริงๆ พร้อมเมื่อไหร่ก็เริ่มได้เลย พ่ออนุญาติ แล้วแต่ภีมเลย" ณัฐภาสพูดบอกหลังจากที่ฟังคำอธิบาย
ของความตั้งใจของลูกชายแล้วก็รู้สึกเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะในประเทศไทยนั้นยังไม่ค่อยมีโรงแรม
ในรูปแบบนี้รองรับนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่ามันอาจจะยุ่งยากไปหน่อย แต่ก็คงจะไม่เกินความ
สามารถของลูกชายคนเก่งของเขาไปได้หรอกมั้ง

       "ขอบคุณครับคุณพ่อ ^_^" ภีมบอกขอบคุณณัฐภาสแบบดีใจสุดๆ

       "เฮ้อ...ถ้าแม่ได้ผู้ชายน่ารักๆอย่างภีมมาเป็นแฟนเหมือนเจ้านายนะแม่คงจะไม่ต้องมาคอยปวดหัว
เรื่องสาวๆ ตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานจนมาถึงวันนี้หรอก" พัสกรอดไม่ได้ที่จะภูมิใจที่มีลูกชายที่หล่อ น่ารัก
แสนดี รักจริง และมีความสามารถอย่างภีม จึงพูดชมออกมาพร้อมกับที่พูดแซะแขวะสามีตัวเองไปด้วย
เพราะถึงแม้ว่าณัฐภาสจะถอดเขี้ยวเล็บเพลย์บอยโยนทิ้งไปตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีทั้ง
สาวแก่ สาวเล็ก แม่หม้าย พ่อหม้าย(?) ทั้งหลายมาหยอดขนมจีบ โปรยผ้าเช็ดน้ำหมากใส่อีก ซึ่งเป็น
อะไรที่คุณเมียและคุณแม่คนสวยอย่างพัสกรเอือมระอามากที่สุด!!~ อะไรมันจะหล่อปานนั้น!!

       "โธ่! หนูพัสก็! พี่ไม่ได้อะไรกับพวกเขาสักหน่อย" ณัฐภาสพูดบอกกับภรรยาด้วยสีหน้าปลงตก
เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะทำยังไงกับคนพวกนี้เหมือนกัน แต่ที่รู้ๆ คือตั้งแต่เกิดเรื่องตอนนั้น เขาก็ไม่เคย
คิดที่จะทำให้พัสกรภรรยาคนสวยสุดที่รักของเขาคนนี้เสียใจอีกเด็ดขาด...แต่ก็นะ! คนมันหล่ออ่ะ!!

       "เชอะ!!" พัสกรสะบัดหน้าหนีสามีแบบงอนๆ

       "ฮ่าๆ คุณแม่อย่ามัวแต่งอนคุณพ่อเลยนะครับ เดี๋ยวคุณพ่อเสียใจแย่เลย" ภีมพูดบอกพร้อมกับ
ลุกเดินเข้าไปนั่งกอดพัสกร

       "ก็ได้ๆ นี่แม่เห็นแก่น้องภีมนะเนี่ย! ว่าแต่...น้องภีมอยู่กับพี่นายเขา หนูลำบากอะไรมั้ยลูก?"
พัสกรถามด้วยความเป็นห่วงตามประสาของคนเป็นแม่ที่อยู่ห่างไกลจากลูกนานๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ว่าลูกคนที่ว่านี้คือภีม เพราะถ้านับตามความเป็นจริงแล้วเท่ากับว่า ภีมต้องออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
ตั้งแต่อายุสิบห้าปี รวมๆแล้ว กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ปาเข้าไปห้าหกปีเข้าแล้ว ซึ่งแตกต่างจากพี่น้องคนอื่นๆ
ที่จะได้กลับบ้านไปหาพ่อแม่ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หรือทุกๆปิดเทอมตลอดๆ พัสกรกับณัฐภาสจึงรู้สึก
เป็นห่วงความรู้สึกของภีมเป็นพิเศษ

       "โธ่...แม่ก็! แหย่คุณพ่ออยู่เรื่อยเลยนะครับ.....ส่วนเรื่องที่ว่าภีมมาอยู่กับเจ้านายแล้วไม่มีอะไร
ลำบากตรงไหนเลยครับ คุณแม่กับคุณพ่อไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ...แล้วภีมจะหาเวลาพาเจ้านาย
กลับไปเยี่ยมที่บ้านบ่อยๆ" ภีมพูดบอกด้วยสีหน้าเปื่ยมสุขพร้อมกับไม่ลืมที่จะกอดลาพ่อแม่ของตน
ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปตามทางที่ควรจะเป็นสักที หลังจากที่ทั้งคุณพ่ออย่างณัฐภาสและคุณลูก
อย่างภีมโดนคุณแม่พัสกรสุดสวยแกล้งแหย่แกล้งอำให้เสียวสันหลังเล่นไปตามๆ กัน





___________________________________________________________________________TBC.
แล้วเจอกันตอนหน้า......
**ไม่มีอะไรมากแค่จะบอกว่า 'คิดถึง...คนอ่าน' ที่สุด!!!

หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบแปด (16.04.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 17-04-2016 22:57:58
โอ๊ย...ตามทันแล้ว...คนเขียนจ๋า..อยากอ่านอีกสองแฝดด้วย...ถ้าเปิดเรื่องแล้วบอกด้วยนร๊า.เค้าจะตามไปอ่าน... :กอด1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบแปด (16.04.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-04-2016 23:30:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบแปด (16.04.59)
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 17-04-2016 23:48:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบแปด (16.04.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 18-04-2016 00:33:12
คุณแม่แซบมาก
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบแปด (16.04.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-04-2016 07:22:28
เจ้านายนี่อินดี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบแปด (16.04.59)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 23-04-2016 10:17:55
รอออจ้า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเก้า (06.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 06-05-2016 23:41:49

24/04/59

ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่สิบเก้า






       "โว้ย!!! ถ้าวันนี้น้องภีมยังไม่ยอมกลับมานอนบ้านอีกนะ กูจะมีผัวใหม่แมร่ง!!!" เจ้านายตะโกน
พูดออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดในขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างมอสและเลย์
ที่บ้านของตัวเองหลังจากที่พวกเขาทั้งสามคนมารวมตัวกันติวหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบปลายภาคใน
อีกสามสี่วันที่จะถึงข้างหน้านี้ และสาเหตุที่เจ้านายต้องมานั่งหงุดหงิดใจอยู่อย่างนี้ก็เพราะหลังจาก
วันนั้น...วันที่ภีมเข้าไปพูดขออะไรบางอย่างจากพ่อและแม่ของตัวเอง(โดยที่เจ้านายไม่รู้) จนมาถึงวันนี้
ก็กินระยะเวลาปาเข้าไปสองเดือนกว่าแล้ว ที่ชีวิตประจำวันของภีมก็ดูยุ่งเหยิงวุ่นวายมากขึ้นไปเป็นกอง
จึงทำให้ภีมเองไมค่อยมีเวลาให้คนรักอย่างเจ้านายมากอย่างที่ควรหรือเคยเป็นมา จึงทำให้พี่เจ้านายคนแมน
ของทุกคนหลุดแมนต่อมตุ๊ดแตก จนมอสและเลย์เพื่อนรักพากันลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าเพื่อนรักของพวกเขาอยู่
ในโหมด 'งอนผัว' นั่นเอง

       "มึงก็เข้าใจน้องมันหน่อย น้องมันต้องทำงานนะเว้ย" มอสพูดปลอบเพื่อนรักที่ตอนนี้ กำลังนั่ง
หน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างที่ไม่มีลูกน้องในสนามคนไหนกล้าเดินเข้ามาใกล้ลูกพี่ของตัวเองเลย

       "กูเข้าใจ...แต่ต่อให้ยุ่งแค่ไหนมันก็ต้องกับมานอนบ้านมั่งป่าวว่ะ?" เจ้านายยังคงสบถออกมา
ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

       "หรือว่าน้องมันจะมีชู้วะ?" เลย์หลุดพูดปากออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไม่ทันได้คิด

       ป๊าบ!!!

       "มึงตบหัวกูทำไมเนี่ย!!!" เลย์หันไปว๊ากใส่มอสที่นั่งข้างกันด้วยความไม่เข้าใจ เมื่อโดนมอส
ใช้มือใหญ่ๆอขงเจ้าตัวตบลงไปเต็มๆที่หัวทุยๆของเลย์

       "เพราะมึงปากหมาไง" มอสพูดบอกออกมาเสียงนิ่งพลางพยักหน้าชวนให้เลย์มองไปทางเจ้านาย
ที่ตอนนี้นั่งหน้าซึมเป็นลูกหมาถูกทิ้งไปแล้ว หลังจากที่ได้ยินคำพูดพล่อยๆของเลย์เมื่อสักครู่นี้

       "กูขอโทษที่ปากไม่ดีนะนาย มึงอย่าคิดมากเลย อย่างน้อยน้องมันก็โทรมารายงานตัวกับมึงอยู่
ทุกๆ วันไม่ใช่หรอ" เลย์พูดปลอบเพื่อนด้วยความรู้สึกผิดโดยใช้เหตุผลอ้างอิงมาจากความจริงที่ได้รับรู้
ในช่วงหลายๆวันที่ผ่านมาว่า ถึงแม้ว่าตัวของภีมจะไม่ได้กลับมานอนกลับเจ้านายที่บ้าน แต่ภีมก็ยังคง
ใส่ใจที่จะไม่หลงลืมหรือละเลยเจ้านาย โดยการที่โทรมารายงานตัวกับ(โทรเช็ค)เจ้านายในทุกๆวัน

       "เออ...ช่างมันเถอะ มึงไม่ผิดหรอก คนผิดนั่นมันไอ้คนที่ไม่ยอมโผล่หัวมาให้กูเห็นหน้าต่างหาก
คอยดูนะถ้าคืนนี้ยังไม่ยอมกลับมานอนบ้านอีก กูจะมีผัวใหม่แมร่งจริงๆ เล๊ย!!!!" เจ้านายพูดบอก
ออกมาอย่างหงุดหงิด เพราะยังคงคิดมากอยู่กับคำพูดของเลย์ ที่ว่าเจ้านายจะมีคนอื่น จึงพูดประชด
ออกมาเช่นนั้น

       "ผมได้ยินแว่วๆ ว่าใครจะมีชู้มีกิ๊กอะไรกันนะครับ เมื่อกี้้นี้ฟังไม่ชัดเลย...หื้ม?" ภีมในชุดสูทดู
ภูมิฐานเกินวัยเดินถอดเนคไทให้หลุดออกจากคอ เข้ามานั่งข้างๆ เจ้านายพร้อมกับพูดถามเสียงขรึม

       "อะ...เอ่อ" เจ้านายตะกุกตะกักอย่างไม่รู้จะหาคำพูดแก้ตัวว่าอะไรดี เมื่อเห็นสายตารู้ทัน แบบดุๆ
ของคนรักอย่างภีม ที่เหมือนกับมีบางสิ่งบางอย่างบอกผ่านเขามาจากสายตานั้นด้วยว่า 'ตอบให้ดีนะ'
'ไม่งั้นโดน' อะไรประมาณนี้

       "ว่าไงครับ?" เจ้านายเร่งถามพลางพาดแขนวางบนพนักพิงโซฟา เหมือนกับโอบเจ้านายกลายๆ

       "ไอ้เลย์ไง!! ใช่ๆ ไอ้เลย์มันบอกว่ากิ๊กคนล่าสุดของมันง้องแง้งน่าลำคาญ มันเลยจะหาชู้ไว้ดูเล่น
อีกสักคนสองคน" และแล้วเจ้านายก็หาคำพูดเอาตัวรอดไปจนได้ โดยที่มีเพื่อนรักอย่างมอสและเลย์
เบะปากส่ายหน้ากันอย่างเอือมระอากับพี่นายคนแมนคนนี้เสียจริง ที่ตอนแรกก็ดูเหมือนว่าจะเป็น
ผู้นำเป็นช้างเท้าหน้าให้กับชีวิตรักชีวิตครอบครัวของเจ้าตัวอยู่หรอก แต่ไหงพอน้องภีมสุดที่รักของมัน
กลับมาปุ๊บมันก็กลายเป็นลูกไก่ในกำมือ กลายเป็นคนย 'กลัวผัว' อย่างงี้ไปเสียล่ะ! เจ๋งจริงเน๊าะมึง!!
.
.
.
.
.
       "นาย...สอบเสร็จแล้วปิดเทอมเลยรึเปล่า?" ภีมถามในขณะที่จอดรถอยู่หน้าคณะของเจ้านาย
เพราะวันนี้ภีมมาส่งเจ้านายที่มหาวิทยาลัยเหมือนทุกทีเพราะเจ้านายมีสอบเป็นวันสุดท้าย.....ไม่รู้
ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คำว่าพี่เจ้านายที่ภีมเคยเรียกมันหายไปจากการสนทนาของทั้งสองคน และเหลือ
เพียงแต่ชื่อเล่นเท่านั้นที่ใช้เรียกกัน อาจจะเป็นเพราะความรักและความรู้สึกของภีมจะส่งถึงเจ้านาย
ให้ได้รับรู้ก็เป็นไปได้ ว่า ณ ขณะนี้ เขาทั้งสองคนไม่ใช่พี่น้องกันอีกต่อไปแล้ว

       "อื้อ! สอบเสร็จแล้วก็ปิดเลยภีมมีรัยหรอ?" เจ้านายถามกลับ

       "ภีมว่าจะกลับไปอยู่ที่บ้านสักพักนึง...ดีมั้ย?" ภีมบอกพร้อมกับถามความเห็นจากคนรัก

       "ดีสิ!! พี่คิดถึงป๋ากับแม่จะแย่แล้ว เรากลับกันพรุ่งนี้เลยนะ...นะๆ" เจ้านายพูดบอกออกมา
ด้วยความดีใจ ก่อนจะพูดอ้อนออกมาเพราะเขาอยากจะกลับไปหาแม่ธารจ๋าของเขาวันนี้พรุ่งนี้เลย

       "ครับๆ ยังไงวันนี้เดี๋ยวภีมจะฝากมอมแมมไปกับรถของโรงแรมที่จะเอาของไปส่งที่สาขาภูเก็ตเลย
ก็แล้วกันนะ พรุ่งนี้เราจะได้นั่งเครื่องตามไปเลย" ภีมบอกในสิ่งที่เขาวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว
ให้เจ้านายฟัง เพียงแต่...เขาแค่บอกไม่หมดก็เท่านั้นเอง!

       "อื้อ ถ้างั้นพี่ไปสอบก่อนนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะโทรหา...จุ๊บ!" เจ้านายดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือก่อนที่
จะบอกลา เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาที่ตนจะต้องเข้าห้องสอบแล้ว โดยที่ไม่ลืมที่จะจุ๊บปากคนรักส่ง
ท้ายอีกทีแบบเน้นๆ 
.
.
.
       "ผมมารับผลตรวจเลือดครับ" หลังจากที่ส่งเจ้านายเข้าห้องสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภีมก็ขับรถ
ตรงมายังโรงพยาบาลที่ตนกับเจ้านายได้มาตรวจเลือดทิ้งไว้เมื่อสามวันก่อนตามคำสั่งของป๋าเจ้าคุณ
ทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าคุณป๋าเจ้าคุณของพี่นายคนแมนนั้นกลัวว่าเขาจะเอาโรคมาติดลูกชายสุดที่รัก
ของตัวเอง เลยสั่งให้ทั้งเขาและเจ้านายให้พากันมาตรวจเลือดและเอาผลตรวจกลับไปให้เจ้าตัวดูที่
ภูเก็ตด้วย ไม่เช่นนั้นคุณป๋าขาโหดเขาจะไม่ยอมยกลูกชายสุดที่รักให้เด็ดขาด.....เหอๆ เขาละเพลีย
กะคุณพ่อตาจริงๆ

       "กรุณาแจ้งชื่อด้วยค่ะ" พยาบาลพูดบอกด้วยเสียงสุภาพ

       "พีรภัทร อัครจินดากรณ์ กับ ชลธาร ยศวโยธินครับ" ภีมบอกทั้งชื่อจริงของตนและเจ้านายไป

       "เอ่อ..คือ..คุณหมอท่านแจ้งดิฉันไว้ว่าถ้าคุณมารับผลเลือดให้เชิญคุณเข้าไปคุยกับท่านก่อนน่ะค่ะ
เพราะท่านมีเรื่องจะแจ้งให้คุณทราบเป็นการส่วนตัวค่ะ" คุณพยาบาลเธอเช็คบางอย่างจากหน้าจอคอม
พิวเตอร์ประจำตำแหน่งของเธอ ก่อนที่จะพูดบอกให้ภีมได้ทราบ

       "ได้ครับ ว่าแต่ตอนนี้ท่านอยู่ไหนละครับ?" ภีมถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสุภาพเช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่า
เริ่มจะไม่ค่อยพอใจกับสายตาแปลกๆของนางพยาบาลคนนี้ที่มองตัวเองแล้วก็ตาม

       "เชิญทางนี้เลยค่ะ" เธอบอกพร้อมกับเดินนำเข้าไปในห้องตรวจส่วนตัวของคุณหมอที่ว่านั่น

       ก๊อก...ก๊อก

       "คุณหมอคะ คุณพีรภัทร คนที่คุณหมอแจ้งดิฉันไว้มาแล้วค่ะ" เธอบอกกับคุณหมอของเธอ

       "อ่อ..ขอบคุณมากครับคุณพยาบาล เชิญคุณไปทำหน้าที่ของคุณได้เลยครับ.....สวัสดีครับ
คุณพีรภัทรเชิญนั่งก่อนครับ" คุณหมอสูงวัยบอกกับนางพยาบาลผู้ช่วยของตนก่อนที่จะ หันมาทักทาย
กับภีมเมื่อนางพยาบาลคนนั้นได้ออกจากห้องไปแล้ว

       "สวัสดีครับคุณหมอ ไม่ทราบว่าผลตรวจของผมและคนรักมีอะไรผิดปกติไปหรือเปล่าครับ" ภีมเอ่ย
ถามเข้าเรื่องทันที เพราะปกติแล้วแค่มารับผลตรวจเลือดธรรมดาๆ เขาไม่จำเป็นต้องมาพบหมออย่างนี้
เลย แค่มารับผลตรวจก็กลับบ้านได้แล้ว หรือว่าเขากับเจ้านายมีตรงไหนผิดปกติไปจนหมอต้องเรียกพบ
อย่างนั้นหรือ? รึยังไง?

       "ใจย็นๆครับ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกครับ เพียงแต่ผมแค่อยากจะแนะนำให้คุณและคนรัก
ของคุณได้เตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องถูกวิธีเท่านั้นเองแหละครับ" คุณหมอสูงวัยรีบ
พูดบอกออกมา เพราะกลัวว่าภีมจะเข้าใจไปคนละทางกับสิ่งที่ตนจากบอกต่อจากนี้

       "แล้วตกลงคุณหมอเรียกผมมาพบอย่างนี้เพื่อที่ต้องการจะบอกอะไรกันแน่ครับ?" ภีมภามต่อ

       "ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ ก็แค่......"
.
.
.
.
.
เช้าวันต่อมา.....

       "นี่มันไม่ใช่ทางไปสนามบินนี่ หรือว่าภีมจะไปไหนก่อนหรอ?" เจ้านายเอ่ยถามในขณะที่กำลัง
นั่งอยู่บนรถบริการนักท่องเที่ยวของโรงแรมในเครือจินดากรณ์ที่ภีมสั่งให้มารับตนและเจ้านายไปส่ง
ที่สนามบิน(ตามที่เจ้านายรู้) เพราะว่าการกลับบ้านครั้งนี้ภีมตั้งใจจะไปอยู่ที่บ้านนานหลายเดือน
เกินกว่ากำหนดการณ์เก่าที่ตนได้บอกกับเจ้านายไว้ จึงให้คนขับรถของโรงแรมมารับ เพราะไม่อยาก
จะเอารถไปจอดไว้ที่สนามบินนานๆอย่างนั้น

       "ปิดตาก่อนสิ แล้วจะบอก" ภีมพูดบอกพร้อมกับหยิบผ้าปิดตาที่เตรียมเอาไว้ออกจากกระเป๋า
กางเกงของตัวเอง เอามาผูกปิดตาคนรักไว้

       "อะไรอ่า...บอกก่อนไม่ได้หรอ" เจ้านายพูดบอกออกมาอย่างรนๆ เพราะกลัวว่าจะโดนคนรักแกล้ง
แต่ก็ไม่ได้เอาผ้าปิดตาออกแต่อย่างใด

       "ความลับ" ภีมกระซิบบอกข้างหูของเจ้านายเบาๆด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ที่เจ้านายไม่สามารถมองเห็นได้

       "นิดนึงก็ไม่ได้หรอ" เจ้านายพูดต่อลอง

       "แค่นิดเดียวก็ไม่ได้ครับ" ภีมยังคงยืนยันคำเดิม

       "ใจร้ายว่ะ!!" เจ้านายสบถออกมาอย่างเหวี่ยงๆ

       "ปะ..ถึงแล้ว เราลงกันเลยดีกว่า" ภีมบอกพร้อมกับเปิดประตูลงจากรถ ก่อนที่จะรีบเดินอ้อมไป
เปิดประตูรถทางฝั่งของเจ้านายเพื่อที่จะพาเจ้านายลงจากรถ เพราะเจ้านายมองไม่เห็น เขาจึงต้อง
เป็นคนนำทางให้คนรักจนกว่าเจ้านายจะสามารถเปิดตาได้

       "ตรงนี้เป็นขั้นบันไดเจ้านายระวังด้วยนะ" ภีมบอกเสียงนุ่ม พร้อมกับที่ค่อยๆ เดินจูงมือพาเจ้านาย
ขึ้นบันได้ที่เจ้าตัวบอก

       "ถึงแล้วใช่มั้ย พี่เปิดตาเลยนะ" เจ้านายโพล่งบอกออกมาเมื่อเห็นว่าภีมหยุดเดินแล้ว เพราะเขา
ไม่ชอบที่จะโดนปิดตาอย่างนี้ มันรู้สึกแปลกๆ เลยพาลอยากให้หงุดหงิดไปหมด

       "ยังครับ รอก่อนนะ อีกแป๊บเดียว" ภีมพูดห้ามพร้อมทั้งใช้มือของตัวเองห้ามไม่ให้เจ้านาย เปิดผ้า
ปิดตาออกในตอนนี้ ก่อนที่จะหันไปพยักหน้าส่งสัญญาณบางอย่างไปให้กับใครบางคนที่เตรียมพร้อม
รอพวกเขาอยู่แล้ว

       "ภีมจะเปิดผ้าออกแล้วนะครับ...คนดี" ภีมเดินไปหยุดยืนอยู่ข้างหลังเจ้านาย พร้อมกับเอื้อมมือ
เข้ามาข้างหน้าเพื่อเปิดผ้าปิดตาให้คนรักอย่างช้าๆ

       "นะ..นี่มัน...นี่มันอะไรกันภีม เลย์ มอส พวกแกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" เจ้านายพูดถามออกมาอย่าง
ไม่เข้าใจ เมื่อภีมเปิดผ้าปิดตาออกให้เขาแล้วสิ่งแรกที่เขาเห็นคือ ลอบบี้ของโรงแรมขนาดใหญ่ที่มีชื่อ
และสัญญาลักษณ์ของโรงแรมในเครือจินดากรณ์หนึ่งในธุรกิจหลักของที่บ้านภีม แต่มันไม่เหมือนเดิม
เพราะมันแตกต่างไปจากที่เขาเคยเห็นเมื่อก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิง โรงแรมที่เคยคงความวิจิตงดงาม
ของอัญมณีผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างเรียบหรูและงดงาม ที่ตอนนี้ได้แปลเปลี่ยนไปเป็นแนวสีสัน
สดใส อัญมณีที่เคยเรียบหรู ก็กลายเป็นอัญมณีรูปสัวต์เลี้ยงต่างๆ ได้อย่างน่ารักและลงตัว รวมไปถึง
เพื่อนรักทั้งสองคนของเขาอย่างเลย์และมอสที่มันสตรอโกหกเขาว่าวันนี้พวกมันไม่ว่าง แต่กลับมายืน
เสนอหน้าอยู่ที่นี่ตรงนี้

       "ของขวัญวันเกิดของเจ้านายปีนี้ไงครับ" ภีมพูดบอกพร้อมกับโอบกอดเจ้านายจากข้างหลัง

       "ของขวัญวันเกิด? ทั้งหมดนี่เลย?" เจ้านายเอี้ยวคอถามคนรักอย่างไม่อยากจะเชื่อหูกับสิ่งที่ตน
ได้ยิน.....นี่มัน...โรงแรมทั้งโรงแรมเชียวนะเว้ย!!

       "ครับ...ทั้งหมดนี่เป็นของเจ้านายเลย" ภีมพูดย้ำให้เจ้านายมั่นใจอีกครั้ง

       "ไม่เอาได้มั้ย?" เจ้านายถามพลางมองไปรอบๆ อย่างสำรวจ

       "ไม่ได้ครับ เพราะภีมตั้งใจทำมาเพื่อเจ้านาย"

       "แต่มันมากเกินไป แล้วอีกอย่างนี่มันเป็นกิจการของที่บ้านภีมเลยนะ คนอื่นเขาจะว่ายังไง" เจ้านาย
พูดเถียงพลางนึกไปถึงคนอื่นๆในครอบครัวของภีมว่าถ้าได้รู้ว่าภีมมายกโรงแรมให้เขาทั้งโรงแรมอย่างนี้
เขาจะว่ายังไงกัน จะมองว่าเขามาหลอกหรือเป็นคนเห็นแกได้รึเปล่า?

       "ไม่ใช่ครับ ที่นี่ไม่ใช่ของที่บ้านภีม แต่มันเป็นของเจ้านายเป็นของเราต่างหาก เจ้านายสังเกตุดูดีๆสิ
ว่าตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในโรงแรมจินดากรณ์ของพ่อภาสนะ แต่เราอยู่ในมอมมี่คาเฟ่แอนด์เฮาส์ของเรา
ต่างหากล่ะ และโรงแรมของคุณพ่อก็ยังตั้งอยู่ที่เดิมตรงนั้นไงเห็นมั้ย? ภีมแค่ซื้อโรงแรมข้างๆ ติดกันกับ
โรงแรมพ่อภาสเอามาปรับปรุง เปลี่ยนโน่น เติมนี่ให้มันเป็นของเรากับมอมแมมต่างหากล่ะ" ภีมพูด
อธิบายพร้อมกับชี้ชวนให้เจ้านายดูว่าโรงแรมในเครือจินดากรณ์ของณัฐภาสยังอยู่ที่เดิม เพียงแต่เขาทุบ
กำแพงให้มันทะลุถึงกันกับคาเฟ่เฮาส์ของเขาก็เท่านั้นเอง ไม่ได้เอาโรงแรมของพ่อแม่มาโมเมอย่างที่
เจ้านายเข้าใจผิดคิดไปเองซักหน่อย และสิ่งที่เขาคุยกับพ่อแม่ของเขาในวันนั้นก็คือเรื่องที่เขาคิดจะสร้าง
ที่นี่ เพิ่มเติมให้เป็นโรงแรมเดียวกันกับของที่บ้านนั่นแหละ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่จะมาเข้าพัก
ให้ได้หลายๆ แนวด้วย ไม่ใช่รองรับแค่นักท่องเที่ยวไฮโซหรือนักธุรกิจเพียงเท่านั้น

       "เรากับมอมแมม?" เจ้านายไม่เข้าใจว่าโรงแรมนี้มันเกี่ยวกับเจ้ามอมแมมหมาน้อยของพวกเขา
แต่อย่างใด

       "ใช่ครับ ของเรากับมอมแมม เพราะภีมตั้งใจจะสร้างที่นี่ให้เป็นสวรรค์ของคนรักสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะ
เป็นการกิน นอน เที่ยว เล่น พักผ่อน หรือแม้แต่สปา ลูกค้าก็สามารถทำกิจกรรมนั้นๆ ร่วมกันกับสัตว์
เลี้ยงของตัวเองอย่างที่เราทำร่วมกันกับเจ้ามอมแมมไง" ภีมอธิบายให้คนรักเข้าใจ

       "ดีจังน้า~" เจ้านายพึมพำออกมาอย่างลืมตัว สายตาก็จับจ้องไล่เรียงไปกับส่วนต่างๆ ของโรงแรม
อย่างสนอกสนใจ

       "รู้อย่างนี้แล้ว เจ้านายจะรับของขวัญวันเกิดชิ้นนี้ที่ภีมตั้งใจทำให้ได้รึยังครับ" ภีมถามย้ำอีกครั้ง

       "อื้อ!!" เจ้านายตอบรับในลำคอ

       "ถ้าอย่างนั้นก็...." อยู่ดีๆ ภีมก็หยุดพูดไปเฉยๆ พร้อมกับพยักหน้าส่งสัญญาณไปให้มอสกับเลย์
ที่ยืนรออยู่แล้ว

       "มอมแมมครับ!! ออกมาได้แล้วลูก!! แม่เค้ายอมเราแล้ว!!!" ภีมตะโกนเรียก พร้อมๆ กับที่มอส
และเลย์เปิดฉากถอยตัวออกจากสิ่งที่ตนยืนปิดทางขวางอยู่ตั้งแต่แรก เพื่อที่จะให้ตัวเอกของงาน
ออกมาโชว์ตัวสักที

       บ๊อก!! บ๊อก!!

       "ไง~ ไอ้ลูกหมาไหนบอกว่าไปภูเก็ตตั้งแต่เมื่อวานแล้วไงฮึ!!!" เจ้านายมองลูกน้อยสี่ขาของตัวเอง
ด้วยความประหลาดใจ เพราะคิดว่าภีมส่งมอมแมมกลับภูเก็ตไปกับรถโรงแรมตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
แต่ทิ้งตัวนั่งคุกเข่ารอรับเจ้าลูกหมาที่กำลังวิ่งตรงมาหาตัวเองด้วยขาสั้นๆ ด้วยรอยยิ้ม

       "ยังกลับไปไม่ได้หรอก เพราะมอมแมมยังทำภารกิจไม่เสร็จ" ภีมทิ้งตัวนั่งลงคุกเข่าข้างกันกับคนรัก
พูดบอกพลางขยี้หัวเจ้าหมาน้อยบนตักของเจ้านายอย่างเอ็นดู

       "ภารกิจ?" เจ้านายทวนคำพูดภีม พร้อมทั้งเลิกคิ้วถามคนรัก

       "ครับ ภารกิจ...มอมแมมยังต้องอยู่ทำภารกิจลูกชายที่แสนดีให้ภีมอยู่ / ไปมอมแมมไปเอาของที่
เตรียมไว้มาได้แล้ว!!!" ภีมบอกกับคนรักก่อนที่จะหันไปพูดสั่งกับเจ้าหมาน้อยลูกรัก

       บ๊อก!!

       เจ้าหมาน้อยมอมแมมเห่ารับคำคุณพ่อภีมของเจ้าตัวเสียงดัง พร้อมกับที่วิ่งหายกลับไปทางเดิม
ที่มันพุ่งออกมาเมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่จะวิ่งคาบอะไรบางอย่างติดปากมันออกมาด้วย

       "นะ..นี่มัน...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!" เจ้านายกำสิ่งที่เจ้ามอมแมมนำมาวางบนมือของตัวเอง
ไว้แน่น สองตาแดงก่ำ ด้วยความไม่เข้าใจ

       "แต่งงานกันนะครับ" ภีมหยิบกล่องกำมะหยี่รูปหัวใจสีแดงในมือของคนรักออกมาเปิดให้เจ้านาย
ได้เห็นสิ่งของที่อยู่ในนั้น นั่นก็คือแหวนทองคำฝังเพชรเม็ดงามที่คุณแม่พัสกรทำไว้ให้สามแฝดนั่นเอง
ก่อนจะพูดบอกออกมาด้วยเสียงนุ่มทุ้ม

       บ๊อก!! บ๊อก!!

       เด็กน้อยสี่ขามอมแมมลูกรักของทั้งสองคนเห่าออกมาท่ามกลางความเงียบ พร้อมทั้งกระโดดใส่
เจ้านายเบาๆ เหมือนกับว่ามันต้องการที่จะเร่งให้เจ้านายรีบตอบรับคำขอของคุณพ่อภีมสุดหล่อของ
มันออกมาเสียที หลังจากที่เจ้านายนั่งก้มหน้านิ่งเงียบอยู่นานสองนาน

       "ว่าไงครับ? แต่งงานกันนะ" ภีมเองก็พูดเร่งคนรักออกมาอีกครั้ง

       "แต่งก็แต่งสิวะ!! เร่งกันอยู่ได้!! ไอ้หน้าหมาเอ้ย!!! ฮื้อออออ...." เจ้านายโพล่งบอกออกมาเสียงดัง
ด้วยความขัดเขิน ความปลื้มปริ่ม พร้อมกับรีบหันหน้าเข้าซุกออกกอดคนรักไว้แน่น เพราะไม่อยากให้
ใครเห็นน้ำตาคนแมน(?) ของตนเพราะเจ้าตัวเก็บความตื้นตันไว้ไม่ไหวจนเผลอร้องไห้โฮออกมาอย่าง
ที่หยุดตัวเองไว้ไม่ได้

       บ๊อก!! บ๊อก!! บ๊อก!!!

       เหมือนกับว่าเจ้ามอมแมมมันจะรับรู้ได้ว่าพ่อแม่ของมันกำลังมีความสุข มันจึงกระโดดเห่าไปมา
เสียงดัง จนมอสและเลย์ที่ได้รับเชิญมาเป็นตัวประกอบในวันนี้พากันวิ่งไล่จับมันกันไม่หวัดไม่ไหว






______________________________________________________________________________TBC.
เนื่องจากว่าหญิงมี่น้อยหอยสังข์ของพวกเราไม่สะดวกที่จะมาลงนิยายเองได้
กระผมนายนิกกี้สุดหล่อเพื่อนรักที่ได้รับมอมหมายมาจากมันอีกที
จะขอชี้แจงในส่วนของนิยายที่มันฝากมาบอกว่า มันเคยบอกคนอ่านไปแล้วว่า
เรื่องของสามแฝดนั้นจะเป็นแบบสั้นๆ ไม่เกินสิบตอน แต่มันก็แต่งลากยาวมาจนถึงตอนนี้
จึงอยากจะบอกว่าภาคแรกนี้จะจบลงในตอนหน้านี้แล้ว และเราจะลงภาคต่อไปในนี้เลย
จะไม่แยกเรื่องออกไปอีก เพื่อความสะดวกในการอ่านของทุกคน จบ!! แยก!!  #นิกกี้..ลงแทน
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเก้า (06.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 07-05-2016 01:42:12
สนุกมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเก้า (06.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 07-05-2016 08:54:51
อิอิ พี่เจ้านายดีใจจนน้ำตาไหล
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเก้า (06.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-05-2016 16:19:45
หายไปนานมาก!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเก้า (06.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-05-2016 21:30:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่สิบเก้า (06.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 08-05-2016 22:57:06
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 23-05-2016 03:41:47

ภาคเรียนที่หนึ่ง...บทที่ยี่สิบ





7 เดือนต่อมา

       ท่ามกลางความเงียบสงบและบรรยากาศที่คลุ้งเต็มไปด้วยกลิ่นยาซึ่งเป็นเหมือนกลิ่นเฉพาะของ
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในจังหวัดที่ควรจะสงบเงียบอย่างที่ควรจะเป็น แต่คืนนี้กลับแลดูวุ่นวายไปหมด
เมื่อทางโรงพยาบาลต้องต้อนรับคนไข้ที่เป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวของสองตระกูลใหญ่
ที่เปรียบเป็นเหมือนขั้วอำนาจที่ช่วยขับเคลื่อนเศรฐกิจและรายได้ของประเทศทางตอนใต้ได้อย่างดีเยี่ยม

       "อะ...อื้อออ...ปวดท้องจะตายห่าอยู่แล้วจะวัดอะไรนักหนาเนี่ยคุณนางบาล....โอ๊ยยยย....." ถึง
ปากเจ้าตัวจะพูดออกมาเจ็บอย่างนั้นปวดอย่างนี้ แต่เจ้านายน้อยตัวแสบของทุกคนก็ยังสามารถแซะ
แขวะนางพยาบาลที่มือกำลังทำหน้าที่เช็คความดันให้ตัวเองแต่ตาเจ้าหล่อนกลับมองภีมด้วยสายตา
หยาดเยิ้มได้อย่างเจ็บแสบ.....ถึงพี่จะเจ็บท้องเจียนตายแค่ไหน...พี่ก็ยัง 'หวงผัว' อยู่นะอีน้องนาง!!!

       "แล้วหมออ่ะ! จะลูบๆ คลำๆ ตัวเมียผมอีกนานไหมครับ?" จบคำพูดของคนเป็นเมียได้ไม่ถึงอึดใจ
สามี ที่ได้สิทธิเข้ามาให้กำลังใจภรรยาถึงในห้องคลอดแห่งนี้ก็เอ่ยพูดออกมาเสียง เข้ม เมื่อเห็นว่า
คุณหมอหนุ่มไม่ทำหน้าที่ของตัวเองสักที เอาแต่ลูบๆ คลำๆ เนียนจับตัวมียเขาอยู่ได้! คนจะคลอดลูกนะ
ไม่ได้มานอนดิ้นไปมาเป็นเมียงูให้ใครดูเล่น ถึงได้คิดจะลูบจะคลำตามสบายกันอย่างนี้! ปัดโธ่!!!
ลูกก็จะออก..เมียก็จะคลอด...หมอแมร่งก็มัวแต่คลำ...พยาบาลก็เอาแต่จ้องมองหน้าหล่อๆของผัวคนไข้
ให้มันได้อย่างนี้สิครับ!!! พระเอกอย่างภีมละอยากจะบ้า!!!

       "เอาละ เดี๋ยวหมอจะเริ่มผ่าเอาน้องออกมาแล้วนะครับคุณแม่" คุณหมอหนุ่มพูดบอกในขณะที่
กำลังจะลงมีดกรีดผนังท้องของเจ้านายเพื่อทำคลอดเจ้าตัวน้อยในท้องออกมา หลังจากที่ทำการบล็อก
เสร็จเรียบร้อยแล้ว

       "จะผ่าก็ผ่าสักทีสิหมอ!! พูดอยู่ได้!! คนยิ่งกลัวๆ อยู่!!!" เจ้านายพูดโวยออกมาเสียงดังลั่น ทั้งที่
สภาพของเจ้าตัวตอนนี้แทบดูไม่ได้ หน้าซีด ตัวสั่น เหงื่อไหลย้อย เพราะเผลอไปคิดจิตนาการตอนที่
คมมีดกรีดลงบนหน้าท้องของตัวเอง ทั้งๆ ที่ตอนนี้เจ้าตัวไม่รู้สึกอะไรแท้ๆ

       "ครับๆ" หมอหนุ่มรับก้มหน้าทำหน้าที่ของตัวเองไปอย่างรวดเร็วที่โดนคุณแม่คนสวยขาร็อคว๊าก
ใส่เข้าให้หลังจากที่นิ่งเงียบให้เขาคลำให้สามีของเจ้าตัวเขม่นอยู่นานสองนาน(มันใช่เวลามั้ยหมอ?)

       "ใจเย็นครับที่รัก อย่าเครียดนะครับ เดี๋ยวลูกก็ออกมาแล้ว" เดือดร้อนภีมที่ยืนเป็นกำลังใจให้คนรัก
อยู่ข้างเตียงผ่าตัดต้องรีบลูบหัวพูดปลอบเจ้านายเป็นการเร่งด่วนด้วยเสียงอบอุ่นนุ่มทุ้ม เพราะเกรงว่า
ค่าความดันของเจ้านายจะพุ่งขึ้นสูงเกินไปเสียก่อนที่จะเห็นหน้าลูก

       แอ๊...แอ๊...แอ๊!!!!!!

       "ออกมาแล้ว...น้องเป็นผู้หญิงยินดีด้วยนะครับ" หมอหนุ่มพูดบอกก่อนที่จะส่งเจ้าตัวน้อยที่เป็น
ดวงใจของเจ้านายและภีมส่งไปให้พยาบาลทำความสะอาดตัวให้ก่อนที่จะนำมาให้พ่อแม่อย่างภีม
และเจ้านายได้เห็นให้ชื่นใจ ส่วนตัวเองก็ทำหน้าที่เย็บปิดผนังหน้าท้องของเจ้านายต่อไป

       "ละ...ลูก...ภีมลูก...ลูกของเรา...ฮึก!!" เจ้านายจ้องมองเจ้าหญิงตัวน้อยในห่อผ้าด้วยน้ำตา
น้ำตาแห่งความดีใจและตื้นตันใจ เป็นน้ำตาที่หลั่งออกมาเพราะเจ้าตัวมีความสุขมากเกินกว่าที่
จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ทั้งหมดของความรู้สึกที่อยู่ในหัวใจ

       จุ๊บ...

       "ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเราครับเจ้าหญิง 'ของขวัญ' ของคุณพ่อ" ภีมก้มลงจูบหน้าผาก
ลูกสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเจ้านายอย่างแผ่วเบาด้วยความทะนุทะถนอมราวกับว่าผิวเนื้อนุ่ม
ของลูกสาวจะแตกสลายได้ง่ายๆ เหมือนกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเสียอย่างนั้น ที่แค่เผลอสัมผัส
แรงไปก็จะเกิดรอยหรือเสียหายเอาได้

       จุ๊บ.....

       "ขอบคุณนะครับที่รักสำหรับของขวัญที่แสนพิเศษชิ้นนี้" จากที่รับขวัญลูกสาวเสร็จภีมเปลี่ยนทาง
ย้ายทิศไปแนบริมฝีปากจูบลงเบาๆ ที่หน้าผากคนเป็นแม่อย่างเจ้านายแผ่วเบาแทนคำขอบคุณที่
เจ้านายสู้อดทนอุ้มท้องเจ้าหญิงตัวน้อยของเขาสองคนมาอย่างยากลำบากตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ขอบคุณที่เจ้านายยอมให้เขาเป็นคนดูแลหัวใจของเจ้าตัว ขอบคุณที่เจ้านายทำให้ทุกๆ วันของเขาได้
มีความสุขมากกว่าใครทั้งหมดในโลกใบนี้
.
.
.
.
.
ภายนอกห้องผ่าตัดทำคลอด

       "เมื่อไหร่หมอจะออกมาวะเนี่ย!! เข้ากันไปนานแล้วนะเว้ย!!" เป็นคุณป๋าเจ้าคุณขาเก่าเจ้าเดิมที่
หลุดโวยวายออกมาเป็นคนแรก หลังจากที่เดินวนไปเวียนมาอยู่ตรงบริเวณประตูหน้าห้องคลอดที่
เจ้านายและภีมเข้าไปอยู่ในนั้นด้วยความกระวนกระวาย ประหนึ่งว่าเมียตัวเองจะคลอดลูกก็ไม่ปาน

       "มึงก็ใจเย็นๆ สิวะ ก็รู้อยู่ว่าของอย่างนี้มันต้องใช้เวลา" ณัฐภาสคุณพ่อยังหนุ่มของแฝดสามพูด
บอกกับเพื่อนรักอย่างใจเย็น ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็ผลัดกันเดินวนไปมากับเจ้าคุณเพื่อนรักนั่นแหละ

       "มึงก็พูดได้สิ! ลูกกูเป็นคนเจ็บตัวหนิ! ไม่ใช่แค่มีหน้าที่วางไข่อย่างเดียวเหมือนลูกชายมึง...เชอะ!!"
เจ้าคุณย่นหน้าบอกกับเพื่อนรักด้วยเสียงกระแทกหน่อยๆ ก่อนที่จะสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

       "เหอะ! อย่างน้อยลูกกูก็เป็นเจ้าของไข่ละวะ!!!" ณัฐภาสสบถในลำคอ พูดเกทับใส่เพื่อนรักไปอีก
หนึ่งประโยค อย่างแสบทรวง ทำเอาเจ้าคุณที่หน้าตึงอยู่แล้วตูมเข้าไปใหญ่เลยทีนี้

       "พูดอย่างนี้มึงจะเอาใช่มั้ยไอ้ภาสไอ้เพื่อนเวร!!!" เจ้าคุณกลับตัวเดินเข้าหาณัฐภาสอย่างเอาเรื่อง

       "มาเลยไอ้คุณ!! พ่อตาใจแคบอย่างมึงต้องเจอกู!!!" ณัฐภาสเองก็ใช่จะยอมแพ้

       "หยุดกันทั้งสองคนนั่นแหละ!!!" ธาราและพัสกรพูดบอกออกมาพร้อมกัน หลังจากที่นั่งดูสองคู่หู
เพื่อนรักเพื่อนซี้เขาแซะเขาแขวะใส่กันอยู่นานสองนาน

       "พี่ภาสมานั่ง!!!" พัสกรเรียกสามีของตนให้เดินมาหาตัวเอง

       "เจ้าคุณมานี่!!!" ธาราเองก็เช่นกัน ก่อนที่จะคุยกันทางสายตาและส่ายหน้าให้กันอย่างปลงตก
ที่อดีตสองเพื่อนรักเพื่อนซี้ที่แทบจะตายแทนกันได้อย่างณัฐภาสและเจ้าคุณหันมาแตกหัก หันมาตั้งแง่
พูดเถียงและเขม่นใส่กันทุกครั้งที่เจอหน้า ตั้งแต่รู้ว่าเจ้านายตั้งท้องด้วยคำสารภาพจากปากของภีมเอง
.
.
.
.
.
ย้อนกลับไปเมื่อ 7 เดือนก่อนหน้านี้

       "ใบผลตรวจเลือดของพวกแกรอบนี้ล่ะ?" เจ้าคุณรีบพูดทวงใบผลตรวจเลือดของรอบนี้ทันทีที่ภีม
เดินเข้ามานั่งข้างๆ เจ้านาย ตามมาด้วยพัสกรและณัฐภาสอีกคน ในช่วงบ่ายของวันถัดมาหลังจากที่
เมื่อคืนเขาทั้งสองคนโดนพ่อตาใจร้ายอย่างป๋าคุณจับแยกให้นอนบ้านใครบ้านมัน.....เซ็งเลย!!

       "นี่ครับ" ภีมหยิบเอกสารยืนยันผลตรวจเลือดที่เหมือนกับทุกๆ ครั้งยื่นให้เจ้าคุณเช่นเดียวกัน

       "อืม...ดีมาก" เจ้าคุณครางออกมาในลำคออย่างพอใจ เมื่ออ่านเช็คผลตรวจเลือดของเจ้านาย
และภีมออกมาเป็นปกติไม่มีปัญหาเหมือนอย่างทุกครั้งที่ดู.....ปลอดภัย(?)

       "มึงจะให้ลูกตรวจทำไมบ่อยๆวะ?" ณัฐภาสพูดถามออกมาอย่างไม่ค่อยเข้าใจ...คือถ้าให้ตรวจ
พร้อมกับตรวจสุขภาพประจำปีทุกๆ ปีอ่ะ เขาจะไม่สงสัยเลย แต่ไอ้ห่านี่เล่นโทรสั่งให้ลูกไปตรวจ
ตามใจชอบเลย และที่สำคัญเลยคือ มันถี่มากไง!! เพราะตรวจถี่เกินไป เดี๋ยวหกเดือนตรวจมั่ง
สามเดือนตรวจอีกละ อย่างงี้อ่ะจะไม่ให้เขาคล่องใจได้ยังไงไหว!!! บ้าไปแล้ว!!!

       "เรื่องของกู" เจ้าคุณลอยหน้าลอยตาตอบเพื่อนรักกลับไปอย่างอารมณ์ดีเพราะกำลังชอบใจอยู่
กับผลตรวจเลือดของลูกชาย.....คึๆ รอด(?)มาได้อีกแล้ววุ้ย! แสดงว่าไอ้หมามันเชื่อฟังเรา ไม่ยอมให้
ไอ้ลูกแมวภีมมันเจ๊าะเอาอีก ฮ่าาาา....สะใจวุ้ย!! สะจายยยย....

       "แล้วน้องนายคุยเรื่องแต่งงานกับป๋ากับแม่เค้ายังครับลูก" พัสกรพูดเปิดประเด็นขึ้นกลางวงสนทนา
อย่างที่ไม่ทันให้ให้ได้ตั้งตัวทัน โดยเฉพาะคุณป๋าจอมหวงอย่างเจ้าคุณที่พอได้ยินสิ่งที่พัสกรพูดแล้ว
เจ้าตัวถึงกับคิ้วกระตุก จนเผลอขยำใบกระดาษผลตรวจเลือดที่เจ้าตัวนั่งชื่นชมมองดูในมืออยู่ทันที

       "แต่งงานอะไร? ใครจะแต่งงานห้ะไอ้ลูกหมา? บอกป๋ามาหน่อยดิ!!" เจ้าคุณชักสีหน้าถามเสียงแข็ง
เมื่อกี้เขาได้ยินแล้วหละว่าพัสกรพูดอะไร เพียงแต่อยากจะฟังให้แน่ใจจากปากเจ้าตัวลูกชายของเขา
ก็เท่านั้นเอง

       "หนูจะแต่งเองป๋า...เมื่อวานนี้ภีมขอหนูแต่งงานก่อนที่จะบินมานี่อ่ะ" เจ้านายก็ยังคงเป็นเจ้านาย
วันยังค่ำ ไม่มีเสียหรอกที่จะมานั่งบิดตัว หน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อพูดถึงเรื่องสำคัญที่ผู้หญิงและ
เหล่าเคะทั้งหลายใครลองได้โดนขอแต่งงานอย่างเจ้าตัวดิ บิดตัวหน้าแดงกันแทบจะเป็นขนมโปเต้จิ้ม
ซอสมะเขือเทศอยู่มะลอมมะล่อ มีแต่พี่เจ้านายคนแมนลูกชายป๋าเจ้าคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ ที่นั่ง
ยืดอกรับหน้าตอบออกมาเสียงดังฟังชัดขนาดนี้ เล่นเอาป๋าเจ้าคุณจอมหวงแทบจะยกขาขึ้นมาก่าย
หน้าผากกันเลยทีเดียวเพราะความห่ามและความแมนเกินความเป็นที่เคะน่าทะนุถนอม(?)ของลูกชาย

       "แล้วใครอนุญาติ?" เจ้าคุณจ้องหน้าลูกชายอย่างเค้นคำตอบ

       "ก็หนูไง!!" เจ้านายเองก็ยังคงไม่สนใจสายตากดดันของป๋าคุณ

       "แต่กูไม่อนุญาติ!!!" เจ้าคุณลุกขึ้นพูดบอกเสียงดังจนแทบจะกลายเป็นการตะคอก

       "แต่หนูอนุญาติ!!! หนูแต่งเองนะไม่ใช่ให้ป๋าแต่ง!! เพราะฉะนั้นหนูอนุญาติ!!!" เออ...เอากับพี่เขาสิ
ก็พี่นายคนแมนเขาแต่งเองนี่เนาะ ไม่ใช่คุณป๋าแต่งเองสักหน่อย.....พูดอีกก็ถูกอีก (เหรอ?)

       "แกกูไม่อนุญาติมึงจะแต่งได้ไง? กูเป็นพ่อมึงนะไอ้ลูกหมา!!!" เจ้าคุณพูดต่อพลางขบกรามแน่น
พยายามที่จะบังคับไม่ให้ตัวเองทำอะไรรุนแรงกับลูกชาย.....มันจะรู้บ้างมั้ยว่าเขาหวงมันขนาดไหน!!!

       "พ่อแล้วไง?" ยักคิ้วถามอย่างท้าทาย

       "ก็เป็นคนที่ทำให้มึงเกิดมาไง!!!" นี่ก็เขม่นใส่ลูกเต็มที่

       "หนูจะแต่ง!!!" ยังคงดื้อดึงต่อไป

       "แต่กูไม่ให้แต่ง!!!" ขัดขวางอย่างชัดเจน

       "หนูจะแต่งๆ หนูจะแต่งๆ หนูจะแต่งงานกับภีม!!!!" เถียงจนคอเป็นเอ็น ไม่มีอ่อนข้อ

       "ไม่ให้แต่งๆ ไม่ให้แต่ง!!! กูจะไม่ให้มึงแต่งงานกับใครทั้งนั้นแหละโว้ยยยย!!!!" ยืนยันคำตอบเดิม

       "หยุด!!! หยุดทั้งสองคนเลย!!!" เป็นธาราเองที่ทนฟังสามีและลูกเถียงกันต่อไปไม่ไหว จึงเดินเข้าไป
แทรกกลางระหว่างพ่อลูกทั้งสองคนที่ดูเหมือนกับว่าเตรียมพร้อมที่จะกระโจนใส่กันเต็มที่แล้ว

       "แต่มัน / แต่ป๋า" ไม่ต้องสืบให้เสียเวลาเลยว่าเจ้านายนิสัยเหมือนใคร เพราะกับแค่เรื่องแค่นี้ยัง
สามารถพูดออกมาได้พร้อมกันเป๊ะๆ เหอๆ อย่างนี้สินะที่เขาเรียกว่าลูกไม้ใต้ต้น!!!

       "ไป นั่ง ที่" ธาราพูดกดเสียงต่ำเน้นทีละคำ พร้อมกับที่จ้องหน้าสองคนพ่อลูกคู่(นิสัย)เหมือน
ด้วยสายตาดุๆ นิ่งๆ นี่ละนางพญาผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านตัวจริงเสียงจริง!!!

       "ตกลงว่าไงครับภีม" ธาราหันกลับไปถามเอาความจริงจากภีมด้วยเสียงปกติไม่ดุดันเหมือนกับ
ที่ใช้ขู่สองพ่อลูเมื่อครู่นี้

       "ที่ภีมพาคุณพ่อคุณแม่มาด้วยวันนี้ก็เพื่อที่จะมาพูดคุยเรื่องสู่ขอเจ้านายจากแม่ธารจากป๋าคุณ
อย่างจริงจังนี่แหละครับ เพราะไหนๆ ภีมกับนายก็คบกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่ได้
เปิดเผยออกมาให้ใครรู้เท่านั้นเอง และที่สำคัญเลย ตอนนี้ภีมกับเจ้านายตกลงที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
ภีมเลยไม่อยากจะให้ใครมาดูถูกหรือมองเจ้านายไปในทางเสียๆ หายๆ เพราะมันจะส่งผลมาถึงป๋าคุณ
แม่ธาร และคุณพ่อคุณแม่ผมไปด้วย เพราะฉะนั้น...ได้โปรดให้เราสองคนแต่งงานกันด้วยเถอะครับ"
ภีม ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นตรงหน้าธาราและเจ้าคุณพร้อมทั้งพูดบอกออกมายืด ยาวด้วยเสียงเรียบนิ่ง

แต่แฝงไปด้วยความสุภาพนอบน้อมตามฉบับสุภาพบุรุษของ เจ้าตัว ไม่มีหลุดกลัวหรือตื่นเต้นใดๆ
ทั้งนั้น ทั้งที่เจ้าคุณพยายามที่จะส่งสายตาข่มขู่ตัวเองจากฝั่งตรงข้ามสักแค่ไหนก็ตาม

       "เอาสิ...ภีมกล้าขอแม่ก็กล้าให้ แต่ภีมก็ต้องสัญญาด้วยนะว่าจะดูแลลูกชายของแม่คนนี้ให้ดีกว่า
ที่แม่และป๋าดูแล แม่ขอแค่นี้ ภีมทำให้แม่ได้ใช่มั้ย?" ธาราพูดบอกคำอนุญาติออกมาง่ายๆ แต่ก็ยังไม่
วายที่จะขอคำมั่นสัญญาจากภีม ด้วยหัวใจและความห่วงใยของคนเป็นแม่ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะรักและ
ไว้ใจภีมมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งของความรักที่มีให้ลูกชายตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม

       "ภีมสัญญาครับว่าจะรักและดูแลเจ้านายให้มากกว่าชีวิตของตัวเองเลยครับ" ภีมให้คำสัญญา

       "แค่นี้ก็เกินพอแล้วสำหรับแม่.....ว่าไง? บอกลูกไปอย่ามาทำเนียนทำซึนเจ้าคุณ!!!" ธาราพูดกัับภีม
ก่อนที่จะหันไปบอกพร้อมกับหยิกเอวคุณป๋าจอมหวงอย่างเจ้าคุณที่ทำเป็นไม่รู็ไม่ชี้ลอยหน้าลอยตา
ทำเหมือนกับไม่เห็นสายตาของภีมที่รอคำอนุญาติจากตัวเองอยู่ ทั้งที่ภีมก็นั่งอยู่ตรงหน้าอยู่ในระยะ
สายตาของเจ้าตัวแท้ๆ.....มัวแต่นั่งเก๊กอยู่ได้!!!

       "เออๆ อยากแต่งก็แต่งไป! แต่จำเอาไว้เลยนะภีม...ถ้า...ทิ้ง ลูก กู มึง ตาย!!!" เจ้าคุณเอ่ยอนุญาติ
อย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนที่จะเดินหนีออกไปจากบริเวณนี้ ไม่วายที่จะทิ้งคำขู่ไว้ให้ภีมได้ผวาเล่นอีกอยู่ดี

       "อย่าไปใส่ใจเลยนะน้องภีม ก็แค่คนแก่หวงลูกน่ะ" ธาราส่ายหน้า มองตามสามีไปอย่างระอา
กับพฤติกรรมห่ามๆ ของคนหวงลูก ภีมเองก็ไม่พูดอะไรเพียงแต่ยกยิ้มให้และก้มลงกราบขอบคุณธารา
หนึ่งทีก่อนที่จะลุกขึ้นมานั่งที่เดิมที่ตอนนี้มีเจ้านายมานั่งอยู่ข้างกันอีกคน  และปล่อยให้เป็นหน้าที่
ของพ่อๆ แม่ๆ พูดคุยตกลงกันเรื่องรายละเอียดต่างๆ ที่จะต้องเตรียมในงานแต่งอีกที ก่อนที่เจ้าตัวจะ
ขอตัวเดินออกมาตามหาเจ้าคุณเพราะมีเรื่องที่จะต้องคุยกับเจ้าตัวเป็นการส่วนตัวโดยอ้างกับเจ้านาย
พ่อ และแม่ๆ ทางนี้ว่าจะไปเข้าห้องน้ำแทน จึงไม่มีใครติดใจหรือสงสัยอะไร
.
.
.
       "มาอยู่นี่เอง.....คุณป๋าครับ" ภีมพูดพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะเอ่ยเรียกเจ้าคุณที่ยืนสูบบุหรี่ดับ
อารมณ์ครุกรุ่น(หวงลูก)เมื่อครู่นี้ให้เย็นลงอยู่ตรงบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน

       "ว่า?" ขานรับพร้อมกับที่สูบอัดสารนิโคตินเข้าปลอดไปอีกเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะปล่อยควันสีหม่น
ออกมาในอากาศ โดยที่ยังไม่ยอมหันหน้ากลับไปมองภีมที่มาหยุดยืนอยู่ข้างหลังตัวเองแล้ว

       "ผมจะมาขอบคุณป๋าครับที่ยอมอนุญาติให้เจ้านายแต่งงานกับผม" ภีมพูดบอกอย่างนอบน้อม

       "ช่างมันเถอะ แค่มึงทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ก็พอ จะแต่งกันตอนไหนก็แต่งไป แต่อย่าเพิ่งปล่อย
ให้ไอ้นายมันท้องก็พอ รอให้มันเรียนจบซะก่อน" เจ้าคุณทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นพลางใช้ปลายเท้าขยี้ดับไฟ
ก่อนที่จะหันมาพูดบอกกับภีม เพราะมาคิดๆ ดูแล้วมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ก็แค่แต่งงาน ไม่ได้ทำให้
ชีวิตลูกชายเขาตกต่ำด้อยค่าสักหน่อย ทั้งยังเพิ่มความสุขให้เจ้าตัวมันอีกต่างหาก เพียงแต่.....เขาแค่
ใจหายและรู้สึกหวงลูกก็เท่านั้นเอง ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าเจ้านายเป็นเหมือนดวงใจของเขา เป็นลูกที่เขา
รักมากที่สุดในบรรดาลูกทั้งหมดสามคน มันก็เลยอดไม่ได้ที่จะทำใจไม่ได้ตั้งตัวไม่ทัน.....แต่ก็เพราะ
ว่าความที่เขารักลูกมากนี่แหละ เขาถึงต้องยอม เพื่อความสุขของลูก อีกทั้งคนที่เจ้านายจะแต่งงาน
และเอาชีวิตไปฝากไว้ให้เขาดูแลก็ใช่คนอื่นไกล แต่เป็นเจ้าภีมคนที่เขารักและเอ็นดูไม่ต่างไปจากลูกแท้ๆ
ของตัวเอง ที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิดจนโต และภีมก็ยังสามารถแสดงให้เขาได้เห็นอยู่ตลอดเวลาว่าเจ้าตัว
รักและพร้อมที่จะดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขาคนนี้มากมายสักแค่ไหน อาจจะมากกว่าเขาที่
เป็นพ่อแท้เลยก็ว่าได้ เขาก็เลยไม่รู้ว่าจะค้านความสุขของลูกๆ ต่อไปอีกทำไม

       "ยังไงภีมก็ต้องขอบคุณคุณป๋ามากๆ นะครับที่ยอมไว้ใจยกเจ้านายให้ภีมดูแลต่อ ภีมสัญญาเลย
นะครับว่าภีมจะรักและดูแลเจ้านายให้มากยิ่งกว่าตัวเองเลย" และแล้วหน้ากากเด็กชายภีมแก้มยุ้ย
ขี้อ้อนในครั้งอดีตเมื่อตอนเด็กๆ ก็ถูกยกขึ้นมาใช้กับคุณป๋าเจ้าคุณอีกครั้ง เพราะภีมพูดพร้อมกับที่
เดินเข้ามาก้มกราบที่หน้าอกของเจ้าคุณอย่างนอบน้อม ก่อนที่จะลดมือลงกอดเจ้าคุณอย่างอ้อนๆ
ทำท่าทางเหมือนกับตอนเด็กที่เจ้าตัวอยากจะอ้อนขออะไร.....หึๆ ป๋าคุณก็ป๋าคุณเถอะ!!     

       "ไม่เป็นไร...เพราะภีมก็เป็นลูกชายป๋าเหมือนกัน" เจ้าคุณบอกพลางยกมือขึ้นลูบหัวภีมเบาๆ
ด้วยความเอ็นดู.....อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าคุณหลงเด็กชายภีมแก้มยุ้ยเมื่อครั้งอดีตอยู่แล้ว จึงไม่
ใช่เรื่องยากนักที่จะทำให้เขากลับมารักและเอ็นดูภีมอีกครั้ง หรือที่จริงแล้ว...เจ้าคุณอาจจะไม่เคย
เขม่นหรือเหม็นเบื่อหน้าภีมอย่างที่เจ้าตัวพยายามแสดงออกมาให้ใครต่อใครเห็นเลยก็ได้ แต่เป็น
เพราะความหวงลูกรักอย่างเจ้านายเสียมากกว่าที่ทำให้เจ้าคุณต้องทำตัวไม่ดีกับภีมอย่างนั้น

       "อ่อ! ภีมเอานี่มาให้ป๋าด้วยครับ เมื่อกี้นี้ภีม(ตั้งใจ)ลืมไว้ในกระเป๋าเลยเอาให้ป๋าดูไม่ครบ"
ภีมผละตัวออกจากเจ้าคุณก่อนที่จะยื่นแผ่นกระดาษสีขาวสะอาดตาที่พับทบปิดเนื้อหาข้างใน
เอาไว้อย่างปราณีตเรียบร้อย


ใบประเมินผลการตรวจเลือดของ.....'นายชลธาร ยศวโยธิน'.....


ระบุผล..........ตั้งครรภ์หกสัปดาห์.........



       "นะ...นี่มัน..." เจ้าคุณถึงกับปากคอสั่นตัวชาวาบเอื้อนเอ่ยออกมาเป็คำพูดไม่ได้เมื่อได้เปิด
แผ่นกระดาษสีขาวเจ้าปัญหาของภีม

       "ตามนั้นเลยครับป๋า...ยินดีด้วยนะครับว่าที่คุณตา (^_^)" ภีมพูดบอกพร้อมกับฉีกยิ้มหวาน
ส่งให้เจ้าคุณอีกทีอย่างงามๆ ก่อนที่จะเดินถอยหลังออกห่างจากเจ้าคุณทีละก้าว

       "ไอ้ภีม!!! มึง!!" กว่าจะตั้งสติรู้สึกตัวได้ ภีมก็ถอยห่างออกไปไกลแล้วแต่ก็ยังสามารถมองเห็น
กันได้อยู่ และเจ้าตัวก็ยังคงยืนส่งยิ้มหวานให้เจ้าคุณอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน

       "ลูกผู้ชายเขาพูดแล้วไม่คืนคำนะครับคุณป๋า...ผมขอตัวไปดูเมียก่อนนะครับ หึๆ" ภีมที่เห็นว่า
เจ้าคุณกำลังยืนจ้องตัวเองด้วยสายตาอาฆาตเหมือนจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ก็ป้องปากตะโกนบอก
กับเจ้าคุณเสียงดังลั่น ก่อนที่จะเดินหันหลังจากไป โดยที่ไม่วายจะขยิบตาทิ้งท้ายเป็นการกวนใส่
คุณพ่อตาจอมหวงอีกหนึ่งทีด้วยสีหน้าท่าทางที่เจ้าเล่ห์สุดขีด ปล่อยให้เจ้าคุณยืนขบกรามตัวสั่นเป็น
เจ้าเข้าอยู่ที่เดิมด้วยความโมโห.....เจ้าพ่อร้อยเล่ห์ในอดีตอย่างเจ้าคุณโดนสุภาพบุรุษจอมมารยา
อย่างน้องภีมศิษย์พ่อภาสลูบคมให้เข้าแล้วไง!!!!

       "ไอ้ภีม!!! ไอ้ลูกหมา!!! ไอ้ผู้ชายตอแหล!!! มึงนี่มันลูกพ่อมึงของแท้เลย!!! ความเจ้าชู้ กะล่อน
ตอแหลสันดานหมาของพ่อมึงมันส่งต่อผ่านดีเอ็นเอมาที่มึงหมดเลยรึไงวะ!! มึงนี่มัน..โธ่โว้ย!!!!"
เจ้าคุณตีอกชกอากาศร้องตะโกนโวยวายสรรเสริญ(?)ไล่หลังภีมอยู่คนเดียวอย่างไม่มีซ้ำกันสักคำเดียว
.
.
.
       "นั่นไอ้คุณมันเป็นอะไรของมันน่ะน้องภีม?" ณัฐภาสเอ่ยถามลูกชายที่เห็นว่าเพิ่งเดินกลับเข้ามา
จากทางเดียวกันกับที่เจ้าคุณ เพราะเสียงตะโกนของเจ้าคุณมันดังเข้ามาให้ได้ยินถึงในบ้าน แต่ก็ยัง
จับใจความไม่ได้

       "อ่อ...คุณป๋าเข้าดีใจที่จะได้เป็นคุณตาน่ะครับ เพราะเมื่อกี้นี้ภีมเพิ่งเอาผลตรวจครรภ์ของเจ้านาย
ไปให้คุณป๋าเขาดูมา" ภีมพูดบอกออกมาเหมือนกับเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศทั่วๆไป ด้วยสีหน้านิ่งๆ

       "อ๋อ...ก็แค่เจ้านายท้อง" ทุกคนรวมทั้งตัวเจ้านายเอง(ยกเว้นภีม) ครางรับคไในลำคอเหมือนจะเข้าใจ
ก่อนที่จะพากันร้องตะโกนเสียงดั่งลั่นบ้านด้วยประโยคเดียวกันที่ว่า

       "ห๊ะ!! เจ้านายท้อง!!!~"

       "หึๆ"






~ ~ ~ ~ ~ ~ ~ จบบริบูรณ์ ~ ~ ~ ~ ~ ~ ~

และแล้วเรื่องนี้ก็มาถึงตอนจบจนได้ (แทบตาย ฮ่าๆ)มี่ไม่ขออะไรมาก

ขอแค่คนละหนึ่งคอมเม้นบอกความรู้สึกถึงนิยายเรื่องนี้แค่นั้นพอ...แค่นี้ให้มี่ได้มั้ยคะ?

แล้วเจอกันเรื่องต่อไปค่ะ!!! ส่วนตอนพิเศษต้องรอลุ้นกันเอาเน๊าะว่าจะมีมั้ย คึๆ

บาย!!! ขอบคุณที่ติดตามให้กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม.....รักนะคะ!!! กอด!!!

ปล.ในเล้าเป็ดมี่จะเอาภาคต่อคู่ที่สองมาลงต่อในนี้เลยนะคะ แต่จะเปลี่ยนค่ำต่อท้ายว่า ภาครักนี้...เล่นเพื่อน
(ถึงแม้จะแยกไปแล้ว) จะได้ไม่ต้องตามหากัน
ปล.2 ตอนที่แล้วเพื่อนมี่มาอัพแทนค่ะ ส่วนมี่หายไปซ่อมแซมและฟื้นฟูสังขารมาค่ะ เหอๆ แย่ๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-05-2016 08:23:38
จนซะแล้ว! ภีมนี่เจ้าเล่ห์จริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 23-05-2016 10:38:01
จบแล้วเหรอ รอตอนของพี่ภาคนะคะ คงแซบน่าดู
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-05-2016 10:45:24
น้องภีมเจ้าเล่ห์อ่ะ
เจ้านายก็น่ารัก... (แถมแอบรั่วและบ้าอย่างที่ว่า ฮา)
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ ชอบพระนายของเรื่องมาก น่ารักกันจริงเชียว
รอติดตามเรื่องต่อไปค่ะ
ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 23-05-2016 11:34:45
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-05-2016 19:40:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-05-2016 23:07:59
ภีมนี่ จอมมารยา เจ้าแผนการ ไม่แพ้พ่อเลยนะคะ แล้วคุณหลานเป็นสาวน้อย สงสัยจะขี้อ้อนน่าดูนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) Mpreg / Up.บทที่ยี่สิบ (23.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 24-05-2016 09:48:27
ในที่สุด พี่เจ้านายคนแมนของเราก็มีเบบี้
555555 ตลกป๋าคุณ ตอนเห็นผลตรวจครรภ์
หัวข้อ: ภาครักนี้...เล่นเพื่อน/ภาค2 (ภาม&เจโล่) Mpreg / Up.บทนำ (24.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 24-05-2016 20:40:34
 
18/02/59
 
ภาคเรียนที่สอง...บทนำ

 
 
 
 
 
       หลังจากวันวาเลนไทน์เมื่อครั้งนั้น(ในตอนพิเศษของคุณเมียภาคบังคับ) ภามแฝดเล็กสุดแสบ
แห่งบ้านอัครจินดากรณ์ และเจโล่แฟนหนุ่ม (ที่เข้าใจผิดคิว่าเป็น) ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ก็คบกันมาใน
ฐานะคนรักกันอย่างเปิดเผยให้ทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอย่างณัฐภาสกับพัสกรและคุณมี๊หรือแม่แท้ๆ
ของเจโล่ได้เห็นและรับรู้ความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มทั้งสองคนมาตลอด และภามก็ย้ายออกมาอาศัย
อยู่ที่บ้านเจโล่ตั้งแต่เข้าเรียนที่วิทยาลัยอาชีวะชื่อดังเพราะมันใกล้และสะดวกในการเดินทางมากกว่า
ที่จะอยู่บ้านของตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นณัฐภาสและพัสกรก็ค้านเพราะเห็นว่าเป็นการไม่สมควรในเมื่อทั้งสอง
คนไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกัน และกำลังคบกันอยู่ในฐานะคนรักอย่างชัดเจน แต่ก็ทำได้แค่ค้านเท่านั้น
เพราะแบล็คใหญ่ที่คอยหนุนหลังและตามใจแฝดเล็กจอมแสบอย่างภามนั้นคือ เจ้าสัวชัชวาลย์
ผู้ที่เป็นปู่นั่นเอง ทุกคนจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย แต่มีข้อแม้ว่าภามจะต้องกลับมาอยู่บ้านทุกวันหยุด
เสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และปิดเทอม เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเป็นวันหยุดไหนๆ ภามก็ต้องกลับมา
อยู่บ้านอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้วันเวลาก็หมุนเปลี่ยนเวียนผ่านล่วงเลย
มาจนถึงเจ็ดปี สุขบ้าง ทุกข์บ้าง หวานกันมา ทะเลาะกันไป ตามประสาคนรักที่เป็นดั่งสิ้นกับฟันที่ต้อง
มีกระทบกระทั่งกันบ้างไม่มากก็น้อย แต่ทั้งคู่ก็ยังช่วยกันฝ่าฝันและผ่านกันมาได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่
ราบเรียบและสวยงามนักก็ตาม แต่ 'รัก' มันก็คือ 'รัก' อยู่ดี.....
 
       จากสุดแสบ แสบที่สุดในฝาแฝดทั้งสามคนของณัฐภาสและพัสกร ก็ได้เปลี่ยนขั้นสลับขั้วกลายมาเป็น
ภามคนใหม่ที่ไม่เหวี่ยง ไม่วีน และไม่เอาแต่ใจอย่างที่เคยเป็นมาตลอด เพราะมีคนรักอย่างเจโล่ค่อยๆ
ขัดเกลานิสัยร้ายๆในแบบเก่าออกไปอย่างช้าๆและแนบเนียนจนทำให้คนที่บ้านอัครจินดากรณ์เป็นต้อง
ประหลาดใจกับบุคคลิกและท่าทาง หรือแม้กระทั่งนิสัยใจคอของแฝดเล็กคนนี้ได้ทุกครั้งที่ภามกลับบ้านมา
นั่นจึงเป็นเหมือนในเบิกทางที่ดีให้กลับเจโล่ที่ทำให้คนในบ้านอัครจินดากรณ์ยอมรับและไว้ใจที่จะฝาก
ลูก หลาน หรือพี่ น้องของพวกเขาให้กับคนๆนี้ได้ดูแลอย่างที่ไม่รู้สึกระแวงอีกต่อไป
 
       ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเจโล่หรือ ฟูจิวาระ อิจิโร่ ก็ได้กลายเป็นสมาชิกในครอบครัวของบ้านอัครจินดากรณ์
อีกหนึ่งคนที่คนในบ้านให้การต้อนรับและดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดีมาจนถึงทุกวันนี้
 
 
 
แต่ความสงบสุขนี้มันจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหนกัน? ใครรู้ช่วยบอกที.....
 
 
 
 
 
____________________________________________________________________________TBC.
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...เล่นเพื่อน/ภาค2 (ภาม&เจลโล่) Mpreg / Up.บทที่หนึ่ง (24.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 24-05-2016 20:45:46
24/02/59
 
ภาคเรียนที่สอง...บทที่หนึ่ง
 
 
 
 
 
 
       ปิ๊งป๊อง!!!  ปิ๊งป๊อง!!!  ปิ๊งป๊อง!!!
 
       "คร้าบ.....มาหาใครหรือครับ" ภามรีบวิ่งออกมาเปิดประตูรั้วบ้านเมื่อได้ยินเสียงกดออดๆ ดังรัวๆ
อยู่หลายครั้งหลายที จนลืมไปเลยว่าก่อนหน้าที่เจโล่คนรักของตนจะออกจากบ้านไปเพื่อออกไปหา
สมัครงานนั้นได้พูดสั่งตนไว้ว่า 'ห้ามวิ่ง' โดยเด็ดขาด.....ภามถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นแขกผู้มาเยือน
ที่ไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งหรือสองคน เท่าที่กะจากสายตาของภามแล้วไม่น่าจะต่ำกว่าสิบคน และทุกคน
ก็ต่างเป็นชายร่างสูงใหญ่บึกบึนที่สวมแว่นตาดำและสูทสีดำทั้งชุดดูน่ากลัวมากสำหรับภาม เว้นแต่
ชายชราผมสีขาวโผนที่ยืนอยู่ตรงกลางเท่านั้นที่ใส่ชุดสูธเป็นสีเทาควันบุหรี่
 
       "......"
 
       "เดี๋ยวสิครับ!! พวกคุณจะไปไหนน่ะ!! เข้าไม่ได้นะ!!! ห้ามเข้า!!!" กลุ่มคนแปลกหน้าพวกนั้น
ไม่มีใครตอบคำถามภามและพากันบุกเดินเข้าไปข้างในตัวบ้านอย่างที่ไม่ยอมฟังเสียงห้ามของภีมเลย
 
       "ออกไปนะ!! ออกไป!! ออกไปจากบ้านของผมเดี๋ยวนี้เลย!!" ภามตะโกนห้าม ทั้งพยามที่จะยืนขวาง
ผลักและดันคนเหล่านั้นไม่ให้เดินเข้าไปข้างในบ้านได้ แต่ก็ไม่เป็นผล ในเมื่อตนสู้แรงผู้ชายไซส์ใหญ่ยักษ์
พวกนี้ไม่ได้แม้แต่นิดเดียว แถมชายชราผมขาวคนนั้นยังถือวิสาสะเดินย้ำพื้นเข้าไปนั่งหน้านิ่งอยู่บนโซฟา
ที่ตั้งวางอยู่กลางบ้านโดยที่ไม่มีใครถอดรองเท้าอีกต่างหาก.....จะรู้กันบ้างไหมว่าเขาเป็นคนทำความสะอาด
บ้านหลังนี้ด้วยมือของตัวเองทั้งหมดคนเดียว...มันเหนื่อยนะเว้ย!!!
 
       "เจโล่!! อยู่ไหน!! ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน!! กลับบ้านนะ!! กลับบ้านมาด่วนเลย มีใครก็ไม่รู้ท่าทาง
เหมือนพวกทวงหนี้เลย อยู่ดีๆ ก็พากันบุกเดินเข้ามาในบ้านเรา รีบมานะ!!....ภามกลัว" ภามลนลาน
รีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาโทรหาคนรักทันทีด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เขาไม่ได้
อยากอ่อนแอและไม่ได้แอ๊บแรดแต่อย่างใดถึงได้พูดบอกกับคนรักไปอย่างนั้น ถ้าเป็นเวลาปกติหน่ะหรอ
ถึงจะพาคนมากกว่านี้ น่ากลัวกว่านี้สักร้อยเท่าเขาก็ไม่กลัวหรอก จะสู้ด้วยแรงของตัวเองจนถึงที่สุดจน
กว่าจะสู้ไม่ไหวเลย...เพียงแต่ตอนนี้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้ ก็เพราะว่านอกจากชีวิตเขาแล้ว ในท้องของเขา
ยังมีลูกน้อยที่เป็นพยานรักระหว่างเขาและเจโล่คนรักอาศัยอยู่ด้วยอีกคนไง เขาถึงไม่กล้าที่จะทำอะไร
ที่มันเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในท้องของเขาทั้งนั้น
.
.
.
.
.
       "ดื้อ!! เป็นยังไงบ้าง? ปลอดภัยดีใช่มั้ย?" ลงจากแทกซี่ได้เจโล่ก็รีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหา
ภามที่ยืนรอตัวเองอยู่หน้าบ้านพลางหมุนสำรวจความเสียหายไปด้วย
 
       จากวันนั้นมาถึงวันนี้.....ก็ผ่านมาเจ็ดปีเกือบจะแปดปีแล้วตั้งแต่วันที่เจโล่สารภาพรักภามและสองคน
ก็ตกลงที่จะคบหากันในฐานะแฟนหรือคนรัก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าทุกๆ สิ่ง ทุกๆอย่างที่ผ่านมาในแต่ละวันของ
การคบหาของทั้งสองคนมันจะผ่าไปได้อย่างเรียบง่ายและไม่มีเรื่องติดขัดอะไรเลย โดยเฉพาะเรื่องหึงหวง
ที่ทุกคนก็ต่างเป็นห่วงคู่รักใจร้อนอย่างสองคนนี้มาก แต่เปล่าเลย ทั้งสองคนไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียง
กันเรื่องนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวในระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมา ทางผู้ใหญ่ของทั้งเจโล่และภามก็ต่างรู้กันดีว่า
ทั้งสองคนนี้คนกับแบบไหน ฐานะอะไรแต่ก็ไม่มีใครห้ามปรามประไร เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ลูกๆ
จะเป็นคนเลือกและตัดสินใจเอาเอง ยกเว้นเรื่องที่ภามท้องนี่แหละที่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายภามอย่างณัฐภาสและ
พัสกรยังไม่รู้ เพราะเจโล่ขอเวลาหางานที่เป็นหลักแหล่งได้ก่อนถึงจะเข้าไปคุยกับสองคนนั้นเรื่องสู่ขอภาม
อย่างเป็นเรื่องเป็นราว เพราะว่าตอนนี้ตัวของเจโล่เองก็ยังไม่มีหลักประกันอะไรที่จะไปเป็นการรับรองกับ
ณัฐภาสและพัสกรได้เลยว่าจะเลี้ยงดูภามและลูกได้ เพราะว่าแม่ของเจโล่ที่เคยเป็นเสาหลักของครอบครัว
พึ่งจะจากไปด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเมื่อปลายปีที่แล้วนี้เอง และไม่มีญาติที่ไหนอีก ตอนนี้เจโล่ก็เหมือน
ตัวคนเดียวนั่นแหละถ้าไม่นับภามกับลูกในท้องอีกคน เพราะฉะนั้นเจโล่ถึงได้อยากขอเวลารอบริษัทต่างๆ
ที่เขาไปสมัครทิ้งไว้ติดต่อกลับมาก่อนนี่ไง อย่างน้อยก็ให้คุณพ่อเจ้าสัวอย่างณัฐภาสได้เห็นว่าเขาก็ยังมี
ปัญญาที่จะเลี้ยงดูลูกชายคนเล็กของเขาได้ โดยที่ไม่ลำบากอะไรถึงจะไม่ได้สบายอย่างที่อยู่กับคุณพ่อเจ้าสัว
อย่างตัวเองก็เถอะ แต่เจโล่ก็มั่นใจว่าตนจะไม่ทำให้ภามและลูกน้อยในท้องต้องอดๆ อยากๆ อย่างแน่นอน
 
       ที่เขาและภามมีกินมีใช้อยู่ทุกวันนี้ก็ได้มาจากเงินประกันของแม่ที่เหลือจากทำพิธีศพแล้วแค่ไม่
กี่บาทกับเงินเก็บที่เขาไปรับจ๊อบเล่นกีต้าร์ร้องเพลงตามผับตาร้านอาหารตั้งแต่อายุสิบห้านั่นแหละ
ก็พอมีอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เยอะ และบ้านกับรถที่ตอนนี้มันเป็นชื่อของเขาแล้วเพราะแม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ให้
ส่วนเงินที่ทางณัฐภาสและพัสกรที่ส่งมาให้ภามเป็นประจำทุกๆ เดือน เขาก็ขอไม่ให้ภามเอาออกมาใช้
ถ้าไม่จำเป็น อยากได้อยากกินอะไรเดี๋ยวเขาจ่ายเอง แค่เมียคนเดียวเขาเลี้ยงได้ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวชอบแอบไป
ถอนเงินในบัญชีนั้นออกมาซื้อของดีๆ ให้เขาก็เถอะ.....มันน่าตีนัก!!
 
   ตอนนี้เขากับภามก็ทำเรื่องจบชั้น ปวส. สาขาเมคคาทรนิกส์ ที่เกี่ยวกับพวกสมองกล หุ่นยนต์
เครื่องกล อะไรประมาณนั้น เพียงแค่...ยังไม่ได้รับใบประกาศก็เท่านั้นเอง เขาจึงเร่งเดินหาสมัครงาน
อย่างวันนี้นี่ไง ภามถึงต้องอยู่บ้านคนเดียวอย่างนี้
 
       "ไม่ๆ พวกเขาไม่ได้ทำอะไรฉัน แค่บุกเข้าไปนั่งอยู่ในบ้านเฉยๆ เท่านั้นเอง....และฉันก็โทรแจ้ง
ตำรวจแล้วด้วยนะหลังจากที่คุยกับนายเสร็จ แต่ป่านนี้แล้วยังไม่เห็นมาเลย" ภามพูดบอกด้วยเสียงสั่นๆ
ถึงเขาจะก๋ากั๋นหรือเกรียนแดกสักแค่ไหนเขาก็ไม่เคยเจอคนที่หน้ากลัวอย่างคนพวกนี้มาก่อนเลย มันเหมือน
มีรังสีอะไรบางอย่างแผ่ออกมาจากตัวของคนพวกนั้นด้วย....เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
 
       "ไม่เป็นไรนะ...ดื้อรอฉันอยู่นี่แหละเดี๋ยวฉันเข้าไปดูเอง" เจโล่พูดบอก พร้อมกับลูบหัวลูบหูเป็น
การปลอบใจให้ภามหายตกใจไปด้วย
 
       "ไม่เอา! ฉันจะไปด้วย" ภามส่ายหัวพูดบอกว่าไม่เห็นด้วย
 
       "แต่...." เจโล่กำลังจะแย้ง
 
       "ไม่มีแต่...ถ้าจะเข้าไปก็ไปด้วยกัน...ฉันเป็นห่วงนาย" แต่ภามกับพูดยืนยันเสียงแข็ง ด้วยสีหน้า
จริงจังสายตาเอาเรื่อง
 
       "ก็ได้ๆ แต่ดื้อจะต้องอยู่ข้างหลังฉันตลอด และถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นมาดื้อก็จะต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดออก
มาก่อนเลย....เข้าใจนะ?" เจโล่พูดบอก
 
       "อื้อ...สัญญาเลย" ถึงปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่ภามก็คิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาจริงๆ
เขาก็จะอยู่ช่วยเจโล่โดยที่จะไม่คิดหนีเอาตัวรอดอย่างที่คนรักบอกอย่างแน่นอน
 
       "โอเค...ถ้างั้นเราก็เข้าไปข้างในกันเถอะ" เจโล่พูดบอกพร้อมกับกระชับจับมือของภามพาเดินนำ
เข้าไปในบ้านอีกครั้ง
.
.
.
.
.
       "มาแล้วหรือ...ฟูจิวาระ อิจิโร่...ไม่ดีเลยนะที่เป็นเด็กแต่ปล่อยให้ผู้ใหญ่ต้องนั่งรออยู่ตั้งนาน"
ชายชราที่นั่งอยู่บนโซฟากลางวงล้อมของบอดี้การ์ดชุดดำตัวใหญ่ยักษ์ของตัวเองพูดทักขึ้นเป็น
ภาษาญี่ปุ่นทันทีที่เห็นเจโล่เดินจูงมือภามเข้ามาภายในบ้าน
 
       "พวกคุณเป็นใคร? บุกเข้ามาในบ้านของผมอย่างนี้ต้องการอะไร?" เจโล่ถามด้วยภาษาญี่ปุ่น
กลับเลยทันทีเหมือนกัน พลางสำรวจดูความเสียหายรอบๆ บ้านตัวเอง แต่ทุกอย่างก็ดูปกติดี ไม่มี
อะไรขยับเปลี่ยนที่หรือเสียหายแต่อย่างใด
 
       "ฉัน ฟูจิวาระ เคนโด เป็นปู่ของเธอ" อีกฝ่ายแนะนำตัวกลับมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง เหมือนพูด
เรื่องทั่วไป แต่สำหรับเจโล่แล้วนี่มันเป็นเรื่องอะไรที่น่าตกใจมากๆ เพราะตั้งแต่จำความได้ ทั้งชีวิต
ของเขาก็มีแค่แม่เพียงคนเดียวที่เป็นครอบครัว(ถ้าไม่นับภามที่มาที่หลัง) และแม่ของเขาก็มักจะ
พูดกรอกหูบอกกับเขาตั้งแต่เด็กยันโตว่า พ่อของเขาตายไปแล้ว และเขาไม่มีญาติหรือครอบครัว
หลงเหลืออยู่ที่ไหนอีกแล้ว.....แต่นี่!...ปู่โผล่มาได้ยังไง?
 
       "ปู่ของผม?" เจโล่เลิกคิ้วถามพร้อมกับชี้นิ้วเข้าตัวเอง ประมาณว่า...ปู่เขาจริงอ่ะ?
 
       "ใช่...ฉันเป็นพ่อของพ่อเธอหรืออีกในนึงก็ปู่แท้ๆของเธอนั่นแหละ" เขาพูดย้ำให้เจโล่ฟังอีกครั้ง
 
       "แล้วผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณพูดเรื่องจริง ไม่ได้โกหกผม" เจโล่ถามต่อ
 
       "เอาให้เขาดูสิ" ชายชราที่อ้างตัวว่าเป็นปู่ของเจโล่ไม่ได้ตอบคำถามของเจโล่แต่กลับหันไปพูดสั่ง
ลูกน้องของตััวเองแทน หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีหนึ่งในบอดี้การ์ดชุดดำของชายชราก็เดินออกจากแถว
มายื่นซองเอกสารสีน้ำตาลให้เจโล่ ก่อนที่จะเดินกลับไปยืนประจำที่เดิมของตัวเอง
 
       "อะไรหรอจ๋า" ภามชะโงกหน้าเข้ามาถามพลางชำเลืองมองดูซองเอกสารที่มือของเจโล่ด้วย
เพราะภามยังจับใจความไม่ได้ว่า ประโยคคำพูดโต้ตอบระหว่างเจโล่กับชายชราคนนั้นคือเรื่องอะไร
เพราะเขายังไม่เก่งที่จะฟังภาษาญี่ปุ่นเวลาคนพูดเร็วๆ ได้ ถึงเจโล่พยายามที่จะสอนให้เขาพูดมา
โดยตลอดก็เถอะ.....แต่มันยากอ่ะ!!!
 
       คำว่า 'จ๋า' คือชื่อเรียกเฉพาะที่ภามตั้งขึ้นมาและใช้เรียกเจโล่เป็นการส่วนตัว เช่นเดียวกับที่เจโล่
เรียกภามว่า 'ดื้อ' เช่นกัน ก็เหมือนกับคู่รักวัยรุ่นทั่วๆไปที่มักจะมีชื่อเรียกเฉพาะที่ต่างก็ตั้งให้กันและกัน
ขึ้นมาใหม่ตามลักษณะตัวหรือนิสัยของแต่ละคน เพราะไม่อยากจะเรียกชื่อคนรักซ้ำกับคนอื่น
 
       "ไม่รู้สิ" เจโล่ส่ายหน้าบอกพร้อมกับค่อยๆ เปิดซองเอกสารออก สิ่งที่อยู่ในนั้นมันทำความรู้สึก
หลายๆ อย่างวิ่งเข้ามาหาเจโล่อย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้น ดีใจ หรือแม้แต่ความเสียใจก็ตาม
เพราะสิ่งที่อยู่ในนั้นคือรูปถ่าย ของเขาแบบภาพเดี่ยวตอนอายุประมาณสองสามขวบและก็รูปเขากับแม่
รูปแม่กับผู้ชายหน้าตาดีคนนึงที่คาดว่าจะเป็นงานแต่งงาน เอกสารต่างๆมากมายที่แสดงให้เห็นว่า
ผู้ชายคนที่อยู่ในรูปนั้นคือสามีของแม่ และเป็นพ่อแท้ๆ ของเขานั่นเอง....นี่มันอะไรกัน?
 
       "ทีนี้ก็มั่นใจได้แล้วนะ ฉันจะได้พูดเรื่องของฉันสักที.....ที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้ก็เพราะว่าฉันต้องการ
ที่จะมาพาตัวเธอกลับไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยกัน" ในขณะที่เจโล่กำลังตกตะลึงอยู่กับหลักฐานในมือของ
ตัวเอง ชายชราคนนั้นก็พูดบอกเสียงเรียบนิ่ง แต่ก็แฝงไปด้วยอำนาจและแรงกดดัน ทำให้ภามที่ยืน
อยู่ข้างหลังเจโล่รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกทั้งๆ ที่ฟังในสิ่งที่ชายชราพูดไม่รู้เรื่องแท้ๆ
 
       "ไม่มีทาง!!! ผมไม่ไป!!!" ถึงจะเป็นปู่แท้ๆ ก็เถอะ! แต่ความรักความผูกพันใช่ว่าจะมี แล้วทำไม
เขาจะต้องยอมไปอยู่ที่ญี่ปุ่นกับคนพวกนี้ด้วย...ชีวิตของเขาที่มีแค่ภามกับลูกน้อยในท้องอย่างทุกวันนี้
ก็ดีอยู่แล้วไม่เห็นมีความจำเป็นสักนิดที่เขาจะต้องไปอยู่กับคนแปลกหน้าอย่างนี้เลย ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อ
ว่าเป็นครอบครัวเดียวกันก็เถอะ!! แล้วที่ผ่านมาล่ะ? ที่ผ่านมาตอนที่เขาอยู่กับแม่ คนพวกนี้หายไปไหน
กันหมด ถึงได้ปล่อยให้เขากับแม่ได้ใช้ชีวิตกันมาตามลำพังสองคนแม่ลูกได้ถึงยี่สิบปีอย่างไม่คิดจะ
เหลียวแลหรือแม้แต่จะติดต่อกลับมาเลย แล้วอยู่ๆ ก็มาบอกว่าจะให้กลับไปอยู่ด้วยกันมันจะไม่ดู
ตลกเกินไปหรือ?.....นี่บ้าที่สุด!!!
 
 
       "แต่แกต้องไป...เพราะนี่คือคำสั่ง!!!!"
 
 
 
 
 
 
 
_____________________________________________________________________________TBC.
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
เม้นกันเข้าไว้นะคะช่วงนี้อยากได้กำลังใจเยอะๆ จะได้มีแรงแต่งนิยายต่อไป
#แก้ไขในส่วนที่สลับชื่อพิมผิดจากภีมเป็นภามให้แล้วนะคะ
ณ ตอนนี้ ภามแยกตัวออกมาอยู่กับเจโล่สองคนที่บ้านเจโล่ตั้งแต่สมัยเรียนที่อาชีวะใหม่ๆแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่หนึ่ง(24.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 24-05-2016 21:42:10
อ่านจบภาคแรกแล้ว ฮาป๋าคุณอ่ะ 5555555555555555 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่หนึ่ง(24.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-05-2016 22:52:53
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่หนึ่ง(24.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 24-05-2016 23:19:08
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สอง(25.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 25-05-2016 19:15:47
25/02/59

 
ภาคเรียนที่สอง...บทที่สอง
 
 
 
 
 
 
       "แต่แกต้องไป...เพราะนี่คือคำสั่ง!!!" เสียงตะหวาดแข็งกร้าวของชายชราที่พูดออกมา ทำให้ภาม
ต้องขยับตัวเข้าไปแนบชิดติดหับหลังคนรักขึ้นอีก เพราะมันน่ากลัวจริงๆ มันดูมีพลัง มีอำนาจอย่าง
ที่ภามไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน แม้ว่าจะเคยแอบเห็นคุณพ่อณัฐภาสของตนคนที่ทั้งวงการธุรกิจใน
ประเทศไทยพากันพูดเป็นเสียงเดียวว่าเป็นมือสังหารจอมเนี้ยบของวงการธุรกิจตะวาดพนักงานในบริษัท
จนร้องไห้มาแล้ว เมื่อสมัยที่ภามยังเป็นเด็กๆ ก็เถอะ แต่นั่นมันยังไม่เห็นจะหน้ากลัวขนาดนี้เลย
ชายชราผมขาวคนนี้ช่างดูแตกต่างจากคนปกติทั่วไปจริงๆ
 
       "คำสั่ง? แล้วผมต้องทำตามอย่างนั้นหรอ?.....ถามหน่อยเถอะครับว่านอกจากความเป็นปู่ใน
นามแล้ว คุณยังคิดว่าคุณมีสิทธิ์อะไรตัวผมมากมายแค่ไหน? ในเมื่อคุณไม่ได้เลี้ยงผมมา ความผูกพัน
กันทางสายเลือดรึก็ไม่มี และเผื่อคุณจะยังไม่ทราบนะครับว่าปีนี้ผมมีอายุครบยี่สิบปีเต็มแล้ว สามารถ
ตัดสินใจทุกๆอย่างในชีวิตของตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งผู้ปกครองแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นผมคิดว่า
ผมไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องกลับไปอยู่ญี่ปุ่นตามคำสั่งของคุณเลย" เจโล่จ้องตาพูดโต้ตอบกลับ
ไปด้วยประโยคคำพูดที่ยาวยืดอย่างไม่เกรงกลัวต่อสายตาและแรงกดดันที่ชายชราตั้งใจปล่อยออกมา
เพื่อที่จะข่มขวัญผู้น้อยตรงหน้านี้เลย
 
       "ถึงแม้ว่าพ่อแกจะนอนรอให้แกกลับไปดูใจมันก่อนตายน่ะหรือ?" ชายชราเลิกคิ้วถาม
 
       "มะ...ไม่จริง...คุณกำลังจะโกหกอะไรผมอีกในเมื่อแม่เคยบอกกับผมมาตลอดว่าพ่อของผม
เขาตายไปแล้ว" เจโล่ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ก็ตลอดเวลาที่แม่ยังมีชีวิตอยู่
แม่ก็มักจะพูดกรอกหูเขาอยู่เสมอๆ จนเขาจำขึ้นใจว่า...พ่อเขาตายไปแล้ว...แล้วผู้ชายคนนี้จะมา
เล่นตลกอะไรกับเขาอีกกันแน่?
 
       "ไม่เลย...อิจิโร่...ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแม่ของเธอได้พูดบอกอะไรกับเธอไว้บ้าง แต่ฉันขอเอาหัว
เป็นประกันเลยว่าสิ่งเหล่านั้น มันเป็นเรื่องที่โกหกทั้งเพ...เพราะฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้ดีกว่าใคร"
 
       "หมายความว่ายังไง..?"
 
       "เฮ้อ! ที่จริงฉันก็ไม่อยากจะพูดถึงมันสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่ถ้ามันจะทำให้แกเปลี่ยนใจกลับ
ไปดูใจพ่อแกที่ญี่ปุ่นได้ฉันก็จะฝืนใจพูดถึงมันอีกสักครั้ง แต่ก่อนอื่น...พาไอ้หนูนั่นมานั่งก่อนเถอะ
คนท้องคนไส้เขาว่าปล่อยให้ยืนมากมันไม่ดีไม่ใช่หรือ" เขาถอนหายใจทิ้งหนักๆทีนึงเหมือนกับว่า
เรื่องที่เขากำลังนึกถึงและกำลังจะพูดให้เจโล่ฟังต่อไปนี้มันเป็นเรื่องอะไรที่ไม่ควรจดจำอย่างมาก
ก่อนที่จะพยักพเยิดชักชวนให้เจโล่พาภามมานั่งที่โซฟาด้วยกัน
 
       "คุณรู้..?" เจโล่ถามอย่างตกใจ ที่ชายชราตรงหน้าคนที่เพิ่งจะได้รู้จักกันเพียงแค่ไม่ถึงชั่วโมง
แต่กลับบอกว่ารู้เรื่องส่วนตัวที่สำคัญมากของตนกับคนรักทั้งๆที่ความจริงแล้วเรื่องนี้มีแค่เขากับภาม
เท่านั้นที่รู้ แม้แต่คนที่เคารพรักและนับถือมากอย่างณัฐภาสกับพัสกรพ่อแม่ของภามเองยังไม่รู้เลย
 
       "ฉันรู้เรื่องของแกหมดทุกเรื่องนั่นแหละไอ้หลานชาย...เพียงแต่ที่ผ่านมาฉันไม่สามารถทำอะไร
ได้นอกเหนือจากการรอฟังข่าวแกผ่านทางลูกน้องของฉันก็เท่านั้นเอง" เขาบอก
 
       "ทำไม" เจโล่ถามต่อ หลังจากที่พาภามเดินมานั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับชายชรา
 
       "ก็เพราะแม่แกขู่เอาไว้ว่าถ้าพวกฉันแตะต้อง พูดคุย หรือแม่แต่มาทำให้แกรู้ว่าความจริงแล้ว
แกไม่ได้มีแค่แม่ของแกและพ่อของแกยังไม่ตาย.....มันก็จะข้าแกทิ้งยังไงล่ะ" เขาพูดเสียงเรียบเหมือน
กับเป็นเรื่องปกติทั่วไปไม่ใช่เรื่องความเป็นความตายอย่างที่พูดออกมา แต่กลับเจโล่เองตอนนี้นั่ง
ตัวตรงแข็งทื่อเหมือนกับโดนแช่แข็งไปแล้ว
 
       "ไม่จริง!!! คุณโกหก!!!" พอตั้งสติได้เจโล่ก็ลุกขึ้นโวยวายชี้หน้าชายชราอย่างไม่เกรงกลัว ไม่ไว้
หน้าว่าตนเป็นเด็กเขาเป็นผู้ใหญ่อีกแล้ว ในเมื่อชายชราคนนี้มาพูดว่าร้ายใส่แม่ผู้ล่วงลับที่เคารพรัก
ของตน.....ตั้งแต่จำความได้ แม่ของเขาเป็นผู้หญิงที่สวยทั้งรูปร่าง หน้าตา และจิตใจเลย แถมยังมี
นิสัยอ่อนหวาน อ่อนโยน มีเมตตาขนาดมดยังไม่กล้าเหยียบยุงไม่กล้าตบให้มันตายเลย แล้วอย่างนี้
จะให้เขาเชื่อได้ยังไงว่าแม่ของเขาเคยใช้เขาเป็นเกาะป้องกันตัวเองจากคนอื่นโดยใช้วิธีพูดขู่ฆ่าตัวเขา
ที่เป็นลูกชายแท้ๆของเธอเนี่ยนะ.....ไม่มีทาง!! เขาไม่เชื่อ!!!
 
       "เจโล่!! เป็นอะไรไปเจโล่!!! เกิดอะไรขึ้น!!!" ภามรีบผวากอดเจอย่างไม่ทันได้รู้ตัวเพราะร่างกาย
มันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าคนรักของตนทำถ้าจะพุ่งเข้าใส่ชายชราที่นั่งตีหน้าเรียบนิ่งอยู่
ฝั่งตรงกันข้าม และที่เขาต้องถามออกไปอย่างนั้นก็เพราะว่าเขาไม่รู้เลยว่าบทสนทนาตั้งแต่ต้นจนถึง
ตอนที่เจโล่มีท่าทางเหมือนสติแตกอย่างนั้นเพราะเรื่องอะไร ในเมื่อทั้งเจโล่และชายชราคนนั้นต่างก็
พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นที่เขาฟังไม่ออกกันทั้งคู่.....รู้อย่างนี้เวลาเจโล่จะสอนภาษาญี่ปุ่นเขาตลอดเจ็ดปีที่
คบกันมาเขาจะไม่งองแงไม่บ่ายเบี่ยงหรือเลี่ยงหนีทุกครั้งที่เจโล่จะสอนอย่างแน่นอน...เพราะวันนี้เขา
ก็ไม่ต่างจากไอ้งั่งคนนึงเลยที่ได้แต่นั่งมองหน้าคนโน้นทีคนนั้นทีทุกครั้งที่มีคำพูดออกมาจากปากทั้ง
สองคนนี้.....เซ็งชิบ!!!!
 
       "สงบสติอารมณ์ของแกลงซะไอ้หลานชาย ก่อนที่จะเมียแกมันจะเครียดไปมากกว่านี้...เดี๋ยวจะ
พาลไปลงกับเหลนของฉันที่อยู่ในท้องของมันอีก...ไม่ดีๆ" ชายชราพูดเตือนเจโล่พลางพยักพเยิดหน้า
ไปทางภามที่กำลังยืนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกอดแขนของเจโล่อยู่
 
       "เฮ้อ!! ไม่มีอะไรหรอกดื้อ...เดี๋ยวเอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟังที่หลังนะ" เจโล่ถอนหายใจทิ้งหนักๆหนึ่งที
ก่อนที่จะพูดบอกพร้อมกับลูบหลังให้ภามใจเย็นๆ เพราะไม่อยากให้ภามมาคิดและเครียดตามตนไป
ด้วย ทั้งๆที่เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องอะไรกับใครเขาเลย
 
       "อื้อ..ถ้ามีอะไรรีบบอกฉันเลยนะ..ฉันเป็นห่วง" ภามพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะทิ้งตัวนั่งที่เดิมตามที่
เจโล่ช่วยประคองพาตนนั่ง
 
       "เอาหล่ะ! เรื่องที่ฉันจะพูดต่อไปนี้ฉันสาบานได้ว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ส่วนแกจะเชื่อ
หรือไม่เชื่อมันก็เรื่องของแก แต่ฉันก็มีหลักฐานมาให้แกดูด้วยนะไม่ใช่มาพูดปากเปล่าเพื่อที่จะใส่ร้าย
แม่ของแก เพราะฉะนั้นไม่ว่าฉันจะพูดอะไรออกไป ก็ขอให้แกนั่งฟังอย่างสงบจนกว่าฉันจะพูดจบ อย่า
พึ่งขัดอย่าพึ่งพูดแย้งอะไรออกมาทั้งสิ้น เพราะไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกที่จะตกใจท่าทางบ้าๆของแก นอก
จากเมียของแกเองนั่นแหละ" ชายชราพูดบอกขึ้นทันทีที่เห็นว่าเจโล่ดูจะสงบลงแล้ว ส่วนเจโล่เองที่พอ
ได้ยินชายชราตรงหน้าพูดอย่างนั้นแล้วก็ทำแค่เพียงพยักหน้ารับรู้และส่งสัญญาณให้ชายชราพูดต่อ
ได้เลย เพราะเขาจะนั่งฟังนิ่งๆ อย่างที่เจ้าตัวบอก
 
       "ตระกูลฟูจิวาระของเราอยู่ในสายทหารเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ที่มีอิทธิพลยิ่งใหญ่มากในยุคนั้น
เพราะมีสายเลือดเดียวกันกับราชวงค์จักรพรรรดิผู้ปกครองประเทศมาช้านาน แต่เมื่อสมัยห้าร้อยปีที่แล้วตระกูลของเราโดนไอ้พวกโจรถ่อยที่ทำตัวเป็นเศษสวะมาใส่ร้ายป้ายสีให้แปดเปื้อนจนเราโดน
จักรพรรดิผู้ที่มีสายเลือดเดียวกันกับเราเป็นคนสั่งฆ่าพวกเราทั้งตระกูลเองกับมือของเขาเอง แต่ก็มี
ปู่ของปู่ของปู่ของปู่ฉันอีกทีที่หนีรอดกันมาทั้งสามคนพี่น้อง ตระกูลฟูจิวาระของเราจึงไม่หมดสิ้น
สูญหายไปอย่างที่คนชั่วพวกนั้นตั้งใจ แต่การกลับมาครั้งนี้ของเรา...เราไม่ได้เป็นทหารกล้าของราชวงค์
องค์จักรพรรดิอีกแล้ว เรากลับมาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ที่เราสร้างขึ้นมากับมือของพวกเราเองนั่น
ก็คือ 'นินจา'...หรือที่เรียกอีกอย่างว่านักรบในเงามืดยังไงล่ะ ต้นตระกูลที่อยู่รอดของเราทั้งสามคน
พวกท่านก็ต่างมีวิชาทางทหารไม่ต่างจากซามูไรทั่วไปอยู่แล้ว เพราะว่าก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นทุกคนใน
ตระกูลไม่ว่าจะหญิงหรือชายก็ต่างได้รับการฝึกเกี่ยวกับการฆ่าและป้องกันตัวจากอาจารย์สำนักดัง
อยู่แล้ว แต่ในเมื่อเราต้องการที่จะแก้แค้นและกู้ศักดิ์ศรีของตระกูลของเราคืน เราก็จะต้องเหนือกว่า
พวกทหารซามูไรธรรมดาๆ อย่างที่เคยได้รับการฝึกฝนมาจากในวังเมื่องครั้งก่อน และบังเอิญได้
จับพลัดจับผลูไปเป็นศิษย์ของนินจาที่เป็นนักฆ่าในตำนานในสมัยนั้นเข้าพอดี จึงได้รับการฝึกฝน
ในทุกๆวิชาที่ท่านอาจารย์ผู้นั้นมี และออกตามล่าหัวของพวกคนถ่อยเพื่อเอาเลือดชั่วๆของพวกมัน
มาสังเวยให้พวกพี่น้องที่ล่วงลับของเราทั้งตระกูล.....ที่ฉันเล่าเรื่องนี้ให้แกฟังก่อนเป็นอันดับแรกก็
เพราะว่าต้องการที่จะให้แกรับรู้ทุกๆ เรื่องอย่างไม่ปิดบังจริงๆนะ..อิจิโร่..เพราะฉันรู้ว่าแม่ของแกมัน
คงจะบิดเบือนเรื่องพวกนี้ไปจนหมดแล้ว....ทั้งที่ตัวแกเองก็ได้รับการฝึกสิ่งพวกนั่นมาตั้งแต่แกยัง
พูดไม่ได้เสียด้วยซ้ำ" ชายชราพูดบอก
 
       "ผมเนี่ยนะ?" เจโล่ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ท่าเขาได้รับการฝึกบ้าบออะไรนั่นเขาก็ต้อง
จำอะไรได้บ้างสิ....ถ้ามันเป็นเรื่องจริงหน่ะนะ!!!
 
       "ใช่! แกนั่นแหละ......เพราะแกเป็นทายาทคนเดียวที่เราเหลืออยู่ในตอนนี้!!"
 
       "หมายความว่ายังไง? ผมยังไม่เข้าใจอ่ะว่าสิ่งที่คุณพูดออกมาทั้งหมดนั่นมันเกี่ยวกับผมยังไง"
เจโล่ถามต่อ เพราะเหมือนกับยิ่งฟังเรื่องราวต่างๆที่ชายชราคนนี้เล่าให้เขาฟังแล้ว มันก็ยังไม่เห็นว่า
มีส่วนไหนของเรื่องราวทั้งหมดนี้ที่มันเกี่ยวกับเขาตรงไหนเลย....งงนะเฟ้ยยยย!!!
 
       "เกี่ยวสิ! ทำไมจะไม่เกี่ยว.....ในเมื่อหลังจากที่บรรพบุรุษต้นตระกูลของเราทั้งสามคนแก้แค้น
ไอ้พวกนั้นรวมทั้งโค้นล้มราชวงค์ไร้สมองนั่นไปหมดแล้วพวกท่านก็มาหันเปิดสำนักฝึกซามูไรแทน
แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปจนมาถึงรุ่นฉัน รุ่นพ่อแก และแกเป็นรุ่นต่อไปที่จะถึงนี้....ณ ปัจจุบันนี้
สำนักที่ว่านั่นของต้นตระกูลเราก็ยังอยู่ดี แต่เปลี่ยนจากการฝึกซามูไรในสมัยนั้น มาเป็นการฝึกทหาร
ตำรวจและบอดี้การ์ดแทน และแกก็เห็นอยู่กับตาตรงหน้าแกนี้ว่าฉันแก่มากแล้ว ส่วนพ่อแกก็ทำได้
แค่เพียงการนอนรอวันตายอยู่ที่บ้าน และคนที่จะตัดสินว่าตระกูลของเราจะคงอยู่หรือหายไปมัน
ก็ขึ้นอยู่กับแกเพราะแกเป็นทายาทคนเดียวที่เราเหลืออยู่ แต่เพราะตอนนี้ทุกๆอย่างฉันเป็นคนดูแล
ทุกสิ่งทุกอย่างที่บรรพบุรุษของเราสร้างมา ฉันจึงทนเห็นมันล่มสลายหมดสิ้นไปกับฉันไม่ได้ ฉันถึง
ได้ถ่อมาตามแกกลับไปรับตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของตระกูลเราที่โน่น หลังจากนั้นแกจะให้มันมีต่อ
หรือยุบไปก็สุดแท้แต่ความต้องการของแก.....ฉันจะไม่ห้ามเลย" ชายชราพูดบอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด
เมื่เผลอคิดไปถึงการล่มสลายของทุกสิ่งทุกอย่างที่บรรพบุรษสืบทอดต่อกันมา
 
       "แล้วเรื่องแม่ผมล่ะ" เจโล่ถามต่อ เพราะชายชราคนนี้ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องของแม่ตนแม้แต่นิดเดียว
ทั้งที่มันสมควรที่จะเป็นเรื่องแรกที่เขาควรจะพูดถึงแท้ๆ
 
       "แม่ของแก คือ เด็กที่ฉันกับย่าแกรับมาเป็นลูกบุญธรรมเพื่อจะให้มาเป็นเพื่อนเล่นกับพ่อของแก
ที่เป็นลูกแท้ๆของฉัน เพราะหลังจากที่ย่าแกคลอดพ่อแกออกมาแล้ว ก็ไม่สามารถมีลูกได้อีกเพราะมี
ความจำเป็นที่จะต้องตัดมดลูกกทิ้งไป.....แม่แกหน่ะเป็นเป็นเด็กที่น่าสงสารมากเลยนะ เพราะว่าเป็น
เด็กเร่ร่อนไม่มีที่อยู่ไปไหนก็มีแต่คนไล่ตีเพราะเนื้อตัวสกปรกมอมแมม จนฉันกับย่าแกไปเจอเข้าก็เลย
รับมาเลี้ยงเป็นลูกอีกคนอย่างที่บอกไป พวกฉันเลี้ยงพ่อแกยังไงก็เลี้ยงแม่แกอย่างนั้น รักพ่อแกอย่างไง
ก็รักแม่แกไม่มีน้อยไปกว่ากัน และคงเป็นเพราะความสนิทสนมจากพี่น้องบุญธรรมก็กลายเป็นคนรัก
จนมีแกเกิดออกมาในที่สุด ทั้งๆที่ฉันกับย่าแกโกรธพ่อกับแม่แกแทบตาย แต่ก็ทำได้เพียงแค่ทำใจและ
ให้อภัย มองข้ามความผิดบาปที่พ่อกับแม่แกร่วมกันทำมาและช่วยกันอบรมเลี้ยงดูและฝึกฝนในสิ่งที่
แกควรจะได้เรียนรู้ในฐานะผู้นำรุ่นต่อไป และฉันก็ไม่รู้หรอกว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้นแม่แกมันถึงได้
ตัดสินใจใช้มีดพกสั้นประจำตัวของมันแทงเข้าที่ขั้วหัวใจของพ่อแก และแทงซ้ำๆอีกหลายๆจุด จนทำ
ให้พ่อแกต้องกลายเป็นเจ้าชายนิททราอย่างทุกวันนี้ ก่อนที่จะหอบหิ้วแกในวัยสิบขวบกับเงินก้อนใหญ่
มาเริ่มต้นชีวิตใหม่กันที่ประเทศนี้ และพอรู้ว่าฉันส่งคนมาตามหาแม่แกก็จัดการเก็บคนของฉันไป
ซะเกือบหมด ที่เหลือไว้ให้กลับไปส่งข่าวให้ฉันที่ญี่ปุ่นอีกสองคนก็ในสภาพขาดๆเกินๆอย่างนั้น แถม
ยังขู่ฉันอีกว่าถ้าขืนฉันยังมายุ่งวุ่นวายกับแกหรือตัวแม่แกอีก แม่แกก็จะทำกับแกอย่างที่ทำกับพ่อแก
อีกคน.....อย่างนี้แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงต่อไปดี" เขาถามเจโล่กลับเมื่อได้เล่าเรื่องราวที่เป็นเหมือน
กับฝันร้ายของครอบครัว เมื่อสะใภ้คนที่รักไม่ต่างจากลูกในอกกลับกลายเป็นคนลงมือฆ่าลูกในอุทรณ์
ของตัวเองอย่างนี้
 
       "มะ...แม่" เจโล่เรียกผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เมื่อเห็นภาพเคลื่อนไหวในจอคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
ที่หนึ่งในลูกน้องชุดดำของชายชรานำมาวางและเปิดภาพวีดีโอที่เหมือนกับว่าได้มาจากกล้องวงจรปิด
ที่ไหนสักแห่ง ที่กำลังเล่นวีดีโอภาพเคลื่อนไหวที่แม่ของเขากำลังใช้มีดสั้นจ้วงแทงผู้ชายที่เป็นเจ้าบ่าว
ยืนคู่กันอยู่ในรูปภาพแต่งงานของแม่เขาก่อนหน้านี้...นั่นก็คือคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อของเขานั่นเอง...นี่แม่
ของเขาจริงๆ หรอ? ผู้หญิงเลือดเย็นในภาพวิดีโอนี้คือคนๆเดียวกับแม่ผู้แสนอ่อนโยนของเขาจริงๆน่ะ
หรอ? ถึงไม่อยากจะเชื่อแค่ไหนแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงในภาพวิดีโอนี้คือแม่ของเขาจริงๆ ไม่ใช่คน
หน้าเหมือนอย่างที่เขาเฝ้าภาวนา เพราะต้นเหตุของรอยแผลเป็นแผลใหญ่ที่ขมับข้างศีรษะข้างซ้าย
ของแม่เขา ที่เขาเคยถามว่าแม่ไปโดนอะไรมามันถึงได้ลึกและชัดขนาดนี้ แม่เขาก็ตอบกลับมาว่า แค่
หกล้มหัวฟาดมุมโต๊ะมา แต่สาเหตุที่จริงของมันคือ แม่เขาโดนคนที่เขาคิดว่าเป็นพ่อใช้แรงเฮือกสุดท้าย
ของตัวเองผลักแม่เขาไปฟาดกับขอบตู้เอกสารต่างหากล่ะ!!!!
 
       "ไม่เป็นไรนะเจโล่...ไม่เป็นไรๆ ภามอยู่ตรงนี้กับจ๋านะ...ไม่เป็นไรนะ....ไม่เป็นไร" ภามพูดบอก
พร้อมกับลูบหัวลูบหางเจโล่เป็นการใหญ่เพื่อเป็นการปลอบโยน เพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้และไม่
เข้าใจว่าชายชราผมขาวตรงหน้านี้พูดคุยเรื่องอะไรกันบ้างในตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่สิ่งที่เขาเห็น
ในหน้าจอคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คพร้อมๆ กันกับเจโล่มันเป็นอะไรที่น่าตกใจและสะเทือนใจจริงๆ เพราะ
ตลอดเจ็ดปีที่เขาคบกับเจโล่ในฐานะคนรักกันมานี้ คุณมี๊หรือแม่ของเจโล่เป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน
สุดแสนจะอบอุ่นและอ่อนโยนจนไม่น่าจะสามารถลงมือกระทำในสิ่งที่เขาได้เห็นในวิดีโอตรงหน้า
นี้ได้เลย.....ขนาดเขายังรู้สึกแย่ขนาดนี้และเจโล่คนที่ตลอดชีวิตนี้มีแต่แม่ล่ะ....จะเป็นยังไง???
 
       "อืม ไม่เป็นไรหรอก.....แล้วทำไมผมถึงได้จำอะไรไม่ได้เลยล่ะครับ" เจโล่กระชับฝ่ามือที่กุมอยู่
กับมือของภามพร้อมบอกว่าตนไม่เป็นไรด้วยเสียงเบา ก่อนที่จะหันกลับไปถามชายชราที่นั่งอยู่ฝั่ง
ตรงกันข้ามของตัวเอง
 
       "ก็เพราะว่าแกโดนแม่แกพาไปสะกดจิตให้หลงลืมสิ่งที่ผ่านก่อนที่แกจะมาอยู่ที่นี่และใส่เรื่องราว
ในสิ่งที่แม่แกอยากจะให้แกเข้าใจ จนบิดเบือนความเป็นตัวตนของแกไปจนหมดสิ้นหน่ะสิ" ชายชรา
ตอบ ก็อย่างที่บอกว่าเขารับรู้ในทุกๆ เรื่อง ทุกๆ อย่างในสิ่งที่เกิดขึ้นและเกี่ยวกับหลานชาย เพียงแต่
เขาเข้ามาใกล้มากไปกว่านั้นไม่ได้ เพราะเขาไม่กล้าพอที่จะเอาชีวิตหลานชายซึ่งเป็นทายาทเพียงคน
เดียวที่หลงเหลืออยู่ของตระกูล ไปกับการตัดสินใจของนักฆ่าสาวอันดับหนึ่งและเป็นนักฆ่าหนึ่งเดียว
ในสำนักที่ฆ่าได้แม้กระทั่งคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของตัวเองที่อยู่ร่วมกันมาแทบจะตลอดทั้งชีวิต.......
เพราะว่า.....กฏข้อสำคัญของนักฆ่าคือ ห้ามใจอ่อนปราณีแม้ว่าผู้นั้นจะเป็นสายเลือดของตนก็ตาม!!!
 
       "ช่วยทำให้ความทรงจำของผมกลับมาก่อนได้ไหมครับ แล้วหลังจากนั้นผมจะให้คำตอบคุณเอง"
เจโล่พูดบอกกับชายชราออกไป หลังจากที่นั่งเงียบทบทวนความคิดของตัวเองอยู่นาน
 
       "ได้สิ.....เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการเหมือนกัน" ชายชราตอบรับความต้องการของเจโล่อย่างที่
ไม่ต้องเสียเวลาคิดเลย เพราะเขาก็อยากจะให้เจโล่ได้จำอดีตและตัวตนของตัวเองได้เหมือนกัน เพราะ
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการจะเป็นผู้นำตระกูลรุ่นต่อไปก็คือ...ตัวตนที่แท้จริงของเจโล่ในอดีตนั่นแหละ!!!
 
 
 
 
 
 
 
______________________________________________________________________________TBC
นิยายเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อนและมีรายละเอียดต่างๆเยอะกว่าในเรื่องของภีมและเจ้านายนะคะ
เพราะฉะนั้นมี่ขอแนะนำให้คนอ่านที่น่ารักทุกท่านค่อยๆอ่านกันอย่างมีสติ อย่าอ่านแบบผ่านๆ
จะได้ประติดประต่อและจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเรื่องได้ อย่างไม่ต้องงง
และที่สำคัญตอนนี้พึ่งจะเป็นตอนที่สอง ยังไม่ถึงครึ่งของการเริ่มเรื่องเลยนะคะ
เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งคิดไกล และอย่าพึ่งคิดด่วนหาข้อสรุปนะคะ
#ขอให้อ่านกันอย่างมีความสุขกันทุกคนเลยนะคะ
#ช่วยกันเม้นหน่อยนะคะ มี่ไม่อยากเป็นคนบ้าที่ลงให้อ่านอยู่ฝ่ายเดียวแต่ไม่มีใครโต้ตอบเลย
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!!
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สอง(25.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-05-2016 19:33:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  เรื่องซับซ้อนตั้งแต่แรกเลย
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สอง(25.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: Dolamon ที่ 25-05-2016 21:11:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สอง(25.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-05-2016 00:34:49
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สาม(26.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 26-05-2016 21:52:21
26/02/59
 
ภาคเรียนที่สอง...บทที่สาม
 
 
 
 
 
 
 
       "คนพวกนั้นเขาเป็นใครหรอ? แล้วเขามาทำไม แล้วเมื่อกี้จ๋าคุยอะไรกับเขาภามฟังไม่รู้เรื่องเลย"
ภามเอ่ยถามขึ้นในขณะที่เขาทั้งสองคนกำลังนอนเคียงข้างกันอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่ แต่ยังไม่
หลับก็เท่านั้นเอง ที่ต้องถามอย่างนี้ก็เพราะว่าหลังจากที่คนพวกนั้นไปปแล้ว เจโล่ก็ทำเหมือนไม่มี
อะไรเกิดขึ้น พาเขาไปทานข้าวกลางวัน ดูทีวี ทำโน่นนี่นั่น จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้นี่แหละคนรัก
ของเขาก็ไม่คิดที่จะเปิดปากพูดอะไรให้เขาฟังเลย จนต้องเอ่ยถามเองอย่างนี้นี่แหละ!!...มันน่านัก!!
 
       "เฮ้อ! นึกว่าจะไม่ถามซะแล้ว" เจโล่พูดบอกออกมา
 
       "หมายความว่าไง?" ภามขมวดคิ้วถาม
 
       "ก็คิดว่าคนแถวนี้จะไม่อยากรู้เรื่องของเราแล้วไง หรือไม่ก็คล่องภาษาญี่ปุ่นจนไม่ต้องให้เรามา
คอยนั่งแปลให้ฟังแล้วไง ฮึๆ" เจโล่พลิกตัวตะแคงข้างเอามือเท้าหัวหันเข้าหาภาม
 
       "นี่...อย่าบอกนะว่าแกล้งกันอีกแล้วน่ะ!!" ภามพลิกตะแคงหันหน้าเข้ามาจ้องมองเจโล่อย่าง
จับผิด และพอจะรู้ตัวแล้วว่าโดนคนรักแกล้งเข้าให้อีกแล้ว.....ไม่ว่าจะกี่วันกี่ปีเจโล่ก็ชอบแกล้ง
ชอบแหย่ให้เขาหงุดหงิดเล่นอย่างนี้ตลอดเลย!! ไม่รู้ว่าถ้าวันไหนไม่ได้แกล้งไม่ได้แหย่เเขาแล้ว
เจ้าตัวจะนอนไม่หลับรึไงก็ไม่รู้!! เหอะ!!
 
       "ป่าวน้า...อย่ามาใส่ร้ายกันสิดื้อ!" เจโล่พูดเสียงสูงปฏิเสธเสียงหลงที่ภามดูก็รู้แล้วว่าเจ้าตัว
กำลังแกล้งทำไปอย่างนั้นเอง เพราะไม่งั้นคงจะไม่ยิ้มหน้าบานขนาดนี้หรอก
 
       "นี่แนะ! ก็รู้อยู่ว่าอยากรู้ยังจะมาแกล้งกันอีก...มันอึดอัดนะรู้มั้ย!!" ภามใช้สองมือของตัวเอง
เขย่าหัวเจโล่เพื่อแก้แค้นระบายความอึดอัดของตัวเองที่ต้องอดกลั้นมาตั้งแต่เมื่อตอนบ่าย เพราะ
สีหน้าตอนนั้นของเจโล่แลดูไม่ดีเอามากๆเลย แถมเจ้าตัวยังคงทำนิ่งเฉย เขาก็เลยคิดว่าคนรักคง
กำลังรู้สึกไม่ดีหรือไม่ก็กำลังคิดอะไรอยู่จึงไม่อยากจะซักถามหรือรบกวนอะไร แต่ที่ไหนได้...ไอ้บ้า
นี่มันดันแอ๊บนิ่งเพื่อที่จะแกล้งเขานี่เอง!!!.....แก...ตายแน่!!
 
       "อ๋อย! ยอมแล้วครับที่ร๊ากกก...เค้าผิดไปแล้วววว....ปล่อยก่อนนะๆ เจ็บอ่าาาา...." เจโล่ร้อง
โวยวายเหมือนถูกเชือดเมื่อโดนฝ่ามืออรหันต์ของภามดึงทึ้งผมเขย่าหัวของตนไปมาอย่างไม่มีปราณี
 
       "ไม่!! ขี้แกล้งดีนักใช่มั้ย!! นี่แนะๆ นี่ๆ แกตายแน่ไอ้จ๋าบ้าเอ้ย!!!" ภามเองก็ไม่ฟังเสียงขอร้องจาก
คนรักเลย แถมยังเพิ่มแรงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว.....แค้นนัก!
 
       "ขอโทษคร้าบบบ...คุณเมียที่เคารพ ต่อไปาสามีจะไม่แกล้ง(น้อยๆ)แบบนี้อีกแล้วคร้าบบบ...แต่
หยุดก่อนเถอะครับ เดี๋ยวลูกเจ็บน้าาา..." เอาวะ! คุณเมียไม่กลัวเขาเจ็บก็ต้องห่วงลูกบ้างแหละว๊ะ!!
เอาลูกมาเป็นข้ออ้างนี่แหละดีที่สุด!!.......ลูกจ๋าช่วยป๊ะป๋าหน่อยน้าาา
 
       "ก็ได้!! แต่อย่าให้มีอย่างนี้อีกนะ! ไม่งั้นได้ตายก่อนเห็นหน้าลูกแน่! ชิ!!" ภามบอกพร้อมกับใช้นิ้ว
จิ้มหน้าผากเจโล่ที่นอนค่อมตัวเองอยู่อย่างแรงพลางทำหน้าโหดใส่อีก
 
       "จ้าๆ จะไม่ทำอีกแล้วจร้า..." เจโล่พูดบอกพร้อมชูสามนิ้วเป็นการสัญญาให้ภามได้ดู แต่มือที่ใช้
รองศีรษะภามอยู่นั้นเจ้าตัวก็เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางไขว้กันลับหลังภามอีกที....ก็นะ! การแกล้งคุณเมียที่
เคารพให้โมโหเล่นเป็นเรื่องที่สนุกสำหรับเจโล่ที่สู้ดดดดด....เค้าว่ากันว่ายิ่งเมียด่าแสดงว่าเมียรัก...และ
ยิ่งเมียด่ามาก ก็แสดงว่ารักมาก......ชิมิ!!
 
       "ให้มันจริงเถอะ!...ว่าแต่พวกนั้นเขามาคุยอะไรกับจ๋าหรอ?" ภามยู่หน้าใส่เจโล่ ก่อนที่จะพูดถาม
ในสิ่งที่ตนอยากรู้ต่อ
 
       "เอ้า! ยังไม่ลืมอีกหรอกเนี่ย? นึกว่าลืมไปแล้วนะเนี่ย...กะจะเนียลืมสักหน่อย...ว้า..แย่จัง!" ยังๆ
เจโล่ยังคงลอยหน้าลอยตาพูดแหย่ภามต่อ
 
       "อยากเจ็บตัวอีกใช่มั้ย??" ภามยกกำปั้นขู่
 
       "โอ๋เอ๋ๆ ใจเย็นน่า ไม่แกล้งแล้วๆ.....ผู้ชายผมขาวคนนั้นน่ะนะ เขาบอกว่าเขาเป็นปู่แท้ๆของจ๋าเอง
และเขาอยากจะให้จ๋ากลับไปญี่ปุ่นกับเขา และที่สำคัญนะ เขาบอกว่าพ่อของจ๋ายังไม่ตายด้วย" เจโล่
เลิกแกล้งภามและพูดเล่าให้ภามฟังด้วยเสียงจริงจัง
 
       "หรอ...แล้วจ๋าจะไปกับเขาหรือเปล่า...จ๋าจะทิ้งภามกับลูกหรือเปล่า" สงสัยฮอร์โมนคนท้องจะเล่น
งานแฝดเล็กคนเก่งของบ้านอัครจินดากรณ์เข้าแล้วหล่ะ เพราะทันทีที่เจโล่พูดจบ ภามก็ถามเจดล่ด้วย
เสี่ยงสั่นๆน้ำตาคลอเบ้าทันทีเลยเหมือนกัน.....คิดไปทั่ว!!
 
       "จะบ้าหรือ...นี่ใครครับคุณภาม...นี่ยอดชายนายอิจิโล่สามีที่โคตรหล่อและแสนดีของคุณนะครับ
จะมาทิ้งลูกทิ้งเมียอย่างนั้นได้ไง...ไม่มีทางอ่ะ! จะมีก็แต่ความตายเท่านั้นแหละที่จะแยกเราจากกันได้
.....จำไว้เลย" เจโล่บอกพร้อมกับกดจูบซับน้ำตาให้ภามเบาอย่างแผ่วเบา
 
       "แล้วคนพวกนั้นล่ะ?" ภามถามต่อ
 
       "ก็ช่างคนพวกนั้นสิ...เขาไม่ได้มีความข้องเกี่ยวอะไรกับเราสักหน่อย.....แต่ว่านะ..มีอีกเรื่องนึงที่เรา
ต้องรับความช่วยเหลือจากเขา" ที่เขาพูดออกมาอย่างนี้ เขาไม่ได้พูดเอาใจคนรักแต่อย่างใด แต่มันคือ
สิ่งที่เขาคิดจริงๆ ถึงจะเป็นปู่แท้ๆและพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่อย่างที่ชายชราคนนั้นได้บอกจริงๆก็ตา
เขาก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องกลับไปอยู่ญี่ปุ่นกับคนพวกนั้นนิ ในเมื่อไม่ได้มีความผูกพันอะไรกันเลย
ฐานะตอนนี้ระหว่างเขากับคนพวกนั้นมันก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้าหรอก และเขาจะไม่มีวันปักใจเชื่อ
อย่างแน่นอนว่าแม่ของเขาเป็นคนคิดฆ่าพ่อจริงๆถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานเป็นภาพวีดีโอจากกล้องวงจรปิด
ก็ตาม แต่อย่าลืมสิ ว่ากล้องวงจรปิดนั้นมันมีแต่ภาพ แต่ไม่มีเสียง ซึ่งเราจะไม่รู้เลยว่าเหตุผลจริงๆของแม่
เขาที่ต้องลงมือทำร้ายพ่อเขาอย่างนั้นทำไม เขาจึงตอบตกลงให้คนพวกนั้นจัดการเรื่องความทรงจำ
เก่าๆของเขาให้กลับมานี่ไง เพราะเขามั่นใจว่าแม่จะต้องมีเหตุผลที่จะต้องทำอย่างนั้นและมันจะต้องมี
บางสิ่งบางอย่างเก็บไว้ในความทรงจำเก่าของเขาที่แม่ได้ปิดไว้แน่ๆ ไม่มากก็น้อย
 
       "เรื่องอะไร"
 
       "ก็เรื่องของแม่ที่อยู่ในวีดีโอที่เราเห็นเมื่อตอนกลางวันนั้นไง" เจโล่บอกเลยทำให้ภามนึกขึ้นมาได้
เหมือนกัน หลังจากที่เผลอลืมไปว่าตนก็ได้อยู่คลิบวีดีโอนั้นด้วยกันกับคนรัก
 
       "จริงด้วย....แล้วจ๋าชื่อมั้ยว่าคุณมี๊ทำอย่างนั้นจริงๆ" ภามถาม
 
       "ไม่มีทาง.....ดื้อก็รู้นิว่ามี๊เป็นคนยังไง" เจโล่ตอบพลางจ้องตาภามไปด้วย
 
       "อืม...ภามก็ว่างั้นเหมือนกัน..แต่ทำไมมันถึงได้มีคลิบวีดิโอแบบนั้นได้นะ" ภามพยักหน้าเห็นด้วย
กับเจโล่เพราะเขาเองก็มั่นใจว่าคุณมี๊หรือแม่ของเจโล่ไม่มีทางที่จะทำอย่างนั้นได้แน่นอนโดยเฉพาะ
กับคนที่เธอรักมากอย่างลูกหรือสามี เพราะตลอดเวลาที่ภามมาอยู่บ้านเจโล่ตั้งแต่เริ่มคบกันใหม่ๆจน
ถึงกับวันที่ช่วยกันดูแลแม่ของเจโล่ในตอนที่เธอล้มป่วยจนเสียชีวิตไปในที่สุด ภามพูดได้เต็มปากเลยว่า
เธอคือคนที่มีจิใจที่ดีงามมาก
 
       "นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องค้นหาเพื่อทวงคืนความบริสุทธิ์ให้กับมี๊" เจโล่พูดบอกด้วยสายตามที่เต็ม
ไปด้วยความแน่วแน่และจริงจัง
 
       "ทำไงอ่ะ?"
 
       "ฟื้นคืนความทรงจำ"
 
       "หมายความว่า...." ภามตกใจตาโตอ้าปากหวอ
   
       "อืม.....ต้องเรียกความทรงจำที่หลายคืนมา โดยใช้วิธีในการแพทย์อย่างที่เราเคยดูในสารคดี
นั่นแหละ" เจโล่พยักหน้ายืนยัน
 
       "แต่มันดูเจ็บปวดและทรมาณมากเลยนะ" ภามพูดเสียงสั่น เพราะพวกเขาสองคนเคยดูการรักษา
พวกฟื้นความทรงจำอะไรพวกนี้จากสารคดีต่างชาติในช่องเคเบิ้ลทีวีด้วยกัน ซึ่งแต่ละคนก็จะมีการรักษา
ที่แตกต่างกันไปแล้วแต่อาการ อย่างเช่น สะกดจิตเรียกความทรงจำนั้นคืนมา ไปจนถึงการใช้คลื่นไฟฟ้า
ช็อตสมอง ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ ขนาดตอนที่ดูจากผู้ป่วยโทรทัศน์ที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนเขา
ยังรู้สึกเจ็บแทนเลย แต่นี่เจโล่คนที่ซึ่งเป็นทั้งคนรักของเขาเป็นทั้งพ่อของลูกเขาและเป็นอีกครึ่งชีวิต
ของเขาจะต้องเป็นคนที่จะไปอยู่ตรงนั้นแทน เขานึกไม่ออกเลยว่าจะรู้สึกยังไง
 
       "อืม...ถึงจะเจ็บก็ต้องทน.....อย่าร้องเลย..ไม่เป็นไรหรอก...แค่นี้เอง" เจโล่บอกพร้อมกับก้มลงจูบ
เช็ดน้ำตาให้ภามเหมือนเดิม แต่ไม่ได้หยุดแค่นั้นเหมือนตอนแรกเพราะเขายังคงใช้ริมฝีปากไล่จูบ
ขบเม้มไปตามปากตามแก้ม และลงไปถึงซอกคอขาวของภามในที่สุด
 
       "ฮื่อ~" ภามร้องฮือย่นคอหนีสัมผัสจากคนรัก
 
       "จุ๊บ!.....ขอนะ" เจโล่วกขึ้นมากดจูบที่ริมฝีปากของภามเบาๆ พร้อมกับพูดขอ...คำว่า 'ขอ' ที่ไม่
ต้องขยายความภามก็เข้าใจดีว่าคนรักต้องการอะไร
 
       "อื้อ!...เบาๆนะ เดี๋ยวลูกเจ็บ" ภามบอกอนุญาติด้วยเสียงแผ่วเบา พลางเบนหน้าหนีสายตาที่เต็ม
ไปด้วยความต้องการอันแรงกล้าของคนรักอย่างเจโล่ไม่ไหว ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันมาก็ตั้งเจ็ดปีแล้ว ทำเรื่อง
แบบนี้ด้วยกันก็นับไม่ถ้วน แต่ไม่รู้ทำไมภามถึงไม่ชินสายตาคมหยาดเยิ้มนี้คู่ของเจโล่ไม่ไหวสักที
ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน......จำต้องใจสั่นทุกที!!!
 
       "ด้วยเกียรติเด็กช่างเลยครับ....ป๊ะป๋าขอรักคุณมี๊หนูหน่อยนะครับตัวเล็ก...จุ๊บ!!" เจโล่บอกกับภาม
ด้วยหน้าหื่นๆกับเสียงทะเล้นๆ ก่อนที่จะถอยตัวลงไปพูดขอและกดจูบกับลูกน้อยที่อยู่ในท้องของภามไปอีกที ก่อนที่จะเริ่มจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและว่าที่คุณแม่จนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่า
อย่างแผ่วเบา
 
       เนื้อนวลผิวสีน้ำนมขาวผ่องที่เปล่งปลั่งเป็นพิเศษเพราะมีเจ้าตัวน้อยในท้องของภาม ทำให้เจโล่
ที่น่าจะชินกับร่างกายของคนรักได้แล้ว ถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ ฮื่ม!! กินชะมัดเลย!!
 
       "อื้อ!! ไหนบอกจะเบาๆไง" ภามร้องท้วงเมื่อโดนเจโล่กัดเข้าตรงรอยสักที่แขนของตนเต็มแรง
 
       "หมั่นเขี้ยว! ชอบแอบไปสักดีนัก!!" เจโล่พูดบอกพร้อมกับขบกัดตรงรอยสักเดียวกันที่จุดเดียวกัน
เพียงแต่อยู่ที่แขนคนละข้างกันก็เท่านั้นเอง.....ไม่รู้ว่าเป็นไร ทำไมภามถึงชอบสักลายหนักหนาก็ไม่รู้
ชอบแอบหนีเขาไปสักอยู่เรื่อย ถึงจะเป็นลายเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่มันก็มีอยู่หลายที่จนแทบจะทั้งตัว
ซึ่งเป็นอะไรที่เขาไม่ชอบเอามากๆเลย ไม่ใช่ว่าเขารังเกลียดหรืออะไร แต่เพราะเขาชอบผิวธรรมชาติ
ไร้รอยลายสักที่มันมาบดบังความสวยงามของร่างกายของภามต่างหากล่ะ แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อ
การที่จะลบมันออกนั้นจะทำให้มีแผลเป็นและผิวสวยๆของภามมันจะกลายเป็นรอยด่างๆดวงๆ ก็สู้
ปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ไปนี่แหละ ก็สวยดี! แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่มีมัน! หึๆ
 
       เจโล่เคลื่อนขึ้นไปประกบจูบภามอีกครั้งอย่างแผ่วเบา สองร้อยทั้งสองเกี่ยวพันกันจนไม่รู้ว่าของใครเป็นของใคร สายตาคมจดจ้องมองคนใต้ร่างอย่างวาบหวาม หอมหวานจนภามแทบอยากจะละลาย
หายตัวไปจากตรงนี้เลยจริงๆ ก่อนที่จะไล่พรมจูบดูดดึงไปตามข้างแก้ม กกหู ชอกคอขาว ไปจนถึง
ยอดอกสีหวานที่เริ่มนูนเด่นมากขึ้นกว่าปกติเพราะฮอร์โมนของความเป็นแม่เพิ่มขึ้นสูง
 
       "อื้อออออ..." มือบางลูบแขนแกร่งของคนรักไปมา เชิดหน้ารับสัมผัสของอีกคนอย่างเต็มใจ
 
        "อ๊ะ! จะทำอะไรหน่ะ!" ภามร้องอย่างตกใจเมื่อเจโล่จับตนพลิกตัวนอนตะแคงหันข้าง โดยที่
เจ้าตัวเองก็ไปนอนซ้อนทาบทับท่าเดียวกันอยู่ข้างหลังอีกที
 
        "ถ้าทำท่านี้แล้วลูกจะไม่ตกใจ...สบายใจได้...จ๋าศึกษามาแล้วจ๊ะ!...เบเบ้" เจโล่ว่าเสียงทะเล้น
พร้อมกับซุกไซ้ไปมาอยู่กับท้ายทอยขาวของคนรัก.....ก่อนหน้านี้เขาได้ถามคุณหมอที่ตรวจภามวันนั้น
มาแล้ว แถมคุณหมอยังให้คู่มือ '9 ท่า เซ็กส์ที่ปลอดภัยสำหรับคนท้อง' ให้เขามาอีกต่างหาก เดี๋ยววันนี้
เขาขอลองประเดิมท่าแรกในหนังสือที่คุณหมอให้มาหน่อยก็แล้วกัน
 
       "เตรียมตัวมาอย่างดีแล้วสินะ...อื้อออ" ภามพูดประชดเบาๆ
 
       "แน่นนอนคร้าบบบ...คุณหมอบอกว่ามันมีผลดีกับคุณแม่และลูกน้อยด้วยน้าา...." เจโล่บอก
พร้อมกับค่อยสอดใส่อาวุธติดกายที่พร้อมรบของตนเข้าไปในช่องทางรักของภามอย่างระมัดระวัง
 
       "อ๊ะ!!" ภามสะดุ้งจิกหมอนแน่นเมื่อเจโล่ยกขาข้างนึงของตนขึ้นสูงพร้อมทั้งสอดใส่เข้ามา
 
       "อ่าาา....แน่นชิบ!!!" ครางอย่างแผ่วเบาเมื่อโดนช่องทางของคนรักตอดรัดถี่ๆ ก่อนที่จะค่อยๆ
ขยับสะโพกเข้าออกเบาๆ
 
       "อะ..อะ...อะ" จังหวะเนิบนาบที่แปลกใหม่ ไม่โลดโพนเหมือนอย่างเคย ทำให้ภามรู้สึกตื่นเต้น
มากกว่าปกติ
 
       และเมื่อภามปรับตัวได้แล้วเจโล่จึงเร่งจังหวะขยับสะโพกเร็วขึ้นกว่าเดิม มือหนาโอบประคองไม่
ให้อีกคนคว่ำหน้าลงไปซะก่อน
 
       "อ๊ะ! อ๊ะ! อื้อออออ" เสียงหวานครางสุดเสียงเมื่อถึงขีดอารมณ์วาบหวามของตัวเอง ปลดปล่อย
ออกมาทั้งที่อีกคนยังไม่ได้จับต้องกลางกายของตัวเองแม้แต่น้อย ส่วนเจโล่เองก็ขยับสะโพกเน้นๆ
อีกสองสามทีก่อนจะปลดปล่อยตามคนรักออกมาอีกคน
 
       "ฝันดีนะครับที่รัก จุ๊บ!" เจโล่บอกพร้อมกับกดจูบราตรีสวัสดิ์บนหน้าผากภามเบาๆ ก่อนที่จะทิ้งตัว
ลงนอนข้างกัน โดยไม่ลืมที่จะห่มผ้าห่มให้คุณแม่ขี้เซาที่ชิงหลับไปตั้งแต่เขายังไม่ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย
หลังจากที่เขาเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว
 
 
 
 
 
 
__________________________________________________________________________TBC.
เหอๆ เอ็นซีแรกมาน้อยๆ แบบมึนๆ
สงสัยว่าเราจะห่างเรื่องฉากหวานกันนานไปหน่อย
มี่ถึงได้เขียนไม่ค่อยออกอย่างนี้ แต่เอาไว้มี่จะแก้ตัวให้คราวหน้าแล้วกันเน๊าะ
แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!!! #เจอคำผิดตรงไหนบอกนะคะมี่จะได้แก้ให้
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สาม(26.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-05-2016 23:18:50
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สาม(26.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 26-05-2016 23:42:04
เอาใจช่วยภามกับเจโล่น้า~
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สาม(26.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 28-05-2016 20:50:57
ตลกเจ้าคุณ
ภีมแสบสุดๆอะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง/เล่นเพื่อน/ภาค2(ภาม&เจโล่) Mpreg/Up.บทที่สาม(26.05.59)
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 31-05-2016 21:45:02
ชอบภีมกะพี่นายอะ happy happy

รออแอน้งภามต่อจ้า
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: เขียนสือ ที่ 09-07-2016 00:44:39
ตอนนี้มี่ต้องขอระงับวายไทยไว้ก่อนนะคะ
เนื่องด้วยปัญหาหลายๆอย่าง แล้วจะรีบกลับมาอัพสองแฝดที่เหลือต่อให้นะคะ
#ขอโทษจากใจจริงเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 09-07-2016 13:19:57
สนุก  อิอิ 

อ่านรวดเดียว เพลินๆ ยาวๆ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 01-09-2016 22:39:07
 :pig4: สนุกมากค่ะ อย่าลืมมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-09-2017 04:53:28
สนุกดี เข้ามาโพสให้จบได้ไหม อ่านแล้วค้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 29-09-2017 03:26:13
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-09-2017 13:17:36
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 30-09-2017 11:49:15
น่ารักดี ขอบคุณมากนะ แต่เหมือนลงไม่เสร็จ55
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 14-11-2017 21:05:59
 :mc4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 15-12-2017 09:34:20
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด คิดว่าน้องภีมจะเป็นเมียซะอีกกกกกกกกกกก อิตาเจ้าคุณมันร้ายยยยยยยยยย แต่น้องภีมก็เอาอยู่55555 แต่ตอนแรกเหมือนตัวเองจะเขียนให้น้องภีมเหมือนพัสนะตัวเองงงงงง แอบงงแต่ก็ขอบคุณจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 17-12-2017 13:07:37
คู่คุณลูกก็น่ารักแต่แอบเคืองเจ้าคุณ. 555

รอตอนต่อของน้องภามนะคะ
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: porky ที่ 20-12-2017 17:17:14
อยากได้ตอนต่อแล้วง่า จะลงแดงตาย :hao5: :serius2: :katai1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 27-12-2018 14:38:58
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 20-01-2019 16:58:08
รออยู่น้าาาาา
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ภาครักนี้...พี่กะน้อง (ภีม&เจ้านาย) -End-
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 16-03-2019 12:08:58
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: น่ารักๆๆๆ