พิมพ์หน้านี้ - ไม่น่าใช่..รัก --ตอนพิเศษครับ--
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: ลิงภูเขา ที่ 14-03-2014 21:50:03
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
:catrun:
Intro
คุณเคยไหม..ที่อยู่ๆก็รู้สึกไม่ชอบหน้าใครบางคนอย่างไร้เหตุผล...
สำหรับตัวผมเองมีอยู่คนหนึ่ง คือ แมกไพ นักร้องชื่อดังที่ทุกคนไม่ว่าเพศไหน อายุเท่าไหร่ ก็ต้องรู้จัก
ด้วยหน้าตาหล่อเหลาแบบลูกครึ่งที่สาวๆ คลั่งไคล้ และรูปร่างสุดแสนเพอร์เฟค ที่แม้แต่ผู้ชายด้วยกันก็ต้องอิจฉา
ต่างจากผมที่รูปร่างเล็กกว่าผู้ชายทั่วไป รวมทั้งหน้าตาที่หวานกว่าผู้หญิงบางคน จนผมรู้สึกน้อยใจแม่ที่ให้ตา จมูก ปาก รวมถึงไอ้คิ้วเรียวๆ แบบนี้มา
ฟ้าช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ที่ให้ผมและมันเกิดมาแตกต่างกันได้มากขนาดนี้ หรือจะเรียกความรู้สึกแบบนี้ว่า..
ความอิจฉา!!
ทั้งที่เราเป็นนักร้องค่ายเดียวกัน เพลงก็แนวเดียวกัน มีงานที่ไหนก็มักจะถูกจัดให้ไปด้วยกัน แต่พอมีผลโหวตอะไร มันมักจะได้ชนะผลโหวตทุกครั้ง ส่วนผมกลับถูกจัดไปรวมกับพวกนักร้องหญิงซะอย่างนั้น
นี่ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย !!
นั่นคือเหตุผลส่วนหนึ่ง (หรือเปล่า?) ที่ทำให้ผมไม่ชอบขี้หน้ามัน และทั้งๆ ที่ผมเหม็นขี้หน้ามันขนาดนี้ ทำไมตอนนี้ถึงได้มาเห็นหน้ามันตั้งแต่ตื่นนอนด้วยว่ะ.. ผมลุกขึ้นมาก่อนจะมองสำรวจไปรอบๆ นี่มันไม่ใช่ห้องผม เตียงนี่ก็ไม่ใช่เตียงของผม แล้วผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
จำได้ว่าเมื่อคืนมีงานเลี้ยงที่บริษัท ผมไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะกับมันเลยหนีไปนั่งรวมกับพวกพี่ๆ สาว(แก่)ในบริษัท เลยถูกพวกเจ้ๆ บังคับให้กินเหล้า แต่เพราะผมไม่ค่อยได้แตะของมึนเมาพวกนี้เท่าไร หรือเรียกง่ายๆ ว่าคออ่อน นั่นแหละ ผมเลยเมามาก เมาแบบที่เขาเรียกกันว่าเมาปลิ้นนั่นละ
"ปวดหัวชิบหาย" ผมทุบหัวตัวเองเบาๆ
ขี้เกียจจะนึกแล้วว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ก่อนที่มันจะตื่นขึ้นมา ผมควรพาตัวเองกลับบ้านให้ไวที่สุด
และทันทีที่ผมยันตัวขึ้น ก็รู้สึกเจ็บแปลบตรงสะโพก ไม่สิรู้สึกปวดไปทั้งตัวเลยต่างหาก เกิดอะไรขึ้นกับผมกันว่ะเนี้ย หรือว่าไอ้บ้าที่นอนอยู่ข้างๆ ผมมันเป็นคนทำ
"มึงกระทืบกูเหรอว่ะ" ผมถามมันเบาๆ ก่อนจะก้มลงมาสำรวจร่างกายตัวเอง
"ไอ้เหี้ย มึงทำไรกูว่ะเนี้ย"
ดูตัวผมดิ..รอยห่าไรว่ะเนี้ย เป็นรอยแดงเต็มตัวเลย ถ้าโดนชกมันก็ต้องเป็นรอยใหญ่กว่านี้ดิว่ะ นี่มันรอยเล็กๆ หรือมันจะนั่งหยิกกูว่ะ
แม่ง..โรคจิตชิบหาย
คงนั่งหยิกกูทั้งคืนเลยอ่ะดิ เชี้ย!!
แถมยังถอดเสื้อผ้ากูจนหมดอีก แม่งคิดจะเอาให้แน่ใจเลยสิว่ะ ว่าหยิกกูให้ช้ำแล้วแน่นอน
ผมรีบหยิบเสื้อผ้าตัวเองที่กองอยู่ข้างเตียงเพื่อมาใส่ แต่หากางเกงในไม่เจอ ช่างแม่งเหอะ แค่กางเกงในตัวเดียว เอาตัวให้รอดก่อนตอนนี้ ขืนมันตื่นมาแล้วอยากกระทืบผมแทนนั่งหยิกแบบเมื่อคืน ผมคงสู้มันไม่ได้ จะหนีก็คงไม่ทัน เล่นปวดไปทั้งตัวแบบนี้ ผมใส่เสื้อกับกางเกงแบบลวกๆ ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้คู่กายที่กองอยู่หน้าประตูห้องมันออกมา
"ฝากไว้ก่อนเหอะมึง กูเอาคืนมึงแน่ เล่นกูซะเจ็บขนาดนี้"
จะว่าไป..ผมก็ไม่แปลกใจเท่าไร ที่มันทำแบบนี้กับผม เพราะมันอาจจะไม่ชอบขี้หน้าผมเหมือนๆ กับที่ผมไม่ชอบขี้หน้ามันก็ได้ แต่ไอ้เรื่องที่มันมาเล่นผมทีเผลอแบบนี้
แม่ง..ไม่แมนเลย อย่าให้ผมเอาคืนได้นะ
มันเจ็บหนักแน่!!
Ma-NuD_LaW
-
ถามจริง โดนหยิก หรือโดน ยิกๆ :hao7:
นายเอกพาซื่อนะ
:z13: จิ้มๆ คนเขียน
ปล. ชื่อเรื่อง คิดได้สองแง่ สองง่าม 555
-
เฮ่ยยยยยยยยย ใสซื่อ หรือซื่อบี้อฟระ
-
:mc4: :mc4: :mc4:
คงเหมื่อยแย่ หยิกทั้งคืน
-
:hao7: นายเอกอินโนเซนต์เกิ๊น
เกลียดอะไรได้อย่างนั้นนะ
-
โธ่!! ซื่อบื้อ!!
อยากเป็นลม :mew5:
ไม่รู้จะขำก่อนหรือจะเวทนานางก่อน :jul3: :laugh:
-
ใส่ซื่อ? หรือ ซื่อบื้อ? ค่ะ....
:mew5:
ต่อไวๆนะ สนุกดี
ฮาเบาๆ อุ๊ป
:mew4:
-
Chapter 1
~หลังจากนั้น 1 อาทิตย์~
ผมเพิ่งได้เสนอหน้าออกมานอกห้องตัวเองเป็นวันแรก หลังจากไอ้รอยแดงๆ บนตัวผมมันเริ่มจางจนมองไม่เห็นแล้ว
มันทำผมไว้แสบมาก..ไอ้รอยตามตัวนี่ไม่เท่าไหร่ แต่ตรงคอนี่ดิปิดยังไงก็ปิดไม่มิด ไอ้ครั้นจะใส่เสื้อคอเต่าหรือใช้ผ้าพันคอในหน้าร้อนแบบนี้ผมก็คงโดนหาว่าบ้าแน่ๆ ยังดีที่ช่วงนี้ไม่มีงานเลยไม่ต้องมานั่งหาข้ออ้างเพื่อจะเบี้ยวงาน
วันนี้พี่ผึ้งคนที่ดูแลผมนัดมาเจอผู้จัดการคนใหม่ เพราะตอนนี้พี่ผึ้งต้องดูแลผมและศิลปินคนอื่นอีกสามคน ซึ่งมันหนักมากสำหรับคนๆ เดียว เจ้แกเลยแก้ปัญหาด้วยการเตะผมออกโดยให้เหตุผลว่าดูแลแต่ผู้หญิงง่ายกว่าเพราะตั้งแต่ทำงานมาก็เคยดูแลแต่ศิลปินหญิง
แล้วทำไมบริษัทถึงต้องให้เจ้แกมาดูแลผมตั้งแต่แรกด้วยเล่า?
“แล้วเขาส่งใครมาดูแลผมแทนเจ้อ่ะ”
“พี่ฟ้า..ปูนรู้จักพี่ฟ้าไหม”ดูเจ้แกดิตอบไปยิ้มไป อารมณ์ดีสุดๆ เลยดิที่เขี่ยผมทิ้งได้
“พี่ฟ้าคนที่ดูแลแมกไพอ่ะนะ” ผม
“ใช่ๆ ปูนโชคดีสุดๆ เลยนะรู้ไหม พี่ฟ้าแกเป็นคนขอบอสดูแลปูนเองเลยนะ แถมแมกไพยังยอมให้พี่ฟ้ามาดูแลปูนด้วย ปกตินักร้องที่ดังแบบแมกไพไม่จำเป็นต้องใช้ผู้จัดการส่วนตัวร่วมกับใครเลยนะ”
“แล้วจู่ๆ ทำไมพี่เขาถึงอยากมาดูแลผมอ่ะ”แล้วเจ้แกก็หันซ้ายหันขวาก่อนจะเอามือป้องปาก (ท่าประจำเวลาเจ้แกจะเม้าคนอื่น)
“รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ ได้ข่าวว่าพี่แกชอบสะสมเด็กหนุ่มน่ารักๆ น่ะ ตอนที่แกถูกส่งไปดูแลแมกไพนะ เขาเม้าส์กันให้แซ่ดว่าคุณเธอร่ำไห้อยู่หลายวัน เพราะแมกไพน่ะหล่อเว่อร์ไปไม่ใช่สเปกแก แถมยังต้องทิ้งน้องวินคนที่แกดูแลคนก่อนด้วย”
ผมพยักหน้าตอบเป็นเชิงเข้าใจ
วิน..ผมรู้จักนะ เคยคุยกันสองสามครั้ง เขาเป็นผู้ชายตัวเล็กน่ารักๆ ถ้ามองผ่านๆ ก็ผู้หญิงดีๆ นี่แหละ
“อร๊าย..พี่ฟ้าหวัดดีค่ะ”เจ้แกถลาเข้าไปสวัสดีพี่ฟ้าทันทีที่มาถึง
ดูดิ..กราบแทบอกเลย = =”
ได้ข่าวว่าเมื่อกี้ยังเม้าส์พี่เขาอยู่เลยนะ มิตรภาพของพวกผู้หญิงนี่น่ากลัวชะมัดเลย
“นี่น้องเปียกปูนค่ะ ปูนนี่พี่ฟ้านะจ๊ะ”น้ำเสียงดัดจริตได้อีกนะเจ้
พี่ฟ้าดันตัวเจ้แกออกก่อนจะมองสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“คนนี้เหรอ..เปียกปูน น่ารักแบบที่นายบอกจริงๆ ด้วย”พูดจบก็เข้ามาลวนลาม เอ๊ย! ลูบแก้มผม
พี่เขาพูดว่าน่ารักแบบที่นายบอก..แล้วใครบอกกันล่ะ?
“หึหึ”ผมคิดว่าตัวเองได้คำตอบแล้วครับ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะอำมหิตของมัน
แมกไพ!!
“ต๊าย..แมกไพก็มาด้วยเหรอค่ะ”ผมเห็นเจ้แกพุ่งเข้าไปหามันเลยนะ แต่มันก็ไวพอตัว หลบเจ้แกได้ทันทีเหมือนกัน จนเจ้แกเกือบหน้าทิ่มเลยอ่ะ โหดสัด!!
ว่าแต่มึงมายืนอยู่ข้างๆ กูทำเหี้ยไรเนี้ย???ผมมองมันด้วยหางตาก่อนจะหลบไปยืนหลังพี่ฟ้า ผมไม่ได้กลัวมันหรอกนะ แค่ถอยมาตั้งหลักเฉยๆ
“มึงมาทำไม”ผมถามมัน มันไม่ตอบครับ หันไปคุยกับพี่ฟ้าเฉย
“พี่ไปคุยเรื่องคิวงานเลยดิ มัวแต่ชักช้าอยู่นั่นแหละ”แล้วมันก็ดันหลังพี่ฟ้าให้นั่งลงข้างๆเจ้ผึ้งในห้องประชุม พอผมจะตามไปนั่ง มันก็ลากผมออกมานั่งรอที่โซฟาด้านนอกเฉยเลย
“ลากกูมาทำเหี้ยไร กูจะไปคุยกับพวกพี่ๆ เขา”มันไม่ตอบอีกแล้วครับเอาแต่กุมมือผมไว้
“ปากมึงอ่ะมีไหม ถามอะไรก็ไม่ตอบ”
“ปากกูมี แล้วมันก็ไม่ได้มีไว้พูดอย่างเดียวด้วย”พูดจบมันก็ยื่นหน้าเข้ามาซะใกล้เลย ผมเลยรีบดันหน้ามันออกไป
“มึงจะทำอะไร”มันไม่ตอบเอาแต่ยิ้มแล้วจ้องหน้าผม
“มองหน้ากูทำไม”
“กูกำลังคิดว่า อยากทำกับมึงแบบคืนนั้น”
ทำแบบคืนนั้น?
ทำอะไรว่ะ?
อ่อ...
“นี่มึงคิดจะหยิกกูอีกแล้วเหรอ”
“หยิก?”มันทำหน้าเอ๋อใส่ผมเลยครับ หึหึ..มันคงนึกว่าผมโง่จนไม่รู้ว่าตัวเองโดนทำอะไรตอนเมาสินะ
“มึงอย่านึกว่ากูเมาจนไม่รู้อะไรนะ..หยิกกูซะแดงทั้งตัวแบบนั้น แถมวันนี้กูไม่ได้เมาจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ด้วย กูไม่ยอมให้มึงทำกูฝ่ายเดียวหรอก มึงหยิกกูถีบ”
“ฮะๆๆๆ นี่มึงคิดว่าไอ้รอยแดงๆ บนตัวมึง มันเป็นเพราะโดนหยิกเหรอ”
“ก็เออดิ มึงคิดกูว่าโง่หรือไง”แล้วมันก็เอาแต่ขำครับ ไม่รู้จะขำเหี้ยไรนักหนา ผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย
“มึงขำเหี้ยอะไรนักหนา กูชักจะรำคาญแล้วนะ” ผมถาม
“ขำความปัญญาอ่อนของมึงไง แต่ก็น่ารักดีว่ะ กูชอบ” มันตอบ
“น่ารักเหี้ยไร พูดอะไรไม่รู้เรื่องเลยนะมึงเนี้ย”สาบานเลยว่าไม่เคยเจอใครที่พูดจาเข้าใจยากเท่ามันมาก่อนเลย
“งั้นกูทำให้มึงดูเลยละกัน จะได้เข้าใจง่ายๆ” มันว่า
แล้วมันก็เอาปากมันมาประกบปากผม แบบนี้เขาเรียกว่าจูบ..ผมรู้จักนะ
แล้วจู่ๆ มันก็สอดลิ้นเข้ามาในปากผมอ่ะ นี่มึงจะทำอะไรของมันว่ะ..เอาลิ้นมาเกี่ยวลิ้นกูอยู่ได้ กูเริ่มจะหายใจไม่ออกแล้วนะโว้ย ผมพยายามผลักมันออกทั้งที่ตอนนี้แขนผมแทบไม่มีแรงด้วยซ้ำ แม่ง..สูบวิญญาณกูไปด้วยหรือไงว่ะ?
รับรองว่าตอนนี้หน้าผมเขียวแล้วอ่ะ ผมทุบไหล่มันแรงๆ สองสามที มันถึงยอมปล่อย
ผมรีบสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดทันที แบบนี้มันก็เรียกว่าจูบนะ แต่เป็นจูบสวาปาม!!
ทำเอาผมเกือบตายอ่ะ...แล้วใจผมมันจะเต้นแรงไปไหนว่ะ ท่าจะกลัวตายจริงๆ แค่นี้ก็ต้องตื่นเต้นอ่ะ ขายขี้หน้าชะมัด!!
“ตอนแรกกูนึกว่ามึงเมาเลยจูบมั่ว ที่แท้จูบไม่เป็นนี่เอง”มันพูดเบาๆ แต่ผมได้ยินครับ
“มึงว่าใครว่ะ”
“ก็ว่ามึงแหละ ไม่เคยจูบกับใครเลยหรือไงว่ะ”
มะ..มันรู้ได้ไงว่าผมไม่เคยจูบกับใคร แม่ง..จะรู้มากไปแล้วนะมึง
“เคยสิว่ะ เยอะด้วย”มันหัวเราะอีกแล้วครับ เรื่องอะไรผมจะยอมให้มันมาหัวเราะเยาะผมล่ะ
“กูพูดจริงนะโว้ย กูเคยจูบผู้หญิงมาเป็นร้อยคนแล้ว”
“เยอะขนาดนั้นเชียว งั้นมึงมาสอนกูหน่อยดิ”
“ใช่เรื่อง..”คิดจะข่มกู..เป็นไงล่ะมึง อึ้งเลยอ่ะดิ ฮ่าๆๆๆๆๆ
“เออ..กูถามไรหน่อยดิ ทำไมนักร้องดังอย่างมึงถึงยอมใช้ผู้จัดการคนเดียวกับกูอ่ะ”
มันมองหน้าผมแล้วยิ้มอีกละ จนผมเริ่มสงสัยว่าตัวเองหน้าเหมือน เท่ง เถิดเทิง หรือเปล่า
“ผัวเมียใช้ผู้จัดการคนเดียวกันไม่เห็นจะแปลก”
“ผัวเมียเหี้ยไรอีกล่ะ มึงนี่มันมีปัญหาเรื่องการสื่อสารจริงๆ เลยนะ”
ผมชักจะรำคาญมันจริงๆ แล้วละ แม่งพูดไม่รู้เรื่อง
และก่อนที่ผมจะได้ด่ามันอีก พวกพี่ๆ แกก็ออกมาพอดี
“คุยกันท่าทางสนุกเชียว พี่คุยกับพี่ฟ้าเสร็จแล้ว ปูนอยู่กับพี่ฟ้าก็อย่าดื้อนะ กินข้าวให้ตรงเวลาด้วย”เจ้ผึ้งครับ พูดจบก็ทำท่าปาดน้ำตาแล้ววิ่งไปเลย
อยากชิ่งผมนานแล้วอ่ะดิ ก็แน่ละ..เจ้แกเป็นเลสเบี้ยนนิ คงอยากจะดูแลผู้ชายแบบผมหรอก
“ได้ดูแลเด็กน่ารักแบบน้องปูนแล้ว ดีใจจัง”ส่วนนี่พี่ฟ้าครับ พูดจบก็เนียนๆ มาเกาะแขนผม
“ไปหาไรกินกันไหม พี่เลี้ยงเอง”
“ไม่ดีกว่าครับ พอดีผมมีธุระต่อ”คือจริงๆ ผมขี้เกียจไปโดนเจ้แกลวนลามอ่ะ (เรียกเจ้ซะเลย)
“ว้า..แย่จัง งั้นเราไปกันเหอะแมกไพ”เจ้ฟ้าทำหน้าไม่สบอารมณ์ครับ
“ไว้เจอกันนะจ๊ะ น้องปูน” เจ้แกว่า ผมมองตามเจ้แกที่เดินงอนๆ จากไปอย่างโล่งอก
“พี่แกคลั่งพวกอิมเมจเคะแบบนายมาก เพราะพี่แกเป็นสาววายตัวแม่” มันพูดบ้าอะไรที่ผมไม่เข้าใจอีกแล้ว อะไรคือสาววาย อะไรคือเคะ ว่ะ??
“เอ่อ..แล้วอย่าลืมไปเอากางเกงในที่มึงลืมไว้ด้วย กูซักให้แล้ว”
ผมชูนิ้วกลางขอบคุณในความหวังดีของมัน
แม่งชอบกวนตีนกู สัด!!
Ma-NuD_LaW
ขอบคุณครับ :pig4:
-
เรื่องนี้น่ารักดีนะคะ
ตามมาอ่าน..ยาวๆ แบบนี้ชอบจังเลย
-
Chapter 2
ผมค่อยๆ พาตัวเองออกมาจากลิฟต์ รู้สึกหมดเรี่ยวแรง..จนยกขาให้เดินแทบจะไม่ไหว เป้ที่สะพายอยู่บนหลังก็รู้สึกเหมือนจะหนักกว่าทุกวัน
“อีกนิดเดียว..นิดเดียวก็จะถึงแล้ว”ผมพูดเบาๆ เพื่อให้กำลังใจตัวเอง แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนพื้นมันกำลังหมุนจนผมแทบทรงตัวไม่อยู่
“เฮ้ย..มึงเป็นอะไร”มีใครบางคนมาช่วยพยุงผมไว้
“หน้ามืด”ผมตอบได้แค่นั้นจริงๆ ครับ เขาเลยช่วยพยุงผม (เกือบๆ อุ้ม) ให้เดินต่อไปจนถึงหน้าห้อง
“กุญแจห้องล่ะ”
“ในกระเป๋า”นั่นคือคำสุดท้ายที่ผมพูด ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไปพร้อมกับสติของผม
กลิ่นอะไรอ่ะ..หอมเหมือนบะหมี่เลยแฮะ
ผมลืมตาขึ้นมาเมื่อได้กลิ่นหอมๆ ของบะหมี่รสหมูสับที่ผมชอบ ตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่บนโซฟาในห้องตัวเอง ผมมานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
จำได้ว่าผมรู้สึกเหมือนจะเป็นลม แล้วก็มีคนมาช่วยเอาไว้ ถ้างั้นแสดงว่า..ไอ้กลิ่นหอมๆ นี่ เขาก็กำลังทำอะไรให้ผมกินอยู่สินะ ใจดีสุดๆ เลย ผมรีบลุกขึ้นแล้วตรงไปที่ครัวทันที
“ตื่นแล้วเหรอมึง หิวยัง?” มันถาม
“กูต้มบะหมี่ไว้ให้ เพราะห้องมึงไม่มีอะไรเลยนอกจากบะหมี่กับน้ำเปล่า” มันว่าต่อ ผมได้แต่ยืนมองหน้ามัน
“มึงมาได้ไง” ผม
“มึงถามคนที่ช่วยมึงแบบนี้หรอว่ะ” นั่นไง…..รีบทวงบุญคุณเลยเชียว
“กูหมายถึงว่ามึงมาทำไรแถวนี้” ก็คอนโดมันอยู่ไกลจากที่นี่จะตาย จะว่ามันบังเอิญผ่านมาก็คงไม่น่าใช่
“ก็มึงไม่ยอมไปหากู กูเลยต้องมาหามึง” มันว่า
“แล้วมึงมาหากูทำไม?” ผมถาม
“กูเอากางเกงในมาคืน” ดูมัน..แค่กางเกงในผมตัวเดียวก็ต้องถ่อสังขารเอามาให้ถึงนี่
แม่งโคตรงี่เง่า!!
“กางเกงในกูตัวเดียวมึงไม่ต้องลงทุนมาถึงที่นี่ก็ได้”
“แต่กูก็เอามาให้มึงแล้ว..จบป่ะ เลิกพูดมากได้แล้ว จะกินไหมบะหมี่เนี้ย”
ผมถลึงตาใส่มันก่อนจะนั่งลงกินบะหมี่รสหมูสับที่ผมชอบ ส่วนมันก็เดินมานั่งลงตรงหน้าแล้วเอาแต่จ้องหน้าผม จ้อง..จนผมเริ่มเขิน
“มองเหี้ยไรว่ะ” ผมถาม
“ไม่ได้มองเหี้ย กูมองมึง” แม่งตอบกวนตีนอีก
“กูรู้แล้วว่ามึงมองกู แต่ที่กูถามคือมึงมองกูทำไมว่ะ” ใจเย็นไว้กู..ใจเย็นไว้
“กูก็แค่อยากมองหน้าเมีย” มันบอก
“เมีย..เมียอีกแล้ว สองครั้งแล้วนะที่มึงเรียกกูแบบนี้ มึงหมายความว่าไงว่ะ”
“ฮะๆๆๆ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้กูอยากรู้มากกว่าว่าทำไมมึงถึงเป็นลมแบบนั้น” มันถาม
ผมอยากจะบ้า..มันแกล้งๆ ทำเป็นลืมไม่ได้หรอว่ะ ผู้ชายเป็นลมน่าอายชิบหาย ยังเสือกมาถามตอกย้ำอีก
“ที่กูถามอ่ะได้ยินไหม ทำไมไม่ตอบ” มันถามย้ำ
“ช่างมันเหอะ..มึงลืมๆมันไปไม่ได้เหรอว่ะ” ผมว่า
“ถ้าไม่บอก มึงก็ไม่ต้องกิน” มันดึงตะเกียบออกไปจากมือผม
“แต่นี่มันบะหมี่กู กูเป็นคนซื้อมาอ่ะ” ผมท้วง
“แต่กูเป็นคนต้ม” ดูความปัญญาอ่อนของมันสิครับ คนยิ่งหิวๆ อยู่ แม่ง!!
“กูหิวข้าวยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า กูเลยไม่มีแรง..แล้วก็เป็นอย่างที่มึงเห็น พอใจป่ะ ที่นี้กูจะกินได้ยัง” มันยื่นตะเกียบคืนให้ผม ผมเลยรีบคว้ามาคีบเส้นบะหมี่ใส่ปากคำใหญ่ๆ
“ค่อยๆกิน เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอกมึง หิวก็ไม่รู้จักแวะซื้ออะไรกิน มึงบ้าป่าวว่ะ”
“ไม่ใช่ว่ากูไม่แวะ กูแวะแล้วโว้ย”เหมือนบะหมี่จะติดคอ ผมยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ก่อนจะพูดต่อ
“กูอยากกินข้าวหน้าเป็ด..อุตส่าห์ยืนรอต่อคิวตั้งนาน พอถึงคิวเจ้าของร้านดันเสือกจำหน้ากูได้แล้วทักซะเสียงดัง เลยโดนรุมขอลายเซ็น ขอถ่ายรูป กว่าจะฝ่าฝูงชนออกมาได้ กูหิวไส้แทบขาด แต่พอมาถึงคอนโด..ก็ดันมาเจอลุงคนนึงกำลังคุ้ยขยะอยู่ แล้วลุงแกก็ดันหยิบเศษข้าวในกล่องโฟมมากิน กูทนดูไม่ได้เลยยกข้าวหน้าเป็ดให้แกกับเงินอีกพันนึง”พูดซะยาวเลยกู..เหนื่อยชิบ
“พันนึง” มันพูดซะเสียงดัง แม่งต้องหาว่าผมงกแน่ๆ ที่ให้ไปแค่พันเดียว
“กูไม่ได้งกนะเว้ย แต่ทั้งตัวกูมีอยู่แค่นั้น”
“กูยังไม่ได้ว่าอะไรเลย คิดมากอีกแล้วนะมึงเนี้ย” มันว่า ผมถลึงตาใส่มันอีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้ากินต่อ
“มึงนี่นะ..หิวแทบตายยังเสือกมีน้ำใจห่วงคนอื่นอีก” มันเอามือมาขยี้หัวผม
“ทำตัวน่ารักแบบนี้ เดี๋ยวกูไปต้มบะหมี่เพิ่มให้ รอแปบ” มันว่า
“สอง” ผมตะโกนไล่หลัง มันหันมามองผมแบบสงสัย
“ขอเพิ่มอีกสองห่อ” มันพยักหน้าก่อนจะเดินไป ไม่นานมันก็ออกมาพร้อมบะหมี่ชามโต ผมซัดจนพุงปลิ้น
“ความจริงมึงก็เป็นคนดีกับเค้าเหมือนกันนะเนี้ย” ผมเอ่ยปากชมขณะที่ดูมันล้างจาน
“ความจริงมึงไม่ต้องล้างก็ได้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็มีแม่บ้านมาทำให้” ผมว่า
“นี่มึงไม่เคยทำเองเลยเหรอว่ะ” มันเก็บจานใบสุดท้ายเข้าที่ ก่อนจะเอามือเปียกๆ เช็ดกางเกงตัวเอง
“เคยดิ..แต่มันแตกหมดทุกใบ” พอได้ยินคำตอบผมมันก็ขำก๊ากเลย แม่งไม่เคยคิดว่าผมจะอายเป็นบ้างไงว่ะ
“น้ำยาล้างจานมันลื่นเหอะ ไม่รู้มันทำมาจากอะไร..พอโดนมือแล้วจับอะไรมันก็ร่วงไปหมด” ผมว่าต่อ
“ไปอยู่กับกูดิ เดี๋ยวกูสอนให้” มันว่า
“พูดเหี้ยไรของมึง” ผมลุกขึ้นจะถีบมัน แต่มันเสือกรู้ทันเอามือมาจับข้อเท้าผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ไอ้เชี้ย มึงปล่อยกูเดี๋ยวนี้เลย” ผมด่า
“เกเรนักนะมึงอ่ะ” มันออกแรงดึงขาผม จนตัวผมเซเข้าไปหามัน
“มึงจะทำอะไรว่ะ?” ผม
“กูรำคาญเสียงมึง มันทำกูแสบแก้วหู” มันว่า
“ทำไมไม่หัดพูดให้มันเพราะๆ เหมือนเวลาที่มึงร้องเพลงมั้งว่ะ” มันว่าต่อ
“ก็กูพอใจ..มีไรป่ะ” ผมตอบ
“ฮึ!!” มันยิ้มมุมปากก่อนจะก้มลงมาจูบปากผม
และเป็นเพราะผมไม่ทันได้ตั้งตัวมันเลยสอดลิ้นเข้ามาในปากผมได้ง่ายๆ ไวเท่าความคิดผมใช้ลิ้นดันลิ้นมันออกไปทันที ตั้งใจจะให้มันเอาลิ้นมันออกไปแต่กลับกลายเป็นทำให้มันชอบใจซะอีก
แม่ง..เหมือนผมกำลังจูบแลกลิ้นกับมันอยู่เลยอ่ะ!!
ผมเลยคิดจะกัดลิ้นมันแทน แต่ผมก็กลัวมันเจ็บ ทำไมผมต้องกลัวมันเจ็บด้วยละเนี้ย ตกใจในความคิดของตัวเองจริงๆ
ผมปล่อยให้มันจูบจนพอใจ จากจูบรุนแรงก็ค่อยๆ เบาลงจนผมรู้สึกว่ามันเป็นจูบที่นุ่มนวลสุดๆ เท่าที่ผมเคยเจอมาเลย แต่ผมก็เคยจูบกับมันแค่คนเดียวนี่หว่า แล้วผมจะเอามาตรฐานอะไรมาวัดว่ะ???
“จูบเป็นแล้วนี่” มันพูดหลังจากที่ปล่อยผมเป็นอิสระแล้ว แต่มันก็ยังเอาจมูกมาคลอเคลียอยู่ที่แก้มผม
“สัด!!”นึกคำที่จะด่ามันไม่ออกครับ แม่ง..ใจผมมันเต้นแรงอีกแล้ว
“ปากดีได้ตลอดเลยนะมึง”แล้วมันก็ก้มลงมาจูบผมอีก
คราวนี้มันไม่สอดลิ้นเข้ามา แค่ดูดริมฝีปากเบาๆ พอผมเริ่มจะเคลิ้มๆ มันก็กัดริมฝีปากผมซะงั้นอะ!!
“ไอ้เหี้ย..กัดปากกูทำไมว่ะ”
“กูหมั่นไส้ปากมึง..ชอบทำกูเสียอารมณ์ตลอด คราวหน้ากูจะกัดให้ได้เลือดเลยมึง” มันขู่เสียงเข้ม
“สัด”ผมมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง
“สัดๆๆๆๆๆๆ”ด่ารัวเลยครับ โมโหทำไรมันไม่ได้
“เมียกูพูดไม่เพราะเลยว่ะ” มันว่า
“ไอ้เหี้ยแมกไพ กูไม่ใช่เมียมึง”หงุดหงิดโว้ย เมียๆๆอยู่ได้ กูเป็นผู้ชายนะโว้ย
“สงสัยกูต้องทบทวนความจำให้มึงหน่อยละ จะได้จำได้ซักทีว่ามึงอ่ะเมียกู” พูดจบมันก็ค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาหาผม ผมถอยหลังหนีมันอย่างหวาดๆ นี่มันจะทำอะไรผมว่ะ???
แม่งจะกระทืบกูอีกแน่ๆ เลย ทำไงดีว่ะ..กูเพิ่งฟื้นไข้ซะด้วย สู้มันไม่ไหวแน่ๆ
ผมเดินถอยหลังหนีมันไป คิดหาวิธีเอาตัวรอดไป แล้วผมก็สะดุดกับพรมจนล้มลงไป
บนโซฟา มันขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้แล้วกักผมไม่ให้หนีไปไหนด้วยแขนของมัน
ซวยแล้วไหมล่ะ..กู!!
Ma-NuD_LaW
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งอ่ะครับ .. แต่งจบแล้ว :katai5:
เดี๋ยวทยอยๆ ลงครับ :hao7:
-
ตอนต่อไปมาเร็วๆ :call:
-
นายเอกเรื่องนี้น่ารักอ่า :mew1:
รีบลงไวๆน้า
-
ยังซึนอยู่นายเอกของเรา
-
เคยลงแล้วใช่ป่าวเรื่องนี้
ไม่ได้อ่านนาน...แต่จำไอ้โดนหยิกเนี่ยแหละได้
นี่หนูซื่อหรือหนูบื้อห๊ะเปียกปูน5555
-
โอ๊ย!!!!!!!! ฮาความคิดแต่ล่ะอย่างของนายเอก
ตั้งแต่รอยหยิกล่ะ คิดได้ไง ถ้าเป็นผู้หญิงนี่กว่าจะรู้ว่าพระเอกชอบคงท้องแล้วมั๊ง5555++
-
สรุป อินายเอกมันก็ยังไม่รู้ว่าเสียตัว?
ตาพระเอกก็ย้ำคำว่าเมียหลายครั้ง มันก็ยังทึ่ม
เออดีว่ะ น่าจะทำอีกสักสามสี่ที (ขำอ่ะ)
เอานะ รอตอนต่อไป :hao7:
-
ความคิดหนูปูนโคตรน่ารักเลยคุณพระ
โดนหยิก!!!!?
ฮ่าๆๆ น่ารักอะ
รอต่อนะคะ
-
Chapter 3
ตอนนี้ผมรู้สึกถึงคำว่าอันตรายสุดๆ เลยครับ หนีไปทางไหนก็ไม่ได้เพราะมันกักผมไว้ด้วยแขนของมันแถมยังก้มลงมาจ้องหน้าผมใกล้ๆ จนผมรู้สึกถึงลมหายใจของมันที่เป่ารดแก้มผม
เอาไงดีว่ะ..งานนี้ผมคงไม่รอด ต้องโดนกระทืบจนปวดไปทั้งตัวแบบคืนนั้นแน่ จะสู้กับมันก็คงไม่ไหว..ตัวใหญ่หยั่งกะควาย
แม่ง..จะตัวใหญ่ไปไหนว่ะ !!
“น่ารัก” มันพูดเหมือนคนกำลังละเมอ ผมเลยเอามือไปตบหน้ามันเบาๆ เพื่อเรียกสติ
“ละเมออะไรมึง”
“กูบอกว่า มึงน่ารัก”มันพูดย้ำ แล้วจ้องตาผมนิ่ง
“กูรู้แล้ว ใครๆ ก็บอกกูแบบนี้”ผมเขินครับ..ไม่รู้ว่าจะเขินไปทำไม มันก็ไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้สักหน่อย
ตั้งแต่จำความได้ก็ถูกชมว่าน่ารักมาตลอดทั้งที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกเขินจนถึงขนาดต้องหลบตาใครแบบนี้มาก่อนเลย เป็นแค่กับมัน..ไม่รู้ทำไม
“เขินเหรอ” มันถาม
“เปล่า”ผมตอบ
“แต่มึงหน้าแดง” มันว่า
“กะ….กูร้อน” ผมตอบ แล้วมันก็ขำ เพราะตอนนี้แอร์ในห้องผมมันโคตรจะเย็น
“ฟอด!!” มันก้มลงมาหอมแก้มผมแรงๆ
“หอมเมียแล้วชื่นใจว่ะ” มันว่า
อ๊าก..ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมไม่ทำอะไรบ้างว่ะ ปล่อยมันพูดอะไรทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ได้ คงเพราะตอนนี้ผมไม่มีแรง..เอาว่ะมันอยากทำอะไรปล่อยมันทำ คงไม่ทำกันจนถึงตาย
“จะทำอะไรก็รีบๆ ทำ มึงทับกูจนจะหายใจไม่ออกแล้ว”
“หึ…..”ผมหันกลับไปมองหน้ามัน
“ขำอะไรของมึง”
“มึงรู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”มันถามผม
“เออ” ผมตอบ
แล้วมันก็อมยิ้ม ก่อนจะก้มลงมาประกบปากผม มันพยายามจะสอดลิ้นเข้ามาแต่ผมเม้มปากแน่นไม่ยอมให้มันเข้ามาง่ายๆ
“เปิดปาก”มันสั่ง ผมนิ่ง
“ไหนมึงบอกให้กูรีบทำไง” มันถาม
“ยกเว้นจูบ”ผมตอบมัน
“ทำไม”มันจ้องหน้าผมแบบคาดคั้นเอาคำตอบ
“มึงกัดปากกู”ผมว่า
“งั้นกูกัดอย่างอื่นแทน”มันพูดน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“ไม่ใช่ดิ ต้องเรียกว่าหยิกถึงจะถูก”พูดจบมันก็กดจมูกลงบนแก้มผมแรงๆ ก่อนจะลากลงมาที่คอผม
ผมรู้สึกจั๊กจี้นิดๆ ขนลุกไปทั้งตัวเลย ไม่นานก็รู้สึกเย็นๆ ที่คอ
“มึงทำไรว่ะ”ผมเดาว่ามันน่าจะกำลังเลียคอผมครับ แต่ไม่แน่ใจเท่าไร
แล้วไม่นานผมก็รู้สึกเหมือนโดนกัด
มันกัดคอผมอ่ะ!!
แม่งเป็นแวมไพน์ชัวร์ๆ ผมเอามือจิกหัวมันเพื่อให้มันปล่อยผม
“อะไรของมึงอีกว่ะ” มันถามด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไร
“อ้าปากดิ”ผมออกคำสั่ง
“ทำไม..มึงเปลี่ยนใจให้กูจูบแล้วหรือไง” มันถาม
“กูบอกให้อ้าปาก”มันทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ยอมอ้าปากให้ผมดู
ผมเอามือจับแล้วขยับริมฝีปากบนและล่างของมันเพื่อมองหาเขี้ยว
“ไม่เห็นมีเขี้ยว” ผมบ่นกับตัวเอง
“แล้วทำไมกูต้องมีเขี้ยวด้วยว่ะ”มันถาม
“ก็มึงเป็นผีดูดเลือด มึงกัดคอกูเมื่อกี้”มันลุกไปนั่งลงข้างๆ ตัวผม
“มึงคิดออกมาแต่ละอย่าง กูอยากจะบ้า!” พูดจบก็เอามือทึ้งหัวตัวเอง
“กูก็แค่สงสัย” ผมลุกขึ้นมานั่ง มองมัน
“ตกลงมึงไม่ทำอะไรกูแล้วใช่ไหม” กลัวจนหายกลัวแล้วครับตอนนี้
“ทำ” มันตอบ แล้วหันกลับมากดผมลงไปนอนกับโซฟาเหมือนเดิมก่อนจะขึ้นมาคร่อมตัวผม
“หยุด! พอ! เลิกถาม เลิกสงสัย อยู่เฉยๆเป็นพอ” มันว่า ผมพยักหน้าให้มันเป็นคำตอบ
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำอะไร บอกจะหยิกก็ไม่หยิก ไอ้ครั้นจะกระทืบมันก็น่าจะลากผมลงไปกระทืบที่พื้นมากกว่าบนโซฟา
“เริ่มจากจูบ” มันว่า แล้วก้มลงมาจูบปากผม ผมอ้าปากให้มันสอดลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นตัวเองอย่างไม่ขัดขืน
ผมรู้สึกว่าตัวเองชักจะติดใจจูบของมันขึ้นมาแปลกๆ ถึงครั้งแรกจะรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงไปนิด แต่ครั้งต่อๆ มามันก็ให้ความรู้สึกที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
มันผละจากปากผมแล้วลงไปวุ่นวายที่คอผมแทน มันใช้จมูกสูดกลิ่นสลับกับลากลิ้นเลียไปทั่วซอกคอผม มันทำให้ผมนึกถึงเวลาเราดื่มชา เราต้องสูดกลิ่นมันก่อนจะดื่ม ผมเกิดความสงสัยจนอยากจะถามมันว่า
มึงกำลังชิมกูอยู่เหรอ?
แต่พอนึกได้ว่ามันสั่งให้ผมหุบปากเลยได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ ความจริงมันก็รู้สึกดี..ไม่ใช่จั๊กจี้อย่างเดียว
มันผละจากคอผมแล้วจูบเน้นที่ปากอีกครั้ง ก่อนจะเลิกเสื้อผมขึ้นมาจนถึงอก ผมรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ถึงไม่รู้ว่ามันจะทำอะไร แต่ร่างกายมันกลับแสดงออกถึงความกลัวและอยากรู้ไปพร้อมๆ กัน
มันค่อยๆ จูบลากลิ้นบนหน้าท้องผม บ้างก็ขบเม้มเบาๆ ไล่เรื่อยมาจนถึงอก
หัวใจผมตอนนี้มันเต้นแรงมาก..จนรู้สึกเหมือนมันจะระเบิดออกมา อยากจะบอกให้มันหยุดทำแบบนี้กับผม..แต่ปากมันก็ไม่ยอมขยับ จะผลักมันออกไปแขนก็กลับไม่มีเรี่ยวแรง
มันพรมจูบไปทั่วอกผมก่อนจะกัดหรืออะไรก็ไม่รู้ ตอนนี้สติผมมันเริ่มกระเจิดกระเจิงแล้ว เกิดความรู้สึกอะไรไม่รู้แปลกๆ แยกแยะอะไรไม่ออก
พอมันลากลิ้นมาบนยอดอกผม สติที่เหลือที่อยู่เพียงน้อยนิดก็แทบจะหายไปจนหมด ปากผมมันก็คอยแต่จะครางเสียงแปลกๆ ออกมา ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่นไม่อยากให้มันได้ยินเสียงน่าอายแบบนี้
“มึงกำลังยั่วกูอยู่..รู้ตัวไหม”มันพูดกับผม แต่นิ้วมันกลับขยี้อยู่ที่ยอดอกผมไม่ห่าง
“สัด!..มึงจะทำอะไรกู”ผมถามเน้นมันทีละคำ
แม่ง..สมองผมเบลอไปหมดแล้วตอนนี้
“เดี๋ยวมึงก็รู้” มันพูดจบก็ก้มลงไปดูดหัวนมผม
“เชี้ย..กู..รู้..แล้ว”ผมสูดเอาออกซิเจนเข้าปอดก่อนจะพยายามพูดต่อ
“มึง..มึงกำ..ลัง..หิว” ผมว่าต่อ มันหัวเราะในลำคอก่อนจะกัดเข้าที่หัวนมผมอีกรอบ ผมตบหัวมันก่อนจะจิกผมมันขึ้นมา
“มึงกัดทำเหี้ยไร กูไม่ใช่แม่ลูกอ่อนจะได้มีน้ำนมให้มึงกิน” ผมด่า
“หิวก็ไปหาอะไรกินในครัวนู้น” ผมว่าต่อ พูดจบก็ลูบหน้าอกตัวเอง...แม่งโคตรเจ็บ
มีความเป็นไปสูงที่มันจะหิว ก็ไอ้ตอนที่ผมกินมันก็ไม่กิน เอาแต่นั่งมองหน้าผมอยู่นั่น
“กูอยากกินมึง” ให้ตายเหอะ..ไอ้นี่มันหิวจนหน้ามืดไปแล้ว จะมากินผมได้ไง ผมเป็นคนนะโว้ย
“มึงหิวมากแล้ว ไปๆ เดี๋ยวกูต้มบะหมี่ให้”ผมดันตัวมันออกแต่มันขืนตัวไว้แล้วกดไหล่ผมลง เราผลักกันไปมาจนกลิ้งตกจากโซฟามาทั้งคู่
ปัญหาคือ..ไอ้บ้าแมกไพมันดันหล่นมาทับตัวผมนี่สิครับ หลังยอกเลยอ่ะ!!
“มึงลุกดิ! กูหนัก”มันไม่ตอบเอาแต่จ้องผมนิ่งเหมือนคนกำลังขาดสติ
ผมเอามือดันตัวมันออกแต่มันกลับรวบแขนผมทั้งสองข้างขึ้นไว้เหนือหัวก่อนจะดึงเสื้อผมที่มันลู่ลงมาให้กลับขึ้นไปเหนืออกอีกครั้ง แล้วละเลงลิ้นบนยอดอกผม ส่วนมืออีกข้างของมันก็ลูบไปทั่วตัวผม
ผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เนื้อตัวสั่นไปหมด ผมพยายามรวบรวมสติที่เหลืออยู่น้อยนิดคิดว่าตัวเองเป็นอะไร? รู้สึกอะไร?
“มึง..ปะ..ปล่อย..กู..ดิ๊”
ผมพยายามบอกให้มันปล่อย แต่มันไม่ยอมฟัง..ลากมือลงผ่านสะดือจนไปถึงน้องชายผม
“อุ๊บ!!!” ผมกลั้นเสียงตัวเองไว้
“หึ!!........”มันหัวเราะก่อนจะปลดตะขอกับซิบกางเกงผม
“อยากให้กูปล่อยอยู่ไหม”มันสอดมือเข้ามาแล้วครับ
“ปล่อย!” ผม
“มึงแน่ใจนะ” มันบีบน้องชายผม จนผมรู้สึกจุกไปหมด
“แน่ใจดิ…ไอ้เหี้ย” ผมด่า แต่มันกลับเอาแต่จ้องตา
“กูปวดเยี่ยว..รีบปล่อยกูเลย ไม่งั้นกูจะเยี่ยวมันตรงนี้แหละ”มันยอมปล่อยผม แล้วนั่งขำตัวงออยู่ข้างๆ
ผมแยกเขี้ยวใส่มัน ก่อนจะรวบขอบกางเกงตัวเองไว้แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำ
ขำกูจริ๊ง..เดี๋ยวแม่งเยี่ยวใส่ซะเลยนิ สัด!!
Ma-NuD_LaW
ใช่ครับ .. เคยลงแล้วแต่ลงไม่จบ :katai5:
เรื่องนี้นายเอกปัญญาอ่อน ส่วนพระเอกก็หื่น .. :z1:
อ่านเรื่อยๆ สบายๆ ไม่เครียดครับ :-[
ไม่ติดธุระจริงจัง จะมาลงทุกวันครับ ((เพราะแต่งจบแล้ว)) :katai5:
ขอบคุณทุกความเห็นจ้า +เป็ด :pig4:
-
อะไรจะอินโนเซ้นขนาดเน้
-
นายหลอกปล้ำเด็กอ่ะเปล่า 5555
-
น้องปูนมีชีวิตรอดบนโลกใบนี้มาได้อย่างไร
อย่างเอ๋ออะ แต่น่ารักค่อดดดดด :hao5:
-
จำได้ตรงหยิกเนี่ยแหละ 555
-
:m20: นายเอกอินโนเซนต์สุดๆเลยนะ
-
Chapter 4
แกร๊ก~
ผมกดล็อคประตูทันที กันไอ้บ้าข้างนอกมันจะตามเข้ามาแกล้งผมอีก ก่อนจะรีบหันหน้าเข้าหาชักโครก ปลดกางเกงลง
“ปวดฉี่ชิบหาย” ผมบ่นกับตัวเอง
ฟิ้ว~*
10 วินาทีผ่านไป~
20 วินาทีผ่านไป~
“สัด..ทำไมฉี่ไม่ออกว่ะ” ผมพยายามเบ่งฉี่อยู่หลายรอบ แต่พยายามเท่าไรก็ฉี่ไม่ออก ผมเป็นอะไรเนี้ย?
“แม่งนิ่วแดกแล้วมั้ง”
ทรมาน..ทรมานชิบหาย ฉี่ไม่ออกแบบนี้ ผมไม่น่าละเลยสุขภาพของตัวเองเลย น่าจะเชื่อที่พี่ผึ้งบอกว่าให้ไปตรวจสุขภาพทุกปี
ทำไงดีว่ะ!
ผมเดินวนไปวนมาในห้องน้ำ ไม่รู้จะทำยังไงกับไอ้อาการปวดหนึบๆ แบบนี้ หรือเป็นเพราะมันบีบน้องชายผม ผมเลยฉี่ไม่ออก ฮึ้ย..เป็นเพราะมันแน่ๆ เลย
ผมจะเป็นหมันไหมว่ะ?
ก๊อกๆ
มันเคาะประตูครับ
“เป็นไง..ฉี่ไม่ออกสิมึง” เชี้ย!! มันรู้ได้ไงว่ะ แสดงว่าที่มันบีบน้องชายผมเมื่อกี้ทำให้ผมฉี่ไม่ออกจริงๆ สินะ
“มึงทำอะไรกู” ผมตะโกนถามมัน
“เปิดประตูดิ เดี๋ยวกูบอก”
“เปิดกูก็ควายแล้ว บอกมาเร็วๆ มึงทำอะไรกู” คิดแล้วไม่มีผิดมันทำอะไรผมว่ะ
“เปิดประตู เดี๋ยวกูช่วยมึงเอง” มันว่า
“ช่วย..ช่วยเหี้ยไร ในเมื่อมึงเป็นคนทำ”ผมว่า
“ฮึ..รู้ด้วยเหรอว่ากูเป็นคนทำ แล้วรู้ไหมว่ากูทำอะไร”
อ๊าก..ไอ้บ้านี่มันจงใจกวนประสาทผมชัดๆ
“ปูน เปิดประตู”
เรียกชื่อกูด้วย..ลงทุนจริงนะมึง
“ปูน”แม่งจะเรียกอะไรนักหนาว่ะ..คนกำลังตัดสินใจอยู่โว้ย
ผมจะเชื่อใจเปิดประตูให้มันดีไหมเนี้ย..เกิดมันทำอะไรผมขึ้นมาจะทำยังไง แต่มันรู้นี่นาว่าผมเป็นอะไร สับสนโว้ย..สับสน
แล้วจู่ๆ มือผมก็เอื้อมไปปลดล็อคลูกบิดประตูอย่างไม่มีเหตุผล ผมรู้สึกงุนงงกับการกระทำของตัวเองจนเผลอปล่อยขอบกางเกงที่ผมรวบเอาไว้
“เปิดปุ๊บ ยั่วกูปั๊บเลยนะมึง”มันว่าแล้วเดินเข้ามาประชิดตัวผม
“...”ส่วนผมได้แต่อึ้งแดก
“เป็นไรมึง”มันตบเบาๆ ที่แก้มผม
ผมยืนนิ่งทั้งที่หัวใจเต้นแรง ทำไมผมรู้สึกแปลกๆ ทำไมถึงรู้สึกอยากให้มันแตะต้องตัวผมมากกว่านี้ แถมน้องชายผมมันยังปวดหนึบมากกว่าเดิมอีก
“ปูน”มันเรียกซ้ำ
“ช่วยกูที” อ๊าก..ผมพูดอะไรออกไปเนี้ย
“ฮึ!” มันหัวเราะก่อนจะปิดฝาชักโครกแล้วดันตัวผมนั่งลง
“กูเป็นไรไม่รู้..มันฉี่ไม่ออก”ผมบอกมันด้วยน้ำเสียงแบบเดียวกับที่ผมใช้อ้อนแม่
มันยิ้มก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าผม
“เดี๋ยวแมกจะช่วยปูนเองนะ”
ท่าทีอ่อนโยนกับสรรพนามที่เปลี่ยนไป ทำหัวใจผมสั่น
“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก”มันปลอบ
“มึง เอ่อ..คุณจะทำยังไง จะช่วยผมยังไง” มันไม่หยาบ ผมก็เลยไม่กล้าหยาบอ่ะ
“ไร้เดียงสาจัง” มันลูบหัวผม
“แมกผิดเองที่ใจร้อน แทนที่จะค่อยๆ สอนปูน”มันว่า
“คุณจะทำผมเจ็บไหม” แค่เยี่ยวไม่ออกก็ทรมานจะแย่แล้ว อย่ากระทืบกูเลยนะ พลีส~*
“จะสอนให้ทีละอย่างละกัน”มันยิ้ม
“ข้ามจูบ เพราะคงรู้จักแล้ว” มันว่าต่อ ผมพยักหน้า รู้สึกว่าตัวเองดูเชื่องๆ ยังไงไม่รู้
มันดึงแขนผมไปก่อนจะใช้ลิ้นเลียลงบนท่อนแขนแล้วงับลงไป ผมรู้สึกถึงแรงดูดบนแขน มันไม่เจ็บ..ไม่ปวดตรงที่โดนกัดแต่กลับรู้สึกร้อนๆ ที่หน้าแทน ไม่นานนักมันก็ปล่อยแขนผมให้เป็นอิสระจากปากมัน แล้วชี้ให้ผมดูตรงที่มันกัด
“นี่เค้าเรียกว่า รอยคิสมาร์ก” ผมมองท่อนแขนตัวเอง รอยจ้ำแดงๆ ที่คล้ายกับที่เกิดบนตัวผมวันนั้น
“ไม่ใช่รอยหยิกเหรอ”ผมถาม มันยิ้ม
“คิดว่าแมกใจร้ายขนาดนั่งหยิกปูนทั้งคืนเหรอ”ผมพยักหน้า มันลูบหัวผมอีกครั้ง
“แมกไม่ใจร้ายแบบนั้นหรอกครับ” มันตอบ
“แล้วทำไปทำไมล่ะ ไอ้รอยคิสมาร์กเนี้ย”ผมถาม หรือมันจะกลัวว่าผมจะมีงานมากกว่ามัน มันเลยทำให้ผมเป็นรอยทั้งตัวจะได้ออกไปไหนไม่ได้
“มันเป็นวิธีการแสดงความเป็นเจ้าของ” มันว่า
“มึงเห็นกูเป็นหมาเหรอว่ะ ทีหลังก็ใส่ปลอกคอให้กูด้วยเลยดิ”โมโหแล้วครับ..ไม่พูดดีด้วยแล้ว
“ท่าจะต้องสอนกันยาว”มันส่ายหน้าพูด
“ไม่ต้องสอนแล้ว กูอึดอัดจะตายอยู่ละ ไปหาหมอง่ายกว่า” ผมว่ายิ่งโดนจ้อง..ยิ่งปวดฉี่ กระเพาะปัสสาวะผมต้องมีปัญหาแน่ๆ
“หมอช่วยอะไรไม่ได้หรอก” มัน
“หยั่งกะมึงช่วยได้” ผม
“กูช่วยมึงได้” พูดจบมันก็ดึงกางเกงในผมออกทันที
“เชี้ย..มึงจะทำอะไร”ผมเอามือกุมเป้าตัวเองไว้ ตั้งแต่เกิดจนโตมานอกจากแม่แล้วยังไม่เคยมีใครเห็นปูนน้อยของผมเลยนะเว้ย!!
“อายทำไม..ทำหยั่งกะกูไม่เคยเห็น” มันว่า พูดงี้ขึ้นเลยครับ ผมยกขาจะถีบมันแต่มันดันรู้ทันเอี้ยวตัวหลบได้ซะงั้น
“เกเรว่ะ” แม่งด่ากูอีก
เบื่อตัวเองโว้ย..ทำอะไรไม่ถนัด จะไปหยิบกางเกงมันก็เหวี่ยงของผมไปซะไกลเลย ความจริงก็ผู้ชายเหมือนกันผมไม่เห็นจะต้องอาย แต่ทำไมผมโคตรอายเลยอ่ะตอนนี้
“เห็นไหมว่ากูไม่สบาย อย่าแกล้งกูดิ๊” ผมว่า ในเมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ผล ลองใช้ไม้อ่อนกับมันดู
มันไม่ตอบแต่พยายามดึงมือผมออก ผมกุมมือแน่นแล้วหนีบขาไว้
“อย่าดื้อสิ” มันว่า
“ก็..กูอาย” เสียงอ่อยเลยผม
“กูกำลังจะช่วยมึงนะ” มันลูบต้นขาผม
“เอามือออกสิ” มันว่าต่อ
“ก.....กู”ผม
“เชื่อใจกูสิปูน”มันจ้องตาผม
แววตาของมันบอกอะไรบางอย่างที่ผมเองก็ยังไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมเอามือออกโดยดี และทันทีที่ผมเอามือออก น้องชายของผมมันก็เด้งขึ้นมาให้ผมต้องขายหน้า
“สงสัยกูคงจะปวดฉี่ เดี๋ยวนี้กูปวดบ่อยมาก ไม่รู้ว่ามันจะผิดปกติหรือเปล่า”ผมว่า
“บางวันตื่นเช้ามากางเกงก็เปียก จะไปหาหมอกูก็อายเค้าว่ะ แบบว่าโตเป็นควายแล้วยังฉี่ราดอยู่ไรงี้” ผมบอกมันเบาๆ รู้สึกเขินๆ ยังไงไม่รู้ ก็มันเล่นทำท่าตั้งอกตั้งใจฟังผมขนาดนี้
“เรื่องปกติ” พูดจบมันก็เอามือมาจับน้องชายผมแล้วรูดขึ้นลง
“อ๊ะ!!!..มึง..ทำ..ทำอะไร” ผมว่า
“แสดงว่าไม่เคยช่วยตัวเองเลยอะดิ” มันถาม
“ช่วย..อ่า..ช่วยตัว..ตัวเอง..คืออะไร” ผมตอบ
สติผมกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว ปากก็ครางเสียงแปลกๆ ออกมา ผมเอามือปิดปากตัวเองแน่น..เบือนหน้าหลบสายตามัน
“ไม่ต้องอายปูน กูอยากเห็นหน้ามึง”ผมไม่อยากยอมรับเลยว่ารู้สึกดีแค่ไหนกับสัมผัสที่มันมอบให้
ผมเอนตัวรับสัมผัสจากมือมันทั้งที่ไม่กล้ามองหน้า แล้วมันก็หยุดขยับมือซะเฉยๆ ทำเอาผมอารมณ์ค้าง
“ปูนมองหน้ากูสิ” มันว่า ผมไม่เข้าใจมันเลยจะเอาอะไรกับผมนักหนาว่ะ !!
เข้าใจบ้างว่ากูอาย..กูอาย ผมตะโกนบอกมันในใจก่อนจะค่อยๆ หันไปมองมัน ก็ไปสบตากับมันเข้าพอดี มันยิ้มให้ผม
“อย่าหันหน้าหนีกูอีก” มันมองผมเหมือนรอคำตอบ
เมื่อผมพยักหน้า มันก็ใช้ปากของมันครอบครองน้องชายผมทันที
“มะ..มันสกปรก”มันจ้องตาผมก่อนจะเริ่มขยับ
ผมจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองอยากจะพูดอะไรต่อ ตอนนี้สติที่เคยมีเหลืออยู่น้อยนิดก็หายไปหมดแล้ว เสียงครางไม่เป็นศัพท์กับมือที่ขยุ้มอยู่บนเส้นผมของมัน ขยับไปตามจังหวะที่มันเป็นคนควบคุมเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ที่ผมไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ ไม่นานผมก็รู้สึกเหมือนบางสิ่งบางอย่างในตัวผมมันกำลังจะระเบิดออกมา
“ไม่ไหวแล้ว….กูรู้สึกเหมือนจะปวดฉี่ มึงถอยออกมาเร็ว!!” ผมว่า
“ฮึ!” มันหัวเราะในลำคอแต่ปากยังคงอมน้องชายผมไม่ปล่อย ก่อนที่ตัวผมจะเกร็งกระตุก
อย่าบอกนะว่าผมฉี่ใส่ปากมันไปแล้ว !! แต่มันทำให้ผมรู้สึกโล่งแบบแปลกๆ
ผมมองหน้ามันอย่างรู้สึกผิด..สักพักก็มีน้ำสีขาวขุ่นๆ ไหลล้นปากมันออกมา มันถอนปากออกไปก่อนจะใช้หลังมือเช็ดที่มุมปากตัวเอง
“กูขอโทษ” ผมบอกมันอย่างรู้สึกผิดจริงๆ
“กูช่วยมึงแล้ว..ถึงตามึงช่วยกูบ้าง” มันว่า ผมยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก
ช่วย..ช่วยอะไรว่ะ ให้ผมทำแบบที่มันทำให้ผมเหรอหรือว่ายังไง?
“มึงจะให้กูอม…..” ผมก้มลงมองที่เป้ามันแทน เพราะกระดากปากเกินที่จะพูด ได้แต่ภาวนาขอให้มันล้อเล่น ผมทำไม่เป็นนะเว้ย !!
มันจ้องตาผมแล้วส่ายหน้า ผมค่อยโล่งอกหน่อย
“ให้กูเข้าไปในตัวมึงนะ” มันพูดเหมือนกระซิบ
“เข้าไปตรงนี้” มันว่าต่อ แล้วเอานิ้วจิ้มก้นผมแรงๆ
“มะ..มึงล้อเล่นใช่ไหม!!!” ผมว่า
Ma-NuD_LaW
นายเอกของผมไม่รู้จักกระทั่งฝันเปียก o6
+เป็ดคนอ่าน :hao7:
-
อะไรออกมาแทนฉี่ล่ะลูกกกกกก :haun4:
แมกช่วยปูนแล้ว ปูนช่วยแมกบ้าง
แมกปวดฉี่ 55555555 :hao6:
-
:a5: นายเอกมันโตขึ้นมาได้ยังไง
-
ปูนจะยอมไหมหนอ?
-
Chapter 5
“มะ..มึงล้อเล่นใช่ไหม!!!” มันส่ายหน้า
“กะ..กูกลัว” บอกมันตามจริงครับ ทั้งสงสัยทั้งกลัว
แม่ง..จะทำอะไรผมก็ไม่รู้
“ไม่ต้องกลัวปูน ไม่เจ็บเท่าครั้งแรกหรอก” ครั้งแรก..ครั้งไหนว่ะ ผมไม่เห็นจะเข้าใจ
“มึงหมายความว่าไง” ผมถามมัน
“ฮึ..” มันหัวเราะ..ก่อนจะเข้ามาวุ่นวายแถวซอกคอผม
“หมายความว่าไง” ผมดันตัวมันออกห่าง..จ้องหน้ารอคำตอบ
“พูดไปมึงก็ไม่เข้าใจหรอก กูถึงจะทำให้ดูนี่ไง” มัน
“ทำยังไง” ผมถามต่อ
“มึงช่วยเงียบๆสักพักได้ไหมปูน” มันบอกผมแบบหน่ายๆ
“ก็กูสงสัย” ไรว่ะ ถามแค่นี้ก็ไม่ได้
“มึงรำคาญกูเหรอ” แอบน้อยใจนะเนี้ย กลัวมันจะตอบว่าใช่ แต่มันก็ไม่ตอบอะไรเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาดึงเสื้อผม
แม่ง..กะจะลอกคราบผมทั้งตัวเลยอ่ะ!!
“ไม่แฟร์” ผมบ่นเบาๆ
“อะไรไม่แฟร์” ไอ้นี่หูดีจริงๆ ขนาดผมพูดโคตรเบาแล้วนะเนี้ย
“มึงไง..ดูกูดิเหลือเสื้อแค่ตัวเดียวมึงก็ยังจะเอาไปอีก ทีตัวมึงเองอยู่ครบทุกชิ้น” ผมว่า
“อยากเห็นหุ่นกูก็ไม่บอก ทะลึ่งจริงเมียกู” มันพูดแล้วยิ้ม
“ถ้าอย่างกูเรียกทะลึ่ง แล้วอย่างมึงเรียกว่าอะไรว่ะ” ผม
“เกลียดปากมึงจริงๆ” พูดจบมันก็รั้งคอผมไปจูบ
ผมปล่อยมันจูบตามใจ เพราะมือผมมันไม่ว่างต้องคอยดึงชายเสื้อมาปิดปูนน้อยเอาไว้
“อื้อ~” ผมส่งเสียงให้มันรู้ว่ากำลังหายใจไม่ออก..มันถึงยอมปล่อย
“ไหนบอกเกลียดปากกูไง..จูบเอาๆ อยู่ได้ วันนี้มึงจูบกูกี่ครั้งแล้ว” ผมบ่นมันแต่มันกลับเอาแต่หัวเราะ หมั่นไส้มันจริงๆ ไม่รู้จะขำอะไรนักหนา
“ขำอะไร ปากกูเปื่อยหมดแล้วเนี้ย” จะเอามือมาจับปากตัวเองดูก็ไม่ได้
ผมเลยทำปากยื่นๆ หวังว่าจะมองเห็น แต่นอกจากจะมองไม่เห็นแล้ว ยังโดนหมากัดปากอีกต่างหาก
“ปากกูแตกหมดแล้วมั้งเนี่ย ปล่อยดิ๊” ผมบอกมันแล้วตั้งท่าจะลุกไปส่องกระจก แต่มันไวกว่าลุกขึ้นยืนกดไหล่ผมลงไปนั่งที่เดิม
“อย่ามาเจ้าเล่ห์กับกู.....ปูน” มันบอกเสียงเข้ม
แม่ง..รู้ทันกูตลอด!! ผมกะจะชิ่งเข้าห้องนอนแล้วล็อคประตูหนีมันซะหน่อย
“วันนี้กูจะทำให้มึงจำเรื่องระหว่างเราให้ได้ แล้วอีกอย่าง..” มันมีหยุดให้ผมได้ลุ้นเล่นๆ
“อีกอย่างไร” ผมถามกลับ
“ตรงนี้ของกู มันก็คิดถึงมึงมากด้วย” มันพูดเสียงกระเส่า แล้วดึงมือผมไปลูบตรงน้องชายมันผ่านกางเกง ด้วยความตกใจผมเลยรีบชักมือออก
คิดถึง..คิดถึงเหี้ยไร ผมเพิ่งรู้ว่าไอ้ตรงนั้นมันก็มีสมองคิดด้วย แสดงว่าปูนน้อยของผมมันก็ต้องมีสมองด้วยน่ะสิ!! ดีเลย..วันหลังเวลาเหงาๆ จะได้ชวนมันคุยบ้าง..
“คิกๆ” ขำในความคิดของตัวเอง เพิ่งรู้ว่าตัวเองปัญญาอ่อนขนาดนี้
“ขำไรปูน” มันถาม ผมยิ้ม
“ยังไงก็จะทำใช่ไหม งั้นมึงถอดเสื้อก่อน ให้กูโป๊คนเดียวกูก็อายดิ” ผมบอกมันพร้อมส่งยิ้มหวานให้
ตอนแรกมันก็มองผมแบบไม่ไว้ใจ แต่สุดท้ายก็ยอมถอด แล้วผมก็ใช้จังหวะที่มันกำลังถอดเสื้อวิ่งออกจากห้องน้ำตรงไปที่ห้องนอนทันที
“เฮ้ย!!! จะหนีไปไหน” มันตะโกนไล่หลัง
ผมไม่สนใจวิ่งอย่างเดียว ได้ยินเสียงมันวิ่งตามมาแต่ยังไงก็ไม่ทันผมหรอก
ปัง!
แกร๊ก!
“รอดแล้วกู” ผมสบถ แล้วถอนหายใจอย่างโล่งอก
ปังๆ!!!! มันเคาะประตู
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยมึง” มันว่า
“เปิดให้โง่ดิ”ผมตอบมันไป
“ปูนมึงอย่ากวน ถ้ากูเข้าไปได้ กูจะเอาให้ลุกไม่ขึ้นเลยมึง” มันพูดเน้นเสียงตอนท้าย
“แน่จริงมึงพังประตูเข้ามาดิ” อยากตบปากตัวเองเสือกไปท้ามันอีก แต่มั่นใจประตูห้องผมมันแข็งแรง มันเข้ามาไม่ได้หรอก
“เปิดประตู” มันตะโกนคำนี้ซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายรอบ
“ฝากไว้ก่อนเหอะ” ผมเอาหูแนบประตู ได้ยินเสียงมันเดินไป แล้วตามมาด้วยเสียงปิดประตูห้องน้ำ
ปัง!
“สงสัยมันจะปวดฉี่เหมือนกันมั้ง” ผมยืนขำมันอยู่นาน จนรู้สึกเย็นๆ ตรงช่วงล่าง ลืมไปว่าโป๊อยู่ต้องรีบหากางเกงใส่ !!
หลังจากใส่กางเกงเรียบร้อยแล้วผมก็เดินมานั่งบนเตียงคิดถึงความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้น ทำไมทุกครั้งที่อยู่ใกล้มันหัวใจผมถึงเต้นแรง แถมเรื่องในห้องน้ำอีก..มันพูดอะไรบอกอะไรผมก็ยอมทำตาม ทั้งที่ปกติผมดื้อจะตาย ขนาดแม่บ่นยังไม่สนใจเลย
แปลกใจ..แปลกใจตัวเองจริงๆ
หรือว่าผมจะชอบมัน!!
บ้า..ไม่จริงใช่ไหม? ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย จะชอบผู้ชายด้วยกันได้ยังไง
“ไม่จริ๊งงงงงงงงงง!!” ผมฟุบหน้าลงกับหมอน..บอกตัวเองว่ามันไม่จริง ผมแค่เข้าใจผิดไปเอง
“เกิดมาก็ไม่เคยมีแฟนสักคน แล้วจะรู้ได้ไงว่าชอบหรือไม่ชอบ..เราคงคิดมากไปเอง”พึมพำกับตัวเองก่อนจะเผลอหลับไป
ผมควานหานาฬิกาปลุกรูปแมวที่แฟนคลับซื้อให้ขึ้นมาดู
~07.23~
“เจ็ดโมงจะครึ่งแล้ว”
วันนี้ผมตื่นเช้าจริงๆ สงสัยเมื่อวานจะนอนหลับไวไปหน่อย หลับไปตั้งแต่ตอนที่หนีไอ้บ้าแมกไพเข้ามาในห้องสำเร็จ
“นอนเกินสิบชั่วโมงอีกนะเนี้ย” พูดแล้วยิ้มกับตัวเอง วันหลังนอนไวๆ แบบนี้อีกดีกว่าตื่นมาจะได้สดชื่น
“เฮ้ย..แล้วไอ้บ้านั่นมันไปหรือยังว่ะ” เขกหัวตัวเองไปหนึ่งที มีตัวอันตรายแบบนั้นอยู่ในห้องยังนอนหลับสบายอยู่ได้อีก
ผมลุกขึ้นหันไปมองที่ประตูห้อง เชื่อไหม..ประตูห้องผมมันเปิดกว้างเลยอ่ะ!!
ผมลืมไปว่าเอากุญแจทุกอย่างใส่ไว้ตรงตะกร้าบนโต๊ะข้างทีวี..เดาว่ามันคงเข้าห้องผมได้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ว่าแต่..มันหายไปไหนล่ะเนี้ย???
ผมค่อยๆ ย่องลงจากเตียงมาเกาะขอบประตูดูความเคลื่อนไหวภายนอก
เงียบ..ไร้สิ่งมีชีวิตอื่นในห้องนี้~
ก่อนจะไปสะดุดตากับกระดาษโน๊ตรูปน้องเหมียวที่แปะอยู่หน้าทีวี ผมเดินตรงเข้าไปหยิบมันขึ้นมาอ่าน
‘วันนี้มีงานด่วนต้องรีบไป..เห็นหลับสบายเลยไม่ปลุก ไว้จะโทรหา’ สั้นๆ ได้ใจความ ว่าแต่มันมีเบอร์ผมได้ยังไง???
แต่เอ๊ะ..สายตาเหลือบไปเห็นตัวหนังสือเล็กๆ ตอนท้าย
‘กุญแจห้องมึงอยู่กับกู ไว้ปั๊มเสร็จแล้วจะเอามาคืนให้’ เฮ้ย..ขโมยชัดๆ จะปั๊มกุญแจห้องผมไปทำไม..วางแผนยกเค้าเปล่าว่ะ???
ทรุดเลยผม..วิญญาณออกจากร่างชั่วคราว
ผมนอนกองอยู่บนพื้นหน้าทีวีไว้อาลัยให้ชีวิตสุขสงบของผมเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปชีวิตผมต้องวุ่นวายแน่ๆ ถ้าต้องมานั่งทะเลาะกับมันทุกวัน
ย้ายบ้านหนีดีไหมว่ะ? ไม่ๆ
ขืนอยู่ในไทยมันต้องตามผมไปอีกแน่ๆ
หนีไปอยู่เมืองนอกจะดีหรือเปล่า?
แล้วหน้าที่การงานของผมล่ะ..อัลบั้มแรกของผมกำลังไปได้สวยเลยนะ
ผมมองรูปที่ผมถ่ายคู่กับแม่บนโต๊ะข้างทีวี
“งื้อ..มะม๊าช่วยปูนด้วย ไอ้นักร้องโรคจิตมันรังควานผม” ฟูมฟายอยู่ได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นมา
ติ๊ดๆ
“ใครส่งข้อความมา” ผมเลื้อยไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก
‘1 ข้อความ จาก..คุณสามี’
แล้วผมไปเมมเบอร์ใครด้วยชื่อนี้ตั้งแต่เมื่อไรฟ่ะ???
สงสัยแต่ก็กดอ่าน
‘งานมีปัญหา..คงเลิกดึก เดี๋ยวฝากกุญแจพี่ฟ้าไปคืน อ่อ..กูปั๊มกุญแจห้องกูไปให้พร้อมกันแล้ว’
สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความอีกแล้ว
ดีจัง..จัดการทุกอย่างเสร็จสรรพไม่ถามความเห็นกูเลย แล้วไอ้กุญแจห้องมึงเนี้ย..กูไปอยากได้ตั้งแต่เมื่อไร เอามาให้กูทำไม??? คิดแล้วก็ดิ้นตายบนพื้นหน้าโซฟาเป็นรอบที่สอง
ติ๊ดๆ
ข้อความจากมันอีกแล้ว..ผมกดอ่าน
‘ถึงเลิกดึกก็จะไปนอนกับเมีย..อาบน้ำรอเลยนะครับ’
เอิ่ม..ผมรู้สึกอยากจะตายจริงๆ แล้วล่ะ !!
Ma-NuD_LaW
ขอบคุณครับ :pig4:
-
o22 ขอถามอีกครั้ง นายเอกมันโตมาได้ไง
รู้เรื่องแบบนี้น้อยกว่า ผญ อีก
-
ปูนฮาดี :laugh:
-
โอ้ยยยยยยย ฮาาาาาาาาา
น้องปูนซื่อมากอะ งือออออออออออ
น่าร้ากกกกกกกก :hao5:
-
นายเอกใสๆอ่ะ แต่พระเอกเราไม่ใช่ :hao7:
ถึงขั้นปั๊มกุญแจไว้ คราวหน้าไม่รอดแน่ปูนเอ้ยยยยยย :m20:
-
ดูท่าจะหนีไม่พ้นชัวร์ :hao3:
-
น้องปูนนี่นักร้องหรือดาราตลกเนี่ยอย่างฮาอ่ะ
-
สงสัยน้อปูนจะเกิดมาจาไม้ไผ่ :laugh: :laugh:
-
ปูนคือน่ารัก
-
Chapter 6
“ขะ..เข้ามาในตัวผมสิ”
“ผมรักพี่นะครับ”
“อื้อ...อ่า”
ผมกดปิดคลิบที่ตัวเองอุตส่าห์ลงทุนนั่งโหลดเป็นชั่วโมงๆ แต่กลับทนดูได้ไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
“ลองโหลดแบบอนิเมะดูดีกว่าว่ะ” ผมบ่นกับตัวเอง
ถึงมันจะไม่สมจริงสมจังเท่าแต่ก็น่าจะแทนกันได้แหละน่า..รู้สึกร้อนๆ ที่หน้ายังไงไม่รู้หลังจากดูคลิบ xxx นั่นไปแล้วผมล่ะสงสัยจริงๆ เลยว่าทำไมพวกเพื่อนๆ ผมมันชอบดูกันนัก ไม่เห็นจะมีอะไรน่าดูเลย
“อึ้ย..ขนลุก” ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะกดเปิดคลิบที่เพิ่งโหลดเสร็จดู
“อนิเมะคงไม่น่ากลัวเท่าของจริงมั้ง” บอกตัวเองเหมือนให้กำลังใจ
~10 นาทีผ่านไป~
ผมยังคงนั่งดูอยู่แต่ลากตุ๊กตาแมวเน่าๆ ที่ผมตั้งชื่อให้ว่า ‘ไอ้เอ๋อ’ มาดูด้วย แต่ไอ้เอ๋อมันคงไม่อยากดูด้วยเท่าไร..เพราะมันเอาแต่นั่งคอตกไม่มองจอ สงสัยจะโกรธที่ผมไปงับหูมันตอนดูฉากจูบเมื่อกี้แน่ๆ
“ฮึ้ย..มันกัดคอกันเหมือนที่ไอ้แมกไพมันทำกับกูเลย”
“แบบนี้มันก็เคยทำ”ผมบอกไอ้เอ๋อเป็นระยะๆ
ก็คนมันเขินนี่นา..แล้วทำไมผมต้องเขินด้วยว่ะ แค่การ์ตูนเองหรือจะเขินเพราะมีประสบการณ์หว่า...
“งื้อ..กูก็เคยโดนกัดหัวนม” พูดแล้วตบหัวไอ้เอ๋อจนมันตกเก้าอี้ไปเลย
“ขอโทษๆ” บอกมันก่อนจะอุ้มมันกลับมาวางบนตัก เอาคางไปวางบนหัวมันแล้วดูต่อไป
“โห..พุ่งทะลุหลังคาเลย เว่อร์ชะมัด”
ขนาดฉี่ยังไม่พุ่งแรงขนาดนั้นเลย..การ์ตูนแม่งเว่อร์!!แล้วผมก็เต้นแรง รู้สึกร้อนที่หน้าขึ้นมาเฉยๆ
“ฮึ้ย..ไอ้บ้า กะจะทำแบบนี้กับกูสินะ” ตอนนี้มันมาถึงฉากสำคัญแล้วครับ..ฉากรวมร่างอ่ะ
โอ๊ย! ผมอยากจะบ้า ตกลงไอ้แมกไพมันจะทำแบบนี้กับผมสินะ!!
“ฝันไปเหอะมึง” พูดจบก็ขว้างไอ้เอ๋อกลับไปบนเตียง
“เอาไงดีว่ะ..อยู่นี่ไม่ได้ละ มันมีกุญแจ” เดินวนไปวนมาหาทางเอาตัวรอดพ่อกับแม่ก็อยู่เมืองนอก ญาติในเมืองไทยก็ไม่มีสักคน
‘ถึงเลิกดึกก็จะไปนอนกับเมีย อาบน้ำรอเลยนะครับ’ คิดถึงข้อความที่มันส่งมาแล้วก็หวั่นใจ
ไม่รอด..ไม่รอดแน่กู
ทำไงดี..ผมจะทำไงดี
“ก๊อกๆ”
ผมกระโดดไปหมอบอยู่ข้างเตียงโดยอัตโนมัติ
“ใช่มันเปล่าว่ะ” ผมว่า
แต่มันบอกจะกลับดึกๆ นี่หว่า หรือมันเปลี่ยนใจกลับมาไวว่ะ แต่มันต้องทำงานนี่นา แล้วผมจะมานั่งคิดมากไปเองคนเดียวทำไมฟ่ะ..ออกไปดูเลยสิจะได้รู้ว่าเป็นใคร
ผมลุกออกไปแบบกล้าๆ กลัวๆ สูดหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความกล้าก่อนจะเปิดประตู
“น้องปูน”เรียกซะหวานแถมยังกระโดดกอดผมด้วย
“ดีครับ พี่ฟ้า” โล่งอกสุดๆ ที่เป็นพี่ฟ้า นึกว่าไอ้บ้านั่นมันจะโดดงานเพื่อกลับมารวมร่างกับผมซะอีก!!
“แมกไพฝากกุญแจมาให้เราแน่ะ” บอกเสร็จก็ยื่นพวงกุญแจมาให้ผมดูมันดิ..เอาไปแม้กระทั่งกุญแจห้องน้ำ โคตรนับถือมันเลย!!
“ส่วนนี่..ของแมกไพจ๊ะ” พี่แกยื่นกุญแจให้ผมอีกพวงหนึ่ง
“ผมไม่เอาได้ไหมอ่ะ” ปากบอกแบบนั้น..แต่มือรับมาครับอย่าเข้าใจผิดผมแค่ไม่อยากเสียเปรียบ ไม่ได้คิดอยากจะได้กุญแจห้องมันหรอกนะพี่ฟ้าหัวเราะแบบชอบใจก่อนจะเดินเข้ามานั่งที่โซฟา (ทั้งที่ยังไม่ได้เชิญ)
“พี่ฟ้ามีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ” ถามแบบเสียมารยาทเลย
เพราะปกติผมไม่ค่อยชอบให้ใครมาวุ่นวายในที่ส่วนตัวของผม ข้อนี้เจ้ผึ้งรู้ดี..ตอนที่เจ้แกดูแลผมก็มาห้องผมนับครั้งได้เลย
“คิวงานน่ะ..ผู้ใหญ่อยากให้เปิดเอ็มวีตัวใหม่ นัดถ่ายอาทิตย์หน้าเลย นางเอกก็หาได้แล้วด้วย พี่เลยยกเลิกอีเว้นปูนบางงานนะ”
“ครับ..แล้วแต่พี่เห็นสมควรเลย”ผมบอก
ผมไม่ค่อยเรื่องมากอยู่แล้วครับ..ในเมื่อพี่ฟ้าดูแลผม พี่เขาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ผมอยู่แล้ว อยู่กันบนพื้นฐานของความไว้ใจครับ
“อ่อ..แล้วทานอะไรหรือยัง แมกไพบอกให้พี่พาปูนไปหาไรทานด้วย เพราะห้องปูนมีแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” พี่ฟ้าว่า
เออ..เอาผมไปเผาซะเกรียมเลยนะมันอ่ะ กลับมาเมื่อไรจะทุบให้ เง้อ..ผมดูเหมือนภริยาที่กำลังรอสามีกลับมาบ้านเลยอ่ะ
บ้าจริง!! ลืมไปเสียสนิท ว่ากำลังหาทางหนีมันอยู่
“พี่ฟ้ามีธุระต่อหรือเปล่าครับ” ผมถาม
“ไม่มีแล้วนะเสร็จจากนี่ก็ว่าจะกลับบ้านเลย ปูนมีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ” พี่ฟ้าถาม
“อยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยดิ” พี่ฟ้าทำหน้างงๆตอนแรกก็ถามเหมือนไล่ แต่พอตอนนี้กลับขอให้อยู่เป็นเพื่อนซะงั้น เป็นผมก็คงจะงงเหมือนกัน
“เท่าที่พี่คุยกับผึ้งมา ปูนชอบความเป็นส่วนตัวไม่ใช่หรอ” พูดจบพี่ฟ้าก็ยิ้ม ยิ้มแบบแปลกๆ
“ก็วันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายอ่ะ อยากมีคนอยู่เป็นเพื่อน” ผมว่าแกล้งเอามือกุมขมับ
“ตายจริง แล้วเป็นไรมากมั๊ยเนี้ย” พี่ฟ้าว่าแล้วเอามือมาแตะที่หน้าผากผม
“ไม่เป็นไรนะ อีกเดี๋ยวแมกไพก็มาอยู่เป็นเพื่อน” พี่ฟ้าว่าต่อ
นั่นแหละที่ผมกลัว..พี่ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ ผมล่ะสงสัยไอ้รอยยิ้มแบบนั้นของพี่จริงๆ
“อยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ”ท่าไม้ตายครับ..อ้อน~*
“เล่นละครเก่งเหมือนกันนี่หว่า” ไม่ใช่เสียงพี่ฟ้านี่ผมหันไปมองตามต้นเสียง..ไหนมันบอกจะกลับดึกๆ ไงว่ะ นี่เพิ่งจะบ่ายเองนะ!!
“ไหนมึงบอกเลิกดึกไง” ผมถามมัน
“ก็คิดถึงเมีย..เลยรีบกลับ” ดูมันตอบ..ผมอยากจะบ้า
“สัด” ผมด่ามันแบบไม่มีเสียง
“ปากนี่ก็จัดเหมือนผู้หญิง” มันว่าผมอีก
“น่ารักอ่ะ” พี่ฟ้าพูดแล้วเอาแต่หัวเราะ ขำอะไรเนี้ยขำที่ผมโดนว่าเหรอ แล้วไอ้ที่บอกน่ารักอะไรน่ารักว่ะ งงวุ้ย!!
“แล้วซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย” พี่ฟ้าถามมัน ผมเองก็เพิ่งสังเกตว่ามันถือถุงมาเต็มมือเลย
“พวกของสดน่ะ พอดีเห็นตู้เย็นมันโล่งๆ” แล้วจะมองหน้าผมทำไม หาเรื่องกันนี่หว่า
“ซื้อมาถมที่หรือไงว่ะ เยอะขนาดนี้”ผมแขวะมัน
“ซื้อมาขุนเมีย จะได้อ้วนๆ น่ากอด” มันตอบกวนตีน
“ฮะๆๆๆ งั้นพี่กลับก่อนละกัน” พูดจบพี่ฟ้าก็ทำท่าจะลุก ผมเลยรีบคว้าข้อมือพี่ฟ้าเอาไว้
“อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิครับ” อ้อนเข้าไว้ปูน..เพื่อความปลอดภัย
“ไม่ดีกว่าจ๊ะ พี่อยากกลับบ้าน” พี่ฟ้าว่า ทำลายความหวังผมหมดสิ้น
ที่พึ่งสุดท้ายของผม..เดินออกไปแล้วครับ แถมยังหันมาขยิบตาให้ไอ้แมกไพด้วย ทำไมทำกับผมแบบนี้..
“เสียใจด้วยว่ะ คืนนี้มึงคงไม่รอดแน่” ขู่ผมเสร็จมันก็ขนของเดินเข้าครัวไปเฉย
ผมจะทำไงดีเนี้ย..คงเหลืออยู่แค่ทางเดียว คือเจรจาสงบศึก คิดแล้วก็เดินตามมันเข้าไปในครัว
“มีไรให้กูช่วยไหม” ยิ้มหวานๆ เข้าไว้
“เหอะ”มันเมินใส่ผมอีก
“เย็นนี้จะทำไรให้กินอ่ะ” ยังไม่ยอมแพ้หรอกครับ
“ไข่ลวกไหมมึง” พูดจบมันก็ขำ ส่วนผมงง
“ไม่ชอบไข่ลวกอ่ะ แต่ถ้ามึงอยากกินกูกินก็ได้” พูดเอาใจมันครับ
“ว่าแต่ทำไมมึงกลับมาเร็วจัง อย่าบอกว่าโดดงานมานะมึง”ผมถามมัน
“งานมันเสร็จแล้ว” มันตอบ
“ไหนมึงส่งข้อความมาว่าเลิกดึกไง” ผมถาม
“ส่งมาให้มึงดีใจเล่นๆ” มันว่า
“กวนตีน” อยากตบปากตัวเอง..เผลอปากเสียอีกแล้ว
“นางแบบป่วยกะทันหัน พอใจยัง”มันว่า
“กินผัดผักละกัน มึงกินผักได้ใช่ไหม”
“เออ” ผมตอบมันไป
นี่กูโตแล้วนะ..ดูมันถามหยั่งกะผมสามขวบ
กวนตีน!!
Ma-NuD_LaW
นั่นสินะ.. มันโตมาได้ยังไง :hao7:
ใสๆ ใสๆ ใสๆ ใสๆ ใสๆ
เริ่มแก่แดดนิดๆ ละตอนนี้ :hao6:
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
-
ไม่รอดแหง ๆ 555
-
คุยกับไอ้เอ๋อซะน่ารักเลนอ่ะ 5555555
-
:mew1: :mew1:
เชียร์น้องแมก..ทำให้สำเร็จนะลูก.. :hao6: :hao6:
-
ทะเลาะกันบ่อยๆลูกดกนา :hao3:
-
ถึงกับต้องหาหนังศึกษาดูก่อน ไม่ต้องทำอะไรหรอกหนู
นอนเฉยๆ เดี๋ยวแมกไพจัดให้ :oo1:
-
Chapter 7
ผมนอนมองลูกแมวสีขาวที่กำลังไต่ขึ้นมาบนตัวผม เท้าเล็กๆ ของมันที่บรรจงเหยียบลงบนหน้าท้องของผมเบามาก จนผมรู้สึกจั๊กจี้
มันหยุดนิ่งเอียงคอจ้องมองผม ท่าทางของมันดูน่ารักจนผมอดยิ้มไม่ได้ และเมื่อมันเห็นรอยยิ้มของผม มันก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นมาอีก ก่อนจะเอาหัวมาคลอเคลียที่แก้ม ขนของมันนุ่ม แถมยังหอมอีกด้วย
ผมรู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดแก้มผมก่อนจะย้ายมาที่จมูก แล้วก็ปาก มันจ้องผมตาแป๋วก่อนจะแลบลิ้นเลียปากผม
ว่าแต่ที่นี่มันห้องผม แล้วผมก็ไม่ได้เลี้ยงแมว แล้วแมวมันมาจากไหน???
ผมลืมตาขึ้นมาก็เจอกับแมกไพ มันนอนเท้าแขนมองผมยิ้มๆ
“มอนิ่งครับ เมีย” ผมเบือนหน้าหนีเพราะรู้สึกขนลุกกับคำทักทายยามเช้าของมัน
เมื่อกี้ผมฝันไปสินะเรื่องลูกแมวน่ะ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนโดนแมวเลียปากจริงๆ เลยแฮะ หรือว่า...
“เมื่อกี้มึงทำอะไรกูรึเปล่าเนี่ย”ผมถามมัน
“มอนิ่งคิสไงครับ” มันยิ้ม ส่วนผมยี้
“แม่ง..แปรงฟันยังว่ะ ตื่นมาก็จูบกู” ผมว่ามันก่อนจะเอามือมาถูปากตัวเอง
“แค่จุ๊บเอง ยังไม่ได้ดิพคิสเลย” ดูมันเถียงหน้าด้านๆ
“แค่จุ๊บก็ไม่ได้ วันหลังไปแปรงฟันก่อนนะมึง” ตกใจตัวเอง..นี่ผมพูดเหมือนอนุญาตให้มันจูบเลย
“กะ..กูหมายถึง อย่ามาจูบกูตอนที่เพิ่งตื่นอีก” โอ๊ย..ยิ่งพูดยิ่งส่อว่าอยากโดนมันจูบ
ผมลุกขึ้นขยี้หัวตัวเองก่อนจะหันไปว่ามัน
“ตื่นแล้วทำไมไม่ไปอาบน้ำแต่งตัวว่ะ มีงานไม่ใช่เหรอมึง” ผมว่า
“รออาบพร้อมเมีย” มันตอบแล้วยักคิ้วกวนตีนอีกที
“หื่นแต่เช้าเลยนะมึง”ผมว่ามัน
“หื่นกับเมียกูคนเดียวแหละครับ” ทะเล้น..ทะเล้นจริงนะมึง
นี่มันใช่ไอ้นักร้องชื่อดังที่ผมรู้จักไหมเนี้ย?
“เลิกเล่นแล้วรีบไปอาบน้ำซะที” ผมว่าแล้วดึงแขนมันให้ลุก
มันก็ลุกครับ แต่อย่านึกว่ามันจะง่าย มันดึงผมมากอดหน้าตาเฉย สภาพตอนนี้ไม่ค่อยน่าดูเท่าไร ผู้ชายหัวยุ่งๆ ฟูๆ สองคนนั่งกอดกันอยู่บนเตียง ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ถ้าแฟนคลับมันมาเห็นเข้ายังจะตามกรี๊ดมันอยู่ไหม เมื่อรู้ว่านักร้องที่พวกเขาชื่นชมเป็นเกย์น่ะ
“อึดอัดโว้ย นอนกอดทั้งคืนยังไม่เบื่อหรือไงว่ะ”ผมบ่น แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย ไอ้บ้านี่แม่งมือเหนียวสุดๆ แกะยังไงก็แกะไม่ออก
“ไม่เบื่อหรอก อยากกอดทั้งวันเลยอ่ะ”พูดเฉยๆ ได้ไหม จะยุ่งกับแก้มกูทำไม
“วันนี้มึงมีงาน แล้วมันก็กำลังจะสายแล้วด้วย ลุกได้แล้ว”พูดไปเอามือดันหัวมันไป
แม่ง..จะขโมยหอมผมอยู่เรื่อย
“ก็ได้ๆ ป่ะไปอาบน้ำ” ไม่พูดเปล่า ฉุดผมลุกตามมันด้วย
“เฮ้ย..มึงจะอาบก็ไปอาบดิ เกี่ยวอะไรกับกู” ผมถามมัน
“ก็อาบพร้อมกันจะได้ไม่เสียเวลาไงว่ะ มันสายแล้ว” พูดจบก็ดึงเสื้อผมขึ้น
“อย่าดึงเสื้อกูดิ๊ แล้วทำไมกูต้องอาบด้วยวันนี้กูไม่มีงาน” ผมโวยวาย
“อย่ามาทำเนียน มึงบอกจะไปกับกูวันนี้” มันว่า
“กูบอกเมื่อไร”ผมถามมัน
งง ครับ งง!!
“เมื่อคืนไง” มันตอบ
พอจำได้..ก็เถียงไม่ออกครับ ผมรับปากจะไปดูมันถ่ายแบบวันนี้ และจะตามมันไปทำงานทุกครั้งที่ว่างเลย เพื่อแลกกับการที่มันจะไม่ทำอย่างว่ากับผมเมื่อคืน ดูไม่ค่อยยุติธรรมแต่ผมต้องเอาตัวรอดนี่หว่า ยอมๆ มันไปก่อนแล้วกัน
“ไม่เถียงแสดงว่าจำได้ งั้นก็ไปอาบน้ำกัน” แล้วเสื้อผมก็หลุดติดมือมันไปเลย
“ฮึ้ย..ไอ้หื่น ไหนมึงบอกจะไม่ทำจนกว่ากูจะยอมไง” ผมยกมือปิดอกตัวเองก่อนจะโวยวายใส่มัน
“กูรับปากเรื่องเซ็กส์ แต่นี่มันอาบน้ำ” ดูมันตอบ แถเห็นๆ
“เชี้ย ข่มขืนกับทำอนาจารมันไม่ได้ต่างกันเลยนะ แค่มันไม่ได้..”แล้วผมก็พูดไม่ออก
“ไม่ได้อะไร”มันถามแล้วเดินมาใกล้ผม
“มันต่างกันยังไง...หืม” คราวนี้มันกระซิบข้างหูผมเลย ขนลุก..
“เออๆ อาบก็อาบ แต่มึงห้ามทำอะไรกูเด็ดขาด ไม่งั้นกูเอามึงตายแน่” ผมว่า
“เป็นคำขู่ที่โคตร…….น่ากลัวเลยว่ะ ฮ่าๆ” พูดจบมันก็ลากผมเข้าห้องน้ำ
ในที่สุดก็ได้เวลาเดินทางสักที หลังจากที่ผมต้องเสียเวลาจัดการกับไอ้หื่นที่เอาแต่ลวนลามผมตอนอาบน้ำ จนผมเกือบพลั้งมือฆ่ามันตอนแต่งตัว
แต่งตัวเสร็จแทนที่จะได้ไปมันก็เอาแต่สั่งๆ ให้ผมเปลี่ยนชุดเป็นสิบๆ รอบ แถมยังบังคับให้ผมใส่หมวกที่ปิดถึงตาจนแทบจะไม่เห็นทางเดินแล้วเนี้ย
หาหมวกไอ้โหม่งมาให้กูใส่เลยดีไหม!!
แค่คิดครับไม่กล้าพูด กลัวมันเอาจริง
“กูขับให้เอาไหม” อยากลองขับรถมันอ่ะ รุ่นนี้ผมชอบนะแต่ตัดใจซื้อไม่ลงอ่ะ มันแพง
“เป็นเมียดีๆ ไม่ชอบ อยากเป็นคนขับรถซะงั้น” มันยิ้มก่อนจะโยนกุญแจรถให้ผม
“จ่ายเงินเดือนด้วยก็ดี” ประชดครับ..หมั่นไส้ มาว่าผมเป็นคนขับรถ
“รถติดแบบนี้จะไปทันไหมว่ะเนี้ย” ผมว่า
“เป็นเพราะมึงคนเดียวเลยเอาแต่เล่นอยู่นั่นแหละ” ผมบ่นมันหลังจากที่รถมันไม่ขยับมาเกือบๆ สิบนาทีแล้ว
แม่งจะติดทำสถิติโลกใช่ไหมเนี้ย!!
“วันหยุดกูแท้ๆ ทำไมกูต้องมาติดแหง็กอยู่บนถนนแบบนี้ด้วยว่ะ” นี่กูบ่นมึงนะเนี้ย ยังเสือกมายิ้มอีก
“ยิ้มไรมึง” ผมถามมัน
“กูกำลังคิดว่าทำไมเมียกูมันขี้บ่นจัง” มันว่า
ผมเกลียดรอยยิ้มของมันชิบ แม่งจะดูดีไปไหนว่ะ
“เลิกเรียกกูแบบนั้นสักที” ผมว่า
“ทำไม อยากให้เรียกภริยาเหรอครับ” แม่งกวนตีนได้อีก
“อะไรกูก็ไม่เอาทั้งนั้น กูไม่ได้เป็นอะไรกับมึงซะหน่อย” รู้สึกอยากกวนประสาทมันขึ้นมาครับ
“พอกูจะทวนความจำให้ มึงก็ไม่เอา”มัน
เมื่อคืนมันบอกผมแล้วล่ะครับ เรื่องคืนนั้นที่ผมเมา บอกหมดทุกอย่างว่ามันทำอะไรกับผมบ้าง
ตอนได้ยินผมแทบช็อคอ่ะ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงไม่ได้รู้สึกโกรธหรือโมโหอะไร ทำแค่คิดและปลอบตัวเองว่า ของมันเสียไปแล้ว มันเรียกคืนไม่ได้ (ดูปลงอ่ะ แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ)
“ก็แค่เซ็กส์ ไม่ใช่ผัวเมียก็ทำได้” ผมบอกมัน
“มึงคิดว่ากูนอนกับใครก็ได้งั้นเหรอว่ะ” หน้ามันนิ่งมากครับ เห็นแล้วรู้สึกกลัวนิดๆ แต่ขำมากกว่า
“กูจะไปรู้มึงเหรอ” พูดจบก็ออกรถครับ ไฟเขียวแล้ว
“แล้วมึงคิดว่าแบบไหนถึงจะใช้คำว่าผัวเมียได้” มันถาม
ผมเหลือบตาไปมองมันนิดหนึ่งก่อนจะหันมามองถนนต่อ
“กูถามได้ยินมั๊ยว่ะ!!!!” มันเสียงแข็งใส่ ขำชะมัด
“ความรู้สึกกูมั้ง แบบว่ารู้สึกว่ามันเป็นอ่ะ” ผมตอบมันไป
คำตอบงงๆ ไหมครับ ผมอยากให้มันงง ฮะๆๆๆๆๆ
“...”มันเงียบครับ สงสัยจะงงจริงๆ
“เลี้ยวซ้ายข้างหน้าใช่ไหม” ผมถามแต่มันไม่ตอบ พอหันไปมองก็เห็นมันทำท่าคิด
นี่ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันคิดมากขนาดนี้นะเนี้ย แค่งงๆ ก็พอแล้วมั้ง
“กูถามว่าเลี้ยวซ้ายข้างหน้าใช่ไหม” ผมถามย้ำ
“อืม”มันตอบสั้นๆ
ผมหันกลับมาสนใจถนนข้างหน้าต่อ ก่อนจะเลี้ยวเข้าซอยตามที่มันบอก เจอกับลุงขับซาเล้งอยู่ข้างหน้าช้าๆ ย้ำว่า ช้ามาก..!!
แซงดีไหมว่ะ???
“งั้นเริ่มจากแฟนก่อนดีไหม” จู่ๆมันก็ถามขึ้น
เอี๊ยด!!
ผมเบรกรถกระทันหัน ก่อนจะหันไปมองมัน
“มึงว่าไงนะ”ถามให้แน่ใจ เผื่อหูผมจะฝาด
“กูถามว่า มึงมาเป็นแฟนกูไหม” มันตอบ
Ma-NuD_LaW
รอดจนได้ :laugh: ((โดนคนอ่านถีบ :z6:))
+เป็ด :pig4:
-
อยู่ๆคุณสามีก็ยอมลดขั้นมาเหลือแค่แฟน o22
จับกดอีกสองสามทีน้องมันน่าจะยอมรับสถานภาพนะ ฮ่าฮ่าฮ่า
-
ซึนๆทั้งคู่ 55555555555555555
-
เป็นแฟนกันๆๆๆๆ
-
น้องปูนตอบไปเลยลูก
เป็นแฟนกัน :impress2:
-
เข้าใจทำเนอะ :m20::m20: :m20: :m20: :m20:
-
Chapter 8
ตอนนี้ผมกำลังนั่งดูไอ้บ้าแมกไพที่กำลังถ่ายแบบลงหนังสือวัยรุ่นชื่อดังเล่มหนึ่ง ซึ่งผมเองก็เคยนึกอยากขึ้นปกเอามากๆ แต่กลับไม่เคยได้รับการติดต่อมาเลยสักครั้ง
พอลองถามพี่ผึ้งก็ได้รับคำตอบที่ทำให้ผมต้องปวดใจเล่นๆ ว่า
“เล่มนี้เขาเอาแต่ผู้ชายขึ้นปกจ๊ะ”
แล้วผมไม่ใช่ผู้ชายเหรอ?
“พี่หมายถึงหล่อมาดแมนน่ะ”
แล้วผมเหมือนตุ๊ดหรือยังไง? ผมได้แต่คิดในใจ
“เอาน่าๆ รอขึ้นปก...นะ เขาติดต่อมาแล้ว”
ไอ้หนังสือ....นี่ ชอบเอาผู้หญิงน่ารักๆ ขึ้นปกไม่ใช่เหรอ?
นั่นแหละครับ..ผมก็เลยไม่มีโอกาสได้อวดความหล่อ (?) ของตัวเองบนหนังสือเล่มนี้เลยสักครั้ง ต่างจากแมกไพที่ขึ้นปกมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
ได้แต่ทำใจครับ เพราะหล่อสู้แฟนตัวเองไม่ได้..ฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมเป็นแฟนกับมันแล้วจริงๆ เป็นแบบงงๆ เลย
[ย้อนกลับไปบนรถ]
“กูถามว่า มึงมาเป็นแฟนกูไหม” มันถาม ผมอึ้ง
“ตอบมาเร็วๆ”มันเร่งผมอีก
จะให้ผมตอบว่าไงว่ะ ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย พอจะมีก็ดันเป็นผู้ชายซะอีก
“เงียบไม่ตอบ แสดงว่าตกลง” มันพูดเองเออเอง
“เฮ้ย!! เดี๋ยวดิ” ผมรีบค้าน
“นับแต่นาทีนี้ไป มึงเป็นแฟนกูแล้ว จบ” มันว่างั้น ตัดบทกูดื้อๆ เลย
“ออกรถดิ เดี๋ยวกูก็ไปทำงานสาย” พูดจบมันก็เปิดเพลงแล้วร้องคลอไปตลอดทางจนถึงที่นี่แหละครับ
“หวัดดีค่ะน้องปูน” พี่ทีมงานคนหนึ่งเข้ามาทักผม ผมก็ยิ้มๆ ตอบกลับพี่เขาไป
“ไม่ยักรู้ว่าปูนสนิทกับแมกไพนะค่ะเนี้ย” ไม่แปลกหรอกที่พี่ไม่รู้ ผมเองยังไม่รู้ตัวเลย
“พอดีมีผู้จัดการคนเดียวกันน่ะครับ” ผมตอบแบบกลางๆ ไว้ก่อนครับ
“จริงเหรอค่ะ นักร้องดังระดับแมกไพต้องใช้ผู้จัดการร่วมกับใครด้วยเหรอค่ะเนี้ย” มันระดับไหนกันล่ะครับ พี่ถึงพูดกับผมแบบนี้
“น้องปูนก็โชคดีนะค่ะ ได้ใช้ผู้จัดการคนเดียวกับแมกไพด้วย” ผมรู้ครับว่ามันเป็นซุปตา ส่วนผมมันโนเนม
“แต่น้องปูนไม่ค่อยมีงานเท่าไร พี่ฟ้าคงไม่เหนื่อยมากใช่ไหมค่ะ” พูดงี้..พี่เหยียบผมให้จมพื้นไปเลยไหมครับ
“พี่รู้จักพี่ฟ้าด้วยเหรอครับ” ผมถาม
“แมกไพขึ้นปกเราหลายครั้งแล้วค่ะ พี่ฟ้าก็มาด้วยเกือบทุกครั้งเลยสนิทกันน่ะ”
“น้องปูนยังไม่เคยขึ้นปกเราเลยใช่ไหมค่ะ แต่ก็นะหนังสือเราคัดแต่หล่อๆ แมนๆ นี่นา” นี่พี่เขามีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่า เล่นกัดผมไม่หยุดเลยแบบนี้
“ว่าแต่วันนี้พี่ฟ้าไม่มาด้วยเหรอค่ะ”
“พี่ฟ้าไม่ว่างครับ”
“อ่อ..” พี่เขาลากเสียงยาวๆ ก่อนจะถามต่อ
“น้องปูนสนิทกับแมกไพมานานหรือยังค่ะ” ผมหันไปมองเขาแบบเอือมๆ แต่เหมือนเขายังไม่รู้ตัว นั่งยิ้มรอคำตอบอยู่อย่างนั้น
“ก็สักพักแล้วครับ” สุดท้ายก็ต้องตอบพี่เขาไปตามมารยาท (อีกแล้ว)
“งั้นก็ต้องรู้สิค่ะว่าแมกไพชอบผู้หญิงแบบไหน” พี่จะมาถามผมทำไม ทำไมไม่ไปถามมันเอาเอง
“ไม่ทราบครับ น่ารักๆ ละมั้งครับ”ใจจริงอยากจะตอบว่า มันไม่ชอบผู้หญิงหรอกครับ มันเป็นเกย์!!
“แล้วแมกไพมีแฟนหรือยังค่ะ” ผมหันไปมองพี่เขา
“ไม่เห็นจะมีข่าวหรือภาพหลุดกับใครมาเกือบๆ สองปีแล้วนะค่ะ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นมีข่าวควงสาวไม่ซ้ำหน้าเลย” พี่แกยังพล่ามไม่หยุด
ตอนผมมาออดิชั่นเมื่อสองปีก่อนก็เจอมันกอดกับผู้ชายในลิฟต์แล้วนะ น่าเสียดายที่ตอนนั้นผมไม่รู้จักมัน ไม่งั้นจะแอบถ่ายรูปมันมาขายให้พวกหนังสือซุบซิบดาราแล้ว
“น้องปูนค่ะ น้องปูน” พี่เขาเรียกแล้วเขย่าแขนผม
“ครับๆ” ผมตอบยิ้มๆ
“ตกลงน้องปูนรู้ไหมค่ะว่าแมกไพเขามีแฟนหรือยัง” ก็ผมนี่ไงแฟนมัน บอกไปพี่อาจจะช็อคได้
“ยังมั้งครับ ไม่เห็นมันจะควงใครเลย” ผมตอบไป
“ดีจังเลย คือพี่ชอบแมกไพอ่ะค่ะ อยากจะจีบ” สรุปนี่คือเหตุผลที่แท้จริง นึกว่าจะถามเพื่อเอาข่าวไปขายซะอีก
ว่าแต่..มาบอกว่าจะจีบแฟนผมต่อหน้าผมเนี้ยนะ!!
“หึหึ” ผมหัวเราะในลำคอ
“หัวเราะอะไรค่ะ” ยังจะมีหน้ามาถามอีกผมก็แค่รู้สึกเคืองนิดๆ แต่พี่เขาไม่รู้อะไรด้วยนี่หว่า
“ช่วยพี่จีบแมกไพหนอยสิค่ะ” ยัง..ยังจ้อไม่หยุด เห็นไหมว่าหน้าผมมันกระตุกแล้ว เดี๋ยวลากไปอัดซะดีไหม
นี่ผมกำลังหึงมันอยู่เหรอ!!!!
“กลับเหอะ” จู่ๆแมกไพเดินเข้ามาชวนผมกลับ ผมหันไปมองมันตาขวางก่อนจะลากสายตามามองพี่เขา ก็เห็นนั่งทำตาเยิ้มใส่มันอยู่
“บ่ายโมงแล้วมึง กูหิวข้าว เร็วๆ ดิ” มันเร่งผมอีก
“ไปร้านตรงข้ามไหมค่ะ อาหารอิตาเลียนอร่อยมาเลยค่ะ” พี่เขาเอ่ยปากชวนมัน ผมหันไปมองมันทันที
ถ้าตอบตกลงนะ มึงโดน!!
“พอดีวันนี้ผมอยากกินอาหารญี่ปุ่น ขอตัวนะครับ” พูดจบมันก็ลากผมออกมาเลย
ตอนแรกผมอยากสะบัดมือมันออกนะ แต่มันตอบพี่เขาถูกใจผมอ่ะ ยกให้ละกัน
“อยากกินไร” มันหันมาถามผมหลังจากขึ้นรถแล้ว (ตอนนี้มันขับ)
“มึงหิวก็คิดเอาเองดิ” ขอกวนหน่อย หมั่นไส้มัน
“งั้นสั่งที่คอนโดละกัน ง่ายดี” มันบอกก่อนจะออกรถ
ผมก็ไม่แย้งอะไร อาหารที่คอนโดผมก็รสชาติใช้ได้ ไม่ต้องเสี่ยงไปเจอแฟนคลับ (ของมัน) ก็ดีเหมือนกัน
ผมนั่งฟังเพลงที่มันเปิดไปเรื่อยๆ ก่อนจะสะดุดใจ เมื่อมันขับรถเลี้ยวไปอีกทาง ที่ไม่ใช่ทางไปคอนโดผม
“มึงจะไปไหน” ผมถามมัน
“กลับไง” มันตอบ
“นี่มันไม่ใช่ทางไปห้องกู” ผมว่า
“ใครบอกจะไปห้องมึง ไปห้องกูต่างหาก” มันบอก
“ทำไมกูต้องไปห้องมึง ห้องกูก็มี” เถียงมัน
“ตอนนี้ห้องมึงไม่ว่าง ไปกินข้าวก่อนเย็นๆ ค่อยกลับ”
“แล้วทำไมห้องกูถึงไม่ว่าง มึงทำไรว่ะ!” เสียงดังใส่มันเลยครับ
“แค่ตกแต่งนิดหน่อย” มันบอกแล้วยิ้มอารมณ์ดี
“กูจะกลับห้อง พากูกลับห้องเดี๋ยวนี้” ผมว่า
“กูบอกแล้วไงว่าเย็นๆ ค่อยกลับ อย่ามาเรื่องมาก ไม่งั้นมึงจะไม่ได้กลับ” มันว่าเสียงเรียบ
“กวนตีน!” ผมว่า สุดท้ายก็ได้แค่ด่าครับ ทำอะไรมันไม่ได้
พอถึงห้องมัน ผมก็ได้แต่นั่งๆ นอนๆ ดูทีวี ส่วนมันเข้าไปจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า เห็นบอกว่าจะเอาไปไว้ที่ห้องผมเผื่อไปค้างหลายวัน (ค้างทำไมว่ะ?)
พอข้าวมาส่ง ผมก็รีบๆ กินก่อนจะเร่งให้มันพากลับ มันก็ลีลาอยู่นานกว่าจะยอมพาผมกลับ ตลอดทางผมรู้สึกใจคอไม่ดี ไม่รู้มันทำปู้ยี่ปู้ยำอะไรห้องผมบ้าง
“เปิดประตูดิ กระเป๋ามันหนักนะ” ได้ข่าวว่ามันเสื้อผ้ามึง อดทนหน่อยกูกำลังทำใจอยู่ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเปิดประตู
“เฮ้ย!!!” ผม
“ชอบไหม” มันถาม
ผมอยากจะบ้า แม่งเอารูปมันมาติดเต็มห้องผมเลย วิ่งไปดูในห้องนอนก็มีแต่รูปมันทั้งที่ผนัง หัวเตียง บนโต๊ะผมอยากจะบ้าตาย!!
“เอารูปมึงมาติดทำไมเนี้ย” ผมวิ่งออกมาถามมัน
“ก็กูเป็นแฟนมึง คนเป็นแฟนกันมันต้องเห็นหน้ากันตลอดเวลาดิ” มันว่า
“จะได้ไม่กล้านอกใจ” มันว่าต่อแล้วยักคิ้วกวนตีนมาให้
“ส่วนในกระเป๋าตังค์แล้วก็มือถือมึงก็ต้องมีรูปกูด้วย เข้าใจไหม” มันยังคงเพ้อของมันต่อ
มึงกลัวกูนอกใจมากขนาดนั้นเลยเหรอ นี่มึงจะขี้หึงเว่อร์ไปไหมตกลงผมคิดผิดหรือเปล่าที่ยอมเป็นแฟนมันเนี้ย!!!!
Ma-NuD_LaW
อีกตอนนะจ๊ะ ..
-
Chapter 9
“งี้ห้องมึงก็ต้องมีรูปกูด้วยดิ” งานนี้ต้องเท่าเทียมครับ
“กูให้คนไปจัดการแล้ว” เฮ้ย..มันเอาจริงดิ
“มือถือล่ะ กระเป๋าตังค์ด้วย” มันยื่นโทรศัพท์มาให้ผมก่อนจะชูกระเป๋าตังค์ขึ้น
อึ้งครับอึ้ง รู้แล้วว่ามันเอาจริง!!
หน้าจอโทรศัพท์มันเป็นรูปผมตอนกำลังกินบะหมี่ (ที่มันต้มแหละ) ส่วนในกระเป๋าตังค์เป็นรูปผมตอนหลับอ่ะ แอบถ่ายตอนไหนว่ะเนี้ย?
“ถ้านักข่าวเห็นจะทำไงว่ะเนี้ย มึงเคยคิดมั้งป่ะ” ผมถามมัน
“ก็ดี จะได้ไม่มีใครกล้ามายุ่งกับเมียกู”ดูคำตอบมันครับ แล้วผมจะพูดอะไรได้ ในเมื่อซุปตาอย่างมันยังไม่กลัว แล้วผมจะต้องกลัวอะไร?
“ไหนกระเป๋าตังค์มึง” มันถามแล้วยื่นมือมา
ผมเลยส่งกระเป๋าตังค์แถมโทรศัพท์ไปด้วยแบบไม่ต้องขอเลย มันก็จัดการหยิบรูปตัวเองมายัดลงไปในกระเป๋าตังค์ผม
“เตรียมพร้อมเชียวนะมึง” ขอกัดหน่อยครับ หมั่นไส้
“มานั่งข้างๆ กูดิ” มันบอกหลังจากเดินไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวซึ่งมันนั่งคนเดียวก็เต็มแล้วอ่ะ
“จะให้กูนั่งตรงไหน บนตักมึงหรือไง” ถามประชดครับ แต่มันดันตอบว่า
“เออ”
“เร็วๆ”มันเร่งผมอีก ผมเลยเดินไปนั่งหมิ่นๆ ตรงที่พักแขน แต่มันก็ดึงผมไปนั่งบนตักมันจนได้
“จะทำไรอ่ะ” ผมถามเมื่อเห็นมันกดเข้าโหมดถ่ายรูป
“ถ่ายรูปไง” มันตอบ
เออ..กูรู้แล้ว แต่ที่กูไม่รู้คือมึงจะให้กูนั่งตักมึงทำไม ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามต่อ มันก็หอมแก้มผมแล้วกดถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย..กูไม่เอารูปนี้นะ” ไม่ทันแล้วครับ มันจัดการตั้งเป็นรูปภาพหน้าจอเลย จบกันชีวิตผม ชาตินี้คงหาเมียไม่ได้แล้ว
“ถ้าเปลี่ยนมึงโดนดีแน่”มีขู่สั่งท้ายด้วย
“เอาแต่ใจว่ะ” ผมบ่นก่อนจะแย่งมือถือคืนมาขอเช็คแฟนเพจตัวเองสักหน่อยว่ามีใครมาไลค์เพิ่มไหม?
“ลบรูปนี้ออกเลยมึง” จู่ๆมันก็พูดขึ้น ผมหันไปมองหน้ามัน
“ลบทำไม” ผมถาม เพราะแฟนคลับผมออกจะชอบ กดไลค์เยอะขนาดนี้
“กูบอกว่าให้ลบไง” มันสั่งอีก
“แล้วทำไมกูต้องลบด้วยว่ะ” ผมถามกลับ
“มึงดู ใส่แค่เสื้อกล้ามตัวเดียว” มันขึ้นเสียงใส่
“แล้วยังไง ใครๆ เขาก็ใส่กัน”ผมตอบ
“แต่ใครคนนั้น ต้องไม่ใช่เมียกู” มันตอบกลับ
“ทำไม” ผมจ้องหน้ามัน
“ทำไมๆๆๆๆๆๆๆ” ผม
อุ๊บ!!
มันคงรำคาญที่ผมเถียงมัน เลยจูบปิดปากซะเลย!! แล้วผมจะขัดขืนดีไหมเนี้ย แต่มันก็เพลินดีนะครับ >w<
จูบไปสักพัก มือมันก็เริ่มเลื้อยเข้ามาในเสื้อผม ถึงตอนนี้ผมเห็นควรจะต้องขัดขืนจริงๆ แล้ว ลืมไปสนิทว่านั่งอยู่บนตักมัน เดี๋ยวเรื่องมันจะยาวครับ..
“อื้อๆ” มันปล่อยให้ผมเป็นอิสระ เมื่อผมร้องประท้วง
“ลบเถอะ กูหวงไม่อยากให้ใครเห็น” มันบอกผมอีก แบบนี้เขาเรียก เอาน้ำเย็นเข้าลูบ ใช่ไหมครับ?
“เออๆ ลบก็ได้” เห็นแกที่มันลงทุนขอร้องครับ
“เมียกูน่ารักว่ะ มากูมีรางวัลให้” พูดจบก็อุ้มผมตรงเข้าห้องนอนเลย
“มึงจะทำอะไร” ผมถาม อย่าบอกนะ..ว่ามันอารมณ์ค้างจากเมื่อกี้อ่ะ!!
“พาไป..เอา..รางวัลไง” มันตอบ
ว่าแต่ทำไมมันต้องเน้นคำว่า “เอา” ขนาดนั้นด้วย ชักไม่น่าไว้ใจแล้วดิ
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง” ผมรีบปฎิเสธไม่รู้ว่ารางวัลคืออะไร แต่สังเกตจากสีหน้ามันแล้ว ดูเจ้าเล่ห์แปลกๆ
“เอาๆ เถอะน่า รับรองมึงต้องชอบ” แล้วมันก็วางผมลงบนเตียงแบบไม่เบามือเท่าไร ก่อนจะตามขึ้นมาทับตัวผมเอาไว้
“ของขวัญอะไรอยู่บนเตียง” กูว่าแล้ว..แม่งคิดไม่ซื่อจริงๆ ด้วย
“ของขวัญแบบนี้ไง”แล้วมันก็จัดการปล้ำจูบผมเลย
แรกๆ ผมก็เคลิ้ม แต่พอมันล้วงมือเข้ามาในเสื้อผมนี่แหละ ผมเลยทุบๆ ไหล่จนมันได้สติยอมปล่อยผม
“มึงแม่ง..”ไม่รู้จะด่ามันยังไงแล้วครับ
“กลับห้องมึงเลยไป กูจะอาบน้ำละ” ไล่มันไปดีกว่า..เพราะผมรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว
“กูจะค้าง” มันบอก
“เฮ้ย..จะค้างทำไม ห้องมึงก็มี” ผมว่าเพราะเริ่มรู้สึกไม่ไว้ใจมันแล้ว
“ลุกดิ จะไปอาบน้ำไม่ใช่เหรอ”มันพูดแล้วดึงแขนผม
“มึงไม่กลับจริงดิ”ผมถามย้ำมัน
“เออ”
“แล้วจะลากกูทำไมเนี้ย” ผมพยายามแกะมือมันออก
“ลากไปอาบน้ำไง” มัน
“กูอาบเองได้”
“แต่กูจะอาบให้” มันตอบแล้วลากผมเข้าห้องน้ำเลย
และแล้ว..มันก็จัดการผมจนเสร็จ (หมายถึงอาบน้ำนะ) ก่อนจะจับผมแต่งตัว ใส่เสื้อกล้ามตัวที่ผมใส่ในรูปนั้นแหละครับ
ก่อนจะลากผมมานอนกกหยั่งกับกกไข่มันคิดว่าผมจะฟักตัวออกมาเป็นลูกเจี๊ยบหรือเปล่าว่ะ?ไอ้กกอ่ะพอทนครับ แต่มือมันที่เลื้อยอยู่บนท้องผมนี่ดิ แม่ง!!
“มึงหยุดลูบสักทีได้ไหม กูง่วงจะตายอยู่แล้ว” หมดความอดทนแล้วครับ
“กูกล่อมมึงนอนไง” เชี้ยนี่..แถเก่งมากครับ
“เพราะมึงกล่อมนี่แหละ กูถึงนอนไม่หลับ” ผมบอกก่อนจะปัดมือมันออก
“นอนไม่หลับก็อย่านอนเลย ทำอย่างอื่นดีกว่า” มันว่ากวนๆ
“ทำอะไร เวลานอนก็ต้องนอนดิ” ผมบอกแล้วหันหลังให้มันเลยครับแม่ง..ไว้ใจไม่ได้
“หันหลังให้แบบนี้ น่าคิดว่ะ” ไม่พูดเปล่า เอามือมาบีบก้นผมด้วยอ่ะ
“ไอ้หื่น ไอ้ลามก ไอ้ไว้ใจไม่ได้” ผมด่าแล้วลุกขึ้นระดมทุบมัน โทษฐานหื่นดีนัก!!
“ล้อเล่นน่า นอนเหอะ กูไม่ทำอะไรแล้ว” มันว่า
“ขืนทำอีก กูไล่ออกนอกห้องแน่มึง” ผมว่า
“ฝันดีนะครับ”มันบอกแล้วจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผากผม
แล้วคืนนั้นผมก็หลับในอ้อมกอดมัน ถึงจะรู้สึกเหมือนโดนลวนลามทั้งคืนก็เหอะ แต่มันง่วงมาก ไม่มีอารมณ์ลุกขึ้นมาด่าหรอกครับ
หลังจากนั้น 1 อาทิตย์..
“ห๊ะ..พี่ว่าไงนะครับ จะให้ผมออกอัลบั้มพิเศษร่วมกับมันเนี้ยนะ” ผมถามพี่ฟ้าเสียงดัง ก่อนจะเอามือชี้หน้ามันไปด้วย
“มึงจะตกใจเว่อร์ไปไหม” มันว่าก่อนจะดึงมือผมให้นั่งลง
“ใจเย็นนะค่ะน้องปูน ตามที่ผู้ใหญ่บอกมา โปรเจ็คนี้มันมีสามคนค่ะ” พี่ฟ้าบอกผม
“แล้วอีกคนคือใครล่ะครับ”ผมถาม
“น้องวินค่ะ”
“วินงั้นเหรอ”มันถามเหมือนบ่นกับตัวเองมากกว่า
“ใช่วินเอง ดีจังเลย..ได้ทำงานกับเด็กน่ารักๆ ตั้งสองคนแน่ะ อีกอย่างพี่ก็คิดถึงวินม๊าก..มาก”
แล้วพี่ฟ้าก็พาตัวเองเข้าสู่หมวดเพ้อฝันส่วนตัว ส่วนไอ้บ้าข้างๆ ผมก็หันมายักคิ้วกวนตีนให้ซะงั้น
ผมอยากร้องไห้จริงๆ จากนี้ไปผมคงต้องอยู่กับมันตลอดเวลาเลยดิ
ห้องตัวเองก็ไม่ยอมกลับ แค่นี้ผมก็โดนไอ้หื่นอย่างมันลวนลามทุกวันอยู่แล้ว ยังต้องทำงานกับมันอีกแบบนี้ผมก็แย่อ่ะดิ แม่ง!!
“หวัดดีครับพี่ฟ้า” เสียงทักทายของวินดึงผมออกมาจากความคิดของตัวเอง
“ดีจ๊ะวิน มาเร็วจังเลยนะ นี่แมกไพส่วนนี่ปูนจ๊ะ”พี่ฟ้าแนะนำพวกเราให้วินรู้จัก
“ดีครับ”ผมทักทายวินพร้อมส่งรอยยิ้มให้
“ดีครับพี่แมกไพ ฝากตัวด้วยนะครับ”วินหันไปฝากเนื้อฝากตัวกับแมกไพ ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ มัน
เอ่อ..นี่ผมคิดไปเองหรือเปล่า ว่าเขาจงใจเมินผมอ่ะ???
Ma-NuD_LaW
ขอบคุณครับ :pig4:
-
เจ๊คะมาจีบแฟนเค้าต่อหน้า
เดี๋ยวโดนตอกหน้าแล้วจะเงิบ
แต่แมกปฏิเสธได้โดนมาก :laugh:
แมกกลัวน้องปูนจะนอกใจขนาดนั้นเลย
น่าร้ากกกก :-[
------------------------------------------------------------------------
อีกนานมั้ยกว่าแมกจะได้กินขนมเปียกปูน :z1:
วินคะมาแล้วห้ามทำครอบครัวเค้าแตกแยกนะคะ :m16:
-
โมเมนต์พวกเธอนี้เลยคำว่าแฟนไปเยอะแล้วนะ ขาดแต่ :oo1:
วินนี่จะมาแย่งพระเอกจากนายปูนเหรอ
ระวังนะ คู่นี่ของเขาแรง
-
Chapter 10
“วินขอเรียกพี่แมกเฉยๆ ได้ไหมครับ”
“ดีใจจังเลยที่ได้ทำโปรเจ็คร่วมกับพี่แมก”
“ผมชอบเพลงของพี่มากเลยครับ โดยเฉพาะเพลง..”
ปึง~!! สายตาทุกคู่หันมามองผมทันที
“เป็นไร” มันเอ่ยปากถาม ในขณะที่พี่ฟ้ากับวินอึ้ง..
“ปวดเยี่ยว”ผมบอกแล้วเดินออกมาทันทีรู้สึกหงุดหงิดยังไงไม่รู้ เหมือนผมอยู่นอกวงสนทนาของพวกเขาเลย
ปัง!!
ผมปิดประตูห้องน้ำก่อนจะใช้มือขยี้หัวตัวเอง
“พี่ครับๆ น่ารักตายแหละ” ผมบ่นก่อนจะปิดฝาชักโครกแล้วนั่ง
“ชอบล่ะสิ ไอ้หื่นเอ๊ย” ผมบ่นๆกับตัวเองหงุดหงิดจริงๆ เลยโว้ย!!
ก๊อกๆ
“มีคนอยู่ครับ” ผมบอกเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู
ก๊อกๆ
“ผมใช้อยู่ครับ”
ก๊อกๆๆ
“ใช้ห้องอื่นก่อนสิครับ” ชักเริ่มรำคาญไอ้บ้าข้างนอกแล้วสิ
ก๊อกๆๆๆๆ
ผมลุกขึ้นเปิดประตู
“ก็บอกว่า..”
ตุ้บ..ปัง!!
มันผลักผมจนชิดพนังก่อนจะใช้เท้าดันประตูปิด
“ไอ้บ้าเอ๊ย” นึกว่าใครที่ไหนซะอีก
“เป็นอะไร” มันถาม แต่ตอนนี้..หน้ามึงใกล้กูเกินไปแล้ว
“เปล่า” ผมตอบแล้วเบือนหน้าหนีมัน
“จริงเหรอ” มันถามแล้วเอาจมูกมาคลอเคลียแก้มผม
“เออ..มึงออกไปห่างๆ หน่อยได้ป่ะ” ผมผลักมันออกไป
“ขอพื้นที่ให้กูหายใจบ้างเหอะ” ผมว่า
“ไม่เป็นไรแล้วหนีออกมาทำไม” มันถาม
“กูไม่ได้หนี” ผม
“อย่าโกหก” มัน
“กูเปล่า” ผมปฎิเสธ
“หึงเหรอ” คำถามมึงโดนใจกูมากอ่ะ
“อะไรๆ ใครหึงมึง”หรือผมจะหึงมันจริงๆ ว่ะ
“ก็มึงไง”
“อย่าหลงตัวเองว่ะ” ไม่ยอมแพ้ครับ เพราะผมไม่ได้หึงมัน
“แน่ใจ ว่าไม่ได้หึง” มันถามแล้วจ้องหน้าผม
“เออ” ผมตอบอย่างหนักแน่น แล้วจ้องตามัน
“ฮึ!!” แล้วมันก็เปิดประตูออกไป
“อะไรว่ะ”ผมไม่เข้าใจมันเลยอ่ะ
ณ ร้านอาหาร
“พี่แมกลองทานนี่สิครับ” วินพูดแล้วตักอาหารใส่จานมัน
“ขอบคุณครับ” มัน
“กินไก่มากระวังเป็นเก๊านะมึง” ผมกัดมันไปเบาๆ
“ฮึ” มันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันไปพูดกับวิน
“น้องวินลองชิมแกงจืดสิครับ” แล้วมันก็ตักใส่จานวิน
“ขอบคุณครับ” วิน
“ง่อยแดกเลยนะมึง” ผมแขวะมันเบาๆ ก่อนจะตักข้าวเข้าปาก
“น้องปูนว่าไงนะค่ะ” พี่ฟ้าหันมาถามผม
“เปล่าครับ” ผมตอบพี่ฟ้าแต่ส่งสายตาพิฆาตไปให้มัน ทำไมผมถึงทำแบบนี้งั้นเหรอ? ขอบอกว่าไม่มีเหตุผลครับ แค่หมั่นไส้เฉยๆ
“พี่แมกทานเยอะๆ นะครับ” แล้ววินก็ตักใส่จานมันอีก
“ป้อนพี่หน่อยสิครับ” บอกวินแต่มองหน้าผมครับ
แม่งจงใจกวนตีนชัดๆ ผมหันไปมองวินที่ทำท่าเขิน (มาก) ก่อนจะเอื้อมมือไปป้อนมัน
“อร่อยครับ” ผมบอกหลังจากดึงมือวินให้มาป้อนผมแทน
“คิกๆ” เสียงพี่ฟ้าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะมองผมสลับกับมัน
“ฮึ”<--เสียงหัวเราะของมันแหละครับ
“ตักเองไม่เป็นหรือไง” ส่วนนี่เสียงบ่นของวินครับ
“ผมตักให้ใหม่นะครับ” ยังๆ ยังไม่หยุดเอาใจแฟนกูอีก
“อิ่มแล้ว”ผมพูดก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
“กลับเหอะ”ผมบอกมัน
“ฮึ” เกลียดเสียงหัวเราะของมันจริงๆ
“กูบอกว่าอิ่มแล้ว” ผมเน้นทีละคำ เมื่อมันทำท่าไม่สนใจผม
“กูจะกลับแล้ว” ผมบอกมันอีก
“กลับก็กลับไปสิครับ” ผมหันไปมองวิน นี่เป็นประโยคแรกที่เขาพูดกับผม
“เอ่อ..แมกกับปูนกลับไปก่อนได้เลยนะ เดี๋ยวพี่ไปส่งวินเอง” พี่ฟ้า
“ลาครับพี่ฟ้า”พูดจบผมก็ลากมันออกมาเลย
“หึงกูชัดๆ” มันพูดเมื่อพวกเราเดินมาถึงรถ
“กูไม่ได้หึง”พูดจบก็ขึ้นรถเลยครับ
มันก็เดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับแล้วออกรถเลย ตลอดทางมันไม่เอ่ยปากพูดกับผมอีกเลย
“เน้!!! มึงจะเงียบอีกนานไหม” ในที่สุดผมก็ต้องเป็นฝ่ายพูดก่อน
“ฮึ” แล้วมันก็เดินเข้าห้องไป (ซะงั้น)
“อย่าเดินหนีดิว่ะ”ผมเดินตามหลังมันไป
“มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”ผมไม่ชอบอะไรค้างๆ คาๆ แบบนี้เลย
“กูบอกว่าให้มาคุยกันให้รู้เรื่องไง”ผมกระชากแขนมัน แต่มันกลับสะบัดผมจนกระเด็นไปกระแทกหลังโซฟา กูจุก!!
“สัด กูเจ็บ” มันไม่พูดอะไร ตรงเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้น
“โทษที กูลืมตัวไปหน่อย” มันบอก
“ไปพักก่อนละกัน”พูดจบมันก้ออุ้มผมไปวางบนเตียง ห่มผ้าให้ แล้วเดินไปเฉยๆ
“แม่งโกรธจริงเหรอว่ะ” ถ้าเป็นปกติมันต้องลวนลามผมแล้วดิ แต่นี่มันกลับเดินไปเฉยๆ
“แล้วกูต้องง้อมึงไหมว่ะเนี้ย” โอ๊ย..เซ็งโว้ยไม่เข้าใจไม่รู้ต้องทำยังไง????
“กูขอโทษ ขอโทษทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ากูทำอะไรผิด” ผมว่าเสียงอ่อยๆ
“มึง...คุยกับกูหน่อยดิ กูขอโทษแล้วไง” ผมเรียกมัน แต่มันนิ่งใส่
หลังจากผมหายจุกก็ออกมานั่งง้อมันได้เกือบๆ ครึ่งชั่วโมงแล้วครับ แต่มันก็ยังเอาแต่สนใจหนังสือในมือ ไม่มองผมด้วยซ้ำ
“ทำไมไม่หายงอนสักทีว่ะ กูง้อมึงนานแล้วนะ”
เงียบ..ไม่มีสัญญาณตอบรับจากมันอยู่ดี
“ต้องให้กูคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนเลยป่ะ มึงถึงจะหายงอน” ผมว่า
“ไอ้แมกไพ”หมดความอดทนแล้วครับ
“เออ! แล้วแต่มึง กูไม่สนใจละ” ผมว่าแล้วลุกเดินได้สองก้าวก็โดนมันดึงจนหล่นลงไปนั่งตักมัน
“ยอมรับดิ ว่ามึงหึงกู” ผมหันไปมองหน้ามัน
“มึงงอนกูเรื่องนี้เนี้ยนะ”มันไม่ตอบอะไร
“โคตรปัญญาอ่อน”ผมว่า ส่วนมันก็เงียบไม่พูดอะไรอีก แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากเอวผม
“เออๆ กูหึงก็ได้”ในที่สุดผมก็ทนอึดอัดไม่ไหว
“แต่กูมีสิทธิหึง เพราะกูเป็นแฟนมึง” ผมว่าต่อท้าย
“ก็แค่เนี้ย” พูดจบมันก็หอมแก้มผม
ติ๊ดๆ~~
เสียงมือถือเตือนว่าข้อความเข้า หลังจากพวกเรานั่งกอดกันได้สักพัก
“ข้อความเข้าอ่ะ”ผมบอกมัน
“ช่างเหอะ”มัน
“เกิดเป็นเรื่องงานทำไงอ่ะ เปิดดูก่อนดีกว่า” ผม
“ถ้ามันด่วน เดี๋ยวพี่ฟ้าก็โทรมาเองแหละ” มัน
“งั้นกูดูให้”ผมหยิบมือถือมันขึ้นมาดู
“ข้อความภาพว่ะ”บอกมันก่อนจะกดเปิด
อึ้ง O[]O!!
วินส่งรูปมาให้มันอ่ะ แล้วรูปมันแบบเอิ่ม..
“หมายความว่าไง”ผมถามมัน
“กูจะไปรู้เหรอ”มันตอบหน้าตาย
“ไม่รู้แล้วทำไมมันส่งรูปมาแบบนี้” พูดแล้วฟาดแขนมันไปหนึ่งที ระบายอารมณ์
“มึงคงต้องไปถามมันแล้วละ ว่าส่งมาทำไม” ดูมันตอบสิครับ
“พวกมึงเป็นอะไรกัน ทำไมมันถึงกล้าส่งรูปแบบนี้มาให้มึง” แล้วก็ฟาดแขนมันรัวโมโหว่ะ!!
“กูไม่รู้ เพิ่งจะคุยกันจริงจังก็วันนี้แหละ” มันบอกแล้วจับมือผมเอาไว้ ไม่ให้ฟาดมัน
“กูไม่เชื่อโว้ย” ผมว่า
Ma-NuD_LaW
หวานๆ เบาๆ :hao7:
ขอบคุณครับ :pig4:
-
:fire: เป็นแฟนกัน แต่ดันไปอิอ๊ะกะคนอื่นต่อหน้า
มันใช้ได้เรอะ
-
แมกแม่มโคตรกวนบาทาว่ะ น่าจะตบซักทีสองทีนะ
ไม่ง้อมันทำเชี่ยไร ฮึ่ยส์!!!!! :katai1:
-
Chapter 11
“ไม่เชื่อกูปล้ำ” มันขู่
“มึงปล้ำกูเลิก” ผมขู่กลับ
“มึงกล้าพูดคำว่าเลิกเหรอ” มัน
“แล้วทำไมกูต้องไม่กล้า” ผมว่ากลับ
“มึง..” มันพูดแล้วหยุดไปซะเฉยๆ
“ทำไม มึงจะทำอะไรกู” ผมถามมัน
“ทำแบบนี้ไง” พูดจบมันก็ดึงผมไปจูบ
ผมทั้งทุบ ทั้งตีมันตั้งนานกว่ามันจะยอมปล่อย
“สัด อย่าเข้ามาใกล้กู” ผมบอกก่อนจะหนีมันเข้ามาในห้องนอน แต่มันก็ตามมาดันประตูไว้ไม่ให้ผมปิดได้
“ถ้ามึงเข้ามา กูจะเลิกกับมึงจริงๆ ด้วย” ผมขู่อีกครั้ง ก่อนจะปิดประตูใส่หน้ามันเพื่อให้มันรู้ตัว ว่าผมโกรธมาก!!
“มีเหตุผลหน่อยสิว่ะ” มันตะโกนเสียงดัง
“มึงก็บอกมาสิ ว่าพวกมึงเป็นอะไรกัน” ผมตะโกนถามมันกลับ
“กูไม่ได้เป็นอะไรกับมัน” มันตอบ
“โกหก” ผมว่า
“กูไม่ได้โกหก แล้วเมื่อไรมึงจะออกมาคุยกับกูดีๆ” มันถามผม
“เมื่อมึงยอมพูดความจริง” ผม
“กูพูดไปหมดแล้ว” มันยังคงยืนยันคำเดิมผมเลยเงียบ เบื่อที่จะเถียงกับมัน คนไม่สนิทกันจะกล้าส่งรูปตัวเองใส่แต่ผ้าขนหนูผืนเดียวมาให้ดูทำไม???
ผมไม่เชื่อหรอก!!
“ปูน” มันเรียกเมื่อเห็นผมเงียบ
“เลิกทำตัวเป็นเด็กๆ แล้วออกมาคุยกัน” มันว่าผมเด็ก แม่ง!!
“ตกลงมึงจะเอาไงปูน”น้ำเสียงมันเหมือนรำคาญผมเต็มที
ถ้ารำคาญก็อย่ามายุ่งกับผมสิ!!
“เออๆ กูบอกก็ได้ ออกมาได้หรือยัง” ผมเปิดประตูออกทันทีที่มันพูดจบ ก่อนจะเดินออกไปนั่งที่โซฟา (แบบคุยในห้องนอนมันอันตราย)
“ก็พูดดิ กูรอฟังคำแก้ตัวของมึงอยู่” ผมบอกเมื่อมันเอาแต่ยืนมองหน้าผม มันถอนใจแรงๆ ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ
“กูไม่ได้เป็นอะไรกับวิน”
“ถ้ามึงจะพูดแก้ตัวซ้ำซากแบบนี้กูไม่ฟัง” ผมพูดสวนออกไปทันที
“อย่าใช้แต่อารมณ์ ฟังกูก่อน” ดูมันด่าผมดิ แม่ง!!
“กูไม่ได้เป็นอะไรกับมัน แต่มันเคยมาสารภาพว่าชอบกู” มันบอก
“นานแค่ไหนแล้ว” ผมถามมัน
“สองปีก่อน” มันมองตาผมก่อนจะพูดต่อ
“ตอนนั้นมึงก็เห็น”
“ห๊ะ..กูเนี้ยนะเห็น” ผมถามมันแบบงงๆ
“เออ ในลิฟต์ไง แต่มึงคงจำไม่ได้หรอก” มันพูดต่อ ในลิฟต์.เมื่อสองปีก่อน มันก็ตอนที่ผมมาเดบิวอ่ะดิ แสดงว่าผู้ชายที่มันกอดก็คือ ... วิน!!!!
“เมื่อก่อนพี่ฟ้าเคยดูแลวิน ก่อนที่จะมาดูแลกู” ผมเงียบตั้งใจฟังสิ่งที่มันพูด
“แรกๆวินก็มาแวะมาคุยกับพี่ฟ้าเป็นบางครั้งบางคราว แต่หลังๆ มาบ่อยจนผิดปกติ แต่กูก็ไม่ได้คิดอะไร” มันบอกต่อ
“ทำไมไม่คิด ในเมื่อวินออกจะน่ารัก” ผมอดที่จะแขวะมันไม่ได้
“จะให้คิดอะไร ในเมื่อมันกับกูก็ผู้ชายเหมือนกัน” มันพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบจนผมแปลกใจ
“มึงพูดเหมือนตัวเองไม่ใช่เกย์” ผมคนตรงๆ ครับ
“กูไม่ได้เป็น จนกระทั่งมาเจอมึง” สีหน้ามันดูจริงจัง
“หมายความว่าไง ในเมื่อกูเจอมึงครั้งแรกก็เห็นมึงกอดกับผู้ชายในลิฟต์” ผมว่า
“ตอนนั้นกูไม่ทันได้ตั้งตัวมันเข้ามากอดกูเอง นี่มึงจำได้ด้วยเหรอว่ะ” มันพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงดังจนผมตกใจ
“เออ แล้วมึงจะเสียงดังทำไมเนี้ย” ไม่เข้าใจมันเลย
“กูแค่แปลกใจที่มึงจำได้ ไม่เห็นมึงจะมีท่าทีอะไรเลย”มัน
“แล้วจะให้กูป่าวประกาศว่ามึงเป็นเกย์รึไง” ผมว่า
“กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้เป็น” มันเถียง
“เออๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่” ขี้เกียจจะเถียงกับมัน ไร้สาระ
“มึงทำให้กูต้องกลายเป็นแบบนี้ มึงไม่สิทธิมาพูด” มันบีบแขนผมแน่น
“มึงทำกูเจ็บ” ผมพยายามแกะมือมันออก
“กูเบื่อที่มึงทำเหมือนไม่รับรู้อะไร ในขณะที่กูต้องเป็นบ้าอยู่คนเดียว” มันพูดเสียงดัง
“หมายความว่าไง” ผมถามมัน
“มึงมันไม่เคยรับรู้อะไรเลย” มันว่า
“แล้วอะไรล่ะ ที่กูไม่รู้” มันคิดจะบอกผมมั้งไหมเนี้ย
“กูเกลียดรอยยิ้มที่มึงมีให้ใครต่อใครรอบๆ ตัวมึง แต่กลับหน้าบึ้งทันทีที่เห็นกู” มัน
“กูเกลียดสีผมมึงด้วย” มันว่า
“ทำไม สีผมกูมันเป็นไง” สีน้ำเงินออกจะสวย..ผมโคตรชอบอ่ะ!
“กูเกลียดที่มันสะดุดตากู” มันว่า
“แล้วไง” ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องไม่เข้าใจ
“เพราะมันทำให้กูต้องมองมึง และมองแค่มึงมาตลอด” มันพูดเบามาก แต่ผมได้ยินครับ
“นี่มึง แอบชอบกูเหรอ” ผมถามก่อนจะหลบตามัน
“เออ!!” แม่งจะตอบให้มันโรแมนติกหน่อยก็ไม่ได้
“กูอึ้งว่ะ” ผมบอกมันก่อนจะนั่งขำ
“ขำไร” มันถาม
“เปล่าๆ” ผมเอามือปิดปากตัวเองไว้ไม่ให้เสียงหัวเราะเล็ดลอดออกมา
“กูบอกมึงหมดแล้ว คราวนี้ถึงตามึงพูดบ้าง” มันว่า
“กู..กูไม่รู้” ทำไมชอบทำให้ผมเขินว่ะ!!
“เร็วๆ” มันเร่งผม คือผมไม่รู้จะต้องบอกหรือพูดอะไร ผมยังไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ
“ถ้าไม่พูด กูจะถามเอาจากตัวมึง” มันพูดก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ผม
“มะ..มึงจะทำอะไร” ผมว่าอย่างหวาดๆ
Ma-NuD_LaW
ตอนหน้า NC :pig4:
-
:hao7:
-
:haun4: เตรียมเลือด เหอๆๆ
-
ถ้าจะหึง จะน่ารักง่องแง้งกันขนาดนี้ น่ารัก
-
Chapter 12
ผมไม่รู้ว่ามันจะหาคำตอบยังไงจากตัวผม รู้แต่ว่าตอนนี้บนตัวผมไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้นแล้ว!!
“นี่มึงหาเรื่องจะ...”
“เออ” มันตอบทั้งที่ผมยังถามไม่จบด้วยซ้ำ
“ไหนมึงบอกจะรอให้กูพร้อมก่อนไง” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“กูเปลี่ยนใจแล้ว” มันตอบก่อนจะซุกไซร้ซอกคอผม
แล้วผมควรจะทำยังไง???
ขัดขืนหรือยอมมันดี???
“กูขอนะ” มันกระซิบเบาๆ ข้างหูผม
“กะ..กูกลัว”ผมกลัวจริงๆนะ
“กูสัญญาจะไม่ทำให้มึงเจ็บ” มันจ้องตาผมแล้วพูด
ผมรู้สึกว่าหัวใจมันเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา
“แมกขอนะครับ”
“คือ..กู”
กลัว..
แต่ก็อยากลอง..
สุดท้ายผมก็พยักหน้าอนุญาตให้มันทำได้ตามใจ ผมจะลองเชื่อทุกอย่างที่มันพูด และผมจะลองเชื่อในความรักของมัน
มันก้มลงมาจูบผม ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนมือลงไปไล้วนรอบๆ สะดือ จนผมรู้สึกขนลุกแปลกๆ
“อื้อ..” ผมร้องเมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ออก
“หึๆ” มันหัวเราะในลำคอ
“ต่อนะ” มันบอกก่อนจะจูบผมอีกครั้ง
มือที่เคยลูบไล้อยู่บนหน้าท้องค่อยๆ เลื่อนลงไปลูบน้องชายผมเบาๆ ส่วนมืออีกข้างก็คอยหยอกล้อกับยอดอกผมไม่ห่าง
“แมกรักปูนนะครับ” มันพูดก่อนจะเลื่อนลงมาซุกไซร้ซอกคอผม
“อื้ม..” เหมือนเสียงครางของผมจะกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวมันจนลุกขึ้นมาดันต้นขาผม
“อย่าหลับตาปูน” มันบอกเมื่อเห็นผมหลับตาลงเพราะความกลัว
“ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก” มันบอกแล้วดึงผมขึ้นไปกอด มันคงอยากปลอบให้ผมหายกลัว
“ทำต่อเถอะ” ผมบอกเมื่อรู้สึกว่ามันคงไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็น้องชายมันเล่นดันขาผมหนักขนาดนี้!!
เมื่อมันคลายอ้อมกอด ผมก็ช่วยมันปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ด
“อย่ากลัวนะ” มันบอกเมื่อเห็นผมมือสั่น
“อื้ม” ผมตอบในขณะที่มือกำลังปลดตะขอกางเกงของมัน
มันใช้มือจับน้องชายผมแล้วรูดเบาๆ ก่อนจะใช้ปากครอบครองยอดอกผมดูดดุนจนมันแข็งเป็นตุ่ม ผมใช้มือจิกลงไปบนบ่ามันเพื่อหาที่ระบายความรู้สึกแปลกๆ นี้
ความรู้สึกที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน..
มันใช้มืออีกข้างจับมือของผมเพื่อให้ไปสัมผัสน้องชายของมัน สอนให้ผมทำกับน้องชายของมัน แบบเดียวกับที่มันทำให้ผม
“อืม..แบบนั้นแหละ” มันร้องออกมา
เหมือนมันจะพอใจที่ผมเริ่มเข้าใจและทำได้ดี จนมันยอมปล่อยให้มือของผมทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ..ไม่ต้องมีมันคอยควบคุมอีกแล้ว
“พอแล้วครับ” มันบอกก่อนจะค่อยๆ แกะมือผมออก
“ให้แมกเข้าไปนะ”ผมพยักหน้าอย่างอายๆ
มันค่อยๆ แยกขาผมออก ก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างในลิ้นชักหัวเตียงออกมา
“อะไรอ่ะ”ผมถาม
“ตัวช่วยให้ปูนไม่เจ็บไง” มันบอกก่อนจะป้ายอะไรเย็นๆ ที่ก้นผม
“ไม่ต้องกลัวนะ”
เหมือนมันจะบอกผมหลายครั้งแล้ว แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี มันจับขาผมยกขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ดันน้องชายมันเข้ามาในตัวผม
เจ็บ!!
โคตรเจ็บเลย!!
“อย่าเกร็งนะ” มันพูดเสียงแหบๆ
“พูดได้แต่ กูทำไม่ได้โว้ย” ผมโวยวาย
ทั้งเจ็บ ทั้งจุกเลย สัด!!
มันหยุดนิ่งสักพักเมื่อสามารถเข้าไปได้จนหมดแล้ว ก่อนจะค่อยๆ ขยับตัวเมื่อผมหยุดโวยวาย จากความรู้สึกเจ็บก็กลายเปนรู้สึกดีแปลกๆ
“อื้อ..อืม” มันใช้มือช่วยน้องชายผมที่กำลังงอแงไม่แพ้ของมัน
“อื้ม...อือ..”
แล้วผมกับมันก็ร้องออกมาพร้อมๆ กันเมื่อต่างคนต่างถึงฝั่งฝัน ผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไหลเข้ามาในตัวผม มันอุ่นๆ จนทำให้ผมรู้สึกดี
“ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดใช่ไหม” มันถามเมื่อล้มตัวลงมานอนอยู่ข้างๆ ผม
“อืม” ผมตอบมันไปแบบอายๆ
“งั้นขออีกรอบนะ” มันว่าเสียงเจ้าเล่ห์
“มะ..ไม่เอาแล้วนะโว้ยยยยย”
Ma-NuD_LaW
NC กากๆ :laugh:
ขอบคุณครับ :pig4:
-
:hao6: เอ็นซีใสๆ เหอๆ :oo1:
-
Chapter 13
“ปูนตื่นได้แล้ว” มันเรียกแล้วเขย่าตัวผม
“โอ๊ย” แค่มันแตะตัวผมนิดเดียวก็ปวดไปทั้งตัว
“กูไม่ไหวหรอก” ผมเริ่มงอแงไม่อยากไปทำงานครับ เพราะสภาพผมตอนนี้แค่ขยับตัวยังลำบากจะแย่แล้ว
“งั้นพักก่อนก็ได้” มันลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ
“เดี๋ยวเรื่องงานกูจัดการให้”
เรื่องงาน..!!
จริงสิ..วันนี้ผมต้องไปคุยเรื่องโปรเจคที่จะต้องทำกับมัน แล้วที่สำคัญโปรเจคนี้ก็มีวินด้วย ถ้าไม่ไปมันก็ต้องมาเกาะแกะแฟนผมดิ!!
“รอเดี๋ยว กูไปด้วย” ผมบอกก่อนพยายามยันตัวลุก
แปร๊บ!! ทำไมมันปวดแบบนี้ว่ะ.ปวดทั้งตัวเลย T^T
“ไม่ไหวก็อย่าฝืนเลย” ผมมองมันตาขวาง แม่งทำตัวน่าสงสัยนะมึง!!
“กูจะไป มาช่วยพยุงกูไปอาบน้ำที” ผมว่า
“ชวนกูอาบน้ำ เดี๋ยวก็มีต่ออีกรอบหรอก” มันว่าทะเล้น
“กูจะเจี๋ยนมึงวันนี้แหละ ลองทำดูสิ” มันมองผมขำๆ ก่อนจะเข้ามาช่วยพยุงผมไปอาบน้ำแต่งตัว
“เพลงเดี่ยวคนละสองเพลงนะครับ ที่เหลือเพลงรวม” เสียงพี่โปรดิวเซอร์สรุปสิ่งที่พวกเราคุยกันในวันนี้ ก่อนที่พวกพี่ทีมงานคนอื่นๆ จะทยอยแยกย้ายกันออกไปจนหมด
“แมก..ไปคุยเรื่องคิวงานอาทิตย์หน้าหน่อยสิ” พี่ฟ้าบอกก่อนจะเดินนำมันออกไปอีกห้องตอนนี้ก็เลยเหลือผมกับวินแค่สองคนในห้องนี้
“ทำไมถึงมาด้วยกัน” ผมมองหน้าวินก่อนจะหันไปรอบๆ
“ถามมึงนั่นแหละ”โหขึ้นมึงเลย..กูไปสนิทกับมึงตอนไหนว่ะ
“พอดีเป็นทางผ่าน มันเลยแวะรับ” ผมตอบมันไป
“ตอแหล คอนโดมึงอยู่คนละทางกับคอนโดพี่แมก” ด่ากูตอแหลด้วย!!
“ไม่เชื่อก็ตามใจ อีกอย่างมันเป็นเรื่องส่วนตัวของกู” หมดความอดทนครับ ปีนเกลียวกูชัดๆ
“แต่เรื่องส่วนตัวของมึงมันมีพี่แมกของกูเข้าไปเกี่ยวด้วย” มันพูดแล้วตบโต๊ะเสียงดัง
“รู้ได้ไงว่ามันเป็นของมึง”ผมถามกวนประสาทมัน
“เขาเป็นของกู” มันยังคงเถียงครับ
“ถามมันหรือยัง หรือว่าทึกทักไปเอง” ผมว่า
“เขาเป็นของกู” ไอ้วินว่าแล้วเริ่มกำหมัด
“แสดงออกเยอะไปป่าวว่ะ ไม่กลัวคนอื่นรู้หรือไงว่าเป็นอ่ะ” ผมถามเตือนสติมัน
ยังไงมันก็เด็กกว่าผม..
“ทำหยั่งกับมึงไม่เป็น” มันพูดแล้วจ้องมาที่คอผม ผมรีบหันไปดูกระจกที่ติดอยู่บนพนังทันที
“เชี้ย” ไอ้แมกไพแม่งทำรอยไว้เต็มคอผมเลย ว่าแล้วว่าทำไมพวกพี่ๆ ทีมงานเขามองผมแปลกๆ
“ดูจากหน้าแล้วมันคงไม่ใช่เมียทำหรอก อย่างมึงคงมีผัวได้อย่างเดียว” โห!! พูดมาไม่ดูหนังหน้าตัวเองเลยนะ สัด!!
“เออ ผัวกูทำ”ผมตอบแล้วจ้องหน้ามัน
“ไปคว้าผู้ชายเหี้ยๆ ที่ไหนมาทำผัวล่ะ ”มันพูดแล้วยิ้มออกมาเหมือนเยาะเย้ย
“ก็ไอ้เหี้ยที่เดินออกไปกับพี่ฟ้าเมื่อกี้แหละ ผัวกู” มันถึงกับทำหน้าเหวอ สะใจว่ะ!!
“กูไม่เชื่อ”มันพูดแล้วเตะเก้าอี้จนล้ม
“พี่แมกไม่ใช่เกย์ มึงโกหก” มันชี้หน้าผม
“กูไม่ได้โกหก”ไอ้ผมมันพวกชอบเอาชนะด้วยสิ
“กูไม่เชื่อ” มันว่า
“เรื่องของมึงดิ”ผมเริ่มเบื่อที่จะเถียงกับมัน ถ้าตอนนี้ผมลุกไหว คงเดินออกไปจากห้องนี้แล้วละ แต่ดันเสือกขยับตัวไม่ได้นี่สิ แม่ง!!
“อีเปียกปูน” มัน เรียกผม อี ด้วย อีกสักพักคงเดินมาตบผม เหมือนนางร้ายในละครแหง่ แล้วมันก็เดินเข้ามาใกล้ผมจริง
“กูจะตบให้มึงหายตอแหลเลย” พูดจบก็ง้างมือขึ้น
“ซวยแล้วไงกู” ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะดันตัวลุก แต่กลับทรุดลงไปที่เดิม
ไอ้แมกไพ..ไอ้หื่นเอ๊ย..เพราะมันคนเดียวเลย แม่ง!!
เพี๊ยะ!!
ผมรู้สึกชาๆ ที่แก้ม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเท่าเมื่อคืนหรอกนะ (ยังมีอารมณ์มาตลก)
“โทษฐานที่มึงโกหกว่าเป็นเมียพี่แมก” มันพูดแล้วแสยะยิ้ม
“แล้วถ้า ที่มันพูดเป็นความจริง”เสียงของใครบางคนเรียกความสนใจจากพวกเรา
“พี่แมก” วิน
“มึง” ผม
Ma-NuD_LaW
:pig4:
-
:sad4: ตัดฉับเลยอ่ะ แง
-
ตบเมียพี่แมกได้ไง ปกป้องเมียอย่างด่วน!!!!! :angry2:
-
Chapter 14
มันจ้องหน้าวินนิ่ง..ในขณะที่วินมีสีหน้าตกใจ
“ผมเปล่าเริ่มนะครับ” วินว่า
“พี่ปูนบอกว่าพี่แมกเป็นเกย์ ผมเลยโมโห” มันว่าแล้วมีน้ำตาคลอๆ ทีงี้..มาเรียกกูพี่นะมึง
“แล้วยังบอกว่า…. พี่กับเค้าเป็น…” มีสะอึกสะอื้นด้วยครับ
“มันเรื่องจริง”มันพูดแทรกขึ้น
“ไม่จริง” วินมันยังคงเถียง (หรือหลอกตัวเอง) ต่อไปครับ
ผมควรจะพูดอะไรไหม แต่ไม่ดีกว่าครับ ขืนพูดเดี๋ยวมันก็โมโหอีก สภาพผมตอนนี้แค่ปกป้องตัวเองยังทำไม่ได้เลยอ่ะ อย่าหาเรื่องดีกว่า..
“ไหนพี่บอกว่าไม่ชอบผู้ชายด้วยกันไง” วินถามมันเสียงดัง
“เออ กูเคยบอก” มันหันมามองผม
“แต่นั่นมันก่อนที่กูจะเจอมัน” มันว่าต่อ
“แต่ผมชอบพี่!!!” วินตะโกนสุดเสียง
“อืม..กูรู้ แต่กูไม่ได้ชอบมึง” มันว่า
“มันมีดีกว่าผมตรงไหน” เสียงวินสะอื้น
“ทำไมพี่ทำกับผมแบบนี้” วินยกมือขึ้นปาดน้ำตา
“มันไม่ได้มีอะไรดีกว่ามึงหรอก” ผมจ้องหน้ามัน
“กูก็แค่รักมัน” มันบอกแล้วสบตาผมนิ่ง
“กูอยากกลับแล้ว” ผมบอกมัน (แก้เขิน)
“อืม” มันเข้ามาช่วยพยุงผมลุก
ตุ้บ!!
ผมรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวเลย..
ก็ไอ้วินดิ..เข้ามาผลักจนผมล้มไปกองกับพื้นเลย
“ทำบ้าอะไรของมึงว่ะ” มันกระชากแขนวินแล้วตะคอกเสียงดัง
“มันอยากสำออยทำไมล่ะ” มาว่ากูสำออยอีก
“มึง” มัน
“มาช่วยกูก่อนดีไหม” ผมบอกมัน นี่ผมกองอยู่บนพื้นนะโว้ย..ทำไม่สนใจแบบนี้ได้ไงว่ะ!!
“ตอแหลจริงๆ” วินมันยังไม่ยอมจบครับ
“ไปหาคนอื่นเหอะ” ผมพูดแล้วเมื่อลุกขึ้นมาได้แล้ว
“เพราะกูคงยกมันให้มึงไม่ได้” ผมพูดต่อ
“กลับกันเหอะ” ประโยคนี้หันไปบอกมันครับ มันก็มองผมยิ้มๆ
“หวังว่ามึงคงเข้าใจนะ เราต้องร่วมงานกันอีกนาน กูไม่อยากมีปัญหา” ผมหันไปบอกมันอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกมา
“ยิ้มอะไรของมึง” ผมถามหลังจากขึ้นมาบนรถแล้ว
“เปล่า”มันตอบ
“เปล่าอะไร ก็มึงยิ้มอยู่เนี้ย”ผมถามมันอีก
“กูมีความสุขมั้ง” มันตอบ
“มีความสุข ทั้งที่กูเพิ่งโดนตบมาเนี้ยนะ” ผม
“หึหึ” เอาอีกแล้ว ไอ้เสียงหัวเราะแบบนี้
“ทำไมถึงยกกูให้วินไม่ได้ว่ะ” มันหันมาสบตาผม
“ไม่รู้” ผมไม่อยากตอบคำถามมันเลย
“บอกหน่อย”มันพูดแล้วโน้มตัวเข้ามาหาผม
“จะทำอะไร” ผมขยับตัวหนีมัน แต่...
“โอ๊ย” เจ็บโว้ย..เจ็บ!!
“รู้ว่าเจ็บ แล้วไม่เจียมว่ะ” มันเยาะเย้ยผม แม่ง!!
“ฮึ้ย” หันหน้าหนีมันครับ
“บอกกูหน่อยนะ” มันพูดเสียงอ้อนๆ
ลองคิดสภาพผู้ชายตัวควายๆ อ้อนนะครับ ขนลุก~!
“ปูน” มันเรียกผมอีก
“หวงกูใช่ไหม” มันถามอีก
“หลงตัวเองว่ะ” ผมว่ามัน
“กูทำตามหน้าที่ต่างหาก” ผมพูดต่อ
“หน้าที่อะไร”มันถาม
“ก็กูเสียตัวให้มึงแล้ว” ผมรู้สึกเขินๆ เมื่อพูดประโยคนี้
“มึงต้องรับผิดชอบชีวิตกู แล้วกูจะยกมึงให้คนอื่นได้ไง”
“หึหึ” มันขำผมอ่ะ
“ขำไร นี่มึงคิดจะฟันกูแล้วทิ้งใช่มั๊ยว่ะ” ผมว่าแล้วทุบๆๆๆๆๆๆๆ มันรัวเลย
“พอๆ” มันบอกแล้วรวบแขนผมเอาไว้
“ถ้ากูจะทำแบบที่มึงว่า กูคงไม่อยู่กับมึงที่นี่ ตอนนี้หรอก” มันจ้องตาผม
“เพราะกูฟันมึงมานานแล้ว แถมมึงยังไม่รู้ตัวอีกต่างหาก” มันว่าต่อ
“ไอ้ๆๆ” ด่าไม่ออกเลยครับ เจอกวนตีนแบบนี้!!
“เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นเหอะ” มันบอกก่อนจะออกรถ
ว่าแต่ทำอย่างอื่น..คือทำอะไรอ่ะ?
อย่าบอกนะว่า..!?
ผมสลัดหัวตัวเองไล่ความคิดทะลึ่งๆ ออกไป นี่ผมกลายเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน??
3 อาทิตย์ผ่านไป~
วันนี้พวกผมต้องมาคุยเรื่องอัดเพลงใหม่กันแล้ว นั่นหมายความว่าพวกผมต้องเจอกับวิน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเลย..ตั้งแต่วันนั้น
“วินมันจะอาละวาดไหมว่ะ” ผมถามลอยๆ ไม่ได้ต้องการคำตอบอะไร
“มันคงเข้าใจ” มันตอบก่อนจะดันหลังผมให้เดินเข้าไปในลิฟต์
“ขอให้มันจริงเหอะ”ผมได้แต่ภาวนาให้เป็นแบบที่มันว่า
“ตกลงตามนี้นะ .. พักซักยี่สิบนาทีละกัน”พี่โปรดิวเซอร์พูดจบก็เดินออกไปพร้อมแก้วกาแฟของตัวเอง ก่อนที่พี่ทีมงานคนอื่นๆ จะทยอยเดินตามออกไป
“เอ่อ..เราไปมั้งไหม” ผมหันไปถามมัน เพราะเริ่มทนสายตาวินที่มองมาไม่ไหว
“ผมไปด้วยสิครับ” วินพูดแล้วลุกตามมา
“เอ่อ..” ทำตัวไม่ถูกเลยผม มันจะมาไม้ไหนว่ะ?
“อย่าห่วงเลยครับ ผมไม่ทำอะไรหรอก” มันบอก
ผมหันไปมองแมกไพเป็นเชิงปรึกษา มันก็พยักหน้าเป็นคำตอบ
“ไปสิ” ผมหันไปบอกวินยิ้มๆ
“ขอบคุณครับ” มันยิ้มตอบกลับมา
“ผมคิดๆ ดูแล้ว ผมคงทำให้พี่แมกรักผมไม่ได้” สีหน้าวินดูเศร้าๆ
“เรายังต้องร่วมงานกันอีกนาน ผมไม่อยากทำให้พวกพี่ลำบากใจ” วินก้มลงมองพื้น
“ผมจะพยายามตัดใจนะครับ” ผมเห็นน้ำตาวินไหล ก็เริ่มสงสาร
“เออ” มันตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินนำหน้าพวกผมออกไป
“ไปกินกาแฟกันนะ” ผมเอ่ยปากชวนวิน
“เออ” มันตอบแล้วเดินกระแทกไหล่ผมออกไป
แบบนี้หมายความว่าไงว่ะ!!!
Ma-NuD_LaW
ทวนๆ ก่อน เดี๋ยวทยอยอัพเท่าที่มีเวลา ((อยากให้จบแล้ว))
:hao7:
:pig4:
-
Chapter 15
“พี่ปูนลองชิมของวินสิครับ” วินพูดแล้วเลื่อนจานของตัวเองมาใกล้ๆ ผม
“ครับ” ผมตอบรับวินแบบงงๆ ก่อนจะตักเค้กเข้าปาก
“อร่อยไหมครับ” วินถามผม
“ครับ”ผมตอบแบบงงๆ อีกรอบ
ไอ้น้ำเสียงแข็งๆ กับกริยาก้าวร้าวเมื่อก่อนหน้านี้หายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น
และตลอดเวลาที่อยู่ในร้านกาแฟวินก็ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจแมกไพเท่าที่ควร แต่กลับเลือกมานั่งเอาใจผม พอมีใครจะบอกผมได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น???
“เดี๋ยววินไปสั่งเค้กเพิ่มนะครับ” วินบอกแล้วลุกไป
“มึงว่ามันแปลกๆ ไหม” ผมหันไปถามมันทันที
“อะไรแปลก” มันย้อนถามผม
“ก็วินไง” ผม
“ยังไง”อ้าว..กูมีแฟนโง่เหรอเนี้ย?
“ก็มันนั่งเอาใจกู แทนที่จะวุ่นวายกับมึงไง” ผมบอกมัน
“ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน” มันยกกาแฟขึ้นดื่มก่อนจะพูดต่อ
“คงอยากขอโทษที่ตบมึงมั้ง” ผมเริ่มคล้อยตามที่มันพูดแล้วครับ..
คงจะจริง..วินคงสำนึกผิดแล้วจริงๆ
“เค้กมาแล้วครับ”ผมหันไปยิ้มให้วิน
จากนี้ไปผมจะทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีของวิน เพื่อตอบแทนที่มันยอมเข้าใจพวกผมละกัน!!
“ตั้งใจหน่อยดิปูน หลายรอบแล้วนะ” ผมก้มหน้าเป็นเชิงขอโทษพี่โปรดิวเซอร์
ให้ตายสิ..ตอนนี้ผมไม่มีสมาธิเลย ก็วินกับไอ้แมกไพดิคุยอะไรน่าตลกกันนักหนาก็ไม่รู้ ถึงได้หัวเราะต่อกระซิกกันแบบนั้น แถมยังถูกเนื้อต้องตัวกันอีก
ผมมองพวกมันที่กำลังยิ้มและหัวเราะไปด้วยกัน แล้วรู้สึกโหวงๆ กับผมมันยังไม่เคยหัวเราะแบบนี้เลย
“เอ้า..ลองดูใหม่นะ”เสียงพี่โปรดิวเซอร์ช่วยดึงผมให้หลุดจากความคิด
“ครับ” ผมขยี้หัวตัวเองไล่ความคิดแย่ๆ ออกไป ผมควรจะเลิกระแวงพวกเขาแล้วตั้งใจทำงานนะ!!
แต่สายตามันก็ยังหันไปมองที่พวกเขาอยู่ดี..
“โอเคผ่าน!” พี่เขาบอกผมก่อนจะโบกมือเป็นคำสั่งให้แมกไพเข้ามาอัดเสียงเป็นคนต่อไป
“วันนี้เป็นอะไร ดูไม่มีสมาธิเลยนะมึง” มันหันมาถามผมระหว่างที่เดินสวนกัน
“เปล่า” ผมบอกมันยิ้มๆ จะให้ผมพูดได้ยังไง..ว่าผมไม่พอใจที่มันทำตัวสนิทสนมกับวิน ในเมื่อวินบอกแล้วว่าจะตัดใจ ผมก็ควรจะเชื่อใจพวกเขาใช่ไหมครับ?
“ความจริงวินน่าจะเข้าไปอัดก่อนนะ เลยต้องมาเสียเวลารอพี่เลย” ผมบอกวินเมื่อเดินมานั่งข้างๆ เขาเรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ..ได้นั่งคุยกับพี่แมกก็สนุกดี” วินตอบ
“แล้วคุยอะไรกันเหรอ”ในที่สุด..ผมก็ถามออกไปจนได้
“ถามทำไม หวงเหรอครับ” วินหันกลับมาจ้องตาผม
“เปล่าๆ พี่แค่ลองถามดู” ผมบอกแล้วหันไปมองแมกไพที่กำลังอัดเสียง
“ชะล่าใจแบบนี้ ระวังถูกแย่งไปแบบไม่รู้ตัวนะครับ” ผมหันไปมองวิน นี่ผมหูฝาดไปหรือเปล่า ที่ได้ยินวินพูดเหมือนกำลังหาเรื่องผมแบบนี้?
“เมื่อกี้…..ว่าอะไร?”ผมถามวิน
“ผมก็พูดไปเรื่อยน่ะครับ ฮ่าๆ” วินตอบแล้วหัวเราะออกมา
ขอให้พูดเล่นจริงๆ เถอะ เพราะถ้ามันไม่เล่น..แล้วคิดจะทำจริง ผมคงจะไม่อยู่เฉยเหมือนคราวก่อนแน่!!
“ทางผู้ใหญ่ให้เปิดตัวซิงเกิ้ลแรกภายในสิ้นเดือนนี้” พี่โปรดิวเซอร์บอกพวกเราเมื่อวินอัดเสียงเสร็จแล้ว
“พรุ่งนี้..พวกเรามีคิวต้องไปถ่ายเอ็มวีตัวแรกกัน” พี่เขาบอกต่อ
“แล้วถ่ายที่ไหนเหรอครับ” วินถามพี่โปรดิวเซอร์
“ชายทะเล” พี่เขาพูดยิ้มๆ
“ลองให้ปูนกับวินใส่บิกินี่ดีไหมน้า” พูดจบพี่เขาก็หัวเราะเสียงดังเลย
ไอ้ผมน่ะชินกับการถูกล้อแบบนี้แล้ว แต่แฟนผมดูท่ามันคงยังไม่ชิน เพราะมันหันไปมองพี่เขาตาเขียว
“แล้วทะเลแถวไหนหรอครับ” ผมถามเปลี่ยนเรื่อง
“ที่ระยอง”พี่เขาตอบ
หลังจากนัดเวลากันเรียบร้อย พวกเราก็แยกย้ายกันกลับ แต่วินมันขอติดรถกลับด้วย (แล้วรถมันไปไหน?) แถมยังแย่งนั่งเบาะหน้าคู่กับแมกไพด้วยเหตุผลที่ว่า ผมเมารถ!!
“พี่แมกครับ” เสียงวินมันชวนแมกไพคุยไปตลอดทาง
แถมยังทำเหมือนลืมว่าผมอยู่บนรถด้วยอีกต่างหาก ชักอารมณ์เสียแล้วนะ!!
ผมมองแมกไพที่มองผมผ่านกระจกเป็นระยะๆ แล้วรู้สึกหมั่นไส้ เลยแกล้งหลับตาลง ให้พวกมันคิดว่าผมหลับละกัน..
“ขอบคุณนะครับ” วินเอ่ยปากขอบคุณเมื่อถึงหน้าบ้านมัน
“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ”
“อืม” มันก็ตอบสั้นๆ เหมือนเคย
ผมหรี่ตามองว่าเมื่อไรมันจะลงจากรถสักที แต่ดันเห็นภาพที่วินจุ๊บเบาๆ ที่แก้มมัน ก่อนจะรีบวิ่งลงจากรถไป
นี่พวกมันทำอะไรกันว่ะ!!
Ma-NuD_LaW
ที่แต่งไว้มันเป็นตอนๆ อ่ะครับ.. ผมขี้เกียจเอามารวม ขออนุญาตลงๆ ไปตามที่แบ่งไว้นะ ((แค่ 20 ตอนเอง))
ขอบคุณครับ
-
Chapter 16
“ปูนตื่นเถอะ ถึงแล้ว” มันหันมาปลุกผมเมื่อถึงคอนโดแล้วแต่ผมก็แกล้งหลับอยู่แบบนั้นจนมันต้องแบกผมขึ้นหลัง เพื่อพาเข้าห้อง
“ขี้เซาจริงๆ” มันพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
ผมรู้สึกอยากจะบีบคอมันมากเลยตอนนี้ อยากรู้จริงๆ ว่ามันหัวเราะความขี้เซาของผม หรือหัวเราะเพราะมีความสุขกับฉากสวีทบนรถของมันกับวินกันแน่
“ปูนตื่น..ถึงห้องแล้ว” มันปลุกผมอีกครั้ง เมื่อวางผมบนโซฟาเรียบร้อยแล้ว
“มึงต้องลุกมาอาบน้ำนะ ตัวเหม็นขนาดนี้” มันบีบจมูกผมเบาๆ
เดี๋ยวนี้มันเหม็นผมแล้วเหรอ..คงเบื่อผมแล้วสิ เพราะถ้าเป็นปกติมันคงเอาผมไปวางที่เตียงแล้ววุ่นวายกับผมได้ทั้งที่ยังไม่อาบน้ำแล้ว
“มึงไปอาบเหอะ คืนนี้กูนอนตรงนี้แหละ” ผมบอกมันทั้งที่ยังไม่ลืมตา
“ขี้เซาแล้วยังขี้เกียจอีกนะมึง” ผมหันหลังให้มันทันที
“ลุกเร็วๆ ไม่ลุกกูปล้ำนะเว้ย” มันขู่
“อยากเหรอ..อารมณ์ค้างมาจากไหน” ผมพูดประชดมัน
“เป็นอะไร” มันถาม
“..............” แต่ผมเงียบไม่อยากตอบ
“มึงไม่พูดแล้วกูจะรู้เรื่องไหม” มันว่าเสียงทุ้มๆ
“........” แต่ผมก็เลือกที่จะยังเงียบ
ทำไมผมไม่โวยวายงั้นเหรอ? ก็ผมอยากให้มันสารภาพเอง ถึงจะเป็นแค่คำแก้ตัวหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมก็อยากให้มันพูดออกมา ไม่ใช่เงียบ..เพราะคิดว่าผมไม่เห็นแบบนี้
“ตามใจมึง ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด” พูดจบมันก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย
ผมนอนฟังเสียงน้ำที่ดังออกมาเงียบๆ จนเผลอหลับไป...
“ปูนตื่นได้แล้ว”
“วันนี้มีถ่ายเอ็มวีนะมึง” มันบอกแล้วเขย่าตัวผม ผมรีบเด้งตัวขึ้นมานั่งทันที
“รีบไปอาบน้ำดิ” มันว่าต่อ ผมหันไปมองหน้ามัน ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนอนอยู่ที่โซฟา นี่มันปล่อยผมนอนตรงนี้จริงๆ เหรอ?
“เร็ว มันสายแล้ว” ผมลุกเข้าห้องน้ำทันที โมโห!!หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็ไม่ปริปากพูดกับมันอีก จนมาถึงที่บริษัท
“ขึ้นรถเลยครับ” พี่ทีมงานบอกให้พวกเราขึ้นรถ
ทุกๆ คนก็ทยอยกันไปขึ้นรถ ผมก็เดินตามแมกไพกับวินเพื่อไปขึ้นรถตู้ที่จัดไว้สำหรับพวกเรา นึกหมั่นไส้วินที่เกาะแฟนผมไม่ยอมห่าง มันเหลือบมองผมเป็นระยะๆ ผมเลยเบือนหน้าหลบสายตามัน เผื่อมันอาจจะรู้ตัวบ้าง..
“โทษทีครับ ผมมาสาย” ผมหันไปมองพี่คนหนึ่งที่วิ่งลงมาจากรถเก๋งสีดำที่เพิ่งมาจอด
“เออๆ แล้วเอากล้องมาด้วยแล้วใช่ไหม” อ่อ..สงสัยจะเป็นตากล้อง
“เรียบร้อยแล้วครับพี่ อยู่ในรถ” พี่ตากล้องคนนั้นตอบ
“งั้นก็รีบไปช่วยกันขนขึ้นรถสิ” พี่ทีมงานคนเดิมออกคำสั่ง
“อย่าเสียเวลาเลยครับ เดี๋ยวผมขับรถตามไปเลยดีกว่า” พี่เขาบอก
“เออๆ งั้นขึ้นรถเลยทุกคน” สิ้นเสียง..ทุกๆ คนก็ทยอยกันขึ้นรถผมมองแมกไพที่ถูกวินดันหลังให้ขึ้นรถก่อนที่ตัวเองจะตามไปนั่งประกบข้างๆ
“ทุกคนไปเลยครับ ผมไปนั่งกับพี่ตากล้องละกัน” ผมบอกแล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถพี่เขาทันที
“ขอไปด้วยคนนะครับ” ผมบอกแล้วขึ้นไปนั่งคู่กับเขา
“เอ่อ..ครับ” พี่เขาทำหน้างงๆ แต่ก็ยอมให้ผมไปด้วยครับ
ผมยิ้มให้เขาก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัย ไปกับพี่เขาคงดีกว่า..ยังไงก็ดีกว่าไปนั่งดูวินมันออดอ้อนแฟนผมแหละ ถึงตอนนั้นผมอาจจะเป็นบ้าอาละวาดจนงานพังก็ได้!!
“พี่ๆ ผมปวดฉี่” ผมหันไปบอกพี่เขา
“แวะปั๊มหน่อยดิ” ผมว่าต่อ
“จะดีเหรอ เดี๋ยวขับตามคันอื่นไม่ทัน” พี่เขาบอก
“จะให้ผมฉี่แตกในรถเลยไง” ผมขู่พี่เขา จนพี่เขายอมเลี้ยวรถเข้าปั๊ม พอรถจอดปุ๊บผมก็วิ่งเข้าห้องน้ำทันที
“กาแฟครับ” ผมบอกแล้วยื่นแก้วกาแฟไปให้
“เข้าห้องน้ำยังไงได้ขนมมาเยอะแยะแบบนี้”พี่เขาพูดแซวๆ ก่อนจะยื่นมือมารับแก้วไปจากผม
“กองทัพต้องเดินด้วยท้องไงพี่” ผมพูดแล้วกัดขนมปังคำใหญ่ๆก็ตั้งแต่เช้าผมยังไม่ได้กินอะไรเลยนี่นา หิวจะแย่!!
“แล้วพี่เคยฟังเพลงผมป่ะ” ผมเริ่มชวนคุย
“ไม่อ่ะ” เขาตอบ
“พี่แม่งเชยว่ะ” ผมพูดแล้วหัวเราะเสียงดัง
ตั้งแต่ออกรถมาผมคุยกับพี่เขาไม่หยุดเลย ทั้งที่ปกติผมไม่ค่อยชอบคุยกับคนแปลกหน้าแท้ๆ แต่พี่เขาดูเฮฮาดี..ผมชอบ
ครืดๆๆๆ~ เสียงโทรศัพท์ผมดังสั่นติดๆกันไม่หยุด
“ไม่รับโทรศัพท์อ่ะ” พี่เขาถามเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ผมมันดังหลายรอบแล้ว
“พวกโรคจิต”ผมบอกแล้วกดตัดสายอีกครั้ง
ติ๊ดๆ
ผมกดเปิดข้อความที่เพิ่งถูกส่งเข้ามา
[รับโทรศัพท์กูเดี๋ยวนี้!!]
จะมีใครล่ะครับ.ก็แฟนผมแหละ ผมกำลังจะกดข้อความส่งกลับไป แต่หน้าจอมันดับไปเลย
“เชี้ย แบตหมด” ผมบ่น
“เอาของพี่ไปใช้ดิ” พูดแล้วก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผม
“ขอบคุณครับ”ผมเอ่ยปากขอบคุณก่อนจะหยิบโทรศัพท์พี่เขามา แต่..มันก็มืดสนิทเหมือนของผม!!
“ของพี่ก็แบตหมด”ผมบอกพี่เขาด้วยสีหน้าเอือมๆ พี่แกก็รับกลับไปยิ้มๆ
“ขับมาตั้งนานแล้ว ทำไมยังไม่เจอรถตู้ทีมงานเลยอ่ะ” ผมตั้งข้อสังเกต
“เหะๆ พี่มีไรจะบอก” ผมหันไปมองหน้าพี่เขา
“พี่ว่าเราหลงว่ะ” เขายิ้มแหยๆ
“ห๊ะ”ผม
“พอดีพี่ไม่ชินทาง” แล้วทำไมไม่บอกกูให้มันเร็วกว่านี้ว่ะ!!
Ma-NuD_LaW
-
Chapter 17
“นี่พี่พาผมหลงทางเหรอ” ผมถาม
“ก็เราบอกให้พี่แวะปั๊มเองนะเว้ย พี่เลยตามคันอื่นไม่ทัน” พี่แกแก้ตัว
“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมล่ะ ว่าพี่ไม่รู้ทาง” ผมโวยครับ
“เราเปิดโอกาสให้พี่พูดป่ะว่ะ” อ้าว..ว่าผมพูดมากงั้นดิ แต่มันก็จริง = =”
“แล้วเราจะทำยังไงกันต่อ” ผมถามพี่เขา เมื่อเห็นว่ามัวแต่เถียงกันมันเสียเวลาเปล่าๆ
“ไม่รู้ดิ”ดูพี่แกตอบ
“งั้นจอดรถก่อนเลย เดี๋ยวมันจะหลงไปไกลกว่านี้” ผมบอกพี่แก
“แบตก็หมด แถมยังหมดพร้อมกันอีก” ผมบ่นต่อ
“ทำไมขี้บ่นจังว่ะ” พี่แกถามแล้วหัวเราะ
“แล้วทำไมพี่ดูเซ่อๆว่ะ” ผมก็กวนตีนกลับครับ
“ว่าแต่พี่ชื่อไร” ผมถามต่อ
“เพิ่งจะมาถาม”พี่เขา
“พี่ชื่อต่อครับ” พี่เขาบอกทันที เมื่อเห็นว่าผมไม่เล่นด้วย
“พี่ต่อออกรถเลยพี่” ผมบอกเมื่อนึกอะไรออก
“เดี๋ยวแวะถามร้านค้าข้างหน้าก็ได้”พี่แกก็ออกรถทันทีที่ผมพูดจบ แต่..
ตึกๆ
รถมันกระตุกสองสามครั้ง ก่อนจะดับไป
“เอ่อ..พี่มีไรจะบอก” ผมโบกมือให้พี่แกหยุดพูด ไม่ต้องบอกผมก็รู้แล้วครับ
“ชีวิตพี่ยังเหลืออะไรดีอีกไหมว่ะเนี้ย มือถือก็ดับ รถยังเจือกมาดับตามอีก”ไม่น่าเลยกู..ไม่น่ามานั่งรถพี่แกเลย
“ใจเย็นๆ” พี่ต่อพยายามปลอบผม
“โคตรอยากฆ่าพี่เลยว่ะ” ผมขยี้หัวตัวเอง
“ซ่อมรถเป็นป่ะ” ผมถาม
“ไม่อ่ะ”เขาตอบง่ายๆ
“เจริญเหอะ” ผมยกนิ้วโป้งให้ในความเจ๊ง เอ๊ย เจ๋งของพี่แกเลย
“พี่ลองสตาร์ทอีกทีดิ๊ เดี๋ยวผมลงไปเข็นรถให้” ผมบอกแล้วทำท่าจะลงรถ
“เฮ้ย..จะดีเหรอ เดี๋ยวพี่ลงไปเข็นเอง” พี่ต่อบอกผม
“นี่มันรถพี่ พี่ต้องรู้ใจมันดีที่สุดสิ” ผมบอกแล้วเปิดประตูรถลงไปทันที
“เอ้า..พร้อมนะ”แล้วผมก็เริ่มเข็นรถพี่แกครับ
บรื้น!!
แค่กๆ
รถมันติดแล้วครับ แต่ผมสำลักควันเต็มๆ เลย
“ไม่เป็นไรนะ” พี่ต่อวิ่งลงมาดูผมทันที
“ถามไม่ดูสภาพผมเลยนะพี่” ผมบ่นแล้วก้มดูสภาพตัวเอง
“ดูเสื้อผมดิ” คิดสภาพเสื้อขาวๆ โดนเขม่าควันสีดำๆ นะครับ
“เสร็จงานแล้วเอารถไปเช็คสภาพมั้งนะ”ผมบ่นๆ ยังดีนะที่ผมใส่กางเกงสีดำอ่ะ
“ในรถพี่มีเสื้อ เอามาเปลี่ยนก่อน” พี่ต่อบอก
“อือ”ผมตอบแล้วอ้อมไปขึ้นรถ
“ตัวใหญ่ไปหน่อย แต่คงใส่ได้” พี่ต่อยื่นเสื้อมาให้ผม
“สีแม่งหวานเว่อร์ๆ” ผมพูดประชดก่อนจะดมๆ เสื้อสีชมพูของพี่แก
“ยังไม่ได้ใช้หรอก ใส่ๆ ไปเหอะ”พี่แกพูดดักคอผม
ผมเลยจัดการถอดเสื้อตัวเองออกก่อนจะเอามาเช็ดๆ กางเกงที่เปื้อน สุดท้ายมันคงเป็นได้แค่ผ้าขี้ริ้วแหละ T^T
“รีบๆ ใส่เสื้อซะ” ผมหันไปมองพี่ต่อที่ก้มหน้าอายๆ
พี่แกเป็นไรว่ะ???
“ไปได้ยัง” นี่ผมใส่เสื้อเสร็จตั้งนานแล้วนะเว้ย ทำไมพี่แกยังก้มหน้าอยู่อ่ะ
“พี่..พี่ต่อ”ผมสะกิดพี่แกเบาๆ
“ครับๆ”พี่แกทำท่าทางตื่นๆ ก่อนจะออกรถ
“พี่ต่อจอดๆ” แม่ง..ลืมแล้วหรือไง ว่าตัวเองไม่รู้ทางอ่ะ
“เอ่อ..เดี๋ยวพี่มานะ”พี่แกบอกแล้ววิ่งลงไปถามทางคนในร้านค้า
“เป็นไรมากเปล่าว่ะ”ผมบ่นกับตัวเอง
หลังจากที่พี่ต่อถามทางเสร็จก็กลับขึ้นรถมา แล้วขับรถอย่างเดียวไม่ยอมพูดยอมจาเหมือนทีแรก นี่ผมทำไรให้พี่แกไม่พอใจเปล่าอ่ะ?
กว่าจะมาถึงก็เกือบๆ บ่ายโมง พวกพี่ๆ ทีมงานวิ่งกรูกันเข้ามาหาพวกเราเลย ผมได้ยินพี่ต่อแกโดนบ่นซะยืดยาว ส่วนผมมีแต่คนมาปลอบขวัญ (เกิดมาน่ารักก็ดีอย่างงี้แหละ)
“ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเสียเวลานะครับ” ผมบอกพวกพี่ๆ เขา
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องปูนไม่ผิดหรอก ไอ้ต่อต่างหากที่ผิด” พี่เขาหันไปกัดพี่ต่อเบาๆ ครับ
“โห..เจ้ ไม่ค่อยจะลำเอียงเลยนะ” พี่ต่อแกบ่นๆ ขณะขนกล้องลงครับ
“น้องปูนไปแต่งหน้าทำผมก่อนนะค่ะ” พูดจบพี่เขาก็ดึงมือผมไปที่เต็นครับ (เรามาถ่ายที่ชายหาดโรงแรมครับ)
ผมเห็นวินแต่งตัวเกือบเสร็จแล้ว ส่วนแมกไพคงจะเสร็จนานแล้วเหมือนกัน นั่งจ้องผมตาเขียวเลยครับ สยอง~!
“พี่ปูนไปทำไรมาครับ” วินหันมาถามผม
“หลงทางว่ะ แถมรถเสียด้วย” ผมตอบมันไป
“หลงทางไปซะไกลเลยสินะครับ ถึงได้มาเอาป่านนี้” เหมือนมันกำลังหาเรื่องผมเลยอ่ะ!!
“ต๊าย..เสื้อน่ารักจังเลยค่ะ” ผมก้มมองเสื้อตัวเอง
“เหอๆ ของพี่ต่ออ่ะครับ” ผมบอกพวกพี่เขาไปยิ้มๆ นึกสภาพพี่ต่อตอนใส่เสื้อตัวนี้ไม่ออกเลย แม่งเถื่อนซะขนาดนั้น!!
พรึ่บ!!
ตัวผมปลิวตามแรงกระชาก
“จะทำอะไร” ผมถามมันงงๆ
“หึ!” มันตอบแค่นั้นแล้วลากผมออกมาเลย
“แมกไพจะไปไหนค่ะ น้องปูนยังแต่งตัวไม่เสร็จเลย” พี่ๆ ช่างแต่งหน้ารีบเข้ามาห้าม
“ผมมีธุระต้องคุยกับมัน ค่าเสียหายทั้งหมด ผมรับผิดชอบเอง” แล้วมันก็ลากผมเข้าไปในโรงแรมทันที
“จะทำอะไรของมึง” ผมถามแล้วพยายามจะดึงแขนออก
“รู้ไหมมึงกำลังทำให้คนอื่นเขาเสียเวลา” ผมถามมัน
“รวยนักหรือไง ถึงได้เอาเงินมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้” คราวนี้ผมตะคอกมันเลยครับ
“ไร้สาระ!” มันหยุดแล้วหันมาตะคอกผมกลับ
“เมียกูมีชู้ มันไร้สาระมากเลยใช่ไหม ห๊า!!”
Ma-NuD_LaW
-
Chapter 18
“เมียกูมีชู้ มันไร้สาระมากเลยใช่ไหม ห๊า!!”
ผมอึ้งไปชั่วขณะ มันว่าผมมีชู้เหรอ?
ผมเนี้ยนะมีชู้..!!
“เข้าไป” มันว่า ส่วนผมยืนนิ่งไม่ยอมขยับ มันก็ผลักผมเข้าไปในลิฟต์
“ถอดเสื้อออก” มันสั่งผม
“กูบอกให้ถอดเสื้อออก” มันไม่รอให้ผมถอดเองแล้วครับ กระชากเสื้อออกไปเลย
“ไม่ให้มันทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้ ฉลาดดี” มันว่าผม
“รอยอะไร มึงคิดอะไรอยู่” ผมถามมัน
“จะให้กูคิดอะไรได้ เมียกูวิ่งไปขึ้นรถใครก็ไม่รู้แล้วหายไปกับมันตั้งนานสองนาน กลับมาก็ใส่เสื้อผู้ชายคนอื่น” ผมพุ่งหมัดเข้าใส่มันทันที
“โอ๊ย!!” มันจับแขนผมบิดไปข้างหลัง
“กูเจ็บ” ผมบอกมัน นี่ครั้งที่สองแล้ว ที่มันทำรุนแรงกับผม
“ปล่อยกู”ผมโวยวายอีกแต่ดูเหมือนมันไม่สนใจคำพูดผม แต่ใช้มืออีกข้างของมันที่ว่างปลดกางเกงผมจนลงไปกองกับพื้นทันที
“สัด ปล่อยกูนะ”ผมดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ไม่หลุด แม่ง..แรงควายจริงๆ
“จะทำอะไร” ผมถามมันเสียงสั่นๆ
ก็ตอนนี้มันเล่นเอามือมาลูบน้องชายผมผ่านกางเกงในตัวเดียวที่ยังหลงเหลือไว้ปกปิดร่างกายผม
“พวกมึงไปทำอะไรกันมา” มันกระซิบถามเบาๆ ที่ข้างหูผม
“กูแค่หลงทาง”ผมบอกมันเสียงสั่นๆ
“กูไม่เชื่อ” มันบีบน้องชายผมไม่แรงนัก แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกเสียวมาก
“ทำไมมันตื่นตัวไวขนาดนี้” มันพูด
“สัด” ผมจะไปรู้ได้ยังไง สงสัยติดนิสัยหื่นมาจากมันมั้ง
“มึงจะไม่พูดใช่ไหม..ได้” มันว่า แล้วมันก็จับผมนอนคว่ำกับเตียง ก่อนจะตามขึ้นมาทับตัวผมเอาไว้
ผมรู้สึกถึงความร้อนจากตัวมัน..แม่งถอดเสื้อตอนไหนว่ะ ไวชิบหาย!!
“กูให้โอกาสมึงพูดแล้ว แต่มึงเสือกไม่พูดเอง” แล้วมันก็จัดการดึงกางเกงในผมออก
“ปล่อยกู” ผมออกแรงดิ้นอีก
“กูจะลงโทษ ที่มึงกล้านอกใจกู” สิ้นสุดคำพูด มันกระแทกแก่นกายเข้ามาในตัวผมทันที
ไม่มีตัวช่วย..ไม่รอให้ผมเตรียมตัว มันเจ็บ เจ็บมากจริงๆ
“สัด..กูเจ็บ” น้ำตาผมไหลออกมา
“ปล่อยกู”
มันไม่ฟังเสียงผมอีกต่อไป เอาแต่ออกแรงกระแทกเข้ามาในตัวผมนับครั้งไม่ถ้วน ทุกๆ ครั้งมันช่างรุนแรงเหมือนต้องการระบายความโกรธออกมา ผมได้แต่จิกหมอน..เพราะหวังว่ามันจะช่วยให้ผมเจ็บน้อยลงบ้าง
“อื้อ” มันกระตุกสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยมาในตัวผม
“เอาออกไปสักที” ผมบอกมัน
“ไม่” มันบอกแล้วจับผมขึ้นมานั่งบนตัวมัน ทั้งที่ยังไม่ถอดแก่นกายมันออกไปจากตัวผม
“เชี้ย..กูเจ็บ” ผมด่ามัน
“เจ็บก็ดี”มันพูดแล้วรูดน้องชายผมขึ้นลง
ผมรู้สึกเสียวๆ แต่ก็ยังมีสติพอจะรับรู้ว่า ไอ้แท่งที่อยู่ในตัวผมมันเริ่มขยายออกมาเหมือนกัน
“กูไม่ไหวแล้ว” ผมบอกแล้วงอตัวลง เลยได้เห็นคราบเลือดตัวเองที่เปื้อนอยู่บนผ้าปูที่นอน
ทำไมมันซาดิสแบบนี้ว่ะ!!
“กูเจ็บ” ผมบอกเมื่อมันเริ่มขยับอีกครั้ง
“อื้อ...อืม..” เสียงมันร้องครางอย่างพอใจ ทั้งที่ผมแสบรูตูดแทบตาย ผมพยายามดึงตัวออก แต่มันกลับล็อคเอวผมไว้แน่น
แม่ง..อีกนิดกูจะมีอารมณ์ร่วมอยู่แล้วนะ เมื่อไรจะดิ้นหลุดสักทีว่ะ!!
“อ๊ะ..อ่า..” แล้วเสียงครางของเราก็สอดประสานกันไปครั้งแล้วครั้งเล่า..ตลอดบ่ายนั้นเลย
“กูลงไปเข็นรถ..แล้วเสื้อกูก็เปื้อน..บลาๆๆๆ” ผมนั่งอธิบายทุกอย่างให้มันฟังหลังจากเรี่ยวแรงเริ่มกลับมา
“แล้วไปขึ้นรถมันทำไมตั้งแต่แรก” มันถามผม
“กูหมั่นไส้มึงกับวิน”ผมตอบ
“แล้วทำไมไม่บอกกูตรงๆ” มันถามแล้วดันหัวผมให้ไปซบไหล่มัน
“ทีมึงยังไม่บอกกูเรื่องที่วินมันหอมแก้มมึงเลย” ขุดครับ ต้องขุดออกมาพูดให้หมด
“หอมแก้ม” มันทำหน้างงๆ ก่อนจะกระตุกยิ้ม “หึ”
“ขำเหี้ยไร”
“กูไม่ทันตั้งตัว และไม่คิดว่าจำเป็นต้องพูด เพราะพูดไปมันก็ทำให้มึงไม่สบายใจเปล่าๆ”
“...”
“แต่มึงน่าจะถามกู มากกว่าทำตัวประชดแบบนี้”
“กูกลัวมึงว่ากูหึงไม่เข้าท่า ”ผมบอก
“คิดเอง”มันบีบจมูกผม
“กูแคร์มึงมากกว่าทุกคน กูจะทำทุกอย่างที่มึงพอใจเท่านั้น” มันบอกผมด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“จะทำอะไร” ผมถามเมื่อมันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“นอกเวลางาน ห้ามมึงเข้าใกล้กูอีก” ผมนิ่งฟังสิ่งที่มันพูด
“มันไม่เคยพูดอะไร”
“กูแค่ไม่อยากทำให้มันเข้าใจผิด”
“เรื่องของมึง แค่ช่วยอยู่ห่างๆ กูก็พอ” แล้วมันก็กดตัดสายทันที
Ma-NuD_LaW
-
Chapter 19
เช้าวันนี้ผมสามารถมามาถ่ายเอ็มวีได้ปกติครับ เพราะเมื่อวานมันโมโหเลยเอาๆๆๆ อย่างเดียว ไม่ได้ทำรอยอะไรไว้บนตัวผม ซึ่งถือเป็นข้อดีในเหตุการณ์ร้ายๆนั้นครับ
ผมนั่งคำนวณเงินที่มันจะต้องจ่ายแล้วคงไม่น้อยเลย ทั้งค่าห้องพักของทีมงานทั้งหมด ค่าเสียเวลา ค่าบลาๆๆ คิดแล้วเสียดายเงินจริงๆ ครับ
“พยุงกูไปนั่งที” ผมบอกมันเมื่อจบคิวที่ผมต้องถ่ายแล้ว (ไม่มีรอยแต่ก็เจ็บนะครับ ตูดระบมเลยทีเดียว)
“มึงพูดแรงไปหรือเปล่าว่ะ วินมันดูซึมๆ ไปเลย”ผมถามมันเมื่อเรามานั่งพักอยู่ในเต็น รอวินถ่ายต่อ
“เจ็บ..แต่จบ” มันบอกแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือของมันต่อไป หรืออาจจะจริงอย่างที่มันพูด เจ็บแต่จบ!!
หลังจากถ่ายงานเสร็จ พี่ๆ ทีมงานก็แยกย้ายกันกลับ รวมทั้งวินด้วย ส่วนผมกับแมกไพอยู่ต่ออีกคืนครับ เพราะสภาพผมตอนนี้คงนั่งรถกลับไม่ไหวหรอก ช่วงล่างมันพังครับ..
“กูจะนอนแล้ว”ผมบอกเมื่อมันเริ่มวุ่นวายกับผมอีกแล้ว
“กูง่วงแล้ว”หันหลังหนีมันเลยครับ
“โอ๊ย” แม่ง..บีบตูดผมอีก
“กูอยากว่ะ” ดูมันพูดดิ แม่งหื่นไม่ดูเวล่ำเวลาเลย!!
“ไม่ได้กูเจ็บอยู่” ผมแกะมือมันที่กำลังวุ่นวายอยู่บนตัวผม
“แค่ข้างนอกก็ได้” มันยังเอาแต่ใจไม่เลิกครับ
“กูทำไม่เป็น” ผม
“ก็ใช้มือเหมือนที่กูทำให้มึงไง” มันบอกผม
“กูเพลีย ”ผมหาข้ออ้างไปเรื่อยๆ
“กูอยาก” มันยืนยันคำเดิม ก่อนจะจับผมนอนหงายแล้วย้ายตัวมาคร่อมผมเอาไว้
“ทำไมมึงหื่นจังว่ะ” ผมด่ามัน
“ก็หื่นกับมึงคนเดียว” พูดจบก็ซุกไซร้ซอกคอผม
“นี่มึงจะเอาให้ได้เลยใช่ไหม” ผมถามมัน
“เออ!!” มันตอบ
“แค่ข้างนอกจริงๆ นะ” ผมถามมันอีก
“อืม”เหมือนมันจะรำคาญผมนิดๆแ ล้ว
แล้วผมก็ต้องใช้ทั้งมือและปากช่วยจนมันพอใจนั้นแหละครับ ถึงได้นอน
วันรุ่งขึ้น~*
“กินไรดี” มันถามผมเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว
“อะไรก็ได้” ผมตอบแล้วยัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋า
“ค่อยแวะหาไรกินข้างทางก็ได้นี่นา”ผมพูดตามหลังมันไป
“ถ้าเจอแฟนคลับจะวุ่นวายจนไม่ได้กินอะดิ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก เห็นด้วยกับมัน
“เมื่อคืนเสียน้ำเยอะไปหน่อย” ผมหันไปมองมันทันที
“เสียน้ำอะไร”ผมถาม
“ฮ่าๆๆๆๆ” มันไม่ตอบได้แต่หัวเราะ ก่อนจะเดินออกไปหยิบโทรศัพท์กดสั่งอาหาร
“อะไรของมันว่ะ” ขี้เกียจคิดแล้วว่าน้ำอะไร..เก็บของต่อดีกว่าครับ
“เปิดทีวีด้วยดิ” ผมบอกมัน
“เรื่องมากจริงมึง” บ่นแต่ก็เดินไปเปิดให้ครับ
..นักร้องชื่อดังเป็นเกย์ค่ะ // จริงเหรอค่ะ // จริงสิค่ะคุณน้อง..เรามีภาพมายืนยันค่ะ..
ผมฟังรายการสามสาวอะไรซักอย่างนี่แหละครับ..
อึ้ง..!!
รูปไอ้แมกไพกำลังหอมแก้มผม และเป็นรูปที่ตั้งเป็นรูปภาพหน้าจอมือถือผม
มันหลุดออกไปได้ยังไง???
“หึ!!!” ผมหันไปมองมัน
ทำไมมันดูไม่ตกใจอะไรเลย..แถมยังหัวเราะออกมาอีก
“ขำอะไร นั่นมันรูปกูกับมึงนะเว้ย” ผมถามมัน
“ก็มันเรื่องจริง” ดูมันตอบ แบบไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย
“แล้วรูปมันหลุดออกไปได้ยังไง” ผมถามมันเสียงดัง
“กูจะรู้ไหม รูปอยู่ในมือถือมึง” มันตอบ
“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่ามันจะเป็นเรื่องเข้าสักวัน” ผมพยายามโยนความผิดกลับไปให้มันครับ
“กูอ่ะไม่เท่าไร แต่มึงกำลังดังนะเว้ย”ผมพูดอีก
“ช่างมันสิ กูมีแค่มึงก็พอแล้ว”มันตอบนิ่งๆ
ผมซึ้งนะ..แต่มันใช่เวลาไหม สัด!!
ครืดๆๆ
ผมกดรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ดูว่าใครโทรมา เพราะคิดว่าคงเป็นพี่ฟ้า
[ไงมึง ชอบของขวัญกูไหม]ผมดูหน้าจอทันที
วิน!!
“ฝีมือมึงเองเหรอ” ผมถามมันเสียงดัง
[เออ กูทำเอง]
Ma-NuD_LaW
-
Chapter 20 End…
“ทำแบบนี้ทำไม” ผมถามมัน
[กูเกลียดมึงไง]
“แต่มันทำให้ไอ้แมกไพเดือดร้อนไปด้วย”
[มึงก็เลิกกับพี่แมกซะสิ บอกกับทุกคนว่ามึงคิดไปเองฝ่ายเดียว]
“กู..” ผมพูดไม่ออกครับ
“เลิกยุ่งกับพวกกูสักที” มันแย่งโทรศัพท์ผมไปพูดเองครับ
“มึงจะทำอะไร”ผมพยายามจะแย่งกลับมา แต่มันก็กดปิดแล้วเก็บใส่กระเป๋าเสื้อมันเลย
“รีบๆ กินข้าวสิ จะได้กลับ” มันสั่งผม
“มึงคิดว่ากูจะกินลงเหรอ” ผมว่า
“ปูน” มันเรียก
ผมโผเข้ากอดมันทันทีไม่คิดว่าจะมีวันนี้จริงๆ ผมกลัว..กลัวทุกคนไม่ยอมรับ ผมกลัวไปหมด
“แค่มีกูก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ” มันถามผม
“อืม” ผมพอแล้วครับ ผมพอจริงๆ
“กินข้าวแล้วรีบๆ กลับเหอะ” ผมบอกมัน เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้ว
“รูปหอมแก้มแค่นี้ แก้ไขไม่ยาก” พี่ฟ้าบอกพวกผม
“บอกนักข่าวไปว่า ถ่ายกันเล่นๆ แบบเพื่อน” พี่ฟ้าบอกต่อ
“พูดความจริงไปซะก็จบ” มันว่า ผมหันไปมองมัน
“ทำตามที่พี่บอกเถอะ อย่าให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้” พี่ฟ้าหันไปเหวี่ยงมัน ก่อนจะหันกลับมาปลอบผม
“อย่าคิดมากนะปูน ทุกอย่างมันแก้ไขได้” ผมยิ้มให้พี่ฟ้า แต่ในใจกลับนึกกลัว ว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิด
ผมสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าผมต้องออกไปเผชิญหน้ากับทุกคน เพื่อโกหก..
“แมกไพ อย่าสร้างเรื่องนะ” พี่ฟ้ากำชับมันเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้
“ไม่ต้องกลัวนะปูน” แล้วก็หันมาปลอบผมครับ
พวกเราสามคนเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะแถลงข่าว คนมาเยอะมากจริงๆ จนผมรู้สึกกลัวขึ้นมาอีกแล้ว
“พูดตามที่พี่บอกนะ ไม่ต้องกลัว” พี่ฟ้ากระซิบเบาๆ
“เราไม่เปิดให้ซักถามนะค่ะ” พี่ฟ้าบอกพวกพี่ๆ นักข่าว แล้วย้ายไมค์มาให้ผม
“ขอบคุณที่มากันในวันนี้นะครับ” ผมรู้สึกหวั่นๆ ในใจ
“รูปที่ทุกคนเห็นนั่น เป็นรูปของพวกเราจริงๆ ครับ” เสียงฮือฮาขึ้นมาทันทีที่ผมพูดจบ
“แต่ พวกเราแค่ถ่ายกันเล่นๆ สนุกๆ แบบเพื่อน ไม่คิดว่ามันจะหลุดออกไปจนกลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้”ผมพูดต่อ
“แต่รูปนั้น..ดูยังไงก็ไม่เหมือนเพื่อนกันนะค่ะ” พี่นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้น
“เราไม่อนุญาตให้ถามค่ะ” พี่ฟ้าย้ำอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าให้ผมพูดต่อ
“มันเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของพวกเรา” ผมหันไปมองด้านหลังทันที เมื่อเห็นว่าพวกพี่ๆ นักข่าวกำลังจ้องมองอะไรบางอย่าง
รูปผมกับแมกไพในอิริยาบถต่างๆ ทั้งกอด หอมแก้ม และรูปที่มันอุ้มผมขึ้นห้องเมื่อเร็วๆ นี้ ถูกฉายออกมาทีละรูปช้าๆ
“ใครทำแบบนี้”เ สียงพี่ฟ้าโวยทีมงานทันที
“รีบไปปิดซะสิ”พี่ฟ้าสั่งอีก
“เปิดไว้งั้นแหละ”ผมหันไปมองแมกไพ
“ผมจะพูดความจริงให้ฟังเอง” มันลุกขึ้นแล้วตะโกนเสียงดัง
“ผมเป็นเกย์” ผมดึงแขนมันให้นั่งลง แต่มันกลับเป็นฝ่ายดึงผมขึ้นไปยืนเคียงคู่มันแทน
“ผมรักปูน เราสองคนกำลังคบกัน” มันบอกแล้วบีบมือผม
“หวังว่าทุกคนจะเข้าใจความรักของผม แต่ถ้าไม่..ผมก็พร้อมจะยอมรับผลที่ตามมา”พูดจบมันก็ดึงแขนผมให้เดินตามมันออกมาทันที
“ทำแบบนี้ คิดดีแล้วใช่ไหม” ผมถามมัน
“ชีวิตกู มีแค่มึงก็พอแล้ว” มันบอกทั้งที่ยังไม่หยุดเดิน
“กูรักมึงนะ” ผมพูดออกไปแล้ว..
คำว่า..รัก..ที่ควรจะพูดออกไปนานแล้ว แต่กลับไม่เคยบอกมันเลย
เพราะผมไม่แน่ใจ..ว่าสิ่งที่ผมรู้สึกมันคืออะไร?
“กูรักมึงมากกว่า” มันบอกแล้วลากผมเข้าไปในห้องน้ำ
มันจูบผมทันทีที่เข้ามาถึง..
เราจูบกันอยู่แบบนั้น..นานมาก
ตอนนี้ผมมีความสุข และไม่แคร์ว่าจากนี้ชีวิตผมและมันจะเป็นยังไงแค่เรามีกันแบบนี้ตลอดไป..ก็พอแล้ว
“กูอยากลองในห้องน้ำอ่ะ..ได้ไหม”
เชี้ย..!! หื่นจนนาทีสุดท้ายเลยนะมึง
Ma-NuD_LaW
พอดีวันนี้ผมว่าง .. ว่างสุดๆ มีเวลาทวนเลยอัพให้หมดไปเลย
ขอบคุณครับ :pig4:
-
จบ?? :z10: :z10:
-
:mew1: มีตอนพิเศษไหม
-
อิวิน มันต้องรับผลกรรม!
จัดให้มันซักสิบยี่สิบคนซิ จะได้หายอยาก
-
จบแล้ว???
ค้างๆพิกล555
-
:sad4: จบแล้ว..... น่าจะมีต่อ นะ นุกดีๆๆ
-
เรื่องนี้กรุบกริบน่ารัก สนุกสนาน
มีสเปด้วยป่าว :katai2-1:
-
จบน่ารักอ่ะ
ชอบแมกไพรที่สุดในเรื่อง เกลียดอิวินแต่ก็รู้สึกขอบคุณ
ชอบปูน แต่ก็นะ กว่าจะรู้ตัวเองนี่นานมากมาย มีตอนพิเศษหวานๆ แถมมิคะ คริคริ :hao7:
-
สนุกมากเบยยย
ขอบคุงนะฮ๊าฟฟฟฟ
^^"
-
o13 สนุกนะคะ แต่จบสั้นไปนิด น่าจะต่ออีกสักหน่อย
-
น่ารักนะ สนุกดี
:mew1:
-
จบ แฮปปี้ดีค่ะ
น่ารัก
-
:-[ น่ารักมากเลยค่ะ
ชอบปูนจังเลย ใส ใส อิอิ
แต่จบแบบนี้เหรอ แล้วยังไงต่อหลังจากนี้คะ ค้างอ่ะ
จะมีตอบพิเศษเพิ่มไหมคะ :impress2:
-
เกลียดวิน!!!
-
จบแล้วเหรอคะ
-
Special thanks
“เลิกกองครับ” สิ้นเสียงผู้กำกับ พวกพี่ๆ ทีมงานเฮกันลั่นเลยครับ
ผมอมยิ้มดีใจไปกับพวกเขา ก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้พระเอกหน้าใหม่ที่กำลังเดินมาหาผม
“รอนานไหมครับ” มันถามพร้อมส่งยิ้มมาให้
“ไม่นานหรอกครับ” ก็ผมเพิ่งมาถึงเอง
“แมกหิวแล้วอ่ะ ปูนกินไรมาหรือยังครับ” มันว่า
เราตกลงจะพูดกันเพราะๆ เมื่อวันครบรอบสองปีของเราน่ะครับ
“ยังครับ รอกินพร้อมแมกครับ” ผมตอบ
สงสัยคำตอบผมจะถูกใจ เพราะมันทำท่าจะดึงผมไปกอดเลย ดีนะที่ผมหลบทัน ไม่งั้นได้เป็นข่าวใหญ่แน่ คนเยอะขนาดนี้ แค่เรื่องตอนที่มันประกาศตัวว่าเป็นเกย์ แถมยังบอกว่าเราเป็นแฟนกัน กว่าจะทำให้ใครๆ เข้าใจได้ก็ตั้งนาน แถมยังเกือบต้องออกจากวงการกันแล้วทั้งคู่ แต่เพราะมัน เพราะความจริงใจของมันอีกนั่นละครับ ที่ทำให้เราผ่านมาได้ แถมมันยังกลับมาดังกว่าเดิมด้วยซ้ำ (แต่ผมก็ยังเหมือนเดิม ดังสู้มันไม่ได้สักที)
“ทำอะไรระวังหน่อยดิ คนเยอะแยะเนี้ยมองไม่เห็นเหรอ” ผมบอกมันเบาๆ
“ก็คิดถึงอ่ะ” มันบอกผมเสียงอ้อนๆ
“คิดถึงไร ห่างกันยังไม่ถึงวันเลย” ก็เมื่อเช้าผมเป็นคนขับรถมาส่งที่กองเอง แฟนผมมันเว่อร์จริงๆ
“ห่างนาทีเดียวก็คิดถึงแล้วครับ” ทำไมแฟนผมมันปากหวานอย่างงี้นะ
“รู้แล้วน่า กลับถึงห้องค่อยกอด” ผมกระซิบบอกมันเบาๆ
“จริงเหรอ งั้นขอมากกว่ากอดได้ป่ะ”แต่ความหื่นยังเหมือนเดิมครับ
“หิวข้าวไม่ใช่เหรอ” ผมบอกตัดบทมัน
“อยากไปร้านไหนครับ” มันถาม
“กลับไปกินที่ห้องครับ” ผมบอก
“โห..สามทุ่มแล้วนะ แมกยังต้องกลับไปทำกับข้าวอีกเหรอเนี้ย” บ่นใหญ่เลยครับ ไม่ถามผมเลยสักคำ
“ปูนทำไว้ให้แล้ว แมกไม่อยากกินฝีมือปูนหรอ” ทำเสียงน้อยใจครับ
“ทำเองซะด้วย โอกาสพิเศษอะไรหรือเปล่าครับ” ดูมันถาม จำไม่ได้จริงๆ เหรอเนี้ย
“วันเกิดแมกไง จำวันเกิดตัวเองไม่ได้เหรอครับ” สงสัยแฟนผมจะทำงานหนักเกินไปแล้ว ลืมแม้กระทั่งวันเกิดตัวเอง
“ลืมไปเลย งั้นรีบกลับกันเถอะครับ” พูดจบก็จูงมือผมไปที่รถเลย
ผมเลยขับรถพาว่าที่พระเอกดังกลับมาที่คอนโด ตอนนี้ผมย้ายมาอยู่กับแมกไปแล้วครับพอถึงห้อง ผมก็จัดการไล่ให้ไปอาบน้ำ แล้วปลีกตัวมาจัดโต๊ะอาหารรอ
“โรแมนติกนะเนี้ย” มันแซว เพราะผมจุดเทียนด้วย แบบกินข้าวใต้แสงเทียนไงครับ โรแมนติกดี
“วันเกิดแฟนทั้งที”ผมพูดแล้วส่งยิ้มให้มัน
“มีแต่อาหารง่ายๆ นะ” ผมบอกต่อ ก็ผมเพิ่งจะหัดทำเองนี่นา
“ปูนทำอะไร แมกก็กินได้หมดแหละครับ” หลังจากนั้นพวกเราก็กินอาหารง่ายๆ ฝีมือผมไป คุยกันไป มีความสุขมากๆ เลยครับ
“พรุ่งนี้ค่อยล้างก็ได้ แมกง่วงแล้วอ่ะ” พูดแล้วกอดผมจากด้านหลัง
“ง่วงแล้วเหรอครับ ปูนขออาบน้ำแปบนะ มีของขวัญจะให้” ผมบอกไป
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ค่อยให้พรุ่งนี้ก็ได้ แมกไม่ได้อยากได้อะไรหรอก”
ผมรู้ครับว่ามันมีทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรที่มันอยากได้หรอก นอกจาก..ของที่ผมจะให้มันเนี้ย
“รอแปบนึงนะครับ รับรองแมกต้องชอบแน่ๆ” พูดจบผมก็วิ่งเข้าไปอาบน้ำเลย
แต่พอออกมา กลับเจอมันนอนหลับสบายอยู่บนเตียงซะงั้น เซ็ง!!
ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ เตียงก่อนจะงับจมูกมันเล่น
“อื้ม เสร็จแล้วเหรอครับ” ถามผมทั้งที่ยังไม่ลืมตา
“บอกว่าอย่าเพิ่งนอนไง ปูนมีของขวัญจะให้” ผมว่า มันพลิกตัวไปอีกด้านหนีผมอ่ะ แม่ง!!
“ตื่นเลยนะ ปูนบอกว่ามีของขวัญจะให้ไง” มันยังเฉยครับ ผมเลยจับมันนอนหงายก่อนจะขึ้นไปคร่อมตัวมัน
“เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้นี่ครับ แมกง่วงมากเลยอ่ะ” มันบอกผม ทั้งที่ยังไม่เปิดตาอีกแล้ว
“พ้นวันนี้ไปก็ไม่ให้แล้ว” ผมตบหน้ามันเบาๆ
“ลืมตาขึ้นมาเร็วๆ” ผมย้ำ
“ครับๆ ”มันตอบแล้วลืมตาแบบไม่เต็มใจนัก
“เล่นงี้ใช่ไหม ได้!” พูดจบผมก็ถอดเสื้อกล้ามของตัวเองออกเลยครับ
อุตส่าห์ใส่มาอ่อยแล้ว ดันไม่สนใจเราซะงั้นถอดออกแม่งเลย ดูดิจะทำยังไง
“อืม” แค่นั้นครับ แล้วมันก็หลับต่อเฮ้ย..นี่มึงเห็นไหมว่ากูโป๊เนี้ย???
ผมค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อมันออกเรียกร้องความสนใจ ได้ผลครับ..มันลืมตาขึ้นมาเลย ยิ่งตอนที่มันเห็นผมนะ ตาโตเลยอ่ะ แม่งหื่น!!
“เมาหรือเปล่าเนี้ย” ดูมันถามดิ เซ็งอีกรอบ
“ก็กำลังจะให้ของขวัญ ตกลงไม่เอาใช่ไหมจะได้นอน” บอกแล้วทำท่าจะลุกครับ มันเลยรีบดึงแขนผมจนล้มไปทับตัวมันเลย
“ให้ตัวเองเป็นของขวัญเนี้ยนะ”มันถาม
“อือ..ถ้าไม่เอาก็จะนอนแล้ว”งอนครับ อายด้วย
“เอาดิ อยากได้ที่สุดเลยครับ” มันพูดแล้วดึงผมไปจูบ
“อื้อๆ” จะขาดอากาศหายใจตายแล้วครับ แม่งจูบนานเกิน
“แล้วทำไมมาแกะของขวัญก่อนแมกล่ะเนี้ย” มันว่าแล้วลูบหลังเปลือยเปล่าของผม
“ก็เห็นไม่ยอมตื่นสักที” บอกแล้วก้มหน้างุดกับอกมัน อายอ่ะ
“ถ้ารู้ว่าของขวัญถูกใจขนาดนี้คงหลับตาไม่ลงเลยครับ” พูดจบมันก็พลิกตัวมาคร่อมผมแทน
“น่าจะผูกโบว์มาด้วยเนอะ” ดูมันพูด หน้าผมต้องแดงมากๆ แน่เลยตอนนี้
มันถอดเสื้อออกก่อนจะก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง มันส่งลิ้นเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นของผมอย่างใจเย็น มือก็ลูบไล้อยู่แถวต้นขาผม
จูบของมันอ้อยอิ่งเนิ่นนานจนพอใจ มันถอนจูบไปก่อนจะกระซิบเบาๆที่หูผม
“แมกรักปูนนะครับ”
“ปูนก็รักแมกครับ”
มันยิ้มแล้วพรมจูบไปทั่วใบหน้าผม ก่อนจะค่อยๆ ใช้จมูกโด่งๆ ของมันลากไล้ลงมาที่คอ ขบเม้มที่ลำคอเบาๆ แล้วลากลิ้นเลียลงมาจนถึงยอดอก ในขณะที่มือก็ลูบไล้ไปมาทั่วตัวผม
“อื้ม”
ผมส่งเสียงออกมาเมื่อปากมันครอบครองยอดอกผม ยิ่งตอนที่มันใช้ลิ้นละเลงบนหัวนมผม ยิ่งเสียวซะจนผมครางไม่เป็นเสียงเลย
“ตั้งใจจะยั่วเลยสินะ เสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์เนี้ย” มันพูดก่อนจะดึงบ๊อกเซอร์ผมออก
“ทำไมของขวัญมันน่ารักขนาดนี้เนี้ย”
ตอนนี้ปูนน้อยของผมกำลังชี้หน้ามันอยู่ครับ
“บ้า” พูดแล้วทุบไหล่มันแก้เขิน
“รู้ใช่มั๊ยว่ารักมาก” มันจ้องตาผมเหมือนต้องการยืนยันคำพูดของมัน
“อืม รู้” ผมตอบกลับมันไป
“รวมถึงตรงนี้ด้วย” พูดจบก็ก้มลงไปจุ๊บปูนน้อยของผมเบาๆ ทำเอาผมเขิน
“เอาเปรียบอะ” ผมว่า
“หืม” มันมองผมแบบสงสัย
“ก็ให้ปูนโป๊คนเดียวอีกแล้ว”
“เข้าใจแล้วครับ” มันว่าแล้วลุกขึ้นจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองแล้วมันจะยืนอวดหุ่นของตัวเองอีกนานไหมเนี้ย?
“หนาวจังครับ”ผมพูด
“ปูนหนาวอ่ะ” พูดขนาดนี้แล้วมันยังทำหน้า งง อยู่อีก แม่งหน้าด่าจริงๆ
“กอดปูนหน่อยดิ” แล้วมันก็โถมลงมาทับตัวผมเลยอ่ะบอกให้กอดนะไม่ใช่โดดมาทับ ไอ้บ้าเอ๊ย!!
“จุกอ่ะ” ผมบอกมัน หน้าเขียวแล้วมั้งเนี้ย
“เดี๋ยวจะจุกมากกว่านี้อีก” มันพูดแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์
“อยากจุกซะแล้วดิ” ท้ามันไป ไม่เคยกลัวอยู่แล้วครับ
“หึๆ” มันหัวเราะในลำคอก่อนจะก้มลงมาซุกไซ้ซอกคอผมอีก
“ห้ามทำรอยนะ พรุ่งนี้มีงาน” ผมว่า
แล้วคิดว่าแฟนผมมันจะฟังไหมครับ?
คำตอบคือไม่ครับ ดูดคอผมเสียงดังจ๊วบเลย พรุ่งนี้ผมโดนพี่ฟ้าฆ่าแน่ๆ โทษฐานที่ปล่อยให้ไอ้หมาบ้ามันกัด
คือมันถูกพี่ฟ้าเรียกแบบนี้ตั้งแต่สร้างวีรกรรมงับคอผมจนเป็นรอยไปทำงานไม่ได้เมื่อสองเดือนก่อนครับ
“แมกอะ ปูนบอกว่าอย่าทำรอยไง” นอกจากจะไม่ตอบแล้ว ยังไม่สนใจด้วยซ้ำเอาเถอะ อยากทำไรก็ทำครับ ห้ามมันไม่ได้อยู่แล้ว แฟนผมมันเอาแต่ใจ
“อ๊ะ!!” ผมร้องออกมาเมื่อมันเอามือมาจับน้องชายผม
สงสัยมันจะรำคานที่ผมพูดมาก มันเคยบอกว่าผมชอบถามนู้นถามนี่เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม (?) เพราะฉะนั้นเวลาทำกิจกรรมเข้าจังหวะมันจะทำให้ผมไม่มีสติ จะได้ไม่พูดมาก
มันจูบปิดปากผมในขณะที่มือมันก็รูดแกนกายผมขึ้นลงไปด้วย
“อื้มมม”
ผมครางออกมาเมื่อมันปล่อยริมฝีปากผมให้เป็นอิสระ ก่อนจะหันไปสนใจกับยอดอกทั้งสองข้างของผมแทน มันทั้งดูดทั้งกัดจนสติผมแตกกระเจิงยิ่งตอนที่มันลากลิ้นลงไปที่สะดือนะ ทำเอาผมขนลุกซู่
เก่งนักนะ เรื่องบนเตียงเนี้ย!! แต่..เรื่องบนโซฟา หรือ เรื่องบนโต๊ะกินข้าวมันก็เก่งเหมือนกันนี่นา (?)
จากนั้นมันก็ใช้ปากครอบน้องชายของผมจนมิด ก่อนจะเริ่มขยับ
“อื้อๆ” ผมกัดริมฝีปากตัวเองกลั้นเสียงน่าอายเอาไว้ ส่วนมือก็จิกผ้าปูที่นอนแน่น
แฟนผมมันก็น่ารักครับ แกะมือผมออกจากผ้าปูแล้วเอาไปจิกหัวมันแทน ผมเลยจัดการคุมจังหวะเองเลยครับ
“อะ อ๊ะ อ่าาาาา” ผมก็เร่งจังหวะกระแทกแกนกายเข้าออกปากมันเต็มที่
บทเพลงรัก ดำเนินไปได้สักพักก็ถึงเวลาระเบิดครับ เต็มปากมันเลย มันก็กลืนลงคอไปหมดเหมือนทุกครั้ง แต่สงสัยวันนี้มันจะหิวน้ำครับเพราะไม่เหลือเล็ดลอดออกจากปากให้เห็นสักนิดเลย
“หวานจังครับ” ของผมหวานกว่าอยู่แล้วครับ ไม่เหมือนของมัน >w<
“ช่วยแมกบ้างนะ” มันว่าต่อ ผมมองดูน้องชายมันครับ พร้อมออกศึกเต็มที่เลย
“ครับ” ตอบแล้วหันหน้าหลบสายตามัน อายมาก
มันค่อยๆ จับขาผมแยกออกแล้วแทรกตัวเข้ามา
“อย่าเกร็งนะ” มันบอก แต่ผมก็ยังกลัวอยู่ดี
มันค่อยๆ ยกก้นผมขึ้นก่อนจะสอดใส่ของมันเข้ามาช้าๆ
“โอ๊ยยยยยยยยยย!!” ผมแหกปากลั่น มันหยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงร้องของผม
“ยะ..หยุดทำไม แกล้งกันเหรอ” ผมว่า ขอผมเจ็บรวดเดียวไม่ได้หรือไงนะ ในเมื่อสุดท้ายมันก็ต้องเสียวแทนอยู่แล้ว!!
“ไม่ทำปูนจะนอนแล้วนะ” ขู่มันครับ ชักช้าดีนักการขู่เป็นผลครับ มันกระแทกเข้ามาจนสุดรวดเดียวเลยครับ จุก!!
“ไอ้บ้าเอ๊ย!!” ผมด่า มันไม่รอให้ผมด่าต่อจัดการจูบปิดปากผมเลย ในขณะที่ส่วนล่างมันก็เริ่มขยับไปด้วย
“อื้อ..อื้ม”
แล้วห้องทั้งห้องก็มีแต่เสียงครางของผมกับมัน ดังจนกลบเสียงเนื้อกระทบเนื้อด้านล่างเลยครับ >w<
หลังจากนั้นผมก็จำอะไรแทบไม่ได้ สมองขาวโพลนไปหมด ก่อนจะรู้สึกถึงแรงกระตุกภายในตัวผม
มันถอนตัวออกไปก่อนจะล้มลงนอนข้างๆ ผม แล้วดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้เหมือนทุกครั้ง แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ...
“แมกลืมอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถามทั้งที่แทบจะลืมตาไม่ไหวแล้ว
“ไม่ลืมครับ” พูดแล้วจูบเบาๆ ที่หน้าผาก
“ไม่ใช่แบบนี้ครับ ลืมอะไรหรือเปล่า” ผมพูดแล้วเงยหน้ามองมัน
“อะไรล่ะ หืม” มันถามกลับแบบเนือยๆ
“แมกยังไม่ได้บอกรักปูนเลยนะ ตกลงกันแล้วนี่ว่าจะบอกทุกครั้งหลังจาก...”พูดไม่ออกแล้วครับ
“แมกรักปูนมากนะครับ” มันครางต่ำในลำคอ แล้วจุ๊บปากผมอีกทีผมยิ้มให้มันเป็นสัญญาณว่านอนได้
ผมซีเรียสเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่อยากเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ของมันอ่ะ ผมยอมเจ็บ แถมยอมปวดเมื่อยไปทั้งตัวก็เพราะรักมัน มันก็ต้องตอบแทนผมบ้าง จริงไหมครับ?
“งั้นขออีกรอบแล้วกันนะ” มันว่าเสียงเจ้าเล่ห์
พูดจบก็ลุกขึ้นจัดการผมต่อเลยครับ จำได้ว่าคืนนั้นมันบอกว่า “รัก” ผมสี่รอบนะ ผมเหนื่อยจริงๆ เลยครับ เฮ้อ...
Ma-NuD_LaW
มีพาร์ทสองด้วยนะครับ ((เรื่องของวิน)) ไม่รู้มีใครอยากอ่านหรือเปล่า..
เห็นเกลียดวินกัน :laugh:
-
ปูนเป็นนายเอกที่ซื่อและตลกเท่าที่เคยอ่านมา :laugh:
-
:haun4: :jul1: :m25: :hao6:
-
อ้าวไหนบอกว่าง่วงไงแมกไพ
-
เจอของขวัญแบบนี้ตาสว่างถึงเช้าอ่ะ
-
เค้า!!เค้าอยากอ่านเรื่องวิน มาต่อนะจ๊ะ :impress2:
-
เค้า!!เค้าอยากอ่านเรื่องวิน มาต่อนะจ๊ะ :impress2:
ถ้าลงก็คงเปิดหัวข้อใหม่นะครับ ^^
ชื่อเดิม .. ฝากติดตามด้วยน้าาาาาาาาาาา
-
ขอบคุณมากค่าาา รออ่านเรื่องของวินน๊าา^^
-
ชอบนายเอกมาก อะไรจะซื่อได้ขนาดนี้
แต่หลังๆสงสัยได้คนติวดีเริ่มหื่นตามพระเอกซะแล้ว 555
อยากอ่านเรื่องของวินด้วยค่ะ อยู่ตรงไหนคะ หาอ่านได้ที่ไหนเอ่ย
เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ ^^
-
ปูนน่ารักมาก ใสซื่อดีแท้ 555 แต่ก็เพราะนิสัยแบบนี้แหละที่ทำนายแม็กหลงจนโงหัวไม่ขึ้น และคนอ่านก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นด้วย
ขอบคุณสำหรับนิยายค่าาา
-
ชอบเรื่องนี้มากเลย ปูนใสๆมาก
ขอบคุณคนแต่งนะคะ สำหรับนิยายดีดี :katai2-1:
-
ชอบปูนนนนน นางน่ารัก แบบซื่อๆ โก๊ะๆๆ ไม่ปัญญาอ่อนนะ
แบบน่ารักอ่ะ แมกไพชื่อแปลกดี บางทีเถื่อน บางทีก็ดูเด็ก แบบ
ไม่ได้ดั่งใจก็งอนไรงี้ 555 ว่าแต่ เข้ามาอ่านเพราะนามปากกา
คนแต่ง แต่อ่านไปสองสามตอนแรก ต้องเลื่อนไปดูชื่อคนแต่งใหม่
คือ เฮ้ย!!! ใช่คนแต่งคนเดียวกันเรอะ แบบคนละแนวกับเรื่องที่เคยอ่านเลย
Upside down มว้ากกก แต่โอเคนะ น่ารักเลยแหละ เห็นว่าเป็นเรื่องแรก
ที่แต่งด้วย จับแนวไหนก็รุ่งนะเนี่ยะ เห็นว่ามีเรื่องของวินต่อ ไปหาอ่านก่อนล่ะ
ขอบคุณคนแต่งเด้อ
-
สนุกมาก นายเอกแบ้วน่ารัก
เป็นคนว์่อๆแต่กวนมากกกกกก
-
:mew1:
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: