พิมพ์หน้านี้ - ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: FusayaZaa ที่ 18-09-2015 23:16:41

หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 18-09-2015 23:16:41
 :jul1:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม










================================







+ ข้อแนะนำสำหรับการอ่าน +


1. เนื้อเรื่อง เรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงจินตนาการของคนเขียน ไม่ได้พาดพิงใครนะคะ

2. . เรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อสร้างความบันเทิงผ่อนคลายในการอ่าน

3. หนึ่งคอมเม้นท์ หนึ่งกำลังใจ หนึ่งแรงใจ แก่คนเขียน ^^ ถ้าไม่รบกวนอะไรแล้วชอบเรื่องนี้ ขอรบกวนเวลาเล็กน้อยเท่านั้นนะคะ ^^



ขอบคุณนะคะ ^^


หัวข้อ: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอน 1 #
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 18-09-2015 23:39:03

 นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 1
ตอน ...ความประทับใจแรก


By เดือนพราย
 
 
 
 
 
 
 
 
 
กรกวินต์ขอพื้นที่
 
 
 
       เสียงเฮจากทั่วสนามดังขึ้นระลอกใหญ่เมื่อนักกีฬาคณะสถาปัตย์ยิงประตูได้อีกหนึ่งลูกจนขึ้นนำคณะนิเทศศาสตร์ด้วยคะแนน 2-1 การแข่งขันฟุตบอลกีฬามหา’ลัยเริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออีกไม่กี่นาทีต่อมานิเทศก็ได้ตีคะแนนตื้นขึ้นมาอย่างว่องไว...
 
        แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก
 
        เสียงหอบเหนื่อยๆดังขึ้นพร้อมจังหวะอัตราการเต้นของหัวใจยังคงเร็วขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อรวมไปถึงชุดที่สวมใส่อยู่นั้นก็อาบไปทั่วร่าง ร่างสูงเกือบร้อยเก้าสิบยังคงวิ่งมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่ขอบสนามฟุตบอลที่มีการแข่งขันได้ทันเวลาแม้จะเลทไปพอสมควรก็เถอะ
 
       “ แล้วไหนไอ้วา ”
 
        ผมพึมพำเบาๆถึงเพื่อนสนิทคนสำคัญหรือง่ายๆ เรียกมันเพื่อนข้างบ้านที่เห็นหน้ากันมาเป็นเวลาเกือบๆยี่สิบปีได้ มันอายุน้อยกว่าผมปีหนึ่ง แต่ไม่เคยจะได้ยินมันเรียกพี่เลย หรือว่ากูไม่มีความน่าเคารพวะ
 
     วันนี้มันเผอิญลงแข่งฟุตบอลเช่นกัน และนี่ก็เป็นสาเหตุให้ผมต้องวิ่งกระหืดกระหอบจากหน้ามอมา สนามฟุตบอลที่ระยะทางแม่งไกลโคตร ไม่ใช่เพราะจะมาเชียร์หรือดูมันนะ แต่มันสั่ง! ย้ำว่า สั่ง! ไอ้วามันสั่งแกมบังคับขู่เข็ญให้มาถ่ายรูปมันตอนเตะฟุตบอลครับ และที่มันบังคับให้ผมมาถ่ายก็เพราะ...
 
 
        ‘ เอาไว้อวดสาวไงเพื่อน เอาให้หล่อนะพี่มึง ’
 
 
        กูจะฟ้องเมียมึง!
 
     ครอบครัวเเตกเเยกคืองานของเรา
 
        ผมพ่นลมหายใจร้อนออกมาคลายความเหนื่อยและร้อนระอุ ยืนนิ่งพักเหนื่อยสักแปบก่อนจะยกกล้องโปรราคาเฉียดเเสนตัวโปรดขึ้นมาเซ็ตเตรียมถ่ายรูปให้มันเอาไปโชว์สาว ผมนี่ก็เพื่อนดี พี่ดีจริงๆ!
 
       ไม่นานเกินรอก็เช็คกล้องปรับแสงอะไรเรียบร้อยแล้วก็กวาดตามองหาร่างโปร่งของเพื่อนตัวดีแล้วก็เห็นมันกำลังวิ่งประกบพวกสถาปัตย์อยู่ด้วยสีหน้าจริงจังที่โคตะระหาได้ยากเลยจากไอ้คนทะเล้นอารมณ์ดีอย่างมัน
 
       “ ขึ้นกล้องอย่างที่คิด ”
 
      ผมเอ่ยเบาๆหลังจากถ่ายมาได้สักพักเลื่อนดูรูปไอ้วา จริงๆมันหล่ออยู่แล้วนะ แต่มันหล่อกว่าเดิมเมื่อผมเป็นคนถ่าย มึงไม่มีทางหน้าตาดีขึ้นหรอก ถ้าคนถ่ายไม่ใช่กู (คนอารายหลงตัวเองที่สุด) ผมระบายยิ้มให้กับฝีมือการถ่ายภาพของตัวเอง เยี่ยมจริงๆ แล้วยกขึ้นเตรียมถ่ายใหม่
 
       ขณะที่กำลังโฟกัสและกดชัตเตอร์ 
 
     เเชะ!
 
      ...ผมขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อกดดูภาพ...
 
     ใครบางคนกลับวิ่งเข้ามาในเฟรมพอดิบพอดีกับที่ผมกดชัตเตอร์และบังไอ้วามิดเลย...
 
 
      ภาพของคนคนนั้นดูเเล้วน่าจะเป็นนักกีฬาของคณะสถาปัตย์...  จริงๆก็ไม่ได้สะดุดตาสะดุดใจนักหรอก ถ้า...ใบหน้านั้นไม่หล่อและดูดีมากจนต้องหยุดความคิดที่จะกดลบทิ้ง... แต่ใบหน้านั้นถึงจะหล่อยังก็ติดหวานพอสมควรเพราะตาเรียวหวานนั้นล่ะมั้ง ดูมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว หยาดเหงื่อเกาะแพรวพราวไปทั่วไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายดูแย่ลง แต่มันกลับน่ามอง ปากที่กำลังเผยอหอบหายใจ เผ้าผมยาวๆตามสไตล์เด็กสถาปัตย์ถูกมัดลวกๆเป็นหางม้าเล็กๆ...
 
       ปมคิ้วของผมค่อยๆคลายออกช้าๆแปรเปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มมุมปากแทน ก่อนจะเงยหน้าจากล้องไปมองจุดที่ถ่ายภาพได้แล้วก็เห็นคนที่อยู่ในกล้องกำลังยืนหอบๆยกมือขึ้นปาดเหงื่อทิ้งอย่างไม่สนใจแล้วออกตัววิ่งไปแย่งบอลต่อ

       มือของผมยกตัวกล้องขึ้นอีกครั้งแล้วเริ่มถ่ายภาพต่อเงียบๆ...
 
 
      ลืมไปแล้วว่าที่มาถ่ายภาพไอ้วา...
 
 
      รู้ตัวอีกที รูปของเด็กสถาปัตย์คนนั้นก็เต็มเครื่องแทนที่รูปไอ้วาไปแล้ว...
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
        หลังการแข่งขันจบผลออกมาตามที่คิดคือสถาปัตย์ชนะด้วย 5-3 ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันกลับเพราะมันเย็นมากแล้ว พวกนักกีฬาก็เดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยสภาพเหน็ดเหนื่อยอยากนอนเต็มที่แล้ว ส่วนผมคงต้องรอไอ้วาก่อน ตามเคย...ไปดื่มตามประสาชายโสด แต่มันไม่โสด อดเเดกสาวครับ
 
        ระหว่างที่รอไอ้วาอยู่ผมก็เลื่อนดูรูปของคนที่ไม่รู้จักไปเรื่อยๆ ก็...น่ารักดี มีรูปหนึ่งที่หมอนั่นเผลอยิ้มออกมาตอนยิงประตูเข้า... มันเป็นยิ้มที่ดูดีนะ
 
       เขาบอกคนไม่ค่อยยิ้มมักจะยิ้มสวยและโลกสดใสทันที... น่าจะจริงนะ

       เอ๊ะ เเล้วผมรู้ได้ไงว่ามันไม่ค่อยยิ้ม
 
       “ ไอ้วิน มึงประสาทกลับรึไง คิดบ้าอะไร ”
 
       ผมด่าตัวเองเมื่อจู่ๆก็คิดว่าคนในภาพน่ารักขึ้นมาซะเฉยๆ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วไอ้คนในภาพเนี่ยกะจากสายตาแล้วแม่งสูงร้อยแปดสิบอัพชัวร์ตัวก็ดูจะพอๆกับผมด้วยซ้ำ ผมควรบอกว่ามันหล่อ หรือเท่มากกว่าปะ จากนั้นก็เลื่อนดูรูปอื่นๆรอไปพลางๆ
 
      ป้าบ!
 
      “ เชี่ย! เจ็บ! ใครวะ! ”
 
        ผมร้องลั่นหันขวับไปมองคนตบหัวที่ยืนยิ้มทะเล้นส่งมาให้ ที่ตบได้เพราะมันสูงเปรตพอๆกำลังผมที่อีกนิดจะร้อยเก้าสิบ (คนหรือเสาไฟฟ่ะ)
 
         “ คนหล่อเองครัช ว่าไงพี่มึงงง ไหนเอารูปหล่อๆของกูมาเชยชมหน่อยมึง ”
 
        มันว่าระริกระรี้คว้าแย่งกล้องไปเปิดดูไม่สนหน้าเหวอๆของผมเลยสักนิด รอยยิ้มไอ้วาตอนแรกก็กว้างอยู่หรอกแต่พอเจอรูปที่ผมถ่ายเข้าไปมันก็เริ่มหุบยิ้มแล้วขมวดคิ้วหน้ามุ่ยขึ้นเรื่อยๆ... ตวัดตามาเเยกเขี้ยวขู่เเฮ่เป็นเเมวทันที
 
        “ ไอ้ห่า! กูให้มึงถ่ายรูปกูไม่ใช่ให้ถ่ายรูปไอ้ธารา! ”
 
        ผมกลอกตามองเพื่อนด้วยสีหน้าหน่ายๆ กล้องกูเปล่าครับมึง
 
         แต่เดี๋ยวนะ ธารา? มันรู้จักด้วยเหรอ?
 
       ตาผมนี่วาวเเสงขึ้นเลยครับ “ ธารา? มึงรู้จักเหรอ ”
 
 
       “ เออดิสัด! เพื่อนกู! ”
 
 
           สีหน้าบึ้งๆของมันไม่ได้ทำให้ผมสนใจแต่ที่สนใจคือไอ้ที่บอกว่ารู้จักกับคนที่ผม(แอบ)ถ่ายรูปมานี่แหละ
 
         “ มึงถ่ายรูปมัน ชอบมันรึไง! ” ตอนแรกมันก็ดูหงุดหงิดเลยพูดไม่คิด แต่พอมาคิดได้ก็ทำหน้าเหลือเชื่อพร้อมปิดปากตัวเองราวกับมันเป็นเรื่องสิ่งมหัสจรรย์ที่แปด " มึงชอบมันเหรอ! "
 
        “ ไม่ได้ชอบ ”
 
 
        ตอนนี้ยัง...
 
 
     พรุ่งนี้อ่ะ ไม่แน่...
 
       ทำไมกูใจง่ายจังวะ
 
 
        “ กิ๊วๆๆ พี่วินของหมู่เฮากำลังจะมีความร้ากกกกก ” มันหัวเราะกร๊ากใหญ่ เออ ขำมากช่ะ เดี๋ยวพ่อทำให้ขำไม่ออกเลยนี่
 
 
 
       ป้าบ!
 
 
 
 
     ผมทำเสียงเข้มใส่แต่มันยังคงหัวเราะสนุกไม่หยุด“ หุบปากเลยมึง ”
 
 
      “ เรื่องนี้ต้องขยายๆๆ ”
 
 
       “ เอาดิ กูจะแย่งแฟนมึง ” ทำหน้าขรึมใส่เล่นซะมันหัวเราะร่าค้างกลางอากาศเลยทีเดียว
 
        “ เหี้ย!! ” ตะโกนโหวกเหวกด่าผมไม่หยุด " ต่อยกันเลยมั้ย! "
 
        ผมผลักหัวมันอย่างนึกหมั่นไส้เอาเมียมาขู่นิดนึงก็หยุดแหละ พวกกลัวเมียดีๆนี่เอง
 
        “ ว่า...แต่ทำไมกูไม่เห็นรู้จักเลยว่ะ ธาราอ่ะ  ” ผมเกาหัวอย่างงงๆ และสงสัยสุด
 
       “ แล้วมึงจำเป็นต้องรู้จักเพื่อนกูทุกคนเหรอครับ ไม่ใช่เมียกูทำไมต้องบอก ”
 
          มันว่าพลางไหวไหล่อย่างไม่พอใจก่อนจะโยนกล้องสุดรักใส่อกผมอย่างไม่ทะนุถนอมเลย ห่าราก! ถ้าพังขึ้นมามึงตายคามือกูแน่
 
       “ อ้อ เก็บไว้บอกน้องเฟียตคนเดียวว่างั้น ” ผมเอ่ยแซวหน้าตายถึงน้องเฟียตเด็กวิทย์ที่มันแอบไปกุ๊กกิ๊กมาได้สักพักแล้ว
 
        “ เล่นของสูงไม่เลิกนะ มึง หยุดเลยๆ  ” ไอ้วาชี้หน้าผมเคืองๆปนผวา “ เออใช่! เดี๋ยวกูกลับหอก่อนนะ ร้านเดิมโต๊ะเดิม ไอ้เจ็ทมันนัดสามทุ่ม ”  ว่าจบมันก็สะพายเป้เดินไปอีกทางทันที...
 
       “ ไอ้วา! หอมึงไปทางซ้ายไม่ใช่เหรอ! ”
 
       “ เออ!! ”
 
       “ แล้วไปทางขวาทำซากไร! ”
 
       “ ไปหาเมีย จบมั้ยสัด!! ”
 
          ผมส่ายหน้าเอือมๆกับพฤติกรรมหลงเมียรักเมียลืมเพื่อนของมัน... แค่น้องเฟียตน่ารัก น่าหิก ตัวเล็ก น่าขย้ำ น่าเอาแค่นั้นเอง ทำไมต้องหวงขนาดนั้น... แต่น้องเป็นผู้ชายนะครับ ก็ไม่รู้จะหวงอะไรนักหนา จับขังไว้บ้านเลยมั้ย
 
         “ เออ ถ้ามึงจะจีบไอ้ธารา ” มันเอี่ยวตัวหันกลับมา พลางยิ้มเยาะใส่ผม
 
         “ กูไม่ได้จีบ! ”
 
         “ มองตามึง กูก็รู้แล้วว่าชอบมัน ” ไอ้วาหันกลับมามองผมด้วยสีหน้าจริงจังจนผมเองที่กลับทั้งที่ปกติผมก็ไม่ใช่คนเงียบสักเท่าไหร่ " แต่แย่หน่อยนะ "
 
          คิ้วหนาขมวดมัดปมทันที " อะไรเเย่ "
 
         " พี่ชายมัน ดุอย่างกับเสือ หวงอย่างกับหมา " ยิ้มเยาะใส่ด้วยสีหน้าสนุก
 
        “ ช่างมันเถอะ ” ผมเบือนหน้าหนีพยายามไม่ใส่ใจนัก " ไม่ได้จะจีบสักหน่อย "
 
        “ คิดว่ากูไม่รู้รึไงไอ้วิน~ ”
 
        น้ำเสียงเจ้าเล่ห์พร้อมสายตาหยอกล้อทำเอาผมเริ่มไม่ไว้ใจมันเท่าไหร่...
 
       “ แต่ช่างเถอะ ”
 
 
       เออ ช่างไป ไม่ต้องสนใจกูนั่นแหละดี
 
 
       “ ไอ้ธาราน่ะ มึงจะจีบก็จีบไป ”
 
       “ กูบอกว่า...”
 
        “ ถ้าทำมันเสียใจ กูฆ่ามึงตายแน่ ”
 
        " ... "
 
      " ไม่สิ มึงจะโดนพี่ๆมันฆ่าตายก่อน ฮ่าๆๆ "
 
 
     
       ไม่ทันให้ผมได้ด่าหรือคว้ารองเท้าที่ไม่ได้ซักมาเเรมปีขว้างใส่กะโหลกมันก็รีบชิ่งไปหาเมียแล้ว
 
        และสุดท้ายเหลือผมคนเดียวอีกตามเคย ทำไงต่อล่ะ เดินกลับหน้าหอไปเอารถแล้วขี่กลับหอไปอาบน้ำสิครับ ถามได้
 
 
 
        แต่...
 
 
 
       ยังไม่ทันได้เดินไปถึงไหนก็เจอเข้ากับแผ่นหลังคุ้นตาที่คลับคล้ายคลับคากับใครสักคน ผมมองนิ่งๆอย่างไม่ได้สนใจนักแล้วก็ต้องตกใจมันร่างข้างหน้าผมจู่ๆก็เซเหมือนจะล้ม ไอ้ผมก็คนดีแหละครับ
 
        วิ่งไปรับร่างแล้วประคองไว้ได้ทันก่อนใครแถวนี้ได้หัวแตกก่อน
 
       “ เป็นไรเปล่าวะ ”
 
       ผมถามก่อนจะประคองมันยืนดีๆ ก่อนจะได้ยินเสียงครางในลำคอเหมือนเจ็บๆ มันหันมามองผมช้าๆก่อนจะพูด
 
       “ ขอบใจ ”
 
        สายตานิ่งๆที่สบเข้ากับตาผมทำเอาผมไปไม่เป็นเลยทีเดียวแล้วต้องอึ้งต่อระลอกสองเมื่อคนตรงหน้าเสือกเป็นคนเดียวกับที่ผมแอบถ่ายภาพมา!
 
 
       ไอ้ธารานี่หว่า!
 
         ขอกรี๊ดกับความบังเอิญหรือพรมลิขิตคราวนี้ได้มั้ย
 
        สีหน้าไอ้ธาราดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่จนผมเริ่มแปลกใจ เป็นห่าไรวะ
 
       “ ปล่อย กูเดินเองได้ ”
 
       มันว่าเสียงห้วนก่อนเอาแขนลงจากคอผมแล้วผละตัวออกแล้วเดินกะเผลกๆออกไป ผมเลื่อนสายตาลงไปมองที่ขา... เออ จะว่าไปเห็นมันโดนเตะตัดขาตัดแข้งล้มกลิ้งหลายรอบมาก จะเจ็บขาก็คงไม่แปลก ดูท่าจะเจ็บหนักเลยทีเดียว
 
        ผมครางถามออกไปอย่างไม่รู้ตัวนัก “ เจ็บขาเหรอ ”
 
        “ มีตาก็ดูเอง หรือตาบอด ”
 
       มันสวนกลับโดยไม่หันกลับมามองผม
 
 
        วะ! คนเขาอุตส่าห์พูดดีๆ
 
 
       ปากหมาใส่อีก
 
 
       “ ปากหมาจริงๆ ” ผมยิ้มเยาะเบะปากใส่มันไปสองที
 
         หันควับจนคอกลัวกระดูกคอมันจะหัก “ มึงว่าใคร ”
 
         “ มีสมองก็ลองคิดดิ หรือไม่มีสมอง ”
 
         ผมยิ้มกว้างให้มันก่อนจะหัวเราะน้อยๆไปด้วย ดูเหมือนจะกระตุกต่อมโมโหมันเข้าซะแล้วสิ นี่ไม่อยากจะคุยไม่อยากจะโม้ นายกรกวินต์คนหล่อดีกรีว่าที่ผู้กำกับภาพยนตร์หนังดังในอนาคตมีความสามารถพิเศษมากมาย ไม่เว้นเเม้กระทั่งความกวนตีน...ที่มักเรียกตีนให้ประทับหน้าได้เสมอ
 
        “ มึงอยากมีเรื่อง?! ”
 
          ไอ้ธารามันเดินกลับมาหาผมด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่เอาเรื่อง นัยน์ตาเฉี่ยวๆของมันแค่ตวัดมามองจ้องก็ทำเอาผมหวั่นๆกลัวโดยมันเสยคางเหมือนกันนะ ยิ่งสูงพอๆกันอีกแม้มันจะเตี้ยกว่าเจ็ดแปดเซนก็เถอะ แม่มึงกินเสาไฟแทนนมเหรอวะ (ไม่ได้ดูตัวเองเลย -_- )
 
     คนหาเรื่อง คิดเหรอ คนอย่างครับจะไม่กล้าสู้...
 
      “ เฮ้ย ใจเย็นดิ แล้วนายเป็นเพื่อนไอ้วา คณะนิเทศช่ะ ” ยกไอ้วาขึ้นมาทันที หน้ายิ้มเเป้นเพิ่มสกิลความกวนตีนยิ่งกว่าเดิม
 
      แน่นอน... ถ้ามีเรื่อง ไอ้วินคนนี้ พร้อมวิ่งเสมอ!
 
        มันผงะมองหน้าผมเล็กน้อยอย่างครุ่นคิดท่าทีข่มเหงอ่อนลงเล็กน้อย “ มึงเพื่อนไอ้วา? ”
 
      “ อ่าฮะ”
 
       “ แล้วมึงคิดว่าเอาไอ้วามาอ้าง กูจะไม่กล้าต่อยมึงเหรอ ”
 
       น้ำเสียงมันกลับมาเรียบเข้มขู่ตามเดิมพร้อมสีหน้าเตรียมรบกับผมเต็มที่ 
 
     " พอๆ ไม่กวนตีนเเล้วเว้ย " ยกธงขาวยอมเเพ้ครับ
 
 
        ยกมือขึ้นยอมแพ้แล้วส่ายหน้าเบาๆ มันเลยยอมลดท่า ทีแข็งๆลงแล้วจะหันกลับไป... บ่นพึมพำเบาๆอีก “ เสียเวลา กวนตีนเหี้ย ”
 
 
        ไอ้ธาราเดินกะเผลกไปด้วยสีหน้าเจ็บๆกัดฟันดังกรอดจนผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไอ้วาเอ๊ย เพื่อนมึงแม่งโคตรดื้อเลยว่ะ นั่นไง เซจนไปชนต้นไม้ข้างทาง ส่วนผมก็พระเอกเเสนดีพอ...
 
      “ ไปส่งมั้ย? ” ผมตะโกนถามด้วยความห่วงใยสุดใจขาดดิ้นเมื่อเห็นว่า...พรุ่งนี้มันก็คงไม่ถึงหอมันหรอก ขาเจ็บซะขนาดนั้น
 
     “ เสือก! ”
 
 
       อะ อ้าว  กลายเป็นคนเสือกซะงั้น
 
 
       “ กูไปส่ง ” ความสามารถพิเศษอีกอย่าง คือ ตื๊อเเละเนียน... ผมพูดอย่างเอาเเต่ใจพร้อมเดินเข้าไปคว้าแขนมันแล้วลากมันให้ไปด้วยกันไม่สนว่ามันจะตกใจแค่ไหน
 
      “ ปล่อยกู! ”
 
      มันชักสีหน้าไม่พอใจพร้อมกระชากแขนตัวเองกลับแต่แรงผมก็ไม่ใช่น้อยๆเหมือนกัน บอกแล้วผมคนดีไง คนเจ็บก็ช่วยไง
 
      “ เจ็บเว้ย! ”
 
      มันตะคอกใส่อย่างเหลืออดเมื่อผมบีบแขนมันแทบร้าวถึงกระดูก แต่ผมก็ไม่ได้เบาแรงลงหรอกนะ เดี๋ยวมันก็สะบัดหลุดพอดี แรงคนหรือแรงควายว่ะ เยอะชิบ (ด่ามันก็เหมือนด่าตัวเอง)
 
      “ บอกว่าเดี๋ยวไปส่ง ” ผมว่าหน้านิ่งก่อนจะลากยื้อฉุดมันให้ตามมา
 
       “ ไม่ได้ขอ! ”
 
      “ กูอยากทำ ”
 
      “ ยุ่ง! รู้จักกันเหรอ! ”
 
      “ เออ ด่ากูไปเถอะ ยังไงกูก็จะไปส่งมึง ” ผมว่าหน้าตายสนิท " รู้จักแล้ว กูเพื่อนวา ก็ถือว่าเพื่อนมึง เก็ทปะ " เเถวบ้านผมเรียกเนียน เเต่บ้านอื่นเขาเรียกหน้าด้านครับ...
 
         “ มึงเป็นใครวะ พ่อแม่ยังไม่เคยบังคับกูได้เลย  พี่กูเเม่งก็ไม่เคยบังคับ แล้วมึงเป็นใครห่ะ! ปล่อยสิว่ะ! ”
 
 
        “ อนาคตผัวมึงมั้งครับ ”
 
 
          กริบ...เงียบทันทีใบ้แดกสิมึง  ผมกระตุกยิ้มยั่วอารมณ์(โมโห)เมื่อมันทำหน้าเหวออ้าปากค้างตานี่เท่าไข่ห่านได้เห็นเเล้วนึกตลก แอบหัวเราะในลำคออีกหน่อยก่อนจะลากอีกฝ่ายให้เดินตามมาที่มอเตอร์ไซด์คันใหญ่ของผมได้สักที มาถึงรถแล้วมันก็สะบัดแขนออกจากผมอย่างแรงจนหลุดและเปิดปากด่าเลย
 
       “ เมื่อกี้มึงพูดอะไรห่ะ! ” สติเพิ่งกลับมารึไงคุณ ช้าไปมั้ยครับคุณ
 
        “ นั้นสิ ลืมว่ะ ” ผมยิ้มนิดๆราวกับจะกวนเส้นประสาทมัน บอกแล้ว นอกจากหน้าหล่อๆแล้วก็มีดีที่กวนตีนนี่เเหละ
 
       “ มึงต้องการอะไรจากกูวะ! ”
 
      ไอ้ธารากระชากคอเสื้อผมแทบปลิวติดมือหน้าแทบคะมำไม่วายตะคอกใส่อีก คำถามของมันก็ตอบยากนะ..
 
 
      ต้องการอะไร... นั้นดิ
 
 
     ตอนนี้สถานะของผมก็... หล่อ รวย คารมณ์ดีมีดีที่กวนตีน ขาดอย่างเดียว...
 
 
       เมีย...
 
     นัยน์ตาคมกวาดมองใบหน้าของคนกระชากคอเสื้อ... ก็หน้าหวาน ก็สวย ก็น่ารักดี ส่วนสูงก็เตี้ยกว่าผม โอเค ครบเเหละคุณสมบัติเมียไอ้กรกวินต์
 
      “ ยังไม่รู้ว่ะ ถ้ารู้แล้วจะบอกนะ ”
 
 
       ขืนตอบว่าเมียออกไปได้โดนกระทืบไส้แตกสิครับคุณ! ไม่ได้กลัว เเค่เกรงใจฝ่าเท้าของน้องท่านจะเปื้อนเลือด
 
      “ มึงแม่ง...กวนตีน! มึงลองพูดอีกสิ มึงเละคาตีนกูแน่ ” เหมือนมันเองก็ด่าไม่ออกแล้วหลังจากนั้นมันก็สะบัดมือออกจากคอเสื้อผมหันไปสบถด่าอะไรอีกสองสามคำแล้วหันมาจ้องหน้าผมต่อ ถอนหายใจทิ้งเเละ “ มึงจะไปส่งกู? ”
 
       “ เออ ” เปลี่ยนเรื่องไวไปนะมึง มาไวก็ไปไวตาม เเม้สมองจะเริ่มตามไม่ทันก็ตาม
 
        ไอ้ธาราหยิบโทรศัพท์กดโทรหาใครสักคนก่อนจะเหลือบมามองผมอย่างพิจารณา...
 
     หล่ออ่ะดิ๊
 
       “ ไอ้วา ”
        (...)
        “ กูเอง ธารา ”
        (...)
       “ กูเจอเพื่อนมึง ”
       (...)
      ไอ้ธาราเหลือบหางตามามองหน้าผมแล้วสแกนตั้งแต่หัวจรดเท้า “ เออ สูงเป็นเปรต หน้าตี๋ๆ เออๆ ”
       (...)
       “ ไว้ใจได้ปะ ”
        (...)
 
        หน้าตากูเหมือนโจรห้าร้อยมากปะ แหม
 
       “ เออ กูถามแค่นี้ ไม่ต้องมาบรรยายความดีเพื่อนมึง รำคาญ!! ”
        แล้วไอ้ธาราก็ตัดสายไปด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหันมามองผมที่ยืนยิ้มร่ามองนกชมไม้แสดงเหมือนว่าไม่ได้แอบฟังมันคุย
 
     “ มึงชื่ออะไร ”
 
      “ วิน ” ผมตอบขณะขึ้นคร่อมรถแล้ว ดูเหมือนมันจะพูดง่ายขึ้นสงสัยเจ็บขาจนหยิ่งต่อไม่ไหวแล้วล่ะมั้ง “ ไปยัง ”
 
      “ เออไป แล้วก็กูชื่อ ธารา ” มันตอบเนิบๆ ขึ้นคร่อมซ้อนหลังอย่างง่ายดาย
 
 
 
        บทมันจะง่ายก็ง่าย มึงจะอาร์ตไปไหน
 
 
 
      ก็งี้แหละตามประสาผู้ชายรู้จักง่ายอาจจะมีทะเลาะตีๆต่อยๆก่อนหน้านั้นเล็กน้อย แต่ผมเป็นเพื่อนของเพื่อนมัน ก็คงต้องทำความรู้จักไว้บ้างแหละน่า
 
 
      ก็ดี...อะไรๆก็จะได้ง่ายขึ้นอีกเยอะ หึๆ
 
 
          ขึ้นมาเเล้วยังไม่วายเอ่ยขึ้น “ กลับกับมึง หวังว่าไม่ได้พากูไปตายใช่มั้ย ”
 
       “ ไปกับพี่ไม่ตายหรอก ”
 
        “ ... ”
 
       “ แต่ตายคาอกพี่น่ะไม่แน่~ ”
 
 
      ป้าบ!
 
          และก็ได้รับรางวัลงามๆจากฝ่ามือเท่าใบตาลของมัน... เจ็บสิครับ
 
       “ ถ้ากูไม่เจ็บขาจริงๆ กูไม่มีทางกลับกับมึงแน่! ” ธาราทำหน้าตึงอย่างไม่พอใจสุดๆ พร้อมมือฟาดเข้าเต็มหัวยุ่งๆของผม
 
      “มือหรือตีนว่ะ เจ็บชิบ ”
 
      ผมเอ่ยสบถเบาๆอย่างไม่ได้สนใจนักก่อนจะขับรถออกมาโดยมีผู้โดยสารคนเจ็บอีกหนึ่ง ปกติก็ไม่เคยให้ใครซ้อนเท่าไหร่หรอกนะ พอมีผู้ชายมาซ้อนหลังแล้วรู้สึกแปลกๆกลัวๆไงไม่รู้สิ
 
      “ ธารา หอมึงอยู่ไหน ” ผมตะโกนแข่งกับลมถามมันหลังจากขับมาได้สักแปป
 
      “ หอ S ”
 
     ผมฟังแล้วต้องฉงนใจเล็กน้อย...
 
 
     หอเดียวกับกูนี่หว่า ไม่เคยจะเห็นหน้า
 
 
     “ มึงจะไปไหน ”
 
      มันตะโกนถามบ้างเมื่อถึงซอยที่ต้องเลี้ยวแต่ผมกลับขับเลยมา แน่นอนผมไม่ตอบ เห็นผมไม่ตอบมันก็เงียบไปเองจนสุดท้ายก็มาจอดตรง...
 
 
 
     ‘ โลมา ร้านขายยา 24 ชั่วโมง ’
 
 
 
      เปิดแข่งกับเซเว่นรึไง
 
 
      ไอ้ธาราเงยหน้ามองร้านขายยาแล้วมองมาที่ผมอย่างงงๆ สีหน้าบ่งบอกว่า ‘ มาร้านยาทำห่าไร ’
 
      “ ซื้อยาให้คนเจ็บปากหนัก ”
 
      “ ใครเจ็บ ไอ้! ”
 
        ไม่ต้องรอให้มันด่าครับ ผมรีบชิ่งวิ่งเข้าร้านยาแล้วซื้อที่จำเป็นแล้วเดินกลับมาสีหน้าระรื่นทันทีเมื่อเห็นคนนั่งคร่อมมอไซด์ทำหน้าเซ็งๆ  มองไปมองมา มันก็...น่ารักดีนะ ไม่ได้ตัวเล็กแบบน้องเฟียตแต่...ไม่รู้สิ น่าสนใจน่าดึงดูดมั้ง
 
 
        คิดห่าอะไรของกูวะ!
 
 
      “ กลับได้ยัง กูต้องทำงานต่อ ”
 
       มันว่าแบบนั้นแต่ตามันปรือเหมือนจะหลับอยู่แล้ว ก็งี้เด็กสถาปัตย์งานก็เยอะเป็นธรรมดาแหละครับ
 
     “ ไม่หาไรกินหน่อยเหรอมึง ”
   
      “ มึงจะไปส่งมั้ย ไม่งั้นกูกลับเอง ”
 
      มันชักสีหน้าหงุดหงิดทำท่าจะลงจากรถให้ได้ ผมเลยยกมือยอมแพ้อีกรอบ...
 
      “ เออ กลับก็กลับ ”
 
      ผมว่าก่อนจะโยนถุงยาให้มันถือ...
 
      “ อะไร ”
 
      “ ยาไง ตาบอดเหรอ ”
 
      “ กวนตีนชิบ ”
 
      มันก้มหน้ามองยาในถุงนิ่งๆแล้วหันหน้าไปอีกทาง “ เออ ขอบใจมึงแล้วกัน ”
 
 
       “ เปลี่ยนจากคำขอบคุณมาเป็นแฟนกูแทนได้มั้ย ”
 
 
        มันถอนหายใจราวกับพยายามทำใจให้ชินกับผม “ เล่นห่าไร ไม่ตลก”
 
     “ จริงจัง ”
 
      ไอ้ธาราใช้สายตาเฉี่ยวๆของมันมองผมอย่างไม่เข้าใจเจือหงุดหงิด
 
     “ เลิกเล่นเถอะสัดวิน! กูชักหมดความอดทนกับมึงแล้วจริงๆ ”
 
     “ กูก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน ”
 
 
        ...กูทนมาพอแล้ว
 
 
     ซึ่งตอนนี้กูก็ไม่เหลือความอดทนแล้วเหมือนกัน
 
     มึงผิดเองนะที่เข้ามาหากูก่อนเอง (นอกจากเนียนเเละหน้าด้าน ก็ยังคงหลงตัวเองสุด)
 
     ไอ้ธาราพูดเสียงเรียบ “ กูผู้ชาย เกย์รึไงมึง ”
 
     “ แล้วไง”
 
     “ กูไม่ชอบผู้ชาย ”
 
 
       “ ไม่ได้ให้มึงชอบผู้ชาย แต่ให้มึงชอบกู ”
 
 
        มันเงียบและอึ้งก่อนสีหน้ามันจะเริ่มเดือดดาลแล้วจริงๆ...
 
     “ เพิ่งรู้จักกันเนี่ยนะ?  ”
 
     “ นานๆไปเดี๋ยวก็สนิทเอง รับกูไว้พิจารณาก็ดีออก กูหล่อนะเว้ย ”
 
     " พอดีกูก็หล่อ " ว่าหน้าตายสนิทเเละถามต่อด้วยเสียงสูงพลางค่อนหัวเราะ “ ชอบกูขนาดนั้นเลย? ”
 
      “ ยังไม่ได้ชอบ ...  ”
 
     “ มึงจะเล่นอะไรกันแน่! ” สุดท้ายไอ้ธาราก็ทนไม่ไหวกระชากคอเสื้อผมอีกรอบ เพราะคำตอบของผมมันดูเหมือนกวนๆและดูล้อเล่น
 
       “ ยังไม่ชอบ แต่กำลังจะชอบ ”
 
         “ !! ” เหวอสิครับ
 
         “ ที่สำคัญ ”
 
        มันเริ่มพูดตะกุกตะกักเมื่อผมเข้าใกล้มันจนเเทบจะจูบแล้ว “ อะ อะไร! ”
 
 
         “ กู จะ เริ่ม จีบ มึง อย่าง จริง จัง ”
 
 
         " เตรียมใจไว้ได้เลยมึง "
 
 
          " ได้เป็นเมียกูแน่ๆ "
 
          ยกยิ้มร้ายให้กับใบหน้าสวยที่ดูอึ้งค้างไปเเล้ว แต่ไม่กี่วิต่อมา....เห็นดาวเลยครับ
 
         
 
       ผัวะ!!
 
 
 
         " เมียบ้านมึงดิ ไอ้เหี้ยยยย!" ไอ้ธาราชกเข้าเต็มเบ้าตาของผมก่อนจะตะคอกประโยคต่อมาใส่หน้าจนผมอึ้ง
 
 
         "หล่อๆอย่างกู ต้องเป็นผัวมึงดิสัด! เมียห่าไรมึง ฝันปะ! "
 
 
 
 
กรกวินต์คืนพื้นที่ไปรักษาเบ้าตา....
 
 
 
 
 
 
 
TBC.


ชี้แจ้งกันนิดนึงนะคะ

1.พิมต้องพยายามจะปรับเนื้อหาให้เข้าที่เข้าทางที่สุด เพราะมันดูไร้ทิศทางมากในตอนนี้
2. แม้จะอัพมาแค่ 4 ตอนแต่ ต้องรีไรท์ใหม่เพราะมีผลเกี่ยวเนื่องกับตอนต่อๆไปค่ะ
3. การวางโครงเรื่องยังไม่แน่นพอในครั้งแรก จำต้องแก้ใหม่ในบางจุด  ทั้งคำพูด เรื่องราว
4. ขอโทษในความผิดพลาดด้วยนะคะ แต่จะเขียนออกมาให้น่ารักน่าเอ็นดูที่สุดค่ะ
5. รีไรท์เสร็จถึงตอนที่ 3 แล้ว ลงตอนที่ 2 และ 3 ฉบับรีไรท์ ในวันพรุ่งนี้นะคะ (เหตุด้วยวันนี้โครงการงานสุมหัวเยอะมาก ลงได้แค่ 1 ตอน)
6. ตอนที่ 4 เกิน 80% แล้ว น่าจะสามารถลงได้ในวัน พฤ ไม่ก็ ศ. นะคะ
7. พิมจะพยายามอัพทุกๆสัปดาห์นะคะ ถ้า สัปดาห์ไหนหาย คงอยู่ในมรสุมปั่นงานก่อนสอบค่ะ
8. ขอบคุณทุกคนนะคะ รออีกนิดน่า เดี๋ยวจะพาพี่นิเทศกับน้องสถาปัตย์มาหา~

ฝากติดตามดิชมคอมเม้นท์กันด้วยน่า
ชอบไม่ชอบยังไง เล่าให้ฟังได้นะคะ
 
ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1 [ 19/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: momokaii ที่ 19-09-2015 03:01:52
ชอบเลยยยย พึ่วินกวนตีนมากกกกกกก ธาราก็ขึ้นง่ายตล้อดดด
ต่อไปนี้คงได้มีคนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเช้ายันก่อนนอนแน่นอน เพราะโดนวินรังควาน เอ้ย ตามจีบบบบ 55555

ยินดีตอนรับเรื่องใหม่นะคะ :L2: :mc4: 
มาต่อเร็วๆน้าาา พลีสสสส
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1 [ 19/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 19-09-2015 06:45:28
รักเด็กถาปัตย์ กริ๊ดๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1 [ 19/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-09-2015 09:21:36
กว่าจะจีบติดสงสัยวินจะช้ำในเสียก่อน
ธาราก็เอะอะฟาดเอะอะตี
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1 [ 19/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-09-2015 09:28:24
ขยันหยอดจังนะวิน
ธาราก็ขยันลงไม้ลงมือเช่นกัน
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1 [ 19/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-09-2015 10:54:14
55555555555555+
สรุปน้องธาราก็เล่นด้วยใช่มะ แย่งตำแหน่งผัวกันมันส์แน่เลยงานนี้
เชียร์วินกดธารา ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1*แก้ไข* [20/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 19-09-2015 13:03:25
ท่าทางกว่าจะได้คบ ช้ำในตายก่อน เอะอะๆ ป้าบ! เอะอะๆ ผัวะ!! 5555
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1*แก้ไข* [20/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 19-09-2015 15:44:33
วินกวนได้โล่มากอ่า 555555555555555555 แต่กว่าจะคบกันคงมีคนช้ำในตายก่อนแน่ๆ 55555555
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1*แก้ไข* [20/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 19-09-2015 16:22:59
วินกวนตีนดี ธาราดูขี้โมโหดี
รอตอนต่อไปค้าา
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1*แก้ไข* [20/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 19-09-2015 17:04:32
งื้ออออออ ง้าาาาาา อ่านแล้วฟินแปลก ผู้ชายแมนๆจีบกันเนี่ยยย  :oni2:
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1*แก้ไข* [20/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 19-09-2015 20:29:06
กวน...ทั้งคู่  :impress3:
หัวข้อ: Re: # นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 1*แก้ไข* [20/9/58] #
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 19-09-2015 21:51:05
ชอบแนวนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 19-09-2015 23:43:53
ชอบนายเอกขี้โมโหจริมๆ
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 20-09-2015 01:02:46
น่าสนๆ

ติดตาม
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 20-09-2015 10:58:52
ธาราขี้โมโหดีอ่ะ 555555555 อนาคตวินต้องกลัวเมียเเน่ๆ เอะอะๆป้าบ เออะๆตีลูกเดียว 555555555
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: PingPong_Hunlay ที่ 20-09-2015 20:51:06
อยากอ่านอีกง่าาาาา  :ling1: กำลังสนุกคิคุ ชอบนิสัยวินจัง :-[
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: gasia ที่ 21-09-2015 22:14:03
อร๊ายยยย น่ารัก ปักหมุดจองที่ ><
พี่วินนี่ตลกดี 55555555 ธาราก็ยุขึ้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 22-09-2015 01:46:20
ประโยคที่สวนมานั่นมันอะไร 555555
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: Pingiess ที่ 23-09-2015 09:15:20
เดี๋ยวๆๆๆประโยคสุดท้ายแน่ใจหรอธาราาาาา

ชอบๆๆๆๆ ชอบวินกวนดี น่าจะทะเลาะกันน่ารักนะคู่นี้
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 25-09-2015 11:58:32
อยากเห็นตอนธาราอ้อนวินจัง~
ปูเสื่อรอจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 1++ *แก้ไข* [20/9/58] ◇◆◇
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 25-09-2015 16:06:53
มาติดตามเรื่องใหม่
รอดูว่าพี่วินจะจีบยังไง
 :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 27-09-2015 15:58:45
กรีดร้องแบบเกินเหตุ ทำไมธาราน่ารักอย่างนี้ ยอมๆพี่แกไปเถอะจ่ะ หน้าตาดี มีรถขับ ใจสปอร์ตงี้ จัดไปอย่าให้เสีย พี่วินก็หยอดน้องเบาๆก็ได้นะครับแหม่  :heaven
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: zleep ที่ 27-09-2015 16:54:08
พี่วินนี่น่ารักอะ ทนมือทนเท้าดี 5555
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 27-09-2015 17:33:20
โอ๊ยยยยยยย ทำไมน่ารักขนาดนี้คะ ทั้งธาราทั้งวินเลยย

รอๆๆๆ มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: oss_tw ที่ 27-09-2015 19:25:11
 :z1: o13

รอพี่วินตอบกลับ

 
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: YJoum ที่ 27-09-2015 20:07:54
น้องธาราน่ารักมากก
พี่วินก็ขยันหยอดจริงไรจริง
รอจ้าา  :o8:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 28-09-2015 00:58:32
น้องธาราน่ารักก   :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: yoshiki ที่ 28-09-2015 02:35:43
เด็กถาปัดทุกคนต้องการ การดูแลจริงๆครับ ถึงจะช่วยทำงาน ช่วยตัดโม ช่วยลงสีไม่ได้ ....แต่อย่างน้อยมาช่วยส่งเสบียง เป็นม้าเร็วไว้ซื้อของ และมานั่งเฝ้าให้กำลังใจตอนทำงาน ........แค่เนี้ยยะ ก็จีบเด็กถาปัดได้ทั้งโลกละครับ .....แต่อีกอย่างต้องมีความอดทนในกับช่วงเหวี่ยงวีน และอดทนต่อการไม่มีเวลาให้ ......ของเค้า
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 28-09-2015 17:56:30
ธาราน่ารักกกกกก มึนๆซึนๆดีอ่า ชอบๆๆๆ พี่วินนี่ก็หยอดทุกวิเลยจริงๆๆ รอออออ มาอัพไวๆน่าาา :call: :call: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: sittawan ที่ 28-09-2015 18:53:52
น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-09-2015 19:19:45
เจอดูแลดีแบบนี้ก็ยอมๆเป็นเมียไปเถอะธารา  :L1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 28-09-2015 20:24:21
น่ารักมาก  จะติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 30-09-2015 17:14:47
ธาราน่ารักกก ซึนๆอ่า ยอมเป็นเมียพี่วินเถอะะะ ถ้าพี่เขาจะดีแบบนี้   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: รอน่าาาา มาอัพไวๆน่าา :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ++ตอนที่ 2 ++ [27/9/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 06-10-2015 10:40:41
คนเขียนหาย รอเรื่องนี้อยู่น่าา อยากอ่านต่อเเล้วๆๆๆ  :katai4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 08-10-2015 19:09:30
ธารา... น่ารักอ่า  :katai2-1: แต่พี่วินน่ารักกว่า แถมฮาอีก 55555555555 ไม่ต้องเป็นเด็กสถาปัตย์ก็หลงแล้วค่ะ อยากได้เด็กนิเทศคนเน้ๆๆๆๆ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 08-10-2015 19:49:36
โอ้ยย ธาราจอมมึน แต่ก็น่ารัก
นี่อยากสบายจนยอมเป็นเมียกันเลยทีเดียว
 
งี้แหละ อยากได้อะไร ใช้ผัวเลยลูก แต่แหมได้ข่าวยังไม่คบ 55555555555
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-10-2015 20:10:37
มีแววว่าจะกลัวเมีย เอ๊ย!!! ไม่ใช่นี่เนอะแค่ทำคะแนนเฉยๆ

กลัวจะจีบไม่ติดเลยต้องตามเอาใจไว้ก่อน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Misakiiz ที่ 09-10-2015 10:50:45
กรกวินต์...เราว่านายเริ่มเสี่ยงติดโรคแล้วล่ะ..................................."โรคเกลียมัว"
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: แค่ความทรงจำ ที่ 09-10-2015 13:20:27
ดูแววแล้วจะกลัวเมียแน่ๆเลย

ลุ้นๆต่อไป
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 09-10-2015 13:57:05
โดนเมียข่ม.  รีบท่องคาถาบูชาเมียได้แล้ว.
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-10-2015 12:45:27
ยินดีเข้าสู่กราบูชาเมีย ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
สู้ๆๆเข้าล่ะ รอวันเอาคืนบนเตียงล่ะกัน
555555555+
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 10-10-2015 21:31:31
ธารา คือ 5555555555 ยังไม่คบ แต่สั่งใหญ่เลยค่ะ ส่วนพี่วิน สู้ๆค่าาาา อย่าเพิ่งช้ำตายก่อนนะ 555555555555 :mew1:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Littlesir ที่ 21-10-2015 07:15:01
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 13-11-2015 19:33:28
น่าร๊ากกกกมาก
หัวข้อ: Re: ◇◆◇ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 3 (P.2) [8/10/58] ◇◆◇ UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: winning ที่ 13-11-2015 21:52:25
ธารามึนมากกก ยังไม่ทันเป็นแฟนก็เป็นเมียแล้ว555
หัวข้อ: Re: รักนี้…มันอาร์ตมาก (นิเทศ-สถาปัตย์) ตอนที่ 4.1 (P.2) [3/12/58] UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 04-12-2015 20:50:13
ก่อนอื่น ขำและฮา ธารา 55555555 อย่างจี้อ่ะ /นอนรอยาวๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: รักนี้…มันอาร์ตมาก (นิเทศ-สถาปัตย์) ตอนที่ 4.1 (P.2) [3/12/58] UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-12-2015 20:55:58
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: รักนี้…มันอาร์ตมาก (นิเทศ-สถาปัตย์) ตอนที่ 4.1 (P.2) [3/12/58] UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 20-12-2015 12:32:06
เพิ่งเห็นว่าอัพ... งื้อออออ ชอบอ่ะ ชอบธารา 5555555 ไม่มีใครยอมใครจริงๆ /รอตอนต่อไปปป :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 4.1 (P.2) [3/12/58] UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 30-01-2016 10:40:13
ยังรออยู่น่า  :hao4:
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 4.1 (P.2) [3/12/58] UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: DE SaiKuNee ที่ 30-01-2016 21:27:32
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ตอนที่ 4.1 (P.2) [3/12/58] UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 30-01-2016 21:52:48
อยากให้มาต่ออ่ะ งื้อออ
หัวข้อ: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 1 หน้า 1 [2/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 02-02-2016 18:32:28
* รีไรท์ใหม่นะคะ

* ตอนที่ 2 และ 3 จะตามมาเร็วๆนี้ค่ะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 1 หน้า 1 [2/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 02-02-2016 19:53:14
รอนะคะ

ปูเสื่อนอนรอ :katai5: :katai3:
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 1 หน้า 1 [2/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 02-02-2016 20:01:58
รออ่านน่ะ
หัวข้อ: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 2 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 03-02-2016 06:48:46

นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 2
ตอน เนียนกว่านี้มีอีกมั้ย
 

ฺัBy เดือนพราย
 
 
 
 
 
ธาราทวงพื้นที่
 
 
 
 
หงุดหงิด
 
 
ใช่...
 
 
                อารมณ์ ณ ตอนนี้มีแต่ความหงุดหงิดล้วนๆ
 
 
                หงุดหงิดอะไรน่ะเหรอ... ก็ไอ้บ้าที่ยืนหน้าอึ้งหน้าเหวออยู่นี้ไง... จะว่ามันตกใจอยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก ผมเป็นคนพูดเองยังตกใจเองเลย
 
 
 
            “ หล่อๆอย่างกู ต้องเป็นผัวมึงดิ! เมียห่าไรมึง ฝันปะ! ”
 
 
 
                อายปากตัวเองมั้ยธารา พูดห่าอะไรไม่คิด น่าตบปากตัวเองสักร้อยรอบ แต่แม่งมันอดไม่ได้จริงๆนี่หว่า จะเอาผมเป็นเมีย! ผมเนี่ยนะ!?! ตลกไปแล้วมั้ง สายตามันผิดเพี้ยนมองไม่ออกรึไงว่าอย่างผมเนี่ยมันคงไม่เหมาะจะไปเมียให้ใครหรอกครับ เด็กสถาปัตย์สูงร้อยแปดสิบต้นๆ สูงโย่งพอๆกับไอ้คนประกาศว่าจะเป็นผัวผม แน่นอนมันคงไม่มีวันที่ผมจะไปเป็นเมียมันหรือใครแน่ๆครับ! ที่สำคัญหน้าผมก็หล่อมากถึงมากถึงขนาดคว้าตำแหน่งเดือนคณะมาแล้ว
 
                “ ผัวกู? ”
 
                ไอ้วินเงิบไปนับหนึ่งนาทีสติมันก็เริ่มกลับมาเนื้อตัวมันเริ่มสั่นราวกับเจ้าเข้า เป็นเวรอะไรของมัน อยู่กับมันมาจะครึ่งชั่วโมงแล้วปวดกะโหลกมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้วาจะคบเพื่อนแบบนี้ได้
 
                “ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ”
 
                ผมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจเมื่อจู่ๆมันก็ระเบิดหัวเราะลั่นไม่เกรงใจชาวบ้านจนผมตกใจอยู่เหมือนกัน ไม่วายยกมือขึ้นกุมท้องน้ำตาเล็ด ทำไมห่ะ หน้ากูเหมือนหม่ำ จ๊กม๊กมากรึไง ขำเหมือนชาตินี้จะไม่ได้ขำอีกแล้ว
 
                มันยังไม่หยุดหัวเราะ “ โอ๊ยย ขำจริงๆนะเนี่ยธารา ”
 
                “ ขำไงขำ ” ผมพยักหน้าแยกเขี้ยวใส่ ความหงุดหงิดยิ่งสูงปรี๊ด
 
                “ ตัวก็แค่เนี้ย ริจะเป็นผัวพี่ ไม่ดีครับๆ ”
 
 
                “ ตัวแค่นี้ทำมึงสลบคาเตียงได้ รึจะลอง ”
               
 
                คราวนี้มันเป็นฝ่ายอึ้งไปบ้างก่อนสีแดงฝาดเลือดจะแต้มบนแก้มทั้งสองข้างของมัน มือไม้ยกขึ้นปิดแก้มปิดปากแล้วพึมพำกับตัวเองไม่หยุดแล้วค่อยเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
           
หึ คงไม่กล้าเล่นแล้วมั้งเจอแบบนี้เข้าไป...
 
 
 
           “ ไปทำที่ห้องดี หรือโรงแรมดี ”
 
 
 
            ไอ้เวรรรรรรรรรรร คิดเหวอะไรวะ!
 
 
            ผมมองไอ้วินอย่างทึ่งจัด เข้าใจมั้ย กูประชดดดดด
 
 
 
           “ กูประชด ”
 
           “ อ้าวเหรอ นึกว่าจริง อุตส่าห์ดีใจเนื้อเต้นริกๆ ” มันว่าอย่างเก้อเขินเกาจมูกไปมา นี่มึงคิดไปถึงไหนวะเนี่ย!
 
           “ โรคจิต ”
 
ไอ้วินมองมาด้วยสายตาล้อๆกิ๊บกิ่วสยิวสยอง “ หึ ใครเป็นคนชวนกันหว่า ”
 
            ผมวีนใส่ “ กูประชดไม่เข้าใจรึไงฟะ! ”
 
 
 
            “ รู้ตัวปะ ”
 
 
 
           “ เวลาเราวีนแม่ง... น่ารักเชี่ยๆ ”
 
            ไอ้วินว่าน้ำเสียงเรียบๆไม่มีแววเจ้าเล่ห์จนผมเผลอแกว่งไปนิดนึง น่ารัก! มึงกล้าใช้คำนี้กับผู้ชายเนี่ยนะ บ้าเกินเยียวยาจริงๆ
 
            “ อย่ามาพูดเหมือนกูเป็นผู้หญิงได้มั้ย! ”
 
            “ เปล่าสักหน่อย ” มีหน้ามาทำหน้างงๆไม่เข้าใจอีก
 
            ผมปรายตามองเล็กน้อยด้วยความหงุดหงิดที่เริ่มถาโถมมาอีกระลอก พยายามจะพ่นลมหายใจออกมาเพื่อระบายความโมโหในอก
 
 
                ผมน่ะเป็นคนขี้หงุดหงิด... มากๆด้วย
 
 
         แล้วไอ้การที่ต้องมายืนทนดูคนบ้าๆที่อาสาตัวจะไปส่งที่หอมานานเกินไปจนรบกวนเวลาทำงานของตัวเองแล้วมันยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ ซ้ำยังยุ่งไม่เข้าเรื่องอีก พามาร้านยาเนี่ย ใครขอกัน
 
         “ จะไปไหนก็ไป ”
 
         ผมไล่หน้าตายสนิท เบื่อจะเสวนาแล้ว ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินไปทางถนนเพื่อกลับหอ แต่คิดอีกทีแล้วก็ควรจะโทรหาไอ้ลมให้มารับดีกว่า แต่ยังไม่ทันได้หยิบโทรศัพท์ คนกวนตีนแม่งก็รีบถลามาจับต้นแขนผมไว้
 
         “ เฮ้ย! เดี๋ยวดิว่ะ เดี๋ยวไปส่งครับคุณเมีย ไม่งอนเซ่ ”
 
 
         กูไปเป็นเมียมึงตอนไหนครับ
 
 
         “ ตาไม่พอใช่ปะ ปากแตกอีกที่ดีมั้ยวะ ”
 
          เอ่ยว่าน้ำเสียงเริ่มไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ แต่มันยังยิ้มหน้าระรื่นพร้อมกับเบ้าตาสีเริ่มคล้ำๆเขียวๆ นี่ผมหนักมือไปเหรอ ก็ไม่นะ ผมสะบัดแขนออกจากการจับกุมของมันถลกแขนเสื้อเตรียมรบปุ๊บมันก็โบกมือห้ามเป็นพัลวันจนเหงื่อแตกพลั่ก หึ อ่อนว่ะ เนี่ยนะ จะเป็นผัวกู ประสาท
 
          “ เฮ้ๆ ไม่ใช่กำลังสิ แค่ตาก็ช้ำไปหลายวันแล้วนะตัวเอง ”
 
 
           ตัวเองพ่อง!
 
 
          ผมถลึงตาใส่มันทันที สรรพนามบ้าอะไร
 
         ไอ้วินทำหน้าหงอๆยกมือขึ้นลูบเบ้าหน้าเบ้าตาช้ำๆของมันด้วยท่าทีน่าสงสาร
 
         “ หมดหล่อเลยง่า ”
 
          ผมว่า “ เรื่องของมึงเถอะ ” ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบมันเพื่อเดินหนีไปโทรศัพท์หาไอ้พี่บ้าสักคนให้มารับ ไม่รู้ปานนี้มันจะเลิกเรียนกันรึยัง
 
          “ ก็บอกว่าจะไปส่ง ” มันตามมาคว้าข้อมือผมไว้อย่างรวดเร็ว วุ้ย ตื๊อจริง!
 
          “ ไม่จำเป็น ”
 
 
          “ อย่าดื้อดิ ไม่น่ารักเลย ”
 
 
           มันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆพร้อมรอยยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสีหน้าผม
 
          อึ้งไง... ผมตวัดตามองไอ้วินอย่างตกใจปนรู้สึกแปลกๆ ดื้อมันใช้กับเด็กเปล่าวะ แล้วกูก็ไม่ได้ดื้อเว้ย! อย่างกูเรียกหัวแข็งไม่คนต่างหาก!
 
          “ เก็บปากไว้ไปพูดกับเมียมึงเถอะคำนี้น่ะ ”
 
          “ ก็พูดอยู่นี้ไง ”
 
           ผมทำหน้าฉงนใจกับมัน จะเล่นบ้าอะไร
 
 
 
           “ เราไงธารา เมียพี่ ”
 
 
           ว่าจบรอยยิ้มหวานจ๋อยเคลือบน้ำตาลยกฉีกกว้างเป็นจานดาวเทียมถูกส่งเข้าเรตินาลูกกะตาผมจนแสบตา
 
           “ ผิดแล้ว กูผัวมึงต่างหากครับ ”
 
           ผมกระตุกยิ้มอย่างไม่ยอม ถึงมันจะสูงกว่าผมนิดหน่อย แต่ไม่เคยได้ยินเหรอส่วนสูงไม่มีผลต่อแนวราบ ผมไม่ได้ชอบผู้ชายสบายใจเถอะ แต่ใช่ว่าจะให้ใครมาหยามหน้ากันได้ ถ้ากูจะเป็นเกย์ กูต้องรุกสิถึงจะถูก!
 
            ผมออกจะแมนเต็มร้อย! ตรงไหนที่ดูไม่แมนกัน
 
 
          “ งั้นเอาเป็นว่าเราสองคนตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วเนอะ ส่วนเรื่องใครผัวใครเมียเดี๋ยวตกลงทีหลังดีมั้ย ดีเนอะ ”
 
 
           ดีกับพ่อมึงสิ!
 
 
          แล้ว...แฟน!!
 
 
          มึงขอกูตอนไหนนนนนน
 
 
           มันเออออห่อหมกปลาราดพริกอยู่คนเดียวเสร็จสรรพไม่สนหน้าผมเลยว่าจะตะลึง ยัง ยังไม่สำนึกมายิ้มเป็นคนบ้าอีกผมล่ะเหลือเชื่อจริงๆกับผู้ชายคนนี้ ตื๊อ เนียน กวนตีน เอี้ย ครบสูตรคนเหี้ยจริงๆ
 
         “ ตกลงดิ ” มันเร่งยิกๆ หน้าด้านชิบหาย
 
         “ ตกลงกับผีสิว่ะ!! ”
 
         สติกลับคืนมาผมออกอาการฟาดงวงฟาดงาทันที จะบ้าเหรอ แฟนเนี่ยนะ!! โดนชกเบ้าตาไปรอบหนึ่งสะเทือนจนสมองมึงเพี้ยนเลยเหรอวะ ไม่เอาเว้ย!
 
        “ ไม่ได้ตกลงกับผี ตกลงกับธาราครับ ”
 
        “ ไม่ต้องมาคงมาครับ ไอ้เวรวิน มึง...! ”
 
          ผมชูกำปั้นเตรียมซดหน้าแต่แล้วต้องชะงักนิ่งงันแทบลืมหายใจเมื่อมันใช้มือใหญ่เท่าใบตาลของมัน(ผมว่ามือผมใหญ่แล้วนะ)รวบมือผมไว้ด้วยมือข้างเดียวแล้วกดน้ำหนักล็อคข้อมือไว้อย่างรุนแรงจนผมเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
 
 
          มึงจะหักข้อมือกูเลยก็ได้นะ!
 
 
         สายตาคมส่อแววสนุก “ พี่บอกแล้วไง อย่าดื้อ ”
 
        “ ไม่ได้ดื้อ! กูบอก.. ”
 
          แววตามันส่อถึงความไม่พอใจเล็กๆ “ ถึงพี่จะเป็นเพื่อนกับวา แต่พี่ไม่ได้อยู่ชั้นปีเดียวกัน แล้วพี่ก็อายุมากกว่าเราปีหนึ่งด้วย เราควรจะพูดเพราะๆกับพี่นะครับ ”
 
          “ ไม่ ”
 
         มันว่าพลางลงแรงหนักขึ้นอีก “ เรานี่น่า พูดกับพี่เพราะๆหน่อย พี่ไม่อยากรังแกเรานะ ”
 
 
         พี่?
 
 
        จะอ้วก! ใครมันจะไปพูดห่ะ
 
 
        รังแก? ตัวแค่นี้จะมีปัญญาสู้แรงผมเหรอ!
 
 
        แล้วปากผมเนี่ยเป็นใบ้รึไง ด่ามันสิว่ะ! แต่เพราะสายตาวาววับกับการกระทำป่าเถื่อนสวนทางกันแบบนี้ทำเอาผมไปไม่เป็นได้แต่ยืนนิ่งจ้องตามันตอบก่อนจะเลื่อนมามองปลายนิ้วชี้ยาวของมันที่มาหยุดตรงริมฝีปากของผมพอดี
 
         หึ ผมกระตุกยิ้มร้ายฉับพลัน
 
 
          งับ!!!
 
 
           “ อ๊ากกกกกกก!! ปล่อยๆๆๆ อย่ากัด! เดี๋ยวนิ้วขาด! ”
 
            ปากผมยิ้มกริ่มแต่ฟันคมๆยังคงกัดนิ้วมันไม่ปล่อยและกัดไม่ธรรมดาครับ กัดแรงสุดๆกะให้มันนิ้วขาดติดปากมาเลย มันร้องโหวกเหวกพร้อมๆกับปล่อยให้มือผมเป็นอิสระ ผมเลยปล่อยนิ้วมัน อุ๊ยตาย มีน้ำลายนิดไปหน่อย อายจัง
 
            “ เมียหรือหมาว่ะ ”
 
             ผมค้อนขวับ “ ไม่เข็ดใช่มั้ย  ”
 
             “ คนอย่างกรกวินต์ ไม่มีคำว่าเข็ดครับคุณเมีย ”
 
             “ มึงจะเล่นแบบนี้ใช่มั้ยครับเมีย ”
 
             ผมสวนกลับบ้างไม่ลืมยักคิ้วให้มัน ในเมื่อมันเล่นมาผมก็เล่นกลับว่ะ เรื่องนี้ไม่ยอมเว้ย ใครเป็นเมียใครผัวมึงคิดดีๆ!
 
             มันหัวเราะร่วน “ ไม่ๆ พี่น่ะผัวครับน้องธารา ” แต่มันก็หยุดหัวเราะแล้วทำหน้าครุ่นคิดอะไรบางอย่างแล้วยิ้มร้ายมานิดนึงก่อนจะกลับเป็นปกติ
 
             “ บอกว่า ” เตรียมตวาดใส่
 
            “ โอ๊ย เจ็บนิ้วจัง สงสัยขับรถไม่ไหวแล้วอ่า ” จู่ๆมันก็ร้องขัดพร้อมเสียงโอดครวญทำหน้าทำหน้าลูกหมาตกน้ำใส่ผมจนผมตามแม่งไม่ทัน
 
            “ เรื่องของมึง กูกลับหอ ”
 
            ผมเบื่อที่จะเถียงแล้ว จะกลับจริงๆแล้ว
 
 
            “ อยากเป็นผัวไม่ใช่เหรอ ขับรถพาเมียกลับหน่อยสิครับ ”
 
 
           ผมชะงักเท้ากึกหันไปมองหน้ามันอย่างงงๆ ปนสงสัยหรี่ตามองหาพิรุธเพราะดูแล้วไอ้เวรนี่ไม่น่าจะยอมอะไรง่ายๆแบบนี้
 
 
            จะเล่นแง่อะไรอีกวะ
 
 
            มันทำหน้ากวนทีน “ เอางายยยย ”
 
           “ ... ” คิดแปป
 
           “ ผัวขับเมียซ้อนไง เอาเปล่า~ ” ไอ้เวรนี่ก็ยังไม่เลิกจูงใจกูนะ
 
           “ ... ”
 
           “ จะรีบกลับไปทำงานไม่ใช่เหรอเมีย ”
 
 
           เมียพ่อง!
 
 
           เลิกคิ้วหนึ่งจึก “ หรือจะให้ผัวขับครับ ”
 
           ผมถอนหายใจเฮือก “ เอากุญแจมาดิ จะได้กลับสักที ”
 
           ไอ้ผมก็อารมณ์ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย ยื่นมือออกไปรับกุญแจจากมันไม่วายมือหยาบฉวยโอกาสลูบแขนผมตั้งแต่ศอกมาที่มืออีก เว้ย! ขนลุก!
 
            ผมมองหน้ามันอย่างหน่ายจิต ไปอดอยากมาจากไหน หื่นทุกวินาที
 
            มันยิ้มๆก่อนจะผายมือไปที่มอไซด์คันใหญ่
 
            ผมส่ายหน้าน้อยๆแล้วเดินอย่างระวังเพราะอาการเจ็บที่ขามันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปขึ้นคร่อมรถทำหน้าที่ผัว เอ๊ย คนขับแทนมัน ปัดโธ่เว้ย! กูไม่ใช่เกย์!
 
            “ ขับดีๆนะเตงง ”
 
            “ เตงพ่อง! ”
 
            มันขึ้นคร่อมตามมา ทุกอย่างเหมือนจะดี ถ้า...
 
 
            หมับ!!
 
 
              ไอ้วินทำเอาผมตัวแข็งทื่อไปเลย เมื่อแขนแข็งแรงโอบเอวของผมแน่น ส่วนมือวางตรงหน้าขาในตำแหน่งที่น่าหวาดเสียวส่วนหน้าก็วางเกยไหล่ลาดของผม
 
 
              นี่มันกอดชัดๆ!!
 
 
            “ เค้ากลัวหล่น ขออนุญาตกอดนะ ”
 
 
             ไม่ต้องขอแล้วมั้ง มึงเล่นกอดไปแล้วเนี่ย!
 
 
             ผมทำอะไรไม่ถูกเป็นครั้งแรก ไอ้พวกพี่เหี้ยมันยังไม่เคยได้กอดผมเลย แล้วมันเป็นใครวะ! จะด่าจะพูดอะไรก็พูดไม่ออกแถมไอร้อนจากตัวมันก็ทำให้รู้สึกแปลกๆขึ้นมาเสียเฉยๆก็แค่เพื่อนกอดเพื่อนจะอะไรวะธารา! ถึงจะเพื่อนกันเมื่อยี่สิบนาทีครึ่งชั่วโมงที่แล้วก็เถอะ
 
            “ ไปสิ กลับหอกัน ”
 
            ไอ้วินกระซิบข้างหูผมเบาๆด้วยเสียงแหบพร่า
 
 
            หอก! มึงชวนกูกลับหอ แต่เสียงมึงเหมือนชวนกูขึ้นห้องเลยสัด!
 
 
 
             ผมพยักหน้าส่งๆ “ เออๆ ” ก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่าง...รวดเร็วปานสายฟ้า หึหึหึ เผอิญกูมันตีนหนักตีนผีมือผีว่ะ
 
             มึงฉวยโอกาสกูก่อนนะ อย่าคิดว่ากูตามไม่ทัน
 
             หน้าปัดความเร็วเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆพร้อมๆกับไอ้คนข้างหลังที่เริ่มกอดรัดผมแน่นกว่าเดิม เหลือบตามองผ่านกระจกข้างเห็นใบหน้าหล่อกำลังซีดเผือดได้ที่แล้วนึกอยากแกล้งขึ้นมาเฉยๆ ผมแกล้งขับไปเรื่อยๆปาดหน้ารถชาวบ้านได้น่าหวาดเสียวสุดๆ
 
             “ ธารา ขับช้าๆหน่อย! ” สงสัยมันจะทนไม่ไหวแล้วมั้งถึงได้ตะโกนฝ่าลมแรงๆมา
 
              “ อะไรนะ! ไม่ได้ยิน! ”
 
               แกล้งทำหูทวนลมแล้วบิดเร่งเครื่องให้เร็วขึ้นอีกนิด...
 
 
อีกนิดจะร้อยสี่สิบ...
 
 
“ พี่กราบแหละ ช้าลงหน่อยเว้ย! ”
 
คราวนี้ไม่มาแค่เสียงแต่กำปั้นหนักซัดมากลางหลังผมดังอั๊กจนผมรู้สึกเจ็บแล้วจิ๊ปากอย่างเซ็งแซ่ห่อนจะลดความเร็วให้อยู่ในระดับปกติแล้วขี่กลับหอดังเดิม
 
มันถอนหายใจอย่างโล่งอก ไม่วายบ่น...
 
“ ทีหลังพี่จะไม่ให้เราขับรถอีกแล้ว ”
 
ลอยหน้าลอยตา “ กูจะขับ จะทำไม ”
 
 
“ ขับแบบนี้พี่เกรงว่าเราจะไม่รอดถึงงานแต่งของเรา ”
 
 
                ฉ่า!
                ผมหน้าร้อนฉ่าไปแทบจะทันทีเมื่อเจอมุกนี้ ไอ้แฟนยังพอทำใจไม่รู้สึกอะไรได้แต่ไอ้พูดเหมือนขอแต่งงานเนียนๆแบบนี้ เป็นใครมันก็ต้องรู้สึกบ้างแหละ
 
                “ พูดบ้าๆ ”
 
                “ ทำไม เขินเหรอ ” มันยิ้มกริ่ม
 
“ เปล่า รำคาญ ”
 
ผมกลอกตามองบนอย่างเอือมๆก่อนจะจอดรถแล้วลุกพรวดลงจากรถอย่างเร็วจนลืมว่าขาเจ็บ เลยเซล้มไม่เป็นท่า ข้อเท้าก็แผลงฤทธิ์ปวดจี๊ดขึ้นมาทันที ผมกัดปากตัวเองอย่างนึกเจ็บใจ ผู้ชายห่าอะไรล้มเพราะอีแค่เจ็บขา แถมต่อหน้าไอ้บ้านี่อีก ซวยชิบ!
 
         “ ไง ดื้อ เจ็บมั้ย ”
 
           มันหัวเราะคิกคักเล็กน้อยแต่ก็เข้ามาช่วยพยุงให้ผมลุกขึ้นดีๆ คราวนี้ผมไม่กล้าต่อปากต่อคำแล้ว อับอายจนอยากแทรกดินหนีแล้ว
 
           “ ปล่อย ถึงหอกูแล้ว ไสเฮดมึงกลับบ้านไป ”
 
             บิดแขนออกจากมือกาวมือตุ๊กแกของมันเบาๆจากนั้นก็ชี้นิ้วไล่เลย หมดประโยชน์แล้ว ไสหัวไปไกลๆตีนได้ล่ะ
 
 
           วะ! ช่วงนี้ดวงกูตกรึยังไง
 
 
          ถึงมีมารมาวุ่นวายดีจริงๆ!
 
 
          “ รอแปปนะ ”
 
          ไอ้วินมันไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มๆแล้วหมุนตัวไปเก็บรถตรงส่วนของบริเวณลานจอดรถของหอพักที่เขาจัดให้เงียบๆท่ามกลางสายตาตะลึงจากผม
 
 
          มันอยู่หอนี้!?!
 
 
บ้าน่า!!
 
 
 
                “ ปะ เดี๋ยวไปส่งห้อง ”
 
                ไอ้วินเดินหน้าระรื่นมาพลางควักมือหย็อยๆ เห็นแล้วอยากกระโดดถีบยอดหน้า ยิ้มอะไรหนักหนา น่ารำคาญลูกตา
 
                “ ไม่ต้อง ”
 
                ผมว่าเสียงเรียบกัดฟันเดินขึ้นหอ ด้วยสภาพเหงื่อแทบท่วมเพราะอาการเจ็บที่แล่นมาจนแทบทรุด มือรีบคว้าราวบันไดไว้อย่างว่องไวเมื่อรู้สึกว่าล้มอีกรอบ
 
                “ ให้ช่วยมั้ย ”
 
                เสียงคุ้นๆว่าขึ้นจากทางด้านหลัง ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร
 
 
                ขี้เสือกขี้ยุ่งก็มีแต่มัน
 
 
                รู้จักไม่ถึงชั่วโมง แต่มึงทำเหมือนสนิทกับกูเป็นชาติ หน้าด้านหน้าทนเกิน
 
 
 
                ผมไม่ตอบ
 
                มันก็เลยเงียบ
 
 
                ผมเดินต่อไปทั้งอาการปวดร้าวแทบทรุด ก้าวได้จนถึงชั้นที่สามซึ่งเป็นชั้นของผมได้ก็เอาแทบสลบเหมือด เอี้ยวหน้าไปมองทางด้านหลังก็เห็นไอ้วินยืนนิ่งไม่ไปไหนเหมือนกับรอส่งผมจริงๆ
 
                มือผมกำถุงยาแน่นเก็บความเจ็บแล้วยืดตัวตรงทนเดินไปถึงหลังที่อยู่ริมสุดท้าย จะได้พักๆสักหน่อย คลาสพรุ่งนี้...โดดแม่ง
                อีกสองเมตรจะถึงห้องแต่ขาเจ้าสำออยเสือกร้าวจะทรุดให้ผมเซไปพิงกำแพงห้องชาวบ้านอย่างเป็นไปตามคาด...
 
                “ ไง ดื้อดีนัก ”
 
                เสียงเปรต เอ๊ย เสียงไอ้วินว่ามาด้วยกระแสเอือมๆปนผู้ใหญ่ดุเด็ก ได้ข่าวมึงแก่กว่ากูปีเดียว แต่ทำเหมือนห่างกันสักเจ็ดแปดปีมันบ่นไปงั้นแล้วค่อยเดินมาพยุงตัวผมให้ยืนตรงๆ มือใหญ่สอดมาโอบเอวผมหลวมก่อนเอาแขนอีกข้างคล้องคอมันก่อนจะพาเดินช้าๆไปยังห้อง
               
เบื่อจะเถียงแล้ว อยากนอน...
 
                “ ห้องนี้? ” มันเพยิดหน้าไปทางห้องสุดท้ายที่เป็นห้องผม
 
                “ อือ ”
 
                ไม่อยากตอบหรือพูดดีด้วยหรอกนะ แต่เหนื่อยว่ะ ไม่พอเท่านั้นผมล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงยีนส์ส่งให้มันไม่สนใจสีหน้าอึ้งๆของมัน
 
 จะ ทำไม กูก็เป็นเงี้ย ขึ้นๆลงๆ ไม่พอใจก็ไปไกลๆ
 
 
                ไอ้วินมันรับไปก่อนรีบไขประตูห้องแล้วพาผมเข้าไป...
 
                ผมโปรยสั้นๆ “ ห้องรก ”
 
                “ ไม่เป็นไรๆ ” มันพูดอย่างกระตือรือร้นประคองผมพาเดินผ่านกองขยะท่วมห้อง
 
 
                อืม ขยะจำพวกกระดาษน่ะ
 
 
                พวกกระดาษ พวกโมเดลที่ทำแล้วไม่ผ่านน่ะ พอจะเก็บห้องงานใหม่ก็มา ไม่มีเวลากวาดเก็บเท่าไหร่ เลยปล่อยเลยตามเลย จบเทอมค่อยเก็บที
                คงเพราะมันอยู่หอนี้ด้วยเลยรู้สัดส่วนของห้องอย่างดีเลยพาผมมายังส่วนของห้องนอนถูก ผมคลายมือที่คล้องคอมันแล้วเซตัวทิ้งลงกับเตียงอย่างเหนื่อยสุดๆ ส่วนไอ้วินมันยืนยิ้มๆพลางเดินรอบๆสำรวจห้องผม ซึ่งมันแทบไม่มีอะไรสำคัญเลยจริงๆ มีแค่กระดาษ ปากกา ดินสอ แปลน โมเดล และอีกสารพัดอุปกรณ์สี
 
                ผมไม่สนใจอะไรมันทั้งนั้น เดี๋ยวเบื่อมันก็เดินออกไปเอง ส่วนผมขอนอนพักก่อนแล้วกัน
 
                “ เดี๋ยวธารา ทายาก่อนดิ ” เสียงแว่วอยู่ไกลๆพร้อมหน้าหล่อๆของมันดูเป็นห่วง “ ลุก ”
 
                “ ไม่เอา ”
 
                ผมพึมพำเบาๆพลิกตัวนอนคว่ำแล้วหลับไปทันทีด้วยความเหนื่อยล้ากายสุดๆ...
 
 
 
 
 
ธาราคืนพื้นที่ขอตัวไปงีบก่อน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
*****************************************
 
 
 
 
 
 
 
 
 
กรกวินต์ขอพื้นที่สักนิด
 
 
 
 
 
 
       ผมส่ายหน้าขำๆกับร่างตรงหน้า...
 
แล้วก็มันกล้าหลับไปได้ไงทั้งๆที่ผมยืนอยู่ตรงนี้ ไม่กลัวเลยเนอะว่าผมจะปล้ำ แต่ว่าใครมันจะโรคจิตปานนั้นครับ
                บทจะว่าง่ายก็ว่าง่ายจริงๆเลย วันนี้ธาราค่อนข้างจะทำให้ผมประหลาดใจในหลายๆอย่าง ที่ประหลาดใจสุดคงไม่พ้น
             
 
                จะเป็นผัวผม
 
                มันขำจริงๆนะ โคตรแบบขำเลยว่ะ หน้าตอนพูดก็โคตรจริงจัง แต่ดูแล้วมันคงพูดเล่นๆ เพราะไม่อยากมาเป็นเมียผม
                ถามผมว่าแล้วที่ผมพูดกับมันกับมันล่ะ ล้อเล่นเหรอ
 
 
                เปล่า
 
 
                จริงจังครับ
 
 
                คนอย่างกรกวินต์ถ้าคิดจะจีบใคร ผมจริงจังหมดแหละน่า ยืนมองเด็กดื้อรั้นอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเดินไปจัดท่านอนดีๆให้ ผมนั่งลงบนเตียงเบาๆก่อนจะยกขาขวาที่น่าจะเจ็บหนักของหมอนี่ขึ้นมาวางบนตักแล้วถอดถุงเท้าสีเข้มออกเผลอให้เห็นข้อเท้าขาวซีดบวมเป่งช้ำเขียวช้ำม่วงจนน่ากลัว
 
 
                นับถือในความอึดของมันจริงๆ เฮ้อ
 
 
                ผมวางขามันลงแล้วลุกเดินไปหาน้ำแข็งมาประคบให้มัน ระหว่างทางเดินไปก็มองบรรดาข้าวของรกๆของเด็กมันไปด้วย ดูท่างานจะเยอะจริงสินะสถาปัตย์เนี่ย ไอ้เพื่อนผมที่อยู่อีกมอก็เคยบ่นๆมาเหมือนกันว่าเรียนแม่งไม่หนักแต่งานอย่างหนักควายล้มช้างตายเลยทีเดียว
                แต่ห้องของมันน่าสนใจกว่าเพื่อนของผมเยอะตรงที่ตามฝาผนังห้องมีแต่ภาพวาดขนาดเท่าเอสี่บ้างเท่าโปสการ์ดบ้างแปะเต็มไปหมด นัยน์ตาคมไล่มองอย่างสนใจเพราะแต่ละภาพล้วนจัดว่าสวยมากถึงมากจริงๆ
 
                ผมลพสายตาจากภาพพวกนั้นแล้วเดินออกจากห้องนอนเพื่อหาของ เดินอย่างรู้ทางเพราะผมก็อยู่หอนี้เหมือนกัน แต่อยู่ชั้นสี่นะ
 
                มาถึงโซนห้องครัวแล้วไม่อยากจะบ่น แต่ขอบ่นเถอะ ถึงว่า ทำไมมันแม่งอย่างผอม ก็ดูมันกินดิ แต่ละอย่าง มีประโยชน์เหลือเกิน
 
                “ มาม่ารสหมูมะนาว ” ผมพูดขึ้นพลางหยิบถ้วยที่ว่าขึ้นมา กินแล้วก็ไม่ทิ้งอีก ผมหาถุงดำแถวนั้นมาก่อนจะโยนซากมันลงไป
 
                “ มาม่ารสต้มยำกุ้ง ” โยน
 
                “ มาม่าแกงเขียวหวาน ” โยน
 
                “ ไวไวรส... ยำยำเต็มๆ... #@$%$#^$# ” และอีกสารพัด มือจัดการกวาดซากอาหารทุกอย่างลงถุง ไม่วาย M150 คาราบาวแดงอีกนับสิบขวด นี่โด๊ปกันขนาดนี้เลยเหรอวะ!
 
 
                มึงได้นอนบ้างมั้ยหา!!
 
 
                สีหน้าผมตึงทันควันกับการดูแลตัวเองได้ลวกเละเทะของมัน เดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหาน้ำแข็งไปประคบเท้ามันเผื่ออารมณ์ผมจะเย็นขึ้นแต่ยิ่งหงุดหงิดขึ้นเมื่อในตู้เย็นมีแต่...โค้ก เบียร์ กาแฟ M150 วางเรียงเป็นชั้นอย่างงาม...
 
                “ เด็กคนนี้น่าตีจริงๆ ”           
 
                มือผมหันไปหยิบถ้วยขนาดกลางมาใส่น้ำแข็งเพราะมันไม่มีผ้าสะอาดเลย... ไม่ไหวจริงๆเด็กคนนี้
 
                ผมเดินกลับมายังห้องนอนที่เปิดแอร์ทิ้งไว้ให้แล้วก็เย็นช่ำชื่นใจสุดๆ สายตาเห็นเด็กตัวโตกำลังนอนขดตัวมุดผ้าห่มเหมือนแมวอยู่แล้วนึกขำ
 
 
                เด็กชะมัด
 
 
                กลับมานั่งประจำที่เดิมดึงเท้ามันมาเบาๆแล้วบรรจงเอาน้ำแข็งลูบๆไปตามบริเวณที่บวมช้ำเสียงครางแผ่วจากคนหลับออกมาเบาๆเหมือนไม่สบายตัว
 
                ตัวเหนียวขนาดนี้ยังนอนได้นี่ ทำได้ไงวะ
 
                ผมทำแบบนั้นอยู่พักใหญ่ก่อนจะเอื้อมไปหยิบถุงยาเอายานวดออกมานวดให้มัน แผลดูไม่บวมเท่าตอนแรกผมก็สบายใจไปเปราะหนึ่ง
 
                ผมพึมพำ “ ทำไงให้เราเลิกดื้อนะ ”
 
                ใบหน้ายุ่งๆของธารายังคงดูเหนื่อยล้าและเพลียจัดจนผมรู้สึกสงสาร นี่ผมเข้ามาทำให้มันหนักอกหนักใจกว่าเดิมเปล่าวะ
                ผมเหยียดตัวลุกขึ้นเมื่อความคิดไม่น่าพิศมัยแล่นมา ผมเดินออกมาเพื่อไปอาบน้ำทำงานบ้าง แต่ต้องชะงักเมื่อตาดันเหลือบไปเห็นปฏิทินตั้งตัวที่ถูกวงถูกเขียนไว้มากมาย
 
                ความเสือก เอ๊ย อยากรู้เลยให้มือหยิบมันขึ้นมาอย่างถือวิสาสะ...
 
 
 
                วันที่ 26 ส่งโมเดล 2 ชิ้น
 
                วันที่ 27 ส่งแบบ
 
                วันที่ 28 เริ่มทำโปรเจค
 
                วันที่ 29 ส่งแบบที่แก้รอบ 2
 
                วันที่ 30 สอบเทสต์ย่อย
                .
                .
                .
 
 
 
                “ คงเหนื่อยมากสินะ ”
 
                ผมพึมพำเบาๆเหลือบมองกลับไปทางห้องนอนแล้วมองไปรอบๆห้องนี้อีกครั้งด้วยความรู้สึกแปลกๆ
 
 
 
                เฮ้อ งานหนักแบบนี้
 
 
            สงสัยต้องมีคนดูแลแล้วล่ะมั้ง
            นายกรกวินต์ขอเสนอตัวเองแล้วกันนะครับJ
 
 
 
 
 
กรกวินต์ขอคืนพื้นที่ บาย

 


ต่อโพสล่างๆ
หัวข้อ: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 2 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 03-02-2016 06:51:09
ธาราขอพื้นที่
 
 
 
 
 
            ผมลืมตาโพล่งขึ้นท่ามกลางห้องมืดๆ...
 
 
                เป็นแบบนี้เสมอแหละผมนอนนานๆไม่ได้ คงเพราะกินพวกกาแฟคาเฟอีนเอ็มร้อยเยอะ มันเลยทำให้ผมหลับๆตื่นๆ นอนนานสุดก็ 4 ชั่วโมงได้ตั้งแต่เข้าคณะมา
 
                เป็นงงเล็กน้อยเมื่ออาการปวดขาเริ่มบรรเทาแถมยังรู้สึกเย็นๆสบายๆอีก...
 
 
                ใครนวดยาให้วะ
 
 
                ผมขมวดคิ้วอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก หันไปมองนาฬิกาบอกเวลาว่าตอนนี้หกโมงแล้ว อืม... เดี๋ยวคงต้องทำโมเดลต่อ แต่ง่วงชะมัดเลยว่ะ
 
                ลงจากเตียงได้ก็เดินสะลึมสะลือขากะเผลกไปทางห้องน้ำเพื่ออาบน้ำให้ตื่นเต็มตา ไหนจะเหนียวตัวสุดๆจากกีฬา ไม่น่าหลับเลยจริงๆ ล้าไปหมด
 
                ยังไม่ทันจะได้อาบน้ำก็ชะงักหรี่ตามองเศษกระดาษบนกระจกตรงอ่างล่างหน้า...
 
 
 
         ‘ ตื่นมาคงอาบน้ำเลยสินะ ดีๆ จะได้สบายตัว แต่เดินระวังด้วยล่ะ เดี๋ยวล้ม
 
-ผัวที่น่ารักของน้องธารา- ’
 
 
 
                “ ใครเมียมึงหา ไอ้เวร!! ”
 
                ผมคำรามลั่นกระชากโพสอิทเวรๆนั้นทิ้งแล้วรีบรุดเข้าไปอาบน้ำไล่ความรู้สึกโมโหในใจ ตั้งแต่เจอมันรู้สึกต่อมโมโหผมจะทำงานหนักสองเท่าเลย ให้ตาย!
 
                หลังจากอาบน้ำอยู่นานพอให้ได้สงบสติได้ ผมก็เดินร่อนทั่วห้องในสภาพผ้าขนหนูพันรอบเอว ผ้าอีกผืนก็อยู่บนหัวเปียกๆ เผ้าผมยาวๆเลยบ่านิดหน่อยทำให้รู้สึกดี ไม่รู้สิ ไว้ผมยาวแล้วมันอาร์ตดี ผมชอบ
 
                กะจะเดินเข้ามาหาอะไรกินเล่นสักหน่อยแต่ก็ต้องเบิกตาโพล่งเมื่อห้องครัวรกๆกลับ...
 
 
                สะอาดเอี่ยม
 
 
                นี่ฝีมือไอ้เวรวินอีกแล้วใช่มั้ย คงไม่ใช่ไอ้พวกพี่ชัวร์ เพราะผมไม่ค่อยชอบให้ใครมาวุ่นวายในห้องถ้าไม่จำเป็น แต่ทำไมผมกลับให้ไอ้เวรวินมันเข้ามาง่ายๆ แถมยังกล้าหลับไปอีกตอนที่มันยังอยู่ในห้อง แต่แม่ง...มันก็
 
 
                ยุ่งจริงๆ!!
 
 
                ปากก็สบถด่าไปเรื่อยก่อนจะเห็นกระดาษโพสอิทแบบเดิมแปะอยู่หน้าตู้เย็นไม่รอคิดอะไรต่อกระชากมาอ่านทันที...
 
 
 
                ‘ ฮั่นแน่ แอบด่าพี่ยุ่งอยู่อ่าดิ ...แต่เราน่ะ ควรกินของที่มีประโยชน์บ้างรู้เปล่า แล้วอยากกินไรปะ เดี๋ยวค่ำๆจะซื้อไปให้ ’
 
 
 
 
                “ ...ทำแบบนี้ทำไม ” ผมอ่านยังไม่ทันจบก็เผลอบ่นออกมาอย่างไม่เข้าใจก่อนจะก้มลงอ่านต่อ
 
 
 
                ‘ ต้องทำงานดึกไม่ใช่เหรอวันนี้น่ะ เดี๋ยวซื้อของกินให้ อ้อ แล้วเดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อนด้วย โอเคปะ ’
 
 
 
                “ ใครจะไปโอเคกับมึงห่ะ ”
 
                ผมว่าไปแต่ก็อดยิ้มไม่ได้... เฮ้ย! แล้วจะยิ้มทำแมวอะไรเนี่ย
 
 
                ‘ ปล. อยากกินอะไรแปะกระดาษหน้าห้อง 403 นะครับ - ผัวน่ารักที่สุดในหล้า -  ’
 
 
                ผัวพ่องมึงเดดดด!
 
 
                ไม่เลิกเล่นจริงๆสินะ
 
 
                เออ อยากเป็นผัวนักใช่มั้ย ได้ ได้ งั้นเลี้ยงเมียหน่อยแล้วกัน ข้าวมื้อนี้น่ะ
 
 
                ผมวางโพสอิทไว้ที่เดิมหมุนตัวไปทางห้องนอนไปแต่งตัวเรียบๆง่ายๆเกงขาสั้นเสื้อยืดสักตัว แต่ทำไมเสื้อวันนี้มันตัวใหญ่ขึ้นว่ะ หรือกูผอม ช่างเถอะ
 
                ผมเขียนรายการอาหารที่อยากกินใส่กระดาษเอสี่ ย้ำ เอสี่ แล้วค่อยๆเดินขึ้นไปชั้นสี่หน้าห้อง 403 ตามที่มันเขียนบอก ผมจัดการฟาดแปะลงไปยังประตูเอาเทปหนาที่ติดมือมาแปะทับลงไปแล้วตบๆที่กระดาษจนเกิดเสียงดังลั่น ไม่นานเกินรอผมก็ได้ยินเสียงด่ากลับมาเบาๆ
 
                ยืนหัวเราะคิกคักเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินกลับลงห้องตัวเองเพื่อทำงาน ใครจะโง่ยืนรอให้มันมาด่ากันเล่า!
 
 
        เล่นกับใครใม่เล่น มาเล่นกับกู
 
คิดจะเลี้ยงกู กูเลี้ยงให้ไหวแล้วกัน  คุณผัวที่น่ารัก หึ!
 
 
 
 
 

ธาราคืนพื้นที่ไปทำงานต่อล่ะ
 

 

 

 

 

 

 

 
Ch.3 เจอกันเย็นๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 03-02-2016 16:32:55
 


นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 3
ตอน... จีบอยู่ รู้ตัวด้วย


 By เดือนพราย
 
 
 
 
 
 
กรกวินต์ขอพื้นที่
 
 
 
 
 
                ปังๆๆๆ!!!
 
 
                เสียงประตูห้องดังสนั่นลั่นจนผมเกือบทำกล้องหลุดมือ ให้ตายเถอะ มันจะมีใครกล้ามาตีห้องผมแบบนี้ได้นอกจากไอ้เชี่ยฟราน เพื่อนร่วมคณะที่อยู่ข้างห้องนี่เอง สงสัยจะชวนไปเที่ยวอีกตามเคย แต่วันนี้ผมดันมีนัดกับไอ้วาแล้ว แถมดูท่าทางผมต้องยกเลิกนัดมันซะแล้ว ถามว่าผมจะทำอะไรน่ะเหรอ ก็...
 
 
       ตามไปปรนนิบัติคุณว่าที่เมียนามว่าธาราไงครับ
 
 
                อุ้ยๆ กำลังคิดอะไรกันเหรอครับ แหนะ สิบแปดบวกหรือเปล่า
 
                อย่าคิดลึกสิ (หรือผมคิดเอง) ผมแค่จะไปตามดูแลเด็กดื้อขี้โมโหเท่านั้นเอง ว่างจัด งานไม่มีครับ เพราะส่งหมดแล้ว ตอนนี้เลยชิวๆสบายตัวเลย มีเวลาเยอะมากมายในการตามไปป่วนประสาทมัน
                “ ไอ้ฟราน เดี๋ยวมึงตาย ”
 
                ผมด่ามันไปอีกหลายคำแล้ววางตัวกล้องราคาแพงลงในกระเป๋าดีๆจากนั้นจึงค่อยเดินไปกระชากประตูเตรียมคำด่าล้านแปดไว้ แต่พอเปิดออกกลับ... ว่างเปล่า
 
                มึงจะเล่นอะไรห่ะ ยกมือยีผมอย่างหงุดหงิดใจแล้วเดินไปที่ห้องมันแล้วจัดการเคาะรัวเลยครับ เอาให้เหมือนที่มันเคาะห้องผมเมื่อครู่
 
                ปังๆๆ!!
 
                “ ไอ้ฟราน มึงออกมาให้กูด่าเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย! ” ตะโกนไปแต่มือยังไม่หยุดเคาะ
               
 
                เงียบ...
 
                มึงจะกวนประสาทกูเหรอ
 
 
 
                ปังๆๆ!
 
                “ มึงออกมานะเว้ย! ”
 
                เริ่มโมโหแล้วนะ ผมยืนเป็นหมาบ้าเคาะห้องมันไม่หยุดร่วมห้านาทีเสียงเจ้าของห้องดังขึ้นด้านหลัง...
 
 
                “ เคาะห้องกูหาเตี่ยมึงเหรอ ”
 
 
                น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นให้ผมชะงักมือที่จะเคาะประตูต่อ หมุนตัวหันไปหามันแล้วทำหน้าเอ๋อใส่...
 
                “ อ้าว มึงไม่ได้อยู่ในห้องเหรอ ”
 
                “ ถ้าอยู่ แล้วกูจะมายืนคุยกับมึงตรงนี้มั้ยครับ คุณกรกวินต์ ” มันยกยิ้มแสยะสายตากำลังกวนตีนสุด
 
                ผมร้อง “ ไม่ใช่มึงแล้วจะใครวะ ”
 
                “ จะไปรู้เหรอ ” มันส่ายหน้าแล้วผลักผมให้หลับออกจากหน้าห้องมันแล้วค่อยพูดประโยคถัดมา “ เมียมึงรึเปล่า ”
 
 
            เมีย?
 
 
                พอได้ยินปุ๊บคอผมหันขวับไม่กลัวว่าเส้นเอ็นจะยึดจะเคล็ดไปมองทางบานประตูห้องตัวเองด้วยความไวยิ่งกว่าความเร็วแสง(เว่อร์) และได้มีสิ่งผิดปกติตรงหน้าบานประตู...
 
 
                กระดาษเอสี่?
 
 
                คิ้วผมเริ่มขมวดเข้าหากันน้อยๆและไหนจะเสียงพรายกระซิบอีก ‘มึงกำลังจะกระเป๋าแหก’ แหม มันคงไม่ใช่หรอก ผมแค่หูแว่วไปเอง แล้วอากาศก็ไม่ได้ร้อนจะเหงื่อตกไปทำไมฟะ!
 
                “ มีกระดาษติดที่ห้องมึงว่ะ ” ไอ้ฟรานว่าจากนั้นมันชิงเดินไปอ่านกระดาษแผ่นก่อนผม สีหน้ามันดูจะตะลึงอยู่กลายๆก่อนจะปิดปากตัวเองราวกับเจออะไรน่าตกใจสุดขีด
 
               
                มัน...ตกใจอะไรวะ
 
 
                “ เมียมึงนี่... ธารา เดือนสถาปัตย์เหรอวะ!! ”
 
 
                หันหน้าหล่อๆที่กำลังช็อกสุดขีดมาให้ผมหัวเราะเล่น สองเท้าเดินไปยกมือผลักไอ้ฟรานออกจากหน้าประตูแล้วอ่านคำลงท้ายของจดหมาย
 
 
            ‘ - ธารา เมียมึงไง - ’
 
 
                ไม่ใช่แค่มันแล้วที่ช็อค ผมเองยังช็อคน็อคเอ้าท์เลยครับพี่น้อง... รอยยิ้มกว้างคลี่แย้มออกให้กับประโยคห้วนๆ ที่ดูจะประชดประชันผมเต็มที่แต่ก็น่ารักในแบบของมัน ธาราก็เงี้ย จะให้มาอ่อนหวานอ้อนๆ มันคงโลกแตก
 
                “ ยิ้ม ยิ้มให้ปากฉีกเลยมั้ยพ่อคุณ ” เสียงนกเสียงกาที่ไหนวะ
 
                ผมยิ้มหัวเราะเป็นบ้าอยู่แบบนั้นก่อนจะค่อยๆแกะเทปใสออกช้าๆกลัวว่าทำแรงๆแล้วกระดาษจะขาดเอาได้
 
                ไอ้ฟรานพยายามโบกไม้โบกมือตรงหน้าผม “ เฮ้ย! มึงฟังกูอยู่เปล่าเนี่ย! เฮ้ย”
 
                เหมือนตอนนี้ความสนใจของผมถูกเจ้ากระดาษนี่ยึดไปเสียแล้ว ผมเลิกสนใจไอ้ฟรานใช้ขาเขี่ยๆให้มันหลบประตูเพื่อเดินเข้าห้อง แต่ผมได้ยินประโยคท้ายเข้ามาในหูเสียก่อน...
 
                “ มึงจีบไปได้ไงวะ ตัวพอๆกัน ไม่ได้มีส่วนไหนน่าทะนุถนอมเลย ”
 
                ตอนแรกก็อารมณ์ดีอยู่นะ แต่บังอาจมาว่าคุณว่าที่ภรรเมียของผมแบบนี้... ต่อยกันสักยกมั้ย
 
                “ กูขอให้มึงมีผัว ไม่ใช่มีเมีย ”
 
                ว่าจบก็ปิดประตูใส่หน้าไม่รอฟังเสียงแมวนกให้มาด่าระคายหูหรอก มันยังคงด่าผมอยู่หน้าผมแต่เราหาสนใจไม่ เดี๋ยวเหนื่อยมันก็กลับไปเองแหละ
 
                ไหนๆมาดูหน่อยว่าน้องธาราคนน่ารักของเค้าอยากกินอะไรเอ่ย...
 
                สายตาพราวระยับในตอนแรกค่อยๆขยายกว้างขึ้นอย่างพูดไม่ได้กับรายการที่มันสั่ง...
 
 
                “ ไอ้เวรธารา!! มึงสั่งขนาดนี้ มึงปล้นกูเลยเถอะ!! ”
 
 
                เสียงตวาดลั่นก้องห้องในมือถือรายการอาหารที่มันได้สั่งไว้แล้วอยากจะขยำๆๆๆทิ้งลงถังมาก ก็ดูที่มันสั่งดิ!!
 
                หูฉลาม เยาวราช ร้านxxx
 
                เนื้ออบชีส ลาดพร้าว ร้านxxx
 
                ส้มตำไทยพริกสามเม็ด บางบอน ร้านxxx
 
                ลาบ ราชเทวี ร้านxxx
 
                สปาเก็ตตี้ผัดซอสกุ้ง ร้านxxx
 
                .
 
                .
 
                .
 
                .
 
            มึงกินร้านเดียวกันมันจะตายเหรอ หา!!
 
 
                ผมอยากจะเอาหัวโขกพื้นถอนคำพูดเมื่อครู่ที่บอกมันน่ารักจริงๆเลยคุณ จากที่นับดูแล้วมีทั้งหมดสามสิบสามรายการอาหาร... คิดว่ามันจะกินหมดมั้ยคุณ ถ้าผมซื้อไปให้มันได้จริงๆ
 
                แต่... เงินที่ต้องจ่ายน่ะ... ผมครับ ให้ซื้อหมดนี่ในวันเดียว ผมคงต้องมานั่งกัดก้อนเกลือนั่งดูภาพำกินข้าวเปล่าคลุกน้ำปลาแล้วครับ
 
 
                Rrrrrrrrr
 
 
                ผมชะงักปากที่กำลังจะด่าธาราเพราะโทรศัพท์ดังขึ้นขัดซะก่อน เดี๋ยวๆ เดี๋ยวคุยโทรศัพท์เสร็จขอลงไปเหวี่ยงคุณเมียหน่อยดิ๊ คิดว่าสามีคุณรวยร้อยล้านเหรอ
 
                “ ฮัลโหล มีอะไรไอ้วา ” เสียงหงุดหงิดเต็มที่ พร้อมกัดทุกคนยิ่งกว่าหมาบ้าแล้วครับ ตอนนี้
 
                ( โอ้วววว เสียงหงุดหงิดแบบนี้ ทำไมคะ โดนตีนน้องธาราประทับหน้ามาเหรอคะ ) ไอ้เวรนี่ก็อารมณ์ดีเกินจนน่าโมโห ขอให้เมียมึงมีชู้ (พาลครับพาล)
 
                “ ยัง แต่มันนี่แหละจะโดนตีนกู ดูดิแม่งสั่งอาหารกูมาเกือบครึ่งร้อย ” บ่น งานนี้ต้องบ่น มันต้องเข้าข้างผมสิ
 
                ( อู๊ย ทำโหด กล้าหือกับว่าที่เมีย ระวังไม่ตายดีนะมึง ) มันว่าเสียงหวาดๆ ( กูเตือนด้วยความหวังดี มึงควรตามใจว่าที่เมียหรือก็คือเพื่อนกู ห้ามหือห้ามอือ )
 
                “ ตามใจเดี๋ยวก็เคยตัวหมดดิ ต่อไปไม่จิกหัวสั่งกูเลยรึไง ” ประชดเข้าเต็มๆ “ แค่เริ่มต้น มันก็จิกใช้กูแล้ว! ”
 
                ( น่าๆ ช่วงแรกๆมันก็อาจจะลำบากหน่อย แต่เชื่อกู ลึกๆแล้วไอ้ธารามันน่ารักมากนะเว้ย! )
 
                “ ตอนนี้กูยังไม่เห็นแววความน่ารักเลย มีแต่ความน่าถีบ ” ผมว่าไปตามที่คิด ขนาดผมออกอาการค่อนข้างน้อยว่าชอบมัน (ไม่น้อยแล้วมั้ง) ลองพยายามเป็นเพื่อนก่อน (เข้าใจผิดแล้วมั้งวิน) ยังทำตัวขึ้นๆลงๆผีเข้าผีออกตามไม่ทันเลย
 
                ( จริงจังกับเพื่อนกูเปล่าเนี่ย ) ปลายสายเริ่มเข้าโหมดคุณพ่อหวงลูกสาว( ไม่ใช่แค่กูนะเว้ยที่จะตื๊บมึง พี่ไอ้ธาราคงลงตีนมึงเละ )
 
                “ มันมีพี่ด้วยเหรอวะ  ” ถามกลับไปอย่างสงสัย
 
                ( มีพี่ชายสองคน น้องชายอีกหนึ่ง) มันเว้นพักหายใจ ( แม่ง...หมาบ้าทั้งสามคนเลย  หวงไอ้ธารายิ่งกว่าจงอาจหวงไข่อีก ขนาดกูที่เป็นเพื่อนกับมันมานาน  เฮียลมยังแยกเขี้ยวใส่ตลอดเวลาเดินผ่านวิดวะ เดินผ่านตึกแพทย์เฮียดินก็จ้องเหมือนจะจับกูไปเป็นอาจารย์ใหญ่ เดินผ่านตึกนิติ กูก็กลัวไอ้เหี้ยไฟมันจะงัดกฎหมายมาฟ้องกู ยัดข้อหา )
 
                ผมเลิกคิ้ว “ หวงทำไมกันขนาดนั้นวะ ” เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีแล้วสิ 
 
                ( มึงดูหน้ามันดิ๊ หวานขนาดนั้น พวกมันก็บ้าเต้นริกๆหวงกันสุดๆ ) ปลายสายว่าอย่างสยดสยอง (แต่ดีหน่อยที่ไอ้ธารามันขี้หงุดหงิดขี้รำคาญ พี่ๆน้องๆมันเลยไม่ค่อยได้เข้าใกล้นักตั้งแต่เข้ามหาลัย)
                “ งั้นเหรอ ” รู้สึกหายใจทั่วท้องอีกหน่อย
                ( เออๆ ยังไงแล้วก็ดูแลเพื่อนกูด้วยแล้วกัน ) ไอ้วาพูดเสียงหน่าย ( ทนมันหน่อยแล้วกัน )
 
                ตอบรับเบาๆ “ รู้แล้ว ”
 
                ( เพื่อนกู อาจจะดูเอาใจยาก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ อาร์ตตัวพ่อแหละไอ้บ้านั่น ทนๆมันหน่อยแล้วกัน )
 
                “ เออ จะพยายาม ”
 
                ( อะไรยอมได้มึงก็ยอมมันไปนะเว้ย อย่าไปแกล้งมันมาก แค่นี้มันก็เหนื่อยตายแล้ว ) คุณพ่อหวงลูกสาวไม่ปาน ติดเชื้อพี่ชายมันมารึไง
 
                กลอกตามองเพดาน “ แลจะห่วงจริงๆนะเพื่อนคนนี้ ”
 
                ( ก็กูห่วงไง เออ แล้วมันไม่ค่อยกินข้าว แถมกินไม่ตรงเวลาด้วย ดูแลมันตรงนี้หน่อยแล้วกัน)
 
                “ เออ! ” คิ้วกระตุกพลันกับต้นประโยค
 
                ( ไอ้เวร กูห่วงตามประสาเพื่อน ไม่ต้องมาหึงกู! ) มันสวนกลับจี้จุด รู้ได้ไงว่าหึง ยังไม่ได้แสดงอาการเลยนะ ( ยังไม่ได้เป็นอะไร อย่ามาทำเป็นเจ้าของ )
 
                อือหือ...
 
                เจ็บจึกเหมือนโดนมีดแทงทะลุหัวใจ...
 
 
                “ อย่าให้เจอนะ พ่อจะกระทืบให้ตายเลย ” น้ำเสียงหงุดหงิดงุ่นง่านต่อไปก่อนจะนึกขึ้น “ เออมึง วันนี้กูไม่ไปดื่มนะ ”
 
                ( อ้าว แล้วใครจะจ่ายวะ )
 
 
                ไอ้สึด... เห็นกูเป็นเอทีเอ็มของพวกมึงรึไง
 
 
                ผมตอกกลับหน้าตาย “ มีปัญหาไปกินกันก็หาจ่ายกันเองสิครับ แค่นี้นะ ”
 
                ( เฮ้ย เดี๋ยวดิ เฮ้ย ...! )
 
                ติ๊ด!
 
                ถอนหายใจทิ้งอย่างเซ็งแซ่จากนั้นจึงหันกลับมาสนใจไอ้กระดาษรายการอาหารร้อยแปดพันเก้าต่อ ค่อยๆสงบจิตสงบใจเพื่อหาทางคิดเอาคืนกับคุณเมีย คิดว่าผมจะยอมไปซื้อให้มันทั้งหมดเหรอ...ไม่มีทาง!!
 
               
        ร้านข้าวหน้ามอก็บุญแหละ!
 
 
                นี่ใช่มั้ยที่เขาบอกว่าถ้ายังหาเงินเองไม่ได้อย่าริอาจมีเมีย นี่แค่จีบมันน่ะ ยังไม่ได้เป็นเมียก็มีแววกระเป๋าตังค์ผมจะฉีกแล้ว พลิกกระดาษเจ้าปัญหาก่อนจะเจอกระด้านหลังที่มันเขียนมาด้วย
 
 
                ‘ ไหนๆก็ไปซื้อข้าวแล้ว ฝากซื้อของหน่อย จะทำงาน เดี๋ยวกูให้ตังค์
ของไม่กี่อย่างเอง... ’
 
 
อ่านมาแค่นี้ผมก็เหงื่อตกแล้วครับไอ้ไม่กี่อย่างของมันนี่คงเหมือนกระดาษอีกด้านที่ยาวเป็นหางว่าว แต่ยังไงก็ต้องยอมต้องอ่านแล้วพบว่ามันมีแค่ไม่อีกอย่างเอง ค่อยยิ่งชั่วหน่อย
 
              “ นี่คิดถูกคิดผิดที่หลงไปจีบมันว่ะ ”
 
                เอ่ยบ่นกระปอดกระแปดหันไปหยิบปากกาบนโต๊ะทำงานมาขีดๆ รายการอาหารสำหรับวันนี้ ผมคงซื้อไม่ครบหรอก ขืนซื้อมาแล้วกินไม่หมดก็เสียดายตายห่า ผมเลยเลือกที่จะแบ่งๆจัดสรรไปไว้วันอื่นแทน
               
                ผมนิ่งคิดอะไรเล็กน้อยก่อนจะเผลอยิ้มออกมา เปิดโทรศัพท์กดเข้าไอค่อนแอพลิเคชั่นตัวเอฟสีน้ำเงิน... จัดการวางกระดาษเอสี่นั้นลงและใช้กล้องมือถือถ่ายตัดครอบไม่ให้เห็นชื่อของธารา...
 
                Kornkavin :
                ถ้าเขาอยากกินมากกว่านี้ ผมก็เลี้ยงไหวครับ J
 
                ผมยิ้มบางๆกับสิ่งที่โพสเมื่อครู่ ไม่นานนักคอมเม้นท์หลากหลายก็แห่มาถล่ม...
 
                PissyCo : พี่วินจะเปิดตัวแฟนเหรอ อร๊ายยยยย
                QueenKim : ใคร ใคร ใคร ใครรู้บอกด้วยยยย
                Rika RIN : ใช่ พี่ซี อักษรปะ!!
                Jody Deer : พี่ซีชัวร์! เมื่อวานเห็นไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลยยยย
                Farn Farn : แท็กเขาเลยมั้ยมึง?
 
                หัวเราะให้กับคอมเม้นท์ล่าสุดของไอ้ฟราน ไม่ต้องมองหน้ามันก็รู้ว่ากำลังเบะปากใส่ผมอยู่ชัวร์ แต่จะว่าไป... ผมก็ยังไม่มีเฟสมันเลยนี่...
                คิดได้ก็นั่งกดเข้าเฟสไอ้วาเพื่อส่องบัญชีรายชื่อเพื่อนมัน ไม่นานนักผมก็เจอ...
 
                Thara Sirikunchai
 
                ไม่ค่อยอยากแอด Friend เลย ขอแอดเป็น แฟน เลยได้มั้ย...
 
                อู๊ยยยยย มุกโบราณ กูก็กล้าเล่นเนาะ
 
                ผมหัวเราะคิกคักก่อนจะกดแอด Friend ไปและปิดเน็ตเก็บมือถือลงไป.... หางตาเหลือบดูนาฬิกาเล็กน้อยเห็นว่าใกล้ค่ำเข้ามาทุกทีคงต้องรีบไปสั่งข้าวก่อนเพราะเดี๋ยวจะเจอขบวนนักศึกษาแห่กันไปกินแล้วจะรอคิวนาน...
 
                ผมหยิบเสื้อคลุมกุญแจรถแล้วเดินลงจากหอมาพอมาถึงรถก็เผลอชะงักความตั้งใจทั้งหมด...
 
 
            ทำไมผมต้องมานั่งตามใจไอ้ธาราด้วยเนี่ย!!
 
            เมียก็ยังไม่ได้เป็น แฟนก็ยังไร้วี่เเวว
 
 
                คิดได้ก็หมุนตัวเตรียมกลับห้อง ใช่  ทำไมเขาต้องมาทำตามใจมันด้วย มันดิต้องมาตามใจผม ตามดูแลผมสิ! แต่เฮ้ย แต่เราไปจีบเขานี่หว่า เราต้องตามใจมันถึงจะถูก ใช่ม่ะ
 ยืนตบตีกับความคิดตัวเองก่อนเสียงเวรๆของไอ้วาจะดังขึ้นในหัว
 
 
                ‘ อะไรยอมได้มึงก็ยอมไป ’
 
 
            ‘ มันไม่ค่อยได้กินข้าว ’
 
 
       ภาพไอ้ธาราลอยเข้ามาในหัวในชั่ววินาทีนั้น ตัวสูงๆผอมๆกับอาหารไร้ประโยชน์ในห้องทำให้ความวุ่นวายในหัวสงบลงแล้วสตาร์ทรถขับไปร้านข้าวหน้ามอทันที...
 
 
        ผมไม่ควรมานั่งงี่เง่าเอาแต่ใจแบบนี้
 
 
       ...มันต้องการคนดูแลจริงๆ
 
 




ต่อโพสล่างน่า
หัวข้อ: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 03-02-2016 16:49:06

1 ชั่วโมงต่อมา
 
 
 
 
 
                ถุงพลาสติกนับสิบในก้านนิ้วยาวทั้งสิบที่ตอนนี้เส้นเลือดขึ้นปูดโปนบ่งบอกว่าของที่ได้ซื้อมานั้นมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่าสิบกิโลเป็น คนถือก็ไม่ได้หวั่นอะไรแม้จะปวดนิ้วแทบตาย เอาแต่ยิ้มกริ่มเมื่อคิดว่าต้องได้รับคำพูดดีๆจากคนที่หวังให้เป็นแน่ๆ ก็เขาอุตส่าห์ไปซื้อของมาให้ขนาดนี้
 
                ปลายเท้าหยุดตรงหน้าประตูห้องคุ้นตาในสมองเพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเขาก็มาส่งเจ้าของห้องที่ห้องนี้ไง ผมพยายามหามือที่ว่างเพื่อเคาะประตูห้องกว่าจะหาได้ก็เอาซะเหงื่อตก เอาของไปไว้ในมือเดียวได้จึงค่อยเคาะเรียกเจ้าของห้อง แต่ก็เคาะตั้งหลายที่แล้วมันก็ยังไม่มาเปิดสักทีจนผมนึกกังวล...
 
 
                ตายคาห้องไปยังวะ
 
 
                ความคิดด้านลบดังขึ้นมาก่อนพวกเลยเอาซะใจผมแกว่งไปเลย หรือมันจะเจ็บขาจนสลบไปแล้ว ฮึ่ย มันถึกจะตายไม่น่าจะเป็นอะไรง่ายๆ
 
                “ ธารา อยู่ไหน ตอบหน่อยดิ!” ส่งเสียงดังถามหาตัวเจ้าของห้องแต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ ความเงียบจากหลังประตูกำลังทำให้ผมสติแตก
 
                “ ธารา อยู่ก็ตอบสิ! ”
 
                ยังเงียบตามเดิม
 
                สงสัยต้องประโยคนี้...
 
 
                “ น้องธาราคร้าบ อยู่ในห้องใช่มั้ยครับ ผัวน้องมาแล้วนะครับ!! ”
 
 
                ลองประโยคนี้สิ เผื่อมันจะตอบกลับบ้าง แต่พนันกันมั้ยว่ามันต้องตอบกลับ...
               
        ...สาม
 
                ...สอง
 
                ...หนึ่ง
 
 
            “ ผัวพ่อง!! ”
 
                เสียงหลังประตูดังขึ้นอย่างหยาบคายแต่ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรออกจะชอบใจด้วยสิ ให้ทายตอนนี้หน้ามันคงกำลังตึงและบูดสุดๆชัวร์
 
                “ อยู่ก็มาเปิดประตูให้พี่หน่อยครับ ”
 
                มันตะโกนมา “ ไม่! ”
 
                “ มาเปิดหน่อย ของมันหนักนะ ” ผมตะโกนกลับเพราะรู้สึกหนักขึ้นมาแล้วจริงๆ
 
                “ ของอะไร ” เสียงงงๆตอบกลับมา
 
                “ ข้าวเย็นไงคร้าบ ข้าวครับ จะกินมั้ย ” ส่งเสียงตะโกนกลับไป แล้วนี่จะตะโกนคุยกันอีกนานมั้ย คอแห้งแล้วนะ เดี๋ยวห้องข้างมาด่าอีก
 
                มันถามแต่ยังไม่มาเปิดประตู “ ใครสั่ง ”
 
 มึงไงครับเมียยยยยยยย
 
 
            มาเป็นกระดาษเอสี่เลยครับมึงงง
 
            กินมาม่าจนสมองเสื่อมความจำปลาทองไปแล้วเหรอคร้าบบบบ
 
 
                “ เมียสั่งไงครับ ทีนี้มาเปิดประตูให้ผัวสักทีเถอะ หนักจริงๆนะ ” ทำเสียงโอดโอยเผื่อมันจะเห็นใจ
 
 
                “ ก็เปิดเข้ามาสิ ประตูไม่ได้ล็อค ยืนโง่เองทำไม ”
 
 
                เสียงหัวเราะพร้อมกับโทนเสียงสบายๆของเจ้าของห้องอันอยู่หลังประตูไม้ทำเอาคนด้านนอกใบ้กิน ...มันหัวเราะแสดงว่ามันต้องยิ้ม... โอ๊ย อยากเห็นเว้ย แต่ทำไมจู่ๆมันอารมณ์ดีวะ ช่างเถอะ ผมไหวไหล่ไม่ให้คิดมากเพราะมันก็บ้าๆเงี้ยแหละ คงต้องปรับตัวให้ชินกับมัน
 
                “ มือมันไม่ว่างครับคุณ "   แขวะเสียงดังให้มันได้สำนึกแต่เปล่าเลยยังคงนั่งเฉยตัดโมต่อ ผมชะงักมองมันเล็กน้อยก่อนจะถึงบางอ้อ มันคงมัวแต่ทำงานลืมโลกมั้งเลยไม่ได้ยินผมตอนแรก แต่เสือกมาได้ยินตอนผัวๆเมียๆเนี่ยนะ ยอมใจเลยจริงๆ
 
        ธาราถามเสียงเรียบ “ ซื้ออะไรมา ” แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามอง
 
        “ ข้าวที่คุณสั่งไงครับ กับอุปกรณ์เอเวอรี่ติงทำโมเดลไง ”
 
        ผมพูดไปเรื่อยเปื่อยเดินผ่านมันไปทางห้องครัวเพื่อวางอาหารเย็นทั้งหลายบนเคาท์เตอร์แล้วค่อยหยิบถุงกระดาษสารพัดชนิดไปให้มันที่นั่งตัดโมอยู่กลางห้อง...
 
        “ กูสั่งเหรอ ” ผมชะงักมือที่กำลังทำแล้วหันมามองหน้าผม “ ...จำไม่ได้ว่ะ ”
 
        “ เอาหลักฐานมั้ยครับ ” แลจะกวนตีนหน้าตายนะเมีย  ผมบ่นเบาๆกับตัวเอง “ ลืมง่ายจริง สักวันมันคงลืมว่ามีผัว  ”
 
“ เออๆ กูสั่งมั้ง มันลืมนี่หว่า เบลอว่ะ ”มันไม่ได้ยินที่ผมพูดนับเป็นเรื่องดี
 
                มันตบหน้าตัวเองสองสามทีเหมือนจะให้สร่างง่วง ท่าทีแปลกๆของมันเลยทำให้ผมฉงนใจเลยถือวิสาสะยกมือขึ้นแตะหน้าผากมัน
 
                “ มึงเป็นไข้นี่ ” ขมวดคิ้วน้อยๆ ก่อนจะรีบชักมือกลับเมื่อไอ้ธาราทำท่าจะกัดมือผม
 
                “ ยุ่ง ช่างกูเถอะ ” ว่าอย่างไม่ใส่ใจนัก หันไปหยิบแบบบ้านขึ้นมาดูคร่าวๆจากนั้นค่อยหยิบกระดาษแผ่นใหม่มาตัดตามที่วาดไว้เมื่อวันก่อน
 
                แต่มือผมไวกว่าคว้าคัตเตอร์กรรไกรริบมาถือไว้เรียกสายตาหงุดหงิดมาจากมันได้ไม่ยาก
 
                “ อย่ามากวนได้มั้ย กูจะทำงาน ” สีหน้าเริ่มตีบึ้งมากขึ้น “ จะทวงเงินใช่มั้ย ค่าของน่ะ ไปหยิบเงินสามพัน ตรงตู้เย็นแล้วไสหัวไปตายที่ไหนก็ไป ”
 
                “ ไม่ได้กวน แต่จะให้กินข้าวก่อน ” น้ำเสียงทุ้มลึกว่าไร้แววก่อกวนแววตาผมจ้องมองมันนิ่ง “ กินเสร็จก็กินยาหน่อย แล้วเดี๋ยวค่อยทำงานต่อ ”
 
                ธาราย่นคิ้วอย่างไม่พอใจ “ ทำไมกูต้องทำตาม ”
 
 
                “ ต้องทำ เพราะพี่ขอร้อง ไม่ใช่สั่งครับ ”       
 
 
                แววตามันชะงักความกรุ่นเคืองลงเผลอสั่นน้อยๆก่อนจะกะพริบตาไล่กลับเป็นแววตาเฉื่อยชาตามเดิม ฝ่ามือวางดินสอลงก่อนโครงหน้าจะเอียงซ้ายเอียงขวาไล่ความเมื่อยขบที่ต้องนั่งนานๆ ไอ้ธาราทำแบบนั้นอยู่นานจนทำไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไงเลยได้แต่นั่งมองมันด้วยความอึดอัดใจ
 
                “ แล้วจะนั่งบื้ออีกนานมั้ย ” มันเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบมานาน
 
                ผมครางตอบมึนๆ “ หะ หือ ”
 
                “ หิวข้าว ” หน้าหล่อๆของมันเบือนไปอีกทาง
 
 
            “ จะให้กินข้าวไม่ใช่รึไง ไปเอามาดิ ”
 
 
                “ หึ ”
 
                เสียงหัวเราะในลำคอของผมดังขึ้นยิ่งทำให้ไอ้ธาราเบือนหน้าหนีแทบคอหลุด มันคงกำลังอายไม่ก็เขินผมล่ะมั้ง มันเป็นปฏิกิริยาที่ดีนะ
 
                ร่างสูงลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับเข้าไปในโซนห้องครัวเพื่อจัดการข้าวปลาให้มัน แต่ผมดันพลาดเองที่เผลอวางคัตเตอร์กับกรรไกรลงบนโต๊ะเตี้ยของมัน พอวางปุ๊บมันคว้าปั๊บไม่วายยิ้มกว้างเหมือนเด็กแย่งของเล่นคืนได้อีก
 
                ผมส่งเสียงเอ็ด “ ธารา พี่บอกให้พักกินข้าวก่อน ”
 
                “ ก็มึงเตรียมข้าวอยู่ เหลือเวลานิดน้อยปล่อยให้กูทำเถอะ ” มันบ่นอุบอิบกลับมาพลางเลื่อนใบมีดคมกรีดลงบนกระดาษไปตามแบบ “ เมียหรือแม่ว่ะ บ่นจริง ”
 
                “ ผัวครับๆ ไม่ใช่เมีย ”
 
                ตะโกนแย้งโดยที่มือก็ยังสาละวนอยู่กับการเทปลากะพงนึ่งใส่จาน ผมซื้อกับข้าวมาสี่ห้าอย่างตามที่มันเขียนมา เลือกๆมั่วๆมาเพราะยังไงดูแล้วมันก็ไม่น่าจะจำได้แหละว่าสั่งอะไรมาบ้าง
 
                “ ธารา จะกินตรงไหน ” หลังจากจัดจานข้าวให้มันเสร็จผมก็หยิบผลไม้ไปล้าง มันใช่หน้าที่กูเหรอวะ!!
 
                “ กินตรงเคาท์เตอร์นั่นแหละ อีกห้านาทีเดินไป! ”
 
                มันคงกำลังเคร่งเครียดกับการประกอบโมเดลอยู่ชัวร์ถึงได้มาต่อเวลา แล้วก็ห้านาทีตามที่ว่าก็ได้ยินเสียงฝีเท้าสม่ำเสมอเดินเข้ามา ธาราเดินทำหน้ามึนๆเข้ามาไม่ลืมจะลากเก้าทรงสูงตรงมุมห้องมาหน้าเคาท์เตอร์แล้วค่อยขึ้นนั่ง
 
                “ หือ รู้ได้ไงว่ากูชอบสปาเก็ตตี้ผัดซอสกุ้ง ” มันพึมพำงงๆเลือกจะหยิบจานสปาเก็ตตี้ก่อนเพื่อนเลย
 
                ผมถามอย่างเหลือเชื่อ “ นี่ลืมจริงๆเหรอ ”
 
                “ ขี้ลืมน่ะ ” มันยักไหล่ไม่ได้ใส่ใจนักก่อนจะเริ่มจ้วงข้าวมื้อเย็น “ มึงนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ เอาข้าวเอาน้ำมาให้กู ”
 
                “ ไม่ใช่เพื่อน ”
                ผมขึ้นเสียงนิดๆ
 
 
            “ ว่าที่ผัวต่างหากครับ ”
 
 
                ธารายังไม่ได้พูดสวนกลับเพราะเส้นสปาเก็ตตี้ยังเต็มปากอยู่ ส่วนผมเพิ่งล้างผลไม้เสร็จจึงหยิบมีดเตรียมผ่าให้มันกินง่ายๆ ตอนนี้ผมกำลังทำตัวเหมือนเมียมันไม่ปานยืนปอกผลไม้ฝั่งเคาท์เตอร์ด้านในส่วนมันก็นั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยตรงข้ามผมโดยมีเคาท์เตอร์กั้นกลาง
 
                “ ไอ้วิน เลิกล้อเล่นได้แล้ว รำคาญ ” กลืนลงคอได้ก่อนดุหน้าขรึม
 
                “ ไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย ” ผมช้อนสายตามองมันตรงๆ “ พี่จีบเราอยู่นะ รู้ตัวหน่อยดิ ”
 
                “ เหอะ จีบทิ้งๆขว้างๆสิไม่ว่า ” ธาราไหวไหล่อย่างไม่ถือสาและไม่ได้สนใจผมนัก
 
“ ทำไม... กลัวจะชอบพี่ขึ้นมารึไง ”
 
                “ ชอบมึงเหรอ  กูคงตาบอดมากอ่ะ ” มันยิ้มเยาะ แล้วตักเนื้อปลาเข้าปาก
                ผมเบะปาก “ นี่พี่ไม่ดีตรงไหนห่ะ มีแต่คนชอบ ทำไมมึงไม่ชอบ ”
                “ มึงน่ารำคาญ กูรำคาญ ”  มันยกช้อนชี้หน้าผม แววตามันดูไร้อารมณ์สุดๆ “ ไปๆ กลับห้องมึงไป จะแดกข้าว ”
                “ แดกไปสิใครห้าม ” ผมหัวเราะนิดหน่อย “เริ่มปรับตารางชีวิตใหม่ซะ เพราะพี่จะมาป่วนเรา ” ผมว่าหน้าตายยักคิ้วให้สามจึก
 
                “ นอกจากน่ารำคาญแล้ว ยังหน้าด้านอีก ”
 
                เจ็บครับ เจ็บยันทรวงเลยครับ
 
                ไอ้ธาราคงไม่รู้จะพูดยังไงแล้วเลยเริ่มด่าไปเรื่อย... ผมหยิบแอปเปิ้ลที่ปอกไว้แล้วยัดใส่ปากมันเป็นเชิงให้เงียบและฟังผม
 
                “ เงียบแล้วฟังครับ เมีย ” ว่าเสียงเข้มหน้าจริงจัง
 
                ค้านแม้ปากจะยังเคี้ยวผลไม้อยู่ “ บอกว่าไม่ใช่เมีย! ”
 
                “ เออน่า เดี๋ยวก็ได้เป็น ”
 
                ทำใจกล้ายกมือขึ้นจับคางมันก่อนจะโน้มหน้าให้อยู่ในระดับเดียวกันจนได้ยินเสียงลมหายใจของมันเลยทำให้รู้ว่าผมกำลังอยู่ในระยะอันตรายซะแล้วสิ เพราะมันเป็นไข้หรือผมกำลังหลงมัน ตาดุๆของมันเลยดูเชื่อมแปลกๆ อ่อนลงกว่าปกตินิดนึงแม้จะยังดูเคืองๆผมอยู่ก็ตาม
 
                “ พี่จริงจังนะ ”
 
“ ...แล้วไง ” ดูมันจะไม่สนใจนัก
 
                “ เชื่อดิ มีพี่อยู่ เราไม่เหงาหรอก ”
               
“ พี่กูมีสอง น้องอีกหนึ่ง กูไม่ต้องการความรำคาญเพิ่ม ” มันถอนหายใจแต่ก็ยังสบตาผมนิ่ง “ มีมึงเข้ามาแล้วมีอะไรดีรึไง ” เลิกคิ้วสงสัย
 
                “ เยอะแยะ ”  ผมหัวเราะร่วนยิ้มกว้างจนตาปิด
 
                ธาราย่นคิ้ว “ เช่น ”
 
                “ จะดูแลเก็บห้องให้ ” ผมชี้ไปทั่วห้องที่ค่อนข้างจะรกของมัน มันก็พยักหน้าตาม แววตามันดูจะเริ่มส่อแวววิบวับจนรู้สึกเหมือนผมกำลังหาเรื่องเข้าตัวเอง
 
คิดตาม   “ อ่าฮะ แล้วอะไรอีก ”
 
                ผมกะพริบตาปริบๆ... เอ่อ...
 
 “ จะหาข้าวหาน้ำให้ทุกเวลาที่ต้องการ ” โอกาสทองมาแล้ว ต้องรีบเอาใจ!
 
                “ ทุกเวลา ” ถามเสียงสูง “ ตีสองอยากกินข้าวต้ม จะหามาให้มั้ย ”
 
                ผมพยักหน้ารับ “ ได้อยู่แล้ว ”
 
                “ แล้วอะไรอีก ”
 
                “ จะอยู่เป็นเพื่อน ถ้าวันไหนทำงานดึก ”
 
                ธารากรอกตาราวกับครุ่นคิดไตร่ตรองกับข้อปฏิบัติของสามีที่ดีที่ผมยื่นให้ ดูมันจะพอใจไม่น้อยสังเกตจากหัวคิ้วมันที่คลายลง แต่พอคิดย้อนกลับมา... หน้าที่เมียไม่ใช่เหรอวะ
 
                “ จะจีบกูจริงๆใช่มั้ย ” มันถามด้วยความไม่มั่นใจ
 
                รอยยิ้มถูกระบายออกมา “ เออดิ ไม่หลอกนะครับ ”
 
“ เออ งั้นกูให้มึงจีบ ”
 
ฮะ เฮ้ย มึงจะอาร์ตไปไหน บทจะยอม มึงง่ายเกิ๊นนน
 
 
ผมเบิกตาโพล่งตกใจกับคำพูดที่ไม่จะหลุดจากปากหนักๆของมันได้ ร้านข้าวเผลอทำน้ำมันพรายหล่นใส่ข้าวรึไงฟะ
“ แต่มึงต้องทนมือทนตีนทนอารมณ์กูให้ได้แล้วกันนะผัว ”
ช็อครอบสองเบิ้ลสองเด้งกับตำแหน่งผัวที่ผมต้องการ....
มันยกยิ้มเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกเหงื่อตก  “ คิดไปคิดมาเป็นเมียก็ดีนะ ”
                “ ดะ ดียังไง ”
“ อยู่เฉยๆก็พอ ที่เหลือให้ผัวที่น่ารักทำ ”
มันกระตุกยิ้มและลูบคางมนของผมเบาๆราวกับเยาะหยัน
               
 
             ...!!
 
            ซวยแล้วมึง...
 
 
“ คืนนี้ว่างใช่มั้ย เก็บห้องให้หน่อยแล้วกัน กูต้องทำโมเดลส่งว่ะ ”
“ เอ่อ... เอ่อ ” ใบ้แดกน้ำลายฟูปากสิกู
“ ได้มั้ย ” กดเสียงเข้มเลยทีนี้
                กรกวินต์ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ควรจะดีใจที่ได้ตำแหน่งผัวมาครอง แต่ทำไม... ต้องมารับคำสั่งมันด้วยวะ เปิดปากเตรียมแย้ง มันชิงชี้หน้าผมแล้วดักคอ...
 
                “ หยุด จีบกูไม่ใช่เหรอ ตามใจกูสิ เดี๋ยวกูไม่ตกลงเป็นแฟนมึงนะ ”
 
                “ อ้าว นี่ยังไม่ได้เป็นเหรอ ” วันนี้มันจะทำผมเอ๋อกี่รอบเนี่ย
 
                ธารามองผมด้วยสายตาเหลือเชื่อก่อนจะ...
 
 
ป้าบ!!
 
 
                ตบกะโหลกผมแทบคว่ำ... อีกนิด หน้าจะลงไปจูบปลากะพงนึ่งล่ะ
 
                “ ยัง นี่แค่อยู่ในช่วงดูๆกัน และที่สำคัญ ” มันยักคิ้ว “ กูยังไม่ได้ชอบมึง ”
 
                ผมแสยะยิ้ม “ เดี๋ยวก็ชอบ อีกไม่นานหรอก ”
 
                มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วทำหน้าแพรวพราวจนผมเลยคิดผิดแล้วที่หลงมาจีบมัน...
 
                “ อยากให้กูชอบไวๆมั้ย ”
 
        “ ก็อยาก ” ผมพยักหน้าไปตามจริง
 
                “ ตามใจกู ”
 
       “ ... ! ”
 
       " ห้ามขัดใจ "
 
                มันหดคอกลับนั่งตัวตรงเริ่มลงมือกินสปาเก็ตตี้ที่ค้างไว้ต่อ... ไม่วายเงยหน้ามาสั่งผมอีก
 
                “ เดี๋ยวกูกินเสร็จแล้ว มึงล้างจานให้ด้วยนะ ”
 
 
                และก็ก้มหน้าก้มตากิน
 
                ปล่อยผมยืนเคว้งทำหน้ายักษ์อยากฆ่ามันเต็มสตรีม
 
 
 
                ...ได้ ธารา ได้
 
                รอก่อนเถอะ มึงชอบกูเมื่อไหร่
 
                กูจะ ‘เอา’ ให้หนักให้จุกเลย!
 
 
 
 
                ส่วนตอนนี้...
 
 
                “ ยืนบื้อทำไม ปอกแอปเปิ้ลดิ กูจะกิน! ”
 
                “ จ้าๆ ”
 
 
 
                ตามใจว่าที่เมียไปก่อน
 
                ต้องทำคะแนนใจ
 
                ไม่ได้กลัวนะ
 
 
 
 
                จริงๆนะ
 
 
 
 

กรกวินต์คืนพื้นที่ต้องปอกผลไม้ครับ
 
 
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 03-02-2016 17:00:32
TBC.

 [ สปอย ตอน 4 : งูหวงไข่ หมาหวงก้าง เสือหวงเนื้อ]



ความวุ่นวายใน Facebook กับโพสรูปภาพรูปหนึ่งของ ธารา ในเวลาตีห้า...

 

 

Wayu Sirikunchai : ใคร! มึง @Kornkavin มึงเป็นใครรรรรร มึงเป็นอะไรกับน้องกูววว TOT!!!

Agni Sirikunchai : รอไฟ 5 นาที!! ไฟจะไปถึงหน้าห้องพี่ @Thara Sirikunchai แน่ ส่วนมึง @Kornkavin เดี๋ยวเจอกู!!

 

Puttapee Sirikunchai : ไอ้ไฟ เดี๋ยวรถกูขับเอง มึงไปหยิบสปาต้ากูมา กูจะเอามันไปชำเเหละเป็นอาจารย์ใหญ่! @Kornkavin

 

คิตตี้ คือแมว : กรี๊ดดดกกกกก คือไรอ่า! พี่วินนิเทศ กับ พี่ธาราสถาปัตย์

 

สาววาย ว๊ายย : อุ๊ยตายยยย ใครอยู่หอ S คะ!! ฝากตามสถานการณ์ทีค่าาาา

 

 

 





1. ฮึบ ตอนที่ 2 และ 3 ครบแล้วววว 
2. ฝากติดตาม ติชมด้วยนะคะ สนุกไม่สนุกยังไงเล่าให้ฟังได้น่า ถ้าชอบอย่าลืม +น้องเป็ดนะคะ
3. เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวฉบับมึนๆ ติสๆ กวนๆ ของทั้งธาราและวิน
4. เรื่องนี้ จะมีส่วนพูดมุมมองของพระเอกมากไปนิดนึง เพื่อให้เขาได้มีพื้นที่ขอร้องอ้อนวอนให้ทุกคนเห็นใจหลังจากโดนว่สที่ภรรเมียจิกใช้ ตบตีด้วยรัก(?)
5. ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ฝากรักมึนๆอาร์ตไว้ด้วยนะคะ


 :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 03-02-2016 19:09:13
ชอบสุดๆๆๆๆ
รอภรรเมียจิกใช้
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2016 19:51:27
พี่วินงานเข้าแว้ววว. พี่ๆน้อง ของธารามาเต็มขนาดนี้ เฮ้อออ สยองแทน 5555
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 03-02-2016 20:18:29
เอาใจช่วยพี่วิน จากสมรภูมิรบ พี่ๆ น้องๆ ของว่าที่เมีย  :laugh:
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 03-02-2016 21:44:16
พี่วินของเราจะมีชีวิตรอดมั้ย 5555555 พี่ๆน้องๆธาราดูจะแปลกๆดี (?)  :hao7: :hao7:  ขำตอนขอตัวไปปอกผลไม้แบบพรืดอ่ะ 5555555 แววเกลียมัวนี่ชัดมาก

รอตอนต่อปายยย / ชอบชื่อตอนอ่ะ  :katai3:
 :pig4: :katai4: o13
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 04-02-2016 01:07:12
แววเกลียมัวมาแต่เนิ่นๆ 5555
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 04-02-2016 21:26:21
ธารา 5555555555 คือ เฮียง่ายไปมั้ยคะ เอ็นดูแรง บทจะง่ายก็ง่าย วินต้องสู้นะ ทำตามที่เมียสั่งแล้วชีวิตจะรุ่ง รอตอนต่อไปน้าาาา  :mew1: :z13: :hao3:.
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 04-02-2016 23:03:18
 :laugh: รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ (รีไรท์) CH 3 หน้า 2 [3/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 05-02-2016 18:42:51
วินเอ้ย ต้องรอดนะเอ็ง 5555+
หัวข้อ: นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ CH 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 05-02-2016 22:32:56
 นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ บทที่ 4

ตอน... งูหวงไข่ หมาหวงก้าง เสือหวงเนื้อ

By เดือนพราย
 

 
 
 
ธาราขอพื้นที่
 
 
 
 
 
 
 
 
          อะ อืม...
 
 
            อื้อ...
 
 
            หือ...
 
 
            ปวดเอวชะมัด...
 
 
            อื้อ... ปวดหลังด้วย
 
 
            .
 
            .
 
            .
 
 
            สงสัยเมื่อคืนนั่งตัดโมดึกไปหน่อย...
 

 

            ผมปรือตาขึ้นหรี่แสงที่มันแยงเข้าตาเพื่อหาต้นตอของอะไรบางอย่างที่มันปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าประชันกับไก่ เมื่อลืมได้เต็มตาก็ชะงักกับใบหน้าหล่อของไอ้วินที่กำลังหลับพริ้มอยู่บนเตียงผมอย่างสบายใจ ใช่ เตียงผม เพราะเมื่อคืนดันมีคนอาสาบอกจะเฝ้าผมทำงาน
 
            มันเฝ้ามากเลยครับ
 
            เฝ้าพระอินทร์สิไม่ว่า!
 
            หลังห้าทุ่มปุ๊บมันฟุบหลับคาโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยที่ผมนั่งตัดกระดาษโมเดลทันทีจนอยากจะถีบมันออกจากห้อง แต่เห็นว่าวันนี้มันช่วยเหลือผมหลายอย่างแล้ว เลยจะพยายามไม่ถือโทษโกรธมันแล้วกัน แล้วใครเป็นคนแบกมันมานอนบนเตียง ก็ผมน่ะสิ ไอ้ธาราคนนี้ไง ตัวคนหรือตัวควายกัน หนักเป็นบ้าเลย
            นับว่าผมใจบุญมากนะที่ลากมานอนร่วมเตียงด้วย ขนาดไอ้พี่ๆน้องๆผมยังให้มันนอนพื้นเลย แล้วนี่มันเป็นใคร...
            อ้อ... ผัว(ทาส)นั่นเอง ตอนแรกก็ไม่ได้อยากจะตกลงอะไรหรอก แต่มันเสือกเสนอพรีเซ้นตัวเองอย่างดิบดี ผมก็สนองให้ตามต้องการ พ่นลมหายใจเซ็งๆค่อยหันไปเหลือบมองนาฬิกาเล็กน้อย
 
            ตีห้ากว่าแล้วเหรอ
 
            นอนต่ออีกหน่อยแล้วกัน วันนี้คลาสบ่าย...
 
            พอล้มตัวจะนอนต่อหลับฝันหวานอีกนิดแต่ดันมีมารผจญซะได้...
 
 
            หมับ!
 

 
            อุก!!
 
 
           ถึงกับร้องไม่ออกเลยทีเดียวเมื่อไอ้แขนใหญ่ๆของไอ้วินมันฟาดศอกเข้าท้องผมเต็มๆ ตอนมันพลิกตัว ไอ้ห่า! เจ็บชิบหาย มันจงใจรึเปล่าวะ
 
            มือผมเลื่อนไปกุมท้องซีกซ้ายที่โดนศอกมันจังด้วยความจุกเจ็บ...
 
            “ ไอ้วิน! มึงตื่นเดี๋ยวนี้นะเว้ย! ” ไม่ต้องนงต้องนอนต่อมันแล้ว “ ตื่นเว้ย! ”
 
            “ งือ ไม่เอา นอนต่อๆ ”
 
            มันว่าเสียงงัวๆเงียๆแถมตายังไม่ลืมเลยด้วยซ้ำ พลิกตัวมากอดหมับยกขาก่ายรัดตัวผมอย่างเร็วไวจนผมได้แต่นิ่งค้างในสัมผัสใกล้ชิด
 
            มึงทำแบบนี้...
 
            กู...จะ จะ...
 
 
            หายใจไม่ออก!!
 
 
            “ ไอ้เวรวิน มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้ไม่งั้นกูถีบ ” พยายามแกะมือกาวเหนียวหนึบออกจากแขนแต่ว่ามันยิ่งรัดแน่นกว่าเดิม ให้ตายสิ ทำไมเขาต้องมาเปลืองตัวอะไรแบบนี้ด้วยวะ “ ถีบจริงนะเว้ย! ”
 
            “ จ๊วบๆ ไม่เอาสิค่ะน้องกิ๊ฟ พี่ง่วงอยู่เลย ” มันว่าแล้วกอดผมแน่นขึ้นไปอีก ส่วนผมเหรอยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม “ หรืออยากต่อจากเมื่อคืน ”
 
                เมื่อคืนห่าไรมึ๊งงงงง
 
                แล้วกิ๊ฟไหน กูธาราเว้ย!
 
                ไม่ต้องประนีประนอมกันแล้ว
 
 
                ผัวะ!! ตุ้บ!
 
 
                “ โอ๊ย!! ถีบทำไมเนี่ย! ” ร่างของไอ้วินกลิ้งหล่นลงไปกระแทกพื้นอย่างแรงด้วยเท้าของผมเอง มันโวยวายอย่างมึนๆงงๆ เผ้าผมชี้ฟู
 
                ผมยันตัวขึ้นนั่งกับเตียงปรายหางตามองคนที่อยู่ตรงพื้นด้วยสายตาไม่ได้ยี่หร่ะเท่าไหร่ ถอนหายใจหน่ายๆก่อนจะหันไปคว้ายางรัดผมมามัดผมยาวๆที่ปรกหน้า จากนั้นจึงค่อยไปยักคิ้วให้เพื่อนร่วมเตียงที่ลงไปจูบกับพื้นห้องแล้วด้วยความสมเพช
 
                “ แล้ว..ทำไมพี่มานอนตรงนี้วะ ”  เกาหัวอย่างเอ๋อๆ “ หรือเดินละเมอหว่า ”
 
                อยู่กับมันมีหวังมึนๆ เอ๋อๆ บ้าๆแน่
 
                “ กูแบกมึงมา ”
 
                ถอนหายใจพรืดก่อนจะล้มตัวนอนแผ่บนเตียงอีกครั้งด้วยอาการปวดหัวจี๊ด คันเนื้อคันตัวเป็นบ้าเลยว่ะ พอเห็นผมนอนราบไปอีกครั้ง มันก็ปีนขึ้นมานอนเท้าแขนตั้งศอกมองหน้าผม...
 
                “ ปวดหัวเหรอ ” ไอ้วินถามเบาๆลืมเรื่องที่โดนถีบไปเลย ผมพยักหน้าเล็กน้อย “ มากเปล่า ”
 
                “ อย่าถามมากน่า รำคาญ ”
 
                ผมโบกมือปัดๆไปผลักหน้ามาเต็มแรงให้ไปพ้นๆหน้า ...หน้าเหมือนหมาหงอยนั่นมันอะไร เกะกะสายตาจริงๆ
 
                “ ธาราอ่า! ” มันมุ่ยหน้า “ คนอุตส่าห์ห่วง ”
 
                “ ใครใช้มิทราบ ”
 
                ผมส่ายหน้าเบาๆก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพื่อพักผ่อนให้หายจากอาการปวดหัว แต่ลืมไปว่ามีมารขัดขวางอยู่ตัวเบ้อเร้อ...
 
                “ วันนี้เรียนกี่โมง ”
 
                ผมชี้ไปที่โต๊ะ “ ตารางเรียนบนโต๊ะ ไปหาเอง ”
 
                สิ้นประโยคอนุญาตมันก็กระโจนไปที่โต๊ะควานหาตารางเรียนของผมอย่างว่องไว พอหาได้มันก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองมาถ่ายรูปเก็บไว้
 
                ผมเหลือบมองดูมันเล็กน้อยก่อนจะเกิดคำถามในใจ... มันจะจีบผมจริงๆดิ เอาจริงเหรอ
 
                “ วันนี้เรียนบ่าย ” มันพึมพำเบาๆ “ เดี๋ยวไปส่ง! ”
 
                “ ยุ่ง ”
 
                ปฏิเสธไปแบบไม่มีเยื่อใยสักนิดพร้อมกับผ้าห่มที่เคลื่อนมาคลุมโป่งเพื่อที่จะตัดบทสนทนากับมันทางอ้อม ถ้ามันมีมารยาทพอ มันควรกลับห้องได้แล้ว
 
                “ จริงสิ วันนี้อาจารย์ยกเลิกคลาส ว่างพอดี เรียนเสร็จเดี๋ยวไปรับ ไปหาอะไรกินกัน ”
 
                ลืมไปมันหน้าด้าน...
 
                “ เดี๋ยวพี่กลับห้องก่อนนะ ”
 
                เออดี! ไปเลย!
 
                เสียงเจ่าเล่ห์กล่าวต่อ “ อย่าเพิ่งร้องไห้คิดถึงพี่นะครับ พี่ไปแปปเดียว ”
 
                “ จะไปตายที่ไหนก็ไป ” ผมตอบกกลับอย่างหงุดหงิด
 
                ชาวบ้านจะได้หลับได้นอนสักที เมื่อเห็นผมไม่ตอบอะไรมันอีกก็เลยต้องจำเดินออกไป ความเงียบเริ่มเข้ามาอีกครั้งจนผมใจหายวาบ... ค่อยๆปลดผ้าห่มลงมองรอบๆห้องที่ดูเหมือนมันจะเย็นเฉียบขึ้นต่างจากเมื่อครู่ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น...
 
                ผมขยับตัวพิงกำแพงหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้นใหม่... หยิบโทรศัพท์ที่ชาร์ตแบตไว้หัวเตียงมาเปิดดูโซเซี่ยลต่างๆ เห็นงานยุ่งแบบนี้ผมก็ติดเล่นเหมือนกันนะครับ พอปลายนิ้วกดปุ่มเปิดเน็ตเท่านั้นแหละ
                ติ้ง! ติ้งๆๆๆๆๆ!!
                เสียงแจ้งเตือนนับร้อยดังเข้ามาจนมือสั่นครอนตาม หรี่ตามองข้อความก่อนเป็นอันดับแรก...
               
                Wayu Sirikunchai

                : กินข้าวยัง อุ่น
                : เมื่อวานเราหายไปไหนมา พี่ไปตามที่สนามบอล บอกเรากลับหอแล้ว
                : ไอ้คิมบอกว่าเราเจ็บขา เป็นอะไรมากมั้ย
                : ทายายัง
                : พรุ่งนี้พี่จะไปหาแต่เช้า
                : ตอบพี่สักประโยคเถอะครับ T^T
 
 

                ผมมองผ่านๆแล้วไปเปิดแชทต่อไป...
 
 

                Puttapee Sirikunchai
 
                : อุ่นจ้าาา
                : เดี๋ยวแข่งบอลเสร็จเฮียพาไปเลี้ยงหมูทะ เค๊  >O<
                : สู้ๆนะคร้าบ น้องคนสวยของเฮียยย
                ส่งรูปภาพ
                : ดูๆๆๆ นี่น้องใครหว่าโคตรหล่อ >///< น้องรหัสเฮียแอบถ่ายมาได้เลยน่า ขนาดเราเผลอยังน่ารักเลย >w<
                : เฮียมาไม่ทันอุ่นแข่งบอลอ่า!! เสียใจที่สุดดด ฮืออออ
                : อยู่ไหนอ่ะอุ่น เฮียมารับแล้ววว
                : อุ่นตอบบบบบบ
                สติ๊กเกอร์เป็ดร้องไห้
               สติ๊กเกอร์เป็ดร้องไห้
               สติ๊กเกอร์เป็ดร้องไห้
 
 
              ปิดแชท และเลื่อนต่อไป...
 
 
              Agni Sirikunchai
              : พี่อุ่นนนนนน
              : พี่อยู่ไหน! ผมบอกแล้วไงว่ามารอรับบบบ
              : ผมนั่งรอตรงแสตนคณะพี่นะ
              : พี่อุ่นนนน จบแข่งบอลมาสองชั่วโมงแล้วนะ พี่อยู่ไหนนนน ยุงกัดผมมมม
              : พี่ทิ้งผมอ่า ฮืออออ
             สติ๊กเกอร์แมวร้องไห้
             สติ๊กเกอร์แมวร้องไห้
 

             ส่ายหน้าเบาๆนึกขำนิดๆกับท่าทางของบรรดาพี่น้องท้องเดียวกัน คิดว่าผมจะตอบมั้ย ไม่อ่ะ ผมปิดแชทแล้วไล่ดูข้อความอื่นๆ ที่ส่งมาขอให้ผมรับแอด แน่นอนคนดี ไม่รับ -_-
เปิดหน้าโปรไฟล์ตัวเองก็มีแต่ไอ้พี่น้องตัวเองรัวหน้าวอลเนี่ย รั่วจริงๆ ผมกดไลค์รูปล่าสุดที่ไอ้คิมแท็กมาเป็นรูปที่ผมเสยหน้าม้ายาวๆขึ้นพอดี...
 
            9,489 likes...
 
            คนหล่อก็แบบนี้แหละครับ

           เพื่อนในเฟสบุ๊คมีแค่สองร้อยกว่าคน แต่ยอดติดตามครึ่งแสนได้... ส่วนมากก็มาตามจากนิตยสารนายแบบเสื้อผ้าแหละครับ ผมรับถ่ายแค่ไม่กี่งาน ไม่รับได้ไง ก็บ้านผมทำธุรกิจด้านแฟชั่น ขี้เกียจจ้างนายแบบก็จ้างลูกชายตัวเองทั้งสี่นี่แหละ บางครั้งก็เบี้ยวไม่จ่ายอีก ทำงานฟรีไง
           ที่บ้านผมทำงานเกี่ยวกับด้านแฟชั่นแต่ก็ไม่มีใครเรียนแฟชั่นสักคน วิดวะบ้าง หมอบ้าง ทนายบ้าง สถาปนิกบ้าง คงมีผมนี่ละมั้งที่เข้าเคล้าสุด ...ไม่ใช่ออกแบบเสื้อผ้านะ ออกแบบบ้าน =_=
           มองดูคอมเม้นท์ผ่านๆแล้วย้อนกลับมาอยู่ยอดไลค์แต่แล้วต้องสะดุดตากับเฟสคนไลค์ล่าสุด...
 
           Kornkavin...
 
           หวังว่าจะไม่ใช่ไอ้วินนะ...
           ความอยากรู้มีมากเลยจำต้องกดเข้าไปดู... กดรูปโปรไฟล์... หน้าแบบนี้ จมูกแบบนี้ ตาแบบนี้ ปากแบบนี้ รวมๆ... หน้าเหี้ยๆแบบนี้มีแค่คนเดียวคือไอ้เชี่ยวินคนกวนประสาท ไม่ได้ตกใจเท่าไหร่แต่ก็แปลกใจเมื่อเห็นว่ามันก็ส่งคำขอเป็นเพื่อนผมอยู่ด้วย...
           ไหวไหล่แล้วนั่งส่อง ทล.มันแก้เซ็ง
 

           น้องแตงโม ลีดนิเทศ
           วันนี้เจอพี่วินด้วยยย คนอะไร หล๊อหล่อออ ฝันดีนะคะ!

           Gee Hony
           อย่าลืมกินข้าวนะคะ
 
            นิก้า ดาวบริหาร – อยู่กับ Kornkavin และ อื่นๆอีก 5 คน
            วันนี้ตอนเที่ยงคนหล่อมาทำอะไรคณะนี้ค่ะ จีบใครรึเปล่า @P
 
           เป็นรูปกรกวินต์กับผู้หญิงผู้ชายร่วมหกคนนั่งที่โต๊ะโรงอาหารคณะบริหาร

 
            ผมเบะปากใส่... ฮอตจริงๆนะมึง
           ปลายนิ้วยังคงเลื่อนต่อไป... และชะงัก...
 
              5,584 likes...
 
           ไม่ได้ตะลึงกับยอดไลค์มหาศาล แต่เป็นข้อความโพสกับรูปมากกว่า...
 
                Kornkavin :
                ถ้าเขาอยากกินมากกว่านี้ ผมก็เลี้ยงไหวครับ J
               
                พร้อมกับรายการอาหารยาวเหยียดในเอสี่... ที่ดูแล้วมันคือลายมือของผม...

 
                รอยยิ้มเผลอยกขึ้นไม่รู้ตัว พอรู้ตัวก็รีบหุบฉับแล้วทำหน้าบึ้ง... เลี้ยงไหวใช่มั้ย ตามใจใช่มั้ย ได้ ได้! กูขอใช้สิทธิ์ที่มึงให้มาเลยแล้วกัน ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปคว้ากระดาษมาสักแผ่นเอาปากกาสีเขียนอาหารยามเช้า... เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปไว้ ไม่ลืมที่จะกดเข้าไปรับเพื่อนมันก่อน
                จากนั้นก็ค่อยกดอัพรูป...
 
                Thara Sirikunchai :
 
                อยากกินก่อนหกโมงครึ่ง ซื้อให้ที – Kornkavin พร้อมรูปภาพรายการอาหารยามเช้า...
 
                ติ้งๆๆๆๆ!!
 
                เลิกคิ้วนิดๆกับความว่องไวของคนขี้เสือก ตีห้ายังไลค์เกือบร้อย ได้นอนกันมั้ยคุณๆทั้งหลาย... ไหนดูคอมเม้นท์ดิ๊...
 
                Wayu Sirikunchai : ใคร! ไอ้เหี้ย @Kornkavin มันเป็นใคร! อุ่นนนนนนนนน มันเป็นใครรรรร T^T

                 Agni Sirikunchai : รอไฟห้านาที!! ไฟจะไปหน้าห้องพี่ @Kornkavin เดี๋ยวมึงเจอ!

                 Puttapee Sirikunchai : ไอ้ไฟ มึงไปเอาสปาต้ามาดิ! กูจะเอาไปหั่นคอมัน! @Kornkavin

                 คิตตี้ ฟรุ้งฟริ้ง คือแมวน่ารัก : กรี๊ดดดดดดดดดดด คือไรอ่า! พี่วิน นิเทศ กับ พี่ธาราสถาปัตย์

                 สาววายว๊าย วายคือสายเลือด : อุ๊ยตายยยยยยย ใครอยู่หอ S คะ! ฝากตามสถานการณ์ทีค่ะ!!
 


                 อะ อ้าว... ลืมไป... ไอ้พวกบ้ามันตามติดชีวิตผมยิ่งกว่าการเข้าเรียนของมันซะอีก
 
                 ผมมุ่ยปากนิดแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ช่างเถอะ จะมาก็มา ยังไงคนโดนตีนก็ไอ้วิน ไม่ใช่ผม... ไปนอนต่อดีกว่า...zZZ

.

.

.

                “ จะตื่นมั้ย ”
 
                เสียงแมวที่ไหนก็ไม่รู้ดังขึ้นอยู่บนหัว ผมย่นคิ้วอย่างไม่พอใจพลิกตัวหนีเสียงน่ารำคาญนั้น แต่มันยังคงดังอยู่เรื่อยๆ
 
                “ ไม่ตื่น ปล้ำนะเว้ย ”
 
                “ ... ” ฮึ่ย รำคาญ
 
                “ ไม่ตื่นจริงดิ ” เสียงนั้นยังคงพูดต่อ “ ไม่เกรงใจแล้วนะ ”
 
 
                ตุ้บ!!!
 
 
                “ เชี่ย! หนัก! ”
 
                ผมลืมตาโพล่งหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว ไหนจะความรู้สึกเจ็บจุกที่หน้าอก ท้อง เอาจริงๆคือทั้งตัวเลยต่างหาก พอปรับแสงได้ก็เห็นใบหน้ากวนประสาทของไอ้วินเป็นอับดับแรก มันนอนราบล้มทับตัวผมอย่างไม่สนเลยว่าสรีระของมันอย่างกับหมีควายแค่ไหน
 
                “ ว้า ตื่นทำไม กะจะจูบสักหน่อย ” มันว่าอย่างเสียดายตาห้อยหูตกแต่ยังไม่ยอมลงจากตัวผม คือ อึดอัดมาก
 
                ผมหรี่ตามองมัน “ ประสาทกลับเหรอ ลงไป หนัก! ”
 
                จากที่ปวดหัวอยู่แล้ว ยิ่งปวดหนักกว่าเดิมอีกร้อยเท่า
 
                ไหน ไอ้เวรตัวไหนมันบอกว่าจะทำตัวดี เป็นประโยชน์
 
                นี่มันตัวป่วน ตัวน่ารำคาญสิไม่ว่า!
 
                “ พูดเพราะๆหน่อยดิ เผื่อจะใจอ่อน ” ไอ้วินยิ้มหล่อลากให้แต่แน่นอนมันใช้ไม่ได้กับผม ในเมื่อพูดดีๆแล้ว(นั่นดีแล้ว)ไม่ฟัง คงต้องลงไม้ลงมือ
 
                ผัวะ!!
 
                ร่างหนาหนักเป็นตันถูกเท้ายันออกเต็มแรง “ ไอ้ธารา!! ”
 
                “ ทำไม ” ตีหน้ามึนอย่างงงๆ มองร่างมันที่ล้มกระแทกพื้นท้องท่าเดียวกันกับเมื่อเช้าแล้วนึกขำ
 
                แยกเขี้ยวใส่ “ ไม่ต้องมาตีหน้ามึนเลย ”
 
                ผมยักไหล่ “ เรื่องของกู ”
 
                “ ไม่ใช้กำลังกับผัวนี่จะตายรึไง ”
 
                หันไปมองมันนิ่งๆ “ เออ จะขาดใจตายเลยล่ะมึง ”
 
                “ ไม่น่ารักเลยนะมึง ” ไอ้วินถอนหายใจอย่างเอือมๆ ก่อนจะพูดประโยคต่อมา
 
 
 
               “ แต่ก็ดี กูไม่ชอบคนน่ารัก กูชอบคนเถื่อน ”
 
 
 
                กึก...
 
                ผมแอบหยุดหายใจไปแปปเดียวก่อนจะไหวไหล่ราวกับคำพูดเมื่อกี้ไม่ได้มีผลอะไร ทั้งที่มันค่อนข้างจะส่งผลอยู่มากอยู่พอตัว
 
                “ ไหนข้าวกูล่ะ ” เบี่ยงประเด็นเลิกคิ้วสงสัยเพราะมันมาตัวเปล่าเพิ่มเติมคือกลิ่นน้ำหอมฉุนจมูก ที่ไม่แน่ใจว่ามันพรมมานิดๆหรือลงไปอาบ
 
                มันเอ่ยแซว “ เขินแล้วเปลี่ยนเรื่องเหรอครับ ” ยกมือเตรียมโบกหัว มันก็ชิงพูดก่อน “ ข้าวอะไรอ่ะ สั่งตอนไหน ” หมางงมาเลยทีเดียว
                “ เปิดเฟสดิมึง ”
                ยกยิ้มนิดๆก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่แสนจะภูมิใจ แต่ยังเตี้ยกว่าไอ้ห่าวินอยู่แล้ว คิดแล้วโซแซดชิบหาย
                มันทำหน้างงๆแต่ก็หยิบโทรศัพท์มาเช็คดูเฟสนั่งลงบนเตียงผมเงียบๆ ส่วนผมคงไม่อยู่รอให้มันได้ซักไซ่หรอกครับ หนีมาอาบน้ำไม่พอยังเปิดน้ำสุดแรงเผื่อกลบเสียงโวยวายลั่นห้องไม่เกรงใจชาวบ้าน กระนั้นก็เผลออดที่จะยกยิ้มขึ้นมาใต้สายน้ำที่เปียกชุ่มไปทั้งหัวไม่ได้...
                ทั้งที่ควรจะรำคาญ แต่มันกลับไม่ใช่...
                พอผมไม่ตอบอะไรกลับไปมันก็เงียบไปเอง คงจะเดินออกไปซื้อของตามที่ผมต้องการแล้วมั้ง...
 
       
                ปัง!!!
 

                “ เหี้ยไรวะ ” ปากพึมพำเบาๆกับเสียงดังที่เหมือนจะเป็นเสียงเปิดประตู... ไม่สิ พังเลยต่างหาก วงคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย... ไอ้วินมันพังห้องผมรึไงวะ
 
                “ เฮ้ยอะไรวะ! ”
                “ มึง! เป็นใคร!! ”
                “ มึงเข้ามาในห้องน้องกูได้ไงวะ!! ”
                “ มึงเป็นอะไรกับพี่กูไอ้หน้าอ่อน! ”
                 " เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ ฟังก่อนครับ "
                 " ไม่ฟังเว้ย!! "

                  ตุ้บ! ตั้บ! ผัวะ!


 

              อะ  เฮ้ย  ซวยแล้วไง ผ้วทาสที่น่ารักของกู

 
             มึงจะตีกันก็ตีไป แต่ถ้าโมเดลกูพัง เตรียมตายทั้งพี่ทั้งน้องทั้งผัวเลยมึง!!!

 

               ยังไงตอนนี้กูขออาบน้ำก่อนแล้วกันนะ

 

 

 


ธาราคืนพื้นที่ขออาบน้ำแปบแล้วจะไปช่วยวินวินผัวทาสที่น่ารัก

 

ต่อโพสล่างนะคะ

 
หัวข้อ: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ CH 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 05-02-2016 22:37:18
สามสิบนาทีต่อมา



 

ธาราดึงพื้นที่คืน....

               

 

                “ โอ๊ยยย!! ”

                “ เพื่อนเหี้ยไร ทำไมพวกกูไม่เคยเห็นหน้า! ”

                “ ไอ้ไฟ จับดีๆดิว่ะ! ”

                “ เฮียมาจับเองมั้ย! แรงเยอะชิบหาย ”

                ตั้บ! ตุ้บ!

                “ มึงกล้าถีบกูเหรอ!! ”

                " เฮีย! เอาสปาต้าเสียบเลยดิ แม่งซ่าส์!"

                " อย่าคร้าบบบบบบบบบบบ โอ๊ย! "

                " มึงบอกมาดิ มึงมาทำอะไรในห้องน้องกู!! "

                “ เฮ้ยพี่!! อย่าขว้าง!! ”

                “ จะทำไม! ”

                “ นั่นมันโมเดลน้องพี่นะเว้ย!! ”


 


               สปาต้า... อ้าวเฮ้ย! ไอ้เชี่ยวินนนน


                ขว้าง... โมเดล...


                ของกู...?


               ไอ้วิน มึงต้องรอดนะเว้ย อย่าเพิ่งตายนะมึง

 
               ...สีหน้าของผมซีดลงทันทีเมื่อรู้สถานการณ์ที่กำลังดำเนินขึ้นในห้องของผม... ไม่รอช้าคว้าผ้าขนหนูมาพันสะโพกลวกๆ ด้วยความกลัวและกังวล

 

              ห่วงอะไรน่ะเหรอ ห่วงโมเดล!!

                อย่างไอ้วินจะไปห่วงทำแป๊ะซะเหรอ


 

              กระชากประตูห้องน้ำเปิดออกมาด้วยใบหน้ายักษ์...

             ยืนมองหน้าเรียงตัว... แต่ละคนหน้าซีดเป็นไก่ต้มไปแล้ว เหลือบเห็นโมเดลของผมที่อยู่ในมือห่าลมแล้วมองจิกหนักกว่าเดิม...

             ขอรายงานสภาพของแต่ละคนแปบ

                ไอ้วินผัวทาสของผมกำลังถูกไอ้ไฟน้องชายผมล็อกตัวไว้แน่น ร่างสูงในเสื้อช้อปวิดวะที่ไม่เคยจะเห็นมันซักสักที เหตุผลที่มันให้ผมก็แค่...หล่อดี สาวกรี๊ดตรึม แต่ผมว่ามันซกมกมากกว่า กำลังถือโมเดลที่นั่งต่อทั้งคืนค้างไม่ขยับ ส่วนไอ้คนตัวสูงๆที่ใส่แว่นสวมเสื้อกาวน์หมออยู่นั่นก็ไม่พ้นไอ้พี่ดินว่าที่คุณหมอดีกรีแรงแต่มันโคตรจะไม่เข้ากันเลยกับของในมือเฮียแก... สปาต้าเล่มใหญ่

                “ มึงวางโมเดลกูลงเดี๋ยวนี้ ห่าลม ” ชี้นิ้วสั่งเสียงเหี้ยมสายตาวาวโรจน์

              เสียงของผมเมื่อกี้ดูจะดึงสติพวกมันกลับมาได้เยอะ แต่ละคนหันขวับมามองแล้วอ้าปากเหวอๆ โดยเฉพาะไอ้วินนี่หน้าแดงเถือกไปยันหูแล้ว ทำไม...ผมมีอะไรผิดปกติ

                ใครคนหนึ่งได้สติก่อนก็หันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้วินแล้ว...พลั่ก!!

                “ หลับตาเลยไอ้เวร! น้องกูมึงไม่มีสิทธิ์มอง! ” ไอ้พี่ลมชกเข้าเบ้าตาซ้ายของวินแยกเขี้ยวแทบจะกัดคออยู่ร่อรอม แต่ให้กัดไปเถอะ ไอ้พี่ลมฉีดยากันพิษสุนัขบ้าแล้วมืออีกข้างก็ถือโมเดลอย่างระวัง ชกไอ้วินเสร็จก็ค่อยๆย่อตัววางโมเดลบ้านของผมลงราวกับมันคือแก้ว...

                “ เจ็บ! ” วินร้องโอดครวญจะอ้าปากร้องขอความช่วยเหลือก็โดนไอ้ไฟเอาแขนรัดคอ... จะตายมั้ยนั่น

                ปรายหางตาไปที่ไอ้พี่ดิน รายนั้นทิ้งสปาต้าตั้งแต่ได้สติไว้กับพื้นแล้วตัวเองก็วิ่งพล่านหาผ้า... ผมส่ายหน้ากับความวุ่นวายในยามเช้าเดินไปก้มเก็บสปาต้าไปไว้ไกลๆเพื่อที่มันจะได้ไม่มีอะไรมาขู่คุณผัวทาสที่น่ารักของผมให้ตกใจจนหนีไปก่อน

                ถ้าหนีไปก่อน แล้วกูจะใช้ใครล่ะ

                “ อุ่นจ้า อุ่นจ้า ใส่นี่ก่อนนะ แล้วไปแต่งตัวๆๆๆ ” ไอ้พี่ดินโผล่มาอีกครั้งพร้อมเสื้อคลุมอาบน้ำตัวใหญ่ที่ผมไม่เคยคิดจะใช้เลยสักครั้ง มันไปรื้อเจอได้ไง

                มันกุลีกุจอสวมเสื้อคลุมให้ผมอย่างทะนุถนอมยกแขนผมสวมให้อีกแล้วผูกเชือกให้... บางทีกูก็คิด... กูแม่งจะเป็นง่อยก็เพราะไอ้พวกบ้านี่แหละ ผมทำเพียงยืนหน้ามึนเงียบๆแล้วเดินไปหาไอ้วินที่โดนหมาบ้าสองตัวรุม

                “ เฮ้ยๆๆ ดึงพี่อุ่นออกไป อย่าให้เข้าใกล้ไอ้ห่านี่ ” ไอ้ห่าไฟร้องลั่นดึงตัวไอ้วินหลบมือผม ส่วนไอ้พี่ลมก็เอาตัวเองมาคั่นกลางบังผมไม่เข้าใกล้ไอ้วิน  “  ยุงไม่ให้ไตไรไม่ให้ตอม มึงมันเชื้อโรค ไม่ต้องมาแตะพี่กู! ”

                “ อุ่น ไอ้ห่านี่มันเป็นใคร ทำไมมาอยู่ในห้องแล้ว แล้วในเฟสมันคืออะไร ”

                ว่าที่คุณหมอใจโฉดถามขึ้น...

                “ ผมเป็นเพื่... ” ไอ้วินที่หน้าซีดไปเรียบร้อยแล้วก็อ้าปากจะตอบ แต่ก็โดนหมัดหนักๆชกเข้าท้องจังๆ “ อุก!! ”

                ส่งสายตาโหด “ กูไม่ได้ถามมึง อย่าสาระแน ” หันมายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน “ ว่าไงอุ่น ถ้ามันเป็นพวกที่ตามจีบอุ่นจนอุ่นรำคาญ เดี๋ยวเฮียจัดการให้นะ ตอนนี้กำลังขาดแคลนอาจารย์ใหญ่พอดี ”

                รอยยิ้มกับความคิดช่างสวนทางกันเหลือเกิน พี่กู...

                ใครได้มันเป็นแฟน ซวยทั้งชาติ

                ผมส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย เพราะแบบนี้ล่ะมั้งที่มีแต่คนบอกว่าผมเข้าถึงยาก ก็ดูดิ ใครเข้าหาผมก็โดนไอ้พวกเปรตนี่กันท่าตลอด โหดข่มขู่ต้มยำทำแกงเขาอีก

                “ กลับไปได้แล้ว รำคาญ ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมเอ่ยประโยคเรียบๆง่ายๆที่พาให้พี่น้องผมยิ้มกริ่ม ไอ้พี่ลมหันไปยักคิ้วให้วินด้วยความกวนตีน

                “ ได้ยินยัง น้องกูไล่มึงแล้ว ”

                “ เปล่า ” กอดอกยืนมองหน้าพวกมันทีละคน

                “ ห่ะ ”

                “ กูไล่พวกมึงต่างหาก ลม ดิน ไฟ พวกมึงไปไกลๆกูเลยไป รำคาญ ”

                ทั้งสามทำตาถลนแทบจะหลุดออกจากเบ้า ถอนหายใจเฮือกเตรียมรับสถานการณ์ต่อไป... ที่น่ารำคาญกว่าเดิม

                “ ฮือออออออ อุ่นคร้าบ อย่าไล่ลมแบบนี้เซ่ ลมน่ารำคาญตรงไหนนน  ”

                “ ทุกตรง ”

               ผู้ชายหน้าหล่อแบดบอยดีกรีเดือนมหา’ลัยปี 4 วิดวะ นามว่านายวายุ หรือไอ้พี่ลมพี่คนโตของบ้าน โตสุดแต่สมองมันกลับเด็ก... มือเฮียแกกำลังเกาะขาซ้ายผมแล้วเอาหน้าหล่อๆเถื่อนๆมาไถกับขาผม ถ้าสาวๆมาเห็นยังส่ายหน้าไม่เอามันชัวร์...

                “ ม่ายเอา โฮ พี่อุ่น ทำไมไล่ไฟแบบเน้ ไฟอุตส่าห์รีบมาหาเลยนะ! ”

หันมามองขาอีกข้างที่กำลังมีหนุ่มหล่อดีกรีเดือนนิติปีหนึ่งที่เพิ่งได้มาสดๆร้อนๆ คราบคุณชายว่าที่ผู้พิพากษามึงหายเกลี้ยงเลยไอ้ไฟเวลามึงอยู่กับกูเนี้ย แมวตัวไหนมันกรี๊ดมันวะ พี่ไฟแม่งโคตรเข้ม โคตรเย็นชา กำลังเกาะขาขวาร้องไห้น้ำตาซึม

                ผมหันไปมองหน้าไฟ “ ใครขอให้มา กูเหรอ ” และตามมาด้วยเสียงโอดโอยหนักกว่าเดิมจากน้องชาย

                “ ดินเสียใจมากนะที่อุ่นไล่ รู้มั้ย เฮียต้องขับรถไวขนาดไหน เกือบชนคนตายแล้ว ทำไมมาไล่กันแบบนี้  ” มือข้างซ้ายถูกเขย่าๆอย่างแรง... ไอ้นี่ก็อีกคน..เรียนหมอแต่ถือสปาต้าเดินร่อน

                “ กลับไปให้หมดเลย กูรำคาญ!! ”

                ประสานเสียงกัน... “ โฮ!! ”

                พี่ผม น้องผม... นอกจากโหดแล้วยัง...ปัญญาอ่อนมากครับ

                หันไปมองหน้าไอ้วินยังดูตื่นๆอยู่แล้วขำ เมื่อวานจะเป็นผัวผมให้ได้ แต่พอเจอไอ้หมาบ้าสามตัวนี้เข้าไปถึงกับเอ๋อไปไม่ได้ จะกลับไปเป็นเพื่อนแล้ว ป๊อดว่ะ

                “ ปล่อยดิ ” กลอกตาไปมาอย่างหงุดหงิด “ ไม่ปล่อย เดี๋ยวกูเตะเรียงตัวนะเว้ย ”

                ปล่อยทันทีหลังจากคำขู่... ไปยืนเกาะตัวกอดกัน

               “ ฮือ เมื่อก่อนอุ่นไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ ” ลม

              “ ไม่เคยรำคาญ ไม่เคยผลักไส ” ไฟ

               “ ไม่เคยจะไล่เหมือนหมูเหมือนหมา  ” ดิน

              ผมแทรก “ กูเอาน้ำร้อนสาด พวกมึงยังหน้าด้านอยู่เลย ”

               “ อุ่นอ่า!!!! ” ดีดดิ้นอย่างกระแดะรับฟังความจริงแสนโหดร้ายไม่ได้

                “ หุบปาก! ” เงียบกริบตามที่สั่ง

               สะบัดๆตัวออกมาจากฝูงพี่น้องแล้วไปหาไอ้วินที่สะดุ้งโหยงมองผมอย่างกล้าๆกลัวๆ ยิ้มแหยๆส่งมาให้เพราะปากแตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                “ เดี๋ยวพากูไปหาไรกินที่ร้านข้าวหลังมอด้วย กูแต่งตัวแปบ ” ตอนแรกว่าจะไม่ไปกับมัน แต่ขืนอยู่กับไอ้พวกพี่บ้าๆนี่หวังได้ประสาทก่อน

                มันพยักหน้านิดๆ “ ได้... จะระ รอนะ ”

                “ เออ ” ผมพยักหน้าให้ก่อนจะหันกลับไปทางพี่น้องตัวเองที่ตอนแรกแยกเขี้ยวใส่ไอ้วิน แล้วพอผมหันไปมันก็ทำหน้าเศร้าสลดต่อ... พี่น้องใครตอแหลได้โล่... “ ใครทำอะไรมึงอีก ฟ้องกูได้ ”

                ตบไหล่มันไปสามทีอย่างให้กำลังใจแล้วปลีกตัวเข้ามาหาเสื้อผ้า... หยิบกางเกงยีนส์เข่าขาดสีดำมาใส่ คว้าเสื้อนักศึกษาที่ไม่ได้รีดมาใส่อย่างเคยชิน เนคไทเหรอ...หาไม่เจอมาตั้งแต่เปิดเทอมปี 2  เลยไม่ใส่ตั้งแต่นั้นมา

                เดินออกมาก็เห็นไอ้วินนั่งตัวลีบที่โต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยมีกระเป๋าเป้ของผมกับหนังสือเรียนของวันนี้วางอยู่ด้วย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันนิดๆ สงสัยว่ามาได้ไง สุดท้ายก็ถามออกไป

                “ หนังสือเรียนกูมาอยู่นี่ได้ไง ” ผมถาม

                มันหันมายิ้มกว้าง “ พี่จัดให้เองแหละ ”

                “ เอาหน้า ” ดิน

                “ สาระแน ” ไฟ

                “ ประจบ เหอะ ” ลม

                ผมหันไปยิ้มให้สามหมา “ เสือก ”

                “ อุ่นนนนนนน  ”

                “ หุบปาก ”

                มองไอ้ตัวปัญหาน่ารำคาญสามคนยังคงยืนเกาะกันกลมดิกมองมาที่ผมด้วยสายตาตัดพ้อแล้วเหนื่อยใจ... มองตอบไปแล้วรู้สึก... จะอ้วก

                “ พวกมึงมีอะไรก็พูดมา  กูจะไปหาข้าวกิน ”

                “ อุ่น มันเป็นใคร มันเป็นอะไรกับอุ่น ” ไอ้พี่ลมชี้หน้าวินอย่างไร้มารยาท และถามชี้จุดทันที  “ มันเป็นเพื่อนใช่มั้ย ”

                ยักไหล่หันแล้วหยิบม้วนกระดาษส่งให้ไอ้วิน “ เปล่า ”

                “ แล้วเป็นอะไรกัน ” ไฟถามต่อ

                “ อยากรู้เหรอ ” ผมกระตุกยิ้มที่พาเอาไอ้พี่น้องทั้งสามชะงักเลยทีเดียว

                ผมทรุดตัวลงนั่งเบียดไอ้วินที่ยังทำหน้าเอ๋ออยู่ วาดแขนเกี่ยวคอมันดึงให้เราชิดกันอีกจนแก้มของผมรู้สึกถึงไอร้อนของลมหายใจมัน.... ผมทำแค่นั้นก็พาให้ไอ้สามหมาบ้าคลั่งได้แล้ว...

                “ เขาชื่อ วิน ” มือผมก็เกลี่ยแก้มมันเล่นอย่างสนุก แถมมันยังไม่ขัดขืนอีก แถมยังนั่งอมยิ้มตาเป็นประกายจ้องผมนิ่ง เฮอะ กูแค่เล่นละครเถอะ! ไอ้แมวหงอยเมื่อกี้ไปไหนแล้วล่ะ

                “ ละ แล้วไง ” ไอ้พี่ดินถามต่อแต่สีหน้าเฮียแกซีดจวนจะเป็นลมได้แล้ว

                “ ผัวผม จบมั้ย ”

                !!

                “ ไม่จริง!! ” ประสานเสียงกัน “ ไม่เจรงงงงงงงงง!!  ”

                ระดับสั่นสะเทือน 8.7 ริกเตอร์

                และก็บ้าไปแล้ว...

                “ มึง! มึงข่มขืนน้องกูใช่มั้ยยยยยย ” ไอ้พี่ลมถลามากระชากตัววินออกจากผมแล้วเขย่าอย่างบ้าคลั่ง “ มึงปลุกปล้ำขืนใจน้องตัวเล็กของกูได้งายยยย มึงกล้าดียังไง!! ”

                เอิ่ม... ตัวเล็กแต่เตะคอมึงถึงนะ

                “ โฮ น้องพี่ โดนมันรังแกใช่มั้ย ”

                ส่วนไอ้พี่ดินเองก็ถลามากอดผมหมับ ฉุนจมูกสุดๆกับกลิ่นยาที่ติดตัวพี่มันมา ส่วนไอ้ไฟก็สติแตกเอาหัวโขกโต๊ะไปแล้ว

                “ ฮือออ ไฟจะฟ้องป๊า!! จะเอาคนมาฆ่ามึ๊งงงงงงง ”

ชี้หน้าไอ้วินแล้วหันมาเบะปากใส่ผมและยืนทึ้งหัวต่อ...

                “ มึง มึง กูจะฆ่ามึงงง ” ตามด้วยไอ้พี่ลมที่ทำท่าจะบีบคอไอ้วิน ผมก็หมดความอดทนแล้วเหมือนกัน รำคาญ!!

                พลั่ก!

                ฝ่าเท้าสวยๆยันโครมที่ลำตัวไอ้พี่ดินเป็นรายแรกจนหลุดจากอ้อมกอดเหม็นๆกลิ่นยาลุกพรวด แต่ว่าลุกเร็วไปหน่อยเลยเซไปหลายก้าวเพราะขายังปวดๆเจ็บๆอยู่  แอบมึนหัวอีกนิดๆเพราะนอนน้อย พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสามศรีหมาบ้าอ้าปากค้างตาโตเท่าไข่นกกระจอกเทศ...

                “ ...นะ นะ ”

                “ อะไร ” ถามเสียงขุ่น เดินช้าๆอย่างระวังไปดึงตัวไอ้วินออกจากมือลมที่ปล่อยๆง่ายๆเพราะมันยังคงอ้าปากตัวแข็งทื่อไปแล้ว

                “ นี่ได้กันเมื่อคืนใช่มั้ย!! ” ไฟเป็นคนถามออกมา

                ผมนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะหยิบมือไอ้วินมาคล้องประคองเอวผมเอนหัวเปียกๆตัวเองไปซบอกไอ้วิน... เจ้าตัวยังอึ้ง ผมไม่อึ้งรึไง นี่กูเป็นห่าไรเนี่ย ก็แค่อยากแกล้งพี่น้องตัวเอง ก็แค่นั้น...

                “ เออ ได้กันเมื่อคืน พอใจยัง ”

                “!!”

                “ หิวข้าวว่ะวิน ไปหาอะไรกินกันเถอะ ” ส่งยิ้มให้มันและปรายหางตาใส่พวกตัวน่ารำคาญ “ กูไปล่ะ ปิดห้องให้ด้วยนะ ”

                เดินกลับไปคว้าของกระเป๋าแล้วฉุดมือไอ้วินที่ยังนิ่งเอ๋อไม่เลิกให้ออกจากห้องก่อนที่เสียงสั่นประสาทพังตึกจะดังลั่นออกมา ไม่รู้จักครับ มันเป็นใครไม่รู้ นี่ลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้องครับ

                เดินมาถึงลานจอดรถก็สะบัดมือใหญ่ทิ้งอย่างไร้เยื่อใย กอดอกยืนมองหน้ามันนิ่งๆ...

                “ อย่าคิดอะไรมาก กูแค่ใช้มึงเป็นไม้กันหมาบ้าเท่านั้น ” ย้ำเพื่อไม่ให้มันคิดไปไกล เดี๋ยวมันจะได้ใจคิดว่าผมอ่อนข้อให้แล้ว

                คนอย่างธารา จีบยากครับ ติดยาก ใจก็ไม่ให้ง่ายๆครับ

                “ พูดซะ ไม่ให้ความหวังกูเลย ” ไอ้วินหัวเราะร่าไม่ได้ดูซีเรียสนัก “ เรียนนิเทศนะครับ การแสดงดูออกนะครับ ”

                “ เออ พ่อนักแสดง ” ผมยิ้มนิดๆก่อนจะจ้องมองที่มุมปากมัน “ เจ็บมากมั้ยมึง ”

                “ หือ ปากเหรอ ” มือหนายังขึ้นแตะเบาๆข้างที่ช้ำแล้วก็แตกเลือดซิบ “ ชิวๆ ”

                ถอนหายใจพรืดอย่างขบคิดเบือนหน้าไปอีกทางแล้วนึกอะไรออก แต่คิดอีกที ไม่เอาดีกว่า มันไม่ใช่ผมสักนิด

                “ หิวใช่มั้ย ตอนนี้เช้าอยู่เลย ข้าวมันไก่เจ๊เพ็ญหลังมอก่อนได้มั้ย ” วินถามขึ้นอย่างลังเล

                ผมพยักหน้ารับตกลง “ อะไรก็ได้ กูกินง่าย ”

                “ แล้วเมื่อไหร่จะใจง่ายบ้างอ่ะ ” ยักคิ้วสามจึกยิ้มหล่อมาให้

                “ อยากเจ็บอีกสักที่มั้ย ”

                “ เชิญขึ้นรถครับ ”

                มันยิ้มแห้งๆให้แล้วเชิญผมขึ้นรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ของมัน มันขึ้นคร่อมก่อนจากนั้นผมซ้อนตามกระชับเป้และแปลนม้วนกระดาษงานดีๆ มันเอี้ยวคอมาดูผมเล็กน้อยก่อนจะขับรถออกไปยังร้านข้าว...

                “ พี่เราโคตรโหดเลยว่ะ ”

                ประโยคแรกถูกส่งมาให้เมื่อก้นหย่อนทรุดลงนั่งบนเก้าอี้พลาสติกของร้านข้าวมันไก่... ผมเลิกคิ้วแล้วหัวเราะเมื่อได้ฟัง

                “ โหดจนคนแถวนี้บอกว่าเป็นเพื่อนเลยว่ะ ”

                “ เราไปบอกว่า...เอ่อ นั้นแหละ พี่จะไม่โดนตามฆ่าเหรอวะ ” มันยีหัวตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมดแล้วกุมขมับ

                ผมกรอกตาไปมาอย่างเอือมเซ็ง “ ไม่หรอก...มั้ง ”

                “ ธารา! ”

                “ กลัวทำไม ”

                “ ... ”

                “ กูอยู่ทั้งคน ”

                เงยหน้าจ้องตามันนิ่งๆแล้วมันเป็นฝ่ายเบือนหนี เรามาอยู่ในจุดนี้ได้ไง จุดที่ว่าที่เมียอย่างผม แมนกว่าว่าที่ผัวหลายขุม ถ้ามันอ่อนแบบนี้ ผมจะลุกขึ้นไปเป็นผัวมันแทนนะ บอกแล้วไงส่วนสูงไม่มีผลต่อแนวราบ

                “ ครับ ครับ ถ้าพี่โดนต่อยอีก จะไปคิดบัญชีที่เรานะครับ ” รอยยิ้มหล่อถูกส่งมาแต่ผมกลับเห็นว่ามันคือรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เสียมากกว่า

                ผมทำหูทวนลมไปและหูหางตั้งมองข้าวมันไก่สี่จานถูกวางลงบนโต๊ะ เราต่างกินกันเงียบๆ เหลือบตาเห็นไอ้วินยกไอโฟนขึ้นมาถ่ายรูปผมแล้วก็ยิ้มเหมือนเด็กจากนั้นค่อยลงมือกิน เพราะไม่ระวังมันถึงกับซี๊ดปากเพราะความเจ็บร้าวตรงมุมปาก มันสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วฝืนกินต่อซี๊ดปากไปด้วย

                ข้าวในปากผมเคี้ยวช้าลงเรื่อยๆ ก่อนจะวางช้อนลงแล้วหยิบแก้วน้ำมาดื่มสองอึก จากนั้นลุกขึ้นเดินไปหาน้องเด็กเสิร์ฟลูกจ้างหน้าร้านที่กำลังเช็ดจานอยู่ท่ามกลางความงงๆของไอ้วิน

                ...ผมกำลังทำอะไรวะ

                “ น้องครับ ” ปลายนิ้วสะกิดเบาๆที่ไหล่คนตัวเล็ก

                “ คะ? ” ใบหน้าน่ารักของเด็กสาว ม.ปลาย หันมามอง “ มีอะไรให้ช่วยคะ ”

                “ เอ่อ... คือ ที่ร้านมีไอ้นี่มั้ยครับ ” เป็นครั้งแรกที่เผลอพูดตะกุกตะกัก มือไม้รู้สึกเกะกะขึ้นมาเฉยๆ เด็กสาวถึงกับเกาหัวแกรกๆเลย

                “ ไอ้นี่ น่ะมันคืออะไรเหรอพี่ ” น้องแกทำหน้างงๆใส่ ยิ่งทำให้ผมกระอักกระอ่วนมากกว่าเดิม

                “ คือแบบว่า... ”

                มันไม่ใช่นิสัยของผมเลยนะ ให้ตาย!!

                “ น้องมี... ”

                “ ... ”

                “ กล่องพยาบาลมั้ยครับ ”

 

                ยืนยันนาทีสุดท้าย!

                นี่มันไม่ใช่ตัวผมเลยจริงๆ!!

                .

                .

                .

                “ ไปไหนมาวะ ”

                ผมเดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับสำลีและยาในมือ พอนั่งลงมันก็ถามทันที มองข้าวในจานมันก็เห็นว่ามันพร่องไปแค่ครึ่งจานเอง...

                “ มึงอิ่มแล้ว? ”

                “ ยัง ” มันทำสีหน้าแหยๆ “ เจ็บปากเลยกินช้าหน่อย กินแค่นี้ใครมันจะอิ่มกัน ไม่ใช่ผู้หญิง ”

                ผมโคลงหัวนิดๆ “ ดี ถ้าอิ่มแล้วก็บอก กูจะทำแผลให้ ”

                พร้อมวางของในมือลงบนโต๊ะ มันตาโตมองตามแล้ววางช้อนส้อมในมือลงหยิบแก้วน้ำกระดกและยิ้มแฉ่งให้ผม

                “ อิ่มแล้วครับ ”

                 “ ไอ้... ”

                “ ทำแผลให้หน่อยสิ ” น้ำเสียงอ้อนๆเหมือนแมวพาให้ผมคลี่ยิ้มขำ

                ไอ้ตอแหล...

                “ กินให้หมดสองจานก่อน กูถึงจะทำให้ ” เลื่อนจานส่งให้มัน มันทำหน้างอเหมือนเด็กโดนบังคับแดกข้าว บ่นอุบอิบแต่ก็ยอมกินข้าวต่อซ้ำยังเงยหน้าสบตาผมเป็นแมวอ้อนๆอีก เออ อ้อนเข้าไปมึง อ้อนได้อ้อนไป! กูแกร่ง กูสตรอง!

                “ จะทำแผลให้จริงๆนะ ”

               “ อืม ”

                 “ จริงนะ ”

                “ เออ! ”

                “ จะ... ”

                “ ถามอีก กูจะไม่ทำให้แล้ว ” ตวัดตาโหดใส่ “ เงียบ และแดก ”

                “ หึ  คร้าบๆ ”

                ทำไมรู้สึกว่าข้าวมื้อนี้มันอร่อยกว่าทุกวัน...

 

                สงสัยกูหิวจัด

 

                แน่ๆ

 

 




ธาราคืนพื้นที่ขอพักจวกข้าวมันไก่ก่อน





หลบพื้นที่ให้กรกวินต์สักนิด



                Facebook....

                06.55 น.

 

                Kornkavin

                ถ้าคนทำแผลมือเบาขนาดนี้ เจ็บกว่านี้ก็ยอมครับ -อยู่กับ Thara Sirikunchai

                พร้อมรูปใบหน้าหล่อๆที่มีแผลแต่ได้รับการทำแผลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว...

 

                ติ้งๆๆ!!
 
                ไม่กี่วินาทีที่แล้ว...
 
                Wayu Sirikunchai : กูไม่ยอมมมมมมมมม YOY ตอนพี่โดนรุมมา ทำไมไม่เห็นจะทำแผลให้เลย @ Thara Sirikunchai ส่วนมึง @Kornkavin กูจะเอาพวกไปทื๊บมึงงงงง วันนี้มึงต้องตาย ไม่งั้นกูนอนไม่หลับ!!
 
                Puttapee Sirikunchai : ฮือออออ มึงเป็นใคร ทำไมอุ่นต้องแคร์ ฮืออออ กูโดนทื๊บมากระดูกหัก มันยังไม่คิดจะแลเลย แล้วมึงเป็นใคร กูจะฆ่ามึ๊งงงงงงงงงง  วันนี้กูจะเอามึงมาเป็นอาจารย์ใหญ่ให้ได้!

                Agni Sirikunchai : มึงเอาน้ำมันพรายมาสาดพี่กูใช่มั้ยยยยยยยยยย ไอ้เหี้ยยยยยย กูจะเอามึงเข้าคุกกกกกก

                Deeny : กรี๊ดดดดดดด เมื่อวานคือ ธาราเหรอวะ!!

                มาการอง รองเดือนวิดวะ  : เอาใจช่วยนะไอ้น้อง พี่เพื่อนไอ้ลม มันบ้า เอาให้คลั่งไปเลย หมั่นไส้มานานล่ะ 

                Time Time : กูเพื่อนไอ้ดิน ขอให้น้องรอดจากหมอเถื่อนนะครับ กวนมันบ่อยๆ อยากเห็นมันประสาทแดกจนไม่ได้เรียน เกียรตินิยมจะได้เป็นของกูครับ

                Fran Fran : กูขอให้มึงตายคาฝ่าพระบาทพี่ๆน้องๆของเมียมึงนะครับ

 

                ...ภาวนาให้ผมมีชีวิตรอดนะครับ




กรกวินต์คืนพื้นที่ไปนั่งทำใจก่อน





TBC.

แฮ่ มาอีกตอนยาวๆ (รึเปล่า)
พี่วินของเราผู้น่าสงสาร โดนรุมจากหมาบ้าทั้งสาม
ธาราของเราก็น่ารัก 55555555

ฝากเอ็นดูพี่วินผู้น่าสงสารด้วยนะคะ

ชอบกันอย่าลืมเม้นให้กำลังใจพี่วินน่า อย่าลืมบวกเป็ดให้ธารานะคะ

ขอบคุณค่ะ ^^

หลังจากนี้อาจจะติดมรสุมสอบเเล้ว อาจจะมาช้า และช้า
หอยทากเป็นตะคริวเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-02-2016 00:09:08
วินสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 06-02-2016 00:56:57
ยิ่งกว่าชีวิตผัวทาส ก็บรรดาพี่น้อง(ว่าที่) เมียนี่แหล่ะ
ขอให้รอดนะวิน.....
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-02-2016 14:26:40
อย่างฮ่า อย่างอมยิ้มกับตระกูล ดิน น้ำ ลม ไฟ จริงๆๆๆๆๆ
พี่วินจะรอดไหมเนี่ย โหดกันมากกกกกก อิอิ
ธาราจ้า อะไรอะไร ก็ผัวทาสน่ะ คิกๆๆๆ
น่ารักกกกก
แอบสงสัย ดิน ลม ไฟ จะมีคู่ไหมเนี่ย ห่วง อุ่น มากกกกกกก
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine2513 ที่ 06-02-2016 15:04:44
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 06-02-2016 16:14:11
ชอบๆ มาต่อบ่อยๆ และ เยอะๆ ด้วยนะคะ เป็นกำลังใจให้นักเขียน คะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 06-02-2016 20:29:28
พี่น้องตระกูลนี้ดูจะหวงธาราสุดๆ แต่ฮาจริง แต่ละคน 555555 ส่วนวิน 55555 ระบมมากมั้ยนั่น ตอนนี้ธาราน่ารักกกก อินดี้สุด  :hao3:

รอตอนต่อปายยยย  :katai4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 06-02-2016 22:16:12
ฮามาก เอาใจช่วยนะวิน ขอให้รอดเป็นแฟนธาราได้ครบสามสิบสอง
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: lazyishappy ที่ 06-02-2016 23:40:30
พี่ๆจะโหดอะไรปานนั้นคะ คิดถูกแล้วที่ธาราแกล้ง จีบให้ติดเร็วๆนะ อยากรู้ว่าตอนหวานๆกันเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 07-02-2016 00:40:50
อิ 3 ธาตุ ว่าเกรียนแล้ว
เพื่อนนางคือฮากว่า 555
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 07-02-2016 12:52:32
ฮากับพี่น้องตระกูลนี้จริงๆ แอบยิ้มตอนประโยคมีกล่องพยาบาลมั้ย เขินนนนนน หนักมากกก ธาราโหดแต่ก็น่ารักกกก พี่ๆน้องๆ ถึงหวงมากชิมิ ส่วนพี่วินของเรา กองเชียร์เยอะครับ สู้นะคะ

ขอบคุณนักเขียนมากค่ะ ตอนนี้ตลกๆ ฮาๆ น่ารักดี รอตอนต่อไปน่าาา รอดูธาราใจอ่อนให้พี่วิน :mew1: มาไวๆน่าาา :sad11: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 14-02-2016 20:05:04
แจ้งข่าวกันนิดนึง

พิมจะไม่สามารถอัพนิยายได้ในช่วงนี้นะคะ
เนื่องด้วยติดมหกรรมมรสุมสอบแล้ว 2 อาทิตย์ได้ค่ะ  :hao5: รอกันหน่อยน่า  :heaven

 
[สปอย บทที่ 5 : กระดูกขวางคอ]

 

เหตุการณ์ ณ หอ S ในเวลาเย็น

 

 

" วันนี้ทำงานปะ "

 

" ทำ ไม่ได้ว่างลอยไปลอยมาแบบใครบางคน "

 

" ใครวะ ชีวิตไร้แก่นสารจริงๆ "

 

" มึงนั่นเเหละ ห่าวิน "

 

" อุ๊ย เค้าไม่รู้ตัว " หยุดพูดก่อนจะพูดใหม่ " แล้วทำถึงดึกปะ "

 

" ถ้าดึก จะทำไม "

 

" จะได้ไปนอนห้องเราไง "

 

ไม่ถึง 10 วิ

 

พลั่ก ตุ้บ!

 

" จะนอนกับน้องกูเหรอ... "

 

" รออีกสิบชาติเถอะมึง "

 

" ฝันอยู่เหรอ โดนกระทืบสักทีน่าจะตื่น "

 

" น้อง/พี่ข้า ใครอย่าแตะเว้ยยยยย "

 

 

 

 

Coming soonnnn

 



ติดสอบ 2 อาทิตย์เลยค่ะ TT รอหน่อยน่า :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 14-02-2016 21:28:42
 :laugh: :laugh: :laugh: :m20: :m20: :m20: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: brave ที่ 26-02-2016 22:01:58
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 26-02-2016 23:38:48
ยิตดีต้อนรับสู่สมาคมกลัวเมีย 55555
โอ้ยชอบพี่น้องธาตุดินลมไฟ ขอได้ไหมเนี้ย

นี้ถ้าอิพี่วินทำให้ไฟเสียใจ ดูท่าได้เป็นอาจารย์ใหญ่แน่นอน กร๊ากกกก
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 27-02-2016 20:01:25
รออยู่นะ  :call:  :call:  :call:
หัวข้อ: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 28-02-2016 20:02:33
นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 5
ตอน เริ่มไม่สตรอง


By เดือนพราย



ธาราขอพื้นที่คืนเนื่องด้วยกินข้าวมันไก่เสร็จแล้ว

 

 

                ตึก ตึก ตึก

 

                ตึก...ตึก...ตึก...

               

 

                ผมว่า... ผมกำลังมีคนตาม...

 

                ตึกๆๆๆๆ

 

                ตึกๆๆๆๆๆ

 

                “ จะตามมาทำห่าไรวะ!! ”

 

                หันไปตวาดคนด้านหลังอย่างเหลืออด แววตาเริ่มฉายแววโมโหมากขึ้นมองดูคนตัวสูงกว่าไม่เท่าไหร่กำลังทำหน้าแป้นยิ้มแหยๆกลับมา ผมถอนหายใจเฮือกแล้วพยายามปรับอารมณ์ใหม่

 

                “ มึงจะตามกูทำไม ถึงคณะกูแล้ว กูจะทำงาน ”

 

                “ ก็เรียนบ่ายไม่ใช่รึไง อยู่ด้วยกันก่อนดิ ” ไอ้วินว่าฉีกยิ้มตาเป็นประกาย

 

                “ กูต้องการความเงียบ มึงไปถ่ายรูปที่ไหนก็ไปเถอะไป! ”

 

                โบกมือไล่มันพลางดูกล้องราคาแพงระยับที่ห้อยคอมันแล้วนึกอิจฉานิดๆ กล้องตัวนี้อยากได้นะ แต่ไม่มีตังค์ซื้อ ตังค์หายไปไหนหมดน่ะเหรอ ค่ากระดาษ ค่าสี ค่าไม้บัลซ่าล้วนๆ ถึงบ้านผมจะมีอันจะกิน แต่เสด็จพระบิดาของบ้านนั่นให้เงินลูกได้ยาจกมากจริงๆ ท่านให้เหตุผลสั้นๆง่ายๆ เพื่อให้ลูกที่น่ารักทั้งสี่ยืนด้วยลำแข้งตัวเอง

                แต่เสด็จพระบิดาหรือรู้ไม่ พวกเขามีเสด็จพระมารดาแสนใหญ่คับบ้านคอยส่งเงินไม่ขาด แต่หลังๆมาเงินจากพระมารดาเริ่มหืดหายเพราะคุณหญิงไปฝรั่งเศสมาสี่เดือนแล้วยังไม่เสด็จกลับเลย ตอนนี้ยาจกสุดๆ

                จบชีวิตที่จะดราม่าก็ไม่ดราม่าของนายธารา...

 

                “ ถ่ายรูปเราสักรูปดีมั้ย ” ไอ้วินมันนึกได้มีกล้องติดอยู่กับตัวก็ยกขึ้นตั้งท่าจะถ่ายรูปผมทันที ถ้า...

 

                “ เฮ้ย! ธารา ทำไรวะ! ”

 

                เสียงห้าวหาญแสนเข้มและมาดแมนพร้อมกับการปรากฏตัวของ...เอิ่ม... ตัวอะไรวะเนี่ย

 

                “ พี่ปาย หวัดดี ” ผมยกมือไว้รุ่นพี่ที่แสนจะปกติ...มั้ง เขาเป็น...เอ่อ นั่นแหละ คนรู้จัก ห่างๆ... จริงๆนะ

 

                เฮียแกพยักหน้ารับก่อนจะหันไปทางไอ้วินที่ทำหน้ามึนๆเอ๋อๆ มองพี่ปายตั้งแต่หัวจรดเท้าและเท้าจรดหัว...

 

                “ มองทำไม กูแต่งตัวผิดระเบียบรึไง  ” เฮียแกเอียงคอถามกลับ อารมณ์ประมาณจิ๊กโก๋ท้ายตลาดมาก “ เนี่ย ถูกระเบียบที่สุดแล้วเว้ย หรือมึงคิดว่ามันไม่ปกติ! ”

 

                จ้องตาเขม็งเตรียมถลกแขนเสื้อหากไอ้วินมันพูดไม่เข้าหู

 

                “ ...ปกติครับ ”วินมันหัวเราะขืนๆแห้งๆกลับมา แล้วมองดูพี่คิงใหม่... พี่เขาก็แต่งตัวปกตินะ มีเสื้อ มีกางเกง มีรองเท้า แต่ที่จะแปลกมันก็....

 

                ผมสีแดงเพลิงยาวเลยไหล่ถูมัดขึ้นและติดกิ๊บ...คิตตี้

 

                เสื้อลายดอกสีสดใสสมทับด้วยเสื้อสูทนอกสีดำเนื้อดี

 

                กางเกงยีนส์สามส่วนสีซีด

 

                และ...แตะช้างดาว

 

                แถวบ้านไม่เรียกปกติแล้ว เขาเรียกว่าบ้า!!

 

                ถ้ามีดอกไม้มาทัดหูนะ ใช่เลย คนบ้า!

 

                “ ใช่มั้ย ไอ้น้อง กูแม่งปกติ ” ไอ้เหี้ยพี่ปายยิ้มกริ่มทำหน้าทำตาภูมิใจมากมายเดินไปกอดคอไอ้วินเป็นการขอบใจ “ มีแต่คนบ้าเท่านั้นแหละที่ว่ากูไม่ปกติ ”

 

                อ้าว... นี่กูบ้าเหรอ

 

                “ แล้วนี่มึงชื่อไร ”

 

                “ วินครับ พี่ ”

 

                “ เออ กูชื่อปาย เกิดแม่ฮ่องสอน เกิดที่ปาย และก็เป็นลุงรหัสมัน ” ชี้มาที่ผมที่เม้มปากแน่น ใครใช้ให้บอกห่ะ ว่าแม่งเป็นสายรหัสกัน

 

                ส่งสายตาทิ่มแทงให้ไอ้เฮียปากมาก อาร์ตตัวทวดเลย คิดจะแต่งอะไรก็แต่ง คิดจะทำอะไรก็ทำ

 

                “ โด่ววว ไอ้อุ่น มึงทำหน้าทำตา เดี๋ยวกูโบก ” หันมาด่าผมที่กำลังยืนทำสายตาเอือมๆใส่แก “ ดูเสื้อกูแล้วประทับใจช่ะ? ”

 

                “ ... ” ไร้คำจะพูดกับแฟชั่นของมัน

 

                “ นั่นไง! มึงพยักหน้า ” ตอนไหนวะ!!

 

พี่ปายยิ้มกริ่มผละตัวออกจากไอ้วินแล้วพรีเซ้นตัวเอง “ มึงดูนี่นะ ไอ้อุ่นไอ้วิน ”

             

                มือขาวของมันแหวกเสื้อสูทให้ดูเสื้อลายดอก “ นี่! มึงรู้มั้ย ตัวนี้เท่าไร ของแบรนด์อะไร! ”

 

                “ แบรนด์อะไร ” ผมกอดอก

 

                “ ก็อปแบรนด์เว้ย ส่งตรงจากจีน ตัวละร้อยเก้าเก้า แต่ด้วยหน้าหล่อๆของกู ได้มาตัวละร้อยเก้าสิบแปด ”

 

                ...ลดตั้งหนึ่งบาทถ้วน

 

                ไอ้วินดูจะกลั้นขำอย่างหนัก....

 

                “ แล้วก็นี่ สูทจากนอก ได้มาจากเด็จพ่อของกูที่จับกูไปดูงานที่บริษัท ด้วยการบังคับขืนใจกูให้ใส่มัน ตอนแรกก็ไม่ชอบนะ แต่ตอนนี้แม่งชอบล่ะ ”

 

                “ ... ” พวกผมสองคนได้แต่ยืนนิ่งปล่อยให้มันพูดป่าวๆไป จนจบแล้วมันถึงหันมามองผมด้วยสายตาเหมือนผมเป็นตัวประหลาด

 

“ แล้วทำไมวันนี้มึงแต่งตัวแปลกนะ ปกติรสนิยมมึงดีกว่านี้เยอะ ”

 

                “ วันนี้พรีเซ้นต์งาน ขอเป็นคนนิดนึง ” ผมตอบ “ แล้วทำไมวันนี้พี่จัดเต็มซะขนาด... ”

 

                “ วันนี้ต้องลงไปรับน้องเว้ย ปีสามแม่งไม่ได้เรื่อง ” ส่ายหน้าเซ็งๆ “ กูเป็นถึงประธานสโมสรน่ะเว้ย จะให้แต่งตัวบ้านๆไปหาน้องมันไม่ใช่ เดี๋ยวไม่ประทับใจ ”

 

                ยกมือขึ้นทาบอกอย่างสง่า...เชิดหน้าสี่สิบหน้าองศา เอากับเฮียแกเถอะ

 

                “ ผมไปก่อนนะ ต้องเตรียมบท ” หาจังหวะปลีกตัวได้ก็รีบออกมา ไอ้เฮียก็ไม่ได้ว่าอะไรพยักหน้าหงึกๆหงึกๆรับแล้วลากแตะช้างดาวของแกออกไปทางโรงอาหารของคณะวิดวะ

 

                ดังคณะตัวเองไม่พอ ไปดังนอกคณะอีก เชื่อเลยจริงๆว่า ชีวิตผม หาคนปกติไม่ได้หรอก... แต่คนปกติย่อมคบกับคนไม่ปกติอยู่แล้วล่ะ หึ

 

                ส่วนผมก็เดินเอื่อยๆถือกระดาษม้วนใหญ่ตรงไปยังห้องชมรมที่นัดกับเพื่อนไว้เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว แถมตลอดทางที่เดินมามีทั้งหนุ่มน้อยสาวสวยหนุ่มล่ำมองตามเขาให้ควั่ก ทำไงได้... คนมันหล่อ...

 

                ใช่... ไม่ได้มองกูไง ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย

 

                ผมหันไปมองไอ้วินที่เดินตามหลังผมแล้วถอนหายใจเฮือก เออไง มันหล่อ และหล่อมาก ใสสไตล์เกาหลีมาก หญิงนี่มองตรึม มึงแย่งซีนกู!

 

                “ จะตามไปถึงเมื่อไหร่วะ ” หยุดเดินแล้วมองหน้ามัน

 

                “ อ้อใช่ พี่ปายเขาตลกดีนะ ” คำตอบมันคนละเรื่องเลย

 

“ มันบ้า ไม่ได้ตลกสักนิด ” ผมถามย้ำ “ จะตามทำไม ”

 

 “ ก็บอกแล้วไง จะอยู่ด้วย ”

 

“ ว่างนักรึไงวะ ”พาลครับพาล มันว่าง แล้วกูเรียนนี่กูพาลครับ

             

               ยักคิ้วให้อีกสองจึก “ ก็ว่างไง มีเวลาไง ”

 

                “ ว่างแล้วทำไมไม่ไปหาอะไรทำ ดูหนัง ถ่ายรูป กินข้าว เดินห้าง ” ผมหรี่ตาจับผิด มันก็ยิ่งยิ้มกว้าง “ ตามกูแล้วจะได้อะไร ”

 

                “ ได้ดิ ”

 

                “ ได้อะไร ”

 

                “ ได้ดูแลอุ่นไง ”

 

 

                ตึง!!!

 

 

                อุ่น...งั้นเหรอ เหมือนหัวใจถูกแกว่งอย่างแรง ปกติมันมักจะเรียกผมว่าธาราซะมากกว่า.... คนส่วนใหญ่ที่ไม่สนิทก็มักจะเรียกผมว่าธารา แน่นอนมันดูแมนกว่าชื่อเล่นผมมาก อย่างที่รู้พี่น้องผมมันชื่ออะไรล่ะ ดิน ลม ไฟ ผมก็คงไม่พ้นชื่อ น้ำ แต่น้ำคำเดียวไม่พอ เสด็จแม่ยังเติม อุ่น เข้ามาให้ดูน่าเอ็นดู จนมันกลายเป็น น้ำอุ่น ชื่อสาวแตกชิบ

 

                “ ถ้าเดาไม่ผิด... ชื่อเล่นเราคงเป็น น้ำอุ่น ใช่มั้ย ” ไอ้เหี้ยวินทำหน้าแน่ใจสักเท่าไหร่ ผมสูดลมหายใจปรับสติให้เข้าที่เข้าทาง ไม่รู้สิ มันรู้สึกแปลกๆ

 

                “ เออ แต่ไม่ต้องเสือกเรียกนะ ไม่ได้สนิท ”

 

                “ ไม่ได้สนิทเหรอ ” มันเงียบแล้วกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ “ แต่เรานอนเตียงเดียวกันมาแล้วนะ ”

 

                “ ผู้ชายผู้ชายนอนเตียงเดียวกัน มันแปลกตรงไหน ” ผมสวนกลับสายตาเริ่มกังวลกับสถานการณ์ที่กำลังรู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่จับจ้องมาทำให้ผมต้องเบาเสียงพูดลงไปอีก

 

                “ ก็ไม่แปลกไง ”จู่ๆมันก็ยกกล้องขึ้นมาเปิดแล้วถ่ายรูปผมอย่างหน้าด้านๆ “ หน้าแม่งอย่างมันเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ ”

 

                “ ...มึงแม่งกวนตีน ” อยากกระทืบมันเว้ย!

 

                “ มันน่ารัก ฟังให้จบดิ ” ไอ้วินมองผมนิ่งๆแล้วอมยิ้มท่าเดียว หยุดเรื่องคุยแล้วก็ยิ้ม ต้องการกวนประสาทกันใช่ปะ

 

                “ น่ารักพ่อง! ไปไกลๆตีนไป! ”

 

                ผมสะบัดหน้าด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดแล้วต้องชะงักเมื่อผู้หญิงในคณะพากันชี้ๆเหลือบๆมองหน้าผมแล้วหัวเราะคิกคักกัน อะไรวะ

                ช่างแม่ง! ผมหันหลังจ้ำอ้าวไปทางด้านหลังแต่ก็ยังคงมีผีตามติดชีวิตอยู่ ผมควรเลิกสนใจมันและเดินๆไป แต่เดินไปแล้วเสือกผ่านกระจกเห็นหน้าตัวเองชัดๆแล้ว...

 

                ถึงว่าทำไมผู้หญิงถึงชี้หน้ากูแล้วหัวเราะ...

 

                ไอ้เหี้ยหน้าแดงเป็นสตอเบอรี่นี่มันครายยยยยยยยยยยยยยยย!!!

 







ต่อโพสล่างนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 4 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 28-02-2016 20:04:02



              หลังจากไล่เตะใครบางคนได้สำเร็จ ผมก็เร่งเท้าให้เร็วขึ้นจนแทบวิ่ง วิ่งหนีจากไอ้เวรวินที่แม่งกัดไม่ปล่อย ตามมันอยู่นั่นแหละ ไม่รู้ว่าจะตามไปถึงไหน ดีหน่อยที่เพื่อนมันโทรพอดี มันเลยต้องหยุดคุย ส่วนผมนี่แทบจะกระโดดตบด้วยความดีใจสุดซึ้งโกยเท้าหนีเลย




เดินไปทางด้านหลังตึกคณะที่มีห้องว่างนับสิบที่ไม่ได้ใช้งาน มันเลยเป็นสวรรค์ของเหล่านิสิตนักศึกษคณะสถาปัตย์ให้มานอนกลิ้งเล่นเวลางานโปรเจคเร่งส่งก็ทำกันห่ามรุ่งห่ามค่ำข้าวไม่ต้องแดกอาบไม่ต้องน้ำกันเลยทีเดียว







                ปัง!







               ผมผลักประตูบานที่สามซึ่งเป็นห้องประจำของกลุ่มผมตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง ปกติห้องว่างพวกนี้จะถูกจับจองด้วยพี่ปีสามและสี่ แต่นี่ใครครับ ธารา เดือนสถาปัตย์นะครับ มีพี่รหัสเป็นประธานรุ่นปีสาม อย่าไปรู้จักมันเลยครับ ถ้ารู้จักแล้วจะตะลึงตึ๊งตึ่ง แถมผมยังมีลุงรหัสเป็นถึงประธานสโมสรสถาปัตย์ ที่แม่งพนันได้เลยว่ามันต้องซื้อเสียง ซื้อคะแนนชัวร์ถึงได้ตำแหน่งมาครองง่ายๆ ประธานสโมสรจะใครถ้าไม่ใช่ไอ้พี่ปาย คนไม่สมประกอบทางแฟชั่นนั่นเอง แค่ห้องห้องเดียวไอ้พวกพี่ๆลุงๆป้าๆไม่ให้ผมก็เกินไป




                “ มาช้าชิบหาย มาพรุ่งนี้เลยมั้ยมึง ” แค่ย่างกายเข้าห้องก็เจอกับตัวอะไรก็ไม่รู้อีกแล้วกำลังนั่งหน้าบูดต่อโมเดล




                ไหวไหล่แล้ววางเป้ลงบนโต๊ะ เดินไปเปิดตู้เย็นในห้องเอาน้ำมาดื่ม “ ได้นะ เดี๋ยวกูกลับ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมา ”




                 “ กวนประสาท ”




               ไอ้ไผ่ทำหน้าหงุดหงิดก่อนจะวางโมเดลลงแล้วควานมือไปตามกางเกงม่อฮ่อมสีหม่นล้วงหยิบจูปาจุ๊บสีส้มขึ้นมาแกะแกะแล้วยัดเข้าปาก...




                 “ แล้วมึงจะพรีเซ้นด้วยชุดนี้? ” มองไล่ไปตามตัวมันแล้วส่ายหน้า... มหาลัยของผมเป็นมหาลัยรัฐบาลแต่ทุกอย่างกลับเป็นแบบอินเตอร์ ยูนิฟอร์มแทบจะไม่ได้ใส่ ใส่เฉพาะพรีเซ้นงาน งานใหญ่ๆด้วยซ้ำ บางวันอาจารย์ยังใส่ชุดนอนมาสอนก็มี




                ไอ้ไผ่พยักหน้าแล้วมองลงมาที่ชุดตัวเอง...




               “ ทำไม กูแต่งตัวไม่เรียบร้อยเหรอ ” มองดูชุดม่อฮ่อมที่ผมจำได้ว่ามันใส่ตัวนี้ซ้ำกันมาสองอาทิตย์แล้ว ซักยังวะนั่น




                ไอ้ไผ่เป็นคนภาคเหนือครับ มันเลยชอบแต่งตัวพื้นบ้านพื้นเพตามบ้านเกิดมัน วันไหนอินดี้จัดก็ใส่ชุดแม้วกะเหรี่ยงบวกพร้อมด้วยเครื่องเงินห้อยมาเต็มคอ...





                “ กูไม่อยากโดนตัดคะแนน เพราะฉะนั้นมึงกลับไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้ ”




                “ ไอ้คิมยังไม่มา เดี๋ยวยืมมันก่อนก็ได้เว้ย ” มันโคลงหัวอย่างอารมณ์ดีดึงอมยิ้มออกจากปากแล้วสไลด์ตัวไปหาไอโฟนในเคสมินเนี่ยนสีเหลืองจี๊ดปวดตับโทรคุยกับไอ้คิม เพื่อนสนิทกลุ่มเดียวกันที่อยู่กลุ่มเดียวกันซึ่งมันก็บ้าบอไม่ต่างกัน




                ผมเหล่มองมันนิดหน่อยแล้วทรุดตัวนั่งลงที่พื้นแล้วหยิบคัตเตอร์มาตัดกระดาษต่อ... อืม ผมว่า บ้านสีครีมมันธรรมดาไป สีเทาอ่อนๆน่าจะสวย เดี๋ยวค่อยไปซื้อเย็นนี้แล้วกัน




                “ เออ มึงว่าต้องแก้สีมั้ย ” ไอ้ไผ่คุยเสร็จก็มานั่งจ่อมคุยงานกับผม “ กูว่ามันเบๆ ไม่ประทับใจกูสักเท่าไรวะ ”




                “ กูก็ว่างั้น ” ผมถอนหายใจแล้วหยิบกระดาษเฉดสีขึ้นมาเลือก “ กูว่าจะเอาสีนี้ ”




                มือสวยขาวกระจ่างของไอ้ห่าไผ่รับไปแล้วเทียบๆดูกับบ้านก็พยักหน้าเป็นการโอเค “ เดี๋ยวให้ไอ้เหี้ยคิมดูอีกที ”




                “ เออ แล้วสคริปต์ล่ะ ” นึกขึ้นได้ ยังไม่ได้ท่องบทพรีเซ้นต์




                 ไอ้ไผ่ทำหน้างงๆ “ มึงทำไม่ใช่เหรอ ห่าธารา ”




                ผมส่ายหน้าช้าๆ... “ มึงกับไอ้คิมทำไม่ใช่เหรอ ”




             ไอ้ไผ่ส่ายหน้าพรืด “ กูทำโมเดลไอ้สัด แล้วไอ้เหี้ยคิมมันเขียนเกร็งคำถามของอาจารย์ต่างหาก ”




“ กูทำพาวเวอร์พ้อยท์กับแบบสามมิติ ไอ้คิมเกร็งคำถาม มึงทำโมเดล ”




ผมมองหน้าไอ้ไผ่ และไอ้ไผ่มองหน้าผม ก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความเงียบ...




                 “ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยย!!! ”




                ห้องแทบแตกเมื่อรู้ความจริงที่ว่า...




 


                ไอ้ไผ่...ไม่ได้ทำ




                ไอ้คิม... ไม่ได้ทำ




                และ...ผมไม่ได้ทำ




 




                สรุปคือ ไม่มีใครทำสคริปต์พูด ไอ้เหี้ยยยยยย




 




                “ แล้วเอาไงดีวะ!! ”ไอ้ไผ่สบถอีกหลายคำยกมือขยี้หัวตัวเองอย่างร้อนใจ “ เหลืออีก 5 ชั่วโมงเอง เวรเอ๊ย! ความจำกูยิ่งยอดแย่อยู่ ท่องไม่ทันแน่ ” 




               “ รู้แล้วเว้ย! มึงจะย้ำเวลาทำเตี่ยไร! ” ผมหันไปหยิบเป้ตัวเองแล้วหยิบโน๊ตบุ๊คออกมาเปิดเตรียมดูเนื้อหา แล้วจะรีบเขียนสคริปต์แล้วรีบท่อง ขืนให้พูดสดยังผ่านยากชัวร์ ใครมันจะไปจำได้หมดวะ ว่าหน้าต่างย่อส่วนเท่าไร ประตูกี่บาน แล้วสูงเท่าไร ใครมันจะไปทำได้วะ




                ไอ้ไผ่ก็กุลีกุจอหยิบข้อมูลอื่นๆ หยิบกระดาษเปล่ามาเตรียมเขียน แต่...




                “ โย่วววววววว ”




                เสียงอารมณ์ดีผิดกับจังหวะอารมณ์ของผมกับไผ่สุดๆโผล่มาหน้าระรื่นพร้อมกระดาษแปลนเต้มมือ “ ทำไรกันอยู่วะ หน้าเคร่งเครียดเชียว ”




                “ ไอ้เชี่ยอุ่นมันลืมเขียนสคริปต์อ่ะดิ! ” อ้าว เพื่อนชั่ว มึงโบยมาแบบนี้เลยเหรอวะ!




               “ มึงต่างหากที่ต้องเขียน! ”




                “ มึง! ”




                 “ มึง! ”




               “ น่าๆ อย่าเพิ่งตีกัน ”




                ไอ้คิมมันอารมณ์ดีอยู่แล้วเลยทำทีสบายๆห้ามทัพอย่างไม่ร้อนใจนัก




               “ เนี่ย...พอดีเลยๆ ให้คนนี้เขียนให้ดิ จากนิเทศเลยนะ กูเจอเมื่อกี้อ่ะ เพื่อนมึงไม่ใช่เหรออุ่น ตามหามึงทั่วคณะเลย ”




 

                ห่ะ?




               อะไรนะ




                 นิเทศ...




 

                หันคอเอี้ยวตัวไปด้านหลัง “ ไอ้วิน!!! ”




                “ คิดถึงเค้าเปล่า ” หน้าตอแหลทะเล้นมีคนเดียวเท่านั้น “ หนีเค้ามา เค้าเสียใจนะตัว ”




                 “ คิดถึงพ่อมึงสิ ไปไกลๆ! จะทำงาน! ” อะไรใกล้มือเตรียมขวางเลย แต่ดันมีไอ้คิมห้ามเอาตัวหมีควายของมันบังไอ้วินซะเกือบมิด




                “ หยุดๆๆ ไอ้อุ่น มึงหยู้ดดดดด เดี๋ยวไม่มีคนเขียนสคริปต์ให้เว้ย! ”




                มือชะงัก... จริงสิ... ไอ้วินมันเรียนนิเทศอย่างน้อยมันก็ต้องเขียนบทเขียนเรื่องได้บ้างล่ะว่ะ!




               “ เออ งั้นกูหยุด ” ผมวางปากกาสีในมือลงแล้วยักคิ้วให้ไอ้วิน “ มึงมาเขียนสคริปต์ให้กูดิ๊ ”




               เครื่องหมายคำถามปรากฏบนหน้าของไอ้วินทันที ไอ้คิมก็ได้แต่กลั้วหัวเราะอย่างขำๆ ชินกับท่าทางของคนอื่นที่เจอผมอารมณ์ขึ้นๆลงๆแล้ว




                “ มีรางวัลปะ! ” หูหางตั้งมาเลยมึง ถลาตัวมาตรงหน้าผมท่ามกลางความสงสัยและเสือกของเพื่อนทั้งสอง




                ผมพยักหน้าและ...




ผัวะ!






“นี่ไง รางวัล ”




“ ตบหัว เดี๋ยวก็จูบเลยนี่! ” ไอ้วินเบ้ปากแล้วคลำหัวตัวเองด้วยหน้าเซ็งๆก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ไผ่ที่จ้องหน้าไม่หยุด จ้องจนจะทะลุแล้วนั่น “ น้องมีปัญหากับหน้าพี่ปะครับ ”




“ ก็...กำลังสงสัย ” ไผ่ครางงึมงำแล้วเหลือบซ้ายมองบนเหล่ขวาอย่างใช้ความคิด “ นี่ใช่พี่วิน รองเดือนมหาลัยปีสามป่ะ!! ”





“ อ่า... ครับ ” มันยิ้มตอบนิดๆ




รองเดือนมหาลัย... ถึงว่าทำไมเบ้าหน้ามันถึงหล่อลากกระชากไตขนาดนี้ ส่วนไอ้เดือนมหาลัยปีสามเหรอ... ได้ข่าวว่าเป็นคนคณะอักษร เป็นคณะที่คาดไม่ถึงจริงๆ...




“ พี่แม่งอย่างหล่ออ่ะ หล่อกว่าปีที่แล้วอีก ผมจำแทบไม่ได้เลย ” ไอ้ไผ่ทำหน้าระริกระรี้ “ ผมชื่อไผ่นะพี่ พี่แม่งโคตรเจ๋ง เต้นบีบอยโชว์อ่ะ ถามจริง พี่เรียนจากไหนวะ! ”




“ เฮียพี่เป็นคนสอนน่ะ ตอนนี้ก็เป็นครูออกแบบท่าเต้นให้กับพวกศิลปิน อยู่ต่างประเทศน่ะ ”




“ เจ๋งโคตร! ”




ไอ้คิมเดินมาผลักหันคนพูดมากทีหนึ่ง “ มึงอย่าเพิ่งชวนพี่เขาคุยดิ ให้เขาเขียนสคริปต์ให้พวกเราก่อน ” หันไปหาวิน “ พี่คร้าบ รบกวนหน่อยนะคร้าบ ”




“ ตามที่ตกลง โอเคมั้ย ” ไอ้พี่วินหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ไอ้คิมก่อนมันจะพยักหน้าตกลง... ตกลงอะไรกันวะ




“ ได้ตามที่ขอคร้าบ ”




ไอ้วินยิ้มพอใจยิ่งก่อนจะหันมาคุยกับผม “ ไหนๆ ให้เค้าช่วยตรงไหนครัชฮันนี่ ”




“ ฮันนี่พ่อง เลิกเล่นได้แล้ว กูจริงจัง ” ไม่อยากจะไว้ใจไอ้ท่าทางเล่นๆของมันเลยจริงๆ




ไอ้วินเอียงคอมายิ้มหล่อกระแทกเรตินาก่อนจะพูดอะไรให้ชวนอ้วก...“ พี่ก็จริงจังน่ะครับ ไม่ได้เล่นๆกับเราสักหน่อย ”







กูหมายถึงงาน มึงมองงานดี๊!




มองหน้ากูทำไม!




 


ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบทันที... ผมมองหน้ามันเอือมๆแล้วถอนหายใจเบือนหน้าไปอีกทาง บ้าบอชะมัด




“ มึงคิดเหมือนกูมั้ย ไอ้คิม ” เสียงไอ้ไผ่กระซิบที่โคตรจะดังลั่นห้อง




“ เออ กูก็คิดแบบมึงนั่นแหละ ” ไอ้คิมยิ้มล้อๆมองผมกับไอ้วินสลับกัน พอผมจ้องหน้าเหี้ยมกลับมันก็ทำเป็นมองนกมองไม้ไม่รู้ไม่ชี้...“ วันนี้อากาศดีจังเนอะ ไอ้ไผ่ ”




“ อืม วันนี้กูกินข้าวผัดกะเพรามา โคตรอร่อยเลย ”




จะเนียนก็ขอให้ตกลงกันก่อนนะ...




              ปากอ้าจะด่าใส่แต่ความอุ่นร้อนกลับวางลงบนฝ่ามือผมให้หันไปสนใจ...




“ ทำงานเถอะ เดี๋ยวจะช้าไปใหญ่ ” เสียงทุ้มของไอ้วินว่าก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากดึงมือตัวเองที่วางบนมือผมไปหยิบปากกาสีกับกระดาษมาเตรียมเขียน




ผมเลยเบนความสนใจมาที่คอมแล้วเปิดแผ่นสไลด์ให้มันดู อธิบายคร่าวๆแล้วหยิบข้อมูลในมือของไอ้ไผ่มาให้มันดู จากตอนแรกที่มันทำหน้าทะเล้นก็ค่อยๆหุบยิ้มแล้วแววตาก็จริงจังขึ้น... ผมอธิบายไปพลางแอบมองตามันไปด้วยโดยที่ไม่รู้ตัวสักนิด...




“ อ่าฮะ พี่จะเขียนให้ดูกระชับแล้วกัน เพราะข้อมูลเราค่อนข้างเยอะ ” วินว่าแต่ยังคงก้มหน้าก้มตาเขียนไม่หยุด เงยหน้าขึ้นโยกหัวเหมือนให้ผมหลบทางเพราะมันจะใช้คอม ผมทำตามมันอย่างว่าง่าย ลุกจากพื้นไปนั่งที่โซฟาที่มีไอ้เพื่อนสองตัวนั่งอยู่มองดูไอ้วินไม่กะพริบ...




“ มึง พี่เขาจีบมึงเหรอวะ ” ไอ้ไผ่ทำหน้าเสือก พูดเสียงเบา “ กูเห็นซัมติงในเฟส หวานเว่อร์ ”




ผมพยักหน้า “ เออ ”




ไอ้เพื่อนสองคนมันจิ๊ปากทำเสียงฮึดฮัดขัดใจ “ มึงนี่มัน! ปฏิเสธให้พวกกูตามเสือกหน่อยเถอะ เล่นบอกงี้ อารมณ์เสือกกูก็หมดพอดี ”




“ แล้วมึงคิดไงยอมให้เขาจีบ ” ไอ้คิมถามต่อ




ผมนิ่งคิดก่อนจะแสยะยิ้ม “ ก็ไม่ไง มีคนคอยมาให้จิกใช้ กูก็สบาย ”




“ ตามใจมึงเลยครับ ” ไผ่ล้วงหยิบจูปาจุ๊บอีกอันขึ้นมาแกะกิน “ เออ พ่อคนอาร์ตแล้วตกลงว่าไง ทริปเพชรบูรณ์ เอาไง ”







“ ปั่นจักรยาน ”










“ ปั่นจักรยาน!!! ”สองเพื่อนเบิกตาโพล่งอย่างตกใจ




                “ เออ ทำไม ” ผมเลิกคิ้วอย่างงงๆ มันแปลกตรงไหนวะ ปั่นจักรยานจากกรุงเทพไปเพชรบูรณ์ ชิวๆ ลดโลกร้อนประหยัดน้ำมันครับ




                “ มึงบ้าเปล่า ใครจะไปปั่นกับมึง! ”




                 “ มีเว้ย ” แย้งครับ ทริปปั่นจักรยานครั้งใหญ่ใครว่าผมเป็นคนคิด “ พี่ไทม์เป็นคนคิด แล้วเฮียปายก็เห็นด้วย ”




               “ สายรหัสมึงมีใครปกติบ้าง ไอ้เหี้ย! ” ไอ้ไผ่ปาก้านจูปาจุ๊บใส่ผมอย่างหงุดหงิด ดีนะ หลบทัน “ กูไม่ไปแล้วเว้ย! ”




                “ ไม่ได้! มึงต้องไป ” ไอ้คิมที่แบกรับชะตาเดียวกันก็ไม่ยอม “ ชวนพี่เขาไปมั้ย ” พยักเพยิดไปทางไปไอ้วินที่ยังคงนั่งคร่ำเคร่งเขียนสคริปต์อยู่




                “ ไม่รู้จะชวนทำไม ไม่ได้สนิท ” หน้าตายครับ




                 “ ว่าที่ผัวมึงเลยนะ คนใจกล้าบ้าบิ่นมาจีบมึงนี่กูสนับสนุน เพราะงั้นกูชวนเอง! ” ไอ้ไผ่แลจะปลื้มไอ้วินซะเหลือเกินนะ ถลาร่างไปหาทันทีแล้วก็พูดๆๆ




                ไอ้วินเงยหน้ามามองผมหน่อยแล้วพยักหน้าตอบไป แล้วก้มขีดๆเขียนๆลงบนกระดาษอีกหน่อยเป็นอันเสร็จ




               “ เสร็จแล้ว ” พี่มันเดินมายื่นกระดาษมาให้พวกผมคนละใบ ซึ่งแน่นเอี๊ยดไปด้วยเนื้อหา




                “ ขอบใจ ”




                 ผมตอบรับห้วนๆรีบรับมาอ่านทันทีมือกร้านนิดๆเสยผมที่บังหน้าบังตาขึ้นและมันก็ตกลงมาอีก ปกติผมจะใช้ยางรัดแต่วันนี้รีบเลยไม่มีติดตัวมาสักเส้น




                “ เดี๋ยวพวกกูไปซื้อน้ำก่อนนะ มึงนมเย็นปั่นเหมือนเดิมใช่ปะ โอเค ” ไอ้คิมรวบรัดเสร็จก็คว้าต้นแขนไอ้ไผ่ลากออกจากห้องให้เหลือเพียงแค่ผมกับไอ้วินคนประสาทที่แปลงร่างมาเป็นคนทะเล้นตามเดิมแล้ว




                “  รางวัลอ่ะ ” ไอ้วินยกขึ้นมานั่งเบียดผมในโซฟาตัวเดียวกัน ซึ่งแม่งในห้องก็มีตั้งสามตัวมานั่งเบียดอะไรกับผม ห่ะ! “ จุ๊บข้างหนึ่งดิ เขียนสคริปต์ยากนะเฮ้ย ขอรางวัลชื่นใจหน่อยดิ ”




                ยื่นแก้มมาให้...







                เพี๊ยะ!




 

               “ ปัญญาอ่อน ” ผมว่าเบาๆน้ำเสียงระอาสุดๆตีแก้มข้างที่มันยื่นมาแรงๆไปทีนึง “ เยอะไปแหละเมีย ”




                 “ บอกว่าผัวไงครับ ” ไอ้วินว่าเสียงขุ่นมัวแล้วยื่นหน้ามาแทบชิด “ เมียนี่ความจำไม่ดีเลยจริงๆ เดี๋ยวผัวทบทวนให้มั้ย ”




                แล้วนิ้วยาวๆของมันก็มาทำปูไต่กับแขนผมที่ทำเอาขนลุกขนพองสยอง มือหยาบนิดๆของผมโบกหัวมันไปทีก่อนจะลุกขึ้นหนีไอ้ฉวยโอกาสมานั่งอีกโซฟา มันทำท่าจะตามมาแต่ผมยกเท้าเตรียมถีบมันเลยทรุดลงนั่งโซฟาตามเดิม...




                “ จะไปเพชรบูรณ์เหรอมึง ” ไอ้วินดูจะไม่อยากตายดี มารบกวนไม่เลิก




                “ เออ ” ผมก้มหน้าอ่านและท่องสคริปต์ในมือ “ ไปมั้ยมึง ”




                ไม่ได้ชวน แค่ถามเฉยๆ อย่าเข้าใจผิด




                “ เมียไป ผัวก็ต้องไปสิครับ ” มันยิ้มทะเล้นแล้วทำหน้าเพ้อ “ เหมือนเราไปซ้อมฮันนีมูนกันเลยที่รัก เค้าล่ะดีใจจนน้ำตาแทบไหล ” ทำหน้าทำตาซึ้งปาดน้ำตาหลอกๆแล้วอยากจะหัวเราะอยากจะยิ้มนิดๆ แต่ทำไงได้ ฟอร์มผมเยอะ หน้าตายตามเดิม




“ ฮันนีมูนบ้านป้าสิ ” หยิบหมอนอิงขว้างใส่มันแล้วขู่เสียงเข้ม “ อยู่เงียบๆไป กูจะอ่านสคริปต์ ”




และก็เงียบจริงๆ ไอ้วินทำตามที่ผมขอแต่โดยดีจนผมรู้สึกสบายใจขึ้นมานิดๆ ก้มหน้าอ่านไปเรื่อยๆพลางเสยผมที่ปรกหน้าขึ้นตลอดๆจนรำคาญ พอจะเสยครั้งที่ยี่สิบแปดก็มีมืออุ่นคู่เดิมวางลงบนหัวของผมเงียบๆแล้วรวบผมยาวๆขึ้นมัดเป็นจุกให้อย่างเบามือ...




สายตาเหม่อมองมันนิดๆก็เห็นมันยืนค้ำหัวยิ้มให้แล้วรู้สึกคันยิบๆในอก เลยเลือกที่จะเงียบแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านสคริปต์ต่อโดยที่ไม่พูดอะไร... แต่อ่านไปได้สองนาทีอะไรดลใจให้เงยหน้ามองไอ้วินที่นั่งข้างๆก็ไม่รู้




ไอ้วินกำลังนั่งนวดข้อมือขวาอยู่โดยที่สายตายังคงมองไปรอบๆห้องที่เต็มไปด้วยภาพวาดของพวกผมสามคน...




...มันไม่ใช่ตัวผมเลยสักนิด




“ หือ ” เสียงทุ้มครางตกใจนิดๆเพราะจู่ๆผมก็เอื้อมือไปดึงข้อมือมันมาเงียบๆ “ ทำอะไร ”




“ เงียบ ” ผมกดเสียงต่ำแล้วหยิบกระดาษเอสี่สคริปต์ให้มือซ้ายมันถือ “ ถือ จะอ่าน ”




ส่วนมือขวามันผมก็วางบนตักผมและเริ่มนวดให้มันเงียบๆ สายตาพยายามเพ่งเล็งที่ตัวอักษรยุกยิกแต่อ่านง่ายเพื่อหลบรอยยิ้มกริ่มที่ส่งมา...







คิดอะไรมาก




มันเคยนวดข้อเท้าให้ผม




ผมก็นวดข้อมือให้มัน




ถือว่า เจ๊ากัน ก็แค่นั้น!







แอบเหลือบเห็นมันยังคงยิ้มตาหยีจ้องผมไม่เลิก... ช่างแม่ง! จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ กูแม่ง...สตรอง กูสตรอง สตรองจนเพชรยังอาย ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้น







...แต่ก็เริ่มไม่แน่ใจแล้ว







ปากกูบอกสตรอง แต่ใจกูนี่เริ่มสั่นสตรองแล้ว




 


อย่าไปบอกมันนะ เดี๋ยวมันได้ใจ :(







 




ธาราขอตัวไปท่องสคริปต์เตรียมพรีเซ้นต์งานสักสามสี่ชั่วโมง




ต่อโพสล่างนะคะ
หัวข้อ: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [5/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 28-02-2016 20:08:51
ช่วง Facebook อัพเดท โดย กรกวินต์...




                Kornkavin :




                เขากำลังท่องสคริปต์ที่ผมเขียนให้ด้วยล่ะ :P


                และเป็น...ภาพของธาราผมมัดจุกกำลังนั่งอ่านสคริปเงียบๆ







                564 likes 134 comments...


                วินธารา Fc : ชูป้ายค่า!! สมัครเฟสใหม่เพื่อการนี้เลยค่ะ!


                Milky ways : รุ้สึกอกหัก T^T


                แตงโม ลีดนิเทศ : พี่วินนอกใจเค้าได้งายยยยยยยย


                นิก้า ดาวบริหาร : อ้าววิน แล้วเพื่อนเราล่ะ!


               Wayu Sirikunchai : มึงจะอวดพวกกูไปถึงไหน!! กูอิจฉา ฮือออออออ


                Fran Fran : หมั่นไส้ว่ะ


 


จบการอัพเดทสเตตัสอวดเมีย โดย กรกวินต์ เพียงเท่านี้




 





 ธาราขอเวนพื้นที่คืนหลังจากจบคลาสนำเสนอผลงาน...



                เด็กสถาปัตย์ในคลาสเดียวกับผมพาร่างแทบจะไร้วิญญาณออกมาจากห้องเรียนอย่างเหน็ดเหนื่อยกับคำติที่จี้แทบจะตายกันไปข้าง มีหลายกลุ่มที่ต้องปรับแก้หลายอย่าง แต่โชคดีที่กลุ่มของผม...ผ่าน ผ่านอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ แถมยังได้รับคำชมอีกว่ารอบนี้พรีเซ้นต์ดี พูดครบทุกอย่างที่ต้องพูด ไม่ยืดยาวเป็นน้ำเหมือนรอบก่อนๆ... ถือเป็นความดีความชอบของใครบางคนแถวนี้...


           “ กรี๊ด! นั่นพี่วินรองเดือนมหาลัยนี่! มารอใครวะ! ”


            “ มาหาพี่วาฬชัวร์ ”


            “ เออ ก็เขาเพื่อนกันนี่ มาหาก็ไม่แปลก


            “ แต่นี่มันหน้าห้องปีสองนะ ไม่ใช่ปีสาม ”


            “ แล้วเขามารอใคร ”


                เสียงมากมายล้วนแต่มีความเจือกเรื่องไอ้พี่วิน นี่ไม่ได้หึงนะ ไม่ได้รู้สึกอะไรแค่รำคาญ อยากรู้ว่ามันรอใครก็... พอเท้าผมออกจากประตูห้องแสงด้านนอกกระทบหัวให้มองเห็นว่าเป็นใคร ไอ้พี่วินก็เดินแหวกฝูงมวลชนตรงมาหาผมทันที







                “ น้ำมั้ย ” ผมมองน้ำอัดลมในมือมันแล้วรับมา เปิดกระดกดับความกระหายทันที ก็หิวไง สามชั่วโมงนั่งเหน็บแดก น้ำไม่ได้แตะเลย “ พี่ซื้อมาเผื่อเราสองคนด้วย ” มันส่งให้กับไอ้ไผ่ไอ้คิมด้วย




                “ ขอบคุณครับ ” ไอ้ไผ่รับไป “ ไปหาไรกินมั้ยพวกมึง กูแม่งโคตรหิวเลย ”




                “ ไปๆ ” ไอ้คิมออกตัวคนแรก “ พี่วินก็ไปด้วยกันสิครับ ”




                “ แต่กูไม่ไปนะ จะนอน ” ผมแทรกขึ้นมาเฉยๆ เผลอยกมือขยี้ตาด้วยความเคยชินเวลาง่วงๆ “ พวกมึงไปกันเถอะ ”




                ไอ้สองตัวนั่นพยักหน้าแล้วหันไปทางคนหล่อที่ยืนอยู่ “ แล้วพี่เอาไงครับ ”




                “ จะเอาไงล่ะน้อง คงต้องไปส่งคนนี้ ” ว่าไม่พร้อมยกแขนเกี่ยวคอผมไปอีก เป็นผู้ชายขอหวงตัวได้มั้ย รู้สึกอยู่กับมันจะเปลืองตัวเสียเหลือเกิน “ เดี๋ยวพาไปหาอะไรกินง่ายๆแถวมอก่อนแล้วกลับห้อง โอเคมั้ย ”




                “ เออ ตามใจมึง ”







                ผมว่าไปอย่างไม่สนใจสายตาของไอ้เพื่อนร่วมคณะนับร้อยที่จ้องมาไม่หยุด....




                 “ เดี๋ยวค่อยคุยเรื่องทริปแล้วกัน ” ไอ้คิมว่าก่อนจะคล้องแขนไอ้ไผ่อย่างเนียนๆ “ ปะ ที่รัก เราไปหาข้าวกินกันเต๊อะ ปล่อยคู่นี้ไปสวีทกันได้แหละ ”




                “ ได้สิค่ะ ป๋าคิม เลี้ยงน้องไผ่ด้วยนะคะมื้อนี้ ”




                “ ได้ครับ อีหนูของป๋า แต่ป๋าต้องไปรับเมียหลวงก่อนด้วยนะครับ ”




                 “ เชิญค่ะป๋า อย่าให้เมียป๋ามาตบหนูก็พอค่ะ ”




               “ ป๋าไม่ยอมให้ใครมาทำอีหนูแสนจะน่ารักคนนี้ได้หรอกครับ ” จุ๊บเหม่งไปทีหนึ่ง จากนั้นพวกมันก็หัวเราะกันเอง 




                 หวานกันจริงๆ...




รับมุขกันดีซะเหลือเกิน ถ้าได้กันขึ้นมาจริงๆ จะไม่สงสัยเลย... และคู่เพื่อนรักพิสดารสองตัวก็ควงแขนสวีทกันออกไปเหลือแต่ผมกับไอ้วินหน้าตี๋...




                ไอ้วินมองตามคู่นั่นไปแล้วหันมามองผม...




                “ งั้นที่รัก เราไปหาข้าวกินกันเถอะครับ ” ควงแขนตามเอาหัวมาคลอเคลียกับไหล่ผม... “ หรือที่รักไม่อยากกินข้าว กินเค้าก็ได้นะ ”




                 มองมันเล็กน้อย... คลี่ยิ้มให้...




                ผัวะ!




                 “ ที่รักพ่อง เก็บไว้เรียกเมียมึงนู้น! ไป หิวข้าว! ”




 




               


                เนี่ย...หวานเหมือนกัน... แต่หวานแบบสไตล์ธารานะครับ




 




 




 




 




                กว่าซื้อข้าวเสร็จก็ล่อซะเย็น คนแม่งอย่างเยอะ สรุปต้องใส่ห่อมากินที่หอ ยังไม่พอ... ไอ้วินพาผมไปซื้อขนมหวานต่ออีก แถมยังแวะเซเว่นซื้อขนมมาอีกเป็นลัง




                ตอนนี้ผมมาถึงหอแล้ว กำลังเดินขึ้น... แล้วผมจำเป็นต้องบอกทุกฝีก้าวชีวิตมั้ยเนี่ย




                “ เออ อุ่น ” เรียกขึ้นทำลายความเงียบ




 

               “ กูบอกให้เรียกธารา ”




                 “ เออๆ ธาราก็ธารา ” ไอ้วินทำหน้าเซ็งหงิกนิดๆ “ ไปทริปนี่จะไปวันไหน ”




                 “ อีกสองวัน ” ผมตอบ “ อาทิตย์หน้ามหาลัยหยุดไง ก็เลยหาอะไรแก้เบื่อหน่อย ”




                “ จะปั่นจักรยานไป นี่มันจริงดิ ”




                “ ไปถามพี่ปายนู้นไป คนคิดคือมันไม่ใช่กู ”ตอบปัดๆไปอย่างรำคาญ “ มึงจะไป เอาจริง? ไหวเหรอ ”




                “ ก็กูว่าง แถมยังหนุ่มยัง...อึดนะ ” ยักคิ้วให้สามจึก กวนส้นตีนตลอดไอ้นี่ คำพูดคำจอนี่ส่อตลอด แล้วเหมือนมันจะนึกอะไรได้ “ วันนี้ทำงานปะ ”




                “ ทำ ” ผมถอนหายใจขณะก้าวขึ้นไปยังชั้นของห้องผม “ กูไม่ได้ว่างลอยไปลอยมาแบบใครบางคนแถวนี้ ”




               ไอ้วินส่ายหน้ามองสอดส่องไปทั่วบริเวณ “ ใครวะ ชีวิตแม่งไร้แก่นสารและว่างจัดจริงๆ ”




                 “ มึงนั่นแหละ ไม่ต้องมองใครเลยมึง ” เหนื่อยใจกับมันจริงๆ




                “ ชะอุ๊ย ไม่เห็นจะรู้ตัวเลยยย ” หน้าตอแหลจนน่าถีบให้หน้าช้ำอีกสักแผลสองแผล “ ทำงานถึงดึกใช่มั้ย ”




                “ เออ ทำไม ” ผมถามก่อนจะหยิบกุญแจมาไขประตูห้อง




               มันยิ้มเจ้าเล่ห์ตาเป็นประกาย “ จะได้มานอนห้องเราไง เดี๋ยวอยู่เป็นเพื่อน ”




 




                   พลั่ก ตุ้บ!!




 




            ผมเบิกตาโตอย่างตกใจเมื่อจู่ๆร่างของไอ้วินที่กำลังยืนทำหน้าทะเล้นลงไปนอนวัดพื้นอย่างรวดเร็วจนผมตั้งตัวไม่ทันข้าวของกระจัดกระจายหมด... ผมตวัดตาขุ่นมองดูไอ้คนทำ... ก็เจอเข้ากับหน้ายักษ์ๆของไอ้ห่าลมดินไฟ...




                “ จะนอนกับน้องกูเหรอ... ” ว่าที่หมอกดเสียงเข้มและมันยังคงอยู่ในชุดกาวน์ ดูจากลักษณะมันคงเพิ่งออกจากห้องเรียนแล้วตรงดิ่งมานี่




                 “ รออีกสิบชาติเถอะมึง ” เสียงหอบแฮ่กเป็นหมาหอบแดดของไอ้น้องไฟว่าที่ผู้พิพากษาแต่ก็ยังพยายามข่มให้มันเหี้ยมใบหน้าโครงหล่อยังคงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ




                “ ฝันอยู่เหรอ กูช่วยกระทืบมั้ย จะได้ตื่น ”




               ไอ้ลมนี่มาพร้อมไม้สามหน้าที่ดูแล้วมันคงคว้ามาจากห้องช้อปของมัน... ทั้งสามมองหน้าไอ้วินที่ซีดเผือกไปแล้วด้วยแววตาจะกินเลือดกินเนื้อก่อนจะพร้อมอย่างพร้อมเพรียง




                “ น้องข้า/พี่ข้า ใครอย่าแตะ!!! ”







                “ เฮ้ย!! ”




                ไอ้วินร้องเสียงหลงยกมือขึ้นหวังจะกันหน้าหล่อๆจากฝ่าพระบาทของหมาบ้าสามตัว ที่ทำท่าจะเข้ามารุมตีน... ผมถอนหายใจนิดๆก่อนจะรีบเข้าไปแทรกคั่นกลาง สามศรีหมาบ้าที่ไม่ได้ฉีดยาชะงัก...




                 “ หลบไปอุ่น มันรังแกเรานะ ” ดิน




                “ พี่อุ่น มันแอบถ่ายคลิปแบล็คเมล์พี่ใช่มั้ย พี่ถึงไม่ยอมพูดอะไร ” ไฟ ...ไอ้นี่ก็มโนไปซะไกล




                “ มันบังคับขืนใจเรา พี่จะยอมได้ไง ” ลม




 




                มโนซะขนาดนี้ ไปเขียนนิยายกันมั้ย




 




                “ หยุดได้ยัง ” กอดอกมองหน้าเรียงตัว




                “ ห่ะ ”




               “ หยุดบ้าได้ยัง จะไสหัวไปไหนก็ไปก่อนที่กูจะโกรธไปมากกว่านี้ ” ผมพยายามคุมเสียงไม่ใส่สั่นไปมากกว่านี้ ตอนนี้ผมกำลังโกรธและโมโหสุดๆ




                 “ นี่...นี่.. อุ่นโกรธพี่เพราะมันเหรอ! ” ดินชี้หน้าไอ้วินด้วยสีหน้าเจ็บปวดปานจะตายวันนี้พรุ่งนี้




                 “ กูรำคาญมึง หุบปากไป ไสหัวมึงไปนั่งท่องโรคตรวจโรคคนไข้ไป! ”




                “ T^T ”




                 “ พี่อุ่นไม่รักผมแล้วเหรอ พี่..ฮึก ” ไฟนี่ทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียว ส่งแววตาตัดพ้อให้อีก “ พี่เห็นคนอื่นดีกว่าผม ฮือ ”




                  “ หยุดตอแหล ส่วนมึงไสหัวไปท่องรัฐธรรมนูธไป ”




                “ TOT ”




                 “ ที่อุ่นโกรธก็เพราะไอ้ผู้ชายคนนี้เหรอ เพราะ... ” ไอ้ลมก็ดราม่าชวนปวดตับอีกคน...




                ผมถอนหายใจเพื่อจะระบายความหงุดหงิดแต่มันกลับปรี๊ดขึ้นหัวกว่าเดิมจน...




                “ อุ่น... ” สามศรีหมาบ้าเรียกอย่างพร้อมเพรียง




                “ เว้ย!!! จะเรียกหาอาม่ากันรึไงวะ!! ” เสียงตะคอกของผมทำเอาทุกชีวิตเงียบกริบทันที “ อยากรู้นักใช่มั้ย กูโกรธเหี้ยอะไร! ”




                “มัน T_T ” ชี้ไปที่ไอ้วิน




                 “ เหรอ!” ผมชี้ไปทางกล่องข้าวที่หกกระจัดกระจาย “ มึงดูดิ!! ”


 


                “ เอ่อ... ”




                “ พวกมึงทำข้าวกูหก! และกูก็หิวมาก! แล้วตอนนี้กูจะแดกเหี้ยอะไร! ” ผมย่างสามขุมไปแทบจะแดกหัวพี่น้องๆตัวเองอยู่รอมร่อซึ่งตัวพวกมันก็เริ่มสั่นๆทำหน้าจวนจะร้องไห้แล้ว




                “ คะ คือขอโทษ ” ลมว่าตะกุกตะกัก




                “ ขอโทษแล้วมันหายหิวมั้ย!! ” ผมตวาดใส่เสียงดังจนมันต้องหลับตาแน่นกันทุกคน “ พวกมึงไปซื้อข้าวมาให้กูใหม่เลย เอาที่กูชอบ ถ้าซื้อมาไม่ใช่ที่กูชอบ จะเอาราดหัวพวกมึง!! ”




                “ ระ รับทราบ ” สามหน่อว่าเสียงสั่น




                “ รอกูหายหิวก่อนรึไง ไปสิวะ!! ”




                ไม่ต้องรอให้ผมตวาดอีก สามหมาก็รีบวิ่งหางจุกตูดออกไป ผมถอนหายใจระบายความโมโหออกไป... แล้วหันมามองตัวประกอบผู้น่าสงสาร เจ็บแม่งทั้งวัน




                “ เจ็บมั้ยมึง ” ปากผมถาม แต่ตากับมือและตัวผมกลับไปยุ่งวุ่นวายเก็บขนมจากเซเว่นใส่ถุงตามเดิม...







อย่าคิดว่าจะห่วงมัน




 


                กูห่วงขนมครับ







                “ มึงทำซะกูซึ้งใจจริงๆ ไอ้ธารา ” เสียงทุ้มว่าขำๆพยุงตัวเองลุกขึ้น และจับๆแถวบั้นเอวที่โดนถีบ “ เมื่อเช้าก็โดนต่อย เย็นก็โดนถีบ คืนนี้กูจะโดนฆ่ามั้ย ”




                “ นอนห้องกูไม่ใช่รึไง ใครมันจะกล้าฆ่ามึง ” ผมว่าไปตามจริงแต่กลับมาคิดอีกที เหมือนกูเชิญชวนมันซะมากกว่า




                “ อุ๊ย อุ่นชวนพี่นอนห้อง เขินจัง ”




                “ ประสาท เจ็บแล้วยังไม่เจียม ”




                “ เจ็บแล้วก็มีคนห่วง แบบนี้ยอมมม ” ลากเสียงยาวจนน่ากระโดดถีบ




มองดูไอ้ตี๋หน้าหล่อยืนสะดีดสะดิ้งแล้วเผลอหลุดยิ้มส่ายหน้าแล้วหันมาเก็บขนมใส่ถุง ส่วนข้าวก็ไม่ได้แดกแล้วก็เก็บใส่ถุงดีๆเดินเอาไปทิ้งตรงถังขยะที่อยู่ไม่ไกล...




                “ แล้วหิวมากเปล่า ห้องมีของกินหนักๆอยู่ กินก่อนมั้ย ” ไอ้พี่วินถามก่อนที่ผมจะเดินเข้าห้อง




                ผมมองหน้ามันแล้วครุ่นคิด อืม...ถ้ารอไอ้สามคนนั้นก็คงสามชั่วโมงได้กว่าจะได้กิน มองบนนิดนึงมองล่างต่ออย่างคิดหนัก




                “ น้องครับพี่ไม่ได้จะพาไปปล้ำนะครับ ไม่ต้องคิดนานครับ ”




                “ กับมึงคิดสั้นๆไม่ได้หรอก ”




                “ งั้นก็คิดยาวๆ เผื่ออนาคตของเราด้วยเลยนะ ”




             “!!!”




                “ ไม่ต้องคิดแล้ว ไปห้องพี่กัน ”




                พูดอย่างเดียวไม่พอ ถือวิสาสะจับมือผมไปด้วยอีก แถมยังปิดประตูห้องให้ด้วย อือหือ ...เนียนเนอะมึง ผมปล่อยให้มันลากไปแล้วรู้สึกกังวลนิดๆ... รู้สึกเหมือนในอกมันค่อนข้างจะขยับแรงขึ้น เหลือบมองดูมือที่จับแล้วก็คิด...




ไอ้วินมันจะรู้สึกมั้ย...




แต่ผมรู้สึกนะ




               




               




               


 




            ร้อน!!




 




               




 




ธาราคืนพื้นที่ไปหาอะไรกินก่อน...

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

******************************

 

เย้ เย้ มาเเล้ววววววววว

ใครรออยู่บ้างคะ ชูมือหน่อยยย >< 

ข่าวดี คือ พิมสอบเสร็จเเล้วววววววว

ปิดเทอมเเล้ว จะอัพอย่างต่อเนื่องนะคะ

ขอบคุณทุกคอมเม้นน่าาาา   :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-02-2016 23:43:21
น้ำอุ่น เริ่มหวั่นไหวกะพี่วินแล้วดิ ช่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 29-02-2016 01:07:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 29-02-2016 03:12:43
สนุกอ้ะะะะ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 29-02-2016 19:50:45
ฮาพี่ปายคนอินดี้ 5555555
คิมกับไผ่นี่ยังไงๆ

ตอนนี้ทั้งฮาทั้งน่ารัก สงสารก็แต่สามหมา ขำก็ขำ 55555555

 :pig4: :katai3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 29-02-2016 20:54:40
ยังน่ารักกันเหมือนเดิม 556
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 29-02-2016 21:16:31
เย้ๆๆๆๆ ชูมือ โบกมือ
รีบไปอ่านก่อนล่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 29-02-2016 21:28:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 29-02-2016 22:11:47
อุ่นจ้า อุ่นเริ่มเอียงแล้วน่ะ อิอิ วินบุกเยอะๆๆเลย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-02-2016 22:30:17
ตอนเด็กธาราต้องตัวเล็กหน้าตาน่ารักมากๆแน่เลย พี่ๆกับน้องถึงหวงนัก
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-03-2016 13:28:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 01-03-2016 17:45:37
เห็นไผ่กับคิมสวีทกันนี่ก็แอบอย่าให้มันได้กันจริงๆ 5555+ :laugh:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-03-2016 12:38:19
จะรอดจากสามพี่น้องไหมเนี่ย กลัวจะช้ำไปทั้งร่างก่อนน่ะสิ ^^"
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: คุณข้าวทอด ที่ 02-03-2016 16:54:08
โหยย พี่วินคนดีคนจริงวะ5555 ชอบพี่วินมากค่ะ เราไม่มั่นไส้เขาเลยนะ ตั้งแต่อ่านนิยายมาเชียร์พระเอกเรื่องนี้สุดใจ5555 น้ำอุ่นรีบใจอ่อนหน่อยนะะ บางทีเราก็สงสารพี่วินที่โดนกระทำ มีมุมคนหล่อขอดราม่าบ้างไหมคะ? เห็นคนหล่อขำกับทุกสถานการณ์เลยแหะ5555 ถ้าดราม่าขึ้นมาน้องอุ่นต้องดูแลแล้วหละ น่อวว 555555
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 02-03-2016 20:29:34
คือบับ 55555555555 ชอบ คือฮา คือสงสารวิน ช้ำทั้งตัว 555555 ลั่นตรงพี่ปาย  :hao7: ปกติมากค่ะเฮีย แอบจิกหมอนกับความน่ารักแบบโหดๆของอุ่น

รอตอนต่อปายยย ปักที่นอนรอ :katai3: :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-03-2016 19:25:30
กว่าจะได้อุ่นเป็นแฟนพี่วินคงน่วม
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 5 หน้า 3 [28/2/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: jillongame ที่ 04-03-2016 22:04:00
 :pig4: ชอบจัง ว่าแต่เชียร์วิน ให้ได้กด น้ำอุ่นดีหรือ ให้น้ำอุ่นกดดี อิอิ ว่าแต่อีกนานม่าว่าจะปะกันอิอิอิ ไม่หื่นเนอะไม่หื่นอิอิ  :hao3:  :hao3:
หัวข้อ: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [11/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-03-2016 10:07:08



นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 6

ตอน วุ่นวายยกกำลังสี่



By เดือนพราย




            อะ... ซี๊ด



                อ่า... อ๊า




                ซี๊ด... อะ ไอ้ วิน หยุดก่อน ซี๊ด



                หือ? ว่าไง ซี๊ดด ก็เราเสร็จก่อน พี่ยังไม่เสร็จ



                แฮ่ก...วะ วิน กู... แต่ กะ กู

 




                “ แต่กูเผ็ด!! ”


                น้ำตาแทบจะร่วงมาเป็นเม็ดที่สิบได้แล้ว มือยังขึ้นพัดลมเข้าปากไปด้วยเผื่อมันจะชวนให้หายเผ็ดขึ้นมาบ้าง

                “ มึงหยุดแดกก่อนดิว่ะ ” เอื้อมมือไปจับข้อมือมันให้หยุดตักข้าว

                สะบัดออกอย่างเร็ว “ ไม่! รอกูกินเสร็จก่อนค่อยกิน เข้าใจ๋? ”

                “ มันเผ็ด ไอ้สัด! ”

                ผมร้องลั่นอีกรอบพลางสูดปากแลบลิ้นด้วยความเผ็ดร้อนที่กระจายไปทั่วปากผิวหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดโต มองต้มยำชามโตที่แดงฉานราวกับไฟ มันใส่พริกกี่เม็ดวะ!!


                “ ถ้าอยากกินน้ำก็เดินไปเองสิครับ ถ้าจะให้กระผมหยิบให้ก็รอผมกินเสร็จ ” วินเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วให้พลางใช้ช้อนกลางตักน้ำต้มยำร้อนๆใส่จานตัวเองและกินต่อ “ อ่า ร้อน ”


                “ กูหิวน้ำ ” ผมว่าไปพลางแลบลิ้นออกมาด้วย มันเผ็ด!


                “ ก็ไปหยิบสิครับเมีย ”


                “ ไอ้วิน ไปหยิบมาให้กูหน่อย! กูขี้เกียจ ” ผมบอกอ้อมๆ ทั้งที่จริงๆคือผมไม่อยากจะเดินทำความรู้จักกับห้องมันสักเท่าไหร่ ถึงสัดส่วนห้องจะเหมือนผมก็เถอะ


                “ รอ ” มันยิ้มอารมณ์ดีพลางนั่งกินข้าวต่อหน้าตาเฉย


                “ นี่กูอ้อนมึงแล้วนะ ” ผมถอนหายใจอย่างเซ็งๆ เห็นหน้ามันที่กวนตีนแล้วอยากจะยกเท้าประทับหน้า


                ไอ้วินหรี่ตามองอย่างประเมิน “ แถวบ้านไหนเรียกว่าอ้อนวะ ”


                “ แถวบ้านกูนี่แหละ ”


                “ งั้นลุกไปหยิบเองเลยครับเมีย ผัวทำข้าวให้แล้ว แถมผัวยังโดนถีบอีก ลุกครับลุกดิ ” เสียงกวนประสาทพูดไปเรื่อยและไม่มีท่าทีจะลุกไปหยิบน้ำให้ผมเลยสักนิด



                ผมครางงึมงำในคออย่างขัดใจก่อนจะจำใจลุกขึ้นไปหาน้ำเย็นๆกิน แต่นั่นแหละสายตาก็ต้องมองไปรอบๆห้องมองดูรูปถ่ายนับร้อยถูกติดไปทั่วห้อง... ที่ไม่อยากเข้ามาก็คงเพราะผมไม่อยากรับรู้ตัวตนหรือทุกอย่างของมัน...

                สายตาเจ้ากรรมที่มันดีเกินไปดันสะดุดเข้ากับรูปใบหนึ่ง ไม่รอให้สมองสั่งการใดๆ ตรงไปดูให้แน่ใจเลยว่าในรูปนับร้อยนั่น มันมี...รูปของผมด้วยเช่นกัน




                รูปที่ผมกำลังยิ้มรับตอนได้แต้มนำคณะนิเทศในการแข่งบอลเมื่อไม่กี่วันก่อน...

                ผมมองดูนิ่งๆจะเอื้อมมือไปหยิบแต่เสียงข้างหลังก็ดังขึ้นก่อนเลยต้องชักมือกลับ


                “ เวลายิ้มออกจะดูดี ยิ้มบ่อยๆก็ดีนะ ”


                “ เสือก ”


                ร่างสูงเปรตหน้าตี๋เดินมายืนข้างๆผม “ ตอนนั้นมึงคงดีใจที่เตะเข้าใช่ปะ ”


                “ เสือก ”


                “ แล้วนี่มึงแข่งบอลต่อกับคณะไหน ”


                “ เสือก ”


                วินพยักหน้าขรึมๆ “ ขอบคุณนะ เมีย ได้มาตั้งสามเสือก เฮ้อ ”


                เบ้ปากใส่มันหันกลับไปมองดูรูปตัวเองอีกครั้ง “ ถ่ายสวยดีนะ ”




                แต่...ถ้าว่าไปกันตามความจริง




                “ มึงมันก็โรคจิตเกิน ” ผมส่ายหน้าแล้วรู้สึกหมดคำจะพูด “ ...เป็นเอามากเหรอ ”


                “ อืม เรื่องมึง...กูเป็นเอามากจริงๆ ”


                หันไปมองมันที่ยิ้มขมๆมาให้เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามไป “ คิดดีแล้วรึไงที่จะจีบกู ”


                “ คิด และจะไม่ใช่แค่คิด ” ใบหน้าทะเล้นดังเดิมหันมา “ จะจีบเลยต่างหาก รู้ตัวยังเนี่ยว่าจีบ ”


                “ ไม่รู้ กูก็ควายแหละ ” ผมเบะปากใส่แล้วหันกลับมามองรู้ตัวเอง “ แล้วมึงคิดยังไงกับโลกของกู โลกของกูมันไม่ได้ปกติเหมือนของมึงนะ ”


                “ ไม่ปกติมันก็ไม่เห็นเป็นไร ”


                “ ... ”


                “ สนุกดีออก ”


                “ ตามใจมึงเถอะ ”


                ...โลกของผม กรุณาดูไล่ทีละคน ไอ้ลมงี้ ไม่รู้มันจะบ้าไปถึงไหน ไอ้ดินงี้จะเอาสปาต้าหั่นคอคนเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไอ้ไฟเงี้ยจะดราม่าชวนปัญญาอ่อนเมื่อไหร่อีกก็ไม่อาจจะทราบล่วงหน้าได้ แถมไอ้เพื่อนทั้งสองก็ยังไม่ได้ถึงขั้นปกติดี ไอ้คิมเห็นปกตินั่นมันตอแหล! ส่วนไอ้ไผ่ก็รักษาเลือดเนื้อตัวเองสุดแต่งแม้วกะเหรี่ยงลงดอยได้เวลาไหนก็ใส่เวลานั้น ที่พีคสุดก็นู่นสายรหัสของผมไอ้พี่ไทม์ พี่รหัสโคตรจะหล่อแต่มัน...รอดูเองเถอะ ส่วนที่พีคสุดนู่น ไอ้เหี้ยพี่ปายเจ้าเก่าเจ้าเดิมคนปกติสุด...ผมประชด!




                แล้วยิ่งมันเจอพี่น้องผมไม่ชอบหน้าแล้วมันก็นะ...




                ไอ้วินยิ้มกริ่มและพูดต่อ “ รู้มั้ย คนเราน่ะ ถ้ามีอะไรที่เหมือนกันเกินไป มันก็เหมือนน้ำเต็มแก้วยิ่งเติมยิ่งล้น แล้วมันจะเติมเต็มกันได้ยังไง ”




                ผมเงยหน้ามองมัน “ คิดได้ไง ”




                “ จำมาจากบทละครปีที่แล้วหน้าที่สิบเจ็ดบรรทัดที่สิบ พระเอกพูดกับนางเอก และนางเอกเขินมาก ” หันมามองแล้วขยิบตาให้ “ มึงเขินปะ ”


                “ ไม่อ่ะ มุกนี้พ่อกูใช้จีบแม่ตั้งสี่สิบปีก่อนแหละ ” ผมกลั้วหัวเราะ “ โบราณณณณ ”


                เหวอเลยสิ “ มึงแม่ง... ”


                “ จีบกู ไปฝึกมาใหม่ไป ” ไหวไหล่สั่นๆเพราะกลั้นขำ


                หัวเราะร่าอย่างพอใจเมื่อทำมันหน้าเสียไปได้ หันตัวมาเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมาขวดดับความเผ็ดร้อนในปากที่น่าจะหายเผ็ดไปนานแล้ว หยิบส่งให้คุณเจ้าของห้องไปขวดหนึ่งแล้วเดินกลับมานั่งกินข้าวต่อ


                “ มึงมันน่าหงุดหงิดที่สุด ” ไอ้วินเดินตามมาหัวเสียใส่แล้วนั่งลงจวกข้าวต่อ


                “ เก็บไว้บอกตัวเองเถอะ ”


                “ งอนเป็นน่ะเฮ้ย! ” มันโยนช้อนส้อมลงจานเสียงดังเหมือนเป็นการประท้วง หยิบหมอนมากอดแน่นแล้วกอดมันไว้นั่งพองลมแก้มมองค้อนมาทางผม “ ไม่ให้กำลังใจแล้วยังจะมาตัดทอนกำลังใจกันอีก ”


                “ ขอให้จีบเหรอ ” ทำหน้ามึนๆใส่มัน “ ไปจีบคนอื่นสิ ”




                “ ชอบคนนี้ ต้องจีบคนนี้ดิ ”

 

               ผมสตั๊นนิ่งไปเลยกับประโยคเรียบๆไม่ได้ปรุงแต่งให้สวยหรู พยายามบังคับตัวเองอยู่นานไม่ให้ยิ้มออกมา แต่ไอ้วินก็ชะโงกหน้ามาเห็นจนได้

                “ แน่ะๆ เขินอ่ะเด้ ” หัวเราะอย่างภูมิใจ “ มุกนี้ผ่าน ”

                ผมเม้มปากนิดๆจะยกเท้าถีบมัน มันก็หลบทัน แล้วยังมีหน้ามาล้ออีก


                “ เบื่อจะเล่นกับมึงแล้ว ” หน้าบึ้งขึ้นนิดหน่อยเพราะถีบมันไม่โดน “ กูอิ่มแล้ว กลับห้องล่ะ ”


                มองดูนาฬิกาไปด้วยก็เห็นสมควรแล้วว่าควรจะเสด็จไปอาบน้ำและทำงานต่อ... ไอ้ตี๋มันเบะปากหนักกว่าเดิมถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ


                “ เมื่อกี้บอกงอนอยู่ เนียนไม่ง้อเลยนะ” มันสะดีดสะดิ้งใส่พลางบ่นงึมงำอยู่คนเดียว “ รอได้เป็นผัวก่อนนะ จะจิกใช้เช้ายันเย็นเลย วินค่ะ วินขาเล้ย”


                พอดีได้ยินไม่ถนัด “ มึงว่าไงนะ ”


                “ อ่อ บอกว่าให้ธาราไปก่อนเลย เดี๋ยวเค้าเก็บจานล้างจาน อาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวจะตามไปนะ อย่าเพิ่งคิดถึงนะแปบเดียวครับ จุ๊บๆนะ ธาราขา ” ส่งจูบให้อีก...





                แต่เมื่อกี้มัน...ไม่ได้ยาวขนาดนี้ไม่ใช่เหรอ




                ยกมือชี้หน้ามันไว้แค่นั้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหันหลังเปิดไปจะกลับห้องแต่ประตูกลับถูกกระชากออกซะก่อน



                แล้วก็เจอเข้ากับผู้ชายที่ตัวเตี้ยกว่าผมห้าเซน ใบหน้าเล็กขาวผ่องรับกับสีผมอ่อนของเจ้าตัว แววตากลมโตใสจ้องมาที่ผมอย่างงุนงง จมูกโด่งรั้นบ่งบอกความดื้อได้เป็นอย่างดี...


                “ พี่เป็นเพื่อนพี่วินเหรอ ”

                “ อือ ” ผมพยักหน้าแล้วมองกลับ “ เป็นแฟนวินเหรอ ”


                “ ห่ะ ” คนตัวเตี้ยกว่าเบิกตางงๆ อ้าปากพะงาบๆ


                   เสียงจากข้างในตะโกนออกมา “ ใครมาเหรอธารา!! ”


                ผมไม่ตอบได้แต่มองดูนิ่งๆร่างเล็กตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ มันล้างจานอยู่มั้ง เข้าไปสิ ”


                สองเท้ารีบพาเดินออกจากห้องทันทีโดยที่ไม่ฟังเสียงของใครอีกคน...ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าต้องพาตัวเองออกมาจากห้องไอ้เหี้ยวินให้เร็วที่สุด ก่อนที่จะรู้สึกไปมากกว่านี้


                “ เดี๋ยวดิพี่! เฮ้ย! เดี๋ยวเด้!! ”



                 จ้ำอ้าวไวยิ่งกว่าควายหาย...



                “ พี่ พี่! ”




                แล้วทำไมผมต้องรีบขนาดนี้ด้วยนะ...




                   มันคงเป็นเพราะ.... ผมกำลังรู้สึก รู้สึก




   

           

                    ปวดขี้!!!


 


ธาราคืนพื้นที่สักครู่ ข้าศึกบุก









กรกวินต์ได้เวนพื้นที่คืน




                ผมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างช่วยไม่ได้เพราะคำถามที่ถามไปไม่ได้รับเสียงของคนอินดี้จัดตอบมา ก้มหน้าล้างจานต่อ สงสัยคงเป็นไอ้ฟรานไม่ก็ไอ้วาไม่ก็ไอ้ไอซ์นั่นแหละมั้ง


                เสียงปิดประตูดังเบาๆก่อนจะมีเสียงเท้าเดินเข้ามาใกล้ผม... เลยจำใจต้องเอี้ยวคอหันไปดู...


                “ อ้าว เวียร์มาทำไมเนี่ย ”เมื่อรู้ว่าเป็นใครก็หันกลับไปล้างจานต่อ


                ร่างบางในชุดนักศึกษาไหวไหล่เดินไปเปิดตู้เย็นหาอะไรกิน “ มาวันนี้ก็มาดูสารรูปเฮียนั่นแหละ ตายรึยัง ม๊าเป็นห่วง ไม่กลับบ้านกลับช่อง ”


                “ งานเยอะ ”


                “ เหรอ แต่เห็นพี่ฟรานบอกว่า งานหมดแล้ว ช่วงนี้ยังไม่มีโปรเจคใหม่นะเฮีย ” ความเจ้าเล่ห์แผ่ออกมาจนผมสะดุ้ง


                “ เออ ยังไม่อยากกลับมีไรปะ ” ยอมรับไปตามตรง ก็มันขี้เกียจนี่


                “ ก็แค่นั้น ” เวียร์พยักหน้าก่อนจะขโมยโค้กกระป๋องมากิน “ เออเฮีย เมื่อกี้เจอผู้ชายผมยาวๆ หน้าสวยๆ นั่นเพื่อนเฮียปะ”


                “ เปล่า ว่าที่พี่สะใภ้มึงไง ” ผมโคลงหัวอย่างอารมณ์ดีพลางล้างจานไปด้วย “ สวยใช่มั้ย เหมาะกับเฮียใช่ปะ ”


                “ เหรอ ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นแถมยังน้ำเสียงไม่ปกติอีก “ งั้นก็น่าสงสารนะ เมียเฮียดูจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นแฟนเฮียไปแล้ว แถมยังรีบร้อนก้มหน้าก้มตาออกไปอีก ”


                “ มึงว่าไงนะ! ” หันขวับไปมองไอ้เวียร์ที่กำลังทำหน้าทำตาเดี๋ยวพลัดโบกให้หน้าเสียโฉมเลยมึง


                เวียร์ยกยิ้มสนุก “ เมีย เฮีย งอน ไป แล้ว ชัด ปะ”


                ชัดเลย ชัดเลยยยยยยยยยย
 

                 มึงทำให้ครอบครัวกูแตกแยก! ไอ้เลว!



                       “ มึงล้างจานแทนกูทีดิ! ”


                “ อ้าว เฮ้ย! ได้ไง ”



                ผมกุลีกุจอวางจานที่ยังล้างไม่เสร็จลงแล้วรีบดีดตัวออกจากห้องโดยที่มือยังเต็มไปด้วยฟองน้ำยาล้างจานก็ไม่ได้สนใจ รีบวิ่งลงมาห้องมันแล้วเคาะอย่างบ้าคลั่ง เกือบจะสะดุดอากาศล้มไปสามตลบแล้ว


                ปังๆ!



                “ ธารา! เปิดเดี๋ยวนี้!มาเคลียร์กันก่อน! ”


                ตอนนี้ผมกำลังกังวลมากๆ มากจริงๆ ถ้ามันเข้าใจผิดไปดาวอังคารขึ้นมาว่าผมไปหลอกมันทั้งที่ตัวเองมีแฟนแล้ว มันไม่ตัดโอกาสผมเลยรึไง ถ้าแย่ไปกว่านั่นคือมันรู้สึกไม่ดีกับผม รู้สึกไม่ดีตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มอะไรเนี่ยนะ บ้าเถอะ!! ที่อุตส่าห์ยอมมันมานี่หมดกันพอดี


                 
                 แล้วนี้ไปตายที่ไหนวะ! ทำไมไม่มาเปิดประตู


                สาบานได้เลย ในชีวิตนี้ไอ้วินไม่เคยมาบ้ากับใครขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะชอบนะ อย่าหวังเลยจะง้อขนาดนี้


                “ อุ่น! เปิดประตูให้หน่อย! ” ยิ่งมันไม่ตอบกลับอะไรมา ผมยิ่งแย่ เริ่มกระบวนการคิดแง่ร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ


                “ เชี่ยอุ่น! เปิดประตูให้หน่อย! ผัวน้องมาครับ! ”




                ปังๆ!!

                ทุบไม่ยั้งเลยครับ เปิดสิว่ะ!


                       ผัวะ!




                       ประตูถูกกระชากออกอย่างแรง ผมไม่ทันได้มองหน้าก็โผเข้ากอดหมับรัดอีกฝ่ายแน่น ไอ้ธารามันดีดดิ้นพอสมควรแต่ผมก็แรงควายและมั่นใจว่าเยอะกว่ามันแน่ เรายืนนิ่งกันร่วมนาทีได้จนได้ยินจังหวะหัวใจของใครอีกคน...เรียบนิ่งยิ่งกว่าอะไรดี ไอ้สัด หวั่นไหวบ้างเถิดดดด

                “ คือ ธารา คืออย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ” ผมละล่ำละลักพูด ยิ่งมันไม่ตอบผมยิ่งใจเสีย


                “ ... ”


                “ มึงโกรธกูเหรอวะ ”


                “ ... ”


                “ นี่ไง มึงไม่ตอบ ” หัวเริ่มกระบวนการคิดหาคำพูดอย่างว่องไว “ คืองี้นะเว้ย ที่มึงเห็นนั่นมันน้องชายกู กูยังไม่มีแฟนจริงๆ กูไม่ได้หลอกมึง ”


                “ ... ”


                “ ที่มึงรีบออกมาจากห้องกู เพราะมึงหึงใช่มั้ย ” ผมกลั้นยิ้มพลางกระชับกอดแน่นขึ้นไปอีก “ มึงหวั่นไหวแล้วอ่ะดิ เนี่ย ไม่พูดไม่จา เขินเหรอ ”


                “ ... ”


                “ ทำไมมึงไม่ตอบวะ ถ้าไม่ตอบ กูจะกอดมึงแบบนี้ไม่ปล่อย ”


                “ เออ กอดได้กอดไป ” เสียงดังอยู่ไกลๆทั้งที่มันควรจะใกล้หูผม...


                ลองพูดต่อ เหงื่อเริ่มตกนิดๆ “ ธารา นี่มาง้อนะเว้ย สนใจกูหน่อยสิ ”


                  “ กูน่ะสนใจ แต่มึงน่ะสนใจกูเปล่า ” เสียงหน่ายๆเนือยๆตอบกลับมา “ ผัวครับ มึงกล้านอกใจกูไปกอดคนอื่นเหรอครับ ”


                        “ หะ หา ”


                ผมชะงักกึก...ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองคนที่ผมกอดรัดฟัดเหวี่ยง รู้สึกคอจะแห้งเป็นผงไปชั่วขณะ... ผิวแทนแบบนี้ ตาคมแบบนี้ คิ้วเข้มแบบนี้ จมูกแบบนี้ ปากแบบนี้ กล้ามแบบนี้...



                ใครวะ?!!!



                   กระโดดดีดตัวออกจากอีกฝ่ายราวกับเขาเป็นตัวเชื้อโรค หน้าผมไม่ต้องพูดถึง...ซีดเผือกยิ่งกว่าไก่ต้มน้ำปลาริมทางอีก ค่อยๆหันไปทางซ้ายต้นเสียงของธาราตัวจริงเมียจริงของผม

                มันกำลังยืนมองผมนิ่งๆด้วยสายตาไร้อารมณ์เอนตัวพิงกำแพงกอดอก...


                “ มะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ”


                มันชี้ไปที่ตัวประกอบโคตรเข้ม “ ตั้งแต่มึงโผกอดพี่เขาเต็มรักนั่นแหละ ”

                “ แล้วทำไมไม่เรียกวะ!! ”

                “ ไม่อ่ะ สนุกดี ” สนุกดี แต่หน้ามึงตายมากครับ

                ผมทึ้งหัวตัวเองอยากจะเอาหัวไปทักทายกับพื้นซีเมนต์เหมือนกัน นี่ผมเป็นบ้าอะไร เมื่อกี้ทำบ้าอะไรไป น่าอับอายที่สุดและระหว่างที่ผมออกอาการบ้า ตัวประกอบที่สำคัญก็ตบไหล่ผมเรียกสติ


                “ น้องน่ารักดี มาเป็นเมียพี่มั้ย ” ไอ้ดำมันยิ้มให้ผมจนขนลุกเกลียว ผลักอกมันตั้งท่าเตรียมชกแล้ว


                แต่มือขาวดันมาคั่นกลางไว้ซะก่อนพร้อมหน้าตาเตรียมรบของธารา...




                “ โทษทีนะเฮีย พอดีคนนี้...ของผม ”




                “ !! ” อึ้งเด้!!




                “ ผัวผม อย่ายุ่งครับ ”





                น้ำเสียงเสียดายจากใจจริง “ ว้า เสียดาย อยากได้ขาวๆตี๋ๆหมวยๆอยู่พอดี เฮ้อ เซ็ง ”


                หมวยพ่องมึงเซ่!!!


                ไอ้ธาราเกี่ยวคอลากผมที่เอ๋อรับประทานไปแล้วให้เข้าไปห้องมันที่อยู่ทางซ้าย... สรุปคือ... กูเคาะห้องผิด กูอธิบายผิดคน และกู...โง่เอง



                ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยย


                ปัง...


                เสียงปิดประตูห้องจากธาราเรียกสติผมให้กลับคืน หันไปตีหน้าบึ้งเป็นยักษ์ทันที... “ ทำไมไม่เรียก หา!!! ”


                “ ก็เห็นมึงตั้งอกตั้งใจกอดเขาขนาดนั้น กูก็ไม่อยากจะขัดจังหวะ ” พูดไปพลางเดินมานั่งหน้าโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยหยิบกระดาษลูกฟูกมาวัดแล้วก็ขีดเส้นไว้


                “ แต่กูก็พูดชื่อมึงปะ ”


                “ ก็ใช่ ” ยักไหล่ยิ้มๆ “ แล้วไงต่อ”


                “ ทำไมไม่หวงกันบ้างวะ! ” ทรุดตัวกระแทกนั่งเอนหลังพิงหลังมัน


                “ จำเป็นเหรอ ”


                “ นี่ผู้ชายของมึงนะเว้ย หึงดิ หวงดิ! ” ผมพูดใส่อารมณ์น้อยใจ ขุ่นเคือง สารพัดใส่มัน ก่อนจะลดเสียงให้เบาลงราวกับพูดให้แค่ตัวเองได้ยิน “ มึงแม่ง...เคยใส่ใจใครบ้างปะวะ ”


                “ ไร้สาระ งี่เง่า เมาก็ไปนอนไป ” สายตาของอีกฝ่ายแอบเหลือบมองพื้นก่อนจะพูดอย่างปลงๆ โดยที่ไม่สบตาผม


                “ มึง... ” หันหน้าไปจะระบายอารมณ์ใส่มันอีกรอบแต่ก็ต้องตกใจเพราะมันก็หันมาเหมือนกันเท่านั้นไม่พอประกบปากผมแน่นแล้วเริ่มจูบบดคลึงริมฝีปากผมช้าๆปล่อยให้ผมนิ่งค้างไม่ได้ตอบกลับ... ปล่อยให้มันจูบบดคลึงอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ...ในอกเริ่มเต้นแรงขึ้น....




               ขอกรี๊ดได้มั้ย มันจูบผมก่อนเว้ยยยยยย



                มันกินยาลืมเขย่าขวดรึไงวะ!!



                     มันค่อยๆผละออกแล้วจ้องหน้าผมในระยะประชิด...



                “ ขี้งอน ขี้น้อยใจนะมึง ” มันว่าเบาๆ คลี่ยิ้มนิดๆ “ แล้วก็เรื่องน้องมึง เวียร์มันวิ่งมาบอกกูแล้ว แต่ไม่นึกว่ามันจะแกล้งมึงต่อ ”



                อ้าว ไอ้น้องเหี้ย!


 
                   “ แล้วอีกอย่าง ” น้ำเสียงมันอ่อนโยนจนใจผมแทบจะกระเด็นออกมา “ ของของกู ยังไงกูก็หวง ”




                ซึ้งสัด... วันนี้ที่รอคอยชัดๆ...




                อย่ายิ้มดิ ใจสั่นมากครับ “ ยิ่งเป็นมึงแล้ว กูยิ่งหวง ”




                โอ้ พระผู้เป็นเจ้า ท่านกำลังเอ็นดูผมใช่มั้ย




                “ เพราะว่า... ” มึงชอบกู มึงชอบกู โอม จงชอบกู ชอบกู


         



                “ มึงเป็นขี้ข้ากู ”




                เพล้ง!!!




                 หัวใจแตกสลายยิ่งกว่าจุลินทรีย์ในยาคูลล์...




                “ ถ้าไม่มีมึงแล้วกูจะใช้ใคร  ”




                        ผมทำอะไรให้ท่านไม่พอใจเหรอถึงทำกับผมเช่นนี้...




                        จากผมยืนอยู่บนสวรรค์ ถูกฉุดกระชากลงเหวลึกเลย...



                “ ไหนๆก็มาแล้ว กูซักผ้าไว้ยังไม่ได้ตาก ไปตากให้ทีดิ ”


                “ ไม่!! ” ผมโพล่งขึ้นมาพร้อมลุกขึ้นพรวดท่าทีแข็งขืนของผมทำเอาธาราหรี่ตาจิกทันที


                “ มึงว่าไงนะ ”


                “ กูไม่ทำ ” เป็นชายเราต้องอย่าไปกลัวเมีย ธาราจ้องผมเขม็งก่อนจะลุกขึ้นตามผมพร้อมอาวุธในมือ...


                ชูคัตเตอร์ทำปลวกรายยยย “ มึงว่าใบมีดมันยังคมมั้ยวะ ”


                “ คือ... คือ กู ไม่ ” มือเริ่มเย็นขึ้นมา


                “ เอ๋? ก็ยังคมอยู่น่า บาดเนื้อคงได้เลือดเยอะแน่ ”


                เหงื่อกูจะตกไปถึงไหนวะ! “ กู ไม่ ”


                “ หือ ไม่อะไร ” เมียครับ อย่ายิ้มตอนถือของมีคมสิครับ


                “ ไม่ปฏิเสธจ๊ะ ตากผ้าใช่มั้ย อู๊ยยย ได้เลยจ๊ะ ผัวยินดี๊ยินดีทำ ”


                มันยิ้มพอใจแล้วกลับไปนั่งทำงานต่อ “ ดีมาก ”



                ได้แต่ปลอบใจตัวเอง...


            อย่างน้อย... มันก็ยังหวงขี้ข้าเช่นกูวะ!!



                  ฮือ...ดีใจจริ๊งจริง





กรกวินต์ขอคืนพื้นที่ไปตากผ้าทั้งน้ำตา...




ต่อโพสล่าง
หัวข้อ: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [11/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-03-2016 10:15:59

ธาราได้รับพื้นที่คืนหลังจากใช้งานขี้ข้าได้



                มองตามแผ่นหลังกว้างไปแล้วลอบยิ้ม... ผมชอบเวลาไอ้วินมันหงอๆมากกว่าเวลามันปกติ มันเป็นทำนองที่อยากแกล้งแรงๆให้ร้องไห้นั่นแหละ ผมชอบแมว คิดว่าหน้ามันก็คล้ายๆอยู่นะ ยิ่งเวลาหูหางตาตกนี่ยิ่งคล้ายเลย  พอมันตากผ้าให้ผมเสร็จก็ขอตัวกลับห้องแล้วเดี๋ยวจะมาอยู่เป็นเพื่อนผมต่อ...


                ละสายตาจากขี้ข้าที่น่ารักมายังกระดาษลูกฟูก... จะลงมือตัด แต่พอไอ้วินออกไปได้สักพักก็ดันมีมารเข้ามาอีก...



                ผัวะ!!



                “ อุ่นจ๋า เฮียซื้อหูฉลามมาฝากกกก ” เสียงมาแหละแต่ตัวยังไม่เสด็จ



                มาหนึ่งเดี๋ยวสองก็มา



                “ พี่อุ่นนนน ไฟซื้อปลากะพงราดพริกมาฝากกก ” นั่นไง



                และสามก็จะมา...



                “ อุ่นนนน เฮียดินคนหล่อซื้อสปาเก็ตตี้ผัดซอสกุ้งมาฝากกกก ”



                ถุงพลาสติกสีขาวสามใบถูกยื่นมาตรงหน้าก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองหนังหน้าหล่อคนละสไตล์คนละทิศละทางแล้วละเหี่ยใจ... จากนี้ทุกคนจะได้รับรู้ความบ้าบอเกินขั้นที่จะรับได้อย่างแท้จริง...



                1



                2



                3



               



                “ อุ่นเลือก!! ”



                มองหน้าแยกเขี้ยวใส่กันแววตาไม่เป็นมิตรอีกต่อไป... ก่อนที่น้องเล็กจะประกาศสงครามคนแรก “ พี่อุ่นต้องกินของกู!!! พวกมึงน่ะไปไกลๆ! ”



                “ ถุย! ไอ้ห่าไฟ อุ่นไม่กินของมึงหรอก สปาเก็ตตี้บ้านๆน่ะ! ” ลมว่าสีหน้าเยาะเย้ย “ ถลกหนังเหี้ยมาทำแทนกุ้งรึเปล่าก็ไม่รู้! ”



             “ อ้าว ไอ้เฮีย ว่ามันแล้วทำไมมาด่าของกูวะ! ”ดินผลักอกลมอย่างแรงพร้อมหน้าที่พร้อมต่อยมาก “ หูฉลามแม่งก็เอาหูเห็บหมามา เห็บหมาจากหูมึงนั่นแหละ! ”



                “ ของพวกมึงมันบ้านๆพื้นๆทั้งหมดนั้นแหละ เอากลับไปให้หมดไป! ” ไฟตาพราวเป็นประกาย “ ของกูนี่ปลากะพงของแท้ ลงไปจับเองกับมือในบ่อปลา ”



                “ ตอแหล ปลากะพงหรือปลาสร้อยปลาซิว เอาไปไกลๆไป๊! ” ลมกระชากถุงของไฟโยนออกไปนอกห้อง



                ไฟตาถลนทันที “ อยากตายใช่ปะเฮีย!! ” กระชากทั้งสองถุงโยนตามไป



                “  มึงอย่าคิดว่ากูไม่กล้านะเว้ย!  ” ดินตะคอกใส่ช่างไม่ได้ดูสารรูปที่ใส่เสื้อกาวน์เลยจริงๆ ว่าที่หมอนะเอ็ง



                “ มาดิว่ะ! คิดว่ากลัวรึไง! ” ลมว่า ผลักอกไฟก่อนจะไปกระแทกกับดิน สุดท้าย...



                “ มึงมาต่อยกันเลยดีกว่า!! ”



                “ ได้ๆ! เข้ามาเด๊ๆไอ้หมอเถื่อน! ”



                “ ถุย! ไอ้ทนายกาก! ”



                “ ไอ้วิดวะเหี้ยสร้างอะไรก็พัง! ”



                “ ไอ้@!$#%$#^$%& ”



                และสามหมาประสาทก็ยื้อคอกันไปมา ผมกอดอกมองแล้วส่ายหน้า ยกเท้าขึ้นยันพวกมันให้ออกไปจากหน้าห้องและปิดประตู...



                ยามไม่มีศึกนอก



                มันจะรบกันเอง...



                เฮ้อ... ทำงานดีกว่า



                กลับนั่งทำงานไปได้อีกสามสี่นาทีก็ได้ยินเสียงเคาะประตูแทบพังจากสามบ้าที่มันน่าจะฟัดกันเสร็จแล้ว แต่ก็นะปล่อยไปเถอะ มีปัญญาเคาะได้ กูก็มีปัญญาทน



                พอมันหมดปัญญาจะเคาะก็กลับกันไปเอง เลยได้นั่งทำงานสบายๆปราศจากเหลือบไรมาวุ่นวายไปได้อีกพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงเคาะมาพร้อมกับเสียงเอกลักษณ์...



                “ เมียจ๋าาาา ผัวที่น่ารักมาแล้วคร้าบบบบบบบ ”



                “ มาเปิดประตูเร็ววววววว ”



                เสียงที่น่ากระทืบให้จม!



                ทั้งพี่ทั้งขี้ข้า



                ไม่ว่าใครก็น่าปวดหัวไปหมดจริงๆ



                มันน่าจะให้รุ่นพี่ข้างห้องงาบไปเป็นเมียจริงๆ ไม่น่าไปช่วยมันเลย ถอนหายใจด้วยความเซ็งกระดาษเซ็งสีเซ็งคัตเตอร์ยอมลุกขึ้นไปเปิดประตูให้มันแล้วก็ปะทะกับหน้าอารมณ์ดีผิดปกติ ไม่ดิ มันไม่ปกติอยู่แล้ว ผิดปกติก็คือปกติ ปกติคือผิดปกติ เข้าใจปะ



                เข้าใจห่าอะไร! กูพูดเองยังงงเอง!



                คนตัวสูงกว่าผมไม่กี่เซนมาสภาพเสื้อกล้ามกางเกงขายาวถือหมอนถือผ้าห่มมาพร้อมมาก ผมหลบให้มันเดินเข้ามาแล้วปิดประตู



                “ ทำไรอยู่ ” มันวางผ้าห่มลงแล้วเดินมานั่งตรงข้ามโต๊ะญี่ปุ่น “ ช่วยมั้ย ”



                “ ทำเป็น? ” ลองเชิง



                มันส่ายหน้า “ ไม่เป็น ”



                “ งั้นมึงอยู่นิ่งๆ ” เดี๋ยวงานกูพัง!



                “ งั้นเค้านั่งเป็นกำลังใจให้นะตัว ม๊วบ ” ทำปากจู๋ทำเสียงประกอบอีก สยอง!



                “ ว่างนัก ไปนอนไป ” จะทำงานแล้วมีคนมาจ้องนี่ไม่ชอบเลยจริงๆ



                รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ส่องสว่างทันที แววตาพราวระยับเหมือนเสือ มือไวมาทันทีจับหมับที่ข้อมือผม “ ปะ เราไปนอนกันเถอะ ”



                ผมมองมือมันแล้วพาสายตาไปมองมันตอบและยิ้ม... พลั่ก!!!



                ฝ่าเท้าแสนจะสะอาด(คิดไปเอง)ยกสูงยันเข้าที่หน้าอกแข็งๆของมันแล้วออกแรงส่งเยอะพอสมควรจนมันล้มไปนอนเรียบด้วยความจุกทันที



                “ ไอ้เหี้ยธารา!! ”



                ผมลอยหน้าลอยตา “ ไรครับผัว ”



                “ เมียชอบความรุนแรงเหรอ เดี๋ยวผัวปั๊ด ” มันใช้ศอกเท้าตั้งฉากกับพื้นค่อยๆยันตัวเองขึ้นมาอย่างทุลักทุเล



                เชิดหน้าสิ “ ทำไม จะทำไม ”



                มันกระตุกยิ้มแปลกๆที่ไม่เคยเห็นมาก่อน... เผลอมองนานไปหน่อยรู้ตัวอีกที่ก็โดนมันกระโจนพุ่งมาใส่จนตอนนี้ถูกมันคร่อมอยู่เหนือหัว มือก็ถูกจับไว้ได้ทันพอดี... ผมชักสีหน้าโมโห



                “ เล่นบ้าอะไร ลงไป หนัก ” พ่นลมหายใจพรืด “ จะทำงาน ”



                “ กลัวอะไรครับ ” น้ำเสียงมันดูอารมณ์ดีสุดพร้อมแรงที่กดลงมาก็ไม่เบานัก ท้องก็โดนมันทับอีก... หนักเว้ย



                เสียงแข็ง “ ใครกลัวมึง! ”



                “ เหรอ ”



                เสียงมันนิ่งพร้อมกับโน้มหน้าลงมา ผมหันโครงหน้าหนีทำให้จมูกโด่งๆของมันฝังเข้ากับลำคอเต็มๆ... รู้สึกขนลุกชิบหาย แอบกลั้นหายใจอยู่นาน ภาวนาให้มันรีบๆลุกไปตาชิบหาย แอบกลั้นหายใจอยู่นาน ภาวนาให้มันรีบๆลุกไปตาเร็วๆแต่ไหงจมูกมันเริ่มทำตัวมีชีวิตไล้และไซร้...



                ไอ้เชี่ย!!



                “ กลิ่นผม...หอมดีนะ ” เสียงกระซิบแผ่วๆดังขึ้นอย่างเบาหวิวพาให้ใจมันหวิวตาม สายตาผมยังคงมองไปอีกทาง “ รู้มั้ยถ้ามีคนสระผมให้มันจะรู้สึกดีมากเลยนะ ”



                “ ไม่รู้ ”



                ไอ้วินเคลื่อนใบหน้าขึ้นสูงอีกนิดแล้วสูดกลิ่นผมของผมเข้าไปเต็มปอดจนรู้สึกเหมือนมันคือโรคจิตเป็นตาแก่ สูดเข้าไปเถอะมึงเอาที่มึงสบายใจเลยครับผัว เมื่อพอใจแล้วมันก็กดจมูกจูบลงบนหัวผมหนักๆแล้วมาจูบหน้าผากผมตบท้าย จากนั้นค่อยมาจ้องตาผมด้วยสายตาอ่านไม่ออก...



                จะอ่านออกยังไง



                ความหื่นแม่งมีเต็มลูกตามัน!



                “ หึ... หน้าแดงใหญ่แล้ว ” มันยืดตัวนั่งตรงแล้วยังคร่อมทับผมอยู่ ไม่วายเอานิ้วสากมาบีบจมูกผมอีก ทำอะไรน่ารักไปได้ ตัวควายๆสองตัวมาทำอะไรมุ้งมิ้งมันไม่ได้น่ามองสักหน่อย



                “ ยุ่ง ” ไม่สนใจหน้าแม่งล่ะจะแดงจะเขียวจะฟ้า ก็ช่างไปเด๊!



                “ โอเคๆ ไม่แกล้งแล้ว  ” ไอ้วินมันอมยิ้มพลางลุกขึ้นจากตัวผมแถมยังฉุด...ฉุดแขนไง ให้ผมลุกขึ้นนั่งตาม ผมนิ่งขมวดคิ้วแล้วจ้องหน้ามันเงียบๆและคิด...



                “ นี่เป็นวิธีจีบของมึงเหรอ ”



                “ คิดเอาเอง ” ยักคิ้วมาให้สี่ครั้งแล้วแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์  “ แต่ก็ได้ผลอยู่หน่า  ”



                “ ได้กำไรมากด้วยห่า! ” ผมชักสีหน้าหงุดหงิดก่อนจะผลักอกให้มันหลบไปไกลๆจากโต๊ะทำงาน แล้วผมก็มานั่งตัดสารพัดกระดาษต่อ



                ไอ้เชี่ยวินมันเบ้ปาก “ มึงสิที่ได้กำไร ได้จูบปากอันแสนจะบริสุทธิ์ผุดผ่องของเค้า แล้วดูเค้าสิ ได้แค่หอมเตงเองนะ นี่เขาเรียกว่าขาดทุน! ”



                “ ไปไกลๆตีนเลยเตง ”เหนื่อยใจกับมึง



                ยกมือขึ้นกิ๊วๆล้อผม “ เขินตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว ปากเค้าหวานชิมิ  กิ๊วๆ ”



                “ ถ้ายังไม่หุบปาก กลับไปนอนห้องมึงไป!!! ” ทำเสียงดังกลบเกลื่อนความว้าวุ่นปั่นป่วนในตัว... สงสัย ปวดท้องขี้อีกรอบแน่ๆ เฮ้อ สงสัยต้มยำไอ้วินทำพิษซะแล้ว



                มันยกมือยอมแพ้ๆ “ โอเคๆๆ เงียบแล้ว  ” เงียบ...ไปสองวิ “ เอ่อ...แล้ว ”



                “ เงียบสองวิ ไม่ต้องเงียบก็ได้สัส! ” มองมันตาจิกตาขวางอยากจะเอาคัตเตอร์ในมือกระชากกระซวกไส้มันออกมากองจริงๆ



                “ อย่าเพิ่งหงุดหงิดดิว่ะ แค่จะถามว่า ไม้อันนี้ต้องตัดมั้ย ” ชูไม้บัลซ่าที่ผมวาดเส้นที่ต้องตัดไว้ ผมพยักหน้าไปสองที มันก็ฉีกยิ้มลุกขึ้นไปหาคัตเตอร์ มีด กรรไกรที่โต๊ะทำงานในห้องนอนของผม



                เบนสายตากลั้บมายังมือตัวเองและตั้งสติดำดิ่งสู่งาน งานชิ้นนี้เป็นชิ้นที่ 4 ของอาทิตย์นี้ และเป็นชิ้นสุดท้ายก่อนจะหยุดหนึ่งอาทิตย์ ไอ้งานชิ้นก่อนๆก็ส่งแล้วครบหมดแล้ว พรีเซ้นต์งานกลุ่มก็เรียบร้อย เทอมนี้ A ลอยมาชัวร์ๆ



                ได้ยินเสียงเท้าของใครอีกคนเบาๆแต่กลับไม่ได้มานั่งที่เดียวกับผม จากหางตาเห็นว่ามันเลือกจะเดินเข้าไปนั่งทำที่ห้องครัวแทน... คงไม่อยากให้ผมหงุดหงิดล่ะมั้ง



                เผลอนิดเดียว... ใจแม่งกระตุกอีกแล้ว



                ผมขบปากล่างตัวเองแน่นสบถหยาบมานิดๆแล้วขะมักเขม้นทำงาน ที่เหลือประกอบหลังคากับโรงจอดรถของบ้านจำลอง...



                เวลาเดินไปเรื่อยๆในห้องยิ่งเงียบเหมือนมีผมแค่คนเดียวในห้อง แต่ไม่ใช่ ไอ้วินที่ตัดไม้บัลซ่าเสร็จแล้วก็กลับมานั่งเงียบๆมองดูผมแบที่ไม่ได้จ้องอย่างเอาเป็นเอาตายให้รู้สึกว่ามันน่าอึดอัด...



                ผมประกอบงานได้ไวขึ้นเพราะมีลูกมืออย่างมันคอยช่วยส่งนู้นนี่นั่นให้ทาสี เอาไดร์ปล่อยให้สีแห้ง... ผมรู้สึกแปลกอยู่มากในใจลึกๆแอบหวังให้มันรู้สึกแย่และเบื่อแล้วกลับห้องไป พอมองหน้ามันก็มักจะมีรอยยิ้มติดมุมปากเสมอจนผมไม่รู้จะพูดยังไง ถ้ามันเป็นเหมือนคนอื่น ผมคงไม่รู้สึกอะไร



                แต่มันเพราะมันไม่เหมือนใคร



                เลยทำให้ผมรู้สึกขึ้นมา...



                นิดหน่อย



                แค่นิดเดียว... จริงๆ!



                “ นี่ เรื่องทริปอ่ะ ” หลังจากเงียบมาได้ชั่วโมงกว่าๆ เสียงหล่อทุ้มก็เอ่ยให้ได้ยินอีกครั้ง ผมเหลือบตาช้อนขึ้นไปมองมัน้เล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าฟังอยู่แล้วก็ก้มลงมามองมือสองข้างกำลังสาละวนกับการประคองไม้โครงของโรงรถไว้รอจนกว่ากาวจะแห้ง “ กูชวนเพื่อนไปได้ปะ ”



                “ รอถามพี่ปายเถอะ หมอนั่นน่าจะดีใจด้วยซ้ำที่หาคนมาร่วมทริปรักษ์โลกของมันเพิ่มได้ ” ว่าไปตามนั่น ในหัวก็เริ่มจะวางแผนการเตรียมของเตรียมไปทริปแสนสนุก(ตรงไหน) “ ชวนน้องมึงด้วยดิ ”



                “ ทำไมต้องชวนมัน! ” ไอ้วินโพล่งขึ้นเสียงดัง ดูแล้วยังคงเคืองเรื่องที่น้องมันทำแสบไว้อยู่ชัวร์



                “ กูชอบน้องมึงนะ น่ารักดี ” น่ารักกว่าพี่มัน พูดก็ง่ายกว่าเยอะ



                “ กูก็น่ารัก! ” ไม่ได้ดูร่างควายๆของตัวมันเลย



                “ เอาที่มึงสบายใจนะ ” ผมส่ายหน้าน้อยๆแล้วละมือออกจากโมเดลงานตัวเองที่น่าจะเรียบร้อยแล้ว เหลือตกแต่งสวนอีกนิดหน่อย ชิ้นนี้สั่งให้ทำมา5วัน... กำหนดส่งพรุ่งนี้...ตี 5



                อย่าว่าแต่ผมอินดี้เลย อาจารย์ก็พอกัน



                นี่ก็ใกล้จะสอบกลางภาคแล้ว งานก็เริ่มมา แต่ของผมโชคดีที่อาจารย์สั่งๆมารวมกันในอาทิตย์นี้ แล้วหยุดอาทิตย์หน้า แล้วอีกสามอาทิตย์ข้างหน้านู้น... โปรเจคใหญ่ต้องมา และมันจะถึงเวลาที่ผมต้องย้ายสำมะโนครัวไปนอนที่ตึกคณะแล้วสิ



                “ พักหน่อยมั้ย ใกล้เสร็จแล้วด้วย ” เสียงอ่อนโยนว่า “ ลุกยืดเส้นยืดสายหน่อยไป เดี๋ยวจะเก็บขยะในห้องให้ ”



                ไอ้วินว่าก่อนที่ผมจะพยักหน้ารับ บางทีฟังคำพูดมันก็มีเรื่องดีหลายๆอย่างที่บวกลบหักกลบแล้วจะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่ผลลัพธ์มันออกมาเป็นบวก ผมก็ไม่รู้จะปฏิเสธไม่ทำทำไม



                ก่อนจะเดินไปหาน้ำกินผมบอกมันว่าอันไหนทิ้งได้อันไหนห้ามทิ้ง มันก็รับปากไม่บ่นคว้าควานหาถุงมาใส่โกยขยะใส่อย่างรวดเร็ว



                ...ได้ผัวดี ชีวิตมันดีอย่างนี้นี่เอง



                เอ๊ะ ไม่สิ



                ยังไม่ใช่ผัว นี่รุ่นพี่ที่เป็นเหมือนเพื่อนแถมยังพวงตำแหน่งขี้ข้า สถานะอนาคตตำแหน่งผัวยังไม่แน่ชัด



                เดินไปห้องครัวตรงรี่ไปเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำเปล่ามาสองขวด... เออ มองทำไม ไม่ได้กินเองสองขวดแล้วกัน ให้ใคร? อย่าถามมากน่า ในห้องผมมีใครอีกล่ะ ปลวกเหรอ



                “ เอาไป ” ยื่นน้ำให้มันแล้วทำไมต้องใจกระตุกเหมือนมันไม่เคยกระตุกมาก่อน



                “ ขอบใจ ” มันยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากแล้วรับน้ำไปดื่ม สงสัยจะเก็บห้องจนร้อนล่ะมั้ง เพราะผมเปิดแอร์ตั้งสิบเก้าองศา “ เมียเอาน้ำมาให้ ชื่นใจจริงๆ ”



                เสียงเข้มใส่ “ แดกเงียบๆแล้วจะตายรึไง ”



                “ ตายคร้าบตายยย ” กวนประสาทกวนอวัยวะเบื้องล่างที่สุดจริงๆ จะยกเท้าประเคนให้สักหน่อยแต่เสียงเคาะประตูกลับดังขึ้นขัด...



                ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆ ก๊อกๆ ก๊อก ก๊อก



                เคาะมาเป็นจังหวะอีก กูนึกว่ารหัสลับของสายลับ มีใครมันจะปกติดีบ้างมั้ยวะ แล้วมาทำห่าอะไรดึกๆ ซึ่งแอบเหลือบหางตาเห็นว่าเพิ่งจะสองทุ่ม แถวบ้านผมเรียกดึก มีปัญหาปะ



                วางน้ำลงแล้วเดินไปเปิดประตู... หวังว่าจะไม่ใช่...



                “ เซอร์ไพร์สสสส!!! ”



                อืม...



                เซอร์ไพร์สสุดๆ -_-



                อู๊ยยย วันตายใครวะ



                ผมค่อยๆเอนตัวไปด้านข้างพิงกรอบประตูมองแขกไม่ได้รับเชิญสามคน ที่เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ลม ดิน ไฟ พี่น้องร่วมสายเลือดสุดเกรียนของผม... ที่มาแบบปกติ... แถมหน้าหล่อๆเกรียนๆยังฟกช้ำมากันคนละแผลสองแผล



                “ มาทำอะไรอีก ” ถามเสียงเขียวเข้มจนพวกมันที่มายิ้มๆเริ่มจะยิ้มค้างเหงื่อเริ่มตก...



                “ ก็แบบว่า... ” ไฟเริ่มต้นก่อนพวก แอบพิจารณาชุดที่มันใส่...เสื้อกล้ามโชว์เนื้อโชว์กล้ามกับบ็อกเซอร์สั้นเสมอไข่ตุงๆแบกหมอนมินเนี่ยนสามใบ “ บ้านไม่มีหม่อมแม่อยู่ ชายน้อยก็ไม่รู้ว่าจะนอนกับใคร กราซิก ”



                “ อ้อ แม่ทูนหัวมึงน่ะเหรอ ” ผมโคลงหัวนิ่ง “ มีชู้ไปแล้วมั้ง ”



                “ พี่อุ่น!!! ” ไอ้ไฟเผลอถลึงตาใส่ผม ก่อนจะนึกได้ “ พี่ พี่อย่าว่าแฟนผมงั้นดิ จินนี่อยากจะดี เรียบร้อย ”



                ไอ้ลมแทรก “ ยัยนั่นมันแค่หลอกแก ” พลางถือหมอนข้างสองใบเป็นลายมิกกี้เมาส์กับมินนี่เม้าส์



                “ โดนสวมเขาชัวร์ ” ดินอยู่ในชุดนอนสีแดงพริกเข็ดฟันกำลังแสยะยิ้มหยันให้พลางอุ้มกระชับผ้าห่มเอลซ่าสองผืนกับโปเกม่อนหนึ่งผืนไว้มั่น



                “ อกหักแน่ ” ผม



                “ ไอ้พี่เหี้ย!! ”



                ผมหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นสีหน้าของไอ้ไฟที่ตอนนี้กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแล้วสนุก แต่ในใจก็แอบเครียด เรื่องผู้หญิงของมัน ก็มีแต่มันนั่นแหละที่ตาบอด ไม่ฟังใคร ผมไอ้ลมไอ้ดินปรึกษากันแล้ว จะกันยัยนั่นออกแต่เพราะความหมั่นไส้น้องรักที่อยากแกล้งและเอ็นดูไปพร้อมๆกัน เลยตกลงว่า...ให้มันเจ็บแล้วซ้ำมันอีกรอบ ถือว่าเป็นบทเรียนที่ล้ำค่าจากพี่ๆที่รักมันสุดหัวใจ



                “ แล้วสรุป... พวกมึงมาทำไม เอาตรงๆ ” ถามแล้วปิดปากหาวไปรอบหนึ่ง



                ยิ้มแฉ่งให้ผม “ ขอนอนด้วยนะ!! ” ก่อนจะมองเลยข้ามไปข้างหลังผมที่มีไอ้วินยืนอยู่ห่างๆด้วยสายตาวิบวับเหมือนเสือจ้องขย้ำฉีกเนื้อของเหยื่อกระต่ายน้อยแสนน่ารัก



                “ บ้านไม่มีรึไง ” ผมกระแทกเสียงกลับไปเริ่มขมวดคิ้วเมื่อคิดถึงความปั่นป่วนในห้อง “ กลับไปให้หมด ”



                ทำท่าจะปิดประตูใส่หน้าแต่สามพี่น้องก็สามัคคีชุมนุมทันทียื่นมือมาจับประตูไว้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ต่อด้วยบทโศก...



                “ อุ่น ฮึก ทำแบบนี้คือจะทิ้งพี่ใช่มั้ย มีมันแล้วลืมพี่เหรอ... พี่นั้นอุตส่าห์ห่วง หวง ดูแลตั้งแต่เล็ก ป้อนข้าวป้อนน้ำ ซื้อขนม ซื้อของเล่น ทำหน้าที่พี่... ”



                มึงคลอดกูออกมาแทนแม่เลยมั้ย! ถ้าจะขนาดนี้



                “ มึงเข้าห้องไป ไอ้ห่าลม!! ” ผมตวาดใส่เมื่อเจอมันยกเรื่องบุญคุณขึ้นมา ไอ้พี่เวรเอ๊ย! พอสั่งไปมันก็เลิกบีบน้ำตาเทียมสักทีรีบมุดลอดใต้แขนผมเข้าห้องไปเลย...



                “ อุ่น... ดินน่ะ ไม่เคยขัดใจอุ่น เวลาอุ่นป่วย ดินก็ไม่เคยห่าง ที่ดินเรียนหมอก็เพราะอุ่นเลยนะ เมื่อก่อนอุ่นน่ะป่วยบ่อย เฮียก็รักอุ่นมาก ยอมอ่านหนังสือมากมายเพื่อสอบหมอให้ติด... ”



                ไม่เป็นหมอทำคลอดกูเลยล่ะ



                “ มึงเองก็รีบไสหัวเข้าห้องไปอีกคนเลยไป ให้ไว ” รู้สึกประสาทจะกิน... หน้าเศร้าระรื่นขึ้นทันตาเห็นเลยมึง... รีบหอบผ้าห่มฟรุ้งฟริ้งเข้าห้องไป



                “ ไหน มึงมีอะไรจะดราม่าอีก ” จิกตาใส่น้อง



                ไฟยิ้มกว้าง “ ตั้งแต่เกิดมา ผมก็...เป็นเพื่อนเล่นกับพี่ พี่มีของเล่นอะไร ผมก็แย่ง พี่มีขนมอะไร ผมก็แย่ง พี่จะดูอุตราแมน แต่ผมจะดูเซเลอร์มูน ผมก็แย่งพี่ แม้พี่จะร้องไห้ ผมก็ไม่สน แล้วพี่... ”



                มึงนี่มันมารขวางชีวิตกูจริงๆ



                 “ มึงอยากโดนตีนกูมั้ย ”



                “ ไรอ่ะ ผมพูดเรื่องจริง จริงใจ! ” ยัง ยังไม่รู้ตัวอีก ผมยกมือขึ้นกุมหัวเพราะมันปวดจี๊ดขึ้นมาเลย โบกมือไล่ให้มันเข้าห้องได้ มันก็วิ่งพุ่งเข้าไปเลย ...ได้แต่ถอนหายใจให้เหมือนตายๆไปวันละหลายรอบ



                ...วันนี้มันวันซวยอะไรวะ



                เอื้อมมือจะไปจับลูกบิดประตูแต่ก็ดันมีเสียงโหยหวนแสนจะคุ้นเคยดังกระทบแก้วหูซะก่อนเลยต้องชะงักค้างยังไม่ได้ปิดประตู...



                “ ไอ้อุ่นนนนนนนน ”



                เสียงแบบนี้



                “ ไอ้หลานรหัสสสสสที่ร้ากกกกกก ”



                ตึกๆๆ



                สรรพนามเรียกแบบนี้...



                “ นึกแล้วว่าหลานรหัสคนนี้ต้องพึ่งได้! ”



                พร้อมกับการปรากฏตัวของ...เอิ่ม พี่ปายคนปกติของทุกคน... ยิ้มปากกว้างตาเป็นประกายเจิดจ้าแสบตายิ่งกว่าผมสีจี๊ดแดงเลือดสาดของมันที่ตอนนี้มีที่คาดผมหูเสือดาวประดับอยู่ส่วนผมก็ปล่อยยาวลงมาทำให้ตอนนี้เฮียแกดูผ่านๆจะเหมือนผู้หญิงมาก หัวเหมือนจะดี แต่ตัวนี่สิ... อะไรวะเนี่ย เสื้อสีเหลืองเจี๊ยบคว้านคอเผยไหปลาร้าสวยที่แขนไม่สมประกอบยาวข้างสั้นข้าง ลงมามองกางเกงสีเขียวโคตรที่ไม่สมประกอบพอกันยาวข้างสั้นเสมอไข่ข้างและไม่ทิ้งลายหนีบช้างดาว...มาข้างเดียว



                ขอยาดม... จะเป็นลม เฮือก!



                “ พี่... มาทำไม ” เหมือนปลาขาดน้ำเลยกู พยายามไม่มองถุงใส่เสื้อผ้าใบใหญ่ที่นึกว่าไปขโมยมาจากวงหมอลำหางเครื่องที่งานวัดมา...



                “ อะไรเนี่ย วู้ แขกมา ก็ต้องเชิญเข้าห้องก่อนดิว่ะ ” ใบหน้าสวยจิ๊จ๊ะขัดใจก่อนจะผลักผมให้หลบทาง “ เฮ้ย ขอเข้าห้องน้ำแปบ ปวดฉี่มาสามชั่วโมงแหละ จะเป็นนิ่วตายมั้ยวะ ” เดินควายขวิดตรงไปห้องน้ำทันที



                ผมแอบเหล่เหลือบซ้ายขวาว่าจะมีใครโผล่มาอีกมั้ย เมื่อไม่มีก็หดคอกลับเข้าห้องปิดประตูจริงๆจังๆหลังจากนั้นค่อยหันมามองในห้องไอ้สามหมาบ้ากำลังนั่งคนละมุมไม่วายยังจะล้อมไอ้วินที่น่ารักไว้ตรงกลางอีก... ผมเลยต้องถามขึ้น...



                “ รังแกผัวกูเหรอ ” เปรยตามองเรียงคน แต่ละคนรีบส่ายหน้าพรืด...



                ลมพุ่งหลาวไปกอดไอ้วินหมับเอาซะมันสะดุ้งเลยเหงื่อแตกยิ่งกว่าก๊อก “ ใครรังแก เราออกจะรักกันดี๊ดี กำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์พี่เมียกับน้องเขยไงจ๊ะ ใช่มั้ยไอ้ดิน ”



                “ ใช่แล้วววว เนี่ยเราออกจะรักไอ้เชี่ย เอ๊ย ไอ้ เหี้ย เอ๊ย ไอ้สัด เอ๊ย ไอ้วิน มากสุดๆขาดใจดิ้นเลยใช่ม่ะไอ้ไฟ  ” เดินมากอดไอ้วินอีกคน...



                แต่ไอ้ดิน ถ้ามึงจะเรียกผิดขนาดนั้น เอาตีนตบหน้าเลยเถอะ



                “ โคตรรักเลยพี่ เนี่ย ผมมาถามเฮียวินอยู่ว่าแบบจะแต่งวันไหน หมั้นวันไหน ผมจะได้ดูกฎหมายไงว่าแบบจดทะเบียนคู่รักชายชายได้ประเทศไหนบ้าง นี่พวกเราหวังดีเลยนะ พี่อย่ามองแต่ด้านร้ายๆสิ ”



                พวกมึงไม่ได้ร้ายหรอก...



                พวกมึงมันโคตรตอแหลเลย!!!



                ผมเดินเข้าไปในวงนั้นแล้วงัดตัวไปวินออกจากไอ้พี่น้องประสาทที่ตอนเด็กเชื่อว่าแม่ต้องลืมพามันไปฉีดวัคซีนแน่ๆ กันพิษสุนัขบ้าเนี่ย ตอนนี้มันเลยบ้าสุดโต่ง



                “ มึงไปนั่งนู้นไป ” ผมผลักมันเบาๆไปอีกทาง นี่ผมเป็นเมียมัน หรือมันเป็นเมียผมวะเนี่ย ทุกการกระทำอยู่ในสายตาอิจฉาสามคู่...



                “ ใช่ซี้ ”



                นั่นไง...



                “ พออุ่นมีความรัก ” ไฟ



                “ อุ่นก็ไม่สนใจพวกเรา ” ดิน



                “ ใช่สิ พวกเรามันไม่น่ารักนี่ ” ลม



                ผมพยักหน้า “ ใช่ พวกมึงโคตรเหี้ยเลย ”



                “อุ่นนนนนนนน ”



                “ อ้อ โคตรตอแหลด้วย สงสัยกินสตอเบอรี่กันเยอะไปนะ เพลาๆมั้งก็ดี ” ว่าหน้าตายก่อนที่ไอ้พี่ปายจะโผล่ออกมาจากห้องน้ำ 




ต่อโพสล่าง
หัวข้อ: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-03-2016 10:20:55


                “ โอ๊ะ ไอ้วินก็อยู่ด้วยเหรอ เออๆ หวัดดียามค่ำไอ้น้องรัก ” เล่นหูเล่นตากอดคอไอ้วินหมับ ทำเอาหางคิ้วผมแอบกระตุกพร้อมๆกับตีนที่เผลอกระตุกเหมือนกัน...



                สงสัย... ชักกระตุกเริ่มถามหาแล้วกู เดี๋ยวเสร็จงานจะไปโรงพยาบาลแล้วกัน เฮ้อ



                “ พี่ปาย มาไงครับ ” วินยิ้มเหมือนโลกของมันสดใสขึ้นเมื่อเจอคนมาทำลายบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความน่ากลัวของไอ้หมาสามตัว



                “ ถามแปลกๆใครมันจะเดินมา ” ขมวดคิ้วเหมือนเจอคนประหลาด แล้วคลี่ยิ้ม “ แต่กูก็เดินมาว่ะ ฮ่าๆๆ ”



                ใบ้สิมึงไอ้วิน หึ



                “ เชื่อเหรอ ” ปายถาม ไอ้วินพยักหน้า “ โง่ว่ะ  ใครมันจะเดินว่ะ ”



                “ ฮ่ะๆ ครับ ” หัวเราะได้แห้งยิ่งกว่าทะเลทรายซาอาร่าอีก “ แล้วมาทำอะไรครับ ”



                “ คือนี่เว้ย กูมาขอนอนด้วย ห้องกูท่อประปาแตก แล้วก็ไอ้อุ่นมันก็ให้แล้วด้วย ” หันมายิ้มหวานเชื่อมน้ำตาลปี๊บยังอายให้เจ้าของห้องอย่างผม “ หลานรหัสใจดีจริงๆ รักนะ จุ๊บ ม๊วบ ม๊วบ ”



                ม๊วบพ่องงง!



               กูไปอนุญาตมึงตอนไหนนนนนนนนนนนน!



                มึงสรุปเองทั้งนั้นนนน



                ไอ้พี่ปายคนบ้ามันเออออห่อหมกปลากะพงสามรสคนเดียวแล้วชะงักเมื่อเห็นว่าห้องมีใครนั่งหัวโด่อีกหลายคน แถมกำลังมองดูอย่างความสนใจกับไอ้พี่ปายผู้เหมือนเอเลี่ยนหลุดมาจากดาวอื่น



                “ ใครอ่ะอุ่น พี่น้องที่มึงเล่าให้ฟังใช่ปะ ” ชี้นิ้วไปที่สามคนนั้นด้วยหน้ามึนๆ “ เออๆ หวัดดีๆ กูลุงรหัสมัน ชื่อปายเว้ย ห้องหลานกูก็คือห้องกู พวกมึงมันคนอื่น ทำตัวตามสบายนะ กูไม่ถือๆ ”



                สามหมาทำหน้าแบบเดียวกันคือ...อึ้ง ตะลึง



                “ ให้กูนอนไหนวะอุ่น บนเตียงใช่มั้ย โอเค แต๊งกิ้วหลายหลานรัก ” ไม่ฟังใคร เดินดุ่มๆไปห้องผมแล้วจัดการเคลียร์หาพื้นที่นอนให้ตัวเองทันทีวางของแล้วเดินออกมาหยุดมองที่โมเดลของผม “ มา เดี๋ยวกูช่วยทำเนื่องด้วยที่มึงจะให้กูนอนด้วย ”



                ...มีใครบอกมั้ยว่ามันเหมือนคนบ้าเข้าทุกวัน ฟังคนอื่นบ้างเถิดดดด



                “ เฮ้ย มึงเป็นใครวะ สั่งนู้น เอานี่เอาแต่ใจตัวเองไปเปล่าวะ ”ไอ้ดินสลัดตัวลุกขึ้นยืนมองหน้าพี่ปายอย่างหาเรื่อง “ สนิทกับน้องกูเหรอมึง ”



                “ มึงนี่ไปแคะหูบ้างไปๆ บอกไปแล้วว่าลุงรหัส ฟังดิเฮ้ย ” พี่ปายว่าหน้าป่วย “ สนิทมาก รักกันมากด้วย  ไอ้พี่ชายหัวเน่า แบร่! ”



                “ ไอ้เหี้ยนี่!! ” ดินทำท่าจะพุ่งมาใส่แต่ก็โดนลมจับไว้ก่อน



                “ ขืนต่อยมัน เกิดโดนโมเดลในห้องขึ้นมา ศพมึงไม่สวย กูไม่รู้ด้วยนะเว้ย ” กระซิบเสียงหนักที่ได้ยินทั่วแบบนี้อย่ากระซิบเลย ไอ้ดินกะพริบตาแล้วมองดูรอบตัวที่มีโมเดลและกระดาษเยอะมาก มีทั้งใช้และไม่ใช้ ผมเองก็ยังไม่มีเวลาคัดแยกก็ปล่อยๆไปก่อน



                ดินหายใจฟึดฟัดสงบสติอารมณ์ตัวเองได้ลมก็ปล่อยแล้วหันมามองปายเต็มตาก็ยิ่งขมวดคิ้ว...



                “ แต่งตัวบ้าอะไร... ”



                “ สวยใช่มั้ย! ” ระริกระรี้เลยครับ “ มองหน้ามึงก็รู้แล้วว่าชอบชุดกู! ”



                “ หะ... ” ลมถึงกับเอ๋อเลย



                “ ไม่ต้องอายๆ ชอบแฟชั่นล้ำของกูก็บอกกันตรงๆ ” ถึงช่วงปายคนปกติจะได้อวดชุดกันแล้ว ผมทำหน้าละเหี่ยใจก่อนจะกวักมือให้ไอ้วินเดินมาหาผม... แต่ก่อนจะเดินมายกนิ้วขึ้นชี้ให้มันหยิบของตกแต่งสวนแล้วตามผมมา...อย่างเงียบที่สุด



                ส่วนผมก็เดินเงียบๆไปหยิบกระเป๋าหยิบงานหยิบหนังสือแล้วก็โทรศัพท์ เอาโมเดทที่ต้องส่งพรุ่งนี้ให้ไอ้วินถือแล้วพากันเดินออกจากห้องเงียบๆ... โดยใช้พี่ปายเป็นเหยื่อล่อความสนใจ...



ธาราคืนพื้นที่ขอหนีไปทำงานและหาความสงบก่อน...








ช่วงสามหมาบ้า ปะทะ ปายคนไม่ปกติ...



 



“ พวกมึงฟังดีๆนะ ”



                เชิดหน้านิดๆอย่างสวยๆก่อนจะกระแอมไอพูดเสียงหวาน...



                “ นี่นะ เสื้อตัวนี้จริงๆแล้วมันเป็นเสื้อแขนยาวคอเต่า แต่กูว่ามันธรรมดาจนไม่น่าใส่เลยตัดคว้านคอตัดแขนไปข้างหนึ่ง ” หน้าภูมิใจโคตรๆ



                “ มึงแม่ง ” ไฟ



                “ โคตร ” ลม



                “ ประสาท ” ดินจิกตาเหยียดอีก



                คิดหรือว่าคนอย่างปายจะสะเทือน... พรีเซ้นต์ตัวเองต่อ



                “ ชอบมากจนต้องด่าเลย กูประทับใจน้ำตาจะไหลจริงๆ ” มันว่าด้วยสีหน้ายินดีสุดๆ “ นี่ๆๆ กางเกงกู สีโคตรโดนใจ ซื้อมาจากตลาดตัวละแปดสิบ กูต่อมาได้ตัวละสี่สิบ คิดแล้วว่าถ้าใส่ทั้งๆที่มันขายาวทั้งคู่มันคงโคตรจะบ้านพื้นๆเลยว่ะ เลยตัดออกซะเลย ”



                “ ...บ้า ” ไฟย้ำ



                “ โคตร ” ลมเหงื่อตก



                “ โคตะระบ้าเลยเถอะ ” ตบท้ายด้วยดินที่ทำหน้าไม่ถูกไม่รู้จะรับมือกับคนบ้ายังไงแล้ว...



                “ บ้าอะไร ออกจะปกติใช่มั้ย ไอ้อุ่นไอ้วิน ” หันไปหน้าตัวช่วย...ที่หายไปแล้ว... “ วินอุ่น... ไปไหนวะ ” เกาหัวแกรกๆ



                สามหมาหูตั้งทันทีสายตาเหยี่ยวสามคู่หันคนละทิศละทางอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งลนลานรอบห้อง...



                “ อุ่นนนนนนนนนนนน อุ่นอยู่ไหนนนน ” ประสานเสียงกึกก้องหอแทบแตก



                “ ฮือ ไอ้เหี้ยนั่นมันต้องโปะยาสลบแล้วพาตัวอุ่นไปแล้วแน่ๆ! ” ดินร้องครวญครางอย่างน่าสงสาร



                “ มันต้องเอาตัวอุ่นไปข่มขืนรังแกขืนใจชัวร์! โฮ น้องน้อยของเพ่! T^T  ” ดินทำหน้าจะตาย



                “ แจ้งตำรวจ ตำรวจจจจจจจจจ คนหายเว้ยยยยยยยย ” ไฟร้องลั่น



                “ ใจเย็นๆน่ะพวกมึง ”



               ปายเอ่ยห้าม... แต่...



              “ อุ่นนน อยู่ในตู้เย็นรึเปล่า! ”



                “ พี่อุ่น อยู่ในชักโครกเปล่า! ”



                “ อุ่นอยู่ในไมโคเวฟเปล่า อุ่นตอบบบบบบ ”



                ทั้งสามวิ่งวนๆทั่วห้องเปิดตู้เสื้อผ้าห้องน้ำเปิดตู้เย็นยันไมโคเวฟวิ่งหาอยู่สิบนาทีเมื่อไม่เจอก็พากันวิ่งพล่านทั่วตึกหอโดยสถานการณ์วุ่นวายนี้มีคนคนหนึ่งมองดูอยู่ตลอดเวลา... ปายมองแล้วพึมพำเบาๆ...



                “ พวกมึงสิ...บ้า ”




                โอ๊ะ... ไม่มีใครอยู่แบบนี้... แสดงว่าห้องเป็นของกูแล้วสินะ อิอิ




                ล็อคห้องเลยแล้วกัน!!




 
จบความบ้าสำหรับคืนนี้







----------------------------------------
แฮ่! มาเเล้ววววว
มาช้าไปหน่อย  เรียนพิเศษหนักไปหน่อย แหะๆ

เรื่องราวเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากความไม่ปกติของเเต่ละคน
เป็นเรื่องเบาๆสมองขำขัน ไม่เครียด
แต่ไม่รู้ว่ามันออกมาฮาหรือแป๊ก 555555555
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ

ยังไงก็...ชอบไม่ชอบกันก็อย่าลืมเม้นต์ส่งกำลังใจให้ด้วยนะคะ

1 คอมเม้น = 1 กำลังใจ


ทีมพี่วิน ต้องสตรองนะคะ

ทีมพี่ปาย ต้องเเฟชั่นไกล

ทีมหมาบ้า ต้องมีสติ


แล้วเจอกันกับความฮาของตอนต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 12-03-2016 14:13:31
 :hao7: :hao7: :hao7: ชอบพี่ปายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-03-2016 16:56:20
น้ำอุ่นโตขึ้นมาเป็นคน(เหมือนจะ)ปกติได้ยังไงเนี่ย...คนรอบข้างเป็นซะแบบนี้ ฮา
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-03-2016 18:09:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: brave ที่ 12-03-2016 20:44:58
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-03-2016 21:00:01
จะฮ่าไปไหน โดนใจทุกตอนเลย ขออยู่ทุกทีมเลย ชอบไปหมด อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 12-03-2016 21:19:25
คนบ้ามาเจอกับคนบ้า 555
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-03-2016 21:34:05
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 12-03-2016 22:56:54
5555555555555555555555555555555

โคตรบ้าเลย จริงๆ 5555555555555555555555555  :m20:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: แอลฟาฮาลา~ ที่ 13-03-2016 07:33:17
รวมตัวคนบ้า :z2:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-03-2016 20:27:31
อุ่นเกือบปกติที่สุดแล้วใช่มั้ย เรื่องนี้วินน่าสงสารที่สุดขนาดน้องชายตัวเองยังแกล้งเลย 555
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 13-03-2016 21:43:30
 :m20: :m20: สนุกอ่ะ..มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ... :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 15-03-2016 20:25:11
คือ บ้าเกินเยียวยาจริงๆ ทั้งปายทั้งสามพี่น้อง อุ่นก็มึนเกินนนนน แต่ก็น่ารักกก พี่วินก็ยังคง...น่าสงสารเช่นเดิม 55555 :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Lonelyนู๋โรนลี่ ที่ 15-03-2016 22:42:54
มีพี่น้องแบบนี้ปวดหัวจริงๆ อุ่นทนมาเป็นผู้เป็นคนได้โคตรเก่งอะ
พี่ปายคนสวย คู่กับใครหรือเปล่าาา ในสามพี่น้องที่เหลือ  ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-03-2016 09:28:30
จะมายังน่ะ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 6 หน้า 4 [12/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: brave ที่ 22-03-2016 20:00:33
รีบบมาต่อน้าา :m5: :m5: :call:
หัวข้อ: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 25-03-2016 21:04:12


นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตัวพ่อ

ตอน เสื้อใครหว่า



By เดือนพราย




ธารายึดพื้นที่เนื่องจากหาที่สงบได้แล้ว





                ที่สงบนี่ที่ไหนกันล่ะ...


                ห้องผัวทาสนั่นเอง


                ไม่ใช่ที่อื่นที่ไกล


                ผมมองไอ้วินที่นั่งทำหน้ายิ้มกริ่มตาปิดจ้องหน้าผมมาร่วมชั่วโมงแล้วได้แต่ถอนหายใจ ดึงสติกลับมาทำงานตรงหน้าให้เสร็จ... แต่ทำไมยิ่งเพ่งมันยิ่งช้าวะ


                แล้วไอ้สายตาที่จ้องมาเหมือนจะแดกกูเข้าไปนี่จะเลิกได้ยัง


                เรียกหนีหมา ปะจิ้งจอกได้มั้ย


                เจ้าเล่ห์ชิบหาย


                “ มือสั่น หนาวเหรอ ” เสียงทุ้มถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ เอาซะ สติผมวิ่งหนีกระเจิงเลยทีเดียว

                หนาวเหี้ยไร ร้อน ร้อนเพราะสายตามึงเนี่ย วูบวาบเลยมึง

                “ เสือก หุบปากไป ” ผมระบายลมหายใจทิ้งก่อนจะหยิบกาวมาทาขาโต๊ะจิ๋วแล้วติดมันลงกับโมเดลบ้าน “ เสร็จแล้ว ”

                “ โอ๊ะ เสร็จเร็วแบบนี้ก็ต้องกลับห้องแล้วอ่ะดิ ” หน้าตาซึมทันทีที ใครมันจะไปหลงกลมันกัน

               ผมเลิกคิ้วอารมณ์ประมาณไม่ตอบไม่ปฏิเสธ ลุกขึ้นบิดขี้เกียจเดินไปหาอะไรในตู้เย็นห้องมันกินแก้หิว เหลือบมองนาฬิกาก็เกือบๆห้าทุ่มแล้ว ปล่อยห้องให้ไอ้เหี้ยพี่ปายอยู่พร้อมกับหมาบ้าสามตัว หวังว่าคงไม่ตีกันห้องพังไปแล้วนะ

สองขาพาตัวเองขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้ทรงสูงหน้าเคาน์เตอร์เท้าแขนรอการมาของเจ้าของห้อง...

“ หือ? อะไร ” มันเดินตามเข้ามางงๆ ก่อนจะถามขึ้น  “ มานั่งนี่ทำไม ”

ผมเหลือบตาไปอีกข้างก่อนจะพูด “ หิว ”

“ ห่ะ ”

“ ทำอะไรให้กินหน่อย ” พยายามปรับเสียงให้เบาลงนิดๆ ให้ดูเหมือนผมอ่อนมัน ถึงผลที่ออกมาจะเข้มห้าวก็เถอะ... ไม่ต่างจากตอนผมขู่มันสักนิด

“ อ้อนเหรอ ดีใจจริ๊งจริง ” มันแยกเขี้ยวใส่ “ จะเล่นละคร กรุณาทำให้เหยื่อตายใจหน่อยสิครับ ”

“ กูอ้อนได้แค่เนี้ย จะทำไม ” แหวใส่พร้อมหน้าที่เริ่มเหวี่ยง หิวน่ะเฮ้ย


มันส่ายหน้าแล้วเบือนหน้าไปอีกทางเหมือนคิดอะไรสักอย่าง “ หิวใช่มั้ย ”


“ เออ จะแดกหัวมึงได้แล้ว ” จิ๊ปากอย่างหงุดหงิด เวลาทำงานเสร็จผมจะหิวมากๆ ถึงแม้จะกินมื้อเย็นไปแล้วก็เถอะ

“ กินทั้งตัวก็ได้นะ พี่ไม่ว่า ” ทำท่าจะถอดเสื้อกล้ามโชว์ผิวขาวสว่างของมันอีก

“ มึงเลิกหื่นกับกูสักทีเถอะ ” กูกลัว! สาบานนี่กลัวแล้ว แต่แสดงออกไม่เป็น “ หาอะไรให้กูกินเร็วๆ หิว! ”


ผมเริ่มปั้นหน้านิ่งไม่ไหว ถ้ามันไม่ทำให้ผมกินภายในห้านาทีสาบานได้เลยว่ามันจะเจอกับนิสัยอีกด้านของผมที่ผมเองก็ไม่เคยรับได้ แน่นอนว่าจะไม่ให้ใครเห็น แค่วันนี้ผมก็แสดงด้านที่ไม่ควรจะให้ใครสัมผัสแต่มันก็อดไม่ไหวจริงๆ แต่ยังดีที่มันไม่รู้ตัว


“ โอ๋เอ๋ๆ ไม่งอแงนะฮันนี่ ไปกินข้าวต้มถ้วยละบาทมั้ย ” มันยิ้มละไมให้มองผมด้วยสายตาอ่อนโยนแล้วกระตุกข้อมือผมยิกๆ “ เลี้ยงไม่อั้น ”


...ถ้วยละบาท... กูแดกยี่สิบถ้วย มึงก็ไม่สะเทือนหรอก


“ ไป ” พยักหน้าก่อนจะหันไปดูนาฬิกาเล็กน้อย “ พากูกลับมานอนก่อนเที่ยงคืนครึ่งด้วย  ”

“ รับทราบ ” มันพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะทำหน้าไม่แน่ใจ “ เอ่อ... ให้ปลุกกี่โมง ”

“ ฮะ!? ” ผมเผลอร้องอย่างลืมตัวก่อนจะหันควับไปมองหน้ามัน “ อะไรนะ ”

ใบหน้าหล่อของมันดูจะมีอะไรแปลกๆที่ผมอ่านไม่ออก มันไม่ได้อะไรอะไรย้ำคำถามเดิม “ ให้ปลุกกี่โมง ส่งงานกี่โมงจะได้ปลุกถูก มึงจะได้นอนสบายๆไม่ต้องกังวลจะตื่นไม่ทัน ”

“ ส่งงานตีห้าตรง ” ผมตอบไป... มองมันที่กำลังสาละวนกับการหาเสื้อคลุมมาสวมทับเสื้อกล้ามแล้วก็เปลี่ยนกางเกงแม่งกลางห้องเลย ไม่เกรงใจเบ้าตาผมสักนิด แต่ช่างเถอะ ผู้ชายผู้ชายไม่มีไรให้อาย แต่...แอบเห็นแวบๆ กล้ามหน้าท้องสวยว่ะ

“ อ่าฮะ โอเค ”  เพราะมันหันหลังให้เลยไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าผมกำลังมองมันอยู่

“ ปะ ไปกัน ”

.

.


.

ความมืดรอบตัวสร้างความเงียบสงบให้ความรู้สึกที่ฟุ้งซ่านสงบลง... สองเท้าเดินไปเรื่อยๆเอื่อยๆ แต่ใจก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย...


เริ่มจมลงกับความคิดตัวเองทบทวนหลายอย่างเงยหน้ามองอยู่แผ่นหลังกว้างที่เดินนำอยู่ข้างหน้า เราทั้งคู่ตกลงว่าจะเดินเท้าไป เพราะมันอยู่ไม่ไกลมาก ถือว่าออกกำลังกายไปในตัว ไม่รู้อะไรทำให้รู้สึกว่าผมไม่ควรเดินข้างมัน...

ข้างๆมัน...เป็นผม จะดีเหรอวะ


คิดแล้วคิดอีก มันแม่ง...ดี ดีเกินไปด้วย ดีจนผมไม่รู้จะทำยังไง ถึงจะอยู่กันมาแค่สองสามวัน แต่มันกลับไม่บ่นอะไรสักเท่าไหร่เวลาโดนกระทำ...


บางครั้งผมก็ถามตัวเองซ้ำๆ ...คนแบบมันจะดีเกินไปสำหรับผมมั้ยวะ

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนแบบนี้หลงมาจีบผม...

ใช้หัวแม่เท้าคิดรึไง หรือเพราะกูหล่อ

ต้องเพราะกูหล่อชัวร์ๆ


“ คิดอะไรอยู่ ”


ผมสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทุ้มข้างๆหู เปลือกตากะพริบถี่ๆแล้วหันไปมองมัน... รู้ตัวอีกทีผมกับมันก็ยืนข้างกันแล้ว... ผมเบือนหน้าหนี ไม่รู้เว้ย ตอนนี้สับสน!!


“ โกรธอะไรรึเปล่า ” มันถามจริงจัง คงรู้สึกได้ว่าผมแปลกๆ


แน่นอนว่าผมต้องพูดความจริง “ เปล่า ” กูแค่สับสนตัวเองเว้ย ให้เวลากูหน่อยดิว่ะ! แค่อยากคิดอะไรเงียบๆ


“ นึกว่าหิวจนโมโหไม่พูดแล้วซะอีก ” มันถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะยกยิ้ม “ กูก็ไม่รู้หรอกว่ามึงเป็นอะไร แต่โกรธอะไรกูก็ขอให้บอก ”


“ ... ” ไม่ได้โกรธไง แค่กูสับสนตัวเอง สับสนเรื่องมึงเนี่ย ไอ้เชี่ยวิน! คิดว่ากูจะพูดเหรอ ไม่มีทาง!!


“ แต่ถ้ามึงกำลังคิดเรื่องกูอยู่ "


หน้ากูสื่อขนาดนั้นเลยเหรอวะ!!


“ มึงไม่ต้องเครียดหรอก ” น้ำเสียงดูหมองลงอย่างชัดเจนจนผมที่ก้มมองพื้นอยู่ต้องเงยหน้ามองมัน สบเข้ากับแววตาสั่นๆ...


“ เชี่ยวิน... ”


“ ถ้ามึงพูดว่ารำคาญเมื่อไหร่ ” รอยยิ้มขมๆถูกหยิบขึ้นมาประดับบนใบหน้าขี้เล่น


“ ... ”


“ กูจะไป... แล้วไม่มาให้มึงเห็นหน้าให้รำคาญอีก ”


ความรู้สึกเหมือนถูกชกกลางอากาศมันเป็นแบบนี้สินะ นัยน์ตาเบิกกว้างตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ผมรู้สึกเหมือนจะหูอื้อไปชั่วขณะมือแอบรู้สึกสั่นนิดๆ ก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่น... หึ...ก็ได้... หลับตาลงแล้วจ้องหน้ามันด้วยสายตายียวน...


“ เหี้ยวิน ”


“ อะไร ” เริ่มระแวงกับสายตาผม...


“ น่ารำคาญ ”


“ !! ” มันนิ่งชาไปเลย ก่อนผมจะหัวเราะในลำคอเบาๆ... “ เข้าใจแล้ว ”


“ เข้าใจห่าไร รำคาญ พูดมาก กูหิว จะไปแดกข้าวต้มได้ยัง ” บ่นใส่แม่ง “ ดราม่าเพื่อ ถ้ากูไปนอนไม่ทัน มึงตาย ”


มันสตั๊นอีกรอบก่อนจะหลุดยิ้มจากที่ยืนเป็นพระเอกอกหักอยู่ จะดราม่าเพื่อไร... สัดจิ้งจอก มึงเล่นละครดราม่าใส่กูเหรอวะ!!


“ ยิ้มเหี้ยไร เดินดิ! ”


เป็นผมเองนั่นแหละที่ฉุดแขนให้เดินตาม... คราวนี้มันเดินตามมาง่ายดายไม่อิดออดมีมาแซะๆเดินเบียดจะสิงร่างอีก... ผมสะบัดแล้วเดินห่างมันหลายรอบแล้ว แต่สุดท้ายมันก็เดินมาขนานขนาบข้างตลอด พอจะเดินขึ้นนำคราวนี้มันคว้ามือผมไปจับเลย... ผมที่เดินขึ้นหน้าไปแล้วก้าวหนึ่งหยุดนิ่งแล้วหันกลับไปมองมือข้างหลังที่ถูกจับไว้แน่น... ผมหันกลับไปมองข้างหน้าก่อนจะเอ่ยอย่างจริงจัง...


“ จะปล่อยไม่ปล่อย ”


“ ไม่ปล่อย ” มันบีบมือผมแน่นขึ้นไปอีก เหมือนจะรู้ความหมายของคำถาม


ผมเอี้ยวคอกลับไป... “ ดี ”


จากนั้นผมก็ถอยหลังลงไปก้าวหนึ่งเพื่อจะยืนข้างๆมัน... มันพยายามกลั้นยิ้มก่อนจะเดินอีกครั้ง ไปพร้อมๆกัน...


ข้างๆมันน่ะ... เป็นผมน่ะดีที่สุดแล้ว


เพราะมันเป็น(ผัว)ทาสของผม


ของของผม...ไม่ว่าจะสถานะไหน


ก็คือของผม


ตอนนี้ผมแน่ใจแล้ว... แน่ใจแล้วที่จะเปิดใจ... ลองรับมันเข้ามา...


ยังไม่ได้ชอบสักหน่อย อย่าเข้าใจผิด! L


คนอย่างธารา... ใจไม่ง่ายน่ะเว้ย!


ยิ่งกับคนเจ้าเล่ห์อย่างมัน... ดูกันยาวๆ!!










“ หลังจากนี้... มึงคงปวดหัววันละหลายๆรอบชัวร์ ”


เสียงดังขึ้นพลางตักยำไข่เค็มเข้าปาก ซี๊ด เปรี้ยวชิบ! จากนั้น ค่อยยกถ้วยข้าวต้มหนึ่งบาทที่แม่งหนึ่งบาทสมราคาจริงๆ ตักคำเดียวหมดถ้วย ต่อให้ห้าสิบถ้วยก็ยังไม่รู้จะอิ่มรึเปล่า


“ ทำอย่างกับตอนนี้กูปกติดีครบสามสิบสองงั้น ”


“ กวนตีน ” ยักไหล่พลางพองลมปากไปด้วยเพราะความร้อนของข้าวต้ม “ มึงคิดว่าพี่ปายนี่บ้ามั้ย ”


“ เอาตรงๆ หรือ อ้อมๆ ”


กลืนข้าวคำใหญ่ลงไป “ ตรงๆ ”


“ โคตรบ้า ” มันว่าด้วยสีหน้าแปลกๆ “ ดูประหลาด ”


หางคิ้วผมกระตุกยิกพร้อมกับตีนที่เริ่มคันๆ...


“ ไม่ชอบ? ”


“ เปล่า ” มันรีบปฏิเสธทันที แล้วเรียกเด็กในร้านมาเติมข้าวให้อีก เอาใจเก่งจริงๆเลยนะมึง


เอื้อมมือไปหยิบน้ำมาดื่มเคี้ยวน้ำแข็งหลอดไปด้วยแก้ปากพองคอพองเพดานเหงือกพอง แม่งพองทั้งปากแล้ว...


“ กูจะบอกอะไรไว้อย่างนะ ” ยกหลอดสั้นสีชมพูสว่างชี้หน้ามัน...


“ ... ”


“ มึงว่าพี่ปายบ้าแล้ว ”


“ ... ”


“ กูน่ะ...บ้ากว่ามันสองเท่า ”


“ !! ”


“ แฟชั่นกูเจ๋งกว่าเยอะ! ” ตักไข่เค็มเข้าปากต่อ เชี่ย! มีพริก ซี๊ดด เผ็ด " รอกูส่งงานก่อนนะ แล้วจะโชว์ "


เอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง “ ...ถอนตัวทันมั้ย ”   


“ ไม่ทันแล้ว” มุมปากของผมยกยิ้มกว้าง “ เตรียมตัวปวดหัวได้เลย ที่รัก J ”





*****ต่อโพสล่างนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 25-03-2016 21:56:10
กริ๊งงงงง กริ๊งงงงงงงงง


“ อืม... ” คิ้วเผลอขมวดเข้าหากันอย่างเสียมิได้เพราะเสียงรบกวนดังขึ้นข้างๆหู เปลือกตาปิดแน่นขึ้นด้วยความง่วงงุนสุดกำลัง ผ้าห่มที่กอดแน่นมาทั้งคืนถูกกระชากออกอย่างแรง

“ ตื่นเร็ว ตีสี่กว่าแล้ว ” เสียงแมลงวันที่ไหนวะ รำคาญ!


ผมไม่ตอบพลิกตัวนอนคว่ำฝังหน้าลงกับหมอนได้อยู่ไม่กี่นาที แรงควายก็มาดึงแขนดึงไหล่ให้ผมลุกขึ้น ผมดิ้นเบาๆเป็นการประท้วงเหมือนไม่อยากลุก

“ มึงนี่บทจะเด็กก็เด็กจริงๆ ” เสียงทุ้มว่าอะไรผมก็ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ รู้แค่ว่าตอนนี้ ง่วง!!

ปัดมือทิ้ง “ จะนอน! ” ผลักออกทั้งที่ยังไม่ลืมตาขึ้นมามอง ผลักได้ก็ล้มตัวนอนต่อ

“ ธารา ลุก เดี๋ยวไปส่งงานไม่ทัน ” เสียงเครียดดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้ความง่วงทั้งหลายปลิวสะบัดตาสว่างเหมือนโด๊ปกระทิงแดงผสมM150เข้าไปเลยทีเดียว ดีดตัวขึ้นจากเตียงแทบไม่ทัน

“ กี่โมงแล้ว ” ผมรีบถามเลย

“ ตีสี่สิบนาที ” มันว่าแล้วยื่นผ้าขนหนูให้ผม คิ้วขมวดหรี่ตามองของในมือนิ่งเงียบ “ ผืนใหม่น่า กูรู้ยังไงมึงก็คงไม่ใช้ผ้าของกู รับไปสิ ”

รู้สึกมีการประชดประชันและน้อยเนื้อต่ำใจอยู่ในนั้น... ผมไม่ได้พูดอะไร รับมาไม่ได้มองหน้ามันแล้วเข้าไปอาบน้ำ... พออาบไปได้แปบก็...

“ เฮ้ย! วินยืมสบู่นะ! ”

“ เออ ”

“ ยืมยาสระผมด้วยนะ! ”

“ จะยืมอะไรก็ยืมไปเถอะครับเมีย ” เสียงหน่ายจิตดังมา ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปหยิบแปรงสีฟันสีน้ำเงินเข้มที่มีอยู่อันเดียว

“ ยืมแปรงสีฟันด้วยนะเว้ย ”

“ เออ!! ”

มันเงียบไปสองวิก่อนจะโวยวาย “ เฮ้ยยยย มึงจะบ้าเหรอ ” ปัง! เวร ทุบประตูทำแป๊ะไร แปรงสีฟันแทบจะร่วงจากปาก “ รังเกียจมั้ยหา! ”

“ อืม ถามกูเหรอ ” ผมครางตอบไปขณะที่ปากก็เต็มไปด้วยยาสีฟันที่ขึ้นฟองเลอะทั่วปาก “ ก็ไม่นะ มึงอย่าคิดไปเองดิว่ะ รำคาญ คิดเล็กคิดน้อยเป็นตุ๊ดไปได้ ”

“ มึงนี่มัน... ” ไอ้วินมันร้องโอดครวญ เป็นห่าอะไรของมึง “ ทำไมมึงน่ารักแบบนี้วะ ”


ปัง!!!



“ น่ารักบ้านอากงเตี่ยมึงสิว่ะ!  ต่อยกันมั้ยวะ! ” เหวี่ยงมือไปทุบประตูอย่างดังกับความร้อนที่อกมันพุ่งปรี๊ดขึ้นมาทันทีเมื่อมันพูดไม่เข้าหู มันไม่สนอะไร นอกจากหัวเราะแล้วเงียบไป

ปล่อยให้ผมยืนฟึดฟัดเป็นหมีกินผึ้งอยู่นาน ใช้เวลาในห้องน้ำต่ออีกไม่กี่นาทีผมก็เดินออกมาในสภาพเปียกชุ่มทั้งตัวพันผ้าขนหนูช่วงล่างหลวมๆ ไม่ได้อ่อยมันน่ะเฮ้ย! แต่ไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้าไปก็แค่นั้น

“ มึงควรรู้นะ ว่ามีกูอยู่ในห้องไม่ควรออกมาสภาพนี้ ” เสียงเจ้าของห้องดังแทบจะทันทีตอนขาผมก้าวออกมาพ้นขอบประตูห้องน้ำ “ ถึงกูจะโคตรจะเป็นคนดีในสายตามึง  กูก็มีอารมณ์นะ ”

“ มึงมันหื่น มึงมันโรคจิต มึงมันไม่ปกติ ”ตอบกลับไปไม่ได้ยี่หร่ะอะไร “ เลิกใช้สายตาหื่นๆมองกูได้แล้วไอ้เหี้ย ”

“ ก็ดูหุ่นมึงดิว่ะ! แม่ง ”

“ ห้องกูมีกระจก กูหุ่นดี กูรู้ตัว ” หันไปมองมันแค่เสี้ยวหน้า “ ส่วนมึง... คงอ้วนเป็นหมูล่ะมั้ง ”

“ จะดูมั้ยล่ะเมีย! ” ลุกพรวดมาพร้อมหน้าตาขึงขัง เตรียมโชว์

ส่ายหน้า “ เสียสายตา ”

“ เห็นแล้วจะน้ำลายหก ” ยิ้มกระหยิมกระย่องใจสุดๆ มั่นหน้าจริง เวลาอยู่กับผมนี่อย่างกวนประสาท แต่เวลาอยู่ต่อหน้าไอ้สามบ้านี่แมวป่วยเป็นมะเร็งใกล้ตาย “ และจะอดใจไม่ไหววว ”

เลิกสนใจมันแล้วลงมือคุ้ยหาชุดนักศึกษของตัวเองพร้อมเสื้อสูทที่ต้องใส่คลุมทับตามกฎที่เท่าไหร่ของมหาลัยไม่รู้ที่ต้องใส่ให้เรียบร้อยเวลาจะทำงานส่งงาน ออกงานพิธี เสื้อสูทจะใส่ทับเเค่เวลาส่งงานเพราะมันจะปักชื่อกับรหัสนักศึกษาไว้ เผื่อให้อาจารย์เเก่ๆบางคนอ่านชื่อได้ จำได้ เพราะเเต่ละชั้นปีนักศึกษาเป็นร้อยๆพันๆคน หยิบออกมาได้แล้วก็เอาไปข้างๆกับชุดของไอ้วินที่มันวางไว้บนเตียง จากนั้นเดินไปโต๊ะกระจกยืมแม่งทุกอย่าง ตั้งแต่สบู่จรดโลชั่น

“ มึงนี่มันชักช้าจริงๆ จะตีห้าแล้ว  ” เสียงกวนประสาทกระทบเยื่อแก้วหู “ จะแต่งตัวอีกนานมั้ยพ่อคุณ ครีมกูจะหมดกระปุกแล้วครับ ”

“ แล้วทำไมไม่รีบบอกวะ! ” ผมตวาดลั่นโยนบีบีครีมกันแดดของมันทิ้งแล้วผุดลุกไปคว้าเสื้อผ้ามาใส่ “ เอาเนกไทมายืมดิ เอาเข็มขัดด้วย เอารองเท้าด้วย ถุงเท้าด้วย ”

“ มึงไม่เอาชุดกูไปเลยล่ะ แหม ถ้าจะขอขนาดนี้ ” มันทำหน้ามึนๆ พูดกวนตีนจบก็หาของมาให้ผม มือผมก็สาละวนยุ่งกับกระดุมเสื้อ โอ๊ยยย ปานนี้หน้าห้องแม่งต้องเต็มแล้วชัวร์ๆ

“ มึงเอารองเท้ากูไป แล้วกูจะใส่อะไร ” มือหนายื่นถุงเท้ามาให้ผม รีบคว้ามาใส่อย่างว่องไว

ตอบแบบไม่ต้องคิด “ ช้างดาวลูกเลิฟกูไง ”

“ กูได้โดนตัดคะแนนสิมึง ” มันถอนหายใจปลงๆ เพราะคิดแล้วว่ายังไงวันนี้ผมต้องยึดรองเท้ามันแน่ๆ “ ช่างมันเถอะ เจ๊นิสิตาไม่ค่อยเคร่งเท่าไหร่ ”

“ ไปเอากุญแจรถดิว่ะ เร็ว ” พอแต่งตัวเสร็จ ผมก็จิกใช้มันทันที แขนมือก็คว้าข้าวของเตรียมพร้อมไป

ไอ้วินมันเลิกคิ้ว “ จะให้กูไปสภาพนี้ ” เสื้อกล้ามกางเกงบ็อกเซอร์

“ ใครแคร์ ”

“ กูนี่ไง!! ” ปากว่าแต่มันก็เดินไปหยิบกุญแจรถมา  แถวบ้านเรียก กวนตีน จากนั้นแล้วจึงเดินไปคว้าผ้าขนหนูติดมือมาอีกไม่พอ ยังเอาหวีมาอีก เอามาทำแป๊ะไรวะ ช่างเถอะ

“ เร็วๆดิว่ะ ” หน้าตาเริ่มไม่พอเก็บอารมณ์ ยืนขาแข็งถือโมเดลรอมันหน้าห้อง ไอ้วินมาแกล้งเดินเอื่อยๆหยิบนู้นนี่นั่นหาเสื้อแจ็คเกจมาสวมแล้วใส่ช้างดาวลูกชายที่น่ารักของผมออกมา

“ เชิญครับเมีย ไปเร็วครับเมีย อีก 10 นาที ตีห้าครับ ”

“ มึงช้าเองปะ ” บ่นด้วยความหงุดหงิด หอบโมเดลไว้ในมือก่อนจะตรงไปบิ๊กไบค์ของมันแต่ไอ้วินมันคว้ามือผมแล้วส่ายหน้า “ มึงจะอะไรอีกวะ เดี๋ยวกูไปไม่ทัน ”

“ ไปมอไซด์ งานมึงได้พังสิเมีย ” ถุ้ย ไอ้ผัว ทำหน้าทำตาเหมือนกูโง่มาก “ อย่าโง่ ”

“ งั้นบอกมาดิ๊ พ่อคนฉลาด จะให้ไปยังไง ”

ชี้ไปอีกทาง “ คันนู้นครับเมีย ”

ลากสายตาไปมองตามนิ้วของมันแล้วพบกับออดี้สี...สีเหี้ยอะไรก็ไม่รู้เพราะแม่งฟ้ายังมืดอยู่ ตอนนี้ไม่สนเหวอะไรแล้ว นอกจากส่งงาน และงาน และงาน!


เท้ารีบตรงดิ่งไปรถของมันทันที



“ ไม่ต้องรีบหน่ามึง ทันอยู่แล้ว ” ไอ้วินสอดตัวเข้ามาในรถได้ก็พูดขึ้นให้ผมคลายกังวล

สีหน้าของผมไม่ได้ดีขึ้นเลยจริงๆ “ มึงขับไปเร็วๆเถอะน่า ”

สั่งเสร็จแล้วค่อยมาคลำหาโทรศัพท์โทรหาไอ้เพื่อนสองตัว ไอ้สายแรกนี่มาแบบเพิ่งตื่นแทบเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง พอต่อสายไปหาอีกคนก็ตอบมาด้วยเสียงอารมณ์ดีสุด บ่งบอกว่ามันถึงหน้าห้องพักของอาจารย์เลย

ภายในรถเงียบสนิทจนไปถึงคณะของผม นี่ก็ไม่ได้รู้จักมารยาทเลย ถึงที่ปุ๊บเฉดหัวสารถีทิ้งทันที โกยเท้าวิ่งไปชั้นสองทันที เท้าข้างขวาแตะถึงชั้นสองแล้วต้องชะงักเมื่อเจอเพื่อนยี่สิบกว่าคนกำลังนอนกับพื้นมีโมเดลหลากหลายวางข้างตัว บางคนไม่ห่าง แล้วห่างออกไปไม่กี่เมตรก็มีพวกที่กำลังนั่งทำโมเดลอยู่ด้วยสีหน้าเกร็งเคร่งเครียด ผมเดินไปหาห้องพักอาจารย์เพื่อหยิบป้ายหมายเลขแล้วเดินไปนั่งที่ที่นั่งริมระเบียงอันมีไอ้เชี่ยคิมนั่งหล่อกระดิกหัวแม่ตีนอยู่

  " โห เเต่งตัวเรียบร้อยนะมึง มาซะเต็มยศเลย " เสียงเพื่อนดังเเซวมาทันที ซึ่งมันก็มีสภาพไม่ต่างจากผม หัวจัดทรงมาอย่างถูกระเบียบ เสื้อสูทสีดำพาดไว้บนไหล่

 " คะเเนนทั้งนั้นไอ้ห่า " ผมบ่น ยกมือเช็ดหงื่อบนหน้า " ร้อนชิบหาย " อยากจะถอดเสื้อสูทนอกออกแต่เดี๋ยวผมลืมใส่เข้าไป

“  แล้วได้นอนกี่ชั่วโมง ” ถามพร้อมตาหมีแพนด้าบ่งบอกว่า..ยังไม่ได้นอน

“ 5 ชั่วโมง ” ผมตอบก่อนจะนั่งลงเหนื่อยๆ รู้สึกเย็นๆหัวพิกล อ้อ สระผมมา ยังไม่แห้ง

มันโยกหัว “ กูยังไม่ได้นอนเลยครับเพื่อน ”

“ บอกกูทำไม กูจำเป็นต้องรู้มั้ย ” เลิกคิ้วกวนอารมณ์มัน มันส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะบุ้ยปากทางข้างหลังผัว “ อะไร ”

“ ผะอัว ผัวมึงอ่ะ ” ชี้ไปข้างหลัง ผมเลยหันไปมองพบกับไอ้วินหัวฟูๆเซอร์สัสฝรั่งเศสมากกำลังยืนทำหน้าหาฝ่าพระบาทประเคนหน้าถือผ้าขนหนูกับหวี

อย่าถามถึงรอบกาย... จ้องมองมาเป็นสิบ ใครๆที่นอนอยู่ก็พากันลุกพรึ่บมาขัดสมาธิจับจ้องอย่างไม่ปกปิด... จริงใจมากครับเพื่อน ไม่ค่อยเผือกกันเลย... งานพวกมึงตั้งใจขนาดนี้มั้ย

“ มาทำไม กลับไปได้แล้ว ” ไล่ครับ

หน้าด้าน “ ไม่ ”

“ จะเอาอะไรห่ะ ” น้ำเสียงเริ่มขุ่นขึ้น... จะทำอะไรของมัน

มันไม่พูดอะไรนอกจากเดินมาประชิดผมแล้วดึงให้ผมลุกลงไปนั่งกับพื้นอย่างมึนๆงงๆแล้วมันนั่งแทนที่ผม กลายเป็นผมกำลังนั่งหันหลังต่ำกว่ามันหัวอยู่ตรงเท่ามันพอดี... อะไรวะ

“ จะทำอะไ... ” ไม่ทันได้พูดจบ ผ้านุ่มๆถูกคลุมลงบนหัว เพราะผ้าผืนใหญ่มันจึงคลุมทั้งหัวปิดหน้าหมด... ผมเผลอกลั้นหายใจไปชั่วครู่ก่อนจะรู้สึกถึงแรงกดเบาๆบนหัว จากนั้นก็...

“ กรี๊ดดดดดดดดดดดด มึงดูๆๆๆ!!! ”

“ ไอ้มิ้ง มึงตื่นเร็วววว ดูๆๆๆ ”

“ โทรศัพท์ๆ!!! กรี๊ดดดดดดดด พี่วินกับไอ้เชี่ยอุ่นเว้ยยยยย ”



พ่อง! เอ๊ยย



ผมกัดปากแน่นจะลุกขึ้นโวยวายก็ทำไม่ได้เพราะความร้อนบนแก้มที่ไม่ต้องหากระจกมาก็คงรู้แล้วว่าหน้าตัวเองกำลังเปลี่ยนสี... ได้แต่นั่งชันเข่ากอดเข่าปล่อยให้มันทำตามใจ... ท่าทางเหมือนไม่แคร์ แต่สภาพหน้านี่ไปแล้ว

“ ปล่อยผมไว้แบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบาย ” บ่นเป็นตาแก่ไปได้...เหอะ

“ เสือก ”

“ หัวร้อนๆนะ รู้สึกไม่ดีเหรอ ”

กัดปากตัวเองแน่น “ สาระแน! ” หน้ากูร้อนฉ่าเป็นเตาไฟเพราะมึงเนี่ย ไอ้เหี้ย

“ นี่ห่วงนะ ”

“ สตอ ”

“ ได้มาสาม สอ ขอบคุณนะเมีย ”หัวผมถูกผลักแทบคว่ำเมื่อไอ้เชี่ยผัวมันผลักอย่างแรงจากด้านหลัง ยังไม่ทันได้โวยวายมันก็รีบแก้ตัว “ โทษที มือกระตุก ” แล้วก็กลับมาจับผมนั่งดีๆ เช็ดหัวต่อ...

เดี๋ยวนี้มึงกล้าลงไม้ลงมือเหรอ!!

ถ้ามือมึงจะกระตุกแรงขนาดนี้นะ ไอ้เวร

จะอ้าปากด่าก็ต้องหุบฉับเมื่อเสียงจากรอบทิศดังเข้ามา...


“ มึงงงงง มึงได้ยินมั้ย กรี๊ดดดดด ”

“ เขาคุยกันมุ้งมิ้งชิบหาย กูจะตายยย ”

“ กูอัดสียงทันเว้ยยยยยยยย ”

“ กูถ่ายคลิปไว้แล้ว ฟินยาว กรี๊ดดด ”

ข่มอารมณ์เดือดดาลที่ใกล้จะปะทุอยู่ ไอ้เพื่อนตัวดีอย่างไอ้คิมก็เอาแต่หัวเราะใกล้ๆ มิวายยังตะโกนถามเพื่อนในคณะอีกว่าใครอยากถ่ายแบบใกล้ชิดฉบับHDบ้าง มันจะถ่ายให้ ไอ้ขายเพื่อน!!

“ อย่าไปสนใจน่า ” เสียงเหนือหัวว่าเบาๆแล้วเช็ดผมต่อไปอีกสักใหญ่ๆ จากนั้นมันค่อยเอาผ้าออก “ เป็นไรอีกครับเมีย หน้าบึ้ง เมนส์มาเหรอมึง ”

“ เมนส์แม่มึงสิ ” เอี้ยวคอไปแยกเขี้ยวเขาโผล่เขางอก

ผมพยักหน้าด้วยสีหน้าตายสนิท “ อืม แม่กูยังสาวยังมีเมนส์ เพิ่งไลน์มาบอกเมื่อกี้ว่าปวดท้องเมนส์ให้กูไปซื้อผ้าอนามัยโซฟีติดปีกด้วย ”

เบิกตาโต “ จริงอ่ะ ”

ไอ้วินมันทำหน้าจริงจังอยู่ได้สามวิก่อนจะหลุดยิ้มออกมา “ เชื่อเหรอ ”

“ ไอ้เชี่ยยยยยยยยย ” ยกมือเตรียมจะตะกุยหน้าแต่มันปัดๆออกแล้วจับผมหันหลังให้มันต่อ ทำเหมือนผมเป็นตุ๊กตาบาร์บี้ก็ไม่ปาน “ อะไรอีกวะ ”

“ ยังไม่ได้หวีผม ” มันคลำหาหวีจากเสื้อคลุม “ เข้าห้องไปแล้วหัวฟูเป็นไอน์สไตล์คงไม่ดีมั้ง ”

“ งั้นก็หวีไป หุบปากด้วย  เกลียดเสียงมึง ” พยายามบังคับเสียงให้เขียวขุ่นแดงเดือด ก่อนจะตวัดตาไปทางเพื่อนผู้หญิงร่วมคลาสร่วมห้อง “ มองทำไม ไม่เคยเห็นคนรึไง ” พาลแม่งแม้กระทั่งเพศแม่

ผู้หญิงผมสั้นอย่างไอ้วิวที่เป็นถึงรองดาวคณะคลี่ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี “ พอดีไม่เคยเห็นเด็กสถาปัตย์โดนเด็กนิเทศเต๊าะวะ ก็เลยต้องขอมองสักหน่อยให้ชุ่มจิตชุ่มใจ ”

ตาแม่นางนั้นแวววับเป็นเสือจ้องจะแดกกระต่ายตัวน้อยอย่างผมให้ได้เลยจริงๆ

“ ยัยผู้หญิงบ้า ” ผมพูดเสียงดังแล้วทำหน้าหงิก แล้วเมื่อไหร่ไอ้นี่มันจะหวีผมเสร็จสักทีว่ะ จะได้ไสหัวไป “ หวีเร็วๆดิ! ”

“ จะไล่กูก็บอกมา ” เสียงรู้ทันมาไม่พอยังจะหวีสางหัวช้าลงไปอีก


จะกวนไปถึงไหนวะ!!!


“ รู้แล้วยังจะหน้าด้านอยู่อีก ไปได้แล้ว!! ” ไม่ทนแม่งแล้ว หันไปคว้าแย่งยื้อขโมยหวีมาจากไอ้คนกวนประสาทก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่ มันก็เล่นหูเล่นตา

“ ไปก็ได้ ” ว่าเอื่อยๆ “ วันนี้เรียน ไม่มีเวลามารับนะ”

“ เรื่องของมึง! ”

“ โอ๋เอ๋ ไม่ร้องนะเด็กดื้อ ”

“ ดื้อพ่อง!! ไปไหนก็ไป! ” มือหยิบผ้าขนหนูแล้วสะบัดใส่หน้ามัน ไม่พอผมยังหยิบทุกอย่างของตัวเองเดินหนีมันไปไกลๆจนสุดมุมตึกนู้น

เสียงแซวต่างๆนานยังคงกระทบประสาททำให้รู้ว่าเพื่อนร่วมคณะกูแม่ง...บ้า!!!


“ มึงดูดิ เขาบอกลากันแม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ ”



น่ารักพ่อง!!!



จะฆ่ากันตายแล้วห่า





นอนรอนั่งรออยู่ได้สิบนาทีคนแรกก็เพิ่งได้เข้าไปแล้วจากนั้นสามนาทีต่อมาก็เดินคอตกออกมาพร้อมด้วยโมเดลสุดสวยของมัน หลายคนเห็นสภาพคนแรกแล้วพากันหน้าเครียด... เอฟลอยมาแต่ไกลจริงๆ

 ผมที่ก้มมองดูคิวในมือตัวเองแล้วก็ถอนหายใจไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเช็คเฟสบุ๊คสักหน่อย แค่ปลายนิ้วกดเปิดปุ่มเน็ตสามจีที่แม่งนึกว่าหอยทากเป็นตะคริวสามชาติ แต่มันก็ไวพอที่ให้แชทของไอ้พวกหมาบ้ามันเด้งขึ้นมาพรึ่บๆๆ

เลือกที่จะมองข้ามแล้วเช็คแจ้งเตือน...ที่มาอย่างมหาศาลแถมยังแอดเพื่อนมาอีกมากมายจนผิดปกติ

“ อะไรเนี่ย... ” ขมวดคิ้วมึนๆเมื่อมีแจ้งเตือนแท็กรูปของผมเป็นสิบอัน

เลื่อนกดจากเพื่อนผู้หญิงที่พอจะจำชื่อลางๆได้เป็นคนแรก...

มามา มาลามิว : รองเดือนมหาลัยปีสาม กับ น้องเดือนปัตย์ปีสอง น่าร้ากกกกกกกกกกกกกก #วินอุ่น  – Kornkavin และ Thara Sirikunchai

พร้อมรูปไอ้เชี่ยวินนั่งอมยิ้มเช็ดหัวใหผมที่นั่งจ่อมอยู่พื้น


มาม มาลามิว , Kornkavin and 435 likess



ไอ้เชี่ยวินนนนน มึงจะไลค์หาอะไรครับ!!


เลื่อนมาดูคอมเม้นต์แทบลมจับ..



              QueenKim : ตัวจริงเขามาแล้วเฮ้ย

                Rika RIN : ไม่ใช่พี่ซีของหนูเหรอ โฮ!!

              PissyCo : เคมีเข้ากันแปลกอ่ะ แต่ไม่รู้ ชอบ!!


              Wayu Sirikunchai : ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยย มึงเอาน้องกูคืนมา @Kornkavin


               Agni Sirikunchai : มึงเป็นใคร ทำไมถึงมาแตะต้องหัวสวยๆของพี่กูได้!!! คอยดูนะมึง กูจะจับมึงเข้าคุก!! ข้อหาลวนลามอนาจารพี่กูในที่สาธารณะ!! เดี๋ยวกูขอหามาตราก่อนมึง! @Kornkavin 

                Jody Deer : คืนนี้เจอกันที่ร้านเหล้านะ สาวๆครึ่งมอ... ฮึก

                Farn Farn : ไอ้คนติดเมีย เพื่อนฝูงนี่ยังจำหน้ากันได้มั้ย ไอ้เหี้ย มาเรียนด้วยวันนี้! @Kornkavin


ถอนหายใจอย่างโมโหทำอะไรไม่ได้ ให้ไปเต้นๆตามโพสคงเป็นกระแสอีกยาว ปิดโทรศัพท์แล้วหันความสนใจมาที่โมเดลเช็คความเรียบร้อย มองไปเห็นไอ้คิมนั่งคนเดียวไม่มีวินแล้วเลยเดินกลับไปนั่ง

“ ไงมึง ดังใหญ่เลย ” มันทักแล้วชูคลิป... มาเป็นคลิปเลยสัด...

“ กูหล่อ ” เสยผมขึ้นอย่างนึกเจ็บใจที่ลืมเอายางรัดผมติดตัวมา ไอ้คิมมันก็รู้ใจหยิบยางจากกระเป๋ากางเกงมาให้ ผมได้แต่งงๆ ผมมันก็สั้น จะพกยางรัดผมทำไม “ ทำไมมึงมีวะ ”

“ ไอ้เชี่ยไผ่มันก็ลืมรัดผมตลอด ที่มึงเห็นหัวมันเรียบร้อยก็เพราะกูนั่นแหละ แต่...แม่ง คนเหี้ยอะไรไม่เคยดูแลตัวเอง ลืมแม่งทุกอย่าง ลำบากกูแม่งทุกครั้ง แถมยังแดกหญ้าเป็นอาหารหลักอีก คนแม่งจีบมาจะสามชาติ รู้ตัวบ้างยังวะ ” มันว่าไปตามความจริงแต่กว่าจะรู้ตัวก็...หึหึ “ มึงไม่ได้ยินใช่ปะวะ

“ เต็มๆ ” ยกยิ้มกระตุกเจ้าเล่ห์ “ เลิกป๊อดสักทีเถอะมึง


“ ใครป๊อด!! ” หน้านี่แดงเถือกตั้งแต่หูจรดคอ “ มึง... อย่าไปบอกมันแล้วกัน ”


“ ปล่อยไอ้เหี้ยนั่นให้โง่ไปเถอะ หมั่นไส้ ” ไหวไหล่แล้วเอนตัวพิงกำแพงหลับตาลงแล้วหันไปสั่งไอ้คิม “ ถึงคิวกูเรียกด้วยนะสัด ”

ไอ้คิมพยักหน้าแล้วทำหน้านิ่งๆ ไม่พอยังโน้มตัวมาจ้องแถวๆหน้าอกผมอีก เอาซะผมดีดตัวยกมือปิดหน้าอกตัวเองแทบไม่ทัน

“ มึงคิดจะทำเหี้ยไรวะ!! ”

ไอ้คิมทำหน้าเซ็งแล้วส่ายหน้า “ ใครมันจะพิศวาสมึง กูไม่ใช่ไอ้พี่วินที่หลงมึงสุดใจน่ะเว้ย ” ถอนหายใจแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ ตอนแรกจะบอก แต่ตอนนี้ ไม่ล่ะ "

“ เรื่องอะไร ” เสือกครับ

“ ยุ่งครับ ” แล้วมันก็ชิงหลับตานอนทันทีไม่ให้ผมเซ้าซี้ต่อได้ มองดูตัวเองก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรแปลกก็กลับไปเอนหลังพักสายตาบ้าง...


พักสมองสายตาไปได้ครึ่งชั่วโมงก็โดนแรงสะกิดจากใครสักคน ผมสะลึมสะลือมองคนปลุกก็เป็นไอ้คิมที่ทำหน้าสดชื่นสบายอกสบายใจ ดูแล้วคงผ่านไปได้ดีสินะ จัดสภาพให้เป็นผู้เป็นคนหน่อย

“ โชคดีนะเพื่อน ”


มั่นใจครับ “ กูจะเอาคะแนนเต็มมาดู ” หอบโมเดลลูกรักขึ้นมา

ไอ้คิมทำหน้าเชิดอารมณ์คือ เหนือกว่า “ ไม่มีทางได้มากกว่ากูแน่ๆ ถ้าไม่จริงให้เอาตีนตบหน้าเลยเอ้า! "


ยกมือชี้หน้าคาดโทษไว้เพราะยังไงก็มั่นใจว่าต้องได้คะแนนเต็มแน่ๆ สองเท้าเดินไปห้องพักอาจารย์จัดการเคาะไปตามมารยาทที่ดีแล้วเข้าไป... สิ่งแรกที่กระแทกตาคือความสวยสลัดของอาจารย์ เธอเป็นถึงด็อกเตอร์เลยนะ แถมดีกรีจบนอกอีก อายุก็น้อยด้วย มากกว่าผมแกสามสี่ปีเอง แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความโหดสลัดเช่นกัน

           “ ไหนคะ คุณนักศึกษา บอกมาสิว่าแบบของคุณดีกว่าของคนอื่นยังไง น่าสนใจกว่ายังไง ” อาจารย์เมสินียกยิ้มเอนหลังกอดอกรอฟังผมพรีเซ้นต์... ผมวางโมเดลไว้ที่โต๊ะว่างตรงหน้าของเธอแล้วเริ่มอธิบายบอกทุกอย่างชี้หมุนโมเดลสามร้อยหกสิบองศากันเลยทีเดียว ใช้เวลาเกือบห้านาทีสำหรับการพรีเซ้นต์ผลงานตัวเอง

           อาจารย์โน้มหน้ามาพิจารณาผมงานแล้วดูรายงานของผมไปด้วย ก่อนจะคลี่ยิ้มพึ่งพอใจ
 
           “ รอบนี้ถือว่าคุณทำได้ดีกว่าคราวก่อนนะ ” คิ้วผมนี่พลันจะกระตุกกับคำว่าครั้งก่อน ที่ต้องแก้ไปเกือบเจ็ดรอบ... “ ความพยายามของคุณรอบนี้ถือว่าดีเยี่ยม ทั้งรายละเอียด ผลงาน...อืม เป็นแบบที่สวยดี อาจารย์ชอบนะ ”

           ก่อนที่จะหยิบแฟ้มสีดำสนิทมาเปิดไล่หาชื่อของผมหยิบปากกามาเขียนเป็นอันว่าคะแนนผมมีแล้วเรียบร้อยส่งงานแล้ว เพราะถ้าเขียนด้วยดินสอ หรือดีไม่ดี ไม่เขียนเลย คือ...มึงต้องแก้ครับ

           แล้วมือสวยก็ยื่นแฟ้มให้ผมดู “ คะแนนของคุณถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ” ยังไม่ทันจะได้สาดส่องดูคะแนนเต็มตาก็กระชากกลับแล้วปิดลง “ แต่น่าเสียดายที่ฉันต้องตัดคะแนนคุณสิบคะแนน ”

           นัยน์ตาของผมเบิกโพล่ง “ ทำไมผมถึงโดนตัดคะแนนครับ!! ”


           ก็ทำมาถูกทุกอย่าง ตัวก็เรียบร้อย งานก็ตรงเวลา แล้วทำไมถึงตัดคะแนน!


            “ ห้องคุณมีกระจกมั้ย ”


             ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม อะไรนะ “ ...มีครับ ”


            “ แล้วคุณได้ส่องก่อนออกมามั้ย ”

            “ ส่องครับ ” ตอบหนักแน่น “ วันนี้ผมถูกระเบียบทุกอย่างนะครับ ”

             เธอส่ายหน้า “ สงสัยกระจกบ้านเธอจะขุ่นมัวมากสินะ ถึงไม่รู้ว่าที่ใส่อยู่นั่นมันใช่เสื้อคุณรึเปล่า ”


             ผมก้มมองลงไปที่ตัวอักษรปักชื่อสีสีเหลืองเข้มบนเสื้อสูทสีดำสนิทแล้วอ่านมันชัดเจน...



             กรกวินต์ อมรรัตน์วัฒนากุล..



             อ้อ... ชื่อกูเอง...


              ชื่อ...ผัว...กู...เอง


             ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย!!!


              ผมเบิกตาโพล่งมือยกกระชากเสื้อนอกขึ้นมาดูชัดๆให้เต็มตา กรกวินต์ กรกวินต์ เวร!!! เสื้อมึงมาอยู่นี้ได้ไงวะ!! ยืนขาแข็งทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกำหน้าอกตัวเองแน่น จนอาจารย์สาวต้องเอ่ยไล่ ผมถึงพาร่างไร้สติเดินออกมาพร้อมลูกรักโมเดลบ้าน...


                คนที่คิวถัดจากผมเดินสวนไปแต่ก็ชะงักมองมือผมที่กำเสื้อตัวเองแน่น...



                 “ เฮ้ย!! นี่เสื้อใครวะธารา ” ไอ้เชี่ยทิว เพื่อนอีกกลุ่มร้องถามอย่างมึนๆ แค่นั้นแหละเพื่อนที่ยังรออยู่หันพรึ่บมาอย่างพร้อมเพรียง “ โอ๊ะ... กูว่า กูไปส่งงานดีกว่า ”


                 ไอ้สัดดดดดด มึงหางานให้กูแล้วมึงชิ่งเหรอ!!


                 หันไปคาดโทษมันได้แปบ ก็เกิดเสียงแฟลชดังขึ้น... ผมสะดุ้งรีบหันไปมองทันที


                 ไอ้วิวเจ้าเก่าทำหน้าแบ๊วใส่ “ อุ๊ย กูลืมปิดแฟลช ”

                 “ ไอ้วิว มึงจะถ่ายทำแมวอะไร ลบ ” ผมว่าเสียงขุ่น แต่เธอก็ยังคงลอยหน้าเชิดตาใส่ เตะผู้หญิงผิดมั้ย

                 รีบวิ่งหลบ “ ลบก็โง่แล้ว!! ” จากนั้นเธอก็เอาไปให้บรรดาเพื่อนคนอื่นๆดู พากันกรี๊ดหวีดว้ายไม่หยุดยังหันมาทำสายตาล้อผมอีก...

                หน้าผมก็ด้านทนพอที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าที่อยู่ท่ามกลางเพื่อนที่ล้อไม่หยุด... ถึงหน้ากูจะตายแต่ใจกูนี่เต้นหนักสลัด ไอ้เหี้ยวิน มึงอยู่ไหน มึงมาเคลียร์กับกูเลย ไอ้สัสสสสสสสสส


                เนื่องจากไม่มีเบอร์มัน ทำให้โทรไปด่าไม่ได้...
 

                มึงอยู่ไหน มาให้กูฆ่าเลยนะเว้ยยยยยยยยยยยย

 

                10 คะแนนของกูววววว




ธาราขอไปตามล่าหาตัวไอ้เจ้าของเสื้อก่อน




ต่อโพสล่างนะคะ

หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 25-03-2016 21:58:52
กรกวินต์ได้รับพื้นที่กะทันหัน...





                ทำไมมีแต่คนมองผมแปลกๆวะ...


                ตั้งแต่เดินเข้าคณะมาสาวๆหนุ่มก็มองตามกันให้ควั่กแต่ไม่ได้มองหน้านี่สิ แปลก มองรองเท้า... ซึ่ง เอิ่ม วันนี้ผมก็มาค่อยข้างแปลก... ช้างดาวของไอ้คุณเมียแสนดีที่ยึดรองเท้าไปแล้ว ส่วนเสื้อวันนี้ก็ดูจะคับแน่นไปสักนิด กางเกงก็สั้นแปลกๆ นี่ผมสูงขึ้นเหรอ เสื้อนักศึกษาก็รัดเเน่น เสื้อสูทเเม่งก็ต้องเเขม่วพุงอีก นี่กูอ้วนเหรอวะ


               เดินขึ้นมายังห้องคลาสเรียนวันนี้ แต่ยังไม่ทันได้ผลักประตูเข้าไป ไอ้เชี่ยคุณเพื่อนรุ่นน้องอย่างไอ้วาก็ตรงรี่มากระชากตัวผมไปคุยแถวระเบียงมุมอับคน


                ...เหมือนกูกับมันเล่นชู้ลับหลังเมียชิบหาย...


                “ มีไรครับมึง ” เลิกคิ้วถามมัน ที่ตอนนี้ทำหน้าทะเล้นไม่เลิก


                “ ร้ายนะพี่มึง ” มันว่าก่อนจะชูโทรศัพท์ให้ผมดู “ ข้าวต้มมื้อดึกนี่หวานเนอะ ”


                เป็นรูปของผมกับธาราที่กำลังยื้อแย่งกุ้งแห้งตัวสุดท้ายอย่างดุเดือด แต่พอมองจากมุมอื่นคืออย่างอย่างมุ้งมิ้ง เห็นแล้ว เขินๆ


                “ ไหนมาเหลาๆให้ฟังกันบ้างดิ ไปถึงขั้นไหนแล้ว ” ทำหน้าเสือกสุดๆ “ ได้ข่าวว่าโดนตีนพี่มันมาแล้ว ”


                ชี้ให้ดูมุมปากที่เริ่มจางแล้ว “ นี่ไง อย่างเจ็บ ” คิดแล้วสยองแต่ผมก็เผลอยิ้ม “ แต่เจ็บแล้วคุ้มว่ะ มีคนทำแผลให้ ” ขออวดบ้างเถอะ


                ไอ้วาทำหน้าไม่เหลือ ถามช้าๆ “ ไอ้ธาราทำแผลให้มึง? ตลกแล้ว ไม่มีทาง ”


                “ มีดิ! ก็มันทำให้กู ไม่เชื่อมึงไปหาพยานของกูมั้ย ” ร้านข้าวนั่นแหละครับ เกี่ยวคอมันเตรียมลากไปจริงๆ แต่มันก็ยื้อรั้งไว้ก่อน


                “ เออๆ เชื่อๆ แต่แม่งโคตรแปลกใจเลยว่ะ ” หน้าหล่อๆของมันกำลังเคร่งเครียดสุดๆ “ ปกติ ไอ้ธารามันไม้ค่อยจะสนใจใคร จะเป็นจะตายขาหักแขนหัก อย่างดีมันก็แค่เปรยตามอง แล้วเดินไปสะกิดคนอื่นให้มาช่วย ”


                พูดซะเมียกูเลวเลยมึง เดี๋ยวมีมวย


                “ ถ้าไม่มีอะไร กูไปเรียนก่อนนะ ” ผมว่าแล้วแตะไหล่มันให้หลบทาง มันก็จะหลบให้อยู่แล้วแต่มันเสือกดันไหล่ผมไว้ แล้วตามันก็จ้องลงที่หน้าอกผม... “ มึงคิดไรกับกูเปล่าเนี้ย ”


                “ คิดบ้าอะไรล่ะ ” มันสวนทันที “ นี่มันเสื้อสูทธาราไม่ใช่เหรอ ”


                “ ว่าไงนะ ”


                “ เสื้อ ไอ้ ธา รา! ” กระชากเสื้อดึงขึ้นให้ผมมองชัดๆเต็มตา

                ตาก็รีบก้มมองดูเสื้อและได้เห็นอย่างเต็มตาปวดใจเมื่อรู้ว่าเป็นชื่อใคร...


                ...ธารา สิริกุลชัย


                ชื่อไอ้ธาราประดับอยู่บนตัวผม อือหือ ถ้าเป็นเวลาอื่น กูคงฟินไปสิบชาติ กับการบ่งบอกว่า ผมเป็นของมัน แต่นี่มันไม่ใช่ เรียกได้ว่าสถานการณ์ย่ำแย่สุดๆ และแล้วตาขวาพลันเริ่มกระตุก... ขวาร้ายซ้ายดี... ไอ้เลว มึงมากระตุกอะไรตอนนี้


                “ มีซัมธิงอะไรปะเนี้ย ” สีหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมแววตาวิบวับไม่ได้เป็นที่สนใจของผมอีกต่อไป “ เฮ้ย ได้ยินเปล่าวะ


                หูแม่งดับไปแล้ว รีบหาโทรศัพท์เตรียมจะโทรหามัน แต่นึกได้ว่ายังไม่มีเบอร์มัน เลยกะจะทักเฟสไป เผื่อมันจะยังไม่ได้ส่งงาน ผมจะได้ไปเปลี่ยนทัน


                เปิดเน็ตปุ๊บ เน็ตคลานปั๊บ ทุกวินาทีพาให้เหงื่อผมไหลท่วมอย่างหาสาตุไม่ได้


                กดเข้าไปหน้าเฟสไอ้ธารา เตรียมจะกดแชท แต่สเตตัสล่าสุดเมื่อสิบนาทีก่อนพออ่านจบ มือที่จะกดแชทหามันนี่ค้างแข็งไปเลย...



                Thara Sirikunchai : โดนตัดคะแนน เพราะเสื้อใครก็ไม่รู้ #เผาเสื้อแม่ง #อย่าให้เจอ #มึงตาย




                จะเสื้อใคร เสื้อผัวมึงไงครับ


               นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นหลักของเรื่องคือ... เมียโกรธ!!!


                 เขาว่ากันว่า ทำเมียโกรธ ชีวิตจะบัดซบไปอีกสิบวัน


                เขาที่ว่า คือ กูเอง นายกรกวินต์คนนี้ไง ฮือออออออ
 




กรกวินต์ขอไปหาทางง้อเมียก่อนนะ





--------------------------------------------




มาแล้ววววววววววววววววววววววววววววววว

แต่มาซะช้าเลย ขอโทษนะครับ -/\-  :mew6:
เรียนหนักไปหน่อย แอบโดดอ่านหนังสือมาอัพ

ตอนนี้พาความหวานมาให้หมั้นไส้

ทำไมอุ่นถึงใจร้ายกับพี่วินที่น่ารักได้ลงคอ

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ
ชอบกันไม่ชอบกัน ติชมให้กำลังใจกันได้น่า
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-03-2016 22:23:12
 :ling1:  ธารา เองแหละ ขอยืมเสื้อเขา รองเท้าด้วย พอโดนหักคะแนน แล้วมาโกรธ :katai1:
เพื่อนเห็นแต่ไม่ทัก เพราะมีผลทางคะแนนนี่เอง   :sad4:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-03-2016 22:39:03
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 25-03-2016 22:56:47
อุ่นน แกใส่ก่อนนะ
ทำไมไม่ดูให้ดี
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: คุณข้าวทอด ที่ 25-03-2016 23:50:36
ทำไมเราชอบตอนนี้จัง5555 เหมือนแบบประกาศให้โลกรู้มาก แต่ฮาที่ต่างคนต่างใส่เสื้อผ้าผิด คือโอ๊ย สติหายกันหมดแล้ว5555 ตอนนี้ความสัมพันธ์เริ่มจะดุเดือด(?)แล้วสินะคะ5555 ธาราโคตรซึน! มาบอกไม่ได้ชอบ ไม่ได้ชอบจริงเหรออออออออออออ5555 พี่วินก็ยังดีเสมอต้นเสมอปลาย(?) ดีซำเหมออสำหรับน้องน้ำอุ่นใช่มะะ5555 ตอนหน้าต้องง้อเมียแล้วเฮีย ไม่รู้จะสงสารหรืออะไรดี555555555
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 26-03-2016 00:26:23
น่าาร๊ากกกกกก..เขินนนนน. :mew3:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-03-2016 00:33:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 26-03-2016 00:39:57
ฮืออออออ น่ารักมุ้งมิ้งจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: ☆ นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ ☆ ตอนที่ 7 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Ametyst ที่ 26-03-2016 00:45:33
โอ๊ยยยย ฟินนนนนกับความมุ้งมิ้ง
แต่แอบแปลกๆตรงที่เสื้อมหาลัยปกติมันไม่มีชื่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.7 (แก้ไขเนื้อหา) หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: paravee96 ที่ 26-03-2016 10:54:12
ขอปักไว้ก่อนนน  :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.7 (แก้ไขเนื้อหา) หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-03-2016 15:09:45
" ที่ใส่อยู่นั่นมันใช่เสื้อคุณรึเปล่า ”
             ผมก้มมองลงไปที่ตัวอักษรปักชื่อสีสีเหลืองเข้มบนเสื้อสูทสีดำสนิทแล้วอ่านมันชัดเจน...
             กรกวินต์ อมรรัตน์วัฒนากุล..
             อ้อ... ชื่อกูเอง...

             ชื่อ...ผัว...กู...เอง
 :ling1:   ยอมรับแล้วเหรอธารา   :o8:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.7 (แก้ไขเนื้อหา) หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 26-03-2016 22:03:59
ตายๆๆๆๆๆๆๆแน่ ผัวทาสของอุ่น
งานนี้จะง้อสำเร็จไหมอ่ะ
แต่ที่แน่ๆๆๆอุ่นกำลังจะไปฆ่าวินแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
หรือ 3หน่อพี่หมาบ้า จะทาดักฆ่าวินก่อนโทษฐานจับหัวอุ่นเล่น ก๊ากกกกกก ฮ่าได้ตลอด
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.7 (แก้ไขเนื้อหา) หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-03-2016 04:50:54
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.7 (แก้ไขเนื้อหา) หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: nnewy ที่ 29-03-2016 16:13:48
มารอธาราค่ะะ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.7 (แก้ไขเนื้อหา) หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 06-04-2016 22:01:14
จะมายังน่ะ
หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [25/3/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-04-2016 18:05:33
นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ
 บทที่ 8 : ง้อในแบบฉบับตัวร้าย




 

ธาราบังคับขอพื้นที่คืน

   

   “ มึงจะมองเสื้ออีกนานมั้ยครับ จะแดกเข้าไปล่ะ ”

   ชิ้ง!

   “ มึงนี่นะไอ้ไผ่ โง่จริงๆ มันกำลังคิดถึงผัวมันอยู่ต่างหาก ไม่ได้หิว เคปะ คิดถึงมากเลยนั่งจ้องเสื้อด้วยความอาลัยอาวรณ์อยู่ ”

   ไอ้คิมส่ายหน้าทำตาเศร้าๆแล้วมองผมประมาณว่าไม่เป็นไรนะมึง... ถุย!! ผมแยกเขี้ยวใส่มันสองตัวก่อนจะจัดการเตะหน้าแข้งพวกมันไปอีกคนละสองทีสามที

   “ ไอ้เชี่ยอุ่น เจ็บนะเว้ย! ” ไอ้ไผ่โวยวายพลางยกขาตัวเองขึ้นมาลูบป้อยๆ “ โกรธผัวแล้วมาลงที่เพื่อน มันใช่ปะวะ”

   “ มันไม่ใช่ผัวกู! ” หน้ามันลอยมาแล้วพาลจะองค์ลง 10 คะแนนของกู!!

   ไอ้ไผ่เบ้ปากก่อนจะก้มลงดูดชาไข่มุกแก้วโต “ เออ นี่ก็ส่งงานกันครบแล้ว แล้วนี่รอใคร ”

   “ รอไอ้พี่ปายอยู่ ” ผมตอบพลางถอนหายใจระบายความกรุ่นเคืองในอก “ ส่วนเฮียไทม์ กำลังออกจากหอ ”

   “ เฮ้อ จะปั่นจักรยานจริงใช่ปะ เดี๋ยวกูจะได้ไปถอยมาเย็นนี้ ” ไอ้คิมที่แย่งชาไข่มุกเพื่อนตัวเล็กมากินได้ก็ถามต่ออย่างอารมณ์ดี

   “ เออ มึงคิดว่ามึงล้มความคิดไอ้พี่ปายได้ มึงก็ลอง ”

   ส่ายหน้ากันพรืดและถอนหายใจทิ้งลงคลองกันเลยทีเดียวกับการที่จะคิดกบฏต่อความคิดสุดเจิดจรัสของไอ้พี่ปายคนปกติ

   เราสามคนกำลังนั่งอยู่ที่ใต้ตึกคณะกระดิกเท้ารอรุ่นพี่ทั้งสองที่ยังไม่เสด็จมาสักที ผมยกโทรศัพท์ขึ้นเปิดเล่นเฟสบุ๊คไปด้วยความหงุดหงิด...

 

   ลินลลิน ลิลลี่ : หวานไม่เกรงใจคนโสดเลยคู่นี้

   พร้อมแนบรูปตอนไอ้วินกำลังหวีผมให้ผมอยู่...

 

   หวานเหวอะไรกูจะฆ่ามันตายอยู่แล้ววว!!

 

   กดเลื่อนลงไปดูโพสต่อไป...

 

   วีวิว อลิสรา : ก็ไม่มีอะไรมาก... แค่เดือนสถาปัตย์ปีสอง กำลังจะเปิดตัวแฟน

   พร้อมภาพหน้าอกผมที่มันซูมเสื้อจนเห็นเป็นชื่อไอ้เชี่ยวิน และอีกรูปเป็นของไอ้วินที่โดนจับมาถ่ายทั้งตัวพร้อมกับรูปสุดท้ายให้เห็นว่ามันใส่เสื้อของผม

 

   503 likes and 154 comments

 

   Bowwww : เด็กนิเทศกับสถาปัตย์เหรอเนี้ย ใครรุกใครรับอ่ะพี่ @วีวิว อลิสรา

   สาววายในตำนาน : แลกเสื้อกันขนาดนี้ แสดงว่า...ไม่เหลือแล้ว หุห -////-

คิตตี้ ฟรุ้งฟริ้ง คือแมวน่ารัก : คู่จริงใช่มั้ย!!

สาววายว๊าย วายคือสายเลือด : ติดตามค่ะ #วินอุ่น

PissyCo : หนูไม่รู้หนูไม่สน หนูชอบบบบบ

Rika RIN : อ้าว แล้วพี่ซีอ่ะ พี่วินนนน แล้วพี่ซีที่น่ารักของเราล่ะ!

   Jody Deer : พี่ซียังเหมาะกว่าอีกนะเราว่า *แนบรูปของผู้ชายหน้าใสน่ารักกำลังยิ้มกว้างอย่างสดใสให้กล้อง*

QueenKim : @Jody Deer เหมาะกว่าแล้วไง พี่อุ่นก็น่ารัก! *แนบรูปแอบถ่ายของผม สมัยตอนแต่ง...ไอ้เหี้ย!!*



ผมเบิกตาโพล่งโทรศัพท์แทบร่วง สีหน้าตื่นๆของผมเรียกความสนใจให้เพื่อนสองตัวหันมาสนใจ...

“ อะไรของมึงวะ อุ่น ” ไอ้ไผ่ถามขณะปากยังคงเคี้ยว “ ไหน ดูดิ ”

และมันก็ฉกโทรศัพท์ผมไปอย่างรวดเร็ว พอเห็นรูปก็หยุดแดกแล้วหลุดหัวเราะทันที

“ รูปตั้งแต่มึงปีหนึ่งเนี่ยนะ ฮ่าๆๆๆ ” มันหัวเราะร่าแล้วชูให้ไอ้คิมดู “ จำได้ปะ วันนั้นมันใส่ชุดนี้มาเข้าคณะ เด่นสุด ”

ไอ้คิมหยิบต่อไปดู “ เออ มีแต่คนชมว่ามึงน่ารักนะ ตอนนั้นอ่ะ ”

ผมทำหน้ายักษ์ขบเขี้ยวฟันแล้วโวยวาย “ วันนั้นไอ้เหี้ยลมมันเอาชุดกูไปซักให้ แล้วแม่งเหลือไอ้ชุดมังกรสีชมพูตัวเดียว จะให้กูทำไงวะ! ”

วันนั้นแม่งแทบจะเอาหน้ามุดพื้นหินอ่อน เดินก้มหน้าแทบตายยังจะมีคนถ่ายมาได้อีก... แต่ดูจะเฟสไอ้เด็กนี่แล้วมันคนละคณะกับผมนี่ มันไปขุดมาจากไหนนนนน

“ อะไรเนี่ย ไอ้ซีก็ชอบพี่วินของมึงเหรอ ” ไอ้ไผ่จ้องเขม็งทันที

ไอ้คิมรีบชะโงกมาดูทันทีก่อนจะได้รับสายตาแปลกจากไอ้ไผ่ “ ซีเหรอ อักษรที่ตัวเล็กๆน่ารักๆปะ ดังๆเหรอ ”

“ มันเป็นเป็นอะไรกับพี่วินของมึง ” ไอ้ไผ่ไม่ได้ฟังเลย ถามผมลูกเดียว

“ กูจะรู้มั้ยวะ ”

“ มึงเป็นเมีย มึงต้องรู้สิว่ะ ”

“ กูไม่ใช่เมียมัน! ” กระแทกเสียงใส่อย่างโมโห ตอนนี้ไม่อยากจะเป็นอะไรกับมันทั้งนั้นแหละ โมโห อยากกระทืบ!!

“ ใช่ไม่ใช่ ช่างแม่งเถอะ ” ไอ้ไผ่ว่าเสียงเหี้ยมๆ ก่อนจะกดรูปไอ้คนที่ชื่อซีขึ้นมาชัดๆ “ มึงระวังๆไว้นะเว้ย อย่าให้มันเข้าใกล้ไอ้พี่วินน่ะเว้ยยย  ”

“ ไม่ดีเหรอ? ” เลิกคิ้วถามกลับ ไอ้ไผ่ดูจะไม่ชอบหนักนะเนี่ย ปกติมันก็ไม่ค่อยจะบอกตรงๆนะ ว่าไม่ชอบใคร

 “ มึงดูหน้าดีๆดิ ใสๆงี้ ร้ายชัวร์ ” ไอ้ไผ่ดึงแขนเสื้อผมให้หันไปสนใจมัน

กูล่ะอยากจะบ้า “ ทฤษฎีไหนของมึงเนี้ย ”

   “ กูห่วงมึง ระวังไว้ๆๆ รับปากกูดิ ”

ผมพยักหน้าไปทีเพราะความรำคาญก่อนจะเอาโทรศัพท์คืน มองดูโพสของไอ้วิวอีกรอบก็เห็นว่าเกิดสงครามกันไปแล้ว... ไอ้คนที่ชื่อซีนี่มันชอบไอ้วินจริงดิ...

พลันความรู้สึกในอกก็เริ่มกระอักกระอ่วนขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่รู้อะไรนึกดลใจให้กดเข้าไปดูโปรไฟล์ของซี...

กดเข้าไปนี่รู้สึกเหมือนหลุดไปในพวกโลกสวยยังไงยังงั้น แต่ละรูปนี่ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวสุดๆ ลองส่องดูโพส มันตั้งเป็นสาธารณะเลยส่องง่าย... ดูไปก็...อือหือ รู้เรื่อง!

 

ZEEzee V : วันนี้มีคนเลี้ยงขนม 

เป็นรูปเซลฟี่ที่ติดไอ้วินมาด้วยกำลังนั่งดื่มกาแฟ...

 

2,589 likes and 275 comments

 

หมีพูอยากกินน้ำผึ้ง : อร๊ายยยย คบกันแล้วใช่ปะ

Jody Deer : ทำไมน่ารักกันขนาดนี้! @kornkavin พี่วินนนน คบกันเถิดดด

Rika RIN : คนหนึ่งก็น่ารัก คนหนึ่งก็หล่อ เฮ้อออ อย่าลืมแจกการ์ดนะ

ZEEzee V : คบอะไรกันครับ พี่ๆน้องๆกันทั้งนั้น

Jody Deer : พี่น้องที่กำลังจะพัฒนาเป็นแฟน

ZEEzee V : ปล่อยให้เป็นเรื่องอนาคตดีกว่านะครับ 

Jody Deer : อร๊ายยยยยยยยยยยย



ผมกดดูรูปของมันเงียบๆ...

 

รูปนับร้อยปรากฏขึ้นมาที่กระแทกตาสุดก็คือรูปของซีเซลฟี่กับไอ้วิน นอกจากนั้นก็มีรูปที่ถูกแท็กพร้อมกับไอ้วินอีกเป็นตัน

 

กดปิดลงแล้วลองอ่านโพสอื่นๆ...

 

   ZEEzee V : แค่เขายิ้ม เราก็ยิ้ม เพราะเขาคือรอยยิ้มของเรา

   พร้อมภาพของไอ้วินที่กำลังยืนมองไปที่ไหนสักแห่งยกกล้องขึ้นแล้วยิ้มให้กับภาพในเลนส์...

 

เหอะ! น้ำเน่า

 

ผมหรี่ตามองประโยคนั่นแล้วเหลือบมองบนโดยไม่รู้ตัว มือก็รีบปิดโทรศัพท์แล้วยัดใส่กางเกง จากนั้นก็ลุกพรวดพราดขึ้นท่ามกลางความงงๆของไอ้เพื่อนทั้งสองที่ตอนนี้สีหน้าผมค่อนข้างจะน่ากลัว

“ เฮ้ย จะไปไหนวะ” ไอ้คิมเงยหน้าจากเกมในมือ

“ ยุ่ง! ”

“ เฮ้ย แล้วทำไมต้องตะคอกวะ ” ไอ้ไผ่เสริมหน้างงๆ

“ เสือก!! ”

“ เอ่อ... ”

“ กูจะกลับหอ!! ”

“ แล้วไม่รอพี่ปายกับพี่ทะ... ”

“ ไม่รอ!!! ”

“ (-0-)!! (-0-)!! ”

ไม่รู้ ตอนนี้ไม่รู้อะไรทั้งนั้น รู้แค่หงุดหงิด โมโหมาก ยิ่งกว่าโดนตัดคะแนนอีก... สองขาแทบจะวิ่งอยู่แล้ว แต่เสียงไอ้สองตัวนั่นก็ยังคงด่าไล่หลังกลับมา

ผมเม้มปากตัวเองแน่น และรีบบึ่งกลับหอด้วยความหงุดหงิดสุดๆ... มองโทรศัพท์แล้วยิ่งโมโห

 

โคตรเหี้ยเลยจริงๆ ความรู้สึกตอนนี้


แม่งลืมชาร์ตแบตโทรศัพท์เมื่อคืน

 

แบตเหลือ 7%

 

ไม่ให้หงุดหงิดได้ล่ะว่ะ!

 

 

 

   กลับมาถึงห้องอย่างรวดเร็วภายในห้านาที เท้าแตะห้องปั๊บแทบช็อกกับสภาพห้อง แต่เวลานี้สนแค่สายชาร์ต เดินหาอยู่นานกว่าจะเจอแบตที่เหลืออยู่แม่งศูนย์ ดับสนิทตายตาหลับไปแล้วลูกกู

   ถอนหายใจทิ้งก่อนจะกลับมาให้ความสนใจห้องตัวเองที่ปล่อยไว้ให้ไอ้พี่ปายกับไอ้สามหมาอยู่แล้วก็...อืม เละ โดยเฉพาะเตียงผมเนี้ยหมอนกระจัดกระจายคนละทิศเลย

มันตีกันท่าไหนวะ

แล้วทำไม...ตีกันบนเตียง

...

เฮ้อ ช่างเถอะ

ยังดีที่ของสำคัญไม่พังไปด้วย

   ไหนๆก็ว่างแล้วผมเลยเก็บสักหน่อย... เห็นทำรกแบบนี้ ผมก็รู้จักทำความสะอาดนะครับ!!!

   กว่าจะเก็บเสร็จก็ล่อไปเที่ยงพอดี... จะลงไปหาอะไรกินมันก็...ร้อนครับ รอไปกินเย็นทีเดียวแล้วกัน ตอนแรกก็คิดแบบนั้นแต่เพิ่งนึกได้ว่าเมื่อวานไปซื้อขนมกับไอ้เหี้ยมา (ชื่ออะไรทุกคนคงรู้) พอนึกถึงทีไรแล้วโมโหเรื่องคะแนนทุกที

   สะบัดหัวไล่อารมณ์แย่ๆให้ไปไกลๆแล้วเดินไปทางห้องครัวหาขนมกระแทกปากสักหน่อย กินขนมปังไปได้นิดหน่อย ผมก็เดินไปเตรียมกระดาษเตรียมขาตั้งมาวางกลางห้อง...

   เดินไปยังชั้นวางของแล้วหยิบสารพัดสีน้ำ พู่กันนับสามสิบอันออกมาวางที่โต๊ะญี่ปุ่นข้างๆกับขาตั้งไม้ พอเตรียมเสร็จแล้ว ผมเลยกลับไปห้องนอนตัวเอง ค่อยๆคุกเข่าลงข้างเตียงก้มตัวหยิบกล่องขนาดใหญ่ออกมา...

   เลือกหยิบภาพที่อยู่บนสุดที่ยังวาดไม่เสร็จกับรูปวิวที่ยังไม่เสร็จดีออกมาเช่นกัน จากนั้นจึงกลับไปนั่งประจำแท่นเตรียมลงมือวาด...

   ผมเลือกหยิบภาพที่ไม่ใช่รูปวิวขึ้นมาก่อนจะหยิบสีมาลง พลางคิดนึกไปด้วยจะลงสีอะไร ยังไง ให้เหมือนภาพจริงที่สุด... และไม่ลืมที่จะคิดถึงภาพในความทรงจำที่เคยเห็นมากับตาในแต่ละวัน

   เวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วผมก็ไม่แน่ใจ คงใกล้เย็นแล้วล่ะมั้ง... พู่กันจุ่มลงแก้วน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำสีประหลาดเบาๆเป็นการบ่งบอกว่า...เสร็จแล้ว

การวาดรูปมันทำให้ผมรู้สึกสงบและไม่ฟุ้งซ่าน...

วาดเสร็จไปรูปหนึ่งรูปก็เอาไปวางที่พื้นไกลๆตัว ปล่อยให้สีแห้งเอง ก่อนจะกลับมาหยิบรูปวิวน้ำตกที่เหลือตกแต่งต้นไม้เขียวๆรอบๆตัวน้ำตก...

ปัง!

วาดไปได้สิบนาทีได้มั้ง ประตูก็ถูกเปิดออกอย่างแรง ผมหน้าตื่นเล็กน้อยรีบลุกไปคว้าภาพที่สีเกือบจะแห้งดีแล้วมาวางซ้อนหลังรูปวิวน้ำตก ก่อนจะทำนิ่งหรี่ตามองผู้บุกรุก

“ ไอ้อุ่นนนนนนน ”

พอเห็นว่าเป็นพี่ปาย ผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วขมวดคิ้วต่อเมื่อเจอสีหน้าเศร้าๆเหมือนหมาถูกทิ้งของพี่แก

“ มึงต้องช่วยกูนะเว้ย ”

“ ช่วยอะไรครับ ” ถามส่งๆไป ไม่ได้เป็นห่วง แล้วหยิบพู่กันมาละเลงสีต่อ

ไอ้พี่ปายที่มาในชุด... เออนั่นแหละชุดปกติของแกย่างสามขุมมานั่งเกาะขาผมแล้วงอแงใส่ไม่อายใคร จะอายอะไรล่ะ ในห้องมีกันสองคน แถมหน้าหนาและด้านสุดๆ

“ ฮือ พี่มึงทำกูอ่ะ ไอ้อุ่น ” เบะปากจะร้องแต่น้ำตาไม่มีสักแอะ ตอแหลไม่เนียนนะครับ...

พยักหน้าไป “ ครับ ” ดูจากสภาพห้องที่เละก็พอจะเดาได้ เลิกสนใจมันเตรียมจะวาดต่อ

“ เฮ้ย มึงสนใจกูก่อนดิว่ะ! ” แย่งพู่กันผมไปอีก “ พี่มึงทำกูเลยน่ะเว้ย! ”

“ แล้วทำอะไรล่ะ โดนมันต่อยมารึไง ” ผมถามแล้วละสายตาไปมองสำรวจไอ้พี่มัน ก็ไม่มีอะไรแปลกไป

“ ยิ่งกว่าโดนต่อยอีก ไอ้ดิน ฮึก มัน มัน ” ทำหน้าจะร้องไห้อีก ทำไม ไอ้หมอเถื่อนมันทำอะไรอีก จับทำอาจารย์ใหญ่รึไง

ถามอย่างสงสัยปนเสือก “ ไอ้หมอเถื่อนมันทำอะไรล่ะพี่ ”

“ มันทำกูท้อง!! ”

ห่ะ อีกทีสิ

“ ท้อง? ”

“ เออ!! ”

อย่าบอกนะ ไอ้หมอเถื่อนกับไอ้พี่ปายเมื่อคืน...มัน...มัน...

.

.

.

มันเล่นพ่อแม่ลูกกันใช่ปะ!

สงสัยผมจะทำหน้างงจนออกนอกหน้าไป ไอ้คนมองก็เลยต้องอธิบาย... “ ก็เมื่อคืน มึงทิ้งกูให้นอนคนเดียว แล้วไอ้ดินมันก็เข้ามา กอดรัดกู จูบกูอีก ”

“ พี่ ”

“ แบบนี้มันผิดผีนะเว้ย นอนด้วยกันแบบนี้ กูท้องแน่ๆ! ”

“ พี่ปาย ”

“ ไอ้อุ่น พี่มึงจะรับลูกในท้องกูมั้ยอ่ะ มันจะฟันแล้วทิ้งเปล่าวะ ”

“ พี่ปาย ” ผมเรียกเป็นครั้งที่สาม ก่อนที่เฮียแกจะหยุดฟัง “ หยุดมโนครับ ”

ช็อกไปเลย... ไอ้พี่ปายนิ่งไปเลยก่อนจะส่ายหน้าพรืด ลุกยืนค้ำหัวผม “ มึงพูดแบบนี้ มึงจะไม่ยอมรับกูเป็นพี่สะใภ้ใช่มั้ย! ”

“ ไปกันใหญ่แล้วพี่ ” ถอนหายใจด้วยความหน่ายใจกับการคุยกับคนบ้าเนี่ย “ คืองี้นะพี่ เอาเรื่องท้องก่อน... พี่เป็นผู้ชาย พี่ท้องไม่ได้ โอเคมั้ย ”

“ แต่กูอยากท้อง ” ไอ้พี่ปายสวนมา “ ในละครก็เห็นเอาลูกมารั้งคนรักได้เลย ” ทำหน้าประมาณว่า กูทำไรผิด

มึงผิดทุกอย่างแหละ ไอ้พี่ปาย!!

ผิดตั้งแต่ชุดแหละ!

“ นี่พี่ชอบไอ้หมอเถื่อนเหรอ ” เปลี่ยนเรื่องแม่งเลย! ผมถามอย่างไม่เข้าใจ มันมีเหวอะไรดีให้ชอบ คนถูกถามรีบพยักหน้าทันทีแล้วยังจะยิ้มแก้มปริอีก

“ ช่ายยย สเปกกูเลยเว้ย ” เพ้อล่ะพี่มึง “ อ่อนโยน แสนดี อบอุ่นนนน ”

“ ...โดนมันเอาน้ำมันพรายสำนักไหนสาดเนี่ย ” แต่พอมาคิดว่าตัวมารจะออกจากชีวิตไปหนึ่งแล้วรู้สึกดีขึ้นมา “ เออ ไอ้พี่ดินมันก็โสด ไม่มีใคร พี่จีบมันไปเถอะ ”

พอผมตอบรับไปแบบนั้นไอ้พี่ปายก็ยิ่งดีใจ โผกอดผมเต็มรักเลยทีนี้...

“ เราจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะอุ่นนนนน ดีใจปะ! ”

“ ไม่ครับ ” ตอบไปตามความจริงก่อนจะโดนไอ้พี่ปายกระชากผมจากข้างหลัง “ โอ๊ย! ไอ้! ”

“ พูดจาดีๆกับพี่สะใภ้มึงหน่อยดิว่ะ เดี๋ยวโบกเลย ” วางกล้ามทันที แล้วมันก็ทำหน้าคิดไม่ตกก่อนจะถามผม “ อุ่น สรุป ผู้ชายมันท้องไม่ได้เหรอวะ ”

“ เออครับ!!! ”

นี่พี่บ้าหรือพี่โง่วะครับ

“ ว้า แย่จัง แล้วแบบนี้ไอ้ดินมันจะสนใจกูเหรอวะ ” หันมาถามความเห็นของผม

“ ทำตามใจพี่เถอะ ชอบมันก็ตามติดมันไปเลย จีบไปเลย ” แนะนำได้แค่นี้จริงๆ ชีวิตไม่เคยจีบใคร มีแต่คนมาจีบ พอดีหล่อ

ลุงรหัสตัวเตี้ยกว่าผมทำหน้างอๆยกมือเกาผมสีจี๊ดอย่างเครียดๆ “ กูจีบคนไม่เป็นว่ะ ”

“ กูเกิ้ลมีไว้ทำไร พันทิปไง ไปตั้งกระทู้ถามไป ” ผมที่เริ่มรำคาญอยากจะวาดรูปต่อก็เลยโพล่งไปแบบไม่ทันได้คิด ไอ้พี่ปายก็บ้าจี้เว้ย!

“ แต๊งกิ้วมากน้องรัก!! ” ยิ้มโลกสดใสเว่อร์ก่อนจะถลาตัวไปข้างนอก “ กูไปร้านเน็ตข้างหอแปป!! ”

มองร่างเพรียววิ่งไปแล้วรู้สึกละเหี่ยใจจริงๆ ถ้าไอ้ดินมันชอบเฮียปายกลับนี่... ไม่อยากจะคิดสภาพ ถ้ามีลูกได้นี่ กูล่ะสงสารลูกจริงๆ

เลิกสนใจมันแล้วกลับมาวาดรูปต่อ... เก็บรายละเอียดไปได้ครู่เดียว ประตูก็ถูกกระชากออกอีกรอบ ผมชักสีหน้าหงุดหงิดทันที

“ ไอ้พี่ปาย มีอะไรอีกวะครับ! ” เถื่อนแต่ต้องสุภาพ โยนพู่กันแล้วลุกขึ้นมองไปทางประตูที่ไอ้พี่ปะ... เอ่อ...ไม่ใช่

ห้องเงียบลงทันที... ผู้มาใหม่ยืนยิ้มกว้างกวนประสาทผมเห็นแล้วอยากชกหน้า ยืนนิ่งได้ไม่นานผมก็ถลาไปหามันทันที

“ ไอ้วิน!! มึง มึง! ” เห็นหน้ามันแล้วความโกรธแค้นเรื่องคะแนนตีขึ้นมาในหัวอย่างรวดเร็วพอๆกับเชื้อโรคที่แพร่พันธุ์อย่างว่องไว

“ เมียใจเย็นๆดิว่ะ ” มันยังคงทำหน้าสบายอกสบายใจ ไม่ยี่หร่ะกับสภาพที่มันกำลังโดนกระชากคออยู่สักนิด “ คิดถึงเค้ามากใช่ปะ โอ๋เอ๋ เพิ่งเรียนเสร็จ รีบมาหาเลย มามะ กอดให้หายคิดถึงหน่อย ”

มันอ้าแขนกว้างเตรียมกอดผม แน่นอนว่าผมไวกว่าเยอะ

ผัวะ!!

ผัวทาสที่น่ารักลงไปหน้าหงายตึงกับพื้นอย่างไวแทบจะไม่ได้ตั้งตัว ผมลดเท้าลงแล้วทำหน้าทะมึนตึงใส่

“ กูเจ็บน่ะเว้ย! ” มันโวย

“ มึงทำกูโดนตัดคะแนน! ” เถียง

มันกลิ้งลูกตาดำไปมาแล้วแยกเขี้ยวใส่ผมกลับ “ มึงหยิบไปใส่เองปะครับเมีย! ”

“ กูไม่รู้ กูไม่ผิด! ” ผมกอดอกเชิดหน้าทันที ยังไงผมก็ไม่ผิด มันเอาเสื้อมาวางบนเตียงทำไมเล่า! ถ้ามันไม่วาง ผมก็ไม่หยิบผิดหรอก! “ มึงผิด! ”

“ เหรอ ”

มันกัดฟันลากเสียงยาวก่อนจะทำหน้านิ่งเหมือนคิดอะไรสักอย่างแล้วพึมพำเบาๆกับตัวเอง จากนั้นมันก็ลุกพรวด ยิ้มร่าให้ผม ...โดนผมถีบครั้งเดียว สมองมึงละเลือนเลยเหรอวะ

“ มึงโกรธอยู่ใช่มั้ยเมีย ” ไอ้วินมันถาม

“ มันน่าโกรธมั้ยละวะ คะแนนกูหายไปเลยตั้ง 10 คะแนน! ”

“ มึงผิดนะเมีย ” มันกลับมาทำหน้าป่วยใจและส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “ หยิบผิดเองมั้ย ”

“ มึงผิด! ใครใช้ให้มึงเอามาวางเล่า! ”

สายตาขี้เล่นเริ่มจะหรี่ลงอย่างไม่น่าไว้ใจ “ จะไม่ยอมรับผิดใช่มั้ยเมีย ”

“ ก็กูไม่ผิด! ” เถียงคอเป็นเอ็น

ยกมือขึ้นยอม “ โอเค ผัวผิดเองครับ ” ถอนหายใจแบบเซ็งสุดๆ ก่อนจะพูดขึ้นใหม่ “ งั้นตอนนี้มึงกำลังโกรธ แล้วกูก็ต้องง้อใช่มั้ย  ”

ผมชะงักอารมณ์โมโหงุ่นง่านทันที “ ง้อทำแป๊ะไร กูไม่ใช่ผู้หญิงไม่ต้องง้อ!! ”

“ ไม่ได้ครับเมีย ” มันส่ายหน้าราวกับว่าผมทำไม่ถูก “ ถ้าเมียอารมณ์ไม่ดี กูก็แย่สิครับ ” เบ้ปากอย่างเจ็บเมื่อขยับตัวไปมาสะเทือนหลังสะโพกเลยทีเดียว

“ เรื่องของมึง ไปไหนก็...!! ”

กำลังจะไล่มันออกไปจากห้องก็โดนมันล็อคแล้วดึงออกจากห้องทันที ไม่ลืมที่จะปิดประตูให้อีกด้วย  ผมทำหน้าตื่นๆ มองไอ้วินที่แสยะยิ้มร้ายออกมาแล้ว ขนลุก!!

“ มึงจะพากูไปไหน!! ”

“ ง้อไง ” ลากลงมาที่ลานจอดรถ ไอ้เหี้ย! จะพากูไปขายเปล่าวะ! “ จะได้หายโกรธสักที ”

“ ... ”

“ เผลอๆ... ” รอยยิ้มมึงเทวดา แต่สายตาแม่งจะแดกกู “อาจจะระทวยด้วยซ้ำ  ”

“ !! ”

 

ง้อประเภทไหนของมึง กูไม่รู้

 

ที่แน่ๆ

 

กูไม่ปายยยยยยยยยยยยยยยยยยย






ต่อโพสล่างนะคะ
หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-04-2016 18:07:29






คิดว่าผมยังมีชีวิตดีอยู่ปะ


   ยังครบสามสิบสองดี แต่ที่ไม่ครบ

คงเป็นสติ



“ จอดรถ! บอกให้จอดไงว่ะ! ”

“ ไม่จอด ”

“ ไม่จอด กูโดด! ”

“ เฮ้ย เมียยยย ”

ไอ้วินรีบตะครุบแขนผมทันทีเมื่อผมทำท่าจะโดดลงจากรถจริงๆ ใช้อีกมือประคองพวงมาลัยรถหรูของมันไปด้วย ไอ้นี่ มึงจะเก่งไปแหละ มันขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเท่าไหร่กับท่าทางดื้อรั้นของผม

“ นั่งนิ่งได้มั้ยวะ ซนเป็นเด็กไปได้ ” บ่น มีบ่น “ ไม่ได้พาไปขายหน่า สบายใจเถอะ ”

มากับมึงในสภาพอารมณ์มึงตอนนี้ กูไม่สบายใจสักนิด!!

   “ แล้วมึงจะพากูไปไหน ” ผมจ้องมันแทบตาถลน

   กวนตีนไง “ ไม่บอก ” ยักคิ้วแถมมาอีก

   ไอ้เชี่ยวินยังคงมีสีหน้าระรื่นอารมณ์ดีชิบหายจนอยากจะยกเท้าไปฟาดรอยยิ้มมันสักรอบ... ผมที่ขี้เกียจจะโวยวายก็เลยเลือกจะนั่งเงียบทิ้งตัวนั่งนอนไหลกับเบาะนั่งไปเลย ไอ้วินหันมามองแล้วยกนิ้วให้ราวกับชมเด็กอนุบาลไม่ปาน ผมปัดมือมันทิ้งไปอย่างหงุดหงิด มันเลยชักมือกลับไปจับพวงมาลัยรถตามเดิม ปล่อยให้เสียงเพลงเบาๆคลอไป

   เงียบได้แปบเสียงโทรศัพท์ใครบางคนก็ดังขึ้น ไม่ต้องมองกูเลยห่า! ฉุดกูออกจากห้องมา มีรองเท้ามาด้วยก็บุญแล้วเว้ย! เจ้าของโทรศัพท์ทำหน้างงๆกดปิดเพลงก่อนจะคลำหาโทรศัพท์แล้วกดรับ...

   “ ฮัลโหล ” เสียงทุ้มรื่นหูกรอกลงไป “ หือ? ซีเหรอ ”

   ตาพลันผมกระตุกทันที... เหลือบมองไปทางไอ้วินที่มือหนึ่งก็ขับรถอีกมือก็ถือโทรศัพท์แล้วแถมคนในเป็น...ซี

   .

   .

   .

ซีไหนวะ!

   ขอเวลาคิดสองวิ...

อ้อออ นึกออกแหละ ซีที่มีเรื่องกุ๊กกิ๊กกับไอ้วินในเฟสสินะ...

   “ วันนี้พี่ไม่ว่างครับ ” เหลือบมามองทางผม อ้าว นี่กูผิด? “ วันนี้พี่กับไอ้ฝุ่นไม่ได้นัดกันครับ พี่ไม่ได้เป็นแฟนกับฝุ่นนะที่จะตัวติดไปเที่ยวกับมันตลอด ฮ่าๆๆ ”

   “ หือ อยากกินเค้ก? ฮ่าๆๆ ก็ชวนเพื่อนๆเราไปสิ ”

   ผมก็เหม่อมองท้องฟ้าไปเรื่อยไม่สนใจมันหรอก ไม่ฟังด้วย เพราะแม่งคุยลั่นรถ ยิ้มอยู่นั้น ยิ้มเข้าไป!

   “ ซี ไม่งอแงสิครับ ” เสียงแม่งอ่อนโยนชิบหาย จะอ้วก

   แล้วทำไมผมต้องมานั่งกระฟัดกระเฟียดไม่สบายตัวอีกแล้ววะ ไม่เข้าใจ! หงุดหงิด!

   สงสัย... เหลือบไปทางด้านขวา

นั่นไง!! ไอ้เหี้ย แอร์ไม่เปิด!

   ผมมุ่ยหน้าก่อนจะเด้งตัวลุกนั่งดีๆเอื้อมมือไปเปิดแอร์ ถึงว่าทำไมมันอึดอัดขนาดนี้ ขับมาเป็นสิบนาทีแล้วไม่ได้เปิดแอร์ นี่ควายหรือควาย

   “ ซี แค่นี้ก่อนนะ พี่ขับรถอยู่ ” จากนั้นมันก็กดตัดสายไป

   มึงควรรู้ตั้งนานแล้วเปล่าวะ ว่าแม่งขับรถอยู่ ไม่ควรรับโทรศัพท์ เกิดพากูตายขึ้นมานี่เหี้ยน่ะเว้ย

   พอมันวางสายก็หันมามองผมด้วยความงงงวย “ เป็นอะไรเมีย หน้าบึ้งเชียว ”

   “ เปล่า! ”

   “ อารมณ์ไม่ปกติจริงๆเลยมึงนี่ ” มันว่าแล้วส่ายหน้าโดยที่ยังไม่รู้ตัวว่ามันทำผิด ผิด ผิดดดด ผิดฐานอะไรก็ช่างแม่งเถอะ กูพาล เข้าใจมั้ย

   “ จะบอกได้ยัง ไปไหน! ”

   “ นี่ไง ถึงแล้ว ”

   ไอ้วินมันจะเลี้ยวเลยต้องชะลอความเร็วลงเพื่อเข้าไปสถานที่หนึ่ง... ผมหันไปมองแล้วเบิกตากว้างแทบจะออกจากเบ้าตา...

   สระโอ รอเรือ งองู สระแอ รอเรือ มอม้า...

   .

   .

   โรงแรม!!!

   “ ไอ้เหี้ยยยยยยยย!! มึงพากูมาโรงแรมทำแมวอะไร!! ” ท่าทีสงบของผมก่อนหน้านี้แตกกระเจิงทันที เหงื่อตกแตกพลั่กเต็มหน้ากันเลยทีเดียว

   ไอ้คนโดนตะคอกใส่ยังคงนิ่งเฉยเมินผมแล้วขับรถเข้าใกล้ตัวโรงแรมเรื่อยๆ ยิ่งเข้าใกล้บริเวณหน้าล็อบบี้ที่มีพนักงานรับรถรออยู่ก็หันมาฉีกยิ้มให้ผมพร้อมแววตากระหาย...

   “ มาโรงแรม ก็ต้องมานอนสิครับ ” มันหัวเราะร่วน “ คิดว่าพี่พามาขับรถเล่นรึไง ”

   “ ไอ้วิน... ” หาคำพูดไม่ได้ วินาทีนี้กูอยากโดดลงมาก ไม่ใช่โดดเข้าโรงแรม โดดหนีเว้ย!!  แม่ง!! ถ้าเอาจริงๆ มันก็แรงเยอะกว่าผม ถึงตัวจะไล่ๆกัน มันก็ใหญ่กว่าผม เกิดมันหื่นหน้ามืดชกผมแล้วลากขึ้นไปก็ไม่ยาก

   “ หึ ” มันหลุดหัวเราะมาเป็นเสียงหัวเราะแบบปกติที่ไม่จิตๆหรือหื่นๆ ก่อนจะระเบิดหัวเราะดังลั่น แล้วเหยียบคันเร่งแทบมิด ขับผ่านจากหน้าล็อบบี้ตรงมายังทางออกโรงแรมเพื่อกลับเข้าสู่ถนนใหญ่ดังเดิม

   “ นี่มึง... ” ได้เพียงแค่อ้าปากพะงาบๆ

   “ พอดีพี่แค่อยากขับรถผ่านเล่นๆให้คนแถวนี้หน้าซีดเล่นๆอ่ะครับ ” ขยิบตาให้ผมอีก เออ มึงหล่อ

   แต่วินาทีนี้ มึงเป็นปีศาจ!!

   ผมหอบหายใจหนักแทบจะเป็นลม นั่งนิ่งปรับสภาพอารมณ์และสติที่กระเจิงให้มาเข้าที่เข้าทางแล้วก็... หันไปทางขวาและ...

   ผัวะ!!!

หัวทุยๆของมันแล้วโขกกับพวงมาลัยรถ “ เจ็บน่ะเว้ย ”

“ มึงทำกูตกใจ ก็สมควร! ”กัดฟันข่มอารมณ์คุกรุ่นแล้วกระแทกหลังลงกับเบาะ “ แล้วตกลงจะพาไปไหน จะถึงยัง! กูหิว ”

“ มึงช่วยค่อยๆปรับอารมณ์ได้มั้ยวะ กูตามไม่ทัน! ” ไอ้วินว่าเสียงดัง “ โวยวายอยู่ก็กลับมาเป็นปกติ เรื่องนี้จบ เอาเรื่องใหม่มา กูตามอารมณ์ไม่ทัน! ”

“ เรื่องของมึง จะถึงยังวะ!! ”

   “ เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงแล้วเว้ย!! ”

   “ แล้วจะตะโกนทำซากไร! ”

   “ มึงตะโกนก่อนปะเมีย!! ”

   “ ยอมรับผิดบ้างดิวะ! ”

   “ กูไม่ผิด!”

มันเงียบ...

   ผมเงียบ

   ปล่อยให้แอร์มันดังไป...

   และก็เป็นอย่างที่มันบอกจริงๆ...เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงแล้ว มันเลี้ยวเข้ามาจอดบริเวณที่ว่างก่อนจะดับเครื่องแล้วหันมามองผมประมาณว่า มึงไม่ลงรึไง

   ผมเบือนหน้าไปอีกทางด้วยความเหม็นหน้ามัน รีบเปิดประตูลงจากรถแล้วมองสถานที่ที่มันพามาให้เต็มตา...

   จตุจักร...

   พากูมาทำแป๊ะไรครับ วันธรรมดาแบบนี้จะมีร้านไรเปิดครับ

   ยืนรอมันล็อครถเสร็จก็เดินมาอยู่ข้างๆผมแล้วยกแขนเกี่ยวคอผมอีก จะลากไปไหนก็ไป แต่ใจยังคงโกรธมันอยู่

   “ ตอนแรกว่าจะไม่ แต่ตอนนี้กูโกรธมึงแล้ว ” เสียงทุ้มว่าขึ้นขณะเดินผ่านร้านมากมายที่ปิดสนิท สายตาผมก็ยังคงมองสอดส่องไปอย่างสนใจเพราะไม่เคยมา แต่ไอ้คนข้างๆคงจะบ่อย พาเดินชิวมาก

   “ โกรธกูแล้วไง ” น้ำเสียงผมดังขึ้นจมูก “ กูไม่ง้อ ”

   “ แล้วมึงจะต้องขอโทษกู หึ ” เกลียดเวลามันแสยะยิ้มที่สุด

   “ ฝัน” อดที่จะบ่นไม่ได้ คือหิวเว้ย  ร้อนเว้ย  “ มึงจะพามาให้กูดูตลาดร้างรึไง ”

   ไอ้วินส่ายหน้าก่อนจะพาผมเลี้ยวไปอีกโซนหนึ่งและเจอเข้าเต็มๆกับ...ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยย

   แขนที่คล้องคอผมอยู่ลดลงเปลี่ยนเป็นจับข้อมือแทนแล้วดึงเข้าไปในร้าน ร้าน ร้าน สัตว์เลื้อยคลาน...

   มึงฆ่ากูเลยเถอะ!

   ลูกตาผมเบิกโตรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ของวันนี้ ปากก็เริ่มจะรู้สึกถึงแรงกระทบของฟัน... แข้งขาเริ่มจะอ่อนแรงกะทันหัน... จะหนีก็ขาอ่อนปวกเปียกได้แต่ปล่อยให้อีกคนฉุดเข้าไปในร้าน

   “ เฮียเป้ หวัดดีครับ ” มันปล่อยมือผมแล้วยกมือไหว้คนร่างหมีควายไว้หนวดไว้เคราด้วยความสนิทสนม

   เจ้าของชื่อเงยหน้าจากสิ่งมีชีวิตแสนน่ากลัวมาพยักหน้ารับพร้อมสีหน้าหน่ายๆจากนั้นค่อยเลื่อนสายตาโหดๆมามองที่ผม...

   “ เมียมึง? ”

   “ เฮียแม่งตาถึง ” ยกนิ้วชื่นชอบ กูโคตรอยากจะแย้งเลยสัด แต่ปากกูไม่ขยับนี่สิ “ พอดีเมียผมกำลังอยากได้สัตว์เลี้ยงน่ารักพอดี เลยพามาหาเฮียเนี่ย ”

   หันขวับเอ็นคอแทบขาดสะบั้น กูบอกมึงตอนไหน ละเมอเมาแดดรึไง

   คนมีหนวดมองผมตาเป็นประกายทันทีก่อนจะวางสัตว์ในมือลงในตู้ว่างเปล่าแต่จัดแต่งสวนซะสวยเว่อร์แล้วเดินมาหาผมใกล้

   “ สนใจแบบไหนล่ะ ”

   ใบ้ไง “ เอ่อ คือ ” กูอยากออกจากร้านครับ กูไม่สนใจสัตว์ประเภทนี้

   “ ไม่ต้องๆเฮีย เดี๋ยวผมให้เมียผมไล่จับทีละตัวเลย ” ห่ะ!! เดี๋ยว!! “ จับได้มั้ยเฮีย ”

   เฮียหน้าโหดพยักหน้าให้ “ จับๆไปเถอะ ลูกกูรีดพิษหมดแล้ว เชื่อง ” ยักคิ้วอย่างภาคภูมิใจอีกก่อนแกจะขมวดคิ้ว “ เออ กูฝากร้านแปบนะไอ้วิน นึกได้ว่าสั่งอาหารเด็กๆไว้ยังไม่ได้ไปเอา ”

   แล้วเฮียแกก็ชิ่งไปเหลือเพียงผมกับไอ้เหี้ยตัวหนึ่งและกับน้องงูมากมาย...

   “ มาๆ มาเลือกกัน ” เห็นผมใบ้แดกหน้าซีดก็สนุกมันเลยสิ ฉุดไปไหนก็ไป มันลากผมมาหยุดที่ไอ้ตัวยาวๆสีดำเกล็ดวาวตัวอวบอ้วน...

   “ กะ กูจะกลับ! ” พูดตะกุกตะกักแล้วเตรียมสะบัดหน้าหนีสะบัดตูดไปเลย แต่ลืมไปไอ้คนข้างๆนี้มันไม่ธรรมดา...

   “ หึ หึ จะไปไหนครับเมีย ” วงแขนแข็งแรงล็อคคอผมไว้อีกครั้งแล้วโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงสนุก แต่กูไม่สนุกสักนิด!! “ แต่ก่อนจะง้อ... ขอลงโทษเด็กนิสัยไม่ดีก่อนนะครับ ” ไม่วายที่จะหากำไรจากผม

   จมูกโด่งกดลงเบาๆที่ผิวแก้มของผม...

   “ กูนิสัยไม่ดีตรงไหน! ” ขึ้นเสียงได้เท่านั้นก่อนความรู้สึกหนักๆจะกดลงมาที่ไหล่ทั้งสอง ผมเลื่อนสายตาลงมามองแล้วแทบช็อก...

   “ น่ารักมั้ย ชื่อ อลิเซีย ตัวเมีย  ” ไอ้ผัวเวรก็ยืนชอบอกชอบใจสุดๆ ส่วนผมก็ยืนตัวแข็งทื่อตาค้างนิ่งมองไอ้ตัวน่ากลัวสีดำกำลังเลื้อยอยู่บนตัวผม... สยอง!!! “ ตัวนี้หมื่นกว่าๆเลยนะ แพงเอาเรื่อง อย่าทำมันตกนะ ”

   “ ไอ้วิน ไอ้วิน ไอ้เชี้ยยย ” ผมทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอมันแลบลิ้นใส่ส่งเสียงฟ่อ...เสียงแทบจะหายไปกับอากาศ เรียกขอความช่วยเหลือแต่อีกฝ่ายไม่แยแสสักนิด “ ไอ้เหี้ย!! เอามันออกไปนะเว้ย! ”

   “ หือ... อยากเอาออกก็เอาออกไปไว้ในตู้เองดิ ” เมินผมแล้วไปสนใจตัวอื่น ผมรู้สึกเลยว่าตอนนี้ใจผมกำลังเต้นเป็นจังหวะร็อคอย่างหนัก เหงื่อนี่ท่วมใบหน้าไปแล้ว “ มีอีกทาง หายโกรธกูก่อนครับ ”

   “ ใครสอนมึงง้อคนแบบนี้วะ!! ”

   “ พี่กู ” กูจะไปฆ่าพี่มึ๊งงงงงงง

   คนหล่อของทุกคนเวลานี้มันก็ปีศาจดีๆนี่แหละ

   เลิกคิ้วกวนบาทา “ หายโกรธยังวะ  ”

   “ กูโกรธยิ่งกว่าเดิมอีก ห่า! ” กัดฟันพูดออกไปแอบกลั้นใจสุดๆตอนไอ้เจ้าตัวดำๆผิวมันลื่นเลื้อยพันมาข้อมือผมเล่น “ ไอ้เหี้ยมึง เอาออกไปดิ เร็ว!! ”

   สายตามันยังคงความยียวน “ งั้นอยู่แบบนั้นไปสักพักนะ ”

   อะ ไอ้เหี้ย! มันเอาจริงดิ!!

   ผมยืนขาสั่นแทบทรงตัวไม่อยู่ พยายามทำใจกล้าจับตัวไอ้งูเวรนี่ แต่ทันทีที่แตะตัวมันมือก็กระตุกชักออกอย่างหวาดๆ จริงๆผมไม่ได้กลัวงูอะไรขนาดขึ้นสมอง แต่ผมไม่ชอบ ไม่ชอบมากๆ แล้วมีไม่กี่คนที่รู้... หนึ่งในนั้น...ไอ้เชี่ยวา!!

   ผมยืนค้างได้สองนาทีกดอารมณ์และสติให้มั่นคงกลั้นลมหายใจแล้วจับตัวไอ้ดำอีกรอบแล้วโยนลงตู้ของมันอย่างเร็วและแรง แพงก็แพง ช่างแม่ง กูกลัว! พอมันพ้นตัวไปได้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย หายใจคล่อง แต่แค่หน่อยหนึ่งเท่านั้น หันหน้าไปเตรียมจะไปยันตีนใส่คนที่มันพามา เจอมันยืนยิ้มร่าแล้วใจกระตุกเต้นระบำไม่เป็นส่ำทันที...

   ไม่ได้เต้นเพราะความเทพบุตรหล่อลากของมัน แต่เป็นของในมือมันต่างหาก!!!

   “ นี่... ลูกรักของไอ้เฮียเป้ เผื่อมึงอยากรู้จัก  ” มันเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆสวนทางกับใจผมที่หนีเตลิดไปแล้ว... “ น่ารักกว่าอลิเซียอีก ”

   และไอ้วินมันก็ยื่นกล่องมาให้ผม...

   ตุ้บ!!

   คราวนี้ไม่ใช่แค่ขาอ่อน แต่ขาไม่มีแรงเลยไอ้เหี้ย ผมล้มลงกับพื้นอย่างแรงรู้สึกเหมือนโดนสูบพลังงานชีวิตสุดๆ พอไอ้วินเห็นผมล้มมันก็เอาไอ้กล่องที่มีสัตว์ประหลาดที่ผมกลัวและเกลียดที่สุดมาวางลงตรงปลายเท้าผมด้วยสีหน้านิ่งๆ แต่ดูก็รู้ว่ามันพอใจกับปฏิกิริยาของผมไม่น้อย มึงโรคจิตเหรอไอ้สัส!!

   วางกล่องไว้ในตำแหน่งที่ผมเห็นชัดที่สุดแล้วทำเอาแทบอยากจะเป็นลมมันซะตรงนี้  ตัวสัตว์ประหลาดที่มีขนาดใหญ่กว่าจิ้กจกตัวสีม่วงๆตัวดูขรุขระมีสีสันสดใสแดงส้มจนน่ากลัวและตามันกำลังจ้องมาที่ผม มีตัวเดียวผมก็อยากตายแล้ว และในกล่องใสเสือกมีอยู่ห้าตัว!! ตัวแม่งอย่างช้าง ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พวกมันมองผมแล้วค่อยๆอ้าปากส่งเสียงร้องเป็นเอกลักษณ์...

   ตั๊บแก... ตั๊บแก... ตั๊บแก... ตั๊บแก...

   “ อ๊ากกกกกกกกกกก ” ผมร้องลั่นรีบชักเท้าหนีกล่องนั้น  และ  “ ไอ้วิน เอาออกไป ออกไป!! ” ผมโวยวายลั่นร้าน ไม่รักษาภาพพจน์มันแล้ว

   มันเงยหน้ามาสบตาแล้วยิ้ม “ หายโกรธยัง ”

   มึงนี่ก็คิดจริงว่ากูโกรธ ไอ้สาดดด กูหายแล้ว กูหายโกรธมึงแล้ววววววววววววว

   “ กูยอมแล้ว กู กู ” ลิ้นแทบพันกันตาย ลมหายใจเริ่มสะดุดและหอบหนักด้วยความกลัว “ กู กู ยอม เอาออกไป!!  ”

   “ เสียงยังแข็งอยู่เลย ” ไอ้วินมันหยิบกล่องขึ้นมาแล้วแกล้งทำท่าจะโยนใส่ผม “ จะหายโกรธมั้ย ”

   มึงพูดเป็นประโยคเดียวเหรอ จะหายโกรธมั้ย เนี่ย!

   “ โกรธเหี้ยไร ใครโกรธ!! ” พยายามทำเสียงให้ดูนุ่มสุด แต่น้ำเสียงกูยังคงเขียวขุ่น

   “ จะหายโกรธผัวมั้ยครับเมีย ” เสียงทุ้มกวนประสาทหนักกว่าเดิมราวกับจะสะกดจิตผม

   ผมส่ายหน้า เอ๊ย พยักหน้า “ ใคร... ใครโกรธ มึง ไม่ ไม่มี! ” ถึงผมจะยอมมันแต่น้ำเสียงของผมมันไม่ได้อ่อนตามสภาพผมสักนิด ไอ้วินที่ฟังก็ดูจะไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็อยู่ในระดับที่หยวนๆกันได้

   “ เสียงอ่อนจังเลยยย พูดอีกทีสิ ” มันประชดผม หลังจากนั้นเดินมานั่งยองๆข้างผมแล้วโน้มหูลงมา มันจะดีกว่านี้ถ้าไอ้เหี้ยวินมันเอาไอ้ตุ๊กแกผีไปเก็บ!

   “ มึง มึง ” พูดไม่ออกครับ

   โน้มลงมาใกล้กว่าเดิม “ ว่าไงครับบบบ พูดดังๆ ”

   “ ไอ้เหี้ยยยยยยย หายโกรธแล้วไอ้สัด หายแล้ว!!! ” หลับตาปี๊ดแล้วพูดออกไปศักดิ์ศรีที่ค้ำคออยู่พังพินาศลงทันตา ก่อนจะลืมตาขึ้นใหม่ที่มีประกายความโมโหเจืออยู่

   “ ก็แค่เนี้ย ต้องให้โหด ” ทำท่าจะเอาตุ๊กแกไปไกลๆแต่ยังลีลาไม่เลิก

“ กูถามจริงๆ นี่คือง้อของมึงจริงๆใช่มั้ย คนสอนมึงบ้าเปล่าห่ะ! ฮะ เฮ้ยยยย ไอ้วินนนนนนนนนน ”

   ผมร้องเสียงสูงคอแทบแตกเมื่อมันแกล้งผมไม่เลิก เขย่ากล่องให้ตัวตุ๊กแกมันขยับๆ อยู่ใกล้ๆหน้าผม

   “ หึหึ ” ไอ้วินยังจะมาหัวเราะได้อีก มึงชอบเหรอที่เห็นกูสติแตก “ แล้วนอกจากจะหายโกรธ มีอะไรอยากพูดอีกมั้ย ”

ผมนิ่งไปเล็กน้อย แต่ก็นานพอที่จะให้มันเอาของในมือมากระตุ้นผม “ เออๆๆ!! มีๆๆ มีเว้ยยยยยยยย แต่ช่วยเอาออกไปก่อนได้มั้ยวะ กูไม่ชอบ  ” สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วหดคอหนีปิดตาลงหนีภาพน่ากลัว “ กูผิดเอง มึงไม่ผิดเว้ย! ”

   “ หือ... เรื่องไหน ” แกล้งโง่ไม่รู้อีก

   ผมยังคงหลับตาแน่น “ ก็เสื้อไง เสื้อ... กูผิดเอง กูผิด กูยอมแล้ว มึงเอาไอ้ตัวเวรๆไปไกลๆกูนะ นะ ” คลำมือไปกระตุกแขนเสื้อมันยิก ไม่รู้ว่าผมแสดงสีหน้าและน้ำเสียงยังไงออกไป สัมผัสได้ว่าเสียงผมยังคงแข็งเสมอต้นเสมอปลาย แต่ผมอ่อนให้มันได้แค่นี้จริงๆ มันถึงเงียบนิ่งไปเลย...

   ผ่านไปหลายวิก็ได้ยินมันถอนหายใจ...

   “ เฮ้อ... ทำหน้าแบบนี้ กูจะไปไหนได้ ” รู้สึกถึงภัยคุกคามที่ถดถอยออกไป

   ผมค่อยๆลืมตาขึ้นใหม่...ไม่มีกล่องตุ๊กแกน่ากลัวแล้ว แต่ยังมีงูอีกเป็นสิบรอบตัว ยังไงก็ยังดีกว่าตุ๊กแกล่ะว่ะ ไอ้วิน เดินกลับมาหาผมแล้วยื่นมือมาให้ผมจับ ตอนแรกคิดจะปัด แต่เดี๋ยวมันเสือกคิดอีกว่าผมโกรธเลยต้องยอมจับมือมันให้มันดึงผมขึ้น...

   “ ที่กูทำแบบนี้ เพราะกูอยากให้มึงรู้ตัวว่ามึงผิด ให้มึงยอมรับ ” มันยกมือขึ้นดีดจมูกผมเบาๆส่วนมือก็ยิ่งกุมไว้แน่น “ ผิดก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่โทษคนอื่น เข้าใจมั้ยอุ่น มึงไม่ใช่เด็กแล้วนะ ”

   “ วิธีอื่นก็มีปะวะ ”

   “ ก็กูอยากแกล้งมึง ”

   “ ไอ้เชี่ย! ”

   “ ถ้าวิธีอื่น จะง้างปากให้มึงบอกว่าตัวเองผิดได้มั้ยละวะ ”

   เออ... ก็ไม่

   จริงของมัน...

   “ แต่จริงๆน่ะเว้ย ...กูไม่อยากให้คนอื่นมองมึงไม่ดี ” ไอ้วินระบายยิ้มราวกับมันไม่เคยแกล้งผมมาก่อน เป็นจังหวะเดียวกันที่ไอ้เฮียเป้กลับมา มันเลยพาผมเดินออกจากร้าน “ ถ้าเกิดมึงไปทำแบบนี้กับคนอื่นที่ไม่ใช่กูไม่ใช่พี่น้องมึงแล้ว คนอื่นจะว่ามึงไม่ดี ”

   “ ก็ช่างคนอื่นไปดิว่ะ แคร์ที่ไหน ” ผมเบือนหน้าไปอีกทาง “ มึงไม่ชอบก็ไปไกลๆ ไม่ต้องมายุ่งกับกู ”

   นึกถึงคอมเม้นต์หนึ่งในโพสของไอ้วิว... แล้วพลันจะเจ็บในอก...

 

   พี่วินไม่น่าไปยุ่งกับเด็กสถาปัตย์คนนี้เลย เขาบอกว่า อารมณ์ร้าย ใช้กำลัง

 

   ...เหอะ ไม่แคร์สักหน่อย

   ผมจมอยู่กับความคิดในหัวก่อนมืออุ่นๆจะวางลงที่หัวผมเบาๆแล้วโยกไปมา

   “ เฮ้อ คิดไปถึงไหนกันเด็กปากแข็ง ” น้ำเสียงสบายๆไม่ได้ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้น “ คราวนี้ไม่ได้โกรธ แต่งอนสินะ ”

   “ ใครงอน!! ” ผมโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

   ไอ้วินส่ายหน้าแล้วดึงไปทางหนึ่ง ผมก็ตื่นตระหนกเลยทีเดียวยื้อยุดรั้งตัวเองสุด “ ไปไหน ไม่ไป! ไม่เอาแล้วเว้ยยย ”

   “ ก็กูบอกแล้วว่าง้อ แล้วกูก็ยังไม่ได้ง้อสักหน่อย ”

   มันว่าเองเออเองแล้วดึงๆลากๆผมไปอีกร้านถัดไปจากไอ้ร้านสัตว์ประหลาดไกลพอควรเข้าสู่โซนสัตว์เลี้ยงน่ารักบ้าง... ไอ้วินพาเข้าไปร้านร้านหนึ่ง เป็นร้านขายสุนัขพันธุ์เล็ก... แววตาเกรี้ยวกราดของผมที่มีมาทั้งวันพลันจะมลายทลายหายวับไปทันทีแทนที่ด้วยแววตาเป็นประกาย...

   คนพามามองดูผมเงียบๆแล้วยิ้มน้อยๆ...

   “ ตัวไหน เลือกเลย ” ไอ้นี่ก็ป๋าจริง เดี๋ยวกูเหมาหมดเลย

   ผมขมวดคิ้วนิดๆ “ ซื้อให้? ”

   “ ชอบไม่ใช่รึไง ง้อไง” ไอ้วินสวนกลับพร้อมสีหน้ามั่นใจสุดๆ ผมก็พยักหน้าตอบไปทีหนึ่ง เลิกสนใจมันแล้วตรงรี่ไปหาลูกหมาพันธุ์ที่ชอบ

   เดินสำรวจจนมาหยุดที่เจ้าตัวเล็กขนสีน้ำตาลฟูๆบวกกับแววตาสดใสกำลังจ้องมองผมตอบ หางเล็กๆส่ายไปมาเรียกร้องความสนใจ ซึ่งก็ได้ผล ผมเดินเข้าไปดูใกล้ๆพิจารณาข้อมูลในป้ายที่แขวนอยู่ ยืนชื่นชมความน่ารักของมันได้แปบ เสียงกวนประสาทก็ดังมา

   “ เลือกลูกสาวเหรอ ” เสียงมาไม่พร้อมยังจะมายืนซ้อนหลังเอาคางเกยไหล่ผมอีก ร้อน! ผลักหัวมันออกไม่สนว้าจะหักมั้ย

   “ ลูกพ่อง ” ผมว่าเสียงขุ่นไม่สนใจไอ้คนข้างหลัง เทความสนใจให้หมาน้อยอีกครั้งแล้วก็รู้สึกว่ามัน น่ารักมาก แต่ขืนซื้อไปก็คงไม่ได้เลี้ยงเอง ผมก็มีเรียน

   “ ไม่คิดว่ามึงจะชอบหมาตัวเล็กๆเลยนะ ” คนเขาไม่อยากจะเสวนาด้วยมึงก็ยังจะหน้าด้านอีก ผมเองก็พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ปะทุ เดี๋ยวมันลากผมกลับไปร้านสัตว์ประหลาดทำไงเล่า

   เสียงห้วน “ ทำไม หน้าอย่างกูต้องชอบจระเข้รึไง ”

   “ ก็ได้อยู่ ” หยอกกลับอีก ผมล่ะเบื่อมันจริงๆ พ่นลมหายใจทิ้งอย่างตัดใจไม่ซื้อ... แล้วเดินออกจากร้านท่ามกลางความไม่เข้าใจของไอ้วิน ได้สติก็วิ่งตามออกมา

   รีบคว้าไหล่ผม “ เดี๋ยวดิว่ะ ”

   “ อะไรอีก ” หันไปทำหน้าเมื่อยใส่

   “ ไม่เอาเหรอ มึงชอบมากไม่ใช่เหรอ ” คนตัวสูงกว่าผมแค่นิดหน่อยถามอย่างสงสัย “ กูซื้อให้ ถ้ามึงชอบ  ”

   “ เอาไปแล้วจะเลี้ยงที่ไหน ” ผมถามกลับ “ ถ้ากูซื้อไป คงต้องเอาไปไว้บ้าน ไปได้หามันก็คงแค่เสาร์อาทิตย์ ลำบากแม่บ้านต้องดูมันอีก ”

   “ คือถ้าซื้อ จะเอาไปไว้บ้านแล้วกลับไปหาทุกเสาร์อาทิตย์ ”

   “ เออ มึงจะทวนประโยคกูซ้ำทำไม ”

   ไอ้วินฟังผมเงียบๆก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจพึมพำกับตัวเอง ผมก็เออ รู้เรื่อง เคลียร์ไม่ซื้อ...

   ซะที่ไหนล่ะ!!

   ไอ้วินเดินกลับเข้าไปในร้านแล้วพูดคุยกับเจ้าของร้านจากนั้นก็ชี้ไปที่เจ้าตัวเล็กที่ผมชอบแล้วก็ชี้ไปที่กระเป๋าใส่สุนัขอีก ผมยืนเอ๋ออยู่อย่างนั้นด้วยความตกตะลึง... ไอ้วินมันทำบ้าอะไรของมัน

   ยืนค้างอยู่นานไอ้วินมันก็เดินยิ้มร่าถือกระเป๋าที่ใส่หมาน้อยมาหาผม...

   “ ทำเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย ” ถามไปเพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันคิดอะไรอยู่ ผมเพิ่งบอกไปหยกๆว่าไม่มีเวลาเลี้ยง

   “ มันเป็นลูกของเราแล้วนะ ” สรุปเองเออเองอีก ไอ้เหี้ย “ ไหนลูก เรียกหม่าม้าสิ ”

   “ โฮ่ง! ” เสียงร้องแบบสุนัขทั่วไปแต่แค่มันจะแหลมเล็กเสียดหู

   พอไอ้เจ้าหมานั่นทำตามที่มันสั่งทีนี้ล่ะ ปากแทบจะฉีกถึงรูหู... ยังมีหน้ามายักคิ้วให้อีก ภูมิใจมาช่ะ?

   “ ส้นตีนเถอะ ” ด่ามันไปทีหนึ่ง “ จะเอาไปเลี้ยงที่ไหน ”

   “ บ้านกู ” รอยยิ้มหล่อแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ทันที “ เมื่อกี้มึงบอกแล้วนะ ถ้าเอาไปไว้ที่บ้าน จะกลับไปหาทุกเสาร์อาทิตย์ หึหึ ”

   “ นี่มึง!! ” ยกนิ้วขึ้นชี้หน้ามันด้วยความเหนือคาด นี่มันกะจะใช้หมาล่อให้ผมไปบ้านมันเนี่ยนะ!

   ไอ้วินยังคงยิ้มไม่เลิก “ ตามนั้นนะครับ ”

   “ ใครบ้านจะไปบ้านมึงวะ! กูจะเอาไปไว้บ้านกู! ” กระโจนจะแย่งกระเป๋า แต่มันเสือกยกหลบทำเอาผมแทบจะหน้าคะมำดีที่มันรีบคว้าเอวผมไว้ได้ทันท่วงที

   “ หึ มึงพลาดเองนะอุ่น ” เหลือบตาไปทางหมาน้อย ใช่ มันให้ผมเลือกแล้ว แต่ผมไม่เลือก เลยเปิดโอกาสให้มันหาทางเข้าทางตัวเองได้ตลอด

   ผมสะบัดตัวจากแขนมันแล้วยืนให้ตรง ก้มมองดูเจ้าหมาแล้วถอนหายใจ มันเล่นกับผมถูกจุดขนาดนี้ จะให้ทำไงวะ ผมจะหนีมันพ้นมั้ยเนี่ย

   รู้ว่าแม่งผมกลัวอะไร ก็งัดมาเล่นงานเล่นสอนผมซะน่าถีบ ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครมาโทษว่าผมผิดเลยสักครั้ง แล้วมันเป็นใครมาสอนผมทำไมวะ!

    แล้วไหนจะเอาเจ้าหมานี่มาบังหน้าอีก

   มันร้ายเกินไปแล้ว!!

   กลิ้งลูกตาไปมาใช้ความคิดอีกหน่อยก่อนจะหาข้อสรุปได้... “ เออ ไว้บ้านมึงก็ไว้บ้านมึง ” เอาไปไว้บ้านกลัวจะโดนสามหมากัดเอา

   “ ว่าง่ายๆจะได้โตไวๆ ”

   “ เดี๋ยวถีบ ”

   “ ถีบมีจูบ ”

   พูดแค่นั้นและทุกอย่างก็เงียบลง... เราทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรอีก นอกจากไอ้วินที่ยิ้มบ้าอยู่คนเดียว ก่อนจะเดินนำผมกลับรถในบรรยากาศเงียบๆ แต่ไม่ได้อึดอัดอะไร

   “ หิวแล้วใช่มั้ย ” เสียงทุ้มว่าขึ้นหลังออกจากจตุจักร ผมพยักหน้าตอบไปไม่ได้เงยหน้ามองเพราะกำลังสนใจหมาในกระเป๋าที่วางอยู่บนตัก

   “ สนใจคนหน่อยดิว่ะ ไม่น่าซื้อให้เลย ” โหมดงี่เง่ามาอีกแหละ หน้าบูดบึ้งมาเลย ผมหัวเราะหึแล้วหันไปแสยะยิ้มให้

   “ มึงพลาดเองนะวิน หึ ” และกลับมาสนใจหมาต่อ “ ไหน เรียกปะป๊าสิ ”

   “ .... ” เงียบกริบสัสสลัดอิตาลี ไอ้หมาเลว!

   “ ฮ่าๆๆๆๆ ” แต่ไอ้คนข้างๆแม่งหัวเราะเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียว “ หมามันรู้ว่าใครเป็นแม่ใครเป็นพ่อว่ะ”

   ผมทำหน้าไม่พอใจแล้วเฉไฉไปเรื่องอื่น “ ให้ชื่ออะไรดี ”

   “ ลูกคนแรกเหรอ... พ่อชื่อกรกวินต์ แม่ชื่อธารา ” ใช้นิ้วเคาะพวงมาลัยไปด้วย “ งั้นชื่อ ธาวิน ”

   ผมหันไปมองมันด้วยความดูถูก “ ชื่อสิ้นคิดมาก ใช้สมองคิดแล้วเหรอวะ ”

   “ ใช้หัวนมคิดมั้งเมีย ” เสียงเคืองมาเต็ม “ มึงคิดว่าชื่อไหนดีกว่าชื่อนี้มั้ยล่ะ! ”

   “ มี ” ผมตอบไปแล้วจ้องลงที่ปอมเปอเรเนี่ยนตัวน้อย

   “ งั้นชื่ออะไร ”

   “ อิน ” ผมว่าเสียงแผ่ว แล้วอมยิ้ม เหมาะกับเจ้าตัวเล็กชะมัด “ อินอิน เออ ชื่อนี้แหละ ”

   ไอ้คนข้างๆดูจะไม่ชอบ “ ชื่อเหี้ยไร ไม่เอา ไม่เพราะ! ”

   “ เพราะกว่าของมึงแล้วกัน ”

   “ ของกูมีความหมายนะเว้ย ”

   “ เออ กูก็มี ”

   “ งั้นบอกมาดิ๊ ” หน้าหล่อๆเริ่มบูดบึ้งตึงหนักขึ้น

   ผมเหลือบหางตาไปมองมัน “ ไม่บอก ”

   “ ทำไม มันเป็นชื่อใคร! ”

   “ คิดเอง ”

   “ อย่ากวนประสาทดิว่ะ เครียดนะเฮ้ย ” ไอ้วินแยกเขี้ยวแต่ตามันยังคงจ้องไปที่ถนน ลองหันมามองผมดิ มีทัวร์นรกแน่ๆ “ แฟนเก่ามึงเหรอวะ หรือใคร หรือเพื่อนในคณะมึง ”

   “ ... ” เอ๋? อินอินเป็นตัวเมีย น่าจะหากระโปรงให้มันใส่นะ

   “ ไอ้อุ่น มึงบอกมาน่ะเว้ย! ”

   “ ... ” เอ๊ะ ให้ไอ้พี่ปายมันตัดชุดหมาให้ดีกว่า เผื่อจะออกมาแปลกแหวกไม่เหมือนใคร

   “ ไม่ตอบ แสดงว่า มันเป็นแฟนเก่ามึงใช่มั้ย! ”

   “ ... ”

   “ เดี๋ยวกูต้องสืบ! ”

   มันทำหน้าจริงจังและเครียดสุดๆ หยิบโทรศัพท์โทรหาใครก็ไม่รู้แต่จากที่เสือกเงียบๆ น่าจะเป็นไอ้วา เลิกสนใจไอ้คนข้างๆแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างที่ฟ้ากำลังจะเปลี่ยนสีและค่อยๆคลี่ยิ้มนิดๆ...

 

   นี่มันโง่ หรือ โง่...ถึงไม่รู้ว่าอินหมายถึงอะไร

 

   แน่นอนว่า...ผมไม่บอก! 




หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-04-2016 18:13:24
แฮ่ มาเเล้วววววววววววววววว
มาช้าไปหน่อย แหะๆ
ในเล้าจะอัพช้ากว่านิดหน่อยน่า
ตอนที่ 9 เขียนเสร็จเเล้ว อีก 2 วันจะอัพในนี้น่า
แล้ว...

อิน นี่มาจากอะไรน่าาาาา

นอกจากจะมาอัพเเล้วเรายังพากิจกรรมมาฝากด้วยค่ะ
เป็นกิจกรรมแจกโปสการ์ดดดดวินอุ่นนน

ดูรูปและรายละเอียดกติกาได้ที่ >> เดือนพราย (https://web.facebook.com/DuanPhrai/)
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-04-2016 18:35:27
วิน+อุ่น = อิน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-04-2016 20:21:32
เชื่อตามรีบน อิอิ
อุ่นเข่าอ่อนไปเลย พี่วินเล่นสายโหดไปเลย น้องอุ่นจะได้น่ารัก อิอิ
พี่ปายจะจีบหมอเถื่อนแล้ว หมาย้าอีก 2 ล่ะ ใครจะเอาไปเลี้ยง ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-04-2016 21:13:57
 :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-04-2016 22:06:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 12-04-2016 22:45:52
อุ่นนนน
สรุปคือชอบใช่ไม๊
โถ่ๆๆๆๆ
อินนน อุ่นวินอุ่นวิน 5555
น่าร๊กกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: NuTonKaw ที่ 13-04-2016 05:08:47
 :o8: :-[ o13 o13
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 15-04-2016 07:21:10
แหมๆๆๆ อุ่นวิน เป็นอิน
ลูกของเราสินะ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 15-04-2016 10:10:15
อุ่นวิน = อิน สินะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: brave ที่ 16-04-2016 08:07:31
 :pig4: :o8: :o8: อุ่นวิน อุ่นวิน
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pomayaa ที่ 16-04-2016 10:23:02
ฮือออออออออ น่ารักอ่า
วิน + อุ่น = อิน

โอ๊ยยยยย จะน่ารักไปไหนคะ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.8 หน้า 5 [12/4/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 19-06-2016 21:01:46
ไม่มาต่อแล้วเหรอ...รอออออออ  :sad4:
หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-07-2016 18:59:22
****หายไปนานไปนั่งงมรหัสไปกู้เมลอยู่ค่ะ T^T ไปล้างคอมเเล้วหาย จำรหัสไม่ได้


นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 9

ตอน ทริปรวมพลคนประสาท 1




 

                “ เอาไปคืน! ”



                “ ไม่ให้คืนเว้ย! ”



                “ เอามา! ”



                “ เข้ามาใกล้ กูต่อย!! ”



                “ อุ่น!! ”



                “ ไม่เคยเรียกชื่อกูรึไงวะ! ”



                ผมตวาดใส่คนตรงหน้าที่ยังไม่เลิกบ้าเรื่องชื่อหมา บ้าขั้นที่จะเอาหมาไปคืนร้านเพราะผมตั้งชื่อหมาที่มีความหมายอะไรก็ไม่รู้(สำหรับมัน) แล้วถามหน่อยหมาตัวเมียบ้านไหนมันชื่อธาวินห่ะ!



                ตอนนี้ผมกับไอ้วินอยู่ที่สวนสาธารณะ A ข้างๆหอ ถามว่าทำไมมาอยู่นี่ ไอ้พี่ปายมันทักเฟสไอ้คนโง่ๆนี่ไง จะคุยเรื่องทริปอีกไม่กี่วันหรือก็คือมะรืนนี้ เห็นไอ้วินมันคุยกับเจ้าของทริปด้วยมั้งว่าจะให้เพื่อนไปด้วยอีกสองสามคน ผมที่ไม่มีมือถือติดตัวมาก็ต้องยืมไอ้วินโทรตามเพื่อนสองหน่อ พอจัดการเรื่องนี้เสร็จ มันก็หาเรื่องต่อ



                เหนื่อยใจกับคนโง่ในเรื่องที่ไม่ควรโง่จริงๆ...



                “ ไม่รู้ กูจะเอาไปคืน! ”



                ผมส่ายหน้า “ มึงโง่ให้มีขอบเขตหน่อยได้มั้ยสัด! ชื่อที่กูคิดนี่มันคิดหาความหมายยากรึไงวะ! ”



                “ ยาก!! ” ตอบพร้อมสีหน้าหงุดหงิดแล้วก็กระแทกตัวลงนั่งข้างๆผม สงบจิตคุมสติได้ห้านาทีก็เปิดปากขึ้นใหม่  “ แต่ช่างเถอะ ชื่อใครก็ช่างแม่ง มึงลืมมันไม่ได้ เออ เดี๋ยวกูทำให้ลืมเอง แล้วมึงจะต้องเปลี่ยนชื่อหมาใหม่เป็นธาวิน หึหึ ”



                กูล่ะอยากโดดสระเอาหัวมึงโขดกับหินจริงๆ



               “ เอาที่มึงสบายใจนะ ”



                เลิกสนใจมัน... ผมเอาโทรศัพท์ไอ้วินขึ้นมาเปิดเล่นเกมส์รอ ซึ่งมันก็ไม่ได้ห้ามอะไร ออกจะระริกระรี้ที่ผมเล่นโทรศัพท์มันด้วยซ้ำ มีการชี้ๆให้ดูแชทของมันอีก แบบหึงสิหึงสิอยู่นาน พอผมไม่สนใจมันก็ยู่หน้าถอยทัพไปเล่นกับหมาแทน



ผมทำเมินไปงั้น เห็นว่ามันเลิกสนใจแล้วเลย...เหลือบสายตามองแอพพลิเคชั่นตัวเอฟสีฟ้า... Facebook



                อ๊ะๆ ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ... อันนี้ต่างหาก



               Messenger



                มองบนแล้วจิ้มลงไป... โอ๊ะ มือลั่น



                ผมเลื่อนลูกตาดำลงมาจับจ้องที่ช่องแชทที่มีแชทของใครคนหนึ่งเด่นหราบนสุด เห็นรูปโปรแล้วคันไม้คันมืออยากจะกดเข้าไปดู...   



                ZEEzee V



                แต่ตาก็ต้องเหลือบมองไอ้คนข้างๆเป็นระยะๆ เหมือนผมกำลังจะจับกิ๊กมันไม่ปาน



                แชทของซีอยู่บนสุดแถมยังไม่ได้เปิดอ่านข้อความอีกด้วย ผมกดเข้าไปดูเลย ไม่คิดจะสนใจเท่าไหร่เรื่องอ่านไม่ตอบ ข้อความล่าสุดเป็นเวลาเดียวกับที่ไอ้เจ้าของมือถือลากผมออกจากห้อง... อืม ถ้าให้คิดเล่นๆ พอคนข้างๆผมไม่ตอบ มันเลยต้องโทรหาแทนสินะ...



                รู้สึกคันยิบๆในอกชะมัด



                เลื่อนอ่านข้อความดูแล้วก็...ปกติ เหมือนคนจีบกัน แต่ซีดูจะตื๊อมากกว่า เอาแบบกลางไม่ผสมความรู้สึกใดๆ อ่านดูแล้วแม่งเด็ก งี่เง่าว่ะ คุยไปได้ไงวะ อ้อ ลืมไปน้องนางเขาน่ารัก ผิดกับกูที่... สารร่างพอๆกับมัน



                ไหนๆก็ไหนแล้ว ขออ่านหน่อยดิ๊



                กินข้าวยังพี่วิน?



                วันนี้น่ะ ผม...$#%#^$%^$



                พรุ่งนี้เราไปกินเค้กกันนะ



                พี่ไต้ฝุ่นบอกว่าให้พี่วินมาหาที่คณะด้วย พี่เขาจะชวนไปกินข้าว



                ฝันดีนะครับ



                วันนี้เจอพี่วินที่โรงอาหารด้วย ไม่เห็นทักผมเลย งอน L



                หน้าพี่ไปโดนอะไรมา ใครต่อยพี่ มีไปมีเรื่องมาเหรอ ผมเป็นห่วงนะ...



                ...



                แค่อ่านแบบผ่านลวกๆ ยังรู้สึกจุกอก ถ้าอ่านละเอียดทุกตัวอักษรคงรู้สึกระเบิดไปเลย... ผมหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆเผื่อเก็บความรู้สึกปั่นป่วนกลางอก...พยายามคิดหาคำตอบให้สภาพอารมณ์แล้วก็ได้ในที่สุด...



                กูจะอ้วก... ถังขยะอยู่ไหนวะ



                ส่ายหน้าอย่างสุดจะทนแล้วเลิกสนใจแชทชวนอ้วกนี่ กดออกเพื่อเล่นเกมส์ต่อ แต่แชทใครบางคนกลับเด้งกระแทกตาเข้า...



                ZEEzee V : อ่านแล้วทำไมตอบล่ะพี่วิน



                เอ้า ก็กูไม่ใช่พี่วินจะตอบทำไม



                ผมยังคงมองข้อความนั่นนิ่งไม่ตอบเหมือนเดิม ไหวไหล่แล้วทำท่าจะกดเข้าเกมส์ แต่ข้อความต่อมาก็เด้งมาอีก



                ZEEzee V : พี่วิน ผมอยู่สวนสาธารณะ A อ่ะ รถผมเสีย ใกล้หอพี่ พี่มารับผมหน่อยได้มั้ย



                คิ้วเข้มเลิกขึ้นในทันที... แววตานิ่งๆของผมเริ่มสั่นขึ้นมาบ้าง... อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นวะ



                แชทเงียบไปอีกครั้งก่อนเสียงโทรศัพท์จะแผดร้องแทน... เจ้าของโทรศัพท์หันควับมามองด้วยความมึนๆ ผมส่งโทรศัพท์คืนมันไปแล้วก็เอาอินอินมาอุ้มเล่นแทน



                “ ฮัลโหล ว่าไงซี ” เสียงทุ้มกรอกลงไป



                ผมแอบเบ้ปากใส่แล้วพยายามเทความสนใจทั้งหมดไปให้ไอ้หมาน้อยของผม



                “ พี่อยู่สวนสาธารณะ A เหมือนกัน บังเอิญชะมัด ” นี่โง่เหรือควาย ความบังเอิญมันมีในโลกด้วยรึไง ผมย่นจมูกใส่อินอินอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ “ พี่นั่งอยู่ตรง... ”



                อธิบายแทบจะบอกก้าวไปขวากี่ก้าวตรงไปกี่ก้าว ห่วงขนาดนี้ลุกไปรับเองเลยมั้ย!!



                ไม่รู้ว่าสติหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็เสียงร้องครางจับของอินอิน ผมหน้าตื่นรีบผ่อนแรงที่เผลอบีบขามาลงทันที ต้องโอ๋กันอยู่นานกว่าอินอินจะหายตื่นกลัวผม



                เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เจอเข้ากับร่างของคนมาใหม่ทันที...



                “ เฮ้อ! เจอพี่สักที สวนสาธารณะกว้างสุดๆ นึกว่าจะหาพี่ไม่เจอซะแล้ว ” ใบหน้ายิ้มแย้มว่าไปอย่างเป็นธรรมชาติแล้วก็ชวนมอง



                สวนสาธารณะนี้มันกว้างตรงไหนฟะ พูดซะเว่อร์ แล้วทำไมผมต้องหงุดหงิดด้วยล่ะว่ะ!!



                “ เราก็หลงทางง่ายจริงๆ เมื่อกี้พี่บอกให้มาทางขวา ยังจะไปซ้ายอีก รู้จักซ้ายขวามั้ย หือ? ” ไอ้วินส่ายหน้าพลางกลั้วหัวเราะไปด้วย ไอ้คนฟังก็ยกมือขึ้นเกาแก้มหน้าแดงระเรื่อ



                ไม่รู้จักซ้ายขวานี่ ปัญญาอ่อนปะวะ.. แล้วเมื่อไหร่กูจะเลิกพาลวะ!



                คนตัวเล็กเกาแก้มไป “ พี่ก็รู้ ผมไม่ค่อยรู้ทิศรู้ทาง หลงทางง่ายจะตาย ”



                “ แล้วมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ ” คนโง่ถามด้วยความซื่อ แอบเห็นซีมันชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มใสๆ ผมแสยะยิ้มเล็กน้อยเป็นไปอย่างที่ไอ้ไผ่บอก...



                แอ๊บใส...



                “ พอดีผมมาหาเพื่อนนะครับ อยู่แถวๆนี้ แต่อยู่ๆรถเป็นอะไรไม่รู้ ดับเฉยเลย ” ไอ้วินพยักหน้าหงึกหงักเชื่อสนิทใจ จนผมอยากจะถีบ...



                ซีหันตาใสๆมาจ้องลูกหมาในมือผม ตรงดิ่งมานั่งย่อลูบหัวมัน ผมก็นิ่งค้างมองการกระทำอุกอาจแล้วอยากจะ...ฮึ่ย! “ หมาใคร น่ารักจัง ”



                “ หมากู / หมาพี่เอง ” ตอบพร้อมกันทำเอาคนฟังงงไปเลย



                ผมเปิดปากด่าก่อนเลย “ หมากู ไอ้สัด อย่ามามั่ว ”



                “ ของกูปะ ตังค์กูมั้ย ”



                “ ตังค์มึง แต่ของกู ” ผมไม่ยอมจริงๆ แอบเนียนยกอินอินหนีฝ่ามือเล็กขาวชมพูของซี หมาข้า ใครอย่าแตะ!



                “ ของเราสองคน คนละครึ่ง จบนะมึง ” ไอ้วินส่ายหน้าปลงๆกับความเอาแต่ใจและไม่ยอมลงของผม เลยต้องคนละครึ่งทาง...



                ไอ้ตัวประกอบนี้ก็ไม่เลิก “ น้องหมาชื่ออะไรอะไรเหรอครับ ”



                พร้อมกันอีกครา “ อินอิน / ธาวิน ”



                ผมผุดลุกยืนขึ้นอย่างมีอารมณ์... อารมณ์โมโห



               “ มึงจะเอาใช่ปะ! ”



              “ เออ ถ้ามึงให้ กูก็เอา ” ตบท้ายด้วยยิ้มหื่นแล้วแกล้งใช้สายตาแปลกๆมองผมตั้งแต่หัวจรดตีน ผมถลึงตาใส่อยากจะกระโจนไปขย้ำคอแต่ก็ไม่ทำได้แต่ส่งนิ้วกลางให้มันไป...



               “ กวนตีน ไปตายไหนก็ไปเลยสัด ”



              “ ตายแล้วเดี๋ยวมีคนเป็นม่าย ” มันหยอกแค่นั้นเมื่อเจอสายตาดุดันของผม ไอ้วินเลยจำยอมถอยทัพ           “ ซี กลับเลยเนอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ”



               หยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับใบหน้าเหวอๆของผม...



                นี่มึงลากกูออกมาไม่พอ ยังจะมีหน้ามาถึงกูไว้นี่อีกเหรอ! พลันความเดือดดาลปะทุวาบขึ้นมาในใจ



                ความหงุดหงิดของผมมันแผ่ซ่านมากขนาดไหนไม่รู้ แต่ไอ้วินก็รีบหันมามองผมด้วยความเป็นห่วง เออ ให้มันรู้บ้างว่ากูนั่งอยู่... สนใจกูสิว่ะ พากูมาทิ้งเหรอสัด



                “ เป็นไรเมีย ” โง่ให้มีลิมิตดิไอ้สัด เป็นเมียมึงไงห่า! เอ๊ย ไม่ใช่! มึงเป็นขี้ข้ากู!



                ผมหันหน้าหนี “ ... ”



                “ เดี๋ยวมานะเมีย ไปส่งน้องก่อน ” มันพูดซ้ำอีกรอบพลางวางมีลงบนหัวผมแล้วโยกไปมา “ อย่าเพิ่งร้องไห้ดิว่ะ ผู้ชายของมึงไม่ได้จะไปรบนะสัด ”



                “ ร้องไห้พ่อง ของกูพ่อง สมองกลับเหรอห่า ” ผมหันไปมองตาขวางถลึงตาใส่ แต่อีกฝ่ายกลับส่งยิ้มกลับมาแทน “ ทิ้งกู ไอ้เชี่ย ”



                “ กูแค่จะเดินไปเรียกแท็กซี่ตรงถนนเนี่ยเมีย  มึงจะไปด้วยมั้ยครับ ” มีชี้ไปที่ถนนอันมีรถผ่านไปมาให้ควั่ก “ แล้วกูก็จะเดินไปซื้ออะไรมาให้มึงกินด้วย จะได้เลิกโมโหหิวสักที ” เสียงลมหายใจระบายพรืดออกมา



                รู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้ากะทันหัน... ไอ้วินมันพูดมาแบบนั้นแล้วก็ชะงัก พึมพำกับตัวเองสองสามคำแล้วคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์... ดวงตาวิบวับเป็นประกายจ้า



                “ เอ๊ะ... หรือว่า...หึง? ” น้ำเสียงดี๊ด๊าเป็นพิเศษจนผมแทบประทับรอยเท้าบนหน้ามัน ไอ้วินหัวเราะชอบใจจากนั้นก็หันไปหาซีที่ยืนค้างนิ่งงันไป... “ เป็นอะไรซี ”



                ซีกะพริบตาตั้งสติใหม่ก่อนจะยิ้มให้ผมแล้วกลับไปมองหน้าไอ้วิน “ ลืมถามเลย นี่ใครเหรอพี่วิน ”



                มึงไม่ถามตอนกลับไปแล้วเลยล่ะ แหม



                “ อ้อ ” มันครางรับ



                “ เพื่อนพี่เหรอ ” ดวงตากลมทอประกายความคาดหวังอยู่ในนั้น... คนโดนถามหันมามองผมแล้วผมให้น้อยๆด้วยความรู้สึกอะไรของมันก็ไม่รู้ รู้แต่เป็นรอยยิ้มที่แตกต่างกว่าทุกที



                “ ใช่... ลืมแนะนำเลย นี่...อุ่น เป็นเพื่อนพี่ ”



                นัยน์ตาใสสว่างวาบเหมือนแสงสว่างก่อนจะดับลงเหวลึก...



                “ เป็นเพื่อนแล้วก็เป็นแฟนพี่ด้วย ” เอียงคอมาทางผม “ บางครั้งทั้งแฟนทั้งเพื่อนไปด้วยมันก็รู้สึกดีกว่าเป็นแฟนอย่างเดียว...มีเพื่อนคอยปรึกษาปัญหาชีวิต มีแฟนไว้คอยรักษาปัญหาหัวใจ ” 



                “ !! ”



                “ สำหรับอุ่นแล้ว...นอกจากฐานะแฟน พี่ก็อยากให้เขาไว้ใจวางใจกับพี่ในทุกๆเรื่อง ” แล้วก็หันมาทางซี “ สรุปง่ายๆตอนนี้ก็คือ... พี่กำลังจีบมันอยู่  และจะเอาเป็นแฟนให้ได้ ”



                ซียิ้มขื่นๆ “ อ้อ... คนนี้เหรอที่พี่วินชอบพูดถึงกับพี่ไต้ฝุ่น ” และก็เงียบไปพร้อมสีหน้าไม่ดีเท่าไหร่... ไอ้วินก็หันกลับมาสนใจผมต่อ



                ผมเลี่ยงสายตาเลี่ยงหน้าหลบมัน...



                รอยยิ้มพิมพ์ใจส่งมาให้ ยกนิ้วโป้งอีก “ ซึ้งล่ะสิ มุกนี้ผ่าน ” มันดูอารมณ์ดีสุดๆ “ เดี๋ยวมานะ แล้วจะซื้อขนมมาฝากนะเด็กปากแข็ง ”



                “ จะไปไหนก็ไป เรื่องของมึง ” ผมพูดระรัวทอดสายตาไปมองบึงน้ำสระน้ำใหญ่แทน



                ตัวป่วนนี่ก็ไม่เลิก... “ อย่าเพิ่งร้องไห้คิดถึงกันล่ะที่รัก ”



                “ รักพ่อง!!! ”



                และก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะในลำคอด้วยความสนุกที่แกล้งผมได้ก่อนจะไปยังโน้มหน้ามากระซิบอีก



                “ หน้าแดงนะเมียเผื่อไม่รู้ตัว หึหึ ”



                ผมเบิกตาโพล่งอ้าปากพะงาบๆ จะด่า มันก็เดินลิ่วหนีไปแล้ว...



 



                หน้าแดงก็ดีกว่ากิ๊กมึงหน้าซีดยิ่งกว่าศพแล้วกันไอ้สาดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



 



                ผมนั่งอยู่แล้วนั่นเดี๋ยวหน้าบึ้งเดี๋ยวหลุดยิ้ม พอยิ้มก็กลับไปหน้าบึ้ง... กูเป็นเชี่ยอะไรวะ



               แทนที่จะรู้สึกโกรธเหมือนทุกครั้ง...



                อารมณ์ดีจัดเลยต้อง...ก้มมองหน้าอินอินที่จ้องตากลับมาจากนั้นก็ค่อยๆคลี่ยิ้มร้ายให้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กตรงหน้า...



                “ แม่ของมึง มีได้แค่คนเดียว ”



                “ โฮ่ง! ”



                “ ก็คือ กู ไม่ใช่ มัน ”



                “ โฮ่ง! ”



                “ แล้วก็อย่าทำตัวโง่แบบพ่อมึงล่ะ ” ถอนหายใจอย่างปลงตก “ ไอ้เชี่ยวินแม่ง โง่ โง่ โง่! ชื่อมึงก็ยังไม่รู้เลย ไอ้เด็กแอ๊บใส เเม่งก็ดูไม่ออก ถามจริงเเม่งเรียนนิเทศปะ! โคตรโง่!! ”



               แล้วกูเกิดเฮี้ยนอะไรมาบ่นกับหมาวะ!



                เลิกคุยกับหมาได้ครู่...แววตาผมเริ่มอ่อนแสงลงแล้วเผลอหัวเราะขมๆเบาๆ... หลังจากนั้นค่อยสายตาเลื่อนลอยไปจ้องสระน้ำกว้างด้วยความรู้สึกว่างเปล่า...



 



                ฉลาดทุกเรื่อง แต่บางเรื่องมันกลับโง่...




               โง่จนไม่น่าให้อภัยจริงๆ




                และผมก็โง่... โง่ที่แม่งยอม.....




               ยอมอะไรก็ไม่รู้... ความลับครับ :)







ต่อโพสล่างเน้อ

 
หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-07-2016 19:01:09




                “ สรุป... เราจะไปไหนกันนะ ”




                เสียงจากเจ้าของความคิดเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทุกคนมาครบแล้ว... ไอ้พี่ปายเกาหัวแล้วสางผมยาวๆของตัวเองด้วยความมึนสับสน นั่งพิงอกดินที่ทำหน้าจะร้องไห้ไม่ห่าง...




                “ กูไม่น่ามีพี่รหัสแบบมึงเลยจริงๆ ” เสียงทุ้มเข้มบ่นอย่างระอาสุดหัวใจ ใบหน้าคมเข้มผิวสีน้ำผึ้งไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายดูแย่ กลับเซ็กซี่บาดใจสาวๆค่อนมหา’ลัย บุรุษผู้มาใหม่ชื่อ ไทม์...หรือก็คือ พี่รหัสที่ปกติที่สุดของผมแล้ว




                เฮียแกหยิบแผนที่...เอิ่ม แผนที่ประเทศไทยขนาดเท่าบ้านออกมากางบนพื้นอิฐของสวนสาธารณะ... เอาจริงๆ ผมไม่ควรบอกว่าใครปกติ...




                “ นี่... เราจะปั่นกันตั้งแต่หอ S ไป ” ก้านนิ้วยาวชี้ลงที่กรุงเทพ... ประทานโทษ ไหนหอครับ... พวกผมที่เหลือพากันถอนหายใจเฮือกก่อนที่เพื่อนผมจะเริ่มต้นบ่น




                “ กูไม่ไปตอนนี้ทันมั้ย ” เสียงของไผ่ว่าขึ้น แค่นั้นแหละไอ้ตัวต้นคิดหันขวับไปจ้องเขม็งแทบฆ่า




                “ มึงว่าไงนะไอ้ไผ่ ” เสียงคุกคาม ลุกจากตักของพี่ผมตั้งท่าจะเขย่าคอเด็ก ไอ้ดินก็รีบฉวยโอกาสทองลุกพรวดมาผลักไอ้วินแล้วเอาตัวมันมาเบียดผมอย่างแนบแน่น




                “ โฮ อุ่น ฮือ เฮียกลัว ช่วยเฮียด้วย ” ว่าที่หมอเถื่อนของกู...หมดสภาพ ดูจากลักษณะแล้วคงโดนลากออกมาจากคลาสวิชาเรียนพอดี... มาทั้งเสื้อกาวน์เลยมึง แว่นก็ยังไม่ได้ถอด ไอ้พี่ปายนี่เจ๋งจริงๆ




                ผมเมินมัน “ ไอ้วิน เอาขนมมากินหน่อยดิ ”




                “ อุ่นนนน ” เสียงอะไรข้างหู รำคาญจริงๆ




                “ อ๊ะ ” ซองเลย์ถุงใหญ่รสโปรดถูกยื่นมา ผมเอื้อมมือจะไปรับแต่มีมือมารเอาไปซะก่อน...




                คนแย่งขนมไปไม่ใช่คนอื่นคนไกล...




                “ มึงกล้าดียังไง เอาขนมขยะมาให้น้องกู ” ดินว่าสีหน้าเหี้ยม




                “ มึงคิดจะทำร้ายน้องกูทางอ้อมใช่มั้ยสัด! ” เมื่อหาทางกัดได้ พวกมันก็ไม่รี่รอจะผนึกกำลังฆ่าไอ้วินเลยครับ...




                ไฟที่กำลังอ่านหนังสือกฎหมายอยู่ก็หันมาฉีกยิ้มกว้าง “มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุ ให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิ... ”




                “ หุบปากไปดิไอ้ทนายกาก รำคาญ ” ไอ้ลมชักสีหน้าสุดจะทนใส่ “ วิชาการทำเหวไร อวดเหรอ ”




                “ เออ มีความรู้ไง ไอ้วิดวะเหี้ย ” น้องรักของบ้านแสยะยิ้มปิดหนังสือเล่มหนาลง “ ไม่เหมือนใครแถวนี้ สร้างห่าอะไรก็พัง ปราสาททรายง่ายๆ มึงยังทำพังเลย จะสร้างอะไรได้ ”




                คนโดนกล่าวหาหน้าแดงก่ำด้วยความโมโห “ กูจะฟ้องมึง! ข้อหาหมิ่นประสาทกูต่อหน้าบุคคลที่สาม! ”




                คนโดนตอกกลับถึงกับเหวอ “ มึงเล่นกฎหมายกลับใส่กูเหรอ!! ”




                “ เออไง! เจอกันที่ศาลเลย พรุ่งนี้! ” ไอ้ลมชี้หน้าน้องชายตัวเองอย่างไม่ยอม




                หันไปมองทางไอ้ดิน รายนี้ก็กัดพ่อนิเทศตัวร้ายไม่หยุด...




                “ ไอ้เหี้ย มึงจ้องจะฆ่าน้องกูใช่มั้ย ”




                วินถอนหายใจเฮือก “ พี่อย่าประสาทได้มั้ยครับ ”




                “ กูมีน้องสองคน!! ”




                มุมปากคนโดนตวาดยกยิ้ม “ ครับ เราอยู่ปีเดียวกัน งั้นไม่ต้องเกรงใจ โอเคนะ ไอ้เหี้ยดิน ”




                “ มึง... ” ว่าที่หมออ้าปากพะงาบๆด้วยความอึ้ง ส่วนผมก็เพิ่งนึกได้ว่าไอ้วินมันแก่กว่าผมแล้วก็อยู่ปีสามเท่ากับไอ้ดินด้วย  “ กูพี่อุ่นนะเว้ย! ”




                “ รู้ครับ ” ไอ้นี่บทจะกวนประสาทก็กวนจริงๆ สงสัยเก็บกดมานาน “ ผมก็ผัวอุ่นครับ ”




                ลมกับไฟหันขวับหยุดตีกันเองทันที พาสายตามุ่งร้ายมาทันที...




                “ มึงอยากตายใช่มั้ย!! ” เริ่มคลั่งแล้วสิให้ตาย




                “ ไอ้เฮียลม ต่อยมันสิว่ะ! ” ไฟ... เมื่อกี้มึงยังตีกับมันอยู่เลยนะ




                “ มึงอย่าอยู่เลย! ”




                คนอื่นก็ได้แต่มองสามเหล่าหมาคลั่งกันอย่างอึนๆ... ผมมองพวกมันแล้วรู้สึกสงสารพ่อแม่จับใจ คลอดพวกมันมาได้ยังไงเนี่ย




                ตัดสินใจลุกขึ้นและ...




                ผัวะ ผัวะ ผัวะ!




                ตบกะโหลกเรียงตัวเผื่อจะมีสติขึ้นบ้าง...  ก่อนที่มันจะกระโจนกัดไอ้วิน ที่กำลังยืนกวนอารมณ์ไม่เลิก แหม่ตั้งแต่กูโอ๋มึงนี่ แลจะไม่กลัวพี่น้องกูเลยนะสัด




                “ เงียบ ถ้าไม่เงียบ ไม่ต้องไป ” ผมว่าเสียงเอื่อยๆแค่นั้น ก่อนที่สามหมาจะเลิกบ้าทันที ยอมไปนั่งสงบเสงี่ยม ผมคว้าตัวไอ้หมอเถื่อนไว้ก่อนแล้วแบมือกลางอากาศ




                “ อะไรเหรออุ่น ” ถามงงๆ




                “ ขนม ” เหล่ไปที่ซองเลย์ “ เอามา ”




                “ แต่มันจะทำให้... ”




                “ หุบปาก! ” ผมขึ้นเสียงหนักก่อนจะกระชากถุงขนมมาแกะๆแล้วยัดเข้าปากทันที โดยมีสายตาคลอน้ำตาของไอ้ดินส่งมา




                “ ใช่สิ ความห่วงใยของเฮียมันไร้ค่าแล้วนี่ ” ดราม่าเพื่อ




                หันไปหาลม “ เฮีย... เอามันไปเก็บได้ ผมจะซื้อเสื้อให้เฮียตัว ”




                คนโดนใช้ตาวาววับแสยะยิ้มชัยชนะทันที รีบมากระชากตัวไอ้ดินออกไป และไอ้ไฟก็มีเสนอหน้ามาช่วยลากแถมยังเอามือปิดปากหยุดเสียงดราม่าน่ารำคาญให้ด้วย




                ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันมามองหน้าคนอื่นๆ “ เฮียไทม์ ว่าต่อ เรื่องเส้นทาง ”




                “ กูกำหนดได้แหละ เดี๋ยวกูปั่นนำเอง ” ไอ้พี่มันว่างั้นผมก็เบาใจ ยังไงไอ้เฮียไทม์มันก็ดูมีสติกว่าไอ้พี่ปาย “ อุ่น แฝดฟ้าไปด้วยใช่มั้ย ”




                “ อืม ผมไลน์ไปคุยแล้ว พวกมันบอกปั่นไม่ไหว คงจะขับรถไปแล้วสัมภาระกับเต็นท์ก็ยัดรถพวกมันไปแล้วกัน ” ผมครางรับไปก่อนจะนึกถึงฝาแฝดลูกพี่ลูกน้องของผม จะอ้าปากคุยต่อก็รู้ถึงแรงสะกิดจากด้านซ้าย




                เจอไอ้คุณผัวทำหน้าไม่พอใจ “ อะไรของมึง ”




                “ ทำไมเค้าไม่มีไลน์ตัวเองอ่ะ ” เสียงเล็กเสียงน้อยด้วยความน้อยใจ




                “ คนนอก ” ลม




                “ ไม่สำคัญ ” ไฟ




                “ คนเขาไม่อยากคุยไง ถึงไม่ให้ หึ! ” ดิน ...ได้ฟังแบบนั้นไอ้วินยิ่งหน้าเสีย ผมส่ายหน้ากับไอ้พวกบ้านี่ที่เกินจะเยียวยาจริงๆ




                “ ได้ข่าว... กูบล็อกไลน์พวกมึงนี่ ” ว่าขัด




                “ อุ่นจะบอกมันทำมายยยยยย ” เสียงร้องประสานขึ้นอย่างโหยหวน เหลือบเห็นพ่อนักแสดงยิ้มขำ มันน่าเสยให้ร่วงจริงๆ




                เมินหมา “ เฮีย ตกลงเราจะไปไหนบ้าง ”




                “ สรุปคือจุดหลักที่เราจะไปกันก็คือ ไปวาดรูปที่เขาค้อ เพชรบูรณ์ แต่เราก็ผ่านหลายจังหวัด เรามีเวลาตั้ง 1 อาทิตย์ที่มหาลัยหยุดให้ เพราะงั้นก็หยุดตั้งแคมป์วันแรกที่สระบุรี ”




                “ อ่าฮะ ” ผมครางรับ “ เรื่องอาหาร จะซื้อกินหรือทำเอง ”




                สีหน้าพี่รหัสผมคล้ายจะโมโห “ มึงนี่... บ้านกูทำร้านอาหาร กูได้รับการถ่ายทอดจากคุณนายของร้านมาแล้วนะเว้ย! มึงไม่เชื่อใจฝีมือกูรึไง! ”




                “ กูไม่เชื่อ ” พี่ปายแทรกขึ้นแล้วทำหน้าหน่ายใส่ “ ไอ้ไทม์ คราวก่อนมึงทำสุกี้ เป็นไง ท้องเสียทั้งสายรหัส ”




                “ วิน ” ผมหันไปเรียกอีกคน “ มึงทำอาหารได้ใช่มั้ย ”




                “ ได้ ” ผัวผมมีประโยชน์จริงๆ ซึ้งใจ “ กูจะพาไอ้ฟรานไอ้ไต้ฝุ่นและไอ้เหี้ยเวียร์ไปด้วย มึงโอเคมั้ย สามคนนี้ทำอาหารได้ ”




                “ ดีๆๆๆๆ ” ไอ้คนไร้มารยาทผมสีเพลิงว่าระริกระรี้ขึ้นมา “ ดีใจชะมัด มีแต่คนอยากได้ทริปฮันนีมูนของเราอ่ะดิน ”




                “ ฮันนีมูนบ้านพี่สิว่ะ! ไปไกลๆ! ”




                ไอ้พี่ปายก็แลจะสนุกสนานกับการกลั่นแกล้งพี่ชายผมให้สติแตกจริงๆ หันเหเทความสนใจกลับมาที่พี่รหัสอีกรอบ




                “ ขากลับกูไม่ปั่นแล้วนะ นั่งรถกลับ ” ว่าเสียงหน่าย “ เรื่องเต็นท์ที่นอนก็ของใครของมันแล้วกัน ”




                พอพูดถึงเรื่องเต็นท์ปุ๊บ ไอ้สามบ้านี่หูผึ่งหางกระดิกเลยครับ... ถลามาจับตัวผมให้จ้าละหวั่น แอบเห็นไอ้ลมแกล้งเนียนผลักไอ้วินเหมือนกัน




                ...แล้วทำไมผมต้องสังเกตมันตลอดด้วยวะ!




                “ นอนกับลมนะ! / นอนกับดินนะ! / นอนกับไฟนะ! ”




                “ กูจะนอนกับผัวกู ” ผลักหัวพวกมันออกไปอย่างหงุดหงิดใจแล้วหันไปส่งซิกให้ไอ้วินที่มันพอจะรู้อยู่แล้วว่าผมใช้มันเป็นตัวกันความวุ่นวาย เลยไม่ได้ว่าอะไร ออกจะพอใจด้วยซ้ำ




                ไอ้สามศรีหมาบ้าก็ทำหน้าทำตาน่าสงสาร... “ เมื่อก่อนนะ อะไรๆ อุ่นก็พี่ลม จะนอนกับพี่ จะอาบน้ำกับพี่ ”




                “ ลม อย่ามโน ”




                “ ! ”




                “ เมื่อก่อน ก็ดินอย่างนั่นอย่างนี้ อยู่กับอุ่นนะ ไม่ไปเรียนได้มั้ย เล่นกับอุ่น ”




                “ ตื่นนะดิน ”




                “ !! ”




                “ เมื่อก่อนก็น้องไฟ เล่นกับพี่อุ่นนะ ไปกินขนมกับพี่นะ ไปดูหนังกับพี่ ”




                “ นอนฝันอยู่เหรอ ไอ้ไฟ ”




                “ !!! ”




                1 2 3




                “ ฮือออออออ อุ่นใจร้าย!!! ” แล้วพากันวิ่งไปคนละทิศละทาง ราวกับตัวเองเป็นสาวน้อยถูกปฏิเสธรักในการ์ตูนญี่ปุ่นไปได้




                ผมว่าตามหลังไป “ เออ เพิ่งรู้เหรอ ” และกลับมาคุยเรื่องทริปที่วันนี้จะสรุปจบมั้ย จะอ้าปากพูดต่อก็มีคนขัด




                “ เอาง่ายๆคือ ทุกคนต้องมีจักรยาน เตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วก็เต็นท์ เพราะทริปเรามันอินดี้ รากหญ้า ไม่นอนโรงแรม เจอกันมะรืนหน้าหอ S ตี 3 จบแยกย้าย! ”




                ไอ้เฮียไทม์รีบสรุปเออเองจบก็เก็บแผนที่เท่าบ้านของแกไป ลุกพรวดไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความเอ๋อของทุกคน เมื่อกี้มันสั่งว่าอะไรบ้างวะ...




                “ งั้นกูกับไอ้ไผ่ไปซื้อของเตรียมตัวก่อนนะ ” ไอ้คิมได้สติก่อนใครเพื่อนก็ลากไอ้ไผ่ออกไป ไม่ลืมจะบอกลาคนอื่นๆด้วย




                “ งั้นกูไปตามหาสามีของกูก่อนนะ ” ไอ้พี่ปายฉีกยิ้มให้แล้วพุ่งตัวออกไปทันที...




                สุดท้ายก็เหลือผมกับไอ้วินแค่สองคนเหมือนเดิม... ไม่ มีอินอินด้วยอีกตัว... มือแกร่งลูบหัวเจ้าตัวน้อยไว้แล้วมีสีหน้าเคร่งเครียด... ส่วนผมก็นั่งถือห่อเลย์กินเงียบๆ...




                “ อุ่น ” ผมหันไปจิกตาใส่ “ เออ ธารา ” มันกระแทกเสียงใส่ชื่อผมอีก




                กูยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ... มึงจะหงุดหงิดห่าไร




                “ แฝดฟ้านี่ใคร ”




                “ อ้อ ” ผมพยักหน้าแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ ยิ่งทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าเดือดดาล




                “ ทำไม สำคัญรึไง ”




                พยักหน้าตอบไปอีกที “ สำคัญดิ ” เป็นญาติกูไม่สำคัญสิแปลก




                “ อย่าบอกนะว่า... ” มือหนึ่งประคองอุ้มอินอินไว้ แล้วอีกมือก็ชี้หน้าผม...




                “ อะไร ” ผมขมวดคิ้วใส่มัน เกิดเพี้ยนไรขึ้นมาอีก แต่เลย์รสนี้มันอร่อยจริงๆว่ะ


                “ แฝดฟ้าอะไรนั่น ”


                กูรอฟังอยู่ “ ... ”


                “ เป็นแฟนเก่ามึงใช่มั้ย!! ”



                หา?




                “ มึงเอาชื่อฟ้าอะไรนั่นกับชื่อมึงมารวมเป็นอินใช่มั้ย!! ”




              ฟ้า กับ อุ่นนี่ รวมกันได้ อิน... ขอบคุณมากที่สมองมึงคิดได้แค่นี้...



                นี่ผมมีผัวเป็นคน หรือควายผสมลาวะ



                อย่าไปสนใจมัน กลับหอนอนดีกว่า




                “ เฮ้ย มึงกลับมาอธิบายนะเว้ย!! มึงปล่อยให้ผู้ชายของมึงสติแตกไม่ได้น่ะเว้ย!! ”




                เสียงแมงเม่าที่ไหนวะ รำคาญจริงๆ ไปดีกว่า




                อะไรเอ่ย ไร้เยื่อใย





ต่อโพสล่างเน้อ
หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 12-07-2016 19:03:59



และแล้วก็มาถึงวันที่ทุกคนรอคอย...




 




                ความมืดมิดรอบด้านบ่งบอกว่ายังไม่เช้า มันควรเป็นเวลาที่ทุกคนกำลังนอนหลับสบายใจแต่กลับมีชายหนุ่มกลุ่มใหญ่กำลังยืนรวมตัวกันอย่างคึกคักตาสว่างหน้าหอพักชาย S




                ใช่... ตาสว่าง




                “ หาวววว ใครมันนัดตีสามแล้วยังไม่เสนอหน้ามาวะ ” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากตรงบันไดหน้าหอกำลังนอนซบกระเป๋าจากสำเพ็งใบใหญ่ “ ไอ้อุ่นนน แล้วดินของกูอยู่ไหนนนน ”




                “ กำลังออกจากบ้านใหญ่ ” ผมพูดไปพลางหาววอดๆ ปาดน้ำตาที่คลออยู่ออก หัวผมโงนเงนไปมาเพราะความง่วง ไม่มีแรงจะทรงหัวแล้ว คิดว่าคงเอาหัวไปกระแทกกับพื้นปูนแข็งๆ แต่ที่ไหนได้... อะไรบางอย่างที่แข็งเหมือนกัน แต่ก็นิ่มกว่าพื้น แล้วก็อุ่นกว่า




                เป็นแค่พื้นทำไมมีปาก “ บอกให้นอน แล้วพี่จะจัดกระเป๋าให้ก็ไม่เอา ”




                “ ยุ่งน่า ” ผมบ่นแล้วทิ้งน้ำหนักหัวซบมันไปเลย “ มึงนี่ก็บ้า เคืองกูเรื่องหมา แต่ก็ยังไม่เลิกยุ่งกับกู ”




                “ เรื่องแค่นั้น กูคิดมากไป กูก็เสียมึงไง กูพยายามจีบมึงให้ลืมไม่ดีกว่ารึไง ” ไอ้นี่แลจะเครียดจริงจังเรื่องชื่อหมา แต่ผมไม่มีทางพูดเรื่องน่าอายพรรค์นั้นออกมาหรอกน่า




                “ พูดหล่อดี ไม่เหมือนหน้ามึงเลย ” ส่งเสียงหัวเราะหึไปที




                ไอ้วินโอบไหล่ผมไว้หลวมๆ “ เงียบแล้วหลับไปเลยเมีย ปากดีเดี๋ยวจับจูบเลย ”




                “ ก็ไม่ได้ห้าม ” ผมเงยหน้าขึ้นไปแล้วประกบปากมันทันทีไม่ทันให้มันได้ตั้งตัว... บดจูบเบาๆละเลียดละไมไปตามปากสวยก่อนจะผละออก “ เลิกคิดเรื่องชื่อหมาได้แหละ ไม่ใช่ชื่อใครทั้งนั้น จบ ”




                “ อ่อยพี่ขนาดนี้ เดี๋ยวปล้ำตรงนี้ซะเลย ” วินร้องโอดโอยก่อนจะทำท่าจะจูบผมอีกรอบ ดีที่เอามือยันไว้ทัน “ ไรวะ นี่เสียเปรียบนะ มึงจูบกูอยู่ฝ่ายเดียว ”




                “ แต่ก็ได้จูบมั้ย ”




                “ เออว่ะ ” มันว่าเอ๋อๆ ผมส่ายหน้าแล้วถอนหายใจพรืด ทิ้งหนักตัวซบมันต่อแล้วปิดตาลง แต่หูยังคงได้ยินมันพึมพำ “ จูบแบบไม่รู้สึกอะไร ไม่ต้องจูบก็ได้นะมึง ให้ความหวังคน รู้มั้ย ” มันบีบจมูกผมเบาๆ




                โง่ๆอย่างมึง เดาไม่ออกหรอก กูคิดหรือไม่คิด ต่อให้กูคิด มึงก็เสือกโง่ไม่รู้...




                ยังไม่เลิก “ จับปล้ำจริงๆเลยดีมั้ยวะ อ่อยเค้าขนาดนี้ ”




                “ ตีนสิ หุบปาก จะนอน ”




                แล้วก็เงียบอีกครั้ง... ผมเริ่มทิ้งตัวลงเข้าสู่นิทรา แต่สักพักก็รู้สึกถึงแรงขยับเขยื้อนตัว ลำตัวผมสัมผัสพื้นเย้นๆก่อนหัวจะถูกวางลงบนตัก... ไม่นานผ้าหรือเสื้อใครสักคนถูกเอามาคลุมให้ผม...




                ...ใครสักคนที่ทำแบบนี้นอกจากไอ้หมาบ้าสามตัว




                ในเวลานี้ก็คงเป็นมัน... ไอ้เชี่ยวิน




                ไหนๆก็มืด มองไม่เห็น กูขอหน้าแดงหน่อยแล้วกัน




                “ อุ่น ขอถ่ายรูปหน่อยนะ ”




                กูหลับ กูไม่รู้




                “ ไอ้ฟราน มาถ่ายกูกับเมียให้หน่อยดิ! ”




                ผมพยายามมุดหน้าลงเสื้อแล้วหลับพยายามบังคับให้จิตใจสงบ แต่ที่ไม่สงบเลบยก็คงเป็นก้อนเนื้อในตัว... ที่เต้นร้องส่งเสียงไม่หยุด...




                เฮ้อ... กระเพาะนี่แหละ ร้องโหยหวนด้วยความหิว...




                .




                .




                เวลาผ่านไปเรื่อยๆไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ผมหลับ ก่อนจะตื่นขึ้นเพราะเสียงโหวกเหวกโวยวายตัวถูกกระชากออกจากที่นอนแล้วถูกกอดรัดแน่น




                “ หือ.. อะไรวะ ” ผมถามอย่างงัวเงีย ปรือตาลืมขึ้นอย่างมึนๆ ปรับสายตาให้ชินกับความมืดสักหน่อยก่อนจะประเมินสถานการณ์ได้ว่าตอนนี้มากันครบแล้ว




                “ อุ่น อุ่นเป็นอะไรมั้ย มันวางยาอุ่นใช่มั้ย ” เสียงคุ้นๆเหมือนจะเป็นไอ้ลม ผมไม่ตอบเพราะง่วงและมึนอยู่ “ ไอ้เชี่ยดิน มึงมาดูน้องดิ! โดนไอ้เชี่ยนี่วางยาแน่ๆ ถึงมึนขนาดนี้ ”




                “ ไอ้เหี้ย มึงทำพี่กูเหรอ! ”




                “ ไอ้พี่ปาย มึงปล่อยกูดิว่ะ! กูจะดูน้อง! ”




                “ ดินนน สนใจชุดเค้าก่อนนน น่ารักเปล่า! ”




                “ ไม่น่ารักเว้ยยยยยยย ปล่อยยยยยย ” แม้สภาพตัวเองยังเอาไม่รอดแต่ก็ยังห่วงผม “ ไอ้เชี่ยวิน มึงออกห่างจากน้องกูเดี๋ยวนี้นะเว้ยยยย ”




                มีรางวัลพี่ดีเด่นแห่งชาติมั้ย




                ผมสะบัดหัวไล่ความง่วงก่อนจะเห็นเหตุการณ์ชัดๆ ผมลุกพรวดสลัดตัวออกจากมือไอ้ลม ตรงไปหาไอ้ไฟกับไอ้คุณผัวก่อนที่เริ่มจะฟัดกันแล้ว




                “ แยกๆ ” เดินเข้าไปคั่นกลางดันให้ห่างกัน “ ไม่แยกกูกระทืบ! ”




                รีบหลบกันไปคนละทิศเลยทีนี้ ไอ้ไฟเดินไปรวมกับลมที่ยังทำหน้าฟึดฟัดไม่เลิก เอาจริงๆพวกมันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่แค่พยายามหาความผิดมายัดเยียดให้เพื่อจะได้กระทืบอย่างมีเหตุผล คิดว่าจะมีใครบ้าแบบนี้มั้ยล่ะ ส่วนวินก็เดินไปหาน้องตัวเองที่มองอย่างเป็นห่วง แล้วก็มีผู้ชายอีกสองคนที่ผมยังไม่เคยเห็นหน้า




                “ ไอ้คิม ไอ้เหี้ย มึงแย่งข้าวกูไม่พอ ยังเอาขวดน้ำกูไปอีกเหรอ! ”




                “ ไรวะ กูกินหน่อยเดียวเอง ”




                “ หน่อยพ่อง! ”




หันไปอีกทางก็เห็นไอ้คิมไอ้ไผ่กำลังแย่งข้าวกล่องกันแดก เอิ่ม เพิ่งตีสามจะตีสี่ มึงหิวกันแล้วเหรอ




 พอมองไปอีกด้านก็เห็นพี่ปายกำลังตบตีกับดิน มองเลยไปอีกหน่อยก็เห็นแฝดญาติของผมกำลังนั่งแกว่งขาอยู่บนรถกระบะให้ฟีลลิ่งกุมารทองมากมาย




                “ เฮียไทม์อยู่ไหน ” ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด นี่ก็ส่ายแล้วนะ “ พี่ปาย โทรตามเฮียให้หน่อยดิ ”




                คนโดนใช้ชะงักการกลั่นแกล้งเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับแล้วควานหน้าโทรศัพท์ที่สวมด้วยเคส...เคสเหี้ยอะไรของมันก็ไม่รู้ต่อสายหาคนนำทันที




                ส่วนผมก็บอกให้คนอื่นๆขนของขึ้นรถ เราทั้งหมดจะนั่งรถไปก่อนแล้วเดี๋ยวเช้าค่อยเริ่มปั่น ปั่นตั้งแต่ตีสาม มีตายสิครับ มองไม่เห็นทาง




                พอขนของขึ้นรถหมดเราก็มายืนรอไอ้เฮียไทม์ผู้นัดเวลา ระหว่างรอก็ชวนกันคุยเล่นไปพลางๆ...




                “ วิน ไม่แนะนำน้องกับเพื่อนมึงหน่อยเหรอ ” ไอ้พี่ปายผู้เป็นมิตรกับทุกคนว่า ก่อนจะเพ่งสายตาไปที่น้องเวียร์ “ เฮ้ย ทำไมมองชุดกูงั้นวะน้อง มึงจะแย่งเหรอวะ! ดินดิน มาปกป้องชุดเขาหน่อย ”




                ได้ทีก็หาทางเอาตัวไปกระแซะกับพี่หมอเถื่อนไม่ให้เสียโอกาส ไหนๆก็ไหนๆล่ะ ขอพูดถึงชุดมันหน่อยแล้วกัน... จะเรียกว่าชุดอะไรดีล่ะ ผมก็อธิบายไม่ถูก เอาง่ายๆ เคยเห็นชุดประดาน้ำป่ะที่แนบเนื้อแขนขาขายาวมิดชิด ถูกสวมทับด้วยกางเกงลายดอกสีพื้นเป็นสีแดงกับลายดอกสีพาสเทลที่ดูแล้วมันน่าจะทำเองเลย  ส่วนเสื้อก็ใส่ทับด้วยเสื้อยืดสกรีนตัวโดเรมอนนั่งแดกโดรายากิ หัวก็มีงอบใส่ ไม่รู้มันไปขโมยชาวบ้านที่ไหนมา




                จบเพียงเท่านี้กับชุดของมัน




                น้องเวียร์ทำหน้าเหวอ “ เอ่อ... ”




                “ ใครมันจะไปสนใจชุดประหลาดของมึงวะพี่! ”ดิน สะบัดตัวสลัดผลักออกจากอย่างแรง




ผมว่าเสียงเรียบก่อนจะยกน้ำเปล่าขึ้นกระดก




                “ ทำใจน้อง มันบ้า ” ชี้ไปสองคนข้างหลัง “ แล้วนั่นใคร ”




                “ คนนี้ไอ้ฟราน มึงน่าจะเคยเห็นหน้านะ อยู่หอเดียวกัน ” วินชี้ไปคนที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดูก็รู้ว่าโดนหลอกมา “ ส่วนคนนี้เพื่อนสนิทพี่เอง ชื่อ ไต้ฝุ่น อยู่อักษร ”




                อ้อ... คณะเดียวกับไอ้น้องซีแอ๊บใสน่ะเหรอ




                “ เฮ้ยยย งั้นพี่ก็คือเดือนมหาลัยปี 3 อ่ะดิ!! ”ไอ้ไผ่ร้องขึ้นรีบถลาไปประชิดตัวแล้วเขย่าๆ “ วันนั้นพี่หล่อโคตร ร้องเพลงเพราะชิบหาย ”




                “ ขอบคุณครับ ” รอยยิ้มใจดีถูกส่งมาให้จนไอ้ไผ่หน้าร้อนแดงวูบวาบ




                ไอ้คิมหน้างออย่างเห็นได้ชัด “ มึงมานี้เลยไอ้ไผ่ ”




                “ อะไรของมึงวะ! ”




                “ เรื่องของกู! ”




                ไต้ฝุ่นมองเพื่อนคู่นี้ด้วยสายตาไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากยิ้มเรี่ยราดกระจายความหล่อไปเรื่อย จะว่าไปเรื่องคืนวันเฟรชชี่ไนท์ของที่นี่ เขาค่อนข้างฟรี เด็กนอกก็เข้ามาได้ แต่ก็ต้องแบบมีรุ่นพี่เป็นคนพาเข้ามา ไอ้ผมก็โดนไอ้เหี้ยดินลากมาดูมันประกวด แต่แน่นอน แพ้... สมน้ำหน้า




                “ คนนี้ชื่อ ปาย ปีสี่ ” ผมไล่แนะนำบ้าง “ แต่ไม่ต้องเคารพมันหรอก มันบ้า ”




                “ อ้าว ไอ้หลานรหัสเชี่ย ”




                “ สองคนนั่น คนผมยาวชื่อ ไผ่ ผมสั้นชื่อ คิม ” ชี้ไปที่ไอ้เพื่อนสองคนกำลังกัดกันได้ที่ “ อย่าไปสนใจ มันไม่ปกติ ”




                “ อ้าว ไอ้เพื่อนเหี้ย ” นิ่งค้างหยุดการหยอกกันทันที




                “ สามตัวนั่น เป็นพี่น้องกูเอง ” ผมกวาดตามองไปแล้วถอนหายใจ “ อย่าไปสน ไม่สำคัญ ”




                “ อุ่นอ่า (T^T) (TOT) (Y_Y) ”




                “ ส่วนสองคนนั้น ” ชี้ไปที่ฝาแฝดโคตรจะหล่อบรรลัย “ เป็นญาติกู ชื่อท้องฟ้า กับฟ้าคราม หน้ามันคล้ายกัน เรียกๆไปเถอะ ”




                “ แนะนำเฮียได้แย่จริงๆนะ ” ท้องฟ้าว่าเสียงเอ็นดูก่อนจะก้มลงมาคล้องคอผมแล้วกวาดตามองคนอื่นๆ “ คนไหนชื่อวินวะ ”




                “ ผมครับ ” ไอ้วินมันทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเข้าใจบางอย่าง คงตรัสรู้แล้วมั้งว่าไอ้แฝดฟ้านี่พี่กู




                ฟ้าครามพยักหน้ารับแล้วมุ่ยปากไปทางสามหมา “ เออ ดูแลน้องกูด้วยล่ะ กูไม่กัดเหมือนไอ้สามหน่อนั่น ”




                “ ครับ ” อมยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยนะมึง แล้วมันก็หันมามองผม




                เสียงขุ่นมัว “ มองห่าไร ”




                “ มองเมีย ”




                “ ไม่อยากแดกข้าวแบบอร่อยๆแล้วใช่มั้ย ” ท่าทางผมคือจะเข้าไปตะครุบแล้วขย้ำหัวมันแล้ว แต่ติดที่ไอ้ไฟมาดึงตัวไว้ก่อน




               “ พี่อุ่น พี่มากับไฟดีกว่า อย่าไปสนใจมัน มาทาครีมกันแดดก่อน ถึงตอนนี้จะตีสี่ แต่แสงไฟก็มีผลต่อผิวสวยๆ เฮ้ย! ไอ้เชี่ยวิดวะ มึงนี่ไม่เลิกนะ มึงตัดหน้ากู! เอาครีมมา!”




                “ ตังค์กู ไอ้น้องเหี้ย ครีมก็ของกู มึงขโมยจากห้องกูมา อย่าคิดว่าไม่รู้ ”




                “ มึงได้แปะชื่อไว้มั้ยล่ะ ห่า! ”




                “ นี่กูพี่มึงนะ ”




                “ กูน้องมึงนะ เคารพกูดิ! ”




                ผมคิดว่าบ้านผมกำลังมีสมองที่ไม่ค่อยจะปกติกันสักเท่าไหร่ ผมเลยคว้าแขนทุกคนลากตัวแยกออกมาจากสามหน่อสี่หน่อบ้าบอ




                หยุดเมื่อไกลพอจากคนบ้า ผมเลยจับหัวเวียร์แล้วโยกเล่นด้วยความเอ็นดู ไอ้เวียร์มันน่ารักนะ ตัวเล็กๆ แต่ไม่ได้เตี้ยก็แคระ คือผมสูงไง “ คนพวกนี้ประสาทหน่อยนะ ทางที่ดีอย่าไปใกล้ เดี๋ยวติดเชื้อ ” ว่าไปพลางเหลือบไปทางไต้ฝุ่นกับฟรานด้วยเหมือนจะเตือนกลายๆ




                เวียร์ส่ายหน้าแล้วคลี่ยิ้ม “ ไม่ประสาทนะครับ ทุกคนดูรักใคร่สนิทกันดีนะครับ น่ารักจะตาย ”




                ...ผมว่าเวียร์มีความผิดปกติทางสายตาอยู่มากนะ...




                “ แล้วพวกมึงโอเคมั้ย ” เงยหน้าไปถามสองคนที่ดูเงียบๆ




                ไต้ฝุ่นพยักหน้า“ เป็นทริปที่น่าสนุกดีนะ ” เหลือบไปทางหมาบ้าสามตัวที่มีไอ้พี่ปายผนวกผนึกความบ้าเข้าไปอีกแล้วค่อยๆขยับมุมปากยิ้ม คนบ้าอะไร ทำห่าอะไรก็ดูดีไปหมด ไอ้วินนี่แทบไม่ได้ครึ่ง




                ไอ้ฟรานทำหน้าทำตาเหมือนจะกัดลิ้นตาย ชกไปที่ไหล่ไอ้วินดังปั้ก “ มึงมันเชี่ย หลอกกู มึงจะพากูมาทำเหี้ยอะไร กูไม่อยากปั่นนนนนนนนนน ไอ้เชี่ยยยย ”




                เสียงร้องโหยหวนดังเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดีก่อนจะชะงักเมื่อมีอีกเสียงแทรกมา... และคนที่เรารอคอยก็มาถึงสักที




                “ เฮ้ยยยยยยยย ขอโทดดดดดเว้ยยยย รถติด!! ”




                ผมสวนกลับทันที “ รถติดบ้านป้าสิไอ้เฮีย! ”




                “ ชะอุ๊ย แก้ตัวไม่ผ่าน แย่จัง ” หน้าตาหงอยซึมลงทันควัน ใบหน้าเข้มคมเต็มไปด้วยเหงื่อ คงรีบปั่นจักรยานมาสุดฤทธิ์ มันลงจากจักรยานแล้วทิ้งตัวโยนกระเป๋าใบเท่าช้างออก “ เหนื่อยชิบหาย ”




                “ ทำไมสาย ”




                ทำหน้าอึกอัก “ เอ่อ คือ แบบว่า ” เหลือกตาไปมา “ กูหลงทางว่ะมึง แหะๆ ”




                ...กูจะไปถึงเพชรบูรณ์มั้ย ไหนตอบ




                “ เดี๋ยวเอาของเก็บให้น่ะครับ ” ไอ้วินว่าขึ้นแผ่ซ่านความใจดีไปทั่ว




                “ ทำดีมาก ว่าที่น้องเขยของน้องรหัสกู ”ไอ้เฮียไทม์ยกนิ้วให้ แสร้งทำอารมณ์ดีหลบสายตาจ้องจะต่อยของผม 




                ช่างแม่ง หลงไหนก็พักนั่นแหละ




                ส่วนไอ้คนถูกชมเช่นไอ้วินก็หัวเราะอย่างชอบใจ ยกกระเป๋าไปเก็บท้ายรถ ส่วนจักรยาน ไต้ฝุ่นเป็นคนยกไปขึ้นรถให้... สรุปรวมทริปหรรษาของเรามีกัน... สิบสี่คนถ้วน 




                คนปั่นนำทริปพักหายใจก่อนจะมองกวาดสายตาสาดส่องดูทุกคนแล้วเห็นสี่คนที่ยังกัดตีกันไม่เลิกก็ขยับคิ้วมองดูด้วยความสนใจ




                “ เฮ้ย พี่น้องมึงปะอุ่น น่ารักดีว่ะ ”




                ควรพาพวกมันไปตัดแว่นเช็คประสาทใหม่เนอะ...




                สามหน่อหมาเถื่อนหยุดง้องแง้งใส่ไอ้พี่ปายหันควับมามองทางต้นเสียงแล้วถลามาจะต่อย




                “ มึงว่าใครน่ารัก พูดอีกทีดิ!! ”




                “ พวกมึงไง ” ตีหน้าอึนกลับ กระตุกต่อมบ้าไอ้ลมให้หนัก




                “ อย่างกูเขาเรียกหล่อเว้ย ไอ้หน้าแป๊ะ!! ”




                “ อ้าวพี่ ไหงว่ากันงี้วะ ”




                ผมถอนหายใจครั้งที่เจ็ดร้อยแปดสิบเอ็ดแล้วยกมือไล่ๆต้อนๆทุกคนที่ยังมีสติครบให้ขึ้นรถ บ้างก็นั่งท้ายรถ บ้างก็นั่งในรถ... ผมเลือกขึ้นรถของไอ้เฮียฟ้าคราม นั่งหลังกับไอ้วินสองคน มองลงไปก็ยังเห็นไอ้พี่รหัสกับพี่คนโตของบ้านกำลังวางมวยไม่เลิก




                “ จะไม่ไปใช่มั้ย!! ”



                ตะโกนลงไปให้สองคนนั้นหยุดใช้สายตาฟาดฟันกัน




                พี่รหัสผมก็เปรี้ยว “ ระวังตัวไว้เถอะมึง ” ก่อนจะสะบัดก้นขึ้นไปนั่งในรถของไอ้พี่ท้องฟ้า




                “ มึงนั่นแหละระวังไว้ เดี๋ยวตายไม่รู้ตัว ” ไม่วายชูของดีให้อีก ก่อนที่ไอ้ลมจะผละไปนั่งบนหลังกระบะอีกคนสุมหัวกับสองหมาที่เหลือ มันซุบซิบกันแล้วหันมามองหน้าไอ้วินจากนั้นก็ขยับยิ้มชั่ว พอผมมองจ้องกลับ รีบหันไปมองนกมองไม้ทันที... ไอ้พวกเสแร้ง




                “ กูว่าทริปนี้กูคงต้องระวังตัวสุดๆ ” เสียงข้างๆเรียกสติผมให้หันไปมอง “ เผลอที กูคงไปนอนอยู่วัด ”




                “ เออ...แต่แม่ง..."



                แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว...


             “ มันคงเป็นทริปที่วุ่นวายสัดๆแน่ๆ ”




                กลิ้งตาไปมาแล้วเงยหน้ามองพระจันทร์และส่ายหัว...



                เช้าเมื่อไหร่... ความชุลมุนบังเกิดชัวร์ 


                พาราสามโหลที่เอามา... จะพอมั้ยวะ เฮ้อ







**************************
ก่อนอื่นกราบขอโทาที่หายไปเนิ่นนาน ส่วนหนึ่งที่หายไปเพราะงมหารหัสไม่เจอ
เมลก็ตายดับ งมหารหัสอยู่เหมือนกัน
มาได้ก็ครบรอบ 3 เดือนพอดี ฮือ ขอโทษค่า

เว็บนี้ลงช้าที่สุดก็ขอโทษด้วยค่า ตอนนี้เขียนถึงตอนที่ 19 แล้ว จะรีบทยอยลงนะคะ
ขอโทษด้วยค่ะ
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-07-2016 19:20:26
รีบๆๆมาลงเลยน่ะ อิอิ
เราตามไปอ่านอีกเวปตามทันแล้วแระ คิกๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 12-07-2016 19:23:58
รอๆจ้า ต้องกลับไปอ่านเนื้อเรื่อใหม่
ลืมหมดแล้ว เพื่อความฟิน
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 12-07-2016 22:40:24
เริ่มทริปแล้ว
มีคู่ใหม่กี่คู่เนี่ยยย
ที่แน่ๆ ไทม์ลม ชิมิ 55555
ไต้ฝุ่นกับใครดีอ่า
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-07-2016 23:03:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.9 หน้า 6 [12/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: aom2529 ที่ 13-07-2016 09:41:17
 :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 13-07-2016 19:20:18

นิเทศตัวร้าย กับ สถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ 10
ตอน ทริปรวมพลคนประสาท 2
 







   “ จอดดดดดดด ”   
   
   สุรเสียงตะโกนขึ้นสนั่นปฐพีปลุกผมคืนสติตื่นขึ้นเผลอลืมตาเร็วไปเลยจำต้องหลับตาลงเพราะแสงมันแยงเข้าตาเต็มๆ ...นี่เช้าแล้วเหรอวะ... คิ้วขมวดขดเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความปวดตาเมื่อครู่

   “ เสียงใคร ” ผมถามคนข้างๆที่เอาแต่ถือกล้องถ่ายรูป สะดุ้งตื่นกี่รอบๆ ก็เห็นมันถ่ายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี จนตอนนี้สว่างจนแสบตาแล้วมันก็ยังไม่เลิก

   วินชะงักนิ้วกดชัตเตอร์หันมามองผมก่อนแล้วชะเง้อคอไปมองอีกรถ “ น่าจะเสียงพี่ปาย ” และมันก็หันกลับไปถ่ายรูปต่อ...
   
   เมียเช่นกูดูไร้ค่าขึ้นมาทันที...
   
   หลายคนคงคิดงั้น แต่สำหรับผม มันจะทำห่าอะไรก็ไม่สะเทือนความรู้สึกหรอก อย่าลืมใจนายธาราโคตรสตรองจนเพชรยังอาย
   
   หลังจากเสียงสนั่นถนนเมื่อครู่เลยทำให้รถของไอ้พี่ท้องฟ้าที่พวกมันนั่งจอดลง และรถของพวกผมก็ต้องจอดตามด้วยความมึนงง ไอ้พี่ปายคนประหลาดโดดลงจากรถแล้วเดินไปคุยกับพี่ท้องฟ้า จากนั้นก็เดินมาคุยกับพี่ฟ้าคราม สุดท้ายก็หันมาบอกผม
   
   “ เดี๋ยวแวะปั๊ม แดกข้าวก่อน แล้วค่อยปั่น ตอนนี้อยู่ปทุม หลงอยู่นนท์มาสามชั่วโมง ถามจริง พี่มึงไม่เคยออกนอกกรุงเทพรึไงสัด ” มีบ่นผสมด่าแล้วเดินกลับขึ้นรถตัวเองอย่างมีน้ำโห...
   
   ผมจับประเด็นของมันได้แค่ไอ้เฮียคนขับพาหลงทาง... ทริปนี้กูพึ่งใครได้บ้าง...
   
   พอตกลงกันได้พี่ปายขึ้นรถแล้วก็เคลื่อนรถต่อ... ไม่นานก็เจอปั๊มน้ำมัน ไม่รีรอใดๆ เลี้ยวเข้าไปจอดหน้าเซเว่นทันที... ผมลงจากรถได้ก็บิดตัวไล่ความเมื่อยขบออกไปก่อนจะช่วยไอ้วินยกจักรยานห้าคันลงจากรถ ซึ่งมีของผม ไอ้วิน ไต้ฝุ่น ฟรานแล้วก็น้องเวียร์
   
   แต่มือยังไม่ทันได้แตะจักรยานที่ไอ้วินส่งมาให้..
   
   “ อุ่นนนน อย่าจับ มันหนัก เดี๋ยวมือสวยๆจะเปื้อน มาๆเฮียยกเอง ” ไอ้ลมถลาร่างมาอย่างไว ฉีกยิ้มให้ไอ้วินที่ยืนอยู่บนกระบะได้เหงื่อตกเล่น “ น้องเขย ส่งมาสิ ”
   
   “ เอ่อ... ครับ ” คนโดนเรียกแบบนั้นเผลออ้าปากค้างรีบตั้งสติรีบส่งจักรยานให้ไอ้ลมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด อารมณ์ประมาณว่า มึงจะมาไม้ไหนครับ...  เอาตามตรง ไอ้เหี้ยนี่ต้องการเอาใจผมแซงหน้าคนอื่นก็แค่นั้น
   
   “ วินลงมา ไปแดกข้าวกับกู ” ยืนตีหน้านิ่งใส่ทำเอาค้างทั้งคู่ มือแกร่งถือจักรยานค้างด้วยอารมณ์ตัดสินใจไม่ถูก “ มึงวางจักรยานลง และลงมา ”
   
   ลมหันมา “ เดี๋ยวดิ... ”
   
   “ ส่วนมึงขึ้นไปยกเองคนเดียว ”ก่อนจะค่อยๆคลี่ยิ้มหวานให้พี่ชายตัวเอง... “ เอ้า อยากเอาหน้าไม่ใช่เหรอ ทำสิ ”
   
   ได้ยินเสียงหัวเราะสะใจจากข้างหลังไม่วายคงเป็นไอ้สองศรีหมาบ้าที่เหลือ ไอ้วินมันวางจักรยานลงตามเดิมแล้วกระโดดลงจากรถมาหาผม
   
   “ ปะ กินข้าวกัน ” ยิ้มร่าเหมือนหมาได้ขนมไม่มีผิด ผมเหลือบไปมองพี่ตัวเองแล้วขำ ยกจักรยานเองด้วยความลำบากลำบน รู้สึกดีที่ได้แกล้งพี่ตัวเอง เป็นการแสดงออกถึงความรักของผมอย่างหนี่งเลยนะ
   
   ไอ้ลมยกลงมาได้สองคัน พ่อคนดีไม่ทิ้งแถวอย่างไต้ฝุ่นเพื่อนไอ้คนข้างๆเดินหน้าหล่อพร้อมรอยยิ้มใจดีเรี่ยราดมาช่วยไอ้ลมยกลง
   
   “ ไปไกลๆไอ้หน้าอ่อน กูยกเองได้ ”
   
   แหนะ... ยังจะทำเก่ง
   
   ได้แต่ส่ายหน้าเอือมๆก่อนจะแตะไหล่ให้ไอ้วินเดินตามไปร้านข้าวที่บัดนี้ไอ้แฝดฟ้าได้จองโต๊ะยาวไว้แล้ว เวียร์กับ ฟรานนี่ไวเกินก้มหน้าก้มตาจ้วงข้าวไม่หยุด ผมเดินไปซื้อข้าวราดแกงง่ายๆแล้วเดินกลับมานั่งท้ายๆโต๊ะ ไอ้วินได้ข้าวหลังผมตามมานั่งลงข้างๆผมอย่างรู้งาน... ถ้ามันไม่นั่งข้างผม เดี๋ยวได้มีสงครามแข่งที่จากคนที่คุณรู้ว่าใคร
   
   ระหว่างทานข้าวผมกับมันไม่ได้คุยกันเลย มีมันนี่แหละยกกล้องถ่ายรูปชาวบ้านไม่หยุดจนผมเผลอชักสีหน้ารำคาญ เอาช้อนตัวเองกระแทกไปชามก๋วยเตี๋ยวมัน
   
   “ แดก! ”
   
   ไอ้วินตกใจเล็กน้อยหยุดการถ่ายรูปก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาไม่เข้าใจจากนั้นค่อยเป็นสายตาทะเล้น “ ฮั่นแน่ กลัวเค้าหิวระหว่างทางเหรอ ”
   
   “ เส้นอืด เสียดายของ จะแดกไม่แดก ไม่แดก กูแดก ” ผมทำท่าจะหยิบตะเกียบบนชามมัน แต่มันไวกว่ารีบคว้าตะเกียบลงมือกินทันที...
   
   ...เลิกเรียนสถาปัตย์แล้วไปเปิดบ้านเลี้ยงเด็กดีมั้ย ถ้าจะรุ่ง
   
   หมุนหัวเอาความสนใจกลับมาที่เดิม หน้าข้าวตัวเอง ตักยัดเข้าปากแล้วกวาดมองรอบโต๊ะ เห็นไอ้คิมกับไผ่นั่งคุยหัวเราะกันไม่รู้คุยห่าอะไรกัน ขี้เกียจเสือก มองตรงข้ามก็เห็นหมาสองแย่งที่นั่งไม่เลือกมาสิบนาทีได้ ที่ไม่มีไอ้ดินคงเพราะโดนพี่ปายยึดตัวไว้...
   
   บางทีผมควรหาใครมารั้งไอ้สองตัวที่เหลือ... ใครดีวะ
   
   ทำเนียนกวาดสายตาหา... ให้เนียนมากขึ้นก็เคี้ยวข้าวไปด้วย อืม... แฝดฟ้าตัดไป ญาติกัน ไม่เอาผิดศีลธรรม แอบเห็นสายตาพวกมัน... แล้วคงจะถูกใจใครสักคนในทริปซะแล้ว มองไอ้พี่รหัส ไอ้นี่แอบได้ข่าวมีเมียแล้วเป็นผู้หญิง  งั้นก็เหลือแต่ฟราน ไต้ฝุ่น เวียร์...เวียร์นี่ตัดทิ้งเถอะ ไม่อยากให้บ้าตาม
   
   อืม... แต่ดูแล้วในสามคนนั่นเหมือนจะมีคนเล็งไว้แล้วสิ
   
   สายตาผมไม่เคยพลาดอยู่แล้ว แอบเบ้ปากนิดๆ กับความฉลาดตัวเองที่โคตรอยากจะแบ่งให้ไอ้คนบ้ากล้องจริงๆ ยังโง่งมกับชื่อหมาไม่เลิก
   
   “ เออ อุ่น พี่ว่าจะถามอยู่ ” วินทักขึ้นหลังจากคีบเส้นเตี๋ยวเข้าปากได้ไม่นาน 
   
   ผมขมวดคิ้วแล้วตักข้าวกินต่อ “ ถามอะไร ”
   
   ดูจากสีหน้ามันแล้วคงจริงจังน่าดู
   
   “ เบอร์โทรศัพท์มึงเบอร์ไรวะ ”
   
   จะมึงจะพี่จะกู มึงเลือกสักอย่างดิ๊ เวลาอยากกวนประสาทก็พี่กับมึง อารมณ์ดี๊ดีก็พี่กับอุ่น อารมณ์คุยปกติชวนตีกันก็กูกับมึง...
   
   “ เบอร์? ” ทวนกลับอย่างไม่เข้าใจ “ เบอร์โทรศัพท์กูอะนะ เอาไปทำไม ”
   
   “ ไว้ไปแทงหวยมั้งห่า ” สายตาคมมองผมประมาณว่านี่โง่หรือควาย ถุย มึงฉลาดมากเลยพ่อ “ ไว้โทรคุยไง เผื่อไม่เจอกัน ”
   
   “ มึงทำตัวติดกูขนาดนี้ ตารางเรียนกูก็มี ห้องกูมึงแอบไปขอกุญแจเจ้าของหอมาแล้ว ยังจะเอาเบอร์ไปทำห่าอะไรอีก เยอะจริงๆนะมึง กลัวหากูไม่เจอขนาดนั้นเลย ”
   
   “ แล้วถ้ากูบอกว่ากลัวล่ะ ” เสียงจริงจังจนปากที่กำลังบ่นของผมจำต้องยอมหยุดพูด “ ถ้ากูกลัว มึงจะว่าไง ทำอย่างกับมึงอยู่สถิตเป็นที่นักนี่ เมื่อก่อนนะ...  ”
   
   หุบปากฉับเหมือนจะหลุดปากบางอย่างออกมา
   
   ผมทำเป็นไม่ได้ยินพลางยักไหล่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ เรื่องของมึง กูสนรึไง ”
   
   “ สนหน่อยเถิด นี่ผู้ชายของมึงนะ ”
   
   “ ขี้ข้ากูต่างหาก ”

ว่าไปอย่างเย็นชาแต่ลอบถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปโทรศัพท์มันที่วางไว้บนโต๊ะมาปลดล็อค ไอ้เวรนี่ก็โทรศัพท์สาธารณะจริงๆ ไม่มีรหัส ปลายนิ้วไล่หาไอคอนการโทร กดเลขลงไปสิบตัว และบันทึก
   
   ‘ผัวสุดหล่อ’
   
   แล้วค่อยยื่นโทรศัพท์คืนให้มัน ตอนแรกนี่หูหางกระดิกด้วยความดีใจจนเนื้อเต้น แต่พอเห็นชื่อที่เมมไว้เท่านั้นแหละ หุบยิ้มตาขวางทันที
   
   “ เมมเหี้ยอะไรเนี่ยเมีย ”

   “ ทำไม มีปัญหาเหรอ ” เคี้ยวข้าวแล้วหยิบแก้วน้ำไอ้วินมาดื่ม เพราะแก้วตัวเองหมดแล้ว “ โทรมาดิ๊ จะเมมเข้าเครื่อง ”
   
   ไอ้วินทำท่าจะบีบคอผมเสียให้ได้ มันก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ยิกๆ เหมือนจะเปลี่ยนชื่อที่ผมเมมไว้แล้วค่อยกดโทรหาผม ห้าวิต่อมารู้สึกแรงสั่นในกระเป๋าเสื้อคลุม ผมล้วงขึ้นมาตัดสายแล้วเมมไว้

‘ เมียโง่ ’

   แกล้งชูให้ไอ้วินดู มันรีบฉวยไปแล้วเปลี่ยนอย่างไร้มารยาท ก่อนจะยิ้มกว้างยื่นโทรศัพท์ให้ดูทั้งสองเครื่อง...
   
   ‘ เมียโหดที่รัก ’ กับ ‘ ผัวโง่สุดหล่อ ’
   
   พยายามกดมุมปากตัวเองไม่ให้ยกยิ้ม ทำทีเมินสิ่งที่มันทำ โยนโทรศัพท์ใส่มันไม่สนว่ามันจะรับได้ไม่ได้ ส่วนของตัวเองผมก็รีบเก็บลง แสร้งกินข้าวที่เหลือต่อ ไอ้วินมันก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไง ทำเนียนกินก๋วยเตี๋ยวอืดๆต่อ

   “ อ่า ทำไมก๋วยเตี๋ยวมันหวานจังวะ ”
   
   มองต้นไม้เคี้ยวข้าว กลืน “ ...”
   
   “ สงสัยเพราะคนข้างๆ มาเติมความหวานให้แน่เลย  ”
   
   “ แดกเงียบๆ เป็นมั้ยสัด!! ”
   
   ผมตวาดเสียงดังโยนช้อนโยนส้อมทิ้งลงจาน ลุกพรวดพราดท่ามกลางคนร่วมทริปที่สะดุ้งตกใจหันมามองถ้วนหน้า ผมไม่สนอะไรนอกจากเดินออกมาให้ไวที่สุดก่อนใครจะเห็นหน้าผม ส่วนไอ้คนที่เห็นหน้าผมแล้วก็...
   
   “ หึหึหึ ”
   
   กูอยากกระทืบมึง ไอ้เหี้ยยยยยยยยยย!!!
 
   
   
   
   ผมหนีมานั่งอเมซอน สั่งกาแฟเข้มๆให้ตัวเองสักหน่อย เติมกาแฟอีนสักหน่อยจะได้ตื่น ระหว่างรอก็ก้มมองนาฬิกาไปด้วย เพิ่งจะ 8 โมงเช้า ไอ้พี่ปายคงเริ่มปั่นเกือบๆ 9 โมงนั่นแหละ
   
   ว่างแล้วก็ขอสไลด์โทรศัพท์เช็คเรทติ้งในเฟสบุ๊คสักครู่... เป็นเหมือนทุกครั้งที่เปิดเน็ต เสียงแจ้งเตือนดังจนเครื่องแทบรวนเกือบจะพัง
   
   กดเข้าไปดูแจ้งเตือนพบว่ามีรูปที่ไอ้วินแท็กผมไว้ตั้งแต่ตีสอง
 
   
   Kornkavin : เด็กน้อยหลับปุ๋ยเลย กับ – Thara Siriunchai
   พร้อมรูปถ่ายลางๆมืดๆมีแสงแฟลชช่วยให้เห็นว่าผมกำลังหลับพริ้มหนุนตักมันห่มเสื้อมันอีกแล้วไอ้วินก็ทำท่ากำลังก้มมองผมอยู่...
 
   603 likes and 105 comments
   
   
   ขอไม่อ่านคอมเม้นท์แล้วกัน...

   ผมปิดโทรศัพท์ลงตอนที่กาแฟร้อนมาเสิร์ฟ...
   
   สักพัก...กระดิ่งตรงประตูส่งเสียงร้องเมื่อมีลูกค้าเข้ามา ผมเงยหน้ามองก่อนจะพบว่าเป็นคนร่วมทริปประหลาด
   
   เจ้าตัวยิ้มน้อยให้ผมก่อนจะเดินไปสั่งเครื่องดื่มจากนั้นค่อยกลับมานั่งลงตรงข้ามผม “ นั่งด้วยคนสิครับ ”
   
   “ ตามสบาย ” เพราะน้ำเสียงผมค่อนข้างจะแข็งๆไม่มีความละมุน อีกฝ่ายเลยได้แต่ยิ้มแห้งผงกหัวตอบรับมาด้วยความเกร็งๆ “ ไม่ต้องกลัว กูไม่กัด ”
   
   “ ฮ่าๆๆ โอเคๆ ” เจ้าตัวพยักหน้าแล้วทำมือโอเคตกลง “ กาแฟอร่อยมั้ย อุ่น ”
   
   ส่งสายตาเหี้ยมเกรียมทันที  “ เรียก ธารา เถอะ ”
   
   “ ธาราก็ธารา เขาชอบธารามากนะครับ ไม่สิ คลั่งเลย ” ว่าไปเหมือนเล่าเรื่องปกติ ยื่นมือไปรับกาแฟของตัวเอง “ ธาราชอบเขาบ้างมั้ย ถามจริง ”
   
   “ ... ” ผมใช้ความเงียบเป็นคำตอบ ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องพูด “ คิดไงถึงมาทริปนี้ ”
   
   “ ชวนมา บังคับมา ” ดูจะมึนอึนกับการเลี่ยงตอบคำถามเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจไม่ยุ่งต่อ แต่ก็เตือน  “ ถ้าไม่คิดอะไรก็อย่าให้ความหวังนะ อย่าทำให้เจ็บมากล่ะครับ  ”
   
   “ ...หึ ” ครางหัวเราะในลำคอเบาๆ อย่างไร้สาเหตุ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แค่รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมาดื้อๆ “ มันไม่มีอะไรแน่นอน รับปากไม่ได้ทั้งนั้น ”
   
   แล้วความเงียบค่อยๆคลานเข้ามา ก้านนิ้วคล้องสอดเกี่ยวหูถ้วยกาแฟร้อนขึ้นจิบนิดๆ ให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย... ตลอดเวลาที่นั่งดื่มกาแฟ ผมกับคนตรงข้ามไม่ได้คุยอะไรกันมากนักเพราะอีกฝ่ายยังคงไม่เลิกกลัวเกรงผม ก่อนออกจากร้านก็เดินสั่งกาแฟเย็นมาอีกสองแก้ว
   
   “ ซื้อให้ใคร ” ผมถามด้วยความใคร่รู้
   
   ตอบไปแบบไม่ยี่หร่ะ “ อ้อ พี่ท้องฟ้ากับฟ้าครามเขาฝากซื้อน่ะครับ ”
   
   “ อ่าฮะ ” แสยะยิ้มแล้วยกมือขึ้นตบไหล่ “ ระวังตัวด้วยแล้วกัน ”
   
   “ เห? ” เอียงคอใส่ผมพร้อมแววตาไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร คงคิดว่าผมคงเตือนเรื่องการปั่นจักรยานเลยไม่ทันได้ฉุกคิดอะไร
   
   แค่เท้าพ้นบันไดขั้นสุดท้ายของอเมซอนก็เจอเข้ากับใบหน้าหล่อๆของสองแฝดคลี่ยิ้มหวานให้ผม... แววตาดูไม่น่าไว้ใจทั้งคู่เลยจริงๆ...
   
   “ คิดอะไรอยู่  ” ถามตรงๆ
   
   ฟ้าครามยืนสบายเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง “ อืม น่ารักดี ”
   
   “ แล้วมึง ” หันไปถามอีกคน
   
   ท้องฟ้ามองทะลุไปด้านหลังผมแล้วจุดยิ้มเจ้าเล่ห์ “ ก็...น่ากินดี ”
   
   “ อย่าทำอะไรน่าปวดหัวก็พอ แค่นี้กูก็ปวดหัวจะตายห่าแล้ว ” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นนวดขมับตัวเอง “ ไม่อยากมีเรื่องกับไอ้วินนักหรอก ”
   
   ฟ้าครามหัวเราะแล้วเดินมาพาดแขนโอบไหล่ผมพาเดินไปที่รถ ท้องฟ้าเองก็เดินขนาบข้างมา
   
   “ เห็นพวกเฮียร้ายขนาดนั้นเลย ”

   “ ก็น่าจะรู้ตัว ”

แล้วก็พากันหัวเราะชอบใจ...ผมเหลือบตามองมันทั้งคู่อย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่ ไอ้แฝดสองตัวนี่มันไม่ได้เทพบุตรขนาดนั้นหรอก...
   
                  พอเดินมาถึงรถก็พบว่าทุกคนกำลังวอร์มร่างกายเช็คจักรยานกันอยู่ มือค่อยๆดึงแขนหนักๆของไอ้เฮียฟ้าครามออกแล้วตรงไปรื้อค้นกระเป๋า เอาปลอกแขนปลอกขา หมวก ขวดน้ำออกมาลงนอกกระเป๋าแล้วกลับมาสนใจจักรยานตัวเองที่มีไอ้เชี่ยวินนั่งยองๆ ดูสภาพยางรถอยู่
   
   มันเงยหน้าขึ้นมา “ เติมลมเพิ่มให้แล้ว ตอนแรกยางมันนิ่มไป ” ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นบิดตัวไล่ความเมื่อย

    พยักหน้าตอบรับสาวเท้าไปใกล้จักรยานเอาขวดน้ำใส่แล้วล็อคไว้กับตัวรถ จากนั้นทดลองขึ้นคร่อมนั่งๆให้ชิน เพราะไม่ได้ปั่นจักรยานนานมากแล้ว นั่งค้างบนจักรยานได้แปบก็ลุกออก เดินกลับไปท้ายกระบะเพื่อนั่งใส่สนับเข่า
   
   “ แดดวันนี้น่าจะร้อน ” เสียงอ่อนโยนว่าขึ้นเบาๆเป็นการเริ่มต้นบทสนทนาของไอ้วิน มันนั่งอยู่ท้ายกระบะรออยู่แล้ว ผมกระโดดขึ้นไปนั่งข้างๆมันหลังจากนั้นค่อยเอื้อมมือไปหยิบปลอกแขนขามาใส่
   
   ปล่อยผ่านไปหลายนาทีถึงจะตอบรับบทสนทนาของมัน “ แดดประเทศไทยมึงเคยเห็นมันเย็นมั้ยละ ”
   
   เสียงขบขันดังในลำคอ “ อย่าเป็นลมกลางทางล่ะเมีย ”
   
   “ บอกตัวเองเถอะมึง ” หันไปจ้องหน้ามันก่อนจะยกมุมปากขึ้นแย้มแสยะยิ้มหยัน “ หน้าอ่อนแบบนี้ โดนแดดนิดเดียวก็เป็นลมแล้วมั้ง ”
   
   “ ดูถูกกันไปเปล่า ”
   
   พยักหน้าลง “ ก็ดูถูกไง พนันกันมั้ยล่ะ  ”
   
   “ ไม่เอา ไม่อยากรังแกเด็ก ” ยักคิ้วให้ด้วยอารมณ์กวนตีน “ แต่ถ้าเด็กอยากให้รังแก ก็รับคำท้า ”
   
   “ ได้ งั้นถ้าใครร่วงก่อน แพ้ ” ผมว่าอย่างมั่นใจ เพราะยังไงผมก็ถึก ทน ไม่เหมือนไอ้วินที่ดูจะไม่ค่อยได้ออกแดด ทำงานหนัก ร่อนแดดร่อนลมสักเท่าไหร่
   
   วินพยักหน้าเป็นการตกลงแล้วถามต่อ “ ถ้าชนะ เราจะให้อะไรพี่ ”
   
   “ แล้วแต่มึงเลย เพราะยังไงมึงก็แพ้! ” มั่นใจยิ่งกว่าจะได้เกรด A บอกเลย
   
   “ หึ งั้นเตรียมตัวแพ้ได้เลยนะครับเมีย ” เอียงคอมาส่งยิ้มหวานกวนประสาทเสีย ผมหมั่นไส้หน้ามันจนอยากจะชกเลยจำต้องเบือนหน้าหนีหันไปมองท้องฟ้าบ้างมองเด็กปั๊มเติมน้ำมันรถบ้างเพื่อเมินมันอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วได้สติอีกทีตอนเสียง แชะ...
   
   หันไปแยกเขี้ยวใส่ “ ถ่ายทำห่าไรเยอะแยะ ”
   
   “ เอ้า ไม่ถ่ายรูปเมีย แล้วจะให้ไปถ่ายรูปกิ๊กที่ไหน ” มันแหวใส่บ้าง
   
   “ รูปซีไง ถ่ายไปดิ ” ผมสวนกลับทันที “ น่ารักแบบนั้นมึงไม่ชอบรึไง ”
   
   “ ซีเกี่ยวไร ” มันขมวดคิ้วนิดๆ ย่นจมูกอย่างใช้ความคิด “ ซีเป็นน้องรหัสไอ้ฝุ่น พี่ก็เอ็นดูเหมือนน้อง ”

    ผมแอบส่งเสียงเบาๆ ‘เหอะ’
   
   “ หึงก็บอกมาสิครับ ” น้ำเสียงเริงร่ามาเต็มจนน่าหมั่นไส้
   
   “ หึงมึง กูยอมไปไถนาดีกว่า ” มันเป็นเรื่องโคตรสิ้นคิดจริงๆที่จะหึงไอ้โง่นี่ “ มึงเลิกจีบกูได้ก็ดีนะ กูจะได้สบาย ”
   
   ไอ้วินอมยิ้มแล้วมองผมด้วยแววตามั่นใจสุดๆ “ กูหายไป มึงนั่นแหละจะร้องไห้ ”
   
   “ เพ้อว่ะ ” ผมบ่นแล้วทำท่าจะลุกไปไกลๆจากมัน “ ไปนอนไป ”
   
   ความร้อนจากฝ่ามือแผ่ออกมาสัมผัสกับต้นแขนรั้งตัวผมไว้ ก่อนจะถูกดึงด้วยแรงที่ไม่มากนักให้กลับมานั่งตามเดิม มือหนาเลื่อนจากต้นแขนมาวางที่มือผม ก่อนจะหยิบบางอย่างมาใส่ให้
   
   “ รู้อยู่แล้วว่ามึงต้องไม่เอามา ” บ่นเหมือนผมเป็นเด็กยังไงยังงั้น เริ่มต้นเรื่องใหม่จนผมปรับอารมณ์ตามเกือบไม่ทัน “ เดี๋ยวจะจับแฮนด์ไม่ถนัด ใส่ไว้ ”
   
   “ เสือกจริงๆ กับชีวิตกูเนี่ย ” ผมปล่อยให้มันสาละวนวุ่นวายกับการใส่ถุงมือหนังให้ ใส่เสร็จข้าง ผมก็ยื่นอีกข้างให้มันใส่
   
   “ เออ ถ้าไม่เสือกกับชีวิตมึง กูคงไม่ได้เข้ามาในชีวิตมึงเหมือนกัน ”
   
   “ !!! ”

   นัยน์ตาเข้มของผมเผลอเบิกค้างอย่างตะลึงกับคำพูดตรงๆไร้ความหวานของมัน... ไม่รู้ว่าเผลอหยุดกลั้นหายใจไปกี่วินาที ผมกะพริบตาปรับสติให้เข้าที่แล้วเบนสายตาเบนหน้าไปมองที่คนอื่นๆ ทำราวกับสิ่งที่มันพูดไม่ได้มีผลต่อจิตใจ... ทั้งที่จริงๆแล้ว...
   
   ตึกตัก! ตึกตัก!
 
   บ้าเอ๊ย!!!
 
   พอมันใส่ให้เสร็จผมก็รีบสะบัดมือออกแล้วขยับตัวไปนั่งห่างมันเกือบตกรถ... เชี่ยแม่ง... ยกมือลูบแก้มตัวเองแล้วรู้สึกถึงความร้อนผะแผ่วพอรู้ก็ยิ่งทวีคูณความร้อนเพิ่มไปอีก เหลือบเห็นไอ้ตัวต้นเหตุก็อมยิ้มกลิ่วตากวนอารมณ์ไม่เลิกจนน่าเตะเสยหน้าสักรอบสองรอบ...
   
   “ ไอ้เหี้ยวิน!!! ”

ทั้งผมและมันต่างหันไปหาต้นเสียงก็พบเข้ากับไอ้ไฟที่ตีหน้ายักษ์รออยู่ “ มึงทำอะไรพี่กู! ”
   
   “ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ” เออ นั่นสิ
   
   “ ไม่ทำห่าไรล่ะ! มึงทำพี่กูหน้าแดง!! ”
   
   “ !! ”
   
   “ มึงตบหน้าพี่กูเหรอ! ”

 
          มึงจะโดนกูตบนี่แหละ
 
          ไอ้น้องเวรรรรรร!!

หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 13-07-2016 19:23:52

              “ ไหวปะเมีย ”
   ประโยคนี้ดังมาจะเป็นรอบที่สามร้อยยี่สิบเอ็ดจุดสามศูนย์ห้าได้แล้ว หยดน้ำเม็ดเบ้งหรือก็คือเหงื่อไหลเข้าตารอบที่สามร้อยกว่าเช่นกัน
   เสียงทุ้มที่ฟังดูเหมือนเป็นห่วงคือมันกำลังรอให้ผมร่วงนั้นเอง พวกเราปั่นมาเกือบๆสี่ชั่วโมงได้จนตะวันตรงหัวจวนจะเลยไปแล้วบ่งบอกถึงเวลาบ่ายกว่า
   ตอนปั่นแรกๆ ไอ้วินนี่โดนสามหมาบ้ากลั่นแกล้งหนักกระแทกบ้างชนบ้าง สุดท้ายเลยทุกคนต้องมาช่วยกันสกัดกั้นกันพวกมันออก ไอ้พี่ปายปั่นประกบดินไม่ห่างจนไอ้หมอเถื่อนมันหัวฟัดหัวเหวี่ยงหนักขึ้น ส่วนไอ้ลมก็โดนพ่อคนหล่อกระชากตับอย่างไต้ฝุ่นปั่นประกบกันออกจากไอ้วิน ไอ้ไฟรายนั้นโดนเวียร์ว้ากไปรอบด้วยความเหลืออดเพราะเกือบทำพี่ชายตัวเองล้ม ผมก็ด่าซ้ำกับความไร้สมองเล่นอะไรไม่ถูกสถานที่ของพวกมัน เลยลดสถานะจากหมาบ้าไปเป็นหมาหงอยซึมเศร้าทันที
   แต่คิดเหรอว่าแค่นี้มันจะสิ้นฤทธิ์...
   “ ไอ้เชี่ยหน้าอ่อน! มึงคุยอะไรกับน้องกู! ”
   “ มึงปั่นไกลๆกูได้มั้ยไอ้พี่ปาย! กูจะไปปั่นข้างน้องกู! ”
   “ ไอ้เตี้ย กูไม่ทำอะไรพี่มึงแล้ว ไปไกลๆ! ”
   โดนกันออกแล้วก็ยังแหกปากตลอดทาง... ผมถอนหายใจแล้วมองไปข้างหน้าก็เห็นผู้นำทริปกำลังจับแฮนด์ข้าง อีกข้างกำลังถือโทรศัพท์...
   “ เดี๋ยวพักศาลาข้างหน้านะ!! ” ตะโกนขึ้นพลางเก็บโทรศัพท์แล้วปั่นเร่งไปอีก
   ผมกับไอ้วินที่ปั่นตามหลังมันก็เร่งปั่นตาม ข้างหลังผมเป็นฟราน ไอ้คิมกับไอ้เชี่ยไผ่ ตามด้วยพี่ปายกับดิน ไฟกับเวียร์ ลมกับไต้ฝุ่น ข้างหลังไปไม่ไกลก็เป็นรถกระบะสองคันของแฝดนรก
   เมื่อใกล้ถึงศาลาเก่าๆ ค่อยๆทยอยลดความเร็วลงแล้วจอดพักไว้ที่ร่มไม้ใหญ่ ผมพาสารร่างพังๆลงจากรถแล้วไปนั่งในศาลาไม้เก่าหนีร้อน
   “ เหนื่อยเว้ยยยย ” มาถึงก็แหกปากเลยไอ้ไผ่  แล้วทิ้งตัวลงพื้นนอนแผ่หลาอย่างหมดสภาพ ไม่เกรงใจพื้นสกปรกสักนิด
   ไอ้คิมเดินเข้ามาในสภาพเปลือยท่อนบน เอาเสื้อชุ่มเหงื่อพาดไว้บนไหล่ “ ไอ้กะเหรี่ยง แดกน้ำมั้ย ”
   “ กะเหรี่ยงพ่อง! ” หันไปจิกสายตาดุดันจากนั้นก็กระชากขวดน้ำมาดื่มอึกใหญ่ “ ร้อน ไปนั่งไกลๆไป! ”
   ผมละสายตาจากพวกเพื่อนประสาทมาดูตรงหน้าที่มีน้ำกับขนมปังยื่นมาให้... ไล่สายตาไปมองหน้าคนให้
   “ กินเข้าไปเดี๋ยวบ่ายจะร่วง ” ยักคิ้วน่ากระทืบมาอีก
   ผมส่งเสียงฮึดฮัดในลำคอก่อนจะรับมา แต่ยังไม่ทันได้แกะ มือมืดก็มาฉกไปอย่างหน้าด้านๆ
   “ เอาขนมสุ่มสี่สุ่มห้ามาให้น้องกูแดกได้ไง เกิดน้องน้อยของกูท้องเสีย ใครจะรับผิดชอบ! ” ไอ้ดินมาจัดเต็มคงเพราะเก็บกดมาทั้งวัน “ ไอ้ไฟ แดกเข้าไปดิ๊! ”
   น้องน้อยเหรอ เดี๋ยวกูยันโครมเลยห่า
   “ หะ หา? ” คนที่กำลังดื่มน้ำชะงักไปเลย  “ ให้ไอ้ลมกินดิว่ะ กูไม่กิน  ”
   ไฟดูสงบเสงี่ยมขึ้นหลังจากโดนฝ่าเท้าผมประทับหลังเต็มๆหลังจากมันทักไม่ดูตาม้าตาเรือ
   “ มึงมันน้องอกตัญญู ” ได้ที่ไอ้วิดวะสร้างห่าอะไรก็พังรีบแขวะ เอื้อมมือไปแย่งขนมในมือคุณหมอมาครึ่งหนึ่งแล้วยัดเข้าปาก ส่วนไอ้ดินก็แบ่งอีกครึ่งยัดๆใส่น้องชาย ที่เหลือตัวเองก็ยัดเข้าปาก
   “ อ่า... แย่จัง ” วินโพล่งขึ้นด้วยสีหน้ากังวล เรียกความสนใจให้ทุกคนหันไปมอง “ กูหยิบขนมปังผิด นั่นมันรสวาซาบินี่หน่า ”
   แต่กูคิดว่ามึงจงใจ ไอ้นิเทศ!
   “ มึงว่าไงนะ!!! ” แก้วหูแทบแตก หันไปมองหน้าพวกมันนิ่งที่ตอนนี้เริ่มแลบลิ้นหน้าแดงก่ำ ตาเริ่มมีน้ำคลอ ผมหลุดหัวเราะออกมาน้อยๆ
   “ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะพี่เมียน้องเมีย ” ทำหน้าตาโศกเศร้าสำนึกผิด “ นี่น้ำครับ ”
   มือสามคู่รีบคว้าแต่ไอ้วินเสือกปล่อยก่อน “ โอ๊ะ มือลื่น ”
   “ ไอ้เชี่ยยยยยยยย  ฝากไว้ก่อนเถอะมึง! ” วิ่งพล่านเป็นหมาโดดนน้ำร้อนลวกทันที “เผ็ด!! น้ำๆๆ!! ”
   ไอ้วินมองตามหลังแล้วยิ้มกว้างอย่างพอใจในผลงาน ล้วงมือเข้าไปหยิบขนมปังอีกชิ้นในเป้ใบเล็กและส่งมาให้ผม
   “ อันนี้แม่พี่ทำเอง ไส้สังขยา ส่วนอันเมื่อกี้เป็นกรณีพิเศษ ” หัวเราะอย่างภูมิใจก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆผม
   ผมดื่มน้ำดับกระหายไปหน่อยก่อนจะรับขนมปังมาแกะกิน “ มึงรู้ได้ไงว่พวกมันจะต้องกิน ”
   “ พี่น้องมึงจ้องขัดกูทุกอย่างอยู่แล้ว ดูออกง่ายจะตาย ” ว่าไปแล้วหาขนมปังในกระเป๋ามาแกะกินบ้าง ไม่ลืมที่จะส่งให้เวียร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ “ ที่สำคัญ...กูฉลาด ”
   ...เรื่องยากๆ มึงนี่ฉลาด เรื่องง่ายๆมึงเสือกโง่ กูอยากจะบ้าตาย
   “ ฉลาดให้ได้ตลอดเถอะมึง ” ว่าไปแล้วขนมปังอร่อยดีว่ะ ไส้ก็หวานพอดีไม่เอียน
   “ พูดเหมือนกูโง่มาก ”
   เออไง!!!
   ผมเลือกที่จะไม่ตอบนั่งพักเหนื่อยไป หันไปถามไอ้พี่รหัสที่นั่งหน้าตึงหน้าเครียด... “ เฮีย เป็นไรวะ แล้วนี่อยู่ส่วนไหนของอยุธยา ”
   “ ถ้าออกจากปทุมก็ต้องไปอยุธยาใช่มั้ย อยุธยาแล้วก็ไปสระบุรี เรากำหนดเส้นทางไว้แบบนี้ใช่มั้ยอุ่น ” มันว่าโดยไม่เงยหน้าจากโทรศัพท์
   กลืนขนมปังลงคอไปก่อน “ เออ ”
“ แล้วทำไมเรามาโผล่นครนายกได้วะ!!! ”
   ทุกคนหยุดชะงักกิจกรรมที่กำลังทำ “ อ้าว ”
   “ เหี้ย!! ” ไอ้พี่ไทม์สบถออกมา แล้วเงยหน้ามาจ้องหน้าคนร่วมทริปเรียงตัว “ ใครมันนำทางไอ้สัด! หลงเลยเห็นมั้ย!! ”
   “ มึงนั่นแหละนำทาง!! ไอ้ห่า! ”
   ไทม์หยุดความโมโห “ อุ๊ย เค้านำทางเหรอ ”
   “ เออ!!! ”
   “ ว้า แย่จัง ” ทำเสียงแอ๊บแบ๊วอีก “ เออ! นี่ไง จำแยกเมื่อสองชั่วโมงสามสิบเจ็ดนาทีสี่สิบสองวิได้ปะ ”
   ใครมันจะจำได้วะ
   “ มันต้องเลี้ยวขวา แต่กูเสือกตรง ” ไอ้เฮียไทม์ว่าไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ ไหนจะแยกต่อมาที่ต้องเลี้ยวซ้าย กูเสือกไปขวา แล้วก็... ”
ไอ้พี่ปายคงสุดจะทนเลยจัดการตบคว่ำไปทีหนึ่ง  “ ไอ้น้องรหัสโง่! ”
“ ไอ้พี่รหัสประสาท! ” แว้ดใส่บางแล้วหยิบแผนที่เท่าผนังบ้านปาใส่ “ เอาไปดูเองเลยห่า! ”
พี่ปายหยิบแผนที่ออกจากหน้าแล้วมากางดู...
   “ และกูอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยวะ!! แผนที่ห่าไรวะใหญ่เอาโล่เหรอ ซื้อที่ไหนกูจะไปเผาทิ้ง! แล้ววันนี้จะถึงมั้ยห่า สระบุรี!! ” ใบหน้าน่ารักหงิกลงขบเม้มปากแล้วโพล่งขึ้น มองแล้วก็คิด คิด “ เดี๋ยวกูปั่นนำเอง ”
   “ อย่า!! ” ประสานเสียงห้าม ก่อนจะได้รับสายตาคมกริบกลับมา
   น้ำเสียงไม่พอใจหนัก “ ไม่เชื่อในฝีมือกูรึไง! ”
   “ ไม่เชื่อ!! ”
   “ ไอ้พวกเหี้ย!! ” เจ้าของทริปว้ากอย่างน้อยใจสะบัดก้นเดินไปหาดินที่ซัดน้ำไปเป็นแกลลอนแล้ว “ ดิน ดินว่าเค้าปั่นนำจะดีมั้ยอ่ะ ”
   “ ไม่ดี เดี๋ยวมึงพากูหลงทะลุมิติ ” ตอบกลับแบบไม่มีรักษาน้ำใจ
   “ ไอ้ผัวเหี้ย!! ”
   “ ผัวบ้านพี่สิว่ะ! ”
   แล้วมันก็ตีกันเอง... เฮ้อ
   ผมกับทุกคนมองหน้ากันแล้วส่ายหน้าอย่างเหน็ดเหนื่อยพลางปวดใจอยู่ไม่น้อย ต่างคนต่างนั่งกินเติมพลังกันไปเงียบ มีแค่เสียงทะเลาะของไอ้คู่ประสาทที่เถียงไม่เลิก บทสรุปคือไอ้พี่ปายมันกระชากขวดน้ำเปล่าๆมาฟาดหัวหมอหล่อดังเปรี้ยงก่อนจะเดินฮึดฮัดกลับ
   “ กูจะปั่นนำ ใครขัดกูจะจับใส่ชุดของกู! ”
   มองหน้ากันอย่างสยดสยองเลยทันที ตอนแรกจะมีคนหือกับพี่แกแต่ก็ต้องหยุดชะงัก ใดๆล้วนกลัวชุดพี่แก ส่วนผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว ผมกับพี่ปายบางครั้งก็แลกชุดกันใส่แต่แค่เสื้อผ้าผมยังมีแนวธีมของมัน แต่ของพี่ปายล่อหลุดสติไง
   “ ผมปั่นไม่ไหวแล้ว ขอพักแล้วกันนะครับ ” หนึ่งคนร่วมทริปยกมือขึ้นพร้อมสีหน้าซีด แต่ไม่วายหันไปด่าเพื่อน “ เชี่ยวิน... มึงเอากูมาทรมานทำมายยย ไอ้เลว ” ไอ้วินหันไปมองด้วยความเป็นห่วงก่อนจะพยักหน้า
   “ มึงไม่ต้องปั่นแล้วไปนอนพักบนรถพี่ฟ้าครามก่อน ” วินสั่งเสียงเรียบ คนฟังพยักหน้ารับ เห็นหน้าซีดเซียวแล้วรู้สึกสงสาร แดดมันแรงเกินทนนี่ครับ “ เฮีย ฝากเพื่อนผมหน่อยครับ ”
   ฟ้าครามรีบถลามารับร่างคนเพลีย “ มาๆ เดี๋ยวพี่ไปสตาร์ทรถเปิดแอร์เย็นๆให้ ”
   “ ผม...เดินเองได้ครับ ” ใบหน้าซีดเหงื่อแตกพลั่ก
   “ อย่าเพิ่งดื้อสิน้องฟราน หน้าซ๊ดหมดแล้ว ไปๆ ” ไม่ฟังเลย มองข้ามสายตาเกรงๆ แล้วก็โดนประคองไป โดยมีสายตาแฝดคนน้องมองจิกตามไป...
   “ เอาหน้าจริงๆไอ้ห่าคราม ”
ท้องฟ้าบ่นพึมพำก่อนจะลุกยืนไปจัดการเก็บจักรยานผู้ป่วยขึ้นรถเก็บดีๆ ไม่ได้พูดอะไรนักเพราะดูแล้วไอ้คนข้างๆก็พอจะเดาอะไรๆออกแล้ว ถึงได้มีสีหน้ากังวลซะขนาดนี้
“ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ” ผมเอ่ยขึ้นขณะเคี้ยวขนมปังที่เหลืออยู่ไปด้วย
วินขมวดคิ้วไม่ปล่อยวาง “ แต่ยังไงกูก็ห่วงอยู่ดี ฟรานมันเพื่อนกูเลยนะ ”
“ แฝดมันก็พี่กู กูรู้จักมันดี ไม่ทำอะไรบ้าๆหรอก ” ยัดขนมปังคำสุดท้ายเข้าปากไปก่อนจะลุกขึ้น “ ไปกันต่อเถอะ ”
พักมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วน่าจะมีแรงกันขึ้นมาหน่อย ทุกคนเก็บขยะใส่กระเป๋ากันไปก่อนแล้วจัดตัวเองให้เรียบร้อยและเดินไปหาจักรยานตัวเอง
   คนนำทริปคนใหม่เดินยิ้มแป้นมา “ ฮา เชื่อมือไอ้ปายคนนี้ได้เลย ไม่มีหลง!! ”
   ไม่มีหลง หรือ หลงจนหาทางกลับไม่ได้เจอกันแน่
   “ จะไม่ร่วงใช่มั้ยเมีย บ่ายแล้วแดดร้อนนะเว้ย ” ผมที่กำลังใส่ถุงมือหนังอยู่ก็หยุดการกระทำหันไปแยกเขี้ยวใส่ไอ้คนข้างๆที่เคลื่อนจักรยานมาจอดข้างๆแล้วตั้งศอกกับแฮนด์จักรยานวางคางบนมือมองดูผมนิ่งๆ “ ถ้าไม่ไหวมาซบอกพี่ได้นะครับ ”
   “ เมื่อกี้ยังเครียดอยู่ไม่ใช่รึไงมึง ” ถามมัน “ อยู่ๆก็อารมณ์ดี ”
   “ ช่างแม่งเถอะ กวนตีนกูไว้เยอะ ปล่อยไป ” นึกว่าจะทำตัวเป็นคนดีต่อซะอีก ผมระบายลมหายใจออกมาแล้วใส่ถุงมือให้ดี “ มึงปวดหัวเยอะแล้ว กูจะทำให้มึงอารมณ์เสียเพิ่มทำไม ”
   “ เห็นหน้ามึงกูก็อารมณ์เสียล่ะ ไปไกลๆ เหม็นหน้าสัด ”
   “ เหรอ เหม็นหน้า แต่ปากพี่หวานน่ะครับ ” ยิ้มเจ้าเล่ห์ชวนสยิว ผมเบะปากใส่คนหลงตัวเอง
   “ ก็งั้นๆ ไม่หวานสักนิด จูบก็ไม่เป็น ”
   คนโดนสบประมาทหน้าเหวอเลยก่อนจะเปลี่ยนเป็นความโกรธ “ มึงจูบกูที กูได้ตั้งตัวมั้ยห่า ”
“ งี้แหละคนเป็นเมีย จูบไม่เป็นดีล่ะ เดี๋ยวผัวสอนเอง ” แสยะยิ้มเหยียดให้โดยไม่มองหน้ามัน ไม่ทันได้ตั้งตัวผมก็โดยมันกระชากคอไป
“ แล้วมึงเคยโดนกูจูบบ้างยังล่ะเมีย ” น้ำเสียงจริงจังขัดกับใบหน้ายิ้มทะเล้นทำเอาแอบขนลุกอยู่ไม่น้อย “ ลองมั้ย จะได้รู้ว่าจูบเป็นไม่เป็น ”
“ จูบกูตอนนี้ มึงเจ็บแน่ ” กดเสียงเข้ม ใบหน้าของผมกับมันใกล้กันมากชนิดได้ยินลมหายใจกันแล้ว แถมมันยิ่งให้ความรู้สึกชัดเจนขึ้น...
เหี้ย!! ร้อน!
“ หึ ” ไอ้วินมองตาผมเล็กน้อยแล้วผละออกทั้งหน้าและมือ “ เดี๋ยวคืนนี้จะสอนเองนะ... จูบของจริง มันเป็นยังไง ”
   ผมส่งยิ้มกลับไป “ อย่าอ่อนแล้วกัน ”
   “ เตือนตัวเองเถอะ ” ถ้ามีกระแสไฟออกจากตาได้คงมี ผมสองคนจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนต้องมีเสียงหนึ่งขึ้นขัด
   “ พี่สองคนจะมองให้ท้องก่อนเลยมั้ยครับ ” เสียงสดใสแต่กวนประสาทเอาเรื่องไม่ต่างจากพี่มันดังมาจากด้านหลังหยุดการฟาดฟันทางสายตา
   ผมเอี้ยวคอไปหาเวียร์แล้วยิ้มให้ “ เออ มองให้พี่มึงท้องเลย ”
   เวียร์ตาโตหันไปมองพี่ตัวเอง “ นี่พี่เป็นเมียเหรอ ก็...ได้อยู่นะ หน้าพี่ดูไก่อ่อนกว่าเยอะ ”
   “ ไอ้เหี้ยเวียร์มึงหุบปากไปเลย! มึงเป็นน้องกูนะ! ” แว้ดใส่น้องไปด้วยสีหน้ายักษ์แล้วส่งสายตากินเลือดกินไตกินไส้มาที่ผม “ มึงก็อีกคนเมีย เลิกได้แหละ เป็นเมียก็บอกว่าเมียสิว่ะ ”
   “ แล้วแต่อารมณ์ เดี๋ยวอีกสักพักกูก็อยากเป็นเมียเองแหละ ”
   “ มีเปลี่ยนตามอารมณ์ด้วย ” พ่อนิเทศว่าและถอนพ่นระบายลมหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยกับการต่อปากต่อคำกับผม
   “ เออ ”
   เป็นประโยคสุดท้ายที่ตอบรับออกไปก่อนขาทั้งสองจะเริ่มปั่นออกตัวทะยานไปข้างหน้าออกสู่แดดเมืองไทยที่ฆ่าคนได้ ถ้าคุณคิดว่าผมจะหน้าซีดเป็นลมทำตัวอ่อนแอแบบในหนัง บอกเลย... ฝัน!!
    พวกเราปั่นตามผู้นำทริปคนใหม่ที่ไม่ได้มีความน่าไว้ใจพอๆกับคนเก่า พอเจอป้ายแรก...

   ซ้าย ไป อ.โลงสามศพ
   ขวา ไป อ. เตรียมเผาเลย

   
   “ โห... ทางน่าไปทั้งนั้นเลย ” เสียงงึมงำจากคนข้างตัวผมว่า ซึ่งมันก็โคตรจะตรงกับที่ผมคิดเลย
   คิมตะโกนถามคนนำ “ ไปทางไหน! ”
   หยุดปั่นทั้งขบวนมองซ้ายมองขวามองล่างมองบน... คนผมสีเพลิงแสบตานิ่งงันแล้วทำสิ่งที่พวกผมไม่คาดฝัน
   “ เอาวิธีนี้นี้แล้วกัน มันช่วยกูมาหลายครั้งแล้ว ” ใบหน้าจริงจังแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
   ไต้ฝุ่นถามขึ้นบ้าง “ วิธีนี้ไหนครับ ”
   ไอ้พี่ปายสูดลมหายใจเข้าไปแล้วลืมตามาพร้อมแววจริงจังไรการเล่น มือยกขึ้น และ...
   “จ้ำจี้มะเขือเปราะ  กะเทาะหน้าแว่น พายเรืออกแอ่น  กะแท่นต้นกุ่ม สาวสาวหนุ่มหนุ่ม ” ชี้นิ้วสลับกันทีละพยางค์ “ อาบน้ำท่าไหน อาบน้ำท่าวัด...”
เงียบกริบไร้สิ่งมีชีวิต...
“ ... ” ทุกคนรู้สึกถึงความบ้าเกินจะกู่กลับ
“ เอาแป้งที่ไหนผัด เอากระจกที่ไหนส่อง ” ยัง มันยังคงหน้าด้านนับต่อ“ เยี่ยมเยี่ยมมองมอง นกขุนทองร้องกรู๊!!  ”
และปลายนิ้วก็ชี้ไปที่ อ.โลงสามศพ...
ยกยิ้มภูมิใจในฝีมือ “ โอเค! ไปกัน!! ”
“ ไปกับผีสิว่ะ!!! ” ประสานคอตวาดใส่ไอ้พี่ปายทันที บ้านไหนมันสอนให้ทำแบบนี้กัน หา!
   “ ไม่ไป กูให้ใส่ชุดเอลซ่า! ”
   “ โอเค! ไป!! ”
   เป็นอันรู้เรื่อง... ผมเห็นไอ้วินหัวเราะแล้วเอื้อมมือไปหยิบไอโฟนมาสไลด์ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ พ่อคนนี้มันกะจะถ่ายให้เมมเต็มเลยสินะ
   พี่ปายยกยิ้มพอใจแล้วปั่นนำไปทาง อ.โลงสามศพ... อืมถ้าไปแล้วเป็นศพ เขาระบุมาแล้วว่าสามคน แสดงให้เห็นว่ามันจะต้องเป็นหมาบ้าสามตัวของผมแน่ๆ
   เราปั่นกันต่อไปเรื่อยๆตามวิธีการสุ่มจ้ำจี้ของไอ้คนประสาท คราวนี้มึงได้หลงไปพม่าเวียดนามแน่ๆ!

   ท่ามกลางอากาศร้อนระอุแทบแผดเผาทุกสิ่งมีชีวิตให้มอดไหม้ ไอร้อนจากพื้นยางมะตอยแทบจะกัดกร่อนหลอมละลายยางจักรยานให้ไหลไปตามพื้น อากาศร้อนจนต้องร้องขอชีวิตกลับมีชายหนุ่มสิบเอ็ดคนปั่นจักรยานท้าแดดไม่เกรงกลัวสภาพฝนฟ้าอากาศของเมืองไทยด้วยความกระตือรือร้น เวลาเกือบบ่ายแก่จวนจะเย็นยังคงปั่นจักรยานกันไม่เลิก สายทางที่เคยเต็มไปด้วยบ้านเรือนเริ่มหืดหาย เข้าสู่ป่าเขาสำเนาไพร ไปทางซ้ายก็เห็นภูเขา มองไปขวาก็เจอต้นไม้เขียวชอุ่มแน่นขนัด อากาศร้อนๆเริ่มหายไปแทนที่ด้วยอากาศเย็นๆจากป่า...
   ผมหันมองรอบตัวแล้วรู้สึกว่ามันจะแปลกๆแล้วสิ มาทางไหนของมัน มาพม่าเวียดแล้วปะ! เลยจำต้องเหยียดตัวขึ้นเล็กน้อยออกแรงปั่นเร็วขึ้นเพื่อขึ้นไปนำหน้าพี่ปาย คนนำตอนแรกชะงักแล้วโวยวายทันที
   “ ไอ้อุ่น มึงขึ้นมาทำไม หลบไป กูจะนำ!! ”
   “ พอแล้วพี่ ผมนำเอง ” ว่าเสียงเรียบที่บ่งบอกว่าตอนนี้กำลังอยู่ในโหมดอารมณ์ไม่ทนแล้ว ไอ้คนโวยวายชะงักปากรีบหุบฉับไป
   ขาทั้งสองเร่งปั่นขึ้นไปทิ้งระยะให้ห่างแล้วยกมือขึ้นบ่งบอกว่าหยุด ผมใช้รถขวางไว้กลางถนนที่ไม่มีรถผ่าน ทำให้จักรยานทุกคนต้องหยุดลงตาม
   ผมตั้งจักรยานดีๆแล้วลงจากรถ...
   “ เอาโทรศัพท์มาเปิด GPS ดิ ” ผมสั่งทุกคน เพราะตอนนี้ไม่รู้แล้วว่าอยู่ส่วนไหนของไทย ทุกคนรีบหยิบโทรศัพท์มาเช็ค “ เช็คดิว่าตอนนี้อยู่ไหน ”
   “ อยู่ไทย! ” ไอ้ไผ่ตอบกว่าเลย
   “ ไอ้เหี้ย! อันนั้นกูก็รู้มั้ย! ”สะบัดเสียงใส่อย่างเหลืออด ความอดทนเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ “ แต่ก็ขอบคุณที่กูยังอยู่ในไทย ไม่ไปเวียดนามกัมพูชา! ” ท้ายประโยคประชดกัดไอ้ผู้นำทริปสองคนก่อนแหลก
   “ อยู่จันทบุรี! ” ไอ้คิมว่าต่อ
   “ ...ห่ะ จัน... ” ยังไม่ทันได้ว่าอะไร
   “ อยู่สุพรรณ! ” ไอ้ดินแทรกมา เดี๋ยวๆ สุพรรณนี่มันคนละโยชน์เลยมั้ย
   “ อยู่ป่าอเมซอน!! ” ไอ้เฮียไทม์มึงไปไกลๆเลย
   พี่ปายแทรก “ อยู่เชียงใหม่! ”
   มึงอยากดูหลินปิงก็บอกมา...
   “ เชียงใหม่บ้านม๊ามึงสิ ” ไฟหันไปแหวใส่ “ อยู่โคราชต่างหาก! ”
   กูขอเวลานอก ซัดพาราแปบ...
   “ โคราชเหี้ยไรมึงไอ้ทนาย ” พ่อวิดวะด่ากลับแล้วหันมาสนใจโทรศัพท์ตัวเอง “ เหี้ย! ทำไมไม่มีสัญญาณโทรศัพท์! ”
   “ โทรศัพท์มึงกากไง! ”
   ผมกุมขมับแน่น เดินไปหากลุ่มที่พึ่งพาได้อย่างผัวกู(อวดผัว) ไต้ฝุ่น แล้วก็เวียร์ที่ส่งยิ้มแห้งมาให้ผม
   “ พารามั้ยเวียร์ ” ตอนนี้อยากได้สักสิบโหล
   “ ไม่เป็นไรครับ ฮ่าๆ ผมว่าพี่น่าจะต้องการที่สุด ” ยังอุตส่าห์จะหัวเราะได้แล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผม “ ที่นี่สัญญาณโทรศัพท์แทบไม่มี เน็ตช้าหน่อยนะพี่ ”
   พยักหน้ารับก่อนจะกดเข้า Google map เปิด GPS รอสามชาติสี่เศษได้กว่าจะรู้พิกัดว่าพวกผมยังคงอยู่ในนครนายกไม่ได้ไปไหนไกลเลย จะไกลได้ไง ไอ้พี่ปายพาวนทั่วสารทิศไง
   ถามหาว่าโทรศัพท์ผมไปไหน นอนตายอยู่ในรถไอ้ฟ้าครามนานล่ะ
   “ นี่ก็จะเย็นแล้วนะ เอาไงดี ” วินถามด้วยความความเป็นห่วง “ วันนี้คงต้องพักที่นครนายกนี่แหละ ”
   “ คงงั้น ” ผมพยักหน้าส่งๆไปแล้วก้มหน้าหาที่ตั้งแคมป์
   “ กูว่าต้องหาที่ตั้งแคมป์แล้วล่ะ ” ไต้ฝุ่นว่าพลางกดไอโฟนไปด้วย “ ไปพักที่อุทยานน้ำตกกันมั้ย ตั้งแคมป์ที่นั่นกัน ” ประโยคท้ายหันมาถามความเห็นผม
   “ ตามนั่น นำได้มั้ย ” ผมถามกลับ ดูมันน่าจะมีความน่าเชื่อถือสุดแล้ว
   “ ได้ ” ไต้ฝุ่นว่าพร้อมรอยยิ้มน่ามองก่อนจะกดอะไรอีกสักพัก แล้วมันปั่นขึ้นไปนำ ไม่วายมีเสียงโวยวาย
   ลมมันก็กัดจิกได้ทุกคนจริงๆ“ ไอ้หน้าอ่อน มึงนำ มึงคงไม่ได้พาไปตายใช่มั้ย ”
   ไต้ฝุ่นหยุดรถแล้วส่งยิ้มให้มัน “ พาตายน่ะได้ และอาจจะพาพี่ไปตายแค่คนเดียวครับ ”
   “ ไอ้นี่! ”
   “ ลม หุบปาก รำคาญ ” ว่าเสียงหน่ายจิตก่อนจะเดินกลับไปหาจักรยานตัวเอง หายใจเข้าออกสองนาทีแล้วส่งสายตาบอกให้ไต้ฝุ่นปั่นนำไป
   ผมปั่นตามหลังไต้ฝุ่นได้พักใหญ่ก็เริ่มหิวน้ำ พอหยิบขวดน้ำตัวเองก็พบว่ามันว่างเปล่า กลอกตามองขึ้นบนแล้วถอนหายใจ กลั้นใจปั่นต่อ กินน้ำลายเล่นไปก่อนแล้วกันไอ้อุ่น
   “ จะร่วงแล้วเหรอเมีย ”
   มองบนเลยทีนี้ คนยิ่งหิวน้ำอยู่ เดี๋ยวแดกหัวเลยมึงไอ้นี่
   “ แหนะ ไม่ตอบ ไหวป่าวว ” ปั่นมากระแซะข้างๆไม่พอมาทำเสียงกวนตีนอีก “ หิวน้ำเหรอเมีย เอาน้ำเค้าเปล่า ”
   “ ไปไกลๆ ร้อน! ” กระแทกกระทันเสียงอย่างมีน้ำโห ไม่ไหวจะพูด หงุดหงิด!
   มันก็ยังคงความหน้าด้าน “ อ้อนเค้าก่อน เดี๋ยวให้น้ำ ”
   “ เหี้ยวิน ขอน้ำ ”
   “ พูดขนาดนี้ ให้หมามันกินแล้วกันเถอะเมีย ” เสียงขุ่นมาเลย มันก็น่าจะรู้ว่าผมอ้อนไม่เป็น! และไม่มีวันทำ! “ อ๊ะๆ เอาไปกิน ไปต้องส่งสายตาจะฆ่ากันก็ได้ ไม่แกล้งแล้ว ”
   มันก็งี้แหละ ขอให้ได้ยั่วอารมณ์ผมเล็กน้อย ห้าบาทสองบาทหนึ่งสลึงมันก็เอา เอาทุกเม็ดจริงๆ ผมรับน้ำจากมันแล้วกระดกดื่มดับกระหาย
   อึก อึก ฮ่า ค่อยยิ่งชั่ว
   ผมบีบแฮนด์แน่นประคองรถด้วยมือข้างเดียว มือที่ถือขวดน้ำอยู่ก็ยกใส่แขนเสื้อเช็ดๆหน้า แค่วันแรกยังปั่นป่วนหาทางไปจุดหมายไม่ได้ แล้วไอ้ที่ผมจะไปวาดรูปมันจะสำเร็จมั้ยวะ!
   ผมส่งขวดน้ำคืนให้ไอ้วินแล้วตั้งหน้าตั้งตาปั่นจักรยานต่อ
   พวกเราปั่นไปตามถนนเลี้ยวซ้ายบ้างขวาบ้างขึ้นเนินผ่านป่าไม้จนลึกเข้ามาเรื่อย และสุดท้ายก็จอดลงที่หน้าอุทยานน้ำตก...

หัวข้อ: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 13-07-2016 19:26:11
   เอี๊ยดดดด


   เสียงล้อรถเสียดหูเมื่อยางขูดไปกับก้อนหินก้อนดิน... ผมหยุดรถแล้วเหยียดตัวลุกจากเบาะนั่งยืนขึ้น ทำเอาขาชาแทบไม่รู้สึกเลย ผมยืนค้างไว้แบบนั้นจนอาการเหน็บชาจางลง แล้วค่อยตวัดขาออกตั้งจักรยานให้ดี
   “ วันนี้พักที่นี้ก่อน ” ว่าไปแล้วถอดหมวกออก... รู้สึกลมเย็นๆกระแทกหัวกระแทกผมทันที คนอื่นๆก็เริ่มถอดหมวกถอดถุงมือบ้างก็กระโดดๆไล่ความปวดเมื่อย บ้างก็นั่งแผ่หลานวดขา
   พี่ปายถามขึ้น “ แล้วเย็นนี้จะกินไรวะ ”
   เรื่องกินพากันหันควับมามองผมทันที ทำเหมือนกูเป็นพี่เลี้ยงพวกมึงไปได้... ผมไปต่อไม่ถูกก่อนจะเอ่อ... มองซ้ายมองขวาและรอบตัว แล้วรีบเดินไปทางสำนักงานอุทยานทันทีเมื่อเจอ
   ปิดเทอมหน้า ผมจะเดินไปสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็ก... โคตรจะรุ่ง พนันได้เลย
   ผลักประตูเข้าไปหาเจ้าหน้าที่สักคน กวาดตามองก็เห็นผู้หญิงสูงวัยแต่ดูดีคนหนึ่งกำลังคีย์ข้อมูลหน้าคอมพิวเตอร์พอดี
   “ ขอโทษนะครับ ” ถึงจะเถื่อนแต่ผมก็รู้จักมารยาทนะครับ เจ้าหน้าที่สาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะมองลอดใต้แว่นมาทางผม
   “ สวัสดีค่ะ ต้องการให้ช่วยอะไรคะ ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงต้อนรับ ลุกขึ้นเต็มความสูง ผมแอบผงะเมื่อเห็นว่าเธอแทบจะสูงเท่าผมเลย สูงชะมัด “ ต้องการตั้งแคมป์ใช่มั้ยคะ ” ไล่สายตามองชุดจักรยานของผม
   ผงกหัวตอบ “ ครับ ”
   “ งั้นต้องเสียค่าเข้ากับค่าบำรุงรักษาหน่อยนะคะ ” เธอว่าก่อนจะหยิบสมุดเล่มใหญ่ขึ้นมาเขียน “ กี่ท่านคะ ”
   “ สิบสี่คนครับ ”
   “ แล้วจะใช้เต็นท์ของทางเรา หรือ... ”
   “ พวกผมเอามาเองครับ ” ผมบอกไปก่อนเธอจะเขียนๆแล้วคำนวณตัวเลข ผมเอาเงินตัวเองออกก่อนเพราะมันไม่ได้มากมายนัก
   “ ที่นี่มีน้ำตกหลายชั้น ทุกชั้นจะมีลานตั้งแคมป์ มีห้องน้ำพร้อม กรุณารักษาความสะอาดด้วยนะคะ ” รอยยิ้มสวยมอบให้ “ จะทำอาหาร ใช้ไฟ ก็ระวังด้วยนะ ”
   “ แล้วแถวนี้มีแบบ เอ่อ ขายของสดมั้ยครับ ถ้าจะทำอาหาร ” ผมถามพลางรับเงินทอนจากเธอ
   “ ออกจากอุทยานเลี้ยวไปทางซ้ายเล็กน้อยจะพบตลาดของชาวบ้านละแวกนี้ค่ะ แนะนำให้ไปซื้อก่อนนะคะ เดี๋ยวมืดจะเดินขึ้นลานตั้งแคมป์ลำบาก ” สาวเจ้าว่าก่อนจะเงยหน้ามองนาฬิกาบ่งบอกเวลาตอนนี้สี่โมงเย็นสิบนาทีแล้ว
   “ ขอบคุณครับ ”
   “ ยินดีค่ะ ขอให้สนุกกับการตั้งแคมป์นะคะ ”
   แค่กูมาทริปนี้ กูก็สนุกมากพอแล้ว!!
   สนุกกับการปวดหัวเนี้ย!
   ผมยิ้มแสดงความมารยาทดีแล้วเดินออกมา พบว่ายังไม่เห็นรถของสองแฝด ไปตายไหนเนี่ย หลงทางรึไง เลยเดินตรงไปหาไฟที่นั่งกลิ้งอยู่กับพื้นดินไม่รักษามาดเลย
   “ ไฟ โทรหาไอ้เฮียครามดิ๊ ”
   คนโดนใช้ดีดตัวขึ้นนั่งควานหาโทรศัพท์ทันที เพราะโดนผมกระทืบมาเลยต้องทำตัวสงบเสงี่ยมว่าง่าย  แต่รออีกสองวิ.. 1 2
   “ ทำไมไม่ใช้เฮีย!! ” สองหน่อดินลมหันมาพูดอย่างน้อยใจทันที
   “ เบื่อพวกมึง ” ตอบไปพลางหมุนคอไปด้วย มองไอ้ไฟที่ส่งสายตามาว่าโทรติดรับสายแล้ว “ บอกมันให้ขับเลยอุทยานไปหน่อย ไปตลาด ซื้อของสดมาทำกิน ”
   ดินแทรก “ อุ่น อย่าลืม ไอ้แฝดมันซื้อของไม่เป็น  ”   
   เออว่ะ เวรแล้วมึง
   “ แต่ไอ้ฟรานไปด้วย มันซื้อเป็น ” วินแทรกขึ้นมาบ้างเรียกสายตาทิ่มแทงจากดินได้อย่างดี “ แค่บอกมันไปว่าจะทำอะไรกิน เดี๋ยวมันจัดให้ ”
   “ อ่าฮะ ” ผมครางรับแล้วขอโทรศัพท์จากไอ้ไฟ “ เฮีย นี่อุ่น ”
   ( ว่าไงอุ่น จะทำอะไรกินดี )
   “ เห็นเครื่องครัวที่มึงเอามาแล้ว คงไม่พ้นบาร์บีคิวกับหมูกระทะ ” ผมบ่นแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง พาให้พี่น้องรวมถึงไอ้วินตกใจยกใหญ่นึกว่าผมจะเป็นลมเตรียมพุ่งมารับตัว
   ยกมือขึ้นเบรกพวกมัน
   ( ฟราน เดี๋ยวแวะตลาดซื้อของทำอาหารเย้นหน่อย เลือกเป็นมั้ยครับ )
   กูขอกระโถน จะอ้วก
   ( ได้ครับ )
   “ งั้นก็ให้ไว รออยู่หน้าอุทยาน ” กดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์คืนเจ้าของ “ นั่งรอพวกนั้นก่อน จะได้ขึ้นไปพร้อมกัน ”
   ทุกคนพยักหน้ารับ แล้วแยกย้ายกันไปพักไม่ไกลมากนัก แต่ก่อนจะแยกย้ายก็ต้องมีความวุ่นวายก่อน
   “ อุ่น ไปตรงนู้นกัน เฮียว่าตรงนั้นต้องมีวิวสวยๆ ” ลมคว้าต้นแขนข้างขวา
   ดินคว้าแขนข้างซ้าย “ ไปตรงนั่นกับเฮียดีกว่า มีผีเสื้อด้วย ”
   กูไม่ใช่ผู้หญิงครับมึง...
   ไฟคว้าเอวผมจากข้างหลัง “ พี่อุ่นต้องไปกับไฟต่างหาก ไปดูน้ำตกชั้นแรกกัน พวกมึงน่ะปล่อยเลย! ”
   “ มึงต่างหาก ปล่อย!! ”
   ตอนนี้ตัวผมไม่ต่างจากแม่ที่มีลูกสามคนป้วนเปี้ยนไม่ห่างเกาะแขนเกาะขาขี่คอ แยกเขี้ยวใส่กันอีก ผมทำหน้าเนือยหมดแรงจะสะบัดแหละ
   “ เอ่อ ผมว่าพี่ๆน้องๆออกจากอุ่นก่อนดีมั้ยครับ เดี๋ยวจะเป็นลม ” เสียงทุ้มว่าขึ้นแทรกอย่างเกรงๆ
   ไอ้ลมหันไป “ มึงยังมีบัญชีแค้นกับกูไอ้วิน! ไปไกลๆตีน! ”
   “ พี่น้องเขาจะแสดงความรักกัน มึงไปไกลๆ! ” ดิน
   ไฟ “ คนนอกอย่าเสือก ”
   “ วิน เอาพวกมันออกไปดิ ” ผมสั่งไม่ฟังที่พวกมันพูด เพราะตอนนี้ขี้เกียจจะลุกมาถีบพวกมันแล้ว ปวดขา “ เร็วๆ ”
   วินทำหน้าคิดไม่ตกเพราะตอนนี้สภาพมันเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับร็อตไวเลอร์สามตัวไม่ปาน พอทำใจจะอ้าปากแย้งแล้วเดินเข้ามา กลับมีคนใจกล้ากว่านั่นพุ่งมาแทรก
   “ ดินนนนนนนนนนนนนนน ”
   คนโดนเรียกสะบัดตัวออกจากผมแล้วกระโดดหลบ “ มึงอย่าเข้ามานะเว้ยไอ้พี่ปาย มึง มึงถอยป๊ายยย  ”
   “ ดินดินไปดูตรงนู้นกัน! มีนกด้วย ”
   “ มีไม่เคยเห็นนกรึไงห่า! ไม่ต้องมาจับ! ” แล้วมันก็วิ่งหนี แน่นอนว่า พี่ปายเป้นคนที่ไฮเปอร์พลังงานล้นหลามก็วิ่งตามไปอย่างสบายๆ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุก
   เสร็จไปหนึ่ง...
   “ เดี๋ยวกูช่วย ” ไต้ฝุ่นแตะไหล่เพื่อนมันแล้วตรงมาหิ้ว ย้ำว่า หิ้วไอ้ลมที่ตัวอย่างควายออกไปอย่างง่ายดาย
   คนโดนหิ้วเพิ่งได้สติจากอาการเหวอกินก็โวยวาย “ ไอ้หน้าอ่อน! มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย! ปล่อบกู๊! ”
   “ พี่ไปกับผมดีกว่า ให้ผัวเมียเขาอยู่ด้วยกัน ”
   “ ใครผัวเมีย น้องกูโสด!” สะบัดให้ออกก่อนเถอะมึง “ ไอ้หน้าขาว มึงจะเอาใช่มั้ย มึงช่วยเพื่อนมึงใช่มั้ย เดี๋ยวมึงโดน!! ”
   ไต้ฝุ่นยิ้มตาปิด “ งั้นก็สะบัดให้ได้ก่อนนะครับพี่ ”
   “ ไอ้เด็กเวร มึง! ”
และลมก็โดนไต้ฝุ่นที่เห็นนิ่งๆหงิมๆแต่แรงช้างผสมม้ายกหิ้วไปได้อย่างง่ายดาย
   เสร็จไปอีกหนึ่ง...
   “ ไงมึง จะออกไปได้ยัง ” เอี้ยวคอไปหาตัวปัญหาอีกหนึ่ง มันแสยะยิ้มกลับมา
   “ ไม่มีใครมาลากผมได้หรอก ” หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
   เสียงเล็กว่าขึ้น “ จะแน่เหรอ ”
   ชะงักเสียงหัวเราะกลางอากาศ หันขวับไปมองต้นเสียง “ ไอ้เตี้ยอย่างมึงทำไรได้ ”
   “ กูอยากเข้าห้องน้ำพอดี ไปเป็นเพื่อนกันหน่อย ” ตรงมากระชากผมสวยๆของไอ้ไฟแล้วลาก
   “ โอ๊ยยยยย เชี่ยเตี้ยมึงปล่อย!! ” น้ำตาเล็ดเลยทีเดียว รีบลุกไปตามแรงกระชากหัว  ผมหัวเราะน้อยๆ
   เวียร์ทำหน้านิ่งเย็นชาไม่ฟัง แต่ก็หันมายิ้มให้ผม “ เชิญพี่ชายกับพี่สะใภ้สวีทกันตามสบายนะครับ ”
   “ ไอ้เตี้ยยยยยยยยยยย กูเจ็บ!! กูจะฟ้องมึง ข้อหา... โอ๊ย! อย่ากระชากเด๊!! TOT  ”
   และเวียร์ก็ลากออกไปได้อย่างง่ายเดาย... เหอ เหอ ถ้าไอ้ไฟไม่มีเมีย จะยุให้จีบเวียร์ แต่มันเสือกมี แต่ใช่จะไม่มีวันเลิก หึหึ
   หันกลับมาก็พบว่าตอนนี้เหลือเพียงผม ไอ้วินแล้วก็เฮียไทม์ที่เดินไปเดินมาหาสัญญาณโทรศัพท์หน้าเครียด
   “ เฮีย เป็นไรวะ ”
   “ นี่มันจะถึงเวลาโทรไปรายงานเมียแล้วอ่ะดิ แม่งไม่มีสัญญาณ ” ยีหัวอย่างสุดๆด้วยความเครียด “ ไอ้กิ่งมันเผาลูกกูแน่ๆ ”
   ลูกที่ว่าก็คือ ลูกบอลสะสมของมันที่ไปกวาดมาทุกสารทิศทั่วโลก...
   “ เดี๋ยวกูไปขอให้โทรศัพท์เจ้าหน้าที่ดีกว่า ” วิ่งสี่คูณร้อยทันที ด้วยความห่วงหาถึงเมีย ผิด! มันกลัวลูกมันถูกเผาเป็นตอตะโกซะมากกว่า
   ตอนแรกก็ถามมันว่าทำไมไม่ลากเมียมาด้วย มันก็บอกไม่อยากให้มาลำบาก ห่วง หวงเมียที่หนึ่งเช่นกัน... ถึงตัวมันมานี่มันก็ฝากพี่สาวตัวเองไว้ให้ดูแลด้วย
   ส่วนไอ้เพื่อนทั้งสองของผมก็หายหน้าหายตาไปก่อนพวก สุดท้ายก็เหลือแค่ผมกับไอ้โง่นี่จนได้
   “ ไม่ไหวแล้วสินะ ” ยิ้มกระหยิ่มกระหย่องถูกใจ นั่งลงบนพื้นทิ้งช่วงห่างจากผมเล็กน้อยไม่ให้น่าอึดอัดไป “ แล้วแบบนี้จะทำอะไรดีน้า ”
   “ ใครแพ้ ละเมออยู่เหรอ ”
   “ ก็ร่วงแบบนี้ จะยังไม่ยอมรับอีกเหรอ ” เอียงคอมาเลิกคิ้วกวนติ่ง
   ผมขึ้นเสียง “ กูแค่เมื่อย! ไม่ได้แพ้เว้ย! ”
   “ เออๆ รู้แล้วครับเมีย ไม่แพ้ครับไม่แพ้ ” ยกมือขึ้นยอม แล้วส่ายหัวปลงๆ ทำตาส่งสายตาอีกว่า จะปากหนักไปไหน
   ผมปากหนักตรงไหน!
   “ ไหน เมื่อยตรงไหน ” มองสำรวจร่างกายผมอย่างไร้มารยาท
   กวนตีนกลับไป “ ปั่นจักรยาน ใช้ไส้ติ่งปั่นมั้ง ปวดไส้ติ่งมั้ง ”
   “ เฮ้ย ไส้ติ่งจะแตกเหรอ! ” ทำตาโตเบิกกว้างพาซื่อเล่นตามน้ำอีก “ ไหนดูดิ ”
   ร่างสูงแกล้งพุ่งมานั่งเกยทับขาผม ไอ้สัด! หนักเชี่ยๆ! แล้วเลิกเสื้อผมดูทันที ไม่ค่อยจะฉวยโอกาสเลยมึง วางมือใหม่ลงที่ท้องข้างซ้ายของผมแล้วขมวดคิ้วและกดๆ
   “ เจ็บเปล่า ”
   “ ไม่ แต่มึงลุกออกไปดิ๊ หนัก! ”
   “ อ้าว ก็ปวดไส้ติ่งไม่ใช่เหรอ ” จิ้มลงตำแหน่งเดิม ผมเลยจัดการฟาดกะโหลกไปสองที
   “ ไส้ติ่งบ้านมึงอยู่ข้างซ้ายเหรอ เคยเรียนวิทย์มั้ย! ” เชื่อมันเถอะ มันโง่จริงๆ
   ทำหน้ามึนอึน “ อ้าวเหรอ แล้วอยู่ตรงไหน ”
   “ มึงลุกไปเดี๋ยวนี้ เอามือออกด้วยห่า ”
   มันขยับตัวลงจากตักผมแต่มือยังวางที่เดิม คือต้องการกวนประสาทกันก็บอกมา ผมปัดออกและมันก็เอามาวางใหม่
   “ ไหน... เมื่อยตรงไหนครับ ”
   “ เอามือออกไป ไอ้วิน!  ” กลางแจ้งแล้วอากาศร้อนๆแบบนี้มึงยังมีอารมณ์มาหื่นกับกูเนี่ยนะ กูเชื่อมึงเลย! ใบหน้าเริ่มบูดเบี้ยวตามความโมโห อีกคนกลับตีความเป็นอีกอย่าง
   “ ปวดท้องเหรอไหนดูสิ ” มึงอย่าพูดเองมโนเองได้มั้ย!
   ว่าหน้าซื่อพลางขยับมือใหม่ลูบแผ่วแกล้งลากวนไปมาอยู่ที่หน้าท้องผมที่มีซิคแพคพอเหมาะ ผมเผลอกลั้นหายใจไปรอบเมื่อฝ่ามือค่อยๆลากผ่านใต้สะดือ... ร้อนวูบวาบเลยมึง
   ผมพูดอะไรไม่ออก มันก็ยิ่งได้ใจ ลากวนลูบท้องผมเล่น...
   “ หืม... ไปเล่นกันในเต็นท์ตอนดึกๆดีกว่ามั้ย ”
   ทั้งผมและไอ้คนเจ้าเล่ห์หยุดชะงักหันไปมองเหนือหัวก็เจอกับไอ้ฟ้าครามยืนถือถุงอาหารข้าวเย็นของสดเต็มมือใบหน้าหล่อแย้มยิ้มสายตามองไอ้วินหยอกๆ
   “ นี่ๆ ในรถมีเจล แล้วก็มีถะ... ”
   “ ไอ้ฟ้าคราม! ” นัยน์ตาเรียวแทบจะถลนออกมานอกเบ้า เสียงเกรี้ยวแทบจะกัดคอไอ้พี่ พี่บ้านไหนมันแนะนำให้น้องมันเสียตัวห่ะ!
   “ เอ้า! เรียกแบบนี้มันปกติ นอทซีเรียส โอเค๊? เด็กสมัยนี้ยิ่งห้ามคือยิ่งยุ เพราะงั้นเฮียเป็นผู้ใหญ่ต้องชี้นำสิ่งดี ” ทำหน้างอเหมือนตัวเองไม่ผิด “ จะทำอะไรกันก็ป้องกันไว้หน่อย ”
   “ มึงหุบปากไปเลย ไอ้พี่เหี้ย!! ” ลุกเตรียมยันตีนใส่มันแต่เสือกหลบทันอีก แล้วมีหน้ามีแลบลิ้นใส่ มันน่าโดนกระทืบจริงๆ
   หันไปทางวิน “ มึงก็ไปไกลๆเลยสัด!! ”
   “ อ้าว กูผิดไรวะ ”
   มึงผิดทุกอย่าง!! ผิดไม่ผิดไม่สน มึงต้องผิด!
   ผมทำหน้ากระฟัดกระเฟียดเหวี่ยงหันไปทางไหนก็หงุดหงิด ก่อนจะไล่ไอ้วินก็ไล่มันให้ไปตามคนอื่น เพราะเห็นหน้าไอ้แป๊ะนี่ก็อยากถีบ ตอนนี้เห็นหน้าใครก็พาลทั้งนั้น ยืนทำอารมณ์ให้เย็นเสียก่อนหลังจากนั้นก็ลากจักรยานไปเก็บท้ายกระบะ หยิบโซ่ล็อคออกจากกระเป๋าเป้มาล็อคไว้เรียบร้อยก็หยิบของจำเป็น และก็เต็นท์นอนลงมา คนอื่นๆก็เริ่มทยอยมาหยิบจับแบกของตัวเอง
   วินมันเดินมากระแซะมาหยอกผมเล่นต่อระหว่างเดินขึ้นลานตั้งแคมป์ ผมก็ไม่มีอารมณ์จะกัดกับมันเลยนิ่งๆไป  ไอ้หมาบ้าก็พยายามจะปลีกตัวมาจิกกัดแทะไอ้วินก็ทำไม่ได้ มองไปข้างหน้าก็เห็นไอ้สองฟ้าแบกทั้งกระเป๋าตัวทั้งเตาบาร์บีคิวทั้งเต็นท์ ดี ต้องใช้พวกมันหนักๆ พวกมันสบายกว่าคนอื่น
   เราเลือกตั้งแคมป์ที่น้ำตกชั้นห้า บริเวณตั้งแคมป์มันติดกับน้ำตก เป็นแอ่งกว้าง ประเมินทางสายตาคือไปนั่งหย่อนขาแช่น้ำกลางคืนได้สบาย เริ่มจากการกางเต็นท์ก่อนเลย มีสิบสี่คน กับเจ็ดเต็นท์
   “ อุ่น จะไม่นอนกับเฮียจริงๆเหรอ ” หน้าตาจะร้องไห้มาทันที
   ผมยิ้ม “ ไม่ ” ส่งถุงอุปกรณ์ตั้งเต็นท์ให้ไอ้วิน
   “ ใช่ซี้... ” ไฟเริ่มก่อนพวก
เอาอีกล่ะ ขอซื้อได้มั้ยคำนี้
“ เรามันน่ารำคาญ ” ลมต่อ
“ เรามันก้างขวางคอนี่ ” ดินเสริม
“ เราทำอะไรก็ผิด ” ไฟเพิ่ม
ทั้งสาม “ ใครมันจะไปดีเท่าไอ้วิน ”
ผมรับน้ำจากไอ้ตัวต้นเหตุที่พวกมันว่าแล้วมาดื่มดับร้อน แล้วหันไปคุยกับฟราน “ เออ มึงซื้ออะไรมาบ้างวะ ”
“ นี่ไม่ได้ฟังเลยใช่มั้ย!! ” เสียงสามหมาบ้าตวาดลั่นด้วยความน้อยใจ ผมหันไปมองเล็กน้อย พวกมันก็ทำท่าจะเมินไม่สนใจบ้างให้ผมง้อ ผมก็หันกลับมา
“ ทำอะไรกินดีวะ ”
เมินของจริง...
“ ฮือออออ ทำไมอุ่นทำกับพวกเราแบบเน้!!! ” ลมร่ำไห้กอดคอพี่น้องอย่างเศร้าโศกโลกจะพัง
ดินยกชายเสื้อขึ้นซับน้ำตา “ โดดน้ำตายแม่ง ฮือ ”
“ ฮืก งั้นมึงก็โดดไป ” ไฟว่าแล้ว...
ตู้ม!!!
ดึงหมอเถื่อนที่ยังงงๆไปริมน้ำตกแล้วถีบตกน้ำทันที...
“ แค่กๆ!! ใครถีบกู! ” ดินเสยผมเปียกขึ้นกวาดมองยิงกราดเลย
ไฟทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้และชี้ไปทางไอ้ลม
“ ไอ้น้องตอแหล!! ” ลมด่าไม่ยั้งจัดการถีบส่งน้องรักลงน้ำ แต่พื้นลื่นเลยกลิ้งตกน้ำไปเอง ไม่วายคว้าคอไอ้ไฟลงไปด้วย
“ แค่กๆๆ! วิดวะเวร! ” น้องเล็กลูบหน้าตัวเองแล้วไอใส่คนคว้าคอ
“ ไหนๆก็ลงมาแล้ว มึงตายให้หมดเลย!! ” หมอเถื่อนกระโจนใส่จับหัวสองพี่น้องกดน้ำ
ลงกับใครไม่ได้ก็ลงกันเอง ดี๊ดี
ผมกับแฝดฟ้าถอนหายใจแรงๆกับภาพชินตาที่สามคนนี้มันทะเลาะกัน อยู่บ้านถ้าวันไหนมันไม่ตีกัน มันนอนไม่หลับหรอกครับ ตีกันเรื่องผมเสร็จมันก็ตีกันเอง ตบตีต่อยกันมาตั้งแต่เล็กแล้ว ชิงดีชิงเด่นมาตั้งแต่อนุบาล ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นพวกมันตีกันมาตลอด จะดีกันก็ตอนจะไปรุมกระทืบชาวบ้าน
“ ปล่อยพวกมันไป ดินของมึงไม่ตายหรอกน่า ” บอกไอ้พี่ปาย มันจะได้ไม่เป็นห่วง พี่ปายพยักหน้าพยายามจะเข้าใจแล้วลุกไปตั้งเต็นท์ของตัวเอง
ผมบอกให้ฟรานกับเวียร์ไปเตรียมอาหารตั้งโต๊ะยาวที่มีอยู่แล้ว และให้ไต้ฝุ่นมันเดินไปก่อไฟก่อถ่าน แล้วเดี๋ยวผมจะกางเต็นท์ให้ พอวินเห็นว่าผมจะทำเต็นท์ของน้องกับเพื่อนมันก่อน เลยมาช่วยกางก่อน
“ ตกลงจะนอนกับพี่? ”
“ เออ ” ตอบไปแล้วเอาก้อนหินใหญ่ตอกตัวตะปูลงดิน “ นอนกับมึงก็ดีกว่าไอ้สามหมาแล้วกัน ”
น้ำเสียงขรึมจริงจัง “ ไม่กลัวพี่เหรอครับ ”
“ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว ” ว่าไปโดยไม่คิดอะไรแล้วเอาเชือกเต็นท์มาตรึงจัดให้เข้าที่เข้าทาง ปัดมือเล็กน้อยเมื่อเสร็จ เดินไปหยิบเต็นท์ตัวเองหามุมห่างไกลสักหน่อยเพราะผมชอบความเงียบสงบ
“ เฮ้อ กลัวบ้างก็ดีนะ ”
ผมสะดุ้งเบิกตาโพล่งขณะกำลังผูกเชือกเต็นท์มุมสุดท้าย ไอร้อนจากอีกฝ่ายแผ่ออกมาในระยะประชิด มือแกร่งวางซ้อนมือผมแล้วจับมือผมผูกปมเชือกให้แน่นขึ้น
“ มึงจะทำเหี้ยอะไร ” ผมว่าตะกุกตะกัก มือก็สั่นผูกเชือกไม่เสร็จสักที “ ขยับไปดิ หะ เหี้ย กูร้อน ”
“ อืม... นอนกันมาตั้งหลายคืนแล้วไม่รู้เหรอว่า กูชอบทำอะไร ” จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ข้างแก้มผมแบบที่มันชอบทำเวลามีโอกาส
“ สัด กูไม่รู้ กูมะ ไม่เห็น! ”
“ เหรอครับ ” เลื่อนริมฝีปากไปข้างหูแล้วกัดงับเต็มๆ ขนแขนผมลุกชันแทบจะทันที แข้งขาเริ่มอ่อน มันรู้ว่าจุดอ่อนผมอยู่ที่หูก็เล่นไม่เลิก “ มันเป็นเรื่องธรรมชาตินี่ครับ ”
“ ธรรมชาติของมึงคนเดียวอ่ะดิ! ” ผมเอาเสียงเข้าข่ม แล้วเมื่อไหร่จะผูกเสร็จ ไอ้สัด!  เพราะเต็นท์ของผมมันใหญ่เลยบังผมมิด ไม่มีใครเห็นว่าไอ้ห่านี่มันเริ่มหื่นอีกแล้ว
“ มีผู้ชายหล่อๆมานอนบนเตียงขนาดนี้ ยังไม่รู้สึกอะไร ” วินถามหน้าเครียดแต่แววตากลับเป็นประกาย  “หรือเราตายด้าน”
   ว่าจบก็พุ่งมาจับกลางกายเป้ากางเกงผมอย่างแรง ผมเบิกตาโพล่งอย่างตกใจแล้วรีบสะบัดตัวมันออกอย่างแรง
   “ ไอ้เหี้ยวิน!! อะ ไอ้ ” ปากแทบจะไม่ขยับ
   “ ไอ้ ไอ้ ไอ้คุณผัวเหรอครับ ” ถึงมันจะล้มก้นจ้ำเบ้าแต่ก็ยังปากดีไม่เลิก “ หน้าแดงใหญ่แล้ว โดนจับแค่นี้ถึงกับหน้าแดง หรือว่ามีอารมณ์แล้ว ” ยิ้มพรายแพรวระยับทั้งปากและตา
   “ ไอ้หื่นเอ๊ย!!! ”
   ผมตวาดลั่นหน้าดำหน้าแดงด้วยความอายถอดรองเท้าผ้าใบตัวเองแล้วขว้างให้หัวมัน มันก็นั่งหัวเราะรับมือกับรองเท้าอย่างสุขใจ
   ปาเสร็จผมก็ตรงดิ่งไปริมน้ำกระโดดใส่ตู้มใหญ่เพื่อดับความร้อนบนหน้าในตัวในหัวท่ามกลางความงงงวยของคนอื่นๆในทริป ยกเว้นไอ้เวรตะไลนี่...
   “ อ้าว อยากเล่นน้ำเย็นๆก็ไม่บอก  ”
   “ ... ” ก้มหน้าก้มตาเล่นน้ำ ไม่ได้ยินเสียงมัน ใจเย็นไว้อุ่น ใจเย็น
   “ แต่ถ้าอยากเล่นน้ำอุ่นๆร้อนๆ มาหาพี่ได้เสมอนะครับ ”
   
   ใครก็ได้ ...เอาไอ้หื่นนี่ไปเก็บที!!!!
 




 
   “ รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ ว่ามั้ยบีหนึ่ง ” ไผ่
   “ ฉันก็คิดแบบนายนะบีสอง แล้วนายว่าไงบีสาม ” คิม
   “ ผมก็ว่าแปลกจริงๆนั่นแหละบีสอง บีสี่ พี่ว่าไง ” เวียร์
   “ พี่ว่าหมูเราหมักน้อยไปนะบีสาม ”
   “ พี่ฝุ่น!!! ”
   สามหน่อ คิม ไผ่ เวียร์หันไปโวยใส่ไต้ฝุ่นที่เพิ่งคีบหมูย่างเข้าปาก ผู้ทำการเล่นหยุดชะงักขึ้นมากะทันหัน คนโดนโวยทำหน้าไม่รู้ร้อน ตักคีบหมูโยนถ้วยแต่ละคนเพื่อกลบความผิด
   “ แต่บรรยากาศมันแปลกๆจริงๆนั่นแหละ ” ฟรานเดินมาพร้อมบาร์บีคิวสิบไม้มายื่นให้ทุกคน “ พี่สองคนเอามั้ย เห็นมองนานแล้ว ”
   “ ‘เอา’ สิครับ ถ้าน้องฟรานให้  ” ฟ้าคราม “ เอาบาร์บีคิวสามไม้นะครับ ”
   ท้องฟ้า “ ก็มัน ‘น่ากิน’ เลยต้องมอง เนอะ” และหันไปเออออกับแฝดพี่
   “ นะ นี่ครับ ” ฟรานทำหน้าแปลกแต่ไม่ได้อะไร ส่งบาร์บีคิวที่เหลือให้ แล้วเดินกลับไปนั่งวงหมูกระทะ
   ผมเคี้ยวหมูบาร์บีคิวเสียงหนักกัดฉีกหมูกินด้วยอารมณ์ขุ่นมัวแผ่ความโมโหไปทั่วจนทุกคนไม่กล้ายุ่ง ส่วนหมาบ้าได้แต่นั่งครางหงิงๆไม่กล้าเข้ามายุ่ง
   “ พี่วิน พี่ดูอารมณ์ดีไปเปล่า ” เวียร์ถามเสียงดังเพราะสัมผัสมาได้ว่าพี่ตัวเองต้องมาแกล้งอะไรผมสักอย่างแน่ๆ ถึงหน้าบานเป็นจานขนาดนี้ ผิดกับผมที่ตีหน้ายักษ์วัดแจ้ง
   ก้มหน้าตักหมูเข้าปาก “ เปล๊า ”
   “ เสียงสูงเนอะบีหนึ่ง ” ไผ่
   “ ฉันก็ว่างั้น บีสอง อ้าปากดิ เป่าหมูให้แล้ว ” คิม    
   “ หุบปากได้ยังไอ้กล้วยทั้งสอง ก่อนกูจะโยนตกน้ำ ” ผมกระแทกเสียงเขียวตาเขม็งเอาซะเงียบกริบทั้งวง ผมฮึดฮัดแล้วก้มหน้ากินต่อ โมโหเว้ย!
   “ สงสัยเมนส์มันมาแน่ๆเลยมึง ” ไผ่ป้องปากกระซิบ
   คิมเตือนเริ่มเหงื่อตก “ พอก่อนไอ้ไผ่ เดี๋ยวมึงโดนฆ่า  ”
   กลืนหมูชิ้นที่สองร้อยเจ็ดสิบห้าลงท้องไปแล้ว ผมก็เดินเอาซากขยะจานพลาสติกไม้บาร์บีคิวไปทิ้งถังขยะให้เรียบร้อย  ไม่รู้หัวคิดอะไรอยู่ถึงได้เดินไปหยิบเบียร์กระป๋องที่ไอ้แฝดมันซื้อมาในถังน้ำแข็งมาสามกระป๋อง จากนั้นสาวเท้าไปหาที่หย่อนขาแช่น้ำ ซึ่งห่างจากวงพวกมันแค่ยี่สิบเมตรกว่าๆเอง
   “ หงุดหงิดชิบหาย ” ผมพึมพำพลางกระดกเบียร์เข้าปากไปสามอึกรวด
   ความเย็นของน้ำที่สัมผัสกับขาพาให้ผมสบายใจขึ้น มองท้องฟ้าที่เริ่มมืดก็ยิ่งรู้สึกดี ผมชอบมองท้องฟ้าตอนกลางคืนที่สุดแล้ว  ดาวมันสวย แต่ในกรุงเทพแทบจะมองไม่เห็นสักดวง เสียงรอบข้างก็เริ่มดังจักจั่นจิ้งหรีดก็มา ทุกอย่างช่วยชำระล้างความโมโหและเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี
   ทบทวนสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในวันนี้...

   ‘ถ้ากูหายไป มึงนั่นแหละที่จะร้องไห้’
   
   ผมเหยียดยิ้ม “ ไม่มีทาง ” แล้วซัดเบียร์ไปรวดเดียวหมดกระป่อง จากนั้นก็เปิดกระป๋องใหม่...
   นั่งมองนกมองไม้ไปเรื่อย สายตาอ่อนๆพาให้รู้สึกดี...
   ยิ่งสงบเท่าไหร่ ในหัวผมก็เริ่มปั่นป่วนควบคุมไม่ได้เพราะเบียร์หมดไปแล้วสอง...
   
   เกือบไปแล้ว ไอ้อุ่น วันนี้มึงเกือบไปแล้ว...
   
   ผมตำหนิตัวเองดังๆในหัว ก่อนจะหยิบกระป๋องที่สามมาเปิด แต่กลับถูกใครบางคนแย่งไป... หันหน้าไปจ้องมองในความมืด
   “ ใคร ” ผมถามเสียงเข้มเจือความมึนงงอยู่ไม่น้อย
   เบียร์ยี่ห้ออะไร แรงชิบหาย ปกติไม่เมาตั้งแต่สองกระป๋องแรกน่ะเว้ย
    “ กินเยอะไปแล้วเมีย ” เสียงเข้มและดุดันมากกว่าปกติ ผมคลี่ยิ้มหัวโงนเงน
   “ ไอ้วินเหรอ ” ผมครางถามไป แล้วมาคิดๆ วินไหนวะ
   “ เออ ” มันตอบแล้วนั่งลงข้างๆผม “ แดกห่าอะไรเยอะขนาดนี้ ไม่รู้รึไงว่ามันเป็นเบียร์เถื่อน ”
   กูจะไปรู้ได้ไงวะ
   แต่ทำไมหน้ามันคุ้นๆเหมือนใครสักคนเลยวะ คุ้นๆว่าเป็นไอ้โง่ตัวหนึ่งที่หลงมาจีบผมนั่นเอง ผมสะบัดหน้าไปมาอย่างมึนๆ สติจงมา สติหายเดี๋ยวกูโดนปล้ำ 
   “ โดนกูจับไข่นิดเดียว มึงเครียดขนาดนี้เลยเหรอวะ ”
   ผมว่าตอนนี้ผมต้องหน้าแดงมากชัวร์ “ ให้กูจับบ้างเอามั้ย  ”
   “ เอาดิ ” สีหน้ากระตือรือร้นมากแถมจับมือผมจะไปจับของมันเองอีก
   “ สัด ” ผมด่าเสียงระอา ถึงกูเมาแต่กูมีสตินะเว้ย ยังรับรู้ กระชากมือกลับอย่างอ่อนแรง
   “ เมาแล้วทำไมยังด่าได้อีกนะเมีย ” มันทำหน้าเสียใจอยู่มากก่อนจะพูดขึ้นใหม่ด้วยสีหน้าเครียดยามมองหน้าแดงๆของผม  “ ลุกไปนอนได้แล้วเมีย เมามากแล้ว ”
   “ ไม่ไปเว้ย เดี๋ยวมึงปล้ำกู ” ผมเถียงแล้วปรือตทอดมองกระแสน้ำเย็นๆ
   “ กูไม่ปล้ำคนเมาน่า ไม่ได้อารมณ์ ” ดูมัน ยังจะมีจิตใจจะมีคิดอีก มันเก็บกระป๋องเบียร์ไว้มือหนึ่งแล้วอีกมือฉุดแขนผมที่ตอนนี้ตัวปวกเปียกไปหมดให้ลุกขึ้น
   เอ๋... ทำไม ไอ้วินมีสองคนหว่า
   ไม่ๆ กูจะไม่เมา
   “ คนห่าอะไรหนักชิบหาย ” เสียงจักจั่นที่ไหนวะ ผมสะบัดหน้าไล่ความมึนแล้วตั้งสติก็เห็นไอ้วินประคองตัวผมไว้มั่นมือโอบเอวไว้แล้วพาผมเดิน แต่โคตรจะไม่ตรงเลย นี่ไอ้วินมันเมาใช่มั้ย!
   “ เดินตรงๆสิว่ะเมีย! ”
   “ หนวกหูน่า ” ผมบ่นพึมพำแล้วพยายามทรงตัวดีๆอีกครั้ง เหมือนจะได้ยินเสียงหมาเห่าสักสามตัวได้ แต่แถวนี้มีหมาด้วยเหรอวะ
   ผมหลับตาลงเพื่อพักสายตาสักครู่แต่ดันมารู้สึกตัวอีกที่ก็ตอนตัวสัมผัสกับผ้านุ่มที่จำได้ว่าเป็นถุงนอนชนิดหนาพิเศษเลยทำให้รู้สึกนุ่มเหมือนนอนเตียง...
   มองเพ่งตามองดูการกระทำของไอ้วินว่ามันจะทำอะไรต่อ...  มันนั่งพักหายใจอยู่พักใหญ่ โอ้โห นี่ตัวกูหนักมากว่างั้น กะพริบตาทีแล้วรู้สึกเปลือกตาหนักอึ้ง หัวก็หมุนติ้ว... นี่ผมเมาจริงๆเหรอ
   “ ตัวแม่งหนักชิบหาย แดกช้างไปเหรอมึง ”
   “ กูได้ยินนะ ” ผมบ่นแล้วตั้งศอกยันตัวลุกขึ้นนั่งแต่ตัวก็โอนเอียงไปมา รู้สึกร้อนชะมัด คิดแล้วก็ถอดเสื้อเปลือยบนเหลือแค่กางเกงขาสั้น และนอน...
   “ นี่เมา หรือ แกล้งเมา ” มันถามนิ่งๆ
   “ กูพูดรู้เรื่อง แปลว่า ยังไม่เมา ” ว่าไปแล้วยกมือขึ้นก่ายหน้าผากปิดตา แต่หูยังได้ยินเสียงกุกกัก และแสงจากไฟฉายเหมือนไอ้สิ่งมีชีวิตร่วมเต็นท์กำลังหาของ
   ผมนอนเงียบๆ แล้วจู่ๆก็รู้สึกเหมือนใครมาดึงขาให้ยกขึ้น ตามด้วยไอน้ำเย็นๆแสบๆ ไหนจะกลิ่นฉุนยาตามมา ไม่ทิ้งไว้นานแรงบีบนวดก็กดลงมาตามขาตามน่องให้รู้สึกสบาย
   ความสบายเริ่มพาให้ผมสติเริ่มเลือนรางเพราะความเมา... เมาจริงๆ คนเมาไม่รู้ตัวว่าพูดอะไร
   “ มึง มึงจะอยู่กับกูตลอดได้เหรอวะ  ” ผมกำลังพูดอะไร...
   แรงกดที่ขาชะงักลง
   “ พูดอะไร ” เสียงทุ้มดูจะแปลกๆ แล้วขยับมือต่อ...
   “ มึงจะหายไปเหรอวะ ” กูเมา กูไม่รู้กูพูดอะไร เหมือนจะเห็นดาววิ้งๆบนหัว...
   “ พูดไม่รู้เรื่องแล้ว ”
   “ ...มั้ง ”
   ภายในเต็นท์เงียบลงแทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่... ผมเอามือปิดหน้าไว้เลยไม่เห็นอะไร และไม่รู้สึกอะไร เพราะ...ผมเมา
   เงียบไปนานกว่าจะได้ยินเสียงอีกครั้ง...
   “ ที่กินเบียร์เพราะมึงเครียดเรื่องที่กูพูดเหรอ ” น้ำเสียงดูจะอ่อนโยนขึ้น... “ ทำไมมึงน่ารักแบบนี้วะ ”
   รู้สึกหน้าร้อนฉ่าเลยทีเดียว
   “ กูไม่ไปไหนหรอก อย่าคิดมาก ” เสียงอ่อนโยนเป็นบ้า...
   “ ...นี่ ” ผมลดมือที่ปิดครึ่งหน้าไว้ลง สบตามันในความมืด
   “ อะไร ”
   “ กูอยากจูบมึงว่ะ ”
   !!!
   นัยน์ตาคมเบิกกว้างนิ่งค้างไปหลายวิแล้วพอได้สติคืนก็ส่งยิ้มเบาบางให้ผม... นวดขาให้ผมต่ออย่างเบามือ
   “ มึงเมามากแล้วอุ่น ”
   “ แต่... ”
   “ นอนเถอะ ” วินไม่มองหน้าผมสักนิด “ กูไม่ทำอะไรมึงหรอก นอนๆ พรุ่งนี้ต้องปั่นจักรยานต่อ ” และยิ้มให้ส่งมือมาโยกหัวผมเล็กน้อย ก่อนจะนวดขาให้ผมต่อ...
   ผมกัดปากตัวเองเล็กน้อยแล้วพูดออกไป “ เออ กูคงเมามากแล้วจริงๆ ” จากนั้นค่อยๆหลับตาลงปล่อยให้ความรู้สึกร้อนในอกดับไหม้ไปเอง ตอนที่จะเข้าเฝ้าพระอินทร์แล้วหลับยาว เสือกหูดีได้ยินอีก...

   “ ทำหน้าน่าฟัดขนาดนี้ ใครมันจะอดใจไหวว่ะ ”
 “ ขืนจูบมึงตอนนี้ กูกลัวว่าจะไม่หยุดที่จูบน่ะสิ เมียโง่เอ๊ย ”
   
   
   ห่า กับคนเมามึงยังจะหื่นได้อีก
   แต่พอได้ยินคำพูดหื่นกามของมันแล้ว พลันในตัวก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาพร้อมเสียงในอกที่ดังก้อง
ตึกตัก! ตึกตัก!!
 

   เพราะเบียร์สองกระป๋องแน่ๆ
 ...ใจเลยเต้นแรงเลย

หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: FusayaZaa ที่ 13-07-2016 19:28:47
******************
ค่อนข้างยาวยืดมหากาพย์จริงๆ ตอนต่อไปจะยาวประมาณเเละมากนี้นะคะ
ติชมได้น่าาาา

จะทยอยลงในทันตามเว็บอื่นๆน่าาา เนื้อหาค่อนข้างยาวนิดนึง (ไม่นิดล่ะ)

ขอบคุณค่าาาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-07-2016 21:15:41
ยาวโลดดดดดด ชอบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 13-07-2016 21:45:09
อุ่นนนนหวั่นไหวมากแล้วซินะ

แต่ทริปนี้พี่วินไม่ทำอะไรหรอกก เด๋วน้องอุ่นปั่นจักรยานไม่หวายยย
อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-07-2016 22:03:50
ชอบบบบ มาลงยาวววว ดีดี ดี :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
อุ่น นี่ดีนะ ดิน ลม ไฟ และวิน รุมรัก
อุ่น หวั่นไหวกับวินแล้ว ยอมรับสถานะ ของวิน - ผัวแล้ว
มียั่ววินด้วย น่ารักกกก
ปาย ดิน / ไต้ฝุ่น ลม / ไฟ เวียร์ /แฝด ฟราน
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 13-07-2016 22:39:32
โอ้ยยยยยยยยย หวั่นไหวมาก
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-07-2016 23:41:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-07-2016 23:00:19
บอกเลยปวดหัวแทนอุ่นจริงๆๆๆ555
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: por_pla4u ที่ 11-07-2018 17:10:12
ยังรออยู่กงนี้นะจ้ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 21-08-2018 07:12:10
 :hao5: :hao5: มาลงที่เล้าเถอะ!!!
หัวข้อ: Re: ☆นิเทศตัวร้ายกับสถาปัตย์อาร์ตตัวพ่อ☆ Ch.10 หน้า 6 [13/7/59] UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 30-09-2018 19:16:22
 :mew1: ขอบคุณค่ะ