-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
-
สารบัญ
ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2604458#msg2604458) (25/1/14)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2608536#msg2608536) (29/1/14)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2611824#msg2611824) (2/2/14)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2616736#msg2616736) (7/2/14)
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2623202#msg2623202) (14/2/14)
ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2630154#msg2630154) (22/2/14)
ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2636219#msg2636219) (1/3/14)
ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2641752#msg2641752) (7/3/14)
ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2651536#msg2651536) (18/3/14)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2654490#msg2654490) (21/3/14)
ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2656450#msg2656450) (23/3/14) จบแล้วจ้าาา
ตอนพิเศษ1 : ปฏิบัติการณ์รักต้องแต่งงาน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40820.msg2674445#msg2674445) (23/3/14)
-
Title :: Secret XXX ปฏิบัติการณ์รักต้องปล้ำ!
Couple :: ปวีร์-ชนกานต์
Rate :: 18+
Genre :: Yaoi/Mpreg
Author :: Zynestras
*คำเตือน Mpreg /Dub-Con /Black Mail/NSFW*
ครั้งเดียวเท่านั้น
แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ขอเพียงได้ลิ้มลองรสชาติของคนๆนั้น แค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
จะต้องแลกด้วยอะไร ปวีร์ก็ยอมทั้งนั้น
ความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ปวีร์รู้แต่เพียงว่ามันเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงนี้ มันเกิดขึ้นถี่จนเขาแทบความคุมความปรารถนานี้เอาไว้ไม่ได้ แม้กระทั่งเวลาที่นั่งประชุมงานอยู่นี้ ยามที่มองไปยังร่างเล็กซึ่งนั่งอยู่อีกฝั่ง ปวีร์ก็ปรารถนาให้ห้องนี้มีเพียงเขากับชนกานต์อยู่เท่านั้น เขาจะได้ลุกไปกระชากอีกฝ่ายแล้วเหวี่ยงขึ้นโต๊ะประชุมตัวกว้าง บังคับให้อ้าขาแล้วจัดการร่วมรักเสียให้หนำใจ
แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิด
ความคิดที่ไม่อาจลงมือทำได้จริง
ไม่สิ...
เขาจะทำ
เขาจะลิ้มลองรสสวาทของผู้ชายตัวเล็กจอมบ้างานตรงหน้าสักครั้ง ให้รู้ว่ามันเด็ดมากแค่ไหน พัสกรถึงได้พร่ำเพ้อให้ฟังอยู่บ่อยครั้ง
ปวีร์ไม่แคร์แล้วว่าชนกานต์จะเป็นคนของเพื่อน
ตราบใดที่ความปรารถนาของเขามันคลุ้มคลั่ง เขาก็ไม่มีวันที่จะหยุดตัวเองด้วยคำว่าอย่า
เขาจะต้องได้ชนกานต์สักครั้ง
หรืออาจจะหลายๆครั้งถ้ารสสวาทของชนกานต์มันเด็ดอย่างที่พัสกรว่าจริง!
“ส่วนต่อจากนี้ขอให้หัวหน้ากานต์จากโปรเจคหนึ่งมาอธิบายต่อด้วยครับ”
เสียงของหัวหน้าแผนกที่ดังขึ้นทำให้เผ้าหมายทางสายตาและความต้องการของปวีร์ลุกขึ้นจากที่นั่ง ร่างเล็กสันทัดในชุดสูทสีเทาที่แทบจะไม่มีรอยยับเลยแม้แต่น้อยเดินไปยังด้านหน้าแล้วเริ่มอธิบายถึงโครงการพัฒนาสินค้าตัวใหม่ของโปรเจคที่ตนเองรับผิดชอบ
ปวีร์มองแล้วก็กระตุกยิ้ม ห้วงความคิดยังจมอยู่กับความต้องการที่ร้อนแรงของตน เขาอยากจะบดขยี้ริมฝีปากลงกับกลีบปากสีพีชที่กำลังพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังนั่น อยากจะดึงทึ้งเสื้อผ้าของหัวหน้าโปรเจคหนึ่งให้หลุดลุ่ย ผมที่หวีใส่เจลเสยไว้อย่างเนี้ยบนั่นด้วย ถ้าทำให้มันยุ่งกระเซิงนิดๆคงจะเซ็กซี่ไม่น้อย
ปวีร์คิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งขึ้นมาคลึงที่มุมปากอย่างอยากเต็มที่!
แต่มันติดอยู่นิดเดียว....
คือชนกานต์นั้นสุดแสนจะชังขี้หน้าเขายิ่งกว่าพริกกับเกลือนี่น่ะสิ!
ทั้งหมดนี่ก็ต้องโทษพัสกรนั่นแหละที่มาพูดอวดจนเขาเกิดอาการเสี้ยนแบบนี้
ปวีร์นึกโทษเพื่อนในใจก่อนกระตุกยิ้มด้วยมาดหล่อร้ายเมื่อคู่กัดของเขาเลื่อนสายตามาที่เขาก่อนสะบัดหน้าเมินเขาไปมองคนอื่น
เมินได้เมินไป
ถึงคราวเขาจับปล้ำได้เมื่อไหร่ จะปล้ำให้มองได้แต่เขาคนเดียวเลยคอยดู!
และปวีร์ก็นั่งหมายมั่นเช่นนั้นไปจนจบการประชุมพรีเซ้นส์ตลอดบ่ายวันนั้น!
เสร็จจากการประชุมแล้ว แต่ละคนก็เริ่มแยกย้ายออกจากห้องประชุมกันไป ปวีร์ยืนพูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายไปพลางก็ยืนชำเลืองมองคนที่ยืนก้มหัวรับคำชมของผู้บริหารไปพลาง
ชนกานต์เป็นคนเก่ง เขารู้และยอมรับความสามารถของอีกฝ่ายในฐานะคู่แข่งขันในหน้าที่การงาน
แต่เขามั่นใจว่าถ้าเรื่องบนเตียงแล้วละก็ เขาต้องเก่งกว่าชนกานต์แน่ๆ
"คราวนี้งานของฉันชนะ"
คำพูดที่คาดเดาว่าจะต้องได้ยินมันลอยออกมาจากปากของคนอวดดีน่าสั่งสอนทันทีที่เขาขยับเดินเข้าไปหา ชนกานต์พูดขึ้นมาราวกับมีตาหลังมองเห็นได้ว่าเขาเดินมา ปวีร์อมยิ้ม
ถึงเวลาเปิดศึกน้ำลายกับชนกานต์อีกแล้ว
"ก็ชนะไปสิ กะอีแค่โปรเจคเล็กๆ ถ้าเป็นผมล่ะก็ ผมจะไม่นับมันลงพอร์ทนะ เพราะมันจิ๊บจ๊อยเกินไป"
ปวีร์เนียนชะโงกไปพูดที่ข้างหู แล้วจัดการสูดกลิ่นกายหอมๆของคู่กัดเข้ามาเต็มปอด
เบอร์เบอร์รี่บริทฟอร์แมนคือกลิ่นประจำกายของชนกานต์
เป็นกลิ่นที่ช่วงนี้ไม่ว่าจะได้กลิ่นนี้ทีไรก็ให้ใจสั่นพล่านอยากทำรักมันเสียทุกที
เขายิ้มมุมปากแล้วยืนรอดูปฏิกิริยาของชนกานต์ และมันก็เป็นดังคาด อีกฝ่ายหันมาทำตาขุ่นใส่เขา ดวงตากลมโตหลังกรอบแว่นสีเงินขุ่นเขียวอย่างน่ามอง
ปวีร์สำนึกได้ว่าตัวเองคงจะเป็นพวกซาดิสทรมานคนที่ตัวเองชอบก็ตอนที่รู้ตัวว่าชอบคู่กัดอย่างชนกานต์นี่แหละ
แต่ก็นะ
ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ชนกานต์มันน่าแกล้ง
ยิ่งวางมาดทำข่มเขามันก็ยิ่งชวนให้เขาข่มกลับนัก
รอก่อนเถอะปวีร์จะข่มกลับให้ร้องครางจนเสียงแห้งเลยคอยดู!
"กับอิแค่โปรเจคเล็กยังแพ้ โปรเจคใหญ่คุณก็คงไม่มีหวังหรอกครับหัวหน้าปวีร์ ยังไงโปรเจคหน้าผมก็ต้องชนะคุณแน่"
อวดดีไม่เคยเปลี่ยน ปวีร์ยิ้มมุมปากแล้วพูดยียวนใส่อย่างนึกมันเขี้ยว
"ไม่มีทาง โปรเจคหน้าคุณต้องแพ้ผมแน่"
เขาพูดแล้วก็จบการสนทนาด้วยการเดินหนีออกจากหน้าประชุมไป อยู่เถียงกับชนกานต์นานมากไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต้องมีการจับมาจูบสั่งสอนกลางห้องประชุมแน่ๆ
ไม่ดีๆ เดี๋ยวไก่ตื่นแล้วจะเสียแผนหมด
อย่างชนกานต์จะจัดทั้งที มันต้องชุดใหญ่ไปเลย!
ปวีร์เดินออกจากห้องประชุมมายังโปรเจคของตัวเอง เขาเห็นจากหางตาว่าชนกานต์เดินเข้าไปที่ห้องของตัวเองฝั่งตรงข้ามแล้วก็ถูกลูกน้องในโปรเจคของตัวเองรุมเข้ามาแสดงความยินดีที่ประสบความสำเร็จในพรีเซ้นส์ เขากระตุกยิ้มก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเองไป
"เป็นไงบ้างคะการประชุมวันนี้?"
เสียงหวานถามมาพร้อมกับน้ำเย็นที่วางลงบนโต๊ะ ปวีร์เลื่อนสายตามองขึ้นมาหาคนพูดที่ยิ้มหวานให้เขา
"ก็เรื่อยๆ แต่โปรเจคหนึ่งเขาทำได้ดีจริงๆ"
ปวีร์ว่าแล้วพลิกนาฬิกาดู มันเป็นช่วงเบรคของพนักงานพอดีจึงไม่แปลกใจนักว่าทำไมลูกน้องของตัวเองหายไปไหนกันหมด เหลือแต่พนักงานชั่วคราวหน้าสวยคนนี้อยู่ตามลำพัง
"คือถ้าออยจะรบกวนอะไรหัวหน้า..จะได้หรือเปล่าคะ? พอดีอยากให้ช่วยหยิบของในห้องเอกสารหน่อย มันสูงน่ะค่ะออยเอื้อมไม่ถึง"
เธอเอ่ยพร้อมกับส่งสายตาอะไรบางอย่างมาให้ เสือร้ายอย่างปวีร์มองเพียงวูบเดียวก็รู้
"ได้สิครับ"
ปวีร์บอกแล้วลุกขึ้น อรณียิ้มหวานมาให้ก่อนจะเดินนำไป ปวีร์ก้าวจะตามไปก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ เขาเปิดลิ้นชักแล้วหยิบน้ำหอมขวดเล็กมาหย่นใส่กระเป๋า
เบอร์เบอร์รี่บริทฟอร์เมนถึงเวลาออกโรงอีกแล้ว!
ผู้หญิงนี่ก็น่ากลัวไม่แพ้ผู้ชายเลย
ปวีร์คิดขึ้นมาในใจหลังจากที่ถูกอรณีดึงตัวเข้าไปเบียดจูบเร่าร้อน เจ้าหล่อนใจร้อนเสียจนเขาเกือบตามไม่ทัน มือปิดประตูไปยังไม่ทันล็อคก็ถูกดึงให้เข้าไปแนบชิดเอาเสียแล้ว
ความจริงแล้วปวีร์ออกจะเบื่อหน่ายผู้หญิงประเภทนี้ ประเภทที่เสนอตัวให้เขาอย่างกระเหี้ยนกระหายเต็มแก่ ถ้าไม่ติดว่าเป้ามันคัดต้องการการระบายออกมาตั้งแต่ตอนนั่งมองชนกานต์พรีเซ้นต์งาน ปวีร์ก็คงปฏิเสธเจ้าหล่อนด้วยการผลักไสออกอย่างไม่ใยดีเสียแล้ว
ตัวช่วยอารมณ์ที่มันหล่นวูบไปเพราะกิริยาของเธอที่จูบนัวเนียเขาไปทั่วตอนนี้ เห็นทีก็มีแต่ของที่ปวีร์หยิบก่อนออกมาจากห้องทำงานนั่นแหละ
ฟรืด...
ปวีร์แอบฉีดน้ำหอมใส่เธอแล้วก็ยิ้มขำ แม่สาวอรณีเอาแต่สนอกสนใจอยู่กับหัวเข็มขัดของเขาจนไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าเขาฉีดน้ำหอมใส่เธอ
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เธอก้มลงไปใช้ปากให้กับเขา ระหว่างนั้นปวีร์ก็ล้วงกระเป๋าหยิบเอาถุงยางอนามัยที่พกไว้ขึ้นมาฉีกซองแล้วยื่นให้ อรณีรับมันไป เธอคาบมันไว้ที่ปากแล้วหลิ่วตาให้เขาก่อนจะครอบมันลงไปคลุมแท่งร้อนของเขาและลุกขึ้นมา มือของเธอจัดการดึงชั้นในลงแล้วยกมือโอบกอดคอเขาพลางจะยื่นหน้าเข้ามาจูบเขาอีกครั้ง
แต่ปวีร์เบี่ยงหน้าหนีและแต้มจูบลงกับแก้มของเธอแทนเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดมากเกินไป
“ที่ไม่อำนวยเท่าไหร่ หันหลังได้ไหมครับ?”
ปวีร์ดึงมือของเธอออกจากคอของเขาแล้วยิ้มให้ อรณีที่เคลิ้มไปกับรอยยิ้มหล่อๆก็พยักหน้าและหันหลังให้โดยไม่ล่วงรู้ถึงความคิดของเขาเลยแม้แต่น้อย
ปวีร์กระตุกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เขาจับเอวเธอไว้แล้วค่อยๆแทรกแท่งร้อนเข้าไปในกลีบร่องสาวของเธอ อรณีครางเสียงกระเส่าให้ได้ยิน เธอหันมามองเขาด้วยสายตาล้นด้วยความปรารถนา แต่ปวีร์ไม่ได้สนใจมองเลยสักนิด เขาโอบกอดเธอไว้แล้วซุกหน้าลงไซร้กับคอของเธอ สูดดมกลิ่นหอมของเบอร์เบอร์รี่บริทเข้าไปเต็มปอด และใช้ภาพในจินตนาการเป็นตัวขับเร้าอารมณ์
อรณีเป็นผู้หญิงตัวสูงพอประมาณ ความสูงของเธอที่พอใส่ส้นสูงแล้วก็แทบจะเท่ากับชนกานต์ สะโพกก็กลมกลึงพอๆกัน..
ปวีร์แลบลิ้นเลียริมฝีปากเล็กน้อย ความกระสันอยากมันมาขึ้นเมื่อนึกจินตนาการว่าร่างในอ้อมแขนคือคนบ้างานจอมดุคนนั้น
ปวีร์อยากจะฝังกายลงไปในตัวของชนกานต์เต็มแก่จนต้องหาทางระบายให้มากกว่านี้ เพียงแค่ร่องสาวของอรณีมันคงไม่พอเพราะมันไม่โอบรัดเหมือนกับช่องทางของผู้ชาย
พอนึกอย่างนั้นแล้ว ปวีร์ก็ดึงแท่งร้อนออกมาจากช่องทางของเธอแล้วจรดจ่อไปที่ช่องทางเบื้องหลัง อรณีที่เคลิ้มกับการร่วมรักเมื่อสักครู่ก็หันมาอย่างตกใจ
“หะ..หัวหน้าคะ?”
ปวีร์พรมจูบไปทั่วซอกคอของเธอแล้วกระซิบ
“ขอผมตรงนี้นะครับ..”
เสียงทุ้มของเขามีอำนาจสะกดคนฟังได้เสมอ อรณีเองก็เช่นกัน เธออ่อนระทวยลงก่อนจะพยักหน้ายอมให้เขาร่วมรักกับเธอทางด้านหลังได้
“ก็ได้ค่ะ...แต่ อึก...ออยไม่คิดเลยนะคะว่าหัวหน้าจะมีรสนิยมแบบนี้ด้วย”
เธอพูดแล้วก็ทำท่าเหนือความคาดหมาย แต่ก็ต้องหยุดพูดไปเมื่อปวีร์พยายามดันตัวเข้ามา
“อะ..เบาหน่อยค่ะ ออยเจ็บ”
ปวีร์กัดริมฝีปากแล้วสูดลมหายใจลึก เขารีบร้อนมากเกินไปเพราะห้วงอารมณ์จึงเอาแต่ฝืนดึงดันที่จะสอดกายเข้าไปในกลีบเนื้อที่ปิดสนิทของเธอ ปวีร์พยายามรั้งตัวเองให้ช้าลงและค่อยๆแทรกกายเข้าไปทีละนิด พร้อมกับใช้อีกมือเอื้อมไปด้านหน้า ใช้ปลายนิ้วสะกิดบี้เม็ดเล็กๆที่ร่องสาวของเธอจนสะโพกของออยส่ายไม่หยุด เธอครางเสียงสั่นแล้วร้องขอให้เขาร่วมรักกับเธอ
“เข้ามาเลยค่ะ เข้ามาเลย”
ได้ยินอย่างนั้นปวีร์ก็จัดการกระแทกสะโพกเข้าไปทันทีและเริ่มต้นขยับเข้าออกตามความต้องการของตนเอง
ช่องทางเบื้องหลังของเธอทำให้เขาสามารถจินตนาการถึงการร่วมรักกับชนกานต์ได้ดีมากกว่าเดิม ปวีร์กระตุกยิ้มพึงพอใจแล้วกระหน่ำกระแทกสะโพกอย่างหนักหน่วง
แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เป็นใจให้ปวีร์สักเท่าไหร่ เพราะยังไม่ทันที่จะสุขสมอารมณ์หมาย ใครบางคนก็เปิดประตูเข้ามาเสียก่อน
“หะ...หัวหน้ากานต์!”
เสียงอุทานของอรณีทำให้ปวีร์ต้องเงยหน้าไปมอง และเห็นสายตาเหยียดแบบรังเกียจมาจากชนกานต์ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปที่ตู้เอกสารซึ่งตั้งอีกมุมห้องและเปิดหยิบเอาแฟ้มออกมาสองอัน
ปวีร์เม้มริมฝีปากและหยุดตัวเองมองอีกฝ่าย ชนกานต์หยิบแฟ้มเสร็จแล้วก็หันมา สายตายังคงเหยียดรังเกียจจนน่าจับมาปล้ำให้เข็ดไม่เปลี่ยน
“เป็นถึงระดับหัวหน้าแล้ว แยกแยะให้เป็นบ้างก็ดีนะครับหัวหน้าปวีร์ ว่าที่นี่บริษัทไม่ใช่โรงแรมม่านรูดและตอนนี้ก็ยังเป็นเวลางานด้วย”
พูดเสร็จแล้วคนบ้างานก็หอบเอาแฟ้มออกไปพร้อมกับปิดประตูดังปังใส่อีกต่างหาก ทิ้งให้ปวีร์กับอรณีอยู่ในความเงียบ
“ฮะฮ่าๆ”
ปวีร์ขำออกมาหลังจากที่ความเงียบครอบคลุมไปอยู่อึดใจหนึ่ง ประโยคที่ชนกานต์พูดมันออกมานั้นถอดฉบับมาจากที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด
เสียงหัวเราะของเขาทำให้อรณีงุนงง แต่ปวีร์ไม่คิดจะสนใจ เขาจับสะโพกของเธอไว้แล้วกระหน่ำขยับอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่ขบขัน
และแทบจะไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์จากการร่วมรักกับเธอเลยแม้แต่น้อย ในตอนนี้...ปวีร์เอาแต่คิดถึงแววตาที่บ่งบอกความรังเกียจเขาจากคู่กัดอย่างขบขัน
สักวัน เขาจะเปลี่ยนมันให้เป็นดวงตาหวานฉ่ำที่ร้องขอให้เขาร่วมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านแววตาให้ดู!
หลังจากนั้นปวีร์ก็ไม่ได้เผชิญหน้ากับชนกานต์ตรงๆหรือตามลำพังเกือบอาทิตย์ มันเป็นอาทิตย์ที่แสนจะวุ่นวายจนเขาเหนื่อยล้า พอปิดโปรเจคได้ ปวีร์ก็แทบจะร้องไชโยออกมาดังๆให้หายเหนื่อย
แต่ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งคลายความเหนื่อยมาให้เขาแทนเสียแล้ว
“วีร์ ผมรู้นะว่าอาทิตย์ที่ผ่านมานี้คุณเหนื่อยมาก แต่ผมอยากให้คุณพาลูกค้าไปเลี้ยงรับรองหน่อยได้ไหมคืนนี้”
“ผมไปคนเดียวหรอครับ?”
“มีกานต์ไปอีกคน หัวหน้ากานต์โปรเจคหนึ่งน่ะ”
ได้ยินชื่อของคนที่จะไปด้วยแล้ว ปวีร์ก็ลิงโลดอยู่ในใจ เขาคลี่ยิ้มแล้วค้อมศีรษะให้หัวหน้าอย่างสุภาพ
“ตกลงครับ ผมจะรับรองลูกค้าอย่างดีเลย”
หัวหน้าแผนกเอ่ยบอกพลางหยิบเอานามบัตรของลูกค้ามายื่นให้ ปวีร์รับมันมาด้วยรอยยิ้ม
ผิดกับอีกคนที่ตีสีหน้าบึ้งตึงทันทีที่ต้องรับหน้าที่รับรองลูกค้ากับปวีร์
“ไปกันได้แล้ว”
ชนกานต์กระแทกเสียงใส่ก่อนจะเดินนำออกไป ปวีร์กระตุกยิ้มแล้วเดินตามร่างเล็กที่ก้าวเดินฉับๆไม่รอเขาไปด้วยท่าทางสบายๆ
ตัดสินใจแล้วว่าคืนนี้...
จะเป็นคืนเผด็จศึกชนกานต์!
และดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างเขาไม่น้อยในคืนนี้ ชนกานต์ถูกลูกค้าคะยั้นคะยอให้ดื่มจนแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่ ปวีร์นึกขอบคุณที่ตัวเองคอแข็งก็ตอนที่เขาต้องหิ้วปีกคู่กัดแสนดุออกมาจากร้านหลังจากล่ำลาลูกค้าแล้วเรียบร้อย
"นายเสร็จฉันแน่ ชนกานต์"
ปวีร์กระซิบแล้วกดจูบแรงๆที่ข้างแก้มของคนเมา ก่อนเงยหน้ามองหาสิ่งที่ต้องการ
ซึ่งตอนนี้สิ่งที่เขาต้องการก็คือ
เลิฟโมเต็ล เตียง ถุงยางสักโหล แล้วก็ เซ็กส์ที่หนำใจจนถึงเช้า!
พาร่างของชนกานต์มาจนถึงห้องพักได้แล้วปวีร์ก็วางให้ชนกานต์นอนบนเตียง แอบหอมแก้มแรงๆไปสองรอบอย่างชื่นใจก่อนจัดการถอดแว่นของชนกานต์ไปวางไว้ที่โต๊ะข้างๆ
โครงหน้าที่ชนกานต์ซ่อนไว้หลังแว่นและชอบปกปิดด้วยสีหน้าขึงขังกับสายตาไม่เป็นมิตรยามมองเขามันทั้งสวยและเยาว์วัย ปวีร์ลากมือไปตามแก้ม มองดูทุกส่วนบนใบหน้าในระยะใกล้อย่างที่ยามปกติคงไม่มีวันทำได้
จะปล่อยให้นอนแบบนี้แล้วพอตื่นค่อยปล้ำ หรือปล้ำทั้งที่หลับแบบนี้จะได้ไม่มีแรงขัดขืนดี?
แน่นอนว่าปวีร์ไม่ใช่คนจิตใจดีประเภทโลกสวยมีศีลธรรม และไอ้น้องหนูมันก็แข็งตัวพร้อมรบตั้งแต่หิ้วปีกชนกานต์ออกจากร้านแล้วด้วยซ้ำ เพราะงั้นถึงจะอยากปล้ำตอนมีสติ แต่ความอดทนมันไม่พอ และก็รู้ด้วยว่าชนกานต์มีสติคงไม่ยอมให้เขาปล้ำง่ายๆแน่
คิดแล้วปวีร์ก็จัดการเอื้อมไปปลดเนคไทที่คลายหลวมๆอยู่ของชนกานต์ออก และเริ่มปลดกระดุมออกจนหมด แผงอกของชนกานต์มันขาวกระจ่างสะท้อนไฟพาให้ตื่นเต้น ปวีร์แหวกเสื้อจนเห็นหัวนมเล็กน่ารักสีเดียวกับริมฝีปาก เขายื่นมือไปสะกิดมันก่อนบีบบี้อย่างมันเขี้ยว หัวนมของชนกานต์แข็งตัวสู้ปลายนิ้วของเขาอย่างรวดเร็ว
คนไม่ได้สติบิดตัวครางอือเบาๆ ปวีร์เหลือบมองก่อนก้มหน้าไปเลีย หัวนมของชนกานต์มันทั้งสีสวยและน่ารักน่าเอ็นดู ปวีร์ชอบใจมากจนต้องดูดปากหนัก
เขาสูดความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ของชนกานต์เข้าปอดแล้วรู้สึกว่าช่วงล่างมันแน่นตึงมากกว่าเดิมจนต้องปลดเข็มขัดกับกางเกง ควักลูกชายสุดที่รักออกมา ปวีร์จับลูกรักที่แข็งตัวพร้อมรบไปทักทายหัวนมที่เขาดูดจนมันแข็งและบวมแดงด้วยการถูไถส่วนปลายไปมาจนน้ำที่ไหลเยิ้มมันเปรอะไปทั่วอกของชนกานต์
"อือ..."
เสียงครางของชนกานต์ทำให้เขาต้องเหลือบมองหน้า กลีบปากสีชมพูสวยรับพวงแก้มที่ขึ้นสีเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์มันเย้ายวนเหลือเกิน ปวีร์ประคองศีรษะของชนกานต์ให้หันมาทางตนแล้วจับดุ้นร้อนจ่อไปที่ปาก มันผงกเบาๆเมื่อได้ไล้ไปตามกลีบปากนุ่ม ปวีร์กลั้นลมหายใจอย่างตื่นเต้นก่อนกดสอดมันเข้าไปในโพรงปากเล็ก
"อือ..."
แค่โพรงปากของชนกานต์ก็ให้ความรู้สึกดีกว่าเซ็กส์เต็มรูปแบบกับอรณีไม่รู้กี่เท่า ทำเอาปวีร์ไม่อยากคิดถึงตอนเอาน้องหนูของตัวเองกระหน่ำกระแทกใส่บั้นท้ายกลมๆของชนกานต์เลยว่ามันจะเด็ดดวงมากแค่ไหน แต่รอบแรกเขาอยากจะเสร็จในปากสวยๆที่ชอบพูดจิกกัดเขานี่เสียทีหนึ่งก่อน เพื่อที่ได้ยกสองเขาจะได้อึดหน่อย
ปวีร์คิดอย่างหมายมั่นก่อนจับศีรษะของชนกานต์ให้ขยับรูดเร้าท่อนเนื้อยาวที่บังคับให้อมอยู่ในปาก
"โอ้ย สุดยอด...."
ปวีร์ครางอย่างเคลิบเคลิ้มเพราะริมฝีปากบางดูดรัดท่อนเนื้อของเขา และบางทีลิ้นของชนกานต์ก็ขยับสัมผัสท่อนลำของเขา
ด้วยความสมอารมณ์ เพียงไม่นานนักเขาก็ปลดปล่อยออกมาในปากของคนที่เมาไม่รู้เรื่อง ปวีร์หอบหายใจแล้วค่อยๆดึงตัวเองออกมา น้ำอุ่นขาวไหลเต็มริมฝีปากของชนกานต์ บางส่วนไหลย้อยลงมาตามมุมปาก ปวีร์จับท่อนเนื้อของตัวเองรูดแรงๆอีกสองสามครั้ง น้ำมันพุ่งจากส่วนยอดสีสดในมือไปเปรอะเปื้อนบนหน้าที่หลับพริ้มของชนกานต์
"น่าถ่ายรูปเก็บไว้นะนี่ ไม่รู้ชาตินี้จะมีโอกาสเห็นหัวหน้ากานต์โหมดเอ็กซ์ๆแบบนี้อีกเมื่อไหร่"
ปวีร์พูดขำๆก่อนถอดสูทออกและปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเอง เขาวางเนคไทไว้ข้างๆเผื่อฉุกเฉินก่อนหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปชนกานต์ไว้อย่างที่พูดก่อนเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบผ้าเย็น
เขาใช้ผ้าเย็นเช็ดคราบที่ตัวเองปล่อยออกไปจากใบหน้า ส่วนที่ปล่อยเข้าปากไป ชนกานต์ที่ไม่ได้สติกลืนลงไปจนแทบหมด ปวีร์เช็ดเสร็จแล้วก็โยนผ้าทิ้งและเริ่มต้นปลุกอารมณ์ชนกานต์อย่างเชื่องช้า รอความเป็นชายของตัวเองให้ลุกขึ้นสู้พร้อมรบอีกครั้ง
ปวีร์ปลดเข็มขัดและกางเกงของชนกานต์ออกพร้อมทั้งถุงเท้า เขาลูบเรียวขาเนียนอย่างเพลินมือก่อนหัวมาสนใจส่วนกลางลำกาย ชั้นในสีขาวของชนกานต์มันพองนูนจากผลพวงที่เขาเล่นกับหัวนมไปก่อนหน้า ปวีร์เลียปากก่อนจะเกี่ยวมันลงมา
ท่อนเนื้อของชนกานต์มันสวยและน่ารัก มันซ่อนอยู่ใต้กลุ่มขนบางๆตรงกลางหว่างขา ปวีร์จับมันแล้วรูดเบาๆก็รู้สึกย่ามใจมากขึ้นเมื่อเห็นร่างกายของชนกานต์ตอบสนอง
ขนาดหลับ ความรู้สึกยังไวขนาดนี้ ถ้าตื่นนี่คงเซ็กส์สะบัดสมคำพูดพัสกรอย่างแน่นอน
-TBC-
-
:jul1:
กีสส
เข้ามาจิ้ม เสียเลือกกันแต่หัววันเลยทีเดียวว
-
ติดตามคร่าาาาาาาาาา
-
โชกเลือดตั้งแต่ตอนแรกเลย
นี่มันปล้ำจริง ๆ ด้วย o22
-
ตอนตื่นมีสติขึ้นมาคงโดนด่ากระเจิง 555555
-
โอ๊ะโอ๋ ตื่นมาจะเป็นไงบ้างนะ :hao6:
-
เดี๋ยวคุณหัวหน้ากานต์คงป่องใช่มั้ยค้า ? คุณพระเอกจะเอาคุณหัวหน้าอยู่มั้ยเนี่ย ดูดื้อน่าดู อิอิ
-
โอย เสียเลือดจนหน้ามืด :jul1: เปิดเรื่องใหม่มาคราวนี้นี่แบบว่า โฮกค่ะโฮก(เค้าเปล่าหื่นนะ เค้าแค่ชอบ :haun4: )
หวังว่าเรื่องนี้จะไม่มีดราม่าแบบ love. Concerto นะคะ เพราะเสียน้ำตากับเรื่องนั้นมาเยอะแล้ว :hao5:
ปล. ยังไม่ได้เข้าไปอ่านอีกเรื่องเลยค่ะว่าจะรออ่านตอนที่มันหวานๆเลยทีเดียว เพราะกลัวเสียน้าตาหลายรอบ :z1: เฮ่อๆ
-
กำเดาไหลแต่เริ่มเรื่องเลย :hao6:
-
o22 มันเอาจริง.......
-
สุดๆ อ่ะ มันโดน!!!!
เอาอีก เอาอีก
-
อ๊ายยยยยยยยยยย อยากอ่านต่อมาเร็วๆนะคะ
ขอบคุณคะ
-
พระเอกโคตรหื่น
-
ปวีร์ โอ้ยย
หื่นจิตหื่นใจมากครับ
กะปล้ำเต็มที่เลยเนี่ย
รอครับ :hao7:
-
หื่นสุดๆ
ถ้าทำเขาท้องต้องรับผิดชอบด้วยนะ
-
ปูเสื่อรอ
แฟนเพื่อนนะนาย ยังทำกันลง แหม
ท่าทางจะเอสซะด้วย
-
พูดจริง ทำจริง :heaven :heaven :heaven :heaven
-
คุณปวีร์คะ...รบกวนรอบสองช่วยปลุกคุณชนกานต์ขึ้นมาก่อนก็ดีนะคะ :jul1:
-
:m25: :m25: :m25:
-
แล้วยังไงต่อ หล่ะนี่
-
ว้าววว
-
รอให้ตื่นมาร่วมด้วยช่วยกันเถอะ :hao6:
-
อรั่ยย /// มาต่อเร็วๆนะคะ
-
พระเอกหื่นมากกกกก
-
อรั๊ยยะ
.
-
โอมายก้อดดดดด!!!!!!!! เรทมากกกกกกกกก ฉ. สุดๆ
ติดตาม :hao7: :hao6: :ling1:
อยากจะรู้ว่าจะเสร็จสมอารมณ์หมาย หรือจะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยทัน แต่ดูจากชื่อเรื่อง.. ไม่น่ารอด อะฮิๆ :katai3:
-
กรี๊ด ขอตอนต่อไปด้วยค่ะ!!
โอ้ ท้องๆ =,,=
-
ปล้ำกันแต่ต้นเรื่องอย่างนี้ ก็ต้องขอเลือดด่วนเลย
ว่าแต่เมียเพื่อนนะนั่น ไม่กลัวว่าเพื่อนจะโกรธเหรอ
-
ตอนหน้าจะเลือดท่วมจอมั้ยน้ออ ปูเสื่อรอ
-
โหหื่นมากๆ
จะสำเร็จหริอไม่
รอติดตามครับ
-
ขอเลือดสำรองด่วน
-
เมะที่ไม่มีอะไรนอกจากความหื่นอย่างเดียวเนี่ย ..
.
.
.
.
.
ชอบค่ะะะ ยกป้ายไฟ !!! :hao7: :hao7: :hao7:
-
กานต์ตื่นขึ้นมาปวีร์จะเป็นยังไงเนี่ย
-
โห อธิบายได้สุดยอดมากอ่ะ :heaven เราอ่านนี่เหมือนไปนอนแอบมองอยู่ในตู้เสื้อผ้า :haun4: :haun4: :haun4:
-
ตอนที่ 2
ปวีร์คิดแล้วก็ก้มลงไปดูดท่อนเนื้อสวยในมืออย่างเอร็ดอร่อย คราวนี้เรียกเสียงครางต่ำๆจากคอของชนกานต์ไม่พอ คนที่เมาอยู่เริ่มขยับตัวกระดุกกระดิก ชนกานต์บิดเอวคล้ายเสียวซ่านจนทรมาน สองขาเสียดสีไปมาอยู่ใต้อกกว้าง ไม่นานมือเล็กก็เอื้อมมากดหัวของปวีร์ให้กลืนลึกลงไป
ชนกานต์ทำไปอย่างไม่รู้ตัว แต่มันก็ทำให้ปวีร์อดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้ เขาห่อริมฝีปากดูดท่อนเนื้อน่ารักนั้นแรงๆก่อนจะยกศีรษะออก มองดูท่อนเนื้อของชนกานต์ชูชันตรงหว่างขาแล้วเอื้อมมือมารูดท่อนเนื้อร้อนของตัวเองบ้าง ระหว่างนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบเอาขวดเจลใสที่มีวางบริการไว้ตรงหัวเตียงขึ้นมา ปวีร์วางมันข้างๆแล้วดึงหมอนเอามาวางข้างๆชนกานต์ จัดการพลิกให้ชนกานต์นอนคว่ำโดยหันหน้าตะแคงไว้แล้วใช้หมอนสอดรองเข้าไปใต้ขา ยกสะโพกของชนกานต์ให้ลอยขึ้นมา
“ตรงนี้สวยจังเลยนะหัวหน้ากานต์..”
ปวีร์พูดแล้วมองช่องทางเล็กที่ซ่อนอยู่ระหว่างหนั่นเนื้อสะโพกด้วยความปรารถนา เขาหยิบขวดเจลหล่อลื่นขึ้นมาเปิดและเทมันลงไปตรงรูแคบเล็กนั้น เนื้อเจลใสไหลไปตามร่องสะโพกและไหลย้อยลงไปที่ส่วนอ่อนไหวที่แข็งทิ่มอยู่กับหมอน ปวีร์วางขวดเจลลงแล้วใช้มือจับสะโพกของชนกานต์ให้ตั้งขึ้น เขาเลียริมฝีปากก่อนใช้ปลายนิ้วกรีดไล้ไปตามร่องสะโพกก่อนหยุดลงที่ปากทางแคบเล็ก
“ขอสำรวจหน่อยน้า....”
ปวีร์ว่าพลางสอดนิ้วเข้าไป
ข้างในร่างกายของชนกานต์มันอบอุ่นและรัดแน่นจนปวีร์ต้องขมวดคิ้ว เสียงครางอือดังราวกับจะประท้วงที่ปวีร์รุกล้ำร่างกายเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตดังมาลำคอของชนกานต์ ปวีร์เหลือบตามองดูแล้วพอเห็นว่าชนกานต์ยังคงหลับไม่ได้สติก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ช่องทางเล็กๆที่อีกไม่นานเขาจะกระหน่ำกระแทกจนมันขยายกว้างและฉ่ำเยิ้มนี่ต่างหากที่เขาจะสนใจ
ปวีร์สอดมันลึกเข้าไปและดึงออก เขาเล่นอยู่กับช่องทางแคบเล็กไปพลางเวียนแต้มจูบลงบนสะโพกกลมไปพลาง มืออีกข้างก็ปลุกเร้าอารมณ์ตัวเองจนมันลุกสู้ขึ้นพร้อมรบ ปวีร์คลี่ยิ้มอย่างพอใจก่อนลุกขึ้นมาคุกเข่า เขาหยิบถุงยางมาจากกล่องที่หัวเตียง จัดการฉีกฟอยส์มันแล้วก็หยิบเอาตัวถุงยางเนื้อใสมาครอบลงบนแท่งร้อนที่ผงาดชูชันอยู่
"ขออนุญาตกินล่ะนะครับ หัวหน้ากานต์"
ปวีร์โน้มกายไปพูดแล้วกดจูบแรงๆที่แก้มของชนกานต์ มือหนึ่งจับสะโพกของชนกานต์ให้แยกกว้าง อีกมือก็จับแท่งร้อนพาไปยังจุดหมายที่ตอนนี้เปิดกว้างรอรับอยู่ ปวีร์ยัดมันจมลงไผในกลีบเนื้อที่หุบอ้าตามแรงหายใจ
"สุดยอด..."
ปวีร์ครางออกมา เขาดันตัวเข้าไปช้าๆ ภายในของชนกานต์รุมทึ้งเขาอย่างบ้าคลั่ง สะโพกขาวสั่นระริกตามแรงที่เขาดันกายเข้าไป
"อือ.."
ชนกานต์ครางเบาๆ ร่างกายขยับเล็กน้อยและทำท่าจะตื่นขึ้นมา
ปวีร์หยุดรอดูแล้ว แต่ชนกานต์ก็ยังไม่ตื่น เขาเลยเริ่มต้นขยับสะโพกอีกครั้ง
ร่างกายของชนกานต์มันสุดยอดและถูกใจเขาที่สุด ปวีร์เพิ่มแรงกระแทกให้มากขึ้น ร่างของชนกานต์สั่นและโยกคลอนไปตามแรงกระแทกของเขา
"อือออ"
เหมือนลูกรักของปวีร์จะกระแทกถูกจุดเร้าอารมณ์ของชนกานต์เข้าเสียแล้ว ร่างบางสะดุ้งแล้วครางออกมา ปวีร์เห็นเปลือกตาบางกะพริบเบาๆคล้ายจะตื่นขึ้นมา เขาโน้มไปหยิบเอาเนคไทมาและจัดการดึงแขนของชนกานต์มาผูกไขว้หลังเอาไว้
"กันไว้แบบนี้ก่อนก็แล้วกัน"
ปวีร์เอ่ยกับร่างที่ไร้สติของชนกานต์ก่อนใช้สองมือจับสะโพกกลมให้แยกกว้างแล้วโจนจ้วงเข้าไปอีกครั้ง
ชนกานต์บิดกายด้วยความรุมร้อน ดวงตาเปิดขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ แต่ก็ไม่ได้หันมามองงปวีร์ ริมฝีปากครางเสียงแผ่วๆออกมา ปวีร์เงี่ยหูฟังและจับตามองว่าชนกานต์จะได้สติเมื่อไหร่
"อืม...อือ..."
แต่ดูเหมือนฤทธิ์แอลกอฮอล์จะแรงกว่าที่คิดไว้ ชนกานต์ยังคงไม่ได้สติมากนัก ร่างบางครางงึมงำแล้วก็หลับลงไปอีก พาให้ปวีร์ย่ามใจกระแทกบั้นท้ายชนกานต์แรงมากขึ้น เขาขยับด้วยท่านั้นอยู่พักหนึ่งก่อนทรุดนั่งลง ดึงร่างไร้สติของชนกานต์ขึ้นมา ให้นั่งคร่อมตักเขาแล้วจับเอวบางให้ขยับขึ้นลงเร็วๆ
"ขนาดหลับยังสุดยอดขนาดนี้ ถ้าตื่นจะขนาดไหนกันน้า"
ปวีร์เอ่ยพลางเลียริมฝีปากตัวเองอย่างตื่นเต้น
เขาดันชนกานต์ให้ลงนอนอีกครั้ง ดึงกายแข็งขึงออกจากช่องทางเล็กแล้วพลิกให้ชนกานต์นอนหงาย เขาจับขาชนกานต์ขึ้นพาดไหล่ก่อนยัดเยียดความเป็นชายกลับลงไปในบั้นท้ายขาวอีกครั้ง
"อืออ"
ชนกานต์ครางเสียงหวานแล้วพลิกเกลือกหน้าไปกับหมอน แผ่นอกบางสะท้านตามแรงหายใจ หัวนมที่คัดบวมชูชันท้าสายตาจนคนมองทนไม่ไหวต้องโน้มตัวไปดูดมันแรงๆ ปวีร์ดูดหัวนมเล็กไปพลางขยับสะโพกกระแทกไปพลางก่อนเอื้อมมือไปกำส่วนอ่อนไหวแล้วรูดจนมันคายน้ำขุ่นซึมออกมาจนเหนอะหนะ
ปวีร์ดูดหัวนมเล็กจนพอใจแล้วก็เลื่อนศีรษะไปหาใบหน้าของชนกานต์ เขายิ้มมุมปากขณะลูบแก้มอีกฝ่าย ชนกานต์ปรือตาขึ้นมาอีกครั้ง ริมฝีปากบางครางแผ่ว
"อะ อาาา"
ปวีร์เหยียดยิ้ม ชนกานต์ที่ดูไร้สติแบบนี้ก็เซ็กซี่ไม่หยอก เขาก้มลงประกบริมฝีปาก ควานลิ้นสอดเข้าไปหาความหอมหวาน ละมือจากแกนกายสวยมาแยกบั้นท้ายกลมให้แยกกว้างแล้วโจนจ้วงเข้าไป
สะโพกของชนกานต์สั่นระริก ภายในรุมขยี้เขาก่อนที่ร่างกายจะกระตุก ท่อนเนื้ออ่อนที่ถูกเสียดสีไปกับจังหวพที่เขาขยับก็พ่นน้ำรักเหนียวข้นออกมา
ปวีร์กลั้นลมหายใจ ชนกานต์ที่ถึงจุดสุดยอดทำให้เขาพลอยตามไปติดๆ ปวีร์ขยับเอวช้าๆ ผละริมฝีปากออกมาก่อนดึงกายออกมา ท่อนเนื้อของเขายังคงกระตุกอยู่ ปวีร์ดึงถุงยางออก สายตามองดูโพลงที่หลวมโบ๋เป็นรูปลักษณ์เดียวกับท่อนเนื้อของเขาก่อนเลียริมฝีปากอย่างมาดหมาย
เขาจัดการรูดท่อนเนื้อในมือจนมันคายน้ำออกมาอีก น้ำที่ไหลเยิ้มออกมานั้นค่อยไหลลงไปในรูสีแดงจัด
"จะฝากลูกๆของผมไว้ให้คุณชื่นใจก็แล้วกันนะครับหัวหน้ากานต์"
ปวีร์ว่าแล้วปาดน้ำรักของตัวเองใส่เข้าไปในร่างกายของชนกานต์ รวมถึงในถุงยางของตัวเองด้วยอย่างนึกคึกคะนอง
ชนกานต์ที่แสนหยิ่งคงรู้สึกอัปยศจนเสียศูนย์ถ้ารู้ว่าในร่างกายของตัวเองเต็มไปด้วยเมล็ดพันธุ์ของเขา
ปวีร์คิดเช่นนั้นอย่างอารมณ์ดี
จากนั้นปวีร์ก็ลุกขึ้น เขาถอดสูทของตัวเองกับเนคไทโยนพาดไว้ที่เก้าอี้โซฟาแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น ปวีร์หยิบเบียร์กระป๋องออกมาเปิดดื่ม ระหว่างนั้นก็มองไปที่ร่างที่ไร้สติของชนกานต์ ชนกานต์หลับไปอีกครั้งแล้ว ร่างบางพลิกกายนอนคว่ำแล้วขยับแขนขยุกขยิกคล้ายไม่สบายตัว ปวีร์มองแล้วก็ยิ้มขำก่อนจะเดินไปดึงเนคไทที่ผูกข้อมือเล็กออก
“แบบนี้ก็แล้วกัน จะได้นอนสบายๆหน่อย แล้วค่อยตื่นมาสนุกกันอีกสักหลายๆรอบ”
ปวีร์พูดพลางก้มลงหอมแก้มใสอย่างชื่นใจ
ชนกานต์ไซร้หน้าหนีเขาคล้ายรำคาญใจที่มีใครมากวนเวลานอน พลางให้ปวีร์นึกเอ็นดูแม้ว่าอีกฝ่ายจะอายุมากกว่าตัวเองก็ตามที
คิดๆไปก็ให้ขำ
ใครเลยจะคิดว่าเขาจะได้ปล้ำคู่กัดอย่างชนกานต์ได้ง่ายๆสมใจแบบนี้
แถมตอนนี้ปวีร์ก็รู้สึกตัวเองจะหลงเสน่ห์หัวหน้ากานต์จอมดุมากกว่าเดิมเสียแล้ว ก็เล่นร้อนแรงทั้งที่ยังไม่ได้สติ แถมตัวก็แสนหอมหวานไปหมดแบบนี้
เด็ดจริงไรจริงอย่างที่พัสกรว่าจริงๆ!
ปวีร์ยืนมองชนกานต์ที่นอนอยู่บนเตียงจนดื่มเบียร์ไปเกือบหมดกระป๋องก็เหลือบเห็นกล่องพลาสติกที่วางอยู่ตรงชั้นโต๊ะที่วางโคมไฟตรงหัวเตียง เขาเดินที่หยิบมันมาเปิดด้วยความอยากรู้แล้วก็ต้องหลุดขำ ในกล่องนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับเล่นเซ็กส์หลายอย่าง โมเตลแห่งนี้มีบริการพร้อมทุกสิ่งสรรพเลยทีเดียว
ปวีร์หยิบเอาอวัยวะเพศเทียมสีชมพูขึ้นมามองดูแล้วก็หัวเราะเบาๆ
อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหัวหน้ากานต์จอมดุเจอดุ้นเทียมแบบนี้แล้วจะมีสีหน้าเป็นยังไง
แต่ปวีร์มั่นใจว่าสีหน้าของชนกานต์ยามเจอดุ้นเทียมนี้หมุนคว้านในตัวคงสู้สีหน้ายามเจอลูกชายของเขากระแทกเข้าไปไม่ได้แน่ๆ
แต่เอาเก็บไว้แกล้งหน่อยก็น่าสนุกดี
ปวีร์คิดอย่างนั้นก่อนวางมันไว้นอกกล่องและควานหาดูว่ามีอะไรในกล่องบ้าง
และกุญแจมือที่เป็นขนปุยสีขาวดูเหมือนจะถูกใจปวีร์ที่สุดตอนนี้
"กำลังอยากได้อยู่เลย"
ปวีร์ว่าแล้วยิ้มมุมปาก เขาทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงแล้วจัดการถอดเสื้อเชิ้ตของชนกานต์ออกไป
พอมาเหลือตัวเปล่าๆแล้ว ก็ยิ่งพาให้รู้ว่าชนกานต์ตัวเล็กกว่าเขามากแค่ไหน ถึงจะมีกล้ามเนื้อตามประสาคนออกกำลังกายบ้าง แต่ยังตัวเล็กกว่าเขามาก
ปวีร์ลูบไปตามสีข้างก่อนยิ้มมุมปากมากขึ้น เขาจับมือของชนกานต์มาทั้งสองข้าง แล้วจัดการใส่กุญแจมือไว้
"แบบนี้จะได้หนีไปไหนไม่ได้ เพราะคงต้องขอให้อยู่สนุกกันสองสองสามคืนนะครับหัวหน้ากานต์"
ปวีร์ว่าพลางยิ้มกริ่มอย่างสุขใจที่จะได้ร่วมรักกับชนกานต์ให้สมใจ และนึกขอบคุณที่พรุ่งนี้คือวีคเอนพอดี
ว่าแล้วปวีร์ก็ดึงถุงเท้าของตัวเองโยนทิ้งไปและเอนนอนลง กอดคนที่หลับใหลไม่ได้สติไว้ ปวีร์พาดแขนกับเอวบาง เอื้อมมือไปจับโซ่กุญแจมือเอาไว้ก่อนหลับตาลง
นอนพักเอาแรงสักนิดแล้วค่อยตื่นมาสนุกกับชนกานต์ตอนที่ชนกานต์ได้สติแล้วจะดีกว่า
ฝัน มันเป็นฝันที่ลามกสัปดนและน่าอาเจียนมากที่สุด
เขาฝันว่าตัวเองกำลังร่วมรักอยู่กับปวีร์ ไอ้เด็กปากจัดคู่แข่งตลอดกาลของเขา ไม่สิ เขาฝันว่าถูกมันปล้ำลักหลับเอาต่างหาก
ทั้งหมดมันเป็นแค่ฝัน เพราะงั้น..รีบตื่นเถอะ
ชนกานต์ร้องสั่งตัวเองในใจก่อนเปิดตาลืมขึ้น
แสงสีส้มนวลๆที่มันเป็นลูกคลื่นเหมือนไฟที่ส่องมันกำลังหมุนวนเคลื่อนที่นี่มันไม่คุ้นตาเลยแม้แต่น้อย
ชนกานต์มองมันแล้วก็รู้สึกงงหัว ฤทธิ์แอลกอฮอล์คือสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยเอาชนะได้ พูดแล้วก็เจ็บใจ เขาจำได้ลางๆว่าปวีร์ยิ้มขำเขาตอนพยายามปฏิเสธลูกค้าที่คะยั้นคะยอให้เขาดื่มไม่สำเร็จ หลังจากนั้นเขาก็ถูกบังคับให้ดื่มจนสติมันหายไป ไอ้รุ่นน้องปากจัดคนนั้นคงสะใจที่ได้เห็นเขาเมาหมดสภาพแน่ๆ
ชนกานต์คิดอย่างเจ็บใจก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้
เขาเมา..
แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน?
พอนึกขึ้นได้ชนกานต์ก็ลืมตาโพลงขึ้นมา เขายันตัวจะลุกขึ้นแล้วก็พบว่ามือตัวเองถูกใส่กุญแจมือเอาไว้ และมีมือของใครบางคนจับกุญแจมือนั่นไว้ ใครคนนั้นกำลังกอดเขาอยู่
และที่สำคัญ...
เขาเจ็บก้นจนร้าวไปหมด!
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!
ชนกานต์ตกใจจนหน้าซีด เขาบิดตัวออกจากอ้อมแขนของคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ไม่กล้าจะหันไปมองด้วยซ้ำ
เขาไม่ไร้เดียงสาจนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
แต่ก็ได้แต่ภาวนาของให้ไอ้คนที่พาเขาเข้าโมเตลมาปล้ำนั้น จะไม่ใช่คนที่เขาชังน้ำหน้าจับใจ
จะเป็นใครก็ได้ ขออย่าให้เป็นปวีร์คนเดียวก็พอ!!
ชนกานต์หลับตาปี๋แล้วภาวนา
แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะไม่เห็นใจคนบ้างานที่ขาดการเข้าโบสถ์มาหลายปีอย่างเขา
แค่เพียงไอ้คนที่กอดเขาอยู่ รัดแขนกอดเขาแน่นมากขึ้นและกระซิบที่ข้างหู ชนกานต์ก็อยากจะกัดลิ้นตายให้มันรู้แล้วรู้รอด
"ตื่นแล้วหรอครับหัวหน้ากานต์"
"ปะ..วี..?...."
ชนกานต์คำรามเสียงต่ำแล้วพยายามดันตัวลุกขึ้น แต่คนที่นอนกอดเขาอยู่ดูเหมือนจะไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้นง่ายๆ มือปลาหมึกของปวีร์กอดรัดเขาไว้แน่นและไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ชนกานต์ใช้ศอกกระทุ้งเข้าที่หน้าอกอีกฝ่าย แต่ปวีร์หนังหนาและด้านกว่าที่คิดไว้
"ปล่อยสิ! ปล่อยนะเว้ย!!"
"ไม่ปล่อย ตื่นแล้วก็มาสนุกกันต่อดีกว่า.."
ปวีร์ว่าพลางใช้ตัวกดให้ชนกานต์นอนคว่ำอยู่ใต้ร่าง ชนกานต์กัดฟันกรอดอย่างโกรธแค้น เขากระชากมือพยายามให้มันหลุดจากกุญแจมือแต่ก็ดูไร้ประโยชน์ รู้สึกรังเกียจมือของปวีร์ที่เลื้อยไปตามร่างกายของตัวเองขึ้นมาติดหมัด
"หยุดเลยนะไอ้วิปริต!!"
ชนกานต์ร้องเสียงลั่นเมื่อปวีร์เอื้อมมือลงไปจับความเป็นชายของเขาแล้วรูดเร้ามัน
"แบบนี้สิ ถึงสมกับเป็นหัวหน้ากานต์"
ปวีร์หัวเราะชอบใจที่เห็นอีกฝ่ายหันมามองเขาตาขุ่น เรือนผมที่ยุ่งนิดๆละล้อมกรอบหน้าจนทำให้คนหน้าสวยดูมีเสน่ห์น่ามองมากขึ้น ชนกานต์ท่าทางจะโกรธจัดเพราะเจ้าตัวขบฟันไว้จนกรามยกนูน ดูคล้ายอยากสบถด่าเขาแรงๆแต่พยายามห้ามตัวเองอยู่ ปวีร์แล้วอดใจไม่ได้ที่จะเลื่อนหน้าไปหอมแก้มใสแรงๆ
"รู้หรือเปล่า ว่าตรงหน้าของคุณน่ะ....มีแต่น้ำของผมอยู่เต็มไปหมดเลย”
ปวีร์เลื่อนมือที่กำส่วนอ่อนไหวของชนกานต์มาจิ้มตรงปากทางแคบเล็กที่แม้แต่ตอนนี้ก็ยังคงชื้นแฉะอยู่
"ไอ้เลว"
ชนกานต์เค้นเสียงออกมาต่ำๆ หายใจหอบแรงด้วยโทสะ
ปวีร์ไม่ตอบอะไร แต่เหยียดยิ้มราวกับผู้ชนะ เขายืดตัวลุกขึ้นมานั่งคร่อมทับสะโพกของชนกานต์ไว้ มือจับรูดแกนกายใหญ่ของตนเอง ชนกานต์พยายามดันตัวลุกขึ้นมาก็ถูกกดไว้
"ลุกออกไปนะ!! ปล่อยสิเว้ย!!"
แต่ดูเหมือนชนกานต์ร้องไปก็ไร้ประโยชน์ ปวีร์ใช้น้ำหนักทับตัวเขาไว้และเอื้อมมือไปหยิบซองถุงยางมาจากกล่อง ชนกานต์เห็นอย่างนั้นก็พยายามที่จะลุก แต่ก็ถูกมือหนาฟาดลงที่บั้นท้ายแรงๆ
"จะรีบลุกไปไหนกัน มาสนุกกันดีกว่า ผมจะพาหัวหน้ากานต์ไปให้ถึงสวรรค์หลายๆรอบเลย"
ชนกานต์กัดริมฝีปาก สองมือที่ถูกกุญแจล็อคไว้ตะกุยผ้าปูพยายามออกแรงดึงตัวเองให้หลุดจากน้ำหนักที่ปวีร์นั่งคร่อมเอาไว้ ปวีร์มองดูร่างบางที่พยายามหนีอย่างอารมณ์ดี เขาฉีกฟอยด์ออกและเอาถุงยางมาสวมลงกับแกนกายที่ตนใช้มือรูดเร้าจนแข็ง
ปวีร์ใช้มือขวากดลงที่กลางหลังชนกานต์จนชนกานต์ดิ้นไปไหนไม่ได้ ก่อนจับแกนกายที่หุ้มด้วยถุงยางยัดเข้าไปในสะโพกกลม
"อึก...!"
ชนกานต์กัดปากแน่น เพราะเกร็งตัวอยู่ความเจ็บเลยแล่นร้าวมาตามไขสันหลัง
มือจิกผ้าปูแน่น ทั้งร่างสั่นระริกด้วยความโกรธ
"ปวีร์ ไอ้สารเลว ไอ้ชาติชั่ว"
ชนกานต์สบถออกมา คนตัวเล็กพยายามดิ้นรนหนีอีกครั้งแต่ก็หนีไม่รอด
"ด่าอีกสิครับ แต่ด่าเสร็จแล้วอย่างลืมครางเสียงหวานๆให้ผมฟังด้วยนะ"
ปวีร์พูดแหย่คู่กัดตัวเองอย่ามีความสุข การทำให้ชนกานต์โกรธ ทำให้ชนกานต์โมโหหงุดหงิดจนดาวตากลมโตนั้นขุ่นเขียวคือความสุขของปวีร์เชียวล่ะ
"ไอ้โรคจิต!"
-TBC-
ฮี่ๆ...ชอบพระเอกหื่นๆกันก็ม่ายบอกกกก :hao7:
โอย เสียเลือดจนหน้ามืด :jul1: เปิดเรื่องใหม่มาคราวนี้นี่แบบว่า โฮกค่ะโฮก(เค้าเปล่าหื่นนะ เค้าแค่ชอบ :haun4: )
หวังว่าเรื่องนี้จะไม่มีดราม่าแบบ love. Concerto นะคะ เพราะเสียน้ำตากับเรื่องนั้นมาเยอะแล้ว :hao5:
ปล. ยังไม่ได้เข้าไปอ่านอีกเรื่องเลยค่ะว่าจะรออ่านตอนที่มันหวานๆเลยทีเดียว เพราะกลัวเสียน้าตาหลายรอบ :z1: เฮ่อๆ
หมายถึง Love Chaconne ป่าวคะ? ถ้าเรื่องนั้น เรื่องที่ 2 ลงจบแล้วนะ :)
-
:m25: :m25: :m25:
หื่นแต่เลวจริงๆ ทำแบบนี้ไม่ดีเลยพอคุณ ตราบาปทั้งชีวิตเลยน่ะ แต่คงโดนเอาคืนมาเมื่อหัวหน้าชนกานต์ท้องแน่เลย
-
พระเอกกกกกกกกกกกกกก
หื่นจิตมากอ่า
แต่ก็ชอบนะ 55555
-
แอบหลุดมา คยู :laugh:
-
หื่นเกิ๊นนนนนน
หัวหน้ากานช้ำในกันพอดีแบบนี้ ฮ่าๆๆๆ
-
คนหื่นมารอกันทั่วหน้า
มาร่วมหื่น.......
-
:heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
-
หื่นจริงๆ :katai5:
-
ปวีร์หื่น และออกจิต จิต ด้วยหรือเปล่าเนี้ยะ
-
คิดเหมือนกันเลย หื่นไปปะ แต่ทำตอนตื่นดูจะมันส์กว่านะ ฮ่าๆๆ
-
ตายยยยยยยย
หื่นจริงอะไรจริงพ่อปวีร์เอ๊ยยย
-
ตอนนี้ปล้ำได้ปล้ำไป เดี๋ยวโดนเอาคืนแล้วจะหงอย :hao3:
-
สงสานกานต์จะรู้สึกแย่ขนาดไหน
-
หื่นเอ็มเหรอยะ ลูกออกมาจะหื่นไหมเนี้ย 555555555555
-
ปวีร์เลวนะ ... แต่ชอบอ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา กรี๊สสสสสสสสสสส :hao7: :hao7:
-
ไม่รอดจริงๆ
หื่นมากๆ
-
ปวีร์นี่ออกแนวโรคจิตนิดๆน่ะ :jul1:
-
พระเอกหื่นได้ใจ 555
-
เหย~~~~~
โอ้ว มาย ก๊อด
:hao6:
-
ตอนนี้ปวีร์มันช่าง... :hao6:
แถมมีแอบทิ้งลูกๆไว้ในตัวหัวหน้ากานต์อีก แล้วแบบนี้นายเอกเราจะท้องเลยไหมน้า (หรือว่าต้องรอหลายๆรอบก่อน :z1: )
ส่วนอีกเรื่องที่ยังไม่ได้ไปอ่านหมายถึงเรื่อง night and rose ค่ะ แบบว่าแอบอ่านเมนต์ของคนอ่านท่านอื่นแล้วท่าทางเนื้อหาน่าจะมีมาม่า เลยว่าจะเข้าไปอ่านอีกทีตอนที่น่าจะแฮปปี้แล้วน่ะค่ะ (แบบว่าชอกช้ำมาจาก love concerto กับ ไอเดนมาเยอะเกิ๊น 555 )
-
ปวีร์เลวว่ะ :o8:
-
แอบร้อนแรงเบาๆ :pighaun: :pighaun:
-
:pig4:
-
ไม่ได้หื่นน่ะ แต่ไม่กะพริบตาเลย กลัวพลาด ฮ่าๆๆๆๆ
-
ของเล่นล่ะ ของเล่นล่ะปวีร์ รีบเอามาใช้เซ่ :haun4:
-
โอ้ เย่!!
รักคนเขียนจังเลย
สนุกมาก
-
เลือดไหลนองพื้น เพราะพระเอกสุดหื่น ฮิฮิ
-
ตอนที่ 3 เจ้าค่ะ :hao7:
"ไอ้โรคจิต!"
ชนกานต์สบถด่าเขา ปวีร์หัวเราะชอบใจก่อนกระแทกสะโพกสอดกายลึกเข้าไปจนส่วนปลายยอดบานในถุงยางกระทบกับจุดเร้าอารมณ์
"อ๊ะ!!"
เหมือนไฟสปาร์คไปทั่วร่าง ชนกานต์สะดุ้งจนแผ่นหลังแอ่นโค้ง ปวีร์ลูบมือไปตามสัดส่วนก่อนโน้มลงไปขบเม้มที่ซอกคอขาว สูดกลิ่นกายหอมๆที่เจ้าตัวไม่ยินดีแบ่งปันให้เข้าไปเต็มปอด
"ชื่นใจจัง"
ชนกานต์ได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยข้างหูแล้วก็อยากสำรอกใส่
ชนกานต์เบือนหน้าหนีแต่ก็ถูกมือของปวีร์ล็อกไว้ ชนกานต์หลับตาปี๋ สีหน้ารังเกียจแสดงออกมาเมื่อถูกปวีร์เลียริมฝีปากแล้วบดจูบ กลีบปากบางพยายามเม้มไว้แน่นจนปวีร์ขัดใจ
มือหนาเอื้อมลงมาบิดดึงหัวนมเล็กแรงๆหวังจะให้ชนกานต์หลุดครางออกมาจะได้ควายเข้าไปหาความหวานภายใน แต่ชนกานต์ก็ไม่หลุดร้อง ปวีร์เลยเลื่อนมือลงไปหาส่วนอ่อนไหว เขาลูบมาก่อนบี้หัวยอดที่เบ่งบาน
สะโพกขาวสั่นริก ชนกานต์ขมวดคิ้วมุ่นกัดริมฝีปากไว้ ไม่ยอมแม้แต่จะให้เสียงครางหลุดออกมา พวงแก้มเป็นสีแดงระเรื่อ ตรงต้นคอเกร็งจนเห็นเส้นเลือด
"ชอบให้เล่นตรงนี้สินะ"
ปวีร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงขบขัน ตรงนั้นที่ว่าคือร่องตรงปลายยอดส่วนอ่อนไหวที่เขากำลังจิกนิ้วอยู่ ปวีร์สังเกตได้ว่าพอเขาสัมผัสตรงนี้ ชนกานต์ก็เกร็งรัดดุ้นกายของเขาไว้แน่น
"ไม่ชอบ.."
ชนกานต์เค้นเสียงตอบแล้วพยายามดิ้นหนี แต่ปวีร์ไม่ยอมให้หนีง่ายๆ ร่างสูงจับสะโพกไว้มั่นแล้วกระแทกกายเข้าไปแรงๆ
"อะ! หยุดนะ!! อือ!"
ชนกานต์ร้องเสียงสั่น พยายามเกร็งตัวต่อต้านการรุกล้ำแต่กลับยิ่งบีบรัดให้ปวีร์สุขสมมากขึ้น
"คุณนี่สุดยอดจริงๆ"
ปวีร์ว่าแล้วก็บีบแยกสะโพกออกกว้าง กระแทกเข้าแรงๆจนจมลึกถึงโคน ชนกานต์ดิ้นรน รู้สึกจุกจนทรมาน
"อื้อ! ไม่เอา!! พอแล้ว อะ อืออ หยุดนะ มัน อะ ลึก...ลึกไป!!"
ชนกานต์ร้อง แล้วบิดตัวไปมา ข้อมือเล็กก็กระชากแรงๆอย่างต้องการให้กุญแจมือมันหลุดจากกันจนผิวเนื้อตรงนั้นแดงไปหมด
"ลึกไปอย่างนั้นหรอ?”
ปวีร์หยุดกายเอาไว้ โน้มตัวลงมาจนใกล้ใบหูเรียว มือจับขยุ้มหนั่นเนื้อกลมกลึงไว้แน่น
"เคยมีใครเข้ามาลึกเหมือนผมหรือเปล่าครับหัวหน้ากานต์?"
"จะไปมี!.."
ชนกานต์สวนกลับทันทีด้วยความลืมตัวแต่ก็ยั้งไม่พูดจนจบ ดวงตากลมมองสบปวีร์ก่อนสะบัดหน้าใส่ ชนกานต์เม้มปากแน่นท่าทางโกรธจัด
แต่ปวีร์ก็เดาได้แล้ว
"คู่นอนของคุณไม่มีใครยาวได้เท่าผมสินะครับ"
"ฉัน..ไม่นอนกับผู้ชาย"
ชนกานต์กัดฟันพูดออกมาในที่สุด ทำเอาปวีร์ชะงัก มองใบหน้าสวยที่บูดบึ้งอย่างงุนงง
"คุณไม่เคยนอนกับผู้ชายมาก่อนหรอกหรอ? แต่ไหนไอ้พัสกรบอกว่า..."
"บอกว่าอะไร?"
ชนกานต์ตวัดเสียงถามอย่างหงุดหงิด
"มันบอกมันเคยนอนกับคุณ"
ชนกานต์พยายามยกมือขึ่นมือ แล้วชูนิ้วกลางใส่หน้าปวีร์
"ฝากไปให้เพื่อนจอมมโนของนายด้วยก็แล้วกัน ฉันไม่เคยนอนกับหมอนั่น"
ชนกานต์ว่าแล้วก็สบถในลำคอด้วยคำหยาบคายอย่างที่ปวีร์ไม่เคยได้ยินเขาพูดมาก่อน
ปวีร์ฟังแล้วก็นิ่งอึ้งไป
แบบนี้ก็หมายความว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ครอบครองร่างสวยนี้น่ะสิ!
พอตระหนักได้อย่างนั้นแล้วปวีร์ก็ยิ้มกว้างก่อนดึงตัวออกมาอย่างรวดเร็ว
"โอ้ย! ไอ้!!!"
ชนกานต์ที่ถูกแกนกายใหญ่ถอนกลับออกไปกะทันหันสะดุ้งเสียววาบจนร้องสบถเสียงดังออกมา ปวีร์ยังคงยิ้มกริ่ม เขารูดดึงเอาถุงยางที่ใส่ออกโยนทิ้งและจับแกนกายของตัวเองสอดกลับเข้าไปใหม่
"อะ!! ไอ้!!!"
ชนกานต์หันไปจะด่าและโวยวายที่ปวีร์ถอดถุงยางทิ้ง แต่ถูกปวีร์ประกบปากลงจูบปิดเสียงเอาไว้ ปวีร์เอาชั้นเชิงจูบของตัวเองมาหลอกล่อจนชนกานต์อ่อนลงในที่สุด
"ถ้าคุณด่าหรือพูดไม่เพราะ ผมจะจูบคุณอีก โอเคไหม?"
"ไม่!"
ชนกานต์สวนกลับทันที แต่ปวีร์ยักไหล่ใส่
"ผมว่าคุณไม่อยู่ในสถานะปฏิเสธผมนะ"
ปวีร์ว่าแล้วเอื้อมมือไปบีบรัดแกนกายของชนกานต์ไว้
"ฉันไม่ใช่ของเล่นของนายนะปวีร์"
ชนกานต์เค้นเสียงต่ำด้วยความเดือดดาล
แต่ปวีร์ก็สวนคำบางคำมาให้หัวใจกระตุก
"คุณไม่ใช่ของเล่น แต่คุณเป็นของผม"
ปวีร์พูดแล้วยิ้มมุมปากก่อนเริ่มต้นขยับอีกครั้งหลังจากหยุดไประหว่างนั้น
"โอ้ยไอ้บ้า!!เอาออกไปนะ!!! อึก.."
ชนกานต์ร้องลั่นแต่ปวีร์ก็ยังสอดลึกเข้ามา ร่างบางกัดปากแน่น ทรมานกับความรู้สึกเสียวปนอึดอัดที่โถมเข้ามาเป็นระลอกและปวดหนึบที่ช่วยล่างเพราะมือของปวีร์ที่บีบแกนกายของเขาไว้แน่นทั้งที่มันต้องการการปลดปล่อย
"อะ เอามือของนายออกไปนะ"
ชนกานต์เค้นเสียงสั่งก่อนหอบหายใจหนัก ปวีร์ส่งยิ้มกวนๆไปให้แล้วกระแทกสะโพกแรงขึ้น เขาโน้มหน้าไปใกล้ๆแล้วใช้อีกมือจิ้มแก้มตัวเอง
"หอมแก้มผมก่อนสิครับ"
ปวีร์เอ่ยอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งอีกฝ่าย ชนกานต์มองเขาตาเขียวก่อนจะทำท่าอ่อนลง
"ก้มมาอีกหน่อยดิ ฉันเอี้ยวไปไม่ถึง มันปวดคอ"
ปวีร์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่หัวหน้ากานต์จอมดื้ออ่อนลง เขายิ้มกริ่มแล้วเอียงหน้าเข้าไปใกล้มาขึ้น
ชนกานต์ลอบยิ้มก่อนอ้าปากและกัดเข้าที่แก้มของปวีร์เต็มแรง
"โอ้ย!!"
ปวีร์ร้องลั่น เขาปล่อยมือจากตัวของชนกานต์แล้วยันกายขึ้น มือยกลูบแผลที่โดนชนกานต์กัดไปจมเขี้ยว ชนกานต์ใช้โอกาสนั้นยันกายลุก สะบัดปวีร์ที่ไม่ทันรเวังออก พลิกตัวมานอนหงายแล้วใช้ขายันอกปวีร์ตกเตียงไป
โครม!!!
ชนกานต์ยิ้มสะใจก่อนรีบลุก หมายจะวิ่งหนี แต่ก็ต้องทรุดฮวบล้มลงไปนอนที่ข้างเตียงเพราะขามันอ่อนแรงและสั่นเทาจากการถูกร่วมรักจนรับน้ำหนักตัวเองไว้ไม่ไหว
ปวีร์ที่ล้มหงายท้องตกเตียงมา ยันกายขึ้นมามองแล้วก็หัวเราะ เขาลุกขึ้นมาหาชนกานต์ที่นิ่วหน้าพยายามยันกายลุกขึ้นมาอีกรอบ
"สมกับเป็นหัวหน้ากานต์จริงๆ"
ปวีร์ว่าพลางจะอุ้มชนกานต์กลับขึ้นไปบนเตียงแต่อีกฝ่ายยกขาขึ้นมายันป้องกันตัวเอง ปวีร์มองชนกานต์ถีบขาใส่เขาไปก็ย่นหน้าด้วยความเจ็บไปอย่างขบขันก่อนจะยืนกอดอกดู
"เหนื่อยเมื่อไหร่ก็บอกนะครับ"
ชนกานต์หยุดในทันทีก่อนจะสบถใส่เขา
"ไอ้โรคจิต!!"
"กับคุณคนเดียวนั่นแหละครับ”
ปวีร์ว่าพลางก้มลงหยิบเนคไทที่อยู่ใกล้ๆมา ชนกานต์มองอย่างไม่ไว้ใจ ร่างบางกระเถิบถอยหลังหนีไปจนหลังชนโต๊ะข้างเตียง
ปวีร์สะบัดเนคไทในมือ
"ผมนึกสงสัยอยู่ว่าห่วงตรงหัวเตียงมันคืออะไร ตอนนี้ผมว่าผมรู้แล้วนะ"
ชนกานต์หันมองตามสายตาของปวีร์ ปวีร์ฉวยโอกาสนั้นปราดเข้ามากระชากข้อมือเล็ก ดึงตัวชนกานต์ลอยกลับไปที่เตียงแล้วจัดการใช้เนคไทคล้องผูกกุญแจข้อมือไว้กับห่วงบนหัวเตียง
แม้ชนกานต์จะพยายามดิ้นหนีเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ไม่รอดอยู่ดี
"ไอ้บ้าเอ้ย!!!"
ชนกานต์ตวาดลั่นแล้วกระชากแขนแรงๆอย่างไม่กลัวเจ็บ
"คุณอยากหนีทำไมล่ะครับ แบบนี้..ผมคงต้องหาตัวช่วยเสียแล้ว"
ปวีร์ว่าพลาง เดินไปหยิบแคตตาล็อกที่อยู่ในกล่องข้างเตียง ก่อนจะกดปุ่มอะไรบางอย่างบนแป้นที่อยู่ข้างเตียง ชนกานต์มองอย่างไม่ไว้ใจ
"นายทำอะไรน่ะ?"
"เดี๋ยวก็รู้"
ปวีร์ว่าพลางกระตุกยิ้ม ชนกานต์มองเขาที่ก้าวกลับมาที่เตียงอย่างไม่ไว้ใจมากกว่าเดิม
"คุณทำให้สวรรค์ของเราต้องล่มกลางคัน เพราะงั้นต้องรับผิดชอบนะครับ"
ปวีร์ว่าพลางเอื้อมมือมาจับส่วนอ่อนไหวกลางหว่างขาของชนกานต์ที่อ่อนตัวลงเพราะความเจ็บเมื่อสักครู่
"เฮ้ย! อย่าจับนะไอ้บ้า!!"
ชนกานต์โวยเสียงลั่นแล้วถีบขาใส่อกปวีร์ แต่คราวนี้ปวีร์หลบได้ เขาหัวเราะชอบใจกับอาการพยศของชนกานต์
"โอเคครับ ไม่จับก็ได้"
ปวีร์ถอยหลังมาให้พ้นระยะขาของชนกานต์แล้วจับที่แกนกายของตัวเอง จัดการรูดมันต่อหน้าชนกานต์
"ไอ้บ้า! ไม่อายบ้างหรือไง?"
ชนกานต์ตวาดเสียงถาม หน้าแดงกล่ำเมื่อเห็นไอ้ดุ้นร้ายมันเริ่มแข็งตัวขึ้นมาอีกรอบในมือของปวีร์
พอไดเห็นชัดๆก็รู้เลยว่าทำไมตัวเองถึงได้เจ็บร้าวที่ก้นขนาดนี้
"ขนาดของผมไม่น่าอายนี่ครับ"
ชนกานต์จิ๊ปากอย่างขัดใจกับสิ่งที่ปวีร์พูดออกมา ก่อนหันไปมองที่ใกล้ๆเตียง แผงปุ่มที่ปวีร์กดมันร้องดังปิ๊บๆ ปวีร์ลุกไปที่แผงนั่น ชนกานต์มองเขาหยิบถุงผ้าออกมาจากลิฟต์ส่งของแล้วก็อดไม่ได้ที่จะมองแกนกายใหญ่ที่ผงาดอยู่กลางหว่างขาของคนที่ตัวเองชังน้ำหน้า
พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมสาวๆที่เคยเป็นคู่นอนของไอ้หมอนี่ถึงได้ติดใจกันหนักกันหนา
แต่เขาจะไม่ยอมติดใจมันเด็ดขาด!
ชนกานต์คิดอย่างมุ่งมั่นก่อนจะชะงักมือปวีร์เดินกลับมาที่เตียง
"นั่นอะไร?"
ชนกานต์โพล่งถามอย่างไม่ไว้ใจ
ปวีร์ยิ้มวางสิ่งที่ดูเหมือนปลอกอะไรสักอย่างทำจากหนังร้อยเป็นพวงลงที่เตียง ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ยื่นขวดเล็กที่อยู่ในมือเข้ามาที่หน้าเขา ชนกานต์มองมันก่อนจะเงยมองหน้าปวีร์ที่ยิ้มมุมปากก่อนจะฉุกคิดขึ้นได้เมื่อได้กลิ่นหอมเอียนจากขวดนั้น
นี่มันยาปลุกเซ็กส์!!
ชนกานต์กลั้นลมหายใจแล้วสะบัดหน้าหนี ปวีร์ทั้งตัวนั่งข้างๆแล้วจับหน้าเขาไว้ จ่อขวดยานั่นใต้จมูก
ชนกานต์พยายามกลั้นลมหายใจไว้แต่ที่สุดก็ทนไม่ไหวเมื่อขาดออกซิเจน เลยสูดหายใจเอากลิ่นยาเข้าไปเต็มปอด ฤทธิ์ยามันทำให้เขารู้สึกเบลอๆและอ่อนแรงลง ปวีร์เอาขวดยาออกไป ชนกานต์เห็นปวีร์ยิ้มให้ตัวเอง มือลูบแก้มเขา
"มาสนุกกันต่อดีกว่านะครับ"
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงก็อกแก็กและเสียงล็อกของอะไรบ้างอย่าง พอก้มมือไปแล้วก็เห็นว่าขาของตัวเองถูกพันธนาการด้วยปลอกขาแบบหนังที่ทำให้ขาพับในลักษณะข้อเท้าติดกับต้นขาจนขยับไม่ได้
"อึดอัดหน่อยนะ"
ปวีร์กระซิบก่อนบีบครีมออกจากหลอดป้ายไปบนนิ้วกลางยาวๆของตัวเองและสอดมันเข้าไปในก้นของเขา
"อะ อะ อ๊ะ"
ชนกานต์รู้สึกว่าภายในบั้นท้ายของตนเองมันร้อนและขึ้นมาทันทีที่นิ้วของปวีร์สอดเข้ามา จนเขาทนแทบไม่ไหวต้องร้องครางออกมาและบิดตัวไปมาในอ้อมแขนของปวีร์อย่างทรมาน
ปวีร์ชักนิ้วเข้าไปควานล้วงข้างใน ป้ายเอาเจลปลุกเซ็กส์ให้โดนไปทั่วข้างใน ชนกานต์กระตุกมือแรงๆกัดฟันแน่นพยายามต่อต้านอารมณ์ที่มันเกิดขึ้นโดยไม่ปรารถนา
"ยะ หยุดนะ"
ชนกานต์ร้องเสียงสั่น ปวีร์ยกสะโพกของเขาขึ้นแล้วจับเอาท่อนเนื้อร้อนมาสอดใส่เข้ามา ชนกานต์กัดปากแน่นกว่าเก่า ร่างกายของเขามันอ่อนแรงและไม่สามารถขยับได้ดั่งใจ แต่กลับเสียวซ่านกว่าเดิมหลายเท่า
"อะ..อะ...อ้ะ..."
ชนกานต์เผยอปากออก ครางเสียงหวิวตามจังหวะที่ถูกปวีร์บังคับให้ขย่มบนตัก ปวีร์พรมจูบไปตามลำคอเนียน ขบเม้มและดูดดึงทิ้งรอยรักเอาไว้อย่างคึกคะนอง ก่อนดันให้ชนกานต์นอนคว่ำลง เพราะถูกมัดขาไว้ทำให้สะโพกของชนกานต์ลอยเด่น
ปวีร์กระแทกเอวใส่แรงขึ้น มือสอดไปรูดเร้าท่อนเนื้อของชนกานต์ที่แกว่งไกวตามแรงขยับ ชนกานต์ได้แต่นอนครวญครางอย่างไร้สติ ช่องทางบีบรัดปวีร์แรงมากขึ้น จนกระทั่งปลายทางที่คลื่นความสุขสมถาโถมเข้าใส่
"อะ อ๊า!"
ปวีร์กระแทกลึกเข้าไปและปล่อยน้ำอุ่นร้อนในกายของชนกานต์จนล้นทะลัก ชนกานต์เองก็ปลดปล่อยออกมาจนเลอะเทอะเต็มหว่างขาขาวของตนเองเช่นกัน
"ระ ร้อน ทำไม..มันยังร้อนอยู่อีก"
ชนกานต์สบถถามเสียงกระท่อนกระแท่นเพราะหอบหนัก
"ยามันยังไม่หมดฤทธิ์น่ะสิครับ" ปวีร์ว่าแล้วจูบที่แก้มของชนกานต์
"อยากให้ผมช่วยให้หายร้อนหรือเปล่า" ชนกานต์กัดฟันกรอดกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย
แต่ฤทธิ์ก็ไม่ปราณีเขาเลยแม้แต่น้อย
"มะ ไม่ไหวแล้ว แก้มัดเดี๋ยวนี้!!" ชนกานต์สบถก่อนกระชากมือแรงๆ ทว่ามัดก็ไม่ยอมคลาย
"ให้ผมช่วยดีกว่าครับ" ปวีร์ว่าแล้วจับชนกานต์มานั่งตัก
“แก้มัด!” ชนกานต์คำรามเสียงต่ำแล้วงอตัวอย่างทรมาน
“ทำอย่างนั้น เดี๋ยวผมก็ถูกคุณถีบอีกน่ะสิครับ”
ปวีร์ว่าแล้ว
“ไม่ถีบหรอกน่า!!”
ชนกานต์ตวาดเสียงสั่น ภายในรุ่มร้อนต้องการปลดปล่อยจนทนไม่ไหวแถมปวีร์ยังมาแกล้งด้วยการรูดเร้าท่อนเนื้ออย่างเชื่องช้าจนน่าโมโหอีก ถ้าแก้มัดเมื่อไหร่ขอต่อยสักทีให้หายโมโหหน่อยเถอะ!
“ไม่ถีบ แต่จะต่อยแทนใช่ไหมครับ?”
ปวีร์เอ่ยอย่างรู้ทัน ทำเอาชนกานต์ต้องจิ๊ปาก
“ไม่ถีบ ไม่ต่อย โอเคไหม?”
“ห้ามตบ ห้ามกัดด้วยครับ”
ปวีร์ดักทางไว้ทุกอย่างจนชนกานต์นึกหมั่นไส้ แต่ก็ต้องยอมทำตามเพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป ฤทธิ์ยามันแรงจนทำให้เขาต้องการระบายความร้อนนี้ออกไปให้หมด
“โอเค โอเค!”
ชนกานต์กระแทกเสียงตอบ ปวีร์ยิ้มกริ่มแล้วกระซิบที่ข้างหู
“แล้วก็ต้อง...ออรัลกับออนท็อปให้ผมด้วย”
“มันจะมากไปแล้วนะ!!”
ชนกานต์หันไปตวาด หน้าแดงกล่ำที่แยกไม่ออกว่ามันเป็นเพราะฤทธิ์ยาหรือเพราะโมโหหรือเพราะความเขินกันแน่
“งั้นก็ไม่ปล่อย”
ปวีร์ลอยหน้าตอบได้กวนโมโหชวนให้ต่อยเข้าหน้าให้หายหล่อเสียจริง
“ไอ้โรคจิต”
ชนกานต์กดเสียงต่ำด่าไปก่อนจะสะดุ้งจนตัวงอเมื่อปวีร์แกล้งรูดท่อนเนื้อในมือเร็วๆ
“ตกลงหรือเปล่าครับ?”
ชนกานต์กัดริมฝีปากอย่างขัดใจ มองคนที่ยิ้มกริ่มอย่างถือว่าตัวเองเป็นต่ออย่างแค้นๆ
“เออ! ตกลง!”
ชนกานต์กระแทกเสียงตอบอย่างเสียไม่ได้
"งั้นก็ปล่อยได้"
ปวีร์ว่าแล้วดึงปลอกขาของชนกานต์ออก ชนกานต์ขยับขาอย่างเมื่อยๆ ฤทธิ์ยาที่ปวีร์ให้ดมเหมือนจะจางลงไปมาแล้ว เขาสามารถขยับขาและมือได้มากขึ้น แต่ความร้อนในร่างกายดูเหมือนไฟที่ประทุอยู่ตลอดเวลาไม่มอดลงง่ายๆ พอปวีร์แกมัดมือและปลดกุญแจมือออกให้ มือเล็กก็สะบัดไปมาด้วยความขบเมื่อยก่อนเลื่อลงไปจับแกนกายของตัวเองแล้วรูดทันที
"ให้ตายสิ! ยาบ้าอะไรวะเนี้ย!!"
ชนกานต์สงบงึมงำ ก่อนสะดุ้งเพราะปวีร์แหย่นิ้วเข้ามาในก้น
"อ้ะ!!"
"คุณสัญญาแล้วนะว่าจะออรัลกับออนท็อปให้ผม"
"ใครจะทำให้โง่"
ชนกานต์พึมพำแต่ปวีร์ได้ยินเต็มสองหู ร่างสูงรวบข้อมือเล็กไว้แล้วยื้อไม่ให้ชนกานต์ช่วยตัวเอง
"ผิดสัญญาเป็นเด็กๆแบบนี้ต้องโดนลงโทษนะครับ เอาเจลปลุกเพิ่มอีกหน่อยมั้ย?"
ชนกานต์กัดปากด้วยความโมโหจนแทบห้อเลือด พยายามบิดมือตัวเองให้หลุดจากมือปวีร์ ก่อนที่ปวีร์จะปล่อยมือข้างหนึ่งไปหยิบหลอดเจลมาขู่ ชนกานต์ที่ซึ้งกับฤทธิ์ของมันยังไม่หายก็ใช้มือที่ไม่โดนจับผลักมือปวีร์ออก
"มะ ไม่เอา! อย่านะเว้ย!!"
ชนกานต์ผลักมือปวีร์แล้วดิ้นโวยวาย แต่ปวีร์บีบเจลมาแล้ว เจลมันพุ่งมาเปรอะเลอะอกและหว่างขาของชนกานต์
ปวีร์เลียริมฝีปาก ปล่อยมือจากมือบางและหลอดเจล จู่โจมละเลงเจลนั้นไปทั่วอกและหว่างขาของชนกานต์รวมทั้งปาดมันยัดเข้าไปในโพรงร้อนของชนกานต์ที่ดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน
"อะ อึ่ก!! ยะ อย่านะ"
ชนกานต์ตัวสั่น ความร้อนจู่โจมจนเหมือนตัวจะระเบิด มือที่ผลักไสปวีร์เปลี่ยนมาจับแกนกายที่คลั่งของตัวเองรูดแรงๆอย่างไม่กลัวเจ็บแล้วครางระงม
"อะ อ้ะ อ้าาา"
สะโพกกลมส่ายวนกับตักของปวีร์ เบียดจนปวีร์เริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่ปวีร์ข่มตัวเองไว้เพราะอยากแกล้งอีกฝ่าย เขาหยิบเอาไวไบรเตอร์ไร้สายขนาดเล็กขึ้นมาบิดเปิดแล้วจ่อจี้กับหัวนมแดงของชนกานต์
"อ๊าาา!!"
ชนกานต์ร้องเสียงหลง อกแอ่นหนีแต่ปวีร์ก็จี้มันจนหัวนมคัดแข็งชูชันก่อนไล้มันลงไปจี้โดนแท่งร้อนและดึงออก ชนกานต์บิดตัวงอ ร่างสั่นเทิ้มเพราะความต้องกาย ปวีร์ฉวยจังหวะนั้นสอดไวไบรเตอร์เข้าไปในบั้นท้ายกลม
"อะ อ้ะ อือออ เอามันออกไป!!"
-TBC-
ปล้ำนี้....ยังมีต่อ...อุคริ..อุคริ...
ชอบพระเอกหื่นๆกันก็ไม่บอก รู้งี้เอามาลงตั้งนานแล้วววว :hao3:55555
-
เลือดพุ่งแต่เช้า :pighaun:
นี่ถ้าตอนหน้ามีต่อ ขอความกรุณาคนแต่งช่วยเรียกรถพยาบาลกับเลือดให้ด่วนเลยค่ะ ไม่ไหวแล้ววววว :jul1:
-
หมดตัว ขอเลือดสำรองด่วนนนนนนนนนนนน :jul1:
-
เลือดพุ่ง :m25:
:pig4:
-
ต้องการเลือดสำรองด่วนค่าาาา :haun4:
-
กีสสส
ปวีร์ ทำไมหื่นอย่างนี้ แอร๊ยยยย
-
เลือดหมดตัวแล้วว
-
:jul1: :jul1: :jul1:
มาต่อด่วนค่าาาา พลีสสสสสสสส
-
:haun4: ต่อด่วนๆ
:call:
-
:jul1: :jul1: คะ...คะ....คะ.........ค้างค่ะ
-
ให้ตายปวีร์ ชนกานต์ช้ำแน่ ๆ
:hao6:
-
:laugh3: :laugh3: :laugh3:
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
:haun4: :haun4: :haun4:
-
แอร๊ยยยยยยยยยยยย :pighaun:
มีใช้ยา ใช้ของเล่น ฮรื้อออออออ
ตอนหน้าต้องสำรองเลือดไว้ด้วยไหม
สงสารหัวหน้ากานต์เบาๆ :katai4:
-
โอ๊ย มาต่อเลยนะค้า ค้างอย่างแรง ไม่เสร็จสมอารมณ์หมายเลยเนี่ย เจ๊จะไม่ทน :katai1:
หัวหน้ากานต์ร้อนแรงเกินไป :hao6:
-
พระเอกหื่นจริงๆๆ
-
อ่าาาา อ่านเรื่องนี้แล้วคลายเครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
:m25: :m25: :m10: :m10: :m10: :m10: :m10:
-
:haun4: :haun4:
-
เลือดหมดตัวววววววววววว
-
ขอเลือดสำรองด่วน
หมดตัวคาจอเลย
-
โถ๊! ที่แท้คุณเพื่อนก็มโนหรอกเหรอ อย่างค่อยโล่งอก หื่นต่อได้แบบสบายใจ 555 :pighaun:
-
ตอนแรกก็แบบจะท้องได้ยังไง นายเอกเป็นสายพันธุ์พิเศษหรอ
แต่พออ่านมาถึงตอนนี้รู้แล้วค่ะ
ก็จัดกันขนาดนี้ไม่ท้องก็บ้าแล้ว 555555555555555555555
-
ขอเลือดสำรองด่วนๆๆ
:m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
พระเอกแบบนี้เอาใจคนอ่านไปเลย
-
:pighaun: :pighaun:
ติดต่อสภากาชาดด่วน
-
ปวีร์ขี้แกล้ง
-
หื่นกันขนาดนี้ แจกเลือดให้คนอ่านด้วยแล้วกัน :haun4:
-
อุ๊บ! ไม่กล้าเม้นเลยทีเดียว อิอิ :m25:
-
ปวีร์จัดเต็มมากอ่า แอบสงสารชนกานต์นิดๆ
(แต่คนอ่านชอบ อิอิ =.,=)
-
หื่นมากๆๆๆๆๆ
ยาวนานมาก
รออ่านต่อครับ
-
ให้สองคำ "ฟ้า เหลือง"
-
อุยตาย เราหอบกินเลย 555555555
-
อ๊ากกกกกก ชอบมากกกกกกกกกกกก
-
ปวีร์ นายหื่นมาก 55555555
-
เจออย่างนี้ยิ่งกว่า 18+ อีกน่ะเทออออออ
:hao6: :hao6: :hao7: :hao7: :m25: :z1: :pighaun: :haun4: :jul1: :jul1: :oo1: :oo1:
-
หัวหน้ากานต์ ไหวมั๊ยคะ? *ยื่นยาดม*
ปวีร์จัดหนักจัดเต็มมาก อร๊ายยย~
-
:hao6:ชักอยากจะแปลงร่างเป็นจิ้งจกไปเกาะเพดานที่สองคนนี้อยู่จัง :hao6:
-
ท่าทางจะเล่นกันอีกนานนน ทำไรไว้รับผิดชอบด้วยละ
-
บร๊ะ เจ้าาาา !!! :pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
:pighaun:
-
ราตรีนี้อีกยาวไกล 555
-
รอๆๆๆๆๆๆๆค๊าาาา
-
วายยยยยย ทำไมพระเอกมันหื่นงี้ :haun4:
-
ตอนที่ 4
ชนกานต์ร้องเสียงลั่น บิดตัวไปมาก่อนค้อมตัวลงไปคุกเข่า โก่งสะโพกแล้วเลื่อนมือมาที่ก้น พยายามจะดึงไวไบรเตอร์ที่เข้าไปสั่นทรมานให้เสียวซ่านออกจากรูแคบเล็กแต่ก็หาทางดึงออกมาไม่ถูกเพราะมันไม่มีสาย
ปวีร์เลียริมฝีปากมองดูชนกานต์โก่งก้นแล้วล้วงนิ้วเข้าออกในโพรงแดงๆที่เต็มไปด้วยน้ำของเขาอย่างรู้สึกหื่นกระหาย
สะโพกกลมส่ายไปมาพาให้แกนกายสีชมพูกวัดแกว่งเชิญชวนน่าดูด แต่ปวีร์ก็ห้ามตัวเองไม่ให้สัมผัสชนกานต์ เพราะต้องการให้ชนกานต์ยอมพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์ยาและทำตามความต้องการของเขา
ฝ่ายชนกานต์นั้นก็รุ่มร้อนจนแทบขาดใจ เขาพยายามจะดึงเอาไวไบรเตอร์ที่กระตุ้นช่องทางเบื้องหลังของตัวเองออก
"อะ เอามันออกไป เอามันออกไปนะ!!"
ชนกานต์ร้องสั่งหลังจากที่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สามารถดึงเอาไวไบรเตอร์ออกมาได้ มันถูกกลีบเนื้ออุ่นภายในรัดเอาไว้ พอปลายนิ้วจะจับมันได้ มันก็ถูกดูดลึกเข้าไปกอปรกับความลื่นจากน้ำรักที่ขังอยู่ภายในทำให้พยายามเท่าไหร่ก็จับไว้ไม่ได้สักที
ฝ่ายปวีร์ก็อมยิ้มมองอย่างไม่คิดจะช่วยเหลือ
ชนกานต์ในตอนนี้เซ็กซี่และร่านร้อนถูกใจเขาที่สุด
"อึก ไม่ไหวแล้ว!!"
ชนกานต์ร้องก่อนเลื่อนมือหนึ่งมารูดแกนกาย อีกมือเปลี่ยนจากล้วงดึงไวไบรเตอร์มากระทุ้งเข้าออกแทน แต่ทำยังไงมันก็ไม่ช่วยให้อารมณ์มันเพียงพอกับฤทธิ์ยา ช่องทางของเขาต้องการแต่ความเป็นชายที่ใหญ่และยาวเข้ามากระแทกให้ถึงใจ
ความเป็นชายที่น่าหมั่นไส้ของปวีร์นั่น
ชนกานต์หันมามอง และเห็นแกนกายของปวีร์ชูเด่นแข็งตัวอยู่ ชนกานต์เลียริมฝีปากที่แห้งผากก่อนตัดสินใจพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกชิงชังที่สุด
"ใส่เข้ามาเร็ว!"
"อะไรหรอกครับ?" ปวีร์แกล้งถามกลับอย่างไร้เดียงสา ชนกานต์จิ๊ปากนึกเคือง
"ไอ้นั่นของนายน่ะ! ใส่เข้ามาสิ!"
ชนกานต์ตวาดสั่ง แล้วมองปวีร์ตาเขียว แต่อีกฝ่ายก็ยังวางท่ายียวนเขา
"ไม่อ่ะ ผมไม่อยากทำตามคำสั่งของคนผิดสัญญา"
ชนกานต์อยากจะตั้นหน้าปวีร์สักหลายๆหมัด แต่ตอนนี้เพลิงราคะมันสุมร่างกายจนทนไม่ไหว ชนกานต์ลุกขึ้นมาแล้วทิ้งตัวนั่งคร่อมตักปวีร์
"ไม่ครับ ออรัลก่อน"
ปวีร์ว่าพร้อมรอยยิ้ม มือกุมแกนกายของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ชนกานต์ครอบสะโพกลงมาได้ ชนกานต์กัดปากแน่นด้วยความโมโห ร่างบางชูนิ้วกลางสะบัดใส่หน้าปวีร์ก่อนก้มลงไปที่หน้าตัก มองความเป็นชายขนาดใหญ่ที่ผงาดอยู่ตรงหน้าก่อนกลืนน้ำลาย กลั้นใจใช้ริมฝีปากครอบลงไปแม้จะนึกขยะแขยง
แกนกายของปวีร์มีกลิ่นสะอาดกว่าที่คิด แวบแรกที่ครอบริมฝีปากลงไป ชนกานต์รู้สึกได้เช่นนั้น ความรังเกียจเลยจางลงไปนิดหน่อย ร่างบางดูดริมฝีปากเบาๆแล้วครอบริมฝีปากลึกลงไปจนปลายยอดบานมันชนเข้ากับลิ้นไก่แต่ปวีร์ก็กดศีรษะเขาให้กลืนกินลงไปอีก
"เปิดลำคอครับ อย่างเกร็ง แล้วก็ดูดแรงๆ ใช้ลิ้นด้วยนะครับ"
ปวีร์คอยกำกับบอก มือลูบกดศีรษะเล็กเป็นจังหวะ
ชนกานต์รู้สึกดุ้นร้อนมันชนกับลิ้นไก่พาให้จะขย้อนอย่างบอกไม่ถูก เขาพยายามดึงศีรษะออกแต่ปวีร์ก็กดมันลง จนต้องกลั้นลมหายใจพยายามเปิดคออย่างเงอะงะ และในที่สุดดุ้นยาวๆของปวีร์มันก็ไหลลงมาที่คออย่างน่าอัศจรรย์ ชนกานต์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจขณะที่ปวีร์ยิ้มอย่างพอใจ
"นั่นแหละครับ เก่งมาก ดูดแรงๆแล้วก็ใช้ลิ้นด้วยครับ ทำดีๆ เดี๋ยวผมจะให้รางวัล"
คำพูดกำกับของปวีร์เลื่อนผ่านหูไป ชนกานต์ทำตามเพื่อให้มันจบลงไวๆ เขาดูดรัดท่อนเนื้อนร้อนที่ใหญ่คับปากแล้วเลียมันไปด้วย ทำแบบนี้อยู่พักใหญ่ในความรู้สึกพร้อมกับใช้มือรูดแกนกายตัวเองจนทนไม่ไหวก็ปัดมือปวีร์ออกจากศีรษะแล้วเลิกอมท่อนเอ็นใหญ่
"พอแล้ว!! เอามันใส่เข้ามาสักที!!"
ชนกานต์ว่าแล้วทิ้งตัวนอนหงายแต่ถูกปวีร์ดึงแขนรั้งไว้ ปวีร์สอดแขนกอดเอวบางไว้โอบชนกานต์เข้ามาในอ้อมแขน
"ออนท็อปครับ"
ปวีร์ว่าแล้วยัดดุ้นเอ็นของตัวเองเข้าไปในโพรงร้อน ชนกานต์สะดุ้งเฮือกจิกบ่าเขาไว้
"อะ ไอ้บ้า! เอา..เอาไอ้ที่สั่นๆ ออกไปก่อนเซ้!!"
ชนกานต์ตวาด รู้สึกทั้งจุกและเสียวไปพร้อมกัน แต่ปวีร์ไม่ฟัง ใช้สองมือจับเอวเขากระแทกขย่มบนแกนกายตัวเอง
"เสร็จยกนี้แล้วผมจะเอาออกให้ครับ เพราะงั้นหัวหน้ากานต์ คุณต้องขย่มแรงๆ"
"มะ ไม่เอา!!" ชนกานต์สั่นหน้าดิก จิกบ่าปวีร์แน่น
ภายในบั้นท้ายคับตึงเพราะมีทั้งแกนกายใหญ่ของปวีร์และไวไบรเตอร์เบียดกันอยู่ ปวีร์สั่งแรงให้ชนกานต์ขย่มกายเป็นจังหวะจนความเสียวซ่านแผดเผาชนกานต์ไว้จนขีดสุด ชนกานต์เชิดหน้าร้องครางระงมจนน้ำลายใสไหลย้อยจากมุมปาก แววตาดูมัวเมากับรสกามจนประคองสติไม่อยู่ เอวบางส่ายร่อนบดขยี้สะโพกกับท่อนเนื้อของปวีร์อย่างไม่รู้ตัว
"อะ อะ อ้าาา"
ปวีร์ถึงกับกลั้นลมหายใจ แววตามองคนที่ขย่มโยกบนตักตัวเองอย่างหลงใหล
ชนกานต์ที่ชอบทำตาเย็นชาและข่มว่าตนเหนือกว่าเขาเพียงเพราะเป็นรุ่นพี่ ตอนนี้ร้อนแรงจนปวีร์สะท้าน
บอกไดัเลยว่าไม่เคยมีคู่นอนคนไหนของเขา ร้อนแรงถึงใจเท่ากับชนกานต์อีกแล้ว ชนกานต์นี่แหละสุดยอด!!
ปวีร์ฉีกยิ้มก่อนยกสองมือมาจับหน้าของชนกานต์ให้ก้มลง เขาจูบเลียน้ำลายใสที่เลอะของชนกานต์อย่างไม่รังเกียจก่อนประกบปากลง ชนกานต์ดิ้นหัวขลุกขลัก สองมือที่จิกบ่าเขาเริ่มผลักใส แต่ก็พ่ายแพ้ให้กับลิ้นร้อนของเขา ปวีร์ทั้งจูบและช่วยกอบกุมแกนกายของชนกานต์ รูดเร้าพาความเสียวซ่านที่ทำให้แผ่นท้องและช่องทางเบื้องหลังของชนกานต์ต้องหดเกร็ง
"อะ อ๊า!"
ชนกานต์หวีดร้อง มือเลื่อนมาลูบหัวปวีร์ที่ก้มลงไปดูดยอดอกที่เต่งคัดก่อนขยุ้มจิกมันไว้ด้วยความเสียวซ่าน สะโพกเด้งขึ้นลงจนแทบจะหมดแรง ลมหายใจหอบหนักราวกับวิ่งมาไกลหลายกิโล
"อะ อ๊าาา!!" ชนกานต์หวีดร้องก่อนที่น้ำขุ่นขาวจะพ่นออกมาจากท่อนเนื้อในมือใหญ่ ชนกานต์ปล่อยมือจากเรือนผมของปวีร์แล้วจะทิ้งตัวนอนหงายหลังไปแต่ปวีร์โอบเอาไว้แล้วจับสะโพกให้เด้งขึ้นลงแรงๆ
"มะ..ไม่ไหว! ไม่ไหวแล้ว!!" ชนกานต์ร้องก่อนเกร็งจนตัวสั่นขาสั่น ปวีร์ผลักให้นอนแล้วเป็นฝ่ายกระแทกสะโพกเข้าหาเอง
"อือ อืมม!!" ไม่นานนัก ปวีร์ก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เขาดันสะโพกสอดลึก พ่นน้ำอุ่นเข้าสู่ห้วงลึกที่สุดในกายเล็กแล้วทิ้งตัวลงนอนทับชนกานต์ที่นอนหอบหายใจ
"ลุกออกไปเลยนะ!"
ชนกานต์สบถแล้วผลักคนตัวโตกว่า แต่ปวีร์ไม่ยอมลุกแถมยังทิ้งน้ำหนักลงทับเขามากกว่าเดิม
"สบายจัง" ปวีร์พูดอย่างนึกอยากแกล้ง ชนกานต์แยกเขี้ยวใส่
"ไม่รู้ตัวบ้างหรือไงว่าตัวหนักอย่างกับแรด"
ปวีร์กลั้นยิ้มขำกับคำด่าของชนกานต์ บางทีสมองเขาคงเพี้ยนไปแล้วถึงฟังคำด่าของชนกานต์ได้อย่างหน้าชื่นตาบานแถมยังรู้สึกว่าชนกานต์น่ารักน่าฟัดมากขึ้นด้วยเวลาที่ด่าเขาและทำหน้าเหวี่ยงๆแบบนี้
"หนักเท่าแรดหรือเปล่าผมไม่รู้นะครับ แต่เรื่องแข็งแรงนี่ผมมั่นใจว่าเท่าแรดชัวร์"
ปวีร์ว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่พาให้ชนกานต์รู้สึกสยอง
"อย่านะเว้ย!" ชนกานต์ร้องโวยวาย แล้วดิ้นขลุกขลักผลักปวีร์ออกห่าง
"วีคเอนทั้งที เอนจอยกันให้สุดเหวี่ยงเลยดีกว่าครับหัวหน้ากานต์"
ชนกานต์แยกเขี้ยวใส่คนที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่
"ไปเอนจอยกับผีเถอะปวีร์!"
"ผมไม่อยากเอนจอยกับผี แต่อยากเอนจอยกับคุณนี่ครับ"
บอกแล้วก็ก้มลงปิดปากคนที่กำลังอ้าปากจะด่าตัวเองอย่างมีความสุข
ถึงคนที่ถูกจูบจะไม่มีความสุขตามก็ที
กว่าไอ้ปวีร์ที่เขาแสนจะชังน้ำหน้าจะปล่อยตัวเขาออกมาได้ มันก็เล่นเอาค่ำของวันอาทิตย์เอาเสียแล้ว ก่อนแยกกันชนกานต์ไม่ลืมที่จะต่อยหมัดหนักๆฝากรอยแผลประดับไว้บนโหนกแก้มของไอ้คนลามกหนึ่งทีแล้ว ถ้าไม่ติดว่ามีคนอยู่บริเวณนั้นก็อยากจะกระทืบให้อีกฝ่ายตายคาเท้า แต่เพราะเห็นคนหันมามองแล้วซุบซิบกัน คนที่ไม่ชอบให้ชาวบ้านมาสอดรู้เรื่องตัวเองอย่างชนกานต์ก็สะบัดหน้าเดินหนีกลับมา พอกลับมาถึงห้องพักได้ ชนกานต์ก็ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงทันที แม้แต่จะไปอาบน้ำก็รู้สึกเหนื่อยเกินทน
ไม่รู้กี่ปีแล้วที่ไม่เคยเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน แถมยังอยู่ในสถานะรับอีกต่างหาก..
คนอย่างเขาต้องกลายมาเป็นฝ่ายรับให้ไอ้เด็กจอมกวนปากเสียคนนั้น คิดแล้วมันเจ็บใจนัก
ชนกานต์นอนเจ็บใจมองเพดานอยู่พักใหญ่ก่อนจะสะดุ้งลุกขึ้นมานั่งหน้าซีด
เขาถูกปวีร์บังคับร่วมรักไปหลายหน แถมไอ้หื่นนั่นยังไม่ยอมใส่ถุงยางอีก...
แบบนี้..ไม่ปลอดภัยแน่ๆ
ไม่รู้ว่าปวีร์จะมีโรคติดต่ออะไรหรือเปล่า?...
แต่ถึงอย่างนั้น..ชนกานต์ก็กลับรู้สึกว่าเปอร์เซ็นต์ที่จะติดโรคติดต่อจากคนที่ตัวเองชังน้ำหน้ามันมีน้อยมากกว่าอีกเรื่องหนึ่ง
ชนกานต์เริ่มคิดวิตกจนต้องลุกขึ้นมาหยิบฉวยเอากระเป๋าสตางค์กับกุญแจห้องมาและเดินออกไปข้างนอกอีกครั้งทั้งที่ยังไม่ค่อยจะมีแรง
จุดมุ่งหมายของชนกานต์นั้นอยู่ไม่ไกล หัวหน้ากานต์จอมห้าวเป่าปากเบาๆเมื่อเห็นว่าร้านนั้นยังเปิดอยู่ เขากลั้นใจข่มความอับอายเดินเข้าไปหาเภสัชกรสาวที่ยืนจัดเรียงยาอยู่
"ขอโทษนะครับ"
"คะ? เป็นอะไรมาเอ่ย?" เภสัชกรสาวถามกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่มันยิ่งทำให้ชนกานต์รู้สักประดักประเดิกเสียยิ่งกว่าเก่า
"คือ..."
"คะ?" ชนกานต์เม้มริมฝีปากพลางเคาะตู้กระจก สูดลมหายใจเข้าออกอยู่ครู่หนึ่งก่อนก้มหน้าบอก
"ผมอยากได้ยาคุมฉุกเฉินครับ"
"สำหรับผู้หญิงหรือผู้ชายคะ?" เธอถามกลับมาพร้อมกับหันหลังไปเปิดตู้ยาด้านหลัง
"สำหรับผู้ชายครับ" ชนกานต์ตอบกลับพร้อมนึกกร่นด่าปวีร์ในใจที่ทำให้เขาต้องพบสถานการณ์น่าอับอายอย่างนี้
"นี่ค่ะยา ต้องทานภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงนับจากเวลามีเพศสัมพันธ์นะคะ ถ้าทานหลังจากเสร็จกิจก็จะเปอร์เซ็นต์ที่จะคุมได้ก็ยิ่งสูงค่ะ" เภสัชกรสาววางกล่องยาตรงหน้าแล้วเอ่ยแนะนำ ชนกานต์ฟังแล้วก็ให้วิตกมากขึ้น
"ถ้าเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วล่ะครับ?"
"ไม่แนะนำให้ทานนะคะ ถ้าเกิดมีการปฏิสนธิแล้ว จะเป็นอันตรายกับเด็กในครรภ์ค่ะ"
ฟังแล้วก็ยิ่งให้วิตกมากขึ้น ชนกานต์ออกจะลังเลที่จะซื้อมัน แต่สุดท้ายก็ควักกระเป๋าสตางค์ออกมาหยิบเงินจ่ายและรับยามา ชนกานต์มองดูมันอย่างหนักใจก่อนหันไปหาเภสัชกรสาวอีกรอบ
"แล้ว..ต้องใช้เวลานานมั้ยครับถึงจะรู้ว่าตั้งครรภ์หรือเปล่า?"
"เดือนหนึ่งก็สามารถตรวจได้แล้วค่ะ" เภสัชกรสาวตอบด้วยรอบยิ้ม
"อ่อ ขอบคุณครับ" ชนกานต์ค้อมศีรษะก่อนจะเดินออกจากร้านมา
จะเอายังไงต่อไปดีล่ะ...
จะกินยาคุมฉุกเฉินนี่ดีหรือเปล่า
ชนกานต์คิดแล้วก็ถอนหายใจอย่างหนักอกแล้วเดินกลับขึ้นมาบนห้อง
เขาเทถุงยาออกมาและนั่นมองมันอยู่อีกพักใหญ่ก่อนจะหยิบมันออกมาแกะดูคำเตือนยา
ความเสี่ยงที่ถ้าเกิดมีการปฏิสนธิในครรภ์แล้วจะทำให้เด็กที่เกิดมาพิการทำให้ชนกานต์โยนกล่องยาทิ้งไปทันที ชนกานต์เหลือบตามองกล่องยากล่องนั้นก่อนใช้เท้าเขี่ยมันให้หลบไปอยู่ใต้โซฟาแล้วทิ้งตัวนั่งลงอย่างกลัดกลุ้ม ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใจยักษ์ใจมารถึงขั้นทำร้ายหรือฆ่าลูกตัวเองได้ลง แม้ว่าเด็กจะเกิดกับคนที่เขาชังน้ำหน้ามากมายก็เถอะ
ตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาอย่างเดียว ว่าขออย่าให้มีเด็กหลงผิดมาเกิดในท้องของเขาเลย!
"บ้าชะมัด! ไอ้เฮงซวยเอ้ย!!"
ชนกานต์สบถอย่างหัวเสียที่ตัวเองเสียท่าเปลืองตัวไปให้ไอ้หน้าอ่อนปากหมาที่แสนจะเหม็นขี้หน้าคนนั้น คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็พาลให้ขนลุกจนต้องลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำ ถอดเสื้อผ้าโยนทิ้งลงตะกร้า เหลือบมองตัวเองในกระจกอย่างเจ็บใจ
ผิวขาวมีแต่ร่องรอยที่บ่งบอกว่าสองวันสองคืนที่ผ่านมามันคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริง
"ไอ้บ้าปวีร์! ฉันต้องเอาคืนนายให้ได้เลยคอยดู!!"
ชนกานต์คำราม มือทุบโต๊ะอ่างล้างหน้าก่อนเดินกระแทกเท้าเข้าไปยืนใต้ฝักบัว เปิดสายน้ำอุ่นให้สาดเทลงกระทบร่าง สองมือขัดสีฉวีวรรณร่างกายขนานใหญ่ ล้างมันทุกซอกทุกมุมโดยเฉพาะจุดที่ปวีร์ล่วงล้ำเข้ามาขยี้กามตนเอง!
ถึงจะเกิดเรื่องที่ถือได้ว่าเป็นเรื่องเลวร้ายของชีวิต แต่คนอย่างชนกานต์ก็ไม่คิดที่จะเอามันมากลัดกลุ้มจนนั่งจิตตกฟูมฟายเพราะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ ชนกานต์โมโหเสียมากกว่าที่ปวีร์เล่นสกปรกกับตัวเอง ฉวยโอกายตอนที่เขาไม่มีสติทำให้ไม่มีโอกาสขัดขืนได้เช่นนั้นแถมยังใช้ยาปลุกเซ็กส์อีกต่างหาก
ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากจะต่อยหน้าปวีร์แรงๆอีกสักที ถ้าจะให้ดีก็อยากได้มีโอกาสกระทืบด้วยสองขาแรงๆให้ไอ้หน้าหล่อนั้นแหลกคาเท้าสักหน ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เจอกันที่ทำงาน หมอนั่นจะทำหน้าเยาะเย้ยแค่ไหนที่ได้แอ้มเขาแล้ว และก็ไม่แน่ว่าหมอนั่นอาจจะเที่ยวโพทะนาให้ใครต่อใครในบริษัทรู้ก็ได้ว่าได้แอ้มเขา
ขอให้พรุ่งนี้หมอนั่นเจออุบัติเหตุตายโหงระหว่างทางมาทำงานไปเลย สาธุ!
ชนกานต์กัดฟันกรอด นึกแช่งชักหักกระดูกปวีร์ในใจ
-TBC-
อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้วหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมชนกานต์ถึงกังวลเรื่องท้อง
แน่นอนหลายคนอาจจะสังเกตเห็นตั้งแต่ก่อนอ่านแล้วตรงจั่วหัวว่า Mpreg = ผู้ชายท้องได้
เพราะงั้น ในจักรวาลของนิยายเรื่องนี้ ผู้ชายจึงท้องได้ปกติเหมือนผู้หญิงค่ะ ^^
แปะรูปด้วย แถมๆ
(https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/t1/1623662_474162149356006_1522924285_n.jpg)
-
มียาคุมฉุกเฉินสำหรับผู้ชาย = ท้องได้¿
เรื่องนี้มีแนวโน้มจะต่อเป็นเรื่องยาวไหมนิ 55555
-
เห็นด้วยกับเม้นท์บนค่ะ
เป็นเรื่องยา่วจะดีมากเลยสนุกมากค่ะ
-
ทำเป็นเรื่องยาวเลยค่ะ *สนับสนุนๆ*
สงสารหัวหน้ากานต์
ปวีร์รุนแรงไปนะ กิกิ =.,=
-
มาสี่ตอน เสียเลือดทุกตอน :haun4:
ว่าแต่ไอ้ยาคุมฉุกเฉนชายนี่มันมีด้วยเหรอคะ (หรือว่ามีแต่เฉพาะในเรื่องนี้หว่า)
ปล. จิ้มรีบน เห็นด้วยกับการเปลี่ยนหัวข้อจากเรื่องสั้นเป็นเรื่องบนมากๆ อ่านแล้ว.... เลือดกระจายฟุดๆ (เค้าเปล่าหื่นนะตัวเธอ เค้าแค่ชอบเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ :z1: )
-
ไม่มีคำบรรยายใดใดให้ลึกซึ้ง~ ....... :pighaun:
-
หือ...แค่ตอนแรกก็เร้าอารมณ์ขนาดนี้ ว่าแต่ว่าอีกฝ่ายจะว่าไงล่ะเนี่ย ตอนเขาตื่นมาน่ะคุณปวีร์...
:ruready :ruready
-
ต่อเปนเรื่องยาวเถอะ 5555
-
เอ่อชนกานต์ ข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้นกินเถอะค่ะ 555
แต่คิดอีกทีมีลูกก็แจ่มนะ คึคึ
-
ปวีร์รู้ไหมว่ากานต์ท้องได้
-
เชียร์ป้ายไฟให้เป็นเรื่องยาว
เย้ๆๆๆๆ
ว่าแต่...ปวีร์เค๊อะ คุณพี่ชนกานต์สึกหรอหมดแล้ว!! ตั้งสองวันสามคืน :เฮ้อ:
ขอให้รักเลยแล้วกัน ไม่ใช่ว่าหวังแต่เรื่องนั้น...
-
ตอนแรกตกใจ มียาคุมฉุกเฉินสำหรับผู้ชาย o18 :laugh:
-
ท้องได้ ท้องได้! ท้องด้ายยยยยยย (วบพส.) ชอบอ่ะชอบๆๆๆ บรรยายได้ถึงใจสุดๆ :pighaun:
-
อยากให้เป็นเรื่องยาวน่ะ สนับสนุนด้วยคน :katai4:
-
มาราธอนกับวีคเอนด์ สงสัยจัง...ทำไมหัวหน้ากานต์ยังมีแรงเดินได้อยู่แถมยังต่อยปวีร์ได้อีกนะ :hao3:
-
กร๊ากกกก ถึงขนาดท้องได้นี่ไม่ธรรมดาเลยนะคะ ฮ่าๆ
-
จะท้องรึเปล่าหนอ
-
วู้วววว ผู้ชายท้องได้ ชอบๆๆๆ
-
เอ่อ ,, ท้อง??? :ruready :ruready :ruready
-
จะเอาอีกค่ะๆ :hao6:
ตอนหน้ามาไวๆนะคะ
-
เตรียมเลี้ยงลูกด้วยนะปวีร์ :katai5:
-
อุ้ย... แนวนี้เค้าชอบ จะท้องมั้ยน้อ จะท้องมั้ย กิกิกิ :z1:
-
:haun4:
-
สนุกมากจ้าาา
-
สงสัยจะกลายเป็นเรื่องยาวแล้วล่ะสิ ถ้าหัวหน้ากานต์ท้องกับปวีร์นะ ลูกต้องออกมาหน้าตาดีแน่ๆเลย
-
:katai2-1: จะท้องมั้ยน๊าาา
-
เฮ่ยยยยยยยยยยย จักรวาลนี้มาแนวนี้
แบบนี้อิปวีร์ก็โคตรชั่วเลยดิ จงใจนี่หว่า
-
รอตอนต่อปายยย จะมีเด็กน้อยไหมนะ
-
ไงต่อๆ เลือดออกทุกตอนเลย ปวีร์มันคงรู้นะว่าชนกานมีลูกอ่ะ เล่นซะขนาดนั้น (2วัน ทาสรักชัดๆ)
-
o13อ่านแล้ว ชวนติดตาม ขอมั่ง >>ขอเป็นเรื่องสั้นขนาดยาวด้วยค่า
-
ทำขนาดนี้ ไม่ท้องให้รู้ไปดิ
-
ไม่ทันแน่ๆ
ท้องชัวว์
รออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
อยากให้เป็นเรื่องยาวเหมือนกัน ชอบมาก :pighaun: หัวหน้ากานต์เช้าหมดแล้ววววววววว
-
งานนี้จะได้เอาคืนก็ตอนท้องละมั้งหัวหน้ากาน อิอิ
-
เรื่องยาว เรื่องยาว เรื่องยาว :hao7:
-
:m25: :m25: :z1: :z1: :pighaun: :pighaun: :haun4: :haun4: :jul1: :oo1: :oo1: :oo1:
-
:hao6: :hao6: :hao6:
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ชายกานต์ท้องได้ คนแต่งจ๋าเปลี่ยนเป็นเรื่องยาวเถอะน่ะ แววสนุกมามากขึ้นแล้วอ่ะ
เราเชียร์อยู่น่ะเออ.....~ o13 o13
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
ท้องแน่เลยครับ :m25:
เชื้อพ่อดี 5555
-
ยาวนานขนาดนี้หัวหน้ากานต์ยังลุกได้อีกนะ
แล้วตัวต้นเหตุจะรับผิดชอบอะไรไหมนี่
-
แย๊กกกก!!! หนุกง่าาาา
ให้อารมณ์อีโรติกมากๆๆๆ
เลือดกำเดาไหลทะลัก?
หัวหน้ากานต์จะท้องเปล่าเอ่ย??
:pig4: :pig4:
-
รูปน่ารักมากๆเลย
ปล. ท้องแน่จ้า ท้องชัวร์
-
เคะแว่นมันโดนใจ รออ่านนะจ๊ะ
-
ท้องแหงๆงานนี้ :z1:
-
ท้องได้!เราช๊อบบบ ชอบบบ
ครั้งเดียวติด อิอิ หรือหลายครั้งหว่า
มียาคุมสำหรับผู้ชาย?
แสดงว่าเป็นยุคที่ผู้ชายก็ท้องได้สินะ หึหึ
NCก็ชอบ อร๊ายยย เขิลลลล
ตาปวีร์จิตนาการแกบันเจิดม๊ากกด
(ขอให้ท้องๆ จะได้ลูกชายหรือลูกสาวเนี้ย อิอิ)
รอตอนต่อไปฮับ
-
ตอนที่ 5
แต่ดูเหมือนคำสาปแช่งของชนกานต์จะไร้ผล เพราะวันรุ่งขึ้นปวีร์ก็เอาใบหน้าหล่อๆที่มีรอยหมัดของเขามาลอยหน้าลอยตายียวนอารมณ์เขาได้เหมือนอย่างเคย ซ้ำยังกวนประสาทด้วยการเชิดหน้าโชว์บาดแผลให้คนอื่นถามอีกต่างหาก
“ตายจริง! ไปทำอะไรมาคะหัวหน้าวีร์?”
ชนกานต์เม้มปากเขม่นมองไปที่ไอ้คนถูกถามซึ่งนั่งอยู่ตรงกันข้ามอย่างหมั่นไส้ ปวีร์ปรายตามามองเขาก่อนหันไปยิ้มหวานให้คนของแผนกเซลล์ก่อนตอบเธอ
“แมวน้อยฝากรอยรักไว้ให้คิดถึงน่ะฮะ”
ชนกานต์อยากจะขว้างปากกาด้ามทองในมือใส่หน้าไอ้คนพูดตอแหลเสียจริง แต่ติดตรงที่ต้องรักษากิริยาไม่ให้คนอื่นผิดสังเกตจึงต้องนั่งหันมองไปทางอื่นเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง
“แหม แมวน้อยหรือนางเสือกันแน่คะนี่ แต่ดูไปดูมาเหมือนรอยต่อยมากกว่านะคะ”
ปวีร์หัวเราะในลำคอไม่ตอบอะไรเธออีก แต่สายตามองไปยังแมวน้อยแสนดุของตัวเองที่นั่งเชิดหน้าไม่ยอมมองมาที่เขาอีก
นั่งประชุมกันไปได้สักพัก ชนกานต์ที่กำลังตั้งใจฟังสิ่งที่หัวหน้าแผนกพูดก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาถูกขาตนเอง มันลากไล้ไปตามปลีน่องวนไปวนมาเหมือนจงใจ ชนกานต์ขยับขาหนีก็ถูกมันตามติดมา นัยน์ตาคู่เรียวตวัดขึงดุไอ้คนทำที่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ฟังหัวหน้าแผนกอย่างตั้งใจ แต่มุมปากยกยิ้มกวนประสาท ชนกานต์เลยแก้เผ็ดด้วยการขยับขาถอยห่างออกมาเล็กน้อยแล้วเตะเขาออกไปเต็มแรง
แต่มีหรือคนอย่างปวีร์จะไม่รู้ทัน ชนกานต์เลยได้แต่นั่งกัดฟันกรอดๆด้วยความโกรธเพราะเตะไม่โดนจนกระทั่งหัวหน้าแผนกเอ่ยสรุปการประชุม
“สรุปว่าโครงการนี้จะให้โปรเจคหนึ่งกับโปรเจคสองร่วมกันรับผิดชอบนะ ให้หัวหน้ากานต์เป็นหัวหน้าโครงการก็แล้วกัน”
“ครับ” ชนกานต์หันไปค้อมศีรษะรับและยิ้มออกมาได้บ้างที่โครงการนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้า ถึงจะหงุดหงิดใจบ้างที่ต้องร่วมโครงการกับปวีร์ก็ตามที แต่ถ้าโครงการนี้สำเร็จได้ด้วยดี เขาคงมีโอกาสได้เลื่อนตำแหน่งแน่ๆ แค่คิดชนกานต์ก็อารมณ์ดีขึ้นมา พยายามปัดความรู้สึกรำคาญใจทิ้งไปและเรียกเอาความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานกลับคืนมา
พอประชุมเสร็จชนกานต์ก็ถูกเรียกจากหัวหน้าฝ่ายให้คุยกันต่ออีกเล็กน้อย ปวีร์เห็นแบบนั้นจึงหันไปหาพัสกรที่เดินผ่านมาพอดี
“เฮ้ย!” ปวีร์ร้องทักก่อนพาตัวไปขวางทางพัสกรไว้ พัสกรเลิกคิ้วแล้วหันไปสั่งงานให้ลูกน้องเอาเอกสารไปซีร็อกเตรียมไว้ ส่วนตัวเองหยุดคุยกับปวีร์
“ไง เลิกมีตติ้งแล้วหรอวะ?”
“เออ เลิกแล้ว นี่ไอ้กร ไหนมึงบอกเคยแอ้มหัวหน้ากานต์?” ปวีร์เอ่ยซัดประเด็นที่สงสัยใส่เพื่อนทันทีไม่รอช้า พัสกรผงะเล็กน้อยไม่คิดว่าจะถูกยิงคำถามนี้ใส่
“ก็ใช่ แล้วทำไม มึงอยากฟังลีลาเด็ดที่ประทับใจกูใช่ป่ะ? มาเลยเดี๋ยวกูเล่าอีกรอบทุกเม็ดไม่มีหมก” พัสกรทำท่าอวดระคนเคลิ้มฝันถึงคืนที่แสนเร่าร้อนของตัวเอง ปวีร์เห็นแล้วหมั่นไส้เลยเอาแฟ้มเอกสารในมือตีหัวเพื่อนไปหนึ่งที
“ห่า! ตื่นได้แล้ว เลิกมโนว่าเคยแอ้มเขาซะที เขาบอกไม่เคยมีไรกับผู้ชายมาก่อน”
ปวีร์ว่าแล้วพยักเพยิดไปทางชนกานต์ที่เพิ่งเดินผ่านไป คนถูกตีทำตาปริบๆงุนงงใส่ มองไปยังคนที่เดินผ่านไป
“เดี๋ยวไอ้วีร์.. มึงเข้าใจว่าที่กูพูดถึงหัวหน้ากานต์นี่คือชนกานต์อย่างนั้นหรอ?”
“แล้วไม่ใช่?”
“ไม่ใช่! หัวหน้ากานต์ของกูคือธีรกานต์ แผนกเซลล์เว้ย!! ใครจะไปสนคนหยิ่งแถมยังปากจัดอย่างชนกานต์กันวะ!”
พัสกรตวาดเสียงเบาใส่เพราะมีคนผ่านก่อนส่ายหน้ากับความเข้าใจผิดของเพื่อน ส่วนปวีร์ได้แต่ยืนอึ้งที่ตัวเองเข้าใจผิดขนานใหญ่ก่อนจะหัวเราะออกมาด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องที่ตัวเองคือผู้ชายคนแรกของหัวหน้ากานต์จอมปากจัดจริงๆ!
ชนกานต์ยังอารมณ์ดีได้ไม่ครบชั่วโมง ก็ต้องมาเผชิญหน้ากับคนเกลียดขี้หน้าให้อารมณ์ขุ่นมัวอีกระลอก ชนกานต์มองแผนงานที่คิดจะเริ่มคุยก่อนกระแทกลมหายใจอย่างหงุดหงิด ตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปยังห้องโปรเจคสองของปวีร์เพื่อที่จะรีบๆคุยงานให้เสร็จๆไป โครงการนี้เสร็จไวเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับเขามากเท่านั้น
“หัวหน้าวีร์ล่ะ?” ชนกานต์เอ่ยถามเอากับลูกน้องของปวีร์เมื่อไอ้คนเป็นหัวหน้าโปรเจคมันหายหัวไปจากห้อง
“เห็นว่าจะไปหาหนังสือที่ห้องเอกสารน่ะค่ะ”
“อืม..ขอบใจนะ” ชนกานต์บอกแล้วเดินไปยังห้องเอกสารที่อยู่ในชั้นเดียวกัน ลังเลใจเล็กน้อยที่จะเข้าไปเพราะไม่รู้ว่าไอ้คนที่มาห้องเอกสารนั้นจะมาหาหนังสือจริงอย่างที่พูดหรือเปล่า ชนกานต์รั้งๆรอๆ จนกระทั่งประตูเปิดออกมา
“อ้าว! หัวหน้ากานต์..จะมาหาเอกสารหรอครับ?” ปวีร์แกล้งทำเป็นทักทายแบบปกติ แต่ชนกานต์มองอย่างไม่ไว้วางใจ
“เปล่า จะมาคุยกับนาย”
ปวีร์เลิกคิ้วก่อนยิ้มกวนประสาทใส่ ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด ชนกานต์รีบขยับหนีไม่ไว้ใจมากกว่าเดิม
“จะมาคุย...หรือจะมาชวนผมไป....” ปวีร์ละคำพูดไว้แล้วแลบลิ้นเลียริมฝีปาก กดสายตามองชนกานต์ทั้งตัว ชนกานต์เม้มปากแน่นเริ่มจะหมดความอดทนแต่ก็ข่มใจไว้
“ฉันจะคุยเรื่องงาน”
“งั้นเชิญครับ” ปวีร์ยิ้มกว้างแล้วเปิดประตูห้องเก็บเอกสารที่ตัวเองเพิ่งเดินออกมา ผายมือเชื้อเชิญให้เข้าไปข้างใน แต่ชนกานต์ส่ายหน้า ปฏิเสธอย่างรู้ทัน
“ไม่...กลับไปคุยกันที่ห้องโปรเจคสอง”
ปวีร์เลิกคิ้วอีกหนแล้วกระตุกยิ้มกวน
“ผมว่าคุณไม่น่าขัดใจผมนะ”
ชนกานต์ชักมีน้ำโห อยากจะตั๊นหน้าผู้ชายตรงหน้าเต็มแก่ จึงเก็กหน้าเครียดกดเสียงต่ำพูดข่มออกไป
“ฉันเป็นหัวหน้านายนะคราว...” ยังไม่ทันที่ชนกานต์จะพูดจบก็ต้องอ้าปากค้างเพราะปวีร์หยิบมือถึงขึ้นมาเปิดรูปโชว์ให้เขาดู
มันเป็นภาพที่เขานอนเปลือยอยู่บนเตียงที่โมเตลนั่น!
“ระยำ!” ชนกานต์โกรธจนตัวสั่น ยื่นมือไปคว้ามือถืออันนั้นไว้แต่ปวีร์เอามันเก็บใส่กระเป๋าไปแล้วยิ้มเย้ย ชนกานต์มองคนที่ทำท่าเหมือนถือไพ่เหนือกว่าด้วยความแค้น
“ไงครับ? ไปคุยกันในห้องเอกสารหน่อยดีไหม?”
“คิดจะเอาภาพบ้าๆนั่นมาขู่ฉันอย่างนั้นหรอ?” ชนกานต์ยังคงใช้เสียงต่ำถาม สายตาทวีความไม่เป็นมิตรมากขึ้น
“ก็ประมาณนั้นแหละครับ มาคุยกันดีๆ ดีกว่าน่า” ปวีร์ว่าแล้วก็จับแขนชนกานต์ ชนกานต์รีบสะบัดทันทีด้วยความรังเกียจ หัวสมองรีบคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้ แต่ก็ไม่สามารถคิดได้โดยง่ายเพราะไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน
“หรือจะให้ผมปล่อยภาพให้ทุกคนได้เห็นดี ว่าหัวหน้ากานต์น่ะ...ซ่อนรูปแค่ไหน...”
ชนกานต์เม้มปากแน่น สะบัดหน้าใส่ปวีร์แล้วยอมเดินกระแทกเท้าเข้าไปในห้องเก็บเอกสาร ปวีร์ยิ้มมุมปากอย่างสมใจก่อนเดินตามเข้าไปโดยไม่ลืมที่จะล็อกประตูห้อง
ทันทีที่เข้าไป ปวีร์ก็ตั้งรับหมัดของชนกานต์ที่สวนมาทันทีอย่างรู้ทัน คนที่กะฉวยโอกาสคิดว่าปวีร์ไม่ทันตั้งตัวจะชกหน้าหล่อๆของปวีร์สักหมัดสองหมัดให้หายแค้นถูกรวบไว้ในอ้อมแขน ชนกานต์ดิ้นขลุกขลักแล้วสบถด่าออกมา
“ไอ้บ้าเอ้ย! ปล่อยนะเว้ย!!” ปวีร์ยิ้มขำ รู้สึกมีความสุขมากขึ้นมาทันทีที่ได้กวนประสาทชนกานต์
“ให้จูบก่อนสิครับ แล้วจะปล่อย”
มุกตื้นๆที่เห็นได้ดื่นดาษในนิยายหรือละครแต่พอได้ทำบ้าง มันฟินอย่างนี้นี่เอง
“ไปตายซะ!” ชนกานต์สบถอย่างหัวเสียก่อนยกขาขึ้นมาจะกระทืบเท้าปวีร์ แต่อีกฝ่ายไหวตัวทัน ปล่อยกอดแล้วถอยห่างแต่ชะโงกไปจูบแรงๆที่แก้ม ชนกานต์ชะงักทำตาโตก่อนยกมือขึ้นมาถูแก้มอย่างรังเกียจ
“โรคจิตชะมัด!”
“ปกติผมก็ไม่โรคจิตใส่ใครหรอกนะครับ พิเศษสำหรับคุณคนเดียวน่ะ” ปวีร์ลอยหน้าลอยตา ชนกานต์นึกฉุนจนกำหมัดแน่นแล้วออกแรงต่อยไป ปวีร์คว้าหมัดของคู่กัดเอาไว้แล้วลากชนกานต์มาที่โต๊ะเล็กๆที่อยู่ตรงมุมห้อง ชนกานต์ขืนตัวไว้แต่ก็ถูกลากมานั่งในที่สุด
“เอาล่ะ ไหนจะคุยเรื่องอะไรก็ว่ามาเลย เรื่องโครงการที่เพิ่งประชุมไปใช่ไหม?”
ชนกานต์งงกับอารมณ์ของปวีร์ไม่น้อยที่อยู่ดีๆก็ลากเข้าเรื่องงานอย่างไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่คิดว่าถูกต้อนเข้ามาในห้องเอกสารที่ลับตาคนแล้วจะต้องถูกฉวยโอกาสทำอะไรอีกแน่
“ถ้าจะคุยเรื่องงาน ก็กลับไปคุยที่ห้องโปรเจคดีกว่า”
“ไม่ล่ะ ผมอยากคุยที่นี่มากกว่า”
ไม่อยากบอกให้ชนกานต์รู้ว่าอยากอยู่ตามลำพังสองต่อสอง เพราะมันไม่ใช่นิสัยของชนกานต์ที่จะรับคำพูดหวานๆเหมือนคนอื่นเขา อย่างชนกานต์..ต้องชวนกัดกันมันถึงจะมันส์!
คุยงานกันจนกระทั่งเสร็จก็เลยเวลาเลิกงานไปพักใหญ่ ชนกานต์มองนาฬิกาแล้วก็รู้สึกว่ายังขี้เกียจจะฝ่าฝูงชนกลับไปในตอนนี้ สู้เอาเวลาที่ต้องเบียดกับคนไปนั่งทำงานต่อที่ออฟฟิศแล้วค่อยกลับตอนช่วงคนบนรถไฟฟ้าโล่งๆแล้วดีกว่า
ตัดสินใจแล้วก็รวบเอากระดาษที่เขียนแผนงานใส่แฟ้มแล้วก็ต้องชะงักเพราะปวีร์เอามือตะปบกระดาษพวกนั้นไว้
“มีอะไรอีก?” เห็นสายตาที่มองมาอย่างกรุ้มกริ่มก็ชักจะไม่ไว้ใจเท่าไหร่นัก ปวีร์ยิ้มมุมปากมองคนที่ทำท่าไม่ไว้ใจตัวอย่างอย่างนึกสนุก
“เลิกงานแล้ว..จะกลับเลยหรือเปล่า?”
“ฉันจะกลับหรือจะอยู่ต่อมันเกี่ยวอะไรกับนายล่ะ?”
ปวีร์หัวเราะขำชนกานต์ที่พูดออกมาอย่างที่เขาคิดไว้ พอเห็นปวีร์หัวเราะชนกานต์ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา มือเล็กกระชากกระดาษมาอย่างไม่กลัวมันจะยับหรือขาด ปวีร์ยอมปล่อยมือจากกระดาษแต่จับมือชนกานต์ไว้ตอนที่ชนกานต์จะลุกเดินหนี
“คืนนี้ไปกับผมนะ”
“เรื่องอะไรฉันต้องไปกับนาย!” ชนกานต์สวนไปทันที หน้าตาไม่สบอารมณ์ ปวีร์ยิ้มอย่างเป็นต่อ
“อย่าลืมสิครับ...อยากให้รูปเปลือยของคุณหลุดออกไปหรอ?”
ชนกานต์เม้มปาก โกรธจัดที่ตัวเองถูกอีกฝ่ายแบล็คเมล์เช่นนี้
“สารเลว!”
“เลวแล้วได้กดคุณก็ยอมเลวครับ”
ชนกานต์ชักจะเหลือทนกับคนหน้าด้านหน้าหนาอย่างปวีร์ แต่ก็ยังหาทางเอาคืนไม่ถูก
“นายเองก็มีสาวๆในสต็อกอยู่เยอะไม่ใช่หรือไงกัน? ทำไมถึงยังจะมายุ่งกับฉันอีก?”
“อยากให้ผมบอกจริงๆหรอครับ?” ปวีร์ถามกลับพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์ ชนกานต์ผงะเล็กน้อยตัดสินใจว่าไม่รู้คงจะดีกว่า
“ฉันไม่อยากรู้แล้ว! และก็จะไม่ไปกับนายด้วย!”
“งั้นเรามาสนุกกันที่นี่เลยก็แล้วกัน” ปวีร์ว่าแล้วกระตุกแขนชนกานต์ให้เข้ามาหาตัวเอง ชนกานต์ขืนแรงไว้ ปล่อยแฟ้มที่ถือลงกับพื้น มือจะต่อยปวีร์แต่ก็ถูกจับไว้ได้ คราวนี้เลยเตะเข่าไปที่กลางหว่างขาของปวีร์เข้าไปเต็มที่
“อึ่ก!!” ปวีร์ที่ย่ามใจไม่ทันระวังเสียท่าให้ชนกานต์จนล้มลงไปกับพื้น จุกจนพูดไม่ออก ชนกานต์ยิ้มเยาะแล้วก้มลงเก็บแฟ้มเอกสาร
“เชิญสนุกกับตัวเองไปคนเดียวก็แล้วกัน!”
ชนกานต์บอกและเดินหนีไปอย่างไม่สนใจใยดีอีก พอพ้นจากห้องเก็บเอกสารได้ก็รีบเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง เก็บข้าวของและออกจากบริษัททันทีเพื่อไม่ให้ปวีร์ตามมาได้ทัน
ฝ่ายคนที่ถูกเตะจนจุกนั้นได้แต่ยิ้มขำตัวเองที่ไม่นึกโมโหที่ชนกานต์หนีไปได้ ให้ชนกานต์เอาคืนตัวเองบ้างแบบนี้มันก็ถึงจะสนุกดี
แต่คราวหน้าคงต้องระวังตัวมากไปกว่านี้ ไม่งั้นคงไม่เหลือเอาไว้ทำพันธุ์แน่!
ส่วนชนกานต์นั้นถึงจะหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดก็ยังไม่คลายความกังวลใจ ปวีร์มีภาพที่ใช้แบล็คเมล์อยู่ ไม่รู้ว่าจะวางแผนอะไรมาขู่กันอีกหรือเปล่า แต่ตอนนี้หัวก็ยังไม่โล่งพอที่จะหาทางแก้ไข ชนกานต์ได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่านอยู่เพียงลำพังไม่กล้าบอกใคร
กังวลใจเรื่องภาพนั่นก็กังวล
กังวลใจเรื่องกลัวว่าจะท้องก็กังวล
ชนกานต์เลยระบายความหงุดหงิดด้วยการนั่งทำงานมันทั้งคืนไม่หลับไม่นอนแทน!
เช้ามาชนกานต์ก็มาทำงานด้วยอารมณ์ที่ยังคงความหงุดหงิดเอาไว้ ใบหน้าที่ดูแข็งขืนทำให้ทุกคนหวาดๆที่จะทักทาย ยกเว้นปวีร์ที่ยืนคุยอยู่กับพนักงานคนอื่นบริเวณหน้าห้องทำงานซึ่งส่งเสียงทักทายชนกานต์อย่างอารมณ์ดี
“สวัสดีครับหัวหน้ากานต์”
ชนกานต์ทำแค่ปรายตาใส่แล้วเชิดหน้าเดินกระแทกเท้าเข้าห้องทำงานของตัวเองไป ปวีร์กระตุกยิ้มขำ ท่าทางอารมณ์ดีจนคู่สนทนางุนงง
“โดนเมินแล้วยังอารมณ์ดีได้อีกนะครับ”
“ก็นะ..” ปวีร์ยักไหล่ ใบหน้าหล่อคมยังประดับด้วยรอยยิ้มเพราะรู้ว่ายังมีสิ่งทำให้อารมณ์ดีคอยอยู่ข้างหน้า
ชนกานต์เข้าห้องทำงานมาก็เอากระเป๋าโยนไปไว้บนโต๊ะก่อนกระแทกตัวนั่งลงกับเก้าอี้อย่างหงุดหงิด เห็นปวีร์อารมณ์ดีก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก ลูกน้องของชนกานต์พากันมองหัวหน้าที่ทำท่ามาคุแต่เช้าอย่างหวั่นๆ ไม่กล้าสบตา ชนกานต์เห็นท่าทางของลูกน้องแล้วก็พยายามทำใจให้เย็นเพื่อไม่ให้บรรยากาศในการทำงานมันต้องเครียดกันมากเกินไป
แต่ความพยายามของชนกานต์ก็หมดสิ้นทันทีที่เปิดโน้ตบุ๊กขึ้นและเข้าอีเมล ภาพเปลือยของเขาที่ถูกตัดส่วนใบหน้าออกไปหลายภาพถูกส่งเข้ามา ต้นทางคืออีเมลที่ไม่คุ้นเคย แต่สาบานได้ว่ามันคือปวีร์แน่ๆ ชนกานต์กำหมัดแน่นด้วยความโกรธปิดอีเมลฉบับนั้นลง มองออกไปนอกห้องก็เจอปวีร์ยืนยิ้มกวนบาทามองมาอยู่ ชนกานต์ชูนิ้วกลางข้ามหัวลูกน้องที่ก้มหน้าก้มตาทำงานไปให้ ปวีร์ยักไหล่ก่อนเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองไป
แต่ศึกมันไม่จบง่ายๆ อีกสองสามนาทีต่อจากนั้นก็มีอีเมลเข้ามาอีกฉบับ
"ช่วงพัก เจอกันที่ห้องเอกสาร ถ้าคุณไม่มา ภาพเอ็กซ์คูลซีฟถูกเผยแพร่ออกไป ผมไม่รู้ด้วยนะ"
ชนกานต์กวาดสาดตาอ่านด้วยความโมโหก่อนจะตอบกลับไปอย่างแสนสั้นที่สุดเท่าที่เคยใช้อีเมลมา
olo
กดส่งไปแล้วก็คิดจะบล็อกเมลทิ้ง แต่นึกไปนึกมาก็ตัดสินใจปล่อยมันไว้เช่นนั้น เพราะรู้ว่าถึงบล็อกไป เดี๋ยวปวีร์ก็สมัครใหม่มากวนประสาทได้อยู่ดี
ชนกานต์ที่อารมณ์เสียจึงหันไปเอางานมาเริ่มต้นสะสางก่อนเรียกลูกน้องมาแบ่งหน้าที่รับผิดชอบกัน กว่าจะเสร็จก็เข้าช่วงเวลาพักจึงออกไปทานกลางวันกับพวกลูกน้องและเข้าออฟฟิศอีกทีในช่วงบ่าย
กลับเข้ามาแล้วก็เห็นลูกน้องหลายคนที่เข้ามาก่อนหน้ายืนจับกลุ่มคุยกันอยู่
"อ๊ะหัวหน้า!"
คนที่ยืนคุยกันอยู่หันมาเห็นชนกานต์ก็สะดุ้งตกใจกัน
"มีอะไรกัน?" ชนกานต์ถามอย่างสงสัยระคนระแวงว่าปวีร์จะส่งภาพโป๊ของเขาเข้าเมลทุกคนหรือเปล่า
"มีคนส่งภาพโป๊ของใครไม่รู้เข้าเมลพวกเราล่ะค่ะ เป็นภาพโป๊ผู้ชาย รู้สึกมีส่งเข้าไปที่เมลหัวหน้าด้วยนะคะ" ชนกานต์เม้มริมฝีปาก ฟังจากที่พูดแสดงว่ารูปยังถูกตัดส่วนหน้าไปอยู่ แต่ก็ถือว่าปวีร์เล่นแรงกันทีเดียว
"คงมีใครสักคนอยากแกล้งน่ะสิ บล็อกเมลทิ้งซะไม่ต้องไปสนใจมัน"
ชนกานต์สงบสติอารมณ์แล้วพูดไปก่อนเดินไปเปิดโน้ตบุ๊กของตัวเอง เมลจากปวีร์รอให้เขาเปิดอ่านอยู่ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามีเนื้อความยังไง
"จะเปลี่ยนใจมาที่ห้องเก็บเอกสารหน่อยไหม?"
ชนกานต์ขบกรามแน่น ลบเมลพวกนั้นทิ้งก่อนเดินออกจากห้องไป พนักงานคนอื่นเห็นหน้าตาถมึงทึงก็ไม่กล้าถามว่าจะไปไหน
ชนกานต์เดินไปถึงหน้าห้องเอกสารก็หันซ้ายมองขวา พอไม่เห็นใครก็เปิดประตูเข้าไป
ปวีร์กำลังนั่งคอยอย่างอารมณ์ดี ชนกานต์เปิดประตูแล้วกดล็อกก่อนฉวยแฟ้มเปล่าที่วางไว้บนชั้นใกล้ๆปาใส่หัวปวีร์ทันที
ปึ้ก!
ปวีร์ยกแขนขึ้นมาป้องได้ทัน แฟ้มนั้นเลยหล่นลงพื้น
"ไอ้เลว! จะเอายังไงก็ว่ามา!" ชนกานต์สบถ หัวเสียเต็มแก่ ปวีร์ยิ้มกริ่มสมใจลุกเดินขึ้นมาหา สายตากรุ้มกริ่มกวาดตามองชนกานต์ตั้งแต่หัวจรดเท้า
"ผมว่าคุณรู้นะว่าผมจะ 'เอา'ยังไง" ปวีร์เน้นเสียงเล่นคำชวนให้ชนกานต์คุมอารมณ์โกรธไม่อยู่ มือกำหมัดจะชกหน้าหล่อๆที่ยังมีรอยช้ำอยู่แต่ปวีร์เตรียมรับไว้แล้วจึงเสียท่าถูกปวีร์รั้งเข้าไปกอด ชนกานต์ดิ้นยกขาจะเตะปวีร์แต่ถูกกดให้นอนลงไปกับพื้น ปวีร์นั่งทับขาเอาไว้ ตรึงสองมือลงกับข้างศีรษะ
"ก้นฉันมันดีนักหรือไง นายถึงติดใจจนต้องเล่นสกปรกกันแบบนี้!" ชนกานต์ตวาดใส่ พยายามดิ้น แต่สู้แรงปวีร์ไม่ได้ ปวีร์ยิ้มกวนใส่
"ก็ทำนองนั้นแหละครับ"
ชนกานต์กระแทกลมหายใจออกอย่างหงุดหงิด
"จะทำอะไรก็รีบทำ ฉันจะรีบกลับไปทำงาน"
เมื่อรู้ว่าตัวเองหาทางชนะไม่ได้ ชนกานต์ก็พยายามสงบจิตใจ บอกตัวเองว่ามันก็เป็นแค่ฝันร้ายที่คุกคามชีวิต ให้มันเกิดไป ก็แค่เสียสุขภาพจิต แต่จะไม่ยอมให้มันมาทำให้ตัวเขาเองอ่อนแอลงเด็ดขาด ก็แค่ร่างกายที่แปดเปื้อน
จะเป็นยังไงก็ช่างมัน!
-TBC-
แฮ่ แฮปปี้มาฆะบูชาค่ะ (วาเลนไทน์อะร๊ายยยย ดิชั้นไม่รู้จักค่ะ 5555)
แอบเห็นแวบๆว่ามีคนตกใจเรื่องยาคุมผู้ชาย เลยต้องบอกว่าเรื่องนี้มัน Mpreg ค่ะ ใช้พลังจินตนาการกันหน่อยเนอะ :z2:
ส่วนเรื่องยาว คิดว่าคงไม่ได้ทำเป็นเรื่องยาวนะคะ เพราะไม่ได้ผูกเรื่องให้เป็นเรื่องยาวอยู่แล้ว ตัวละครก็น้อยนิดเอามากๆ มีแค่4ตัวที่มีชื่อเสียงเรียงนามเองนะ 5555 แต่แน่นอนว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องสั้นเสียทีเดียว มันคือเรื่องสั้นขนาดยาวค่ะ! (พูดซะมาดมั่น จริงๆตอนแรกเริ่มเลยตั้งไว้ว่าจะจบแค่ตรงปล้ำเสร็จก็เสร็จกัน(?)) แต่ด้วยพลังหื่น(?)ของตาปวีร์ และความซึนของหัวหน้ากานต์ เลยอยากเห็นช่วงมีเบบี๋ เลยลากยาวให้มันมีเบบี๋ด้วยกันซะเลย)
แล้วเจอกันใหม่ไวๆนี้ค่ะ :L2:
ป.ล.2 แวะไปอ่านเรื่องอื่นของเค้าบ้างก็ได้นะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นดราม่าแบบกระแทกตับไตไส้พุง(มั้ง?) นะแหะๆ :3123:
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ สุขสันต์วาเลนไทน์นะคะ
ป.ล.
-
เย้ มาแล้วววว :mew1: :mew1:
สงสารกานต์ อยากตบอีนางวีย์ :beat: :beat:
-
โอ๊ยยย
ปวีร์นี่ก็โหดเหมือนกันนะ
เล่นแบบนี้หัวหน้ากานต์ของเราประสาทเสียแย่เลยนะเนี่ย
-
edit ค่ะเพิ่งเห็นว่าอยู่หน้าก่อน แหะๆ
วิ่งไปหลบหลังตู้
ขอไปอ่านก่อนน้า
:katai5:
-
ขอบคุณมากค่ะ แต่เล่นแรงจริง กลัวจะแท้งจัง เพราะอิตาหื่น มันจะจับกดตลอด
-
ปวีเลวร้ายมากกกกกกก
อยากอ่านช่วงมีลูกจัง
-
ดีใจอ่ะ เข้ามารอทุกวันเลย :pighaun:
ชอบหัวหน้ากานต์มากกกกกกกกกกกกกก
-
รอตอนท้องอย่างใจจดจ่อ
-
สั้นๆ ถึงปวีร์
"เลวมาก"
:z6:
-
ปวีร์ ระวังจะไม่ได้เห็นหน้าลูกนะตัวเธอ 55555555
อีกอย่างนะชนกานต์ ถ้าเธอให้เค้าทำเบบี๋ได้เกิดแน่ 55555
-
รอวันหม่ามี๊กานต์มีเบบี๋กับป่าปี๊วีร์...ลูกออกมาคงหล่อแบบไม่ต้องเหลากันเรยทีเดียว :hao3:
-
เฮ้ย!!! ช่างมันแบบนี้ไม่ดีนะหัวหน้า!
ถ้าเกิดท้องขึ้นมาล่ะ ใครจะรับผิดชอบ!
ขุ่นพ่อพระเอกฉันจะเกลียดคุณแล้วนะจ๊ะ - -*
:pig4: :pig4:
-
โอ๊ยอีตาปวีร์ คราวหน้าถ้าจะเตะผ่าหมากก็ใส่เต็มเกียร์เอาให้มันสูญพันธ์ไปเลยนะคุณกานต์ หมั่นไส้เหลือทน :m31:
อยากอ่านตอนหัวหน้าท้องจังเลย หวังว่าอีตาปวีร์คงไม่ให้เอาเด็กออกนะ
-
ปวีร์เลวจริง ให้กานต์ท้องแล้วหนีมันเลยได้ป่ะ
หมั่นไส้จริงๆ
-
:m16: ชอบเอาเปรียบ เล่นแรงไปนะปวีร์
-
จะจีบเค้าก็ทำดัีๆ หน่อยเด๊ ,, แบบนี้เป็นใครก้อเกลียดดด แอร๊ยยยย :z2:
-
ไม่รู้สินะ เค้าเห็นใจหัวหน้ากานต์ล่ะ :mew2:
-
พนะเอกฉัน รักให้มันดีๆหน่อย ได้เขาแล้วน้า
-
เพื่อความต้องการของตัวเองปวีร์ทำทุกอย่างสินะ คิดบ้างไหมว่ากานต์จะรู้สึกยังไง
-
สงสารหัวหน้ากานต์อ่ะ
ทำไมปวีร์ทำแบบนี้วะ
-
ปวีร์รุกอย่างจริงจัง แต่ก็แกล้งหัวหน้ากานต์เยอะไปหน่อยนะ สงสารเค้าบ้างงงง ถนอมๆชนกานต์หน่อยยย
-
เข้่ามาย้ำอีกทีว่าเชียร์หัวหน้ากานต์ค่ะ แต่!! ยังอยากได้หวานๆ อยู่นะ :o8:
-
เคยเชียร์วีน่ะ แต่เอารูปเค้ามาปล่อยแบบนี้นี่เลวไปน่ะ
เอาไว้ขู่เฉยๆก็ได้นิ
สงสารกานต์
-
ปรีว์ใจร้ายปล่อยภาพให้คนอื่นดูด้วยหรอ อย่างงี้ต้องโดน หรือไม่ใช่
-
ปวีร์เล่นแรงไปแล้วน่ะ :m16:
-
นายปวีย์ จะเลวก็เลวซะให้พอนะ เพราะถ้าหัวหน้ากานต์ท้องเมื่อไหร่นายตายแน่ :angry2: เพราะเค้าจะให้หัวหน้ากานต์เอาคืนซะให้เข็ดเลย!!! :m16: :m16: :m16:
-
ลูกล่ะลูกกกก นึกถึงลูกก่อนค่ะคุณน้องขา :katai1:
-
เลวมากวีร์ ชอบบบ
-
ปวีร์นายนี่มันน่าโดนรุมยำซักทีจริงๆนะ
เลวเกินไป
-
ปวีร์จะรู้ใหมเนี่ยว่าท่านหัวหน้าที่เคารพสามารถป่องได้น้ะจ้ะ
-
ปวีร์เล่นแรงไปนะ สงสารหัวหน้ากานต์
:sad4:
-
ในหัวอิพระเอกไม่มีอะไรนอกจากเรื่องอย่างว่า :oo1: ชิมิ
ปล...รออ่านต่ออยู่นาาาาาา :katai2-1:
-
ตอนหน้า :hao6:
-
ตอนที่ 6
ปวีร์เลิกคิ้วมองคนที่เลิกพยศอย่างสงสัย ชนกานต์ที่ไม่ยอมมองหน้าเขาหลับตาลง แต่สีหน้าที่มักหยิ่งยะโสดูเหมือนคนที่กำลังเจ็บใจเพราะพ่ายแพ้
"ยอมง่ายแบบนี้ ดูไม่เหมือนคุณเลยนะ" ปวีร์ว่า มือเกลี่ยผมที่ชนกานต์จัดทรงไว้ ชนกานต์กระแทกลมหายใจอีกครั้ง ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่
"ก็แค่คิดว่าทำทานให้หมามันกิน"
ปวีร์ตาลุกวาว ไม่ได้โกรธ แต่ชอบใจในความปากจัดของชนกานต์
"ถ้าอย่างนั้น..ขอหมาตัวนี้กินจนอิ่มเลยก็แล้วกันนะครับ อ่อ แล้วก็ขอบอกไว้ก่อนว่า หมาตัวนี้ตะกละมากเลยนะครับ"
ปวีร์ว่าก่อนปลดเข็มขัดของชนกานต์ออก ถึงแม้จะเจ็บใจแต่ชนกานต์ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนอนอ้าขาให้หมาตะกละได้กินจนอิ่มในช่วงพักเที่ยงนั้น!
เสร็จจากกามกิจชนกานต์ก็ผลักปวีร์ออกทันที ปวีร์ยิ้มขำมองคนที่ลงทุนล้วงเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบที่เละตรงบั้นท้ายของตนเองไปพลางทำหน้ารังเกียจไปก่อนลุกขึ้นสวมกางเกง
เขาลุกตามขึ้นใส่กางเกงให้เรียบร้อยบ้าง
"เย็นนี้กลับกับผมนะ" ปวีร์ตามเดินไปทันที่จะเอามือยันประตูที่ชนกานต์จะเปิดไว้ได้ ชนกานต์นิ่ง เหนื่อยหน่ายใจกับคู่แค้นของตน
"ไม่!"
"งั้นผมบอกให้คนอื่นรู้ดีไหมน้า..ว่าหัวหน้ากานต์..." ปวีร์เอ่ยค้าง เลื่อนหน้าไปใกล้หู มือหนึ่งลูบไปตามส่วนเว้าของชนกานต์ก่อนกระซิบต่อ
"เป็นอะไรกับผม"
ชนกานต์ตวัดสายตาขุ่นๆมามอง ปวีร์ยิ้มกวนประสาท มือขยำบั้นท้ายกลมอย่างหยาบโลน
"นายขู่ฉันไปตลอดไม่ได้หรอกนะ" ชนกานต์เค้นเสียงต่ำบ่งบอกความไม่พอใจ
"อย่าห่วงเลยครับ ผมเบื่อคุณเมื่อไหร่ ผมก็จะเลิกเอง" ชนกานต์โมโหจี๊ดจนพูดไม่ออก สะบัดหน้าใส่ปวีร์แล้วกระชากประตูให้เปิด แต่ปวีร์เท้ามือดันเอาไว้แล้วถามย้ำ
"สรุปเย็นนี้ ไปกับผมนะครับ"
"เออ! ไปก็ไป!"
ชนกานต์ตอบกระแทกอย่างหัวเสีย แต่แค่นั้นก็ทำให้ปวีร์พอใจ เขากดจูบลงที่แก้มของชนกานต์ที่สะดุ้งแล้งยกมือขึ้นถูทันทีอย่างรังเกียจ
"ห้ามหนีกลับก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้น ผมจะตามไปถึงคอนโดของคุณเลย"
ชนกานต์สะบัดนิ้วกลางใส่หน้าปวีร์ ปวีร์คว้ามือนั้นได้ก่อนเอาปากดูดนิ้วกลางนั้นอย่างหยาบโลนทำเอาชนกานต์เหวอไปทันที
"คราวหน้าถ้าชูมาให้ผมอีก ผมจะไม่ทำแค่ดูดนิ้วนะครับ แต่จะดูด..ของจริง..แทน"
ชนกานต์หน้าร้อนฉ่า รีบผลักปวีร์ออกห่างแล้วเปิดประตูห้องเอกสารเดินหนีไป
ปวีร์ยิ้มขำ ถูกใจชนกานต์มากขึ้นทุกที
คนอย่างชนกานต์นี่แหละที่เขาหามานานแล้ว คนที่ทำให้เขาไม่เคยเบื่อ คนที่ทำให้เขานึกอยากปราบพยศแบบนี้
ปวีร์ลูบริมฝีปาก นึกแผนการในคืนนี้ว่าจะทำให้คนแสนหยิ่งอย่างชนกานต์สยบคาเตียงของเขาอย่างไรดี!
ชนกานต์กลับไปทำงานต่อด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากให้เวลามันเดินไปจนถึงเวลาเลิกงาน แต่เวลาก็ไม่เห็นใจชนกานต์สักเท่าไหร่ พอถึงเวลาเลิกแล้ว ชนกานต์ก็ไม่ยอมลุกจากโต๊ะแต่เอางานที่เหลือมาเคลียร์สะสางต่อ
ปวีร์เห็นท่าทีก็รู้ว่าชนกานต์รั้งเวลาเอาไว้ แต่ก็ไม่ได้เข้ามาเซ้าซี้อะไร ปล่อยให้ชนกานต์นั่งทำงานต่อไปอย่างที่อยากทำ
จนกระทั่งเวลาล่วงไปจนใกล้สี่ทุ่ม ในออฟฟิศก็เหลือเพียงชนกานต์นั่งทำงานอยู่คนเดียว
ชนกานต์มองนาฬิกาอย่างชั่งใจ แวบหนึ่งคิดจะอยู่ค้างที่ออฟฟิศนี่ แต่อีกใจก็โหยหาเตียงนอนนุ่มๆเพราะไม่ได้หลับมาตั้งแต่เมื่อวาน
เขามองออกไปนอกห้องอย่างระแวง แต่พอเห็นออฟฟิศของโปรเจคสองปิดไฟแล้วก็โล่งใจว่าปวีร์คงกลับไปแล้วเช่นกัน
ชนกานต์จัดการเก็บเอกสารแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ จัดการปิดไฟออฟฟิศแล้วเปิดประตูออกไป
"ขยันทำงานจริงนะครับ" ชนกานต์ชะงักก่อนพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดที่เปิดประตูออกมาแล้วเจอปวีร์ยืนพิงกำแพงอยู่
"คิดว่าผมกลับไปแล้วสินะครับ?"
"ใช่!" ชนกานต์กระแทกเสียงตอบ ปวีร์ยิ้มมุมปาก มองคนทำหน้าปั้นปึ่งอย่างอารมณ์ดี
"คุณหนีผมไม่พ้นหรอกนะครับ เอาล่ะ เราจะไปไหนกันดี ผมชักหิวแล้วสิ" ปวีร์พูดพลางใช้นิ้วโป้งลูบริมฝีปากล่าง ปรายตามองชนกานต์อย่างจะสื่อคำพูดให้รู้ว่าหิวอะไร
"ฉันมีสิทธิ์เลือกหรือไง?" ชนกานต์ย้อนถามเสียงเยาะ ปวีร์ยักไหล่กลับมา
"ผมจะให้ตัวเลือกคุณก็แล้วกัน ห้องคุณ ห้องผม หรือโมเตลดี?"
ชนกานต์จะตวาดไปว่าไม่เอาที่ไหนทั้งนั้นแต่ก็ชะงักเมื่อคิดอะไรได้
"เอาห้องนายก็แล้วกัน"
ปวีร์เลิกคิ้ว ยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน
"ถ้าจะไปเพื่อหาทางลบรูป ขอบอกว่าเปล่าประโยชน์นะครับ เพราะผมก็อปปี้ฝากไว้บนคลาวด์อยู่หลายโฮสต์เลยล่ะ"
ชนกานต์เม้มปากแน่น โมโหที่อีกฝ่ายรู้ทัน
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่อยากให้ปวีร์ไปที่ห้องตัวเอง และก็ไม่อยากถูกพาเข้าม่านรูดอีก จึงยอมที่จะไปที่ห้องของปวีร์แทน
ปวีร์พาชนกานต์มาขึ้นรถ พอรถแล่นออกจากบริษัทก็หันมาถามถึงอาหารมื้อเย็นที่ชนกานต์ยังไม่กิน
"จะหาอะไรทานหน่อยไหม?"
"ไม่!" ชนกานต์สวนกลับทันที แค่เห็นหน้าปวีร์ก็ไม่นึกอยากกินอะไรแล้ว
"เดี๋ยวไม่มีแรงนะ" ปวีร์ไม่ได้เย้าแค่คำพูดแต่เอื้อมมือมาลูบขาชนกานต์ด้วย ชนกานต์ทำหน้ายี้ใส่แล้วผลักมือปวีร์หนี
ปวีร์ยิ้มขำอย่างอารมณ์ดีก่อนเลี้ยวรถจอดหน้าร้านสะดวกซื้อที่อยู่ระหว่างทาง
"ลงไปซื้อข้าวกล่องกลับไปกินก็แล้วกัน" ปวีร์ว่าแล้วดับเครื่อง ชนกานต์นั่งนิ่ง ในใจนึกว่าจะชิ่งหนีระหว่างที่ปวีร์ไปซื้อดีหรือเปล่า หรือจะลองเสี่ยงไปห้องของปวีร์เพื่อหาไฟล์รูปดี แต่ก็ต้องหยุดความคิดไว้เพราะปวีร์อ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งตนออก
"ลงมาสิครับ"
ปวีร์ดึงแขนคนนั่งนิ่ง ชนกานต์สะบัดแขนทันที ชักสีหน้ารังเกียจใส่
"ถอยไปสิ!" ชนกานต์กระแทกเสียงก่อนลงจากรถมา ปวีร์ใช้รีโมตปิดรถก่อนจะดึงแขนชนกานต์ไปทางร้าน ชนกานต์สะบัดอีกครั้ง
"ปล่อยนะ ฉันเดินเองได้!"
ปวีร์ยอมปล่อยแต่ยิ้มกวนใส่ ชนกานต์มองอย่างหมั่นไส้แต่ยอมเดินตามเข้าร้านไป
ปวีร์หยิบเอาตะกร้ามา พาชนกานต์ไปเลือกอาหารกล่อง ชนกานต์หยิบส่งๆไม่ได้สนใจว่าที่หยิบมาคืออะไรก่อนโยนลงตะกร้าไป แล้วเดินไปยืนกอดอกที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน
ปวีร์เดินตามมาจ่ายเงิน ชนกานต์เหลือบไปเห็นกล่องถุงยางอนามัยที่วางขายอยู่ระหว่างยืนรอจ่ายเงิน ความคิดชั่ววูบเรื่องการป้องกันที่ปวีร์ละเลยไปมันแล่นเข้ามาในสมอง มือเรียวฉวยมาได้กล่องหนึ่งก็โยนลงตะกร้า ปวีร์ได้ยินเสียงก้มลงมองแล้วก็กระตุกยิ้มหยิบมันขึ้นมาดู
"ของคุณหรือของผม?" ชนกานต์เม้มปาก หันหนีก่อนเดินกระแทกเท้าออกไปหน้าร้าน ปวีร์ยิ้มขำ เข้าคิวรอจ่ายเงินต่ออย่างอารมณ์ดี ไม่นานก็เดินออกมาหาชนกานต์ที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ข้างรถ
"ดูดบุหรี่มากๆเดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวหรอก" ปวีร์ว่าพลางเปิดประตูหลังเอาของเก็บ
"ช่างฉัน" ชนกานต์ว่า หน้าตาหงุดหงิด ปวีร์เดินมาดึงบุหรี่ออกจากปากแล้วเดินไปดับที่ตรงถังขยะ ชนกานต์ที่ถูกขัดใจยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิม
"กลับไปดูดของผมดีกว่า เร้าใจกว่ากันเยอะ" ปวีร์ว่าแล้วเปิดประตูให้ชนกานต์เข้าไปนั่ง คนที่ชักเอือมกับความหน้าด้านหน้าทนกระแทกตัวนั่ง สีหน้ายังหงุดหงิดไม่หาย ปวีร์ปิดประตูก่อนผิวปากอย่างอารมณ์ดี เดินไปนั่งที่คนขับก่อนพารถมุ่งหน้ากลับคอนโดของตัวเอง
คอนโดของปวีร์ก็ดูเหมือนห้องของชายโสดทั่วไป ถ้าไม่ติดซากอารยธรรมของขวดเบียร์และเสื้อที่ถอดวางเกะกะอยู่ที่พื้นห้องก็ถือว่าสะอาดไม่น้อย ชนกานต์ถอดรองเท้าเสร็จก็เดินตามปวีร์เข้าไป ใจพยายามปลงตกกับสิ่งที่จะเกิดแต่ก็รู้สึกว่าทำไม่ได้สักเท่าไหร่
ชนกานต์มองตุ๊กตาไม้แกะสลักที่วางอยู่ตรงข้างทีวีแล้วนึกว่าจะเอามันทุบหัวปวีร์ให้สลบแล้วชิ่งหนีเลยจะดีหรือเปล่า แต่ก็โยนความคิดนั้นทิ้งไป กลัวว่าถ้าเผลอออกแรงมากไป ประเดี๋ยวไอ้ผู้ชายมักมากคนนี้ตายไปจะกลายเป็นบาปติดตัวเสียเปล่าๆ
ชนกานต์สงบสติอารมณ์ให้นิ่งแล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะทานอาหาร รู้สึกผิดที่ผิดทางจนไม่อยากขยับเดินไปไหน มือเขี่ยเสื้อแจ็คเก็ตที่ปวีร์ถอดวางโยนไว้ที่โต๊ะให้หล่นลงไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
ปวีร์เดินไปทางแคนธีนครู่หนึ่งก่อนเดินเข้ามาหาพร้อมกับช้อนส้อมและแก้วน้ำ ชนกานต์ปรายตามองคนที่ถลกแขนเสื้อขึ้นและหยิบข้าวกล่องออกมาให้ เห็นปวีร์หันมองมาก็เลื่อนสายตาไปมองข้าวกล่องที่ปวีร์เลื่อนมาวางให้และก็ต้องชะงัก เพราะมันเป็นสปาร์เกตตี้กุ้ง ชนกานต์ย่นหน้าทันที
“ฉันหยิบอันนี้มาหรอ?” ดวงตาเรียวกลอกไปมองดูกล่องของปวีร์ มันก็เป็นสปาร์เกตตี้กุ้งเช่นกัน ชนกานต์เม้มปากตีหน้านิ่ง
“คุณไม่ได้ดูเลยหรือไงว่าหยิบอะไรมา มีปัญหาอะไรหรือไง?”
ชนกานต์ไม่ยอมตอบแต่หยิบเพียงขวดน้ำมาแกะเทใส่แก้วแล้วยกดื่ม สายตามองที่ข้าวกล่องตรงหน้าแต่ไม่ยอมแตะแม้ว่าท้องจะหิวก็ตามที ปวีร์มองอากัปกิริยาของชนกานต์แล้วก็เริ่มสงสัย
“ไม่หิวหรือไง”
คนหยิ่งนั่งเชิดหน้าคอแข็ง ทำเพียงส่งสายตาเย็นชามาแทนคำตอบ ปวีร์กระตุกยิ้มก่อนจะพอเข้าใจ เขาทำเป็นไม่สนใจและก้มหน้ากินสปาร์เกตตี้ของตัวเองต่อ ชนกานต์กระแทกลมหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีไปนั่งที่โซฟา ปวีร์มองตามไปแล้วก็ยิ้มขำ อยากรู้ว่าชนกานต์จะอวดดีมีทิฐิไปถึงไหน
ชนกานต์เหลือบมองคนที่กำลังกินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยอย่างหมั่นไส้ นึกแช่งให้สปาร์เก็ตตี้ติดคอเสร็จก็ยกมือขึ้นมานวดกระบอกตาตัวเองอย่างเหนื่อยล้า เครียดกับการรอชะตากรรมของตัวเองที่เกิดขึ้น
พอได้มานั่งพักท่ามกลางความเงียบและแอร์เย็นๆ ความง่วงงุนก็เริ่มจู่โจม ถึงจะพยายามปรือตามองหาคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กของปวีร์ก็ตามที ไม่นานชนกานต์ก็อิงหัวกับพนักโซฟาและหลับไปทั้งอย่างนั้น มาตื่นอีกทีก็ตอนที่ปวีร์เขย่าแขนปลุก ชนกานต์ลืมตาขึ้นมาอย่างง่วงงุนก่อนกะพริบตาสองสามครั้ง
กลิ่นหอมโชยเข้ามาในจมูก พอลืมตาก็เห็นจานอาหารลอยอยู่ตรงหน้า
“กินสิครับ” ชนกานต์เหลือบตามองคนที่ชังน้ำหน้าอย่างเหลือคาด ปวีร์ยื่นจานข้าวผัดมาอีกรอบ ชนกานต์เม้มปาก ไม่อยากรับให้เสียเชิง แต่ท้องมันก็หิวจนแสบไปหมด
“หรือแค่ทำให้กินยังไม่พอ จะต้องป้อนให้ด้วยหรือไงกัน”
“ไม่ต้อง!” ชนกานต์ตะคอกใส่แล้วดึงจานมา มองจานข้าวผัดร้อนๆอย่างไม่อยากเชื่อว่าปวีร์เป็นคนทำ และนึกไม่ไว้ใจว่าอีกฝ่ายจะใส่อะไรลงไปบ้าง จึงใช้ช้อนเขี่ยไปเขี่ยมา ปวีร์เห็นท่าทางลีลาแล้วก็นึกหมั่นไส้ ดึงเอาช้อนจากมือบางมาตักข้าวใส่ปากตัวเองให้ดู
“ไม่ได้ใส่อะไรลงไปหรอกน่า กินได้แล้ว เสียเวลาหมด”
ชนกานต์ขึงตาใส่ก่อนตักข้าวเข้าปาก รสชาติข้าวผัดของปวีร์ไม่เลวนัก ท้องที่ร้องหิวก็พาให้ตักเข้าปากทานไปได้เรื่อยๆ แต่ชนกานต์ก็กินไปได้เพียงครึ่งเดียวก่อนจะวางลง
“อิ่มแล้วหรอ? คนอุตส่าห์ทำให้กินยังจะกินเหลืออีก”
“ฉันไม่ได้ขอให้นายทำให้กิน”
ชนกานต์บอกเสียงนิ่งก่อนลุกขึ้นยืนประจันหน้า
“จะเอายังไงก็ว่ามา ทำให้มันเสร็จๆไปเสียที ฉันจะได้กลับ!”
“จะกลับไหวหรอครับ?” ปวีร์พูดแล้วเดินเข้ามาประชิด ชนกานต์ถอยหลังหนีก็เจอโซฟา สายตาเขม่นมองปวีร์อยากเกลียดชัง
“ฉันไม่คิดจะค้างที่นี่หรอกนะ”
“ก็ตามใจคุณ” ปวีร์ยักไหล่แล้วกดชนกานต์ให้นั่งลงที่โซฟา โน้มหน้าเข้ามายิ้มกวนประสาทใกล้ๆ
“แต่ทำไมไม่รู้ ผมถึงคิดว่าคุณอยากจะอ้าขาให้ผมทำรักเร็วๆมากกว่า...ติดใจผมแล้วสินะครับหัวหน้ากานต์?”
ชนกานต์กำหมัดแน่น แทบจะใช้หมัดต่อยเสยคางคนพูด แต่สงบอารมณ์เอาไว้
“ฉันเกลียดนาย”
“เขาว่าเกลียดอะไร..มักจะได้อย่างนั้นนะครับ คุณคงเกลียดผมมาก เลย ‘ได้’ กับผมตั้งหลายครั้ง”
เส้นของความอดทนของชนกานต์มันขาดผึง หมัดที่กำไว้สวนขึ้นทันที แต่ปวีร์รู้ทันรีบผละลุกทันทีที่พูดเสร็จ ชนกานต์หายใจแรง ความโกรธมันพุ่งพล่านจนต้องกระโดดลุกตาม คราวนี้ชนกานต์ไม่ยอมที่จะสงบสติอารมณ์อีกแล้ว ความอัดอั้นที่สะสมมาตั้งแต่คืนแรกที่ถูกปวีร์ข่มเหงทำให้ชนกานต์ปล่อยหมัดเต็มที่
ปวีร์มองความโมโหของชนกานต์อย่างชอบใจ เขาทำแค่หลบหลีกหมัดของชนกานต์ที่ต่อยมาโดยไม่โต้ตอบอะไร ผ่านไปพักหนึ่ง คนที่เพิ่งกินอิ่มๆก็เริ่มจุกจนต้องหยุด ชนกานต์ทรุดนั่งลงที่โซฟาอีกหนแล้วหอบหายใจสะท้าน ความอ่อนเพลียทำให้เขาเป็นรอง ไม่อาจชกปวีร์ให้ล้มคว่ำไปได้ดั่งใจ
"คุณนี่น่ารักจัง" ปวีร์เดินมาโน้มตัวคร่อม พูดแล้วใช้ข้อนิ้วไล้ไปตามแก้ม ดวงตาสวยดุสะท้อนกลับมาจากหลังแว่นกรอบเงิน
"อย่าให้ฉันเอาคืน ฉันจะเอาคืนนายให้เจ็บแสบเลยคอยดู" ชนกานต์เค้นเสียงต่ำ มองปวีร์อย่างจงเกลียดจงชัง
"จะกดผมคืนหรอครับ?" ปวีร์ย้อนถามเสียงเยาะก่อนเอามือลูบต้นขาเรียว
"มิน่าล่ะ ถึงได้หยิบถุงยางมาแบบนั้น ที่แท้คุณเองก็อยากกดผมบ้างสินะ" หน้าชนกานต์แดงจัด ไม่คิดว่าปวีร์จะคิดอะไรเช่นนั้น จะให้เขาเป็นฝ่ายทำ..อยากถามว่าเอาส้นตีนอะไรคิด!
แต่จะพูดว่าเขาหยิบมาเพราะจะให้ปวีร์ใส่ มันก็กระดากปากเกิน
ปวีร์ยิ้มมุมปากมองหน้าคนหน้าแดง
"แต่ผมว่า..อย่างคุณมันเหมาะที่จะนอนอ้าขาให้ผมกระแทกมากกว่า"
ชนกานต์นึกฉุนจนจิกมือกำหมัดอีกรอบ ปวีร์ยิ้มเย้ยแล้วดึงแขนชนกานต์ให้ลุกขึ้น ชนกานต์ลุกอย่างไม่เต็มใจ รู้ดีว่าจากนี้จะเกิดอะไร แต่พยายามไม่แสดงอาการอะไรออกมา
ปวีร์ถอดแว่นที่ชนกานต์สวมอยู่ออก ใช้มือเชยคางให้ชนกานต์แหงนหน้ามองตัวเอง ดวงตาคู่สวยยังส่งความเกลียดชังมาให้
"รู้หรือเปล่า ว่ายิ่งคุณมองผมอย่างเกลียดชังมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้ผมอยากขยี้คุณมากขึ้นเท่านั้น" ปวีร์ว่าแล้วผลักชนกานต์ให้หันหลัง โน้มหน้าไปกระซิบข้างหู
"ผมมีความสุขมากเลยนะ เวลาเห็นคุณเสียศูนย์เพราะผมเนี้ย" ปวีร์จงใจกวนประสาทชนกานต์ มือลูบไปตามส่วนโค้งเว้าที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดทำงาน ชนกานต์เม้มริมฝีปากแน่น รู้ดีว่าปวีร์จงใจกวนประสาทตนเอง
"เก็บกดเพราะเอาชนะฉันเรื่องงานไม่ได้สินะ ถึงต้องมาเล่นสกปรกอย่างนี้"
"เรื่องงานน่ะ ผมไม่แคร์หรอกนะว่าจะเป็นรองคุณหรือเปล่า ผมแคร์แค่ตรงนี้ของคุณเท่านั้น"
ปวีร์ลูบมือไปตามร่องบั้นท้าย ปลายนิ้วดันผ่านเนื้อผ้าอย่างหยาบโลน
ชนกานต์ขืนตัวด้วยสัญชาตญาณก่อนหลับตาลง รู้ชะตากรรมว่าตนไม่อาจหนี ตราบใดที่ยังทำลายภาพบ้าๆนั่นไม่ได้
"จะทำก็รีบทำ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน แล้วหาวิธีฆ่านายทิ้ง!"
ปวีร์ยิ้มหยันกับคำขู่ เขาจงใจปลดกระดุมเสื้อชนกานต์อย่างอ้อยอิ่ง ชนกานต์หงุดหงิดใจแต่ก็พยายามยืนเฉยแม้จะสยิวกับมือที่ลูบไล้หน้าอกเรื่อยต่ำไปยังท้องน้อย ปวีร์ยิ้มมุมปากเมื่อมือสัมผัสแผ่นท้องบางที่ขมวดเกร็ง เขาปลดเข็มขัดของชนกานต์ออกและสัมผัสส่วนหน้าผ่านเนื้อชั้นในสีขาวสะอาดตาริมฝีปากประทับลงกับซอกคอ ปวีร์จูบเบาๆแล้วลากจมูกสูดกลิ่นหอมของเบอร์เบอรี่บริทฟอร์แมนเข้ามาเต็มปอด ชนกานต์นึกขยะแขยงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตัวตาม ไม่รู้ตัวเลยว่าปวีร์กำลังจะพาเขาทำรักแบบรัญจวน
และนี่แหละคือแผนการสยบชนกานต์ของปวีร์!
(ต่อ)
-
ชนกานต์รู้สึกแปลกๆกับสัมผัสที่เปลี่ยนไป ปลายนิ้วที่ลากไปตามผิวเนื้อมันกดลงเบาๆเหมือนนวดให้ผ่อนคลาย ปวีร์ลูบไปถึงซอกขาแล้วดึงกางเกงเขาให้ล่วงลงกับพื้น ชนกานต์กัดริมฝีปากเมื่อถูกเค้นคลึงบริเวณเป้ากางเกง ปวีร์เบียดให้ส่วนหน้าของตัวเองสัมผัสกับสะโพกของเขาไปด้วย คลื่นความร้อนกระจายไปบนหน้า ชนกานต์ยกมือขึ้นปิดปาก รู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หัวใจเต้นแรงจนดูไม่เหมือนตัวของตัวเอง
ตกใจกับความรู้สึกที่อยากให้ปวีร์สัมผัสมากกว่านี้
"นายใส่อะไรลงไปในข้าว?" เสียงเล็กถามแหบห้าว ปวีร์ไม่ตอบแต่ยิ้มมุมปาก มือควักท่อนเนื้อของชนกานต์ที่เริ่มแข็งตัวออกมารูด ชนกานต์งอตัวแล้วกัดปากแน่น สะโพกสั่นระริกเบียดส่วนหน้าของปวีร์อย่างไม่อาจห้ามตัว
ปวีร์ล้วงมือเข้าไปในกางเกงใน ใช้อุ้งมือนวดพวงเนื้อสีสวยพร้อมกับใช้ปลายนิ้วแหย่รูร้อนที่เก็บกักความชุ่มชื้นจากการร่วมรักเมื่อกลางวันไว้
"ครางเสียงหวานๆให้ชื่นใจหน่อยสิครับ" ชนกานต์เบือนหน้าหนี พยายามมากขึ้นที่จะเก็บเสียงของตัวเอง อดทนจนปื้นแดงเห่อจากแก้มลงไปถึงคอ ปวีร์ยังคงล้วงเล่นที่หว่างขาพร้อมกับมือที่ลูบไปทั่วอก บิดดึงยอดอกสีชมพูจนแข็งชัน
ร่างกายไวต่อสัมผัสกว่าทุกครั้ง ชนกานต์รับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังถูกฤทธิ์ของยาที่ครั้งหนึ่งเคยได้สัมผัสในรูปแบบคล้ายคลึงกันมาแล้ว นึกโกรธที่ปวีร์เล่นสกปรกอีกครั้งทั้งที่เกือบจะมองอีกฝ่ายในแง่ดีขึ้นบ้างที่อุตส่าห์ไปทำอะไรให้กิน
"อือออ"
เสียงสะท้อนมาจากลำคอ ชนกานต์หน้าร้อนกับเสียงของตนเอง ปวีร์ดันให้นั่งคุกเข่าลงกับโซฟา ชนกานต์จับที่พิงหลังไว้ เอนหน้าลงซบหลังมือ อับอายตัวเองที่ถูกกระทำจากคนที่เกลียด โดยที่ร่างกายมีอารมณ์ร่วมตาม ถึงจะเพราะฤทธิ์ยาก็ตามที
ปวีร์ไล่จูบไปตามแผ่นหลัง เสื้อเชิ้ตที่ชนกานต์สวมเลื่อนหลุดจากไหล่ ปวีร์ประทับรอยไปบนแผ่นหลังเนียน จูบไซร้ไปจนถึงหนั่นสะโพก เขาใช้มือดันสะโพกชนกานต์ให้โก่งขึ้น ชนกานต์จับพนักพิงอย่างไม่มีแรง ร่างกายอ่อนระทวยจนแทบทรุดนั่ง หัวใจเต้นแรงจนน่ากลัว คลื่นความร้อนมันเผาผลาญทุกส่วน มือใหญ่ลากผ่านแล้วรู้สึกเคลิ้มตาม ปวีร์ฝังหน้าลงกับสะโพกกลม แม้จะทำงานมาทั้งวัน แต่ส่วนนั้นของชนกานต์ยังมีกลิ่นหอมสะอาดจนปวีร์อดไม่ได้ที่จะลากลิ้นชิมรส มือกระตุ้นนวดต้นขาเรียวและลากมือไปจนถึงส่วนหน้าที่ชูชันรอรับสัมผัส สะโพกของชนกานต์เกร็งเบาๆ ปวีร์จับท่อนเนื้อขนาดพอดีมือรูดเบาๆ ชนกานต์หอบหายใจแรงขึ้น หันพลิกหน้ามามองปวีร์เมื่อได้ยินเสียงรูดซิบ
ในหัวคิดจะร้องบอกให้ปวีร์เอาถุงยางมาสวม แต่พอเห็นท่อนเนื้อโตที่ตระหง่านตรงหว่างขาของอีกฝ่ายแล้วก็พูดไม่ออก ปวีร์เลียริมฝีปากแล้วยิ้มกวนใส่ชนกานต์
"อยากได้นี่แล้วใช่ไหมครับ?"
ถามแล้วถูท่อนเนื้อกับร่องสะโพกของชนกานต์จนชุ่ม ชนกานต์กัดปาก ไม่ยอมตอบ ปวีร์แกล้งกดส่วนหัวเข้าไปเล็กน้อย บั้นท้ายกลมสั่นระริก ฤทธิ์ยาทำให้ชนกานต์อยากกระดกสะโพกกลืนกินมันให้หมดแท่ง
แต่สติที่หลงเหลือทำให้ชนกานต์กระชากสะโพกหน้า
"ใส่ถุงยางด้วยสิ!" ชนกานต์ตวาดเสียงสั่น หน้าแดงไปหมด ปวีร์ที่จับรั้งขาเขาไว้เลิกคิ้ว
"เสียบสดมาตั้งหลายครั้งแล้ว อยู่ๆจะให้ใส่ถุงทำไมครับ?"
ชนกานต์นึกขัดใจไอ้คนช่างถาม คำตอบมันง่ายมากแต่ยากที่คนอย่างเขาจะพูด
เห็นชนกานต์เงียบไปปวีร์ก็กดตัวสอดเข้ามาอีกรอบ ชนกานต์พยายามดึงสะโพกหนีแต่ถูกจับไว้แน่น แกนกายใหญ่สอดลึกจนสุดแท่ง ชนกานต์หันมาใช้มือผลักปวีร์ออกแต่ถูกกดหลังให้แนบกับพนักผิงโซฟา ปวีร์ยังดันสะโพกเข้าลึกจนร่างบางจุก
"เสียบสดดีกว่าไหนๆ จริงไหมครับ?"
ชนกานต์โมโหจนน้ำตาคลอ ปวีร์ดึงสะโพกออกแล้วสอดกลับเข้าไปอีกครั้งช้าๆ ตั้งใจให้ชนกานต์รับรู้สัมผัสทุกอณูที่ถูกเขาครอบครอง
"หยุดนะ.." ชนกานต์พูดได้เพียงสั้นๆ โมโหจนน้ำตาไหล รู้ตัวก็รีบซบหน้าลงซ่อนน้ำตาไม่ให้ปวีร์เห็น แต่คนช่างสังเกตอย่างปวีร์ก็รู้ทัน เขาดึงชนกานต์ให้หันหน้ามา ชนกานต์ไม่ยอมง่ายๆ ใช้มือผลักไสปวีร์ไม่ให้มาจับ แต่ไม่วายถูกรวบกอดไว้จนดิ้นไม่ได้
"แค่ใส่ถุงคุณก็พอใจแล้วใช่ไหม?" เสียงของปวีร์ถามข้างหู ชนกานต์นิ่ง พูดไม่ออก เพราะมันไม่ใช่เขาพอใจ แต่มันควรทำ
เขากลัวถ้าเกิดพลาดพลั้งขึ้นมา การมีลูกด้วยกันกับคนที่เกลียดมันไม่ใช่เรื่องสนุก
ปวีร์ยังคงกอดชนกานต์เอาไว้ แต่ก็ยอมล้วงถุงยางที่เก็บไว้ในกระเป๋าเงินออกมา ชนกานต์ถอนหายใจเมื่อปวีร์ถอนกายออกไปและได้ยินเสียงฉีกฟอยด์ถุงยาง
ไม่นานแท่งเนื้อร้อนที่ถูกห่อหุ้มด้วยเนื้อยางบางเฉียบก็ถูกสอดกลับเข้ามาอีกครั้ง
ชนกานต์พรูลมหายใจอย่างโล่งอกที่ปวีร์ยอมป้องกัน ปวีร์ซอยเอวเบาๆก่อนแรงขึ้นเรื่อยๆ มือเอื้อมไปรูดท่อนเนื้อของชนกานต์ให้เข้าจังหวะกัน ชนกานต์กัดปากแน่น มือจิกพนักพิงพยุงตัวเอาไว้ เสียวสะท้านไปทั้งกาย จุดเบื้องล่างที่ถูกปวีร์กระแทกมันเสียวซ่านล้ำลึก ความเจ็บที่เคยมีในการร่วมรักครั้งก่อนๆมันหายไป ชนกานต์รับรู้ด้วยความรู้สึกหวั่นใจ ร่างกายของเขาเหมือนกำลังยอมรับการรุกล้ำของปวีร์จนมันเคยชินเสียแล้ว
"อึ่ก..หัวหน้ากานต์.." เสียงปวีร์ครางกระเส่าข้างหู ลมหายใจร้อนรดเป่าจนรู้สึกปั่นป่วน ปวีร์จับขาเขาให้แยกกว้างมากขึ้น สอดลึกเข้ามาจนชนกานต์ไม่รู้ว่ามันทะลวงเข้าไปถึงจุดไหน รู้เพียงว่ามันทำให้สุขสมจนน่ากลัว
"อื้อออ" เสียงครางลอดดังจากลำคอ ชนกานต์อับอายจนอยากเอาหัวโขกผนัง แต่ปวีร์ชอบใจจนกดจูบที่ซอกคอ ซุกไซร้ดอมดมกลิ่นหอม
"ครางอีกสิครับ..เสียงของคุณทำให้ผมคลั่งนะ" ชนกานต์เบือนหน้าหนี พยายามเก็บเสียงมากกว่าเดิม ปวีร์หัวเราะก่อนหยิบเอาเนคไทที่หล่นอยู่ใกล้ๆมา ชนกานต์ที่เบือนหน้าหนีไม่ทันเห็น มารู้ตัวก็เมื่อมันถูกพันรอบแกนกายแข็งขึง
"จะทำอะไรน่ะ!?"
เสียงเล็กตวาดถามและพยายามดึงออก ปวีร์ตีมือเล็กแล้วดึงเนคไทแน่นขึ้น ชนกานต์เหมือนถูกไฟช็อต ร่างสปาร์คไปชั่วขณะ ปวีร์ฉวยโอกาสนั้นมัดแกนกายหวานไว้
"ผมอยากให้คุณถึงจุดด้วยข้างหลังอย่างเดียวนะครับ" ปวีร์กระซิบ แล้วจับสองมือของชนกานต์ตรึงไว้กับบอบพนักโซฟา ชนกานต์อึดอัดที่หว่างขา พยายามหนีบขาเข้ามาแต่ก็ไม่ถนัด ปวีร์เบียดสะโพกแช่ท่อนเนื้อร้อนไว้ในโพรงอุ่น ไม่ยอมขยับ
"อยากถึงหรือยังครับ?" ปวีร์ถาม แล้วจับมือชนกานต์ข้างหนึ่งให้ลูบอกของชนกานต์เอง กระตุ้นให้คนเย่อหยิ่งเสียศูนย์ ชนกานต์เม้มปาก พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง แต่ก็ยากเหลือเกิน ห้วงอารมณ์เดือดพล่าน อยากให้สิ่งที่แช่คาอยู่ขยับทะลวงลึกแรงๆให้ถึงใจ
"คุณลองขยับบ้างสิครับ.." ปวีร์กระซิบแล้วลากริมฝีปากจูบไซร้คอและแก้ม ชนกานต์เบ้หน้าไม่ยอมทำตามคำพูดของเขา
"นายก็ขยับสิ!!"
"ไม่ครับ..ผมอยากให้คุณขยับมากกว่า" ปวีร์แกล้งดึงท่อนเนื้อออกช้าๆ ถ่วงเวลาอย่างอ้อยอิ่ง
ชนกานต์กัดฟันแน่น นึกฉุนที่ปวีร์บีบให้จนแต้ม จึงพยายามข่มใจไม่ให้ร่างกายขยับไปตามสัญชาตญาณและค่อยๆหายใจเข้าออกช้าๆ ผ่อนคลายอารมณ์ขมวดเกร็งของตนเอง แต่ดูเหมือนปวีร์เองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน มืออุ่นลูบไล้ปลุกอารมณ์ไปตามส่วนต่างๆ ชนกานต์ยกมือตีและปัดไล่ ปวีร์กระตุกยิ้มมุมปาก โน้มหน้าไปจูบไซร้ลำคอ ชนกานต์เอียงคอหนี พยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนของปวีร์ ท่อนเนื้อของปวีร์หลุดจากช่องทางที่เปียกชุ่ม บั้นท้ายวูบโหวงโหยหาสิ่งเติมเต็ม ปวีร์กอดชนกานต์ไว้ กดให้คนที่พยายามดิ้นนอนลงกับโซฟา
ชนกานต์หอบหายใจหนัก ดึงมือจากที่ถูกปวีร์จับไว้ไปยังตรงหว่างขาที่ปวดหน่วงต้องการปลดปล่อย แต่ถูกปวีร์จับเอาไว้
"อยากปล่อยหรือครับ?"เสียงกระซิบที่ข้างหู ปวีร์เบียดส่วนหน้ากับสะโพก กลีบเนื้อหุบอ้าตามแรงหายใจเชิญชวนให้ฝังลึกลงไปอีกครั้ง หว่างขาเลอะเทอะจนดูลามก ชนกานต์กระชากแขนไปมาจนรู้สึกปวดไหล่ก่อนหยุดนิ่งเมื่อรู้สึกมึนหัว
"ฉันจะอ้วก" เสียงที่อ่อนแรงบอก ปวีร์มองอีกทีก็เห็นชนกานต์ที่นอนตะแคงหน้าอยู่กับโซฟาดูหน้าซีดขึ้น ปวีร์รีบปล่อยแขนแล้วหยิบเอาหมอนมารองก่อนช้อนศีรษะคนตัวเล็กให้นอนลงบนหมอน ชนกานต์หลับตาลง หายใจเข้าออกช้าๆ เพราะอ่อนเพลียจากการอดนอนเป็นทุนเดิม พอลงมานอนหัวต่ำกะทันหันจึงทำให้คลื่นไส้ พาให้อารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในร่างพลอยมอดไปด้วย ปวีร์มองคนที่นอนหลับตาไม่โต้ตอบแล้วก็ยกมือขึ้นไปอังหน้าผากดู ตัวของชนกานต์ร้อนรุมๆอยู่บ้าง
"ทำต่อไหวไหม?" ชนกานต์ปรือตาขึ้นมองคนที่ถาม นึกอยากจะด่าแต่ก็ยังพะอืดพะอม ยิ่งพอหัวได้หนุนหมอนก็เหมือนถูกดูดพลังงานไปหมด อยากจะหลับอยู่อย่างเดียว
ปวีร์มองคนที่อ่อนเพลียจนหลับไปทั้งที่ยังไม่เสร็จกิจอย่างนึกขำ ชนกานต์หลับไปอย่างนี้ก็หวานหมูเขา เขาไม่ใช่สุภาพบุรุษเสียด้วย ปวีร์แยกขาเรียวออกกว้าง ขยับสะโพกเข้าชิดหว่างขา มองความฉ่ำเยิ้มที่เปรอะเปื้อนหว่างขาของชนกานต์แล้วก็ตัดสินใจรูดเอาถุงยางอนามัยออกจากแกนกายของตนเองโยนทิ้งไปข้างโต๊ะแล้วกดสอดปลายยอดบานเข้าไปในบั้นท้ายของชนกานต์
แกนกายที่ไร้สิ่งปกคลุมเข้าขยี้ช่องทางอ่อนนุ่มของชนกานต์ ปวีร์ส่ายเอวกระแทกมันครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับโน้มกายลงไปลากไล้ริมฝีปากบนแผ่นอกขาว ดูดเม้มจนเป็นรอยสีกุหลาบกระจายเต็มอกสลับกับดูดดึงยอดอกเล็กน่ารักสมกับตัวเจ้าของ
ชนกานต์ครางอืออย่างไร้สติ ปวีร์เหลือบมองก็เห็นทำท่าว่าจะตื่นขึ้นมาอีกรอบแต่ก็ไม่ได้ตื่น ท่าทางจะหมดแรงมากจริงๆ ปวีร์ขยับไปจูบกลีบปากนุ่มแล้วกระตุกปมที่ผูกเนคไทไว้ ทันทีที่แกนกายสีงามเป็นอิสระ น้ำขุ่นขาวก็ไหลพุ่งออกมา ร่างของชนกานต์กระตุกเบาๆใต้กายกำยำของปวีร์ ปวีร์เองก็ถูกชนกานต์บีบรัดจนสุขสม
น้ำรักอุ่นๆที่ชนกานต์ไม่ปรารถนาทะลักล้นเต็มรูแคบที่บั้นท้ายและไหลย้อยลงไปเปื้อนโซฟา ปวีร์ดูดปากชนกานต์และกวาดลิ้นในโพรงปากเก็บเอาความหวานฉ่ำที่ไม่อาจทำได้ระหว่างชนกานต์มีสติอย่างชื่นใจ
ชนกานต์มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง ข้างกายมีปวีร์ที่กอดเอาไว้ ชนกานต์ปัดแขนปวีร์ที่กอดพาดอยู่บนเอวออก พยายามจะลุกจากเตียงแต่ก็ยังรู้สึกเพลียและมึนหัวจนอยากนอนต่อเลยนั่งพักอยู่ที่ขอบเตียง
“ยังไม่มีแรงแล้วยังจะฝืนลุกอีก” เสียงแหบห้าวเอ่ยว่า ชนกานต์นึกรำคาญใจแต่ขี้เกียจโต้ตอบจึงลุกขึ้น มองฝ่าแสงสลัวของโคมไฟหัวเตียงที่ปวีร์เปิดทิ้งไว้มองหาเสื้อผ้าตัวเอง
“เสื้อผ้าฉันอยู่ไหน?”
เจ้าของห้องเท้าศอกยันศีรษะขึ้นมามองแล้วกระตุกยิ้ม
“ผมเอาไปใส่เครื่องซักไว้ ตอนเช้าคุณจะได้มีใส่ไงล่ะ มานอนต่อสิ”
ปวีร์บอกแล้วตบมือลงกับเตียงข้างกาย ชนกานต์นึกหงุดหงิดมากขึ้นเพราะอยากกลับห้องพักของตัวเองมากกว่า เลยตัดสินใจจะเดินออกไปดูว่าเสื้อผ้าของตัวเองพอจะแห้งใส่ได้หรือยัง แต่คนที่นอนอยู่เอื้อมมือมารั้งข้อมือเอาไว้ก่อน ชนกานต์สะบัดออกด้วยสัญชาตญาณแล้วหันมองตาขวาง
“ฉันจะกลับ!”
“คุณนี่รั้นจริงๆ เพลียจนวูบไประหว่างทำแบบนั้นแล้วยังจะไม่ยอมนอนอีก” ปวีร์ส่ายหน้า เหลือบมองดูเวลาแล้วก็เห็นว่ามันเพิ่งจะตีสี่ ชนกานต์เองก็เพิ่งจะได้นอนไม่กี่ชั่วโมง ใบหน้าบึ้งตึงใต้แสงสีส้มนั่นดูอ่อนเพลียไม่น้อย
“ฉันไม่คิดจะค้างที่นี่” ชนกานต์พูดเน้นเสียงมองปวีร์ตาขวางไม่อ่อนลง ปวีร์ส่ายหน้าช้าๆก่อนทิ้งหัวลงหมอน
“ตามใจ อยากกลับก็กลับไปสิ” ปวีร์บอกอย่างไม่แยแสแล้วทิ้งหัวลงหมอนทำท่าจะนอนต่อ ชนกานต์เห็นแล้วรู้สึกขัดใจ อยากจะยกเท้าถีบไอ้คนกวนประสาทนี้ให้ตกเตียง แต่ติดตรงที่สะโพกรู้สึกอ่อนแรง แค่ยืนก็รู้สึกว่าต้องใช้พลังงานมากกว่าทุกครั้ง จึงได้แต่เก็บความหงุดหงิดนั้นไว้แล้วเดินออกจากห้องไปทั้งที่ตัวเปลือย
ชนกานต์เดินออกมาก็มองหาเครื่องซักผ้าของปวีร์ เดินไปดูก็เห็นเครื่องมันดับแล้ว เสื้อผ้าของตัวเองถูกปั่นจนแห้งจึงหยิบขึ้นมาสวมทั้งที่มันยับ พอจะเดินออกจากห้องก็นึกขึ้นได้ว่ากระเป๋าเงินของตัวเองหายไป ลองมองหาดูตามโต๊ะกับชั้นวางก็ไม่เห็น รู้แน่ว่าคนที่เอาไปคือปวีร์จึงเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง
“เปลี่ยนใจกลับมานอนให้ผมกอดหรือครับหัวหน้ากานต์?” ไอ้คนที่เอากระเป๋าเงินไปนอนยิ้มกระดิกขาอยู่บนเตียง ชนกานต์เดินกระแทกเท้าเข้าไปหา
“นายเอากระเป๋าเงินกับมือถือของฉันไปไว้ไหน?”
“เอ๋?...ไม่รู้สิครับ”
ปวีร์ทำตีมึนใส่ ชนกานต์เดินไปหยิบหมอนมาฟาดลงกับหน้าปวีร์อย่างโมโห
“เอาคืนมา!”
“ออนท็อปให้ผมก่อนสิครับ” ปวีร์ยึดหมอนไว้แล้วเอ่ยเย้ากวนประสาท
“ใครจะทำ!”
“ก็คุณไงครับ”
ชนกานต์สบถแล้วชูนิ้วกลางใส่หน้าปวีร์ ปวีร์หัวเราะชอบใจก่อนดึงมือชนกานต์ให้ล้มลงมาบนเตียง
“โอ้ย!” ชนกานต์ที่ไม่ทันตั้งตัวล้มลงมาบนเตียงร้องออกมา ปวีร์กอดเอาไว้แล้วกระซิบบอก
“นอนต่อเถอะครับ แล้วตอนเช้าค่อยไปทำงานพร้อมกัน”
ชนกานต์ทำหน้ายี้ใส่คล้ายจะประท้วงแล้วก็ผลักปวีร์ที่กอดตัวเองออก แต่ปวีร์รัดกอดแน่นเหมือนปลาหมึกจึงจำใจต้องนอนหลับต่อไปทั้งที่ใจไม่สงบ มาตื่นอีกทีก็ตอนรุ่งเช้า ชนกานต์งัวเงียตื่นขึ้นมาอย่างสงสัยตัวเองว่าเผลอหลับได้ไงทั้งที่นึกหงุดหงิดอยู่ พอมองไปข้างๆก็ไม่มีปวีร์นอนอยู่ มองนาฬิกาก็ยังเช้าอยู่แต่ก็ไม่คิดจะนอนต่อเลยลุกเดินออกจากห้องไป
กลิ่นของข้าวต้มหอมฟุ้งไปทั่วห้อง คนเป็นเจ้าของห้องกำลังยืนทำอาหารอยู่ที่แคนธีนตรงมุมห้อง ชนกานต์เดินเข้าไปหาก็เห็นปวีร์อาบน้ำแต่งตัวแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ปวีร์หันมาทักทายแล้วหยิบเครื่องปรุงมาเทใส่ ชนกานต์มองดูคนที่ปกติจะเห็นกันแค่ในบริษัทยืนทำครัวด้วยความรู้สึกแปลกๆ
“เห็นนายทำครัวแล้วมันขัดตายังไงก็ไม่รู้” ชนกานต์เปรย แต่ก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายทำอาหารใช้ได้ รสชาติข้าวผัดเมื่อวานที่กินไปก็ถูกปากอยู่ ข้าวต้มที่เพิ่งทำเสร็จนี่ก็ส่งกลิ่นหอมและมีหน้าตาน่าทาน คิดว่ารสชาติก็คงใช้ได้อยู่
“คุณไปเปลี่ยนชุดก่อนก็แล้วกัน ผมวางชุดไว้ให้คุณที่ตรงโซฟานั่นน่ะ” ชนกานต์ปรายตาไปมองโซฟาที่ปวีร์ว่าก็เห็นชุดที่รีดแล้ววางพาดเอาไว้
“ฉันไม่อยากใส่เสื้อผ้าของนาย” ชนกานต์บอกอย่างถือตัว ปวีร์ที่คิดแล้วว่าชนกานต์จะพูดอย่างนี้ก็ยักไหล่
“ผมว่าแล้วว่าคุณจะต้องพูดแบบนี้ วางใจเถอะ ชุดนั้นผมเพิ่งซื้อมา ยังไม่เคยใส่”
"ยังไงฉันก็ไม่ใส่" ชนกานต์กระแทกเสียงตอบ ปวีร์หันมายิ้มกวนบาทา มองชนกานต์ไล่จากหัวจรดเท้า
"แล้วจะใส่เสื้อยับๆไปทำงานหรอครับ?" ชนกานต์เม้มปาก นัยน์ตาขุ่น
"ก็เอากระเป๋าเงินฉันคืนมา ฉันจะกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า"
ชนกานต์แบมือทวงของตัวเองคืน แต่คนที่เพิ่งตักข้าวต้มใส่ชามเสร็จแล้วไม่ยอมให้ ปวีร์คว้าแขนชนกานต์แล้วลากมาที่โต๊ะทานอาหาร
"มื้อเช้าสำคัญ ต้องทานให้หมดนะครับ" ปวีร์เฉไฉเปลี่ยนเรื่องก่อนยกชามข้าวต้มมาวางให้ ชนกานต์นึกฉุนจนคิ้วกระตุก อยากเอาข้าวต้มราดหัวคนทำเต็มแก่
"อ้ะอ้ะ..ผมทำให้ทาน ไม่ใช่ไว้ให้ทำอย่างอื่นนะครับ" ปวีร์ว่าอย่างรู้ทันก่อนเอาน้ำผลไม้มาเทใส่แก้ววางให้และพาตัวเองไปนั่งที่ฝั่งตรงข้ามแล้วเริ่มทาน ชนกานต์ค้อนตาใส่ก่อนหันมาสนใจชามข้าวต้มของตนเอง เริ่มละเลียดทานด้วยท่าทางเหมือนแมวดม ยอมรับในใจว่ามันอร่อย แต่ฝืนทำท่าทางว่ามันไม่ถูกปากออกไปเพราะไม่อยากให้ไอ้คนปากดีมันได้ใจ
"ไม่อร่อยหรอครับ?" ปวีร์ถามเมื่อเห็นชามของชนกานต์มันไม่พร่อง ชนกานต์เบ้ปากแล้วใช้ช้อนกวนวนในชาม
"ก็แค่พอกินได้"
"งั้นหรอครับ" ปวีร์ยิ้มๆมองคนมากทิฐิอย่างรู้ทัน
ชนกานต์หน้าร้อนขึ้นมา รู้สึกอายกับสายตารู้ทันของปวีร์ จึงแสร้งกระแทกช้อนลงกับชามแล้วยกน้ำผลไม้ขึ้นดื่ม ปวีร์ลุกขึ้นจากโต๊ะเดินกลับไปที่ห้อง ชนกานต์มองตาม คิดว่าปวีร์คงจะไปเอากระเป๋าเงินกับมือถือมาให้ แต่ผิดคาดเพราะที่ปวีร์คือเสื้อคลุมอาบน้ำ
"อะไร!?" ชนกานต์ตวาดถาม มองอย่างไม่ไว้ใจ
"เปลี่ยนใส่นี่ก่อนครับ ผมจะรีดชุดให้ แล้วก็ไปอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันด้วยล่ะ ถึงตัวคุณจะหอมแต่จะซักแห้งไปทำงานก็คงไม่ไหวนะครับ"
ชนกานต์กระชากเสื้อคลุมมาแล้วเดินดุ่มๆเข้าห้องนอนไปเปลี่ยนก่อนเดินมาโยนเสื้อผ้าไว้ที่โซฟา ปรายสายตามองปวีร์ที่เดินเข้ามาหยิบก่อนเดินกลับเข้าไปอาบน้ำ
พอเข้ามาในห้องน้ำ ชนกานต์ก็เริ่มสำรวจตัวเองอีกครั้ง ร่างกายของเขาถูกตีตรามากขึ้น รอยจ้ำแดงของเก่ายังไม่หาย ของใหม่ก็มีเพิ่มมากขึ้น แต่แปลกใจที่หว่างขาถูกเช็ดคราบสกปรกออกไปหมด ชนกานต์เบ้หน้าเล็กน้อย คาดไม่ถึงว่าปวีร์จะทำอะไรแบบนั้น เขาถอนหายใจ มองหาแปรงสีฟันจะใช้แปรง แล้วก็เห็นแปรงที่มียาสีฟันบีบป้ายไว้บนแปรงวางไว้ตรงอ่าง ไม่แน่ใจนักว่ามีไว้สำหรับตนหรือปวีร์เตรียมไว้แปรงเอง แต่พอมองไปที่ใกล้ๆก็เห็นแปรงสีฟันอีกอันดูเก่ากว่าอันที่ป้ายยาสีฟันไว้ จึงรู้ว่าปวีร์เตรียมไว้ให้
"หมอนี่..ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยแหะ" ชนกานต์หยิบแปรงสีฟันขึ้นมามองอย่างนึกขำที่ปวีร์ทำตัวเหมือนพระเอกในนิยาย
"คนอย่างนายมันไม่มีทางเป็นพระเอกหรอก..ปวีร์!"
ชนกานต์ว่าก่อนเอาแปรงถูฟันแรงๆอย่างแค้นใจ!
-TBC-
หมั่นไส้ตาปวีร์กับล่ะซี้ 55555
:hao3: :hao3: :hao3:
ไหนๆ เชียร์ใครมากกว่ากันระหว่างตาปวีร์กับคุณหัวหน้ากานต์?
เชียร์กานต์กด 1
เชียร์ปวีร์กด 2
โหวตๆๆๆ :hao7:
-
ต้องเป็นกานต์ อยู่แล้วว เข้าข้างกานต์ฝุดๆ :hao7: :mew1: :mew1:
-
อยากให้ท้องเร็วๆ
-
ไม่ได้นายเอกของเราได้ท้องแน่เลย
-
กด 2 เชียร์ปวีร์คร่าาาาา เลวๆแบบนี้เอาใจเค้าไปเลยตัวเอง :impress2:
-
อ่านมาจนกระทั่งถึงตอนที่หก รู้สึกอึดอัด คับแค้นใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อไหร่หัวหน้ากานต์จะหลุดพ้นจากไอ้ปวีร์ซะที ตกเป็นเบี้ยล่างบำเรอกามให้ตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ เราเป็นคนอ่านยังรู้สึกร่วมไปกับหัวหน้ากานต์เลย ฉาก nc เขียนดีนะค่ะ แต่เราไม่มีอารมณืหื่นตามเลยบอกตรงๆ สงสารหัวหน้า อยู่ดีๆแท้ๆ กลับโดนขื่นใจ โดนวางยา บังคับ ข่มขู่ โอยคนอ่านเจ็บแค้นแทนค่ะ
ขอให้ได้เอาคืนเร็วๆเถอะ อ่านแล้วมันไม่ไหวกับไอ้ปวีร์แล้วนะ ไม่มีอะไรเลยนอกจากหื่นกับเหี้ย
แล้วถ้ายิ่งท้องโอย กลัวหัวหน้ากานต์จะเส้นเลือดในสมองแตกซะก่อน แค่นี้ก็เครียดพอแล้ว คนอ่านคนเชียร์ก็เครียด แค่นี้ก็น้ำตาหยดแหมะๆ อยู่แล้ว
หัวหน้าค่ะถ้าทนไม่ไหว ขอแนะนำให้จ้างมือปืนค่ะ สั่งเก็บแล้วหนีไปพักผ่อนเลยค่ะ
รักคุณเท่าฟ้าแอร์เอเชีย
-
อีตาปวีร์ทำเหมือนไม่แคร์ถ้าหัวหน้ากานต์จะท้อง :z6:
เอ๊...หรือว่าไม่ทันคิดกันแน่ :mew2:
-
ท้องยังอ่ะ
ปล. กด 2 รัวๆๆๆๆ
-
ยกป้ายไฟเชียร์หัวหน้ากานค่าาา
-
ไม่นานอ่ะ ป่องแน่ๆ เล่นทำทุกวันทั้งวันทั้งคืนอย่างนี้... เห้ออออ :hao4:
-
คือ ชอบนะปวีร์อ่ะ แต่ได้ใจมากไปแล้วหมั่นไส้บอกตรงๆ เพราะมันท้องได้ไง แต่ทำไมไม่ใส่ใจตรงนี้
เพราะฉะนั้น กด หัวหน้ากานต์ รัวๆๆๆ ให้เอาคืนหมั่นไส้
-
เชียร์ปวีร์จัดไปค่าาาาาาาาาาา :katai2-1:
-
:m15: :sad4: :monkeysad: มาต่อเร็วๆนะ
-
อยากให้ถึงเวลาที่หัวหน้ากสนเอาคืนเร็วๆ จัง
-
จะใครกดหนูไม่รู้ รู้แค่ว่าหนูฟินมาก =,,= ทำไมหนูเชียร์ให้หัวหน้ากานต์ท้องล่ะ หนูอยากเห็นพ่อปวีร์ตามง้อเมีย ฟิน~
-
ขอกดศูนย์ ติดต่อโอเปอเรเตอร์ นะคะ
เค้าล้อเล่น ขอกด 1 ให้หัวหน้าสิคะ เราไม่นิยมให้พระเอกโหดร้าย
-
กด 1 กับ 2 พร้อมกันเลยได้มั้ยเนี่ยยย แต่ก็เชียร์ปวีร์อยู่นะ
-
ขอโหวต 1 กานต์ค่า อิอิ
อยากให้กานต์ท้องไวๆ แล้วเอาคืนปวีร์แรงๆเลย
-
ไอ้ปวีร์!!! อ่านแล้วรู้สึกเกลียดและกลัวแทนหนูกานต์ T.T
-
ปวีร์ดูเห็นแก่ตัวยังไงไม่รู้นะเนี่ย
-
ขอสนับสนุนอีกเสียงเรื่องยาวเถอะค่าบบบบบบบบบบบบ
หนุกมากกก
:ruready :ruready :ruready
-
:impress2:
ตามๆ
-
อ้าว ไม่มีเชียร์ปวีร์กดกานต์หลายๆรอบเหรอ ฮาาาา
:z1:
อยากให้กานต์ท้องเร็วๆจัง-..-
-
:m16: ปวีร์เลวมาก :beat:
-
คือรู้ไหมว่าหัวหน้าท้องได้ :ruready
-
เมื่อไหร่จะทำให้ปวีร์รู้สึกบ้าง.. :m31:
-
เลือกหัวหน้ากานต์ ค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
อยากเห็นหน้า อีตาปวีร์ ตอนที่มันรู้ว่าหัวหน้าการต์ท้องจริงๆ ฮึ่มมม :katai1:
-
หื่นทุกตอนเลย :m25: คือแบบ...ปวีร์แกไม่คิดบ้างเหรอว่าหัวหน้าอาจจะท้องขึ้นมาก็ได้ หรือลืมนึกถึงไป... เสียบสดตลอดดดดด
แถมคนแต่งจั่วหัวไว้ชัดแจ๋ว รับประกันได้ว่าหัวหน้าต้องท้องแน่ๆ แต่จะช้าหรือเร็วก็อีกเรื่อง ถ้าแกรู้แกจะรับผิดชอบเขามั้ยเนี่ยนายปวีร์เอ้ยยยย
-
ปวีร์ทำเกินไปน่ะ คือสงสารกานต์อ่ะไม่ได้หลับไม่ได้นอน
ร่างกายอ่อนเพลีย พระเอกของเราก็อึดทนนาน สงสารกานต์บ้างงงงงง :mew3:
-
ปวีร์มันหื่นสุดๆเลยอ่ะ
-
:hao6: :hao6:
-
เชียร์กานต์
ขอใหืมีคนมาจีบเยอะๆ
-
อยากรู้ว่าเรื่องนี้ที่แต่งให้ผู้ชายท้องได้นั้น จะเป็นเฉพาะนายเอกคนนี้เท่านั้น หรือปกติทั่วไปก็ท้องได้คะ เพราะอ่านตอนที่กานต์ไปขอซื้อยาคุมฉุกเฉิน เภสัชถามว่าเอาของผู้ชายหรือผู้หญิง เหมือนว่าผู้ชายก็ท้องได้เป็นเรื่อปกติขิงนิยายเรื่องนี้อ่ะค่ะ
ี่ที่สงสัยเพราะ หากเป็นเรื่องปกติแล้ว อีตาพระเอกที่ไม่ค่อยจะยอมป้องกัน แสดงว่าก็ต้องรู้ว่ามีสิทธิ์ท้องได้นะ แต่ถ้าไม่ใช่ แสดงว่าต่อไปหากกานต์ท้อง คงได้เซอร์ไพร์กันมากมาย และหวังว่าตาวีย์นี่จะรับผิดชอบลูกและรักกานต์มากกว่าจะที่อยากเอาชนะนะ
-
ลูกที่เกิดมาจะไม่มีปัญหาครอบครัวใช่ไหม? เพราะพ่อทั้งสองไม่ชอบหน้ากัน? อิอิ
-
ไม่รู้ทำไมอยากกด 2 รัวๆๆๆ :hao6: ปวีร์มันก็ดีของมันนะ ถ้าไม่นับวางยา ปล้ำ เสียบสด ขู่ได้โล่
เอ่ สรุปนี่ดีของมันแล้วสินะ ฮาาาาา :hao7: เอาน่ะตามคอนเซ็ปต์ชื่อเรื่อง นี่เรื่องสั้นแล้วหรอคะ
ทำไมรู้สึกกว่าจะท้องมันนานจัง หรือเป็นเพราะอัพอาทิตย์ละครั้ง ฮาาาา
ก้าวก่ายนิดหนึ่ง
"ผมมีความสุขมากเลยนะ เวลาเห็นคุณเสียศูนย์เพราะผมแบบเนี้ย"
หรือ "ผมมีความสุขมากเลยนะ เวลาเห็นคุณเสียศูนย์เพราะผมเนี่ย"
อ่านแล้วรู้สึกมันแปลกๆ
ปวีร์ลูบไปถึงซอกขาแล้วดึงกางเกงเขาให้ร่วงลงกับพื้น
แล้วก็ซุกไซ้ ใช้คำนี้นะคะ
ไม่ได้เก่งภาษาไทยอะไรหรอกแแต่อ่านแล้วสะดุด(อนุญาตให้ตบอิฉันได้ค่ะ)
ก้าวก่ายไปมั้ยคะเนี่ย ขอโทษล่วงหน้าก่อนเลยละกัน ส่วนเรื่องคำอุทานคงไม่ขอก้าวก่ายนะคะ
-
เอิ้กกกกก ตอนนี้มีแอบน่ารักนะ แต่มันจะหื่นไปไหมเนี่ย ที่บ่นไม่ใช่อะไร ชอบบบบ :hao7:
-
ยังเลวได้อีก " ปวีร์"
หัวหน้าค่ะ ท้องแล้วก็หนีมันไปเลย ให้ไอ้ ปวีร์ มีนทุรนทุรายบ้าง
:beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:
-
อยากเห็นกานเอาคืนเร็วๆๆๆจัง
ยังเชียร์ปวีรกดน่ะ อิอิ
-
มาต่อเลยได้ไหม... อย่าปล่อยให้มันค้างไป ~
-
กดเชียร์หัวหน้ากานต์ออนท๊อป #ผิด :laugh:
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ชอบหัวหน้ากานต์ ในขณะที่ก็เชียร์ปวีร์ให้ลบคมหัวหน้ากานต์ด้วย
เอาเป็นว่าดูๆไปก่อน :hao6:
-
:z1: ท้องแล้วใช่มั้ย :z1:
อยากเห็นตอนหวานๆจังเลย ^^
-
เลือกหัวหน้ากานต์ค่ะ
ความสะใจล้วนๆ หมั่นไส้นังคุณชายปวีร์มาก :beat: :beat:
-
:z1:
กด๑ เอาคืนๆๆๆๆๆ กับท้องๆไปพร้อมๆกัน ก๊ากกกกกกก :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
-
ให้ 1 กับ 2 เค้ากดกันเอง รอดูอย่างเดียว 55555
-
วีร์น่ารักอ้าาาาาา ยกป้ายไฟ !!!! :-[
-
เป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ
-
กดใครไม่รู้ รู้แต่เชียร์ปวีรณ์กดหัวหน้ากานต์ :haun4: :haun4:
-
บางทีนายก็ดูเป็นพ่อบ้านไปนะวี :ruready
รอนะฮะ :')
-
เง้ยยยย
หัวหน้ากานต์น่ารักกกก :)
-
แซ่บตลอดดดดดดด :hao6:
-
:sad4: :sad4: :sad4: น่าฉงฉานกานจัง :hao6:
-
ดูๆไปก็น่ารักดีแฮะ~ คู่นี้ >.<
-
ปวีร์ก็มีโมเมนต์น่ารักๆกับเขาเหมือนกันแฮะ เห็นแต่เอะอะเอะจับกด อุฮิ :-[ :-[
รอตอนต่อไปค่ะ มาไวๆน๊าาา~
-
พระเอกเรื่องนี้เอาแต่ใจมากก ชีวิตนี้ มีแต่เซ็ก ว่างั้น ทำทุกวี่ทุกวัน เห็นใจคนโดนบ้างสิวะ
แล้วถุงอะทำไมไม่ใส่ ท้องขึ้นมาสงสารเด็กไหม แล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่มีโรค
-
ปวีร์หื่นขนาดนี้ ลูกดกแน่ๆ เมื่อไหร่จะท้องนะ ตื่นเต้นๆ
-
ไม่ชอบนิสัยทําอะไรเอาแต่ความสะใจของปวีร์เลย เข้าขั้นเกลียดเลยล่ะ :z6: :z6:
เชียร์หัวหน้ากานต์ให้ย้ายหนีๆ ออกไปเลยค่ะ
-
นี่มันอาชญากรรมชัดๆ
ถ้าไม่ติดขนบนิยาย ที่คนอ่านญิงสาวชอบแฟนตาซีให้ตัวเอง โดนหนุ่มรูปหล่อ มาเติมเต็มจินตนาการทางเพศผ่านตัวแทนนายเอกที่อ้อนแอ้นโดยการขืนใจ (เพราะว่าไม่ได้ยินยอม แต่ต้องตามเพราะฝืนธรรมชาติของร่างกายไม่ได้) ผ่านการมีเซ็กซ์รูปแบบต่างๆ จนฟินกัน ในความเป็นจริง เป็นไอ้อ้วนหื่นสักคนมาทำอย่างนี้ เกิดขึ้นกับใครคงมีฆ่าตัวตายหรือไม่ก็ฆ่าไอ้อ้วนหื่นไปแล้ว ต้องตายกันไปข้าง การข่มขืน ลดทอนศักดิ์ศรีมนุษย์ครั้งที่หนึ่ง ดันมีแบล็กเมล์ข่มขู่อีก ศักดิ์ศรีโดนเหยียบย่ำครั้งแล้วครั้งเล่า พระเอกเองหน้าตาก็มี สมองก็มี ไม่มีทางพิชิตใจแล้วหรอ ทำวิธีนี้มันเลวและอึดอัดแทนนางเอกมากๆ ไม่ฟินเลยแม้แต่นิดค่ะ
จัดเถอะ จะรออ่าน วิจารณ์อะไรแรงไปก็ขออภัย แต่จัดให้คนเลวได้รับผลกรรมเถอะ อย่าให้เป็นขนบนิยายเชยๆที่คนหน้าตาดีชนะทุกอย่างและได้ครองคู่อย่างราบรื่นนะ รับไม่ได้
-
ปวีร์ จะทำอะไรอะไร ก็คิดถึงหัวใจของอีกคนบ้างนะ
*พูดลอยๆ
// แอบเชียร์ให้กานต์หนีไปให้ไกล
-
กด 1 เชียร์หัวหน้าค่ะ
ปวีร์เลวไปแล้วน่ะอยากให้หัวหน้าเอาคืนจริงๆ :m16:
-
ตกลงปวีร์เนี่ย ชอบหัวหน้ากานต์สักนิดมั้ย เพราะคำพูด ความคิดการกระทำมันไม่มีความรู้สึกแบบนั้นส่งออกมาเลย
สนุกค่ะ อยากอ่านต่อแล้ววว
-
:katai5: :katai5:ตามติดๆๆ
-
กด ๑ รอชนกานต์เอาคืนค่ะ
ปวีร์มีความดีที่หาได้น้อยนิด เทียบกับความเลวทรามมหาศาล
ตอนแรกก็ว่าจะชมที่ทำข้าวผัดให้ แต่ก็ยังใส่ยาไปอีก กลับลำแทบไม่ทัน
หื่นก็เป็นที่หนึ่ง ทั้งกลางวันกลางคืน ขนาดคนหลับก็ยังทำไม่สนใจ
ชนกานต์ท้องขึ้นมาแล้วจะรู้สึก
ต้องเอาคืนให้ทุกข์ทรมานกว่านี้พันเท่า
:fire: :fire: :fire:
-
เรื่องยาวเถอะ สนุกมาก
-
รอตอนต่อไป อัพเร็วๆน้า..
-
ปวีร์นี่หื่นได้ใจเลย :hao6: แต่ก็นะพอวีร์หื่นมากๆก็สงสารหัวหน้าชนอ่ะ
-
สนุกมากจร้าาาาา ขอบคุณครับ
-
ถ้าพระเอก มันบอกรักเขาสักทเชียร์ขาดใจเลย
แต่นี่มันกวรประสาทไม่ถนอมกันเลย
ทำแบบนี้ ท้องชัวร์
-
Ch.7
วันนี้ออกจะเป็นภาพแปลกตาสำหรับคนในบริษัทที่เห็นชนกานต์เข้ามาในออฟฟิศพร้อมกับปวีร์ แน่นอนว่าต่อหน้าชนกานต์ที่ทำหน้าบึ้งตึงพร้อมจะกินหัวใครสักคนนั้นย่อมไม่มีใครกล้าถามกล้าแซว
พอถึงหน้าห้องตัวเอง ชนกานต์ก็หันมองปวีร์ตาขวางก่อนเดินกระทืบส้นเท้าเข้าห้องไป ปวีร์อมยิ้มขำ รู้ดีว่าอีกฝ่ายโมโหอารมณ์เสียเพราะเขาไม่ยอมคืนกระเป๋าเงินกับกุญแจให้ ชนกานต์ได้คืนเพียงแค่มือถือที่ต้องใช้ติดต่องาน และแน่นอนว่าเขาจัดการแอบเปิดแอพเชื่อมต่อที่จะทำให้เขารู้ว่าชนกานต์อยู่ที่ไหนเอาไว้แล้วเรียบร้อย
อารมณ์มาคุของชนกานต์ดำเนินต่อเนื่องไปจนกระทั่งพักเที่ยงของวัน พนักงานในบริษัทต้องประหลาดใจอีกรอบที่เห็นชนกานต์กับปวีร์นั่งทานมื้อกลางวันด้วยกัน
"นี่คุณ..ผมไม่แย่งคุณกินหรอนะ กินช้าหน่อยก็ได้" ปวีร์เอ่ยแซวคนที่ไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะอย่างขำๆเพราะชนกานต์ก้มหน้าก้มตาคีบเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างไม่สนใจใคร ดูก็รู้ว่ารีบกินจะได้หนีไปให้พ้นจากหน้าเขา
คนถูกแซวทำแค่เหลือบมองปวีร์ขวางๆแล้วกินต่อไม่สนใจ
"อ๋อ..หรือว่าหัวหน้ากานต์จะรีบกินแล้วชวนผมไปห้องเอกสารครับ?"
"แค่ก! แค่ก!" ชนกานต์สำลักจนเส้นบะหมี่เกือบพุ่งออกจากจมูก ปวีร์ยิ้มขำแล้วดึงกระดาษทิชชู่ส่งให้ ชนกานต์เมินใส่แล้วเอื้อมมือไปดึงทิชชู่มาเช็ดเอง ปวีร์ไหวไหล่ ใช้ทิชชู่เช็ดน้ำที่เปื้อนโต๊ะแทน
"ตกลง..กินเสร็จแล้ว ไปห้องเอกสารกันนะครับ" ชนกานต์ทำหน้าเหมือนอยากชกปวีร์ก่อนยกขาเตะขาปวีร์ใต้โต๊ะ
"โอ้ย!" ปวีร์แกล้งร้องแล้วทำหน้ายียวน เพราะรู้ทันว่าชนกานต์จะต้องเตะขามาเลยขยับหนีไปก่อน ชนกานต์ฮึดฮัดแล้วหันไปสนใจบะหมี่ของตัวเองต่อ จงใจยื้อเวลาด้วยการตัดน้ำซุปละเลียดชิมทีละน้อยและคีบบะหมี่เข้าปากทีละเส้น
ปวีร์มองคนหัวหมออย่างขำๆ สนุกที่ได้แกล้งชนกานต์และเฝ้ามองการเอาคืนที่ชนกานต์คงไม่รู้ตัวว่ามันเป็นการเอาคืนแบบเด็กๆผิดมาดผู้ใหญ่ที่ตัวเองชอบเก็กอยู่เสมอ!
ตกเย็นปวีร์ก็มาดักชนกานต์เอาไว้เช่นเดิม คนที่ไม่มีเงินแถมทั้งกุญแจห้องกับคีย์การ์ดคอนโดโดนยึดไปดูเหมือนจะเพิ่มความหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
ปัง!
ชนกานต์กระแทกตัวนั่งบนรถได้ก็กระชากประตูปิดแรงๆจนเสียงสนั่น พาเอาพนักงานที่เดินผ่านถึงขั้นสะดุ้งแล้วหันกลับมามอง แต่เจ้าของรถอย่างปวีร์กลับอารมณ์ดี
"เพิ่งรู้นะครับนี่ ว่าคุณอยากให้คนอื่นรู้ด้วย ว่าเรากลับด้วยกัน"
ปวีร์พูดแล้วยิ้มกวน ชนกานต์สบถจับใจความไม่ได้ในลำคอก่อนหันหน้าหนีไปมองข้างทาง
ความมืดที่โปรยปรายลงมาทำให้เห็นเงาตัวเองสะท้อนบนหน้าต่างรถ ชนกานต์เหม่อมองใบหน้าบึ้งของตัวเองแล้วก็เห็นเงาปวีร์สะท้อนมาด้วย
คู่ชังของเขาอายุน้อยกว่าสองปี ถ้าไม่นับความกวนตีน ปวีร์ถือว่าเป็นคนเก่ง และมีเสน่ห์มาก แต่เพราะมีความกวนตีนเป็นเหมือนเงาที่สองของร่างกาย ชนกานต์เลยชังน้ำหน้ามาตั้งแต่แรกๆที่ได้รู้จัก และตอนนี้ก็เพิ่มพูนความชังนั้นมากขึ้นไปอีกกับสิ่งที่เกิดขึ้นและไม่รู้ว่าต้องทนอีกนานแค่ไหนกันด้วย
ชนกานต์กระแทกลมหายใจออกหงุดหงิดใจ
ไม่ชอบตกเป็นเบื้องล่างของใคร คนชอบเอาชนะอย่างเขาไม่ชอบที่จะแพ้
ต้องทำอะไรสักอย่างกับรูปที่ปวีร์ถ่ายไว้แบล็คเมล และแก้แค้นคืนให้ปวีร์กระอักเล่น!
ชนกานต์ค่อยๆตั้งสติแล้วนึกว่าทำไมปวีร์จึงต้องจำเพาะเจาะจงมายุ่งกับเขาทั้งที่เขาแสนจะชังขี้หน้าอีกฝ่าย คำตอบมันก็ดูเหมือนจะไม่ยาก
เพราะเขาเกลียดปวีร์นั่นเอง!
อีกทั้งยังเป็นคู่แข่งกัน ปวีร์ทำแบบนี้เพราะหวังจะทำให้เขาเสียศูนย์เพื่อตัวเองจะได้เป็นฝ่ายชนะแน่ๆ
ชนกานต์ได้เหตุผลแล้วนึกแค้น ครุ่นคิดหาวิธีแก้เผ็ดปวีร์ต่อว่าจะทำอย่างไรดี
ด้วยความเป็นนักคิดอยู่แล้ว พอตั้งสติคิดดูก็หาได้ไม่ยากนัก ปวีร์ชอบยั่วโมโหเขาแล้วก็ทำท่าชอบใจเสมอเวลาเขาโมโห
ถ้ากลับกันล่ะ?
หากปวีร์ยั่วให้เขาโมโห แต่เขาตอบโต้ไปด้วยท่าทางที่ต่างกันล่ะ?
เรื่องบนเตียงก็เหมือนกัน!
ชนกานต์ยิ้มมุมปากหมายมั่นในใจว่าจะพลิกเกมนี้ให้ได้ ถึงมันจะต้องใช้ความอดทนเกินขีดจำกัดไปเป็นล้านเท่าก็ตามที!
ชนกานต์นั่งคิดอย่างหมายมั่นได้สักพักก็รู้ตัวว่าปวีร์ไม่ได้ขับรถไปยังคอนโดจึงหันมามองอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่
"นี่จะไปไหน?"
"ไปหามื้อเย็นกินน่ะสิ หรือคุณไม่หิว ถ้าไม่หิวผมจะได้พากลับห้อง"
ชนกานต์นิ่งไป คำนวนแล้วก็แน่นอนว่าต้องเลือกไปกินมื้อเย็นอยู่แล้ว
"แล้วนายจะพาฉันไปกินที่ไหน?" ชนกานต์กลั้นใจเอ่ยถามไปโดยไม่ให้ตัวเองกระชากเสียงใช่ปวีร์อย่างเคย ปวีร์หันมาหรี่ตามองคล้ายจะจับผิดก็แกล้งหันไปทางอื่น
"ผมมีร้านประจำที่ไปบ่อยๆอยู่ บรรยากาศดี อาหารอร่อย ไม่ไกลจากที่นี่ คิดว่าคุณน่าจะถูกปากบ้าง" ชนกานต์รับฟังอย่างไม่ใส่ใจ แต่พอถึงร้านก็ต้องยอมรับว่ารสนิยมของปวีร์นั้นดี และอาหารอร่อยจริง ทว่าสิ่งที่ชนกานต์แสดงออกให้ปวีร์เห็นคือท่าทีซังกะตายไร้เรี่ยวแรง เหม่อลอยและเคลื่อนไหวตัวเหมือนไม่มีจิตวิญญาณ เหมือนคนที่นั่งกินข้าวอยู่กับปวีร์นี้คือวอล์คเกอร์ในเดอะวอล์คกิ้งเดดอย่างไรอย่างนั้น
"นี่ถ้าคุณไปแคสบทวอล์คเกอร์คงได้เล่นแน่ๆ" ชนกานต์เหลือบตาขึ้นมามองก่อนตักอาหารเข้าปากไป ไม่โต้ตอบอะไร สีหน้านิ่งเฉยติดจะเบื่อหน่าย ปวีร์เลิกคิ้ว ผิดคาดที่ชนกานต์ไม่โต้ตอบ
"ไม่เคยดูหรอ?"
ชนกานต์ยังคงจิ้มอาหารเข้าปากโดยไม่พูดอะไร และเป็นเช่นนั้นตลอดมื้ออาหารที่ปวีร์พยายามแหย่ให้โกรธอีกด้วย
"คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำท่าเหมือนคนแบตหมด?"
ปวีร์เอ่ยถามเมื่อกลับถึงห้อง ชนกานต์ปรายตามองก่อนไหวไหล่ไม่พูดอะไรตอบ
ปวีร์หรี่ตามองสังเกตทีท่า พอจะเข้าใจทันทีว่าชนกานต์กำลังเล่นอะไรอยู่เลยลอบยิ้มมุมปากแล้วเดินไปสวมกอดจากทางด้านหลัง คนถูกกอดแข็งตัวยืนนิ่งเหมือนรูปปั้น เขาไล้มือไปตามลำแขนมาหยุดนวดเบาๆที่ท้ายทอย
"ไปอาบน้ำกัน" ปวีร์กระซิบข้างหูก่อนโอบเอวบางเดินไปที่ห้องน้ำ เหลือบมองทีท่าของชนกานต์เป็นระยะ
ชนกานต์เปลี่ยนท่าทีได้ เขาเองก็ทำได้เช่นกัน!
ชนกานต์คงไม่รู้ว่าการแสดงทีท่าเหนื่อยหน่ายกับชีวิตและไม่ยอมโต้ตอบอะไรกลับคืนมาของตนนั้นทำให้ปวีร์รู้สึกสนุกมากกว่าเดิม เพราะจะรอดูว่าชนกานต์จะทนไม่ไหว วีนกลับมาเมื่อไหร่กัน
ใบหน้าอารมณ์ดีของปวีร์พาให้ชนกานต์อยากเอาศอกไปกระแทกหน้าหล่อๆสักทีสองที แต่ก็พยายามอดทนไว้ ปล่อยให้ปวีร์ปลดเสื้อผ้าออกจากร่างไปจนหมด
“ถอดให้ผมบ้างสิครับ” คนเจ้าเล่ห์โน้มมากระซิบข้างหู ชนกานต์อยากทำหน้ายี้ใส่แต่ข่มตัวเองไว้ จัดการถอดเสื้อผ้าให้ปวีร์เหมือนหุ่นยนต์ที่ได้รับคำสั่งมาให้ปฏิบัติการณ์ ถอดเสร็จก็ยืนนิ่ง วางสีหน้าเรียบเฉยจนน่าแกล้ง ปวีร์เลยโอบเอวให้เข้ามาชิด มือลูบไปตามแผ่นหลังเนียนและใช้อีกมือถอดแว่นของชนกานต์ไปวางไว้ที่เคาน์เตอร์ล้างหน้า
ปวีร์แกล้งเลื่อนหน้าไปจูบบริเวณกกหูแล้วคลอเคลียเหมือนแมว มือลูบไปตามผิวกายขาวช้าๆ ดันชนกานต์ให้เดินถอยหลังจนไปอยู่ใต้ฝักบัว
เริ่มต้นเล้าโลมเชื่องช้าและอ่อนโยนก่อนทุกครั้ง
ชนกานต์เม้มปากแน่นเชิดหน้าขึ้นไม่ยอมมองคนที่ไล้จูบไปตามผิวกายตนเอง ละอองน้ำจากฝักบัวปะทะผิวหน้า ความเย็นจากสายน้ำไม่อาจบรรเทาความรุ่มร้อนที่ปวีร์กำลังสร้างได้ ริมฝีปากร้อนลากไล้ไปจนถึงส่วนลำกาย เรียวขาเกร็งขึ้นทันทีที่ปวีร์ใช้ริมฝีปากดูดส่วนอ่อนไหว ปลุกเร้าเพียงนิดมันก็ตื่นขึ้นมาทั้งที่ชนกานต์พยายามข่มใจตัวเอง ปวีร์กระตุ้นจนได้จังหวะแล้วจึงลุกขึ้น จับชนกานต์หมุนกายหันหลังแล้วกดแกนกายถูไถกับปากช่องทาง
"ถุงยาง..สวมด้วย" ชนกานต์บอกเสียงห้าว ปวีร์ยิ้มมุมปาก โน้มไปกระซิบข้างหู
"ผมขี้เกียจออกไปเอา ขอแบบสดก็แล้วกัน"
ชนกานต์สั่นหัว เรือนผมชุ่มน้ำสะบัดไปมา ศอกดันปวีร์ให้ออกห่างก่อนหยุดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจะแกล้งทำตัวเป็นเด็กดีทำตามทุกอย่างที่ปวีร์ต้องการ ปวีร์จะได้เบื่อเร็วๆ
"แล้วแต่นายก็แล้วกัน แต่อย่าปล่อยในล่ะ"
บอกแค่นั้นก่อนถอนหายใจ เหนื่อยที่ต้องฝืนไม่แสดงอารมณ์มากเกินไป
ปวีร์ยิ้มมุมปากแล้วดันกายเข้าทีละน้อยให้ชนกานต์คุ้นเคยกับขนาด สอดแขนโอบกอดร่างเปลือยนุ่มไว้แล้วถามข้างหู
"ทำไมคุณถึงดูกังวลจัง? หรือว่าไม่เคยคุมไว้?" ปวีร์ถามอย่างสงสัย ชนกานต์แค่เหลือบตามองโดยไม่ตอบอะไร แต่แววตาดูเครียดไม่น้อย ปวีร์ฉุกคิดได้ในตอนนั้นเองว่าที่ผ่านมาชนกานต์ไม่เคยนอนกับผู้ชาย จึงมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะไม่เคยคุมกำเนิดมาก่อน
"อย่าห่วงไปเลยน่า..ผมเป็นพ่อได้ดีกว่าที่คุณคิดแน่" ปวีร์เย้าขณะใช้สองมือจับเอวบางไว้แล้วเริ่มโยกสะโพก ชนกานต์เม้มปาก นึกไม่พอใจคำพูดที่ดูเหมือนจะไม่ผ่านการกลั่นกรองทางความคิดของคนพูดเลยสักนิด
"ฉันไม่อยากมีลูกกับคนที่เกลียดหรอกนะ"
ปวีร์นิ่งไปนิดก่อนขยับต่อ
"ถ้างั้นคุณก็รักผมสิ จะได้มีลูกกับคนที่รักแทนคนที่เกลียดไง"
ชนกานต์อดไม่ได้ที่จะเบ้หน้าและเอียงหน้าหลบริมฝีปากที่ซุกไซ้ไล้จูบอยู่
"ใครจะรักคนอย่างนายลงกัน รู้ไว้เถอะว่าฉันขยะแขยงนายเต็มที"
แม้ร่างกายจะไม่ขัดขืน แต่วาจาและแววตานั้นไม่ยอมแพ้ในแบบฉบับของหัวหน้ากานต์ที่ปวีร์ชื่นชอบหนักหนา ปวีร์ยิ้มอย่างอารมณ์ดี
"แต่ผมว่าเราเป็นคู่ที่เพอร์เฟคมากเลยนะครับ คุณไม่คิดแบบนั้นหรอ?" ถามแล้วลากมือลูบไปที่หน้าอด ใช้ปลายนิ้วบดเบียดกระตุ้นเร้า
"ไม่คิด!" ชนกานต์สวนทันทีแล้วกัดปากแน่น พยายามไม่โต้เถียงอะไรอีกเพราะต้องใช้ความพยายามในการควบคุมตัวเองไม่ให้โอนอ่อนเคลิ้มไปตามอารมณ์กับสิ่งที่ปวีร์ทำ
ปวีร์ได้แต่หัวเราะคนเจ้าทิฐิในใจขณะที่พาจังหวะรักให้ดำเนินไปจนถึงด่านสุดท้ายด้วยกัน
หลายวันต่อมา ชนกานต์ยังคงเฝ้ารอให้ปวีร์เบื่อหน่ายตน และหาโอกาสทำลายไฟล์รูปเปลือยของตน แต่ปวีร์กลับไม่แสดงทีท่าว่าจะเบื่อเขาง่ายๆ ซ้ำยังดูมีความสุขมากขึ้นไปอีกที่เขาไม่ดื้อรั้นเหมือนเคย โอกาสทำลายรูปก็ไม่มี
ชนกานต์นึกเบื่อตัวเองที่ต้องฝืนใจทำอะไรแบบนี้ ถึงบางตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกัน ปวีร์จะคอยดูแลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องอาหารหรือเรื่องเสื้อผ้าให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องก็ตาม แต่คนที่ชื่นชอบการดูแลตัวเองอย่างเขาก็ไม่ได้ชอบใจ ถึงขั้นไม่สบอารมณ์ด้วยซ้ำ เพราะบางทีมันก็ดูจะมากเกินไปจนเหมือนเขาทำอะไรเองไม่เป็น เหมือนเด็กที่ตื่นมาก็มีข้าวให้กิน อาบน้ำเสร็จก็มีเสื้อผ้าให้นุ่งเรียบร้อยๆ วันๆนอกจากไปทำงานแล้วก็ได้แต่นอนอ้าขาเหมือนเซ็กส์ดอลล์ให้ปวีร์ทำ
ความอดทนที่มีเริ่มสิ้นสุดลง
ชนกานต์จัดการติดต่อไปยังคนรู้จักให้หาของที่ต้องการมาให้ ไม่นานนักก็ได้ในสิ่งที่ต้องการมา
"อย่าเอาไปฆ่าใครเขาล่ะ" ดนัยหยอกถามเมื่อเห็นหน้าเหี้ยมๆของคนเก็บกดมาเป็นอาทิตย์
"จะพยายาม" ชนกานต์ตอบแล้วเก็บของใส่กระเป๋าไป ดนัยเหล่มองก่อนไหวไหล่
"เอ้า แล้วนี่โปรแกรมที่อยากได้" ไมโครชิฟตัวเล็กถูกยื่นมาให้ ชนกานต์รับไปแล้วเอ่ยขอบคุณ ดวงตาคู่เรียวมองดูไมโครชิฟอย่างมาดหมายที่จะกำจัดจุดอ่อนของตัวเองที่ปวีร์ใช้บีบบังคับตัวเองให้สิ้นซากลงเสียที
ชนกานต์อยู่คุยกับดนัยไม่นานก็รีบกลับเข้าบริษัททันทีเพื่อไม่ให้ปวีร์สงสัย พอตกเย็นก็ทำตัวว่าง่ายเช่นเคย จนทานมื้อเย็นกันเสร็จ ปวีร์ก็พากลับไปยังคอนโดเช่นเคย ชนกานต์รอเวลาที่ปวีร์เผลอหันหลังให้ล้วงมือหยิบเอาของที่ซ่อนในกระเป๋าออกมา
“ถึงเวลาหยุดเล่นเกมนี้กันสักทีได้แล้ว” ชนกานต์สาวเท้าเข้าไปทางด้านหลังของปวีร์ที่กำลังอยู่หน้าตู้เย็น ปวีร์เลิกคิ้วแล้วละมือจากขวดน้ำแร่ที่จะหยิบ พอหันกลับมามองก็เห็นปากกระบอกปืนจ่ออยู่ในระยะประชิด
“จะเล่นปืนกันเลยหรอครับ? บอกไว้ก่อนนะว่าผมไม่กลัวปืนโมเดลนะครับ”
ปวีร์เอ่ยอย่างยียวน ชนกานต์กระตุกยิ้มมุมปากก่อนหยิบที่เก็บเสียงมาจากกระเป๋ากางเกงและต่อเข้ากับปลายปากกระบอก สายตายังคงมองอยู่ที่ปวีร์ ปวีร์มองท่าทางชำนาญของชนกานต์ด้วยความประหลาดใจไม่น้อย และความประหลาดใจก็เปลี่ยนเป็นความตะลึงเมื่อชนกานต์ใช้ปืนกระบอกนั้นยกขึ้นมาทางเขาและยิงออกมาหนึ่งนัด
ฟิ้ว!
เหมือนเสียงสายลมผ่านใบหูไปในระยะประชิด ปวีร์หันมองไปด้านหลังด้วยสัญชาตญาณ
ที่ประตูตู้เย็นด้านหลังมีรอยลูกกระสุนอยู่ ชนกานต์ยิ้มมุมปากอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า
“ขอบอกไว้ก่อนเหมือนกัน..ว่าสมัยเรียนฉันอยู่ชมรมยิงปืนนะ”
ชนกานต์บอกแล้วตั้งท่าจะยิงอีกหน ปวีร์รีบยกสองมือขึ้นระดับไหล่แล้วกระโดดหนีจากจุดที่ยืนอยู่
“โอเค...ผมเชื่อแล้วว่าปืนที่คุณถืออยู่มันไม่ใช่ของปลอม”
ชนกานต์ยิ้มเย้ย รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่ทำเช่นนี้และคิดว่าน่าจะทำมาตั้งนานแล้วด้วย
“เอานี่ไปใส่ที่มือของนายซะ” ชนกานต์ว่าแล้วโยนกุญแจมือไปให้ ปวีร์มองกุญแจมือที่ตกอยู่ตรงพื้นด้วยสีหน้าขำไม่ออก ชนกานต์มองสีหน้านั้นด้วยความสะใจ
“ใส่เร็วเข้าสิ!” ชนกานต์สั่งแล้วยิงปืนไปอีกนัด ลูกกระสุนฝังลงที่พื้นใกล้เท้าปวีร์ ปวีร์สะดุ้งกระโดดหนีอีกรอบ มองหน้าชนกานต์ที่เอาจริงแล้วก็ยอมก้มลงไปเก็บกุญแจมือขึ้นมา
“ใส่ไปที่ข้อมือของนายทั้งสองข้าง” ปวีร์ทำตามที่ชนกานต์สั่ง ก่อนมองไปที่ชนกานต์ซึ่งทำตัวว่าง่ายมาหลายวันแต่วันนี้กลับลุกขึ้นมาเล่นบทโหดอย่างนี้
“ทีนี้ก็มานั่งตรงนั้น”
ชนกานต์ใช้ปืนชี้ไปที่โต๊ะทำงานของปวีร์ ปวีร์เดินไปนั่งแล้วมองปืนของชนกานต์ คิดหาทางแย่งปืนมาแต่ชนกานต์ก็ดูไม่เปิดช่องว่างให้เท่าไหร่
ชนกานต์จัดการเปิดโน้ตบุ๊กของปวีร์ขึ้นมาแล้วเสียบไมโครชิฟที่ได้จากดนัยลงไป ไม่นานโปรแกรมจากไมโครชิฟก็ประมวลผลขึ้นมา ปวีร์มองดูก็รู้ทันทีว่าชนกานต์คิดจะให้ลบไฟล์ที่เขาฝากไว้บนคลาวด์อยู่
ฝ่ายชนกานต์ที่กำลังมองอยู่ก็กระตุกยิ้มเมื่อเห็นรายชื่อเวปที่ปวีร์เข้าใช้งานอยู่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาคีย์วันที่ลงไปเพื่อจำกัดวงให้แคบ ก็เหลือเพียงไม่กี่เวปไซด์ที่ปวีร์ใช้งานนับตั้งแต่วันที่ลากเขาเข้าโมเตลไป
“ลบภาพออกให้หมดทุกเวปที่นายฝากไว้” ชนกานต์สั่งแล้วแนบกระบอกปืนกับขมับของปวีร์
“โอเคๆ..ใจเย็นๆ” ปวีร์ว่าแล้วหยิบเม้าส์มาคลิกเปิดเวปที่ใช้ฝากไฟล์แล้วจัดการลบ ชนกานต์คอยมองอยู่ เห็นปวีร์ลบไปเพียงเวปเดียวแล้วไม่เปิดเวปอื่นต่อก็สงสัย
“มีแค่เวปเดียวหรอ?”
“ใช่ ผมฝากไว้แค่เวปนี้เวปเดียว”
“ฉันไม่เชื่อ เปิดเข้าไปดูในเวปอื่นด้วย” ปวีร์ทำตามที่ชนกานต์บอก จัดการเข้าไปในเวปอื่น ชนกานต์แย่งเม้าส์มาจัดการคลิกดูให้แน่ใจว่าไม่มีรูปตัวเองเหลืออยู่อีก ปวีร์เห็นว่าชนกานต์กำลังสนใจกับไฟล์ในเวปก็สบโอกาส ใช้ข้อมือกระแทกเข้ากับมือที่ชนกานต์ถือปืนอยู่พร้อมกับลุกขึ้น ใช้ตัวกระแทกชนกานต์ให้ล้มไปบนพื้น
“มีปืนก็ใช่ว่าจะชนะได้นะครับ” ปวีร์ยกยิ้มมุมปาก ใช้ตัวเองกดทับชนกานต์ไม่ให้ดิ้นหนีไปไหน ชนกานต์นึกโมโหตัวเองที่มีช่องว่างให้ปวีร์เล่นงานคืนได้ สองขาพยายามถีบปวีร์ให้ลุกออกไปแล้วกระเสือกกระสนจะไปหยิบปืนที่ตกห่างออกไป ปวีร์รีบตะครุบมือข้างนั้นไว้แล้วโน้มหน้ามาใกล้
“ถ้าไม่มีปืนคุณก็ทำอะไรผมไม่ได้แล้วสินะครับ”ปวีร์ยิ้มอย่างเป็นต่อ ชนกานต์สบถในลำคอก่อนจะนึกถึงอีกสิ่งที่ฝากให้ดนัยเอามาให้ ชนกานต์แกล้งทำเป็นดิ้นรนให้ปวีร์ออกแรงกดตัวเองและพุ่งความสนใจไปที่มือที่พยายามจะหยิบปืน แต่อีกมือกลับหยิบเอาอีกอย่างออกมา
“แล้วถ้าฉันไม่ได้มีแค่ปืนล่ะ” พอหยิบของไม้ตายออกมาได้ชนกานต์ก็แสร้งถามขึ้น ปวีร์หันมาเลิกคิ้วก่อนจะผงะเพราะชนกานต์ฉีกยิ้มพร้อมกับพ่นยาใส่หน้าเขา
“อึ่ก..”
“นายคงรู้จักยานี้ดีสินะ..” ชนกานต์ผลักปวีร์ให้พ้นจากตัวก่อนยิ้มมุมปากสะใจ ปวีร์ที่โดนพ่นยาไปก็รู้สึกไร้เรี่ยวแรง ดวงตากลอกมองตามการเคลื่อนไหวของชนกานต์ก็เห็นว่าชนกานต์ลุกเดินไปนั่งที่หน้าโน้ตบุ๊กของตัวเอง เสียงคีย์บอร์ดพิมพ์เป็นช่วงสั้นๆ ปวีร์รู้ได้ทันทีว่าชนกานต์กำลังตรวจดูเวปต่างๆที่เขาใช้งานว่ามีรูปภาพหลงเหลืออยู่อีกหรือเปล่า หลังจากนั้นไม่นานนักสติของปวีร์ก็หายไป
ตื่นมาอีกทีปวีร์ก็พบว่าชนกานต์จัดการค้นหาไฟล์ที่เหลืออยู่จนหมด กองซีดีและเมมโมรี่การ์ดทั้งหมดของเขาถูกนำมาเปิดดูจนหมด ปวีร์มองดูแล้วก็เห็นกุญแจดอกเล็กวางไว้ให้จึงหยิบมาไขกุญแจมือออก เขาสะบัดข้อมืออย่างขบเมื่อยก่อนจัดการเก็บซีดีและเมมโมรี่การ์ดเข้าที่เดิม ในใจนึกเสียดายที่ไม่มีอะไรไว้แบล็คเมล์ชนกานต์แล้ว แต่ลึกๆก็นึกชอบใจที่ชนกานต์โต้ตอบกลับมาแบบนี้
และก็ต้องยอมรับว่าชนกานต์นั้นเป็นสไตล์ที่เขาชอบจริงๆ
ทั้งที่ถูกตลบหลังกลับเช่นนี้แต่มันยิ่งทำให้เขาชอบชนกานต์มากขึ้นไปอีก แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะมีทางใจที่จะได้ครอบครองทั้งกายและใจของคนดื้อรั้นอย่างชนกานต์ได้อีก
"แต่ผมไม่ยอมแพ้คุณหรอกนะครับ..หัวหน้ากานต์"
ปวีร์หยิบเอากุญแจมือขึ้นมาแล้วบอกกับตัวเองก่อนจูบเบาๆที่กุญแจมือซึ่งเป็นของเพียงอย่างเดียวที่ชนกานต์เหลือไว้
หมายมั่นอย่างเต็มที่ว่าจะหาทางพิชิตหัวหน้ากานต์จอมทิฐิอีกครั้งให้ได้!
ฝ่ายชนกานต์นั้นพอจัดการลบไฟล์เสร็จเรียบร้อยและเอาของตัวเองที่ปวีร์ยึดไปกลับคืนมาแล้วก็กลับมาที่คอนโดตัวเอง ยังไม่ทันจะนั่งลงเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นสายเรียกเข้าจากดนัยจึงกดรับ
(เป็นไงบ้าง?)
"เรียบร้อย ต้องขอบคุณพี่มากนะครับ ยังไงพรุ่งนี้มาเอาของคืนไปได้เลย"
(ไม่ถึงขั้นตายนะ?)
"ไม่ตายหรอกน่า ถึงจะไม่ได้ซ้อมมาหลายปี แต่ผมยังจำทักษะการยิงได้อยู่นะ" ชนกานต์บอกแล้วนึกขอบคุณที่ตัวเองเคยได้เรียนยิงปืนกับลูกพี่ลูกน้องมา ถึงจะไม่ได้อยู่ชมรมยิงปืนอย่างที่พูดขู่ปวีร์ไปแต่เขาก็มีทักษะยิงได้และยังยิงได้แม่นอยู่ถึงจะห่างการฝึกซ้อมมานานก็ตามที
((ต่อ))
-
(เออๆดีแล้ว ยังไงก็เก็บปืนไว้ที่ห้องนั่นแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่ำๆพี่แวะไปเอา ไม่ต้องเอาติดตัวมาหรอก เดี๋ยวเจอตำรวจเข้าแล้วจะลำบาก)
"ครับ ขอบคุณมากนะ" ชนกานต์เอ่ยขอบคุณ เพราะถ้าไม่ได้ดนัยที่มีใบอนุญาตมีปืนให้ยืมมาเขาก็คงทำตามแผนไม่สำเร็จ คิดแล้วก็นึกอยากไปทำใบอนุญาตขอมีปืนไว้เหมือนกัน เผื่อต้องใช้ป้องกันตัวเอง หรือไม่ก็คงต้องหาปืนโมเดลมาไว้สักอัน คงพอใช้ขู่ปวีร์ได้
ชนกานต์คิดได้สักพักก็เริ่มรู้สึกง่วงงุน หลายวันที่ไปอยู่กับปวีร์นั้นถึงจะได้นอนแต่ก็หลับไม่เต็มตา เขาถอดสูทโยนไปแล้วก็เดินไปอาบน้ำไวๆก่อนกลับออกมาทิ้งตัวนอน
ในความอ่อนเพลีย ชนกานต์ยังครุ่นคิดถึงการเปลี่ยนชุดกุญแจห้องใหม่ยกเซ็ตกันเอาไว้ด้วยความระแวงว่าปวีร์จะเอากุญแจของเขาไปปั๊มเอาไว้หรือเปล่า
หลังจากที่ชนกานต์ทำลายไฟล์รูปได้ เวลาก็ล่วงเลยไปเกือบเดือน เป็นเวลาที่ยุ่งวุ่นวายกับโปรเจคที่ต้องรับผิดชอบจนแทบไม่ได้มีเวลาพักผ่อน ปวีร์เองก็ถูกหน้าที่รุมเร้าจนไม่มีเวลามาเกาะแกะด้วยเช่นกัน จากตอนแรกที่กังวลเรื่องท้อง ชนกานต์ก็ลืมมันไปเสียสนิทใจ
"เหนื่อยกันหน่อยนะทุกคน แต่ถ้าผ่านก็จะได้โบนัสเพิ่มกันแน่ๆ" ชนกานต์เอ่ยให้กำลังใจกับลูกน้อง ทั้งที่ตัวเองเหนื่อยแทบขาดใจ
"หัวหน้าพักบ้างนะครับ หน้าคุณซีดมากเลย"
ชนกานต์ยิ้มให้ก่อนส่ายหน้า ปากบอกไม่เป็นอะไร แต่พอลุกขึ้นก็เวียนหัวเหมือนพื้นมันหมุนจนต้องวางมือพยุงตัวไว้กับโต๊ะ
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!?" ลูกน้องอุทานถามอย่างประหลาดใจ
"แค่มึนหัวน่ะ คงจะนอนน้อยไปหน่อย ขอผมพักครู่หนึ่งก็แล้วกัน" ชนกานต์ว่าแล้วยืดตัวตรง ขยับแว่นที่เลื่อนลงมาตรงดั้งจมูกให้กลับเข้าที่แล้วเดินออกไป
ชนกานต์เดินตรงไปยังห้องน้ำ เขาพุ่งตัวเข้าห้องที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วปิดล็อกก่อนหันไปอาเจียนใส่โถชักโครกทันที ชนกานต์อาเจียนจนแสบคอและใจสั่นไปหมด แทบจะล้มนั่งลงกับพื้นแต่ก็ฝืนทนกดชักโครกแล้วเปิดประตูออกมา ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าพัสกรยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
"ผมได้ยินเสียงคุณอาเจียน เป็นอะไรหรือเปล่า?" ชนกานต์สั่นหน้า พึมพำบอกแค่ว่าเครียดเรื่องงานแล้วเดินไปที่อ่างล้างมือ เปิดก็อกแล้ววักน้ำมากลั้วปาก
"พักบ้างก็ได้นะครับ" พัสกรว่าแล้วเดินตามติดมายืนข้างๆ เกรงว่าชนกานต์ที่หน้าซีดจะล้มพับไปกับพื้น
"แต่เห็นอาเจียนขนาดนี้นี่ไม่บอกผมก็นึกว่าคุณท้องเสียอีก"
พัสกรพูดแล้วหยุดทันทีเพราะดวงตาคู่สวยหลังเลนส์มองถมึงทึงผ่านกระจกตรงอ่างล้างหน้ามาราวกับจะกินหัวกัน
"ขอโทษครัว พอดีลูกน้องผมเขากำลังแพ้ท้องอยู่ เห็นอาเจียนเหมือนกันก็เลย.." พัสกรหยุดพูดไปเพราะอีกฝ่ายโบกมือแล้วตีสีหน้ารำคาญใจ
"ช่างเถอะ" ชนกานต์บอกปัดแล้วเดินหนีไป พอออกห่างมาได้ก็หยุดยืนหลบมุมที่ไร้คน สีหน้าปรากฏความเป็นกังวลขึ้นมา
"คงไม่...หรอกนะ" ชนกานต์ครางแผ่วกับตัวเอง มือยกขึ้นแตะตรงท้องน้อย นึกกังวลว่าหากภายในนี้มีชีวิตใหม่กำลังจะถือกำเนิดแล้วจะทำอย่างไร
"ไม่อะไรหรอครับ?" เสียงที่โพล่งขึ้นมาข้างหูทำเอาชนกานต์สะดุ้ง หันกลับไปก็เจอหน้าปวีร์ยืนอยู่ ชนกานต์รีบเก็บสีหน้าและแสดงความเย็นชาไร้อารมณ์ออกมา
"มีอะไร?"
"ไอ้กรมันบอกว่าเห็นคุณอาการไม่ดีเท่าไหร่ ผมเลยตามมาดู กลัวคุณไปล้มหัวฟาดที่ไหนแล้วจะยุ่งเอา ผมยังไม่อยากเลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าโปรเจคของเราน่ะครับ"
ปวีร์ยิ้มยียวน ทำเอาชนกานต์หน้าตึง หงุดหงิดทันที
"ฉันไม่ยอมให้นายได้เลื่อนขึ้นเป็นหัวหน้าโปรเจคนี้ง่ายๆหรอกนะ"
ปวีร์ยักไหล่แล้วเอื้อมมือไปจะแตะหน้าผาก แต่ชนกานต์ปัดมือออกไป ดวงตาตวัดมองฉุนเฉียว
"อย่ามาถูกตัวฉันนะ" ชนกานต์ขู่ฟ่อเหมือนแมวพองขน ปวีร์ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า
"คุณนี่ทำตัวเป็นพวกนางเอกหวงตัวไปได้ ตัวคุณไม่น่าเหลืออะไรไว้หวงกับผมแล้วนะครับ" คำพูดกวนประสาทพาเอาความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดพัดหายไป ชนกานต์ยกหมัดขึ้นต่อยหมายจะตั๊นหน้าหล่อๆของปวีร์ให้เสียโฉม แต่เพราะไม่มีแรงกอปรกับยังไม่หายมึน หมัดที่ต่อยจึงวืดไปพร้อมกับร่างๆที่โงนเงน ปวีร์ผวารับไว้อย่างตกใจ
"หัวหน้ากานต์!" ชนกานต์ได้ยินเสียงปวีร์อุทานอย่างนั้นก่อนหมดสติไป
ชนกานต์มาฟื้นอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องพยาบาลของบริษัทเพียงลำพัง มองดูนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่ามันยังอยู่ในเวลางานจึงลุกขึ้นมา คอที่แห้งผากทำให้หันมองหาน้ำก็เจอว่ามีขวดน้ำตั้งอยู่ตรงโต๊ะด้านข้างกับถ้วยยาที่มียาแกะไว้ ใต้ถ้วยยามีกระดาษโน้ตวางอยู่ ชนกานต์หยิบมันขึ้นมาดู
‘เม็ดเล็กคืออยากแก้คลื่นไส้ ส่วนเม็ดใหญ่คือยาแก้ปวด อย่าลืมหาอะไรกินด้วยล่ะ’
ชนกานต์อ่านข้อความสั้นๆที่ไม่ระบุชื่อคนเขียน แต่ตัวลายมือก็เป็นตัวบอกได้ดีว่าคนเขียนก็คือไอ้คนที่มากวนประสาทก่อนเขาจะหมดสติไป ชนกานต์เบ้ปากมองยาในถ้วยอย่างไม่ไว้ใจ
“ใครเขาจะไว้ใจคนอย่างนายกันล่ะไอ้บ้า!” ชนกานต์ว่าก่อนหยิบถ้วยยาไปเทยาทิ้งแล้วเดินไปค้นยาในตู้มาทานเอง
ถึงปวีร์จะหยิบยามาถูกแต่จะไว้ใจได้อย่างไรว่าปวีร์ไม่ได้ทำมันหล่นพื้นแล้วเอามาให้เขากิน
ชนกานต์คิดอย่างหงุดหงิดใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิตกเมื่อเห็นคำเตือนของยาว่าห้ามผู้ที่มีครรภ์รับประทาน เขาวางยากลับเข้าชั้น ฝืนทนอาการคลื่นไส้และอ่อนเพลียของตัวเองเดินออกจากห้องพยาบาลไป ชนกานต์เดินลงไปซื้อขนมปังและโกโก้ร้อนมาทานประทังความหิว แม้จะรู้สึกอยากจะอาเจียนแต่ก็ฝืนทานไปจนหมดก่อนเดินกลับเข้าไปออฟฟิศอีกครั้ง
ภาพที่เห็นคือทุกคนกำลังทำงานกันอย่างแข็งขันโดยมีปวีร์เป็นศูนย์กลางความคิดอยู่ ชนกานต์หน้าตึงเล็กน้อยที่เห็นปวีร์ทำหน้าที่แทนตัวเองและทำมันได้ดีมาก พอปวีร์หันมาเห็นชนกานต์ยืนมองอยู่ก็เงียบลงแล้วยกยิ้มมุมปากหลิ่วตาให้ ชนกานต์นึกอยากชูนิ้วกลางให้แต่ก็ติดตรงที่ลูกน้องในทีมหันมามองพอดี
“อ้าว! หัวหน้าค่อยยังชั่วแล้วหรอครับ?” ชนกานต์พยักหน้าก่อนเดินไปนั่งที่ตัวเอง
“ไปถึงไหนกันแล้ว?” ชนกานต์เอ่ยถามแต่ไม่มองหน้าปวีร์ ปวีร์อมยิ้มขำ รู้ว่าชนกานต์ไม่พอใจเขาแต่ก็เลือกที่จะไม่กวนประสาทเพิ่มเติมเพราะเห็นว่าชนกานต์ยังหน้าซีดเซียวอยู่
“หัวหน้าวีร์เขาจัดการส่วนที่หัวหน้าพูดค้างไว้เมื่อเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
คำบอกนั้นทำให้ชนกานต์หน้าตึงยิ่งกว่าเก่าแต่จะเอ่ยตำหนิก็ใช่ที่ ได้แต่มองอีกฝ่ายที่อย่างอาฆาตก่อนจะจัดการถามความคืบหน้าในส่วนอื่นต่อ ส่วนปวีร์นั้นจากตอนแรกที่อารมณ์ดีก็เปลี่ยนมาขมวดคิ้ว เพราะมองดีๆก็เห็นว่าคนบ้างานกำลังฝืนกำลังตัวเองอยู่
“หน้าคุณดูซีดมากเลยนะ ผมวางยาไว้ให้ คุณได้กินหรือเปล่า?”
เห็นชนกานต์พูดไปได้สักพักก็หยุดนิ่งเหมือนคนที่กำลังจะอาเจียนแต่ฝืนไว้ ชนกานต์ทำเพียงแค่กลอกตามามองแล้วยืนสูดหายใจลึกๆ ใบหน้าที่ซีดลงกว่าเก่าชวนให้เป็นห่วง ปวีร์ลุกจากโต๊ะแล้วก้าวยาวๆไปหา กำลังจะถึงตัวแต่ชนกานต์ก็ถอยหนี มองหน้าปวีร์เพียงชั่ววินาทีก่อนจะโผไปทางห้องน้ำอีกหน ทุกคนในโปรเจคตกใจเล็กน้อย ต่างก็มองตามแผ่นหลังบางที่หายลับไปจากกรอบประตู ปวีร์ยืนงงเล็กน้อยก่อนจะหันมาบอกให้ลูกทีมจัดการงานกันต่อและเดินตามออกไปดูอาการของชนกานต์
ปวีร์เดินตามไปจนถึงห้องน้ำ ได้ยินเสียงชนกานต์โก่งคออาเจียนอยู่ในห้องริมขวาสุดก็ยืนพิงอ่างล้างมือ คอยกระทั่งเสียงชักโครกดัง ประตูก็เปิดล็อก ชนกานต์ผงะที่เห็นเขายืนอยู่
“ไหวไหม?” ปวีร์ทอดเสียงถามอย่างนึกห่วง ชนกานต์ไม่พูดอะไรแต่เดินไปล้างปาก นึกหงุดหงิดที่กายป่วยแล้วยังต้องมาเจอปวีร์อีก
“ผมว่าคุณไปหาหมอหน่อยดีไหม?” ชนกานต์ปรายตามองด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้ายกับคำแนะนำ ปวีร์เห็นคนหัวดื้อมองมาอย่างนั้นก็ยักไหล่
“ผมก็แค่กลัวคุณเดี้ยงก่อนวันพรีเซ้นส์โปรเจคก็เท่านั้น” ปากแข็งบอกไปอย่างนั้นแต่ในใจนึกห่วงมากกว่า
ชนกานต์ไม่ตอบแต่สะบัดหน้าเดินกระแทกส้นออกจากห้องน้ำไป
ปวีร์ได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินตามไป
พอเลิกเงินวันนี้ ชนกานต์ก็ขอตัวกลับไปแทนที่จะอยู่ทำโอทีเช่นเคย ระหว่างทางก็แวะร้านขายยา ซื้อเอาที่ตรวจครรภ์มาก่อนเดินไปร้านสะดวกซื้อข้างๆเพื่อซื้อข้าวกล่องก่อนขับรถต่อไปยังคอนโดของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าปวีร์แอบขับรถตามมาจนกระทั่งถึงคอนโด เห็นว่าถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้วปวีร์จึงขับรถกลับคอนโดของตัวเอง
ถึงห้องพักแล้วชนกานต์ก็วางของลงบนโต๊ะและถอดสูทเหวี่ยงไปไว้ที่โซฟา สายตาหันมองถุงของร้านขายยาก่อนหยิบมันขึ้นมา ชนกานต์เม้มริมฝีปากนึกสมเพชตัวเองในใจขณะหยิบกล่องที่ตรวจขึ้นมาแกะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะต้องใช้มัน
ชนกานต์กวาดตาอ่านวิธีใช้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็นั่งทำใจอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเข้าห้องน้ำไปจัดการตามวิธีตรวจ เสร็จแล้วก็มานั่งรอดูผลด้วยใจกระวนกระวาย ชนกานต์รู้สึกว่าตัวเองมือเย็นเฉียบ ไม่กล้ามองไปที่แท่งตรวจ กลัวจะเห็นผลปรากฏขึ้นมาว่ามันมีสองขีด ชนกานต์นั่งทำใจอยู่พักใหญ่ถึงหยิบมันขึ้นมาดูได้
แกร็ก!
ที่ตรวจในหล่นจากมือของชนกานต์ไปที่พื้น ถึงจะทำใจแล้วก็ตามทีแต่ขีดสองขีดที่ปรากฏอยู่บนที่ตรวจมันก็ทำให้ชนกานต์รู้สึกช็อคอยู่ดี
เขากำลังตั้งท้อง!
กำลังตั้งท้องลูกของปวีร์อยู่!
ชนกานต์หน้าซีดลง ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างหมดแรง ไม่รู้ว่าอนาคตจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร คนจะมองมาแบบไหนที่เขาตั้งท้องทั้งที่ยังโสดเช่นนี้ แน่นอนว่าการตั้งท้องมันมีผลต่อการทำงานของเขาด้วยเช่นกัน
มือเรียวยกขึ้นทาบท้องน้อย ใจมันเต้นแปลกๆที่ได้รู้ว่าในกายยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่รอวันลืมตาขึ้นบนโลกใบนี้ ถึงเด็กคนนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นมาเพราะความรักแต่ชนกานต์ก็ถือว่าเด็กคนนี้คือลูกของตน เรื่องจะเอาออกคงตัดทิ้งไปได้เลย เขาทำไม่ลง...แต่อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และถ้าปวีร์รู้มันจะเกิดอะไรขึ้น
ชนกานต์ได้แต่ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาแล้วยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก ครุ่นคิดหาทางออกอย่างกังวลใจ...
-TBC-
โอ้ว ตกใจมาก ตอนที่ผ่านมาคนเม้นส์เยอะเลย ขอบคุณทุกคอมเม้นส์มากนะคะ :mew1:
เห็นผ่านตาอยู่ว่ามีคนงงเรื่องผู้ชายท้องได้ในเรื่องนี้ ลองกลับไปอ่านทอล์คท้ายตอนของตอนที่แล้วนะคะ มีอธิบายไว้แล้วค่ะ ^^
นี่มันอาชญากรรมชัดๆ
ถ้าไม่ติดขนบนิยาย ที่คนอ่านญิงสาวชอบแฟนตาซีให้ตัวเอง โดนหนุ่มรูปหล่อ มาเติมเต็มจินตนาการทางเพศผ่านตัวแทนนายเอกที่อ้อนแอ้นโดยการขืนใจ (เพราะว่าไม่ได้ยินยอม แต่ต้องตามเพราะฝืนธรรมชาติของร่างกายไม่ได้) ผ่านการมีเซ็กซ์รูปแบบต่างๆ จนฟินกัน ในความเป็นจริง เป็นไอ้อ้วนหื่นสักคนมาทำอย่างนี้ เกิดขึ้นกับใครคงมีฆ่าตัวตายหรือไม่ก็ฆ่าไอ้อ้วนหื่นไปแล้ว ต้องตายกันไปข้าง การข่มขืน ลดทอนศักดิ์ศรีมนุษย์ครั้งที่หนึ่ง ดันมีแบล็กเมล์ข่มขู่อีก ศักดิ์ศรีโดนเหยียบย่ำครั้งแล้วครั้งเล่า พระเอกเองหน้าตาก็มี สมองก็มี ไม่มีทางพิชิตใจแล้วหรอ ทำวิธีนี้มันเลวและอึดอัดแทนนางเอกมากๆ ไม่ฟินเลยแม้แต่นิดค่ะ
จัดเถอะ จะรออ่าน วิจารณ์อะไรแรงไปก็ขออภัย แต่จัดให้คนเลวได้รับผลกรรมเถอะ อย่าให้เป็นขนบนิยายเชยๆที่คนหน้าตาดีชนะทุกอย่างและได้ครองคู่อย่างราบรื่นนะ รับไม่ได้
ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำวิจารณ์ แต่ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องที่ต่อจากนี้ไปจะเป็นขนบนิยายเชยๆหรือไม่นะคะ การันตีไม่ได้เหมือนกัน
แต่เนื่องจากเรื่องนี้วางพล็อตไว้ไม่ให้ดราม่าเคล้าน้ำตานัก (ไม่มีเวลาให้ดราม่านักด้วยเพราะอย่างที่เคยบอกแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น(ที่มันยาวกว่าเรื่องสั้นปกติไปเสียแล้ว - - ) จึงอาจกลายเป็นนิยายขนบเชยๆได้ (ที่สำคัญคืออิคนเขียนยกหางคุณปวีร์ค่ะ555)
ถ้าทำให้ผิดหวังก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ยังไงจะรับคำวิจารณ์ไว้เผื่อในอนาคตข้างหน้าได้มีโอกาสเขียนนิยายแนวนี้อีกจะเอามาใช้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^
:mew1:
-
จิ้มจึ๊ก :z13:
ท้องแล้ววววววววววว เป็นกำลังใจให้หัวหน้ากานต์และคนเขียนค่ะ
เราติดตามอยู่นะ เราก็ไม่ชอบดราม่าเคล้าน้ำตา ชอบที่เรื่องนี้เป็นแบบนี้แหละ คนเขียนวางพล็อตไว้ยังไงก็เขียนแบบนั้นเลย เราติดตามอยู่
เราจะมีโอกาสเห็นเด็กน้อยในเรื่องนี้ไหมนะ? หรือเรื่องจะจบที่ตอนกำลังท้อง
อยากเห็นหนูน้อยน่ารัก ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ? #ได้ข่าวว่าเพิ่งท้อง เราตื่นเต้นกว่าอีก :laugh:
-
บีบคั้นก็จริง แต่ขอจบแบบสุขนะคะ
จะแก้แค้นพระเอกแบบไหนก็ได้ :ling1:
-
ท้องแล้ววววว จะเป็นยังต่อเนี่ย
-
ลูกจะเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์หรือเปล่า :hao7:
-
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า..สักวัน..ปวีร์จะเสียใจอย่างที่สุด... ถ้าชนกานต์ไม่ให้มันเป็นพ่อของลูก...หรือไม่ก็... ชนกานต์หาพ่อใหม่ให้ลูก กรั้กๆๆๆๆๆ ไอ้ปวีร์... ผู้ชายเห็นแก่ตัว ไร้สามัญสำนึก :hao3:
-
น้านไงท้องแล้วววว ปวีร์จ๊ะ....คงไม่ลืมที่ตัวเองพูดหรอกนะว่าเป็นพ่อที่ดีได้อ่ะ ถ้าไม่รับผิดชอบเขาล่ะก็นะ... เตรียมตัวโดนคนอ่านรุมทึ้งเถอะ o18
-
:mew6: ไม่ต้องทำตามคำสั่งปวีร์แต่ก็มาท้องแทน
-
ทำไมเราชอบปวีร์? ชนเอ้ย ปลงซะ ไปบอกปวีร์มันเหอะ มันต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว ถ้าไม่ แม่จะสับหัวมัน - - (เราดีใจที่ท้องนะ รอมานานละ เพราะว่าเด็กจะเป็นตัวที่จะเชื่อมความสัมพันธ์จากเกลียดกายเป็นรัก)
-
หัวหน้ากานต์ท้องแล้วอ่ะ คงจะช๊อคสินะที่ต้องท้องกับคนท่ี่ไม่ได้รัก ในความรู้สึกเราที่อ่านเรื่องนี้อ่ะ ตอนแรกๆก็รู้สึกเกลียดปวีร์นะ ทำไมต้องข่มขืนต้องแบล็กเมบ์หัวหน้ากานต์ เพราะเหตุผลที่เเค่อยากชนะ? แต่ตอนนี้เราพอจะเข้าใจได้บ้างแล้ว ว่าแท้จริงแล้วปวีร์ชอบหัวหน้ากานต์ ในแบบที่หกัวหน้ากานต์เป็น แค่ปวีร์เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจไม่มีการแสดงออกทางที่ดีแล้วท่าทางยังติดลบ เพราะในความรู่้สึกเราปวีร์ไม่ได้เกลียดหัวหน้ากานต์นะ ออกจะดูแลดีด้วยซ้ำ เรื่องนี้จะจบดีได้ อยู่ที่หัวหน้ากานต์คนเดียว เพราะนางเป็นคนที่ฐิถิสูงมาก แล้วเป็นคนที่คิดค่อนข้างในแง่ลบ และแลดูความคิดเรื่องปวีร์ของนางจะดูเด็กด้วย ทั้งๆที่ปวีร์แสดงแอกถึงขนาดนั้นแล้ว่ว่าไม่ได้ต่้องการแทนที่ต่ำแหน่งหัวหน้ากานต์ มีแต่หัวหน้ากานต์คนเดียวที่คิดไปเอง ยังไงก็เป็นกำลังใจเชียร์ปวีร์ให้ทำให้หัวหน้ากานต์ลดถิฐิลงได้ แล้วก็ช่วยกันเลี้ยงลูกดีๆล่ะ ทำน้องให้ลูกด้วยน้าาาา~~ :hao6:
-
เค้าอยากอ่านตอนต่อไปอ่ะ :hao5:
-
ปวีร์ เอ็งรับผิดชอบแล้วรักหัวหน้ากานต์ซะ :hao6:
-
โฮ่
เอาใจช่วยหัวหน้ากานต์นะคะ
-
มีลูกแล้วตอนนี้สงสารมากอ่ะแล้วจะเป็นยังไงต่อไปอ่ะงื้อออ :sad4:
-
ท้องซะแล้วว ปวีร์ต้องดูแลชนกานต์ดีๆนะะะ :katai1: :katai1:
รอตอนต่อไปค่ะ
-
โฮๆๆๆ หัวหน้ากานต์ท้องซะแล้ว แอบสงสารหัวหน้ากานต์จัง คงเครียดแน่ดู
แต่แหมฉากยิงปืนนี่แอบลุ้นให้หัวหน้ากานต์ยิงนายปวีย์ซักนัด เอาให้ฝังซี่โครงไปเลย
เฮ้อ แล้วแบบนี้หัวหน้ากานต์จะทำยังไงน้า แต่ที่แน่ๆ เค้าอยากให้หัวหน้ากานต์กระทืบนายปวีย์ซักยกจริงเลย :fire: :fire:
เอาใจช่วยหัวหน้ากานต์ เป็นซิงเกิลมัน(เด็ดดี้)ไปเลย :katai5:
-
อิๆ ในที่สุดก็ท้องแล้วววววววววววววว ปวี เก่งมาก o13 o13 o13
-
หัวหน้าอย่าเครียดมากเดี๋ยวมีผลต่อลูกในท้อง :hao5:
-
โอ๊ะ !!!! ท้องแล้วววววว ~~~
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
-
:z3: :z3: ชอบเรื่องนี้มากกกก ไม่คิดว่าคุณหัวหน้าจะจ่อปืใส่ปวี :katai5: :katai5: นี้มัน !!! เคะราชินีฉัดๆ :katai1: :katai1:
-
สงสารกานต์อ่ะ แค่โดนฝืนใจก็แย่พอแล้ว ยังต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก สู้ๆ นะกานต์
-
ยังไงฉันก็เลิฟนิยายเรื่องนี้ บอกเลย เพราะมันคือนิยาย บางทีก็อ่านเพื่อจรรโลงใจ บางทีก็อ่านเพื่อจรรโลงปัญญา
เราเลือกได้ค่ะ
เห้อออออ ถ้าอิตาวีรู้ว่าท้อง คราวนี้ทางหนีไม่มีแล้วหล่ะหัวหน้ากานต์
-
หัวหน้ากานต์ใช้ปืนเลยนะเนี่ย~
แต่ท้องแล้วนะจ๊ะ เดี๋ยวคุณพ่อจะมาทวงสิทธิ์ >.<
-
หัวหน้ากานต์เอาคืนปวีร์ได้เด็ดขาดมาก o13 รอลุ้นต่อไป :laugh:
-
มันคือนิยายถูกต้องมั๊ยค่ะ พล็อตจะเป็นยังไงมันก็อยู่ที่ผู้แต่งนะเราว่า
บางทีโลกของความจริงมันก็ดราม่าเกินพอแล้ว เหลืออะไรไว้ให้ฟินบ้างก็ดีค่ะ
ติดตามอยู่นะคะ รอตอนหน้าค่า :mew1: :mew1:
-
ตอนที่รอคอยยยยยหัวหน้าท้องแล้วววววววว
แต่หัวหน้าชนนี่เก่งอ่ะ...เป็นนักแม่นปืนซะด้วย อย่างนี้ต้องเรียกว่าแซ่บเวอร์
-
ท้องแล้วววววว
จะทำไงต่ออ่ะ
-
เย้ๆๆๆ ปวีร์ท้องแล้ว ช่วงนี้แระอารมณ์แปรปวน
เวลาเอาคืนมาแล้ว อิอิ กานก็โชว์คุณพ่อที่ดีมาเลย
-
ท้องแล้ว !
-
โอย กานต์ท้องแล้ว ความวุ่นวายยุ่งเหยิงกำลังตามหา
ดีแล้วล่ะ ที่ไม่คิดทำแท้ง ถึงจะไม่ได้เกิดจากความรัก
ถ้าปวีร์รู้ จะต้องดีใจมากแน่ๆ จะได้เป็นพ่อคนแล้วนี่เนอะ
-
ใจก็อยากให้หัวหน้ากานลดทิฐิลง เพราะยังไงดูไปแล้วปวีร์ก็ออกจะเป็ฯห่วง
แต่ว่าดูจากการกระทำแล้วพ่อพระเอกก็ต้องทำตัวให้ดีกว่านี้ก่อนนะ
แถมตอนนี้กำลังตั้งท้องแล้วด้วย ต้องอย่าเครียดอย่าคิดมากนะว่าที่คุณแม่
-
อยากเชือดปวีร์ทิ้งทุกตอนที่อ่านจริงๆ
-
ท้องแล้วสินะนั่น แล้วกานต์จะบอกปวีร์ไหม
-
ท้องแล้วคุณพ่อจะรู้ไหมเนี่ย ปวีร์เอาชนะใจคุณชนกานต์ใหัได้ เพื่อลูก
-
ท้องแล้ว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
จัดการพระเอกยังไงดี
รออ่านตอนต่อไป
-
ชอบหื่นฮาแบบนี้แหละค่ะ มาม่าเค้าไม่ชอบ :hao7:
รอลุ้นตอนต่อไปค่ะ :L2:
-
ถ้าคู่นี้ไม่มีเรื่องข่มขืนมายุ่งนะคงมันส์มาก
ขิงก็ราข่าก็แรงอ่ะ
ท้องแล้วทำยังไงล่ะเนี่ย ไม่ใช่ไปเอาเด็กออกนะ
หัวหน้ากานต์หาพ่อดีให้ลูหเหอะ ส่วนวีร์ถ้ารู้ว่ามีลูกก็กลับตัวได้แล้วนะ
-
:katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
-
อิปวีร์นี้เอาจริงๆมันโรคจิตไหม ฉันว่ามันมีนิดๆ
สู้ๆนะหัวหน้ากานต์
-
โอ้ว กลิ่นน้ำเน่าลอยมาตามลม :hao7:
-
พักร้อนลาคลอดแล้วลาออกเลยหัวหน้ากานต์
หายไปจากชีวิตปวีร์มันซักพัก
ดูแลน้องในท้องแล้วก้อรักษาใจตัวเองก่อน
เมื่อแข็งแรงทั้งกายและใจแล้ว ค่อยนับหนึ่งใหม่นะ
-
หัวหน้ากาญจน์สู้สู้ และรอวันเอาคืนปวีณ์
-
ทัองแล้วๆๆ
ชอบเนื้อหาที่คนแต่งถ่ายทอดออกมานะคะ เป็นกำลังใจให้
แต่ปวีร์ก็เกินไปหน่อยต้องโดนจัดหนักสักที
-
ปวีร์เอ๋ยยยยยยยยย แกมัน!!!!
มะโหๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวหน้ากานต์จะทํายังไงดี :ling3:
-
อิฉันเกลียดอีตาปวีร์อย่างเสมอต้นเสมอปลายมาก ต่อให้ท้องก็เป็นซิงเกิลมัมได้นะหัวหน้ากานต์
เด็กไม่ได้ทำผิดอะไรอย่าไปทำร้ายเขาอะดีแล้ว แต่พ่อมันน่ะ พ่อมันนน อย่าให้พ่อมันเอาเด็กเป็นข้ออ้างแล้วทำอย่างนั้นกับเราอีกนะ
ต้องเลือกแล้วล่ะ ระหว่างงานกันลูกจะเอาอะไร แต่พ่อมันอะ ไม่ต้องไปเอานะ ขอร้อง :mew5:
-
ท้องแล้ววว อยากให้ชนกานต์เอาคืนบ้าง
ไม่ค่อยชอบนายปวีย์เลย จัดซักยกสองยก :m16:
-
หัวหน้ากานต์ท้องแล้ว
อย่าเครียดมากนะ
-
ท้องแว้วววว ฮิ้วววว
-
เผลอลุ้นไปกับเรื่องนี้หลายรอบเลย ในที่สุดก็ท้องแล้ว :hao7:
-
ท้องแล้วววววว
แต่ขอให้กานมีแฟนใหม่เหอะ
ปวีดูไม่มีสามันสำนึกสักนิด
-
ท้องซะแล้ว หัวหน้ากานจะทำไงล่ะทีเนี่ย
-
ไม่รู้ทำไม แต่เราชอบปวีย์อ่ะ แถมไม่สงสารที่กานต์ท้องด้วย แต่ดีใจแทนอ่ะ 555 :hao3:
ขอแค่อย่าให้กานต์หนีไปไกลๆจนลูกโตแล้วค่อยมาเจอกันก็พอ :mew6:
ถ้ากานต์ลองเปิดใจสักนิด แล้วแก้แค้นปวีย์ในทางอื่น หรือแบบว่ามีฉากให้ปวีย์ช่วยชีวิตกานต์และลูกในท้องก็ได้นะ
ถึงพล็อตจะซ้ำ แต่เก๊าก้อชอบบบ :m3:
-
สงสารกานต์เล็กๆ
แต่เอาใจเชียร์ปวี 5555
อยากเห็นหน้าลูกน้อยยย~
-
อยากให้อีตาปวีโดนจัดหนักสักครั้งก่อน หน.กานจะใจอ่อนนะ
-
อุ๊บร๊ะ !!! ผู้ชายท้องได้
ไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อน
แต่ผมอ่านแล้วชอบนะ สนุกดีครับ
ชอบแนวอารมณ์ของทั้งสองคนที่แสดงต่อกัน
แม้จะหื่นกันเกือบทั้งเรื่องก็ตาม อิอิ
ยังนึกไม่ออกว่าหัวหน้ากานต์จะรักและลงเอยกับปวีร์ได้ยังไง
ก่อนจะลงเอยกัน ขอเชียร์ให้หัวหน้ากานต์เอาคืนปวีร์ให้เจ็บแสบก่อนนะครับ
-
อยากอ่านตอนเจ็ดแล้วววววว :katai5:
-
เหมือนจะดราม่านิดๆแล้ว. แตก็น่ะคนไม่ได้รักกันมาตั้งแต่ต้นก็ธรรมด
มารอว่ากานต์จะทำยังไงต่อ. จะเหมือนที่คิดไว้ไหมน้อ
-
อยากอ่านต่อแล้ววววว
-
อ่านเรื่องนี้แล้วเรารู้สึกอึดอัดนะ แบบทำอะไรไม่ได้เลย ไม่มีใครที่ไว้ใจพอจะช่วยได้เลยเหรอ?
มันแบบอะไรๆ ก็โดน เอาความสนุกและสะใจเป็นที่ตั้ง ข่มขืนน่ะมันเหมือนเราทำลายชีวิตคนๆ นึงไปแล้วนะ
ทำให้เขาสกปรก ความคิดเขาก็เปลี่ยนแปลงไป แม้กระทั่งการใช้ชีวิต แล้วนี่ท้องด้วยอีก คืออย่าให้สมหวังง่ายเกินเลยนะคะ
ให้ได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อไว้บ้างเถอะ ให้ได้เจอคนที่ดีกว่านี้ด้วยเถอะ เซ็กส์น่ะไม่ได้ทำใครรักกันได้หรอกนะคะ
หวังว่า ความรักที่เกิดขึ้นจะไม่ได้เกิดจากเซ็กส์และความเกลียดชังนะ .___.
-
คิดถึงๆๆๆๆๆๆๆๆ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
-
อยากอ่านใจจะขาดแย้วววววววววววว :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :hao5:
-
ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำวิจารณ์ แต่ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องที่ต่อจากนี้ไปจะเป็นขนบนิยายเชยๆหรือไม่นะคะ การันตีไม่ได้เหมือนกัน
แต่เนื่องจากเรื่องนี้วางพล็อตไว้ไม่ให้ดราม่าเคล้าน้ำตานัก (ไม่มีเวลาให้ดราม่านักด้วยเพราะอย่างที่เคยบอกแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้น(ที่มันยาวกว่าเรื่องสั้นปกติไปเสียแล้ว - - ) จึงอาจกลายเป็นนิยายขนบเชยๆได้ (ที่สำคัญคืออิคนเขียนยกหางคุณปวีร์ค่ะ555)
ถ้าทำให้ผิดหวังก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ยังไงจะรับคำวิจารณ์ไว้เผื่อในอนาคตข้างหน้าได้มีโอกาสเขียนนิยายแนวนี้อีกจะเอามาใช้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^
งั้นเราขอพูดตรงๆว่าเราคงผิดหวังอ่ะถ้าเรื่องมันจะง่ายแบบนั้น รู้และเข้าใจว่าเป็นนิยายแต่อ่านแล้วอิน 555 เลยรู้สึกว่าโลกจริงมันแทบไม่มีทางที่จะจบสวยได้เลย ลองนึกว่าคนที่ถูกข่มขืนจนท้องท้ายสุดต้องมาลงเอยหรือถึงขั้นสร้างครอบครัวกะคนที่ข่มขืนตัวเอง เราเชื่อว่าเกินครึ่งทำไม่ได้ รับไม่ได้ บางทีถึงขั้นไปเอาเด็กออกด้วยมั้ง ที่พูดมาไม่ใช่อะไรแต่อยากเห็นดราม่านิดตอนที่ปวีร์ต้องมาพยายามชนะใจหัวหน้ากานต์แบบสวรรค์เบี่ยงอ่ะ 555
-
รอ...ฉันรอเธออยู่...แต่ไม่รู้ เธอจะมาเมื่อไหร่... :call:
-
ตอนที่ 8
ชนกานต์เก็บเรื่องที่ตั้งครรภ์เอาไว้กับตัวเอง ไม่ยอมปริปากบอกใคร แต่อาการแพ้ท้องมันก็รุมเร้าจนทำให้หลายคนเริ่มสังเกตเห็น ข่าวลือเริ่มแพร่สะพัดจนไปถึงหูของปวีร์
"เออนี่ มึงได้ยินข่าวลือเรื่องหัวหน้ากานต์หรือยัง?" พัสกรเอ่ยขึ้นตอนแวะยืนคุยกับปวีร์ระหว่างกดกาแฟกระป๋อง
“กานต์ไหน?” ปวีร์ถามกันเอาไว้ก่อน จากบทเรียนคราวก่อนจึงคิดว่าหัวหน้ากานต์ที่พัสกรพูดถึงน่าจะหมายถึงธีรกานต์เสียมากกว่า
“ชนกานต์น่ะสิ” ปวีร์เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ความสนใจมีเพิ่มมากขึ้นเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับชนกานต์
“ลือว่าไง?”
พัสกรหันซ้ายมองขวา พอไม่เห็นคนก็ขยับเข้ามาใกล้
“เขาว่าหัวหน้ากานต์กำลังท้องเว้ย!”
“อะไรนะ!!” ปวีร์อุทานอย่างตกใจ เสียงดังจนพัสกรต้องเข้ามาตะครุบปากแล้วเอานิ้วจุ๊ปากให้เบาเสียงลง
“อย่าเสียงดังสิวะ” ปวีร์ไม่สนใจที่พัสกรเอ็ดใส่ แต่นึกไปถึงอาการของชนกานต์ช่วงนี้ที่ดูอ่อนเพลียและอาเจียนบ่อยครั้ง พอถามก็บอกว่าเครียดเรื่องโปรเจคที่กำลังทำกันอยู่
แต่จะตัดเรื่องท้องออกไปก็คงไม่ได้ ปวีร์รู้ดีว่าตัวเองทำห่ามกับชนกานต์มากแค่ไหน สิ่งที่ทำไปมันเสี่ยงอยู่ว่าจะทำให้ชนกานต์ท้อง และดูจากรูปการตอนที่เขากับชนกานต์มีอะไรกัน ชนกานต์ก็ไม่ได้กินยาคุมด้วยแน่ๆถึงได้พะวงกับการป้องกันถึงขนาดนั้น
“คงไม่ท้องหรอกมั้ง..” ปวีร์ครางแผ่วเบากับตัวเอง แต่พัสกรคิดว่าพูดกับตัวเอง
“ถ้าเขาท้องขึ้นมาจริง มึงอ่ะจะซวย” ปวีร์เลิกคิ้ว ไม่เข้าใจความหมายที่พัสกรพูด
“ก็คนเขาลือกันว่าคนที่ทำหัวหน้ากานต์ท้องคือมึงน่ะสิ ช่วงเดือนก่อน มึงกับเขาติดตัวกันแจอยู่พักหนึ่งไม่ใช่หรือไงกัน แอบไปแอ้มเขามาหรือเปล่าฮึ?”
พัสกรพูดแล้วหรี่ตามองเพื่อนรักอย่างจับผิด ปวีร์ชะงักแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะมีลูกน้องมาตามพัสกรกลับไป ปวีร์มองตามไล่หลังเพื่อนไปก่อนจะหันเดินกลับไปที่ห้องทำงาน พอจะเข้าห้องทำงานก็หันมองไปทางห้องตรงข้าม เห็นชนกานต์กำลังยืนคุยงานกับลูกน้องอยู่ สายตาเผลอมองไปที่ท้องของชนกานต์อย่างไม่รู้ตัว ร่างกายของชนกานต์ยังดูไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดชนกานต์ตั้งท้องจริง มันก็เป็นเพียงแค่ระยะเดือนกว่าคงยังมองไม่เห็นความผิดปกติ
ปวีร์ยืนมองจนชนกานต์มองกลับออกมา สายตาของชนกานต์มองที่เขาอย่างคนไม่ถูกกันเช่นเคย ปวีร์กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นชนกานต์เดินหนีไปนั่งทำงาน เขามองอยู่อีกพักก่อนเดินกลับเข้าไปยังห้องทำงานของตนเอง หมายมั่นในใจว่าจะต้องหาทางเค้นถามชนกานต์ให้รู้เรื่องว่าชนกานต์กำลังมีเด็กหรือไม่
อดนึกตื่นเต้นไม่ได้ เพราะถ้าชนกานต์มีเด็กจริง เขาก็จะได้เป็นพ่อคน!
ปวีร์หาช่องจะคุยกับชนกานต์ทั้งวัน แต่ก็ไม่สบโอกาสที่จะได้คุยกันตามลำพัง จนกระทั่งชนกานต์จะกลับบ้าน ปวีร์ก็รีบตามไปจนทัน
"ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ" ปวีร์พูดตอนที่เข้าไปประชิดและจับต้นแขนของชนกานต์ไว้ ชนกานต์เหวี่ยงแขนสะบัด แต่ปวีร์จับไว้แน่นและลากไปจนถึงมุมลับตาคน
"ฉันไม่อยากคุยกับนาย" ชนกานต์พูดด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย พยายามแกะมือปวีร์ออก ปวีร์บีบต้นแขนเล็กแน่น มองหน้าชนกานต์ที่ไม่ยอมมองหน้าตน
"คุณท้องหรือเปล่า?"
ชนกานต์ชะงักกึก ท่าทางมีพิรุธ
"คุณท้องใช่ไหม? ทำไมไม่บอกผม!" ชนกานต์ตวัดสายตาขึ้นมองคนที่กระชากเสียงใส่
"ฉันไม่ได้ท้อง!" ชนกานต์โกหกคำโต แล้วกลบเกลื่อนด้วยการชักสีหน้าใส่ปวีร์
"แน่นะ?"
"แน่!"
"ผมไม่เชื่อ"
ชนกานต์หงุดหงิดใจ ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงจึงยกมือผลักอกปวีร์แรงๆแทนการระบายอารมณ์
"นายจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจนาย แต่ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน!"
"ถ้าคุณท้อง เด็กคนนั้นคือลูกของผม ผมมีสิทธิ์ที่จะรู้!" ปวีร์ขึ้นเสียงใส่ เริ่มโมโหเพราะรู้สึกได้ว่าชนกานต์กำลังโกหก
"นายคิดหรอว่าฉันจะยอมให้ตัวเองอุ้มท้องที่เกิดจากน้ำเชื้อจากคนอย่างนายน่ะ!" คำสวนของชนกานต์ทำเอาปวีร์หน้าม้าน ปวีร์เอื้อมมือจะไปกระชากชนกานต์ที่เดินหนีไปมาคุยต่อ แต่มีพนักงานเปิดประตูออกมา ปวีร์จึงต้องหยุดยืนอยู่ที่เดิม มีเพียงแต่สายตาทอดมองชนกานต์ขึ้นรถและขับออกไปเท่านั้น
ด้วยความติดใจสงสัยทำให้ปวีร์ตัดสินใจไปหาชนกานต์ที่คอนโด กดกริ่งอยู่หลายครั้งชนกานต์ก็ไม่ยอมเปิด หลังจากยืนรออยู่ครู่ใหญ่ ปวีร์ก็ตัดสินใจกลับไป
ชนกานต์ที่อยู่ในห้องนึกหงุดหงิด คิดหาทางออกให้ตัวเอง ถึงจะทำปากเก่งแต่ก็ไม่คิดที่จะเอาเด็กออกจริง แต่จะให้อุ้มท้องต่อหน้าปวีร์ความก็คงแตก
เห็นที..เสร็จจากโปรเจคที่ทำ คงต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียแล้ว ถึงจะชอบใจงานที่ทำกับบริษัทนี้ก็เถอะ
ชนกานต์ถอนหายใจ หยิบสมุดเงินฝากมาดูเงินออมที่เก็บไว้ หากรวมกับปันผลจากหุ้นที่ลงทุนไป คงมีเงินพอขยับขยายหาที่อยู่ใหม่และดูแลตัวเองไปจนถึงช่วงคลอดลูกได้
แต่คนบ้างานอย่างเขาจะให้อยู่เฉยๆจนกว่าจะคลอดคงทำไม่ได้แน่ๆ
"เฮ้อ..." ชนกานต์ถอนหายใจอย่างหนักอกก่อนยกมือขึ้นมานวดขมับตนเอง พลางนึกว่าจะย้ายไปอยู่ที่ไหนดี ที่ปวีร์จะตามไปรังควานไม่ได้อีก
วันรุ่งขึ้นชนกานต์ไปทำงานด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากเจอหน้าปวีร์ แต่ก็หนีไม่พ้นเพราะต้องทำงานร่วมกัน ชนกานต์จึงเลือกที่จะแสดงท่าทีนิ่งเฉยให้ดูเหมือนปกติ แม้จะเหนื่อยใจเพราะปวีร์คอยมองมาแทบจะตลอดเวลา แถมอาการแพ้ท้องก็ดูจะไม่บรรเทาลงเท่าไหร่นัก เจอกลิ่นกาแฟที่ลูกน้องชงมาให้ก็ทำเอาชนกานต์ต้องลุกจากโต๊ะไปด้วยหน้าซีดๆ โผเผเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วอาเจียนเอาอาหารเช้าที่ฝืนทานไปจนหมดกระเพาะ
ชนกานต์ถอนหายใจแล้วกดชักโครก ยืนสูดลมหายใจลึกๆอยู่สองสามทีเรียกกำลังใจให้กับตัวเองว่าต้องผ่านช่วงที่ทรมานและเหนื่อยล้าแบบนี้ไปให้ได้ พอเปิดประตูออกไปก็ต้องผงะเพราะปวีร์ยืนอยู่หน้าห้องน้ำ
ปวีร์ที่ยืนคอยอยู่รีบผลักชนกานต์แล้วแทรกตัวเองเข้ามา ปิดประตูห้องน้ำล็อกเสร็จสรรพ
“นายจะทำอะไร!?” ชนกานต์จ้องหน้าปวีร์อย่างไม่ไว้ใจ วงหน้าคมดูจริงจังและซีเรียสกว่าทุกครั้ง ปวีร์ล้วงมือเข้าไปในกระเป็นเสื้อสูทด้านใน หยิบเอากล่องยาวประมาณคืบออกมา ชนกานต์กลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก รู้ดีว่ามันคืออะไร
“เรามาตรวจกันให้แน่เลยดีกว่า ว่าคุณท้องหรือไม่ท้อง”
“ฉันไม่ตรวจ!” ชนกานต์สวนทันควัน ปวีร์หรี่ตามองอย่างจับผิด
“มีเหตุผลอะไรคุณถึงไม่อยากตรวจครับ ถ้าคุณไม่ท้องจริงก็ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวนี่ครับ” ปวีร์ว่าแล้วจ้องอย่างกดดันชนกานต์ ทำเอาคนจ้องหงุดหงิดมากขึ้น
“ก็ฉันไม่อยากตรวจ!”
“แสดงว่าคุณท้องใช่ไหม? ถึงได้ไม่อยากตรวจแบบนี้” ปวีร์เริ่มรุกให้ชนกานต์จนมุม ชนกานต์เม้มปากคิดหาทางออก
“ตรวจก็ได้! ก็ดี..ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจริงๆ ฉันจะได้ไปเอาออก!”
ชนกานต์กระแทกเสียงใส่ หวังประชดให้ปวีร์เปลี่ยนใจไม่ตรวจขึ้นมา แต่ผิดคาดเพราะปวีร์ใจเย็นกว่าที่คิด
“งั้นเราก็มาตรวจกันเลยครับ”
ชนกานต์ถึงขั้นเหวอกับความใจเย็นของปวีร์จนรีบส่ายหน้าไปมา
“ไม่! ฉันจะตรวจคนเดียว” ชนกานต์บอกแล้วจะแย่งเอากล่องในมือของปวีร์ แต่ปวีร์ไม่ยอมให้
“ไม่ครับ ขืนให้คุณตรวจเอง คุณก็เอาฉี่ผสมน้ำหมดน่ะสิ” ชนกานต์ทำหน้างอ ขัดใจที่ปวีร์รู้ทัน
“นายยืนดูแบบนี้ใครจะฉี่ออกกันเล่า!”
แต่ปวีร์ก็ยังคงยืนอยู่ไม่ขยับไปไหน หน้าตาจริงจังว่าจะยืนคอยดูชนกานต์ไม่ให้คลาดสายตา
“ผมจะทดสอบเอง คุณหันไปฉี่สิครับ”
“ชิ!” ชนกานต์ทำเสียงขึ้นจมูกแล้วหันหลังไปทางโถชักโครก ระหว่างปลดเข็มขัดก็ได้ยินเสียงปวีร์แกะกล่องหยิบเอาที่ตรวจออกมา
“ฉี่สิครับ” ปวีร์ขยับมาซ้อนหลังแล้วเอาแท่งที่ตรวจมาจ่อ ชนกานต์กระแทกลมหายใจก่อนล้วงเอาท่อนเนื้อออกมาจากกางเกงชั้นใน หากเป็นยามปกติคงนึกกระเดียดอายที่ต้องมายืนฉี่ให้ปวีร์มอง แต่ตอนนี้ชนกานต์ว้าวุ่นใจเสียมากกว่าถ้าปวีร์เห็นผลว่ามันเป็นบวกแล้ว...อะไรจะเกิดขึ้นกัน
พอชนกานต์ฉี่เสร็จ ปวีร์ก็เอาแท่งวางลงบนฝาโถชักโครก จ้องมองมันให้ปรากฏผล ชนกานต์จัดการใส่กางเกงเสร็จก็เอาศอกดันอกปวีร์ที่เข้ามาชิดจนเกินไป
“ถอย! ฉันจะออกไปข้างนอก”
“จะไม่อยู่รอดูด้วยกันหรอครับ?” ชนกานต์ขยับปากจะตอบกลับแต่ก็มีเสียงคนเปิดประตูเข้ามาจะใช้ห้องน้ำจึงเงียบ เพราะถ้าออกไปตอนนี้คนก็จะเห็นว่าเขาเข้าห้องน้ำอยู่กับปวีร์ จึงจำต้องยืนอยู่ในห้องน้ำกับปวีร์ที่เอาแต่มองแท่งตรวจไม่วางตา
ชนกานต์ได้แต่ภาวนาให้ผลตรวจของเจ้าแท่งตรวจอันนี้มันผิดพลาด ให้มันขึ้นมาว่าเขาไม่ตั้งท้อง
แต่ดูเหมือนว่าคำภาวนาของเขาจะไม่เป็นผล
ดวงตาคู่คมเบิกกว้างเมื่อมองไปที่ผลตรวจ ชนกานต์เหลือบตาลงมองก่อนจะหลับตาลง
ขีดสองขีดปรากฏอยู่บนแท่งตรวจ
“คุณท้อง..” ปวีร์รวบกายชนกานต์มากอดไว้แล้วครางแผ่วเบาที่ข้างหู
“ผลมันอาจจะผิดก็ได้!” ชนกานต์ตวาดอย่างลืมตัวก่อนยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำข้างๆ
“หะ..หัวหน้ากานต์? มีอะไรหรอครับ?” เสียงลูกน้องดังมาจากห้องน้ำข้างๆ ชนกานต์สบถกับตัวเอง
“เปล่า! ไม่มีอะไร” ชนกานต์ตอบกลับไปแล้วเอาศอกกระแทกอกให้ปวีร์ที่ยิ้มขำเขาที่ลืมตัวให้ออกห่าง แต่ปวีร์กลับกอดไว้แน่นเหมือนปลาหมึก
ชนกานต์ข่มใจรอจนกระทั่งคนที่มาเข้าห้องน้ำออกไปจึงกระแทกอกปวีร์แรงๆไปอีกที
"ปล่อย!" ปวีร์ยอมปล่อยแต่ยืนพิงประตูกั้นทางออกเอาไว้ ชนกานต์สูดหายใจลึกข่มอารมณ์โมโห
"ผลมันอาจจะผิดพลาดก็ได้!"
"ถ้าอย่างนั้นเราก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลกัน" ชนกานต์เม้มปาก รู้ดีว่าถ้าไปตรวจที่โรงพยาบาลแล้วผลจะออกมาว่ายังไง เพราะตนไปมาแล้ว
"ก็ดี ตรวจมันให้ชัวร์ๆ ฉันจะได้ไปหาที่เอาออก"
พูดเหมือนไม่แยแส แต่ใจสั่น
"ผมไม่ยอมให้คุณฆ่าลูกของเราหรอกนะ!"
ปวีร์สวนทันที ชนกานต์ชะงัก คิดว่าปวีร์อาจจะอยากปัดความรับผิดชอบ แต่มองสบตาแล้วก็เห็นว่าปวีร์จริงจังแค่ไหน
"ผมรู้ว่าคุณเกลียดผม แต่ผมเป็นคนทำให้เขาเกิดมา ผมจะรับผิดชอบแกเอง"
"เฮอะ! นายจะรับผิดชอบยังไง?" ชนกานต์ยกมือขึ้นมากอดอกถามเสียงเยาะ ปวีร์ขยับก้าวมาประชิด
"แต่งงานกัน"
"ฝัน! ฉันไม่มีทางแต่งงานกับคนอย่างนายแน่!"
ชนกานต์สวนกลับทันที สายตามองปวีร์อย่างชิงชัง
ทั้งสองจ้องตากันพักหนึ่ง ความกดดันลอยฟุ้งในบรรยากาศจนชนกานต์ปวดจี๊ดที่ท้องแต่ข่มใจยืนสู้ตากับปวีร์
"คุณทำใจฆ่าลูกของเราได้จริงหรอ?"
ปวีร์ถามออกมา เสียงและแววตาอ่อนลง ชนกานต์เม้มปากแล้วเบือนหน้าหนี ปวีร์ก้าวมาชิดจนหนีไม่ได้ ต้นแขนถูกจับเอาไว้
"ผมรู้ว่าแกเกิดมาเพราะผมขืนใจคุณ คุณมีสิทธิ์ที่จะเกลียดแก แต่แกมีสิทธิ์ที่จะเกิด ผมขอร้อง..อย่างน้อยช่วยอุ้มท้องแกจนกว่าจะคลอดได้ไหม?" ปวีร์พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่มั่นคง
ชนกานต์อ่อนลงกว่าตอนแรกเมื่อเห็นปวีร์ละทิ้งความกวนประสาทแต่พูดกันอย่างผู้ใหญ่
"ขอแค่ถึงแกคลอดเท่านั้น..แล้วผมจะเอาแกมาเลี้ยงเอง"
ชนกานต์มองหน้าปวีร์ที่เอ่ยอ้อนวอนเพราะคิดว่าเขาจะไปทำแท้งก่อนถอนหายใจยาว
"ก็ได้..แต่ห้ามให้ใครรู้ ว่าฉันท้องกับนาย!" ชนกานต์ยื่นข้อเสนอที่ปวีร์จำใจต้องรับ
"ตามใจคุณก็แล้วกัน"
"งั้นก็ปล่อยได้แล้ว ฉันจะกลับไปทำงาน" ปวีร์ยิ้มก่อนขยับไปปลดล็อกประตูแล้วเปิดออก ทั้งชนกานต์ที่หงุดหงิดเดินกระแทกเท้าไปล้างมือ ปวีร์เดินตามมาล้างมือข้างๆ อมยิ้มมองคนหัวรั้นอย่างมีความสุข
-- จนกว่าจะถึงวันคลอด คุณจะต้องเปลี่ยนใจยอมมาสร้างครอบครัวกับผมแน่..หัวหน้ากานต์! --
แม้คนที่ตั้งท้องจะไม่ได้ดูยินดีนัก แต่ไม่ใช่กับคนเป็นพ่อ หน้าปวีร์บ่งบอกว่าอารมณ์ดีสุดๆระหว่างประชุมแผนงานเตรียมพรีเซ้นส์กัน ชนกานต์เห็นแล้วนึกหมั่นไส้ อยากเอาพ้อยเตอร์ในมือเหวี่ยงใส่หัวไอ้คนนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มนั่นเสียที
“เอาล่ะ! วันนี้พอแค่นี้ พรุ่งนี้พยายามเข้านะทุกคน”
ชนกานต์บอกแล้วกดปิดตัวพ้อยเตอร์ ส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้ลูกทีมและทรุดนั่งลง เหนื่อยจนอยากพักแต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ ชนกานต์คว้าขวดน้ำมาเปิดฝาแล้วยกดื่มระหว่างที่ลูกทีมเก็บข้าวของแล้วทยอยลากลับกันไป เหลือปวีร์เป็นคนสุดท้าย
ชนกานต์นั่งเคาะปากกาลงกับโต๊ะ เพ่งสมาธิกับเอกสารในมือ ตรวจดูความถูกต้องเป็นรอบสุดท้าย ปวีร์ขยับเข้ามาปิดแฟ้ม
“คุณควรพักได้แล้ว”
ชนกานต์นิ่งแต่ดึงแฟ้มจากมือของปวีร์มาเปิดอ่านต่อ เพิกเฉยกับคำพูดของปวีร์ ปวีร์มองคนหัวดื้อขำๆก่อนเดินออกไปนอกห้องมีตติ้ง ชนกานต์เหลือบตามอง อยู่ๆความน้อยใจก็สะท้านขึ้นในอก พอรู้ตัวชนกานต์ก็รีบปัดความคิดนั้นออกไปทันที
-- ไปน้อยใจหมอนั่นทำไมกัน? –
ชนกานต์คิดอย่างหงุดหงิด พยายามโฟกัสความรู้สึกไปที่เรื่องงานแทน
ไม่นานปวีร์ที่หายออกไปก็กลับเข้ามาอีกรอบ ชนกานต์เหลือบตามองแล้วแกล้งทำไม่สนใจ ปวีร์เดินเข้ามาวางชามโจ๊กกับแก้วนมอุ่นให้
“ถ้าคุณจะทำงานก็หยุดมากินก่อน”
“ฉันไม่หิว” ชนกานต์ทำปากแข็งทั้งที่เริ่มหิวจนแสบท้อง ยิ่งมีกลิ่นหอมของโจ๊กมายั่วก็ทำให้อยากทิ้งงานไปนั่งกิน แต่เพราะคนที่เอามาคือปวีร์ จึงไม่อยากกินให้เสียฟอร์ม
“แต่ลูกผมหิว คุณจะทรมานเด็กหรอ?”
ชนกานต์เม้มปากฉับ มองคนหัวหมอที่เอาลูกมาเป็นตัวบังคับกลายๆก่อนกระแทกแฟ้มเลื่อนออกไป ปวีร์รีบยกชามโจ๊กมาวางให้ทันทีแล้วยิ้มอย่างพอใจ
ชนกานต์หยิบช้อนมาคนๆก่อนตักเข้าปาก แปลกใจที่ตัวเองไม่นึกเหม็นและอยากอาเจียนกับโจ๊กชามนี้ ทั้งที่ช่วงนี้ก็กินอะไรไม่ค่อยจะได้เป็นส่วนใหญ่
“กินเยอะๆนะครับ” ปวีร์บอกแล้วนั่งลงข้างๆมองชนกานต์กินอย่างมีความสุข
“แล้วนายไม่กินหรือไง?”
“ผมดื่มกาแฟไปแล้ว คุณเป็นห่วงผมหรอ?”
ปวีร์ตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ทำเอาคำถามนึกอยากตบปากตัวเองที่ถามออกไปแบบนั้น
“เห็นเอาแต่มองเลยนึกว่ายังไม่ได้กินก็เท่านั้น” ชนกานต์ว่าแล้วหันไปกินต่อ แต่ทานไปแค่ครึ่งชามก็ดันออกห่าง หยิบแก้วนมอุ่นมาจิบไปนิดหนึ่งพอเป็นพิธี
“เดี๋ยวสิคุณ! ยังไม่หมดเลย”
“ฉันอิ่มแล้ว” ชนกานต์บอกพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับปาก
“แต่ลูกผมยังไม่อิ่มนิ!” ปวีร์ท้วงแล้วดันชามกลับที่เก่า ชนกานต์ขึงตามองคนบังคับ
“อย่าจิกตามากครับ เดี๋ยวลูกผมออกมาตาเหล่”
ชนกานต์สาบานได้เลย ว่าปวีร์มันน่าหงุดหงิดมากกว่าอาการแพ้ท้องไปหลายขุม!!
-TBC-
ขอบคุณสำหรับคำติชมและคำแนะนำทั้งหมดนะคะ ยอมรับนะคะว่าแอบหนักใจอยู่เหมือนกัน กลัวทำให้คนอ่านผิดหวัง :mew2:
ยังไงจะพยายามนะคะ :n1:
ป.ล.มีใครไปงานตลาดฟิคไหมเอ่ย? โกะอยู่บูธ B11 นะคะ ยังไงแวะไปทักทายกันได้นะคะ ^^v
-
มาต่ออีกเถอะ :ling1: เค้าติดเรื่องนี้ง่ะ :hao5:
-
ชอบตอนนี้จัง จริงๆ ปวีร์ก็ชอบหัวหน้ากานต์จริงอะไรจริงสินะ แต่แกล้งทำเป็นเกลียดใช่ไหมหล่า :hao3:
เห็น tbc แล้วมันปวดใจ
-
แหม๋ๆๆ
ทำเป็นมาเอาอกเอาใจ
ปววีร์คะ คดีเก่ายังไม่เคลียนะคะ เรื่องขืนใจเนี่ย
อย่ามาทำเป็นเอาใจ
เชอะๆ
-
คิดเหมือนกันใหมว่า ปวีร์เนี่ย น่าโดนหัวหน้ากานต์เอาคืนมั่ง เดี๋ยวให้ท้องเป็นเพื่อนกันซะเลยนี่ 55+ :laugh:
-
เครียดแทนว่าที่คุณแม่....แอบคิดว่าคงดีกับลูกในท้องมากกว่าถ้ากานต์ออกจากงานจริงๆ
หมั่นไส้ปวีร์มากถึงมากที่สุด :(
-
ทำไมเป็นตอนที่ 8 อ่ะคะ? ตอนที่ 7 หรือเปล่า >~<
-
ปวีร์ยังน่าหมั่นไส้เหมือนเดิม
อยากเห็นปวีร์โดนเอาคืนบ้าง
-
น่ารักไปนะ><
เราเป็นอีกคนนึงที่ไม่ชอบกินมาม่าสักเท่าไหร่ เรื่องไหนมาม่าก็มาม่าไปตามสไตล์ค่ะ (ถ้าอยู่ในอารมณ์อยากน้ำตาตกเราก็ไปเสพ555) แต่เราชอบเรื่องนี้ที่เป็นอย่างนี้ มีความสุขที่ได้เห็นหัวหน้ากานต์วีนๆเหวี่ยงๆ น่ารักดีอ้ะ เข้ากับปวีร์จอมกะล่อนมาก ถึงใครจะบอกว่าพล็อตเดิมๆ ก็แล้วไงอ่ะ พล็อตแก้แค้นคืนเห็นมีตั้งหลายเรื่อง แต่แต่ละเรื่องก็มีภาษาเป็นเอกลักษณ์ การดำเนินเรื่องการสื่ออารมณ์ก็ให้ความรู้สึกต่างกันไป ไม่ได้ถอดแบบเป๊ะสักหน่อย
เราจะตามอ่านต่อไป แต่งแบบที่คนเขียนมีความสุขที่ได้แต่งขึ้นเถอะค่ะ จะได้เป็นผลงานที่คนเขียนรัก มีความสุขที่ทำให้นักอ่านอย่างเราฟินกระจายยยยยย><
-
:mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
-
สนุกอะกำลังเข้มข้นเลย นายปวีร์ ลูกล่อลูกชนเยอะจริงนะยะ 555 ชนกานต์ใช้โอกาสนี้เตรียมมีลูกอีกคนมัดใจ
-
บอกเลย ชอบเรื่องนี้มากอ่ะะ จะคอยติดตามนะคะ มาต่อเร็วๆนะ
-
ชอบประโยคนี้-- จนกว่าจะถึงวันคลอด คุณจะต้องเปลี่ยนใจยอมมาสร้างครอบครัวกับผมแน่..หัวหน้ากานต์! --
เอาใจช่วยปวีร์ :mc4:
-
คิดเหมือนกันใหมว่า ปวีร์เนี่ย น่าโดนหัวหน้ากานต์เอาคืนมั่ง เดี๋ยวให้ท้องเป็นเพื่อนกันซะเลยนี่ 55+ :laugh:
นั่นสิ ให้หัวหน้ากานต์เสียบกลับเลย :hao7: :hao7:
-
เป็นพ่อที่ดีให้ได้นะปวีร์ หลังจากนี้ก็ดูแลให้ดีทั้งแม่ทั้งลูกละ
ทำให้หัวหน้าเ็นให้ได้ว่าจริงๆแล้วนายคิดยังไง :hao3:
-
จะง้อเค้าก็ง้อให้มันดีๆนะนายปวีร์
มีหลายคนรอกระทืบนายอยู่ หึหึ
-
ปวีร์ทำตัวดีขึ้นก็คงมีโอกาส :hao6:
-
คนท้อง ยังจะแกล้งอีก
เดี่ยวตี :z6:
หงุดหงิดจริงเลยยยย คุณแม่เนี่ย :กอด1:
-
นายปวีย์ยังเจ้าเล่ห์เหมือนเดิมแฮะ
คุณกานต์เอาคืนให้หนักๆเลย
-
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะ :hao7: :hao7:
-
หมั่นไส้ปวีย์อยู่
คนเขียนสู้ๆรออ่านอยู่
-
โอ้ว คุณนักเขียนคะ วันหลังของสองตอนติดเลยได้ไหมคะ ติดเรื่องนี้มากอ่าค่ะ ชอบมาก
*tbcทำร้ายใจคนอ่านมาก ทำค้าง*
-
อ๊าาาา น่ารักอ่ะ :m3: :m3:
-
:ling1:เอาใจอีกนะ อย่าเพิ่งใจอ่อน คึ คึ
-
หมั่นไส้ปวีร์ ชอบทำว่าข้าเหนือกว่าอยู่เรื่อย :hao3:
-
เอาใจช่วยปวีร์นะ แต่ก็หมั่นใส้มากกว่า
55555
-
ช่วงทำคะแนน เป็นคนดีของชนากาน์เร็วๆๆน่ะปวีร์
-
ตอนนี้ดูนุ่มนวลขึ้นทั้งคู่เลย
จิกตาเดี๋ยวลูกตาเหล่นี่ตำราไหนเนี่ย
-
เอาใจช่วยให้รักกันเร็วๆ
-
ปวีร์จะพิชิตใจหัวหน้ากานต์ได้ไหมเนี่ย
-
ปวีร์พอมาง้อกึ่งขู่กุึ่งอ้อนแล้วน่ารักอ่ะ อ่านไปจิกหมอนไป ฟิน~ :กอด1:
-
:impress2:
-
ดูแลลูกน้อยดีๆนะ อิอิ
-
เชียร์ปวีร์สู้ สู้ ให้ได้ทั้งแม่และตัวเด็กนะ
-
หมั่นไส้นายปวีร์อะ :z6:
-
รักกันๆเถอะนะ :hao3: :hao3:
-
ดูมีความรับผิดชอบผิดคาดเลยนะนายปวีร์เนี่ย คิดว่ารักสนุกโคตร ๆ อย่างปวีร์ น่าจะเป็นคนอยากเอาเด็กออกเองด้วยซ้ำ
หมั่นไส้นายปวีร์ ชอบทำเหมือนมั่นใจว่าทุกสิ่งอยู่ในกำมือ ขอสักทีเถอะนี่แน่ะ :z6: งานนี้เอาลูกมาอ้างอีก มาทำให้เค้าท้อง พอคลอดก็ยังจะเอาลูกไปอีกเรอะ ใจแข็งเข้าไว้นะคุณกานต์
แต่ก็ถ้าไม่ใช่เพราะความดื้อด้าน คงยังไม่รู้หรอกว่าหัวหน้าท้องเนี่ย
-
โห้วสนุกมากก o13 อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ ติดตามจ้าา :katai5:
-
หมั่นไส้ปวีร์
-
ขอให้รักกันเร็วๆนะ อิอิ
-
หมั่นใส้วีร์
กานต์ใจแข็งนานๆน่ะ
-
ปวีร์ดีได้แบบนี้ตลอดจะดีมาก รีบเอาชนะใจหัวหน้ากานต์ได้ไวๆนะ
อยากเห็นแบบ สวีทๆ แฮปปี้ๆ แล้ว :hao7:
-
สนุกค่ะ น่าติดตามมาก
-
เอาใจใหญ่เลยนะคุณว่าที่พ่อของลูก รีบๆ ง้อคุณแม่ซะล่ะ ง้อดีๆ ด้วย มีคนรอรุมนายอยู่นับไม่ถ้วนเลยนะปวีร์ 5555+
-
แหมๆ เอาอกเอาใจซะนะวีร์ หึๆ :z1:
อยากจิเห็นตอนหวานๆบ้าง :-[
-
“อย่าจิกตามากครับ เดี๋ยวลูกผมออกมาตาเหล่”
:m20: ฮากะประโยคนี้อ่ะ
-
เราชอบเรื่องนี้มากค่ะ ขอบคุณมากที่แต่ง Mpreg ให้อ่าน
ปวีร์กับหัวหน้ากานต์เหมาะกันมาก
ดูปวีร์แซวหัวหน้ากานต์สิ >.<
ตอนนี้ต้องยกเรื่องลูกมาอ้างให้หัวหน้ากานต์ยอมอ่อนข้อให้
น่ารักดีค่ะ >/////<
ติดตามและเป็นกำลังใจค่ะ^^
-
อร้าย ปวีย์น่ารักอ่ะ เอาชนะใจคนท้องได้ไวๆน้า
-
ชอบๆ เนื้อเรื่องเป็นแบบนี้ดีแล้ว ชอบมาก ♥
-
โอย มันจะเป็นยังไงต่อไปละนี่ :hao7:
-
เอาใจช่วยนะปวีร์ :impress2:
-
ระหว่างอุ้มท้อง เดี๋ยวชนกานต์ต้องใจอ่อน เพราะความดูแลเอาใจใส่ของปวีร์เป็นแน่แท้
พอลูกออกมา ก็สมบูรณ์แบบของคำว่า "ครอบครัว" พอดิบพอดี อัยยะ
-
วีดูแลแม่ของลูกดีๆนะ :m20:
รอนะฮะ :')
-
รักกันก็พูดกันดีๆดิ
ชอบปวีร์
-
เหมือน เรื่อง อุ้มรักเลย เดียวพระเอกทำดีกับนายเอกมากๆเดียวนายเอกของเราก็ใจอ่อนแล้ว ขอคู่แข็งมาชอบนายเอกด้วยเถอะ จะได้ทดสอบว่าพระเอกจะผ้านด่านแม่ของลูกกับศัสตรูหัวใจได้มัย อิอิ
-
กลับมาอ่านวนเป็นรอบที่สามรอตอนต่อไป555 ปวีง้อไม่ดีมีคนรอกระทืบอยูหลายคนนะ :hao7: :hao7:
ว่าต่งานตลาดฟิกมันจัดกันที่ไหนอะ เค้าอยากไปมั่ง วันไหนด้วย :hao5:
-
อร๊ายยยยยย ชอบตอนนี้อะ
รู้สึกเห็นด้านดีๆ(จริงๆ)ของพ่อปวัร์ หุหุ
ขอร่วมส่งกำลังใจให้ชลกานต์ใจอ่อนไวๆนะคะ
-
กานต์คงเครียดน่าดู
-
ว่าที่คุณพ่อนี่ดูแลว่าที่คุณแม่ดีจัง โอ๊ยยยยยยยย ฉันอยากเห็นหน้าลูกแล้วอ่ะ รีบมาต่อเร็วๆนะค่ะ
ค้างมากกกกกกกกกก
[/size][/color]
:katai1: :a6: :a6: :z3:
-
หนุกมากเลยค่าาา
อยากอ่านต่อแบ้ววววว
มาต่อไวไวนะคะ
-
ทำตัวให้ดีๆล่ะปวีร์ เผื่อหัวหน้ากานจะใจอ่อนไวๆ
-
สนุกมากค่ะ อ่านแล้วติดเลย
แล้วแบบเอ็นซีสุดยอดมากกกกกกก o13
สนุกค่ะ อยากอ่านต่อแล้ว มาต่อไวๆนะะ รออยู่ค่าาาา♡
-
ตบให้กลิ้ง
:beat: :beat: :beat: :beat:
-
สนุกจัง คู่นี้เริ่มมีมุมน่ารักๆแล้ว
เขินแทนชนกานต์ 55555555
-
รอค๊าาาาาา
-
มาต่อได้แล้วจ้า
-
มาตามนิยายค่าา มาต่อได้แล้วน๊า :katai5: :z13:
-
ตอนที่ 9
การพรีเซ้นส์โปรเจคในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าจะมีบางช่วงที่เกือบล่มเพราะชนกานต์เกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมาก็ตามที แต่ปวีร์ก็แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปได้
ถึงจะเจ็บใจแต่ชนกานต์ก็นึกขอบคุณที่ปวีร์ช่วยอยู่ไม่น้อย
“ขอบคุณ” ชนกานต์บอกสั้นๆขณะเดินผ่าน
ปวีร์กระตุกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินตามออกจากห้องพรีเซ้นส์ไป เดินออกไปก็เจอกับหัวหน้าแผนกยืนอยู่ ตามมารยาทแล้วชนกานต์กับปวีร์จึงหยุดคุยกับเขา
“วันนี้ทั้งสองคนทำได้ดีมากนะ ทุกคนในทีมด้วย เอ้อ แบบนี้ตอนเย็นก็ไปสังสรรค์กันเสียหน่อย ฉลองที่โปรเจคเสร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี”
“ครับ”
ทั้งชนกานต์และปวีร์ต่างก็ยิ้มออก ถึงตัวชนกานต์เองจะล้าจนอยากพักแต่พูดถึงเรื่องสังสรรค์แล้วก็อยากจะสังสรรค์กับพวกลูกน้องอยู่เช่นกัน จึงไม่คิดจะปฏิเสธ
“ว่าแต่คุณน่ะไหวหรอ?” ปวีร์ถามขึ้นหลังจากที่เดินแยกจากหัวหน้าแผนกมาแล้ว ชนกานต์เหลือบตามอง
“ก็แค่ไปดื่มกัน ไม่เห็นจะเป็นอะไร”
“คิดจะให้ลูกดื่มเหล้าตั้งแต่อยู่ในท้องเนี่ยนะ”
ชนกานต์แทบจะเอาแฟ้มในมือร่อนใส่หน้าไอ้คนพูดที่เดินอยู่ข้างกัน ดีที่ว่าไม่มีคนอยู่ใกล้ ไม่งั้นคงต้องมีหันขวับมาเพราะคำพูดของปวีร์แน่ๆ
“พูดอะไรระวังปากบ้างนะ” ชนกานต์เค้นเสียงต่ำพูดใส่
ปวีร์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แต่มุมปากยกยิ้ม ชนกานต์เลยเดินกระแทกเท้าหนีไปอีกทาง แต่ใจก็นึกตามคำพูดของปวีร์
‘คิดจะให้ลูกดื่มเหล้าตั้งแต่อยู่ในท้องเนี่ยนะ’
ปวีร์ก็คงแค่อยากเตือนไม่ให้เขาดื่มเหล้าเพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็เท่านั้น แต่จะให้ปฏิเสธไม่ไปเลยก็คงน่าเกลียดเกินไป
ตกค่ำวันนั้นจึงลงเอยที่ชนกานต์ไปนั่งมองทุกคนดื่มและปฏิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดที่คนยื่นมาให้ด้วยเหตุผลที่ว่า’ปวดหัว’
ลูกทีมที่เห็นชนกานต์เหนื่อยกับโปรเจคนี้มาตลอดและป่วยอยู่จึงไม่บังคับให้เขาดื่ม อีกทั้งยังถูกปวีร์กันท่าด้วยการเป็นคนฉวยแก้วที่ยื่นมาทางชนกานต์ไปดื่มเสียเองเป็นส่วนใหญ่ด้วย
นั่งกินไปได้สักพัก ชนกานต์ก็เริ่มรู้สึกง่วงจนอยากจะขอกลับ แต่เห็นทุกคนกำลังสนุกก็เลยฝืนนั่งต่อ
“โอ๊ะ!!”
ชนกานต์สะดุ้งเพราะน้ำเย็นเฉียบสาดเข้าที่หน้าตัก ยังไม่ทันจะรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นก็ได้ยินเสียงขอโทษขอโพยจากคนข้างๆ
“ขอโทษครับ ขอโทษนะครับหัวหน้า”
“ไม่เป็นไร”
ชนกานต์บอกพลางแย่งกระดาษทิชชู่ในมือของคนที่ทำแก้วเบียร์หกลงตักเขามาเช็ดเอง แต่มันแย่ตรงที่ไม่ได้มีแค่เบียร์เท่านั้น แต่จานกับแกล้มดันถูกชนจนเทลงมากระจายเต็มหน้าตักเขาด้วย
“เลอะหมดเลย ขอโทษจริงๆนะครับ”
ชนกานต์ยกมือโบกไปมาบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้วลุกไปทางห้องน้ำเพื่อล้างเอาคราบสกปรกออกไป ร่างโปร่งมองดูตัวเองที่เปียกไปหมดก่อนถอนหายใจกับความซุ่มซ่ามของลูกน้อง ทำเอาความง่วงกระโจนหายไปหมด แต่ก็ตั้งใจว่าจะนั่งต่ออีกสักพักแล้วขอลากลับไป เหนื่อยมาหลายอาทิตย์ วันนี้งานเสร็จแล้วก็ว่าจะนอนให้เต็มอิ่มเพื่อให้ลูกได้พักผ่อนอย่างเต็มที่บ้าง
นึกถึงลูกแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นมาลูบที่ท้องเบาๆ ชนกานต์ยิ้มมุมปากก่อนชะงักเพราะมีคนเข้ามา ชนกานต์หยิบเอาทิชชู่มาเช็ดอ่างที่ทำเลอะ ไม่ได้สนใจกับคนที่มาเข้าห้องน้ำเพราะไม่ใช่คนรู้จัก แต่พอหันจะเดินออกจากห้องน้ำไปก็โดนยืนขวาง ชนกานต์ก้าวไปข้างๆก็โดนขวางอีก จึงเงยหน้ามองด้วยสายตาไม่พอใจ
“ขอทางด้วยครับ”
“จะรีบไปไหนกันครับ...ผมอยากทำความรู้จักกับคุณจัง”
ชนกานต์รู้สึกหงุดหงิดใจ เขาใช้มือผลักผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นให้พ้นทางแล้วเดินหนีแต่ถูกดึงมือเอาไว้ ชนกานต์กระชากมือกลับทันที
“ปล่อย!”
“โอ้! ดุเสียด้วย แบบนี้ผมชอบนะ”
ผู้ชายคนนั้นพูดแล้วดึงชนกานต์เข้ามาใกล้ ชนกานต์รีบเอามือข้างที่ไม่ถูกจับยันอกเขาไว้ ตระหนักได้ถึงความไม่ปลอดภัยทันที
“อย่ามายุ่งกับฉัน!”
ชนกานต์ตะคอกใส่แล้วผลักอกอีกฝ่ายแรงๆ ผู้ชายคนนั้นไม่สะท้านสะเทือน ทำเอาชนกานต์ใจเสีย นึกจะตะโกนขอความช่วยเหลือก็ถูกปิดปากเอาไว้ ผู้ชายคนนั้นดันชนกานต์ให้เข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ชนกานต์พยายามขืนตัวไว้สุดกำลัง ยื่นมือไปยื้อบานประตูไว้ไม่ให้ปิดได้ ผู้ชายคนนั้นผลักชนกานต์เข้าไป
ร่างของชนกานต์เซถลาไปข้างใน
“โอ้ย!!” ชนกานต์ร้องลั่นเพราะมือที่ยันกับพื้นด้วยสัญชาตญาณมันลงผิดท่าจนมีเสียง‘กร๊อบ’ดังลั่นออกมา เจ็บจนน้ำตาคลอแต่ชนกานต์ก็ยังฝืนยันกายขึ้นมายกขาถีบอีกฝ่ายให้พ้นตัว
“โธ่เว้ย!” ผู้ชายคนนั้นสบถ เงื้อมือจะชกท้องชนกานต์ ชนกานต์งอตัวทันที สองมือโอบท้องตัวเองไว้ หลับตาปี๋คิดว่าไม่รอดแล้วแต่ก็ต้องเซไปพิงกับผนังห้องน้ำเพราะมีใครบางคนเปิดประตูกระแทกเข้ามาชนผู้ชายคนนั้น
“มึงจะทำอะไร!”
ชนกานต์ลืมตาขึ้นมา เห็นภาพปวีร์คว้าคอผู้ชายคนนั้นไปชกจนมันถลาล้มไปกองกับพื้น ชนกานต์นั่งทรุดลงบนพื้นห้องน้ำ หอบหายใจแรงอย่างโล่งอก เจ็บข้อมือจนต้องนิ่วหน้า
ฝ่ายปวีร์นั้นรัวหมัดชกผู้ชายที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายชนกานต์อย่างโกรธจัด อีกฝ่ายโต้ตอบกลับมาจนได้เลือดก็ยิ่งโมโห
“เกิดอะไรขึ้น!?” พนักงานของร้านที่ได้ยินเสียงเอะอะวิ่งมาดู ชนกานต์รีบชี้ไปยังผู้ชายที่จะทำร้ายตัวเอง
“เขาจะทำร้ายผม ช่วยแจ้งความด้วยครับ!”
สิ้นเสียงชนกานต์ ผู้ชายคนนั้นก็กระแทกปวีร์จนล้มแล้วผลักอกพนักงานก่อนวิ่งหนีออกไป มีคนที่มุงอยู่นอกห้องน้ำสองสามคนวิ่งตามไป
ปวีร์ตั้งท่าจะวิ่งตามไปแต่ก็หยุดแล้วหันมาหาชนกานต์แทน
“เป็นยังไงบ้าง?”
“เจ็บมือ” ชนกานต์บอกพลางนวดข้อมือที่เจ็บ ปวีร์จับขึ้นมาดูก็เห็นรอยแดง
“เกิดอะไรขึ้นกันน่ะ?” หัวหน้าแผนกกับลูกน้องตามเข้ามาดู ชนกานต์เลยเล่าเรื่องคร่าวๆให้ฟังด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย
“ไปหาหมอตรวจมือหน่อยดีกว่านะ เกิดกระดูกหักขึ้นมาเดี๋ยวจะยุ่ง” หัวหน้าแผนกบอก ชนกานต์พยักหน้าแต่ใจหวังว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น
“งั้นผมพาไปเลยก็แล้วกันนะครับ”
ปวีร์เสนอตัว หัวหน้าแผนกดูชะงักไปชั่วครู่เพราะรู้ว่าชนกานต์ไม่ถูกกับปวีร์ แต่ก็พยักหน้าเพราะเห็นว่าทำงานร่วมกันมาได้ร่วมเดือน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกันแล้ว
“อืม ยังไงก็จัดการพาหัวหน้ากานต์ไปส่งที่บ้านด้วยก็เลยแล้วกันนะ”
“ครับ”
ชนกานต์ฟังโดยไม่แสดงความคิดเห็นอะไร รู้สึกปวดข้อมือมากขึ้นจนไม่อยากพูดอะไรมาก ยอมเดินออกไปกับปวีร์แต่โดยดี
“เฮอะ! ถูกผู้ชายที่ลากเข้าม่านรูดช่วยไว้จากผู้ชายโรคจิต ให้ตายสิ! ชีวิตฉันนี่ตลกชะมัด”
ชนกานต์บ่นขึ้นมาหลังจากขึ้นไปนั่งบนรถของปวีร์เรียบร้อยแล้ว
ปวีร์ที่กำลังจะคว้าเข็มขัดมาคาดเลิกคิ้วแล้วยิ้มมุมปาก
“เปลี่ยนเป็น ถูกพ่อของลูกช่วยไว้จากผู้ชายโรคจิต ฟังดูจะดีกว่านะครับ”
ชนกานต์หันมาขึงตาใส่ก่อนสะบัดหน้าหันมองไปทางนอกรถที่แล่นออกจากร้านอาหาร มองแสงไฟสีส้มบนท้องถนนไปเรื่อยๆ อาการเจ็บที่ข้อมือมันมากขึ้นแต่ชนกานต์นึกกังวลกับลูกในท้องเสียมากกว่า มือข้างที่ไม่เจ็บยกขึ้นมาแตะที่ท้องตัวเองอย่างเป็นกังวล
“ยังไง..ก็ให้คุณหมอตรวจเจ้าตัวเล็กหน่อยแล้วกันนะครับ”
“อืม..”
ชนกานต์ไม่โวยวายกลับเพราะนึกห่วงลูกอยู่เหมือนกัน ปวีร์ลอบมองใบหน้าที่หันไปอีกข้างก่อนจะยิ้มมุมปากน้อยๆ สัมผัสได้ว่าชนกานต์เองก็ผูกพันกับเจ้าตัวเล็กเหมือนกับเขา
บางที..ชนกานต์คงจะรักลูกมากกว่าท่าทีที่แสดงให้เขาเห็นก็ได้
กว่าจะเสร็จจากโรงพยาบาล เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน ชนกานต์นึกหงุดหงิดใจมากกว่าเก่าเพราะกระดูกข้อมือร้าวจนต้องใส่เฝือกเอาไว้ ยังดีที่ลูกในท้องยังปลอดภัย
ปวีร์ขับรถมาส่งชนกานต์ที่คอนโด ทันทีที่รถจอดสนิทในลานจอด ชนกานต์ก็เปิดประตูรถทำท่าจะเดินลงแต่ก็หยุดไว้ก่อนหันมาหา
“ขอบคุณ” ชนกานต์พูดแค่นั้น นึกเจ็บใจที่วันนี้ต้องพูดขอบคุณปวีร์มากกว่าหนึ่งครั้ง ปวีร์อมยิ้มกุลีกุจอลงจากรถมาหา
“กลับไปได้แล้วไป” ชนกานต์ไล่อย่างไร้เยื่อใย แต่ถ้าฟังก็คงไม่ใช่ปวีร์
“ผมกลับแน่ครับ แต่ส่งคุณเข้านอนก่อน”
“ไม่จำเป็น!”
ชนกานต์สวนกลับทันทีก่อนหยุดเพราะลิฟต์ลงมาถึงพอดี ประตูลิฟต์เปิดออกมาชนกานต์ก็หมายจะรีบแทรกตัวเข้าลิฟต์ไปแล้วกดปิดก่อนปวีร์จะเข้า แต่ก็ไม่ทัน
“ฉันไม่ให้นายเข้าห้องหรอกนะ” ชนกานต์บอกทันทีเมื่อเข้าไปอยู่ในลิฟต์
“กลัวผมหรอครับ?” ปวีร์ถามด้วยรอยยิ้มเหมือนประหนึ่งไม่เคยทำอะไรร้ายๆเอาไว้ ชนกานต์เห็นแล้วอยากต่อยเสยหน้าสักหมัด
“ฉันไม่ไว้ใจนาย”
“วางใจเถอะครับ ผมเป็นพ่อที่ดีพอที่จะไม่ทำร้ายแม่ของลูกหรอกครับ”
ประโยคเชื้อชวนให้วางใจแต่ฟังดูแล้วมันยิ่งน่าหงุดหงิดยิ่งกว่าเก่า
ชนกานต์กระแทกลมหายใจแล้วขังสายตาตัวเองไว้กับตัวเลขลิฟต์ที่เลื่อนไปตามระดับชั้นจนเข้าใกล้ชั้นที่พักของตนเอง
ออกจากลิฟต์เดินมาถึงห้อง ชนกานต์ก็ลังเลที่จะไขประตูเข้าห้อง ปวีร์เลยจัดการล้วงหยิบเอากุญแจจากกระเป๋าชนกานต์มาไข
“นี่นาย!”
“อย่าเสียงดังสิครับ มันรบกวนชาวบ้านเขานะ”
ปวีร์ว่าแล้วโอบชนกานต์ให้เข้าห้อง ชนกานต์ฮึดฮัดไม่พอใจ เข้าห้องได้ก็ผลักปวีร์ให้ออกห่าง
“เจ็บตัวขนาดนี้ อย่าออกฤทธิ์ให้มากเลยครับ เดี๋ยวลูกผมไหล”
“ห่วงลูกขนาดนี้ทำไมไม่ท้องเองไปเลยล่ะ!” ชนกานต์เหน็บอย่างหมั่นไส้คนที่เห่อลูก
“แล้วคุณจะเป็นพ่อเด็กให้ไหมล่ะครับ?”
เจอมุกนี้สวนกลับมา ทำเอาชนกานต์ถึงกับเหวอ รีบสะบัดหน้าหนีแล้วใช้ขาเตะแข้งคนที่พยุงตัวเองอยู่
“โอ้ย!” ปวีร์ร้องอุทานออกมา เจ็บน้ำตาแทบไหล ชนกานต์ยิ้มสมน้ำหน้าก่อนเดินหนีไปนั่งที่โซฟา ปวีร์รีบตามติดไปทั้งที่ยังเจ็บหน้าแข้ง
“หิวไหมครับ?” ชนกานต์ส่ายหน้า ตอนนี้นึกแต่เหนียวตัวอยากอาบน้ำแล้วนอนเท่านั้น
“งั้น..อาบน้ำแล้วเข้านอนเลยนะครับ”
“ปวีร์...ฉันดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องให้นายคอยมาดูแล แค่เข้าเฝือกมือ ไม่ได้พิการซะหน่อย”
ชนกานต์บ่น รำคาญปวีร์ที่ทำตัวเจ้ากี้เจ้าการ
“ผมดูแลลูกผมครับ แล้วก็หน้าหงิกแบบนั้น เดี๋ยวลูกออกมาก็คิ้วผูกโบหรอก” ปวีร์เอ่ยแซวยิ้มๆ เอื้อมมือมาจะดึงให้ชนกานต์ลุกจากโซฟา ชนกานต์ก็ตบมือตีแขนไปอย่างหงุดหงิดใจ
“ถ้านายไม่กวนประสาทฉัน ฉันก็ไม่หน้าหงิกหรอก!” ชนกานต์กระแทกเสียงตอบแล้วยันกายลุกขึ้นมายืนอีกรอบ
“ผมรู้นะครับว่าคุณเป็นคนเข้มแข็ง..แต่บางทีจะแสดงความอ่อนแอบ้างก็ได้นะ คนเราไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลานะครับ”
ปวีร์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง ทำเอาชนกานต์ชะงักไป
สิ่งที่เก็บกดเอาไว้ในอกค่อยๆเอ่อล้นออกมา
ทั้งเหนื่อยกับการทำงานและร่างกายที่เปลี่ยนไป ไหนจะเรื่องที่เกือบเสียท่าถูกผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นลากเข้าไปทำมิดีมิร้ายในห้องน้ำนั่นอีก แล้วยังต้องเจ็บใจเพราะคนที่มาช่วยไว้ก็คือปวีร์อีก มันทำให้ชนกานต์รู้สึกอ่อนแอบอกไม่ถูก
“ไอ้บ้าเอ้ย!” ชนกานต์สบถแล้วเบือนหน้าหนี โมโหกับความอ่อนไหวของตัวเอง ปวีร์รั้งเข้ามากอดก็ฮึดฮัดใส่
“อย่ามาถูก!” แขนข้างที่ไม่เข้าเฝือกฟาดใส่แทบจะโดนหน้าแต่ปวีร์ก็ไม่ยอมถอยออก รอจนชนกานต์หยุดอาละวาดไปเอง
ชนกานต์อาละวาดจนพอใจแล้วก็ยืนหอบหายใจ เจ็บใจที่น้ำตามันไหลลงมา มือเล็กยกขึ้นปาดมันออกไป
“นายกลับไปได้แล้วไป”
“แต่ผมคิดว่า..เวลาแบบนี้ คุณต้องการให้มีใครสักคนอยู่เป็นเพื่อนคุณนะครับ”
ชนกานต์หันมองหน้าคนพูดแล้วยิ้มเยาะ
“เวลาแบบนี้ ฉันอาจต้องการใครสักคนก็จริง แต่ฉันไม่คิดว่าคนๆนั้นจะเป็นนายหรอกนะ”
“แต่ผมอยากเป็นคนนั้นนี่ครับ”
ชนกานต์ถึงกับอึ้งจนต้องนิ่งแล้วถอนหายใจ
“ถ้านายจะเป็นห่วงลูกของนายมากจนต้องฝืนทำอะไรแบบนี้ก็ไม่ต้องหรอกนะ ยังไงฉันก็ไม่ทำให้ตัวเองแท้งหรอก”
“ลูกผมก็ห่วงครับ แต่ผมห่วงคุณมากกว่า..”
ชนกานต์นิ่งไปอีกครั้ง มองตาปวีร์แล้วก็ดูไม่เหมือนปวีร์คนเดิมที่ชอบหาเรื่องให้เขาโมโห วูบหนึ่งที่รู้สึกว่าใจมันเต้นแปลกๆ ชนกานต์เลยรีบใช้ศอกดันอกปวีร์ให้ออกห่างแล้วพูดเสียงแข็ง
“ยังไงฉันก็ไม่ไว้ใจนายอยู่ดี”
“อย่างนั้น..เราใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์กันดีไหมครับ? แบบในละครที่เขาพูดกันบ่อยๆไง”
ชนกานต์อยากรู้นัก..ว่ามีใครเคยบอกปวีร์ไหม ว่าเขาเป็นคนที่ขี้ตื้อมากที่สุดในโลกเลย!
“ถ้าคิดว่าฉันจะหลงคารมนายง่ายๆ ฉันบอกได้เลยว่านายคิดผิด”
“อย่าพึ่งตัดสินกันตอนนี้เลยครับ คุณควรไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนได้แล้วนะ”
ชนกานต์นึกขุ่นในใจ ก็คนที่ทำให้เขาไม่ได้ไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนเสียทีมันก็ปวีร์เองไม่ใช่หรือไงกัน
แต่ความเหนื่อยที่สั่งสมมานาน บอกให้เลิกยืนเถียงกับปวีร์เสียที เพราะเถียงเท่าไรก็ดูว่าปวีร์จะยังคงดื้อแพ่งที่จะอยู่ต่อ
“ขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้านายไม่ยอมกลับก็ตามใจ แต่ถ้าหากนายคิดตุกติกทำอะไรให้ฉันไม่พอใจแล้วก็ไม่ไว้ใจล่ะก็..ฉันไม่เอาลูกนายเก็บไว้แน่!” ชนกานต์เอ่ยขู่ด้วยหน้าจริงจัง แต่ปวีร์ฟังแล้วหน้าระรื่น พยักหน้าอย่างแข็งขัน
“อย่างนั้นไปอาบน้ำนะครับ หรือจะเช็ดตัวดี?”
ปวีร์มองแขนที่ใส่เฝือกของชนกานต์แล้วก็กลัวว่าถ้าอาบน้ำแล้ว น้ำจะเข้าเฝือก แต่คนเจ็บไม่นึกอยากเช็ดตัว
“อยากอาบน้ำมากกว่า”
ปวีร์พยักหน้า ไม่ขัดใจแต่เดินตามชนกานต์เข้าไปในห้อง
“ออกไปสิ” ชนกานต์เอ่ยไล่ แต่ปวีร์ไม่ยอมขยับ แถมยังเอื้อมมือมาปลดกระดุมเสื้อชนกานต์อีก ชนกานต์รีบตีมือทันที
“ผมจะช่วยคุณถอดเสื้อไงครับ”
“ไม่ต้อง!”
“อย่าดื้อสิ ก็แค่ช่วยถอดเสื้อเท่านั้นเอง”
ชนกานต์หน้าหงิกที่ถูกดุ ปวีร์ยิ้มมุมปากขำๆกับท่าทางแบบนั้น นึกเอ็นดูคนที่อายุมากกว่าขึ้นมาทันที ที่สุดแล้วก็ยอมให้ปวีร์ถอดเสื้อให้ แต่ไม่ให้วุ่นวายไปมากกว่านี้
“เฮ้อ..เป็นการอาบน้ำที่เมื่อยชะมัด” ชนกานต์เอ่ยบ่นพลางนวดบริเวณไหล่ที่ปวดเพราะต้องเกร็งแขนให้ไม่โดนน้ำ
“พรุ่งนี้จะไปหาซื้อถุงสวมกันน้ำให้แล้วกันนะครับ”
“มันมีขายด้วยหรอ?” ชนกานต์ถามอย่างประหลาดใจ
“มีครับ ใช้กันน้ำได้ดีเลยทีเดียว ผมเองตอนใส่เฝือกอยู่ตอนสมัยเรียนมหาลัยก็มีคนแนะนำให้ใช้อยู่”
“นายเคยใส่เฝือกด้วย?”
“ข้อเท้าพลิกตอนเล่นบอลน่ะ”
ชนกานต์พยักหน้ารับรู้แล้วยกมือขึ้นปิดปากหาว ดวงตาหรี่ปรืออย่างง่วงนอน ปวีร์เลยประคองไปที่เตียง
“นายก็กลับไปได้แล้ว” ชนกานต์เอ่ยไล่หลังจากล้มตัวไปนอน
“ราตรีสวัสดิ์ครับ” ปวีร์หยิบผ้าห่มมาห่มให้ ชนกานต์เห็นรอยยิ้มแปลกตาก่อนที่จะหลับตาลง..
เป็นรอยยิ้มอบอุ่นที่ดูไม่เข้ากับคนอย่างปวีร์เลยสักนิด!
ปวีร์มองคนที่ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยด้วยรอยยิ้ม เขาทิ้งตัวนั่งลงที่ข้างเตียง แล้วยกมือขึ้นลูบแก้มชนกานต์เบาๆ
ความรู้สึกอ่อนหวานที่มันไม่เคยมีมาก่อนกำลังเกิดขึ้นในใจ
ปวีร์แน่ใจว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร
เขาหัวเราะตัวเองที่แค่นั่งมองหน้าชนกานต์ตอนนอนก็อมยิ้มได้เหมือนคนบ้า ตั้งใจจะนั่งมองแบบนี้ไปเรื่อยๆให้ชื่นใจ เพราะโอกาสที่ได้นั่งมองชนกานต์นอนแบบนี้ไม่ค่อยจะมี แต่ก็ดันมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมารบกวน ปวีร์รีบหยิบขึ้นมารับสายเพื่อไม่ให้กวนคนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่
คนที่โทรมาก็คือลูกน้องคนที่วิ่งตามคนร้ายไป ปวีร์หลบออกไปคุยข้างนอก ได้ใจความว่าพวกลูกน้องกับพนักงานของร้านตามวิ่งจนจับผู้ชายคนนั้นได้และพาส่งตำรวจกันเรียบร้อย
“เป็นโรคจิตขี้ยาอย่างนั้นหรอ?”
ปวีร์ถามกลับไป หลังจากที่ลูกน้องบอกว่าตำรวจค้นตัวผู้ชายคนนั้นแล้วเจอยาระงับประสาทและยาเสพติด
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นล่ะครับ”
“เฮ้อ..”
ปวีร์ถอนใจ นึกขอบคุณตัวเองที่สะกิดใจเห็นว่าชนกานต์ไปห้องน้ำนานเลยลุกตามไปดู ไม่เช่นนั้นแล้ว..ก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชนกานต์บ้าง
“ยังไงก็ขอบใจมากนะที่เป็นธุระให้”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วหัวหน้ากานต์เป็นยังไงบ้าง?”
“กระดูกข้อมือร้าวน่ะ เลยต้องใส่เฝือกไปสักระยะ”
ปวีร์บอกอาการไปและพูดคุยต่อได้สักพักแล้วจึงวางสายไป มองดูนาฬิกาที่เลยเวลานอนมาแล้วหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่นึกง่วง ปวีร์หันกลับจะเข้าไปหาชนกานต์ในห้องนอน แต่ก็หยุดอยู่ตรงหน้าห้อง เปลี่ยนใจที่จะกลับไปที่คอนโดของตัวเองแทนโดยที่ไม่ลืมหยิบกุญแจห้องของชนกานต์ติดไปด้วย
ชนกานต์มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็รุ่งเช้า แสงแดดที่แยงตาทำให้ต้องยกมือขึ้นมาป้องเอาไว้ ชนกานต์พลิกตัวไปมาอย่างงัวเงีย แต่อาการคลื่นไส้ตอนช่วงเช้าทำให้ต้องยันกายลุกขึ้นมานั่งพะอืดพะอมก่อนวิ่งพรวดพราดเข้าห้องน้ำไปอาเจียนจนขมคอ
“แผลงฤทธิ์จังนะเจ้าตัวเล็ก” ชนกานต์เอามือลูบท้องที่ยังคงแบนราบแล้วพูดแผ่วเบา ถึงจะรู้สึกเหนื่อยล้าแต่ความรู้สึกของผู้ที่กำลังจะให้กำเนิดมันก็ทำให้ชนกานต์รู้สึกอบอุ่นในใจ
ร่างบางหันไปเปิดน้ำล้างหน้าก่อนเดินออกมาดูข้างนอก พอเห็นว่าปวีร์ไม่ได้อยู่ในห้องแล้วก็เดินกลับไปนอน
ใจนึกสับสน ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือน้อยใจดีที่ไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในห้องเช่นนี้
ชนกานต์ผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอีกพักใหญ่ มาตื่นขึ้นอีกครั้งก็ตอนที่ถูกเขย่าแขน ปรือตามาดูก็นึกว่าตัวเองฝันไปจนต้องกะพริบตาแล้วลืมมามองใหม่
“นายเข้ามาได้ไง?” ชนกานต์ขมวดคิ้วมุ่นที่เห็นปวีร์นั่งยิ้มอยู่ข้างๆ
“ผมเอากุญแจไปด้วยน่ะครับ”
ปวีร์บอกไปตามตรง มือเอื้อมไปจะช่วยพยุงให้ชนกานต์ลุกขึ้นนั่ง แต่ชนกานต์ยันกายขึ้นมาลุกนั่งเองแล้วจึงชักมือกลับไป
“หิวหรือยังครับ?” ชนกานต์มองหน้าปวีร์ก่อนถอนหายใจ
นึกจะบ่นว่าจะต้องให้พูดกี่ครั้งว่าเขาดูแลตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องมาดูแลเหมือนเขาเป็นคนพิการแบบนี้
แต่เห็นสายตาที่มองมาแล้วก็พูดไม่ออก
“อืม มีอะไรกินบ้างล่ะ?”
ปวีร์ฉีกยิ้มทันทีที่ได้ยินคำถาม รีบกุลีกุจอบอกเมนูบรันซ์ที่ตัวเองไปซื้อของจากตลาดสดตอนก่อนรุ่งสางมาลงมือทำให้ คนฟังถึงกับเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจกับการลงทุนของปวีร์ไม่น้อย ยิ่งมาเห็นอาหารมากมายที่ปวีร์ทำก็ยิ่งอึ้ง
“ไม่เห็นต้องอลังการงานสร้างขนาดนี้” ชนกานต์บ่น แค่เห็นอาหารวางเรียงกันเต็มโต๊ะก็รู้สึกแน่นท้องขึ้นมาเสียแล้ว
“ผมไม่รู้นี่ครับว่าคุณชอบทานอะไรบ้าง เลยทำไว้หลายๆอย่าง อีกอย่างผักพวกนี้เป็นผักปลอดสารพิษทั้งนั้น เนื้อสัตว์ผมก็คัดมาสดๆ พอได้ลงมือทำมันก็เลยเพลินมือจนทำหลายอย่างไปหน่อย”
น้ำเสียงของปวีร์พูดดูสดใส ต่างจากคนที่ชอบหาเรื่องกวนประสาทให้หงุดหงิดใจอยู่เสมอ ชนกานต์เลยไม่รู้จะวางสีหน้าอย่างไรดี จึงเลือกทำหน้านิ่งๆแล้วตักซุปมันฝรั่งที่อยู่ใกล้มือมาซด รสชาติยังคงดีเหมือนเดิม
“ฉันไม่ชอบกินของเลี่ยนๆ”
แค่ชนกานต์ยอมเอ่ยปากบอกแค่นี้ ก็ทำให้พ่อครัวจำเป็นนั่งยิ้มไปได้ตลอดทั้งมื้ออาหาร เพราะบนโต๊ะนั้นไม่มีอาหารประเภทที่ชนกานต์ไม่ชอบอยู่เลยสักอย่าง
หลังกินอาหารเช้าควบมื้อเที่ยงกันเสร็จ ปวีร์ก็ยังคงสถิตอยู่ในห้องของชนกานต์ไม่ยอมกลับ เจ้าของห้องตีหน้าบึ้งนิดหน่อยก่อนเดินไปนั่งที่โซฟา ยกขาขึ้นจะพาดโต๊ะด้วยความเคยชินก็เจอกับถุงหนังสือถุงใหญ่ที่วางไว้ ชนกานต์หดขาลง ขมวดคิ้วเพราะแน่ใจว่ามันไม่ใช่ของตน
“อะไรน่ะ?” เอ่ยถามพลางดึงมาดู ปวีร์ยกเอาน้ำผลไม้คั้นสดมาวางให้แล้วนั่งลงข้างๆ
“หนังสือเลี้ยงลูก? หนังสือคุณแม่ตั้งครรภ์? หนังสือตั้งชื่อลูก?..เหอะ!” ชนกานต์ทำเสียงขึ้นจมูกแต่มุมปากยกยิ้ม เอนหลังพิงโซฟาแล้วเปิดหนังสือขึ้นอ่าน
“จะเอาแว่นหรือเปล่าครับ?” ปวีร์ถามเพราะปกติเห็นชนกานต์ใส่แว่นอยู่เสมอ ชนกานต์เลิกคิ้วก่อนยักไหล่
“แค่นี้พออ่านได้”
(ตอบ)
-
“แต่ผมชอบเวลาคุณใส่แว่นมากกว่านะ”
ชนกานต์ย่นจมูกแล้วหันหนีไปทางอื่น จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อเพื่อตัดบทสนทนา ปวีร์ก็เลื่อนแก้วน้ำผลไม้มาให้
“ดื่มซะหน่อยสิครับ”
“น้ำอะไรน่ะ? น้ำส้ม?”
ชนกานต์มองดูสีส้มของมันแล้วก็ไม่รู้ว่าคือน้ำอะไรกันแน่ เพราะมันสีเข้มกว่าน้ำส้ม
“น้ำผลไม้รวมน่ะครับ” ชนกานต์รับมาจิบชิมรสชาติ พอเห็นว่ารสชาติใช้ได้ก็ดื่มไปอีกอึกใหญ่ก่อนวาง
“ใช้ได้ไหมครับ?”
“อืม ชุ่มคอดี”
แค่คำชมสั้นๆก็ทำให้ปวีร์ยิ้มกริ่มได้อีกครั้ง ชนกานต์นึกหมั่นไส้แต่ก็ไม่เห็นประโยชน์ที่จะไปขัดคอให้หงุดหงิดใจกันตอนนี้
หงุดหงิดใจไปก็เป็นผลเสียต่อเจ้าตัวเล็กเสียเปล่าๆ
ชนกานต์พยายามคิดอย่างนั้น แต่ก็ปล่อยวางได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็เกิดความหงุดหงิดขึ้นมาจนได้
“โอ้ย! หยุดพูดซะทีเหอะ! น่ารำคาญ!”
ชนกานต์ร้องออกมาอย่างเหลืออด เพราะปวีร์เอาแต่พูดในสิ่งที่กำลังอ่านออกมาให้ฟัง
“ที่ผมพูดมันก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้นนะครับ คุณควรฟังไว้นะ”
“ฉันอ่านเองได้! นายมาพูดเสียงหึ่งๆ อยู่นี่ฉันไม่มีสมาธิอ่าน กลับคอนโดนายไปเลยไป”
ชนกานต์บ่นก่อนโยนหนังสือลงกับโซฟา ลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาแล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานแต่ปวีร์เดินมาขวางไว้ก่อน
“จะทำงานใช่ไหมครับ? โปรเจคก็เพิ่งเสร็จไป ผมว่าคุณเอาเวลามาพักผ่อนดีกว่านะ”
ชนกานต์ย่นหน้าใส่ หงุดหงิดใจที่ปวีร์เข้ามาจู้จี้
“ฉันคงได้พักผ่อนแน่...ถ้าไม่มีนายเข้ามาวุ่นวาย”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ อืม...นี่ก็เพิ่งจะเที่ยงเอง ออกไปดูหนังกันไหมครับ?”
ชนกานต์ถึงขั้นยืนทำตาปริบๆกับการเปลี่ยนอารมณ์กะทันหันของปวีร์ที่เข้ามาลากแขนเขาให้ไปเตรียมตัวออกไปห้างสรรพสินค้ากัน
“นายนี่มัน....” ชนกานต์ได้แต่ส่ายหน้าไปมา แล้วยอมปล่อยเลยตามเลยออกมาห้างกับปวีร์โดยที่อดสังหรณ์ใจไม่ได้ว่าจะมาชวนกันทะเลาะต่อข้างนอกหรือเปล่า
“ดูเรื่องอะไรกันดีล่ะ?”
ชนกานต์ที่เดินลากขามาหยุดยืนข้างกันยักไหล่ มองดูโปรแกรมภาพยนตร์แล้วก็ไม่นึกอยากดูเรื่องอะไรเป็นพิเศษ ปวีร์เลยจัดการชี้ไปที่หนังรักโรแมนติกเรื่องหนึ่ง
“งั้นดูเรื่องนี้กันนะครับ” ชนกานต์เหล่มองแล้วยักไหล่อีกรอบ
“ตามใจนายก็แล้วกัน” บอกแล้วชนกานต์ก็หยิบเอามือถือมากดดูการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวันนี้ ปวีร์หันมาเห็นก็ดึงเอามือถือไปกดปิดแล้วใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองไป
“ไปซื้อตั๋วกันครับ” ปวีร์ทำไม่รู้ไม่ชี้ดึงมือชนกานต์ไปยังช่องขายตั๋วอัตโนมัติ ชนกานต์กระชากมือกลับก็ไม่ยอมปล่อย คนถูกลากมือไปเลยตีหน้าบึ้งคล้ายคนที่อยากจะว้ากใส่ใครสักคน
ชนกานต์ยืนหน้าบึ้งจนกระทั่งปวีร์ซื้อตั๋วเสร็จ เห็นเวลายังเหลืออีกเป็นสิบนาที ปวีร์จึงชวนแกมบังคับให้ไปเดินเล่นฆ่าเวลา แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นเขตของโรงหนัง ใครบางคนก็ปรี่เดินเข้ามาขวางหน้าไว้
“หัวหน้าวีร์กับหัวหน้ากานต์จริงๆด้วย แหมมม ตะกี้เห็บแวบๆที่ช่องขายตั๋ว ออยก็นึกว่าตาฝาดไปเสียอีก มาด้วยกันได้ไงคะเนี่ย”
หญิงสาวทำหน้าอัศจรรย์ใจ ชนกานต์มองหน้าเธอแวบแรกแล้วก็รู้สึกไม่คุ้นก่อนที่จะนึกออกว่าแม่สาวคนนี้คือพนักงานที่ปวีร์เล่นรักด้วยในห้องเก็บเอกสาร
เส้นอารมณ์ของชนกานต์ถูกดึงให้ตึงขึ้นทันที
“ก็แค่บังเอิญน่ะ”
เสียงห้วนบ่งบอกอารมณ์ชัดเจน แต่ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ใส่ใจกับชนกานต์ เพราะเธอหันไปยิ้มฉอเลาะให้กับปวีร์
“ไม่ได้เจอกันเลยนะคะตั้งแต่ออยย้ายไปทำที่แผนกอื่น คิดถึงจังเลยค่ะ”
เธอชม้ายตาใส่ปวีร์ที่วางสีหน้าลำบากเพราะรู้สึกตัวแล้วว่าชนกานต์กำลังไม่พอใจหญิงสาว ปวีร์รู้ทันทีว่าเป็นเพราะอะไร
“แผนกที่ย้ายไปดีไหม?”
ปวีร์แสร้งถามไปตามมารยาทพลางนึกหาทางชิ่งจากเธอ หางตาเห็นชนกานต์ทำท่าเหม็นเบื่อก็รู้ว่าคะแนนตัวเองติดลบเพิ่มเข้าไปอีก
“ก็ดีค่ะ แต่หัวหน้าดุ๊ดุ...เหมือนหัวหน้ากานต์เลย อ้อ..หัวหน้ากานต์สบายดีนะคะ ได้ข่าวว่าเมื่อคืนเกือบถูกโรคจิตปล้ำในห้องน้ำร้านอาหารหรอคะ? แต่ดูเหมือนไม่เป็นอะไรมากสินะคะ วันนี้ถึงออกมาดูหนังได้”
ชนกานต์ชักกรุ่นกับการพูดและน้ำเสียงของแม่คนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ พูดมาได้ว่าเขาคงไม่เป็นอะไรมากทั้งที่ใส่เฝือกให้เห็นอยู่ทนโท่แบบนี้
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร” ชนกานต์พูดเสียงเรียบคล้ายไม่แคร์ แต่แววตาหลังแว่นดูขุ่นเขียว
ปวีร์รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที
“ออยก็มาดูหนังเหมือนกันหรอ?”
“ค่ะ อยู่บ้านเซ็งๆเลยออกมาหาหนังดู ว่าแต่ดูเรื่องไหนกันหรอคะ อุ้ย! เรื่องนี้ออยเองก็อยากดูอยู่พอดี ที่นั่งติดกับพวกหัวหน้าจะว่างไหมหนอ ออยจะได้มีเพื่อนดู”
ชนกานต์นึกหมั่นไส้หญิงสาวไม่น้อย ปากทำถามแต่กลับชะโงกหน้ามามองตั๋วหนังในมือของปวีร์แล้วพูดทอดสะพานแบบนี้ แต่มองหน้าคนที่ลากเขามาดูหนังแล้วก็นึกหมั่นไส้กว่า
“อย่างนั้นคุณก็ไปดูกับหัวหน้าวีร์เลยสิครับ หนังแนวนี้ผมไม่ชอบดูอยู่แล้ว” ชนกานต์ดึงตั๋วจากมือปวีร์มาส่งให้เธอแล้วฉีกยิ้มให้ก่อนหันไปยิ้มหวานแบบเคลือบยาพิษให้ปวีร์
“ทีนี้คุณก็มีเพื่อนดูแล้วนะ ผมไปล่ะ”
“เดี๋ยวสิ!”
ปวีร์จะหันไปรั้งชนกานต์ไว้ก็ไม่ทัน เพราะชนกานต์เล่นเดินดุ่มๆหนีไปทันที ส่วนตัวเขานั้นถูกแม่สาวอรณีปราดเข้ามาล็อกแขนเอาไว้
“แหม..ดีใจจังเลยค่ะที่ได้ดูหนังกับหัวหน้าวีร์”
“ขอโทษนะ แต่ผมไม่อยากดูแล้วล่ะ”
ปวีร์ตัดบทด้วยความเหนื่อยหน่าย เขาคว้าแขนผู้ชายคนหนึ่งที่เดินผ่านมา ผู้ชายคนนั้นตกใจเล็กน้อยที่ถูกดึงแขนไว้
“ขอโทษนะครับ พอดีคุณผู้หญิงคนนี้อยากดูหนังกับคุณน่ะครับ”
ปวีร์จัดการยัดมือของอรณีและตั๋วหนังของตัวเองให้กับผู้ชายคนนั้นแล้วรีบเดินตามชนกานต์ไปทันที ไม่สนใจอรณีที่ส่งเสียงเรียกไล่หลังมา
“หัวหน้า! เดี๋ยวสิคะหัวหน้า!!”
ปวีร์เดินตามชนกานต์มาจนลงบันไดเลื่อนมาชั้นล่าง เห็นหลังชนกานต์ไวๆก็คิดจะรีบเดินไปหา แต่ก็นึกเปลี่ยนใจเดินตามไล่หลังไปห่างๆเพราะอยากรู้ว่าชนกานต์จะไปทำอะไรบ้าง
ฝ่ายคนที่ถูกเดินตามนั้นไม่รู้ตัวเลยสักนิด ชนกานต์กะใช้โอกาสที่ได้มาห้างนี้ไปเดินดูซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่จึงเดินมุ่งหน้าไปยังโซนเสื้อผ้า ปวีร์เดินตามไปเรื่อยๆ แอบอมยิ้มเมื่อเห็นชนกานต์ช่วยแม่ลูกอ่อนคนหนึ่งเอารถเข็นเด็กลงบันไดเลื่อนแล้วก็ก้มลงไปยิ้มกับเด็กน้อยในรถเข็น เป็นรอยยิ้มน่ารักที่แทบไม่มีโอกาสได้เห็น
ระหว่างทางที่ลงไปยังชั้นขายเสื้อผ้าผู้ชาย ชนกานต์ก็สะดุดตากับโซนเสื้อผ้าเด็กที่อยู่เหนือชั้นจุดหมาย ชนกานต์ลงจากบันไดเลื่อนแล้วจึงเดินเข้าไปดู มุมปากยกยิ้มมองดูเสื้อผ้าเด็กอ่อนที่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็คงต้องเลือกซื้อหาเอาไว้ให้เจ้าตัวเล็กในท้อง
ปวีร์ที่เดินตามมาเห็นเข้าก็ถึงขั้นยิ้มจนแก้มปริ เดินเข้าไปหาแบบเนียนๆ
“ตัวนี้น่ารักนะครับ” เสื้อตัวเล็กสีฟ้าที่ปลายนิ้วของชนกานต์แตะอยู่ถูกหยิบขึ้นมา ชนกานต์หันขวับไปมองเจ้าของมือก่อนสะบัดหน้าหนี ใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นบึ้งตึง
“ตามฉันมาทำไม? นายอยากดูหนังไม่ใช่หรือไงกัน?”
“ผมไม่ได้อยากดูหนังครับ ผมแค่อยากใช้เวลากับคุณเท่านั้น”
ปวีร์บอกแล้วยิ้มให้ จับมือชนกานต์ไว้ข้างหนึ่งไม่ให้ชนกานต์เดินหนี ส่วนอีกมือก็เลือกดูเสื้อสำหรับเด็กแรกเกิด ชนกานต์เม้มปากแน่น พวงแก้มร้อนจัด พยายามดึงมือออกแต่ปวีร์จับไว้แน่น
“ปล่อยนะ!”
ชนกานต์ถลึงตาใส่คนเจ้าเล่ห์ ตั้งใจจะผลักปวีร์ออกไปแรงๆแต่ติดที่พนักงานขายเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพร้อมบริการ
“คุณพ่อคุณแม่จะมาดูเสื้อให้คุณลูกหรอคะ?”
ชนกานต์อยากจะกัดลิ้นตาย ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมองเป็นอย่างนั้นได้ ถึงมันจะเป็นความจริงก็เถอะ
“ครับ ช่วยแนะนำหน่อยสิครับ” ปวีร์รีบตอบเธออย่างกระตือรือร้นจนชนกานต์นึกหมั่นไส้
“คุณหนูเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ? แล้วอายุเท่าไหร่แล้วเอ่ย?”
“ยังไม่ทราบเลยครับ ยังอยู่ในท้องอยู่เลย”
ปวีร์พูดแล้วชี้นิ้วมาที่ท้องของชนกานต์ทำเอาชนกานต์รู้สึกอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี
“แหม...เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ใจร้อนจังเลยนะคะเนี่ย”
พนักงานขายเอ่ยแซวแล้วหัวเราะคิกคักก่อนแนะนำว่าเป็นเด็กอ่อนแรกเกิดจะใช้สีอะไรก็ได้ตามแต่ที่คนเป็นพ่อกับแม่ชอบ
ชนกานต์ยืนฟังไปก็นึกอยากหายตัวไปจากตรงนี้
แต่ติดที่พนักงานขายดูจะชอบอกชอบใจคิดว่าเขากับปวีร์เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่รักใคร่กันมากนี่สิที่ทำเอาชนกานต์ก้าวหนีไม่ออก
“บ้าชะมัด!”
ชนกานต์สบถออกมาหลังจากที่หลุดพ้นจากพนักงานขายเสื้อผ้าเด็กที่ทำหน้าที่พรีเซ้นส์การขายของเธอได้ดีเยี่ยมมากจนปวีร์ควักเงินซื้อเสื้อผ้าเด็กอ่อนมาหลายชุด ไม่นับรวมของอย่างอื่นอีกถุงใหญ่
“ยังไงเราก็ต้องซื้ออยู่แล้วนี่ครับ ซื้อตอนนี้ก็ไม่เห็นเสียหายนี่นา แถมยังได้ลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ด้วย คุ้มจะตาย”
ปวีร์พูดอย่างอารมณ์ดี ชนกานต์เองก็ขี้เกียจจะเถียง เพราะที่ปวีร์พูดมาก็ถูก ตอนนี้ทางห้างจัดโปรโมชั่นลดราคาอยู่ด้วย ซื้อตอนนี้มันก็คุ้มกว่าจริงๆอย่างที่ว่า
“ชริ!” ชนกานต์ทำเสียงขึ้นจมูกใส่ หงุดหงิดจนลืมจุดประสงค์ที่จะไปซื้อเสื้อผ้าของตัวเองเสียสนิทใจ
“หิวหรือยังครับ?” ปวีร์พลิกดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือแล้วเอ่ยถาม ชนกานต์รู้สึกเริ่มหิวแต่ก็ไม่อยากนั่งทานอะไรกับปวีร์อีก
“หิว แต่ฉันไม่กินกับนายหรอกนะ”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ...พ่อแม่ลูกได้กินกันพร้อมกันแบบนี้ดีออก” ชนกานต์หน้าร้อนอีกครั้งกับคำพูดของปวีร์ ยังไม่ทันจะพูดอะไร เสียงท้องร้องก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
โครก~~
“ท่าทางเจ้าตัวเล็กจะหิวแล้วนะครับ ไปหาอะไรกินกันเถอะ”
ปวีร์ยิ้มขำแล้วถือวิสาสะจูงมือชนกานต์ที่เดินขืนตัวไปทางร้านอาหารที่อยู่ชั้นล่าง ชนกานต์ยอมตามไปโดยที่บ่นไปด้วยตลอดทาง
กว่าจะกลับถึงห้องก็เล่นเอาพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว ชนกานต์นึกหงุดหงิดใจกับรอยยิ้มกริ่มที่ไม่รู้ว่าอารมณ์ดีอะไรหนักหนาของปวีร์ พอไขประตูเข้าห้องได้ก็เดินกระแทกเท้าเข้าไป
“นายกลับไปได้แล้วไป...อ๊ะ!?”
ชนกานต์ชะงักปากที่เอ่ยไล่เพราะถูกรวบกอดไว้จากทางด้านหลังทันทีที่ปวีร์วางถุงข้าวของที่ซื้อมาได้
“ปล่อย!” บอกเสียงดังแล้วเอาศอกดันคนกอดให้ออกห่าง แต่ปวีร์ยังกอดไว้แน่น
“วันนี้ผมดีใจมากเลยนะ” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหู เพราะถูกกอดจากด้านหลังจึงไม่เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของปวีร์
“เห!? อะไรของนายกัน?”
“ดีใจที่คุณหึงผมน่ะครับ”
ปวีร์บอกแล้วคลายอ้อมแขนก่อนฉกจูบที่แก้มใส ชนกานต์รีบผลักแล้วยกมือเช็ดแก้มตัวเอง ทำหน้าบึ้งใส่
“อย่ามโนไปหน่อยเลย ใครหึงนายกัน!”
ชนกานต์โวยวาย สองแก้มขึ้นสีแดงจัดลามไปจนถึงใบหู ปวีร์หัวเราะขำพลางโยกตัวหนีถุงเสื้อผ้าของเจ้าตัวเล็กที่ชนกานต์ก้มลงไปหยิบมาเขวี้ยงใส่
“หึงก็ยอมรับสิครับว่าหึง ไม่เห็นต้องปากหนักไปเลย” ปวีร์ยังแหย่ชนกานต์อย่างมีความสุข
ภาพตอนที่ชนกานต์เดินหนีเขาตอนที่อรณีเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะยังคงติดตาอยู่ นึกถึงแล้วก็หัวใจพองโตชอบกล
“ฉัน-ไม่-ได้-หึง!”
ชนกานต์เค้นเสียงพูดทีละคำพร้อมถลึงตาใส่แต่ก็ไม่อาจลบรอยยิ้มกริ่มไปจากใบหน้าของปวีร์ได้
“เชื่อดีไหมน้า~~”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ! กลับไปได้แล้วไป!”
ชนกานต์ออกปากไล่อีกหน ปวีร์หัวเราะแล้วยอมล่าถอยไปใส่รองเท้าที่หน้าประตู
“กลับก็ได้ครับ ถ้านอนแล้วรู้สึกเหงาอยากมีคนกอดก็โทรตามได้นะครับ ดึกแค่ไหนก็จะบึ่งรถมาหา”
ชนกานต์ทำปากด่าไปให้ปวีร์อ่านก่อนแบมือทวงกุญแจห้องเมื่อนึกขึ้นได้
“เอากุญแจห้องฉันมาด้วย”
“ไม่ล่ะครับ เดี๋ยวคุณไม่ยอมให้ผมเข้าห้องอีก อ่อ..เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมารับนะครับ แขนคุณแบบนี้คงจับรถไม่ได้จริงไหม?”
“ตามใจ!”
ชนกานต์กระแทกเสียง ใบหน้ายังคงบึ้งตึงอยู่ ปวีร์ยิ้มมุมปากแล้วชะโงกมาหอมแก้มอีกฟอด ชนกานต์เงื้อมือจะต่อยแต่ไม่ทันเพราะปวีร์เผ่นไปที่ประตูทันทีหลังจากขโมยหอมแก้มไป
“ไปก่อนนะครับ อย่าลืมนอนฝันถึงผมนะครับ”
ปวีร์ว่าแล้วเปิดประตูห้องออกไป ทิ้งให้ชนกานต์ยืนหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ถูกขโมยหอมแก้มไปเสียหลายที
“ใครจะนอนฝันถึงนายกันปวีร์!”
ชนกานต์ย่นจมูกใส่ประตูก่อนจะหันกลับเข้ามาในห้อง เห็นเสื้อผ้าเด็กที่หล่นออกจากถุงที่ขว้างใส่ปวีร์แล้วก็อดไม่ได้ที่จะก้มลงเก็บ มุมปากยกยิ้มเมื่อมองเสื้อของเจ้าตัวเล็กที่ยังอยู่ในท้อง
“อีกไม่นานก็ได้ใส่แล้วเนอะ”
ชนกานต์ลูบท้องตัวเองแผ่วเบา ความผูกพันกับลูกในท้องกำลังเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆโดยที่ไม่รู้ตัว
เช้าวันถัดมา ปวีร์มาหาชนกานต์ตั้งแต่ก่อนเจ็ดโมง เปิดประตูเข้าห้องมาได้ก็จัดการเอาถุงโจ๊กไปวางที่โต๊ะก่อนเดินไปทางห้องนอน ปวีร์เปิดประตูเข้าไป เห็นชนกานต์ยังคงนอนอยู่ก็ยิ้มมุมปาก เดินเข้าไปทรุดนั่งลงข้างๆ มองดูใบหน้าของคนหลับอยู่แล้วก็ยังไม่อยากปลุก
“อืมม...” ชนกานต์ครางเบาๆแล้วพลิกตัวตะแคงข้าง มือที่กำเสื้อตัวเล็กโผล่ให้เห็นเพราะผ้าห่มเลื่อนลงไป ปวีร์ตาโตก่อนหัวเราะเบาๆ
“คุณนี่น่ารักจัง” ปวีร์พูดเสียงแผ่ว ก้มลงจูบแก้มคนที่แอบเอาเสื้อของเจ้าตัวเล็กมานอนด้วย
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“เฮ้ย!”
ชนกานต์ที่งัวเงียพอเห็นหน้าปวีร์อยู่ในระยะประชิดก็ตกใจสะดุ้ง ฟาดมือเข้าใส่แก้มปวีร์ทันที
เพี๊ยะ!
“โอ๊ย!” ปวีร์ร้องแล้วเอามือขึ้นลูบแก้ม สันมือของชนกานต์ฟาดเข้าโหนกแก้มพอดิบพอดี
“เจ็บนะครับ”
“สมน้ำหน้า อยากเข้ามาเงียบๆเองช่วยไม่ได้” ชนกานต์บอก สะใจที่เห็นรอยแดงบนใบหน้าหล่อๆของอีกฝ่าย
“ก็ผมอยากจูบอรุณสวัสดิ์คุณนี่ครับ” ชนกานต์ทำหน้าแหวะใส่
“ทีหลังไม่ต้องเลยนะ แล้วนี่อะไรกัน? ยังไม่เจ็ดโมงเลย”
ชนกานต์หันมองเวลาแล้วก็ทำหน้าบูดใส่ที่คนที่มาปลุกแต่เช้า ปวีร์ยิ้มๆก่อนเดินไปหยิบเอาถุงกันน้ำเข้าเฝือกมา
“จะทำอะไรน่ะ?” ชนกานต์ตวาดใส่ปวีร์ที่ตลบผ้าห่มขึ้น
“ดูก็น่าจะรู้นี่ครับ ผมจะใส่ถุงกันน้ำให้ คุณจะได้ไปอาบน้ำไง”
“ฉันใส่เองได้น่ะ!” ชนกานต์ว่าแล้วเอื้อมมือมาจะดึงถุงในมือของปวีร์ แต่ปวีร์เลื่อนมือหนี
“ผมทำให้ สะดวกกว่านะครับ”
“ชิ!” ชนกานต์สะบัดหน้าใส่ ปวีร์หันไปจัดการสวมถุงกันน้ำให้ ไม่นานก็เสร็จ
“เดินระวังๆนะครับ”
ปวีร์เตือนคนที่ลุกขึ้นจากเตียง ชนกานต์เบ้หน้าก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นชนกานต์เผลอแสดงอารมณ์เหมือนเด็กต่างจากภาพลักษณ์ปกติที่ชอบทำเก๊กหยิ่ง ปวีร์ยิ้มขำอารมณ์ดี
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ชนกานต์ก็ได้กลิ่นหอมฉุยมาจากด้านนอก ปวีร์กำลังรินนมใส่แก้วมาวางไว้ให้ ชนกานต์เดินลากขาไปนั่ง
“ทีหลังไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ก็ได้นะ มันน่ารำคาญ”
ชนกานต์บอกตรงๆตามที่รู้สึก คนอื่นอาจมองว่ามันโรแมนติก แต่ไม่ใช่กับเขา การที่ปวีร์เข้ามาก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวแบบนี้มันน่ารำคาญสำหรับคนที่รักสันโดษอย่างเขา
“แต่ผมอยากทำให้คุณกับลูกนี่ครับ”
ชนกานต์นิ่งไป มองหน้าคนที่ส่งยิ้มมาให้อย่างไม่เข้าใจนักว่าปวีร์กำลังคิดอะไรอยู่แน่ ระแวงว่าปวีร์กำลังวางแผนอะไรอยู่ ถึงได้มาทำดีใส่กันแบบนี้
“ยังไง...ฉันก็ไม่ไว้ใจนายอยู่ดี แล้วก็ยังเกลียดนายมากด้วย”
“ผมก็ไม่ได้หวังให้คุณมารักมาชอบผมนี่ครับ”
ปวีร์ตอบกลับ เสียงคล้ายไม่แยแส หากแววตากลับมีอะไรบางอย่างซุกซ่อนอยู่ แต่ชนกานต์ก็ไม่คิดที่จะใส่ใจ
บางที...คำว่า ‘รัก’ มันคงเป็นเรื่องยาก...
สำหรับพวกเขา ‘สองคน’
-TBC-
สวัสดีค่า ตอนใหม่นี้ดีเลย์หน่อยเพราะเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นซอมบี้เก็บตัวทำเล่มส่งโรงพิมพ์สำหรับวางขายในงานตลาดฟิคไปค่ะ เรื่องคุณปวีร์กับหัวหน้ากานต์นี่เรียกได้ว่าเลยเส้นเดดไลน์ของโรงพิมพ์เลยด้วยซ้ำตอนที่ส่งเข้าไป เกรงใจพี่ที่โรงพิมพ์สุดๆ
วันนี้เสร็จงานแล้วเลยเอาตอนใหม่มาแปะด้วยความคิดถึง และอยากบอกว่า...มันเหลืออีกแค่2ตอนจะจบแล้วล่ะ :mew1:
คิดแล้วก็แอบเหงาเหมือนกันนะคะถ้าจบไป ยังไงอย่าลืมติดตามอ่านเรื่องอื่นของเขาบ้างนะ :impress2:
ป.ล.ใครไปงานตลาดฟิค แวะมาทักทายกันบ้างนะคะ :man1:
-
เห้ออออ ถ้าไม่มีลูกบอกเลยว่ายากที่จะรักกัน
สายใยที่ก่อตัวขึ้นเพราะคำว่สลูกแท้ๆ
-
หัวหน้ากานต์น่ารักมากเลย ดูท่าจะรักลูกมากนะนั่น เหลือแต่คนพ่อละ ว่าจะได้ใจไปหรือเปล่า o18
-
กรี๊ด อิจฉา หนุงหนิงน่ารักกันตามประสาพ่อแม่ลูก(ในท้อง)
ปวีร์ทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีมากกกกกกกกกกกกก
เดี๋ยวไม่นานชนกานต์ก็คงใจอ่อนเนอะๆ
-
อีกแค่สองตอนก็จบแล้ว เราจะมีโอกาสได้เห็นเจ้าตัวน้อยอยู่ใช่ไหม?
-
มาแล้วๆๆ ยาวสะใจ 555
-
ฮื่ออ เสียดายจังค่ะไม่ได้ไปตลาดฟิค :ling1: จะมีรอบเปิดขายทางไปรฯมั้ยคะ
-
เฮ้อ อย่างว่าแหละน่ะ ก่อนหน้านี้ ปวีร์ทำตัวแย่มากนี่น่า
กานต๋็ต้องระแวงเป็นธรรมดา
เวลาจะช่วยให้อะไรดีขึ้นนะ อดทนละ อย่าดีแตกนะปวีร์ o18
-
มาแล้วๆๆ ยาวสะใจ 555 :3123:
-
จะจบแล้ว เร็วจังเลย
-
ครอบครัวสุขสันต์ ฮ่าๆๆ
-
:a5: อีกสองตอนจะจบแล้วเหรอ ยังไม่อยากให้จบเลย :mew6:
-
ง่ะ ใกล้จบแล้วหรอคะ
แอบบวกแต้มให้ปวีร์นิดนึงตอนนี้ทำตัวดี
เหลือแค่จะชนะใจ(ว่าที่)ภรรยาจริงๆได้หรือเปล่าแค่นั้น
-
ยาวๆๆได้ใจมากค่ะ แต่จะดีกว่านี้ถ้ามาลงที่เหลือต่อเลย :hao6:
:katai5: อยากรู้ว่าเค้าจะตื้อกันยังไง
-
เป็นเรื่องที่น่าติดตามจริงๆ
สำหรับตอนนี้อ่านแล้วอึดอัดยังไงไม่รู้ คงเพราะมันมีความหวาดระแวงและไม่ไว้ใจอยู่ล่ะมั้ง
ก็โดนทำร้ายๆ ใส่มาขนาดนั้น มาทำดีใส่ไม่เท่าไหร่ จะให้รู้สึกดีขึ้นมาก็คงไม่ใช่
แล้วอีกฝ่ายก็ทำดีเพราะมีลูกด้วย ถ้าไม่มีลูกก็ไม่รู้ว่าจะร้ายต่อไปนานแค่ไหน
ยังไงก็จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:
-
ท่าทางตอนทั้งสองคนพูดถึงลูกในท้องมันอบอุ่นมากเลยค่ะ
ชอบบบบบบบบบ ><
-
ใกล้จบแล้วหรอ ยังไม่อยากให้จบเลยอะ ปวีร์น่ารักเน๊อะดูแลชนกานต์ดีจัง
-
ยังไม่อยากให้จบเลย :ling1:
-
เมื่อไหร่จะหวานกันซักที :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
-
อีกสองตอนจบแล้ว
-
:katai2-1: มีลูกนี่มันทำให้ปวีร์ดีขึ้นขนาดนี้เชียว
ถ้าไม่มีลูกนี่คงไม่มีทางรักกันได้
-
ลูกคงเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ให้พ่อกับแม่ :katai2-1:
-
อย่างที่หัวหน้ากานต์ว่าเลย เหมือนจะโรแมนติกนะ แต่มันน่ารำคาญ
อ่านไปก็หงุดหงิดแทนไปด้วย จุ้นไปซะทุกเรื่อง ถ้าเป็นคนที่รักหรือรู้สึกดีด้วยก็คงเป็นอีกอารมณ์อ่ะนะ
แต่กับคนที่เกลียดและเคยทำร้ายกันไว้ขนาดนั้น ทำใจไม่ได้อ่ะ
-
พยายามต่อไปนะ เกืออบสำเร็จแล้ว
-
แทนที่จะดูงอนๆ ใส่กันน่ารักนะ เราว่า มันอึดอัดอ่ะ เข้าใจความรู้สึกของหัวหน้ากานต์เลยจริงๆ เป็นอะไรที่น่ารำคาญมาก
ไม่รู้สินะ อ่านตอนนี้แล้วแบบอยากจะกระโดดถีบ ข่วนหน้า ปวีร์มากเลย อึดอัดโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :m31:
-
o22 จะจบแล้ว!!!!
ปวีร์น่ารักอ่ะ หัวหน้ากานต์ใจอ่อนเถอะค่ะ...pls :monkeysad:
-
เฮ้อการที่สองคนนี้จะลงเอยกันดีเพราะเจ้าตัวเล็กนี่แหละ
ปล.อยากตบผู้หญิง
-
แงๆๆๆ อีก 2 ตอนก็จบแล้ว T^T
-
อยากได้ฟิค แต่ไม่ได้ไปงานอ่าค่ะ ไม่เปิดจองแยกเหรอค่ะ
-
แหงล่ะ แทนที่จะเข้าไปจีบดีๆ ดันไปปล้ำเขาซะก่อนนี่
-
เริ่มดีขึ้นมานิดนึง 555555
รักกันเร็วๆนะหัวหน้า
-
เฮ้ออ รู้สึกเหมือนทั้งสองคนจะเริ่มเข้าใกล้กันแล้ว :o8:
แต่มันก็เหมือนยังไกลกันอยู่ดีแฮะ :hao7:
รอนะฮะ :')
-
แหม่ หัวหน้าวี
พอรู้ว่าชนนกานต์ท้องละหายหื่นหายโรคจิตเป็นปลิดทิ้งเลยนะครับ -_-
-
:mew1: :mew1:
-
ปวีร์ต้องพยายามต่อไป... เพราะชนกานต์คงไม่ลืมเรื่องราวที่ผ่านมาง่ายๆหรอก...
-
อ่านไปอ่านมาติดอะ
ก็สาสมกับที่วีย์มันทำไว้กับกานต์อะ แต่มันก็น่ารักดี
ส่วนกานต์น่ารักอยู่ละ ^^ ชอบบบบบบ
แต่แบบใจหายเหลืออีก 2 ตอนจบจริง ยังไม่จุใจเลย
รักคนเขียนนะ ^^
-
รู้สึกความสัมพันธุ์ของทั้งสองเริ่มพัฒนาแล้ววว
-
อยากได้ฟิค แต่ไม่ได้ไปงานอ่าค่ะ ไม่เปิดจองแยกเหรอค่ะ
นั่นสิ งานฟิกผมไปไม่ได้อะ แงๆ แต่อ่านกี่ตอนก็ยังรำคาญปวีอยู่ดี5555 อยากวิ่งไปถีบขาคู่ใส่เฮียแกจัง
-
ชอบมากเลย จร้าาาา :hao7:
แต่อ่านชื่อพระเอก ผิดประจำ จากปวีร์ เป็น ปวีนา o22
ไม่อยากให้จบ เลยยยย คงคิดถึงสองคนนี้มากๆ เลย :mew1:
-
กานต์เริ่มชอบปวีร์แล้วใช่ไหม
-
อีกสองตอนเรอะ อยากได้พาทเด็กอายุสักสามขวบบ้างนะ 55555
เตรียมเก็บตังส์ 5555555555
-
เริ่มผูกพันกันแล้วใช่ม้าาาา ~~~
-
หัวหน้ากานต์เหมือนเด็กน้อยเลย
ขี้หงุดหงิดจังเลยน้าาา ครับคุณแม่ :o8:
-
รักเถอะรัก
ปวีร์ สู้ๆนะ เชียร์ขาดใจ
-
มุ้งมิ้งน่ารักจัง ชอบให้เป็นแบบนี้อ่าาา
พ่อแง่แม่งอน น่ารักดีค่ะ
-
กานต์น่ารักอ่ะ ชอบมากๆเลย
-
มาเป็นกำลังใจให้ก่อนครับ
-
ไม่เคยเจอพระเอกเรื่องไหนที่หื่นและโรคจิตขนาดนี้มาก่อน ฮ่ะๆ แต่ชอบแนวนายเอกท้องได้นะ
-
ตอนที่ 10
ชนกานต์ต้องทนข่มความอายเรื่องที่เขาเกือบถูกโรคจิตปล้ำในห้องน้ำร้านอาหารไปเป็นเดือน กระทั่งได้ถอดเฝือกออก ความอับอายตอนนั้นก็เหมือนถูกยกออกไปด้วย ชนกานต์แสนดีใจที่ได้ถอดเฝือกออก เพราะนอกจากมันจะเป็นเหมือนเป็นตัวประกาศเรื่องที่เขาเกือบถูกโรคจิตปล้ำนั่นแล้ว มันยังเป็นสิ่งที่ปวีร์เอามาใช้เป็นข้ออ้างในการมารับมาส่งหรือไม่ก็แวะค้างที่ห้องของเขาอยู่ทุกวัน
ชนกานต์ไม่ชอบใจความรู้สึกของตัวเองที่เริ่มชินกับการที่มีปวีร์เข้ามาก้าวก่ายชีวิตตัวเอง มีปวีร์คอยทำนู่นทำนี่ดูแลอยู่ตลอดเวลา
ลึกๆก็ไม่อยากยอมรับกับตัวเองนักว่ากำลังกลัวว่าจะเคยชินจนขาดผู้ชายที่แสนจะเกลียดขี้หน้าคนนี้ไม่ได้
วันนี้ชนกานต์เลยตั้งใจจะคุยเปิดอกกับปวีร์เสียทีว่ารู้สึกอึดอัดแค่ไหน เผื่อการคุยกันดีๆ ปวีร์จะรับฟังขึ้นมาบ้าง บางทีอาจต้องเอาเจ้าตัวเล็กในท้องมาเป็นข้ออ้าง เพื่อที่ปวีร์จะได้รู้ตัวว่าควรเว้นระยะห่างให้เขา ไม่ใช่ทำอย่างเช่นทุกวันนี้
“นี่..ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”
“ชุดนอนของคุณหายไป”
“เอ๋?” ชนกานต์ทำหน้างงที่ปวีร์พูดสวนมา
“มันก็ต้องอยู่ในตะกร้าสิ ก็ฉันถอดแล้วโยนใส่ตะกร้าไป เรื่องนั้นช่างมันเหอะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย”
แต่ดูเหมือนปวีร์จะยังคงใส่ใจกับเสื้อผ้าที่หายไปมากกว่า
“ของในห้องนอนก็ดูเหมือนถูกขยับไปอยู่หลายชิ้นนะ”
“อะไรของนายกัน?” ชนกานต์ขมวดคิ้วก่อนเดินเข้าไปดูในห้องนอน ข้าวของในห้องก็ดูเหมือนเดิม เว้นแต่เพียงเสื้อผ้าในตะกร้าที่อยู่ข้างตู้มันหายไปอย่างที่ปวีร์ว่า
“นายแน่ใจนะว่าก่อนออกจากห้องไปเมื่อเช้า ไม่ได้เอาเสื้อผ้าไปเข้าเครื่องซักน่ะ?”
“ผมกะจะมาซักคืนนี้”
ทั้งสองคนมองสบตากัน รู้สึกผิดปกติ
ชนกานต์เดินไปที่ลิ้นชักแล้วไขกุญแจเปิดดูข้าวของสำคัญ ก็ยังอยู่ครบ ปวีร์เดินออกไปดูประตูหน้าห้องก็ไม่มีรอยงัดแงะ
“หายไปแค่เสื้อชุดเดียว คงไม่ใช่พวกตีนแมวหรอก อีกอย่าง..ไม่น่าจะเข้ามาขโมยได้นะ”
ชนกานต์ที่เดินตามออกมาพูด หันมองไปที่กล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงระเบียงหน้าห้องแล้วก็รู้ดีว่าที่คอนโดของตัวเองนี้มียามรักษาความปลอดภัยคอยจับตาดูอยู่ยี่สิบสี่ชั่วโมง และที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาเรื่องขโมยเลยสักครั้ง
“แต่เสื้อมันจะหายไปได้ยังไงกัน”
ปวีร์แย้งอย่างติดใจสงสัย ชนกานต์ยักไหล่แล้วเดินกลับเข้ามาในห้อง พอเห็นปวีร์ไม่เดินตามมาก็หยุดแล้วเรียกอีกครั้ง
“เข้ามาได้แล้ว ฉันมีเรื่องจะพูดกับนาย”
เห็นน้ำเสียงจริงจังของชนกานต์ที่เอ่ยเรียก ปวีร์เลยยอมโยนความสงสัยทิ้งไปแล้วเดินตามเข้ามาในห้อง
“จะพูดเรื่องอะไร?”
ชนกานต์เหลือบตามองผู้ชายตรงหน้า คนๆนี้คือพ่อของลูกในท้องถึงไม่อยากยอมรับก็ตามที
แต่ถ้าไม่ตัดสินใจพูดอะไรสักอย่าง
ความอึดอัดมันคงแน่นอยู่ในอกจนระเบิดออกสักวัน
“พูดตามตรงเลยก็แล้วกัน...ฉันอึดอัดใจ ฉันไม่อยากให้นายเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันมากเกินไป”
ปวีร์นิ่งไปก่อนจะเลิกคิ้ว
“คุณจะบอกว่าคุณไม่ชอบใจที่ผมเข้ามาคอยดูแลคุณกับลูกแบบนี้น่ะหรอ?”
“ใช่ ฉันดูแลตัวเองกับลูกได้ ไม่จำเป็นต้องมีนายมาคอยยุ่งวุ่นวาย”
สีหน้าของชนกานต์จริงจัง ปวีร์ยังคงเลิกคิ้วมองชนกานต์อย่างประเมินก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก
“โอเค..ดูแลลูกผมให้ดีก็แล้วกัน”
ปวีร์บอกแล้วล้วงเอากุญแจห้องของชนกานต์มาวางคืนก่อนเดินออกจากห้องไป ทำเอาชนกานต์ถึงกับงงว่าทำไมปวีร์ถึงยอมเดินออกจากห้องไปได้โดยง่ายแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาปวีร์จัดได้ว่าเป็นพวกช่างตื้อเลยทีเดียว
ส่วนคนที่เดินออกไปนั้นหยุดยืนอยู่หน้าห้อง รอยยิ้มยังคงระบายอยู่บนใบหน้า ปวีร์คิดว่าคงไม่ได้เข้าข้างตัวเองมากไปว่าการที่ชนกานต์เอ่ยปากไล่เขาไม่ให้เข้ามายุ่งวุ่นวายแบบนี้ ก็เป็นเพราะตัวชนกานต์เองกำลังใจอ่อนกับเขาแน่ๆ เขาเลยไม่ตื้อให้ชนกานต์รำคาญใจ
สิ่งที่ตอนนี้เขาจะทำ..
ก็คือรอให้ชนกานต์เรียกหาเขาเอง
ส่วนชนกานต์เมื่ออยู่ตามลำพังก็ได้แต่นิ่งคิด ข้างในใจไม่ได้รู้สึกสบายขึ้นหรือมีความสุขอย่างที่หวัง
การที่ปวีร์ยอมทำตามความต้องการของเขาง่ายๆมันทำให้อดคิดไม่ได้ว่าปวีร์เองก็เบื่อหน่ายที่ต้องดูแลเขาหรือเปล่า ที่ผ่านมาคงทำเพราะลูก สบโอกาสเขาไล่ก็เลยรีบติดปีกหนีกันแบบนี้
“คนอย่างนายมันน่าโมโหชะมัด!”
ชนกานต์พึมพำอย่างหัวเสียก่อนกระแทกเท้าเดินกลับเข้ามานั่งโซฟา สายตาเหลือบเห็นกองหนังสือเกี่ยวกับลูกแล้วก็ต้องสะบัดหน้าหนี
เขาควรดีใจสิที่ได้โลกส่วนตัวกลับคืนมาง่ายๆ
ไม่ใช่มานั่งหงุดหงิดแบบนี้!
ความหงุดหงิดรำคาญใจของชนกานต์ยังคงต่อเนื่องไปจนผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ปวีร์ยังคงเว้นระยะห่างตามที่เขาขอได้อย่างดีเยี่ยมและบางทีก็ไม่ได้แค่ดูว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างเท่านั้น แต่เหมือนกับการถูกเมินเสียมากกว่า
ใช่...ปวีร์กำลังจงใจเมินใส่เขา
ชนกานต์นึกอย่างหงุดหงิดใจระหว่างที่นั่งฟังประชุมพรีเซ้นส์
ปวีร์ที่กำลังยืนพรีเซ้นส์อยู่หน้าห้องนั้นไม่ยอมมองมาที่เขาเลยแม้แต่น้อย ทำราวกับเขาไม่มีตัวตน ไม่ได้นั่งอยู่ในห้องนี้ด้วยตั้งแต่เริ่มพรีเซ้นส์จนกระทั่งเสร็จ
แต่ถ้าคิดว่าคนอย่างเขาจะง้อ ก็บอกได้เลยว่าคิดผิด
แค่ลูกคนเดียว เขาเลี้ยงได้ และเลี้ยงได้ดีโดยที่ไม่ต้องมีปวีร์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับชีวิตด้วยแน่!
ชนกานต์คิดแล้วเดินกระแทกเท้าผ่านหน้าปวีร์ไป คนถูกเมินใส่กลับบ้างเริ่มกระวนกระวาย ชนกานต์ไม่รู้หรอกว่าปวีร์เองนั้นใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ที่จะไม่เข้าไป‘ตื้อ’อย่างที่เขาต้องการ
ยากชะมัด...
ปวีร์รำพึงในใจขณะห้ามไม่ให้ตัวเองเข้าไปหาชนกานต์ นี่มันแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น คนใจแข็งอย่างชนกานต์คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก
แต่บางที..ก็คงไม่มีโอกาสที่ชนกานต์จะใจอ่อน..
ปวีร์รู้ดีถึงความเสี่ยงในข้อนี้ รู้ดีว่าตัวเองทำเรื่องเลวๆกับชนกานต์เพราะความคึกคะนองไปมากแค่ไหน
เขาควรจะทำอย่างไร...ให้ชนกานต์ใจอ่อนกันนะ?
ความคิดนี้ลอยวนมาทุกครั้งที่ปวีร์ล้มตัวลงนอนบนเตียง เตียงที่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้มีชนกานต์กับลูกมานอนด้วยกัน
ทว่าไม่รู้ว่าฝัน...จะเป็นได้เพียงแค่ฝัน
หรือจะได้เป็น...
ความจริง
“อยากย้ายไหมล่ะ? พอดีเลย มาทำงานกับพี่สิ ช่วงนี้สาขาที่ญี่ปุ่นกำลังขาดแคลนคนอยู่ กานต์เป็นภาษาญี่ปุ่นนี่ ไปทำงานที่นู่นดีไหมล่ะ?”
ดนัยเอ่ยขึ้นหลังจากชนกานต์โทรไปปรับทุกข์เรื่องของหายให้ฟัง
ข้อเสนอของดนัยทำให้ชนกานต์ชะงัก ใบหน้าดูสดใสขึ้น เขาเองก็เคยคิดเรื่องเปลี่ยนงานใหม่อยู่ตอนช่วงที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้องตอนช่วงแรกๆ แต่ก็ไม่ได้หางานเป็นจริงเป็นจังเพราะปวีร์เข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิต
ถ้าได้งานใหม่ตอนนี้ก็น่าสน เขาจะได้ย้ายหนีจากปวีร์ ไม่ต้องทนอยู่กับการถูกซุบซิบนินทาว่าเขาป่องกับใครที่มันคงเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าตอนที่ท้องเขาจะเห็นชัดแน่ๆ
อีกอย่าง..โปรเจคก็เสร็จไปแล้ว งานที่มีตอนนี้ก็ยังไม่สำคัญมาก ถ้าเขาลาออกตอนนี้ บริษัทก็ไม่เดือดร้อน
“แล้วถ้าไปญี่ปุ่น ผมจะได้ตำแหน่งอะไรล่ะ?”
ชนกานต์ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกความสนใจก่อนเริ่มซักถามขอบเขตและหน้าที่ของตำแหน่งงานนั้น
ชนกานต์คุยกับดนัยเป็นชั่วโมง ก่อนที่จะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด
“ตกลง ผมรับงานนี้ พร้อมเริ่มงานเลยสิ้นเดือนนี้”
ดวงตาของชนกานต์พราวระยับขณะทอดสายตามองดูปฏิทินที่เหลือเวลาเพียงหนึ่งอาทิตย์ก็จะหมดเดือน
เขาจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกในท้องเพียงลำพัง!
ตัดสินใจแล้ว ชนกานต์ก็ไปยื่นใบลาออกกับฝ่ายบุคคล แน่นอนว่าเมื่อเรื่องถึงหูของหัวหน้า การลาออกของชนกานต์ย่อมถูกคัดค้าน
“คุณมีปัญหาอะไรหรอชนกานต์? คุณกำลังจะได้เลื่อนขั้นนะ”
วูบหนึ่งที่ชนกานต์นึกเสียดาย ผลตอบแทนที่เขาทุ่มเทให้บริษัทนี้กำลังสัมฤทธิ์ผล แต่เขากลับชิงลาออกก่อนจะได้มันมา
“ผม..มีความจำเป็นส่วนตัวน่ะครับ นึกเสียใจอยู่เหมือนกัน”
คนเป็นหัวหน้าจ้องเขาอยู่พักหนึ่งก่อนถอนหายใจยาว รู้ดีว่าถ้าเขาไม่ยอมพูดเอง ให้ซักไซ้เท่าไหร่ก็คงไม่ได้คำตอบ
“อืม..ก็หวังว่าเราจะได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งนะ คุณเป็นคนที่เก่งมาก ยังไงถ้าหมดความจำเป็นส่วนตัวอะไรนั่นแล้ว อยากกลับมาทำงานที่นี่ เรายินดีต้อนรับเสมอนะ”
“ขอบคุณมากครับ” ชนกานต์ค้อมศีรษะให้พร้อมรอยยิ้ม ดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าตนเอง
ด้วยระยะเวลาอันแสนสั้นที่มีทำให้ชนกานต์ต้องเร่งรีบเก็บข้าวของในห้อง ข้างที่มีอยู่ในห้องก็ไม่ได้มากมายอะไร ชนกานต์เลือกเก็บเฉพาะของใช้จำเป็นไปเท่านั้น
“ของพวกนี้...” ชนกานต์ครางเสียงเบาขณะดึงถุงเสื้อผ้าเด็กที่ปวีร์ซื้อมาคราวนั้นออกมาจากตู้
เสื้อตัวน้อยที่ลูกต้องใช้มันพาให้ชนกานต์ลำบากใจ จะเอาไปด้วยก็กลัวจะทำให้คอยนึกถึงปวีร์เวลาเห็นลูกสวม แต่จะทิ้งเอาไว้..ภาพที่ปวีร์ยิ้มแย้มดีใจตอนซื้อมันก็ทำให้รู้สึกผิด
“เฮ้อ...” ชนกานต์ถอนหายใจ วางถุงนั้นไว้ข้างๆกระเป๋าเดินทางที่ยังคงเปิดอยู่ เอาไว้ค่อยตัดสินใจตอนวันที่จะไปอีกครั้ง
“ไปอาบน้ำกันดีกว่าเนอะ” ชนกานต์คุยกับลูกพร้อมกับลูบท้องเบาๆก่อนเดินไปยังห้องน้ำ
ในเวลาเดียวกันนั้น ข่าวเรื่องที่ชนกานต์ลาออกจากบริษัทก็เข้ามาถึงหูปวีร์ระหว่างที่นั่งดื่มเหล้าอยู่กับพัสกรที่ร้านอาหาร
“อะไรนะ!? ชนกานต์..เอ่อ..หัวหน้ากานต์ลาออกอย่างนั้นหรอ?”
“อือ อะไรวะ อยู่แผนกเดียวกันกับรู้เรื่องช้ากว่าคนนอกแผนกอย่างกูอีกหรอ?” พัสกรแซวแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ปวีร์ตีหน้าบึ้งใส่เพื่อน
“กูออกไปหาลูกค้ามา ไม่ได้อยู่บริษัทจะรู้ได้ไง”
ปวีร์บอกเสียงกรุ่น นึกถึงเหตุผลที่ชนกานต์ลาออกแล้วก็พอจะเดาได้ว่าเพราะอะไร
แต่เขาจะยอมให้ชนกานต์พาลูกหนีไปจากเขาไม่ได้เด็ดขาด!
“โตขึ้นแล้วสินะ”
ชนกานต์เอ่ยยิ้มๆเมื่อสังเกตได้ว่าท้องของตัวเองนูนขึ้นมาบ้างแล้ว อีกไม่นานก็คงเห็นชัด เขาลูบฟองสบู่เบาๆที่ท้องนานเป็นพิเศษ ดั่งต้องการให้ไออุ่นจากฝ่ามือส่งไปถึงเจ้าตัวเล็กที่ยังคงเป็นก้อนเลือด
กว่าจะอาบน้ำเสร็จ ชนกานต์ก็คิดว่ามันคงเลยเวลาสี่ทุ่มมาแล้ว เขายกมือปิดปากหาว คิดว่าจะไปเก็บของอีกสักนิดแล้วเข้านอน
พรึ่บ!
อยู่ดีๆไฟในห้องน้ำก็ดับ ชนกานต์ขมวดคิ้วมุ่น คลำหาทางออกมาจากห้องน้ำ แต่พอเปิดประตูห้องน้ำออกไปก็ชะงักเพราะห้องนอนที่เปิดไฟไว้ก็ดับเช่นกัน
ไฟดับหรอนี่?
ชนกานต์คิดในใจ จะเดินไปหยิบมือถือมาส่องแทนไฟฉายก็ชะงัก เพราะเห็นเงาของใครบางคนยืนอยู่ตรงปลายเตียง ชนกานต์ถอยหลังจะหนีกลับเข้าไปในห้องน้ำ เจ้าของเงาปริศนานั้นปราดเข้ามากระชากร่างเขาและลากไปที่เตียง ชนกานต์ขืนตัวเองไว้ พยายามเตะและต่อยคนร้ายอย่างเต็มแรง แต่ก็ถูกกดลงกับเตียง กลิ่นเบียร์และกลิ่นบุหรี่ฉุนกึกโชยเข้าจมูกให้พะอืดพะอม
“จะหนีผมไปไหนครับคนสวย..” น้ำเสียงที่พูดข้างหูยามกดหน้าลงมาไซ้คอทำเอาชนกานต์ขนลุก
มันคือผู้ชายที่จะปล้ำเขาที่ร้านอาหารวันนั้น!
“แก! แกเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง!!”
“อยากรู้หรอครับ?..ผมไม่บอกคุณหรอก มันเสียเวลา”
ชนกานต์ทำหน้าขยะแขยง มือของผู้ชายคนนี้ลูบไปทั่วร่างของเขา
มันทาบทับลงมาเต็มกาย ชนกานต์พยายามยกขาขึ้นถีบแต่ก็ไม่ถนัดสักเท่าไหร่ มันจับสองมือเขาตรึงไว้กับเตียง เพียงพริบตาที่ชนกานต์คิดหาทางเอาตัวรอด บางอย่างก็วูบเฉียดแก้มเขาไป
“ถ้าไม่อยากเสียโฉมก็หยุดดิ้นแล้วอ้าขาให้ผมเสียดีๆ!”
มันตะคอกใส่เขา กลิ่นลมหายใจเหม็นเปรี้ยวเข้าปะทะใบหน้า ชนกานต์อยากสำรอกแต่ไม่กล้าขยับ คนร้ายกดมีดขู่อยู่กับแก้มของเขา
ชนกานต์เบือนหน้าหนี แกล้งนิ่งยอมให้มันแตะต้องร่างกายทั้งที่ขยะแขยงเต็มทน มันซุกไซ้ไล่จูบต่ำลงไป มือกระชากเสื้อนอนจนหลุดและลามไปจะถอดกางเกง
ชนกานต์ข่มใจที่กลัว รวบรวมแรงไว้ระหว่างที่รอให้มันเผลอ หาจังหวะระหว่างที่ไอ้โรคจิตกำลังเพลินกับการพร่ำเพ้อว่ามันหลงรักเขาตอนเดินผ่านกันในตึกนี้และตัดพ้อที่เขาเอาผู้ชายเข้ามานอนกอดในห้องเพื่อถีบมันออกไป
“คุณไม่เคยสนใจผม แล้วยังเอาไอ้ผู้ชายคนนั้นมานอนกกนอนกอดอีก คุณทำกับผมแบบนี้ได้ยังไงกัน”
มันถาม เสียงคล้ายคนคลุ้มคลั่ง แต่มือที่ถือมีดอยู่มันขยับออกห่าง ในช่วงที่มันยันกายขึ้น ชนกานต์ได้ยินเสียงมันปลดเข็มขัด
ผลั่ก!!!
ชนกานต์งอขาแล้วถีบมันเต็มแรงก่อนรีบลุกจากเตียงวิ่งไปทางประตูทันที ไอ้โรคจิตล้มหงายกระแทกพื้น มันรีบตะกายลุกวิ่งตามชนกานต์มา และจับตัวชนกานต์ไว้ได้ก่อนที่จะวิ่งออกไปข้างนอกระเบียง
“ถีบกูหรอ” มันตวาดใส่ สองมือบีบเข้าที่คอเรียว ท่าทางโกรธจัดจนหน้าแดงไปหมด ชนกานต์เห็นตาลอยๆของมันก็รู้สึกผวา พยายามดิ้นสุดแรง สองมือตะกุยมือมันที่บีบคอตัวเองจนหายใจไม่ออก
“อึ่ก..ชะ ช่วย ช่วยด้วย!!”
ชนกานต์ร้องขอความช่วยเหลือ น้ำตาไหลออกมาด้วยความกลัว สองขาออกแรงถีบไปทั่วหวังจะให้คนข้างห้องได้ยินเสียงโครมครามแล้วเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยขึ้นมาดู
“ไม่มีใครช่วยคุณได้หรอกครับ คืนนี้..คุณต้องเป็นเมียของผม”
ใบหน้าของมันที่แสยะยิ้มเคลื่อนต่ำลงมาใกล้ ชนกานต์หลับตาปี๋ ภาวนาให้ใครสักคนมาช่วยเขาที!
กว่าจะดื่มกับพัสกรเสร็จ ใจของปวีร์ก็รุ่มร้อนราวกับไฟ
เขารีบบึ่งรถไปยังคอนโดของชนกานต์ทันที ถึงแล้วก็หยิบเอากุญแจห้องของชนกานต์ที่แอบไปทำสำรองมาถือไว้แล้วก้าวไวๆขึ้นลิฟต์ไป
นึกคำพูดไปตลอดทางที่เดิน แต่พอใกล้ถึงห้องของชนกานต์ก็ชะงัก เพราะตรงระเบียงห้องมีคนยืนมุงอยู่จำนวนหนึ่ง
“มีอะไรหรอครับ?” เขาเดินไปถาม ยังไม่ทันจะได้คำตอบก็มีเสียงดังมาจากในห้อง
โครม!!
เขาสะดุ้งแล้วเบิกตากว้าง ใจหล่นวูบเมื่อนึกถึงเจ้าของห้อง
“คุณกานต์!!?”
ปวีร์รีบปราดไปไขกุญแจแล้วเปิดเข้าไปทันที ในห้องชนกานต์กำลังดิ้นรนต่อสู้กับผู้ชายที่เขาไม่เห็นหน้า มันไม่สนใจแม้แต่น้อยที่เขาเปิดประตูเข้ามา
“ไอ้ระยำ!” ปวีร์ตวาดเสียงดัง วิ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อมันแล้วเหวี่ยงออกจากชนกานต์ คนร้ายกระเด็นไปกระแทกชั้นวางของจนแจกันตกลงมาแตกข้างๆ
“มึงนี่เอง! มึงคิดจะทำอะไรเมียกู!”
ทันทีที่เห็นหน้า ปวีร์ก็จำมันได้ เขาปราดเข้าไปหามัน มันแสยะยิ้มใส่แล้วยกมีดพับที่ล้วงจากกางเกงขึ้นมาขู่ ปวีร์หยุดกึก มองมันด้วยแววตาโกรธจัด
ชนกานต์ลุกขึ้นมาอย่างลำบาก เสียงไอค่อกแค่กเรียกความเป็นห่วงจากปวีร์ที่เดินเอาตัวมาบังไว้ ชนกานต์จับแขนปวีร์ไว้แน่น นึกขอบคุณเหลือเกินที่ปวีร์มาทัน ไม่อย่างนั้นเขาคงถูกไอ้โรคจิตคนนี้ข่มขืนหรือไม่ก็ฆ่าตายแน่ๆ
“กูก็จะจับเมียมึงทำเมียบ้างไง”
คำพูดของมันทำเอาปวีร์เดือดดาล พุ่งเข้าหามันอย่างไม่กลัวมีด
“ไอ้ระยำ!” ปวีร์ตะคอกแล้วเบี่ยงตัวหลบมีดมัน หมัดสวนต่อยไปเฉี่ยวแก้มมันเสียงดังพลั่ก! แต่ไม่หนักพอจะล้มมันได้ ปวีร์หันมาอีกครั้งแล้วเตะขาไปขัดขามันอย่างว่องไว มันเซถลาล้มไปทางชนกานต์ เคราะห์ดีที่ชนกานต์ถอยหนีทัน พ้นระยะมีดของมันไปหวุดหวิด
“เกิดอะไรขึ้นครับ!!?”
เสียงของคนที่ดังเข้ามาขัดจังหวะทำให้คนร้ายหันไปมอง รปภ.ที่ได้รับแจ้งจากคนข้างห้องที่ยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่กรูกันเข้ามา
“มานี่!!”
คนร้ายมันโผไปคว้าแขนชนกานต์ไว้ ชนกานต์ยกขายันถีบมันจนมีดกระเด็น แต่โชคไม่ดีเพราะมันกระเด็นไปเฉี่ยวโดนต้นแขนของปวีร์
“โอ้ย!”
“ปวีร์!”
ชนกานต์ร้องเรียกชื่อปวีร์อย่างตกใจ ไอ้โรคจิตคว้าแขนได้อีกครั้งก็ลากไปทางห้องนอน ชนกานต์ขืนตัวไว้ด้วยการจับกรอบประตูไว้แน่น
“ปล่อยสิเว้ย!!” มันตวาดใส่ ปวีร์และรปภ.คืบเข้าไปใกล้ด้วยความระวัง ชนกานต์ถีบขาใส่มันอีกครั้งจนมันกระเด็นล้มไปในห้องนอนก่อนรีบฉวยโอกาสวิ่งไปหาปวีร์
“คุณกานต์!”
ปวีร์กางแขนกอดชนกานต์ไว้แน่น ใจหายนึกว่าจะต้องเสียชนกานต์ไปเสียแล้ว ส่วนรปภ.ตามคนร้ายเข้าไปข้างในห้อง เสียงเอะอะดังออกมาถึงนอกระเบียง
(ต่อ)
-
ชนกานต์ที่ตัวสั่นไปหมดกอดปวีร์ไว้แน่น รู้สึกตัวว่าปลอดภัยแล้วก็ตอนที่ได้ยินปวีร์ปลอบที่ข้างหู
“ไม่เป็นอะไรแล้ว คุณปลอดภัยแล้วนะครับ”
ปวีร์จูบหนักๆที่กระหม่อม ชนกานต์ใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะหายขวัญเสีย
ชนกานต์สูดหายใจลึกผละออกจากอ้อมกอดของปวีร์
“นายเจ็บ” เสียงของชนกานต์ยังสั่นอยู่ แววตาที่มองสบตาปวีร์ก็ยังตื่นตระหนก
“คุณก็เจ็บ” ปวีร์บอก มือยกขึ้นลูบคอที่เป็นรอยแดง ชนกานต์เม้มปาก หันมองไปในห้องด้วยสายตากังวล เสียงเอะอะยังคงดังมา ปวีร์โอบไหล่ชนกานต์ไว้ตอนได้ยินเสียงฝีเท้าดังออกมา
รปภ.ลากตัวผู้ชายโรคจิตคนนั้นมา มันถูกจับมือไพล่หลัง ปวีร์หันไปหยิบเทปกาวมาโยนให้รปภ.ใช้มัดมือมัน
“คุณใจร้ายกับผมจังเลยนะคนสวย”
ชนกานต์มองมันอย่างโกรธแค้น เขาเดินเข้าไปหามัน ยกขายันถีบอกมันจนล้ม มันหัวเราะราวกับมีความสุขเหลือล้น
“ฮะฮ่าฮ่าา ถีบผมอีกสิ ถีบแรงๆด้วยความรักของคุณเลย”
ชนกานต์ถอยกลับมายืนข้างปวีร์อีกครั้ง ทั้งขนลุกและขยะแขยงผู้ชายโรคจิตคนนี้
“พวกเราจะพาเขาไปส่งตำรวจนะครับ คุณจะไปด้วยกันไหมครับ?”
หัวหน้ารปภ.เอ่ยถามขณะลูกน้องลากผู้ชายโรคจิตนั้นออกไป
“ขอผมไปโรงพยาบาลก่อนนะครับ แล้วจะตามไป”
ปวีร์บอก เขาไม่ได้ห่วงตัวเองที่ถูกลูกหลงมีดบาด แต่เป็นห่วงชนกานต์ อยากให้ชนกานต์ไปตรวจมากกว่า
“ครับ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
ชนกานต์ค้อมศีรษะให้ แล้วหันมาหาปวีร์ ปวีร์ยกข้อนิ้วขึ้นมาไล้แก้มชนกานต์ที่เป็นรอยปื้นแดง ส่งความห่วงใยไปทางสายตา
“ไปโรงพยาบาลกันเถอะ”
ชนกานต์ว่า มองดูแขนปวีร์ที่เลือดไหลไม่หยุดอย่างกังวล ปวีร์พยักหน้าก่อนพากันเดินออกมา ชนกานต์นึกอับอายกับสายตาของคนที่ยืนมุง เขารีบกล่าวขอบคุณคนที่เรียกรปภ.มาแล้วเดินไปลงลิฟต์ทันที
“นี่ถ้าห้องข้างๆคุณมีผู้ชายอยู่บ้าง ก็คงจะมีคนเข้าไปช่วยคุณไวกว่านี้” ปวีร์ว่าหลังจากเข้าลิฟต์ไป
ชนกานต์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะคนที่มุงอยู่ข้างนอกมีแต่ผู้หญิงซึ่งไม่กล้าเสี่ยงจะช่วย แต่ก็ดีที่อย่างน้อยตามรปภ.มาให้
“อย่างน้อยฉันก็โชคดีที่นายมาพอดี อ่อ แล้วก็โชคดีที่นายแอบไปทำกุญแจสำรองเอาไว้ด้วย”
ประโยคหลังแอบเหน็บไปเมื่อฉุกคิดได้ว่าปวีร์เข้าห้องเขามาได้ยังไง
“เรื่องกุญแจ..ผมขอโทษ” ปวีร์ขอโทษออกมา เพราะรู้ว่าตนทำผิด ชนกานต์ถอนหายใจแล้วยักไหล่
“ช่างมันเถอะ”
ไม่มีบทสนทนาใดต่อจากนั้นกระทั่งถึงโรงพยาบาล
ระหว่างที่ปวีร์เย็บแผล เขายืนยันให้ชนกานต์ตรวจครรภ์อีกระลอกด้วยความเป็นห่วงลูกในท้อง ชนกานต์ยอมที่จะตรวจแต่โดยดี
เสร็จจากโรงพยาบาล ปวีร์ก็ขับรถพาชนกานต์ไปสถานีตำรวจ ระหว่างทางแอบชำเลืองมองชนกานต์ นึกอยากถามเรื่องที่ลาออกให้รู้ความกัน แต่สีหน้าของชนกานต์ยังคงวิตกกังวลอยู่จึงรู้ว่าไม่ใช่เวลาที่ควรจะพูดเรื่องนี้กัน
ถึงสถานีตำรวจก็เห็นผู้ชายคนนั้นอยู่ในห้องขัง ชนกานต์ไม่สนใจต่อสายตาของมันที่มองมา เขาเดินคู่กับปวีร์ไปหาหัวหน้ารปภ.ที่ยืนอยู่กับเจ้าหน้าที่นิติบุคคลซึ่งเข้ามาช่วยเหลือจัดการเรื่องให้ เขาพาชนกานต์กับปวีร์ไปคุยกับตำรวจที่รับผิดชอบเรื่อง
“เขาสารภาพว่าเขาเช่าห้องอยู่ติดกับห้องของคุณ และบุกเข้าห้องของคุณจากทางหน้าต่าง แล้วก็เราตรวจพบว่าเขามีการใช้สารเสพติดด้วยครับ” เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มเกริ่นให้ฟัง
“เขาเคยจะทำร้ายผมมาแล้วครั้งหนึ่งที่ร้านอาหารครับ ตอนนั้นลูกน้องของผมกับคนของร้านมาแจ้งความ”
ชนกานต์บอก ตำรวจพยักหน้ารับรู้
“เขาสารภาพออกมาเหมือนกันครับ เขาบอกว่าเขาหลงรักคุณก็เลยคอยสะกดรอยตามคุณอยู่ แล้วเขายังบอกอีกว่าเขาแอบปีนเข้าห้องคุณไปขโมยของกับติดกล้องไว้แอบดูคุณ”
“อะไรนะ!?”
“เดี๋ยวผมจะให้ลูกน้องคุมตัวเขาไปบอกจุดที่ซ่อนกล้องไว้ในห้องคุณและทำการเก็บมันออกให้หมด รวมทั้งเข้าไปหาหลักฐานเพิ่มเติมที่เขาเก็บไว้ในห้องของเขาเพื่อส่งฟ้องครับ”
“ครับ รบกวนด้วยนะครับ”
“ด้วยความยินดีครับ”
ทั้งชนกานต์และปวีร์ค้อมศีรษะแทนคำขอบคุณอีกครั้งก่อนหันมามองหน้ากัน
“แสดงว่าตอนนั้นที่ชุดนอนของคุณหายไป ก็เพราะฝีมือหมอนี่สินะ”
“ก็คงอย่างนั้น หลังจากนั้นก็มีของอื่นหายอีกหลายชิ้นเลยล่ะ”
ชนกานต์บอก ปรายตามองโรคจิตในห้องขังก่อนถอนหายใจยาว
“แล้วเขาจะถูกปล่อยตัวหรือเปล่าครับ?”
“ยังไม่มีญาติมาติดต่อขอประกันตัวนะครับ อาจถูกฝากขังไว้แบบนี้จนกว่าจะยื่นฟ้องศาลเลยครับ”
ชนกานต์พยักหน้า จะก้าวเดินตามตำรวจไปก็ได้ยินเสียงผู้ชายคนนั้นเรียกและตัดพ้อ
“ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้!” ชนกานต์ไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะหันไปมอง รีบเดินตามตำรวจไป ปวีร์คิดจะเดินไปด่ามันแต่ชนกานต์ก็หันมาเรียกเขาให้รีบตามไปเสียก่อน จึงได้แต่มองมันอย่างแค้นๆเท่านั้น
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันใช้ชีวิตโดยที่มีโรคจิตจับตามองอยู่แบบนี้”
ชนกานต์สบถทันทีเมื่ออยู่กันตามลำพังบนรถ ปวีร์เอื้อมมือไปจับมือของชนกานต์ไว้ และพบว่ามันสั่น ชนกานต์หันมามองหน้าคนที่จับมือตัวเองแต่ไม่พูดอะไรไว้ก่อนเบือนหน้าหนี
ไม่นานหลังจากนั้นทั้งสองคนก็มาถึงห้องของชนกานต์ที่คอนโด ตำรวจที่คุมตัวไอ้โรคจิตตามมาถึงหลังจากนั้นไม่กี่นาที ระหว่างที่คอยให้ตำรวจจัดการเก็บหลักฐานและเก็บเอากล้องออกไปจากห้อง ชนกานต์ต้องคอยอดทนกับคำแทะโลมของไอ้โรคจิตอยู่เกือบตลอดเวลา ปวีร์เองก็เกือบสติขาดเข้าไปตั๊นหน้ามันอยู่หลายครั้งจนตำรวจต้องกันตัวมันออกไป
กว่าจะเรียบร้อย ชนกานต์ก็รู้สึกเหนื่อยและล้าเป็นอย่างมาก เขาทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟาแล้วยกมือขึ้นนวดกระบอกตา
“นี่ครับ” ลืมตาขึ้นมาก็เห็นปวีร์ยื่นแก้วน้ำเย็นมาให้ ชนกานต์รับมันมาถือไว้
“ขอบคุณ”
ปวีร์แค่พยักหน้าแล้วหันไปเก็บข้าวของที่แตกหักเสียหายจากตอนที่ชนกานต์สู้กับคนร้าย ชนกานต์หันไปมอง ไม่ได้พูดห้ามอะไรแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
“ไปอาบน้ำแล้วนอนได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมเก็บของพวกนี้ให้”
“ไม่ต้องหรอก นายเองก็กลับไปห้องของนายได้แล้ว ฉันไม่เป็นอะไร”
ชนกานต์ใจแข็งบอกไปเช่นนั้น ทั้งที่ตนเองก็ต้องการให้ใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน แต่เพราะกลัวว่าความอ่อนแอนี้จะกลายเป็นตัวเปิดรับปวีร์เข้ามาในใจ จึงต้องใจแข็งบอกไปเช่นนั้น
ปวีร์หันมามอง ชั่ววินาทีที่สบตากัน ชนกานต์รู้ว่าปวีร์ต้องการจะพูดอะไรเลยเดินหนีเข้าไปในห้อง ถอนหายใจกับตัวเอง ข้างในห้องเองก็เละเทะไม่น้อย ชนกานต์เดินข้ามไปเปิดตู้เอาเสื้อผ้าออกมาแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ อาบน้ำเสร็จออกมาก็ได้ยินเสียงปวีร์ยังคงเก็บกวาดห้องข้างนอกอยู่
ชนกานต์ถอนหายใจ ทำใจแข็งเดินไปนอนที่เตียง และพยายามข่มตาให้หลับลง
ไม่นานก็ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ปวีร์เก็บกวาดห้องด้วยความเป็นห่วง ไม่อยากให้ชนกานต์ที่ท้องอยู่มาก้มๆเงยเก็บเอง กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบตีห้า ปวีร์หันมองไปทางห้องนอนของชนกานต์แล้วก็ลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตัดสินใจที่จะเปิดประตูห้องเข้าไป
ในห้องของชนกานต์ก็เละเทะไม่น้อย เจ้าของห้องนอนหลับอยู่บนเตียง ปวีร์ทอดสายตามองอย่างเป็นห่วงและพยายามเก็บกวาดให้เบาเสียงที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนการนอนของชนกานต์
ปวีร์เก็บเศษแจกันและกระจกที่แตกลงถังขยะแล้วกวาดเศษเล็กๆไปทิ้ง สายตามองไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าที่ชนกานต์เก็บค้างเอาไว้อย่างปวดในอกจนแปลกใจตัวเองที่รู้สึกเช่นนี้ ปวีร์วางไม้กวาดพิงกับปลายเตียงแล้วทรุดนั่งลงข้างกระเป๋าของชนกานต์เมื่อเห็นถุงที่คุ้นตา เขาดึงมันมาเปิดดูก็เห็นว่าเป็นชุดของเจ้าตัวเล็กที่เขาซื้อวันนั้น
“นี่คุณ..” ปวีร์ครางแผ่วเบา มองไปยังคนที่ยังคงนอนหลับอยู่ด้วยแววตาลึกซึ้ง ริมฝีปากคลี่ยิ้มอย่างมีความหวังก่อนที่มือจะเอื้อมไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าดู ชนกานต์เก็บเสื้อผ้าพับใส่กระเป๋าไว้อย่างเป็นระเบียบ บนสุดคือหนังสือเดินทางและตั๋วเครื่องบิน ปวีร์ขมวดคิ้วมุ่นมองมันแล้วหยิบขึ้นมาพลิกดู
ญี่ปุ่น...
ปวีร์วางมันลงทั้งที่นึกอึ้งในใจ เขาจัดการรูดซิบกระเป๋าปิดตามเดิมก่อนลุกไปยังข้างเตียงเพราะคนที่นอนอยู่เริ่มกระสับกระส่าย ชนกานต์ครางเสียงอือในลำคอไปมา
“อือ...มะ..ไม่ ไม่นะ!”
ปวีร์ผุดลุกไปหา จับมือที่ป่ายปะของชนกานต์เอาไว้ อีกมือที่ว่างก็ลูบผมปลอบประโลมคนฝันร้าย ชนกานต์ดิ้นรนไปมาเหมือนกำลังพยายามหนีกับอะไรสักอย่าง ปวีร์แน่ใจว่าชนกานต์กำลังฝันร้ายกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ
“กานต์...คุณปลอดภัยแล้ว คุณปลอดภัยแล้วนะ..”
เสียงที่กระซิบปลอบประโลมทำให้ชนกานต์สงบลงมาบ้าง แต่ก็เป็นเพียงครู่เดียวก่อนที่ชนกานต์จะกรีดเสียงร้องออกมา
“ไม่!!!”
คนฝันร้ายลืมตาโพลง หอบหายใจหนัก ชีพจรเต้นรัวจนเหมือนหัวใจจะเด้งหลุดออกจากอก มือคว้ากอดปวีร์ไว้เป็นที่พึ่งโดยไม่รู้ตัว
“คุณไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ...คุณปลอดภัยแล้ว” ปวีร์บอกพลางลูบหลังไปเรื่อยๆ รอจนคนที่ขวัญเสียใจสงบไปเอง
ชนกานต์ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะรู้ตัวว่าตนเองปลอดภัยแล้ว
“ขอบคุณนะ..” คนขวัญเสียบอกแล้วถอยออกอย่างเคอะเขิน
“แล้วทำไมถึงยังไม่กลับอีก?”
ชนกานต์ทำเสียงแข็งถามกลบเกลื่อนอารมณ์อ่อนแอ ปวีร์เม้มปาก แววตาทอดมองชนกานต์ที่มองจ้องเขาอยู่
“ผมมีคำถามที่อยากได้คำตอบจากคุณ” ชนกานต์พรูลมหายใจช้าๆ นิ่งไปชั่วครู่ก่อนบอกปัด
“ไว้ก่อนก็แล้วกัน”
“แต่คุณก็รู้ใช่ไหม ว่าคุณต้องตอบคำถามของผม?”
ปวีร์ย้อนถาม คนถูกถามไม่ยอมตอบแทนทิ้งตัวนอนตะแคงหันหลัง ปวีร์ดึงผ้ามาห่มให้แล้วยกมือขึ้นลูบผมชนกานต์แผ่วเบาก่อนโน้มลงมาจูบแผ่วเบาที่ศีรษะ
ชนกานต์หลับตาลง ข่มความรู้สึกของตนเอง
รู้เต็มอกว่าคำถามของปวีร์ต้องมีคำตอบ
บางที..ต้องเปิดอกพูดกันให้รู้
ว่าเด็กคนนี้..จะเป็นของเขาแค่คนเดียวเท่านั้น!
-TBC-
ตอนหน้าก็จบแล้วน้าาา ^^
สำหรับใครที่ต้องการเล่มนี้ไปครอบครองแต่ไม่ได้ไปงานตลาดฟิคพรุ่งนี้
หลังจากลงจนจบแล้ว จะเปิดให้จองผ่านไปรษณีย์นะคะ ^^
-
จะจบแล้วหรอ
ยังไม่เข้าใจกันซักทีน๊าา
-
รอลุ้นตอนต่อไป
-
โฮ่
กานต์จะหนีปวีร์ไปแล้วอะ
ไม่สงสารลูกเหรอ ฮือออออออ
:mew2:
-
ไอ้โจรโรคจิต เลวมากก
ดีที่ปวีร์มาช่วยทัน
-
จะจบแล้วหรอ ยังอยากอ่านต่ออยู่เลย :mew4: :mew4:
-
อยากได้เล่มนะคะแต่ตอนนี้กรอบมา รอเปิดรอบนะ ^3^
-
:sad4: :o12:
-
กานต์ใจแข็งไปนะ :hao5: จะจบแล้ว ยังอยาดอ่านต่ออยู่เลย อยากอ่านจนลูกชนากานต์เข้าเรียนอนับสลเลยอ่ะ :mew6:
-
:m15: :katai1:
-
คุณแม่จะพาลูกหนีคุณพ่อซะแล้ววว แงๆๆ >.<
-
ปวีร์ นายจะชนะใจได้ไหมนะ
ติดตามยังใกล้ชิด :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:
ปล. เรื่องอื่นๆของนักเขียนก็ติดตามทุกวัน :hao7: เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียนนะคะ :L2: :L2:
-
จะจบแล้วเหรอ :katai1:
-
หัวกระทู้มันบอก Ch.1 เน้ออออออออออออออ :hao7:
เกือบไปแล้ว โรคจิตนี่มันน่ากลัวจริงๆ :katai1:
-
:mew6: :mew6: :mew6:
-
เย้ๆ มาต่อแล้วว รอจองรอบไปรฯจ้ะ อิอิ :katai5:
-
ลูกออกมาคงทั้งดื้อเหมือนหัวหน้ากานต์ ทั้งรั่้้้นเหมือนปวีร์ด้วยสินะ :hao3:
-
ปวีร์รักษาลูกเมียไว้ให้ได้นะ
ไม่ดึงให้อยู่ด้วยก็ตามไปตื้อที่ญี่ปุ่นเลยไป :z2:
-
เกือบไปแล้ว :เฮ้อ:
-
ไปญี่ปุ่นเลย ถ้ายังอยู่ตอนนี้ ตอนแรกอาจจะดีแต่ต่อไปก็มีต้องเป็นขึ้ปากชาวบ้านแน่ๆ แค่นี้ก็เลวร้ายจะแย่อยู่แล้ว สภาพแวดล้อมแบบนี้ไม่เหมาะจะเลี้ยงดูเด็กหรอก
-
ยังไงก็รักคนที่มาข่มขืนตัวเองไม่ได้สินะ :hao5:
-
เจอหนักเลยนะกานต์ เกือบแย่แล้ว
-
ไอ้โรคจิตนั่นน่ากลัวจริงๆ ว่าแต่ตอนหน้าจะจบแล้วเหรอ?
-
บอกรักกันเต๊อะ อย่าปากแข็งกันเลย
-
ปวีร์จะทำอย่างไรต่อไปนะ
-
โอ๊ยยยยยยยยยย สนุกมาก ยังไม่อยากให้จบเลย
ชอบตอนคู่นี้มุ้งมิ้งกัน อยากให้เป็นเรื่องยาวจัง
รออ่านตอนหน้านะคะ สู้ๆ
-
เก็บตังเก็บตังค่ะ
-
รอจองค๊าาาาาาาาา
-
งื้อออ ไม่ให้ไปนะ
ตอนหน้าจะจบแล้ว
เร็วจัง T^T
-
จะใจอ่อนไหมลุ้นๆ
รออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
ยังไงชนกานต์ก็หนีใจตัวเองไม่พ้นหรอก อิอิ
ถึงคราวสารภาพความในใจสักที งานนี้มีเฮ
-
อย่าให้เจอโรคจิตจะฆ่ามัน :angry2:
-
จะจบแล้วหรอ
ลุ้นๆๆๆๆ
-
ขนลุกกับไอ้โรคจิตนั่นมาก :katai1:
ปวีร์จะทำยังไงให้ชนกานต์ใจอ่อนได้ล่ะเนี่ย ทำเขาไว้ก็เยอะ ที่ผ่านมาหมั่นไส้มาก เชียร์ให้หัวหน้าเป็นซิงเกิลมัมมาตลอด
แต่ แต่.... ตอนหน้าจะจบแล้ว อย่าปล่อยเมียกะลูกตัวเองไปทั้งอย่างนี้นะ :ling1:
-
กรี๊สสส เพิ่งอ่านทัน
ตอนหน้าจบแล้ว เร็วเวอร์
ชอบอะ แนวนี้มันนนน :haun4: แหะๆ
กานต์ใจแข็งมาก แต่ลูกต้องการพ่อนะ...ปวีร์ก็ต้องการเมียนะ อิอิ
เฝ้ารอๆ ปวีร์จะทำยังไงให้กานต์ใจอ่อน :katai2-1:
-
ไอโรคจิตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต
อยากฆ่าแก :angry2:
-
ตอนนี้ทั้งลุ้นระทึกจากโจรโรคจิต ทั้งรู้สึกหน่วงๆในอก
รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นห่วงใยที่ปวีร์มีให้ชนกานต์แล้วปวดใจเลยครับ
ใจนึงก็อยากให้ชนกานต์หนีปวีร์ได้พ้น จะได้เอาคืนปวีร์เสียบ้าง
อีกใจนึงก็อยากให้ชนกานต์ยอมรับใจตัวเองไปเถอะว่ารู้สึกดีกับปวีร์บ้างแล้วและให้อภัยปวีร์
ขอบอกเลย เรื่องนี้สนุกมาก....
-
อ่าาาาา จะจบละเหรอออ เราชอบเรื่องนี้อะ ถ้าจะจบ ขอตอนพิเศษน้าาาา ^^
-
โจรนี่ก็ตามจริงเลย
-
จะจบแล้วหรอ จะจบแล้วอ่ะ
:katai1: :katai1: :katai1:
สนุกมากกกกก ยังไม่อยากให้จบเลย
ลุ้นๆจะเป็นไงต่อ
-
มาเอาใจช่วยคัณปวีร์ 5555
-
ตอนที่ 11
กว่าจะรอให้ถึงเช้าได้ ชนกานต์รู้สึกว่ามันเป็นเวลาที่ยาวนาน เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกไม่อยากเผชิญหน้ากับปัญหา แต่ก็รู้ว่าไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงมันได้ เขาตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง สิ่งแรกที่มองเห็นก็คือเสื้อผ้าสำหรับใส่ในวันนี้ถูกหยิบออกจากตู้มาแขวนไว้ให้ ชนกานต์เม้มริมฝีปากเดินไปหยิบมันเก็บเข้าไปในตู้และเลือกเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมา ถึงจะรู้ว่าเป็นการทำร้ายจิตใจคนที่เอามาแขวน แต่ก็เลือกที่จะทำ
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ชนกานต์เดินออกมาจากห้องก็เจอปวีร์ที่นั่งหลับอยู่บนโซฟา ศีรษะที่ห้อยพับพิงกับพนักบ่งบอกว่าปวีร์เองก็เหนื่อยล้ามากแค่ไหนในคืนที่ผ่านมาแต่ก็ยังอุตส่าห์ทำมื้อเช้าเอาไว้
ชนกานต์ถอนหายใจก่อนยื่นมือไปเขย่าปลุกอีกฝ่าย ปวีร์สะดุ้งตื่นขึ้นมา ดวงตาที่มองชนกานต์แฝงไว้ด้วยความอ่อนล้า
“หิวหรือยังครับ?” ปวีร์ขยับลุก เตรียมไปอุ่นโจ๊กที่จัดการเคี่ยวไว้เมื่อชั่วโมงก่อนให้ชนกานต์กิน
“นายหยุดทำแบบนี้ซะทีเถอะ” ชนกานต์ถอนหายใจแล้วเอ่ยออกมา ปวีร์หันมองสบตา ไม่พูดอะไร รอให้ชนกานต์เป็นฝ่ายพูดต่อ ชนกานต์กำหมัดแน่น รวบรวมความกล้าที่จะพูดออกไป
“นายก็รู้ว่าฉันเกลียดนายแค่ไหน แล้วนายก็น่าจะรู้ว่าสิ่งที่นายทำไว้กับฉัน มันไม่ง่ายที่ฉันจะอภัยให้นายด้วย ต่อให้นายทำดีให้ฉันเห็นแค่ไหน แต่ไอ้สิ่งที่นายทำระยำไว้มันก็ไม่ลบเลือนง่ายๆหรอกนะปวีร์”
ชนกานต์ตัดสินใจพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม ปวีร์นิ่งไป รู้ว่าที่ชนกานต์พูดมามันคือความจริง
เขาทำไม่ดีกับชนกานต์เอาไว้มาก
สิ่งที่ทำลงไปก็เป็นเพราะความคึกคะนองเป็นหลัก
“ขอบอกเลยว่า...ฉันไม่อยากให้ลูกมีพ่อเป็นคนแบบนาย”
“ผมขอโทษ..”
ริมฝีปากของชนกานต์ยิ้มหยัน สำหรับเขาแล้ว..เขาไม่ต้องการคำขอโทษที่หลุดจากปากของปวีร์
เขาต้องการสิ่งอื่นเสียมากกว่า
“ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปมันระยำมากแค่ไหน แต่ผมอยากบอกให้คุณรู้...ว่าผมไม่เคยเสียใจเลยที่ผมทำให้เขาเกิดมา”
ปวีร์บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาขยับเข้าไปหาชนกานต์ แต่อีกฝ่ายก้าวถอยหลังหนี จึงหยุดยืนอยู่ตรงที่เดิม
“ผมดีใจ...ที่จะได้มีลูกกับคุณนะ”
ใจของชนกานต์สะท้านวาบ เพราะเคยคิดว่าปวีร์อาจไม่ต้องการให้เด็กคนนี้เกิด ที่แสดงออกว่าจะรับผิดชอบก็เพราะฝืนใจทำ
“ฮึ! คนอย่างนาย..จะมาดีใจทำไมที่จะมีลูกกับฉัน”
ชนกานต์ถามเสียงเยาะแล้วยกมือขึ้นมากอดอก ปวีร์ไม่ตอบแต่ใช้สายตาสื่อความหมายว่าเขารู้สึกอย่างไรกับชนกานต์
สายตาอ่อนโยนที่ชนกานต์ไม่เคยคิดใส่ใจจะมองมาก่อน มันแฝงความรู้สึกที่แท้จริงที่ปวีร์เก็บงำเอาไว้
“ผมเองก็ไม่รู้หรอกนะครับ ว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณมันเปลี่ยนแปลงไปเมื่อไหร่ ผมรู้แค่ว่า...ตอนนี้ผมรักคุณ”
ชนกานต์นิ่งอึ้งไป ไม่คิดว่าปวีร์จะเอ่ยคำนั้นออกมา
“นายคิดว่าฉันเป็นคนประเภทที่ได้ยินคำว่ารักก็จะโอนอ่อนตามหรือไงกัน รู้ไว้ด้วยว่าฉัน..ไม่ได้ต้องการความรักจากนาย”
ชนกานต์บอกเสียงแข็ง ปวีร์ถอนหายใจช้าๆ เข้าใจว่าจะเปลี่ยนใจชนกานต์ให้ยอมรับเขาได้มันเป็นเรื่องยาก ไม่ว่าเขาพูดอะไรไปตอนนี้ ชนกานต์ก็คงมองว่าเป็นการแก้ตัวทั้งสิ้น
“แต่ผมต้องการความรักจากคุณ...” ชนกานต์แค่นยิ้มก่อนสะบัดหน้าหนี
“นายกลับไปได้แล้วไป”
ปวีร์ยืนอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะยอมออกไปตามคำไล่ ทิ้งให้ชนกานต์อยู่กับคำพูดที่เขาสารภาพออกไป ชนกานต์ทรุดนั่งลงกับโซฟาเหมือนคนหมดแรง อ่อนล้ากับความคิดที่ตบตีกันในใจ
ว่าปวีร์...จะได้โอกาสทำหน้าที่พ่อของลูกหรือไม่
หลังจากที่ปวีร์ออกจากห้องไป ชนกานต์ก็นั่งคิดอยู่สักพัก รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ใกล้จะได้เวลาออกไปทำงาน ชนกานต์ยกมือขึ้นลูบหน้าแล้วลุกขึ้น เตรียมตัวจะไปทำงานแต่ก็มีเสียงกดกริ่งดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน เขาขมวดคิ้วมุ่นก่อนเดินไปยังประตู มองลอดผ่านรูตาแมวแล้วเห็นชายหญิงที่ไม่คุ้นหน้าสักเท่าไหร่ยืนอยู่ก็เลยเปิดประตูออกไป
“คุณชนกานต์สินะคะ?”
ผู้หญิงวัยกลางคนที่มีใบหน้าเคร่งเครียดเอ่ยถาม ชนกานต์พยักหน้า ผู้หญิงคนนั้นจึงแนะนำตัวว่าตนเองกับผู้ชายที่มาด้วยกันคือพ่อกับแม่ของผู้ชายโรคจิตคนนั้น ต้องการมาขอโทษชนกานต์ที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น ชนกานต์เลยยอมเปิดประตูให้เขาทั้งสองคนเข้ามา
“ต้องขอโทษคุณจริงๆนะคะ ที่เกิดเรื่องขึ้นแบบนี้ เราไม่ทราบมาก่อนเลยว่าเขาจะ....” คนเป็นแม่ไม่สามารถพูดต่อได้ ชนกานต์ก็พอเข้าใจอยู่บ้าง แต่ก็เลือกวางเฉยรอดูทีท่า
“เราจะพาเขาไปรักษาตัว พ่อหนุ่มไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะไม่ปล่อยให้เขามาทำร้ายหรือระรานอะไรพ่อหนุ่มอีก”
ชนกานต์พยักหน้ารับรู้ นึกโล่งใจอยู่บ้างที่ได้ยินอย่างนั้น
“แล้วก็นี่...เป็นค่าเสียหายและค่าทำขวัญของพ่อหนุ่ม ฉันอยากให้เธอรับเอาไว้นะ..” คนเป็นพ่อยื่นเอาซองที่หนาพอสมควรมาให้ ชนกานต์ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอแค่ลูกชายของพวกคุณไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับผมอีกก็พอ”
“ได้ยังไงกัน! ลูกของเรามาทำความเดือดร้อนให้คุณตั้งมากมาย ไหนคุณกับแฟนจะได้รับบาดเจ็บ ไหนจะข้าวของเสียหายที่เสียหายอีก รับไว้เถอะนะ ไม่อย่างนั้นเราคงรู้สึกผิดมาก”
คนแม่ฉวยเอาซองนั้นมายัดใส่มือชนกานต์แล้วจับมือชนกานต์ไว้แน่น น้ำตาร่วงเผลาะๆอย่างคนที่เสียใจจริง
ชนกานต์นิ่งไปครู่หนึ่ง เหลือบตามองดูคนพ่อแล้วก็เห็นเขาพยักหน้าให้
“รับไว้เถอะนะ” ชนกานต์มองดูซองเงินในมือก่อนจะถอนหายใจ ยอมรับมันไว้
“ผมจะรับไว้ก็ได้ครับ”
“ขอบใจนะจ้ะ”
คนแม่ยอมปล่อยมือชนกานต์แล้วยิ้มให้ ก่อนจะเล่าเรื่องให้ฟังว่าลูกชายที่มาทำร้ายชนกานต์นั้นหนีออกจากบ้านมาพักใหญ่แล้วเพราะทะเลาะกับคนพ่อเรื่องยาเสพติดที่ไม่ยอมเลิก
ฝ่ายพ่อก็เจ้าทิฐิ เห็นลูกเหลวแหลกแบบนั้นก็ตัดหางปล่อยวัดไม่ยอมตามหาลูก จนปล่อยเรื่องราวให้เลยเถิดเช่นนี้
ชนกานต์ฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจ
“ยังไงก็..ขอให้เขารักษาตัวให้หายได้ในเร็ววันก็แล้วกันนะครับ”
ชนกานต์บอกไปเช่นนั้น มันเป็นคำพูดที่ดูเหมือนบอกไปแกนๆ แต่คนแม่กลับยิ้มให้ชนกานต์อย่างเป็นมิตรและพยักหน้าก่อนจะกลับออกไปกับสามีของเธอ ชนกานต์ถอนหายใจทิ้งตัวนั่งลงกับโซฟาอีกครั้ง มือยังคงถือซองเงินที่ได้รับมา แกะดูก็เห็นว่ามันเป็นเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับเช็คเงินสดที่จำนวนของมันก็มากโขจนชนกานต์ตกใจ ชนกานต์รีบเดินตามสามีภรรยาคู่นั้นออกไปทันที
“ขอโทษนะครับ แต่เงินนี่มันมากเกินไป ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ”
ชนกานต์โพล่งบอกทันทีที่เดินตามไปทันทั้งคู่ที่ยืนรอลิฟต์อยู่
“รับไว้เถอะจ้ะ..เราคิดว่ามันยังคงน้อยไปด้วยซ้ำสำหรับคุณ”
“แต่...”
ชนกานต์ลังเลใจ เขาไม่ได้ต้องการเงินจากพวกเขา ชนกานต์แค่ต้องการความปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งดูจากแววตาและท่าทางของทั้งสองแล้ว ชนกานต์ก็เชื่อว่าทั้งสองจะพาลูกชายของพวกเขาไปเข้ารับการบำบัดจริง
และอีกไม่นานเขาก็จะไปญี่ปุ่นแล้ว ก็คงไม่ต้องกังวลอะไรอีก
“รับไว้เถอะพ่อหนุ่ม ถ้าพ่อหนุ่มกังวล ฉันบอกได้เลยว่าเงินจำนวนนี้ไม่ได้ทำให้เราเดือดร้อนอะไรหรอกนะ”
คนพ่อบอกอย่างนั้นก่อนโอบภรรยาให้เดินเข้าลิฟต์ไป ก่อนที่ลิฟต์จะปิด ทั้งสองก็หันมาพยักหน้าให้ชนกานต์ ชนกานต์ค้อมศีรษะให้พวกเขาก่อนจะเดินกลับเข้าไปเอากระเป๋าทำงานในห้องของตัวเองแล้วจึงออกไปทำงาน
เห็นปัญหาของครอบครัวนี้แล้วก็นึกอ่อนล้า
ไม่รู้ว่าตัวเองเพียงคนเดียวนี้จะสามารถเลี้ยงลูกได้ดีไหม เพราะขนาดครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ ลูกชายยังกลายมาเป็นคนเช่นนี้ได้เลย
วันเวลาที่เหลือก่อนจะเดินทางไปญี่ปุ่นนั้น ชนกานต์พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปวีร์ตลอดเวลา และก็เหมือนปวีร์จะรู้ เพราะปวีร์เองก็ไม่ได้เข้ามายุ่งย่ามให้เขารำคาญใจ แต่ชนกานต์สังเกตได้ว่าเวลาที่อยู่ใกล้กันหรือเดินผ่านกัน ปวีร์ก็มักจะมองมาด้วยสายตาที่แฝงไว้ด้วยอะไรบางอย่าง
ชนกานต์พยายามไม่เอามันมาใส่ใจและจัดการสะสางงานของตัวเองให้เสร็จ เขามอบหมายงานให้กับลูกน้องทุกคน และปฏิเสธการจัดเลี้ยงอำลา รวมทั้งปฏิเสธที่จะบอกทุกคนว่าเขาลาออกทำไมและจะไปทำอะไรหลังจากนี้
ถึงเวลาต้องออกเดินทาง..ชนกานต์ก็นึกใจหายไม่ได้
เขาชอบงานที่ทำ ทั้งหัวหน้าและลูกน้องต่างก็เป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน
ชนกานต์ถอนหายใจ พยายามตัดใจกับความเสียดายแล้วลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเองออกจากห้องนอน โดยเลือกที่จะทิ้งเสื้อผ้าของเจ้าตัวเล็กที่ปวีร์ซื้อไว้ที่นี่ แต่ทันทีที่เปิดประตูห้องออกไปก็ต้องตกใจเพราะหน้าห้องที่สมควรว่างไม่มีใครกลับมีปวีร์ยืนอยู่
“นะ..นาย!?”
“ผมมารับคุณไปสนามบิน” ปวีร์บอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่แววตาบ่งบอกความผิดหวัง
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันจะไปสนามบินคืนนี้?”
ชนกานต์ถามอย่างนึกสงสัย ปวีร์เอื้อมมือไปยังกระเป๋าลากจะลากไปให้ชนกานต์ แต่ชนกานต์ถอยหนี
“คืนวันที่เกิดเรื่อง...ผมเห็นกระเป๋าเดินทางที่คุณเตรียมไว้เลยแอบเปิดดูก็เห็นตั๋วเครื่องบินของคุณ”
“แล้วนายจะมาทำไม?” ชนกานต์ถามสวนไปทันที ปวีร์ชะงัก หน้าหมองลง
“ผมรู้ว่าการมาของผมคงไม่ทำให้คุณเปลี่ยนใจที่จะไม่ไปญี่ปุ่น แต่อย่างน้อยให้ผมได้ไปส่งคุณเถอะนะ”
“ไม่จำเป็น ฉันเรียกแท็กซี่ไปได้”
“แล้วคุณจะยกกระเป๋าใบใหญ่อันนี้ไปมาเองอย่างงั้นหรอ?”
ชนกานต์นิ่งไป สิ่งที่ปวีร์พูดมามันก็ถูก เขากำลังตั้งครรภ์..การจะยกของหนักเป็นสิ่งที่ไม่ควร คิดได้อย่างนั้นก็ยอมให้ปวีร์ลากกระเป๋าไปแทน
“แค่ไปส่งเท่านั้น เข้าใจไหม?”
ปวีร์ยิ้มให้แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูฝืดฝืนที่สุดนับตั้งแต่ที่ชนกานต์เคยเห็นมา
ตลอดเวลาที่ไปสนามบินมีแต่ความเงียบเข้าครอบงำในรถ
ชนกานต์รู้สึกอึดอัดใจแต่ก็เลือกที่จะนิ่งเงียบและเงียบไปจนกระทั่งถึงเวลาที่ชนกานต์ต้องเข้าไปเช็คอิน
“ไปล่ะ” ชนกานต์บอกโดยไม่มองหน้า แต่ปวีร์ฉวยมือเอาไว้แล้วเอาหยิบเอาซองออกมายัดใส่มือ ชนกานต์เลิกคิ้วมอง
“ถ้าคุณไปแล้ว ผมอาจไม่มีวันได้พบคุณกับลูกอีก คงจะไม่มีวันได้เห็นแกเติบโต..”
ปวีร์พยายามเก็บห้วงอารมณ์ที่สั่นสะเทือนใจลงแล้วฝืนยิ้ม
“ผมขอร้องคุณเพียงอย่างเดียว คือเมื่อแกโตขึ้น...ผมอยากให้แกได้มีโอกาสอ่านจดหมายฉบับนี้”
“จะลองคิดดูก็แล้วกัน”
ชนกานต์ว่าแล้วถือจดหมายไว้ก่อนหันหลังให้ปวีร์แล้วเดินจากไป ปวีร์ยืนมองอยู่ตรงจุดนั้น จนกระทั่งชนกานต์หายไปจากสายตา...
“ผมรักคุณ...ชนกานต์...”
เหลือเวลาอีกพักใหญ่กว่าจะถึงเวลาขึ้นเครื่อง ชนกานต์เดินไปหาที่นั่งรอแล้วหยิบเอาแท็บเล็ตออกมาเปิดอะไรดูฆ่าเวลา จดหมายที่ปวีร์ให้มาถูกหยิบติดขึ้นมากับแท็บเล็ต ชนกานต์มองดูมันแล้วเม้มริมฝีปาก ระหว่างที่นึกช่างใจว่าจะทิ้งมันไปดีหรือเก็บไว้ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องอ้อแอ้ขึ้นมาเสียก่อน
ชนกานต์เงยหน้ามองก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มลูกมานั่งฝั่งตรงข้าม เธอส่งยิ้มมาให้เป็นมิตรก่อนจะหันไปบอกให้สามีของเธอที่เดินตามมานั่งข้างๆหยิบเอาขวดนมให้ลูก ชนกานต์นั่งมองภาพของสามคนพ่อแม่ลูกที่ดูมีความสุขแล้วเจ็บแปลบในใจ
รู้สึกอ่อนไหวกับภาพนี้จนต้องเบือนหน้าหนี
‘อย่าห่วงไปเลยน่า..ผมเป็นพ่อได้ดีกว่าที่คุณคิดแน่’
คำพูดที่ปวีร์เคยพูดไว้ มันดังขึ้นมาจากความทรงจำ
คำพูดนั้นจะเป็นจริงไหม..เขาคงไม่มีโอกาสได้รู้ เพราะตัวเขาเองปิดกั้นโอกาสที่จะให้ปวีร์ได้พิสูจน์ตัวเองไปแล้ว
มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกแล้วใช่ไหม..?
ชนกานต์ถามตัวเองอีกครั้งขณะที่ก้มหน้ามองซองจดหมายในมือ ที่ปวีร์ปรารถนาจะให้ลูกได้อ่าน
เขียนอะไรเอาไว้นะ?
ด้วยความอยากรู้พาให้ชนกานต์ฉีกซองจดหมายนั่นและดึงเอากระดาษข้างในออกมากางอ่าน ข้อความในจดหมายเขียนด้วยลายมือเป็นระเบียบที่จำได้คุ้นตา
ถึง ลูกรัก
ในวันที่พ่อเขียนจดหมายนี้ พ่อเองก็ไม่รู้ว่าลูกจะได้มีโอกาสได้อ่านมันเมื่อไหร่แต่พ่อก็หวัง...ว่าสักวันลูกจะได้อ่านจดหมายฉบับนี้และอยากให้ลูกรู้ไว้ว่าถึงเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่พ่อก็รักลูกและแม่ของลูกมากนะครับ
ตอนที่เขียนจดหมายฉบับนี้ พ่ออดคิดไม่ได้ว่าลูกจะเป็นผู้ชายหรือจะเป็นผู้หญิง
จะมีสุขภาพแข็งแรงหรือเปล่า?
หน้าตาจะเป็นอย่างไร? จะน่ารักแค่ไหน?
จะเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่?
จะมีนิสัยอย่างไร?
ทว่าทุกอย่างก็เป็นได้เพียงแค่ความคิดเท่านั้น พ่อคงไม่มีโอกาสที่จะได้รับรู้ คงไม่มีโอกาสที่จะได้เฝ้ามองลูกเติบโตอย่างที่หวัง ทุกอย่างมันเป็นความผิดของพ่อเองที่ทำให้เราไม่ได้มีครอบครัวที่แสนอบอุ่นอย่างที่พ่อเคยฝันถึงเอาไว้
แต่พ่ออยากบอกให้ลูกรู้ไว้นะครับ ว่าถึงเราจะอยู่ห่างกันแสนไกล แต่ใจของพ่อจะอยู่กับลูกและแม่ของลูกอยู่เสมอ
รัก
จากพ่อ
อ่านจบแล้ว ชนกานต์ก็สูดลมหายใจลึกก่อนจะพับมันเก็บลงไปในซอง
จดหมายของปวีร์มันแสนสั้นแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ชนกานต์เงยหน้ามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง
ภาพของครอบครัวอบอุ่นที่มีกันสามคนพ่อแม่ลูกแบบนี้หรือเปล่าที่ปวีร์ใฝ่ฝัน
แล้วคำว่ารักที่ปวีร์พูดบอก มันเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ?
ชนกานต์ยกมือขึ้นมาลูบหน้าอย่างอ่อนล้า เขาจะใช้ชีวิตต่อไปกับความรู้สึกที่มันขาดหายนี้ได้อย่างไรกัน
จะสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังจากนี้ได้จริงๆน่ะหรือ?
จะสามารถลืมปวีร์ได้..อย่างนั้นหรือ?
ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นก็มีเสียงประกาศเรียกให้ไปขึ้นเครื่อง ชนกานต์มองดูสามีภรรยาตรงหน้าพาลูกลุกขึ้นเดินออกไปก่อนจะก้มลงมองดูตั๋วที่วางไว้บนตัก ชนกานต์จัดการเก็บแท็บเลตที่เอาขึ้นมาแต่ไม่ได้ใช้ก่อนลุกขึ้นยืนเดินออกจากเล้านจ์พร้อมกับตั๋วในมือ
คิดถูกหรือเปล่าที่ไม่รั้งชนกานต์เอาไว้?...
ปวีร์ยืนคิดอยู่อย่างนั้น ในใจนึกสับสนว่าการที่ปล่อยชนกานต์ไปตามที่ชนกานต์ต้องการมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วใช่ไหม
ไม่! เขาไม่ควรจะทำแบบนี้ เขาไม่ควรปล่อยให้ชนกานต์ไปจากเขาแบบนี้!
ชนกานต์กับลูกคือคนสำคัญสำหรับเขา ปวีร์แน่ใจว่าจะไม่มีวันยอมให้อภัยตัวเองเป็นแน่ ถ้าปล่อยให้คนสำคัญเดินจากไปโดยไม่พยายามรั้งเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
คิดได้อย่างนั้นแล้ว ปวีร์ก็ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา เวลาที่เหลือมันจวนเจียนเหลือเกิน แต่ถ้าไม่พยายามเลยก็เท่ากับละทิ้งโอกาสของเขาเอง
เขาจะไปตามหาชนกานต์ จะขอร้องและอ้อนวอนให้ชนกานต์มอบโอกาสแก่เขาอีกสักครั้ง
แม้ว่าต้องคุกเข่ากอดขาชนกานต์...เขาก็จะทำ!
แต่พอหันหลังกลับมา..ปวีร์ก็สะดุ้งวาบ
“คุณ...”
ปวีร์พูดแทบไม่ออกเมื่อเห็นชนกานต์ยืนอยู่ตรงหน้า เขาก้าวเข้าไปหา อยากจะโอบกอดชนกานต์ไว้ในอ้อมแขนแต่อีกฝ่ายถอยหลังไปเมื่อเห็นเขาเข้าไปใกล้ ปวีร์จึงหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ชนกานต์เหลือบตาขึ้นมองเขาแล้วชูจดหมายที่เขาเขียนขึ้นมา ก่อนจะฉีกมันต่อหน้าเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ปวีร์นึกใจเสียที่ชนกานต์ทำเช่นนั้นจนพูดอะไรไม่ออก
“อยากจะบอกอะไร..ก็เก็บเอาไว้บอกเอง ไม่ต้องมาเขียนให้มันดูน้ำเน่าแบบนี้”
ชนกานต์พูดแล้วปาเศษจดหมายใส่อกปวีร์ก่อนยกมือขึ้นกอดอก
“หมายความว่า...”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อคมอย่างฉับพลันเมื่อเข้าใจความหมายของคำพูดที่ชนกานต์เอ่ยออกมา
“ฉันให้โอกาสนายแล้ว...อย่ามาทำให้ฉันผิดหวังก็แล้วกัน”
ชนกานต์บอกก่อนเชิดหน้าใส่ ปวีร์ก้าวมารวบกอดเขาไว้ด้วยความดีใจ ชนกานต์ยกมือผลักให้ปวีร์เลิกกอดด้วยความอายกับสายตาของคนรอบข้างที่มองมาแต่สุดท้ายก็ต้องยืนนิ่งยอมให้ปวีร์กอดต่อหลังจากได้ยินคำพูดที่กระซิบอยู่ข้างหู
“ผมสัญญา...ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
ปวีร์ไม่ได้เพียงให้คำมั่นกับชนกานต์เท่านั้น แต่ยังเป็นคำมั่นที่ให้กับตัวเองอีกด้วย ว่านับจากนี้ไป..เขาจะไม่ทำร้ายจิตใจคนที่เขารักอย่างที่เคยทำอีก
“จำคำพูดของนายวันนี้ให้ดีก็แล้วกัน”
ชนกานต์บอกก่อนจะยันอกให้ปวีร์เลิกกอดตัวเองเสียที ปวีร์ยอมผละกอด ใบหน้าหล่อที่เอาแต่ยิ้มอย่างมีความสุขนั่นทำให้ชนกานต์นึกหมั่นไส้ไม่น้อย
“ไป! กลับกันได้แล้ว ฉันง่วง!”
ชนกานต์บอกแล้วผลักกระเป๋าที่ลากมาให้ปวีร์เป็นคนลากแทน ปวีร์จับที่ลากเอาไว้ก่อนดึงมือคนที่ทำท่าจะเดินนำไป ชนกานต์หันมาเลิกคิ้ว ยังไม่ทันจะถามอะไรก็ถูกฉกจูบไปท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมาในสนามบิน
“ขอบคุณนะครับ...ที่ให้โอกาสผู้ชายเลวๆคนนี้”
“รู้ตัวว่าเลวก็ดี แล้วจากนี้ไปก็ทำตัวเป็นพ่อที่ดีด้วยล่ะ ไม่งั้นล่ะก็...ฉันหาพ่อใหม่ให้เจ้าตัวเล็กมันแน่!”
ชนกานต์เอ่ยขู่ก่อนจะเดินนำออกไปด้วยใบหน้าที่อมยิ้ม
ก็อยากจะรู้เหมือนกัน...
ว่าคนอย่างปวีร์จะเป็นพ่อที่ดีได้อย่างที่ปากว่าหรือเปล่า!
End
จบแล้ววววว ใครอยากได้รวมเล่มไปเก็บไว้เป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึก สามารถติดตามข่าวสารได้ทางหน้าเพจค่ะ จะเปิดจองรอบไปรษณีย์เร็วๆนี้ค่ะ ^^
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมาตลอด ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทั้งคำติคำชมทุกอย่างขอน้อมรับเอาไว้ โดยเฉพาะคำติเตือนค่ะ จะเก็บเอาไว้ปรับปรุงในครั้งต่อๆไปนะคะ
ยังไงก็ฝากผลงานเรื่องอื่นด้วยนะคะ
ป.ล. เดี๋ยวอาจจะมีตอนพิเศษมาแปะเพิ่มให้น้าาา^^
-
โอ้ยยยยยยยยยยยย ลุ้นแทบแย่
ขอบคุณมากค่ะ มีตอนพิเศษไหมคะ
-
ตั้งใจเป็นพ่อที่ดีนะ :hao3: :hao3:
ในเล่มกับที่ลงในนี้มีอะไรเพิ่มเติมไหมค่ะ :ruready
-
ขอบคุณฮะ :กอด1:
-
:hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
ปลื้มปริ่ม อย่ากอ่านตอนพิเศษละค่ะ
-
นอกจากเป็นพ่อที่ดี....เป็นสามีที่ดีด้วยนะย่ะ :3123:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ค่ะ จะอุดหนุนเป็นเล่มแน่นอน ชอบมาก อยากอ่านตอนพิเศษ ตอนแรกกลัวจบไม่แฮปปี้มากเลย กลัวคนแต่งเปลี่ยนพล๊อตตามคอมเม้นท์ แต่ดีใจที่ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ
อยากอ่านตอนเจ้าตัวเล็กออกมาลืมตาดูโลกแล้วว่าจะป่วนบรรดาพ่อๆ แค่ไหน รออ่านนะคะ
-
ยิ้มทั้งน้ำตา
คนที่ไม่ดีคนนึงก้อสามารถเป็นคนดีๆคนนึงได้เพื่อคนที่เค้ารักแหละเนอะ
-
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ผลงานเรื่องอื่นก็ติดตามอยู่ อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากค่ะ :pig4:
-
สัญญาแล้วก็ทำตามที่พูดไว้ให้ได้ด้วยละ o13
ปล.อยากเห็นตอนเจ้าหนูคลอดจังเลย แม่กานต์กับพ่อวีร์จะเป็นยังไงน้อออ :katai5:
-
โอยยยยย
น่ารักอ่าาา น้ำตาไหลเลย เรื่องครอบครัวแบบนี้มันเป็นเรื่องออ่นไหวจริงๆ
ขอบคุณคนเขียนนะคะ รอตอนพิเศษด้วยค่ะ
:mew1:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
จบอย่างสมบูรณ์
อยากรู้จิงๆ ว่าลูกเปน ผู้หญิง หรือผู้ชาย
-
นึกว่าชนกานต์จะไม่ให้โอกาสปวีร์แล้ว ครอบครัวอบอุ่น
-
:mew1: :mew1: :mew1:
-
ซึ้งงงงงงงงงงงงงงงงง
เริ่มร้องตามตอนปวีร์มันยื่นจดหมายให้
งงตัวเองเหมือนกัน ร้องไมวะ :sad4:
ดีใจที่จบแบบนี้ . . . +1 ให้เลย
ตอนพิเศษจะมีเด็กๆด้วยใช่ไหม งื้ออออออออ อยากๆ :m1:
-
:hao5: จบแล้วอ่ะ ไม่อยากให้จบเลย ยัอยากเห็นหัวหน้ากานต์ตอนท้องป่อง กับตอนเลี้ยงเจ้าตัวเล็กอ่ะ ท่สำคัญยังไม่เห็นปวีร์ทำหน้าที่พ่อกับหหน้าที่สามีเลยอ่ะ อยากเห็น(?)จริงๆนะ
-
แฮะๆ เพิ่งมาเม้นจ้าพี่โกะ
แบบว่าเค้าอ่านในเฟซบุคส์ตลอดเลย วันนี้ฤกษ์งามยามดี ได้เข้าเล้า เลยมาเม้นให้หัวหน้าทั้ง 2 ซะหน่อย
ดันๆค้า :laugh:
-
ต้องทำให้ได้อย่างที่พูดนะปวีร์ :mew1:
-
น่ารักอ่า จบอย่างสวยงาม
-
อ่านจดหมายของปวีร์ไปน้ำตาร่วงไป :hao5:
-
ซึ่ง กินใจมากมาย :hao5: :hao5:
-
:hao7: รอตอนพิเศษ
-
จบลงด้วยดี :katai2-1:
รอตอนพิเศษค่าาา
-
:pig4:
อยากอ่านตอนเป็นคุณพ่อ
-
:mc4: :mc4:
จบแล้ว ลุ้นมากกกกกกกกกกกก กลัวไม่แฮปปี้ กาญยิ่งไม่เหมือนคนอื่นอยู่ด้วย ใจแข็งมากอ่ะ :mew4:
:bye2: :bye2: :bye2:
-
น่ารักมากกกกก ดีใจจังที่แฮปปี้
อยากอ่านตอนคลอดลูกแล้ว
ตอนพิเศษมาไวไวน่ะ
-
กรี๊ด จบได้สมบูรณ์แบบมาก แบบว่า ฟินอะะะะะะะ
อยากอ่านตอนพิเศษ ที่คลอดเบบี๋ออกมาแล้ว
-
เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลย ชอบแนวนี้สุดๆ o13
-
ซึ้งมากจ๊ะ รอตอนพิเศษ
-
:katai2-1:
แล้วจะรอตอนพิเศษค่ะ
-
:o8:
ในที่สุดก็สมหวังซะที
-
อยากอ่านตอนพิเศษอ่าาาาา :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
-
น่าร๊ากกกก
ขอบคุณมาก ๆ นะคะ~^^
-
ในที่สุดก็แฮปปี้ซะอีก
อยากให้มีตอนพิเศษจังเลยค่ะ
-
ตอนพิเศษ *0*
-
จบแล้วแอบสะเทือนเบาๆ
เราไม่คิดว่าเรื่องจะจบเร็วมากแต่ก็ทั้งสองจบแฮปปี้
อดเห็นลูกเลยสิค่ะเนี้ยแบบนี้พอจะมีตอนพิเศษมีเจ้าตัวเล็กไหมคะ? :-[
มาเขียนนิยายให้อ่านอีกนะคะขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
-
รอตอนพิเศษๆๆๆๆๆ
-
ตัวเล็กมีพ่อแล้ว
ปวีร์ชนกานต์ เฮฮฮฮฮฮฮฮ้ :กอด1:
-
จบซะแล้ว ในที่สุดชนกานต์ก็ใจอ่อน และเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ ขอบคุณค่ะ~
-
มารอตอนพิเศษค่ะ
แอบร้องไห้ตอนกานต์อ่านจดหมาย
ในเมื่อกานต์ยอมให้โอกาสแล้วก็ใช้โอกาสให้มันดีที่สุดเลยนะ เป็นทั้งพ่อที่ดีของลูกและสามีที่ดีของภรรยานะปวีร์
ปล.อยากได้หนังสือจังเลยค่ะ >-<
-
อ๊ายยยยยยยย อยากอ่านตอนช่วยกันเลี้ยงลูกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
ขอบคุณมากๆนะคะ เรื่องนี้สนุก
แต่ว่า อยากให้มีตอนพิเศษง่าาาาาาา
อยากอ่านนนนนนนน
:ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
-
จบซะแล้ว
ชนากานให้โอกาศแล้วน่ะ ทำตัวดีๆๆๆน่ะ
รอตอนพิเศษจ้าาาา
-
รักเรื่องนี้จัง
-
จบแล้วววววว :man1: :man1: :man1:
น่ารัก สุดท้ายกานต์ก็ยอมกลับมา
อยากอ่านตอนพิเศษอ่า :hao6:
จะมีตอนพิเศษมั้ยอะคะ? แหะๆ
รอสั่งหนังสือ งุงิ
-
สนุกมากๆๆ เลยค้าาา จบลงด้วยดี เย้ๆๆๆ :z2: :z2:
และ ต้องขอขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ มาให้อ่านนะคะ
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล.รอเรื่องอื่นๆๆ อยู่นะคะ (Night and Rose รัตติกาลสีกุหลาบ ) :กอด1:
-
:-[ :-[ ในที่สุดชนกานต์ก็ใจอ่อน ลุ้นแทบแย่
รอตอนพิเศษษษษ
-
จบซะแล้ว จบแบบอยากได้ตอนพิเศษเลยค่ะ
ปวีร์จะเอาใจกานต์ยังไงบ้าง ถ้าเจ้าตัวเล็กคลอดออกมาจะน่ารักแค่ไหน แล้วกานต์จะกลับไปทำงานที่เดิมใช่มั้ย
มีแต่เรื่องอยากรู้เต็มไปหมด
-
ไม่ได้เข้าเล้ามาสองวัน จบเสียแล้ว
ดีใจที่ปวีร์ได้โอกาสนะ
ครอบครัวที่มีแพ่แม่ลูกพร้อสมบูรณ์ดีกว่าแน่นอน
ปล.ขอตอนพิเศษๆหน่อยจ๊าาาา
-
ตอนอ่านจดหมายว่าน้ำตาซึมแล้ว เห็นหัวหน้ากานต์มาฉีกจดหมายนี่น้ำตาไหล ยังไม่ได้อ่านบรรทัดต่อไป :heaven
รอตอนพิเศษค่ะ ลูกจะน่ารักแค่ไหนนะ :katai2-1:
-
แงงงงงงงงง้ ไม่อยากให้จบเลย
ดีใจที่ตอนจบมา แต่ก็เสียใจที่มันจบแล้ว
ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวดีๆให้อ่านกันนะคะ
ชอบเรื่องนี้มากๆ จะรอตอนพิเศษนะคะ
-
ตอนพิเศษ ตอนพิเศษ อยากเห็็นลูกของทั้งคู่
-
ตอนพิเศษ เย่ๆๆ
รอๆ
-
ตอนจบน่ารักจัง
แต่แอบหวังให้คุณแม่ใจแข็งมากๆๆ เพราะพ่อทำไว้เยอะ
ต้องได้รับบทเรียนที่สาสม
-
รอสเปปปปปปปปปปปป
แล้วก็รอรวมเล่มด้วย
อยากได้ๆๆๆๆ
-
โอยยยยย
เอนซีตอนแรกมันเยอะเกินไป ยาวนานมาก
คือเราอึดอัดมากจนต้องอ่านข้ามๆให้มันผ่านๆไป
คือมันคือการข่มขืนน่ะ หื่นไม่ลง
เขียนให้ตลกให้อีกคนยินยอมยังไงมันก็คือการบังคับกันอยู่ดีค่ะ
หวังว่าอ่านๆไปจะมีอะไรแสดงให้เห็นความจริงใจของพระเอกบ้างนะ
ว่าหื่นน้อยลงแต่เน้นความรักบ้างและไม่เซกส์ในลัษณะบังคับให้ทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ
อย่างการบังคับให้ออรัล
มันไม่ตลกเลย เหอๆ
อ่านไปๆก็ยังถูกบังคับอยู่ดี มีรูปแบลคเมล์ บังคับต่างๆนาๆ
พระเอกเห็นแก่ตัวเกินไป
อึดอัด ไม่เชียร์เลย
ขอให้เอาคืนจนสาสม ให้วีร์เสียใจเยอะๆบ้าง
ที่บอกว่าอยากให้กานต์ลดทิฐิ คือ..วีร์ยังไม่ปรับตัวให้แสดงออกว่ารักเค้าเลย
บังคับต่างๆนาๆ เหมือนเห็นแต่เรื่องเซกซ์ แล้วจะให้กานต์ลดทิฐิได้ยังไงอ่ะ
มันคือนิยาย แต่อ่านๆไปจนถึงตอนนี้กานต์ท้องแล้ว
ถ้าวีร์จะทำไม่ดีไว้แล้วไม่ได้รับผลตอบแทนมันก็ไม่ฟินอยู่ดี
ใช่เลยที่บอกว่าชีวิตจริงก็มีเรื่องแย่ๆเยอะอยู่แล้วในสังคม
ในนิยายให้ฟินบ้างเถอะ?
ก็นั่นน่ะสิ เรื่องจริงมีแบบนี้เยอะ ทำเค้าแต่ไม่ได้รับสิ่งตอบแทนเอาคืน
มาในนิยายยังจะต้องเจออีก
เฮ้อออ
ก่อนจะจบลง ขอให้พระเอกได้เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปบ้างนะคะ
เอาจริงๆก็ได้แค่บ่น อย่างที่หลายคนบอก เรามันเป็นแค่คนอ่าน ที่หลงเข้ามาอ่านไปแล้วไง
แต่ถ้าอ่านแล้วรู้ว่าจะทุกข์ จะอ่านเหรอ 55555
:katai1:
-
อ่านจนถึงเลือกซื้อเสื้อผ้าเด็กหลังจากไม่ได้ดูหนัง
ก็..
รู้สึกโอเคกับตาวีร์ละ
หายโกรธก็ด๊ะ
เชอะ
-
อ่านรวดเดียวจบเลยค่า...
ภาษาไหลลื่นมากๆ ตัวละครก็น่ารักมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับเริ่องน่ารักๆแบบนี้นะคะ :pig4:
-
จบแบ้วววว
พออ่านจบก็รู้สึกโอเคกับวีร์มากขึ้นนะ
แต่ก็ยอมรับว่าอยากให้เค้าได้รับการเอาคืนมากกว่านี้
เชื่อว่าคนอ่านนิยายทุกคนที่บ่นๆกันไม่มีใครต้องการให้จบไม่แฮปปี้
เพียงแต่เราแค่อยากให้คนทำอะไรก็ได้คืนอย่างสาสมเท่านั้นเอง
อย่างวีร์ ก่อนจะแฮปปี้กันก็อยากให้พระเอกได้รับผลกรรมก่อน เสียใจมากๆ รู้สึกผิดมากๆ
อันนี้ยังรู้สึกอยู่ว่าถ้าไม่มีลูก จะรักกานต์มั้ย เพราะตอนแรกก็เหมือนแค่ชอบแบบผิวเผิน
พอกานต์ลบรูปได้วีร์ก็ไม่ได้ตามขอโทษตามจีบใดๆ จนมามีลูกถึงได้กลับมาตอแยอีก เหมือนกลับมาเพราะลูกมากกว่า
เราคนอ่านไม่มีใครอยากให้จบไม่ดีหรอกค่ะ แค่อยากให้ได้รับผลกับสิ่งที่ทำก่อนเท่านั้นแล่ะ
กานต์พอเกือบถูกโรคจิตข่มขืนก็ขวัญเสีย ผวาน่าสงสารนะ
ย้อนกลับไปคิดว่าแล้วทำไมตอนวีร์ทำ ทำเยอะกว่าด้วย ไม่เห็นจะขวัญเสีย
ดูไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลใช่มั้ยล่ะ หุหุ
-
เง้ยยยยย
ครอบครัวสมบูรณ์แบบ 555555
-
อยากอ่านภาคลูก ว่าโตมาจะป่วนแสบซ่าขนาดไหนนนน
:man1: :man1: :man1:
-
จดหมายมันซึ้งซะ
ปวีร์แกหล่อก็ฉากนี้
-
สนุกมากคะ ขอตอนพิเศษหลายๆตอนนะคะ :katai3:
-
จบแบบฟินๆ :o8:
จะมีตอนพิเศษมั้ยอ่ะคะ :monkeysad:
-
หืมมม นึกว่าคุณแม่จะไม่ให้อภัยคุณพ่อซะแบ้ววว
ปล.ไม่มีตอนพิเศษเหรอคะ แหะ แหะ
-
แอร๊ยย เข้ามาอีกทีจบซะแล้วหรอเนี่ยยย :mew6:
ในที่สุดก็จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาซะที :m11:
:L2: :L2: :bye2: :L2: :L2:
-
เริ่มต้นมาได้แบบร้อนแรงสุดๆเบยยยย
สนุกมากค่ะ ภาษาก็ดีอ่านแล้วลื่นไหลไม่สะดุด
ตอนจบนี่เราร้องไห้เลยนะ TT
คุณกานต์นี่เก่งอะ แทบจะไม่ร้องไห้เลย ฮ่า ๆ
รออ่านตอนพิเศษนะคะ
-
+ เป็ดกระจาย
-
บวกให้เลย เรื่องนี้มันซึ้งจนน้ำตาซึมเลย
อ่านแล้วก็นึกถึงตัวเอง ครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ
มันลำบากจริงๆนะ เราเองก็วาดฝันว่าอยากให้พ่อมาอยู่ด้วยเหมือนกัน
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ :L2:
-
รอตอนพิเศษครับผม
ลูกคนนี้จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงน๊าาาา
เอ.....หรือจะเป็นแฝด ?
แล้วจะมีน้องหลังจากท้องครั้งนี้อีกมั้ย?
ปวีร์จะปฏิบัติตัวเป็นพ่อที่ดียังไงบ้าง?
มีเรื่องที่ผมอยากรู้เต็มไปหมด
แต่ที่ผมรู้แน่ ๆ ก็คือ......
ปวีร์ต้องเป็นทาสให้ชนกานต์ชี้นิ้วสั่งนับแต่บัดนี้ไปต้นไปอย่างแน่นอนครับ ฮ่าๆๆๆ
-
สนุกจ้า เรียกน้ำตานิดๆ
รอตอนพิเศษ
-
ต..........ตะ................ตอน.................พิเศษจ๋าาาาาาาาาาาาาาาาา :dont2: เค้าอยากอ่านแล้วอ่ะ :m17:
-
งื้ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ :hao5:
หามู้ตั้งนานหาไม่เจอ จนต้องหาชื่อในกูเกิ้ล ปรากฏว่าจบแล้ว :heaven
สนุกมาเลยค่า ปวีร์น่ารักคงเส้นคงวา(?) เราว่าปวีร์น่ารักจริง ๆ นะ
ถ้าไม่นับปล้ำ ข่มขู่ เจ้าเล่ห์ (เอ๊ะ! ชักยังไงๆ) กานต์พยศไปไงเลยต้องปราบพยศบ้างไรบ้าง
แต่รวม ๆ เราว่าน่ารักมากก เอาใจใส่กานต์ดีเว่อ ๆ รักลูกห่วงลูกขริง ๆ ตอนกานต์จะย้ายนี่
น้ำตาคลอตามปวีร์ไปแล้ว ทำยังไงความผิดมันก็คือความผิด :ling3: ยิ่งอ่านจดหมาย
พ่อปาาาาาาวี้ อะไรจะขนาดน้านนนนนนนนน แต่กานต์ก็กลับมาเนาะ
ขอตอนพิเศษเด็กเกิดได้มั้ยหนี่ หุหุ :hao7:
-
แจ่มมาก สนุกดีค่ะ ได้ข่าวท้องได้ด้วย ปลื้มๆ
-
ขอตอนพิเศษ นะๆๆๆๆๆๆๆ :ling1:
-
:pighaun: --> :haun4: --> :jul1:
--> :o8: :-[ :mew1:
-
ตอนพิเศษ จะมีป่าวน้อ :mew2: :mew2: :mew2:
-
สนุกมากเลยจ้า
อ่านรวดเดียวจบเลย
กานต์ใจแข็งมากกกกกก
ดีนะยังยอมตอนสุดท้าย
ไม่งั้นต้องช่วยปลอบใจพระเอกกันมากมาย
รอตอนพิเศษจ้า
-
หมั่นไส้วีร์ อยากให้กานต์ไปญี่ปุ่นเลย แต่ก็แอบไม่อยากให้ไป เพราะสงสารวีร์อยู่หน่อยๆ #เอ๊ะยังไง 55555
ไงก็รอตอนพิเศษนะครับ อยากรู้ว่าวีร์จะเป็นพ่อที่ดี สามีที่ดีอยากที่คุยไว้รึป่าว 55555
-
เฮ้อ........น่ารักดีครับเรื่องนี้ ขอบคุณครับ
-
:hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[
ชอบอ่า.........รอตอนพิเศษ :impress: :impress:
-
ชอบครับ
-
รอ ตอน พิ เศษ
-
เป็นภารกิจระดับชาติมากๆ อ่านตอนแรกๆ แอบกลัวปวีย์มากเลยถ้าเราเป็นชนการณ์(แอบอยากเป์นนิดๆ)เราคงหลอนถึงขั้นวิตกจริตไปเลย กระทำการแต่ละอย่างไม่น่าได้รับการให้อภัย พออ่านช่วงหลังๆ พ่อเสือร้ายกลายร่างเป็นแมวเชื่องแหมๆๆๆ มันไม่ชินซะเลย ความเข้าใจผิดคิดว่าชนการณ์คือแฟนเพื่อนนำพามาให้เจอเนื้อคู่ของแท้ แม้จะเป็นครั้งแรก คนแรก แต่ทุกอย่างชนะเลิศ สุดท้ายกดจนท้อง ยังดีนะที่ปวีย์ยังมีสำนึกของความเป็นพ่ออยู่ เฮ้ออออออ อยากอ่านเรื่องราวต่อจากสนามบินมากเลย ชนการณ์จะใจอ่อนลงบ้างไหม ปวีย์จะปรับปรุงตัวไม่หื่นใส่ได้เปล่า ยังคงเป็นปริศนาต่อไป 555+
ขอบคุณนะคะสนุกมากเลยค่ะ
-
สนุกดีค่ะ ชอบกานต์จัง
ซึนๆ ใสๆ น่ารักที่สุด
ปวีร์ก็หน้ามึนไม่สนใคร
เรื่องนี้ตื้อเท่านั้นที่ได้มาจริงๆ
จะรออ่านเรื่องต่อไปนะคะ
-
นึกว่าจะจบแบบดรามา จะร้องไห้อยู่แล้ว ดีใจครอบครัวกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากัน
-
คือ...เอาจริงๆนะ
เราสงสารกานต์มากอ่ะ โดนข่มขืนนะเว้ยนั่น
แถมบังคับนู่นนี่สารพัด ไม่เต็มใจยังไงก็ต้องทำ
แบ่บ.... :katai4:
กานต์ควรได้แก้แค้นบ้างไรบ้างนะ
หนีไปไกลๆเลย เอาแบบให้วีร์ตามหายากๆอ่ะ
แล้วให้ง้อซะให้เข็ด ฮึ่ยยยย!!!!
-
หัวหน้ากานต์โกรธได้น่ารักมากก หัวหน้าวีร์ก็ :haun4: ไม่สนใจลงตอนพิเศษที่เล้าบ้างหรอคะ :กอด1:
-
น่าจะมีตอนพิเศษๆเนาะอยากรู้เรื่องราวหลังจากมีลูกจัง ตอนต้นๆพระเอกนี่น่าถีบจริงหลังๆมาทำตัวน่ารักเชียว o13
-
โอยยยยยยย
ชั้นชอบฉากได้กันมากกกกกก
หยั่งกกะยกหนังเกย์มา 5 เรื่อง ชอบบบ
รักกันก็ดีแล้ว เห็นหลังๆปวีร์พยายามทำดี
เราก็ใจอ่อน ฮืออออ
-
แฮปปี้เอ็นดิ้งงง เยยย้ :katai2-1:
-
ตามอ่านจนจบ เพิ่งได้เม้นท์ ชอบปวีณ์อ่ะ :hao3:
อยากอ่านตอนพิเศษจริงจัง :mew2:
-
:pig4: :pig4:
-
ตอนพิเศษ ปฏิบัติการณ์รักต้องแต่งงาน
เรื่องของความรักมันไม่เข้าใครออกใครฉันใด..
เรื่องของความหึง...มันก็ไม่เข้าใครออกใครฉันนั้น..
“ใครหึง?”
น้ำเสียงติดจะเย็นชากับสายตามองที่บ่งบอกว่ามันไร้สาระมากแค่ไหนถูกส่งมาจากคนกำลังอารมณ์เสีย ปวีร์อมยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ก็คุณไงครับ”
ฟิ้ววว!
ปวีร์ก้มหัวหลบกล่องซีดีแผ่นบางที่ถูกร่อนมาใส่กันอย่างกับมันเป็นฟริสบี้ ชนกานต์ที่ขึงตาใส่กอดอกแล้วเชิดหน้าบอกเสียงดังฟังชัด
“ทำไมฉันต้องไปหึงคนอย่างนายกันด้วย!”
“แอบหลงรักผมแล้ว..ก็บอกมาเถอะครับ ผมไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าคุณจะหึงผมน่ะ” ปวีร์บอกก่อนเดินเข้ามาจะกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขนแต่ชนกานต์ทำหน้ายี้ใส่แล้วเดินถอยหลังหนี
“อย่ามาหลงตัวเอง ใครจะรักคนอย่างนายได้ลงกัน!”
ชนกานต์กระแทกเสียงบอก แต่แก้มใสขึ้นสีแดงจัด ปวีร์ยักไหล่ก่อนเอื้อมมือไปดึงแขนชนกานต์ที่จะเดินหนีให้หยุดแล้วขยับเข้าไปใกล้
“แล้วคุณโมโหผมเรื่องอะไรล่ะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณกำลังหึงอยู่?”
ถูกปวีร์ย้อนถามแบบนี้ก็ทำเอาชนกานต์ต้องเม้มริมฝีปาก
เรื่องที่โกรธปวีร์น่ะหรอ?
ก็เพราะแม่สาวอรณีคู่ขาเก่าของปวีร์ขอย้ายกลับมาทำงานที่แผนกสองแล้วน่ะสิ
และไม่ใช่แค่ย้ายมาเท่านั้น
เจ้าหล่อนเล่นทำเหมือนกับจะมาทวงตำแหน่งคู่ขาของปวีร์อีกด้วยต่างหาก แถมปวีร์ยังทำหน้าใหญ่พาเจ้าหล่อนกับลูกทีมไปเลี้ยงอาหารกลางวันกันอีก
เห็นแล้วมันก็หมั่นไส้!
โดยเฉพาะภาพที่ปวีร์ยอมให้เจ้าหล่อนกอดแขนกลับเข้ามาในออฟฟิศน่ะ บอกเลยว่าเห็นแล้วมันหงุดหงิด!
“ว่าไงครับ?” ปวีร์ถามย้ำด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“โอ้ย! น่ารำคาญจริง!” ชนกานต์กระแทกเสียงใส่ก่อนสะบัดมือหนี
“คุณหึงที่ออยกลับมาทำงานที่แผนกผมใช่หรือเปล่า?”
“อย่ามาสำคัญตัวหน่อยเลย ฉันไม่คิดจะหึงนายกับแม่คนนั้นหรอกนะ แล้วนี่ก็ดึกแล้ว กลับไปได้แล้วไป!”
ชนกานต์เอ่ยปากไล่ แล้วเดินตัดหน้าจะผ่านไปเข้าห้องนอน ปวีร์อ้าแขนรวบตัวเข้ามากอดก็ดิ้นขลุกขลัก
“ถ้าคุณไม่ชอบก็บอกสิครับ ผมกับออยก็แค่เคยมีอะไรกันครั้งเดียวในห้องเอกสารที่คุณเห็นตอนนั้น แล้วก็... ผมใช้เธอเป็นตัวแทนของคุณด้วยนะ”
ปวีร์พูดสารภาพที่ข้างหูของคนที่ดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนพลางแต้มจูบที่แก้มและคางไปด้วย
ชนกานต์หยุดกึกทันทีที่ได้ยินประโยคท้าย
“นายนี่มันน่าขยะแขยงชะมัด” ชนกานต์ชักสีหน้าตามคำพูด ปวีร์หัวเราะในลำคอ
“จะถือว่าเป็นคำชมนะครับ ตอนนี้ผมมีแค่คุณกับลูกเท่านั้น..” มือเลื่อนไปกอดตรงช่วงท้อง ชนกานต์มองสบตาแล้วเบือนหน้าหนี
“แต่ก็ยังไปทำตัวให้ความหวังกับคนอื่น” ปวีร์กระตุกยิ้มมุมปากเมื่อได้ยินชนกานต์หลุดปากเช่นนั้น
“นั่นแน่ะ ยอมรับสินะครับว่าคุณหึง”
“ใช่! หึงแล้วทำไม!! แต่อย่ามาโมเมว่าฉันรักคนอย่างนายนะ!”
ชนกานต์ขึ้นเสียงใส่ เอาศอกดันอกปวีร์ให้ออกห่างอีกรอบ ปวีร์กอดแน่นขึ้นกว่าเดิม
“อย่าปากแข็งเลยครับ รักก็บอกว่ารักสิครับ”
“ฉัน-ไม่-อ้ะ!!”
ชนกานต์ร้องเสียงหลงเพราะมัวแต่ผลักปวีร์ ยื้อกันไปยื้อกันมา ขาก็เลยสะดุดโต๊ะกาแฟจะหงายหลังล้มไป ปวีร์คว้าเอวไว้แล้วเอามือยันไปข้างหลังด้วยสัญชาตญาณ ทั้งเขากับชนกานต์ล้มลงไปที่โซฟา แข้งกระแทกถูกมุมโต๊ะกาแฟจนเจ็บแปลบ
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” ปวีร์รีบถามอย่างเป็นห่วง ยันกายขึ้นมาสำรวจดูว่าชนกานต์เจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า
“ไม่..ไม่เป็นไร” ชนกานต์บอกแล้วปัดมือที่คลำสำรวจขาตัวเอง
“เจ็บท้อง เจ็บสะโพกหรือเปล่า?”
“ไม่” ชนกานต์ส่ายหน้า ไม่รู้สึกเจ็บเพราะปวีร์รั้งเอวรับไว้ได้ทันจึงไม่ได้ล้มกระแทกลงมา
ปวีร์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ยกมือขึ้นเกลี่ยปรอยผมของชนกานต์ก่อนซบหน้าลงมาแนบหน้าผาก
“ใจหายหมดเลย..” เสียงบ่งบอกความห่วงใยทำเอาความหึงและหงุดหงิดละลายไป ใจเต้นแรงขึ้นกับอ้อมแขนที่สวมกอด
“ทำเว่อร์ไปได้ ไม่ได้ล้มกระแทกพื้นซะหน่อย”
ชนกานต์รีบพูดแล้วดันปวีร์ออกห่าง กลบเกลื่อนความหวั่นไหวในใจ ปวีร์ยอมคลายกอดแต่แนบจูบลงกับหน้าผากแผ่วเบานุ่มนวลจนคนปากแข็งใจสั่นกว่าเดิม
“ถ้าคุณไม่อยากให้ผมทำงานกับอรณีก็บอกนะครับ ผมจะได้จัดการตามที่คุณต้องการ”
ชนกานต์กลอกตาไปมาก่อนส่ายหน้า
“ช่างเถอะ เพิ่งย้ายมาจะให้ย้ายอีกเพราะเหตุผลแบบนี้มันน่าเกลียด ต่อไปก็อย่ามาทำจี๋จ๋าให้ฉันเห็น เห็นแล้วมันรำคาญตา”
ปวีร์ยิ้มแล้วทรุดนั่งลงข้างๆ โอบชนกานต์ให้หันมาหาตัวเอง ก่อนจับมือบางขึ้นมาจูบ
“ตามบัญชาเพื่อสุดที่รักของผมครับ”
ชนกานต์ยิ้มหวานกลับทำเอาปวีร์ตาค้าง ก่อนรอยยิ้มหวานจะเปลี่ยนเป็นหน้านิ่งๆที่มาพร้อมกับแรงมือที่ตบลงข้างแก้มด้วยความรวดเร็ว
“เลี่ยน!” ชนกานต์ทำหน้ายี้ใส่ก่อนผลักอกปวีร์ออกห่างแล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้อง
“จะอาบน้ำหรือครับ?” ปวีร์ที่เดินยิ้มลูบแก้มตามเข้ามาเอ่ยถาม
“ใช่ แล้วทำไม?”
ชนกานต์ที่กำลังจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตเลิกคิ้วถาม ปวีร์รีบเข้ามาประชิดแล้วเอื้อมมือสอดไปด้านหน้า จัดการปลดกระดุมอย่างรวดเร็ว
“ผมอาบให้นะ”
“ก็ตามใจ” ชนกานต์ยักไหล่แล้วปล่อยให้ปวีร์ทำตามที่ต้องการ
สิบห้านาทีหลังจากนั้น ถึงจะทำท่าไม่พอใจเท่าไหร่แต่ชนกานต์ก็ยอมที่จะลงไปนั่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำกับปวีร์
“รู้สึกสบายหรือเปล่าครับ?” เสียงทุ้มถามจากทางด้านหลัง มืออุ่นบีบนวดบริเวณบ่าให้แล้วขยับมานวดตรงฐานคอ
“ก็ดี”
ความเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานถูกคลายลงไปได้ด้วยแรงนวด
ปวีร์นวดให้สักพักก็เปลี่ยนมาสวมกอดไว้ ชนกานต์เอาศอกยันอกกว้างไว้แต่ก็ยอมให้ปวีร์กอด มือของปวีร์เลื่อนไปลูบแผ่นท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยอย่างอ่อนโยนจนชนกานต์สัมผัสได้ว่าปวีร์รักเจ้าตัวเล็กมากแค่ไหน
“ท้องใหญ่ขึ้นแล้วนะครับ”
“อืม” ชนกานต์ยกมือขึ้นทาบท้องตัวเองบ้าง ร่างกายของเขาเริ่มแสดงให้เห็นว่ามีอีกหนึ่งชีวิตกำลังอาศัยอยู่
ปวีร์เม้มปาก มีบางอย่างที่อยากจะพูดออกไป มือเลื่อนมาจับมือบางที่วางทาบบนท้องเอาไว้ ชนกานต์กระตุกมือจะหนีแต่ชะงักเพราะปวีร์พูดแทรกขึ้นมา
“เรา..แต่งงานกันดีไหมครับ”
ชนกานต์หันมาทำหน้าเหมือนถูกผีหลอกใส่ก่อนเก๊กหน้าทำคล้ายว่าได้ยินอะไรที่เหลวไหลไม่ได้ความ
“ใครเขาอยากจะแต่งงานกับนายกัน”
ปวีร์หัวเราะในลำคอเพราะคาดไม่ผิดว่าจะต้องเจอคำพูดเช่นนี้ เขาขยับเอาคางมาเกยไหล่ชนกานต์
“แต่งงานกันเถอะครับ เริ่มแรกผมทำผิดกับคุณไว้มาก ผมอยากแก้ไขมัน..ก่อนที่เจ้าตัวเล็กของเราจะลืมตาดูโลกใบนี้”
“ถ้ากลัวว่าลูกมันจะรู้ว่าเกิดมาได้ยังไงจนต้องสร้างภาพขนาดนั้นล่ะก็ ไม่จำเป็น! ฉันไม่ใจร้ายพอที่จะทำร้ายจิตใจลูกด้วยการบอกว่าแม่มันถูกลาก..อุ้บ!”
ริมฝีปากที่กำลังพูดอย่างมีอารมณ์เงียบเสียงไปเพราะถูกปิดด้วยริมฝีปากอุ่นที่ทาบลงมาจูบ ชนกานต์ผลักปวีร์ออกแต่ก็ถูกไล่จูบจนหอบแฮ่ก สองแก้มแดงปลั่ง สะท้านวูบในอก ปวีร์ดูดเรียวปากนุ่มเบาๆ คลอเคลียรั้งท้าย..
“แล้วถ้าผมบอกว่าที่ผมขอคุณแต่งงานก็เพราะอยากผูกมัดคุณล่ะครับ.. ผมอยากผูกมัดคุณไว้ให้เป็นของผมตลอดไป อยากให้คุณเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม อยากให้เราได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจนถึงวันที่ตายจากกัน แบบนี้คุณจะยอมรับคำขอแต่งงานของผมไหม?”
ชนกานต์มองแววตาลึกซึ้งของคนที่เอ่ยคำขอแต่งงานออกมาก่อนเบือนหน้าหนี
“แต่งงานกับนาย..ก็ได้เป็นขี้ปากไปทั้งบริษัทแน่”
ชนกานต์พึมพำ แค่นึกถึงก็รู้สึกวุ่นวายใจพอๆกับตอนรู้ว่าจะต้องถูกนินทาเมื่อทุกคนรู้ว่าเขาท้องโดยไม่แต่งงานเสียแล้ว
ปวีร์หัวเราะเบาๆ เข้าใจว่าคนอย่างชนกานต์กลัวเป็นขี้ปากชาวบ้านมากแค่ไหน เพราะถ้าข่าวการแต่งงานของเขากับชนกานต์หลุดออกไป คงเป็นข่าวครึกโครมในบริษัทแน่ๆ เพราะใครๆก็รู้ว่าชนกานต์กับเขาไม่ถูกกัน ถึงช่วงหลังๆมานี่ เขากับชนกานต์จะอยู่ด้วยกันในบริษัทบ่อยขึ้นก็ตามที
“ผมไม่เร่งรัดคุณหรอกนะครับ คุณพร้อมเมื่อไหร่เราค่อยแต่งก็ได้ แต่ก่อนที่เจ้าตัวเล็กคลอดหน่อยก็ดีนะครับ”
“ไว้จะคิดดูก็แล้วกัน”
ชนกานต์ตัดบทแล้วยกมือจับขอบอ่างพยุงกายลุกขึ้น ปวีร์มองตามแผ่นหลังบางของคนที่เดินไปอาบน้ำตรงฝักบัวแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เพราะชนกานต์ไม่ได้ปฏิเสธว่าจะไม่แต่งกับเขา
วันรุ่งขึ้นชนกานต์อารมณ์ดีจนคนทั้งแผนกรู้สึกได้ ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มนิดๆกอปรกับผมที่เซ็ตให้ปรกหน้าผากลงมาซึ่งต่างจากปกติทำเอาลูกน้องทั้งชายและหญิงของชนกานต์อดไม่ได้ที่จะแอบมองกันเป็นระยะ
“มีอะไรดีๆหรอคะหัวหน้า?” ชนกานต์เลิกคิ้วแล้วส่ายหน้า
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่ตัวอย่างสินค้าส่งมาหรือยัง?” ชนกานต์ถามหาตัวอย่างสินค้าที่น่าจะมาส่งวันนี้แทนแก้เขิน
“อยู่ที่หัวหน้าวีร์ค่ะ พอดีเมื่อกี้หัวหน้าวีร์แวะมาตอนที่หัวหน้าไปหาหัวหน้าแผนก เลยขอเอาไปดูก่อนน่ะค่ะ ให้ไปเอามาให้ไหมคะ?”
คนตอบทำหน้าเจื่อนเล็กๆ กลัวจะถูกหัวหน้ากานต์จอมดุว่าเอา แต่กลับผิดคาดเพราะชนกานต์ส่งยิ้มให้เธอแทน
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปเอาเอง”
คำตอบของชนกานต์ยิ่งทำให้พวกลูกน้องประหลาดใจมากกว่าเดิม ถึงกับต้องมองตามชนกานต์ที่เดินออกจากห้องไปจนเหลียวหลัง
ชนกานต์ที่อารมณ์ดีเดินไปยังห้องโปรเจคสอง ระหว่างทางที่เดินไปก็นึกขำที่อยู่ดีๆก็นึกอยากเดินมาหาปวีร์เองแบบนี้
แค่คำขอแต่งงาน...
มันมีอิทธิพลมากขนาดนี้เลยหรอ?
ถึงแม้จะไม่อยากกลายเป็นขี้ปากชาวบ้าน แต่ก็ต้องยอมรับว่าคำขอแต่งงานจากปวีร์มันเหมือนสิ่งที่เปิดใจเขาให้รับปวีร์เข้ามาอีกนิด
“ปวีร์ล่ะ?”
ชนกานต์เอ่ยถามลูกน้องของปวีร์เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองอุตส่าห์เดินมาหาไม่ได้นั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ
“หัวหน้าไปเอาเอกสารที่ห้องเอกสารครับ”
“งั้นหรอ ขอบใจนะ” ชนกานต์บอกก่อนจะเดินออกจากห้องเอกสารแล้วเดินไปหาปวีร์ที่ห้องเก็บเอกสาร
ในเวลาเดียวกันที่ห้องเก็บเอกสาร ปวีร์กำลังเผชิญหน้ากับอรณีที่เดินตามเขามา ปวีร์พยายามทำไม่สนใจเธอและเดินไปหาเอกสารที่เก็บอยู่ตรงชั้นในแถวที่สาม อรณีเดินตามมากอดแขนและจงใจเบียดหน้าอกของเธอเข้ากับแขนของปวีร์อย่างทอดสะพาน
“หัวหน้าคะ...เรามาระลึกความหลังกันหน่อยดีไหมคะ?”
นิ้วของเธอไล้ไปตามบ่าของปวีร์พร้อมกับชม้ายตาให้อย่างมีจริต ปวีร์ดึงมือของเธอออกจากไหล่แล้วขยับตัวออกห่าง
“งานที่ผมสั่งคุณไป คุณทำเสร็จแล้วหรือ?”
ปวีร์ทำเสียงให้นิ่งเรียบเพื่อเพิ่มระดับความเหินห่าง แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจ
“เดี๋ยวค่อยกลับไปทำก็ยังทันนี่คะ มันไม่ใช่งานรีบอะไรไม่ใช่หรอ?” อรณีย้อนถามกลับแล้วเอื้อมมือมากรีดกระดุมเสื้อเชิ้ตของปวีร์เล่น
“ขอโทษนะ แต่ผมคงทำเรื่องแบบนั้นกับคุณอีกไม่ได้แล้ว”
ปวีร์บอกเสียงหนักแน่นแล้วผลักเธอออกแต่อรณีไม่ยอมถอย เธอสอดแขนกอดเอวแล้วเอียงหน้าซบอกปวีร์ไว้
“ทำไมล่ะคะ? หรือหัวหน้าไม่มีอารมณ์? ไม่เป็นไรนะคะ ออยช่วยได้”
พูดอย่างเดียวไม่พอ หญิงสาวยังเอื้อมมือจะมาปล้ำถอดกางเกงอีก
ปวีร์ดึงมือเธอออกเป็นพัลวัน
“อย่า! ผมกำลังจะแต่งงาน ผมถึงไม่อยากทำแบบนี้กับคุณ! ผมไม่อยากทรยศคนที่ผมรัก บอกแค่นี้คุณเข้าใจไหม?” ปวีร์ปรามเธอเสียงเข้ม แววตาจริงจังบอกให้รู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น
“หะ หัวหน้าจะแต่งงาน? ล้อเล่นใช่ไหมคะ?”
“ผมพูดเรื่องจริง”
ปวีร์บอกแล้วขยับเสื้อสูทให้เข้าที่ ฉวยแฟ้มเอกสารที่ต้องการใช้มาถือและจะเดินออกนอกห้องไป แต่อรณีดึงแขนเอาไว้ ยื้อให้หันกลับมาหา
“แล้วเรื่องของเราล่ะคะ? หัวหน้าจะรับผิดชอบยังไง?”
ปวีร์เลิกคิ้วแล้วมองหน้าเธอ
“ขอโทษนะ แต่คนที่ใช้ร่างกายตัวเองแลกกับสิ่งที่ต้องการอย่างคุณ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามีอะไรต้องให้รับผิดชอบด้วย ก่อนหน้าที่คุณจะย้ายกลับมาโปรเจคผม คุณก็ไปนอนกับหัวหน้าฝ่ายเพื่อขอให้รับคุณเป็นพนักงานประจำไม่ใช่หรือยังไง?”
ปวีร์พูดใส่อย่างไม่ไว้หน้า เพราะได้ยินมาเช่นนั้น พวงแก้มใสขึ้นสีแดงจัดแต่ก่อนที่เจ้าหล่อนจะโต้กลับอะไรมา ประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา ทั้งปวีร์และอรณีก็หันไปมองพร้อมกัน
“คุณกานต์!?”
ชนกานต์ที่มีรอยยิ้มประดับไว้บนใบหน้าถึงกับชะงัก รอยยิ้มไหลเลื่อนไปทันทีและแทนที่ด้วยความบึ้งตึงที่เห็นอรณีอยู่กับปวีร์ในสภาพแนบชิด
“ฮึ! ยังคงไม่เปลี่ยนเลยนะหัวหน้าปวีร์” ชนกานต์ข่มเสียงต่ำพูดออกไป ใจนึกผิดหวังในตัวปวีร์
“เดี๋ยวสิ! คุณต้องฟังผมก่อนนะ”
ปวีร์รีบพูดแล้วพยายามแกะอรณีที่เกาะติดตัวเองออก ชนกานต์เหยียดยิ้มแล้วมองปวีร์อย่างเย็นชา
“จะต้องฟังอะไรอีก ก็เห็นอยู่ชัดๆ”
ระหว่างนั้นอรณีก็กลอกตามองทั้งคู่อย่างนึกสงสัย เห็นท่าทางแบบนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าปวีร์อาจจะกำลังตามจีบชนกานต์อยู่ จึงได้ตัดสัมพันธ์กับเธอเช่นนี้ อรณีคิดอย่างนั้นแล้วก็รีบกอดแขนปวีร์ไว้ทันที
“ใช่ค่ะ..ก็เห็นชัดๆอยู่แล้วว่าหัวหน้าวีร์กับออยเป็นอะไรกัน”
“พูดอะไรน่ะ!”
ปวีร์หันไปตะคอกใส่แล้วแกะมือที่กอดออก ชนกานต์เหยียดยิ้มมุมปาก มองหญิงสาวอย่างนึกสมเพชใจที่มาทำท่าเช่นนี้
“คุณหยุดทำแบบนี้เถอะ! ยิ่งคุณทำแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้ผมขยะแขยงคุณนะ!”
ปวีร์พูดใส่หน้าหญิงสาวอีกครั้ง อรณีทำหน้าเหวอไปเพราะไม่คิดว่าปวีร์จะกล้าพูดเช่นนี้
“หัวหน้า!”
“คุณกลับไปทำงานได้แล้ว” ปวีร์ตัดบทกับเธอเพราะอยากจะคุยกับชนกานต์ตามลำพัง
“ไม่ค่ะ!” อรณีสวนกลับทันควัน ปวีร์ตีสีหน้าหน่ายใจอย่างเห็นได้ชัด ชนกานต์มองปวีร์อย่างนึกโมโห แต่ก่อนที่จะมีคนพูดอะไรต่อ มือถือของปวีร์ก็เสียงดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน
“รับสิ” ชนกานต์บอกด้วยเสียงนิ่งเรียบ ปวีร์เลยยอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ
“ครับ?...ตัวอย่างมาแล้วครับ อยู่ที่ผม อยากจะดูใช่ไหมครับ?”
ระหว่างที่ปวีร์คุยโทรศัพท์อยู่ อรณีกับชนกานต์ก็หันมามองหน้ากันด้วยสายตาประหัตถ์ประหาร ปวีร์ที่เห็นสายตาเชือดเฉือนนั้นก็เย็นสันหลังวาบ พยายามดึงมือออกจากการกอดของอรณี
“เดี๋ยวผมจะเอาเข้าไปให้ก็แล้วกันนะครับ”
ปวีร์ตอบปลายสายไปเช่นนั้นก่อนจะกดวางสายแล้วหันมามองอรณี เอ่ยเสียงสั่งเฉียบขาด
“ผมขอสั่งอีกครั้งให้คุณกลับไปทำงานต่อได้แล้ว”
“ฮึ? ทำไมคะ? ดูเหมือนหัวหน้าอยากจะไล่ออยให้ออกไปจังเลยนะคะ มีอะไรอยากจะคุยกับหัวหน้ากานต์มากนักหรือไงกัน!?”
อรณีกระชากเสียงใส่ ทำท่าไม่พอใจจนดูเหมือนนางร้ายในละคร
“ใช่! ผมมีเรื่องที่อยากจะคุยกับหัวหน้ากานต์ คุณรู้แบบนี้แล้วจะออกไปได้หรือยัง!”
อรณีทำท่าโกรธจัดที่ได้ยินปวีร์ยอมรับเช่นนั้น
“แต่ฉันไม่ได้อยากคุยกับนาย หัวหน้าอยากดูตัวอย่างสินค้าไม่ใช่หรือไงกัน? รีบเอาไปให้ดูสิ”
ชนกานต์ใช้สายตาสื่อว่าปวีร์ต่างหากที่ควรจะเป็นคนออกไป
ปวีร์ยังคงยืนนิ่งไม่ไปไหน ชนกานต์เลยเลือกที่จะเดินออกมาเอง ปวีร์รีบตามทันทีแม้จะมีอรณีลากแขนไว้ก็ตามที
“เดี๋ยวสิ!”
“เอาตัวอย่างไปให้หัวหน้าดูซะ แล้วก็กลับไปจัดการกับงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จภายในวันนี้ด้วยล่ะ!” ชนกานต์สั่งเสียงเด็ดขาดแล้วเดินหนีไปอย่างไม่สนใจใยดีอะไรปวีร์กับแม่สาวคนนั้นอีก
ในใจนึกหงุดหงิดจนไม่อยากมองหน้าปวีร์อีก
“หัวหน้าคะ..”
อรณีเรียกร้องความสนใจจากปวีร์ แต่ปวีร์ก็ยังคงไม่สนใจเธอ เขามองอดีตคู่ขาที่เคยมีอะไรกันเพียงครั้งเดียวอย่างเหนื่อยหน่าย
“กลับไปทำงานได้แล้ว”
ปวีร์บอกย้ำอีกครั้งแล้วเดินหนีเธอไปอีกคน อรณีทำท่าหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างหงุดหงิดใจ นึกหมายมั่นว่าจะต้องทำให้ชนกานต์มองปวีร์ในแง่ลบเพื่อจะได้ตัดคู่แข่งที่จะมาแย่งปวีร์ทิ้งไป
ชนกานต์เดินกลับเข้าออฟฟิศอีกครั้งด้วยใบหน้าที่แตกต่างจากตอนขาไป พาเอาลูกน้องถึงกับงุนงงแต่ก็ไม่กล้ามีใครถาม ชนกานต์เข้ามานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเองและเริ่มต้นทำงานด้วยอารมณ์หงุดหงิด สายตาคอยมองออกไปนอกห้องอยู่เป็นระยะ พอเห็นปวีร์เดินผ่านไปโดยหันมองเข้ามาก็สะบัดหน้าเชิดใส่
ถึงเวลาพักกลางวัน ชนกานต์ก็ยังคงนั่งทำงานโดยไม่ขยับไปไหนและปฏิเสธทุกคนที่ชวนให้ไปทานข้าวรวมถึงปวีร์ที่เดินมาหาที่ห้อง
“ห่วงลูกบ้างสิ” ชนกานต์เม้มริมฝีปาก ขึงตาดุมองปวีร์อย่างไม่พอใจ
“ก็อย่ามาเสนอหน้าให้หงุดหงิดสิ”
ชนกานต์บอกอย่างใจร้ายแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ปวีร์ถอนหายใจก่อนลุกขึ้น ตัดสินใจจะลงไปซื้อข้าวกล่องมาให้ชนกานต์แทน
คล้อยหลังปวีร์เดินออกไปสักพักก็มีเสียงประตูเปิดเข้ามา ชนกานต์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองว่าใครเข้ามา แต่คนที่เข้ามาใหม่ก็เดินมาหยุดยืนที่อีกฝั่งของโต๊ะ ชนกานต์ทำไม่สนใจแล้วก้มหน้าก้มตาทำงาน
“ฉันมีเรื่องจะมาเตือนหัวหน้าค่ะ” อรณีเอ่ยโพล่งออกมาหลังจากยืนคอยแล้วชนกานต์ไม่ให้ความสนใจกับเธอ
แต่ชนกานต์ก็ยังนั่งทำงานต่อเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด
“หัวหน้า! ฟังฉันพูดอยู่หรือเปล่าคะ!?” อรณีขึ้นเสียงใส่อย่างไม่พอใจที่เห็นชนกานต์นั่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน
“แล้วทำไมฉันต้องฟังเธอด้วยล่ะ?” ชนกานต์ย้อนถามเสียงนิ่ง แววตาที่มองทำเอาอรณีเสียวสันหลังวูบแต่ก็เชิดหน้าใส่
“ก็ฉันจะมาเตือนหัวหน้าไว้ด้วยความหวังดีน่ะสิคะ”
ชนกานต์กระแทกลมหายใจก่อนลุกขึ้นเดินหนีออกจากห้องไป อรณีรีบตามติดมาทันที
“ออยกลัวหัวหน้าเสียใจนะคะเลยจะมาเตือนด้วยความหวังดี ไม่รักกันจริงไม่พูดหรอกนะคะ”
หญิงสาวเดินตามออกมาพูดข้างหู ชนกานต์ทำไม่ใส่ใจแล้วหยอดเหรียญใส่ตู้ นิ้วจะกดเลือกกาแฟกระป๋องแต่นึกถึงเจ้าตัวเล็กขึ้นมาได้จึงเลื่อนมือไปกดน้ำผลไม้แทน
“หัวหน้าคิดว่าหัวหน้าวีร์จะจริงจังกับหัวหน้าหรอคะ?”
ปึ่ก!!
คำถามที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงกระป๋องน้ำผลไม้ที่กลิ้งลงมาตรงช่องรับของ เส้นประสาทของชนกานต์เหมือนถูกกระตุก แต่ก็พยายามทำไม่สนใจและก้มลงหยิบกระป๋องน้ำผลไม้ขึ้นมา
“หัวหน้าวีร์กับฉัน..เรารักกันมากนะคะ คบกันมาก็หลายเดือนแล้ว ความสัมพันธ์ของเราเป็นยังไง หัวหน้าก็เห็นด้วยตามาแล้วไม่ใช่หรอคะ”
“แล้วไง? มาบอกฉันทำไม?” ชนกานต์ถามเสียงเย็น แต่ในใจเดือดปุด
“ฉันก็แค่อยากมาเตือนไว้ ไม่อยากให้หัวหน้าต้องเสียใจน่ะค่ะ แหม..หัวหน้าก็น่าจะทราบนะคะว่าหัวหน้าวีร์เจ้าชู้มากแค่ไหน”
“แล้วทำไมเธอไม่เตือนตัวเองบ้างล่ะ ก็รู้ว่าเขาเจ้าชู้นี่”
อรณีชะงักเมื่อถูกย้อนเช่นนั้นก่อนที่เธอจะรีบปรับสีหน้า
“ก็หัวหน้าวีร์เขาบอกว่าออยเป็นตัวจริงนี่คะ แล้วเราก็ตกลงจะแต่งงานกันแล้วด้วย” เธอบอกพร้อมกับสยายผมเชิดหน้า ชนกานต์สูดลมหายใจลึกคุมอารมณ์เดือดของตัวเอง
“อย่างนั้นหรอ ดีใจด้วยนะ แล้วจะแต่งกันเมื่อไหร่ล่ะ?”
ชนกานต์ย้อนถามไปคล้ายไม่แยแส ทว่ากำหมัดแน่นนึกอยากหักคอปวีร์ให้ตายคามือไปเลย
“ก็ยังไม่ได้กำหนดวันหรอกค่ะ จริงๆถ้าไม่ติดเรื่องความเจ้าชู้ของหัวหน้าวีร์ อรณีก็ยังไม่คิดอยากแต่งหรอกนะคะ แค่ได้อยู่ด้วยกันทุกคืนแบบนี้ ออยก็พอใจแล้วล่ะค่ะ”
หญิงสาวปั้นเรื่องใส่ชนกานต์ด้วยท่าทางอินเลิฟสุดๆ และคิดว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้ชนกานต์เชื่อได้โดยไม่รู้ว่ายิ่งพูดจะยิ่งเป็นการขุดหลุมฝังกลบตัวเอง
“อยู่ด้วยกันทุกคืน? เธออยู่กับหัวหน้าวีร์หรอ?”
“ใช่ค่ะ หัวหน้าวีร์เขาขอให้ออยย้ายไปอยู่กับเขามาสองสามเดือนแล้วล่ะค่ะ”
อรณียังคงโกหกหน้าระรื่น ชนกานต์เหยียดยิ้มมองเธออย่างสมเพช
“อย่างงั้นหรอ...แต่แปลกจังนะ ฉันรู้มาว่าสามเดือนก่อนคนที่อยู่ที่คอนโดของปวีร์ไม่ใช่เธอนี่น่า แล้วก็ช่วงเดือนที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้อยู่ที่คอนโดของเขาด้วย”
อรณีหน้าเจื่อนเล็กน้อยก่อนตีสีหน้าเชิดใส่ชนกานต์
“หัวหน้าจะหาว่าออยโกหกอย่างนั้นหรอคะ!? ออยพูดความจริงนะคะ!”
ชนกานต์เหยียดยิ้มแล้วยกมือกอดอก
“หยุดโกหกได้แล้วล่ะ ตอนแรกฉันเกือบจะเชื่อเธอแล้วนะนี่ แต่เผอิญเรื่องที่เธอพูดมาเธอคงไม่ได้รู้จริงน่ะ ฉันน่ะรู้จริงกว่าเธออีกนะ ปวีร์น่ะ..กำลังจะแต่งงานกับคนในแผนกเรานี่แหละ แน่นอนว่าไม่ใช่เธอหรอกนะ”
ชนกานต์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนผู้ใหญ่สอนเด็ก ใจนึกขำจนอยากหัวเราะ
“ไม่จริง! ใครกันคะ! มันเป็นใครกัน!”
อรณีทำท่าจะเต้นเร้าๆอย่างไม่พอใจ ชนกานต์ยกน้ำผลไม้ขึ้นจิบอย่างใจเย็นเป็นการแกล้งคนที่ทำท่าเหมือนจะอกแตกตายทางอ้อม
“เอ๋..อันนี้ก็ไม่รู้สินะ ฉันว่า..คงต้องรอดูชื่อในการ์ดแล้วล่ะ”
ชนกานต์บอกก่อนโยนกระป๋องข้ามเธอไปลงถังแล้วเดินกลับเข้าออฟฟิศไปอย่างอารมณ์ดี นึกขอบคุณที่เธอหลุดปากพูดออกมาให้เขาจับได้เองว่าโกหก
อย่างนี้แหละนะที่เขาเรียกว่าปลาหมอตายเพราะปาก
ถ้าเธอไม่ได้ย้ายไปแผนกอื่นในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาก็คงสังเกตได้ว่าปวีร์เทียวไล้เทียวขื่อเขาอยู่
แต่ก็น่าแปลกเพราะทีเรื่องเขาเกือบถูกโรคจิตปล้ำดันรู้
ชนกานต์นึกแล้วก็ขำ ก่อนจะหยุดหน้าประตูออฟฟิศเพราะเห็นปวีร์ออกมาจากลิฟต์พอดีจึงหยุดยืนรอ
“ผมซื้อข้าวกับน้ำผลไม้มาให้คุณ” ชนกานต์เผลอหลุดยิ้มพอได้ยินแบบนั้นก่อนจะแกล้งเก๊กขรึมใส่
“ทำไมถุงมันใหญ่แบบนี้?”
“มีของผมด้วยน่ะ”
ปวีร์บอก ลังเลเล็กน้อยก่อนล้วงมือไปหยิบข้าวออกมากล่องหนึ่งด้วยท่าทางของคนคอตก
“เดี๋ยวผมกลับไปกินที่ห้องก็ได้ ถ้าคุณไม่อยากเห็นหน้าผม”
ชนกานต์แอบขำแล้วดึงข้าวกล่องที่ปวีร์ล้วงออกมากับถุงมาถือไว้เองแล้วเดินเข้าออฟฟิศไป ทิ้งให้ปวีร์ยืนงง
“มากินเร็วสิ! เดี๋ยวก็หมดเวลาพักกันพอดี”
“เอ่อ..ครับ”
ปวีร์เดินตามเข้าไป งงๆเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่ตนลงไปซื้อของ แต่พอเข้าห้องไปก็ถูกชนกานต์ดึงแขนให้เข้ามาหาตัวเอง
“สัญญาไหมว่าจะไม่เจ้าชู้ใส่ใครที่ไหน ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย กระเทยหรือทอมก็ห้ามชายตามอง”
“เอ๋?” ปวีร์ถึงกับงงหนักมากขึ้นที่ถูกถามเช่นนี้
“ตอบมาสิ!”
“ครับ สายตาของผมจะมองเพียงคุณกับลูกเท่านั้น”
ปวีร์บอกก่อนเลื่อนมือจะกอดชนกานต์แต่ชนกานต์ถอยหนีก่อนเลยยกมือเก้อ
“ก็แค่บอกว่าสัญญาก็พอ จะพูดให้มันเลี่ยนทำไม” ชนกานต์แกล้งว่าใส่อย่างวางฟอร์ม
“แล้วนี่..ถามทำไมหรอครับ?”
ชนกานต์เลิกคิ้วก่อนส่งยิ้มให้ เป็นยิ้มที่ทำให้ปวีร์ใจเต้นและรู้สึกหยุดหมุนเมื่อมันมาพร้อมกับประโยคถัดมา
“ฉันก็แค่คิดว่า”
“จะยอมแต่งงานกับนายก็ได้”
หลังจากวันนั้นไม่นาน การ์ดแต่งงานสีลูกกวาดก็ถูกร่อนแจกไปทั่วบริษัท และอรณีถึงกับต้องร้องกรี้ดออกมาเสียงดังลั่นทันทีที่เห็นบนการ์ดแต่งงานแสนสวยนั้น..ระบุชื่อเจ้าสาวว่า..
ชนกานต์
-End-
มาลงเลทไปหน่อย ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมาวุ่นๆพอสมควรค่ะ คุณย่าเข้าไอซียูและท่านเพิ่งเสียไปเมื่อสองวันก่อน อินี่ก็เลยเป็นเจเนอรัลเบ๊คอยช่วยพ่อกับอาเตรียมงานศพ #ร่างจะแหลก
วันนี้ขอพ่อหยุดวันนึงเพราะงานไม่มีอะไรแล้วนอกจากไปรับ Snack box จาก S&P ไปที่วัด ให้พ่อไปกับอาสองคน เดี๋ยวค่อยตามไปตอนเย็น เลยได้มีโอกาสมาแปะตอนพิเศษที่เคยสัญญาไว้ว่าจะลงให้ทุกคนได้อ่านกัน
สำหรับใครที่โอนเงินมาแล้ว โกะเช็คยอดเงินโอนให้ได้ถึงวันนี้แล้วนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้โอนมาสามารถโอนได้ถึงวันที่ 21 ค่ะ
และใครที่ต้องการหนังสือเล่มนี้ไปรองขาตู้(?) สามารถสั่งจองได้ถึงวันที่ 20 เมษายน 2557 อ่านรายละเอียดต่อได้ที่ http://www.zynestras.com/pre1 (http://www.zynestras.com/pre1) ค่ะ (ไม่ใช่สมาชิกก็สามารถสั่งจองได้นะจ้ะ)
โปรแกรมหน้า > ไม่กุหลาบน้อยก็อาจารย์หมอ ล่ะมั้ง........
ป.ล.วันดีคืนดีอาจมีตอนพิเศษของตาปวีร์กับหัวหน้ากานต์โผล่มานะคะ แต่ถ้าลงโกะจะแจ้งในเพจให้ทราบค่ะ
ป.ล2 เห็นเขาว่าถ้ากดไลค์เพจไว้เฉยๆ เตตัสของเพจจะไม่ไปขึ้นที่ new feed คือถ้าจะให้เตตัสของเพจที่เราสนใจไปขึ้นที่ new feed ของเรา คือเราจะต้องเคยคอมเม้นส์หรือกดไลค์เตตัสของเพจนั้นๆล่ะ ประมาณนั้นอ่ะ ยังไงก็เข้ามาเม้นส์คุยกันได้นะคะ ^^ ช่วงนี้อาจจะหายๆไปหน่อยงิ แต่หลังจากงานเผาคุณย่าแล้วคงจะว่างมาเวิ่นเว้อตามเดิมค่ะ
-
:z13:
ปลื้มปริ่ม เค้าจะแต่งงานกันแล้ว ไมเราไม่ได้รับการ์ดเลยอ่ะ
คุณหัวหน้าทั้งสองส่งการ์ดไม่ทั่วถึงนะ :laugh:
-
กริ๊ดนึกว่าหัวหน้าวีร์จะโดนอีกแล้ว ต้องเข้าใจคนท้องอารมณ์แปรปรวน
-
เสียใจด้วยนะคะ
ส่วนตอนพิเศษได้ใจมาก หัวหน้ากานยอมแต่งงานกับปวีร์แล้ว เย้ๆ
(แอบกระซิบว่าคิดถึงกุหลาบน้อยเบาๆ ฮ่าๆ)
-
อ๊าย อ่านแล้วปลื้มค่ะ
o13 o13 o13
แอบสมน้ำหน้านางนิดส์นึง ตายเพราะปากจริงๆ
:katai3: :katai3: :katai3:
-
อารมณ์แปรปรวนเนาะคนท้องเนี่ย แต่สะใจดีสมนำ้หน้านังออย!
-
ดีใจที่เรื่องนี้มาต่อค่ะ
คิดถึงสองคนนี้มากๆ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
ขอบคุณมากค่าาา
-
อ้ากกกก ดิ้นๆๆๆๆ อิจชี่่ หัวหน้ากานต์ :katai2-1: :hao7:
สงสาร ออย จุง หราาาาาาาาาาา 55555 :katai3: :mew4:
-
แจกการ์ดแล้ว โล่งใจเลยดีน่ะเนี่ยชนารู้ไม่ลงกลออย
-
ขอบคุณนะคะที่มาลงตอนพิเศษให้น่ารักมากเลย ยัยออยนี่โกหกหน้าด้านๆสุดๆ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ
-
จะแต่งงานกันแล้วววว :impress2: :impress2:
สะใจอ่ะ หัวหน้ากานต์ทำได้ดีมากก o13
-
นังออย นังมารร้าย
ในที่สุดก็แต่งงานกัลลล
-
:-[ ปลื้มใจแทน
-
ได้รับการ์ดแล้วนะค่ะ 5555
-
:laugh: สะใจ
-
แอร๊ยยยยย
ในที่สุดก็ยอมแต่ง
ดีที่ชะนีพูดมากนะ
หัวหน้ากานต์ เลยจับได้
โอยยยย หีวหน้าวีน่ารักอ่ะ ฮือออ
-
วีน่าร๊าก โอ๊ยจะบ้าตายผู้ชายคนนี้รักครอบครัวขนาดนี้ ฟินเลยอ่ะ
-
กานต์ขี้หึงใช่เล่น
-
ยัยออยนี่มโนเก่งจัง เจอการ์ดแต่งงานเข้าไป กริ๊ดแตกเลย
-
กร๊ากกกกกกก สะใจแปปปปป นังออยดิ้นไปเหอะ
-
หัวหน้าแต่งงานจนได้ สนุกมากค่า
ส่วนยัยออยอะไรนั่น ดป็นการโกหกที่เราให้อภัย เพราะทำให้หัวหน้ายอมแต่งงานนะ :katai2-1:
สนุกมากค่ะเรื่องนี้ รอตอนพิเศษตอนต่อไปนะคะ อิอิ
-
555555สมน้ำหน้านางออย
จะมีตอนพิเศษอีกไหมน้อ :hao7: จะรอนะจ้ะ :mew1:
-
แม่นางมโนไปไกล5555 อันที่จริงไม่พูดเยอะก็จบละ นี้ขุดหลุมฝังตัวเอง555
-
เยส!!
-
สะใจ
-
ขอแสดงความเสียใจกับคนแต่งด้วยนะ
และขอแสดงความยินดีกับหัวหน้ากานต์ด้วยนะ
-
แหม คุณออยครับ
ผมว่า .. กลับบ้านไปนอนเถอะครับ :laugh
เขากำลังจะแต่งงานกัน :L2: :L2:
ปล. ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ คนเขียน
-
:-[ :o8:
อ๊ายยยยยยย แต่งแล้วๆ
:katai2-1:
-
รอตอนพิเศษอีกกกกๆๆ
-
55555555555555
เป็นไงล่ะะะะ
โอ้ย สะใจมากอ่ะ
ปล่อยไก่ตัวควายๆมาก 5555
-
เสียใจเรื่องคุณย่าด้วยนะคะ
-
ฟินสุดๆอ่ะ
ในที่สุดก็แต่งซะที
-
:mew1: >< สั่งซื้อไปเรียบร้อยแล้วคะ ><
ปักหลักรอหนังสือ ขอบคุณคร่าาาาาาาาาาาาาาาาา :-[
-
สะใจตรงการ์ดแต่งงานเนี่ยแหละ 555555
-
สนุกมากๆๆๆๆๆค่าาาาาาา :impress2: :impress2:
ตอนแจกการ์ดนี่สะใจสุดๆๆๆๆๆๆๆ :laugh: :laugh: :laugh:
รอตอนพิเศษอีกนะค่าาาา อยากเห็นตอนที่ทั้งสองคนหวานๆใส่กันโดยที่ ชนกานต์ยังคงความซึนไว้หน่อยๆอ่ะ5555555
แร้วก้อยากเห็นตอนที่มีเจ้าตัวเล็กด้วยยยยยยย :z1: :-[ o18
ป.ล.ขอบคุณมากๆค่าที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้เสพพพพ :-[ รอติดตามต่อไปค่าาาาาา
(อยากได้หนังสือด้วยอ่ะค่ะ แต่ยังไม่มีตังค์อ่ะ :hao5: อ่านวันเดียวจบเลยค่ะหนุกมากๆ^^)
-
55555 ฮาคุณออยมาก อยู่ด้วยกันทุกวัน ก๊ากกกกกกกก
จะแต่งกันแล้ววววว
-
อ่านรวดเดียวจนจบ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะที่เขียนเรื่องสนุกๆ ให้ได้อ่าน
-
ชอบมากกกก ก
ยังไม่อยากให้จบเลยย ย
-
มีตอนพิเศษมาล่ะๆ
ดีใจจัง
เขาจะแต่งกันด้วยแหละ
สมเพชนังออยจริงๆ ฮึ
-
เธอพลาดเองนะอร ช่วยไม่ได้ จะแต่งงานกันแล้ววว คุณกานต์ยอมเปิดใจสักที
-
รู้ใจตัวเองก่อนที่ชะนีจะคาบไปกิน
สมน้ำหน้าชะนีออย หน้าแตกหมอที่ไหนก็ไม่รับเย็บ
อยากอ่านตอนพิเศษที่มีเบบี๋น้อยแล้วจัง
-
ขอบคุณค่า เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก สนุกมากเลยค่า o13
-
คิดถึงเรื่องนี้มากกกก ^^
-
อยากอ่านตอนเลี้ยงน้องจัง :heaven
-
ชอบเรื่องนี้มากเลยครับ สนุกจริงๆ
ขอบคุณมากๆเลยนะครับ
-
สนุก สนุก :mew1:
-
กรี๊ดดดดดดด ฟินค่ะ :-[
-
อ่านจบแล้วววว น่ารักมากค่า อยากอ่านตอนพิเศษที่มีเจ้าตัวเล็กแล้วจัง ><
-
จบน่ารักจังค่ะ สนใจหนังสือด้วย :katai5:
-
:mew1:
-
แค่ตอนแรกก็ :hao6: ติดตามค่า
-
กานน่ารัก มากๆๆๆๆ
-
:hao5: :hao5: :hao5:
-
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆ คนเขียนคนสวย สปอตใจดี. จุบุๆๆๆ
-
สนุกอ่ะ ชอบเคะราชินี หยื่งๆ เชิดๆ :katai5:
-
เสียใจกับเรื่องคุณย่าด้วยนะขอรับ
กำลังหวานๆอยู่พอดี แต่อ่านมาจนถึงคำแถลงก็อดใจหายไม่ได้
ขอแสดงความเสียอีกครั้งขอรับ
เขาแต่งงานกันแล้ว
ไม่รู้ว่าจะมีตอนเจ้าตัวเล็กคลอดแล้วบ้างไหม
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่แบ่งปัน
-
เรื่องสนุกค่ะ แต่น่าจะเขียนเป็นเรื่องยาวนะคะ อ่านจบแล้วแต่รู้สึกเหมือนเรื่องเพิ่งเริ่มต้น ยังอยากจะติดตามชีวิตของทั้งคู่ต่อ อยากจะรู้ว่าปวีจะพิสูจย์ตัวเองได้แค่ไหน แล้วชีวิตสามคนพ่อแม่ลูกจะเป็นยังไงต่อ อยากได้รวมเล่มอะ
:L2: ขอบคุณสำหรับเรื่องค่ะ :L2:
-
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ มากๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ > <
อยากให้มีตอนพิเศษอีกจังเลย เอาแบบหวานๆๆๆ หรือไม่ก็ให้กานต์เป็นฝ่ายเริ่ม :oo1: ....บ้างอะไรบ้าง
:ling1: อิอิอิอิอิอิอิ :-[
-
นิยายเลือดพุ่ง 555 !!! :pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
:katai1: :katai2-1:
-
รอตอนพิเศษ
-
ชอบเรื่องนี้มากก กก รักเลยย <3
-
ว้ายยย สมน้ำหน้านังอรณี 555555
เรื่องนี้แบบ sm อะ ชอบมากกก สรุกมากๆค่ะ
เพิ่งเคยอ่านนิยายเคะท้องจริงจังเรื่องแรกนะนี้ อิอิ น่ารักอ่ะะะ o18
-
อ่านกี่ทีก็ชอบเรื่องนี้ สนุกๆๆๆ
-
รอตอนพิเศษอยู่หน้า รอหัวหน้ากานต์คลอด
-
ฟินสุดๆ อยากให้ยาวกว่านี้แฮะ 555
-
สนุกมากค่ะ :pig4:
-
:z1: :z1: สะใจ 55 เป็นไงมั่งล่ะแม่อรณีหน้าอ่ะเอาไปให้หมอเย็บด้วยนะละเอียดเชียว 555
-
5555 สนุกอ่ะ
-
ตอนแรกเกลียดตาปวีร์มากมาย สงสารหัวหน้ากานต์สุดๆ
แต่ก็ดีใจที่จบแฮปปี้ เพราะยังไงก็อยากให้มีความสุขอยู่ดี
ขอบคุณค่าสำหรับนิยายที่สนุกๆ แบบนี้ :mew1:
-
o13 สนุกมากค่ะ ขอบคุณนะคะ
-
:hao6:
ได้ลูกชาย หรือ หญิง หนอ
อยากรู้จัง
แล้ว ตอนพิเศษมาอีกน้า
ขอบคุณครับ
:haun4:
:hao7:
-
NC เรียกเลือดเกือบหมดตัว 55555 ชอบๆๆอ่ะเรื่องนี้ o13
-
ตอนจบทำน้ำตาซึม พ่อปวีร์เกือบกำพร้าลูกซะแล้ว โทษฐานที่ลากแม่ของลูกไปฟัดจนป่อง :z1:
-
55555 สมน้ำหน้านังออยยยยย :katai2-1:
-
ฟินมากกกกกกกก :haun4: :jul1:
-
อ่านจบไปอ2 รอบแล้ว ฟินจ้าาาาาา ปล้ำเถอะ 55555
-
:hao7: :katai2-1: :hao5: :hao6:
เป็นเรื่องแนวที่ตามหานานนนน
อ้ากกกกก :katai4:
แต่งภาคสองต่อด้วยจิๆ
มันใช่เลยยยยย
-
อ่านจบจนได้ค่ะ
แต่ เอ....เรายังไม่ได้การ์ดเลยเหมือนกันนะ :ling1:
-
อ่านจบแล้วๆ แต่ชนกานต์ปากแข็งจริงจริ๊ง
ว่าแต่จะมีตอนพิเศษอีกไหมน้าาา รอร้อรอ
-
จบได้น่ารกมากเลยค่ะ :กอด1:
-
ฟินกรามค้างเลยครับท่านน :hao6:
-
:mew3:
น่ารักดีจัง เรียกว่าต่อปากต่อคำกันไม่หยุดไม่ยอมกันเลย
ขอบคุณนะคะ
-
คืออ่านไปตอนแรกๆแโครตเกลยกปวีร์เลยคือไม่ชอบคนแบบนี้อ่า(เอาจริงๆนะ)คือทำคนอื่นแล้วยังหน้าระรื่น คือว่าคนอื่นเขาสนุกกับตัวเองหรอไง โครตอึดอัดเลยเหอะ อยากให้หัวหน้ากานต์สลบแล้วตายไปเลยจะได้รู้สึก(อารมณ์เรารุนแรงมาก)ห้าๆ
น่าจะให้(ไอ้)ปวีร์โดนอะไรมากกว่านี้ เซ็ง ไม่ชอบคนยียวนแบบนี้(แต่ก็ยังอ่านจนจบเพราะหวังจะมีดราม่าอะไร) ห้าๆ
แต่ก็ขอบคุณมากๆนะคะที่แต่งมาให้อ่าน(ให้เรามั่นใจว่าเกลียดผู้ชายแบบปวีร์จริงๆเบย ห้าๆ)
ปวีร์ก็ดูแลชนกานต์ดีๆอะ ความผิดมันลบล้างไม่ได้แต่มันเยียวยาความรู้สึกของคนคนนั้นให้ดีขึ้นได้นะ สู้ๆ
-
โดยเนื้อเรื่องแล้วชอบนะ มันให้ความรู้สึกอิงเรื่องจริงของคนที่โดนทำร้ายแล้วต้องการหนี แล้วก็ให้ความรู้สึกสนุกเวลาอ่าน
ชอบสุดเอ็นซี สมูทดี ฮ่าๆๆๆๆ
-
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ตอนจบนึกว่าจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ดีนะเนี่ยที่กานต์ใจอ่อน คู่นี้ยังไม่หวานมากแต่ก็ยังดีที่กานต์ยอมปวีร์บ้าง ถึงฟอร์มจะเยอะก็เหอะ ขอบคุณคนแต่งที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้ได้อ่านกันค่ะ
-
คือ สารภาพเลย อ่านครึ่งแรกรับไม่ได้จริงๆกับการกระทำของพระเอก มันแบบ ฮึ่ยๆ :z6: :beat:
แทบเลิกอ่านเลยทีเดียว แต่ก็ไหนๆก็ไหนๆอ่านให้จบแล้วกัน :z3:
ก็พยายามอ่านข้ามๆไม่เอารายระเอียดในฉากวิบวับวาบหวิวสยิวกิ้วเท่าไหร่ :hao4:
จนมาช่วงที่เริ่มท้องอ่ะ คือ มันดีอ่ะ แบบ ชีวิต ดี๊ดี 555 อ่านไปฟินไป :hao6:
ใจจริงอยากให้ นายเอกไปญี่ปุ่นโดยที่พระเอกมารู้ทีหลังด้วยซ้ำ :mew5:
อยากให้เสียใจแบบร้องให้หนักมาก อะไรแบบนี้ คิคิ แอบจิต :katai1:
-
รักๆๆๆๆเรื่องนี้ที่สุดดดด! :กอด1:
ทีแรกก็หมั่นไส้ประวีนะ....
แต่พอหลังๆแบบ แอร๊ยย :L1:
ครอบครัวน่าร๊ากกก อยากเห็นตัวเล็กจัง :mew2:
-
เป็นไงละยะนังออย สมน้ำหน้า :laugh: :laugh:
ชอบเรื่องนี้มากๆๆเลยค่ะ. ใจจริงอยมกให้มีต่อนะสนุกดี. อยากอ่านตอนลูกเกิดมาด้วย. :impress2:
แต่ยังไงก็ขอบคุณมากๆๆๆเลยนะคะสำหรับนิยายที่สนุกมากๆๆๆเรื่องนี้. :pig4:
-
เย้...อ่านจบแล้ว...สนุกดีค่ะ
..
เนื้อเรื่องสั้นกระชับดี..
.....
:mew1:
-
:katai2-1:
-
:กอด1:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ครับ
อยากให้ชนกานต์หนีไปญี่ปุ่นสำเร็จ ให้ปวีร์ไปตามหาอย่างยากลำบากและง้อนานๆ กว่าชนกานต์จะใจอ่อน
-
ชอบแนวนี้มากๆ ขอบใจจ้า
-
แอร๊ยยยยยยย ชอบมาก :hao7:
-
ชอบมากกกกกก อยากอ่านตอนคลอดจังเลยตร้าาาา o13 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
:mew6: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:ท้องๆๆ
-
น่ารักกกกกกก อยากได้ตอนพิเศษค่ะ :hao7:
-
น่ารักมาก ๆ ครับ ....... ขอบคุณครับ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:z13: จบซะแล้วววว ชอบมากกกกกก อยากเห็นเบบี้แหะ ขอบคุณที่แต่งค่า
อ่านรวดเลย สนุกมากกกกกก ชอบตอนพิเศษเป็นพิเศษแหะ
มีแผนจะแต่งชีวิตหลังแต่งานเพิ่มไหมคะ อยากอ่านนนนนน งือ :impress2:
-
แค่ตอนแรกก็ทำเอาเลือดท่วมจอแล้วค๊าา :pighaun: :haun4:
-
ปวีเอ้ย แบบนี้มันร้ายเกินไปนะ :เฮ้อ:
-
งานแต่งจัดขึ้นวันไหนคะ ยังไปทันไหม ๕๕๕
น่ารักมากๆ เลยค่ะ
เปิดเรื่องขึ้นมาร้อนแรงมาก ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องที่น่ารักอบอุ่นขนาดนี้ :-[
ถ้ามีตอนพิเศษอีกก็จะติดตามอ่านนะคะ o13
-
โอ้...นิยายอ่านจบไปนานแล้วแต่พึ่งมาเห็นว่ามีตอนพิเศษด้วย แหล่มมากค่ะ ว่าแต่ ตอนพิเศษ 1 แสดงว่าต้องมี ตอนพิเศษ 2 ใช่ไหมคะ ^^
-
ขอบคุณค่ะ รอตอนพิเศษ2,3,4,5,6,7,8,9,10
-
o13
-
เป็นเรื่องที่ฉากXXXยาวได้ใจมากกกกกกกก
เติมเลือดหลายรอบ
:jul1:
-
:laugh: :laugh: :laugh:
-
อ่านแล้วมีความสุขจัง ขอบคุณนะคะ :o8: :pig4:
-
o13
-
อ่านจบด้วยความรวดเร็ว น่ารักมากเลยอ่ะ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
o13 สนุกมาก
-
สนุกดีค่ะ พล็อตเรื่องโอเค รับได้ ยิ่งพระเอกกลับตัวมาเทคแคร์ก็น่าให้อภัยดี อีกทั้งตัวละครมีความเหมาะสมกันอยู่ทั้งรูปร่าง ฐานะ เพราะงั้นไม่ดราม่าค่ะ ชอบบบบบบบ
-
จริงๆคุณแต่งนิยายดีใช้ได้เลย ในเรื่องการเขียน แต่คุณใส่บทข่มขืนเข้ามา ทำให้ดูว่าพระเอกเป็นคนร้าย ไม่รู้จะใส่มาทำไม ทำให้ชอบบังคับขืนใจคนอื่น เพราะนิสัยช่วงแรกของพระเอกมันเลยดูไม่แมชกับตอนท้าย มันเลยเป็นตัวละครกลวงๆ ปล. พระเอกข่มขืนนายเอกการกระทำก็ไม่ได้ต่างจากคนโรคจิตที่บุกเข้าห้องมาของนายเอก แต่เพราะเป็นพระเอก เลยดูเป็นฮีโร ดูดีกว่าคนอื่น
-
เริ่มอ่าน - เหมือนเคยอ่าน
อ่านไปเรื่อยๆ - อ่านไปเมื่อนานแล้วจริงๆด้วย
แต่ก็อ่านจนจบไปอีกรอบ :katai5:
-
ตลกออย ปล่อยไก่มากกกกกก
-
จริงๆคุณแต่งนิยายดีใช้ได้เลย ในเรื่องการเขียน แต่คุณใส่บทข่มขืนเข้ามา ทำให้ดูว่าพระเอกเป็นคนร้าย ไม่รู้จะใส่มาทำไม ทำให้ชอบบังคับขืนใจคนอื่น เพราะนิสัยช่วงแรกของพระเอกมันเลยดูไม่แมชกับตอนท้าย มันเลยเป็นตัวละครกลวงๆ ปล. พระเอกข่มขืนนายเอกการกระทำก็ไม่ได้ต่างจากคนโรคจิตที่บุกเข้าห้องมาของนายเอก แต่เพราะเป็นพระเอก เลยดูเป็นฮีโร ดูดีกว่าคนอื่น
เห็นด้วยกับคุณคนนี้ค่ะ เขียนดีเนื้อเรื่องสนุกค่ะแต่ไม่น่ามีบทข่มขืนเข้ามาเลย
รับไม่ได้กับเรื่องข่มขืนมากๆ อ่านแล้วเกลียดพระเอกมากเลย
-
:pig4:
-
ปลื้มปลิ่ม :z3: :z3:
-
o13
-
ตอนแรกลุ้นแทบตาย เฮ้อ กว่าจะลงเอย แต่สะใจเรื่องคุณออยมากค่ะ 55555555555555555
-
เคยอ่านเมื่อนานมาแล้ว กลับมาอ่านอีกก็ยังสนุกเหมือนเดิม
-
:hao6: :hao6: :hao6:
-
:haun4: :pighaun: เลือดหมกตัวไปกับตอนแรกๆ โอ้ยพระเอกขี้หื่นมากกกกกก หื่นจนสงสารกานต์
อยากอ่านตอนพิเศษตอนลูกคลอด คนเป็นพ่อคงเห่อลูกน่าดู
-
สนุกมากกก o13
-
ชอบๆๆๆๆ
-
เรื่องนี้เคยอ่านแล้ว กลับมาอ่านอีกก็ยังชอบค่ะ ><
-
:pig4:
-
:pig4:
-
:laugh:
-
o13 o13 o13 o13
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
-
:pig4:
-
หลงเข้ามาอ่านรอบที่2แล้ววววววว ชอบในความนางพญาของหัวหน้ากานต์ คือแบบเราจำได้แต่เนื้อเรื่องแต่จำชื่อเรื่องไม่ได้ แต่ไหนๆก็หลงมาก็อ่านวนไปอีกรอบแบบฟินๆในความนางพญา สมน้ำหน้า อิชะนี :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
อ่านรอบ2แลเวยังสนุกเหมือนเดิมเลย :pig4:
-
:mew2: :mew2: :mew2:
-
มาตามอ่านค่ะ
ชอบๆๆ มีครบรสเลยค่ะ
-
สนุกค่ะ อ่านรวดเดียวจบ วางไม่ลงเลย55
ยิ่งตอนแรกๆนะเลือดหมดตัว :haun4:
พระเอกเกือบเลวแล้วนะ ดีที่กลับตัวทัน ทำตัวดีกับลูกเมียเว่อร์
-
ตอนแรกปวีร์อย่างร้าย โคตรหื่น ตอนจบทำซึ้งเฉยเลย พอได้รักและเป็นพ่อ โคตรดีและอบอุ่นอ่ะ ดีใจที่่แต่งงานกันนะ อยากอ่านตอนพิเศษเลี้ยงเจ้าตัวเล็กเลย สนุกกกมาก