พิมพ์หน้านี้ - คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Hades Novel ที่ 06-04-2015 10:51:36

หัวข้อ: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 06-04-2015 10:51:36
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

----------------------------------------------------------------------------------








                                                                                "คุณสะใภ้ที่รัก"


                                                                                 คำโปรยเรื่อง

                                     “คืองานที่เฮียภามเขาให้มึงทำนะไอ้ป๊อบ มันไม่ง่ายแล้วก็ไม่ยาก มันไม่น่ากลัว แต่มันก็ไม่น่าลอง

มันรับมือไม่ง่าย แต่ถ้ามีวิธีที่ดี มันก็รับมือได้ไม่ยากหรอก” ไอ้ภัทรพูด เพื่อนรักมันยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่

                                    “แล้วสรุปว่างานที่กูต้องทำมันคืองานอะไรกันวะไอ้ภัทร” ไอ้เด็กที่นั่งตรงข้ามผมถามขึ้น แต่คนที่ตอบ

ไม่ใช่ไอ้ภัทรกลับเป็นผมแทนที่ตอบคำถามนั้น

                                   “เป็นแฟนของฉันแล้วก็เป็นว่าที่สะใภ้จำเป็นของบ้านสุริยศักดิ์” ไอ้เด็กนั่นมันทำตาโต พร้อมกับอ้าปาก

พะงาบๆมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่หูมันได้ยิน

                                  “ไอ้เหี้ยยย!!!!!! กู-ไม่-เป็น!!” มันกรีดร้องลั่น

                                                เสียใจด้วยนายปฏิเสธสิ่งที่ฉันพูดไม่ได้ไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม............



                                                         ----------------------------------------------------------



                                                                   ตอนที่ 1 ยอดชายนายป๊อบ.........

            รายได้พิเศษ รายได้เสริม เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมากสำหรับนักศึกษาที่ต้องหาเงินเรียนเองหรือเพื่อช่วยเหลือ

ครอบครัวที่ไม่มีปัจจัยมากพอที่จะส่งเสียตัวเอง ฉะนั้นการมีงานพิเศษทำในช่วงหลังเลิกเรียนแล้วถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากและ

ง่ายต่อการหาเงินมาส่งเสียตัวเองเรียนและนั่นก็รวมผมด้วยอีกหนึ่งคน

        ป๊อบ หรือ ยอดชายนายป๊อบ เป็นทั้งชื่อเล่นและฉายาที่เพื่อนๆตั้งให้เพราะความที่ผมชอบหยอดคนอื่นไปทั่วทั้งเพื่อนใน

กลุ่มผมและผมคิดว่าอาจจะทั้งมหาลัยรู้จัก ยอดชายนายป๊อบ มากกว่า ป๊อบเสียด้วยซ้ำ ส่วนเรื่องที่ผมหางานพิเศษทำหลังเลิก

เรียนไม่ใช่ทางบ้านมีปัญหาด้านการเงินหรือเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เสียไม่มีใครส่งเสียให้เรียนแต่อย่างใด แต่!ไอ้น้องชายสุดที่รักหัว

แก้วหัวแหวนของผม ไอ้ปิ๊ก มันกำลังจะเข้ามหาลัย ฉะนั้นค่าใช้จ่ายที่มันต้องใช้ก็มีอีกมาก ผมจึงอยากแบ่งเบาครอบครัว แต่ผม

ว่าที่ไอ้ค่าใช้จ่ายสูงๆของไอ้ปิ๊กก็คงจะมีแต่หมดไปกับค่าห้องแอร์เย็นๆในห้างที่มันเรียนไปเพื่อเตรียมสอบเข้า แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะ

ช่วยไอ้ปิ๊กได้มากน้อยแค่ไหนเพราะทุกวันนี้ภาษาอังกฤษที่มันพูดได้ก็มีแต่ เยส โน โอเคและแต้งกิ้ว เฮ้อ! ผมคงต้องปล่อยให้มัน

เป็นไปตามยถากรรมของมัน

      “เฮ้ย ไอ้ป๊อบ วันนี้มึงต้องไปทำงานที่ร้านพี่โก้อีกเปล่าวะ” เสียงไอ้ภัทรเพื่อนสนิทของผมตะโกนเรียกผมเสียงดังมาแต่ไกล

      “ไอ้ห่าภัทร มึงตะโกนเรียกกูเสียงดังขนาดนี้กลัวชาวบ้านเขาไม่รู้ใช่ป่ะว่ากูมาถึงมหาลัยแล้ว” ผมตอบไอ้ภัทร ไอ้นี่มันเป็นลูก

คนรวยมากกกก แต่นิสัยดีต่างจากลูกคนรวยหลายๆคนที่ผมเคยรู้จัก มันไม่หยิ่ง ไม่เคยอวดรวย แต่มันจะคอยช่วยเหลือเวลาผม

เดือดร้อนมากกว่า ผมจึงคบกันมันได้นานกว่าคนอื่นๆ

      “กูขอโทษ พอดีวันนี้พวกพี่รหัสเขาเลี้ยงสายรหัสกันกูเจอพี่ท็อปพี่รหัสมึงอ่ะกำลังตามหามึงอยู่ว่าให้ไปบอกไอ้มิ่งน้องรหัสมึง

ให้ไปงานเลี้ยงสายด้วย แล้วสรุปมึงต้องไปทำงานที่ร้านพี่โก้เปล่าวะ” ไอ้ภัทรถามผมซะยาวเหยียดจนผมก็ไม่รู้ว่ามันเอาช่วง

จังหวะไหนหายใจระหว่างพูด

      “กูคงต้องไปทำงานว่ะแล้วนี่พี่รหัสมึงไปเลี้ยงสายเหมือนกันเหรอ” ผมถามไอ้ภัทรกลับ ก่อนจะหาที่ว่างนั่งคุยกับมันที่

ม้าหินอ่อนใกล้กับคณะ

      “อืม เอางี้ไหมมึง เดี๋ยวกูบอกพี่ๆให้ว่าให้ไปปิดร้านพี่โก้แล้วจัดงานเลี้ยงสายที่ร้านพี่เขามึงจะได้ไม่โดนทั้งพี่โก้ว่าแล้วก็ถูกพี่

รหัสด่าหาว่ามึงเล่นตัวไม่ยอมไป” ไอ้ภัทรลองเสนอความคิดซึ่งผมก็คิดว่ามันเป็นทางออกที่ดี ผมไม่โดนไอ้พี่ท็อปด่า แถมยังไม่

ถูกพี่โก้บ่นที่โดดงาน แถมยังได้กินของฟรีมีเวลาหลีสาวอีกต่างหาก งานนี้ฟินถึงชาติหน้าเลยเว้ย!!!

            เพี๊ยะ!!! 

      “ไอ้เหี้ย” ผมตะโกนร้องเสียงดังจนคนที่เดินผ่านไปมาหันมอง ผมจึงต้องหันไปคาดโทษกับอีกคนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้คนอื่น

ต้องหันมองและที่สำคัญหลักฐานยังคาอยู่ที่หัวผมอีกต่างหาก

      “มึงตบหัวกูไอ้ภัทร” ผมว่า ไอ้ภัทรแสร้งทำหน้าเหรอหรา

      “กูเปล่าตบหัวมึง พอดีกูเห็นยุงกำลังดูดเลือดจากหัวมึงอยู่ กูในฐานะเพื่อนที่ดีเมื่อเห็นไอ้ยุงที่กำลังดูดเลือดที่กูคิดว่าน่าจะ

ไม่มีประโยชน์อะไรกูก็เลยสงสารยุง เอ้ย! สงสารหัวมึงกลัวมึงจะถูกยุงดูดเลือดหมดตัว” ไอ้ภัทรแก่ตัวน้ำขุ่นๆมาก ถ้าผมเชื่อมันผม

คงออกลูกเป็นยุง!?

      “เหรอออออออ” ผมแกล้งลากเสียงยาว

      “เอออออออออ” มันก็ตอบผมกลับเสียงยาวเช่นเดียวกัน

      “กูเห็นมึงทำหน้าเจ้าเล่ห์แปลกๆ กูก็เลยคิดว่ามึงคงต้องคิดจะหลีหญิงแน่ๆ กูเลยตบหัวมึง มึงจะได้เลิกคิดเรื่องอกุศลไง กูนี่

ออกจะเป็นเพื่อนที่ดี” มันยอมพูดความจริงออกมาในเรื่องที่ประทุษร้ายหัวอันแสนบอบบาง น่าทะนุทนอมของผม?

      “ตอนแรกกูก็เกือบจะซึ้งใจที่มึงเตือนสติ แต่กูมาคิดขึ้นได้ว่าไม่ควรซึ้งใจเพราะไอ้คำว่า เพื่อนที่ดี ที่หลุดออกมาจากปากของ

มึง มันเชื่อไม่ค่อยได้เพราวันนั้นใครก็ไม่รู้ยุให้กูจีบดาวคณะเศรษฐศาสตร์” ผมแขวะไอ้ภัทรเพราะวันนั้นเป็นวันที่ผมอยากเปลี่ยน

ร้านอาหารเลยไปกินอาหารที่คณะเศรษฐศาสตร์ ไอ้ภัทรมันหันไปเห็นดาวคณะนี้เลยยุให้ผมจีบซะเลย

      “แต่มึงก็จีบติดนี่หว่า” อันนี้มันก็จริงครับ แต่คุยได้ไม่กี่วันเพราะมารู้ทีหลังว่าเธอมีคนที่คุยด้วยอยู่แล้ว

      “เออ แต่ก็มารู้ทีหลังอยู่ดีว่าเขามีเจ้าของแล้ว” แล้วหลังจากนั้นเราก็คุยเรื่องสัพเพเหระกันไปเรื่อย ทั้งเรื่องงานที่มหาลัยที่นับ

วันอาจารย์ก็ขยันสั่งจริงๆ ทั้งๆที่คณะที่ผมเรียนมันก็ต้องใช้ความจำมากมายมหาศาลซึ่งไอ้สมองของผมก็มีรอยหยักอยู่น้อยนิด

เวลาจะจำข้อกฎหมายแต่ละทีแทบจะน้ำตาร่วง

        คณะที่ผมกับไอ้ภัทรเรียนเป็นคณะที่คนที่อยากเป็นทนาย อัยการหรือแม้แต่ผู้พิพากษาก็ต้องเรียนนั่นคือ นิติศาสตร์ เป็น

คณะที่คนความจำไม่ดีไม่แนะนำให้เข้า แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้คนความจำไม่ดีอย่างผมติดเข้ามาได้ยังไง ทุกวันนี้ผมเรียนอยู่

ปีสองแล้ว ผมก็ยังงงๆตัวเองอยู่เหมือนกัน จากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยจนมาถึงเรื่องพิเศษที่ผมทำ

      “เออไอ้ภัทรบ้านมึงรวยพอจะมีงานอะไรให้กูช่วยเปล่าวะ” ผมถามไอ้ภัทร มันดูทำหน้าเลิกคิ้วแปลกใจที่เห็นผมถามถึงเรื่อง

งานพิเศษกับทางบ้านมัน

      “นี่มึงยังงกไม่พออีกเหรอวะ” ไอ้ภัทรว่า ผมเปล่างกแต่ผมอยากจะมีเงินเก็บมากๆๆๆเท่านั้นเอง เปล่างกจริงๆ

      “กูไม่ได้งกนะ แต่ว่าอาทิตย์หน้ามหาลัยก็จะปิดเทอมแล้วทีนี้กูก็ว่างหลายวันเลยอยากจะหางานทำเพิ่มเดี๋ยวไอ้ปิ๊กมันต้องเข้า

มาอยู่กรุงเทพฯอีก” ผมบอกไอ้ภัทรเพราะช่วงที่ผมปิดเทอมไอ้ปิ๊กก็ต้องมาเตรียมตัวสอบเข้า ผมก็อยากจะหางานทำเอาเงินเก็บไว้

ให้มันใช้ดำเนินการเรื่องสอบ เรื่องเรียนของมันจะได้ไม่ต้องรบกวนทางบ้าน

      “ที่บ้านเหรอ? กูขอคิดก่อนนะ อืม จะว่าไปมันก็อาจจะมีอยู่เหมือนกันนะเพราะเฮียกูเขากำลังสร้างคอนโด แต่กูไม่แน่ใจว่ามึง

จะได้งานรึเปล่านะคือกูขอไปคุยกับเฮียก่อนได้เปล่าวะ ถ้าได้เรื่องยังไงกูจะมาบอกมึงอีกที” ไอ้ภัทรบอกผม สาธุขอให้ผมได้งาน

ทำทีเถอะ หวังว่าเฮียของไอ้ภัทรคงพอจะมีงานให้ผมได้ทำเพื่อเพิ่มยอดเงินในบัญชีได้บ้าง

      “ขอบคุณมาก” ผมตอบมันยิ้มๆ ไอ้ภัทรเป็นเพื่อนที่ดีของผมจริงๆ

      “ไม่เป็นไร เพื่อนย่อมต้องช่วยเพื่อน กูว่าเราไปเตรียมตัวไปงานเลี้ยงสายกันดีกว่า” ไอ้ภัทรว่า ก่อนจะอาสาไปส่งผมที่หอพัก

        หอพักที่ผมเช่าอยู่เป็นหอพักที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัยเท่าไรซึ่งมันก็เป็นผลดีสำหรับผมเพราะไม่ต้องเปลืองค่าใช้จ่าย แถม

บางวันไอ้ภัทรก็จะขับ BMW สุดหรูของมันมาส่งผมที่หอพัก

        วันนี้เป็นวันที่ผมมีเรียนช่วงเช้า แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ออกจากห้องไอ้ภัทรก็โทรเข้ามาหาบอกว่าวันนี้แม่อาจารย์ท่านป่วย

เลยยกเลิกคลาส ผมเลยได้มีเวลาไปนั่งคุยกับไอ้ภัทรอย่างชิลๆที่มหาลัยก่อนจะกลับบ้านมาพักผ่อนเพราะช่วงเย็นต้องออกไป

เลี้ยงสายรหัสอีก

        ผมไขกุญแจเปิดห้องก่อนจะก้าวเข้ามาด้านในห้องแล้วจึงปิดลง ก่อนจะเดินไปล้มตัวนอนคว่ำหน้าที่เตียงนอนอย่างคน

เหนื่อยอ่อนและนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรบอกไอ้มิ่งเรื่องเลี้ยงสายรหัสเย็นนี้

      “ครับเฮีย” ไม่ต้องรอนานปลายสายก็ตอบรับกลับมา

      “วันนี้พี่ท็อปนัดเลี้ยงสายรหัสที่ร้านพี่โก้นะ ตอนหกโมงเย็น” ผมบอกรุ่นน้อง ถึงแม้ไอ้ภัทรจะไม่ระบุเวลาแต่เราก็จะไปกันเวลา

นี้เป็นประจำ

      “ครับเฮีย งั้นแค่นี้ก่อนนะ พอดีอาจารย์เข้าแล้ว แล้วเจอกันร้านพี่โก้ครับเฮีย” ไอ้มิ่งบอกผมอย่างเร็วเพราะคงกลัวโดนอาจารย์

ว่า จากนั้นมันก็ตัดสายไปเป็นอันรู้กันว่าเย็นนี้หกโมงร้านพี่โก้

        ไอ้มิ่งเป็นน้องรหัสของผมแถมยังเป็นคนสุพรรณเหมือนกับผมจึงทำให้เราสองคนสนิทกันและที่สำคัญผมกับมันก็มีอะไร

หลายๆอย่างคล้ายกันคือเป็นพี่คนโต ต้องหางานพิเศษทำเพราะไม่อยากรบกวนครอบครัวและที่สำคัญมันเป็นคนดีที่ใช้ได้

        กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ที่ผมเพิ่งโทรออกหาไอ้มิ่งอยู่ดีๆก็แผดเสียงร้อง ผมที่กำลังเคลิ้มๆจะหลับก็ต้องหยิบโทรศัพท์เจ้ากรรม

มากดรับสาย

      “ไอ้ปิ๊ก” ทันทีที่ผมเห็นชื่อคนโทรมาก็ทำให้ผมแทบปาโทรศัพท์ทิ้งลงพื้นทันที ไอ้น้องเวร ชอบขัดความสุขพี่!!

      “มีไรมึง รู้ไหมเฮียกำลังนอนอยู่โทรมาขัดเนี่ย” ผมว่าไอ้ปิ๊กน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะได้ยินเสียงสะอื้นน้อยๆจากปลายสายจึง

ทำให้ผมเลิกคิ้วสงสัย ปกติไอ้ปิ๊กไม่ใช่คนขี้แยหรือว่า........................จะเกิดเรื่องไม่ดี

      “เป็นอะไรวะไอ้ปิ๊ก ทำไมถึงมีเสียงสะอื้น” ผมถาม ก่อนจะกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่งคุยกับมัน

      “แม่ อึก แม่” ไอ้น้องเวร มึงอย่าพูดแค่แม่แล้วสะอื้นกูใจไม่ดี

      “มึงตั้งสติไอ้ปิ๊กแล้วบอกเฮียว่าแม่เป็นอะไร” ผมบอกน้องเพราะดูท่าไอ้ปิ๊กจะคุมสติตัวเองไม่อยู่

      “แม่ไม่สบายเฮีย” ไอ้ปิ๊กบอกผม

      “ไม่สบายเป็นอะไร” ผมถามต่อ แต่ทำไมผมถึงมีลางสังหรณ์แปลกๆและหวังว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิด

      “แม่เป็น........แม่เป็นเนื้องอกในสมอง” ทันทีที่ไอ้ปิ๊กพูดจบมือที่ถือโทรศัพท์เอาไว้กลับไร้เรี่ยวแรง จนทำให้โทรศัพท์ที่ผม

คุยกับไอ้ปิ๊กตกไปอยู่ข้างตัว แม่เป็นเนื้องอกในสมอง ที่ไอ้ปิ๊กพูดไม่ใช่ความจริงใช่ไหม ตอนนี้ผมกำลังฝันใช่ไหม ใครก็ได้ตอบ

ผมที.........................









                           
        ตอนนี้ผม ไอ้ภัทรแล้วก็พี่ๆน้องๆที่อยู่สายรหัสเดียวกับเราก็ทยอยกันเดินทางมาที่ร้านพี่โก้ พี่โก้เป็นศิษย์เก่าของมหาลัยที่

พวกผมเรียนอยู่จึงทำให้ทุกคนสนิทสนมกัน โดยเฉพาะพวกพี่ปีสี่ที่ค่อนข้างจะสนิทกับพี่โก้เป็นพิเศษเพราะพี่แกเพิ่งเรียนจบจาก

มหาลัยได้สามปีก็ออกมาเปิดธุรกิจ เรสเตอร์รองกึ่งบาร์ เอาใจรุ่นน้องที่ชอบพาน้องๆมาเลี้ยงสายอย่างพวกผม

      “สวัสดีครับพี่โก้” ทันที่ที่มาถึงร้านพวกผมทั้งหมดก็ทักทายพี่แก แต่วันนี้ดูเหมือนพี่โก้จะยุ่งๆแปลกๆแถมยังมีป้ายที่ติดไว้กับ

โต๊ะวีไอพีว่าจองแล้วอีกด้วย

      “วันนี้มีแขกพิเศษมาเหรอครับ” ผมถาม พี่โก้จึงพยักหน้า

      “อืมเห็นว่าจะมาเลี้ยงรับเพื่อนที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แล้วนี่พวกมึงมาเมากันอีกแล้วเหรอ” พี่โก้ว่า ก่อนจะถามพวกผม

ที่ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆไปให้ พี่โก้ได้แต่ส่ายหัวแต่ก็จัดเมนูและเหล้าเบียร์มาให้พร้อม ถึงจะบ่น แต่แกก็รู้ใจ ฮ่าๆๆ

      “วันนี้ไม่ได้ขี้เหรอวะไอ้ยอดชายนายป๊อบถึงได้ทำหน้าแบบนั้นน่ะ” เสียงพี่ท็อปว่า ก่อนจะโดนพี้เมฆพี่รหัสไอ้ภัทรเอาที่คีบน้ำ

แข็งทุบหัว ก่อนจะทำทีเป็นแกล้งว่าพี่ท็อป

      “ไอ้เหี้ยท็อปพูดเรื่องขี้ทำไมวะ คนกำลังจะแดก เออนี่ไอ้ยอดชายนายป๊อบมึงโดนนารีพิฆาตมารึยังไงถึงได้ทำหน้าเซ็งๆแบบ

นั้นวะ ฮ่าๆ” สิ้นเสียงพี่เมฆคนทั้งโต๊ะก็พากันหัวเราะครืน เออดีเอาเข้าไปคนยิ่งทุกข์ๆอยู่

      “ผมว่าไม่นะพี่ ผมทำนายเลยว่าเฮียแกไม่โดนนารีพิฆาตหรอก แต่โดนหนุ่มหล่อรากดินพิฆาตมากกว่า หมอมิ่งฟันแหลก เอ้ย!

 ฟันธง ฮ่าๆๆๆๆ” เออเอากันเข้าไป ไอ้มิ่งนั่นปากหรือตีน

      “ปากมึงวอนตีนกูมากไอ้มิ่ง สงสัยมึงอยากกินตีนกูผัดฉ่า พวกพี่ก็เหมือนกันไม่มีห้ามน้องนุ่งเลยสักนิดปล่อยให้มันปีนเกลียว”

 ผมว่าไอ้พี่ท็อป แต่พี่แกนั่นแหละตัวดีที่ให้ท้ายไอ้มิ่ง จนทุกวันนี้ผมยังสงสัยใครเป็นพี่เป็นน้องรหัสกันแน่

      “แต่กูว่าอาจจะเป็นจริงก็ได้นะไอ้ป๊อบ ไม่แน่นะมึงมึงชอบไปฟันไปหยอดคนอื่นเอาไว้เยอะระวังเหอะมึง หนุ่มหล่อพิฆาตจะมา

อย่างไม่รู้ตัว” ไอ้ภัทรบอกผมพร้อมกับหันไปจับมือเห็นด้วยกับไอ้หมอมิ่งฟันแหลก เอ้ย! ฟันธง

      “เรื่องนี้พี่โก้สัมผัสได้ ฮ่าๆๆๆๆๆ” พี่โก้ที่เดินเอากับแกล้มมาให้ล้อผมบ้าง คนที่โต๊ะที่ได้ยินพี่โก้พูดกันพากันหัวเราะชอบใจ

ใหญ่ สงสัยจะสนุกกันมากที่ได้แกล้งผม

      “โอ๊ย! พวกพี่พูดอะไรไม่เข้าหูเลยสักเรื่อง ส่วนวันนี้ที่ผมเซ็งๆเพราะแม่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมา

รักษาแม่ได้ที่ไหน แถมไอ้ปิ๊กยังต้องมาเรียนที่กรุงเทพฯอีก” ผมตอบ ตอนนี้ผมทั้งเครียดทั้งกลัว เครียดเรื่องค่ารักษาพยาบาล

กลัวเรื่องที่แม่จะเป็นอะไรมากรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนไอ้ภัทรจะจับความรู้สึกของผมได้ มันจึงเอื้อมมือมาตบไหล่ให้กำลังใจผม

      “มึงไม่ต้องเครียดเว้ย มึงก็น่าจะพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง เอาอย่างนี้เดี๋ยวพอเราสอบเสร็จกูจะรีบคุยกับเฮียให้ช่วยดูๆงานให้มึงทำ

ก็แล้วกัน” ไอ้ภัทรบอกผม ผมจึงหันไปขอบใจมันที่มันคอยช่วยเหลือผมทุกอย่าง จนบางครั้งผมยังอยากให้มันเป็นผู้หญิงเลย

      “มึงน่าจะเป็นผู้หญิงนะไอ้ภัทร กูจะได้จีบมึง” ผมพูด ไอ้ภัทรเลยเอื้อมมือมาตบหัวผมเสียงดัง จนทำให้คนในโต๊ะพากัน

หัวเราะครืน บรรยากาศที่ดูจะตึงเครียดเมื่อครู่ก็ค่อยๆหายไป

      “มึงพูดซะขนตูดกูลุกเลยไอ้เหี้ย ฮ่าๆๆๆๆ” ไอ้ภัทรว่าเสร็จก็ขำเอง จนผมก็ขำตามกับคำที่มันพูด

      “มึงไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นดีกว่าไอ้ป๊อบแล้วเดี๋ยวค่อยกลับมาสนุกสนานกันต่อ สภาพอย่างนี้มึงจีบหญิงไม่ติดแน่” พี่

ท็อปไล่ผมไปห้องน้ำซึ่งผมก็เห็นด้วยกับพี่แกเลยขอตัวไปห้องน้ำ

        ผมเดินมาเข้าห้องน้ำซึ่งผู้คนวันนี้ถึงจะเยอะ แต่ในห้องน้ำกลับไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าที่ควร ผมจึงตรงดิ่งเข้าไปทำธุระส่วน

ตัวของตัวเองและไม่นานผมก็ออกมาล้างมือ ล้างหน้า สำรวจตัวเองในกระจกเซ็ตผมให้ดูหล่อ

      “เรานี่ก็ดูดีเหมือนกันนะ” ผมชมตัวเองในกระจก แต่จะว่าไปแล้วผมของผมมันก็ดูยาวขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไรถือซะว่าเหมือน

หนุ่มเซอร์จะได้กระชากใจสาวๆได้

        หลังจากที่สำรวจตัวเองว่าหล่อพอสำหรับหลีหญิงในค่ำคืนนี้แล้ว ผมจึงเดินออกจากห้องน้ำ แต่ก็ต้องเซถลาเกือบล้มเมื่อ

ใครที่ไหนก็ไม่รู้ทิ้งน้ำหนักตัวมาที่ผม แต่ดีหน่อยที่ผมตั้งตัวได้เราทั้งคู่เลยไม่ล้มลงไปกองที่พื้น

      “เฮ้ย! คุณเป็นไรไหมเนี่ย” ผมถามอีกคน แต่อยู่ดีๆอีกฝ่ายก็โถมน้ำหนักลงมาที่ตัวผมมากขึ้นจนเราทั้งคู่ลมลงไปกองอยู่ที่พื้น

 โดยมีผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้กำลังคร่อมทับผมอยู่ มันเรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!!!!

      “เฮ้ย! คุณลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ” ผมพยายามผลักอีกคนออกทั้งๆที่ผมก็มีแรงไม่ใช่น้อย แต่กลับผลักคนที่คร่อมอยู่ไม่ขยับเลย

สักนิด ผมเลยยกขาขึ้นมาเพื่อหวังจะถีบอีกคนให้ลุกออกไป แต่ก็ต้องไปสะดุดกับส่วนอ่อนไหวกลางลำตัวของอีกคนที่แข็งขืนเมื่อ

ถูกกับขาที่ผมยกขึ้น

      “ไอ้เหี้ย!!” ตอนนี้ผมไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นนอกจากเอกราชของตัวเองเพราะผมรู้ดีว่าถ้าขืนอยู่ท่านี้อีกนาน ผมต้องสูญเสีย

เอกราชให้กับไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ผมเลยตัดสินใจถีบคนที่คร่อมอยู่สุดแรงเกิดและรีบวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำได้อย่างรอดปลอดภัย

 ก่อนจะมานั่งสงบสติอารมณ์ที่โต๊ะแถมยังมีสายตาที่สงสัยของคนในโต๊ะมองมา แต่ผมก็ไม่สนใจสายตาของใครทั้งสิ้น

        เกือบไปแล้วไหมล่ะไอ้ป๊อบ เกือบเสียเอกราชให้กับใครก็ไม่รู้ อ๊ากก!หรือว่า......ผมจะมีดวงหนุ่มหล่อพิฆาตอย่างที่ไอ้มิ่งมัน

ฟันธงไว้จริงๆ อึ๋ย! แค่คิดก็ขนลุก!! ขออย่าให้จริงเล้ย!!!!!













สวัสดีค่ะ พอดีเป็นคนเขียนมือใหม่เพิ่งได้เข้ามาลงนิยายในเว็บนี้ ถ้าหากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ช่วยตักเตือนด้วยนะคะ

เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องแรกที่นักเขียนเริ่มแต่งยังไงก็ฝากนักอ่านทุกคนช่วยติดตามผลงานด้วยนะคะ ถ้าหากชอบและต้องการติชม

อะไรก็คอมเม้นได้เลยนะคะ นักเขียนคนนี้จะได้นำกลับไปพัฒนาให้ดีขึ้นค่ะ ฝาก "คุณสะใภ้ที่รักไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ"

ปล.ตอนแรกของคุณสะใภ้ที่รักมาแล้ว ถ้ามีคำผิดตรงช่วงไหนช่วยบอกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ



หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่2 งานพิเศษ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 06-04-2015 11:03:42
                                                                          ตอนที่ 2 งานพิเศษ.........

            ก๊อกๆๆๆ

      “คุณภามคะ คุณผู้หญิงให้มาตามไปทานอาหารเช้าค่ะ” เสียงแม่บ้านวัยกลางคนตะโกนเรียกผมอยู่หน้าประตูห้องนอน

      “อืม ครับๆเดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงผมลงไป” ผมตะโกนออกไปทั้งๆที่ใจไม่อยากลุกออกจากเตียงเลยแม้แต่น้อย

      “ค่ะ เดี๋ยวป้าพิมพ์ไปเรียนคุณผู้หญิงกับคุณท่านให้นะคะ” ว่าจบหญิงวัยกลางคนก็เดินออกจากหน้าห้องไป ส่วนตัวผมที่

รับปากแล้วก็ต้องลุกขึ้นตื่นจากเตียงนอนเข้าห้องอาบน้ำเพื่อลงไปทานอาหารเช้าตามที่คุณหญิงให้คนมาตาม

        เมื่อวานช่วงเย็นผมออกไปงานเลี้ยงรับเพื่อนที่เพิ่งกลับจากแคนาดาชื่อว่า ยาหยี พวกผมก็ทักทายและพูดคุยกันตามปกติ

แต่เพราะผมเผลอไปหยิบแก้วผิด ทำไห้ผมไปหยิบแก้วที่ไอ้นันมันจะเอาให้ยาหยีกินซึ่งในแก้วนั้น มันก็แอบใส่ยาปลุกเซ็กส์ แค่

คิดถึงตรงนี้ผมก็อยากจะฆ่ามัน ผมเลยต้องขอตัวมาสงบสติอารมณ์ที่ห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้เข้าห้องน้ำ ขาที่ใช้เดินกลับไร้

เรี่ยวแรง  ผมเลยเซไปซบลงกับใครที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังทำให้เราทั้งคู่ล้มลงไปกองที่พื้น โดยมีผมคร่อมอีกฝ่ายอยู่ ผมเลย

พยายามคุมสติตัวเองเพื่อที่จะได้ลุกขึ้นจากอีกฝ่าย จนคนที่ผมคร่อมทับยกขามาโดนน้องชายสุดที่รักของผมเท่านั้นแหละ ไอ้ที่

กำลังจะสงบกลับมาตระหง่านอีกครั้ง อีกคนก็คงจะรู้เลยถีบผมอย่างสุดแรงเกิด ตั้งแต่ผมเกิดมาจนอายุเกือบจะสามสิบยังไม่เคยมี

ใครกล้าถีบผมแรงเท่าไอ้เด็กบ้าที่ไหนก็ไม่รู้

        ผมเดินออกจากห้องน้ำหลังจากที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะเดินไปฉีดน้ำหอมกลิ่นโปรดของตัวเอง แต่จะว่าไปถ้าผมจำ

ไม่ผิดไอ้เด็กเมื่อวานที่ผมเจอในห้องน้ำกลิ่นตัวมันก็หอมดีเหมือนกัน

      “นายนี่น่าสนใจดีเหมือนกันนะ แต่น่าเสียดายที่เราคงไม่ได้เจอกันอีก” ผมว่า ก่อนจะเดินลงไปทานอาหารเช้ากับคุณหญิง

                             
      “ตาภามนี่ลูกก็ใกล้จะสามสิบแล้วเมื่อไหร่จะยอมแต่งงานเหมือนกับคนอื่นสักที” เสียงของคุณหญิงแม่พูดขึ้นระหว่างมื้อ

อาหาร ผมที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากก็ต้องหยุดชะงัก ส่วนคุณพ่อที่นั่งอยู่หัวโต๊ะกลับอ่านหนังสือพิมพ์เหมือนมันเป็นเรื่องปกติทุก

ครั้งที่คุณหญิงต้องถามระหว่างทานข้าว......และมันก็เป็นเรื่องปกติจริงๆที่คุณหญิงจะถามเรื่องนี้ในระหว่างทานข้าว

      “ผมขอทำงานอีกสักพักนะครับ พอดีช่วงนี้ผมกำลังดำเนินการเรื่องการเปิดตัวคอนโดใหม่เลยไม่ค่อยว่าง ไม่อยากจะทำให้

ใครเสียใจเพราะผมไม่มีเวลาให้” ผมตอบไปตามความจริง ตอนนี้ผมกำลังมีแผนธุรกิจเปิดตัวคอนโดแห่งใหม่อีกไม่กี่เดือนคงไม่มี

เวลามากพอมานั่งเอาอกเอาใจใคร

      “อย่างนี้ลูกต้องรีบแต่งเพราจะได้มีคนมาช่วยลูกดูแลธุรกิจ แม่แนะนำน้องน้ำฟ้าให้เอาไหม เธอเรียนทางด้านนี้มาเพื่อจะช่วย

ลูกได้” และการที่คุณหญิงจะแนะนำผู้หญิงให้ผมก็มักจะพูดขึ้นระหว่างมื้ออาหารเช่นเดียวกัน

      “ผมว่าอย่าดีกว่าครับ ผมไม่ว่างอาจจะทำให้น้องน้ำฟ้าของคุณแม่ไม่พอใจผมก็ได้ที่ไม่มีเวลาให้” ผมพยายามปฏิเสธ ก่อนจะ

หันไปขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อที่ตอนนี้เลิกสนใจหนังสือพิมพ์หันมานั่งทานอาหารเช้าเหมือนเดิม แต่ท่านกลับยักไหล่เป็น

อันว่า เรื่องนี้พ่อขอไม่ยุ่ง

        บรรยากาศในโต๊ะอาหารดูจะอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ยังโชคดีที่ไอ้เจ้าภัทรน้องชายของผมเดินลงมาจากบันไดพอดี

      “อือหืม อาหารเช้าแต่ละอย่างหน้าทานทั้งนั้นเลยทำไมคุณแม่ไม่ให้คนไปตามภัทรลงมาทานด้วยล่ะครับ” เสียงของไอ้ภัทร

ตะโกนดังมาแต่ไกล ก่อนจะเดินเข้าไปกอดคุณแม่อย่างออดอ้อนเพราะท่านมักจะใจดีและตามใจไอ้ภัทรเป็นพิเศษ ผมเลยลอบ

ถอนหายใจอย่างโล่งอก

      “ก็แม่เห็นลูกเพิ่งกลับบ้านมาใกล้เช้าก็เลยไม่อยากปลุกไงครับ” คุณหญิงแม่บอก ไอ้ภัทรจึงนั่งลงข้างๆท่าน คุณแม่เลยให้ป้า

พิมพ์ป้าแม่บ้านตักข้าวเสิร์ฟคุณหนูคนเล็กของบ้าน

      “แล้วนี่คุยอะไรกันอยู่เหรอครับ” ไอ้ภัทรถามขึ้น ผมแทบจะสำลักข้าวเพราะคิดว่าไอ้ภัทรมาคุณแม่คงคุยกับไอ้ภัทรจนลืมเรื่อง

ผม แต่ไอ้นี่กลับไปพูดจุดชนวนขึ้นมาซะนี่

      “ก็เฮียของลูกไงที่ไม่ยอมหาคู่มาแต่งงานสักที แม่แนะนำให้ก็ไม่เอาท่าเดียว” คุณหญิงแม่ว่า ไอ้ภัทรเลยหันมามองหน้าผม

ก่อนจะส่งสายตาเชิงขอโทษมาให้

      “ก็ผมบอกคุณแม่แล้วไงครับว่าผมยังคงยุ่งๆกับเรื่องธุรกิจ” ผมบอก แต่ท่านก็ทำหน้าไม่พอใจเพราะรู้ว่าผมแค่ใช้มันเป็นขอ

อ้างที่ไม่อยากแต่งงาน

      “ภัทรเห็นด้วยกับเฮียนะครับ ถ้าเราทำงานยุ่งๆเราก็จะไม่มีเวลามาคอยดูแลเอาใจใส่ผู้หญิง ร้อยทั้งร้อยผู้หญิงก็ต้องบอกเลิก”

 ไอ้ภัทรบอก คุณแม่เลยอ้าปากกำลังจะค้าน แต่ไอ้ภัทรกลับพูดขัดขึ้นก่อน

      “เอาอย่างนี้สิครับ ถ้าเฮียทำงานตรงนี้เสร็จแล้วคุณแม่ก็ค่อยแนะนำผู้หญิงที่คุณแม่คิดว่าดีพอสักคนมาให้เฮียรู้จัก ถึงตอนนั้น

เฮียจะปฏิเสธก็คงปฏิเสธไม่ได้เพราะเฮียไม่มีข้ออ้างอื่นมาอ้างได้” ไอ้ภัทรพูด นับว่ามันยังฉลาดที่ทำให้คุณแม่ยอมโอนอ่อนตาม

มัน แต่พอถึงเวลานั้นผมก็ค่อยหาเรื่องอื่นมาอ้างก็ยังได้เพราผมก็คงไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองไปแต่งงานกับคนที่คุณแม่แนะนำเด็ด

ขาด

        มื้ออาหารหลังจากที่ไอ้ภัทรลงมาร่วมโต๊ะด้วยดูจะสนุกสนานเป็นพิเศษเพราะมันจะชอบมีเรื่องมาเล่าสนุกสนานเวลาทาน

อาหาร ส่วนคุณหญิงแม่ที่คอยสอนมารยาทไม่ให้พูดคุยเสียงดังระหว่างทานอาหารก็ยังเอือมกับพฤติกรรทมที่แก้ไม่หายของ

ลูกชายคนโปรด แต่ท่านก็ไม่เคยดุไอ้ภัทรเลยสักครั้ง

      “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมบอกทุกคนเพราะวันนี้ผมมีงานที่บริษัทต้องเข้าไปเคลียร์ให้เรียบร้อย แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุก

จากเก้าอี้ที่นั่งเสียงไอ้ภัทรก็เรียกขัดผมไว้ก่อน

      “เดี๋ยวเฮีย ภัทรมีเรื่องจะคุยกับเฮีย”
                         
      “มีเรื่องอะไรจะคุยกับเฮียเหรอ” ผมถามไอ้น้องชายตัวแสบที่มันขอติดสอยห้อยมาตามไปที่ทำงานกับผมด้วยเพราะมันบอกว่า

มีเรื่องจะคุยกับผม

      “คือภัทรเห็นเฮียกำลังจะเปิดคอนโดใหม่เลยอยากรู้ว่าเฮียพอมีงานอะไรให้ทำบ้างไหม” ไอ้ภัทรถามผม

      “แล้วนี่นึกยังไงถึงมาถามถึงเรื่องงาน ร้อยวันพันปีเฮียไม่เคยเห็นถาม” ผมถามอย่างสงสัยเพราะคนอย่างไอ้ภัทรแค่ให้ช่วย

ตรวจเอกสารนิดๆหน่อยๆก็บ่นเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหารจนทำให้ผมปวดหัวจะตายอยู่แล้ว แล้วนี่นึกคึกยังไงถึงอยากทำงาน


      “ไม่ใช่ภัทรหรอเฮีย แต่เป็นเพื่อนสนิทภัทรมันจะหาเงินไปเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แม่มัน” ไอ้ภัทรบอกผม ถ้าถามว่างานมี

ไหมมันก็มีอยู่หรอก

      “แล้วแม่เพื่อนภัทรเป็นอะไรล่ะ” ผมถามเพราะตอนนี้ที่ว่างก็มีแค่...เด็กโบกธงหน้าคอนโด

      “เป็นเนื้องอกในสมอง” ไอ้ภัทรบอก โห เนื้องอกในสมองกับงานเด็กโบกธงเงินเดือนมันก็ไม่ได้มากมายอะไร

      “เฮียว่างานที่เหลือมันไม่พอให้เพื่อนภัทรเอาเงินไปรักษาแม่ได้หรอก” ผมว่า ไอ้ภัทรดูหน้าเศร้าๆ สงสัยมันจะสงสารเพื่อน

และผมก็คงติดนิสัยขี้สงสารมาจากมัน เฮ้อ! เอาวะเดี๋ยวลองถามเพื่อนดูก็แล้วกันว่ามันมีงานอะไรพอที่จะได้เงินเยอะๆให้เพื่อนไอ้

ภัทรได้เอาไว้ใช้รักษาแม่

      “แล้วภัทรมีรูปเพื่อนคนนั้นไหมล่ะเพราะเดี๋ยวเฮียจะเอาไปถามเพื่อนเฮียให้ แต่เฮียต้องขอดูหน้าตาก่อนว่าน่าเชื่อถือมากน้อย

แค่ไหน” ไอ้ภัทรรีบกุลีกุจอหยิบโทรศัพท์มาเปิดรูปเพื่อนมันทันทีที่ผมพูดจบ จากนั้นไม่นานมันก็ยื่นรูปมาให้ผมดู

        ผมรับมือถือไอ้ภัทรมาดูรูปเพื่อนของมัน แต่ก็ต้องตกใจที่เป็นรูปของไอ้เด็กแสบเมื่อคืนที่ถีบผมซะจุกยันเช้า ผมมองรูปใน

มือถือ ก่อนจะกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ที่โชคยังพอเข้าข้างผมให้ผมได้เอาคืนไอ้เด็กแสบนั่น  หึๆ ผมรู้แล้วล่ะว่าไอ้เด็กนี่ได้งาน

อะไร

      “เฮียพอมีงานให้เพื่อนภัทรทำแล้วล่ะ” ผมบอกไอ้ภัทร ไอ้น้องชายตัวดียกยิ้มดีใจที่เพื่อนมันได้งานทำ

       “ว่าแต่เฮียจะให้เพื่อนภัทรทำงานอะไรเหรอ” ไอ้ภัทรถามผม

      “เดี๋ยวก็รู้ ถ้าสอบเสร็จเมื่อไหร่นัดเพื่อนเรามาคุยกับเฮียที่บริษัทด้วยนะ เฮียจะได้แนะนำงานให้กับเพื่อนของภัทร” ผมบอก

ก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถของบริษัท

                                                                           งานนี้คงได้สนุกกันแน่ หึๆ
                           







        วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของผมอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าผมก็จะได้ปิดเทอมและหยุดยาวได้เป็นอิสระจาการที่ไม่ต้องเจอเจ๊

โหดอีกนานและแน่นอนเมื่อไม่กี่วันไอ้ภัทรก็เพิ่งมาบอกว่าเฮียมันมีงานให้ผมได้ทำ ผมนี่โคตรรักเฮียไอ้ภัทรเลยเพราะอย่างน้อยๆ

ผมจะได้มีเงินเอาไว้เป็นค่ารักษาแม่แล้วก็ให้ไอ้ปิ๊กได้เอาไว้เรียน

      “เสร็จแล้วโว้ยยยยยย” ผมตะโกนลั่นห้องสอบ หลังจากที่เขียนตอบข้อสุดท้ายเสร็จ แต่ก็คงลืมไปว่ายังมีเพื่อนในห้องอีก

หลายคนที่ยังทำข้อสอบไม่เสร็จ ผมเลยโดนอาจารย์คุมสอบส่งสายตาดุๆมาให้

        ผมรีบเดินไปส่งข้อสอบก่อนจะออกมานั่งรอไอ้ภัทรนอกห้องสอบเพราะมันบอกว่าเฮียของมันจะนัดคุยกับผมเรื่องงานหลัง

จากที่ผมสอบเสร็จและไม่นานไอ้ภัทรก็เดินเหมือนศพเดินได้ออกมาจากห้องสอบ

      “แม่งยากสัดๆเลยว่ะ” ทันทีที่มันมาหาผมก่อนจะหย่อนตัวลงที่ม้าหินอ่อนโต๊ะประจำที่พวกเราชอบนั่ง ไอ้ภัทรก็สบถคำด่าถึง

ข้อสอบที่พวกเราเพิ่งสอบกันเสร็จ แต่จะว่าไปวันนี้ผมกลับทำข้อสอบได้ สงสัยจะตื่นเต้นที่จะได้งาน

      “มึงอย่าไปคิดมาก ถ้าวิชานี้ไม่ได้ดีก็ติดเอฟ” ผมบอกไอ้ภัทร มันเลยหันกลับมาตบหัวผมอย่างแรง ไอ้เหี้ย! มึงชอบ

ประทุษร้ายหัวกู

      “กำลังใจมึงช่วยกูได้มากเลยสัด เดี๋ยวเหอะมึง กูจะบอกเฮียว่าไม่ต้องหางานให้มึงทำ” ไอ้ภัทรว่า ผมเลยต้องพินอบพิเทาไอ้

ภัทรมันเดี๋ยวมันบอกให้เฮียมันเปลี่ยนใจแล้วผมจะซวย

      “โอ๋ๆๆอย่างอนกูเลยนะครับไอ้เพื่อนรัก ไปหาเฮียมึงเหอะกูอยากจะทำงานจะแย่อยู่แล้ว” ผมบอก ไอ้ภัทรเลยเดินนำไปที่รถ

คันหรูของมันก่อนขับออกไปหาเฮียที่บริษัท

        ไม่นานรถของไอ้ภัทรก็มาจอดอยู่ที่หน้าบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นของเฮียมันแน่ๆ ผมกับมันเลยลงจากรถเพื่อ

เข้าไปหาเฮียมันข้างใน ส่วนรถของมันมันก็ฝากพี่ยามเอาเข้าไปเก็บให้ ระหว่างทางที่ผมกับไอ้ภัทรเดินเข้าบริษัทพนักงานสาว

สวยทั้งหลายก็หันมองผมสองคน บางคนส่งยิ้มให้ผม ผมก็ยิ้มตอบกลับเป็นมารยาท

        หน้าตาของผมจัดได้ว่าหล่อเหลาเอาการดีทีเดียว ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองแต่อย่างใดเพราะใครๆก็มักบอกผมแบบนั้น

ส่วนสูงที่สูงเกือบร้อยแปดสิบกับรูปร่างโปร่งๆของผมทำให้ดูดีในสายตาของสาวๆที่ชอบหนุ่มร่างสูงโปร่ง สวรรค์ช่างเข้าใจสรร

สร้างคนหน้าตาดีแบบผมขึ้นมาจริงๆ

      “พี่แพรวครับ ผมมาหาเฮียตอนนี้เฮียอยู่รึเปล่าครับ” ผมเดินตามไอ้ภัทรมาเรื่อยๆก่อนที่มันจะหยุดถามพนักงานสาวที่น่าจะเป็น

เลขาของเฮียมันหน้าห้องทำงาน

      “อ๋อ คุณสิงขรออกไปธุระแล้วก็ติดประชุมต่อ แต่คุณศิงขรบอกพี่ไว้แล้วค่ะว่าเดี๋ยวน้องภัทรต้องมา คุณศิงขรเลยให้น้องภัทร

กับเพื่อนเข้าไปนั่งเล่นรออยู่ในห้องก่อนได้เลยค่ะ” พี่เลขาสาวสวยบอกผม ภัทรจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะสะกิดผมให้เดินตามเข้าไป

ในห้อง โดยมีพี่สาวคนสวยเดินนำหน้าไป

      “มีอะไรก็เรียกพี่ได้ตลอดนะคะ” ว่าจบเธอก็เดินออกไปทำงานด้านนอก ผมเลยถือโอกาสสำรวจห้องเฮียไอ้ภัทรไปในตัว

        ห้องของเฮียมันเป็นห้องสีออกแนวคลาสสิก ดูให้ความเป็นผู้นำ ความน่าเกรงขาม แต่ไม่น่าเชื่อว่าเฮียมันอายุยังน้อย แต่

กลับมีธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์มากมาย เฮ้อ! คนรวยมันดีอย่างนี้นี่เอง

      “นั่งก่อนดิวะไอ้ป๊อบหรือว่ามึงนั่งไม่ได้ น้องริดซี่มาเยือนเหรอ” ไอ้ภัทรว่าผม ผมเลยเข้าไปตบหัวมันที ก่อนจะนั่งลงโซฟา

ข้างมัน

      “ริดซี่บ้านมึงสิ กูแค่สำรวจห้องเฮียมึงเผื่อมีสมบัติอะไรที่มีค่าพอให้กูขโมยไปเป็นค่ารักษาแม่ได้” ผมว่า ก่อนจะยักไหล่ ไอ้

ภัทรได้แต่ส่ายหัวน้อยๆให้กับความกวนของผม

      “เฮ้ยมึง กูปวดฉี่ห้องน้ำไปทางไหนวะ” ผมถามไอ้ภัทรเพราอยู่ดีๆผมก็อยากไปเข้าห้องน้ำซะงั้น

      “ท่อรั่วเหรอวะ มึงออกจากห้องแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆนะเว้ย จากนั้นมึงก็จะเจอทางเลี้ยวเสร็จแล้วมึงก็เลี้ยวซ้าย แค่นี้มึงก็จะ

เจอห้องน้ำ” ไอ้ภัทรแซวผมก่อนจะบอกทางไปห้องน้ำ

      “แล้วมึงจะพูดให้ยาวทำไม มึงก็แค่บอกให้กูออกจากห้องเดินตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายก็จบ” นั่นน่ะสิครับดูไอ้ภัทรมันบอก แม่ง

เรียนเอกภาษาไทยเหรอถึงได้ชอบสร้างประโยคยาวๆ

      “กูแค่อยากแกล้งมึงให้ฉี่ราด ไปได้แล้วเดี๋ยวมึงก็ได้ฉี่ราดที่ห้องทำงานเฮียกูอีก” ไอ้ภัทรไล่ ผมเลยต้องรีบเดินออกจากห้อง

ไปเข้าห้องน้ำตามที่มันบอก

        ผมเดินมาเรื่อยๆตามที่ไอ้ภัทรมันบอก แต่ก็ไม่เห็นเจอทางเลี้ยวอะไรของมันเลยหรือว่าผมจะหลง?

      “โอ๊ย!!” ผมเดินอยู่ดีๆก็มีใครหน้าไหนเดินมาชนผมก็ไม่รู้ดีนะที่ไม่ได้หกล้มอะไรไม่งั้นพ่อจะเรียกค่าเสียหายให้กระเป๋าฉีกเลย

คอยดู

      “ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณเป็นอะไรรึเปล่า” อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาถามผม ส่วนผมก็กำลังเงยหน้าขึ้นไปบอกว่าไม่เป็นอะไร

เพราะเห็นว่ามารยาทดีมีการถามไถ่ แต่!!!

      “ไอ้หื่นบ้ากาม/ไอ้เด็กแสบ!” เสียงผมกับชายตรงหน้าตะโกนขึ้นพร้อมกัน เฮ้ย! นั่นมันไอ้หื่นที่ผมเจอที่ห้องน้ำร้านพี่โก้นี่หน่า

แล้วมันมาทำอะไรที่นี่

      “ไอ้หื่น นายมาทำอะไรที่นี่” ผมถามเพราะที่นี่มันเป็นบริษัทของเฮียไอ้ภัทรไม่ใช่เหรอ อย่าบอกนะว่าเฮียไอ้ภัทรรับไอ้คนหื่น

กามแบบนี้เข้าทำงานด้วย

      “ผมจะมาทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ หลีกทางด้วยผมต้องรีบเข้าประชุม ส่วนเรื่องที่ชนเมื้อกี้ผมขอโทษด้วยพอดีผมรีบ” ไอ้

หื่นนั่นบอกผมก่อนจะเดินไป แต่ก็ไม่วายหยุดและเดินกลับมาหาผม ก่อนจะก้มลงกระซิบที่ข้างหูของผม

      “อ้อ ผมชื่อภามไม่ใช่ไอ้หื่น” ไอ้เหี้ย! ผมจับหูตัวเองแทบไม่ทัน เมื่อไอ้หื่นนั่นก้มลงมากระซิบที่ข้างหูแล้วมันก็เดินจากไป ผม

ว่าผมก็ตัวสูงแล้ว แต่พอเทียบกับไอ้หื่นนี่ผมกลับเตี้ยกว่ามันตั้งเยอะ ทำไมผมถึงซวยแบบนี้เนี่ย เจอไอ้หื่นนี่กี่ทีผมก็ต้องซวย

ตลอด ครั้งแรกก็ล้ม ครั้งนี้ก็โดนชน แถมมีหน้ายังมาทำเป็นบอกชื่อ อยากรู้จักตายแหละ หึ!

           แหม ทำมาเป็นบอกชื่อ ดี คราวหน้าคราวหลังจะได้เรียกถูก

                                                                                 ‘ไอ้หื่นภามเอ้ย!!!’






และแล้วตอนที่ 2 ก็ตามมา ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณคร้าาาา

ปล.หากมีคำผิดช่วยบอกด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่1 ยอดชายนายป๊อบ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 06-04-2015 12:55:41
5555แนวพ่อแง่แม่งอน
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่1 ยอดชายนายป๊อบ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 06-04-2015 13:13:19
ชอบค่ะชอบ สนุกดี เรื่องน่าติดตามจ้ะ
ยอดชายนายป๊อบ ของเรา ท่าทางจะแสบสันเอาการ
ป๊อบนี่รักน้อง รักครอบครัวจริง ๆ น้า น่าชื่นชม
น้องต้องเข้าเรียน แล้วคุณแม่ยังมาป่วยอีก เครียดแทนเลย
เฮียภามนี่ก็เจ้าเล่ห์ แอบถูกใจน้องน่ะสิ ทำเป็นว่าจะเอาคืน
น้องป๊อบ เข้าไปเป็นสะใภ้ แล้วจะเจออะไรบ้างน้อ
เฮียภาพแลดูหื่นเหลือเกิน แต่ก็ยังดีนะ ยังไงก็มีภัทรอยู่ด้วยนี่เนอะ
แต่ปัญหาหนัก คงอยู่ที่คุณหญิงแม่นี่สิ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่1 ยอดชายนายป๊อบ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 06-04-2015 13:57:28
ชอบป๊อบตอนอวยตัวเองจังค่ะ 555~
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่1 ยอดชายนายป๊อบ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 06-04-2015 14:24:19
น่าสนุกดี ต่อๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่1 ยอดชายนายป๊อบ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 06-04-2015 14:47:36
น่าติดตามดีครับ แอบสงสารยอดชายนายป๊อบเนอะ เฮียภามน่าจะเอาอยู่ ว่าที่ลูกสะใภ้ ภามจะเอามาแก้แค้นคุณหญิงแม่บ่ครับ คึคึ รอต่อไป
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่1 ยอดชายนายป๊อบ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-04-2015 14:53:34
 :mc4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น วันที่ 07/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 07-04-2015 20:18:21
                                                                               (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น.........

            วันนี้ผมนัดไอ้ภัทรให้พาเพื่อนมาหาผมที่ห้องทำงาน แต่ผมก็ดันติดธุระด่วนแบบกะทันหันเลยฝากเลขาให้ช่วยดูแลแทน

ด้วย แถมเย็นนี้ผมก็ติดประชุมคุยงานช่วงเย็นอีกต่างหาก
 
        ผมที่เพิ่งกลับจากการไปดูเรื่องการสร้างคอนโดในช่วงบ่ายก็ต้องรีบกลับเพื่อไปประชุมต่อ แต่ระหว่างทางดันไปชนเข้ากับ

ใครก็ไม่รู้ดีที่ผมไม่ชนอีกฝ่ายล้มกระเด็นไปซะก่อน แต่พอผมเงยหน้าขึ้นไปมองเท่านั้นแหละก็ต้องมาเจอกับไอ้เด็กแสบนั่น ซึ่งดู

คงจะตกใจไม่น้อย แต่ผมก็ต้องแปลกใจกับสรรพนามที่อีกคนใช้เรียกผม ไอ้หื่น ไอ้หื่นอย่างนั้นเหรอ ผมขมวดคิ้วกับคำที่หลุดออก

มาจากปากของไอ้เด็กแสบคนนั้น เหอะตลกสิ้นดี ผมเลยถือโอกาสแนะนำตัวเองกับอีกคนไปซะเลย แต่ผมก็คงอยู่กวนเด็กนั่นได้

ไม่นานเพราะต้องรีบเข้าประชุมไว้ค่อยจัดหนักทีเดียวหลังประชุมเสร็จน่าจะสนุกกว่า หึ โทษฐานที่มาว่าผมหื่น!

      “คุณศิงขรคะ คุณศิงขรคะ!!”

      “ครับ” ผมหันกลับไปมองตามเสียงเรียก ก่อนจะหลุดออกจาภวังค์ นี่ผมเอาเรื่องของหมอนั่นมาคิดในช่วงเวลางานเหรอเนี่ย?

      “คุณปุณยนุชมีอะไรรึเปล่าครับ” ผมถามคนที่ยืนเรียกผมเมื่อครู่ เธอจึงยื่นเอกสารมาให้ผมอ่าน

      “นี่เป็นรายละเอียดของบริษัทตกแต่งภายในที่จะเข้ามาดำเนินงานในเดือนหน้า ทางโน้นเอารายละเอียดมาให้คุณศิงขรอ่าน

ก่อนเผื่ออยากจะให้ปรับแก้ตรงส่วนไหนค่ะ” ผมรับเอกสารดังกล่าวมาไว้กับตัว ก่อนจะเดินออจากห้องประชุมไปหาไอ้น้องชาย

ตัวดีกับเพื่อนตัวแสบที่คงนั่งรอผมอยู่ในห้องทำงาน ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้หื่นที่ไอ้เด็กแสบนั้นรู้จักเป็นพี่ชายของเพื่อนรักจะ

ทำสีหน้ายังไง หึ

        ผมรีบเดินออกจากห้องประชุมตรงดิ่งเข้าห้องทำงาน แต่พอเปิดประตูเข้ามาด้านในก็ต้องแปลกใจที่ไม่เจอไอ้เด็กแสบนั่น

ไม่ใช่หนีกลับไปแล้วเหรอเนี่ย?

      “ประชุมเสร็จแล้วเหรอเฮีย” ไอ้ภัทรเอ่ยถามเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาในห้อง ผมเลยพยักหน้ารับ ก่อนจะกวาดสายตามองภายใน

ห้องเพื่อไอ้เด็กแสบนั่นจะไปนั่งแอบตรงส่วนไหนของห้อง

      “วันนี้เพื่อนภัทรไม่ได้มาด้วยเหรอ” ผมถามขึ้นเมื่อไม่เห็นไอ้เด็กแสบนั่นอยู่ในห้อง ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ทำงานและเริ่มหยิบ

เอกสารออกมาดูรายละเอียด

      “มาเฮียมันบอกจะไปห้องน้ำสงสัยคงหาไม่เจอ” ไอ้ภัทรบอก สงสัยที่ผมเจอไอ้เด็กแสบนั่นก็คงจะหาทางไปห้องน้ำ

      “เออเฮีย เฮียจะให้เพื่อภัทรทำงานอะไรเหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสาร ก่อนจะปิดมันลงและเก็บเข้าที่เมื่อได้ยินคำถาม

ของไอ้น้องชาย

      “ตอนแรกเฮียว่าจะฝากงานให้เพื่อนภัทรไปทำกับเพื่อนเฮีย แต่พอดีเฮียเห็นว่าที่บ้านราน่าจะพอดีงาน” ผมว่า ไอ้ภัทรขมวด

คิ้วอย่างงๆ

      “ที่บ้านเนี่ยนะเฮีย งานอะไรเหรอ” ไอ้น้องชายของผมถามขึ้น ผมกระตุกยิ้มมุมปากเพราะงานที่ผมจะให้ไอ้เด็กแสบนั่นทำ

ถือว่าเป็นงานที่พิเศษสุดๆ ถ้าผมไม่อยากจะเอาคืนมันผมคงไม่ให้มันทำหรอก

      “ก็งานที่กำลังจะเข้าเฮียในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ไง” ผมตอบ ไอ้ภัทรที่พอจะรู้เลยได้แต่อ้าปากค้างทำหน้าเหวอๆ

      “อย่าบอกนะเฮีย ว่าเฮียจะให้มันไปเป็น!!”

      “ไอ้ภัทร ห้องน้ำที่ทำงานเฮียมึงแม่งโคตรเขาวงกตเลย” ยังไม่ทันที่ไอ้ภัทรจะต่อประโยคตัวเองให้จบ ผมกับไอ้น้องชายสุด

รักก็ต้องหันไปตามเสียงที่ดังขึ้นมาจากทางหน้าห้อง ส่วนไอ้ตัวดีก็คงยังไม่รู้ว่าตอนนี้นอกจากเพื่อนของมันยังมีผมอยู่ด้วยอีกคน

      “เหรอ” ไอ้ภัทรตอบรับพร้อมกับยิ้มแหยๆไปให้เพราะมันรู้ว่าต่อไปนี้เพื่อนสุดที่รักของมันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ส่วนไอ้เด็ก

แสบนั่นพอคุยกับไอ้ภัทรเสร็จเท่านั้นแหละ

      “ไอ้เหี้ย! ไอ้หื่นภามมมมม!!!!!” พอไอ้ตัวดีหันมาเห็นผมก็ร้องตะโกนเสียงดังลั่นห้องจนเลขาหน้าห้องของผมต้องเปิดประตู

เข้ามาดู ผมเลยพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไร เธอจึงขอตัวกลับของไปทำงานในส่วนของเธอต่อ ส่วนไอ้คนที่เพิ่งพ่นคำ

ผรุสวาทสุดแสนน่ารัก(?)ออกมาเมื่อครู่ก็ยืนทำหน้าเหวอมองผมอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงาน

      “ไอ้ป๊อบเมื่อกี้นี้มึงเรียกเฮียกูว่าอะไรนะ” ไอ้ภัทรถามเพื่อนตัวเองเพราะมันก็ดูจะงงอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนรักของมันเรียกผมแบบ

นั้น ส่วนผมก็ทำหน้านิ่งๆมองไอ้สองเพื่อนรักเสวนาพาทีกัน

      “เมื่อกี้นี้มึงว่าอะไรนะไอ้ภัทร มึงเรียกไอ้หื่น...เอ่อ...ผู้ชายคนนี้ว่าเฮียเหรอ” ไอ้เด็กแสบนั่นถาม ก่อนจะหันมามองหน้าผม

อย่างไม่ชอบใจ

      “ก็เออดิวะ นี่เฮียกูชื่อศิงขรหรือเฮียภาม ชัดป่ะมึง” ไอ้ภัทรบอก ไอ้เด็กนั่นทำหน้าไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่เพราะไอ้ภัทรมันย้ำ

ชัดเจนว่าผมกับมันเป็นพี่น้องกันมันเลยได้แต่นั่งทำหน้าปุเลี่ยนบอกบุญไม่รับ

      “เชิญนั่ง” ผมพูดขึ้น หลังจากที่สองคนนั้นจบการสนทนาลง ไอ้เด็กแสบนั่นหันมามองผมก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่อีกด้านของ

โต๊ะทำงานผมไปนั่ง

      “เฮียภามนี่ไอ้ป๊อบเพื่อนภัทรเอง ส่วนไอ้ป๊อบนี่เฮียกูชื่อภามแล้วเขาก็เป็นคนหางานพิเศษให้มึงทำ” ไอ้ภัทรแนะนำทั้งผมและ

ไอ้เด็กแสบนั่นให้รู้จักกัน หึ ชื่อป๊อบสงสัยคงจะป๊อบน่าดู

      แต่จะว่าไปแล้วเท่าที่ผมสังเกตไอ้เด็กแสบตรงหน้านั้น มันก็น่าตาดีอยู่ไม่ใช่น้อย ถึงแม้จะไม่ได้หล่อคมเข้มเหมือนผม หรือ

หล่อน่ารัก แต่ผมว่ามันก็ดูหล่อแบบน่ามอง

      “สวัสดีครับ” มันยกมือไหว้ผมแบบลวกๆ ผมเลยพยักหน้ารับตามมารยาทเมื่อผู้น้อยยกมือไหว้

      “แล้วคุณจะให้ผมทำงานอะไรครับคุณพี่ชาย” ไอ้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผมถามขึ้น แต่ก็ไม่ยอมหันหน้ามามองผม

      “ที่บ้านคุณไม่เคยสอนเหรอเวลาจะคุยกับผู้ใหญ่ให้มองหน้า” ผมว่า ไอ้เด็กแสบนั่นเลยรีบหน้าขวับกลับมามอง ก่อนจะยกยิ้ม

กวนๆส่งมาให้

      “ไอ้สอนน่ะสอน แต่ผมเลือกที่จะนำมาทำกับผู้ใหญ่ที่เขาน่าเคารพนับถือมากกว่า” ไอ้เด็กนั่นมันสวนกลับผมทันที แถมยัง

มองหน้าผมอย่างไม่ชอบใจอีกต่างหาก หึๆ ผมว่าผมคงจะเลือกคนไม่ผิดจริงๆที่จะมาทำงานนี้

      “หึ ภัทรเฮียว่าภัทรน่าจะลองเกริ่นๆเพื่อนของภัทรก่อนดีกว่านะว่างานนั้นมันเป็นงานอะไร” ผมหันไปบอกไอ้ภัทร มันได้แต่ทำ

หน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนไอ้เพื่อนตัวดีของมันก็จ้องมันเหมือนรอฟังว่างานที่ตัวเองต้องทำมันคืออะไร

      “คืองานที่เฮียภามเขาให้มึงทำนะไอ้ป๊อบ มันไม่ง่ายแล้วก็ไม่ยาก มันไม่น่ากลัว แต่มันก็ไม่น่าลอง มันรับมือไม่ง่าย แต่ถ้ามีวิธี

ที่ดี มันก็รับมือได้ไม่ยากหรอก” ไอ้ภัทรพูด เพื่อนรักมันยิ่งทำหน้างงเข้าไปใหญ่

      “แล้วสรุปว่างานที่กูต้องทำมันคืองานอะไรกันวะไอ้ภัทร” ไอ้เด็กที่นั่งตรงข้ามผมถามขึ้น แต่คนที่ตอบไม่ใช่ไอ้ภัทรกลับเป็น

ผมแทนที่ตอบคำถามนั้น

      “เป็นแฟนของฉันแล้วก็เป็นว่าที่สะใภ้จำเป็นของบ้านสุริยศักดิ์” ไอ้เด็กนั่นมันทำตาโต พร้อมกับอ้าปากพะงาบๆมองผมอย่าง

ไม่เชื่อในสิ่งที่หูมันได้ยิน

      “ไอ้เหี้ยยย!!!!!! กู-ไม่-เป็น!!” มันกรีดร้องลั่น เสียใจด้วยนายปฏิเสธสิ่งที่ฉันพูดไม่ได้ไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม............
                           
        หลังจากที่ผมบอกงานที่ไอ้เด็กนั่นต้องทำ มันก็ได้แต่กรีดร้องโหยหวน จนผมต้องสั่งให้ไอ้ภัทรมันทำยังไงก็ได้ให้เพื่อนมัน

สงบสติอารมณ์และตอนนี้มันก็คงจะสงบสติอารมณ์ได้บรรยากาศภายในห้องเลยกลับมามาคุเหมือนเดิม

      “ผมไม่ทำ ไอ้ภัทรกูไม่รับทำงานนี้ กูกลับก่อนนะ” ไอ้เด็กแสบมันว่า ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป ไอ้ภัทรเลยเตรียมลุกเพื่อ

จะไปส่งมัน แต่แล้วขอทั้งสองข้างของไอ้คนที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูก็ต้องหยุดชะงักลง

      “ได้ ถ้านายไม่รับข้อเสนอของฉันก็ไม่เป็นไร แต่ฉันก็พอจะรู้มาบ้างว่านายจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากรักษาแม่ที่นอนป่วย

เป็นเนื้องอกในสมองแถมยังต้องส่งน้องชายเรียนต่อแล้วเห็นว่ากำลังจะเข้ามหาลัยด้วยไม่ใช่เหรอคงจะลำบากแย่” ผมว่าก่อนจะ

ยักยิ้ม เมื่ออีกคนหันกลับมามองหน้าผมอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะตวัดสายตาไปมองไอ้ภัทรอย่างคาดโทษเพราะมันคงรู้ว่าเรื่องที่ผม

รู้นั้นมาจากปากของเพื่อนรักตัวดี

      “กูขอโทษ กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะไอ้ป๊อบ กูก็เพิ่งรู้ก่อนมึงแค่ไม่กี่นาทีเองว่าเฮียจะให้มึงมาเป็นว่าที่พี่สะใภ้กู” ไอ้ภัทรว่า

      “ไอ้เหี้ย มึงไม่ต้องพูดเลยนะ กูไม่เป็นอะไรทั้งนั้น” ไอ้เด็กนั่นว่าไอ้ภัทร ไอ้ภัทรเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆมาให้มันให้เพื่อนแล้วก็ผม

      “อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจไปสิ นายยังไม่ได้ฟังว่าฉันจะจ้างนายเท่าไรเลยนะ” ผมลองเสนอในเรื่องที่เขาอยากจะได้มากที่สุดใน

ตอนนี้เผื่อว่าเขาจะยอมรับงานนี้

      “ถ้านายยอมมาเล่นเป็นแฟนกับฉันแล้วก็ไปทำหน้าที่ว่าที่สะใภ้จำเป็นกับคุณแม่ของฉัน ฉันให้นายเดือนละ 3 แสน พร้อมกับ

ดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลแม่นายทั้งหมด ส่วนเรื่องน้องชายนายฉันก็จะให้คนจัดการเรื่องมหาวิทยาลัยพร้อมกับค่าใช้จ่ายเรื่อง

เรียน” ผมบอกในสิ่งที่ไอ้เด็กแสบนั่นจะได้เมื่อยอมทำงานที่ผมเสนอให้ ไอ้เด็กนั่นดูจะคิดหนักอยู่ไม่น้อยและผมก็หวังว่าไอ้เด็ก

แสบนี่จะรับข้อเสนอของผม.....................








                             
        ผมเริ่มคิดหนักเมื่อไอ้หื่นภามนั่นพูด ผมจะได้เงินของมันเดือนละ 3 แสน แถมมันยังจะดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลของแม่กับ

ค่าเรียนของไอ้ปิ๊กให้อีกต่างหาก เดือนละ 3 แสน มันเป็นเงินจำนวนไม่น้อย ไอ้สนใจน่ะสนใจอยู่หรอก แต่ทำไมต้องเป็นไอ้หื่นนี่ที่

ยื่นข้อเสนอนี้ให้ผมด้วยก็ไม่รู้

      “ตั้ง 3 แสนเชียวนะมึง คิดดูให้ดีๆขนาดกูเคยทำงานกับเฮีย กูยังได้ไม่เท่ามึงเลยนะ แถมงานก็หนักกว่ามึงตั้งเยอะ” ไอ้ภัทร

ก้มลงมากระซิบบอกผมที่ข้างหูเพื่อให้รับข้อเสนอของเฮียมัน ผมเลยหรี่ตามองคนตรงหน้าเพื่อจับผิด แต่ไอ้หื่นภามมันนิ่งมากแถม

แววตาก็ไม่ได้มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด

      “แล้วผมต้องทำหน้าที่เป็นแฟนของคุณแล้วก็ว่าที่สะใภ้จำเป็นของบ้านสุริยศักดิ์นานแค่ไหน” ผมถามคนตรงหน้า ไม่อยากจะ

พูดไอ้ประโยคพวกนั้นสักเท่าไหร่ กระดากปากชิบหายเลยกู!

      “หกเดือน” ห๊า! หกเดือน สาบานว่าหูผมไม่ได้ผิดปกติ ผมต้องไปเป็นแฟนหมอนี่ถึงหกเดือนเลยหรอ โถๆ ยอดชายนายป๊อบ

จะมาตายอนาถก็คราวนี้แหละกู...................

      “หกเดือน มันไม่นานไปหน่อยเหรอคุณ” ผมลองต่อรองเผื่ออาจจะลดลงสักเดือนสองเดือน

      “หรือว่านายอยากจะทำสัก 2 ปี” ผมถลึงตามองคนตรงหน้า 2 ปี ผมขอลาตายในอ่างล้างหน้ายังจะดีกว่า

      “หกเดือนก็หกเดือน โอเคผมรับงานนี้” ผมตอบตกลง ไอ้หื่นนั้นกลับกระตุกยิ้ม ก่อนจะไล่ไอ้ภัทรให้ออกไปคอยข้างนอก

เพราะต้องทำความรู้จักกับผมมากขึ้นเลยอยากอยู่ด้วยกันแบบสองต่อสอง อึ๋ย! แค่คิดก็ขนลุกซู่

      “สู้ๆนะมึง” ไอ้ภัทรเดินมาบอกผม ก่อนที่ผมจะนั่งลงตรงข้ามกับพี่ชายมัน

      “เดี๋ยววันนี้นายต้องไปเปิดตัวกับที่บ้านของฉันในฐานะคนรักแล้วก็ว่าที่สะใภ้” ไอ้หื่นนั่นบอกผม ผมเลยพยักหน้าไปส่งๆ ย้ำ

จริงไอ้คำว่าคนรักกับสะใภ้เนี่ย!

      “ก่อนอื่นนายต้องเรียกฉันว่า พี่ภาม ก่อน”

      “เหอะ กระดากปากชะมัด เรียกอย่างอื่นไม่ได้เหรอ คุณกับผมก็ได้นี่” ผมว่า ไอ้หื่นนั่นมองหน้าผมที่ผมไม่ยอมทำตาม

      “กระดากมากนักเรียกบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินหรือว่าอยากจะให้ฉันทำอย่างอื่นมันจะได้หายกระดาก” ไอ้หื่นนั่นว่า ก่อนจะโน้มหน้าลง

มาใกล้กับใบหน้าผม กลายเป็นว่าตอนนี้หน้าของผมกับไอ้หื่นภามนั่นห่างกันแค่เพียงไม่เท่าไร ผมเลยผลักหน้าไอ้หื่นนั่นให้ออก

ห่าง มันก็ยอมถอยกลับแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายหัวเราะในลำคออย่างชอบใจและเหมือนคนที่อยู่เหนือกว่า เหอะ! อย่าให้ถึงทีไอ้ยอด

ชายนายป๊อบบ้างก็แล้วกัน

      “ก็ได้ พี่ภาม ก็พี่ภาม” ผมเน้นเสียงใส่เผื่ออีกคนจะได้พอใจ

      “ส่วนฉันก็จะเรียกนายว่า น้องป๊อบ” ไอ้นั่นเรียกชื่อผมโดยมีคำนำหน้า ถ้าเป็นคนอื่นเรียกผมว่าน้องป๊อบมันคงจะรู้สึกดีไม่ใช่

น้อย แต่พอเป็นไอ้หื่นภามนี่เรียก ผมกลับรู้สีกอยากจะให้หลวงพ่อเปลี่ยนชื่อให้ใหม่จริงๆ

      “ส่วนเรื่องต่อไปก็เป็นเรื่องของคุณแม่ ท่านพยายามจับคู่ให้ฉันกับคนโน้นคนนี้ ฉะนั้นท่านอาจจะไม่พอใจที่นายมาเป็นแฟน

ฉัน ฉันเลยอยากจะให้นายเตรียมวิธีรับมือกับคุณแม่ด้วย” ผมฟังไอ้หื่นพูด แต่ทำไมมันทะแม่งๆก็ไม่รู้ สมัยนี้เขายังมีวิธีการคลุมถุง

ชน การจับคู่ให้ลูกอีกเหรอเนี่ย

      “นี่คุณคุณหญิงแม่คุณเขายังใช้วิธีจับคู่ให้กับลูกอยู่อีกเหรอ” ผมถามออกไปตามความสงสัย

      “ใช่ ก็ทำไงได้ฉันมันหน้าตาดี ฐานะดี คุณแม่เลยอยากจะได้คนที่คู่ควรกับฉันก็เท่านั้นเอง” แหวะ! หลงตัวเอง ช่างกล้าพูดว่า

หน้าตาดี ผมเลยเบะปากใส่ ก่อนจะถามคนตรงหน้าอีกคำถาม

      “ก็ในเมื่อคุณหน้าตาดีแถมยังฐานะดีขนาดนี้ทำไมคุณถึงไม่แต่งงานกับคนที่คุณแม่คุณเลือกล่ะ” ผมถาม เขาจ้องหน้าผมก่อน

จะตอบ

      “ก็เพราะฉันไม่ได้รัก”

      “ไม่ได้รักหรือว่าเป็นเกย์กันแน่” ผมสวนกลับทันควัน อีกฝ่ายมองหน้าผมก่อนจะลุกออกจากที่นั่งเดินอ้อมมาหาผมที่นั่งอยู่ฝั่ง

ตรงข้ามพร้อมกับคร่อมตัวผมเอาไว้

      “คะ..คุณ..จะทำอะไร” ผมเริ่มไม่ไว้ใจไอ้หื่นนี่สักเท่าไร ถึงแม้ผมจะยอมรับว่าตัวเองเป็นชายแท้ แต่ผมก็สู้แรงของหมอนี่ไม่

ได้และที่สำคัญผมยังไม่อยากเสียเอกราชของตัวเอง แต่อีกคนไม่ยอมตอบคำถามของผม แต่เลือกตอบคำถามก่อนหน้านี้แทน

      “ไม่แน่นะ ฉันอาจจะเป็นเกย์เพราะนายก็ได้” อีกคนว่า ก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้ใบหน้าผมเรื่อยๆ คุณพระ! พ่อแก้วแม่แก้ว

ช่วยลูกด้วย ฮือๆๆ ผมไม่กล้ามองภาพตรงหน้าได้แต่หลับตาปี๋และไม่นานผมก็สัมผัสได้ถึงอะไรหยุ่นๆที่ริมฝีปาก มันทั้งนุ่มแล้วก็

เบาบาง มันเป็นสัมผัสที่ไม่ได้เนิ่นนาน เพราะตอนนี้คนที่สร้างสัมผัสนั้นไว้ที่ผมได้ผละออกจากผมไป ก่อนจะเดินไปเก็บของที่โต๊ะ

ทำงานแล้วเรียกให้ผมเดินตามตัวเองออกมา

      “เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ เราจะไปหาคุณแม่กัน” อีกคนว่า ก่อนจะเดินนำหน้าผมไป ผมค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสที่ริมฝีปากตัวเอง

 แต่อยู่ดีๆหัวใจก็ดันเต้นรัวขึ้นมาอย่างดื้อๆ ผมจึงรีบไล่เรื่องบ้าๆออกจากหัวแล้วเดินตามอีกคนไปเพราะถ้าขืนผมไปช้า มันคงไม่ใช่

เรื่องดีแน่ๆ

                                                     บ้าไปแล้ว มึงต้องบ้าไปแล้วแน่ๆไอ้ป๊อบ!!






                           
        ผมนั่งรถของไอ้หื่นภามมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอวดความงามอยู่ด้านหน้าผม แต่จะว่าไป

ตั้งแต่ขึ้นรถมาไอ้หื่นนั่นก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมเลย ไอ้เราก็นั่งเกร็งแทบตายกลัวจะไปไม่รอด แต่กลับไมได้สนใจเราเลยสักนิด

เหอะ ถ้าไม่ใช่เพราะเงินเดือนแพงนะ จ้างให้พ่อก็ไม่มากับไอ้นี่หรอก!!

      “สวัสดีค่ะคุณภามกลับมาแล้วเหรอคะ คุณผู้หญิงกำลังถามหาอยู่พอดี เอ่อ..” หลังจากที่ผมกับไอ้หื่นลงมามาจากรถอีกคนก็

ให้ผมเดินจับมือมือตัวเองเดินเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็มีหญิงสาววัยกลางคนที่คาดว่าน่าจะเป็นแม่บ้านของที่นี่ออกมารับพร้อมกับ

หันมามองผมที่ยืนจับคุณภามของเธอ ผมเลยต้องปั้นหน้ายิ้มแล้วยกมือไหว้

      “สวัสดีครับ ผมชื่อป๊อบครับ” ผมยกมือไหว้พร้อมกับแนะนำตัวเองไปในตัว เธอจึงรับไหว้ผมอย่างงงๆ แต่ก็ยังดีที่ยังส่งยิ้มมา

ให้

      “เมื่อกี้ป้าพิมพ์บอกว่าคุณแม่กำลังถามหาผมอยู่เหรอครับ” ไอ้หื่นนั่นถามป้าแม่บ้าน

      “ค่ะ พอดีคุณผู้หญิงท่านกำลังจะให้คุณภามโทรชวนคุณพริ้งไปทานข้าวเย็นพรุ่งนี้น่ะค่ะ” เธอตอบ สงสัยคุณหญิงแม่ขอไอ้หื่น

ภามคงจะให้ลูกชายตัวเองพาคนที่เธอเล็งไว้ไปเดทด้วยล่ะสิ อย่างนี้มันจับคู่กันชัดๆ!

      “งั้นก็ดีเลยครับ ป้าพิมพ์ช่วยไปบอกคุณแม่ด้วยนะครับว่าวันนี้ผมพาว่าที่สะใภ้มาไหว้ท่าน” ไอ้หื่นภามบอกป้าแม่บ้าน ก่อนจะ

หันมามองผมยิ้มๆพร้อมกับมือที่กระชับแน่นขึ้น ผมเลยได้แต่ส่งยิ้มตอบกลับไป

                                                งานนี้ไอ้ป๊อบจะรอดไหมเนี่ย เฮ้อ! เอาวะลองดูสักตั้งกับการเป็น

                                                                ว่าที่สะใภ้(จำเป็น)ของบ้านสุริยศักดิ์!!






มาต่อให้แล้วนะคะ ดีใจจังที่มีคนเข้ามาอ่านแล้วก็มีคอมเม้นให้ด้วย ขอบคุณทุกคำคอมเม้นนะคะ ดีสอ่านคอมเม้นไปยิ้มไป แต่จะ

ว่าไปพี่ภามของเราก็เจ้าเล่ห์จริงๆ 555 มาถึงตอนนี้แล้วรู้สึกว่ายอดชายนายป๊อบของเราจะโชคดีเพราะนอกจากได้งานพิเศษเงิน

เดือนดียังได้ว่าที่สามีหิ้วกลับไปด้วย 555 มาเอาใจช่วยยอดชายนายป๊อบในการเป็น ว่าที่สะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์ด้วยนะคะ 

:mew1: :o8:

ปล.ดีสจะพยายามอัพให้ได้ทุกวันนะคะ!! :katai4: :katai4:
             
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 07-04-2015 20:40:00
แค่วันแรกที่ตกลงรับงานพี่ภามก็ทำน้องป๊อบหวั่นไหวเสียละ :z1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: PURE LOVE ที่ 07-04-2015 20:53:08
โหหหห  สามแสน ทำถูกแล้วน้องป๊อบ ลองเอาสามแสนคูณหกเดือน โอ้...  :interest:
แถมคุณแฟน(กำมะลอ) ยังหล่อและฐานะดีซะด้วย(พี่ภามแกว่างั้นอ่ะนะ 555)
แหม แต่ไม่ทันไร รู้สึกน้องป๊อบจะเริ่มหวั่นไหวกับพี่ภามนิด ๆ ซะแล้วนะ
แสบแต่ซื่ออย่างน้องป๊อบ จะสู้ความเจ้าเล่ห์ของพี่ภามไหวไหมเนี่ย
เชียร์น้องป๊อบ ปราบพี่ภามให้เป็นลูกไก่ในกำมือ รักป๊อบหลงป๊อบซะเลยนะ
น่าห่วงตรงต้องต่อกรกับคุณหญิงแม่นี่สิ ยังไงก็คุณแม่ของเพื่อนรัก
แล้วป๊อบจะรับมือกับคุณหญิงแม่ยังไง น่าติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 07-04-2015 21:27:14
 o18
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Noostar ที่ 07-04-2015 22:17:29
พอจะมีตำแหน่งว่างมั้ยพี่ภามเดือนละ3แสน  :hao6:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-04-2015 22:27:29
เงินเดือนดีมากกกกก
ไปตั้งแต่หนึ่งหมื่นละ555
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 07-04-2015 22:54:25
อื้อหือ รวดเร็วทันใจ เป็นว่าที่สะใภ้ล้ะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 08-04-2015 07:16:00
จากที่อ่านมามีพิมพ์ตกเยอะมากครับ แล้วก็บรรทัดที่เว้นวรรคอะครับ ทำให้อ่านสับสนอ่าแต่ก็ถือว่าแต่งได้น่าสนใจ นายป๊อบคงจะรับศึกหนัง ทั้งว่าที่แม่ย่ากับว่าที่สามี ขนาดวันแรกก็หวั่นไหวไปกับจูบแผ่วเบาซะแล้ว
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-04-2015 10:24:19
โห...น้องป๊อบ เดือนละ 3 แสน ค่ารักษาพยาบาล + ค่าเทอมน้อง จ่ายแยกต่างหาก
ตอบตกลงไปเลย แล้วก็เป็นแฟนจริงๆ เลยก็ได้ ไม่เสียหายเท่าไรหรอก โ ค ต ร คุ้มอ่ะ บอกเลย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: a_n ที่ 08-04-2015 16:44:06
ค่าจ้างเยอะมากๆ พอครบกำหนด6เดือน เฮียกับป๊อบต้องมีดราม่าแน่เลย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 08-04-2015 17:28:59
สนุกคับ สนุกมาก    :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:    น้องป๊อปจะได้เจอว่าที่แม่ผัวแล้ว คงไม่ใช่แนวแม่ผัวกับลูกสะใภ้นะ ๕๕๕๕๕  รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ มาเร็วๆนะ    :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:   
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 08-04-2015 21:25:02
                                                                       ตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้.........

            หลังจากที่ไอ้หื่นภามนั่นบอกป้าแม่บ้านไปแบบนั้น เธอก็ดูจะตกใจไม่น้อย แต่ก็ยังรีบเข้าไปบอกคุณผู้หญิงของบ้าน ส่วน

ไอ้หื่นภามก็พาผมมานั่งรอคุณหญิงแม่ที่ห้องรับแขก

      “คุณแม่คุณนี่ร้ายระดับไหนเหรอ” ผมก้มลงไปกระซิบถาม อีกคนจึงก้มลงกระซิบตอบ

      “ระดับสูงสุด” ไอ้หื่นนั่นตอบผม ผมได้ยินคำตอบแล้วรู้สึกเป็นเกียรติและตื่นตันใจอย่างบอกไม่ถูกเลยจริงๆ

      “ไหน! คนไหน! ที่ตาภามบอกว่าเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์!!” เสียงของคุณหญิงแม่ถามหาผมเสียงดังมาแต่ไกล ไอ้

หื่นนั่นก้มลงมาถามผมว่าผมไหวรึเปล่า แหม พามาขนาดนี้ ถ้าถอยกลับก็ใช่เรื่องอยู่ แต่ว่า...ถอยกลับตอนนี้ทันไหม?

      “ไหนตาภามคนที่ลูกบอกว่าเป็นว่าที่สะใภ้แล้วจะพามาไหว้แม่” ทันทีที่คุณหญิงแม่เดินมาถึงที่ห้องรับแขกก็ตรงดิ่งเดินเข้ามา

ถามหาว่าที่ลูกสะใภ้กับลูกชายทันที

      “เอ่อ...คือคุณแม่ครับ”

      “อ้าวแล้วเด็กคนนี้เป็นใครไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้คนในครอบครัวเขากำลังคุยกัน” โห! เจ๊ครับพูดอย่างนี้ไอ้ป๊อบก็ขึ้นสิครับแถม

ยังมีการมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกต่างหากอย่างนี้มันหยามกันชัดๆ ผมไม่รอให้อีกคนแนะนำผมให้กับคุณหญิงแม่เพราะผมจะ

แนะนำตัวกับท่านด้วยตัวผมเอง!!

      “สวัสดีครับคุณหญิงแม่ ผมชื่อป๊อบครับ ส่วนเรื่องที่คุณหญิงแม่ถามว่าผมเป็นใคร ผมก็เป็นแฟนของลูกชายของคุณแม่แล้วก็

ยังเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณแม่ด้วยแค่นี้พอจะเป็นคนในครอบครัวได้หรือยังครับ” พูดจบผมก็ทำการโปรยยิ้มเสน่ห์ของตัวเองส่งให้

คุณหญิงแม่ แต่ดูท่าเธอคงไม่สนใจรอยยิ้มของผมเพราะตอนนี้หูของท่านเหมือนกำลังมีควันพวยพุ่งขึ้นมาเล็กน้อย หึๆรู้ซะบ้างว่า

เล่นอยู่กับใคร

      “นี่มันอะไรกันตาภาม ทำไมไอ้เด็กไม่รู้หัวนอนเปล่าเท้าคนนี้ถึงได้มาพูดจาหยาบคายแถมยังมาอ้างว่าเป็นว่าแฟนของลูกและ

ว่าที่สะใภ้ของบ้านเรา” คุณหญิงแม่หันไปถามไอ้หื่นภามเป็นชุดและด้วยความที่ผมเป็นคนดี ผมก็เลยจัดการตอบทุกคำถามของ

ท่านแทนลูกชายสุดรักของคุณหญิงเอง

      “ทำไมจะไม่รู้หัวนอนปลายเท้าล่ะครับ เวลาป๊อบอยู่ที่หอหัวนอนของ

ป๊อบก็อยู่ทางด้านทิศตะวันออก ส่วนปลายเท้าก็อยู่ทางทิศตะวันตกและที่สำคัญป๊อบก็ไม่ได้อ้างด้วยว่าเป็นแฟนของพี่ภาม จริง

ไหมครับพี่ภาม?” ผมหันไปถามไอ้หื่นเสียงหวานพร้อมกับช้อนสายตาขึ้นไปมอง แถมยังสังเกตเห็นสีหน้าตกใจของอีกฝ่ายที่คงไม่

คิดว่าผมจะกล้าลงทุนทำขนาดนี้ แต่ก็ตกใจได้ไม่นานอีกฝ่ายก็กลับมาตีสีหน้าเรียบนิ่งตามปกติ จากนั้นผมก็แกล้งซบไหล่อีกฝ่าย

อย่างออดอ้อนและที่สำคัญยิ่งได้เห็นคุณหญิงแม่เหมือนคนกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไอ้ป๊อบก็ยิ่งสะใจ

      “พี่ภามครับไหนพี่ภามบอกว่าคุณหญิงแม่จะไม่ว่าอะไรเราไม่ใช่เหรอครับ” และแล้วขั้นตอนการบีบน้ำตาก็มา ไอ้หื่นทำอะไร

ไม่ถูกเพราะเห็นผมเปลี่ยนโหมดเร็วยิ่งกว่าจิ้งจกเปลี่ยนสี?

      “เอ่อ...พี่ภามขอโทษนะครับ น้องป๊อบอย่าร้องนะครับ” ไอ้หื่นว่า ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปกอดปลอบ เอ่อ..มึงนอกบทไปละ ใน

ทีแรกผมขัดขืนที่จะไม่เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย แต่ก็โดนสายตาดุๆกับคำพูดที่ไม่ออกเสียงที่พอจะรู้ว่าอีกคนพูดอะไร

 อยากให้ความแตกหรือไง ผมเลยต้องจำใจไปอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน

      “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ หยุดทั้งคู่เลย แล้วตาภามก็ปล่อยไอ้เด็กนี่ได้แล้ว” คุณหญิงแม่เข้ามาแยกผมกับไอ้หื่นให้ออกจากกัน

      “ผมชื่อป๊อบครับไม่ใช่ไอ้เด็กนี่” ผมบอกคุณหญิงแม่เพราะเท่าที่จำได้ผมก็บอกชื่อตัวเองกับท่านไปตั้งแต่ต้นแล้ว

      “เธอจะชื่ออะไรก็ช่างฉันไม่สนเพราะตอนนี้ฉันสนแต่ลูกชายของฉันคนเดียว” คุณหญิงแม่ตวาดลั่นบ้าน จนป้าพิมพ์ที่ยืนอยู่ใน

เหตุการณ์ยังสะดุ้งเล็กน้อย

      “มันเป็นยังไงกันภาม ไหนลูกอธิบายมาให้แม่ฟังหน่อยซิ เอาให้ละเอียดนะ” เธอหันกลับไปคาดโทษลูกชายคนโปรด

      “ผมกับน้องป๊อบเราเป็นแฟนกันครับแล้วน้องป๊อบก็จะมาเป็นว่าที่สะใภ้ของบ้านนี้ด้วยครับ” ไอ้หื่นบอกคุณหญิงแม่ จากนั้นก็

รวบเอวผมเข้าไปกอด ผมเลยต้องเอื้อมมือไปตีเบาๆเพื่อกันไม่ให้ผิดสังเกต

      “เนียนตลอดเลยนะไอ้หื่น” ผมเงยหน้าขึ้นไปกระซิบที่ข้างหูไอ้หื่น แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าสะทกสะท้านแถมยังกระชับอ้อม

กอดพร้อมกับกระตุกรอยยิ้มส่งให้ผมอีกต่างหาก เห็นแล้วขนลุกชะมัด

      “แล้วทำไมลูกถึงไม่เคยเล่าเรื่องเด็กคนนี้ให้แม่ฟังเลยล่ะ” คุณหญิงแม่ว่าก่อนจะปรายตามามองผม ผมเลยส่งยิ้มไปให้ท่าน

 แต่ท่านกลับสะบัดหน้าหนี้หันกลับไปฟังคำตอบจากลูกชาย ส่วนผมนี่ก็หุบยิ้มลงแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ณ จุดๆนี้

      “เราแอบคบกันแบเงียบๆครับ ผมยังไม่กล้าพาน้องมาเปิดตัวเพราะกลัวว่าถ้าผมบอกคุณแม่เรื่องราวมันก็ต้องเป็นแบบนี้” โห

 น้ำเน่าสุดๆอ่ะ คบหากันแบบเงียบๆ ถามจริงไอ้หื่นดูละครหลังข่าวมากไปปะเนี่ย?

      “คือป๊อบผิดเองครับที่ขอร้องให้ช่วยพามาไหว้คุณหญิงแม่เรื่องราวมันก็เลยเป็นแบบนี้” ผมพูดเสียงเบาพร้อมกับก้มหน้าลง

เล็กน้อยเพื่อให้ดูเป็นการสำนึกผิด

      “ใครเขาคุยกับเธอไม่ทราบ” เพล้ง!แตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดีเลย

ไอ้ป๊อบเอ้ย! สงสัยว่างๆมึงควรไปฉีดน้องโบบ้างนะหน้ามึงจะได้ตึงๆ เวลาโดนว่าแบบนี้เข้าจะได้คงรูปได้อยู่ดีไม่ต้องแตกเป็น

เสี่ยงๆแบบนี้

      “คุณแม่ น้องแค่อธิบายให้คุณแม่ฟังนะครับคุณแม่ก็ไม่น่าไปว่าน้องแบบนั้นเลย” ไอ้หื่นออกปากเข้าข้างผม ผมเลยถือโอกาส

เหลือบตาขึ้นไปมองก็เห็นสีหน้าไม่พอใจของคุณหญิงแม่ที่กำลังมองไอ้หื่นภามอยู่อย่างไม่พอใจที่เข้าข้างผม โฮะๆๆๆ ก็ไม่รู้สินะ

      “ตาภามนี่ลูกกล้าเข้าข้างไอ้เด็กไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้จักมารยาทแบบนี้เหรอ” คำก็ว่า สองคำก็ว่า ตั้งแต่ผมเจอคุณหญิงแม่มา

มีบ้างไหมที่ยังไม่โดนว่า

      “งั้นคุณแม่ก็ให้น้องป๊อบเข้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณแม่สิครับแล้วคุณแม่ก็เอาน้องไปปรับแก้นิสัยไม่ดีๆพวกนั้น

เพื่อที่จะได้ดีพอในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์สิครับ น้องป๊อบครับเดี๋ยววันนี้น้อง

ป๊อบค้างที่นี่นะครับ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไปย้ายจากหอพักมาไว้ที่นี่นะครับ”

      “เฮ้ย!//ไม่ได้นะตาภาม!” เสียงผมกับเสียงของคุณหญิงแม่ร้องออกมาพร้อมกัน แต่ไอ้หื่นภามนั่นก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร

 เฮ้ย! นี่มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงไม่ใช่เหรอ ไหนบอกว่าแค่แกล้งเป็นแฟนแล้วก็แกล้งเป็นว่าที่สะใภ้แค่นี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมไอ้หื่นไม่

เห็นบอกเรื่องที่ต้องมาอยู่ที่นี่เลย ไอ้เหี้ยเอ้ย!

      “แต่แม่ไม่อนุญาตให้เด็กนี่มาอยู่ที่นี่นะตาภาม ห้องที่เหลือมีไว้สำหรับแขกที่ได้รับเชิญ ส่วนแขกที่ไม่ได้เชิญแม่ไม่อนุญาต”

 คุณหญิงพูดพร้อมกับปรายหางตามามองผม แต่คราวนี้ผมเห็นด้วยกับคุณหญิงไม่ได้นะผมจะไม่ยอมอยู่ที่นี่เด็ดขาด!”
     
      “ใครบอกว่าน้องป๊อบจะไปอยู่ที่ห้องรับแขกหละครับ” ไอ้หืนพูด ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเอื้อมมือมาดึงผมให้ลุกตาม ผมพยายาม

ขืนตัวเองเอาไว้สุดแรงเกิดแต่ก็ต้านแรงของอีกคนไม่ได้เลยต้องลุกตามมือที่ดึง

      “น้องป๊อบจะไปอยู่ที่ห้องของผมตั้งแต่วันนี้ครับ” นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันทำไมผมถึงโดนไอ้หื่นนี่มัดมือชกตลอดด้วยนะ ทำไม

เทวดาฟ้าดินไม่เห็นใจไอ้ป๊อบตัวน้อยๆคนนี้เลยกล้าปล่อยให้ไปอยู่กับไอ้หื่นบ้ากามนี่ได้ยังไง   

                                                                             ฮือๆๆๆ ป๊อบจะฟ้องศาล!!!
                         














        ตอนนี้ผมกำลังพยายามกึ่งลากกึ่งดึงอีกคนให้เดินตามผมมาที่ห้องนอนเพราะหลังจากที่ผมบอกคุณแม่ว่าจะให้ไอ้เด็กแสบนี่

มาอยู่ที่ห้องของผมท่านก็เกิดอาการหน้ามืดจนเป็นลม ผมเลยให้ป้าพิมพ์คอยดูแลคุณแม่เอาไว้ ก่อนจะหันมาจัดการกับอีกคนที่มี

ลูกดื้อไม่แพ้คุณแม่เลยแม้แต่น้อย ผมรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในสิ่งที่บอกไอ้เด็กแสบตั้งแต่ต้น แต่พอเรื่องที่เกิดขึ้นที่

บริษัทมันทำให้ผมอยากที่จะรั้งอีกคนเอาไว้

      “นี่คุณ” อีกคนเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกผม ผมเลยต้องหันไปมองดุๆ เจ้าตัวจึงกลับมาเรียกแบบเดิมที่ตกลงไว้แต่ก็ไม่วาย

เบะปากใส่ ร้ายจริงๆไอ้เด็กแสบ

      “นี่พี่ภามไอ้ที่พี่ทำอยู่มันไม่ได้อยู่ในรายละเอียดงานเลยนะ ตอนแรกพี่ไม่ได้บอกว่าจะให้ป๊อบมาอยู่ที่นี่นะ” อีกคนบอกผม

เรื่องรายละเอียดของงานซึ่งไอ้สิ่งที่ผมทำอยู่นั้นมันไม่ได้อยู่ในรายละเอียดของงาน ใช่สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในรายละเอียดงานในตอนนั้น

 แต่มันอยู่ในรายละเอียดงานในตอนนี้

      “แต่นั่นมันตอนนั้น ส่วนตอนนี้มันอยู่ในรายละเอียดงานแล้ว โอเคไหมครับน้องป๊อบแล้วก็เดินตามพี่มาได้แล้วไม่ต้องพูดมาก”

 ผมบอกอีกคนเพราะอีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงห้องของผมแล้ว

      “ไม่โอเคโว้ยยยยยยยยยย” อีกคนตะโกนเสียงดังพร้อมกับออกแรงขัดขืน แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวคงมาทำสำเร็จช้าไปเพราะ

ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังนั่งทำหน้าไม่พอใจอยู่บนพื้นในห้องของผมเรียบร้อยแล้ว

      “นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย ” อีกคนว่า ก่อนจะปรายตามามองผม ผมเลยเดินไปนั่งที่โซฟามองคนที่นั่งจุมปุกอยู่ที่พื้น

      “แต่ฉันก็ไม่ได้จ้างนายมาแค่พันสองพันนะตั้ง 3 แสนช่วยทำงานให้คุ้มค่าด้วย” ผมเอาเรื่องจำนวนเงินมาเป็นข้ออ้าง แต่จะว่า

ไปมองดูไอ้เด็กแสบนี่ทำหน้าไม่พอใจมันก็เป็นเรื่องสนุกไปอีกแบบ

      “ยิ้มอะไรของนายไม่ทราบ ไอ้หื่นภาม” อีกคนหันมาว่าผมอย่างเอาเรื่อง แต่ผมเริ่มจะไม่พอใจกับไอ้สรรพนามที่เขาใช้เรียก

ผมสักเท่าไร

      “คำก็หื่น สองคำก็หื่น นายอยากจะให้ฉันหื่นให้ได้เลยใช่ไหม” ผมว่า ก่อนจะค่อยๆลุกเดินออกจากโซฟาไปหาคนที่นั่งอยู่ที่

พื้น ก่อนจะผลักอีกฝ่ายให้นอนราบแล้วตัวผมก็คร่อมทับอีกคนเอาไว้

      “นะ..นายจะทำอะไร ลุกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไอ้บ้า ไอ้หื่น ไอ้บ้ากาม ไอ้โรคจิต” อีกคนสรรหาคำมาว่าผม ผมไม่

ได้โกรธหรอกนะที่โดนว่าเพียงแค่อยากจะแกล้งอีกคนเล่นเท่านั้น

      “พี่ว่าน้องป๊อบก็น่าจะเดาออกนะว่าพี่กำลังจะทำอะไรเพราะพี่รู้ว่าเราก็ไม่ได้เป็นคนใสซื่ออะไรมากขนาดนั้นออก

จะ....โชกโชนอยู่ไม่ใช่น้อยไม่ใช่เหรอ หืม?” ผมแกล้งพูดยั่วอีกคน ยิ่งเห็นสีหน้าซีดๆกับแววตาที่ดูตื่นๆนั่นยิ่งทำให้ผมอยากแกล้ง

เขาไปอีก ผมเลยเอื้อมมือลงไปลูบต้นขาเรียวยาวของอีกฝ่ายไล้มาเรื่อยๆจนถึงขาอ่อน การขัดขืนของอีกฝ่ายในตอนแรกดูเหมือน

จะหยุดลงเพราะอีกคนได้แต่นอนตัวแข็งทื่อหลังจากที่โดนผมสัมผัสตัวเองแบบนั้น หึๆ นายนี่มันน่าแกล้งจริงๆนะป๊อบ จากนั้นผมก็

ใช้จังหวะที่อีกคนไม่ได้ตั้งตัวค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้ๆ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ชิมความหวานจากริมฝีปากได้รูปของไอ้เด็กแสบ

ประตูห้องของผมก็ถูกเปิดออก

      “อุ้ยแม่!ตาเถรหก เจ็ด แปด เอ่อ...ขอโทษค่ะคุณภามป้าไม่คิดว่าคุณภามกับแฟนกำลังเอ่อ...” ป้าพิมพ์พูดจบก็มองหน้าผม

กับไอ้เจ้าเด็กแสบสลับกันไปมา ส่วนไอ้เด็กแสบป๊อบที่เห็นสภาพของเราสองคนก็รีบผลักผมออกแล้วรีบอธิบายให้ป้าพิมพ์เข้าใจ

      “ไม่ใช่อย่างที่คุณป้าคิดนะครับคือผมกับพี่ภามเราไม่ได้กำลังจะทำอะไรกันทั้งนั้นนะครับ” อีกคนรีบอธิบายพร้อมกับส่ายหน้า

เป็นพัลวัน ส่วนป้าพิมพ์ก็ได้แต่ส่งยิ้มน้อยๆมาให้เพราะแกคงจะไม่เชื่อในคำแก้ตัวของไอ้เด็กแสบนั่น ใครเขาจะไปเชื่อเพราะ

สถานะที่ผมกับได้แสบนั่นคือ แฟน หรือ คู่รักกันแล้วยิ่งถ้าแก้ตัวอย่างนั้นก็มีแต่จะยิ่งทำให้คนอื่นเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองอายเลยต้อง

รีบแก้ต่าง เฮ้อ! ไอ้แสบเอ้ยฆ่าตัวเองตายชัดๆ

      “ป้าพิมพ์มีอะไรเหรอครับ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง ป้าพิมพ์เลยหันมามองหน้าผมก่อนจะตอบ

      “คุณหญิงให้มาบอกว่าวันนี้ตอนเย็นให้คุณภามชวนคุณป๊อบลงไปทานข้าวเย็นด้วยกันนะคะ” ป้าพิมพ์บอก คุณแม่เนี่ยนะที่ให้

ผมชวนป๊อบไปทานข้าวเย็นด้วยทั้งๆที่เมื่อกี้ก็เข้าหน้ากันแทบจะไม่ติด ผมเลยหันไปมองหน้าไอ้เจ้าเด็กแสบซึ่งมันก็หันมามอง

หน้าผมอย่างงงๆเช่นเดียวกัน

      “คุณผู้หญิงคงอยากจะให้คุณภามแนะนำคุณป๊อบให้กับคุณท่านแล้วก็คุณภัทรรู้จักมั้งคะ” ป้าพิมพ์ว่า แต่ผมว่านิสัยของคุณแม่

คงไม่มีทางที่อยากจะให้ผมแนะนำป๊อบให้กับคนอื่นๆรู้จักหรอก ผมว่าเรื่องนี้มันแปลกๆซะแล้วล่ะ

      “งั้นเดี๋ยวผมขอคุยกับน้องป๊อบก่อนนะครับแล้วเดี๋ยวใกล้มื้อเย็นผมกับน้องจะลงไปนะครับ” ผมตอบป้าแม่บ้านก่อนที่เธอจะ

พยักหน้าแล้วเดินจากไป

                       
      “นี่เอาไงดีคุ..เอ่อ..พี่ภาม” ไอ้เด็กแสบถามผม ตอนนี้เราทั้งคู่กำลังนั่งหน้าเครียดกันอยู่ที่โซฟาภายในห้อง ผมเองก็ไม่รู้

เหมือนกันว่าคุณแม่จะทำอะไร มันเป็นเรื่องที่เกินจะคาดเดาได้

      “ก็ไม่ต้องเอาไงทั้งนั้นถึงเวลาเราก็ลงไปทานข้าวแค่นั้นก็จบ” ผมบอกเพรามันคงเป็นทางเดียวที่ทำให้ดูไม่ผิดสังเกตมาก

เท่าไร

      “มันจะไม่จบง่ายๆน่ะสิ” ไอ้เจ้าเด็กแสบว่า

      “ช่างเหอะ ว่าแต่ว่าพี่จะให้ผมนอนที่ห้องพี่จริงๆเหรอ” ไอ้เด็กแสบถามขึ้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเริ่มลุกเดินสำรวจห้องผม

      “ใช่ ส่วนเรื่องเสื้อผ้าคืนนี้ป๊อบก็ใส่เสื้อผ้าของพี่ไปก่อนก็แล้วกัน” ผมว่า ไอ้เด็กแสบนั่นเบ้ปากน้อยๆแต่ก็ยังยอมพยักหน้า

ตกลง

      “แล้วเรื่องแม่กับน้องของป๊อบล่ะ” คนที่เดินสำรวจห้องผมถามขึ้นพร้อมกับสายตาที่เจ้าตัวหันมามองหน้าผม

      “เรื่องแม่พี่จัดการให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องน้องชายป๊อบ ถ้าเขาเข้ามากรุงเทพฯเมื่อไหร่พี่ก็จะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายให้” ผม

บอกดูไอ้เจ้าเด็กแสบจะถอนหายใจน้อยๆอย่างคนโล่งใจ ผมเห็นแล้ก็อดสงสารไม่ได้เพราะเห็นไอ้ภัทรเคยเล่าให้ฟังว่ามันเป็นเด็ก

ที่ขยันหางานทำจนส่งตัวเองเรียนและที่สำคัญยังหาเงินส่งไปให้น้องและทางบ้านได้

      “พี่ว่าป๊อบควรไปเตรียมตัวรับศึกช่วงเย็นดีกว่านะ” ผมบอก อีกฝ่ายเลยจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปล้างหน้าล้างตาให้

สดชื่นพร้อมลุยกับช่วงเย็นอีกหนึ่งศึก

      “เสร็จรึยังป๊อบ” ผมถามเพราะหลังจากที่อีกคนหายเข้าไปทำธุระในห้องน้ำ ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองเวลาซึ่งมันก็ได้เวลา

มื้อเย็นสำหรับที่บ้านผมแล้ว

      “เสร็จแล้วครับ” ไอ้เจ้าเด็กแสบมันขานรับ ก่อนที่ผมจะบังคับให้เจ้าตัวจับมือผมลงไปหาคนอื่นๆที่รออยู่ด้านล่าง

           วันนี้ทุกคนลงมานั่งรอที่โต๊ะอาหารกันอย่างพร้อมหน้า คุณพ่อนั่งรอทานข้าวอยู่ที่หัวโต๊ะ ถัดออกมาก็เป็นคุณแม่แล้วก็ไอ้

ภัทร ส่วนที่นั่งอีกฝั่งตรงข้ามกับคุณแม่ก็เป็นที่ของผมและแน่นอนว่าข้างผมก็คือว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านอย่างนายป๊อบ

        ผมหันไปมองหน้าอีกคน แต่ก็ไม่พบกับความประหม่าทั้งๆที่ตอนนี้ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหันมามองตัวเองกันเป็นตาเดียว ไอ้

เด็กแสบมันดึงมือตัวเองออกจากมือผมก่อนจะก้มลงไหว้คุณพ่อ

      “สวัสดีครับคุณพ่อ ผมชื่อป๊อบเป็นแฟนกับพี่ภามครับ” อีกคนว่า ผมเลยดูปฏิกิริยาของคุณพ่อเพราะถึงแม้ท่านจะเป็นคนหัว

สมัยใหม่แต่ท่านก็เป็นทหารซึ่งผมก็กลัวว่าท่านจะไม่ยอมรับเรื่องนี้ แต่น่าแปลกเพราะหลังจากที่ป๊อบแนะนำตัวเองกับท่าน ท่าน

กลับส่งยิ้มอย่างเอ็นดูมาให้ ก่อนจะยกมือขึ้นรับไหว้

      “ตามสบายเลยนะลูกคิดซะว่าที่นี่เป็นบ้านของลูกก็แล้วกันนะ” คุณพ่อผมบอก ผมสังเกตเห็นความผ่อนคลายลงจากคนข้าง

กาย

      “นี่คุณ!” คุณแม่จ้องคุณพ่ออย่างเอาเรื่อง แต่ท่านกลับยักไหล่แล้วเรียกให้ผมกับป๊อบเข้ามาร่วมโต๊ะเพื่อทานมื้อเย็น

      “อย่าคิดนะว่าที่ฉันให้ร่วมโต๊ะด้วยแล้วฉันจะรับเธอเป็นว่าที่ลูกสะใภ้” คุณแม่พูดขึ้นหลังจากที่ผมกับป๊อบนั่งลงที่เก้าอี้

      “ครับ ป๊อบเข้าใจ” ป๊อบว่า จากนั้นเราทุกคนก็เริ่มลงมือทานอาหาร ไอ้ภัทรได้แต่ส่งสายตาสงสารมาให้เพื่อนรักตัวเอง ส่วน

ไอ้คนที่นั่งข้างๆผมก็จ้องไอ้ภัทรอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ

      “นี่ครับพี่ภาม” คนที่นั่งข้างผมตักผัดผักมาวางไว้ให้ในจาน ก่อนจะส่งยิ้มให้ ผมเลยยิ้มตอบก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ

      “ขอบคุณนะ” แล้วผมก็เลยตักกับข้าวที่อยู่ไกลให้คนที่นั่งข้างกายผมที่ตักไม่ถึงมาให้ เจ้าตัวจึงเอ่ยขอบคุณ

      “ขอบคุณนะครับ พี่ภามทานเยอะๆนะครับ” อีกคนว่า จากนั้นผมก็ได้ยินเสียงคุณหญิงแม่กระแอมไอขึ้น

      “ไร้มารยาท ใครเขาสอนให้พูดคุยกันในระหว่างทานอาหาร” คุณแม่พูดขึ้นมาลอยๆก็จริง แต่แน่นอนว่าท่านมีจุดประสงค์ที่จะ

ให้ไอ้คำพูดลอยๆนั่นกระทบกับคนที่นั่งข้างผมอย่างเต็มๆ

      “ไม่มีใครสอนหรอกครับคุณหญิงแม่ เอ แต่จะว่าไปตอนนี้คุณหญิงแม่ก็กำลังพูดในระหว่างทานอาหารเหมือนกันนะครับ” ไอ้

คนที่นั่งข้างกายผมสวนกลับคุณแม่อย่างทันควัน แถมยังมีหน้ามานั่งยิ้มระหื่นส่งไปให้ท่านอีกต่างหาก ส่วนคุณแม่ก็สะบัดหน้า

กลับมามองอีกคนอย่างเอาเรื่อง ส่วนคนที่โดนจ้องก็นั่งทานข้าวต่ออย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ผมเห็นก็อดที่จะอมยิ้มขำไม่ได้เพราะทุก

คนในบ้านไม่มีใครสักคนที่จะกล้าเถียงคุณแม่จะมีก็แต่คนที่นั่งข้างๆผมคนนี้แหละที่กล้าแล้วก็ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่อมยิ้มขำทั้ง

คุณพ่อแล้วก็ไอ้ภัทรทุกคนก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน สงสัยคุณแม่คงจะเจอมวยถูกคู่ซะแล้วล่ะ

      “หนอยแก!ไอ้เด็กไร้มารยาทกล้าเถียงผู้ใหญ่ คุณพี่คะน้องไม่ยอมยังไงน้องก็ไม่รับไอ้เด็กนี่เป็นสะใภ้หรอกนะคะ!” คุณแม่ผม

ลุกขึ้นชี้หน้าว่าคนข้างๆผมแล้วจึงหันกลับไปพูดกับคุณพ่อ

      “แต่ผมว่ามันก็ไม่เสียหายนะคุณหญิงอย่างน้อยๆเข้าก็เป็นคู่ปรับชั้นดีของคุณนะ” คุณพ่อของผมบอกกับคุณแม่ยิ้มๆท่านเลย

ตวัดสายตากลับมามองป๊อบอย่างเอาเรื่อง

      “ดี!’งั้นเราก็จะได้เห็นดีกันนายป๊อบ!!!” งานเข้าซะแล้วป๊อบ!!










มาต่อให้แล้วนะคะ ขอบคุณทุกคอมเม้นนะคะ เป้นกำลังใจให้ดีสได้มากเลยทีเดียวค่ะ ตอนนี้ยอดชายนายป๊อบของเราได้เจแกับ

ว่าที่แม่สามีแล้วไว้ลุ้นกันตอนหน้าว่าคุณหญิงแม่จะจัดหนักอะไรเพื่อต้อนรับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างยอดชายนายป๊อบ 555

ปล.1 พรุ่งนี้ดีสอาจจะไม่ได้อัพนะคะ ไว้เราไปเจอกันวันที่ 10 เมษา 58 เลยนะคะ ต้องขอโทษจริงๆพอดีติดธุระอ่ะค่ะ :mew2:

ปล.2 ดีสแอบเห็นคอมเม้นนึงที่บอกว่าคงไม่ใช่แม่สามีกับลูกสะใภ้ เอ่อ...ดีสขอสารภาพจากใจ....มันเป้นแบบนั้นไปแล้วล่ะค่ะ 55

แต่ก็อยากให้ติดตามนะคะเพระาเวอร์ชั่นของนายป๊อบไม่เหมือนเวอร์ชั่นอื่นน้าาาาาา (อวยตัวเองเข้าไป 555) :impress2:

ปล.3 ขอบคุณอีกหนึ่งคอมเม้นนะคะที่บอกตรงส่วนที่พิมพ์ผิดเดี๋ยวดีสจะลองไปเช็กๆดูนะคะ พอดีดีสก็เพิ่งลองแต่งลักษณะนี้

เพราะปกติดีสจะแต่งเป็นแค่ตัวละครเพียงตัวเดียวที่บรรยายเนื้อเรื่องเดี๋ยวจะลองไปดูๆให้นะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: a_n ที่ 08-04-2015 22:33:13
กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-04-2015 22:50:04
คู่ปรับสูสี แบบนี้สนุกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 08-04-2015 23:07:57
ป๊อบเป็นนายเอกสมัยใหม่มากเลยค่ะ … แซ่บ

* มีความรู้สึกว่าอยากอ่านต่ออี๊กกก :laugh:
 
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-04-2015 23:19:39
55  ป็อปก็แรงเกินนะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 09-04-2015 00:06:26
 :katai1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-04-2015 00:13:37
อร๊ายยยยย. สนุกมากเลยย. ชอบๆๆ. แม่สามีกะลูกสะไภ้ ดุเด็ดเผ็ดมันมาก. ต่างคนต่างไม่นอมกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 09-04-2015 01:42:05
แจ่มไปเลย ดุ เด็ด เผ็ด มัน
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 09-04-2015 07:38:07
เป็นการปะทะอารมณ์ที่สนุกดีนะครับ แต่ช่วงที่ขึ้นบรรทัดใหม่คำมันขาด น่าจะให้มันเต็มประโยคไปเลยค่อยขึ้นบรรทัดใหม่ครับ คนอ่านจะได้อ่านแบบไม่สะดุดครับ รีบๆมาต่อนะครับ อยากรู้ว่าป๊อบจะเจอศึกแบบไหนต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 09-04-2015 08:04:57
ก็มันดีนะ ชอบตรงที่อัพบ่อยๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 3 (ว่าที่)สะใภ้จำเป็น 07/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 09-04-2015 10:47:57
มาต่อไวๆนะคะ ชอบมากเลยคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-04-2015 11:37:02
้ดูท่าน่าจะแซ่บ

หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-04-2015 12:18:53
บ้านแตกแน่
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 09-04-2015 12:36:05
พึ่งเข้ามาอ่าน กำลังสนุกได้ที่....คนเขียนบอกว่าจะอัพวันที่ 10
ใจร้ายมากค่ะ T^T
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ!!!!
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 09-04-2015 17:56:24
กำลังเริ่มความมันส
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: alt1991 ที่ 09-04-2015 20:30:41
 :ling1: :katai5: :ling1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 09-04-2015 20:31:23
สนุกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 4 แม่สามีปะทะลูกสะใภ้ 08/04/2015 หน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 09-04-2015 21:36:33
เรื่องราวชักจะสนุกขึ้นแล้ว น้องป๊อบจะมีวิธีการรับมือกับว่าที่แม่สามีอย่างไร แล้วว่าที่สามีน้องป๊อบ (ไอ้หื่นภาม ๕๕๕) จะยื่นมือเข้ามาช่วยน้องป๊อบมั้ย  :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:   รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 10-04-2015 19:52:24
                                                                          ตอนที่ 5 ตาต่อตาฟันต่อฟัน.........

            หลังจากการรับประทานอาหารมื้อเย็นและการแนะนำตัวผมผ่านพ้นไปเรียกได้ว่าเหมือนผมได้ยกภูเขาทั้งลูก ย้ำนะครับ

ว่าทั้งลูกออกจากอกแต่! ผมคงจะโล่งอกได้ไม่นานเพราะคุณหญิงแม่ของไอ้หื่นนั่นเล่นประกาศเสียงดังทำแผ่นดินเมืองกรุงแทบ

ไหว(?)กลางโต๊ะอาหารว่าผมกับท่านต้องได้เห็นดีกัน ผมว่าไอ้ที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ยังไม่เห็นดีกันอีกเหรอ?

      “เป็นอะไรไปเมื่อกี้ยังเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ” เสียงของคนที่ผมเหม็นเบื่อที่สุดในสามโลกดังขึ้นพร้อมกับแรงยุบของเตียงนอน

เมื่อถูกอีกคนหย่อนกายนั่งลง

      “ก็นั่นมันเมื่อกี้ มันคืออดีตแต่นี่มันปัจจุบัน” ผมหันไปตอบคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง

      “อ้าวเหรอคิดว่าเก่งทุกตอนซะอีก” ผมรู้ว่าไอ้หื่นนั่นจงใจแขวะผม ผมก็เลยจะถือซะว่าสิ่งที่ได้ยินมันก็เป็นแค่เสียงหมาเห่า!

      “ก็ดูแม่ของคุณพี่ภามซะก่อนสิครับ ท่านเล่นประกาศซะกลางโต๊ะอาหารเลยไม่ใช่เหรอครับว่าผมกับท่านต้องได้เห็นดีกัน”

บอก ใครว่าผมไม่เครียดเพราะถึงแม้ผมจะไม่ยอมคนก็จริง แต่กับเรื่องแบบนี้ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองต้องรับมือยังไง

      “ก็เราเล่นไปทำตัวอวดดีกับท่านก่อนไม่ใช่เหรอ มันก็สมแล้วล่ะที่เจอแบบนั้น” อีกคนว่า แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยสักนิดก็เพราะ

คุณหญิงแม่ของไอ้หื่นนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุที่มาว่าผมก่อนเป็นใครจะไปยอมกัน โดยเฉพาะคนอย่างยอดชายนายป๊อบด้วยแล้ว

ฝันไปเถอะ!

      “ก็คุณพี่ภามลองมาโดนแบบป๊อบดูบ้างไหมล่ะครับ หึ มาถึงก็ว่าๆๆๆ ถามจริงเหอะ แม่คุณจบคณะว่าศาสตร์มาเหรอแพราะตั้ง

แต่ป๊อบมาถึงนี่ก็เอาแต่ว่า คุณหญิงแม่พี่นี่ช่างว่าเก่งจริงๆ” ผมถาม แต่อีกคนกลับนั่งหัวเราะ อ้าว?นี่ผมกำลังจริงจังอยู่นะ

      “เฮ้อ! เอาเถอะถือซะว่าเป็นการทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างที่พี่ให้น้องป๊อบก็แล้วกันนะครับ ฮ่าๆ” ย้ำจริงนะ ไอ้เรื่องเงินค่าจ้างเนี่ย

 แค่เงิน 3 แสน เหอะ..............แต่เงิน 3 แสนนี่ แถวบ้านเรียกเยอะสัดๆเลยนะมึงไอ้ป๊อบ!

      “คร๊าบ ย้ำจังเลยนะครับ” ผมค่อนขอดอีกคน

      “แต่จะว่าไปป๊อบก็เก่งเหมือนกันนะที่กล้าเถียงคุณแม่แถมยังทำให้ท่านประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับนายเป็นสะใภ้” สาบาน

นั่นคำชม?

      “นั่นคือคำชมที่พี่ให้ผมใช่ปะ” ผมถาม อีกคนกลับยักคิ้วส่งยิ้มกวนๆมาให้ ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ผมและเดินออกไป

คุยโทรศัพท์ข้างนอก

      “เอาที่นายคิดว่าสบายใจเถอะ หึๆ” ว่าจบอีกคนก็เปิดประตูเดินออกไปนอกห้อง

              แม่ง!จะไม่กวนตีนผมสักครั้งมันยากมากนักเหรอไงห๊ะ!

      “ถ้าไม่ติดว่าได้เงินดีนะ ไอ้ป๊อบไม่อยู่ให้กวนตีนหรอกเว้ย” ผมตะโกนไล่หลังอีกคนไปและแน่นอนว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ทันได้ยิน

เพราะถ้าเกิดได้ยินผมคงจะอดเงิน 3 แสนและที่สำคัญไอ้นั่นยิ่งหื่นกามอยู่ด้วย ถ้าเกิดมันทำอะไรผมขึ้นมา ผมคงจะสู้แรงควายๆ

ของมันไม่ได้แน่ๆ

        ผมนั่งอยู่ที่เตียงสักพักก่อนจะหันไปหยิบเสื้อผ้าที่อีกคนหยิบเอามาวางไว้ให้ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ผมเลยคิดว่าโทร

ไปถามเรื่องแม่กับไอ้ปิ๊กก่อนอาบน้ำน่าจะเป็นความคิดที่ดีกว่าอาบน้ำแล้วโทรหา

        ผมเดินออกจากห้องนอนของไอ้หื่นภามมาหาที่คุยโทรศัพท์กับไอ้ปิ๊กเพื่อถามเรื่องแม่

      “ไอ้ปิ๊กตอนนี้แม่เป็นไงบ้าง” หลังจากที่ผมหาที่คุยโทรศัพท์อยู่นานก็มาเจอสวนหลังบ้านที่พอจะเป็นที่หลบให้ผมคุย

โทรศัพท์กับน้องชายได้และไม่นานปลายสายก็ตอบกลับมา

      “แม่เพิ่งกินยาแล้วก็หลับไปเมื่อกี้ก่อนเฮียโทรมาแปบเดียวเอง” ไอ้ปิ๊กตอบ ก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายถามคำถามผมบ้าง

      “ว่าแต่ว่าเฮียไปเอาเงินเยอะแยะพวกนี้มาจากไหน” ไอ้ปิ๊กซัก เอ่อ...จะให้เฮียตอบว่า เฮียมาทำงานพิเศษเป็นแฟนกำมะลอ

กับว่าที่สะใภ้จำเป็นให้กับพี่ชายเพื่อนอย่างนี้เหรอ? คือ....เฮียว่ามันก็คงจะไม่ใช่เรื่องดีที่เฮียจะบอกเอ็งหรอกม้างไอ้น้องชาย

      “คือ...พอดีพี่ชายของเพื่อนเฮียเขาทำธุรกิจแล้วเขามีคนแก่อยู่ที่บ้านไม่มีเวลาดูแลก็เลยจ้างเฮียมาดูแลไง” ผมโกหกไอ้ปิ๊ก

คำโตเพราะมันไม่ใช่เรื่องดีที่ผมจะเอาเรื่องน่าอายแบบนั้นมาบอกน้องชายมีหวังผมได้โดนไอ้ปิ๊กล้อยันลูกบวชแล้วเบียดแน่

      “เหรอ แต่ทำไมเขาถึงให้ค่าจ้างเยอะจัง” เอ่อ..นั่นสิแค่ดูแลคนแก่ทำไมค่าจ้างเยอะจังวะ

      “ก็ทำงานหลายอย่างแล้วก็ดูแลหลายคนค่าจ้างเลยเยอะ พวกคนรวยคนมีเงินน่ะ” ผมบอก ไอ้ปิ๊กเลยทำเสียง อ๋อ ลากเสียง

ยาว ผมเลยเป็นฝ่ายถามมันกลับบ้าง

      “ว่าแต่ปิ๊กจะเข้ากรุงเทพฯเมื่อไหร่” ผมถามเพราะจะได้บอกอีกคนได้ถูก

      “น่าจะประมาณอาทิตย์หน้านะเฮียเพราะที่นี่ก็มีพยาบาลประจำมาดูแลแม่แล้วก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร” ไอ้ปิ๊กว่า พยาบาล

ประจำมาดูแลอย่างนั้นเหรอ แต่จะว่าไปไอ้หื่นนั่นมันก็ดูแลเรื่องของแม่ได้ดีอย่างที่พูดไว้จริงซะด้วยสิ

      “ฮัลโหลเฮียเป็นไรอ่ะเห็นเงียบไป ไม่สบายเหรอ” เสียงไอ้ปิ๊กเรียกให้ผมกลับเข้าสู่บทสนทนา

      “ไม่มีอะไรนี่ก็ดึกแล้วเราไปพักผ่อนเถอะ ถ้าจะมาเมื่อไหร่ก็โทรมาบอกเฮียก่อนนะ” ผมบอกก่อนจะคุยกับน้องต่ออีกสองสาม

ประโยค ก่อนจะวางสายแล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านแล้วก็เป็นจังหวะที่ผมเห็นไอ้ภัทรมันเดินหน้าเจื่อนๆเข้ามาหา

      “กูขอโทษนะไอ้ป๊อบ” ไอ้ภัทรบอก

      “ขอโทษกูเรื่องอะไรไม่ทราบ” ผมถาม

      “ก็เรื่องของคุณแม่ไง มึงเลยโดนคุณแม่หมายหัวเลย” ไอ้ภัทรบอก ผมเลยได้แต่ยิ้มๆ

      “ไม่ใช่ความผิดของมึงสักหน่อย กูเองที่ผิดเต็มๆที่ไปเถียงคุณหญิงท่านน่ะ มึงไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องแค่นี้จิ๊บๆ คนอย่างยอด

ชายนายป๊อบซะอย่างสบายใจหายห่วงได้” ผมบอกถึงแม้ความจริงมันจะไม่ได้จิ๊บอย่างที่พูด แต่ผมก็ไม่อยากให้ไอ้ภัทรต้องเป็น

ห่วงเพราะอย่างน้อยๆมันก็ทำให้ผมได้มีงานและมีเงินไปรักษาแม่กับส่งน้องเรียนต่อ

      “อืม ได้ฟังมึงพูดแบบนี้กูก็สบายใจ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกกูได้นะ” ไอ้ภัทรว่าก่อนจะเอื้อมมือมาตบที่ไหล่ผมเพื่อให้กำลังใจ

 ผมเลยยิ้มรับแล้วเราทั้งคู่ก็ต่างแยกย้ายกันไป แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เดินขึ้นบันไดคุณหญิงแม่ก็เดินมาขวางทางเอาไว้ก่อน

      “เธอนี่มันร้ายมากนะมีตาภามเป็นแฟนอยู่แล้วยังจะไปยุ่งกับตาภัทรอีก” คุณหญิงแม่ว่า ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อย

หน่าย สงสัยท่านคงไม่รู้ว่าผมกับไอ้ภัทรเราเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ถ้าจะปูมาซะขนาดนี้ผมก็ขอเล่นตามที่คุณหญิงปูมาสักหน่อยก็

แล้วกัน

      “ป๊อบก็แค่ทักทายน้องของแฟนมันผิดตรงไหนเหรอครับคุณหญิงแม่” ผมว่า คุณหญิงท่านก็เลยมองหน้าผมก่อนจะยิ้มเย้ย

หยันอย่างดูถูกและแน่นอนคนอย่างผมก็เป็นคนที่เกลียดการดูถูกเป็นที่สุด

      “ไม่ใช่ว่าหวังจะจับตาภัทรอีกคนหรอกนะ หึ”

      “อันนี้ก็ไม่แน่นะครับ ถ้าคุณหญิงแม่จะอนุญาต” ผมตอบก่อนจะเดินขึ้นบันได้กลับเข้าห้องไม่สนใจว่าอีกคนจะเป็นยังไงเพราะ

ผมก็รู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวคุณหญิงก็คงจะยืนทำหน้าไม่พอใจผมเหมือนเคย เฮ้อ! วันนี้รู้สึกเหมือนตัวเองจะใช้พลังงานไปเยอะยังไงก็

ไม่รู้ ขอกลับไปเติมพลังงานด้วยการนอนพักเพื่อเรียกแรงกลับมาดีกว่า

        ผมเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้อง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปก็พบเจ้าของห้องที่อาบน้ำแต่งตัวแล้วออกมานั่งอ่านเอกสารอยู่บน

เตียง

      “ไปไหนมา” อีกคนถามเมื่อผมก้าวเข้าห้อง ผมเดินไปหยิบชุดนอนคืนนี้ก่อนจะตอบคำถามของอีกฝ่าย

      “ไปคุยกับน้องแล้วก็ไปปะทะฝีปากกับคุณหญิงแม่มา” ผมตอบตามความเป็นจริง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป

        ผมใช้เวลาไม่นานมากในการจัดการธุระส่วนตัวของตัวเอง แต่พอเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นอีกคนยังนั่งอ่านเอกสารอยู่ผม

เลยลองถามว่าอีกฝ่ายจะเข้านอนหรือยังเพราะวันนี้ผมรู้สึกเหมื่อยแล้วก็ล้าเต็มทีอยากจะพักผ่อนให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย

      “พี่ภามจะนอนหรือยัง ป๊อบจะได้ปิดไฟ” ผมถาม ส่วนเจ้าของชื่อที่ถูกถามก็หันมามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับ

เก็บเอกสารไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง

      “พรุ่งนี้พี่อาจจะกลับดึกหน่อยนะ หวังว่าเราคงไม่ก่อเรื่องให้คุณแม่ไม่สบายใจล่ะ” อีกคนว่า เหอะ ทำอย่างกับผมพิศวาสคุณ

หญิงท่านอย่างนั้นแหละ

      “ใครกันแน่ที่จะก่อเรื่อง” ผมบ่นอุบ ก่อนจะหยิบหมอนข้างมาวางไว้ที่เตียงนอน ผมก็เลยไดรับสายตางุนงงของคนอีกคนส่งมา

ให้

      “ก็เอาไว้เป็นเขตแดนกั้นป๊อบกับคุณพี่ภามยังไงล่ะครับ ห้ามเลยเขตนะเว้ย!” บอกเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอนพร้อมกับปิดไฟที่อยู่

หัวเตียง ส่วนคนที่นอนฝั่งตรงข้ามก็ล้มตัวลงนอนตามพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอ

      “ทำเป็นเด็กๆไปได้ กลัวพี่ทำอะไรเราหรือไง” อีกคนว่า ถึงแม้ผมจะไม่เห็นหน้าคนที่นอนอยู่อีกฝั่งของหมอนข้าง แต่เชื่อผม

เถอะว่าสายตาเขามันจะต้องเจ้าเล่ห์มากๆเพราะฟังจากแค่น้ำเสียงก็เป็นตัวบ่งบอกได้ดีอยู่แล้ว

      “เปล่ากลัวพี่ แต่กันไว้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร คนอย่างนายป๊อบซะอย่างไม่มีทางกลัวอะไรทั้งนั้น” ผมบอกอีกคน ก่อนจะข่มตา

ให้หลับเพราะไม่อยากที่จะต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย แค่คนแม่คนเดียวก็จะแย่ นี่ยังมาเจอคนลูกอีกผมคงได้ตายกันไปข้างแน่ๆ

      “แต่พี่ว่าเราน่ะ.....กลัวใจตัวเองมากกว่า” อีกคนโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูของผม ผมเลยจะหันกลับไปต่อว่า แต่ตอนนี้กลับ

กลายเป็นว่าริมฝีปากของเราทั้งคู่กำลังประกบกัน มันก็เป็นแค่ปากแตะกันธรรมดา แต่ที่น่าแปลกคือ...ทำไมผมถึงทำอะไรไม่ถูก

ล่ะ? นานแค่ไหนไม่รู้กว่าที่อีกคนผละออกไป ผมได้แต่มองหน้าอีกฝ่ายที่ผละออกไป แต่ก็ยังไม่ละไปจากใบหน้าของผม ก่อนที่

เสียงทุ้มนุ่มจะเอ่ยบอกฝันดีพร้อมกับส่งยิ้มมาให้       

      “ฝันดีนะครับน้องป๊อบ” และผมก็คิดว่าบางทีเรื่องที่ไอ้มิ่งมันเคยฟันธงเอาไว้อาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ได้...........


                       
        เช้าวันนี้ผมตื่นนอนขึ้นมาอย่างไม่ค่อยจะสดใสซาบซ่านเท่าไรเพราะวันนี้ทั้งวันผมต้องเจอกับศึกหนักอย่างคุณหญิงแม่ของ

ไอ้หื่นภามนั่น แถมวันนี้เจ้าตัวยังบอกอีกว่าจะกลับบ้านดึกปล่อยให้ผมรับการรังแกจากคุณหญิงแม่แต่เพียงผู้เดียว โถๆชีวิตไอ้ป๊อบ

นั้นมันน่าเศร้าใจยิ่งนัก กระซิกๆ

        “อืมมม เจ้ดโมงเช้า กูจะตื่นมาเดินเล่นเป็นเพื่อนพระอาทิตย์เหรอไงวะ” ผมกร่นด่าตัวเองเพราะถ้าเป็นช่วงวันหยุดไอ้เวลา

เจ็ดโมงเช้าเป็นช่วงเวลาที่ผมขอตัดขาดจากความเป็นเพื่อนกับมันอย่างถาวรเพราะถ้าจะให้ผมตื่นในวันหยุดก็คงไม่พ้นบ่ายโมง

หรือไม่ก็เป็นช่วงเย็นของวันไปเลยถือซะว่าได้หยุดทั้งทีก็ขอใช้เวลาที่มีนอนมันให้คุ้มกันไปเลย  แต่พอมาอยู่ที่นี่ได้แค่วันเดียวผม

ก็ต้องแหกขี้ตาตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า

ทำไงได้ก็คนมันนอนไม่หลับนี่หว่า ไหนจะไม่คุ้นที่ ไม่คุ้นบ้านและที่สำคัญไม่คุ้นคนเว้ย!!

      “อ้าว ทำไมวันนี้มึงตื่นนอนแต่เช้าเลยวะเห็นปกติไปเรียกที่หอมึงยังไม่ค่อยอยากจะตื่น” เสียงของไอ้ลูกชายคนเล็กของบ้าน

สุริยศํกดิ์กำลังเอ่ยถามผมที่กำลังลากสังขารที่สภาพน่าจะเหมือนซอมบี้เดินได้ เดินลงบันไดลงมาด้านล่างของบ้าน

      “นอนไม่ค่อยหลับว่ะเลยจะออกมาดูด้านล่างเผื่อคุณหญิงแม่สุดที่รักจะเรียกหา ห้าว!”  ผมตอบไอ้ภัทร ก่อนจะยกมือขึ้น

ปิดปากหาว มันเลยได้แต่ส่ายหัวก่อนจะเดินมาตบไหล่ให้กำลังใจผม จากนั้นมันจึงขอตัวขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องด้านบน แหง

ล่ะ! ก็มันเพิ่งกลับบ้านนี่ คาสโนว่าอย่างมัน ถ้าไม่เช้าก็คงไม่กลับ!

        หลังจากที่ไอ้ภัทรขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านบนผมก็เลยจะลองเดินสำรวจบ้านของไอ้หื่นนั่นสักหน่อย แต่ก็ต้องไปเจอเข้ากับ

คุณแม่บ้านคนเมื่อวานเข้า เธอจึงเดินเข้ามาถามผมว่าต้องการให้ช่วยอะไรไหมเพราะสงสัยเธอคงจะเห็นผมเล่นเดินซะรอบบ้าน

      “คุณป๊อบหาอะไรอยู่เหรอคะ” คุณแม่บ้านเอ่ยถาม ก่อนจะเดินเข้ามาหาผมใกล้ๆ

      “อ๋อ ป๊อบแค่เดินดูบ้านเฉยๆน่ะครับ พอดีว่าวันนี้ตื่นเช้าก็เลยอยากจะหาอะไรทำแก้เซ็ง อ้อ แล้วก็เรียกป๊อบว่าป๊อบเฉยๆก็ได้

ครับไม่ต้องมีคงมีคุณนำหน้าหรอกครับ ป๊อบเกรงใจ” ผมบอกคุณแม่บ้านยิ้มๆเพราะเห็นว่าเธอดูจะเป็นคนใจดี น่ารัก ไม่เหมือนแม่

ของใครบางคนแถวนี้ที่จ้องจะเล่นงานผมให้ตายกันไปข้าง

      “นั่นน่ะสิพิมพ์ไม่ต้องให้เกียรติขนาดเรียกคุณก็ได้หรอกนะแล้วที่สำคัญฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าตาภามไปคว้าไอ้เด็กไร้มารยาทคนนี้

มาจากที่ไหนถึงได้ก้าวร้าว ทำตัวไม่มีความเป็นผู้ดีแบบนี้” เฮ้อ! แค่คิดถึงปุ๊บก็มาปั๊บ ตายยาก เอ้ย! อายุยืนจังนะครับคุณหญิงแม่

      “เอ แล้วคุณหญิงแม่คิดว่าพี่ภามเขาไปคว้าป๊อบได้จากที่ไหนล่ะครับหรือว่าจะเป็น.......ในห้องของป๊อบ” ผมเน้นประโยคหลัง

ให้คุณหญิงแม่ได้ยิน เอาสักหน่อยก็แล้วกันวะเรียกเอนไซม์ในปากตอนเช้าให้ตื่นตัวทำงาน หึ  อยากมาว่าไอ้ป๊อบก่อนมันก็ช่วยไม่

ได้นะครับคุณหญิงแม่

      “หึ ไม่ต้องมาสาธยายความต่ำของตัวเธอให้ฉันได้ยินหรอกนะเพราะฉันก็ไม่ได้พิศวาสอยากที่จะฟังสักเท่าไรนักหรอก” คุณ

หญิงแม่ว่า

      “ไม่อยากที่จะฟังหรือรับฟังไม่ได้กันแน่ครับ” ผมว่า งานนี้ไอ้ป๊อบก็ไม่มีทางยอมแพ้เหมือนกัน ว่ามาก็ว่ากลับเอาสิให้มันรู้แล้ว

รู้รอดไปเลย

      “ปากเก่งดีนี่ สงสัยจริงนะว่านอกจากปากจะเก่งแล้วยังทำอย่างอื่นเก่งเหมือนปากเธอหรือเปล่า” คุณหญิงแม่บอก ก่อนจะ

หยิบแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งยื่นมาให้ผม ผมก็เลยต้องรับกระดาษแผ่นนั้นมาดูอย่างงงๆ

      “ฉันต้องการเมนูทั้งหมดตอน 10 โมงเช้า หวังว่าเธอคงจะทำของพวกนี้เก่งพอๆกับปากเธอที่เถียงฉันเก่งเหมือนกันนะ อ้อ

พิมพ์ฉันขอสั่งกำชับทุกคนในหัวว่าห้ามใครหน้าไหนช่วยไอ้เด็กคนนี้ไม่เช่นนั้นฉันจะไล่ออก ขอให้เธอโชคดีนะ” ว่าเสร็จคุณหญิง

แม่ก็เดินจากไปทิ้งให้ผมยืนงงอยู่กับไอ้แผ่นกระดาษที่มีลายมือหวัดๆคาดว่าน่าจะเป็นของคุณหญิงเขียนข้อความลงในนั้น

      “คุณป๊อบคะ ไหนป้าขอดูกระดาษแผ่นนั้นได้ไหมคะ” ผมเลยยื่นกระดาษที่คุณหญิงแม่ยื่นมาให้ส่งให้ป้าพิม์ดู พอเธอรับ

กระดาษแผ่นนั้นไปดูก็ต้องคิ้วขมวดกันเป็นปมจนผมเริ่มใจไม่ดี ถึงแม้จะรู้ว่าคุณหญิงแม่คงไม่ทำดีด้วย แต่ก็ไม่คิดว่าสิ่งที่ท่านให้

ทำจะหนักหนาขนาดนี้

      “มีอะไรหรือเปล่าครับป้า” ผมถามเพราเห็นป้าพิมพ์เงียบไป

      “มีค่ะแล้วก็มีมากด้วย” ป้าพิมพ์บอกผมหลังจากที่เงยหน้าขึ้นจากกระดาษแผ่นนั้น

      “แล้วมันคืออะไรเหรอครับป้า” ผมถามอย่างร้อนใจ

      “ป้าว่าเราไปคุยกันที่ครัวดีกว่าค่ะ” ป้าพิมพ์ว่าก่อนจะเดินนำผมไปห้องครัว พอมาถึงห้องครัวก็มีแม่บ้านอีกสองสามคน

ป้าพิมพ์จึงแนะนำให้ผมรู้จัก

      “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับพี่ผักหวาน พี่หนูนิ่ม” ผมทักทายแม่บ้านสาวสองคนที่ป้าพิมพ์แนะนำว่าเธอสองคนเป็นแม่ครัวของบ้าน

      “มีอะไรเหรอป้าทำหน้าซะเครียดเชียว” พี่ผักหวานถามป้าพิมพ์ ป้าแกเลยเงยหน้าขึ้นมามองผม ก่อนจะบอกในสิ่งที่ทำเอาผม

แทบอยากจะมุดน้ำในช้อนกาแฟตายให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย

      “ก็คุณผู้หญิงท่านอยากจะทดสอบว่าที่ลูกสะใภ้ไงล่ะเลยให้คุณป๊อบน่ะทำขนมหวานพวกนี้ไปให้ท่านตอน 10 โมงเช้า”

ป้าพิมพ์ว่าก่อนจะยื่นรายการในกระดาษให้พี่ๆทั้งสองดูก่อนจะพูดต่อ

      “แล้วขนมหวานที่คุณผู้หญิงให้คุณป๊อบทำมันก็เป็นขนมระดับชาววัง” ป้าพิมพ์บอก

      “แล้วมันอะไรบ้างล่ะครับป้า” ผมถามเพราะให้ผมต้มมาม่ายังไงไม่ให้อืดยังง่ายซะกว่าที่จะมานั่งทำขนมไทยชาววังพวกนี้

เสลดเป็ดเหอะครับ!

      “ขนมพระพาย ขนมหม้อตาล เกสรชมพู แล้วก็ทองเอกค่ะ” ป้าพิมพ์บอก แค่ชื่อบางชื่อผมยังไม่รู้จักแล้วจะมาให้ผมทำเนี่ยนะ

 หอยหลอด! งามไส้! กันเลยครับงานนี้ ผมไอ้ยอดชายนายป๊อบนะครับไม่ใช่เชฟกระทะเหล็ก ถ้าจะให้แข่งจีบหญิงก็ว่าไปอย่าง

 ถ้าเป็นแบบนั้นรับรองไอ้ป๊อบนี่แหละจะคว้าแชมป์มาให้ คอยดู!?

      “ไม่เห็นจะยากเลยป้า พวกเราก็แค่ช่วยคุณป๊อบแปบเดียวก็เสร็จ” พี่หนูนิ่มบอกโดยมีพี่ผักหวานพยักหน้าสนับสนุนจะมีก็แต่

ป้าพิมพ์กับผมเท่านั้นที่รู้ชะตากรรมของตัวเอง

      “คุณผู้หญิงท่านสั่งห้ามไม่ให้ใครช่วยไม่งั้นท่านจะไล่ออก” ป้าพิมพ์ พี่หนูนิ่มกับพี่ผักหวานเลยได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่าง

ฝืดๆ

      “หึ ให้มันได้แบบนี้สิวะไอ้ป๊อบ!!!” ผมอุทานขึ้นเสียงดังจนทำให้คนที่เหลือต้องหันมอง ก่อนที่ผมจะหันไปถามคำถามอะไร

บางอย่างกับป้าพิมพ์

      “ป้าพิมพ์ครับ ป้าทำไอ้ขนมพวกนี้เป็นไหมครับ” ผมถามป้าพิมพ์เมื่อนึกไอเดียอะไรดีๆออก เหอะๆใครจะยอมให้คุณหญิงแม่

ชนะในเกมนี้กันล่ะคร๊าบบบบ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรออออ

      “ค่ะทำเป็นค่ะ คุณป๊อบมีอะไรเหรอคะ” ป้าพิมพ์ถามขึ้นอย่างสงสัยรวมทั้งอีกสองสาวที่ส่งสายตาสงสัยมาให้ผมไม่ต่างไปจาก

ป้าพิมพ์

      “ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เพียงแค่.........คุณหญิงแม่บอกไม่ให้ช่วย แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ใช่เหรอครับ.......ว่าไม่ให้บอก”

ผมบอกทุกคนก่อนจะหันไปส่งยิ้มพร้อมกับขยิบตาส่งให้ทุกคน  สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งรีบด่วนนับศพทหารนะครับคุณหญิงแม่

อย่าคิดว่าคู่ต่อสู้อย่างไอ้ยอดชายนายป๊อบจะยอมง่ายๆ ขอร้องถ้าฝันกลางวันอยู่ก็ช่วยตื่นเถอะครับ ฮ่าๆๆ

                                          คุณหญิงแม่กับป๊อบน่ะ เรามันกระดูกคนละเบอร์กันคร๊าบบบบบ หึๆ










มาอัพให้แล้วจร้าาาา พอดีดีสตั้งใจจะอัพให้แต่เช้า แต่ดูเหมือนเน็ตจะมีปัญหา ขอโทษนะคะที่มาช้า แต่ก็ดีกว่าไม่มาเนอะ

:mew3: :mew3: ไว้รอลุ้นกับการรับว่าที่สะใภ้ของคุณหญิงแม่กับนายป๊อบว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันส์ขนาดไหนตอนหน้านะคะ o13 o13

ปล.1 ขอบคุณทุกคอมเม้นที่ทำให้มีกำลังใจในการแต่งนะคะ

ปล.2 ช่วงนี้ใกล้สงกรานต์ ถ้าใครออกเดินทางก็ขอให้ระมัดระวังและรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ ส่วนดีสก็นั่งแต่งเรื่องนี้รับ

สงกรานต์อยู่บ้านไป 555


หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-04-2015 20:27:44
งานแรกก็งานช้างเลย คริคริ ป๊อปสู้ๆ คุณหญิงแม่เเพ้ๆ 55555
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-04-2015 21:04:49
คุณหญิงแม่ก็ดูน่ารักดีนะ ทดสอบแบบนี้ดูเป็นปัญญาชน ไม่หาทางไล่วี้ดๆว้าดๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 10-04-2015 21:27:38
แนะนำน้องป๊อบนะ ว่าที่สามีดูแล้วคงไม่มีบทบาทช่วยแน่ๆ แต่ถ้าพี่ภามมันหื่นจะปล้ำให้ขู่กลับไปว่าจะบอกความจริงกับคุณหญิงและคุณพ่อเรื่องที่จ้างมาเป็นสะใภ้จำเป็น ๕๕๕๕๕  น้องป๊อบเป็นคนต่างจังหวัดใช่มั้ย เล่นบทสะใภ้บ้านนอกเข้าไว้ หึหึ ต้องฉลาดแบบซื่อๆคับน้อง ชาติเสือต้องไม่ทิ้งลาย แอบออกไปซื้อขนมข้างริมทางที่เจ้าอร่อยๆแล้วกลับมาทำห้องครัวเลอะๆ แล้วคอยดูสิว่าคุณหญิงจะว่าไงกับขนมริมทางนั่น ๕๕๕๕ บางครั้งอันไหนทนได้ทนไปก่อน อันไหนสวนกลับได้สวนกลับทันทีรับรองคุณหญิงแม่ต้องอึ้งแน่ๆ ไม่อยากจินตนาการเอง ๕๕๕๕  รอ รอ รอ รอลุ้นว่าป๊อบจะทำไงต่อไป  ตอนใหม่คับ มาเร็วๆไวๆนะคับ  :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: 
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 10-04-2015 21:54:23
น้องป๊อบสู้ สู้  :z2:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 10-04-2015 21:58:57
งานนี้หญิงแม่ต้องมีกระอักแน่เลย เพราะว่าเจอลูกสะใภ้เลเวลเดียวกานนน… โฮะๆ :haun5:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: a_n ที่ 10-04-2015 22:24:18
นายเอก ปะทะ แม่ผัว
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 10-04-2015 23:43:24
 :m16:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 5 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน 10/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 11-04-2015 16:15:39
รอๅต่อ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 11-04-2015 16:45:58
                                                                   ตอนที่ 6 บททดสอบ.........
   
            หลังจากที่ผมได้รับออเดอร์ขนมตำรับชาววังแบบด่วนพิเศษมาจากคุณผู้หญิงของบ้าน คุณหญิงแม่ที่ผมเคารพรักและ

บูชาเป็นอย่างยิ่ง (ผมนี่กัดฟันพูดล้วนๆ) เมื่อเช้านี้ก็ต้องรีบวิ่งเข้าครัวมาปฏิบัติภารกิจที่(ว่าที่)แม่สามีมอบให้และกำชับนักกำชับ

หนาว่าให้เสร็จตรงเวลา คือ 10 โมงเช้าและที่สำคัญยังสั่งห้ามไม่ให้แม่บ้านช่วยอีกต่างหาก ไอ้ป๊อบนี่อยากจะถามคุณหญิงแม่

จากใจจริงเลยนะครับที่คิดว่าห้ามแล้วคนอย่างไอ้ป๊อบจะฟังเพราะถ้าฟังก็ไม่ใช่ไอ้ป๊อบน่ะสิคร๊าบบบบบ

      "ขนมพระพายเป็นขนมที่นิยมใช้ในงานแต่งงาน ทำจากแป้งนวดกับน้ำมะลิแล้วก็สอดไส้ค่ะ ส่วนไส้ของขนมนั้นจะมีรสหวาน"

ป้าพิมพ์บอกเล่าที่มาของไอ้ขนมพระพาย ขนมที่คุณหญิงแม่ให้ผมทำให้ท่านทานเช้านี้ จากนั้นป้าแกก็จัดแจงบอกสูตรของขนม

โดยมีผมเป็นคนทำตามสูตรที่ป้าพิมพ์บอก อ๊ะๆ จะมาโทษไอ้ป๊อบไม่ได้นะครับคุณหญิงแม่เพราะคุณหญิงแม่สั่งว่าห้ามช่วย แต่ไม่

ได้สั่งว่าห้ามบอกถือว่ายังไม่ผิดกติกานะครับ!

      “เสร็จแล้วครับป้า รายการต่อไปและต่อไปได้เลยครับ ไอ้ป๊อบพร้อมแล้วครับ” ผมบอกป้าพิมพ์ ป้าแกเลยบอกวิธีทำของสูตร

ขนมเกสรชมพูที่ตอนแรกทำออกมาก็คิดว่าข้าวเหนียวแก้วแล้วก็ยังมีขนมหม้อตาล ที่เขาเอาไว้ใช้ในงานแต่งงาน เรียกว่า ขนม

หม้อเงินหม้อทองและสุดท้ายทองเอกที่เชื่อว่าหลายๆคนคงจะรู้จักเมนูสุดท้ายนี้เป็นอย่างดี.........ยกเว้นผม

      “เสร็จแล้วโว้ย โฮะๆ แค่นี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนนายป๊อบแล้วววว” ผมยืนชื่นชมผลงานของตัวเองที่วางเรียงรายสวยงามอยู่บน

จาน ก่อนที่พี่หนูนิ่มจะรีบวิ่งเข้ามาบอกเวลา

      “ตอนนี้ 9 โมง 45 นาทีแล้วค่ะคุณป๊อบ พี่หนูนิ่มว่าเราไปจัดโต๊ะรอคุณผู้หญิงกันดีกว่านะคะ” พี่หนูนิ่มเข้ามาบอกเวลา ผมเลย

พยักหน้าเห็นด้วยเพราะถ้าขืนช้าเกินเวลากำหนดเดี๋ยวคุณหญิงแม่จะองค์ลง เอ้ย! กริ้วโกรธโกรธาเอาได้

      “แค่นี้ก็เรียบร้อยทีนี้ก็รอเวลาให้คุณหญิงแม่ลงมาลิ้มรสชาติขนมไทยชาววังต้นตำรับฝีมือไอ้ป๊อบ” ผมบอก ก่อนจะนั่งรอที่โต๊ะ

อาหาร รอให้ถึงเวลาที่คุณหญิงแม่จะลงมา ส่วนคนที่เหลือก็ยืนรอลุ้นไปกับผมด้วย ผมอยากจะให้ถึง 10 โมงเช้าจริงๆเล้ย อยาก

จะดูสิว่าคุณหญิงแม่สุดรักสุดสวาทจะทำหน้ายังไง จะบึ้งตึงเหมือนตูดลิงแสมหรือจะหน้าหงิกเหมือนตูดเป็ดกันแน่ 

                                                              แค่คิดก็ขำแล้วโว้ยยยย ฮ่าๆๆๆ

                           

      “เป็นอย่างไรบ้างครับคุณหญิงแม่ อร่อยเหมือนชาววังทำเองเลยไหมครับ” ผมถามคุณหญิงแม่พร้อมกับฉีกยิ้มที่หวานกว่า

ทองเอกในจานไปให้ท่าน ส่วนคุณหญิงแม่ที่นั่งทำหน้าจะกรี๊ดก็ไม่กรี๊ด จะโกรธก็ไม่โกรธ เอาเป็นว่าใครได้มาอยู่ในสถานการณ์

เดียวกันกับผมก็คงจะต้องกลั้นขำแทบตายแน่ๆ ก็เหมือนผมตอนนี้ไงครับที่กลั้นขำแก้มแทบฉีกอยู่แล้วเนี่ย ฮ่าๆๆ

        หลังจากที่เวลาครบกำหนดคุณหญิงแม่สุดรักของผมก็เดินลงมาจากชั้นบนของบ้านอย่างสบายอุรา แต่ก็ต้องมาหน้าชาเมื่อ

เจอหน้าไอ้ป๊อบที่นั่งฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวเรียงสวยสามสิบเอ็ดซี่ (พอดีซี่ที่สามสิบสองเพิ่งหักไปเมื่อสองปีก่อน)อยู่ที่โต๊ะกินข้าว

เพราะคุณแม่คงไม่คิดว่าไอ้ป๊อบจะได้มานั่งหน้าสลอนรอท่านก่อนเวลาแบบนี้ ก็แหงล่ะ ก็ขนมแต่ละอย่างที่พี่ท่านสั่งให้ผมทำก็

ไม่มีการถงไม่มีการถามสุขภาพส๊ากกกกคำ จากนั้นผมก็เลยต้องรีบกุลีกุจอไปรับท่านลงจากบันได ทำหน้าที่ว่าที่ลูกสะใภ้ที่ดีเพื่อ

ที่จะได้พาท่านมานั่งชิมรสชาติขนมหวานสูตรชาววังที่คุณแม่อยากทานมากกก โดยมีไอ้ป๊อบคนนี้นี่แหละที่อาสาเป็นพ่อครัวให้

      “เป็นยังไงบ้างครับ พอจะถูกอกถูกใจแล้วก็ถูกปากคุณแม่ไหมครับ” ผมถามท่านอีกครั้ง แต่ก็ได้สายตาไม่พอใจส่งมาให้แทน

ซึ่งไอ้ป๊อบจะถือว่ามันเป็นคำชมว่าอร่อยก็แล้วกันนะครับ

      “เอ หรือว่ามันจะอร่อยมากกกกจนคุณหญิงแม่พูดไม่ออก” ผมแกล้งทำสีหน้าประหลาดใจ จนคุณหญิงแม่ต้องสะบัดหน้ากลับ

มามองอย่างเคียดแค้น ผมอยากจะบอกคุณหญิงแม่จริงๆว่าควันออกหูแล้วมั้งครับ เหอะๆ

      “ฉันไม่รู้ว่าเธอใช้วิธีสกปรกอะไรกับสิ่งที่ฉันให้เธอทำ แต่อย่านึกนะว่าแค่นี้เธอจะเอาชนะฉันได้ ฝันอยู่ล่ะสิไม่ว่า หึ” คุณหญิง

แม่ว่า แต่พอดีคนอย่างไอ้ป๊อบเนี่ยก็ไม่ยอมโดนว่าอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะครับ

      “คุณหญิงแม่หรือป๊อบครับที่กำลังฝันเพราะถ้าเป็นป๊อบก็คงจะไม่ใช่เพราะป๊อบรับรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทุกอย่าง รู้ว่า

ตอนนี้ป๊อบเป็นแฟนของพี่ภาม แถมยังพ่วงตำแหน่งว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์อีกต่างหาก” ผมตอบกลับ คุณหญิงแม่จึงลุกขึ้น

จากที่นั่งมองผมอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยังคงเก็บอาการเอาไว้ แหงล่ะก็คุณหญิงท่านเป็นลูกผู้ดี เป็นลูกหลานชาววังจะทำอะไรก็ต้อง

คอยสำรวมอาการ

      “ที่ฉันให้เธอทำมันก็แค่น้ำจิ้ม” อือหือ น้ำจิ้ม? สงสัยจะเป็นซีฟู้ดแน่ๆ ดุเด็ดเผ็ดร้อนชิบหายเลย

      “ต่อจากนี้สิเธอถึงจะได้เจอของจริง อ้อ แต่ถ้าเธอทำไม่ไหวก็บอกนะ ฉันอนุญาตให้เธอไม่ต้องทำ แต่เธอต้องเลิกยุ่งกับ

ลูกชายของฉันเด็ดขาด!” คุณหญิงแม่ว่า ดีครับ ไอ้ป๊อบชอบท้าทายอำนาจมืด แบบนี้สิมันค่อยเป็นการรับลูกสะใภ้อย่างถึงใจกัน

หน่อย

      “ตกลงครับ แต่ถ้าหากว่าป๊อบผ่านบททดสอบของคุณหญิงแม่ทั้งหมด คุณหญิงแม่จะต้องยอมให้ผมคบกับพี่ภามและต้อง

ยอมรับผมในฐานะว่าที่ลูกสะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์ด้วย ถือเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ตกลงไหมครับ” ผมยื่นข้อเสนอให้คุณหญิงแม่

ท่านจึงพยักหน้าตกลง

      “เธอเตรียมตัวรับมือกับบททดสอบของฉันให้ดีก็แล้วกัน” คุณหญิงแม่ว่า ก่อนจะยกยิ้มอย่างเป็นต่อมาให้ แต่คิดเหรอว่าคน

อย่างผมจะกลัว ถ้ากลัวผมก็คงไม่ได้เป็นไอ้ยอดชายนายป๊อบมาจนถึงทุกวันนี้หรอก!

      “ผมเตรียมตัวมาตั้งแต่พ่อกับแม่ปฏิสนธิกันแล้วล่ะครับ คุณหญิงแม่ไม่ต้องห่วง แต่ถ้าจะให้ดีป๊อบอยากจะให้คุณหญิงแม่ซ้อม

เรียกป๊อบว่า ลูกป๊อบน่าจะดีกว่านะครับ” พูดจบผมก็เดินออกจากโต๊ะอาหารทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ไว้ก่อนจะเดินไปเตรียมตั้งรับศึกหนัก

               ใครว่าไอ้ป๊อบเตรียมตัวมาตั้งแต่เกิด แค่จะรียกชื่อแม่ให้ชัดก็เล่นเอาแม่แทบตาย งามไส้แล้วไงไอ้ป๊อบเอ้ย!

                           

      “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยย” หลังจากที่เดินออกจากโต๊ะอาหารผมก็ตรงมาที่สวนหลังบ้าน ก่อนจะทำการเรียกหาญาติสนิทที่

ไม่ได้เจอกันนานที่สวนหลังบ้าน ก่อนที่หัวอันแสนบอบบางของผมจะโดนประทุษร้าย

        เพี๊ยะ!

      “พ่องตาย!” และไม่รอช้าผมก็พ่นคำสุดแสนน่ารักออกไปด่าไอ้ตัวการที่กล้าบังอาจมาตบหัวไอ้ป๊อบสุดหล่อคนนี้

      “พ่อกูก็ว่าที่พ่อสามีมึงนะไอ้ป๊อบ แล้วมึงเป็นไรเนี่ยหรือว่า!..มึงมีอะไรกับพี่กูแล้วเมนส์ไม่มา! ซวยแล้วไงมึง” ไอ้ห่าภัทร

ใครก็ได้ลากไอ้เหี้ยนี่ไปฆ่าแล้วหมกศพมันที่ป่าช้าที ซึ่งผมจะขอบพระคุณเป็นอย่างมาก

      “มึงเหอะที่เมนส์ไม่มา ไอ้เพื่อนเวรนี่ใช่เวลามาล้อเล่นไหมเนี่ย” ผมด่ามัน ก่อนที่เราทั้งคู่จะหาที่นั่งเย็นๆใต้ต้นไม้เพื่อหลบ

แดดซึ่งก็โชคดีที่มีม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ ส่วนไอ้ดวงอาทิตย์แม่งจะมาให้ความอบอุ่นอะไรกับโลกกูนักหนา แม่งอุ่นจนไม่ดูหนัง

หน้ากูเลยว่ากร้านเพราะรังสียูวีมึงเท่าไรแล้ว

      “กูล้อเล่น กูก็แค่เห็นมึงเดินออกมาจากบ้านหน้าตาเหมือนลำไส้ใหญ่มึงตัน กูก็เลยอยากให้มึงอารมณ์ดีขึ้นก็เท่านั้น” ไอ้ภัทร

บอก แต่แววตามึงนี่ดูสะใจมากครับไอ้เพื่อนรัก

      “เหรอออ แล้วเป็นไงล่ะ กูอารมณ์ดีขึ้นไหม” ผมถาม ก่อนจะมองมันอย่างเคืองๆ คนยิ่งเครียดๆอยู่เพราะไม่รู้คุณหญิงแม่ท่าน

จะมาไม้ไหนอีก

      “โดนหม่อมแม่จัดหนักมาเหรอ” ไอ้ภัทรถาม ผมนี่อยากจะให้มันเห็นหน้าแม่ตัวเองตอนที่จะเอาชนะผมให้ได้จริงๆเลย มันจะ

ได้รู้ว่าที่ผมเจอมันเลยคำว่าหนักไปไกล

      “หม่อมแม่มึงบอกแค่น้ำจิ้ม แต่คราวหน้าจะเป็นบททดสอบจริง” ผมบอกไอ้ภัทรตามที่คุณหญิงแม่บอกมาอีกที

      “สู้ๆเว้ยมึง เออ แต่กูสงสัยมากมีเรื่องอยากจะถามมึงตั้งนานละ” ไอ้ภัทรขมวดคิ้วถามผม ตั้งแต่รู้จักกับมันมาเวลาสอบหรือ

เวลาเรียนที่หนักๆมันยังไม่เคยขมวดคิ้วแบบนี้ แสดงว่าเรื่องที่มันสงสันต้องเรื่องใหญ่แน่ๆเลย

      “ว่ามาเพื่อน กูพร้อมตอบทุกคำถาม” ผมทำหน้าจริงจังพร้อมตอบคำถามที่ไอ้ภัทรจะถาม

      “คือกูก็รู้จักกับมึงมานานแล้ว แล้วกูก็พอรู้ว่ามึงมันห่าม ชอบเอาชนะแล้วที่สำคัญมึงไม่ยอมคน” ไอ้ภัทรพูด ผมก็พยักหน้ารับ

เพราะตัวผมก็เป็นอย่างที่มันพูดเป๊ะทุกข้อ

      “แต่ที่มึงทำแบบนี้มันมีมากกว่าคำว่าอยากเอาชนะไหมวะ” ไอ้ภัทรถาม แต่ผมกลับขมวดคิ้วไม่เข้าใจในคำถามมัน

      “มึงก็รู้ว่ากูตกไทยไม่ชอบแปลไทยเป็นไทย มึงช่วยถามใหม่อีกทีซิ” ผมบอก มันจึงพยักหน้าพยายามเรียบเรียงคำพูดแล้ว

ถามผม

      “คือที่มึงยอมลงทุนสู้รบตบตีกับแม่กูทุกวันนี้อ่ะ มึงคิดอะไรกับพี่กูรึเปล่าวะ” ไอ้สาดดดดดดดด

      “คิด.............แต่กูคิดอยากจะฆ่าพี่มึงให้ตายไปจากโลกนี้เลยน่าจะดีกว่าเพราะพี่มึงนั่นแหละที่ทำให้ผู้ชายที่มาดแมนแฮน

ซั่มอย่างกูต้องมาเป็นแฟนกับผู้ชาย แถมยังต้องมาทำหน้าที่เป็นสะใภ้อีกต่างหาก” ผมบอกไอ้ภัทรอย่างเซ็งๆ ถ้าไม่ติดที่ว่าเงิน

เดือนดีกับการออกค่ารักษาพยาบาลให้แม่กับค่าเรียนให้น้องจ้างให้ผมก็ไม่ทำหรอก........................มั้ง?

      “แล้วถ้าสมมตินะ ถ้าเกิดว่าที่มึงทำอยู่ทุกวันนี้ไม่มีค่าจ้าง มึงตัดเรื่องที่มึงไม่ชอบพี่กูออกไปให้หมดนะ อ่ะโอเคยังมึง” ไอ้ภัทร

ถาม ผมเลยพยักหน้า โอเคที่กูทำทุกวันนี้ไม่มีเรื่องค่าจ้างเข้ามาเกี่ยว ไม่มีเรื่องเหม็นขี้หน้าไอ้หื่นด้วย

      “มึงคิดอะไรกับพี่กูรึเปล่าวะ” ทันทีที่ไอ้ภัทรถามจบ ผมกลับรู้สึกแปลกๆ มันไม่ได้ใจเต้นแรงเหมือนที่นางเอกปิ๊งพระเอกหรือ

เกิดอาการร้อนวูบวาบเหมือนอุณหภูมิในร่างสูงขึ้น แต่มันกลับมวนในท้องแปลกๆ มันแน่นๆเหมือนจะอึดอัดแต่ก็ไม่ใช่ สรุปแล้ว

ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นมันเรียกว่าอะไรกันแน่วะ........................

                             











      “ฮัลโหล” ทันทีที่ผมเห็นชื่อคนโทรเข้า ผมก็รีบกดรับสายทันทีก่อนที่ปลายสายจะโทรรายงานผล

      “เฮียภัทรลองถามๆไอ้ป๊อบมันแล้วนะเฮีย แต่มันไม่ตอบคำถามภัทร แต่ภัทรว่าเฮียมีลุ้นนะ”

      “ขอบคุณมากนะ แค่นี้ก่อนล่ะ พอดีเฮียติดธุระ” ผมบอกไอ้ภัทรก่อนจะกดวางสาย

        เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นเพราะไอ้น้องชายตัวดีของผมที่อยู่ดีๆมันก็ถามผมในตอนเช้าก่อนไปทำงานว่า เฮียคิดไรกับไอ้

ป๊อบปะเนี่ย เท่านั้นแหละครับเราทั้งคู่เลยคุยกันยาวเลย

        ผมเลยจัดการลากไอ้ภัทรให้มาที่บริษัทด้วยเพราะเนื่องจากเช้านี้ผมมีนัดกับลูกค้าวีไอพีเจ็ดโมงเช้าเลยต้องรีบออกจากบ้าน

ทิ้งอีกคนให้นอนหลับเป็นตายอยู่บนที่นอน คิดแล้วก็ขำ ก็เพราะเมื่อคืนไอ้เด็กแสบมันเป็นคนเอาหมอนข้างมากั้นเขตแดนผมกับ

ตัวมันเองอยู่แท้ๆ แต่พอตื่นเช้ามากกลับมานอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของผมซะได้ แถมผ้าห่มยังร่วงไปอยู่ที่พื้น ตัวก็ไม่ใช่

เล็กๆยังจะนอนดิ้นเป็นเด็กๆ ผมเลยจัดแจงหยิบผ้าห่มที่ตกพื้นขึ้นมาห่มให้ใหม่ คิดแล้วก็ขำตัวเองชะมัดเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่

เคยทำให้ใครถึงขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ เฮ้อ! กลับเข้าเรื่องดีกว่าครับ

      “สรุปว่าเฮียชอบไอ้ป๊อบเพื่อนภัทรปะเนี่ย” ไอ้ภัทรถามผมทันทีที่ผมลากมันเข้ามาในห้องทำงาน

      “ไม่รู้ ไม่ชอบ” ผมตอบ ไอ้ภัทรเลยได้แต่หรี่ตาจับผิด

      “ไม่เชื่อ ในฐานะที่ภัทรเป็นน้องเฮีย ภัทรรู้ดีว่าพี่ชายของภัทรถ้าไม่สนใจใครคงไม่ทุ่มขนาดนี้หรอกหรือว่าไม่จริง”

ผมล่ะเกลียดไอ้ภัทรมันจริงๆที่มันชอบรู้ดีไปซะทุกเรื่อง

      “เออจริง เฮียก็แค่สนใจแต่ไม่ได้ชอบ” ผมมองหน้าไอ้ภัทรก่อนตอบ มันจึงได้แต่ส่ายหน้าไปมา อะไรของมันอีกวะ

      “เฮีย ความชอบกับให้ความสนใจมันก็มีแค่เส้นบางๆคั่นนะเฮีย ตั้งแต่ภัทรเกิดมาเฮียยังไม่เคยลงทุนถึงขนาดเอาเรื่องเงินมา

เป็นข้ออ้างเพื่อให้ได้เขามา ไม่ออกค่ารักษาพยาบาลให้ใครหรือดูแลใครถ้าเขาคนนั้นไม่มีผลประโยชน์กับเฮีย แต่ในกรณีของไอ้

ป๊อบมันไม่ใช่ ใช่ไหมเฮีย” ไอ้ภัทรถามผมเสียงนิ่ง เขาว่าถ้าเรื่องไหนที่เป็นเรื่องจริงเราจะปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งแน่นอนเรื่องนี้ผมไม่รู้จะ

ปฏิเสธไอ้ภัทรยังไงดีเหมือนกัน

      “เฮียก็แค่บอกภัทรมา ภัทรพร้อมช่วยเฮียเสมอ” ไอ้ภัทรพูด

      “เฮียยอมรับว่าเฮียก็รู้สึกดีกับป๊อบ แต่เฮียยังไม่ขอเรียกมันว่าความรักหรือความชอบเพราะเฮียต้องการความมั่นใจก่อนเพราะ

เฮียไม่อยากให้ความหวังใครทั้งๆที่เฮียเองก็ไม่รู้ว่าเฮียจะรักเขาหรือเปล่าและทั้งๆที่เฮียก็ไม่รู้ว่าเฮียรักเขาแล้วเขาจะรักเฮียเหมือน

กันหรือเปล่า” ผมตอบ ไอ้ภัทรจึงพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะบอกแผนการของมัน จนเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมามันก็โทรมารายงานความ

คืบหน้า จนทำให้ผมได้รู้ว่า

                                     อย่างน้อยๆแผนการบ้าๆของไอ้น้องชายก็ทำให้ผมรู้ว่าผมก็ยังพอมีหวัง

                             









      “เอาล่ะตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องเริ่มรับบททดสอบของฉันแล้ว พิมพ์เธอห้ามช่วยไอ้เด็กนี่นะแล้วก็บอกทุกคนด้วยเพราะมัน

เป็นบททดสอบระหว่างฉันกับว่าที่ลูกสะใภ้เท่านั้นเข้าใจไหม” คุณหญิงแม่หันไปสั่งกำชับกับป้าพิมพ์ ป้าแกเลยต้องจำใจพยักหน้า

รับ จากนั้นคุณหญิงแม่จึงสะบัดบ๊อบหันมาบอกบททดสอบแรกกับผม

      “งานแรก การที่เธอจะมาเป็นสะใภ้ของที่นี่ เธอจะต้องเรียนรู้งานบ้านงานเรือนและที่สำคัญต้องมีเสน่ห์ปลายจวัก ฉันเลยอยาก

จะให้เธอจัดดอกไม้มาให้ฉันดูหน่อยว่าเธอมีคุณสมบัติพอที่จะมาเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ที่ฉันตั้งเกณฑ์เอาไว้รึเปล่า” งานแรกมาก็ฆ่าไอ้

ป๊อบชัดๆ แต่คนอย่างไอ้ป๊อบมีเหรอที่จะยอมเสียฟอร์มง่ายๆ

      “ได้เลยครับคุณหญิงแม่ คุณหญิงแม่ไม่ต้องห่วงเลยนะครับเดี๋ยวป๊อบจะจัดดอกไม้ให้นักจัดดอกไม้มืออาชีพต้องชิดซ้ายกัน

ไปเลยล่ะครับ” ผมบอกคุณหญิงแม่ ก่อนที่ท่านจะเดินสะบัดบ๊อบออกไป ไอ้ที่ว่าชิดซ้ายน่ะ มันไอ้ป๊อบต่างหากล่ะครับ

                                                          แม่จ๋าช่วยป๊อบด้วย ฮือๆๆๆ












แค่บททดสอบเเรกนายป๊อบก็ร้องหาแม่ซะแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ หวังว่านายป๊อบจะผ่านพ้นไปได้นะ  :hao7: :hao7: :hao7:

ยอดชายนายป๊อบซะอย่างหมูหวาน เอ้ย! หวานหมูอยู่แล้วเนอะ ฮ่าาาาาา  o13 o13

ปล.1วันนี้มาอัพให้เร็วกว่าเมื่อวานเลย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและมาคอมเม้นให้นะคะ

ปล.2 มีคอมเม้นนึงบอกว่านายป๊อบของเราเป้นคนต่างจังหวัดให้ใช้ความซื่อเข้าช่วยเดี๋ยวดีสจะฝากเรื่องนี้ไปบอกนายป๊อบให้นะ

คะ ;)   :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-04-2015 17:18:22
ป๊อบสู้ๆ :mew5: <<< (หน้ามั่นใจมาก) เราเชียร์อยู่น้าา
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-04-2015 17:33:43
สู้นะ ขอให้ได้พี่ภามไวๆ อร้ายยย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 11-04-2015 17:59:30
นายเอกผมก็น่าจะมีอะไรดีๆกับเขาบ้างสิ ก็รู้อยู่ว่าผู้ชาย ทำอะไรไม่เป็นเลยเนี้ยมันก็แย่นะ อค่ฝีปากเก่งกับความฉลาดในการเอาตัวรอดแบบนี้มันก็ไม่ดีนะ น่าเอกก็น่าจะมีอะไรดีๆเด่นๆมาเป็นหลักประกันบ้าง แค่ความกตัญญูมันไม่พ่อหรอก มันต้องมีความรู้หลายๆเรื่องเอาไว้เลี้ยงชีพบ้าง
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-04-2015 18:00:29
น้องป๊อบสู้ๆ นะครับ เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-04-2015 18:33:21
 :laugh:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: armize ที่ 11-04-2015 23:50:35
ัสุดยอด
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 12-04-2015 00:54:21
ป๊อบจ๋าอย่าเพิ่งร้องหาแม่สิลูก! 555
เห็นทีว่าไม้เดิมคงไม่ได้ผล คราวนี้ป๊อบจะมีอะไรไปรับมือ (ว่าที่) คุณแม่สามีนะ
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ!
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 12-04-2015 02:39:01
ดุเด็ดเผ็ดมันดีแท้
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-04-2015 02:53:44
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: HamsteR ที่ 12-04-2015 04:52:08
เราอ่านแล้วคิดอีกแบบนะ มันเหมือนว่าไม่ใช่แค่การปะทะ โต้คารมณ์หรือเอาชนะกันเพียงอย่างเดียว
แต่มันเหมือนกับว่าคุณหญิงสรรหาบททดสอบมาเพื่อขัดเกลานายเอกให้กลายเป็นผู้ดี(ไม่ได้หมายถึงตระกูล แต่เป็นบุคลิก การวางตัว มารยาท ฝีไม้ลายมือ เสน่ห์ ฯลฯ) และสมฐานะลูกสะใภ้ในอนาคต

หลังจากนี้คงจะมันหยดแน่ๆ ความสัมพันธ์ก็คงค่อยๆพัฒนาขึ้นด้วย
(แล้วมันจะมีมาม่ารออยู่มั๊ยหว่าา) :hao4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 12-04-2015 11:58:53
น้องป๊อบ สู้ สู้  :L2:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 6 บททดสอบ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 12-04-2015 13:28:47
งานนี้มันส์แน่
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 7 ต้องสู้จึงจะชนะ 12/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 12-04-2015 20:58:42
                                                                   ตอนที่ 7 ต้องสู้จึงจะชนะ.........

      “อ๊ากกกกกก อยากตายโว้ยยยย!!”

      “ใจเย็นๆก่อนสิคะคุณป๊อบ”

      “ใจเย็นเหรอครับ พี่ผักหวานจะให้ป๊อบใจเย็นอย่างนั้นเหรอครับ ตอนนี้ ป๊อบอยากจะบ้าตายอยู่แล้วจะให้ป๊อบมาใจเย็นป๊อบ

คงทำไม่ได้ก็ในเมื่อพี่ดูงานที่คุณหญิงแม่ให้ป๊อบทำสิครับ มันงานผู้หญิงชัดๆ คิดเหรอว่าคนอย่างไอ้ป๊อบจะเคยทำ!” ผมว่า

ก่อนจะเอามือมาขยี้หัวตัวเองที่มันยุ่งอยู่แล้วให้ยุ่งมากขึ้นไปอีก

        ตอนนี้ผมกำลังนั่งโอดครวญอยู่ในห้องครัวของบ้านสุริยศักดิ์ โดยมีพี่ผักหวานมานั่งให้กำลังใจเป็นเพื่อน ส่วนคนอื่นๆคุณ

หญิงแม่ก็เรียกใช้งานซะหมด ผมเลยได้แต่นั่งเครียดเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี

      “แต่คุณป๊อบก็รับปากคุณผู้หญิงไปแล้วว่าจะทำ แถมยังบอกอีกว่าทำได้สบายใจหายห่วงเองไม่ใช่เหรอคะจะมานั่งเครียดตอน

นี้พี่ว่ามันคงไม่ทันแล้วล่ะค่ะ” พี่ผักหวานเอ่ยขึ้น โถ่! พี่ผักหวานครับได้โปรดอย่าซ้ำเติม

      “ก็ที่ป๊อบพูดไปตอนนั้นมันเพราะอารมณ์ล้วนๆนี่ครับเป็นพี่ผักหวานจะยอมเหรอครับ ป๊อบพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าป๊อบไม่

ยอมหรอก” ใช่ คนอย่างไอ้ป๊อบไม่มีทางยอมคุณหญิงแม่ของไอ้หื่นภามเด็ดขาด ผมถึงได้อยู่ในสภาพนี้ยังไงล่ะครับ เหอะๆ เป็น

ไงล่ะมึง ซึ้งในรสพระธรรมเลยไหมล่ะ?!

      “เฮ้อ! พี่ก็ไม่รู้จะช่วยคุณป๊อบยังไงดีนะคะเพราะถ้าให้ทำอาหารพี่ยังพอช่วยได้ แต่ให้จัดดอกไม้คงต้องยกให้ป้าพิมพ์กับหนู

นิ่มโน่นล่ะค่ะเพราะสองคนนั้นมีหน้าที่จัดดอกไม้ให้คุณผู้หญิงเป็นประจำ” พี่ผักหวานว่า เฮ้อ! แล้วไอ้ป๊อบจะรอดไหมเนี่ย

      “คุณผู้หญิงน่ะไม่ใช่ว่าใครจะมาต่อกรได้ง่ายๆหรอกนะคะ ถึงแม้ท่านจะไม่ทำตัววี๊ดว้ายคอยไล่ว่าที่สะใภ้ที่ตัวเองไม่ปลื้ม

เหมือนแม่สามีคนอื่นๆ แต่ท่านก็จะใช้วิธีของท่านแบบที่คุณป๊อบเจอนี่ล่ะค่ะเพราะคุณผู้หญิงรู้ว่าผู้หญิงสมัยนี้มักจะแต่งตัวสวยๆไป

วันๆแล้วก็คอยจับผู้ชายที่หน้าตาดีมีฐานะที่ร่ำรวย แต่ตัวเองก็ทำงานทำการไม่เป็น คุณผู้หญิงเลยอยากจะให้ว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ

เป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในทุกๆด้านเลยทดสอบคุณป๊อบแบบนี้ยังไงล่ะคะ” พี่ผักหวานว่า ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับแนวคิดของคุณหญิง

แม่ แต่เอ่อ...พอดีว่าผมเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง ไม่จำเป็นต้องมาทดสอบงานบ้านงานเรือนก็ได้ ทดสอบไอ้ป๊อบโดยให้จัดสวน

ซ่อมประปายังง่ายซะกว่าเลย

      “แต่ป๊อบก็ไม่ใช่ผู้หญิงนะครับพี่ผักหวาน” พี่ผักหวานเลยได้แต่ส่งยิ้มบางๆมาให้
 
      “แต่คุณป๊อบก็เป็นว่าที่สะใภ้ของบ้านนี้นะคะ” ว่าจบพี่ผักหวานก็ขอตัวไปทำงานในส่วนของเธอต่อ ส่วนผมก็อยากจะบอก

ความจริงกับพี่ซะเหลือเกินว่าผมถูกจ้างมาให้ทำหน้าที่ว่าที่สะใภ้ต่างหากซึ่งผมก็ไม่ได้พิศวาสไอ้ตำแหน่งนี้สักเท่าไร

      “เฮ้อ!” ผมได้แต่นั่งถอนหายใจปลงกับสิ่งที่ตัวเองเจอ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดกูเกิลที่ทุกวันนี้มันกับผมก็เรียกได้ว่าแทบ

จะเป็นเครือญาติเดียวกันอยู่แล้ว

      “วิธีจัดดอกไม้ง่ายๆ” ผมลองค้นหาวิธีจัดดอกไม้ง่ายๆสำหรับมือใหม่เผื่อมันจะช่วยชีวิตผมได้บ้าง แต่ก็ไม่มีเว็บไซต์ไหนที่มัน

จะง่ายพอที่จะให้มือใหม่อย่างผมทำได้บ้างเลย

      “เอาไงดีวะไอ้ป๊อบ” ผมได้แต่นั่งปลงตกกับตัวเอง ก่อนจะคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ แน่นอนว่าไอ้เรื่องแกล้งคน คนอย่าง

ไอ้ยอดชายนายป๊อบนี่แหละถนัดที่สุด โฮะๆๆๆๆ





                       

      “เสร็จแล้วคร๊าบบบ ไอ้ป๊อบจัดดอกไม้มาให้คุณหญิงแม่เสร็จเรียบร้อยแล้วคร๊าบบบบบบบบบ” ผมตะโกนเรียกคุณหญิงแม่มา

แต่ไกล ท่านที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกเงยหน้าขึ้นมามองผมและจัดแจงวางหนังสือเล่มนั้นลงพร้อมกับถามผม

เสียงเรียบ ซึ่งผมคาดว่าคุณหญิงแม่คงกำลังเก็บอาการไม่พอใจผมแน่ๆ แต่ก็ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ พอดีว่า...คุณหญิง

แม่อยากมีว่าที่ลูกสะใภ้ที่ฉลาดเป็นกรดอย่างไอ้ยอดชายนายป๊อบเอง หึๆ

      “ไหนล่ะสิ่งที่ฉันให้เธอทำ ฉันก็อยากจะดูผลงานเธอเหมือนกันว่ามันจะดีสักแค่ไหน” คุณหญิงแม่ว่า ผมเลยฉีกยิ้มหวานปาน

น้ำผึ้งเดือนห้าที่คาดว่าน่าจะหวานพอที่ทำให้หน้าคุณหญิงแม่บึ้งตึงเอาได้พร้อมกับเรียกพี่ผักหวานให้ช่วยถือผลงานการจัด

ดอกไม้ของผมออกมาให้คุณหญิงแม่ได้ยลเสียหน่อยเผื่อจะถูกอกถูกใจคราวหน้าจะได้เรียกใช้บริการไอ้ป๊อบใหม่

      “อร๊ายยย! นี่เธอทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย ฉันบอกให้จัดดอกไม้ไม่ใช่ให้เอาดอกไม้มาจัดเรียงใส่ถาดให้ฉันแบบนี้!! แล้วดูเธอ

ทำ!! เธอเอาดอกไม้ในสวนที่ฉันปลูกเองกับมือมาตัดก้าน ใบ ทิ้งๆขว้างๆแบบนี้ได้ยังไง!! โอ๊ยฉันจะเป็นลม เฮ้อออออ!” คุณหญิง

แม่ว่า ก่อนที่จะทำท่าเหมือนคนกำลังจะเป็นลม โชคดีที่ป้าพิมพ์อยู่ด้วยเลยช่วยประคองไว้ได้ทัน ส่วนผมก็ยืนยิ้มพริมใจในผลงาน

ที่ตัวเองทำ

      “หนูนิ่มไปเอายาดมมาให้คุณผู้หญิงหน่อยเร็ว” เสียงป้าพิมพ์ตะโกนบอกพี่หนูนิ่มที่ยืนทำอะไรไม่ถูกข้างกัน ก่อนที่เธอจะพยัก

หน้ารับแล้ววิ่งออกไปเอายาดมมาให้คุณผู้หญิงของบ้านตามที่ป้าพิมพ์บอก

      “พี่หนูนิ่มครับป๊อบว่าพี่ควรเอามาทั้งยาดม ยาลม ยาอม ยาหม่องเลยนะครับเพราะป๊อบกลัวว่าคุณหญิงแม่จะมีอันเป็นไป

อุ๊ย! เป็นหนักเอาได้ครับ ฮ่าๆ” ผมตะโกนบอกพี่หนูนิ่มที่รีบวิ่งออกไปทันทีที่ป้าพิมพ์บอก ส่วนพี่ผักหวานที่ยืนถือถาดดอกไม้เมด

บายป๊อบก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้คุณผู้หญิงของบ้านที่ตอนนี้กำลังนอนพักที่โซฟาแต่ก็ไม่วายตวัดสายตามามองผมเรียกได้ว่าถ้า

มีไฟออกมาจากตาได้ผมคงไหมไปทั้งตัวแล้วล่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

      “คุณหญิงแม่เป็นอะไรมากรึเปล่าครับต้องถึงขั้นเข้าโรงพยายาบาลไหมครับเนี่ย” ผมแกล้งทำทีเป็นห่วงคุณหญิงแม่ที่แทบจะ

เป็นลมล้มพับไปอีกรอบเมื่อผมนั่งลงใกล้ๆท่านพร้อมกับถามถึงอาการของท่านด้วยความห่วงใย.......จริงจริ๊งงงง!

      “มาแล้วค่ะป้าพิมพ์” พี่หนูนิ่มที่วิ่งไปหายาดมมาให้ป้าพิมพ์เมื่อครุ่ก็วิ่งมาพร้อมยาดมสองอันพร้อมกับยื่นให้ป้าพิมพ์ที่ตอนนี้

กำลังส่งให้คุณผู้หญิง

      “เธอจงใจจะแกล้งฉัน เธอรู้ว่าแปลงดอกไม้ที่อยู่ในสวนหลังบ้านเป็นแปลงที่ฉันรักมาก” คุณหญิงแม่ที่รับยาดมจากป้าพิมพ์มา

ดมก็ลุกขึ้นนั่งโดยมีป้าพิมพ์ประคองให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่ผมจะโดนท่านว่าไปตามระเบียบ

      “ป๊อบเปล่าแกล้งนะครับก็คุณหญิงแม่สั่งป๊อบเองว่าให้ป๊อบจัดดอกไม้ ป๊อบก็จัดให้ตามที่คุณหญิงแม่ต้องการแล้ว แต่อยู่ดีๆ

คุณหญิงแม่ก็มาเป็นลมล้มพับไปเอง เรื่องนี้ป๊อบไม่ผิดนะครับ” ผมบอกคุณหญิงแม่ด้วยใบหน้าใสซื่อ แต่ในใจผมนี่สิครับลิงโลดจะ

ตายที่ทำให้คุณหญิงแม่ที่ชอบเอาชนะคนอื่นเป็นงานอดิเรกเป็นลมล้มพับด้วยฝีมือไอ้ยอดชายนายป๊อบคนนี้

      “ฉันบอกให้เธอตกแต่งดอกไม้พวกนี้แล้วก็เอาไปปักในแจกันดอกไม้ ไม่ใช่ให้เธอมาทำแบบนี้!!” คุณหญิงแม่ตวาดลั่น สงสัย

คงจะโกรธมากอยู่แฮะ อย่างนี้ก็เข้าทางไอ้ป๊อบสิครับ ไอ้งานปั่นหัวคนเนี่ยของชอบไอ้ป๊อบเลย คริๆ

      “อ้าว? คุณหญิงแม่ให้ป๊อบทำแบบนี้หรอกเหรอครับ แล้วทำไมคุณหญิงแม่ถึงไม่บอกป๊อบตั้งแต่ตอนแรกล่ะครับ แบบนี้เขา

เรียกว่า ปักดอกไม้ในแจกันนะครับ ป๊อบก็เข้าใจว่าให้ตัดดอกไม้ส่งๆแล้วเอามาเรียงไว้ในถาด” ผมตอบคุณหญิงแม่พร้อมกับทำ

หน้าตาที่คิดว่าแอ๊บได้ใสซื่อสุดๆไปให้คุณหญิงแม่ ตอนนี้ท่านก็เลยชี้หน้าว่าผม

      “คนอย่างเธอน่ะเหรอที่ไม่รู้ ฉันว่าเธอแกล้งโง่มากกว่า!” คุณหญิงแม่ว่า พร้อมกับยกหลอดยาดมขึ้นมาดม

      “ป๊อบไม่ๆได้แกล้งนะครับ ป๊อบเป็นเด็กบ้านนอกแล้วที่สำคัญป๊อบตกภาษาไทยเลยไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่คุณหญิงแม่

พูด....สักเท่าไร” ผมตอบก่อนฉีกยิ้มกว้างให้คุณหญิงแม่สุดที่รัก

      “ฉันไม่สนว่าเธอจะรู้หรือแกล้งไม่รู้  แต่เรื่องนี้คุณพี่ ตาภามและตาภัทรต้องรับรู้ คอยดูฉันจะไม่มีทางยอมแพ้เธอเด็ดขาด

เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ของเธอเย็นนี้ก็แล้วกัน!!! ไปพิมพ์ฉันอยากพักผ่อน ฉันอยากเก็บแรงเอาไว้หัวเราะสมน้ำหน้าใครบาง

คน” ว่าจบคุณหญิงแม่ก็เดินขึ้นชั้นบนไป โดยมีป้าพิมพ์เดินตามหลัง แต่ก็ยังส่งสายตาแสดงความห่วงใยมาให้ผม ผมเลยได้แต่ส่ง

ยิ้มไปให้เป็นนัยๆว่าผมไม่เป็นไร

      “พี่ผักหวานว่าเย็นนี้คุณป๊อบคงจะงานเข้าระดับสึนามิแล้วล่ะค่ะ” พี่ผักหวานกระซิบบอกผม ส่วนพี่หนูนิ่มก็ยกนิ้วชี้ทำท่าปาด

คอพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง บ่งบอกได้ว่าเย็นนี้ชะตาของผมคงได้ขาดลงแน่ๆ

        แต่สำหรับผมคนที่จะชะตาขาดน่ะไม่ใช่ผมหรอก ผมเชื่อว่าอย่างนั้น แต่จะเป็นใครน่ะเหรอ....เย็นนี้ทุกคนก็คงจะได้รู้กัน หึๆ




                       

        วันเวลาในแต่ละวันช่างผ่านพ้นไปเร็วจริงๆ ผมที่เพิ่งจะโดนคุณหญิงแม่หมายหัวว่าเย็นนี้จะต้องชะตาขาดไปเมื่อช่วงบ่าย

จนตอนนี้ดวงอาทิตย์ก็เลื่อนลอยคล้อยต่ำเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงตัดกับสีของท้องฟ้าลาลับลงไปกับเส้นขอบฟ้า

        หลังจากที่ผมเจอศึกหนักในช่วงบ่ายซึ่งแน่นอนว่ามันผ่านพ้นไปไม่ได้ด้วยดีสักเท่าไร ผมจึงได้มีเวลามางีบหลับสักเล็กน้อย

เพราะเมื่อเช้าดันกระแดะตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ไม่รู้ตื่นมาทำซากหาสวรรค์วิมานอะไร แต่พอหัวถึงหมอนได้นอนหลับสักหน่อย

ความเมื่อยล้าที่มีก็ค่อยผ่อนคลายลงบ้าง

      “อืมมมม” ผมพลิกตัวกำลังจะลุกเพื่อบิดไล่ความขี้เกียจ แต่ก็ต้องมาติดแหงกขยับเขื้อยนลุกไปไหนไม่ได้เพราะมีไอ้มือ

ปลาหมึกของใครบางคนกำลังกอดรัดเอวของผมไว้อยู่

      “ไอ้เหี้ยหื่นภามมม”

        ตุบ!! โอ๊ย!!

        ปฏิกิริยาตอบสนองไว้เท่าความคิดเพราะผมไม่ต้องมานั่งคิดให้มากความว่าใครเป็นคนกอดผมเอาไว้ ผมก็จัดการประเคน

พระบาทาเข้าที่ท้องไอ้คนที่มันมากอดผมโดยไม่ได้รับอนุญาต จนคนที่โดนถีบตกเตียงนั่งกุมท้องพร้อมกับส่งเสียงร้องโอดครวญ

 ซึ่งผมว่ามันไม่ได้ดูน่าสงสารเลยสักนิดกลับน่าสมน้ำหน้ามากกว่า

      “น้องป๊อบมาถีบพี่ทำไมเนี่ย” โอ้โห ไอ้หื่นยังมีหน้ามาถามอีกนะว่าถีบทำไม

      “ก็ใครใช้ให้คุณ เอ้ย! พี่ โว้ย! เรียกไม่ชินเว้ย ก็ใครเขาใช้ให้พี่ภามมากอดป๊อบเล่า!” ผมว่า แม่งไม่ชินปากสักทีเวลาที่ต้อง

เรียกไอ้หื่นว่าพี่

      “อ้าว ก็เราเป็นแฟนกันกอดกันมันก็เป็นเรื่องธรรมดาขนาดทำเรื่องอย่างว่ากันมันยังปกติเลยนะ” ไอ้หื่นว่า ไอ้บ้าหัวสมองคิด

แต่เรื่องลามก

      “แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่จ้างป๊อบมาทำงานเป็นแฟนกำมะลอกับว่าที่สะใภ้จำเป็น” ผมเตือนความจำอีกคนเพราะไอ้หื่นบ้า

นั่นจะได้ไม่มาทำอะไรลุ่มล่ามกับผมอีก

        เมื่อผมพูดประโยคนั้นจบลง ไอ้หื่นภามที่ตอนแรกมันนั่งกุมท้องอยู่ที่พื้นก็ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งที่เตียงพร้อมกับ

ดึงผมเข้าไปกอด แต่ครั้งนี้กลับรัดแน่นกว่าครั้งแรกที่ผมนอนอยู่ ผมเลยได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน ไอ้บ้านี่มันไม่

เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหมเนี่ย!

      “ปล่อยป๊อบเดี๋ยวนี้นะ นี่พี่ไม่เข้าใจสิ่งที่ป๊อบพูดไปเมื่อกี้ใช่ไหมเนี่ย” ผมทั้งดิ้น ทั้งทุบ แต่อีกคนไม่มีวี่แวว่าจะปล่อยผมออก

จากอ้อมกอด แถมยังเอามือมาลูบหัวผมอีกต่างหาก แต่จะว่าไปมันก็รู้สึกดีนะ.....แต่คนที่ทำต้องไม่ใช่ไอ้หื่นภาม!!

      “เมื่อกี้ป๊อบพูดด้วยเหรอ เอ แต่ทำไมพี่ถึงไม่ได้ยินล่ะ หึ” โว้ย ไอ้ดวกเอ้ย! แม่งแกล้งกันชัดๆ

        ผมที่รู้ว่าให้ดิ้นแทบตายยังไงไอ้หื่นนี่ก็ไม่ปล่อยผมออกจากอ้อมกอดของมันอยู่ดี สู้ผมเอาแรงเก็บไว้เอาคืนมันครั้งหลังยัง

จะง่ายซะกว่า อย่าให้ไอ้ป๊อบออกไปได้นะ เชื่อได้เลยว่าไอ้หื่นต้องไม่รอดพ้นมือไอ้ป๊อบแน่!

      “ได้ข่าวว่าเย็นนี้มีคนชะตาจะขาดเหรอ” หลังจากที่ผมหยุดดิ้นเราทั้งคู่ก็ได้แต่นั่งเงียบ จนอีกคนเอ่ยถามขึ้นเพื่อทำลายความ

เงียบนั่นลง

      “ข่าวไวดีนี่” ผมว่าแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องเบะปากเมื่อเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นอีกคนทองมาอย่างยิ้มๆ

      “หึๆ ไอ้เด็กแสบเอ้ยเล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง” ว่าจบไอ้หื่นก็ยื่นมือมาบีบจมูกผม โอ๊ย! เจ็บนะเฟ้ย จะมันเขี้ยวอะไรกับจมูกของคน

อื่นเข้านักหนา

      “โอ๊ย! ไอ้บ้าบีบเข้ามาได้” ผมว่า ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบจมูกตัวเอง สงสัยแม่งต้องแดงแน่ๆเลย มือคนหรือมีออะไรเนี่ยบีบเจ็บ

ชะมัดเลย

      “สำออย” อีกคนว่า ผมเลยหยิกเข้าไปที่สีข้างของไอ้คนปากดีที่กล้าดียังไงมาว่าไอ้ป๊อบสำออย

      “โอ๊ย!” เสียงอีกคนร้องขึ้นเมื่อผมชักมืออกจากสีข้าง

      “สำออย” ผมเลยถือโอกาสว่าอีกคนกลับ ส่วนคนที่โดนว่าก็ก้มหน้าลงลงมามองหน้าผมอย่างไม่พอใจ ส่วนคนอย่างไอ้ป๊อบก็

ลอยหน้าลอยตาทำเป็นไม่ได้ยินซะก็จบ

                                                                    ว่าอะไรนะ? ไม่ได้ยิน?!

      “แล้วข่าวนี่จริงใช่ไหมที่ว่าวันนี้จะมีคนชะตาขาด” ไอ้หื่นนั้นกลับเข้าเรื่องก่อนจะเอ่ยถามผม ผมเลยได้แต่ยักไหล่ อะไร

ทำนองนั้น

      “แล้วไปก่อเรื่องอะไรเข้าล่ะถึงขั้นมีข่าวออกมาว่าจะชะตาขาด” ไอ้หื่นถาม ผมเลยกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะทำไมต้อง

เป็นผมที่ก่อเรื่อง คนที่ก่อเรื่องอาจจะเป็นคุณหญิงแม่สุดรักของตัวเองก็ได้

      “พี่ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกเพราะยังไงพี่ก็ต้องเข้าข้างหม่อมแม่ของพี่อยู่ดี” ผมว่าอย่างเซ็งๆเพราะบอกไปอีกคนก็ต้องเข้าข้าง

คุณหญิงแม่อยู่ดีจะพูดให้เปลืองน้ำลายทำไม

      “ใครบอกว่าพี่จะเข้าข้างคุณแม่” หืม?

      “อย่าบอกนะว่าพี่ภามจะเข้าข้างป๊อบ” ผมถามเพราะไม่น่าเชื่อที่คนอย่างไอ้หื่นเนี่ยนะจะเข้าข้างผมหรือเห็นว่าตัวเองเป็น

นายจ้างเลยอยากจะปกป้องลูกจ้างอย่างผม...........................

                                                          แล้วทำไมผมถึงต้องรู้สึกจี๊ดๆที่อกซ้ายด้วยวะ

      “ก็ใช่สิก็เพราะป๊อบ.....เป็นแฟนพี่ไง” ผมรู้ว่ามันเป็นแค่แฟนกำมะลอ แต่ผมก็อดที่จะรู้สึกดีกับมันไม่น้อย ถึงแม้ว่ามันจะเป็น

เพียงแค่ประโยคติ๊งต๊องที่ออกมาจากปากไอ้หื่น

แต่ก็น่าแปลกที่มันกำลังทำให้ผมยิ้ม.............

        ผ่านไปนานเท่าไรไม่มีใครรู้เพราะตั้งแต่ที่ไอ้หื่นพูดประโยคนั้นจบห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง จนเป็นผมเองที่

ทำลายความเงียบนั้นลง

      “เอ่อ.....พี่จะปล่อยป๊อบได้ยังเนี่ย มันอึดอัดแล้วก็ร้อนด้วย” ผมบอกเสียงขุ่นๆ ก่อนที่จะขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้อีกคนรู้ว่าผม

เริ่มจะอึดอัดและไม่นานไอ้หื่นก็คลายอ้อมกอดออก จนผมได้ยืดเส้นยืดสายได้สบายตัว

      “พี่ว่าเราลงไปหาทุกคนที่ด้านล่างดีกว่านะ” ไอ้หื่นว่าก่อนจะดึงผมให้ลุกตามตัวเองลงไปด้านล่าง

      “มาแล้วเหรอไอ้ลูกชาย หม่อมแม่เขากำลังต้องการพบแกพอดี” ทันทีที่ผมกับไอ้หื่นเดินลงบันไดมาเสียงของคุณพ่อก็เรียก

ไอ้คนที่อยู่ข้างกันพร้อมกับพยักเพยิดไปที่คุณหญิงแม่ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าพร้อมที่จะลงมือฆ่าคนได้ทุกเมื่อ

      “ครับ คุณแม่มีอะไรรึเปล่าครับ” ไอ้หื่นเดินเข้าไปหาคุณหญิงแม่ที่นั่งอยู่ตรงโซฟายาวตัวใหญ่ ส่วนคุณพ่อก็นั่งอยู่ที่โซฟา

เดี่ยวที่วางอยู่ข้างกัน ผมเลยหันไปทักทายไอ้ภัทรที่นั่งอยู่ตรงโซฟาตรงข้ามกับคุณพ่อ

        ตอนนี้เราทุกคนในบ้านกำลังมารวมกันที่ห้องรับแขกตามบัญชาของนายหญิงของบ้านซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครขัดบัญชานี้ได้

รวมกระทั่งคุณผู้ชายของบ้านนี้

      “นี่แฟนตัวดีของเราไม่ได้เล่าให้ฟังเหรอว่าไปทำสวนของแม่จนพังพินาศไม่เหลือชิ้นดี” คุณหญิงแม่ว่า ผมเลยเดินไปนั่งข้างๆ

ไอ้หื่นก่อนจะแก้ต่างให้ตัวเอง

      “เปล่านะครับก็ป๊อบไม่รู้จริงๆว่ามันเป็นสวนของคุณหญิงแม่” ผมบอกทุกคนทั้งที่จริงๆแล้วผมนี่แหละรู้ดีแล้วก็เป็นคนตัดมัน

เองกับมือ

      “ไม่จริง คุณพี่แล้วก็ตาภาม ตาภัทรห้ามไปฟังมันนะ ไอ้เด็กนี่มันร้ายกาจมาก มันรู้ว่านั่นเป็นสวนของแม่ มันจงใจแกล้งแม่”

คุณหญิงแม่บอกก่อนจะหันไปทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้กับไอ้หื่นแล้วก็ไอ้ภัทร ไอ้ภัทรเลยได้แต่ถอนหายใจเพราะมันไม่รู้ว่าจะ

ช่วยผมได้ยังไง ไม่ต้องห่วงเพื่อนเรื่องนี้ไอ้ป๊อบช่วยตัวเองได้

      “ก็คุณหญิงแม่สั่งให้ป๊อบจัดดอกไม้เองนะครับ” ผมว่า คุณหญิงแม่เลยตวัดสายตามามองผม ก่อนจะหันฟ้องคุณพ่อต่อ แต่ก็

ถูกคุณพ่อพูดขัดขึ้นก่อน

      “สรุปแล้วเรื่องราวมันเป็นยังไงกันป๊อบ ไหนเล่ามาให้พ่อฟังหน่อย” จบคำคุณพ่อ ผมก็เลยเล่าเรื่องราวให้ท่านฟังทั้งหมดว่า

คุณหญิงแม่สั่งให้ผมจัดดอกไม้ ผมเลยจัดมาให้ โดยเอาดอกไม้สวยมาตัดๆแล้วก็จัดวางไว้บนถาด แต่คุณหญิงแม่ก็ไม่พอใจ บอก

ว่าสิ่งที่ท่านสั่งคือให้เอาไปปักไว้ในแจกัน ผมก็เลยบอกไม่รู้ คุณหญิงแม่เลยเป็นลมแล้วก็จะเอาเรื่องผม พอเล่าจบคุณพ่อก็ปล่อย

ขำออกมา รวมทั้งไอ้หื่นภามกับไอ้ภัทรที่นั่งอมยิ้มในสิ่งที่ผมเล่า

      “เท่าที่ผมฟังมาทั้งหมดนะคุณหญิง ผมว่าเรื่องมันไร้สาระมาก ป๊อบไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณหญิงสั่งเพราะเขาเป็นคนต่างจังหวัด

 คุณก็ไม่น่าไปหาเรื่องเขานะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ผมว่าเราแยกย้ายกันไปนอนได้แล้วนะ ไปเถอะคุณหญิง” ว่า

จบคุณพ่อก็พาคุณหญิงแม่เดินออกไปทั้งๆที่คุณหญิงแม่พยายามจะค้าน แต่ก็ทำไม่ได้ เป็นยังไงล่ะครับ ไอ้ป๊อบบอกแล้วไม่เชื่อ

 คุณหญิงแม่นั่นแหละครับที่ชะตาขาด ไม่ใช่ป๊อบ!!











ตอนที่ 7 มาแล้วคร้าาาา เป็นไงล่ะ นายป๊อบซะอย่างสบายใจหายห่วง ทีนี้นายป๊อบเราก็ไม่ชะตาขาดแล้ว แต่ก็ควรหาเวลาไป

ทำบุญบ้างนะป๊อบนะ 5555  o13 วันนี้ดีสจะมาบอกข่าวร้ายและข่าวดีนะคะ  :katai2-1:

ข่าวร้ายคือพรุ่งนี้ดีสของดอัพ 1 วัน ส่วนข่าวดี ดีสอัพวันนี้ 2 ตอนชดเชยให้ของพรุ่งนี้คร๊าบบบบบ อิอิ ขอให้มีความสุขในการอ่าน

นะคะ ขอให้รับภามหลงป๊อบกันเยอะๆด้วยเถิด สาธุ!! (เล่นของซะด้วย 5555)  :call: ขอบคุณที่ติดตามและขอบคุรทุกคำติชมค่ะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 8 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ 11/04/2015 หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 12-04-2015 21:09:24
                                                                ตอนที่ 8 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ.........

            ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ที่ผมเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านสุริยศักดิ์ภายใต้การทดสอบการเป็นว่าที่ลูก

สะใภ้(จำเป็น)ของคุณผู้หญิงแห่งบ้านสุริยศักดิ์ ที่โดนทดสอบได้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่คนอย่างไอ้ป๊อบก็รอดตายมาได้ทุกครั้ง ไม่ใช่

เพราะโชคช่วยหรือดวงดี แต่เพราะตัวผมเองนี่แหละ ทำไงได้ก็อยากมีว่าที่ลูกสะใภ้ที่ฉลาดเป็นกรดที่เอาคืนคุณหญิงแม่กลับไป

ได้ทุกครั้งที่เราต้องปะทะฝีมือและฝีปากกัน

      “วันนี้พี่ภามไม่ไปทำงานเหรอ” ผมที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นอีกคนยังนอนอยู่ที่เตียงและไม่มี

วี่แววว่าจะลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงานเหมือนทุกๆวันเอ่ยถามขึ้น แต่อีกคนกลับส่ายหัว ก่อนจะลุกขึ้นนั่งขยี้หัวตัวเอง

สองสามทีแล้วเดินตรงมาหาผม ก่อนจะ

        ฟอด! และจากนั้นอีกคนก็เดินเข้าห้องน้ำไป

        มันเป็นเหมือนกิจวัตรประจำวันที่ไอ้หื่นนั่นต้องตื่นมาและหอมแก้มผมทุกๆเช้าซึ่งในช่วงแรกๆผมก็ขัดขืนอยู่หรอก แต่คน

อย่างอย่างไอ้หื่นนั่นน่ะเหรอที่จะยอมให้ผมขัดขืนเพราะถ้าผมขัดขืนมันก็จะอ้างว่าจะลดเงินเดือนลง ไอ้เวร! ไอ้หื่นเอ้ย! จนตอนนี้

ผมโดนมันหอมทุกวัน แต่ก็ไม่ได้ชินที่ถูกไอ้หื่นนั่นหอมหรอกนะ แต่ก็รู้ว่าถ้าขัดขืนไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเพราะคน

อย่างไอ้หื่นน่ะเผด็จการตัวพ่อสัดๆ   

        ผมเดินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายเพราะไม่รู้ว่าวันนี้ต้องรับมืออะไรอีกบ้าง ถ้ารู้ว่ามันจะหนักหนาสาหัสขนาดนี้ผมคงกลับ

ไปทำงานที่ร้านพี่โก้เหมือนเดิมน่าจะดีกว่า แต่พอพูดถึงพวกพี่ๆก็นึกถึงไอ้มิ่งเพราะไม่รู้ตอนนี้มันเป็นยังไงบ้างเพราะเห็นมันบอกว่า

ปิดเทอมคราวนี้ก็คงจะหางานพิเศษทำเหมือนกัน

        ผมเลยเดินตรงไปที่เตียงนอนก่อนจะหย่อนก้นนั่งลงที่เตียงและโทรหาเบอร์ไอ้น้องรหัสสุดรักเพราะไม่รู้ว่าป่านนี้มันจะตาย

ไปแล้วหรือยัง

      “ฮัลโหลมิ่ง นี่เฮียป๊อบนะ” ผมว่าเมื่อเห็นว่าปลายสายที่โทรไปกดรับแล้ว

      “ครับเฮียมีอะไรรึเปล่า” ไอ้มิ่งพูด แต่ดูเหมือนว่าบรรยากาศโดยรอบที่มันอยู่คงจะเสียงดังไม่น้อยเพราะถึงขั้นแทรกเข้ามาใน

สาย

      “แหม เฮียโทรหาน้องรหัสบ้างไรบ้างไม่ได้เหรอแล้วตอนนี้มิ่งอยู่ที่ไหนเนี่ยทำไมเสียงมันถึงได้ดังอย่างนี้วะ” ผมถามไอ้มิ่ง

เพราะดูเหมือนว่าเสียงจะดังมากขึ้นด้วย

      “อ๋อ มาตลาดให้แม่น่ะเฮีย พอดีแม่ให้มาซื้อของไปทำกับข้าวเช้านี้แล้วเผอิญมิ่งเดินผ่านร้านที่แม่ค้าเขาทะเลาะกัน เออนี่

แปบนะเฮีย” ไอ้มิ่งว่า ก่อนเสียงในสายที่ดังในตอนแรกจะค่อยๆซาลงไป เออ แบบนี้สิค่อยยังชั่วหน่อย

      “ดีขึ้นไหมเฮีย” ไอ้มิ่งถาม ผมเลยส่งเสียงตอบรับในลำคอว่าดีขึ้นกว่าในตอนแรก

      “ว่าแต่เฮียโทรมามีอะไรเหรอหรือว่าวันนี้พี่ท็อปเขานัดกินเลี้ยงที่ไหนอีก” ไอ้มิ่งถาม

      “เปล่าหรอก พอดีช่วงนี้เฮียว่างเลยโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบเฉยๆ” ผมตอบ ก่อนที่จะได้ยินเสียงปลายสายหัวเราะร่วน

อ้าว ไอ้น้องเวร พี่อุตส่าห์เป็นห่วงดันมาขำใส่ซะนี่ เดี๋ยวเหอะมึงกลับไปกูจะสั่งให้มึงแทงปลาไหลโชว์สาว!

      “อย่างเฮียเนี่ยนะที่จะโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบ ปกติโทรมาไม่ชวนกินเหล้าก็ชวนไปหลีสาว วันนี้มาแปลกแฮะ” อ้าว สรุปที่

ผ่านมาที่กูชวนมึงนี่มันไม่ดีเลยใช่ไหม กูชวนมึงไปกินเหล้าเพื่อเข้าสังคม ส่วนที่ชวนไปหลีสาวเป็นการสร้างมนุษยสัมพันธ์ต่อเพศ

ตรงข้าม มันไม่ดีตรงไหนเนี่ย

      “พอดีเฮียมีเรื่องขอคำปรึกษาหน่อยน่ะ” ผมบอกไอ้มิ่งเสียงเครียด มันเลยหยุดหัวเราะแต่ส่งเสียงแปลกใจมาแทน

      “อย่างเฮียป๊อบเนี่ยนะมีเรื่องขอคำปรึกษา สงสัยดวงอาทิตย์จะต้องตกทางทิศตะวันออกแน่ๆเลย” ไอ้มิ่งว่า

      “ไมวะ คนอย่างเฮียป๊อบจะมีเรื่องกลุ้มใจไม่ได้เลยเหรอไง แล้วถ้ามึงจะสงสัยมากกกกว่าดวงอาทิตย์จะตกทางทิศตะวันออก

จริงๆไหมนะ กูแนะนำว่าว่างๆมึงก็โทรเลขไปถามมันเองก็แล้วกันจะได้รู้ว่ามันจะตกทางทิศตะวันออกจริงหรือเปล่า” พอผมพูดจบ

ไอ้น้องรหัสตัวดีก็ดันกวนตีนผมโดยการหัวเราะใส่ ไอ้ห่ากูจะขอคำปรึกษาจากมึงได้ไหมเนี่ย

      “คร๊าบๆ งั้นเฮียจะมาปรึกษามิ่งวันนี้เลยไหมล่ะ พอดีวันนี้มิ่งว่างทั้งวัน” ไอ้มิ่งว่า ดีเหมือนกัน ผมกำลังต้องการที่ปรึกษาอยู่

พอดี

      “อืม งั้นเจอกันที่ร้านพี่โก้ก็แล้วกันนะ” พอตกลงเรื่องเวลาและสถานที่กับไอ้มิ่งจบผมก็วางสาย โดยไม่รู้ว่าคนที่เดินไปอาบน้ำ

ในตอนแรกอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วมายืนกอดอกจ้องหน้าผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่ด้านหน้า

      “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ” ผมถามไอ้หื่นภามยิ้มๆเพราะดูเหมือนมันจะมีรังสีอะไรบางอย่างพวยพุ่งมาจากตัวของไอ้หื่นที่พร้อม

จะสังหารและทำลายล้างผมได้ทุกเมื่อ(นี่กูดูการ์ตูนแปลงร่างมากเกินไปใช่ไหมเนี่ย)

      “โทรหาใคร” ไอ้หื่นไม่ยอมตอบคำถามที่ผมถาม แต่กลับเป็นฝ่ายตั้งคำถามมาถามผมแทน

      “ตอบไม่ตรงคำถาม อย่างนี้ถือว่ามีพิรุธ” ผมว่า ไหนๆก็เรียนมันมาทางด้านนี้แล้วเอาวิชาออกมาใช้ซะหน่อยเผื่อจะรอดตายได้

บ้าง

      “นายก็ตอบไม่ตรงคำถามอาจจะทำให้รูปคดีถูกบิดเบือนไปจากความจริงก็ได้นะ” โอ้โห มาเป็นชุดเลยครับพี่ท่าน ไอ้เราก็ลืม

ไปว่าเพิ่งอยู่ปีสอง แต่ไม่เป็นไรขอใช้สมองอันน้อยนิดที่เคยได้ร่ำเรียนมาโต้อีตาหื่นนี่กลับไปสักหน่อย

      “พี่ก็ตอบไม่ตรงคำถามเหมือนกัน นอกจากจะมีพิรุธแล้วยังอาจจะโดนข้อหาให้ความเท็จแก่เจ้าพนักงานก็ได้นะ บอกป๊อบมา

เถอะว่าเป็นอะไรเนี่ย” ผมถามเข้าเรื่องเพราะขี้เกียจมาเล่นบททนายโหดกับอีกคน

      “ก็ถ้าพี่ถามป๊อบก็ตอบพี่มาก่อนสิว่าป๊อบโทรหาใคร” อีกคนไม่ยอมที่จะตอบคำถามผม

      “โอเค ป๊อบตอบก็ได้ เมื่อกี้ป๊อบโทรคุยกับน้องรหัส มีเรื่องกลุ้มใจอยากจะปรึกษา แล้วพี่ล่ะเป็นอะไรจ้องป๊อบอย่างจะกิน

เลือดกินเนื้อเนี่ย ไม่ใช่ว่าพี่หึงป๊อบนะ” ผมตอบ ก่อนจะหรี่ตาจับผิดอีกคน แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉยไม่แสดงอาการใดๆออกมา

      “พี่แค่ไม่ชอบที่ว่าที่สะใภ้โทรศัพท์ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นก็เท่านั้น” ไอ้หื่นว่า สงสัยว่ามันคงจะเล่นจนอินกับบทมากเกินไป

รึเปล่า เอาเถอะเอาที่คุณพี่คิดว่าสบายใจเถอะ

      “ไปตลาดกัน” ผมเอ่ยออกมาทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราเถียงกันจะเป็นจะตาย เออกูนี่ก็บ้าเนอะถียงเขาอยู่หยกๆก็ชวนเขาไปตลาด

      “ไปทำไมแล้วนึกยังไงถึงอยากจะไป” ไอ้หื่นถาม แหม ถามเป็นชุดเลยนะ

      “ก็พอดีว่าวันนี้เป็นวันเกิด” ผมตอบ ไอ้หื่นเลยเลิกคิ้วมองผม

      “เกิดอยากจะไปเดินตลาดไง” ผมตอบ นี่ไม่ได้กวนนะ แต่เห็นคนอื่นเขาเล่นมุกนี้กันเลยอยากเล่นบ้างก็เท่านั้น

      “เหอะ กวนตีนนะไอ้แสบ” ไอ้หื่นภามเดินมาดีดหน้าผาก ก่อนจะว่าผมแล้วก็เดินเลยไปหยิบกุญแจรถที่วางอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง

      “อ้าว มัวยืนรออะไรอยู่ล่ะหรือว่ารอให้แม่มาตัดริบบิ้นล่ะครับน้องป๊อบ อย่าเอ๋อไปเร็วเดี๋ยวตลาดก็วายหมดหรอก” มึงเหอะที่

กวนตีน ไอ้หื่นภาม

        หลังจากที่ผมโดนไอ้หื่นภามนั่นหลอกด่าและลากพามาที่รถเราทั้งคู่ก็มุ่งหน้าสู่ตลาดที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากบ้านของไอ้หื่น

โชคดีที่วันนี้ผมตื่นเร็ว(สงสัยคงชิน)เลยมาทันตลาดไม่วายเสียก่อน

        ทันทีที่ลงมาจากรถผมก็ตรงดิ่งไปที่ร้านกาแฟชาชักเพราะเมื่อก่อนตอนผมเรียนมัธยมต้นที่สุพรรณผมก็ไปช่วยคุณลุงแถว

บ้านที่รู้จักกันขายชาชักที่ตลาดใกล้บ้าน ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นงานแรกที่ตัวเองทำและหาเงินมาได้

      “เอ่อ...คุณลุงครับคือจะว่าอะไรไหมครับ ถ้าเกิดว่าป๊อบจะขอเป็นคนทำชาชักช่วยคุณลุงขาย” ผมรีบตรงดิ่งเข้ามาหาเป้า

หมายก็เห็นว่าเป็นคุณลุงที่ดูจะอายุมากยืนทำโชว์ลีลาก็คงจะไม่ไหว ผมก็เลยขออาสาเอาวิชาความรู้ที่เคยได้ร่ำเรียนมามาช่วยคุณ

ลุงทำอย่างน้อยผมก็รักในอาชีพนี้

      “เอาสิพ่อหนุ่ม ว่าแต่เราเถอะ ทำเป็นด้วยเหรอ” คุณลุงถามผมยิ้มๆเพราะสมัยนี้มีน้อยคนนักที่จะทำของแบบนี้เป็น

      “งานถนัดเลยล่ะครับ คุณลุงสบายใจหายห่วงได้เลยนะครับ” ผมตอบคุณลุง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลงมือโชว์ความสามารถให้

คุณลุงได้ดูก็ถูกคนที่มาด้วยกันเรียกทักไว้ซะก่อน ขัดจังหวะคนโชว์หล่อหมด วู้!

      “จะทำอะไรป๊อบ ไปรบกวนคุณลุงเขาเอาเปล่าๆ ผมต้องขอโทษคุณลุงด้วยนะครับ” ไอ้หื่นภามหันมาว่าผมก่อนจะหันไป

ขอโทษคุณลุง แต่คุณลุงกลับส่ายหัวยิ้มๆ

      “ไม่เป็นไรหรอกพ่อหนุ่ม ช่วงนี้ลุงแข้งขาก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไรได้พ่อหนุ่มน้อยคนนี้มาช่วยถือว่าโชคดีมากเลยล่ะ” คุณลุงว่า

ผมเลยหันไปยิ้มเยาะว่าผมไม่ได้ไปรบกวนคุณลุงเขาสักหน่อยดีเสียอีกที่ลุงจะได้พักผ่อนบ้าง

      “แล้วเราทำเป็นด้วยเหรอ” ไอ้หื่นภามหันมาถามผม โอโห ถามอย่างนี้มันดูถูกความสามารถของพี่เกินไปซะแล้วไอ้น้อง อยาก

รู้ว่าพี่ทำเป็นไม่เป็นเดี๋ยวพี่ก็จัดให้น้องได้ดูกันไปเลย

      “อยากรู้ว่าป๊อบทำเป็นไม่เป็นพี่ภามก็ต้องช่วยป๊อบก่อนสิแล้วเดี๋ยวพี่ภามก็จะได้รู้ว่าคนอย่างป๊อบระดับเซียนเรียกพี่เลยล่ะ”

ผมว่าก่อนจะยักคิ้วส่งไปให้ อีกคนเลยได้แต่ทำหน้าแปลกใจ

                    ไม่ต้องแปลกใจหรอกไอ้น้องเดี๋ยวเราก็ได้รู้เอง

     
                         

      “เอาเร่เข้ามาครับพ่อแม่พี่น้อง เร่เข้ามากันเลยครับ วันนี้ทุกๆท่านนอกจากจะได้สั่งกาแฟชาชักสูตรอร่อยระดับเซียนเรียกพี่กัน

แล้ว ทุกๆคนยังจะได้ชมลีลาการทำชาชักที่เรียกได้ว่าคนผู้นี้มีฝีมือดีที่หาตัวจับได้ยากมาก ถ้าหากว่าใครไม่อยากพลาดก็เร่กันเข้า

มาสั่งซื้อกาแฟแล้วทุกท่านก็จะได้เห็นลีลาเด็ดของนักชงชาชักคนนี้ อย่ามัวรอช้าสองมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวเข้ามาสั่งกาแฟ

กันเร็วครับ” ทันทีที่เสียงของไอ้หื่นภามพูดจบผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงก็ค่อยเดินเดินเข้ามาที่ร้าน

        หลังจากที่ผมบอกให้ไอ้หื่นให้ไปเป็นพิธีกรของร้านคอยเรียกลูกค้าให้เข้าร้านเพราะเดี๋ยวผมต้องโชว์ฝีมือการชงชาชักให้ทุก

คนที่มาซื้อกันเจ้าตัวก็ปฏิเสธท่าเดียว แต่คนอย่างไอ้ป๊อบซะอย่าง ถ้าโน้มน้าวใครแล้วไม่มีใครไม่ให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน

        แต่จะว่าไปผมก็อดสงสารอีกคนไม่ได้ จากเจ้าของธุรกิจพันล้านต้องมาเป็นคนเรียกลูกค้าเข้าร้านกาแฟชาชักข้างทาง เอา

เถอะ ถือซะว่ามันเป็นความน่ารักไปอีกแบบ

        ส่วนผมที่ตอนนี้แต่งตัวเตรียมพร้อมสำหรับโชว์ความสามารถของตัวเอง ก็เดินออกมาหน้าร้านพร้อมกับผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาล

กับผ้าคาดผมสีขาวและอุปกรณ์ในการชงชาชัก ส่วนไอ้หื่นที่ยืนเรียกลูกค้าพอเห็นผมเดินมาก็เรียกให้ทุกคนหันมาให้ความสนใจ

กับผม

      “เร่เข้ามาเลยครับ ต่อจากนี้ทุกท่านจะได้ชมกับทำชาชักจากนักชงชาขั้นเทพคนนี้กันเลย” สิ้นเสียงของอีกคน คนที่เดินอยู่ใน

ละแวกใกล้เคียงก็ต่างพากันมาหยุดดูผมที่กำลังจะโชว์การชงชาชัก แต่จะว่าไปผมก็อดที่จะประหม่าไม่ได้เมื่อเห็นคนหมู่มากมา

มุงดู

      “มิวสิค!” ผมหันไปบอกอีกคนและไม่นานเสียงเพลงยอดฮิตติดชาร์ตที่ใครได้ยินก็ต้องลุกขึ้นมาดีดดิ้นตามจังหวะความมันส์

ของทำนองเพลง ส่วนผมก็ทำการโชว์ลีลาชาชักกันอย่างมืออาชีพ

        ผมเทชาจากกระบอกหนึ่งลงอีกกระบอกพร้อมกับยกสูงและหมุนตัวพร้อมกับสลับมือเปลี่ยนข้างตามความเร็วและความสนุก

ของจังหวะเพลงพร้อมกับออกสเตปแดนซ์ จนเพลงจบการโชว์ลีลาการชงชาชักของผมก็จบลงไปแล้วก็ตามมาด้วยรอยยิ้มและ

เสียงปรบมือที่ดังระงมขึ้นและแน่นอนมันก็จะตามมาด้วยคนจำนวนมากที่กรูกันเข้ามาสั่งกาแฟจนผมกับไอ้หื่นช่วยกันทำแทบ

ไม่ทัน มีผมเป็นคนชง มีไอ้หื่นเป็นผู้ช่วยและไม่นานร้านของคุณลุงก็ขายกาแฟหมดภายในพริบตาเดียว

      “ขอบคุณนะครับ ไว้โอกาสหน้าแวะมาอุดหนุนที่ร้านนี้อีกนะครับ” ไอ้หื่นเอ่ยบอกลูกค้าพร้อมกับส่งถุงกาแฟไปให้สาวสวยที่

เป็นลูกค้าคนสุดท้ายของร้าน ส่วนสาวเจ้าที่โดนหนุ่มหล่อส่งของให้หน่อยก็อายบิดม้วนจนตัวจะเป็นเกลียวอยู่แล้ว

      “ลุงต้องขอบคุณพ่อหนุ่มทั้งสองคนมากนะที่ยอมเหนื่อยมาช่วยลุงขายกาแฟ” คุณลุงบอกผมกับไอ้หื่นหลังจากที่เราลากเก้าอี้

มานั่งคุยกับคุณลุง

      “ไม่เป็นไรครับคุณลุง ผมว่ามันก็สนุกดีออก” ไอ้หื่นตอบคุณลุง พร้อมกับส่งยิ้มให้คุณลุง มันเป็นยิ้มที่ดูมีความสุข ผมก็เพิ่ง

เห็นรอยยิ้มของอีกคนที่เป็นแบบนี้ก็วันนี้แหละ

      มันแปลกตาเพราะผมไม่เคยเห็น แต่มันก็น่าแปลกใจที่มันทำให้อีกคนดูเป็นผู้ชายอบอุ่น แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือการที่ผม

นั่งมองรอยยิ้มนั้นของอีกคนอย่างไม่วางตา.............ผมว่า...มันน่ามองดีนะ

        เหมือนผมจะมองเพลินจนเกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้เพราะมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อีกคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมเลยได้ก้มหน้าตา

หลับตาปี๋เพราะไม่รู้ว่าอีกคนเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆทำไม

        เฮ้ย! ไอ้หื่นอย่ามาทำอะไรบ้าๆที่นอกบ้านแบบนี้นะ ไหน...ไหนจะคุณลุงร้านกาแฟชาชักอีก หยุดยื่นหน้าเข้ามาใกล้เดี๋ยวนี้

นะไอ้หื่น ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้!

        ผมได้แต่สบถด่าอีกคนในใจ แต่แล้วความคิดบ้าๆของผมก็ต้องหยุดลงเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆมาปะทะเข้าที่ใบหน้า

ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมองหาที่มาของความเย็น จนมาพบว่าคนที่ผมสบถด่าเสียๆหายๆอยู่ในใจกำลังเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดหน้า

ให้ผม ก่อนจะผละไปแล้วมองหน้าผมยิ้มๆ

      “พอดีพี่เห็นว่าป๊อบเหงื่ออกเยอะ พี่คิดว่าคงจะเหนื่อยเลยเอาผ้าเช็ดหน้าไปชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้” ไอ้หื่นว่า ผมเลยเงยหน้าขึ้น

มาดูก็พบว่ามันจริงอย่างที่อีกคนบอก ก่อนที่ผมจะมองเลยไปเห็นลุงเจ้าของร้านกาแฟที่อมยิ้มแต่ไม่ได้มองมาที่ผมกับไอ้หื่น

        ฉ่า!

        ตอนนี้ผมรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองมันร้อนแปลกๆ ผมเลยพยายามไม่มองหน้าของอีกคนที่มองผมอยู่อย่างยิ้มๆเพราะผมรู้ตัว

ดีว่าหน้าผมมันคงขึ้นเป็นริ้วแดงๆแน่ๆ เลยขอกลบอาการของตัวเองทำทีว่าจะไปรออีกคนที่รถน่าจะดีกว่า

      “ป๊อบรู้สึกร้อนแล้วล่ะ ป๊อบว่าเรากลับบ้านกันดีไหม เดี๋ยวป๊อบไปรอพี่ภามที่รถนะ” ผมบอกอย่างเร็ว แต่ก็ไม่ลืมยกมือไหว้คุณ

ลุงเจ้าของกาแฟแล้วรีบเดินออกไป แต่ก็ยังได้ยินเสียงของอีกคนแว่วๆว่าตอนนี้กำลังลาคุณลุงเจ้าของร้านกาแฟอยู่

      “ผมไปก่อนนะครับคุณลุงเดี๋ยวแฟนรอนาน” ไอ้หื่นบอกคุณลุง ไอ้บ้าเอ้ย! ใครเขาเป็นแฟนนายกัน ไอ้หื่นภาม ไอ้คนโกหก

ไอ้เสลดเป็ด ไอ้งามไส้

      “โชคดีนะพ่อหนุ่ม ว่างๆก็แวะมาช่วยลุงขายอีกนะแล้วก็รีบตามแฟนไปเร็วๆล่ะป่านนี้คงอายหน้าแดงเดินกลับบ้านไปแล้วล่ะ

ม้างงงงง ฮ่าๆๆ” โอ๊ย! คุณลุงนี่ก็อีกคน เอาเข้าไป เอาให้ไอ้ป๊อบอายตายกันไปข้างเลย!



                           
        ทันทีที่ผมกลับมาถึงบ้าน ผมก็รีบลงรถแล้วก็รีบเดินเข้าไปในบ้านทันทีเพราะรู้สึกเหมือนหน้าตัวเองยังน่าจะยังแดงอยู่เลยไม่

อยากให้อีกคนได้เห็น แต่ก็ต้องไปเจอคุณหญิงแม่กับสาวสวยที่กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนไอ้ป๊อบก็คงจะรีบ

กระโจนเข้าไปขอเบอร์โทรศัพท์ของสาวเจ้ามาไว้ในครอบครองแล้ว แต่เผอิญว่าตอนนี้ความอยากรู้มันมีมากกว่าความอยากได้

 ผมเลยหยุดเดินแล้วยืนดู แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ทั้งคู่หันมามองเห็นผมที่ยืนอยู่พอดี คุณหญิงแม่เลยส่งยิ้มที่เหนือกว่ามาให้ผม


                                                      แต่ไอ้ที่ว่าเหนือกว่า เหนือกว่าเรื่อง?

      “อ้าว ตาภามมาโน่นพอดีเลยหนูตา” คุณหญิงแม่หันไปบอกผู้หญิงคนที่คุยด้วยเมื่อครู่ ผมจึงหันไปมองก็เห็นว่าอีกคนเดินตาม

หลังเข้ามา ทั้งคุณหญิงแม่และผู้หญิงคนนั้นก็รีบเดินมาหาไอ้หื่นนั้นทันที ส่วนเจ้าตัวก็คงจะงงๆ แหงล่ะเพราะถ้าเป็นผม ผมก็งง

เหมือนกัน

      “ตาภามนี่หนูรมิตานะ ตอนนี้น้องกำลังเรียนคณะวิทยาศาสตร์ปีสอง ยังไงซะก็ทำความรู้จักกันไว้เพราะแม่ว่าเราทั้งสองคน

คงจะสนิทกันอีกนาน” คุณหญิงแม่ว่า ก่อนจะปรายตามองมาที่ผม อย่างนี้คุณหญิงแม่คงจะจับคู่ให้ไอ้หื่นภามแน่ๆ

      “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณรมิตา” เป็นผมที่เอ่ยทักทายคนที่คุณหญิงแม่แนะนำให้ไอ้หื่น จนทำให้คนอื่นๆหันมามอง

โดยเฉพาะคุณหญิงแม่ที่มองผมอย่างรักใครเอ็นดูประหนึ่งปานจะกลืนกินกันเลยทีเดียว

                                                   สงสัยไอ้ป๊อบคงจะได้ทำงานให้คุ้มกับค่าจ้างก็คราวนี้แหละ!!









แหะๆ มาแล้วจร้าา มีตัวละครเพิ่มมาอีกหนึ่ง บางคนอาจจะสงสัย เอ๊ะ! คุณหญิงแม่กำลังคิดจะทำอะไร  แล้วรมิตานางมาที่นี่ทำไม

เพื่ออะไร จะมีมาม่ามาให้จี๊ดใจกันไหม และอาจมีมีคำถามอีกมากมาย ถ้าอยากรู้ก็ไม้รอติดตามตอนต่อไปกันนะคะ วันที่ 14 เมษา

ได้รู้แน่ว่านางมาเพื่ออะไร อิอิ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามและให้แง่คิดดีๆผ่านคำคอมเม้นนะคะ ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ

ปล.สวัสดีปีใหม่(ไทย)ล่วงหน้านะคะ ขอให้คนที่รักพี่ภามหลงน้องป๊อบทุกคนมีความสุข ไม่เจ็บไม่จน รวยๆๆๆยิ่งๆๆๆขึ้นไปกันทุก

คนนะคะ วันนี้ขอกล่าวคำว่า ฝันดีราตรีสวัสดิ์คร่าาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 13-04-2015 00:27:50
ตอแหลประดุจปลาไหลได้อย่างสวยงามมาตลอดเลยนะคะแหม่น้องป๊อบ เจ๊จะรอดูว่าหนูจะไม่ตกหลุมรัก 'ผู้ชายอบอุ่น' ได้ยังไง 555
ว่าแต่...หนูเก่งเรื่องชาชักแบบนัี้ ระวังต้องไป 'ชัก' ให้ใครบางคนนะคะ
ปล.14 เมษานี่ยาวนานเหมือนกันนะคะT^T
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-04-2015 04:20:37
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: goldentime ที่ 13-04-2015 07:28:44
55555อ่านครั้งเดียวเลย สนุกมากๆๆๆๆ ขอบคุณผู้เขียนนะค่ะเขียนดีๆแบบนี้สนุกมากจริง อย่างทิ้งเรื่องนี้ไปนะค่ะ ขอตามติดขอบสนามเลยนะ ชอบบบบบบแม่ปัวกะลูกสะใภ้คนนี้แล้วสิ o13
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-04-2015 08:24:38
คุณหญิงแม่มั่นใจเหรอคะว่าจะทำอะไรน้อง
ป๊อบได้จริงๆ อ่ะค่ะ?? อยากจะระเบิดหัวเราะให้ดังๆ เสียจริงเชียวน้า :laugh3: ไม่อยากจะคิดเลยว่ารมิตาจะมีชะตากรรมแบบไหน เมื่อได้ปะทะกับน้องป๊อบ.. ที่แน่ๆ คงจะแซ่บจนถึงใจเลยเชียวล่ะเน้ออ~
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-04-2015 09:21:09
น้องป๊อบอย่ายอมนะครับ สู้ๆ สู้ให้เต็มที่ เพราะสิ่งที่ได้มามันจะคุ้มค่ามากกว่าเงินเดือน 3 แสน อีกแหนะ
ได้สามีที่แสนดี อิอิ ฟินจะตาย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 13-04-2015 13:19:46
พี่ภามน่ารักจังเลย ชอบแล้วแหละแบบเนี้ย ป๊อบสู้ๆศึกครั้งนี้ยังอีกยาวไกล 555
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-04-2015 13:43:16
งานเข้าเรื่อยๆ เลยนะ ป๊อบ

หึหึ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 13-04-2015 13:50:12
เมียพี่ภามสู้ๆ ก๊ากๆๆๆ เรื่องนี้สนุกอะช๊อบชอบ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 13-04-2015 15:59:44
คุณหญิงจัดหนักเลย ป๊อปสู้ๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-04-2015 00:21:20
บางทีป็อปก็แรงเกินนะ  อ่อนน้อมบ้างก็ดีนะ อ่อนให้แบบเป็นต่อน่ะ  มันจะดูดีมากๆเลย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 14-04-2015 02:14:22
ป๊อปแสบแบบน่ารัก แต่บางทีก็แรงไป ผู้ใหญ่ก็ไม่ค่อยโอ แต่คุณหญิงแกก็ตั้งแง่ แต่ดูแล้วไม่น่ามีอะไรนะ รอตอนต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 14-04-2015 03:35:51
 :hao4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอนที่ 7 หน้า 2 + อัพตอนที่ 8 หน้า 3 12/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 14-04-2015 09:33:08
อืม รอดูว่าจะมีสงครามรึเปล่าละเนี้ย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 9 หน้า 3 22/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 22-04-2015 21:10:39
                                                         ตอนที่ 9 จุดประสงค์ที่แท้จริง.........

      “ตาภามตักเกี๊ยวให้หนูรมิตาหน่อยสิลูก”

      “ครับแม่”

      “ตาภามตักผัดอันนี้ให้หนูตาหน่อยสิลูก หนูตาคงตักไม่ถึง”

      “ครับแม่”

        และ ตาภามตักอันนั้น อันนี้ให้หนูรมิตาหน่อยสิลูก เป็นคำพูดของคุณหญิงแม่ที่เราทุกคนได้ยินตลอดระยะเวลาที่นั่งทาน

อาหารมื้อกลางวันกัน ส่วนไอ้หื่นที่ถูกคุณหญิงแม่สั่งก็ยอมทำตามทุกอย่าง ทุกประการไม่มีขัดแต่อย่างใด ผมที่นั่งร่วมโต๊ะกับคุณ

หญิงแม่ ไอ้หื่น ไอ้ภัทร แล้วก็แขกที่คุณหญิงแม่พามาร่วมโต๊ะด้วย แทบอยากจะลุกออกจากโต๊ะอาหารเพื่อออกไปอาเจียนให้มัน

รู้แล้วรู้รอดไปเลยเพราะอะไรมันจะเวอร์ขนาดนั้น ผมล่ะอยากรู้จริงๆเลยว่าหนูรมิตาของคุณหญิงแม่เนี่ยจะตักอาหารไม่ถึงไปซะ

ทุกอย่างจริงๆเลยน่ะเหรอถึงจะต้องคอยให้คนอื่นตักบริการให้ตลอด เห็นแล้วไอ้ป๊อบพูดเต็มปากเต็มคำว่า หมั่นไส้!

      หลังจากที่ผมกับไอ้หื่นไปตลาดกลับมาก็เจอคุณหญิงแม่กับแขกคนพิเศษที่ท่านอยากจะให้ไอ้หื่นได้ทำความรู้จักแบบใกล้

ชิด สนิทสนม ให้ตายเถอะเด็กอนุบาลมันยังรู้เลยว่าคุณหญิงแม่พาผู้หญิงคนนี้มาทำไม แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้นั่งร่วมโต๊ะ

ทานอาหารมื้อกลางวันที่สุดแสนพิเศษที่ไม่มีใครเขาเชิญ แต่ผมก็อยากร่วมเองเพื่อที่จะได้ดูท่าทีของคุณหญิงแม่ว่าคราวนี้จะมา

ไม้ไหน แต่ที่แน่ๆผมอยากจะถีบไอ้คนที่คอยบริการตักอาหารให้คนอื่น โดยลืมสนใจแฟนอย่างผมถึงแม้จะเป็นแฟนจำเป็นก็เถอะ!

 เห็นแล้วไอ้ป๊อบหงุดหงิดโว้ย!

      “เป็นเหี้ยไรมึง” ไอ้ภัทรที่นั่งข้างๆผมก้มลงมากระซิบถาม

      “เป็นคน” ผมตอบไอ้ภัทรน้ำเสียงหงุดหงิด ใช่! ตอนนี้ผมกำลังหงุดหงิดถึงแม้จะไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุอะไรที่ทำให้ผม

หงุดหงิดก็เถอะ ส่วนเหตุที่ไอ้ภัทรก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผมได้ทั้งๆที่ปกติแล้วผมกับมันจะนั่งตรงข้ามกันเพราะผมจะต้องนั่งข้าง

ไอ้หื่น แต่คราวนี้มันมีสาเหตุมาจากคุณหญิงแม่ที่จัดแจงให้หนูรมิตาคนโปรดไปนั่งข้างไอ้หื่นและเนรเทศผมให้มานั่งข้างไอ้ภัทร

แทน ส่วนตัวเองก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ถูกอกถูกใจที่ดูสองคนนั้นคอยบริการตักอาหารให้กันและกันอย่างมีความสุข

                                                          เหอะ ระวังสำลักความสุขนะครับคุณหญิงแม่!

      “หรา! แต่มือมึงนี่กำช้อนบ้านกูซะแน่นมากเลยนะเว้ย กูว่านะ ถ้าช้อนบ้านกูเป็นแบบพลาสติคมันคงจะหักคามือมึงแล้วแหละ

ไอ้ป๊อบ มึงหึงพี่กูกับคุณรมิตาก็บอกมาเถอะ” ไอ้ภัทรก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผมด้วยน้ำเสียงล้อเลียน ผมเลยจัดให้มันสักหนึ่ง

ดอก โทษฐานที่คำพูดมันไม่เข้าหู โดยการประเคนฝ่าเท้าของผมไปบนฝ่าเท้าของมันอย่างไม่ยั้งแรง

      “โอ๊ย!” ไอ้ภัทรร้องเสียงหลงทันทีที่ถูกผมเหยียบเท้าเข้าเต็มแรงเลยทำให้ตอนนี้ทุกคนในโต๊ะหันมามองมันอย่างสงสัย

มันเลยได้แต่ยิ้มแหยๆพร้อมกับแก้ตัวว่าที่มันร้องเสียงหลงก็เพราะมดกัด ซึ่งผมคิดว่าคำแก้ตัวของไอ้เพื่อนรักมันดูเป็นคำแก้ตัวที่

น่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมากเลย มึงคิดได้ไงวะเพราะขนาดกูที่เป็นเพื่อนมึงยังไม่คิดที่จะแก้ตัวแบบนั้นเลย

      “เล่นแรงนะมึง ไอ้ป๊อบ ไอ้เพื่อนเวร หึงแล้วชอบทำร้ายร่างกาย คอยดูกูจะฟ้องเฮียให้จัดหนักให้มึง คอยดูสิ” ไอ้ภัทรก้มลง

มากระซิบที่หูผมอย่างคาดโทษที่โดนผมฝากรอยเท้าไว้ที่เท้ามันเต็มๆ กลัวตายล่ะมึง!

      “ห่าไรมึงเนี่ยก็มึงกวนตีนกูก่อนแล้วที่สำคัญพี่มึงเกี่ยวไรด้วย” ผมว่า

      “เกี่ยวดิก็เขาเป็นว่าที่สามีมึงไงเกี่ยวเต็มๆเลย” ไอ้ภัทรว่า ก่อนจะหันกลับไปก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนผมก็

อยากจะเอาช้อนในมือมาเขกหัวมันให้ช้อนหักคามือไปเลย ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจคนอื่นๆที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย ไม่งั้นหัวไอ้ภัทรได้บวม

ปูดเพราะฝีมือของผมแน่!

      “นี่ตาภามหนูรมิตาเนี่ยทั้งเรียนเก่ง หน้าตาดี มีความเป็นผู้ดี ทำอาหารก็เก่ง จัดดอกไม้ก็สวยมากด้วยนะลูกมากกว่าใครบาง

คนซะอีกล่ะ” คุณหญิงแม่พูดก่อนจะปรายตามองมาที่ผม นั้นไงโดนแขวะเลยกู ส่วนหนูรมิตาของคุณหญิงแม่ก็ยิ้มรับที่โดนชม
 
                                      แหมหน้าชื่นตาบานทั้งคนชมแล้วก็คนถูกชมเลยนะคร๊าบบบบบ

      “งั้นเหรอครับคุณหญิงแม่อย่างนี้ก็ดีเลยสินะครับ คุณรมิตาครับ ยังไงป๊อบก็ขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ด้วยคนนะครับเพราะ

ที่คุณหญิงแม่พาคุณรมิตามาที่นี่ก็คงเป็นเพราะอยากจะให้ป๊อบที่เป็นว่าที่ลูกสะใภ้ได้เป็นงานบ้านงานเรือนที่พอแต่งงานกับพี่ภาม

ไปจะได้คอยช่วยดูแลพี่ภามได้ ป๊อบนี่ต้องขอบคุณคุณหญิงแม่มากเลยนะครับที่ช่วยหาครูมาสอนป๊อบ คุณหญิงแม่นี่ใจดีจริงๆ

เลยนะครับ” ผมพูดกับคุณหญิงแม่ ก่อนที่ผมจะหันไปพูดฝากเนื้อฝากตัวกับคุณรมิตาพร้อมกับเน้นสถานะของตัวเองให้ชัดเจน

ส่วนคุณเธอก็ดูตกใจอยู่ไม่น้อยเพราะสงสัยคุณหญิงแม่คงจะยังไม่ได้บอกสถานะของผมให้กับอีกคนได้รู้ เธอถึงได้มีสีหน้า

ประหลาดใจแบบนั้น ก่อนจะยิ้มรับและพยักหน้าลงเล็กน้อยและจากนั้นผมก็ไม่ลืมหันไปขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีอย่างคุณหญิงแม่ที่

ตอนนี้หน้าตึงเพราะไปฉีดน้องโบว์หรือตึงเพราะผมก็ไม่รู้ แต่ที่ผมรู้ท่านคงจะพยายามเก็บอาการที่โกรธผมโดยไม่แสดงออกมา

ต่อหน้าแขกอยู่เป็นแน่ ไอ้ภัทรที่นั่งข้างๆก็สะกิดผมยิกๆ ผมเลยหันไปมอง มันเลยก้มมากระซิบที่ข้างหูผม

      “มึงนี่สุดยอดฝุดๆเลยว่ะเพื่อน เล่นเอาแม่กูนี่หน้าตึงไปเลย” ไอ้ภัทรบอกผมอย่างอึ้งๆในความสามารถพิเศษของผม ผมเลย

ยักคิ้วส่งไปให้

      “อะแฮ่ม!” ไอ้หื่นกระแอมไอทำให้ผมกับไอ้ภัทรต้องหันไปมอง ไม่ทราบว่าส้นเท้าติดคอเหรอหื่น!? ผมล่ะอยากจะถาม

คำถามนี้กับไอ้หื่นภามจริงๆ

      “เป็นอะไรไปครับพี่ภาม อะไรติดคอเหรอครับ” ผมกัดฟันถามอีกคน แต่อีกคนก็ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบ คุณหญิงแม่ก็พูดขัด

ขึ้นมาเสียก่อน

      “แม่ว่าเราคงไม่ต้องกินข้าวกันแล้วล่ะ ไปตาภามพาหนูตาเดินดูรอบๆบ้านดีกว่า แม่หมดอารมณ์ที่จะกิน!” คุณหญิงแม่ว่า

 ก่อนจะเดินกระแทกเท้าตึงตังออกไป เอ่อ...ผมล่ะอยากจะถามคุณหญิงแม่จริงๆนะครับว่า ตอนสาวๆคุณแม่นี่เป็นติสต์ตัวแม่รึ

เปล่าครับเพราะขนาดกินข้าว แค่ตักข้าวเข้าปากแล้วก็เคี้ยวๆๆ ยังต้องใช้อารมณ์กันเลย คุณหญิงแม่นี่ท่าจะหนักนะเนี่ย

      “เอ่อ...ตาขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่โต๊ะอาหารเอ่ยขึ้น ก่อนจะลุกเดินตามคุณหญิงแม่ออกไปจึง

ทำให้ที่โต๊ะเหลือแค่ผม ไอ้ภัทรแล้วก็ไอ้หื่นภาม

        ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็พบว่าตอนนี้ใกล้จะบ่ายสองแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็คงจะถึงเวลานัดกับไอ้มิ่งที่ร้านพี่โก้เลยคิดจะ

ออกไปหามันที่ร้านพี่โก้ตอนนี้เลยน่าจะดีกว่า ไปนั่งรอไอ้มิ่งที่ร้านพี่โก้แก้เซ็งดีกว่าเพราะถึงร้านพี่แกจะเปิดตอน 2 ทุ่ม

แต่สำหรับน้องนุ่งแล้วจะไปกี่โมงพี่แกก็ยินดีต้อนรับเสมอแล้วยิ่งตอนนี้ผมรู้สึกเหม็นหน้าใครบางคนเลยไม่อยากจะอยู่บ้านสัก

เท่าไร

        ผมตัดสินใจลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะทานข้าวเพื่อออกไปร้านพี่โก้เพื่อขอคำปรึกษาอะไรบางอย่างจากไอ้น้องรหัสสุดรัก

แต่ก็ต้องชะงักฝีเท้าลงเมื่อคนที่ผมเหม็นหน้าในตอนนี้เอ่ยเรียกทักไว้

      “ไม่ทราบว่าน้องป๊อบจะไปไหนครับ” อีกคนถามผมเสียงเรียบ ผมก็ไม่ได้อยากจะตอบคำถามอะไรของไอ้หื่นภามนี่สักเท่าไร

 ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแค่ลูกจ้างเขาเพราะถ้าจ้างให้ผมก็ไม่ได้อยากพูดกับไอ้คนแบบนี้ แค่เห็นหน้าก็หมั่นไส้

      “ป๊อบจะไปไหนมันก็เรื่องส่วนตัวของป๊อบ พี่ภามควรจะเอาเวลาไปดูแลคุณรมิตาน่าจะดีกว่าเพราะเดี๋ยวถ้าไม่รีบไปคุณหญิง

แม่ก็อาจจะว่าเอาได้นะครับ เฮ้ย! ไอ้ภัทรไปธุระส่วนตัวเป็นเพื่อนกูหน่อย” ผมตอบไอ้หื่นอย่างเซ็งๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะเหน็บแนมอีก

คน ขอสักทีเถอะ!

        จากนั้นผมจึงหันไปเรียกไอ้ภัทรที่ทำหน้าเหรอหราไม่ยอมลุกขึ้นมาตามที่ผมเรียก ผมเลยจำต้องไปลากไอ้เพื่อนรักพร้อม

ขยิบตาให้มันลุกเดินออกมาพร้อมกัน ก่อนจะก้มลงที่หูของไอ้ภัทรกระซิบบอกสถานที่ที่ผมจะไป ซึ่งในตอนแรกมันก็ยังคงงงๆที่

ผมคิดยังไงจะไปร้านพี่โก้แต่หัววันแบบนี้ แต่พอผมบอกเหตุผลว่านัดไอ้มิ่งเอาไว้มันเลยยอมพาไป
 
        แต่แน่นอนว่ามีเหรอไอ้เรื่องเผือกๆอย่างนี้ ไอ้ภัทรแห่งบ้านสุริยศักดิ์คนนี้จะไม่พลาดเพราะทันทีที่ผมกับมันขึ้นรถมุ่งหน้าไป

ร้านพี่โก้มันก็เล่นซักผมซะเป็นทางยาว จนผมอดไม่ได้ที่ต้องเอื้อมมือไปชกเข้าที่ต้นแขนมันเบาๆ  ข้อหาเผือกเกินหน้าเกินตา!

      “มึงจะซักกูให้ขาวเลยใช่ไหมวะไอ้ภัทร คนยิ่งเครียดๆอยู่” ผมบ่น ก่อนจะมองมันตาขวางเพราะขนาดผมว่ามันมันยังไม่หยุด

ความพยายามที่จะซักผมต่อ ถามจริงวิญญาณผู้พิพากษาเข้าสิงเหรอไงมึง ซักกูซะ!

      “มึงก็บอกกูมาสิว่ามึงเครียดเรื่องอะไรเพราะเรื่องแม่มึงก็หมดห่วงไปแล้วเพราะเฮียกูเขาก็ดูแลเรื่องค่ารักษากับจ้างพยาบาล

พิเศษมาดูแลให้ ส่วนเรื่องไอ้ปิ๊กมึงก็ไม่มีอะไรต้องเครียดเพราะเฮียกูเขาก็จัดเตรียมเรื่องค่าใช้จ่ายเอาไว้ให้ รอแค่ให้มันมาที่

กรุงเทพฯก็เท่านั้น” ไอ้ภัทรหันมาพูดกับผมพร้อมกับหันกลับไปมองถนนด้านหน้าเป็นระยะๆ ส่วนผมก็หันมองออกนอกหน้าต่าง

เพราะมันก็จริงอย่างที่ไอ้ภัทรว่า ตอนนี้ผมหมดห่วงเรื่องของแม่กับน้องแล้วมันก็ไม่น่ามีอะไรที่ทำให้ผมเครียดหรือหงุดหงิด

แต่ผมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องอะไรที่ทำให้ผมเครียดและหงุดหงิดแถมยังต้องขอคำปรึกษาจากคนอื่น เพียงแต่ผมไม่อยากที่จะยอมรับ

มันก็เท่านั้นเอง

      “มันก็มีอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นแหละที่ทำให้มึงเครียดแล้วก็หงุดหงิดอยู่ในตอนนี้” ไอ้ภัทรหันมามองผมซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับ

ที่รถติดไฟแดง ผมจึงหันกลับมามองตามเสียงของไอ้ภัทร ก่อนที่มันจะพูดต่อ

      “เรื่องของเฮียภามใช่ไหม” ไอ้ภัทรถามผมเสียงเรียบ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะยอมรับสักเท่าไรหรอกนะว่ามันเป็นเรื่องจริง

      “เพื่อนกูนี่แสนรู้ เอ้ย! ฉลาดรอบรู้ไปซะทุกเรื่องจริงๆเลยเนอะ” ผมว่ายิ้มๆ ไอ้ภัทรจึงหันมามองค้อนผม มันไม่ได้ดูน่ารักสัก

นิดเลยมึง เหอะๆ แต่ไม่นานมันก็กลับมายกยิ้มภูมิใจในตนเองแทน

                                                         ผมว่ามันไม่เต็มกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ

      “กูจะถือว่านั่นคือคำชมของมึงที่ชมกู เอาล่ะเรื่องที่มึงจะไปขอคำปรึกษาจากไอ้มิ่งก็คือเรื่องของเฮียภามใช่ไหม”

ไอ้ภัทรถาม ก่อนจะกลับไปตั้งหน้าตั้งตาเป็นสารถีที่ดีต่อเมื่อไฟจราจรให้สัญญาณไฟเป็นสีเขียว

      “อืม” ผมตอบไอ้ภัทร ก่อนที่มันจะยกยิ้มและเลิกเซ้าซี้ในการซักฟอกผม

      “งั้นก็มุ่งหน้าสู่ร้านพี่โก้กันเลยนะครับ คุณว่าที่พี่สะใภ้” ไอ้ภัทรว่าล้อๆ ผมเลยยกนิ้วกลางแสดงความรักส่งไปให้มัน ส่วนมันก็

นั่งหัวเราะน้ำตาเล็ดมีความสุขในการขับรถพาผมไปที่ร้านพี่โก้ แต่ตัวผมเองนี่สิที่ยังคงนั่งเครียดและหวังว่าไอ้น้องรหัสสุดรักของ

ผมมันจะช่วยอะไรผมได้บ้าง....................










                           

      “เอ่อ...พี่ภามเป็นอะไรรึเปล่าคะ ตาเห็นพี่นั่งเหม่อตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว” ผมหันกลับไปมองตามเสียงเรียกก็เห็นหญิงสาวที่นั่ง

ร่วมโต๊ะทานมื้อกลางวันเมื่อครู่เอ่ยถามขึ้นและถ้าจำไม่ผิดคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าเธอจะชื่อ รมิตา

      “อ๋อ เปล่าครับ พอดีพี่คิดเรื่องงานอยู่” ผมโกหกอีกคนคำโตเพราะจริงๆแล้วผมกำลังคิดถึงเรื่องของไอ้เด็กแสบที่อยู่ดีๆก็มา

อารมณ์เสียตีรวนผมไปหมดทั้งๆที่เมื่อเช้ายัง.........น่ารักอยู่เลยแท้ๆ

      “อย่างนั้นเหรอคะ” เธอพูดเหมือนไม่เชื่อในคำตอบของผม ก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อนตรงข้ามกันกับผม

        หลังจากที่ไอ้เด็กแสบออกจากบ้านไปทำธุระส่วนตัว โดยลากไอ้ภัทรออกไปเป็นเพื่อน คุณหญิงแม่ก็ใช้คนให้มาตามผมพา

ให้รมิตาไปเดินเล่นรอบๆบ้าน จากนั้นผมจึงเลือกที่จะพาเธอมาเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน ก่อนที่ผมจะหยุดนั่งที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้

เพื่อนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยคนเดียวจนกระทั่งเธอเดินมาทัก

      “พี่ภามกำลังไม่สบายใจเรื่องของป๊อบอยู่เหรอคะ” หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยถามผม จึงทำให้ผมต้องละสายตาจากต้นไม้ที่นั่ง

มองอยู่หันกลับมามองเธออย่างชั่งใจอยู่ชั่วครู่เพราะผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ

      “ทำไมน้องตาถึงคิดว่าพี่กำลังคิดถึงเรื่องของป๊อบอยู่ล่ะครับ” ผมถามลองเชิงคนตรงหน้า

      “แววตาของพี่ยังไงล่ะคะ” ผู้หญิงตรงหน้าตอบผมพร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ถูกส่งมาจากเธอ ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เธอพูดเพราะ

ถึงแม้ผมจะไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่แน่นอนว่าต่อให้คนเราเป็นคนที่เย็นชาแค่ไหนก็มีสิ่งเดียวที่เราไม่สามารถปกปิดมันได้ นั่น

ก็คือ............แววตา ของเรา

      “สมแล้วนะครับที่น้องตาเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ช่างสังเกตจริงๆ” ผมตอบ เธอจึงพยักหน้าลงเล็กน้อยแทนคำขอบคุณ

      “งั้นตาขอถามอะไรพี่ภามหน่อยนะคะ” ผู้หญิงตรงหน้าผมเอ่ยถามขึ้น ผมจึงพยักหน้าให้เธอถามคำถามนั้น

      “พี่ภามชอบ....ไม่สิต้องเป็น พี่ภามรักป๊อบใช่ไหมคะ” จู่ๆเธอก็ถามคำถามนี้กับผม ซึ่งมันก็น่าแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อยเพราะ

เธอเป็นคนที่คุณแม่ต้องการพามาให้ทำความรู้จักและสร้างความสนิทสนมกับผม แต่ทำไมเธอถึงเลือกถามคำถามนี้กับผมกัน

      “ไม่ต้องมองตาอย่างสงสัยแบบนั้นก็ได้ค่ะ ตาไม่ได้คิดอะไรกับพี่ภาม ตามีแฟนอยู่แล้วค่ะ แต่คุณป้าท่านคงจะยังไม่รู้แล้วยิ่ง

ตาได้มาเจอกับคนที่แฟนตารู้จักด้วย อย่างนี้ตาก็ยิ่งอยากจะช่วยค่ะ” คนที่รมิตารู้จัก ใครกันเพราะที่แน่ๆคงไม่ใช่ผมหรือว่าอาจจะ

เป็น.....ไอ้เด็กแสบ! แต่แล้วทำไมเธอถึงอยากจะช่วยล่ะ เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่

      “แล้วทำไมน้องตาถึงไม่บอกคุณแม่ไปล่ะครับว่าน้องตามีแฟนแล้ว แล้วทำไมถึงต้องช่วยแล้วช่วยเรื่องอะไร” ผมถาม เธอจึง

ส่งยิ้มมาให้ผมเหมือนสิ่งที่เรากำลังคุยกันมันเป็นเพียงแค่เรื่องขบขัน แต่สำหรับผม ผมไม่ได้รู้สึกขบขันเลยสักนิด

      “เรื่องบอกคุณป้าว่าตามีแฟน ตาบอกแน่ค่ะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่เรื่องที่ตาจะช่วยคือตารู้ว่าตอนนี้คุณป้ากำลังอคติกับป๊อบ

 ตาก็จะช่วยพูดให้คุณป้าเลิกอคติและลดทิฐิลงบ้าง ส่วนอีกเรื่องที่ตาจะช่วยคือ ป๊อบเป็นคนรักครอบครัวและคนดีอย่างป๊อบก็ควร

ที่จะได้คนดีอย่างพี่คอยดูแล มันก็มีแค่นี้แหละคะจุดประสงค์ทั้งหมดที่ตาจะทำให้สำเร็จ” รมิตาบอกผม แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

ว่าถ้าอยากจะช่วยให้ผมกับป๊อบรักกันและให้คุณแม่ลดทิฐิในเรื่องป๊อบ ทำไมถึงไม่บอกคุณแม่ล่ะว่าเธอมีคนรักแล้ว แบบนี้คุณแม่

อาจจะเข้าใจผิดแล้วเรื่องราวก็อาจจะไปกันใหญ่ก็ได้

      “แต่พี่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมน้องตาถึงไม่ยอมบอกคุณแม่ว่าน้องตามีคนรักแล้วเพราะถ้าหากคุณแม่เข้าใจผิด น้องตากับ

แฟนอาจจะต้องทะเลาะกันก็ได้นะครับ” ผมบอกเธอด้วยความหวังดี

      “เรื่องแฟนตา ตาโทรบอกเขาเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ตาบอกตั้งแต่ที่คุณป้าชวนมาทานข้าวที่บ้านนี้ ส่วนเรื่องที่พี่ภามกลัวว่าจะมี

ปัญหา กลัวว่าคุณป้าจะคลุมถุงชนเราสองคน ตาเชื่อว่าเรื่องนี้มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นค่ะเพราะตาจะใช้เวลาให้เร็วที่สุดในการทำให้

พี่กับป๊อบรู้ใจตัวเองให้ได้ อย่างน้อยๆให้อีกคนได้รู้ใจของตัวเองก็น่าจะยังดี” อีกคนตอบ

      “แล้วน้องตามีวิธีอะไรเหรอครับ” ผมถาม เธอจึงทำหน้าจริงจังก่อนจะตอบคำถามที่ผมถาม

      “วิธีของตาคือ ตอนนี้ตารู้แล้วว่าพี่คิดยังไงกับป๊อบ แต่สำหรับป๊อบ ตาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร ตาเลยอยากจะให้เราสองคนแกล้ง

ทำเป็นสนิทกัน อย่าเพิ่งต่อต้านว่าวิธีนี้ของตามันจะงี่เง้า ปัญญาอ่อนและไร้สาระนะคะ” เธอพูดขัดขึ้นเหมือนจะรู้ทันว่าผมจะ

ทักท้วง ผมจึงต้องจำใจฟังเธอพูดให้จบ

      “คนเรา ถ้าหากว่าไม่ได้รักหรือไม่ได้มีความสนใจในตัวของอีกคนก็จะไม่แสดงท่าทีออกมาว่าหึงหรือหวง อาทิเช่น โวยวาย

ใส่เราอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อรู้ว่าเรากำลังสนใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง”  โวยวายใส่เราอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อรู้ว่าเรากำลังสนใจคนอื่น

มากกว่าตัวเอง ผมลองทวนประโยคที่น้องตาพูดซ้ำๆ ซึ่งเหมือนมันจะคุ้นๆ มันเหมือนผมจะเคยเห็น เหมือนกับว่ามันเพิ่งจะผ่าน

มา..........เมื่อครู่นี้เอง

      “อืม ฟังดูแล้วพี่ก็ว่ามันไม่ได้ไร้สาระอย่างที่คิดไว้เลยนะ” ผมบอกอีกคนยิ้มๆ คนที่อยู่ตรงหน้าผมจึงฉีกยิ้มกว้างที่ผมเห็นด้วย

กับความคิดนี้ของเธอ

                                                     เอาวะ! อย่างน้อยๆ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้!!






















มาต่อให้แล้วนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่หายไปนาน พอดีว่าอินเตอร์เน็ตมีปัญหาเพิ่งใช้ได้วันนี้จริงๆ พอใช้ได้ดีสก็รีบอัพนิยายลง

ให้เลยนะคะ ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งเก๊าน้าาาาาาา ดีสไม่ทิ้งนิยายเรื่องนี้เด็ดขาดค่ะ รับรอง ไม่ดองด้วย แต่ในช่วงนี้อาจจะอัพสักช่วง

เวลาประมาณนี้นะคะเพราะดีสมีเรียนซัมเมอร์ช่วงเช้ากว่าจะเลิกก็เย็น แถมอาจารย์ยังสั่งการบ้านอีก ฮือออออๆๆๆๆ ขอโทษจริงๆ

นะคะ ขอโทษด้วยค่ะ :mew2: :mew2: :mew2:

ปล.อันนี้ลองถามเกริ่นๆดูนะคะ ถ้าดีสจะรวมเล่มเรื่องนี้แล้วเปิดให้สั่งจอง มีใครจะสนใจกันบ้างไหมคะ ลองเม้นๆดูได้ค่ะ o13

ปล.2 เดี๋ยววันนี้จะอัพเพิ่มให้อีกกี่ตอนไม่รู้(55555)ถือเป็นการชดเชยที่หายหน้าหายตาไปนานนะคะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 10 หน้า 3 22/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 22-04-2015 21:21:59
                                           ตอนที่ 10 ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก…......

            ระยะทางจากบ้านสุริยศักดิ์มุ่งหน้าสู่ร้านเรสเตอร์รองกึ่งบาร์ของพี่โก้ใช้ระยะเวลาไม่นานมากนัก เนื่องจากการจราจรบน

ท้องถนนในวันนี้ไม่ได้ติดขัดมากสักเท่าไรจึงทำให้เส้นทางที่ไอ้ภัทรใช้เดินทางมาร้านพี่โก้นั้นโล่งกว่าปกติ

      “บ่ายสามโมง”

        ผมยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูหลังจากที่ลงจากรถไอ้ภัทรเดินตรงเข้าร้านพี่โก้ ซึ่งพี่แกก็ออกมาต้อนรับขับสู้น้องนุ่ง

เป็นอย่างดีเพราะผมสั่งให้ไอ้มิ่งโทรบอกพี่โก้เอาไว้ล่วงหน้าว่าผมจะมาขอยืมสถานที่ในการใช้คุยธุระ ปรึกษาปัญหากันนิดหน่อย

 ซึ่งพี่โก้เองก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด แถมยังใจดีบอกโต๊ะที่ไอ้มิ่งจองไว้สำหรับคุยกับผมให้อีกด้วย

      “เดินตรงไปโต๊ะประจำเลยไอ้ป๊อบ น้องรหัสตัวดีของมึงยึดครองอาณานิคมไว้โน่นแล้ว” พี่โก้ชี้บอก ผมจึงเดินตามไปที่โต๊ะที่

พี่โก้บอกและยิ่งเป็นโต๊ะประจำของพวกเราด้วยแล้วยิ่งไม่ใช่ปัญหาที่จะเดินไปหาไอ้น้องรหัสตัวแสบเลย

        แต่พอผมเดินไปถึงที่โต๊ะก็แทบอยากจะหันหลังเดินถอยกลับออกไปนอกร้านทันที ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้ไอ้ภัทรเดินมาตาม

หลัง แถมยังผลักให้ผมเดินต่อไปอีกด้วย

        ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผมแทบจะหันหลังกลับมันก็มีอยู่ไม่มาก ซึ่งมันเป็นข้อเดียวจริงๆก็คือ

      “อ้าวพี่เมฆ พี่ท็อป หวัดดีครับ” ไอ้ภัทรที่ยืนอยู่ด้านหลังผมเอ่ยทักทายพี่รหัสทั้งสอง ซึ่งก็นั่นแหละครับ พี่เมฆแล้วก็พี่

ท็อปนั่นแหละครับที่ทำให้ผมอยากจะหันหลังกลับออกไปจากร้านพี่โก้ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ยิ่งถ้าออสโมซิสหายไปในโต๊ะได้

เลยยิ่งดี

      “อืม หวัดดี” พี่ๆทั้งสองยกมือขึ้นรับไหว้ ผมเลยยกมือไหว้พวกพี่เขาบ้างจะได้ไม่เป็นการเสียมารยาท

      “เฮียภัทร เฮียป๊อบ หวัดดีครับ” ไอ้มิ่งที่เอ่ยหวัดดีจากทางด้านหลังทำให้ผมกับคนที่เหลือต้องหันไปมองพร้อมกับทั้งผมและ

ไอ้ภัทรยกมือรับไหว้มันที่ตอนนี้เดินถือมาพร้อมกับถังน้ำแข็งใบเล็กที่สงสัยจะโดนพี่เมฆกับพี่ท็อปใช้ให้ไปเอา โอ้โห จะเมากัน

แต่หัววันเลยเหรอครับพี่น้อง?

      “มึงโทรบอกพี่เมฆกับพี่ท็อปเหรอไอ้มิ่ง” พอผมนั่งลงที่เก้าอี้ได้ ผมก็เริ่มถามคำถามกับไอ้มิ่งทันทีเพราะถ้าไม่ใช่มันแล้วพวก

พี่เมฆกับพี่ท็อปจะรู้เรื่องที่ผมนัดมันเพื่อมาปรึกษาปัญหาได้ยังไงกัน ส่วนพี่เมฆกับพี่ท็อปที่เข้ามาอยู่ในประโยคสนทนาของผม

กับไอ้มิ่งก็เลยเลิกคิ้วขึ้นมองอย่างสงสัย แต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรกับผมเพราะคงเห็นว่าตอนนี้ผมกำลังเค้นถามไอ้น้องรหัสตัวดีอยู่

      “เปล่านะเฮีย พอมิ่งเข้ามาที่ร้านพี่โก้ก็เห็นพี่เมฆกับพี่ท็อปนั่งอยู่ในร้านก่อนแล้ว” ไอ้มิ่งรีบบอก ผมเลยมองมันอย่างไม่เชื่อ

      “ไม่ต้องมามองแบบไม่เชื่อใจกันเลย ถ้าเฮียไม่เชื่อนะ เฮียก็ถามพี่เมฆกับพี่ท็อปดูสิ” ไอ้มิ่งบุ้ยให้ผมไปถามพี่เมฆกับพี่ท็อป

พี่แกเลยรีบอธิบายให้ผมฟัง

      “พี่สองคนมาที่ร้านพี่โก้นานแล้ว ก่อนที่ไอ้มิ่งจะมาซะอีก” พี่เมฆเป็นคนตอบผม ผมเลยเลิกสงสัยเพราะคนอย่างพี่เมฆถึงจะ

กวนตีนไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยโกหกน้องนุ่ง

      “แน่นะพี่เมฆ” ผมถามย้ำเพื่อกันให้แน่ใจ คราวนี้ไอ้มิ่งเลยรอดตัวไป

      “ว่าแต่ทำไมมึงถึงไม่อยากให้พี่กับไอ้เมฆอยู่ที่นี่ด้วย มึงมีความลับอะไรรึเปล่าป๊อบ” พี่ท็อปถามผมอย่างสงสัย ทีงี้ล่ะเสือก

ฉลาด พี่กูหนอพี่กู

        ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะไม่รู้จะตอบพี่ท็อปยังไงดี ไอ้ความลับน่ะมันก็ไม่เชิงมีหรอกนะเพราะถ้าจะมีก็มีแต่

ไอ้เรื่องที่ยังบอกไม่ได้แล้วก็ยังไม่อยากบอกในตอนนี้มากกว่า

        ไอ้ภัทรที่นั่งอยู่ข้างผมจึงเอ่ยขึ้นเหมือนรู้ว่าผมกำลังหนักใจเพราะไม่รู้จะเริ่มว่ายังไงดี

      “ถึงเวลาที่มึงควรพูดได้แล้วนะเพื่อน ถ้ามึงคิดจะมาขอคำปรึกษาพวกพี่เขาอย่างน้อยๆ ถ้าพวกพี่ๆเขารู้เขาอาจจะช่วยมึงแก้

ปัญหาได้นะ หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวนะมึง ไอ้ป๊อบ” ไอ้ภัทรพูด ผมจึงหันไปมองหน้ามัน มันก็จริงอย่างที่ไอ้ภัทรมันว่าเพราะ

หลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว แถมคนที่ผมเลือกขอคำปรึกษาก็เป็นรุ่นพี่ที่เคารพรักแล้วก็รุ่นน้องที่รู้จัก แต่ถ้าให้ผมเลือกที่จะ

ปรึกษาพี่เมฆกับพี่ท็อปนะ ผมว่าผมขอหัวเดียวกระเทียมลีบยังน่าจะดีซะกว่าเพราะดูท่านพี่แต่ละคนของผมสิครับ

                                       ไม่พาน้องบรรลัยก็ให้คำปรึกษาโคตรไร้สาระเลยแหละครับ

        ผมจึงนั่งชั่งใจอยู่ชั่วครู่ มีหันไปมองหน้าพี่เมฆ พี่ท็อปแล้วก็ไอ้มิ่งเป็นระยะๆเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าผมควรจะ

บอกหรือไม่ควรบอกดี

                                                จนกระทั่งผมรู้ว่าผมควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี.......................

      “เอาก็เอาวะ พี่เมฆ พี่ท็อปแล้วก็ไอ้มิ่ง ป๊อบมีเรื่องจะบอกและอยากจะขอคำปรึกษาหน่อย แต่พวกพี่ต้องสัญญาว่าจะไม่บอก

เรื่องนี้กับใครรวมทั้งมึงด้วยไอ้มิ่ง” ผมกำชับทุกคนเพราะผมยังไม่อยากจะให้คนอื่นๆรู้ว่าไอ้ยอดชายนายป๊อบที่มีเสน่ห์ดึงดูดสาวๆ

เหลือล้นต้องมาทำงานเป็นแฟนกำมะลอแถมแฟนก็ดันมาเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่อีกต่างหาก รู้ถึงไหนอายถึงนั่น!!

      “รับทราบครับ!” พี่เมฆ พี่ท็อปแล้วก็ไอ้มิ่งรับคำ ก่อนจะทำท่ายกมือขึ้นตะแบ๊ะอย่างกวนๆ

        จากนั้นผมจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พวกพี่ๆแล้วก็ไอ้มิ่งฟัง ซึ่งในตอนแรกที่เริ่มเล่าพี่ท็อปถึงกับเอ่ยปากไม่เชื่อว่าผมจะ

ยอมรับงานแบบนั้น แต่ทำไงได้ล่ะพี่ งานดี เงินดีแบบนี้มันก็ไม่ได้หากันง่ายๆนะครับ แต่น่าโชคร้ายไปหน่อยที่นายจ้างของผมดัน

มาเป็นไอ้หื่นภาม ที่ชอบกวนประสาทผมแถมยังทำนิสัยหื่นๆกับผมอีกต่างหาก

      “แล้วที่มาเล่าปัญหาครอบครัวชีวิตคู่ ชีวิตรักของมึงกับพี่ชายไอ้ภัทรให้พวกกูฟังนี่ มึงจะให้พวกกูช่วยอะไรวะเห็นดูรักกันดีไม่

น่าจะมีปัญหานี่หว่า” ไอ้พี่ท็อปถามทันทีที่ผมเล่าเรื่องจบ ไอ้พี่เวร ไอ้ปากหมา ใครเขาไปเป็นครอบครัวเดียวกันกับไอ้หื่นนั่นกัน

เล่า!!

      “ไอ้พี่ปากเสีย ใครเขาไปมีชีวิตรักกับไอ้หื่- เอ่อ....พี่ชายไอ้ภัทรกันเล่า ป๊อบยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าเราสองคนรักกันดี

อย่างที่พี่พูดเลยนะ อย่ามโนได้ป่ะ” ผมเน้นคำ ก่อนที่จะบอกให้ไอ้พี่ชายตัวดีของผมเลิกมโนสักที

      “มึงแก้ตัวอย่างนี้แสดงว่ามึงต้องมีโมนเม้นมุ้งมิ้งกับเขาใช่ปะล่ะ ถ้าไม่ใช่มึงคงไม่แก้ตัว แหมๆๆๆ เมื่อกี้พี่ได้ยินนะไอ้น้อง

มึงมีการแทนชื่ออีกคนเป็นสรรพนามที่ใช้เรียกกันแค่สองเราด้วยใช่ไหมล่ะ” ไอ้พี่ท็อปว่า แถมยังยักคิ้วหลิ่วตาทำหน้าล้อผม

ผมอยากจะถามไอ้พี่ท็อปจริงๆว่า คำว่า ไอ้หื่น  ใครที่ไหนเขาใช้เรียกแทนตัวกันบ้างวะ? แต่ก็ยังไม่ทันที่ผมจะได้โต้ไอ้พี่ท็อป

กลับเสียงของพี่เมฆก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน

      “แต่กูว่านะท็อป ถ้าน้องมึงไม่ได้มีปัญหาชีวิตรักกับแฟนมัน มันก็คงต้องมีปัญหาไม่ลงรอยกับแม่แฟนแน่ๆเลยว่ะ” ไอ้พี่เมฆ

หันไปถามไอ้พี่ท็อป โดยมีไอ้มิ่งพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย

      “ใช่พี่ ไอ้ป๊อบกับแม่ไม่ค่อยถูกกัน แม่ภัทรเขาเป็นคนเรื่องเยอะ ส่วนไอ้ป๊อบ พวกพี่ก็รู้นิสัยมันอยู่นะ แม่ง ไม่ยอมคน ชอบ

เอาชนะ แม่ภัทรเลยไม่ชอบมัน” ไอ้ภัทรบอก คนที่เหลือก็พยักหน้าตามที่ไอ้ภัทรพูด พี่เมฆที่นั่งฟังไปคิดไป ขมวดคิ้วแทบผูกติด

กันเป็นโบว์ ครุ่นคิดเรื่องของผมเหมือนเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่โตที่ทำให้เหล่ามวลมนุษยชาติต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นสิ่งที่ต้อง

รีบกันแก้ไขกันโดยด่วน?

      “มึงกับเขารักกันดีไหมวะ” ไอ้พี่เมฆถาม หลังจากที่พี่มันนั่งคิดเรื่องของผมอย่างหนักพร้อมกับนั่งจ้องหน้าผมอยู่ตลอด

แต่โชคดีที่ผมเป็นคนไม่ใช่ปลาทองไม่งั้นผมคงท้องโตคลอดลูกเป็นสิบเอาไปตั้งเป็นทีมฟุตบอลแข่งกับชาริล ชัปปุยส์และเมสซี่

 เจได้แล้วล่ะ!?

      “นี่พี่ไม่ได้ฟังที่ป๊อบพูดใช่ป่ะว่าป๊อบไม่ได้รักพี่ชายไอ้ภัทร” ผมแย้ง พร้อมกับพยายามอธิบายให้พี่เมฆเข้าใจว่า..............

                                                          ผมไม่ได้คิดอะไรกับไอ้หื่นนั่น!!

      “แล้วมึงรู้เหรอว่าเขาจะไม่ได้คิดอะไรกับมึง” ไอ้พี่ท็อปถาม จนทำให้ผมต้องหันไปมอง

      “เอ่อ........” ทำไมผมต้องติดอ่างด้วยวะ? หรือว่าอาจจะเป็นเพราะบางครั้งที่ไอ้หื่นนั่นมันทำ

มันทำให้ผม ให้ผม ให้ผม

ให้ผม ..................เผลอคิด.........................

คิดเข้าข้างตัวเองว่ามัน.....ชอบผม...................

      “เอาเป็นว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ชายไอ้ภัทรก็แล้วกัน” ผมบอก แต่ก็พยายามไม่สบตาของพี่เมฆที่จ้องผมอยู่ก่อนแล้ว

      “สิ่งที่หัวใจสั่งกับสิ่งที่สมองสั่งมันทำงานออกมามีประสิทธิภาพไม่เหมือนกันนะ สมองสั่งให้สู้ แต่ถ้าใจมันอ่อนล้า สุดท้ายมัน

ก็สู้ไม่ไหวหรือถ้าสมองสั่งให้ไม่รัก แต่หัวใจดันรัก ผลสุดท้ายมันก็ต้องกลับมาทำตามที่หัวใจของตัวเองสั่งอยู่ดี” พี่เมฆว่า

      “ทำไมพวกพี่ต้องยุให้ผมชอบพี่ไอ้ภัทรด้วยเนี่ย เขาเป็นผู้ชายนะพี่แล้วที่สำคัญป๊อบ-ชอบ-ผู้หญิง” ผมเน้นช้าๆชัดๆ

ไอ้พี่ท็อปที่นั่งฟังก็ถึงกับปล่อยขำออกมา ผมว่าผมก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนะ?

      “ก็เพราะพี่กูเป็นคนดี รักเดียวใจเดียวไม่ชอบโฉบเฉี่ยวเที่ยวราตรีปี้หญิงเหมือนใครบางคนไง” ไอ้ภัทรว่าแถมยังมีการปราย

ตามามองผมอีก มึงระบุตัวคนเถอะภัทรเพราะยังไงซะคนที่มึงหมายถึงก็คือกูอยู่ดี

      “ที่พวกพี่ยุก็เป็นเพราะว่าเขาน่าจะเป็นคนดี มึงลองคิดดูดีๆนะไอ้น้องรัก ถ้าเขาไม่ดีจริงเขาคงไม่ช่วยมึงหรอก” พี่ท็อปว่า

      “แต่เขาก็ได้ผลประโยชน์เหมือนกันนะพี่ พี่คิดดูเขาจ้างป๊อบให้มาเล่นเป็นแฟนกำมะลอเพื่อกันไม่ให้คุณหญิงแม่ของเขามา

จับคู่เขากับคนที่เขาไม่ได้รัก แต่ในระหว่างนี้เขาก็คงจะได้เจอคนรัก คน-ที่-เขา-รักและแน่นอนว่ามันไม่ใช่ป๊อบและจากนั้นพอ

หมดสัญญาหกเดือนเราทั้งคู่ก็จะยุติเรื่องบ้าๆนี้กัน ป๊อบก็จะได้กลับไปใช้ชีวิตของป๊อบ ส่วนเขาก็คงจะได้ใช้ชีวิตรักกับคนที่เขารัก

 โดยที่ไม่ได้มาจากการเลือกของแม่เขา” ผมอธิบายให้พวกพี่ๆและคนที่เหลือเข้าใจในสิ่งที่ผมกับไอ้หื่นกำลังทำกันอยู่

      “ก็ในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วมึงจะมาปรึกษาพวกพี่ทำไมล่ะเพราะยังไงมึงกับเขาก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันอยู่แล้ว

 มึงจะมานั่งแคร์เรื่องแม่ของเขาทำไม แม่เขาไม่ชอบเรา เราก็ไม่ต้องแคร์เพราะยังไงซะเราก็ไม่ได้รักลูกชายเขาจริงๆอยู่แล้วนี่”

นั่นสิทำไมผมต้องมานั่งเครียด นั่งแคร์ด้วยนะทั้งๆที่ผมกับไอ้หื่นก็ไม่ได้.....รักกันอยู่แล้ว แต่ทำไมผมถึงหยุดเครียดไม่ได้สักที

      “นอกเสียจากว่า ตอนนี้มึงกำลังมีความรู้สึกดีๆให้กับเขามากกว่าที่มึงเคยรู้สึก” พี่ท็อปว่า ผมกำลังจะอ้าปากเพื่อปฏิเสธในสิ่ง

ที่พี่ท็อปพูด แต่น่าแปลกที่มันกลับไม่มีเสียงของผมเล็ดลอดออกมาเลยสักนิดหรือว่าสิ่งที่พี่ท็อปพูดมันอาจจะเป็นเรื่อง

จริง................

      “เอาเป็นว่าตอนนี้ป๊อบขอเวลาอีกสักนิดก็แล้วกันนะ” ผมบอกทุกคน ไอ้ภัทรเลยเอื้อมมือมาลูบหลังผมเพื่อให้กำลังใจ

ส่วนคนอื่นๆก็พยักหน้ารับในสิ่งที่ผมพูด

      “เออว่าแต่ ตอนนี้เฮียต้องการคำปรึกษาจากพวกเราเรื่องอะไรบ้างล่ะ” ไอ้มิ่งที่ไร้บทพูดมานานเอ่ยถามผม

      “เรื่องคุณหญิงแม่แล้วก็เรื่องผู้หญิงคนหนึ่ง” ผมบอก ไอ้มิ่งที่ได้ยินกลับเลิกคิ้วถามผมด้วยความสงสัย

      “เรื่องคุณหญิงแม่มิ่งก็เข้าใจนะเฮีย แต่เรื่องผู้หญิงนี่มันยังไงกันอ่ะ มิ่งงงมากกกกกก” ไอ้มิ่งถามผมหางเสียงยาวว่ามันงง

มากจริงๆ

      “ก็แม่ของพี่ไงเขากำลังจับคู่ให้เฮียกับคุณรมิตา” ไอ้ภัทรเป็นคนตอบไอ้มิ่ง ส่วนไอ้มิ่งที่ได้ยินชื่อรมิตาก็ถึงกับตาโตเท่าไข่

ห่าน

      “เป็นอะไรวะมิ่งได้ยินชื่อรมิตานี่ทำไมต้องตาโตด้วยวะ เขาเป็นแม่มึงรึไงถึงได้ตกใจขนาดนี้” ผมถามมันอย่างขำๆ แต่มัน

กลับเสือกพยักหน้ารับอีกต่างหาก

      “เฮ้ย! อย่าบอกนะว่ารมิตาเป็นแม่มึงน่ะ!!” ไม่น่าเชื่อว่ารมิตาเนี่ยนะจะเป็นแม่ของไอ้มิ่ง!! โถๆๆๆยังสาวยังสวยอยู่เลยไม่น่า

ไปมีลูกปัญญาอ่อนเป็นไอ้มิ่งเลย น่าสงสารเธอจริงๆ

      “เป็นแม่ในที่นี่หมายถึงแม่ของลูกมิ่งน่ะเฮีย แหะๆ” ไอ้มิ่งเฉลยพร้อมกับยิ้มแห้งๆส่งมาให้ทุกคน ผมอยากจะฆ่าไอ้น้องรหัส

อย่างไอ้มิ่งตอนนี้ผิดไหมเนี่ย ดูมันทำพูดอะไรก็ไม่กระจ่างทำให้คนอื่นเขาหัวใจจะวายเข้าใจผิดกันไปใหญ่

      “ไอ้เวร ใครเป็นพี่รหัสมึงเนี่ยมิ่งพูดซะพวกพี่ตกอกตกใจหมด คราวหน้าคราวหลังจะพูดหรือจะทำอะไรกรุณาขอให้เคลียร์

หน่อยนะไอ้น้อง ดูหน้าไอ้ป๊อบนี่อย่างกับลิงอดแดกกล้วย เหวออย่าบอกใครเลย ฮ่าๆๆ” ไอ้พี่ท็อปแม่งต้องเลี้ยงสุขนัขไว้ในปาก

เป็นฝูงแน่ๆถึงได้คอยเห่าคอยหอนได้ตลอดแบบนี้เนี่ย!

      “อย่ามาพูดแมวๆแบบนี้ดิพี่ท็อป ป๊อบไม่ได้เหวอขนาดนั้นนะ ว่าแต่พี่เหอะไปด่าพี่รหัสมันทั้งๆที่มันก็เป็นหลานรหัสพี่” ผมว่า

ไอ้พี่ท็อปกลับ คราวนี้หน้าไอ้พี่ท็อปพูดไม่เข้าคายไม่ออกเพราะสิ่งที่ผมพูดเป็นเรื่องจริง พี่เมฆที่นั่งฟังพวกเราทะเลาะกันก็หลุด

ขำเมื่อพี่ท็อปโดนผมเล่นกลับบ้าง เป็นไงล่ะไอ้พี่ท็อปหัวเราะทีหลังดังกว่าแถมพวกยังเยอะกว่าด้วย ฮ่าๆๆๆๆ

      “ไอ้เชรี่ยเจ็บ!” เสียงของพี่เมฆร้องดังลั่นเมื่อถูกพี่ท็อปกระแทกศอกเข้าสีข้างของตัวเอง จากนั้นก็ดูเหมือนจะมีสงคราม

ขนาดย่อมเกิดขึ้นระหว่างพี่เมฆกับพี่ท็อป แต่ยังไม่ทันที่สงครามจะได้เริ่มก่อตัวไอ้มิ่งที่นั่งมองอยู่นานก็พูดขัดศึกครั้งนี้ก่อน

      “ผมว่าพวกพี่เลิกไร้สาระกันแปบนะ” สิ้นเสียงของไอ้น้องรหัสตัวดีของผม พี่เมฆกับพี่ท็อปได้แต่มองหน้ามันอย่างเหวอๆที่

ไม่คิดว่ามันจะกล้าพูดออกมาแบบนั้นกับพวกรุ่นพี่

      “ขอโทษคร๊าบบบบ พอดีมิ่งลืมตัว แหะๆ” ไอ้มิ่งที่รู้ตัวว่าหลุดพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไปก็รีบยกมือขึ้นไหว้ปลกๆเป็นการ

ขอโทษขอโพย พี่ท็อปเลยชี้หน้าคาดโทษมัน ก่อนจะกลับเข้าสู่เรื่องของผมต่อ

      “คือตอนนี้มึงมีสองเรื่องที่ต้องการคำปรึกษาใช่ป่ะไอ้ป๊อบ” พี่ท็อปถาม ผมจึงพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นก็เป็นพี่เมฆที่พูดต่อ

จากพี่ท็อปรับกันอย่างกับลูกคู่

      “เรื่องแรกคือคุณหญิงแม่ ส่วนเรื่องที่สองก็คือรมิตา” ผมก็พยักหน้ารับเช่นเดิม

      “เรื่องที่สองเฮียไม่ต้องห่วงเพราะตาเป็นแฟนมิ่งแล้วเขาก็โทรมาบอกมิ่งเหมือนกันเรื่องที่มีญาติผู้ใหญ่มาขอความช่วยเหลือ

 บอกให้มิ่งไม่ต้องซีเรียสเพราะยังไงตาก็ไม่สนใจพี่ภามของเฮียแน่นอน” ไอ้มิ่งพูดซึ่งมันก็ทำให้ผมเบาใจลงไปบ้าง ไม่มากก็

น้อยล่ะนะ

      “ส่วนเรื่องแรกนี่จะว่างานหินงานโหดก็ว่าได้เพราะเป็นปัญหาการอคติของแม่กูที่มีต่อตัวมึง” ไอ้ภัทรว่าซึ่งมันก็จริงคุณหญิง

แม่นี่แหละตัวดีเลยไม่รู้ว่าจะอคติอะไรกันนักกันหนา

      “ไม่ยากไอ้น้องรักเพียงแค่มึงทำตัวดีๆกับเขาแล้วก็คอยเอาใจเขา คนแก่ชอบคนเอาอกเอาใจเชื่อพี่” ไอ้พี่ท็อปบอก แค่ขึ้น

มาข้อแรกผมก็แทบอยากจะตอบปฏิเสธให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่มันก็ทำไม่ได้

      “นี่พี่ว่าแม่ภัทรเป็นคนแก่เหรอ” ไอ้ภัทรถามพี่ท็อปเสียงฉุนพี่แกก็ลอยหน้าลอยตาพยักหน้ารับ

      “ทำไมหรือไม่จริง?” พี่ท็อปว่า จากสีหน้าตอนแรกของไอ้ภัทรที่บึ้งตึงพอไอ้พี่ท็อปมันถามจบเท่านั้นแหละ มันกลับส่งยิ้มให้

พี่ท็อปซะอย่างงั้น!!

      “เปล่าพี่ แต่ผมโคตรชอบพี่เลย ผมขอจับมือพี่ทีพี่พูดโดนใจหน่อยดิ” ไอ้ภัทรยื่นมือไปจับมือพี่ท็อป ส่วนพี่แกก็เล่นไปกับ

เขาด้วย เฮ้อ! สรุปว่าไอ้ภัทรมันเป็นเด็กเก็บกดหรือว่ามันกินยาลืมเปิดขวดกันแน่เนี่ย?

      “พอเลยไอ้ภัทร นั่นบุพพการีมึงนะให้เกียรติเขาด้วย” พี่เมฆว่า ไอ้ภัทรเลยยกมือขึ้นไหว้ขอโทษ

      “เออ ว่าแต่แม่มึงชอบอะไรบ้างไอ้ภัทร” พี่ท็อปถามไอ้ภัทร มันเลยนั่งนึก ก่อนจะหันมาตอบ

      “แม่ชอบกินเค้กพี่ ชอบมากด้วยล่ะ ชอบมากชนิดที่ว่าใครเอาเค้กมาให้นะแม่ยอมรับเป็นลูกสะใภ้เลยล่ะ” ไอ้ภัทรตอบ

คนอื่นๆที่เหลือยิ้มพอใจในคำตอบของไอ้ภัทร ก่อนจะส่งสายตาวาววับมาที่ผมพร้อมกับความกดดัน ที่ทำให้ผมได้แต่กลืนน้ำลาย

ลงคออย่างฝืดเคืองพร้อมกับร้อยยิ้มแห้งๆที่ส่งให้ทั้งหกสายตาที่จ้องมองมา

      “คอร์สเรียนทำเค้ก นี่แหละไอ้ป๊อบที่มึงต้องทำเพื่อเอาชนใจแม่สามี” ไอ้พี่ท็อปว่า ซึ่งผมเองก็รู้ชะตากรรมของตัวเองตั้งแต่

ที่ทุกคนจ้องมองมาอย่างดีแล้วล่ะ เอาไงก็เอากันวะเพราะยังไงซะมันก็เป็นหนึ่งในงานที่เราจำเป็นต้องทำคือทำให้คุณหญิงแม่ลด

อคติในตัวเราให้ได้!!












เอาแล้วไงเมื่อยอดชายนายป๊อบของเรากำลังหาวิธีพิชิตใจคุณแม่สามี อิอิ รอดูกันต่อไปว่าผลลัพธ์ที่ยอดชายนายป๊อบของเรา

หวังไว้จะสัมฤทธิ์ผลกันหรือไม่ ขอบคุณที่ติดตามและทุกคำคอมเม้นที่ติชมและสนับสนุนนะคะ ไว้พบกันตอนต่อไปจร้าาาา

หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 9-10 หน้า 3 22/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-04-2015 23:14:12
ป๊อปจะทำเค้ก ออกมาเป็นไงนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 9-10 หน้า 3 22/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 22-04-2015 23:49:28
มาแล้วววววว บอกตรงๆว่าตอนแรกเคืองมากหายไปนานสุดๆ เข้ามารอทุกวันแต่ก็ไม่ยอมอัพ
ไม่เป็นไร ตอนนี้ให้อภัยแล้วเพราะมาอัพที 2 ตอนรวด
มาต่อไวๆน้าาา เป็นกำลังใจให้เสมอ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 23-04-2015 17:29:44
                                                          ตอนที่ 11 ผู้ช่วยคนสำคัญ.........

            ตอนนี้ก็ก้าวผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์เป็นอาทิตย์ที่ไอ้น้องชายหัวแก้วหัวแหวนของผมจะต้องขึ้นมากรุงเทพฯ ส่วนแม่ก็มี

พยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตามคำสั่งของไอ้คุณพี่ภามที่ตอนนี้เริ่มจะเรียกจนชินปากเพราะพี่ท่านเล่นบังคับให้ผมเรียกพี่แกว่า

 พี่ภาม อย่างนี้ ทั้งเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหาร ก่อนอาหาร ก่อนเข้านอน โชคดีที่ไม่มีก่อนขับถ่าย ไม่งั้นผมคงได้ลาตายไป

จริงๆ ซึ่งเป็นอย่างนี้มาตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา แล้วถ้าผมยังเรียกไม่ชินปากอีกล่ะก็ ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้วล่ะ

      “วันนี้น้องชายป๊อบจะมากรุงเทพฯใช่ไหม งั้นเดี๋ยวถ้ามาถึงแล้วก็บอกพี่นะเดี๋ยวพี่จะไปรับ” ไอ้พี่ภามบอกผม ก่อนที่คุณพี่

ท่านจะออกไปทำงานเคลียร์เอกสารให้เสร็จในช่วงเช้าเพราะน่าจะเป็นช่วงบ่ายๆที่ไอ้น้องชายสุดรักของผมจะมาถึงที่กรุงเทพฯ

 ผมเลยพยักหน้ารับ ก่อนที่อีกคนจะดึงตัวเข้าไปกอด ผมที่ทั้งดิ้น ทั้งทุบ ทั้งขัดขืน แต่ก็สู้แรงควายๆของคุณพี่ภามไม่ได้เลยได้

แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของอีกคน เป็นแบบนี้มานานนับอาทิตย์เห็นจะได้ ก่อนที่อีกคนจะผละออกไปทำงาน

        หลังจากวันที่ผมไปขอคำปรึกษาจากไอ้มิ่งแล้วก็พี่เมฆกับพี่ท็อปในวันนั้น ผมก็ต้องไปหาคอร์สเรียนทำขนมเค้กเพื่อมา

เอาใจคุณหญิงแม่อย่างจริงจังเผื่อท่านจะลดอคติในตัวผมลงไปบ้าง จนตอนนี้ผมก็เรียนมาได้เกือบครบอาทิตย์แล้ว ส่วนถ้าใคร

สงสัยว่าผมออกไปเรียนได้ยังไงโดยที่คนในบ้านไม่มีใครสงสัยก็เป็นเพราะผมจะออกไปหลังจากที่ไอ้พี่ภามออกไปทำงานแล้ว

คนในบ้านก็เริ่มต่างแยกย้ายกันไปทำงานในส่วนของตัวเอง ส่วนคุณหญิงแม่ก็ไปเที่ยวกับพวกคุณหญิงคุณนายทั้งหลายที่ท่าน

รู้จัก ผมจึงพอมีโอกาสในตรงนี้ออกไปได้โดยที่ไม่มีใครสงสัย

        ส่วนในเรื่องของรมิตาก็มีมาที่บ้านบ้างเป็นครั้งคราว แต่ผมก็บอกกับตัวเองว่ารมิตาเป็นแฟนของน้องรหัสไม่มีทางคิดอะไร

กับไอ้หื่นภาม(ขอกลับมาเรียกสรรพนามเดิมสักแป๊บ)อย่างแน่นอนเพราะผมดูจากสายตาของเธอก็พอจะรู้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องแคร์

 แต่ผมก็ยังหงุดหงิดใจทุกครั้งที่เห็นสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน ผมก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่า ผมไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับไอ้พี่ภามนั่น

 ไม่เลยสักนิด!

        ตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะ 10 โมงเช้าได้แล้ว หลังจากที่ไอ้พี่ภามนั่นออกไปทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าอีกไม่นานก็คงน่าจะ

เสร็จพอที่จะไปรับไอ้ปิ๊กได้ ถ้าไม่ติดว่าพี่แกมีงานด่วนเข้ามาเสียก่อนนะ

        กริ๊งๆ!

        เสียงโทรศัพท์มือถือของผมเริ่มปฏิบัติการณ์แผดเสียงร้องดังสนั่นทำให้ผมที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในบ้านต้องรีบหยิบมันขึ้นรับ

 ก่อนที่จะโดนสายตาพิฆาตส่งตรงมาจาก คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ได้ (ผมว่าคุณหญิงแม่โหดร้ายยิ่งกว่าลอร์ดโวลเดอมอร์อีกนะ)

      “ฮัลโหลเฮีย” พอผมกดรับสายปลายสายก็รีบเอ่ยทักทันทีพร้อมกับน้ำเสียงที่ดูแปร่งๆติดออกจะไปทางเหน่อๆแบบคน

สุพรรณ

      “ว่าไงไอ้น้องรักแล้วนี่เราจะมาถึงที่นี่เมื่อไหร่ล่ะ” ผมถาม ก่อนจะเดินออกนอกบ้านเพื่อไปคุยโทรศัพท์ในที่ส่วนตัวสักนิด

ซึ่งผมก็เลือกม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ในสวนเป็นที่ส่วนตัวในการคุยโทรศัพท์

      “ตอนนี้ปิ๊กเพิ่งออกจากบ้านมาขึ้นรถเองเฮีย น่าจะไม่นานหรอก กรุงเทพฯ-สุพรรณใกล้กันจะตาย” ไอ้ปิ๊กว่า

      “เออๆๆ ใกล้ถึงแล้วก็โทรบอกเฮียด้วยล่ะ เดินทางปลอดภัยนะ” ผมบอกไอ้ปิ๊ก ก่อนที่มันจะขอตัววางสายไปและหลังจากที่

ผมวางสายจากไอ้ปิ๊กได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ต้องให้รอนานเพราะผมกดรับทันทีที่ได้ยินเสียง

โทรศัพท์แผดเสียงร้อง

      “ตอนนี้พี่เคลียร์งานเสร็จแล้วนะ น้องของป๊อบจะมาถึงเมื่อไหร่ล่ะ” ไอ้พี่ภามถาม ผมเลยยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เมื่อกี้ไอ้ปิ๊ก

เพิ่งบอกว่ากำลังไปขึ้นรถ น่าจะราวๆ 2 ชั่วโมงเห็นจะได้นะถ้าจะมาถึงที่กรุงเทพฯ

      “น่าจะอีก 2 ชั่วโมงนะที่ไอ้ปิ๊กมันจะมาถึง แล้วตอนนี้พี่ออกจากที่ทำงานแล้วเหรอ” ผมถามเพราะเห็นว่าอีกคนเพิ่งจะไป

ทำงานตอน 8 โมงเช้าอะไรจะไวปานนั้น

      “อืมใช่ พอดีพี่เข้าไปบริษัทเพื่อเซ็นต์เอกสารนิดหน่อยเสร็จแล้วก็กลับ อีกครึ่งชั่วโมงพี่น่าจะถึงบ้าน ป๊อบเตรียมตัวไว้ก็แล้ว

กันถ้าพี่ไปถึงเราจะได้ออกไปรับน้องของป๊อบที่อนุสาวรีย์ฯกัน” อีกคนบอก ก่อนจะวางสายซึ่งผมคาดว่าน่าจะกำลังขับรถอยู่ตอน

ที่โทรคุยกับผม

        กริ๊งๆ!

        เสียงโทรศัพท์ของผมแผดเสียงร้องขึ้นอีกครั้งทั้งๆที่ผมเพิ่งจะวางสายไปเมื่อครู่ อะไรกัน ทำไมวันนี้โทรศัพท์ผมถึงได้ฮ็อต

แปลกๆ

      “เฮีย ปิ๊กจะบอกเฮียว่าปิ๊กอาจจะไปสายหน่อยนะ”

        พอผมกดรับโทรศัพท์ที่เพิ่งดังขึ้นเมื่อครู่ก็เป็นเสียงของไอ้ปิ๊กที่มันบอกผมอย่าหงุดหงิดเล็กน้อยว่าวันนี้มันอาจจะช้าหน่อย

      “อ้าว แล้วเป็นอะไรทำไมถึงจะมาช้าล่ะ” ผมถามออกไปและดูเหมือนว่าบริเวณที่ไอ้ปิ๊กอยู่จะมีเสียงดังมากกว่าปกติ

      “พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะเฮีย เอาเป็นว่าปิ๊กอาจเลทนะเฮีย” ไอ้ปิ๊กบอกผม ผมเลยรีบพูดแทรกเข้าไปว่าถ้ามันใกล้ถึงแล้ว

ให้โทรบอก มันส่งเสียง อืม ออกมา ก่อนจะกดวางสาย ผมก็ใจไม่ดีกลัวเหมือนกันว่ามันจะเป็นอะไรไปรึเปล่า แต่ผมก็ยังไม่ทันได้

คิดอะไรไปไกลเสียงของแตรรถก็ดังขึ้นที่หน้าบ้านพร้อมกับค่อยๆปรากฏรถยนต์คันที่ผมไม่คุ้นเคยค่อยๆขับเข้ามาภายในบ้าน

      “นั่นไม่ใช่รถไอ้หื่นภามนี่หน่า” ผมว่า ก่อนจะลุกออกไปดูแล้วก็พบว่าเจ้าของรถคันนั้นเป็นใครเมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูออกมา

จากรถ

      “อ้าว สวัสดีค่ะคุณป๊อบ” หญิงสาวที่ออกมาจากรถเอ่ยทักผมเมื่อเธอหันมาเห็นผมยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถของเธอ

      “เอ่อ...สวัสดีครับคุณรมิตา” ผมจึงเอ่ยทักกลับไป เธอจึงยิ้มให้ผม ก่อนจะเอ่ยปากขอคุยธุระอะไรบางอย่างกับผม

      “จะรบกวนอะไรไหมคะ เอ่อ.....ถ้าตาอยากจะคุยอะไรบางอย่างกับคุณป๊อบสักเล็กน้อย” เธอถามผมอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

แต่ผมก็พยักหน้ารับยอมคุย อะไรบางอย่าง กับเธอ

      “งั้นเชิญที่ม้าหินอ่อนในสวนดีกว่านะครับ” ผมบอก ก่อนจะเดินนำเธอไป

      “คุณป๊อบชอบที่ม้าหินในสวนนี่เหรอคะ” เธอเอ่ยถามผมทันทีที่เราทั้งคู่นั่งลงที่โต๊ะม้าหินอ่อน

      “ก็ไม่เชิงหรอกครับ มันเป็นที่เดียวที่พอให้ผมได้มีเวลามานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย” ผมตอบ แต่กลับปรากฏรอยยิ้มน้อยๆบน

ใบหน้าของเธอ ผมเลยเลิกคิ้วอย่างสงสัยว่าผมพูดอะไรแปลกไปรึเปล่า

      “คุณป็อบนี่สมเป็นคนที่พี่ภามรักเลยนะคะ” เธอพูด คนที่ไอ้หื่นภามนั่นรักน่ะเหรอ ผมเนี่ยน่ะเหรอ คือคนที่ไอ้หื่นภามนั่นรัก

 ถ้าจะบอกว่าพระอาทิตย์ไม่ขึ้นทางทิศตะวันตกยังจะน่าเชื่อกว่านะ เหอะๆ ว่าแต่ว่า...........

                                                                 รมิตานางจะมาไม้ไหนกันแน่เนี่ย!

      “ทำไมคุณรมิตาถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ” ผมถาม เธอจึงตอบผมกลับอย่างยิ้มๆเหมือนเช่นคำตอบในตอนแรก

      “ก็ตาเห็นพี่ภามมานั่งคิดอะไรที่นี่คนเดียว น่าจะเป็นวันที่คุณทะเลาะกับเขาในวันที่ตามาที่นี่ครั้งแรกน่ะคะ ดูพี่ภามนิ่งแปลกๆ

ด้วยนะคะ เหมือนพี่เขาจะ......แคร์คุณป๊อบมากๆเลยนะคะ” หญิงสาวตรงหน้าผมเอ่ยบอก วันนั้น..........วันที่ผมออกไปขอคำ

ปรึกษาจากพวกพี่ท็อปและที่สำคัญวันนั้นผมหงุดหงิดที่เห็นไอ้พี่ภามมันเอาใจคุณรมิตา โดยที่ไม่ยอมสนใจผมเลยทั้งๆที่ในเช้า

วันนั้นเราก็ยังดีๆกันอยู่เลย แต่จะว่าไปผมก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะ ว่าอีกคนจะเก็บเอาสิ่งที่ไร้สาระที่ผมทำลงไปมานั่งคิด........นี่เขา

แคร์ผมจริงๆเหรอ

      “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้”

      “ทางน่ะมีเพียงแต่ขอแค่ให้คุณป๊อบเปิดใจก็เท่านั้นค่ะ” ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าผมเอ่ยขึ้นกับคำพูดที่ผมแค่พูดลอยๆคล้าย

ละเมอเสียมากกว่า ผมจึงหันไปมองหน้าเธออย่างสงสัย ไม่ใช่ว่าไม่รู้ในความหมาย แต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเธอรู้อะไรมากกว่านี้รึเปล่า

      “รู้แค่ในสิ่งที่คุณรู้ แล้วก็เป็นคนหาคำตอบในสิ่งที่คุณอยากรู้ด้วยตัวคุณเองน่าจะดีกว่าที่คุณจะมาถามกับคนอื่นเพื่อให้ได้คำ

ตอบนะคะคุณป๊อบ เอาล่ะค่ะตาว่าพี่ภามน่าจะไม่อยู่บ้านยังไงวันนี้ตาก็ขอตัวกลับก่อนนะคะ” รมิตาเอ่ยกับผม ก่อนที่เธอจะขอตัว

กลับขึ้นมาเสียดื้อๆจึงทำให้ผมรีบลุกไปส่งเธอแทบไม่ทัน แต่ก่อนกลับเธอก็ได้ทิ้งประโยคสุดท้ายก่อนออกจากบ้านไป ทิ้งเอาไว้

ให้ผมได้ขบคิด

      “อย่าลืมนะคะ แค่เปิดใจ”








                           

      “ป๊อบ”

      “น้องป๊อบครับ”

      “อืออออออออออ”

        ผมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นเมื่อรู้สึกตัวเหมือนมีคนมาเรียกและมาเขย่าตัวน้อยๆ ก่อนจะพบว่าคนที่มาปลุกผมให้ตื่นขึ้นจากฝัน

กลางวันเป็นไอ้พี่ภามที่ยืนทำหน้าคิ้วผูกโบว์อยู่ตรงหน้าผม ผมเลยต้องค่อยๆยันตัวลุกขึ้นจากเปลญวนที่อีกคนเอามาผูกไว้นอน

เล่นเมื่อสองสามวันก่อนอย่างงๆตัวเองเหมือนกันเพราะเท่าที่จำได้ ผมเดินมานั่งเล่นที่นี่เฉยๆ แต่ทำไมถึงได้มานอนหลับอยู่ที่

เปลตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

      “ทีหน้าทีหลังอย่ามานอนที่นี่ตอนที่แดดมันเริ่มร้อนแบบนี้สิ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกนะ” อีกคนว่าดุๆเมื่อเห็นผมน่าจะปรับสภาพ

หลังตื่นได้แล้ว ผมเลยยู่หน้ากับการที่โดนอีกคนดุเพราะทำอย่างกับผมเป็นเหมือนเด็กสองสามขวบที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

      “คร๊าบบบบบคุณพ่อ ไอ้ป๊อบรับทราบและจะนำมาปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดครับ” ผมตอบรับ พร้อมกับทำหน้ายียวนกวน

ประสาทอีกคนเล่น

      “กวนตีน” และผมก็ได้คำด่าพร้อมกับมะเหงกที่ถูกเขกมาที่หัวหนึ่งที

      “ไปเตรียมตัวได้แล้วนะเดี๋ยวก็ไปรับน้องชายตัวเองไม่ทันหรอก” อีกคนว่า ผมเลยรีบยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูก็พบว่าอีกไม่กี่

ชั่วโมงไอ้ปิ๊กน่าจะใกล้ถึงกรุงเทพฯแล้ว

      ผมเลยรีบลุกขึ้นจากเปลญวน ก่อนที่จะเซล้มเพราะเหมือนตัวเองจะหน้ามืดยังไงชอบกล แต่ก็โชคดีที่ไม่ได้มีแค่ผมที่อยู่คน

เดียวเพราะตอนนี้ได้ไอ้พี่ภามช่วยเอาไว้ไม่งั้นผมคงได้ไปนอนแผ่หลาเป็นแพลงกิ้งสไตล์อยู่ที่พื้นดินแน่ๆ

      “ระวังหน่อยสิ แล้วนี่ไม่สบายรึเปล่าถึงได้หน้ามืดแบบนี้” อีกคนถามผมขึ้นเมื่อเขารับตัวผมไว้ได้ทันก่อนที่หน้าผมจะทิ่มลง

ดินเลยกลายเป็นว่าผมก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนไปโดยปริยาย แต่ที่น่าแปลกที่สุดทำไมครั้งนี้ผมถึงได้รู้สึกหน้าร้อน

แปลกๆทั้งๆที่อีกคนก็กอดผมออกจะบ่อยหรืออาจจะเป็นคำพูดของรมิตาก็ได้ที่ทำให้ผมถึงต้องเป็นแบบนี้ แค่เปิดใจ หรืออาจจะ

เป็นเพราะคำๆนี้ก็ได้ที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของอีกคน

      “เอ่อ...ครับ แต่ป๊อบว่าป๊อบดีขึ้นแล้ว พี่ภามปล่อยป๊อบก่อนก็ได้” ผมเอ่ยบอกซึ่งแทนที่ผมจะได้เป็นอิสระจากอ้อมกอดของ

อีกคน แต่กลับกลายเป็นว่าอีกคนรวบเอวผมเข้ามาโอบให้กระชับแน่นมากยิ่งขึ้น

      “น้องตาเคยบอกพี่ว่า การที่เรากอดกันนานๆมันทำให้สายสัมพันธ์ของเรายิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้วยิ่งเรา.....” อีกคนเว้น

วรรคประโยคเอาไว้ ก่อนจะดันตัวผมออกห่างเล็กน้อยแล้วค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับมอบจุมพิตที่อ่อนโยนบนหน้า

ผากของผม จนทำให้ผมต้องหลับตาลงเพื่อรับสัมผัสอ่อนโยนนั้นจากอีกคน แล้วอีกฝ่ายก็ค่อยๆผละออกไปอย่างอ้อยอิ่งและเติม

ประโยคที่เว้นวรรคไว้เมื่อครู่ให้สมบูรณ์

      “ยิ่งเราจูบหน้าผากใคร มันก็ยิ่งทำให้เขา.......จดจำเราไปตลอดชีวิต” อีกคนกระซิบบอกเสียงทุ้มนุ้มที่ข้างหู มันเป็นเสียงที่

ทำให้ผมแทบไร้เรี่ยวแรงในการยืน แต่โชคดีที่ได้หน้าอกของอีกคนที่พอให้ผมได้เป็นที่พึ่งได้บ้าง ผมไม่กล้าที่จะสบตาอีกฝ่าย

อย่างตรงๆ จึงได้แต่ซุกหน้าหลบสายตาของอีกฝ่ายและหลบความรู้สึกเห่อร้อนบนใบหน้า ไม่ใช่แค่ความร้อนบนใบหน้าที่ทำให้

ผมต้องหลบสายตาของอีกคน แต่เป็นเสียงของก้อนเนื้อในอกซ้ายที่มันทั้งดังและเต้นถี่รัวจนผมกลัวว่ามันจะเป็นอะไรไปเสียก่อน

      “ทำไมครับ พี่ภามมีแฟนเป็นนักวิทยาศาสตร์หรือไงครับถึงได้รู้ละเอียดรู้ลึก รู้ดีจัง” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง แต่เสียงที่ถาม

อีกคนออกไปกลับเป็นเสียงอู้อี้แทบจะฟังไม่เป็นคำเพราะหน้าผมยังคงซุกอยู่ที่อกของอีกฝ่าย

      “เปล่าครับ แต่พี่มีแฟนเป็น....ว่าที่นักว่าความในอนาคตต่างหากล่ะ” ไอ้บ้า!! ผมหยิกอีกคนไม่แรงมากก่อนจะดันตัวเองให้

หลุดออกจากอ้อมกอดแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านเพื่อเตรียมตัวไปรับไอ้น้องชายสุดที่รักให้เร็วที่สุดเพราะถ้าผมขืนอยู่ต่ออีกนิดผมคงได้

ระเบิดตัวตายกลายเป็นโกโก้ครันช์ในทุ่งข้าวสาลีไปแล้วล่ะ!!       เขินโว้ยยยยยยยยยยยยย!!!!           





 

                       

      “มาช้านะเฮีย” ไอ้ปิ๊กว่าทันทีที่ผมมาถึง

      “ขอโทษพอดีรถติดนิดหน่อย” ผมว่า มันเลยพยักหน้าเข้าใจ

      “ไปเถอะปิ๊กหิวข้าวจะแย่อยู่แล้ว” ว่าเสร็จไอ้ปิ๊กก็โยนกระเป๋าสัมภาระของมันมาให้ผมถือ ไอ้น้องเวร! โยนมาได้ไม่ดูเลยว่า

ผมจะรับกระเป๋ามันได้รึเปล่า ส่วนตัวมันก็เดินตัวเบาออกไป

        หลังจากที่บรรยากาศสีชมพูอมม่วงหรือจะเป็นสีม่วงอมชมพูดี เอาเป็นว่าขึ้นอยู่กับคนจินตนาการดีกว่า แต่สำหรับผมไม่ว่าสี

ไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้นผ่านพ้นไปได้ก็เล่นเอาผมเกือบสายมารับไอ้ปิ๊กแทบไม่ทัน แต่โชคดีที่รถมันมาสาย(แต่ผมก็สายกว่ามัน)เลย

ทำให้ผมโดนมันงอนใส่แค่เล็กน้อย

       “ใครอ่ะเฮีย โคตรหล่อเลยอ่ะ” ผมที่รีบเดินตามไอ้ปิ๊กออกมาเพราะยังไม่ได้บอกเลยว่าไอ้พี่ภามมันจอดรถไว้ที่ไหน ไอ้น้อง

บ้าของผมมันก็เดินดุ่มๆไม่รอพี่มันเลยสักนิด แต่ผมก็ต้องมาเห็นมันหยุดเดินและชี้ให้ผมดูใครบางคน ผมจึงหันมองตามนิ้วที่มันชี้

ก็พบเข้ากับไอ้พี่ภามนั่นแหละครับซึ่งพอดีวันนี้พี่แกเข้าไปบริษัทแปบเดียวเลยทำให้ชุดที่ใส่ออกมามันก็ก้ำกึ่งจะเป็นชุดทำงาน

หรือชุดไปรเวทเพราะเสื้อยังคงเป็นเสื้อเชิร์ต(ยังอยู่ในกางเกง)มีไท(ที่ถูกปลดลงเพื่อคลายความอึดอัด)กางเกงสแลค แล้วก็มี

แว่นตากันแดดที่ทำให้อีกคนดูเท่ห์ มีสเน่ห์ รวมๆแล้วถ้าสาวๆเห็นก็คงกรี๊ด

      “คนนี้เหรอน้องชายป๊อบ” ไอ้พี่ภามที่คงเห็นผมยืนอยู่กับไอ้ปิ๊กเลยรีบเข้ามาทักพร้อมกับถามว่าไอ้ตัวที่ยืนข้างๆนั้นใช่น้อง

ชายรึเปล่า ผมเลยแนะนำคนทั้งคู่ให้รู้จักกัน ซึ่งผมก็แนะนำไอ้พี่ภามว่าเป็นแค่เจ้านาย แต่ดูเหมือนว่าไอ้น้องชายตัวดีจะไม่เชื่อ

      “แค่เจ้านายกับลูกน้องจริงๆเหรอเฮีย ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนเป็นแฟนกันนะ แต่จะว่าไป ถ้าพี่สนใจมาเป็นพี่เขยผมก็ได้นะ ผมไฟ

เขียว!!” ไอ้น้องเวร! ไอ้น้องไม่รักดี! ไอ้น้องแก่แดด! มาถึงมึงก็ยกพี่ให้คนอื่นเลยเหรอ!!!

















มาแล้วจร้าาาาาาา ตอนนี้จัดไปแบบหวานกันเบาๆ :-[  :-[  พอดีพี่ภามเขาขอมา 5555 ยังไงก็ไว้ติดตามรอตอนต่อไปนะคร้าาาา

ขอบคุณมากๆนะคะที่ยังตามคุณสะใภ้ที่รักแล้วก้ยังรักพี่ภามและน้องป๊อบอยู่ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-04-2015 18:12:03
น้องปิ๊กน่ารักที่สุดเลยจ้า..^^ ถูกใจว่าที่พี่เขยตั้งแต่แรกเห็นเลยน้าา ป๊อบหนีไม่พ้นแน่แล้ว เพราะใครๆ ก็สนับสนุนเสียขนาดนี้.. :-[
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 23-04-2015 18:18:15
แบบนี้พี่เขยก็รักตายเลยดิไอ้น้อง บรรยายกาศดูอึดอัดแปลกๆในความรู้สึกผม เหมือนความสัมพันธ์ ของตัวเอก เหมือนจะก้าวกระโดดหรือกลับมาอยู่จุดเดิมกันแน่ มันก็ต้องดูกันต่อไป
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-04-2015 19:13:39
อร๊ายยยย. น้องเมียเป็นใจสุดๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 23-04-2015 21:01:34
ผู้ช่วยพี่ภามออกตัวแรงจริงๆ แต่ดี๊ดี
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 23-04-2015 21:37:13
รมิตารู้จักป๊อบมาก่อนเหรอ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 23-04-2015 22:25:46
น้องชายป๊อบตาถึงมาก
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 11 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 24-04-2015 00:49:11
น่ารักจังเลย ว่างๆให้ป๊อบโชว์สเต็ปเทพการทำขนมเค้กบ้างนะคะ อยากเห็น
ปล.ห้ามหายไปไหนอีกน้าาาา
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอน 12 หน้า 3 24/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 24-04-2015 20:27:57
                                                                  ตอนที่ 12 เติมพลัง.........   
   
            วันนี้เป็นวันที่น้องชายของไอ้เด็กแสบจะมาที่กรุงเทพฯ ผมเลยเป็นคนอาสาคอยไปรับไปส่งให้ ส่วนในเรื่องของที่อยู่นั้น

ผมออกความเห็นว่าให้น้องชายของป๊อบมาอยู่ที่คอนโดของผมก่อนก็ได้เพราะผมซื้อเอาไว้ใช้ในตอนที่ต้องเลิกงานดึกเพราะผม

ขี้เกียจขับรถกลับบ้าน แต่พอเมื่อมีเด็กแสบนี่เข้ามาอยู่ด้วยต่อให้ผมต้องเลิกงานเช้า ผมก็จะต้องกลับบ้านเพื่อที่จะได้กลับมามอง

หน้าคนที่นอนหลับสบายอยู่บนที่นอน ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมกลับมานั่งมองหน้าอีกคนในเวลานอนหลับแบบนั้นตั้งแต่

เมื่อไหร่ แต่พอมารู้ตัวอีกทีมันก็กลายเหมือนเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่ผมจะขาดมันไม่ได้

        แต่จะว่าไป.......ผมว่าตอนที่ป๊อบนอนหลับก็ดูไร้เดียงสาน่ารักดีนะ ผิดกับตอนที่เจ้าตัวตื่นนอนลิบลับอย่างกับเป็นคนละคน

 เป็นเหมือนเด็กอะไรก็ไม่รู้ ทั้งฤทธิ์เยอะแถมยังทั้งแสบ ทั้งกวนตีนเป็นบ้า แต่ก็นะ......มันก็ยังมีความน่ารักอยู่บ้างในบางครั้ง ซึ่ง

ผมก็พอจะให้อภัยกันได้

      “เฮียปิ๊กหิวอ่ะ” เสียงของปิ๊กน้องชายคนเดียวของป๊อบที่ผมบอกว่าวันนี้เจ้าตัวจะมากรุงเทพฯเอ่ยขึ้นในขณะที่ก้าวขึ้นรถ โดย

มีผมเป็นสารถีขับรถและมีป๊อบนั่งข้างกันเป็นตุ๊กตาหน้ารถ

      “งั้นเดี๋ยวก็ไปหาอะไรกินก็แล้วกัน พี่ภามพอจะรู้จักร้านอาหารอร่อยๆแถวนี้ไหมอ่ะ สงเคราะห์ไอ้ปิ๊กมันหน่อยหิวกระเพาะ

ครากแล้วมั้ง” ป๊อบหันมาถามผม ก่อนจะแขวะน้องชายตัวเอง ผมเลยพยักหน้ารับว่าพอรู้จักร้านอาหารอร่อยๆแถวนี้
 
        ตอนนี้ผม ป๊อบแล้วก็ปิ๊กอยู่ที่อนุสาวรีย์ฯเพราะป๊อบต้องมารับเจ้าปิ๊กที่คิวรถตู้ที่ใช้เดินทางจากสุพรรณมากรุงเทพฯ แต่พอ

มาถึงไอ้เด็กแสบตัวดีก็ให้ผมเอารถไปหาที่จอด ส่วนตัวเองก็จะเข้าไปหาน้องชายก่อน ตอนแรกผมก็จะค้านว่าทำไมเราไม่เข้าไป

ด้วยกัน แต่ก็ยังไม่ทันได้ค้าน อีกคนก็ลงจากรถเดินดุ่มๆเข้าไปที่คิวรถตู้ที่มีเจ้าปิ๊กรออยู่ ผมเลยต้องรีบหาที่จอดรถและวิ่งตามอีก

คนไป

        ผมรีบลงจากรถเมื่อเจอที่ว่างให้เอารถเข้าไปจอดแล้วรีบวิ่งตามอีกคนเข้าไปที่คิวรถตู้เพราะเห็นหลังไวๆว่าข้ามถนนไปที่คิว

รถตู้ฝั่งตรงข้ามที่ผมยืนอยู่ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ข้ามถนนไปอีกฝั่งก็เห็นเด็กผู้ชายหน้าตาคุ้นๆยืนชี้หน้าผมอยู่ ผมก็คิดว่ามีอะไร

ผิดปกติ แต่พอหันไปมองด้านข้างก็พบว่าว่าเป็นป๊อบยืนอยู่ข้างๆไอ้เจ้าเด็กนั่น ผมเลยรีบวิ่งข้ามถนนไปหา ก่อนที่จะถามอีกคนว่า

ไอ้เด็กที่มันยืนชี้หน้าผมเป็นน้องชายของป๊อบรึเปล่า อีกคนจึงพยักหน้าและแนะนำทั้งผมและอีกฝ่ายให้ได้รู้จักกัน ซึ่งป๊อบก็

แนะนำว่าผมเป็นแค่นายจ้าง แต่ดูเหมือนว่าน้องชายของป๊อบจะไม่เชื่อ แถมยังคิดว่าผมกับป๊อบเป็นอะไรกันมากกว่าแค่นายจ้าง

และลูกน้องแล้วที่สำคัญ ถ้าหากผมจะเดินหน้าจีบป๊อบจริงๆล่ะก็ อีกคนก็พร้อมให้ไฟเขียวผมผ่านตลอด ไม่มีขัดขวาง พอผม

ได้ยินแบบนั้น ผมก็รู้สึกเหมือนจะถูกชะตากับไอ้เจ้าปิ๊กนี่ขึ้นมาจริงๆ ทั้งๆที่ตอนแรกผมจะด่ามันอยู่เชียวที่ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่มา

ชี้หน้าผมส่งเดช แต่ไม่เป็นไรว่าที่น้องเมียผมไม่ถือ

      “โอ้โหเฮีย ดูดิอย่างสวยอ่ะ” เจ้าปิ๊กที่ลงจากรถเดินเดินไปที่ทางเข้าของร้านอาหาร โดยลากป๊อบไปด้วย ก่อนที่จะพูดขึ้นมา

เสียงดังจนไอ้คนที่เป็นพี่ชายต้องห้ามปราม

      “ทำอย่างกับบ้านนอกเข้ากรุงงั้นแหละน้องกู ไอ้ปิ๊กสุพรรณกับกรุงเทพฯมันก็ไม่ได้ไกลนะแล้วก็ใช่ว่าที่นั่นจะไม่มีอะไรสวยๆ

เหมือนที่นี่ มึงไม่ต้องมาเล่นใหญ่เลย” ป๊อบว่าอย่างเนือยๆ ไอ้เจ้าปิ๊กก็ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆไปให้พี่ชาย ก่อนจะพากันเดินเข้าไปใน

ร้าน ส่วนผมที่ยืนมองสองพี่น้องคุยกันก็อดยิ้มขำไม่ได้เพราะทั้งพี่ทั้งน้องเล่นถอดแบบความแสบ ความกวนมาเหมือนกันเป๊ะ

ไอ้คนพี่นี่ก็ไม่ใช่เล่น ส่วนไอ้คนน้องก็คงจะไม่เบา เฮ้อ!แล้วแบบนี้ผมจะรับมือไหวไหมเนี่ย?







                                 

      “แล้วสรุปปิ๊กจะเข้ามหาลัยอะไร นี่ก็ใกล้จะสอบแล้วนะควรจะเลือกได้แล้วนะไอ้น้อง” เสียงของป๊อบดังขึ้น ส่วนคนที่โดนถาม

ก็หันหน้ามาพยักหน้ารับ ป๊อบเลยพยักหน้าโล่งใจที่น้องเลือกที่เรียนไว้แล้วเหลือแค่ว่ารอลุ้นว่าเจ้าตัวจะสอบติดมหาลัยที่เลือก

เอาไว้หรือเปล่าก็เท่านั้น

        ตอนนี้เราทุกคนต่างสั่งอาหารมานั่งรับประทานมื้อกลางวันกันและต่อจากนั้นสองพี่น้องที่ไม่ได้เจอกันก็นั่งคุยโม้กันไป

เหมือนพี่น้องที่พัดพรากจากกันมานานเพราะแต่ละคนก็ช่างสรรหาสารพัดเรื่องราวมาเล่าให้อีกฝ่ายฟัง ส่วนตัวผมก็ขอนั่งนิ่งๆเป็น

ผู้ฟังที่ดีและอาจมีร่วมแจมบ้างเป็นบางครั้งที่มีผมเข้าไปอยู่ในบทสนทนานั้นเหมือนอย่างเช่นในตอนนี้

      “ว่าแต่ว่าพี่สุดหล่อครับ” นั่นคือสรรพนามที่น้องชายของป๊อบเรียกผม ซึ่งไอ้คนพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆไอ้คนน้องก็ทำหน้าเหม็นเบื่อ

ทุกครั้งที่ไอ้เจ้าปิ๊กมันเรียกผมด้วยสรรพนามแบบนั้น ซึ่งผมก็หาได้สนใจไม่ ผมเลยหันไปมองหน้าไอ้ปิ๊กเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

เพราะดูเหมือนว่าคนที่เกริ่นนำมาแบบนั้นน่าจะกำลังมีคำถามมาถามผม

      “ไอ้งานที่พี่สุดหล่อให้เฮียป๊อบทำ ทำไมเงินมันถึงเงินดีนักล่ะครับกับอีแค่การไปดูแลคนแก่เนี่ย พี่ยอมจ่ายมากขนาดนั้นเลย

เหรอครับ” ไอ้ปิ๊กถาม

      “แค่กๆๆๆ!!” ผมที่ยกน้ำขึ้นมาดื่มถึงกับสำลัก เมื่อกี้นี้ไอ้เจ้าปิ๊กมันว่าอะไรแก่ๆนะ ดูแลคนแก่เนี่ยนะคืองานที่ผมให้พี่ชายมัน

ทำ!!! ผมเลยหันไปมองหน้าอีกคนอย่างต้องการคำตอบ แต่อีกฝ่ายกลับอมยิ้มทำลอยหน้าลอยตาตอบคำถามนี้แทนผม

      “ก็พี่ภามเขามีญาติผู้ใหญ่หลายคนมาให้พี่คอยดูแลค่าจ้างมันก็เลยเยอะเป็นธรรมดา” อีกคนอธิบายให้น้องตัวเองเข้าใจ

แต่ผมกลับไม่เข้าใจ    รอให้กลับบ้านก่อนเถอะ ผมจะเคลียร์กับอีกคนให้มันกระจ่างไปเลย!!

      “อ๋อ เข้าใจละ” ไอ้ปิ๊กพยักหน้ารับ แต่ดูเหมือนไอ้เจ้าเด็กนี่มันจะมีคำถามอีกหนึ่งคำถามที่น่าจะยังค้างคาใจ

      “เฮีย ปิ๊กมีอีกคำถาม” ไอ้ปิ๊กหันไปถามไอ้พี่ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ นั่นไง ผมว่าแล้วไม่มีผิด ไอ้คนพี่จึงพยักหน้าพร้อมรับฟัง

คำถามนั้น

      “ว่ามาไอ้น้องรัก เฮียพร้อมตอบทุกข้อสงสัย” ป๊อบว่า

      “ดี งั้นถามจริง ตอบตรงนะเฮีย” ไอ้ปิ๊กว่า อีกคนจึงยกน้ำขึ้นดื่นพร้อมกับพยักหน้าบอกให้มันถามคำถามนั้น

      “เฮียกับพี่สุดหล่อเป็นแฟนกันจริงๆใช่ไหม!”

      “แค่กๆๆๆๆ!!!” สิ้นเสียงของไอ้เจ้าปิ๊กน้ำที่ป๊อบเพิ่งดื่มไปเมื่อครู่ เจ้าตัวก็เล่นพ่นออกมาหมดพร้อมกับตัวเองที่กำลังนั่งสำลัก

หน้าดำหน้าแดง โดยมีไอ้น้องชายตัวดีคอยนั่งลูบหลังให้อยู่ ผมอมยิ้มน้อยๆที่อีกคนเป็นเหมือนที่ผมเป็น ผมเลยเป็นคนที่ตอบ

คำถามนี้แทนบ้างเพราะอีกคนก็คงจะพูดไม่ได้ก็เล่นสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดงซะขนาดนั้น หึๆ

      “ปิ๊กอยากได้คำตอบแบบไหนล่ะ แบบที่ดาราตอบหรือแบบคนทั่วๆไปตอบ” ผมเอ่ยขึ้น ทำให้ทั้งคนที่นั่งลูบหลังและคนที่

สำลักไปเมื่อครู่หันมามองผมพร้อมกัน แต่จะต่างกันก็คงเป็นที่แววตาที่แต่ละคนมองมา คนแรกมองอย่างสงสัย ส่วนอีกคนก็มอง

อย่างตื่นตระหนกตกใจ ผมที่เห็นแววตาแบบนั้นของป๊อบก็อยากจะแกล้งเอาคืนอีกฝ่ายบ้าง ผมเลยค่อยๆฉีกรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะ

พูดต่อ

      “ถ้าตอบแบบดาราก็คงตอบว่าเราทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ถ้าตอบแบบคนทั่วๆไป เราทั้งคู่เป็น......แฟ-”

      “อาหารมาแล้ว!!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบเสียงของป๊อบก็ดังขัดขึ้น ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่พนักงานยกอาหารมา

เสิร์ฟ ทุกคนเลยหันไปให้ความสนใจอาหารตรงหน้า ส่วนผมก็มองหน้าอีกคนอย่างเอาเรื่อง แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร

 ยังคงนั่งทานข้าวหน้าตาเฉยต่อไป

                                                                              หึๆ แสบนักนะ!




 

                         

      “เฮ้อ! อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ ไม่ต้องสลบคาตีนเฮีย” ไอ้ปิ๊กพูดขึ้นหลังจากที่เราเดินออกจากร้านอาหาร ว่าแต่ว่าไอ้เมื่อกี้นี่มันคือ

คำขวัญหรือสโลแกนอะไรของมันถึงได้ดูแปลกๆ

      “เมื่อกี้ปิ๊กว่าอะไรนะพี่ได้ยินไม่ค่อยถนัด” ผมว่า ซึ่งตอนนี้เราทุกคนก็กำลังเดินไปที่รถเพื่อที่ผมจะไปส่งไอ้เจ้าปิ๊กให้ไปพัก

ผ่อนที่หอพักเพราะเจ้าตัวก็คงจะเหนื่อยมาทั้งวัน

      “มันคือคำที่ปิ๊กพูดเวลาที่เฮียพาไปเลี้ยงข้าวเพราะถ้าปิ๊กสั่งอาหารเยอะแยะขนาดนี้โดยที่มีเฮียเป็นคนจ่ายปิ๊กคงได้สลบคา

ตีนเฮียแน่ๆ” ไอ้ปิ๊กว่า ผมเลยส่ายหัวอย่างขำๆกับสโลแกนที่ไอ้ปิ๊กมันช่างเข้าใจคิด

      “อย่าเวอร์ไอ้ปิ๊กเฮียขอร้อง” ป๊อบว่า

        จากนั้นเราทั้งสามก็เดินมาถึงรถและประจำหน้าที่เดิมเหมือนอย่างที่ตอนมา แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้สตาร์ทรถเสียงข้อความ

ในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ผมจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดดูก็พบว่าเป็นแพรวส่งข้อความมาว่ามีแขกคนสำคัญมาขอพบผมด่วน

      “มีงานด่วนเข้ามาเหรอ” ป๊อบที่คงจะรู้ว่าผมน่าจะติดธุระเอ่ยถามขึ้น ผมจึงพยักหน้ารับ แต่ก็บอกว่าจะอาสาไปส่งปิ๊กกับป๊อบ

ก่อนแล้วค่อยไปทำธุระ

        ผมมาส่งปิ๊กที่หอพักที่ป๊อบใช้พักอยู่ ส่วนป๊อบก็บอกว่าขออยู่คุยกับน้องชายอีกแปบ ผมเลยบอกว่าถ้าจะกลับเมื่อไหร่ก็ให้

โทรหาเดี๋ยวผมจะเข้ามารับ อีกคนจึงพยักหน้าและเดินขึ้นบันได้หอพักไป ผมเลยรีบขับรถออกจากหอพักและมุ่งหน้าสู่บริษัทของ

ตัวเองทันที

      “ใครกันที่ต้องการพบเราโดยด่วน”







                       

      “สวัสดีครับคุณภามไม่ได้เจอกันซะนานเลยนะครับ” คนที่ต้องการพบผมด่วนเอ่ยขึ้นทันทีที่ผมเปิดประตูห้องเข้าไป ส่วนผมก็

รู้จากเลขาหน้าห้องเหมือนกันว่าใครเป็นคนที่ต้องการพบผมด่วนขนาดนี้

      “สวัสดีครับ คุณธีระ นึกยังไงกันครับถึงต้องการที่จะพบผมด่วนแบบนี้” ผมถาม ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานของผม

 โดยที่มีอีกคนนั่งสนทนาอยู่ที่เก้าอี้ตรงข้าม

      “ก็ไม่ได้นึกยังไงหรอกครับเพียงแค่อยากจะเข้ามาทักทายเพื่อนเก่าก็เท่านั้นล่ะครับ” คนตรงหน้าผมพูด ผมเลยแค่นยิ้มส่ง

ไปให้

      “เหอะ ผมควรจะซาบซึ้งแล้วก็ดีใจมากๆด้วยไหมครับที่ได้รับเกียรติจากเพื่อนเก่าอย่างคุณที่ยอมเสียสละเวลาอันมีค่าเข้ามา

ทักทายผม” ผมถามอีกคนเสียงเรียบ

      “ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของคุณภามก็แล้วกันครับเพราะผมก็ไม่สามารถไปบังคับจิตใต้สำนึกของคุณได้” อีกคนบอกผมเสียงนิ่ง

        เราทั้งคู่ต่างนั่งจ้องหน้าอีกคนกันอย่างเงียบๆเพื่อดูจุดประสงค์และอ่านเกมของอีกฝ่าย จึงทำให้ห้องทั้งห้องต้องตกอยู่ใน

ความเงียบ แต่แล้วก็เป็นผมที่ทำลายความเงียบนั้นลง

      “คุณมาที่นี่ต้องการจะบอกให้ผมยุติโครงการการสร้างคอนโดในครั้งหน้าเพราะมันไปขัดกับผลประโยชน์ของบริษัทของคุณ

ใช่ไหมครับคุณธีระ” ผมถามออกไป อีกคนเลยส่งยิ้มมาให้ ไม่ใช่รอยยิ้มของความจริงใจ แต่เป็นแค่การแค่นยิ้มมากกว่า


      แปะๆๆๆๆ


        อีกคนยกมือขึ้นมาปรบให้ผม ผมมองการกระทำนั้นของอีกคน แต่ก็ยังคงตีสีหน้านิ่งเรียบ จนกระทั่งอีกฝ่ายเป็นคนพูดขึ้นมา

      “สมแล้วที่เป็นคุณศิงขร สุริยศักดิ์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง แถมยังมีไหวพริบปฏิภาณเป็นเลิศ ผมนี่ขอยกย่องในความ

สามารถของคุณจริงๆ” อีกคนว่า

      “ฉะนั้น ในเมื่อคุณก็รู้อยู่แล้วคุณก็น่าที่จะพับโครงการนั้นเก็บไป แล้วไปทำโครงการใหม่ซะ ผมว่ามันน่าจะเป็นความคิดที่ดี

กว่านี้นะครับ คุณภาม” อีกคนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเอามือมาเท้าโต๊ะบอกผม

      “แล้วถ้าผมไม่ทำล่ะครับ คุณจะว่าอะไรผมไหม” ผมถาม อีกฝ่ายจึงยกมือที่เท้าโต๊ะออกขึ้นมาจัดเสื้อสูทตัวนอกให้เข้าที่และ

หันหลังกลับเตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่ก็หันเสี้ยวหน้าด้านข้างกลับมาบอกผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป

      “ผมจะไปเอาสิทธิ์อะไรมาว่าคุณได้ แต่คุณเชื่อผมสิคุณภาม ยังไงซะคุณก็จะต้องพับโครงการนั้นอย่างแน่นอน เอาล่ะหมด

เวลาที่ผมจะมาพบคุณแล้ว หวังว่าเราคงจะมีโอกาสได้มาพบกันอีกนะครับ คุณเพื่อนเก่า”

        ธีระเดินออกจากห้องทำงานผมไปนานแล้ว แต่ผมก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมเพื่อครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จะดังขึ้น

และพอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นป๊อบที่โทรเข้ามา ผมเลยเก็บเรื่องของธีระเอาไว้แล้วรีบออกไปรับอีกคนกลับบ้านเพราะผมคิดว่า

ถ้าผมฝืนคิดมากไป นอกจากมันจะไม่ทำให้ผมได้คำตอบที่ดีแล้วยังทำให้คนรอบข้างต้องเป็นห่วงเพราะยังไงซะเรื่องของผมกับ

ธีระมันคงจะไม่จบลงง่ายๆเพราะเราทั้งคู่รู้ดีว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้น!








   
                         

      “มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ” เสียงของป๊อบดังขึ้นเมื่อเจ้าตัวเข้ามานั่งในรถ

      “ก็นิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอกเรื่องไร้สาระทั้งนั้น” ผมโกหกเพราะไม่อยากเห็นอีกคนต้องมานั่งไม่สบายใจไปด้วย

      “งั้นไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวนี้กัน” ป๊อบเสนอไอเดีย ก่อนที่ผมจะยอมทำตาม

        สวนสาธารณะที่ป๊อบบอก มันเป็นสวนที่อยู่ไม่ไกลจากหอพักสักเท่าไหร่ ผมจึงหาที่จอดรถแล้วเราทั้งคู่ก็เข้าไปเดินเล่น

เพื่อผ่อนคลายสมองในสวน

      “เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม” คนที่เดินอยู่ข้างๆผมเอ่ยถาม ผมจึงตอบรับในลำคอ ก่อนที่จะโดนอีกคนดึงไปนั่งพักที่ม้านั่งที่ทาง

สวนจัดเอาไว้ให้

      “วันนี้ขอบคุณนะ” ทันทีที่เราทั้งคู่นั่งลงที่ม้านั่ง ป๊อบก็เอ่ยขอบคุณผม ผมเลยหันไปมองอีกฝ่ายอย่างงงๆ

      “ก็ขอบคุณที่วันนี้ดีกับป๊อบแล้วก็ไอ้ปิ๊กไง” อีกคนหันหน้ามาบอกผมและดูเหมือนใบหน้าของเจ้าตัวจะมีริ้วแดงๆขึ้นที่ใบหน้า

ผมเลยส่งยิ้มไปให้เป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือไปจับมือของป๊อบและเอ่ยขอบคุณเหมือนที่อีกคนบอกกับผม

ป๊อบเลยได้แต่ขมวดคิ้วมองผมอย่างงงๆ

      “ขอบคุณ.....ขอบคุณป๊อบเรื่อง?” อีกคนถาม แต่ผมไม่ตอบ ผมเลือกที่จะมองไปข้างหน้ายิ้มน้อยๆอย่างมีความสุขและ

หลับตาลงช้าๆพร้อมกับสูดอากาศที่บริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด

        ขอบคุณนะป๊อบ ขอบคุณที่อยู่ข้างๆกันในวันที่พี่มีปัญหาและขอบคุณที่เข้ามาเป็นพลังชีวิตให้กับพี่ในวันที่พี่เหนื่อยล้า

                                                               ขอบคุณนะครับ................






มาต่อแล้วจร้าาาาา เค้าไม่หายไปไหนแล้วน้าาาาาา รักกันๆ :mew1: :mew1: ตอนนี้เป็นบทของพี่ภามเราบ้าง 55 ให้พี่ภามเรา

ได้แสดงความคิดเห็นสักนิด อิอิ และที่สำคัญอยากให้ลองเดากันเล่นๆนะคะว่านายธีระนี่อะไรยังไงกัน ยังไงก็รอตอนต่อไปนะ

คร้าาาา บายยย

ปล.มีคนถามว่ารมิตารู้จักกับป๊อยมาก่อนเหรอ ขอตอบว่าเปล่าค่ะเพียงแค่รู้จักจากไอ้มิ่งน้องรหัสของป๊อบค่ะ มิ่งเล่าเรื่องของป๊อบและเอารูปถ่ายป๊อบให้เธอดูแล้วเธอก็ยังเป็นแฟนกับมิ่งจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เธอจะไม่รู้จักป๊อบค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 12 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 24-04-2015 20:42:28
เย้ๆๆๆ มาแล้ว
ตอนนี้มาแบบกดดันเล็กน้อย คุณธีระนี่จะมาไม้ไหนกันแน่นะ?
ปล.สองคนนี้เคยมีคดีเรื่องผู้หญิงกันรึเปล่าคะเนี่ย หรือ...ธีระมันแอบชอบพี่ภามแล้วเฮียแกไม่เล่นด้วยหว่า? 5555
ปปล.เป็นกำลังใจให้คร่าาาาา
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 12 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 24-04-2015 20:49:40
 :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 12 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 24-04-2015 21:04:39
พี่ภามกับธีระเคยผิดใจกันเรื่องผู้หญิงมาก่อนหรือเปล่าคะเนี่ย?? :ruready
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 12 หน้า 3 23/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 25-04-2015 19:08:22
                                                                         ตอนที่ 13 บาดเจ็บ.........

             สามเดือนผ่านไปเร็วยิ่งกว่านั่งรถไฟเหาะในสวนสยาม ผมที่ลงเรียนคอร์สทำขนมเค้กเพื่อมัดใจคุณหญิงแม่ก็เหลือเวลา

อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะเรียนจบคอร์สแล้วและหวังว่าสิ่งที่ผมไดเสียเงินร่ำเรียนมาคงจะทำให้ผมได้เอามันมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆที

เถอะ

        ส่วนเรื่องของไอ้ปิ๊กมันก็สอบเข้าเรียนต่อมหาลัยเดียวกับผม แถมยังเลือกคณะเดียวกันกับผมอีกต่างหาก สงสัยเชื้อพ่อคงจะ

แรงน่าดูเพราะท่านมีลูกชายสองคนเป้นทนายเหมือนท่านด้วยกันทั้งคู่

        พ่อผมเป็นเหมือนไอดอลของผมตั้งแต่เด็กเพราะเท่าที่ผมจำความได้ ผมเห็นพ่อทำงานเพื่อความถูกต้อง พ่อผมทำงานเป็น

ผู้พิทักษ์ความถูกต้องให้กับคนในสังคม แม่เคยเล่าให้ผมฟังตอนเด็กๆว่า ตอนที่ครอบครัวของแม่โดนป้ายความผิด พ่อของผมนี่

แหละที่เป็นคนช่วยเหลือแม่และให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของแม่ จนครอบครัวของแม่พ้นผิดและตั้งแต่นั้นมา พ่อกับแม่ก็เริ่ม

มีความรู้สึกดีๆให้แก่กันจนมันเกิดเป็นความรักที่เกิดจากหัวใจทั้งสองดวง คือดวงที่ชื่อว่าป๊อบและปิ๊ก

        ส่วนเรื่องของไอ้พี่ภาม พี่แกเล่นก็กลับบ้านดึกทุกวัน แถมบางวันก็ไม่ได้กลับบ้านเลยด้วยซ้ำเพราะเห็นบอกว่ามีงานที่ต้อง

เคลียร์ให้เสร็จที่บริษัท ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นงานอะไรที่อีกคนถึงต้องหักโหมร่างกายทำมันจนหามรุ่งหามค่ำแบบนี้

 แต่จะว่าไปตั้งแต่ที่ไอ้พี่ภามมีเรื่องไม่สบายใจในครั้งก่อน พี่ท่านก็ทำงานหนักขึ้นทุกวี่ทุกวัน จนผมก็อดห่วงไม่ได้ ส่วนไอ้ห่วงน่ะ

ไม่ใช่ไอ้พี่ภามหรอกนะเป็นพนักงานในบริษัทต่างหากเพราะไม่รู้ว่าป่านนี้จะตายไปแล้วรึยังเล่นทำงานหนักซะขนาดนั้นไม่ได้ห่วง

สุขภาพตัวเองเลยสักนิด โตแต่ตัวล่ะสิไม่ว่า เฮ้อ!

      กริ๊งๆๆ

      ผมที่คิดว่าจะออกไปไปหาไอ้ปิ๊กที่หอพักเพื่อชวนมันออกไปเดินเล่นให้สบายใจเสียหน่อยเพราะช่วงนี้คุณหญิงแม่ไม่ค่อยอยู่

บ้านเห็นติดงานอะไรสักอย่างก็ไม่รู้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีสำหรับตัวผมเพราะท่านก็จะได้ไม่มีเวลามาแกล้งผม ส่วนรมิตาก็ห่างหายไป

 เธอหายไปจริงๆตั้งแต่วันนั้น ผมเลยโทรไปหาไอ้มิ่ง มันเลยบอกว่าแฟนมันเพิ่งสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้

        ผมหยุดเดินเพื่อหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมากดรับสายเพราะหน้าจอโชว์เบอร์เป้นของไอ้พี่ภามที่ตายยากเพราะผม

กำลังนึกถึงไปอยู่เมื่อสักครู่

      “สวัสดีค่ะไม่ทราบว่าคุณเป็นญาติของคุณศิงขร สุริยศักดิ์รึเปล่าคะ” ทันทีที่ผมกดรับสายเสียงที่มันควรตะเป็นของผู้ชาย แต่

กลับเป็นเสียงของหญิงสาว มันจึงทำให้ผมขมวดคิ้วอย่างงุนงง แต่ผมก็ตอบรับเธอไป

      “เอ่อ...ครับ” ผมตอบ อีกคนก็ไม่รอช้ารีบพูดกลับมาทันที

      “ตอนนี้คุณศิงขรถูกยิงได้รับบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาล xxx ค่ะ ยังไงก็ให้ญาติของคนไข้รีบมาที่โรงพยาบาลด้วยนะคะ” สิ้น

เสียงของหญิงสาวร่างทั้งร่างของผมมันกลับชาวาบทันที ไม่ใช่เพราะเป็นผู้หญิงที่เอาโทรศัพท์ของไอ้พี่ภามมาใช้ แต่เป็นเพราะ

เรื่องที่เธอโทรมาบอกผม มันจะเป็นไปได้ยังไง เมื่อเช้าผมยังคุยโทรศัพท์กับอีกคนอยู่เลย ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!!

      “เอ่อ....คุณคะฟังดิฉันอยู่รึเปล่าคะ”

      “คะ ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปทันทีครับ” ผมกดวางสายแล้วตั้งสติของตัวเองรีบโทรไปบอกเรื่องนี้กับไอ้ภัทร ส่วนตัวผมก็มุ่งหน้า

ไปโรงพยาบาลก่อน ส่วนไอ้ปิ๊กที่ผมโทรบอกหลังไอ้ภัทรมันก็จะตามไปสมทบ

        ผมรีบเรียกรถแท็กซี่จากหน้าบ้านและตรงดิ่งสู่โรงพยาบาลที่หญิงสาวคนดังกล่าวบอก ตอนนี้ผมพูดได้เต็มปาดเต็มคำเลย

ล่ะว่าผมนั่งรถแทบจะไม่ติดอยู่แล้ว อยากจะหายตัวได้แล้วไปอยู่ในโรงพยาบาลตอนนี้เลยจริงๆเพราะผมกลัว กลัวว่าอีกคนจะเป็น

อะไรมากรึเปล่า กลัวว่าแผลที่โดนยิงจะเป็นยังไง ตอนนี้ผมกระวนกระวายใจไปหมด แต่ผมรู้ว่าต่อให้ผมกระวนกระวายใจไปมันก็

ไม่ทำให้ผมไปถึงโรงพยาบาลได้ในตอนนี้แน่นอน ผมเลยได้แต่นั่งภาวนาขอให้อีกคนปลอดภัย หวังว่าพี่ภามจะปลอดภัยนะ

              พี่อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะครับ รอป๊อบก่อนนะ............

        ตอนนี้ผมมาถึงที่ตึกสีขาวสะอาดสถานที่ทำงานของเหล่าแพทย์พยาบาลทั้งหลาย ก่อนจะรีบจ่ายค่าแท็กซี่และรีบวิ่งเข้าด้าน

ในตึกนั้นเพื่อตรงไปหาใครอีกคนที่ตอนนี้กำลังนอนบาดเจ็บอยู่ในมือของคุณหมอ

      “ไม่ทราบว่าคุณเป็นญาติของคุณศิงขรรึเปล่าคะ” ผมที่ยืนไปไม่ถูกเพราะไม่รู้จะไปถามใครดีเพราะตอนนี้ในโรงพยาบาลมีแต่

ผู้คนเดินกันให้เต็มไปหมด แต่โชคดีที่มีนางพยาบาลสาวสวยคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม ผมเลยพยักหน้า เธอจึงพาผมไปที่ห้องวีไอพี

ของโรงพยาบาล

      “ตอนนี้คุณศิงขรปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้วค่ะจะเหลือก็แต่รอคนไข้ฟื้น โชคดีนะคะที่กระสุนแค่ถากๆ สองสามวันก็กลับ

บ้านได้แล้วล่ะค่ะ” ผมที่เปิดประตูเข้าไปเจอกับคุณหมอคนสวยที่กำลังตรวจเช็คอาการของไอ้พี่ภาม เฮจึงบอกรายละเอียดเกี่ยว

กับอาการและวันเวลาที่อีกคนจะกลับบ้านได้ ผมจึงพยักหน้ารับ เธอกับพยาบาลคนที่เดินมาส่งผมก็เดินออกจากห้องไปเหลือแต่

ผมกับไอ้พี่ภามที่นอนหลับเพราะยาสลบ

      “ไอ้หื่นเอ้ย!ไปทำอีท่าไหนเนี่ยคนเขาถึงได้คิดจะยิงตัวเอง คนบ้าอะไรไม่รู้จักระวังตัวเลย ถ้าเป็นอะไรไปจะทำยังไงเนี่ย”

ผมว่าคนที่นอนหลับอยู่ที่เตียงผู้ป่วย ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างเตียงเข้ามานั่ง

        ไม่นานหลังจากที่ผมนั่งลงเฝ้าไอ้พี่ภามเพื่อรอให้ฟื้นจากยาสลบประตุห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมกับไอ้ปิ๊ก ไอ้ภัทรแล้วก็คุณ

หญิงแม่ที่เดินเข้ามา

      “ตาภามเป็นยังไงบ้างลูก ถือว่าฟาดเคราะห์นะลูกแม่” คุณหญิงแม่ที่เข้าห้องมาก็ตรงดิ่งหาคนที่นอนหลับอยู่ที่เตียงทันที

พร้อมกับยกมือลูบหัวไอ้พี่ภามด้วยความเป็นห่วง ส่วนท่านที่หันมาเห็นผมอยู่ในห้อง ผมจึงยกมือขึ้นไหวท่าน ก่อนที่จะบอกราย

ละเอียดตามที่คุณหมอบอกเอาไว้

      “คุณหมอบอกว่าพี่ภามแค่โดนกระสุนถากๆไม่เป็นอะไรมากที่ยังไม่ฟื้นก็เพราะคงจะเป็นฤทธิ์ของยาสลบ อีกสองถึงสามวันก็

คงจะกลับบ้านได้แล้วครับ” ผมบอก คุณหญิงแม่จึงพยักหน้าน้อยๆอย่างเข้าใจ แต่ผมว่าวันนี้คุณหญิงแม่มาแปลกทุกทีจะต้องไม่

ชอบใจผม แต่สงสัยคงเป็นเพราะตอนนี้ไอ้พี่ภามมันคงป่วยเลยไม่อยากจะเสียเวลามาหาเรื่องผม

      “เอ่อ...คือว่าคุณหญิงแม่ครับเดี๋ยวคืนนี้ผมจะอยู่ดูแลพี่ภามเองครับไม่ต้องห่วง” ผมอาสาอยู่เฝ้าไข้คนป่วย คุณหญิงแม่มอง

หน้าผมนิ่งๆอยู่สักพัก ก่อนจะพยักหน้าตกลงและรีบออกไปธุระต่อเพราะท่านทิ้งงานเอาไว้มาหาไอ้พี่ภาม แต่พอเห็นว่าผมอาสา

อยู่ดูแลท่านก็คงจะได้หมดห่วง

      “งั้นฉันฝากตาภามด้วยนะ” ท่านบอก ก่อนจะโทรบอกคนขับรถให้ออกมารับที่หน้าโรงพยาบาล ไอ้ภัทรที่จะออกไปส่งก็ถูก

คุณหญิงห้ามไว้เพราะท่านคงรู้ว่าไอ้ภัทรอยากจะอยู่รอพี่ชายตัวเองตื่นจึงไล่ไอ้ภัทรให้มาอยู่เฝ้าไข้ไอ้พี่ภามด้วยกัน

      “มึงรู้ไหมวะไอ้ภัทรว่าเฮียมึงไปมีเรื่องกับใคร” ผมถามไอ้ภัทรเมื่อคุณหญิงแม่เดินออกจากห้องไปได้สักพัก มันพยักหน้าเป็น

เชิงว่าไม่รู้ว่าเฮียมันไปทำให้ใครเขาไม่พอใจ

      “กูไม่รู้เหมือนกันเพราะเฮียทำงานวงการพวกนี้ก็อาจจะไปขัดผลประโยชน์ใครเข้าล่ะมั้งถึงได้โดนเล่นงานมาแบบนี้” ไอ้ภัทร

ตอบ

      “แต่ปิ๊กว่ามันรุนแรงไปนะถึงขั้นจะเอาชีวิตกันเลย” ผมเห็นด้วยในสิ่งที่ไอ้ปิ๊กพูด แสดงว่าไอ้พี่ภามนี่ต้องไปขัดผลประโยชน์

ไอ้พวกที่มีอิทธิพลแน่มันถึงได้เล่นงานซะหนักขนาดนี้

      “เอ่อ....ปิ๊กพี่ว่าเราออกไปหาอะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างโรงพยาบาลดีไหม” ไอ้ภัทรหันไปถามไอ้ปิ๊ก อะไรของมันวะมา

ถึงก็หาของกินซะแล้ว

      “ไม่เอาอ่ะ ปิ๊กขี้เกียจลง พี่ไปซื้อคนเดียวเถอะเดี๋ยวปิ๊กจะอยู่เป็นเพื่อนเฮียเผื่อพี่สุดหล่อตื่นจะได้มีคนช่วย” ปิ๊กตอบ คราวนี้

ไอ้ภัทรเลยเดินเข้าไปกอดคอมันแล้วหันไปพูดด้วยอีกครั้ง

      “แต่พี่ว่าปิ๊กหิวนะ เราไปหาอะไรทานข้างล่างกันเถอะ” และจากนั้นไอ้ภัทรก็กึ่งลากกึ่งดึงไอ้ปิ๊กให้ออกไปจากห้อง ผมที่นั่ง

มองสองคนนั้นพากันออกไปซื้อของก็ต้องอมยิ้มขำและส่ายหัวให้กับคนทั้งคู่ แต่พอหันกลับมามองคนที่นอนอยู่ที่เตียงก็เห็นว่าอีก

คนรู้สึกตัวตื่นขึ้นและพยายามจะดันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ผมจึงเข้าไปช่วยพยุง

      “นี่พี่ตายแล้วใช่ไหมเนี่ยถึงได้เห็นนางฟ้ามาคอยดูแลอยู่ตรงหน้า” ไอ้พี่ภามที่นั่งพิงอยู่กับหัวเตียงเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหน้า

ผมยิ้มๆ เหอะๆ ตื่นขึ้นมาก็ได้เวลาพาเพื่อนรักออกมาเห่ามาหอนกันเป็นว่าเล่นเลยนะ

      “ถ้ารู้ว่าตื่นขึ้นมาจะพาเพื่อนมาเห่ามาหอนแบบนี้ ป๊อบน่าจะเอาหมอนปิดจมูกให้พี่นอนตายเป็นผีเฝ้าโรงพยาบาลนี้ตั้งแต่แรก

ไปเลยน่าจะดีกว่า” ผมว่า

      “แต่พี่ว่าป๊อบไม่ทำแบบนั้นกับพี่หรอก ใช่ไหมครับ” ไอ้พี่ภามถาม

      “มันก็ไม่แน่” ผมบอก ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเพราะรู้สึกว่าตั้งแต่ไอ้พี่ภามนี่โดนยิงแล้วฟื้นขึ้นมาจะไร้สาระขึ้นกว่าเดิม

      “แล้วนี่พี่เป็นยังไงบ้างอ่ะ ยังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า แล้วจะกินอะไรไหมหรือว่าอยากได้อะไรรึเปล่าเดี๋ยวป๊อบจะได้ไปเอาให้”

ผมถามเพราะเผื่อว่าอีกคนอาจจะต้องการความช่วยเหลือ

        แต่พอผมถามคำถามอีกคนจบ ไอ้พี่ภามก็นั่งอมยิ้มอย่างกับคนมีความสุขทั้งๆที่เพิ่งจะเฉียดตาย สรุปว่าไอ้พี่ภามนี่มันโดนยิง

หรือสมองได้รับความกระทบกระเทือนกันแน่เนี่ย?!

      “ยิ้มอะไรไม่ทราบ” ผมถาม แต่อีกคนกลับฉีกยิ้มกว้าง

      “ก็ที่ยิ้มเพราะพี่มีความสุขไง”

      “สุขที่ได้จากการเฉียดตายน่ะนะ”

      “เปล่าครับ แต่เป็นความสุขที่ป๊อบเป็นห่วงและคอยมาดูแลพี่แบบนี้ต่างหาก” นี่มันใช่เวลามาพูดอะไรแบบนี้ไหมเนี่ยเพราะสิ่ง

ที่อีกคนพูดมันทำให้ผมไปไม่เป็นและทำอะไรไม่ถูก แถมยังรู้สึกเขินๆแปลกๆทั้งๆที่เมื่อก่อนผมไม่เห็นจะมีอาการแบบนี้เลยสักนิด

 สรุปแล้ว ผมเป็นอะไรกันแน่เนี่ย?

      “มันใช่เวลาไหมเนี่ย!!!” ผมว่า

      “ฮ่าๆๆ ป๊อบเขินแบบนี้ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ โอเคๆ พี่ไม่พูดแล้วว่าแต่ว่าคนอื่นๆรู้ข่าวกันรึยังครับ” หลังจากที่ผมชี้หน้าคาด

โทษอีกคนว่าถ้าไม่หยุดพูดผมคงได้เอาหมอนอุดปากอีกคนแน่ เจ้าตัวเลยยกมือยอมแพ้ ก่อนจะถามถึงคนอื่นๆแทน

      “คุณหญิงแม่มาแล้วแล้วก็กลับไปแล้ว พอดีท่านติดธุระ ส่วนไอ้ภัทรกับไอ้ปิ๊กไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อด้านล่างโรงพยาบาล

อีกสักพักก็คงกลับ ส่วนคุณพ่อก็คงรู้ข่าวแล้ว แต่น่าจะติดงานยังมาไม่ได้” ผมบอกอีกฝ่ายจึงพยักหน้า

      “จริงๆพี่ก็ไม่อยากจะให้ทุกคนรู้เรื่องนี้หรอกนะ” ไอ้พี่ภามพูดสีหน้าดูมีกังวลอย่างเห็นได้ชัด

      “แต่คนอื่นๆรู้มันก็ดีต่อตัวพี่เองนะเพราะเขาจะได้ช่วยกันระวังความปลอดภัยของพี่นะ” ผมบอก อีกคนจึงหันมายิ้มให้ผมน้อยๆ

ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ

        ติ๊ง!

        เสียงข้อความในโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมจึงหยิบมันเข้ามาดูก็พบว่าเป็นข้อความที่ถูกส่งมาโดยไอ้ภัทร

                   พอดีกูมีธุระด่วนแล้วไอ้ปิ๊กมันก็ต้องกลับไปเตรียมเรื่องเรียน ยังไงกูก็ฝากให้มึงอยู่ดูแลเฮียแทนกูกับไอ้ปิ๊กด้วยนะ

        ผมที่อ่านข้อความที่ไอ้เพื่อนรักตัวดีส่งมาให้ก็อยากจะปาโทรศัพท์ทิ้งทันที ถ้าไม่ติดว่ามันราคาแพง ผมว่ามันคงได้ไปนอน

แอ้งแม้งอยู่ที่พื้นห้องอย่างแน่นอน

      “ไอ้ภัทรส่งมาว่าติดธุระ ปิ๊กก็ด้วยเลยให้ป๊อบอยู่ดูแลพี่แทนใช่ไหม” เสียงอีกคนเอ่ยขึ้นทำให้ผมต้องหันหน้าไปมอง

      “เป็นญาติกับศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ในแฮร์รี่ พอตเตอร์หรือไงถึงได้รู้ขนาดนี้” ผมถามเพราทำอย่างกับอีกคนรู้ล่วงหน้าว่า

ไอ้ภัทรมันจะทำอะไร

      “ก็แค่เดาเท่านั้นเอง” ไอ้พี่ภามว่ายิ้มๆ ก่อนจะยักไหล่เป็นเชิงว่าไม่มีอะไร ผมก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นไอ้พี่

ภามที่แสนเจ้าเล่ห์คนนี้!!
 



                         

         ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่พยาบาลจะเข้ามาทำแผลให้ไอ้พี่ภามแล้ว ผมเลยต้องรีบจัดแจงเช็ดตัวให้อีกคน แต่ระหว่างที่ทำก็ใช่ว่า

จะราบรื่นเพราะอีกคนที่ขยันหาเรื่องมาทำให้ผมทั้งโกรธ และเขินตลอดเวลาการเช็ดตัว ถามจริงเถอะ ถ้าเขาไม่แกล้งผมสักวินาที

เดียวเขาจะเป็นหมันหรือยังไง?

      “ได้เวลาทำแผลแล้วนะคะ” คุณพยาบาลสาวสวยที่เคาะประตูห้องเพื่อขออนุญาตก็เปิดเข้ามาก่อนจะจัดแจงทำแผลให้ไอ้พี่

ภาม

        และไม่นานคุณพยาบาลก็ทำแผลให้อีกคนเสร็จก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับไอ้พี่ภามที่ดูเหมือนจะเหนื่อยล้าและง่วงนอน

เต็มทน ผมเลยจัดแจงให้อีกคนได้นอนพัก

      “ขอจับมือหน่อยนะ” หลังจากที่ผมจัดแจงอีกคนให้นอนได้เรียบร้อย อีกฝ่ายก็ไม่รีรอฟังคำตอบจากผมก็ดึงมือผมเข้าไปกุม

พร้อมกับหลับตาพริ้ม ผมที่จะอ้าปากค้านก็ไม่อยากจะทำเพราะเกรงใจคนป่วยเลยได้แต่นั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วย พร้อมกับมือ

ที่ถูกอีกคนเอาไปกุมเอาไว้

      “นี่เห็นว่าป่วยอยู่หรอกนะ” ผมว่า แต่ก็ไม่ทันได้สังเกตเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนที่เพิ่งนอนหลับ

ไป..............











งานนี้พี่ภามเราโดนลอบทำร้าย ใครกันนะช่างกล้ามาแหยม อย่างนี้ต้องส่งน้องป๊อบไปจัดการซะแล้ว!! คราวนี้น้องป๊อบของพี่ภาม

เลยต้องกลายมาเป็นพยาบาลส่วนตัวให้ซึ่งพี่ภามแกก็เจ้าเล่ห์จริงๆ เฮ้อ!! เอาเป็นว่าตอนนี้เรื่องราวกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ปมไหน

ที่ยังไม่ได้ถูกสะสาง คงได้ถูกสะสางกันในเร็ววันนี้แน่ ยังไงก็ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ


ปล. ฝากเพจตัวเองนิดนึงค่ะ 55 https://www.facebook.com/pages/Hades/713419935405734?ref=hl
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: หางนกยูง ที่ 25-04-2015 20:07:13
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-04-2015 20:19:50
ใครทำพี่ภามอะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 25-04-2015 20:22:07
ขอจิ้มก่อนนะค้าา..^^

***

:o8: พี่ภามฟื้นขึ้นมาก็รีบหยอดน้องป๊อบเลยนะคะ หุหุ .. ฝีมือธีระแน่ๆ เลย คนนิสัยไม่ดี~~
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 25-04-2015 23:11:15
พี่ภามโดนยิงนี่ ใช่อีเพื่อนเก่า(?)คนนั้นหรือเปล่าที่ทำอ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 26-04-2015 02:40:31
พ่อเพื่อนเก่าจอมแว้งกัดนั่นรึเปล่านะ?
ปล.วันนี้มาสั้นกว่าทุกวันนะเนี่ย 555
ปปล.ตอนนี้คุณหญิงแม่ขอสงบศึกชั่วคราว
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 26-04-2015 08:00:20
อืมก็ค่อยดูกันต่อไป ใครจะเจออะไรทำอะไรโดนอะไรสู้ๆเข้าไว้ คึคึ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-04-2015 13:30:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 13 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 26-04-2015 19:44:18
ไอ้ธีระแน่เลย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอน 14 หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 27-04-2015 23:50:54
                                                                ตอนที่ 14 สองเรา.........

            หลังจากที่พี่ภามออกจากโรงพยาบาล คุณพ่อที่ไม่ได้มาดูลูกชายที่ถูกคนร้ายลอบยิงเพราะเนื่องจากติดภารกิจของทาง

ราชการ แต่ท่านก็ได้จัดคนไปคอยดูแลไอ้พี่ภามเพื่อความปลอดภัยแทน ซึ่งพี่ภามก็โชคดีที่มีคุณพ่อเป็นถึงนายพลจึงไม่ใช่เรื่อง

ยากที่จะหาคนฝีมือดีมาเป็นคนคุ้มกันความปลอดภัย

      “วันนี้แล้วสินะ” ตอนนี้ผมยืนทำใจอยู่ในครัวเพราะวันนี้ผมจะต้องทำขนมเค้กไปเซ่น เอ้ย! ไปให้คุณหญิงแม่เพื่อเอาใจท่าน

 ท่านจะได้รักและเอ็นดูผมบ้าง

      “สู้ๆนะคะคุณป๊อบป้าเป็นกำลังใจให้” ป้าพิมพ์เอ่ยให้กำลังใจ ผมจึงหันไปพยักหน้ารับ พร้อมกับเจอรอยยิ้มของพี่ผักหวาน

และพี่หนูนิ่มที่ส่งมาให้อย่างเป็นกำลังใจ เฮ้อ! สู้เว้ยไอ้ป๊อบ!!

        จากนั้นผมจึงเริ่มต้นลงมือทำขนมเค้กเป็นเค้กบราวน์นี่ที่คุณหญิงแม่ชื่นชอบและชอบทานและที่สำคัญ ผมเองก็หวังว่าท่าน

จะชอบใจมันด้วยนะ

        วันนี้นอกจากจะเป็นวันที่ผมต้องโชว์ฝีมือการทำขนมเค้กแล้ว มันยังเป็นเหมือนวันรวมญาติเพราะวันนี้ทุกคนเล่นอยู่บ้านกัน

อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ตั้งแต่คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง คุณหนู คุณชายยันคนใช้ คนขับรถ คนตัดหญ้า คนทำสวน ผมล่ะอยากจะรู้

จริงๆว่าพวกเขาไม่มีงานเข้ามากันเลยรึยังไงถึงได้รวมใจกันอยู่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากันขนาดนี้ มันน่าจะเอาไปลงอะไรกินๆนะ

 กินทามะรึเปล่านะ? ว่ามีปรากฏการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นที่บ้านสุริยศักดิ์

     โดยคนในบ้านมาอยู่รวมกันพร้อมหน้าพร้อมตาโดยมิได้นัดหมาย

      “มาแล้วคร๊าบบบบ เค้กร้อนๆน่าตาน่ารับประทาน โดยเชฟป๊อบที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีขนาดท่านประธานสันติแห่งเชฟ

กระทะเหล็กยังต้องชิดซ้ายกันเลยทีเดียว” ผมว่า ก่อนจะนำเค้กที่ทำเองกลับมือและผ่านการร่ำเรียนมาตลอดสามเดือน ที่ถูกจัดใส่

จานอย่างน่ารับประทานเอามาวางให้คุณพ่อ คุณหญิงแม่ ไอ้พี่ภามและไอ้ภัทรที่นั่งรอชิมรถชาติอยู่ที่โต๊ะทานข้าว

      “หน้าตาน่าทานดีนะ” คุณพ่อเอ่ยชม ผมเลยยิ้มรับและโค้งตัวเพื่อเป็นการขอบคุณ

      “ก็แค่น่าตาดี ไม่รู้ว่ารถชาติจะดีเหมือนหน้าตารึเปล่า” คุณหญิงแม่ว่า

      “แต่ภามว่าน่าตามันน่าทานดีนะครับ ทั้งเค้ก ทั้งคนทำ” ไอ้พี่ภามพูดขึ้น คุณหญิงแม่จึงหันไปมองตาแทบถลน ส่วนคุณพ่อกับ

ไอ้ภัทรก็อมยิ้มน้อยๆ ส่วนผมก็ตีสีหน้านิ่งทั้งๆที่ตอนนี้ขาของผมคงเป็นรอยเล็บที่จิกอยู่ตอนนี้แน่ๆ คนบ้าอะไรก็ไม่รู้มาหยอดเอา

ตอนที่คนเขากำลังจริงจัง แม่งเล่นแบบนี้ใครไม่เขินก็บ้า ป๊อบนะไม่ใช่สีโฟร์ซีซั่นที่จะทนได้ไม่มีเขิน!

      “รถชาติก็ต้องดีอยู่แล้วสิครับคุณหญิงแม่ ไม่เชื่อลองทานกันดูสิครับแล้วที่สำคัญนะครับคุณหญิงแม่ เค้กก้อนนื้ทานได้

แน่นอนร้อยเปอร์เซนต์เพราะไม่มียาเบื่อ ยาถ่าย ยานอนหลับใดๆทั้งสิ้น เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ลองชิมดูครับแล้วจะติดใจ”

ผมเลือกที่จะไม่สนใจในสิ่งที่ไอ้พี่ภามมันพูด แต่เลือกที่จะย้อนกลับไปตอบคำถามของคุณแม่และให้ทุกคนได้ลองลิ้มชิมรสชาติ

เค้กที่ผมทำกันดู ส่วนตัวผมเองก็ยืนลุ้นจนตัวโก่งเพราะไม่รู้ว่ารสชาติจะถูกใจกันรึเปล่า

      “อร่อยมากเลยนะป๊อบ เก่งนี่เรา” เป็นเสียงของคุณพ่อที่เอ่ยชมออกมาหลังจากที่ท่านทานเค้กเข้าไป ผมจึงยิ้มรับและยกมือ

ขอบคุณในคำชมที่ได้รับจากท่าน

      “อืม อร่อยว่ะมึง เพื่อนกูนี่ก็ทำเรื่องพวกนี้เก่งเหมือนกันนี่หว่า” ไอ้ภัทรว่า ผมเลยแท็กมือกับมันว่าผมทำมันได้

      “อร่อยมากเลยป๊อบอย่างนี้คุณแม่คงชอบ” ไอ้พี่ภามบอก ก่อนที่จะพูดถึงคุณหญิงแม่เพราะตอนนี้เหลือแค่ท่านคนเดียว

เท่านั้นที่ยังไม่ได้วิจารณ์รสชาติขนมเค้กฝีมือของผม

      “อืม.................” คุณหญิงแม่ที่ตักทานเค้กชิ้นแรกเข้าปาก ก่อนจะค่อยๆวางช้อนและส่งเสียงในลำคอเหมือนช่างใจอยู่ชั่ว

ครู่ว่าจะตอบผมว่าอย่างไรดี ส่วนผมกับคนที่เหลือก็พลอยลุ้นไปกับคำตอบที่จะหลุดออกมาจากปากของคุณหญิงแม่

      “ก็พอทานได้ล่ะนะ” คุณหญิงแม่ตอบ ส่วนผมกับคนอื่นๆที่ได้ฟังคำตอบก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกกันเป็นแถวเพราะกลัวซะ

เหลือเกินที่ท่านอาจจะไม่พอใจในรสชาติของเค้กที่ผมทำแล้วอาจจะพาลไม่ชอบผมเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งงานนี้คนที่ดีใจที่สุดและโล่ง

ใจที่สุดก็คงจะเป็นใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ยอดชายนายป๊อบคนนี้เพราะเมื่อคืนผมก็นอนแทบจะไม่หลับเพราะกังวลกับการทำไอ้เค้ก

บราวน์นี่ที่ต้องมาให้คุณหญิงแม่ได้ทาน แต่พอมาเจอคำตอบแบบนี้ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ถึงแม้ปากท่านตะบอกว่าพอทานได้ แต่ผม

เห็นคุณหญิงแม่หันไปเรียกป้าพิมพ์ให้เอามาเสิร์ฟให้อีกสองชิ้น ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ผมอดที่อมยิ้มจะแซวไม่ได้

      “อาหารที่มีน้ำตาลสูงทานมากๆไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ ยังไงคุณหญิงแม่ก็ทานแต่พอเหมาะ พอดีนะครับ ป๊อบเป็นห่วง”

ผมว่า  แต่ก็พอเห็นว่าท่านเหลือบตาขึ้นมามองอย่างเคืองๆ ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับเค้กบราวน์นี่ต่อ ส่วนผมก็ขอตัวเข้าไป

เก็บงานในครัวต่อให้เรียบร้อยเพราะตอนที่ออกมาก็รีบซะจนยังไม่ได้ลงมือทำความสะอาด ถึงแม้จะมีพี่หนูนิ่มกับพี่ผักหวานอาสา

จะทำให้ แต่ผมก็เกรงใจพี่ๆทั้งสองเพราะเธอก็มีงานที่เธอต้องทำกันอยู่แล้ว แต่ผมที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรก็ไม่อยากเอาเปรียบใคร

เพราะในเมื่อมาอาศัยอยู่บ้านผู้อื่นก็ต้องทำหน้าที่ผู้อาศัยที่ดีให้เจ้าบ้านรักและเอ็นดู

        เมื่อผมเดินเข้ามาถึงห้องครัวก็เริ่มเก็บของที่ใช้งานไปเมื่อครู่ไปรวมๆกันไว้เพื่อเตรียมจะล้าง แต่ก็ไม่ทันได้ระวังใครบางคนที่

แอบเดินตามเข้ามา ซึ่งมารู้ตัวอีกทีก็โดนอีกคนยืนช้อนหลังและกอดเอวผมไว้อย่างหลวมๆ

      “ปล่อย! มันทำงานไม่ได้” ผมหันไปแหวใส่คนที่ยังคงตีหน้ามึนกอดเอวผมเอาไว้อยู่

      “น้องป๊อบก็ทำงานของน้องป๊อบไปสิครับ ส่วนพี่ก็ทำงานในส่วนของพี่ พี่ก็ไม่ไปจับมือน้องป๊อบเอาไว้นะครับที่น้องป๊อบจะ

ทำงานอะไรไม่ได้” อีกคนยังคงตีหน้ามึนกอดผม แต่ผมว่ามันคงจะเลยคำว่ามึนไปไกลเลยล่ะเพราะตอนนี้พอผมหันไปมองหน้าอีก

คนก็สะกดได้อยู่คำเดียวเลยล่ะว่า   

                                                                           กวนตีน!!!

      “ไอ้พี่ภาม ป๊อบบอกให้ปล่อย ป๊อบจะล้างของพวกนี้ ถ้าพี่ยังไม่ปล่อยอย่าหาว่าป๊อบไม่เตือน” ผมหันไปบอกอีกคนเสียงเย็น

อีกฝ่ายเลยทำทีอิดออดเล็กน้อย ก่อนจะคลายอ้อมกอดแล้วปล่อยให้ผมได้เป็นอิสระเพราะเจ้าตัวคงจะรู้ดีว่าผมเป็นคนพูดจริงทำ

จริงและที่สำคัญคงจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของผมจากปากไอ้ภัทรมาบ้างแหละถึงได้รีบปล่อยผมเร็วแบบนี้

        นอกจากผมจะมีความหล่อแบบกระชากใจสาวๆแล้ว ผมยังมีทักษะในด้านอื่นๆ อาทิเช่น นักกีฬายิงปืนของมหาวิทยาลัย

 คาราเต้ และอื่นๆอีกมากมายเพราะผมเองก็เคยบอกแล้วว่าผมไม่ได้มีแค่หน้าตา แต่ทักษะความสามารถในการต่อสู้ก็สูสีดูดีไม่แพ้

หน้าตา ไอ้ป๊อบคอนเฟิร์ม!!

      "งั้นเอาอย่างนี้ดีกว่าเพื่อให้มันเป็นการแฟร์ของทั้งสองฝ่าย"  คนที่เพิ่งผละออกไปเมื่อครู่เอ่ยเกริ่นนำขึ้น จึงทำให้ผมที่กำลัง

ลงมือล้างเครื่องมือในการทำขนมต้องเงยหน้าเลิกคิ้วหันมามองและสงสัยในคำพูดของไอ้พี่ภาม

      อะไรคือเป็นการแฟร์ของทั้งสองฝ่ายเพราะผมว่าอีกคนต้องมีลูกเล่นอะไรที่มันเจ้าเล่ห์และตัวเองต้องเป็นฝ่ายได้เปรียบแน่ๆ

      “ตอนนี้พี่จะไม่ยุ่งกับป๊อบจนกว่าป๊อบจะทำความสะอาดเครื่องครัวนี้เสร็จตกลงไหมครับ” อีกคนพูด ผมหรี่ตามองอย่างไม่เชื่อ

ใจ แต่พอมองเข้าไปในแววตาของอีกฝ่ายผมว่ามันไม่น่าไว้วางใจ แต่จะทำยังไงได้เพราะถ้าขืนปล่อยให้อีกคนทำแบบนั้นต่อไป

สิบชาติผมเองก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะได้ล้างเครื่องครัวพวกนี้เสร็จ ผมจึงต้องจำใจพยักหน้ารับอย่างไม่มีทางเลือกเพราะเหมือนกับ

มีตัวเลือกอยู่สองข้อ

ข้อหนึ่ง คุณต้องตอบตกลงเท่านั้น

ข้อที่สอง คุณควรกลับไปอ่านข้อหนึ่งอย่างละเอียดอีกสักสองรอบ

      “แต่ถ้าป๊อบล้างของพวกนี้เสร็จ เราต้องออกไปธุระข้างนอกกับพี่ ตกลงตามนี้นะครับ” อีกคนที่พูดจบก็เดินออกไปทิ้งให้ผมได้

แต่มองตามตาปริบๆพร้อมกับอ้าปากค้างคล้ายเด็กเอ๋อระยะสุดท้ายและความกว้างของปากที่อ้าก็พร้อมให้แมลงวันบินเข้าไป

วางไข่ได้อย่างสบายใจ

      “เฮ้ย! ไอ้พี่ภามอย่ามาโมเมพูดเองเออเองแบบนี้สิ ป๊อบไม่ตกลงไม่ว่าในกรณีใดๆเด็ดขาดโว้ยยย!” ผมรีบตะโกนไล่หลังอีก

คนออกไปทันทีที่ตั้งสติได้ แต่แล้วคนที่ผมคิดว่าน่าจะเดินออกห่างจากห้องครัวไปได้ไกลกลับชะโงกหน้ากลับเข้ามาภายในห้อง

ครัวใหม่พร้อมกับพูดประโยคที่ทำให้ผมอยากจะหยิบกะทะ ตะหลิวหรืออะไรก็ได้ที่มันใกล้มือปาใส่ไอ้คนที่ทิ้งระเบิดเอาไว้แล้ว

เดินลอยหน้าลอยตาออกไป

      “อ้อ เมื่อกี้พี่ลืมบอกน้องป๊อบไป ห้ามสาย ห้ามโอ้เอ้ ห้ามเบี้ยว ห้ามปฏิเสธ ห้ามตุกติก ห้ามขาด ห้ามลาป่วย ห้ามลาบวช

ห้ามลากิจและห้ามลาตายและที่สำคัญไปอาบน้ำและแต่งตัวสวยๆด้วยนะครับเดี๋ยวพี่จะไปรอน้องป๊อบคนสวยที่รถ”  อ๊ากกกก!!

ผมอยากจะฆ่ามันนนนน ผมเองก็เพิ่งรู้ความหมายของสำนวนที่ว่า......................

        ‘เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือไอ้ป๊อบยังมีไอ้หื่นภาม!’  หึ้ย!! เจ็บใจโว้ยยยย








                       

        หลังจากที่ผมทำงานครัวเสร็จก็ต้องรีบขึ้นไปอาบน้ำ แต่งตัวให้สวย(พูดคำนี้แล้วไอ้ป๊อบขนลุกชะมัด)ตามที่ได้รับคำสั่งจาก

เบื้องบนลงมาเพราะถ้าหากไม่ทำตามที่ได้รับคำสั่งแล้วล่ะก็ ผมจะต้องถูกหักเงินเดือนออกไปครั้งละ 3 หมื่นบาท หอยหลอดล่ะสิ

ครับบบบ!!

        ผมเดินออกมาหาอีกคนที่ยืนพิงอยู่กับประตูรถสุดหรูที่ราคาของมันก็สามารถทำให้ผมสบายไปตลอดทั้งชีวิต ก่อนจะหันมา

มองผมหัวจรดเท้าเพื่อสำรวจความเรียบร้อย  แต่มันจะไม่อะไรเลยสักนิด ถ้าไม่ติดว่าสายตาของอีกคนที่มองผมอยู่นั้นมันไม่ได้

ทำให้ผมต้องรู้สึกเกร็งๆและร้อนวูบแปลกๆ ส่วนมือไม้ก็ทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะเอาไปไว้ไหนดี แต่พอดีผมดูซ๊รีย์เยอะเลยพอจะรู้ว่า

ถ้าเขามีอาการกันแบบนี้จะต้องยกขึ้นเกาคอ เกาท้ายทอย ซึ่งผมก็ไม่รอช้ารีบทำตามแบบนั้นทันที

      “มองไรไม่ทราบ” ผมถามออกไปทั้งๆที่ก็ต้องคุมเสียงของตัวเองไม่ให้สั่น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันสั่นเพราะอะไร

      “ก็....มองน้องป๊อบคนสวยไงครับ”  ไอ้บ้า!

        ผมเลยต้องถลึงตาใส่ อีกคนเลยรีบมาเปิดประตูรถให้ผมเข้าไปนั่ง ก่อนที่ตัวเองจะเดินอ้อมไปขึ้นรถฝั่งคนขับ พร้อมกับเปิด

เพลงในรถคลอเบาๆอย่างมีความสุข สุขตายล่ะ!!

        หลังจากที่ไอ้พี่ภามขับรถออกมาเรื่อยๆ ผมเองก็เพิ่งจะมาเอะใจเอาได้ว่าเสื้อที่ตัวเองใส่อยู่ในตอนนี้มันเป็นเสื้อที่เมื่อตอนที่

ผมเพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่ๆแล้วไม่มีเสื้อใส่อีกคนเลยซื้อให้ แต่ก็มีแต่ตัวนี้แหละที่ผมยังไม่ได้ใส่เพิ่งจะได้เอามาใช้ก็วันนี้ พอมารู้ได้

ตอนหลังก็รู้สึกเขินๆเหมือนกันนะ ว่าแต่ว่าที่อีกคนกำลังร้องเพลงคลอเบาๆไปกับเสียงเพลงที่เปิดทิ้งไว้อย่างอารมณ์ดีอยู่ในตอนนี้

 มันเป็นเพราะผมใส่เสื้อที่เขาซื้อให้ผมอย่างนั้นเหรอ

แล้วทำไมผมถึงต้องรู้สึกดีจนอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ล่ะ

แล้วทำไมผมถึงต้องกำเสื้อตัวเองแน่นเพราะความเขินด้วยนะ

แล้วทำไม............ผมต้องเขินด้วยล่ะเนี่ย!!

      “ป๊อบน่าจะยิ้มแบบนี้บ่อยๆนะครับ น่ารักดี.......พี่ชอบ” ห๊า!อะไรนะ ไอ้พี่ภามเขาบอกว่าตอนนี้ผมกำลังยิ้มเหรอ ผมรีบยกมือ

ขึ้นมาจับที่ใบหน้าและมันก็เป็นจริงอย่างที่อีกคนว่าเพราะตอนนี้ผมกำลังยิ้มและมันเป็นรอยยิ้มที่มีความสุข...................


     
                     
        ขับรถมาได้ไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางที่อีกคนพามา มันเป็นเหมือนรีสอร์ทที่บรรยากาศดีมากๆๆๆแห่งหนึ่ง แต่ผมก็ลืม

ถามว่าที่นี่มันที่ไหน แต่ก็คงจะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯเท่าไรนักเพราะใช้ระยะเวลาสั้นมากในการเดินทางมา

        พอผมกับไอ้พี่ภามลงจากรถ พี่แกก็เดินไปเปิดห้องพักกับพนักงานและรีบรับกุญแจมา ก่อนจะเดินมาจับมือผมให้เดินตามตัว

เองออกไป

        ผมเดินตามอีกคนไปทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะถูกอีกคนพาไปที่ไหนเพราะต่อให้ผมสงสัยมากจนอยากจะถาม แต่เชื่อผมเถอะ

ว่าถ้าผมถามออกไปมันก็เปล่าประโยชน์เพราะยังไงซะคนที่เดินจับมือผมตอนนี้ก็คงไม่ตอบคำถามผมง่ายๆหรอก

      “อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว” ไอ้พี่ภามว่า แถมยังกระชับมือให้แน่นขึ้นไปอีก ตอนนี้เราเดินกันออกมาไกลจากตัวรีสอร์ทและสองข้าง

ทางของผมก็รายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่ดูเยอะขึ้นกว่าตอนอยู่ในรีสอร์ท ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคนที่เดินจับมือผมกำลัง

จะพาผมไปที่ไหนกันแน่?!

            เอ๊ะ!!หรือว่าไอ้พี่ภามมันกำลังจะพาผมไปทำมิดีมิร้าย!!

        แต่ยังไม่ทันที่จะให้ผมได้จินตนาการเรื่องไร้สาระต่อ ภาพตรงหน้าที่เคยเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้ากลับกลายเป็นภาพก้อน

หินก้อนโตที่เป็นที่นั่งอย่างดีที่เอาไว้นั่งดูพระอาทิตย์ในยามขึ้นจากขอบฟ้าและลาลับลงไป

        ผมหันหน้าไปมองอีกคนที่หันมามองผมอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่อีกคนจะเอ่ยปากชักชวนให้ผมนั่งลงที่ก้อนหินก้อนนั้น

      “พี่ว่าเราน่าจะมานั่งรอดูพระอาทิตย์ตกดินกันนะครับ” ไอ้พี่ภามว่า ก่อนจะออกแรงดึงผมอีกครั้งให้เดินตามตัวเองไปนั่งที่ก้อน

หินนั้น แถมยังคอยดูแลความปลอดภัยให้ผมอีก

      “คิดไงถึงพามาดูพระอาทิตย์ตกดิน” ผมถามออกไป เมื่อเราทั้งคู่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว

      “ก็พี่เห็นเราเหนื่อยๆก็เลยอยากจะพามาผ่อนคลายบ้างก็เท่านั้นเอง” อีกคนตอบ ส่วนผมก็พยักหน้ารับน้อยๆ

      “นั่นไงพระอาทิตย์ตกแล้ว” ไอ้พี่ภามชี้นิ้วไปตรงหน้า ซึ่งดวงอาทิตย์กำลังตก ผมจึงหันไปมองตามนิ้วที่ชี้และอดที่จะทึ่งให้

กับความสวยงามในตอนนี้ไม่ได้

        แสงของดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้ากำลังตัดกับแสงของท้องฟ้าที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ยามราตรี มันช่างเป็นภาพที่น่า

มองและน่าประทับใจที่สุด แต่นั่นก็คงไม่ทำให้ผมประทับใจเท่ากับภาพตรงหน้าที่กำลังบดบังทัศนียภาพความงามของท้องฟ้า ณ

 ตอนนี้ได้

        สายสร้อยสีเงินเส้นยาวกับจี้รูปดวงดาวสวยงามที่กำลังส่องประกายไปพร้อมๆกับแสงของดวงอาทิตย์ยามลาลับขอบฟ้า

จึงทำให้ผมต้องหันหน้ากลับไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่เป็นคนถือสร้อยเส้นนั้นเอาไว้

      “สุขสันต์วันเกิดนะครับ น้องป๊อบ”

      “พี่ภามรู้?” ผมถามอีกคนอย่างสงสัย ใช่ วันนี้เป็นวันเกิดผม ซึ่งผมเองก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเขา แต่เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง

      “ก็........ไม่บอก” อีกคนตอบอย่างยิ้มๆ

      “ไอ้ภัทรบอก” ผมถามเพราะไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถตรัสรู้ได้ด้วยตัวเอง

      “ไม่เชิง แต่ก็ไม่ใช่” ไอ้พี่ภามตอบ

      “ไอ้ปิ๊ก” ผมลองถาม  ซึ่งไอ้พี่ภามไม่ตอบ ผมเลยจ้องอีกคนเขม็ง อีกฝ่ายจึงยอมปริปากพูด

      “เดาเก่งดีนี่”

        เหอะ! ผมอยากจะบ้าตายกับไอ้ปิ๊กจริงๆ คราวก่อนก็แทบจะยกผมใส่พานให้ไอ้พี่ภาม มาคราวนี้ก็เล่นบอกวันเดือนปีเกิดของ

ผมอีก       

         มึงไม่บอกไปเลยล่ะไอ้ปิ๊กว่าเฮียมึงยังซิงอยู่!! ไอ้น้องเวร!!

      “แล้วนี่จะใจดำไม่รับของขวัญวันเกิดของพี่หน่อยเหรอ” อีกคนพูดเพราะตอนนี้ผมยังไม่ยอมรับสร้อยคอจากมือของอีกฝ่าย

      “มันแพง พี่เก็บไว้เถอะ แค่นี้ก็มากพอแล้วล่ะ” ผมตอบปฏิเสธแบบอ้อมๆเพราะใจจริงไม่ใช่ไม่อยากได้ แต่ผมไม่อยากจะให้

ตัวเองสับสนไปมากกว่านี้เพราะผมกลัวว่าถ้าหากผมรู้ว่าสิ่งที่ผมกำลังสับสนอยู่ มันเกิดเป็นมากกว่าคำว่าสับสน มันจะทำให้ผมต้อง

มานั่งเสียใจเองในภายหลัง สู้ตัดจบมันแบบนี้ยังน่าจะดีซะกว่า

        แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้หันหลังกลับ อีกคนก็คว้าตัวของผมไว้พร้อมกับความรู้สึกเย็นๆที่ลำคอ พอผมก้มลงมองก็พบว่าสาย

สร้อยสีเงินเส้นยาวรูปดวงดาวได้มาอยู่ที่คอของผมเรียบร้อยแล้ว

      “อย่าปฏิเสธมันเลยนะครับ น้องป๊อบไม่สงสารดวงดาวดวงนี้เหรอครับ” ไอ้พี่ภามว่า ก่อนจะยกมือมาจับมือผมที่ยกขึ้นมาจับจี้

ดาวในตอนที่เขาพูดในตอนแรก จากนั้นพี่ภามก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด

        ตึกตัก ตึกตัก!! 

        เสียงหัวใจของผมและอีกคนกำลังดังแข่งกัน และนี่คือสิ่งที่ผมกำลังกลัวและกำลังสับสน ว่าจริงๆแล้วที่ผ่านมาทั้งหมด

ไอ้อาการที่ผมคิดว่าตัวเองนั้นกำลังสับสน แท้จริงแล้วมันไม่ใช่การสับสน แต่เป็นความกลัว กลัวว่าถ้าวันหนึ่งผมรู้ใจตัวเองและไม่

สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป ว่าผมกำลังรัก เขา
 
        แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วล่ะถึงจะให้ผมอยากจะปฎิเสธและหลอกตัวเองยังไง ผมก็ไม่สามารถทำมันได้อีกต่อไปว่าผม

กำลัง.............รักพี่ภามจริงๆ
       






มาแล้วจร้าาาา ขอโทษทีที่เมื่อวานไม่ได้อัพนะคะ พอดีกะว่าจะมาอัพในวันนี้ให้หลายๆตอน ตอนนี้น้องป๊อบของเราก็ทำเค้กมา

เอาใจคุณแม่สามีได้สำเร็จแล้ว แถมยังมีเรื่องน่ายินดีที่ตอนนี้เจ้าตัวยอมรับความจริงแล้วล่ะว่า กำลังรักพี่ภามเข้าให้แล้ววว อิอิ

ไว้พบกันตอนหน้านะจ๊ะ(มากระซิบบอกว่าอีกแค่ไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะจ๊ะ!!) บายยย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอน 15 หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 27-04-2015 23:59:39
                                                                  ตอนที่ 15 ใจอ่อน..........
           
            หลังจากที่เรื่องราวตอนที่ผมถูกอีกคนเซอร์ไพรส์วันเกิดก็ทำให้ผมไม่กล้าที่จะมองหน้าอีกคนอย่างตรงๆ มันรู้สึกเขิน

แปลกๆทุกครั้งที่มอง ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ไม่ได้มีอาการบ้าๆอะไรแบบนี้และนั่นจึงทำให้ผมหลบหน้าอีกคนอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่ไม่อยากเจอ

 แต่แค่อายเท่านั้น ไม่ได้กลัวและไม่มีเหตุผลอื่นเพราะคนอย่างไอ้ป๊อบไม่มีคำว่ากลัวอยู่ในพจนานุกรมอยู่แล้ว!!

      “วันนี้เฮียเลิกคลาสกี่โมงอ่ะ” ไอ้ปิ๊กที่เดินมาหาผมที่โต๊ะหินอ่อนตัวประจำในมหาลัยที่ตอนนี้ไอ้ภัทรกำลังออกไปหาหนังสือมา

ทำรายงานยส่งอาจารย์ทิ้งผมให้นั่งแก่วอยู่คนเดียวที่โต๊ะ

      “น่าจะช่วงบ่ายๆแล้วปิ๊กล่ะ” ผมถามหลังจากที่ไอ้น้องรักนั่งลงที่โต๊ะ

      “น่าจะค่ำๆอ่ะเฮีย พอดีวันนี้มีรับน้องด้วย เฮียกลับก่อนก็ได้นะ” ไอ้ปิ๊กบอก ผมจึงพยักหน้ารับเพราะผมก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอถึงเย็น

ทำไม สู้กลับไปพักผ่อนหรือไม่ก้ตากแอร์เย็นๆในห้างยังจะดีซะกว่า

        วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเริ่มต้นชีวิตในรั้วมหาลัยกับการเป็นนักศึกษาปีสาม คณะนิติศาสตร์พร้อมกับไอ้น้องชายสุดที่รักอย่างไอ้

ปิ๊กที่ตอนนี้เป็นเฟรชชี่หน้าใส(ล่ะมั้ง เหอะๆ!) คณะนิติศาสตร์เช่นเดียวกับผม

        ไอ้ปิ๊กมันโชคดีมากที่ได้ไอ้ภัทรเป้นพี่รหัสเพราะอย่างน้อยๆไอ้ภัทรมันก็คือเพื่อนรักของผมเวลาที่มันปีนเกลียว ผมจะได้จับ

มันหักคอได้สะดวกหน่อยเพราะพื้นเพของไอ้ปิ๊กแล้ว ไม่ปากคุณสุนัขแล้วก็กวนคุณพระบาทาอยู่เป็นเนืองนิจ จึงทำให้ผมค่อนข้าง

จะปวดคุณเฮดเสียจริงๆที่มีน้องเป็นไอ้ปิ๊ก!

        ส่วนทำไมไอ้ปิ๊กถึงได้กลายมาเป็นน้องวหัสของไอ้ภัทรได้นั้นก็คงเป็นเพราะน้องรหัสของไอ้ภัทรเมื่อปีที่แล้วหรือไอ้เพชร

มันดันกระแดะซิ่วไปเรียนเศรษฐาสตร์เสียก่อนจึงทำให้ปีที่แล้วไอ้ภัทรไม่มีน้องรหัส มันจึงค่อนข้างสนิทกับไอ้มิ่ง น้องรหัสตัวดีอีก

คนของผม

      “แล้วนี่พี่ภัทรไปไหนแล้วอ่ะเฮีย ปิ๊กยังไม่เห้นตั้งแต่เช้าเลย” ไอ้ปิ๊กถามขึ้นมาพราะปกติมีผมอยู่ที่ไหนไอ้ภัทรจะอยู่ที่นั่นหรือมี

ไอ้ภัทรอยู่ที่ไหนก็จะมีผมเสนอหน้าอยุ่ด้วยตลอด แต่นี่ตั้งแต่เช้ามันก็เอาเวลาทั้งหมดไปขลุกตัวอยู่ที่ห้องสมุด

      “ไปหาข้อมูลทำรายงานที่ห้องสมุด ว่าแต่เราเถอะตอนนี้ว่างอยู่เหรอ” ผมถามกลับบ้าง มันจึงพยักหน้าว่าตอนนี้ว่างแล้ว ก่อน

จะชวนผมคุยต่อ

      “เฮียในฐานะที่เราเป็นพี่น้องที่รักกันปานเฮียจะฆ่าปิ๊กแทนการกินยาเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหารแล้ว ปิ๊กขอถามอะไรเฮีย

หน่อยสิ” สาบานเถอะว่าที่มึงพูดมาทั้งหมดคือการที่กูรักมึง?

      “มีไรก็ว่ามาดิ แต่เฮียก็จะตอบเท่าที่เฮียตอบได้ล่ะนะ” ผมว่าเพราะผมมีลางสังหรณ์ว่ามันต้องถามผมเรื่องผมกับพี่ภามแน่ๆ

      “ถามจริงเถอะ ไอ้งานที่เฮียมำอยุ่ตอนนี้มันนไม่ใช่งานดูแลคนสูงอายุใช่ไหม” ไอ้ปิ๊กถาม ผมจึงมองหน้ามันนิ่งสักพัก ก่อนจะ

ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆเพราะผมเองก็ไม่รุ้จะปิดมันไปเพื่ออะไรเพราะขนาดพวกพี่ท็อปก็รู้เรื่องกันไปหมดแล้ว

      “อืม เฮียไม่ได้ทำงานดูแลคนสูงอายุอย่างที่ปิ๊กเข้าใจนั่นแหละ แต่ว่างานทีเฮียทำมันไม่ได้ผิดกฎหมายนะ” ผมรีบบอกเพราะ

กลัวไอ้ปิ๊กมันจะสงสัยว่าผมอาจจะทำงานผิดกฎหมายเพราะรายได้ที่ผมส่งให้มันตอนนอยู่ดูแลแม่ แถมยังจะค่ารักษาพยาบาลของ

แม่อีก

      “แล้วเฮียทำงานอะไ--” ยังไม่ทันที่ไอ้ปิ๊กจะได้พูดจบ เราทั้งคุ้ก้ต้องหันไปมองตามเสียงเรียกชื่อผม ซึ่งเป็นน้ำเสียงที่ผมคุ้น

เคยและตอนนี้ผมก็ไม่ค่อยอยากจะคุ้นเคยสักเท่าไร

      “อ้าวไอ้ป๊อบ วันนี้คุณว่าที่สามีไม่ได้มาส่งเมื่อตอนเช้าเหรอ” ไอ้พี่ท็อปที่เดินมาจากไหนไม่มีใครรู้ ยิ้มกวนๆถามผมเหมือนไม่

เห็นว่าตอนนี้มีไอ้ปิ๊กนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย แต่ที่รู้ๆในตอนนี้คือพี่แกกำลังทำให้ไอ้ปิ๊กมองผมตาโตยิ่งกว่าไข่ห่านเสียอีก 

ตายๆๆๆ ตายอย่างไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่งานนี้

      อะไรจะแย่กว่านี้มีไหมเนี่ย พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก โลกของ

               ไอ้ป๊อบจะแตกก็วันนี้แหละครับท่าน!! ฮือๆๆๆ








                         

      “มันอะไรยังไงกันเฮียเล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้เลยนะ” ตอนนี้ไอ้ปิ๊กกำลังนั่งกดดันให้ผมเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟัง ผมหันขวับ

กลับไปมองหน้าไอ้พี่ท็อปที่ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆมาให้ผมแทนเพราะคนที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดมันยุ่งๆก็เป็นเพราะไอ้พี่ท็อป!!

ผมอยากจะฆ่ามันจริงๆ

      “เอ่อ...คือ...” ผมได้แต่อ้ำอึ้งแบบนี้มาสามรอบ ไอ้พี่เมฆที่นั่งอยู่ด้วยคงเริ่มจะรำคาญผมที่มัวแต่อ้ำอึ้ง จึงเอ่ยปากพูดออกมา

      “มัวแต่เอ่อ...อ่า อยุ่นั่นแหละไอ้ป๊อบแล้วแบบนี้น้องมันจะรู้เรื่องอะไรไหมเนี่ย” ผมได้แต่หันไปมองหน้าไอ้พี่เมฆเป็นเชิงว่า

 ผมขอทำใจอีกสักนิด พี่แกเลยได้แต่มองหน้าผม ก่อนถอนหายออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน

        ตอนนี้ที่โตธมานั่งที่ประจำของผม มันไม่ได้มีแค่ผมกับไอ้ปิ๊กที่นั่งคุยกันแค่สองคนเหมือนในตอนแรก แต่ตอนนี้ที่โต๊ะของ

ผมมีทั้ง พี่ท็อป พี่เมฆ ไอ้มิ่งแล้วก็ไอ้ภัทรที่รบออกจากห้องสมุดเพื่อมาเผือกเรื่องนี้โดยเฉพาะ

      “คือ พี่ภามเขาจ้างพี่ให้ไปเล่นเป็นแฟนกำมะลอให้กับเขาแล้วก็ให้เข้าไปเปิดตัวกับคุณหญิงแม่ว่าพี่เป็นว่าที่สะใภ้ของบ้าน

สุริยศักดิ์” ผมบอกไอ้ปิ๊กไปตามความเป็นจริง

      “แล้วพี่รักพี่สุดหล่อเหรอถึงได้ยอมทำงานนี้น่ะ” ไอ้ปิ๊กถาม ผมได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ ไม่กล้าที่จะสบตาน้องเพราะ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงตอบไปแบบไม่ต้องคิดว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับไอ้พี่ภาม แต่ในตอนนี้ ณ ตอนนี้และเวลานี้ ผมรู้สึกดีกับอีกคน

ถึงขั้นที่อาจจะเรียกได้ว่า ผมรักอีกคนเข้าแล้วจริงๆ

      “ก็.....พี่ภามเขาเสนอค่าจ้างเยอะไง แล้ว...เอ่อ ตอนนั้นแม่ก็ป่วยพี่ก็เลยไม่มีทางเลือก” ผมตอบ พยายามไม่หลบตาไอ้ปิ๊ก

เพราะถึงแม้มันจะติ๊งต๊องไปหน่อย ปัญญาอ่อนไปนิด กวนตีนอาจจะเยอะ ปากหมาอาจจะบ่อย แต่ถ้าเรื่องจับโกหกแล้วล่ะก็ ไอ้

ปิ๊กนี่เรียกได้ว่าเจ๋งระดับเซียนหาตัวจับได้ยากเลยล่ะ

      “ตอบไม่ตรงคำถาม!”   อึก! 

        ไอ้ปิ๊กว่าเสียงเย็นๆ แต่แค่นี้ก็ทำเอาผมถึงกับสะอึกเพราะซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริง ผมตอบไม่ตรงกับคำถามที่มันถามจริงๆ

      “แต่ถ้าเฮียจะมาบอกว่า ตอนนั้นเฮียไม่มีทางเลือก ปิ๊กว่าทางเลือกน่ะมี แต่เฮียเลือกที่จะไม่เลือกมันมากกว่า” ไอ้ปิ๊กว่า เหอะ!

 อีกดอกที่ก็ทำให้ผมสะอึกไม่ต่างไปจากดอกแรกที่มันพูดมา

      “ปิ๊กขอถามเฮียอีกคำถาม คำถามเดียวและเป็นคำตอบสุดท้าย” ไอ้ปิ๊กว่า ก่อนที่มันจะทำสีหน้าจริงจังขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับเอามือมาจับที่ต้นแขนของผมเอาไว้ทั้งสองข้าง  ให้บรรยากาศกดดันเหมือนนักโทษถูกสอบสวน  ไอ้เหี้ย!ปิ๊ก กูเป็นพี่มึงนะ ไม่ใช่

ผู้ร้ายวางระเบิดที่ต้องมาให้มึงสอบสวนน่ะ!!

      “ซึ่งเฮียก็ต้องเลือกคำตอบสุดท้ายเพื่อมาตอบปิ๊กและขอย้ำว่าอย่าพูดโกหก” ไอ้ปิ๊กเน้นหนักคำว่า อย่าพูดโกหก จึงทำให้ผม

ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคือง

      “เฮียรักพี่สุดหล่อใช่ไหม!!”





                   

        กว่าผมจะสามารถหลุดพ้นจากไอ้ปิ๊กได้ก็เล่นเอาแทบตายเหมือนผมโดนสูบวิญญาณออกจากร่างยังไงก็ไม่ปานเลยจริงๆ

 เฮ้อ! แต่ถ้าถามว่าทำไมผมถึงได้หลุดออกจากการถูกสอบสวนโดยน้องชายบังเกิดเกล้าอย่างไอ้ปิ๊กได้ล่ะก็ เหอะๆ  ก็ผมตอบมัน

ทุกคำถามและตอบจริงไม่อิงนิยาย มันเลยปล่อยตัวผมออกมาอย่างอิสระ แต่ก่อนที่ผมจะได้เป็นอิสระ มันก็ทิ้งคำพูดทิ้งท้ายเอาไว้

ให้ผมโมโหเล่น

      “ปิ๊กบอกแล้วว่าหน้าตาอย่างเฮียน่ะ มันต้องมีสามีเป็นพี่สุดหล่อ ไม่ใช่ยัยผู้หญิงปาแดงพวกนั้น เฮ้อ! ไอ้ปิ๊กโคตะระมีความ

สุขจริงๆที่ได้พี่สุดหล่อเป้นพี่เขย โฮะๆๆๆ แล้วพี่ก้อย่าลืมบอกพี่สุดหล่อล่ะ ว่าพี่รักเขาจริงๆเข้าให้แล้ว”

        มันพูดจบก็เดินออกไปเรียนต่อ ปล่อยให้ผมได้แต่โกรธจนทำอะไรไม่ถูก ไหนจะเสียงโห่แซว เป่าปากวี๊ดวิ้วของพวกพี่

ท็อปนั่นอีก จึงทำให้ผมรีบพาตัวเองไปอยู่ไกลๆเจ้าพวกตัวอันตรายพวกนั้นและผมก็เลือกห้างสรรพสินค้าเป็นหลุมหลบภัย

      “ไปหาอะไรกินแก้เซ็งดีกว่า” ผมบอกตัวเอง ก่อนจะก้าวเท้าเดินเพื่อตรงไปยังศุนย์อาหารของห้าง แต่แล้วผมก็ต้องหยุดชะงัก

ฝีเท้าของตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงใครบางคนกำลังร้องขอความช่วยเหลือ

        ไม่รอช้า ผมรีบวิ่งไปยังต้นเสียงทันทีและพบเข้ากับสิ่งที่ทำให้ผมต้องตกใจยิ่งกว่าผู้ร้ายตรงหน้าเสียอีก

      “คุณหญิงแม่!!”

      “ป๊อบ! ช่วยฉันด้วย ไอ้คนพวกนี้มันกำลังจะทำร้ายฉัน!!” คุณหญิงแม่ร้องตะโกนเสียงดังเรียกให้ผมเข้าไปช่วย ส่วนผมที่เพิ่ง

ตั้งสติได้จากเสียงร้องเรียกให้ช่วยของท่าน ผมก็รีบตรงเข้าไปจัดการกับไอ้พวกผู้ร้าย ทั้งหมั เข่า ศอกและวิชาความรู้ด้าน

มวยไทยที่เคยได้ร่ำเรียนมา เหอะๆ เห็นผมอย่างนี้ ผมนี่น้องๆบัวขาวเชียวนะจะบอกให้!!

      “คุณหญิงแม่เป็นยังไงบ้างครับ” หลังจากที่ผมจัดการกับไอ้พวกผู้ร้ายที่มันมากันห้าคนได้เรียบร้อยแล้ว ผมก็พาคุณหญิงแม่

มาหาที่นั่งพักแถวม้านั่งในห้าง ก่อนจะสำรวจดูว่าท่านมีบาดแผลหรือบาดเจ็บตรงไหนบ้าง

      “ไม่เป็นไร ขอบคุณเธอมาก ถ้าฉันไม่ได้เธอช่วยไว้ป่านนี้ฉันก็คงแย่น่าดู” คุณหญิงแม่ว่า ผมจึงพยักหน้ารับยิ้มๆ

      “แล้วคนพวกที่มาทำร้ายคุณหญิงแม่วันนี้คุณหญิงแม่พอจะทราบไหมครับว่าเป็นใคร” ผมถาม ท่านจึงทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย

 ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

      “ไม่รู้เหมือนกัน แต่เท่าที่จำได้ ฉันและครอบครัวก็ไม่เคยไปมีศัตรูกับใครที่ไหนเลยนะ” คุณหญิงแม่ว่า แต่ความรู้สึกของผม

ตอนนี้มันบอกว่า เรื่องราวมันชักจะแปลกๆและไม่ธรรมดาซะแล้วสิ

      “งั้นเอาอย่างนี้ไหมครับ ถ้าคุณหญิงแม่จะกลับบ้านเมื่อไหร่ก้บอกป๊อบนะครับเดี๋ยวป๊อบจะได้คอยระวังให้” ผมบอกเพราะกลัว

ว่าถ้าหากพวกนั้นย้อนกลับมาทำร้ายคุณหญิงแม่แล้วท่านจะเกิดอันตรายขึ้นได้

      “ฉันว่าฉันจะกลับบ้านเลย งั้นยังไงก็รบกวนเธอด้วยนะ” คุณหญิงแม่ว่า ก่อนจะลุกขึ้น ผมจึงเข้าไปช่วยประคองท่านเดินจนมา

ถึงรถและเราก็มุ่งหน้าสู้บ้านสุริยศักดิ์

      “ค่อยๆลงนะครับ” ผมบอก ก่อนจะอาสาประคองท่านเดินเข้าบ้าน

      “เอ่อ...งั้นป๊อบขอตัวกลับขึ้นไปเปลี่ยนชุดด้านบนก่อนนะครับคุณหญิงแม่” ผมบอกคุณหญิงแม่ ก่อนจะขอตัวขึ้นไปทำธุระ

ส่วนตัวที่ด้านบนห้อง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ผละออกไป คุณหญิงแม่ก็คว้าแขนผมเอาไว้เสียก่อน

      “ขอบคุณนะที่ช่วยฉันเอาไว้ในวันนี้” ท่านกล่าวกับผม ซึ่งมันค่อนข้างจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับผมนะเพราะตั้งแต่ที่เรา

เจอกันครั้งแรก ผมกับคุณหญิงแม่ก็เรียกได้ว่าเราทั้งคู่เหมือนไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด แต่ก็จะมีช่วงหลังๆนี่แหละที่ความสัมพันธ์

มันดูดีขึ้นกว่าในตอนแรก

      “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณหญิงแม่ ป๊อบทำด้วยความเต็มใจ” ผมบอกยิ้มๆและคิดว่าท่านคงจะหมดเรื่องคุยกับผม ผมเลยทำท่า

จะผละออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ท่านไม่ได้รั้งผมไว้โดยการจับข้อมมือผม แต่ท่านกลับรั้งผมไว้ด้วยคำพูดเพียงประโยคเดียวที่

ทำเอาผมรู้สึกดีเสียยิ่งกว่าคำขอบคุณที่ท่านบอกในตอนแรก

      “แล้วคำว่าคุณหญิงแม่น่ะ ไม่ต้องเรียกแล้วนะ เรียกว่า คุณแม่ เถอะ ฉันว่ามันฟังดูดีกว่าตั้งเยอะ”




                             
                       
      “กลับมาแล้วเหรอครับน้องป๊อบ” ทันทีที่ผมผลักบานประตูห้องนอนออกก็ถุกเจ้าของห้องเอ่ยถามทันที ส่วนผมที่พยายาม

หลบหน้าอีกคนมาหลายวันก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะช่วงเช้าผมมีเรียนและช่วยเพื่อนเตรียมงานรับน้อง ส่วนไอ้พี่ภามต้องทำงาน

จึงทำให้เราไม่ค่อยเจอกัน บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป้นผมเสียมากกว่าที่หลับก่อนอีกคน

      “เอ่อ......ครับ แล้ววันนี้พี่ภามเลิกงานเร็วเหรอครับ” ผมตอบ ก่อนจะถามอีกคนและแยกย้ายไปหาเสื้อผ้าเพื่อเปลี่ยนเป็นชุด

อยู่บ้าน

      “อืม รีบกลับมาหาคนที่พยายามกำลังหลบหน้าพี่มาสองสามวันน่ะ” พี่ภามว่า ส่วนผมที่กำลังเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้าก็ต้อง

ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะทำตัวตามปกติเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่อีกคนพูด ซึ่งผมเองก็ไม่แปลกใจเลยที่อีกคนจะรู้ว่าผมหลบหน้า

เพราะสิ่งที่ผมแสดงออกมา มันก้เป้นตัวบอกชัดอยู่แล้วว่าผมกำลัง พยายามหลบหน้า อีกฝ่าย

      “อ๊ะ” ร้องร้องเสียงหลง เมื่อหันกลับมาก็ต้องปะทะเข้าที่แผงอกของอีกคน พร้อมกับมือที่เอื้อมมาโอบผมเอาไว้หลวมๆ

ทำให้ผมไม่มีทางที่จะหลุดไปจากคนตรงหน้าได้

      “ทำไมต้องหลบหน้าพี่ด้วยล่ะครับ พี่ทำอะไรผิดเหรอ น้องป๊อบถึงได้พยายามหลบหน้าพี่แบบนี้ น้องป๊อบทำแบบนี้พี่ก็เสียใจ

แย่” อีกคนว่า

      “เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ผมพูดออกไปทั้งๆที่รุ้ว่าถ้าพูดแล้วคนที่เจ็บก้คงไม่พ้นตัวเอง แต่ทำไงได้ ถ้ารู้ความจริงแล้ว

ไม่ยอมรับความจริง มันก้เจ็บเหมือนกัน

      “แล้วถ้าเราเป็นอะไรกันล่ะครับ” ไอ้พี่ภามว่า ก่อนจะเอื้อมมือมาเชยคางของผมให้ไปสบตาของตัวเอง ก่อนที่ใบหน้าที่อยู่สูง

กว่าผมจะค่อยๆลดต่ำลงและเปลี่ยนจุดโฟกัสไปที่ริมฝีปากของผม

        ผมหลับตาลงเพื่อรับสัมผัสที่อีกคนมอบให้ มันอาจจะยังไม่ถึงขั้นล้ำลึก แต่แค่นี้มันก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของผมเต้นผิด

จังหวะ

      “พี่ขอร้องล่ะครับ อย่าหลบหน้ากันเลย พี่อยากจะเห็นหน้าของป๊อบนะครับและที่สำคัญป๊อบมีอะไรในใจก็บอกพี่ได้นะครับ”

อีกคนบอกพร้อมกับความหมายบางอย่างที่ถูกแฝงอยู่ในคำพูด จนทำให้ผมต้องเบนหน้าหลบสายตาของอีกคนเพราะผมกลัวว่าพี่

ภามจะมาเห็นแววตาวูบไหวของผม     

      “สัญญานะครับว่าถ้ามีอะไรให้บอกอย่าหลบหน้ากันอีกเลยนะครับ”ผมที่หันหน้าหนีก็ต้องหันกลับมามองอีกคนอีกครั้ง ก่อนที่

จะปะทะเข้ากับแววตาที่ดูเศร้าๆ หมองหม่นของอีกคนและนั่นก็ทำให้ผมต้องยอมพยักหน้าตกลงอย่างเสียไม่ได้ อีกคนที่เห็นผม

ยอมทำตามก็กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและฉีกยิ้มกว้าง ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีตามอีกคนไปด้วย และสุดท้ายผมก็ต้องยอมใจอ่อน

ให้กับผู้ชายคนนี้จนได้ เฮ้อ!!  ไอ้ป๊อบนะไอ้ป๊อบ





   

มาต่อให้อีกตอนในวันเดียวตามที่ได้บอกเอาไว้ อิอิ ตอนนี้จะบอกว่าน้องป๊อบของพี่ภามได้ใจคุณหญิงแม่ไปเต็มๆ แต่ก็แอบฮา

ตอนที่ไอ้ปิ๊กสอบสวนเฮียป๊อบนะ 5555 แถมตอนนี้น้องป๊อบยังถูกพี่ภามจับได้ว่ากำลังหลบหน้าด้วย อู๊ยๆๆๆ เคลียร์กันเองนะจ๊ะ

ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอน 16 หน้า 4 25/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 28-04-2015 00:06:44
                                                                      ตอนที่ 16 เปิดใจ..........

            ตอนนี้ก็ก้าวเข้าสู่ปลายเดือนที่ห้า อีกแค่เดือนเดียวเท่านั้นที่สัญญาที่ผมว่าจ้างอีกคนไว้ก็จะจบสิ้นลง แต่สำหรับผมแล้ว

 ผมไม่มีทางยอมให้มันจบลงง่ายๆหรอกเพราะตอนนี้ผมรักป๊อบ รักจนไม่มีทางยอมที่จะเสียอีกคนไปแน่ๆ ฉะนั้นผมก็จะทำทุก

อย่างเพื่อจะรั้งอีกคนเอาไว้ ว่าแต่ว่าผมควรจะรั้งอีกคนเอาไว้ยังไงดี?

      ก๊อกๆๆ

      “ขออนุญาตค่ะ คุณศิงขรคะช่วงบ่ายนี้ทางบริษัทที่เรานัดมาคุยงานวันนี้ติดธุระด่วนเลยขอเลื่อนนัดเป็นวันพรุ่งนี้ได้ไหมคะ”

เลขาสาวที่อยู่หน้าห้องเคาะประตูขอนุญาตเข้ามาในห้อง ก่อนจะแจ้งเรื่องสำคัญเกี่ยวกับนัดในวันนี้ให้กับผม

      “อืม ได้ ว่าแต่ว่าวันนี้ผมมีนัดหรือมีประชุมช่วงเย็นต่ออีกไหม” ผมตอบตกลงเรื่องการเลื่อนนัดคุยธุระจากวันนี้เป็นวันพรุ่งนี้

ก่อนจะเอ่ยถามเธอถึงตารางงานของผมในวันนี้ เธอจึงหยิบสมุดที่เอาติดตัวเข้ามาคุยงานกับผมเปิดออก พร้อมกับไล่ดูตารางเวลา

งานของวันนี้

      “ไม่มีแล้วค่ะ แค่คุณศิงขรเซ็นต์เอกสารที่แพรวเอามาให้เมื่อห้านาทีก่อนเสร็จก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ” ผมจึงพยักหน้ารับ ก่อนที่

เธอจะขอตัวออกไปทำงาน แต่ผมก็เรียกเธอรั้งเอาไว้ก่อน เมื่อนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่อยากจะถาม

      “เอ่อ...คุณแพรวครับ คือคุณเคยมีแฟนแล้วรักเขามากจนต้องรั้งเขาเอาไว้ไหมครับ” ผมถามออกไป เธอมองหน้าผมเลิกคิ้วสูง

อย่างงงๆก่อนจะเอ่ยปากพูดออกมา

      “คุณศิงขรถามแพรวแบบนี้ แสดงว่าตอนนี้คุณศิงขรกำลังปิ๊งใครบ้างคนอยู่สินะคะ” เธอถามผมยิ้มๆ

      “ใช่น้องผู้ชายที่เคยมากับคุณภัทรรึเปล่าคะ” นี่ผมอสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอว่าผมชอบป๊อบ แต่ผมก็ยังคงเลือกที่จะไม่

ตอบ แต่สำหรับแพรวแล้ว เลขาที่ทำงานร่วมกันมาเกือบสามปีก็คงจะรู้ว่าในความเงียบสำหรับผมมันคือคำตอบที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

จึงทำให้เธอหลุดหัวเราะออกมา

      “ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าคุณศิงขรจะชอบเด็กแก่นๆแสบๆ เจ้าเล่ห์แบบนั้น แต่จะว่าไปแล้ว น้องคนนั้นก็เหมาะกับคุณศิงขรดี

เหมือนกันนะคะ” เธอยังคงพูดต่ออย่างยิ้มๆ

      “แล้วนี่มีปัญหากันเหรอคะถึงได้ถามคำถามนั้นเพื่อขอคำปรึกษาจากแพรว” ผมจึงอธิบายเรื่องราวคร่าวๆอย่างรวบรัดให้เธอฟัง

ทั้งเรื่องที่ผมให้

ป๊อบมาเล่นเป็นแฟนกำมะลอกับผมและความรู้สึกที่แท้จริงที่ผมมีต่ออีกคนให้หญิงสาวตรงหน้าฟัง ก่อนที่เธอจะพยักหน้ารับรู้เรื่อง

ราวความเป็นมาทั้งหมดพร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิดเรื่องราวที่ผมเล่าตามไปด้วย

      “งั้นอย่างนี้ก็แสดงว่าคุณศิงขรรักน้องป๊อบ แต่คุณศิงขรเองก็ไม่แน่ใจว่าน้องป๊อบจะรักคุณรึเปล่า..........แพรวว่าคุณควรจะ

ลองสังเกตอาการที่น้องป๊อบมีต่อคุณสิคะและถ้าคุณยังไม่แน่ใจอีกก็ถามน้องเขาออกไปตรงๆหรือไม่ก็.........” เธอพูดเว้นวรรคเอา

ไว้ ส่วนผมก็คอยฟังว่าคำพูดที่เธอเว้นวรรเอาไว้คืออะไร

      “ก็ลองขอคบน้องป๊อบเป็นแฟนแบบจริงจังสิคะ ถ้าน้องเขารักคุณยังไงซะเขาก็ต้องตอบรับคุณอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ล่ะก็โทรบอก

แพรวล่วงหน้านะคะ” เธอบอก ก่อนจะส่งยิ้มให้ผม ผมจึงขมวดคิ้วสงสัย เอ...หรือว่าถ้าป๊อบไม่ตกลงเธอจะมีแผนสำรองหรือจะให้

คำปรึกษาดีๆเพิ่ม?

      “คุณมีแผนสำรองเหรอ ถ้าหากผมสารภาพรักแล้วขอป๊อบเป็นแฟน แต่ถูกปฏิเสธน่ะ” ผมถามออกไป เธอจึงส่ายหน้ารัวๆ

ก่อนจะยิ้มแห้งๆมาให้ผมคล้ายกับจะให้กำลังใจ

      “เปล่าค่ะ แต่แพรวจะเตรียมทำน้ำใบบัวบกมาให้คุณศิงขรดื่มแก้ช้ำในยังไงล่ะคะ แหะๆ อย่ามองแพรวแบบนั้นสิคะ แพรวให้

คำปรึกษาคุณได้แค่นี้ล่ะค่ะ สู้ๆและโชคดีนะคะ” เธอว่า ก่อนจะรีบขอตัวออกไปทำงานที่ค้างไว้ ส่วนผมก็ได้แต่นั่งถอนหายใจอย่าง

เซ็งๆ เอาเถอะ อย่างน้อยๆผมก็ยังได้คำปรึกษามา มีหลายๆทางหลายๆคำปรึกษามาให้ผมได้คิดก็ยังดีกว่าที่ในหัวของผมไม่มี

อะไรมาให้คิดเลยสักอย่าง แต่จะว่าไปความคิดของเลขาผมก็ไม่เลวดีนะ ลองสังเกตอาการ ถ้าป๊อบมีอาการเหมือนจะชอบเรา

เราก็แค่ขอป๊อบเป็นแฟนเท่านั้นเอง มันไม่เห็นจะมีอะไรยากเลยนี่หน่า........เอาวะ!ไอ้ภาม ลองดูสักตั้งให้รู้ๆกันไปเลยว่าถ้าคน

อย่างนายศิงขรขอคบใครแล้วล่ะก็ คนๆนั้นย่อมไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน คอยดู!

        ผมรีบเซ็นต์เอกสารทั้งหมดที่แพรวนำมาให้เซ็นต์ ก่อนจะรีบออกจากบริษัทพร้อมกับโทรหาป๊อบเพื่อให้เตรียมตัวให้ดีเพราะ

ผมอยากจะพาอีกคนไปที่ไหนสักแห่ง ก่อนที่ผมจะสารภาพความในใจของผมให้อีกคนได้รับรู้

        ผมรีบร้อนขับรถมารับอีกคนที่นัดเจอกันที่มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะเห็นอีกคนยืนรออยู่หน้าทางออกพร้อมกับไอ้น้องชายสุด

ที่รักที่ยืนรอผมอยู่ข้างกัน

      “รอนานไหมครับ” ผมรีบเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้กับป๊อบนั่ง ก่อนที่ปิ๊กจะเดินไปเปิดประตูหลังขึ้นรถเองและพอทั้งคู่ รวมถึง

ผมขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ผมก็เอ่ยถามอีกคน แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าปฏิเสธในคำถามของผม

      “พอดีป๊อบเพิ่งออกมาจากห้องสมุดได้สักพัก พี่ภามก็มาถึงพอดี” อีกคนตอบ

      “ว่าแต่ว่า พี่สุดหล่อจะพาเราสองคนไปไหนเหรอครับ” ไอ้ปิ๊กถามกับอีกคนที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถข้างกันหันมามองผมเป็นตา

เดียวเช่นกันเพื่อรอฟังคำตอบจากผมเพราะในตอนแรกที่ผมโทรหาป๊อบ ผมบอกเพียงแค่มีธุระด่วน แต่ไม่ได้บอกเจ้าตัวว่าธุระด่วน

ที่ว่าคืออะไร จากนั้น ผมเลยบอกปิ๊กผ่านกระจกส่องหลัง

      “ถึงแล้วเดี๋ยวก็รู้” ไอ้ปิ๊กทำหน้าสงสัยเสียเต็มประดา ผมเลยได้แต่ส่งยิ้มน้อยๆไปให้เพราะถ้าขืนบอกมันก็คงจะไม่

เซอร์ไพรส์น่ะสิ

      “ถ้าง่วงป๊อบก็หลับไปก่อนก็ได้นะ ถ้าถึงแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก” ผมหันไปบอกคนข้างๆเพราะหลายวันมานี้ผมเห็นป๊อบต้องอยู่

ทำงานจนดึกและกลัวว่า ถ้าร่างกายหักโหมมากเกินไปมันอาจจะทำอันตรายต่อสุขภาพได้

                                    คนอะไรไม่รู้จักดูแลตัวเอง ปล่อยให้คนอื่นเขาต้องคอยเป็นห่วงอยู่เรื่อยๆ!

      “อืม ถ้าถึงแล้วพี่ภามปลุกด้วยนะ” ป๊อบตอบ ก่อนจะจัดแจงที่นั่งให้เหมาะสำหรับการนอน แต่ยังไม่ทันที่เจ้าตัวจะได้หลับตา

เสียงของน้องชายตัวดีของป๊อบก็ดังขึ้นซะก่อน

      “แหมๆๆที่เฮียป๊อบล่ะพี่สุดหล่อเป็นห๊วงเป็นห๊วง แต่ทีปิ๊กนะไม่มีใครเลยสักคนที่จะมาคอยเป็นห่วงเป็นใย เฮ้อ!น่าอิจฉาจริงๆ”

ไอ้ปิ๊กพูดขึ้น ป๊อบจึงพูดว่าขึ้นทั้งๆที่เตรียมจะนอนหลับพักผ่อน

      “ลูกๆในปากมึงนี่ลืมฉีดยาป้องกันปากหมาเหรอวะไอ้ปิ๊ก พูดบ้าไรของมึงเนี่ยรุ้ไหมเฮียจะหลับจะนอน!” ป๊อบว่า ผมจึงได้แต่

อมยิ้มน้อยๆเพราะรู้ว่าที่อีกคนพูดขึ้นมาแบบนั้นก็คงจะเขินที่โดนน้องชายแซว

      “ปิ๊กไม่ได้พูดบ้าๆนะครับ แต่ปิ๊กเขาพูดจริงต่างหาก ก็เพราะพี่น่ะทั้งห่วงและหวงป๊อบที่สุดเลยรู้ไหมครับ” ผมพูด ก่อนจะหัน

ไปมองก็เห็นอีกคนที่มองจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว แถมแก้มยังมีริ้วแดงๆแต้มอยู่เล็กน้อยบนใบหน้าอีต่างหาก ผมก็อดที่จะยิ้มให้กับ

ความน่ารักของอีกคนไม่ได้

      “โอ๊ยๆ ทำไมแถวนี้มดถึงเยอะแยะขนาดนี้เนี่ย สงสัยจะมีใครมาทำอะไรหวานๆหกแถวนี้แน่ๆเลยเนอะเฮียเนอะ” ไอ้น้องชาย

ตัวดีก็แกล้งล้อพี่ชายตัวเองที่ตอนนี้หน้าแดงลามไปจนถึงใบหู ก่อนจะตีสีหน้าให้เรียบนิ่งแล้วตะโกนตอบออกไป

      “ไม่รู้โว้ยยย คนจะนอนแล้วก็ไม่ต้องกวนด้วย!!” ว่าจบอีกคนก็นอนหลับตาปี๋ ทิ้งให้ผมกับปิ๊กมองหน้ากันอย่างขำๆในวิธีการ

แก้เขินอายของอีกคน

        ผมไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่ผมว่าช่วงหลังมานี้ป๊อบรู้สึกจะเขินบ่อยและหน้าแดงมากเมื่อมองหน้าผม ซึ่งผมว่ามันก็ไม่

ค่อยจะดีสักเท่าไร โดยเฉพาะกับใจของผมเพราะอีกคนยิ่งทำแบบนั้นยิ่งทำให้ผมควบคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่และถ้าวันไหนมันเกิด

ควบคุมไม่ได้แล้วล่ะก็ อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนก็แล้วกันนะครับ น้องป๊อบ!

        เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อนนะ ผมเองก็เพิ่งจะฉุกคิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ซึ่งมันก็มาจากอาการทั้งหมดที่ป๊อบแสดงออกมาใน

ช่วงหลังๆ ผมจึงหันหน้าไปมองอีกคนที่กำลังนอนหลับทำตาพริ้มอย่างมีความสุข

        อย่าบอกนะว่า สิ่งที่ป๊อบแสดงออกมากับสิ่งที่ผมหวังว่าให้มันเป็นจริงจะเป็นสิ่งเดียวกัน!!........อย่างนี้ผมก็คงจะมีหวังมากๆ

ๆๆๆๆๆๆๆแล้วสินะ







 
                 

        ผมตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลก็เมื่อคนที่มีหน้าที่เป็นสารถีแปรเปลี่ยนมาเป็นคนปลุกผมให้ตื่นจากที่นอน ผมที่ตอนแรกกำลัง

หลับอย่างมีความสุขก็ต้องจำใจตื่นเพราะแรงที่อีกคนใช้เขย่าเพื่อปลุกผมก็ไม่ใช่น้อยๆ แรงพอๆกับแรงควายเลยล่ะครับ เหอะๆ

      “พี่ภามพาป๊อบมาที่ไ-...............โรงพยาบาล!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถามอีกคนจนจบประโยคเพราะทันทีที่ผมก้าวเท้าลงจาก

รถก็พบเข้ากับตึกสีขาวที่ตั้งสูงเด่นเป็นสง่า สถานที่เต็มไปด้วยผู้ป่วยนับร้อยชีวิตเฝ้าพักฟื้นอยู่ ซึ่งถ้าฟังดูแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่า

ยินดีหรือดีใจเลยสักนิดที่ถูกอีกคนพามาโรงพยาบาล แต่!นี่เป็นโรงพยาบาลที่แม่ของผมกับไอ้ปิ๊กพักรักษาตัวอยู่ มันจึงทำให้ผม

รู้สึกดีเป็นครั้งแรกที่ถูกพามาโรงพยาบาล

      “พอดีว่าป๊อบยังไม่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมแม่ พี่เลยตั้งใจว่าจะพามาน่ะ” พี่ภามบอกผมยิ้มๆและนี่ก็คงเป็นครั้งแรกล่ะมั้งที่ผมโผ

เข้ากอดอีกคนอย่างแนบแน่นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลรินลงมาจากดวงตาคู่สวย

      “เป็นอะไรไปหืม? ” พี่ภามว่า ก่อนจะดันตัวผมออกมาเล็กน้อยพร้อมกับใช้นิ้วค่อยๆเกลี่ยปาดน้ำตาที่ไหลอาบอยู่บนใบหน้า

ของผมอย่างแผ่วเบา

      “ไม่เอา ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพี่ น้องป๊อบที่ไม่ยอมคนและเป็นไอ้เด็กแสบที่ชอบกวนชาวบ้านเขาไปทั่วหายไปไหนซะ

แล้วล่ะครับ หืม พี่ชอบป๊อบเวอร์ชั่นเด็กแสบมากกว่าเด็กขี้แยนะ ร้องมากๆเดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก โอ๊ย!” ไอ้พี่ภามที่ผมอุตส่าห์โผ

เข้าไปกอดเพราะความดีใจที่เขาพาผมมาหาแม่ แต่ดูสิ่งที่เขาพูดกับผมสิ ไอ้บ้าเอ้ย!ใครเขาเป็นไอ้เด็กแสบกันเล่า!! ผมจึงยกมือ

ขึ้นทุบแขนอีกคนเบาๆ พอให้อีกฝ่ายได้ส่งเสียงร้องโอดโอย

      “ทุบพี่ทำไมครับเนี่ย” อีกคนถามผม พร้อมกับยกมือขึ้นลูบต้นแขนที่โดนผมประทุษร้าย

      “ก็ใครเขาใช้ให้ว่าป๊อบเล่า ไม่คุยกับพี่แล้วดีกว่า” ผมว่า ก่อนจะเดินเลี่ยงอีกคนออกมาเพราะผมไม่อยากที่จะมองหน้าอีกคน

นานๆ ยิ่งอีกฝ่ายทำดีแบบนี้กับผมด้วยแล้ว มันยิ่งจะทำให้อะไรๆมันอาจะแย่ไปกว่านี้ก็ได้แล้วที่สำคัญมันอาจจะทำให้ผมถลำลึก

ลงไปมากกว่านี้








                     
   
      “ป๊อบคิดถึงแม่จังเลยครับ” หลังจากที่อีกคนเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยก็รีบตรงเข้าไปกอดไปอ้อนผู้ป่วยที่อยู่ด้านในอย่างออด

อ้อน

      “แต่ปิ๊กคิดถึงแม่มากกว่า” คนน้องที่เข้ามาก่อนรีบเอ่ยบอกอย่างไม่ยอมแพ้คนเป็นพี่พร้อมกับกอดแม่ไว้หลวมๆ

      “ไม่จริง ป๊อบรักและคิดถึงแม่ที่สุด” ส่วนอีกพี่ก็ไม่ยอมน้อยหน้า คนเป็นแมที่โดนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่ทั้งรักและเอ็นดู

มาบอกรักบอกคิดถึงก็พลอยทำให้บ่อหน้าตาตื้นขึ้นมา จนต้องปล่อยโฮออกมาพร้อมกับโอบกอดลูกชายทั้งสองคนเอาไว้ในอ้อม

แขน

        ผมที่เดินเข้าพร้อมป๊อบก็ได้แต่ยืนมองภาพความรักของสามคนแม่ลูกถึงแม้ป๊อบจะเคยเล่าให้ฟังว่าตัวเองต้องขาดพ่อผู้เป็น

ที่รักไปตั้งแต่ยังเด็ก แต่ผมก็รับรู้ได้ว่าทั้งป๊อบและปิ๊กไม่เคยรู้สึกเหมือนขาดคนในครอบครัวไปเลยสักคน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะผู้หญิง

ที่กำลังตระกองกอดคนทั้งสองเอาไว้ได้ทำหน้าที่และมอบความรักได้ดีมีย่อหย่อนเติมเต็มให้ได้ทั้งพ่อและแม่ จึงทำให้ทั้งป๊อบ

และปิ๊กมีความรักและความอบอุ่นมากพอที่จะเผื่อแผ่ไปให้ผู้อื่นได้

      “อ้าว พ่อหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงนั้นเข้ามาด้านในก่อนสิ” หลังจากที่ทั้งสามคนผละออกจากกัน แม่ของป๊อบที่หันมาเห็นผมยืนอยู่ที่

ด้านนอกใกล้กับประตูก็เอ่ยเรียกให้ผมเข้าไปหา

      “เอ่อ...สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ท่านเป็นการทักทาย ส่วนท่านก็ยกมือขึ้นมารับไหว้ผม

      “แล้วนี่เป็นเพื่อนเจ้าป๊อบมันเหรอ” แม่ของป๊อบเอ่ยถาม ผมจึงหันไปมองหน้าป๊อบ อีกคนจึงเป็นคนแนะนำผมให้ท่านรู้จัก

      “พี่เขาชื่อภามเป็นนายจ้างของป๊อบแล้วก็เป็นคนออกค่ารักษาพยาบาลให้แม่ครับ” ป๊อบบอก ก่อนที่ท่านจะหันมาเอ่ยปาก

ขอบคุณผม ผมจึงส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร

      “น่าแปลกจังเลยนะที่ทำไมเจ้านายถึงได้ใจดีเป็นคนพาลูกจ้างของตัวเองมาเยี่ยมแม่ถึงที่นี่ได้” แม่ของป๊อบพูดขึ้น ส่วนผมก็

ไม่รู้จะตอบว่ายังไงเลยได้แต่ส่งยิ้มไปให้ท่านแทน แม่ของป๊อบจึงส่งสายตาว่ามีธุระจะคุยกับป๊อบเป็นการส่วนตัว จึงทำให้ผมและ

ปิ๊กต้องไปรออยู่ด้านนอกห้อง
     





                     
 
      “ผู้ชายคนนั้นเป็นมากกว่าเจ้านายของเราใช่ไหมป๊อบ” ทันทีที่พี่ภามกับไอ้ปิ๊กออกไป แม่ก็ถามคำถามที่ผมก็ยังหาคำตอบไม่

ได้เหมือนกันเพราะถ้าในเรื่องโกหกน่ะใช่ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง เราสองคนแทบจะไม่ได้เป็นอะไรกันเสียด้วยซ้ำไป

      “เอ่อคือ....” ผมได้แต่อ้ำอึ้ง

      “สายตาที่เขามองลูกมันมากกว่าสายตาที่เจ้านายจะใช้มองลูกน้องนะ” แม่พูดขึ้น เมื่อเห็นผมเงียบไป

      “ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่มันจะไร้ซึ่งความสวยงาม ถ้าหากลูกปิดกั้นมันนะ ป๊อบฟังแม่นะ แม่ดูรู้ว่าตอนนี้ลูกกำลังมีเรื่อง

ไม่สบายใจซึ่งแม่ก็ไม่รู้ว่ามันคือเรื่องอะไร แต่ลูก.......รักเขาใช่ไหม” แม่เอ่ยถาม แม่ผมเป็นคนที่ดูเรื่องพวกนี้เก่ง ต่อให้ผมพูด

ปฏิเสธยังไงแม่ก็ดูรู้เสมอ

      “ครับแม่” ผมตอบ

      “ถ้าลูกรักเขา ลูกก็อย่าเพิ่งกลัวในสิ่งที่มันยังมาไม่ถึงสิ อนาคตข้างหน้ามันก็เป็นเพียงสิ่งที่ยังมาไม่ถึงแล้วทำไมเราถึงไม่ทำ

ปัจจุบันที่มันกำลังดำเนินอยู่ให้มีความสุขล่ะ” ผมมองหน้าแม่ที่กำลังมองมาที่ผมยิ้มๆอย่างให้กำลังใจ

        นั่นสินะ ผมจะกลัวทำไมในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ทำไมผมถึงไม่ลองเปิดใจและทำตามเสียงหัวใจของตัวเองดูล่ะ ทำไมตอนนี้ผม

ถึงได้หนีความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง ทำไม.......ผมถึงไม่รักพี่ภามให้มีความสุขในตอนนี้และในตอนหน้าถึงแม้ผมจะไม่ได้รักกับ

พี่เขา แต่อย่างน้อยๆผมก็เคยมีความสุขที่ได้รักเขา












มาเพิ่มอีก แค่สองตอนนั้นยังไม่พอ 5555 ตอนนี้เป้นตอนที่ป๊อบเราเริ่มที่จะกล้ารักพี่ภามแล้วล่ะแล้วตัวพี่ภามเองก็กำลังเดินเครื่อง

เพื่อให้ป๊อบรักตัวเองให้ได้ ส่วนตอนหน้า ดีสขอสปอยนิดนึงว่าใครที่รอเรื่องราวความสัมพันของพี่ภามกับธีระอยู่ล่ะก็ ตอนหน้าได้รู้

แล้วจร้าาา ไว้เจอกันในตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 17 หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 28-04-2015 00:14:47
                                                                    ตอนที่ 17 จับตัว..........

            หลังจากที่ผมได้ไปพูดคุยกับแม่ในวันนั้น มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา ผมกล้าที่จะมองหน้าอีกคนได้อย่าง

ไม่ต้องหลบสายตาและที่สำคัญผมยิ่งมีความสุขทุกครั้งที่ผมได้ใกล้ชิดกับพี่ภาม นี่สินะคือความสุขที่แม่เคยบอกผมไว้ มันอาจจะ

เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมได้มีความสุขและมีรอยยิ้มเกิดขึ้นทุกวัน

      “ป๊อบครับ ถ้าเลิกเรียนแล้วเดี๋ยวพี่ไปรับนะครับ รักนะครับ” ไอ้พี่ภามที่โทรเข้ามาโทรมาสั่งกำชับกับผม ก่อนที่อีกคนจะวาง

สายไป และที่สำคัญผมยังมีความรู้สึกว่าพี่ภามจะหยอดผมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จนทำให้ผมเองยังเผลอคิดไปเองเลยว่าเราสองคน

เป็นแฟนกันจริงๆ

        ตอนนี้ก็ล่วงเลยใกล้ครบหกเดือนแล้วสัญญาว่าจ้างที่พี่ภามจ้างผมก็จะจบลงอีกเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ผมยอมรับว่า

ลึกๆแล้วผมรู้สึกใจหาย แต่ตอนนี้ผมก็เริ่มที่จะทำใจรับผลหลังจากช่วงเวลาหกเดือนนั้นผ่านเลยไปได้แล้ว

      “อืม” ผมตอบรับ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง ผมยกนาฬิกาข้อมือของตัวเองขึ้นมาดูก็พบว่าอีกเพียงแค่ครึ่ง

ชั่วโมงผมก็จะเลิกเรียนแล้ว ผมจึงเอาเวลาที่เหลือทั้งหมดตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน แต่วันนี้คงจะเป็นแค่วันเดียวสินะที่ผมตั้งใจเรียน

และไม่โดเลยสักวิชา แหะๆ

      “ไปร้านพี่โก้กัน” ไอ้พี่ท็อปที่เดินมาหาผมถามขึ้นหลังจากที่ผมเดินออกจาห้องเรียน

      “ไม่อ่ะพี่ วันนี้มีนัด” ผมตอบปฏิเสธ พี่แกเลยยักคิ้วหลิ่วตามองผมยิ้มๆ ซึ่งไม่ใช่แค่พี่ท็อป ไอ้พี่เมฆก็อีกคนที่ยืนอมยิ้มมองผม

      “แหมๆๆๆเดี๋ยวนี้มีนงมีนัดกันด้วยยย สงสัยชีวิตรักคงจะสวีทหวานราบรื่นดีเนอะไอ้เมฆเนอะ” ไอ้พี่ท็อปว่า ก่อนจะหันไปหา

ลูกคู่ที่คอยรับอย่างไอ้พี่เมฆที่ยืนพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย

      “หวานอะไรกันเล่า แค่พี่ภามเขามีธุระเลยกลัวว่าจะไม่มีคนมารับป๊อบกลับบ้านก็เท่านั้นเอง” ผมตอบ แต่ไอ้พี่ท็อปและพี่เมฆก็

ยังคงมองผมอย่างยิ้มๆเหมือนเดิม

      “เอาที่มึงคิดว่าสบายใจเถอะ เอาเป็นว่าถ้าแต่งกันเมื่อไหร่ส่งการ์มาหาพวกพี่ด้วยนะ ฮ่าๆๆ” ไอ้พี่ท็อปว่า ก่อนจะเดินจากไป

พร้อมกับไอ้พี่เมฆที่หัวเราะต่อท้ายเป็นลูกคู่รับกันไป ส่วนผมก็ได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับพี่ทั้งสองคน ไอ้เรื่องแซวน้องนุ่งนี่ขอ

ให้บอก แค่เสนอมาเดี๋ยวพี่ก็จะสนองให้อะไรประมาณนั้น เฮ้อ!

        หลังจากที่ผละออกมาจากพวกพี่ๆ ผมก็โทรหาไอ้ภัทรกับไอ้ปิ๊กว่าวันนี้มีธุระกับพี่ภัทรเลยขอจะกลับก่อนเพราะตอนนี้ที่คณะ

ผมกำลังจะมีงาน ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ต้องอยู่ช่วย แต่พอดีงานนี้มีไอ้ภัทรเป็นพ่องาน ผมเลยสามารถโดได้ตามใจและค่อยกลับมา

รับคำด่าวันหลัง ฮ่าๆๆ

        ผมรีบเดินออกมาคอยอีกคนที่โทรนัดไว้ตั้งแต่วิชาที่แล้วว่าถ้าเลิกเรียนให้มารอเพราะเดี๋ยวจะมารับ ผมจึงเดินออกมารออีก

คนที่หน้ามหาวิทยาลัยเพราะจะได้สะดวกในการเดินทางของอีกฝ่าย

        ในระหว่างที่รอ ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเพื่อรอเวลาที่อีกคนจะมารับ แต่ก็ได้ยินเสียงรถยนต์ที่คล้ายๆกันกับของ

พี่ภามจึงเงยหน้าขึ้นมาดูก็พบว่ามันไม่ใช่รถของอีกคน ผมจึงก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ต่อ จนไม่ทันได้ระวังว่าตอนนี้มีชายแปลก

หน้า ร่างกายสูงใหญ่สองคนกำลังเดินตรงมาที่ผม

      “เดินไปขึ้นรถและอย่าตุกติกและอย่าคิดจะมีลูกเล่นใดๆทั้งสิ้น” ชายแปลกหน้าหนึ่งในสองคนพูด จึงทำให้ผมต้องเงยหน้า

เลิกคิ้วขึ้นไปมองก็เห็นว่าทั้งคู่กำลังจ่อปืนมาที่ผม โดยที่ไม่ให้คนอื่นๆรู้ ผมจึงมองหน้าทั้งสองคนสลับกันไปมาเพื่อว่าจะเป็นคนที่

ผมเคยไปก่อกวนเอาไว้ แต่เปล่าเลย ผมไม่เคยเห็นหน้าของทั้งสองคนนี้ แต่ผมก็จำต้องเดินไปตามที่มันสั่งเพราะถ้าหากผมไม่ไป

ไม่ผมก็คนที่เดินไปมาอาจจะได้รับการบาดเจ็บจากลูกตะกั่วที่อยู่ในปืนที่มันจ่อผมอยู่เป็นแน่

      “เข้าไป!” มันสั่ง ก่อนที่อีกคนจะกดหัวผมให้เข้าไปนั่งในรถแล้วมันทั้งคู่ก็ตามมาสมทบ อีกคนทำหน้าที่เป็นคนขับ ส่วนคนที่

พูดกับผมในตอนแรกนั่งประกบผมอยู่ที่เบาะด้านหลัง ผมพยายามมองหาทางหนีทีไล่เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือหรือไม่ ถ้าสบ

โอกาสผมก็จะได้จัดการกับพวกมัน

      “แกจะทำอะไร!” ผมตะโกนถามเสียงดัง ไอ้คนที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่หันกลับมามองแวบเดียว ก่อนจะหันกลับไปสนใจถนน

หนทางที่อยู่ตรงหน้าต่อ ส่วนไอ้คนที่นั่งประกบผมอยู่ มันหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา ก่อนจะใส่ยาอะไรบางอย่างที่ผมคิดว่ามันน่าจะ

เป็นยาสลบในผ้าผืนนั้น

      “กูว่ามึงรู้ว่ามันคืออะไร” อีกคนพูดกับผมเสียงเรียบ ก่อนที่มันจะโน้มมาปิดปากปิดจมูกผม ผมที่ทั้งดิ้น ทั้งขัดขืน แต่ก็สู้แรง

ของมันไม่ได้ จนผมถูกมันเอาผาผืนนั้นมาปิดจมูก ปิดปาก ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างรอบๆตัวดูเหมือนจะมืดดำสนิท แต่สิ่งสุดท้ายที่

ผมนึกถึง ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะดับลง นั่นก็คือ พี่ภาม.........ช่วยป๊อบด้วย










                   

        ผมคิดในใจเอาไว้แล้วว่า วันนี้จะเป็นวันที่ผมบอกยกเลิกสัญญาบ้าๆนั่นทั้งหมดและต้องขอป๊อบเป็นแฟนให้ได้ ผมใช้ให้ไอ้

ภัทรคอยช่วยหาสถานที่โรแมนติกๆสำหรับค่ำคืนนี้ให้ แต่พอผมมาถึงที่มหาลัยก็ไม่เห็นอีกคนจะออกมารอผมตามที่นัดไว้ ผมจึง

คิดว่าอีกคนคงจะยังไม่เลิกเลยรอไปสักพัก แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของป๊อบเลยสักนิด

        ผมรู้สึกว่าเหมือนมันจะมีอะไรบางอย่างที่แปลกใปเพราะความรู้สึกลึกๆหรือลางสังหรณ์ของผมมันบอกแบบนั้น

      “อ้าวเฮียยังไม่เจอไอ้ป๊อบเหรอ” ไอ้ภัทรที่เห็นผมยืนรอเพื่อนของมัน  จึงเอ่ยถามขึ้น ผมจึงส่ายหน้าตอบไปเพราะตั้งแต่มาถึง

ผมก็ไม่เห็นวี่แววของป๊อบเลยสักนิด

      “จะเป็นไปได้ยังกันเฮียเพราะเมื่อตอนครึ่งชั่วโมงก่อน หลังจากที่เราเลิกเรียนและภัทรขอตัวไปทำงานกับเพื่อนมันยังโทรมา

บอกเลยว่ามีธุระกับเฮีย ภัทรว่ามันชักแปลกๆแล้วนะเฮีย” ไอ้ภัทรพูดขึ้น ยิ่งเป็นการย้ำถึงลางสังหรณ์ของผมเพิ่มเข้าไปอีก

แต่ไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เสียงสัญญาณเตือนของข้อความจากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

                                             อยากได้ตัวคนสำคัญก็ต้องเอาตัวเองมาแลก มาคนเดียวเท่านั้น!

        ทันทีที่ผมอ่านประโยคในข้อความจบ ผมก็เผลอกำโทรศัพท์ในมือแน่น จนนึกกลัวอยู่ว่าถ้ามันบอบบางกว่านี้มันคงได้แหลก

คามือของผมไปนานแล้ว ยิ่งตอนนี้ผมรู้ว่ามันเป็นใครถึงได้กล้าที่จะจับตัวป๊อบไปยิ่งทำให้เป็นการเพิ่มความโกรธของผมเข้าไปอีก

เท่าตัว ไอ้หมาลอบกัดเอ้ย!

      “ไอ้ชาติชั่ว ถ้าป๊อบเป็นอะไรแม้แต่ปลายเล็บ ฉันยิงแกทิ้งแน่!!” ผมสบถอย่างหัวเสีย ก่อนที่ไอ้ภัทรจะบอกผมให้ใจเย็นๆ

ผมไม่ตอบคำถามที่ไอ้ภัทรพยายามถามผมทางสายตา แต่ผมเลี่ยงออกมาโดยการที่ขอตัวไปตามป๊อบกลับมาก่อน งานนี้ ถ้าป๊อบ

เป็นอะไรไปล่ะก็มึงได้ตายไม่ดีแน่!
     





                       

        ซ่า!!

        แค่กๆๆๆๆ

        ผมสำลักพร้อมกับลืมตาตื่นขึ้นทันทีที่ใบหน้าถูกความเย็นเข้ามากระทบเอา ก่อนที่จะปรับโฟกัสภาพและมองไปรอบๆห้องที่

ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ดูเหมือนจะเป็นโกดังล้างชัดๆ

      “พวกแกต้องการอะไรกันแน่!!” ผมตะโกนถามอย่างเหลืออดเพราะตอนนี้ผมทั้งถูกจับมัดมือมัดเท้า แถมยังโดนน้ำสาดหน้า

และที่หนักไปกว่านั้น ผมโดนไอ้ผู้ชายสองคนเอาปืนจี้ที่มหาวิทยาลัยเพื่อพาผมมาที่นี่ ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ

      “ต้องการให้คนที่มันเป็นเจ้าของของแกต้องเจ็บช้ำยังไงล่ะ หึ!” อีกคนพูดอย่างดูแคลน ก่อนจะเดินออกมาจากเงามืด ปรากฎ

ตัวให้ผมได้มองเห็นชัดๆว่าเขาคนนั้นเป็นใคร แต่ถึงจะมองเห็น  ผมรับรองว่าผมไม่เคยรู้จักคนๆนี้มาก่อน

      “ไม่ต้องทำหน้าสงสัยหรอก ฉันชื่อธีระเป็นเพื่อนเก่าของภาม คนที่เป็นแฟนกับแกยังไงล่ะ แต่ฉันเองก็ยังไม่นึกเหมือนกันว่า

หมอนั่นจะเอาคนอ่านง่ายแบบแกมาเป็นคนรัก เหอะ! น่าสมเพชสิ้นดี!” อีกคนว่า ก่อนจะมองผมด้วยสายตาเกรี้ยวกราด แต่ด้วย

อะไรก็ไม่รู้ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้านี้กับพี่ภาม เขาทั้งคู่ต้องมีความหลังที่ต้องเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่แน่ๆเพราะถึงแม้คำ

พูดของอีกคนจะดูเกรี้ยวกราด แต่แววตาที่สื่อออกมาเมื่อพูดถึงพี่ภามมันกลับดูวูบไหวชอบกล

      “ก็ในเมื่อถ้าคุณต้องการให้พี่ภามเจ็บช้ำ ทำไมคุณถึงต้องเลือกผมด้วยล่ะเป็นไอ้ภัทรก็ได้ไม่ใช่เหรอไง” ผมถามออกไป

อีกคนจึงหัวเราะออกมา ก่อนจะก้มมองผมอย่างเหยียดๆ ซึ่งถ้าเป็นในตอนอื่นๆผมคงจะตอกกลับ แต่ครั้งนี้กลับมีเรื่องของพี่ภาม

เข้ามาเอี่ยวด้วยจึงทำให้ผมอยากจะรู้ว่าเขาสองคน ทำไมถึงได้เกลียดกันขนาดนี้

      “มันไม่เหมือนกันหรอก ไอ้ภัทรมันก็เป็นแค่น้องชาย ส่วนแกมันเป็นหัวใจของภามยังไงล่ะ” เท่าที่ผมสังเกต พออีกคนพูดถึงพี่

ภามแววตาของเขามันดูสั่นๆและวูบไหวเล็กน้อยราวกับคนที่น้อยใจหรือเสียใจยังไงยังงั้น

      “แล้วทำไมคุณต้องการที่จะทำลายหัวใจของพี่ภามด้วยล่ะ” ผมลองถามเลียบๆเคียงๆถามเผื่อจะได้คำตอบ

      “ฉันว่าแกชักจะถามมากเกินไปแล้วนะ” อีกคนว่า ก่อนจะทำท่าเดินจากไป ผมจึงเรียกอีกคนรั้งเอาไว้ก่อนเพราะตอนนี้ผมต้อง

รู้ความจริงทุกอย่างให้ได้

      “คุณธีระครับเดี๋ยวก่อนสิครับคุณ เรื่องของคุณกับพี่ภามเอ่อ.....”

      “พอได้แล้วเลิกพูดเรื่องของเขาสักที ฉันไม่อยากฟัง!!” ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบเสียงของอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน

      “แต่ผมว่ามันถึงเวลาที่คุณกับผมต้องพูดถึงมันอีกครั้งแล้วล่ะ” เสียงปริศนาที่ดังขึ้นเรียกให้ผมกับคนที่เหลือหันไปมอง

ซึ่งก็พบเข้ากับคนที่ผมคุ้นเคยหรือรู้จักเป็นอย่างดี

      “พี่ภาม!/ภาม!” เสียงของผมกับเสียงของคุณธีระดังขึ้นพร้อมกัน พี่ภามหันมามองผมเล็กน้อยและเมื่อเห็นว่าผมปลอดภัยดี

อีกคนจึงหันกลับไปมองคนตรงหน้า

      “แต่สำหรับผม ผมไม่มีอะไรที่ต้องพูดแล้ว” คุณธีระว่า ก่อนจะเดินหลังหลังกลับออกไป แต่ก็ถูกพี่ภามคว้าข้อมมือเอาไว้เสีย

ก่อน ผมที่นั่งอยู่ในเหตุการณ์ก็ได้แต่นั่งเงียบและรอให้คนทั้งคู่ได้เล่าเรื่องราวความจริงในอดีตทั้งหมดออกมา

      “เดี๋ยวก่อนสิครับคุณธีระ ไม่สิ ต้องเดี๋ยวก่อนสิครับ น้องอ้น!” พี่ภามว่า คุณธีระจึงตวัดสายตากลับมามอง แต่ถ้าผมเห็นไม่ผิด

 ตอนนี้คุณธีระกำลังน้ำตาคลอหลังจากที่ได้ยินพี่ภามเรียอีกคนด้วยชื่อเล่นแบบนั้น

      “น้องอ้นอย่างนั้นเหรอ เหอะ ขอโทษด้วยนะ น้องอ้นคนนั้นเขาได้ตายจากโลกนี้ไปตั้งนานแล้วล่ะเหลือเพียงแค่ ธีระ ธีรชา

นนท์เท่านั้น!” อีกคนตวาดลั่นพร้อมกับหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย พี่ภามจึงรวบตัวอีกคนเข้าไว้ในอ้อมกอด

ส่วนผมที่นั่งดูอยู่ก็ไม่ได้รู้สึกมีอาการหึงหวงอะไรหรอกนะเพียงแต่รู้สึกสงสารมากกว่า แต่ก็ไม่รู้สินะ ผมว่าตอนนี้คุณธีระดูน่าสงสาร

มาก

      “ฮึก ทำไม ทำไมคนที่ ฮึก แม่พี่เลือก ฮือๆๆ ถึงไม่ใช่อ้น อึก ทำไมอ่ะ บอกอ้นทีสิว่าอ้นทำอะไรผิดอย่างงั้นเหรอ ฮือๆๆๆๆๆๆ”

 คุณธีระร่ำไห้พร้อมกับทุบอกพี่ภามรัวๆ แถมยังมีแต่คำว่าทำไมๆออกมาจากปากอีกมากมาย ผมว่าในตอนนี้คุณธีระดูอ่อนแอ

เหมือนเขาต้องการใครสักคนไว้เป็นที่พึ่ง

      “พี่ขอโทษ ถ้าตอนนั้นพี่หนักแน่นและเข้มแข็งพอ อ้นคงไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองถึงขนาดนี้ พี่ขอโทษนะอ้น พี่ขอโทษจริงๆ”

พี่ภามก็ได้แต่เอ่ยขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้กับคนที่กำลังซบอกของตัวเองร้องไห้อย่างหนัก จนตอนนี้คุณธีระที่ร้องไห้จนหมดสติ

ไปก็ถูกลูกน้องของพี่ภามพาไปส่งที่บ้าน ส่วนลูกน้องของคุณธีระก็ถูกพี่ภามจัดการไว้เรียบร้อยแล้ว

      “เป็นอะไรไหมครับป๊อบ” พี่ภามรีบเข้ามาแก้มัดให้ผม ผมจึงส่ายหน้าบอกว่าเรื่องแค่นี้ไกลหัวใจไม่ตายง่ายๆหรอก

      “ป๊อบไม่เป็นอะไร แต่ป๊อบอยากจะรู้เรื่องของพี่กับคุณธีระมากกว่า” ผมบอก อีกคนถอนหายใจน้อยๆ ก่อนจะยกมือมาลูบหัว

ผมเบาๆ

      “ได้สิ” แล้วพี่ภามก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผมฟัง

        คุณธีระหรืออ้นเป็นรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพี่ภาม พี่อ้นเป็นคนน่ารัก จนเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน

แต่คนที่พี่อ้นเลือกคือพี่ภามแล้วหลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มคบกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งที่พี่อ้นเรียนจบ พี่ภามก็ตัดสินใจพาไปแนะนำให้

กับคนที่บ้านรู้จัก แต่แล้วอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่เกิดขึ้นก็ทำให้ชีวิตรักของทั้งคู่ต้องจบลงนั่นคือ คุณหญิงแม่ ท่านเห็นว่าที่พี่ภามชอบพี่

อ้นเป็นเพราะพี่ภามยังอาจจะเป็นวัยรุ่นและรักสนุกจึงไม่คิดจริงจังกับใครและที่สำคัญตอนนั้นท่านยังรับเรื่องพวกนี้ไม่ได้เลยสั่งให้

พี่ภามบอกเลิกกับพี่อ้น ตอนแรกพี่ภามขัดคำสั่ง แต่ท่านก็งัดไม้ตายว่า ถ้าหากพี่ภามไม่เลิกคบกับพี่อ้น ท่านก็จะให้พี่ภามแต่งงาน

กับลูกเพื่อนของท่านและส่งพี่ภามไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกและที่สำคัญท่านจะทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดพี่อ้นให้ออกไปจากชีวิตพี่

ภามให้ได้ ในตอนนั้นพี่ภามกลัวว่าคุณแม่จะทำร้ายพี่อ้นจึงจำใจต้องตัดขาดจากความสัมพันธ์นั้นลง พี่อ้นเสียใจมากถึงจขั้นคิดฆ่า

ตัวตาย แต่พี่ภามก็ทำอะไรไม่ได้เพราะแค่หน้าพี่อ้นยังไม่อยากจะมองและจากนั้นไม่นานจากที่เคยเป็นคนรักกันก็ต้องกลายมาเป็น

ศัตรูต่อกัน

      “น่าสงสารชีวิตพี่กับพี่อ้นจังเลยนะ” ผมบอกเพราะเท่าที่ฟังมาทั้งคู่ก็ดูรักกันดี แต่มีอุปสรรคคือคุณหญิงแม่ที่คอยจัดขวาง

      “นั่นมันคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว ต่อให้พี่จะรักอ้นมากแค่ไหนหรืออ้นจะยังรักพี่อยู่ ยังไงซะเราทั้งคู่ก็กลับไปแก้ไขเรื่องราวในอดีต

ไม่ได้” พี่ภามว่า ซึ่งก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่เดือนมานี้

      “ว่าแต่ว่าใครกันที่เป็นคนลอบทำร้ายพี่ คงไม่ใช่พี่อ้นหรอกนะ” เพราะผมเชื่อว่าไม่น่าจะใช่พี่อ้นเพราะพี่อ้นคงไม่คิดที่จะ

ทำร้ายพี่ภามหรอก

      “อืม ไม่ใช่อ้นหรอก แต่เป็นคู่แข่งอีกคนน่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้ก็ปลอดภัยแล้วนะเรื่องราวทุกอย่างก็จบลงแล้ว” พี่ภามว่า ก่อนที่

จะดึงผมเข้าไปสวมกอด ผมจึงกอดตอบอีกคน มันเป็นการส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มี ทั้งรัก ทั้งคิดถึง ทั้งโหยหา ทั้งให้กำลังใจ

และอื่นๆอีกมากมาย

      “พี่อาจจะเคยทำเรื่องผิดพลาดในอดีต แต่พี่ก็อยากจะบอกให้ป๊อบรู้ไว้ ว่าในตอนนี้พี่จะไม่ยอมให้มันเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

แบบนั้นอีกครั้ง พี่สัญญานะครับ” พี่ภามว่า ผมจึงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเหมือนเป็นการตกลงและเชื่อใจในคำสัญญานั้น

                                               ป๊อบเชื่อครับ ว่าพี่จะไม่ทำให้ป๊อบต้องเสียใจ











ตอนนี้รู้สึกเกินขาดกับพี่ภามและคุณธีระหรือน้องอ้นของพี่ภามเมื่ออดีต ใครที่อ่านตอนนี้จบแล้วคงได้มีสงสารน้องอ้นกันบ้างแหละ

นะ ขนาดดีสเองดีสยังสงสารเลย 55 ส่วนเรื่องที่เคยเดาๆกันก็มีคนเดาถูกในความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนะคะ แต่ก็ยังเดาผิดอีก

หนึ่งเรื่องคือคนที่ลอบทำร้ายพี่ภามไม่ใช่น้องอ้นของเรา อีกไม่กี่ตอนคุณสะใภ้ที่รักก็จบแล้ว ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะที่คอย

ติดตามเรื่องนี้กันมาตลอด ไว้พบกันใหม่ในตอนหน้าคร้าาาา  :-[ :กอด1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 28-04-2015 00:42:05
อื้อหือ มาทีเดียว 4 ตอนรวดเลยเหรอ...
เล่นเอาอ่านตาแฉะเลย 555

เรื่องนี้จะจบแล้วเหรอ? น่าเสียดายจัง จริงๆยังขยายได้อีกนะ
ไม่เป็นไร เจ๊จะเอาใจช่วยนะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-04-2015 01:20:30
อ่านตาแฉะเลยสี่ตอนรวด
หวังว่าความรักครั้งนี้คุณหญิงแม่จะไฟเขียวให้นะ
นึกถึงสิ่งที่น้องป๊อปทำสิคะคุณหญิงแม่
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-04-2015 01:49:13
จะจบแล้วเหรออ ยังสนุกอยู่เลยอะ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 28-04-2015 08:32:13
อืม ผมว่ากำลังดี 4ตอน จะมีต่อนี้ยังไหวนะ น่าสงสารน้องเขานะ พระเอกนิสัยไม่่ดีสุดๆเลยว่ะ แบดบอยเห็นๆเลย ปรับปรุงตัวก็ดี ก็รอดูว่าเขาจะสมหวังกันยังไง เห็นว่าอีกไม่กีตอน ก็เป็นนิยายที่ดีเรื่องหนึ่งนะครับ อ่านแล้วได้ทุกอารมณ์ดี แล้วก็ดีใจที่คนเขียนตามใจอ่านอ่านมากๆเลย ปลื้มนะ อีกอย่างก็อย่าลืมแต่งนิยายดีๆมาให้อ่านอีกนะครับ เอาแบบหนุ่มเมืองกรุงกับเด็กบ้านนอกอะไรแบบนี้ก็ได้ คึคึ ถ้าจะสนุกนะ คนเขียนสู้ๆล่ะกัน
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-04-2015 11:12:42
ถ้าอย่างนั้น หาคู่ให้น้องอ้นสักคนนะครับ (กันพลาด เดี๋ยวจะกลับมาทวงพี่ภามคืน สงสารน้องป๊อบ)
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: HamsteR ที่ 28-04-2015 15:03:33
กลับมาอ่านอีกที จะจบซะแล้ว...
ในที่สุดก็รู้ใจตัวเองซะทีนะป๊อบปี้
ส่วนอ้นนี่น่าสงสาร พิษของความรัก รักมากก็เจ็บมาก เจ็บมากก็แค้นมาก
ขอให้เจอคนดีๆเข้ามานะน้องอ้น

มาม่าชามสุดท้ายมันต้องเป็นไอ้คนที่ยิงพี่ภามแน่ๆเลย

ปล, แอบผิดหวังนิดนึงที่มันจบเร็ว ซึ่งจริงๆแล้วมันน่าจะยืดได้อีกหลายตอนเลย
... แต่ก็เข้าใจคนเขียนนะ สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 28-04-2015 18:54:34
โธ่ น้องอ้นผู้น่าสงสาร ขอให้ได้เจอคนที่ใช่ไวๆน๊า  :กอด1:
คนแต่งจ๋า ทำไมถึงใกล้จบแว้วอ่า กำลังหนุกๆเบย งื้ออออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 14-17หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 28-04-2015 20:07:44
ชอบแนวนี้ สนุกดี :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอน 18 หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 28-04-2015 20:35:24
                                                             ตอนที่ 18 มีแฟนแล้วโว้ยยยย..........

            เหตุการณ์ในวันที่ผมถูกพี่อ้นจับตัวไป พี่ภามเล่าให้ผมฟังว่าที่พี่อ้นจับตัวผมไปไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทำร้ายผมแต่อย่าง

ใด เพียงแค่ต้องการให้พี่ภามรู้สึกเจ็บที่คนรักหายไปเหมือนกับที่ตัวเองยังรักพี่ภามและถูกอีกคนบอกเลิกว่ามันมีความรู้สึกเจ็บปวด

และทรมานอย่างไร

      “เอาล่ะ ตอนนี้เรื่องราวร้ายๆก็ผ่านไปได้ด้วยดี เรื่องราวทุกอย่างก็ถูกสะสางจนจบสิ้นแล้ว วันนี้เราก็มาฉลองกันให้เต็มที่กัน

เลยดีกว่า! เอ้า เฮ!!” เสียงของพี่ท็อปพูดขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะเอ่ยรับตาม

        วันนี้พี่ท็อปมันนัดผมมาเลี้ยงฉลองหลังจากที่ผมโดนจับไปและถูกปล่อยตัวออกมาอย่างปลอดภัย จึงคิดว่าจะเลี้ยงฉลองที่

ผมผ่านเรื่องราวร้ายๆมาได้

        ในงานเลี้ยงฉลชองวันนี้ ไอ้พี่ท็อปมันปิดร้านพี่โก้เพื่อใช้เลี้ยง ส่วนคนที่มาร่วมงานก็มี ผม พี่ภาม ไอ้ภัทร ไอ้ปิ๊ก ไอ้มิ่ง

พี่ท็อป พี่เมฆและมีพี่โก้ที่คอยเข้ามาแจมด้วยเป็นระยะๆ

      “เออว่าแต่ว่ามึงเห็นพี่ภามไหมวะไอ้ภัทร” ผมหันไปถามไอ้ภัทรเพราะถึงแม้ผมกับพี่ภามเราจะมาด้วยกัน แต่ตอนเข้ามาผม

กลับไม่เห็นอีกคนเลยสักนิด

      “แหมๆๆ คิดถึงพี่สุดหล่อเหรอเฮีย ฮิ้วว!”

      “ฮิ้วววววววววววววว” เสียงโห่แซวดังขึ้น เมื่อผมถามถึงอีกคน โดยมีไอ้น้องชายตัวดีเป็นคนชักนำ

      “ตลกแล้วไอ้ปิ๊ก เฮียแค่ยังไม่เห้นเขาก็แค่ถามเฉยๆ พวกพี่ก็ด้วยนะ” ผมว่า แต่ผมก็ไม่คิดว่าเขาจะเชื่อผมสักเท่าไรเพราะเท่า

ที่ผมรู้สักสันดาน เอ้ย! นิสัยของแต่ละคนแล้ว มันไม่เคยมีจิตคิดกุศลกันเลยสักนิด

      “ไม่เห็นว่ะ มีไรเหรอมึง” ไอ้ภัทรถาม ไอ้จะว่ามีมันก็มีอยู่หรอกนะเพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สัญญาจบสิ้น ผมก็เลยกะว่าอยาก

จะเห็นหน้าอีกคนชัดๆเป็นครั้งสุดท้ายเพราะถ้าหากสัญญาถูกยกเลิก ผมกับอีกคนก็คงไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกรึเปล่า


      “เป็นไรไปป๊อบดูหน้าเศร้าๆ” ไอ้พี่เมฆถาม ผมเลยหันหน้ากลับไปมอง ก่อนจะถอนหายใจน้อยๆ

      “ก็.........วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วน่ะสิที่การว่าจ้างจะจบลง” ผมบอกทุกคน ส่วนคนที่เหลือที่ฟังจบก็หันมองหน้ากัน ก่อนจะส่ง

สายตาเป็นกำลงัใจมาให้เพราะตั้งแต่วันที่ผมถูกไอ้ปิ๊กเค้นถาม ผมก้จำใจต้องตอบออกไปว่าผมมีความรู้สึกยังไงกับพี่ภาม


      “แล้วทำไมเฮียถึงไม่บอกพี่สุดหล่อเขาไปล่ะว่าเฮียรู้สึกยังไงกับพี่สุดหล่อ” ไอ้ปิ๊กถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ ผมไม่กล้า

พอที่จะบอกออกไปถึงแม้ผมอาจจะเป็นเจ้าพ่อนักรักก็จริง แต่ผมก็ยังไม่เคยได้เป็นคนรักของใครสักคนอย่างจริงจัง ผมกลัวว่าผม

อาจจะทำหน้าที่การเป็นคนรักได้ไม่ดีและที่สำคัญถ้าหากอีกคนไม่ได้รักผมเหมือนอย่างที่ผมรักเขาล่ะ

      “แล้วมึงไม่คิดที่จะรั้งเขาเอาไว้สักหน่อยเหรอไอ้ป๊อบ ทุกทีเวลากูเห็นมึงชอบใครมึงก็จะรั้งเขาเอาไว้ให้ถึงที่สุดไม่ใช่เหรอ”

พี่ท็อปว่า ซึ่งนั่นมันก็จริงเพราะถ้าหากผมรักใครแล้วผมก็จะต้องรั้งอีกคนไว้ให้ถึงที่สุด

      “แต่ว่า”

        พรึ่บ!!

        ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดจนจบประโยคแสงไฟที่เคยสว่างไสวกลับพลันดับวูบ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตะโกนบอกพี่โก้ให้มาดู

ไฟในร้าน แสงเทียนที่ถูกจุดขึ้น ทำให้ผมต้องหันไปมองโดยรอบ แต่ก็ไม่พบว่ามีใครอยู่เลยสักคน สงัสนคงจะเป็นคนที่เหลือที่

แอบจุดไปแน่ๆ แต่ผมว่าบรรยากาศมันดูโรแมนติกแปลกๆไปนะ ยังไม่ทันที่จพะให้ผมได้คิดอะไรต่อ เสียงที่ดังขึ้นทางด้านหน้า

เวทีในตอนนี้กลับเรียกสติทั้งหมดของผมให้หันใบหน้าหันไปมอง

      “สวัสดีนะไอ้เด็กแสบ” พี่ภามเอ่ยเสียงดังผ่านไมค์ดังขึ้นอยู่ทางด้านหน้าเวที ผมจึงเลิกคิ้วมองอีกคนอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่

ได้พูดอะไรออกมา

      “วันนี้เป็นครบสัญญาหกเดือนของพี่กับป๊อบแล้ว ขอบคุณมากๆเลยนะที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี คุ้มกับค่าจ้างที่พี่ให้” พี่ภามยังคง

พูดต่อ ผมจึงพยักหน้ารับ แต่ก็ไม่คิดว่าอีกคนจะรีบจบมันเร็วขนาดนี้

      “อืมก็พี่ให้เงินป๊อบเยอะนี่ ป๊อบก็ต้องทำให้คุ้มค่าจ้างสิ” ผมตอบอีกคนยิ้มๆ ทั้งๆที่ในใจตอนนี้ไม่ได้อยากรู้สึกจะยิ้มเลยสักนิด


      “งั้นวันนี้พี่ก็ขอยกเลิกเรื่องการที่จ้างป๊อบมาเป็นแฟนกำมะลอแล้วยังให้มาลอกคุณแม่ว่าป๊อบเป็นว่าที่สะใภ้ของบ้านสุริยศักดิ์”


      “อืม ถ้ามีอะไรก็เรียกใช้ได้ตลอด แต่ค่าจ้างป๊อบแพงนะ” ผมบอกอีกคนทีเล่นทีจริง ก่อนจะเตรียมหันหน้าหนี แต่เพราะเสียง

เรียกของอีกคนที่รั้งเอาไว้ ทำให้ผมหันหน้ากลับไปมองพี่ภามเหมือนเดิม

      “พี่มีเรื่องอยากจะบอก พี่ขอให้ป๊อบมีความสุขมากๆนะและหวังว่าเราจะได้พบกันอีก” พี่ภามว่า ผมพยายามกลั้นหยดน้ำตาเอา

ไว้ไม่ให้ไหลลงมาอาบแก้มเพราะตอนนี้ผมรู้ว่าผมกำลังจะอ่อนแอ แต่ผมก็ไม่มีทางที่จะยอมแสดงความอ่อนแอนั้นออกมาให้คน

ตรงหน้าได้เห็น

      “พี่ภามก็เช่นเดียวกันนะ” ผมบอก

      “พี่....มีอีกเรื่องที่อยากจะบอกป๊อบ ตอนนี้พี่เจอคนที่จะเข้ามาเติมเต็มหัวใจของพี่ที่ขาดหายไปครึ่งดวงให้มันเต็มดวงแล้วล่ะ”

 พี่ภามพูดและทันทีที่ผมได้ฟังจนจบประโยคก็เล่นเอาร่างทั้งร่างของของชาวาบไปกับคำพูดของอีกคนและแล้วเขาก็เจอคนที่เขา

รักแล้วสินะ เรื่องที่พี่ท็อปบอกให้ผมรั้งคนที่ผมรักเอาไว้ ผมว่ามันคงจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะเพราะในเมื่อคนที่ผมรักเขากำลัง

มีความรักที่ไม่ใช่ผม

      “อย่างนั้นเหรอครับ ป๊อบดีใจกับพี่ด้วยนะครับ ขอให้พี่รักกับคนๆนั้นนานๆนะครับ” ผมว่า ก่อนจะหันหลังกลับเดินออกไป

เพราะตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงที่เคยมีมันได้หายไปหมดแล้ว ไม่เหลือแม้กระทั่งแรงที่จะใช้ในการหายใจและที่สำคัญถ้าขืน

ผมยังอยู่ต่อมีหวังม่านน้ำตาที่ผมกักกั้นเอาไว้จะได้พังทลายลงมาเสียก่อน

      “แล้วป๊อบไม่อยากรู้เหรอครับว่าคนๆนั้นเป็นใคร” เสียงพี่ภามพูดขึ้น ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกไป ก่อนที่จะต้องมาชะงัก

ฝีเท้าของตัวเอง พร้อมกับระเบิดความรู้สึกที่มันอัดแน่นออกมาอีกคน

      “แค่นี้ป๊อบยังเจ็บม่พอใช่ไหม พี่ต้องการให้ป๊อบฟังจากปากคนที่ป๊อบรักว่าตอนนี้เขากำลังรักคนอยู่อยู่เหรอ พี่ช่วยสงสารป๊อบ

สักนิดได้ไหม ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายก็ยังดี!!!” ผมระเบิดอารมณ์ออกไป ทำให้ต้องยืนหอบหายใจตัวโยน พร้อมกับสัมผัสได้ว่า

น้ำตาที่ผมเคยกลั้นเอาไว้ได้ไหลลงมาไม่ขาดสาย

      “เมื่อกี้ป๊อบว่าอะไรนะครับ ป๊อบรักพี่?”

      “ใช่! ป๊อบรักพี่ พี่ได้ยินชัดไหมว่าป๊อบรักพี่!!! ฮือๆ” ผมตะโกนบอกอีกคน พรอ้มกับปล่อยโฮออกมาชุดใหญ่ ทั้งๆที่ผมตั้งใจ

เอาไว้แต่แรกแล้วว่าจะไม่ยอมแสดงอาการอ่อนแอให้คนตรงหน้าได้เห็น แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้ว ผมกลับทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอา

ไว้

      “ป๊อบรักพี่ อย่างนี้ใจเราสองคนก็ตรงกันน่ะสิครับ พี่ดีใจที่สุดเลย” พี่ภามว่า ก่อนจะรวบตัวผมเข้าไปกอด ส่วนผมที่เพิ่งตั้งสติ

ได้ก็รีบเอามือมมาตะครุบปากตัวเองที่เผลอพูดอะไรน่าอายออกไป แต่ก็ต้องมาฉงนใจในคำพูดของคนที่กำลังโอบกอดผมอยู่


      “เมื่อกี้พี่ว่าไงนะ” อีกคนผละออกมาจากผมเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตาให้ออกไปจากใบหน้าของผม พร้อมกับ


เงยหน้าขึ้นมองผม ก่อนจะนั่งลงคุกเข่าอยู่ด้านหน้าผม

      “พี่พูดว่าพี่กับป๊อบเราใจตรงกันไงครับ” พี่ภามว่า ก่อนจะดึงมือผมเข้าไปกุมไว้

      “ป๊อบยังจำได้ไหมว่าที่แห่งนี้เป็นที่ที่ทำให้เราได้มาพบกันเป็นครั้งแรก” พี่ภามพูด ผมจึงพยักหน้ารับ ทำไมผมจะจำไม่ได้ก็

ในเมื่อวันนั้นมีไอ้หื่นที่ไหนกล้ามาทำอะไรลามกแบบนั้นกับไอ้ยอดชายนายป๊อบ เป็นใครเขาจะไปลืมลงกันได้

      "ฉะนั้นเรื่องที่พี่อยากจะบอกกับป๊อบมันจึงต้องบอกที่นี่  สถานที่แห่งนี้" พี่ภามพูด ก่อนจะเริ่มพูดต่ออีกครั้ง

      “เราเลิกกันนะ..เลิกโกหกและเลิกเป็นแฟนกำมะลอกัน” พี่ภามว่า

      “แต่พี่อยากให้เราเริ่มต้นกันใหม่ในฐานะคนรักกันจริงๆ”

      “เป็นแฟนกับพี่นะครับ น้องป๊อบ”

        คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของอีกคน มันทำให้ผมรู้สึกทั้งอึ้ง ทั้งตกใจและดีใจปะปนไปหมดเพราะไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะมี

คนมานั่งคุกเข่าแล้วก็ขอเราเป็นแฟน

      “แต่ป๊อบเป็นไอ้เด็กแสบ เด็กกวนตีนนะ พี่จะรับได้เหรอ” ผมถาม

      “ได้ครับ” ไอ้พี่ภามตอบยิ้มๆ

      “แต่ป๊อบเคยปีนเกลี่ยวแม่พี่นะ พี่จะรับได้เหรอ”

      “ได้ครับ”

      “แต่ป๊อบไม่เคยมีแฟนนะ พี่จะรับได้เหรอถ้าป๊อบทำหน้าที่แฟนไม่ดี”

      “ได้ครับ”

      “แต่ถ้าป๊อบบอกว่าป๊อบก็รักพี่มากเหมือนกัน พี่จะยอมมาเป็นแฟนป๊อบได้เหรอ”

      “ได้ครับ หืม? เมื่อกี้ป๊อบว่าอะไรนะ” อีกคนถามผมงงๆ แต่ผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนไม่ได้พูดอะไรผิด

      “ไม่รู้ ถ้าได้ยินก็แปลความหมายเอาเอง” ผมตอบอีกคนยิ้มๆ ก่อนจะเสมองไปที่อื่นเพื่อกลบเกลื่นความร้อนและรอยยิ้มบน

ใบหน้า

        ขนาดไม่ได้ตอบตกลงแบบตรงๆนะเนี่ย! ถ้าตอบตรงๆมีหวังได้ระเบิดตัวตายแน่เลยไอ้ป๊อบเอ้ย!

      “งั้นก็หมายความว่า.........” ไอ้พี่ภามรีบลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะดึงตัวผมเข้าไปไม่ได้กอด แต่ดึงตัวผมเข้าไปจูบเลยต่างหาก!

        มันเป็นครั้งแรกที่ผมตอบรับรสจูบนั้นอย่างไม่ได้ขัดขืน ผมหลับตาลงเพื่อรับรสสัมผัสที่กำลังล่วงล้ำเข้ามาอยางลึกล้ำ มันนุ่ม

นวล อ่อนหวานและแกมหยอกล้อน้อยๆ จึงทำให้ผมต้องเผยอปากออกเพื่อรับการลุกล้ำอย่างหนักหน่วงของอีกคนที่กำลัง

พยายามชกชิงความหอมหวานจากน้ำหวานในโพรงปากอย่างหิวกระหาย จนกระทั่งผมเริ่มขาดอากาศหายใจจึงต้องทุบอกอีกคน

เพื่อให้ปล่อยผมเป็นอิสระ

      “ อ๊ะ แค่กๆๆ” ทันทีที่ได้รับอิสระกลับคืนมาก็ต้องรีบโกยอากาศเข้าปอดและยืนซบอกพิงอีกคนเอาไว้เพื่อหาแรงยึดเหนี่ยวไม่

งั้นมีหวังผมได้ลงไปนอนเคารพบรรพบุรุษ คำนับฟ้าดินอยู่ที่พื้นเป็นแน่ ส่วนอีกคนที่เป็นที่ยึดจำเป็นของผมก็เลียริมฝีปากนิดๆ

อย่างคนถูกใจ

      “ไอ้หื่น ไอ้บ้า บอกให้แปลความหมายไม่ได้บอกให้จูบสักหน่อย!” ผมแหวลั่น หลังจากที่กอบโกยอากาศเข้าปอดได้เต็มที่

แล้ว

      “พี่ก็แปลความหมายตามที่ป๊อบบอกไงล่ะครับ แต่พอดีว่าพี่แปลได้แบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้นะครับ หึๆ” ไอ้พี่ภามว่า ผมล่ะ

เกลียดน้ำเสียงหัวเราะที่ดูเจ้าเล่ห์ของอีกคนจริงๆเลย ถ้ามีขายนะ ผมจะเหมาเอาไปโยนลงทะเลให้หมดเลย คอยดูสิ!

        ปุ่งๆๆๆ!!

        เสียงดึงพลุพร้อมกับเศษกระดาษที่บรรจุเป็นสายๆอยู่ด้านในกระเด็นออกมาโดนตัวผมกับพี่ภาม พร้อมกับปรากฏเป้นพวก

ไอ้พี่ท็อป พี่เมฆ ไอ้ภัทร ไอ้ปิ๊กแล้วก็ไอ้มิ่งที่เป็นคนดึงพลุอันนั้น

      “วู้ววว ไอ้เพื่อนรักกูมีแฟนแล้วโว้ยยยยยยย!!” เสียงไอ้ภัทรตะโกนร้องอย่างดีใจ

      “กูดีใจด้วยนะไอ้ภัทรที่มึงจะได้เพื่อนรักมาเป็นพี่สะใภ้ว่ะ ฮ่าๆๆ” เสียงของไอ้พี่ท็อปว่า ก่อนจะทำเอาทุกคนหัวเราะครึกครื้น

ซึ่งก็ทำให้ผมที่อยู่ในอ้อมกอดของพี่ภามอดที่จะหัวเราะตามไปด้วยไม่ได้ แต่จะว่าไปตอนนี้ก็มีอยู่แค่คนเดียวที่ไม่ได้ร่วมวงหัวเราะ

ด้วย

      “เป็นไรไปวะไอ้ปิ๊ก ร้องไห้อย่างกับพี่ชายตาย” ไอ้ภัทรหันไปถามไอ้ป๊อบที่ยืนร้องไห้อย่างกับเขื่อนแตก

      “ตลกบริโภคครับเพื่อน พี่มันก็เพื่อนรักมึงและเพื่อนรักมึงก็คือกูครับ” ผมว่า ไอ้ภัทรเลยยิ้มเจื่อนๆส่งให้ผม

     “กูลืมไป ขอโทษว่ะ แหะๆ” ไอ้ภัทรขอโทษผม ก่อนที่ไอ้ปิ๊กมันจะตอบคำถามของไอ้ภัทร

      “เปล่าพี่ ฮึก ที่ปิ๊กร้องไห้ไม่ใช่พี่ตาย ฮึก แต่ปิ๊กดีใจที่เฮียจะได้ไปเป็นเมียคนอื่นเขา ฮึกปิ๊กสงสารพวกผู้หญิงน่ะพี่  ผู้หญิงเขา

จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจที่โดนเฮียจีบทิ้งจีบขวาง” ไอ้ปิ๊กว่า สรุปนั่นมึงดีใจที่กูไปเป็นเมียเขาหรือดีใจที่กูจะได้ไม่ทำให้ผู้หญิงคน

อื่นเสียใจวะ?

      “ฮ่าๆๆๆๆ น้องมึงนี่กวนตีนเหมือนพี่เลยว่ะ เอ้าๆ อย่าเอ๋อเว้ยยย อย่างนี้มันต้องฉลองงงงง” สิ้นเสียงของไอ้พี่ท็อปทุกคนก็ส่ง

เสียงเฮกันดังลั่นสนั่นและแสงไฟที่เคยดับไว้ก็ถูกเปิดขึ้น เราทุกคนจึงเดินกลับไปนั่งประจำที่ ส่วนผมกับพี่ภามก็ขออกไปเดินสูด

อากาศข้างนอกด้วยกันเพราะรู้สึกอึดอัดแปลกๆ แต่ก็ไม่วายโดนไอ้พี่ท็อปปากดีตะโกนแซวไล่หลังมา

      “อืมม รู้สึแปลกๆเหมือนกันเนอะ” ผมพูดขึ้น หลังจากที่เราสองคนออกมาเดินด้านนอกโดยที่ไม่มีใครได้พูดอะไรกันเลย


      “แปลกยังไงเหรอ” ไอ้พี่ภามถาม พลางกระชับมมือที่จับกันไว้ให้แน่นขึ้น

      “ก็แปลกที่ตอนแรกเราไม่ถูกกันจะตาย แต่สุดท้าย เอ่อ...เราก็ได้มาเป็นแฟนกันจริงๆ” ผมพูดออกไปอย่างเขินๆเพราะเมื่อ

ก่อนหน้าของพี่ภามผมก็แทบไม่อยากจะมองด้วยซ้ำ

      “นั่นสิ แต่นั่นมันก็ผ่านมาแล้ว คิดซะว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้มาเจอกันและมารักกันน่าจะดีกว่านะ” พี่ภามว่า ผมจึงพยักหน้า

เห็นด้วยเพราะถ้าไม่มีเรื่องวุ่นวายพวกนี้ ผมคงไม่ได้มาเจอกับอีกคน คงได้ไปเหล่หญิงเหมือนเดิมอย่างที่เคยทำ

      “ว้าวว สวยจัง!” ผมอุทานขึ้นเมื่อเดินมาถึงสวนหย่อมที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ลัวยังมีแสงเทียนที่วางรอบๆให้

บรรยากาศอบอุ่นอีกต่างหาก

      “พี่คิดว่าป๊อบคงชอบเลยให้คนมาจัดไว้ให้” พี่ภามว่า ผมจึงหันหน้าไปมอง

      “ทั้งหมดนี่พี่กับคนอื่นๆร่วมมือกันใช่ไหม” ผมว่าเสียงนิ่งๆ หน้าของพี่ภามดูถอดสีลงเล็กน้อย

      “เอ่อ พี่แค่อยากจะทำให้ป๊อบประทับใจ แต่ขอโทษด้วยนะที่พี่ทำให้ป๊อบไม่พอใจ” พี่ภามว่า ผมจึงแกล้งตีสีหน้าให้เรียบนิ่ง

ยิ่งกว่าเดิม แต่ก็กลัวเหลือเกินว่าจะหลุดหัวเราะออกมาซะก่อน

      “ใครว่าป๊อบไม่พอใจ แค่พี่บอกว่าจะขอป๊อบเป็นแฟนป๊อบก็ตกลงอยู่แล้วล่ะ” ผมพูด ก่อนจะยักคิ้วกวนๆให้อีกคน พี่ภามที่เพิ่ง

รู้ว่าโดนผมแกล้งอำก็ทำหน้าเหวอ ก่อนจะชี้หน้าคาดโทษผม

      “แสบนักนะ มาให้พี่จับตีก้นซะดีๆ” พอพี่ภามว่าจบผมก็รีบวิ่งหนีอีกคนรอบสวนที่ถูกจัดไว้ โดยมีไอ้คุณพี่ภามวิ่งไล่ เล่นเอา

เหนื่อยไม่ใช่น้อย แต่ว่ามันก็มีความสุขเหมือนกันนะ

        นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การมีแฟนเป็นไอ้หื่นภามมันก็ไม่ได้เลวร้ายสักเท่าไร มันก็ชุ่มช่ำหัวใจดีไม่น้อย แถมยังมีความสุข

เหี้ยๆอีกด้วยและเอาเป็นว่าเรื่องราวความรักของผมกับพี่ภามก็ยังไม่จบลงง่ายๆ มันก็เพิ่งจะเริ่มต้น เหมือนกับที่เขาว่าการเป็นแฟน

กันมันก็แค่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต แต่หลังจากนี้สิถึงจะเรียกว่าของจริง และแน่นอนว่าความรักฉบับยอดชายนายป๊อบมันย่อมไม่มี

ทางธรรมดาอย่างแน่นอน หมอป๊อบฟันธง!!




      เย่ๆๆๆๆ จบแล้วววว......................จบแล้วซะเมื่อไหร่ 555555 อย่าเพิ่งกระโดนถีบเค้าน้าาาาาาา ใครจะรีบให้จบ จบแบบนี้

มันธรรมดาเกินไป มันต้องจบแบบฉบับยอดชายนายป๊อบสิถึงจะถูก!! ที่สำคัญยอดชายนายป๊บเราก็เพิ่งโดนผู้ชายขอเป้นแฟนครั้ง

แรกมันก็ต้องมีเดทกันบ้างไรบ้างง เอ่อ...อยากจะถามจริง สรุปแล้วใครขอใครเป็นแฟนกันก่อนเอ่ย เอาเป็นว่าทั้งคู่รักกันก็พอเนาะ

ส่วนคำถามที่ถามดีสว่า "ทำไมจบเร็วจัง น่าจะต่อได้อีกนะ" หรือ "กำลังสนุกเลยรีบจบซะแล้ว" จริงๆดีสอยากจะบอกว่าที่รีบจบก็

เป็นเพราะดีสใกล้เปิดเทอมแล้วกลัวว่าถ้าแต่งนานๆไปแล้วจะเกิดการดอง ซึ่งไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้นค่ะ(เหตุผลรอง) แต่ถ้า

ถามเหตุผลหลักคือกลัวว่าถ้าแต่งต่อไปมันอาจจะดูยาวจนกลายเป็นยืดเยื้อและน่าเบื่ออ่ะค่ะ เข้าใจเค้านะ แต่ก็ต้องขอบคุณทุกคน

ที่เข้าใจนะคะว่าทำไมดีสถึงต้องจบเร็ว ขอบคุณจริงๆค่ะ

ปล.จริงๆแล้วระยะเวลาหกเดือนสำหรับบางคนอาจจะยาวนาน แต่สำหรับป๊อบแล้วมันเป้นช่วงเวลาที่สั้นที่ได้อยู่กับพี่ภาม//ว่าไป

นั่น โดนป๊อบเตะ 5555

ปล 2. มีคนเเนะนำแนวนิยายให้ด้วย ดีใจจังเลย ไว้ถ้าดีสว่างๆเดี๋ยวจะลองแต่งแล้วเอามาลงให้อ่านนะคะ หรือว่าถ้าใครชอบแนว

ไหนก็ลองเสนอมานะคะ เพื่อถ้าแนวไหนดีสพอแต่งได้จะได้แต่งเอามาให้อ่านค่ะ ถือเป็นการท้าทายฝีมือการแต่งดี ขอบคุณนะคะ
   
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอน 19 หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 28-04-2015 20:44:02

   









                                                                       ตอนที่ 19 เดทแรก..........

            วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ทำเอาผมนอนไม่หลับเพราะหลังจากที่ผมกับพี่ภามตกลงคบกันเป็นแฟน วันนี้ก็เป็นวันแรกที่ผมจะ

ได้ไปออกเดทกับอีกคน แค่คิดก็ใจมันก็ตุ้มๆต่อมๆจักกะจี้หัวใจตัวเองชะมัด มันยิ่งกว่าป๊อบปี้เลิฟซะอีก


      “โอ้โหเฮียนึกไงตื่นแต่เช้าเลยเนี่ย” เสียงของไอ้ปิ๊กดังขึ้น

      “ไม่ได้ตื่นเช้า แต่ยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก” ผมตอบ ไอ้ปิ๊กได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอากับผม

        วันนี้ที่ผมได้มายืนคุยกับไอ้ปิ๊กได้ตั้งแต่เช้าก็เป็นเพราะเมื่อคืนผมขอให้อีกคนมาส่งผมที่หอเพราะถ้าขืนให้ผมอยู่กับพี่ภามมี

หวังผมได้สติแตกกว่านี้แน่เพราะขนาดมาอยู่กับไอ้ปิ๊กผมยังนอนแทบไม่หลับเลย

      “แล้วนี่พี่ภามเขาบอกรึเปล่าว่าจะพาเฮียไปเดทที่ไหน” ไอ้ปิ๊กถาม ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูและเสื้อผ้าเตรียมเข้าห้องน้ำ

      “ยังไม่รู้เหมือนกันอ่ะ” ผมตอบเพราะใครจะไปกล้าถามตรงๆว่าจะพาไปเดทที่ไหน

        กริ๊งๆ!

        เสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนหัวเตียงดังขึ้น ทำให้ผมกับไอ้ปิ๊กต้องหันหน้าไปมองและพบว่ามันเป็นเสียงมาจากโทรศัพท์ของ

ผมเอง

      “ครับ พี่ภามมีอะไรตรึเปล่าครับถึงได้โทรหาป๊อบแต่เช้าเลย” ผมเอ่ยถาม เมื่อเห็นเป้นชื่อของไอ้พี่ภามโชร์หราอยู่หน้าจอ

โทรศัพท์

      “พอดีวันนี้พี่มีธุระด่วนเข้ามาคงจะพาป๊อบไปเที่ยวด้วยไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ” เสียงพี่ภามเอ่ยออกมา ส่วนผมที่ยืนอมยิ้ม

คุยกับอีกคนในตอนแรกก็ต้องหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเพราะอุตสาห์จะได้ไปเดทกันครั้งแรก แต่พี่ภามก็ดันมีงานสำคตัญเข้ามาอีก

ทำไมมันไม่ไปเข้าเอาวันอื่นวะ!

      “ไม่เป็นไรครับ พี่ภามทำงานเถอะไว้วันหลังเราค่อยไปเที่ยวกันก็ได้” ผมพูดออกไป พยายามรักษาน้ำเสียงไม่ให้ดูเหมือนคน

กำลังน้อยใจ

      “ครับ แต่ว่าพี่อยากจะให้ป๊อบไปรอพี่ที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลหน่อยนะครับเดี๋ยวสายๆพี่จะให้ไอ้ภัทรมันไปรับและถ้าพี่

ทำงานเสร็จเร็วเดี๋ยวพี่จะรีบไปหานะครับ” พี่ภามว่า ก่อนจะขอตัวกลับไปทำงานต่อ ไอ้ปิ๊กที่ยังยืนฟังผมคุยโทรศัพท์ไม่ได้เข้าไป

อาบน้ำก็เลิกคิ้วถามผมอย่างสงสัย

      “มีอะไรรึเปล่าเฮียดูหน้าเศร้าๆ” ไอ้ปิ๊กถาม ผมจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะตอบคำถามของไอ้น้องชายสุดที่รัก

 
      “เดทล่มว่ะ” ผมบอก ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเศร้าๆที่เตียงนอน ผมเองก็เคยมีประสบการณ์เลื่อนนัดเดทของสาวๆ แต่ก็ไม่เคยรู้ว่า

พวกเธอจะรู้สึกยังไง จนวันนี้ผมได้มาเจอกับตัวเองเพราะมันทำให้คนๆหนึ่งต้องรอเก้อ เฮ้อ! กรรมตามทันจริงๆกู

      “อ้าว ไหงเป็นงั้นอ่ะ อย่างนี้ไอ้ปิ๊กต้องเคลียร์ซะแล้ว พี่สุดหล่อกล้าดียังไงมาทำให้เฮียป๊อบของปิ๊กต้องเสียใจ” ไอ้ปิ๊กว่าสี

หน้าจริงๆจัง

      “เอาเหอะน่า พี่สุดหล่อของมึงเขามีงานด่วน แต่เขาก็ให้ไอ้ภัทรมารับพี่ไปรอเขาที่บ้านพักตากอากาศริมทะเลและถ้าเขา

ทำงานเสร็จเร็วเดี๋ยวเขาก็จะไปหาเฮียที่นั่นเองนั่นแหละ” ผมบอกไอ้น้องชาย มันเลยได้แต่ทำท่าฮึดฮัดเล็กน้อย ส่วนผมก็เตรียม

ตัวรอให้ไอ้ภัทรมารับไปที่บ้านพักตากอากาศนั่น แต่จะว่าไปแล้ว ผมก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจอีกคนเลยสักนิดเพราะผมก็เข้าใจว่าช่วงนี้

ไอ้พี่ภามกำลังยุ่งๆเรื่องงาน ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่าถ้าเขาจะปฏิเสธนัดผมเพื่อไปทำงาน แต่ก็อีกแหละจะให้พูดแบบเต็มปากเต็มคำว่า

ไม่น้อยใจก็คงไม่ได้ มันก้ต้องมีอารมณ์นั้นบ้างแหละที่โดนนัดแล้ว แต่ดันถูกเลื่อนนัด

        ผมนั่งเล่นนอนเล่นและนั่งดูไอ้ปิ๊กมันนั่งเล่นคอมอยู่ที่โต๊ะทำงานเพื่อรอเวลาให้ไอ้ภัทรมันมารับเพราะพี่ภามบอกสายๆ แต่นี่

มันก็เกือบจะสิบเอ็ดโมงอยู่แล้วไม่นานไอ้ภัทรก็คงจะมา

      “เดี๋ยวเฮียลงไปรอไอ้ภัทรข้างล่างหอพักนะ ถ้ามีธุระอะไรก็โทรหาล่ะ” ผมสั่งกำชับน้องชาย ก่อนจะสำรวจตัวเองอีกสักนิด

แล้วจึงเดินไปเปิดประตู แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ปลดล็อกกลอน เสียงเคาะประคูจากหน้าห้องก็ดังขึ้นซะก่อน

      “กูกะว่าจะลงไปรอมึงข้างล่างหอพักอยู่เลย” ผมยื่นมือไปเปิดประตูห้อง ก่อนจะบอกไอ้ภัทรที่ยืนหอบเล็กน้อยอยู่ที่หน้าประตู


      “โทษทีว่ะที่มาช้า รถแม่งติดสัดๆเลย ไปเถอะเดี๋ยวไม่ทัน” ไอ้ภัทรว่า ผมจึงเลิกคิ้วกับประโยคของมัน

      “อะไรไม่ทันวะ” ผมถาม ก่อนจะหันไปคุยกับไอ้ปิ๊กแล้วก็เรียกให้มันมาปิดประตู ก่อนจะเดินลงบันไดไปกับไอ้ภัทร

      “เอ่อ....ไม่ทัน....ไม่ทันที่รถจะไม่ติดไงเนี่ยมึงรถแม่งโคตริดเลยเนี่ย” ไอ้ภัทรว่า ก่อนจะเดินพาผมไปที่รถ ก่อนที่จะต่างคน

ต่างขึ้นนั่งในตำแหน่งของอีกฝ่าย

      “มีพิรุธน่ะมึงอ่ะ” ผมว่า มันไม่ได้พูดอะไรรีบสตาร์ทรถออกจากหอพักผมทันที

        ไอ้ภัทรขับรถมุ่งหน้าสู่ชายหาดทางด้านตะวันออกของประเทศและขับมาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดรถที่บ้านพักตากอากาศแห่ง

หนึ่งที่ถึงแม้จะไม่มีใครอยู่ แต่บรรยากาศก็ดูร่มรื่นไม่ได้วังเวงหรือถูกปล่อยให้รกร้าง

        ต้นไม้ที่อยู่บริเวณรอบนอกก็ดูจะเขี่ยวชอุ่มรับกับสีของบ้านหลังนั้นที่เป็นโทนสีฟ้าอ่อนไม่แสบตาที่หันมองทีไรก็ทำให้สบาย

หัวใจและลูกตาดี ถัดเข้าไปยังมีสวนดอกไม้ในแบบที่ผมชอบ ดอกฟอร์เก็ตมีน็อตที่ถูกนำมาประดับในบริเวญสวนนั้นดูจะเยอะกว่า

ดอกไม้ชนิดอื่นคล้ายกับเจ้าของบ้านกำลังจะเอาใจคนที่ชอบดอกฟอร์เก็ตมีน็อตอย่างผม

      “สวยไหมมึง” ไอ้ภัทรถามผม ผมจึงหันไปพยักหน้ารับว่าชื่นชอบในที่พักแห่งนี้ จากนั้นเราทั้งคู่ก็ลงจากรถเดินเข้าไปยังบ้าน

พักตากอากาศหลังนั้นทันที

      “เออ เดี๋ยวมึงเข้าไปก่อนนะ กูขอไปเช็คความเรียบร้อยรอบๆก่อนเพราะไม่ได้มานานแล้ว” ไอ้ภัทรบอก ผมจึงตอยรับในลำคอ

แถมยังรู้สึกแปลกใจที่ขนาดไม่ค่อยได้มาบ่อยต้นไม้พวกนี้ยังดูดีเหมือนกับเพิ่งจะนำมาลงเมื่อไม่กี่วัน แถมสภาพบ้านยังดูเหมือน

ใหม่อยู่ตลอดเวลา

        ผมผลักบานประตูเพื่อที่จะเดินเข้าไปชมความงามของบ้านหลังนี้ แต่พอเปิดประตูออกเท่านั้น ผมแทบจะลืมหายใจเพราะ

ด้านนอกว่าสวยแล้ว แต่ด้านในกลับสวยกว่าหลายเท่า ภายในห้องโล่งๆคล้ายห้องโถง แต่ก้ยังคงมีฟเอร์นิเจอร์ประดับตกแต่งไว้

บางชิ้นไม่ทำให้ห้องดูกว้างจนเกินไปแถมยังถูกประดับประดาด้วยดอกไม้สีสันสวยงามและมีดอกฟอร์เก็ตมีน็อตถูกนำมาเป็น

อุปกรณ์ในการตกแต่งสถานที่ให้ดูสวยงามและละมุนละไมมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

        ผมเดินเข้าไปสำรวจความงามด้านใน ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นรูปถ่ายของตัวเองที่ถูกนำมาประดับประดาตกแต่งอย่าง

สวยงาม จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าภาพเหล่านั้นผมถูกแอบถ่ายตอนไหน แต่แล้วผมก็ต้องตกใจอีกครั้งเพราะเสียงลมหรืออะไรไม่รู้ที่

พัดให้ประตูบานที่ผมเปิดออกค้างไว้ปิดตัวลงอย่างแรง จนทำให้ผมต้องหันหน้าไปมองอย่างฉงน

        ผมยืนมองที่บานประตูนั้นอย่างชั่งใจอยู่ชั่วครู่เพราะคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของลมที่พัดให้บานประตูนั้นปิดลง ก่อนจะหันกลับ

มามองด้านหน้าที่พบว่าตอนนี้กำลังมีภาพของพี่ภามกำลังฉายอยู่บนจอและดูเหมือนว่าอีกคนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ผมจึง

ต้องใจฟังรอในสิ่งที่อีกคนกำลังจะพูด

      “เอ่อ...สวัสดีครับน้องป๊อบ คือ...” พี่ภามพูดไว้แค่นั้น ก่อนจะหยุดไป ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงแทรกเหมือนเสียงของไอภัทร

ลอดเข้ามาในคลิปนี้เหมือนกับลังว่าพี่ภามว่า มัวแต่คืออะไรเล่าเฮีย อยากพูดไรก็พูด! พี่ภามจึงยอมพูดต่อ

      “คือว่า...ก็อย่างที่ป๊อบได้ยินเสียงของไอ้ภัทรนะว่ามันกำลังบังคับให้พี่พูดอะไรก็ได้ออกมา แต่พี่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน

เอาเป็นว่าขอพูดสั้นๆก็แล้วกันนะครับ” พี่ภามหายใจเข้าปอดลึกๆเหมือนกำลังเตรียมที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา ผมก็คอยลุ้นว่า

อีกคนจะพูดประโยคอะไรออกมา แต่ก็รอไม่นานพี่ภามก็พูดประโยคนั้นออกมา

      “พี่รักป๊อบนะครับ”

        หลังจากที่ผมได้ยินปรัโยคบอกรักของไอ้พี่ภามก็ทำเอาผมแทบหุบยิ้มไม่อยู่ ถึงแม้มันจะไม่ดูโรแมนติก แต่มันก็ทำให้ผม

รู้สึกดี จนไม่ทันระวังว่าตอนนี้ภายในห้องนี้ไม่ได้มีแค่ผมยืนอยู่เพียงคนเดียว

      “เห้ย!” ผมอุทานอย่างตกใจเมื่อรู้สึกมีคนกำลังโอบกอดจากทางด้านหลัง แต่แล้วก็ต้องแปรเปลี่ยนมาเป็นการอมยิ้มเล็กๆเมื่อ

เห็นช่อฟอร์เก็ตมีน็อตถูกยื่นมาให้ด้านหน้า

      “ชอบไหมครับ” อีกคนกระซิบถามผมเสียงแผ่วเบาข้างหู จนทำให้ผมต้องย่นคอลงเล็กน้อยด้วยความจั๊กจี้นิดๆ

      “อืม สวยดี แต่มันก็คงไม่ใช่ความคิดพี่” ผมยอมรับว่าสิ่งที่พี่ภามทำให้มันสวยงามมากจนผมหลงรัก แต่แน่นอนว่าไอเดียแบบ

นี้มันคงไม่เกิดขึ้นกับหัวหนุ่มนักธุรกิจคนนี้หรอก

      “ฮ่าๆๆ มีแฟนหรือมีนักสืบเนี่ยรู้ดีทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียว ยังไม่ได้รู้ลึก” พี่ภามว่า ก่อนจะงับหูผมเบาๆ ผมจึงศอกใส่อีกคน

ไม่แรงมากนัก พร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจของอีกคน มันทำให้ผมรุ้สึกทั้งเขินทั้งหงุดหงิด

      “นอกจากจะเป็นนักสืบแล้วยังดุอีกต่างหากอย่างนี้มันต้องปราบพยศซะแล้วม้างงง” เสียงของไอ้พี่ภามดูเจ้าเล่ห์ ผมจึงตวัด

สายตากลับไปมองอีกคนที่อตนนี้กำลังเอามือล้วงเข้าไปลูกไล้แผ่นหลังเปลือยเปล่าของผมภายในสาบเสื้อ จนทำให้ผมต้องรีบดัน

อีกคนออกมายืนตั้งหลัก

      “ไอ้หื่น ไอ้บ้า!” ผมว่า อีกฝ่ายจึงยกมือขึ้นสองข้างคล้ายยอมแพ้ ก่อนจะเอาช่อดอกฟอร์เก็ตมีน็อตมาจุมพิตและยื่นมาให้ผม

      “รักนะครับ” ผมจึงค่อยๆยื่นมืออกไปรับช่อดอกไม้นั้น ก่อนจะเดินเลี่ยงอีกคนไปนั่งอยุ่ที่โซฟาที่ถูกนำมาประดับตกแต่งไว้

ภายในห้อง

      “ไหนบอกว่ามีงานด่วนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาได้ล่ะ” ผมถามออกไป ไม่ได้น้อยใจ แต่แค่อยากรู้เท่านั้นเอ๊ง!

      “พอดีพี่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เลยรีบมาหาคนขี้น้อยใจคนนี้ไง” พี่ภามพูด ก่อนจะเดินมานั่งลงข้างผมที่โซฟา แต่ไม่ใช่แค่

นั่งลงข้างกันเฉยๆ พี่แกเล่นยึดเอาตักผมไปหนุนเป็นหมอนนอนเล่นอีกต่างหาก

      “ลุกเดี๋ยวนี้เลยนะ” ผมว่า แต่อีกคนยังกลับส่งยิ้มมาให้แทน ผมไม่ได้ต้องการรอยยิ้ม แต่ผมต้องการให้พี่ลุกออกจากตัก!!

      “คนเป็นแฟนกันนอนตักกันนิดๆหน่อนๆก็ได้นี่หน่าไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย” พี่ภามว่า ผมก็กำลังจะอ้าปากค้าน แต่กลับถูกอีก

คนพูดขัดขึ้นก่อน

      “ไอ้เราก็อุตส่าห์รีบตื่นแต่เช้าเพื่อให้คนมาจัดสถานที่ ไปหาร้านดอกไม้เพื่อให้จัดช่อดอกฟอร์ตเก็ตมีน็อตมาให้ แถมยังต้อง

รีบขับรถจากที่ทำงานเพื่อตรงมาที่นี่ เหนื่อยก็เหนื่อย เมื่อยก็เมื่อย แถมยังมีคนใจร้ายไม่ยอมให้เรานอนหนุนตักอีกต่างหาก”

พี่ภามพูดขึ้นลอยๆคล้ายกำลังตัดพ้อ ซึ่งผมว่ามันกวนประสาทมากกว่าการตัดพ้อเป็นไหนๆ แต่จะทำไงได้พี่ท่านเล่นพูดมาซะ

ขนาดนี้ ผมก็ต้องจำยอมให้อีกคนหนุนนอนต่อไป ไม่เอยากเป็นคนใจร้ายเหมือนกับที่โดนว่า

      “เอาๆอยากทำอะไรก็เชิญ อยากจะนอนหนุนนักก็เชิญนอนให้สบายเลย” ผมว่า อีกคนจึงฉีกยิ้มหวานส่งมาให้

      “ยังใส่สร้อยเส้นนี้อยู่เหรอ พี่คิดว่าป๊อบจะทิ้งมันไปแล้วซะอีก” พี่ภามว่า ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับจี้ดาว ซึ่งมันเป็นสร้อยจี้ดาวที่

อีกคนซื้อให้ผมในวันเกิดเมื่อสองสามเดือนก่อน ผมจึงก้มหน้าลงไปมองพี่ภามที่ยังคงลูบจี้

      “แล้วมันมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำให้ป๊อบไม่ใส่มันล่ะ ก็ในเมื่อเจ้าของที่ให้สร้อยเส้นนี้กับป๊อบมาเป็นคนที่ป๊อบรักมากที่สุด”

ผมตอบอีกคนยิ้มๆ ก่อนที่ดวงตาของเราทั้งสองจะสบกัน พี่ภามจึงคลี่ยิ้มน้อยๆพร้อมกับเปลี่ยนตำแหน่งมือที่จับจี้มาเป็นลูบแก้ม

ผมเบาๆ

      “พี่อยากให้ป๊อบประทับใจในเดทแรกของเรานะครับ” พี่ภามพูด

      “ถ้างั้นพี่ก็ทำสำเร็จแล้วล่ะ” ผมตอบอีกคนยิ้มๆ ก่อนที่จะปล่อยให้สายลมทำหน้าที่พัดผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่เราสองคนมี

ล่องลอยไปให้อีกคนได้รับรู้ ผมอยากจะบอกพี่ภามว่า มันไม่ใช่แค่ประทับใจ แต่ผมตกหลุมรักทุกอย่างที่พี่ภามทำให้ผมเลยล่ะ








ตอนหน้าก็จะถึงตอนจบของเรื่องนี้แล้ววววววว คิดแล้วก็อดใจหายเองไม่ได้ 5555 แต่งเองจนรู้สึกรักแล้วก็ผูกพันธ์กับตัวละครที่

แต่งและดีสก็หวังว่าคนอ่านที่อ่านเรื่องนี้คงจะคิดเหมือนกันกับดีสนะคะ เอาเป็นว่าตอนนี้พี่ภามกับน้องป๊อบเขาก็ขอหวานกันเบาๆ

แบบคนที่เริ่มเดทแรกกันและหวังว่าตอนจบของเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนประทับใจนะคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่ 20 ตอนจบ หน้า 4 27/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 28-04-2015 20:53:23
                                             ตอนที่ 20 มันคงเป็นความรัก.......... (ตอนจบ)

            ตอนนี้ผมอยู่ปีสามอีกแค่ปีเดียวผมก็จะจบออกจากรั้วมหาลัย แค่คิดก็รู้สึกใจหายที่ต้องจากพวกเพื่อนๆไป แต่มันก็คงไม่

ใจหายเท่าพวกพี่ท็อปและพี่เมฆที่ปีนี้ก็อยู่เป็นปีสุดท้ายในรั้วมหาลัยแล้ว ผมคงจะคิดถึงลูกสุนัขในปากขอพวกพี่ๆแน่เลย

      “อีกไม่ถึงปีพวกพี่ก็จบกันแล้วไม่คิดถึงพวกผมบ้างเหรอ” ไอ้มิ่งเอ่ยถามพี่ท็อปและพี่เมฆที่หันมองหน้ากัน ก่อนจะพร้อมใจ

ส่ายหัวเป็นคำตอบให้ไอ้มิ่ง


      “โห ไรวะ พวกพี่แม่งไม่คิดถึงน้องใจร้ายใจดำที่สุด” ไอ้มิ่งว่าอย่างงอนๆ พวกพี่ท็อปและพี่เมฆได้แต่ยิ้มขำกับคำพูดของ

ไอ้มิ่ง

        ตอนนี้ผม ไอ้ภัทร ไอ้ปิ๊ก ไอ้มิ่ง พี่ท็อป พี่เมฆก็นั่งรวมตัวกันอยู่ที่ม้าหินอ่อนโต๊ะประจำของผมกับไอ้ภัทรที่เอาไว้นั่งคุยกัน

ติวหนังสือกันหรือไม่ก็ลอกงานส่งอาจารย์ก่อนเข้าเรียน

      “เอ้อ ถ้าพวกพี่จบแล้ว พวกพี่วางแผนชีวิตกันยังไงต่อไปล่ะ” ไอ้ภัทรถาม พี่เมฆเลยเป็นคนตอบก่อน

      “ก็คงไปทำงานเป็นทนายหารายได้เก็บเงินไปสักพัก พอมีเงินเป็นก้อนเมื่อไหร่ค่อยเอาไปขอไอ้ท็อปจากแม่มัน” เอ๊ะ! อะไร

นะเมื่อกี้หูผมมีปัญหาหรือไอ้พี่เมฆแม่งพูดเรื่องจริง

      “เด็ยวๆๆ เดี๋ยวนะพี่เมฆ เมื่อกี้พี่บอกว่าจะไปขอพี่ท็อปเนี่ยนะ” ผมถามอย่างสงสัยและไม่ใช่แค่ผม แต่ทั้งโต๊ะเลยต่างหาก

พี่ท็อปที่คงจะไม่ได้ยินในตอนที่พี่เมฆพูดก็หับขวับกลับไปมองไอ้คนที่จุดประกายความเผือกให้กับพวกผม พี่เมฆก็ได้แต่ยิ้มๆไม่

ได้สนใจสายตาพี่ท็อปที่มองไปยังตนเองเลยแม้แต่น้อย

      “อืม เมื่อกี้พี่พูดว่า ถ้ามีเงินเป็นก้อนก็จะเอาไปขอไอ้ท็อปน่ะ” พี่เมฆว่า ผมกับทั้งโต๊ะต่างก็หันมองหน้ากันยิ้มๆอย่างรู้งานว่า

ต้องทำอะไร

      “ไอ้เชรี่ยเมฆ มึงพูดไรของมึงเนี่ย” ตอนนี้พี่ท็อปโวยวายใส่พี่เมฆทั้งๆที่หน้าตัวเองแดงแปร๊ดเสียขนาดนั้น จนทำให้ผมอดไม่

ได้ที่จะเอาคืนเรื่องที่ไอ้พี่ท็อปมันชอบล้อเรื่องของผมกับพี่ภาม

      “แหมๆๆๆ แอบไปมีซัมติงรองกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นมีการบอกน้องนุ่งเลยน้า ซุ่มเงียบนะเนี่ย” ผมเอ่ยล้อๆ พี่ท็อปสงบศึก

จากไอ้พี่เมฆก็หันกลับมานั่งที่เดิม ก่อนจะเฉไฉไม่ตอบ ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น

      “แล้วคิดไงพี่ถึงขอพี่ท็อปแต่งงานอ่ะ” ไอ้ปิ๊กถามออกไป พวกผมนี่รีบหันขวับกลับมามองที่มันกันเป็นตาเดียว แต่ตัวมันกลับ

ทำหน้าเหรอหราเหมือนคำถามมันถามว่า วันนี้ทำอะไรกิน อย่างนั้นแหละ

      “ทำไมพวกพี่ต้องมองปิ๊กแบบนั้นด้วยล่ะ ปิ๊กถามอะไรผิดเหรอ” ไอ้ปิ๊กถามหน้าซื่อ คือกูอยากจะบอกกับมึงจริงๆเลยไอ้ปิ๊กว่า

มึงไม่ได้ถามอะไรผิดหรอก แต่ผิดที่มึงไม่คิดก่อนถามไงไอ้น้องเวร!

      “ฮ่าๆๆ พี่ชอบคำถามนี้นะ มันก็มีอยู่ไม่มีกี่คำตอบหรอก แต่พี่จะเลือกมาแค่คำตอบเดียวนะ คือที่พี่แต่งงานกับไอ้ท็อปน่ะก็เอา

กับมันมาตั้งหลายครั้งละและที่สำคัญพี่หวงมันเลยไม่อยากให้มันไปยุ่งกับคนอื่น ถ้ามันมีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วมันคงไม่กล้า” พี่เมฆ

ตอบเหมือนคุยเรื่องฝนฟ้าอากาศเหมือนมันเป็นเรื่องปกติทั่วไป ส่วนพวกผมก็ได้ตาอ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าพี่สองคนจะเลย ณ

 จุดๆนั้นกันมาแล้ว ส่วนพี่ท็อปก็ก้มหน้างุดๆเพื่อซ่อนความอายและริ้วสีแดงๆบนใบหน้า ก่อนที่พี่เมฆจะเชยคางพี่ท็อปขึ้นมากระ

ซิบพูดอะไรบางอย่างที่ข้างหู ทำให้หน้าของพี่ท็อปกลับแดงยิ่งกว่าเดิม แถมยังยกไม้ยกมือทุบพี่เมฆรัวๆอีกต่างหาก


      “พี่กูกับพี่มึงนี่ไวไฟพอๆกันเลยนะ ฮ่าๆๆ” ไอ้ภัทรหันมากระซิบที่ข้างหูผม ซึ่งผมก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะมองภาพตรง

หน้าที่มันกลายเป็นฉากพลอดรักของไอ้พี่เมฆและพี่ท็อปไปซะแล้ว

      “น่าอิจฉาเนอะ” ไอ้ปิ๊กพูดขึ้น

      “งั้นมึงก็หาแบบนี้บ้างดิ มึงจะได้ไม่ต้องอิจฉาคนอื่นเขา” ผมว่า แต่มันกลับหัวเราะเบาๆออกมา เฮ้อ! และวันนี้ก็ผ่านไปอีก

หนึ่งวันกับความรักที่ดูจะเป็นความรักที่ทำให้พวกผมเข็มขัดสั้น..............ขาดไม่ถึงไง กร๊ากกกก!!



                       

      “กลับมาแล้วเหรอครับ” ผมเห็นพี่ภามที่นั่งเล่นอยู่บนที่นอนเมื่อผมเปิดประตูเข้ามาจึงเอ่ยถามขึ้น

        ตอนนี้ผมยังคงอยู่ที่บ้านสุริยศักดิ์เหมือนเดิมและไม่ถูกคุณหญิงแม่เหน็บแนมหรือหาเรื่องมาแกล้งผมอีกแล้วเพราะตั้งแต่วัน

ที่ผมได้ช่วยเหลือท่านเอาไว้ ท่านก็ดูจะรักและเอ็นดูผมมากขึ้น ถึงแม้ท่านจะไม่ได้แสดงออกมาตรงๆก็ตามที

      “ครับ แล้วนี่ป๊อบเพิ่งกลับเหรอดึกเชียว” พี่ภามถามเพราะตอนนี้ก็ปาเข้าไปเกือบจะสามทุ่มแล้ว

      “พอดีวันนี้มีงานเยอะน่ะ เดี๋ยวป๊อบขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ” จากนั้นผมจึงขอตัวเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด

        วันนี้ผมทั้งเหนื่อยและล้ามากกกกเพราะเนื่องจากงานของคณะเพิ่งผ่านพ้นไป พวกผมก็ต้องคอยเก็บงานให้เรียบร้อยเพราะ

เป็นคนดูแลรับผิดชอบ ถ้าขืนไม่เรียบร้อยได้โดนด่ากันเป็นแถวๆแน่

        ผมใช้เวลาไม่นานมากในการชำระล้างร่ายกายเพราะแค่โดนน้ำผมก็รู้สึกสดชื่นขึ้นเป็นเท่าตัวแล้ว

      “ยังไม่นอนอีกเหรอครับ” ผมถามพี่ภาม ก่อนจะปีนขึ้นเตียงเพื่อไปนอนอยู่ข้างๆอีกคน พี่ภามจึงวางไอแพดที่อยู่ในมือไว้บน

หัวเตียงและรวบตัวผมเข้าไปกอด

      “พี่รอป๊อบก่อนไงครับ” พี่ภามว่า ผมจึงดันตัวลุกขึ้นเพื่อเปลี่ยนท่านอน โดยใช้แขนของพี่ภามหนุนนอนแทนหมอน ส่วนอีกคน

ก็นอนตะแคงข้างมาทางผม

      “’งั้นพี่ภามช่วยเล่านิทานให้ป๊อบฟังหน่อยได้ไหมครับ” ผมถามอีกคนอย่างออดอ้อน อีกฝ่ายจึงมองหน้าผมเลิกคิ้วอย่างงๆ

ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวผมน้อยๆ ผมจึงหลับตาลงเพื่อรับสัมผัสนั้น มันทั้งนุ่มนวลและอบอุ่นชวนเคลิ้มเสียจริง

      “เป็นเด็กหรือยังไงถึงต้องให้มีคนเล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง” ผมลืมตา ก่อนจะยู่หน้าลงน้อยๆที่โดนอีกคนมาหาว่าเป็นเด็กที่

ต้องคอยฟังผู้ใหญ่เล่านิทานให้ฟังถึงจะนอนได้

      “ไม่ใช่เด็กสักหน่อย แต่อยากฟังไม่ได้เหรอ” ผมถาม พี่ภามจึงพยักหน้ารับยิ้มๆ

      “อืมมม ได้สิ งั้นพี่จะเล่าเรื่องเจ้าชายกับพรวิเศษ” หืม? มีนิทานเรื่องนี้ด้วยเหรอ ผมก็ได้แต่สงสัย แต่ไม่อยากจะขัดอีกคนที่

กำลังจะเริ่มต้นเล่า

      “กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ปราสาทใหญ่แห่งหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง ยังมีเจ้าชายรูปงามผู้หนึ่งมีพระนามว่า

เจ้าชายภาม” พี่ภามหยุดเล่า ก่อนจะก้มลงมามองผมที่นอนรอฟังเรื่องราวต่อ

      “ชื่อเจ้าชายรูปงามนี่เหมือนชื่อพี่เลยเนอะ” ผมว่าเหน็บอีกคน

      “แน่นอนก็พี่เป็นเจ้าชายรูปงามไง ส่วนป๊อบก็เป็นเจ้าหญิงแสนสวย” พี่ภามว่า

      “ตลกละ แล้วนี่พี่จะเล่าต่อไหมเนี่ย ถ้าไม่เล่าจะได้นอน” ผมถาม อีกคนจึงเริ่มเล่าต่อจากเดิม

      “เจ้าชายภามหลงรักเจ้าหญิงป๊อบมาก แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาหรือฟ้าลิขิตทำให้เขาสองคนต้องมาเจอกับอุปสรรคอันใหญ่

หลวง”

      “ถ้าให้เดานะ อุปสรรคนั้นคงจะต้องเป็นแม่พี่แน่ๆ” ผมพูดขัด

      “อย่าขัดสิครับ” พี่ภามว่า ผมจึงยักไหล่ อีกคนจึงเล่าต่อ

      “เจ้าชายกับเจ้าหญิงต่างช่วยกันฝ่าฝันอุปสรรคอันใหญ่หลวงชิ้นนั้น แต่จนแล้วจนรอดทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถผ่านพ้นไปได้แล้ว

ยังความสับสนที่เริ่มก่อตัวให้กับพวกเขาทั้งคู่ต้องคิดหนัก วันเวลาผ่านไป จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี จนทั้งคู่เริ่มที่จะหมด

หวัง แต่เหมือนราวกับมีปาฏิหาริย์ที่ทำให้คนทั้งคู่ฝ่าฝันอุปสรรคนั้นลงได้และด้วยความรักที่ทั้งคู่ช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคนั้นลง

 นางฟ้าก็ได้ปรากฎขึ้น”

      “นางฟ้าชื่นชมในความรักของคนทั้งสอง จึงประทานพรให้กับเจ้าชายหนึ่งข้อและเจ้าหญิงหนึ่งข้อ”

      “แล้วเจ้าชายขอพรว่าอะไรอ่ะ” ผมถามพี่ภามอย่างตื่นเต้น อีกคนจึงยกมือขึ้นลูบหัวผมน้อยๆและเล่าต่อว่าเจ้าชายขอพรนั้นว่า

อย่างไร

      “เจ้าชายขอพรว่า……………..” พี่ภามเว้นวรรคเอาไว้ ก่อนจะก้มลงมากระซิบบอกผมที่ข้างหู

      “เจ้าชายขอให้ตัวเขาแล้วก็เจ้าหญิงป๊อบรักกันจากนี้และตลอดไป”

      “แล้วเจ้าหญิงล่ะครับ” ผมเอ่ยถาม แต่อีกคนไม่ตอบ ผมจึงต้องหันกลับไปหา ก่อนที่ปลายจมูกของเราทั้งคู่จะมาชนกันโดย

บังเอิญ

      “นั่นสิครับ เจ้าหญิงได้พรวิเศษหนึ่งขอ เจ้าหญิงจะขอพรนั้นว่าอย่างไร” พี่ภามถามผมกลับ ผมจึงจ้องตาอีกคน ก่อนจะเป็น

ฝ่ายที่หลบสายตาก่อน

      “ไม่รู้สิ ป๊อบง่วงแล้ว เรานอนกันดีกว่าเนอะ” ผมว่า ก่อนจะพลิกตัวตะแคงข้างไปอีกฝั่ง พี่ภามจึงยอมลุกไปปิดไฟที่หัวเตียง

และลงนอนข้างๆผม ก่อนที่จะรวบตัวผมเข้าไปกอด ผมจึงเอาหน้าซุกที่หน้าอกของอีกคนเหมือนที่เคยทำอยู่เป็นประจำ

      “วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ เหนื่อยไหม หืม” พี่ภามถามผม พร้อมกับลูบหัวผมเบาๆ ผมจึงครางรับพร้อมกับถูไถหน้าไปกับอก

ของอีกคน

      “อืมมม เหนื่อยมากเลยล่ะ วันนี้ต้องอยู่ช่วยเก็บงานจนเย็นกว่าจะถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มแล้ว” ผมบ่นๆให้พี่ภามฟัง

      “งั้นก็นอนหลับซะนะครับ พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาจะได้สดชื่น” พี่ภามบอก ก่อนจะก้มลงหอมปุยผมนุ่มของผมและเอ่ยบอกฝันดี

      “แล้วพี่ไม่อยากรู้เหรอว่าเจ้าหญิงจะขอพรข้อนั้นจากนางฟ้าว่าอะไร” ผมถามออกไป พี่ภามจึงส่งเสียงในลำคออย่างสงสัย

      “แล้วเจ้าหญิงจะยอมบอกพี่เหรอครับ” พี่ภามถาม

      “อืมมมม แล้วเจ้าชายอยากฟังไหมล่ะครับ” ผมไม่ตอบ แต่ถามกลับ

      “อยากสิครับ เจ้าชายอยากฟังคำขอนั้นของเจ้าหญิงที่สุดเลย” พี่ภามพยักหน้าตอบ

        ตอนนี้เหมือนผมจะรู้สึกว่าเราทั้งคู่กำลังกลับไปสู่วัยเด็กอีกครั้ง คงอาจจะเป็นเพราะคำแทนตัวที่เด็กๆชอบเล่นอย่างเจ้าชาย

 เจ้าหญิง อย่างนี้เป็นต้น ผมว่ามันดูอบอุ่นแล้วก็น่ารักดีไปอีกแบบนะ

      “งั้นเจ้าชายหลับตาก่อนสิเดี๋ยวเจ้าหญิงจะบอกให้ฟัง” ผมบอกให้พี่ภามหลับตาลง ซึ่งอีกคนก็ยอมทำตามที่ผมบอกอย่างว่า

ง่าย

        ผมจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้น ก่อนจะประทับจุมพิตที่ข้างแก้มและไล้มาสัมผัสที่ริมฝีปากของอีกคนอย่างบางเบา ก่อนจะกระซิบ

บอกอีกคนที่ลืมตาตื่นขึ้นมามอง

      “เจ้าหญิงอยากจะขอให้ ทุกๆวันเป็นวันของเราเป็นวันที่เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็ตาม ขอให้เราได้อยู่ข้างๆ

กันแบบนี้ก็พอ” ผมตอบ ก่อนที่จะรู้สึกถึงแรงรัดจากอ้อมกอดของพี่ภามที่มันกระชับมากยิ่งขึ้น ก่อนที่พี่ภามจะก้มหน้าลงมาประทับ

จูบที่หน้าผากกลมมนของผม

      “พี่รักป๊อบนะครับ”

      “ป๊อบก็รักพี่เหมือนกันนะครับ”

        จากนั้นเราทั้งคู่ได้จมดิ่งเข้าสู่ห้วงความฝันในยามราตรีของอ้อมกอดอันอบอุ่นของกันและกัน มันเป็นคืนที่ผมมีความสุขมาก

ที่สุดเลยทีเดียว

        ไม่ว่าความรักของผมกับพี่ภามจะต้องพบเจอกับอุปสรรคมากเพียงใด ผมก็พร้อมที่จะฝ่าฟันไปพร้อมกันกับพี่ภาม ต่อให้ต้อง

แลกด้วยชีวิตของผมผมก็ยอม ขอแค่ให้เราสองคนได้รักกันแบบนี้ตลอดไปก็เพียงพอแล้ว......

      เฮ้อ! จะว่าไปข้างบนมันก็ดูน้ำเน่าเนอะ งั้นผมขอสรุปตามแบบฉบับยอดชายนายป๊อบเลยก็แล้วกันนะ เอาเป็นว่า ไอ้ที่พูดมา

ทั้งหมดคือผมรักผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่ชื่อไอ้พี่หื่นภาม รักมาก รักสุดหัวใจ ทำไงได้ในเมื่อผมดันหลงรักผู้ชายคนนี้เข้าแล้วเต็มๆ!

 อย่างนี้มันคงเรียกว่าความรักแล้วล่ะ!


                                                                             - THE END -








จบแล้วคร่าาา อันนี้จบจริงแล้วจร้าาา เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ใครอ่านตอนนี้แล้วน้ำตาปริ่มๆตรงขอบตาเหมือนดีสตอนที่แต่งตอนนี้

บ้างงงงง อ่านแล้วเหมือนทำให้เราหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของจินตนาการในวัยเด็ก ที่เรามักจะเชื่อว่าถ้าเราทำอะไรก็ตามแล้วสำเร็จ

นางฟ้าก็จะให้เราขอพรได้หนึ่งข้อ ดีสหวังว่าตอนจบของเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนประทับใจและมีรอยยิ้มทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้และ

ดีสอยากจะทำให้ทุกคนสนุกและมีความสุขที่ได้อ่านเรื่องนี้นะคะ จบแบบนี้สิเขาถึงเรื่องว่าจบตามแบบฉบับยอดชายนายป๊อบ ยัง

ไงก็ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดจนจบเรื่อง สุดท้ายก็ขอฝากนิยายเรื่อง "เพชรน้ำหนึ่ง" เป็นเรื่องต่อไปที่คาดว่าน่าจะลงในเว็บ

เดือนหน้านะคะ  :กอด1: :กอด1: :bye2:

                                                                รักคนอ่านทุกคนนะคะ
       
                                                                        HADES

ปล.ติดตามกันได้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊คของดีสหรือทวิตเตอร์ @HadesBL นะคะ ไว้พบกันใหม่ในเรื่องหน้านะครัช!!
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 28-04-2015 21:28:04
 :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-04-2015 21:55:30
 :katai2-1: :katai2-1: :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-04-2015 22:02:38
เย้ๆๆๆ. จบแว้ววว แฮปปี้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 28-04-2015 22:05:00
จบไวจังง่าา แต่ก็ขอบคุณนะคับ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 28-04-2015 23:34:02
 o13 ขอบคุณจ้า
แต่อยากให้ปิ๊กได้เจอคู่บ้างง่ะ   :impress2:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 29-04-2015 00:15:26
จบซะแล้ว :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 29-04-2015 07:44:08
จบแบบป๊อบๆ ดีนะคะ ฮาา..^^ สนุกมากเลยค่ะ

รอเรื่องใหม่นะค้าา.. :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 29-04-2015 13:40:10
จบเร็วจัง อยากอ่านต่อ
พี่ภามน้องป๊อบน่ารักกก พี่เมฆพี่ท๊อปแม้จะออกมานิดเดียว
แต่ก็น่ารัก น่าจะหาคู่ให้น้องอ้นด้วยนะ แอบสงสารนางอ่ะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-04-2015 17:41:38
 o13  น่ารักมากๆ ภามอบอุ่นนะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 29-04-2015 18:44:37
จบซะแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 29-04-2015 18:54:46

จบอย่างสวยงาม

แต่อยากเห็นยอดชายนายป๊อปไฝ้วกับคุณหญิงแม่อีกจัง

แบบว่าชอบอ่ะ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 01-05-2015 10:13:49
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades แทนคำขอบคุณสำหรับนักอ่าน หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 07-05-2015 21:54:20
สวัสดีทุกคนอีกสักรอบ 555 ตอนนี้มีใครรอคู่ไหนบ้างคะ ใครอยากจะอ่านคู่ของ พี่เมฆ พี่ท็อป หรือว่า คู่น้องอ้น น้องปิ๊กหรือแม้

กระทั่งคู่เพื่อนรักของนายป๊อบอย่างไอ้คุณเพื่อนภัทรกันบ้างงงงงง ถ้าใครยังรอพวกเขาอยู่ล่ะก็....................ก็ไม่ทำไมหรอกค่ะ

รอให้ดีสกลับจากค่ายก่อนนะคะ 5555555//เพื่อ!! เดี๋ยวถ้ากลับจากค่ายเมื่อไหร่จะเอามาลงให้อ่านนะคะ แต่ยังไม่บอว่าเป็นคู่ของ

ใครจาก เอ่อ...กี่คู่ล่ะเนี่ย เยอะจริง? เอาเป็นว่าหลังวันที่ 10 เราเจอกันอีกครั้งนึงนะคะ ถือเป็นการสมนาคุณนักอ่านที่น่ารักที่ยัง

คอยติดตามผลงานกันมาตลอด ส่วนเรื่องใหม่ก็เปิดหลังกลับค่ายเหมือนกัน แต่อาจจะเปลี่ยนเรื่องหรือยังไงก็คอยติดตามกันด้วย

นะคะ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งหายไปไหน รอเค้ากลับมาก่อนน้าาาาาาา ไปค่ายธรรมะครั้งนี้เดี๋ยวจะเอาบุญมาฝากทุกคนที่รักและหลง

ยอดชายนายป๊อบของเรานะคะ แล้วเจอกันจร้าาาาาาาา วันนี้ฝันดีครัช!!
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades อัพตอน 18-20 (ตอนจบ) หน้า 4 28/04/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 07-05-2015 21:57:51
:heaven ..เฝ้ารอนะค้าา~
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 07-05-2015 22:36:05
ว่าจะมาเม้นต์ให้ตั้งนานแล้ว แต่เน็ตงอแงมากค่ะ อ่านตอนจบไม่ได้เลย พึ่งเข้าได้เมื่อไม่นานมานี้เอง
เอาเป็นว่าขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะ สำหรับเจ๊เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนุกดี เจ๊เข้าใจความจำเป็นของคนเขียน แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันขยายได้อีก เจ๊ชอบมากๆกับการปะทะฝีปากกันของน้องป๊อบและขุ่นแม่พี่ภาม...คือ ประเด็นของเรื่องนี้มันอยู่ที่แม่ผัว-ลูกสะใภ้ ใช่ไหมล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าเกิดค่อยๆทำให้ขุ่นแม่แกยอมรับไปเรื่อยๆ ให้ได้เห็นด้านที่น่ารักๆของป๊อบบ้าง จนสุดท้ายมีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้น และทั้งสองก็ร่วมมือร่วมใจกันฝ่าฟันออกมา เจ๊ว่ามันจะทำให้ตอนจบของเรื่องนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น (คหสต.นะจ๊ะ)
แต่ไม่ว่าอยากไรก็ตามขอขอบคุณมากจริงๆที่เขียนเรื่องนี้ออกมาให้อ่าน เรื่องหน้าก็สู้ๆนะคะ เจ๊จะติดตามผลงานต่อไป พัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ สักวันก็จะก้าวหน้ายิ่งขึ้นเอง!

ส่วนตอนพิเศษ บอกตรงๆเลยค่ะว่าพักหลังๆนี่มัวแต่จิ้น ปิี๊ก-ภัทร ซะหน้ามืดตามัว เอาเป็นว่าถ้ามีคู่นี้จะดีใจเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ

แล้วเจอกันหลังกลับค่ายนะคะคุณดีส!!
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-05-2015 22:46:04
เอาคู่ไหนก็ได้
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 25-05-2015 19:54:09
พี่ท็อปกับพี่เมฆปิดตัวไปแล้ว แล้วเมื่อไหร่ปิ๊ก-ภัทรจะแกรนโอเพนนิ่งบ้างล่ะ //หวังว่าจะมองคู่นี้ไม่ผิดนะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 26-05-2015 02:25:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 26-05-2015 02:31:59
 :o8: :o8: :o8:   จบแล้ว ทั้งหวานเลี่ยน ตลกโปปกฮา กันที่เดียว
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 27-05-2015 18:42:59
ละมุนนนนนนนนน   :-[
ยอดชายนายป๊อปกับพี่ภามน่ารักจังเลย
เป็นแฟนกันแล้วป๊อปอ๊อนอ้อน
อย่างนี้ภามไม่หลงแย่หรอเนี่ย  :hao7: :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 28-05-2015 22:27:28
ชอบตอนที่ป๊อปจัดดอกไม้มาก 555
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 30-05-2015 08:25:38
 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 31-05-2015 07:47:31
มาต่อทีค่า
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 31-05-2015 16:19:23
สดใส น่ารัก หวานแหวว
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 31-05-2015 21:13:42
ขอบคุณนะคับที่เอาเรื่องมาลงให้อ่าน
น่าสงสารธีระ พี่ภามแย่นิสัยไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 01-06-2015 11:06:59
สนุกมากเลยค่ะ
หลงรักยอดชายนายป๊อบ 555
เป็นลูกสะใภ้ที่แสบมากถึงมากที่สุดด
พี่ภามก็ดีแสนดี แม้จะมีเจ้าเล่ห์บ้างก็ตาม
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 01-06-2015 15:01:49
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ สำหรับนิยายสนุกๆ น่ารักๆ ^^
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: shironeko ที่ 01-06-2015 20:47:57
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 01-06-2015 23:39:48
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 02-06-2015 00:37:06
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ
อ่านแล้วระกับน้ำตาลในเลือเพิ่มขึ้นเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 02-06-2015 09:05:09
 :L1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 02-06-2015 22:56:39
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 03-06-2015 14:58:20
ตอนจบเป็นอะไรที่หวานมากกกกกก  :-[
แต่!!!! เค้าอยากได้ฉากนั้นอ่ะ!!!! :oo1:
(ไม่ได้หื่นนะ!!! จริงจริ๊งงงงงงง)
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 04-06-2015 19:38:46
 :m20:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 05-06-2015 15:26:38
 :mew1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 01-07-2015 19:22:42
ขอบคุณค่ะ♥
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 06-07-2015 01:01:23
 :-[ ยอดชายนายป๊อบ  ถึงจะดูมึน ๆ ไปหน่อย แต่ก็น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 07-07-2015 16:49:15
 :pig4:

หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 11-07-2015 16:09:05
จบชะแล้วว
ชอบชอบมากเลยครับ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 11-07-2015 21:53:05
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 13-07-2015 23:03:33
 o13
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 14-07-2015 09:26:31
 :pig4: อ่านจบแล้ว ชอบค่ะ ถึงเนื้อเรื่องจะไม่หวือหวา แต่อ่านสนุกทุกตอน
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 16-07-2015 00:55:29
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่า
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + แทนคำขอบคุณ หน้า 5 07/05/2015
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 03-08-2015 08:46:11
สนุก+ตลก.  :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: Hades Novel ที่ 24-08-2015 21:06:55
                                                                         SP : Love is not mistake

      ว่ากันว่าความรักนั้น ต้องเกิดขึ้นมาจากความรักระหว่างคน 2 คน แต่น่าแปลกที่ความรักของผมกลับเกิดขึ้นเพราะ

ความผิดพลาดของคน 2 คน.....................

.............................

....................


(ท็อป)

   
   2 ปีที่ผ่านมา

   “ไอ้เชี่ยเมฆ ทำไมวันนี้มึงถึงไม่เข้าเรียนวะ มึงไม่เข้าแล้วทำไมไม่ชวนกูโดด รู้ทั้งรู้ว่ากูไม่ถูกกับอาจารย์คนนี้!” ผมแหวลั่น

ทันทีเมื่อเพื่อนรักตัวดีกดรับสาย

   “ขอโทษที พอดีไอ้จ๊อบมันชวนกูไปเป็นเพื่อนหาข้อมูลทำรายงานที่ห้องสมุดก็มึงเองนั่นแหละที่มาช้าเอง กูหามึงไม่เจอ”

 ปลายสายตอบแก้ตัว

   “แล้วมึงมีโทรศัพท์ไว้ขึ้นหิ้งบูชารึไงวะไอ้เชี่ยเมฆ! มึงก็โทรมาบอกกูดิว้า” ผมบ่นไอ้เพื่อนรักที่ปล่อยให้ผมต้องเผชิญชะตา

กรรมโดเดี่ยวในชั้นเรียน

   “กูอยู่ในห้องสมุดจะให้กูโทรไปหามึงได้ไงล่ะครับคุณเพื่อนท็อป มีสมองหัดคิดซะบ้าง” ไอ้เมฆบ่น เออนั่นดิ มันอยู่ในห้อง

สมุดนี่หว่าจะให้มันโทรมาบอกผมได้ยังไง แต่....เดี๋ยวนะแล้วถ้ามันอยู่ในห้องสมุดแล้วทำไมมันถึงรับโทรศัพท์ผมที่โทรหามันใน

ตอนนี้ได้??

   “แล้วทำไมตอนนี้มึงถึงรับโทรศัพท์กูได้” ผมเอ่ยถาม

   “ก็กูอยู่ข้างหลังมึงไงเลยรับโทรศัพท์มึงได้”

   “เฮ้ย! ไอ้ห่า เพื่อนเวร มึงเล่นไรมึงเนี่ย ถ้ากูหัวใจวายตายกูจะมาหลอกมึงเป็นคนแรก” ผมตะโกนด่าไอ้เมฆเพราะไอ้เพื่อน

บ้ามันเล่นเข้ามาทักผมจากทางด้านหลัง หลังจากที่มันบอกผมในโทรศัพท์ว่ามันอยู่ด้านหลังผม ใครจะไปคิดว่ามันจะพูดจริงเล่น

เอาผมหัวใจจะวายตาย

   “โทษทีว่ะ กูไม่กลัวผี” ไอ้เมฆว่าก่อนจะยักคิ้วน้อยๆ หล่อตายล่ะมึง ผมล่ะอยากจะโบกมันจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีใครอีก

คนอยู่ด้วย

   “ขอบคุณนะไอ้เมฆที่ไปช่วยกูทำรายงาน เดี๋ยวเย็นนี้กูจะเลี้ยงขอบคุณมึงเอง” คนทีผมก็เพิ่งจะระลึกได้ว่ามันคือ จ๊อบ

คนที่ไอ้เมฆบอกผมตอนคุยโทรศัพท์กันว่ามันไปช่วยเพื่อนคนนี้ทำรายงาน

   “เออ ขอบใจมาก เออนี่ ไอ้ท็อป เพื่อนสนิทกูเอง ไอ้ท็อปนี่ไอ้จ๊อบ ไอ้สัด ทำไมมึงสองคนต้องชื่อคล้ายๆกันด้วยวะ

ลำบากปากกูจริง” ไอ้เมฆแนะนำผมให้รู้จักกับเพื่อนของมัน ก่อนที่มันจะบ่นอะไรไร้สาระเป็นคนแก่เหมือนกับที่มันบ่นผมอยู่เป็น

ประจำ ผมเองก็ไม่ลืมที่จะพยักหน้าเป็นเชิงทักทายเพื่อนไอ้เมฆ ซึ่งอีกคนก็ตอบรับการทักทายของผม

   “งั้นเดี๋ยวเย็นนี้เจอกันนะมึง ร้านเดิมๆ” ว่าจบไอ้จ๊อบก็ขอตัวกลับไปเรียนต่อ ส่วนผมกับไอ้เมฆที่เรียนในคาบ(นรก)ที่แล้วจบ

ก็ว่างยาวทั้งวัน ว่าแต่ว่ามันยังมีร้านเดิมที่ไหนอีกนอกจากร้านพี่โก้วะ?

   “ร้านเดิม? ร้านใครวะ” ผมเอ่ยถาม หลังจากที่เราเลือกที่จะหาที่นั่งใต้ร่มไม้นั่งคุยกันเพราะรู้สึกเหมือนแดดประเทศไทยจะ

ร้อนจนเกินไป แต่ผมว่าไม่ใช่แค่ร้อนเฉพาะประเทศไทยนะ มันร้อนทั้งโลกเลยมากกว่า อย่างที่คนเขาชอบเอาไปติดแฮชแท็กใน

ทวิตล่ะนะ

                                                        #ร้อนเหี้ยๆนี่โลกหรือนรก

   ซึ่งผมเองก็โคตรจะเห็นด้วยกับแท็กนี้จริงๆ มันจะร้อนเอาโล่เลยรึยังไง

   “ก็ร้านพี่โก้นั่นแหละ กูว่าเราไปนั่งรอไอ้จ๊อบที่ร้านพี่โก้ดีกว่าอีกไม่กี่นาทีมันก็เลิกแล้วล่ะ ไปนั่งตากแอร์ดีกว่านั่งตากแดด

แบบนี้นะกูว่า” ไอ้เมฆออกความเห็น ผมเองก็พยักหน้าเห้นด้วยในความคิดของมัน

   ตอนนี้ทั้งผมและไอ้เมฆได้ระเห็จตัวเองออกจากการตากแดดร้อนๆในรั้วมหาลัยมานั่งตากแอร์เย็นๆในร้านพี่โก้ที่ดูจะคึก

ครื้นขึ้นเรื่อยๆตามดวงตะวันที่ค่อยๆคล้อยต่ำลงจากขอบฟ้าเรื่อยๆ

   “โทษทีว่ะมึงที่กูมาช้า” ไอ้จ๊อบที่เพิ่งมาเอ่ยขอโทษ ไอ้เมฆเลยยกมือบอกปัดๆว่าไม่เป็นอะไร ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มสีอำพัน

ให้กับเราทั้งสามคน

   เราสามคนนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ ตอนแรกที่ผมเห็นไอ้จ๊อบคิดว่ามันจะดูเป็นคนเรียบร้อย เด็กเรียนๆ แต่ที่ไหนได้ กวนตีนพอๆ

กับไอ้เมฆเลยทีเดียว มิน่าล่ะมันถึงเป็นเพื่อนกันได้มานานตั้งแต่ประถมยันมหาวิทยาลัย

   “ไอ้ท็อปกลับบ้านไหมมึง ไอ้สัดเลื้อยแล้วนะ” เสียงของไอ้เมฆบ่นผมเบาๆเพราะเวลาที่ผมเมาทีไรผมชอบเลื้อย แต่ใครว่า

ผมเมา ผมยังม่ายยยยเมาสักหน่อย เอิ๊ก!

   “ไอ้สัดท็อป กูสั่งให้มึงกลับบ้าน ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ เร็วมึง ถ้ามึงไม่ลุกกูอุ้มมึงนะ” ไอ้เมฆมันบ่นอะไรผมก็ไม่รู้ งุ้งงิ้งๆน่ารำคาญ

จึงจริง ผมส่ยหน้าอย่างรำคาญ แต่แล้วก็เหมือนกับตัวเองกำลังจะลอยได้ ผมผวาเล็กน้อย ก่อนที่มือจะเอื้อมไปคล้องเข้าที่คอ

ของไอ้คนที่เป็นคนทำให้ผมลอยอย่างไอ้เมฆ

   “มึงจะอุ้มกูทามมมมมายยยว้า” ผมถามไอ้เมฆ แม้จะพอรู้ว่าตัวเองแทบจะพูดไม่รู้เรื่อง ไม่เป็นภาษาเลยสักคำ แต่ไอ้เมฆก็

ไม่สนใจที่จะตอบเดินพาผมออกจากร้านพี่โก้ทันที






   “อืมมมม” ผมครางเบาๆเมื่อรู้สึกถึงหลังของตัวเองได้สัมผัสกับความนุ่มหยุ่นของเตียงนอน

   หลังจากที่ไอ้เมฆมันอุ้มผมออกมา ผมก็แทบจะหลับเป็นตาย เอาเป็นว่าผมไม่รู้เรื่องอะไรตลอดทางเลยด้วยซ้ำ มารู้ตัวตื่น

อีกทีก็ตอนที่รู้ว่าไอ้เมฆมันพาผมเข้ามานอนในห้อง

   “ ร้อน” คือคำๆเดียวที่ผมรู้สึกได้ในตอนนี้ ผมค่อยๆปรือตาขึ้นมองก็ไม่พบใครอยู่ในห้อง สงสัยหลังจากที่ไอ้เมฆปล่อยให้

ผมเลื้อยต่อในห้องมันก็คงจะกลับห้องมันไป

   “อืมมมม” ผมพยายามมีสติกับตัวเองให้มากที่สุดและพยายามระงับความร้อนที่มันเกิดขึ้น น่าแปลกที่ทุกครั้งเวลาผมดื่ม

เหล้า ผมไม่เคยร้อนหนักขนาดนี้และที่สำคัญไอ้อาการที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่แค่ร้อนแปลกๆอย่างเดียวเพราะตอนนี้ส่วนกึ่งกลางลำตัว

ของผมมันกำลังปวดหนึบอย่างทรมาน ผมลืมตามองรอบๆห้องอย่างเต็มตาอีกครั้งและเมื่อพบว่าไม่มีใครอยู่ภายในห้องนอกจาก

ผม ผมจึงค่อยๆรูดซิปกางเกงหยิบเอาส่วนกึ่งกลางลำตัวที่มันปวดหนึบขึ้นมาระบายเพื่อให้ลดอาการปวดหนึบนั้นทุเลาลง

   “อ๊ะ อ๊า” หลังจากที่ผมค่อยๆเอื้อมมือไปกอบกุมส่วนที่อ่อนไหวรูดขึ้นลงตามแรงโน้มถ่วง เร่งเร้าเพื่อขจัดความทุกข์ทรมาน

ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นให้จางหายไป

   “ไอ้ท็อป....................” แต่แล้วจู่ๆเสียงของใครบางคนก็ดึงสติของผมให้กลับมา

   ผมลืมตาโพลงทันทีที่ได้ยินชื่อของตัวเองถูกใครบางคนเรียกและเมื่อดวงตาปรับจุดโฟกัสได้ชัดเจน คนที่เรียกผมไม่ใช่

ใครอื่นนอกจากไปไอ้คนที่ผมคิดว่ากลับไปนานแล้วอย่างไอ้เมฆ!!



(เมฆ)

   หลังจากที่ผมเปิดประตูห้องของไอ้คนที่พยายามจะลากมันออกจากร้านพี่โก้ก็พลันได้ยินเสียงแปลกๆเล็ดรอดออกมาจาก

ห้องนอนของมันที่ผมเป็นคนอุ้มมันเข้าไปส่งในนั้น

   ในตอนแรกนั้นผมคิดว่าจะแค่มาอยู่เป็นเพื่อนมันเพราะเป็นห่วง แต่แล้วเมื่อผมเดินไปเรื่อยๆโดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่

ห้องของไอ้ท็อป ในหัวต่างคิดถึงเรื่องต่างๆนานา ถ้าหากผมไม่เห็นว่าไอ้จ๊อบมันใส่อะไรก็ไม่รู้ให้ไอ้เมฆกินโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้

แล้วขืนยังปล่อยมันเอาไว้ที่ร้านพี่โก้ ผมไม่อยากจะคิดถึงสภาพของมันตอนนั้นเลยจริงๆ

   ใช่ครับ! ผมเห็นว่าไอ้จ๊อบมันใส้อะไรบางอย่างลงในแก้วไอ้ท็อป  แต่ผมทำเป็นไม่รู้เพราะไม่อยากให้ไอ้จ๊อบมันจับได้ว่าผม

รู้แล้วเลยต้องปล่อยให้ไอ้เมฆกินน้ำแก้วนั้นแล้วรีบเร่งพามันกลับคอนโดนี่ แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆว่าที่ไอ้จ๊อบใส่ให้

ไอ้ท็อปกิน มันคือ ‘ยาปลุก!’

   ผมตัดสินใจเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูด้วยความกลัวหลายอย่าง กลัวว่าถ้าหากผมเปิดมันออกความสัมพันธ์ระหว่างผมกับ

ไอ้ท็อปจะจบลง กลัวว่าผมจะห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรกับไอ้ท็อปไม่ได้และที่สำคัญ ผมกลัว.....................กลัวใจของตัวเอง

   “ไอ้เมฆ ทะ ทำไมมึงถึงยังอยู่!” เสียงของไอ้ท็อปที่เอ่ยถามดูจะร้อนรนเป็นพิเศษ ก็แหงล่ะนะมันคงไม่คิดว่าจะเห็นผมยัง

ยืนหัวโด่อยู่ในห้องของมัน

   “ให้กูช่วยไหม” ผมไม่ตอบคำถามของมัน แต่เลือกที่จะเป็นฝ่ายถามมันแทน ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เตียงที่มัน

นอนอยู่ ไอ้ท็อปเขยิบตัวออกห่างผมเล็กน้อยเมื่อผมเดินเข้าไปนั่งลงบนเตียงของมัน

   “ช่วยอะไร มะ ไม่ต้อง ชะ ช่วย อะไรทั้งนั้น มึงออกไปข้างนอกตอนนี้เถอะนะ แค่นี้ก็ช่วยกูได้มากแล้ว ถ้ามึงอยากจะช่วย

กูจริงๆ” ไอ้ท็อปเอ่ยปากบอก ก่อนที่มันจะส่งสายตาเว้าวอนเพื่อขอร้องให้ผมออกไปจากห้อง

   “แต่มึงทรมาน มึงต้องการคนช่วย กูรู้” ผมพยายามอธิบายให้ไอ้ท็อปมันฟังอย่างใจเย็น แต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

เป็นพัลวัน

   “ไม่! กูไม่ต้องการให้มึงช่วย กูไม่ต้องการให้ใครมาช่วยกู มึงออกไปซะ!!” ไอ้ท็อปตะโกนไล่ผม ผมที่พยายามใจเย็นมา

ตลอดก็ถึงจุดที่ความอดทนเริ่มหมดลงเพราะผมทั้งอธิบายให้มันฟังอย่างใจเย็นและอยากจะช่วยมันให้หายทรมาน แต่มันกลับ

เลือกที่จะไล่ผมแบบนี้ เส้นความอดทนของผมที่ปกติก็ไม่ค่อยมี จึงขาดลงอย่างทันทีโดยไม่ต้องสงสัย

   “กูอธิบายให้มึงฟังอย่างดีๆแล้วนะไอ้ท็อป กูต้องการช่วยมึงให้หายทรมานก็แค่นั้น ในเมื่อกูบอกมึงดีๆไม่ชอบ มันก็คงต้อง

ใช้กำลังกันหน่อยแล้วล่ะมั้ง” ผมบอก ก่อนจะคว้าเอาที่ข้อมือของไอ้ท็อปที่พยายามขยับตัวหนีผมให้หยุดอยู่ที่เดิมและขึ้นคร่อม

ทับมันเอาไว้

   “ไอ้สัด! ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ” ไอ้ท็อปพยายามดิ้นรนขัดขืน ผมจึงต้องเอื้อมไปหยิบเอาผ้าแพรผืนบางที่เอามาห่มให้มันใน

ตอนแรกมาใช้แทนเชือกเพื่อมัดมือของคนดื้อรั้นอย่างไอ้ท็อป

   “มึงช่วยอยู่เฉยๆจะได้ไหม หยุดดิ้นได้แล้ว!” ผมตะคอกใส่ไอ้ท็อปที่พยายามจะแกะข้อมมือของตัวเองออกที่ถูกมัดติดอยู่

กับหัวเตียงนอน

   “ฮึก ทำไมมึงถึงต้องทำแบบนี้ด้วยวะไอ้เมฆ” ไอ้ท็อปถามผมทั้งๆที่ตอนนี้น้ำตาของมันกำลังคลออยู่เต็มหน่วยตาพร้อมกับ

สายตาที่ดูตัดพ้อของมันที่ส่งมาทำให้ผมเริ่มใจไม่ดี

   “คือกู” ผมได้แต่อำอึ้งไม้รู้จะพูดอะไร กลัวว่าถ้าหากผมพูดอะไรออกไปอาจจะทำให้อีกคนไม่พอใจผมหรือร้องไห้ ผมไม่

ต้องการเห็นน้ำตาของไอ้ท็อป

   “ถ้ามึงจะช่วยกูเพราะสงสาร กูขอเถอะนะเมฆ ปล่อยให้กูทรมานไม่ต้องมาสงสารกู” ไอ้ท็อปเอ่ยอย่างตัดพ้อ ก่อนที่มันจะ

หันหน้าหนีซ่อนหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกจากดวงตาคู่งามคู่นั้น ผมจึงค่อยๆเอื้อมมือไปจับใบหน้าของไอ้ท็อปให้หันมามอง

ผม ก่อนจะเอื้อมนิ้วโป้งไปปาดหยาดน้ำตาที่ค่อยๆไหลอาบสองข้างแก้มนั้นอย่างทะนุถนอม

   “กูไม่ได้ทำเพราะกูสงสาร”

   “แต่กูทำเพราะ.........................” ผมเว้นวรรคประโยคเอาไว้ อีกคนเลยเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย ผมจึงคลี่ยิ้มบางๆส่งให้

พร้อมๆกับโน้มตัวไปจุมพิตที่น่าผากเนียนนั่น ก่อนจะไล่ลงมาจูบซับหยาดน้ำตา ซึ่งอีกคนก็หลับตาลงรับสัมผัสนั้นอย่างไม่ขัดขืน

 จากนั้นผมจึงหันไปกระซิบบอกข้างหูของอีกคนว่าที่ผมทำลงไปนั้นมันเพราะอะไร..........................

   “เพราะกูรักมึง มึงได้ยินไหมท็อปว่ากูรักมึง รักมากและรักมานานแล้วด้วย” ผมเอ่ยบอกเสียงหนักแน่นเพียงเพื่อให้อีกคน

เชื่อมั่นในสิ่งที่ผมพูด ก่อนที่ผมจะหันกลับมาสบตาของอีกคนที่ตอนนี้กำลังเบิกกว้างด้วยความตกใจ

   “มึงว่าอะไรนะ!” ไอ้ท็อปกระพริบตาปริบๆก่อนจะเอ่ยถามผม นั่นยิ่งทำให้ผมมองว่ามันแม่งโคตรน่ารักเลยจริงๆ

   “ก็กูบอกว่ากูชอบมึไง กูชอบมึง กูชอบมึง กูชอบมึง กูชอ-”

   “พอเลยไอ้สัด! หูกูไม่ได้หนวกได้ยินชัดทุกคำไม่ต้องพูด!” ไอ้ท็อปตะโกนหน้าดำหน้าแดง

   “ทำไมหรือมึงเขิน?” ผมลองถามแหย่ๆไอ้ท็อป

   “เออดิ! เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ” ไอ้ท็อปที่เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอหลุดพูดอะไรออกไปก็รีบพูดปฏิเสธแทบจะทันที แต่คือ ไม่ทันแล้วว่ะมึง

 ฮ่าๆๆๆ

   “เหรอออ แล้วสรุปว่ามึงก็เข้าใจกูแล้วใช่ไหมว่ากูไม่ได้ทำแบบนี้เพราะความสงสาร แต่ที่กูทำเพราะกูรักมึงแล้วมึงล่ะคิด

อะไรกับกูนอกจากคำว่าเพื่อนรึเปล่าเพราะถ้าไม่ กูจะได้วางตัวกับมึงได้ถูก” ผมถามออกไปเพราะที่ผ่านมาผมก็มีมันเป็นเพื่อน

สนิทเพียงคนเดียว ถ้าหากว่ามันไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับผม ผมจะได้วางตัวได้ถูกและเลือกที่จะปฏิบัติตัวกับมันแค่ในฐานะเพื่อน

   “คือกู..........” ไอ้ท็อปเอ่ยแค่นั้น ก่อนจะเบนสายตาเพื่อหลบตาผมที่จ้องมองมันอยู่ แค่นี้ผมก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าผมควรวาง

ตัวเองให้อยู่ในฐานะอะไร ผมก้มหน้าลงเล็กน้อยพร้อมกับทำใจยอมรับกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

   “เฮ้ย! มึงอย่าทำหน้าเหมือนหมาขาดอาหารเม็ดแบบนี้ดิวะ คือกู กูยังไม่ได้ปฏิเสธมึงสักหน่อย อย่าคิดเองเออเองดิวะ”

   “ที่กูจะบอกมึงอ่ะ คือกู เอ่อ เหี้ยมึงอย่าจ้องดิวะ กูก็เขินเป็นนะเว้ย คือกู กูก็ชอบมึง จบนะ!!” ไอ้ท็อปบอกผม ก่อนที่หน้า

มันจะซับไปด้วยสีแดงระเรื่อชวนมอง ผมค่อยๆคลี่ยิ้มน้อยๆเมื่อสิ่งที่คิดมันเป็นแค่ความคิดที่คิดไปเองของผม

   “มึงนะมึง มึงทำให้กูใจไม่ดี กูจะเอาคืนมึงให้สามสมเลย”

   “อะ ไอ้บ้าเมฆ อ๊ะ อ๊า อ๊า ให้บ้า กูเจ็บ!” ไอ้ท็อปสบถลั่นเมื่อผมก้มลงไปกัดยอดอกสีชมพูสวยหวานของมัน ก่อนจะค่อยๆ

ลากลิ้นไล้วนเบาๆเพื่อสร้างความเสียวซ่านให้กับอีกคนได้รู้สึกดีและผมก็เชื่อว่ามันได้ผลสุดๆ

   “อืมม อะ อ๊ะ อ๊า อ๊า อะ ไอ้ เมฆ กู อืมม กู เสียว ไอ้สัด!”

   “งั้นวันนี้มึงต้องทำเป็นตัวเป็นเด็กดีของกู”  ผมว่า ก่อนจะก้มลงไปซุกไซ้ซอกคอหอมหวานที่ผมปรารถนาที่จะครอบครอง

มันมานานแสนนาน จนสุดท้ายความปรารถนาของผมก็เป็นจริง

   “อืม อ๊ะ กูจะยอมเป็นเด็กดี อืมม ของมึง อ๊า ตลอดไป”




   ว่ากันว่าความรักก็มักไม่มีนิยามตายตัวต่อให้ความรักที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะมาเพราะความผิดพลาด แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็น

สำคัญหากว่าเสียงของหัวใจของคนทั้งสองนั้นเต้นสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน................................












         นำตอนพิเศษคุณสะใภ้ที่รักมาเสิร์ฟให้กับคนอ่านที่น่ารักแล้วนะคะ หลังจากที่ดีสผลัดวันประกันพรุ่งเหลือเกิน 55555

 ตอนนี้เป็นเรื่องราวพิเศษๆของพี่ท็อปกับพี่เมฆเนอะเพราะดีสเห็นมีหลายคนสงสัยว่าพี่ๆทั้งสองไปมีซัมตองกันตอนไหน ฮ่าๆๆ

เอาเป็นว่าตอนนี้กระจ่างกันแล้วเนอะ อิอิ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะคะ ถ้าหากว่าไม่เป็นการรบกวนดีสก็ขอฝากติดตาม

เรื่อง #จอมใจ อีกสักเรื่องนะคะ พิมพ์หาว่า จอมใจ By Hades ก็ขึ้นค่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ขอบคุณ

จริงๆที่ติดตามนะคะ ขอบคุณคอมเม้นที่มาเรื่อยๆนะคะ ในเรื่องต่อๆไปดีสจะปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ ^^
   
   
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 27-08-2015 00:40:25
ชอบ และสนุกมาก รอติดตามผลงานเรื่องต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 04-09-2015 16:55:18
ดีจังเลยค่ะที่ทั้งสองคนเคลียร์กันก่อนที่อะไรๆ จะเกิดขึ้น แล้วปล่อยให้กลายเป็นความคลุมเครือทีหลัง ^^

ปล. แล้วจ๊อบทำไปทำไมล่ะคะเนี่ย 1. อยากช่วยเพื่อน? 2. อยากได้ไว้เอง ยังไงๆ~ o18
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 04-09-2015 17:20:29
เด็กแสบบบบบบบบ ทำไมได้สะมีที่ดี น่าอิจฉาาาาาา ><
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 28-10-2015 13:34:00
น้องแสบนี่พอจะมีสามีนี่มุ้งมิ้งเชียว
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 27-03-2016 16:27:44
สนุกมากครับ พี่ภาม-น้องป๊อป น่ารักมาก แต่คู่ ท็อป-เมฆ นี่มาแรงแซงโค้งสุดท้ายเลย

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 28-08-2016 10:07:37
เรื่องนี้มันน่ารักมากค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-08-2016 14:38:34
เพิ่งเห็นตอนพิเศษ ^^
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: Quasar77 ที่ 26-10-2017 00:02:05
น่ารักมากกกก 
คู่ท็อป-เมฆ ถึงจะมาน้อยแต่เรารักมาก 55555   :mew1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 11-02-2018 14:00:51
 :jul1:เหนื่อนละงานนี้
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 13-02-2018 21:38:25
เรื่องน่ารักมากกกก
คุณหญิงแม่น่ารักมาก
ชอบสุดๆ เสียดายมีบทนิดเดียว
ขอบคุณที่แต่งเรื่องฟีลกู๊ดแบบนี้มาลง
จะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: lovejinjunno ที่ 16-02-2018 16:03:06
ชอบมากเลยค่ะ
สนุกสุดๆ
อ่านแล้วนึกถึงเรื่อง สะใภ้ซ่ากับแม่ย่อจอมเฮี้ยน เลย
5555
น้องป๊อบแสบซ่าโดนใจมากๆ

ถูกใจตอนพิเศษมากค่ะ
ช่างเป็นคู่ที่เข็มขัดสั้นซะจริง
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 18-02-2018 21:59:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 18-03-2018 18:14:04
 o13
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 31-03-2018 18:02:00
จบแล้ววว เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ ดูละมุนๆ อิอิ  o18
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 01-04-2018 23:16:44
สนุกมากๆ เลยครับ
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-04-2018 10:26:00
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 02-04-2018 23:41:32
 :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 08-04-2019 22:22:31
 :call:สนุกคะ ขอบคุณ​มาก​ค่ะ​
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 11-04-2019 23:41:51
 :z13:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 12-04-2019 17:45:56
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 :katai2-1: :katai2-1:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-04-2019 17:03:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades ตอนที่2 งานพิเศษ วันที่ 06/04/2015 หน้า1
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 03-02-2021 23:56:45
................... แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งเสียงไอ้ภัทรก็เรียกขัดผมไว้ก่อน

      “เดี๋ยวเฮีย ภัทรมีเรื่องจะคุยกับเฮีย”
                    ........
                   .......
                 .............
                         
      ........................ผมบอกก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในโรงจอดรถของบริษัท

งงอ่ะ คุยกันตอนกินข้าวเช้าเสร็จ พอเลิกคุยกันก็ขับรถมาถึงบริษัทซะแล้ว งงในงง
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 30-03-2021 15:04:00
 :m25:
หัวข้อ: Re: คุณสะใภ้ที่รัก by Hades 20 (ตอนจบ) + SP Love is not mistake หน้า 6 240858
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 07-04-2021 14:51:34

 :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4:

น่ารักดีค่ะ