พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: kritcha ที่ 28-06-2015 17:50:21

หัวข้อ: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 28-06-2015 17:50:21
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ





------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------












บทนำ : จดหมายที่ไม่ได้ถูกเปิดอ่าน




สวัสดี พิชญ์


นานแล้วที่ไม่ได้เขียนจดหมายมาถึง อยู่ทางนั้นเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคงสุขสบายดีนะ ทางนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว แม่เลยถักเสื้อไหมพรมอุ่นๆ ให้ แต่ไม่รู้จะเสร็จทันก่อนหายหนาวไหมนะ ก็อากาศเมืองไทยนี่หน่า จะหนาวได้สักกี่วันเชียว อยากรู้จังว่าทางนั้นจะหนาวไหม เขียนตอบกันบ้างนะ ฮะๆ


                                                                                                                                          รักเสมอ
                                                                                                                                           รุ่งรดิศ

   





               จอมแก้วมักจะตื่นเช้าเสมอ เพื่อทำอาหารเช้าให้สามี ดูแลเก็บกวาดบ้านช่องให้สะอาด ในตอนแรกเธอมองว่ามันเป็นหน้าที่ที่ภรรยาที่ดีควรทำ... แต่เมื่อเวลาผ่านไป เป็นเธอเองที่มีความสุขที่ได้ทำเช่นนี้ แม้ว่าพิชญะจะไม่เคยเรียกร้องมันเลย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็มักจะจูบที่แก้มของเธอเบาๆ เป็นการขอบคุณเสมอ และนั่นก็ทำให้เธอภูมิใจ


                 พิชญะและจอมแก้วแต่งงานกันมาได้สามเดือนแล้ว ชีวิตของคู่ข้าวใหม่ปลามันไม่ได้มีอะไรหวือหวา พิชญะเป็นคนเงียบขรึมจริงจัง ก่อนหน้านี้จอมแก้วมักจะค่อนขอดว่าเขาเป็นคนเก็บกด ซึ่งเมื่อคบกันไปนานๆ ก็พบว่าไม่ใช่ เป็นแค่ชายหนุ่มเจ้าระเบียบเท่านั้น


                 เมื่อทำอาหารเช้าเสร็จ จอมแก้วก็จะลากสายยางออกไปรดน้ำต้นไม้ สวนเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยต้นแก้ว ยามกลางคืนมันจะส่งกลิ่นหอมเข้ามาในบ้าน พิชญะปลูกมันไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะรู้จักกับเธอเสียอีก


               พอถึงเวลาเจ็ดโมงเช้า พิชญะจะออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพพร้อมไปทำงาน เขามักจะผูกเนคไทสีสุภาพ และใส่นาฬิกาที่เธอซื้อให้เสมอ หลังจากทานข้าวเสร็จจึงออกจากบ้านในเวลาเจ็ดโมงสามสิบนาที เป็นเช่นนี้ทุกวัน


               จอมแก้วเป็นแม่บ้าน เธอไม่ได้ออกไปทำงานตามที่ตกลงกันไว้กับพิชญะตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นฟรีแลนซ์รับงานวาดรูปจำพวกประกอบหนังสือเด็ก


               สักสิบโมงเช้า บุรุษไปรษณีย์ก็จะขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาในหมู่บ้าน หลายครั้งที่เขาจะมาเยี่ยมเยือนที่หน้าบ้านเธอ ปกติแล้วก็จะเป็นจดหมายธุรกรรมจากธนาคารหรือใบโฆษณา แต่ว่าวันนี้กลับมีซองจดหมายสีฟ้าอ่อนนวลตาแทรกอยู่ในจดหมายเหล่านั้น


               ซองจดหมายสีฟ้าอ่อนส่งกลิ่นหอมโชยออกมาบางเบา ชื่อผู้รับจ่าหน้าซองถึงพิชญ์... คงจะเป็นพิชญะ ลายมือสะอาดอ่านง่ายดูไม่ออกว่าเป็นลายมือของผู้หญิงหรือผู้ชาย ที่อยู่ผู้ส่งบ่งบอกว่ามาจากจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือที่อยู่เกือบสุดประเทศไทย


               รุ่งรดิศ  จอมแก้วนึกแปลกใจนิดหน่อย เท่าที่เธอจำได้พิชญะไม่มีเพื่อนที่ชื่อรุ่งรดิศ หรืออาจจะเป็นเพื่อนเก่า? เธอไม่ปล่อยให้ความสงสัยในครั้งนี้ต้องอยู่นาน เมื่อพิชญะกลับบ้านมาในเวลาหกโมงเย็น เธอจึงเอ่ยถามทันที


               “พี่พิชญ์คะ มีจดหมายส่งถึงพี่ จากคุณรุ่งรดิศ” เธอยื่นส่งจดหมายสีฟ้าไปให้ ไม่ทันได้เห็นความวูบไหวในแววตาของสามี “รุ่งรดิศคือใครเหรอคะ”


               “เพื่อนเก่าน่ะ” เขารับจดหมายนั้นมา คว้าไฟแช็กแล้วเดินออกนอกบ้าน


               พิชญะหยุดยืนอยู่หน้าพุ่มต้นแก้วที่งามที่สุด ก่อนจะจุดไฟ... ปล่อยให้เปลวไฟลามเลียซองกระดาษสีฟ้านั้นช้าๆ จนกระทั่งเป็นเถ้าถ่านในที่สุด


               จอมแก้วนิ่งอึ้ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพิชญะต้องเผาจดหมายฉบับนั้นทั้งๆ ที่ยังไม่แม้แต่จะเปิดอ่าน


               แต่พิชญะก็ไม่อธิบายอะไรแม้แต่คำเดียว




















-----------

รู้สึกจัดหน้ายากจังเลยค่ะ... สิงเล้ามาหลายปีแต่แทบไม่เคยตั้งกระทู้เลย
 

เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากนิยายเรื่องหนึ่งในเล้าค่ะ แต่จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว อ่านเมื่อหลายปีดีดักที่แล้ว ที่พระนายพกไดอารี่ของแฟนไปเที่ยวตามรอย


ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ^ ^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 28-06-2015 17:56:36
แสดงว่ารุ่งรดิศกับจอมแก้วต้องเคยมีความสัมพันธ์พิเศษกันแน่ๆ เลยครับ
ไม่ได้อ่านนิยายแบบนี้นานแล้ว นึกถึงเวลาอ่านเรื่องสั้นเมื่อยังวัยรุ่นเลย
ขอบคุณนะครับ รอติดตามต่อไป
 :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

Sarawatta
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-06-2015 18:26:37
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 10-07-2015 00:32:56
1
สวัสดี พิชญ์


               ช่วงนี้ใกล้จะถึงวันคริสต์มาสแล้ว ผู้หญิงที่ทำงานตื่นเต้นกันใหญ่ ปีนี้ได้หยุดยาวถึงปีใหม่ ผมเลยว่าจะพาแม่ไปภูทับเบิก แม่แอบบ่นนิดหน่อยว่าอยู่ภูแล้วยังจะไปเที่ยวภู แต่ก็ไม่ได้บ่นอะไรมาก ผมตัดสินใจช้าไปหน่อย กว่าจะหาที่พักได้ก็แทบแย่ จะไปนอนกลางเต็นท์เหมือนตอนที่เราไปด้วยกันแม่ก็คงไม่ไหว อีกอย่าง... พอไม่มีพิชญ์ ให้ผมตั้งเต็นท์เองก็คงไม่ไหวเหมือนกัน


               ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่าเนอะ ไว้ผมจะเขียนจดหมายมาหาใหม่นะ


                                                                                                                                           รักเสมอ                                                                                                   


                                                                                                                                            รุ่งรดิศ           





               วันนี้ไปรษณีย์ก็มาส่งจดหมายอีกแล้ว


                 จดหมายจากคนที่ชื่อ ‘รุ่งรดิศ’


                 จอมแก้วยื่นจดหมายให้พิชญะเหมือนทุกครั้ง และจดหมายสีฟ้าอ่อนนั้นก็จบลงด้วยการโดนเผาเช่นกัน


                 “ทำไมพี่พิชญ์ต้องเผาจดหมายพวกนี้ด้วยล่ะคะ”


                 แต่สามีของเธอไม่ยอมตอบคำถามอีกเช่นเคย









สวัสดี พิชญ์


                 วันนี้ที่ทำงานของผมมีพนักงานใหม่เข้ามาล่ะ อายุน้อยกว่าผมสักสองปีได้ เป็นผู้ชายตัวสูงหุ่นนายแบบ สาวๆ กรี๊ดกันใหญ่ หัวหน้าให้ผมคอยสอนงานให้เขา เขาเป็นคนหัวไวมาก พูดครั้งเดียวก็จำได้หมด


                 อ้อ เขาเป็นรุ่นน้องในมหาลัยเราด้วยล่ะ จบจากคณะเดียวกับผมเลย ไม่แน่พิชญ์อาจจะรู้จักกับเขาก็ได้นะ ก็พิขญ์รู้จักกับคนในคณะผมไปทั่วเลยนี่หน่า


                 เขาชื่อ ‘กานดิศ’ ชื่อเล่นชื่อ กานต์


                 ผมไม่รู้จักเขา แต่เหมือนเขาจะรู้จักผมล่ะ เล่นเอารู้สึกผิดนิดๆ เลย ก็ปกติจะมีพิชญ์คอยชี้ให้ว่าใครเป็นใคร ผมมันคนความจำสั้น จำคนได้ไม่เก่งอยากพิชญ์หรอก


                 พิชญ์... ผมคิดถึงพิชญ์


                                                                                                                                             รักเสมอ

                                                                                                                                              รุ่งรดิศ

   



              “การที่เราจะเผาจดหมายที่คนๆ หนึ่งส่งมาให้นี่มันเป็นเพราะอะไรกันนะ...”


                “อะไรของแก ยัยแก้ว”


                จอมแก้วนั่งคนกาฟอย่างเบื่อๆ อยู่กับเพื่อนสาว ถ้วยกาแฟสีสดใสไม่ได้ทำให้อารมณ์คนดื่มสดใสขึ้นมาแม้แต่กระผีกเดียว


                วีรดาเหลือบตาขึ้นมาจากนิตยสารแต่งบ้าน เห็นจอมแก้วถอนหายใจเฮือกใหญ่จึงตัดสินใจวางนิตยสารในมือลง


                “มีอะไร ว่ามาซิ”


                “ฉันถามว่าถ้าเราจะเผาจดหมาย มันเป็นเพราะอะไร”


                เธอทวนคำถามซ้ำ


                “คนบ้าอะไรจะมานั่งเผาจดหมาย ฉีกทิ้งลงถังขยะไม่ง่ายกว่าเหรอ”


                 คนตอบบอกอย่างไม่ใส่ใจ ทำเอาจอมแก้วค้อนขวับ


                 “ก็นั่นไง ฉันถึงได้ถามแกอยู่เนี่ย พี่พิชญ์เผาจดหมายจากคนๆ หนึ่งทุกฉบับเลย”


                 “ถึงขนาดมานั่งเผานี่คงแค้นมากล่ะมั้ง จดหมายจากแฟนเก่าหรือเปล่า เช็คดีๆ นะยัยแก้ว”


                 วีรดาพูดกลั้วหัวเราะ แต่จอมแก้วไม่สนุกด้วย


                “บ้า ชื่อคนส่งเป็นผู้ชายเหอะ จะเป็นแฟนเก่าไปได้ยังไง”


                “เอ้า! ไม่แน่หรอก พี่พิชญ์ของแกอาจจะเป็นไบก็ได้ ระวังไว้ให้ดีเถอะ สมัยนี้มองหน้าแล้วไม่รู้รสนิยมนะยะ”


                “เพ้อเจ้อ!”


              จอมแก้วคว่ำปากสวยๆ รู้สึกคิดผิดมากที่มาถามวีรดา


              “ไม่เชื่อแกก็คอยดูละกัน”













 :katai4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [10-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-07-2015 08:51:25
กี่ตอนจบเหรอคะ *-*
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [10-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 10-07-2015 11:23:00
นั่นซิ แค้นกันมากเหรอ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [10-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-07-2015 23:55:45
อ่า  ใจร้าย
ว่าแต่กี่ตอนจบคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [10-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 11-07-2015 09:21:12
จะกี่ตอนก็ช่าง ต่อไวๆก็พอ ค้าางงง T-T
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [10-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 11-07-2015 17:52:52
สวัสดี พิขญ์
   

               แปปๆ ก็วันวาเลนไทน์แล้ว สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ พิชญ์เป็นยังไงบ้าง วันนี้วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ผมเขียนก่อนเพราะกว่าจดหมายจะถึงคงวันที่ 14 พอดี หวังว่าพิชญ์จะมีความสุขดีนะ


               วาเลนไทน์ปีนี้ผมยังไม่มีแพลนอะไรเลย พิชญ์ว่าผมไปเที่ยวไหนดี ตรงกับวันเสาร์เสียด้วย ไปเที่ยวตามประสาชายโสดดีไหม? แต่เที่ยวคนเดียวผมก็เหงานะ ก็ตั้งแต่วันนั้น... จนป่านนี้ผมก็ยังไม่มีใครอีก
เอาเป็นว่าวันวาเลนไทน์ปีนี้ ผมขอให้ฝันเห็นพิชญ์ก็แล้วกัน
                                                                                                         

                                                                                                                                       รักเสมอ
                                                                                                                                        รุ่งรดิศ
   


                  “พี่พิชญ์คะ วันนี้วันวาเลนไทน์นะ จะไม่ออกไปไหนจริงๆ เหรอ”
   

               จอมแก้วเซ็งมาก เธออุตส่าห์ตื่นขึ้นมาแต่งตัวสวยๆ ตั้งแต่เช้า หวังว่าจะได้ออกไปเดทในวันแห่งความรัก แต่นี้อะไร คุณสามีกลับเอาแต่นั่งจ่อมดูทีวีอยู่หน้าโซฟา
   

               “เดี๋ยวอีกสักชั่วโมงละกันนะแก้ว สิบโมงกว่าค่อยไป”
   

               “ทำไมต้องอีกชั่วโมงนึงคะ เราออกไปตอนนี้จะได้ไปเดินเที่ยวก่อนกินข้าวเที่ยงไงคะพี่พิชญ์”
   

               พิชญะนิ่งเงียบ เผยสีหน้าลำบากใจออกมาวูบหนึ่ง


               “อีกชั่วโมงนึงก็ได้ค่ะ” จอมแก้วตาไวเห็นเข้าก็กลัวจะโดนโกรธที่ไปเซ้าซี้จึงตอบรับเสียงอ่อย


               สองสามีภรรยานั่งดูทีวีด้วยกัน จอมแก้วชวนคุยบ้างประปราย แต่ว่าพิชญะใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่
ทันทีที่แว่วเสียงมอเตอร์ไซค์ใกล้เข้ามา พิชญะก็ผุดลุกขึ้น สาวท้าวยาวๆ ออกไปนอกบ้าน เป็นบุรุษไปรษณีย์นั่นเอง


               “รอไปรษณีย์อยู่หรอกเหรอ... หรือว่าจดหมายนั่น”


               สัญชาตญาณของผู้หญิงเฉียบไวเสมอ พิชญะกลับเข้ามาพร้อมกับจดหมายต่างๆ หนึ่งในนั้นมีจดหมายสีฟ้าอ่อนอยู่ด้วย


               เธอคิดว่าเขาจะเอาจดหมายไปเผาอย่างเคย แต่กลับไม่ใช่ วันนี้พิชญะเปิดจดหมายนั้นออก นอกจากกระดาษจดหมายสีขาวที่พับอยู่ช้างในนั้นแล้ว ยังมีดอกกุหลาบทับแห้งที่เคลือบพลาสติกทำเป็นที่คั่นหนังสือ พิชญะหยิบดอกกุหลาบทับแห้งนั้นออกมา ก่อนจะหายขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้าน


               ทุกอย่างอยู่ในสายตาของจอมแก้ว เธอปราดตามขึ้นไปเงียบๆ เห็นพิชญะไขกุญแจเข้าไปในห้องเดียวของบ้านที่เธอไม่เคยเข้าไป ห้องที่พิชญะสั่ง ‘ห้าม’ ไปให้ใครเข้าไปยุ่มย่ามเด็ดขาด


               สักพักใหญ่ๆ ชายหนุ่มก็กลับออกมาพร้อมกับซองจดหมายซองเดิมที่ของข้างในหายไป เหลือแค่จดหมายแผ่นบางๆ และมันก็จบลงเช่นเดิม... การเผา
                  

               “พี่พิชญ์เก็บดอกกุหลาบทับแห้งนั่นไว้เหรอ... ทำไมกัน”
   

               ต้องสืบ!








               สวัสดี พิชญ์
               

               ช่วงนี้ผมส่งมาถี่ แอบเกรงใจเหมือนกัน แต่ผมมีเรื่องที่อยากจะเล่าให้พิชญ์ฟังตั้งหลายเรื่องนี่
สรุปแล้วเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาผมก็ออกไปดื่มกับเพื่อนที่ทำงานล่ะ มีคนตั้งชื่องานว่า งานคนโสด คือใครไม่โสดห้ามเข้า คนที่ไม่โสดแต่แฟนไม่ว่างเลยบ่นกันใหญ่


               พิชญ์... ถ้าผมบอกเรื่องนี้กับพิชญ์ พิขญ์ต้องว่าผมหลงตัวเองแน่เลย แต่สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือสำรองเลย ผมคิดว่า... กานดิศกำลังจีบผมล่ะ


               นี่พูดจริงๆ นะ พิชญ์ต้องแอบหัวเราะผมอยู่แน่เลย ก็เขาชอบซื้อของกินมาให้ ขับรถไปส่งบ้านบ้างล่ะ ชวนไปกินข้าวบ้างล่ะ ดูหนังบ้างล่ะ เขาทำอย่างกับผมเป็นผู้หญิงแน่ะ แต่ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ ถึงจะเป็นเกย์ก็เถอะ


               ตั้งแต่ไปดื่มกันวันนั้นเขาก็รุกผมหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าผมเมาแล้วหลุดพูดอะไรไปหรือเปล่า แต่ผมยังไม่หวั่นไหวกับเขาหรอก ก็ผมยังรักพิขญ์อยู่นี่


               พิชญ์... แต่ถ้าผมรักเขาขึ้นมาจริงๆ คุณจะโกรธผมไหม?



                                                                                                                                        รักเสมอ


                                                                                                                                         รุ่งรดิศ








               ช่วงหลังมานี้จดหมายถูกส่งมาถี่ขึ้น แต่ว่าจอมแก้วไม่เคยเห็นพิชญะเข้าไปในห้องนั้นอีกเลย ไม่สิ มีเข้าไปทำความสะอาดตอนวันอาทิตย์เหมือนปกติ


               แถมวันนี้ยังเป็นวันดี... วันที่จอมแก้วแอบเอากุญแจมาจากห้องทำงานของสามีได้ หลังจากรับจดหมายจากไปรษณีย์มาแล้ว เธอก็จัดแจงไขกุญแจเข้าไปทันที


               สภาพภายในห้องดูธรรมดาผิดคาด เป็นห้องนอนของผู้ชายธรรมดาๆ มีโปสเตอร์นักบอลติดอยู่ที่หัวเตียง โต๊ะริมหน้าต่างมีหนังสือตั้งเรียงเป็นระเบียบ โคมไฟอันเล็ก โน้ตบุ๊ค กล่องปากกา แล้วก็กรอบรูปที่ถูกคว่ำไว้


               จอมแก้วหยิบมันขึ้นมาทันที


               “นี่มันพี่พิชญ์กับ... ใครกัน... หรือว่าจะเป็นรุ่งรดิศ?”


               ในภาพถ่ายคือผู้ชายสองคนบนดอยไหนสักแห่ง ทั้งสองคนสวมเสื้อไหมพรม คนหนึ่งเป็นคนที่เธอคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่อีกคนเธอไม่เคยเห็นหน้า


               คนที่เธอคิดว่าคือรุ่งรดิศ มีผมหยักศกสีดำขลับ ส่วนสูงน้อยกว่าคนข้างๆ ประมาณสิบเซ็น ทั้งสองคนยิ้มกว้างให้กล้องอย่างมีความสุข รุ่งรดิศตาเล็กหยีลงเมื่อยิ้ม ถึงกระนั้นแค่มองก็รู้ว่าเป็นคนตาสวย ข้างแก้มซ้ายมีลักยิ้มจางๆ ส่วนพี่พิชญ์ของเธอก็ยิ้มกว้างแบบที่เธอไม่เคยเห็นเช่นกัน


               ไม่ต้องโอบกอด ไม่ต้องแนบชิบ คนสองคนแค่ยืนเคียงข้างกัน ระยะห่างระหว่างไหล่นั้นเมื่อพิจารณาดูจึงจะรู้สึกว่าค่อนข้างใกล้กันกว่าเพื่อนกันทั่วไป เป็นภาพความทรงจำที่อบอวลไปด้วยความสุข


               จอมแก้วคว่ำกรอบรูปเก็บไว้ทีเดิม และออกจากห้องมาด้วยความรู้สึกที่ตกค้างในใจ


























 :katai4:
ปั่นเสร็จก็เอามาลงเลย แต่ละตอนสั้นไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ จริงๆ ก็ไม่ได้แบ่งตอนชัดเจนหรอกค่ะ ก็จะเป็น จดหมายจากรุ่งรดิศ สลับกับจอมแก้วไปเรื่อยๆ เรื่องนี้จริงๆแล้วหลักๆจะเน้นไปที่่เรื่องของรุ่งรดิศผ่านทางจดหมายที่ส่งมาให้พิชญ์ค่ะ อาจจะไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรมากเพราะมันเป็นแค่จดหมายที่บอกสิ่งที่รุ่งรดิศอยากเล่า

ส่วนเรื่องกว่ากี่ตอนจบนั้น... ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ว่าไม่เยอะแน่นอน เพราะตั้งใจจะให้เป็นเรื่องสั้นๆ นี่แหละค่ะ อาจจะแอบรวบรัดตัดความไปบ้าง จะพยายามแต่งให้จบภายในเดือนนี้ค่ะ เดี๋ยวจะเปิดเทอมแล้วว

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [11-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-07-2015 20:59:45
หน่วง  จะร้องไห้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [11-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 11-07-2015 21:02:51
โอ่ยยยย น้ำตาแตก คือหน่วงเกิน :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [11-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: princeofdark ที่ 11-07-2015 21:41:30
 :z6: พิชญ์อ่านบ้างก็ได้เน้อ เผาทิ้งคนส่งรู้เสียใจแย่เลย
แอบสงสารคุณภรรยานิดๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [11-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 12-07-2015 10:32:47
โอม จงลงทุกวัน เพี้ยงงงงงง!!!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [11-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 12-07-2015 11:16:20
ขอโทษทีครับ ลืมเข้ามาดู พลาดไปหลายตอนเลย อยากรู้จังว่าสามีจอมแก้วกับรุ่งรดิศโกรธอะไรกันถึงเป็นแบบนี้
แต่มาแต่งงานกับผู้ใหญิงที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยทำไมหนอ แล้วทำไมรุ่งรดิศถึงต้องส่งจดหมายมาบ่อยๆ ขนาดนี้
รุ่งรดิศไม่รู้หรือว่าพิชญ์มีภรรยาแล้ว น่าตื่นเต้นจัง อยากรู้ความลับนั้นจังเลย

Sarawatta
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [11-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-07-2015 11:21:56
ไม่รู้ว่าจิตใจของพิชญ์์จะยังไง
แต่รู้สึกสงสารแก้วขึ้นมาจับใจ
เพราะรุ่งรดิศเองก็ดูมีความสุขดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [12-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 12-07-2015 21:01:06
สวัสดี พิชญ์


               เมื่อวันก่อนผมลงไปกรุงเทพมา ติดต่อเรื่องงานน่ะ ผมแวะไปบ้านพิชญ์มาด้วย แต่ไม่มีคนอยู่บ้าน ผมเลยหย่อนจดหมายทิ้งไว้ในตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน ฝุ่นเขลอะเชียว ไม่รู้ว่าได้ใช้กันบ้างหรือเปล่า ผมยังคิดอยู่เลยว่าถ้าเกิดไม่เห็นกันจะทำยังไง ผมเลยส่งจดหมายฉบับนี้มาอีกฉบับ


               อีกสามเดือนจะถึงวันนั้นอีกแล้ว ผมยังคิดอยู่ว่าจะไปค้างบ้านพิชญ์เหมือนเดิมดีไหม ผมคิดถึงห้องของเรา... แต่ผมก็เกรงใจ ได้ข่าวว่าแต่งงานแล้วด้วย ผมไม่ได้ไปร่วมงานแต่งเพราะช่วงนั้นกำลังย้ายบ้าน เลยไม่เห็นการ์ดเชิญที่ส่งมา กว่าจะรู้ก็ผ่านไปซะแล้ว อยากจะไปขอโทษด้วยตัวเองแต่ยังไม่มีโอกาส


               ส่วนเรื่องกานดิศ... เขายอมรับมาตรงๆ แล้วว่าจีบผมอยู่ แต่ผมก็บอกเขาไปตรงๆ เหมือนกันว่าผมยังลืมพิชญ์ไม่ได้ ในเมื่อเขารู้ว่าผมเป็นรุ่นพี่คณะเดียวกันกับเขา เขาก็น่าจะรู้เรื่องของเราอยู่แล้วเหมือนกัน


               พอบอกไปอย่างนั้น หมอนั่นก็เงียบหายไป ไม่มายุ่งกับผมได้สามสี่วันแล้ว ผมควรจะดีใจใช่ไหม


               พิชญ์... มันควรจะเป็นอย่างนั้นสิ ทำไมผมถึงเสียใจล่ะ
                           

                                                                                                                                                  รักเสมอ
                  
                                                                                                                                                   รุ่งรดิศ



               วันนี้พิชญะไม่จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลา แต่เขาก็ยังไม่กลับบ้าน เพราะว่าเพื่อนๆ ในกลุ่มนัดสังสรรค์กัน จึงอยู่จัดการเอกสารไปพลางรอให้ถึงเวลานัด 


               ตอนแรกจอมแก้วจะมาด้วย แต่พอเขาบอกว่ามีแต่คนคุ้นหน้าคุ้นตา ประกอบกับวันนี้ละครหลังข่าวถึงตอนอวสาน เธอจึงตัดสินใจอยู่บ้าน ซึ่งพิชญะก็สัญญาไว้ว่าจะกลับบ้านก่อนเที่ยงคืน


               หนึ่งทุ่มครึ่ง พิชญะมาถึงที่นัดพบ เป็นร้านอาหารชื่อดังที่มีห้องคาราโอเกะ เขาแจ้งชื่อเพื่อนที่เป็นคนจองห้องกับพนักงาน ที่เหลือก็แค่เดินตามพนักงานไป


               ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เสียงร้องเพลงเพี้ยนๆ กับเสียงโหวกเหวกโวยวายก็กระแทกเข้าโสตสัมผัส มีคนอยู่ในห้องแล้วห้าคน


               “เพื่อนยะมาแล้วเว้ยยยย ปรบมือต้อนรับเร็วววว”


               จักรินพูดออกไมค์ เพื่อนคนอื่นๆ ก็รับมุขปรบมือกันเกรียวกราว พิชญะหลุดอมยิ้มพลางแสร้งส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ


               “มานั่งๆ จัดสำรับให้เสี่ยยะหน่อยครับ น้ำเปล่า เหล้า โค้ก เอาอะไรดีครับเพื่อนยะ”


               “โค้ก”


               จักรินสละไมค์ให้เพื่อนคนอื่น ส่วนตัวเองมานั่งคุยกับคนที่มาใหม่


               “น้องแก้วไม่มาด้วยเหรอวะ โธ่ อดเจอหน้าน้องแก้วคนสวยเลย”


               “จะแต่งงานอยู่แล้วทำมาพูด”


               จักรินมีแผนจะแต่งงานกับแฟนสาวที่คบกันมาหลายปีในอีกสองเดือนข้างหน้า วันนี้ที่นัดมาเจอกันก็เพราะว่าจะแจกการ์ดเชิญ เขาหยิบซองการ์ดส่งให้พิชญะสองใบ


               “ฝากส่งให้รุ่งด้วย มึงมีที่อยู่รุ่งใช่มะ”


               “อือ... ได้ เดี๋ยวส่งให้”


               พิชญะรับซองการ์ดมาเก็บใส่กระเป๋าทำงาน ช่วงนี้คนรอบตัวเขาแต่งงานกันถี่เหมือนแต่งตามกระแส ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนมหาลัย แต่ก็ไม่น่าแปลกสำหรับผู้ชายวัยเหยียบสามสิบที่เพื่อนๆ จะแต่งงานกันระลอกแรกช่วงนี้


             เขาก็เป็นหนึ่งในนั้น
   

               “แล้วรุ่งยังส่งจดหมายมาอยู่ไหม เห็นบอกหายไปช่วงหนึ่งนี่”
   

               “อือ ส่งก็ส่งมาเรื่อยๆ แต่กูไม่ได้เปิดอ่านหรอก”
   

               “กูเห็นแล้วสงสารแทนว่ะ ไม่รู้ว่าจะทำใจได้เมื่อไหร่”
   

               “ไม่ใช่ว่าทำใจไม่ได้ แต่เขาไม่คิดจะทำใจ แล้วก็ไม่คิดจะลืม”
   

               พิชญะบอกทิ้งท้าย ก่อนที่พวกเขาจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาไป

   







               จอมแก้วมองสามีเอาการ์ดเชิญงานแต่งของจักรินใส่ซองแล้วเขียนที่อยู่ผู้รับ แอบเดินโฉบไปส่องดูก็พบว่าชื่อปลายทางคือรุ่งรดิศ


               เธอหมายมั่นปั้นมือทันทีว่าเดี๋ยวต้องโทรไปหาจักริน
   

               ไม่รอช้า ในเช้าวันถัดมา ทันทีที่พิชญะออกจากบ้าน จอมแก้วก็จัดแจงโทรหาจักรินทันที
   

               “สวัสดีค่ะ พี่จักร นี่จอมแก้วนะคะ”
   

               จอมแก้วกรอกเสียงลงไปทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย
   

               “อ้าว น้องแก้ว โทรมาแต่เช้าเชียว มีอะไรเหรอ”
   

               จักรินเสียงยังงัวเงียเหมือนโดนปลุกมารับสาย ด้วยความที่ทำงานอิสระเลยมักจะตื่นสายเสมอ
   

               “แก้วโทรมาปลุกเหรอคะ ขอโทษด้วยนะคะพี่จักร... แก้ว แก้วตื่นเต้นไปหน่อย”
   

               “ไม่เป็นไรๆ ตื่นเต้นเรื่องอะไรเนี่ย ไหนว่ามาซิ”
   

               “พี่จักรรู้จักรุ่งรดิศใช่ไหมคะ เขาคือใครเหรอคะ เกี่ยวข้องยังไงกับพี่พิขญ์”
   

               “อ่าว ก็แฟนไอ้พ... เดี๋ยวนะ แปปนึง ขอจูนสติตัวเองแปป หมายถึงว่าเกี่ยวยังไงกับไอ้ยะใช่ไหม”
   

               จักรินแอบงงนิดหน่อยเมื่อมีชื่อพิขญ์หลุดออกมา
   

               “ค่ะพี่”
   

               “น้องแก้วไม่รู้จักไอ้รุ่งเหรอเนี่ย ถ้าไอ้ยะมันไม่ได้เล่าอะไรให้น้องแก้วฟังพี่ก็คงพูดอะไรไม่ได้มาก”
   

               “แต่ว่าจดหมาย...”
   

              “ขอโทษด้วยนะน้องแก้ว แต่ถ้าอยากรู้อะไรมากกว่านี้ก็ถามไอ้ยะมันเองเถอะ เรื่องนี้มันพูดยาก แต่ถ้าน้องแก้วกังวลเรื่องชู้สาว พี่ก็บอกได้แค่ว่าน้องแก้วไม่ต้องเป็นห่วง สองคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกันในเชิงนั้นแน่นอน”
   

               ไม่นึกว่าจักรินจะจับความรู้สึกเธอได้ จอมแก้วอายจนหน้าร้อนผ่าว มีผู้หญิงที่ไหนบ้างสงสัยว่าสามีตัวเองจะมีซัมติงกับผู้ชายอื่น เป็นเพราะยัยวิแท้ๆ เชียว
   

               แล้วรูปถ่ายนั่น...
   

               “พี่คะ แล้วเรื่อง...” จอมแก้วชะงักไป รูปถ่ายนั้นเธอแอบเข้าไปในห้องห้องนั้นถึงได้เห็น ถ้าถามออกไป เกิดพี่จักรเอาไปบอกพี่พิชญ์ต่อเข้าล่ะก็...
   

               “ครับ?”
   

               “ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ขอบคุณพี่จักรมากๆ นะคะ ขอโทษด้วยที่โทรมารบกวน”
   

               “ไม่เป็นไรๆ”
   

               จักรินวางสายไปแล้ว...
   

               จอมแก้วยังคงครุ่นคิดอยู่ เมื่อกี้ตอนแรกจักรินหลุดคำว่าแฟนออกมา แต่ตอนหลังบอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแน่นอน ถ้าอย่างนั้นทำไมตอนแรกถึงหลุดคำว่าแฟนออกมา ถ้าไม่ได้เป็นแฟนพี่พิชญ์ก็แสดงว่าเป็นแฟนคนอื่นเหรอ หรือจะเป็นแฟนของแฟนเก่าพี่พิชญ์ ไหนจะรูปนั้นอีก หรือเรื่องรูปเราจะคิดมากไปเอง?
   

               จอมแก้วตัดสินใจ เธอคบกับพิชญะมาตั้งแต่เธอเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ตลอดเวลาสี่ห้าปีที่คบกันมา พิชญะไม่เคยวอกแวก ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงมาพัวพัน เขาพิสูจน์ตัวเองให้เธอเห็นมาแล้ว เธอควรจะเชื่อใจคนของเธอมากกว่ามานั่งระแวงกันแบบนี้ เพราะฉะนั้น...


               คิดมากไปก็ปวดหัว เลิกคิดดีกว่า



























------
มาต่อแล้วค่ะะะ เขียนได้ไวก็ลงไว แต่พรุ่งนี้ไม่ว่าง อาจจะไม่ได้มาต่อนะคะ
ตอนนี้ใบ้ๆอะไรไปบ้างแล้ว พอจะเดาออกกันบ้างไหมเนี่ย เดี๋ยวตอนหน้าจะเข้าจุดสำคัญแล้วค่ะ บอกแล้วว่าเรื่องนี้สั้นๆ แต่ยังไม่ใช่ตอนจบนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านแล้วก็มาคอมเม้นด้วยนะคะ  :pig4:

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [12-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 12-07-2015 21:07:05
 :m15: เดาไม่ออกเลยครับ แต่แปลกใจที่พิชญ์พูดว่าเขาไม่อยากลืม มันยังไงกัน
แสดงว่าพิชญ์ก็รู้อยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นกำลังทำใจแต่ไม่อยากลืม
รอตอนต่อไปครับ เผื่อจะได้เงื่อนงำอะไรเพิ่มขึ้นอีก

Sarawatta
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [12-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-07-2015 23:40:38
มันก็หลายปีแลเวใช่ไหม
แต่รุ่งก็เพียรส่งจดหมายมาหา
รุ่งคงอยากเปิดใจเหมือนกัน  แต่ทำไม่ได้จริงๆ เข้าใจเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [12-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 13-07-2015 01:29:22
มีคนบอกเราสปอยมากไป งั้นลบแปป55
-------------------
โอ๊ย งานเดาก็มา....เราอ่านแล้วเราสัมผัสได้ถึงความเหงา ความเศร้า
และความอ้างว้าง เดียวดาย ของรุ่งรดิศได้ทุกตอนในจดหมายเลย
เราเลยคิดว่าเบื้องหลังของจดหมายแต่ละฉบับต้องมีเรื่องน่าเศร้า
มีเรื่องราวที่ไม่อยากจะลืม แต่ก็ไม่อยากจดจำอยู่แน่ๆ โอ๊ย..น่าสงสารอ่ะ
อินไปแล้ว ซับน้ำตาแปปค่ะ  :hao5:
เราเดามั่วไปแล้ว มาต่อไวๆนะคะ เรารออยู่ววววว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [12-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 13-07-2015 07:39:03
เฮ้ยยยย สปอยได้หมดจดมาก หวังว่า คนเขียนจะไม่เปลี่ยนแนวเรื่องหนีสปอยจนนิยายเพี้ยนนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [12-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 13-07-2015 12:46:58
มาตอนสปอยถูกเปลี่ยนไปแล้ว
แต่ไม่เป็นไรรอลุ้นต่อไปดีกว่า

แต่ที่ยะพูดกับจักร แล้วที่จักพูดกับแก้ว
หรือยะจะมีแฝด แต่ทำไมเพื่ิอนๆเรียกยะ
แล้วรุ่งรดิศเรียกพิชญ์ แก้วเองก็เรียกพี่พิชญ์
แถมคบกับแก้วมาตั้ง 5 ปี หรือพิชญ์ความจำเสื่อม

555 เดาไปทั่วเลยเรา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [12-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 13-07-2015 22:39:15
สวัสดี พิชญ์


               วันนี้ผมได้รับการ์ดเชิญงานแต่งของจักรินแล้ว ต้องขอบคุณยะที่คอยเป็นธุระส่งมาให้ งานแต่งจะจัดช่วงต้นเดือนมิถุนา งานนี้ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องไปให้ได้ เพราะไม่รู้จักรไปหาเบอร์โทรผมมาจากไหน โทรมากำชับกำชาใหญ่เลยว่ายังไงก็ต้องมาร่วมงานให้ได้ ผมก็บอกไปว่างานนี้รับรองว่าผมไม่พลาดแน่ เพราะผมจะเอาของไปแสดงความยินดีทั้งจักรทั้งยะเลย


                 เวลาแต่ละวัน จะว่าผ่านไปช้าก็ดูช้า จะว่าผ่านไปเร็วก็ดูเร็ว แปปๆ เพื่อนๆ ก็เริ่มทยอยกันแต่งงานแล้ว ผมยังจำวันที่เราเพิ่งเข้ามหาลัยได้อยู่เลย ยังจำได้ว่าเราดีใจกันขนาดไหน เราตื่นเต้นกันแค่ไหนที่จะกลายเป็นเด็กมหาลัย ต้องจากบ้านไปอยู่หอ


                 แต่ผมจำไม่ได้... วันที่ผมเรียนจบ วันที่รับปริญญา ผมไม่มีภาพถ่ายอยู่ที่ตัวเองเลยสักใบ


                 เพราะผมไม่ต้องการเห็นภาพที่ผมไม่มีพิชญ์อยู่เคียงข้างอีกต่อไป


                                                                                                                                            รักเสมอ

                                                                                                                                             รุ่งรดิศ





สวัสดี พิชญ์


               พิชญ์ช่วยผมหน่อย... ผมควรจะทำยังไงดี


                 กานดิศส่งคลิปมาให้ผม เล่นกีตาร์ร้องเพลงส่งมาให้ คือเนื้อเพลงมันประมาณว่าขอโอกาสให้เขาได้ไหม


                 แล้วช่วงนี้ทุกเช้าก็ชอบเอาลูกอมมาหย่อนไว้สองสามเม็ด ลูกอมฮาร์ทบีทน่ะ พิชญ์ ผมเป็นผู้ชายอายุจะสามสิบแล้วนะ ไม่ใช่เด็กวัยรุ่น แถมตอนเป็นวัยรุ่น เราก็ไม่เคยจีบกันแบบนี้ด้วย


               พิชญ์ ผมรับมือไม่ถูก ทำตัวไม่ถูก ผม... เขิน


                                                                                                                                           รักเสมอ

                                                                                                                                            รุ่งรดิศ
   




   สวัสดี พิชญ์


                 สุขสันต์วันสงกรานต์ครับผม สงกรานต์วนมาถึงอีกแล้ว ปีนี้ก็ร้อนมากเหมือนเคย แต่ปีนี้ผมได้ออกไปเล่นสาดน้ำหลังจากที่ไม่ได้เล่นมานาน...  คือ... กานต์ชวนผมน่ะ


                 จากฉบับที่แล้วที่ผมพร่ำเพ้อให้พิชญ์ฟัง (มานึกๆ ดูแล้วโคตรน่าอายเลยอะพิชญ์) หลังจากนั้นผมก็ตกลงกับกานต์ว่าขอดูใจกันก่อน แม่ก็แซวนะว่าผมเล่นตัว แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย ผมยังไม่พร้อมจะคบเขาเป็นแฟนจริงๆ นี่


                 พิชญ์... ผมกำลังรักษาสัญญาของเรานะ ผมจะมีความสุข


                 เพราะฉะนั้น... ผมรักเขาได้ใช่ไหม?


                                                                                                                                            รักเสมอ

                                                                                                                                             รุ่งรดิศ






สวัสดีพิชญ์


                 วันนี้หยุดวันแรงงาน ผมกับกานต์เลยออกไปปั่นจักรยานเที่ยวกัน แดดเมืองไทยนี่ไม่ไหวจะเพลียมากเลยพิชญ์ (เหมือนที่พิชญ์ชอบพูดบ่อยๆ) ขนาดผมออกจากบ้านตั้งแต่เช้า สักสายๆ ยังไม่ทันเที่ยงก็เผ่นกันกลับบ้านแล้ว วันนี้กานต์ทำอาหารเที่ยงให้ผมกับแม่ชิมดู ฝีมือดีมากเลย ไม่เหมือนพิชญ์ ขนาดไข่เจียวยังทอดให้ไหม้ได้ ฮ่าๆ


                 ถึงพิชญ์จะเคยพูดไว้ว่า พิชญ์ไม่ต้องทอดไข่เจียวเป็นก็ได้ เพราะผมทอดเป็น แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่กับพิชญ์ พิชญ์ทอดไข่เจียวกินเองได้หรือเปล่า? 


                 ทำไมผมชอบมาทำเครียดใส่พิชญ์เนี่ย ไม่เอา เปลี่ยนเรื่องดีกว่า เดี๋ยวเกิดผมมีรอยย่นตรงหว่างคิ้วขึ้นมา พิชญ์จะหัวเราะเยาะผมเอา ผมมีข่าวดีจะมาบอกล่ะ พิชญ์จำน้องขวัญได้ไหม หลานยายขายผักในตลาดน่ะ ปีนี้น้องขวัญเข้ามหาลัยแล้วนะ ส่วนคุณยายก็ยังสุขภาพแข็งแรงดี พอดีเมื่อสามสี่วันก่อนผมบังเอิญเจอเข้าน่ะ คุณยายเลิกขายผักแล้วเพราะแม่น้องขวัญเขาเลิกทำงานในกรุงเทพ กลับมาทำงานที่นี่แทน แปลกที่พอกลับมาทำงานที่นี่กลับกลายเป็นว่ามีเงินเก็บมากกว่าตอนลงไปทำงานในเมืองเสียอีก คงเพราะลดรายจ่ายไปล่ะมั้ง


                 พูดมาเยอะเลย ผมเริ่มเมื่อยมือแล้วล่ะ จดหมายฉบับนี้ขอพอแค่นี้แล้วกัน


                                                                                                                                            รักเสมอ

                                                                                                                                             รุ่งรดิศ 












                 เวลาล่วงเข้าสู่กลางเดือนพฤษภาคมอย่างรวดเร็วจนน่าประหลาดใจในความรู้สึกของจอมแก้ว เธอเพิ่งนึกได้ว่าเข้าหน้าฝนแล้วก็ตอนที่ฝนตกหนักในวันนี้เอง


                 พิชญะยังกลับไม่ถึงบ้านทั้งๆ ที่ใกล้จะสองทุ่ม เขาโทรมาบอกว่ากำลังติดอยู่กลางทาง คล้ายถนนหนทางจะเป็นอัมพาตเพราะรถไม่ขยับมาครึ่งชั่วโมงแล้ว นั่นทำให้จอมแก้วนึกเป็นห่วงนิดหน่อย
   

                 เธอนั่งดูทีวีอยู่ในห้องรับแขก ไม่วายเหลือบมองนาฬิกาเป็นระยะ  มื้อเย็นที่เธอทำทิ้งไว้ชืดหมดแล้ว จอมแก้วจึงตัดสินใจไปอุ่นอาหาร กะเวลาดูแล้วว่าพิชญะน่าจะกลับมาถึงพอดีกัน
   

                 กิ๊งก่อง~
   

                 เสียงกริ่งดังขึ้นอย่างผิดวิสัย แม้จอมแก้วจะสงสัยแต่เธอก็รีบวิ่งออกมาจากห้องครัว ใจคิดว่าเป็นสามีกลับถึงบ้านแล้วแน่นอน
   

                 “พี่พิชญ์ลืมเอากุญแจบ้านไปหรือไงนะ”
   

                 เธอเปิดประตูบ้าน มองออกไปที่รั้วเห็นแต่ความมืดกับสายฝน ไม่มีรถของพิชญะอยู่ข้างนอกนั้น เธอหยิบร่มและเดินออกไปที่รั้ว
   

                 เมื่อเข้าใกล้รั้วมากขึ้น เธอก็พบว่ามีคนๆ หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูเหล็กบานเล็กด้านข้าง เธอจึงส่งเสียงเรียก
   

                 “นั่นใครคะ?”
   

                 “พิชญ์... พิชญะอยู่ไหมครับ”
   

                 “พี่พิชญ์ยังไม่กลับค่ะ”


                 เมื่อหลุดปากพูดออกไป เธอก็รู้ตัวว่าพลาดไปเสียแล้ว มีอย่างที่ไหนไปบอกใครก็ไม่รู้ว่าสามีตัวเองไม่อยู่บ้าน เกิดอีกฝ่ายปีนเข้ามาทำมิดีมิร้ายเธอขึ้นมาไม่แย่หรอกเหรอ


                 “เขาจะกลับเมื่อไหร่ครับ ผม... มีธุระกับเขา”
   

                 “ใกล้จะกลับมาแล้วค่ะ เอ่อ... คือ ฉันคงเชิญคุณเข้าบ้านไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะ”
   

                 “ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าไม่รบกวนเกินไป... ผมขอยืมร่มหน่อยได้ไหมครับ”
   

                 เสียงทุ้มนั่นเอ่ยขอ จอมแก้วรีบกลับไปหยิบร่มอีกคันมาให้แขกยามวิกาลทันที
   

                 ชายคนนั้นรับร่มที่ถูกส่งผ่านซี่เหล็กประตูและกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ จอมแก้วเห็นเนื้อตัวเขาเปียกปอนไปหมด แม้แต่กระเป๋าที่อีกฝ่ายหิ้วมาก็ฉ่ำไปด้วยน้ำฝน
   

                 “คุณชื่ออะไรคะ เดี๋ยวฉันจะโทรบอกพี่พิชญ์ให้”
   

                 เขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอ เมื่ออยู่ใต้ร่มและไม่โดนฝนซัดใส่หน้า จอมแก้วก็ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ เป็นครั้งแรก
   

                 “รุ่งครับ ผมชื่อรุ่งรดิศ”









-------------------
13/07/15

ตอนนี้สั้นหน่อย(ที่จริงก็สั้นทุกตอน) ยังไม่ถึงจุดสำคัญแฮะ งั้นตอนหน้าละกันนะคะ  :katai4:

อ่านคอมเม้นแล้วอยากรู้เลยค่ะว่าคุณ Autonomyz สปอยล์ไว้ว่าอะไร มาไม่ทัน

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ  :กอด1: :pig4:

16/07/15

ต่อสั้นๆ ค่ะ เขียนตรงส่วนนี้เสร็จแล้วคิดว่าเอามาใส่ไว้ท้ายตอนตรงนี้ดีกว่า

ส่วนตอนหน้าขอเวลาบิ๊วอารมณ์ตัวเองแปปนึงนะคะ ฟิลล์ยังไม่ได้กลัวเขียนแล้วออกมาไม่ดี

 :katai4: :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [13-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 13-07-2015 22:46:17
ว่าแล้ว....เอาเป็นว่าเราจะมาเฉลยสปอยที่เราลบไปตอนที่คนเขียนลงนิยายจบนะคะ555
คนเขียนจะได้ไม่ค้างคาใจ 555
และจะได้ไม่สปอยคนอื่นไปด้วย เอิ้กๆ

พิชญ์กับพิชญะเป็นอะไรกันแน่นะ~
เรารอฟังความจริงจากนักสืบแก้วอยู่นะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [13-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-07-2015 22:56:09
 :katai5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [13-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 14-07-2015 04:15:32
เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างแต่ยังไม่ฟันธงแล้วกัน กลัวพลาด 55555555 แต่ว่าชอบภรรยาคุณพิชญจังเลยค่ะ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [13-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 14-07-2015 23:01:36
ยังคงรอว์ ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเหมือนเดิม T-t
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [13-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-07-2015 14:48:44
รุ่งรดิศเปิดใจแล้วนะพิชญ์
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [13-07-58]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 15-07-2015 22:57:09
เงียบหายไปเรยยยยย นี่วันนึงแล้วนะเธอวววว์
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [16-07-58] สั้นๆ reply เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-07-2015 00:29:52
เฉลยเรื่องแล้ว เย่ๆ  รอๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [16-07-58] สั้นๆ reply เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-07-2015 09:31:27
รอเรื่องนี้ด้วยใจจดจ่อ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [16-07-58] สั้นๆ reply เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 16-07-2015 10:45:55
รอเฉลยด้วยคนครับ เป็นเรื่องที่เรียบๆ ง่ายๆ แต่ก็แฝงด้วยเสน่ห์ ผมชอบเรื่องแบบนี้ครับ (ปกติชอบอ่านอะไรเรียบๆ)
ปริศนาระหว่างพิชญ์กับพิชญะ มันยังไงน้าาาา มาต่อเร็วๆ นะครับ

Sarawatta
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [16-07-58] สั้นๆ reply เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 17-07-2015 14:42:29
สองวันผ่านไป.......
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [18-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 18-07-2015 00:43:08
               หลังจากฝ่าฟันกับการจราจรบนท้องถนนมากว่าสองชั่วโมง ในที่สุดพิชญะก็กลับมาถึงบ้านจนได้ เขาจึงไม่ได้รับโทรศัพท์ของจอมแก้วที่โทรเข้ามา แต่พอถึงบ้านเขาก็ต้องงุนงงปนตกใจเมื่อเห็นคนที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าบ้านของเขา แม้จะไม่ได้เจอกันนานมาก แถมทางนั้นยังมีร่มบังหน้าอยู่ แต่เขาก็จำได้ว่าอีกฝ่ายคือรุ่งรดิศ
   

               พิชญะจอดรถไว้หน้าบ้าน เมื่อล็อครถเรียบร้อยเขาก็เดินจ้ำไปหารุ่งรดิศก่อนจะลากแขนอีกฝ่ายเข้ามาในบ้าน
   

               “มึงมาได้ยังไง มีอะไรหรือเปล่า ทำไมจู่ๆ ก็มากะทันหันอย่างนี้ ไม่โทรมาบอกก่อน”
   

               เขาถามเป็นชุด ยิ่งได้เห็นหน้ารุ่งรดิศแบบเต็มตายิ่งร้อนรน เพราะรุ่งรดิศดูหม่นหมอง เศร้า... และเจ็บปวด
   

               “ผม... คิดถึงพิชญ์”
   

               ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่ว ดวงตาคู่สวยนั้นมีความวูบไหวอยู่ภายใน
   

               จอมแก้วมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่พี่พิชญ์ของเธอร้อนรนขนาดนี้คือเมื่อไหร่ ยิ่งอีกฝ่ายคือรุ่งรดิศคนนั้นด้วยแล้ว
   

               เธอควรจะหึงไหม? หรือควรจะเป็นห่วงดี?
   

               “พี่พิชญ์คะ” เธอตัดสินใจส่งเสียงขัด “ให้คุณรุ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วค่อยคุยกันเถอะค่ะ เปียกขนาดนี้เดี๋ยวจะจับไข้ซะก่อน”
   

               “จริงด้วย” พิชญะเห็นด้วยดังภรรยาว่า ตัวของรุ่งรดิศเย็นเฉียบจากการตากฝนจนน่ากลัว “มึงใช้ห้องเดิมได้เลย กูทำความสะอาดไว้ตลอด เอากุญแจมาใช่ไหม”
   

               “อือ ขอบใจนะ”
   

               รุ่งรดิศเดินขึ้นชั้นสองอย่างคุ้นเคยโดยไม่ต้องให้ใครนำ จอมแก้วมองตามตาแทบถลนเมื่อเห็นเขาล้วงกุญแจมาไขแล้วเข้าไปใน ‘ห้องนั้น’
   

               พี่พิชญ์ห้ามเธอเข้า แต่คนอื่นกลับมีกุญแจห้องนั้นเนี่ยนะ!
   

               “พี่พิชญ์คะ ข้าวเย็น...”
   

               “รอรุ่งลงมาแล้วค่อยกินแล้วกัน ท่าทางเขาคงยังไม่ได้กินเหมือนกัน แก้วกินหรือยัง ทนไหวไหม”
   

               พิชญะถามไถ่อย่างเป็นห่วง จอมแก้วมักจะรอเขาจนดึกดื่นเพื่อกินข้าวเย็นด้วยกัน ซึ่งเขาก็มักจะดุว่าให้ทานข้าวเย็นในตรงเวลา แน่นอนว่าจอมแก้วก็มักจะเถียงว่า ‘ทีพี่พิชญ์ยังกินข้าวไม่ตรงเวลาเลย’
   

               “แก้วทานแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้รอ”
   

               โชคดีที่เธอไม่ได้หิ้วท้องรอ นี่มันจะเหยียบสามทุ่มอยู่แล้ว เพราะถ้าทานอาหารตอนดึกบ่อยๆ เดี๋ยวจะอ้วนเอา เธอไม่ยอมหรอก!
   

               “ทานแล้วก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องทนหิว” พิชญะลูบหัวภรรยาคนสวยเบาๆ “เดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำแล้วจะลงมากินข้าวนะ อีกสักสิบห้านาทีฝากไปตามรุ่งด้วยนะคะ”
   

               “ได้ค่ะ”

   








               รุ่งรดิศไขกุญแจเข้ามาในห้อง ความคิดถึงไหลทะลักเข้ามาในใจ ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิม ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขากลับเข้ามาในห้องนี้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่มีความรู้สึกหลากหลายเกิดขึ้นในใจมากที่สุด
   

               “พิชญ์ ผมกลับมาแล้ว”
   

               “กลับดึกจัง ไหนมากอดหน่อยดิ๊ คิดถึงว่ะ”
   

               “กอดอะไรล่ะ ห่างกันยังไม่ถึงวันเลย”
   

               “มานี่เลย.. อี๋ เหม็นเหงื่อ ฮ่าๆๆ”

   

               ถ้าวันนั้นรู้ก่อนว่าเราจะต้องจากกัน เขาคงจะกอดพิชญ์ให้แน่นกว่านี้ คงจะมีเวลากอดกันได้นานกว่านี้
   

               แต่ก็ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว... ไม่มีอีกต่อไป
   

               ก๊อกๆ “คุณรุ่งคะ อาบน้ำเสร็จหรือยังคะ เดี๋ยวแก้วจะอุ่นอาหารไว้ให้ เรียบร้อยแล้วก็ลงมาทานข้าวนะคะ”
   

               “อะ ไม่เป็นไรครับคุณแก้ว ขอบคุณมากนะครับ” รุ่งรดิศส่งเสียงตอบกลับไป
   

               “ทานเถอะค่ะ อย่าลืมลงมานะคะ”
   

               ไม่ทันได้ปฏิเสธอีกรอบ ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงจอมแก้วเดินลงบันไดไปเรียบร้อยแล้ว เป็นการมัดมือชกที่น่ารักมากจริงๆ
   

               การกระทำของจอมแก้วดึงเขาออกมาจากภวังค์แห่งความหลัง รุ่งรดิศอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย เตือนตัวเองว่าควรจะอาบน้ำได้แล้ว ก่อนที่จะจับไข้จนต้องเป็นภาระให้คนอื่น
   

               แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความห่วงใยของจอมแก้วมีความอยากรู้อยากเห็นสอดแทรกอยู่เต็มเปี่ยม!






















               อาหารมื้อเย็นที่จอมแก้วทำดูไปแล้วค่อนข้างหนักไปหน่อยสำหรับเวลาดึกเช่นนี้ เธอเลยตัดสินใจเอาอาหารทั้งหมดเข้าตู้เย็นแล้วทำข้าวต้มขึ้นมาแทน
   

               “ข้าวต้มร้อนๆ ค่า~ ทานแล้วจะได้อุ่นท้อง”
   

               รุ่งรดิศเอ่ยขอบคุณ ข้าวต้มที่อยู่ตรงหน้าส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำย่อยในกระเพาะมาก น่าแปลกที่ลำคอของเขากลับตีบตัน แม้ร่างกายจะเรียกร้อง แต่เขากลับไม่อยากอาหารเลยสักนิด
   

               “กินไม่ลงก็ต้องกิน เดี๋ยวโรคกระเพาะก็กำเริบหรอก”
   

               มีการเป็นห่วงกันด้วย!


               ถึงจะหลบไปยืนห่างๆ แต่เธอก็ได้ยินนะ! จอมแก้วหลบกลับเข้ามาในครัว พยายามเงี่ยหูฟังสุดฤทธิ์ ดีที่คุณสามีของเธอไม่ได้พูดเสียงเบา แต่อีกคนนี่สิ เสียงเบาจนจับใจความแทบไม่ได้แน่ะ


               “...”


               “นี่ยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่มาเอาดึกๆ ดื่นๆ นะ นี่นั่งเครื่องหรือนั่งรถทัวร์มา”


               “นั่งรถทัวร์มา เครื่องบินมันแพง แล้วตอนออกมาจากที่นู่นก็ไม่ดึกนะ”


               “แล้วนี่คุณน้ารู้หรือยัง ไม่ใช่ว่าเดินเหม่อๆ อยู่ดีๆ ก็อยู่บนรถทัวร์แล้วนะ”


               “โห รู้ได้ไงน่ะ”


               รุ่งรดิศพูดประโยคที่น่าจะแสดงความแปลกใจนี้ด้วยเสียงเหมือนท่องบท เลยโดนพิชญะสวดเสียยับ


               จอมแก้วแทบจะหลุดขำเสียงดัง เธอได้แต่กลั้นหัวเราะจนปวดท้องเมื่อได้ยินประโยคถัดมา


               “บ่นเป็นพ่อเลย ผมโตแล้วนะ โอ๊ย ยะดีดหน้าผากผมทำไม”


               เดี๋ยวนะๆ ทำไมสถานการณ์มันถึงเหมือนแฟนหยอกล้อกัน พี่พิชญ์ไม่เคยทำอย่างนี้กับเธอด้วยซ้ำ!


               จอมแก้วอิจฉาตาร้อนผ่าว นึกเกลียดเสียงบ่นงึมงำของพิชญะขึ้นมาเสียเฉยๆ อยากจะเดินออกไปแล้วตะโกนใส่หน้าสามีตัวเองว่า ‘มาบ่นเธอบ้างสิ!’


               กลับมาทางด้านของสองหนุ่มที่อยู่ตรงโต๊ะอาหาร บรรยากาศไม่ได้มุ้งมิ้งอย่างที่จอมแก้วคิดแม้แต่น้อย คนหนึ่งพยายามทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น ส่วนอีกคนก็เอาแต่แค่นยิ้มฝืนๆ ไม่ว่ารุ่งรดิศจะรู้สึกดีขึ้นมาแค่ไหน ในสายตาของพิชญะแล้วก็ยังดูหดหู่มากอยู่ดี


               “ขึ้นไปพักไป เดี๋ยวกูเก็บจานเอง” พิชญะยอมแพ้ บางทีปล่อยขึ้นไปพักอาจจะดีกว่าบังคับมานั่งคุยกันอยู่ตรงนี้ก็ได้


               “เฮ้ย ไม่ได้ ผมมารบกวน ให้ผมทำเถอะ”


               “กูเป็นเจ้าบ้าน บอกให้ขึ้นไปนอนก็ขึ้นไป เจียมสังขารตัวเองหน่อย”


               “อืม... ขอบใจนะ”


               ในความเป็นจริงพิชญะค่อนข้างฮาร์ดคอร์กับรุ่งรดิศมาก ส่วนรุ่งรดิศก็ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ แล้วก็เดินตัวลีบๆ ขึ้นบันไดไป แต่ในสายตาจอมแก้วแล้ว... ฉากนี้เหมือนฉากพระเอกนางเอกในหนังเปี๊ยบเลย


               เธอชักจะหึงแล้วนะ!













--------------
ได้สองหน้าเองค่ะ... แต่เสาร์อาทิตย์นี้ไม่ว่าง เลยมาแปะไว้ก่อน

สารภาพว่าติดการ์ตูนค่ะ นั่งกรี๊ดฉางเกอสิงอยู่  :o8:

ตอนหน้าแต่งได้เยอะๆ แล้วค่อยเอามาลงดีกว่าไหมอะคะ มาขยักขย้อนแบบนี้น่ารำคาญหรือเปล่าเนี่ย....

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ  :pig4:


-----
มาต่อให้อีกหน่อย จริงๆ กะว่าจะดราม่ายาวๆ แต่พอจะดราม่าทีไรจอมแก้วก็โผล่มาฮาทุกที ดราม่าไม่ออกเลยค่ะ  :laugh:

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [18-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-07-2015 01:21:09
จอมแก้วคะ
เราพวกเดียวกันค่ะ!!
ได้ข้อมูลแล้วตั้งกระทู้ต่อเลยนะคะ ดังแน่ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [18-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 18-07-2015 10:53:38
รักที่ไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว
มันช่างหดหู่อะไรเยี่ยงนี้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [18-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 18-07-2015 12:48:14
ไม่ต้องใหญ่ยาวก็ได้ ซอยถี่ๆ ก็พอ >///< #นิยายหน่ะนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [18-07-58 : P2] Reply เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 18-07-2015 17:30:39
กำลังลุ้นเลยครับว่าอะไรยังไง สองคนนี้ดูเหมือนคุ้นเคยกันดี สังเกตจากการคุยกัน รุ่งรดิศก็คุ้นกับบ้านหลังนี้
แต่ยังไม่ทันดราม่าเลย อยากอ่านดราม่าจังเลย มาต่อไวๆ นะครับ

Sarawatta
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [18-07-58 : P2] Reply เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 19-07-2015 09:51:13
มาต่ออีกนิดแล้ว
เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วล่ะ
แต่สงสัยว่าทำไมรุ่งรดิศถึงดูเศร้าแบบกระทันหัน
ทั้งที่ในจดหมายก็ดูเหมือนจะดีขึ้นบ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [18-07-58 : P2] Reply เดิม
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-07-2015 11:38:35
ขี้เกียจเดา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [25-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 25-07-2015 14:24:32
                เข็มนาฬิกาชี้เวลาเที่ยงคืนตรง รุ่งรดิศแว่วเสียงนาฬิกาเรือนเก่าดังหง่างเหง่งมาจากห้องนั่งเล่นข้างล่าง เขานอนกระสับกระส่ายมาเกือบชั่วโมงแล้ว แม้จะผ่านการเดินทางมาเกือบสิบชั่วโมง ทั้งยังตากฝนจนตัวเย็นเฉียบ แต่ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เขาก็ข่มตาหลับไม่ลง


                ไม่มีกลิ่นที่เคยคุ้น...   


                หรือที่จริงแล้วเขาลืมกลิ่นนั้นไปแล้วกันแน่


                ความรู้สึกขมขื่นมันกลืนอยู่ในอก เขารู้สึกหัวตาร้อนผ่าวแต่พยายามไม่ให้มันกลั่นออกมาเป็นน้ำ รุ่งรดิศลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้า เสื้อผ้าทั้งหมดยังแขวนอยู่ในนั้น เขาหยิบเสื้อยืดเก่าๆ ออกมาตัวหนึ่งแล้วกอดมันไว้แนบอก
   

                ไม่ใช่กลิ่นนี้
   

                ไม่ใช่ ไม่ใช่! ไม่ใช่!!

   

                เขาหันไปคว้ากรอบรูปที่วางคว่ำอยู่บนโต๊ะ พยายามเพ่งพิศใบหน้าของคนในภาพ ภาพของพิชญ์ แต่ความมืดก็ทำให้ใบหน้านั้นรางเลือน
   

                เมื่อไฟในห้องสว่างจ้า รุ่งรดิศก็กลับไปจ้องใบหน้านั้นอีกครั้ง ภาพพิชญ์ที่ยิ้มอยู่ข้างๆ เขากับภาพในความทรงจำยังคงเป็นภาพเดียวกัน


                รุ่งรดิศไม่เคยลืมความสุขในตอนนั้น ยังคงจำได้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหนในวันที่พวกเขายังอยู่ด้วยกัน ยิ้มและหัวเราะให้กันเสมอ แต่เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เขายิ้มได้แบบในรูปคือเมื่อไหร่


                อาจจะเป็นวันที่เขาเดินจากไปแบบไม่มีวันหวนกลับ


                ยิ่งคิดดวงตาของรุ่งรดิศก็ยิ่งร้อนผ่าว สายตานั้นยังคงมองไปที่ใบหน้าของคนรัก... คนที่เขารักเสมอ และจะรักตลอดไป


                แล้วคืนนั้นรุ่งรดิศก็ผล็อยหลับไปพร้อมกับคราบน้ำตาที่ไม่หลั่งไหล










                รุ่งเช้าวันถัดมาพิชญะไม่ได้ไปทำงาน จอมแก้วเห็นสามีเดินวนไปวนหน้าหน้าประตูห้องห้องนั้นตั้งแต่รุ่งสาง สามีของเธอดูกระสับกระส่ายและเป็นกังวลมาก เธอไม่ได้ขัดอะไรเขาและยังเตรียมอาหารเช้าไปตามปกติ อ้อ ทำเผื่อแขกเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งที่


                พิชญะเคาะประตูเรียกรุ่งรดิศเมื่อถึงเวลาแปดโมง แต่จนกระทั่งแปดโมงครึ่งแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่ออกมา จึงได้ไขกุญแจเข้าไป


                สิ่งที่เห็นคือรุ่งรดิศนั่งขดตัวอยู่ที่พื้นปลายเตียง กอดรูปถ่ายไว้แนบอก เพียงเข้าไปใกล้ก็บอกได้ทันทีว่าอีกฝ่ายมีไข้ขึ้นสูง ลมหายใจร้อนค่อนข้างถี่กระชั้นกว่าปกติ


                พิชญะจัดแจงอุ้มรุ่งรดิศขึ้นนอนบนเตียงโดยมีจอมแก้วคอยช่วยเหลือ


                “พาไปโรงพยาบาลไหมคะพี่พิชญ์ ไข้ขึ้นสูงขนาดนี้”


                แต่พิชญะกลับส่ายหน้า


                “ไม่ได้หรอก รุ่งไม่ชอบโรงพยาบาล เลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า เดี๋ยวพี่จะเช็ดตัวลดไข้ให้เขาก่อน ถ้าไข้ไม่ลดเราค่อยพาไป”


                “งั้นเดี๋ยวแก้วทำให้”


                “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ทำเอง สักเก้าโมงกว่าแก้วอุ่นข้าวต้มให้พี่หน่อยดีกว่า จะได้ให้เขาทานข้าวทานยา”


                เห็นท่าทีจริงจังแล้วจอมแก้วก็ไม่กล้าแย้งไม่กล้าขัด แม้ความรู้สึกหึงหวงจะเกิดขึ้นในใจก็ไม่ปล่อยให้มันมาควบคุมตัวเอง นี่ยังไม่ใช่เวลา ท่องไว้จอมแก้ว!


                พิชญะเอาน้ำอุ่นใส่กะละมัง หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กในตู้เสื้อผ้าออกมาสองสามผืน เขาชุบผ้าลงในน้ำอุ่นแล้วบิดหมาดๆ เริ่มไล่เช็ดจากใบหน้าและซอกคอ รุ่งรดิศครางในคอแล้วพยายามขยับหนี


                “อยู่เฉยๆ สิ”


                “อยู่เฉยๆ สิ เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้ จะได้หายไข้นะ”


                มือเย็นๆ ของพิชญ์แตะไปตามผิวแก้ม รุ่งรดิศรู้สึกดีกับสัมผัสนั้นจึงพยายามขยับตามมือที่เคลื่อนไปมา พิชญ์ไล้แก้มอีกฝ่ายเบาๆ อย่างเอ็นดู


                “พิชญ์”


                “ครับ?”



                ไม่มีสักครั้งที่เรียกแล้วพิชญ์จะไม่ตอบ ทุกครั้งที่ส่งเสียงเรียกออกไปพิชญ์จะต้องตอบเขาด้วยรอยยิ้มเสมอ


                “พิชญ์”


                “รู้สึกตัวแล้วเหรอ?”


                “รู้สึกตัวแล้วเหรอ?”
 

                เสียงของรุ่งรดิศแหบแห้ง เขาพยายามลืมตา แต่ภาพตรงหน้าก็พร่าเลือนเหลือเกิน


                “พิชญ์ พิชญ์ใช่ไหม ผมคิดถึงพิชญ์ ผมคิดถึงพิชญ์”


                พิชญะทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นน้ำตาที่พรั่งหรูออกมาจากดวงตาคู่สวยนั้น เสียงที่พร่ำบอกว่าคิดถึงทำให้เขาไม่กล้าดึงมือออกจากการเกาะกุมของรุ่งรดิศ ยิ่งไม่กล้าหนีเมื่ออีกคนดึงเขาลงไปและโน้มตัวขึ้นมาซุกไหล่


                สุดท้ายแล้วจึงทำได้เพียงประคองศีรษะนั้นไว้และลูบหลังอย่างปลอบประโลม

















----------------
มาแล้ววววว อาทิตย์ที่ผ่านมาวุ่นวายมากเลยค่ะ ปลวกบุกบ้านอีกแล้ว ฉีดปลวกไปเลยต้องไปนอนที่อื่น ส่วนคอมก็ทิ้งไว้ที่บ้านเลยไม่ได้แตะเลยค่ะ = = กลัวปลวกบุกหนังสือนิยายการ์ตูนจังเลย... ตอนนี้ว่างมาเขียนต่อแล้ว  :katai4: มั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องจบก่อนสิงหาค่ะ เพราะจะเปิดเทอมแล้ว เปิดเร็วกว่าชาวบ้านเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลย เสียใจ  :o12:

มาเรื่องนี้บ้าง ในที่สุดก็ได้ต้มมาม่าแล้วค่ะ 5555 มันโอเคไหมหว่า กลัวเขียนสื่อออกมาได้ไม่ดีพอ :katai1: ถ้าใครน้ำตาซึมบอกด้วยนะคะ จะดีใจมากกก อัพครั้งหน้าจะเข้าใจถึงสาเหตุที่รุ่งรดิศกลับมาดาวน์แล้วค่ะ ส่วนนี้เขียนยากจัง กลัวไม่สมเหตุสมผล หรือจริงๆ แล้วเรื่องอารมณ์ความรู้สึกนี่ไม่ต้องสมเหตุสมผลก็ได้???

ติชมได้นะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [25-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 25-07-2015 15:00:31
หน่วงงงง แต่รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [25-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-07-2015 15:43:18
สงสารนะ คงสะเทือนใจมากในตอนนั้น
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [25-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 25-07-2015 16:47:44
ได้อารมณ์อยู่ ขออย่างเดียว คุณเมียอย่ากลายเป็นนางร้ายบ้าบอวีนแตกนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [25-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-07-2015 20:57:20
รอความกระจ่างในความทุกข์ของรุ่งรดิศนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [25-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 28-07-2015 21:41:51
จะจบสิงหาแล้ววว
คนเขียนมาต่อเร็ววว
เค้าอยากอ่านน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [25-07-58 : P2]
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 29-07-2015 01:57:03
          ช่วงสายของวันถัดมา รุ่งรดิศตื่นขึ้นมาเจอพิชญะนั่งจ้องอยู่ข้างเตียงก็สะดุ้งโหยง


          “นอนข้ามวันข้ามคืน ไข้ลดไปเยอะแล้ว เมื่อวานตอนหัวค่ำเพ้อจนจะหามส่งไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว วุ่นวายจริงๆ”


          ถึงพิชญะจะบ่น แถมบอกว่าอีกฝ่ายวุ่นวาย แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะไม่พอใจหรือหงุดหงิดใจอย่างที่พูดออกมา


          “รบกวนยะกับคุณแก้วมากๆ ซะแล้ว ขอโทษด้วยนะ”


          รุ่งรดิศบอกอย่างรู้สึกผิด ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรผิด ถึงได้โดนมะเหงกจากเจ้าของบ้านประทับมาที่หน้าผาก


          “ขอบคุณสิวะ ขอโทษอะไรล่ะ นี่ก็อีกเรื่องนึง... ไปตามเมียกลับมาให้กูเลย”


          “เอ๋? คุณแก้วไปไหนเหรอ?”


          พิชญะมีสีหน้ายุ่งยากใจ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนก็ให้คิดหนัก





          “พี่พิชญ์คะ แก้วจะกลับไปบ้านแม่นะ”


          จอมแก้วเก็บกระเป๋าเรียบร้อย แถมถือกุญแจบ้านกุญแจรถรอไว้อย่างเตรียมพร้อม


          “อะไรกันแก้ว แก้วจะไปทำไมกัน จะไปเยี่ยมแม่ทำไมไม่บอกพี่”


          พิชญะมึนงง วันนี้ทั้งวันก็ยุ่งกับการดูแลคนป่วยอยู่แล้ว คุณภรรยาเกิดรวนอะไรขึ้นมาอีกล่ะเนี่ย!


          “ไม่ได้จะไปเยี่ยมแม่ แก้วจะกลับไปอยู่บ้านสักพัก รอพี่พิชญ์เคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยแล้วแก้วจะกลับมาเอง”


          “เคลียร์ตัวเอง? เรื่อง?”


          “ถ้าถ่านไฟเก่าจะคุก็บอกแก้วแต่เนิ่นๆ ไม่ใช่มากอดกันให้แก้วเห็น แก้วหึง!”


          “หึงอะไร หึงพี่กับใคร?”


          จอมแก้วเม้มปากแน่น เธอว่าเธอพูดชัดเจนแล้วนะ อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย!


          “จะใครล่ะคะ ก็พี่พิชญ์กับคุณรุ่งไง เขาเป็นแฟนเก่าพี่พิชญ์ใช่ไหมล่ะ”


          “เฮ้ย! ไม่ใช่ พี่กับรุ่งเนี่ยนะ จะบ้าเหรอ”


          “ไม่รู้ล่ะ! แก้วจะกลับไปนอนบ้าน ถ้าพี่พิชญ์บริสุทธิ์ใจจริงทำไมไม่บอกอะไรแก้วบ้าง แก้วไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง งั้นเอาเป็นว่าวันมะรืนเดี๋ยวแก้วกลับมา ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงต้องเล่าทุกอย่างให้แก้วฟังด้วย ไปนะคะ”


          จอมแก้วพูดรัวเร็วแล้วก็ชิ่งหนีเอาดื้อๆ เธอลากกระเป๋าขึ้นรถแล้วขับออกมาทันที ทิ้งสามียืนเหวอแบบงงๆ อยู่อย่างนั้น


          หึงก็หนึ่งส่วน แต่อีกเก้าสิบเก้าส่วนนี่ข้องใจล้วนๆ พูดง่ายๆ ก็อยากรู้นั่นแหละ!


          จอมแก้วแอบขอโทษพิชญะอยู่ในใจ







          “สรุปก็คือ แก้วคิดว่ามึงเป็นแฟนเก่ากู แล้วก็เกิดหึงขึ้นมา กลัวถ่านไฟเก่าจะคุ เลยหนีกลับไปนอนบ้านตัวเองแล้ว ทำท่าเหมือนจะโกรธมาก แต่ก็ดูแปลกๆ ไงก็ไม่รู้”


          พิชญะไม่ใช่คนโง่ อีกอย่างปกติแล้วจอมแก้วค่อนข้างมีเหตุผล อยู่ๆ ก็ทำตัวไร้เหตุผลขึ้นมามันต้องมีอะไรสักอย่าง เพียงแต่เขายังไม่รู้จุดประสงค์ของภรรยาว่าต้องการอะไร


          “ยะไม่ได้บอกคุณแก้วหรอกเหรอว่าผมเป็นแฟนพิชญ์”


          “แก้วไม่รู้จักพิชญ์หรอก กูไม่ได้เล่าให้ฟัง”


          “สมน้ำหน้า เรื่องสำคัญแบบนี้ไม่เล่าให้ฟังได้ยังไงกัน ผมก็ว่าว่าทำไมคุณแก้วเรียกยะว่าพิชญ์”


          “เรื่องนี้เอาไว้ก่อน ตัวมึงเองเถอะ เกิดอะไรขึ้น”


          พิชญะเปลี่ยนเรื่อง ทั้งยังทำหน้าจริงจัง รุ่งรดิศชะงักไปเมื่อโดนถามคำถามที่เขาเลี่ยงตอบมาตลอด


          “ไม่มีอะไรหรอก ผมงี่เง่าไปเองแหละ”


          เจ้าบ้านไม่พูดอะไร เพียงใช้สายตาเค้นหาความจริงจากคนตรงหน้า


          “จริงๆ ยะ ผมแค่เสียศูนย์เหมือนๆ ทุกครั้งแหละ... แต่ครั้งนี้อาจจะหนักหน่อย”


          รุ่งรดิศก้มหน้าลงเมื่อนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาต้องกลับมายืนที่หน้าบ้านนี้อีกครั้งก่อนกำหนด


          “รุ่ง กูยังยืนยันคำเดิมนะ มีอะไรมึงเล่าให้กูฟังได้ มึงเป็นคนในครอบครัวกู ต่อให้ไม่มีพิชญ์แล้ว เรื่องนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน”


          น้ำตาหยดหนึ่งหยดลง พิชญะมองคนอมทุกข์ขยุ้มผ้าห่มแน่น


          “ยะ ผมมีแฟนใหม่แล้วล่ะ”


          รุ่งรดิศเริ่มต้นเล่าได้สามสี่คำก็หยุดไป แต่คนฟังก็ไม่ได้เร่งเร้า เพียงรอรับฟังอยู่เงียบๆ


          “เขารู้เรื่องผม รู้เรื่องของพิชญ์ แต่เขาก็ยังบอกว่ารักผม บอกว่าจะรอ ผมเลยตัดสินใจคบกับเขา ห้าปีที่ผ่านมา... นี่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุดนับตั้งแต่วันนั้น


          ยะ ผมพยายามเปิดใจ พยายามมีความสุขมาตลอด แต่มันไม่เคยสำเร็จ ทุกวันมันช่างยาวนาน ผมไม่อยากจะนับว่าพิชญ์จากเราไปกี่วัน... กี่เดือน... กี่ปี ผมคิดถึงเขาทุกวัน ผมไม่เคยลืมความสุขระหว่างเรา ผมยังจำทุกๆ เหตุการณ์ของเราได้ และผมก็สัญญากับตัวเองไว้ว่าผมจะไม่มีวันลืม... ผมจะไม่มีวันลืมแม้แต่วินาทีเดียว”


          รุ่งรดิศกลั้นสะอื้น ดวงตาแดงกล่ำนั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำคลอหน่วยที่พยายามไม่ให้มันไหลออกมา 


          “ใครเป็นคนบอกว่าการลืมมันยากกัน... ยะ ยิ่งเวลาผ่านไปผมยิ่งไม่มั่นใจ สิ่งที่ผมจำได้มันคือเรื่องจริงใช่ไหม มันกำลังมีอะไรผิดเพี้ยนไปหรือเปล่า มีหลายๆ เรื่องที่เหมือนมันกำลังเลือนไปจากความทรงจำของผม ผมทำได้แค่พยายามจำ...


          การที่เขาเข้ามาในชีวิตมันทำให้โลกของผมสดใสขึ้น ผมมีความสุข ผมไม่จำเป็นจะต้องลืมพิชญ์ ผมยังคงเก็บพิชญ์ไว้ในใจได้ ในขณะเดียวกันผมสามารถเปิดใจรับเขาเข้ามาได้ด้วย


           มันดีมากเลยยะ แต่มันดีเกินไป ผมมีความสุขมากเกินไป มากจนบางครั้งผมลืมพิชญ์ไปจากใจ”


           พิชญะเริ่มเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดกับรุ่งรดิศ เพราะมันก็เกิดกับเขามาแล้วเช่นกัน แต่พิชญะไม่ได้ยืดติดกับพิชญ์... อาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพิชญ์มันไม่ได้ลึกล้ำขนาดนั้นก็ได้... แม้จะเป็นฝาแฝดกันก็ตาม


          “ยะ... ผมยังรักพิชญ์เสมอ แต่มาวันนี้ผมก็รักกานต์ด้วย ผมไม่ได้ต้องการให้กานต์มาแทนที่พิชญ์ แต่พักหลังมานี้ หลายๆ ครั้งคนที่อยู่ในความคำนึงของผมคือกานดิศ ผมไม่คิดว่ามันเป็นปัญหา จนกระทั่งผมลืมหน้าของพิชญ์ไป...”


          พูดถึงตรงนี้รุ่งรดิศก็ปล่อยสะอื้นออกมา น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลรินจนผ้าห่มเปียกชื้น


          “ชั่ววูบเดียวที่ผมลืมใบหน้าของพิชญ์ไป ชั่วขณะเดียวที่ผมสงสัยว่าหน้าของพิชญ์ที่ผมจำได้คือใบหน้าไหนกันแน่ ผมก็ให้อภัยตัวเองไม่ได้ ผมให้อภัยตัวเองไม่ได้จริงๆ”


          พิชญะผุดลุกขึ้น หายออกไปจากห้องครู่หนึ่งก็กลับมาผมกับซองจดหมายหลากหลายในมือ...


          “นั่นจดหมายที่ผมส่งมาเหรอ”


          “ไม่ใช่ ที่มึงส่งมากุเผาส่งให้พิชญ์ไปหมดแล้ว”


          จดหมายเหล่านี้มีลายมือหวัดๆ เขียนอะไรบางอย่างไว้ที่หน้าซอง ไม่มีชื่อที่อยู่ผู้รับและผู้ส่ง แต่ทั้งหมดนี้นั้นเขียนขึ้นมาเพื่อคนเพียงคนเดียว... รุ่งรดิศ


          “พิชญ์มันบ้า” พิชญะแค่นหัวเราะ “มันเขียนจดหมายทิ้งไว้เยอะแยะไปหมด ตอนแรกกูก็งงว่าเขียนอะไรเยอะแยะ แต่มันบอกว่าพอถึงเวลาให้กูส่งจดหมายของมันให้มึงแค่ฉบับเดียว... ตามแต่กูจะพิจารณาว่าควรให้ฉบับไหน เมื่อไหร่”


          “อันนี้” เขาชูซองสีเหลือง “มันบอกว่า ถ้ารุ่งมีแฟนใหม่แล้วลืมมัน ให้กูเอาจดหมายฉบับนี้ให้”


          “ส่วนอันนี้” เขาชูซองสีเขียว “มันบอกว่า ถ้ารุ่งไม่ดูแลตัวเอง ให้ให้จดหมายฉบับนี้”


          “ส่วนอันนี้ ถ้ารุ่งไม่ยอมมีแฟนใหม่” พิชญะไม่ได้จำได้ทั้งหมด เขาอ่านลายมือหวัดๆ บนหน้าซองนั้นต่างหาก


          สุดท้ายเขาก็ส่งจดหมายในซองสีฟ้าไปให้ บนหน้าซองเขียนว่า ‘ถ้าพิชญ์เป็นตัวขัดขวางความสุขของรุ่ง’
รุ่งรดิศรับจดหมายนั้นด้วยมืออันสั่นเทา เขาจ้องมองมันอย่างนั้นอยู่นาน เมื่อรู้สึกตัวอีกที พิชญะก็หายไปแล้ว แต่ก็ทิ้งจดหมายที่เหลือเอาไว้ให้โต๊ะ


          เขาเปิดจดหมายในมือออกอ่าน ใช้เวลาอ่านไม่นานก็จบ รุ่งรดิศอ่านจดหมายซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น แม้น้ำตาจะยังคงหลั่งไหล แต่รอยยิ้มบางๆ ก็แต่งแต้มขึ้นบนในหน้าในรอบหลายวัน












สวัสดีครับ ที่รักของพิชญ์


          จดหมายฉบับนี้ ผมอยากจะเขียนถึงรุ่งก่อนที่ผมจะไม่มีแรงเขียน เพราะผมไม่รู้ว่าผมจากหายจากโรคร้ายที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือไม่ ผมอยากเขียนหารุ่งเยอะๆ ผมเลยเวิ่นเว้อไปแล้วหลายฉบับ แต่ถ้ารุ่งได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ผมอยากบอกรุ่งว่าผมเสียใจจริงๆ ที่ต้องทิ้งรุ่งให้อยู่คนเดียวบนโลกเบี้ยวๆ ใบนี้ เพราะถ้าผมยังอยู่ รุ่งจะไม่มีทางได้อ่านจดหมายฉบับนี้เด็ดขาด


          ผมบอกให้ไอ้ยะมันเลือกจดหมายที่จะให้รุ่งอ่านหลังผมไม่อยู่แล้วก่อนหน้าที่จะเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้น แต่ผมรู้ว่าถึงเวลามันคงเอาให้รุ่งทุกฉบับ ผมไม่รู้ว่ารุ่งได้อ่านที่ผมเพ้อบ้าบออะไรก็ไม่รู้ในจดหมายบางฉบับหรือยัง แต่ฉบับนี้จะเป็นฉบับที่กลั่นกรองมาจากหัวใจของผมมากที่สุด ถ้ารุ่งอ่านฉบับนี้เป็นฉบับแรก ฉบับอื่นก็ไม่ต้องอ่านหรอกนะ โอเคไหม


          ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณรุ่งที่อยู่ข้างๆ ผมมาตลอด สำหรับผมรุ่งไม่ใช่แค่คนรัก ไม่ใช่แค่แฟน รุ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผม เพราะฉะนั้นตอนที่ผมรู้ตัวว่าผมเป็นโรคร้าย ผมจึงทำใจไม่ได้ที่จะปล่อยรุ่งไป ผมไม่ได้เป็นพระเอกละครที่ชอบไล่นางเอกออกจากชีวิตเพราะตัวเองกำลังจะตาย ผมเป็นคนธรรมดา ผมอยากให้รุ่งอยู่กับผมมากกว่า เพราะฉะนั้นตอนที่ผมบอกรุ่งแล้วรุ่งตอบตกลง ผมจึงรู้สึกว่าผมโชคดีที่สุดในโลก  แต่ผมก็รู้ว่าผมช่างเห็นแก่ตัวเหลือเกินที่รั้งรุ่งไว้อย่างนี้


          ผมมักจะบอกรุ่งว่าห้ามลืมผมนะ ร้องขอให้รุ่งรักผมตลอดไป ในตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงต้องการรั้งรุ่งไว้กับตัว แต่แล้วผมก็คิดได้ว่าเมื่อผมจากโลกนี้ไปแล้ว คนที่จะเป็นทุกข์คือรุ่ง ความเห็นแก่ตัวของผมจะทำให้รุ่งเป็นทุกข์ในภายภาคหน้า ผมไม่ต้องการให้ตัวเองที่จากไปแล้วเป็นตัวขัดขวางความสุขของรุ่ง


          ผมไม่รู้ว่าผมจะไปขัดขวางความสุขของรุ่งยังไงบ้าง เพราะผมรู้ว่าแค่ผมป่วยแบบนี้รุ่งก็เป็นทุกข์มากพอแล้ว ผมจึงอยากจะขอให้รุ่งรักผมจนวันสุดท้ายของผมก็พอ รุ่งไม่จำเป็นของรักผมตลอดไปก็ได้ ไม่จำเป็นต้องรักผมแค่คนเดียว มันเห็นแก่ตัวเกินไป ผมขอแค่คิดถึงผมบ้างเป็นครั้งคราว เก็บเรื่องราวของเราไว้เป็นความทรงจำดีๆ ก็พอ อย่าให้มันมารั้งชีวิตของรุ่งเลย ผมอยากให้รุ่งเปิดใจรับคนใหม่ คนที่ดียิ่งกว่าผม คนที่จะดูแลรุ่งได้


          สุดท้ายนี้ขอให้รุ่งรู้ว่าผมรักรุ่งมากและผมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารุ่งจะมีความสุขมากๆ


                                                                                                                                      รักรุ่งมากที่สุดในโลก

                                                                                                                                                 พิชญ์
   

          ปล. อย่าลืมพาแฟนใหม่มาแนะนำให้ผมรู้จัก




























----------------
ตอนหน้าน่าจะจบแล้วค่ะ จดหมายของพิชญ์อาจจะมีงงๆบ้าง คือมันเป็นเรื่องของลำดับเหตุการณ์ในอดีตน่ะค่ะ เลยอาจสื่อไม่ดีเท่าที่ควร ถ้ามีเวลาอาจจะเขียนตอนพิเศษเป็นเรื่องของพิชญ์กับรุ่งรดิศให้ แต่ดูแกวแล้วอาจจะไม่ได้เขียน เพราะท่าทางจะยาว 5555

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [29-07-58 : P2] + จดหมายจากพิชญ์
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-07-2015 08:20:16
พิชญ์น่ารักดี...มีการเขียนจดหมายไว้ให้สำหรับสถานการณ์ต่างๆในอนาคตของรุ่งไว้ให้ด้วยอ่ะ
อ่านมาถึงตอนนี้ก็เคลียร์แล้วค่ะ... ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง
แอบขำจอมแก้วนิดหน่อย ดูจะมีอารมณ์แบบสาววายนิดๆนะเนี่ย (แต่ถ้าเป็นชีวิตจริงคงฮาไม่ออก) ยะก็กระไรอยู่ ไม่ยอมบอกภรรยาว่าตัวเองมีฝาแฝด...ไงล่ะ เมียหนีกลับบ้านเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [29-07-58 : P2] + จดหมายจากพิชญ์
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-07-2015 11:12:08
T T

ร้องไห้เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [29-07-58 : P2] + จดหมายจากพิชญ์
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 29-07-2015 12:21:48
 :mew2: สงสารรุ่งจัง ตอนหน้าคงสดใสขึ้นนะคะ แต่ภรรยายะนี่ตลกจริงๆแหละ แอบเป็นสาววายนิด 555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [29-07-58 : P2] + จดหมายจากพิชญ์
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-07-2015 15:27:43
ร้องไห้หนักมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [29-07-58 : P2] + จดหมายจากพิชญ์
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-07-2015 15:45:41
สงสารรุ่ง   :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [29-07-58 : P2] + จดหมายจากพิชญ์
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 30-07-2015 07:56:49
เป็นโรคร้ายแรงอะไรเหรอครับ หรือว่า HIV/AIDS
น่าสงสารรุ่งรดิศจัง แสดงว่าพิชญ์น่าจะเสียชีวิตไปแล้ว
รอตอนต่อไปนะครับ

Sarawatta
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [29-07-58 : P2] + จดหมายจากพิชญ์
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 30-07-2015 18:32:04
ถ้าผมไม่ลืมนะ ผมจะส่งเรื่องนี้เข้าเซ็งเป็ดอะวอร์ด #แก้วนี่เจ้าเลห์นะเรา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 31-07-2015 00:47:29
          วันถัดมา จอมแก้วกลับมาที่บ้านสามีตอนสายๆ เดิมเธอคิดจะกลับมาตั้งแต่เช้า แต่เมื่อคืนเธอโทรคุยกับวีรดา เลยโดนเพื่อนสาวปรามไว้ วีรดาบอกว่าถ้าเธอกลับบ้านเร็วพี่พิชญ์อาจจะมองว่าเธอไม่ได้โกรธจริงจัง แถมยังจะโดนมองว่าอยู่ใต้อำนาจสามี หนีไปไหนไม่รอดอีกต่างหาก


          จริงๆ จอมแก้วคิดว่าวีรดาก็พูดเกินไป ถึงอย่างนั้นก็แอบคิดอยู่หน่อยๆ เหมือนกัน สุดท้ายแล้วเลยออกจากบ้านแม่เลทนิดหน่อย กว่าจะถึงบ้านสามีก็สิบโมงพอดี
         

          แหม... ก็มันอยากรู้นี่หน่า แล้วถ้าสองคนนั้นจะกลับมาคืนดีกัน เธอเป็นคนไปมันถูกที่ไหนกัน เธอเป็นภรรยาตามกฎหมายนะ!


          จอมแก้วนั่งคิดฟุ้งซ่านอยู่ในครัว สติกลับมาอีกทีก็ตอนที่รุ่งรดิศเดินเข้ามาใกล้นั่นแหละ


          “อรุณสวัสดิ์ครับคุณแก้ว ผมขอโทษด้วยนะครับที่มาสร้างความลำบากให้”


          หญิงสาวมองผู้ชายตรงหน้า อีกฝ่ายส่งยิ้มจางๆ เจือความสำนึกผิดมาให้


          “คุณแก้วไม่ต้องกังวลเรื่องผมหรอกครับ ผมเป็นคนรักของพิชญ์... ผมหมายถึงพิชญ์ ที่ไม่ใช่พิชญะน่ะครับ”


          “คุณ... พิชญ์?”


          “ผมว่าผมต้องเล่ายาว เราไปหาที่นั่งคุยกันเถอะครับ”


          รุ่งรดิศยิ้มให้ เชื้อเชิญจอมแก้วให้ไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่น


          วันนี้เป็นวันเสาร์ พิชญะไม่ต้องไปทำงาน ตอนนี้เขาเลยนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟา พอภรรยากับเพื่อนเดินเข้ามาก็อัปเปหิตัวเองไปอยู่ที่อื่นแทนด้วยตกลงกับรุ่งรดิศไว้ว่าจะให้รุ่งรดิศเป็นคนเล่าเรื่องทั้งหมดให้จอมแก้วฟัง ส่วนตัวเขาเองจะไปคุยกับจอมแก้วทีหลัง


          ถ้าเป็นปกติจอมแก้วคงโมโหที่สามีไม่ยอมมาคุยกับเธอด้วยตัวเอง แต่สถานการณ์ในตอนนี้จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น!


          “ก่อนอื่นผมคงต้องทำความเข้าใจกับคุณแก้วก่อนว่าพิชญะกับพิชญ์คือคนละคนกันนะครับ


          คุณแก้วรู้ไหมครับว่ายะมีน้องชายฝาแฝด” 


          “แก้วรู้ว่าพี่พิชญ์มีน้องชายค่ะ แต่ไม่ทราบรายละเอียด... เห็นบอกว่าแยกกันตั้งแต่เด็ก”


          จอมแก้วนิ่งอึ้ง นี่หรือเปล่าสาเหตุที่พิชญะไม่ยอมให้เธอเรียกเขาว่าพิชญ์ในทีแรก... เป็นเธอเองที่ดื้อดึงจะเรียกจนอีกฝ่ายอ่อนใจ


          “พิชญ์เป็นน้องชายฝาแฝดของยะ คุณลุงคุณป้าแยกกันตอนอายุได้ห้าหกขวบ ยะย้ายตามคุณแม่ไปอยู่ที่อื่น ส่วนพิชญ์ก็ยังอยู่กับพ่อที่นี่” รุ่งรดิศพยักหน้าเมื่อจอมแก้วเลิกคิ้วสงสัย “ครับ บ้านหลังนี้แหละ ส่วนบ้านผมก็อยู่ข้างๆ นี่เอง แต่ว่าโดนขายทิ้งไปแล้ว”


          “แล้วคุณพิชญ์...” หายไปไหน?


          “พิชญ์เสียไปได้ห้าปีแล้วครับ” รุ่งรดิศยิ้มเศร้า เมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้นก็รู้สึกเจ็บอยู่ในใจ หลังจากที่พิชญ์จากไป เขาแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เรียนเกือบไม่จบเสียด้วยซ้ำ ต้องดรอปเรียนไปหนึ่งปี “ตอนอายุสิบเจ็ด... พิชญ์ก็เป็นมะเร็งกระดูก”


          “มะ มะเร็งกระดูกเหรอคะ”


          “ครับ เราพยายามรักษาทุกวิถีทาง ถึงพิชญ์จะพบช้าไปหน่อย... แต่เราก็คิดว่ายังพอไหว การรักษาต้องใช้รังสีร่วมกับเคมีบำบัดก็ต้องผ่าตัดเอากระดูกขาบางส่วนออกแล้วทำการปลูกถ่ายกระดูกเข้าไป... โชคดีที่พิชญ์ไม่เป็นจำต้องตัดขาทิ้ง เหลือแค่รอให้กระดูกใหม่มันพัฒนาขึ้น ทำกายภาพบำบัด เฝ้าระวังไม่ให้มะเร็งเกิดซ้ำ ทุกอย่างดูเหมือนจะดีใช่ไหมครับ”


          “ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไม...”


          “คุณแก้วรู้ไหมครับว่ามะเร็งแพร่กระจายตามกระแสเลือด พิชญ์กลับมาเป็นซ้ำอีกครั้งตอนอายุสิบเก้า สุดท้ายแล้วเราพบว่ามะเร็งแพร่กระจายไปที่ปอด... หลังจากนั้นสามเดือน พิชญ์ก็จากผมไป”


          “ตอนคุณพิชญ์เสีย... เขาคงทรมานมากนะคะ”


          “ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน มันชั่วพริบตาเดียวเอง” รุ่งรดิศพูดเหมือนจะติดขำ แต่ไม่ใช่เลย “พิชญ์ประสบอุบัติเหตุ... เขาโดนรถชน มีเด็กหกล้มตอนข้ามถนน พิชญ์พุ่งตัวเข้าไปช่วยไว้...”


          วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกพรำๆ ทั้งวัน รุ่งรดิศพาพิชญ์กลับจากโรงพยาบาล ขณะที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดง เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็ก้าวออกไป... พร้อมๆ กับมัจจุราชสีดำที่พุ่งเข้ามา


          พิชญ์เสียชีวิตหกชั่วโมงหลังจากนั้น


          แม้ว่ารุ่งรดิศจะทำใจไว้อยู่แล้ว แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าคนรักจะจากไปเร็วขนาดนี้... จากไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ร่ำลากันด้วยซ้ำ


          จอมแก้วมองผู้ชายตาโศก แผ่นหลังนั้นงุ้มลงเล็กน้อยก่อนจะกลับมาตั้งตรงอีกครั้ง


          “งั้นที่พี่พิชญ์... พี่ยะเผาจดหมายที่คุณส่งมานั่นก็...”


          “ครับ เป็นคำขอของผมเอง ผมคิดเอาเองว่าถ้าเผาส่งไปพิชญ์อาจจะได้อ่านแล้วก็ไม่เหงาเท่าไหร่ ผมเลยให้ยะช่วยเผาให้ บางส่วนผมเผาเองที่นู่น ไปบางส่วนก็ส่งมานี่ พิชญ์จะได้ไม่ลืมบ้านตัวเอง”


          หลังจากเรียนจบ รุ่งรดิศก็ย้ายไปอยู่กับแม่ ยังไงซะบ้านนี้ก็เป็นบ้านของคุณลุง ซึ่งจะตกเป็นของทายาทก็คือพิชญะต่อไป ถึงยะจะบอกเขาว่าไม่ต้องย้ายก็ได้ แต่เขาจะมาอยู่ตลอดไปไม่ได้ แค่ทางนี้เก็บห้องของพิชญ์เอาไว้ให้เขาก็ซึ้งใจมากแล้ว อีกอย่าง... เขาควรจะไปดูแลแม่ด้วย


          เรื่องของพิชญ์บอกกับเขาว่าจงใช้เวลาที่เหลืออยู่กับคนที่รัก...


          “แก้วขอโทษนะคะที่เข้าใจคุณรุ่งผิด” จอมแก้วยกมือไหว้ “ขอโทษนะคะที่ทำให้คุณรุ่งรดิศต้องนึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดแบบนี้”


          “ทุกความทรงจำระหว่างผมกับพิชญ์มีค่าเสมอครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตาม” รุ่งรดิศรีบโบกไม้โบกมือให้ภรรยาเพื่อนลดมือลง “อีกอย่างคุณแก้วก็ควรจะรู้เรื่องนี้ด้วย คุณแก้วแต่งงานกับยะแล้วก็ควรจะรู้เรื่องในครอบครัว คุณแก้วอย่าโกรธยะที่ไม่เล่าให้ฟังเลย เรื่องนี้ผมกับยะเหมือนตกลงกันอยู่กลายๆ ว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง เขาคงไม่กล้าเล่าเพราะไม่รู้จะพูดยังไงด้วยแหละ”


          พิชญะย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้หลังจากเรียนจบ ซึ่งตอนนั้นรุ่งรดิศเรียนอยู่ปีสี่เพราะดรอปเรียนไป ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่บ้านหลังเดียวกันเป็นเวลาหนึ่งปี เรื่องเกี่ยวกับพิชญ์ ยะรู้จากปากรุ่งรดิศ เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกจึงไม่เล่าเรื่องของน้องชายฝาแฝดให้ใครฟังนอกจากรุ่งรดิศจะเอ่ยปากเอง


          ไม่ทันที่จอมแก้วจะได้เอ่ยตอบอะไร เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น พิชญะเดินออกจากที่ซ่อนไปดูว่าใครมาเยี่ยมเยือน


          “รุ่ง... ผมมารับรุ่งกลับบ้าน” เสียงนั้นตะโกนมาจากหน้าประตูรั้ว รุ่งรดิศผุดลุกขึ้นแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปทันทีโดยมีจอมแก้วตามมาติดๆ


          คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือผู้ชายร่างสูง... อย่างน้อยก็สูงกว่าพิชญะเกือบห้าเซนติเมตร รูปร่างหน้าตาราวกับหลุดออกมาจากนิตยสาร... ถ้าผมไม่ยุ่งเป็นรังนกแล้วก็แต่งตัวสักหน่อยน่ะนะ


          “กานต์... กานต์มาที่นี่ได้ยังไง”


          เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนรู้จักกันจริง พิชญะจึงเปิดประตูให้ผู้มาเยือนเข้ามา


          “คุณน้าบอกผมว่ารุ่งน่าจะอยู่ที่นี่ ผมเลยมารับรุ่งกลับ”


          กานดิศดูกังวลใจ ซึ่งก็ควรจะเป็นอย่างนั้น ในเมื่อรุ่งรดิศหายตัวไปเกือบสามวัน ไม่ติดต่อมา ไม่รับโทรศัพท์


          “ผมทำอะไรให้รุ่งไม่พอใจหรือเปล่า รุ่งบอกผมนะ อย่าหายตัวไปแบบนี้ ผมเป็นห่วง” 


          “ขอโทษนะกานต์ ผมเสียหลักนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว”


          “งั้นกลับบ้านกันนะครับ”


          เขายื่นมือออกมา


          รุ่งรดิศมองมือนั้นแล้วก็มองตาของกานดิศ ดวงตาคู่นั้นสั่นไหวด้วยความกลัว เขาเห็นดังนั้นก็ยิ้ม เอื้อมไปจับมันอย่างยินดี


          “ครับ กลับบ้านกันเถอะ”










สวัสดีพิชญ์


          พิชญ์เห็นไหม นี่กานต์ แฟนใหม่ผมนะ


          จากนี้ไปผมต้องมีความสุขแน่นอน ผมสัญญา 


                                                                                                                                            รักเสมอ


                                                                                                                                             รุ่งรดิศ





          รุ่งรดิศเขียนข้อความนี้ใส่กระดาษทิ้งไว้บนโต๊ะก่อนไป พิชญะหยิบมันจะไปเผาเหมือนเคย แต่สายตาดีๆ ก็เหลือบไปเห็นลายมือที่ไม่คุ้นตาเขียนประโยคหนึ่งทิ้งไว้อยู่ท้ายกระดาษเข้าเสียก่อน พิชญะอมยิ้มเมื่ออ่านประโยคนั้น
         


          คุณพิชญ์ ผมสัญญา ผมจะดูแลรุ่งให้ดีที่สุด จะทำให้เขามีความสุขที่สุด ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอกนะ         


                                                                                                                                            กานดิศ
















---END---






------------
จบแล้วค่ะ /ปริ่ม เป็นเรื่องแรกเลยที่แต่งจบแบบเป็นเรื่องเป็นราว รวมเนื้อหาทั้งหมด 20 หน้า คนอื่นอาจจะมองว่าเขียนช้าจัง แต่สำหรับเราแล้วนี่เร็วมากแล้วค่ะที่แต่ง 20 หน้าได้ในเวลาประมาณ 1 เดือน (เป็นจอมอู้นั่นเอง)

ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดเรื่องสั้นเรื่องนี้ขึ้นมาเลยคือ จะเกิดอะไรถ้าคนๆ หนึ่งอยากที่จะจดจำเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้ ไม่ต้องการที่จะลืม แต่ความจำของคนเรานี่คะ ไม่มีทางที่จะจำทุกอย่างได้หมด ขนาดตัวเราเองบางครั้งยังนึกหน้าบางคนไม่ออกเลยทั้งๆ ที่ก็เห็นอยู่ทุกวัน ซึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดความคิดนี้คือเรื่อง NG life ค่ะ คนเคยอ่านน่าจะรู้ เพราะมันเป็นฉากที่สะเทือนอารมณ์เราที่สุดเลย

มีหลายๆ อย่างในหัวของเราที่ถ่ายทอดลงมาในเรื่องนี้ไม่ได้ค่ะ ตอนแรกวาดภาพไว้ว่าจะเขียนให้มีฉากรุ่งรดิศเปิดอัลบั้มภาพความทรงจำของเขากับพิชญ์แล้วร้องไห้ให้มันสะเทือนอารมณ์มากๆ แต่ก็ทำไม่ได้ แถมตอนแรกว่าจะไม่ให้รุ่งรดิศร้องไห้ ฉากกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลนั่นจึงออกมา แต่สุดท้ายก็ต้องเขียนให้ร้องไห้จนได้(หลายรอบด้วย) ไหนจะเรื่องของรุ่งกับพิชญ์อีก คือวางเหตุการณ์ไว้เยอะมากว่าในอดีตเกิดอะไรบ้าง คบกันได้ยังไง อะไรยังไง ถ้าโชคดีอาจคลอดตอนพิเศษออกมา(ซึ่งจะเปิดเทอมแล้ว ท่าทางจะไม่ได้เขียนค่ะ) ว่าแต่จบแบบนี้นี่เหมือนตัดฉับไหมคะ เราว่าไม่เนอะ ไม่อยากเวิ่นเว้อพารุ่งรดิศกลับบ้าน จบแบบนี้คิดว่าสมบูรณ์แบบแล้วค่ะ คิดเห็นยังไงบอกกันได้นะคะ

ตอนนี้สิ่งที่ยากคือการหาว่าพิชญ์เป็นโรคอะไร คืออันนี้หาข้อมูลคร่าวๆ มาหลายวันแล้ว แต่พอวันนี้มาเขียนจริงก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มค่ะ ถึงกับต้องไปอ่านแบบพวกเนื้อหาวิชาการไรงี้เลย ซึ่งใช้เวลานานมากกกกก เพื่อเนื้อหาประมาณสี่ห้าบรรทัดนั่นแหละค่ะ แต่นั่งเทียนเขียนเองก็ไม่สบายใจ (Osteosarcoma นี่ก็แอบเอาเรื่องเหมือนกัน คือหาข้อมูลไม่ยาก แต่มันยากที่จะทำความเข้าใจค่ะ... ถ้าใครมีความรู้เรื่องนี้ เห็นมีจุดที่ผิดตรงไหนอะไรยังไงแจ้งได้เลยนะคะ)

แล้วก็หากใครมีข้อสงสัยหรือจุดไหนที่ไม่เข้าใจถามได้นะคะ จะมาอีดีท reply นี่ตอบให้

สุดท้ายนี้... ขอขอบคุณทุกท่านๆ ที่ติดตาม คอยคอมเม้นเป็นกำลังใจให้มากเลยค่ะ เราก็เฝ้ารอที่จะอ่านคอมเม้นนะ เห็นทุกคนชอบก็ดีใจค่ะ ขอบคุณที่อดทนในการอัพน้อย อัพถี่บ้าง หายไปเลยบ้าง ขอบคุณจริงๆ ค่ะ  :กอด1: แล้วก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :pig4:

ปล. ทอร์คยาวกว่านิยายอีกค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 31-07-2015 05:46:19
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ได้ใจจริงๆ เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-07-2015 09:20:47
ขอบคุณมากค่ะ เราอ่านแล้วน้ำตาซึมเลย ทั้งเศร้า ทั้งยินดีไปกับรุ่ง มีชีวิตที่ดีต่อไปนะ พิชญ์ก็คงมีความสุขบนสวรรค์แล้วล่ะ :hao5:
ชอบจอมแก้วนะคะ ดูเป็นผู้หญิงที่ดีนะ มีสติ ไม่โวยวาย น่ารักดีค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 31-07-2015 17:00:27
ร้อนในอารมณ์     :sad4:
ร้อนเพราะดีใจนะ  ขอให้เดินต่อไปให้ได้นะรุ่ง
กานน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 31-07-2015 18:32:23
ร้องไห้เลย  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 31-07-2015 18:36:15
โหย เศร้าอ่ะ เป็นแค่ความฝันคงดีไม่น้อยเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 31-07-2015 19:46:13
ลืมมันยาก แต่วันหนึ่งพบว่าลืมมันไปก็ใจหาย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-08-2015 01:25:00
จบไม่เศร้านะ แต่ทำคนอ่านร้องไห้ไม่หยุด
คือมีหลายความรู้สึกกับหลายๆคนนะ
เหมือนธรรมดาทั่วไป แต่มีความรู้สึกว่าแปลก
เมื่อเรารู้สึกสงสารคนตายอย่างพิชย์ สะเทือนใจ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 01-08-2015 19:43:55
อืม...แปลกแฮะ คนอื่นเขารู้สึกเศร้าบ้าง สงสารคนนั้นคนนี้บ้าง แต่ผมไม่เศร้า ไม่สงสารใคร
รู้สึกดีที่รุ่งไม่ลืมคนรัก คอยส่งจดหมายมาให้พิชญะช่วยเผา ตัวเองก็เผาด้วย เขาจะได้ไม่ลืม
รู้สึกดีที่กานต์ก็รับรู้และไม่เก็บมาเป็นเรื่องน้อยใจ ไม่งั้นรุ่งคงแย่แน่ๆ เลยที่คนรักไม่เข้าใจ
รู้สึกดีที่ครอบครัวของพิชญะไม่แตกแยกไปซะก่อนตอนที่รุ่งมาพักด้วย ดีนะที่จอมแก้วไม่โวยวายตีโพยตีพาย
รู้สึกดีที่เรื่องนี้จบแบบนี้ ไม่รู้ว่ารุ่งจะรักกานต์ได้เท่ากับที่รักพิชญ์หรือเปล่า แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก
อะไรที่เป็นครั้งแรกมักมีความหมายพิเศษเสมอ ให้รุ่งเขาเก็บสิ่งนั้นไว้ต่อไป กานต์ควรจะเข้าใจ ไม่เก็บมาเป็นปัญหา
ก็ดีนะครับ ลงตัวดีแล้ว
 :กอด1: :L2: :3123: :pig4:

ป.ล.
ดีใจที่ได้อ่านเรื่องแบบนี้ ไม่หวือหวาแต่มีเสน่ห์ ผมชอบแบบนี้แหละ ไม่ชอบเรื่องตลาดๆ ขายเซ็กซ์ขายความรุนแรง
มาเขียนนิยายบ่อยๆ นะครับ ลองเขียนเรื่องยาวดูก็น่าจะดีไม่น้อย แต่ผมไม่รู้ว่าจะได้เข้ามาอ่านอีกไหม
อีกไม่นานก็จะเลิกเขียนเลิกอ่านไปแล้วล่ะครับ

Sarawatta
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 02-08-2015 02:59:15
เสียใจที่พิชญ์จากรุ่งไป แต่ก็ดีใจที่รุ่งมีกานต์ดูแลแล้ว :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 13-08-2015 16:11:12
เศร้าจัง จบดีแต่ก็เศร้า ...... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบ] 31/07/58
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 16-08-2015 21:25:21
ตอนพิเศษ ครึ่งใจ








          แม้ว่าเขาจะทิ้งเธอไปหัวใจเธอมีแต่เขา
          รู้ว่ามันต้องใช้เวลาให้เธอลืมเรื่องเก่า




             “กานต์ๆ เห็นคนนั้นปะ”


             ลลินชี้ชวนเพื่อนให้หันไปมองผู้ชายร่างสูงโปร่งที่นั่งอยู่หน้าคณะ กานดิศสมัยยังเป็นเฟรชชี่พยักหน้าเมื่อมองไปตามปลายนิ้ว


             “อือ... แล้ว?”


             “หล่อดี เสียดายเป็นเกย์ สเป็คแกปะ”


             ลลินกระจายข่าวสาร กานดิศยักไหล่ เห็นจากเสี้ยวหน้าด้านข้างก็นับว่าหน้าตาดีใช้ได้ แต่เขาชอบแบบน่ารักๆ มากกว่า


             “แล้วแกไปรู้มาจากไหน แล้วเขาเป็นรุ่นน้องเหรอ? ไม่เคยเห็นหน้าเลย”


             “แหม ก็เขาบอกๆ กันมา แล้วก็... แกทายผิด เป็นรุ่นพี่เราสองปี แต่ปีที่แล้วพี่เขาดรอปไป... ได้ยินว่าแฟนป่วยน่ะ แฟนพี่เขาแกน่าจะรู้จักนะ พี่พิชญ์คนดังไง”


             ผู้ชายคนนั้นหันมา สบสายตาเข้ากับกานดิศพอดี ชั่วครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาคู่สวยนั้นจะหลบกลับไป


             ไม่กี่วันถัดมา กานดิศก็ได้ข่าวว่าพิชญ์เสียชีวิตจากอุบัติเหตุแล้ว
   





          ก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรฉันรอเธอได้เสมอ
          เธอก็รู้ว่าฉันรักเธอและรอให้เรารักกัน




          “กานต์ แกจำพี่รุ่งได้ปะ พี่รุ่งรดิศที่ดรอปไปปีนึงอะ” กานดิศชะงักเมื่อได้ยินชื่อคนที่แอบซ่อนอยู่ในใจมานานหลายปี แต่เพื่อนไม่ได้สนใจ ยังคงพูดต่อ “ฉันย้ายงานใหม่ใช่ไหมล่ะ ทีนี้ฉันเจอเขาอยู่บริษัทเดียวกับฉันเว้ย แผนกเดียวกันด้วย บังเอิญชะมัด พี่เขาดูเงียบๆ เหมือนมีอะไรในใจตลอดเวลาเหมือนสมัยเรียนเลย ฉันเลยมั่นใจว่าไม่ผิดตัวแน่”


          กานดิศปล่อยให้เพื่อนสาวจ้อไปเรื่อย เมื่อลลินเริ่มรู้สึกตัวว่าเพื่อนเงียบผิดปกติก็หันมาสะกิด


          กานดิศมองเพื่อนด้วยสายตาจริงจังก่อนจะเอ่ยปากถาม


          “แผนกแกเปิดรับคนเพิ่มปะ?”






          ลืมไม่ได้จะจำไว้ก็ได้ให้ใจเธอสบายก็พอ
          ลืมไม่ได้ก็ไม่อยากขอที่จะขอก็มีเรื่องเดียว






          “สวัสดีครับพี่รุ่ง จำผมได้ไหม”


          ไม่มีใครรู้ว่าใจเขาเต้นรัวแค่ไหนเมื่อได้มายืนตรงหน้าคนๆ นั้น... ได้สบกับดวงตาคู่นั้นอีกครั้ง


          “ผมกานดิศครับ เป็นรุ่นน้องคณะพี่”


          ใจเย็นไว้...




          อยากขอแค่ครึ่งใจ ให้เธอเริ่มต้นใหม่กับฉัน
          เก็บเขาไว้ครึ่งใจ ครึ่งที่เป็นความจำแล้วกัน







             “ผมชอบพี่ ขอผมจีบพี่... ขอผมจีบรุ่งนะ”






          เปิดประตูให้ฉันเข้าไป เข้าไปซ่อมไปแซมหัวใจ
          เปิดใจเธอแค่เพียงครึ่งใจ ขอเข้าไปขอเติมเต็มใจให้เธอ







             “รุ่งยังไม่ต้องรักผมก็ได้ ขอโอกาสให้ผมบ้างก็พอ... นะครับ”






          ฉันก็หวังลึกๆ ในใจ ว่าเธอจะเก็บไปคิด
          คงไม่เป็นแค่ฝันลอยลม สักวันหนึ่งคงมีสิทธิ์
          วันเวลาก็หมุนเวียนไป ไม่นานก็วันพรุ่งนี้
          อาจจะมีอะไรที่ดี ที่รอให้เธอได้เจอ







             “เปิดเพลงนี้อีกแล้ว” รุ่งรดิศเอ่ยปาก พอดีกับรถติดไฟแดง กานดิศจึงหันมามอง


             “ก็มันทำให้รุ่งให้โอกาสผมนี่”
         

             “เห็นถึงความพยายามหรอก”
   

           กานดิศยิ้ม ออกรถอีกครั้งเมื่อไฟเขียว
   

           ผมพยายามเพื่อรุ่งขนาดนี้แล้ว... รุ่งจะให้ครึ่งใจของรุ่งกับผมได้ไหม? 






          ลืมไม่ได้จะจำไว้ก็ได้ ให้ใจเธอสบายก็พอ
          ลืมไม่ได้ก็ไม่อยากขอ ที่จะขอก็มีเรื่องเดียว
         
          อยากขอแค่ครึ่งใจ ให้เธอเริ่มต้นใหม่กับฉัน
          เก็บเขาไว้ครึ่งใจ ครึ่งที่เป็นความจำแล้วกัน
          เปิดประตูให้ฉันเข้าไป เข้าไปซ่อมไปแซมหัวใจ
          เปิดใจเธอแค่เพียงครึ่งใจ ขอเข้าไปขอเติมเต็มใจให้เธอ








          “ผมเคยบอกรุ่งแล้วว่าไม่ต้องลืมเขาก็ได้ แค่ให้ผมได้อยู่ข้างๆ รุ่งก็พอ แต่ถ้าผมไม่ดีพอสำหรับรุ่ง... ทำให้รุ่งอึดอัดใจ แค่รุ่งบอกผม ผมจะไป...”


          กานดิศบอกแบบนั้นระหว่างที่กำลังขับรถพารุ่งรดิศกลับบ้าน


          “ผมเป็นคนทำให้รุ่งเสียใจหรือเปล่า”


          รุ่งรดิศร้อนรนเมื่ออีกฝ่ายทำเสียงเศร้า ริมฝีปากเม้มเน้น ดูเจ็บปวดอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน


          “กานต์ ผมขอโทษ”


          “รุ่งไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมไม่เคยโกรธรุ่งเลย ผมรู้ตัวว่ารุ่งไม่รักผม... แค่รุ่งยอมให้ผมอยู่ข้างๆ ผมก็ดีใจแล้ว”


          “ไม่ใช่นะ! ใครบอกว่าไม่รักกันล่ะ...”


          เมื่อรู้ตัวว่าหลุดปากพูด รุ่งรดิศก็หันไปมองกานดิศทันที พอเห็นอีกฝ่ายยิ้มพรายก็รู้ตัวว่าโดนหลอกเสียแล้ว


          “งั้นก็แปลว่ารุ่งรักผมแล้วใช่ไหม?”


          คนโดนหลอกเบือนหน้าหนี เมินคำพูดที่จะคอยหลอกล่อเขาให้หลุดปากนั่นทิ้ง


          “แม้แต่ครึ่งใจรุ่งก็คงให้ผมไม่ได้... ผมน่าจะรู้อยู่แล้ว”


          เสียงพึมพำนั่นไม่เบานัก เล่นเอารุ่งรดิศรู้สึกผิดขึ้นมาอีกระลอก ยิ่งแอบเหลือบมองใบหน้าเสียใจของกานดิศก็รู้สึกเสียใจเสียเอง


          “อื้อ”


          “ครับ?” กานดิศสงสัยที่อยู่ๆ อีกคนก็ส่งเสียง


          รุ่งรดิศขมวดคิ้วมุ่น


          “ผมตอบว่า อื้อ!”


          แก้มขาวเจือสีแดงระเรื่อ แต่กว่ากานดิศจะเข้าใจ รุ่งรดิศก็ดึงผ้าห่มจากลิ้นชักมาห่มมุดหน้าหนีไปเสียแล้ว


          ก่อนที่จะผล็อยหลับไปจริงๆ รุ่งรดิศก็สัมผัสได้ถึงแรงกดที่ริมฝีปาก... ผ่านผ้าห่มผืนบางๆ


          “ผมรักรุ่งนะครับ”













 
**ครึ่งใจ - กัน นภัทร



-----------
ตอนพิเศษสั้นๆ ค่ะ จริงๆ ไม่ได้คิดเลยว่าจะแต่งตอนพิเศษเกี่ยวกับกานดิศ ตอนนี้จะว่าเป็นความลับของกานดิศก็ได้

ตอนที่แต่งแรกๆ คาแรกเตอร์ของกานดิศจะเป็นคนซื่อๆ แล้วก็พยายามจะสื่อให้เป็นแบบนั้นด้วย แต่จริงๆ แล้วกานต์จะเป็นคาแรกเตอร์ประเภทแอบร้ายลึกๆ คือเขาวางแผนเองอะไรเองหมดนี่ล่ะ คือรู้สึกว่าถ้าเป็นคนซื่อจริงๆ มาอยู่กับรุ่งรดิศคงระทมทุกข์อะ แต่อันนี้จะเป็นแบบ ปากบอกว่าไม่ต้องลืม รอได้ แต่ตัวเองคือเดินหน้าเต็มกำลัง

แล้วก็เฉลยเรียบร้อยแล้วว่าเพลงที่นายกานต์อัดคลิปส่งให้รุ่งคือเพลงครึ่งใจนี่เอง ตรงสุดไรสุดค่ะ ตอนนี้ไม่เศร้า น่ารักกำลังดีเนอะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : ครึ่งใจ] 16/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-08-2015 01:32:33
น่ารักจ้า
คนที่อยู่  ก็ต้องหายใจต่อไป
คนที่จากคงไม่ชอบใจนัก ถ้าหากเราอมทุกข์
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : ครึ่งใจ] 16/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: purple ที่ 18-08-2015 22:21:44
จะร้องแล้ววว TT^TT. หน่วงสุดๆค่ะ
คือเนื้อเรื่องมาเรื่อยๆเรียงๆ แต่ทุกประโยคบาดจิตบาดใจมากค่ะ
ไม่รู้จะเรียกว่าจบแฮปปี้ไหม แต่ลงท้ายแบบนี้ก็โอเคมากค่ะ
เป็นกำลังใจให้คุณคนเขียนนะค้าาา

แก้ไขหลังอ่านตอนพิเศษค่ะ
คู่นี้น่ารักมากกก ไม่ต้องลืมเขาก็ได้ แต่ขอครึ่งใจให้ผมก็พอ แอร๊ยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : ครึ่งใจ] 16/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 20-08-2015 19:27:30
ตอนพิเศษกานต์น่ารักมากอะ ดูโรแมนติกกว่าที่คิดแฮะ ตอนแรกนึกภาพหมีตัวใหญ่ๆเข้มๆ555555 ไม่อยากให้จบเลยค่า มาอัพเรื่อยๆเถอะนะ ตอนพิเศษเล็กๆน้อยๆไรงี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : ครึ่งใจ] 16/08/58
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-08-2015 13:27:12
น่ารักค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 30-08-2017 14:05:21
ตอนพิเศษ




วันนี้รุ่งรดิศตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารและเก็บกวาดบ้านรับแขก จอมแก้วโทรมาบอกเขาได้หลายวันแล้วว่าจะมาเยี่ยมบ้านเนื่องจาก ‘เด็กชายรวีกานต์’ หรือน้องวี ลูกชายตัวน้อยวัยเจ็ดขวบของเธอร่ำร้องจะหา ‘อารุ่ง’ มาหลายเดือน



หลังจากที่รุ่งรดิศและจอมแก้วได้รู้จักกัน ทั้งสองก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆ โดยมากมักจะเป็นการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ เพียงแต่พักหลังนี้อาจจะได้คุยกันน้อยลงหน่อย เพราะว่าคุยกันทีไร น้องวีก็มักจะมาแย่งโทรศัพท์คุณแม่ทุกที ไม่ได้แย่งเพราะไม่อยากให้แม่คุยกับคนอื่นนะ แต่แย่งเพราะอยากคุยกับอารุ่งต่างหาก!



เด็กชายรวีกานต์เป็นเด็กชายตัวอวบแก้มยุ้ย น้ำหนักที่ขึ้นพรวดๆ จนเกินมาตรฐานทำให้จอมแก้วเริ่มห่วงว่าลูกชายจะเป็นเบาหวานตั้งแต่เด็ก ของโปรดของน้องวีคือช็อคโกแลตและเค้ก และความประทับใจแรกตั้งแต่น้องวีเริ่มจำความได้คือ อารุ่งที่มาเยี่ยมพร้อมกับเค้กช็อคโกแลตก้อนใหญ่ในวันเกิดอายุสามขวบ แน่นอนว่านับแต่นั้น อารุ่งก็เป็นขวัญใจเบอร์หนึ่งของน้องวีอย่างที่ไม่มีใครสามารถมาแทนได้



กานดิศเดินลงมาจากชั้นสอง เห็นคนรักกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว ชายหนุ่มเข้าไปหาอย่างเงียบเชียบ แอบหอมแก้มนวลที่เริ่มมีริ้วรอยตามวัยเสียฟอดใหญ่



“อรุณสวัสดิ์ครับ”



“อื้อ”



แก้มขาวขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก แม้จะย้ายมาอาศัยอยู่ด้วยกันหลายปีแล้วรุ่งรดิศก็ยังคงเขินอีกฝ่ายอยู่ เพียงแต่มีพัฒนาการมากขึ้นด้วยการหันกลับไปจุ๊บแก้มเบาๆ เป็นการทักทายยามเช้า



“วันนี้เจ้าเด็กอ้วนจะมาแล้วเหรอเนี่ย”



กานดิศโอบกอดคนรักหลวมๆ เกยคางวางบนบ่าคนตัวเล็กกว่า พูดเสียงงึมงำ



“ว่าหลานว่าอ้วนได้ยังไง ฮึ” รุ่งรดิศหยิกแขนอีกฝ่ายแบบไม่จริงจังนัก แต่กานดิศเล่นใหญ่ส่งเสียงร้องโอ๊ยออกมาเสียลั่น



“เด็กอ้วนยังไม่ทันมาเราก็กลายเป็นหมาหัวเน่าไปซะแล้ว โถ่”



กานดิศกับเด็กชายรวีกานต์เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด แม้ว่าชื่อจะมีคำว่ากานต์เหมือนกันก็ตาม หนึ่งผู้ใหญ่หนึ่งเด็กมักจะแย่งตัวอารุ่งจนทะเลาะกันเสมอ แน่นอนว่าฝ่ายที่ชนะมักจะเป็นเด็กชายรวีกานต์อยู่ร่ำไป แต่ไม่เป็นไร เพราะเมื่อเด็กอ้วนกลับไปแล้ว เขาก็จะจับคนรักมาลงโทษที่เมินเขาในวันนั้นด้วยการมอบจูบอันแสนหวาน ส่วนหลังจากจูบแล้วจะทำอะไรต่อไปนั้นก็เป็นความลับ



รุ่งรดิศส่ายศีรษะอย่างอ่อนอกอ่อนใจ เลยโดนกานดิศจูบไปหนึ่งที ขณะนั้นเองที่เสียงกริ่งดังขึ้น



“อารุ่งงง!!”



เด็กชายรวีกานต์ยืนเกาะรั้วตะโกนเรียกอยู่หน้าบ้าน เสียงดังเข้ามาถึงในครัว



“เด็กอ้วนเอ๊ยยย”



กานดิศเป็นคนออกไปเปิดประตูเพราะรุ่งรดิศกำลังทำอาหารอยู่ ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูรั้ว ทำเป็นหันซ้ายหันขวา



“เอ... เสียงใครนะ ไม่เห็นมีเลย”



“นี่ๆ อยู่นี่ไง”



“เอ๊ะ เสียงอะไรน่ะ”



“น้องวีเอง น้องวีไง”



“เสียงกุมารหรือเปล่าเนี่ย แต่เสียงเหมือนเด็กอ้วนเลย”



“น้องวีไม่อ้วนนะ!!”



จอมแก้วที่ยืนอยู่หลังลูกชายกลั้นหัวเราะเต็มที่ กลัวว่าถ้าหลุดไปให้น้องวีได้ยินเดี๋ยวจะโดนงอน ยิ่งเห็นน้องวีพยายามเกาะรั้วกระโดดเหยงๆ ก็ยิ่งขำ



เด็กชายหน้าบูดแก้มพอง เขย่ารั้วเสียงดังกึงๆ



ในที่สุดผู้ใหญ่สองคนก็หลุดหัวเราะออกมาดังลั่น กานดิศเปิดประตูรั้ว น้องวีทำท่าจะวิ่งตื้อเข้าไปทันที แต่ก็โดนคุณแม่คว้าคอเสื้อไว้เสียก่อน



“น้องวีต้องทำไงก่อนครับ”



“ใช่ๆ เจอหน้าอากานต์ต้องทำยังไงก่อน” ชายหนุ่มเอานิ้วจิ้มแก้มยุ้ยๆ สองสามครั้ง แอบแรงจนหัวน้องวีเอียงไปนิดหน่อย



“เชอะ!”



“รวีกานต์”



คุณพ่อพิชญะส่งเสียงเข้มมาจากในรถ เด็กชายรวีกานต์รีบยกมือไหว้และกล่าวสวัสดีเสียงดังฟังชัด ได้ยินดังนั้นกานดิศจึงยอมปล่อยตัวน้องวีเข้าไปในบ้าน



“สวัสดีครับแก้ว สวัสดีครับพี่ยะ สวัสดีค่ะหนูวา”



พิชญะลงจากรถ อุ้มลูกสาวอายุห้าขวบอยู่ในอ้อมแขน ‘เด็กหญิงเรวดี’ หน้าตาถอดแม่มา แต่ติดพ่อมากกว่า ทว่าเมื่อเห็นกานดิศก็ยกมือไหว้และยกแขนสูง



“อุ้มหนูหน่อย”



ถ้ากับเด็กชายรวีกานต์เรียกว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมา กับเด็กหญิงเรวดีก็ต้องเรียกว่าเป็นคู่หูปาท่องโก๋ เห็นกานดิศที่ไหน หนูวาก็ต้องอยู่ที่นั่น จะแยกกันทีต้องขอเวลาล่ำลาครึ่งชั่วโมง เพราะหนูวารักอากานต์ม๊ากมาก



“กานต์ ยังไงพี่ก็ขอฝากตัวแสบไว้สักวันนะ เดี๋ยวเย็นๆ มารับ”



“ไม่ต้องห่วงครับพี่ยะ เที่ยวให้สนุกเถอะ นานๆ ทีถึงจะมีโอกาส”



จุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ของพิชญะกับจอมแก้วคือเอาเด็กๆ มาเยี่ยมคุณอา ส่วนสองสามีภรรยาจะไปเติมความหวานกันสองคน แล้วค่อยกลับมารับเด็กๆ ตอนเย็น ยังไงเสียน้องวีก็เกาะติดกับอารุ่ง ส่วนหนูวาก็หนึบอยู่กับอากานต์ ต่อให้คุณพ่อคุณแม่อยู่ก็ไร้ตัวตนอยู่ดี แน่นอนว่าทั้งสองคุยกับลูกเรียบร้อยแล้วว่าให้อยู่บ้านอารอพ่อแม่กลับมารับ ซึ่งเด็กๆ โอเคกันอย่างง่ายดาย



จอมแก้วบอกความรู้สึกไม่ถูกว่าจะดีใจหรือเสียใจดีที่ลูกชายลูกสาวไม่ติดพ่อแม่เหมือนเด็กบ้านอื่น



หนูวาถึงขนาดโบกมือบ๊ายบายเมื่อพ่อกับแม่ขึ้นรถ ไม่มีงอแงแม้แต่ตอนที่รถขับออกไปแล้ว



“ป่ะ เราเข้าบ้านกันเนอะ”



















 :mc4:

ตอนพิเศษค่ะะะ เนื่องจากตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงหางาน(ซึ่งหายากมาก) เลยมีเวลาว่าง คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลยแต่งตอนพิเศษเสียหน่อย และเราก็ยังคงคอนเซปเดิมค่ะ อัพสั้นๆ แต่(พยายาม)อัพถี่ๆ 5555 ภาษาอาจจะเปลี่ยนไปบ้างนะคะ เพราะเว้นไปตั้งสองปีแน่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-08-2017 21:47:24
คิดถึง..กลับมาอย่างน่ารัก อยากอ่านต่อ  :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60
เริ่มหัวข้อโดย: mizuamechang ที่ 11-09-2017 23:39:35
อ่านจบน้ำตาไหลเลยค่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-09-2017 08:31:38
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] จดหมายจากคนไกล [จบแล้ว][ตอนพิเศษ : น้องวีและหนูวา] 30/08/60
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 07-11-2019 00:10:31
ไม่ต้องลืมพิชญ์หรอกรุ่ง มันเป็นความทรงจำที่ดี แค่มูฟออนกับคนใหม่ต่อไปแบบนี้ดีแล้ว ดีใจที่เปิดใจให้กานต์ ตอนรู้ความจริงบะอ่านจดหมายของพิชญ์ถึงรุ่ง แอบน้ำตาซึมเลย ซึ้งอ่ะ สนุก ชอบค่ะ