ตอนที่ 15 ตอนจบแล้วนะคะ :mew3:
ภาม
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเย็น มองคนข้างๆที่นอนหลับซุกตัวอยู่ข้างๆผม ผ้าห่มคลุมตัวมีเพียงผมที่โผล่พ้นออกมาจากผ้าห่ม
ผมลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างสบายตัวเมื่อได้ออกกำลังกายในร่มผ้าหลังจากห่างเหินมานาน เมื่อเข้ามาในห้องน้ำผมมองสภาพตัวเองในกระจกแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ ก็ใครจะคิดหล่ะว่าครีมชื่อที่ว่าหวานละมุนนั้นจะร้อนแรงขนาดนี้ ร่องรอยจูบบนตัวผมเป็นสิ่งยืนยันได้ดี บนหัวไหล่มีรอยฟันของครีมอยู่นี่ยังไม่รวมรอยข่วนที่ด้านหลังอีก ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก่อนมองนาฬิกา ผมลงไปบอกแม่บ้านให้เตรียมอาหารเย็นพร้อมกับให้ขึ้นไปจัดการกับผ้าปูที่นอนบนห้องของผม ก่อนจะขึ้นมาปลุกคนนอนหลับ
“ครีมครับ ครีม” ผมปลุกคนที่นอนหลับอยู่
“อื้อ” ครีมห่อตัวเองกับผ้าห่มก่อนจะขยับตัวไปอีกทาง ผมดึงผ้าห่มออกก่อนจะปลุกอีกครั้ง
“ครีมลุกมากินข้าวก่อนแล้วเดี๋ยวค่อยมานอนต่อนะครับ” น้องที่ถูกผมแย่งผ้าห่มไปตอนนี้มีเพียงร่างกายเปลือยเปล่ากับร่องรอยที่ผมทำไว้เต็มตัวเริ่มนอนขดตัว จนเหมือนแมวไม่สนใจผมอยู่ดี ผมเลยตัดสินใจอุ้มคนนอนหลับทันที ผมพาครีมเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะวางตัวลงในอ่างน้ำ น้องรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมามองผมก่อนจะค่อยๆปิดเปลือกตาลง
“อาบน้ำนะครับ”
“อื้อ” ผมค่อยๆเปิดน้ำใส่และเริ่มทำความสะอาดคนในอ่างที่ยังคงหลับตานิ่งอยู่
“ครีมครับล้างข้างในหน่อยนะ” ผมไม่รอคำตอบรับล้วงเข้าไปในช่องทางของน้องทันที จนน้องลืมตาทันที น้ำตาน้องไหลออกมาแทบจะทันที ผมล้างเสร็จก็พบว่าน้ำในอ่างจากที่ใสๆก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนๆ ผมหันไปคว้าผ้าเช็ดตัวก่อนจะเอามาห่อหุ้มตัวน้องแล้วพาน้องมาวางลงที่เตียงนอนที่เปลี่ยนชุดเครื่องนอนเรียบร้อยแล้ว น้องยังคงมีน้ำตา ผมเช็ดตัวให้น้องก่อนจะหาเสื้อผ้าให้สวมใส่
“เจ็บมากไหมครีม” น้องพยักหน้า
“ครีมอยากนอน ให้ครีมนอนนะ”
“กินข้าวกินยาก่อนแล้วค่อนนอนนะครับ” น้องพยักหน้า
ผมเดินมาข้างล่างเพื่อดูว่าแม่บ้านเตรียมกับข้าวเสร็จรึยัง ก่อนจะพบเข้ากับภีมและน้องภู ผมรีบตรงเข้าไปหาน้องภูทันที
“ภู คือ ครีม...” ผมยังพูดไม่จบน้องภูก็ยืนถุงยามาให้ผมทันที ผมเปิดถุงก่อนจะมองน้องภูอีกครั้ง
“ให้ตายเถอะ พี่ภีมกับพี่ภามนี่สมกับเป็นเพื่อนกันจริงๆ น้องอยู่ไหนครับ”
“ข้างบนนอนอยู่” น้องภูไม่พูดอะไรอีกคว้าถุงยากจากมือผมไปก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนผมทันที ผมหันไปสั่งแม่บ้านให้ยกอาหารตามขึ้นไปเมื่อเสร็จแล้ว ก่อนจะรีบวิ่งตามน้องภูขึ้นไป
“ครีมครับ ครีมนี่พี่ภูนะครับ” น้องครีมลืมตามองภู
“พี่ภู” ภูลูบหัวครีมอย่างปลอบประโลม
“ไม่เป็นไรนะ พี่เอายามาให้พี่ขอดูแผลหน่อยนะ”
“เห้ย ดะเดี๋ยวน้องภู”ผมรีบห้ามทันทีเมื่อน้องภูบอกจะดูแผลก็ แผลมันมีอยู่ที่เดียวนี่นาแล้วน้องภูจะดูอะผมยอมไม่ได้นะ
“ไม่ต้องมาเห้ยพี่ภาม ถ้าไม่ทายาแผลจะไม่หายคนที่เจ็บก็คือน้องครีมนะครับ” น้องภูพูดเสียงเย็นเฉียบ
“ไอ้ภีมมึงออกไปเลย”ผมหันไปไล่ไอ้ภีมที่ยืนอยู่ข้างหลังผม ในกรณีของน้องภูผมพอทำใจให้รับได้แต่คนอื่นผมไม่มีวันยอมแน่ๆแม้ภีมมันจะเป็นเพื่อนสนิทก็เหอะ
“เห้ยอะไร น้องภูของกูอยู่นี่กูก็ต้องอยู่นี่ด้วยสิวะ” ไอ้ภีมโวยวายทันที
“ถ้าพี่ภีมไม่ออกไป ภูจะแก้ผ้าให้พี่ภามดูเหมือนกันนะครับ” น้องภูพูดเสียงเฉียบขาดจนไอ้ภีมหน้าจ๋อยลงก่อนจะยอมออกไปนอกห้อง ผมยิ้มก่อนจะรีบหุบทันทีเมื่อหันมาสบตากับน้องภู
“ผมจะทำให้ดูครั้งเดียวนะ ต่อไปพี่ภามต้องดูแลครีมเอง เพราะพี่เป็นคนทำให้ครีมเจ็บ” ผมพยักหน้าเข้าใจ
“ครีมครับนอนคว่ำให้พี่หน่อยนะ” ครีมทำตามอย่างว่าง่าย เมื่อครีมนอนคว่ำเสร็จสิ่งที่เห็นคือกางเกงนอนของครีมที่เปื้อนรอยเลือดอยู่ น้องภูถลึงตาใส่ผมทันที ผมได้แต่ยกมือสองข้างขึ้นเป็นเชิงว่ายอมแพ้และขอโทษไปในตัว น้องภูถอดกางเกงของครีมออก ก้นขาวนวลเนียนกลมกลึงของครีมปากฎแก่สายตาของผมและน้องภูทันที น้องภูค่อยๆจับก้นกลมให้เปิดออกก่อนจะหยิบกล่องยาออกมา
“อันนี้เป็นยาแบบสอด ไม่ยากอะไรพี่ภามก็แค่สอดยานี้เข้าไปให้ครีม ทำเช้าเย็นทุกวันแล้วก็ดูแลเรื่องความสะอาดให้ครีมด้วยไม่เกินอาทิตย์ก็น่าจะหาย” น้องภูพูดพร้อมกับสอดยาแท่งสีขาวเล็กๆเข้าไปในช่องทางบวมแดงของครีมก่อนจะใส่กางเกงให้ครีม
“ส่วนอันนี้เป็นยาแก้อักเสบ แล้วก็ยาแก้ไข้ให้ครีมกินด้วย”
“ขอบใจนะน้องภู” น้องภูยิ้มรับก่อนจะก้มลงไปหาน้องครีม
“พี่กลับแล้วนะครับน้องครีม จุ๊บ” ผมรู้สึกหน้าชาทันทีเมื่อน้องภูกดริมฝีปากลงไปที่แก้มของครีม
“ไอ้ภีมเมียมึงงงง !!!!” ผมตะโกนออกไปทันที ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างของไอ้ภีมที่ก้าวเข้ามา
“อะไรของมึงไอ้ภาม แหกปากทำไม”
“เมียมึงจูบเมียกู”
“ห๊ะน้องภู!”ไอ้ภีมหันไปจ้องน้องภูทันที น้องภูยักไหล่แบบไม่สนใจ
“ก็แค่หอมแกล้งเองพี่ภามทำเป็นหวงไปได้ พี่อยากจะหอมแก้มพี่ภีมคืนก็ได้ภูไม่หึงหรอกนะ”
ผมหันไปมองหน้าไอ้ภีมที่หันมามองหน้าผมเหมือนกัน
“แหวะ” เสียงผมกับไอ้ภีมดังขึ้นพร้อมกันทันที ไอ้ภีมรีบเดินไปคว้าแขนน้องภูกลับทันที ผมแอบเห็นนะว่าน้องภูยิ้มอย่างผู้ชนะ พร้อมกับขยิบตาให้ผม ให้ตายเถอะน้องภูนี่ร้ายไม่เบา ผมหันมามองร่างบนเตียงที่ยังนอนคว่ำอยู่แต่หลับสนิทแล้ว ผมจับน้องให้เปลี่ยนท่านอนก่อนจะห่มผ้าให้น้อง ให้น้องนอนซักพักแล้วเดี๋ยวค่อยกินข้าวกินยาแล้วกัน ผมมองไปรอบห้องก่อนจะยิ้มเพราะตอนนี้ภายในห้องของผมมีข้าวของเครื่องใช้ของครีมวางอยู่ข้างๆกับของใช้ของผม ห้องที่เงียบเหงามานานตอนนี้ดูเหมือนจะมีสีสันขึ้นมา...
.
.
.
หลังจากผ่านไปเกือบอาทิตย์น้องครีมก็อาการดีขึ้นแล้ว ตอนนี้ผมกับน้องกำลังนั่งดูหนังอยู่ มีไอ้ตัวเล็กนั่งเป็นตัวประกอบฉากอยู่ข้างๆครีม ผมชำเลืองตามองน้องที่นั่งจ้องตาแป๋วๆดูหนังไม่สนใจรอบข้าง ใช่นั่นแหละไม่สนใจผมด้วยและไม่สนใจแม้กระทั่งไอ้ตัวเล็กที่เอาหัวอันใหญ่โตของมันนอนหนุนตักอยู่ด้วย น้องมักจะชอบนั่งกับพื้นเหยียดขาพร้อมกับเอาหลังพิงโซฟา น้องบอกว่านั่งแบบนี้สบายตัวดี แต่ผมอยากจะบอกมากเลยว่าผมไม่สบายใจมากที่ไอ้ตัวเล็กนอนหนุนตักน้อง ครีมของผมนะ ผมมองไอ้ตัวเล็กที่ตาปรือสบายใจเกินหน้าเกินตา พร้อมกับคิดในใจว่าเย็นนี้จะต้องพาให้มันไปวิ่งให้หอบแล้วลดข้าวลงซักครึ่งหนึ่ง หึหึ
“พี่ภามคิดอะไร ยิ้มเจ้าเล่ห์ชะมัด” น้องเงยหน้ามามองผม นี่แสดงว่าน้องสนใจผมมากกว่าไอ้ตัวเล็กไง แต่ประโยคต่อมาแทบจะทำให้ผมต้องคิดใหม่
“เจ้านายแกยิ้มแบบนี้น่ากลัวใช่ไหมตัวเล็ก นอนเพลินมากเลยนักนะไอ้หมายักษ์เอ๊ย” น้องพูดพร้อมกับลูบหัวไอ้ตัวเล็กที่หูกระดิกพร้อมหางสะบัดไปมา และน้องก็ก้มลงเพื่อจะจูบลงไปบนขนฟูๆของไอ้ตัวเล็ก และไวกว่าคิดของผม มือก็รีบคว้าคนตรงหน้า ปิดปากน้องอย่างรวดเร็ว น้องหันมาขมวดคิ้วใส่ผมทันที ก่อนจะจับมือผมออก
“ทำอะไรของพี่”
“ก็ครีมจะทำอะไรหล่ะ”
“จูบตัวเล็กไง”
“ก็ไม่ให้จูบไง” บอกตรงๆเลยว่าผมนี่ตั้งแต่มีน้องเข้ามายอมรับเลยว่าหวงน้องชะมัด
“หึงกับหมานี่นะ” น้องมองผมทึ่งๆ
“ก็นั่นแหละ ไม่ให้จูบอะ นี่ไงจูบพี่สิพี่ก็นั่งอยู่นี่ไง”
“ตัวเล็กดูเจ้านายแกสิขี้หวงวะ”
“เออ ขี้หวงมากด้วย”
“แต่เจ้านายแกก็น่ารักนะ”
“งั้นก็รักมากๆนะ”
“ชอบมั่วด้วย นะ”
“เหรอ” ผมพูดพร้อมกับก้มลงไปหาน้องที่นั่งอยู่ข้างล่างก่อนจะจูบเบาๆลงที่ริมฝีปากเล็กๆของน้อง
“เอ๊ะสงสัยจะจริง ไหนๆก็มั่วแล้วอีกครั้งแล้วกันนะ” น้องหัวเราะก่อนจะพยักหน้า แล้วเราก็จูบกันอีกครั้ง
________________________________________________________________________________________
เมื่อเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก.................................................
ครีม
ตอนนี้ผมกับพี่ภามก็คบกันมาได้มากกว่า 1 ปีแล้วมีเรื่องไม่เข้าใจกันบ้าง งอนกันบ้างในบางครั้ง แล้วก็อาจจะมีบ้างที่ผมถูกลอบยิง แต่ผมก็รอดมาได้เพราะบอดี้การ์ดฝีมือฉกาจที่พี่ภามให้ติดตามผม ผมก็กลัวนะ แต่เพราะมีพี่ภามอยู่ผมจึงคิดเสมอว่าตัวเองจะต้องรอดเพราะผมบอกแล้วว่าผมจะไม่ทิ้งพี่ภามไป พักหลังๆมาผมจึงต้องเริ่มเรียนยิงปืนด้วย แต่โดยรวมผมรู้สึกว่าผมมีความสุขมาก ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นนักแสดงแทนในฉากบู้ต่างๆแล้ว ผมมาทำงานเป็นครูสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับสถาบันเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้พี่ภามหงุดหงิดอยู่ เพราะพี่ภามบอกว่าเดี๋ยวก็มีเด็กๆมาติดผม แล้วผมไปติดเด็กจะทำยังไง ตั้งแต่ผมคบกับพี่ภามพี่ภามเป็นคนที่ขี้หวงขี้หึงมากแต่ผมก็ชอบนะ เพราะพี่ภามทำให้ผมรู้ว่าผมสำคัญกับพี่มากแค่ไหน ส่วนพี่ภามก็ยังคงเป็นหนุ่มนักธุรกิจไฟแรงเรื่องงานอย่างเดียวนะเพราะหลังจากที่ผมย้ายมาอยู่กับพี่ภามพี่ภามก็ประกาศตัวชัดเจนในเรื่องของผม ในบางครั้งผมก็ไปออกงานกับพี่ภามบ้างแต่ไม่บ่อยเพราะผมก็ไม่ชอบงานแบบนั้นเท่าไหร่ ผมเคยถามพี่ภามว่าคบกับผมแบบนี้ภาพพจน์ของพี่ภามไม่เสียเหรอ พี่ภามก็ส่ายหน้าก่อนจะบอกว่าตราบใดที่พี่มีผลประโยชน์ในทางธุรกิจก็ไม่มีใครยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของใคร ทุกคนก็แค่สนแค่เม็ดเงินและกำไรที่จะได้รับมากกว่าตัวตนของบุคคลนั้นๆ ผมฟังก็รู้สึกว่าวงการแบบนี้คงโหดเกินไปสำหรับคนแบบผมจริงๆ
“พี่ภามเดี๋ยววันนี้ครีมจะไปโรงพยาบาลนะครับ” ผมบอกพี่ภามขณะกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่
“ครีมเป็นอะไรครับ ไม่สบายเหรอ ไม่เห็นบอกพี่” พี่ภามวางช้อนส้อมลงแทบจะลุกมาหาผมทันที
“เปล่าๆๆ ครีมจะไปเยี่ยมเด็กนักเรียน พอดีน้องเค้าเป็นตัวแทนแข่งแต่เกิดอุบัติเหตุซะก่อนน้องเค้าเลยไม่ได้ลงแข่ง แล้วน้องเค้าก็ดูท่าจะเสียใจ ครีมเลยเป็นห่วง”
“ไม่ให้ไป”
“พี่ภาม”
“ก็ทำไมครีมต้องห่วงเด็กคนนั้นขนาดนั้น”
“ก็ครีมเป็นคนสอนน้องเค้านี่ครับ”
“เด็กคนนั้นไม่เป็นไรหรอก”
“พี่ภาม ครีมจะไป ถ้าพี่ภามไม่อยากไปกับครีม ครีมไปเองก็ได้”
“พี่ไปกับครีมได้ด้วยเหรอ” ผมเบะปากใส่พี่ภามทันที คนอะไรขี้หวงตลอด
หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผมกับพี่ภามก็มาถึงโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ผมเดินมาที่ห้องผู้ป่วยพร้อมกับพี่ภามที่ถือกระเช้าของบำรุงร่างกายเดินตามมา เคาะประตูห้องสามครั้งผมก็เปิดประตูเข้าไป พบกับนักเรียนของผมที่นอนขาข้างนึงเข้าเฝือกอยู่
“ไฟ เป็นไงบ้าง”
“ครูครีม สวัสดีครับ” ไป หรือนักเรียนที่ผมสอนอยู่ยกมือสวัสดีก่อนจะมองไปยังบุคคลที่ยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างหลังผม
“นี่พี่ภาม แฟนครูเอง”
“อ๋อ ครับสวัสดีครับพี่ภาม” คนหน้าบึ้งที่สีหน้าดีขึ้นพยักหน้ารับไหว้
“นี่ของบำรุงกำลัง กินเยอะๆนะ ปีนี้ไม่ได้ลงแข่งเดี๋ยวปีหน้าค่อยลงใหม่นะ ครูจะติวเข้มให้ทุกวันเลย”
“โห ไม่ไหวมั้งครู ครูติวเข้มผมก็อ่วมสิครับครูโหดอะ” ผมหัวเราะผมคุยกับไฟต่ออีกสักพักก่อนจะขอตัวกลับ
ผมกับพี่ภามเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย
“พี่เพิ่งรู้ว่าเด็กนักเรียนของครีมนี่ ดูจะโตเกินเด็กมากเลยนะ”
“น้องเค้าเป็นนักกีฬา ของโรงเรียนด้วยตัวก็เลยโตกว่าเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน” ไฟเป็นเด็กอายุ 17 แต่รูปร่างสูงใหญ่เกินเด็กจริงๆนั่นแหละ
“แสดงว่าคงจะมีคนรุมชอบเยอะเลยสินะ”
“ก็มีเยอะเลย ทั้งผู้ชายผู้หญิงเคยตามมาถึงที่เรียนก็มีนะ ก็น้องเค้าหน้าตาดีนี่นา แถมอนาคตไกลด้วยเพราะอนาคตนักกีฬาทีมชาติเลย” ใช่ไฟเป็นเด็กหน้าตาหล่อมากและมีคนชอบเยอะแยะ ผมเหล่สายตามองคนที่เดินข้างๆที่หน้าเริ่มบูดขึ้นเรื่อยๆเมื่อผมพูดถึงไฟ จนผมอดจะกลั้นยิ้มไม่ได้ ผมหยุดเดิน พี่ภามก็หันหน้าบึ้งๆมามอง ผมค่อยๆเดินไปหาก่อนจะจับมือพี่ภาม
“น้องเค้าหล่อ อนาคตไกล แถมยังเด็ก แต่ครีมชอบคนแก่ขี้หวง ขี้หึง แต่มืออบอุ่นคนนี้มากกว่านะ ไม่ใช่สิไม่ใช่มากกว่าแต่รักคนนี้คนเดียวต่างหาก” พี่ภามยิ้มกว้างก่อนจะจูบลงบนหน้าผากของผม
ถามว่าเขินไหมผมก็ไม่ได้ด้านขนาดนั้นเขินมากบอกตรงๆ แต่เพราะผมอยากให้คนข้างๆนี้รู้ว่าผมแคร์ความรู้สึกพี่เค้ามาก ผมอยากชัดเจนในทุกการกระทำ เพราะผมเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์นักในเรื่องของความรัก เมื่อผมเจอคนที่เคียงข้างผมผมก็แค่อยากจะดูแลให้ความรักของเราคงอยู่ ไม่ใช่อยู่ด้วยกันแค่ตัว อยู่ด้วยกันแค่ความเคยชินแต่ไม่มีความรัก พูดถึงครอบครัวผม ผมก็กลับบ้านบ้างเป็นบางครั้งเตี่ยกับแม่ยังคงทะเลาะกันเหมือนเดิม แต่ดูจะน้อยลงเพราะตอนนี้แม่ของผมกำลังเห่อสมาชิกใหม่ของบ้านเลยไม่ค่อยได้สนใจเรื่องทะเลาะกับเตี่ยเท่าไหร่ ใช่ครับพี่หญิงพี่สะใภ้ผมคลอดลูกแล้ว ผมได้หลานชายหน้าตาน่าเกลียดน่าชังมากเลย แต่คนที่เห่อที่สุดคงหนีไม่พ้นเฮียข้าวนั่นแหละพ่อมือใหม่ป้ายแดง ส่วนเจ้น้ำตาลตอนนี้ก็ใกล้จะมีข่าวดีแล้วเจ้กำลังจะแต่งงานกับหมอหนุ่มที่ทำงานโรงพยาบาลเดียวกันนั่นแหละ ถามว่าเตี่ยกับแม่ยอมรับเรื่องผมกับพี่ภามไหม ผมก็คงได้แต่รอเวลาให้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความรักของพวกผมไม่ได้ฉาบฉวยแบบที่ใครมอง
.
.
.
.
บรรยากาศเงียบสงบ ตรงหน้าผมเป็นสุสานสีขาวสะอาดตา รอบๆเป็นต้นไม้มีทั้งไม่ดอกและไม้ประดับที่ถูกจัดตกแต่งอย่างสวยงาม รอบๆบริเวณสุสานถูกดูแลเป็นอย่างดีทั้งสะอาด ไม่มีหญ้าขึ้นรก แสดงถึงความเอาใจใส่เป็นอย่างดี พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ถูกห้อมล้อมด้วยรั้วไม้อย่างดี
“พ่อครับ ผมพาคนสำคัญของผมมาหาพ่อแล้วนะครับ” พี่ภามพูดขึ้นเมื่อเราสองคนยืนอยู่หน้าสุสาน ซึ่งมีเพียงชื่อของพ่อพี่ภามสลักไว้ ผมยกมือไหว้พ่อพี่ภาม
“ตอนที่ผมเสียพ่อไป ผมก็คิดมาตลอดว่าผมจะไม่ยอมให้ตัวเองมีสิ่งสำคัญ เพราะผมไม่อยากจะเจ็บปวดเหมือนที่พ่อเป็นผมเคยโกรธพ่อที่วันนั้นพ่อปกป้องผม ทำให้ผมมีชีวิตรอดและอยู่กับความเจ็บปวดจากการสูญเสียเพียงลำพัง แต่ตอนนี้ผมขอบคุณพ่อมากที่ปกป้องผม การมีชีวิตอยู่ของผมทำให้ผมเจอครีม เจอคนที่ผมยินดีจะปกป้องด้วยชีวิตเหมือนที่พ่อปกป้องผม ผมเข้าใจแล้วว่าการมีสิ่งสำคัญนั้นทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นแค่ไหน ผมรักพ่อนะครับ” พี่ภามบีบกระชับมือผมแน่นขึ้น ขอบตาผมร้อนผ่าว น้ำตาที่เอ่อขึ้นมาทำให้ภาพข้างหน้าพร่ามัวนิดหน่อย
“ผมชื่อครีมนะครับ คุณพ่อ ครีมขอบคุณมากสำหรับการเสียสละของพ่อที่ทำให้มีพี่ภามในวันนี้ ครีมจะยืนอยู่ข้างๆพี่ภามเสมอแม้ว่าเส้นทางของพี่ภามจะมีอันตรายขนาดไหน พี่ภามทำให้คนที่หมดศรัทธาในความรักแบบครีมกลับมาเชื่อใจในความรักของพี่ภามอีกครั้ง ครั้งนี้ครีมก็จะดูแลหัวใจที่ถูกทอดทิ้งของพี่ภามให้ไม่ต้องเจ็บปวดอีกต่อไป”
พี่ภามดึงผมเข้ามากอด สายลมเย็นๆพัดผ่านเราสองคนราวกับเป็นสัญญาณตอบรับความรักที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
“อยู่ด้วยกันด้วยความรักแบบนี้ไปนานๆนะครับ” ผมยิ้มก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปประกบกับริมฝีปากของพี่ภามเป็นการตอบรับว่าผมยินดีที่จะอยู่เคียงข้างคนนี้ด้วยความรักในทุกวัน
_________________________________________THE END__________________________________________
จบแล้วคะ ไม่รู้ว่ายังมีคนตามอ่านอยู่ไหม เราขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เข้ามาอ่านจะอ่านแบบไม่เม้นต์ หรือจะเม้นต์ชมเม้นต์ติก็ตามแต่เราขอบคุณทุกคนคะ เพราะเรื่องนี้เราแต่งเพราะอยากให้คนอ่านเพื่อความบันเทิง จากนี้อาจจะโผล่ตอนพิเศษมาบ้างตามแต่โอกาสเอื้ออำนวย ขอบคุณนะคะนักอ่านทุกคน :กอด1: :pig4:
:กอด1: เรื่องจบได้อบอุ่นมากเลยค่ะ ตอนแรกคิดว่าเรื่องนี้จะไม่มีอะไรน่าสนใจ เปิดเรื่องมาธรรมดา แต่คนเขียนค่อยๆ ปูพื้นความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ พี่ภามน้องครีมค่อยๆ เรียนรู้กัน ในระหว่างนี้ก็มีการคลายปมหลังของทั้งคู่ไปด้วย ทำให้รู้สึกถึงความรักของทั้งคู่ที่ดำเนินไปอย่างมั่นคง ก้าวผ่านเงื่อนไขที่ต่างฝ่ายต่างมีไปด้วยกัน สุดท้าย :pig3:
:L1: ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ค่ะ :L1:
:L2: :pig4: :L2: