๑
สายลมร้อนหนาวพัดผ่าน ผ่านมาแล้วผ่านไป วลีคุ้นหูของคนเหงาทุกหนแห่ง ซึ่งได้รับการพิสูจน์ความจริงเท็จจากหญิงชายทั้งหลายแหล่ ผู้เพียบพร้อมไปด้วยข้อด้อยและความกังขาในพระเป็นเจ้า เหตุไฉนไม่ประทานรูปลักษณ์ดังคาดหวัง เหตุไฉนเขาหรือใครจึงได้รับและจับต้องพรวิเศษเช่นนั้น แล้วตัวฉันนั้นผิดอะไร จึงไม่สมปรารถนา
“เดี๋ยวนี้มีออกบ่อย ชายรักชายเดินจับมือกันทั่วไป ฉันเป็นผู้หญิงยังอิจฉาพวกเขาเลย”
“ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขาหน้าตาดีกันทั้งคู่ ไม่แปลกเลยที่ฟ้าจะประทานความรักเช่นนั้นให้”
โลกเปิดกว้างสำหรับทุกการแสดงออก ความชอบส่วนบุคคลถูกตีแผ่เป็นความนิยมของมวลชน โลกเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ‘โลกของคนหน้าตาดี ที่ได้รับพรของพระผู้เป็นเจ้า’
ดอกวิเศษสีขาวนวล ซึ่งผ่านการดูแลเอาใจใส่มาอย่างดี ผ่านแรมเดือนแรมปี ผ่านมาทุกฤดูที่ผันผ่าน เตรียมไว้สำหรับวันแห่งปรารถนา วันที่ดอกไม้สีขาวจะขับสีแห่งความรู้สึกออกมา ดอกไม้แสนบริสุทธิ์กับมือสีเข้มคู่นั้น ที่กระชับกระถ่างไว้แน่นไม่ห่างตัว รอใครคนหนึ่งออกมารับไว้ด้วยดวงใจ
“เคนจะชอบขนมที่ฉันทำให้เขาไหมนะ”
“ตุ๊กตาตัวนี้ฉันเย็บเองกับมือ เขาต้องชอบอย่างแน่นอน”
“ส่วนฉันวาดรูปของเขาสุดฝีมือ เตรียมเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ”
“แล้วเธอล่ะเอาอะไรให้เขา”
ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ หากเปรียบเขาเป็นดวงอาทิย์อีกดวงคงไม่แปลกอะไร เมื่อผู้คนต่างรอบล้อมอยู่ข้างกายเขาเช่นนี้
เคน คือชื่อของชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตา ฐานะ และการศึกษา เป็นรุ่นพี่ในมหาลัยแห่งหนึ่ง คณะของเคนส่วนมากเป็นผู้ชาย นิยมเสื้อแขนสั้นเปื้อนคาบน้ำมัน บ้างก็เป็นเศษเหล็กเศษโลหะ ขึ้นอยู่กับผู้สวมใส่ แต่สำหรับ ‘เคน’ ไม่ว่าอยู่ในอาภรณ์ใด กลับกลายเป็นอวาตารของเทพเทวดา ดั่งเทพที่ลงมาจากชั้นสวรรค์ เพียบพร้อมไปด้วยพรที่พึงปรารถนา
กายสีเข้ม ยังอยู่กับที่ไม่ไปไหน รอเวลาปรากฏตัวของใครคนหนึ่ง เคน ของใครๆ ก็คือ เคน ที่เขาเฝ้ารอเช่นกัน ระยะเวลาไม่กี่นาทีไม่อาจเทียบระยะทางที่เฝ้ารอมานาน นานเสียจนกาลเปลี่ยนผัน จากเมล็ดกลายเป็นลำต้นสูงใหญ่เกินคาดหวัง ดอกสีขาวที่ผลัดกลีบมาหลายครา บัดนี้ความแก่ชราไม่อาจเฝ้ารอเวลาได้อีกต่อไป จำเป็นต้องส่งมอบความรู้สึกที่สั่งสมมาให้กับเจ้าของอย่างแท้จริง
กายขาวผ่องก้าวเดิมพ้นกรอบสี่เหลี่ยม ที่มีบานพับสองบานประกอบคู่ เสียงมวลชนต่างเรียกร้องและโหยหวนตัวของเขาคนนั้น ชีวิตนับร้อยมุ่งตรงไปที่ศูนย์กลางของอนุจักวาล ต่างส่งมอบความคิดความปรารถนาให้ศูนย์กลางนั้น มือสองข้างไม่อาจแบกหามทุกความรู้สึกไว้ได้ จึงต้องผ่อนภาระไว้แก่พื้นโดยรอบ กระดาษสีสวย กล่องกระดาษลายแปลกตาวางเกลื่อนทั่วบริเวณ ไม่เว้นแม้แต่ดอกไม้ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว สีแดงสด สีส้มแสบตา สีเหลืองอ่อนละมุม สีขาวแสนสบาย ซ้อนทับกันเป็นภูเล็กน้อยใหญ่
“พี่เคนลองชอบช็อคโกแลตไหมค่ะ หนูเลือกยี่ห้อที่อร่อยที่สุดให้สำหรับพี่เคน”
“ของหนูทำเองกับมือ ไม่เคยทำให้ใครนอกจากพี่เคน”
“ได้ยินมาว่าพี่เคนชอบแมว หนูเอาตุ๊กตาแมวมาให้พี่เคน”
“ของผมเป็นสมุดภาพ ถ่ายเองทุกรูปครับ ให้พี่”
“ช่วยรับกระถ่างนีเด้วยนะค่ะ อยากให้พี่เคนดูแล”
“ขนมที่ผมอบครับพี่เคน”
ทำอย่างไรถึงจะมัดดวงใจของเขาได้ เป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ เมื่อชายหนุ่มไร้คนที่หมายปอง ความปรารถนาของหญิงชายถูกเติมเต็มเรื่อยมา แม้ไม่ทราบหนทางที่ก้าวเดินว่า ต้องทำอย่างไรจึงจะพบกับคำตอบ
.
.
เข็มนาฬิกาวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฝูงชนบางตาจนหมดไป เหลือไว้เพียงตัวเขาและเศษซากความรู้สึกจากคนแปลกหน้า คนที่เฝ้ารอลับหายไป ไม่แม้แต่ชายตามอง เลือกของไม่มากชิ้นกลับไป ส่วนเกินทั้งหลายกลายเป็นหน้าที่ของหญิงผู้รักความสะอาดโดยบังคับ ต้องจัดการดูแลความสงบบนพื้นที่แห่งนี้ จากความเงียบที่ไร้การเคลื่อนไหว
“รออะไรอีกพ่อหนุ่ม ทำไมยังไม่กลับบ้านกลับช่องเราล่ะ”
“ผมช่วยไหมครับ”
คำถามไม่ได้รับการตอบกลับ แต่ผู้เอ่ยก็ไม่หวังในคำถามเป็นทุนเดิม ทั้งคู่ช่วยจัดการสินทรัพย์ที่ใช้ได้และไม่มีค่าออกจากกัน สิ่งไหนช่วยประทังความหิวได้ก็รักษาไว้ให้มั่น นอกนั้นก็ทิ้งไป ไร้ซึ่งการเยียวยา
เพราะผู้ให้และผู้รับนั้นมองต่างมุมกัน
“กระถ่างนี้เอาไว้ตรงหน้าขึ้นคงเหมาะกว่า เสียดายหากเอาไปทิ้ง”
หญิงวัยร่วงโรยกล่าวขึ้น
๒
เขาถือของชิ้นเล็กกลับมาเพียงไม่กี่ชิ้น เลือกจากความสนิทและรู้สึกมีส่วนร่วมในชีวิต ไม่แฝงความนึกคิดแม้เพียงเล็กน้อย เพราะเป็นปกติของวันนี้ในทุกๆปี ที่จะมีคนแปลกหน้าจากหลายแหล่งมารวมตัวกันเพื่อมอบสิ่งๆเดียวให้กับเขานับชิ้นไม่ถ้วน คือ ‘คาว_คาดหวัง’
“กลับมาแล้ว”
สิ่งมีชีวิตสี่ขาหนึ่งหางหนึ่งดวงใจวิ่งตรงมา เจ้าของเสียงเสียเวลากับเรื่องดังกล่าวไปมาก มากกว่าความใส่ใจกับของที่ได้รับมา เพราะสิ่งนี้สำคัญสำหรับเขา สำคัญยิ่ง ยิ่งกว่าสัตว์มีความคิดพูดได้ เจ้าเลห์เป็น
“เหงาไหมอยู่คนเดียว ฉันกลับมาแล้ว”
พูดกับอีกชีวิตหรือพูดกับตนเอง ยังไม่มั่นใจในคำตอบ
กิจวรรตของคนคนหนึ่งอาจมีมากกว่าหนึ่ง เพื่อประทังความเงียบในจิตใจ ที่ไม่อาจกล่าวออกมาได้ กับความเพียบพร้อมที่ฉาบด้วยมายาคติ ฉาบความคิดของใครหลายคน ต่างคาดหวังในตัวของคนคนนี้ ที่ไม่มีอะไรต่างจากใครเลย
ไม่ต่างจากความเข้มในมุมมืดนั้นเลย
พรใดไม่อาจกล่าว ไม่ว่าพรไหนต่างเป็นพรของพระผู้เป็นเจ้าทรงไตร่ตรอง มีเพียงสิ่งหนึ่งที่พระองค์ไม่คาดหมายและควบคุมไว้ซึ่ง คือ ความเหง่าของบรรดา
เพราะพรนี้ไม่ใช่พรประทานของพระองค์
[/i]
จบ
สุขสันต์กาลแห่งรักนี้