พิมพ์หน้านี้ - ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: himecrazy ที่ 19-06-2008 21:09:22
หัวข้อ:
ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
himecrazy
ที่
19-06-2008 21:09:22
:m23: :m23: :call: :o11: o1 o1 :m5: :m5:
ขอฦโทฝา นะคะ ที่หายไปนานไม่มาลงตอนพิเศษให้สักที คราวนี้มาลงตอนพิเศษต่อให้จนจบเลย ค่ะ
ราตรีประดับดาว
ตอนพิเศษ : ยัยละมุดของตาก้อง ?
ทิวานอนอ่านหนังสือโดยนอนราบหนุนศีรษะกับท่อนขาของสนธยา ใบหน้ามนแย้มยิ้มน้อย ๆ เมื่ออ่านหนังสือเล่มที่มานะพยายามสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์โครงสร้างพืชแต่ละชนิดซึ่งในหนังสือนั้นเป็นข้อมูลความรู้ที่ทิวาจำเป็นต้องใช้ในแล็ปอยู่ทุกวัน ๆ
สนธยามองใบหน้าของคนอารมณ์ดีนอนอ่านหนังสือโดยหนุนตักเขาอย่างเอ็นดู มองจากด้านบน...ขนตาเป็นแพสีน้ำตาลอ่อนมองดูงามกว่าสมัยเจ้าตัวยังอายุเพียงรุ่น ๆ อีกทั้งเครื่องหน้าของคนที่โตเต็มที่นั้นหมดจดงดงามจนคนมองยังต้องเหลียวหลังจนบางทีสนธยาเองยังต้อง ‘ระงับ’ อารมณ์อย่างเต็มที่เวลาที่ทิวาไปที่โรงพยาบาลแล้วโดนทั้งหมอ ทั้งพยาบาลมองตามจนตาเยิ้ม...
“ ไม่เอา...ไม่เล่นด้วยแล้ว โกรธแล้ว...ก้องนิสัยไม่ดี ”
เสียงเด็กหญิงโวยวายพร้อม ๆ กับเสียงวิ่งตึง ๆ ตรงมาทำให้ทั้งทิวาและสนธยาต้องเหลียวไปมอง ‘ลูกสาว’ ที่วิ่งหนีเข้าไปในห้องครัว ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก็เป็นอันรู้กันว่า...เข้าไปร้องไห้
พอเด็กหญิงวิ่งหายเข้าไปในครัว ทิวาก็ตั้งท่าจะลุกขึ้นไปหาลูก แต่สนธยากลับยิ้มบาง ๆ รั้งไว้ไม่ให้ตามไป...ทำเอาทิวาต้องส่งสายตาเป็นเชิงถามอย่างไม่เข้าใจ จนสนธยาโบ้ยใบ้ให้หันไปดูเด็กชายที่วิ่งตามเข้ามาติด ๆ
ตาก้องวิ่งตึง ๆ ตามเข้ามาก่อนทำท่าจะเลี้ยวเข้าไปในครัว แต่ทว่าเมื่อใบหน้าของเด็กชายโผล่เข้าไปก็กลับถูกห่อขนมปังฟาร์มเฮ้าส์โยนโปะเข้าหน้าแบบพอดิบพอดี
“ อย่าร้องสิ...ละมุด ”
เด็กชายพยายามเยี่ยมหน้ามองเด็กหญิงที่ร้องไห้สะอื้นอยู่ในห้องครัวโดยไม่กล้าโผล่เข้าไปทั้งตัว โดยตาก้องได้แต่ถือห่อขนมปังฟาร์มเฮาส์ทำหน้าหมอง ๆ พลางแก้ตัวอ่อย ๆ
“ ที่ก้องเรียกตัวเองว่าละมุด...นั่นก้องไม่ได้ล้อให้อายนะ แต่ก้องเห็นว่า...เรียกแล้วน่ารักดี เอ่อ...ก้องไม่ให้คนอื่นเรียกหรอกนะ ใครเรียกนอกจากก้องนะ...ก้องจะไปไล่เตะมันให้หมดเลยดีไหม? ”
ฟังเด็ก ๆ ง้อกันเองก็น่ารักดี...สนธยายิ้มให้คนตัวเล็กกว่าก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ หวาน ๆ แต่มีแววเย้า
“ เด็ก ๆ เล่นกัน...เดี๋ยวก็ง้อกันเองละ เรากำกับดูอยู่เฉย ๆ ก็พอแล้วละนะ อีกอย่างลูกเราก็ไม่ใช่เด็กโมโหร้ายอะไร ก็แค่งอน ๆ ที่โดนล้อเอาเท่านั้นเอง ดูเอาสิ...ขนาดจะหาของปาออกมานั่นยังอุตส่าห์หาขนมปังแผ่นของชอบตาก้องมาปาใส่เจ้าตัวอีกนะดูสิ หึ หึ หึ ”
“ ถึงจะรู้ว่าทั้งลูกเราแล้วก็ทั้งตาก้องจะไม่ใช่เด็กโมโหร้าย แต่...ถ้าเราช่วยกันคุยและอธิบายกับลูกจะดีกว่าไหม ? ”
สนธยายิ้มพราย...เพราะทิวาเป็นคนอ่อนโยน บางทีการกระทบกระทั่งกันของคนรอบข้างมักมีผลกับเจ้าตัวอยู่เสมอ เพราะสังเกตได้ว่าเมื่อคนรอบตัวทะเลาะทุ่มเถียงกันทิวาจะเริ่มทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยสบายใจ แล้วยิ่งเกิดการขึ้นเสียงทำลายข้าวของก็จะยิ่งเพิ่มความเครียดให้กับคนตัวเล็กอีกเป็นเท่าตัว
“ ไม่เป็นไร...ก็ดูกันก่อนสิ เราเป็นพ่อเป็นแม่มีหน้าที่ปกป้องดูแลเขาก็จริง แต่บางทีก็ให้เขารู้จักแก้ปัญหากันเองบ้างน่าจะดีกว่านะวา อีกอย่างลูกเราก็15 แล้วนะ การที่แกไม่ได้ไปไหนแล้วก็เล่นแต่กับตาก้องน่ะก็ไม่ได้หมายความว่าอายุของแกจะลดลงเหลือเท่าตาก้องนะวา บางที...ยัยมุจก็ควรจะต้องคิดอะไรเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ให้อภัยในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง ตาก้องก็ 8 ขวบแล้ว...ไม่ใช่ว่าจะยังเล็กแล้วพูดกันไม่รู้เรื่อง ”
ถึงจะกังวล...แต่สุดท้ายทิวาก็ค่อยผ่อนลมหายใจลง สนธยาจึงยิ้มเอาใจก่อนจะโอบเอวคนตัวเล็กกอดไว้เบา ๆ ชวนกันยืนแอบฟัง...เด็ก ๆ เค้าง้อกันบ้าง
“ ทำไมต้องเรียกว่าละมุด ? มุจอายนะก้อง...ไปพูดให้น้ำหวานได้ยินทำไม ? ”
เด็กชายเริ่มหน้าเสีย...นึกได้ว่าน้ำหวานเป็นเด็กนิสัยไม่ดีเรื่องการพูดมากคนหนึ่ง เผลอ ๆ พรุ่งนี้เด็กแถวบ้านได้ล้อเรื่องนี้กันหมดซะละมั้ง
“ ก้องขอโทษ...อย่าโกรธนะ ก้องไม่ให้คนอื่นพูดเด็ดขาดเลย ถ้า...ถ้าใครเรียกละมุดนอกจากก้องนะ ก้องจะไปเตะมันเองดีไหม? ”
เด็กชายทำท่าเอาจริงเอาจัง ในขณะที่เด็กหญิงค่อยหยุดร้องไห้...หันมาพูดหน้างอ ๆ
“ น้ำหวานชอบล้อคนอื่น...เป็นคนนิสัยไม่ดี แต่ก้องที่ไปเตะคนอื่นก็คงแย่กว่าน่ะแหละ เพราะงั้นไม่ต้องหรอก...ใครจะเรียกยังงั้นก็ปล่อยเค้าไป ”
ผู้ปกครองสองคนที่แอบฟังอยู่ค่อยถอนใจอย่างโล่งอก เมื่อเด็กหญิงตอบเหมือนจะปลงได้...ว่าล้อคนอื่นกับไล่เตะคนอื่นก็เลวร้ายไม่แพ้กัน เพราะงั้นอย่าทำจะดีกว่า อย่างที่พ่อสนว่า...ลมปากไม่ทำหัวใครแตก ใครอยากพูดก็ปล่อยมันไป เดี๋ยวมันเหนื่อย...มันเก๊าะเลิกพูดเอง
“ โล่งอกไปเนาะพี่สน... ”
ทิวาทำท่าถอนใจก่อนที่คนตัวโตจะก้มลงหอมแก้มคนในอ้อมแขนทีหนึ่งด้วยความมันเขียว
“ ลูกเราน่ะงอนอาการคล้าย ๆ คนแถวนี้แหละ...งอนแบบน่ารัก ๆ ดีนะ หึ หึ หึ เห็นท่าพี่ต้องสอนวิชาง้อให้ตาก้องมั่งแล้ว...ไม่งั้นเดี๋ยวพองอนหนีกันเข้าครัวหมดเดี๋ยวจะง้อกันไม่ถูก ”
พูดจบก็ไม่รอให้โดนคนตัวเล็กออกอาการงอน สนธยาก็ก้มลงซุกหน้าลงกับไหล่บางก่อนจะพูดอ้อนเบา ๆ
“ แต่...ตอนนี้พี่อยากงอแงมั่ง ไม่รู้วาจะง้อมั่งไหม ”
“ ไม่ง้อ!! ”
ทิวาตอบทันที...ทำเอาสนธยาหน้าจ๋อย ก่อนที่ทิวาจะดึงแก้มคนตัวโตกว่าจนสนธยาร้องออกมาเบา ๆ และพอคนตัวสูงคลายวงแขนปั๊บ...ทิวาก็เดินหนีไปในบ้านเสียเฉย ทำให้สนธยาต้องตามไปง้อพร้อมกับร้องบอกเสียงอ่อน ๆ
“ วาใจร้าย... ”
// ก็เรื่องอะไรจะง้อ...ง้อทีไรก็โดนตะล่อมทุกที ขืนยอมง่าย ๆ ก็เหมือนโยนปลาย่างใส่ปากแมวตัวโตปะไรล่ะ!!//
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
himecrazy
ที่
19-06-2008 21:11:27
ราตรีประดับดาว
ตอนพิเศษ : ยัยละมุดของตาก้อง ? 2 / แมวกับปลาย่างตากลม [จบ]
สนธยาพยายามนัวเนีย ง้อคนตัวบางสารพัดเพราะทิวาทำหน้างอไม่พูดไม่จาจนเขารู้สึกใจหาย มือหนา ๆ ลูบไหล่บาง ๆ ก่อนจะทำหน้าจ๋อย ๆ เมื่อเลื่อนมือขึ้นไล้ที่ต้นคอขาวก็กลับถูกมือบางตีเพียะเข้าให้เหมือนตอนจะแอบหยิบกับข้าวกินไม่มีผิด
“ วาจ๋า...อย่างอนเลย พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ...แค่แหย่เล่นเฉย ๆ ”
“ ก็ว่าเด็กงอนแล้วน่ารักไม่ใช่เหรอ ? แล้วมาว่าวางอนเหมือนเด็ก...ชอบนักเลยจะงอนข้ามปีเลยดีไหมจ๊ะ? ”
คนตัวเล็กพูดพลางเค้นยิ้มจนหวาน หวาน...จนสนธยายังเหงื่อตก เพราะลงแบบนี้สงสัยจะต้องง้อกันนานแน่ ๆ ถ้าพูดผิดหูไปอีกทีนึงละก็ ดังนั้นคนตัวสูงเลยตัดสินใจโอบคนตัวบางกอดเบา ๆ ในขณะที่คนโดนกอดทำท่าฮึดฮัดใส่
// โธ่วา...ฮึดฮัดแต่ไหงหน้าแดงอย่างงี้ละเจ้าตัวยุ่ง //
สนธยายิ้มกริ่มเมื่อเห็นคนดิ้น...งอนป่องนั้นบัดนี้แก้มขาว ๆ เริ่มซับสีระเรื่อเจือจาง
“ เอ...หนังไทยเค้าชอบทำไงนะ เวลานางเอกงอนแบบนี้ต้องอุ้มใช่ไหม? ”
พูดจบ...คนตัวสูงก็ช้อนคนตัวบางที่เคยดิ้นขึ้นอุ้ม ก่อนจะยิ้มจนดวงตาพรายระยับอย่างคนขี้เล่น ในขณะที่ทิวาหน้าเรื่อ...โวยวายลั่น ๆ
“ ทะลึ่ง!! พี่สนวางวาลงเลยนะ....เดี๋ยวหล่นนนนน ปล่อยยยยยย วากลัวร่วงงงงง!! ”
พออุ้มพาเดินฉับ ๆ รวดเร็ว...คนโดนอุ้มก็โวยวายพลางเกาะไหล่หนาแน่นเข้า สนธยาสนุกสนานเพราะรู้มาแต่ไหนแต่ไรว่าวาไม่ชอบให้อุ้มท่าเจ้าสาว ไม่ได้อายอย่างเดียวหรอกนะ...แต่เจ้าตัวบางนี่น่ะกลัวตกมากกว่าอะไรอื่นซะอีก!!
แล้วไอ้อุ้มนางเอกเนี่ย...ทำให้ทิวายิ่งหน้าแดง เพราะเมื่อวานนั่งกินข้าวหน้าทีวี ละครหลังข่าวกำลังได้ที่...พระเอกอุ้มนางเอกเข้าห้องไป ทิวาจำได้...ว่ามุจลินทร์กลายเป็นเจ้าหนูจาไม ถามว่าพระเอกอุ้มนางเอกไปไหน? ไปทำอะไร ? เท่านั้นแหละคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องรีบแก้ตัวพัลวันจนตอนนั้นทิวาถึงกับบ่นออกมาว่า
// ละครหลังข่าวนี่ไม่เหมาะกับยัยหนูนะพี่สน เดี๋ยวนี้เนื้อหามันโจ่งแจ้งพิกล //
แต่คนตัวโตกลับหัวเราะขำ....เย้าเข้าให้
// พี่ว่าพี่หวงวา...คิด ๆ ว่าตัวเองอาการเหมือนคนหัวโบราณแล้วนา แต่พี่ว่าวาเองน่าจะหัวโบราณกว่าพี่ซะอีกนะ หึ ๆๆ //
คนตัวเล็กกอดคอคนอุ้มแน่น มือสั่นไปหมดเพราะกลัวหล่นไปก้นกระแทก ทิวาก็ไม่รู้ว่าทำไมกลัวนัก รู้แต่ว่าตัวเองไม่กลัวความสูงนะ...แต่เวลาโดนอุ้มจะกลัวหล่นเหลือเกินโดยไม่มีสาเหตุ
“ ไม่เอาแล้ว...ปล่อยวานะ เดี๋ยวหล่น ”
จากโวยวายก็ชักเสียงอ่อน เหมือนคนกลัวจนไม่มีแรงจะห้าม สนธยาที่เริ่มสงสารคนที่ทั้งตัวทั้งไหล่สะท้านจึงค่อยวางคนตัวบางลงบนเตียงนอน พยายามลูบหน้ามน ๆ เช็ดเหงื่อให้ หลังจากที่เห็นว่าทิวากลัวเสียจนเหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นมาจนไรผมเปียกชื้นไปหมด
“ พี่อุ้มระวังอยู่นะวา ทำไมกลัวนักหื๊อ ? หรือว่าไม่ใว้ใจพี่ ? ”
“ ก็...วาไม่รู้ วาไม่ได้กลัวความสูงนะจ๊ะพี่สน แต่ไม่รู้ทำไมกลัวเวลาคนอุ้มนัก ”
ทิวาพยายามแก้ตัว...สนธยายิ้มอ่อน ๆ ก่อนจะโอบไหล่บางโยกเล่นเป็นการปลอบ ริมฝีปากคมปัดบาง ๆ ลงบนแก้มนิ่ม แต่ดูเหมือนปลาตากลมจะรู้ทันแมวตัวโตซะแล้วว่าจะตะล่อม...ชิมปลาย่าง
“ เอ๊ะ ๆ...ถอยเลยพี่สน วายังไม่หายงอนหรอกนะ ”
คนตัวเล็กทำท่าจะลุกหนี แต่แมวตัวเท่าตึกกลับไวกว่า...คว้าแขนปลาตัวเล็กแล้วตะปบลงกับเตียงนอนทันที
“ เฮ้อ...ทำไมดื้อนักฮื้อ ว่าง้อก็ง้อแล้วยังใจร้ายงอนต่อได้อีก คนเค้าอุตส่าห์ปลอบทั้งทีทำไมไม่เห็นจะดีใจเลย รึว่าเขิน ?...เดี๋ยวจะได้แถมให้อีกสักฟอดสองฟอด ”
แมวตัวเท่าตึกบ่น...ในขณะที่น้องปลาทองทิวานอนทำตาปริบ ๆ เกิดอาการงงขนานใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สน...ถึงได้มาแนวใหม่เหมือนเด็กวัยรุ่นขนาดนี้
“ ไม่อ๊าววววว มาฟอดอะไรกัน วาเจ็บนะพี่สน...วันนี้ไม่โกนหนวดนี่นา เจ็บนะจะบอกให้ ”
ทิวาพยายามดันเต็มที่เมื่อสนธยาจะก้มลงหอมเข้าอีกทีหนึ่ง คนตัวเล็กค่อนข้างแปลกใจ...ไม่รู้พี่สนนึกสนุกอะไรขึ้นมา อันที่จริงสนธยาก็เป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆ เดี๋ยวนิ่ง...เดี๋ยวก็เกิดขี้เล่นขึ้นมาอย่างร้ายกาจ เผลอ ๆ บางทีแกล้งเข้าให้นิ่ม ๆ อีกด้วย
ยิ่งบ่น...คนตัวสูงที่อารมณ์ขี้เล่นกำเริบก็ยิ้มหวานอมกระแสกรุ่มกริ่ม ก่อนที่เจ้าตัวจะดุนปลายจมูกใส่แก้มนิ่มเบา ๆ ไล้เกลี่ยไปมาอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงที่เอ่ยตอบมีรอยหวานละมุนเหมือนพยายามกลบเกลื่อนแววตาหยอกเย้านั้น
“ งั้นอ้อน...ไม่เอาหอมแก้มอย่างเดียว ขอมากกว่านั้นดีไหม ? ”
ทิวาทำหน้าเหวอ...ไม่รู้จะทำอย่างไรในขณะที่ใบหน้ามน ๆ เริ่มขึ้นเสีจัดขึ้นทุกขณะ จะพูดก็พูดไม่ออก...ในใจคิดอย่างจนปัญญาว่าสงสัยวันนี้ปลาเสร็จแมวอีกแล้วเป็นแน่แท้
“ วาตัวหอมนะ...เนื้อก็นุ่มจัง ตัวอุ่นด้วย บางทีพี่ก็นึกเหมือนกันว่าเราน่ะเข้าตำราเหมือนแมวพึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เลยนะ หึ หึ หึ ”
คนตัวสูงแตะริมฝีปากคมลงกับแก้มนิ่มแผ่วเบา ก่อนที่มือหนาจะค่อย ๆ สอดเข้าใต้เสื้อของคนตัวเล็กกว่าอย่างช้า ๆ พาสัมผัสอุ่นจากปลายนิ้วเข้าล่วงล้ำจนความรู้สึกของทิวาสั่นไหว
ริมฝีปากของสนธยาวนเวียนอยู่กับริมฝีปากบางด้วยการแตะอ่อนโยนสลับกับการเกลี่ยแก้มใสด้วยนิ้วมืออย่างช้า ๆ รอยยิ้มอ่นโยนปลอบคนตัวเล็กเสียจนอาการงอนหายไปไหนก็ไม่รู้จนหมด
“ พี่สน...นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะ...เอ่อ ”
อาการอาย ๆ พูดไปซุกหน้าลงกับอกสนธยาไปด้วยนั่นยิ่งทำให้สนธยานึกเอ็นดู มืออุ่น ๆ ค่อย ๆ เกลี่ยเส้นผมที่ปรกลงบนหน้าผากมน ๆ อย่างช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มอ่อนบาง...เจือจางอยู่ในใบหน้าคมนั้น
“ กลางวันก็ดี...พี่จะได้มองวาให้ชัด ๆไงล่ะ ”
“ พูดอะไรอย่างนั้นละพี่สน...ทะลึ่งใหญ่แล้วนี่พี่!! ”
สนธยาหัวเราะ...เดี๋ยวนี้โดนทิวาหาว่าทะลึ่งบ่อย ๆ เพราะแค่อยากเย้าเล่น ๆ เท่านั้นเอง แต่ถึงจะไม่อยากให้ชีวิตคู่ที่อยู่กันมานานหลายปีมันจืดชืดลงแต่บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ชอบแกล้งคนตัวเล็กเล่นเสียนักก็ไม่รู้
“ วา...อยู่กันมาหลายปีแล้วเคยเบื่อพี่บ้างไหม ? ”
ทิวามองสบดวงตาคมกริบอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่จะยกมือนุ่มขึ้นไล้ใบหน้าคมเข้มของคนที่คร่อมทับตนเองอยู่อย่างเบามือ ดวงตาคมพิจารณาใบหน้าของคนที่รักแล้วยิ้มอ่อนหวานให้...ดวงตากลมแลดูหวานเชื่อมจนใจสนธยาสั่น
“ จะให้เบื่อตรงไหนละจ๊ะ พี่สนก็ยังเป็นพี่สนคนดีของวาเหมือนเมื่อวาน...เหมือนเมื่อวันก่อน ไม่มีอะไรที่พี่สนเปลี่ยนไปเลยสักอย่างเดียว สิ่งที่ตาเห็น...ไม่มีประโยชน์โภชน์ผลใดเท่าสิ่งที่หัวใจมองเห็นหรอกจ้ะ และวาไม่เคยมองพี่สนด้วยตาสักที...พี่สนหล่อจ้ะ แต่ว่าวามองเห็นความอบอุ่นอ่อนโยนในหัวใจพี่สนมากกว่าหน้าตาหล่อ ๆ นี่ซะอีกนะ...รู้ไหมจ๊ะ ? ”
// โอ้หัวใจ...เกิดมา 2 ครั้งก็ยังได้มาเจอกัน นี่หรือที่เขาเรียก...ครึ่งหนึ่งของหัวใจ //
“ ปากหวานจริงเจ้าบัวน้อย ตอนแรกใจอ่อนว่าจะไม่แกล้งแล้วนะ...แต่พูดแบบนี้ควรปล่อยไหมเนี่ยหื้อ ? ”
สนธยาก้มลงแนบริมฝีปากลงกับริมฝีปากบางกว่าอย่างแสนรัก ปลายลิ้นล่วงล้ำชิมรสหวาน แต่ในขณะที่ปลายนิ้วทำท่าจะรั้งชายเสื้อ...เลิกขึ้นสูงนั้นเสียงวิ่งตึงตังก็ดังระรัวมาแต่ไกล พร้อม ๆ กับเสียงร้องของ 2 เถาจอมแสบที่บัดนี้อารมณ์ดีร้องตะโกนเสียงแจ๋ว
“ พ่อสน....แม่วา....ตาก้องชวนไปซื้อไอติมกันค่ะ อยู่ไหนกันเอ่ย ? ”
สนธยาทำหน้าอึ้ง...ในขณะที่ทิวาหัวเราะออกมาอย่างขำ ๆ ...หัวเราะจนน้ำตาไหล
// แม๊!! แมวจะกินปลาย่าง...แบบนี้เก๊าะอดน่ะซี //
คนเป็นพ่อเป็นแม่ค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนจะช่วยกันจัดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายพร้อม ๆ กับรอยยิ้มขบขัน...ก่อนที่คนตัวสูง จะจูงมือคนตัวบางเดินออกจากห้องไปพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน และประกายตาอบอุ่น
ความรัก...อีกกี่ปีก็ยังจักยืนนาน หากรักด้วยหัวใจเกี่ยวไว้ด้วยกัน...รักนั้นจะผูกพันแน่นหนักด้วยหัวใจ
“ พี่ก็รักเราด้วยหัวใจเหมือนกัน...แต่อันที่จริงแล้วก็ปฏิเสธไม่ไหวหรอกนะว่าวาไม่น่ารักน่ะ เอาเป็นว่ารักไปหมด...ก็แล้วกัน ”
คนตัวสูงก้มลงกระซิบ...จนคนฟังอายม้วน หนาแดงขึ้นทันที สนธยาชอบเหลือเกินเวลาทิวาเขิน...เพราะมองดูน่ารักจริง ๆ เอ...หรือเพราะอย่างนี้หนอ เขาถึงได้ขยันแหย่วาหนักขึ้นทุก ๆ ที
สนธยากุมมือทิวา...กลางวันกับกลางคืนอยู่ยงร่วมกัน เย็นยามควรเย็น...อุ่นยามควรอุ่น และรัก...ด้วยหัวใจ รัก...ให้ยาวนานเหมือนที่ทุก ๆ วันก็มีกลางวันและกลางคืนอย่างละครึ่ง...ไม่เคยขาดไปเลยสักวัน
// วันนี้.................................................แสนสุดยินดีพระจันทร์วันเพ็ญ
ขอเชิญสายใจเจ้าไปนั่งเล่น.................ลมพัดเย็นเย็นหอมกลิ่นมาลี
หอมดอกราตรี...................................แม้ไม่สดสีหอมดีน่าดม
เหมือนงามน้ำใจแม้ไม่ขำคม...............กิริยาน่าชมสมใจจริงเอย
ชมแต่ดวงเดือน.................................ที่ไหนจะเหมือนได้ชมหน้าน้อง
พี่อยู่แดเดียวเปลี่ยวใจหม่นหมอง.........เจ้าอย่าขุ่นข้องจงได้เมตตา
หอมดอกชำมะนาด.............................กลิ่นไม่ฉูดฉาดแต่หอมยวนใจ
เหมือนน้ำใจดีปราณีปราศรัย...............ผูกจิตสนิทได้ให้รักจริงเอย //
เขาชอบราตรีประดับดาว...เวลาร้องแล้วรู้สึกอบอุ่นมิหนาวหัวใจ อ่อนหวานซาบซ่านในรัก มิหาญหักเอาได้โดยง่าย เหมือนดอกไม้แม้ริดมาด้วยกำลังฉันท์ใด ดอกไม้ที่ได้มาย่อมชอกช้ำแลไปไม่งามตา
โอ้รักอ่อนหวาน...จะไปหาได้จากไหนถ้าไม่ใช้จากเจ้า สนธยาค่อยข้างแน่ใจ...คนเราต่างคนต่างก็เป็นในสิ่งที่ตัวเองเป็น การที่จะหาใครมาแทนกันไม่ใช่เรื่องเป็นไปได้เลย ดังนั้นเขาจึงแน่ใจว่า...หากขาดวาไป เขาคงไม่อาจหาใครมาแทนได้อีก
// โอ้ รักเอยรักไหนจะได้เท่า...โอ้รักเราดั่งแสงเงาไม่พรากจากกัน //
[จบ]
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
himecrazy
ที่
19-06-2008 21:13:26
ราตรีประดับดาว
ตอนพิเศษ : ท้องฟ้าระหว่างเรา
บ้านหลังเล็ก ๆ ที่มีสวนเล็ก ๆ หน้าบ้าน รายล้อมด้วยต้นไม้มากมายที่เด็กหลายคนอาจไม่ค่อยเคยคุ้น...แต่เจ้าของบ้านทั้ง 2 ก็ค่อย ๆ พยายามหามาปลูกไว้ในบ้านมากมาย สนธยาปลูกต้นไม้เพื่อว่าให้บรรยากาศครั้งเมื่อสมัยก่อนตอนที่เคยอยู่ในฝันยังจะแหมือนเคยมีและเคยเป็นอยู่
ดอกบัวหลวงสีขาวถูกเด็ดมาวางไว้บนพานทองเหลือง พร้อมกับบางกลีบที่ถูกเด็ดออกวางไว้บนพานนั้นส่งให้กลิ่นหอมอ่อนหวานยิ่งกำจายทั่วห้องนอนกว้าง และนั่นยังไม่รวมความหอมหวานของดอกแก้วที่ออกดอกขาวไปทั่วสวนหน้าบ้านสีขาวหลังนี้
ดวงตาคมกริบแหงนมองดวงจันทร์สีนวลตาผ่านบานหน้าต่างซึ่งประดับด้วยผ้าม่านสีขาวลุลายสวยซึ่งบัดนี้สายลมอ่อนบางพาให้ผืนผ้านั้นสะบัดไหวไปมาน้อย ๆ ...มีบ้างที่เนื้อผ้านั้นไล้ลูบมาบนไหล่กว้างของสนธยา คนตัวสูงกระชับผ้าห่มสีครีมขึ้นห่มถึงกลางหลังบอบบางของใครบางคนที่นอนคว่ำซุกหน้ากับหมอนใบโตอยู่เคียงข้าง ชายหนุ่มยิ้ม...อ่อนหวานในประกายตาฉาบรอยสุขเบาบางรื่นเย็น ก่อนที่นิ้วกร้านจะค่อย ๆ ไล้ไปตามผิวเนื้ออ่อน ๆ
สนธยาไล้ปลายนิ้วลงบนแนวกระดูกสันหลังของทิวาน้อยพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน...หัวใจระลึกเอ็นดูคนตัวบางคนนี้ยาวนานไม่เคยจาง และยิ่งสังเกตได้ชัดว่าแผ่นหลังของคนตัวเล็กแลบอบบางยิ่งนักยามอยู่ใต้แสงนวลของดวงจันทร์ นั่นก็ยิ่งทำให้คนตัวโตยิ่งอยากกอดไว้ตลอดไป
// ราตรีลมบางเบา ลูบไล้ผิวเนื้อเจ้า ที่เฝ้าถนอม...บางทีพี่นี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเจ้ามิใช่สิ่งชัดเจนนัก บางคาบบางครานั้นรู้สึกเพียงว่าความสุขเหล่านี้อาจเป็นแค่ฝันไป //
ระหว่างที่สนธยาคิดอยู่ในใจเงียบ ๆ พลางลูบไล้แผ่นหลังบาง ๆ ด้วยมือหนาอันอบอุ่น ทิวาก็ค่อย ๆ ครางอือในลำคอเบา ๆ ก่อนที่จะขยับเข้าหาเจ้าของไหล่หนาพลางเจ้าตัวก็ขยับหน้าซุกเข้ากับอกสนธยาแล้วก็แนบเนื้อนิ่งอยู่เช่นนั้น
กิริยาน่าเอ็นดูนั้นทำเอาสนธยายิ่งอดไม่ได้ ชายหนุ่มโน้มตัวลงแตะริมฝีปากคมที่อุ่นจัดลงบนลำคอขาวนั้น แนบริมฝีปากคมลงแผ่วเบาตรงร่องรอยของกระตูกสันหลังที่ต้นคอ ก่อนที่เจ้าตัวจะเกลี่ยปลายนิ้วปัดเส้นผมนุ่มเพื่อเปิดใบหน้ามน ๆ ที่นอนซบอยู่เพื่อให้แสงจันทร์ได้ชม...ใบหน้าหวานของคนรักเขาเอง
“ อือ...พี่สน ไม่นอนละจ๊ะ ? เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลุกไม่ขึ้นเอานะจ๊ะ ”
คนตัวเล็กงัวเงีย บอกเสียงอ่อน ๆ ทั้ง ๆ ที่ดวงตาแทบจะไม่ลืมขึ้นมาเลย...นิ้วมือเล็ก ๆ ค่อย ๆ คว้ามือหนาที่เกลี่ยปลายผมของตนเอามาแนบแก้มนิ่ม ๆ ของตัวเองไว้
“ วาสวย...น่ามอง บางทีพี่ก็เสียดายเวลากลางคืนเพราะอยากมองเธอด้วยแสงนวล ๆ ไปตลอดคืน เธอ...ทำให้พี่หลับไม่ลง ”
สนธยาเอ่ยเบา ๆ ทั้งรอยยิ้ม ก่อนที่จะพบว่าคนตัวเล็กบางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ แม้ยังดูหรี่ปรืออยู่บ้าง...ก่อนที่มือเล็ก ๆ จะประคองวงหน้าคมไว้ด้วยเรียวแรงน้อยนิดตามประสาคนง่วงแสนง่วง จากนั้นเจ้าวาน้อยก็ค่อยโน้มใบหน้าของสนธยาลงพอให้ตนเองแตะจูบได้ที่ริมฝีปากนั้นอย่างพอดิบพอดี
“ ชื่นชมอะไรวานักละพี่...วาก็แค่เด็กงี่เง่างอแงธรรมดา ๆ แต่พี่สนสิ...เคยเป็นเจ้าเป็นนายมาก่อนแถมนิสัยก็ดีแสนดีจนบางทีวานึกว่าตัวเองฝันไป...ที่ได้ความรักจากพี่สนมากมายยังงี้ ”
สนธยาค่อย ๆ หัวเราะเบา...ก่อนจะไล้หลังมือตนบนแก้มเนียนแล้วจึงได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงปนอาการกลั้วหัวเราะ แต่หวานล้ำแผ่วเบา
“ อะไรกันละเจ้า...เรื่องราวเหล่านั้นใครจะมารู้ ใครเขาจะมาสนใจ คนอื่นเขาเห็นพี่ไม่ถึงครึ่งที่พี่เป็น...และยิ่งไม่ได้เพียงส่วนเสี้ยวที่วามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในตัวพี่เลยนะ ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออีกครั้งก่อนจะเอ่ยต่อ “ ให้พี่มองเห็นตัวให้ครบทุกด้าน แค่นี้พี่ยังมองตัวเองไม่ครบเลย...แต่วาต่างหากเล่า ที่มองเห็นตัวพี่ครบถ้วนหมดสิ้นโดยไม่ต้องเอ่ยอะไรซ้ำอีก แล้วนี่...ลองเป็นขนาดนี้แล้วพี่ยังจะหาใครจะมาแทนที่วาได้เล่า ? ”
คนตัวโตยิ้มหวาน...ในขณะที่คนตัวบางเริ่มตื่นเต็มตา อายม้วนน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้น เสียงคนเคยง่วงเอ่ยอู้อี้ทั้งที่ยังซบหน้าลงบนอกกว้างเป็นการหลบสายตาคม ๆ นั้น
“ อะไร ๆ พี่ก็ว่าตัววาดี...ตัววางามไปหมด แบบนี้ซักวันวาต้องเสียนิสัยแน่เลยพี่สน ”
“ ว้า...คนรู้ตัวคงไม่มีวันนิสัยเสียได้หรอก เสียดายจัง พี่อยากให้วางอแงใส่แยะ ๆ มั่ง...เวลาวางอนถึงจะนาน ๆ ที แต่วารู้ไหมว่าตัวเองน่ารักมาก ๆ เลยน่ะ ”
สนธยาพูดหน้าตาเฉย...ทำเอาคนที่ซุกหน้าหลบยิ่งไม่กล้าเงยหน้าออกมา ทำให้สนธยายิ่งอยากแกล้ง...พยายามกระเถิบหนีเพื่อที่จะได้ก้มลงมองใบหน้าของคนตัวเล็กให้ได้ แต่พอทิวาคว้าผ้าห่มมาคลุมโปงด้วยความอาย...เท่านั้นแหละเขาก็เลิกแกล้งแล้วเปลี่ยนมาหัวเราะเบา ๆ
“ วา...วาน้อย พี่ขอโทษ...ไม่เอานะ พี่ไม่แกล้งแล้ว...ออกมาเถอะอย่าคลุมโปงเลยเดี๋ยวหายใจไม่ออกนะ ”
คนตัวโตง้อเสียงอ้อน ก่อนจะค่อย ๆ ดึงผ้าห่มออกจากใบหน้าหวานสนิทในหัวใจนั้น ทิวา...ช้อนดวงตาขึ้นมองคนตัวโตขี้แกล้งอย่างช้า ๆ ทั้ง ๆ ที่ใบหน้ามน ๆ นั้นยังซับสีระเรื่อเจือจางแต่ก็ยังพยายามรั้งผ้าห่มพันร่างกายที่เปลือยเปล่าของตนเอาไว้อย่างมิดชิด
“ อย่างอนสิ... ” คนตัวโตพยายามปลอบ ก่อนที่จะโอบไหล่บางไว้หลวม ๆ อย่างเอาใจก่อนจะเอ่ยถาม
“ วา...ห้องฟ้า ‘ระหว่างเรา’ มันใกล้กันนิดเดียวเองนะ แต่...ท้องฟ้า ‘ของเรา’ มันสวยงามและกว้างใหญ่เสมอจริงไหม? ”
สนธยาเอ่ยเสียงอ่อนโยนในขณะที่คนตัวเล็กยิ้มรับ...เอยเบา ๆ พลางยิ้มใสใส่เจ้าของไหล่หนาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เปิดหัวใจน้อย ๆ ....ซึมซับความงามในสายลมเย็นอ่อนบาง และแสงสีนวลตานั้น ไปพร้อม ๆ กับที่หัวใจซึมซับความหมายของถ้อยคำที่คนตัวสูงเอ่ยมามาเมื่อครู่นี้
เสียงเล็ก ๆ อ่อนหวานอ่ยแผ่วเบาแค่กระซิบ...เป็นใจความให้ได้ยินพียงแค่สองคน
“ ราตรีของเรา...ท้องฟ้าของเรา ทุกอย่างล้วนนุ่มนวลอ่อนหวานทั้งสิ้น เพราะว่า...ความหมายของท้องฟ้าและความงามของคนสองคนมารวมกัน ดังนั้น...มันจึงต้องงามกว่าปรกติเสมอสิจ๊ะ ”
สนธยาซบใบหน้าลงกับไหล่เล็ก ๆ เหมือนคนหมดเรี่ยวแรง...เพราะคำรักของคนตัวเล็กนั้นพาเอาร่างกายเบาราวกับจะไปล่ปลิวไปตามสายลมได้กระนั้นทีเดียว
“ จริง...จริงแท้แน่แล้วเจ้าบัวน้อย ท้องฟ้า... ‘ ของเรา’ รวมกันจึงงามกว่าแค่เพียงตอนมันเป็น ‘ทอ้งฟ้าของฉัน’ หรือว่า ‘ท้องฟ้าของเธอ’ ”
[จบ]
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านนะค่ะ ขอขอบคุณแทนผู้แต่ง ค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
anna1234
ที่
19-06-2008 22:41:36
ตอนปกติยังไม่เคยอ่านเลย ตอนพิเศษมาแหละ ไม่ทรายจะไปหาอ่านตอนแรกได้ที่ไหน
:m13:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
THIP
ที่
19-06-2008 23:08:57
ตอนปกติ ดูในห้องนิยายโพสจนจบแล้วค่ะ ที่กระทู้นี้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=3022.0
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
oaw_eang
ที่
20-06-2008 15:39:59
เข้ามาทักทายตามประสาจ้า :m1:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
himecrazy
ที่
20-06-2008 17:21:39
o15 o14 o1 :m5: :pig4:
ขอบคุณ THIP นะค่ะ ที่ช่วยตอบแทนเราค่ะ
ขอบคุณ oaw_eang ที่ยังติดตามอ่านนะค่ะ :o8: :o8: :m15:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
uknowvry
ที่
20-06-2008 17:50:17
โอ้โห ขอบคุณอย่างสูงที่เอามาให้อ่านอีกครั้งครับ
เรื่องนี้นี่อ่านกี่ทีกี่ทีก็ยังหวาน ละมุน เสมอ :o8:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
toeyz12
ที่
03-10-2008 15:08:22
ชอบเรื่องนี้ จัง อยากอ่านต่อเรื่อยๆเลย ใช้คำพูดเพราะดีอ่ะ :m1:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
kunkai
ที่
02-04-2009 23:10:54
เรื่องนี้อ่านทีไร
เหมือนกลับไปอยู่ในสมัยคุณปู่ยังหนุ่ม :-[
หวานละมุน เย็นชื่นใจบอกไม่ถูก
เป็นเรื่องที่มีภาษาสวยงาม
ถูกใจจริงๆค้าบ :impress2:
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสค้าบ
ที่นำนิยายดีๆที่หาอ่านยากมาให้ได้อ่านกัน :pig4:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
thunkunn
ที่
02-05-2009 18:02:12
:3123:ชอบมากครับ :3123:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Letm3diE
ที่
08-09-2009 23:48:44
ชอบเรื่องนี้จังสนุกดี
แต่อ่านไปบางช่วงเหมือนหนังย้อนยุคเลย
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
namtaan
ที่
11-09-2009 14:49:29
ตอนพิเศษก็ยังงดงามทั้งการใช้ภาษาและเนื้อเรื่อง
ขอบคุณมากๆนะคะทั้งคุณคนแต่งและคนโพสค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Poes
ที่
11-09-2009 15:18:10
อ่านตอนปกติจบมาจากเวปไหนจำไม่ได้มาเจอ ตอนพิเศษในเล้า :impress2: ยังน่าอ่านเหมือนเดิม ขอบคุณจ้า :pig4:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
poffy
ที่
12-09-2009 23:14:30
ตามมาจากตอนปกติค่ะ
ขอบคุณผู้โพสต์และผู้แต่งอีกเช่นเคยค่ะ
ยังคงงดงามทั้งทางด้านภาษาด้วยโวหาร ร้อยแก้ว ร้อยกรองอีกเช่นเคยค่ะ
แต่ว่าก็แอบมีความน่ารัก กุ๊กกิ๊กของคู่รักอยู่ด้วย
ตอนพิเศษนี่ ยอมรับค่ะ ว่าอ่านไป ยิ้มไปด้วย
น่ารักทั้งรุ่นพ่อ แม่ และ รุ่นเล็กอย่างหนูมุจ และ ตาก้อง
น่ารักมากๆเลยล่ะค่ะ เยี่ยมมากๆ o13
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับนิยายดีมากๆเรื่องนี้ค่ะ :pig4:
สำหรับผู้แต่ง และ ผู้โพสต์ค่ะ :L2: :L1: :L2:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
sundaysundae
ที่
19-02-2010 12:25:39
กรี๊ดกร๊าดดดดดมากเลยอ่ะ
คนแต่งแต่งได้หวานมากเลยอ่ะ ชอบมากเลยค่ะ
ใช้ภาษาได้หวานละมุนมาก อ่านไปรู้สึกถึงความนุ่มนวลระหว่างเจ้าวาน้อย...กับพี่สนเลย
เหมือนว่าวาจะโตขึ้นด้วยอ่ะ(ในตอนพิเศษ)แอบรักน้องละมุดน่ะเนี่ย คงจะโตเป็นสาวสวยทีเดียว
เพราะสวยเหมือนแม่วา(เอิ๊ก)
ที่ชอบมากคือเพลงที่นำมาประกอบ ฟังหลายรอบแล้ว เพลงเพราะมาก
สุดท้ายก็ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องดี
และขอบคุณคนโพสที่ทำให้เราได้อ่านเรื่องนี้
.
.
.
ขอบพระคุณมากค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
hewlett
ที่
22-03-2010 15:33:56
เพิ่งรู้ว่ามีตอนพิเศษด้วย ขอบคุณน้า
เรื่องนี่เป็นเรื่องอะไรที่อ่านแล้วน่ารัก ไม่ร้อนรุ่มดี
:o8:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
honeymic
ที่
05-08-2010 15:47:54
อ่านไปฟังเพลงไทยเดิมไปเข้าบรรยากาศมากเลยค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
taem2love
ที่
06-08-2010 05:34:44
มาอ่านกี่ทีก็ยังประทับใจ รักกันทุกชาติไปค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
phai
ที่
02-11-2010 00:59:22
ชอบมากค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สนุกสุดๆเรยยยยยยยยย
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Little Devil
ที่
06-11-2010 12:03:52
กลับมาอ่านอีกรอบทั้งสองภาค
ซึ้งเหมือนเดิม :impress2:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Artemis
ที่
06-11-2010 14:50:30
ผู้แต่งคือสุดยอดของนักประพันธ์แนวบอยเลิฟ
ขอคาราวะด้วยใจจริง เล่นเอาเราซึ้งจนน้ำตาซึม
:o8: :-[ :impress2:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
OhJa
ที่
07-11-2010 11:32:57
หวานจับใจ :o8:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
roseen
ที่
07-11-2010 11:58:01
:L1:อบอุ่นไปด้วยไอรัก
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
หมวยลำเค็ญ
ที่
09-11-2010 11:47:14
คู่รักหวานเย็น แห่งปี :-[ :กอด1:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
zombiepe
ที่
19-12-2010 00:16:06
เป็นนิยายที่อ่านแล้วยิ้มได้ตลอดจริงๆค่ะ
อาจจะเเปลกที่มาอ่านาตอนพิเศษก่อนตอนปกติ 555
เดี๋ยวไปอ่านตอนธรรมดาก่อนนะค่ะ
อ่านไปถึงตอนพี่สนจะไปเรียนต่อเอง
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
fay_13
ที่
20-12-2010 23:33:28
อ๊า......หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :-[
อ่านไปยิ้มไปจริงๆเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
V
ที่
21-12-2010 02:37:32
ภาษายังคงสวยเหมือนเดิมเลยค่ะ
:L2:
หวานที่สุดเลยยย :o8:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Cressent
ที่
04-03-2011 21:54:32
น่ารักกกกก :-[
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Maprang_W
ที่
12-05-2011 18:34:41
ได้อ่านตอนพิเศษแล้วดีใจจัง เย่ๆๆๆ
น่ารักเหมือนเคยนะพี่สนกับน้องวา
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
jing_sng
ที่
26-02-2012 20:33:59
ตามมารับความละมุ่นละไม
จากสนกับวา นานๆ จะได้อ่านนิยายที่ตัวเอก
อ่อนโยนต่อกัน ทั้งคำพูดและกิริยา
ชอบมากๆ เลยคะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Angel_K
ที่
26-02-2012 22:07:49
หวาน ๆ จับใจจริง ๆ :L2:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
เกริด้า(๐-*-๐)v
ที่
27-02-2012 02:16:43
ตอนพิเศษอยู่นี่เอง (*^^*) พี่สนกับวาน้อยน่าร๊ากกกกกกก น่าหยิก น่าเอ็นดู น่าแลมองกันจริงๆ หุๆๆ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
BitterSweet~
ที่
27-02-2012 12:49:38
" รักด้วยใจ "
ภาษายังสวยงามเหมือนเดิม
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสนะคะ ^^
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
LiTTlE [A]
ที่
29-02-2012 16:16:29
o13 o13 o13
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
evilM
ที่
15-04-2012 20:43:32
อาจเป็นคำง่านๆที่เพียงแตะนิ้วมืองลงบนแป้นพิมพ์ก็สามารถสือออกมาได้ แต่ความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่าหลายเท่านัก "เราชอบเรื่องนี้" :give2:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
กาลณัฐ
ที่
17-04-2012 17:47:26
ชอบเรื่องนี้จัง
ปลื้มมมมมมมมมมมมมมม :กอด1:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Monkey D lufy
ที่
17-04-2012 22:35:21
ยังคงภาษามราสวยงามเอาไว้ได้อย่างดีเยื่ยมเลยนะค่ะ
ชอบมากค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
uknowvry
ที่
05-05-2012 16:12:04
เพิ่งได้อ่านตอนพิเศษ... คิดถึงตอนอ่านเรื่องหลัก ถึงขั้นไปหาราตรีประดับดาวมาเปิดคลอตอนอ่านทุกที
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
tippy
ที่
14-05-2012 19:24:44
สนุกเนอะ เรื่องนี้ พี่สนกับวาน้อย ชอบภาษาที่แต่งออกมามายเลย :L2:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
gayraygirl
ที่
01-09-2013 00:31:17
เป็นตอนพิเศษที่หวานมากๆ อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจจริงๆ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
ikoolpaul
ที่
01-09-2013 22:10:49
ฮื่ออออออออออออออออออออออออออ
TT////////////////TT
#มันละมุนไร้คำบรรยาย
ทำไมพี่สนอ่อนโยนได้ขนาดรี้ น้องวานี่ก็จะน่ารักไปไหน
งื้อออออออออออออ
ขอบคุณนักเขียนจริง ๆ นะคะที่เขียนเรื่องดีๆขนาดนี้มาให้อ่าน
ภาษาสวย ละมุน อบบอุ่น เย็นรื่นเหมือนเคย TT//////////TT
นักอ่านคนนี้อ่านแล้วเขินจะไม่ไหวแล้ว
#ม้วนตัวและกลิ้งออกกระทู้แบบเพ้อที่สุดในโลก
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
lizzii
ที่
02-09-2013 14:46:57
หลงรักเรื่องนี้จริงๆ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
zuu_zaa
ที่
06-09-2013 02:04:36
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจริงๆ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Rafael
ที่
07-09-2013 17:12:34
ขอบคุณคนเขียนและคนโพสตฺ์ค่ะ
น่ารักจริงๆคู่นี้
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
mukmaoY
ที่
23-11-2013 20:29:59
เสียน้ำตาอยู่นาน กินน้ำตาลไปหลายปี๊บ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Bear Company
ที่
04-03-2014 19:16:01
หวานละมุน :-[
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
funland
ที่
05-03-2014 16:07:42
:mew1: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
sang som
ที่
16-03-2014 16:33:14
หวานซึ้ง อบอุ่นมาก
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
+zoLoMegWoz+
ที่
25-06-2014 14:52:18
ว้าวๆ ชอบจังละมุดกะตาก้องเนี่ย แต่แหมมาขัดจังหวะคุณพ่อคุณแม่ซะงั้น
เอิ่ม.. พออ่านเสร็จเริ่มอยากมีท้องฟ้าของเรามั่งซะแล้วซิ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
KKKwanGGG
ที่
20-10-2015 11:00:42
น่ารักมาก ๆ ครับ
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
เป็ดอนุบาล
ที่
31-01-2016 18:29:23
สนุกมากกกกกเอาตอนพิเศษมาลงอีกนะคับบ
:katai4: :katai4:
หัวข้อ:
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย:
Praykanok
ที่
07-07-2017 02:21:37
เพิ่งเห็นว่าเรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยยยย น่ารักเหมือนเดิมมมมม