พิมพ์หน้านี้ - (((((++*(เรื่องสั้น)*++)))))) -- 7 วันขอเปลี่ยนใจนายหมาบ้า (แถมตอนพิเศษสุดๆTHXผู้อ่าน) --
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: rije ที่ 11-06-2013 18:58:21
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
=========================
แนะนำ : เรื่องนี้ไม่สั้นเกินไปไม่ยาวมาก (มั้งคะ) เลยขอจั่วหัวข้อว่าเรื่องสั้นละกันนะคะ ^^ (พล็อตเรื่องมันประมาณ 4-5 หน้าน่ะค่ะ)
เป็นเรื่องแรกที่เขียนลงเล้าเป็ด นักเขียนชื่อ ริเจ นะคะ ฝากตัวด้วยค่ะ ^^ ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ
ตอนที่ 1 : ไอ้ฝรั่งหัวแดง!!!
ชะละล่า~~ ชะลา ชะล่า... เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นเรื่อยๆ อยู่บนโต๊ะทำงานของผม
'ใครโทรมาตอนนี้วะ คนกำลังยุ่ง' ผมเกาหัวแกกๆ ผมสีดำกระเซิง หนวดเคราก็ยังไม่โกน สภาพผมเซอสุดๆ พอหยิบมือถือขึ้นมากดรับเท่านั้นแหละ เสียงตามสายก็ดังแปดปรอทแทบทะลุแก้วหู
[อาร์ท!!!!! ช่วยฉันด้วย!!!] เสียงผู้หญิงคนเดิม แต่จริงๆ มันไม่ใช่ผู้หญิงแค่เสียงเหมือนผู้หญิงน่ะครับ มันดัดจริต
"อะไรของมึงไอ้เบนซ์?"
[อย่าเรียกชื่อนั้น!! ฉันบอกแกแล้วให้เรียกว่าอะไร?]
"เออๆ เจนนี่ มึงเป็นเหี้ยไร?"
[พูดไม่เพราะอีกแล้ว ฉันบอกแกกี่ครั้งไม่เคยฟังอ่ะ ช่างเถอะ! แกมาช่วยฉันด้วยนะ ฉันถูกหนุ่มหล่อตามตื้อขอเป็นแฟน!]
พรวด! ผมเผลอหลุดหัวเราะก๊ากออกมา
"นึกว่าอะไร มึงไม่ดีใจเหรอ มีหนุ่มหล่อมาขอความรักน่ะ"
[ดีใจกะผีดิ แกก็รู้ว่าฉันมีพี่โก้แล้ว ไม่ได้อยากมีชู้นะโว้ย!]
'ดูมัน บอกว่าผมพูดไม่เพราะ มันพูดเพราะตายล่ะ'
"แล้วไง จะให้กูช่วยไร?" ผมถาม มือนึงเกี่ยวมือถือไว้แนบหู อีกมือสเก็ตภาพต่อ อ่อ ตอนนี้ผมกำลังทำงานด้านออกแบบอยู่ครับ เบนซ์ เอ้ย เจนนี่ก็โทรมาได้จังหวะพอดี
[แกช่วยปลอมเป็นแฟนฉันหน่อยสิ!] พรืด! ด้วยความตกใจ ผมเผลอขีดเส้นพลาดจนทำภาพตัวเองเลอะ ชิบหายละ
"เดี๋ยวๆ กูเป็นผู้ชายนะมึง!"
[เออ ก็เพราะแกเป็นผู้ชาย ฉันถึงขอความช่วยเหลือจากแกไง]
เผื่อหลายๆ คนจะงง คือเพื่อนผมคนนี้มันเป็นผู้ชายครับ ถึงเสียงมันจะหวานปานผู้หญิง แต่จริงๆ มันเป็นผู้ชายนะครับ!! มีไอ้จู๋เหมือนกัน แค่มันชอบแต่งหญิง เอวบาง ร่างน้อย หุ่นผู้หญิงสุดๆ หน้าก็หวานเหมือนผู้หญิงสุดๆ ใครๆ ก็หลงติดกับคิดว่ามันเป็นผู้หญิง แต่มันเป็นได้แค่ของเทียมนะครับ!
"พี่โก้มึงล่ะ กูยังไม่อยากตายศพไม่สวยนะเว้ย" พี่โก้นักบินสุดหล่อแฟนมันครับ นิสัยดีแต่หึงโหดครับ ผมเคยเกือบโดนพี่แกเชือดเพราะคิดว่าผมกิ้กกะเจนนี่ T^T ไม่เคยคิดเลยครับ ไม่อยากคิดด้วยครับ แค่นึกก็กลัวแล้วครับ
[พี่โก้ไม่อยู่ ไปบิน อีก 7 วันถึงจะกลับ ฉันบอกมันว่ามีแฟนแล้วแต่มันไม่เชื่อ บอกให้ยืนยัน แกก็รู้ถ้าพี่โก้รู้เรื่องมันจะบานปลายขนาดไหน แกมาช่วยฉันหน่อยนะ เนี่ยไม่เป็นอันทำงานแล้ว มันเล่นบุกมาถึงที่ทำงาน แกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ]
"เฮ้ยๆ แล้วคิดว่าทางนี้ไม่มีงานต้องทำรึไง สั่งเอาจังวะ"
[อย่ามาซึน ฉันถามพี่วิลัยแล้ว แกบอกว่าแกเอางานไปทำที่บ้าน งานไม่ด่วน มาให้ไวเลยนะแก ถ้ามึงไม่มามึงตาย] ตอนท้ายมันเล่นขู่เสียงผู้ชายห้าวๆ นี่มึงจะโหดไปไหนเนี่ย ผมรีบรับปากก่อนจะวางสาย เดินไปเช็คหน้าตาที่หน้ากระจก
'โอเค โหดใช้ได้' หนวดเคราที่ขี้เกียจโกนช่วยขับให้หน้าผมโหดได้ใจจริงๆ พอจะขู่อีกฝ่ายได้ล่ะเหวย
ผมรีบซิ่งมอเตอร์ไซค์คู่ใจ Aprilia สีดำแดง รุ่นปี 2010 ออกไปอย่างไว ไม่ถึง 15 นาทีก็มาถึงที่ทำงานเจนนี่ เจนนี่ทำงานเป็นไกด์นำเที่ยวต่างประเทศ มันเคยบอกว่าชอบงานที่นี่ เพราะเค้าให้ใส่ชุดผู้หญิงได้ แถมฝีปากมันก็เก่งไม่ว่าลูกค้าชายหรือหญิงก็ล้วนชอบมันทั้งนั้น มีคนขอมันเป็นแฟนตรึมครับ แต่ไม่เคยมีใครครองใจมันได้สักคน ก็เว้นแต่พี่โก้นั่นแหละครับที่มันยอมสยบด้วย นักบินหนุ่มสุดหล่อวัน 28 ปี ไม่รู้ผ่านด่านแอร์สาวสุดสวยกับสจ๊วตหน้ามนไปได้ไง ถึงได้มาคบกับไอ้กระเทยเจนนี่ได้ (ขอโทษครับมันชินปาก)
ผมเดินไปเคาะประตูกระจกหน้าออฟฟิตเจนนี่ชั้น 26 ข้างๆ เจนนี่มีหนุ่มหล่อผมสีแดง ตัวสูงน่าจะสูงกว่าผม ผมสูง 180 แล้วนา นี่สูงชะมัด แถมตาสีฟ้าด้วย ว้าว แต่งตัวก็ดูดี แบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆ ผมผิวปากเมื่อไล่สายตาไปถึงนาฬิกาโรเล็กซ์สีทองทั้งเรือน ท่าทางจะรวยน่าดู อ่ะ! เขาหันมามองทางผมตาเขียวปัดเลย เจนนี่รีบวิ่งมาทางผมทันที
"ไงมึง คนนี้เหรอ? ดูหล่อกว่าพี่โก้ตั้งเยอะเลยว่ะ" ผมแซว
"ไอ้บ้า! พี่โก้หล่อกว่าย่ะ ว่าแต่แกช่วยแสดงให้มันเนียนๆ หน่อยนะ"
"ได้ๆ จัดเต็มตลอดกู" ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงยกแขนขึ้นกอดไหล่เจนนี่ พร้อมทั้งกระดิกนิ้วเป็นเชิงเรียกให้ออกมาคุยกันข้างนอก ผมเห็นหัวหน้าเจนนี่ พี่วุทธ ยืนมองมาจากทางออฟฟิต ยกมือชี้บอกให้ไปเคลียข้างนอกตรงบันไดหนีไฟเหมือนเดิม ครับๆ รู้แล้วครับพี่ เจนนี่มันเจอแบบนี้เยอะครับ เหมือนเดิมครับ ทั้งออฟฟิตเอือมมันครับ แต่หัวหน้าก็ไม่ไล่มันออกครับ เพราะมันเป็นตัวทำเงิน ค่าตัวสูงสุด ลูกค้ามันเยอะสุด ยอมทนๆ หน่อยดีกว่าไล่มันออกแล้วยอดตกครับ
ผมเดินควงเจนนี่นำไปทางประตูหนีไฟ เปิดประตูออกไปด้านนอกตัวตึก ตึกนี้ทำบันไดหนีไปไว้นอกตัวอาคารครับ ต้องเอาก้อนอิฐมากันประตูไว้เดี๋ยวจะเข้าไม่ได้ เพราะมันล็อคอัตโนมัติครับ เวลาไฟไหม้คนจะเข้าช่วยยังไงวะเนี่ย ออกได้อย่างเดียวเข้าไม่ได้ แต่อีกล่ะขืนเข้าได้ขโมยก็เข้ากันง่ายตายชัก
"ว่าไง?คุณเป็นใครไม่ทราบถึงกล้ามากระตุกหนวดเสือถึงที่?" ขู่ก่อนเลยผม ไอ้ฝรั่งหัวแดงมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ไอ้นี่ มองอะไรนักวะ
"ผมชื่อ ชาร์ล คุณล่ะเป็นใคร? ตามมารยาทควรแนะนำตนเองก่อนนะครับ" อ๊ากกก ดูมันพูด! อดทนไว้ไอ้อาร์ท อดทนไว้ ต้องเล่นให้เนียนๆ
"นี่อาร์ทแฟนเจนนี่" เจนนี่รีบแนะนำ ชาร์ลหน้ากระตุก แก้มเริ่มแดงนิดๆ สงสัยจะโกรธ สมน้ำหน้ามัน
"ผมไม่เชื่อ ผู้หญิงดีๆ อย่างคุณไม่น่าจะมีแฟนนักเลงแบบนี้" คราวนี้เป็นทางผมเองที่หน้ากระตุก ผมง้างมือแต่โดนเจนนี้จับเอาไว้เสียก่อน
"พูดให้มันดีนะครับคุณ ให้เกรียติกันด้วย เรื่องความรักมันไม่ได้อยู่ที่หน้าตา ขืนคุณพูดจากวนตีนอีกเราไปเจอกันข้างนอกเลยดีกว่า"
"นี่ก็ข้างนอก จะไปข้างนอกไหนอีก" ไอ้นี้กวนไม่เลิก ผมกำมือแน่น พลางสังเกตรูปร่างของไอ้ฝรั่งชาร์ล ดูดีๆ กล้ามก็มี ตัวก็สูง ท่าทางแรงจะเยอะ เราจะไหวเหรอวะ เผลอท้าไปไม่ดูตัวเองซะแล้ว เห็นๆ กันอยู่ว่าเรามันขี้ก้าง ผอมแห้ง สูงก็จริงแต่มันสูงกว่า กับหน้าที่โฉดเพราะหนวดเครา อย่างอื่นแพ้มันหมด
"ยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าคุณเป็นแฟนกัน ไม่มีแววคนรักกันเลยสักนิด" โหย ไอ้นี่เซ้นจะดีไปไหนเนี่ย ช่วยๆ เชื่อกูเถอะ กูจะได้กลับบ้าน แต่ก็ถูกของมันครับ เจนนี่กับผมนี่ไม่เหมือนแฟนกันจริงๆ น่ะแหละ สงสัยจะไม่เนียน รู้งี้โกนหนวดมาก่อนก็ดี มาแนวนี้ไม่รุ่งแฮะ
ผมหันไปหาเจนนี่ส่งสายตาเป็นเชิงรู้กัน 'เอาไงดีมึง' เจนนี่ก็ไม่ต่างกับผม เหงื่อออกเยอะเชียว เดี๋ยวก็โดนจับพิรุธได้พอดี ไอ้ฝรั่งชาร์ลยังจ้องพวกผมใหญ่ ก่อนจะพูดอะไรบ้าๆ ออกมา
"งั้น...จูบกันให้ดูสิ" ห๊า!? ไอ้บ้า ไอ้หมาบ้า โอ้ย ผมละอยากตะโกนด่ามันไปจริงๆ
"ทะ...ทำไม...ต้องจูบกันด้วยวะ!?"
"อ้าว ก็พิสูจน์ไง เป็นแฟนกันแค่จูบจะไปยากอะไร?" กรอดดด ผมกัดฟันแน่น เจนนี่กระตุกชายเสื้อผมเบาๆ
(อะไรมึง? เอาไงล่ะที่นี้ หาเรื่องให้กูชัดๆ) ผมกระซิบถาม เหงื่อเจนนี่ตกมากกว่าเดิมอีกตอนนี้
"ก็ได้"
"ใช่ ก็ได้... เฮ้ย!" ผมหันไปมองเจนนี่ตาขวาง
'ไอ้เพื่อนบ้า! กูไม่ใช่เกย์นะมึง จะให้กูจูบกะมึง กูขอจูบกบดีกว่า' ผมคิด แต่...เอ่อ... กบก็ไม่ดีอ่ะ เจนนี่คว้าคอเสื้อกระชากหัวผมลงไปประทับจูบทันที ผมตกใจช็อคจนตัวแข็ง 'มึงจะทำงี้ไม่ปรึกษากูก๊อนนน~~~~!!!'
จูบอยู่ 3 วินาทีได้ แต่เหมือนนานเป็นชาติ เจนนี่ก็ผละออกจากผม ผมยังยืนแข็งทื่อ
"ไง? ชัดเจนดีไหม? นี่แฟนเจนนี่ เพราะงั้นเลิกยุ่งกับเจนนี่ได้แล้ว" ว่าแล้วเจนนี่ก็ลากผมที่ตัวแข็งกลับเข้าไปในตัวตึก พอพ้นจากไอ้ฝรั่งชาร์ล เจนนี่กับผมก็รีบเช็ดปากทันที
"ไอ้เชี่ยเบนซ์!! มึงจูบกู!!" ผมชี้หน้ามัน เจนนี่มองตาขวาง เหวยๆ กูกลัวน๊าาาา
"คิดว่ากูอยากจูบมึงตายล่ะ! อุ้ย! เผลอหลุดปาก... เอาน่า ถือว่าหมามันมากัดปากฉันละกัน"
"หมา... อ้าว ไอ้นี่ ว่ากูนี่หว่า คนอุตส่าห์ช่วย" ดูสิครับ มันแรงขนาดนี้ไม่รู้ใครๆ ก็ชอบมันไปได้ไง สวยแต่รูปจูบไม่หอมจริงๆ
"มันตามมาไหมวะ?" ผมหันกลับไปมองทางประตูหนีไฟ ไอ้ฝรั่งชาร์ลเพิ่งจะเดินเข้ามา มันเดินตรงมาทางพวกผม หน้ามันซีดขาว สงสัยจะได้ผล มันคงไม่คิดว่าพวกผมจะจูบกันจริงๆ ท่าจะช็อค สมน้ำหน้า กั๊ก กั๊ก
"....ถึ...ถึงคุณเจนนี่...จะเป็นแฟนกับหมอนี่" มันชี้มาที่หน้าผม
"แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้แน่! คนแบบนี้มันไม่เหมาะกับคุณเจนนี้สักนิด!! วันนี้ผมจะยอมไปก่อน พรุ่งนี้ผมจะมาใหม่" ว่าแล้วมันก็เดินชนไหล่ผมจากไป เจ็บว่ะ มันเล่นชนซะแรง
"เอาไงล่ะมึง มันไม่ยอมหยุดว่ะ" ผมหันไปถามเจนนี่
"เอาไง...พรุ่งนี้แกก็มาเป็นไม้กันหมาเหมือนเดิม"
"เฮ้ย! งานการกูไม่ต้องทำกันพอดี" เจนนี่หันขวับมาค้อนใส่ผม ทำเอาผมแทบหุบปากไม่ทัน
"เออๆ ก็ได้ๆ ไหนๆ ก็ร่วมหัวจมท้ายมาด้วยขนาดนี้แล้ว มึงจำไว้ค่าจูบกูไม่ถูกนะเว้ย"
"รู้แล้วน่า คราวนี้จะให้พี่โก้เลี้ยงข้าวเย็นสุดหรู แพงๆ เลยเอ้า" ผมยิ้มแก้มปริ
"ดีมากๆ กูยิ่งจนๆ อยู่ พอดีเลยช่วยค่าอาหารกู แต่มื้อเดียวไม่ยอมนะเว้ย อย่างน้อยก็ 3 มื้อละว้า" ผมต่อรอง เจนนี่พยักหน้ายอมหงึกๆ เอาวะ ข้าวเย็นสุดหรู 3 มื้อ กูยอมให้มึงจูบกู 3 รอบเลยเอ้า!
"เดี๋ยว ไอ้อาร์ท" เจนนี่รั้งผมไว้
"อะไรอีก?"
"กว่าพี่โก้จะกลับก็อีก 7 วัน แกต้องเป็นไม้กันหมาให้ฉัน 7 วัน แล้วแกต้องทำให้มันเปลี่ยนใจเลิกยุ่งกับฉันให้ได้ภายใน 7 วันด้วย!"
"ห๊ะ!!! 7 วัน!! มึง... ข้าว 3 มื้อก็ไม่พอเว้ย!" เอ่อ..นี่ผมห่วงเรื่องข้าวมากไปไหมหว่า ช่วยไม่ได้ก็ผมเป็นแค่พนักงานกินเงินเดือน ส่วนไหนประหยัดได้ก็ต้องประหยัดกันหน่อย
"เออๆ ค่าน้ำมันรถ พร้อมข้าวมื้อหนัก 7 มื้อเลยเอ้า แพงๆ ก็ยอมละ แต่ห้ามติดกันหลายวันนะ เดี๋ยวกระเป๋าพี่โก้ฉันได้แฟบพอดี" เออ เงินพี่โก้ตลอดอ่ะ เอาเถอะ ผมยกมือทำท่า OK ก่อนแยกย้ายกัน ผมรีบกลับคอนโดไปปั่นงานให้เหลือน้อยที่สุด เพราะ 7 วันต่อจากนี้สงสัยจะไม่มีเวลาเข้าออฟฟิตและทำงานแหง ดีนะที่อาชีพผมทำงานที่บ้านได้ ถ้างานไม่เดินพี่วิลัยได้หักเงินเดือนผมแน่ อ่อ ลืมบอกไปครับ ผมทำงานออกแบบก็จริง แต่เป็นพนักงานประจำไม่ได้รับฟรีแลนซ์ เงินเดือนตายตัว เพราะผมมันขี้เกียจหางาน เจองานนี้ดีก็รีบคว้าทันที เพราะเจ้านายใจดีให้เอางานมาทำที่บ้านได้ ขอแค่ให้ส่งงานตรงเวลาก็พอ และเข้าออฟฟิตบ้าง ถึงพี่วิลัยจะเอะอะก็จะหักเงินเดือนก็เถอะ แต่นอกนั้นสวัสดิการดีพร้อมทุกอย่าง คนขี้เกียจอย่างผมเลยเกาะติดไม่ลาออกไปไหน ว่าแล้วก็รีบกลับไปปั่นงานที่ค้างดีกว่า...
=================
ติชมได้นะคะ ^^
ผิดตรงไหนบอกด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ :-) จุ๊บๆ
แก้ให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ
ขอบคุณ คุณ wi_OoO_wi : แก้แล้วค่ะ ^^ (น่าอายจุงเบย แฮะๆ)
-
แบนท์ << what is it???
แบรนด์เนม รึเปล่า
มี ทอทะหารการันต์ซะด้วย :laugh: :laugh: :laugh:
รอตอนต่อไป :hao5: :hao5:
-
น่าสนุกแหะ
รอติดตาม อิอิ
-
ตอนที่ 2 : วันที่ 1 ท้องคือเจ้านายของผม
วันนี้เจนนี่เรียกผมให้ไปหาช่วงบ่าย เพราะไอ้ฝรั่งหัวแดงชาร์ลมันมาอีกแล้วครับท่าน ดีที่วันนี้ช่วงเช้าเคลียงานส่งไปให้พี่วิลัยได้เกินครึ่งแล้ว ส่วนงานที่เหลือจะช้าอีกสักสัปดาห์ก็ไม่เป็นไร วันนี้ผมแวะซื้อชานมไข่มุกเจ้าเดิมหน้าปากซอยไปที่ทำงานเจนนี่ ไหนๆ ก็แสดงเป็นแฟนมันแล้ว ต้องเอาให้เนียนๆ หน่อย เจ้านี้เจ้าโปรดมันครับ ผมขึ้นลิฟต์ไปชั้น 26 พอออกจากลิฟต์เจนนี่ก็โทรเข้ามา
"ฮัลโหล"
[คุณอาร์ทค่ะ คุณจะให้ฉันรอคุณอีกนานไหม ถึงไหนแล้ววะคะคุณ?] เรียกคุณเลยวุ้ย สงสัยงานเข้า
"มันมากวนมึงแล้วอ่ะดิ กูถึงหน้าออฟฟิตมึงแล้ว แค่นี้นะ" ผมกดวางสายรีบเดินเข้าไปในออฟฟิตบริษัททัวร์ทันที
ข้างโต๊ะทำงานเจนนี่ ชาร์ลฝรั่งผมแดงเจ้าเก่ายืนคุมไม่ขยับไปไหน อะไรมันจะขนาดนั้น ตื้อเท่านั้นจะครองโลกรึไง? ผมรีบเดินไปเบียดไอ้ฝรั่งชาร์ลให้ถอยไป แต่มันไม่ขยับเลยครับ ตัวหนักเป็นบ้า ผมเลยต้องยอมถอยเดินอ้อมมาอีกฝั่งด้านหนึ่ง วางชานมไข่มุกบนโต๊ะ
"เจ้าเก่าที่เธอชอบไง"
"แหม รู้ใจกันจริงๆ นะคะที่รัก" อ๊ากกก ขนลุกชันทันที ไม่คิดว่าจะเจอเจนนี่โจมตีด้วยคำว่า 'ที่รัก' พลังทำลายล้างช่างรุนแรง แหวะ
"ฮะฮะ ผมจะไปลืมได้ไงครับ" พูดพลางเอานิ้วจิ้มหน้าผากเจนนี่ แต่เผลอจิ้มแรงไปหน่อย เจนนี่ถึงกับหันมาค้อนใส่ผม
"วันนี้คุณก็มาอีกแล้วเหรอครับ? เกะกะครับ กลับๆ ไปได้แล้ว แฟนตัวจริงเค้ามาแล้ว อย่าหน้าด้านทนอยู่เลยครับ" ผมหันไปแขวะไอ้ฝรั่งชาร์ล เมื่อวานเจนนี่โทรมาคุย บอกว่าไอ้ฝรั่งชาร์ลมันเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย บ้านรวยมากกกกกกกกก ยังไงๆ ก็อยากให้เค้าเลิกยุ่งแบบดีๆ ไม่งั้นมีผลกระทบกับบริษัทแหง จะให้ผมทำให้มันเลิกยุ่งแบบดีๆ ยังไงดีวะครับ โอ้ย หงุดหงิด
"คุณเจนนี่ครับ เย็นนี้ผมขอนัดทานมื้อเย็นด้วยนะครับ" มันไม่สนผมเลย หันไปคุยกับเจนนี่เหมือนผมเป็นอากาศธาตุ
"วันนี้ไม่ได้หรอกค่ะ" เจนนี่ปฏิเสธเสียงแข็ง
"งั้นวันพรุ่งนี้ล่ะครับ" ไอ้ฝรั่งชาร์ลไม่ยอมลดละเลยจะนัดให้ได้
"พรุ่งนี้....ถ้าอาร์ทไปเจนนี่ก็ไปค่ะ" เฮ้ย โบ้ยมาทางกูเฉยเลย ไอ้ฝรั่งชาร์ลหันมามองหน้าผมขวับ
"เอาตัวเกะกะไปด้วยทำไมครับ?" ดูมันพูด
"อย่างที่บอกค่ะ เจนนี่ไม่ไปไหนกับคุณชาร์ลหรอกนะคะ หากแฟนเจนนี่ไม่ไปด้วย มันไม่ดีต่อแฟนเจนนี่ค่ะ"
"เฮ้อ~ ก็ได้ครับ คุณจะไปด้วยก็ได้" มันหันมาพูดจาแข็งๆ ใส่ผม ผมทำเป็นไม่สนบ้าง แต่ก็แอบอยากรู้ว่าจะเลี้ยงอะไร ผมแอบลูบท้องเบาๆ ไม่ได้กินอะไรดีๆ มาหลายมื้อแล้ว ท้องจ้าอยากกินของอร่อยๆ บ้าง
"จะดีเหรอครับ? ผมกินเยอะซะด้วย ว่าแต่ที่ไหนล่ะครับ?" ผมรู้สึกได้ถึงรังสีอาฆาตมาจากทางเจนนี่ทันที เอาน่าๆ ก็คนมันอยากอ่ะเจนนี่
"อาหารฝรั่งเศสที่ร้านลา กรองด์ แปร์ล" ผมตาวาว ร้านอาหารฝรั่งเศสสุหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา!!! ผมไม่เคยมีโอกาสได้เหยียบย่ำสถานที่หรูหราอย่างนั้นมาก่อน เคยได้ยินแต่ชื่อ เจนนี่มันไปกินบ่อยครับ ก็คนมันฮอต มีแต่คนอยากเลี้ยงดินเนอร์มัดใจมัน ผมหันไปหาเจนนี่เป็นเชิงอ้อนวอน 'ไปเถอะนะ ไปเถอะนะ' เหมือนสื่อถึงกันได้
"ก็ได้ค่ะ กี่โมงล่ะคะ?"
"1 ทุ่ม ผมจะไปรับนะครับ ที่คอนโดคุณเจนนี่" เจนนี่ส่ายหน้าทันที
"ไม่ค่ะ ไปรับเจนนี่ที่คอนโดอาร์ทนะคะ เจนนี่จะไปพร้อมแฟนเจนนี่ค่ะ"
"ก็ได้ครับ" ชาร์ลหันมาทางผม พยักหน้าบอกให้ออกไปข้างนอกหน่อย ขอเอาคำไอ้ฝรั่งออกนะครับ แหม ก็จะได้กินหรูทั้งที มีคนเลี้ยงจะไปเรียกเค้าเสียๆ หายๆ ก็กะไรอยู่ ผมเดินตามออกไปโดยดี
"คุณนี่ไม่มีศักดิ์ศรีเลยรึไง?" อยู่ๆ มันก็ว่าผมขึ้นมา โอ้ย โกรธๆๆๆ แต่ต้องสงบไว้ ช่วยไม่ได้ท้องผมมีอำนาจเหนือกว่าศักดิ์ศรี
"เฮอะ เรียกออกมาเพื่อจะพูดเรื่องนี้รึไง?" ผมขี้เกียจต่อปาต่อคำครับ ไม่ใช่ยอมมันนะ
"เปล่า… ขอที่อยู่คุณด้วย พรุ่งนี้ผมต้องไปรับ"
"อ้อ คอนโด xxx แถว xxx……" ผมรีบบอกที่อยู่ทันที
"เฮ้อ~ คอนโดราคาถูก ผมถามจริงๆ คุณมีดีอะไร ทำไมคุณเจนนี่ถึงยอมเป็นแฟนกับคุณได้?"
"หนอย... คอนโดถูกๆ แล้วไงวะ" ผมขยำคอเสื้อไอ้ฝรั่งชาร์ลด้วยความโมโห (กลับมาเรียกไอ้อีกละ)
เฮ้อ~ เสียงไอ้ฝรั่งชาร์ลถอนหายใจ จู่ๆ ผมก็ตัวปลิวหน้ากระแทกติดผนัง เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? มันรวดเร็วมาก เหมือนไอ้ฝรั่งชาร์ลมันสลับมือผม แล้วล็อคคอผมหันไปกระแทกกับกำแพงรึไงเนี่ย ไม่ทันจะได้ตั้งตัวหน้าก็จูบกับกำแพงเต็มรัก
"โอ้ยๆๆๆ ปล่อยกูนะโว้ย เจ็บ!" ผมพยายามดิ้น แต่สู้แรงมันไม่ไหว ไมแรงเยอะงี่ว้าาาา
"ช่วยทำตัวดีๆ ด้วย ผมยังไม่อยากหักแขนใครตอนนี้" อ๊ากกก มันขู่ครับ!!
"เข้าใจแล้วๆ โอ้ยๆๆ ปล่อยซะทีสิ!" ไอ้ฝรั่งบ้า ไอ้โหด ไอ้หมาบ้าชาร์ล ผมอยากตะโกนด่ามันจริงๆ แต่ก็ไม่กล้า เดี๋ยวมันจะเล่นแรงกว่านี้ ผมไม่สู้คนนะคร้าบบบ ผมแค่ปากดีไปอย่างนั้นเองคร้าบบบบบ
ชาร์ลค่อยๆ คลายมือออก ทำให้ผมหายใจได้คล่องคอขึ้นหน่อย สงสัยกลับไปต้องกินยาแก้ปวดกันไว้ดีกว่า
"ทำไมคุณผอมแห้งแรงน้อยแค่นี้ จะปกป้องคุณเจนนี่ได้ไงไหว" ไม่ว่าเปล่ามันเล่นลูบไปตามร่างกายผม ผมรีบสะบัดมือมันออก
"หน้าแดงทำไม?"
"หา?" ผมจับไปที่หน้าตัวเอง
"ก็เพราะมึงเล่นจับไปมั่วน่ะสิ!!!"
"ช่วยอย่าพูดมึงกูด้วยครับ ไม่งั้นผมคงต้องหักแขนคุณสักข้าง"
"แว้กๆๆๆ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต" ผมรีบหดมือทันที มันมองผมตาเขียว
"ก็ได้ๆ" ผมรีบตัดบท กำลังจะชิ่งหนีก็โดนมันคว้ามือไว้
"อะไรอีก?"
"แต่งตัวให้ดี ห้ามเซอแบบวันนี้ หนวดเคราก็โกนซะด้วย สูทน่ะมีไหม?" โว้ย น่ารำคาญ
"เออ รู้แล้ว แค่นี้ใช่ไหม" ผมสะบัดมือรีบเดินกลับไปหาเจนนี่ทันที
ทางฝั่งชาร์ลหนุ่มรูปหล่อ
'ทำไมคนๆ นี้ถึงได้ผอมแห้งแรงน้อยอย่างนี้' ผมมองดูที่มือของผม เมื่อกี้ถ้าออกแรงอีกนิด เหมือนจะหักแขนคนได้จริงๆ แขนเล็กเหมือนผู้หญิง เอวก็บาง จับตัวโยนได้สบายๆ ผู้ชายอะไรรูปร่างเหมือนผู้หญิง แต่หน้าตานี่ไม่ไหวจะเคลีย หนวดเครารกรุงรัง ผมสะบัดมือไปมา พยายามลบภาพผู้ชายคนนั้นออกจากหัว
เล่าเรื่องผมสักนิดนะครับ ว่าทำไมผมถึงได้ตกหลุมรักคุณเจนนี่อย่างหัวปักหัวปำขนาดนี้
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 เดือนก่อน ผมมองหาทัวร์ดีๆ สักทัวร์ เพื่อจะพาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อน เอาแบบไพรเวททัวร์ เทคแคร์ดี ไกด์ต้องน่ารัก ก็มีเพื่อนผมคนหนึ่งชื่อว่าจิงโจ้ จิงโจ้เป็นเพื่อนรักผมมาตั้งแต่อนุบาล บ้านเราอยู่ติดกัน จิงโจ้เคยพาภรรยาสาวไปกับทัวร์นี้ ไกด์ทัวร์น่ารักมาก พูดเพราะ เทคแคร์เก่ง ชื่อว่าคุณเจนนี่ แต่ไม่ได้บอกว่าคุณเจนนี่จริงๆ เป็นผู้ชาย ผมก็ตกลงรีบติดต่อทัวร์กับคุณเจนนี่ทันที เราพูดคุยผ่านโทรศัพท์อย่างเดียว ไม่รู้เพราะเพื่อนผมกรอกหูว่าคุณเจนนี่ดีอย่างนู้น ดีอย่างนี้ รึเปล่า เลยกลายเป็นว่าผมตั้งตารอเจอคุณเจนนี่มากกว่าเที่ยวซะแล้ว
พอถึงวันเดินทาง ผมต้องแปลกใจแถมเหมือนโดนศรปักอกดังฉึก! ผมไม่เคยตกหลุมรักใครอีกเลยจากรักแรกที่ไม่สมหวัง คุณเจนนี่เป็นคนที่ 2 ระหว่างการเดินทางท่อนเที่ยวครั้งนั้น เธอทำผมตกหลุมรักเธอจนแทนโงหัวไม่ขึ้น คุณพ่อกับคุณแม่ของผมชมเธอตลอดการเดินทาง คืนสุดท้ายผมตัดสินใจจะจีบคุณเจนนี่ บอกรักมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย อดทนมาตั้ง 6 วันแล้ว
"คุณเจนนี่ครับ"
"คะ?" คุณเจนนี่หันมามองผมยิ้มๆ โอ้ย รอยยิ้มนางฟ้า
"คือ… ผมชอบคุณเจนนี่ครับ!" คุณเจนนี่นิ่งไม่ตอบ รุกต่อเลยละกัน
"คุณเจนนี่ครับ เป็นแฟนกับผมนะครับ" ผมโค้งขอด้วยความสุภาพ ดูท่าทางคุณเจนนี่จะตกใจมาก
"คือว่า... เจนนี่เป็น...เอ่อ...."
"เป็นอะไรครับ?" ดูคุณเจนนี่ลุกลี้ลุกลนแปลกๆ แถมหน้าแดงนิดๆ น่ารักจริงๆ เชียว คุณเจนนี่บิดไปบิดมาด้วยความอายก่อนจะกั้นใจพูดออกมา
"คือเจนนี่เป็น..ผู้ชายค่ะ"
"ครับ?"
"เจนนี่เป็นผู้ชายค่ะ"
"ฮะฮะฮ่า คุณเจนนี่อย่าโกหกผมแบบนี้สิครับ" จู่ๆ คุณเจนนี่ก็จับมือผมลากเข้าห้องไป เฮ้ย! ผมเป็นสุภาพบุรุษนะครับ ทำอย่างนี้ไม่ดีนะครับ
"เจนนี่เป็นผู้ชายจริงๆ ค่ะ" จากนั้นคุณเจนนี่ก็ถกกระโปรงขึ้น ผมรีบเอามือปิดตา แต่เหลือช่องว่างระหว่างนิ้วแอบดู ผมเลื่อนตาลงมองไปที่หว่างขาคุณเจนนี่..... อ๊อก!!! มะ..มะ..มะ…มี่ไอ้นั่นด้วย!!! คุณเจนนี่เห็นว่าผมช็อคก็รีบปิดกระโปรงลง โค้งขอโทษผมเป็นการใหญ่
"เจนนี่ขอโทษที่ทำให้คุณชาร์ลต้องเข้าใจผิด เจนนี่ไม่ใช่ผู้หญิง และเจนนี่ก็มีแฟนอยู่แล้ว เจนนี่ไม่อยากปิดบังคุณชาร์ล คุณชาร์ลใจดีกับเจนนี่มาก ถ้าเจนนี่โกหกคุณชาร์ลมันก็ไม่ดี เจนนี่รู้สึกผิดค่ะ" คุณเจนนี่พูดเร็วจนผมตามไม่ทัน
"……"
"……."
"……."
"….เอ่อ…. คุณชาร์ลคะ"
ผมคว้าไหล่คุณเจนนี่ คุณเจนนี่ตกใจสะดุ้ง เอาวะ! ผมไม่ได้ตกหลุมรักใครง่ายๆ แค่เรื่องเพศไม่ใช่อุปสรรค
"ถึงคุณเจนนี่จะเป็นผู้ชาย แต่ผมก็รักคุณแล้ว! เรื่องแค่นี้ผมไม่ถือครับ!!" ฮึ เป็นไงล่ะ ความรักของผม
"…..ถึงอย่างนั้น เจนนี่ก็คบกับคุณชาร์ลไม่ได้อยู่ดีค่ะ"
"เอ๊ะ! ทำไมล่ะครับ!?"
"เจนนี่มีแฟนแล้วค่ะ เจนนี่ไม่เคยคิดทรยศเขาเลย คุณชาร์ลตัดใจเถอะนะคะ" เจนนี่โค้งแล้วผลักผมที่ยืนค้างออกไปนอกห้อง ก่อนจะปิดประตูแล้วคล้องกุญแจโซ่ ไม่น๊าาาาาา คุณเจนนี่~~~~~~~~~~~~~~
ก็อย่างที่เล่าไปล่ะครับ ผมไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาแน่ๆ ยังไงก็อยากจะเห็นหน้าแฟนคุณเจนนี่สักครั้ง ถ้าไม่ดีผมจะแย้งคุณเจนนี่จากเจ้าหมาป่าจอมกระหายนั้นเสีย!! รอก่อนนะครับคุณเจนนี่ ผมคนนี้จะช่วยคุณเจนนี่เอง ผมจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวของคุณเจนนี่ จะปกป้องคุณเจนนี่ไม่ว่าจะต้องพบเจอกับอุปสรรคอะไรข้างกั้นก็ตาม!!!!!!!
จากนั้นก็ย้อนกลับมาปัจจุบันที่เห็นอยู่นี่ล่ะครับ ตอนนี้ผมเห็นแล้วว่าแฟนคุณเจนนี่คนนี้มันไม่ได้เรื่องได้ราวเลย แถมดูยังไงๆ ก็ไม่เหมือนแฟนกัน มันแข็งๆ แปลกๆ เหมือนเล่นละครตบตาผมกันอยู่ เซ้นผมบอกอย่างนั้น และเซ้นผมไม่เคยพลาด.....
----------------------------------------------
ผิดพลาดตรงไหนช่วยบอกด้วยนะคะ ^^
จะพยายามทยอยเขียนมาลงให้ไวค่ะ
-
ตอนที่ 3 : วันที่ 2 เผลอจูบ
วันนี้วันเสาร์เจนนี่หยุดไม่ได้ทำงาน มันเลยมาหาผมตั้งแต่บ่าย นัดแนะแผนการกันว่าจะเอายังไงกับชาร์ลมันดี คุยไปคุยมามันดันกลายมาเป็นว่าคุณมึงเจนนึ่จะแต่งชุดไหนดี ทำผมทรงไหนดี แต่งหน้าแบบนี้ดีไหม ว่าไปมันก็เปิดนิตยสารแฟชั่นที่พกติดตัวตลอดเวลาขึ้นมาดู
"ตกลงมึงอยากไปหรือไม่อยากไปดินเนอร์กันแน่วะ?" ผมเกาหัวแกกๆ กับท่าทางสนุกสนานของเจนนี่
"ไอ้อาร์ท... เมื่อวานแกล่ะมามองทำตาแป๋ว ส่งสายตาอ้อนวอนอยากไปๆ ยังกะลูกหมา ทีอย่างนี้มาทำเป็นแขวะ" โอ้ย เหมือนมีมีดมาเสียบฉึกกลางหลัง
"ช่วยไม่ได้ ก็มึงเล่นดี้ด้ากว่ากูอีก จะเอาชุดไหนดี แต่งผมทรงไหนดี แต่งหน้าแบบไหนดี โด่ มึงเอาชุดมากี่ชุดล่ะ กูถามหน่อย"
"เชอะ แกจะไม่ไปใช่ไหมถึงกล้าพูดกับฉันอย่างนี้น่ะห๊ะ!?" อูยยย ผมรีบเข้าไปนวดเฟ้นแขนเจนนี่ ประจบเอาใจทันที
"คุณเจนนี่ครับ ผมล้อเล่นนะครับ อย่างอนน้า โอ่แอ้ๆ"
"ฮึ! เพราะแกเป็นงี้แหละ ฉันเลยเตรียมชุดมาให้แกแล้ว ใส่สูทของพี่โก้ได้ไหม?" เจนนี่พูดพลางคว้าชุดที่พาดไว้บนเก้าอี้ด้านข้างมายื่นให้ผม
"ขอบคุณฮับ" ผมทำตาน้องหมาใส่
"แต่มันไม่หลวมไปเหรอ พี่โก้ตัวอย่างบึก" ผมเอาเสื้อสูทพี่โก้ออกมาลองทาบตัว
"อืมมมม ใส่พอถูไถไปก่อนละกัน ยังไงแกก็ตัวสูง พอจะกลบๆ หลอกๆ ได้อยู่ ฉันเอามาแต่สูทนะแก นอกนั้นแกคงมีนะ"
"อืม มีๆ ของเก่าพี่โก้มึงไง กูเอาไปแก้ไซส์มาแล้ว ใส่แล้วเท่ห์อย่าบอกใคร คุคุ"
"แหวะ ไปๆ ไปลองมาให้ดูเลย" เจนนี่สะบัดมือไล่ผม ผมเดินไปควานหน้าเสื้อเชิ้ตกางเกงที่พี่โก้โล๊ะมาให้ ก็แหม ผมจนอ่ะ ก็มีแต่อานิสงส์ของที่พี่โก้ไม่ใส่แล้วนั่นแหละครับ มีแต่แบรนด์เนมเลยนะเออ แก้นิดแก้หน่อยก็ใส่ได้พอดีแล้วครับ แต่พี่โก้เตี้ยกว่าผมหน่อย กางเกงเลยดูเต่อๆ นิดๆ ผมมันคนไม่คิดมากก็ใส่ๆ ไป แปลกดีคนอื่นคิดว่าเป็นเทรนครับ ฮะฮะฮ่า
ผมถือโอกาสโกนหนวดโกนเคราจนเรียบร้อย เปลี่ยนชุดเดินออกมาจากห้องน้ำ หมุนโชว์เจนนี่รอบนึง
"ไอ้อาร์ท แกก็หน้าตาดี ตัวก็สูง ผอมก็ผอม ทำไมต้องทำตัวเซอๆ ด้วยวะ?" เจนนี่มองผมแล้วถามขึ้น
"กูไม่ได้ทำตัวเซอ มันเป็นของมันเอง กูแค่ขี้เกียจเฉยๆ"
"ทุเรศ กล้าพูดนะยะ ไหนดูสิ ก็โอนะ พอไปวัดไปวากับเขาได้"
"เหอๆ กูหล่ออ่ะดิ" แซวมันหน่อย ยอตัวเองด้วย
"แหวะ หัวแกยังกะรังนกแบบนี้หล่อตรงไหนมิทราบยะ มาๆ เดี๋ยวใส่มูสแต่งผมหน่อย จะได้หล่อกับใครเขาบ้าง คริคริ" ดูมันพูด กัดตลอดอ่ะ ผมเดินไปนั่งให้มันแต่งผมโดยดี
1 ทุ่มตรง เสียงโทรศัพท์เจนนี่ก็ดังขึ้น อะไรจะเป็นคนเที่ยงตรงขนานนั้น นี่ 1 ทุ่มพอดีเป๊ะเลยครับ เจนนี่วางโทรศัพท์แล้วหันมาชวนผมลงไปขึ้นรถชาร์ลมัน
พอลงมาข้างล่าง ชาร์ลรีบวิ่งมาเปิดประตูให้เจนนี่ อ้าว ไม่เปิดให้ผมมั่ง มันทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุอีกละ ไม่มองหน้า ไม่สนใจ ชิชะ เดี๋ยวมึงเจอดี คืนนี้จะมอมเหล้าให้หลับแล้วจัดการเค้นความลับมันซะเลย วะฮะฮะฮ่า!!!
……
….
..
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นสิครับ......(คอตก) ชาร์ลแม่งคอโครตทองแดงป่ะเนี่ย มอมเท่าไหร่ๆ ก็ไม่เมา แต่ผมสิจะไม่หวายแล่วววว โอ้ย มึนครับ ผมหันไปมองเจนนี่ มันนิ่งมากครับ เพราะมันไม่ดื่ม มันเล่นดื่มแต่น้ำเปล่า มันว่ารักสุขภาพ แหวะ สุขภาพตายเหอะมึง ตอแหล ปกตินี้จิบเป็นน้ำ ทีนี้บอกรักสุขภาพ แต่ก็อีกล่ะครับ ถ้ามันเมาผมก็แย่ เดี๋ยวไม่มีใครไปส่ง โอ้ย คิดมากก็มึน
"ไหวไหมคะที่รัก?" อุ๊ก มันเรียกผมว่าที่รักแล้วอยากจะอ๊อกออกมาซะตรงนั้น
"เฮ้อ~ ดื่มไม่ไหวก็ยังจะมาท้าดื่มอีก" หนอย~~ เพราะมึงคอแข็งเกินไปต่างหากเว้ย เจนนี่ลูบหลังผมเบาๆ
"เจนนี่ มึงอย่าเพิ่งมาลูบหลังกู เดี๋ยวกะ..." เจนนี่ตกใจรีบปิดปากผม หันไปมองชาร์ลตาปริบๆ เห็นหน้าชาร์ลมันจ้องเหมือนจะจับผิด
(ชี่! ไอ้อาร์ทแกอย่าเรียกมึงกูสิยะ เดี๋ยวความแตก) เออจริง โทษทีว่ะ
"ผมว่าเรากลับกันเลยดีไหมครับ เค้าเมาขนาดนี้คงไปส่งคุณเจนนี่ที่คอนโดไม่ไหว เดี๋ยวผมไปส่งเค้าแล้วจะไปส่งคุณเจนนี่ต่อเลยนะครับ" ชาร์ลรีบคว้าโอกาสที่ผมเมามากเร่งทำคะแนนทันที
"ได้ค่ะ แต่บ้านเจนนี่อยู่ใกล้กว่า คุณชาร์ลไปส่งเจนนี่ก่อนแล้วค่อยไปส่งอาร์ทนะคะ เห็นแบบนี้เจนนี้ก็กลัวอาร์ทจะไม่ไหว ถ้าได้คุณชาร์ลไปส่งคงจะช่วยได้มากเลยค่ะ ได้ไหมคะ?" เจนนี่ช้อนตาออดอ้อน เรื่องถนัดมันครับท่านี้ ไอ้ชาร์ลสะดุ้ง เหอะ เจอเล่ห์เลี่ยมเจนนี่ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียวอ่ะดิ
"ดะ ดะ ได้ครับ" พูดจบแล้วรีบเรียกบริกรมาเช็คบิลทันที จ่ายด้วยบัตรทองซะด้วย โอ้ย ไม่ไหวแล้ว มึนจังเลย ไม่สนแล้ว เจนนี่กูเมา มึงช่วยตัวเองนะ กูหลับก่อนล่ะ....... ครอก
"เฮ้อ~ ไม่ไหวดูเหมือนเค้าจะหลับไปแล้วนะครับ" ผมคว้าแขนอาร์ทขึ้นมาพาดบ่า มื้อนี้หนักจริงๆ โดนไปครึ่งแสนในคืนเดียว จะมาอยากดวนเหล้าอะไรนักถ้าคออ่อนขนาดนี้ ผมขับรถไปส่งคุณเจนนี่ที่คอนโด ก่อนจะรับภาระต้องมาส่งศัตรูหัวใจถึงห้องอีก
"เฮ้ย ห้องคุณชั้นไหน เบอร์อะไร?" ผมตบหน้าเขาเบาๆเรียกสติ ดูเหมือนจะเมามาก
"ช้าน 17 ….. ห้องเบอร์ไรวะ...?"
"ผมจะรู้กับคุณไหมล่ะครับ? เอ้า นึกดีๆ ห้องเบอร์อะไร?" ว่าแล้วก็ลากเขาเข้าไปในลิฟต์ เฮ้อ คอนโดอะไรระบบรักษาความปลอดภัยแย่ชะมัด ถึงชั้น 17 ผมวางเขาลงพิงผนัง ก่อนค้นตัวหากุญแจห้อง อยู่ๆ หมอนี่ก็คว้ามือผมไว้
"เฮ้ย… มึงเป็นครายวะ... จะปล้นกูหราาา?" เมาไม่รู้เรื่องแล้วล่ะสิ
"ผมจะหากุญแจห้องคุณ บอกมาห้องเบอร์อะไร กุญแจอยู่ไหน?" อาร์ทสะอึก เรอออกมาเป็นกลิ่นเหล้า น่ารังเกียจจริงๆ เขาควานหากุญแจที่กระเป่าแต่ก็ไม่เจอซะที โอ้ย ทนไม่ไหวแล้วนะ ผมอยากจะรีบๆ กลับบ้านซักที ผมเลยถือวิสาสะควานหาเอง สุดท้ายก็เจออยู่ที่กระเป๋าหลังกางเกง
"จักกะจี้ว่ะ..." เพ้ออีกละ
"ห้องล่ะเบอร์อะไร?"
"งืมมม 3..0…4….. เอ๊ะ…รึ 4…0…3 หว่า?"
"เฮ้อ 403 สินะ เพราะ 304 มันไม่มี" ผมรีบยกเขาขึ้นลากพาไปยังห้อง ผมไขกุญแจห้องเข้าไป ควานหาสวิทช์ไฟ พอไฟติดก็ต้องตกใจ ห้องอะไรรกเป็นบ้า เสื้อผ้าใส่แล้วก็ถอดกองไว้ที่พื้น แก้วน้ำที่กินแล้วก็วางไว้บนโต๊ะ 4-5 แก้ว นี่กะกินแล้วล้างทีเดียวใช่ไหมเนี่ย แถมอุปกรณ์วาดเขียน ดินสอ กระดาษเกลื่อนพื้น แต่ที่น่าตกใจที่สุด ที่ทำเอาผมอึ้งมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นในห้องนอน บนผนังหัวเตียงมีประติมากรรมที่สวยจนผมตกใจ ลวยลายใบไม้พริ้วไหว และกลีบดอกไม้ที่กำลังร่วงโรย ท้องฟ้าสีคราม ลายเส้นสีดำที่ตัดทุกอย่างอย่างลงตัว ทั้งภาพทำจากเศษกระเบื้องหลากสีสรร เป็นผลงานทิวทัศน์ที่ชวนให้หลงใหล ผลงานสวยๆ แบบนี้ นอกจากผลงานของ Kaffe Fassett* ที่สวยงามโดดเด่นเป็นแบบที่ผมชอบแล้ว ก็มีผลงานนี้แหละที่ผมตกหลุมรักแรกพบเข้าอย่างจัง ใครเป็นคนวาดกัน ผมทิ้งตัวอาร์ทลงบนเตียง ขยับเข้าไปหาผลงานบนผนังอย่างเนิบช้า มันทำให้จิตใจผมฟูฟ่อง
"เมื่อซากุระโรย" ผมหันไปหาต้นเสียง คนเมาตอนนี้นั่งมองไปที่ผลงานบนผนังแล้วเอื้อนเอ่ยออกมา
"ใครวาด?" ผมรีบถามด้วยความอยากรู้
"คนนี้แหละ" อาร์ทชี้ที่หน้าตัวเอง
อะไรนะ!? ผลงานสวยๆ แบบนี้ออกมาจากฝีมือชายคนนี้อ่ะนะ ไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็สวยจริงๆ จนผมอดใจไม่ไหว
"ผลงานอื่นล่ะ?"
"ไม่มี มีผลงานนี้ชิ้นเดียว"
"ทำไมล่ะ?" ผมเขย่าตัวอาร์ทไปมา อาร์ทนั่งหาวหวอดๆ
"ก็แค่ขี้เกียจ"
"ห๊า!! ทำผลงานดีๆ แบบนี้ออกมาได้ ทำไมไม่ทำต่อ!? น่าเสียดายฝีมือดีๆ จริงๆ"
"โอ้ย พูดมากจริง" อยู่ๆ ที่ปากผมก็มีไออุ่นเข้ามาปะทะ ไม่ใช่สิ จู่ๆ อาร์ทก็ประกบจูบผม เฮ้ย! ผมดึงตัวเขาออกห่าง
"ทำบะ..อุ๊" ระลอกสองตามมาติดๆ คราวนี้มีลิ้นสอดแทรกเข้ามาด้วย หวาๆ จูบเก่งเกินไปแล้ว อาร์ทตวัดลิ้นวนไปมารอบปาก ดูดเลียลิ้นของผมอย่างเมามัน แอบขบริมฝีปากผมเบาๆ ไปหนึ่งที ไม่รู้ด้วยแล้ว! ผมจูบตอบ ก็มันรู้สึกดีจริงๆ จนอยู่ๆ อีกฝ่ายก็หยุดปากเอาดื้อๆ
"ราตรีสวัสดิ์...." ว่าแล้วอาร์ทก็ล้มตัวลงนอน
"เฮ้ย! เล่นมาจูบคนอื่นแบบนี้แล้วหนีไปนอนเนี่ยนะ!?" ผมจับที่ริมฝีปากตัวเอง ก้มลงมองดูที่หว่างขา อ๊าาาาาา ลูกพ่อลุกขึ้นมาทำไม!!!??? ด้วยความตกใจผมรีบวิ่งออกจากห้องไป ไม่ลืมที่จะล็อกประตูให้ก่อน ไม่ไหวแล้ว หัวใจมันแปลกๆ ทำไมมันเต้นโครมครามแบบนี้ เมื่อกี้ก็เผลอรู้สึกจนจูบตอบไปด้วย คุณเจนนี่ผมขอโทษษษษษษษษษษ ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพราะผลงานสวยบนผนังนั่นแน่ๆ!!!!
-------------------------------
หมายเหตุ
Kaffe Fassett จิตรกรชาวอเมริกัน เก่งเรื่องใช้สีและออกแบบมัณฑนศิลป์ จุดเด่นของผลงานของเขาคือการเล่นสีสรรสวยงามเป็นลวยลายต่างๆ
------------------------------
วันนี้ขยันลง 3 ตอนเลยค่ะ ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ ^^
-
คุณชาร์ล เปลี่ยนใจจากเจนนี่ เถอะนะ 5555
เรื่องนี้สนุกดี :katai2-1:
-
คนแต่งขยันมากเลยยย :mew1: :mew1:
-
อาร์ทน่ารักจัง อาร์ทสมชื่อจริงๆ มีดีทุกอย่างแต่ขี้เกียจ (ฮา)จูบเก่งซะด้วย =w= ฮุๆ
เจนนี่ สาวดุ้น สวยจนชาร์ลไม่รู้ด้วย(ฮา)
คู่เพื่อนสุดฮาเจนนี่กะอาร์ท น่ารักทั้งคู่
ชอบๆ จะติดตามค่ะ สู้ๆนะ
-
เปลี่ยนใจเถอะชาร์ล อาร์ทก็น่ารักนะ อิอิ
-
ตอนที่ 4 : วันที่ 3 เริ่มสังเกต
โอ้ยยย ผมสะลึมสะลืมตื่น มือนึงกดขมับไว้ ปวดหัวชะมัด สงสัยเมื่อคืนจะหนักไปหน่อย หลังจากดื่มไปแก้วสุดท้ายก็จำอะไรไม่ได้เลย ไม่ไหวไม่น่าทรมารตัวเองแบบนั้นเลย ผมคว้าไปที่หัวเตียงหานาฬิกาปลุก
บ่าย 2 กว่าแล้ว
ว๊ากกกก ผมเด้งลุกขึ้นพรวด ทำเอาต้องกุมขมับอีกรอบ ปวดหัวอ่าาาา ผมกุมขมับลุกขึ้นไปหาน้ำหายากินแก้เมาค้าง อืม... ยังไม่ได้ล้างแก้วเลย
'อยากดื่มชาร้อนๆ จัง น้ำเปล่าก่อนละกัน ไหนยาแก้เมาค้างวะ' ค้นๆ กล่องยา เจอเม็ดสุดท้ายอยู่ลึกเข้าไปในกล่องพอดี
ไหนดูมือถือสิ ผมมองหามือถือแต่ไม่เห็น คว้าไปในกระเป๋ากางเกงก็ไม่เจอ ค้นทั่วห้องจนไปเห็นตกอยู่ข้างเตียง
37 miss call!!!!!!!
แถมมีแต่ชื่อเจนนี่คนเดียว มันเล่นโทรมาทุก 10 นาทีเลยครับ
'เวรแล้วไหมล่ะ งานเข้ากูอีกละ' ผมกล้าๆ กลัวๆ กดเบอร์โทรออกหาเจนนี่ทันที
ตู๊ด~ กึก แค่ตู๊ดเดียวมันรีบรับเลยครับ ไม่ให้เวลาผมทำใจ เสียงตามสายก็บ่นขึ้นทันที
[ไอ้อาร์ท เมื่อวานแกไปทำอะไรเอาไว้!?]
"โอ้ยๆๆ ไอ้เหี้ยเบนซ์... กูเมาค้างมึงอย่าตะโกนสิวะ"
[เออ แกเป็นไงมั่ง อย่าเรียกเบนซ์สิยะ]
"ไม่รู้โว้ย ดื่มเข้าไปหนักจำอะไรไม่ได้เลย กลับมาห้องยังไงก็ยังไม่รู้ตัวเลย"
[เมื่อวานคุณชาร์ลเค้าไปส่งแกไง ว่าก็ว่าเถอะ เมื่อวานแกไปทำอะไรกับเค้าเอาไว้วะ?]
"ทำไรวะ? มีไรเกิดขึ้นรึไง?"
[เออดิ วันนี้คุณชาร์ลมาหาฉันที่บ้านแต่เช้า ตามติดแจ บ่นว่าก็เฉย จะไปไหนมันเล่นขอตามไปส่ง ไปซื้อของมันก็ตามไป ตื้ออยู่ได้ ไม่รู้จะทำไงแล้วแก]
"ก็แล้วไงวะ มันก็ตื้อมึงทุกวัน แปลกตรงไหน?" ผมเกาหัวแก๊กๆ เดินกลับไปนั่งบนเตียง
[แปลกดิ คุณชาร์ลไม่กล้ามองหน้าฉันตรงๆ เหมือนกลัวความผิดยังไงไม่รู้] เฮ้อ~ น่าเบื่อ
"หาววว เออๆ แค่นี้ใช่ไหม?" ผมทำท่าจะวางสาย แต่เจนนี่ก็รั้งไว้ก่อน
[อย่าเพิ่ง วันนี้คุณชาร์ลนัดดินเนอร์อีกแล้วว่ะ เอาไงดีวะ ฉันบอกเค้าเหมือนเดิม เค้าก็ไม่ยอมท่าเดียว โครตลำบากใจเลย โทรหาแกก็ไม่รับ เลยต้องบอกไปว่าถ้าแกไปก็จะไป เค้าก็ไม่ยอม ฉันเลยบอกว่างั้นก็ไปรับที่คอนโดแกเหมือนเดิมไปแล้วอ่ะ] ไอ้นี่ตัดสินใจไม่ปรึกษาอีกละ อ่ะ เพราะปรึกษาไม่ได้นี่เนอะ ผมเล่นเมาหลับเป็นตายอย่างนั้น แฮะๆ
"อีกแล้วเหรอ? ที่ไหนอีก ต้องแต่งตัวดีๆ อีกป่ะเนี่ย แต่กูไปได้นะ" ว่าแล้วลูบท้องเบาๆ
[ไอ้อาร์ท เรื่องกินนี่มึงปฏิเสธบ้างก็ได้]
"ไม่อาววว มึงคุยกะท้องกูละกัน" ว่าแล้วก็เอามือถือจ่อไปที่ท้องตัวเอง ทำเสียงอู้อี้ๆ ใส่
"ไงมึง ท้องกูว่าไง?"
[ไอ้บ้า! อย่างกับคุยรู้เรื่อง] ผมหัวเราะร่วน
"เออๆ วันนี้จะมากี่โมงล่ะ นี่มันก็บ่าย 3 แล้ว" ผมหันไปมองนาฬิกาบนหัวเตียง
[เดี๋ยว 5 โมงไป สูทพี่โก้เมื่อวานนี้ฉันเอากลับมาแล้วนะ] ผมหันไปมองรอบห้อง มิน่าไม่เห็นสูทที่ว่าในห้อง
[คุณชาร์ลบอกอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ แต่งธรรมดาก็ได้ แต่อย่าเซอนะแก] โหย สงสัยเมื่อวานไอ้คุณชาร์ลจะจ่ายหนักไปหน่อย วันนี้เลยเล่นบุฟเฟ่ต์เลย จ่ายรายหัวทีเดียวจบ งี้ก็อดสั่งอะไรแพงๆ เว่อร์ๆ อ่ะดิ ตับเป็ด เอ้ย ตับห่านเมื่อคืนอร่อยดีซะด้วย เรียกอะไรฟัวๆ นี่แหละ แฮะๆ ผมไม่เคยกินของดีๆ เรียกไม่ถูกครับ ผมเดินกลับไปที่ส่วนที่เป็นห้องครัวมองหากล่องชาบนหลังตู้
"เออได้ๆ เดี๋ยวกูค้นกรุก่อน เจนนี่ มึงซื้อชาเอิร์ลเกรย์เข้ามาให้กูเหมือนเดิมด้วย ที่มีหมดแล้วว่ะ ออกเงินให้กูก่อนนะ กูติดไว้ก่อน ตอนนี้ไม่มีจ่ายว่ะ" ผมเขย่ากระปุกชา Twinings ไปมา ชาหมดกระปุกอีกแล้ว ผมเป็นคนดื่มชาครับ เวลาหัวไม่แล่น คิดงานไม่ออก ก็มีชากลิ่นเอิร์ลเกรย์นี่แหละครับ ของโปรดเลย
[หมดอีกแล้วเหรอ ถ้าชามันเป็นสารเสพย์ติดแกคงติดยิ่งกว่ายาม้า ยาอี แหง] ผมหัวเราะแห้งๆ จะว่าติดยิ่งกว่ายาบ้าก็ได้มั้ง เพราะขาดชาเหมือนขาดใจ ผมกดวางสายจากเจนนี่ ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำอาบท่า
15 นาทีต่อมา ผมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขุนหนูปิดข้างล่างผืนเดียว เสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก.....
ใครมาวะ? พี่วิลัยให้คนมาตามงานเปล่าเนี่ย ก็ส่งไปแล้วนี่หว่า ผมเดินเช็ดผมที่เปียกๆ ไปเปิดประตู ก็ต้องตกใจ คนตรงหน้าไอ้คุณชาร์ลของเจนนี่มันครับ!!!
"มีอะไร?" ผมถาม
"......" มันมองผมหัวจรดเท้าอีกแล้ว
"ช่วยไปแต่งตัวให้เสร็จด้วย" เออ กูก็ไม่ได้อยากโชว์มึงหรอก ผมเปิดประตูให้ชาร์ลมันเข้ามารอในห้อง
"มีไรค่อยคุย ขอแต่งตัวแปบ" ว่าแล้วผมก็เดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่นานก็เดินออกมา
"ว่าไง มีอะไรครับคุณชาร์ล? ว่าแต่รู้จักบ้านผมได้ไงเนี่ย?" ผมถาม มันยังมองผมตาไม่กระพริบ เป็นไรของมันวะ?
"ก็เมื่อวานผมแบกคุณมาส่ง" เออว่ะ เฮอะ ผมยิ้มๆ
"ขอบคุณ" อ่ะ อยู่ๆ ชาร์ลมันก็หน้าแดงขึ้นมา อายไรวะ กูคนพูดสิต้องอาย
"แล้วไง ตกลงมาหาผมคงมีเรื่องอยากคุยสินะ"
ชาร์ลลุกขึ้นพรวดเดินตรงมาหาผม ผมตกใจยกศอกขึ้นกันโดยอัตโนมัติ
"คุณช่วยเลิกกับคุณเจนนี่ได้ไหม?"
"เฮ้ยๆ บ้าเปล่า เรื่องอะไรอยู่ๆมาขอให้แฟนเค้าเลิกกันวะ?" มันเป็นหมาบ้าจริงๆ เลยครับ ไม่เห็นมันจะแปลกกว่าเดิมอย่างที่เจนนี่ว่าตรงไหน มันก็กวนตีนเหมือนเดิมเป๊ะ
"ผมไม่คิดว่าคนอย่างคุณจะทำให้คุณเจนนี่มีความสุขได้"
"ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะมาตัดสิน มันเรื่องของผมกับเจนนี่ ถ้าจะมาหาเรื่องก็กลับไปซะ!" ผมตวาดอย่างหมดความอดทน ชาร์ลจ้องผมเขม็ง ไม่กลัวโว้ย จ้องกลับ มันคว้าข้อมือผมขึ้น
"เฮ้ย! จะทำอะไรวะ!?"
"เฮ้อ~ ไม่ได้จะทำอะไร แขนคุณเล็กขนาดนี้ ผมจับนิดเดียวก็แดงแล้ว ถ้าจับแรงๆ ไม่หักซะก่อนหรือไง แรงก็น้อย หน้าก็...." มันหยุดพูดก่อนจับหน้าผมหันไปซ้ายทีขวามา พินิจอยู่นาน ไอ้นี่ วอนซะแล้ว ผมประเคนหมัดใส่ แต่ชาร์ลแค่ยกมือขึ้นมากันไว้อย่างง่ายๆ เออ! ผมมันไม่แรงจริงๆ อ่ะแหละ สู้ใครเค้าไม่ได้ เพราะงี้แฟนคนก่อนๆ ถึงได้ทิ้งผม พูดแล้วเศร้า ทุกคนต่างบอกว่าผมแลดูปกป้องเธอไม่ได้ อยากได้ผู้ชายแมนๆ ขอโทษ กล้ามผมก็ไม่มี ไม่แมนเลย เลยต้องไว้หนวดไว้เครานี่แหละครับ เผื่อมันจะแมนบ้าง
ผมผลักไอ้คุณชาร์ลออก แต่มันไม่ขยับเลยครับ แงงงง
"ปล่อย!" มันปล่อยมือแต่โดยดีวุ้ย
"พอดูดีๆ ไม่มีหนวดมีเครา ก็หน้ายังกับผู้หญิงเลยนะ" เพี้ยง! ผมชกออกไปด้วยความโมโห คราวนี้ถูกหน้ามันเต็มๆ ชาร์ลหน้าหัน จับไปที่หน้าที่โดนผมต่อย
"แรงก็น้อย ยังกับมดกัด" โอ้ย! ดูถูกกันเข้าไป!!! ผมคว้าคอเสื้อชาร์ลมันทันที
"กูแรงน้อยแล้วไงวะ หน้ากูหวานแล้วไงวะ จะมาหาเรื่องรึไง!!??"
"บอกแล้วว่าอย่าพูดกูมึงกับผม ผมไม่ได้จะมาหาเรื่องคุณ" มันแกะมือผมออก ผมไม่ยอมแต่ก็สู้แรงมันไม่ได้จริงๆ ผมถอนหายใจ ยอมก็ได้วะ แม่งเหนื่อย
"เมื่อวาน....." มันพูดแล้วเงียบไป
"ทำไม? เมื่อวานอะไร?"
"เฮ้อ~ สงสัยคุณจะจำไม่ได้ล่ะสิ"
"เออ จำไม่ได้ ก็เมาหนักนี่หว่า ทำไม ผมไปทำอะไรคุณไว้รึไง?"
"...อึก!" โอ๊ะ ไอ้คุณชาร์ลหน้าแดงเถือกเลยครับ อะเระๆ เมื่อคืนผมไปทำเรื่องไรไว้หว่า จำไม่ได้ พยายามทวนความจำแต่ก็จำไม่ได้ โอ้ย อยากรู้จริงๆ ว่าตัวเองไปทำอะไรไว้ มันเลยมีปฏิกิริยาแบบนี้ เห็นแล้วก็น่าแกล้ง น่าเอาคืนจริงๆ
"ทำไม? ว่าไงล่ะครับ เมื่อคืนมีอะไรเกิดขึ้นเหรอครับ?" ผมได้ใจ ยิ้มหน้าทะเล้นถาม ชาร์ลมันหลบหน้าผม ขยับถอยหนี สนุกโว้ย!!! ในที่สุดก็เจอจุดอ่อนมันครับ!! ฮะฮะฮะฮ่า ตากูบ้างล่ะมึง ผมยื่นมือจะไปจับไหล่ แต่ถูกมันตบมือทิ้ง อู้ย เจ็บง่ะ
"ถ้าจำไม่ได้..... ก็แล้วไป!" ว่าแล้วมันก็หันหลังกลับ โหย ผมเห็นหน้ามันแดงถึงหูเลยครับ ไม่รู้ทำไมผมรีบคว้ามือชาร์ลไว้
"อะไรอีก?" ชาร์ลหันมาถาม ผมสะดุ้ง รีบปล่อยมือ
"ปะ เปล่า อยู่ๆก็มา อยู่ๆก็ไป ก็เลยสงสัย" ผมรีบแก้ตัว
"1 ทุ่ม เวลาเดิม ผมจะมารับ ช่วยแต่งตัวให้ดีด้วย ผมไม่อยากขายหน้า" มันว่าแล้วรีบเดินออกจากห้องผมไป หนอยยยย ผมกัดฟันกรอดๆ มันมาหาเรื่องด่ากูชัดๆ จำไว้เลย แค้นนี้ต้องชำระ!!
5 โมงกว่า เจนนี่ก็มาถึง พร้อมกับชาที่ฝากซื้อ
"ไงมึง กว่าจะมา กูรอชาตั้งนาน" ผมรีบเข้าไปรับถุงกระดาษในมือเจนนี่ ข้างในเป็นชาเอิร์ลเกรย์ของผม ของผมคนเดียว คิกคิก ดีใจแก้มปรี เจนนี่เดินเข้ามาในห้องหยิบแก้วน้ำไปล้างที่ซิงค์น้ำให้
"ขอบใจนะ เจนนี่ฉุดฉวยยย" ยอมันหน่อย
"เออๆ ทุกทีอ่ะแก หัดเก็บกวาดห้องมั่ง ฉันมาห้องแกต้องทำตัวเป็นแม่แกทุกที"
"โอ้ๆ ม่ามี้~" เจนนี้แหวะใส่ผม ผลักหัวผมออก เพราะนิสัยแบบนี้ของผมที่ทำให้พี่โก้เข้าใจผิด จนมาหาเรื่อง ตอนนั้นเฮียแกโครตน่ากลัวเลยครับ กว่าจะเคลียความเข้าใจผิดได้ ผมกับเจนนี่แทบตาย เลยสาบานกับตัวเองว่าจะไม่แสดงท่าทางแบบนี้อีก ถ้าอยู่ต่อหน้าพี่โก้นะ นอกนั้นขออ้อนบ้างอะไรบ้าง เพื่อนกันไม่เห็นเป็นไร
"เออ วันนี้คุณชาร์ลมันมาหากูถึงห้องเลยว่ะ" เจนนี่หันขวับมาหาผม
"ทำไมอ่ะ?"
"มาบอกให้กูเลิกกับมึงอ่ะ"
"เฮ้ย! อย่างคุณชาร์ลเนี่ยนะ"
"เออ เพราะอย่างคุณชาร์ลมึงอ่ะแหละ กวนกูตลอด"
"แปลกอ่ะ คุณชาร์ลไม่น่ากล้ามาหาเรื่องแกถึงบ้านอย่างนี้นะ" เจนนี่ดูครุ่นคิด
"ไม่เห็นแปลก ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้า มันก็หาเรื่องกูตลอดเหอะมึง"
"ก็แกอ่ะไม่คิดมาก ไม่สิ ไม่คิดเลยมากกว่า สมองเท่าเมล็ดถั่ว มีดีแค่งานศิลปะ" มึงกัดกูดีจังเจนนี่ แต่ละเรื่องจุดด้อยกูทั้งนั้น
"ถ้ากูฉลาดคงเป็นหมอไปแล้วล่ะวะ"
"ก็จริง"
"ไอ้เหี้ยเบนซ์ มึงปฏิเสธบ้างก็ได้" เวลาจะด่ามันชอบเผลอพูดชื่อเก่ามันทุกที เจนนี่หันมาค้อนใส่ผมตาเขียวปัด!
"เอาไงดีล่ะ วันนี้ปฏิเสธมื้อค่ำคุณชาร์ลดีไหมแก?"
"แล้วแต่มึงละกัน ถ้ามึงไม่เห็นแก่ท้องน้อยๆ ของกู มึงก็ปฏิเสธก็ได้" ผมทำหน้ามุ่ยพลางลูบท้องตัวเองเบาๆ เจนนี่ยังทำหน้าเครียด ไม่เล่นมุกก็ได้วะ
"มึงจะปฏิเสธทำไมวะ มีคนเลี้ยงข้าวก็ดีแล้ว วันนี้ก็เคลียกันให้จบๆ ไม่ต้องไปให้ความหวังมันอีกนะมึง"
"ฉันไม่เคยให้ความหวังใคร ฉันปฏิเสธเสียงแข็งตลอดอ่ะ"
'แหม ไม่ให้ความหวัง เวลาปฏิเสธไมมึงไม่ทำเสียงแมนเข้มๆ อย่างตอนว่ากูบ้างวะ' ผมคิด ขืนพูดออกไปได้ตายแน่ ผมชงชาเสร็จพอดี ยื่นแก้วนึงให้เจนนี่ อีกแก้วของตัวเอง เรานั่งคุยหาวิธีปฏิเสธความรักชาร์ลอย่างไรดีกันต่อจนถึงเวลานัด
ชาร์ลมาเคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้อง มันยกแขนข้างนึงให้เจนนี่เกี่ยวแขน แต่เจนนี่ปฏิเสธแล้วหันมาเกี่ยวแขนผมแทน ชาร์ลมองนิ่งก่อนยิ้มให้เจนนี่ วันนี้ชาร์ลก็เลี้ยงข้าวอีกวัน ด้วยความเกรงใจบ้างเล็กน้อย เลยไม่ค่อยต่อปากต่อคำกับมันมากนัก เหนื่อยครับ คราวหลังไม่ดื่มจัดอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะทำเอามึนข้ามวัน เรี่ยวแรงไม่หดหายหมด วันนี้ก็เหมือนเดิม ชาร์ลมันไม่ยอมลดราวาศอก ตื้อเจนนี่ บอกให้เลิกกับผมเสีย เจนนี่โกรธปฏิเสธเสียงดัง แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ครับ บอกว่าจะต้องทำให้เจนนี่เปลี่ยนใจให้ได้ เฮ้อ~ สงสัยคติประจำใจมันคือ 'ตื้อเท่านั้นครองโลก' แหงเลย
วันนี้เจนนี่กลับเองครับ มันไม่ยอมให้ชาร์ลไปส่ง ชาร์ลมันต้องมาส่งผมคนเดียว ก่อนกลับมันมองผมแปลกๆ ด้วยอ่ะ มีอะไรติดหน้าเหรอ ก็ไม่มีนี่หว่า ช่างมัน ผมออกจากรถชาร์ลกลับขึ้นห้องทันที เฮ้อ~ หมดไปอีกวัน ผมกลับมาถึงห้องก็หลับเป็นตายด้วยความเหนื่อย....
---------------------------
ผิดตรงไหนบอกด้วยนะคะ ^^
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ ^3^ :กอด1:
-
ชาร์ลคงจะเริ่มหลงรักอาร์ทแล้วล่ะสิ อิอิ
-
วันที่ 3แล้วนะ เหลืออีก 4 วันเท่าน้านนนน
ชอบตอนคุณชาร์ลเขินหน้าแดง อิอิ :o8:
-
ตอนที่ 5 : วันที่ 4 ตกใจ
บทของคุณชาร์ล
เมื่อวานไม่เป็นอันจะทำอะไรเลยครับ ทำอะไรก็กังวลตลอด ผมสลัดใบหน้าของศัตรูหัวใจออกจากหัวไม่ได้เลย ถ้าผมลงเอยกับคุณเจนนี่ความรู้สึกประหลาดนี้คงจะหยุดลงใช่ไหม?
วันนี้ผมก็มาหาคุณเจนนี่ที่ทำงาน ไม่ใช่ว่าจะมาตื้อหรืออะไรนะครับ วันนี้ผมมาติดต่อเรื่องทัวร์ครับ คุณพ่อกับคุณแม่ของผมท่านอยากไปทัวร์ยุโรปกัน 2 คน เอาแบบไพรเวททัวร์เหมือนเดิม ถ้าจะไปเที่ยวกันเองก็ไม่น่าจะต้องจ้างไกด์ แต่คุณแม่บอกว่าเค้าจัดการทุกอย่างให้มันสะดวกดี คุณพ่อก็เห็นชอบด้วย ยอมปล่อยบริษัทให้ผมกับน้องชายดูแล แต่ตอนนี้ผมลาพักสัปดาห์นึงเพื่อมาตามหาความรักครับ!! เพราะฉะนั้นหน้าที่ดูแลบริษัทจึงตกไปเป็นของน้องชายผม ชาลี เค้าจบมาทางด้านบริหารธุรกิจจากอ๊อกฟอร์ดได้ 1 ปีแล้ว เรื่องงานด้านบริหารเค้าเก่งมา ไต่เต้าจากตำแหน่งเล็กๆ ในบริษัทจนคุณพ่อเชื่อใจยอมฝากบริษัทให้ดูแล ตอนนี้ได้เป็นหนึ่ง CEO แล้วครับ ดังนั้นผมหยุดพักไปอีกคนก็ไม่ต้องกังวล
"คุณชาร์ลคะ ถ้าทัวร์ไปยุโรปเจนนี่จะจัดไกด์อีกท่านให้แทนนะคะ" คุณเจนนี่เดินมาหาผมที่ส่วนต้อนรับแขกด้านในตัวออฟฟิต พร้อมกับยื่นใบรายการท่องเที่ยวให้
"อ้าว ไม่ใช่คุณเจนนี่คอยดูแลเหรอครับ? ผมอยากได้คุณเจนนี่ช่วยเป็นไกด์ให้มากกว่า ทางคุณแม่ผมท่านก็ขอร้องมาด้วยครับ"
"ต้องขอโทษด้วยค่ะ เจนนี่รับเฉพาะงานทัวร์ในภาคพื้นเอเชีย ถ้าเป็นยุโรปเจนนี่ไม่ถนัดค่ะ จะเป็นการไม่ดีกับทางลูกค้าได้ ถ้าเจนนี่ดูแลได้ไม่ดีพอ ยังไงเจนนี่จะไกด์ทัวร์ยุโรปฝีมือดีที่สุดของบริษัทเราให้นะคะ"
"ก็ได้ครับ ถ้าคุณเจนนี่ว่าอย่างไงผมก็ว่าตามครับ" ผมตอบยิ้มๆ ผมมองไปทั่วออฟฟิตมองหาศัตรูหัวใจ วันนี้ไม่เห็น ได้โอกาสทำคะแนน ผมจับไปที่มือของคุณเจนนี่ คุณเจนนี่สะดุ้งทำท่าจะดึงมือกลับ ผมรั้งเอาไว้เสียก่อน แหม คุณเจนนี่น่ารักจริงๆ
"คุณชาร์ล ทำอะไรคะ ปล่อยมือเจนนี่เถอะค่ะ"
"คุณเจนนี่ครับ ผมพูดตรงๆ เลยละกัน คุณเจนนี่เปลี่ยนใจจากเค้าซะเถอะครับ"
คุณเจนนี่ทำหน้างง "เค้าไหนคะ?"
"ก็คุณอาร์ทไงครับ ผมดีกว่าเค้าหลายเท่า รวยกว่า หล่อกว่า แข็งแรงกว่า ผมสามารถปกป้องคุณเจนนี่ได้ ดูจากสภาพเค้าแล้วคงจะไม่มีปัญญาดูแลคุณเจนนี่ได้หรอกครับ แถมยังเห็นแก่กินมากกว่าคุณเจนนี่ที่เป็นแฟน ผู้ชายแบบนี้คุณเจนนี่อย่าไปยึดติดกับเค้าเลยนะครับ..."
"คุณชาร์ล!!!" ผมสะดุ้ง ผมยังพูดไม่จบ คุณเจนนี่ก็ตะโกนใส่ผม เธอหน้าแดงด้วยความโกรธ สะบัดมือผมออก ผมพูดอะไรผิดไปเหรอ?
"ผมขอโทษครับคุณเจนนี่" รีบขอโทษก่อน อย่าเพิ่งโกรธผมนะ คุณเจนนี่ถอนหายใจ ก่อนลุกขึ้นมองหน้ามองอย่างดูถูก โอ้ยๆ ปวดใจ
"คุณชาร์ล ถึงคุณชาร์ลจะดีกว่าอาร์ทขนาดไหน ก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าไปนินทาอาร์ทอย่างนั้น เจนนี่เกลียดคนที่ชอบดูถูกคนอื่นแบบคุณชาร์ลที่สุด" เกลียด....เกลียดที่สุด...... เหมือนใจสลาย ผมหน้าซีดเผือก ปกติผมไม่ใช่คนช่างนินทานะครับ ผมแค่อยากให้คุณเจนนี่ตัดใจจากเค้าแค่นั้นเอง ทำยังไงดีๆ คุณเจนนี่โกรธมากเลย
"คุณเจนนี่... ผมขอโทษจริงๆ ครับ" ผมคอตก ขอโทษคุณเจนนี่จากใจจริง
"ขอโทษเจนนี่ไปก็เท่านั้น เจนนี่จะฟ้องอาร์ท..."
เฮ้ย! ฟ้องเลยเหรอครับ เรื่องแค่นี้เอง ผมมองคุณเจนนี่หวาดๆ
"คุณเจนนี่....พูดจริง...?" คุณเจนนี่พยักหน้า แล้วหยิบโทรศัพท์กดโทรออกทันที ไม่ทันให้ได้แก้ตัวใดๆ
"ฮัลโหล อาร์ทคะ อาร์ทมาหาเจนนี่ที่ทำงานได้ไหมคะ?" หือ? อ้าวไม่ฟ้องเหรอ
"อะไรนะ!? แขนหัก!?" ห๊ะ!? ผมตกใจ
"เค้าเป็นอะไรครับคุณเจนนี่ เป็นอะไรมากรึเปล่า อยู่ที่ไหน อยู่โรงพยาบาลรึเปล่า?" ไม่รู้ผมเป็นบ้าอะไร พอได้ยินว่าศัตรูหัวใจบาดเจ็บ หัวใจก็กระตุกวูบ เขย่าตัวถามคุณเจนนี่รัว จนคุณเจนนี่ตั้งหลักแทนไม่ทัน
"โอ้ยๆ คุณชาร์ลใจเย็นๆ เดี๋ยวเจนนี่ขอคุยก่อน....... ฮัลโหล...." คุณเจนนี่สลัดตัวออก แล้วเดินออกไปคุยโทรศัพท์ห่างออกไป ผมจึงไม่ได้ยินเรื่องที่คุยกัน ไม่นานคุณเจนนี่ก็วางสายแล้วเดินกลับมาหาผม
"เมื่อเช้าอาร์ทเข้าออฟฟิตไปเคลียงานออกแบบภายใน แล้วพลาดตกลงมาจากนั่งร้าน ตอนนี้แขนหักอยู่ที่โรงพยาบาล ต้องพัก 1 คืนรอดูอาการค่ะ"
"โรงพยาบาลไหนครับ!?" คุณเจนนี่มองหน้าผมแปลกๆ ทำไม? หน้าผมดูซีดเป็นไก่ต้มเพราะความตื่นตนกขนาดไหนกันเนี่ย
"เห~~~ เจนนี่บอกก็ได้ค่ะ โรงพยาบาล xxx ห้อง 706 นะคะ ชื่อ..." ผมไม่ทันได้ฟังทั้งหมด รีบหยิบสูทที่พาดไว้ที่เก้าอี้ออกจากออฟฟิตไปอย่างเร็ว
ณ. โรงพยาบาล ทางด้านอาร์ท
หมอบอกว่าจริงๆ ก็กลับบ้านวันนี้ได้ แต่เห็นเพื่อนๆ ที่ทำงานผมวิตกจริตกันสุดๆ กลัวมือของผมจะกลับมาใช้การไม่ได้ ขอร้องให้อยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนสักคืน แถมพี่วิลัยก็ยังออกค่าห้องให้ แต่ห้องพักผู้ป่วยรวมเต็ม เลยได้อยู่ห้องพิเศษ สบายชะมัด~~~ นอกจากแขนหักข้างขวา ข้างถนัดแล้ว ข้อมือซ้ายเคล็ดนิดหน่อย กินยา ทายาก็น่าจะหาย สรุปไม่เป็นอะไรมาก ไม่เห็นจะต้องอยู่ดูอาการเลย เอาเถอะ ถือว่าได้พัก ไม่ต้องเป็นไม้กันหมาให้เจนนี่มันด้วย ดีจะตายยยย
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น ก่อนคนที่ผมไม่คาดหมายจะเดินเข้ามา
"เป็นยังไงบ้าง?" ชาร์ลนั่นเองครับ มาได้ไงวะเนี่ย
"คุณมานี่ได้ไง?" ผมแปลกใจ พยายามจะลุกขึ้นนั่งเขาก็เดินเข้ามาช่วยพยุง
"ขอบคุณ"
"ไม่เป็นไร คุณเจนนี่บอกว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ผมเลยมาเยี่ยม"
"อะไรกัน วันนี้คุณก็ไปตามตื้อเจนนี่อีกแล้วเหรอ? ไม่เบื่อรึไง? เลิกตื้อซะทีเหอะ ผมขอร้อง" ช่วยเลิกๆ ยุ่งกันมันทีเถอะ ผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตอันแสนสงบสุขของผมต่อ รู้ไหมว่าผมลำบากขนาดไหนต้องขับรถไปหาเจนนี่ที่ทำงานทุกวัน ไม่ใช่ใกล้ๆ ค่าน้ำมันก็ยังไม่ได้ ชาร์ลจ้องมาที่แขนข้างที่หักของผม
"แผลแค่นี้ทำไมต้องนอนโรงพยาบาล ผมก็นึกว่าเจ็บหนักกว่านี้ ที่ไหนได้แค่แขนหักข้างเดียว" แหมมม แขนทองของผมนะครับ ไม่มีมันผมทำงานไม่ได้นะครับคุณชาย ผมสะบัดมือข้างที่เคล็ดเป็นเชิงไล่ รำคาญขี้เกียจคุย
"ช่างเถอะ คุณกินอะไรแล้วรึยัง?" เฮ้อ~ ยังไม่ยอมไปอีก
"กินแล้ว" ผมยักหน้าไปทางโต๊ะข้างเตียงที่มีขนมปังในถุงเหลือไว้ครึ่งชิ้น
"ขนมปังครึ่งเดียวเนี่ยนะ แค่นี้จะไปอิ่มอะไร เอ้า! ผมซื้อข้าวมาฝาก" โห~~~ มิน่าล่ะ ถึงได้กินหอมตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว อ่ะแฮ่ม! ผมทำเป็นนิ่ง ไม่สนใจ ท้องจ้าผมก็หิวเหมือนกันนะ
"ทำไม? ไม่กิน?" ผมกลืนน้ำลายลงคออึก
"กิน!" สู้ท้องที่แสนหิวโหยของตัวเองไม่ได้ น่าเจ็บใจจริงๆ ผมยื่นมือไปจะคว้าถุงข้าว แต่ชาร์ลกับดึงหลบมือผม
"แขนหักแบบนี้จะกินยังไง?" หืม... ผมอ้าปากกว้าง
"อะ อะไร!?" ชาร์ลดูตกใจ
"ก็ป้อนผมสิ" ฮะฮะฮ่า มันหน้าแดงใหญ่เลยครับ ตลกดี
"เฮ้ย!! แขนอีกข้างก็ดีไม่ใช่เรอะ! เดี๋ยวแกะให้ คุณก็กินเองสิ"
"อีกข้างเคล็ดจับช้อนไม่ไหว" ผมอ้อน จริงๆ ก็แค่อยากแกล้งมันเล่นๆ เฉยๆ เห็นมันหน้าแดงแบบนี้ก็น่ารักดี เอ๊ะ! น่ารัก ไม่ใช่สิ ไม่น่ารักเลย ไม่ ไม่ ไม่ ไม่
"อึก... เข้าใจแล้ว" เห~~~ ว่าง่ายกว่าที่คิดแฮะ แหมๆ ต้องมองใหม่ซะแล้ว ดูๆไปเขาอาจจะเป็นคนดีกว่าที่คิดก็ได้ ถ้าไม่ต้องมาเล่นละครตบตาเราสองคนอาจจะเป็นเพื่อนกันไปแล้วก็ได้
ชาร์ลเปิดกล่องข้าว ว้าว ข้าวหน้าหมูผัดเกาหลีซะด้วย เข้าใจเลือกเหมือนกันนี่ ชาร์ลป้อนข้าวผมไปได้ครึ่งนึงก็หยุดมือ ผมอ้าปากรอก็ไม่ยอมป้อมต่อ
"เป็นอะไร?" ผมถาม
"คุณช่วยเลิกกับคุณเจนนี่ทีเถอะ"
"...เฮ้อ~ พูดแต่เรื่องเดิม คนกำลังอารมณ์ดี มาทำอารมณ์เสียซะได้ อยากให้เจนนี่เลิกกับผม คุณก็แย่งไปให้ได้ดิ" ผมเริ่มรำคาญ
"เพราะทำไม่ได้ ถึงได้ขอร้องคุณอยู่นี่ไง!" ชาร์ลตะโกนหน้าแดงแปร๊ด ผมตกใจ เฮ้ยๆ มันเป็นอะไรของมันวะ ขอขึ้นซะงั้น
'สงสัยต้องใช้ไม้หนัก' ผมเอื้อมไปหยิบกล่องข้าวในมือชาร์ลไปวางบนโต๊ะ
"ไหนว่ามือเคล็ด" ผมขยับตัวไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ
"ก็แค่เคล็ด" ผมสะบัดข้างที่เคล็ดไปมา เจ็บพอทนได้อยู่ ไม่เป็นไร ผมคว้าท้ายทอยดึงคนตรงหน้าลงมาประกบจูบแนบแน่น ชาร์ลตกใจจะขยับหนีเป็นโอกาสให้ผมได้สอดลิ้นเข้าไปตวัดในปากชาร์ล ดูดลิ้นแลกเปลี่ยนน้ำลายกัน แหวะ เอาวะทนๆ หน่อย ต้องเล่นมันไม้นี้
ผ่านไป 12 วินาทีได้ ผมผละออกก่อนจะเลียริมฝีปากชาร์ลเบาๆ เป็นไงล่ะมึง เจอจูบพิฆาตระทวยทรวงของกูเข้า ชาร์ลตกใจยกมือป้องปากหน้าแดงแปร๊ด
"เลิกยุ่งกับเจนนี่ซะ ไม่งั้นได้เจอมากกว่านี้แน่!!" ผมขู่เสียงเข้ม ชาร์ลหน้าแดงไปจนถึงใบหู รีบลุกขึ้นวิ่งออกไป ดีที่เอาข้าวกล่องหลบไว้ก่อน ไม่งั้นอดกินต่อแหงเลย
'ฮึๆ เท่านี้คงจะเลิกยุ่งกับเจนนี่มันซะที' ผมคิดเองเออเอง ก่อนจะหยิบข้างกล่องมากินต่ออย่างไม่คิดมากอะไร เพราะข้าวอร่อยหรอกนะเลยเซอร์วิสให้ วะฮะฮะฮ่า
ผมมันโง่... หารู้ไม่ว่าได้ไปปล่อยระเบิดลูกใหญ่ทำลายตัวเองไปเสียแล้ว.....
---------------------------------
ผิดตรงไหนช่วยแจ้งด้วยนะคะ :-)
ขอบคุณ คุณ thichanorit : แก้แล้วค่ะ ^^
-
ฮ่าาาาา เอะอะๆจับจูบซะงั้น คุณชาร์ลเขินซะน่ารักเชียวนะ 5555
>>>> ข้อมูลซ้ายเคล็ดนิดหน่อย
"...เฮ้อ~ พูดแต่เรื่องเดิม คนกำลังอารมณ์ดี มาทำอารมณ์เสียซะได้ อยากให้เจนนี่เลิกกับผม คุณก็แย้งไปให้ได้ดิ"
-
ค่อไปคงเลิกยุ่งกับเจนนี่แล้สมายุ่งกับ อาทแทน แต่นอน 5555
-
ระเบิดแบบคุณชาร์ลน่าสนใจดีออก อย่างน้อยๆ ก็เลี้ยงข้าวได้ทุกวันนะ :laugh:
-
ต่อไปชาร์ลคงมายุ่งกับอาตแทน
-
เลิกยุ่งแน่นอน
กรี๊ดดดดดดดดดด
ใครรุกใครรรับอ้ะ
-
มาต่ออีกำลังสนุกเลย
:ling1:
-
:hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
-
ขู่อย่างนี้ชาร์ลไม่เลิกแน่ๆ แบบว่าอยากโดนอีก คิคิ :hao6: :hao6:
-
ระวังชาร์ลจะเลิกเกาะติดเจนนี่แล้วมาติดนายแทน (ฮา)
-
ชาล์ลยังไม่รู้ตัวอีกนะเนี่ยว่าชอบอาร์ทแล้ว
-
ตอนที่ 6 : วันที่ 5 เป้าหมายเปลี่ยน
'วันนี้มันวันซวยอะไรวะเนี่ย!?' วันนี้ผมได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วครับ กำลังเก็บของอยู่ ไอ้คุณชาร์ลมันก็มาหาผมแต่เช้า บอกว่ามาช่วย ไล่ก็แล้ว ขู่ก็แล้ว มันก็ไม่ยอมไป ยุ่งนู้นยุ่งนี้น่ารำคาญเป็นบ้า ทำไงดีละที่นี้ ถ้ารู้อย่างนี้เมื่อวานไม่น่าไปจูบมันเลย ไม่คิดว่ามันจะผิดแผนอย่างนี้!!!!!!!!!!!
เจนนี่ลางานมาเยี่ยมผมช่วงสายๆ พอเข้ามาก็มองผมมองชาร์ลสลับไปมา คงจะแปลกใจที่อยู่ๆชาร์ลที่ตื้อมันตลอดกลายมาคอยตื้อผมแทน แต่พอมันเห็นเจนนี่ก็รีบปรี่เข้าไปทักทายทันที แหม เมื่อกี้ยังอาร์ทอย่างนู้นอาร์ทอย่างนี้อยู่เลย แม่ง หงุดหงิด ... เอ้ย กูจะหงุดหงิดไรแว้~
"เกิดอะไรขึ้นคะอาร์ท" เจนนี่เดินเข้ามาถามผมอย่างหวาดๆ กับพฤติกรรมแปลกๆ ของชาร์ล มันยังสวมบทบาทแฟนสาวแสนดีอยู่
"ไม่รู้ คุณชาร์ลมันมาหาแต่เช้า แล้วก็คอยจู้จี้ ถามนู้นถามนี้ กู เอ้ย ผมก็อยากรู้ว่าเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่" ผมโบ้ยหน้าไปทางชาร์ล
"คุณชาร์ลมีอะไรถึงได้มาหาอาร์ทแต่เช้าเลยคะ? แถมเมื่อวานคุณชาร์ลก็ดูห่วงอาร์ทแปลกๆ ด้วย" กูเห็นนะมึง แอบยิ้มกรุ้มกริ่มที่มุมปากแวบๆ น่ะ ไอ้คุณเจนนี่~~
"คุณเจนนี่มาก็ดีเลยครับ ผมมีเรื่องอยากพูดด้วย พร้อมกันหมดนี่เลย" ชาร์ลมองเจนนี่กับผมสลับกับก่อนจะขยับตัวเจนนี่ให้มายืนอยู่ใกล้ๆ ผม
"คุณเจนนี่... ผมขอโทษครับ!!!" อยู่ๆ มันก็ขอโทษพร้อมทั้งก้มหัวลงมา 90 องศาพอดีเป๊ะ ทำเอาผมกับเจนนี่อึ้งไปตามๆ กัน
"เดี๋ยวค่ะคุณชาร์ล" เจนนี่ร้อนรน รีบจับไหล่ชาร์ลบอกให้เงยหน้าขึ้น
"เจนนี่งงไปหมดแล้ว ตกลงมันเรื่องอะไรกันคะ?" เออ กูก็งง
"สำหรับผมแล้ว คุณเจนนี่เป็นรักแรกพบ ซึ่งผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ว่า....ตอนนี้สำหรับผมแล้ว ผมสลัดใบหน้าคุณอาร์ทออกจากหัวไม่ได้เลย ผมกลับไปคิดทบทวนอย่างดี จนตอนนี้ผมเข้าใจจิตใจตัวเองดีแล้ว …." มันพักหายใจสักครู่
"ผม…ตกหลุมรักคุณอาร์ทเข้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้นแล้วครับ!!!" มันหน้าแดงแปร๊ดถึงใบหู เจนนี่ทำหน้าเอ๋อๆ ส่วนผมเหรอ แคะขี้หูอยู่อย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ก็ดีเลิกยุ่งกับเจนนี่ได้ซะทีมึง แต่เอ๊ะ... อะไรนะ!? ตกหลุมรักผม!!!??? เฮ้ย!!!!
"กูเป็นผู้ชาย!!" ผมตะโกน
"เรื่องนั้นผมรู้อยู่แล้ว"
"ทำไมล่ะคะ? อยู่ๆ ทำไมคุณชาร์ลถึง.... เกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?" เจนนี่ทำท่าสับสนมองผมกับชาร์ลสลับไปมา
"เรื่องมันเกิดตั้งแต่ที่่คุณอาร์ท...จูบผม..." มันเน้นคำหลังสุดๆ เจนนี่ตาโต หันมามองผมขวับ
"อาร์ท!!!" มันตะโกนใส่ผม อยู่ๆ ชาร์ลก็คว้าไปที่ข้อมือเจนนี่
"คุณเจนนี่ครับ ผมขอโทษ แต่อย่าโกรธคุณอาร์ทเลยนะครับ คุณอาร์ทแค่อยากให้ผมเลิกกับคุณเจนนี่ถึงได้ทำแบบนั้น แต่…แต่ไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็น...อย่างนี้.... แต่คุณอาร์ทไม่ผิด ถ้าจะโทษก็โทษผมเถอะครับ!!!" ไอ้คุณชาร์ล มึงไม่เห็นหน้าเจนนี่ล่ะสิ คิดว่ามันจะโกรธเหรอ ไม่เลย หน้ามันอมแก้มตุ่ย พยายามกั้นหัวเราะจนหน้าแดงแล้วเนี่ย!!! เจนนี่พยายามทำหน้านิ่ง แต่ปากยังกระตุกเบาๆ หันไปหาชาร์ล
"คุณชาร์ลคะ เจนนี่ขอคุยด้วยหน่อย 2 ต่อ 2 …. ข้างนอกค่ะ" ชาร์ลเดินตามเจนนี่ออกไป สักครู่ใหญ่ก็กลับเข้ามา แต่เป็นแค่เจนนี่นะครับที่กลับเข้ามา ชาร์ลยืนรออยู่ข้างนอก
เจนนี่เดินมาหาผม เก๊กหน้านิ่งสาวเท้าเดินมาอย่างไว
"ไอ้อาร์ท แกรู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป?"
"ทำไรวะ? กูแค่จูบมันทีเดียวเอง"
"ไม่ใช่ทีเดียว"
"ห๊า? ตอนไหนอีก?" ผมงงกับคำพูดมันจริงๆ
"คุณชาร์ลบอกว่ามึงจูบเค้าตั้งแต่วันที่มึงเมาครั้งล่าสุดนั้นแหละ" ผมตกใจ ไอ้ตอนที่เมาไม่ได้สตินั่นอ่ะนะ ตูทำอารายลงปาายยยยย
"แต่ว่า แค่ครั้งสองครั้งไม่เห็นมันจะต้องมาตกหลุมรักกูเลยนี่หว่า" ผมค้าน
"ไม่ใช่แค่นี้" อะไรไม่ใช่แค่นี้ ยังมีเหตุอะไรอีกเร๊อออ!???
"แต่เรื่องนี้พวกแกคุยกันเองละกัน มันน่าอายเกินกว่าฉันจะกล้าพูดว่ะ" อัยย๊ะมาปล่อยให้อยากแล้วจากไป
"ช่างเหอะแม่ง มึงก็บอกมันละกันว่ามึงไม่ยอมให้มันมารักกูดิวะ"
"ไม่ทันละ ฉันเผลอบอกว่าจริงๆแล้วพวกเราแค่เล่นละครหลอกเรื่องเป็นแฟนกันไปแล้วว่ะ"
'ไอ้เหี้ยเบนซ์~~~~ มึงทำไรไม่ปรึกษากูอีกแล้วนะมึง' ผมได้แต่คิดค้อนในใจ
"แกช่วยตัวเองละกัน ฉันขอโทษจริงๆว่ะ แต่ไงๆ แกก็ว่างอยู่แล้ว ได้แฟนใหม่ก็คราวนี้แหละว้า คริคริ" ดูมัน มันหัวเราะชอบใจ ใครจะไปอยากได้แฟนเป็นผู้ชายวะ
"มึงกลับไปเลยนะมึง" ผมรีบไล่ อยู่แล้วแซวกูจัง อยากให้กูโดยตุ้ยล่ะสิ ฝันไปเถอะ!
"แล้วก็มะรืนพี่โก้กลับไทย ตอนเย็นร้านเดิมนะยะ" ว่าแล้วมันก็รีบชิ่งกลับทันที ผมล่ะอยากจะโกรธแต่ก็โกรธไม่ลง ถ้าแม่งไม่ใช่เพื่อนนะ ต่อยไปแล้ว สักพักชาร์ลก็เดินกลับเข้ามาในห้อง
"ว่าไงครับ จะกลับเลยรึเปล่า?" มันเดินมาแบกกระเป๋าของผมขึ้นบ่า ก็ดีมีคนคอยช่วย ตอนนี้ปล่อยมันไปก่อน เดี๋ยวกลับบ้านแล้วค่อยเช็คบิลมันอีกที
ชาร์ลมาส่งผมที่คอนโด พอวางของเสร็จก็ได้เวลาคิดบัญชีแล้ว ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ จับคอเสื้อกระชากขึ้น
"บอกไว้ก่อนนะ ผมชอบผู้หญิง ไม่เอาผู้ชาย เพราะฉะนั้นมาทางไหนช่วยถีบหัวตัวเองส่งกลับไปทางนั้นเลย"
"โห ขอบคุณสักคำก็ไม่มี" ฟังที่พูดบ้างไหมเนี่ย
"เออๆ ขอบคุณ พอใจแล้วก็กลับไปซะ" ผมสะบัดมือไล่ แต่มันไม่ยอมกลับไปสักที ยืนท้าวคางนิ่งมองไปรอบๆ ห้องผม แม่ง ไอ้ดื้อด้าน ไอ้หมาบ้า อยากมองก็มองไป ผมทำทีไม่สนใจมัน เดินเข้าไปห้องน้ำทันที ใช้เวลาพักใหญ่เพราะแขนข้างถนัดหัก กว่าจะปดซิบกางเกงได้ล่อไปหลายนาที พอเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องตกใจ สภาพห้องจากที่เละๆ กองเสื้อผ้าวางระเกะระกะ แก้วน้ำจานชามที่ดองไว้ อุปกรณ์วาดเขียนที่เคยกลิ้งไปมาบนพื้น ทุกอย่างอันตธานหายไป ไม่ใช่สิ มันเป็นระเบียบขึ้นต่างหาก เสื้อผ้าที่ใส่แล้วอยู่ในตะกร้าเรียบร้อย แก้วชามถูกล้างจนหมด อุปกรณ์เครื่องเขียนถึงจะมั่วๆ กันอยู่แต่ก็เป็นระเบียบอยู่บนโต๊ะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!?? มีนางฟ้าใจดีมาช่วยทำความสะอาดบ้านเหรอออออ
"ค่อยดูเป็นห้องขึ้นมาหน่อย" เสียงชาร์ลดังแว่วมาจากทางระเบียงห้อง ไอ้คนช่างตื้อมันยังไม่กลับ แถมทำความสะอาดห้องให้อีกต่างหาก จะทำตัวหล่อไปไหนมึงงงงง
"อุตส่าห์จัดเก็บบ้านให้ แบบนี้น่าจะเลี้ยงชา กาแฟสักแก้วนะครับ" แม่ง ผมไปไม่เป็นเลยทีเดียวคราวนี้ ยกแขนข้างที่หักขึ้นเล็กน้อย ชาร์ลยิ้มน้อยๆ มาให้ รอยยิ้มหล่อๆ อีกแล้ว โอ้ย เหมือนมีอะไรปักฉึกลงกลางอก ใจเต้นแปลกๆ ผมสะบัดความคิดบ้าๆ ทิ้ง
"งั้นผมไม่เกรงใจนะ ถือว่าเจ้าของห้องอนุญาตแล้ว" มันพูดแล้วเดินไปหยิบแก้ว มองหากาแฟ แต่ขอโทษผมไม่ดื่ม เลยไม่เคยซื้อเก็บไว้ในห้อง และไม่คิดด้วยว่าจะต้องชงกาแฟมาเสิร์ฟให้ใครในห้องตัวเอง
"มีแต่ชา" ผมว่าแล้วเดินไปหยิบกล่องชาเอิร์ลเกรย์มาวางไว้บนโต๊ะ
"ชาผมก็ชอบ" มันว่าแล้วหยิบกล่องชาไปชงทันที ไม่วายจู้จี้บอกให้ผมไปนั่งรอ เดี๋ยวจะชงไปเผื่อ เอาวะ มีคนทำให้ก็สบายดีเหมือนกันแฮะ แถมอุตส่าห์เก็บห้องให้ด้วย ดีเหมือนกัน ไม่นานนักชาสองแก้วก็มาวางอยู่ตรงหน้าผม ของผมแก้ว ของชาร์ลแก้ว
"ดื่มให้เสร็จๆ แล้วกลับไปเลยนะ..... อึก!" ผมว่าแต่พอดื่มชาคำแรกก็ต้องแปลกใจ เฮ้ย! ทำไมรสชาติมันกลมกล่อมอย่างนี้ ชาก็ตัวเดิม มันทำได้ไงเนี่ย!?
"ผมชงอร่อยใช่ไหม พรุ่งนี้ผมจะมาชงให้อีก ทำใจไว้เลย" มันดื่มเสร็จพอดี วางแก้วลงก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ตัวผม โดยที่ผมไม่ทันตั้งตัวมันเล่นจูบลงบนแก้มผมเบาๆ ผมตกใจเกือบทำแก้วตก มันคว้าไว้ทัน วางบนโต๊ะให้ ก่อนจับมือผมไปจูบ ผมรีบสะบัดแทนไม่ทัน ยี้~~~
"เหี้ยยย ทำบ้าอะไรของแกวะ!!??" ผมรีบลุกขึ้นแต่โดนกดไหล่ไว้ก่อน
"อย่าพูดคำหยาบสิครับ มัดจำไว้ก่อน ถึงคุณจะยังไม่ชอบผม แต่เดี๋ยวก็ชอบ อีกอย่างผมยังไม่บอกเหตุผลที่ผมตกหลุมรักคุณเลย คุณก็รู้ใช่ไหมว่าผมช่างตื้อขนาดไหน ฮะฮะ" มันหัวเราะร่า ก่อนจะรีบหนีไปที่หน้าประตูซะก่อน ผมอยากจะชกมันสักเปรี้ยงจริงๆ แต่แขนไม่อำนวยขยับตัวก็ลำบาก
"พรุ่งนี้ผมจะใหม่" ว่าแล้วมันก็เปิดประตูออกไป
"ไม่ต้องมาอีกเลยไอ้หมาบ้า!!!!!" ผมได้แต่ตะโกนด่าไล่หลังมันไปอย่างร้อนรน มือข้างซ้ายยกขึ้นมาเช็ดที่แก้มแรงๆ ไอ้หัวใจบ้านี่ก็เต้นจัง ยังกับจะหลุดออกมานอกตัวผมซะตอนนี้ เป็นอะไรของผมเนี่ย.... หวั่นไหว? ไม่มั้ง..... โอ้ย ขี้เกียจคิดแล้ว...
----------------------------------
ผิดพลาดตรงไหนบอกด้วยนะคะ ^^
ตอนนี้จบไวนิดนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน น่ารักมากอ่ะ ตาอาร์ทที่จะโดนชาร์ลตามติดบ้างแล้วสินะ 555
-
:m1: :m1:
-
สนุกอ่า น่ารักมากๆเลยอาร์ท ชาร์ลก็ด้วย :-[
รอตอนต่อไปนะ
:bye2:
-
อ๊ากกกกก และแล้วชาร์ลก็เปลี่ยนเป้าหมาย อิอิ
ชอบอ่ะชาร์ลเป็นคนที่ตรงไปตรงมามาก 55555
เตรียมรับศึกหนักได้เลยนายอาร์ทเพราะคุณชาร์ลจอมตื้ออยู่แล้ว
-
:hao6: เอาอีกๆชอบอ่ะ
-
เปลี่ยนเป้าหมาย !! น่ารักจริงๆทั้งสองคนนี้
ตรงมากค่ะ กล้ายอมรับตรงๆ แต่ตรงไปหรือเปล่าค่ะ!!!
-
ชาร์ลรู้ตัวเร็วนะเนี่ย
รุกให้เต็มที่เลยเชียร์ค่า o13
-
ตอนที่ 7 : วันที่ 6 ตกหลุมรักอีกครั้ง
"อาร์ท มีของแค่นี้เหรอ?" เสียงไอ้คุณชาร์ลมันครับ วันนี้มันมาตามที่มันพูดไว้จริงๆ แถมมาถึงก็เรียกชื่อผมซะสนิทเลย มันบอกว่าจะได้ไม่ดูห่างเหิน ถุย ไม่เพียงเท่านี้นะครับ ยังคอยมาจู้จี้จับผมโกนหนวดโกนเคราจนเกลี้ยงเกลาเลย T^T ผมก็ยังเซ็ตให้ซะดูหล่อ อันนี้โอเครับได้ แต่ที่รับไม่ได้นี่สิครับ มันเล่นทำความสะอาดบ้านผมจนสะอาด ตกลงมึงเป็นเมียกูรึไงเนี่ย มีหน้ามาบอกอีกว่า ถึงมันจะหล่อ รวย นิสัยดี ทำได้ทุกอย่าง (แหวะ) แต่เรื่องเข้าครัวนี่ยังไงก็ไม่เอา ต้องเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ดีเท่านั้น มันพูดงี้มองหน้าผมแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ว่าแต่ทำไมต้องมองมาทางนี้ด้วยวะ ผมเลยบอกมันไปว่า ถ้างั้นคุณก็รีบแต่งเมียสิครับ จะได้มีคนคอยทำอาหารให้ (แล้วจะได้เลิกยุ่งกับกูซะที ประโยคนี้ไม่ได้พูดไปครับ) มันยิ้มเหมือนถูกใจคำพูดผม แล้วตอบกลับมาว่า แต่งแน่ แต่เจ้าตัวจะยอมรึเปล่านี่สิครับ แหม~ มีผู้หญิงสำรองก็ไม่บอก มาตามตื้อผมอยู่ทำไม ชิชะ แอบหงุดหงิดนิดๆ
"หมดแล้วนะครับ ป่ะ ไปกัน" ชาร์ลยกกล่องสุดท้ายที่ใส่งานที่ผมเอามาแก้ที่บ้านออกไปยืนรอหน้าห้อง ผมเดินตามออกไป ก่อนจะปิดประตูล็อคห้องเรียบร้อย วันนี้ผมต้องเข้าออฟฟิตไปดูงานที่ค้างคาอยู่ จะหยุดก็ได้เพราะมีลูกน้องในสังกัดคอยดูให้อยู่ แต่ผมอยากให้งานออกมาดี เพราะต้องส่งงานลูกค้าในอีกสัปดาห์ข้างหน้าแล้ว ชาร์ลมันอาสาจะไปส่งผมที่ทำงานให้ ผมก็ไม่ว่าอะไร ไม่ได้คิดมากอะไรด้วย ดีซะอีกมีคนคอยรับคอยส่งให้ เพราะสภาพผมตอนนี้ดูๆ ไปแล้วเอาตัวเองไม่รอดแหงครับ
"หิวข้าวไหม?" อยู่ๆ ชาร์ลมันก็ถามขึ้นมา
"หิวดิ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยเนี่ย" ผมลูบท้องตัวเองเบาๆ
"ถ้ามีคนเลี้ยงข้าวสักมื้อก็คงจะดี~~~~~" ผมลากเสียงยาวออกแนวออดอ้อน โอ๊ะ มันยิ้มครับ
"หึหึ จะทุกมื้อผมก็เลี้ยงคุณไหว"
"ไหวจริงเร๊อ~ วันแรกที่พาไปเลี้ยงไม่ใช่ว่าจ่ายไปเยอะเหรอคร๊าบบบ?" แหม ต่อให้รวยยังไง เจอแบบนั้นบ่อยๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ
"คนอุตส่าห์ลืมไปแล้ว ยังจะขุดขึ้นมาให้โมโหทำไมครับ จะกินไหมครับคุณอาร์ทข้าวน่ะ" โหย มีงอนด้วยวุ้ย
"โอ๋ๆ อย่างอนน๊า กินสิคร้าบ~~" ผมง้อมันหน่อย เพื่อปากท้องของตัวเอง บวกกับนิสัยผมเป็นงี้อยู่แล้วเลยออกแนวออดอ้อนสุดๆ มึงพลาดแล้วชาร์ล กูขี้อ้อนและกินจุนะมึง
"นี่คุณเป็นคนแบบนี้เองเหรอ?" ชาร์ลขมวดคิ้วนิดๆ
"ทำไม? ไม่ชอบ? นิสัยผมก็เป็นงี้แหละ ไม่ชอบจะเลิกตื้อก็ได้นะ" เลิกดิๆ เลิกเลย กูจะได้เป็นอิสระเสรี~~
"เปล่า" อุ๊ มันปฏิเสธ
"ชอบสิครับ ไม่คิดว่าจะทำตัวได้น่ารักขนาดนี้" .......เหี้ยแล้วไม๊กู ไปเพิ่มดีกรีความชอบมันอีก ทำเอาผมเริ่มรู้สึกเกลียดนิสัยตัวเองสุดๆ แม่ง ไม่น่าอ้อนมันเลย ทำไมเวลาผมอ้อนเจนนี่มันถึงชอบว่าผมจัง รึว่าจริงแล้วเจนนี่มันชอบแต่มันแอ๊บวะ
ผมบอกให้ชาร์ลพาผมไปทานมื้อเช้าที่ร้านใต้บริษัท เพราะมันถูกและอร่อย ผมมองดูนาฬิกาที่มือถือจะสิบโมงแล้ว เข้างานดีกว่า ชาร์ลช่วยขนของขึ้นไปออฟฟิตผมชั้น 11 พอเสร็จก็รีบไล่มันกลับ แต่มันไม่ยอมกลับครับ บอกอยากจะขอดูงานที่ผมทำ ดูไมวะ ผมปลงไล่ก็ไม่ไป เดี๋ยวให้พี่วิลัยมาก่อนเถอะ พี่วิลัยแกไม่ชอบให้พาคนนอกเข้ามาในออฟฟิตครับ คราวก่อนรุ่นน้องในสังกัดผมพาแฟนมันมา พี่วิลัยด่ายับจนมันขยาด แฟนมันด้วย เพราะเจ้แกเล่นด่าทั้งคู่ต่อหน้าประชาชี เอาวะยอมอายสักหน่อย มันจะได้กลับๆ ไป
....
....
....
แต่ไม่เป็นดังคาดครับ!!!! พี่วิลัยแม่งหลงหน้าตา หลงคารมมัน บอกจะดูเท่าไหร่ก็ได้ จะอยู่นานๆ ก็ได้พี่ชอบ เชี่ยแล้วไหมล่ะ แถมมีมาสั่งลูกน้องให้ต้อนรับแขก VIP ดีๆ แปบเดียวมันได้เป็นแขกระดับ VIP เลยเหรอวะ พี่วิลัยแม่งโครตลำเอียงอ่ะ จำไว้เลยพี่...
"ผมอยากเห็นผลงานของคุณอาร์ทจังครับ" ไอ้คุณชาร์ลมันบอกพี่วิลัยว่าอยากดูผลงานผม สงสัยอยู่เฉยๆ แล้วเบื่อล่ะมั้ง
"โอ้ย ได้อยู่แล้วค่ะ คุณชาร์ลขอร้องทั้งที" พี่วิลัยยิ้มหน้าบาน ก่อนจะหันมาสั่งผม
"เฮ้ย ไอ้อาร์ท แกพาคุณชาร์ลไปชมผลงานที่ชั้น 2 ทีสิ" ทีกับผมพูดเสียงแข็งใส่ พี่วิลัยลำเอียงงงงงง ซิกๆ ผมได้แต่ร้องไห้ในใจ
"จริงๆ แล้วพี่อยากพาไปชมเอง แต่พี่ติดภารกิจ เดี๋ยวให้เจ้าของผลงานพาชมแทนละกันนะคะ"
"ได้ครับ ขอบคุณมาก" พอดีมีเสียงเรียกพี่วิลัยมาแต่ไกล ผมแอบเห็นพี่วิลัยหันไปค้อนหน้ามุ่ยใส่
"ไอ้อาร์ทคราวหลังมึงโกนหนวดแล้วแต่งหล่อแบบนี้อีกนะ ในออฟฟิตจะได้กระชุ่มกระชวยบ้าง หน้าตาดีแต่เสือกเก็บไว้ดูคนเดียว" พี่วิลัยแม่งโหด เจ้แกขอตัวกลับไปทำงานก่อน ไม่วายแอบบ่นว่าคนที่เรียกขัดจังหวะ น้องคนนั้นโครตซวยเลยครับเจอพี่วิลัยวีนใส่
"ตามมาดิ" ผมกวักมือเรียก พาชาร์ลลงไปที่ชั้น 2 ทันที บริษัทผมเช่าชั้น 2 ของตึกทั้งชั้นเพื่อใช้แสดงผลงานของบริษัท นอกจากลูกค้าแล้วคนภายนอกทั่วไปก็สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผลงานของผมในชั้นนี้ที่เป็นผลงานของผมเพียวๆ มีแค่ชิ้นเดียว จัดแสดงไว้นอกตัวอาคาร ส่วนที่เป็นระเบียงยื่นออกไป เพราะขนาดใหญ่ไม่สามารถเอาเข้าจัดแสดงภายในตัวอาคารได้ ส่วนงานอื่นๆ ของผมส่วนใหญ่จะเป็นผลงานแบบทีม ซึ่งจะจัดอยู่ภายในอาคาร ผมพาเดินวนหนึ่งรอบก่อนจะพาไปดูผลงานของผมข้างนอก
ชาร์ลเดินช้ามากๆ เพราะมองดูนู้นดูนี่ที่ละนานๆ ผมเห็นจนเบื่อแล้วเลยไม่ค่อยตื่นเต้นสักเท่าไหร่ สักพักก็มาถึงส่วนจัดแสดงภายนอก ผลงานของผมชิ้นนี้จริงๆ เป็นภาคต่อจากผลงานที่อยู่ในห้องนอนของผม จะถือว่ามันเป็นชิ้นเดียวกันก็ได้ เริ่มจากประตูจะมีกระเบื้องหลากสีสรรวิจิตรบรรจงเป็นทางเดินทอดยาว เหมือนอยู่ในโลกแฟนตาซี ระหว่างทางเดินจะมีใบไม้ ดอกไม้ ที่ร่วงหล่นอยู่ ซึ่งทำจากเศษกระเบื้องแตกครับ หากมองขึ้นจากพื้นจะเห็นว่ามันไปบรรจบที่พนังปูน ที่เป็นประติมากรรมภาพทิวทัศน์ที่ตั้งตะหง่ายอยู่เบื้องหน้า ขนาดความกว้างที่ 5 เมตร สูง 7 เมตร ดูเผินๆ เหมือนทางเดินทอดยาวเข้าไปในภาพที่ทำจากเศษกระเบื้องบนฉากตรงหน้า เป็นทางเดินที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ด้านข้างเป็นต้นซากุระ ดอกสีชมพูที่ร่วงโรย และเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อันนี้ผมทำเป็นคนตัวเล็กๆ ที่แอบอยู่หลังต้นซากุระ ทำโครตยากครับขอบอก ต้องทุบกระเบื้อง เจียให้เข้ารูป เศษเล็กเศษน้อยเก็บหมด งานนี้ผมทำร่วมครึ่งปี ที่นานเพราะถ้าไม่มีอารมณ์งานก็ไม่เดินครับ แฮะๆ แต่พอเสร็จผลงานนี้ผมเลิกไม่ทำแนวนี้อีกเลย ทรมารตัวเองครับ เพราะฉะนั้นจึงมีแค่ผลงานนี้ผลงานเดียวที่เป็นแนวประติมากรรมบนผนังครับ
ผมหันไปมองดูชาร์ลก็ต้องตกใจ มันร้องไห้ครับ!! เฮ้ยๆ ทำเอาผมทำตัวไม่ถูกเลย ไม่เคยมีใครเห็นผลงานผมแล้วน้ำตาไหลมาก่อน ส่วนมากดูๆ แล้วก็ถามนู้นถามนี้ ทำไมต้องเป็นเด็กผู้หญิง ใช้กระเบื้องไปกี่ชิ้น ไม่ก็ชมว่าสวยจังเลย อยากได้แบบนี้ในบ้านบ้าง อันนี้ผมไม่รับทำครับ เลยบอกแนวนี้เอาไว้โชว์เฉยๆ ครับ พี่วิลัยก็เลยบ่นเสียดาย แต่ผมบอกว่าไม่ทำก็คือไม่ครับ พี่วิลัยแกก็ปลงๆ ยอมๆ ผมไป เพราะรู้นิสัยกันครับว่าผมแม่งโครตขี้เกียจเป็นสันดาร
"....ร้องไห้ทำไม?"
"ตื้นตันใจ ผลงานนี้เป็นผลงานต่อจากผลงานที่อยู่ในห้องนอนอาร์ทใช่ไหม?" รู้ด้วยแฮะ
"ใช่ สวยอ่ะดิ แต่มีคุณเป็นคนแรกนี่แหละที่เห็นแล้วร้องไห้" ผมควานหาผ้าเช็ดหน้าแต่ไม่มี ปกติก็ไม่พกอยู่แล้วจะควานหาทำไมวะ ผมเลยจับปลายเสื้อเชิ้ตขึ้นเช็ดน้ำตาให้ ชาร์ลสะดุ้งจับแขนผมไว้
"เฮ้ย อะไร? แค่จะเช็ดน้ำตาให้เฉยๆ"
"........" มันเงียบ จู่ๆ มันก็ก้มหน้าลงมาจูบผม ผมอยากจะผลักมันออก แต่แขนข้างที่ว่างอยู่มันอยู่ในมือมันอ่ะ ผมเลยดิ้น มันเห็นว่าผมไม่ยอมเลยปล่อย
"มึง!!" ผมง้างมือจะต่อยแต่มันก็คว้าข้อมือผมไว้อีกรอบ
"โอ้ย! ปล่อยกู! แม่ง! ทำอะไรไม่อายฟ้าดินนะมึง!!" ผมโมโหมาก
"งั้นถ้าในที่ลับก็ทำได้?" ไอ้...!!!
"ไม่ได้โว้ย ทั้งที่ลับและที่แจ้งนั่นแหละ!" ผมเห็นมุมปากชาร์ลกระตุกนิดๆ เหมือนจะไม่ค่อยพอใจ มันคลายมือที่จับมือผมลง แต่ยังไม่ยอมปล่อย
"คุณอยากรู้ไหมทำไมผมถึงร้องไห้?"
"ไม่อยาก"
"แต่ผมอยากบอก..." ไอ้นี่
"จริงๆ แล้วผมตกหลุมรักผลงานของคุณ ตั้งแต่วันที่พาคุณที่เมาไม่รู้เรื่องไปส่งนั่นแหละ ผลงานที่หัวเตียง หัวใจผมพองโต แถมวันนั้นคุณยังจูบผมอีก..." นั่นกูทำไม่ไปไม่รู้ตัวน๊าาาา
"ตอนนั้น ผมไม่คิดว่าคุณจะทำผลงานดีๆ แบบนี้ออกมาได้" อ้าว แขวะกูอีก
"แต่ภาพผลงานนั้นมันตราตรึงอยู่ในใจผมมาก พอคุณจูบผมอีกครั้งที่โรงพยาบาล บอกตามตรง ผมเคลิบเคลิ้มมาก รู้สึกดีสุดๆ แต่ก็มีอีกอารมณ์นึงด้วย .....ผมรู้สึกดีใจ เหมือนเคมีเราเข้ากันได้ดี...." ถึงจุดนี้ผมนิ่งฟังเงียบๆ จริงๆ ผมก็รู้สึกดีนะ จูบกับผู้ชายชวนแหวะก็จริง แต่แอบใจเต้นกับมันนี่ก็ไม่รู้เพราะอะไร
"แค่นั้นก็ทำให้ผมตกหลุมรักคุณเข้าแล้ว พอมาคราวนี้ได้เห็นผลงานเต็มๆ แบบนี้......" คราวนี้ชาร์ลหันมามองผมตรงๆ
"ผมรู้สึกตกหลุมรักคุณเป็นรอบที่ 2 เสียแล้ว..." พูดจบก็ประทับจูบลงมา คราวนี้ผมไม่หนี ไม่ดิ้น ไม่โวยวาย จูบตอบมันไป ลิ้นเราทั้งคู่นัวเนียในปาก ผลัดกันดูดเลียลิ้นแต่ละฝ่ายอย่างหนักหน่วงแต่ไม่รุนแรง ทำเอาผมรู้สึกเคลิบเคลิ้ม จริงๆ ชาร์ลมันจูบเก่งนะ แต่ไม่เท่าผมหรอก ผมตวัดลิ้นรอบปาก กัดริมฝีปากชาร์ลเบาๆ แล้วดูด มันทำให้ผมคืน แต่อ่อนโยนกว่า เราจูบกันต่ออย่างเนิบนาบ โดยมีผลงานของผมเป็นฉากหลัง อย่างกับหนึ่งในฉากหนังยังไงยังงั้น....
"ผมรักคุณครับ อาร์ท...."
---------------------------------
ฮิ้ว~ มาต่อแล้วนะคะ อิอิ
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์เช่นเดิมนะคะ
ตามที่คิดไว้ ชาร์ลเป็นตัวละครที่ตรงไปตรงมาสุดๆ ค่ะ โกหกไม่เป็น เป็นหนุ่มกรุ๊ป A ค่ะ หุหุ
-
โอ้
ก๊อด
เหลืออีก 2 ตอน
เฮ้ยยยยยยยย จะทันมั้ยย
:hao7: :hao7: :hao7:
-
อาร์ตชอบชาร์ลแล้วใช่ไหมนะนั่น
-
แปปเดียวจูบไปกันไปกี่รอบแล้วนั่น
-
อ่านรวดเดียวเลย :hao7:
ชอบอ่ะ อ่านแล้วยิ้ม รอตอนต่อไปด้วยคนนะคะ :L2: :L2: :L2:
-
comming soon
CT 7
:m9: :m9: :m9:
-
ตอนที่ 8 : วันที่ 7 ความในใจ (ครึ่งแรก)
เมื่อวานนี้ผมขอปั้มกุญแจสำรองห้องอาร์ทเอาไว้ ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมครับ แต่พอผมบอกว่าจะเข้ามาช่วยทำความสะอาดห้องให้ แขนก็ยังไม่หายดีทำอะไรก็คงจะลำบาก จะคอยช่วยนู้นดูแลนั่นให้ กล่อมอยู่นานกว่าจะยอม แฮะๆ ในที่สุดผมก็ได้กุญแจสำรองมาจนได้ ถึงจะออกแนวแกมบังคับนิดหน่อยก็เถอะ แต่ผมเป็นห่วงจริงๆ นะครับ อยากจะมาอยู่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ วันนี้ผมกะจะแอบเซอร์ไพรส์เค้าซะหน่อย เมื่อวานสารภาพรัก แต่อาร์ทยังไม่ตอบอะไร เราหยุดอยู่ที่แค่จูบ แต่วันนี้ผมจะขอเค้าแต่งงาน!!! อ่ะ มันจะเร็วเกินไปไหมครับ? ผมอยากทำให้เค้าเป็นของผมเร็วๆ แต่ก็กลัวว่าถ้าขืนบอกไปว่าขอแต่งงาน เป้าหมายคงได้เผ่นหนีไปเสียก่อน งั้นวันนี้จะขอแค่เป็นแฟนละกัน คืนนี้รอดูเซอร์ไพรส์สุดพิเศษจากผมได้เลย
ผมไขประตูห้องอาร์ทเข้าไป ข้างในเงียบไร้วี่แววคนอยู่ สงสัยจะไปทำงาน เห็นเมื่อวานบ่นว่าเพราะผมงานเลยไม่เดิน ผมล่ะสงสัยจริงๆ ว่ามันเป็นเพราะผมตรงไหน ผมเดินไปวางของบนโต๊ะ วันนี้ก่อนเข้ามาผมแวะซุปเปอร์เลือกซื้ออาหารแช่แข็งเข้ามา ไอ้ครั้นจะพาอาร์ทไปทานข้าวข้างนอกทุกวันก็ไม่ไหว เปลืองครับ จะให้ผมลงมือทำก็ไม่เป็นอยู่ดี ไม่ใช่ว่าผมรวยแล้วงกนะครับ แต่เราต้องรู้จักใช้เงินให้เป็นครับ จริงๆแล้วเพราะเดือนนี้งบค่าใช้จ่ายผมบานปลายไปเยอะ แม้เงินเดือนจะหลักแสน หากใช้จ่ายแบบนี้สักวันจะไม่มีเงินเก็บกันพอดีครับ ผมต้องคิดถึงอนาคตของสองเรา ฮึฮึ
บนโต๊ะอาร์ทเขียนโน๊ตทิ้งไว้ ข้อความมีดังนี้
[ไม่อยู่ไปประชุมเช้า
ไม่ต้องไปรับไปส่ง
จะไปไหนก็ไป
และ ห้ามรอ!!!!!]
หมายความว่าไงว่าห้ามรอ เหมือนมีเลศนัย ผมวางกระดาษโน๊ตคืนที่เดิม เก็บของใส่ตู้เย็น ทำความสะอาดห้อง เก็บของที่อาร์ทโยนทิ้งไว้เข้าที่ เอาเสื้อผ้าในตะกร้าไปส่งซัก เห็นไหมครับผมเป็นสามีที่ดีขนาดไหน (ไม่ทันไรก็เรียกตัวเองว่าสามีซะแล้ว) ผมมองที่กระดาษโน๊ตบนโต๊ะอีกครั้ง ยังไงวันนี้ก็จะทำเซอร์ไพรส์ให้ได้ ผมเตรียมของมาเรียบร้อยแล้วแต่อยู่บนรถ รีบจัดการให้เสร็จก่อนดีกว่า... จากนั้นค่อยไปหาคุณเจนนี่ อ่ะๆ ไม่ใช่ว่าจะนอกใจนะครับ ผมจะไปคุยเรื่องทัวร์ไปยุโรปน่ะครับ คุณแม่ผมท่านเลือกรูปแบบการท่องเที่ยวได้แล้ว จึงให้ผมมาจัดการ ในช่วงที่พวกท่านยังอยู่ไทย ผมก็ยังโดดงานได้อยู่ แต่ไม่ได้เข้าบริษัทมาหลายวันแล้วไม่รู้เป็นยังไงบ้าง เมื่อเช้าชาลีก็บ่นว่างานยุ่งมาก แต่ไม่เป็นไรมันเอาอยู่ ผมรู้สึกขอบคุณมันมาก ถ้าไม่ได้ชาลีผมคงโดดงานมาตามหาความรักแบบนี้ไม่ได้ คิดอะไรเพลินๆ สิ่งที่กำลังทำอยู่ก็เสร็จพอดี
ผมขับรถไปหาคุณเจนนี่ที่บริษัท
"สวัสดีครับคุณเจนนี่" ผมเดินเข้าไปทักคุณเจนนี่ใกล้ๆ
"สวัสดีค่ะคุณชาร์ล วันนี้มีอะไรให้เจนนี่ช่วยคะ?"
"ผมมาตกลงเรื่องทัวร์ที่คุยกันไว้ก่อนหน้าครับ สรุปแล้วผมเลือกแบบที่ 3 นะครับ"
"แหม คุณชาร์ลไม่เห็นต้องลำบากมาเองเลยค่ะ เดี๋ยวเชิญคุณชาร์ลนั่งรอที่ส่วนรับรองก่อนนะคะ" คุณเจนนี่ผายมือไปทางส่วนรับรองด้านใน ผมยิ้มแล้วเดินไปนั่งรอ สักพักคุณเจนนี่ก็ยกกาแฟมาเสิร์ฟ
"เจนนี่รับเรื่องไว้ให้แล้วนะคะคุณชาร์ล พรุ่งนี้ทางผู้รับผิดชอบเรื่องทัวร์ของคุณชาร์ลจะโทรไปคุยรายละเอียดอีกทีนึงนะคะ ส่วนค่าใช้จ่ายคุณชาร์ลจะชำระเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตคะ?"
"บัตรเครดิตครับ"
"คุณชาร์ลสามารถชำระได้ภายใน 15 วันนี้ค่ะ"
"ผมชำระเลยครับ" ผมยื่นบัตรเครดิตให้คุณเจนนี่ คุณเจนนี่หายไปสักพักก็กลับมา ผมมาจองแล้วจ่ายเลยครับ ไม่เล่นตัวอยู่แล้ว
"คุณชาร์ลคะ เย็นนี้แฟนตัวจริงของเจนนี่กลับมาไทย พวกเราเลยนัดดินเนอร์กัน อาร์ทก็มาด้วย คุณชาร์ลจะรังเกียจไหมหากเจนนี่จะขอเชิญคุณชาร์ลด้วยอีกคนค่ะ" คุณเจนนี่พูดเพราะมาก เพราะแบบนี้ผมถึงได้ตกหลุมรัก แต่ตอนนี้ความรู้สึกดีๆ ยังมีอยู่ แต่ไม่ใจเต้นเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะใจผมตอนนี้ถูกอาร์ทช่วงชิงไปหมดทั้งดวง
"ได้สิครับ ผมยินดีเป็นอย่างยิ่ง" คุณเจนนี่ยิ้มรับ
"คุณชาร์ลคะ เจนนี่ขอพูดอะไรกับคุณชาร์ลอีกสักเรื่อง...." สายตาคุณเจนนี่ดูขึงขังขึ้นมาทันที
"เจนนี่คบกับอาร์ทมาตั้งแต่สมัยเด็ก รู้ทุกเรื่องของอาร์ท เคยมีแฟนกี่คน อกหักกี่ครั้ง โดนทิ้งกี่หน เจนนี่รู้หมด เพราะฉะนั้นเจนนี่อยากจะถามคุณชาร์ลเพื่อความสบายใจของเจนนี่เอง"
"อาร์ทเค้าชอบแต่ผู้หญิง เคยคบแต่ผู้หญิง ความรักแบบเพศเดียวกัน สำหรับอาร์ทก็เหมือนเด็กอนุบาล ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ความเจ็บปวดที่คนอื่นจะมองเราเป็นแบบไหนมันก็ไม่เคยเจอ ความกังวลต่างๆ นาๆ อีกล่ะ การคบกับผู้ชายด้วยกันเป็นเรื่องที่สังคมยังไม่ยอมรับ มันไม่ง่ายที่จะสานสัมพันธ์ความรักระหว่างกัน หากทั้งสองฝ่ายไม่ร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรค ทั้งจากครอบครัว คนรอบข้าง สังคม เจนนี่ไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง สำหรับคุณชาร์ลมันง่ายที่รัก แต่ถ้าครอบครัวคุณชาร์ลไม่ชอบอาร์ท รังเกียจอาร์ท คนรอบข้างคุณชาร์ลอีก ถึงเวลานั้นเจนนี่กลัวเหลือเกินว่าอาร์ทจะต้องแหลกสลาย เจนนี่ไม่อยากจินตนาการ...." ผมนิ่งฟังเงียบๆ ผมเข้าใจความรู้สึกคุณเจนนี่นะครับ เข้าใจอย่างสุดซึ้ง ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยคิดเรื่องนี้ ผมคิดตั้งแต่ที่ตกหลุมรักคุณเจนนี่แล้ว คุณเจนนี่ถอนหายใจแล้วพูดต่อ
"วันนี้คุณชาร์ลอาจบอกว่ารักอาร์ท แต่อนาคตล่ะคะ? คุณชาร์ลตัดใจจากเจนนี่ได้ภายในไม่กี่วัน แล้วคุณชาร์ลจะไม่ตัดใจจากอาร์ทได้เร็วแบบนี้บ้างเหรอ? เจนนี่รู้ว่าเจนนี่คิดแง่ลบเกินไป แต่มันคือเรื่องจริง มันหลีกหนีไม่พ้น เจนนี่ไม่อยากให้อาร์ทเจ็บ ถ้าคุณชาร์ลไม่คิดจะจริงจังอะไรกับความสัมพันธ์นี้ หรือไม่มั่นใจว่าจะสามารถรักอาร์ทได้ตลอดไป ดูแลอาร์ทได้ทุกครั้งที่อาร์ทต้องการคุณชาร์ลแล้วล่ะก็ …คุณชาร์ลก็ควรจะเดินออกไปจากชีวิตอาร์ทเค้าเสียดีกว่า...." ทุกคำพูดที่คุณเจนนี่พูดตราตรึงในหัวใจผม มันถูกบันทึกลงในสมองผมทันที ผมยิ้มน้อยๆ กุมมือคุณเจนนี่ไว้
"ผมเตรียมใจเรื่องนี้มานานแล้วครับ ตั้งแต่ที่ผมตกหลุมรักคุณเจนนี่ แต่ผมก็เข้าใจว่าคุณเจนนี่กังวลและเป็นห่วงอาร์ทมากขนาดไหน ทั้งชีวิตผม ผมเคยมีรักแรกที่แสนเจ็บปวด ผมปิดกั้นตัวเองไว้ในส่วนลึกของจิตใจ ปิดผนึกความรัก และไม่คิดจะรับความรักจากใคร มีผู้หญิงมากมายที่อยากรักผม แต่ไม่เคยมีใครสามารถเปิดใจผมได้ จนกระทั่งผมเจอคุณเจนนี่ เหมือนประตูหัวใจผมถูกคุณเจนนี่เปิดอีกครั้ง ผมดีใจมาก และเคยคิดว่านี่จะเป็นรักครั้งสุดท้ายสำหรับผม..."
"แต่ว่า...พอผมได้เจอกับอาร์ท หัวใจที่ผมปิดผนึกไว้ข้างในลึกลงไปยากจะหยั่ง อยู่ในกล่องแพนโดร่าที่เก็บซ่อนเอาไว้ กุญแจที่ไขกล่องแพนโดร่าที่ผมโยนทิ้งไปเมื่อนานมาแล้ว มันไม่ได้อยู่ที่คุณเจนนี่อย่างที่ผมคิด คุณเจนนี่แค่เป็นคนเดินเข้ามาเปิดประตูที่กั้นความรักของผม คุณเจนนี่แค่เป็นสะพานคอยเชื่อมโยงเจ้าของหัวใจตัวจริง ผู้ที่มีกุญแจที่สามารถไขหัวใจที่เย็นชาดวงนี้ กุญแจที่ผมควานหาไปทั่วก็ไม่เจอ มันกลับไปอยู่ในมือของอาร์ท.... และเขาก็ใช้มันไขเปิดกล่องแพนโดร่าของผม โดยไม่ได้ตั้งใจ ความชั่วร้ายในใจลึกๆ ที่แสวงหาคนคนเดียวที่จะสามารถหยุดมันลง คนคนเดียวที่ผมจะหยุดอยู่กับเขา ก้าวไปพร้อมกับเขา ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน ตอนนี้ผมหาพบแล้ว" ตอนนี้คุณเจนนี้น้ำตาไหล ผมยิ้ม ผมรู้สึกอบอุ่นใจหัวใจจริงๆ
"ผมจะไม่ยอมให้อุปสรรคใดๆ มาพรากเราจากกัน ไม่ว่าจะครอบครัว คนรอบข้าง หรือสังคม พวกเขาจะพรากคนที่ผมรักไปจากผมไม่ได้ คุณเจนนี่ก็รู้ว่าผมช่างตื้อขนาดไหน" คุณเจนนี่หลุดหัวเราะออกมานิดนึง
"และผมก็รู้ว่ากุญแจอีกดอกในมือผมนี้จะต้องไขเปิดหัวใจของเค้าได้เช่นกัน...."
------------------------------------------
ตรงส่วนไหนผิดช่วยแจ้งด้วยนะคะ ^^
สำหรับวันที่ 7 ยังไม่จบนะคะ วันนี้ร่ายยาวค่ะ 555+
ตอนนี้เป็นส่วนของคุณชาร์ลเค้าค่ะ ปล่อยเค้าเวิ่นเว้อไปก่อน
ส่วนครึ่งหลังจะพยายามปั่นตามมาค่ะ :katai4:
-
รักไม่ต้องการเวลา
งิมๆๆ
http://www.youtube.com/watch?v=YFOQOuyjU5Q
-
ชาร์ลรุกน่าดู
-
ชาร์ลสู้ๆ :hao7:
-
คิดเหมือนเจนนี่นะ คำพูดหรู ๆ ใครก็พูดได้แต่การกระทำนี่สิงานนี้ต้องให้อาร์ทดูยาว ๆ
-
คุณชาร์ลน่ารักจัง :mew2:
-
ซึ้งใจจริงๆ ไม่คิดว่า คำว่าตกหลุมรักจะเป็นแบบนี้
อธิบายมาได้ยิ่งใหญ่มากๆ น่ารักจริงๆ ^^
ขอบคุณที่แต่งนิยายออกมากค่ะ จะติดตามอยู่เรื่อยๆระค่ะ
-
ชาร์ลลลลลลลลลลล....นายมัน...........นายมัน........
เยี่ยมที่สุด
o13 o13
-
ตอนที่ 9 : วันที่ 7 ความใน (ครึ่งหลัง)
หงุดหงิดครับ เพราะเมื่อวานไม่เป็นอันทำงานเลย หลังจากพาชาร์ลชมผลงานเสร็จแล้ว ผมก็ไล่ให้กลับไป เขาก็ยอมกลับไปโดยดี แต่พอผมต้องกลับไปทำงาน ไม่รู้ทำไมถึงต้องนึกถึงหน้าชาร์ลมันตลอด ถึงขั้นทำงานผิดพลาด โดนพี่วิลัยไล่กลับไปทำหัวให้เย็น วันนี้ผมเลยต้องมาเข้าประชุมแต่เช้า เหลืองานแค่ช่วงท้ายก่อนส่งมอบเท่านั้น เซ็งจริงๆ บอกไว้ก่อนเลยนะครับ ผมยังไม่ได้ตอบรับความรักของมัน ก็บอกแล้วว่าผมชอบผู้หญิง ผมไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้ผมจะต้องลงเอยกับผู้ชายด้วยกัน แต่กับชาร์ล.. ไม่รู้สิ ความรู้สึกมันแปลกๆ ผมยังอยากได้เวลามากกว่านี้ คิดทบทวนหลายๆ สิ่ง ว่าจริงๆ แล้วในใจลึกผมรู้สึกยังไงกันแน่ โอ้ย!!! ผมเกาหัวตัวเองแรงๆ นี่ผมคิดมากถึงขนาดนี้เลยนะ ไม่เคยคิดอะไรเยอะเท่านี้มากก่อน นอกจากเรื่องงาน รู้สึกในใจมันหน่วงๆ ยังไม่ก็รู้ อึดอัด อยากระบาย หงุดหงิดไปซะทุกอย่าง..... ถ้าต้องเจอหน้าชาร์ลตอนนี้ ผมเองก็ไม่รู้จะมองหน้าชาร์ลยังไงดี......
ตอนสายเจนนี่โทรเตือนเรื่องที่นัดทานมื้อค่ำด้วยกัน เพราะพี่โก้แฟนมันกลับมาไทยวันนี้ เครื่องลงช่วงบ่าย ตอนเย็นไปเมาต่อ มันไม่คิดจะให้พี่โก้มันได้พักเหนื่อยบ้างเลยรึไง นัดเวลากันไว้ 2 ทุ่ม ร้านเดิม ผมว่าจะกลับคอนโดเปลี่ยนชุดก่อนไปสักหน่อย แต่ดันติดงานเร่งด่วนต้องตามแก้ ลูกน้องแม่งก็หาเรื่องให้ผมอีก ปาไปทุ่มนึงงานถึงได้เสร็จ ไม่มีเวลากลับบ้านเปลี่ยนองค์ทรงเครื่อง เอาวะไปมันทั้งชุดอย่างนี้เลยละกัน
1 ชั่วโมงครึ่ง กว่าผมจะไปถึงร้านเพราะร้านแม่งดันเสือกอยู่คนละทิศกับที่ทำงาน รถก็ติด ร้านที่นัดกันออกแนวคันทรี่สุดๆ มีนอกชานให้นั่งกินเหล้าดูบอล ต้นไม้ครึ้มๆ เย็นสบาย มีสระน้ำที่เลี้ยงปลาแบบเป็นคลองยาวๆ อ่ะครับ ปลาคาร์พตัวใหญ่มาก เคยเกือบตายยกบ่อไปรอบ เพราะลูกค้าเมาแล้วเทเหล้าลงน้ำ อ้วกด้วย โครตน่าสงสารเจ้าของร้านสุดๆอ่ะตอนนั้น เสียอย่างเดียว ยุ่งโครตเยอะ ทางถึงต้องเตรียมสเปรย์กันยุงไว้ประจำทุกโต๊ะกันเลยทีเดียว
"อยู่ไหนมึง? โต๊ะเดิมเปล่า" ผมกดโทรหาเจนนี่ทันที
[ช้านะแก เข้ามาเลย โต๊ะเดิม] เจนนี่พูดแล้วตัดสายทันที ผมเดินเข้าไปยังส่วนที่เป็นที่นั่งด้านนอกใกล้น้ำตก โต๊ะตัวเดิมที่มาทุกครั้งก็ได้นั่งโต๊ะนั้นทุกครั้ง แต่ครั้งนี้กลับมีอีกคนหนึ่งนั่ง ผู้ชายผมสีแดง...
"เฮ้ย! ทำไมชาร์ลถึงมาด้วย?" ชาร์ลหันมามองยิ้มๆ ก่อนตบเก้าอี้ ปุบ ปุบ ให้นั่งลงข้างกัน
"หวัดดีครับพี่โก้" ผมยกมือไหว้พี่โก้ แล้วนั่งลงข้างๆ ชาร์ล
"เออ ดีๆ ไม่ต้องมากพิธี ไงมึง แขนหักเมื่อไหร่จะหาย?" พี่โก้ถามมองแขนในเฝือกของผม
"เป็นเดือนเลยเฮีย" ผมชอบเรียกพี่โก้ว่าเฮีย มันดูหนิดหนมกันดี เหมือนพี่เหมือนน้อง
"เออๆ แดกเหล้าได้ใช่มะ? ไม่เมาไม่เลิกเหมือนเดิมป่ะ?" พี่โก้แมร่งโครตหล่ออ่ะครับ ไม่เจอหน้าหลายวันรู้สึกหล่อขึ้น ผมสั้นรองทรงไถข้างเหมือนเดิม
"ได้เฮีย ผมชงให้ ว่าแต่ ไมเฮียหน้าใสขึ้นวะ?"
"กูหล่ออ่ะดิ นี่เลยมึงของฝาก ดูแลหนังหน้ามึงด้วย แม่งโครตโทรม" ว่าแล้วพี่โก้ก็ยกถุงที่วางไว้ข้างโต๊ะขึ้นมายื่นให้ผม ผมเปิดดูในถุงเป็นโลชั่นบำรุงผิว 3 กระปุกใหญ่ๆ
"ไรเนี่ยเฮีย?"
"มึงใช้เลย ใช้แล้วหน้าจะได้ใสเหมือนกู กูซื้อมาฝากมึงโดยเฉพาะ" พี่โก้ยื่นมือมาขยี้หัวผมเล่น ทำเหมือนผมเป็นเด็กๆ อีกละ
"ส่วนของเจนนี่ครบเซ็ตนะครับ อยู่บ้านเรานะครับ" พี่โก้หันไปยิ้มให้เจนนี่หวานๆ คู่นี้รักกันดีจริง หยอกกันทีล่ะผมอายแทน
"ขอบคุณครับเฮีย ผมไม่ค่อยมีเวลาดูแลอยู่ ไม่รู้จะใช้หมดนี่เมื่อไหร่นะครับ"
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมช่วยทาให้" ชาร์ลรีบเสนอหน้า พี่โก้แม่งก็หัวเราะเว่อ
"เออดี ให้แฟนมึงช่วยทานะ"
"เฮ้ย! ไม่ใช่แฟน! ใครบอกเฮียวะ?" ผมหันไปค้อนใส่เจนนี่ มันส่ายหัวแล้วชี้ไปทางชาร์ล
"อ้าว ก็ชาร์ลแนะนำตัวกับกู บอกว่าเค้าเป็นแฟนมึงเนี่ย เฮ้ย ตกลงนี่ยังไง กูรึอุตส่าห์ดีใจ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องมึงกับเจนนี่อีก" ผมส่ายหน้าไม่รู้เรื่องด้วยเลย หันไปจ้องหน้าชาร์ลเขม็ง
"ไม่ต้องจ้องขนาดนั้นก็ได้ครับ ผมไม่หายไปไหนหรอก" ดูมันพูด กรอด....
"ตกลงว่าไงวะ มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน?" พี่โก้ยังไม่เลิก คะยั้นคะยอถามต่อ
"ไม่ใช่อะไรทั้งนั้นแหละครับ"
"อีกเดี่ยวก็จะใช่แฟนแล้วล่ะครับ" สิ้นคำพี่โก้หัวเราะร่าเลยครับ
"เออๆ จับมันให้อยู่นะครับน้องชาร์ล พี่ฝากมันด้วย" พี่โก้รับมันเป็นน้องตอนไหนวะ เร็วชิบ ผมนิ่งเงียบขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงเดี๋ยวไม่จบ ชงเหล้ายื่นให้พี่โก้ทันที รีบๆ เมาเลยแม่ง จะได้รีบลืม เจนนี่รู้ตัวนั่งเงียบเลยนะมึง ดีขืนมันพูดแซวอีกคนผมได้ลุกหนีแน่
ไม่นานพี่โก้เริ่มเมาได้ที่ พูดไม่เป็นภาษาแล้วครับ เจอทั้งเหล้าทั้งเบียร์ มันแพ้ทางครับ มันดื่มได้แต่เหล้า ถ้าเอาเบียร์ด้วยมันเมาไม่รู้เรื่องเลย ผมแอบผสมเบียร์ทีละนิดๆ ลงไปตอนชงเหล้าให้เองครับ แกล้งมันครับ เจนนี่หันมาค้อนใส่ผม มันรู้แต่ไม่ห้ามแฟนมันดื่มเอง ช่วยไม่ได้
"ไอ้อาร์ท..... มึงมองหน้าเมียกูทามมาย...เอิ๊ก!"
"กูเปล่า"
"เหี้ยเหอะ กูเห็นอยู่ ว่าแต่ไมมึงมีหลายคนจังวะ...."
"พี่โก้เลิกดื่มได้แล้ว เมาไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย ป่ะกลับๆ" เจนนี่พยุงพี่โก้ให้นั่งดีๆ เพราะหน้ามันจะติดโต๊ะอยู่แล้ว
"พี่มายมาว... เจนนี่รักพี่ไหมครับ? ....จูบพี่หน่อย" ตลอด เมาแล้วจูบอ่ะคนนี้ เจนนี่ตบหน้าผากพี่โก้ไปที
"พอเลยๆ น้องๆ เช็คบิล" มันค้นกระเป๋าพี่โก้เอากระเป๋าตังค์ออกมา ชาร์ลเห็นรีบแย้งทันที
"ไม่เป็นครับ ผมเลี้ยงเอง" มันยิ้มๆ
"ไม่ได้ค่ะ เจนนี่เป็นคนนัด เจนนี่ก็ต้องเลี้ยงสิคะ อีกอย่างคุณชาร์ลก็เลี้ยงมาหลายรอบแล้ว มื้อนี้ให้เจนนี่เลี้ยงบ้างนะคะ" ได้ข่าวว่าเงินพี่โก้นะมึง
"งั้นก็ขอบคุณนะครับที่เลี้ยง"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี่ยวจ่ายเงินเสร็จเจนนี่ขอกลับเลยนะคะ พี่โก้เมาไม่รู้เรื่องแล้ว ส่วนคุณชาร์ลกับอาร์ทจะไปต่อก็เชิญตามสบายนะคะ"
"คุณโก้เมาขนาดนี้ ให้ผมช่วยไปส่งไหมครับ?" ชาร์ลอาสา
"ไม่เป็นไรคะ เจนนี่จัดการไหว" ว่าแล้วเจนนี่ก็หิ้วปีกพี่โก้ทันที จริงๆ มันแรงควายครับ แต่แม่งแอ๊บตลอดว่าอ่อนแอ แข็งแรงกว่าผมอีก พอเคลียบิลเสร็จพวกเราก็แยกย้ายกันกลับ เจนนี่ขับรถพาพี่โก้กลับบ้าน พี่โก้หลับไม่รู้เรื่องไปแล้วครับ ผมเองก็เดินไปหน้าร้าน จะโบกแท็กซี่กลับซะหน่อย แต่ถูกชาร์ลดึงแขนไว้เสียก่อน
"อะไร? ผมจะกลับบ้าน คุณจะไปต่อก็ไปดิ"
"ผมก็จะกลับ ผมไปส่งนะครับ" ยังไม่ทันอนุญาตมันก็ลากผมไปขึ้นรถทันที เอาวะ ดีไม่เปลืองค่าแท็กซี่
พอมาถึงคอนโด ชาร์ลเอารถไปจดที่ลานจอดรถใต้ตึก
"อ้าว ไม่กลับบ้านล่ะ?" ผมถาม
"ยังก่อนครับ ป่ะขึ้นห้องกัน" ไรวะแปลกๆ ไม่ไหวเริ่มง่วงครับ เลยเดินตามมันขึ้นห้องโดยดี ผมไขกุญแจห้อง เปิดไฟ ก็ต้องตกใจ เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้นกับห้องผมเนี่ย!!!
ห้องสะอาดเป็นสัดส่วน แต่ไม่ใช่เรื่องนั้นที่ผมตกใจ ผมตกใจลูกโป่งที่ลอยติดอยู่บนเพดาน กลีบดอกกุหลาบเป็นทางยาวไปถึงโต๊ะสูงตรงกลางห้อง รอบข้างเป็นช่อกุหลาบหลายช่อมาก บนโต๊ะมีกล่องสีแดงเล็กๆ วางอยู่
ชาร์ลดึงมือผมพาเดินไปจนถึงโต๊ะสูง หยิบกล่องสีแดงนั่นเปิดออก ข้างในเป็นแหวนเงินเรียบๆ ธรรมดา แต่ท่าทางแพงน่าดู เขาคุกเข่ายื่นกล่องแหวนมาตรงหน้าผม
"อาร์ทครับ .... เป็นแฟนกับผมนะ"
"........." อึ้งครับ ยอมรับว่าใจเต้นแรงมากตอนนี้ แต่ก็รู้สึกโหวงๆ ในใจแปลกๆ
"อาร์ทครับ?" เห็นว่าผมนิ่งเงียบไปนานชาร์ลจึงเรียกชื่อผมอีกครั้ง
"....เอ่อ........." ผมไม่รู้จะตอบกลับยังไงดี ตอนนี้ยังอยากได้เวลาอีก ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลย รู้จักกันได้ 7 วัน มันขอผมเป็นแฟนเลยเหรอ เร็วไปไหม? ไม่สิ ผมรับได้เหรอ? แล้วผมรู้สึกยังไงกับมัน ผมยังไม่แน่ใจเลย
".....ขอ.....คิดดูก่อนได้ไหมอ่ะ?" ชาร์ลเป็นฝ่ายเงียบบ้าง เค้าปิดกล่องแหวนลงแล้วยืนขึ้น
"ผมก็คิดไว้แล้วล่ะว่าคุณคงจะยังไม่ยอมรับ"
"......."
"คุณรู้สึกยังไงกับผมเหรอครับ?"
"รู้สึก? ....ไม่รู้สิ ไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ถึงกับชอบแบบนั้น" ผมตอบคำถามนี้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ชาร์ลถอนหายใจ
"แต่คุณก็ยังจูบกับผม?" อึก ผมหน้าแดงขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน ผมไม่ได้เริ่มนะมันเริ่มก่อนต่างหาก ชาร์ลจับมือผม
"ผมขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ ผมจะรอจนกว่าคุณจะยอมใส่แหวนวงนี้" ว่าแล้วชาร์ลก็วางกล่องแหวนลงในมือผม ผมนิ่งเงียบพยักหน้าเบาๆ อายโว้ย รู้สึกหน้าร้อนๆ
"ขอเวลา... ขอเวลาผมหน่อย..." ผมเอ่ยออกมาเบาๆ ชาร์ลก้มลงมากระซิบข้างหู
"ได้ครับ ผมให้ทั้งชีวิตเลย" แล้วก็หอมแก้มผมเบาๆ ผมเงยหน้าขึ้น เราแลกจูบกัน ผมไม่ได้ขัดขืนอะไร ชาร์ลประทับจูบอย่างอ่อนโยน สอดลิ้นเข้ามารุกร้ำภายในปากของผม ผมจูบตอบจนเสียงน่าอายหลุดออกมาเป็นระยะ เราจูบกันเนิ่นนานมาก ชาร์ลลูบไล้เข้ามาใต้เสื้อของผม ผมสะดุ้งก้าวหนีก้าวนึง ชาร์ลจึงหยุดอยู่แค่นั้น เขายิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน หน้าผมแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ก็คนมันอายอ่ะ
"วันนี้เอาแค่นี้ก่อน ตั้งแต่พรุ่งนี้ผมจะรุกแล้วนะครับ" ชาร์ลกระซิบที่ข้างหู ผมสะดุ้งยกมือขึ้นปิดหูด้วยความอาย
"ฮะฮะ อาร์ทครับ รักนะครับ" ว่าแล้วก็จูบลงมาอีกทีหนึ่งเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ แรงขึ้น ชาร์ลดูดริมฝีปากผมแล้วผละออก
"วันนี้ผมจะยอมเป็นสุภาพบุรุษคนดีของคุณ แต่พรุ่งนี้ผมจะเป็นหมาบ้าคอยรุกคุณ เตรียมใจไว้ได้เลย"
"อะ....ไอ้บ้า! ไอ้หมาบ้า!" ผมทุบไปที่อกเค้าทีนึง ชาร์ลหัวเราะร่าก่อนจะจูบลงที่หน้าผากผม แล้วขอตัวกลับทันที...
โอ้ย! หัวใจบ้า! เต้นแรงตึกตักๆ ไม่รู้แล้ว ไอ้ความรู้สึกนี้ที่ไม่เคยรู้สึกมานาน ไม่ชอบใจเลย......
----------------------------------------
ตอนหน้าตอนจบแล้วค่ะ!!! ^3^ เย้ๆ
ตอนหน้า NC18+ นะคะ 555+ ของดีไว้ตอนจบ อิอิ
ผิดพลาดตรงไหนช่วยบอกด้วยนะคะ สนุกกับการอ่านค่ะ :-[
-
ชาร์ลไม่ค่อยเลยนะ
-
ว้ายๆๆๆ อาร์ทน่ารัก!! ชาร์ลรุกซะเขินแทนเลย!!>w<
//เบิ่งตานั่งรอNc
-
นี่เค้าเรียกว่ายังไม่รุกอีกหรอคุณชาร์ล 5555
-
หวานเวอร์ แค่นี้ก็รุกเยอะแล้วนะครับ
-
ตอนที่ 10 : คำตอบสุดท้าย
หลังจากวันนั้นที่ผมสารภาพรักก็ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้วครับ ผมพยายามตามตื้อคอยเทคแคร์อาร์ทมาโดยตลอด เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมตกปากรับคำขอเป็นแฟนของผมสักที แต่ผมรู้สึกหน่อยๆนะ ว่าเค้าต้องตกหลุมรักผมแล้วแน่ๆ ไม่งั้นจะยอมให้ผมจูบแต่โดยดีมาตลอดทั้งเดือนได้ยังไงล่ะเนอะ แต่ความรักย่อมมีอุปสรรค จากนี้ไป 15 วัน ผมจะไม่อยู่ไทย เพราะต้องเดินทางไปติดต่องานที่ต่างประเทศ จากที่เคยเห็นหน้ากันทุกวัน อยู่ๆจะไม่ได้เจอกันเลยตั้งสองสัปดาห์ ผมล่ะอดเป็นห่วงอาร์ทไม่ได้ว่าเขาจะอยู่อย่างไร จะกินข้าวครบทุกมื้อไหม ห้องหับจะทำความสะอาดบ้างรึเปล่า เวลาที่อาร์ทมุทำงานจะลืมวันลืมคืน ข้าวปลาไม่ยอมกิน น้ำท่าไม่ยอมอาบ ดื่มแต่เครื่องดื่มชูกำลัง ถ้าไม่มีผมสักคนสุขภาพของอาร์ทได้ย่ำแย่ลงกว่านี้ชัวร์ครับ! ยิ่งคิดยิ่งเป็นห่วงจริงๆ ครับ
"อาร์ทครับ" ผมเอ่ยเรียกคนข้างๆ ที่เอาแต่ทำงานหน้าดำคร่ำเคร่งไม่สนใจผมเลย ผมมาหาเค้าตั้งแต่เช้า ทำนู้นทำนี้ให้ ซื้อข้าวให้กิน เค้าพักกินข้าวแปบก็หันกลับไปทำงานต่อ จนตอนนี้ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อวานได้อาบน้ำบ้างรึยัง
"หืม?"
"วันนี้อาบน้ำยังครับ?"
"อาบแล้วเมื่อเช้า....มั้ง" มีมั้งด้วยแปลว่ายังไม่อาบชัวร์
"ผมว่าพักสายตาแล้วไปอาบน้ำให้สบายๆ แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อดีกว่านะครับ ดูสิ เริ่มมีกลิ่นตัวแล้ว" ผมเข้าไปดมใกล้ๆ ซอกคออาร์ท แอบมีกลิ่นเปรี้ยวแล้วนะครับนี่ อ่า.. กลิ่นอาร์ท อาร์ทสะดุ้งดันหน้าผมออกห่าง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้แล้วเข้าห้องน้ำไป ไม่นานก็ออกมา .... เร็วมากครับ....
"อาบน้ำยังครับ?" ผมถามย้ำ
"อาบแล้ว"
"อาบหรือเดินผ่านน้ำครับ ไมเร็วอย่างนี้" อาร์ทส่งเสียงชิอย่างไม่ค่อยพอใจก่อนจะกลับเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ ถึงจะทำตัวง้องแง้งเวลาผมจู้จี้แต่เค้าก็ยอมทำตามแต่โดยดี น่ารักจริงๆ เลย คราวนี้เข้าไปสัก 10 นาทีได้ ถึงได้ออกมา
"หลีกดิ จะทำงาน" อาร์ทเตะขาผมเบาๆ ผมยังเปียกอยู่เลยไม่ยอมเช็ดให้แห้งอีกแล้ว ผมหลบให้อาร์ทมานั่งทำงานต่อ ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดผมที่พาดบ่าอาร์ทเอามาเช็ดผมให้
"อาร์ทครับ"
"ว่า?"
"พรุ่งนี้ผมต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ 15 วันนะครับ ไม่ได้เจอกันตั้งนานจะเหงาไหมอ่ะครับ?" อาร์ทหันขวับมาจ้องหน้าผม ทำสายตาเชิงคำถาม
"ทำไมต้องเหงา? ว่าแต่ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้?" แอบน้อยใจนิดๆนะ ไม่เหงาบ้างเลยเหรอ
"ผมก็เพิ่งรู้เมื่อวานนี้ตอนเย็น เรื่องเร่งด่วนมากเลยต้องรีบบินไปพรุ่งนี้เลย"
"อืมๆ ก็ไปดิ อย่าลืมของฝากละกัน" ผมหัวเราะรับ ก่อนก้มลงหอมแก้มอาร์ททีนึง เจ้าตัวไม่หลบเพียงเอียงหัวเล็กน้อยเหมือนตกใจ ก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ
"อาร์ทครับ"
"อะไรอีก?"
"พอผมกลับมา คราวนี้เป็นแฟนกับผมนะครับ" อาร์ทไม่ตอบอะไรมือยังคงทำงานต่อ แต่แก้มนี้แดงนิดๆ น่ารักน่าหยิกสุดๆ ผมก้มลงไปประทับจูบที่ริมฝีปากอาร์ท แลบลิ้นเลียและกัดริมฝีปากล่างเบาๆ อาร์ทเผยอปากให้ผมสอดลิ้นเข้าไปอย่างว่าง่าย เราจูบกันอยู่สักพักผมก็ผละออก ผมขยับตัวเอาขาข้างขวาข้ามไปเกี่ยวตัวอาร์ทไว้ แล้วคว้าเขาเข้ามากอด ประทับจูบที่ซอกคอเบาๆ แล้วดูดทำรอยของผมทิ้งไว้ จนเป็นรอยจ้ำสีแดงช้ำ อาร์ทครางเล็กน้อย ผมยิ้มแล้วหอมไปที่แก้มทีนึง ไม่ทำต่อแล้วครับ เดี๋ยวจะหยุดไม่อยู่ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
"หวังว่า 15 วันต่อจากนี้ อาร์ทน่าจะได้คำตอบนะครับ"
"อืม..." อาร์ทพยักหน้าเล็กน้อย ผมยังคงสวมกอดเค้าไว้แน่นอยู่อย่างนั้น สักพักถึงได้ปล่อยแขนยอมให้อาร์ททำงานต่อ....
15 วันต่อมา ณ. สนามบินสุวรรณภูมิ
ก่อนขึ้นเครื่องผมส่งข้อความถึงอาร์ท เที่ยวบินที่กลับ เวลาเครื่องลง สถานที่นัดเจอ แต่ว่า...... คนที่ผมพบกลับเป็นคุณเจนนี่ แล้วอาร์ทล่ะ? ไม่มารับผมเหรอ? ผมเดินไปหาคุณเจนนี่ที่กำลังโบกมือให้ผมอยู่
"อาร์ทล่ะครับ?"
"แหม เจอหน้ากันก็ถามถึงอาร์ทก่อนเลยนะคะ" คุณเจนนี่พูดยิ้มๆ
"อาร์ทให้เจนนี่มารับคุณชาร์ลค่ะ" ผมชักสีหน้าทันที อะไรกัน? ไม่เจอ 15 วันเค้าไม่คิดถึงผมบ้างเลยเหรอ มีผมคนเดียวที่พอไม่ได้เจอก็คิดถึงเค้าจนไม่เป็นอันกินอันนอน
"คุณชาร์ลอย่าน้อยใจไปเลยนะคะ ป่ะ ไปกับเจนนี่ แล้วเดี๋ยวคุณชาร์ลจะอารมณ์ดีชนิดที่ว่ายากจะหุบยิ้มเลยล่ะ อ่ะ อาจจะตัวลอยเท้าไม่ติดพื้นด้วยก็ได้นะคะ คิกคิก" คุณเจนนี่หัวเราะคิกคัก ถึงคุณเจนนี่จะพูดอย่างนั้น แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นอะไรเลย ทั้งเหนื่อยทั้งนอยครับ หงุดหงิดนิดๆ แต่ก็ตามคุณเจนนี่ไปแต่โดยดี
คุณเจนนี่ขับรถพาผมมายังตึกบริษัทที่อาร์ททำงานอยู่ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาที่นี่? ตอนนี้ผมแอบหวังอะไรเล็กๆ เซอร์ไพรส์? แต่ถ้าไม่ใช่อย่างที่คิดล่ะ? คุณเจนนี่นำผมไปยังชั้น 2 ส่วนที่จัดแสดงผลงาน จากลิฟท์หากเดินไปทางซ้ายก็จะเป็นส่วนที่อาร์ทเคยพาผมเข้าไปเยี่ยมชม แต่คุณเจนนี่นำผมไปทางด้านขวา ส่วนจัดแสดงผลงานประมูลราคา เมื่อครั้งก่อนที่มาส่วนนี้ยังถูกปิดอยู่ เนื่องจากศิลปินรับเชิญ และศิลปินในเครือบริษัทกำลังเตรียมการจัดงานที่นี่ เลยไม่ได้เปิดให้เข้าไปเยี่ยมชมภายใน พอเดินเข้ามาในส่วนนี้จะถูกแบ่งเป็นห้องย่อยเข้าไปด้านใน มีทางเข้าและทางออกเดียว ประตูจะสลับฝั่งกันแต่ละห้อง ห้องที่ 1 ประตูด้านซ้าย เดินเข้าไปจะเจอประตูด้านขวาไปห้องที่ 2 แบบนี้เรื่อยจนเข้าไปด้านในสุดที่เป็นประตูตรงกลาง ประตูที่นี่ไม่ได้มีบานประตูสามารถเดินทะลุเข้ามาได้เลย ขนาดประตูก็กว้างและสูงมาก เพื่อให้ขนย้ายงานแสดงเข้ามาได้สะดวก พวกเราเดินมาหยุดลงที่หน้าประตูห้องสุดท้ายนี้ซึ่งภายในมืดสนิท บนผนังข้างประตูมีชื่อผลงานติดเอาไว้
- Answer from my heart -
ผลงานทุกชิ้นที่แสดงในห้องนี้ งดการประมูลราคา
"คุณชาร์ลคะ จากนี้ตรงนี้ไป คุณชาร์ลต้องเข้าไปคนเดียวแล้วล่ะค่ะ" คุณเจนนี่ยิ้มส่ง แล้วผายมือไปทางประตูตรงหน้าผม หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้อ่านชื่อผลงาน ข้างในจะมีอะไรรออยู่ผมไม่รู้เลย แต่ตอนนี้ผมอยากจะรู้มากเสียแล้ว ผมหันไปยิ้มให้คุณเจนนี้ แล้วก้าวเข้าไปในห้องมืดตรงหน้าทันที
พอผมก้าวเข้ามาแสงไฟก็ถูกเปิดขึ้น ผมหลับตาเพื่อปรับสายตาให้ชินกับแสงสักพัก ก่อนจะลืมตาขึ้นมา.......
......ผมถึงกับพูดไม่ออก อ้าปากค้างด้วยความแปลกใจ คุณรู้ไหมครับ ว่าตอนนี้ผมเป็นอย่างที่คุณเจนนี่ว่าไว้ทุกประการ รอยยิ้มกว้างปรากฎ ตัวเหมือนจะลอยจากพื้นได้ สิ่งที่ผมเห็นคือ.... อาร์ทที่ยืนหันข้างมองมาทางผม กับภาพสเก็ตรูปหน้าผมทั้ง 12 ภาพ ที่ถูกจัดวางบนผนังรอบห้องนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มทุกภาพ และผลงานที่ตรึงตาผมมากที่สุด ที่อยู่บนผนังด้านหลังอาร์ท ผลงานขนาดกว้างและสูงประมาณ 150 เซนติเมตรได้ เป็นผลงานประติมากรรมที่ทำขึ้นจากเศษกระเบื้องหลากสีสรร ที่จัดเรียงเป็นรูปผู้ชายสองคนจับมือกัน ตรงกลางเป็นหัวใจขนาดใหญ่ และพื้นหลังทำจากทรายเม็ดสีชมพู สีแดง สีขาว ทั้งภาพออกมาเป็นโทนสีชมพูหวาน
อาร์ทผายมือมาทางผม ผมสังเกตเห็นแหวนที่อยู่ที่นิ้วนางซ้ายของเขา แหวนที่ผมเคยให้เค้าไว้ แหวนวงที่ผมอยากเห็นเค้าสวมมากที่สุด ผมยิ้มน้ำตาซึมเดินเข้าไปหาเขา จับมือของเค้าไว้ แล้วโอบกอดคนตรงหน้า น้ำตาผมไหลด้วยความตื้นตันใจ ดีใจ ตื่นเต้น และรู้สึกขอบคุณ....
"ฮะฮะ ทำไมหัวใจนายเต้นแรงแบบนี้ล่ะ" อาร์ทเอ่ยแซว
"คุณก็เหมือนกัน" ผมก้มลงไปจูบเขาเบาๆ
"ขอบคุณสำหรับของขวัญที่ดีที่สุดนี้" ผมเลื่อนมือขึ้นมาประคองหน้าเขาให้เงยขึ้นมาสบตากับผม อาร์ทยิ้มให้ผม
"ใครบอกว่าเป็นของขวัญให้นายกัน" ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย
"อยากได้ก็จ่ายมาสิ" อาร์ทยิ้มเจ้าเล่ห์
"งั้นผมขอจ่ายด้วยชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมดของผม" ผมส่งยิ้มกลับไป
"หึหึ ขาย" อาร์ทตอบแล้วดึงผมเข้าไปจูบอีกครั้งอย่างดูดดื่ม ผมกระชับแขนที่โอบเอวเค้าเข้ามา เราจูบแลกเปลี่ยนลิ้นกันอยู่สักพัก ก่อนจะผละออกมามองตากันและกัน
"อาร์ทครับ" ผมเอ่ยเรียกคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด
"ว่าไง?"
"นี่ถือว่าผมกับคุณเป็นแฟนกันแล้วนะครับ" อาร์ทหัวเราะหึ แล้วพยักหน้ารับ
"คุณรู้ไหม ว่าคุณทำให้ผมตกหลุมรักคุณอีกครั้ง"
"ฮะฮะ นายนี่ตกหลุมรักง่ายจังนะ"
"เฉพาะกับคุณเท่านั้นล่ะครับ ที่ทำให้ผมตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น จากนี้ผมคงไม่มีวันขึ้นจากหลุมที่ชื่อว่าอาร์ทได้ตลอดชีวิตแน่นอน" ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ อาร์ทเขินจนหน้าแดง แล้วก้มหน้าหลบสายตาผมด้วยความอาย
"อ่ะแฮ่ม!" พวกผมหันไปทางต้นเสียงที่กระแอมไอขึ้นมาขัดจังหวะ คุณเจนนี่ยืนพิงประตูอยู่ข้างๆคุณโก้ และข้างๆกันนั้นก็มีคุณวิลัยหัวหน้าของอาร์ทและเพื่อนร่วมงานของอาร์ทที่ผมรู้จักอีก 3 คน ทุกคนล้วนแล้วแต่มีรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนหน้า
"แหม จะหวานกันไปไหนจ้ะ พี่ล่ะอิจฉ๊า~ อิจฉาเจ้าอาร์ทซะจริงๆ ที่จับคนรูปหล่อแบบคุณชาร์ลได้ซะอยู่หมัดแบบเนี้ย" พี่วิลัยเอ่ยแซว พวกผมหัวเราะทันที
"จริงๆ แล้ววันนี้เป็นวันเปิดแสดงผลงานวันแรกของบริษัท คุณชาร์ลรู้ไหมว่าผลงานประติมากรรมนูนต่ำด้านหลัง มีแต่คนอยากจะประมูลกันทั้งนั้นเลยนะคะ แต่ผลงานทุกชิ้นในห้องนี้ทำขึ้นเพื่อคุณชาร์ลโดยเฉพาะเท่านั้น พี่ล่ะน้อยใจจริงๆ เลย ถ้าเจ้าอาร์ทขยันทำผลงานที่ขายได้ให้ได้อย่างนี้บ้างก็คงจะดี" ผมหัวเราะขำๆ ส่วนอาร์ททำปากจู้ใส่พี่วิลัย ทั้งยังทำเสียงบู่ บู่ ใส่อีก จะน่ารักไปไหนครับ หลังจากนี้พวกเราคุยกันนิดหน่อย พี่วิลัยบอกว่ามีเลี้ยงฉลองงานเปิดแกลลอรี่ตอนเย็นค่ำต่อ แต่ผมกับอาร์ทขอตัวก่อน เพราะผมเพิ่งกลับมาถึงเมืองไทย ส่วนอาร์ทก็อยากจะพักผ่อนมากกว่า แต่จริงๆ แล้วสำหรับผมตอนนี้ผมอยากอยู่กับอาร์ทแค่สองคน อยากคุย อยากกอด อยากจูบ ผมว่าอาร์ทก็คงคิดเหมือนผม ผมขับรถที่ผมฝากอาร์ทไว้ตั้งแต่ก่อนไปต่างประเทศกลับไปคอนโดของผม อาร์ทบอกว่าวันนี้จะไปค้างที่คอนโดผม เพราะสภาพห้องของเขาตอนนี้ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ ผมก็พอเดาได้ 15 วันที่ไม่ได้เจอหน้ากัน เค้าที่เร่งเคลียงาน แล้วยังทำผลงานสารภาพรักผมอีก คงไม่มีเวลาทำความสะอาดห้องแน่
ผมเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเค้าเบาๆ ส่วนตายังคงมองทางข้างหน้าอยู่
"ไม่เจอกัน 15 วัน ผมคิดถึงคุณมาก ตอนที่ผมกลับมาถึง พอเห็นว่าคุณไม่ได้มารับผม คุณรู้ไหม.... ผมแอบรู้สึกเสียใจนะ"
"ฮะ ฮะ... แล้วตอนนี้ล่ะ ยังเสียใจอยู่อีกรึเปล่า?" ผมส่ายหน้า
"ไม่ครับ ตอนนี้ผมดีใจมาก รู้สึกขอบคุณคุณมาก อยากจะรีบกลับบ้าน แล้วดึงคุณมาสวมกอด อยากจูบ อยากสัมผัส...."
"บ้า" อาร์ทบ่นเสียงเบามาก ไม่หันไปมองผมก็รู้ว่า เค้าต้องอายหน้าแดงอยู่แน่นอน อยากจะรีบกลับไปให้ถึงคอนโดไวๆ ผมเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นทันที ไม่นานก็มาถึง...
ผมดึงแขนอาร์ทให้ตามมา ของเขิงไม่สนทิ้งไว้หลังรถหมด หยิบมาแค่กุญแจรถและชายคนรัก พอถึงห้องปิดประตูลง ผมโยนกุญแจในมือทิ้งแล้วคว้าอาร์ทเข้ามาประกบจูบอย่างแรง อาร์ทร้องโอ้ย ตอนนี้ผมไม่อาจหยุดอารมณ์ปรารถนาของตัวเองลงได้แล้ว ผมกดจูบแนบแน่น สอดลิ้นเลียตามไรฟัน ขบลิ้นที่อาร์ทยื่นเข้ามาเบาๆ แล้วดูดเม้มลิ้นนั้น ผละออกแล้วกัดไปที่ริมฝีปากทั้งบนและล่างของเขา จูบครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผมพยายามอดกลั้นตัณหาไว้ ผมรุกจูบรุนแรงจนอาร์ทคราง แขนทั้งสองที่เกาะก่ายผมไว้เริ่มไม่มีแรง ผมพยุงร่างเขาไว้แล้วยกขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิงพาเข้าห้องนอนทันที
อาร์ทยกแขนขึ้นกอดคอผมไว้ เรายังจูบกันอย่างรุนแรง แลกเปลี่ยนลิ้นและน้ำลาย ผมเลื่อนหน้าลงมาจูบไซคอเค้า ประทับรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้ เลื่อนมือถอดเสื้อนอกทั้งของเขาและผมออกโยนไว้ข้างเตียง ผมเลิกเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาขึ้น เผยให้เห็นร่างกายที่ผอมลงไปเยอะ ผิวสีขาว และยอดอกสีชมพูเด่นตรงหน้า ผมขบเม้มจนมันแข็งเป็นไต อาร์ทครางจับผมผมแน่น ผมดันตัวเองเข้าใกล้เขาอีก เอาโคนขาสะกิดกับส่วนเล้าตรงกลางลำตัวคนใต้ร่าง ปลดเข็มขัด แล้วถอดกางเกงที่เกะกะนั้นออก แก่นกายที่นูนขึ้นใต้กางเกงในสีน้ำเงินตรงหน้า ผมดูดลงไปที่แก่นกายนั้นผ่านเนื้อผ้า อาร์ทแอ่นตัวหนี ผมคว้าเอวเค้าไปแล้วใช้ปากกัดขอบกางเกงในดึงลงมา เผยให้เห็นแก่นกายที่ชูชัน ปลายหัวมีน้ำไหลซึมออกมา ผมรูดมันขึ้นลงช้าๆ
"อ้า~" อาร์ทครางกระเซ่า มือนึงจับหัวผมแน่น อีกมือขยุ้มผ้าปูเตียง เค้าดูดน้ำลายซูดด้วยความเสียวซ่าน ผมเงยหน้ามองดูปฏิกิริยาของเขา พยุงตัวขึ้นประทับจูบอีกครั้ง มือยังคงสาวแก่นกายของเขาช้าๆ แล้วเร็วขึ้น อาร์ทยิ่งครางด้วยเสียงหวานที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานก็ปลดปล่อยของเหลวข้นสีขาวออกมา
"แฮ่ก...แฮ่ก...." เขาหายใจหอบกอดก่ายผมไว้
"อาร์ทครับ จากนี้ผมจะหยุดไม่ได้แล้วนะ" ผมกระซิบที่ข้างหู อาร์ทหลับตาพริ้มพยักหน้าช้าๆ หึ ผมหอมแก้มทีนึง ก่อนจะปลดกางเกงและกางเกงในของตัวเองออก เผยให้เห็นแก่นกายที่ตั้งตรงพร้อมรบ ใต้หมอนมีเจลที่ผมซื้อเอาไว้ หวังว่าสักวันจะได้ใช้ ตอนนี้มันได้รับเกรียติให้ทำหน้าที่นั้นแล้ว ผมหยิบถุงยางเอาออกมาสวมใส่ บีบเจลใส่มือ ก่อนจะยกสะโพกอาร์ทขึ้นเอาหมอนมาหนุนไว้ให้ ผมป้ายเจลลงที่ช่องทางด้านหลัง อาร์ทสะดุ้ง
"เย็น..อ่ะ" เสียงกระเซ่าเชียว ผมก้มจูบปากเค้าอีกที
"เดี๋ยวก็ร้อนแล้ว"
"บ้า... อ้ะ!" ผมแหย่นิ้วเข้าไปช้าๆ ข้างในแน่นเปี้ยะ ขยับนิ้วคว้านไปมาเบาๆ ร่างบางใต้ร่างเริ่มสั่นสะท้านหลับตาลง มือทั้งสองขยุ้มผ้าปูเตียงแน่น ผมขยับนิ้วเข้าออกจนช่องทางเริ่มส่งเสียงน่าอายดูดกลืนนิ้วผมทีละนิด ผมจึงเพิ่มเป็นสองนิ้ว และสามนิ้วในที่สุด ผมแหวกนิ้วที่ค้างอยู่ข้างในเล็กน้อย มืออีกข้างไม่ลืมที่จะทำหน้าที่ รูดแก่นกายอาร์ทพร้อมกับขยับนิ้วด้านในช้าๆ นิ้วหัวแม่มือก็กดลงตรงหัวปลายแก่นกายนั้นลูบช้าๆ สร้างความสยิวจนร่างบางครางไม่หยุด
"อ๊า~~~ .....รู้สึก.....แปลก...แปลก...อ้ะ....ตรงนั้น.....อึก...." โดนจุดทำเอาเขากระตุกกายทีนึง แต่ยังไม่ปลดปล่อย น่าจะได้ที่แล้ว ผมดึงนิ้วออก บีบเจลลงที่แก่นกายของผม อาร์ทหอบหายใจลืมตามองมา
".....ใหญ่...." หือ? ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะแทรกกายเข้าไปทางช่องทางที่เตรียมพร้อมแล้ว จูบที่คอไล่ขึ้นไปที่แก้ม จมูก หน้าผาก แล้วลงมาที่ริมฝีปากตรงหน้า
"อ้ะ เจ็บ....อ๊า....อืมมม..." ขยับดันเข้าไปจนมิดด้าม
"อา..." ผมครางบ้าง เพราะข้างในของอาร์ทช่างตอดรัดดีจริงๆ ตอดแรงแบบนี้มีหวังได้เสร็จก่อนขยับพอดี
"อึก...อาร์ทครับ...อย่าตอดแน่นขนาดนั้น..." อาร์ทจิกมาที่หลังผมแรงๆ ก่อนบ่นอุบอิบด้วยความอาย ผมเริ่มขยับช้าๆ เน้นหนักๆ ตรงจุดที่จะทำให้เค้าเสียว กระแทกเข้าไปซ้ำๆ แล้วเร่งเครื่องหนัก จนร่างบางเสียวซ่านต้องจิกและขบกัดที่หัวไหล่ของผม
"อะ....อะ....อึก" ผมถึงจุดพร้อมกับอาร์ทที่ปล่อยออกน้ำใส่หน้าท้องของผม ผมถอนตัวรูดถุงยางที่มีน้ำขุ่นข้นอยู่เต็มมัดปากโยนทิ้งถังขยะข้างๆ แก่นกายของผมยังคงตั้งอยู่ ไม่รอช้าผมฉีกถุงยางอันใหม่สวมใส่ทันที จับตัวอาร์ทพลิกให้นอนคว่ำ ยกสะโพกขาวๆ นั้นขึ้นมาปดปากจูบลงที่แก้มก้น แลบลิ้นเลียที่ช่องทางที่ตอนนี้บวมแดงอย่างเห็นได้ชัด
"อ้า...อย่า...อย่าเลีย...อืม.." ผมแทรกกายเข้าไปภายในช่องทางนั้นอีกรอบ แก่นกายที่สงบลงก่อนหน้าของอาร์ทเริ่มขยายตัวตั้งขึ้น เมื่อผมลูบไล้เนินอกลงมาที่หน้าท้อง แล้วลูบที่ต้นขาใกล้ๆ แก่นกายนั้น อาร์ทขยับมือมาจับน้องชายตัวเองสาวขึ้นลงช้าๆ ผมเริ่มขยับ จนจังหวะเราทั้งคู่ประสานกัน ทั้งลมหายใจ การเต้นของหัวใจสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว ไม่นานก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกันอีกครั้ง.....
หลังเสร็จกิจ ผมอุ้มอาร์ทเข้าห้องน้ำทำความสะอาดชำระร่างกาย อาร์ทบ่นอุบอิบพลางทุบที่หลังผมหลายรอบ ว่าผมแกล้งเค้า ครั้งแรกก็เล่นล่อไปทีเดียวตั้ง 3 รอบบนเตียง ในห้องน้ำสดอีก 1 รอบ ใครบอกให้ทำตัวยั่วยวนผมขนาดนั้น อีกอย่างตัณหาที่กดเอาไว้ พอได้ทำขึ้นมามันก็หยุดไม่อยู่ เลยเผลอทำรุนแรงไปบ้าง ผมอุ้มสุดที่รักกลับไปยังเตียงคิงไซส์ เรากอดก่ายแนบชิดกัน ด้วยความเหนื่อยทำให้ผมและเค้าหลับจนข้ามวันกันเลยทีเดียว
ผมกุมมือของอาร์ทไว้แน่น แหวนวงนั้นที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขาแนบชิดที่อกของผม มือคู่นี้ที่ผมจะไม่ยอมปล่อยเด็ดขาด ผมจะปกป้องความรักของเราเอาไว้จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ......
------- THE END -------
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
จบแล้วค่ะ :sad4:
ตอนนี้เขียนยาวเป็นพิเศษ พิมพ์ผิดตรงไหนช่วยแจ้งด้วยนะคะ
10 ตอนจบพอดีเลยค่ะ ฉากอย่างว่าเขียนยากมากเลยค่ะ ><
เรื่องนี้ไม่มีตอนพิเศษนะคะ :-)
หวังว่าจะเป็นอีกเรื่องที่คุณผู้อ่านจะแอบอมยิ้มให้กับพระเอก-นายเอกคู่นี้กันบ้างนะคะ 555
ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกคนที่ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ ^^
สุดท้ายนี้ผู้แต่งได้วาดอิมเมจอาร์ทและชาร์ลแนบมาด้วยค่ะ :hao3:
::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ผลงานต่อไปเป็นเรื่องแนวแฟนตาซี ยังไงก็ขอฝากผลงานใหม่อีกเรื่องด้วยนะคะ
>>>>>>>> สิงหราชาวดี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38269.0) <<<<<<<<
เรื่องนี้ไม่ใช่แนวพีเรียตนะคะ คิดว่าอย่างน้อยก็อยากเขียนให้ได้สัก 30+ ตอนค่ะ
ไม่ได้วางพล็อต แต่วางไอเดียเอาไว้ตั้งเยอะแน่ะค่ะ ยังไม่รู้ว่าจะเขียนหมดไหมเลยค่ะ :katai4:
[attachment deleted by admin]
-
รุ้สึกว่าพระเอกเราจะหน้าหวานกว่านายเอกนะ
:oo1: :oo1:
-
ชาร์ลให้รางวัลที่อาร์ทแอบมีเซอร์ไพส์ชิมิ
คนอ่านเลยได้อานิสงค์ .. :haun4:
ขอบคุณด้วยบวกและเป็ด
:mew1:
-
ตอบคุณ wi_OoO_wi
จริงๆ ตอนแรกก็อยากให้อาร์ทรุกชาร์ลนะคะ :hao6:
เราเองก็อยากวาดชาร์ลหน้าเข้มกว่านี้นะคะ แต่มันวาดออกมาไม่ได้ดั่งใจเลย :hao5:
ตอบคุณ ΩPRESTOΩ
ขอบคุณสำหรับบวกและเป็ดค่ะ^^
ตอบคุณ insomniac
ขอบคุณค่ะ ^^
จริงๆ อยากเขียนอีกเยอะๆ นะคะ เพราะยังมีอีกหลายๆ มุม แต่เนื่องจากปูเป็นเรื่องสั้นไว้ เลยตัดที่ไม่สำคัญออกเยอะเลยค่ะ :hao5:
-
น่ารักนะเนี่ย
ตกลงทำให้เปลี่ยนใจจากเพื่อนได้ โดยเอาตัวเองเข้าแลก
ทุ่มทุนจริงๆ
-
น่ารักดีค่ะ
-
ในที่สุด อยากบอกว่าหวานเว่อร์คร้าาา
ซึ้งมากกับคำตอบของอาร์ท
จบแล้ว เรื่องนี้น่ารักมาก :mew1:
กระซิบคนเขียน>>>อยู่ๆจะไม่ได้เจอกันเลยตั้งหลายสองสัปดาห์
"อาบหรือเดินผ่านน้ำครับ ไมเร็วอย่างนี้" อาร์ทส่งเสียงชิอย่างไม่ค่อยพอใจก่อนจะกลับเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ ถึงจะทำตัวง้องแง้งเวลาผมจู้จี้แต่เค้าก็ยอมทำตามแต่โดยดี น่ารักจริงๆ เลย คราวนี้เข้าไปสัก 10 นาทีได้ ผมได้ถึงออกมา
ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดผมที่ปาดบ่าอาร์ทเอามาเช็ดผมให้
ประตูที่นี่ไม่ได้มีปานประตูสามารถเดินทะลุเข้ามาได้เลย
"เฉพาะกันคุณเท่านั้นล่ะครับ ที่ทำให้ผมตกหลุมรักจนถอนตัวไม่ขึ้น
"อ่ะแฮ่ม!" พวกผมกันไปทางต้นเสียงที่กระแอมไอขึ้นมาขัดจังหวะ
ผมเอื่อมมือไปสัมผัสแก้มเค้าเบาๆ ส่วนตายังคงมองทางข้างหน้าอยู่
-
โอ๊ยยยยยยยยย
ทำไมมันน่ารักอย่างนี้ :-[
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆนะคะ :pig4:
-
ตอบคุณ thichanorit
ขอบคุณค่ะ มองข้ามไปเยอะเหมือนกัน แก้เรียบร้อยแล้วค่ะ o13
-
น่ารักกกกกกกก :-[ :-[ :-[
ขอบคุณน๊า ที่แต่งเรื่องน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่าน :m1: :m1: :m1:
-
อบอุ่น
-
ใจจะละลาย
-
ฟินมาก หัวใจเต้นแรงเลยอ่ะ เขินนนน ><
-
:hao7: :hao7: :hao6: :hao6: :mew3: :mew3: :mew3:
-
อาร์ทหวานมากอะ
ประทับใจชาร์ลสุดๆ
ขอบคุณมากครับ
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน ก็จบซะแล้วอ่ะ แงงง :sad4: สนุกมากค่ะ ชาร์ล กับ อาร์ท ทั้งน่ารักและหวานมาก ๆ หลายคำพูดทำให้รู้สึกซาบซึ้งมาก ๆ เลย ที่สำคัญตอนจบทำเอา :pighaun: :pighaun: อ่อก แหม เร้าร้อนแบบกุ๊กกิ้กดีจัง ชอบจัง เสียดายที่ไม่มีตอนพิเศษแต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารัก ๆ นี้นะคะ มาช้าไปหน่อย โหวต + และเป็ดให้น้า จุ๊บ ๆ :mew1: :mew1:
ปล. จะตามไปอ่านเื่รื่องใหม่นะคะ จุ๊บอีกที :mew1:
-
แพ้หมาบ้าเหอะ.... น่ารักขนาดเน้!!!
-
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ :hao7:
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ที่สร้างสรรค์ผลงานน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่าน :กอด1: :L2:
-
อิอิ ขอบคุณทุกคอมเม้นท์มากๆค่ะ :hao7:
(หน้าบาน)
มานั่งไล่อ่านใหม่ เขียนผิดเยอะมากเลยค่ะ T^T ช่างมันเนอะ มันผิดนิดๆ หน่อย (เพราะพิมพ์ผิดบ้างทุกตอนเลยเง้อ)
-
เรื่องนี้ น่ารักมากๆเลยอะ
ชอบๆ ดีใจที่ได้อ่าน
น่ารักๆ
-
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ แต่นายเอกเราซกมกไปหน่อยนะ 5555
+1 เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ
ไว้แต่งเรื่องใหม่มาให้อ่านอีกนะ
-
โชคดีที่ได้อ่าน...เรื่องน่ารักดีค่ะ
จีบสาว(เทียม)อยู่ดีๆ ดันไปชอบแฟน(หลอกๆ)เขาซะงั้น :laugh:
ป.ล.ไว้เขียนอีกนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ +1
-
น่ารักมาก อ่านไปอมยิ้มไป :mew3:
-
เสียดายไม่มีตอนพิเศษ อยากอ่านตอนอาร์ทต้องพบปะพ่อแม่ชาร์ลจั๊ง
-
:pig4:
-
สนุกมากค่ะ
อาทซกมกมากกกกกกอ่ะ
แต่เรื่องสนุกๆๆมาอีกนะคะ
-
เข้ามาอ่านคอมเม้นท์แล้วอยากเพิ่มตอนพิเศษให้จังเลยค่ะ ><
แต่เขียนไม่ไหวแล้วค่ะ อารมณ์เดิมมันหายไปหมดแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ ที่ไม่มีตอนพิเศษ
แต่เอาพล็อตที่คิดไว้ไปอ่านเล่นนะคะ ฮุฮุ มันมีจบสองแบบค่ะ แบบ unhappy กับ happy
เอาจบแบบ unhappy ไปอ่านละกันนะคะ 5555 (แกล้งคนอ่าน)
จบแบบ happy มันก็ไม่มันสิคะ เอิ๊กๆ
=======================
จบแบบ UNHAPPY
ต่อจากตอนที่ 10 ชาร์ลพาอาร์ทไปเปิดตัวกับที่บ้าน แน่นอนว่าพ่อและแม่ชาร์ลไม่ยอมรับอาร์ทอยู่แล้ว
อาร์ทก็เสียใจที่โดนบ้านชาร์ลดูถูก แต่ด้วยนิสัยดิบๆ เลยไม่แคร์ว่างั้น ยื่นคำขาดกับชาร์ล
ขอเลิก!!! (จริงๆไม่ได้อยากนะแค่ลองใจ) แน่นอนว่าชาร์ลไม่ยอมเลิก จึงมีเรื่องกับที่บ้าน
ทำทุกวิธีทาง ดึงน้องชายมาช่วยด้วย จนที่บ้านยอมใจอ่อนให้คบกันได้ แต่ไม่ให้เปิดเผยกับคนในบริษัท
และในวงสังคม เพราะกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง ชาร์ลกลับไปหาอาร์ทอีกครั้ง
ขอแต่งงานเลย และจะไปจดทะเบียนที่ต่างประเทศ ซึ่งกำลังมองอยู่ว่าจะไปจดที่ฟินแลนด์ประเทษที่
ชาร์ลเคยไปเที่ยวแล้วชอบมาก หรือที่แคนนาดาดี แต่อาร์ทมันเกรียนค่ะ ชิ่งหนีไปทำงานต่างประเทศ
โดยไม่ยอมบอกชาร์ล บอกเจนนี่ว่าจะไปหาประสบการณ์ต่างแดน จริงๆโดนพี่วิลัยส่งไปทำงานเฉยๆแค่ 5 วันก็กลับ
ชาร์ลก็วิตกกังวลคิดว่าอาร์ทหนีเพราะเรื่องที่บ้านไม่ยอมรับ แต่เค้าก็แก้ไขเรื่องนี้แล้วแต่ยังไม่ได้บอกอาร์ท
เพราะวันที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี อาร์ทก็เดินทางไปต่างประเทศเสียแล้ว แถมสั่งห้ามเจนนี่บอกชาร์ลว่าไปที่ไหน
ชาร์ลเศร้าหนัก ดื่มเหล้าย้อมใจ เจนนี่สงสารชาร์ลมาก เลยยอมบอกว่าอาร์ทไปที่ไหน
ชาร์ลดีใจก็ขึ้นเครื่องหวังจะตามคุณภรรเมียกลับมา แต่วันนั้นเป็นวันที่อาร์ทบินกลับพอดี
อะไรจะตรงกันอย่างนี้น้อ (คือเจนนี่มันบอกไม่หมดว่ากลับวันไหน เพราะเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าอาร์ทไปนานกี่วัน)
ทีนี้พออาร์ทมาถึงไทย ก็ได้ข่าวว่าเครื่องบินที่บินไปประเทศที่อาร์ทไปทำงานเครื่องตก
อาร์ทก็ไม่รู้ว่าเครื่องบินลำนั้นเป็นเครื่องที่ชาร์ลขึ้นเพื่อไปหาอาร์ท
อาร์ทกลับมาที่ห้องก็ไม่พบชาร์ล ไปหาที่คอนโดก็ไม่อยู่ โทรไปก็ไม่รับ
เจนนี่เลยบอกว่าคุณชาร์ลตามอาร์ทไป ใจอาร์ทก็เต้นระทึก เพราะข่าวเรื่องเครื่องบินตกดังมาก
ประกาศรายชื่อผู้เสียชีวิตมีชื่อชาร์ลอยู่ อาร์ทเสียใจมาก มองหน้าครอบครัวชาร์ลไม่ติด
ที่บ้านชาร์ลทำทุกวิธีทางเพื่อเล่นงานอาร์ท จนอาร์ทต้องออกจากงาน ขายห้องที่คอนโดทิ้ง
เจนนี่ช่วยอาร์ทให้หนีพ้นมือคนที่บ้านชาร์ล ส่งอาร์ทไปอยู่ต่างประเทศ ให้เงินช่วยเหลือนิดหน่อย
พอให้อาร์ทสามารถตั้งตัวได้ อาร์ทยังเสียใจเรื่องชาร์ล ปิดประตูความรักตัวเองลง
มุทำแต่งาน ทำอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง โดยไม่สนใจตัวเอง จะกินอย่างไร จะอยู่อย่างไร
เขาทำงานศิลป์ออกมาทุกอย่างที่คิดได้ เพื่อระลึกถึงคนรักที่จากไป
จนวันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวเห็นงานที่อาร์ทวางขายข้างทาง ก็ถูกใจซื้อกลับไปประเทศตน
ใครเห็นก็ชอบ จึงตามมาเพื่อซื้อผลงานชิ้นต่อไป จนอาร์ทดังในที่สุด
แต่ความรวยที่ได้มาจากผลงานกลับทำให้อาร์ทยิ่งรู้สึกสมเพชตนเองยิ่งขึ้น
เขาขายความรักที่เขามีให้แก่ชาร์ลแปลงเป็นงานศิลป์จนหมด
และติดเหล้าอย่างหนัก จนในที่สุดก็ไม่เหลืออะไรอีก
งานก็คิดไม่ออก ตอนนี้เจนนี่เดินเข้ามาในชีวิตอาร์ทอีกครั้ง
เสียใจกับอาร์ทที่ยังไม่ลืมชาร์ล ทำทุกวิธีทางเพื่อให้อาร์ทลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
เจนนี่พาอาร์ทกลับไทย อาร์ทบอกไม่อยากทำอะไรอีกต่อไปแล้ว
ปล่อยให้เขาตายไปเสียเถอะ เจนนี่ตบเรียกสติอาร์ท ทำอย่างนี้ต่อไปคิดว่าชาร์ลที่ตายไปจะดีใจเหรอ
ความรักที่ชาร์ลมอบให้อาร์ทไม่เข้าใจมันเหรอ ทำไมไม่คิดที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
อาร์ทร้องไห้อย่างหนัก หลังจากน้ำตาที่แห้งเหือดมากว่าหลายปี
สุดท้ายอาร์ทตัดสินใจบวช และบวชไม่สึก......เพื่อกุศลนี้มอบให้แด่ชาร์ลผู้ล่วงลับไป
(จบ)
จบแบบ Happy คือทางบ้านชาร์ลยอมรับ แต่อาร์ทไม่ได้ไปเมืองนอกค่ะ
ทั้งคู่ไปแต่งงานกันที่ฟินแลนด์ ทุกอย่างในชีวิตดีหมด มีความสุขสุดๆ
แต่จบแบบนี้มันจะไปมันอะไรเนอะ 5555 (ผู้เขียนโรคจิตอ่ะ) :laugh:
=======================
ฝากติดตามเรื่องใหม่ด้วยนะคะ ^^ ตอนนี้มีสองเรื่องค่ะ
น้องม.ปลายกับหนุ่มมหาลัยสุดเฟี้ยว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38354.0) (เรื่องสั้น แบ่งเป็น 3 คู่ค่ะ)
ครึ่งชีวิต (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38469.0) (เรื่องนี้เรื่องสั้นเรื่องที่3ค่ะ)
สิงหราชาวดี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38269.0) (แนว fantasy ค่ะ)
ถ้ามีโอกาสและอารมณ์เดิม ก็อยากแต่งเรื่องหวานๆ น่ารักๆ ฮาๆ แบบนี้อีกสักเรื่องค่ะ (ตอนนี้ก็คิดอยากแต่งนะคะแต่ติดเรื่องใหม่อยู่)
ยังไงก็ขอฝากผลงานเรื่องอื่นด้วยนะคะ อาจจะไม่ได้สนุกมากมายเท่าเรื่องนี้ หรือเท่าเรื่องไหน
แต่เขียนออกมาด้วยใจค่ะ (เสี่ยวเนอะ)
-
หวานเชียวน้าาา
หุหุ
-
แบบอันแฮปปี้ไม่อ๊าว.ว.....!!!!! เรื่องของคนสองคน อย่าเอาบรรทัดฐานทางสังคมมาเกี่ยว ความรักคือโลกไร้พรมแดน แดน ..แดน แดน แดน
-
เรื่องนี้ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
น่ารักอ่ะ นายเอกขี้อ้อนนน ชอบมากค่ะ แล้วจะติดตามผลงานนะคะ :กอด1:
-
สนุกมากค่ะ ขอบคุณค่ะ
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ น้าาาา
ชาร์ลกับอาร์ท น่ารักอ่ะ >///<
-
:กอด1:
-
สนุกมากกกกค่ะ +1
ไม่แฮปปี้เค้าไม่เอาได้ไหมมม :o12: :o12:
-
อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ไปสิงหราต่อ เพิ่งอ่านได้ตอนเดียวโดดมาเรื่องนี้ก่อน อิอิ^^
-
อยากให้มีคนมาตื้อบ้างจังงงง ><~~~~
-
แอบมาปล่อยตอนพิเศษด้วยความแน่นอก ต้องยกออก :hao7:
กับความซกมกสุดๆของนายอาร์ท
พิเศษแด่ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านค่ะ (แม้เรื่องนี้จะจบลงไปแล้ว แต่ผู้เขียนกำลังคลั่งค่ะ 555)
เราจะไม่แกล้งคนอ่านด้วย unhappy แล้ว
มาไถ่โทษด้วยตอนพิเศษสุดๆ นี้ที่นี่ที่เดียว :katai2-1:
--------------------------------------
ตอนพิเศษสุดพิเศษ เพื่อคนอ่านที่รักโดยเฉพาะ
อาร์ทย้ายมาอยู่คอนโดผมได้ 1 เดือนแล้วครับ กว่าผมจะกล่อมให้เขาขายคอนโดสุดรักสุดหวงที่แสนจะสกปรกซกมกนั้นได้
แต่ผมก็ต้องพบกับอีกบทเรียนที่แสนจะทรมารจิตใจความเป็นแม่ศรีเรือน เอ้ย ความเป็นสามีที่ดีอย่างผม
นั่นก็คือ....................
การที่เค้าชอบดื่มชา!!
ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร ถ้าหากไม่ใช่ว่าเค้าดื่มชาเสร็จแล้วเอาถ้วยไปล้างผ่านน้ำ 2-3 ทีแล้วคว่ำไว้
ครั้งสองครั้งแรกมันก็ดูไม่ออกหรอกครับ แต่หลายครั้งนี่มันจับได้ เพราะคราบน้ำชาที่ขอบแก้วกับที่ก้นแก้วเด่นขนาดนี้
ซึ่งหากล้างด้วยน้ำยาล้างจานมันก็หายนะครับ แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นรอยอีก เพราะนิสัยเดิมที่ชอบล้างผ่านน้ำแปบๆของเค้า
อาร์ทจะกินชาจนหมดแล้วปล่อยแก้วเปล่าวางทิ้งไว้ 1 คืนทุกวันที่พระจันทร์เต็มดวง
ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่าเค้าจะทำอย่างนั้นทำไม? เพื่ออะไร? จนกระทั่งวันหนึ่ง อาร์ทนั่งจิบชาอยู่ที่ระเบียงข้างห้องครัว
บรรยากาศกรุงเทพยามค่ำคืน แสงไฟดวงเล็กๆ มากมาย สุดแสนจะโรแมนติก โต๊ะทรงกลมสีขาว กับเก้าอี้ขาวสองตัว
ผมเดินเข้าไปหาอาร์ทที่นั่งชิลเหม่อมองทิวทัศน์ยามค่ำคืน แก้วเปล่าไร้ซึ่งชาถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ
"อาร์ทครับ ดื่มหมดแล้วผมเก็บให้นะ" ผมกำลังจะคว้าแก้วขึ้นมาก็ต้องชะงัก
"ไม่ๆๆๆๆๆ ปล่อยไว้นี่แหละ"
"ทำไมล่ะครับ?"
".........................." เงียบ... เงียบทำไม?
"ว่าไงครับ? ไม่พูดงั้นผมยกเก็บนะ"
"เดี๋ยวๆๆๆๆ" อาร์ทคว้ามือผมไว้ ผมเอียงคอชักสีหน้าสงสัยเต็มปะดา
"คือ.................."
"คือ?"
"...ปะ...ปล่อยไว้.....เดี๋ยวนางฟ้า...ใจดีก็มา...ละ....แล้วก็...จะเสกให้......เทวดาน้ำชา......ออกมาอยู่ในถ้วย"
"........................." เอ่อ...ผมกำลังอึ้งครับ มองหน้าคนรักที่หูตาแดงฉ่ำด้วยความมึนงง คือว่างงจริงๆครับ งงเรื่องนางฟ้าเทวดาอะไรก็ไม่รู้
อาร์ทยิ่งอายยิ่งก้มหน้า หูเหอนี่แดงเถือกขึ้นทันที ผมขำกับคำตอบที่แสนจะน่ารักนั่น พลันให้นึกถึงการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่โด่งดังมากในอดีต
ผมไม่เคยอ่านแต่คุณเจนนี่เคยเล่าให้ฟัง เมื่อตอนที่ไปทานข้าวด้วยกันครั้งล่าสุด ผมว่าอาร์ทเค้าจำผิดแน่เลย
เพราะผมจำได้ว่าคุณเจนนี่เล่าให้ฟังว่า หากนั่งจิบชาใต้พระจันทร์เต็มดวง เทวดาตัวจิ๋วประจำน้ำชาก็จะออกมาอยู่ในถ้วยน้ำชาอีกถ้วยที่ตั้งเอาไว้
แต่อาร์ทเล่นชงมาแก้วเดียว ดื่มจนหมดแล้วตั้งไว้กลางแสงจันทร์ มันคงจะได้ผลหรอกนะ ซึ่งหากทำตามวิธีที่ถูกต้องจริง
มันก็ไม่ได้ผลเช่นเดียวกันนั่นแหละ
"อาร์ทครับ มันแค่เรื่องเล่า ไม่มีมูลความจริงสักนิด" ผมพูดขึ้น อาร์ทเงยหน้ามองผมตาเขม็ง
"ชาร์ล"
"คะ...ครับ"
"จินตนาการน่ะมีไหม?"
"....ครับ?" ผมงง อยู่ๆ ไปพูดถึงเรื่องจิตนาการทำไม?
"ฟังนะ ลูกผู้ชายย่อมมีความฝัน และศิลปินย่อมมีจินตนาการ หากไร้ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ศิลปินก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้ เหมือนดินที่ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยง ก็ปลูกอะไรไม่ขึ้น" อาร์ทเริ่มร่ายยาวเรื่องอะไรที่แสนจะไร้แก่นสาร ซึ่งผมก็เป็นผู้ฟังที่ดี นั่งฟังเค้าบ่นต่อไปอย่างเงียบๆ
30 นาทีผ่านไป อาร์ทถึงจะพูดจบ โดยลงท้ายไว้ว่า
"จินตนาการคือสิ่งที่สวยงามหล่อเลี้ยงจิตใจที่เวิ่นเว้อนี้ให้มีชีวิตอยู่ได้ เข้าใจไหม?"
บอกตามตรงครับ ผมคิดว่าผมจะเวิ่นเว้อก่อนเป็นแน่ ถ้าจะบอกว่าเข้าใจเรื่องที่อาร์ทพูดมาทั้งหมด ซึ่งผมไม่เข้าใจเลยสักนิดเดียว
ตรรกะของผมตั้งอยู่บนเหตุและผล สำหรับผมหากไร้ซึ่งเหตุและผลผมคงอยู่ไม่ได้ จะเทียบอย่างนี้ได้ไหมครับ?
"เอ่อ.... แล้วผมเก็บแก้วไปล้างได้รึยังครับ?" ผมเอื้อมมือไปที่แก้วใบเดิม แล้วถูกอาร์ทตีมือจนแดงชา
"โอ้ย! อาร์ทตีผมทำไม?"
"ที่พูดไปนี่ไม่เข้าใจเลยใช่ไหม?"
"ขะ...เข้าใจสิครับ"
"ไม่อ่ะ ชาร์ลไม่เข้าใจอ่ะ ไม่งั้นคงไม่ทำอย่างนี้"
"อาร์ทครับ..........เลิกซกมกซะทีเถอะครับ...โอ้ย!" พูดจบก็โดยหมัดพลังมดของอาร์ทเข้าเป้าตาอย่างจัง มันไม่ได้เจ็บเพราะน้ำหนักหมัดเลยสักนิด แต่ที่เจ็บเพราะมันจิ้มเข้าตาผมน่ะสิครับ
"....ฮึ่ม! ไม่พูดด้วยแล้ว ถอยไปไกลๆ เลย กลับห้องนอนไปเลยไป๊!" อาร์ทถีบเท้าเข้าที่เอวของผมแรงๆ จนผมตกจากเก้าอี้
เจ็บครับ เจ็บตัวสุดๆ ทำไมเรื่องชานี่ทำให้ผมเปลืองตัวสุดๆ อย่างนี้ ผมพยุงตัวเองลุกขึ้นจับไปที่มือของอาร์ทแต่โดนสะบัดออก
"ไม่ต้องมาจับ!" อาร์ทตวาดแต่ไม่ยอมมองหน้า งอลอีกแล้วครับ ประจำ ภรรยาของผมอาร์ทตัวแม่จริงๆ ผมต้องง้ออีกยกใหญ่กว่าจะหายโกรธ
ซึ่งเรื่องที่โกรธก็แสนจะทำให้ผมปวดหัว คราวก่อนเรื่องเสื้อผ้าที่ใส่ซ้ำมาแล้ว 3 วัน
คราวนี้เรื่องแก้วชาใบเดียว เฮ้อ~ คนอย่างผมไม่เคยต้องลงทุนลงแรงง้อใครขนาดนี้
มีแต่เค้าคนเดียวที่ผมให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ทั้งโดนถีบโดนเตะโดนต่อยก็ไม่เคยบ่น เป็นสามีที่สุดแสนจะดีเลิศประเสริฐศรีขนาดนี้
ทำไมต้องทารุณผมด้วยก็ไม่รู้ ซิกๆ (แสร้งบีบน้ำตา)
"....." อาร์ทเหลือบมองมาที่ผม ผมยังทำเป็นน้ำตาตกใน เหมือนพจมาน ณ.บ้านทรายทองไม่มีผิด
"....ไม่เห็นต้องร้องไห้เลย...." ยอมให้เลยคนนี้ พอแกล้งแสดงละครนิดหน่อยก็โอนอ่อนทันที หึหึ น่ารักจริงๆ ภรรยาใครก็ไม่รู้
"อ้ะ...ยิ้มทำไม หยุดเลยนะ" หึหึ หน้าแดงขึ้นอีกแล้ว หลากหลายสีหน้าที่เค้าแสดงออกมาให้ผมเห็นเดียว ผมลุกขึ้นโอบรอบคอเค้า
"อะ...อะไร?"
"คืนดีกันนะครับ ไม่เก็บแก้วแล้วก็ได้ แต่ขอเก็บอาร์ทแทนนะ" ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดปฏิเสธ ผมรีบยกตัวเค้าขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิงทันที รู้สึกตัวจะหนักขึ้นนะนี่ สงสัยเลี้ยงดีไปหน่อย ไม่เป็นไรคืนนี้อีกยาว เรามาออกกำลังกายกันดีกว่า
ผมจูบไปที่ริมฝีปากที่พยายามจะพูดอะไรออกมา จูบที่เร่าร้อนทำให้อาร์ทยกมือขึ้นคล้องคอผมโดยง่าย
ต่อไปก็ที่เตียง
ได้ออกกำลังกายกันทั้งคืนแน่ คืนนี้ผมจะนอนฟังเสียงครางกระเซ่าของอาร์ททั้งคืน หึหึ ภรรยาใครก็ไม่รู้น่ารักน่ากอดน่าฟัดที่สุดในโลก
----------------------------------------
เพื่อตอบแทนคุณผู้อ่านทุกท่าน จึงได้มีตอนพิเศษตอนนี้ขึ้น
และด้วยอารมณ์ล้วนๆ อยากเขียนค่ะ 555+ ไม่มีฉากหวือหวา โจ่งครึมนะคะ
เพราะอยากนำเสนอความซกมกและบ้าบอของอาร์ทตัวแม่ค่ะ :laugh:
-
ไม่มีอะไรจะกล่าว นอกจาก o13
-
น่ารักมากๆเลยค่ะ ชอบบบบบบบบ
-
เกือบจะน่ารักถ้าไม่ติดว่าอาร์ทซกมก อิอิ
สนุกมากเลยค่ะเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
-
ชอบสุดๆอ่ะ^^
-
อาร์ทยังน่ารักและซกมกเหมือนเดิม 555 ขอบคุณมากค่ะ
-
น่ารักอ่ะ อาร์ทก็อาร์ทสมชื่อเลยย :o8:
-
เรื่องสั้นไปนะคะเนี่ย จริงๆแล้วเรื่องโรแมนติคดี ตัวละครต่างๆก็น่ารักดี แต่เรื่องสั้นไปอ่ะ แบบว่าคุณดำเนินเรื่องสั้นไปอ่ะ มันเลยเหมือนปั๊ปปี้เลิฟมากกว่าจะเป็นรักแท้ที่ยาวนะอ่ะ อามณ์มันจะชอบก็ชอบนะแต่ไม่ที่สุดอ่ะ จากเรื่องน่าจะดีเลยเฉยๆไปหน่อย ตัดอารมณ์ความฟินกันไปเยอะหน่อยเหมือนกัน แต่ที่พล่ามมาทั้งหมดไม่ได้ติว่าเรื่องไม่ดีนะคะ คือ ดี แต่..ไม่ดีที่สุด ถ้าเป็นเรื่องยาวคงเลิศกว่านี้ นี่น่าจะเป็นคำตอบที่ตรงใจไอที่สุดแล๊ะ
:katai2-1:
-
มันไม่ใช่อาร์ตแล้ว มันคือความซกมกส่วนตัว
-
น่ารักกกก อาร์ทนี่อาร์ทสมชื่อ
น่ารักจริงๆ คุณชาลนี่ตื้อสุดๆ ด้วย
-
ขอบคุณ..สนุกมากเลย :mew1: :mew1:
-
เอิ่ม เทวดาน้ำชา อาร์ทจ๋าเธอมันที่สุดจริงๆ
ขอบคุณมากค่าสำหรับเรื่องน่ารักๆ แบบนี้
-
o13 อาร์ทจริง ๆ
-
น่าร๊ากกก :katai2-1: :katai2-1:
-
ชาร์ล กับ อาร์ท น่ารักมากเลยครับ
ขอบคุณครับ
-
น่ารักอ่าาาา :impress2:
-
:mew1: คุณชาร์ลเป็นสามีที่น่ารักมากๆเลยค่ะ
อิอิ. แต่ต้องมีจินตนาการอีกนิดนะคะเพราะคุณภรรยาติสมากค่ะ. อาร์ตตัวแม่จริงๆ :hao6:
-
อ่า...น่ารัก กรุบกริบๆ
แต่ตอนจบแบบ unhappy นี่ไม่ไหวนะ
-
:m3: .. ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ นะคะ ชาร์ลกับอาร์ทน่ารักมากเลยค่ะ ฮ่าๆ เป็นพระเอกที่พิสูจน์ให้ได้รู้เลยว่า 'ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก' ยังใช้ได้ผลอยู่จริงๆ เพราะตอนนี้ในโลก
ของอาร์ทคงมีแต่ชาร์ลอยู่เต็มไปหมดเลยล่ะเน้อ~ >\\<
-
โรแมนติกมากเลย :m1: :pig4:
-
:กอด1: :L1: :pig4:
-
โรแมนติกมุ้งมิ้งสุดๆแต่อาร์ทซกมกได้ใจ55555555
-
อย่างน้อยความซกมกก็มีประโยชน์นะ ใช้ลากอร์ทขึ้นเตียงได้ไง ชาร์ล อิอิอิ :mew4:
-
กลับมาอ่านอีกรอบก็สนุกมากเหมือนเดิม
-
:L2:
-
ชาร์ลตอนจีบเจนนี่หน้าด้านมากค่ะ ตื๊อมันทุกวิธีเลย น่าหมั่นไส้จริงๆ
แต่พอมาขออาร์ทเป็นแฟนแล้วทำไมเป็นผู้ชายที่รู้สึกดีงามพระรามสี่อย่างนี้? :mew1:
-
อาร์ททำตัวเป็นไม้กันหมาได้ดีที่สุดเลยค่ะ :-[
ส่วนคุณชาร์ลก็ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลกสินะคะ
-
สงสารคุณชาร์ล 555
-
อาร์ทตัวแม่ช้อบชอบ
-
ฮ่าๆ น่ารัก
-
ขอบคุณค่ะ น่ารัก ^^