พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] "พี่หมี" (ตอนที่ 1) 10/11/14
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Eyemovement ที่ 10-11-2014 12:25:52
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
-
'ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร'
ใครซักคนพูดไว้แล้วคนก็จำไปปากต่อปาก ไปตีความประโยคนี้กันไปต่างๆนานา
บ้างก็ว่าชีวิตคนเรามันรันทดยิ่งกว่าในละคร
บ้างก็ว่าชีวิตจริงเรื่องบังเอิญมันยิ่งกว่าในละคร
บ้างก็ว่าชีวิตคนเรามันมีความสุขได้ยิ่งกว่าในละคร
แต่สำหรับผม ผมขอตีความว่า 'ต่อให้มีวันที่แย่แค่ไหน คนเราก็จบแบบแฮปปี้แอนดิ้งได้'
ที่จริงก็ไม่ใช่ทุกคนหรอก แล้วก็ไม่ได้จบแบบมีความสุขชั่วนิรันด์อะไรแบบนั้นด้วย แต่ถ้าแค่ในช่วงเวลาเลวร้ายมีสิ่งเล็กๆน้อยทำหัวใจเราถูกเยียวยาบ้าง
แค่นั้นก็เรียบว่าแฮปปี้เอนดิ้งสำหรับผมแล้วล่ะมั้ง
สำหรับคนที่ทุกวันเป็นวันแย่ๆแบบผมน่ะนะ
ยิ่งกว่าละครมั้ยล่ะ??
ที่มาพูดเรื่องนี้ก็ต้องขอย้อนไปประมาณแปดชั่วโมงก่อน ตอนประมาณสิบโมงเช้า ผมวิ่งหนีออกมาจากบ้านมาเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวๆนั้น
สาเหตุที่ต้องวิ่งออกมาคือสภาพแวดล้อมทางเสียงเป็นมลพิษอย่างรุนแรง หรือจะพูดให้ตรงประเด็นคือพ่อกับแม่ผมทะเลาะกัน
อีกแล้ว
ตั้งแต่เด็กจนผมอายุยี่สิบ พวกเขาทะเลาะกันแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องผม
เดี๋ยวแม่ก็หาว่าพ่อไม่มีเวลาอยู่กับผมบ้าง
หรือถ้าเวลาผมทำอะไรผิดพ่อก็จะหาว่าแม่เป็นคนผิดที่เลี้ยงผมไม่ดีบ้าง
ผมเป็นเด็กซุ่มซ่าม เดี๋ยวก็ทำอันนั้นแตกอันนี้แตก แต่น่าแปลกที่พ่อแม่ไม่เคยด่าผมเลย พวกเขาตั้งเป้าแต่จะด่ากันเอง ถ้าเป็นอย่างนั้นผมขอยอมโดนด่าเองซะดีกว่า
ตอนเช้าก็เหมือนกัน พวกเขาทะเลาะกันก็แค่เพราะเรื่องที่แม่ปล่อยให้เจ้าเปอร์เซีย หมาบลูด็อกที่บ้านผมอดข้าว เพราะลืมให้อะไรมันกิน
เปอร์เซียน่าสงสารกว่าผมเยอะที่มันหนีออกจากบ้านไม่ได้ ต้องมาทนฟังพ่อแม่ทะเลาะกันทุกวัน
บางครั้งก็เรื่องไร้สาระเกินกว่าจะรับได้
'คุณบอกว่าฉันดูดีแล้ว แต่เพื่อนฉันก็ทักว่าอายไลน์เนอร์ฉันมันเบี้ยว'
'ก็ที่เบี้ยวๆนี่แหละเหมาะกับหน้าเบี้ยวๆของคุณ'
'ถ้าคุณอยากได้เมียสวยๆก็ไปหาใหม่เลยไป'
'อยากได้อยู่แล้วล่ะ ไม่รู้ผมทนอยู่กับผู้หญิงผมสากเหมือนไม้กวาดอย่างคุณเข้าไปได้ยังไง!'
'นี่หยุดนะ ลูกตกใจเสียงตะโกนของคุณจนวิ่งหนีไปอีกแล้ว'
'ผมว่าลูกตกใจหน้าเหี่ยวๆของคุณมากกว่า'
บางทีก็ตลกอย่างไม่น่าเชื่อแต่จะทำยังไงก็ขำไม่ออก
บางทีผมก็แปลกใจนะว่าพวกเขาทำไมไม่หย่ากันซักที เพราะดูเหมือนพวกเขาจะชวนกันทะเลาะกันได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องขี้ฝุ่นจนเรื่องใหญ่ๆ ที่ผมบอกว่าเรื่องขี้ฝุ่นนี่ผมพูดจริงๆไม่ได้เปรียบเปรย เพราะพวกเขาเคยทะเลาะกันเรื่องนี้มาแล้ว
แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั่นแหละทำให้ผมเป็นเด็กมีปมแล้วก็ชอบหนีมาที่นี่ ที่สวนสาธารณะแห่งนี้มันสงบ มันร่มเย็น มันสบายใจ
จะหาที่ไหนที่เรียกว่าบ้าน ผมไม่ค่อยอยากเรียกที่นั่นว่าบ้านเลย เพราะตลอดเวลาที่ผมอยู่ผมต้องนั่งคิดค้นวิธีที่ทำยังไงให้เสียงรบกวนที่มีค่ามากกว่าแปดสิบเดซิเบลมีค่าลดลงหรือเทียบเท่ากับศูนย์
ผมอยากอยู่ที่นี่มากกว่า ถ้าอยู่ที่นี่ผมนั่งเฉยๆได้เป็นวันๆเลยล่ะ
พอพูดถึงที่นั่ง ก็เดินมาเจอเก้าอี้ยาวตัวประจำของผมพอดี ถ้าผมมาที่สวนนี่ ผมต้องมานั่งเก้าอี้ตัวนี้ทุกที เพราะว่ามันติดกับแม่น้ำเล็กๆในสวน แถมตรงนี้ยังมีต้นไม้ต้นใหญ่คอยบังแดดให้ด้วย และลมตรงนี้ก็พัดเย็นสบายทั้งวัน
ตรงนี้แหละคือจุดที่ดีที่สุดของการได้มาที่นี่ก็คือการนั่งเฉยๆ เหม่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องมีเสียงดังหนวกหู
มีแต่เสียงลม
เสียงแม่น้ำ เสียงนกร้อง
กับเสียงจังหวะเท้าของคนที่มาวิ่งออกกำลังกาย
ผมค่อยหลับตาลงรับลม และเสียงอุ่นๆของสิ่งรอบตัวทีละอย่าง เสียงแม่น้ำกับลม
เสียงเด็กตัวเล็กหัวเราะที่ดังอยู่ไกลๆ
เสียงรองเท้ากระทบพื้นหญ้าของคนที่มาวิ่งจ๊อกกิ้ง และเสียง...
'ตุ้บ' พร้อมกับแรงสั่นสะเทือนที่เก้าอี้ที่ผมนั่งอยู่
ตุ้บ? ผมลืมตาขึ้นแล้วมองซ้ายขวาหาต้นเหตุ แล้วก็ไปเจอมาสคอตหมีสีน้ำตาลประจำสวนสาธารณะตัวใหญ่กำลังนั่งคุกเข้าอยู่บนพื้นหญ้า
เขาคงจะไปสะดุดขาเก้าอี้เข้าเลยล้มลงล่ะมั้ง ผมลุกขึ้นไปช่วยเขาลุกตามมารยาท
"เป็นอะไรมั้ยครับ?" เขาส่ายหน้าเบาๆ แล้วผละตัวออกจากแขนของผม แล้วยืนนิ่งจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น
ผมเลิกคิ้วมองเขางงๆ ก่อนจะไม่ได้สนใจแล้วเดินกลับไปนั่งทีเดิม แต่พอผมนั่งลงเท่านั้นแหละ พี่หมีก็นั่งลงตามข้างๆผม แต่ไม่ได้ชิดมากนัก จะพูดให้ถูกก็คือ ผมอยู่ชิดพนักแขนเก้าอี้ข้างนึง พี่หมีก็เหมือนกัน
"มีอะไรรึเปล่าครับ" คราวนี้พี่หมีหันมามองหน้าผมแล้วพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ ก่อนจะล้วงกระเป๋าหน้าท้องแล้วกำลูกกวาดสีเขียวออกมาให้ผมเม็ดนึง
"ให้ผมหรอ?" ผมชี้ไปที่ลูกกวาดเม็ดนั้นแล้วพี่หมีก็พยักหน้าหงึกๆอีกครั้ง ทำไมพี่หมีไม่พูดล่ะ
"ขอบคุณนะ" ผมรับลูกกวาดชิ้นนั้นแล้วแกะใส่ปากทันที ตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้กินอะไรเลย เพราะพ่อแม่เอาแต่ทะเลาะกันเรื่องให้อาหารเปอร์เซีย จนลืมให้อาหารลูกชาย แต่พอเอาเข้าปากเท่านั้นแหละความเปรี้ยวก็แล่นปรี๊ดขึ้นมาทันทีจนต้องยู่หน้า นี่มันรสมะนาวนี่หว่า
"เปรี้ยวอะ" ผมหันหน้ายู่ๆไปที่พี่หมี แล้วพี่หมีก็สั่นไหล่นิดหน่อยเหมือนจะแอบหัวเราะ ก่อนจะยกมือปุกปุยขึ้นมาลูบหัวผม
ผมเลิกคิ้วมองหน้าเขาด้วยความสงสัย มาแปลกนะแบบนี้ ผมเคยเห็นพี่หมีบ่อยๆตอนอยู่กับเด็กๆ แต่ไม่เคยได้เข้าไปเล่นกับพี่หมีเลย แต่คราวนี้พี่หมีกลับมาเล่นกับผมเฉยเลย
ผมมองซ้ายมองขวาแล้วตอนนี้ไม่เห็นมีเด็กซักคน สงสัยตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เด็กจะมาพี่หมีเลยเหงามั้ง
"พี่หมีเหงาหรอ?" มือตุ๊กตานิ่มๆที่กำลังลูบหัวผมอยู่หยุดชะงักแปปนึง ก่อนที่พี่หมีจะเงยหน้าขึ้นคิดแล้วพยักหน้า
"แล้วทำไมพี่หมีไม่พูดล่ะ พูดไม่ได้หรอ?" สิ้นคำถามพี่หมีก็พยักหน้าขึ้นลงอีกครั้ง ดูเหมือนเขาจะตอบสนองกับผมแค่สองอย่างก็คือส่ายกน้ากับพยักหน้า ถ้าผมถามคำถามเจาะจงๆเขาจะทำยังไงนะ
"พี่หมีทำงานกี่โมงถึงกี่โมงหรอ?" คราวนี้พี่หมียักไหล่เป็นคำตอบ พูดง่ายๆก็คืออันไหนที่ตอบด้วยการพยักหน้าไม่ได้ก็จะเลี่ยงไปสินะ
"ผมอยากทำงานแบบพี่หมีบ้างจัง ต้องมีความสุขมากแน่ๆเลย ได้เล่นกับเด็กๆทั้งวันเลย" พอได้ยินอย่างนั้นพี่หมีก็รีบส่ายหน้าไปมาทันที แล้วก็เอามือปุกปุยมาสะบัดไปมาที่ตัวเองทำท่าพัด
"มันร้อนหรอ?" พี่หมีพยักหน้าเป็นคำตอบ
"ถ้าร้อนพี่หมีก็ถอดหัวออกก่อนสิ" เขารีบส่ายมือทั้งสองข้างเป็นเชิงบอกว่า ไม่ได้ๆๆ ไม่ได้เด็ดขาด
"ก็ได้ๆ แล้วพี่หมีเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ?" คราวนี้พี่หมีไม่ให้สัญญาณอะไรทั้งสิ้นแล้วหันหน้าไปทางอื่น
"ต้องเป็นผู้ชายแน่เลยใช่มั้ย? พี่หมีสูงกว่าผมอีก" พี่หมีหันหน้ามาถอนหายใจแล้วพยักหน้าเบาๆ เหมือนอยากให้คนอื่นรู้เพศตัวเองอะไรอย่างนั้นรึเปล่า
"พี่มีอายุเท่าไหร่ล่ะ" ผมถามขึ้นลอยๆ ไม่ให้บรรยากาศดูอึดอัด เพราะยังไงพี่หมีก็คงจะไม่น่าตอบอยู่ดี แต่ผิดคาดเพราะคราวนี้พี่หมีทำท่ายื่นมือขึ้นไปเหนือหัวผม
"...อายุมากกว่าผม?" พี่หมีเอามือลงแล้วพยักหน้า
"แล้วพี่หมีรู้ได้ยังไงว่าผมอายุเท่าไหร่"
"อ้ะ หน้าผมเด็กล่ะสิ แต่ผมน่ะยี่สิบแล้วนะ" พี่หมีนั่งคิดซักพักก่อนเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วงอนิ้วผมลงทั้งสองข้างให้เป็นเลขสองกับเลขสี่
"พี่หมีอายุยี่สิบสี่หรอ?" พี่หมีพยักหน้าลงแล้วจู่ๆก็ลุกพรวดขึ้น ยกมือขึ้นแตะไหล่ผมแล้วชูฝ่ามือห้ามผมไว้ เหมือนจะบอกว่า อย่าไปไหนนะ
ผมพยักหน้าตอบรับเบาๆแล้วพี่หมีก็วิ่งหายไปไหนไม่รู้
ทำไมมาสคอตหมีอายุ 24 ถึงได้อยู่ดีๆมานั่งเล่นกับคนมาเดินเล่นแบบผมได้นะ ถ้าจะบอกว่าพี่หมีเหงาก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว
เพราะถ้าเป็นผมต่อให้เหงายังไงก็ไม่อยากมานั่งคุยกับคนไม่รู้จักเด็ดขาด
หรือว่าบางทีพี่หมีอาจนะเห็ผมนั่งเศร้าก็เลยตั้งใจมาปลอบก็ได้มั้ง เป็นคนที่ใส่ใจจังเลยนะ
ผ่านไปซักพักพี่หมีก็วิ่งกลับมาพร้อมกับลูกโป่งสวรรค์สีชมพูนมเย็นอยู่ในอุ้งมือ เข้าวิ่งดุ๊กๆมาตรงหน้าผมแล้วยื่นลูกโป่งให้
"นี่ให้ผมหรอ?" พี่หมีไม่ตอบอะไรแต่ยังคงยื่นลูกโป่งนั้นมาให้ผม ผมเลยรับมาอย่างเสียไม่ได้ แล้วเอาไปผูกกับพนักเก้าอี้ไว้ไม่ให้มันหลุดลอยไปไหน คงให้ผมล่ะเนอะ
"ทำไมให้ผมล่ะ? ผมไม่ใช่เด็กซักหน่อย" ผมถามในขณะที่เขาค่อยๆหย่อนตัวนั่งข้างๆผม พี่หมีหยุดกึกไปแปปนึง ก่อนจะเอาอุ้งมือลูบมือซ้ายของผมที่วางอยู่บนตักค่อยๆ แล้วกดมือผมไว้ ผมว่าถ้ามือของเขาขยับได้ เขาคงจะบีบมือผมไว้
มันรู้สึกดีมากๆในความรู้สึกแย่ๆ
ตลอดมาคุยเชื่อรึเปล่าว่าผมไม่เคยโดนใครปลอบมาก่อนเลย ไม่ว่าเขาจะปลอบเรื่องอะไรก็เถอะ
ผมไม่รู้ว่าเขารู้รึเปล่าว่าผมเศร้าเรื่องอะไร
ญาติๆของผมไม่รู้ เพราะว่าพ่อแม่จะไม่ทะเลาะกันต่อหน้าญาติๆ
ผมก็ไม่ได้บอกให้เพื่อนรู้ มันน่าอายเกินไปที่จะบอก
ผมเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง แล้วมานั่งเงียบๆตรงนี้คนเดียวมาตลอด ไม่ได้พูด ไม่ปล่อยออกมาให้ใครฟัง
มันทรมาน และอัดอั้น
ผมก้มหน้าลงไม่เงยหน้าขึ้นไปมองพี่หมีเพราะว่าตอนนี้รู้สึกว่าน้ำตาผมจะเริ่มรื้นๆขึ้นมาแล้ว จะร้องไห้ทำไมวะ แค่มีหมีใจดีมาปลอบเอง
"พี่...พี่หมีมาปลอบผมหรอ?" ผมพยายามทำเสียงให้ปกติ แต่ก็ทำไมได้ เสียงมันสั่นเกินกว่าจะควบคุมไหว
คราวนี้พี่หมีเขยิบตัวมานั่งชิดผม แล้วเอาจมูกหัวหมี มาจิ้มกับหน้าผากผมเบาๆ พูดให้ถูกก็คือหอมหน้าผากนั่นแหละ ผมเผลอยิ้มออกมา โดยที่ไม่ได้คิดเลยว่าคนๆนี้เป็นผู้ชาย แต่ตอนนั้นมันรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ขอกอดได้มั้ย?" พี่หมียื่นมือสั้นของเขาขึ้นจะมาโอบผม แต่คงโอบไม่ถึงเพราะแขนของมาสคอตมันสั้นๆป้อมๆ ผมเลยรีบพุ่งไปเข้าไปสวมกอดเขาซะจนเขาแทบหงายหลัง น้ำตาที่ไม่ได้ร้องออกมาเป็นปีถูกปล่อยออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ที่จริงก็น่าอายอยู่ที่ต้องมานั่งร้องไห้กอดหมีแปลกหน้าแบบนี้ แต่มันเหมือนกับเอาความหนักอึ้งในใจค่อยๆไหลออกมากับน้ำตา
พี่หมีก็เอานุ่มๆโอบตัวผมไว้แล้วกระชับหลังผมให้แน่นกับพี่หมียิ่งขึ้น
ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเคยคิดไปเองว่า ไม่ต้องไปบอกคนอื่นหรอก ไม่ต้องให้มีมครมาปลอบหรอก ปลอบไปเราก็ไม่ได้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่หรอก มีแต่จะทำให้คนอื่นสงสารเราซะเปล่าๆ ผมไม่ชอบให้ใครมาสงสาร แต่พี่หมีไม่ใช่ พี่หมีไม่ได้มานั่งอยู่ข้างๆผมเพราะสงสาร แต่เหมือนเขาจะเป็นห่วงผมยังไงไม่รู้
"ฮึก..." ผมสะอึกสะอื้นบนไหล่หมีนานเท่าไหร่ไม่รู้ เกิดมายังไม่เคยร้องไห้นานขนาดนี้เลย ตอนแรกผมร้องไห้เพราะรู้สึกแย่ แต่ตอนนี้ผมร้องไห้เพราะรู้สึกดีขึ้นทาแล้ว แต่ก็ยังไงร้องไห้อยู่ดีนั่นแหละ
ผมซุกแล้วส่ายหน้าไปมาบนไหล่พี่หมีหลายทีเพื่อเช็ดน้ำตา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาหาพี่หมี แต่มือยังคล้องคอเขาอยู่นะ ที่ว่าคล้องคอเพราะว่าตัวพี่หมีใหญ่มากแล้วก็สูงมาก ผมเลยโอบหลังเขาไม่หมดเลยขึ้นไปโอบคอแทน
"พี่หมีรู้จักผมรึเปล่า?" ผมถามเพื่อความแน่ใจ เพราะถ้าเขาไม่เคยรู้จักผมมาก่อนเลยไม่น่าจะเป็นห่วงผมได้ขนาดนี้ แล้วพี่หมีก็พยักหน้าเป็นคำตอบ เขารู้จักผมหรอ? อาจจะเป็นเพื่อนผมอะไรอย่างนั้นรึเปล่า?
"แล้วผมรู้จักพี่หมีมั้ย?" พี่หมีส่ายหน้า
ผมไม่ค่อยเข้าใจแฮะ เขารู้จักผม แต่ผมไม่รู้จักเขาหรอ มันหมายความว่าไงอะ
"พี่หมีสต๊อกเกอร์ผมหรอ?" พี่หมีสั่นไหล่นิดหน่อย พร้อมกับเสียงหัวเราะลอดออกมาเบาๆ เพิ่งเคยได้ยินเสียงพี่หมีนะเนี่ย ถึงจะเป็นเสียงหัวเราะเบาๆก็เถอะ อยากฟังมากว่านี่จัง
"พี่หมีพูดหน่อยสิ ผมอยากฟังเสียงพี่หมี" คราวนี้พี่หมียักไหล่แล้วส่ายหน้า เหมือนจะบอกว่าฝันไปเถอะ
ตอนนี้หน้าผมกับหัวมาสคอตของพี่หมีอยู่ใกล้ๆกันมากๆ ผมเลยคิดทำอะไรบางอย่างขึ้นมา
ผมเอาปากตัวเองไปจุ๊บกับปากพี่หมี ตอนแรกเหมือนเขาจะผงะไปแปปนึงก่อนจะกดหน้าลงมา มันก็เหมือนกับจูบตุ๊กตาหมีนั่นแหละครับ คุณเคยจูบตุ๊กตาหมีใช่มั้ย ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ผมลืมไปว่าข้างในพี่หมีเป็นผู้ชายก็เลยเผลอผละออกมา
"ผมขอโทษนะ ผมลืมไปเลยว่าพี่หมีเป็นผู้ชาย" พี่หมีนิ่งไปแปปนึงก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร
"แต่...พี่หมีคงไม่รังเกียจผมหรอกเนอะ ตัวพี่หมีนุ้มนุ่ม" ผมเอาหน้าไปซุกกับแก้มพี่หมี อยากกอดพี่หมีไปนานๆจัง
"พี่หมี" ผมผละออกแล้วเรียกพี่หมีเบาๆ พี่หมีก็ทำท่าเอียงคอสงสัย
"ขอบคุณ...ขอบคุณนะ" พี่หมียื่นหน้าเอาจมูกหมีมาชนกับจมูกผมแล้วส่ายหน้าไปมาเบาๆ เหมือนกับผมเป็นเด็กน้อยยังไงอย่างงั้น แต่ผมก็ยังปล่อยให้พี่หมีทำจนพอใจแล้วผละออกมา
พอพี่หมีผละออกมาปุ๊ปผมก็ได้โอกาสปีนขึ้นไปบนตัวพี่หมีแล้วยื่นหน้าไปส่องในตาพี่หมี อาจจะเห็นหน้าพี่หมีขึ้นมาก็ได้
"พี่หมีขอดูหน้าหน่อย" พอรู้จุดประสงค์ผมพี่หมีก็พยายามปัดป้องตัวผมออกใหญ่เลย แต่เรื่องอะไรผมจะออกล่ะ ผมก็แค่อยากรู้ว่าพี่หมีใจดีจะหน้าตาเป็นยังไง
'ตื้ดด ตื้ดด' ระหว่างที่ผมกำลังต่อสู้กับพี่หมีอยู่ มือถือผมก็สั่นขึ้นมา ผมค่อยๆปีนลงจากตัวพี่หมีแล้วหยิบมือถือขึ้นมารับ
แม่โทรมา
ไม่ค่อยอยากรับเลยแฮะ แต่มันช่วยไม่ได้
"ครับแม่"
'ลูกอม อยู่ไหนลูก แม่ขอโทษนะ'
"ผมอยู่สวนสาธารณะครับ"
'กลับบ้านเถอะลูก แม่ทำข้าวเที่ยงไว้ให้แล้ว พ่อแม่เป็นห่วงนะ'
"..."
'นะลูก'
"ครับ เดี๋ยวผมกลับ"
ผมวางสายแล้วหันไปมองพี่หมีก็เห็นพี่หมีนั่งก้มหน้าลงดูจ๋อยๆอยู่
"พี่หมี ผมต้องกลับแล้วนะ" ผมก้มหน้าไปสอดระหว่างตักพี่หมีที่ก้มหน้าจ๋อยอยู่ พี่หมีก็พยักหน้ารับเบาๆ แล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวผมอีกครั้ง
"ขอบคุณนะพี่หมี แล้วเจอกันครับ" ผมลุกขึ้นแล้วก้มลงไปหอมแก้มพี่หมีก่อนจะเดินออกมา ผมเดินออกมาได้ซักพักก็หันไปมองพี่หมีอีกครั้ง พี่หมียังคงนั่งคอตกอยู่ที่เดิม ผมมองพี่หมีอย่างอาลัยอาวรณ์อีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมา
ผมเดินเลียบทางเดินมาเรื่อยๆ ซึ่งปกติคนที่มาก็จะวิ่งกันตรงนี้ แต่ซักพักผมก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตรงเข้ามาที่ผมอย่างเร็ว พอผมหันไปมองพี่หมีก็วิ่งเข้ามาแล้วสวมกอดผมแน่นโดยที่ผมแทบไม่ได้ตั้งหลัก
"พ...พี่หมี?" พี่หมีกอดผมแล้วเอาคางเกยไหล่ผมไว้ มันใกล้จนได้ยินเสียงพี่หมีหอบหายใจ
"แฮ่กๆ..."
"พี่อะไรหรอครับ?" พี่หมีสูดหายใจเข้าลึกๆ
"ถ้า...ถ้ารู้สึกไม่ดีอีก ก็...ก็มาหาผมนะ" พี่หมีพูดเสียงอู้อี้ผ่านหัวหมี แต่มันก็ยังชัดเจนพอให้ผมรู้ว่าเสียงพี่หมีสั่นขนาดไหน แต่เสียงเขานุ่มมากๆเลย นุ่มแบบทุ้มๆน่ะ ทำไมเสียงพี่หมีเพราะขนาดนี้แต่ไม่ยอมพูดกันนะ
"อื้อ แต่ถ้าผมรู้สึกดีก็มาหาพี่หมีได้เหมือนกันใช่มั้ย?" พี่หมีรีบพยักหน้ารัวๆ ผมยิ้มให้เขาก่อนจะโบกมือบ้ายบาย พี่หมีก็โบกมือลาผมตอบแล้วหยุดยืนส่งผมอยู่ตรงนั้น
วันนี้เป็นวันที่ผมรู้สึกอบอุ่นมากเลย ถึงจะกลับบ้านไปแล้วพ่อแม่จะยังทะเลาะกันต่อก็เถอะ แต่ผมคิดค้นวิธีจะลดเสียงรบกวนแล้วล่ะ แค่ผมคิดถึงพี่หมี เสียงทะเลาะของพ่อแม่ก็เบาลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่รู้ว่าพี่หมีจะปลอบคนอื่นอย่างนี้ทุกคนรึเปล่า แต่ว่าผมก็ดีใจนะที่เขาเลือกมาปลอบผม พี่หมีเป็นผู้ชายอายุ 24 ตัวสูงแถมเสียงก็นุ่ม ผมรู้แค่นั้นแต่ผมก็รู้สึกอยากกลับไปหาเขาทุกวันแล้วล่ะ
วันหลังถ้าผมจะวิ่งหนีพ่อแม่ไปสวนนั่นอีก คงมีเหตุผลอื่นที่จะไปที่นั้นด้วย ไปหาพี่หมีไง
คิดถึงพี่หมีจัง
-ลูกอม-
-----------------------------------------
สวัสดีจ้า ใบเตยจ้า 555
แต่งเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกที่กำลังท้อขึ้นมา แล้วที่ห้องมีพี่หมีตัวใหญ่อยู่ก็เลยคิดออกมาได้ 55
เรื่องสั้นนี้มีสองตอนค่ะ ตอนหน้าจะให้พี่หมีเล่าว่าเขาเป็นใครมาจากไหน
เจอกันจ้า ><
-
พี่หมีน่ารักมากกกกกกกกกกก >///<
-
พี่หมีมาอยู่กับเค้าม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย :hao3:
-
อยากได้พี่หมีบางงง
-
สนุกมาก ชอบๆ น่ารักๆยังไงไม่รู้ มาต่อด่วนนนนน o13
-
สองตอน!! ตอนหน้าก็จบแล้ว :mew6:
มานั่งรอฝั่งพี่หมีค่ะ น่าร้ากกกกกกก จบแฮปปี้เลยนะคะ พลีสสสสสสสสสสสส
-
o13 :katai2-1: :mew1:
รอเฉลยนะคะน้องใบเตย อยากกอดพี่หมีจังเลยง่า
-
เป็นเรื่องที่เชียร์อยากให้มีตอนพิเศษ (ตอนพิเศษจะเยอะกว่าตอนหลัก5555)
-
น่ารักก :กอด1:
-
พี่หมีนั่ลล้ากกกกก อยากมีไว้ที่บ้านจัง
-
พี่หมีน่าร๊ากกกกกกก
-
:กอด1: อยากมีพี่หมีไว้กอดที่บ้านจัง
-
น่ารักก น้องลูกอมกับพี่หมี
-
พี่หมี :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
-
พี่หมีน่ารัก :o8: :o8: :o8: :o8:
-
พี่หมี :L2:
-
รอค่าาาา
-
พี่หมีน่ารักจัง :-[
อยากอ่านต่อแล้วววว สนุกมากๆเลย
:heaven :heaven :heaven
-
พี่หมี :กอด1: :n1:
รอครับ
-
หลงรักพี่หมีด้วยคน :กอด1:
-
พี่หมีน่ารักมากๆๆ
-
พี่หมีน่ารักมากอ่ะแต่ทำไมไม่คุยกะน้อง
-
น่ารัก พี่หมีน่ารัก อยากรู้จักพี่หมีแล้ว :กอด1:
-
อร๊ายยยย อยากได้พี่หมีไปกอดจิงๆ มาต่อไวๆน้า พี่หมีน่ารักมาก :mew1:
-
พี่หมี :-[
-
พ่อซึน(!?) ....
-
กรี๊ดดดดดด พี่หมี ขอแบบนี้สักตัวเถอะ :hao7: :hao7: :hao7:
-
อินกับลูกอม บ้านเราก็เป็นแบบนี้ :ling3:
-
ขอเป็นเรื่องยาวได้ไหม พี่หมีน่ารักเกินนนนนนนน
-
พี่หมีแอบชอบน้องมานานแล้วหรือเปล่า?
-
พี่หมีน่ารักมากเลย