พิมพ์หน้านี้ - amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Silvan ที่ 30-04-2015 10:31:05

หัวข้อ: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 30-04-2015 10:31:05
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


................... :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                                                                                     
คุยกันสักนิดค่ะ
[/color][/size][/center]
           
คือว่านิยายเรื่องนี้ก็เขียนไปหลายตอนแล้วแต่ด้วยความที่สถานที่เราทำงานอยู่ห้ามเล่นคอมนะค่ะ

เราเลยใช้เวลาชิวๆว่างๆนั่งเขียนในสมุด

นิยายเขียนไปเกือบจบแล้วนะคะ

เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าเราจะดอง

แต่อาจช้าแบบความถี่ในการลงสองหรือสามวัน

เพราะเราต้องมานั่งแกะอักขระมารของเราเองเวลาพิมส์ลงคอม

เรื่องนี้เป็นแนวฮาเร็มค่ะ

เป็นฮาเร็มแบบไหนขออุบไว้ก่อน

รักคนอ่านค่ะ

หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่1 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <30/4/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 30-04-2015 10:31:54
ตอนที่ 1
   
คงจะถึงคราวตายแล้วจริงๆ
   
เด็กหนุ่มที่กำลังสิ้นหวัง เพราะจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งทะเลสาบคิดอย่างเศร้าสร้อย ถึงแม้ว่าในใจกำลังภาวนาให้ญาติของตนที่มาด้วย รีบช่วยเขาก่อนที่จะหมดลมหายใจ
   
ทว่าระยะเวลาแห่งการรอคอยดูเหมือนใกล้จะสิ้นสุด เด็กหนุ่มที่กำลังจะขาดอากาศหายใจ นึกยอมแพ้และตัดสินใจหลับลงตายอมรับชะตากรรม

แต่ถึงจะคิดเช่นนั้น ที่ตรงหน้า การปรากฏของร่างเปลือยเปล่าผอมบางของเด็กชายที่มีรูปโฉมงดงามดั่งเทวทูต ต่อให้เป็นเพศชายก็เถอะ แต่ความงามของร่างวิญญาณที่โปร่งแสงตรงหน้า เป็นความงามที่ล่มฟ้าล่มดินอย่างแน่นอน

เจ้าของร่างนั้น มีเส้นผมสีดำดั่งความมืด และดวงตากลมโตสีม่วง นอกจากนั้น ผิวกายยังขาวผุดผาดราวกับมีรัศมีแผ่กำจายส่องสว่างเฉกเช่นเดียวกับดวงจันทร์

   เด็กหนุ่มคิดว่าร่างวิญญาณตรงหน้าคงจะเป็นเทวทูตที่รับเขาไปสวรรค์ไม่ผิดแน่
   เทวทูตผู้งดงามยิ้มอย่างอ่อนหวาน พร้อมกับกางแขนทั้งคู่ออกกว้างราวกับจะโอบกอดตัวเขา

   ทันทีที่ถูกเทวทูตกอดรัด ร่างวิญญาณอันงดงามก็จมหายเข้าไปในร่างของเขา

   เด็กหนุ่มรู้สึกถึงการมีอยู่ของใครอีกคนในตัว

ในตอนนั้น ร่างวิญญาณของโยชัว ก็ถูกดีดออกมาจากกายเนื้อ เป็นจังหวะเดียวกับที่ร่างของเขาถูกบรรดาญาติที่มาเที่ยวด้วยกันลากขึ้นมาจากก้นทะเลสาบ

   “เฮ้ย โยชัวร์”

หนึ่งในบรรดาลูกพี่ลูกน้องของเด็กหนุ่มตะโกนเรียก  โยชัวร์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าในสภาพวิญญาณ มองดูญาติที่กำลังผายปอดให้ร่างกายของเขาอย่างสับสน

   เสียเวลาเปล่าน่า...ก็ในเมื่อวิญญาณออกจากร่างแล้ว ยังไงเขาก็ไม่ทางฟื้นขึ้นมาได้หรอก
   
โยชัวร์คิดอย่างหดหู่
   
หากแต่ร่างที่น่าจะตาย เพราะปราศจากวิญญาณของเด็กหนุ่ม กลับลืมตาโพลง แล้วลุกขึ้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อเพ่งมองดูให้ดีดี  โยชัวเห็นวิญญาณอันงดงามทับซ้อนกับร่างกายของเขา กลมกลืนจนแทบจะกลายเป็นเจ้าของร่าง แทนที่เจ้าของเดิมซึ่งตอนนี้เป็นวิญญาณเร่รอนอยู่ในอากาศ
   
“บ้าชัดๆ...นี่เขาถูกวิญญาณร้ายแย่งร่างกายเหรอ  บ้าไปแล้ว”
   
โยชัวร์ร้องตะโกนอย่างตื่นตระหนก ในตอนที่ยังไม่ได้ตั้งตัว ที่ด้านหลังของเด็กหนุ่ม ลมพายุที่บิดเป็นเกรียวก็ดูดร่างวิญญาณของเขา หายไปจากที่ตรงนั้นตลอดกาล
   
“แค่กๆ”
   
โยชัวร์สำลักอากาศอย่างรุนแรง หลังจากไอจนคิดว่าไม่สามารถจะไอไปได้มากกว่านี้ ความเจ็บทั่วร่างกายที่คล้ายมดแดงกัดทำให้เขารู้สึกชาจนขยับตัวไม่ได้

   เด็กหนุ่มพยายามปรือตามองดูรอบตัวว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ในเมื่อเขาไม่มีแรงแม้แต่จะขยับนิ้ว ที่เบื้องหน้าโยชัวจึงเห็นแค่เพียงเพดานที่น่าจะทำจากหิน
   
ที่นี่ที่ไหน
   
โยชัวร์คิด ทว่าร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงเกินกว่าจะอ้าปากพูดกับอาการคันยิบๆ ไปทั่วร่าง ทำให้เขาได้แต่อ้าปากผะงาบๆอย่างไร้เสียง
   
“อุตส่าห์วางยาพิษต่อต้านเข้าไปในร่างกายแล้วแท้ๆ  ทั้งๆ อย่างนั้น ตอนที่แกจะตายจริงๆ  ร่างกายโสโครกก็ยังอุตส่าห์พยายามรักษาตัวเองเพื่อให้แกมีชีวิตต่อไปสินะ”
 
เจ้าของเสียงเย้ายวนชะโงกหน้าเข้ามาในระยะสายตาของโยชัวร์

   คนตรงหน้าเป็นหญิงสาวผมแดงที่มีรูปลักษณ์สวยงามเย้ายวน ในระดับที่ใครหน้าไหนก็คงจะทนการรุกเร้าของหล่อนไม่ได้ หากแต่ว่าใบหน้าที่งดงามยั่วเย้าในตอนนี้  กำลังแสยะยิ้มชั่วร้ายเสียจนทำให้ความงามนั้นด้อยค่าลงไปมาก
   
“โยชัวนะโยชัว...แปด ปีมานี้ ข้าทรมานแกถึงขนาดนี้ยังไม่คิดที่จะตายอีกเหรอ... เอาเถอะตราบใดที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ข้าจะช่วยทรมานเจ้าไปทุกวันๆ  จนกว่าเจ้าจะยอมตายไปเลยทีเดียว หรืออาจจะตลอดกาล”

หญิงงามผู้มีใบหน้าเย้ายวนผละจากไป แต่เสียงหัวเราะของเธอยังดังก้องไปตลอดทาง ก่อนจะค่อยๆ เบาลงไปตามลำดับและเงียบลง
   
โยชัวร์กระพริบตาปริบๆ  เด็กหนุ่มหลับตานอนนิ่ง เขารู้สึกคันยิบๆ ไปทั้งร่าง ที่ร้ายไปกว่านั้นยังไม่มีแรงแม้จะขยับแค่ปลายนิ้วเลยเสียด้วยซ้ำ
   
ทว่าสิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้น คือเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ผู้หญิงที่สวยแต่จิตใจอัปลักษณ์คนนั้นเรียกชื่อเขาได้อย่างถูกต้อง แต่ถึงอย่างนั้นในชีวิตนี้  โยชัวก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นมาก่อนเลยแม้แต่ครั้งเดียว
   
ก่อนหน้านี้จำได้ว่าจมน้ำ หลังจากที่ถูกช่วยขึ้นมา เด็กหนุ่มก็ถูกเทวทูตแย่งชิงร่างกาย ก่อนที่จะถูกดูดหายเข้าไปในเกรียวพายุ แล้วลืมตาขึ้นมาที่นี่

   กลัว....
   
ทั้งที่วันเกิดอายุ 15 ปีนี้ โยชัวมาฉลองวันเกิดที่บ้านเก่าของพ่อท่ามกลางญาติมิตรที่รักมากมาย  ชีวิตของเด็กหนุ่มนับจากนี้กำลังมีอนาคตที่สดใสคอยอยู่  แต่ว่านรกที่รอรับเขาตอนที่ลืมตาตื่นขึ้น ก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกท้อแท้เกินกว่าที่จะรับไหว

   โยชัวร์รู้สึกได้ถึงหยาดน้ำจากดวงตาที่ไหลเปรอะแก้ม
   
ตอนนี้เขาสามารถขยับตัวได้แล้ว เด็กหนุ่มใช้มือปาดน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะผุดกายลุกขึ้นนั่ง

ในจังหวะนั้นเอง ที่โยชัวสังเกตเห็นบาดแผลจำนวนนับไม่ถ้วนบนร่างกาย
   
ถึงแม้ว่าร่างของเด็กหนุ่มจะชโลมเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและกลิ่นสนิม  รอยแผลฉกรรจ์บนร่างซึ่งกำลังสมานตัว ก็ไม่หลุดพ้นไปจากการสายตาของเขาที่มองดูเหตุการณ์นั้นอย่างพิศวง
   
ขณะมองสำรวจร่างกายที่กำลังรักษาตัวอย่างถี่ถ้วน  บริเวณหน้าอกของโยชัว ตรงกับจุดซึ่งเป็นที่อยู่ของหัวใจมีรอยแดงช้ำเป็นบริเวณกว้าง เด็กหนุ่มมองเห็นมันไม่ค่อยชัด จึงใช้มือลูบไล้ไปที่บริเวณนั้นสำรวจอย่างแผ่วเบา รอยบุ๋มที่สมานตัวเข้ากันแล้ว ค่อยๆ ถูกเติมเต็มทีละนิดจนพื้นผิวที่จุดนั้น กลับมาเรียบเนียนไร้รอยแผล
   
ความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับร่างกายของโยชัวร์ดำเนินไปเกือบสิบห้านาที  ในที่สุดร่างกายของเขาก็ปราศจากแม้แต่รอยขีดข่วนเล็กๆ

   สงสัยว่านี่คงจะไม่ใช่ร่างกายของเขา
 
โยชัวร์ยกมือที่ทั้งเล็กและนุ่มนิ่มขึ้นคลำใบหน้าและร่างกาย

ในตอนนั้นเอง เด็กหนุ่มก็เกิดความรู้สึกไม่ชอบใจ กับการที่เส้นผมสีดำ ซึ่งยาวรุงรังปลกคลุมใบหน้าและทัศนวิสัยทำให้เขามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ไม่ชัดเจน
   
ช่วงเวลาที่กำลังหงุดหงิดแบบนั้น  เสียงเปิดประตูอย่างกะทันหันที่ด้านหลัง  ก็ทำให้โยชัวร์หันหน้าไปมองเหล่าผู้คนที่ก้าวเข้ามาในห้อง โดยการนำของหญิงสาวในชุดเมดแบบโกธิค
   
“ยกอ่างน้ำเข้ามา”

พอหญิงสาวในชุดเมดสั่ง  ชายซึ่งยกถังไม้ขนาดใหญ่ก็ย่างเท้าผ่านประตูเข้ามา ด้วยแรงมหาศาลที่ยกถังไม้ขนาดให้คนเข้าไปนอนเล่นได้ แถมบรรจุน้ำจนเต็มด้วยตัวคนเดียว ทำให้โยชัวร์มองดูคนผู้นั้นตาไม่กระพริบ

และในทันทีที่อีกฝ่ายวางถังไม้ที่ปกปิดใบหน้าของตัวเองลง โยชัวก็ใช้มืออุดปากของตน ปิดกั้นเสียงร้องที่อาจจะเกิดขึ้น
   เด็กหนุ่มไม่อยากเป็นจุดเด่นให้ใครจับสังเกต หากแต่ดวงตาของเขายังไม่ละจากเจ้ามนุษย์หน้าเสือที่ถึงแม้จะยืนสองขา และมีแขนเหมือนคน

ทว่าร่างกายที่ปกคลุมด้วยขนสีส้มลายพาดกลอนและใบหน้าอย่างเสือโคร่ง ทำให้โยชัวร์ซึ่งเติบโตและมีประสบการณ์โลกแฟนตาซีผ่านทางอนิเมะ เกม และไลท์โนเวล ประมวลความคิดได้อย่างรวดเร็ว
   
“อ๊ะ”

โยชัวร์ร้องอุทานเบาๆ เมื่อจู่ๆ หญิงสาวในชุดเมดโกธิคตรงเข้ามาถอดชุดที่เขาสวมอยู่ เด็กหนุ่มใช้มือสัมผัสไปที่มือของอีกฝ่ายต่อต้านการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
   
แต่ทันทีที่แตะถูกตัว ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันราวกับภาพยนตร์ ก็ผ่านเข้ามาในสมองของเขาโดยตรง
   
ซูซานคือชื่อของคนตรงหน้า สิ่งที่เข้ามาในสมองของโยชัวร์ คือภาพของหญิงสาวที่เข้ามาดูแล หาอาหารและชำระร่างกายให้เขาทุกวันหลังจากที่ถูกทารุณอย่างโหดเหี้ยม
   
“จะทำอะไรน่ะหา”

เสียงตะคอกของซูซาน ทำให้โยชัวร์มีสติกลับมายังเหตุการณ์จริงที่เบื้องหน้า เด็กหนุ่มหดมือที่จับข้อมือของอีกฝ่ายแน่นกลับอย่างตกใจ

   เมื่อกี้นี้คือความทรงจำของผู้หญิงคนนี้เหรอ...

โยชัวร์ครุ่นคิดขณะยืนนิ่งให้ซูซานจัดการตามใจชอบอย่างทุกครั้ง เพราะชายหนุ่มได้เห็นแล้วว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำอะไร ด้วยภาพที่แล่นเข้ามาในสมอ เมื่อครู่  เขาจึงทำตามที่ซูซานต้องการราวกับตุ๊กตา

   “เฮอะ  ถ้ายอมตายไปซะก็ไม่ต้องทนทรมานต่อไปอีกแท้ๆ  เจ้ามันโง่ชัดๆ  ไม่รู้จะอดทนอะไร”
 
ซูซานพูดพร้อมกับฉีกเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มที่ขาดวิ่นและเปรอะเปื้อนอยู่แล้วออก ดูเหมือนว่าชุดที่โยชัวสวมอยู่จะเป็นชุดคลุมยาวคล้ายชุดนอน ดังนั้นพอฉีกออกจึงสามารถกำจัดเสื้อผ้าที่ติดกายเอาไว้ได้ในครั้งเดียว
   
รู้สึกอายนิดๆที่ต้องถูกผู้หญิงมองร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง แต่กระนั้นพอมองดูอีกฝ่ายผ่านผมเผ้ายาวรุงรังที่ปิดรกใบหน้า ท่าทางขึงขังและการแสดงออกด้วยความรำคาญอย่างชัดเจนทุกการกระทำ โยชัวเข้าใจว่า อีกฝ่ายคงไม่สนใจว่าเขาเป็นผู้ชายเลยซะด้วยซ้ำ

   โยชัวก้มลงมองเครื่องเพศของตนอย่างอดไม่ได้ เป็นอวัยวะเพศที่สีชมพูสวยก็จริง แต่ทว่าดูเล็กเหมือนของเด็ก ขนตรงนั้นก็ขึ้นน้อยซะจนน่าใจหาย เด็กหนุ่มเริ่มสำรวจบริเวณรักแร้และเรียวขาของตนอย่างหมกมุ่น
   
ไม่มีเลยแม้แต่น้อย
 
เด็กหนุ่มรู้สึกตระหนกที่ร่างกายปัจจุบันของตน ไม่มีขนขาหรือแม้แต่ขนรักแร้สักเส้น ดูจากส่วนสูงของเขาที่เตี้ยกว่าซูซานอยู่หลายเซนติเมตร
 
โยชัวเข้าใจว่าตัวเขาตอนนี้น่าจะสูงประมาณ 160 – 165 เซนติเมตร

จะว่าไปตัวเขาจริงๆก็อายุ 15 เหมือนกัน แต่ด้วยความที่เป็นลูกครึ่ง

เขาจึงสูงถึง 175 แล้วในช่วงก่อนที่จะมาสิงสู่อยู่ในร่างนี้

   หรือว่าร่างของเขาในตอนนี้ยังเป็นแค่เด็กประถมกันแน่นะ?

   “เอ่อ พี่ซูซาน ข้าตอนนี้อายุเท่าไหร่”

โยชัวเอ่ยปากถามโดยไม่ทันคิด กว่าจะเข้าใจถึงผลเสียที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มก็รู้ตัวช้าไปเสียแล้ว
   
ซูซานที่มีใบหน้าบิดเบี้ยว พุ่งเข้ามาตะครุบปิดปากโยชัว ก่อนที่จะจับเขากดนอนรายลงไปกับพื้นด้วยท่าทีตื่นตระหนก สายตาของเธอจับจ้องไปที่อีกฝากนอกห้อง

   เป็นเวลานานทีเดียวที่ถูกเธอใช้มืออุดปาก
   
“อย่าคิดบ้าๆ นะ บ้าใบ้ไปซะก็ดีอยู่แล้ว หากว่าท่านอมันด้ารู้ว่าเจ้ายังพูดได้ มีความรู้สึกนึกคิด ไม่ได้บ้า คิดดูสิว่าท่านอมันด้าจะเล่นงานเจ้าหนักกว่าเดิมแค่ไหน” 

ซูซานค่อยๆ คลายมือและผละออกหลังพูดจบ ก่อนที่จะกระซากมือโยชัว ถูลู่ถูกังไปยังอ่างน้ำที่ถูกยกเข้ามา เธอออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงตะคอกห้วนให้เด็กหนุ่มลงไปในอ่างน้ำ
   
ในระหว่างที่ชำระร่างกาย ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน ทว่าสัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยนของซูซานกับภาพซึ่งน่าจะเป็นความทรงจำของหล่อน ทำให้โยชัวรู้ว่าเธอดีกับเขา ไม่สิ...น่าจะกับเจ้าของร่างนี้แค่ไหน
   
ถึงตอนนี้โยชัวรู้ชัดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองแน่
   
ถึงจะรู้ไปก็ไม่สำคัญ สำคัญกว่านั้นคืออนาคตข้างหน้านั้นท่าทางจะมืดมนไร้ความหวัง
   
โยชัวหวาดกลัวอนาคตนับจากนี้จนตัวสั่น สั่นกลัวจนอีกอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่า เด็กหนุ่มกำลังหนาวเพราะอาบน้ำเย็น ทว่าพอถูกปลอบโยนด้วยคำพูดและไม่ต่างจากขู่กรรโชก จิตใจของเขาก็ค่อยๆสงบลง
   
โยชัวร์ครุ่นคิดถึงความสามารถติดตัวของเขาในร่างนี้
   
อย่างแรกก็คือรักษาบาดแผลอัตโนมัติ
   
อย่างที่สองคืออ่านความทรงจำ
   
โยชัวไม่รอที่จะทดสอบความสามารถอย่างที่สอง แต่ไม่ว่าจะพยายามเพ่งกระแสจิตหรือออกคำสั่งในใจเท่าไหร่ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้น พอคิดว่าตอนอ่านความทรงจำอีกฝ่ายครั้งแรกเป็นตอนที่ถูกสัมผัส แต่กระนั้นซูซานก็กำลังอาบน้ำสัมผัสเขาไปทั่วร่างแต่ก็ไม่เห็นมีเกิดอะไรขึ้น

   แย่แฮะ
   
ดูท่าจะเป็นความสามารถที่ไม่สามารถใช้ได้อย่างใจ  คงจะเป็นอบิลิตี้สกกิล ที่ต้องใช้การเรียนรู้และประสบการณ์สินะ
   
รู้สึกห่อเหี่ยวจนอยากตายอีกครั้ง
   
หลังจากถูกอาบน้ำแต่งตัวให้จนสะอาด  ซูซานก็ยื่นถาดอาหารให้โยชัวทาน โดยที่ออกคำสั่งให้ทหารหน้าเสือยกอ่างน้ำที่เต็มไปด้วยน้ำสกปรกออกไป  พอเด็กหนุ่มรับประทานอาหารเสร็จ  ซูซานก็ถือถาดอาหารผละจากไปโดยไม่พูดไม่จา แต่กระนั้นก่อนที่จะออกจากห้องขังไป เธอชะงักเท้าแล้วหยุดนิ่ง

   “เจ้าตอนนี้น่าจะอายุสักสิบห้า ไม่สิ...ต้องสิบห้าแน่นอน”  ซูซานพูดทิ้งท้ายก่อนจะจากไป

   ความอ่อนโยนอันน้อยนิดที่ได้รับทำให้โยชัวร์รู้สึกมีความหวังเล็กๆ
   
ถึงแม้ว่าลึกๆ แล้วจะรู้อยู่แก่ใจว่า พรุ่งนี้และวันถัดๆ ไปอาจจะต้องเผชิญชะตากรรมถูกทารุณทุกๆ วันไปจนกว่าจะเน่าเปื่อยและสูญสลายไป

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ขอโทษค่ะเราอ่านนิยายของเราดูแล้วตอนแรกๆเขียนได้มั่วมาก

เราเลยมาแก้ไขค่ะ จะทยอยแก้ตอนที่มั่วๆไปทีละตอนนะคะ

รัคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่1 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <30/4/58>
เริ่มหัวข้อโดย: glasses girl ที่ 30-04-2015 12:24:49
ว้าวน่าสนใจ

โยชัวสลับร่างแถมหลงมิติด้วยสินะ o13
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่1 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <30/4/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 30-04-2015 12:57:45
น่าติดตามมมากค่ะ รอตอนต่อไปค่าาาาา
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่1 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <30/4/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 30-04-2015 14:49:41
โอ๊ะ ตามมมมมมมม
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 01-05-2015 09:08:30
ตอนที่ 2

   “วันนี้ดูเหมือนว่าจะตื่นตัวกว่าทุกวันนะ”  อมันด้าพูดขณะกลั้วหัวเราะเสียงสูง
   
หลังจากการทารุณโยชัวจนสาแก่ใจ เด็กหนุ่มถึงแม้จะถูกกรีดท้องหรือถูกถอดเล็บจนสภาพยับเยินราวกับเศษเนื้อ ทว่าระหว่างที่ถูกกระทำโยชัวไม่รู้สึกอะไรไปมากกว่าถูกมดกัดเบาๆ จนคันยิบๆ เท่านั้น

   ยังไงก็เถอะ ถึงแม้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่ภาพน่าหวาดเสียวที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาตระหนกเสียจนแทบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ดวงตากลมโตที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำรุงรังเหลือบตามองเล็บบนนิ้วทั้งสิบที่กำลังงอกขึ้นใหม่อย่างช้าๆ ดูเหมือนว่าการรักษาตัวของเขาจะทำให้อมันด้าไม่พอใจ  เธอใช้รองเท้าส้นสูงเหยียบมือเขา บดขยี้จนเลือดไหลซิบด้วยใบหน้าขัดเคือง


   “เจ้าสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำน่ารังเกียจ”

อมันด้าพูดก่อนจะชักเท้าออกจากห้องขังไป ปล่อยให้โยชัวที่มีสภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วนอนคว่ำหน้าอย่างหมดแรงสมานแผลกายอย่างช้าๆ
   
ต้องโดนอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอเนี่ย

   ไม่เจ็บก็จริงแถมไม่ตายแต่ทว่าก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากห้องทรมานนี้ได้ นี่ขนาดวันนี้เป็นวันแรกที่เผชิญหน้ากับความเป็นจริง เขายังรู้สึกเครียด กลัว ทั้งสะอิดสะเอียนขนาดนี้ ถ้าต้องเจอแบบนี้ต่อไปอีกหนึ่งเดือนเขาคงเป็นบ้า
   
โยชัวคิดด้วยความสิ้นหวัง เด็กหนุ่มรู้สึกว่าภาพของครอบครัวสมัยที่ตัวเองยังอยู่ในร่างก่อนค่อยๆ ห่างออกไปทุกที พลันได้ยินเสียงด่าทอด้วยความไม่พอใจของอมันด้า

   กำลังทะเลาะกับใครอยู่นะ

   โยชัวรู้ว่าอมันด้ากำลังพูดตอบโต้กับใครบางคน แต่อีกฝ่ายนั้นพูดด้วยเสียงที่เบาซะจนเขาไม่ได้ยิน

เสียงของอมันด้าเริ่มเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ

   อันที่จริงเด็กหนุ่มแทบจะไม่รู้หรอกว่าเถียงกันเรื่องอะไร เพราะจากเสียงที่ได้ยินทั้งคู่อยู่ห่างไกลจากตัวเขามากพอดู

แต่ถึงอย่างนั้นเพราะเสียงที่ค่อนข้างดังของอมันด้าถึงแม้จะจับคำพูดไม่ได้แต่ก็สามารถเข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายกำลังเปล่งเสียงด้วยความรู้สึกเช่นไร
   
หลังจากที่อมันด้าตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว เสียงก็เงียบไป คราวนี้เสียงที่คล้ายจะออดอ้อนก็ดังขึ้น จากนั้นไม่นานก็กลายเป็นเสียงหอบฮั่ก ตามด้วยเสียงหวีดหวานครวญครางของอมันด้าก็ดังอย่างต่อเนื่อง

โทนเสียงที่ทั้งออดอ้อนสลับกับความยโสในแบบของราชินีดังสลับกันไป ในที่สุดเสียงหวีดสูงอย่างสมสุขก็ดังก้องไปทั่วก่อนที่จะกระตุกขาดหายอย่างกะทันหัน

   แปลกจังแฮะ ทำไมเสียงมันกระตุกหายเหมือนแผ่นดีวีดีเป็นรอย

   เอาเถอะยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขา

ยังไงซะชีวิตนี้ก็คงทำได้แค่รอวันตายในคุกหรือไม่ก็เป็นบ้า

เขาไม่มีอารมณ์จะสนใจใคร ทั้งนั้น

   ผ่านไปสิบนาที
   
บาดแผลที่ถูกแหวกท้องเริ่มจะเชื่อมกัน รู้สึกดีที่แผลที่ใหญ่ที่สุดสมานเป็นเนื้อเดียวกันจนได้ แต่อย่างนั้นก็ยังขยับกายไม่ได้ดั่งใจ จึงนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้นรอให้แผลตามตัวสมานกันให้มากกว่านี้

พลันเสียงเปิดประตูห้องขังของเขาก็ดังขึ้น โยชัวไม่มีอารมณ์เงยหน้ามองจึงนอนคว่ำหน้าแล้วนิ่งเฉย สักพักคนที่เปิดประตูก็เดินลงส้นเท้าเข้ามายืนอยู่ที่เหลือศีรษะ

   “ตายแล้วอย่างนั้นเหรอ”

น้ำเสียงที่ทรงอำนาจและเย้ายวนดังขึ้น เสียงของผู้ชายคนนี้ทั้งทรงพลังทั้งยั่วยวนจนใจแทบสั่น

 โยชัวได้ยินเสียงของพวกดาราหรือนักร้องมาก็มาก แต่ไม่เคยได้ยินเสียงของคนที่มีชื่อเสียงคนไหนจะทำให้รู้สึกหวั่นไหวจนร่างกายสั่นระริกได้มากเท่านี้
   
ทว่าขณะที่คิดด้วยความวาบหวามแบบแปลกๆ ก็ถูกอีกฝ่ายกระชากเส้นผมให้ยืนขึ้น

วินาทีที่ถูกกระชากผมให้ยืนขึ้น ภาพความทรงจำที่เต็มไปด้วยสีสันก็วาบเข้ามาในสมองของโยชัว เสียงผู้คนและสัตว์ป่าจำนวนมากโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง จุดสายตาของเขาเหลียวมองไปยังประชาชนที่มีทั้งร่างแบบมนุษย์ไปจนถึงร่างอมนุษย์ ดูปราดเดียวก็รู้ว่าพวกนี้ล้วนแต่เป็นปีศาจ
ในขณะที่มองดูรู้สึกได้ถึงความเหนือกว่า และความรู้สึกหยามหยัน ทั้งยังสมเพช.... ราวกับเป็นความรู้สึกของตัวเอง

“นังเผ่าเทพจองหอง”

จุดสายตาหันไปยังที่เจ้าของเสียง ใบหน้าที่งดงามเย้ายวนของอมันด้าถูกมองดูด้วยระดับความสูงที่ต่ำกว่า ก่อนจะเบนสายตาไปยังสตรีผมเงินที่ทั้งงดงาม ทั้งสูงส่ง กริยาท่าทางที่เยื้องกรายเห็นได้ชักว่าถูกขัดเกลามาอย่างไร้ที่ติ

เป็นความงามที่เหนือกว่าผู้คน นอกจากรูปโฉมที่งดงามแล้ว ปีกสีขาวหกปีกที่อยู่ด้านหลังบอกชัดถึงเผ่าพันธุ์ของเธอผู้งามอย่างเหนือโลก

“สักวันหนึ่งจะกระชากปีกสีขาวพวกนั้นให้ขาดวิ่น น่ารังเกียจ ทั้งๆ ที่สามารถหุบปีกเกะกะพวกนั้นได้แท้ๆ แต่ก็ยังจองหองกางปีกที่น่าชิงชัง อย่างกับจะประกาศว่าตัวเองเป็นถึงธิดาแห่งเทพสวรรค์ น่าขำสิ้นดี”

 คำผรุสวาทของอมันด้าดังข้างหู ดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนไม่คิดจะปกปิดความในใจเท่าไหร่จึงพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังอย่างไม่เกรงใจใคร

แต่กระนั้นจุดสายตาก็ยังจ้องมองอยู่ที่ร่างสูงส่งของเทพธิดา ที่ข้างๆ ของเทพธิดามีเด็กชายเผ่าเทพที่ดูคล้ายจะลอกแบบความงามและเผ่าพันธุ์มาจากผู้เป็นแม่ยืนอยู่ ทว่าจุดสายตาของเจ้าของความทรงจำไม่ได้อยู่ที่นั้นกลับเป็นเด็กอายุสี่ขวบที่ถูกเทพธิดาอุ้มอยู่ในอ้อมกอด

จุดสายตาหรี่ลงเล็กน้อยขณะจับภาพของเด็กสี่ขวบที่ว่า เด็กในอ้อมกอดนั้นตัวเล็กน่ารักราวกับเทวดาตัวน้อยที่ถูกวาดบนเพดานโบสถ์ในศาสนาคริสต์ ตอนนี้โยชัวชักเริ่มจะหงุดหงิดที่จุดสายตามองเด็กสี่ขวบมากเกินจำเป็น


“นังลูซิเอล่าที่น่าชิงชังอุตส่าห์แสร้งรับเจ้าลูกครึ่งมนุษย์ที่พอเกิดมาก็ดึงเอาพลังศักดิ์สิทธิ์จากแม่มันไปหมด ตัวอัปมงคลแท้ๆ พอเกิดมาก็ทำให้นังดาเลเน่ตายทันที ดูเหมือนว่าพลังในฐานะสตรีศักดิ์สิทธิ์จะถูกโอนถ่ายไปให้เด็กโสโครกนั่นเลยไม่สามารถรักษาตัวเองได้อย่างที่เคยเป็นสินะ ถึงจะน่าสมเพชแต่ก็สบใจทางนี้อยู่ทีเดียวล่ะ”

 จุดสายตามองดูอมันด้าหัวเราะเสียงกังวาน ก่อนจะปรับสายตาลงมาในระดับปกติมองดูเด็กชายวัยห้าขวบผมสีทองซึ่งยืนขนาบอยู่อีกข้างของอมันด้า เด็กวัยห้าขวบผมทองพอรู้สึกถึงจุดสายตาก็สะดุ้งตกใจผวากอดอมันด้าอย่างเกรงๆ
ความรู้สึกสนุกสนานและอยากกลั่นแกล้งแล่นริ้วขึ้นมาราวกับเป็นความรู้สึกของเขาเอง
โยชัวเริ่มคิดว่าเจ้าของจุดสายตาคงไม่ใช่เด็กนิสัยดีเท่าไหร่ ในตอนนั้นเสียงที่ดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่าก็ดังไปทั่วบริเวณ จุดสายตาถูกปรับมุมขึ้นสูง ที่ตรงหน้าชายร่างยักษ์ที่ใหญ่โตพอๆ กับตึกสามสิบชั้นกำลังนั่งอยู่บนบัลลังค์ขนาดยักษ์

ใบหน้าที่ดุดันเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้ม ผิวสีทองแดงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อบอกชัดถึงความเป็นนักรบของคนตรงหน้า แวบนึงความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์รุนแรงเกิดขึ้นก่อนที่ภาพแห่งสีสันจะเลือนหายไปและกลับสู่ความเป็นจริง

ตอนนี้เขาถูกกระชากจนตัวลอยด้วยการขยุ้มจับเส้นผมสีดำที่ทั้งยาวทั้งสกปรก รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ทว่าดูเหมือนเส้นผมกับหนังศีรษะเขาดูจะแข็งแรงดีอย่างไม่น่าเชื่อ

โยชัวใช้ดวงตากลมโตมองดูใบหน้าของอีกฝ่ายที่เข้ามาประชิดผ่านทางเส้นผมยาวรุงรังปิดหน้าปิดตา
คนตรงหน้ามีเส้นผมสีแดงดั่งเปลวเพลิงเป็นสีเดียวกับอมันด้าก็จริงแต่ก็เป็นสีที่จัดจ้านร้อนแรงยิ่งกว่า ดวงตาที่มองอย่างเย็นชาทั้งสองข้างมีสีสันที่ต่างกัน ข้างหนึ่งเป็นสีแดงแบบเดียวกับเส้นผม ส่วนอีกข้างกลับเป็นสีม่วง

 เครื่องหน้าทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นหูตาจมูกปากที่ประกอบเข้ากัน ก่อให้เกิดความงามแบบลึกลับเย้ายวน หากเป็นอิสตรีเพศคงจะงดงามกว่าอมันด้าเป็นร้อยเป็นพันเท่า หากแต่กับบุรุษตรงหน้าที่มีเรือนกายสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าที่งดงามเย้ายวนอย่างลึกลับไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายเหมือนสตรีเพศแต่อย่างใด ทว่ากลับมีกลิ่นอายแห่งความดิบเถื่อนของบุรุษเพศฟุ้งกระจายไปทั่วร่าง เป็นรัศมีแห่งอำนาจที่เรืองรองอย่างที่พวกลาสบอสพึงจะมี

“แปลกแฮะ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ข้าอ่านใจไม่ได้”

คนตรงหน้าพูดด้วยเสียงอ่อนหวานยั่วยวนหากแต่ตาสองสีกลับมองมาที่โยชัวอย่างเย็นชา ยิ่งดวงตาของคนทั้งคู่ประสานกัน เด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกถึงความประสงค์ร้ายที่ฉายชัดในดวงตาสองสีคู่นั้น
พริบตาที่รู้สึกกลัวจนตัวสั่น

โยชัวก็ถูกดึงเข้าสู่อ้อมอกแกร่ง ชายตรงหน้าสอดขาข้างหนึ่งเข้ามาที่หว่างขาของเขาอย่างต้องการรองรับร่างที่อ่อนปวกเปียกจนแทบยืนเองไม่ไหว

ชายตรงหน้าใช้สองมือเกลี่ยปัดเส้นผมที่รกปกปิดใบหน้าออก  โยชัวรู้สึกเย็นวาบที่ใบหน้า อากาศซึ่งอันที่จริงก็ไม่บริสุทธิ์กระทบใบหน้าของตนให้ความรู้สึกดีเล็กน้อย

“เปรอะเลือดไปหมดเลย ดูเหมือนว่าแผลตามร่างกายและใบหน้ายังไม่สมานดีเท่าไหร่สินะ”

พูดด้วยเสียงยั่วเย้า พร้อมกับหัวเราะในลำคอราวกับสนุกสนานและพึงพอใจ ชายตรงหน้าใช้มือเกลี่ยรอบแผลที่แก้มซึ่งยังไม่สมานตัวดี ก่อนจะใช้ปลายลิ้นไล้เลียที่บริเวณนั้นอย่างไม่รังเกียจ

โยชัวตกใจจนตัวแข็งทื่อ หากแต่ว่ายังไม่หยุดแค่นั้น ชายตรงหน้าไล้เลียรอยแผลบนใบหน้าของเขาก่อนที่จะหยุดประสานสายตากับเขาด้วยแววตาที่ทำให้ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน

ในตอนนั้นเองปลายลิ้นสีแดงก็ฉกวูบที่ดวงตาของโยชัว อีกฝ่ายไล้เลียดวงตาเขาอย่างทนุถนอมหากแต่เด็กหนุ่มกลับกรีดร้องในใจด้วยความโกรธและหวาดกลัว

โยชัวเคยอ่านข่าวว่าการเอาลิ้นมาเลียดวงตาอาจทำให้ติดเชื้อโรคจนถึงขั้นตาบอด ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าคิดอะไรแต่นี่มันเป็นการทรมาณทรกรรมเขาอยู่ชัดๆ
   
อยากจะดิ้นรนขัดขืนแต่เด็กหนุ่มสำเหนียกได้ว่าตัวเองไม่มีแรงพอจะต่อต้าน พอผละจากดวงตาของเขาที่ตอนนี้เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาที่หลั่งออกมา ชายตรงหน้าก็ใช้ปลายลิ้นไล้เลียคลอเคลียริมฝีปากเขาด้วยใบหน้าที่ไม่บ่งบอกความรู้สึก หากแต่แววตาสองสีนั้นคุกกรุ่นดุดันจนใจสั่นไหว พริบตานั้นเรียวขาแกร่งที่สอดประคองช่วยให้เขายืนก็ถูกชักกลับชายผมแดงออกเดินโดยฉุดกระชากให้เขาที่แทบไม่มีแรงเดินตาม

ทว่าเพราะว่าแข้งขาไร้เรี่ยวแรง ในที่สุดก็กลายเป็นถูกคนตัวโตกว่าดึงลากไปตามทางอย่างสมบูรณ์

รู้สึกโกรธจนเดือดปุดๆ

ถึงรู้ว่าร่างนี้มีชะตากรรมที่อาจจะต้องถูกทำแบบนี้ แต่การกระทำที่หยาบคายของอีกฝ่ายทำให้เขาอยากจะโกนด่าให้หายแค้น
แต่โยชัวในตอนนี้บอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ ขณะที่ปล่อยกายปล่อยใจให้อีกฝ่ายลากไปตามพื้นอย่างปลิดปลง ชายผมแดงก็หยุดการเดินลงแล้วเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิด

ดวงตาสองสีประสานเข้ากับดวงตาของโยชัวที่มีแววท้าทายและดึงดันอยู่ในที

พริบตานั้นมือแกร่งก็คว้าร่างเด็กหนุ่มแบกเข้าสีข้างด้วยแรงมหาศาลเดินตัวปลิวออกจากคุกไปด้วยความเร็ว ระหว่างออกจากคุกโยชัวสังเกตเห็นซากศพของอมันด้าที่ถูกทิ้งไว้ที่พื้น

เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนี เขากลัวจนตัวสั่น เมื่อชายผมแดงรู้สึกว่าเขากำลังกลัว อีกฝ่ายก็ไม่รีรอที่จะพูดจาหยอกเย้าด้วยเสียงที่ทรงอำนาจและเย้ายวนจนเขานึกสาปแช่งอีกฝ่ายนับครั้งไม่ถ้วน

เริ่มต้นจากถามว่าเพิ่งเคยเห็นคนตายเหรอ

หลังจากนั้นก็เริ่มเปิดการบรรยายการตาย วิธีการฆ่า และซากศพในแต่ละแบบ

จิตวิปลาส

ยิ่งเขาน้ำตาคลอหรือแสดงความหวาดกลัวด้วยร่างกายอันสั่นเทามากเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ดูจะอารมณ์ดีเท่านั้น
 ดูเหมือนว่าระหว่างทางเดิน ซึ่งเป็นบันไดวนขึ้นไปสู่เบื้องบนชักจะยาวนานเกินไปเมื่อต้องฟังการฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีของคนที่กำลังแบกตนเองเดิน ในที่สุดก็พ้นออกจากคุก แสงสว่างที่ได้เพิ่งได้ได้รับ ทำเอาโยชัวตาพร่า

พอปรับสายตาได้พวกอมนุษย์ที่ดูเหมือนจะเป็นทหารมองมาที่เขาด้วยสายตาดูหมิ่น พวกมันแสดงออกถึงความขยะแขยงอย่างชัดแจ้ง
สายตาและท่าทางของอมนุษย์พวกนั้นทำเอาโยชัวรู้สึกแย่ รู้สึกแย่จริงๆ อาจเพราะว่าสมัยที่เขายังอยู่ในร่างตัวเองไม่เคยมีใครมองเขาด้วยสายตาแบบนี้

เด็กหนุ่มในสมัยก่อนเป็นคนเข้ากับคนง่าย ยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ดังนั้นตลอดเวลาสิบห้าปีเต็ม เขาไม่เคยมีศัตรูที่จะคอยว่ากระแทกแดกดันหรือมองดูราวกับมองดูแมลงสาปอย่างนี้

รู้สึกแย่มากเมื่อถูกมองดูด้วยสายตาระหว่างที่ถูกอุ้มเดินนับครั้งไม่ถ้วน รู้สึกอึกอัดจนเหมือนเท้าของเขากำลังถูกดูดลงสู่โคลนตม ร้ายไปกว่านั้นสายตาหลายคู่ยังมองเขาด้วยความหิวกระหายคล้ายกับมองอาหารโอชะจนสุดท้ายต้องก้มหน้าหลบสายตาเหล่านั้น
หากแต่ไม่วายถูกคนที่แบกเดินอ่านพฤติกรรมออกได้ ชายผมแดงหัวเราะหึหึอย่างสนุกสนาน

“ทำไงได้ล่ะก็สกปรกเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและขี้โคลนในคุกไม่ต่างจากกองอาจมเลยนี่น้า จะถูกมองอย่างนี้ก็ต้องทำใจละนะ”

โยชัวกัดริมฝีปากตนเองจนเลือดซิบด้วยความโกรธ รู้ตัวดีอยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่เจ็บแถมอีกสักแป๊บแผลก็จะหายไป ดังนั้นจึงสามารถทรมานร่างกายตนเองอย่างไม่รู้สึกผิดใดๆ ทั้งนั้น

โครม

เสียงฝ่าเท้าของชายผมแดงถีบประตูเปิดเสียงดังสนั่น ไม่รู้ว่าถูกพามาที่ไหนเพราะก้มหน้า หากแต่โดยไม่ทันตั้งตัวก็ถูกเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น รู้สึกเจ็บนิดๆ แบบโดนมดกัดบริเวณที่กระแทกพื้นอย่างแรงง

“ดูเหมือนว่าท่านแม่จะถูกฆ่าตายซะแล้วที่คุกใต้ดิน”
 เสียงทรงอำนาจเย้ายวนประกาศก้อง ในเวลาเดียวกันกับที่ เสียงของผู้คนมากมายในท้องพระโรงแตกฮือราวกับฝูงสัตว์

“เพราะงั้นเจ้าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้เท่ากับไม่มีคนดูแล เพราะฉะนั้นข้าจะขอรับไปเอง”

เสียงของผู้คนเซ็งแซ่อีกครั้งหลังจากเงียบเสียงลงเพื่อเปิดโอกาสให้ชายผมแดงพูด
ที่รอบๆ ทั่วทั้งท้องพระโรงมีทั้งเสียงเห็นด้วยและคัดค้านดังกระหึ่มดูวุ่นวายสับสนจนโยชัวต้องก้มหน้าลงต่ำ ลุ้นระทึกไปพร้อมกับคาดเดาชะตากรรมที่ดูเหมือนจะซับซ้อนและพลิกผันไม่จบสิ้น

“ตามใจสิ”

 เสียงแหบพร่าที่ทำเอาสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งห้องเอ่ยอนุญาต จุดสายตาของโยชัวตอนนี้อยู่บริเวณนิ้วเท้าอันใหญ่โตของเจ้าของเสียง

นิ้วเท้ายังมหึมาขนาดนี้เป็นได้ว่าขนาดตัวของคนที่นั่งอยู่บนบัลลังค์ยักษ์จะต้องใหญ่โตอย่างมาก
ภาพในความทรงจำของคนอื่นที่เห็นในคุกวาบเข้ามาในพริบตา จะว่าไปเขาดูความทรงจำของผู้ชายผมแดงคนนั้น ท่านพ่อที่ใหญ่โตมโหฬารคนนี้มีหน้าตาแบบไหนคงไม่แคล้วต่างจากภาพในความทรงจำสักเท่าไหร่

“ข้าคัดค้านครับท่านพ่อ”

โยชัวลอบมองเจ้าของน้ำเสียงเย็นเยียบราวน้ำแข็งที่ปลายสาตาผ่านเส้นผมยาวระพื้นซึ่งปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิด
เขาเห็นชายหนุ่มร่างกำยำผู้มีใบหน้างดงามหากแต่เย็นชาราวกับก้อนน้ำแข็ง ร่างกายสูงสง่านั้นล้วนแต่ประกอบด้วยสีสันซึ่งเป็นสีขาวโพลนไปทั่วทั้งร่าง

ทว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจเขามากที่สุดกลับเป็นปีกหกข้างสีขาวสะอาดที่อยู่เบื้องหลัง ภาพของเด็กชายที่มีปีกที่เห็นจากความทรงจำผุดวาบขึ้น

“ถ้าจะให้พูดจริงๆ ลาซาลัสมีงานสำคัญที่จะต้องทำอยู่ เรื่องที่ท่านอมันด้าตาย เขาเป็นคนพบศพคนแรกแถมยังไงก็เป็นแม่ของเขาเอง เรื่องนี้ย่อมสำคัญกว่าจะเอาเวลามาดูแลเด็กเล็กๆ”

“ที่ลูเซียพูดมาก็ถูก เจ้าคิดว่ายังไงลาซาลัส”
เสียงของท่านพ่อสร้างแรงสั่นสะเทือนให้ห้องกว้างอีกครั้ง ลาซาลัสที่รับข้อตกลงอย่างง่ายๆ  ทำเอาโยชัวรู้สึกหดหู่

“ถ้าอย่างนั้นคนที่เหมาะสมที่สุดตอนนี้ข้าคิดว่าน่าจะเป็นชาร์ฮาร์ เขาเพิ่งจะเข้าพิธีเป็นผู้ใหญ่มาหมาดๆ ยังไม่ได้รับหน้าที่อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ท่านพ่อจะว่ายังไง”

โยชัวเงียหูฟังลูเซียเสนอแนะด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น พอท่านพ่อผู้มีร่างกายใหญ่โตถามความเห็นของชาร์ฮาร์
เด็กหนุ่มก็เบนสายตาลอบมองดูว่าชาร์ฮาร์คือใครด้วยความคาดหวัง

ขอให้ไม่ใช่อมนุษย์น่ารังเกียจ นิสัยหยาบช้าชอบทรมาน
ไม่สิ ขอแค่มีร่างกายอย่างคนปกติหรือแค่เหมือนก็พอ

 เขาทำใจได้ระดับหนึ่งแล้วหากต้องถูกทรมาน ทว่าเสียงตอบรับจากร่างที่โผล่เข้ามาในดวงตานั้นคือเด็กหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำผู้มีผิวกายสีน้ำผึ้ง เส้นผมสีทองเป็นประกายขับเน้นความหล่อเหลาและสดใสดูดีจนแทบตาพร่า

ทำไมมีสปอร์ทไลท์แมนมาอยู่ในที่ๆ เหมือนนรกแบบนี้ได้

ความดีใจผุดวาบขึ้นมาจนแทบจะลุกขึ้นเต้นระบำ
ก่อนจะรู้สึกสิ้นหวังมากยิ่งกว่าเดิม เมื่อนึกถึงฆาตกรโรคจิตและตัวร้ายในอนิเมะที่มีลักษณะภายนอกเป็นคนโคตรหล่อ คูล เพอร์เฟค หากแต่เนื้อใน ร้ายกาจ หยาบช้า หาความดีไม่ได้

เขาไม่เคยดูหนังพวกหั่นๆ สับๆ อย่างพวกซอว์ หรือหนังโหด ทว่าก่อนหน้านี้หลายชั่วโมงในคุก เขามองการทรมานสดๆ โดยที่ตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำถึงจะรู้สึกเจ็บปวดแค่คันๆ เท่านั้น
ทว่าหากเป็นไปได้ไม่อยากเห็นภาพหรือถูกทำอย่างนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง

โยชัวหมอบลงกับพื้นด้วยร่างกายสั่นระริก
รู้สึกได้ถึงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ฝีเท้าจะหยุดลงตรงหน้า เด็กหนุ่มหวาดกลัวจนแทบไม่กล้าเงยหน้า แต่กระนั้นก็ยังฝืนมองเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยทัก

“ไม่ต้องกลัว เจ้าคงจะลุกไม่ไหวสินะ”

โยชัวมองดูชาร์ฮาร์ที่ตอนนี้ส่งรอยยิ้มเจิดจรัสมาให้ พริบตานั้นเด็กหนุ่มถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้นจากพื้นด้วยท่าเจ้าสาว ดวงตากลมโตเบิกกว้าง โยชัวมองดูใบหน้ายิ้มแย้มของชาร์ฮาร์ซึ่งอยู่ในระยะใกล้ผ่านเส้นผมรกรุงรังที่ปกปิดใบหน้า

“อย่ากลัวข้า”

ชาร์ฮาร์กระซิบเสียงอ่อนโยน
เสียงนั้นทำให้โยชัวจิตใจสงบจนเผลอเอนศีรษะพิงอกอีกฝ่ายขณะที่ถูกพาจากไปอย่างไม่รู้จุดหมาย


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนสองแล้วนะคะตอนนี้กำลังให้น้องสาวช่วยพิมนิยายโดยแกะอักษรโทรลจากสมุดของเราอย่างเต็มกำลัง

รักคนอ่านค่ะ








หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: rabbit-orange ที่ 01-05-2015 09:40:00
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 01-05-2015 10:44:25
สงสารโยชัวร์จัง แต่มีบางส่วนที่อยากให้ปรับเล็กน้อยนะคะ คือช่วงที่โยชัวแตะตัวแล้วอ่านใจได้แล้วมันก็ต่อออกมาที่พาร์ทปัจจุบันเลยคือมันงงอ่ะ ไม่รู้ว่าสิ่งที่โยชัวเห็นมันจบลงตรงไหน เราอ่านไปมาก็อ้าวอมันด้าตายตอนไหนวะ อยากให้มันมีจุดตัดสิ่งที่เห็นกับเหตุการปัจจุบันนิดนึง
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 01-05-2015 11:40:50
พระเอกปรากฏตัวรึยังน้อออออ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 01-05-2015 13:27:21
ชอบมากกกกก รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 01-05-2015 14:53:23
ชอบแนวนี้อะ รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: glasses girl ที่ 01-05-2015 18:04:16
โอ๊ะมีแต่คนหน้าตาดี

มาต่อไวไวน้า
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 01-05-2015 22:06:09
อยากอ่านต่อแล้วจ้า :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 02-05-2015 20:46:46
ชอบค่ะ สนุกดี

มาต่อเร็วๆนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่2 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <1/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 03-05-2015 10:12:36
ตอนที่ 3

   ระหว่างที่ถูกอุ้มเดินไปตามทางอย่างเจ้าสาว ชายหนุ่มผู้เปล่งประกายวิบวับยิ่งกว่าดวงตะวันหรือชาร์ฮาร์ก็เปิดปากพูดคุยกับกับโยชัว สลับกับตอบรับคำทักทายอย่างนอบน้อมและปลาบปลื้มของเหล่าทหารและคนในวังซึ่งล้วนเป็นอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์อย่างเป็นกันเองไปตลอดทาง
   
และถึงแม้โยชัวจะแสดงออกถึงความไม่ไว้วางใจและมึนตึงสักแค่ไหน  ชาร์ฮาร์ก็ไม่มีท่าทีรำคาญหรือไม่ชอบใจสักนิด ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสยังคงเล่าเรื่องนี้อธิบายเรื่องโน้นได้อย่างลื่นไหลโดยไม่คิดแม้แต่จะหยุดพักหายใจ
   
ในที่สุดโยชัวก็ถูกอีกฝ่ายพามาถึงปราสาทส่วนแยกทางด้านตะวันตก ถึงแม้จะบอกว่าเป็นปราสาทแยกแต่ถ้าสังเกตให้ดีจะมีทางเดินเชื่อมเป็นทางยาวระหว่างปราสาทแยกกับปราสาทหลักอยู่  แต่เดิมปราสาทหลักซึ่งถูกพาออกมาเป็นสัดส่วนในพื้นที่เดียวกันก็ยังใหญ่มากอยู่ดี

   ชาร์ฮาร์อธิบายว่าปราสาทแยกนี้เป็นที่อยู่ของพวกเจ้าชายซึ่งโตแล้ว แถมยังพูดต่อไปว่าเขาเองก็ถูกย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนอายุสิบสองปีเช่นกัน

   พอก้าวเข้าไปในปราสาท บรรดาสาวใช้ในชุดเมดโกธิค ก็กรูกันเข้ามาต้อนรับผู้ป็นนายก่อนจะชะงัก
พวกหล่อนเบ้หน้าแล้วแสดงท่าทางรังเกียจโยชัวอย่างชัดแจ้งจนเด็กหนุ่มรู้สึกห่อเหี่ยวใจ
   
ทำไงได้ล่ะก็สกปรกเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและขี้โคลนไม่ต่างจากกองอาจมเลยนี่น้า

คำพูดของลาซาลัสผุดวาบเข้ามาในความคิด 

โยชัวก้มลงดูสภาพที่เต็มไปด้วยเลือดและสิ่งสกปรกที่ติดกายตน ก่อนจะยกแขนตัวเองขึ้นดมเสียงฟุดฟิดแล้วผงะออกด้วยกลิ่นสนิมและอะไรหลายอย่างที่รวมกันแล้วทำให้รู้สึกขยะแขยงจนน้ำตาแทบร่วง
   
จะไปก่อนหน้านั้นเพราะอยู่ในคุกอับๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดเลยทำให้เขาไม่รู้สึกถึงกลิ่นที่น่าขยะแขยงของตัวเอง
ทว่าพอมาอยู่ในที่ๆ มีอากาศสดชื่นบริสุทธิ์ ขนาดตัวเองยังรับไม่ได้ ไม่แปลกที่คนอื่นจะแสดงสีหน้าแบบนั้น

   “อยากอาบน้ำ”

   โยชัวพูด เด็กหนุ่มใช้มือเล็กๆ กระตุกแขนเสื้อของชาร์ฮาร์ ดวงตากลมโตช้อนมองผ่านเส้นผมสีดำรกปกปิดใบหน้า

“อ๋อ จริงสินะ”
   
ชาร์ฮาร์ทำสีหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ ดูเหมือนว่าชายหนุ่มผู้เจิดจรัสคนนี้จะไม่รู้สึกถึงความสกปรกที่ติดอยู่บนร่างกายของโยชัวเลยสักนิด จะเรียกว่าตายด้านเฉยเมย หรือเป็นคนดีซะจนไม่สนใจว่าร่างเล็กสกปรกแค่ไหนก็ไม่ทราบได้ ในตอนนั้นเอง ชาร์ฮาร์ก็ออกคำสั่งให้เมดสาวในชุดโกธิคพาเขาไปอาบน้ำรวมถึงปรนนิบัติรับใช้อย่าให้ขาดตกบกพร่อง

แต่ดูเหมือนว่าแม่สาวเมดพวกนั้นจะประท้วงโอดครวญและพากันแสดงความลำบากใจ
   
ยิ่งพวกสาวเมดแจกแจงเหตุผลที่ไม่ยอมปรนนิบัติรับใช้เขามากเท่าไหร่ ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสก็ดูเหมือนจะมีท่าทางลำบากใจมากเท่านั้น ตอนนี้ชาร์ฮาร์อ้าปากพะงาบๆ อย่างคนหมดหนทาง
   
ยิ่งดูยิ่งรู้สึกสมเพชปนสงสารจนทนไม่ได้
   
โยชัวเริ่มเข้าใจพื้นฐานนิสัยของชายที่กำลังโอบอุ้มเขาอยู่ขึ้นมาทีละนิด เด็กหนุ่มกระตุกแขนเสื้อของชาร์ฮาร์เบาๆ อีกครั้ง

   “อยากอาบเอง”

   ในที่สุดโยชัวก็ได้รับคำอนุญาตให้อาบน้ำเองได้ ทว่าร่างเล็กที่ตอนนี้ที่ถูกพามาห้องอาบน้ำที่กว้างขวางกำลังเขม่นมองชาร์ฮาร์ที่ดึงดันจะช่วยเขาอาบน้ำให้ได้ โดยให้เหตุผลว่าเขายังเป็นแค่เด็กเล็กแถมยังตัวสกปรกมากขนาดนี้อาบเองคงจะไม่สะอาดถ้าไม่มีคนช่วย

   “ข้าอายุสิบห้าแล้วนะ”

 โยชัวมองช้อนคนที่ตัวสูงกว่าเกินยี่สิบห้าเซนติเมตร ในสภาพผมเผ้ายาวรุงรังลากพื้น เนื้อตัวสกปรกมอมแมม เด็กหนุ่มยืนจังก้าประสานสายตากับชาร์ฮาร์ในสภาพนี้มาเป็นเวลาสิบนาที ก่อนที่จะเปิดปากพูดเพราะไม่ว่าจะแสดงออกถึงท่าทางไม่พอใจหรือส่งสายตากดดันเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ยืนเฝ้าเป็นยักษ์ปักหลั่นแสดงเจตนารมย์อันมุ่งมั่นที่ต้องการจะช่วยเขาชำระล้างร่างกายให้จงได้
   
“ทำไมล่ะข้าเองก็มีคนช่วยอาบน้ำตั้งแต่เด็กนะ จนถึงตอนนี้ก็ยังให้พวกเมดพวกนั้นรับใช้อยู่ อาบน้ำเองมันก็ดีอยู่หรอก แต่พวกแผ่นหลังหรือตรงจุดที่มองไม่เห็นมันก็ลำบากอยู่นะ”
   
ชาร์ฮาร์พูดหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่ในเรื่องปกติของปกติที่เจ้าตัวพูดมานั้นทำเอาโยชัวหน้าแดงก่ำ เด็กหนุ่มวันสิบห้าจิตนาการถึง ’เฮ็นไต’ อนิเมะที่มีเมดสาวจำนวนมากช่วยอาบน้ำให้พระเอกของอนิเมะเรื่องนั้น โชคยังดีที่เส้นผมรกรุงรังปิดบังใบหน้าของเขาทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร

   “ยังไงก็อยากอาบเองนี่นา ไม่ชอบให้ใครมาแตะน่ะ”

โยชัวยืนยันความคิดของตัวเองออกไป  ในใจนึกถึงความยุ่งยากที่จะตามมาหลายอย่างเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะตอบโต้คำขอของเขาด้วยความรุนแรงหรือเปล่า เพราะงั้นตอนนี้จึงยืนตัวเกร็งอย่างผิดปกติ เด็กหนุ่มกำมือทั้งสองข้างแน่น แต่ก็ทำใจดีสู้เสือโดยการส่งสายตาแน่วแน่มองดูอีกฝ่ายตรงๆ

   “เข้าใจล่ะ แต่ถ้าไม่สะอาด ทางนี้จะเข้าไปช่วยอาบให้นะ”

   พอได้รับคำอนุญาต โยชัวที่รู้สึกผ่อนคลาย ก็สลัดชุดที่สวมใส่ซึ่งมีสภาพไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้วออกทางหัว
 ร่างเล็กเดินฉับๆ ไปยังบ่อน้ำร้อนที่กว้างมาก พอจะหย่อนเท้าลงไป เด็กหนุ่มก็ชักเท้ากลับเพราะร่างกายที่เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกของตัวเอง

   รู้สึกเกรงใจที่จะทำให้น้ำทั้งบ่อสกปรก
   
โยชัวมองซ้ายมองขวา ดวงตากลมโตสังเกตเห็นอุปกรณ์อาบน้ำและขันไม้วางอยู่ใกล้ๆ เด็กหนุ่มจึงใช้สิ่งนั้นจัดการทำความสะอาดร่างกายทันที

มือเล็กใช้ขันไม้ตักน้ำในบ่อราดตัวตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้าหลายครั้ง ก่อนจะหยิบสิ่งที่ดูยังไงก็เหมือนสบู่ขึ้นมาขัดถูตามร่างกาย ร่างเล็กรู้สึกดีใจสุดๆ ที่โลกนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใกล้เคียงกับโลกที่เขาเคยอยู่ อย่างน้อยก็มีสบู่

   หลังจากใช้สบู่ขัดถูตามร่างกายโดยเมินเฉยชาร์ฮาร์ราวกับฝ่ายนั้นไม่มีตัวตน  โยชัวที่คิดว่าเนื้อตัวสะอาดหมดจดดีแล้วก็คว้าเอาขวดแก้วทั้งหมดขึ้นมาดมแล้วเทใส่มือไปทุกๆ ขวด ในที่สุดเด็กหนุ่มก็พบสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นยาสระผม

รู้สึกปลื้มปิติจนน้ำตาแทบไหล สองวันมานี้ทุกครั้งและตลออดเวลาเขารู้สึกว่าอยากจะสระผมวันนึงสักหลายๆ ครั้งก็เพราะว่าผมของเขาตอนนี้มันยาวมาก ยาวจนนึกรำคาญในความยาวของของมัน อยากตัดมันออกแต่ก็ไม่มีอุปกรณ์
จะขอร้องคนดูแลก็เกรงใจ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือทำความสะอาดและดูแลมันให้สกปรกน้อยที่สุด
   
โยชัวนั่งขัดสมาธิแล้วเทน้ำยาสระผมลงบนฝ่ามือ เด็กหนุ่มชโลมน้ำยาลงบนเส้นผม เนื่องจากผมเขายาวมาก การสระผมจึงเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่กำลังวุ่นวายกับเส้นผม ชาร์ฮาร์ที่เข้ามาประชิดทางด้านหลังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ก็อาสาช่วยเหลือ

เพราะว่ามันยุ่งยากมากบวกกับสิบห้าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยไว้ผมยาวมาก่อน ยิ่งยาวจนลากพื้นขนาดนี้ โยชัวจึงไม่รู้สึกตะขิดตะข่วงใจที่จะให้อีกฝ่ายช่วยจัดการเส้นผม
   
จู่ๆ ภาพความทรงจำที่เต็มไปด้วยสีสันของชาร์ฮาร์ก็วาบเข้ามาในสมองของโยชัว

เสียงโอดครวญร้องขอของบรรดาเมดสาวหลายคน ดูเหมือนว่าพวกเธอจะวอนขอให้ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสยิ่งกว่าสิ่งใดในพิภพไปอาบน้ำ

“เจ้าชาย...ท่านชาร์ฮาร์คะ ได้โปรดเถอะค่ะ ท่านไม่อาบน้ำมาเจ็ดวันแล้วนะคะ”
หนึ่งในบรรดาเมดสาวจำนวนมากโอดครวญขณะที่ชาร์ฮาร์ยืนปรึกษาเรื่องสำคัญกับบรรดาแม่ทัพนายกองซึ่งเป็นอมนุษย์ครึ่งสัตว์ทั้งหมด

“ตัวข้าเหม็นเหรอ”
 ชาร์ฮาร์ถามอย่างสงสัย ก่อนจะใช้จมูกสูดกลิ่นกายของตัวเอง

“ไม่ค่ะท่านชาร์ฮาร์ไม่มีทางมีกลิ่นโสโครกอย่างนั้นแน่ แต่เพื่อให้สมฐานะ การรักษาความสะอาดเป็นสิ่งที่เชื้อพระวงศ์ควรทำเจ้าค่ะ”
เหล่าเมดสาวพูดประสานเสียง หากแต่เหล่าแม่ทัพนายกองซึ่งเป็นอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์กลับเอ่ยคัดค้านจนเหล่าเมดสาวตีหน้ายักษ์

“ฝ่าบาทชาร์ฮาร์โปรดอย่าได้เชื่อแม่พวกไร้สมองพวกนี้ เผ่าอมนุษย์ครึ่งสัตว์หรือพวกอสูรกลายร่างอย่างเรากลิ่นฟีโรโมนสำคัญนะฝ่าบาท ยิ่งพวกเราไม่อาบน้ำ กลิ่นกายของเผ่าพันธุ์เราจะยิ่งหอมฟุ้ง ขนาดกระหม่อมเองยังไม่อาบน้ำมาแล้วสามเดือน...”
พอนายกองอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งไฮยีน่าพูดจบเหล่าเมดสาวก็ส่งสียงยี้มองดูด้วยความรังเกียจ

ในตอนนั้นเองความรู้สึกลำบากใจของเจ้าของความทรงจำที่เห็นเหล่าเมดกับทหารคนสนิทของตนเขม่นกันทำให้ชาร์ฮาร์ตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง

ไม่ใช่ไม่ชอบอาบน้ำ แต่มีเรื่องให้ทำมากซะจนไม่มีเวลาต่างหาก
นอกจากนั้นเขาไม่รู้สึกสักนิดว่าตัวเองมีกลิ่นเหม็นที่ตรงไหน

ในตอนนั้นเองเจ้าของความทรงจำก็ขยายร่างใหญ่ขึ้น พริบตานั้นร่างที่เคยเป็นมนุษย์กลายสภาพเป็นสัตว์สี่ขาขนสีทองฟูฟ่อง
ชาร์ฮาร์ในร่างหมาป่าอสูรใหญ่ยักษ์กระโจนลงสระน้ำที่มีขนาดใหญ่โตกว่าร่างกายเพียงเล็กกน้อย ก่อนจะร้องเรียกให้เหล่าเมดสาวช่วยทำความสะอาดร่างกายใหญ่ยักษ์ที่เต็มไปด้วยขนอย่างสนุกสนาน

ภาพเหตุการณ์นั้นสร้างความขบขันให้โยชัวจนหัวเราะออกมาเบาๆ ยิ่งตอนอาบน้ำสลัดขนอย่างหมานี่ยิ่งเด็ดมาก ที่บอกให้คนอาบน้ำเพราะทำความสะอาดไม่ทั่วก็เพราะแบบนี้สินะ

“จักกะจี้เหรอ”

เสียงของชาร์ฮาร์ดังขึ้นพอดีกับที่ภาพความทรงจำหายไป  โยชัวจำต้องเออออไปตามน้ำเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะถามซอกแซ่ก

“ถ้าเกิดว่าข้าจะขอตัดผมเจ้า เจ้าจะว่าอะไรหรือเปล่า”
 โยชัวพยักหน้าหงึกหงักเมื่ออีกฝ่ายร้องขอสิ่งที่ตรงกับใจตัวเองอย่างที่สุด

หลังจากนั้นชาร์ฮาร์ที่ไปหยิบกรรไกรมาก็เริ่มตัดผมหน้าที่รกรุงรังออก ใช้เวลาไม่นาน ใบหน้าที่ไม่ได้สัมผัสอากาศมานานก็เย็นวาบ ทัศนวิสัยที่เคยถูกบดบังตอนนี้กระจ่างชัดเมื่อไม่มีสิ่งใดมาปกปิด

ดวงตากลมโตประสานเข้ากับดวงตาสีทองของชาร์ฮาร์ และเพราะว่าชายหนุ่มผู้เจิดจรัสวิ้งวับมองจ้องมาที่เขานานจนรู้สึกแปลกๆ โยชัวจึงหลุบดวงตาลงแล้วเกาหัวแกรกๆ
เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงอ้อมแอ้ม

“เอ่อ จะตัดผมต่อไหม”

“อือ แน่นอน”
ชาร์ฮาร์ที่เหมือนจะได้สติแสดงความกระตือรือร้น ชายหนุ่มเดินอ้อมไปที่ด้านหลังจัดการกับผมที่ยาวจนเกินปกติ

“อยากตัดสั้นๆ น่ะ”
โยชัวร้องขอคนที่จรดกรรไกรกับปลายเส้นผมของตน

“เอาขนาดไหน”
ชาร์ฮาร์ถามเสียงนุ่มนวล

“เอาเกรียนๆ เอาให้สั้นที่สุด”

ใช่

โยชัวคิดอยากจะได้ทรงเดียวกับพวกนักเรียนมัธยมต้นที่ประเทศไทยให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะช่วงเวลาที่อยู่ในร่างนี้เขาได้สัมผัสถึงความยุ่งยากในการไว้ผมยาวเต็มกลืนแล้ว

“จะดีเหรอ”

“ดีสิ”
โยชัวตอบคำถามชาร์ฮาร์อย่างมุ่งมั่น


“แต่คงไม่ได้หรอกมั้ง”

“ทำไมล่ะ”
โยชัวย้อนถามคนที่เอ่ยปฏิเสธความต้องการของตนด้วยน้ำเสียงลำบากใจ

“ก็เด็กชายเชื้อพระวงศ์จะต้องไว้ผมยาวจนถึงบรรลุนิติภาวะนี่นา”

“เอ๊ะ”
 โยชัวขมวดคิ้ว เด็กหนุ่มพยายามนึกภาพของชาร์ฮาร์ ลาซาลัส และลูเซียในความทรงจำ ดูเหมือนว่าคนที่ไว้ผมยาวจริงๆ ในวัยเด็กจะมีแค่ลูเซียเท่านั้น
 
คิดแล้วก็อ้าปากจะเอ่ยค้าน แต่ก็ต้องหุบฉับ ไม่รู้ว่าเจ้าของร่างของเขาถูกจับยัดคุกทรมานตั้งแต่อายุเท่าไหร่ อยู่มากี่ปี ในเมื่ออีกฝ่ายยืนยันว่าเขาทำกันแบบนี้ ถ้าหากเขายังโวยวายเอาแต่ใจไร้สาระ นอกจากจะถูกจับผิด แถมสถานภาพที่ไม่แน่นอนของตัวเองตอนนี้ไม่รู้ว่าจะถูกทำอะไรบ้าง

“เข้าใจแล้ว”

“งั้นตัดให้ยาวเหลือแค่ข้อเท้าพอนะ”
ชาร์ฮาร์ทำเสียงระริกระรื้นจนโยชัวรู้สึกหงุดหงิด คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน

หากตัดให้ยาวถึงข้อสำหรับเขาแล้วไม่เห็นจะต่างกับไม่ตัดตรงไหน แต่ถ้าจะคิดอีกทีก็ยังดีกว่าปล่อยให้ลากพื้นเหมือนตอนแรก
หลังจากตัดผมเสร็จ ตอนนี้โยชัวยืนประจันหน้ากับชาร์ฮาร์ในสภาพเปลือยเปล่า พอเห็นอีกฝ่ายมองดูเขาด้วยสายตาแปลกๆ เหมือนจะเรียบเรียงสิ่งที่ควรทำไม่ถูก โยชัวก็ร้องขอเสื้อผ้าทันที

“อ๋อ จริงด้วยแฮะไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย งั้นใส่ชุดคลุมนี่ไปก่อน”

ชาร์ฮาร์หยิบชุดคลุมสีขาวหนานุ่มยื่นให้โยชัวรับไปใส่อย่างรู้งาน หากแต่สวมเสร็จชายผู้เจิดจรัสยิ่งกว่าดวงจันทร์ในยามค่ำคืนก็เข้ามาทำท่าคล้ายจะอุ้ม ทำให้เด็กหนุ่มถอยกรูดออกจากระยะเอื้อมของคนตัวใหญ่กว่าทันที

“ตอนนี้เดินเองได้แล้ว” โยชัวบอก

ชาร์ฮาร์ได้ฟังก็ร้องอ้อ รู้สึกว่าคิ้วบนใบหน้าหล่อเหลาขมวดเล็กน้อยแต่ก็แค่ชั่วแวบเดียว
หลังจากที่ชาร์ฮาร์พาเขาไปยังห้องห้องหนึ่ง เจ้าตัวก็บอกว่าเป็นห้องส่วนตัวของเขาที่ท่านพ่อจัดไว้ให้ตั้งแต่แรก ก่อนจะเดินออกไปพร้อมพึมพำ ‘แย่แฮะๆ’ ไปตลอดทาง ทิ้งโยชัวไว้ให้ยืนรอในสภาพชุดคลุมตัวเดียวเพียงลำพัง

เด็กหนุ่มเมื่อได้อยู่ในห้องคนเดียวตามลำพังก็อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจไปทั่วห้อง ดวงตากลมโตชะงักเข้ากับกระจกบานใหญ่เท่าตัวคน ตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้ยังไม่มีสักครั้งที่จะเห็นร่างตัวเองได้อย่างชัดๆ พอคิดจะเดินไปตรงกระจก ชาร์ฮาร์ก็เดินโครมครามเข้ามาพร้อมกับเสื้อผ้าและอะไรอีกหลายอย่าง

“ใส่เป็นหรือเปล่า”

โยชัวพยักหน้าแล้วตอบอีกฝ่ายไปว่าไม่มีปัญหา เด็กหนุ่มถอดเสื้อคลุมออกแล้วเริ่มสวมใส่เสื้อผ้าทีละชิ้น มีบางจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นขอความเห็นว่าใส่แบบนี้ถูกต้องไหม จังหวะนั้นชาร์ฮาร์ก็จะเสมองไปทางอื่นพร้อมกับบอกวิธีใส่ที่ถูกต้องให้
ในที่สุดพอถึงชิ้นสุดท้ายที่ต้องใช้ผ้ารัดเอว ชาร์ฮาร์ก็ขยับตัวเข้ามาจัดการสอนวิธีใช้ผ้ารัดเอว ก่อนจะจัดการรวบผมที่ยาวจนถึงข้อเท้า

 รู้สึกตะหงิดๆ เล็กน้อยกับทรงผมที่ถูกอีกฝ่ายทำให้ แต่พออีกฝ่ายพูดว่าถ้าปล่อยไว้มันจะยาวเกะกะจนไม่ชอบใช่ไหม โยชัวก็รู้สึกเห็นด้วยขึ้นมา

ถ้าทำให้มันเกะกะน้อยที่สุดก็จะเป็นผลดีกับตัวเองละนะ

โยชัวคิดพรางมองเสื้อผ้าเนื้อดีนุ่มสบายหากแต่ดูกรุยกราย ตอนแรกยังไม่เอะใจและต่อต้านเท่าไหร่ ทว่าพอเห็นตัวเองในกระจกเต็มตาแล้ว โยชัวแทบจะหัวเราะไม่ออก

ไอ้สาวน้อยโพนี่เทลนี่มันใครกัน

ใบหน้าและรูปร่างนี้มันช่างเหมือนกับเจ้าวิญญาณร้ายที่มีความงามล่มฟ้าดิน ซึ่งแย่งร่างกายเขาไปไม่ผิดเพี้ยนตอนนี้ตัวเขาในกระจกคือเทวทูตที่แยกเพศแทบไม่ออก

ผมที่ดำยาวสลวยถูกมัดรวบเป็นทรงโพนี่เทลด้วยเครื่องประดับที่ฝั่งพลอยอเมทิสต์สีเดียวกันกับดวงตาของเขาเสื้อผ้าสีฟ้าครามดูกรุยกรายช่วยขับผิวที่ขาวพุดผ่องราวกับเปล่งแสงได้ให้ดูกระจ่างตายิ่งขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากตัวผ้าที่ใช้ทำนั้นดันเปล่งแสงแวบวับตามการสะท้อนของแสงที่ตกกระทบได้ จนรู้สึกสงสัยว่าไอ้เสื้อชุดนี้ใช้ผ้าอะไรทำ โยชัวขมวดคิ้วดูเนื้อผ้าที่ชายแขน

“ชอบเหรอ ชอบก็ดีแล้วเพราะสั่งตัดไปแล้ว ภายในวันนี้น่าจะได้เจ็ดถึงแปดชุด”
ชาร์ฮาร์พูดด้วยรอยยิ้มกว้างส่องประกายเจิดจรัสแว้บๆ หากแต่พอเห็นใบหน้าซืดเผือดเหมือนถูกผีหลอกของโยชัว ชายหนุ่มก็หุบยิ้มลง

“อยากได้เสื้อผ้าธรรมดา เอาแบบเจ้าใส่ก็ได้”

 โยชัวกดเสียงต่ำ พยายามเก็บอาการโกรธองตัวเองเอาไว้
ไอ้ทรงโพนี่เทลนี่ยังพอจะทำใจได้แต่ไอ้ชุดกรุยกรายส่องแสงแวบได้นี่ ถ้าไม่ขจัดออกไปคงไม่พ้นถูกมองเป็นสาวดุ้น

“ไม่ได้หรอก”

“ห๊ะ” โยชัวอุทานเมื่ออีกฝ่ายตอบปฏิเสธด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“ก็โยชัวยังไม่เป็นผู้ใหญ่นี่นาจะแต่งจะแต่งตัวแบบผู้ใหญ่ได้ยังไง”

โยชัวรู้สึกเหมือนถูกตีหัว เหตุผลบ้าๆ นี่ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ จากความทรงจำของชาวบ้านไม่เห็นคนอื่นจะแต่งตัวแบบเขาตรงไหน

“อย่าเรื่องมากนักเลย ท่านพ่อถึงจะปล่อยให้ทำอะไรตามใจชอบได้ แต่จริงๆ แล้วท่านเป็นคนที่เข้มงวดมากนะ ถ้าท่านโกรธ ต่อให้เป็นข้าก็คงจะช่วยอะไรโยชัวไม่ได้”

โยชัวคอตก คำพูดของชาร์ฮาร์เท่ากับเป็นการประกาศกฎที่ห้ามละเมิด

“แล้วข้าจะบรรลุนิติภาวะตอนไหน” โยชัวถามทั้งที่ยังคอตก

“ยี่สิบละมั้ง”
ชาร์ฮาร์ทำเสียงเหมือนลังเล
 “ไม่สิยี่สิบห้าน่ะแหล่ะ”

เวรกรรม
หากว่าในเวลาอันใกล้เขาเติบโตเป็นหนุ่มล่ำกล้ามโตแต่อายุยังไม่ถึงยี่สิบห้าก็ต้องแต่งอย่างนี้เหรอ

 บ้า! บ้ามากๆ

“เจ้าตอนนี้อายุเท่าไหร่”

“ข้าเหรอ สักสามสิบได้มั้ง” ชาร์ฮาร์ตอบพรางเกาคอแกรกๆ

“แล้วพี่น้องคนอื่นๆ ล่ะ”

“อ้อท่านพี่ลูเซียห้าสิบ ส่วนท่านพี่ลาซาลัสสี่สิบได้ละมั้ง”

โยชัวฟังแล้วก็ถอนหายใจ

การที่คนพวกนี้อายุมากแต่มีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างกับคนวัยหนุ่ม ก็คงเพราะเป็นเผ่าปีศาจ ในที่สุดก็เข้าใจว่ายังไงก็ต้องทำตามกฎของที่นี่อย่างไม่อาจบิดพริ้ว

สำหรับเด็กหนุ่มที่เป็นคนง่ายๆ จึงทำใจให้ยอมรับได้อย่างไม่ยากอะไร

ในตอนนั้นเองความรู้สึกตื้นตันและอบอุ่นก็พลุ่งพล่านขึ้นมา ดวงตากลมโตสีม่วงช้อนมองคนตัวสูงกว่าอย่างสำนึกขอบคุณ
หากว่าเขาถูกโยนให้คนที่มีจิตใจชั่วร้ายโดยที่ไม่ใช่คนๆ นี้  ไม่รู้ว่าจะได้สัมผัสความเป็นมนุษย์เหมือนก่อนที่จะมาโลกนี้หรือเปล่า

“ขอบคุณนะ” โยชัวเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้ม
เด็กหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าความตื้นตันและความดีใจของเขาคงจะส่งผ่านไปให้อีกฝ่าย จนทำให้ชาร์ฮาร์ผู้เจิดจรัสส่งยิ้มกว้างสดใสตอบกลับมา

รอยยิ้มที่ว่าส่งผลให้ใบหน้าหล่อเหลาซึ่งไม่ต่างจากเทพบุตร แลดูน่ารักและเปล่งประกายมากยิ่งขึ้น จนเด็กหนุ่มเกิดอาการตาพร่าอย่างคนที่กำลังมองดูดวงอาทิตย์

โยชัวรู้สึกตื่นเต้น ที่สามารถได้พบกับเจ้าชายที่ส่องสว่างหล่อเหลา ในโลกของความเป็นจริง
ไม่ใช่แค่ภาพในเกมหรือภาพวาดแบบสองมิติในอนิเมะและไลท์โนเวล

เอาเถอะจะสาวดุ้นหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าคิดซะว่าเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชิวิต คิดในแง่นี้ก็ไม่เสียหายอะไร

“เอ่อเจ้าชื่อชาร์ฮาร์ใช่มั้ย ข้าเรียกเจ้าว่าชาร์ฮาร์ได้รึเปล่า”
โยชัวเอ่ยขออย่างเป็นมิตร ทว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสกลับหน้าตึงแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันจนเด็กหนุ่มตกใจ

“ข้าเป็นพี่ชายของเจ้านะ ถ้าให้ถูกควรเรียกว่าท่านพี่สิ”
 ชาร์ฮาร์พูดด้วยเสียงกดต่ำ

 โยชัวรู้สึกถึงแรงกดดันด้านมืดอย่างแปลกๆ จากชายตรงหน้า
ออร่าสีดำพวยพุ่งอยู่ที่ด้านหลังชายหนุ่ม


ซิสค่อน

คำๆ นี้ผุดขึ้นมาในความคิดของเด็กหนุ่ม

ไม่สิถ้าจะเรียกให้ถูก ต้องเป็นบราค่อนต่างหาก

คนปกติ...คนปกติเนี้ย

 เขาไม่จริงจังกับคำเรียกขานขนาดนี้หรอก ถ้าไม่พอใจที่ถูกปืนเกรียวก็น่าจะพูดด้วยท่าทางที่ดูเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ หรือไม่ตามคาแรคเตอร์ของหมอนี่ก็น่าจะพูดไปกลั้วหัวเราะไปด้วยท่าทางเฮฮามากกว่า
แต่นี่แผ่รัศมีกดดันเอาเป็นเอาตายซะจนรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ

ไม่ไหว ไม่ไหว ไม่ไหว

ทั้งสาวดุ้น ทั้งเจ้าชายบราค่อนอนาคตข้างหน้าไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับเรื่องวิตถารแบบไหนอีก
 จะทำยังไงดีถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไปไม่ได้ ถ้าเกิดเจอเรื่องที่หนักหนากว่านี้ไม่รู้ว่าจะทนรับยังไง

ไม่สิถูกทรมานก็เจอมาแล้วนับภาษาอะไรกับเรื่องแค่นี้
 
จิ๊บจ๊อย....จิ๊บจ๊อยมาก
 
แค่เรียกพี่ชายเท่านั้นเอง ลืมเรื่องที่ไม่ปกติ หรือความคิดอคติไปซะ
โยชัวพูดปลุกปลอบใจตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน พอทำใจได้ในที่สุด เด็กหนุ่มก็เอ่ยเสียงเรียกอีกฝ่ายด้วยคำที่ต้องการ

“ทะ ท่าน...”

“ช่างเถอะ”

“เอ๊ะ“
โยชัวร้องออกมาด้วยความสงสัยเมื่อถูกอีกฝ่ายจัดจังหวะคำพูดของตน

“โยชัวเรียกข้าว่าชาร์เฉยๆ ก็ได้ เจ้าทำท่าลำบากใจซะขนาดนั้น เรียกข้าว่าชาร์นั้นแหล่ะดีที่สุด”

“อืม”

 โยชัวพยักหน้าเบาๆ  พอทั้งคู่ตัดสินใจได้ว่าจะเรียกกันว่าอะไร เมดสาวชุดโกธิคก็โผล่เข้ามาเชิญพวกเขาไปรับประทานอาหาร ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสคว้ามือเขาพาเดินไปพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่น่าสนุกหลายอย่างให้ฟังไปตลอดทาง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

อยากจะบอกว่าน้องสาวกับเราทะเลาะกันหนักมาก หลักๆคือเราโวยวายอยู่คนเดียว #ร้องไห้หนักมาก

คือน้องสาวเราเค้าอ่านลายมือในสมุดเราไม่ออก เลยเปลี่ยนรูปประโยคไปหลายอย่างจนเราอ่านแล้วงง

คือตอนนี้และตอนต่อไปอาจต้องเสียเวลาพิมและนั่งแก้ตอนต่อไปอาจจะลงได้วันอังคารนะคะ

สำหรับคนอ่านที่แนะนำให้เราเกลาภาษาเราดีใจค่ะ แต่นิยายเราเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยที่เขียนไกล้จบ แถมเราเขียนไปไกลมากแล้ว

เราลำบากใจสุดๆ

ส่วนผู้อ่านที่ถามถึงพระเอก ออกมาครบแล้วนะคะ ตั้งแต่ตอนที่แล้ว และจะเริ่มทยอยเขารูทของแต่ละคน แต่เราไม่บอกนะว่าใครเพราะเราคิดว่าทุกคนคงเดาได้แหละ

รักคนอ่านค่ะ :bye2:





หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 03-05-2015 10:50:06
อั้ยยยย พระเอกครบแล้ววว ครบทุกรสชาติเลยยยย
ซู่วๆๆๆนัโยชัว55555
ปล.เป็นกำลังใจให้นะคะ ส่วนตัวคิดว่าภาษาก็โอเคแล้วนะคะ มีบางประโยค บางวลีที่ต้องย้อนกลับไปอ่านใหม่ถึงจะเข้าใจ แต่ส่วนตัวชอบนะคะ การใช้คำมันดูมีเอกลักษณ์ดี
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Raycira ที่ 03-05-2015 12:31:47
สนุกกกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 03-05-2015 12:34:27
ท่านพี่นี่แอบคิดไม่ซื่อใช่ป่าวเนี่ย  :hao7:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 03-05-2015 13:27:37
 :pighaun:อิหนูโยชัวจะกินเรียบบรรดาพี่ ๆ ทั้งหมดเลยเหรอ
สรุปแล้วอิหนูโยชัวเป็นเจ้าของฮาเร็มหนุ่ม ๆ เทพบุตรเหล่านั้นละซิ  :haun4: :hao6:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 03-05-2015 13:43:01
พระเอกออกมาแล้ววววววว ใครฟะ :katai1:  ท่านชาร์หรอ :hao4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 03-05-2015 15:54:11
ต่อด่วนๆ น่าสนุกจัง
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 03-05-2015 18:08:28
น่าติดตามมากค่ะ มาต่อเร็วๆ น้า  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 03-05-2015 22:11:48
รอออออ  แนวเรื่องน่าติดตามมากค่ะ

ถ้าจะให้ดีขึ้นอีก แยก ความในใจ กับ บทพูดปกติ ให้อ่านง่ายไม่สับสน ด้วยจะดีมากๆเลย

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 03-05-2015 23:54:12
กรี๊ดดดดดดดดดดดดสนุกมากเลย

เรื่องสำนวนก็ค่อยๆแก้ไปน้า

แต่สำหรับเราไม่มีปัญหาเรื่องสำนวน

อ่านรู้เรื่องจ้า

สำคัญคือมาลงสม่ำเสมออย่าหายไปก็พอจ้า :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: glasses girl ที่ 04-05-2015 00:38:55
เราว่าวิธีการเขียนมันคล้ายพวกไลท์โนเวลอยู่นะ

คงเปนเพราะ เราอ่านไลท์โนเวลมากเราเลยอ่านแล้วไม่งง

แต่นิยายแฟนตาซีก็แบบนี้แหละ
เราเพิ่งอ่าน

นิยายเรื่องเพชรยอดคถามากะลังหาแนวไกล้ๆกันอ่านเบย

สมใจแย้ว
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2015 02:45:03
ทำใจได้เร็วดีน่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 05-05-2015 00:22:23
 :man1: ต่อด่วน ๆ น่าสนุกมากกกก ชอบแนวนี้ อ๊าซซ

รออยู่น้าา  :katai5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่3 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <3/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 05-05-2015 09:45:59
ตอนที่ 4

เฮ้ๆ อย่าสิ อย่านะ

โยชัวร้องโวยวายด้วยตวามตื่นตะหนก

เด็กหนุ่มในตอนนี้ไม่สามารถบังคับร่างกายที่น่าจะเป็นของตัวเอง

จึงได้แต่โวยวายร้องห้ามการกระทำของร่างกาย ที่กำลังทำเรื่องอันตรายอย่างการพยายามเอื้อมมือเข้าไปจับสัตว์อสูรที่มีรูปร่างเป็นหมาป่าขนสีแดง

 ที่หน้าผากของมันมีเขาแหลมคมดูท่าทางอันตราย  เจ้าสัตว์อสูรตัวนี้ขู่กรรโชกอย่างบ้าคลั่งและถ้าสังเกตดูให้ดี ตามตัวของมันมีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด

“จะรักษาให้นะ”

ร่างกายที่ไม่สามารถบังคับได้ของโยชัวพูดกับสัตว์อสูร ในขณะที่จิตสำนึกตะโกนเตือนร่างกายของตนนับไม่ถ้วนว่าให้รีบออกให้ห่างจากเจ้าสัตว์บาดเจ็บตรงหน้า

จากท่าทางของเจ้าสัตว์อสูร เชื่อว่าไม่นานนักมันคงจะหมดความอดทนแล้วตรงเข้าจู่โจมร่างกายที่ไม่เชื่อฟังของโยชัวอย่างแน่นอน

แล้วก็อย่างที่คิดเจ้าหมาป่าอสูรสีแดงกระโจนเข้าหาอย่างรวดเร็ว  ร่างเล็กๆ ของเขาถูกคร่อมด้วยสัตว์ซึ่งกำลังบ้าคลั่ง 

ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นนอกจากจะไม่สามารถบังคับร่างกายได้ ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจก็ดูเหมือนจะแยกกันอยู่

ทว่าทำไมนะ ในเสี้ยวเวลาแห่งความเป็นความตายนี้จึงได้เกิดความรู้สึกร่วม

เสียงหวีดร้องด้วยความกลัวและความตกใจกลายเป็นเสียงของเขาเอง ร่างกายและจิตใจได้กลับมารวมเป็นหนึ่งอีกครั้ง ความหวาดกลัวพลุ่งพล่านจนหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อเห็นสัตว์อสูรอ้าปากที่เต็มไปด้วยฟันแหลมคมเตรียมปลิดชีวิตน้อยๆ ที่ไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้าน

ในตอนนั้น ร่างของสัตว์อสูรที่คร่อมร่างเขาอยู่ก็กระตุกและสั่นเทา ร่างกายของมันบิดเบี้ยวและพองลมก่อนที่จะระเบิดแตกตัวออกต่อหน้าต่อตา เลือดสีแดงฉานสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนร่างกายของเขาจนแทบจะไม่มีส่วนไหนที่ไม่ถูกย้อมให้กลายเป็นสีแดง

โยชัวตัวสั่นระริก อยากจะหวัดร้องออกมา ทว่ากลับไม่สามารถเปล่งเสียงออกจากลำคอของตนได้
เสียงหวีดร้องในตัวซึ่งเป็นจิตสำนึกของคนอื่นซ้อนทับกับภาพนรกซึ่งเป็นเหตุการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวของโยชัวที่ถูกอมันด้าทรมานนับตั้งแต่มาอยู่ในร่างนี้

ไม่ อย่าไปนึกถึงมัน

ลืมซะ

เสียงปฏิเสธของเขากับเสียงหวีดร้องด้วยความกลัวจากอีกจิตสำนึก ดังประสานกันไม่ต่างกับเสียงหวีดร้องของสิ่งมีชีวิตก่อนจะหมดลมหายใจ

เสี้ยววินาทีแห่งความตึงเครียดที่แสนสั้น หากแต่สำหรับโยชัวแล้วช่างยาวนาน

เสียงหัวเราะเบาๆจากโทนเสียงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์  เป็นเสมือนดั่งฝ่ามือที่ตบหน้าเขาให้กลับมามีสติอีกครั้ง

ดวงตากลมโตมองดูเด็กชายผู้มีผมสีแดงเพลิง ใบหน้างดงามอย่างลึกลับและเย้ายวนกับดวงตาสองสี

สำหรับกับโยชัวคนที่ให้ความประทับใจในทางลบตั้งแต่ฉากเปิดตัวครั้งแรกในคุก  ต่อให้กลายเป็นเด็กเขาก็ไม่สามารถลืมใบหน้าของฝ่ายนั้นไปได้ง่ายๆ

โยชัวมองดูลาซาลัสที่มีอายุประมาณเก้าถึงสิบขวบลอยอยู่บนท้องฟ้าเหนือศีรษะก่อนที่อีกฝ่ายจะลดระดับความสูงจนลงมายืนอยู่บนพื้นดินเบื้องหน้าในระยะใกล้

“อะไรกัน ทำสีหน้าแบบนั้น ทางนี้อุตส่าห์ช่วยแท้ๆ ไม่สำนึกบุญคุณเลยน้า”
ลาซาลัสแสยะยิ้มยียวน

สำหรับโยชัวที่ไม่รู้ว่าร่างกายของตนแสดงสีหน้าแบบไหน หากแต่จิตสำนึกของอีกคนที่ซ้อนอยู่ในร่างร่วมกับเขากำลังหวาดวิตกและกังวล นอกจากนี้แล้วความหวาดกลัวของอีกจิตสำนึกที่กำลังพลุ่งพล่านทำเอาเขารู้สึกร่วมจนแทบครองสติไม่อยู่

“ช่วยไม่ได้เพราะแฮะ เพราะเป็นพวกสัตว์เล็กขี้ตื่นนี่น้า จะช่วยอีกครั้งเอาบุญด้วยการพาไปส่งให้ถึงที่ก็แล้วกัน”

 ลาซาลัสยื่นมือเข้ามาจับ รอยยิ้มซุกซน สนุกสนานที่ประดับอยู่บนใบหน้าเย้ายวนอย่างลึกลับ แทนที่จะทำให้โยชัวและอีกจิตสำนึกรู้สึกผ่อนคลาย กลับทำให้เกิดความหวาดระแวงในตัวอีกฝ่าย ส่งผลให้ร่างกายที่บังคับไม่ได้ของเขาปัดมือลาซาลัสที่ยื่นมาทิ้ง

แวบนึงในเสี้ยววินาที โยชัวเห็นความผิดหวังในสีหน้าและแววตาของลาซาลัส ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนท่าทีเป็นคุกคามโดยสมบูรณ์

“เอาเถอะ ถ้าอยากถูกสัตว์อสูรแถวนี้รุมฉีกทึ้งก็ตามใจ กลิ่นเลือดรุนแรงขนาดนี้ อีกสักพักพวกสัตว์อสูรชั้นต่ำก็คงจะแห่กันมา”

ร่างกายของโยชัวสั่นเทา จิตสำนึกที่ไม่ใช่ของเขายัดเยียดความกลัวในรูปแบบต่างๆ ให้โยชัวสัมผัส

พอความกลัวของพวกเขาเร่งเร้าถึงขีดสุด จิตสำนึกที่ควบคุมร่างก็เปิดปากจะขอร้องเด็กชายผมแดงที่ตอนนี้ฉีกยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะ

หากแต่เสียงเรียกชื่อเขาจากน้ำเสียงคนที่คุ้นเคยหยุดกระทำของโยชัวซะก่อน บนท้องฟ้า เด็กชายผู้มีใบหน้างดงามเยือกเย็นถลาร่อนลงมาบนพื้นดิน ปีกทั้งหกข้างที่กระพืออยู่เบื้องหลังกับเส้นผมสีเงิน รูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์สร้างความยินดีให้กับจิตสำนึกที่ควบคุมร่าง

“ท่านพี่ลูเซีย”

ร่างเล็กกว่าโถมเข้าหาคนที่ร่อนลงพื้นแทบจะในทันที ท่าทางหวาดกลัวและหมดเรี่ยวแรงในตอนแรกดูเหมือนจะเป็นเรื่องโกหกเมื่อเทพบุตรสีเงินแห่งสรวงสวรรค์ปรากฏกายราวกับอัศวินในนิทาน

“นี่มันอะไรกัน”

ลูเซียค่อยๆ ดันตัวโยชัวออก ดวงตาสีเทามองดูร่างที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเรื่องของเด็กชายที่มีศักดิ์เป็นน้องต่างมารดาด้วยความสับสนและสงสาร

“อธิบายมาด้วยนะ ลาซาลัส”

ลูเซียเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
ดูเหมือนว่าเด็กชายเผ่าเทพจะตัดสินว่าเด็กชายผมแดงซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาอีกคนของเขาเป็นคนผิด

จิตสังหารที่ไม่น่าจะเป็นของเด็กชายในวัยนี้แผ่ออกมาจากตัวจนโยชัวและจิตสำนึกเจ้าของร่างตื่นตระหนก หากแต่ลาซาลัสที่เป็นเป้าของจิตสังหารกลับเหยียดยิ้มอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ท่าทางแบบนี้ดูเหมือนจะกระตุ้นโทสะของลูเซียให้ลุกโชนยิ่งขึ้น ก่อนที่ไฟแห่งโทสะจะดับวูบ ด้วยคำพูดที่ตรงประเด็นราวกับถูกน้ำสาด

“ถ้าอยากรู้นักก็ถามเจ้าสัตว์เล็กนั่นไม่ดีกว่าเหรอ”

“โยชัวบอกพี่สิว่าเกิดอะไรขึ้น”
ลูเซียถามอย่างอ่อนโยน

จากนั้นจิตสำนึกซึ่งยังบังคับร่างอยู่ก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง

ดูเหมือนว่าเจ้าของจิตสำนึกจะเป็นเด็กที่ซุกซน ทั้งที่ลูเซียเป็นคนพาออกมาเที่ยวนอกวัง พอคลาดสายตาจากพี่ชายเผ่าเทพแวบเดียว ร่างเล็กก็เดดินเล่นเรื่อยเปื่อยจนมาเจอสัตว์อสูรที่กำลังบาดเจ็บ

“พี่ผิดเองแหล่ะที่คลาดสายตาจากเจ้า”

ลูเซียพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดก่อนจะอุ้มน้องชายซึ่งตัวเล็กกว่ามากขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน  เด็กเผ่าเทพขยับปีกทั้งหกโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้งโดยไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของลาซาลัสเลยแม้แต่นิดเดียว

ในขณะที่ถูกพาบินจากไป  เจ้าของจิตสำนึกที่ถูกอุ้มพาดบ่ามองดูลาซาลัสด้วยแววตากลียดชัง
 ทว่าในทางกลับกัน ชั่ววินาทีที่แสงแดดสะท้อนจนตาพร่า รู้สึกเหมือนริมฝีปากของลาซาลัสวาดยิ้มอย่างอ่อนโยน

คิดไปเองรึเปล่านะ

โยชัวกระพริบตาปริบๆ  ที่เบื้องหน้าเขาเห็นเพดานไม้ของเตียงสี่เสา

ถึงแม้ว่าจะตื่นเต็มตาดีแล้วแต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังนอนหงายแผ่หลา รวบรวมความคิดและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนทั้งหมด

วันนี้เป็นวันที่สาม ที่ใช้ชีวิตในร่างนี้

จะว่าไปสิ่งที่เขาเห็นในความฝัน ถ้าคิดให้ดีๆ แล้วน่าจะเป็นความทรงจำของเจ้าของร่างนี้

คิดแล้วก็อยากจะวาดแผนผังความสัมพันธ์ของคนรอบตัวคร่าวๆ
 
โยชัวกระตุกกายลุกขึ้นนั่ง ดวงตากลมโตมองไปยังประตูซึ่งเปิดสู่ระเบียง ที่ด้านนอกถึงแม้ฟ้าจะมืดอยู่ แต่ก็เริ่มได้ยินเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วอันเป็นสัญญาณการเริ่มต้นชีวิตในยามเช้า

น่าจะมีเวลาครุ่นคิดเพียงลำพังสักชั่วโมงสองชั่วโมงก่อนจะอาบน้ำ

เช้าวันนี้ โยชัวตัดสินใจว่าจะจัดการภารกิจส่วนตัวด้านความสะอาดด้วยตัวเอง ก่อนที่จะมีใครมาก้าวก่ายเรื่องที่เป็นเรื่องโคตรจะส่วนตัวของเขาด้วยทำเนียมอันแปลกประหลาดต่างจากโลกที่เขาจากมา

หลังจากที่ใช้เวลาสำรวจห้องนอนอย่างละเอียดไม่นานนักก็เจอกระดาษ ปากกาขนนกและน้ำหมึก
โยชัวเริ่มวาดแผนผังความสำคัญทันที

หลังจากที่เรียบเรียงความสัมพันธ์ของครอบครัวปีศาจได้อย่างชัดแจ้งยิ่งขึ้น
สิ่งหนึ่งที่เขานึกขึ้นได้และควรจะจำใส่สมองไว้ให้หนัก

โยชัวนึกถึงชายหนุ่มร่างสูงสง่า ใบหน้าที่งดงามเย็นชา ลูเซีย ชายคนนั้นเป็นคนที่ถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกับเจ้าของร่างเขาอย่างใกล้ชิด แถมจากความทรงจำแล้วเป็นพี่น้องที่รักใคร่กันดี ถ้าเป็นไปได้ควรจะอยู่ห่างเอาไว้ให้มากที่สุด
 
หากว่าเรื่องที่เขาสวมร่างนี้แทนวิญญาณเดิมถูกเปิดเผยออกไป

สถานะภาพชีวิตของเขาในปัจจุบันก็ย่ำแย่อยู่แล้ว ไม่อยากจะคิดว่าถ้ามีใครรู้ความลับ เหตุการณ์จะเลวร้ายไปถึงขั้นไหน

แวบนึง

ภาพเหตุการณ์ที่เขาถูกทรมานโดยอมันด้าหวนเข้ามาในความคิด
ชัดเจนราวกับหนังถูกฉายซ้ำ

ถึงจะไม่เจ็บก็เถอะแต่กลัวก็คือกลัวอยู่ดี

หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากกลับไปอยู่ในนรกแบบนั้น พอสงบสติอารมณ์ได้ ร่างกายที่สั่นระริกทุกครั้งที่นึกถึงเหตุการณ์นั้นก็กลับเป็นปกติ

“บางทีก็คิดว่าการที่เราถูกทำขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่กลายเป็นบ้า สงสัยว่าเราเอง ก็คงจะมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไปก็ได้”

โยชัวพึมพำกับตัวเอง

 เด็กหนุ่มเปลื้องผ้าออกจนร่างกายเปลือยเปล่า เขาผลักแระตูบานใหญ่ที่เชื่อมติดกับห้องนอนไปยังห้องน้ำในตัวเล็กๆ ซึ่งที่บอกว่าเล็กก็คือเล็กกว่าห้องน้ำที่เขาใช้ครั้งแรก ทว่าเมื่อเทียบกับสามัญสำนึกปกติของคนในโลกเขา ห้องน้ำในตัวนี้ก็ยังใหญ่และหรูหรามากพอสมควร

หลังจากชำระร่างกายและแต่งตัวเสร็จ ถึงแม้จะไม่ชอบใจเสื้อผ้าที่ถูกยัดเยียดให้เมื่อวานก่อนเข้านอนสักเท่าไหร่แต่ในเมื่อมันมีแค่นี้ ถึงไม่อยากใส่ก็ต้องใส่

พอแต่งตัวเสร็จ อาจจะเพราะพื้นฐานนิสัยที่เป็นคนขี้เกรงใจและว่าง่าย โยชัวจึงกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงสี่เสารอให้ชาร์ฮาร์ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ชายในโลกนี้เข้ามาพาเขาออกไปจากห้อง

รอและรอ จนตะวันขึ้นสู่ท้องฟ้า

ทว่ารอนานมาก รอเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมา หากมีนาฬิกา เชื่อได้ว่าตอนนี้คงเป็นเวลาสักเกือบสิบเอ็ดโมงเช้า
เสียงประท้วงน้อยๆ จากกระเพาะของโยชัวดังเป็นจังหวะราวนาฬิกาปลุก

“ไม่ไหวแฮะ ถึงจะดูเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงไปหน่อย แต่ขอชะโงกหน้าออกไปสำรวจสักนิดดีกว่า”

เด็กหนุ่มเดินไปที่ประตูห้องที่ใหญ่โต พอเปิดประตูแง้มออกก็ปะกับเรือนกายสูงใหญ่กำยำ
ชาร์ฮาร์ซึ่งยืนหันหลังให้โดยมีเมดสาวหลายคนยืนประคองเจ้าสิ่งที่น่าจะเป็นเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายจำนวนมาก
ยังไม่ทันจะเอ่ยปากทัก ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสก็หันกลับมาทักทายเขาด้วยรอยยิ้มทันที

“รอโยชัวตั้งนานแน่ะ ตื่นสักทีนะ”

วลีที่อีกฝ่ายใช้ทักทายนั้นบอกความหมายได้ตรงตัวของมันแบบไม่ต้องประมวลผล
โยชัวขมวดคิ้วเข้าหากันพยายามเกร็งใบหน้าของตนเอาไว้ไม่ให้แสดงสีหน้าไม่พอใจหรือบึ้งตึง

“มารอตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ตะวันขึ้น”

“ทำไมไม่เข้ามาปลุกล่ะ”

“อยากจะให้เจ้านอนให้เต็มที่น่ะ อยู่ในคุกตั้งนานหลายปี คิดว่าคงจะนอนหลับให้เต็มตา สุขสบายเหมือนที่นี่ไม่ได้ ก็เลยรอให้โยชัวนอนจนเต็มอิ่มแล้วออกมาเอง”

เวรกรรม

โยชัวมองใบหน้าทิ่ยิ้มสดใสระยิบระยับของชาร์ฮาร์แล้วรู้สึกว่าโกรธไม่ลง

 เจตนาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความปรารถนาดีถึงขนาดนี้
ย่อมหมายความว่าสิ่งที่เขาจะทำได้นับจากนี้
คือก่นด่าในความไร้สมองของตัวเองที่ไม่ออกจากห้อง แต่เลือกที่จะนั่งรอให้อีกฝ่ายมาหา

โยชัวจมอยู่กับห้วงความคิดไม่นาน

เสียงบ่นกระปอดกระแปดของพวกเมดสาวในทำนองที่ว่า
ท่านชาร์ฮาร์ต้องยืนรอตั้งแต่ตะวันขึ้นไม่ยอมไปไหน

หรือประมาณว่าเดือดร้อนกันไปหมด ทั้งที่มีเรื่องต้องทำมากมายแต่ก็ต้องพากันมายืนรอ

ฟังแล้วรู้สึกหดหู่

โยชัวยิ้มเจื่อนๆ เริ่มรู้สึกว่าไปไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือปีศาจ ผู้หญิงก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สมควรจะเป็นศัตรูด้วย
ดูเอาเถอะขนาดคนเป็นเจ้านายยังว่าอะไรคนใช้ของตัวเองไม่ได้ ชาร์ฮาร์นั้นแทนที่จะใช้อำนาจต่อว่าพวกสาวเมด
 ดันบอกพวกหล่อนว่าวันนี้ให้งดงานได้หนึ่งวัน จากนั้นก็มาพูดจาขอโทษเขาแทนเมดสาวพวกนั้นด้วยใบหน้าลำบากใจสุดๆ

“รู้สึกแย่รึเปล่า”
ชาร์ฮาร์ถามหลังจากบอกให้สาวเมดออกไป

 ดูจากท่าทางและรอยยิ้มเจื่อนคงจะคิดมากน่าดู

แต่ก็นั้นแหล่ะ ถ้าเป็นผู้หญิงหรือแฟนสาว การที่ชายหนุ่มจะไม่เข้าข้างหรือลงโทษ พวกเมดที่พูดจาไม่ไว้หน้าก็คงจะโกรธจนเข้าโหมดงอนให้ง้อละนะ

แต่ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ  เขาเป็นผู้ชายที่แทบจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนตรงหน้า แถมร่างกายที่อาศัยสิงสู่ดันเป็นร่างกายของน้องชายคนตรงหน้าอีกด้วย

สิ่งสำคัญเหนือกว่าตอนนี้คือเสียงประท้วงจากกระเพาะที่ดังราวกับฟ้าร้องนี่ต่างหาก

สีหน้าของชาร์ฮาร์เปลี่ยนจากลำบากใจเป็นตกตะลึงในจังหวะร็อคที่แสนดุเดือดของกระเพาะ


“ข้อร้องล่ะ หาอะไรให้กินหน่อยเถอะ”

โยชัวพูดพร้อมกับลูบหน้าท้องแฟบๆ ของตัวเองไปมา

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่สามแล้วนะคะ

ตอนนี้ถ้าจะให้พูดก็สั้นและยังไม่คืบหน้าเท่าไหร่

แต่ตอนหน้าเนื้อหาจะยาวขึ้นและเริ่มเดินเรื่องแล้วค่ะ

สำหรับคนอ่านที่ติชมมา รู้สึกขอบคุณค่ะ รูปแบบประโยคที่เราเขียนก็คงจะอ่านยากจริงๆน่ะแหละ

ก็จะพยายามแก้ไขค่ะ

สำหรับผู้อ่านที่บอกว่าโยชัวทำใจได้เร็วไป

ลองอ่านไปเรื่อยๆก่อนค่ะ ถ้าเนื้อเรื่องยังมีปัญหาอยู่เม้นบอกได้ค่ะ

ตอนนี้เราเอานิยายกลับมาพิมส์เองแล้ว น้องสาวเราไม่ค่อยมีเวลาว่างเพราะต้องทำงานพิเศษ

ตอนต่อไปไม่น่าจะเกินสามวันจะเอามาลงค่ะ

หวังว่าจะยังมีคนอ่านคนเม้นอยู่บ้าง  :hao5:

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 05-05-2015 11:49:22
เราชอบความแฟนตาซีของเรื่องนี้มาก มันมีแนวดาร์กผสมเพราะตัวละครแต่ละตัวลึกลับมาก
อีกอย่างเราว่าคนที่ดูเหมือนจะดีน่าสงสัยไปหมดเลย

ถ้าเห็นว่าเป็นน้องโดนขัง ทรมาณขนาดนั้นทำไมไม่คิดจะช่วยตั้งแต่ต้นล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 05-05-2015 12:04:55
มาจิ้มมมม รอตอนต่อไปนะคะ เนื้อเรื่องค่อยๆเผยแล้ว. เย่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 05-05-2015 12:59:36
ชอบเรื่องนี้อ๊าาาาา
เป็นแฟนตาซีดาร์กที่ถึงใจถึงอารมณ์มาก :katai2-1:
ตอนแรกยังคิดอยู่ว่าใครจะเป็นพระเอก แต่อ่านหัวข้อ :z3:
อุ้ย นี่มันฮาเล็มนี่หว่า ชอบๆๆๆ :กอด1:
มาต่อไวๆ นะ เค้ารออยู่ :katai5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-05-2015 15:43:15
ติดตามอย่างเงียบๆ ฮ่า
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 05-05-2015 17:01:48
อ๋าาา รอตอนต่อไป

 :hao5: อยากรอแต่งจบลงจบแล้วค่อยมาอ่านก็ทนไม่ไหว เผลอตัวกดเข้ามาอ่านแล้ว อยากจะเร่งก็เกรงใจ  :z10:

น่าสนุกมาก ๆ จ้า ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไร ตอนหน้าถึงจะมีอะไรอะไรสินะ คึคึ

รอน้าา เป็นกำลังใจให้ ระหว่างนี้คงต้องจิ้นเองไปก่อนสินะ ฮึฮึ  :katai5:

หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 05-05-2015 17:45:33
มันมีหลายประเด็นที่อยากรู้อะ  :m28:

รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: glasses girl ที่ 05-05-2015 19:59:31
โอ้ มาต่อเร็วๆน้า

ตอนนี้สั้นจัง
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 05-05-2015 23:35:28
สั้นมากๆ มาต่อเร็วๆนะ  :call:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่4 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <5/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 08-05-2015 09:40:45
ตอนที่ 5

   ปลายหางเปียที่หนาและมีความยาวจนเกือบถึงข้อเท้าสะบัดไปมาตามจังหวะการเดินของเจ้าของร่างเล็ก
ดวงตากลมโตมองเขม่นไปยังมือใหญ่ที่กุมมือของตนไว้อย่างนุ่มนวลขณะพาเดินไปตามทางเดินในปราสาท

   คิดๆ ดูแล้วตอนแรกโยชัวคิดว่าอีกฝ่ายปฏิบัติกับเขาเสมือนน้องชายที่ยังเป็นเด็ก
แต่ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ทั้งการจัดแต่งทรงผมให้ หรือแม้กระทั่งการที่ชาร์ฮาร์ใช้เป็นข้ออ้างในการจับมือเขาจูงเดิน

เด็กหนุ่มไม่ได้คิดเรื่องนี้ไปเองแน่ ว่าอีกฝ่ายปฏิบัติตัวกับเขาไม่ต่างจากการเอาอกเอาใจสาวน้อย
โยชัวปวดหัวตุบๆ ถึงแม้สภาพร่างกายของเขาจะเป็นสาวดุ้นแยกเพศไม่ออก แต่จิตใจก็ยังเป็นเด็กผู้ชาย


ไม่สิถ้าคิดถึงความนิยมสาวดุ้นในหมู่พวกคลั่งไคล้ในโลกของเขาให้ดีๆ แล้วละก็


[สาวดุ้นคือสิ่งสุดยอดที่จุติมายังโลกใบนี้]

   คนที่พูดแบบนั้นยังมีเลย หรือที่หื่นกามหน่อยในวงการอนิเมะทะลึ่งๆ ก็ยังจับคู่กันแปลกๆ เป็นต้นว่า
   
สาวดุ้น X หญิง = แจ๋ว

สาวดุ้น X ชาย = แจ่มจรัส

สาวดุ้น X สาวดุ้น = นี่แหล่ะที่สุดแห่งปรมัตถ์

ไม่ว่าจะคิดยังไง การกระทำของชายหนุ่มผู้เจิดจรัสแว้บๆ ก็ไม่ต่างจากพี่ชายบราค่อนที่เป็นโอตาคุสาวดุ้นเลยสักนิด

จู่ๆ ขนอ่อนที่มือซึ่งอันที่จริงไม่น่าจะมีก็ลูกซู่ พอถูกอีกฝ่ายพามาถึงห้องที่เป็นจุดหมายปุ๊บโยชัวก็สลัดข้อมือจากอีกฝ่ายทันที จนชาร์ฮาร์หันมามองด้วยความแปลกใจ

“มีอะไรเหรอ”

ชารฮาร์เอียงคอถามร่างเล็กที่ก้มหน้าครุ่นคิด พอมือใหญ่เอื้อมมือจะไปจับ โยชัวที่รู้สึกตัวก็ถอยกรูดตั้งการ์ดอย่างชัดแจ้ง  ใบหน้าของชายผู้เจิดจรัสยิ้มค้างโดยสมบูรณ์

“ช่วยอย่าทำเหมือนข้าเป็นเด็กผู้หญิงจะได้มั้ย”
โยชัวร้องขอหลังจากคัดสรรคำพูดที่ดูดีที่สุดเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย

“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”

ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสขมวดคิ้วเข้าหากันหลังจากใบหน้าหล่อเหลาแปลสภาพจากยิ้มแย้มอยู่เสมอเป็นบึ้งตึงให้เห็นเป็นครั้งแรก
ถึงจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มพื้นอารมณ์เสีย  โยชัวที่กำลังพลุ่งพล่านก็เอ่ยพูดในสิ่งทึ่คิดออกไปอย่างไม่อ่อนข้อ

“ก็อย่างเสื้อผ้าที่ใส่เนี่ยดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นเสื้อผ้าของผู้ชายสักนิด”

“ก็อธิบายให้โยชัวฟังแล้วนี่ว่าเชื้อพระวงศ์เขาแต่งตัวแบบนี้จนถึงอายุยี่สิบห้า”

ชาร์ฮาร์ตอบโต้ด้วยเสียงนุ่มนวล แต่กระนั้นชายหนุ่มที่กำลังอารมณ์เสีย ก็เริ่มยืนกอดอกปกป้องตัวเองด้วยท่าทีแบบเด็กๆ ทั้งใบหน้าบึ้งตึง

“งั้นผมนี่ล่ะ แค่ผมก็ยังดี ขอตัดสั้น พอยาวอย่างนี้ก็กลายเป็นว่าต้องถูกจัดการไม่ต่างกับเด็กผู้หญิงหรือพวกตุ๊กตา ไม่ชอบนะไงทางนี้ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน”

“ก็บอกเหตุผลไปแล้วนี่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เข้าใจแล้วแท้ๆ อีกอย่างไม่ได้ปฏิบัติตัวอย่างที่ทำกับผู้หญิงสักนิด การที่ข้าอยากจะเอาใจใส่เจ้าที่เป็นน้องมันผิดด้วยเหรอ”

ชาร์ฮาร์พูดด้วยสีหน้าขุ่นเคือง ชายหนุ่มใช้มือขวาเท้าเอวขณะที่มือข้างซ้ายก็เสยผมที่ปรกใบหน้าขึ้นอย่างหงุดหงิด


“เข้าใจแล้ว…..งั้นจับมือไม่ทำได้มะ รำคาญไม่ชอบ แล้วก็ถ้าอันไหนทำเองได้ช่วยปล่อยให้ข้าทำเอง ยกตัวอย่างเช่นเลื่อนเก้าอี้ให้ก็ไม่ต้องนะ” โยชัวขู่ฟ่อ

เพราะดูเหมือนจะเถียงไม่ชนะ เด็กหนุ่มจึงพูดในสิ่งที่อีกฝ่ายทำแล้วรู้สึกตะหงิดใจหลายอย่างเป็นหางว่าว
ยาวจนชาร์ฮาร์ที่กำลังขุ่นเคืองมีใบหน้าเผือดสี

“เข้าใจแล้ว”

ชาร์ฮาร์ตอบรับคำขอโยชัวทั้งที่ยังหลบตา แต่ถึงแม้ว่าจะรู้สึกน้อยใจแค่ไหน  ชายหนุ่มผู้เจิดจรัสก็ยังตั้งใจสอนภาษาให้ตามที่โยชัวร้องขอ

วินาทีแรกที่เห็นตัวอักษรในโลกนี้  โยชัวก็แทบจะโห่ร้องด้วยความตื้นตัน

จะว่าไปแล้วภาษาพูดที่นี่เป็นภาษาอังกฤษการที่ตัวอักษรในโลกนี้จะไกล้เคียงกับตัวอักษรภาษาอังกฤษจึงเป็นเรื่องที่ไม่แปลกและนับว่าโชคดีสุดๆ

ในบรรดาตัวอักษรหรือไวยกรณ์ของภาษา มีความแตกต่างกันอยู่หลายตัวแต่ก็แค่เล็กน้อย
ถ้าเทียบกับความมุ่งมั่นเมื่อสมัยเขาอายุได้สิบสาม  ตอนนั้นโยชัวติด อนิเมะ เกมส์ และ มังงะญี่ปุ่นงอมแงม

ภายในเวลาสองปีเขายังเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นจนสามารถที่จะอ่านได้ทั้ง ไลท์โนเวล และ มังงะต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นได้อย่างกับเจ้าของภาษา

จะยากอะไรกับอักษรและไวยกรณ์ที่ถึงต่างแต่ก็ยังไม่มากของภาษาโลกนี้กับภาษาอังกฤษที่เขาใช้อยู่เป็นประจำ
รู้สึกได้เลยว่าแค่ทำความเข้าใจอีกนิด เขาก็สามารถอ่านหนังสือบนโลกนี้ได้เกือบทุกเล่มอย่างไม่มีปัญหา

ยิ่งพอรู้ว่าความตั้งใจของตัวเองมีความสำเร็จในระดับที่อยู่แค่เอื้อม
ยิ่งเรียน ยิ่งอ่านยิ่งถามก็ยิ่งคึก

 สุดท้ายแล้วระหว่างที่นั่งเรียนอยู่ในห้องสมุดขนาดยักษ์ทั้งวัน
โยชัวก็ไม่ได้สนใจน้ำเสียงที่ดูเศร้าสร้อยและใบหน้าหดหู่ของชาร์ฮาร์เลยแม้แต่นิดเดียว

ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โยชัวผลุบๆโผล่ๆระหว่างชั้นหนังสือ หยิบอ่านเล่มโน้นเปิดอ่านเล่มนี้
ทำประหนึ่งว่าชาร์ฮาร์เป็นอากาศธาตุ
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบ้างเป็นระยะที่เงยหน้าขึ้นถามชายหนุ่มผู้เจิดจรัสซึ่งเกาะติดเขาและไม่ยอมไปไหน

โยชัวหมกมุ่นกับการอ่านจนแทบไม่สนใจว่าชาร์ฮาร์กำลังเดือดร้อน เพราะถูกเมดสาวจำนวนมากยกกองทัพเข้ามาอัดกันในห้องสมุดบีบบังคับให้ชายหนุ่มไปอาบน้ำเสียทีหลังจากไม่ได้อาบมาแล้วสามวัน

“รอก่อนได้มั้ยข้ายังสอนหนังสือโยชัวอยู่”
ชาร์ฮาร์ร้องขอเมดสาวที่ล้อมวงเข้าหา

“ท่านโยชัว ท่านโยชัวเจ้าคะคิดยังไงกับท่านพี่ที่ไม่อาบน้ำมาสามวันเจ้าคะ”
หนึ่งในเมดสาวร้องถาม  โยชัวเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือที่กองทับถมจำนวนมาก


“ท่านโยชัวเองก็อาบน้ำทุกวันสินะเจ้าคะ”  พวกเมดสาวถามด้วยรอยยิ้ม


“แน่นอน ถ้าไม่อาบน้ำทุกวันนอกจากจะเหม็นแล้วก็จะสกปรกแย่สิ แถมวันหนึ่งต้องอาบน้ำอย่างน้อยสองครั้งด้วยนะ”


ที่โยชัวพูดไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด สิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นหลักสุขอณามัยที่เด็กหนุ่มเรียนมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล

และแล้ว
เจ้าชายผู้เจิดจรัสที่ไม่สามารถจัดการอะไรกับพวกเมดสาวของตัวเองได้ ก็ถูกแห่แหนออกทั้งที่ใจไม่อยากซักนิด


“โยชัวเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วข้าจะกลับมานะ”

ชาร์ฮาร์ตะโกนบอก

เด็กหนุ่มที่ก้มหน้าจมไปกับกองหนังสือทำแค่โบกมือลาโดยไม่หันไปมอง

“อย่างนี้นี่เอง”
โยชัวพึมพำขณะเปิดหนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนาอ่าน


เด็กหนุ่มตอนนี้ย้ายจากโต๊ะเก้าอี้มานั่งอ่านหนังสือบนพรมที่พื้น เปลี่ยนอิริยาบถเพื่อขับไล่ความเมื่อยล้าของร่างกาย

ดูเหมือนท่านพ่อของบรรดาเจ้าชายปีศาจผู้มีนามว่าโดโนแวนจะเป็นราชาปีศาจเพียงผู้เดียวที่สามารถรวบรวมดินแดนเทพ ดินแดนปีศาจ และดินแดนมนุษย์เข้าไว้ด้วยกันเป็นผลสำเร็จ

“สุดยอดไปเลย” โยชัวพูดกับตัวเอง

“ใครกันเหรอที่สุดยอด”

น้ำเสียงเคยคุ้นที่ทั้งทรงอำนาจและเย้ายวนกระตุ้นให้โยชัวผลิกตัวกลับไปเผชิญหน้า
พอปะตากับเจ้าของเสียง ลาซารัสที่เข้ามายืนประชิดตัวเมื่อไหร่ไม่รู้ สร้างความตึงเครียดให้กับโยชัวอย่างที่สุด

ท่ามกลางความเงียบ ดวงตาสองสีมองดูโยชัวอย่างเพ่งพินิจตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าลึกลับเย้ายวนของลาซารัสดูประหลาดใจเล็กน้อยแวบหนึ่งเท่านั้น
โยชัวรู้สึกตัวอีกทีใบหน้าของเจ้าชายปีศาจก็เกลื่อนไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทั้งรอยยิ้มและดวงตา

“ตกใจหมดเลย  ดูแวบแรกถ้าไม่เคยเห็นหน้าน่ารักคนนี้มาก่อน  ก็คงไม่แคล้วหน้าแตกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสาวน้อยเครื่องบรรณาการของใครซักคน”
ลาซารัสหัวเราะหึหึ


"เจ้าชอบแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิงขนาดนั้นเลยเหรอ”

“เปล่า”


“อย่าปฏิเสธเลยถ้าชอบขนาดนั้นล่ะก็มีของดีดีจะให้”
ฉับพลันโยชัวถูกคู่สนทนากระชากให้โผเข้าสู่อ้อมอก

“ อึก”

โยชัวสะอึกในลำคอ ก่อนหน้านั้นระหว่างที่พูดตอบโต้ เด็กหนุ่มพยายามทำใจกล้าสะกดกลั้นไม่ให้เสียงที่เปล่งคำพูดออกไปขาดห้วง 
แต่ตอนนี้โยชัวกลัวชายหนุ่มจนตัวแข็งทื่อ ถึงขนาดที่ว่าไม่มีแรงแม้แต่จะต่อต้านการบังคับของอีกฝ่ายไปโดยสมบูรณ์

พริบตาเดียวกันนั้นสภาพรอบตัวก็บิดเบี้ยวและเลือนหาย ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเขาและลาซารัสมีแต่ความมืดก่อนที่บรรยากาศรอบตัวจะกลับมาเป็นปกติ
ลาซารัสผละออกจากโยชัวปล่อยให้เด็กหนุ่มผู้งงงันกวาดมองไปรอบๆห้อง

ที่นี่มันห้องนอนนี่ เทเลพอร์ตมางั้นเหรอ?
ตื่นเต้นอยู่หรอกที่ได้สัมผัสประสบการณ์จริงแต่ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายพาเขามี่นี่ทำไม

“รับไปสิ”
ลาซารัสออกคำสั่งพร้อมกับโยนเสื้อผ้าส่งให้โยชัว
เด็กหนุ่มกางเสื้อผ้าออกดูอย่างงุนงงเพราะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

“เอ๊ะ”

โยชัวอุทานเมื่อเห็นชัดตาว่าชุดที่ถูกส่งมาคืออะไร ของที่ถูกส่งให้เด็กหนุ่มเป็นชุดเมดแบบโกธิคโลลิต้าที่ดูหวือหวาและสั้นกว่าพวกเมดสาวในปราสาท

“ใส่สิ”

ลาซารัสออกคำสั่งด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนเกินจริง หากแต่โยชัวรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอย่างมหาศาล
เด็กหนุ่มมองดูชุดเมดที่ถูกบังคับให้ใส่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย

ถ้าไม่ทำตามเขาจะโดนอะไรบ้างนะ?

ผู้ชายคนนี้ดูท่าทางแล้วคงไม่ใช่พี่ชายที่อ่อนโยนใจดี พูดตรงๆก็คือเลวนั่นแหละ

แต่มันจะสนุกตรงไหนที่เห็นเขาแต่งชุดเมด?

หรือว่าเป็นพวกวิตถารรุนแรงหนักข้อกว่าชาร์?

ขณะที่กำลังครุ่นคิดด้วยท่าทีว้าวุ่น  เสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของคนออกคำสั่งก็ทำให้โยชัวเงยหน้าขึ้นมอง
ใบหน้าของลาซารัสตอนนี้ดูจะสนุกสนานกับท่าทางลำบากใจของเขาแบบสุดๆจนโยชัวเกิดความคิดต่อต้านอย่างเด็กๆ

“ข้าไม่ใส่เด็ดขาด”
โยชัวพูด

“…………”
ลาซารัสเลิกคิ้วแสร้งทำท่าเหมือนคาดไม่ถึงหากแต่ยังพูดคุยกับร่างเล็กด้วยน้ำเสียงและท่าทางอารมณ์ดี

“ใส่ไม่เป็นก็ช่วยไม่ได้นะ”
ลาซารัสยิ้มเผล

 เจ้าชายปีศาจฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเดินเข้ามาประชิดคนที่มีท่าทีถอยหนีหากแต่ช้าเกินไป
ชายหนุ่มคว้าหมับที่ข้อมือของคนตัวเล็กกว่าตนเกินยี่สิบห้าซ.ม.

“จะถอดเองหรือว่าจะให้ข้าถอดให้”
ลาซารัสยื่นหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหู

"...................."
โยชัวขนคอลุกชันเพราะไม่เคยมีใครมาทำบ้าๆกับเขาแบบนี้มาก่อน

ในเวลาเดียวกันนั้นเด็กหนุ่มเริ่มครุ่นคิดถึงร่างกายที่ทั้งรักษาตัวได้อย่างรวดเร็วแถมยังรู้สึกเจ็บปวดเพียงแค่นิดเดียวไม่ต่างจากมดกัดยามที่มีบาดแผล

เพราะรู้ดีถึงข้อได้เปรียบทางสภาพร่างกายดีอยู่แล้ว โยชัวจึงตัดสินใจยอมถูกทารุณร่างกายดีกว่ายอมถูกทำบ้าๆ

ไม่ใช่ว่ากล้าหาญหรือรักในศักดิ์ศรี

แต่เด็กหนุ่มคำนวณไว้ดีว่ายังไงชาร์ฮาร์ก็ต้องมาตามหา ถึงแม้ว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสจะมาไม่ทัน
ไม่ว่ายังเขาก็ไม่อยากทำตามที่ไอ้คนทุเรศตรงหน้าสั่งแม้แต่นิดเดียว

“จะถอดเองหรือให้คนอื่นถอดก็ไม่เอาทั้งนั้น”
โยชัวมองสบตากับอีกฝ่ายพร้อมกับพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง เด็กหนุ่มเตรียมใจมาดีด้วยร่างกายที่แทบไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด

“……………..”
ดวงตาสองสีของลาซารัสหรี่ลงขณะประสานสายตากับเด็กหนุ่มผู้ดื้อแพ่ง

“ทางนี้ไม่ใช่คนที่ชอบทรมาณคนหรอกนะ ก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าร่างกายของน้องพี่คนนี้ต่อให้เอามีดมากรีดก็คงไม่รู้สึกเจ็บอะไร”
ลาซารัสพูด

 เจ้าชายปีศาจใช้นิ้วมือเคาะเบาๆบนขมับแสร้งทำครุ่นคิด ก่อนที่ชายหนุ่มจะแสยะยิ้มชั่วร้ายจนโยชัวต้องกลืนน้ำลายลงคอเพราะไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

“เอาอย่างนี้นะ ระหว่างใส่ชุดเมดด้วยตัวเองกับถูกพี่ชายจับแก้ผ้าผูกไว้กับเสาที่ด้านนอกเจ้าจะเลือกอะไร
เลือกให้ดีดีหน่อยนะไม่ว่าจะเลือกอย่างไหนชาร์ฮาร์ก็คงไม่มาช่วยได้รวดเร็วขนาดนั้น”

".................."
โยชัวหน้าถอดสี

เด็กหนุ่มคิดว่าถ้าตนเองต้องอับอายต่อหน้าคนแค่คนเดียว เทียบกับการเปลือยกายล่อนจ้อนให้คนเห็นอีกไม่รู้ท่าไหร่ เห็นทีไม่พ้นจะต้องทำสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ

"เฮ้อ"
โยชัวถอนหายใจแรง

ก็แค่คอสเพลย์เท่านั้นไม่เห็นแปลกตรงไหน
ผู้ชายแต่งชุดเมดงานคอมมิคมีเยอะแยะไป

คิดได้ดังนั้น
โยชัวก็ค่อยๆเปลื้องผ้าออกทีละชิ้นจนในที่สุดร่างผุดผาดขาวโพลนก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า
ลาซารัสโยนเจ้าสิ่งที่เรียกว่าคอเซ็ตกางเกงในลูกไม้และถุงน่องหล่นตุบลงมาตรงหน้าเขา
โยชัวมองเขม่นเจ้าสิ่งนั้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ

“อะไร?คิดจะใส่ชุดเมดสั้นๆโดยไม่ใส่ชั้นในงั้นเหรอ? รสนิยมพิลึกพิลั่นดีเหมือนกันนะ”
ลาซารัสหัวเราะร่วนในขณะที่โยชัวกัดฟันกรอด

โยชัวไม่อยากให้คนวิตถารมาวิจารย์รสนิยมของเขาที่เป็นเด็กหนุ่มอายุสิบห้าผู้แสนจะปกติเลยซักนิดเดียว

รู้สึกแปลกๆแฮะ?

อะไรบางอย่างกวนความคิดของโยชัวขณะสวมใส่กางเกงในลูกไม้ ก่อนที่ความคิดจะสะดุดขาดห้วง
เมื่อลาซารัสเดินเข้ามาหาแล้วบอกว่าจะช่วยแต่งตัวให้เขาด้วยท่าทางและสีหน้าบ่งบอกความเบื่อหน่าย

“มะ….ไม่ต้อง”

โยชัวโวยวายที่เจ้าชายปีศาจพยายามสวมคอเซ็ตให้ แต่พอเขาถูกชายหนุ่มกระซิบอย่างเย้ายวนที่ข้างหูด้วยคำว่า”อยู่นิ่งๆ”
ร่างเล็กก็ขนลุกซู่จนตัวแข็งทื่อกลายเป็นหุ่นโชวให้อีกฝ่ายจับแต่งตัวตามใจชอบ

แปลกมากๆแปลกชัดๆ

เด็กหนุ่มครุ่นคิดถึงการกระทำที่หาเหตุผลไม่ได้ขอลาซารัส โยชัวยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจว่าการมองดูผู้ชายอย่างเขาแต่งชุดเมดมันจะสนุกตรงไหน

วิตถาร

ชายรักชาย

เกย์

พอได้บทสรุปที่แน่ชัด โยชัวที่ถูกแต่งองค์ทรงเครื่องกลายเป็นเมดโกธิคสาวดุ้นก็ถูกลากโยนไปบนเตียงกว้าง

“………………”
ไวจนแทบคิดไม่ทันลาซารัสที่คร่อมร่างเขาอยู่กำลังส่งยิ้มมาให้

“แกเป็นพวกชายรักชายเหรอ”

ถึงจะเป็นคำที่โบราณไปหน่อย แต่เด็กหนุ่มก็คิดว่าชายวิตถารตรงหน้าคงไม่รู้จักการใช้ศัพท์แสงที่เป็นคำเฉพาะอย่างคำว่าเกย์แน่ๆ

“เงียบ”
ลาซารัสกระซิบเสียงหวาน  น้ำเสียงของเจ้าชายปีศาจยิ่งพูดยิ่งเย้ายวนหวานหนึบทำให้โยชัวรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนอยู่ในมนต์สะกด

“จากนี้ไปจะค่อยๆใช้เวลาถอดออกอย่างสนุกสนานล่ะนะ”

ลาซารัสไล้ฝ่ามือไปบนเรียวขาที่มีถุงน่องสีดำสวมทับอยู่ พอถูกสัมผัสอย่างหยาบโลนโยชัวที่เกิดอาการต่อต้าน
ก็ถูกลาซาลัสออกคำสั่งอีกครั้งด้วยเสียงที่หวานหนึบหนับยิ่งกว่าน้ำตาลเคี่ยว
เจ้าชายปีศาจบอกให้เขาอยู่นิ่งๆและผ่อนคลาย เพราะอะไรไม่รู้โยชัวกลับรู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดนั้นเป็นสิ่งถูกต้อง

“………………..”

เด็กหนุ่มปล่อยตัวนอนนิ่งอย่างไม่คิดต่อต้าน พอทำอย่างนั้นลาซารัสก็เอ่ยชมว่าเขาทำได้ดีมากพร้อมกับจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากก่อนจะย้ายเป้าหมายมาคลอเคลียแก้มนิ่มด้วยจูบที่แผ่วเบาราวกับขนนก

“น่ารักจริงๆเชื่อฟังพี่ชายซะขนาดนี้”

ลาซารัสกระซิบเย้าแหย่โยชัวที่นอนตาพริ้มอย่างว่าง่าย
เจ้าชายปีศาจดึงร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตักแล้วไล้เลียริมฝีปากของโยชัวด้วยปลายลิ้นก่อนจะบดจูบดูดดื่มหวานล้ำเนิ่นนานจนคนถูกจูบตัวสั่นระริก
จากนั้นหลังจากที่ถอนจูบที่ยาวนานออก ชายหนุ่มยังใช้ปลายจมูกเกลี่ยไปมาบนแก้มนิ่มสูดดมกลิ่นหอมของคนบกตัก

“เด็กดีเชื่อฟังพี่ชายมันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ว่าเป็นตัวของตัวเองมันเร้าอารมณ์ทางนี้มากว่าล่ะนะ”
ลาซารัสกระซิบร่ายมนต์ที่ข้างหู ส่งผลให้ร่างเล็กสะดุ้งกายตื่นจากผวัง ดวงตาหยาดเยิ้มลุ่มหลงของโยชัวกลับมากระจ่างใสอีกครั้ง

"......................"

พอเด็กหนุ่มรู้ตัวว่าตนเองก่อนหน้านั้นยอมให้อีกฝ่ายทำอะไรลงไปบ้าง โยชัวก็ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งจนหลุดออกจากการเกาะกุมของลาซารัส ร่างเล็กวิ่งหนีออกจากห้องเจ้าชายปีศาจวิ่งไปอย่างไม่รู้เหนือใต้
สุดท้ายก็ยืนหอบแฮ่กๆเพราะหลงทางในสวนอย่างสมบูรณ์แบบ

โยชัวอย่างจะขอความช่วยเหลือใครสักคน  แต่ก็รู้ตัวดีอยู่ว่าไม่มีใครซักคนในโลกนี้ที่เป็นเพื่อนของเขา
เด็กหนุ่มนั่งหมอบหลบมุมต้นไม้ในสวน พยายามคิดหาหนทางอย่างอดที่จะเข้าข้างตัวเองไม่ได้ว่าชาร์ฮาร์จะต้องตามหาเขาจนเจอ
ทว่าพอเด็กหนุ่มครุ่นคิดอย่างดีอีกครั้ง เขาก็พบความจริงที่ว่าตนเองก่อนที่จะแยกจากเจ้าชายผู้เจิดจรัส
เขาทำตัวเกรียนใส่อีกฝ่ายไปมากแค่ไหน 

ทำไปขนาดนั้นต่อให้เป็นคนใจดีแค่ไหนอีกฝ่ายก็คงจะเลิกสนใจจนอาจจะรำคาญที่ต้องตามหาตัวเขา

แย่แฮะ

รู้สึกหดหู่ขึ้นมาแบบเต็มmax


“ทำอะไรอยู่น่ะ”

“อ๊ะ”

โยชัวอุทานเด็กหนุ่มหันไปมองเจ้าของเสียงเย็นเยียบ
ที่ตรงหน้าชายผู้มีสีขาวโพลนไปทั่วทั้งร่างมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ไม่บ่งบอกความรู้สึก

สงสัยคงจะคิดว่าเขาเป็นคนวิตถาร

โยชัวคิดแบบนี้วนเวียนอยู่ในหัวอย่างอดสู เด็กหนุ่มไม่อาจปฏิเสธความคิดของคนธรรมดาทั่วไปที่ต้องมองว่าการที่ผู้ชายอย่างเขามาเดินเพ่นพ่านตอนกลางคืน ในชุดเมดแบบนี้เป็นเรื่องที่ดูอุบาทว์ในตาเกินจะทน

แถมซ้ำร้ายเขายังมาเจอคนที่ควรต้องหลบหน้าให้มากที่สุด

โยชัวเครียดซะจนกำมือทั้งสองข้างแน่น ดวงตาของเขาหลุบต่ำ เด็กหนุ่มภาวนาให้ลูเซียที่ปรากฏตัวอย่างคาดไม่ถึงเลิกสนใจในตัวเขาแล้วผละจากไป

“หลงทางเหรอ”

โยชัวเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า แม้เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจจะมีใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงความรู้สึก
หากแต่ดวงตาสีเทากลับไม่ได้เย็นชาเท่าการแสดงออก

“ตามมา”

ลูเซียออกคำสั่งก่อนจะเดินนำ พอชายหนุมเห็นโยชัวยังไม่ยอมเดินตาม ร่างสูงสง่าก็ออกคำสั่งซ้ำอย่างเฉียบขาดเป็นคำสั้นๆว่า”เร็ว”

“เปลี่ยนซะ”

ลูเซียโยนชุดที่หยิบออกจากตู้เสื้อผ้าของตนเองให้โยชัวหลังจากที่พาเด็กหนุ่มมาถึงที่ห้องนอนของตน
แต่จากประสบการณ์เลวร้ายที่ได้รับมาจากชาร์ฮาร์และลาซารัส 

โยชัวนอกจากจะระแวงไม่ยอมแก้ผ้าให้ใครเห็น เสื้อผ้าที่รับมาก็ไม่รู้ว่าจะเป็นของประหลาดอย่างที่เคยได้รับมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า
ความคิดนั้นทำให้โยชัวรีรีรอรอไม่ยอมทำอะไรสักอย่างจนลูเซียที่อยู่ในห้องด้วยกันเอ่ยถาม

“เป็นอะไรไป”

พอถูกลูเซียถามด้วยเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับถูกจ้องมองด้วยดวงตาที่ดูสงบราวกับน้ำในบ่อ โยชัวก็ตัดสินใจที่จะไว้ใจอีกฝ่ายอย่างไม่มีเงื่อนไข
เด็กหนุ่มลงมือถอดเสื้อผ้าออกที่ละชิ้นแต่ก็ยังไม่วายมองดูลูเซียว่าอีกฝ่ายทำอะไรอยู่

“………………….”

ดูเหมือนว่าตอนนี้ลูเซียกำลังตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือโดยไม่ได้สนใจเขาเลยซักนิด พอร่างเล็กรู้ว่าอีกฝ่ายไม่สนใจที่จะมอง โยชัวก็รู้สึกโล่งอกเหมือนยกภูเขาออกจากอก

เด็กหนุ่มหยิบเสื้อผ้าที่ลูเซียให้ขึ้นมาเพ่งดูแล้วยิ้มกว้างจนปากแทบฉีก
ในมือของเขามีเสื้อผ้าของผู้ชายปกติมีทั้งเสื้อและกางเกงครบชุดถึงแม้ว่าพอโยชัวใส่แล้วจะดูหลวมไปหน่อยก็ตาม

“เป็นชุดที่ข้าใส่ตอนอายุสิบสอง”
ลูเซียพูดเมื่อเห็นโยชัวแต่งตัวเสร็จ

จังหวะนั้นเสียงโครมครามจากการเปิดประตูเข้ามาของชาร์ฮาร์ทำโยชัวสะดุ้ง เด็กหนุ่มมองไปที่ผู้กระทำด้วยความตกใจ

ที่ด้านหลังของเจ้าชายผู้เจิดจรัส ลาซารัสผู้ชั่วร้ายประหนึ่งลาสบอสยืนเหยียดยิ้มยั่วเย้าและใช้ดวงตาสองสีมองมาที่เขาด้วยแววตาสื่อถึงความสนุกสนาน

“ทำไมแต่งตัวแบบนี้”
ชาร์ฮาร์ที่ตั้งคำถามเบิกตากว้างทันทีที่เห็นการแต่งตัวของโยชัว ใบหน้าหล่อเหลาดูหงุดหงิดแบบสุดๆก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นคาดไม่ถึงเมื่อถูกคนร่างเล็กโถมเข้ากอดด้วยความตื้นตัน

“นึกอยู่แล้วว่าชาร์ต้องมา”
โยชัวที่คลายอ้อมกอดหลังพูดจับมือทั้งสองของชาร์ฮาร์เขย่าขึ้นลงด้วยความปลื้มปิติ

ท่าทีกลับกันจากหน้ามือเป็นหลังเท้าของโยชัว นอกจากจะทำให้ชาร์ฮาร์สับสน ความไม่พอใจเรื่องที่เด็กหนุ่มเอาชุดที่ไหนมาใส่ไม่รู้ก็อันตธานหายไปสิ้น

หลังจากที่แสดงความยินดีเพียงพอแล้ว โยชัวก็เอ่ยขอบคุณลูเซียที่ช่วยเหลือ
ร่างเล็กจูงมือชาร์ฮาร์ให้เดินตาม
จังหวะที่เดินผ่านลาซารัส เจ้าชายปีศาจผู้มีใบหน้าลึกลับเย้ายวนกระซิบด้วยเสียงที่ยั่วเย้าหวานหนึบ

“ไว้มาเล่นสนุกกันอีกนะ”

โยชัวหน้าแดงก่ำ เด็กหนุ่มลากชาร์ฮาร์ให้เดินตามก่อนจะเปลี่ยนเป็นกึ่งเดินกึ่งวิ่ง
เขาไม่อยากจะได้ยินเสียงกระซิบที่ชั่วร้ายนั้นอีก ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากจะได้ยินมันอีกเป็นครั้งที่สอง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่5 แล้วนะคะ

เหนื่อยมากกับการพิมส์นิยายจากสมุดลงคอมพิมส์เกือบสามวันปวดตาสุดๆสำหรับคนที่พิมส์ได้ช้าและไม่ถนัดอย่างเรา

สำหรับผู้อ่านที่สงสัยกับปริศนาในเรื่องคือมันจะค่อยๆเฉลยในแต่ละตอนน่ะค่ะ ช่วยอดใจรอนิยายเราหน่อยนะคะ

คือเขียนไปหลายตอนแล้วก็จริงแต่ก็ต้องเสียเวลาพิมส์ลงคอมอีกที :hao5:

ตอนหน้าอาจจะอีกสามวันมาลงอีกทีนะคะ จะว่าไปตอนนี้ก็ดูเหมือนจะลงไม่ค่อยยาวอีกนะแฮะ

รักคนอ่านค่ะ

หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 08-05-2015 10:02:31
 :katai2-1: รอตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 08-05-2015 10:26:30
ขอบคุณมาก สนุกมาก

รอต่อไป  :katai4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 08-05-2015 11:08:49
สนุกดีครับ รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 08-05-2015 12:51:47
เรารู้สึกวืาเรื่องนี้สนุก เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 08-05-2015 13:01:34
ฮึๆๆๆ
ฮาเร็มๆๆๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 08-05-2015 14:55:28
 o13
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 08-05-2015 16:36:59
 :katai1: :katai1:  :ling3: :serius2: :mew5: o22

ติดตามจ้าา :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: glasses girl ที่ 08-05-2015 20:03:34
สนุกมากจ้า :hao7:

รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 09-05-2015 15:35:42
สนุกมากจ้า มาต่อเร็วๆ น้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่5 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <8/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 11-05-2015 14:24:09
ตอนที่6

“โยชัว”
เจ้าของชื่อมุดหัวเข้าไปอยู่ใต้หมอนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเคาะกับเสียงเรียกของชาร์ฮาร์ที่หน้าประตู

“โยชัวออกมาอธิบายให้พี่ชายเข้าใจก่อนสิว่าเกิดอะไรขึ้น”
ชาร์ฮาร์เคาะประตูรัว น้ำเสียงของเขาทั้งหงุดหงิดร้อนรน

 เรื่องที่ทำให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสที่ปกติอารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลาดิ้นพล่านได้ขนาดนี้ ทั้งหมดมาจากคำพูดของลาซารัสพี่ชายร่วมมารดาที่ว่า”ไว้มาเล่นสนุกกันอีกนะ”
คำคำนั้นสร้างความสงสัยและขุ่นเคืองให้ชาร์ฮาร์จนชายหนุ่มตัดสินใจคาดคั้นเอาความจริงจากโยชัว

แน่นอนว่าสำหรับโยชัวที่เจอกับเรื่องที่น่าอับอาย ถึงตาย ไม่สิเพราะรู้แก่ใจดีว่าชาร์ฮาร์ต้องไม่ทำรุนแรงกับตนแน่ๆ
เด็กหนุ่มถึงได้ดื้อแพ่งไม่ยอมปริปากพูดเรื่องที่อีกฝ่ายอยากรู้ แล้วรีบหนีเข้าห้องล็อกกลอนประตูแน่นหนา เป็นเหตุให้ชายหนุ่มวุ่นวายตรงหน้าห้องเขาไม่เลิก

อีกเดี๋ยวชาร์ฮาร์คงจะยอมแพ้

โยชัวคิดแบบนั้นถึงได้สามารถข่มตาหลับทั้งที่ชาร์ฮาร์ทั้งเคาะทั้งเรียกอยู่หน้าห้อง

วันต่อมา โยชัวลืมตาตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น  เช้าวันนี้อากาศที่บริสุทธ์ทำให้เด็กหนุ่มกระปรี้กระเปร่ามากเป็นพิเศษ
 
ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เด็กหนุ่มสามารถตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นได้ถึงสองวันติดกัน เทียบกับสมัยที่ยังอาศัยในโลกเดิม ร่างเล็กต้องพึ่งนาฬิกาปลุกทุกครั้งถึงจะลืมตาตื่นได้

รู้สึกดีมากมาก ดีจนเกือบจะลืมเรื่องที่ถูกปีศาจเกย์ลวนลาม นอกเหนือจากนั้นชาร์ฮาร์ที่เมื่อวานโวยวายไม่เลิกก็ไม่ได้ทุบประตูปึงปังที่หน้าประตูห้องของเขาอีกแล้ว

จากนั้นโยชัวที่คิดว่าชาร์ฮาร์เลิกสนใจเรื่องของตน ก็จัดการธุระยามเช้าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยอารมณ์ที่สดชื่น

“อยากไปห้องสมุดอีกจังแฮะ แต่ไม่รู้ว่าปีศาจเกย์นั่นจะโผล่ไปที่ห้องสมุดอีกรึเปล่า”
โยชัวพึมพำขณะเปิดประตูห้อง
ทว่าพอประตูแง้มเปิด เด็กหนุ่มก็ผงะตกใจ ที่หน้าประตู ชาร์ฮาร์ผู้มีหน้าบูดบึ้งยืนตระหง่านอยู่ที่ตรงนั้น ด้านหลังของชายหนุ่มสาวเมดหลายคนทำหน้าไม่พอใจและประสานเสียงเหน็บแนมโยชัวขึ้นพร้อมกัน

“เป็นน้องชายที่ใจร้ายมากนะเจ้าคะปล่อยให้ท่านพี่ยืนรอตรงนี้ทั้งคืน”

ดวงตากลมโตเบิกกว้าง โยชัวมองดูเมดสาวคนพูดก่อนจะเบนสายตาไปยังพี่ชายที่กำลังแผ่ออร่าขมุกขมัว
นี่ยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคืนเลยเหรอ?
โยชัวทำหน้าเหยเก
 โดยไม่ตั้งตัว เด็กหนุ่มถูกชาร์ฮาร์ใช้มือดันให้กลับเข้าไปในห้อง

หลังจากที่ชายหนุ่มปิดประตูลงกลอน พี่ชายซึ่งแผ่คลื่นอารมณ์กดดัน ก็ย่างสามขุมเดินเข้ามาหา
ท่าทางน่ากลัวคุกคามทำให้โยชัวก้าวเท้าถอยหนี  ก่อนจะสะดุดล้มหงายหลังลงไปกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง

“อธิบายมาหน่อยสิว่าเรื่องที่ท่านพี่ลาซารัสพูดเมื่อวานมันหมายถึงอะไร”
ชาร์ฮาร์ขยับตัวคร่อมร่างโยชัว พอเด็กหนุ่มใต้ร่างขยับหนี มือใหญ่ก็คว้าจับร่างเล็กไว้อย่างแน่นหนา
ชั่ววินาทีที่ถูกจับ ภาพความทรงจำหลากสีสันของชาร์ฮาร์ก็แวบเข้ามาในสมองโยชัว

ในความทรงจำเด็กชายผมทองกำลังตามหาลูกบอลที่ถูกพี่ชายรวมมารดาแย่งไป
สำหรับชาร์ฮาร์แล้วพี่ชายที่ท่านแม่คอยเอาใจใส่มากซะยิ่งกว่าตนเอง ค่อนข้างจะสนุกกับการกลันแกล้งตัวเขาทุกครั้งที่ไม่มีท่านแม่อยู่ด้วย
วันนี้ก็เหมือนกัน ลูกบอลของสำคัญที่ได้มาจากท่านลุงเรนเดลจู่ๆก็ถูกแย่งไปจากมือ

“เอาคืนมานะ”
ชาร์ฮาร์วิ่งตามลาซารัสเพื่อจะเอาคืนอย่างไม่ลดละ แต่ไม่นานนักอีกฝ่ายก็คลาดสายตาหายไป
ตอนนี้ชาร์ฮาร์รู้เพียงว่าตัวเองกำลังหลงอยู่ในสวนของปราสาท

ท่ามกลางสวนสวยที่ถูกจัดแต่งให้คล้ายกับเขาวงกต เด็กชายตัดสินใจมุดพุ่มไม้หนาเพื่อจะลอดไปยังอีกฝั่ง ตอนที่ติดอยู่ในพุ่มไม้ ลูกบอลที่น่าจะเป็นของเขาก็กลิ้งตรงเข้ามาหา

ชาร์ฮาร์ดีใจมากที่เห็นมัน แต่เทวทูตตัวเล็กๆกลับเดินเตาะแตะเข้ามาคว้าเอาบอลของเขาไป เด็กน้อยทำราวกับเป็นเจ้าของลูกบอลที่ควรจะเป็นของเขา

ชาร์ฮาร์ถูกแย่งของรักไปต่อหน้า ทั่งอย่างนั้นเด็กชายกลับไม่เกิดความรู้สึกหวงแหนเจ้าลูกบอลอันโปรดเลยซักนิด
อาจเป็นเพราะที่เด็กที่ถือบอลของเขา คือน้องชายตัวเล็กๆซึ่งจะมีโอกาสได้เห็นหน้ากันบ้าง แค่เฉพาะมีงานเฉลิมฉลอง

โยชัวมีอายุน้อยกว่าเขาที่เก้าขวบหนึ่งปี หากแต่ตัวเล็กกว่าเขาที่สูงใหญ่พอๆกับท่านพี่ลาซารัสที่มีอายุสิบสองขวบ

ที่ร่างกายของเขาเติบโตรวดเร็วถึงขนาดนี้ ท่านลุงเรนเดลบอกว่าเพราะเขาเป็นเผ่าหมาป่าอสูร จึงทำให้มีร่างกายสูงใหญ่เกินวัยไปมาก
ดังนั้นน้องชายที่ตัวเล็กไม่ต่างจากตุ๊กตาจึงน่ารักมากเป็นพิเศษ

ดีจังนะที่ชอบลูกบอลของเขา ถ้าเกิดว่าเจ้าสมบัติที่แสนสำคัญทำให้น้องชายต่างมารดาพึงพอใจ เขาก็รู้สึกปลาบปลื้มยินดี
ชาร์ฮาร์ไม่มีความคิดจะแสดงตัวให้โยชัวรู้ เด็กชายผู้มีร่างกายโตเกินวัยรู้แก่ใจว่าท่านแม่ต้องไม่ชอบมากมากถ้ารู้ว่าเขาไปวุ่นวายกับเทวทูตน้อยๆ
ชาร์ฮาร์ค่อยๆย่องเงียบจากไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

ภาพใบหน้ายิ้มแย้มและแสงตะวันอบอุ่นก็ค่อยๆจางลง
ตอนนี้ ชาร์ฮาร์ฉีกยิ้มกว้าง เมื่อท่านแม่ผู้งดงามพาโยชัวเข้ามาในปราสาทส่วนที่เป็นที่พำนักของพวกเขา

“ท่านแม่จะพาน้องมาอยู่ที่นี่กับเราเหรอครับ”
ชาร์ฮาร์ถามอมันด้า แวบหนึ่งใบหน้าที่งดงามของท่านแม่บิดเบี้ยวอย่างน่ากลัว เป็นใบหน้าที่เด็กชายไม่คิดว่าท่านแม่ของเขาจะทำได้

“ชาร์ฮาร์เหมือนว่าแม่จะลืมสอนอะไรลูกไปสินะ เจ้ามดปลวกนี่ไม่มีอะไรคู่ควร แม้แต่จะเป็นขี้ข้าให้ลูกด้วยซ้ำ”
ชาร์ฮาร์มองดูรอยยิ้มหวานหยดของท่านแม่ หากแต่ดวงตาคู่สวยที่ประสานกันกลับเต็มไปด้วยความคุ้มคลั่งซะจนเกิดความรู้สึกไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าเขาคือใครกันแน่

ชาร์ฮาร์เบนสายตาไปยังโยชัวที่กำลังหลับอยู่ในอ้อมแขนของข้ารับใช้ที่อยู่ด้านหลังท่านแม่
ในตอนนั้นเสียงร้องในส่วนลึกของจิตใจก็กระซิบบอกเด็กชายว่าอาจจะไม่ได้เห็นร่างเล็กๆนั่นอีกเป็นครั้งที่สอง

ทว่าพอถูกบรรดาเมดสาวผู้เป็นพี่เลี้ยงจำนวนมากตะล่อมและปลอบ ชาร์ฮาร์ที่ไร้เดียงสาก็จำต้องจากไป

ความรู้สึกผิดบาปของเจ้าของความทรงจำ พลั่งพลูเข้ามาในสมองของโยชัวราวกับว่าตนเองใช้วิญญาณร่วมกันกับชาร์ฮาร์
ระยะเวลาหลายปีที่พ้นผ่าน ถึงแม้อมันด้าจะพยายามปกปิดชะตากรรมของน้องชายไม่ให้ชาร์ฮาร์รับรู้
แต่เจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ยังสืบค้นจนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
 
ภาพความทรงจำไม่ประติดประต่อ แสดงช่วงเวลาทุกข์ใจของชาร์ฮาร์เวลาที่ได้รู้ข่าวคราวของโยชัว ตลอดเวลาอันยาวนานจนถึงปัจจุบัน สลับไปมานับครั้งไม่ถ้วน

ยิ่งเด็กหนุ่มเห็นใบหน้าที่เศร้าหมองของอีกฝ่าย โยชัวก็ยิ่งเข้าใจตัวตนของชาร์ฮาร์มากยิ่งขึ้น  ตอนนี้คนที่กำลังอ่านความทรงจำรู้สึกอบอุ่นราวกับตนเองได้รับความห่วงใยและปรารถนาดีจากชายหนุ่มซะเอง

“ขอร้องล่ะอย่าทำให้เป็นห่วงจะได้ไหม  พี่ชายเครียดจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
ชาร์ฮาร์ที่ตรึงร่างเล็กไว้กับเตียงทำหน้าปวดร้าวก่อนจะดึงโยชัวเข้าไปกอดแนบอกอย่างถนุถนอม
จนเด็กหนุ่มรู้สึกว่าถ้าไม่เล่าความจริงออกไป อีกฝ่ายนอกจากจะไม่เลิกฟุ่งซ่าน อาจจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของเขากับชาร์ฮาร์เกิดรอยร้าว

ถึงแม้จะรู้ว่า ความรู้สึกดีดีจากคนที่กอดจะไม่ได้มีไว้เพื่อเขาแต่เป็นเจ้าของร่างนี้ 
เด็กหนุ่มก็ไม่ใส่ใจแถมยังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ไม่ว่าคนที่กอดอยู่จะคิดว่าตนเองเป็นใคร การกระทำของเจ้าชายผู้เจิดจรัสคือสิ่งที่ชัดเจนว่ากำลังเป็นห่วงเขามากแค่นั้นก็เพียงพอ
โยชัวใช้มือเล็กๆลูบแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มไปพร้อมๆกับเล่าเรื่องที่เขาเคยปกปิดไว้

“คนคนนั้นต้องเป็นชายรักชายไม่ผิดแน่ แถมยังเป็นปีศาจวิปริตที่คิดจะทำเรื่องอย่างว่ากับน้องชายแท้ๆของตัวเอง"
โยชัวก่นด่าไม่ยั้ง จนลืมสังเกตชาร์ฮาร์ ที่มีใบหน้าจืดเจื่อนทุกครั้งที่เขาเน้นย้ำว่าลาซารัสเป็นพี่ชายโรคจิต

“โยชัวจะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะ”
โยชัวอุทานดังเอ๊ะกับการขัดคอ ในขณะที่ตนเองต่อว่าลาซารัสอย่างดุเดือดเรื่องศีลธรรมจรรยาในแบบมนุษย์

“สำหรับพวกมนุษย์อาจจะคิดว่ามันผิด แต่ปีศาจอย่างเราการแต่งงานกับพี่น้อง หมายถึงการรักษาสายเลือดให้บริสุทธิ์
ความแข็งแกร่งของสายเลือดสำคัญมากในหมู่ปีศาจชั้นสูง ถ้าจะให้พูด ในโลกปีศาจพี่น้องแต่งงานกันเองไม่เห็นแปลกตรงไหน ยิ่งเป็นผู้ชายด้วยกันยิ่งปกติจะตาย”
โยชัวรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาร์ฮาร์ตอนนี้ทำหน้าเหมือนเขากำลังพูดไร้สาระ

ก่อนที่เด็กหนุ่มจะอ้าปากเถียง สาวเมดก็เรียกให้พวกเขาไปรับประทานอาหารเช้า ที่โต๊ะอาหารชาร์ฮาร์อธิบายสิ่งที่โยชัวคาใจมาตลอดด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจและค่อนข้างหัวเสีย หากแต่ไม่ได้แสดงอาการปึงปังออกมา

“ท่านพี่ลาซารัสเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ เพราะเป็นสายพันธ์สุดยอดที่ได้ทุกอย่างที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของพวกบรรพบุรุษมาทั้งหมด ใบหน้างดงามลึกลับเย้ายวนกับเสียงที่เหมือนฝันร้ายนั่น ก็เป็นเพราะท่านย่าของเราเป็นราชินีเผ่าไซเรน”

“เผ่าเงือกเหรอ” โยชัวถามขณะตักอาหารเข้าปาก

“ใช่ เสียงของท่านพี่ก็เหมือนกับท่านย่ามีอำนาจสั่งให้สิ่งมีชีวิตรอบตัวทำตามที่ใจคิด”

“ถ้าอย่างนั้นชาร์ก็โดนด้วยเหรอ” โยชัวถามชาร์ฮาร์ที่ทั้งหงุดหงิดทั้งยุ่งยากใจไปพร้อมกัน

“เมื่อก่อนตอนที่ยังเล็กๆโดนแกล้งบ่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะต่อต้านไม่ได้ซะเมื่อไหร่ จริงๆแล้วแค่มีสติตั้งมั่นในความต้องการของตนเอง ท่านพี่ลาซารัสก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าจะให้พูดคนที่ท่านพี่ใช้วาจาสิทธิ์สั่งไม่ได้ก็มีท่านพ่อ ท่านพี่ลูเซียแล้วก็รวมข้าด้วยอีกคน”
ชาร์ฮาร์บอกเล่าด้วยท่าทีเหนื่อยหนาย เจ้าชายผู้เจิดจรัสแทบไม่ได้สังเกตโยชัวที่เครียดจนแทบกินไม่ลง

แย่แล้ว

ดูเหมือนว่าเจ้าปีศาจวิตถารลาซารัสจะไม่ได้อันตรายแค่ความไม่ปกติทางจิตใจ ความสามมารถของผู้ชายคนนั้นก็ร้ายกาจจนเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้

 อนาคตข้างหน้าหากได้พบกันอีก สงสัยคงจะไม่จบแค่ถูกทำบ้าๆ แค่คิดก็ว่าฝ่ายนั้นอาจจะใช้วาจาสิทธิ์ล้วงความลับหรือที่มาของเขาเด็กหนุ่มก็กลัวจนตัวสั่น

“อย่าทำหน้าเครียดอย่างนั้นสิ”
โยชัวเงยหน้าขึ้นมองชาร์ฮาร์ที่ส่งยิ้มลำบากใจมาให้

“ท่านพี่ลาซารัสไม่ว่างขนาดนั้นหรอก ไหนจะต้องวุ่นวายกับการตายของท่านแม่ อีกอย่างพี่ชายคนนี้จะอยู่ข้างๆโยชัวตลอดเวลาเอง”
คำพูดของชาร์ฮาร์ทำให้โยชัวใจชื้นเล็กน้อย แต่ก็ยังตงิดกับคำพูดของอีกฝ่าย

ให้ความสำคัญกับเขาในฐานะน้องชายก็ดีหรอก แต่จะให้ตัวติดกับชาร์ฮาร์ตลอดเวลาแบบนั้นเขาไม่ค่อยจะชอบแฮะ

“อา….เอาอย่างนี้มั้ยเราไปเที่ยวเล่นกันนอกปราสาท โยชัวอยู่แต่ในนี้คงอุดอู้น่าดู”

คำเชิญชวนของชาร์ฮาร์ปัดเป่าความกังวลของโยชัวออกไปทั้งหมด เด็กหนุ่มยิ้มกว้างและกระตือรือร้นไปกับสิ่งล่อใจคล้ายกับเด็กเล็กๆที่ถูกยื่นขนมให้

หลังจากที่เข้ามาในเมืองกับชาร์ฮาร์แค่สองคน สภาพชุมชนกับบ้านเมืองที่สวยแปลกตาทำให้โยชัวสนุกสนานตื่นตาจนเดินพล่านไม่หยุด

เด็กหนุ่มสำรวจไปรอบเมือง ทั้งยังทำตามใจตนเองจนลืมนึกถึงความรู้สึกของคนที่มาด้วย แต่ชาร์ฮาร์ที่กลายสภาพเป็นผู้ปกครองไปแล้วก็ยังไม่ปริปากบ่น

ดูคล้ายว่าการได้ดื่มดำกับสภาพแวดล้อมที่เป็นแฟนตาซีสมจริง จะทำให้เด็กวัยสิบห้าที่ใช้เวลาส่วนใหญ่หมกมุ่นกับเรื่องราวเหนือจินตนาการ บันทึกช่วงเวลานี้เป็นช่วงชีวิตที่น่าประทับใจไป

ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกวูบโหวง ด้วยเข้าใจว่าความประทับใจในตอนนี้ อีกหน่อยอาจจะกลายเป็นความรู้สึกที่สูญเปล่า เพราะทิวทัศน์เหล่านี้อาจกลายเป็นสถานที่ที่เขาจะต้องทนมองไปทั้งชีวิต
คิดแบบนั้นจากร่าเริงก็กลายเป็นเซื่องซึม โยชัวหยุดยืนมองดูเด็กๆเผ่าปีศาจกำลังเตะบอลอย่างสนุกสนาน จากบนเนินหญ้าที่ลาดสูง

จังหวะที่โยชัวกำลังเหม่อลอย บอลของพวกเด็กปีศาจก็พุ่งตรงมาที่ใบหน้า ชาร์ฮาร์ใช้มือข้างหนึ่งรับไว้ก่อนที่มันจะกระทบถูกเด็กหนุ่ม

“เฮ้”
พวกเด็กปีศาจตะโกนและพากันวิ่งมาที่ที่โยชัวกับชาร์ฮาร์ยืนอยู่

“พี่สาวบอกพี่ชายตัวโตทีสิว่าให้คืนลูกบอลมาได้แล้ว”
เด็กหัวโจกที่มีหูและหางแบบแร๊กคูนพูดด้วยท่าทางเขื่องโข

สำหรับโยชัวในตอนแรก เขาไม่คิดถือสาอะไรกับเด็กเล่นบอลเลยซักนิดเดียว
 นั่นเป็นความรู้สึกก่อนที่จะถูกเรียกว่าพี่สาว คำเรียกของเด็กปีศาจทำให้เส้นเลือดบนใบหน้าของเด็กหนุ่มปูดบวมขึ้นมาในทันที

“ถ้าไม่ให้ล่ะจะทำไม”
โยชัวพูดจายียวน จริงๆแค่อยากจะแกล้งเล่นนิดนิดหน่อยๆ แต่ปฏิกิริยาของพวกเด็กปีศาจทำให้เด็กหนุ่มเดือดพล่านหนักยิ่งกว่าเดิม

“อะไรพี่สาว เป็นผู้หญิงจะเอาบอลไปทำไม กลับบ้านไปเล่นตุ๊กตาดีกว่าน่า บอกพี่ชายคืนบอลมาซะที”
เด็กปีศาจหัวโจกทำหน้าเบื่อหน่าย ดูท่าทางสำหรับเด็กพวกนี้ เด็กผู้หญิงคงจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญเอามากๆ

“ข้าจะเล่นด้วย”

“หา”
เด็กปีศาจหัวโจกทำหน้าไม่เข้าใจ

“อย่าดีกว่าน่าเป็นผู้หญิงเล่นบอลเดี๋ยวเจ็บตัวหรอก”

“อธิบายกติกามาซะ”

“ตามใจแล้วกันนะ”
เด็กหัวโจกหูหางแร๊กคูนตอบรับเพราะรำคาญที่จะโต้เถียงกับพี่สาวร่างบอบบางยังยืนยันดื้อแพ่ง ระหว่างอธิบายกติกา ปากก็พึมพำไปตลอดว่า” มีแผลจะดีเหรอ” บ้างล่ะ หรือว่า “อย่าดีกว่าน่า” บ้างล่ะ

แต่ความจริงแล้ว โยชัวที่อยู่ในโลกเดิมถึงจะเป็นโอตาคุหน่อยๆ ในขณะเดียวกันเขาก็ยังเป็นตัวจริงทีมฟุตบอลเยาวชน
ด้วยเหตุผลข้อนี้ พ่อแม่จึงไม่เคยต่อต้านเขาที่เอาแต่หมกมุ่นเรื่องเกมส์กับอนิเมะเลยซักครั้ง

“แล้วใครจะอยู่กลุ่มเดียวกับพี่สาวล่ะ?บอกไว้ก่อนนา….พวกข้าไม่มีใครอยากไปแพ้ร่วมกับพี่สาวซักคนเดียว”
เด็กหัวโจกหัวเราะร่วน ทว่าพอเห็นพี่ชายตัวใหญ่อย่างชาร์ฮาร์อาสาร่วมกลุ่มกับพี่สาว เด็กปีศาจก็ชะงักเล็กน้อย

“เฮ้ยพี่ชาย หน้าพี่มันคุ้นๆอยู่นะ บ๊ะช่างเถอะ พี่ชายคนเดียวช่วยให้พี่สาวจอมอวดดีชนะพวกเราได้ที่ไหน”

จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันว่าใครจะได้ครองบอลก่อน พวกเด็กปีศาจอนุญาตให้โยชัวได้เป็นฝ่ายครองบอล
ดูท่าทางเด็กพวกนี้จะดูแคลนรูปลักษณ์ที่เป็นหญิงของเขาเอามากๆ

กติกาของที่นี่แทบไม่ต่างจากกีฬาฟุตบอลในโลกของโยชัว ทุกอย่างคล้ายกันมาก คือแค่ยิงบอลเข้าประตูอีกฝ่ายก็ได้แต้ม แถมยังไม่มีกฏหยุมหยิมยุ่งยากเท่ากับฟุตบอลในแบบที่เขาเรียนรู้มา

นอกจากนั้นกติกาเหล็กว่าด้วยการไม่กระทบกระทั่งหรือทำร้ายร่างกาย ทำให้เด็กหนุ่มมั่นใจว่าการแข่งในครั้งนี้เขาสามารถจะใช้ทักษะเหนือชั้นของนักกีฬาทีมเยาวชน สั่งสอนไอ้เด็กเปรตฝูงใหญ่ให้เลิกดูถูกรูปลักษณ์ภายนอกของเขาซะที

“เล่นได้จริงๆนะเหรอ”
ชาร์ฮาร์กระซิบอย่างเป็นห่วง
ถึงโยชัวจะยืนยันความมั่นใจ ชายหนุ่มก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

ทันทีที่สัญญาณเริ่มต้นดังขึ้น โยชัวก็เลี้ยงบอลไปข้างหน้าด้วยทักษะและความเร็วที่ตนเองกับพวกเด็กปีศาจต่างก็ตะลึงงัน
ถึงตอนนี้ โยชัวรู้ชัดแล้วว่า สมรรถภาพร่างกายของเขาทั้งความเร็วทั้งพละกำลัง มีมากกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายเท่า
ดูแล้วคงเป็นเพราะร่างนี้แต่เดิมเป็นลูกครึ่งปีศาจ ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มแทบไม่ได้สังเกต เพราะคนรอบตัวดูจะแข็งแรงกว่าเขาไปซะทุกคน

สภาพร่างกายแบบนี้หมายความว่าในอนาคต ถ้าเขาฝึกฝนร่างกายดีดี ก็จะสามารถป้องกันตัวเองจากอันตรายได้ในระดับหนึ่ง ร่างกายที่แข็งแรงมีประโยชน์ขนาดนี้จะปล่อยให้เสียเปล่าไม่ได้เด็ดขาด

หลังจากที่ร่วมมือกับชาร์ฮาร์ถล่มประตูฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง กลุ่มเด็กปีศาจที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆยังคงมุ่งมั่นท้าประลองกับโยชัวนับครั้งไม่ถ้วน

ผ่านไปหลายชั่วโมง โยชัวกับชาร์ฮาร์นอกจากจะเหงื่อโทรมกาย ตามเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยดินทรายและโคลนสกปรกจนดูไม่ต่างจากลูกหมาข้างถนน

“แล้วมาเล่นกันใหม่นะพี่สาว”

เด็กหัวโจกบอกลาหลังจากที่ต่อสู้กันจนแทบตะวันลับขอบฟ้า  ที่ด้านหลัง เด็กปีศาจทั้งหมดโบกมือลาโยชัวอย่างยิ้มแย้ม
ดูเหมือนว่าหลังจากที่ต่างคนต่างห่ำหันกันด้วยหยาดเหงื่อและแรงกาย โยชัวกับเด็กปีศาจก็สนิทสนมกันจนกลายเป็นเพื่อนเล่นไปซะแล้ว

เด็กหนุ่มที่ถูกชาร์ฮาร์พากลับ พูดคุยเกี่ยวกับช่วงเวลาที่สนุกสนานไปตลอดทาง จวบจนปะเข้ากับกลุ่มเมดสาวจำนวนมากเมื่อกลับมาถึงปราสาท

“ตายแล้วทำไมสกปรกกันทั้งคู่เลยล่ะเจ้าคะ”
เสียงหวีดร้องโวยวายของสาวเมดดังระงมกับสภาพสุดโทรมสุดโสโครกของโยชัวกับชาร์ฮาร์

พวกหล่อนพากันบ่นและตักเตือนไม่หยุด ทั้งเรื่องที่ออกไปเล่นซนอย่างไม่สมเป็นเชื้อพระวงศ์ปีศาจ
ทั้งการกลับมาอย่างสกปรกไม่ต่างจากขอทาน

โยชัวที่ฟังคำบ่นยาวนานและเริ่มคันคะเยอก็เอ่ยขัดจังหวะพวกเมดสาวแล้วขอตัวไปอาบน้ำ
ยังไงซะคนที่พวกเมดสนใจจริงๆน่าจะเป็นชาร์ แทนที่จะทนฟังพวกหล่อนตำหนิ รีบไปอาบน้ำล้างตัวให้สะอาดเป็นเรื่องที่สมเหตุผลกว่าเยอะ

“ถ้าอย่างนั้นท่านชาร์ฮาร์ทำไมไม่ไปอาบน้ำพร้อมท่านโยชัวล่ะคะ”

“หา”
โยชัวบิดคอหันไปมองเมดสาวที่เสนอความคิด

“ท่านชาร์ฮาร์ก็ตะล่อมยากเหลือเกิน ถ้าหากปล่อยไปคงไม่พ้นแค่สลัดเสื้อผ้าสกปรกทิ้งแล้วนอนทั้งอย่างนั้น
ถ้าหากว่าท่านโยชัวจะกรุณา ก็ช่วยจัดการกับพี่ชายที่ดื้อดึงคนนี้ด้วยเถอะค่ะ”
สาวเมดที่ดูสุขุมที่สุดเอ่ยขอ  ออร่าดุดันที่แผ่ออกมาจากเมดสาวส่วมแว่นกดดันโยชัวที่อยากจะปฏิเสธจนขนลุกซู่

“แต่ว่าชาร์อาจจะชอบอาบน้ำในร่างหมามากกว่ามั้ง”
โยชัวอิดเอือน

“อาบน้ำในร่างหมามันสนุกก็จริง แต่พี่ชายก็มีบางครั้งที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศอาบน้ำกับน้องชายแน่นอนอยู่แล้วค่ะ”
เมดสาวสวมแว่นใช้มือขยับแว่นตาด้วยใบหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
 
โยชัวลอบมองชาร์ฮาร์ด้วยอยากรู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไงกับข้อเสนอของสาวเมด  เจ้าชายผู้เจิดจรัสมองมาที่เขาด้วยสายตาวิบวับเปล่งประกายแบบสุดๆ

“มันแปลกอยู่นะ ผู้ชายโตแล้วมาอาบน้ำด้วยกันถึงเป็นพี่น้องกันก็เหอะ”

“ก็เป็นผู้ชายด้วยกันสิคะถึงได้ไม่ต้องกังวลอะไรรีบไปเถอะค่ะ เหม็นสกปรกมากจนทนดูด้วยตาไม่ได้ทั้งคู่เลย”

สาวเมดสวมแว่นดันหลังโยชัวเบาๆ โดยมีชาร์ฮาร์และเมดจำนวนมากเดินขบวนตามไปยังห้องน้ำ
ที่ห้องอาบน้ำกว้าง โยชัวยืนนิ่งเป็นหุ่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ปล่อยให้สาวเมดช่วยกันเปลื้องผ้าเขา
ระหว่างที่ถูกถอดชุดพวกหล่อนพากันชื่นชมเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเขา
นอกจากจะไม่ทำให้ดีใจ โยชัวยังเขินอายที่ต้องมีสภาพแบบทารกแรกเกิดต่อหน้าหญิงสาวจำนวนมาก

“ถ้าอย่างนั้นพวกข้าขอตัวนะคะ จะไม่รบกวนเวลาอาบน้ำเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องหรอกค่ะ”
เมดสาวแว่นพูดก่อนจะพาเมดคนอื่นๆออกไป

พอทุกคนออกไปหมดโยชัวที่ยืนตัวเกร็งก็ผ่อนคลายจนกลับเป็นปกติ เด็กหนุ่มหันไปหาชาร์ฮาร์ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
พอปะเข้ากับเรือนกายกำยำสูงใหญ่ ร่างเล็กก็ตกตะลึงในรูปร่างที่สวยงามสุดยอดของอีกฝ่าย

อะไรกันน่าอิจฉาเกินไปแล้ว

กล้ามเนื้อสมส่วนตึงแน่น แถมยังมีผิวสีแทนสวยงามอย่างคนมีสุขภาพดี

หน้าตาของชาร์ฮาร์เองก็หล่อเหลาสุดยอด

ทั้งอย่างนั้นไอ้ปิกาจูที่ตรงหว่างขานั่นล้อกันเล่นหรือเปล่า

มนุษย์ที่ไม่มีจุดด่างพล้อยในร่างกายมันมีด้วยเหรอ?

ไม่สิคนคนนี้เป็นปีศาจ จะว่าไปพี่ชายในโลกนี้ทุกคนล้วนหน้าตาดีและสูงใหญ่

หมายความว่าทั้งสามคนมีปิกาจูที่สุดยอดกันแบบนี้ทุกคน

โยชัวเริ่มคิดว่าโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมกับตนเองเลยซักนิด ยิ่งเด็กหนุ่มจดจ้องเครื่องเพศของชาร์ฮาร์ที่ถึงแม้ไม่ขยายตัวก็ยังดูมีขนาดที่ใหญ่โตอย่างมาก ร่างเล็กรู้สึกอยากจะฆ่าตัวตายไปซะให้พ้นๆ จากร่างกายที่อะไรๆก็ดูเล็กจุ๋มจิ๋มไปซะหมด

“โยชัวเนี่ยอะไรๆก็ดูเล็กน่ารักไปหมดทั้งตัวเลยนะ”

โยชัวหน้าซีดเผือด เด็กหนุ่มจ้องดวงตาชาร์ฮาร์ ที่มองดูร่างกายเปลือยเปล่าของเขาด้วยความเอ็นดูแล้วรู้สึกรับไม่ได้
รู้ตัวอีกทีตนเองก็นั่งขัดสมาธิบนพื้นโดยมีชายหนุ่มละเลงฟองสบู่บนแผ่นหลัง
ขณะที่มือใหญ่ลูบไล้ฟองไปบนตัวของเขา ชาร์ฮาร์ก็บรรยายสรรพคุณของครีมอาบน้ำ ว่าถ้าใช้เจ้าสิ่งนี้จะทำให้กลิ่นหอมติดตัวไปจนถึงกี่วัน

อยากจะออกไปจากห้องน้ำโดยเร็ว

โยชัวคิดแล้วลุกขึ้นพรวดพราด เด็กหนุ่มตั้งใจจะตักน้ำล้างตัวให้มันจบๆแล้วรีบแยกย้ายกลับห้องตัวเอง
แต่พื้นห้องน้ำที่ค่อนข้างลื่นทำให้เด็กหนุ่มสะดุดล้มหงายหลัง ชาร์ฮาร์รับร่างของโยชัวที่สูญเสียการทรงตัวจากด้านหลังของเด็กหนุ่มอย่างทันท่วงที

“ระวังหน่อยสิ”

ชาร์ฮาร์ก้มหน้ามองโยชัวที่อยู่ในอ้อมแขน เวลานี้แผ่นหลังของเด็กหนุ่มแนบชิดกับร่างกายเปลือยเปล่าที่แข็งปานรูปหล่อเหล็กกล้า ความแนบชิดที่เกินเลยกับร่างกายของคนอื่นอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับพูดอะไรไม่ออก
ในตอนนั้นจู่ๆคนที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายก็แนบจมูกสูดกลิ่นหอมจากแก้มของโยชัว เด็กหนุ่มตัวแข็งค้างในบัดดล

“หอมจังนอกจากจะมีร่างกายที่เล็กน่ารักยังมีกลิ่นหอมมากอีกด้วย”
หลังจากสูดกลิ่นหอมที่แก้มจนพอใจ  ชายหนุ่มก็ซุกใบหน้าสูดดมกลิ่นกายจางๆจากซอกคอ

โยชัวอาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายไม่ระวังตัวดีดตัวออกคนที่ประกบอยู่ด้านหลัง กระโจนใช้ขันตักน้ำราดตัวล้างฟองสบู่อย่างบ้าคลั่ง
จากนั้นโดยไม่รอให้อีกฝ่ายเข้าประชิดหรือมีสติ เด็กหนุ่มคว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่แล้วหนีกลับไปยังห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็ว

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่6แล้วนะคะ

ตอนที่กำลังพิมนิยายลงคอมอยู่สามวัน ก็รู้สึกตัวว่าประโยคที่เราเขียนในสมุดมันเป็นคำงงๆหลายจุดเหมือนกัน

ตอนพิมก็พยายามแก้แบบมุ่งมั่น สุดท้ายก็ออกมาได้เท่าที่เห็น

ปวดตามาก อีกสามวันจะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ

รักคนอ่านค่ะ

หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Raycira ที่ 11-05-2015 15:12:00
ฟินไปดิ :hao6:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 11-05-2015 15:28:06
 :z1: :hao6: 
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 11-05-2015 16:12:57
ชาร์ฮาร์น่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 11-05-2015 16:45:51
 :mew1: :mew1:
 :L1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 11-05-2015 17:26:12
รออ่านต่อจ้า :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 11-05-2015 18:25:18
แหม เนียนเลยนะชาร์  :m20:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 11-05-2015 19:36:35
เนียนตลอดดดดดดดดดดด  :katai5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 11-05-2015 22:18:09
เนียนเชียว  :hao6: :hao6:

รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 11-05-2015 23:58:10
หนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 12-05-2015 02:07:47
ถ้าจะมาฮาเร๊มก็แสดงว่า โยชัวอาจได้พี่ชายทั้ง 3 เลยอะดิ คึคึ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 12-05-2015 21:16:10
กำลังจะบอกว่าเชียร์ใคร แต่เอ๊ะ กลับไปดูชื่อเรื่อง ฮาเร็มนี่นา  สบายเราเลยงานนี้ จิ้นได้ครบ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 15-05-2015 02:03:36
ตอนที่7

   “กลายเป็นการหลบหน้าไปซะแล้วแฮะ” โยชัวพึมพำ

คืนวันก่อน หลังจากที่ชาฮาร์ทำตัวแปลกๆจนเขาต้องรีบวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต
พอกลับถึงห้อง เด็กหนุ่มก็โดดขึ้นเตียงแล้วนอนคลุมโปงด้วยความสับสนสุดๆ ในพฤติกรรมอันตรายที่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆของคนที่เป็นพี่ชายในโลกนี้

   เจ้าปีศาจเกย์ลาซารัสก็คนหนึ่งล่ะ นี่แม้แต่ชาฮาร์ก็ยังมาทำตัวแปลกใส่เขาด้วยอีกคน

โยชัวคิดไปคิดมา ก็ได้ข้อสรุปเป็นของตัวเอง ว่าอาจเพราะร่างกายปัจจุบันที่สิงสู่ตอนนี้ ดันบอบบางและงดงามเกินจริงจนแบ่งแยกเพศไม่ได้นี่แหละที่เป็นปัญหาที่แท้จริง

ในทางกลับกันเด็กหนุ่มคิดว่า ถ้าเกิดตนเองยังอยู่ในร่างเดิมของตน หากสมมุติว่าต้องมาเจอคนที่รูปร่างหน้าตาแบบเดียวกับร่างที่เขาสิงสู่
   โยชัวก็คงรู้สึกเหมือนตกหลุมกับดักไม่ต่างกัน
   
ทว่าถึงแม้รูปโฉมของเด็กหนุ่มในร่างนี้จะงดงามมากมายแค่ไหน แต่เพราะไม่ใช่ร่างกายของเขามาแต่กำเนิด
สำหรับคนตัวเล็กนอกจากจะไม่รู้สึกภูมิใจ ยังรู้สึกยุ่งยากจนปวดหัวที่ต้องมาอาศัยในร่างกายที่เป็นแบบนี้

   นอกเหนือจากนั้น ปัญหาใหญ่ของคนที่นี่ คือทุกคนล้วนแต่เป็นปีศาจ โยชัวเข้าใจว่าสามัญสำนึกของเขาดูจะใช้กับคนรอบข้างไม่ได้เลยแม้แต่ซักครึ่งคน
   
เรื่องราวความรักระหว่างชายกับชาย พี่น้อง หรือแม้แต่กับผู้ให้กำเนิด ในโลกของเขาก็มีเรื่องแบบนี้อยู่เหมือนกัน
แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครยอมเปิดเผยตัว โยชัวเองถ้าไม่เห็นจากข่าวโทรทัศน์ที่นำเสนอจุดจบของความรักที่ผิดศีลธรรมแบบนี้ ในลักษณะของโศกนาฏกรรม

   เด็กหนุ่มก็ประสบกับความเพ้อฝัน ที่อยากจะสมสู่กับคนในครอบครัว ในรูปแบบเรื่องเล่าในเว็บไซด์ของผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
   
แต่ก็นั่นแหละ ถึงเด็กหนุ่มจะชอบเสพสิ่งบันเทิงในขอบเขตที่หลากหลายกว้างขวาง เขาก็ไม่ได้ใจกว้างเป็นแม่น้ำ ถึงขนาดจะอ่านงาน boylove โดจินyaoi หรือแม้กระทั่งหนังเกย์ที่ใครๆต่างก็นิยมและพากันแนะนำให้เขาดูเป็นพักๆ
   
โยชัวเคยได้ยินเพื่อนสาวร่วมก๊วนพร่ำเพ้อถึงความโรแมนติก ในการทำผิดศีลธรรมแบบซ้ำซ้อนหลายชั้น
อย่างการที่เป็นเกย์แต่แอบรักพี่น้องที่เป็นชายของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ทุกๆครั้งที่เล่า เพื่อนสาวคนนั้นมีท่าทางปลาบปลื้มจนเด็กหนุ่มเผลอฟังเรื่องที่เจ้าหล่อนพูดจนจบไปซะหลายเรื่อง

   แต่ว่า ถ้าเป็นการดำเนินเรื่องซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย(เฉพาะกลุ่ม)ในโลกของเขาตอนนี้ล่ะก็
สาวดุ้นอย่างเขาน่าจะได้เป็นฝ่ายจับกดสิ

   นอกจากทุกอย่างจะไม่เป็นอย่างที่ใจคิด ชีวิตของเขาตอนนี้เริ่มจะมีเนื้อหาใกล้เคียงกับเรื่องราวที่เพื่อนสาวคนนั้นเล่ามากขึ้นไปทุกที
   
เพราะงั้นตอนนี้ก็เลยหนีหน้าชาฮาร์ หลบมาเดินเล่นในป่าซึ่งอยู่ในบริเวณของปราสาท ซะตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น
โยชัวรู้สึกยินดีที่การหลบหน้าของเขาเป็นผลสำเร็จ ระหว่างทางที่เดินมาเด็กหนุ่มไม่พบสาวเมดหรือทหารยามอมนุษย์เลยแม้แต่ตนเดียว
   
แน่นอนว่าโยชัวรู้ดีอยู่แก่ใจ ในเรื่องที่เขาไม่สามารถอาศัยอยู่ในร่างและโลกใบนี้ ด้วยการหลบเลี่ยงชาฮาร์และลาซารัสได้ตลอดไป

แต่เด็กหนุ่มต้องการเวลาเพียงชั่วครู่ให้ตนเองได้สงบใจลงบ้างเท่านั้น  ดังนั้นโยชัวจึงเดินเล่นหาความสบายใจในป่า เดินไปเดินมาท้องฟ้าที่มืดอยู่ก็เริ่มสว่าง รู้ตัวอีกทีเด็กหนุ่มก็หลงทางในป่าของปราสาทไปโดยสมบูรณ์

หลังจากที่เด็กหนุ่มเดินวนไปวนมาเพื่อหาทางออก โยชัวก็พบกับลานกว้างซึ่งเต็มไปด้วยอาวุธ
ที่กึ่งกลางของบริเวณนั้น มีชายผู้หนึ่ง จับจองสถานที่ที่น่าจะเป็นลานฝึกลับนี้เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว

   เด็กหนุ่มหลบหลังต้นไม้แอบมองชายหนุ่มที่กำลังเหวี่ยงดาบฝึกซ้อมตามลำพัง
   
ภาพของเทพบุตรสีเงินซึ่งกำลังเหวี่ยงดาบ สร้างความประทับใจให้โยชัว ประหนึ่งคนที่ได้พบเห็นไอดอลระหว่างทางกลับบ้านโดยบังเอิญ
   
ใบหน้างดงามเย็นชาที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ออร่าแห่งความดุดันที่ฉาบไปทั่วร่าง หยาดเหงื่อพร่างพราวบนกล้ามเนื้อกำยำท่อนบนที่ตอนนี้เปลือยเปล่า
   
ช่างงดงามสมบูรณ์แบบเสียจนต้องขอโทษนับครั้งไม่ถ้วน ที่โยชัวแอบเอาไปคิดเปรียบเทียบกับรูปร่างของชาฮาร์เพราะแค่เห็นจากรูปกายภายนอกที่ถูกปกคลุมด้วยเสื้อผ้า
   
ถึงแม้ลูเซียจะมีผิวกายที่ขาวซีด แต่โยชัวก็คิดว่า เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ มีเรือนกายที่ทำให้เขารู้สึกอิจฉา
ไม่ต่างกับตอนที่ได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของชาฮาร์อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
   
ขณะที่เด็กหนุ่มคิดเรื่องไร้สาระ ลูเซียที่ฝึกดาบก็หยุดการเคลื่อนไหว

“ถ้าไม่อยากตายก็ออกจากที่ซ่อนซะ”
ลูเซียประกาศด้วยเสียงเย็นเยียบ โยชัวตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูก เด็กหนุ่มตัดสินใจออกจากป่าไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

“ข้าบังเอิญหาทางกลับไม่เจอครับ พอดีเห็นท่านฝึกดาบ ข้ารู้สึกชื่นชมมาก….ก็เลยคิดว่าถ้าแอบดูจนจำได้คงจะสามารถนำไปฝึกปรือด้วยตัวเองจนชำนาญได้เหมือนอย่างท่าน….”

พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ดูปกติ โยชัวกระวนกระวายซะจนไม่รู้ว่าตนเองกำลังปั้นหน้าแบบไหน ดวงตาเจ้ากรรมทั้งที่อยู่ต่อหน้าลูเซีย กลับเสมองไปอีกทางขณะพูดด้วยท่าทางไม่ปกติอย่างที่สุด

เด็กหนุ่มระหว่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าคู่สนทนาก็โกหกพูดจาเรื่อยเปื่อยไปมาก จนแม้แต่ตัวเองก็ยังหลั่งน้ำตาในจินตนาการออกมา เพราะท่าทางที่แสนมึนตึงอย่างเสมอต้นเสมอปลายของลูเซีย

“เจ้าอยากฝีกดาบงั้นเหรอ”
โยชัวตอบสนองคำพูดด้วยการทั้งส่ายหน้าและผงกหัวจนมั่วซั่วไปหมด

พอถูกถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นช้ายิ่งขึ้นเป็นประโยคที่ว่า ”ต้องการจะตอบอะไรกันแน่” ตอนนี้เลยกลายเป็นเป็นการพูดพล่ามไม่หยุดเท่าที่จะทำได้

โยชัวเล่าถึงความแข็งแรงของร่างกายตัวเองที่เกินคาด พร้อมทังพร่ำเพ้อยืดยาวถึงความในใจที่พยายามหาทางสะกัดกั้นคำพูดเลวร้ายของลาซารัส ที่สามารถสั่งให้เขาทำตามได้ทุกอย่าง

ยิ่งพูดก็ยิ่งหยุดไม่อยู่ ดูเหมือนว่าตอนนี้โยชัวจะสามารถพูดอะไรก็ได้ ให้ลูเซียที่ยืนทำหน้าขรึมผละจากหรือไล่เขาไปด้วยความรำคาญ

“เข้าใจแล้ว”

“……………”

โยชัวตกใจจนพูดไม่ออก เด็กหนุ่มมองดูเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจหยิบคันธนูและกระบอกซึ่งบรรจุลูกธนูจำนวนมากจากแท่นวางอาวุธ ก่อนจะยื่นส่งมาให้เขา

“ถือไว้แล้วตามมา”
โยชัวรับของที่ส่งมาแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปยังพื้นที่กว้างซึ่งมีเป้าสำหรับฝึกยิงตั้งเรียงรายเป็นทางยาว

“มองดูข้าทำอย่าคลาดสายตาเชียวล่ะ”

ลูเซียสั่ง ชายหนุ่มใช้คันธนูอันโตในมือจรดท่วงท่าเตรียมตัวอย่างช้าๆก่อนจะปล่อยมันออกไปด้วยความเร็วจนแทบไม่เสียเวลาเล็งเป้า ลูกศรที่พุ่งไปทะลุเข้าจุดกึ่งกลางสีแดงของเป้าฝึก แม่นยำซะยิ่งกว่าจับวาง

“ลองทำดู”

โยชัวทำเลียนแบบตามที่ชายหนุ่มบอก ในความรู้สึกของเด็กหนุ่มท่วงท่าการยิงของเขาค่อนข้างถูกต้องตามที่ได้เห็นจากอีกฝ่ายพอสมควร

แต่สำหรับลูเซีย คงจะยังไม่ดีพอ ชายหนุ่มเดินเข้ามาจัดท่าทางของเขาให้ถูกต้อง พริบตาที่ถูกสัมผัสความทรงจำของเจ้าชายครึ่งเทพปีศาจก็ถูกส่งเข้ามาในความคิดของโยชัว

ภายใต้แสงสว่างที่อบอุ่น ลูเซียที่อายุสิบสองง้างสายคันธนูเล็งยิงเป้าบนต้นไม้  ที่ข้างๆเด็กหนุ่ม เทวทูตตัวน้อยๆกำลังปรบมือให้กำลังใจเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจอย่างสนุกสนาน

“เอาอีก เอาอีก”
โยชัวในวัยเด็กซึ่งเป็นเจ้าของร่าง ยิ่งเห็นลูเซียยิงโดนเป้าบนต้นไม้มากเท่าไหร่ เด็กน้อยก็ดูจะสนุกสนานมากขึ้นเท่านั้น

“พอก่อนดีกว่า….พี่เหนื่อยแล้ว”

ลูเซียลดคันธนูพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนหวานให้น้องชายต่างมารดา แต่เด็กน้อยผู้เอาแต่ใจกลับส่ายหน้าไปมาแล้วพองลมในปากจนแก้มป่อง

ลูเซียฉีกยิ้มให้กับท่าทางของโยชัว ถึงแม้เด็กน้อยจะเอาแต่ใจตนเองจนนึกอยากหยิก แต่เหตุผลนานัปการที่น้องชายพยายามเยินยอเขาทั้งน่าฟังและฉอเลาะ จนเกินจะปฏิเสธ

ดูคล้ายว่าน้องชายที่น่ารักจะชอบเห็นพี่ชายทำตัวดูดีอยู่ตลอดเวลา  เหตุผลที่ลูเซียคิดเช่นนั้นเพราะนับตั้งแต่เด็กน้อยนี้พูดได้ แทบจะไม่มีเวลาไหนเลยที่จะไม่เอ่ยคำเยินยอจนพี่ชายเท้าแทบไม่ติดพื้น

เพราะงั้นแต่ไหนแต่ไรลูเซียจึงทำตัวดูดีอยู่เสมอ บางครั้งการพยายามปั้นแต่งก็กลายเป็นนิสัยจริงๆที่ติดตัวไป

ด้วยเหตุนี้ถึงแม้จะถูกปีศาจรอบตัวมองด้วยความคิดที่เป็นปฏิปักษ์  ทว่าเขากลับได้รับคำชื่นชมอย่างไม่เต็มใจจากปีศาจพวกนั้นลับหลังนับครั้งไม่ถ้วน

นอกจากท่านแม่ผู้ให้กำเนิด คนที่มีอิทธิพลทางใจกับเขามากที่สุดก็คงไม่พ้นโยชัว น้องชายต่างมารดาที่น่ารักซะจนเขาต้องตามใจไปซะทุกเรื่อง

กลายเป็นว่าแทนที่จะได้หยุดพักจากการซ้อมอาวุธ ลูเซียเลยต้องอยู่ซ้อมยาวกว่าเดิมอีกหน่อยตามที่เทวทูตตัวน้อยร้องขอ

หลังจากทำในเรื่องที่ทำได้จนโยชัวพอใจ สองพี่น้องก็จูงมือเดินร้องเพลงกล่อมเด็กประสานเสียงกันอย่างมีความสุข

ทว่าพอไปถึงบริเวณสวนในปราสาท เหล่าข้ารับใช้ที่กำลังหมอบสั่นต่อหน้าลาซารัส ภาพเหตุการณ์นี้กวนอารมณ์ลูเซียจนรู้สึกพุ่งพล่าน

เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจขมวดคิ้วมองดูสภาพการณ์ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ถึงแม้ลูเซียจะรังเกียจลาซารัสจนไม่อยากเข้าใกล้ หากแต่ความอยากรู้ทำให้เด็กหนุ่มหยุดยืนดูเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนับจากนี้

“ตัดมือทิ้งซะ”
น้ำเสียงยั่วเย้าหวานหนึบเอ่ยตัดสินชะตากรรมผู้ใต้บังคับบัญชา

โดยไม่รอช้าปีศาจที่ถูกสั่ง ตัดมือของตัวเองออกด้วยใบหน้าเคลิบเคลิ้มยินดี ชั่วเสี้ยววิที่มือหลุดออกสติสัมปชัญญะก็กลับคืนมา ข้ารับใช้เผ่าปีศาจดิ้นพราดบนพื้นด้วยความเจ็บปวด

ความสามารถที่น่าชิงชังและหยาบช้า

ลูเซียที่เขม่นมองด้วยความรังเกียจ พลันรู้สึกถึงมือเล็กๆที่กำชายเสื้อของตนเองเอาไว้แน่น เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจอุ้มโยชัวขึ้นมากอดปลอบ
เด็กหนุ่มกดใบหน้าของน้องชายซ้อนเอาไว้กับอก  โดยที่เขาเองยังยืนดูการกระทำของลาซารัสต่อไป

“ถ้ายังไม่มีคนรับผิด จะสั่งให้ตัดมือไปเรื่อยๆทีละคนนะ”

ลาซารัสพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน  คำพูดของเจ้าชายปีศาจจุดชนวนให้ข้ารับใช้ปีศาจเปิดฉากใส่ร้ายซัดทอดกันจนวุ่นวายอุตลุด ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้นกลับไม่มีใครยอมรับความผิด

“ช่วยไม่ได้นะ ถ้าหาตัวคนร้ายไม่ได้ข้าจะลงโทษทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน แต่ข้ากำลังโกรธอยู่มากนะเพราะงั้นคงไม่จบแค่ตัดมือแน่ๆ”

ใบหน้ายิ้มแย้มจนน่าขนลุกเปลี่ยนเป็นเย็นชา ลาซารัสปลายตามองเหล่าข้ารับที่อยู่ตรงหน้าด้วยแววตาที่ไม่บ่งบอกความรู้สึก กลับกันโยชัวที่กำลังอ่านความทรงจำ รู้สึกถึงแรงกดดันที่สื่อออกมาจากดวงตาจนแม้แต่วิญญาณของเขาก็ยังสะท้านกลัวอย่างห้ามไม่อยู่

“นี่น่ะเหรอการกระทำของคนที่อยู่สูงกว่า ลงโทษคนที่ไม่รู้ว่าผิดหรือเปล่า แบบไม่สืบค้นหาความจริงเลยซักนิด”

น้ำเสียงเย็นชาแต่กลับเต็มไปด้วยประโยคเหน็บแนม เปลี่ยนใบหน้าที่โหดเหี้ยมไร้ความรู้สึกของลาซารัสให้กลับมายิ้มแย้มได้อีกครั้ง  เจ้าชายปีศาจหัวเราะน้อยๆอย่างอารมณ์ดี

“ก็พวกมันคนใดคนหนึ่งเป็นคนวางยาพิษในน้ำชาของข้า ท่านพี่ลูเซียคงเข้าใจในความโกรธของข้าสินะ”

ลูเซียขมวดคิ้วจนเป็นปม คำเรียกขานท่านพี่ ลาซารัสไม่เคยใช้กับเขามาก่อน ฟังยังไงเด็กหนุ่มก็รู้สึกว่าคู่สนทนากำลังประชดประชัน

“การที่เจ้ารู้ว่ามีคนวางยาในน้ำชา หมายความว่าเจ้าได้ดื่มมันลงไปแล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นที่เจ้ายังยืนเป็นปกติได้มันก็ไม่ต่างจากดื่มชาที่ไร้พิษหรอก เพราะงั้นเลิกอาละวาดลงโทษคนแบบสุ่มจับซะเถอะ”

ลูเซียเสนอความคิด ถึงแม้ว่าใจจริงจะไม่สงสารเจ้าปีศาจน่าสังเวชพวกนี้ซักนิด แต่ถ้าจะให้บรรยายสิ่งที่อยู่ในใจเป็นคำพูด เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจก็แค่ไม่อยากให้ลาซารัสสมหวังในสิ่งที่อยากทำเท่านั้น

เป็นความคิดแย่ๆของลูเซียที่เกิดขึ้นกับคนแค่ไม่กี่คน หนึ่งในนั้นก็คือลาซารัส น้องชายต่างมารดาซึ่งได้รับสืบทอดความชั่วช้ามาจากทั้งบิดาและมารดาอย่างครบถ้วน

“ท่านพี่ไม่เข้าใจ”
ลาซารัสส่ายหน้ายิ้มๆหลังจากยืนครุ่นคิดระหว่างรับฟังคำตักเตือนของพี่ชายต่างมารดา

“ความใจดีอย่างเสียเปล่าของท่านพี่ เป็นเรื่องไร้สาระเมื่ออยู่ต่อหน้าของศัตรู หากท่านพี่จะให้ข้ายกโทษให้เจ้าพวกนี้ เพราะยาพิษใช้กับข้าไม่ได้ผลแล้วล่ะก็…..”
ลาซารัสหยุดคิดอีกครั้ง ดวงตาสองสีกวาดมองปีศาจรับใช้ทีละคนแล้วหัวเราะออกมาอย่างเสียไม่ได้

“แย่เลย….พออ่านใจดูแล้วเจ้าพวกนี้ทั้งหมดดันเป็นผู้บริสุทธิ์ไปซะได้ แต่ก็นะ….พอคิดว่าพวกมันแต่ละคนบกพร่องต่อหน้าที่ เปิดโอกาสให้คนร้ายเอายาพิษมาใส่ในเครื่องดื่ม….ให้ตายสิยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธถ้าหากไม่ฆ่าเจ้าพวกสวะนี้ทิ้ง ข้าก็คงรู้สึกไม่สบายใจ”

ลาซารัสพูดด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่อ่อนโยนเปี่ยมเสน่ห์ ท่าทางกับคำพูดของเจ้าชายปีศาจช่างขัดแย้งกันซะจนน่าหวาดผวา

เวลานี้ในบรรดาข้ารับใช้ที่คอยปรนนิบัติลาซารัสมานาน พากันหลั่งน้ำตาอย่างน่าสมเพช
เพราะพวกมันอยู่มานาน จึงรู้ถึงนิสัยและความคิดของผู้เป็นนาย ดีซะจนเดาอนาคตของตัวเองได้ล่วงหน้า

“แต่ก็เอาเถอะ”
ลาซารัสเชิดหน้ามองดูข้ารับใช้ที่กำลังหวาดกลัวและหมอบลงกับพื้นด้วยท่าทางเย็นชายโส

“ถ้าท่านพี่เห็นชีวิตพวกมันมีค่า ท่านจะคุกเข่าให้ข้า ขอชีวิตแทนพวกมัน ข้าก็ไม่ขัดข้องนะ”

สิ้นคำพูดลาซารัส เหล่าข้ารับใช้ก็ร้องขอชีวิตของตน  ปีศาจพวกนั้นทั้งก้มหัวร้องไห้ขอความเมตตาจากเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ

สำหรับลูเซียที่ถูกพวกข้ารับใช้พวกนี้ปฏิบัติตัวใส่อย่างหยาบช้ามาโดยตลอด ความโกรธ เกลียด สมเพช เวทนาสงสาร ความรู้สึกทั้งหมดตีกันให้วุ่น จนใบหน้าที่เยือกเย็นอยู่เสมอบิดเบี้ยวด้วยความรังเกียจเป็นครั้งแรกในชีวิตนับตั้งแต่เด็กหนุ่มเกิดมา

“คุกเข่าขอขมาแทนพวกมันซะลูเซีย”
ลาซารัสสั่งด้วยเสียงหยาดเยิ้มหวานหนึบ ใบหน้าที่งดงามอย่างลึกลับเย้ายวนแย้มยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่จำแนกไม่ออกว่ากำลังยิ้มเพราะอะไร

ทว่าคำพูดของลาซารัสและน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อันทรงพลัง คำพูดที่แสนหยาบช้านั้น วนเวียนอยู่ในหัวของลูเซีย กระซิบซ้ำไปซ้ำมา บางครั้งเว้าวอน บางครั้งดุดัน จนในที่สุดเจ้าชายแห่งสวรรค์ก็เกิดความคิดอยากจะทำตามคำสั่งที่ไร้เหตุผลของเจ้าชายปีศาจ

หากแต่พอได้ยินเสียงโยชัวเรียกชื่อ ลูเซียก็หลับตาลงทำจิตใจให้ว่าง เด็กหนุ่มพยายามเพ่งสมาธิคิดถึงสิ่งที่ตนเองต้องการและอยากทำจริงๆ  สุดท้ายเสียงหวานหวานที่หลอนอยู่ในหัวซ้ำซ้ำไปมาก็ค่อยๆเบาลงและเงียบไป

“ข้ารับใช้พวกนั้นถ้าอยากจะฆ่าทิ้งก็ตามใจเจ้าเถอะ ชีวิตของพวกมันไม่มีความหมายอะไรสำหรับข้า”
ลูเซียที่ได้สติพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากมาพร้อมโยชัว

จากนั้นลาซารัสที่ดูจะสนุกสนานอย่างมาก ก็ไม่ได้ลงโทษเหล่าข้ารับใช้ แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดในวันนี้ทำให้เจ้าชายปีศาจใช้ลูเซียเป็นหนูทดลองวาจาสิทธิ์ของตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงที่สุดแล้วเสียงหลอนๆอันชั่วร้ายก็ใช้กับเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจไม่ได้ผลอีกต่อไป

หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่6 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <11/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 15-05-2015 02:03:59
“………………”

โยชัวกระพริบขึ้นลงหลายครั้ง เด็กหนุ่มรู้สึกโล่งใจที่หลุดออกมาจากความทรงจำของลูเซียได้ซักที

ตอนนี้เจ้าชายแห่งสวรรค์ที่บังคับจัดท่วงท่าในการยิงธนูของเขาจนพอใจแล้ว กำลังพูดจาแนะแนวทางที่ถูกต้องให้เด็กหนุ่มฟังอย่างละเอียดยิบ

สุดท้ายเมื่อโยชัวเล็งเป้าจนมั่นใจดีแล้ว เด็กหนุ่มก็ปล่อยลูกศรที่พาดบนสายธนูพุ่งเข้าสู่จุดกึ่งกลางเป้า แม้จะเป็นการยิงแค่ในครั้งแรกของชีวิต

“ท่านดูสิข้ายิงโดนเป้าด้วย” โยชัวที่ดีใจจนกระโดดโลดเต้นหันไปส่งยิ้มกว้างให้ลูเซีย

 หลังจากที่ใช้เวลาดื่มด่ำกับผลสำเร็จจนออกนอกหน้าอยู่ชั่วอึดใจ เด็กหนุ่มที่รู้สึกตัวว่ากำลังถูกคนสอนหัวเราะน้อยๆ  ใบหน้าที่งดงามประดุจเทวทูตก็ร้อนผะผ่าว
 
โยชัวคิดว่าการที่ตัวเองดีใจเกินเหตุจนเผลอเต้นแร้งเต้นกา ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าอย่างมาก ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงแก้เขินให้ตัวเองด้วยการหันกลับไปยิงเป้าต่ออีกรอบ

“อ้าว”
โยชัวร้องครางในความโชคร้าย ที่การยิงในครั้งนี้ ลูกศรพลาดออกนอกเป้าไปไกลโข

เด็กหนุ่มหยิบลูกศรอันใหม่ขึ้นพาดสายธนู ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนมากซะจน สงบจิตใจและร่างกายไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ท่าทางที่น่าขันและวุ่นวายของโยชัว ถูกหยุดเอาไว้ด้วยมือใหญ่ที่คว้าจับข้อมือของเด็กหนุ่ม
คนตัวเล็กหยุดการกระทำบ้าๆที่ควบคุมไม่ได้ของตนเองแล้วเงยหน้าขึ้นมองลูเซียที่สูงใหญ่กว่าเกินยี่สิบห้า ซ.ม.

“ถ้าทำใจให้สงบไม่ได้อย่าว่าแต่ยิงลูกศรให้เข้าเป้าเลย การที่คิดจะต่อต้านเสียงปีศาจของลาซารัส จากนี้คงเป็นได้แค่ฝัน ฆ่าความฟุ้งซ่านและความสับสนทิ้งซะ แล้วมุ่งมั่นกับสิ่งที่ตนเองต้องการ มองไปที่จุดมุ่งหมายจากนั้นก็ปล่อยลูกศรออกไป”
โยชัวที่ปฏิบัติตามคำสอน ปล่อยลูกศรจากคันธนู พุ่งตรงเข้าสู่เป้าอย่างง่ายๆ ทันทีที่ลูเซียพูดจบ

เด็กหนุ่มมองดูเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ ผู้ที่เป็นพี่ชายของร่างกายที่เขาสิงสู่และเป็นอาจารย์ไปพร้อมกัน ด้วยความรู้สึกประหนึ่งได้พบกับไอดอลต้นแบบ

หลังจากที่ได้รับการสอนยิงธนูร่วมกับการฝึกสมาธิหลายชั่วโมง ลูเซียที่คล้ายจะมีธุระต้องสะสางก็บอกให้โยชัวเลิกฝึกและกลับไปพักผ่อน

“เอ่อ….ข้าขอมาฝึกยิงธนูกับท่านแบบนี้อีกได้หรือเปล่า”
โยชัวพูดหลังจากอ้ำอึ้งตรงหน้าลูเซียพักใหญ่

อันที่จริงเด็กหนุ่มทำใจไว้อยู่แล้วหลายส่วนที่จะต้องถูกปฏิเสธ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็อยากฝึกยิงธนูให้ชำนาญ เพราะถึงแม้การได้มาฝึกกับลูเซียในครั้งนี้ จะเป็นเรื่องบังเอิญซะยิ่งกว่าถูกหวย
 
โยชัวก็รู้อยู่แก่ใจดี ว่าเขาจะอยู่แบบคนที่ไม่สามารถปกป้องตัวเอง ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายอย่างนี้ไม่ได้
แต่ถึงอย่างงั้นเด็กหนุ่มก็เผื่อใจในกรณีที่จะถูกอาจารย์หมาดๆของเขาปฏิเสธคำขอ
  ถ้าถูกบอกปัดแล้วล่ะก็ ร่างเล็กก็หน้าด้านพอที่จะขอคันธนูกลับไปแล้วเริ่มฝึกยิงเพียงลำพังนับตั้งแต่วันนี้

“จะมาเมื่อไหร่ก็ได้อยู่แล้ว ข้ายินดีต้อนรับเจ้าเสมอ”
รอยยิ้มอ่อนโยนเกลื่อนไปทั่วใบหน้าที่เย็นชาอยู่เสมอของลูเซีย
หลังจากที่โยชัวเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มด้วยความดีใจนับครั้งไม่ถ้วน เด็กหนุ่มก็นัดแนะวันฝึกครั้งต่อไปกับลูเซียเป็นเช้าวันพรุ่งนี้

“……………………."
เสียงโครกครากจากกระเพาะของเด็กหนุ่มดังไปตลอดทางเดิน ซึ่งเปล่าเปลี่ยวเงียบเหงาภายในปราสาท
 โยชัวที่ฝึกฝนยิงธนูตั้งแต่เช้า โดยไม่ได้ทานอาหารซักมื้อ รู้สึกตาลายจนเดินเซแซดแซดไปมา

“อะไรกัน….ถึงว่าทำไมเดินไม่ตรงแปลกๆ ที่แท้ก็ท้องว่างอยู่นี่เอง ช่วยไม่ได้นะ พี่ชายคนนี้จะสงเคราะห์ป้อนน้ำป้อนอาหารให้จนกว่าจะเต็มอิ่มเลยแล้วกัน”

ลาซารัสที่ประชิดอยู่ที่ด้านหลังกระซิบเสียงหวานข้างหูเด็กหนุ่ม
ขณะที่ถูกล็อกจับไว้อย่างแน่นหนา โยชัวก็ถูกเจ้าชายปีศาจพาเคลื่อนย้ายสถานที่ด้วยการเทเลพอร์ตจากทางเดินมายังห้องส่วนตัวของลาซารัส

“เตรียมอาหารเรียบร้อยแล้วนะซูซาน”

ลาซารัสเอ่ยชื่อของคนที่โยชัวเคยรู้จัก
ที่ตรงหน้าเมดสาวซึ่งเคยดูแลเด็กหนุ่มเมื่อครั้งยังถูกทรมานในคุก ขานรับคำสั่งก่อนจะถอนสายบัวล่าถอยจากไปทันทีที่ลาซารัสโบกมือไล่

“มานี่สิ”
โยชัวถูกลาซารัสลากไปตรงสำรับอาหารซึ่งวางเรียงรายบนพื้นพรม เด็กหนุ่มถูกบังคับให้นั่งลงบนตักของเจ้าชายปีศาจที่นั่งขัดสมาธิรออยู่ก่อนหน้าแล้ว

“ดีจังเลยนะกำลังกังวลอยู่เลยเรื่องที่ต้องทานมื้อเช้าเพียงลำพัง”
ลาซารัสหัวเราะอย่างรื่นรมย์ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบน้องไก่ฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆยื่นมาป้อนที่ปากของโยชัว

“ข้าไม่หิว”
โยชัวปฏิเสธทั้งที่เสียงสั่น แต่เกระเพาะเจ้ากรรมดันไม่รักดี ทรยศเจ้าของมันเสียดื้อๆ อย่างไม่น่าให้อภัย
เด็กหนุ่มหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายโดยมีลาซารัสหัวเราะขบขันเสียงดังจนตัวโยน

“……….”

ร่างเล็กอยากจะตะคอกด่าเจ้าชายปีศาจ ว่า”ไม่เคยเห็นคนหิวข้าวหรือยังไง”แต่เพราะได้สัมผัสพื้นนิสัยที่โหดเหี้ยมเอาแน่เอานอนไม่ได้จากความทรงจำของลูเซีย เด็กหนุ่มจึงได้แต่กล้ำกลืนหาวิธีเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ดูจะหมดทางหนี

“กินเถอะ….หิวโหยซะขนาดนี้ พี่ชายปวดใจจริงๆ”

ลาซารัสยื่นไก่ปรุงสุกชิ้นเล็กมาที่ปากอีกครั้ง คราวนี้เจ้าชายปีศาจพูดด้วยเสียงอ่อนโยนอีกทั้งยังแย้มยิ้มนุ่มนวลไม่ต่างจากบุปผาที่กำลังคลี่กลีบบาน
เพราะรู้สึกผิดคาดกับไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังเล่นตลกอะไร เด็กหนุ่มจึงเผลออ้าปากกินสิ่งที่ลาซารัสส่งป้อนมาให้

“หึหึ”
เจ้าชายปีศาจหัวเราะเบาๆอย่างพึงพอใจ จากนั้นชายหนุ่มผู้แสนอ่อนโยนก็หยิบของอร่อยนับไม่ถ้วนป้อนโยชัวไม่หยุดมือ

เนื่องจากรสอร่อยของอาหารคำแรก กระตุ้นน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร และที่ยิ่งไปกว่านั้นการแสดงออกอย่างชัดเจนของลาซารัสที่แค่อยากจะเล่นป้อนอาหาร ทำให้โยชัวยอมทานอาหารจากมือของผู้ชายด้วยกันโดยที่คิดว่าไม่เห็นเสียหายอะไรมากมาย

“กินเก่งจังเลยนะ พี่ชายรู้สึกปลาบปลื้มจนน้ำตาแทบไหลเชียวล่ะ”
ลาซารัสล้างมือทำความสะอาดในอ่างน้ำเล็กๆ หลังจากที่โยชัวอิ่มจนแสดงออกทางสีหน้า

“จริงสิเจ้าเคยกินเหล้ามั้ย”
ลาซารัสถามด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนจนดูปั้นแต่ง
โยชัวไม่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไร แต่ก็ตอบคำถามไปตามจริงอย่างไม่โกหก

“ไม่”

“แย่จังนะ….อายุสิบห้าแล้วแท้ๆ พี่ชายอุตส่าห์จะให้ดื่มเหล้าล้างปากหลังอาหารซะหน่อย”
โยชัวมองดูลาซารัสที่ทำหน้าตกใจระคนเสียดาย ลักษณะอาการที่ดูเสแสร้งแกล้งทำของเจ้าชายปีศาจทำให้โยชัวปวดหัวตุบๆด้วยความโกรธ

“รู้อยู่แก่ใจ ว่าข้าถูกขังถูกทรมานในคุกใต้ดินมานานหลายปี อยู่ในที่แบบนั้น ข้าจะไปหาไอ้น้ำที่เจ้าว่ามาดื่มได้ยังไงล่ะ”

โยชัวใช้สายตาเย็นชาสาดใส่ลาซารัส เด็กหนุ่มดูแคลนเจ้าชายปีศาจในใจหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ชายหนุ่มปล่อยให้น้องชายต่างมารดาถูกทรมานมานานแสนนาน แต่จู่ๆกลับพาน้องชายออกมาจากคุกแล้วก็พุ่งเข้าหาด้วยความหื่นกระหายไม่ต่างจากชายแก่ที่ตัณหากลับ

หลงใหลในความสวยงามของร่างกายนี้ หรือว่าคนคนนี้มีแผนการร้ายอะไรหลบซ่อนอยู่กันแน่

โยชัวยิ่งคิดก็ยิ่งมองลาซารัสด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจมากยิ่งขึ้นไปทุกที

“อย่าโกรธถึงขนาดนั้นสิ”

ลาซารัสพูดด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยเพียงแวบเดียวเท่านั้น แต่ก็สร้างความสับสนให้โยชัวจนหัวใจเต้นผิดจังหวะ เด็กหนุ่มไม่สามารถลบใบหน้าของคนงามที่เต็มไปด้วยความอาดูร ทั้งที่ใบหน้าซึ่งมีรอยยิ้มยั่วเย้าร้ายกาจต่างหากที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเจ้าชายปีศาจ

“เชื่อฟังคำพูดของพี่ชายแล้วดื่มเข้าไปซะ”

น้ำเสียงที่เป็นพิษร้าย คำสั่งที่ประหนึ่งเสียงของพระเจ้า เปลี่ยนให้เด็กหนุ่มกลายเป็นตุ๊กตาที่ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดหลงไหล
แต่กระนั้นจิตสำนึกที่มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเพราะได้รับการฝึกฝนมาจนเต็มที่ สุดท้ายความคิดอ่านของโยชัวก็กลับคืนมาเป็นปกติ หากแต่เด็กหนุ่มยังไม่สามารถบังคับร่างกายได้ตามที่ใจต้องการ
โยชัวเปิดปากน้อยๆดื่มน้ำสีอำพันจากปากขวดที่จ่อริมฝีปาก เพราะว่าดื่มเข้าไปทั้งที่ยังมีสติครบถ้วน

เด็กหนุ่มจึงรู้สึกถึงรสชาติที่หวานและร้อนจนแทบลวกคอ และถึงแม้ร่างเล็กจะดื่มเข้าไปไม่มาก แต่ทั้งตัวทั้งใบหน้าของเขาก็กลายเป็นสีชมพูอ่อนไปซะสิ้น

“ชอบหรือเปล่า”

ลาซารัสกระซิบยั่วเย้าก่อนจะหัวเราะคิกคัก ที่เห็นโยชัวส่ายหน้าไปมาทั้งน้ำตาด้วยร่างกายที่อ่อนปวกเปียกหมดสภาพ
สำหรับเด็กหนุ่ม รสชาติของสิ่งมึนเมาที่ได้ลิ้มลองเป็นครั้งแรก แทนที่จะเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยสีสันของความเป็นผู้ใหญ่ กลับกลายเป็นความทรงจำเลวร้าย ที่นอกจากจะถูกบังคับ ไอ้ความร้อนยิ่งกว่าถูกเผา เล่นงานโยชัวจนร่างกายของเขาไม่สามารถทนรับได้

“เหล้ามันคงจะแรงมากเกินไป แต่ถ้าดื่มให้ชินซะ อนาคตข้างหน้าก็ไม่มีอะไรให้ต้องห่วง”

เจ้าชายปีศาจจรดริมฝีปากดื่มเหล้าจากขวดในมือก่อนจะประทับจูบป้อนเหล้าให้โยชัวที่นอนระทวยไร้แรงต่อต้าน
เด็กหนุ่มถูกป้อนเหล้าด้วยจุมพิตที่ดูดดื่มนับครั้งไม่ถ้วน ช่วงเวลาที่ถูกพะเน้าพะนออย่างรักใคร่

ถึงคนตัวเล็กจะเมามายจนแทบไม่ได้สติ แต่คำชมหวานหูกับรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความเอ็นดู ทำเอาโยชัวร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
เด็กหนุ่มตอนนี้ขาดสติสัมปชัญญะจนไม่อาจแยกออกได้อีกต่อไป ว่าสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกดีจนสะท้านไปทั้งกายและใจ คือฤทธิ์จากแอลกอฮอล์หรือเป็นความพึงพอใจที่เกิดจากการได้รับความรักจากลาซารัสอย่างท้วมท้น

ขณะที่โยชัวกำลังจมอยู่กับความรู้สึกที่เหมือนนอนอยู่บนปุยเมฆ ภาพความทรงจำของลาซารัสก็ผุดวาบในสมองทั้งที่เด็กหนุ่มสามารถเห็นภาพทั้งหมดอย่างชัดเจน แต่เพราะโยชัวเมามายจึงไม่สามารถจับใจความการพูดคุยของคนในความทรงจำได้เหมือนปกติ

ที่ข้างกำแพงในสวนเล็กๆของบ้านใครซักคน เด็กชายอายุประมาณเก้าขวบ นอนจมกองเลือดในสภาพที่ร่อแร่จนขยับร่างกายไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

เด็กผมแดงคนนี้โยชัวเดาว่าเป็นลาซารัส แต่เพราะว่าเจ้าของความทรงจำในช่วงนี้เองก็แทบจะหมดสติ
ดังนั้นเด็กชายตัวเล็กที่ปรากฏตัวจึงมีใบหน้าที่ไม่ชัดเจน เด็กชายตัวเล็กวุ่นวายกับการพยายามช่วยเหลือคนเจ็บ

ทว่าลาซารัสกลับปัดมือทิ้งและตะคอกให้เด็กชายตัวเล็กไปให้ไกลๆ
สุดท้ายเมื่อเด็กชายผละจากไป น่าแปลกพอถูกทิ้งไปทั้งอย่างนั้น ลาซารัสกลับรู้สึกท้อแท้จนหมดอาลัยตายอยาก
โดยไม่ทันคาดคิดที่ตรงหน้าเด็กชายที่ไม่มีใบหน้าพาผู้ใหญ่ชายหญิงคู่หนึ่งกลับมาแน่นอนพวกผู้ใหญ่ก็ไม่มีใบหน้าอีกเหมือนกัน

บรรยากาศรอบตัวที่คุ้นตาไม่ว่าจะมองยังไงทั้งลักษณะบ้านทั้งการแต่งตัวของคนอื่นๆนอกจากลาซารัส
โยชัวแน่ใจกับตนเองว่าสถานที่ในความทรงจำนี้ คือโลกที่เขาอาศัยอยู่ก่อนที่จะมาที่นี่ไม่ผิด

และแล้วความทรงจำที่ไม่ชัดเจนก็ค่อยๆมืดลงทันทีที่ลาซารัสถูกชายไร้หน้าอุ้มพาเข้าไปในบ้าน
พร้อมๆกันกับที่ลาซารัสในความทรงจำหมดสติ โยชัวเองก็นอนหลับในอ้อมกอดของเจ้าชายปีศาจในโลกแห่งความเป็นจริง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่7แล้วค่ะ

ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดมากพอพิมเสร็จเราก็เอาลงเล้าเป็ดเลยเพราะตอนเช้าต้องไปทำงานเลยสายไม่ได้น่ะค่ะ

ตอนนี้หวังว่าจะยังมีคนเม้นเราอยู่บ้าง

รักคนอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 15-05-2015 04:55:54
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 15-05-2015 08:07:55
เหล่าคุณพี่ชายนี่เป็นฮาเร็มอันเลอค่าจริงๆ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: sowza3366 ที่ 15-05-2015 08:11:27
ท่านลูเซียย :mew1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 15-05-2015 12:17:11
เริ่ดมากค่ะ กร๊าซซซซซซซซซ

โยชัวว อย่ารังเกียจท่านพี่นักเลย ให้ท่านพี่ทั้งหลายเนียนต่อไปเถ๊อะ

เพื่อชีวิตอันสดใสของคนอ่านนน 

รอตอนต่อไป ฮืออ :katai5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 15-05-2015 15:13:41
 :katai2-1: เริ่มแล้วๆ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 15-05-2015 16:24:11
เอ๋  เคยเจอกันมาก่อนในโลกเดิมงั้นเหรอ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 16-05-2015 10:33:48
ยังไงหว่า  :hao4: สองคนนี้ (โยชัวกับท่านพี่ลาซารัสมีความหลังกันมาก่อนรึ)
เค้าชอบซาฮาร์อ่า กรี๊ดดดดด  สเปคสุด  :-[

รอๆ ตอนต่อค่า เป็นกำลังใจให้คนแต่งน้า
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 16-05-2015 14:03:21
แนวฮาเร็ม  เคยเล่นเกมส์แนวพวกนี้แล้วพบวา่ เหมาหมดดีที่สุด
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 17-05-2015 21:35:10
ชอบๆ รอนะคะนักเขียน สู้ๆละ  o13
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 17-05-2015 22:10:49
จิ้ม :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
มโนไปไกลถึงฉากเอ็นซี
แหมมมมมม ทั้งลาซารัสเอย ทั้งชาร์ฮาร์เอย ทั้งลูเซียเอย สามสไตล์
ฉันละฟินจริงๆ ฮาเร็มนี่หมายถึงสามคนนี้ใช่มั้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 17-05-2015 22:49:47
ฮาเร็มพี่ชาย เหมาหมดไปเลยไอ้น้องงงงง   :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 18-05-2015 11:07:01
 :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่7 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <15/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 18-05-2015 11:21:36
ตอนที่8

   “…………………….” ลูกสุนัขขนฟูฟ่องมองดูลาซารัสที่อายุประมาณสิบสามจากความสูงที่ต่ำกว่า

ความรู้สึกของชาฮาร์ที่ตกใจและสิ้นหวัง ถ่าโถมเข้าหาโยชัวจนรู้สึกตึงเครียดไปพร้อมๆกับเจ้าของความทรงจำ
   
โยชัวรับรู้ว่า การถูกสาปให้อยู่ในร่างลูกสุนัขแบบนี้ เป็นเพราะความช่างสงสัยของชาฮาร์ ที่พยายามสอดแนมชีวิตประจำวันของพี่ชายร่วมมารดา
   
ไม่ใช่ว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสอยากจะสนิทสนมกับลาซารัส แต่เพราะถูกพี่ชายผู้ชั่วร้ายกลั่นแกล้งทุกครั้งที่ได้พบหน้ากัน

   ครั้งนี้จึงตัดสินใจแอบตาม เพื่อที่จะหาจุดอ่อนเล็กๆน้อยๆข่มขู่อีกฝ่ายกลับ จะได้เลิกแกล้งเขาได้ซักที
   
รู้สึกเสียใจจริงๆที่ตอนแรกไม่เลิกล้มความพยายามทั้งๆที่เจออุปสรรค เมื่อได้เห็นลาซารัสสร้างประตูมิติสีดำแล้วหายวับผ่านเข้าไป
   
ชาฮาร์ที่ถึงแม้จะได้กลิ่นของพี่ชาย แต่ก็ไม่สามารทำเลียนแบบเจ้าชายปีศาจได้ เจ้าชายผู้เจิดจรัสมุ่งมั่นหาทางที่จะทำให้เหมือนอย่างลาซารัสอยู่หลายชั่วโมง

   ในที่สุด ชาฮาร์ก็สามารถสร้างประตูมิติได้ด้วยการแผ่คลื่นเสียงของตนตอนที่อยู่ในของหมาป่าอสูร

คลื่นเสียงที่เปล่งออกมาจากการร้องคำราม ทำให้เกิดแรงสั่นในชั้นบรรยากาศจนบิดเบี้ยว

   สุดท้ายห้วงอากาศที่ผันผวนก็แปรสภาพไปจนกลายเป็นประตูมิติที่มีลักษณะเป็นรูกลมสีดำ ชาฮาร์กระโจนเข้าไปในนั้น
หมาป่าอสูรวิ่งตามกลิ่นลาซารัสที่ค่อนข้างเจือจางจนหลุดออกมายังสถานที่ซึ่งแปลกตาอย่างเหลือเชื่อ

บ้านเรือนรูปทรงประหลาดแถมยังแออัดติดกัน กลิ่นสาปพวกมนุษย์จำนวนมาก รวมถึงกลิ่นอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ ทำให้หมาป่าอสูรย่นจมูกทำเสียงฟุดฟิด
   
ก็ยังดีที่ได้กลิ่นของพี่ชายอยู่

   ชาฮาร์กระโดดขึ้นหลังคา กระโจนไปมาตามกลิ่นอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ตาของมนุษย์จะมองเห็น
และแล้ว เขาก็พบลาซารัสเข้าจนได้
   
กำลังดูอะไรอยู่นะ?

   ชาฮาร์กวาดมองไปรอบๆ หมาป่าอสูรพบกับเด็กชายตัวเล็กๆ อายุน่าจะน้อยกว่าเขาที่สิบขวบประมาณหนึ่งปี
เพราะว่าเด็กตัวเล็กกำลังก้มๆเงยๆกับการวาดภาพ จึงทำให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสมองเห็นหน้าเป้าหมายไม่ชัดเจน

   ตอนนั้นเองทั้งที่แอบมองลาซารัสจากด้านหลังในที่มิดชิด พี่ชายที่น่าจะอยู่ตรงหน้ากลับโผล่มาที่ข้างหลังของเขา
น้ำเสียงที่ยียวนสนุกสนานยามจับผู้ร้ายได้ ช่างน่ากลัวซะจนชาฮาร์ไม่กล้าขยับตัว จากนั้นเจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ถูกสาปให้กลายเป็นลูกสุนัข
   
“พอครบหนึ่งอาทิตย์คำสาปก็น่าจะหายไปล่ะนะ แย่จังน้า……….เพราะปกติ เจ้าก็ชอบเล่นซนจนหายไปเป็นอาทิตย์อยู่เป็นประจำ แถมนี่ยังอาจหาญไล่ตามมาจนถึงโลกอื่น ถือซะว่าเป็นบทลงโทษที่สาสมกับน้องชายจอมจุ้นจ้านล่ะนะ”

ลาซารัสกลับไปทั้งที่ยังหัวเราะ
หลังจากนั้นนรกที่มาในรูปแบบของการชีวิตในร่างสัตว์อ่อนแอชั้นต่ำ ทำให้ชาฮาร์ทรมานจนเกือบสิ้นหวังนับครั้งไม่ถ้วน

ถึงจะรู้ว่าคำสาปกินเวลาแค่หนึ่งอาทิตย์  แต่สามวันที่ใช้ชีวิตอย่างลูกสุนัข ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมนุษย์พลุกพล่าน บ้านเรือนแออัดและเจ้าสิ่งที่น่าจะเป็นพาหนะของโลกนี้

   นอกจากจะหาอาหารได้ยากลำบาก ยังเจอหมาจรจัดตัวใหญ่ตามรังแกทุกครั้งทุกสถานที่แบบไม่ซ้ำตัว
ชาฮาร์ในร่างลูกสุนัข ตัวเล็กและไร้พลัง ถึงจะพยายามต่อสู้กับหมาจรจัดที่เข้ามาหาเรื่องอย่างสุดฤทธิ์
ทว่ากว่าจะไล่ไปได้ก็สะบักสะบอมจนแทบไม่มีแรง

ยิ่งนานวันผ่านไปการใช้ชีวิตในโลกนี้ของชาฮาร์ก็เลวร้ายมากยิ่งขึ้น พอเข้าวันที่สาม ลูกสุนัขที่หลบเข้าไปนอนในสนามเด็กเล่น ในเช้าตรู่ของวันต่อมาก็โดนเด็กเกเรไล่ต้อนจับพร้อมกับเอาก้อนหินขว้างใส่

เลวร้าย!เลวร้าย! จนไม่รู้ว่าจะทนให้ครบเจ็ดวันไปได้ยังไง

ขณะที่คิดเช่นนั้นฝนก็ตกกระหน่ำลงมาซ้ำเติม เด็กเกเรพากันวิ่งกลับบ้าน  ชาฮาร์ในร่างลูกสุนัขวิ่งเข้าไปหลบฝนในอุโมงค์เด็กเล่นที่คล้ายบ้าน

แต่ไม่ใช่เขาคนเดียวที่ทำแบบนั้น ร่างเล็กๆของเด็กชายแปลกหน้าคลานตามเขาเข้ามาติดๆ
รู้ว่าเด็กชายแปลกหน้าคงเข้ามาหลบฝน แต่สภาพจิตใจที่บอบช้ำทำให้ชาฮาร์ขยับหนีไปขดอยู่ที่มุมของอุโมงค์
เพราะว่าท้องฟ้าด้านนอกมืดครึ้ม ภายในที่หลบฝนจึงมืดสลัวจนแทบมองไม่เห็นใบหน้าของเด็กชาย

“หนาวเหรอ” เด็กชายปริศนาถาม
ดูเหมือนว่าเพื่อนร่วมสถานที่จะเห็นสภาพย่ำแย่ที่เกิดจากการ ขาดอาหาร บาดเจ็บ ทั้งยังเปียกปอนไปทั้งร่าง

“……………”
ชาฮาร์ในร่างลูกสุนัขนอนขดสั่นเทา แต่กระนั้นก็ยังทำหูทวนลมไม่สนใจคู่สนทนา
   
โดยไม่ทันคาดคิด เด็กชายถือวิสาสะอุ้มเขาไปโอบกอด ชาฮาร์ทั้งขู่ทั้งต่อต้าน สุดท้ายก็งับที่แขนของคนที่กำลังทำเรื่องอุกอาจ จนฝ่ายนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

อีกเดี๋ยวคงถูกตีแน่ๆ

แทนที่จะถูกตี เด็กชายที่ยังไม่ยอมปล่อยตัวเขาง่ายๆ กลับใช้มือลูบหัวชาฮาร์ไปมาพลางพูดจาปลอบโยน
เด็กชายผู้ที่มองไม่เห็นใบหน้า พูดกับลูกสุนัขด้วยน้ำเสียงดีใจว่า”หากไม่มีนายเป็นเพื่อนฉันคงจะร้องไห้แน่ๆ”
ฉะนั้นทั้งสองคนจึงรู้สึกอุ่นใจที่ได้มีกันและกันในสภาพที่เลวร้ายและเปลี่ยวเหงา

ชาฮาร์เคยรู้สึกปลาบปลื้มกับโยชัวที่น่ารักเหมือนตุ๊กตา แต่ความรู้สึกเต็มตื้นที่ได้สัมผัสในเวลานี้กลับไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นท่านแม่ พวกเมดสาวที่เป็นพี่เลียง หรือแม้แต่น้องชายต่างมารดาก็ตาม

อยากให้เจ้าฝนที่สร้างความรำคาญตกให้หนักอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

แต่ในความเป็นจริง ไม่นานนักฝนก็หยุดตก เด็กชายปริศนาคลานเข่าออกจากอุโมงค์ โดยมีชาฮาร์เดินสี่ขาตามออกไปที่หลัง

ต้องแยกจากกันแล้วงั้นเหรอ?เขาจะได้พบเด็กคนนี้อีกหรือเปล่านะ?

ชาฮาร์ในร่างลูกสุนัขก้มหน้าหงุดหงุด

ตอนนี้ผู้หญิงที่น่าจะเป็นแม่ตามหาเด็กชายจนพบ น้ำเสียงและถ้อยคำที่แสดงให้เห็นถึงความดีใจทำให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสรู้สึกขุ่นมัวจนไม่อยากมองหน้าเด็กชายและแม่ของเขา  รู้สึกไม่ดีจนไม่ได้ฟังซะด้วยซ้ำว่าทั้งคู่กำลังคุยอะไร

“แม่อนุญาตให้ผมเลี้ยงนายแล้วนะ”

เด็กชายอุ้มลูกสุนัขขึ้นจากพื้น ชาฮาร์ในร่างสุนัขพยายามหรี่ตามองดูเด็กชาย

อาจจะเป็นเพราะแสงแดดหลังฝนสว่างจ้าจนทำตาสุนัขของเขาพร่า ทั้งที่อยู่ท่ามกลางประกายแสงของดวงอาทิตย์แท้ๆ แต่ก็ยังเห็นใบหน้าของคนที่เขารู้สึกพึงใจไม่ชัดเจน

รู้สึกไม่ชอบจนอึดอัดใจไปหมด แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อเด็กคนนี้จะเก็บเขาไปเลี้ยง
ยังเหลือเวลาอีกเกือบห้าวัน ทั้งใบหน้าและนิสัยของคนคนนี้เขาจะพยายามเรียนรู้มัน
คนที่กำลังโอบอุ้มเขาอยู่เป็นคนที่จิตใจดีงาม ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ
เพราะคนที่จิตใจชั่วร้ายคงไม่สามารถโอบกอดใครด้วยความทะนุถนอมได้เหมือนอย่างที่เด็กชายกำลังทำ

“…………..”
ดวงตากลมโตสีม่วงกระพริบขึ้นลงหลายครั้ง โยชัวที่ลืมตาตื่นเห็นชาฮาร์ใช้มือทาบหน้าผากวัดไข้ให้เขาด้วยใบหน้าที่ไม่สบายใจอย่างชัดเจน

“ดีจังที่เจ้าตื่นขึ้นมาซักที”
ชาฮาร์ที่ยังไม่คลายกังวลใช้มือช่วยพยุงโยชัวให้ลุกขึ้นนั่ง

“ข้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” โยชัวถาม เด็กหนุ่มรู้สึกหน้ามืดเวียนหัวจนเรียบเรียงเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ถูก
แทนคำตอบของชาฮาร์ สาวเมดจำนวนมากที่ด้านหลังชายหนุ่มช่วยกันตอบคำถามด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว

“ท่านจำไม่ได้เหรอคะว่าดื่มเหล้ากับท่านลาซารัสจนเมาสลบ ซูซานรับคำสั่งจากท่านผู้นั้นอุ้มท่านโยชัวมาส่งถึงมือท่านชาฮาร์เจ้าค่ะ”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ ท่านชาฮาร์ดูแลท่านที่ไข้ขึ้นและลุกขึ้นมาอ้วกตลอดทั้งคืนโดยไม่หลับไม่นอน นี่ก็เที่ยงวันแล้วท่านพี่ของท่านยังไม่ได้ทานอาหารซักมื้อเลยด้วยซ้ำ”

โยชัวหน้าเผือดสี เด็กหนุ่มไม่นึกว่าตัวเขาจะสร้างความเดือดร้อนให้ชาฮาร์มากถึงขนาดนี้
พอจะเอ่ยปากขอโทษ จู่จู่ก็พะอืดพะอมจนชาฮาร์ต้องเอากระโถนมาให้ ชายหนุ่มลูบหลังคนตัวเล็กที่กำลังโก่งคออาเจียนเอาน้ำย่อยที่ขมและเปรี้ยวออกมา

โยชัวทรมานจนน้ำตาไหล พออ้วกออกมาจนหมด ชาฮาร์ก็ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นบิดหมาด บรรจงเช็ดใบหน้าของเขาอย่างเบามือ เด็กหนุ่มรู้สึกสบายจนปล่อยให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสทำตามใจชอบ

“กินซุปซะหน่อยนะ”

โยชัวอ้าปากรับซุปที่ชาฮาร์ป้อนอย่างว่าง่าย ถึงเด็กหนุ่มจะย่ำแย่จนไม่อยากทานอะไร แต่คำสอนของแม่ที่พูดไว้ว่า”ยิ่งป่วยก็ยิ่งต้องพยายามกิน” ทำให้ร่างเล็กอดทนกินทั้งที่รู้สึกคลื่นไส้เป็นพักๆ

ในตอนนั้นเมดสาวที่ด้านหลังก็เริ่มโวยวายร้องขอให้ชาฮาร์ทานอาหารไปพร้อมกันกับโยชัว เจ้าชายผู้เจิดจรัสปฏิเสธเสียงเย็นชา ชายหนุ่มให้เหตุผลในทำนองที่ว่า”โยชัวป่วยหนักคงจะทำอะไรเองไม่สะดวก”

โยชัวเห็นแววตาเขียวปั้ดของเมดสาวหลายคู่มองมาที่ตัวเขา โดยไม่รอช้าเด็กหนุ่มร้องขอถ้วยซุปจากชาฮาร์ก่อนจะลงมือรับประทานสิ่งนั้นด้วยตนเอง

“ท่านโยชัวก็ทานเองแล้วนะเจ้าคะ ท่านชาฮาร์ก็รับประทานอาหารไปพร้อมกันเลยดีกว่าเจ้าค่ะ”
พวกเมดสาวกุลีกุจอยกสำรับอาหารยัดเยียดให้ชาฮาร์

“เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น”

ชาฮาร์เปิดประเด็นหลังจากที่จัดการกับอาหารมื้อแรกของวันเสร็จ ใบหน้าหล่อเหลาดูปวดร้าวซะจนโยชัวรู้สึกแย่
เด็กหนุ่มเล่าให้ฟังอย่างคร่าวๆว่าถูกลาซารัสบังคับให้ดื่มเหล้าก่อนจะหมดสติไป ชาฮาร์ที่ฟังจนจบตีหน้ายักษ์ในทันที

“ท่านพี่ลาซารัสแกล้งกันแรงเกินไปแล้ว แล้วยังไงเจอท่านพี่ตอนไหน เมื่อวานข้าติดธุระเลยไม่ได้มาหาแต่เช้า กว่าจะรู้ตัวว่าเจ้าหายไปก็เป็นเวลาเกือบค่ำ โยชัวเจ้าหายไปไหนมาแต่เช้ากันแน่”

“เอ่อ….เรื่องนั้น”

โยชัวอึกอัก จู่จู่ก็รู้สึกว่าคนตรงหน้าดูน่ากลัว ถ้าจะแค่ทำหน้าดุดันเพราะโกรธลาซารัส เด็กหนุ่มก็คงไม่รู้สึกกลัวอย่างนี้
แต่ไอ้คำพูดที่ไม่ต่างจากคำสอบสวนของตำรวจนี่สิ ทำให้เขาไม่กล้าเล่าว่าเมื่อวานทั้งวันตนเองหายไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง

ขณะที่ถูกกดดันอย่างหนัก เสียงอุทานของเมดสาวกับการปรากฏตัวของลูเซีย ทำให้บรรยากาศร้อนแรงดั่งไฟนรกลดอุณหภูมิลงจนกลายเป็นองศาติดลบซะยิ่งกว่าขั้วโลกที่หนาวเหน็บ

“ท่านพี่ลูเซีย”

เจ้าชายผู้เจิดจรัสเบิกตากว้าง ชาฮาร์ลุกขึ้นยืนทำความเคารพพี่ชายต่างมารดาอย่างนอบน้อม
ลูเซียทำแค่พยักหน้าเบาๆเป็นการรับรู้

ร่างสูงสง่าลากเก้าอี้ไปยังข้างเตียงอีกฝากแล้วนั่งลง ในมือของชายหนุ่มมีธนูสีเงินคันงาม ความสวยงามอย่างวิจิตรของมัน ทำให้ผู้คนในห้องเหม่อมองสิ่งนั้นจนไม่อาจละสายตา

“ท่านพี่ลูเซียสิ่งนั้น….ถ้าข้าคาดไม่ผิด”
ชาฮาร์ที่ได้สติก่อนใครไม่กล้าฟันธงแน่ชัด เพราะเจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ไม่เคยเห็นคันธนูซึ่งเป็นของจริงมาก่อน

“อย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ นี่คือ ดวงจันทร์สีขาว อาวุธเทพศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสมบัติล้ำค่าซึ่งท่านแม่ของข้านำติดตัวมาจากสวรรค์”
ลูเซียเอ่ยเสียงเนิบนาบพร้อมกับลูบไล้ดวงจันทร์สีขาวที่ไม่อาจมีคันธนูไหนในพิภพเทียบเคียงได้

“ข้าเห็นว่าลูกศิษย์ไม่มาตามนัด ตอนแรกคิดว่าอาจเป็นพวกเหลาะแหละไม่เอาไหน แต่ไม่ว่าจะพยายามตรองยังไงจากลักษณะท่าทางดูแล้วไม่น่าใช่คนแบบนั้น ตอนนี้ก็เลยถือวิสาสะเอาของเล่นมาล่อถึงที่ หวังว่าคงจะไม่รบกวนเวลาส่วนตัวของโยชัวหรอกนะ”

“ไม่…..ไม่เลย”

โยชัวส่ายหน้า เด็กหนุ่มรู้สึกเป็นปลื้มกับความใจดีและรอยยิ้มนุ่มนวลของลูเซีย

การมาของพี่ชายต้นแบบผู้งามสง่าทั้งกายและใจ ถึงดวงจันทร์สีขาวจะงดงามสูงค่าแค่ไหน
แต่สำหรับโยชัว ความประทับใจเทียบไม่ได้กับการที่ลูเซียมาเยี่ยมเยียนถึงห้องส่วนตัว

“ถ้าหากว่าหายดีเมื่อไหร่ ก็มาหาข้าที่ลานฝึกลับพร้อมกับดวงจันทร์สีขาวนะ”

“แน่นอนครับ”
เด็กหนุ่มรับดวงจันทร์สีขาวที่ลูเซียส่งมาให้

บรรยากาศชื่นมื่นงดงามของพี่น้องที่ส่งยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ใกล้ๆกันนั้นพี่น้องอีกคนที่ถูกทำเสมือนไม่มีตัวตน แผ่ออร่าคุกคามจนพวกเมดสาวหวาดผวากันถ้วนหน้า

ทว่าเหมือนสองพี่น้องผู้สดใสบริสุทธิ์จะไม่ใส่ใจ โยชัวยังถามนั่นถามนี่พูดคุยกับลูเซียไม่หยุดปาก ถึงบางครั้งจะแสดงอาการไม่สู้ดีด้วยการโอ้กอ้ากเป็นระยะระยะ ลูเซียผู้เป็นพี่ชายก็จัดการดูแลเด็กหนุ่มได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง สมกับที่เคยเลี้ยงน้องชายด้วยตัวเองมากับมือจนคุ้นชิน

สำหรับโยชัวถ้าหากว่าลูเซียเป็นแค่พี่ชายที่มีภาพลักษณ์อ่ออนโยนใจดีเพียงแค่นั้น เด็กหนุ่มคงไม่ฝืนอาการพูดคุยกับอีกฝ่ายมากถึงเพียงนี้

แต่เพราะรสนิยมและความคิดอ่านของพวกเขาใกล้เคียงกันมาก ทั้งคู่จึงพูดคุยกันยืดยาวจนกลายเป็นว่า ลูเซียอยู่ทานอาหารเย็นให้ห้องซะด้วยกัน

“รบกวนโยชัวมากแล้ว ข้าคงต้องปล่อยให้เจ้าพักผ่อนซะที”
ลูเซียเอ่ยลา ก่อนจะลุกขึ้นชายหนุ่มใช้มือลูบหัวโยชัวด้วยความเอ็นดู

“ถ้าอย่างนั้นก็เช็ดตัวกันดีกว่าไหม”
ชาฮาร์เอ่ยแทรกอย่างกระตือรือร้น

โยชัวสังหรณ์ใจแปลกๆ กับรอยยิ้มที่ไม่คล้ายกับรอยยิ้มในแบบปกติของชาฮาร์
แต่เด็กหนุ่มกลับคิดว่าตนเองไม่ได้ชำระล้างร่างกายมาตั้งแต่เมื่อคืนวาน จะให้ลงไปแช่น้ำในบ่อน้ำร้อนก็กลัวจะอาเจียนจนเลอะเทอะ คนตัวเล็กจึงยอมให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสคลายชุดนอนออกอย่างว่าง่าย เพราะเข้าใจว่าการเช็ดตัวน่าจะเหมาะกับอาการเมาค้างที่ตนเป็นอยู่มากกว่า

“ชาฮาร์ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า เรื่องเช็ดตัวให้สาวใช้ทำให้แทนเถอะ”

เสียงแควกที่เกิดจากการฉีกขาดของเสื้อผ้าดังขึ้น โยชัวอุทานดัง”อ๊ะ” เมื่อชาฮาร์ที่กำลังปลดกระดุมเสื้อนอนให้ ฉีกเสื้อผ้าของเขาขาดจนกระดุมทั้งหมดกระเด็นกระดอนไปในอากาศ

โชคยังดีที่เสื้อนอนไม่ได้ขาดมาก หากแต่ต้องสะดุ้งจนตัวแข็งค้าง ทันที่ที่เด็กหนุ่มเห็นสีหน้าของชาฮาร์ยามที่มองดูบริเวณรอยขาดด้วยแววตาอันดุดัน

“โยชัวรอพี่ชายก่อนนะ เดี๋ยวพอคุยธุระเสร็จ พี่ชายจะกลับมาเช็ดตัวให้”

ชาฮาร์ที่กลับมาเป็นปกติพูดด้วยรอยยิ้มที่เปล่งประกาย ต่างจากใบหน้าเครียดขึงราวกับยักษ์มารก่อนหน้านี้ไปคนละเรื่อง
โยชัวไม่รู้ว่าชายหนุ่มกำลังอารมณ์ไม่ดีเพราะอะไร แต่เขาเข้าใจว่าทำตามที่อีกฝ่ายพูดไว้น่าจะดีกว่า

หลังจากที่ตกปากรับคำ ชาฮาร์ก็ปลีกตัวไปพร้อมกับลูเซีย ปล่อยให้เด็กหนุ่มนอนรอโดยมีเมดสาวสองสามคนคอยดูแลรับใช้
โยชัวนอนแผ่รอเฉยๆจนตะวันตกดิน เห็นดังนั้นเด็กหนุ่มก็ร้องขอให้พวกเมดปล่อยเขาไว้เพียงลำพัง สุดท้ายไม่ว่าจะรอนานเท่าไหร่ก็ไม่เห็นชาฮาร์โผล่หน้ามา คนนอนรอที่เริ่มง่วงเต็มที่ก็ผล็อยหลับไปเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนพอดิบพอดี

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่8แล้วนะคะ

ตอนนี้ก็ค่อนข้างลงมาสั้นอีกแล้ว แต่เพราะนี้มันสั้นตอนหน้าอีกสองสามวันหรืออาจจะมาล
งเร็วกว่ากำหนดคือขึ้นอยู่กับความเร็วในการพิมลงคอมค่ะ แต่ไม่รอนานแน่นอน

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 18-05-2015 12:16:27
#ทีมลูเซีย ค่ะ5555555555 คุณพี่อบอุ่นแมนมาก :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 18-05-2015 12:33:14
ทีมชาฮาร์ เพราะพี่แกอยู่ใกล้มือที่สุดแระ 555
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 18-05-2015 15:52:17
ใครจะมาก่อนนะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 18-05-2015 17:11:25
 :3123: 
เด็กน้อยที่เก็บลูกหมาคือใคร่อะไร อยากรู้ๆๆๆๆจัง

 :hao6:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 18-05-2015 17:51:42
เด็กทั้งสองคนที่ช่วยซาราซัสกับชาฮาร์คือคนๆ เดียวกันใช่มั้ย
ถามแค่นี้ เพราะตอนนี้ในสมองมันมโนไปถึงโลกหน้าแล้ว
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 18-05-2015 18:03:30
#ทีมฮาเร็ม
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ToRoNtO ที่ 18-05-2015 20:49:39
รอตอนต่อไป :katai2-1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: MiU ที่ 18-05-2015 21:42:04
ชอบมากเลยค่ะ ไม่รู้จะเชียร์ใครดี 5555 แต่เอนเอียงไปทางชาร์ฮาร์หน่อย ๆ นะ   :o8:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 18-05-2015 21:58:18
โอ้ มีเจอกันอีกที่นึงด้วยหรอนี่ แล้วความจริงจะเปิดเผยไหมนิ 

รักคนแต่ง รอมาลงนะ  :katai5:  :katai4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 18-05-2015 23:52:12
เนื้อเรื่องกะลังเริ่มเข้มข้น พี่ชายแต่ละคนน่ากรี๊ดมาก รีบมาต่อเร็วๆ นะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 19-05-2015 01:58:35
สรุปคนที่ช่วยลาซารัสกับชาฮาร์ตอนเด็กก็คือโยชัวร์ตอนเด็ก ใช่มั้ย?
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 19-05-2015 02:55:24
งานเดาต้องมา ขอเดาว่าเป็นโยชัว ในร่างเดิมคะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 20-05-2015 19:09:48
 :-[

รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่8 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><18/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 21-05-2015 08:31:02
ตอนที่9


“โฮะๆๆๆ  ข้าอยากจะให้นังดาเลเน่แม่ของแกมาเห็นแกในสภาพนี้ซะจริง.....”
เสียงหัวเราะแหลมสูงดังกังวานไปทั่วห้องขัง ใบหน้าของอมันด้าตอนนี้บิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มที่วิปลาส ขณะที่เจ้าหล่อนลงมือชำแหละกรีดผ่าร่างที่เคยงดงามประหนึ่งเทวทูต

“……………………”

โยชัวเด็กหนุ่มวัยสิบห้าผู้เป็นเจ้าของร่างในปัจจุบันหลับตาแน่น แม้ภาพและเสียงที่สะท้อนอยู่ในเวลานี้จะเป็นแค่การอ่านความทรงจำ แต่เด็กหนุ่มก็เกิดความรู้สึกร่วมอย่างมากราวกับเป็นผู้ถูกกระทำเสียเอง

พอ…….ไม่สิตื่นซะที

โยชัวผู้อ่านความทรงจำตะโกนบอกตัวเองนับครั้งไม่ถ้วน ให้รู้สึกตัวตื่นจากความทรงจำที่ไม่ต่างจากความฝัน
ในทางกลับกัน ผู้เป็นเจ้าของความทรงจำ ถึงจะถูกลงมืออย่างโหดเหี้ยม แต่สภาพจิตใจนั้นว่างเปล่าไม่ต่างจากวัตถุที่ไร้วิญญาณ

“……………..”

ทว่าเสี้ยววินาทีที่ถูกทะลวงบดขยี้หัวใจ โยชัวทั้งสองคนก็หวีดร้องออกมาด้วยความกลัวตาย เป็นเจตนารมณ์ที่สอดคล้องกันจนเป็นหนึ่งเดียว

ใครก็ได้ช่วยที

ช่วยพาออกไปจากนรก....

ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว…...

“ทนไม่ไหวอีกแล้วงั้นเหรอ”

เสียงของใครสักคนดังอยู่ในหัว โยชัวทั้งสองหลั่งน้ำตาออกมาพร้อมกัน เมื่อได้ยินเสียงตอบรับ ที่ไม่ต่างจากเสียงของพระผู้เป็นเจ้า

“…………………….”

โยชัวสะดุ้งกายลืมตาตื่น  เด็กหนุ่มร้องไห้ หากแต่พอจะใช้มือปาดน้ำตา มือใหญ่ของใครบางคนก็เช็ดหยดน้ำออกให้เขาเสียก่อน

“ใครน่ะ”

โยชัวพลิกตัวหนีไปที่อีกฝากของเตียง

ที่ฝั่งตรงข้าม เจ้าชายปีศาจผู้มีใบหน้าลึกลับเย้ายวน ส่งยิ้มเย้ามาให้เขา ขณะที่ชายหนุ่มกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนในท่าตะแคง

“ม….มาทำไม”

โยชัวถามด้วยความหวาดระแวง

เด็กหนุ่มอยากจะหวีดร้องหรือวิ่งหนีลาซารัส แต่เพราะยังรู้สึกมึนหัวไม่หาย หลังจากที่ใช้หัวคิดตรองดู คนตัวเล็กก็เข้าใจว่าถึงหนีไปก็คงไม่พ้นจากเงื้อมมือของชายหนุ่ม

“ขอร้องล่ะ ถ้าเจ้ายังคิดว่าข้าเป็นน้องชายล่ะก็ ช่วยทำตัวให้สมเป็นพี่ชายซักหน่อย ข้ากำลังป่วยอยู่ อยากพักผ่อนร่างกาย อยากผ่อนคลายจิตใจบ้าง เจ้าคงจะเข้าใจข้านะ”

โยชัวร้องขอทั้งที่รู้ว่าลาซารัสคงจะไม่ยอมคล้อยตาม แต่อาจเป็นเพราะป่วยจนเบลอและไม่มีทางเลือก
เด็กหนุ่มจึงขอร้องอีกฝ่ายอย่างโง่ๆ  โดยไม่คิดเพ้อฝันว่าสิ่งที่เขาต้องการจะสมดั่งใจปรารถนา

“พี่ชายคนนี้ก็ไม่ใช่คนใจร้ายอยู่แล้ว…..ไม่งั้นจะมานอนเฝ้าข้างๆ คอยดูแลเจ้าจนถึงตอนนี้เหรอ”

โยชัวอุทานดัง”เอ๊ะ” เด็กหนุ่มรีบสำรวจร่างกายตัวเองทันที พอพบว่าเสื้อผ้าที่สวมใส่ยังเป็นชุดเดิมที่มีรอยขาด ร่างเล็กก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

จากนั้นโยชัวก็นั่งตัวเกร็งมองคุมเชิงลาซารัสที่นอนตะแคงส่งยิ้มเย้ายวนมาให้ โดยที่ต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไร
 เสียงนกร้องขับขานที่ด้านนอก เป็นสัญญาณย้ำเตือนให้คนทั้งคู่รู้ว่าอีกไม่นานพระอาทิตย์คงจะขึ้นสู่ท้องฟ้า ถึงแม้ว่าภายนอกจะยังมืดสนิทจนคล้ายกลางคืนก็ตาม

“อีกไม่นานตะวันคงใกล้จะขึ้น ถ้าหากบอกว่ากำลังป่วยอยู่ พี่ชายคนนี้จะช่วยอาบน้ำชำระร่างกายที่สกปรกนั่นให้ก็แล้วกัน”
โยชัวตื่นตระหนกลนลาน 

พริบตาที่กำลังจะวิ่งหนี  ไวกว่าที่คาดคิด เด็กหนุ่มถูกคว้าตัวไปปะทะกับแผ่นอกแกร่งของลาซารัส
คนตัวเล็กถูกอุ้มผาดบ่า ถึงเขาจะพยายามดิ้นรนสุดแรงที่มี แต่มันไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นจากเงื้อมมือของปีศาจร้ายที่เรียกตัวเองว่าพี่ชายเลยซักนิด

“อยู่นิ่งๆ”

เสียงคำสั่งหวานหนึบสะท้อนไปมาในสมองของโยชัว เด็กหนุ่มพยายามขัดขืนอย่างหนักด้วยการทำใจให้ว่างตามแบบที่ลูเซียเคยสอน

ทว่าสิ่งที่โยชัวยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้อย่างเหนียวแน่น กลับมีแต่เพียงความนึกคิดที่มีแต่จะต่อต้าน

นอกเหนือจากนั้น เขาไม่สามารถออกคำสั่งร่างกายที่ถูกลาซารัสเชิดเอาตามใจชอบ แม้แต่จะฝืนขยับนิ้วด้วยความต้องการของตนเอง

“มันเป็นยังไงกันนะ ไอ้ความรู้สึกที่ร่างกายขยับไปเองทั้งที่ใจกำลังต่อต้าน…..”

ลาซารัสยิ้มยั่วพลางใช้มือลูบเบาๆที่แก้มนิ่ม

ดูคล้ายว่าเจ้าชายปีศาจจะรู้สึกถึงความคิดที่เป็นกบฏ ก็ตอนที่ชายหนุ่มวางโยชัวให้ยืนอยู่บนพื้น แล้วปะเข้ากับดวงตาที่ถลึงมองมาอย่างกราดเกรี้ยว

“ใครเป็นคนสอนให้กันนะ……เก่งเหลือเกิน ที่สามารถทำให้เด็กอ่อนหัด สามารถคงสติกับความคิดของตัวเองเอาไว้ได้ แต่ถ้าจิตใจยังไม่เข้มแข็งพอจนถูกเชิดร่างได้อย่างนี้แล้วล่ะก็ ถึงจะพยายามฝ่าฝืนคำสั่งไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก รั้งแต่จะทำให้ทรมานกับอัตตาของตัวเองมากกว่า….แล้วก็…ไอ้การที่ร่างกายขยับไปเองทั้งที่ใจไม่อยาก แค่นั้นมันก็อึดอัดพออยู่แล้ว…..ถ้าหากว่ามีสติรับรู้ต่อไปแบบนี้  ไอ้ความเจ็บปวด อับอาย หรือเสียวซ่าน แทนที่จะถูกลบออกไปเพราะถูกควบคุม มันจะกลายเป็นว่า คิดได้รู้สึกได้ แต่ร่างกายมันไม่ยอมเชื่อฟังสักนิดเดียวล่ะนะ”

โยชัวยืนตะลึงเมื่อตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ลาซารัสพูดอธิบายให้ฟังเสียยืดยาว
ไม่นานนัก หลังจากที่เจ้าชายปีศาจหัวเราะท่าทางที่ดูตลกของเขา ชายหนุ่มก็เริ่มพูดต่อด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมจนผิดภาพลักษณ์

“เอาเถอะ….ในเมื่อพยายามทำสมาธิต่อต้านซะขนาดนี้ ถ้าต้องการอย่างนั้น จากนี้ไปจงทำตามคำสั่งทั้งที่ยังคงจิตสำนึกของตัวเองไปแบบนี้เลยก็แล้วกัน”

โยชัวรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่าที่กลางศีรษะ เด็กหนุ่มถึงอยากจะกัดฟันหรือร้องตะโกน แต่ตอนนี้แม้แต่จะถลึงตาใส่อีกฝ่ายเขายังทำไม่ได้ดั่งใจ

เมื่อโยชัวจินตนาการว่าลาซารัสคิดจะทำอะไรกับเขาบ้าง ด้วยความที่ถึงจะอายุแค่สิบห้า แต่ก็ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงกับจะไม่เข้าใจว่าการร่วมรักของเพศชายด้วยกัน ต้องใช้ช่องทางไหนและต้องทำยังไง

แย่มากๆ สถานการณ์ของเขาตอนนี้เลวร้ายที่สุด

โยชัวได้แต่มองดูลาซารัสเปลื้องผ้าเขาออกอย่างเชื่องช้าเนิบนาบ ระหว่างนั้น เจ้าชายปีศาจฮัมเพลงในลำคอไปพร้อมๆกันอย่างอารมณ์ดี

“ไปล้างตัวกันเถอะ”

ลาซารัสพูดหลังจากพาโยชัวไปที่หน้าบ่อน้ำร้อน เด็กหนุ่มถูกเจ้าชายปีศาจใช้น้ำร้อนที่ตักขึ้นมาเทลงบนตัวจนร่างกายเปียกปอน ก่อนที่จะละเลงครีมอาบน้ำให้กับเขาด้วยการกอดจากทางด้านหลัง

บ้าชะมัด….ทั้งที่เวลาถูกทำร้ายร่างกาย รู้สึกอย่างมากก็แค่เจ็บจี๊ดๆเหมือนมดกัด
แต่เพราะอะไรไม่รู้?  ไอ้ร่างกายบ้าๆนี่กลับไม่สามารถต้านทานความเสียวซ่านหรืออะไรก็ตามที่ทำให้รู้สึกดีได้เลย

โยชัวถึงจะแค่ถูกลูบไล้ด้วยฟองสบู่ แต่การนวดถูไปมาบนร่างกายอย่างซ้ำๆ ช่วยไม่ได้ที่เขาจะเกิดความรู้สึกที่ทั้งดีและจั๊กจี้ปะปนกันไป

“อึก….”

โยชัวสะดุดลมหายใจ ร่างกายของเด็กหนุ่มสั่นระริก เมื่อลาซารัสใช้นิ้วมือที่เต็มไปด้วยฟองนุ่มๆลูบคลึงยอดอกทั้งสองข้าง
ความรู้สึกที่ไม่ต่างจากถูกไฟช๊อต ทำเอาเด็กหนุ่มตาพร่าจนเกือบจะหลุดเสียงร้องที่น่าอับอายออกมา
 ทั้งที่ที่เขามุ่งมั่นใช้สมาธิกลั้นเสียงเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

“ร้องออกมาสิ”

ลาซารัสกระซิบสั่ง เจ้าชายปีศาจใช้ฟันคมงับที่ใบหูของร่างที่กำลังสั่นเทาในอ้อมกอด

เมื่อโยชัวไม่มีท่าทีว่าจะส่งเสียงออกมา มือข้างขวาของชายหนุ่มที่กำลังบีบเค้นยอดอก ก็เลื่อนลงไปกอบกุมเครื่องเพศของคนในอ้อมกอดแล้วเริ่มนวดเฟ้น

“……อึก…….”

โยชัวที่ทำไม่ได้แม้แต่จะเบิกตาให้กว้าง มองดูลาซารัสรังแกร่างกายที่ปลุกเร้าอารมณ์ได้ง่ายจนแม้แต่เด็กหนุ่มเองก็ยังคาดไม่ถึง
การที่คนตัวเล็กพยายามตั้งสติต่อต้านเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครวญครางออกไป กลับเป็นการเพิ่มความทรมานให้กับตัวเขาเองอย่างที่สุด

การขยับมือที่บางครั้งรุนแรงบ้างครั้งเนิบนาบ ทำให้โยชัวที่ไม่มีประสบการณ์แม้แต่จะช่วยตัวเองหลั่งน้ำตาออกมา
ถึงแม้เด็กหนุ่มจะสั่นระริกไปทั้งร่าง หากแต่เพราะถูกลาซารัสสั่งให้ยืนนิ่งๆ  ร่างกายที่บังคับไม่ได้จึงต้องฝืนยืนอยู่แบบนั้น
จะทรุดลงด้วยความอ่อนระทวยก็ทำไม่ได้ จะส่งเสียงร้องออกไปก็ไม่อยาก สภาพการณ์เช่นนั้น ส่งผลให้เกิดภาระหนักทางจิตใจอย่างต่อเนื่อง

และแล้ว ในตอนที่โยชัวถูกความสุขสมเติมเต็มจนล้นปรี่ ยิ่งกว่าถูกช็อตด้วยกระแสไฟฟ้านับล้าน เด็กหนุ่มหวีดร้องออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้น

“ดูสิออกมาเยอะน่าดูเลยนะ”

โยชัวถูกบังคับให้มองดูตามที่ลาซารัสสั่ง ภาพน้ำสีขาวขุ่นจำนวนมากซึ่งเปรอะเปื้อนอยู่บนมือเจ้าชายปีศาจ ช่างหยาบโลนซะจนโยชัวแทบจะเบือนหน้าหนี หากแต่ทำไม่ได้

อยากจะให้ช่วงเวลาเลวร้ายนี่ผ่านพ้นไปโดยเร็ว

โยชัวคิดอย่างวิตกกังวล

เด็กหนุ่มถูกลาซารัสที่ไม่ยอมปล่อยเขาให้หลุดมือไปง่ายๆ ประกบจูบรุกเร้ายาวนาน ก่อนที่ชายหนุ่มจะหยอกเย้าร่างกายของคนตัวเล็กซ้ำจนเสร็จสมไปอีกถึงสองครั้ง

ท่ามกลางไอร้อนที่ปกคลุมไปทั่วห้องอาบน้ำ โยชัวที่มีสติอยู่ครึ่งๆกลางๆ ถูกอุ้มในท่าเจ้าสาวพาไปยังบ่อน้ำร้อนที่ได้รับการตกแต่งอย่างวิจิตร

ในตอนนั้น ระหว่างที่ปลายเท้าสัมผัสโดนน้ำ ความทรงจำที่เต็มไปด้วยสีสันของลาซารัส ก็ถูกส่งตรงเข้ามาในสมองของคนที่ถูกอุ้ม

ลาซารัสที่อายุสิบสองขวบ ใช้ดาบบั่นศีรษะของปีศาจที่กำลังต่อสู้กับตนเอง ปลิดชีพมันในครั้งเดียว

เมื่อกำจัดศัตรูลงได้ เจ้าชายปีศาจก็บินกลับลงมาที่พื้น ก่อนจะกระโจนเข้าหาเด็กชายผู้ถูกชโลมไปด้วยเลือด จนไม่สามารถสังเกตรูปลักษณ์ของเด็กคนนั้นได้ชัดเจน

ความร้อนใจ และหวั่นวิตก ของลาซารัสส่งผ่านมาที่โยชัวจนแทบจะรู้สึกเหมือนเป็นตัวเขาเอง
เด็กหนุ่มเข้าใจว่าเด็กปริศนาที่ลาซารัสกำลังโอบกอด เป็นคนสำคัญมากซะจนเจ้าชายปีศาจคุมสติของตนเองไม่ได้

ลาซารัสประคองร่างเล็กอย่างทนุถนอม ทันทีที่รู้ว่าเด็กชายยังมีชีวิตอยู่ เจ้าชายปีศาจก็ช้อนอุ้มคนในอ้อมกอดไปวางลงบนโซฟาที่อยู่บ้าน จากนั้นจึงเริ่มสำรวจอาการของผู้ใหญ่ชายหญิงที่เลอะเทอะไปด้วยเลือดเช่นกันและกำลังนอนสลบอยู่ไม่ไกล

“หากว่าข้ายังคงสนิทสนมกับพวกเขาต่อไป อีกไม่นานคนพวกนี้คงจะตองตายเพราะตัวข้า”

ลาซารัสพูดด้วยความอาวรณ์  สำหรับเจ้าชายปีศาจการตัดใจจากครอบครัวนี้ โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าไม่สามารถกลับมาพบหน้าเด็กชายที่กำลังสลบอยู่ตรงหน้าได้อีก

ความเป็นจริงข้อนั้น ทำให้ลาซารัสอยากจะลักพาตัวร่างเล็กๆนี่ กลับไปอยู่เสียด้วยกันในที่ที่เป็นของเขา หากแต่อุปสรรคที่รออยู่เบื้องหน้าของเจ้าชายปีศาจ กลับมีมากเกินกว่าที่จะทำเช่นนั้นในเวลานี้

ดวงตากลมโตหรี่ปรือมองดูควันขาวๆ  โยชัวตอนนี้กำลังแช่น้ำร้อน โดยการนั่งตักและเอนหลังซบอกของลาซารัส
เพราะร่างกายอ่อนล้าเล็กน้อยจากการปลดปล่อยถึงสามครั้ง เด็กหนุ่มจึงปล่อยตัวให้เจ้าชายปีศาจโอบกอดอย่างว่าง่าย

ความทรงจำประหลาดที่เห็นเมื่อครู่คืออะไรกันนะ?

โยชัวคิดว่า ทัศนียภาพในความทรงจำ ไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นโลกที่เขาเคยอาศัยอยู่ไม่ผิดแน่ๆ

ความทรงจำประหลาดที่เห็นนี้ เด็กหนุ่มสัมผัสได้จากลาซารัสถึงสองครั้ง นอกจากนั้นกับชาฮาร์เองก็ด้วยเหมือนกัน ซึ่งข้อเท็จจริงที่เขาได้รู้เห็นนี้ อาจจะหมายความว่า ชายหนุ่มทั้งสองสามารถเดินทางข้ามมิติไปมาได้อย่างอิสระ

ถึงจะเป็นเช่นนั้นจริงแล้วมันจะยังไงกันล่ะ คนพวกนี้จะปล่อยเขาไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ?

โยชัวในเวลานี้ รู้ตัวดีอยู่แก่ใจว่าตัวของเขา มีสถานภาพที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะถูกดูแลในฐานะน้องชาย แต่อนาคตข้างหน้า ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

นอกจากนั้น ต่อให้กลับไปยังโลกเดิมได้ ด้วยร่างกายที่เขาสิ่งสู่อยู่ตอนนี้ พ่อแม่คงจะไม่ยอมเข้าใจง่ายๆ ในเมื่อโยชัวอีกคนยังอาศัยอยู่ที่บ้าน ในร่างกายซึ่งเดิมเป็นของเขา

“แย่ที่สุดเลย”

โยชัวพึมพำเสียงสั่นเครือ เด็กหนุ่มร้องไห้อย่างไม่ตั้งใจอีกครั้ง ทั้งที่ใจจริง เขาไม่อยากจะให้ใครเห็นสภาพที่ไม่น่าดูแบบนี้ โดยเฉพาะกับลาซารัส ด้วยแน่ใจว่าจะต้องถูกอีกฝ่ายล้อเลียนด้วยความขบขับ

แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น โยชัวกลับถูกปลายลิ้นร้อน ลากไล้ดูดซับน้ำตา คล้ายกับจะปลอบโยน
เด็กหนุ่มหลับตาปี๋ เพราะไม่อยากสัมผัสความรู้สึกยามถูกไล้เลียลูกตาด้วยปลายลิ้นอีกเป็นครั้งที่สอง

ทว่าลาซารัสกลับโลมเลียดวงตาที่ปิดสนิททั้งสองข้างโยชัว จนคนตัวเล็กหยุดร้องไห้

“ไปแต่งตัวกันเถอะ”

ดวงตาสองสีที่มองมาอย่างอ่อนโยน ทำโยชัวร้อนวูบ แต่กระนั้นภาพลักษณ์ที่ย่ำแย่ของเจ้าชายปีศาจ ทำให้เด็กหนุ่มต่อว่าตนเองในใจนับครั้งไม่ถ้วน ที่ดันเขินอายกับคนเลวร้ายไปซะได้

ลาซารัสช้อนอุ้มโยชัวขึ้นจากบ่อน้ำร้อน ตอนนี้เองที่เด็กหนุ่มเพิ่งรู้ตัว เจ้าชายปีศาจยังสวมใส่เสื้อผ้าของเขาเองอยู่จนครบทุกชิ้น

“ไม่กลัวเป็นหวัดเหรอ? ยืนตัวเปียกทั้งเสื้อผ้าแบบนี้”

โยชัวถามขณะยืนนิ่งให้เจ้าชายปีศาจแต่งตัวให้ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะรู้อยู่แก่ใจ เรื่องที่ถึงพยายามขัดขืนไปก็เสียเวลาเปล่า

หากแต่พอชายหนุ่มแต่งตัวให้จนเสร็จ เพียงลาซารัสดีดนิ้ว ลมหมุนซึ่งไม่ทราบที่มา ก็พัดเอาร่างและเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มของเจ้าชายปีศาจให้กลับมาแห้งสนิทอีกครั้ง

เวทย์มนต์อย่างนั้นเหรอ?

โยชัวกระพริบตาปริบๆ

“พี่ชายจะรวบผมให้แล้วกันนะ”

ลาซารัสหัวเราะร่วน

ถึงแม้โยชัวจะขนลุกแบบแปลกๆ แต่เด็กหนุ่มเข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าตัวเขาเองไม่มีปัญญาที่จะต่อต้านการกระทำของเจ้าชายปีศาจ ความคิดแบบนั้น ส่งผลให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพของสาวดุ้นทรงทวินเทลผู้แสนงดงาม

รู้สึกเหมือนวิญญาณหลุดออกไปจากร่าง ถึงโยชัวจะคิดว่าสามารถทำใจที่จะถูกชายหนุ่มทำเรื่องบ้าๆได้แล้วก็ตาม แต่ไอ้ความรู้สึกอัปยศที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน แม้แต่เด็กหนุ่มเองก็ยังควบคุมความรู้สึกที่ว่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นมาไม่ได้

โยชัวถูกลาซารัสประคองเดินไปที่ประตูห้องอย่างเคว้งคว้าง พอเปิดประตูห้องออกไป ก็เจอชาฮาร์ที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้อง มองมาด้วยแววตา ตกตะลึง กรุ่นโกรธ และผิดหวัง สลับกันไปมาอย่างรวดเร็ว

“ หึหึหึ”
เสียงหัวเราะยั่วเย้าของลาซารัส เปลี่ยนสีหน้าที่แปรสภาพไปมาของชาฮาร์ให้กลับมาแจ่มใสได้อย่างปกติ

“เจ้ามาก็ดีแล้ว….ตอนแรกข้าตั้งใจจะพาโยชัวไปทานอาหารเช้า แต่คิดอีกทีเหมือนว่ามีธุระที่จะต้องทำ เพราะงั้นเรื่องของเด็กคนนี้ปล่อยให้เจ้าดูแลท่าจะดีที่สุด”
ลาซารัสพูดก่อนจะปลีกตัวจากไป

เจ้าชายปีศาจ ทิ้งโยชัวและชาฮาร์ให้ยืนประจันหน้ากัน ในรูปแบบที่ต่างฝ่ายต่างมีอารมณ์ไม่คงที่
สำหรับโยชัว ถ้าเกิดเจ้าชายผู้เจิดจรัสถามซอกแซกว่าทำไมลาซารัสถึงออกมาจากห้องของเขา
เห็นทีว่าเด็กหนุ่มจะปั้นเรื่องโกหกได้ยาก เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่โลกใบนี้และได้สนิทสนมกับชาฮาร์
คนตัวเล็กก็รู้สึกไม่อยากจะทำลายมิตรภาพที่พวกเขาต่างก็มีให้กันและกัน ด้วยคำโกหกที่หวานหู

“โยชัว…..”

ชาฮาร์เปิดบทสนทนา หลังจากที่ใช้เวลาหลายนาที แผ่ออร่ามืดมนข่มขวัญโยชัวเสียจน เด็กหนุ่มต้องหดคอเหมือนเต่า ทว่ายังไม่ทันที่เจ้าชายผู้เจิดจรัสจะได้พูดจนจบประโยค คนตัวเล็กตรงหน้าก็โผลงคำแทรกขึ้นมากลางปล้อง

“ข้าจะไปหาท่านพี่ลูเซีย ก็นัดฝึกยิงธนูเอาไว้นี่นะ ถ้าเกิดข้าไม่ไปตอนนี้…เดี๋ยวท่านพี่ก็ต้องลำบากมาหาข้าถึงที่นี่อีก”

โยชัววิ่งจ้ำอ้าวไปจากตรงนั้น โดยไม่รอให้ชาฮาร์ซึ่งขมวดคิ้วด้วยใบหน้าบึ้งตึง เอ่ยขัดขวางหรือทำอะไรอย่างอื่น ที่จะสามารถหยุดยั้งการเผ่นหนีของเขาได้สำเร็จ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่9แล้วนะคะ

คือมีคำถามจากคนอ่าน ก็มีคนเดาถูกหลายคนค่ะ

เราอยากจะเฉลยเนื้อเรื่อง แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก

เลยคิดว่าถ้าคนอ่าน อ่านต่อไปเรื่อยๆ มันจะเฉลยของมันเอง

แล้วคนอ่านคงเดาได้แน่ๆค่ะ ตอนหน้าซังสามหรือสี่วันจะเอามาลงนะคะ

รักคนอ่านค่ะ

   
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่9 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><21/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 21-05-2015 14:49:59
ครอบครัวนั้นนั้นจะใช่โยชัวร์มั้ยนะ รอลุ้นจ้า  :z2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่9 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><21/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 21-05-2015 16:41:25
ตอนต่อไปตั้งสามถึงสี่วันเลยหรอ
รอตอนต่อปายยยยย............................~
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่9 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><21/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 22-05-2015 06:46:05
โยชัวหนีไปแล้วชาร์รีบตระคลุบไว้สิ 555
รีบมาต่อไว้ๆน้า ค้างคามากมาย  :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่9 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p3><21/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 25-05-2015 11:28:20
ตอนที่ 10


   “โยชัวรอก่อน….อย่าวิ่งอย่างนี้สิ”
   ข้อมือเล็กถูกชาฮาร์คว้าจับอย่างนุ่มนวล ดูท่าว่าความเร็วในการวิ่งที่เด็กหนุ่มค่อนข้างมั่นใจ จะเทียบไม่ได้กับความเร็วของชายหนุ่ม
 
ดังนั้น แทนที่จะหนีหน้าอีกฝ่ายได้อย่างใจคิด กลับถูกตามจับง่ายๆ ทั้งที่เพิ่งออกมาแค่หน้าปราสาท

   “อ…เอ่อ”
   
โยชัวส่งเสียงอึกอัก เด็กหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะมองสบตากับชาฮาร์ ‘จะทำยังไงดี’ ประโยคนี้วนเวียนในหัวซ้ำไปมา
   
ไม่อยากจะเล่าว่าถูกลาซารัสทำอะไรไปบ้าง
   จะให้โกหกชาฮาร์ก็คิดว่าคงจะทำไม่ได้แน่ๆ
   
โยชัวไม่สามารถโกหกความรู้สึกของตนเองที่ตื้นตันกับความเอาใจใส่ของชาฮาร์มาโดยตลอด
   
ถึงแม้ว่า บางครั้ง การกระทำของเจ้าชายผู้เจิดจรัส ออกจะน่ากลัวและไม่ปกติอยู่บ้าง ทว่าหากเทียบกับเจ้าปีศาจร้ายอย่างลาซารัสแล้ว นับว่าดีกว่ากันมาก จนปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ชาฮาร์เป็นพี่ชายที่ใจดีมากคนหนึ่ง’
   
เพราะว่าต่างคนต่างเงียบ แถมโยชัวเองก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตา จังหวะนั้น ข้อมือเล็กที่มือใหญ่รวบกำไว้อย่างเบามือ ก็รู้สึกร้อนขึ้นมาจนอยากจะสลัดทิ้ง

   แต่ร่างกายกลับไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิด
   
โยชัวปล่อยให้เหตุการณ์ที่น่าอึดอัดลำบากใจผ่านไปอย่างเสียเปล่า ถึงจะเป็นเวลาไม่กี่อึดใจ แต่สำหรับโยชัวแล้ว มันนานราวกับผ่านไปหลายปี
   
ในตอนนั้น ชาฮาร์ก็เปลี่ยนจากจับข้อมือของเขามาเป็นจับมือ เจ้าชายผู้เจิดจรัสกระตุกมือเล็กน้อยบังคับให้โยชัวเดินตาม ดวงตากลมโตมองดูแผ่นหลังกว้างแล้วรู้สึกอุ่นวาบในใจ จนปล่อยให้คนตัวโตกว่านำพาไปอย่างเงียบๆ
   และแล้วทั้งคู่ก็มาถึงลานฝึกลับในป่า

   ลูเซียที่รับรู้ถึงการมาของพวกเขา ดูแปลกใจเล็กเล็ก ร่างสูงสง่าหยุดการฝึกดาบ แล้วเดินตรงมาหาพวกเขา

   “หายป่วยแล้วอย่างนั้นเหรอ”

   “ครับท่านพี่ลูเซีย”
   โยชัวผงกหัวแล้วยิ้มน้อยๆ

   “แล้วมาแต่เช้าอย่างนี้ ทานอาหารเช้ามาแล้วหรือยัง ถึงจะรู้สึกดีขึ้นแล้ว…แต่คนที่พึ่งหายป่วยควรจะทานอาหารเช้าอย่างเคร่งครัดนะ”

   แทนคำตอบ หลังจากที่ลูเซียพูด กระเพาะน้อยๆที่ไม่เคยสั่งได้ของโยชัว ก็ส่งเสียงประท้วง ดังซะจนใบหน้าของเด็กหนุ่มเหยเก

   “สงสัยว่ากินมื้อเช้าก่อนท่าจะดี อีกอย่างเจ้าไม่ได้เอาดวงจันทร์สีขาวมาด้วย ระหว่างที่กินอาหาร พวกคนใช้ก็น่าจะเอาของที่ต้องการมาให้พอดี”
   
ลูเซียยิ้ม ร่างสูงง่าพาโยชัวกับชาฮาร์ไปยังบ้านที่อยู่ใกล้ๆกับลานฝึกลับ เมื่อมาถึง ดวงตากลมโตก็มองสำรวจบ้านที่ถูกทาด้วยสีขาวทั้งหลังอย่างถี่ถ้วน
   
บ้านหลังที่ลูเซียพามา เป็นบ้านไม้ที่ดูสวยและแข็งแรง นอกจากนั้น พอเข้าไปในตัวบ้าน ความอบอุ่นและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ถูกถ่ายทอดออกมาจากการตกแต่งอย่างสวยงาม ด้วยของเครื่องใช้ในบ้าน ที่ดูเรียบง่าย หากแต่เต็มไปด้วยรสนิยมของผู้มีอารมณ์สุนทรี

   “นี่เป็นบ้านของท่านพี่ลูเซียเหรอครับ”
   
โยชัวละลานตาไปด้วยความงามอย่างเรียบง่ายของบรรยากาศภายในบ้าน เหล่าของเครื่องใช้ที่ทั้งหมดล้วนเป็นสีขาว ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกประทับใจในความหมกมุ่นแบบแปลกๆ ของเจ้าของบ้านหลังนี้อย่าง ลูเซีย

   “สร้างเองกับมือเลยล่ะ อันที่จริงสร้างบ้านหลังนี้เพราะอึดอัดที่ต้องอยู่ในปราสาท ลำบากนิดหน่อย แต่พอสนุกขึ้นมา นอกจากบ้านแล้ว เครื่องใช้ในบ้านทั้งหมดก็ทยอยทำจนครบด้วยตัวเอง ตอนนี้เลยกลายเป็นช่างไม้มืออาชีพไปแล้ว”
   
“สุดยอดเลย….”
   โยชัวเอ่ยชมลูเซียด้วยท่าทางตื่นเต้น   
   เจ้าชายแห่งสรวงสวรรค์หัวเราะน้อยๆกับท่าทางที่เหมือนเด็กของคนตัวเล็ก

   “โยชัวนั่งรออยู่ที่เก้าอี้นั่นแหละ ส่วนชาฮาร์เจ้ามาช่วยข้าเตรียมอาหารดีกว่า”
   
สิ้นคำพูดของลูเซีย โยชัวก็มองดูชาฮาร์และลูเซีย หายเข้าไปในห้องครัวด้วยดวงตาเป็นประกาย

   เด็กหนุ่ม ตื่นตาตื่นใจ ในความสมบูรณ์พร้อมของเจ้าชายทั้งสอง แทนที่จะรู้สึกอิจฉา กลับกัน สำหรับโยชัวที่มองลูเซียเป็นไอดอลต้นแบบอยู่แล้ว

   การที่เจ้าชายแห่งสวรรค์ แสดงสกิลลับที่ซ่อนอยู่ออกมาให้เห็น จากที่ชื่นชมอีกฝ่ายมากมายอยู่แล้ว แปรสภาพเป็นปลาบปลื้ม จนแทบจะใกล้เคียงกับความรู้สึกของแฟนคลับเดนตาย ที่คลั่งไคล้พวกดารานักร้อง

   นอกเหนือจากนั้น กับชาฮาร์ ที่บ้างครั้งจะไม่สามารถจัดการกับเรื่องส่วนตัวได้ การที่เจ้าชายผู้เจิดจรัสสามารถปรุงอาหาร ด้วยตัวเองได้นั้น กระตุ้นต่อมเผือกของโยชัวให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
   
หลังจากรีรีรอรอด้วยความลังเลใจพักใหญ่
   
โยชัวก็ย่องเงียบไปยังห้องครัว แอบดูเหล่าพี่ชายที่น่าจะกำลังปรุงอาหารกันอยู่
   ภายในห้องครัว
   
ชายหนุ่มสองคนที่เปรอะเปื้อนด้วยเลือด ขณะกำลังช่วยกันชำแหละเจ้าสัตว์รูปร่างประหลาดตัวใหญ่เท่าหมี แต่จำแนกไม่ออกว่าเป็นหมูหรือแพะ ทำเอาโยชัวถึงกับพูดอะไรไม่ออก

   เด็กหนุ่มซ้อนภาพพวกพี่ชายที่กำลังหั่นชำแหละ เข้ากับความทรงจำตอนที่ถูกอมันด้าทรมาณแล้วรู้สึกพะอืดพะอม
   ขณะที่พยายามฝืนความปั่นป่วนของร่างกายและจิตใจ ลูเซียที่รู้สึกตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ ก็ถอดผ้ากันเปื้อนที่เปรอะเลือด เดินตรงมาหาเขาที่ยืนแอบดู
   
เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจใช้มือแตะไหล่โยชัวเบาๆ ความทรงจำของชายหนุ่มทะลักเข้ามาในสมองของคนตัวเล็กรวดเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ติด
   
“ข้าต้องการเด็กนี่เป็นชายาคนที่สี่ของข้า”
   ชายผู้มีร่างกายสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้ามพูด

   ใบหน้าของผู้พูดที่เต็มไปด้วยเครารกครึ้ม หากว่าโยชัวไม่สามารถเข้าถึงความนึกคิดของลูเซียขณะอ่านความทรงจำได้คงไม่รู้แน่ๆว่า ‘ชายผู้มีรอยยิ้มชั่วร้ายตรงหน้านี้คือใคร?’ นั่นก็เพราะจากความทรงจำอื่นที่เคยได้รับมา ชายคนนี้เคยมีร่างกายใหญ่โตพอพอกับตึกสูงสามสิบชั้น ทว่าตอนนี้กลับมีขนาดตัวเท่ากับคนปกติ

   “พูดอะไรบ้าๆ!”

   ลูเซียตวัดตาไปยังลูซิเอล่าผู้เป็นมารดา ใบหน้างดงามที่สงบนิ่งอยู่ตลอดเวลาประหนึ่งพระแม่ผู้หลุดพ้น ตอนนี้เปลี่ยนสภาพไปมาด้วยความเกลียดชังและขยะแขยง

   “สัตว์นรกก็ยังเป็นสัตว์นรก จะสมสู่มั่วซั่วยังไง แต่โยชัวก็เป็นลูกชายที่อายุแค่แปดขวบ ไม่มีวันซะล่ะ ข้าทนมามากแล้ว หากเจ้ายังยืนยันจะทำอย่างที่พูดให้ได้แล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะต้องทำยังไงข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้”
   
ลูซิเอล่าประกาศกร้าว สตรีเผ่าเทพกางปีกปกป้องลูกเลี้ยงของเธอ ยิ่งมือเล็กๆเกาะเกี่ยวชายกระโปรงของเธอสั่นเทาเท่าไหร่ จิตใจเธอก็ยิ่งฮึกเหิมมากขึ้นเท่านั้น

“อุ๊ยต๊าย……ช่างเป็นท่านพี่ที่ไม่เจียมตัวเอาซะเลย….หากท่านลงมือกับสามีที่ข้ารักยิ่งแล้วล่ะก็ ข้านี่แหละจะเป็นคนสั่งสอนให้ท่านรู้สึกนึกเอง”

   อมันด้าพูดด้วยท่าทีกระเหียนกระหือรือ ใบหน้างดงามยั่วยวนของหล่อน บิดเบี้ยวด้วยรอยยิ้มเคลิ้มฝัน
   
ในสายตาของลูเซีย ดูคล้ายว่าอีกฝ่ายกำลังยินดีที่จะได้ใช้ขออ้างในตอนนี้ เล่นงานท่านแม่ของเขาอย่างที่ใจอยากจะทำมานาน
   ลูเซียเกร็งตัวด้วยความกดดัน ดวงตาสีเทาสลับมองดูใบหน้าของคนอื่นๆที่อยู่รอบๆตัว เปรียบเทียบสถานการณ์
   
เริ่มจากลาซารัสที่ดูเงียบขรึมผิดปกติ และท่านพ่อที่กำลังเหยียดยิ้มอย่างสบใจตามลำดับ
   
ท่านกำลังพอใจอะไร?
   
อะไรกันที่ทำให้ราชาปีศาจโดโนแวนยิ้มเช่นนั้น?

   “อมันด้าเอาเด็กนั่นมาให้ข้า”

   คำสั่งของโดโนแวนเป็นดั่งกระสุนปืนที่ถูกยิงขึ้นฟ้า
   อมันด้าที่ขานรับคำสั่งเรียกอาวุธของตนออกมาแทบจะในทันที
   
แม้จะอายุแค่สิบสี่ปี แต่ความช่ำชองและปราดเปรียวในการต่อสู้ ทำให้ปฏิกิริยาในการจู่โจมรวดเร็วเสียจน
อมันด้ายังต้องตกใจ

   หากแต่คมดาบที่หมายมั่นจะเล่นงานหญิงแพศยาที่บังอาจคิดทำร้ายมารดาเขา กลับถูกรับและปัดออกอย่างรุนแรงจนดาบแทบหลุดจากมือ ด้วยลาซารัสน้องชายต่างมารดาผู้ชั่วร้าย

   อายุของลูเซียที่มากกว่าถึงสองปี ไม่ได้ทำให้ฝีมือของเขาเหนือล้ำกว่าอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะฝีมือของเขาทั้งคู่สูสีก้ำกึ่งกันมาก จนลูเซียต้องกัดฟันดังกรอด
   
“ดีมากลาซารัส จัดการไอ้ลูกโสเภณีนั่น อย่าให้มันมาขัดขวางความสนุกของแม่”
   
อมันด้าสั่ง เจ้าหล่อนใช้ดาบคู่ของตนฟาดฟันลูซิเอล่า ที่ใช้อาวุธประจำตัวซึ่งเป็นดาบและโล่ตั้งรับไปพร้อมกับปัดป้อง
 
เพราะต้องต่อสู้และปกป้องโยชัวจากอมันด้าที่กำลังคุ้มคลั่งไปพร้อมๆกัน ลูซิเอล่าจึงตกเป็นรองทั้งที่น่าจะเหนือกว่าอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้

ต้องพาโยชัวออกมาให้ห่างจากท่านแม่

ลูเซียที่ไต่ตรองอย่างดี เกร็งตัวเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปปกป้องโยชัวแทนท่านแม่ ซึ่งกำลังลำบาก หากแต่ทำไม่ได้ดั่งใจคิด เพราะเจ้าชายปีศาจผู้มีใบหน้าลึกลับเย้ายวน ไม่ยอมให้เขาทำสิ่งที่ต้องการได้อย่างง่ายๆ

ลูเซียถูกลาซารัสกดดันจนต้องยืนคุมเชิงอยู่แบบนั้น  หากหันหลังให้อีกฝ่ายแล้วโผเข้าหาโยชัว เชื่อได้ว่า น้องชายต่างมารดาคนนี้ คงไม่รีรอที่จะปลิดชีวิตของเขาในครั้งเดียว

ดังนั้น ทางเดียวที่จะช่วยผู้คนที่เขารักได้ มีแต่ต้องจัดการกับลาซารัสให้เร็วที่สุด

“มีใจจะสู้แล้วเหรอ”

ลาซารัสหัวเราะยียวน

อีกฝ่ายคงตั้งใจจะยั่วโมโหให้เขาขาดสมาธิ แต่ไม่มีวันซะล่ะ ไม่มีค่าอะไร ที่จะทำอย่างนั้นกับคนแบบเขา

“แน่นอน”

ลูเซียตอบรับด้วยใบหน้าเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง

พริบตานั้น  ภายในเวลาไม่กี่วินาที เจ้าชายแห่งสรวงสวรรค์ปะดาบกับลาซารัสนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความเร็วเกินกว่าที่ตาจะมองเห็น

น้องชายต่างมารดาไม่สามารถสร้างรอยแผลให้เขาได้ ในขณะเดียวกัน เจ้าชายปีศาจก็ไม่มีแม้แต่บาดแผลซักรอยเช่นเดียวกัน เป็นการต่อสู้ห้ำหั่นที่สูสีกันจนไม่อาจแบ่งแยกสมาธิไปที่อื่นได้เลยแม้เพียงเล็กน้อย

ในระหว่างนั้น  เสียงคำรามซึ่งเต็มไปด้วยความฮึกเหิมยินดีของสัตว์ป่า กับเสียงหวีดร้องของโยชัว ก็ดึงความสนใจของลูเซียไปจากลาซารัส

ดวงตาสีเทาเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อเห็นอมันด้าในร่างหมาป่าอสูรขนแดงตัวใหญ่ยักษ์ กำลังบดเคี้ยวและกลืนกินร่างของลูซิเอล่าไปต่อหน้าต่อตา

“ท่านแม่”
ลูเซียตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อสูญเสียสติสัมปชัญญะ ลาซารัสก็แทงดาบมาที่กลางอกของเขาจนทะลุ ลูเซียไม่สนใจ ปีกทั้งหกข้างของเขากระพือบินไปหาอมันด้าในร่างหมาป่าอสูร

หากแต่เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจผู้บาดเจ็บและขาดสติ ก็ยังไม่สามารถจัดการกับอมันด้าที่กำลังลำพองในชัยชนะได้อย่างที่ตั้งใจไว้

ลูเซียถูกฝ่าเท้าของหมาป่าอสูรสีแดงตบจนร่วงลงไปกองกับพื้นที่เบื้องหน้าโยชัว ซึ่งกำลังสะอึกสะอื้นขอโทษซ้ำไปซ้ำมาว่า’ท่านแม่ตายเพราะปกป้องตนเอง’

พลาดท่าเพราะอีกฝ่ายลอบเล่นงานโยชัวที่เป็นจุดอ่อนสินะ

ลูเซียกระตุกยิ้มขมขื่น ขณะที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ดาบคมกริบก็แทงลงมาบนมือ ตรึงการเคลื่อนไหวของเขาเอาไว้จนเกือบจะสมบูรณ์

“เท่านี้ก็ไม่มีใครมาขัดขวางการแต่งตั้งชายาใหม่แล้วนะคะท่านพี่”
อมันด้าที่คืนร่างเดิมและกำลังฉีกยิ้มหวานหยดในสภาพเปลือยเปล่า เอ่ยกับโดโนแวนด้วยท่าทางประจบประแจง

“น่าเบื่อ”
โดโนแวนหัวเราะขึ้นจมูก ราชาปีศาจมองเศษซากของอดีตชายาและลูเซียด้วยสายตาดูแคลน

“ทั้งที่คิดว่าจะได้ชายาผู้งดงามเพิ่มขึ้น แต่กลายเป็นว่าต้องมาเสียไปแทนซะนี่ ชายาคนใหม่ต่อให้งดงามแค่ไหน แต่ถ้าต้องมองดูแล้วคิดตามว่าต้องแลกด้วยอะไรถึงจะได้มา สงสัยว่าข้าคงจะหงุดหงิดจนพลั้งมือฆ่าไปซะเปล่าๆ ข้าหมดความสนใจในตัวมันแล้ว”

“ต๊าย……ถ้าอย่างนั้น….หากท่านพี่ไม่ต้องการเจ้าเด็กตัวจ้อยไร้ค่านี่ น้องขอมันเอาไว้นะคะ”
อมันด้าออดอ้อน

“ตามใจเจ้าสิ”
โดโนแวนอนุญาตก่อนจะสะบัดหน้าจากไป

ดูท่าว่าการได้โยชัวมาไว้ในกำมือจะทำให้อมันด้าดีใจจนเนื้อเต้น เจ้าหล่อนหัวเราะร่วนด้วยใบหน้าชั่วร้าย จนลูเซียถึงกับผวาจนตัวสั่น
 
ความโกรธเคียดแค้นชิงชัง เปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว ส่งผลให้ลูเซียดิ้นพล่านและพยายามดึงดาบที่ยึดตรึงฝ่ามือของตนไว้กับพื้นดินอย่างขาดสติ

“อ้าวๆ กลัวจนสลบเลยเหรอไอ้เด็กแพศยา ร่านนักกล้าให้ท่าพ่อแท้ๆของตัวเอง ตำแหน่งชายาของราชาปีศาจแกคงอยากได้จนตัวสั่นสิท่า จากนี้ไปข้าจะสั่งสอนแกทีละน้อยดัดสันดานนิสัยมากราคะของแกให้เอง”

ลูเซียร้องตะโกนอย่างคนเสียสติ เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ ทำได้แค่เพียงมองดูแผ่นหลังของนางปีศาจชั่วช้า ที่ฆ่าท่านแม่ ซ้ำยังพรากน้องชายคนสำคัญไปจากตน

เสียงหัวเราะแหลมสูงเสียดแทงใจของลูเซียจนปวดร้าว ทว่าที่เบื้องหน้า ลาซารัสมองดูเขาที่เกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นด้วยแววตาที่คาดเดาความรู้สึกไม่ได้

น้องชายผู้ชั่วร้ายคนนี้ช่างน่ากลัว

อาจจะน่ากลัวยิ่งกว่าบิดาและมารดาผู้ให้กำเนิดเจ้าตัวมาเสียด้วยซ้ำ

“มาทำอะไรตรงนี้ ถ้ารู้สึกไม่สบายไปนั่งรออยู่เฉยๆจะดีกว่านะ”

โยชัวสะดุ้งเฮือก น้ำเสียงที่อบอุ่นของลูเซีย ชักนำให้เด็กหนุ่มกลับมาจากความทรงจำที่ยาวนานของคนที่เอ่ยทัก

คนตัวเล็กรู้สึกสับสน ความเศร้าและทรมานของลูเซีย ถูกส่งตรงมาหาเขาทั้งหมด จนในระหว่างที่ท่องไปในความทรงจำ โยชัวแทบจะคิดว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเขาจริงๆ

อาจเป็นเพราะความทรงจำช่วงนี้เลวร้ายอย่างมาก ความรุนแรงในการเชื่อมจิตสำนึกจึงมีความสมจริงเทียบเท่ากับเวลาที่เขาอ่านความทรงจำของโยชัวอีกคน

เด็กหนุ่มรู้สึกยุ่งยากใจจนเป็นกังวล ขณะที่ลูเซียพากลับมานั่งรอบนเก้าอี้ตัวเดิมในห้องรับแขก เมื่อร่างสูงสง่าผละจากไป โยชัวจมอยู่กับความทรงจำและข้อสันนิษฐานที่นำมาซึ่งความหวาดระแวง

ความสัมพันธ์ของคนรอบตัวที่แอบอ่านมาทั้งหมด ยิ่งโยชัวได้รับรู้เท่าไหร่ จิ๊กซอว์ที่เด็กหนุ่มพยายามประติดประต่อก็ยิ่งสลับซับซ้อนมากขึ้นจนน่าหวาดเสียว

ลูเซียพี่ใหญ่ผู้มีความแค้นที่หลบซ่อนอย่างล้ำลึก กับลาซารัส เจ้าชายปีศาจที่ไม่สามารถคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ความทรงจำที่อ่านมาทั้งสองแบบ สร้างความแตกต่างให้กับชายหนุ่มอย่างสุดขั้ว

นอกจากนั้น ความทรงจำของลาซารัสกับชาฮาร์ ยังมีจุดร่วมคล้ายกัน คือมีเด็กชายไร้หน้าเป็นตัวขับเคลื่อน
ยิ่งได้สัมผัสมากเท่าไหร่ โยชัวก็รู้สึกได้ถึงความดำมืดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง จนทำให้เด็กหนุ่มหวาดกลัวกับความสามารถที่ได้รับมานี้

แต่ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีประโยชน์ หากว่าต้องใช้ชีวิตในร่างนี้อย่างไม่รู้เหนือใต้ ก็ไม่รู้ว่าต่อไปภายภาคหน้า เขาจะแก้ปัญหาที่พุ่งเข้าหาตัวได้ยังไง

รู้สึกแย่ขึ้นมาอีกแล้ว……..

โยชัวถอนหายใจก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

ทั้งที่ตั้งใจจะปล่อยใจให้ว่าง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรวบรวมความทรงจำแล้วเริ่มต้นครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวด้วยใจที่หมกมุ่น

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่10ค่ะ

หายไปหลายวันเลย

ดีใจที่ตอนที่แล้วยังมีคนคอมเม้นเราอยู่บ้าง

อีกสองสามวันจะเอาตอนต่อไปมาลงนะคะ

ตอนนี้สั้นมากๆเลยขอโทษล่วงหน้าค่ะ

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 25-05-2015 11:47:18
ปริศนาเยอะจัง เดาไม่ถูกเลย 555+ โยชัวร์ต้องใช้ความสามารถที่มีให้เป็นประโยชน์
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 25-05-2015 17:46:42
ง่า ลาซารัสน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ แหะ
อยากรู้บทสรุปเร็วๆ จัง
แต่แอบขำตรง

โยชัวก็ย่องเงียบไปยังห้องครัว แอบดูเหล่าพี่ชายที่น่าจะกำลังปรุงอาหารกันอยู่
   ภายในห้องครัว
   
ชายหนุ่มสองคนที่เปรอะเปื้อนด้วยเลือด ขณะกำลังช่วยกันชำแหละเจ้าสัตว์รูปร่างประหลาดตัวใหญ่เท่าหมี แต่จำแนกไม่ออกว่าเป็นหมูหรือแพะ ทำเอาโยชัวถึงกับพูดอะไรไม่ออก

คือว่าปรุงอาหารด้วยท่าทางสนุกสนานน่าดูชม 555
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 25-05-2015 20:08:03
ลาซารัสเป็นตัวร้ายหรือคะ แต่ร้ายสุดคงเป็นราชาปีศาจล่ะมั้ง  :ling3:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 26-05-2015 20:34:17
ยิ่งอ่านก็ยิ่งค้างงงง รีบมาต่อนะคะ รออยู่ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 28-05-2015 00:09:33
อื้อหือ เข็มขัดสั้นเลยทีเดียว  :jul1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 28-05-2015 00:39:31
สับสนไปหมดเลยยย
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: lorry_ ที่ 28-05-2015 01:15:44
 :pighaun:  รอออออออออออ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่10 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><25/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 28-05-2015 08:31:37
ตอนที่11

   “เป็นอะไร….”
   
โยชัวสะดุ้ง ดวงตากลมโตมองดูลูเซียเจ้าของเสียง ใบหน้าของเด็กหนุ่มจืดเจื่อน เมื่อรู้ว่าตนเองเหม่อลอยครุ่นคิดมากเกินจนเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจรู้ตัว

   “ไม่ชอบอาหารที่เตรียมไว้หรอกเหรอ อืม…..คงตกใจที่ได้เห็นวิธีการเตรียมอาหารจนทานไม่ลงสินะ”

   “ไม่…ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับท่านพี่ลูเซียข้า….”
   
โยชัวอึกอักหลังจากพูดปฏิเสธ สำหรับเด็กหนุ่มแล้ว เหตุผลที่เหม่อจนลืมทานมันมีหลายอย่าง เรื่องไปเห็นวิธีการเตรียมอาหารที่เต็มไปด้วยเลือดก็ส่วนหนึ่ง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ถึงขนาดให้เขาทานอาหารไม่ลง

   “กินซะสิ”
   
ลูเซียยื่นช้อนส้อมที่มีชิ้นเนื้อสเต็กที่ทำจากสัตว์อสูรมาที่เบื้องหน้าโยชัว เด็กหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายในการป้อนอาหาร ประหม่าและเขินอายขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน

   “ไม่ต้อง ไม่ต้อง ข้ากินเองได้ครับ”
   
โยชัวโบกมือทั้งสองข้างปฏิเสธพัลวัน
   หากแต่พอถูกลูเซียเร่งรัดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ต่างจากรอยยิ้มของเทพธิดา เด็กหนุ่มก็อ้าปากงับเนื้อสเต็กเคี้ยวตุ้ยๆด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ
   
“อยากให้ป้อนอีกหรือเปล่า”

   ลูเซียถามด้วยรอยยิ้มที่ยังไม่เลือนหายไปจากใบหน้า
   โยชัวที่กลืนอาหารลงคอเข้าใจว่า’ถ้าตนยังคงดื้อแพ่งไม่ยอมทานอาหารอยู่อย่างนี้ คงไม่แคล้วถูกชายหนุ่มป้อนอาหารให้จนหมดจาน’

ดังนั้นแทนคำตอบ โยชัวก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างดุเดือด ด้วยความที่เนื้อสเต็กชิ้นนั้นทั้งนุ่มทั้งฉ่ำ ซอสที่ราดลงบนเนื้อเองก็รสชาติสุดยอดด้วยเช่นกัน  เด็กหนุ่มจึงเผลอทานเข้าไปถึงสองชิ้นใหญ่ๆ

หลังจากที่ทานอาหารจนอิ่มท้อง โยชัวคิดว่า’ตัวเขาทานเยอะเกินจนดูน่าเกลียดไปหรือเปล่า’ พอเห็นปริมาณที่ลูเซียกับชาฮาร์ทั้งดื่มและกิน เด็กหนุ่มก็เบิกตากว้างอย่างพิศวง

เจ้าชายแห่งสวรรค์ ถึงจะกินเยอะน่าดู แต่ตอนนี้เขาก็หยุดกินแล้ว ทว่าชาฮาร์กลับตั้งหน้าตั้งตากิน จนในที่สุดเนื้อของสัตว์อสูรตัวใหญ่เท่าหมีก็หมดลงด้วยการกินล้างกินผลาญของเจ้าชายผู้เจิดจรัส

กินเยอะจังแฮะ……

โยชัวยิ้มค้าง เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกใจกับความเจริญอาหารที่ออกจะเกินขีดจำกัดไปซักหน่อย ทั้งที่ผ่านมา เวลาทานอาหารด้วยกันชาฮาร์นอกจากจะกินในปริมาณเท่ากับคนปกติ แถมท่าทางการกินยังดูมีมารยาทอย่างมาก

ไม่ใช่ว่าตอนนี้มารยาทในการกินแย่ แต่ไอ้การทานแบบไม่คิดแม้แต่จะเหลือเศษซากนี่ชวนให้คิดว่า’ที่ผ่านมามันคืออะไร?’
หลังจากที่ทุกคนทานอาหารจนอิ่ม ลูเซียที่ชวนโยชัวพูดคุยสัพเพเหระเกือบครึ่งชั่วโมง ก็ตัดสินใจพาทุกคนไปที่ลานฝึก ทันทีที่คนรับใช้นำดวงจันทร์สีขาวที่รอคอยกันอยู่มาส่งให้มือ

“ตั้งสมาธินึกถึงรูปร่างของลูกศร”

ลูเซียเอ่ยสอนขณะที่โยชัวพยายามตั้งสมาธิ สองชั่วโมงก่อนหน้านั้น เด็กหนุ่มได้เรียนรู้ว่าดวงจันทร์สีขาวเป็นธนูที่มีลักษณะพิเศษคือ ไม่จำเป็นต้องมีลูกศร ก็สามารถสร้างลูกศรด้วยตนเองจากพลังวิญญาณของผู้ใช้
พลังทำลาย รูปร่างของลูกศร รวมถึงขนาด ขึ้นอยู่กับจินตนาการกับระดับพลังวิญญาณ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่เจ้าของได้มอบให้กับมัน

“มันไม่ยากหรอกแค่วาดรูปร่างของลูกศรที่ต้องการในความคิด”

ลูเซียปลอบโยนด้วยน้ำเสียงที่ใช้เฉพาะกับเด็กเล็กๆ เมื่อเห็นใบหน้าที่ยับย่นของโยชัวที่ไม่สามารถสร้างลูกศรขึ้นมาเป็นรูปร่างได้ซักที

หลังจากผ่านไปอีกสามชั่วโมง ในที่สุดลูกศรสีเงินที่สร้างจากจินตนาการ ก็ถูกปล่อยจากคันธนู พุ่งตรงไปยังเป้า ที่ถึงแม้ลูกศรจะไม่เข้ากลางเป้า แต่ก็พุ่งทะลุผ่านจุดมุ่งหมายไปยังต้นไม้ใหญ่หนาถึงแปดลำต้น ทุกทุกสิ่งที่ลูกศรแหวกผ่านทิ้งรูโหว่ทรงกลมขนาดเท่าลูกเทนนิสเอาไว้ จนไม่ว่าใครได้มาเห็นก็ต้องตกใจในอานุภาพของมัน

“สุดยอด….”

โยชัวดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปมา สภาพไม่ต่างจากนักฟุตบอลที่สามารถยิงบอลเข้าประตูของฝ่ายตรงข้ามได้ จากนั้น เด็กหนุ่มที่ถูกลูเซียลูบหัวไปมา พร้อมกับชมว่า’ดีมาก’ ก็มุ่งมั่นตั้งเป้า จะต้องยิงลูกศรทรงพลังให้เข้าสู่จุดมุ่งหมายทุกจุด ให้เหมือนเป็นเรื่องปกติให้จงได้

ผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมง ดูเหมือนว่าลูเซียที่นึกสนุกอะไรไม่รู้ จู่จู่ก็เอ่ยชักชวนให้ชาฮาร์เป็นคู่ซ้อมดาบ โยชัวที่กำลังหมกมุ่นกับการฝึกยิงธนูหูผึ่งจนแทบไม่มีสมาธิ

“จะว่าไปเราสองคนไม่ค่อยได้ฝึกซ้อมด้วยกันเท่าไหร่นี่นะ”
ลูเซียยิ้มในขณะที่ชาฮาร์มีท่าทีลำบากใจ

โยชัวที่ลอบมองดูพี่ชายทั้งคู่ พอเห็นชาฮาร์เกาหัวแกรกๆแล้วหัวเราะ ท่าทางที่ดูไม่เอาไหน ทำให้เด็กหนุ่มอดรนทนไม่ได้ จนถึงขั้นรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาซะดื้อๆ

ไม่ใช่ว่าอยากจะแกล้ง แต่อยากเห็นชายหนุ่มลองพยายามทำดู ก็รู้อยู่ว่าชาฮาร์อาจจะคิดว่าสู้พี่ชายของตัวเองไม่ได้ จากการที่เขาได้เห็นชั้นเชิงของลูเซียและลาซารัส

นอกจากนั้นท่าทางที่หมดสภาพเมื่ออยู่ต่อหน้าพวกพี่ชาย ทำให้โยชัวตีความว่า ‘ชาฮาร์อาจจะเป็นพี่ชายที่มีทักษะในการต่อสู้อ่อนด้อยที่สุดในบรรดาพี่น้อง’ แน่นอนว่าไม่นับตัวเขาเข้าไปด้วย

แต่นี่มันเป็นการฝึกซ้อมไม่ใช่เหรอ? คนเราจะเก่งขึ้นได้จากการฝึกฝนและได้รับการชี้แนะจากคนที่เก่งกว่า

ถ้าเกิดว่าได้ฝึกซ้อมกับพี่ลูเซีย ชาฮาร์จะต้องเก่งขึ้นแน่ๆ  จะว่าไปการที่หมดท่าต่อหน้าลาซารัสทุกครั้ง ไม่ใช่ว่าเอาแต่เที่ยวเล่นจนไม่มีเวลาฝึกฝนหรอกเหรอ?

โยชัวคิดว่า การที่ชาฮาร์เอาแต่วิ่งไล่ตามตนเองไปทุกที่ บวกกับความทรงจำเป็นตัวบ่งชี้ ‘ เจ้าชายผู้เจิดจรัสอาจจะเป็นพวกที่มีนิสัยลอยชายมากกว่าที่คิด’ เด็กหนุ่มคิดเช่นนั้นอย่างปักใจ

“อยากเห็นท่านพี่ลูเซียกับชาร์ซ้อมดาบ”
โยชัวทำตาวิ้งวับเป็นประกาย รอยยิ้มเจื่อนที่ถูกฉาบบนใบหน้าของชาฮาร์ ทำให้โยชัวตัดสินใจใช้ท่าไม้ตาย

“ข้าอยากเห็นพี่ชายฝึกดาบซักครั้ง”

โยชัวบิดมือไปมาพร้อมกับช้อนตามองอย่างมีจริตจะก้าน เด็กหนุ่มเลียนแบบท่าทางของน้องสาวผู้ยั่วยวนใน
มังงะเฮ็นไต

อีเดียดตัวเองสุดๆ

แต่ดูแล้วจะใช้ได้ผลกับพี่ชายที่เป็นบราค่อนอย่างชาฮาร์  ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตร ตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะตกลงรับคำขอด้วยท่าทางลำบากใจเหมือนเดิม

“ข้าจะใช้อาวุธประจำตัว เจ้าคงไม่รังเกียจสินะชาฮาร์”

ลูเซียเรียกดาบสีทองที่มีชื่อว่า’พิฆาตราชันย์’ออกมา ลำแสงเรืองรองสีทองที่เปล่งประกายจากตัวดาบ ดูสะอาดพิสุทธิ์ใสซะจนเกิดความคิดว่า’ถ้าถูกปลิดชีวิตด้วยดาบเล่มนี้ วิญญาณคงจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ไปสู่มรรคาแห่งสวรรค์ชั้นฟ้า’

“เจ้าล่ะจะใช้อาวุธประจำตัวหรือเปล่า”

“ข้าเอาดาบแถวนี้ก็ได้ครับ”

ชาฮาร์ตอบพร้อมกับเลือกดาบจากชั้นวางอาวุธจำนวนมากแบบไม่เสียเวลาคิด การกระทำที่เหมือนกับเตรียมตัวจะพ่ายแพ้อย่างนั้น ทำให้โยชัวขมวดคิ้วเข้าหากันจนกลายเป็นปม

ทั้งเป็นห่วงทั้งไม่พอใจ ความคิดสองอย่างนี้ตีกันให้วุ่น แต่เพราะพี่ชายทั้งสองพร้อมที่จะปะดาบกันแล้วเด็กหนุ่มจึงหุบปากเงียบ ไม่โวยวายต่อว่าการกระทำที่ไม่เข้าท่าของชาฮาร์ ด้วยความเข้าใจว่าชายหนุ่มก็น่าจะมีอาวุธประจำตัวที่ทรงพลังด้วยเหมือนกันแต่ไม่ยอมเอาออกมาใช้

แคร้ง

เสียงดาบประทะกันดังขึ้นต่อเนื่อง ลูเซียในตอนนี้ตั้งใจลงดาบใส่ชาฮาร์รุนแรงมากเป็นพิเศษ แน่นอนว่าความแม่นยำ ปราดเปรียว และความหนักหน่วงที่ใช้จู่โจม ทำให้ชาฮาร์ที่เป็นเป้าหมาย ทำได้แต่ตั้งรับเพียงอย่างเดียว

ฝีมือต่างกันถึงขนาดนี้เชียวเหรอ?

โยชัวแทนที่จะรู้สึกชื่นชมในความเก่งกาจของลูเซีย กลับปวดร้าวในอกที่ต้องเห็นชาฮาร์ถูกรุกไล่จนไร้ทางตอบโต้
ที่ร้ายไปกว่านั้นเพราะอะไรไม่ทราบ เจ้าชายแห่งสวรรค์อยู่อยู่ก็ไม่สบอารมณ์ขึ้นมา ใบหน้าที่มักเยือกเย็นอยู่เสมอแปลสภาพเป็นดุดันจนเด็กหนุ่มยังรู้สึกแปลกใจ

พริบตานั้นออร่าที่เคลือบดาบพิฆาตราชันย์ ดูเฉียบคมขึ้น แค่มองดูก็รู้ว่ามันเต็มไปด้วยพลังทำลายที่อัดแน่น

แย่แล้ว! ถ้าถูกฟันด้วยดาบแบบนี้ ชาร์คงจะเจ็บตัวหนักแน่ๆ

“ชาร์………”

โยชัวตะโกน  ภาพลูเซียที่วาดดาบทรงพลังเข้าใส่ชาฮาร์ กลายเป็นการเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ เสี้ยววินาทีนั้นออร่าที่มีพลังมหาศาลก็อัดแน่นลงบนดาบของเจ้าชายผู้ที่ถูกไล่ต้อน รุนแรงจนแม้แต่โยชัวยังรู้สึกตกใจ

ในจังหวะที่ดาบของพี่ชายทั้งสองปะทะกัน  ก็เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง ลมที่เกิดจากการแรงอัดกันของดาบ ตีวงออกกว้างพัดโหมรุนแรงจนผมเผ้าและเสื้อผ้าของโยชัวปลิวไสว ความแรงของลมทำให้เด็กหนุ่มต้องหยีตามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พอทุกอย่างสงบ โยชัวเห็นลูเซียกับชาฮาร์ยืนจ้องหน้ากันในสภาพที่ต่างลดดาบ แน่นอนว่าทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่ดาบของเจ้าชายผู้เจิดจรัสนอกจากจะหักครึ่งแล้ว ยังค่อยๆหมดสภาพด้วยการแตกสลายผุผังกลายเป็นฝุ่นผง

   “ขอบคุณที่ชี้แนะครับ”
   
ชาฮาร์แสดงความเคารพลูเซียที่มีสีหน้าไม่พอใจอย่างยิ่งยวด แต่หลังจากที่เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจทำให้พิฆาตราชันย์หายไป ใบหน้าของชายหนุ่มก็กลับมาเยือกเย็นดุจน้ำแข็งเช่นเดิม

   “ทำแบบนี้ถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลยซักนิด ไม่อยากแสดงความสามารถที่แท้จริง หรือแค่เกรงกลัวภาพลักษณ์ที่ฉาบไว้จะลอกออก”
   
โยชัวงุนงงกับคำต่อว่าที่แสนเย็นชาของลูเซีย ถึงแม้เด็กหนุ่มจะวิ่งเข้ามายืนขนาบข้าง พี่ชายทั้งสองก็ยังทำเสมือนเขาไม่มีตัวตน คนตัวเล็กรู้สึกถึงแรงกดดันของลูเซีย ซึ่งแผ่พุ่งเข้าหาชาฮาร์ที่ค้อมคำนับรับคำต่อว่าของพี่ชายด้วยใบหน้าเรียบเฉย
   
โยชัวเข้าใจว่าชาฮาร์คงจะออมมือ ดูจากการปะทะกันเมื่อครู่ ต่อให้โง่แค่ไหน ก็น่าจะจินตนาการความร้ายกาจของเจ้าชายผู้เจิดจรัสออก
   
คงไม่อยากแข่งขันกับพวกพี่ชายสินะ
 
โยชัวไม่คิดว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสจะเป็นพวกคิดละเอียดอ่อนถึงขนาดนั้น แต่ท่าทางที่ไม่คลายจากความโกรธของลูเซียต่างหาก ที่เป็นปัญญาเฉพาะหน้าซึ่งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

เล่นมองชาฮาร์ด้วยแววตากดดันถึงขนาดนั้น
บรรยายกาศอึมครึมเลวร้ายนี่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดไปหยุดอยู่ที่ตรงไหน

“เอ่อ….คือว่า….นี่มันก็เย็นมากแล้ว ท่านพี่ลูเซียข้าหิว แถมเหนียวตัวมากอยากกลับไปอาบน้ำแล้วล่ะครับ”

โยชัวเอ่ยขัดบรรยากาศแย่ๆด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ ลูเซียที่กรุ่นโกรธเปลี่ยนสีหน้าท่าทางกลับมาพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากลูเซียให้กลับปราสาทได้ โยชัวก็จูงมือชาฮาร์ที่มีสีหน้าเรียบเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวให้เดินตาม
เพราะอีกฝ่ายเงียบไม่พูดไม่จาจนดูผิดปกติ เด็กหนุ่มที่เริ่มจะลำบากใจ จึงขุดเรื่องไร้สาระมาพูดไม่หยุด ก่อนจะกลายเป็นการเปิดฉากอวยลูเซียผู้เพียบพร้อม ด้วยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเจ้าชายผู้เจิดจรัสดี ในเมื่อพูดอะไรไปชายหนุ่มก็ดูจะไม่ตอบสนอง

“โยชัวชอบท่านพี่ลูเซียเหรอ”

โยชัวอุทานดัง’เอ๊ะ’กับคำถามของชาฮาร์ เด็กหนุ่มจำต้องหยุดเดินแล้วหันไปมองคนที่พยายามขืนตัวเอาไว้จนไม่สามารถจูงมือเดินหน้าต่อไปได้

“พูดอะไรน่ะ”

โยชัวขมวดคิ้ว ไม่ชอบใจนิดๆที่ชาฮาร์พูดจาไร้สาระ แต่ถ้าถามเขาว่า’ชอบลูเซียไหม?’ แน่อยู่แล้วว่าต้องชอบใครๆก็อยากมีพี่ชายที่ใจดีและสุดยอดแบบนั้นทั้งนั้น

“อืมชอบสิ”

โยชัวตอบ แทบจะในทันทีเด็กหนุ่มถูกชาฮาร์กระตุกร่างดึงเข้าไปโอบกอด เจ้าชายผู้เจิดจรัสกอดรัดเขาแน่นจนรู้สึกเจ็บนิดๆและอึดอัด

“ข้ารักเจ้า”
ชาฮาร์กระซิบทั้งที่ยังกอดรัด
โยชัวไม่รู้ว่าคนที่กำลังกอดทำสีหน้าเช่นไร แต่น้ำเสียงของชายหนุ่มดูปวดร้าวและหวาดกลัว

“พูดอะไรเนี้ย! ไม่รู้สึกว่าเจ้าชอบข้าเร็วเกินไปเหรอ ก่อนที่จะออกจากคุกเราอยู่ด้วยกันแค่ไม่กี่วันเองนะ”

โยชัวพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอด หากแต่วงแขนที่รัดแน่นปานคีมเหล็ก ทำให้เด็กหนุ่มตระหนักว่าดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์

“อีกอย่าง….สมมุตินะว่าข้าที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่ข้า ไม่สิหลักๆเลยคือข้าไม่ใช่คนที่เจ้าปรารถนา ตัวตนที่แท้จริงของข้ากับคนที่เจ้าชอบ…..รูปลักษณ์ของข้าตอนนี้มัน…….”
โยชัวเปลี่ยนประโยคคำพูดไปมาอย่างสับสน

สำหรับเด็กหนุ่มแค่มีผู้ชายด้วยกันมาสารภาพรักก็วุ่นวายมากพอแล้ว แต่นี่เขาไม่รู้ว่า’ชาฮาร์ชอบตนเองที่มีรูปร่างของน้องชาย?’ ‘ เพราะว่าเข้าใจว่าเขาเป็นน้องชาย?’ หรือว่าอะไรกันแน่
และ ยิ่งไม่เข้าใจ ระยะเวลาเพียงเท่านี้มันเป็นไปได้จริงๆนะเหรอ? ที่คนคนหนึ่งจะตกหลุมรักใครอีกคนหนึ่งได้ถึงขนาดตัดสินใจสารภาพรัก
โยชัวเคยคิดว่ารักแรกพบเป็นแค่เรื่องตลก พอประสบเข้ากับตัวจริงๆ เด็กหนุ่มก็ไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตัวยังไง

“ไม่สำคัญหรอกนะ ไม่ว่าจะเวลาหรือรูปลักษณ์เจ้าจะเป็นแบบไหน ที่ข้าชอบก็คือเจ้าในตอนนี้ คนที่อยู่กับข้าเวลานี้ เจ้าที่มีจิตวิญญาณที่ไม่เคยแปรเปลี่ยน”

“พ….พูดอะไรชวนงงมากเลยนะ”

โยชัวเอ่ยตะกุกตะกัก ทั้งที่รู้สึกตื้นตันอยู่บ้างกับคำบอกรัก ทว่าเนื้อหาคำพูดที่ชวนปวดหัว ทำให้เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าชาฮาร์ต้องการจะสื่ออะไร

ในตอนนั้นเอง เพราะจิตใจที่เริ่มสงบลง โยชัวถึงได้รู้ว่าร่างของคนที่กำลังกอดรัดเขา สั่นเทาอยู่นิดๆ

ไม่ใช่เพราะว่าหนาวแน่ๆ กลัวงั้นเหรอ?
ก็ไม่แปลกหรอก หากให้เขาไปสารภาพรักกับผู้หญิงซักคน ตัวเขาเองก็คงจะสั่นพับพับด้วยความอับอายเหมือนกัน

ทั้งที่คิดว่าการกระทำและความคิดของชาฮาร์วิตถารแท้ๆ แต่โยชัวก็ใช้มือลูบแผ่นหลังของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน จังหวะที่ใช้มือปลอบประโลม ก็ถูกจู่โจมด้วยภาพความทรงจำของชายหนุ่ม

“ท่านพี่เป็นพ่อยังไงก็ต้องสนับสนุนชาฮาร์ ให้เป็นราชาปีศาจองค์ต่อไป ท่านก็รู้นี่เรนเดลว่ามันเป็นความปรารถนาของข้า”

ชาฮาร์มองดูอมันด้าผู้เป็นมารดาจากหลังผ้าม่าน ดูคลับคล้ายว่าเจ้าหล่อนจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายของตนกำลังแอบดูอยู่ ที่เป็นเช่นนั้นเด็กชายเข้าใจว่า เพราะท่านลุงเรนเดลได้สอนวิธีการกลบกลิ่นไอให้กับเขาเมื่อสองเดือนก่อน

ไม่สิ จะเรียกท่านลุงไม่ได้อีกแล้ว ก็ในเมื่อท่านแม่พูดออกมาเองว่าคนที่นับถือยิ่งกว่าชีวิต แท้จริงแล้วเป็นพ่อของเขา

ชาฮาร์รู้สึกเสียใจนิดๆที่ตนเองเป็นเด็กที่เกิดมาจากการคบชู้ของแม่ หากแต่ความยินดีกลับมีมากกว่า สำหรับเด็กชาย ท่านพ่อที่แท้จริงผู้นี้ ทำหน้าที่สั่งสอนเขาได้ดีกว่าท่านพ่อในนามที่เป็นถึงราชาปีศาจเสียอีก

“นั่นเป็นเพราะเจ้ามาออดอ้อน อยากให้ทายาทที่เกิดจากสายเลือดบริสุทธิ์ของเผ่าพันธุ์เรา ได้ปกครองเป็นราชาที่แท้จริง หากข้าไม่คิดว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ล้างแค้นโดโนแวน ข้าคงไม่คิดที่จะยินยอมสมสู่กับเจ้า”

ชาฮาร์มองดูเรนเดล เจ้าชายเผ่าหมาป่าอสูรผู้ที่เคยเป็นแม่ทัพและถูกวางตัวให้เป็นราชาปีศาจองค์ต่อจากท่านตาของเขาผู้ล่วงลับ ก่อนที่จะถูกทำลายไปสิ้นด้วยความทะเยอเยอทะยานไม่สิ้นสุดของโดโนแวน

“ว่าแต่หนทางที่จะทำให้เจ้าสมหวังไม่ได้มีแค่การผลักดันชาฮาร์ เจ้ายังมีลาซารัสอยู่ไม่ใช่หรือไง”
เรนเดลพูดก่อนจะยกจอกเหล้าขึ้นดื่มอึกใหญ่

“ลาซารัสน่ะไม่ได้หรอก”
อมันด้ามีสีหน้าลำบากใจ เจ้าหล่อนแสดงท่าทีหวาดกลัวด้วยการโอบกอดร่างของตัวเองที่สั่นระริก

“เจ้าเด็กนั่นกำลังคิดอะไรอยู่ข้ายังไม่รู้เลย”

“เจ้าเองก็อ่านใจชาฮาร์ไม่ได้เหมือนกันนี่ เพราะงั้นแทนที่จะฝากความหวังกับชาฮาร์ ลาซารัสที่หน่วยก้านดีกว่า น่าจะเป็นราชาที่ดีหลังจากกำจัดโดโนแวนได้”

“อะไรของท่าน….”

อมันด้าตวาดเสียงกร้าว เจ้าหล่อนหงุดหงิดเอามากๆ ก่อนจะฉุกคิดได้อะไรบางอย่าง แล้วหัวเราะเสียงแหลมสูงด้วยท่วงท่าที่ดูยั่วยวน

“ท่านคงจะเป็นห่วงชาฮาร์เพราะเป็นลูกในไส้สินะ…..อย่ามาขัดขวางความเจริญของลูกข้าจะดีกว่า หมาขี้แพ้อย่างท่านแค่มอบกำลังสนับสนุนของเผ่าเราให้ชาฮาร์ก็พอ”

ภาพใบหน้าเย้ยหยันของอมันด้าค่อยๆเลือนหาย เวลานี้ชาฮาร์ในวัยสิบขวบกำลังถอนหายใจโดยมีเหล่าเมดสาวมองดูด้วยความเป็นห่วง

“ไปหาท่านลุงเรนเดลดีหรือเปล่าคะท่านชาฮาร์”

สาวเมดถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม หากแต่ชาฮาร์กลับไม่สนใจ เจ้าชายผู้เจิดจรัสเฝ้าแต่คิดถึงเด็กชายผู้เคยเลี้ยงดูเขาในร่างลูกสุนัข
ถึงแม้จะเป็นเวลาแค่เพียงห้าวัน แต่ความน่ารักของเด็กคนนั้น ทำให้เขาอยากจะกลับไปพบอีกครั้งจนแทบจะดิ้นทุรนทุราย ทั้งที่พึ่งจะกลับมาที่โลกนี้แค่สามวันเพียงเท่านั้น

“อยากทำอะไรก็ทำเลยสิคะ ถ้าเกิดว่าต้องมาเสียดายแบบนี้ สู้ทำในสิ่งที่ปรารถนาให้ถึงที่สุดถึงจะเรียกได้ว่าไม่เสียชาติเกิด”

ลอร่าเมดสาวสวมแว่น ซึ่งเป็นพี่เลียงที่ไกล้ชิดและเข้าใจชาฮาร์มากที่สุดเอ่ยสั่งสอน
คำพูดของลอร่าจุดประกายความคิดให้ชาฮาร์ จนในที่สุดเจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ตัดสินใจกลับไปหาเด็กชายผู้เป็นเจ้าของเขาในโลกนั้นอีกครั้ง

ภาพเหตุการณ์ในความทรงจำถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

ชาฮาร์ในร่างลูกสุนัข กำลังเล่นโคลนกับเด็กชายที่ตอนนี้เปื้อนโคลนมอมแมม จนไม่รู้แล้วว่าเป็นใครและมีตำหนิบนใบหน้าแบบไหน

ดูเหมือนว่าการกลับมาของชาฮาร์จะทำให้เด็กชายดีใจมาก ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่ลูกสุนัขก็ดอดมาเล่นสนุกกับเจ้าของของมันทุกวันอย่างสม่ำเสมอ

“สนุกกันใหญ่เลยนะ”

ชาฮาร์ที่คลอเคลียขาเจ้าของไปมาหยุดชะงัก เสียงที่ทรงพลังและเย้ายวนแบบนั้นไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้นอกจากพี่ชายผู้แสนชั่วร้าย ชาฮาร์ขู่คำรามลาซารัสอย่างดุดันด้วยร่างที่ยังเป็นลูกสุนัข

“พี่ชายเป็นใคร? นี่มันสวนของคุณย่า นอกจากคนงานแล้วไม่น่ามีคนอื่น”
เด็กชายเปื้อนโคลนถาม

ทั้งที่ลาซารัสในเวลาปกติ คงจะไม่รีรอกลั่นแกล้งเด็กชายที่บังอาจเอ่ยถามตัวตนของเจ้าชายปีศาจ ด้วยชาติกำเนิดที่ตำต้อยกว่า กลับกันรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนและดูจริงใจของลาซารัส ทำเอาชาฮาร์ขนลุกซู่ แล้วครางหงิงๆออกมาด้วยเสียงของลูกสุนัข

“เจ้านี่มันเป็นคนนะ”

เสียงอุทานในใจของชาฮาร์และเสียงของเด็กชายเปื้อนโคลนร้องออกมาพร้อมเพียงกันดัง’อ๊ะ’

“จริงเหรอ?”
เด็กชายถามก่อนจะเอียงคอมองดูชาฮาร์

ลูกหมาน้อยชาฮาร์หวาดกลัวจนตัวสั่น เขาไม่อยากให้เด็กชายผู้เป็นเจ้าของรังเกียจตัวเอง อยากจะสนิทสนมอยู่ข้างๆไปเรื่อยๆ แค่ร่างลูกสุนัขแบบนี้ก็ได้ เจ้าชายผู้เจิดจรัสไม่หวังมากไปกว่านั้นหรอก

ทั้งๆที่มันกำลังจะเป็นไปได้ด้วยดี
ทำไม?เจ้าลาซารัสถึงต้องโผล่มาตอนนี้ด้วย

“คืนร่างซะชาฮาร์”

ลาซารัสออกคำสั่ง ถึงแม้ชาฮาร์จะพยายามฝืนตัว แต่น้ำเสียงทรงพลังลึกลับดังซ้ำไปมาในหัว ทำให้ลูกสุนัขกลายร่างเป็นเด็กชายเปลือยเปล่า ถึงแม้ว่าจะมีอายุแค่สิบขวบ ทว่าร่างกายสูงใหญ่เกินวัยไม่ต่างจากลาซารัส ที่มีอายุถึงสิบสามปีเต็ม
เมื่อความเป็นจริงถูกเปิดเผย ชาฮาร์ก็ระเบิดน้ำตาร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร โดยมีลาซารัสยืนหัวเราะชอบใจเป็นฉากหลัง

อยากจะหนีไปซะให้พ้นๆ แต่ว่าก็อับอายจนเกินจะก้าวขาออก

ในตอนนั้นเอง เด็กชายที่ชาฮาร์ปรารถนาจะอยู่ใกล้ๆตลอดไป ยื่นผ้าเช็ดหน้าที่ยังสะอาดอย่างไม่น่าเชื่อมาให้

“อย่าร้องไห้นะ”

ชาฮาร์มองดูคนพูดที่กำลังยิ้มนิดๆ ก่อนจะรับผ้าเช็ดหน้ามา เด็กชายเปื้อนโคลนตรงหน้าดูจะไม่ใส่ใจความผิดปกติของเจ้าชายผู้เจิดจรัสเลยซักนิด นอกจากนั้นยังแสดงออกด้วยความว้าวุ้นใจ เรื่องที่จะหาเสื้อผ้าจากไหนมาให้เขาที่ยืนเปลือยเปล่าสวมใส่

“ข้าหาให้เอาไหม”
ลาซารัสพูดยิ้มๆหลังจากหัวเราะร่วนด้วยความสนุกจนสาแก่ใจ

“จะหาให้จริงเหรอ?แน่ใจนะว่าจะไม่แกล้งลูกหมาของผม”

ชาฮาร์ร้องคำว่า’เห็นด้วย’ในใจ ลาซารัสทำแค่เพียงยักไหล่ก่อนจะหายตัวไปด้วยการเทเลพอร์ตแล้วกลับมาอีกครั้งพร้อมเสื้อผ้า

“ใส่ซะ”

ลาซารัสโยนเสื้อผ้าให้ชาฮาร์
เสื้อผ้าที่พี่ชายผู้ชั่วร้ายหามาให้พอดีตัวจนชาฮาร์รู้สึกแปลกใจ

“เท่านี้ก็ไปเล่นกันต่อได้แล้วนะ”

เด็กชายที่เปื้อนโคลนจนมอมแมมฉีกยิ้ม มือเล็กคว้ามือชาฮาร์เตรียมออกวิ่ง แต่ก็หยุดชะงัก เด็กชายมองดูลาซารัสที่ยืนยิ้มยั่วเย้า แล้วยื่นข้อเสนอที่ทำให้ชาฮาร์ค่อนข้างไม่ชอบใจ

“พี่ชายเหมือนจะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยนะ ก็นิสัยไม่ค่อยดีนี่เนอะ เล่นด้วยกันหลายคนมันสนุกกว่า พี่ชายไปเล่นกับพวกเราเถอะ”

วินาทีนั้นลาซารัสก็เผยอยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ชาฮาร์คิดว่าตลอดชีวิตก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นอีก

น่ากลัวแฮะ

ชาฮาร์คิดวนเวียนอยู่อย่างนั้นก่อนจะลืมเลือนไปเมื่อได้เล่นสนุกอย่างเด็กๆด้วยกันสามคน


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่11 แล้งค่ะ

ตอนหน้าอาจจะซักห้าหรือหกวันอย่างช้า

แต่ถ้าเราพิมทันก็สองถึงสามวันเหมือนเดิมจะเอาตอนต่อไปมาลงค่ะ

รักคนอ่านค่ะ

หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 28-05-2015 10:20:53
อ่านะ  อย่างไงลาซาลัสก็เคยเป็นเด็กมาก่อนอยู่ดี

ลาซาลัสนำไปหนึ่งแต้มแล้ว แต่คนอื่นนี่ยังอยู่ใระยะปับปี้เลิฟอนุบาลกันอยู่เลยนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 28-05-2015 10:22:35
เด็กน้อยนี่คือโยชัวแน่เบยยยยย
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 28-05-2015 10:32:46
พี่ชายเหมือนจะไม่มีเพื่อนเล่นด้วยนะ ก็นิสัยไม่ค่อยดีนี่เนอะ 

อ่านประโยคนี้แล้วขำ 5555555555
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 29-05-2015 10:02:25
ชักอยากรู้แล้วว่าเด็กคนนั้น จะใช่ โยชัวไหมนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 29-05-2015 15:56:10
เด็กคนนี้จะใช่โยชัวมั้ยนะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 29-05-2015 20:29:26
นี่บอกตรงๆ นะ ถึงเนื้อเรื่องจะมีถึงแค่ตอนนี้
แต่ในสมองตอนอ่าน จินตนาการถึงฉากจบแล้วว่าจะเป็นแบบไหนนน
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 29-05-2015 21:50:08
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 30-05-2015 23:57:00
รอตอนต่อไปจ้า  :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 31-05-2015 21:10:45
 :laugh:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่11 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><28/5/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 01-06-2015 06:43:34
ตอนที่12

   สายลมหนาวพัดเส้นผมสีดำขลับให้ปลิวสยายไปตามลม โยชัวที่อยู่เพียงลำพังบริเวณระเบียงในห้องนอน เหม่อมองดวงดาวที่เกลื่อนท้องฟ้ายามค่ำคืน

   ข้ารักเจ้า

   จนถึงตอนนี้ แม้จะเป็นเวลาดึกมากแล้ว แต่โยชัวก็ไม่อาจสลัดคำพูดหวานหูของชาฮาร์ ที่นำมาซึ่งความลำบากใจไปจากความคิด  ทว่าคำพูดที่ออกมาจากปากก็เป็นเพียงแค่คำพูด เทียบไม่ได้กับความทรงจำของเจ้าชายผู้เจิดจรัส ที่ล้วนแล้วแต่เป็นความจริง และตัวเขา ก็รับรู้ความในใจของชายหนุ่มอย่างทะลุปรุโปร่ง

   เด็กชายที่เห็นในความทรงจำของชาฮาร์ตลอดหลายครั้ง  เด็กคนนั้นเป็นผู้ที่ชายหนุ่มคิดคำนึงอยากจะอยู่ด้วยกันตลอดไป  ถึงในความทรงจำเจ้าชายผู้เจิดจรัสจะยังไร้เดียงสา จนไม่รู้ว่าความรู้สึกเช่นนั้นมันคืออะไร

   แต่สำหรับโยชัวที่ถึงแม้จะอายุแค่เพียงสิบห้า  เด็กหนุ่มก็ได้สัมผัสกับสถานการณ์สมมุติหลากหลายรูปแบบผ่านสื่อบันเทิงมากมายจนแน่ใจว่า  สิ่งที่ชาฮาร์รู้สึกกับเด็กชายที่ตัวเขาเองไม่เคยได้เห็นโฉมหน้าก็คือความรักไม่ผิดแน่นอน
   
โยชัวไม่เข้าใจ ทั้งที่ในความทรงจำชาฮาร์ถวิลหาเด็กชายคนนั้นถึงเพียงนี้ แล้วทำไมถึงบอกรักเขา ที่พึ่งใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้แค่ไม่กี่วัน

   “เจ็บแฮะ”

โยชัวเอามือกุมบริเวณหน้าอก ความปวดแปลบเพียงชั่วเสี้ยว ถึงจะพอรู้อยู่บ้างว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร แต่เด็กหนุ่มก็เลือกที่จะไม่สนใจมัน
   
ชาฮาร์อาจจะเข้าใจความรู้สึกของตัวเองผิดไป จะว่าไปในความทรงจำของอีกฝ่าย เจ้าชายผู้เจิดจรัสดูปลื้มกับโยชัวคนเดิมอยู่มาก อาจเป็นเพราะความเหงาและสงสาร ชายหนุ่มก็เลยสารภาพรักกับเขา ทั้งที่เข้าใจผิดคิดว่าความห่วงใยแบบพี่น้องคือความรักที่แท้จริง

   “ยืนตากลมอยู่แบบนี้ไม่หนาวงั้นเหรอ”
   
โยชัวหันไปมองลาซารัสที่ยืนส่งยิ้มยั่วเย้ามาให้ เพราะเด็กหนุ่มอยู่ในอารมณ์ที่ไม่สู้จะดีนัก บวกกับคุ้นชินในความหน้าด้านเอาแต่ใจ อีกทั้งยังไม่สามารถต่อต้านขัดขืนอีกฝายได้ คนตัวเล็กจึงไม่ตื่นกลัวและเลือกจะกลับไปครุ่นคิดอย่างเหม่อลอยอีกครั้งขณะที่ยืนดูดาว

   “เกิดอะไรขึ้น?”
   ลาซารัสตั้งคำถามพร้อมกับโอบกอดโยชัวจากทางด้านหลัง
   
แม้ว่าคำพูดของเจ้าชายปีศาจจะไม่ได้เจาะจงบังคับ แต่ถ้าชายหนุ่มต้องการแล้วล่ะก็  โยชัวเข้าใจว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางขัดขืนได้สำเร็จ ก่อนที่จะถูกล้วงความลับเกินความจำเป็นสู้บอกออกไปเองซะจะได้จบเรื่อง

“ถูกชาฮาร์บอกรัก”

เสียงหัวเราะเบาๆอย่างสนุกสนานดังขึ้นหลังโยชัวพูด ลาซารัสกระชับอ้อมแขนแน่นเข้าพร้อมกับใช้มือข้างหนึ่งเล่นผมเส้นเล็กนุ่มนิ่มของคนในอ้อมกอดอย่างเพลินมือ

“ลำบากใจอย่างนั้นเหรอ? รังเกียจชาฮาร์หรือไง”

“เพราะไม่ได้รังเกียจไง ถึงได้กลุ้มใจ”
ลาซารัสหัวเราะอีกครั้งอย่างรื่นรมย์เมื่อได้ฟังคำตอบ ก่อนที่ชายหนุ่มจะพลิกโยชัวให้หันมาเผชิญหน้าทั้งที่ยังกอดรัด

“แล้วถ้าพี่ชายคนนี้บอกว่ารักเจ้าเหมือนกันล่ะ”

โยชัวเบิกตากว้างเพราะไม่อยากจะเชื่อ และยิ่งเห็นรอยยิ้มที่ยียวนของลาซารัสยิ่งทำใจให้เชื่อไม่ได้เข้าไปใหญ่ ทว่าในตอนนั้นเด็กหนุ่มก็ถูกเล่นงานด้วยภาพความทรงจำของเจ้าชายปีศาจ

“อ้า…….”

อมันด้าครวญครางพร้อมกับบิดระทวยอยู่ใต้ร่างลาซารัส ขณะที่มารดาผู้มีรูปโฉมงดงามทั้งหวีดร้องทั้งออกคำสั่งให้ปรนเปรอความสุขกับตนเองอย่างร้อนร่าน ผู้เป็นบุตรอย่างลาซารัส ทั้งที่กำลังประกอบกิจกรรมทางเพศ นอกจากความรู้สึกดีที่เป็นความสุขทางกายแล้ว ในหัวของเจ้าชายปีศาจผู้มีใบหน้าลึกลับเย้ายวนกลับว่างเปล่าไร้ความคิด
และถึงแม้ว่าลาซารัสจะยิ้มเย้ายั่วยวน ทั้งยังพูดจากระตุ้นให้อมันด้าเกิดความพึงพอใจ หากแต่ความว่างเปล่าของจิตใจ ทำให้โยชัวขนลุกชันด้วยความหวาดผวา

ไม่มีอะไรเลยเหรอ? ไม่มีความคิดเลยแม้แต่นิดเดียว

คนคนนี้น่ากลัว! สามารถทำเรื่องผิดศีลธรรมได้อย่างไม่รู้สึกผิด

ผู้ชายคนนี้สามารถโกหกหลอกลวงได้อย่างไม่คิดอะไร

ช่วงเวลาที่โยชัวหวาดกลัวกับความว่างเปล่าของลาซารัส ภาพความทรงจำที่อยู่รอบตัวเด็กของหนุ่มก็ถูกสับเปลี่ยน
ดวงอาทิตย์ยามเย็นที่สวยงาม ท่ามกลางทุ่งดอกลิลี่สีขาวที่ผลิบานเป็นจำนวนมาก ลาซารัสมองดูใบหน้าของเด็กชายที่ถูกสะท้อนแสงจนเห็นใบหน้าไม่ชัดด้วยรอยยิ้ม

“จะไม่ได้พบกันอีกแล้วงั้นเหรอ”

เด็กชายผู้ถูกแสงตะวันบดบังใบหน้าถามชาฮาร์ซึ่งมีใบหน้าบิดเบี้ยว ภาพน้องชายอายุสิบสาม หากแต่ตัวใหญ่ยักษ์จนเกือบจะเทียบเท่าเขาที่อายุสิบหก การที่ชาฮาร์พยายามกลั้นน้ำตาอย่างเต็มความสามารถ ถ้าเป็นเวลาปกติ ลาซารัสคงไม่รอช้าที่จะกลั่นแกล้งน้องชายให้ร้องไห้จนสาแก่ใจ  แต่ในตอนนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่มีอารมณ์จะทำแบบนั้น

“เข้าใจเรื่องที่กำลังลำบากไม่ได้ทั้งหมดหรอกนะ แต่ถ้าการที่ไม่ได้พบกันอีก จะทำให้อะไรๆมันดีขึ้น ผมก็คงจะเอาแต่ใจไม่ได้”

คิดถึง…เสียใจ…น้อยใจ

เพราะว่าลาซารัสเกิดมาก็ไม่เคยมีสิ่งมีชีวิตไหนที่ไม่สามารถอ่านความคิดได้ จะมีก็แต่น้องชายที่เกิดจากมารดาที่เป็นมนุษย์เท่านั้น ดังนั้นความรู้สึกของเด็กชายร่างเล็กผู้ซึ่งกุมหัวใจของชาฮาร์เอาไว้อย่างแน่นหนา จึงส่งผ่านให้เขารู้ว่าร่างเล็กเองก็เจ็บปวดที่ต้องแยกจากกัน

“พี่ลาซารัสก็จะไม่มาหาผมด้วยเหมือนกันสินะ”

เด็กชายผู้ถูกแสงอาทิตย์บดบังใบหน้าหันกลับมาพูดคุยกับลาซารัส ใบหน้าที่พยายามอดกลั้นไม่ยอมร้องไห้ เจ้าชายปีศาจมองดูด้วยความปวดใจ

เส้นผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตากลมโต ใบหน้าที่น่ารัก ซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา ช่างงดงามเกินกว่าจะเอาไปเทียบกับสิ่งใด ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเข้าใจในรสนิยมความงามของเขา หากแต่ตัวตนของเด็กคนนี้จะถูกเก็บไว้ในความทรงจำของลาซารัสตลอดไป ที่ต้องทำแบบนี้ ทั้งหมดเพื่อเด็กชายที่พวกเขาอยากจะปกป้อง

แต่ทว่า ความคิดดำมืดที่ผุดขึ้นมากลางใจ ความต้องการที่แผดเผาอยู่ในอกจนแทบดิ้นพล่าน มันร่ำร้องเตือนตนเองให้ทำสิ่งที่ตรงกันข้าม แน่นอนว่าไม่ใช่ความคิดของเจ้าชายปีศาจแค่ผู้เดียว ไอ้ความคิดก้าวร้าวดุดันของชาฮาร์ ความปรารถนาด้านลบของน้องชายที่คลานตามกันมา กระตุ้นความดิบเถื่อนหยาบช้าอันเป็นรากเหง้าของเผ่าพันธุ์แห่งความมืด ให้สำรอกตัณหาที่ไม่สิ้นสุดออกมาจนแทบกลืนมันกลับไปไม่หมด

ไม่มีวันปล่อยมือไปอย่างเด็ดขาด

ต่อให้ต้องทำร้ายหรือทำให้เด็กคนนี้ต้องเสียใจ

‘รัก’ คำคำนี้ต่อให้พูดอีกเป็นหมื่นเป็นแสนคำ ก็ไม่สามารถแทนที่ความรู้สึกที่ระอุอยู่ภายใน ทั้งที่ปีศาจอย่างเขาไม่น่าจะเกิดความคิดที่ไร้สาระเช่นนี้ แต่ในเมื่อมันบังเอิญเกิดขึ้นมาแล้ว ก็มีแต่จะต้องทำใจยอมรับกับความรู้สึกที่แปลกประหลาดจนเหลือเชื่อ

“เมื่อถึงเวลาเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง”

“สัญญานะ”

ถึงแสงอาทิตย์จะย้อนจนบดบังใบหน้าของคู่สนทนา แต่ความรักที่เด็กชายตรงหน้ามี ก็ท้วมท้นออกมาจนลาซารัสรับรู้ได้ เด็กคนนี้มีรักให้เขากับชาฮาร์ ความคิดที่อยู่ในหัวมันบอกชัดถึงเพียงนั้น

“ตกลงว่าจะตอบรับความรู้สึกของพี่ชายคนนี้ยังไง”

หลังจากหลุดออกมาจากความทรงจำ ดวงตาที่กลับมาแจ่มใสอีกครั้ง จดจ้องลาซารัสที่มีรอยยิ้มซุกซนเกลื่อนใบหน้า

จะชาฮาร์ก็ดี…ลาซารัสก็ดี…ทั้งที่มีคนรักเพียงหนึ่งเดียวอยู่ในใจแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังมาบอกรักเขา ราวกลับได้ลืมเลือนคนรักในความทรงจำไปเสียสิ้น กับชาฮาร์ที่มีนิสัยตรงไปตรงมา การที่มาหลงรักเขาก็ยังมีปัจจัยพอเป็นไปได้ แต่ลาซารัสนี่สิ นอกจากจะต้องรับมือกับนิสัยที่ดีดีร้ายๆ คำพูดบอกรักที่พูดออกมาเมื่อครู่ โยชัวคิดว่าเชื่อถือไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

“คนที่คุณรักจริงๆคือใครกันแน่”

ลาซารัสเลิกคิ้วกับท่าทางแข็งกร้าวอย่างเฉียบพลันของโยชัว

“เด็กผู้ชายคนนั้นคือใครกัน? มีคนที่รักอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

โยชัวมองดูลาซารัสที่นิ่งงันไปอย่างไม่เคยเป็น ดูท่าว่าคำพูดของเด็กหนุ่มจะแทงใจเจ้าชายปีศาจ ใบหน้าที่ตกใจอย่างคาดไม่ถึงนี้ หากไม่ใช่ สีหน้าที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกที่แท้จริง เห็นทีว่าชายหนุ่มคงจะเป็นปีศาจหลายบุคลิก ถ้าไม่อย่างนั้น ก็ไม่รู้ใช้อะไรมาอธิบายการกระทำของเจ้าชายปีศาจทั้งในความทรงจำและในเวลาปัจจุบัน

“ว่ายังไงล่ะ”

โยชัวเอ่ยกดดัน เด็กหนุ่มเตรียมใจรับความโกรธที่อาจจะเกิดขึ้นของลาซารัส  หากทว่า เจ้าชายปีศาจกลับเผยอยิ้มที่ทำให้เขาตื่นตะลึง รอยยิ้มซึ่งไม่ควรเป็นของคนที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและวิกลจริต

โยชัวชมดูรอยยิ้มที่สวยงามเช่นนั้นด้วยความเผลอไผลจนลืมทุกอย่างไปเสียสิ้น ลืมแม้กระทั้งการควบคุมตัวเอง เด็กหนุ่มปล่อยให้เจ้าของรอยยิ้มที่น่าตื่นตะลึง จุมพิตแผ่วเบาบนริมฝีปาก หลังจากลาซารัสถอนจูบ เจ้าชายปีศาจออกคำสั่งเขาด้วยเสียงเย้ายวนจนแทบใจสั่น

“นอนซะ…”

คำพูดของลาซารัส ถ้าเป็นในเวลาที่ปกติโยชัวก็คงจะต่อต้าน แต่คงเป็นเพราะรอยยิ้มที่ไม่คาดว่าจะได้เห็น เด็กหนุ่มจึงผล็อยหลับอย่างว่าง่าย โดยที่เจ้าชายปีศาจช้อนตัวอุ้มนำไปวางลงบนเตียงอย่างเบามือ
โยชัวรู้สึกตัวถึงเพียงเท่านี้ ก่อนจะหลับลึกแล้วลืมตาตื่นอย่างสดชื่นในเช้าวันต่อมา

“อร่อยไหมโยชัว”

ชาฮาร์ที่รับประทานอาหารเสร็จไปก่อนนานแล้วถามขณะนั่งเท้าคางมองดูโยชัวกิน ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มใช้เวลาสองสามชั่วโมง ถึงจะทำใจออกมาพบหน้าของอีกฝ่ายได้ ด้วยกลัวว่าชายหนุ่ม จะขอคำตอบหลังจากที่ได้บอกรักเขาไปเมื่อวานก่อน
ทั้งที่ตอนแรก โยชัวกลัวที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น แต่ในความเป็นจริง ชาฮาร์กลับเริงร่า และเอาใจใส่เขา ราวกับไม่เคยสารภาพรักกันมาก่อนเลยแม้แต่ครึ่งคำ

วันนี้โยชัวยอมทำตามใจชาฮาร์อยู่หลายอย่าง หนึ่งในนั้น เป็นคำเรียกร้องที่แสนจะน่ากลัว นั่นคือการที่อีกฝ่ายขอติดโบอันโตบนหัวของเขา จะอธิบายด้วยตัวเองอาจจะเห็นภาพไม่ชัด แต่ถ้าอยากรู้จริงๆก็ขอให้นึกถึงเซเลอร์วีนัส ภาพลักษณ์ของเขาตอนนี้ ไม่ต่างจากกะลาสีเรือจากดาวศุกร์ ยกเว้นเสื้อผ้าที่ใส่กับเพศสภาพเท่านั้น ที่ยังไงก็ไม่มีทางเหมือน

อุตส่าห์คิดว่าทำใจได้แล้วแท้ๆ แต่โยชัวก็ยังถลึงมองชาฮาร์จนตาแทบจะหลุดจากเบ้า ถึงจะแสดงความเกรี้ยวกราดออกไป แต่ดูเหมือนเจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่วันยังค่ำ ในตอนนั้นความดันที่ขึ้นสูงปรี๊ดจนเต็มปรอท ก็ลดต่ำลงมาจนติดลบ เรียกได้ว่าห่อเหี่ยวจนไม่มีอารมณ์ที่จะคิดถึงเรื่องอื่น

“วันนี้โยชัวจะไปซ้อมยิงธนูกับท่านพี่ลูเซียอีกสินะ”

“ก็ใช่…”
โยชัวตอบคำถามของชาฮาร์ที่อารมณ์แจ่มใสเหมือนทุกๆวัน

แกล้งทำเพราะอายอยู่หรือเปล่านะ? หรือว่าเข้าใจตัวเองดีพอแล้ว
เรื่องที่จริงๆ ความรู้สึกที่มีต่อตัวเขา เป็นแค่ความพลั้งเผลอชั่วครั้งชั่วคราว

โยชัวรู้สึกอึดอัดใจเล็กๆ แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ถึงกับเจ็บจี๊ดๆแบบคราวก่อน เด็กหนุ่มไม่ค่อยชอบเป็นตัวแทนของใคร แต่ถ้าแค่ช่วยคลายเหงาในรูปแบบของเพื่อนที่ไม่ใช่ชู้สาว สำหรับชาฮาร์ที่ดีต่อเขามาก โยชัวก็ยินดี
ยิ่งกับพี่ลูเซียด้วยแล้ว เด็กหนุ่มตั้งใจที่จะทำตัวให้สมกับที่ได้รับความเมตตา ด้วยการเป็นน้องชายที่ดีที่สุด มากเท่าที่จะทำได้

“ถ้างั้นพี่ชายจะไปหยิบดวงจันทร์สีขาวมาให้นะ”

“ขอบคุณ”

โยชัวพูดก่อนที่ชาฮาร์จะปลีกตัวไปที่ห้องส่วนตัวของเขา เด็กหนุ่มฮัมเพลงซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในโลกของตน ระหว่างที่รอชายหนุ่มกลับมา

ถึงแม้ว่าโยชัวจะรู้สึกวุ่นวายและหวาดกลัวกับเรื่องที่สาดซัดเข้าหาไม่ต่างจากคลื่นยักษ์ หากแต่คิดว่า
“อีกเดี๋ยวจะได้ไปฝึกยิงธนูกับพี่ลูเซีย”  จิตใจก็ค่อยๆเบิกบานขึ้น อาจเป็นเพราะเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ ไม่เคยนำสิ่งที่เรียกว่า”ความกังวล”มาให้

ดังนั้นโยชัวจึงสามารถไปพบและใช้เวลาร่วมกับอีกฝ่ายโดยที่จิตใจไม่ขุ่นมัว ถึงแม้จะรับรู้อดีตอันน่าเศร้าของลูเซียไปแล้วก็ตาม


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่12แล้วค่ะ

ตอนหน้าจะเอามาลงอีกสามสี่วันนะคะ

นิยายมาได้ครึ่งเรื่องแล้ว

สำหรับคนอ่านที่เดาเนื้อเรื่องได้

ขอให้ตามอ่านตามเม้นเราจนจบด้วยนะคะ

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่12 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><1/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 01-06-2015 10:58:24
สนุกกกกก รอนะค่ะ :katai4: :ling1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่12 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><1/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 01-06-2015 14:13:31
 :katai5: มาต่อเร็วๆจ้า
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่12 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><1/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 01-06-2015 16:58:24
รอๆๆๆ
รอให้ปริศนาทุกอย่างคลี่คลายยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่12 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><1/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 04-06-2015 07:42:05
ตอนที่13   
   
   “วู้ว…”
   
โยชัวที่ร้องตะโกนอย่างสนุกสนาน กำลังนั่งอยู่บนหลังของชาฮาร์ในร่างหมาป่าอสูร ซึ่งย่อขนาดให้เล็กลงพอดีกับการที่จะต้องเป็นพาหนะให้กับเด็กหนุ่ม
   
เส้นผมที่ปลิวไสว สายลมอุ่นซึ่งกระทบร่าง ด้วยความเร็วในการเคลื่อนที่ของหมาป่าอสูร ความรู้สึกที่ได้สัมผัส ไม่ต่างจากเครื่องเล่นในสวนสนุก หากแต่เร้าใจโยชัวมากกว่า เพราะนอกจากจะได้สนุกกับความเร็วประดุจสายลม บรรยากาศและทิวทัศน์รอบตัวก็สร้างความอิ่มเอมใจ ให้กับเด็กหนุ่มมากมายพอพอกัน

   “ที่นี่เหรอ…”
   
โยชัวซึ่งลงจากหลังของชาฮาร์ถามขึ้น หลังจากที่ถูกพาวิ่งห้อมาตลอดทางและหยุดฝีเท้าตรงหน้าทางเข้าป่าอันมีต้นไม้สูงชะลูดมากมาย ในตอนนั้น ลูเซียที่โบยบินตามมาติดติดบนท้องฟ้า ก็ร่อนลงสู่พื้นแล้วเก็บปีกทั้งหกข้างของตนเอง

   “เข้าไปกันเถอะ”

   ลูเซียเอ่ยสั่งด้วยรอยยิ้ม หากแต่ชาฮาร์ในร่างหมาป่าอสูรกลับส่งเสียงประท้วงอย่างไม่พอใจด้วยเสียงของสุนัขตัวใหญ่ โยชัวซึ่งนึกถึงความผิดปกติได้ก่อนใคร ก็อุทานดัง ’อ๊ะ’ ออกมาเสียงดัง

   “ลืมไปเลยว่าเอาเสื้อผ้าของชาร์ติดมาด้วย…จะให้เข้าไปทั้งร่างหมาก็คงไม่ค่อยชอบสินะ”

   โยชัวยิ้มกว้างก่อนจะยื่นห่อผ้าที่บรรจุเสื้อผ้าให้หมาป่าอสูรคาบไป
   หลังจากที่ชาฮาร์หายเข้าไปในป่า โยชัวซึ่งอยู่ตามลำพังกับลูเซียก็หันไปหาตั้งใจจะชวนคุยเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ หากแต่เจ้าชายแห่งสวรรค์กลับยืนกอดอกเอียงคอมองดูเขา คิ้วเรียวยาวบนใบหน้าเยือกเย็นขมวดเป็นปม คล้ายกับกำลังสงสัยในอะไรบางอย่าง

   “เป็นอะไรไปครับท่านพี่ลูเซีย
   
โยชัวถามด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อน พอเห็นลูเซียหยิบมีดสั้นแล้วเดินตรงเข้ามาหา เด็กหนุ่มก็ยืนตัวเกร็งหลับตาปี๋ แบบเด็กๆที่กลัวและไม่เข้าใจการกระทำซึ่งแปลกประหลาดของพ่อแม่

   แคว้ก
   
เสียงที่เกิดจากการฉีกขาดของอะไรบางสิ่งดังอยู่ใกล้ๆตัว พอลืมตาขึ้น ที่บริเวณเท้าของเขา เส้นผมสีดำกระจายเป็นกองๆเกลื่อนพื้น
   
“ท่านพี่ลูเซีย…”

   “อยู่นิ่งนิ่งยังไม่เสร็จ”
   
หลังจากที่ลูเซียจัดการกับเส้นผมที่เคยยาวจนถึงข้อเท้าของโยชัวจนพึงพอใจ เด็กหนุ่มที่นึกรำคาญผมซึ่งยาวรุงรังอย่างไร้คุณค่ามาโดยตลอด ก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างชอบใจในผลงานของลูเซีย และถึงแม้ว่าผมของเขาจะยังยาวมากเกินปกติอยู่เหมือนเดิม แต่ถ้าเทียบกับคราวก่อน ความยาวปัจจุบันที่เลยบั้นท้ายมานิดหน่อย นับว่าดีกว่ากันอย่างมากมายมหาศาล ทว่าชาฮาร์ที่คืนร่างเป็นมนุษย์และสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว กลับไม่คิดแบบนั้นด้วยเลยซักนิด
   
“เกิดอะไรขึ้นโยชัว!”
   
ชาฮาร์ถลาเข้ามาสำรวจร่างกายของโยชัวทันที่ที่เห็นผมซึ่งถูกตัดออกไปจนสั้น ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายผู้เจิดจรัสเผือดสีลงด้วยความสิ้นหวัง
   
“ท่านพี่ลูเซียตัดให้”
   
โยชัวยิ้มกว้างในขณะที่ชาฮาร์ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดบังใบหน้า เจ้าชายผู้เจิดจรัสพยายามระงับความไม่พอใจซึ่งประทุสูงอย่างเฉียบพลัน เด็กหนุ่มเห็นเส้นเลือดที่ขมับของคนตรงหน้าปูดบวมขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ใส่ใจ โยชัวยังคงฉีกยิ้มระรื่นอย่างอารมณ์ดี ดีจนแทบอยากจะเปล่งเสียงหัวเราะออกมาให้ดังดัง

   “ท่านพี่ทำอะไรลงไปกันครับ!”
   
ชาฮาร์ที่หัวเสียสุดๆตั้งคำถามลูเซียซึ่งมีใบหน้าเย็นชาด้วยท่าทางเอาเรื่อง ดูเหมือนว่าตอนนี้เจ้าชายผู้เจิดจรัสจะไม่สงวนท่าทีอันไม่ควรกระทำ อย่างการแสดงความก้าวร้าวกับคนที่เป็นพี่ชายอีกต่อไป

   “ก็แค่ตัดผมให้กับโยชัว”
   ลูเซียตอบเสียงเรียบ เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจไม่เข้าใจว่าน้องชายต่างมารดากำลังโกรธเกรี้ยวตนเองในเรื่องอะไรกันแน่

   “ข้าเข้าใจว่าท่านตัดผมโยชัว…มันก็เห็นกันอยู่ แต่ถ้าท่านจะทำ ท่านก็ควรจะถามความเห็นของข้าก่อน”
   
ยิ่งชาฮาร์โต้เถียงด้วยอาการเลือดพล่านมากเท่าไหร่ ลูเซียที่ถูกต่อว่าก็ยิ่งเยือกเย็นมากขึ้นเท่านั้น ภาพของสองพี่น้องที่กำลังโต้ถียงกัน เพราะมันดูไร้สาระ โยชัวจึงทำเพียงแค่ยืนมองด้วยรอยยิ้ม เด็กหนุ่มคิดว่าอีกไม่นานทั้งคู่ก็คงจะเลิกทะเลาะ แต่ถ้าจะให้พูดกันตามตรง คงจะมีแต่ชาฮาร์แค่คนเดียวเท่านั้น ที่รู้สึกว่ากำลังมีเรื่องขัดแย้งกับลูเซียซึ่งเป็นพี่ชาย

   “ทำไมต้องปรึกษา เรื่องแบบนี้ใช้สามัญสำนึกคิดแล้วตัดสินใจเองได้ โยชัวเองก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร ผมยาวลากพื้นขนาดนั้น จะให้เข้าป่าล่าสัตว์ ถ้าเกิดพันแข้งพันขาจนหกล้มไปก็แย่สิ”

   “ของแบบนั้นรวบเอาก็ได้นี่ครับ”

   ชาฮาร์ยังทุ่มเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ ทว่าพอถูกโยชัวที่หัวเราะระรื่นคล้องแขนเดิน อารมณ์คุกรุ่นของชายหนุ่มก็ลดระดับลงจนอันตรธานหายไป ก่อนที่จะหงุดหงิดจนแสดงออกทางสีหน้าอีกหน เมื่อคนตัวเล็กใช้แขนข้างที่เหลือเกี่ยวแขนพี่ลูเซียเดินไปด้วยพร้อมๆกัน

   “เลิกหงุดหงิดเลิกงอนซะทีได้ไหม…”
   
โยชัวพูดด้วยเสียงที่เอือมระอา เนื่องจากตลอดเวลาซึ่งเด็กหนุ่มฝึกซ้อมยิงเป้าเคลื่อนไหวในป่า ด้วยการลองล่าสัตว์อสูรดู ชาฮาร์จะทำตัวฮึดฮัดส่งเสียงกระฟัดกระเฟียดตลอดเวลาที่พี่ลูเซียแนะนำการซุ่มยิงให้แก่เขา

อันที่จริงมันก็คงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ ถ้าเจ้าชายผู้เจิดจรัสไม่พยายามเรียกร้องความสนใจอยู่ตลอดเวลาแบบสุนัขป่วยจนโยชัวไม่มีสมาธิจะเล็งยิงสัตว์อสูรที่ผ่านหน้าไปแม้แต่ตัวเดียว

“อย่าไปสนใจพวกไม่รู้จักโตเลย”
   
ลูเซียพูดด้วยเสียงที่เยือกเย็น  เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจไม่แม้แต่จะปลายตามองดูน้องชายต่างมารดาซึ่งมีปฏิกิริยาเดือดพล่านคล้ายกับกำลังถูกไฟเผาผลาญ โยชัวจ้องดูชาฮาร์ที่โกรธจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ แล้วยิ้มออกมาอย่างละเหี่ยใจ
   
ผ่านไปอีกสองถึงสามชั่วโมง ถึงแม้ว่าชาฮาร์จะสงบอารมณ์ลงได้แล้ว แต่โยชัวก็ยังไม่สามารถยิงสัตว์อสูรในป่าโดนเลยแม้แต่ตัวเดียว เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างปลิดปลง

   “พวกสัตว์มันเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลายิงไม่โดนก็ไม่แปลก ไม่ต้องรีบ ตั้งสมาธิค่อยๆฝึกไป…”
   
ลูเซียเอ่ยปลอบด้วยรอยยิ้ม ทว่าพอโยชัวตั้งท่าจะยิงลูกศรไปยังสัตว์อสูร เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจก็หยุดการกระทำของเด็กหนุ่มด้วยการจับมือเอาไว้แล้วบังคับลดอาวุธลง เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบๆมองดูลูเซียอย่างไม่เข้าใจ

   “เอาอย่างนี้ไหม? เพื่อเป็นการเพิ่มโจทย์บังคับไปในตัว นี่ก็เย็นมากแล้ว หากว่าโยชัวล่าสัตว์อสูรตัวนั้นได้ เราจะเอามันมาทำอาหารเย็น แต่ถ้าล่าไม่ได้ วันนี้พวกเราก็งดอาหารเย็นหนึ่งวัน ต่างคนต่างกลับห้องเข้านอน…”
   
“เอ๊ะ…”
   
โยชัวร้องด้วยใบหน้าเหยเก จะให้อดอาหารเป็นการปรับโทษก็ได้อยู่ แต่ว่าวันนี้ทั้งวันเขาได้ทานอาหารเช้ามาแค่มื้อเดียวเท่านั้น สงสัยว่าคืนนี้คงต้องนอนทรมานทั้งคืน

   “ไม่เป็นไรหรอกโยชัว” ชาฮาร์วางมือแหมะลงบนบ่าของโยชัวแล้วส่งยิ้มที่อบอุ่นโอนโยนมาให้

   “ถึงจะล่าไม่ได้ พอกลับไปที่ปราสาท ลอร่าก็ต้องจัดเตรียมอาหารให้พวกเราอยู่ดี การทำตามความคาดหวังของบริวาร ก็เป็นหน้าที่ของคนเป็นเจ้านายนะ”
   
ชาฮาร์ปลายตามองลูเซียไปพร้อมๆกับส่งยิ้ม แต่เพราะรอยยิ้มของชายหนุ่ม เป็นรอยยิ้มแบบประชดประชันชวนหาเรื่อง โยชัวที่ถูกใช้เป็นขออ้างในการตีหัวพี่ชายตัวเองของชาฮาร์ จึงทำได้แค่ยืนเหงื่อแตกพลั่กๆ
   
“ถ้าหากคิดว่าศักดิ์ศรีเป็นเรื่องไม่สำคัญ จะทำอะไรก็ตามใจ”
   ลูเซียที่ปกติก็เยือกเย็นอยู่แล้ว เย็นชายะเยือกขึ้นอีกระดับทั้งหน้าตาและน้ำเสียง

   “แน่นอนอยู่แล้ว…ก็ศักดิ์ศรี มันไม่ทำให้อิ่มท้องนี่ครับ”
   
ชาฮาร์ฉีกยิ้มกว้างขณะพูดจาตอบโต้ ทว่าดวงตาคู่สีทองกลับไม่ได้ยิ้มไปด้วยซักนิด
   ไม่ไหวแฮะ…ถึงจะพูดอะไรไป ทั้งสองฝ่ายก็คงไม่เลิกทะเลาะกัน สงสัยว่าต้องยิงเจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นให้ได้

   “ขอโทษแล้วกันนะ” โยชัวเอ่ยกับเจ้าสัตว์อสูร ก่อนจะปล่อยลูกศรตรงเข้าหามันหลังจากเล็งยิงจนแน่ใจ
   
“โดนแล้ว…”

   โยชัวร้องตะโกนด้วยความพลุ่งพล่าน เสียงตะโกนของเขาทำให้พี่ชายที่เอาแต่ทะเลาะกัน หันกลับมาสนใจเด็กหนุ่มอีกครั้ง โยชัวออกวิ่งตามสัตว์อสูรซึ่งถึงแม้ถูกยิงแต่ก็วิ่งทะยานหนีไปด้วยความเร็ว

   “โยชัว”
   
เสียงของชาฮาร์และลูเซียดังไล่หลังมาติดๆ แต่กระนั้นก็ไม่ทำให้โยชัวหยุดไล่ล่าเจ้าสัตว์อสูร ที่เขาหมายมั่นให้เป็นมื้อค่ำ เด็กหนุ่มยิงธนูตามหลังเจ้าสัตว์อสูรไปอีกหลายครั้งขณะวิ่งตาม โดนบ้างพลาดบ้างตามประสาคนที่ยังอ่อนประสบการณ์

ในที่สุด สัตว์อสูรก็พาโยชัวซึ่งไล่กวดอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หลุดจากป่าทึบออกมายังบริเวณทุ่งกว้าง เด็กหนุ่มตัดสินใจรวบรวมสมาธิ ยืนเล็งยิงแต่ไกล คราวนี้ลูกศรเข้าจุดตายของสัตว์อสูรจนมันล้มลงนอนแน่นิ่ง โยชัวที่โห่ร้องด้วยความยินดี กึ่งวิ่งกึ่งกระโดดตรงไปยังร่างของเป้าหมาย เป็นเวลาเดียวกันกับที่ชาฮาร์และลูเซียวิ่งมาถึงบริเวณซึ่งเขายืนอยู่พอดิบพอดี
   
“ทำได้ดีมาก”

   โยชัวยิ้มขัดเขินเมื่อถูกลูเซียชมและลูบหัวไปมา ก่อนที่จะยิ้มเจื่อนๆ เมื่อถูกชาฮาร์ซึ่งเดือดจัดต่อว่าการกระทำของเขาอย่างระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่

   “อย่าโวยวายไปหน่อยเลยน่าชาฮาร์ เจ้าคิดเล็กคิดน้อย เหมือนผู้หญิงเลยนะ”
   ลูเซียเหน็บแนมขณะคุกเข่าลง เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจหยิบมีดสั้นออกมาแล้วเริ่มต้นลงมือชำแหละสัตว์อสูร
   
“คำพูดนั้นขอคืนเถอะครับ ท่านพี่ก็ใช่ว่าจะพฤติกรรมดีไปกว่าข้า”
   
ชาฮาร์โต้ตอบคำพูดของลูเซียด้วยท่าทางยโส โยชัวเวลานี้ ถึงแม้จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แต่หูของเด็กหนุ่มก็ยังจดจ่อกับคำพูดของชาฮาร์ ซึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสนใจของลูเซีย
   หากแต่ยังไม่ทันที่ชาฮาร์และลูเซียจะเปิดฉากโต้เถียง ฉับพลันใบหน้าของชายหนุ่มทั้งสองก็เคร่งเครียดจนโยชัวต้องตกใจ
   
“ไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ามาใกล้โดยที่ไม่รู้ตัว เจ้าไม่ได้กลิ่นเลยเหรอชาฮาร์”
   
ลูเซียผู้เคร่งขรึมเก็บมีดสั้นและยืนขึ้น คำพูดที่คล้ายกับจะต่อว่าของชายหนุ่ม ทำให้ใบหน้าของชาฮาร์บิดเบี้บวด้วยความอดสู คำปรามาสของพี่ชายต่างมารดา เป็นดั่งมีดที่แทงลงบนหัวใจของเจ้าชายผู้เจิดจรัสจนพรุน ทำให้ผู้เป็นน้องชายนิ่งเงียบไปอย่างไม่มีคำที่จะกล่าว

   “ดูเหมือนที่พวกปีศาจพากันล่ำลือว่าประสาทสัมผัสของเผ่าหมาป่าอสูรนั้นเป็นสุดยอด จะเป็นแค่เรื่องโกหกสินะ”
   ลูเซียกดเสียงต่ำ ท่าทางระแวดระวังเป็นพิเศษของพี่ชายทั้งสองคน สร้างความตึงเครียดให้กับโยชัวที่ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
   
“ไม้ต้องกลัวนะโยชัว”

   ชาฮาร์คว้ามือของโยชัวขึ้นมาบีบเบาๆขณะที่กวาดมองไปยังรอบทิศทาง ในตอนนั้นที่ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เปลวไฟจำนวนมากผุดขึ้นในอากาศ ก่อนจะค่อยๆแปรสภาพกลายเป็นสัตว์อสูรมากมายจนนับไม่ถ้วน

   “ไคเมร่า”
   
โยชัวที่ดวงตาเบิกกว้างร้องครางออกมาอย่างตื่นตระหนก เจ้าสัตว์อสูรร่างกำยำซึ่งเป็นที่รวมของสัตว์ร้ายถึงสามชนิด สิงโต แพะ มังกร ความร้ายกาจของมัน แม้แต่ในโลกภาพยนตร์หรือเกมส์ ก็ยังจัดเป็นสัตว์อสูรที่ขึ้นชื่อในระดับค่อนข้างสูง
 
   เลวร้ายมาก!
   
เลวร้ายที่สุดก็ตรงที่พวกมันมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสี่ถึงห้าร้อยตัวเมื่อกะคร่าวๆด้วยสายตา ไม่ไหวแน่ๆ มากขนาดนี้ แถมยังมีเขาเป็นตัวถ่วงด้วยซะอีก

   โยชัวหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัวจนตัวสั่น หากพอฝืนลืมตาขึ้นแล้วมองดูใบหน้าซึ่งไม่แสดงความหวาดหวั่นแม้แต่นิดของพวกพี่ชาย เด็กหนุ่มก็ค่อยๆสงบจิตใจที่ฟุ้งซ่านลง
   
ต้องไม่กลัว อุตส่าห์ฝึกยิงธนูมาเพื่อใช้ปกป้องตัวเองไม่ใช่เหรอ? ถ้าหากว่าเขายังทำตัวขี้ขลาดแล้วยืนอยู่เฉยๆ นอกจากจะเป็นการดูถูกตัวเองแล้ว หนำซ้ำจะกลายเป็นตัวถ่วงขัดแข้งขัดชาฮาร์กับพี่ลูเซีย
   
เอาวะไม่สู้ก็ตาย

   โยชัวใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือดวงจันทร์สีขาวอยู่ตบใบหน้าของตัวเองเต็มแรง เป็นการสร้างแรงจูงใจ

   “เอาล่ะข้าพร้อมแล้ว เข้ามาเลยเจ้าไคเมร่า”

   ถึงแม้จะจะเป็นการสร้างความฮึกเหิมแบบแปลกๆ แต่การตะโกนข่มขู่ศัตรูก็เป็นการช่วยสร้างความกล้าให้กับตนเองในอีกรูปแบบหนึ่ง
   
ในตอนนั้นพี่ชายทั้งสองซึ่งกำลังเคร่งเครียด ก็พากันหัวเราะออกมาอย่างพร้อมเพียง จนโยชัวที่ตั้งใจปลุกความกล้ามีใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย

   “ดีจริงๆที่โยชัวไม่กลัว” ชาฮาร์ฉีกยิ้มกว้าง

   “เป็นน้องชายที่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ”

   ลูเซียระบายยิ้มน้อยๆอย่างพึงพอใจ ดูเหมือนว่าการแสดงออกอย่างบ้าๆ จะขจัดความตึงเครียดของทุกคนไปจนหมด ระหว่างนั้นไคเมร่าก็กำลังเพิ่มจำนวนอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุด ชาฮาร์และลูเซียเรียกอาวุธประจำตัวของพวกเขาออกมาเตรียมพร้อม


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่13แล้วนะคะ

ตอนหน้าคงจะซักสามสี่วันเอามาลงนะคะ

ตอนนี้สั้นมากจริงๆต้องขอโทษล่วงหน้านะคะ

รักคนอ่านค่ะ


หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 04-06-2015 13:32:09
ฮื้อออออออ รออออออ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :katai4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 04-06-2015 18:53:42
กำลังสนุกเลยยยย ลุ้้นๆ โยชัวจะสู้ไหวหรือเปล่า
รอจ้าาา
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 04-06-2015 20:05:58
สัันนนิดนึง แต่ไม่เป็นอะไร อัพไว ให้อภัยได้555
รอตอนต่อไปนะค่ะ สนุกมากๆๆๆเลย ตั้งแต่เริ่มอ่านไม่เบื่อเลยสักนิดเดี๋ยว แถมเข้ามาอ่านหลายรอบด้วย
รอตอนต่อไปปปปปปปปปปปปปปป
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 04-06-2015 20:44:06
โฮ่ ตอนหน้าท่าจะมัน  :z2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 05-06-2015 06:25:01
โยชัวอาจได้สกิลใหม่พร้อมอัพเลเวลก็เป็นได้
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 05-06-2015 07:27:40
สนุกกกกกก นายเอกเราควบสามเลยนะ
เราชอบพระเอกทั้งสามคนเลยยยยย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :mew1: :ling1: :กอด1: :-[
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 06-06-2015 18:45:14
สนุกมากกกก ไม่รู้จะเชียร์ใครเป็นพระเอกดี แต่ก็เอนเอียงไปทางลาซารัสนิดนึง อิอิ  :o8:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่13 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p4><4/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 07-06-2015 07:30:40
ตอนที่14
   
   “ออกมาพิฆาตราชัน”
   
ดวงตากลมโตจดจ้องดาบสีทองซึ่งมีประกายแสงอันสะอาดบริสุทธิ์ พิฆาตราชันของลูเซีย โยชัวเคยเห็นมันมาครั้งหนึ่งในตอนที่เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจฝึกซ้อมดาบกับชาฮาร์ ทว่าความตื่นเต้นยามได้เห็นมันกลับไม่ได้ลดน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว

   สวยงามจริงๆ

   โยชัวมองพิฆาตราชันอย่างหลงใหล ดาบเล่มนี้มีคุณลักษณะไม่ต่างจากเจ้าของของมัน นอกจากนั้นยังช่วยส่งเสริมให้ภาพลักษณ์ที่งดงามเยือกเย็นของผู้ใช้ เปล่งประกายสูงส่งจนอาจทำให้คู่ต่อสู้ต้องมอบกราบแทบเท้าโดยไม่ต้องต่อสู้

   แน่นอน เหล่าไคเมร่าแถวหน้าซึ่งล้อมกรอบเข้าหามีอาการตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้น พอพวกมันรู้ถึงจำนวนของพวกพ้องที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกไคเมร่าก็ค่อยๆลดความหวาดกลัวลง

   “แย่จัง”  ลูเซียถอนหายใจ  “พวกสัตว์อสูรหรืออมนุษย์กลายร่างได้นี่… ทั้งที่ได้ยินมาว่าพวกนี้ฉลาดสัญชาติญาณดี แต่มองให้ดีดีแล้ว ดูจะไม่จริงอย่างที่เขาเล่ากัน  สังเกตได้จากความดึงดันกับความกล้าแบบโง่โง่ จะว่าไปชาฮาร์  เจ้าเองก็จัดอยู่ในเผ่าปีศาจที่เป็นอสูรกลายร่างนี่นะ ไอ้ความโง่แถมดึงดันแบบนี้  คิดอีกทีจะว่าคล้ายก็คล้ายอยู่”

   “พูดอะไรกันครับ ตัวท่านกับอาวุธของท่านมันไม่น่ากลัวเอง คิดเอาเถอะ กับสัตว์อสูรระดับนี้ แค่เกือบๆพันตัว ท่านยังไม่สามารถกำหลาบมันโดยไม่ต้องสู้ เห็นทีว่าชื่อเสียงท่านตาของท่านผู้เป็นประมุขสวรรค์ คงจะต้องด่างพร้อย”

   ชาฮาร์ตอบโต้คำเหน็บด้วยรอยยิ้ม ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะหันหลังให้กัน ทว่าคนที่อยู่ตรงกลางก็รับเอาคลื่นความโกรธของพี่ชายทั้งสองซึ่งพยายามแผ่เข้าหากันไปเต็มๆ

   ขอร้องล่ะอย่าทะเลาะไร้สาระกันตอนที่อยู่หน้าหุบเหวจะได้ไหม!
   
โยชัวคิดอย่างห่อเหี่ยว น้ำตาในจินตนาการหลั่งออกมาเป็นครั้งแรกของวัน

   “ท่านพี่ดูให้ดี แล้วท่านจะเข้าใจในความไม่เอาไหนของท่านกับอาวุธประจำตัว”
   
ชาฮาร์ฉีกยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว รอยยิ้มที่ห้าวหาญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจว่าตัวเองว่าจะต้องเป็นฝ่ายชนะ โยชัวชมดูจนใจเต้นตึกตัก

   ภาพลักษณ์ของเจ้าชายผู้อาบไล้ไปด้วยรอยยิ้มซึ่งไม่ต่างจากดวงอาทิตย์ หากแต่ทำตัวล่องลอยไปวันวันเพราะเอาแต่จับจดกับน้องชาย ถูกแทนที่ด้วยลักษณะนิสัยที่ชายหนุ่มไม่เคยเปิดเผยให้เด็กหนุ่มเห็นมาก่อน

   “ออกมาอสูรโลหิต”
   
สิ้นเสียงของชาฮาร์ ดาบซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวของเขาก็ปรากฏขึ้น ทันที่ที่เห็นดาบเล่มนั้น โยชัวก็สะดุ้งกายด้วยความตระหนก ‘อสูรโลหิต’ เป็นดาบเล่มใหญ่ยักษ์ ตัวดาบทั้งเล่มมีสีแดงก่ำราวกับถูกย้อมไปด้วยเลือด ประกายแสงสีแดงดุดันที่แผ่ออกมาพร้อมกับการสั่นสะเทือนของดาบ  ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวคล้ายเสียงกรีดร้องของวิญญาณซึ่งไม่ยอมไปสู่สุขติ

   ช่างเป็นดาบอัปมงคลที่ขัดกับลักษณะนิสัยอันอบอุ่นสว่างไสวของชาฮาร์ราวกับฟ้ากับเหว โยชัวที่พยายามเก็บอาการหวาดกลัวอย่างสุดความสามารถ ยิ่งดูยิ่งไม่เข้าใจความคิดของเจ้าชายผู้เจิดจรัส เรื่องที่เลือกดาบพรรณ์นี้มาเป็นอาวุธประจำตัว
   
ทว่าการปรากฏตัวของอสูรโลหิต เหมือนจะส่งผลต่อไคเมร่าจำนวนมหาศาล พวกมันลนลานถอยหนี บางตัวถึงกับแข้งขาสั่นจนไม่กล้าขยับ

   “ยังเป็นอาวุธที่สร้างความประทับใจให้เหมือนเดิม”
   
ลูเซียเอ่ยชมด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่บอกชัดถึงความปลาบปลื้ม ดวงตาสีเทาซึ่งมองดูอสูรโลหิตอย่างคลั่งไคล้เป็นสิ่งที่ทำให้โยชัวตระหนักว่าพี่ชายทั้งสองคนเป็นพวกหิวกระหายการต่อสู้อย่างที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน

   อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะเป็นดาบที่สร้างความรู้สึกไม่ดีให้กับโยชัวมากแค่ไหน ถ้าผลลับมันทำให้ไคเมร่าถอยหนีไปโดยไม่ต้องสู้ ก็ต้องยกความดีให้กับเจ้าอสูรโลหิต
   
ทว่าการปรากฏตัวของสัตว์อสูรร่างใหญ่โตซึ่งอยู่เบื้องหลังของไคเมร่านับพัน  เจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นมีรูปร่างเป็นสิงโต ปีกสีขาวบริสุทธิ์เหมือนนก และมีหางแบบเดียวกับหางของแมงป่อง
   
สัตว์อสูรตัวนี้ โยชัวจำแนกชนิดไม่ออก หากแต่ไม่ใช่จะไม่เคยเห็นไอ้แบบที่คล้ายกันมาก่อนในสื่อบันเทิงของโลกซึ่งเขาจากมา ขณะที่กำลังครุ่นคิด เจ้าสัตว์อสูรตัวใหญ่ก็ส่งเสียงคำรามจนพื้นสะเทือน  เหล่าไคเมร่าที่ตัวขนาดเล็กกว่าหวาดเกรงสิงโตยักษ์จนหยุดก้าวเท้าถอยหลัง พวกมันพร้อมใจกันขู่กรรโชกและเตรียมตัวจะโจมตีโยชัวกับพี่ชายทั้งสองคนอีกครั้ง

   “โยชัวไม่จำเป็นต้องฝืนช่วยนะ เจ้าทำแค่ปกป้องตัวเองก็พอ”
   ลูเซียออกคำสั่ง ขณะที่ชายหนุ่มเริ่มจดจ่อกับไคเมร่าจำนวนมาก

   “โยชัวไม่ต้องทำอะไรหรอก…พี่ชายคนนี้ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าพวกสัตว์อสูรเข้าถึงตัวโยชัวได้อยู่แล้ว”

   ชาฮาร์พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ท่าทางแบบนั้น ลดความตึงเครียดของโยชัวไปได้มาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เด็กหนุ่มลดความระมัดระวัง

และแล้วไคเมร่าตัวแรกก็เปิดฉากเล่นงาน  ชาฮาร์ฟันมันขาดกลางอย่างรวดเร็วในดาบเดียว โดยไม่ได้ตั้งใจ โยชัวเห็นอสูรโลหิตดูดซึมเลือดของไคเมร่าที่ชโลมบนตัวของมันเข้าไปจนหมดทุกหยาดหยด

เป็นภาพที่น่าขนลุกขนพอง แต่โยชัวก็ไม่มีเวลาหวาดหวั่นหรือคิดรังเกียจอสูรโลหิต เพราะในเวลาไม่กี่นาที
ชาฮาร์ได้ใช้เจ้าดาบอัปมงคลดับชีวิตของสัตว์อสูรไปเป็นจำนวนมาก หากแต่เลือดซึ่งเป็นเครื่องหมายชีวิตของศัตรูกลับไม่กระทบถูกเจ้าชายผู้เจิดจรัสกับโยชัวที่อยู่ด้านหลังชายหนุ่มเลยสักนิด เจ้าอสูรโลหิตสูบกินมันไปจนหมดพร้อมกับส่งเสียงหวีดร้องสั่นสะเทือนด้วยความยินดี ที่เจ้านายของมันเปิดโอกาสให้ดื่มกินเลือดได้อย่างเต็มที่

ขยะแขยง!

โยชัวอดไม่ได้ที่จะคิดเช่นนั้น ถึงแม้ว่าจะต้องใช้สมาธิอย่างมากในการจัดการเหล่าไคเมร่าซึ่งบางตัวแกล้งตายเพื่อหาโอกาสเล่นงานตัวเขาที่เป็นเสียยิ่งกว่าจุดอ่อน

ในเวลาต่อมาการที่โยชัวแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในทักษะการยิงธนูซึ่งอุตส่าห์ฝึกฝนมา ส่งผลให้พี่ชายทั้งสองมีสมาธิจัดการกับเหล่าไคเมร่าจำนวนมากมายมหาศาลมากยิ่งขึ้น

ลูเซียกับชาฮาร์ใช้ทักษะดาบที่น่าอัศจรรย์ใจ คล้ายคลึงกับท่าไม้ตายของอาชีพซึ่งมีอยู่ในเกมส์จนโยชัวห้ามตัวให้หยุดโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นไม่ได้

 เด็กหนุ่มคึกคักมากเป็นพิเศษที่เห็นไคเมร่าลดจำนวนลงไปกว่าครึ่งก่อนที่เจ้าลูกบอลสีดำ จะโรยตัวลงมาจากท้องฟ้า พี่ชายทั้งสองจับจ้องสิ่งผิดปกตินั้นอย่างไม่วางตา

“ชาฮาร์…โยชัว… อย่าพึ่งไปแตะต้องมันนะ”
ลูเซียพูดด้วยเสียงเยือกเย็นดั่งเช่นทุกครั้ง หากแต่ครั้งนี้กลับนิ่งและสุขุมกว่าปกติหลายเท่า

“ท่านไม่ต้องบอกพวกเราหรอกครับ ข้ากับโยชัวก็ใช่ว่าจะไร้สมอง”

ชาฮาร์เหน็บไปด้วยรอยยิ้ม อาการ งี่เง่าไม่เลิกในสถานการณ์ที่ซับซ้อนแบบนี้ ทำให้โยชัวเตะเท้าเข้าที่หน้าแข้งของชายหนุ่ม ทั้งทั้งที่ออกแรงอัดเข้าเต็มแรงแท้ๆ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสได้อย่างที่ใจต้องการ

“…….”
ชาฮาร์กระพริบตาปริบๆมองดูโยชัวอย่างไม่เข้าใจ

“นาย…”

โยชัวเอ่ยปากจะต่อว่า แต่เหตุการณ์ฉุกละหุกซึ่งเกิดขึ้นทำให้เด็กหนุ่มต้องเลิกความคิดไป ดูเหมือนว่าในบรรดาไคเมร่าที่หยุดโจมตีไปด้วยความสับสนกับการปรากฏตัวของบอลสีดำเล็กๆที่ลอยวนอยู่รอบตัวพวกมัน จะมีบางตัวนึกรำคาญบอลสีดำเหล่านั้นจนใช้ปากงับกลืนกินของมันลงไป

ผลที่ได้คือเจ้าลูกบอลเหล่านั้นแตกตัวจากภายในจนทำให้หัวสิงโต ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาหัวทั้งสามของไคเมร่าผู้โชคร้ายรายแรกระเบิดแตกกระจุย

ความร้ายกาจยังไม่จบแค่นั้น ลูกบอลสีดำยังพร้อมระเบิดตัวทันที่ที่ถูกสัมผัสแค่เพียงเบาๆ แรงระเบิดที่ว่าทำให้เกิดการบิดเบี้ยวของห้วงมิติจนกลายเป็นช่องว่างสีดำซึ่งมีแรงดึงดูดมหาศาล กลืนกินไคเมร่าที่อยู่ใกล้ๆกัน หายวับเข้าไปในห้วงอากาศสีดำก่อนที่มวลชั้นในบรรยากาศจะกลับคืนมาเป็นปกติ

ถึงแม้ว่าพวกโยชัวจะเห็นหายนะที่ลูกบอลสีดำสร้างขึ้น แต่เหตุการณ์เลวร้าย เวลามันจะพุ่งเข้าใส่มันจะโถมเข้าหาอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น

ไคเมร่าจำนวนมากที่โยชัวเคยจินตนาการว่าฉลาด กลับพากันเล่นงานเจ้าบอลสีดำรอบตัวอย่างพร้อมเพียงกันจนทำให้เกิดหลุมดำขนาดย่อมจำนวนนับไม่ถ้วน

เหตุการณ์ยิ่งเลวร้ายถึงที่สุด เมื่อลูกบอลสีดำมากมายมหาศาลค่อยๆลอยต่ำลงมาเป็นระลอกที่สอง โยชัวขวัญเสียกับสถานการณ์ที่ไม่ต่างจากการเดินเล่นอยู่ในนรก แต่กระนั้นก็ไม่สามารถเป็นลมล้มพับหรือเมินหน้าหนีจากสภาพการณ์ที่กำลังดำเนินไปจนถึงขั้นวิกฤติ

ในตอนนั้น ลูเซียที่สุขุมเยือกเย็น แผ่ประกายแสงซึ่งอวลไปด้วยกลิ่นไอศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะโบยบินขึ้นเหนือพื้น เจ้าชายแห่งสวรรค์ ปลดปล่อยกระบวนดาบที่มีรัศมีจู่โจมกินบริเวณกว้าง รุนแรงจนบอลสีดำในท้องฟ้าระเบิดหายวับไปโดยสมบูรณ์ ทั้งยังไม่เกิดการก่อตัวของหลุมดำเล็กๆในอากาศอย่างที่ควรจะเป็น

“ชาฮาร์ฝากดูแลโยชัวด้วย”

หลังจากออกคำสั่ง ลูเซียก็โผบินจากไปด้วยปีกทั้งหกข้าง โยชัวหันไปสบตากับชาฮาร์ด้วยความสงสัย

“ท่านพี่คงจะไปจัดการต้นตอของเจ้าบอลสีดำ ข้าเองก็รู้สึกได้ว่าคนสร้างมันอยู่ในบริเวณใกล้ๆนี้เช่นกัน แต่ให้ท่านพี่ลูเซียไปค้นหาน่าจะเร็วกว่า”

ชาฮาร์อธิบายก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด

อาจเป็นเพราะทั้งคู่ลดความระมัดระวังลง เนื่องจากไคเมร่าลดจำนวนลงมาก แต่เพราะไม่ระวังตัว เจ้าสัตว์อสูรชนิดเดียวกันที่ปรากฏตัวเพิ่มขึ้นตรงด้านหลังของโยชัว ก็จู่โจมเข้ามาโดยที่ไม่ทันได้ระวัง

ฉับ

ชาฮาร์ผ่ามันออกเป็นสองซีก ไวพอพอกับที่มันฝากรอยแผลลงบนแผ่นหลังของโยชัว

“โยชัว!”

ชาฮาร์กระโจนเข้าหาทันทีหลังจากกำจัดไคเมร่าได้สำเร็จ

“เป็นยังไงบ้าง?”

“ไม่…เป็นไร…”

โยชัวที่นั่งแหมะบนพื้นเพราะเซถลาล้มลงด้วยแรงตะปบอย่างมหาศาลของไคเมร่าตอบ

ถึงแม้จะบอกว่าไม่เจ็บ แต่เด็กหนุ่มก็ได้แผลรูปกรงเล็บที่ด้านหลัง แน่นอนว่าร่างกายอันแสนวิเศษของเขากำลังสมานตัว ทว่ารอยแผลนั้นเจ็บแสบมากยิ่งกว่าทุกๆครั้ง จนโยชัวต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้า

“ชาร์ไปจัดการกับไคเมร่าที่เหลืออยู่เถอะ…ยังมีเจ้าตัวใหญ่อยู่อีกด้วยไม่ใช่เหรอ?”

โยชัวเตือนสติ ในขณะเดียวกันก็จับจดกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจนไม่ได้สังเกตสีหน้าของชาฮาร์ซึ่งยืนประจันหน้ากับสัตว์อสูรโดยหันหลังให้กับตน

ประกายแสงสีแดงขมุกขมัวฉาบเคลือบร่างของเจ้าชายผู้เจิดจรัส พอรวมเข้ากับการสั่นอย่างบ้าคลั่งของอสูรโลหิตซึ่งกำลังหวีดเสียงโหยหวน

ทั้งที่โยชัวอยากจะส่งเสียงร้องเรียกอีกฝ่าย แต่ลำคอของเขากลับไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้ตามที่ใจต้องการ เด็กหนุ่มทำได้แค่มองดูเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น  ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่เคยมีกับชาฮาร์ กำลังปรากฏให้เห็นเป็นรูปร่าง

แน่นอนว่าหากเลือกได้ โยชัวคงไม่อยากสัมผัสความรู้สึกแบบนั้นจากชาฮาร์ พี่ชายผู้ซึ่งสนิทสนมกับเขามากที่สุดในโลกใบนี้

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่14แล้วนะคะ

เราคิดว่าฉากต่อสู้อาจจะน่าเบื่อ แต่เฉลยเลยแล้วกัน

ตอนหน้าฉากยาวต่อเนื่องนี้ก็จะจบลงแล้วค่ะ

อีกสองสามวันจะเอาตอนที่สิบห้ามาลงนะคะ

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 07-06-2015 10:24:06
ลูกบอลสีดำมาจากไหนน
ลาซารัสหรือป่าวนิ ไม่ใช่หรอก(ทะเลาะกับตัวเอง)
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 07-06-2015 11:09:49
เดาว่าคนสร้างคงไม่พ้นลาซารัสนะ ก็มีความสามารถนี้นี่นา
เดาอีกอย่างว่าทั้งคู่ (ซาฮาร์กับลาซารัส) น่าจะรู้แล้วล่ะว่าโยชัวที่อยู่ในร่างของน้องชายตัวเองนี้เป็นคนละโยชัวกัน
เด็กชายคนนั้นก็น่าจะโยชัวนี่ล่ะ
(จะหน้าแตกไหมหว่า ตรู 55555555)

เราน่ะเชียร์ซาฮาร์มากๆ เลยล่ะค่ะ ชอบบบบบบอ่าาาาา ดีดดิ้น  :-[ :-[
ยิ่งซาฮาร์ในความทรงจำนะ ยิ่งน่าเอ็นดูมากๆ เลย อร๊ายยย อยากยื่นผ้าให้ซับน้ำตา เจ้าลูกหมาตัวน้อย
ลาซารัสชอบแกล้งน้องว่ะ!
ไอ้พี่ชายนิสัยไม่ดี ไม่มีคนเล่นด้วย กร๊าก กรั่กๆๆ

ท่านพี่ลูเซียในตอนนี้ยังมองไม่ออกว่าจะตกมาในฮาเร็มด้วยไหม
แต่เป็นพี่ชายที่ให้ความรู้สึกว่าเป็นพี่ชายที่สุดแล้วตอนนี้ 5555 เท่เนอะ ปลื้มมมมมม

โยชัวเริ่มหวั่นไหวกับซาฮาร์แล้วล่ะสิ  :heaven

ฉากตอนต่อสู้เราชอบนะคะ สนุกดี ชอบความงี่เง่าไม่รู้เวลาของซาฮาร์ด้วย กร๊ากกกก
ไม่มากจนเกินไปค่ะ กำลังดี ติดตามนะคะ
สนุกอ่าาาาา ยิ่งอ่านยิ่งเพลิน ติดตามค่าาาาาาาาาาาา ++
เป็นกำลังให้นะ รอค่อ รอๆๆๆ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 07-06-2015 11:19:58
ลูกบอลสีดำมาจากลาซารัสหรือเปล่า เดา ๆ ถ้าใช่รีบมาช่วยน้องเร็ว ๆ นะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 07-06-2015 11:39:13
ทำไมโยชัวถึงเจ็บปวดดด  :ling1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 07-06-2015 18:05:28
รอ โยชัวร์กำลังจะเห็นอะไร
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 07-06-2015 20:05:28
เราชอบพระเอกทั้งสามคนเลยอ่ะค่ะไรท์
4p ได้มั้ยค่ะ >.,<
แบบจะได้เป็นฮาเร็มโดยสมบูรณ์แบบเลย อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-06-2015 16:38:34
เหมือนอ่านมังงะเลย
ให้อารมณ์ประมาณเรื่องผมน่ะหรือคือราชาปีศาจ
มุ้งมิ้งๆ แต่เวลาแอคชั่นก็โหด
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 08-06-2015 22:10:19
 o13
เข้ามาแล้ว ติดหนึบ รอค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 08-06-2015 23:13:31
 :mc4: มันส์มาก

รอตอนต่อไป  :L2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 09-06-2015 15:03:01
สนุกมากกกกกกก อ่านรวดเดียวเลย
เหล่าพี่ชายเป็นฮาเล็มที่ดีงามมากกก
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่14 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><7/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 10-06-2015 07:18:03
ตอนที่15
   
   “ชาร์…”
   โยชัวเรียกด้วยเสียงแหบระโหย ขณะมองดูภาพของชายหนุ่มที่ไล่เข่นฆ่าไคเมร่าด้วยอสูรโลหิตซึ่งกำลังสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่งไม่ต่างจากผู้ใช้มัน 

การฆ่าฟันของชาฮาร์ทวีความป่าเถื่อนขึ้นทุกเสี้ยววินาที ยิ่งคุ้มคลั่งมากเท่าไหร่ ความเร็วในการปลิดชีพอสูรร้ายก็เร็วมากขึ้นเป็นเท่าตัว จนแม้แต่อสูรโลหิตที่มีนิสัยชมชอบการสูบเลือด ก็ยังไม่สามารถดูดกลืนหยาดโลหิตของไคเมร่าได้อย่างหมดจด

“กรร…” เสียงคำรามโหยหวนต่ำๆซึ่งเกิดขึ้นถี่กระชั้น กลายเป็นสัญญาณเสียงที่เพิ่มจำนวนหยาดเลือดที่สาดกระเซ็น
ร่างสูงใหญ่กำยำ ถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาน สิ่งที่ทำให้โยชัวหวาดกลัวอย่างไม่อาจสะกดกลั้น คือรอยยิ้มสนุกสนานที่ประดับอยู่บนใบหน้า รอยยิ้มนั้น โหดร้ายบิดเบี้ยว จนเด็กหนุ่มแทบจะเบือนหน้าหนี

แต่โยชัวก็ไม่ได้ละสายตาจากชาฮาร์ เด็กหนุ่มกังวลเรื่องที่อีกฝ่ายอาจจะพลาดพลั้งมากกว่า จึงตัดสินใจมองตามการกระทำของเจ้าชายผู้เจิดจรัสทั้งที่ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความกลัว

ในที่สุด เหล่าไคเมร่าจำนวนมากก็หมดไป ดวงตากลมโตกวาดมองซากศพที่นอนตายเกลื่อนก่อนจะหันเหความสนใจไปยังชาฮาร์ที่ยืนประจันหน้ากับสัตว์อสูรร่างใหญ่โตตัวสุดท้าย

“หึ…หึ…หึ”
สัตว์อสูรระดับหัวหน้าตัวนั้น หัวเราะชอบใจด้วยเสียงที่แยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง หางของมันซึ่งมีลักษณะเป็นหางแมงป่อง กวัดแกว่งไปมาตามจังหวะแรงสั่นของร่างที่เกิดจากการหัวเราะ

“ความป่าเถื่อนของท่านช่างงดงาม ได้ยินแต่คำร่ำลือ แต่การที่ได้เห็นด้วยตาในครั้งนี้ ข้ารู้สึกว่ามันช่างเกินความคาดหวัง” สัตว์
อสูรซึ่งมีร่างเป็นสิงโตยักษ์และมีปีกกับหางแมงป่อง ก้าวเดินเป็นวงกลมรอบๆตัวชาฮาร์อย่างช้าๆ

ในสายตาของโยชัวซึ่งมองดูอยู่ในระยะไกล อาจเป็นเพราะร่างกายในปัจจุบันของเขาเป็นครึ่งปีศาจ ทำให้ถึงอยู่ไกลก็ยังสามารถมองเห็นสีหน้าท่าทางของสัตว์อสูรได้โดยไม่ต้องใช้กล้องส่อง เด็กหนุ่มเป็นกังวลกับท่าทางและน้ำเสียงที่ส่อไปในทางยั่วยุของสัตว์อสูร

“ข้าอยากจะสู้กับท่านในร่างหมาป่าอสูรมานานแล้ว ถ้าจะถามว่าเพราะอะไร…เพราะข้าถูกผู้สร้างพร่ำบอกเสมอว่าตัวข้าแข็งแกร่ง เทียบเท่าหรืออาจจะเหนือกว่าเผ่าหมาป่าอสูรที่ได้ชื่อว่า เป็นเผ่าที่เก่งกาจที่สุดในโลกปีศาจ”

“ก็เลยอยากจะท้าสู้อย่างนั้นเหรอ? แล้วทำไมข้าจะต้องทำ ในเมื่อสวะอย่างเจ้า แค่ร่างมนุษย์แบบนี้ก็เพียงพอแล้ว” ชาฮาร์ตอบทั้งที่ยังหันหลังให้ศัตรู

เสียงของชายหนุ่ม ถึงโยชัวจะมองไม่เห็นใบหน้า แค่ฟังจากน้ำเสียงเขาก็รู้ว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสยังไม่กลับมาเป็นคนเดิมที่สดใสและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าชาย…ท่านควรรีบปิดเกมส์การต่อสู้กับข้า ท่านดูสิ! น้องชายของท่านกำลังมองมาทางนี้อยู่นะ”
สิ้นเสียงที่เต็มไปด้วยการเย้าแหย่ ชาฮาร์ที่มองมาด้วยยังตัวเขา โยชัวไม่รู้ว่าตนเองกำลังแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปกันแน่  ใบหน้าของเจ้าชายผู้เจิดจรัสถึงได้แปรสภาพไปมาอย่างซับซ้อน

ในตอนนั้นชาฮาร์ซึ่งคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ก็เก็บอสูรโลหิตแล้วกลายร่างเป็นหมาป่าอสูรสีทองตัวใหญ่ขนาดเดียวกันกับสัตว์อสูรซึ่งเป็นคู่ต่อสู้

โยชัวรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้นดินและรังสีการฆ่าฟันที่คุกรุ่น ยามเมื่อสัตว์อสูรทั้งสองเปิดฉากห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด โยชัวก็ลนลานถอยหนีออกไปจากที่ซึ่งยืนอยู่อีกเล็กน้อยก่อนจะหยุดลง

กลัว

ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวโยชัวตั้งแต่เห็นชาฮาร์เปลี่ยนสภาพกลายเป็นอสูรสังหารไล่ฆ่าไคเมร่าจำนวนมากจนร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเลือด

ถึงจะรู้แก่ใจ เรื่องที่ความโกรธนั้นเกิดขึ้นเพราะตัวเขาเอง แต่โยชัวก็ยังไม่สามารถห้ามความคิดไม่ให้หวั่นเกรงคนที่กำลังปกป้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

ทว่าพริบตาที่เห็นสีหน้าที่คล้ายกับจะร้องไห้ ความกลัวซึ่งเกาะกุมร่างกายและจิตใจก็พลันมลายหายไปสิ้น
 เด็กหนุ่มอยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ แต่รู้ตัวเองดีว่าเขานั้นอ่อนแอ ต่อให้ฝึกยิงธนูมากแค่ไหน ถ้าเกิดต้องไปต่อสู่ขับเคี่ยวกับสัตว์อสูรที่แสนร้ายกาจตัวนั้น เขาที่ขนาดตัวยังสูงไม่เทียบเท่ากับชาฮาร์ในร่างมนุษย์ ดูแล้วสงสัยจะเข้าไปเกะกะชายหนุ่มเสียมากกว่า

ขณะที่โยชัวขยับตัวหลบให้ห่างจากรัศมีการต่อสู้ซึ่งกินวงกว้างมากขึ้น ชาฮาร์ในร่างหมาป่าอสูรก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาพริบตาจากในระยะพื้นที่ห่างไกลซึ่งเจ้าชายผู้เจิดจรัสใช้ต่อสู้

“ฮือ…”

เสียงคำรามต่ำของสัตว์ป่าเรียกสติโยชัวที่กำลังตื่นตระหนก เด็กหนุ่มร้องครางดัง’อา’ เมื่อสังเกตเห็นเข็มซึ่งมีลักษณะยาวจำนวนมากฝั่งอยู่บนร่างกายที่เต็มไปด้วยขนสีทองปกคลุมของชาฮาร์

“ชาร์…” โยชัวตะโกนเสียงหลง

ความอ่อนแอของเขานำพาโชคร้ายมาให้กับชายหนุ่มอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
ที่แย่ไปกว่านั้นสัตว์อสูรยักษ์ที่มีร่างกายคล้ายสิงโต โผล่มาประชิดอย่างรวดเร็ว เงื้อกรงเล็บหมายตะปบชาฮาร์ ที่จู่จู่ก็ชะงักงันไปอย่างผิดปกติ

ชั่วเสี้ยวของวินาทีเขย่าขวัญ โยชัวที่ใจเต้นจนแทบจะหลุดออกจากอก กลับสงบจิตใจอันหวาดกลัวของตนลงได้
อาจเป็นเพราะหากไม่ทำเช่นนั้น ชาฮาร์ที่ปกป้องเขาอย่างสุดชีวิตและตัวเขาที่อ่อนแอ คงจะต้องตายตกไปตามกัน ดังนั้น ลูกศรแสงซึ่งถูกปล่อยจากดวงจันทร์สีขาว จึงพุ่งเข้าเป้าหมายซึ่งก็คือดวงตาของสัตว์อสูรอย่างแม่นยำ

“กรร…” เสียงโหยหวนดังไปทั่วบริเวณ เจ้าศัตรูที่มีร่างเป็นสิงโตผละหนีจากไปอย่างรวดเร็วด้วยปีกที่โผบินไปในอากาศ
โยชัวคิดวนไปวนมาเรื่องที่ ’ทำไมมันถึงยอมจากไปอย่างง่ายๆ’ ทั้งที่มันน่าจะมีโอกาสปลิดชีวิตของเขาและจัดการกับชาฮาร์ซึ่งเป็นเป้าหมายของมัน

ไม่ว่าจะพยายามหาเหตุผลซักเท่าไหร่ แต่โยชัวก็ไม่มีเวลาที่จะเอาแต่ครุ่นคิด ชั่วขณะที่กำลังมึนงงสงสัย ชาฮาร์ก็ใช้กล้ามเนื้ออันแข็งแรง ดันเข็มที่ฝังอยู่ตามเนื้อตัวออกมาจนหมดได้เป็นผลสำเร็จ  หมาป่าอสูรค่อยๆคืนร่างกลับกลายเป็นมนุษย์ที่เปลือยเปล่า

เห็นดังนั้น โยชัวก็รีบเข้าไปช่วยพยุงร่างสูงใหญ่ซึ่งโงนเงนไปมาอย่างผิดวิสัย ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือด แม้ไม่ได้แสดงออกถึงความเจ็บปวด แต่ก็เผือดสีไปทั้งร่างจนน่าหวั่นวิตก

“ชาร์…เกิดอะไรขึ้น?” โยชัวระล่ำละลักถาม
แต่ยังไม่ทันที่คนบาดเจ็บจะได้ตอบ ลูเซียที่ผละจากไปก่อนหน้านั้นก็โผล่หน้ามา โยชัวสบายใจขึ้นมากแม้จะเป็นแค่ความรู้สึกเพียงน้อยนิด

“เข็มที่หางแมงป่องของมันดูเหมือนจะมีพิษ” ชาฮาร์พูดด้วยเสียงแหบระโหย โดยไม่รอช้า ลูเซียแบกร่างที่สูงและหนาพอพอกันขึ้นพาดบ่าก่อนจะคว้าเอาโยชัวแบกเข้าสีข้างด้วยมือที่เหลืออยู่

เพราะทุกคนต่างกำลังกดดันต่ออาการที่น่าเป็นห่วงของชาฮาร์ ในขณะที่เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจโผบินไปบนท้องฟ้า ทั้งที่ควรจะมีเรื่องให้ปรับทุกข์มากมาย แต่ตลอดระยะทางกลับปราสาทที่แสนไกล กลับไม่มีใครปริปากพูดเลยแม้แต่คำเดียว

เมื่อไปถึงปราสาท พวกเมดสาวก็หน้าซีดเผือดทันที่ที่เห็นสภาพของชาฮาร์ด้วยตาทั้งสองข้าง พวกหล่อนพากันโวยวายเป็นนกกระจอกแตกรัง

จะมีก็แต่ลอร่าเมดสาวสวมแว่นผู้เป็นพี่เลี้ยงคนสนิทของชาฮาร์เท่านั้นที่ยังสามารถเยือกเย็นจนออกคำสั่งกับเมดคนอื่นได้อย่างเฉียบขาดและมีประสิทธิภาพ

“จะรักษาอาการของชาร์ได้หรือเปล่าครับ”

โยชัวซอยเท้าถี่ยิบไล่หลังลูเซียที่ก้าวเดินไปตามทาง คำถามของเด็กหนุ่ม สร้างความลำบากใจให้เจ้าของร่างสูงสง่าจนคิ้วเรียวยาวขมวดเข้าหากันเป็นปม

“คงต้องพยุงอาการเอาไว้จนกว่าจะหาวิธีรักษาได้” ลูเซียตอบเสียงเรียบ
สำหรับชายหนุ่มต่อให้เป็นห่วงน้องชายต่างมารดาแค่ไหน เขาก็ยังสามารถควบคุมอารมณ์ให้สุขุมใกล้เคียงกับภาวะปกติได้ กลับกันกับโยชัวที่ไม่สามารถสงบจิตใจได้เลยแม้แต่นิดเดียว

โยชัวรู้ดีว่าถึงชาฮาร์จะหลับตาปล่อยให้ลูเซียแบกเดินอย่างไม่แสดงอาการเจ็บปวด แต่ทว่า เหงื่อกาฬที่ไหลพร่างพราวบนใบหน้าของชายหนุ่ม ทำให้เขาเข้าใจดีในเรื่องที่อีกฝ่ายกำลังทรมานด้วยพิษร้ายซึ่งได้รับมาอย่างสาหัสสากรรจ์

“เอาของที่สั่งมาหรือยัง”
ลูเซียถามลอร่าซึ่งเดินนำเหล่าเมดจำนวนหนึ่งเข้ามา พอเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจเห็นมาพวกเมดนำของที่ต้องการมาให้แล้ว ชายหนุ่มก็วางชาฮาร์ลงบนเตียงกว้าง

“………..” โยชัวมองดูลูเซียที่เริ่มต้นผสมสมุนไพรโดยมีเหล่าเมดสาวเป็นลูกมือ
ท่ามกลางความวุ่นวาย โยชัวที่กังวลทำได้แค่มองผู้คนในห้องร่วมมือกันหาวิธีช่วยเหลือชาฮาร์ เด็กหนุ่มเข้าใจดีว่า ตนเองนั้นไม่สามารถช่วยแบ่งเบาภาระให้ใครได้ จึงได้แต่ยืนดูนิ่งๆด้วยแววตาที่เศร้าสร้อย ทว่า ลูเซียซึ่งทำงานจนมือเป็นระวิงก็หันมาออกคำสั่งกับเขาด้วยสีหน้าอ่อนโยน

“ชาฮาร์คงไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ โยชัวช่วยเช็ดตัวให้เขาหน่อยเถอะนะ” โยชัวทำตามทันทีด้วยความดีใจที่ได้มีส่วนร่วม  ถึงแม้ที่ผ่านมาเขาจะมีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยน้อยจนนับครั้งได้ แต่ถ้าแค่เช็ดตัวล่ะก็ เขาเองต้องทำได้อยู่แล้ว
โยชัวขยับกายเข้าหาชาฮาร์ที่กำลังนอนเจ็บหากแต่ยังนิ่งเฉยเพราะไม่ยอมแสดงอาการเจ็บปวดให้ได้ใครเห็น หยาดเหงื่อที่ไหลโทรมกาย กับคิ้วเรียวที่ขมวดเข้าหากัน เด็กหนุ่มมองแล้วก็ให้เกิดความนับถือในความอดทนของคนซึ่งนอนเปื่อยหมดสภาพ
โยชัวค่อยๆประคองร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสมส่วนให้ลุกขึ้นนั่ง แล้วบรรจงใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาด ทำความสะอาดร่างกายของชาฮาร์โดยมีเมดสาวคอยช่วยเหลือดูแลอย่างใกล้ชิด


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เว็บล่มแต่เช้าเลยค่ะ

จะพยายามลงตอนที่สิบหกเพิ่มภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้นะคะเพราะตอนนี้สั้นมากมากมาก

อ้อสำหรับคนอ่านที่มีคำถามว่าทำไมโยชัวถึงรู้สึกเจ็บมันจะเฉลยในตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 10-06-2015 07:27:46
ตอนที่16

   “โยชัวถอยไปก่อน”
   
โยชัวที่เกาะชาฮาร์หนึบหลีกทางตามคำสั่งของลูเซีย จากนั้น เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจก็นำถ้วยเล็กจรดปากป้อนยาสีเข้มให้กับคนที่นอนหมดสภาพ หลังจากใช้เวลาปรุงมันขึ้นมาอย่างพิถีพิถันในเวลาหนึ่งชั่วโมง

   “ดื่มให้หมด”
   ลูเซียสั่งด้วยเสียงเฉียบขาด โยชัวที่เห็นชาฮาร์ดื่มยาไปจนหมดก็ขยับตัวเข้าไปยืนที่ข้างๆคนทั้งสองอีกครั้ง

   “ดื่มยานี่แล้วชาร์จะหายไหมครับท่านพี่ลูเซีย?”

   “ไม่หาย…” ลูเซียตอบ

   “ทำไมล่ะครับ?”

   “โยชัวดูอาการของชาฮาร์สิ”
   โยชัวสังเกตชาฮาร์ตามที่ถูกสั่ง เจ้าชายผู้เจิดจรัสถึงจะดื่มยาเข้าไปจนหมด แต่อาการก็ไม่ทุเลาลงและยังน่าเป็นห่วงไม่ต่างจากตอนที่พากลับมาเมื่อสองชั่วโมงก่อน
   “อะไรกัน”
   
โยชัวนึกอยากร้องไห้ ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ทว่าความผูกพันที่เด็กหนุ่มมีต่อชาฮาร์ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ความรู้สึกเช่นนั้น ส่งผลให้กระบอกตาของเขาร้อนผะผ่าว
   
โยชัวพยายามอดกลั้นอย่างมากไม่ให้เสียงสะอื้นลอดออกมาจากริมฝีปาก ท่าทางเช่นนั้นไม่ได้หลุดรอดจากสายตาของลูเซีย  มือใหญ่ถูกวางลงบนบ่าข้างขวาของเด็กหนุ่ม รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอาทรของลูเซีย ทำให้โยชัวที่มองสบตาสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุด
   
“ชาฮาร์จะต้องหาย เชื่อพี่ชายคนนี้เถอะนะ” ลูเซียให้คำมั่นสัญญา  “พี่จะหาวิธีรักษาให้เร็วที่สุด เพื่อการนั้น ยังไงก็ต้องกลับไปห้องค้นคว้าของพี่ที่บ้านลับในป่า”
   
“เข้าใจแล้วครับ” โยชัวผงกหัวรับคำ
   
“ระหว่างนั้นโยชัวก็เฝ้าดูแลชาฮาร์อย่าให้คลาดสายตา หากว่ามีอะไรเกิดขึ้น ให้รีบไปหาพี่ที่บ้านหลังนั้น จนกว่าจะหายารักษาได้ พี่จะไม่ไปไหน”

   เมื่อนัดแนะกันเสร็จ ลูเซียก็ผละจากไปปล่อยให้เด็กหนุ่มจัดการดูแลชาฮาร์ด้วยกันกับพวกสาวเมด
   ผ่านมาสองวัน ไม่ว่าลูเซียจะส่งยาตัวไหนมาให้ ก็ไม่สามารถขจัดพิษในร่างของคนที่นอนป่วยบนเตียงได้เลย ในทางกลับกัน ยิ่งเวลาผ่านไปอาการที่น่าหนักใจยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปทุกขณะ
   
ชาฮาร์นอกจากจะไปยอมทานอาหาร ยังนอนทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดที่ดูเหมือนจะไม่มีวันสิ้นสุด
โยชัวได้แต่นั่งอยู่ข้างๆคอยดูแลเจ้าชายผู้เจิดจรัสซึ่งทนทรมานทั้งยามหลับและยามตื่น

   “ทานซุปนี่ซักหน่อยเถอะ”

   โยชัวขอร้องชาฮาร์ ในขณะที่ยื่นช้อนซึ่งเต็มไปด้วยน้ำซุปไปยังเบื้องหน้าของชายหนุ่ม
   วันนี้เป็นวันที่สามของการถูกพิษ ทุกครั้งที่ชาฮาร์ลืมตาตื่น เจ้าชายผู้เจิดจรัสต้องทนข่มกลั้นความเจ็บปวดที่คล้ายถูกหนามทิ่มแทงไปทั้งร่าง ซ้ำร้ายพอหลับตานอน ความฝันอันชั่วช้าร้ายกาจก็เล่นงานชายหนุ่มจนทรุดโทรมลงไปทุกวัน

   “ไม่กิน”
   ชาฮาร์กดเสียงต่ำพร้อมกับปัดช้อนในมือของโยชัวจนกระเด็น
   ชายหนุ่มอารมณ์คุ้มดีคุ้มร้ายเหมือนคนบ้า ทำให้โยชัวที่ปั้นยิ้มอยู่ตลอดเวลามีใบหน้าเหยเกบิดเบี้ยวด้วยความเสียใจจนสุดจะกลั้น

   “ขอร้องล่ะ…โยชัวช่วยไปให้พ้นหน้าหน่อยจะได้ไหม ไปซะ…ก่อนที่ทางนี้จะอดกลั้นต่อไปไม่ไหว”

   ชาฮาร์ที่แสดงออกกับโยชัวอย่างก้าวร้าว แม้แต่ขณะพูดก็ยังไม่ยอมมองหน้าของคนที่กำลังเป็นห่วงเลยซักนิด
   สำหรับโยชัวที่ไม่เข้าใจว่าคนป่วยต้องการจะสื่ออะไร เด็กหนุ่มนอกจากจะไม่ยอมไปไหน ยังร้องตะโกนแสดงเจตนารมย์อย่างแข็งกร้าวให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสได้รับฟัง

   “ข้าจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น จนกว่าเจ้าจะหาย จนกว่าเจ้าจะเลิกบ้า”

   โยชัวที่ดวงตาเอ่อด้วยหยาดน้ำตา ถลึงมองชาฮาร์ที่หน้าบูดบึ้งด้วยความไม่โกรธจนเกือบจะคุ้มคลั่ง แต่กระนั้นพอสบตาเข้ากับดวงตาของชายหนุ่ม เขาก็รับรู้ได้ถึงความกลัวที่ซ่อนลึกอยู่ภายในจิตใจซึ่งปิดเอาไว้ไม่มิด

   กำลังกลัวอะไรอยู่?

   โยชัวที่คลายจากความทุกข์ครุ่นคิด

   ระหว่างที่กำลังค้นหาคำตอจากแววตาและสีหน้าของชาฮาร์ คนป่วยที่หงุดหงิดจนเกินจะกลั้นก็ตลบผ้าห่มคลุมโปงนอนซุกตัวหลบซ่อนจากสายตาช่างจับผิดของโยชัว

   เสียงกัดฟันกรอดๆ บอกชัดว่า คนในผ้าห่มกำลังพยายามอดทนมากถึงขนาดไหน หากแต่ถึงโยชัวจะรู้ก็ไม่สามารถทำอะไรกับอาการป่วยของชาฮาร์ได้ เด็กหนุ่มทำได้แค่เพียงนั่งเฝ้านอนเฝ้าดูอาการของชายหนุ่มไปตลอดทั้งคืน

   “อึก….โยชัว…ทำไม…”
   
โยชัวที่นอนฟุบอยู่ข้างเตียงลืมตาตื่นด้วยเสียงและการนอนกระสับกระส่ายของชาฮาร์
   วันนี้เป็นคืนวันที่สี่ ที่ชายหนุ่มนอนดิ้นพล่านด้วยฝันร้าย

   “ท่านแม่…ทำ…ไม….ท่านพ่อ….”
   โยชัวมองดูชาฮาร์คำรามเสียงต่ำและพร่ำเพ้อ

   “อย่าทำอย่างนั้นโยชัว…”

   โยชัวไม่รู้ว่าชาฮาร์กำลังฝันร้ายอะไร คนนอนป่วยบางครั้งก็พร่ำพูดถึงอมันด้าผู้เป็นแม่ บางครั้งก็เป็นท่านพ่อ แต่ที่เอ่ยถึงมากที่สุดกลับเป็นชื่อของน้องชายอย่างตัวเขา

   “เจ้ากำลังฝันร้ายอะไรอยู่นะ?”
   
โยชัวเม้มปากเข้าหากันก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปลูบไล้เสี้ยวหน้าของคนที่นอนทุรนทรายบนเตียง วินาทีนั้นเด็กหนุ่มก็ถูกโจมตีด้วยภาพความทรงจำของชาฮาร์

   “นี่มันอะไรครับท่านแม่”
   ชาฮาร์ที่อายุย่างสิบสองเอ่ยถามอมันด้าหลังจากที่ได้รับดาบเล่มใหญ่ยักษ์มาเป็นของขวัญ

   “นี่คืออสูรโลหิต” อมันด้าพูดด้วยเสียงยั่วยวน

 ดูเหมือนว่าการพูดด้วยท่าทางและน้ำเสียงเช่นนี้จะเป็นความคุ้นชินของเจ้าหล่อน ดังนั้นแม้แต่จะพูดกับลูกชาย อมันด้าก็ยังส่งเสียงกระเส่าส่อไปในทางหยาบโลน

“อสูรโลหิตเหรอ” ชาฮาร์มองดูดาบเล่มโตในมือด้วยดวงตาระยิบระยับ

วันนี้นอกจากจะได้สืบทอดตำแหน่งสำคัญจากท่านลุงเรนเดลชาฮาร์ยังได้ของขวัญที่ดูแล้วสุดวิเศษ แต่ท่านลุงที่ยืนอยู่ข้างๆกลับไม่รู้สึกเหมือนกับเขา

“ทำไมเอาอสูรโลหิตมาให้ชาฮาร์”
ใบหน้าของเรนเดลบึ้งตึง เจ้าของร่างกำยำส่งสายตาไม่พอใจไปที่อมันด้า ทว่าคนถูกมองกลับหัวเราะโฮะโฮะอย่างไม่ยีหระ

“อสูรโลหิตเป็นดาบสร้างชื่อให้กับบรรพบุรุษของเผ่าเรา การที่ข้าอยากมอบมันให้ชาฮาร์ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์อย่างหาไม่ได้มีอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ?”

“เจ้าจะให้อะไรก็ได้แต่ไม่ใช่ดาบนี่ ชาฮาร์ยังไม่พร้อม หลายพันปีมานี้ไม่มีใครสามารถใช้มันได้”

“อุ๊ยตาย…ท่านอย่าเอาคุณลักษณะของหมาขี้แพ้มาแปดเปื้อนลูกข้าจะดีกว่า ข้าไม่เถียงกับท่านเรื่องนี้ ที่สำคัญระหว่างชาฮาร์ยังอายุไม่ครบสิบห้า ข้าจะดูแลเผ่าพันธุ์ที่จงรักภักดีกับเพื่อนร่วมเผ่าแทนลูกชายข้าไปก่อน ท่านคงไม่ขัดข้องหรอกนะ” เห็นชัดว่าอมันด้ากำลังดูถูกเรนเดลอย่างไม่คิดจะปิดบัง

“ท่านแม่ถ้าไม่มีอะไรแล้วข้าขอตัวก่อนนะ”

เด็กชายผู้โตเกินวัยผละจากไปด้วยรอยยิ้ม ถึงจะรู้อยู่เต็มอกเรื่องความสัมพันธ์ที่เลวร้ายของพ่อที่แท้จริงกับท่านแม่ แต่ด้วยความที่เป็นเด็กกำลังโต การได้รับของขวัญซึ่งน่าสนใจทำให้ชาฮาร์ลืมความบาดหมางของพวกผู้ใหญ่ไปจนหมดสิ้น

“รีบทดสอบมันแล้วรีบไปที่โลกโน้นดีกว่า”
ชาฮาร์กระหยิ่มยิ้มย่อง นอกจากจะพึงพอใจในของขวัญ พอนึกถึงเด็กชายคนที่เขาเฝ้าปรารถนา เจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ระรื่นเสียจนออกนอกหน้า

“เอาเจ้าอสูรโลหิตนี่ไปอวดท่านพี่ด้วยน่าจะดี”
ชาฮาร์ตัดสินใจก่อนที่จะคลายโซ่ซึ่งพันรอบฝักดาบเอาไว้อย่างแน่นหนา พอปลดพันธนาการออกจนหมด เจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ชักดาบออกมาดู

“อะไรกัน!สีแดงเหมือนเลือดไม่มีผิด”
ชาฮาร์เอียงคอมองรูปร่างอสูรโลหิตพร้อมกับใช้มือลูบไล้ไปบนตัวดาบด้วยความชื่นชม

“ตั้งแต่นี้ไปเจ้าเป็นสมบัติของข้าแล้วนะ”

ชาฮาร์พูดไปยิ้มไปก่อนที่เจ้าดาบในมือจะส่งเสียงร้องและสั่นสะเทือนจนเขาต้องปล่อยมือจากมัน
ทันทีที่อสูรโลหิตเป็นอิสระ เจ้าดาบสีแดงก่ำก็บินฉวัดเฉวียนในอากาศ เปิดฉากเล่นงานชาฮาร์จนเสียเลือดอย่างมากจากการโจมตีครั้งแรก

โยชัวเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีตด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาด เขารู้อยู่แล้วว่าอนาคตดาบเล่มนี้จะกลายเป็นอาวุธประจำตัวของชายหนุ่ม
ดังนั้นโยชัวจึงไม่นึกห่วงที่ได้เห็นอสูรโลหิตเล่นงานชาฮาร์จนเลือดโทรมกายครั้งแล้วครั้งเล่า ผ่านไปสามวันในที่สุดอสูรโลหิตก็พ่ายแพ้และยอมรับเจ้าชายผู้เจิดจรัสมาเป็นนายของมันอย่างเต็มใจ

“……………”
ชาฮาร์ที่สลบไปหลังการต่อสู้เอาเป็นเอาตายค่อยๆลืมตาขึ้น

“นึกว่าจะตายไปซะแล้ว”
ชาฮาร์ลุกขึ้นนั่งชันเข่าอย่างเนือยๆก่อนจะปลายตามองไปยังอสูรโลหิตซึ่งนอนสงบนิ่งอยู่กลายเป็นสัตว์เชื่องๆข้างตัวเขา

“เล่นงานข้าซะจนเกือบตายเชียวนะ”

ชาฮาร์ลูบไล้ดาบอย่างรักใคร่ อสูรโลหิตสั่นสะเทือนตอบรับปลายนิ้วของนายคนใหม่ทันทีที่ถูกสัมผัส
จากนั้นเมื่อชาฮาร์กับอสูรโลหิตใช้เวลาเชื่อมสัมพันธ์กันจนสนิทสนมดีพอแล้ว เจ้าชายผู้เจิดจรัสก็วิ่งห้อตามหาเรนเดล เพื่อจะบอกเล่าประสบการณ์สุดยอดที่ตนพึ่งได้รับมา

“…………..”

ชาฮาร์ที่แอบหลังต้นไม้ในป่าพยายามซ่อนกลิ่นไอเฉพาะตัวของเขาอย่างมิดชิด ดูท่าว่าการที่ตนหายไปถึงห้าวัน อะไรๆก็เหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปเสียหมด เจ้าชายผู้เจิดจรัสพบว่าเรนเดลนั่งทรุดอยู่บนพื้นในสภาพที่หน้าอกมีรูกลวงโบ๋
ผู้เป็นพ่อกำลังเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรร่างสิงโตซึ่งมีขนาดสูงใหญ่กว่าอมันด้ามากกว่าหกสิบเซนติเมตร

“ท่านก็รู้ว่าจะต้องมีวันนี้”
อมันด้าที่ยืนข้างๆสัตว์อสูรซึ่งมีรูปลักษณ์เป็นสิงโตมีปีกและหางแมงป่องพูดกับเรนเดล

“เหอะ!หากข้าไม่ถูกพิษจากเข็มของสัตว์แปลกประหลาดนี่ คิดว่าลำพังพวกเจ้าสู้ข้าได้อย่างนั้นเหรอ”

เรนเดลกระตุกยิ้มหยามหยัน ในขณะที่ผู้อ่านความทรงจำเริ่มประมวลผลไปพร้อมกับรองรับสภาพจิตใจที่แตกร้าวของชาฮาร์
เงื่อนงำที่ปรากฏให้เห็นในความทรงจำ จากรูปลักษณ์ของสัตว์อสูรที่ยืนเคียงข้างอมันด้า เทียบกับเจ้าตัวที่โจมตีพวกเขาในปัจจุบัน ถึงพวกมันจะขนาดตัวแตกต่าง แต่โยชัวมั่นใจว่ามันทั้งสองเป็นสัตว์อสูรชนิดเดียวกัน

“เจ้าฆ่าข้าแบบนี้ไม่กลัวชาฮาร์จะจับได้แล้วรังเกียจเจ้าหรือไง” เรนเดลเค้นเสียงพูดทั้งที่ปวดไปทั้งร่างจนแทบครองสติไม่อยู่

“ต๊าย…จะเกลียดหรือไม่ป่านนี้เจ้าลูกโง่คงตายเป็นผีเพราะอสูรโลหิตไปแล้วล่ะค่ะ” อมันด้าตอบคำถามด้วยใบหน้ายั่วยวนและหยามหยัน

ท่าทางแบบนั้น สำหรับชาฮาร์ที่แอบดูอยู่ในป่า เป็นครั้งแรกในชีวิตของเด็กชายเลยทีเดียวที่ชิงชังใครสักคนถึงกับคิดอยากจะฆ่าฟัน มันแย่ตรงที่คนแรกซึ่งเขาคิดแบบนั้นดันกลายเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดไปเสียนี่

“เจ้าทำไปทำไมชาฮาร์เป็นลูกเจ้า” เรนเดลถามและเขาก็ได้คำตอบจากอมันด้าที่โปรยยิ้มล้อเลียนคำถามของเขาแทบจะในทันที

“ชาฮาร์เป็นลูกข้า ถ้าข้าอยากจะให้มันตายมันจะอยู่ไปทำไมล่ะ” อมันด้ากรีดเสียงหัวเราะแหลมสูง

เสียงหัวเราะของผู้เป็นมารดาฉีกกระชากความดีงามซึ่งเคยเป็นของหล่อนในความทรงจำของชาฮาร์ไปจนหมดสิ้น สภาพจิตใจของเขาแหลกเหลวไม่มีชิ้นดีไม่ต่างกับเรนเดลซึ่งนั่งกองอยู่บนพื้นอย่างหมดท่า

“นังผู้หญิงชั่วช้าฆ่าได้แม้กระทั่งลูกตัวเอง” เรนเดลก่นด่าจนน้ำลายแตกฟอง อาการเจ็บและความโกรธทำให้ชายผู้ที่ใกล้จะตายไม่สามารถคงภาพลักษณ์อันเคร่งขรึมได้อีกต่อไป

“พูดอะไรของท่านกันเนี่ย…ข้าชั่วช้าอย่างนั้นเหรอ…จะบอกอะไรให้ ชาฮาร์ ไม่ใช่ลูกของท่านซะด้วยซ้ำ” อมันด้าเปิดโปงความเป็นจริง เจ้าหล่อนแสร้งทำเป็นครุ่นคิดเล็กน้อยหลังพูดจบ

“แย่จังเลย…เจ้าลูกชายคนนั้น เอาจริงๆข้าก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นลูกที่เกิดจากผู้ชายคนไหน เอาเป็นว่าหมาขี้แพ้หน้าโง่อย่างท่าน สำคัญตัวผิดและถูกข้าหลอกใช้จนตายไงล่ะ” อมันด้าหัวเราะอีกครั้ง หลังจากที่เจ้าหล่อนหัวเราะจนพอใจ หล่อนก็ปล่อยให้ชายผู้บาดเจ็บนอนรอความตายอย่างช้าๆและโดดเดี่ยว

“ออกมาหาข้าสิชาฮาร์” เรนเดลพูดด้วยเสียงที่ดูสงบ ชาฮาร์ค่อยๆเดินออกจากป่ามาที่เบื้องหน้าผู้เรียกด้วยน้ำตานองหน้า

“เข้ามาใกล้ๆให้ข้าดูหน้าเจ้าก่อนตายทีสิ” ชาฮาร์ขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆเรนเดลที่หงายหลังนอนแผ่ราบบนพื้น

“ข้าเป็นใครกันครับ” หยาดน้ำตากระทบถูกใบหน้าของเรนเดล

“บอกข้าทีว่าข้าแท้จริงแล้วเป็นลูกของใคร”

ชาฮาร์ถามอีกครั้งด้วยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตา หากแต่ชายผู้ถูกตั้งคำถามกลับนิ่งเงียบ การกระทำของเรนเดลสร้างความปวดร้าวให้กับเจ้าชายผู้เจิดจรัสอย่างมหาศาล

“ท่านจะบอกว่าท่านไม่มีคำตอบเหรอครับ การที่ท่านเงียบมันก็เหมือนกำลังบอกว่าท่านเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าตัวข้าเป็นลูกของใคร”

หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 10-06-2015 07:30:02
ชาฮาร์ตะโกนทั้งน้ำตา เสียงสะอื้นไห้ที่โหยหวน ความเศร้าเสียใจที่ต้องสูญเสียสิ่งที่เคยยึดติดเสมอมา ทำให้เจ้าของความทรงจำดวงใจแตกสลายจนเกือบจะกลายเป็นบ้า
ในเวลาเกือบจะพร้อมๆกันนั้น โยชัวที่รับเอาความรู้สึกของชาฮาร์ก็หลั่งน้ำตาและปวดร้าวไปด้วยกัน

“อย่าร้อง”

เรนเดลออกคำสั่ง ชายผู้ใกล้ตายใช้มือหยาบกร้านสัมผัสใบหน้าของชาฮาร์ พอถูกสัมผัสอย่างอ่อนโยน เจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ชะงักหยุดร้องไห้ในทันที

“ไม่ว่าใครจะพูดยังไง สำหรับข้าเจ้าคือลูกที่เกิดจากข้าเองไม่ผิดแน่” เรนเดลปลอบโยนด้วยรอยยิ้ม มือหยาบกร้านที่สัมผัสใบหน้าอ่อนเยาว์ของบุตรชายค่อยๆอ่อนแรงและทิ้งตัวลง

“ท่านพ่อ” ชาฮาร์ร้องเรียกเรนเดลที่หมดลมหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า “ท่านพ่อได้โปรด” ถึงจะรู้ว่าเรียกยังไงคนที่ตายแล้วก็ไม่มีทางฟื้น แต่ชาฮาร์ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

“ท่านพ่อขอร้องล่ะ ฟื้นขึ้นมาเถอะ”

เด็กชายผู้มีร่างกายใหญ่โตเกินวัยหลั่งน้ำตายาวนานอย่างคนเสียสติ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเซื่องซึมสลับกับร้องไห้ซ้ำไปซ้ำมาจนพวกทหารอมนุษย์มาพบเขาในสภาพที่ดูไม่ได้โดยบังเอิญ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เหมือนว่ามันจะบอกพื้นที่เกินค่ะเลยต้องซอยแบบนี้งงมากเลยปกติความยาวแค่นี้น่าจะลงได้ :hao5:

แล้วก็ลงได้ซักที ตอนต่อไปอาจจะหกถึงเจ็ดวันนะคะ

ตอนนี้เรารับงานพิเศษมาทำแล้วอาจจะลงถี่แบบปกติไม่ได้ค่ะ

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 10-06-2015 08:29:02
สนุกค่ะ รอนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วย สู้ๆค่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 10-06-2015 19:28:09
กะลังสนุกเลย รีบมาต่อนะคะ ค้างมากกกก  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-06-2015 20:09:00
อย่าเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 10-06-2015 20:12:23
 :hao5:
ทำไมที่มาแต่ละหนุ่ม มันเศร้าหน่วงเยี่ยงนี้
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 10-06-2015 22:19:34
 :sad4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 11-06-2015 00:17:26
 :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Luksa ที่ 11-06-2015 14:46:16
ฮืออออ รอออออออ  :hao5:

เป็นกำลังใจให้น้าา รู้สึกยังไม่กระจ่างงง  :ling1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 11-06-2015 18:55:27
ชาร์น่าสงสารจัง
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 15-06-2015 07:43:00
 :mew1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 15-06-2015 09:51:27
 :hao5: :hao5: :sad4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 15-06-2015 19:28:05
 :z10:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 16-06-2015 22:57:46
 :sad4: :sad4: :sad4:
ชีวิตช่างวุ่นวาย ปมของแต่ละคน โอยยย ฉันจะเป็นลม ปวดใจละเกินนนน
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่15-16 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><10/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 16-06-2015 23:01:37
ตอนที่17

   น้ำตาแห่งความปวดร้าวหลั่งรินอาบแก้มโยชัวจนเปียกแฉะ หลังจากที่กลับออกมาจากความทรงจำได้ เขาก็ค่อยๆถอนมือซึ่งแตะไล้บนใบหน้าหล่อเหลา จังหวะที่คนตัวเล็กถอนปลายนิ้ว มือใหญ่ก็คว้าจับข้อมือของเขาเอาไว้แน่น

   “ชาร์…”
   
โยชัวเรียกชื่อด้วยเสียงสั่นเครือก่อนที่จะถูกเจ้าของชื่อกระชากแล้วกดร่างให้นอนลงบนเตียง เด็กหนุ่มถูกเจ้าชายผู้เจิดจรัสจู่โจมด้วยจูบที่จาบจ้วงป่าเถื่อน
   
ระยะเวลาที่ถูกจูบและกอดรัด ยิ่งยาวนานมากขึ้นเท่าไหร่ ภายในใจของโยชัวก็ยิ่งทวีความสงสารชาฮาร์มากยิ่งขึ้นเท่านั้น
เด็กหนุ่มถึงแม้จะถูกเจ้าชายผู้เจิดจรัสปรนเปรอด้วยจูบซึ่งกักขฬะ แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนการกระทำของสัตว์ป่าที่กำลังฟั่นเฟือนเลยแม้แต่นิดเดียว

โยชัวปล่อยให้คนที่ครองสติไม่อยู่ฉีกกระชากเสื้อผ้าซึ่งติดกายของตนออกไปจนหมด เมื่อร่างกายของเขาเปลือยเปล่า การจูบซึ่งใกล้เคียงกับการกัดกินก็ถูกประทับไปทั่วเรือนร่างอย่างดุดัน
ความรุนแรงของการขบจูบอันดิบเถื่อนทำให้เกิดรอยฟันซึ่งมีเลือดไหลซิบ  โยชัวต้องขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ปกติทุกครั้งเมื่อถูกเม้มกัด แต่กระนั้น เขาก็ยังอดทนทั้งน้ำตา ไปพร้อมๆกันกับสับสนในความรู้สึกที่พัดโหมกระหน่ำอยู่ภายในใจ

“ชาร์…”

โยชัวเอ่ยเรียกด้วยเสียงที่อ่อนโยนที่สุด เด็กหนุ่มคิดว่าการกระทำเช่นนี้อาจจะทำให้ชาฮาร์ที่กำลังคุ้มคลั่งคืนสติกลับมาได้ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบนั้น ทันที่ที่เจ้าชายผู้เจิดจรัสประทับจูบไปทั่วร่างจนพอใจ
เด็กหนุ่มก็สะดุ้งกายไปพร้อมๆกับส่งเสียงสะอื้นไห้ เมื่อถูกปลายลิ้นสีชมพูสำรวจทางเข้าเร้นลับซึ่งไม่เคยคิดจะให้ใครเห็นหรือสัมผัสมันไปตลอดชีวิต

“อึก…”
โยชัวพยายามกลั้นเสียงอย่างสุดความสามารถ แต่ในวินาทีต่อมา สิ่งที่เด็กหนุ่มตั้งใจกระทำกลับกลายเป็นเรื่องเสียเปล่า

“อา…”  ใบหน้างดงามประหนึ่งเทวทูตบิดเบี้ยวเหยเก สืบเนื่องมาจากการที่ถูกปลายนิ้วแข็งชำแรกลึกเข้าสู่ภายใน โยชัวรู้สึกได้ถึงนิ้วเรียวยาวซึ่งขยับเข้าออก ถึงแม้จะมองไม่เห็นภาพการเคลื่อนไหวของสิ่งนั้นด้วยตาของเขาเองก็ตาม

“อึก…อือ…”
เด็กหนุ่มครางไปพร้อมกับส่งเสียงสะอื้น หลังจากที่ถูกทิ่มแทงเน้นย้ำจนเพลิดไปกับการปรนเปรออย่างช่ำชองอยู่บ้าง การที่ในเวลาต่อมาชาฮาร์สอดจำนวนนิ้วเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้เกิดความรู้สึกแน่นตึงจนอึดอัดอย่างกะทันหัน

โยชัวถึงแม้จะรู้สึกขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่ด้วยไม่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน เขาจึงสะอึกด้วยความหวาดกลัวว่าที่ตรงนั้นอาจจะฉีกขาดจากการรุกรานซึ่งเพิ่มขึ้น

“ชาร์…อึก…”
ไม่ว่าจะส่งเสียงเรียกหรือพูดพร่ำร้องขอสักเท่าไหร่ ชาฮาร์ก็ไม่หยุดย่ำยีร่างกายและดำเนินบทรักไปจนถึงการสอดใส่ด้วยอวัยวะเพศ

“อื้อ…”
โยชัวมองดูชาฮาร์ซึ่งคำรามเสียงต่ำคล้ายสัตว์ป่า หลังจากที่ชายหนุ่มสอดใส่ความเป็นชายเข้ามาจนสุดความยาว เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงมองดูร่างกายซึ่งตอนนี้เชื่อมติดกันจนเป็นหนึ่งเดียว เด็กหนุ่มใช้มือเล็กทั้งสองข้างประคองดวงหน้าของที่กำลังรุกรานให้เงยขึ้นมาสบตากับตนเอง

“ถ้าทำแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างล่ะก็ จะทำตามใจที่ชาร์ต้องการก็ได้นะ”

โยชัวที่น้ำตายังไม่ทันเหือดหายพูดกับชาฮาร์ เด็กหนุ่มถึงจะถูกคนที่คร่อมอยู่เหนือร่างกระทำสิ่งร้ายกาจ ทว่าน้ำใจที่เขาได้รับมาตลอดจากเจ้าชายผู้เจิดจรัส ทำให้คนตัวเล็กไม่รู้สึกโกรธแค้นชายหนุ่มที่ขาดสติและกำลังป่วยหนักแต่อย่างใด

“ถ้าทำแล้วรู้สึกดีหลังจากนั้นก็ช่วยกลับมาเป็นคนเดิมด้วยล่ะ”

โยชัวใช้แขนทั้งสองข้างโอบรัดศีรษะของคนที่ทาบทับ ช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มโอบกอดชาฮาร์ด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างจากการเดินเล่นในป่ายามเช้า ร่างกำยำสมส่วนก็สั่นระริกจนเขาต้องคลายอ้อมกอด

แทบจะในทันทีชาฮาร์ผละออกจากตัวเด็กหนุ่ม ดวงตาคู่สีทองซึ่งวูบไหวไปมา สื่อชัดว่าเจ้าของดวงตากำลังพยายามข่มกลั้นห้วงอารมณ์ที่ดำมืดอย่างสุดความสามารถ

“ชาร์…”
เสียงเรียกชื่อของโยชัวกลายเป็นสัญญาณให้ชาฮาร์ขยับถอนความเป็นชายออกจากร่างเนียนนุ่ม เจ้าชายผู้เจิดจรัสผลุนผลันหนีจากคนใต้ร่างซึ่งมีรอยทำรักอันโหดร้ายอยู่เต็มไปทั่วเรือนกาย แต่กระนั้น ก็ถูกโยชัวส่งเสียงเรียกเอาไว้เสียก่อนที่จะได้หนีหน้าไป

“เดี๋ยวจะให้พวกเมดมาดูแลแล้วหาเสื้อผ้าให้ใหม่ นับจากนี้ไป…ขอร้องล่ะ อย่าเข้ามาใกล้ข้าอีก”

ชาฮาร์พูดโดยยืนหันหลังให้ โยชัวซึ่งเสียใจกับเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น แค่เพียงนิดเดียวเขาอยากจะเห็นใบหน้า อยากปลอบประโลมคนที่ออกคำสั่งกับเขาด้วยเสียงที่พร่าสั่น
แต่โยชัวก็ไม่สามารถทำได้ เด็กหนุ่มก้มหน้าลงแล้วปล่อยให้ชาฮาร์เดินออกจากห้องไป ทั้งทั้งที่ส่วนลึกของหัวใจต่อว่าการกระทำของตนเองซึ่งควรจะเข้มแข็งและทำให้เรื่องราวมันจบลงด้วยดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

“ท่านโยชัวอย่าโกรธท่านพี่เลยนะเจ้าคะ”

พวกเมดสาวที่ช่วยโยชัวแต่งตัวเสียใหม่ พูดขอโทษไปพร้อมๆกับแก้ตัวให้ชาฮาร์ผู้เป็นนาย
ทว่าคำพูดเหล่านั้นไม่เข้าหูเด็กหนุ่มซึ่งทอดตามองไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย โยชัวครุ่นคิดถึงสิ่งที่ควรจะทำต่อไปมาโดยตลอดนับตั้งแต่ถูกชาฮาร์ออกคำสั่งแล้วหนีหน้าไป

“ยังไงก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง”

โยชัวเอ่ยกับตัวเองก่อนจะกระโจนออกจากห้องทันทีที่พวกเมดแต่งตัวให้เขาเสร็จ
ยังไงก็ต้องพูดกันให้รู้เรื่อง เขาจะไม่ยอมให้ชาร์หนีหน้าไปโดยไม่ยอมอธิบายอะไรเลยอย่างเด็ดขาด
โยชัวคิดเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาในหัว ระหว่างทางที่พบเจอพวกเมด เขาก็ถามหาชาฮาร์ไปทั่วจนเกิดความวุ่นวายเล็กๆในปราสาท

จากนั้น เพราะว่าโยชัววิ่งผล่านไปมาราวกับหนู ที่ทางเลี้ยวเด็กหนุ่มวิ่งชนเข้ากับร่างของใครสักคนจนเซล้มก้นจ้ำเบ้า คนที่ถูกชนยื่นมืออันเรียวนุ่มมาให้เขาจับ โยชัวถูกดึงดูดเข้าสู่ความทรงจำทันทีที่จับมือก่อนที่จะมีโอกาสได้มองดูใบหน้าของคนปริศนา

เจ้าของความทรงจำก็คือซูซาน หญิงสาวผู้มีเส้นผมสีส้มและใบหน้าโฉบเฉี่ยวด้วยดวงตาที่คล้ายกับตาของเหยี่ยว และมุมปากที่เสมือนแย้มยิ้มอยู่ตลอดเวลา โยชัวจำดวงหน้าของผู้หญิงซึ่งคอยดูแลเขาเมื่อตอนที่ยังอาศัยอยู่ในคุกได้ดี

ในความทรงจำของเธอที่ตรงหน้า ลาซารัสทำรักกับอมันด้ามารดาแท้ๆของตนเองในท่ายืน เจ้าชายปีศาจฉวยโอกาสใช้มือใหญ่ที่แข็งแรงทะลวงอก ล้วงเอาหัวใจของเจ้าหล่อนซึ่งกำลังเพลิดด้วยความสุข จนไม่มีสติพอที่จะตอบโต้หรือป้องกัน
อมันด้าหมดลมหายใจไปด้วยใบหน้าสุขสม ร่างของเจ้าหล่อนถูกปล่อยกองลงบนพื้น ลาซารัสมองร่างอันไร้วิญญาณของมารดาด้วยแววตาที่ไม่ต่างจากมองอาจม

“เท่านี้ก็หมดตัวเกะกะไปอีกหนึ่งแล้วนะคะนายท่าน”

ซูซานพูดกับลาซารัส โยชัวรู้สึกได้ถึงอารมณ์ซึ่งเต็มไปด้วยความยินดีกับการตายของอมันด้า อีกทั้งยังรับรู้ถึงความภักดีและตื้นตันต่อเจ้าชายปีศาจที่ซูซานมีอยู่เต็มเปี่ยม
จากนั้นภาพความทรงจำก็ถูกเปลี่ยนช่วงไป

“ชาฮาร์กับลูเซียจะพาโยชัวออกไปเที่ยวเล่นในป่านอกเมืองค่ะ”
ซูซานกระซิบบอกขณะยื่นถ้วยซึ่งเต็มไปด้วยชาที่อุณหภูมิถูกต้องและหอมกรุ่นให้กับลาซารัส
โยชัวผู้อ่านความทรงจำใจเต้นระทึก เด็กหนุ่มคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าไปแล้วในทางเลวร้าย มันแย่มากตรงสิ่งที่เขาคิดเอาเองดันกลายมาเป็นความจริง

“ถึงเวลาที่ต้องทำตามแผนการได้ซักทีนะ”
ลาซารัสหัวเราะเบาๆใบหน้าลึกลับเย้ายวนเผยอยิ้มที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน รอยยิ้มของเจ้าชายปีศาจ นำพาความสุขมาให้แก่ซูซาน ดูคล้ายว่าเธอเองก็รอคอยเวลานี้มานานแล้วเช่นกัน
แต่น่าแปลก เวลาโยชัวอ่านความทรงจำของใครสักคน เด็กหนุ่มจะได้ยินและเข้าถึงความคิดความรู้สึกของคนที่ถูกอ่านได้อย่างชัดเจน

ทว่าครั้งนี้โยชัวกลับรับรู้ความรู้สึกของซูซานแค่เพียงเบาบางจนแทบจะไม่เข้าใจว่าความคิดที่อยู่ในความทรงจำเป็นของเจ้าตัวแน่จริงหรือเปล่า

อาจเป็นเพราะว่าเขากำลังหวาดกลัว

โยชัวหาข้อสรุปให้ความแปลกนี้อย่างมั่นใจ เด็กหนุ่มรู้สภาพจิตใจของตนเองตอนนี้ดี เพราะก่อนหน้านั้นเขาเจอเรื่องร้ายๆทั้งในความเป็นจริงและจากความทรงจำของชาฮาร์

ยิ่งได้มารู้แผนการอันต่ำทรามของลาซารัสโดยบังเอิญ โยชัวก็เกิดกลัวขึ้นมาจนสั่นสะท้าน ทั้งที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าร่างกายเขาจริงๆกำลังอยู่ในสภาพไหน

ต้องทำอะไรซักอย่าง

โยชัวกลับสู่ความเป็นจริงทันทีที่คิดเช่นนั้น

“รีบยืนขึ้นเถอะค่ะ ท่านจับมือของข้านานแล้ว”
เด็กหนุ่มเงยหน้ามองซูซาน ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อเห็นผ้าปิดตาที่บริเวณตาซ้ายของคู่สนทนา โยชัวชักมือกลับพร้อมกับจ้องมองความพิการซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยมีมาก่อนของหญิงสาวด้วยความตื่นตระหนก

“อ้อ…ท่านกลัวที่ตาของข้าบอดอย่างนั้นเหรอ พอดีถูกนายพรานสมัครเล่นยิงเข้าตอนกำลังออกล่าค่ะ”
ซูซานยิ้มเย็น เป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวและคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ โยชัวผลุนผลันลุกขึ้นวิ่งหนีจากหญิงสาวด้วยร่างกายที่มีเหงื่อโทรมกาย รอยแผลและความทรงจำซึ่งเด็กหนุ่มได้อ่านมา ซูซานคือสัตว์อสูรร่างสิงโตในตอนนั้นไมผิดแน่นอน
ซ้ำร้ายหญิงสาวที่ตาบอดข้างซ้ายคนนั้น อาจจะเป็นสัตว์อสูรตัวเดียวกันที่ฆ่าพ่อแท้ๆของชาฮาร์

“ไม่มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น”
โยชัวพึมพำขณะวิ่งไปตามทางเดินในปราสาท ระหว่างนั้นเด็กหนุ่มรวบรวมข้อมูลจากความทรงจำที่ได้อ่านมาทั้งหมด ในที่สุดเมื่อปมทั้งหมดถูกแก้ออก คนตัวเล็กก็มองเห็นเส้นแสงบางๆซึ่งเหยียดตรงเป็นเส้นเดียว

“เจ้าชั่วลาซารัส”
โยชัวร้องตะโกนด้วยความโกรธหลังจากที่ได้คำตอบแน่ชัดในใจ
คำตอบที่ได้พบ ช่างน่ากลัวและเลวร้ายเกินกว่าที่เด็กหนุ่มอายุสิบห้าจะเข้าใจ แต่ก็ไม่ใช่จะไม่เคยสัมผัสเรื่องราวที่คล้ายกันแบบนี้มาก่อนในสื่อบันเทิง

ต้องรีบบอกคนที่ไว้ใจได้ก่อนที่เรื่องมันจะเลวร้ายลงกว่าเดิม

โยชัวสาวเท้ามุ่งหน้าไปยังบ้านสีขาว บ้านซึ่งเป็นของลูเซีย ชายอีกคนที่เขาไว้วางใจไม่ต่างจากที่รู้สึกกับชาฮาร์

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนที่17แล้วค่ะ ตอนต่อไปจะเอามาลงในหกถึงเจ็ดวันนะคะ รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-06-2015 23:48:36
ซาฮาร์ได้กินแล้วก็ผลักไสไล่ส่ง
งี้เขาเรียกฟันแล้วทิ้ง!!
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 17-06-2015 09:03:00
เฮ้ยยย ลาซารัสต้องการอะร๊ายยย  :serius2:
สงสารชาร์ฮาร์ สงสารโยชัวร์ พี่ลูเซียช่วยด้วยยย  :o12:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: leplay ที่ 17-06-2015 09:40:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 17-06-2015 10:50:35
 :ling3: :katai1: :ling2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 17-06-2015 11:28:22
ลาซารัสทำเผื่ออะไร  :serius2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Maiiz Ellfiez ที่ 17-06-2015 17:30:24
ถูกใจค่ะเพราะเราเชียร์ชาร์ 555
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 17-06-2015 18:24:46
อะไรฟ่ะ เกือบได้ขยับแล้วเชียว รู้สึกตัวก่อนทำม่ายยยยยยย
รอตอนต่อไปด้วยความลุ้นและชอกช่ำจากตอนนี้
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 17-06-2015 19:53:27
เราชอบทุกคนเลยอ่ะ เป็นพระเอกหมดไม่ได้หรอ แบบรักพี่เสียดายน้องอ่ะค่ะไรท์
 :katai5: :mew2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 17-06-2015 20:44:25
ลาซาลรัสต้องการกำจัดคู่แข่งสินะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: D-Dream ที่ 18-06-2015 12:42:31
 :mew2: อ่านเรื่องนี้แล้วเลือกพระเอกไม่ถูกจริงๆ   :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 19-06-2015 01:44:45
เอ่อ  incest แทบทุกกรณีเลยเชียว  แหะๆ

ใครจะเป็นคนร้ายกันแน่  จะใช่เจ้าชายปีศาจจริงๆหรือเปล่าาา

ไม่อยากให้เป็นเลย  เราอุตส่าห์ชอบลาซารัสสส


หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: bossakorn ที่ 19-06-2015 17:31:58
รอๆๆ  :z10: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่17 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p5><16/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 22-06-2015 08:35:20
ตอนที่18

โยชัววิ่งไปตามทางเดินที่มีป่ารกครึ้มอยู่เต็มสองข้างทาง ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายด้วยห่าฝน คนตัวเล็กก็ไม่ได้หยุดความตั้งใจจนวิ่งมาถึงบ้านสีขาวของลูเซีย

“ท่านพี่ลูเซีย”
ร้องเรียกพร้อมกับเคาะประตูหน้าบ้าน  ไม่นานนัก ชายหนุ่มเจ้าของชื่อก็เปิดประตูออกมา

“เกิดอะไรขึ้นโยชัว?”
 โยชัวที่ยืนตัวสั่นเทาถูกลูเซียพาเข้าไปในบ้านก่อนจะถูกสั่งให้เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียใหม่

“กินซะร่างกายจะได้อบอุ่น”
 
เขารับเอาถ้วยซึ่งบรรจุนมร้อนมาจากลูเซีย เด็กหนุ่มจำต้องฝืนดื่มกินทั้งที่ไม่อยากสักนิด เพราะเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจใช้ดวงตากับความเงียบกดดันอยู่ตลอด และไม่ว่าจะถามหรือพูดอะไร ชายหนุ่มก็นิ่งขรึมไม่ยอมตอบคำถามอะไรแม้สักนิด คนที่โยชัวพยายามจะสนทนาด้วยเอาแต่บังคับให้เขาดื่มนมร้อนในถ้วยให้หมดเสียก่อน

“แค่ถูกบังคับให้ดื่มนมก็ต้องร้องไห้ด้วยหรือ?”

 คนถูกดุก้มหน้าก้มตาดื่มนมไปพร้อมกับอดกลั้นไม่ให้ร้องไห้ออกมา ทว่า เพราะมีเรื่องเลวร้ายมากมายพุ่งเข้าใส่ในเวลาใกล้เคียงกัน ถึงจะหนาวเหน็บเพราะถูกฝนตกกระหน่ำใส่ แต่โยชัวก็ไม่มีอารมณ์จะดื่มนมร้อนๆให้หมดถ้วย

“ดื่มได้แค่ไหนก็แค่นั้นเถอะ”

โยชัวถูกลูเซียแกะมือของเขาที่กุมถ้วยนมเสียแน่นจนมือเกร็ง เมื่อไม่มีถ้วยอยู่ในมือแล้ว เด็กหนุ่มก็เงยหน้าที่ก้มลงขึ้นมองเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ

“เล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น?”

รอยยิ้มอบอุ่นดังดวงตะวัน ทำให้โยชัวซึ่งกำลังตื่นตระหนกเล่าเรื่องที่ประสบมาได้อย่างมีสติ ตลอดเวลาสองชั่วโมงที่เล่าเหตุการณ์และสิ่งที่คิดเอาไว้ทั้งหมด ลูเซียเปลี่ยนสีหน้าไปมาหลากหลาย ในจำนวนนั้นใบหน้าอ่อนโยนกับโศกเศร้า เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มแสดงให้เห็นบ่อยครั้งมากที่สุด

“โยชัวอ่านความทรงจำคนที่สัมผัสได้อย่างนั้นหรือ?”

คนถูกถามผงกหัวถี่รัวแทนคำตอบ เพราะกำลังหวาดกลัวจนเกินควบคุม เด็กหนุ่มจึงลืมแม้กระทั่งจะปิดบังส่วนสำคัญที่ตัวเขาซุกซ่อนเอาไว้มาโดยตลอด

“เรื่องที่โยชัวเล่ามา บางส่วน มันดูผิดปกติอยู่ พี่ว่าความทรงจำบางอย่างอาจจะไม่ใช่ของจริงก็เป็นได้”

“ทำไมคิดอย่างนั้นละครับ”

“เพราะว่า มีปีศาจบางจำพวก สามารถสร้างความทรงจำลวงหรือความคิดลวงได้นี่สิ”

“เรื่องนั้นมัน…”
 
โยชัวกลอกตาไปมา เขาเริ่มสงสัยความทรงจำของลาซารัสในส่วนที่เต็มไปด้วยความรักและอบอุ่น พอได้ข้อสรุปว่าแท้จริงแล้วอาจเป็นความทรงจำปลอม ที่เจ้าชายปีศาจปีศาจจงใจสร้างขึ้น ใบหน้างดงามยิ่งกว่าเทวทูตก็บิดเบี้ยวด้วยอารมณ์แปรปรวนจนแม้แต่ตัวเขาเองก็ควบคุมไม่ได้

เด็กหนุ่มพยายามหาเหตุผลนานัปการที่ลาซารัสจงใจส่งความทรงจำปลอมให้ดู เขาตั้งข้อสันนิษฐานมากมายเรื่องที่เจ้าชายปีศาจทำเช่นนี้ อาจจะหมายถึงรู้อยู่แล้วว่าตัวเขานั้นไม่ใช่โยชัวคนเดิม
   
ถ้าอย่างนั้นการเข้าหาในลักษณะโอ้โลมก็เป็นเรื่องที่วางแผนเอาไว้มาโดยตลอดอย่างนั้นเหรอ?

โยชัวยิ่งประมาลผลก็ยิ่งสั่นเทา ตอนนี้เด็กหนุ่มระแวงแม้แต่ชาฮาร์กับลูเซียจนไม่แน่ใจแล้วว่าคนรอบตัวรู้อยู่แล้วเรื่องที่เขาเป็นคนอื่น หรือแม้กระทั่ง การทำดีด้วยที่ผ่านมา เป็นเรื่องจริงหรือแค่หลอกลวงเล่นสนุกให้เขาหัวหมุนจนเป็นบ้าไปกันแน่

“โยชัว…”

รู้สึกได้ถึงฝ่ามือที่ตบลงบนแก้มนิ่มเบาๆหลายครั้ง ก่อนหน้านั้นชั่วครู่ เด็กหนุ่มเข้าใจว่าตนเองกำลังตกใจจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอสติกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ที่ตรงหน้า แววตาซึ่งเต็มไปด้วยความรักและเมตตาของลูเซียทำให้ทบนบกั้นน้ำตาของโยชัวพังทลายจนหมดสิ้น เขาร้องไห้ออกมาโดยมีพี่ชายนิ่งมองอยู่เงียบๆ

“ข้าไม่ใช่น้องชายของท่านหรอกครับ” โยชัวบอกความจริงหลังจากร้องไห้ยาวนานนับชั่วโมง

“ท่านคงรังเกียจข้าที่หลอกท่านมาโดยตลอด”

เขาไม่ยอมมองหน้าลูเซียขณะพูด เด็กหนุ่มกลัวที่จะเห็นสีหน้ารังเกียจเหยียดหยามของอีกฝ่าย แต่ในความเป็นจริงกลับถูกปลายนิ้วของเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจเกี่ยวปลายคางให้เงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้า ก่อนจะประทับจูบแผ่วหวิวลงบนหน้าผากจนต้องตกตะลึง

“ทะ..ทำไม?” โยชัวลนลานถามทันทีที่ลูเซียถอนจูบ

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถึงจะต้องเจอเรื่องทุกข์ใจมากมายแค่ไหนนับจากนี้ไป ขอให้เชื่อพี่ชายคนนี้เถอะ ทุกอย่างมันจะต้องจบลงด้วยดีอย่างแน่นอน” ลูเซียให้คำมั่นกับโยชัว พริบตานั้นความสับสนวุ่นวายภายในใจก็มลายหายไปสิ้น ในอกที่ตอนนี้กลวงโบ๋ว่างเปล่าถูกแทนที่ด้วยความอุ่นร้อนยินดี

“เรื่องที่โยชัวสงสัยพี่จะให้คนของพี่สืบหาความจริง ระหว่างนี้พี่ขยับตัวไปทำอย่างอื่นไม่ได้ จนกว่าจะช่วยชาฮาร์ได้สำเร็จ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็มาหาพี่ที่บ้านหลังนี้”

โยชัวผงกหัวขึ้นลงตอบรับ ถึงแม้จะเอ่ยคำลาแล้ว แต่เด็กหนุ่มก็ยังเหลียวหลังมองดูลูเซียที่ยังไม่กลับเข้าไปในบ้านด้วยความอาลัย คนตัวเล็กหันกลับไปมองอยู่หลายครั้งจนในที่สุดเมื่อไม่สามารถมองเห็นได้อีก เขาก็เดินกลับไปยังปราสาทด้วยท่าทางเซื่องซึม

ผ่านไปหลายวัน โยชัวนอกจากจะเอ่ยถามที่อยู่ของชาฮาร์ ขณะเดียวกันก็ต้องระวังตัวตลอดเวลาไม่ให้บังเอิญไปพบกับลาซารัสและซูซาน ยิ่งนานวันผ่านไปจิตใจรวมถึงร่างกายที่ตึงเครียดก็ค่อยๆพอกพูนจนเด็กหนุ่มถึงขั้นนอนไม่หลับ

คืนวันนี้เองก็เช่นกัน โยชัวเดินสำรวจเรื่อยเปื่อยไปตามสถานที่ต่างๆในปราสาทมาจนถึงห้องโถงเอกก่อนจะยืนจดจ้องรูปภาพขนาดใหญ่ซึ่งถูกวาดให้มีเด็กชายสองคนและลูกสุนัขยืนหันหลังมองดูตะวันที่กำลังลับขอบฟ้า

“ชอบภาพนี้อย่างนั้นเหรอ?”

ขนลุกชันทันทีที่ได้ยินเสียงเย้ายวนทรงอำนาจอันเป็นเอกลักษณ์ พอตั้งสติได้โยชัวก็ผลุนผลันวิ่งผ่านลาซารัสไปยังบานประตูของห้อง ช่วงจังหวะที่กำลังจะก้าวพ้นออกจากประตู เด็กหนุ่มถูกกระชากจากด้านหลังจนถลากลับไปแนบชิดกับร่างกายแกร่งของเจ้าชายปีศาจ

“ปล่อย…ปล่อยนะ…”

โยชัวที่ตื่นกลัวจนแทบคุมสติไม่ได้ทั้งดิ้นทั้งตะโกนอย่างสุดกำลัง แต่ถึงจะดิ้นรนต่อต้านสักเท่าไหร่ ในเวลาไม่นาน เขาก็สำนึกได้ถึงความเปล่าประโยชน์ที่จะสลัดให้หลุดจากการจับกุมของลาซารัส

“จะดิ้นหนีไปทำไม พี่ชายอุตส่าห์มาเล่นสนุกด้วยถึงที่แท้ๆ”
ลาซารัสโปรยยิ้มที่สุดแสนจะชั่วร้าย โยชัวซึ่งยังคงดิ้นไม่หยุดยืนแข็งค้างด้วยความตระหนก เมื่อเห็นรอยยิ้มอันแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงของเจ้าชายปีศาจ

“ยืนนิ่งๆได้เสียทีนะ”

เจ้าชายปีศาจหัวเราะในลำคอก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากของคนที่อยู่ใต้การบังคับ โยชัวต่อต้านด้วยการกัดปากของชายหนุ่มทันทีที่รู้สึกถึงปลายลิ้นซึ่งรุกล้ำเข้ามาในโพรงปาก

“น่ารักเสียจริง…” ลาซารัสวาดรอยยิ้มด้วยริมฝีปากที่มีแผลและเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดหลังจากถอนจูบออกอย่างเชื่องช้า วินาทีถัดมาโยชัวก็ร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อถูกฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่ติดกายออกจนหมด

“ไม่นะ…” โยชัวถูกลาซารัสกดให้นอนลงบนพื้นก่อนจะใช้แรงมหาศาลบีบบังคับให้เลิกต่อต้าน

“เจ้ารู้อยู่แต่แรกแล้วเหรอว่าข้าอ่านความทรงจำของคนอื่นได้” 

โยชัวถามขณะพยายามบังคับริมฝีปากของตนเองให้หยุดสั่น ในตอนนี้ถึงไม่ต้องคิดเขาก็รู้ชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นดี ดังนั้นก่อนที่จะถูกย่ำยีหรือถูกฆ่า แค่ความจริงเพียงแค่นั้น ไม่ว่ายังไงก็อยากจะรู้ให้ได้

ทว่าคนที่ถูกถามกลับทำแค่เพียงหัวเราะ ’หึหึ’ อย่างรื่นรมย์ เด็กหนุ่มที่ใกล้จะสติแตกเอ่ยสิ่งที่อยากรู้ต่อไปโดยไม่สนใจอีกแล้วว่าจะได้คำตอบจากเจ้าชายปีศาจหรือไม่

“เจ้ารู้แล้วสินะ ว่าข้าเป็นคนอื่นที่แอบมาสวมร่างของน้องชายเจ้า”

คราวนี้ลาซารัสแหงนหน้าหัวเราะเสียงกึกก้อง ท่าทางสนุกสนานอย่างสุดกำลังของเจ้าชายปีศาจ ทำให้โยชัวสิ้นหวังไม่ตางจากหนูที่วิ่งวนอยู่ในเขาวงกตซึ่งถูกมนุษย์สร้างขึ้น

“เฮ้อ…สนุกจริงๆ”

ลาซารัสยิ้มกริ่มก่อนจะเปิดฉากคุกคามคนที่หวาดกลัวจนร้องไห้ไม่หยุด รอยจูบและปลายลิ้นที่ลากไล้ไปทั่วร่าง ถึงแม้จะเป็นการกระทำที่นุ่มนวล จนทำให้สุขสมประหนึ่งอยู่ในวิมาล แต่โยชัวกลับต้องทรมานอยู่ระหว่างความชิงชังและความต้องการ ที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ปฏิเสธไม่ได้

“อึก…อย่า…”

คนตัวเล็กสั่นระริกไปทั้งตัวระหว่างที่ถูกลาซารัสใช้ปากปรนเปรออวัยวะเพศของตนที่ชูชันยั่วตาจนนึกรังเกียจ ในตอนนั้นเองลอร่าเมดสาวสวมแว่นซึ่งเป็นพี่เลี้ยงที่สนิทที่สุดของชาฮาร์ก็บังเอิญมาพบเหตุการณ์เข้าพอดี

“มัวดูอะไรอยู่ไปซะสิ”

โยชัวช้อนมองลอร่าทั้งน้ำตา ถึงเมดสาวจะผละจากไปหลังจากที่ถูกลาซารัสไล่ในเวลาไม่กี่นาที แค่ได้เห็นแววตาที่มองมาของเจ้าหล่อน เด็กหนุ่มก็คิดว่าล่อร่าทำได้ดีมากเท่าที่จะทำได้แล้ว
ใครมันจะกล้าขัดขืนลาซารัสที่เป็นนายกันล่ะ
คนตัวเล็กยิ้มขมขื่นก่อนจะกลับมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงทีมีลาซารัสคร่อมร่างและกระตุกยิ้มเย้ยหยัน

“อึก…”

โยชัวสะอื้นเบาๆเมื่อลาซารัสเริ่มทำรักอีกครั้งโดยใช้ปากดูดดุนเครื่องเพศของเขา ทั้งทั้งที่ไม่อยากจะรู้สึกดีกับปลายลิ้นและโพรงปากอุ่นร้อน แต่ในเวลาไม่นานนัก เด็กหนุ่มที่ถูกรังแกก็ไต่อารมณ์ขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดของสวรรค์ ทันทีที่ลาซารัสทำลายกำแพงอารมณ์ด้วยการใช้ลิ้นเลาะเล็มไปยังรูเล็กๆที่ปลายอวัยวะเพศ

“อ้า…อึก”
 หลังจากทะยานขึ้นสู่จุดสูงของอารมณ์ปรารถนา โยชัวที่ตาพร่า มองดูลาซารัสคายน้ำรักที่เขาปลดปล่อยออกมาจำนวนมากลงบนอุ้งมือ

“……………..”
โยชัวมองการกระทำของลาซารัสอย่างมึนงง แต่ทันทีที่ถูกจับถ่างขาออกกว้าง เด็กหนุ่มก็ดิ้นรนต่อต้านอีกครั้ง

“อย่าขัดขืน คล้อยตามที่พี่ชายต้องการแล้วมีความสุขกับการถูกกอดซะ”

ร่างของโยชัวโอนอ่อนตามคำสั่ง ทว่าเพราะฝึกฝนสมาธิมาโดยตลอด แม้ร่างกายจะถูกเชิดตามใจชอบ แต่สติสัมปชัญญะของเขายังตะโกนขัดขืนอยู่ตลอดเวลาที่ร่างกายเคลื่อนไหวโดยไม่ได้มาจากความต้องการของตัวเอง

“……………….”

โยชัวได้แต่ใช้ดวงตาอันทุกข์ทรมานสังเกตการณ์กระทำของลาซารัส ซึ่งกำลังชโลมน้ำสีขาวขุ่นในอุ้งมือลงบนช่องทางเร้นลับบริเวณบั้นท้าย

“อื้อ…..อือ…”

เด็กหนุ่มต้องต่อสู้ระหว่างความหฤหรรษ์และความเดียดฉันท์ จากการสอดสำรวจเข้าออกด้วยปลายนิ้วเน้นย้ำของลาซารัส แต่ในวินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสจุดอ่อนไหวที่ซ่อนอยู่ภายใน สติสตางค์ของโยชัวก็กระเจิดกระเจิงจนเผลอหลับตาแล้วขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกดีจนสุดจะกลั้น

“อา….อ้า”

เสียงครางระรัวของโยชัวเป็นดั่งสัญญาณเร่งให้ลาซารัสขยับปลายนิ้วกระแทกเข้าที่จุดๆนั้นซ้ำๆอย่างเพลินอารมณ์ จากนั้นในระยะเวลาไม่นาน เจ้าชายปีศาจก็ยิ้มพรายด้วยความชอบใจ เมื่อคนตัวเล็กกระตุกกายปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเป็นรอบที่สอง

“ออกมาเยอะจริงๆ คงจะเก็บเอาไว้นานเลยสินะ”

โยชัวซึ่งหมดแรงเหม่อมองดูลาซารัสที่ยิ้มยั่วเย้าและค่อยๆรูดซิปกางเกงควักเอาความใหญ่โตออกมา เจ้าชายปีศาจนำสิ่งนั้นจ่อเข้ากับปากทางเร้นลับสีชมพู

“จะร้องไห้ออกมาก็ได้นะ”
น้ำตาของโยชัวทะลักล้นจากดวงตาในพริบตาที่ลาซารัสอนุญาต แต่ถึงจะร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียเท่าไหร่ เจ้าชายปีศาจก็ไม่สงสารหรือหยุดการชำเราซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วอึดใจ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ช่วงนี้ยิ่งอ่านนิยายตัวเองยิ่งรู้สึกว่าเขียนสำนวนแปลกๆ

ถ้าอ่านแล้วเข้าใจยากหรือไม่ดีช่วยชี้แนะให้หน่อยนะคะ

เรากังวลจนเริ่มหลอนแลว

อ้อนิยายเรื่องนี้จบแบบมีความสุขนะคะคนอ่านไม่ต้องกังวล

ตอนต่อไปน่าจะสี่ถึงห้าวันนะคะ

ตอนนี้สั้นมากเลย

อย่าลืมเม้นติชมด้วยนะคะ




หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่18 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><22/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 22-06-2015 09:04:50
ชอบทุกคนเลยยยยยยย ถึงลาซาลัส จะเลว ยังงัยเราก็รักกกกกกก
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่18 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><22/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 22-06-2015 12:56:46
ถึงใจ
ถึงอารมณ์   :z2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่18 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><22/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 22-06-2015 13:01:24
 :ling1:
เทใจให้ทั้งสามคน กินรวบเลยค่ะน้อง
ดีที่บอกว่าจบแบบมีความสุข เพราะงั้นถึงจะหน่วงๆอึนๅ มึนๆก็จะติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่18 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><22/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 23-06-2015 18:42:27
จบแบบมีความสุขก็รีบมาต่อนะคะ คนอ่านคาใจ :katai2-1:  :hao5:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่18 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><22/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 27-06-2015 08:30:10
ตอนที่19
   
   “อึก…อื้อ…” เสียงครางปนสะอื้นจากการถูกขืนใจดังกังวานไปทั่วบริเวณ แต่ถึงแม้ลาซารัสจะข่มขืนโยชัวในที่ที่ปราศจากความมิดชิด ทั้งอย่างนั้นเมดสาวซึ่งได้ยินเสียงแล้วมาพบกับทั้งคู่ก็ไม่ยอมยื่นมือเข้ามาช่วยแม้แต่ผู้เดียว เด็กหนุ่มได้แต่ภาวนาให้ช่วงเวลาที่ร้ายกาจนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว เขาอยากให้ลาซารัสพึงพอใจ จะได้ฆ่าเขาทิ้งไปเสียให้หมดเรื่องหมดราว
   
แต่คนตัวเล็กก็ยังคิดหวังว่าชาฮาร์หรือลูเซียจะยื่นมือเข้าช่วยเขาได้ก่อนที่แม้แต่ชีวิตของตนจะไม่เหลือ โยชัวไม่ถึงกับไร้เดียงสา จนไม่รู้ว่าความเป็นจริง ชาฮาร์หนีหน้าเขาไปเพราะกำลังป่วย ส่วนลูเซียเองก็ยุ่งกับการหาวิธีรักษาน้องชายต่างมารดาอยู่เช่นกัน

   “เสียใจอย่างนั้นเหรอ? รังเกียจสินะ? ตอนนี้คงกำลังคิดอยากจะตายไปพ้นๆใช่หรือเปล่า?” ลาซารัสกระซิบถามเสียงยั่วเย้า รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ลึกลับผุดขึ้นบนใบหน้าของเจ้าชายปีศาจ ในจังหวะที่โยชัวถูกปรับเปลี่ยนท่วงท่าทำรักด้วยการจับให้ขึ้นมานั่งบนตักของชายหนุ่มซึ่งนั่งขัดสมาธิ โดยที่ความใหญ่โตยังคงคาอยู่ในช่องทางที่บีบรัดแน่น

   “จะไม่ยอมให้ตายไปง่ายๆหรอก พี่ชายคนนี้จะทรมานเจ้าไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะตายจากไปก็จะหาวิญญาณของเจ้าให้พบแล้วพากลับมา ให้ทนทุกข์อยู่ด้วยกันเช่นนี้ไปตลอดการ”
   
ดวงตากลมเบิกกว้าง เด็กหนุ่มหวาดกลัวความคิดที่วิปลาสและไม่เข้าใจสิ่งที่ลาซารัสต้องการเลยแม้แต่นิดเดียว หากแต่แทนที่จะมีเวลาได้ครุ่นคิด เจ้าชายปีศาจก็ขยับสอดกระแทกความเป็นชายถี่กระชั้นรุนแรงจนเขาแทบจะหายใจหายคอไม่ออก

   “อ๊ะ…อา…” ความเสียวซ่านจากการถูกเสียบกระหน่ำทำให้โยชัวไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดเสียใจหรือรังเกียจอีกต่อไป ในที่สุดเมื่อรู้สึกถึงหยาดน้ำอุ่นร้อนที่ถูกฉีดพุ่งเข้าสู่ภายใน ลาซารัสก็ใช้มือกระชากเส้นผมให้เขาแหงนหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม เจ้าชายปีศาจเผยอยิ้มยั่วยวนแพรวพราว รอยยิ้มนั้นทำให้เด็กหนุ่มใจเต้นโครมครามทั้งที่ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเลยสักนิด

   “อึก…” วินาทีนั้นโยชัวก็ปลดปล่อยอีกครั้งจนน้ำสีขาวขุ่นเปรอะเปื้อนทั้งตัวเขาและลาซารัสที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าอยู่ครบชิ้น

   “ตอนถึงจุดเวลาที่ถูกสอดใส่ทำหน้าแบบนี้นี่เอง หึหึ ร่านกว่าที่คิดเสียอีกนะ”
   
ดูเหมือนว่าลาซารัสจะต้องการเห็นใบหน้าหฤหรรษ์ยามถึงจุดสุดยอด โยชัวซึ่งอดสูอย่างที่สุด ร้องไห้จนตัวโยนโดยมีเจ้าชายปีศาจหัวเราะคิกคักไปพร้อมกับโลมเลียหยดน้ำบริเวณรอบดวงตาของเขาซึ่งไม่ยอมแห้งเหือดไปง่ายๆ
   
ทว่าขณะถูกลาซารัสปลอบโยนด้วยปลายลิ้นเสียงโครมคราม ก็ทำให้โยชัวหันไปมองโดยที่ยังไม่หยุดหลั่งน้ำตา

   “นี่มันอะไรกันครับท่านพี่” ชาฮาร์ใช้กำปั้นทุบกำแพงจนแตกร้าว ใบหน้าดุดันกับดวงตาวาวโรจน์ ไม่ได้ทำให้ลาซารัสผู้ถูกถามตกใจหรือเกรงกลัวแต่อย่างใด
   
“หายป่วยแล้วอย่างนั้นเหรอ” ลาซารัสถามด้วยน้ำเสียงและใบหน้ายียวน ชาฮาร์ที่ยืนยังไม่มั่นคงแถมเหงื่อไหลโทรมกายท่อนบนซึ่งเปลือยเปล่า โยชัวเข้าใจดีว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสกำลังอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างมาก

   “ข้าถามว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ครับ” ชาฮาร์คำรามเสียงต่ำ ถึงแม้ว่าจะโกรธจนแทบจะขย้ำคอของพี่ชายร่วมมารดาได้ แต่ชายหนุ่มก็พยายามอดทนถึงที่สุด

   “จะมาร่วมวงกันก็ได้นี่…”
   โยชัวสะท้านกายด้วยความกลัว ใบหน้างดงามซีดเผือด ในขณะที่ชาฮาร์เองก็ดูจะตกใจไม่ต่างกัน

   “มาสิน้องรัก…ข้ารู้นะว่าเจ้าต้องอดทนแค่ไหนกับน้องชายที่ทั้งร่านทั้งยั่วยวนถึงเพียงนี้”
   ลาซารัสร่ายมนต์ด้วยเสียงกระซิบเย้ายวนชั่วร้าย โยชัวส่ายหน้าไปมาและเริ่มต้นร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเห็นชาฮาร์มีอาการเลื่อนลอยคล้ายกับโดนสะกด แม้ว่าเจ้าชายผู้เจิดจรัสจะพยายามต่อต้านอย่างเต็มที่

   “มาสิ ข่มขืนโยชัวได้ตามใจชอบ แถมพี่ชายคนนี้ยังอนุญาตให้คงสติของตัวเองได้เหมือนเดิมด้วยนะ ชาฮาร์…ทำกับโยชัวตามที่ใจเจ้าปรารถนา ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป”

   เสมือนคำพูดอันประกาศิต ชาฮาร์ที่ถูกสั่งให้ปลดปล่อยความอยาก เคลื่อนกายเข้าหาโยชัวโดยลาซารัสถอนความเป็นชายออกจากร่างเล็ก แล้วปล่อยให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสเข้าแทนตำแน่งซึ่งเจ้าชายปีศาจเคยอยู่
   
“โยชัว…”
ชาฮาร์ใช้มือลูบไล้ร่างขาวผุดผาดด้วยแววตาซึ่งเต็มไปด้วยความคลั่งไคล้ ทำให้โยชัวที่ถูกมองและโดนคลำอย่างหยาบโลนต่อต้านพร้อมกับขยับกายหลีกหนี ทว่าลาซารัสก็ออกคำสั่งกำชับให้เขายอมทอดกายให้จนกว่าชาฮาร์จะสมปรารถนา
   
“อย่าชาร์…ได้โปรดมีสติซักที”

 โยชัวอ้อนวอนชาฮาร์ที่ระดมจูบขบกัดเน้นย้ำสร้างรอยไปทั่วร่างกายอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด รอยขบกัดเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เจ้าชายผู้เจิดจรัสสังเกตเห็นการฟื้นฟูร่างกายอันเป็นลักษณะพิเศษซึ่งติดตัวโยชัว

   “สงสัยว่าคงกำลังหงุดหงิดที่ฝากรอยรักไม่ได้อยู่ล่ะสิ” ลาซารัสหัวเราะ เจ้าชายปีศาจวาดร้อยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเบิกบานใจ กลับกันกับโยชัวที่ทุกข์ทรมานไม่ต่างจากนรก ถึงแม้ว่าการเล้าโลมของชาฮาร์จะช่ำชองแค่ไหนก็ตาม
   ด้วยจิตใจที่ใกล้พังทลาย ต่อให้ถูกปลุกเร้าอารมณ์ใคร่ด้วยการดูดกลืนโลมเล้าเครื่องเพศอีกสักกี่ครั้ง อวัยวะเพศชายที่ซื่อตรงกับความใคร่ก็ไม่แข็งตัวขึ้นมาเลย ไม่ว่าจะถูกปรนเปรอด้วยชั้นเชิงในรูปแบบไหน

   “ตายด้านไปเสียแล้วหรือนี่…ชาฮาร์ไม่จำเป็นต้องปลุกอารมณ์แล้วก็ได้แค่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีก็พอ”
   ชาฮาร์คำรามเสียงต่ำตอบรับคำพูดของลาซารัสก่อนจะสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปในร่างของโยชัวแทบจะในทันที

   “………..”  โยชัวย่นคิ้วเข้าหากัน ตลอดระยะเวลาที่อาศัยอยู่ในร่างนี้ เด็กหนุ่มพอจะเข้าใจสภาพร่างกายของตนได้ดีขึ้น ร่างกายปัจจุบันของเขา ถึงแม้ว่าจะถูกตัดเฉือนก็สามารถคืนสภาพได้เป็นปกติ แถมในระหว่างถูกทำร้ายก็ยังเจ็บแค่เพียงนิดหน่อย
   ทว่าในความเป็นจริงไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจ็บเลย ดูคล้ายว่าจะเกิดความเจ็บที่ใกล้เคียงกับสภาพจริง ตามความแข็งแกร่งของคนและอาวุธที่โจมตีเข้ามาก็เป็นได้ นอกจากนั้นร่างกายอันงดงามเกินจริงนี้ ยังไม่ต่อต้านความสุขสมที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม

   “อึ๊…อึก…” โยชัวสะกดกลั้นเสียงที่เต็มไปด้วยความทรมานจากการกระแทกกระทั้นความเป็นชายอย่างป่าเถื่อน เขากัดริมฝีปากจนแดงช้ำ ถึงจิตใจจะแทบแตกสลายแต่จะไม่ยอมให้ลาซารัสหัวเราะเย้ยหยัน เพราะเห็นท่าทางที่น่าสมเพชมากไปกว่านี้อย่างเด็ดขาด

   “อึก…อื้อ”

   ไม่รู้ว่าฝันร้ายนี้จะดำเนินไปถึงเมื่อไหร่ หากแต่พอชาฮาร์หยุดเคลื่อนไหว น้ำรักที่แสดงถึงความหรรษาถึงขีดสุดก็ถูกฉีดเข้ามาในร่างของโยชัวพร้อมกับที่เจ้าชายผู้เจิดจรัสครางเสียงต่ำอย่างสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ
   
ทันใดนั้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด ลาซารัสใช้ดาบแทงทะลุอกของชาฮาร์ที่กำลังมีความสุขจนแทบคุ้มคลั่ง หยาดเลือดสดๆกระเซ็นใส่จนเปรอะเปื้อนโยชัวที่อยู่ใต้ร่างของเจ้าชายผู้เจิดจรัสไปด้วย

   “………….”
   
โยชัวกลัวจนหวีดร้องไม่ออกภาพของชาฮาร์ซึ่งบาดเจ็บและผละออกจากกายเขาแล้วเดินหนีไปตามทาง เด็กหนุ่มเห็นมันเป็นภาพเคลื่อนไหวช้าๆ จนเจ้าชายผู้เจิดจรัสกลายร่างเป็นหมาป่าอสูรทลายกำแพงกระโจนออกไปยังด้านนอก
   
“หนีไปก็ไม่พ้นหรอก ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี” ลาซารัสหัวเราะเสียงต่ำ ดวงตาสองสีและใบหน้าเย้ายวนลึกลับ ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมจนสุดที่จะหยั่ง แต่ด้วยใบหน้าและท่วงท่างามสง่าประหนึ่งราชาผู้เป็นที่สุดของความชั่วร้ายทั้งมวล ทำให้โยชัวประทับใจในความต่ำทรามอันแสนสวยงาม ความรู้สึกนั้นตราตรึงอยู่ในใจจนร่างกายไม่อาจหยุดสั่นสะท้านด้วยความหวั่นไหวและขลาดเขลา เด็กหนุ่มมองตามเจ้าชายปีศาจที่เคลื่อนกายอย่างช้าๆไล่ตามชาฮาร์ผ่านรูโหว่ซึ่งถูกทำลายทิ้งไว้จนลับตาไป

   “ชาร์ไม่นะ!”
   
โยชัวหยั่งรู้อนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งนักทำนาย เด็กหนุ่มฝืนร่างกายอันบอบช้ำไร้เรี่ยวแรงลุกขึ้นเดินตามลาซารัสไปหลังจากนั้นไม่กี่นาที
   
เมื่อออกมาที่ด้านนอก โยชัวก็พบว่าลาซารัสไล่ต้อนชาฮาร์ในร่างหมาป่าอสูรอย่างหนักหน่วง เด็กหนุ่มนึกกลัวความพ่ายแพ้ที่นำมาซึ่งความตายของเจ้าชายผู้เจิดจรัสจนแทบสติแตก
   
ต้องไปตามคนมาช่วย
   
โยชัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ในขณะที่อารมณ์และสติปั่นป่วนจนแทบเพี้ยน ลูเซียผู้เป็นที่พึ่งสุดท้ายก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเด็กหนุ่ม คนตัวเล็กวิ่งเข้าไปในป่าทั้งร่างกายยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและกำลังเปลือยเปล่า วิ่งไปยังบ้านพักของลูเซีย

   “ท่านพี่…”
   
ผวาเข้าหาลูเซียซึ่งคัดแยกสมุนไพรอยู่ที่หน้าบ้าน เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจเปลี่ยนสีหน้าจากเยือกเย็นเป็นวิตกเมื่อเห็นสภาพอันดูไม่ได้ของคนที่โผเข้ามา
   
“เกิดอะไรขึ้น” ลูเซียถาม
   
“ข้า…”
   
โยชัวพยายามอย่างมากที่จะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดด้วยร่างกายอันสั่นระริก หากแต่วินาทีถัดมา เสียงอันยั่วเย้าหลอกหลอนก็กลายเป็นสัญญาณให้คนที่สติแตกลนลานหนีไปซ่อนยังด้านหลังของลูเซีย

   “ถึงจะเล่าให้ฟังไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อีกสักพักก็ต้องตายกลายเป็นผีอยู่ดี”

   ลาซารัสเตือนสติด้วยเสียงแช่มช้านุ่มนวล เงาร่างของเจ้าชายปีศาจที่เคลื่อนกายเข้ามาใกล้ ท่าทีสบายๆหากแต่เต็มไปด้วยแรงกดดันมหาศาล ทำให้ลูเซียมีปฏิกิริยาตอบสนองด้วยลักษณะที่เหมือนกับสายดนตรีถูกขึงจนตึงเปรี๊ยะ

   “พูดอะไรไร้สาระ” ลูเซียกดเสียงต่ำ หลังจากกลับมาเยือกเย็นได้เช่นเดิมแล้วเจ้าชายแห่งสวรรค์ก็แผ่ออร่าคุกคามลาซารัสกลับจนเกิดกระแสไฟ้ฟ้าจำนวนมากในอากาศ

   “เข้าใจยากเสียจริงนะ เอาเถอะเรามาเริ่มกันเสียทีดีกว่า”
   สิ้นคำพูดของลาซารัส โยชัวก็ถูกลูเซียออกคำสั่งให้ถอยไปอยู่ให้ห่าง เด็กหนุ่มยืนดูการต่อสู้ด้วยความกดดันอย่างหนอนแมลงที่ไม่มีกำลังแม้แต่จะต่อต้านผู้ล่า
   
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่ออีกตอนค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่18 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><22/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 27-06-2015 08:33:33
ตอนที่20

สายฟ้าสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนผ่าลงมาพร้อมกันกินบริเวณกว้าง ลูเซียไม่ว่าจะเข้าประชิดใช้ดาบจู่โจมลาซารัสซึ่งเคลื่อนไหวไปมากลางอากาศซักกี่ครั้ง วินาทีที่เข้าใกล้เป้าหมายได้ เขาจะต้องดีดตัวออกป้องกันตนเองจากเวทย์มนต์อันร้ายกาจของเจ้าชายปีศาจเสียทุกครั้งไป
   นอกจากสายฟ้าสีดำที่ผ่าลงมาไม่หยุด พื้นดินด้านล่างยังมีเปลวไฟสีเดียวกันเผาผลาญทุกสิ่งจนมอดไหม้ไม่เหลือแม้แต่เศษซาก ทว่าโยชัวกับบ้านของลูเซียไม่ได้รับผลกระทบเพราะอาณาเขตคุ้มกันซึ่งเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจได้สร้างเอาไว้ให้ตั้งแต่เริ่มต่อสู้

   “ไม่คิดจะประมือกันด้วยดาบเลยสินะ”
   ลูเซียเอ่ยถามขณะลอยตัวอยู่กลางอากาศด้วยปีกทั้งสองข้าง
   
“ก็ข้าไม่ชอบให้มือสกปรก ไม่สิจะเรียกว่าขี้เกียจออกแรงก็ไม่ผิดนักหรอก”
เสียงหัวเราะยียวนกวนอารมณ์ไม่เพียงแค่กับลูเซียเท่านั้น แม่แต่โยชัวยังหงุดหงิดกับท่าทางดูแคลนผู้อื่นของลาซารัส

“มาลองดูกัน ถ้าข้าใช้ความเร็วสูงสุด เจ้าจะยังร่ายเวทย์ทันอยู่ไหม”
ลูเซียกางปีกร่อนเข้าหาคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วระดับแสง โยชัวซึ่งเฝ้าสังเกตการณ์เห็นการเคลื่อนไหวเป็นเพียงเส้นแสงสีขาวเท่านั้น
   ในตอนนี้ลาซารัสไม่ได้แค่ยืนร่ายเวทย์โจมตีอยู่กับที่อีกต่อไปเจ้าชายปีศาจเรียกดาบซึ่งไม่มีลักษณะพิเศษอะไรออกมารับมือลูเซียไปพร้อมๆกับร่ายมนต์คาถา
   
พริบตานั้น พายุหมุนอันรุนแรงและมีความเร็วในการเคลื่อนย้ายจนแม้แต่โยชัวยังจินตนาการไม่ออกถึงสี่ลูก ขนาบตีวงบีบอัดให้ลูเซียต้องหยุดชะงัก แต่แค่แวบเดียวเท่านั้น เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจก็สามารถหนีจากวงล้อมได้ด้วยความเร็วที่ไม่ตกลง

   “ลาซารัส…” ลูเซียตะโกนเสียงแหบพร่า ช่วงเวลาที่พุ่งเข้าใส่ลาซารัสซึ่งไร้การคุ้มกัน ฉับพลัน ลูกบอลทรงกลมสีดำขนาดยักษ์ก็ปรากฏดูดกลืนชายหนุ่มเข้าไปก่อนที่มันจะหดเล็กลงแล้วอันตรธานหายเหมือนไม่เคยมีมาก่อน

   “…………..”
   
โยชัวตกตะลึงจนหวีดร้องไม่ออก การหายไปโดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ทำให้เด็กหนุ่มหวาดผวาจนทำได้แค่มองลาซารัสเยื้องกรายเข้าหาด้วยรอยยิ้มอันชั่วช้าวิปลาสจนเกินกว่าที่จะพบเห็นได้ที่ไหน
   เมื่อหนียังไงก็ไม่พ้น โยชัวจึงยืนนิ่งๆปล่อยให้ชะตากรรมนำพาไป ซึ่งแน่ชัดว่ามีแต่ความตายเท่านั้นที่รอเขาอยู่ข้างหน้า
   
“เรามาสนุกกันต่อเถอะ”
   ลาซารัสช้อนอุ้มพาโยชัวเข้าไปในบ้านสีขาวที่ยังสมบูรณ์ครบไม่ผุพัง

   “เจ้าไม่ฆ่าข้าเหรอ?”
   เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่าลาซารัสแท้ที่จริงแล้วต้องการอะไรกันแน่

   “ก็บอกแล้วว่าจะไม่ปล่อยไปไหน ข้าจะให้เจ้าอยู่กับข้าอย่างนี้ไปเรื่อยๆตลอดกาล”
   
น้ำตาของโยชัวทะลักออกมาอีกครั้ง เขาจำไม่ได้แล้วว่าหลายวันมานี้มีเวลาไหนบ้างที่ยังไม่ได้ร้องไห้
   หลังจากนั้น ในสภาพตื่นกลัวจนแทบจะกลายเป็นคนเสียสติ โยชัวถูกลาซารัสย่ำยีนับครั้งไม่ถ้วน ถึงจะผ่านไปถึงสามวันกามกรีฑาอันยาวนานต่อเนื่องก็ไม่ได้ทำให้เจ้าชายปีศาจหมดแรงไปได้ง่ายๆ
   โยชัวนึกรังเกียจร่างกายที่สามารถฟื้นตัวจากความอ่อนล้าได้อย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มเริ่มไม่เข้าใจระบบร่างกายที่ซับซ้อนของตนเองมากยิ่งขึ้นไปทุกที

   “ดีจริงๆ”
   
ทันทีที่ถูกลาซารัสเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงที่บอกชัดถึงความเอ็นดู โยชัวก็กระตุกกายปลดปล่อยน้ำรักซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ออกมา
   ชั่วเวลาที่ปลุกเร้าและลูบคลำประตูห้องก็ถูกเปิดออก ซูซานเดินเข้ามาโดยมีโดโนแวนราชาปีศาจซึ่งเป็นบิดาของเจ้าชายทั้งหมดตามหลังเข้ามาติดๆ

   “ยังสนุกไม่เลิกอีกหรือลาซารัส” โดโนแวนกระตุกยิ้มดูแคลน
   โยชัวที่หอบเหนื่อยและจับต้นชนปลายไม่ถูก มองดูโดโนแวนสลับกับลาซารัสซึ่งผละออกจากตนไปแสดงความเคารพผู้เป็นพ่ออย่างนอบน้อม
   
“ในที่สุดก็สำเร็จเงื่อนไขในการเป็นราชาจนได้นะ” โดนโนแวนเอ่ยเสียงเนิบนาบ

   “เพราะท่านพ่อสนับสนุนข้ามากเป็นพิเศษนั่นแหละครับ”
   
โยชัวเริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ราชาปีศาจต้องการผู้ที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่งมาดำรงตำแหน่งต่อจากตน ทว่าแทนที่จะเปิดโอกาสให้พี่น้องแข็งขันอย่างยุติธรรม โดโนแวนได้เลือกลาซารัสซึ่งโหดเหี้ยมกว่าใครด้วยตัวเองมาแล้วตั้งแต่ต้น
   
“มีงานสุดท้ายให้เจ้าทำก่อนที่ข้าจะลงจากบัลลังค์ ไปปราบกบฏเผ่าเทพซึ่งลุกขึ้นมาต่อต้านจากการตายของลูเซียซะ จากนั้นค่อยกลับมารับตำแหน่ง”
   ลาซารัสรับคำสั่งก่อนจะออกจากห้องไปโดยไม่หันกลับมามองโยชัวที่นอนเปลือยเปล่าบนเตียงแม้เพียงนิดเดียว

   “หึหึ”
เสียงหัวเราะเย็นเยียบทำให้เด็กหนุ่มขนลุกชันไปทั่วร่าง โยชัวขยับกายขึ้นในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอนเกร็งตัวอย่างระมัดระวัง โดโนแวนเคลื่อนกายรวดเร็วมายังข้างเตียง

“ด้วยความงดงามเช่นนี้นะหรือที่ทำให้พวกลูกชายสวะหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น”
โยชัวถูกโดโนแวนเชยคางให้เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าที่ดิบเถื่อนหยาบกระด้าง ถึงแม้จะเทียบความงามของพวกลูกชายไม่ได้ แต่ไม่อาจปฏิเสธความหล่อเหลาที่มาพร้อมความก้าวร้าวดุดันซึ่งเป็นเสมือนภาพลักษณะของราชาปีศาจ

 “ถ้าเกิดว่าแค่มีร่างกายสวยงามเฉยๆข้าจะปล่อยให้วิ่งเล่นสนุกในสวนของข้าได้อยู่หรอก…”
ระหว่างที่พูดก็ถูกบีบคอด้วยมือข้างหนึ่ง คนตัวเล็กจมลงกับเตียงและพยายามดิ้นรนด้วยใกล้จะขาดอากาศหายใจ

“แต่ว่ามันหงุดหงิดมากเจ้ารู้ไหมที่ไม่สามารถอ่านใจเจ้าลูกชายทุกคนซึ่งเกิดมา ทั้งที่ข้าไม่เคยอ่านใจใครไม่ได้มาก่อน”

พูดอะไรกันนี่

โยชัวคิดก่อนที่มือซึ่งบีบคอจะคลายลงเล็กน้อย เปิดโอกาสให้เขาหายใจหายคอก่อนจะสิ้นลม

“แค่กๆ”

เด็กหนุ่มสำลักอากาศที่ผ่านเข้าปอด ถึงแม้ว่าโดโนแวนจะไม่ได้ออกแรงบีบรัดคอของเขาแน่นอย่างเมื่อครู่ แต่ราชาปีศาจก็ไม่ได้ปล่อยมือจากลำคอที่เล็กจนแค่ออกแรงเบาๆก็หักได้โดยง่าย

“ทำหน้าแบบนี้คงอยากจะรู้สินะว่าข้ากำลังหมายถึงอะไร จะบอกให้เจ้าฟังก็ได้”

โดโนแวนหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางโง่งมเสียจนน่าเวทนา หากแต่ถึงแม้วินาทีต่อมาราชาปีศาจจะแสดงสีหน้าเมตตาสักแค่ไหน  โยชัวก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้นึกสงสารเขาจริงๆอย่างที่แสดงออก

“นับตั้งแต่ข้าเกิดมาก็มีพ่อแม่ที่เป็นปีศาจผู้แสนจะยิ่งใหญ่ ท่านพ่อเป็นแม่ทัพปีศาจที่ไม่ว่าจะไปรบที่ไหนก็ชนะอยู่ร่ำไปจนเป็นที่เลื่องลือ” โดนโนแวนทำหน้าเลื่อนลอยขณะรำลึกถึงอดีต

“ท่านแม่เองก็เป็นราชินีเผ่าไซเรนผู้มีรูปโฉมงดงามยิ่งกว่าหญิงใดที่เคยพบเห็น แต่สิ่งที่นำความเจ็บปวดมาให้ข้าคือการที่เกิดมาเป็นเศษเดนเทียบค่าไม่ได้แม้แต่ปลายเล็บของพ่อแม่…”
โดโนแวนหยุดพูดแล้วหัวเราะเสียงแผ่ว โยชัวเริ่มไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดชายที่กำลังประทุษร้ายถึงเล่าอดีตส่วนตัวให้เขาฟัง

“แต่ว่าวันหนึ่งข้าก็ได้รู้ว่าการฆ่ากินศพของผู้อื่นมันทำให้ข้าขโมยเอาความสามารถของคนที่ถูกข้ากินมาได้ พลังอันสุดวิเศษที่ติดตัวมานี้ ทำให้ข้าตัดสินใจปลิดชีวิตเหล่าสิ่งมีชีวิตจำนวนมากเพื่อกัดกินร่างของพวกมัน”

ขณะที่ฟังก็จำลองสถานการณ์ในหัว เมื่อประติดประต่อเรื่องราวได้ เด็กหนุ่มก็หลุดปากเอ่ยถามโดโนแวนทั้งที่ร่างกายหยุดสั่นเทาไม่ได้

“ท่านฆ่าแล้วกินพ่อแม่ตัวเองหรือเปล่า?”
เมื่อพูดจบประโยคโดโนแวนก็แสยะยิ้มแทนคำตอบ

“ข้าฆ่าแล้วกินจนนับไม่ถ้วน ในที่สุดก็ได้ความแข็งแกร่งซึ่งไม่มีผู้ใดเทียบมา ถ้าหากว่าจะไม่มีมารหัวขนอย่างพวกเจ้าถือกำเนิด ข้าก็คงไม่ต้องอดหลับอดนอนวางแผนกำจัดเสี้ยนหนามมาจนถึงตอนนี้”

“อะไรกัน…”
โยชัวครางอย่างสิ้นหวัง เด็กหนุ่มสมเพชลาซารัสซึ่งคิดว่าจะได้ครองบัลลังค์โดยไม่รู้ว่าเป็นแผนอันแยบคายที่โดโนแวนผู้เป็นพ่อได้วางเอาไว้

“เพราะว่าพวกมันแข็งแกร่งเสียจนไม่สามารถชนะได้ในการสู้ตัวต่อตัว แถมข้ายังกังวลว่าพวกมันจะร่วมมือกันเล่นงานข้า ดังนั้นระหว่างที่พวกมันใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ข้าก็เพาะเมล็ดพันธ์แห่งความขัดแย้งไปพร้อมๆกับสร้างสัตว์อสูรชั้งเลิศที่จะช่วยข้าจัดการกับพวกมัน”

ดวงตากลมมองไล่ตามปลายสายตาของโดโนแวนไปยังซูซานซึ่งยืนหน้านิ่งเป็นรูปปั้น วินาทีนั้นเด็กหนุ่มก็เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพวกพี่ชายทั้งหมดในโลกใบนี้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร

“ซูซานนอกจากจะเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งพอพอกับพวกมัน ยังมีความสามารถส่งความคิดและความทรงจำปลอมให้ใครก็ได้ที่มันต้องการจะหลอก”

“ถ้าบอกว่าแข็งแกร่งพอพอกันคนอย่างแกจะไม่กลัวว่าเธอจะทรยศหรือไง”
เด็กหนุ่มทำใจดีสู้เสือถามสิ่งที่ยังสงสัย

“นับตั้งแต่มันถูกข้าทดลองซูซานก็ดื่มยาพิษที่มีแต่ข้าเท่านั้นเป็นผู้รักษาได้มาโดยตลอด”

“อย่างนี้นี่เอง…”

พึมพำอย่างเลื่อนลอย โยชัวมีเวลาสิ้นหวังได้เพียงแค่ชั่วครู่ก่อนจะถูกบีบคออีกครั้ง คราวนี้คนตัวเล็กคิดว่าถึงจะไม่ตายเพราะคอหัก แต่ราชาปีศาจคงทำทุกวิถีทางฆ่าตุ๊กตาไร้คุณค่าแบบเขาไปให้พ้นหูพ้นตา
ให้มันจบลงแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
โยชัวหลับตาลงรอรับความตายที่กำลังย่างกรายเข้ามา

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

อีกไม่กี่ตอนนิยายก็จะจบลงแล้วนะคะ

อีกเจ็ดวันจะเอาตอนต่อไปมาลง

ช่วยเม้นนิยายกันบ้างนะคะ :hao5:

ยังยืนยันว่านิยายเรื่องนี้จบอย่างมีความสุขนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 27-06-2015 09:00:38
ขอให้เป็นพระเอกทั้งสามคนเลย
อิอิ 4p ไปเลย
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 27-06-2015 12:50:41
ไม่นะะะะะะะะะ  :hao5:

ปล.จบแฮปปี้จริงอะ  :o12:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 27-06-2015 12:59:37
เอิ่มมมม หนทางแห่งความสุข อยู่แห่งหนใด !!!
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 27-06-2015 13:03:40
แล้วยังไงงงงงงงงงต่อออออออออออ
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 27-06-2015 14:29:23
โถ  น้องโยชัว โดนกินซะพรุนเลย

คุณพ่อนี่เอง  ตัวร้ายที่แท้จริง  ยังไงเราก็ยังคาดหวังให้ลาซารัสเป็นพระเอกอยู่นะเคอะ

นางฉลาดขนาดนั้นคงจะรู้ทันพ่อนางนะ  มาช่วยโยชัวก่อนเร้ววว
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 27-06-2015 15:03:53
ว่าแล้ว โดโนแวนร้านที่สุด  :katai1:

แต่ยังหวังว่าเจ้าชายองค์ใดองค์นึงจะรู้ทันและวางแผนไว้แล้วนะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 27-06-2015 15:20:28
 :ling1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 27-06-2015 15:54:27
ยังไงล่ะนี่ อย่าตายกันหมดสีเฮ้ยยย  :o12:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 27-06-2015 20:10:39
ตอนนี้กำลังนึกภาพนายเอกน้องโย นั่งบนโซฟายาวหรูหรา เป็นราชาปีศาจ
มีพี่ลูขนาบขวา พี่ชาร์ขนาบซ้าย พี่ลายืนโอบน้องจากด้านหลัง
ตึ่งโป๊ะ :ling1: เค้าฝันไป มาม่าชามโตแล้วนะตัวเอง
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ycrazy ที่ 27-06-2015 21:52:04
สนุกมากกก ลุ้นๆๆจะเป็นยังไงต่อนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 28-06-2015 00:09:31
แล้วชาร์ กับลู จะฟื้นมั๊ยเนี่ย ฟื้นเถอะ  :m15:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-06-2015 01:21:53
ท่านพี่หายไปไหนกันหมด    :o12:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 28-06-2015 05:54:12
คดีพลิกซินะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 28-06-2015 08:01:51
พวกท่านพี่ยังไม่ตายใช่ไหมม
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 02-07-2015 01:28:33
ตอนที่21
   
   แค่มองพวกมันเฉยๆก็ขยะแขยงจนแทบจะอ้วก
   
โยชัวซึ่งหลุดเข้ามาในความทรงจำของโดโนแวนฟังเสียงความรู้สึกที่แท้จริงระหว่างที่ราชาปีศาจไล่มองดูบุตรชายแต่ละคน
   พวกมันทั้งหมดพอเกิดมาก็ล้วนแต่มีพลังทัดเทียมกับตัวข้าจนไม่สามารถอ่านความคิดของพวกมันได้เลยแม้แต่คนเดียว

   “การเรียนเป็นอย่างไรบ้างลูเซีย”

   โดโนแวนถามบุตรชายคนโต เจ้าของร่างใหญ่ยักษ์เทียบเท่าตึกสามสิบชั้นไม่ได้สนใจลูเซียที่รายงานความคืบหน้าเลยซักนิด แต่ราชาปีศาจกลับนั่งคำนวณขุมกำลังของบุตรชายแต่ละคนอย่างถี่ถ้วน

   เจ้าลูเซียมีตาของมันคอยหนุนหลัง หากข้าฆ่ามันตายไปอย่างปริศนาดูท่าว่าอาซาเซลจะไม่ยอมนิ่งเฉยง่ายๆ

   ขณะที่ลูเซียยังรายงานไม่จบโดโนแวนก็ไล่สายตาไปยังลาซารัสเป็นลำดับถัดไป
   
เจ้าลาซารัส  ในบรรดาลูกทั้งหมดเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งและได้รับการสนับสนุนจากพวกปีศาจชั้นสูง ถ้าหากว่าสามารถใช้ความทะเยอทะยานอันไม่สิ้นสุดควบคุมมันได้ การจะกำจัดเหล่าลูกชายที่น่าชิงชังคงไม่ไกลเกินฝัน

   “แล้วลาซารัสล่ะ ได้ข่าวว่าเจ้าเล่นงานข้ารับใช้ไปมาก  ไหนอธิบายมาสิ ว่าพวกมันผิดอะไร”

   โดโนแวนเอ่ยถามหลังจากลูเซียพูดจบ ราชาปีศาจปลายตาไปยังชาฮาร์ขณะที่ลาซารัสเริ่มอธิบาย

   เจ้าชาฮาร์ยังเล็กและไร้เดียงสา ทว่าการเจริญเติบโตอันรุดหน้า ไม่ช้าคงจะแข็งแกร่งจนข้าคาดเดาไม่ได้
แต่…จะฆ่ามันตอนนี้  แผนการแย่งชิงกองทัพจากมือเรนเดลก็จะพังพินาศ
เอาเถอะ ข้าจะปล่อยให้มันมีชีวิตต่อไปอีกหน่อย

“ฝ่าบาท ท่านดาเลเน่ให้กำเนิดบุตรชายขอรับ”

เจ้าของร่างใหญ่ยักษ์เลิกคิ้ว ความชิงชังที่ทำให้รู้สึกอึดอัดอยู่มาแต่เดิมระเบิดออกจนต้องผุดลุกจากบัลลังค์ก่อนจะปลีกตัวไปโดยไม่ได้บอกกล่าวบรรดาขุนนางปีศาจที่อยู่ในท้องพระโรง

ลูซิเอล่า อมันด้า หรือแม้แต่ ดาเลเน่ พวกนางในความคิดของโดโนแวนล้วนแต่เป็นหญิงที่งามเลิศโดดเด่นเป็นอันดับหนึ่งในแต่ละสายพันธ์ ทว่าสำหรับราชาปีศาจคุณค่าของพวกนางมีเพียงแค่รางวัลซึ่งเอาไว้ประดับ
มีไว้เพื่อคอยเชิดชูความเก่งกาจที่สามารถพิชิตทุกดินแดนไม่ว่าจะแดนปีศาจ สวรรค์หรือ มนุษย์ กระนั้นการเล่นสนุกกับรางวัลเหล่านั้นอย่างย่ามใจ ทำให้คาดไม่ถึงว่าจะเกิดมารหัวขนคลานตามกันมาไม่หยุดหย่อน เจ้าลูกแต่ละคนล้วนแล้วแต่กำจัดยาก เพราะมีผู้ค้ำจุนอยู่เบื้องหลัง แถมพวกมันยังแข็งแกร่งจนเอาตัวรอดจากนักฆ่าที่ส่งไปนับไม่ถ้วนได้ทุกครั้งไป

โดโนแวนแค่นเสียงประชดประชันดัง ‘เฮอะ’ ราชาปีศาจคิดว่าต่อให้มีบุตรชายร้ายกาจเพิ่มมาอีกซักคน ก็แค่จัดการฆ่ามันตามพวกพี่ชายไปซะ ไม่จำเป็นต้องลำบากใจอะไร

“พระนางดาเลเน่เสียชีวิตขณะคลอดเจ้าชายเจ้าค่ะ” ปีศาจหญิงผู้ทำคลอดรายงาน
ผู้เป็นบิดามองทารกน้อยด้วยสายตาว่างเปล่า ก่อนจะใช้มือช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นมาจากเปลเด็ก

ความอ่อนแอที่ไม่ต่างจากมดปลวกนี้มันคืออะไร?

คำถามนี้ผุดในความคิด หลังจากที่แผ่พุ่งไอปีศาจสีดำครอบคลุมร่างของทารกเพื่อตรวจสอบความสามารถ

“ตอนที่มันเกิดมาไม่มีอะไรแสดงถึงความพิเศษในฐานะลูกข้าเหมือนอย่างพวกพี่มันหรือไง?”
ถามปีศาจหญิงที่ทำคลอดไปพร้อมๆกับมองเขม่นทารกน้อยในมือ

“ม..ไม่เจ้าค่ะ เจ้าชายน้อยพอเกิดมาก็ใกล้เคียงกับมนุษย์มากกว่าพวกปีศาจอย่างเรา”

นี่มันไม่ต่างจากมดปลวกเลยซักนิด

ใบหน้าของราชาปีศาจบิดเบี้ยว ถึงจะชิงชังเหล่าบุตรชายที่เก่งกาจทัดเทียมตน แต่บุตรชายคนเล็กซึ่งไม่มีความสามารถพิเศษติดตัว ทำให้นึกเปรียบเทียบกับตนเองที่ไร้กำลังและถูกเหยียดหยามเมื่อครั้งที่ความสามารถของเขายังไม่ตื่นขึ้นมา

เกิดมาเพื่อตอกย้ำความเป็นตัวข้าอย่างนั้นเรอะ?

เจ้าเกิดมาเพื่อจะบอกว่า ’เพราะมีบิดาอ่อนแอจึงให้กำเนิดบุตรเยี่ยงเจ้า’ ใช่หรือไม่?

โดโนแวนออกแรงบีบทารกในมือจนแขนหัก ในตอนที่ราชาปีศาจเหยียดยิ้มสมใจ แขนของเด็กน้อยก็ค่อยๆเชื่อมตัวจนกลับคืนมาเป็นสภาพเดิม

“………………..”

มันรักษาตัวเองได้?

คนเป็นบิดาเล่นงานบุตรชายที่ร้องไห้เสียงดังด้วยการหักขา ไม่นานนักขาที่หักก็สมานตัวกลับเป็นปกติ

 จังหวะนั้นเองที่ราชาปีศาจมั่นใจเรื่องลูกชายคนเล็กก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาไม่สามารถอ่านความคิดได้อีกหนึ่ง
เพราะว่าระหว่างลงมือทำร้าย โดโนแวนไม่ได้ยินเสียงความนึกคิดของทารกซึ่งร้องไห้เสียงดังจนน่ารำคาญ

ฆ่ามันตอนนี้เลยจะดีกว่า

เขากำมือรอบคอของทารก ก่อนจะลงมือบีบหัก ลูซิเอล่าก็ปรากฏกายขึ้นเสียก่อน

“ได้โปรดมอบเด็กคนนั้นให้ข้าเถอะฝ่าบาท”
คนถูกห้ามปลายสายตาไปยังลูซิเอล่า ใจจริงนึกอยากจะอาละวาดหาเรื่องฆ่าทั้งแม่ทั้งลูเซียที่คอยตามติดมารดาเป็นเงา หากแต่ตรองดูให้ดี การเดือดดาลฆ่าโดยไร้เหตุผล อาจทำให้คลื่นลมซึ่งกำลังสงบปั่นป่วนก่อนกำหนดการที่วางเอาไว้เป็นอย่างดี

“ตามใจเจ้าสิ”
โดโนแวนยื่นทารกให้ลูซิเอล่าแล้วผละจากไป

“อั่ก…”

โยชัวที่กลับสู่ความจริงถูกโดโนแวนบีบจนกระดูกคอลั่นกรอบแกรบ ถึงแม้จะปลิดปลงกับชีวิตในร่างใหม่ที่แสนสั้นจนน่าใจหายดีแล้ว แต่เด็กหนุ่มไม่รู้จริงๆว่าการถูกหักคอ จะทำให้ตายไปแน่นอนหรือเปล่า หากไม่ตายแล้วล่ะก็ อนาคตที่เต็มไปด้วยความทรมานยิ่งกว่าตาย คงรอคอยเขาอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย

“คิดจะทำอะไรกันแน่”

คนตัวเล็กที่หลับตาแน่นระหว่างขาดอากาศหายใจ ได้ยินเสียงคล้ายกับกำลังแปลกใจของโดโนแวน โยชัวพยายามฝืนลืมตาขึ้นมองดูสภาพการณ์ในตอนนี้

“ทำไมถึงคิดทรยศ”

ซูซานถูกถามหลังจากที่จ่อมีดเข้ากับลำคอของโดโนแวนจากด้านหลัง โยชัวซึ่งคอใกล้จะหัก สับสนกับการกระทำอันไม่เข้ารูปเข้ารอยของหญิงสาว

พริบตานั้นด้วยการโจมตีที่เร็วพอพอกัน ซูซานปาดตัดคอโดโนแวนจนเกือบขาด ขณะเดียวกันเธอเองก็ถูกราชาปีศาจใช้สุญญากาศอัดเข้าที่กลางอกจนเป็นรูโบ๋

“รู้ไหมว่าทำไมร่างกายเจ้าสมานแผลได้ช้าทั้งที่เป็นสิ่งมีชีวิตระดับสุดยอด”
โดโนแวนยิ้มเหี้ยมเกรียมและยืนคอยให้คอที่เกือบหลุดเชื่อมต่อกันอีกครั้ง

“เพราะข้าจงใจสร้างให้เจ้ามีข้อเสียในด้านนี้ไงล่ะ มีเพียงข้าที่รู้ว่าเจ้าแพ้ธาตุลมเป็นพิเศษ และจะหายจากบาดแผลที่เกิดจากการโจมตีด้วยเวทย์มนต์ชนิดนี้ได้ยาก”

“นี่มันอะไรกัน?”
โยชัวเมื่อตั้งสติได้ก็เอ่ยถามซูซานซึ่งเคลื่อนกายเข้ากั้นกลางระหว่างเขากับโดโนแวน

“ไม่มีเวลาอธิบายท่านอยู่เฉยๆก็พอ”
ถูกซูซานสั่งก่อนที่จะรู้สึกถึงอาณาเขตคุ้มกันรอบตัว โยชัวงุนงงจนจับต้นชนปลายแทบไม่ถูก

“คิดดีแล้วรึที่ทรยศข้า? ก่อนจะสู้กันเจ้าจะทำยังไงกับร่างกายซึ่งกำลังเป็นเหน็บชาแถมยังบาดเจ็บกันหืม?”

โดโนแวนหัวเราะเยาะ พอถูกเตือนสติ โยชัวก็สังเกตเห็นร่างของซูซานที่เริ่มจะสมานตัวสั่นเทานิดๆ หญิงสาวบีบกำแล้วคลายมือออกเป็นจังหวะ ถึงแม้ว่าจะแค่ขยับปลายนิ้วก็ยังทำได้อย่างลำบาก

“ซูซานหนีไปเถอะ”

ซูซานไม่ยอมทำตามที่ร้องขอ นอกจากนั้นยังใช้มือนุ่มนิ่มสัมผัสมือของโยชัวแทนเจตนารมณ์ ช่วงเวลายามถูกจับกุมด้วยมืออันอบอุ่นความทรงจำวัยเยาว์ของซูซานก็ส่งผ่านเข้ามาให้เด็กหนุ่มเห็น

ซูซานในวัยเด็กถูกพรากจากพ่อแม่ชาวมนุษย์มายังปราสาทของโดโนแวนเพื่อเข้ารับการทดลอง ระหว่างที่ถูกทดลองเธอมองดูเด็กต่างเผ่าล้มตายไปจำนวนมาก ท้ายที่สุดก็เหลือเพียงเธอกับทาช่าเด็กสาวลูกครึ่งปีศาจซึ่งบังเอิญสนิทสนมกันอย่างลึกซึ้งจนสามารถตายแทนกันได้

“ข้าไม่ต้องการสัตว์เลี้ยงถึงสองตัว”
ซูซานกับทาช่าถูกสั่งให้สู้กันจนตาย สำหรับโดโนแวนการมีสุดยอดสัตว์อสูรถึงสองตัวทำให้เขาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

“ข้าไม่ทำเด็ดขาด”
ซูซานตวาด เด็กหญิงที่ตอนนี้อายุสิบขวบถลึงตามองชายผู้ที่ทำให้ตนกลายเป็นสัตว์อสูรด้วยแววตาเคียดแค้น

“ถ้าไม่ทำข้าจะไม่ให้ยาแก้พิษกับเจ้า เวลาที่พิษมันกำเริบ ร่างกายจะค่อยๆเน่าเปื่อยทีละน้อยจนตาย เจ้าสามารถทนความทรมานเช่นนั้นได้เหรอ”

“ข้ายอมตายดีกว่าจะต้องฆ่าทาช่า”

ซูซานประกาศกร้าวก่อนจะหันไปสบตากับทาช่าที่กำลังมองตอบด้วยความปลื้มปิติ
ในตอนนั้นร่างของทาช่าก็ระเบิดแตกดังโพละเหมือนผลไม้สุกงอมที่ตกลงมาจากต้น

“เอาเป็นว่าข้าเลือกเจ้าโดยไม่ต้องสู้ก็แล้วกัน”

เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังสะท้อนไปมาในหัวของซูซานกับโยชัว ทั้งคู่เห็นพ้องต้องกัน ตราบใดยังไม่ได้ล้างแค้นจนสาสม เขาและเธอจะไม่ยอมตายไปก่อนอย่างเด็ดขาด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่19-20 <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p6><27/6/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 02-07-2015 01:32:38
ตอนที่22

   หลังจากกลับคืนสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน โยชัวมองเห็นโดโนแวนเงื้อแขนฟาดฝ่ามือที่เต็มไปด้วยไอปีศาจลงมาหาซูซาน ถึงแม้อยากจะทำอะไรซักอย่าง แต่เด็กหนุ่มเข้าใจดีทีเดียวเรื่องที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้ใครได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ตกอยู่สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้

   คนตัวเล็กได้แต่คอยเอาใจช่วยซูซานซึ่งพยายามขยับกายตอบโต้ หากแต่การเคลื่อนไหวกลับตอบสนองได้ช้าไปมากจนโยชัวมั่นใจว่าเธอจะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
   
“ทำไมถึงคิดว่าทุกๆอย่างมันจะต้องเป็นไปตามที่ต้องการอยู่เสมอล่ะท่านพ่อ”
   
เสียงเย้ายวนทรงอำนาจอันแสนคุ้นหู โยชัวที่เบือนหน้าหนีจากเหตุการณ์ระทึกขวัญต้องหันกลับมามองเจ้าของเสียงซึ่งยืนเผชิญหน้ากับโดโนแวนในลักษณะที่เอาตัวยืนบังซูซานกับเขาเอาไว้

   “นายท่านลาซารัส”

   คำพูดของซูซานเป็นเครื่องยืนยันเป็นอย่างดีว่าโยชัวไม่ได้ตาฝาด ที่ตรงหน้าลาซารัสถือดาบเปื้อนเลือด เด็กหนุ่มสังเกตเห็นแขนข้างขวาของโดโนแวนขาดด้วนตั้งแต่ข้อมือลงไป
   
“ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ลาซารัส”
   คนบาดเจ็บถามขณะตั้งใจงอกมือขวาที่ขาดไปกลับคืนมา

   “ก็แค่ทำสิ่งที่สมควรทำ ฆ่า…ก่อนจะถูกฆ่า ท่านพ่อคงเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ดีกว่าใคร”

   “เฮอะ”
   
โดโนแวนแค่นเสียงก่อนจะขมวดคิ้ว พร้อมๆกันกับที่ราชาปีศาจรู้สึก โยชัวมองออกทันที  โดโนแวนไม่สามารถงอกหรือรักษาแขนที่ขาดด้วนได้ตามใจต้องการ

   “ตกใจหรือเปล่าท่านพ่อ”

   ลาซารัสหัวเราะน้อยๆ หากแต่ผู้ที่พลาดพลั้งก็ไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนก โยชัวถูกซูซานที่ประเมินการอย่างถี่ถ้วนพาไปหลบให้ห่างจากพ่อลูกปีศาจซึ่งพร้อมเปิดฉากห้ำหั่นกันทุกเมื่อ ทว่าเด็กหนุ่มกลับปฏิเสธที่จะหนีแล้วร้องขอสิ่งที่ทำให้หญิงสาวต้องลำบากใจ

   “ขอล่ะ ให้ข้าได้อยู่ดูจนถึงที่สุดเถอะ ให้ได้รับรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันจะจบลงอย่างไร”

   “เข้าใจแล้วค่ะแต่ว่าท่านต้องอยู่นิ่งๆและทำตามที่ข้าสั่งทุกอย่าง หากข้าเห็นว่าอันตรายจนเกินควบคุมท่านต้องจากไปห้ามบิดพลิ้ว”
โยชัวผงกหัวตอบรับก่อนจะกลับไปจดจ่อกับพ่อลูกที่ยืนประจันหน้ากัน
   
“เจ้าคิดว่าแค่เจ้าผู้เดียวจะฆ่าข้าได้อย่างนั้นเรอะ อย่าหวังว่าซูซานมันจะช่วยเจ้าได้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะหายาแก้พิษของข้าได้ แต่สภาพร่อแร่ นังนั่นไม่สามารถช่วยเจ้าในสภาพเต็มร้อยแน่ๆ”
   
“ก็ไม่จำเป็นต้องให้ซูซานช่วยหรอกท่านพ่อ”

   ลาซารัสเผยอยิ้มที่ดูงดงาม รอยยิ้มซึ่งเดาใจได้ยากเช่นนั้น โยชัวและโดโนแวนต่างก็เกิดความกังขาจนแสดงออกทางสีหน้า ใบหน้าและท่าทางแบบนั้นเรียกเสียงหัวเราะกังวานใสจากซูซานที่ไม่พลาดจากการจับผิดคนรอบตัวซึ่งเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบ

   “ท่านพ่อต้องดีใจแน่ๆถ้าได้เห็นพวกเขาอีกครั้ง”

   ลาซารัสที่กำลังเบิกบานดีดนิ้วดังเป๊าะ ทันทีที่สัญญาณเสียงดังขึ้น ลูกบอลสีดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏในห้องนอนในบ้านของลูเซียจำนวนสองลูก โยชัวที่ตื่นเต้นจนลืมความกลัว เห็นชายสองคนก้าวออกจากวัตถุทรงกลมสีดำในแต่ละลูก

   “ชาร์….ท่านพี่ลูเซีย…”

   ดีใจทั้งน้ำตาเมื่อพบว่าคนที่ก้าวออกมาคือเหล่าพี่ชายที่เขาทั้งรักทั้งไว้ใจ โยชัวตื้นตันจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ เมื่อพี่ชายทั้งสองส่งยิ้มอันเต็มไปด้วยความปิติยินดีมาให้
   
“พวกแกรวมหัวกันสินะ”
   โดโนแวนถึงแม้จะอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติที่สุดในชีวิต แต่ก็ยังแสยะยิ้มสนุกสนานให้กับแผนการตลบหลังของพวกลูกชายได้

   “เร็วเข้าเถอะพี่น้องของข้า อย่าให้ต้องอดใจรอไปมากกว่านี้เลย”
   ลูเซียพูดด้วยใบหน้าเย็นเยียบกลับกันกับชาฮาร์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักส่งเสียงหัวเราะอย่างบันเทิงใจเป็นที่สุด

   “ท่านพี่ลูเซียใจร้อนไม่เข้ากับภายนอกที่แสดงออกซักนิด เห็นทีต้องปล่อยให้เป็นคนเปิดม่านก่อน ท่านพี่ลาซารัสเห็นเป็นอย่างไร”
   
ชาฮาร์ที่ยังหัวเราะอยู่ตั้งคำถาม ลาซารัสทำแค่เพียงเหยียดยิ้มบางๆก่อนจะหันไปกำชับกับซูซานให้ดูแลโยชัวให้ดีที่สุด

   ในตอนนั้นท่านพ่อที่ไม่ต้องการปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ก็ขยายร่างกายที่เคยมีขนาดเท่ามนุษย์จนใหญ่โตขึ้นเทียบเท่ากับตึกสูงสามสิบชั้น โยชัวถูกซูซานพาหนีออกจากบ้านซึ่งกำลังถล่มลงมาจากการขยายร่างอย่างกะทันหันของโดโนแวน

   “ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลค่ะ เมื่อทุกอย่างจบลงท่านจะเข้าใจเรื่องจริงทั้งหมด”

โยชัวฟังคำปลอบโยนของซูซานทั้งที่ยังไม่เข้าใจเรื่องราวดีพอ ถึงแม้จะพยายามประติดประต่อ เด็กหนุ่มก็ยังว่ายวนอยู่ในมหาสมุทรแห่งความสับสน เพราะไม่รู้ชิ้นส่วนความทรงจำอันไหนคือเรื่องราวที่แท้จริง

ภาพการต่อสู้อันดุเดือด ถึงโยชัวจะหวั่นกลัวว่าเหล่าคนที่ไว้วางใจจะพ่ายแพ้ แต่ความสุขเอ่อล้นยามที่เห็นพวกพี่ชายต่อสู้ด้วยรอยยิ้มซึ่งเต็มไปด้วยความฮึกเหิมอย่างเด่นชัด เขารับรู้ทันที พวกเขาทุกคนไม่คิดที่จะยอมตายอย่างแน่นอน เมื่อคิดแบบนั้น น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มก็ไหลรินออกมาจนเลอะแก้ม

   “ต้องชนะเจ้าปีศาจชั่วแล้วรอดกลับมาให้ได้นะ”

   โยชัวตะโกน หลังจากนั้นไม่รู้ว่าตนเองตาฝาดหรือไม่ แต่ได้เห็นรอยยิ้มจากพี่ชายทั้งสามซึ่งกำลังต่อกรกับบิดาร่างยักษ์ชัดเจนเต็มสองตา เด็กหนุ่มโบกมือร้องตะโกนเอาใจช่วยด้วยรอยยิ้มกว้างทั้งน้ำตา
   
“ข้าเองก็ต้องไปช่วยเหมือนกันค่ะ”

   คนตัวเล็กปาดน้ำตาไปพร้อมกับพยักหน้า เด็กหนุ่มอวยพรให้ซูซานปลอดภัยกลับมาก่อนจะปล่อยให้เธอที่สมานแผลดีแล้ว กลายร่างเป็นสัตว์อสูรไปสบทบกับชาฮาร์ที่กลายร่างไปแล้วเช่นกัน ลูเซียกับลาซารัสโห่ร้องอย่างสบใจเมื่อได้เห็นซูซานมาสมทบ

   หลังจากนั้นการต่อสู้อันเดือดพล่านรุนแรงกินระยะเวลานานถึงสามวันสามคืน โยชัวถึงจะคิดว่ามันแปลกที่ไม่มีใครหน้าไหนโผล่มารบกวน ก็เริ่มใส่ใจกับการตนเองที่ยังสามารถเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ได้โดยไม่ดื่มไม่กินมาแล้วหลายวัน
   
จากนั้นโยชัวที่ถูกอาคมคุ้มกันปกป้องมองไปรอบๆตัวซึ่งพินาศย่อยยับ พริบตาที่คลาดสายตาจากการต่อสู้เสียงร้องโหยหวนของโดโนแวนก็ดังกระหึ่มไปทั่วจนแผ่นดินสะเทือน

   โดโนแวนที่ใกล้จะตายระเบิดร่างกายออกเป็นสะเก็ดคล้ายเปลวไฟนับล้าน สะเก็ดเพลิงเหล่านั้นแผ่พุ่งไปทุกทิศทุกทาง จนโยชัวที่ถูกปกป้องด้วยอาคมถูกลมกรรโชก คนตัวเล็กพยายามหรี่ตามองถึงแม้จะถูกลมตีจนลืมตาไม่ขึ้น

   ในเวลาต่อมา หลังจากที่แสงสว่างสีขาววาบไปทั่วบริเวณหายวับไป เมื่อลืมตามองรอบๆได้ โยชัวเห็นพี่ชายทั้งสามยืนอยู่ตรงหน้าและกำลังส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักและปรารถนาดีมาให้
   
“อย่าเข้ามานะ”
   โยชัวขู่ลาซารัสที่ยื่นมือเข้ามาหา สำหรับเด็กหนุ่มถึงจะเข้าใจการกระทำเจ้าชายปีศาจขึ้นมาบ้าง แต่ที่ผ่านมาหลายๆอย่างเขาไม่กล้าไว้วางใจอีกฝ่ายอย่างที่ควรจะเป็น

   “ปล่อยให้เขาสัมผัสเถอะ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก”
   
ลูเซียบอกโยชัว เด็กหนุ่มจึงยอมให้ลาซารัสใช้มือสัมผัสที่แก้ม ในตอนนั้นภาพความทรงจำจำนวนมากก็ทะลักเข้ามาในสมองโดยตรง  โยชัวหลั่งน้ำตาออกมาอีกครั้งด้วยความคิดถึงและโหยหาอย่างสุดซึ้ง

   “จำได้แล้วหรือยัง”
   ลาซารัสทอดมองโยชัวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่  เด็กหนุ่มที่ได้ความทรงจำทั้งหมดกลับมาทำเพียงแค่ตอบรับเสียงแผ่วหวิว แทบจะในทันทีชาฮาร์ซึ่งเปลือยเปล่ากระโดดเข้ากอดรัดคนตัวเล็กด้วยใบหน้าอันแช่มชื่น

   “รอเวลาที่โยชัวจะได้ความจำคืนมาตั้งนานแล้ว รู้ไหมว่าข้าต้องเสียเวลารบเร้าเร่งคืนวันมาไม่รู้ต่อกี่ครั้ง”
   
“อืม…”
   คนถูกกอดตอบรับสั้นๆ เวลานี้โยชัวไม่ได้เพียงแค่ได้รับความทรงจำที่ถูกลบไปในวัยเยาว์กลับคืนมา ทว่าลาซารัสได้ยัดเยียดความทรงจำของเขามาให้โยชัวได้เข้าใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
   
“กลับกันเถอะนะ”

   ลาซารัสเอ่ยด้วยเสียงอันเย้ายวนหวานหนึบ ถึงแม้ว่าโยชัวจะเข้าใจว่ากำลังถูกสะกด แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้านหรือรังเกียจเท่ากับก่อนที่จะได้รู้ความจริง
   
โยชัวกลับสู่ปราสาทไปพร้อมๆกับพี่ชายทุกคนและซูซาน โดยตั้งความปรารถนาสูงสุดเอาไว้ จะต้องกลับไปอาศัยอยู่ในร่างและโลกเดิมที่เคยเป็นของตนอย่างแท้จริงให้จงได้

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ตอนหน้าจะเป็นบทส่งท้ายแล้วนะคะ

นิยายเราจะจบลงได้ซะที

ตอนสุดท้ายอาจจะยาวหน่อยกว่าจะเอามาลงสักเจ็ดถึงแปดวันน้า

รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 02-07-2015 01:36:54
จะจบซะแล้ว แถมตอนพิเศษด้วยจะดีมะมะโลย
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-07-2015 06:09:33
รอเฉลยเรื่องราว
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 02-07-2015 06:50:39
แถมตอนพิเศษด้วยได้ไหมคะ 555 ชอบเรื่องนี้มากๆ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Perry_Pie ที่ 02-07-2015 07:15:59
เราชอบลาซารัสส ชอบทาซาร์ ชอบลูเซีย
4p ไปเลยยยยยยย เชียร์ 5555
รอโยชัวจร้าาาาา
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 02-07-2015 07:28:11
สามหนุ่มรั้งน้องไม่ให้กลับโลกเดิมได้ไหม? :mew2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 02-07-2015 14:05:47
จะกลับโลกเดิมหรือ  :sad4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 02-07-2015 15:10:30
อยากรู้ความทรงจำ .....ที่กลับคืนจัง
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 02-07-2015 17:40:01
แถมตอนพิเศษมั้ยค่ะ แถมให้เค้าเถอะนะ คิดถึงแน่ๆ เลยนะ
มานะ มาเร็วๆนะ มาต่อเร็วนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 02-07-2015 17:50:37
พี่ๆ ต้องรั้งโยซัวให้อยู่โลกนี้แน่ๆ หรือจะตามไปอยู่โลกเดิมด้วย
ขอบคุณค่ะ อีกนิดจะจบแล้ว
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: nanazaa002 ที่ 02-07-2015 18:44:42
ชอบมาก รอจ้า :ling1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 02-07-2015 23:25:02
ไม่กลับโลกเดิมได้มั๊ย หรือโลกที่เดิมจริงๆ คือที่นี่แต่แรกนะ
ยังไงก็ขอสมหวังกับเหล่าพี่ชายครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 03-07-2015 00:08:45
จะจบแล้วเหรอ ขอหวานๆส่งท้ายด้วยนะคะ  :hao3:

 :call:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-07-2015 09:42:36
 :mew1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo ตอนที่21-22<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><2/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 11-07-2015 07:11:03
บทส่งท้าย

   ผ่านไปหนึ่งปีแล้วสินะ

โยชัวนั่งถอนหายใจขณะเหม่อลอยครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตอยู่บนเก้าอี้ริมระเบียง เด็กหนุ่มหลังจากรู้ความจริงซึ่งพวกพี่ชายวางแผนเอาไว้ทั้งหมด ถึงจะเข้าใจเหตุผลที่จำเป็นจะต้องทำแล้วก็ตาม แต่ว่าการที่ลาซารัสกับชาฮาร์ฉวยโอกาสลักพาตัวเขามา ทำให้โยชัวโกรธการกระทำอันเห็นแก่ตัวของพี่ชายทั้งสองคนจนไม่ยอมให้อภัยง่ายๆ
   
กลับกัน เด็กหนุ่มไม่เคยคิดผูกใจเจ็บลูเซียแม้แต่นิดเดียว เพราะเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจ เป็นพี่ชายเพียงผู้เดียวที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการลักพาตัวหรือหลอกลวงเขาไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม
   
หลังจากพวกพี่ชายในโลกนี้จัดการกับท่านพ่อผู้ชั่วร้ายลงได้ โยชัวที่อยากกลับไปบ้านและร่างเดิมใจแทบขาด ไม่ว่าจะพยายามขอร้องซักเท่าไหร่ เหล่าเจ้าชายปีศาจก็ไม่ยอมส่งเด็กหนุ่มกลับไป

   โยชัวคิดน้อยใจนับครั้งไม่ถ้วน เนื่องจากพี่ชายแสนดีอย่างลูเซีย ยังทำตัวบิดพลิ้วเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อไม่สามารถกลับไปได้ เด็กหนุ่มก็เมินเฉยเจ้าชายปีศาจทั้งสามด้วยทั้งงอนและขุ่นเคือง
เคยทั้งอดข้าวประท้วงและไม่ยอมพูดจา แต่ทว่า เพียงลาซารัสออกคำสั่ง ไอ้อาการดื้อแพ่ง ก็กลายเป็นความตั้งใจที่สูญค่า เพราะไม่สามารถต่อต้านคำสั่งของเจ้าชายปีศาจได้ดั่งใจ

   แล้วกาลเวลาก็ผ่านเลยไป ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่พ้นผ่าน พี่ชายทั้งสามมุ่งมั่นกับการง้องอนหว่านล้อม การที่โยชัวถูกพี่ชายล่อลวงด้วยคำหวานและข่มขู่  ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกใบนี้

โยชัวรู้ดี ถึงจะพยายามหลอกตัวเองว่าถูกคนรอบตัวบังคับให้ต้องทนอยู่อย่างไม่เต็มใจ แต่ส่วนลึก ภายในจิตใจ ก็รู้อยู่แล้ว ’ตัวเขาเองต่างหาก ที่กำลังตกหลุมรักพี่ชายทุกคนจนไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธ’ มันเริ่มจากความผูกพัน ทีละนิดทีละน้อย จนตอนนี้กลายเป็นความรักซึ่งเผาผลาญหัวใจจนร้อนรุ่ม แค่คิดจะต้องแยกจาก ภายในอกก็ปวดแน่นจนแม้แต่คนหัวช้าอย่างเขาก็ยังเข้าใจได้

   “ทำอะไรอยู่เหรอ พี่ชายคิดถึงโยชัวจังเลย…”

   โยชัวถูกชาฮาร์โอบกอดจากด้านหลัง หลังจากโค่นราชาปีศาจลงได้ เจ้าชายปีศาจทั้งหมดก็ยุ่งวุ่นวายกับการจัดการดินแดนและเผ่าพันธุ์ที่อยู่ใต้การดูแล
   
พี่ชายทั้งสามแบ่งหน้าที่กันอย่างลงตัว โดยการให้ลาซารัสขึ้นเป็นจักรพรรดิปีศาจ ชาฮาร์กับลูเซียเป็นแม่ทัพและที่ปรึกษาสูงสุดตามลำดับ

   ลูเซียผู้เป็นพี่ชายคนโตค่อนข้างพอใจในหน้าที่ที่ตัวเองได้รับอยู่มาก เจ้าชายลูกครึ่งปีศาจ ไม่ชอบที่จะต้องปกครองผู้คนมากมายก็จริง แต่ชอบวางแผนจัดการกับทุกทุกสิ่ง แต่เพราะไม่ชอบการถูกผูกมัด การได้มาซึ่งอำนาจหากแต่ยังมีอิสระ ทำให้ผู้เป็นพี่ชายพึงพอใจอย่างมาก

   กลับกันกับชาฮาร์ซึ่งได้รับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ นับตั้งแต่ได้รับตำแหน่งมาเจ้าชายผู้เจิดจรัสยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอด จนร้องครางเสียงงุ้งงิ้งทุกครั้งที่ปลีกตัวมาหาโยชัวได้
   
เวลานี้ก็เช่นกัน ชาฮาร์ที่บ่นไม่หยุดไปพร้อมๆกับเรียกร้องความสนใจ พยายามนัวเนียกอดจูบโยชัวไม่เลิก หากเป็นก่อนหน้านี้ซักหนึ่งปี เด็กหนุ่มคงอาละวาดชกจนหน้าหงาย ที่บังอาจระดมจูบลงบนแก้มซ้ายขวาของเขาไม่ยั้ง

   แต่เพราะก่อนหน้านั้นหนึ่งอาทิตย์ โยชัวได้ตกลงปลงใจมอบร่างกายให้พวกพี่ชายทำรักจนสมใจไปแล้วหลายครั้ง ฉะนั้น เด็กหนุ่มจึงไม่มีท่าทางกระบิดกระบวนยามถูกชาฮาร์ลวนลามแต่อย่างใด

   “อยากทำกับโยชัวจัง” ชาฮาร์ส่งสายตาวิบวับเป็นประกาย

   “ทำที่ว่าคงไม่ได้หมายถึงเรื่องอย่างว่าหรอกใช่ไหม”

   “แน่นอนอยู่แล้ว ครั้งแรกกับครั้งสุดท้ายที่ทำมันผ่านมาหนึ่งอาทิตย์แล้วนะ” ชาฮาร์หัวเราะคิกคิก โยชัวถูกเจ้าชายผู้เจิดจรัสอุ้มกลับเข้าไปในห้อง ก่อนจะโดนวางลงบนเตียง เมื่อรู้ตัวว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น เด็กหนุ่มก็โวยวายขัดขืน จนคนเป็นพี่ชายแทบจะเข้าโหมดหน้ามืดด้วยความอยากจนใจแทบสั่น
   
“โยชัวอย่าขัดขืนเลย…หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แค่คิดถึงร่างกายอันเปลือยเปล่า พี่ชายก็คลั่งจนแทบจะดับอารมณ์ด้วยการช่วยตัวเองยังไม่พอเลยรู้ไหม”

   โยชัวแทบหวีดร้อง ระหว่างพยายามสลัดให้หลุดจากอ้อมกอด ใบหน้าของคู่สนทนาแม้จะเผยอยิ้มที่ดูสดใส แต่คำพูดกลับน่าขนลุกเสียจนเด็กหนุ่มหวั่นใจ ในท่าทางหื่นกระหายหยาบโลนขึ้นเรื่อยๆของชาฮาร์

   “ปล่อย…ปล่อยนะ!”

   โยชัวซึ่งดิ้นรนอย่างสุดฤทธิ์รู้ดี ต่อให้พยายามแค่ไหนคงจะสู้แรงช้างสารของชาฮาร์ไม่ได้ ขณะที่หยาดน้ำตาร่วงปอยๆ ในเวลาถูกฉีกทึ้งเสื้อผ้า ลาซารัสกับลูเซียที่ปรากฏกายขึ้นพร้อมกันก็ทำให้ชาฮาร์หยุดการคุกคามน้องชายเพียงชั่วครู่

   “กำลังสนุกกันอยู่เหรอ…”
   ลาซารัสยิ้มพราย ดวงตาสองสีและใบหน้าลึกลับเย้ายวนดูเบิกบานใจอย่างมากที่ได้เห็นสถานการณ์ตรงหน้า ทว่าลูเซียกลับตีหน้าขรึมแล้วต่อว่าชาฮาร์ด้วยประโยคประชดประชัน

   “ไม่คิดว่าน้องชายของข้าจะปฏิบัติกับคนรักอย่างป่าเถื่อนถึงขนาดนี้”
   
“พูดอะไรกันครับ? โยชัวสมยอมข้าต่างหาก”
   
“ใครกันที่สมยอม ไอ้ปีศาจเลว เจ้าใช้กำลังข่มขืนข้าอยู่ชัดๆ”
   โยชัวก่นด่าชาฮาร์ที่โกหกโต้ตอบกับลูเซียด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น ในตอนนั้นลาซารัสซึ่งฉีกยิ้มกว้างมากเป็นพิเศษ ก็กระซิบบางอย่างให้ลูเซียฟัง

   “ถ้ายังขัดขืนอยู่ล่ะก็ พวกพี่ชายจะช่วยให้เจ้าสมยอมเองก็แล้วกัน” ลาซารัสเคลื่อนกายมายังข้างเตียงแล้วใช้มือลูบไล้ใบหน้าของโยชัวที่ดูงุนงง
   สิ่งที่โยชัวตื่นกลัวจริงๆไม่ใช่การจู่โจมจากทั้งลาซารัสและชาฮาร์ การที่ถูกลูเซียเข้าร่วมวงด้วยต่างหาก ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ต่างจากคนจมน้ำที่ตะกายขึ้นมาได้ แล้วถูกคนบ้ากดหัวกลับให้จมลงไปจนหายใจหายคอไม่ออก

   “ไม่ต้องกลัวนะ”
   ลูเซียจุมพิตบนหลังมือของโยชัว จากนั้นการทำรักซึ่งมีโยชัวเท่านั้นที่เป็นเครื่องรองรับแรงปรารถนาก็เริ่มต้นขึ้น เด็กหนุ่มไม่สิทธิแม้แต่จะขัดขืน

   “ทำไมถึงทำแบบนี้”
   โยชัวพยายามปิดกั้นเสียงครวญครางของตัวเองอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะเอ่ยคำถามนี้ออกมา ดวงตาสีอเมทิสต์คู่งามเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำจนแทบจะหยดลงมา แต่ก็ถูกลาซารัสแลบลิ้นไล้เลียและกลืนมันลงไป

   “เพราะโยชัวน่ารักยังไงละ ถึงไม่อยากให้ไปทำเรื่องแบบนี้ตามลำพังกับคนอื่น แม้จะเป็นพวกพี่ชายก็ตาม”
   
“หมายความว่ายังไง…อ๊ะ…”
   ทั้งที่สติหลุดลอยร่างบางก็ยังตั้งคำถาม หากเป็นความคิดของชาฮาร์แต่เพียงผู้เดียว โยชัวคงไม่แปลกใจ แต่การที่ทั้งลูเซียและลาซารัสจู่โจมตนเองพร้อมกันแบบนี้เหมือนนัดกันมามันดูแปลกๆยังไงชอบกล

   “ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหละ”
   เสียงกระซิบแหบพร่าของชาฮาร์ทำให้โยชัวถึงกับสั่นสะท้าน

   “ไม่เอานะ ท่านพี่ลูเซียชาร์เสียสติไปแล้ว”

   “ใจเย็นๆก่อนโยชัว ไม่มีอะไรหรอก ต่อให้ไม่ใช่ชาฮาร์ ตัวเจ้าในเวลานี้ แม้แต่ข้ายังไม่สามารถถอนสายตาได้”
   ลูเซียเชยคางโยชัว เจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจมองสบตากับคนที่กำลังตื่นตระหนกครู่หนึ่งก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อยและประทับจูบลงไปอย่างเนินนาน แม้จะเป็นการจุมพิตที่นุ่มนวลเพียงไหนแต่ก็แฝงไว้ด้วยการรุกเร้าและเอาแต่ใจจนผิดภาพลักษณ์ กลับกันกับลาซารัส แม้จะกระทำรุนแรงแต่ก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน

   “ถอดเสื้อผ้าออกสิโยชัว”
   เจ้าชายปีศาจกระซิบแผ่ว โยชัวขยับถอดเสื้อผ้าที่เริ่มหลุดลุ่ยของตัวเองออกจนหมด

   “เสร็จแล้วก็ขึ้นมาคร่อมบนตัวข้า”
   ลาซารัสออกคำสั่งต่อไป แม้โยชัวจะไม่รู้ตัวก็ตามแต่ภาพร่างอันเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม ช่างงดงามยวนใจจนไม่อาจต้านทาน
   
“ขี้โกงเกินไปแล้ว “
   ชาฮาร์โวยวายขณะเข้าไปคลอเคลียโยชัวจากด้านหลัง ส่งผลให้ลูเซียถอนหายใจด้วยความสมเพช

   “อึก….อื้อ…ท่านพี่ลูเซียช่วยข้าด้วย”
   โยชัวที่ตั้งใจต่อต้านมนต์สะกดของลาซารัสวอนขอ แววตาเว้าวอนของเด็กหนุ่มทำให้ลูเซียเกิดความรูสึกผิดในใจ

   “ข้าจะอ่อนโยนกับเจ้าเอง”
   ลูเซียพูดราวกับจะให้คำมั่นสัญญาก่อนจะแนบจูบกับโยชัวอีกหน  ครั้งนี้ไม่ได้หยุดลงเพียงแค่ริมฝีปากแต่ค่อยๆเลื่อนไล่ไปตามใบหูและซอกคอเรื่อยลงมา

   “แย่จริง  ใครๆก็เอาแต่เล่นสนุกกับร่างกายของโยชัว ไม่มีใครสนใจความรูสึกของน้องชายคนนี้สักนิด”
   ลาซารัสกล่าวกับโยชัวที่เผลอมองสบตามา ร่างบางอยากจะร้องด่าใจแทบขาดว่าคนที่เล่นกับร่างกายของเขามากที่สุดไม่ใช่ใครนอกจากลาซารัสเอง ในตอนนั้นคนตัวเล็กก็ครางออกมาอย่างสุดกลั้นเมื่อมือของเจ้าชายปีศาจหยอกเย้าที่แก่นกายจนสิ่งนั้นตื่นตัวขึ้นมา

   “รู้สึกไวจริงนะ”
   เลือดสูบฉีดขึ้นใบหน้าของโยชัวจนร้อนผ่าว ลาซารัสหัวเราะน้อยๆขณะยกมือที่เต็มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่นของเขาขึ้นมาชิมรสชาติ เด็กหนุ่มแทบไม่เชื่อสายตาว่าเจ้าชายปีศาจจะลดตัวทำเช่นนั้น
   
“อึก…อย่า…มันสกปรก”
   แม้จะอับอายแต่ความรู้สึกดีก็มีมากพอพอกัน ทันทีที่ลาซารัสใช้ปากรับเอาเครื่องเพศของเขาเข้าไปในปากโยชัวก็ร้องครางเสียงหวานออกมา

   “ไม่ต้องกลัวพี่ชายจะทำให้มีความสุขเอง”
   ลาซารัสกระซิบกล่าว โดยไม่ถือสา ถึงโยชัวจะปลดปล่อยออกมากะทันหันจนของเหลวขาวขุ่นกระเด็นเปรอะเปื้อนใบหน้า ลาซารัสหาได้ใส่ใจเขาใช้นิ้วมือสำรวจกลีบดอกตูมซึ่งยังไม่เปิดออกเป็นเชิงปลุกเร้า
   
“อ้าขาหน่อยโยชัว พี่ชายอยากเข้าไปจะแย่แล้ว”
   ไม่เพียงแต่ลาซารัสชาฮาร์เองก็ใช้น้ำรักของตนเองสร้างความชุ่มฉ่ำให้กับช่องทางของคนตัวเล็ก เพราะไม่อยากสร้างความเจ็บปวดให้ เจ้าชายผู้เจิดจรัสจึงได้แต่ฝืนตัวเองเอาไว้อย่างสุดความสามารถ

   “มะ..ไม่เอา”
   โยชัวฝืนการสะกดของลาซารัส ขัดขืนเต็มกำลังเมื่อสัมผัสได้ถึงการรุกรานของพี่ชายทั้งสอง
   
“ช่วยไม่ได้ถ้าเป็นความปรารถนาของเจ้าล่ะก็”
   ลาซารัสคลี่ยิ้มที่ดูลึกลับ เจ้าชายปีศาจคลายมนต์สะกดร่างบาง โยชัวแทบจะไหลกองลงไปนอนแผ่บนเตียงถ้าไม่ติดว่า ด้านหลังถูกชาฮาร์เล้าโลม หรือด้านข้างถูกลูเซียประคองลูบไล้อยู่เช่นกัน
   
“จะเข้าไปละนะ ขอพี่ชายเข้าไปในตัวเถอะ”
   เสียงของชาฮาร์ฟังดูแตกพร่า หลังจากบรรจงเตรียมช่องทางอยู่นาน เจ้าชายผู้เจิดจรัสก็ค่อยๆเสือกแก่นกายเข้าไปในช่องทางคับแคบอย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้

   “โยชัวก็อยากได้ของพี่ชายเหมือนกันสินะ เป็นเด็กที่ละโมบซะจริง”
   ลาซารัสหัวเราะในลำคอ

   “อึก…อ้า…
   โยชัวหวีดร้องเมื่อแก่นกายขนาดใหญ่ของพวกพี่ชายสองคนเข้าไปในร่างกายจนสุด หลังจากถูกขยับเข้าออกนับครั้งไม่ถ้วนคนตัวเล็กก็ปลดปล่อยออกมาหลายต่อหลายครั้งจนหมดเรี่ยวแรง กลับกันเหล่าพี่ชายยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นราวกับสะกดกลั้นความปรารถนาเอาไว้ไม่อยู่
   
“อะ…อา…พอแล้ว…”
   ขณะที่ช่องทางด้านหลังถูกเล่นสนุก ด้านหน้าก็ถูกทำให้ปลดปล่อยออกมาหลายครั้ง ด้วยริมฝีปากของเจ้าชายลูกครึ่งปีศาจที่ตอนนี้แววตาเริ่มจะเปลี่ยนไป ลูเซียมองโยชัวที่ถูกทำให้ขยับกายเป็นจังหวะด้วยสายตาซึ่งเต็มไปด้วยความต้องการจนพร้อมจะกระโจนเข้าใส่เด็กหนุ่มได้ทุกเมื่อ

   “อย่าท่านพี่…ลูเซีย…”
   โยชัวร้องห้ามเสียงหวิว แค่พี่ชายสองคนก็ราวกับร่างกายจะฉีกขาดหากต้องรองรับลูเซียด้วยอีกเขาคงทนต่อความหฤหรรษ์ไม่ได้แน่ๆ ก่อนที่ลูเซียจะขาดสติยับยั้ง เด็กหนุ่มใช้ความขลาดกลัวเปลี่ยนเป็นความกล้าให้ตัวเองค่อยๆก้มลงไปไล้เลียแก่นกายของอีกฝ่ายอย่างทุลักทุเล
   
“อืม…”
   ลูเซียครางเบาๆดวงตาของเจ้าชายลูกครึ่งเทพปีศาจลุกโชนด้วยเพลิงแห่งความใคร่ การกระทำที่ทั้งงุ่มง่ามและยั่วใจทำให้ร่างสูงสง่าสติขาดสะบั้น  ริมฝีปากบางที่อุ่นนุ่มกับปลายลิ้นซึ่งลากไล้ไปตามแก่นกายของเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อถูกทำเช่นนั้น เขาจึงไม่สามารถหยุดความต้องการของตนเองเอาไว้ได้
   
“อ๊ะ…โอ๊ย”
   โยชัวร้องออกมาเมื่ออยู่ๆลูเซียกระชากตัวเขากดลงนอนกับเตียง เด็กหนุ่มถูกร่างสูงสง่าทาบทับแล้วสอดกายใหญ่โตเข้ามาในร่างจนสุดความยาว

   “อา…”
   ถูกรุกรานอย่างไม่ปรานีปราศัย รู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเองมาอยู่ใต้ร่างของชาฮาร์อีกครั้ง

   “พี่ชายก็อยากจะทำอีกรอบจนตัวสั่นเลยล่ะนะ”
   ชาฮาร์สอดลิ้นสำรวจโพรงปาก แก่นกายขนาดใหญ่ของเจ้าชายผู้เจิดจรัสพอถูกสอดเข้ามาคนตัวเล็กก็เหมือนจะขึ้นสวรรค์เสียให้ได้

   “อะไรกัน ช่างเป็นเด็กที่นิสัยแย่จริงๆเลยน้า รู้สึกดีขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ”
   พอผละจากชาฮาร์มาได้ โยชัวก็แทบหน้ามืดเมื่อเห็นรอยยิ้มของลาซารัส

   “ไม่เอาแล้ว…”
   ครางออกมาอย่างสิ้นหวังก่อนจะถูกลากลงไปบนเตียงอีกครั้ง ลาซารัสเอ่ยปลอบโยนว่า’คืนนี้ยังอีกยาวไกล’
   โยชัวกระพริบตาปริบๆเหม่อมองเพดานของเตียงสี่เสา ถึงแม้ก่อนหน้านั้นจะพบกับบทรักที่ยาวนานถึงสองวันแต่พอผ่านไปสองสามชั่วโมงเด็กหนุ่มก็กลับมากระปรี้กระเปร่าได้อีกครั้ง

   “ตื่นแล้วเหรอโยชัว”
   ชาฮาร์ซึ่งนอนก่ายกอดโยชัวชะโงกหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มเข้ามาในระยะการมองเห็นของเด็กหนุ่ม

   “อื้อ…”
   โยชัวตอบรับอย่างรำคาญนิดๆ ใจจริงอยากจะบอกให้เจ้าชายผู้เจิดจรัสเลิกนัวเนียตัวเขาได้ซักที แต่พอพบว่าลาซารัสกำลังนอนตะแคงส่งยิ้มมาให้จากทางด้านขวา เด็กหนุ่มก็คิด ’นอนนิ่งเฉยๆแบบนี้ดูจะเข้าท่าที่สุด’

   “อยากกลับไปยังโลกเดิมซักครั้งไหมโยชัว?”
   คนถูกถามตอบรับคำพูดของลาซารัสอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะเก็บอาการของตนด้วยรู้สึกว่า หากดีใจมากเกินไปอาจถูกกลั่นแกล้งให้สิ่งที่ถามเป็นเรื่องล้อเล่นก็เป็นได้

   “จะพาไปจริงๆนะเหรอ?”
   ลาซารัสตอบรับด้วยการพยักหน้า ในตอนนั้นลูเซียก็กลับเข้ามาในห้องพร้อมกับพวกเมดสาวที่นำสำรับอาหารตามมาด้วย
   ท่ามกลางผู้คนสัญจรมากมาย ที่สวนสาธารนะ โยชัวยืนลังเลอยู่นานด้วยไม่รู้จะเข้าไปพบปะกับโยชัวอีกคนยังไงดี

   “เข้าไปหาสิ”
   ลาซารัสกระซิบสั่ง โยชัวมองดูโยชัวอีกคนที่อาศัยอยู่ในร่างของเขาใช้ชีวิตแทนเขาอย่างกลมกลืน  ในระยะห่างซึ่งค่อนข้างไกล แต่คนตัวเล็กก็ยังเห็นและได้ยินชัดเจน  ตัวเขาอีกคนกำลังพูดคุยอย่างสนิทชิดเชื้อจนเกินงามกับเด็กสาวเพื่อนร่วมห้องเรียนของเขา
   
‘มินตรา แอน สมิธ’ เด็กสาวลูกครึ่งซึ่งมีสีผมน้ำตาลช็อกโกแล็ตใช้มือลูบศีรษะกลมทุยของร่างที่เคยเป็นของเขา โยชัวอีกคนหัวเราะแฮะๆอย่างมีความสุขเมื่อมินตราแสดงออกด้วยความรักและเอ็นดู
   
“บอกแล้วใช่ไหมว่าให้กินข้าวให้ครบ นิสัยเปลี่ยนไปแบบนี้เพราะความจำเสื่อมก็จริงแต่อะไรที่กำชับแล้วก็อย่าลืมสิ”
   โยชัวได้ยินเต็มสองรูหู ทว่าคำพูดตอบโต้ของโยชัวอีกคนทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ชัดเจนยิ่งขึ้น เด็กหนุ่มตกใจกับการที่มินตรากับโยชัวอีกคนคบหากันในฐานะคู่รัก
   
“โยชัว”
   โยชัวสะดุ้งกายเมื่อลูเซียตะโกนเรียกชื่อด้วยเสียงที่ดังมาก ทั้งที่ยังไม่ได้เตรียมใจแต่โยชัวอีกคนก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับมินตรา
   
“…………………”
   นิ่งอึ้งกับการได้พบกันอย่างกะทันหัน ดูเหมือนว่าโยชัวอีกคนก็ลำบากใจไม่ต่างกัน  ฝ่ายนั้นอึกอักเหมือนน้ำท่วมปาก สุดท้ายจึงเอ่ยทักทายเขาด้วยรอยยิ้มเจื่อนสนิท

   “เป็นยังไงบ้าง”
   โยชัวอีกคนพูดด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน เด็กหนุ่มสังเกตเห็นคู่สนทนาปลายตามองไปยังมินตราอย่างพะว้าพะวัง คิดดูแล้วอีกฝ่ายคงไม่อยากให้เด็กสาวรู้ที่มาที่ไปของตนเอง

   “โยชัวผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของนายเหรอ? สวัสดีครับผมเป็นญาติของโยชัว”
   โยชัวทักทายมินตราแก้สถานการณ์ให้โยชัวอีกคน เด็กสาวพอถูกทักว่าเป็นคนรักก็หน้าแดงด้วยความขวยเขิน

   “พวกพี่ชายอีกสามคนเป็นญาติโยชัวด้วยเหรอคะ”
   มินตราถามขณะจ้องดูลาซารัส ชาฮาร์ และ ลูเซียตามลำดับ ดวงตาที่ใสซื่อทำให้โยชัวรู้สึกดีกับเด็กสาว เพราะมินตราไม่ได้แสดงความตื่นเต้นหลงใหลเมื่อได้พบกับเหล่าพี่ชายผู้งดงามเลยซักนิด เด็กหนุ่มแค่มองดูเด็กสาวยังเข้าใจในทันทีว่ามินตราผูกสมัครรักใคร่ในตัวโยชัวอีกคนมากมายแค่ไหน
   
โชคดีอะไรอย่างนี้

   โยชัวยิ้มกว้าง เด็กหนุ่มถึงจะอยากกลับร่างเดิมแต่เมื่อได้สัมผัสความสุขเอ่อล้นของโยชัวอีกคน เขาก็ไม่อยากจะแย่งชิงมันมาโดยที่ตนเองก็กำลังมีความสุขกับคนรักทั้งสาม ทว่ายังหดหู่ใจอยู่เช่นเดิมยามที่นึกถึงหน้าพ่อแม่
   หลังจากพูดคุยกันอยู่เกือบชั่วโมงโยชัวอีกคนก็โผล่งออกมาว่าจะพาเขาไปพบพ่อแม่ คงเป็นเพราะโยชัวทำหน้าเศร้าสร้อยตลอดบทสนทนา ดังนั้นในตอนนี้จึงถูกพามายังบ้านซึ่งเคยอาศัยอยู่มาตั้งแต่เกิด
   
“พ่อครับแม่ครับนี่เพื่อนสนิทของผม”
   โยชัวน้ำตาซึมทันทีที่ถูกแนะนำให้พ่อแม่รู้จักในฐานะคนอื่น แต่ระหว่างที่พบปะพูดคุยและทานอาหารค่ำ เด็กหนุ่มพยายามเก็บอาการซึ่งจะส่งผลเสียกับโยชัวอีกคน

   “อยากกลับมาอยู่ที่นี่ไหม?”
   ลาซารัสยิ้มพรายให้โยชัวซึ่งหันกลับมา ก่อนหน้านั้นเด็กหนุ่มมองดูพ่อแม่กับโยชัวอีกคนด้วยแววตาหม่นหมอง พอถูกยื่นสิ่งที่ต้องการ โยชัวก็เสมือนกับได้มือของใครมาฉุดให้ลุกขึ้นยืนในเวลาที่ลื่นหกล้ม

   “จะได้จริงๆนะเหรอ?” โยชัวถาม
   
“เอาเถอะ ถ้าต้องการอย่างนั้นก็ตามใจ แต่ถ้าอยู่ในร่างนั้นคงจะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดไป สงสัยว่าอาจจะแก่แล้วตายไปในระยะเวลาไม่นาน”
   ลาซารัสยิ้มขณะพูด ท่าทางเหมือนไม่แยแสทำเอาโยชัวแปลกใจ ทว่าชาฮาร์ซึ่งร้องโวยวายทำให้เด็กหนุ่มสบายใจขึ้น
   
“อย่าเลยโยชัว พี่ชายแค่ต้องทนเห็นโยชัวแก่ตัวลง แค่คิดก็ทรมานจะแย่  ไม่ใช่รังเกียจร่างกายที่แก่ชรานะ แต่จะให้นับวันรอเจ้าตาย เห็นทีจะทนไม่ไหว”

   “ย…อย่างนั้นเหรอ…”
   โยชัวตอบโต้ด้วยการกระตุกยิ้มจืดเจื่อน เด็กหนุ่มที่กำลังสับสนปลายตาขอความเห็นจากลูเซียซึ่งยืนยิ้มสดชื่นอยู่ตรงหน้า
   
“ท่านพี่ลูเซียคิดว่าควรจะทำยังไงดี”

   “อยู่กับพวกเราเถอะ อยู่ในร่างนี้นี่แหละ อย่าทิ้งพวกเราไปเลยนะ”
   ลูเซียยิ้มสดใสเกลื่อนเต็มหน้า จังหวะนั้นชาฮาร์ก็ร้องสนับสนุนด้วยท่าทีรื่นเริงเป็นที่สุด

   “ใช่แล้วโยชัวอยู่กับพวกเราเถอะนะ พวกเราจะทำให้โยชัวมีความสุขแทนท่านพ่อท่านแม่เอง”

   “เรื่องนั้น…”
   โยชัวพึมพำก่อนจะลอบมองลาซารัสที่กระตุกยิ้มชั่วร้ายมาให้  เจ้าของใบหน้าลึกลับเย้ายวนทำแค่เพียงโปรยยิ้มโดยไม่พูดอะไรออกมา

   “ถ้าอย่างนั้นทุกคนต้องสัญญานะว่าจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไปโดยไม่ทอดทิ้งกันไว้เพียงลำพัง”
   
โยชัววอนขอ ลึกๆเขาหวาดกลัวสีหน้าท่าทางซึ่งแสดงถึงความไม่แน่ใจของพวกพี่ชายค่อนข้างมาก หากว่าเห็นสีหน้าบ่งบอกความรู้สึกเช่นนั้นแล้วล่ะก็ เด็กหนุ่มคิดว่า เขาอาจจะขอกลับไปอยู่กับพ่อแม่เสียน่าจะดีกว่า เพราะเข้าใจดี พี่ชายทั้งสามมีโอกาสที่จะเบื่อหน่ายตนเองในระยะเวลาไม่นาน  และถึงแม้จะรู้ดีเรื่องที่อาจถูกหลอกด้วยการแสดงสีหน้าแบบเฉพาะหน้า แต่เมื่อเห็นใบหน้าซึ่งแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนของพี่ชายทั้งสาม โยชัวก็เตะเหตุผลนานัปการทิ้งไป

เขาจะยอมอยู่เป็นคนรักข้างกายพวกเจ้าชายปีศาจนับแต่นี้ไปจนกว่าจะตายจากกัน
   
โยชัวคิดว่าสำหรับพวกเขาที่มีร่างกายเป็นอมตะคงจะเป็นระยะเวลายาวนานไม่สิ้นสุดจนกว่าโลกซึ่งพวกเขาอาศัยอยู่จะถึงกาลปาวสาน

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

จบแล้วนะคะ ตอนนี้เราเขียนเรื่องใหม่อยู่อีกไม่นานจะเอาเรื่องใหม่มาลงต่อคะ

ถ้ายังไงช่วยตามอ่านตามเม้นเหมือนเรื่องนี้ด้วยนะคะ รักคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: MinorMa ที่ 11-07-2015 07:26:03
จะมีตอนพิเศษต่อมั้ยคะ ชอบเรื่องนี้มากๆ
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 11-07-2015 09:22:48
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Moko1212 ที่ 11-07-2015 09:28:11
สนุกค่ะ แต่เหมือนจะงงๆอยู่
 รอเรื่องใหม่ค่า
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-07-2015 09:44:33
จิ้มไว้ก่อน แล้วจะกลับมาอ่านจ้า
 :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 11-07-2015 11:03:22
 มีภาคสองมั้ยอ่ะคะ หรือตอนพิเศษก็ได้ ชอบเรื่องนี้มากกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 11-07-2015 11:17:17
เรื่องใหม่ขอแฟนตาซีอีกนะครับ ชอบๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-07-2015 12:55:53
ชอบจังเลย นานๆจะได้อ่านแฟนตาซี ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-07-2015 06:25:18
อ่อนโยนกับน้องหน่อยสิพี่ชายยยยย
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ =)
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 12-07-2015 07:01:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 12-07-2015 21:09:16
น่าจะมีต่ออีกซักหน่อยนะ  :call:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-07-2015 01:16:05
 :hao4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Paracetamol ที่ 14-07-2015 08:29:46
ทำไมรู้สึกหวานไม่สุด T T
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 14-07-2015 18:13:32
ชอบบบบบ เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้จนจบ

ชอบแนวนี้มาก น่ารักดี ไม่ค่อยดราม่า

สนับสนุนให้แต่งนิยายต่อไปค่ะ

สไตล์การเขียนเนื้อเรื่องดีมาก การบรรยายก็ลื่นไหล

สรุปแล้วคือชอบเรื่องนี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นักเขียนต่อไปค่ะ o13
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 14-07-2015 18:58:20
ตามอ่านวันเดียวจบ ค่ออยากจะบอกว่าเรื่องนี้ดีงามมากมาย
อาจจะงงๆ ช่วงตอนแรกๆ กับช่วงที่โยฮันอ่านความทรงจำจากคนอื่น
แต่ก็เป็นนินายที่แหวกแนวอีกเรื่อง ชอบมากๆเลย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo บทส่งท้าย <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 14-08-2015 07:56:51
แจ้งข่าวค่ะ

เราตัดสินใจจะร่วมเล่มamante del diablo แล้วค่ะ

ตอนนี้กำลังแต่งตอนพิเศษอยู่

ตั้งใจว่าจะเอาลงตอนร่วมเล่มคะ

ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามเม้นกันมาจนจบ

ตอนนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo แจ้งข่าว<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: whistle ที่ 14-08-2015 13:44:20
ชอบเรื่องนี้มากเลย จะรอซื้อนะคะ
เสียดายน่าจะมีภาคสองนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo แจ้งข่าว<แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58>
เริ่มหัวข้อโดย: kothan ที่ 20-08-2015 01:18:33
พวกพี่ชายหื่นจริงๆเลยเน๊าะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 19-09-2015 20:44:26
หุยยยย เกือบด่าแล้ว แต่ละคน  :katai1:
จบแล้วรู้สึกฟิน  :heaven
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 20-09-2015 21:25:31
 :pig4: ขอบคุณค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 21-09-2015 01:28:15
สนุกดีนะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 21-09-2015 07:40:21
อ้าว ตกลงไม่เฉลยเหรอคะ ว่าความทรงจำอันไหนจริงอันไหนปลอม แล้วทำไมโยชัวถึงสลับร่างกันได้ ฝีมือพ่อหรือพี่ชาย? แล้วทำไมอยู่ๆลาซาลัสถึงได้จัดการอมันด้า ทั้งๆที่น้องชาย(ตัวจริง)ถูกจับไปทรมานตั้งหลายปีแล้ว? เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เสียดายที่ไม่เฉลยปมหลายๆอย่าง
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: smohh2 ที่ 21-09-2015 23:37:57
 :haun4: :haun4: :haun4:  ขอบคุณมากๆเลย อ่านจบในวันเดียว #สุดยอดดด    :oo1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 22-09-2015 00:10:17
อ้าว ตกลงไม่เฉลยเหรอคะ ว่าความทรงจำอันไหนจริงอันไหนปลอม แล้วทำไมโยชัวถึงสลับร่างกันได้ ฝีมือพ่อหรือพี่ชาย? แล้วทำไมอยู่ๆลาซาลัสถึงได้จัดการอมันด้า ทั้งๆที่น้องชาย(ตัวจริง)ถูกจับไปทรมานตั้งหลายปีแล้ว? เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เสียดายที่ไม่เฉลยปมหลายๆอย่าง
เห็นด้วยครับคือมันเป็นปมที่คาใจข้าน้อยเป็นอย่างยิ่ง มีอีกหลายๆปมที่ยังไม่แถลงไขT^T อยากให้ขยายความตรงส่วนนี้สักหน่อยขอรับ เนื้อเรื่องโดยรวมถือว่าดีมากครับถ้าเกลาแล้วเพิ่มบทเข้าไปอีกหน่อย 
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 24-09-2015 10:46:57
เรื่องทุกอย่างทุกวางแผนมาอย่างดีเลย
เพื่อจะได้คนที่ต้องการ พร้อมกำจัดพ่อไปด้วย
3 หนุ่มวางแผนดีมาก
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 04-10-2015 21:14:44
อ่านจบแล้วชอบมากค่า ฟิน 4P มากกกก
 :hao7: :hao6: :haun4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 21-11-2015 17:03:43
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 29-11-2015 00:44:47
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
รอตอนพิเศษหวานๆ และการเฉลยปมบางจุดอยู่น้าาา (แต่ขอเน้นตอนหวานแล้วกัน 55)
ส่วนการรวมเล่ม ถ้าทำเป็น E-book ด้วย จะเป็นการกรุณาอย่างสูง
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: KuMaY ที่ 29-11-2015 10:44:33
สนุกมากๆเลย พวกพี่ชายทนุถนอมน้องหน่อยสิ เล่นรุม 3 อย่างนี้เดี๋ยวน้องก็ขาดใจตายกันพอดี
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 30-11-2015 23:17:07
อ๊าาา สนุกมากเลยอะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 03-12-2015 00:09:25
มาอย่างงงๆ...จบอย่างงงๆ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 10-12-2015 23:23:29
สวัสดีค่ะ ตอนนี้amante del diablo พรีออเดอร์แล้วนะคะ

ไปสั่งจองกันได้ที่นี่ค่ะ http://rainynight.lnwshop.com/

https://www.facebook.com/rainynightpublishing/

ฝากนิยายเราด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: waiman ที่ 11-12-2015 12:16:56
พึ่งเข้ามาอ่านค๊า ชอบมากกกกกก รออ่าน เรื่องต่อไปน๊า  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 15-12-2015 17:07:26


มีบางช่วงที่ออกจะงงๆอยู่บ้าง

แต่ก็ไม่ถึงกับไม่เข้าใจเรื่อง

ชอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Mayniemo ที่ 18-12-2015 13:43:11
 :katai2-1:มีงงบ้าง แต่สนุกมากค่ะ มาเคลียร์ก่อนสอบ 555
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 30-12-2015 23:42:54
ชอบค่ะ แหวกแนวดี
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lovemongjang ที่ 13-09-2016 01:42:05
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 14-09-2016 21:12:58
แรกๆกับกลางๆเรื่องดำเนินเรื่องดีเลยค่ะ
แต่พอใกล้จบแล้วตัดฉับเลย
มีปมหลายปมที่ยังไม่เฉลยเลยนะคะ
อย่างสลับวิญญาณกันยังไง
ลาซารัสกับชาร์วางแผนร่วมกันตอนไหน
ทำไมเพิ่งฆ่าอมันด้า
เหมือนพี่น้องจะมีความแค้นส่วนตัวในแต่ละคนอยู่
แล้วทำไมมาร่วมมือกันเฉย
หวังว่าจะมีตอนพิเศษมาเฉลยนะคะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p7><11/7/58> จบแล้วค่ะย้ายได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 06-10-2016 09:01:57
อ้าว ตกลงไม่เฉลยเหรอคะ ว่าความทรงจำอันไหนจริงอันไหนปลอม แล้วทำไมโยชัวถึงสลับร่างกันได้ ฝีมือพ่อหรือพี่ชาย? แล้วทำไมอยู่ๆลาซาลัสถึงได้จัดการอมันด้า ทั้งๆที่น้องชาย(ตัวจริง)ถูกจับไปทรมานตั้งหลายปีแล้ว? เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เสียดายที่ไม่เฉลยปมหลายๆอย่าง
เห็นด้วยครับคือมันเป็นปมที่คาใจข้าน้อยเป็นอย่างยิ่ง มีอีกหลายๆปมที่ยังไม่แถลงไขT^T อยากให้ขยายความตรงส่วนนี้สักหน่อยขอรับ เนื้อเรื่องโดยรวมถือว่าดีมากครับถ้าเกลาแล้วเพิ่มบทเข้าไปอีกหน่อย

นั่นสิ ปมหลายๆอย่างยังไม่เฉลยเลย งงไปสิ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: little_munoi ที่ 13-10-2016 04:06:25
ชอบจัง เรื่องนี้ดีจัง
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 16-10-2016 17:19:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 18-10-2016 23:56:31
 :mew2:  ขอบคุณค่ะ แต่ยัง รู้สึกค้างคาใจอยู่เลยค่ะ  :m28:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-10-2016 20:05:03
ตกลง โยชัวมีสองร่าง อยู่คนละที่
โยชัว ตัวจริงไปอยู่โลกปีศาจ
แล้วมีโยชัว อีกร่างมาสวมแทน
ก็คงฤทธิ์ปีศาจลาซาลัส ที่ไปมิติต่างๆ สบายๆ
โยชัวอยู่โลกปีศาจ มีพี่ชายตางแม่ดูแล
ลูเซีย ลาซาลัส ชาร์ฮาร์ ต่างหลงรักโยชัว
แล้วโยชัวก็รักพวกเขา อะร็างงง 4p ฟินนนน
รักใคร่สามัคคีกันดีนะ สี่พี่น้อง
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: _SHINE_ ที่ 21-10-2016 02:00:26
 :pig4: :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 20-12-2016 15:17:17
แรกๆกับกลางๆเรื่องดำเนินเรื่องดีเลยค่ะ
แต่พอใกล้จบแล้วตัดฉับเลย
มีปมหลายปมที่ยังไม่เฉลยเลยนะคะ
อย่างสลับวิญญาณกันยังไง
ลาซารัสกับชาร์วางแผนร่วมกันตอนไหน
ทำไมเพิ่งฆ่าอมันด้า
เหมือนพี่น้องจะมีความแค้นส่วนตัวในแต่ละคนอยู่
แล้วทำไมมาร่วมมือกันเฉย
หวังว่าจะมีตอนพิเศษมาเฉลยนะคะ

ทั้งหมดเฉลยอยู่ในร่วมเล่มกับสำนักพิมส์ rainy night publishing น่ะค่ะ

หาซื้อกันได้นะคะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 25-12-2016 20:19:43
ตอนนี้silvanเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็นviolasheepแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 19-04-2017 22:43:37
ได้หมดถ้าสดชื่น :o8:
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 23-06-2017 23:48:11
สนุกดีค่ะ แต่บางช่วงมีงงๆหน่อย
หัวข้อ: Re: amante del diablo <แนวฮาเร็ม,incest,fantasy> <p8><10/12/58> แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 22-05-2018 09:32:43
โยชัว์ๆๆๆๆ
อยากให้มีตอนพิเศษจัง