พิมพ์หน้านี้ - ♂ คู่หมั้นครับผม........♥♥♥ ::ตอนที่ 9:: ✽ จูบแรก...✽ (07/01/56) [P.8]
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: Neya ที่ 18-10-2012 19:15:01
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
คู่หมั้นครับผม!!
ตอนที่ 1 ::กลับมาแล้วครับ!!::
“มัม.......ผมจะกลับเมืองไทยนะ”หญิงวัยกลางคนที่กำลังนั่งถักนิตติ้งอยู่บนเก้าอี้ไกวหน้าเตาผิงหันมามองลูกรักของเธอด้วยความตกใจในสิ่งที่ลูกพูดออกมา
“ลูกจะกลับยังไง??แล้ว แล้วเรื่องเรียนละ??.........เกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกต้องกลับเมืองไทย??”ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตหยาดยิ้มผิดจากทุกวัน ริมฝีปากแดงนั้นเอ่ยเสียงนุ่ม
“ผมจะกลับไปเอาพี่ชายของผมคืน......”
............................................
............................
................
...
“คิกๆ คุณเมศ อย่าสิคะ จีน่าจั๊กจี้นะคะ คิกๆ”เสียงเล็กหวานของหญิงสาวผมน้ำตาลยาวดัดเป็นลอนดังขึ้น เมื่อชายหนุ่มที่เธอนั่งตักอยู่นั้นไซร้ไปตามคอระหงเรียวยาวของเธอ ก่อนประทับจูบจนผิวขาวอมชมพูของเธอขึ้นสีแดงเป็นรอยช้ำ หน้าอกทรงโตผิดขนาดตัวถูกจับขยี้อย่างแรงตามอารมณ์ปรารถนาของฝ่ายชาย หญิงสาวได้แต่ครางด้วยความเสียวซ่านและพึงพอใจในรสแห่งกามรมย์นั้น
“ก็จีน่าสวยไปทั้งตัวเลยนี้ครับ ผมขออนุญาตชิมหน่อยนะครับ”ว่าแล้วชายหนุ่มผมดำก็ล้วงมือเข้าไปในชุดเดรสรัดรูปสีดำที่แสนสั้นของหญิงสาว มือแกร่งค่อยๆปลดสายเชือกผูกด้านล่างของหญิงสาวเพียงแผ่วเบาซึ่งนั้นก็ไม่มีเสียงห้ามปรามจากตัวเจ้าของผ้าชิ้นนั้นแม้แต่น้อย เธอกลับยกยิ้มยั่วยวนก่อนยกสะโพกขึ้นเพื่อให้ชายหนุ่มได้หยิบเจ้าผ้าน้อยผืนนั้นออกจากตัวเธอ
“แล้วคุณเมศอยากชิมตรงนั้นก่อนดีละคะ..........ตรงนี้หรือว่าตรงนี้หรือว่า...............ตรงนี้”จีน่าค่อยๆใช้นิ้วที่เคลือบเล็บแดงสดของเธอชี้ไปที่ปาก ไล่ลงมาที่หน้าอกและสุดท้ายตรงช่วงล่างของเธอที่อยู่บนตักของชายหนุ่มพอดี ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ บีบเคล้นตรงส่วนโค้งนูนผายออกอย่างมันมือ กระซิบข้างหูเสียงพร่า
“มันก็ต้องตรงนี้อยู่แล้วซิครับ”ชายหนุ่มกระดกเอวขึ้นเล็กน้อยเป็นการบอกใบ้ หญิงสาวยังคงหัวเราะคิกอย่างสมใจ เสียงร้องครางดังขึ้น เมื่อชายหนุ่มลูบคลำไปทั่วเนื้อตัวของเธออีกครั้ง ทั้งสองต่างกอดรัดผลัดกันถอดเสื้อผ้าปลดเปลื้องอารมณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น หากไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อ.........
“ตาเมศ!!!!!!........ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยนะ บัดสีบัดเถลิงที่สุด!!!”เสียงกรีดร้องราวกับเสียงกัมปนาทของคุณหญิงชดช้อย อาชวโยธิน มารดาของปรเมศ ชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงดังขึ้น ทั้งสองผ่ายที่กำลังนัวเนียต่างรีบผละออกจากกันด้วยความตกใจ
“แม่!!!!แม่มาคอนโดผมได้ไง แล้ว...แล้วแม่เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่??”ชายหนุ่มถามมารดาเสียงตระหนกรีบใส่เสื้อที่เค้าขว้างทิ้งออกไปทันที
“มาตอนที่แกเห็นนั้นแหละ!!!ถ้าไม่มาจะรู้หรือไงว่าแกพา...........มากกกอดอยู่ที่นี่”คุณหญิงชดช้อยปรายสายตามองหญิงสาวตรงหน้าที่เอาผ้าห่มคลุมกายอย่างเหยียดๆ แม้จะไม่ชอบใจในสายตาคู่นั้น จีน่าก็ยกมือไหว้คุณหญิงชดช้อยทันที
“สวัสดีคะคุณหญิงแม่ จีน่าค่ะ”
“ฉันไม่ได้อยากรู้จักเธอ ไปซะไม่งั้นฉันจะฟ้องเธอฐานบุกรุกที่ส่วนบุคคล”คุณหญิงโบกมือไล่จีน่าอย่างนึกรำคาญ หญิงสาวหันไปหาปรเมศอย่างขอความช่วยเหลือ
“แม่ครับ จีน่าเป็นแฟนผมนะครับ....”
“แฟน??? แฟนหรือกิ๊กยะ นี่หล่อนฉันจะบอกให้ ฉันรู้นิสัยลูกชายฉันดี อีกสักสองอาทิตย์เค้าก็เบื่อเธอแล้ว รีบไปตอนนี้ดีกว่า จะได้ไม่ช้ำใจ อยากได้เท่าไร่ละว่ามา เห็นแก่ความสงสารนะเนี่ย”คุณหญิงดึงเงินออกมานับทันที ก่อนวางลงบนเตียง
“เมศคะ ไม่จริงใช่ไหมคะ ที่แม่คุณพูดมา”ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวแล้วยิ้มแหยๆ จีน่าแทบอยากจะกรีดร้องที่ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธคำพูดของคนเป็นแม่แม้แต่น้อย เธอจึงหยิบเงินอย่างแรงก่อนจะเดินไปแต่งตัวในห้องน้ำและพลุนพลันออกจากห้องไป ปล่อยให้ชายหนุ่มนั่งคอตกเซ็งอยู่หน้าแม่ตัวเอง
“แม่อะ!!!ทำงี้ได้ไง คนนี้กว่าจะจีบติดแทบลากเลือด ยังไม่ทันได้ชิมเลย”คุณหญิงส่งสายตาคมกริบให้ลูกชายตัวดี ก่อนเขกหัวลงไปทีหนึ่ง
“นี้แนะ!!!เจ้าชู้นักนะ แม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้วเนี่ยมีลูกชายเสเพลอย่างนี้”ชายหนุ่มคลำหัวเล็กน้อยก่อนบ่นเบาๆ
“ก็ไว้อย่างเดิมนั้นแหละครับ”
“ว่าอะไรนะ!!! ไม่รู้แหละไม่ต้องอยู่มันแล้วคอนดง คอนโด กลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย เอากุญแจที่อยู่กับเรามาด้วย”
“โธ่!!!แม่อะ”
“ไม่ต้องมาโธ่!!! กลับเดี๋ยวนี้เลยตาเมศ”ชายหนุ่มโคลงศีรษะก่อนลุกขึ้นเดินตามหลังมารดา......หมดกันชีวิตเพล์บอยของนายเมศ
เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ของตนแล้ว ชายหนุ่มก็เดินลิ่วหวังขึ้นห้องไปพักผ่อนแต่กลับโดนคุณหญิงชดช้อยเรียกไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยวตาเมศลงมาคุยกันก่อนอย่างเพิ่งขึ้นห้อง”
“คร้าบบบบ”ปรเมศพูดเสียงยานคางก่อนเดินตามไปทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวนุ่มราคาแพง กรอกตาเบื่อหน่ายเตรียมรับการเทศนาจากมารดา
“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วเรา”
“28 ครับ”
“นั้นสิ 28 แล้วไม่คิดหาใครมาคบเป็นตัวเป็นตนบ้างหรือไง”
“ก็มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจขนาดนั้นนี่ครับ”
“แต่มันก็ไม่สมควรทำตัวเสเพลอย่างนี้............หน้าที่การงานเรารึก็เป็นถึงรองประธาน ไม่กลัวลูกน้องมันจะนินทาบ้างหรือไง”
“ผมว่ามีแต่ลูกน้องจะอิจฉามากกว่าครับที่เจ้านายมีเสน่ห์เหลือร้ายขนาดนี้”ปรเมศตอบพลางยกยิ้มขำ เมื่อเค้าพอจะรู้จากเลขามาบ้างว่าลูกน้องชายต่างอิจฉาเค้าที่ได้ควงสาวสวยๆกันขนาดไหน
“แม่ไม่ได้ให้แกมาพูดเล่นนะ!!!ถ้าแกไม่ปรับปรุงตัวละก็ แม่จะจับแกแต่งงานกับผู้ชายให้มันรู้กันไปเลยว่าจะมีผู้หญิงหน้าไหนอยากจะมายุ่งกับแกอีกไหม!!!”
“แม่พูดเล่นใช่ไหมเนี่ย แล้วมีลูกสะใภ้ผู้ชายไม่อายคนหรือไงครับ”คุณหญิงชดช้อยเชิดหน้าตอบ
“อย่างน้อยก็รับได้มากกว่าให้ลูกชายไปมั่วจนติดโรคละกัน!!! จำไว้คนอย่างคุณหญิงชดช้อยพูดจริงทำจริง!!”พูดจบคุณหญิงชดช้อยก็ลุกเดินขึ้นห้องทันที ชายหนุ่มยักไหล่พลางคิดว่าอย่างมารดาตนคงไม่ทำจริงอย่างแน่นอน แต่ช่วงนี้คงต้องทำตัวสงบเสงี่ยมสักพักจะดีกว่า.....
“บอสคะ นี้เอกสารเนื้อหาที่จะประชุมคราวนี้คะ”หญิงสาวผมยาวสลวยในชุดเสื้อเชิ้ตขาวรัดรูปส่งเอกสารให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนจะส่งสายตาหวานเยิ้มให้
“ขอบคุณครับแอน”ชายหนุ่มรับเอกสารมาพร้อมจับมือเลขาสาวแน่น หญิงสาวแกล้งบิดตัวอย่างเขินอายแล้วดึงมือออกดวงตายังคงส่องประกายความท้าทายยั่วยวนให้บอสหนุ่ม ปรเมศมองหญิงสาวแล้วรู้ถึงความต้องการทันที หลังจากที่แม่ของเค้าเตือนเรื่องความชู้ก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว คงถึงเวลาที่จะเริ่มล่าเหยื่ออีกครั้งสักที เหยื่อคนแรกที่เค้าจะล่าคงไม่พ้นเลขาสาวสวยนามแอน ในตอนแรกแอนเป็นเพียงหนึ่งในเลขาสาวในกองเลขาที่บริษัท ไม่ใช่เลขาของเค้าโดยตรงแต่เมื่อพิมวรรณเลขาวัยสี่สิบที่แม่ของเค้าหามาให้ขอลางานกลับบ้านเป็นเวลาสองอาทิตย์ เค้าจึงรีบตกลงทันทีและให้มัทรีหรือแอน หญิงสาวที่เค้าเล็งมานานมารับช่วงต่อ ซึ่งเค้าว่ามัทรีก็รู้จุดประสงค์ของเค้า ถึงได้ชะม้อยตายั่วใส่เค้าตลอดเวลา
“แอนตรงจุดนี้ มันผิดนะครับ”ชายหนุ่มชี้ลงไปบนกระดาษมั่วๆ เหลือบมองหญิงสาวที่รีบเดินมาชิดกับตนทันที
“ตรงไหนคะบอส”มัทรียื่นหน้าจนมาชิดกับใบหน้าของปรเมศพลางก้มลงมองอย่างสงสัย
“ตรง จุ๊บ!! อ๊ะ!!ขอโทษนะครับ”ปรเมศกล่าวขอโทษเมื่อเค้าหันหน้าไปแล้วริมฝีปากโดนตรงปากที่เคลือบสีแดงของหญิงสาว
“อุ๊ย!!!บอสละก็ คิกๆ เล่นอะไรก็ไม่รู้”มัทรีหัวเราะเบาๆเหมือนไม่ถือสา ปรเมศดึงตัวหญิงสาวลงมานั่งที่ตักทันที มัทรีทำเป็นแกล้งขัดขืนเล็กน้อยแต่กลับไม่ยอมลุกจากตักของชายหนุ่มสักที
“บอสจะทำอะไรนะคะ ปล่อยแอนเถอะคะ”มือซุกซนค่อยๆเริ่มลูบไล้ไปตามเนื้อตัวขาว ริมฝีปากบางหยักสวยกระซิบที่ริมหู
“แอน รู้ตัวไหมว่าเป็นคนมีเสน่ห์มาก”หญิงสาวยกยิ้มพอใจในคำพูดของคนที่ตนนั่งตักอยู่ ก่อนจะแกล้งทำเป็นมองอย่างไม่เข้าใจ
“แอนไม่เข้าใจที่บอสพูดเลยคะ ปล่อยแอนก่อนนะคะ”ปรเมศแกล้งบีบหน้าอกข้างหนึ่งของมัทรีอย่างแรกจนเธอร้องอุ๊ยด้วยความหมั่นไส้แกมหยอก แล้วค่อยๆปลดกระดุมเม็ดแรกของเธอออก
“ถ้าไม่รู้ เดี๋ยวผมจะบอกให้นะครับ แต่ค่าบอกคงต้องคิดแพงหน่อยนะ”พูดจบก็ปลดกระดุมหญิงสาวออกจนหมดแล้วหันตัวของเธอให้หันมาหาตนเอง มองดวงตาที่ปะทะกันอย่างสื่อความปรารถนา
“ได้คะ แอนก็อยากรู้เหมือนกันว่ามีเสน่ห์ตรงไหน”ชุดชั้นในสีชมพูถูกถลกขึ้นอย่างรวดเร็ว บอสหนุ่มวาดลิ้นไปตามหน้าอกใหญ่ที่เด้งส่ายไปมาตรงหน้า หัวนมชมพูถูกปากดูดดึงจนเปียกแฉะไปหมด
“อ๊ะ!!อ๊า!!!บอสคะ เบาๆคะแอนจะกลั้นเสียงไม่ไหว”มัทรีดึงหัวของปรเมศให้เข้าหาเธอลึกยิ่งขึ้น สะโพกผายส่ายบดด้านล่างของชายหนุ่มอย่างเสียวซ่าน
“จ๊วบ!!จุ๊บ!!! ซี๊ด!!! แอนครับ ส่ายบดสะโพกแรงๆครับ ลึกกว่านี้อีก”ปากของปรเมศยังคงรุกรานร่างกายส่วนบนของมัทรีจนแดงเป็นหย่อม มือแกร่งย้ายลงมาที่สะโพกของหญิงสาวพลางรูดซิปด้านหลังกระโปรงของเธอย่างรวดเร็ว ไม่ผิดกันมืออีกข้างของมัทรีก็รูดซิปอีกฝ่ายออก ล้วงความเป็นชายมาถือบีบเป็นระยะๆ
“แอนครับ บนโต๊ะนะครับ”ปรเมศถามด้วยเสียงแหบพร่า
“ค่ะ”หญิงสาวรับคำก่อนจะโดนอุ้มให้นอนหงายบนโต๊ะทำงาน กระโปรงของเธอถูกกระชากออกไปแล้ว อยู่ตรงไหนเธอไม่สนใจ ตอนนี้เธอปรารถนาเพียงบอสหนุ่มตรงหน้าเท่านั้น
“จุ๊บ จ๊วบ!!! แผล่บ อึก อืม!!!จ๊วบ”ปรเมศควานลิ้นลงในช่องปากของเธอ มัทรีหน้าแดงด้วยแรงอารมณ์และเสียงที่ช่างดูหยาบโลน แต่มันก็ทำให้เธอต้องการคนตรงหน้ามากขึ้น
“จ๊วบ!!!อึก อืม!!!! แฮ่ก!! อืมมมมมม!! บอสคะ แฮ่ก อึก!!!ใหญ่จังคะ!!อึก เบาคะแอนจะรับไม่ไหวแล้วคะ”
“ซี๊ดดดดดดด!!!แอน คับมากเลยครับ ซี๊ดดดดดดด!!!”ระหว่างที่ชายหนุ่มหญิงสาวกำลังตักตวงความสุขต่อกัน เสียงเคาะประตูราวกับเสียงค้อนทุบก็ดังขึ้น ทำเอาทั้งสองสะดุ้งโหยง
“ตาเมศ!!แม่ให้เวลาห้านาที ถ้าแกไม่เปิดประตูแม่จะไขเข้าไปเอง!!!”เสียงเหี้ยมของคุณหญิงชดช้อยทำเอาปรเมศเหงื่อแตกพลั่ก
“แม่มาได้ไง”
“ซี้ด!!!!!อืม!!บอสคะรีบถอดออกก่อนเถอะคะ”มัทรีรีบบอก ปรเมศดึงส่วนที่ยังค้างคาทันที ทั้งเค้าและเลขาต่างเร่งแต่งตัวและผมเผ้าให้เร็วที่สุด
พอเวลาผ่านไปห้านาทีปุ๊ป คุณหญิงชดช้อยก็เปิดประตูผางออกทันที เลขาสาวหน้าซีดทันทีเมื่อโดนปรายตามอง คุณหญิงโบกมือไล่เธอก็รีบวิ่งออกไปทันที
“ที่ทำงานก็ไม่เว้น อยากนึกว่าฉันจะไม่รู้นะ เตรียมใจไว้ได้เลย”พูดจบก็เดินฉับๆออกไปทันที ปล่อยให้ปรเมศนั่งหน้าเครียด แม่เค้าไม่พูดอะไรอย่างนี้ คงต้องวางแผนอะไรไว้แล้วแน่ๆ
ผ่านจากวันที่เกิดเรื่องมาแล้วสองวัน แม่ของเค้าก็ยังปรกติเหมือนเดิมทำให้ชายหนุ่มยิ่งสงสัย หรือแม่จะปลงตกกับเค้าเสียแล้ว แต่ปรเมศก็มารู้ทีหลังว่านั้นเป็นความคิดที่ผิดไปมหันต์ทีเดียว
คืนหนึ่งระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังนั่งทำงานในห้องนอนของตนเองนั้น โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ปรเมศยกคิ้วเล็กน้อย มองหน้าจอก่อนยกยิ้มและกดรับทันที
“ไงครับ แพร”แพรวา หญิงสาวไฮโซอีกหนึ่งคนที่ชายหนุ่มกำลังควงอยู่ในขณะนี้โทรเข้ามานั้นเอง ถ้านับตามบรรดาผู้หญิงที่ปรเมศควงอยู่นั้นแพรวาได้เปรียบจากสาวนางอื่นอยู่มากเนื่องจากความเหมาะสมทั้งทางฐานะและหน้าตา นอกจากนั้นหญิงสาวยังแฟร์ในการคบกัน คือไม่มีการตามหึงหวงให้เค้ารำคาญใจ ทำให้เค้าคบกับเธอมานานกว่าสามปีได้แล้ว
“เมศคะ คืนนี้แพรเหง๊า เหงา ออกมาเที่ยวกับแพรหน่อยสิคะ”แพรวาเอ่ยเสียงหวาน ปรเมศมองงานบนโต๊ะก่อนตอบตกลง
“ได้ครับ แพร ว่าแต่แพรอยู่ไหนละครับ เดี๋ยวผมไปรับ”
“แพรรออยู่ที่หน้าบ้านคุณคะ แพรขับรถมา เดี๋ยวนี้คุณเลยไปนอนที่คอนโดแพรเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องเอารถไป”ปรเมศพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็อดกระเซ้าไม่ได้
“ถ้ามารอถึงหน้าบ้านแล้วทำไมไม่เข้ามาในบ้านละครับ”
“แหม!!!ถ้าแม่คุณไม่อยู่แพรก็ว่าจะเข้าอยู่หรอกคะ คุณก็รู้ว่าแม่คุณไม่ชอบแพรแค่ไหน”ชายหนุ่มหัวเราะเค้าจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เค้าเคยให้แพรวาเข้ามาทำความรู้จักกับคุณหญิงชดช้อยเพราะคาดว่ามารดาอาจไม่ไล่หญิงสาวตรงหน้าเหมือนคนอื่นด้วยฐานะทางสังคมที่พอๆกัน แต่นั้นถือว่าเป็นการไม่รู้จักคุณหญิงชดช้อยเป็นที่สุด!!!! ทันทีที่ยกมือไหว้คุณหญิงชดช้อยก็ทำหน้าเชิดแล้วออกปากเชิญแขกกลับบ้านทันที ทำเอาแพรวาถึงกับไหว้ค้างและลาจากไปอย่างอับอาย เมื่อเค้าเข้าไปสอบถามว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณหญิงทำเช่นนั้นก็ได้คำตอบว่า
“ผู้หญิงคนนั้นฉาวโฉ่มากนะในวงการไฮโซ แม่หน่ะไม่ได้คบคนเพราะฐานะนะยะ แม่คบตรงที่คนๆนั้นเป็นคนดี คนเราจะรวยจะจนก็คนเหมือนกัน แต่เรื่องความประพฤติเนี่ยสิ ทำแย่หนเดียวติดไปจนตาย”หลังจากนั้นแพรวาก็ไม่ยอมเข้ามาในบ้านเค้าอีกเลย
“ตาเมศจะออกไปไหนละ??”เสียงคุณหญิงชดช้อยที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์กับคุณพิทักษ์ผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นลูกชายคนเดียวย่องลงจากบันไดบ้าน
“ท่าทางอย่างนี้คงจะหนีเที่ยวนั้นแหละคะคุณแม่”วรารีลูกสาวคนสวยเหมือนแม่เอ่ย พลางมองพี่ชายตัวเองที่ห่างกันแค่ปีเดียวยิ้มๆ
“รู้มากนะเรา แค่ไปดื่มกับเพื่อนเองครับแม่ เดี๋ยวก็กลับ”สายตาเฉียบคมของคุณหญิงชดช้อยมองมาทำเอาปรเมศต้องกลืนน้ำลาย
“เพื่อนผู้หญิง หรือผู้ชาย”
“ผู้ชายครับ”
“แน่นะ??”ชายหนุ่มพยักหน้า คุณหญิงชดช้อยถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนโบกมือ
“จะไปทำอะไรก็ทำเถอะยะ”พูดจบก็นั่งซบอกของสามีอย่างหวานชื่น คุณพิทักษ์มองลูกชายก่อนออกปากเตือนบ้าง
“ให้มันเพลาๆบ้างนะไอ้ลูกชาย อย่าเมาเป็นหมากลับมาละ”
“ครับผมท่านประธาน”ปรเมศตอบอย่างกวนๆแล้วเดินออกนอกบ้านไป เมื่อไปถึงรั้วบ้าน ยามก็ตะเบะให้เค้าก่อนหันมาถามอย่างสงสัย
“ไม่เอารถไปหรือครับ คุณเมศ”
“ไม่ละ เพื่อนฉันรออยู่หน้าบ้านแล้ว”ยามพยักหน้าก่อนเปิดประตูรั้วให้ ทันทีที่ออกมานอกรั้วรถหรูคันสีแดงเงาวับก็ปรากฏแก่สายตา หญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถออกมาโบกไม้โบกมือให้ ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังเดินเข้าไปหา รถแท็กซี่คันหนึ่งก็จอดตรงหน้าของเค้าพอดี
“นี่ครับ ไม่ต้องทอนนะครับ”เด็กหนุ่มวัยรุ่นราวอายุสิบแปดสิบเก้าปีก้าวออกจากรถหลังจากยื่นเงินค่าโดยสารให้แล้ว ส่วนคนขับรถก็รีบกระวีกระวาดดึงกระเป๋าเดินทางเพ้นท์ลายธงชาติอังกฤษใบใหญ่ออกจากหลังรถให้
ทันทีที่ปรเมศสบตากับเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างเค้าก็ต้องขมวดคิ้วราวกับคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเห็นเด็กคนนี้ที่ไหนมาก่อน เด็กหนุ่มผมน้ำตาลทองยาวรากไทร ผิวขาวซีดอยู่ในชุดที่ราวกับหลุดออกมาจากเมืองหนาว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโตมองคนตรงหน้าอย่างงุนงงสักครู่ก่อนจะยิ้มหวานทั้งตาและปากแดงๆนั้น ทำให้รอบๆบริเวณที่เคยมืดสว่างไสวขึ้นมาทันที ร่างกายผอมบางโถมเข้ากอดปรเมศอย่างแรง หูเค้าได้ยินเสียงร้องกรี๊ดมาจากอีกฝั่งของถนน เดาได้ว่าคงเป็นเสียงของแพรวา แต่ตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือคำพูดของเด็กคนนี้ต่างหาก
“อาร์กลับมาแล้วครับพี่เมศ คิดถึงพี่เมศที่สุดเลย”
ติดตามตอนต่อไป :3123:
--------------------
Neya : สวัสดีคะ น้องใหม่ขอรายงานตัว เพิ่งลงเป็นเรื่องแรกสำหรับบอร์ดนี้ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอก
ของทุกท่านด้วยนะคะ(ใครหมั่นไส้อีตาปรเมศจอมเจ้าชู้ก็ด่ามาได้นะคะ) :bye2:
-
มาลงบ่อย ก็อ่านบ่อยครับ
.
ชอบอ่านจุดหักเหของชายเจ้าชู้นะ
-
ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า :pig2:
หืมมม ไม่ไหวอ่ะ ทำไมตาเมศมันถึงได้มั่วขนาดนี้ :angry2:
-
พี่เมศจะจำได้ไหม ว่าอาร์คือใคร
5555 สนุกแน่แล้วพี่เมศ
-
(ไอ้)พี่เมศมั่วมาเลย!
หึหึ จะโดนอาร์จัดการรึเปล่าน้า?
-
มารอคับ
-
โห! พี่เมศพระเอก ไหงเป็นเงี๊ย!!
รอติดตามนะคะ ^^
-
ติดตามจ้า
-
โอ๊ยพระเอกมาถึงก็ได้ใจเลย
ติดตามค่ะ o13
-
น้องอาร์ต้องกำราบให้อยู่หมัดนะจ๊ะ
-
อ๊ากกก
ชอบแนวนี้
อีตาพี่เมศจอมมั่ว ต้องโดนน้องจัดการ วะฮ่าๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
-
น่าอ่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
น้องอาร์ ทำให้พี่เมศหยุดให้ได้เลยนะ
ท่าทางคุณหญิงแม่คงจะเรียกกลับ(?)
ปัญหาใหญ่คงจะเป็ยัยแพรสินะ
รออ่านตอนต่อไปจ้าาา
บวกค่ะ
-
พระเอกจะเป็นเอดส์แล้วมั้ง
-
อุ่ยยยยยยยยยยย
-
ตอนที่ 2 :: จำผมได้หรือเปล่า?? ::
“อะไรนะครับ!!! อาร์กับพวกคุณน้าจะย้ายไปอังกฤษ!!”เด็กชายปรเมศในวัยสิบหกร้องเสียงดัง ทำเอาเด็กน้อยหน้าตาราวกับตุ๊กตาฝรั่งที่นั่งกินคุ้กกี้อยู่ข้างๆหันมามองด้วยความตกใจ
“เมศ อย่าเสียงดังสิ น้องอาร์ตกใจหมด”คุณหญิงชดช้อยเตือนเสียงเรียบก่อนเอื้อมตัวไปเช็ดขนมออกจากมุมปากเด็กน้อยที่นั่งยิ้มกว้างอยู่อย่างเอ็นดู
“ใช่จ๊ะเมศ พอดีน้าแฟรงค์ถูกโอนกลับไปที่สาขาแม่ที่อังกฤษ แล้วพวกญาติของน้าแฟรงค์เค้าก็อยากให้พวกเราไปอยู่ด้วยกัน”พิมพิกาเอ่ยขึ้น
“แต่ผมไม่อยากแยกกับน้องอาร์นี่ครับ”พูดจบก่อนดึงเจ้าตัวเล็กอ้วนกลมดูน่ารักน่าถนอมแบบตุ๊กตามากอด ส่วนเจ้าตัวที่ถูกกอดก็เอาแต่หัวเราะเอิ๊กอากด้วยความจั๊กจี้
“ไม่แยกเนอะ ไม่แยก”เสียงเล็กๆเอ่ยพลางตีแขนเด็กหนุ่มเบาๆเหมือนต้องการยืนยัน
“ช่ายยยยยๆไม่แยกเนอะ เนอะ”ปรเมศพยักเพยิดให้เด็กน้อยเช่นกัน กริยาที่เห็นตรงหน้าทำเอาแม่ของเด็กทั้งสองต่างส่ายหัวอย่างเอ็นดูปนขำ
บ้านอาชวโยธิน ครอบครัวของคุณพิทักษ์และคุณหญิงชดช้อย ผู้ซึ่งประกอบอาชีพบริษัทนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศนั้นประกอบไปด้วยบุตรชายและบุตรสาวอย่างละคน โดยมีนายปรเมศเป็นลูกชายคนโตและวรารีเป็นลูกสาวคนเล็ก โดยทั้งสองห่างกันแค่ปีเดียวทำให้ในความรู้สึกของปรเมศนั้น น้องสาวที่คลานตามกันมาออกจะเป็นตัวยุ่งสำหรับเค้าเพราะชอบแหย่ ชอบกวนเค้าเป็นประจำผิดกับเด็กน้อยอาร์เธอร์ นันทกร วินแฮม ลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านวินแฮม เด็กน้อยที่ห่างกับเค้าถึงสิบปี!!แต่ความน่ารักน่าเอ็นดูช่างเหลือร้ายยิ่งกว่าใคร เค้ายังจำได้ว่าครั้งแรกที่เห็นชายหนุ่มเชื้อสายอังกฤษหน้าตาดีที่เค้าเรียกว่าน้าแฟรงค์และหญิงสาวหน้าหวานสวยลูกสาวท่านทูตนามพิมพิกาย้ายมาอาศัยข้างๆบ้านเค้านั้น เธอก็เริ่มท้องได้ประมาณ 4-5เดือนแล้วเนื่องจากชายหนุ่มได้รับคำสั่งจากบริษัทที่อังกฤษให้ย้ายมาทำงานที่บ้านเกิดของภรรยา และทั้งสองก็เห็นดีด้วยที่จะให้ลูกได้เกิดในแผ่นดินของผู้เป็นแม่จึงรีบกลับมาตั้งแต่ที่พอจะย้ายได้
เมื่อเวลาผ่านไปสี่เดือนกว่า เด็กชายนันทกรหรืออาร์ก็ถือกำเนิด วันแรกที่เค้าได้เห็นเด็กน้อยที่โรงพยาบาล เค้ายังจำได้ไม่เคยลืมว่าเด็กน้อยใช้มือเล็กๆนั้นกำนิ้วชี้ของเค้าแน่นแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นปรเมศก็ตั้งตนเป็นพ่อคนที่สองของนันทกรทันที ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่พิมพิกาจะต้องไปทำธุระอะไรก็แล้วแต่ปรเมศจะอาสาเป็นคนดูแลหนูน้อยแทนทันที จนแม้แต่การพูดคำแรกหรือตั้งไข่ครั้งแรก เค้าก็เป็นคนที่ได้เห็นคนแรกเสมอ และสิ่งที่เค้ายิ่งกว่าภูมิใจที่สุด คือ........
“แอ๊ะ แอ๊ะ เอ๊ะ”มือเล็กๆตีลงบนต้นขาของเด็กชายที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ คนโดนตีก็หันมายิ้มให้
“ว่าไงครับ น้องอาร์สุดที่รักของพี่เมศ ตีพี่จะเอาอะไรหรอ”เด็กน้อยปรเมศในวัยสิบขวบถาม
“เอ๊ะ เอ๊ะ เอ เอ”เด็กน้อยเงี่ยหูฟังอย่างสงสัย
“ว่าไงครับ หิวหรอ เปียกหรือเปล่า”
“บู้ว!!บู้ว!!เอ เอ เม เม”เด็กน้อยส่ายหัวชี้นิ้วมายังปรเมศก่อนจะพูดอีกครั้ง
“เห๋!!อย่าบอกนะว่า ไหนร้องพูดชัดๆอีกทีสิ”เด็กชายยกทารกน้อยเข้ามาใกล้ นันทกรชี้คนตรงหน้าแล้วพูดอีกครั้ง
“เม เม”
“เฮ้ย!!!ไหนเอาอีกรอบสิ ชัดๆ เมศ เมศ”
“เม เม๊ะ!!!”เสียงเล็กๆร้องอย่างขัดใจที่เสียงไม่เหมือนแต่แค่นั้นก็ทำให้ปรเมศดึงเด็กน้อยเข้ามากอดเต็มรัก แล้วเดินอย่างเร็วไปบอกแม่ของอีกฝ่ายทันที
“น้าพิม!!!น้องอาร์พูดแล้ว น้องพูดชื่อเมศด้วย!!!”หญิงสาวสองคนที่นั่งคุยกันอยู่นั้นหันมามองด้วยความตกใจและตื้นเต้นต่างรีบเดินไปหาเด็กน้อยทั้งสองทันที
“ไหนๆ จริงหรือ???ไหนพูดสิลูก พูดเร็ว”พิมพิกาบอกอย่างตื่นเต้น นันทกรยิ้มตาหยีคล้ายภูมิใจในบางสิ่งบางอย่างแล้วชี้นิ้วไปที่ปรเมศอีกครั้ง
“เม๊ะ!! เม๊ะ!!”ปรเมศยิ้มกว้างในขณะที่คนเป็นแม่หน้าเหี่ยว
“อะไรอะ ทำไมไม่พูดว่าแม่ก่อนหละ โธ่!!น้องอาร์รักพี่เมศกว่าแม่พิมพ์แล้วหรือเนี่ย”คุณหญิงชดช้อยหัวเราะคิก ไม่รู้จะช่วยปลอบอย่างไร รู้แต่ว่าตอนนี้ลูกชายตัวเองหลงรักน้องฝรั่งหัวปักหัวปำแล้วอย่างแน่นอน
.............................................
.........................
............
....
“อาร์ เป็นอยู่ที่นู้นต้องใส่เสื้อหนาๆนะ เพราะที่นู้นเค้าหนาวไม่เหมือนบ้านเรา”เด็กหนุ่มจัดการติดกระดุมเสื้อให้เด็กน้อย ส่วนคนติดก็รีบพยักหน้า
“อืม!! คุณแม่บอกว่าจะพาไปดูหิมะกองโตๆด้วย”นันทกรพูดอย่างอวดๆ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อพี่ชายสุดที่รักทำหน้าเศร้า
“พี่เมศเป็นอะไร อ๋อ!!พี่เมศอยากได้หิมะเหมือนกันใช่ม้า เดี๋ยวอาร์จะเอามาฝากเยอะๆเลยน้า อย่าทำหน้าเศร้าสิ”ปรเมศมองหน้านันทกรก่อนถอนหายใจออกมาแรงๆจับเจ้าตัวเล็กนั่งตักแล้ววางคางลงบนหัวทุยจับโยกไปโยกมา
“ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อาร์จะได้กลับมานะสิ เฮ้อ!!!บินตามอาร์ไปเรียนที่อังกฤษดีไหมนะ”แล้วมะเหงกจากมารดาสุดที่รักก็ถูกมอบให้หนึ่งลูก นันทกรเห็นอย่างนั้นก็รีบเป่าพี่ชายที่ตอนนี้กุมหัวตัวเองใหญ่ หันแอบไปมองค้อนคุณป้าแสนสวยของตัวเองด้วย
“เหลวไหลใหญ่แล้วเรา อย่าพูดจาให้น้าพิมพ์เค้าลำบากใจสิ คิดจะไปต่อเมืองนอก เอาในเมืองไทยให้รอดก่อนเถอะ”
“แม่อะ!!”
“ไม่ต้องมาแม่อะ จะไปส่งน้องหรือเปล่า รีบไปได้แล้ว”พูดจบคุณหญิงก็เดินฉับๆไปที่รถ ปล่อยให้พิมพิกายิ้มแหยๆแล้วปล่อยให้เด็กหนุ่มอุ้มเจ้าตัวน้อยของเธอขึ้นรถตามไปอีกคน
“ขณะนี้เครื่องบินโบอิ้ง X357 เที่ยวบินกรุงเทพ-ลอนดอนได้พร้อมสำหรับการเดินทางแล้วคะ ท่านผู้โดยสารสามารถขึ้นเที่ยวบินนี้ได้ที่เกต H เครื่องงบินจะขึ้นอีกภายใน 20 นาที ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านขึ้นเครื่องได้แล้วค่ะ ประกาศ เที่ยวบิน......”เสียงเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่ประกาศให้ผู้โดยสารขึ้นเครื่องนั้นราวกับเสียงมัจจุราชที่จะพรากเด็กชายนันทกรไปจากอ้อมกอดของปรเมศ เด็กหนุ่มน้ำตาซึมเมื่อคิดว่าไม่รู้จะเจอเด็กน้อยของเค้าได้อีกครั้งเมื่อไหร่ ร่างเล็กมองพี่ชายสุดที่รักแล้วก็ปาดน้ำตาให้ ร้องโอ๋ๆพร้อมตบหลังคนที่อุ้มตนอยู่เบาๆ
“สัญญานะอาร์ว่าอาร์จะไม่ลืมพี่เมศ อาร์จะต้องกลับมาหาพี่เมศนะ”
“อาร์สัญญา พี่เมศอย่าร้องนะ โอ๋ๆ อาร์ไปเที่ยวแปปเดียวเอง”หนูน้อยยังใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งตั้งเป็นจีบเล็กๆให้เห็นว่าแปปเดียวจริง
“แม่ๆ ดูพี่เมศสิโตซะเปล่าร้องไห้ด้วย แถมต้องให้น้องอาร์มาปลอบอีก”วรารีกระซิบแม่ของเธอเสียงเบาแต่หน้าตากลับขำคนเป็นพี่เต็มที่
“พี่เค้ารักของเค้า แล้วเราจะไปแซวเค้าทำไม เรานั้นแหละน้องจะไปแล้วไม่เข้าไปลาน้องหน่อยละ”คุณหญิงชดช้อยอดดุลูกสาวคนเล็กไม่ได้ วรารีบุ้ยใบ้ไปทางพี่ชายก่อนกระซิบนินทาอีกครั้ง
“ก็คุณพี่ชายเล่นไม่ปล่อยอย่างนั้น หนูจะเข้าไปยังละคะ”คุณหญิงชดช้อยถอนหายใจเบื่อหน่ายเดินไปหาลูกชายคนโตทันที
“พอแล้วเมศ เดี๋ยวน้องจะร้องตามเราพอดี คืนน้องให้คุณน้าพิมพ์ได้แล้ว”พิมพิการับลูกน้อยมาจากปรเมศก่อนลูบหัวชายหนุ่มที่เริ่มสูงกว่าเธอไปมากแล้ว
“น้าจะพาอาร์กลับมาเยี่ยมบ่อยๆนะจ๊ะ”
“น้องร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ชอบเป็นหอบบ่อยๆยังไงคุณน้าก็ต้องระวังมากๆนะครับ”
“น้าพิมพ์เค้าเป็นแม่เค้ารู้หรอกนะ........โชคดีนะพิมพ์ ยังไงก็กลับมาเยี่ยมกันบ้าง พี่คงคิดถึงพิมพ์มากทีเดียว”คุณหญิงชดช้อยยิ้มอย่างเศร้าๆ เสียดายเพื่อนบ้านรุ่นน้องผู้น่ารักคนนี้
“ค่ะ พี่ช้อย งั้นพิมพ์ลาละคะ น้องอาร์ลาคุณป้ากับพี่ๆซิลูก”
“ไปนะฮะคุณป้าช้อยสุดสวย พี่รี พี่เมศ”เด็กน้อยก้มหัวไหว้ก่อนโบกมือรัว วรารีดึงเจ้าตัวน้อยไปหอมแก้มทีหนึ่งแล้วยิ้มกว้าง
“บายจ้าตัวเล็ก สวัสดีคะน้าพิมพ์ น้าแฟรงค์”คู่รักหนุ่มสาวรับไหว้เด็กสาวก่อนรับไหว้เด็กหนุ่มที่ทำหน้าราวกับโลกจะแตกแล้วหันหลังเดินเข้าประตูตรวจเช็คร่างกาย
“เราก็กลับกันเถอะ”คุณหญิงชดช้อยชวนลูกทั้งสองกลับบ้าน ปรเมศยังคงหันกลับไปมองที่ประตูบานที่เด็กน้อยของเค้าเดินเข้าจนกระทั่งมันลับหายไปกับสายตา......
//////////////////////////////////////////
“น้องอาร์.......”เสียงพึมพำแผ่วเบาของคนที่ตนกอดอยู่ ทำให้นันทกรเงยหน้าขึ้นก่อนยิ้มรับ
“ครับพี่เมศ”ชายหนุ่มจับใบหน้าขาวแผ่วเบา จับหันซ้ายหันขวา เค้าโครงหน้าบางส่วนที่คุ้นเคยปรากฏแก่สายตา ชายหนุ่มยังคงพึมพำไม่เลิก
“น้องอาร์.......น้องอาร์จริงๆหรือ???”
“จริงๆซิครับ หรือพี่เมศลืมผมไปแล้ว”เด็กหนุ่มเอียงคอมองอย่างสงสัยก่อนจะต้องตกใจเมื่อชายหนุ่มกอดรัดตัวเองซะแน่นจนหายใจแทบไม่ออก
“น้องอาร์!!!!น้องอาร์จริงๆด้วย!!!น้องอาร์ของพี่ โอ๊ย!!!คิดถึงที่สุดเลย ไหนขอหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อย ฟอด!!!!ฟอด!!!ฟอด!!!!”เด็กหนุ่มยิ้มกับท่าทางโอเวอร์ของพี่ชายในความทรงจำของเค้า พอกำลังจะเอ่ยปากให้ชายหนุ่มหยุดการกระทำที่ทำให้เค้าหายใจไม่ออกก่อน เสียงกรีดร้องด้านหลังก็ดังขึ้น
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!!นี้มันอะไรกันคะคุณเมศ ไอ้เด็กนี้มันเป็นใคร คุณถึงมาทำสวีทกับมันต่อหน้าแพรอย่างนี้ คุณจะหักหน้าแพรเกินไปแล้วนะคะ!!!”เด็กหนุ่มและชายหนุ่มต่างหันไปมองหญิงสาวที่ตอนนี้เธอกลายร่างเป็นยักษ์ไปเสียแล้วก่อนมองหน้ากันแล้วเด็กหนุ่มก็พูดขึ้น
“แฟนพี่เมศหรือครับ”ปรเมศกำลังอ้าปากจะตอบเสียงของแพรวาก็แทรกขึ้นมาทันที
“ใช่นะสิ!!!แล้วแกเป็นใครมากอดแฟนฉันอยู่นั้นแหละ”ปรเมศขมวดคิ้วเมื่อเห็นแพรวาใช้สรรพนามเหยียดน้องชายสุดที่รักของเค้าแถมมาตู่อีกว่าเป็นแฟนกันทั้งๆที่เค้าไม่เคยตกลงกับเธอเลยสักครั้ง ความสัมพันธ์แค่ชั่วครั้งชั่วคราวต่างหากที่เธอกับเค้าได้ตกลงกันไว้
“ผมนะหรือครับ.....ผมก็เป็นคู่หมั้นพี่เมศไงครับ”
“ห๋า!!!!”สองหนุ่มสาวต่างร้องออกมาพร้อมกัน นันทกรยกยิ้มก่อนจะทำหน้าเจ็บปวด มือข้างหนึ่งกำหน้าอกแน่น เข่าทรุดลง ปรเมศเห็นท่าไม่ดีรีบประคองน้องน้อยของเค้าไว้แนบตัว
“พี่เมศ หายใจไม่ออก อึก สงสัยหอบกำเริบ”
“อาร์!!ยาอยู่ไหน บอกพี่มาเร็ว!!”
“กระ......เป๋า...สะพาย..”ปรเมศรีบหยิบยาที่นันทกรใช้ตั้งแต่เด็กในกระเป๋าทันที เด็กหนุ่มครอบปากกับยาพ่นก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ อาการหายใจติดขัดจึงดีขึ้น
“ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม??”ปรเมศถามอย่างเป็นห่วง นันทกรพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆ เมื่อเห็นดังนั้นชายหนุ่มจึงอุ้มอีกคนขึ้นหลังแล้วเดินกลับเข้าบ้านทันที ปล่อยให้แพรวาที่ยืนอึ้งอยู่ยังงุนงงไม่หาย เด็กหนุ่มหันมามองแพรวาตาแป๊วผิดเมื่อครู่ก่อนยกยิ้มสวยส่งให้ เธอถึงได้เข้าใจในทันทีว่า...............เธอเจอคู่แข่งสุดแสบเสียแล้ว!!!!!
“แม่!!!แม่ พ่อด้วยครับ ลุกหน่อย ขอทางผมหน่อย!!!”
“อะไรกันตาเมศ ดึกแล้วยังส่งเสียงดัง.....ว้าย!!!!แกเอาใครมาเนี่ย......อ้าว?? หนูอาร์”คุณหญิงชดช้อยร้องขึ้นเมื่อลูกชายคนโตตะโกนให้เธอและสามีลุกออกจากที่นั่งก่อนวางใครบางคนลงบนโซฟาตัวยาว เมื่อมองดีๆจึงรู้ว่าเป็นน้องอาร์ของเธอนั้นเอง
“สวัสดีครับคุณป้าช้อย คุณลุงพิทักษ์”เด็กหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นเพื่อไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองแต่โดนนายปรเมศกดไหล่ให้นอนลงอีกครั้ง
“นอนลงไปเลย ให้สีหน้าดีขึ้นก่อนค่อยลุกขึ้นมา”
“น้องเป็นอะไรหรือลูก”คุณหญิงชดช้อยถามด้วยความเป็นห่วง
“หอบกำเริบนะครับแม่”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ แค่ปรับกับสภาพอากาศไม่ทันเท่านั้นเอง”เด็กหนุ่มแก้ตัวเสียงอ่อย
“แล้วทำไมบอกป้าละคะว่าจะมาวันนี้ป้าจะได้ไปรับ”
“ไม่ต้องลำบากหรอกครับคุณป้า ผมอายุสิบแปดแล้วนะครับ”นันทกรพูดหน้าเง้า คนฟังถึงกับยิ้มแล้วลูบหัวเอ็นดู
“เออ!!พูดถึง........แม่ ผมขอคุยด้วยหน่อย ยัยรี พ่อฝากดูอาร์ด้วยครับ”
“เอาสิ แม่พอจะรู้อยู่ว่าเราจะพูดอะไร”ว่าแล้วคุณหญิงชดช้อยก็เดินนำลูกชายไปที่ห้องอีกห้องทันที
“อยากถามเรื่องของน้องใช่ไหม??”คุณหญิงชดช้อยนั่งลงบนโซฟานิ่ม มองลูกชายด้วยสายตาคมกริบ
“ใช่........เรื่องคู่หมั้นหมายความว่าไงครับแม่”ปรเมศถามเสียงเขียว
“อย่างที่รู้ น้องอาร์จะมาเป็นคู่หมั้นของลูก เอาไว้หาฤกษ์ดีได้เมื่อไหร่ แม่จะให้จัดงานเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“แม่!!!แม่เล่นอะไรอยู่ครับ ทำอย่างนี้ไม่ได้นะครับ อาร์เป็นผู้ชาย ผมก็เป็นผู้ชาย แบบนี้มันผิด คนอื่นเค้าจะคิดผมเป็นพวกวิปริตนะครับ!!”
“แม่ยอมให้แกเป็นพวกวิปริตชอบผู้ชายด้วยกัน ดีกว่าพวกมั่วไม่เลือกสุดท้ายก็ติดเอดส์ตาย”
“แม่!!!พูดแรงไปแล้วนะครับ”
“แรง??ตรงไหนไม่ทราบ ขนาดแม่ขู่แกขนาดนั้น แกยังเอาเลขาหน้าห้องมาได้เสียกันในห้องทำงาน แกนั้นแหละเห็นหัวแม่บ้างหรือเปล่า"คำพูดของคุณหญิงชดช้อยทำให้ปรเมศต้องหุบปากฉับ รู้สึกถึงกระแสน้อยใจของมารดา
“แต่........ผมไม่ได้ชอบน้องอาร์แบบนั้น”ชายหนุ่มกล่าวเสียงอ่อย
“บุญเท่าไหร่ที่แม่ยังให้แกหมั้นกับน้อง ไม่ใช่กับพวกกล้ามปู น้องออกจะน่ารัก ดูสิ!!!รึแกรังเกียจน้อง”ปรเมศรีบส่ายหัว
“ไม่ได้รังเกียจ แต่ผมรักอาร์แบบน้องเท่านั้น”
“อยู่ๆไปเดี๋ยวก็รักเองแหละ หรือแกอยากเปลี่ยนเป็นพวกกล้ามปู?? ได้ๆเดี๋ยวแม่จะลองติดต่อพวกลูกหลานไฮโซที่เป็นแนวนั้นให้นะ”ว่าแล้วคุณหญิงก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด ทำเอาปรเมศรีบคว้าแย่งมาแทบไม่ทัน
“เฮ้ย!!!ไม่เอานะแม่”
“งั้นจะหมั้นกับน้องไหม??”หญิงชราถามอย่างเป็นต่อ
“......ก็ได้ครับ”คุณหญิงชดช้อยยิ้มอย่างสมใจก่อนลุกขึ้นแล้วเหมือนจะนึกบางอย่างออก
“อ๋อ!!ถ้าแกทำน้องเสียใจแม้สักนิดละก็.........”ท่าปาดคอของคุณหญิงทำเอาปรเมศกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วเดินคอตกตามหลังมารดากลับไปหานันทกรอีกครั้ง
“น้องอาร์จ๊ะ เดี๋ยวป้า อุ๊ย!!ไม่ใช่สิ แต่นี้ต่อไปต้องหัดเรียกแม่แล้วนะให้คนเอากระเป๋าขึ้นไปไว้ที่ห้องพี่เมศให้นะจ๊ะ........แล้วเมศอุ้มน้องขึ้นห้องด้วย”
“ห๋า!!!อะไรกันแม่ จะให้นอนห้องเดียวกับผมหรือ”ปรเมศถามเสียงตื่นอีกครั้ง
“ก็งั้นสิ คู่หมั้นกันไม่เห็นเสียหายตรงไหนเนอะ ยัยรี”คุณหญิงชดช้อยหันไปถามลูกสาวทันที
“ใช่คะแม่ เร็วๆเลยพี่เมศ”ขณะที่ชายหนุ่มไม่รู้จะค้านยังไง เสียงคนป่วยก็ดังขึ้น
“เอ่อ.......อย่าเลยนะครับคุณป้า พี่เมศเค้าก็ต้องการความเป็นส่วนตัวบ้าง ผมนอนที่ห้องรับรองแขกดีกว่าครับ”
“น้องอาร์ แม่บอกว่าให้เรียกว่าแม่ไง แต่เรื่องนั้นช่างก่อน จะเอางั้นจริงๆหรือจ๊ะ แม่ว่าอยู่ห้องเดียวกันจะดีกว่า”เด็กหนุ่มพยักหน้ายิ้มๆ คุณหญิงถอนหายใจ
“ก็ได้จ๊ะ แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องนอนห้องพี่เมศไปก่อนนะ เพราะยังไม่ได้ทำความสะอาดห้องรับรองแขกเลย หนูยิ่งแพ้พวกฝุ่นอยู่ด้วย”นันทกรหันไปมองเจ้าของห้องที่ตนจะไปพักด้วยในคืนนี้ราวกับจะถามว่า ให้เค้าไปนอนที่ห้องด้วยได้ไหม ปรเมศก็พยักหน้าตกลง.......แค่คืนเดียวไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ครับ คุณป้า เอ๊ย!!คุณแม่ แหะ แหะ”เด็กหนุ่มรีบแก้เมื่อสายตาคนโดนเรียกชื่อจ้องอย่างจับผิด ว่าแล้วคุณหญิงชดช้อยก็ไล่ปรเมศให้อุ้มนันทกรขึ้นห้องทันทีเพื่อพักผ่อน
เมื่อขึ้นมาถึงบนห้องและต้องอยู่กันสองคนแล้ว ปรเมศถึงกับเหงื่อด้วยไม่รู้จะพูดอะไรด้วยดี แน่นอนเค้าอยากถามถึงชีวิตที่ผ่านมาของเด็กหนุ่ม อยากกอด อยากหอมให้หายคิดถึงเหมือนตอนเด็กๆ แต่เมื่อเจอเรื่องน่าช็อคอย่างเรื่องคู่หมั้นเค้าก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงกับเด็กหนุ่มดี
“เอ่อ......แบบว่า นอนเลยไหม อ๊ะ!!แต่อาร์ยังไม่ได้อาบน้ำเลยนี่เนอะ เอ่อๆ....แบบว่า”
“พี่เมศไม่ต้องไปคิดมากเรื่องที่คุณป้าพูดเรื่องหมั้นของพี่กับผมหรอกครับ”นันทกรพูดออกมาเสียงเรียบ ทำให้ปรเมศชะงักเมื่อเห็นเด็กหนุ่มยิ้มให้ ก็ยิ้มแหยๆตอบกลับ
“คุณป้าเค้าแค่อยากดัดนิสัยพี่เมศเลยโทรไปปรึกษามัม พอดีกับที่ผมอยากกลับมาเรียนที่เมืองไทยพอดีและมัมก็อยากให้ผมมาอยู่ที่บ้านนี้เพราะกลัวเรื่องสุขภาพของผม คุณป้าเลยแกล้งยกเรื่องหมั้นขึ้นมาเพื่อให้พี่เมศเข็ดหลาบบ้างเท่านั้นแหละครับ”
“จริงหรือ??”
“จริงสิครับ แต่ผมว่าพี่เมศก็เพลาๆเรื่องพวกนี้หน่อยดีกว่ามั้งครับ ทำแบบนี้ไม่ดูไม่ดีเลยนะครับ”เมื่อโดนอดีตน้องชายข้างบ้านดุเข้าให้ ทำเอาชายหนุ่มอดหมั่นไส้ไม่ได้ แอบขยี้ไอ้แก้มนุ่มๆขาวๆด้วยความรักไปหนึ่งทีก่อนหงายหลังนอนอย่างโล่งอก
“เฮ้อ!!ค่อยยังชั่ว พี่นึกว่าเราจะเอาจริงไปกับแม่พี่ด้วย ว่าแต่คิดถึงจังเลยน้า เดี๋ยวเจ้าตัวเล็กของพี่โตซะแล้วจะยอมให้พี่กอดได้ไหมเนี่ย”ว่าแล้วก็พูดเสียงหวานใส่คนที่นั่งมองเค้ายิ้มๆอยู่โดยไม่รู้เลยว่ากระแสเสียงตัวเองนั้นอ่อนโยนกว่าที่พูดกับคนอื่นเพียงใด
“จะดีหรือพี่เมศ ผมโตเป็นหนุ่มแล้วนะ”นันทกรยิ้มแหย ทำเอาคนที่กางแขนอยู่ชะงักแล้วก็นึกได้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่น้องอาร์ตอน 6 ขวบที่น่ารักของเค้าอีกต่อไปแล้ว แถมน้องยังเป็นผู้ชายอีก มากอดกันอย่างนี้คงดูไม่ดีเท่าไหร่
“คิก........ล้อเล่นน่า พี่เมศทั้งกอดทั้งหอมจนเนื้อตัวแล้วก็แก้มผมช้ำไปหมดแล้วผมยังจะมาหวงตัวทำไมละครับ”ว่าแล้วก็โถมเข้าหาอ้อมกอดของพี่ชาย ชายหนุ่มสูดดมผมนิ่มอย่างสุขใจ ลูบหลังบางนั้นเบาๆ
“เล่นซะพี่ใจหาย นึกว่าน้องอาร์ของพี่จะเปลี่ยนไปซะแล้ว พอโตเป็นหนุ่มก็ไม่ให้กอด”
“ก็พี่เมศอะใจร้ายกับผมก่อนนี้ ไหนบอกว่าจะไปหาผมที่นู้นก็ไม่เห็นไป”นันทกรเงยหน้าขึ้นจากอกกว้าง พูดว่าชายหนุ่มเสียงเบา
“พี่ขอโทษ พี่ไม่มีเวลาหน่ะ”ปรเมศเอ่ยขอโทษได้ไม่เต็มเสียงเมื่อนึกย้อนกลับไป ปีแรกๆเค้าก็ขยันเขียนจดหมายส่งรูปถ่ายไปหาน้องอยู่หรอก แต่เริ่มปีหลังๆเมื่อตอนเข้ามหาวิทยาลัยเค้าก็เริ่มสังคมที่กว้างขึ้น เพื่อนเยอะขึ้น เที่ยวติดพันผู้หญิง มีแฟนและเรื่องอื่นๆอีกมากมายทำให้ไม่เคยได้ไปหาคนในอ้อมกอดเหมือนดั่งที่ตั้งใจไว้เลย เชื่อว่าถ้าน้องไม่มาหาภายในสองสามปีนี้เค้าก็คงลืมน้องไปสนิทเหมือนกัน
“แต่เราก็โตขึ้นเยอะนะ สูงเกือบถึงจมูกพี่แล้วนะเนี่ย”ปรเมศบ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นแทน
“ไม่เห็นโตเลย พวกเพื่อนๆผมชอบเรียกว่าไอ้เตี้ยอยู่เรื่อย”ว่าแล้วก็ทำหน้าบูด
“ก็พวกนั้นเค้าเป็นฝรั่งเต็มตัว ว่าแต่อยู่นู้นเป็นไงบ้างเล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ”เด็กหนุ่มพยักหน้าก่อนเล่าชีวิตที่อังกฤษให้ชายหนุ่มฟัง ต่างฝ่ายฝ่ายต่างหัวเราะในเรื่องเล่าของแต่ละฝ่ายจนเวลาล่วงเลยผ่านไป ปรเมศหลับลงด้วยความเหนื่อยอ่อน นันทกรมองใบหน้าพี่ชายต่างสายเลือดของตนภายใต้ไฟสีส้มอย่างเอ็นดู ริมฝีปากบางประทับบนกลีบปากของอีกคนแผ่วเบา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าดูใสซื่อนั้น
“คุณป้าอาจไม่เอาจริง แต่ผมไม่มีวันปล่อยพี่ไปหรอกนะ พี่เป็นของผมทั้งเมื่อก่อนทั้งตอนนี้และตลอดไป ผมกลับมาแล้วเพราะงั้นอย่าหวังเลยว่าจะมีผู้หญิงหน้าไหนได้ใกล้ชิดกับพี่อีก หึหึหึหึ ครั้งนี้ผมจะต้องไม่พลาดแน่นอน พี่ต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น......”
ติดตามตอนต่อไป :3123:
-------------------
Neya : สวัสดีคะ หายไปนานนิดนึง แบบว่าช่วงกินเจต้องไปช่วยงานบุญของเจ้านายที่ทำร่วมกับกิจการของที่บ้าน เพิ่งจะเริ่มว่างเองคะ ในตอนแรกมีแต่คนบอกว่าอีตาพี่เมศโคตรมั่ว :angry2: ฮ่าๆๆ ซึ่งมันก็จริงตามประสาหนุ่มโสดรุปหล่อ พ่อรวยคะ ถึงแม้จะหมั่นไส้อีตาพี่เมศยังไงก็ขอให้ติดตามเรื่องนี้กันต่อไปนะคะ :bye2:
-
แรงงงงงงงงงงงงงงงง
-
:z2: :z2:
ต่อๆ
-
o18 น่านนนน ชอบอ้ะ นายเอกร้าย เอาให้เจ็บเลยนะน้องอาร์ o13
-
ไม่รอดแน่คุณพี่เมศ น้องเค้าเล่นยืนยันสถานะให้ตั้งแต่เด็กแบบนั้น
เนอะ พี่เมะ เมะ เมะ :m20: :m20:
-
ไอ้น้องอาร์มันน่าจะเป็นเมะแทนนะเนี่ย
แต่คิดอีดทีแบบนี้ก็ไม่เลว
-
ชอบน้องอาร์ :impress2: :impress2:
อยากให้มีคนมาจีบน้องอาร์ให้เมศหึงอะเป็นไปได้มั้ยเนี่ย :laugh: :laugh:
น้องอาร์นี่ร้ายเนอะแต่ก็ดีหน่อยใสซื่อไปเดี๋ยวโดนรุม :z2: :z2:
-
น่านนนน
น้องอาร์ของเราแรงใช่เล่นเน้อออ ชอบๆๆๆ
ชอบจริงๆแบบนี้
รออ่านต่อนะคะ
-
เอาแล้วๆๆๆๆๆ
ติดตามมมมมมมมมมมมม
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มาแล้วววววววววววววววว
ชอบเรื่องนี้มากมาย สู้ๆนะอาร์ เอาใจช่วย
คุณป้าไม่เอาจริง แต่อาร์เอาจริง จัดการชะนีทุกคนที่เข้ามาวุ่นวายกับพี่เมศเลย
ไฟท์ติ้ง!
บวกจ้าา
-
น่านนน ลุยเลยน้องอาร์
พี่เมศเสร็จแน่ หึหึ :laugh:
-
เริ่ดค่ะ น้องอาร์ เชียร์น้องอาร์ขาดใจ o13
อย่างพี่เมศต้องเจอแสบๆแบบนี้ ถึงจะเอาอยู่ อิอิ
-
ลูกอาร์ เหมือนจะใสๆ นะ <หราๆ> :a5:
-
:mc4:
:pig4:
-
ว้าววววววว
นายเอก แอบ ร้าย
o13 o13 o13
ชอบๆๆๆ
อิอิอิ
มา ต่อๆๆๆ
รอ อ่าน จ้าาา
-
น้องอาร์น่ารักแอบแรงนะนี่ :3123:
-
รอตอนต่อไปนะคะ อยากรู้ว่าอาร์จะจัดการกับผู้หญิงของเมศยังงัย แล้วเมศจะรู้ตัวว่ารักอาร์มากกว่าน้องเมื่อไหร่ ชอบนิยายแนวนี้ค่ะ
-
:mc4:อั๊ยๆชอบๆแนวนี้ o13
มาต่อเร็วๆ อัพถี่ๆ ตอนนึงๆขอยาวๆ ก็พอล่ะ o13
คนแต่งกินเจด้วยหรอ? คนแต่งอยู่จังหวัดอะไรอ่ะ?? :z2:
-
น่าจะสนุก แล้วจะรออ่านนะค่ะ :pig2: :pig2: :pig2:
-
น่ารัก สนุกจัง o13
รอตอนต่อไปนะคะ
-
แสบได้โล่มากกกกกกกกกกกกกก :a2:
-
อาร์..ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะ แบบนี้สิชอบ
-
:-[ :-[
โดนจริงๆๆนายเอกของเรา
ชอบจัง รู้ตั้งเเต่เด็กว่าพี่เมศน่ะ เมะ เมะ เมะ 5555
-
ตายๆ คราวนี้พี่เมศโดนน้องอาร์คุมแบบเงียบๆแน่ ฮี่ๆ
-
ตอนที่ 3 :: นี่แค่ออร์เดิร์ฟนะ... ::
“อืม......หนักอะไรวะ อ๊ะ!!........”ปรเมศที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมา ก้มลงมองไปที่แขนของตัวเองที่รู้สึกว่ามันชาจนไร้ความรู้สึกไปแล้ว
“จริงสิ อาร์......เมื่อคืน” ในตอนแรกเค้าตกใจที่เห็นใครไม่รู้นอนทับแขนเค้าอยู่ แต่ก็นึกได้เด็กหนุ่มที่นอนทับแขนอยู่นั้นคืออาร์ หรือนันทกร เด็กน้อยของเค้านั้นเอง
จะว่าเรียกเด็กน้อยก็ไม่ได้ เมื่อสังเกตทั้งตัวแล้วนันทกรนั้นแทบไม่เหลือเค้าของในวัยเยาว์เลย ทั้งใบหน้ากลมแก้มยุ้ยน่าหยิกน่าจูบตอนเด็กๆก็กลายเป็นหน้าเรียวรูปไข่ แม้แก้มจะยังขาวใสน่างับเล่นเหมือนเดิมก็เถอะ ผมสีชาดูนุ่มเหมือนขนแมว ดวงตากลมโตกลมโตสีน้ำตาลตอนนี้อยู่ใต้เปลือกตาและแพขนตาสีอ่อน จมูกโด่งแบบฝรั่งรับกับริมฝีปากแดงดูหวานเยิ้มราวกับลูกเชอรี่แต่ตัดกับผิวขาวจัดแบบตะวันตก แขนขาเนื้อตัวเพรียวบางแบบคนเอเชีย ไม่ถึกแบบคนฝั่งโน้นแถมยังนุ่มนิ่มนวลเนียนนั้น ยากจะบอกได้ว่าเป็นผู้ชายแท้ เฮ้อ!!คิดแล้วก็ชักเริ่มหวงเด็กน้อยของเค้า ไปเรียนมหาลัยคงหัวกระไดไม่แห้งเป็นแน่ คงรุมจีบกันทั้งหญิงชาย เอ๋??หรือเค้าจะไว้หนวดดี??แบบพ่อนางเอกในหนังสมัยก่อน........
“คิกๆ”เสียงหัวเราะราวเสียงแก้วดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ปรเมศก้มลงพบว่าเด็กน้อยของเค้านอนมองเค้าตาแป๊วแต่ปากกลับยิ้มกว้างราวกับขบขันอะไรบางอย่างมากมาย
“หัวเราะอะไร เจ้าตัวยุ่ง”ว่าแล้วก็แกล้งเขกหัวเบาๆ ไม่มีเจ็บซะหรอกอย่างเค้าเนี่ยนะจะทำน้องอาร์สุดที่รักของทุกคนเจ็บ
“ขำพี่เมศแหละ เป็นไรอะเดี๋ยวทำหน้าเคลิ้ม ทำหน้าเครียด แล้วยังเอามือลูบคางอย่างกะตัวเองไว้หนวดอีก”นิ้วเรียวจิ้มไปที่ปลายคางของอีกคน กดย้ำจนปรเมศต้องดึงมือออกแล้วแกล้งงับนิ้วนั้นเล่น
“อือ!!ไม่เอาพี่เมศ อย่ากัด สกปรกอะ”นันทกรพยายามดึงนิ้วตัวเองกลับมา ทำหน้ายู่ใส่แต่ไม่มีทางสู้แรงคุณพี่ชายได้หรอก
“ว่าพี่สกปรกเรอะ นี่แนะ!!งั่มๆๆๆ”ปรเมศยิ่งแกล้งงับนิ้วใหญ่ นันทกรแกล้งร้องยี้เสียงดัง ต่างฝ่ายต่างแกล้งดึงแกล้งผลักกันไปมาจนเสียงดังไปถึงข้างนอก วรารีที่เดินผ่านหน้าห้องอดสงสัยไม่ได้จึงผลักประตูเข้ามาโดยไม่เคาะให้คนข้างในรู้ตัว
“เล่นอะไรกันเสียงดังจัง ว้าย!!!..........หุหุ ขอโทษนะที่รบกวนเวลาสวีท”วรารีเบิกตากว้างเมื่อเห็นสภาพสองคนในห้องที่กำลังนัวเนียกันอยู่บนเตียง เมื่อได้สติก็รีบขอโทษขอโพยก่อนเดินอมยิ้มออกไปแถมล็อกประตูให้เสร็จสรรพ
“ยัยรีเป็นอะไรของเค้า..........อ๋อ!!หึหึ”
“พี่เมศหัวเราะอะไร?? แล้วพี่รีเค้ากรี๊ดอะไรอะ??”ร่างเล็กเอียงคอถาม ปรเมศมองหน้าหนุ่มน้อยก่อนไล่สายตาให้มองตาม ดวงตากลมโตมองตั้งแต่ท่านอนของปรเมศ.......หัวยุ่ง หอบ นอนหงาย เสื้อผ้าหลุดหลุ่ย ในขณะที่ตัวเองก็.......นั่งทับชายหนุ่มอยู่บริเวณท้อง ใส่แต่เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวยาวของเจ้าของห้อง กางเกงขาสั้นที่แทบมองเห็น แก้มแดง(เพราะเล่นกันเหนื่อย) ผมยุ่ง(จากสาเหตุเดียวกัน) หอบ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย ไหล่ขาวๆข้างหนึ่งหลุดออกมานอกเสื้อ หัวนมชมพูลอยเด่นอยู่ตรงหน้า.......ท่าทางพวกนี้ดูรวมๆกันแล้วราวกับ............
“แหงะ!!พี่รีเข้าใจผิดซะแล้วแหละ”เด็กหนุ่มพูดเสียงเรียบปนขำเล็กน้อย ดึงคอเสื้อติดกระดุมใหม่ให้เข้าที่เข้าทาง
“แหม!!!อย่าเพิ่งปิดซิ วิวกำลังดี นี้ถ้าเป็นผู้หญิงไม่รอดแล้วนะเรา”ปรเมศแกล้งส่งสายตากรุ้มกริ่ม มือใหญ่จับบั้นท้ายร่างเล็กลูบเบาๆ หวังเห็นเจ้าตัวเล็กของเค้าทำหน้าสยองหรือไม่ก็เขินอาย แต่เค้าก็ต้องเลิกคิ้วเมื่ออาร์เธอร์กลับทำหน้าเฉยๆแถมยิ้มหวานส่งให้ด้วย
“อยากลองหรือไงครับพี่เมศ เดี๋ยวอาร์ก็จับปล้ำซะหรอก”ว่าแล้วก็แกล้งหยิกหัวนมอีกคนแรงๆบิดไปบิดมา ปรเมศซู้ดปากด้วยความเจ็บก็ยกมือยอมแพ้
“โอ๊ย!!!!ไม่เล่นแล้ว อูย!!เจ็บ!!อาร์ครับ พี่เมศไม่เล่นแล้วปล่อยน้า นะ”นันทกรหัวเราะก่อนปล่อยมือแล้วก้มลงหอมแก้มพี่ชายนอกไส้ดังฟอดใหญ่ก่อนกระโดดลงจากเตียง
“ผมอาบน้ำก่อนนะ วันนี้เดี๋ยวไปเที่ยวบริษัทด้วย”คนที่มองหัวนมแดงเถือกของตัวเองอยู่เงยหน้าขึ้นมองคนพูดทันที
“อาร์จะไปบริษัทพี่หรือ??”นันทกรพยักหน้าก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป
“คำสั่งคุณป้าช้อยไงละครับ ฮิฮิ”ปรเมศโคลงหัวอย่างเซ็งๆ............งานเข้าแล้วไหมละ ปรเมศเอ๋ย
“กว่าจะลงมาได้นะเรา น้องอาร์หลับสบายไหมลูก มามะ มานั่งตรงนี้เลยจ๊ะ”คุณหญิงแอบแขวะลุกชายคนโตก่อนหันไปยิ้มให้ว่าที่ลูกสะใภ้คนโปรดและดึงแขนให้มานั่งตรงข้ามตนเอง
นันทกรยกมือไหว้คุณพิทักษ์ที่อยู่หัวโต๊ะ ก่อนยกมือไหว้คุณหญิงชดช้อยที่นั่งอยู่ถัดไปและส่งยิ้มให้วรารีที่ยิ้มบานแฉ่งกลับมาให้เช่นกัน
“อรุณสวัสดิ์คุณลุงคุณป้า เมื่อคืนอาร์หลับสบายมากครับ”เด็กหนุ่มสะบัดผ้าคลุมตักก่อนเอื้อมมือไปทำให้อีกคนที่นั่งติดกับเค้า คุณหญิงชดช้อยมองอย่างปลาบปลื้ม
“บอกว่ายังไงจ๊ะ ให้เรียกว่าพ่อกับแม่ไง”
“นั้นสิ หนูอาร์เดี๋ยวอีกหน่อยบ้านเราก็ดองกันแล้วนะ”คุณพิทักษ์พูดอย่างเอ็นดู ในขณะที่ปรเมศคนโจ๊กในชามอย่างเซ็งๆ
“นี้จะเล่นกันไม่เลิกเลยหรือไงครับ”ปรเมศพูดขึ้น ทำเอาคุณหญิงชดช้อยมองตาเขียว
“เล่นที่ไหน แม่เอาจริง น่ารักๆอย่างน้องอาร์เนี่ย แม่ยินดีเป็นที่สุดที่จะได้เป็นลูกสะใภ้”ว่าแล้วก็หันไปยิ้มให้นันทกรอีกที ส่วนเจ้าตัวก็ได้แต่ยิ้มแหยๆตอบ
“นั้นสิ แถมพี่เมศอะทำข้าวสารจะเป็นข้าวสุกอยู่แล้ว ยังจะมาทำปฏิเสธอีก หุหุ”คำพูดของวรารีทำเอาผู้เป็นพ่อแม่หันขวับมาทางลูกชายคนโต ถามเสียงเคร่งเครียดทันที
“นี้แก.........อย่าบอกนะว่า......”
“ยัยรี ไม่รู้อะไรแล้วอย่ามาพูด พี่กับอาร์แค่เล่นกันเฉย แกนั้นแหละคิดอกุศล”ว่าแล้วก็มอบมะเหงกงามๆให้น้องสาวสุดที่รัก คนโดนมะเหงกร้องโอดโอยทันที
“เจ็บนะ!!พี่บ้า!!!”
“สมน้ำหน้า”
“นี้เมศ!!อย่าแกล้งน้อง แล้วก็ฉันขอสั่งแกไว้เลยนะถึงน้องอาร์จะเป็นคู่หมั้นแก แต่แกไม่มีสิทธิ์ล่วงเกินน้อง.......ถ้าแกทำแม้แต่น้อยละก็......”
“ไม่มีอะไรหรอกครับคุณป้า เอ๊ย!!คุณแม่ พี่เมศเค้าเป็นสุภาพบุรุษมากครับ”นันทกรรีบแก้ต่างแทน เมื่อเห็นเรื่องมันชักไปกันใหญ่
“สุภาพผ้าหลุดละสิไม่ว่า อ๊าย!!!อย่านะ”วรารีรีบกุมหัวเมื่อเห็นพี่ชายง้างมืออีกครั้ง
“สองคนนี้เลิกเล่นกันซะที!!!ตาเมศวันนี้พาน้องไปที่บริษัทด้วยหละ”
“ว่าจะถามเรื่องนี้อยู่เลย จะให้อาร์ไปทำไมละแม่ ผมทำงานนะ น้องจะเบื่อซะเปล่าๆ”
“ไม่เบื่อหรอกฮะ น่าสนุกดี”
“เห็นไหมน้องไม่ได้เบื่อซะหน่อย เอาไปด้วยเลยนะ แม่พวกเลขาสาวๆจะได้รู้ซักทีว่าแกนะไม่โสดแล้ว”ปรเมศร้องอ๋อในใจรู้แล้วว่าแม่เค้าต้องการอะไร
“อืม ดีเหมือนกัน ทุกคนจะได้รู้จักกันไปเลยว่าหนูอาร์หนะเป็นลูกสะใภ้ของพ่อ แม่พวกเลขาก็จะได้เลิกกรี๊ดกร๊าดซะทีเวลาแกเดินโฉบไปโฉบมาแถวหน้าห้องทำงานของพ่อนะ”นายพิทักษ์พูดอย่างเห็นดีด้วยก่อนลูบหัวเด็กหนุ่มเบาๆ ทางปรเมศที่ขัดขืนอะไรไม่ได้ก็ได้แต่ซดกาแฟร้อนอย่างเซ็งๆ
เอี๊ยด!!!เสียงรถจอดที่หน้าบริษัทดังขึ้น ชายหนุ่มเดินออกมาจากรถช้าๆแบบทุกวัน แต่วันนี้กลับแปลกไปกว่าเดิมเมื่อมีเด็กหนุ่มหน้าฝรั่งกระโดดตามลงมาด้วย เด็กหนุ่มเดินเกาะติดรองประธานหนุ่มแน่น บรรดาหญิงสาวในบริษัทที่เดินผ่านต่างซุบซิบกันด้วยความสงสัยและอิจฉา ขณะที่บรรดาชายหนุ่มในบริษัทกลับมองเด็กหนุ่มฝรั่งอย่างไม่วางตาจนเดือดร้อนคนที่เดินมาด้วยกัน ต้องปั้นหน้าโหดตาเขียวปั๊ดใส่คนที่เดินผ่านให้สะดุ้งโหยงด้วยความหวง”น้องชาย”ไปไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย
“อ๊ะ!!เอ่อ.......อะ อรุณสวัสดิ์คะคุณเมศ”มัทรีเอ่ย หญิงสาวยังคงได้รับตำแหน่งตัวแทนเลขาหน้าห้องของปรเมศเหมือนเดิม แต่ด้วยการถูกจับตาดูอยู่ตลอดทำให้เธอไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อบอสหนุ่มอีกเลยแม้คิดอยากจะทำมากเท่าไหร่ก็ตาม
“สวัสดีครับแอน เอ่อ.......อาร์นี้แอนเลขาพี่ ส่วนนี้อาร์เป็น........”ขณะที่เค้าไม่รู้จะตอบอย่างไรดี นันทกรก็ชิงตอบก่อนทันที
“น้องชายพี่เมศครับ สวัสดีครับคุณแอน”เด็กหนุ่มยิ้มน่ารักให้ หญิงสาวมองอย่างเอ็นดูก่อนทักทายตอบ
“สวัสดีคะ คุณอาร์”
“เรียกน้องอาร์ก็ได้ครับคุณแอน อ๊ะ!!ผมของเรียกคุณแอนว่าพี่ละกันนะครับ เพราะรู้สึกว่า........ดูพี่แอนจะแก่กว่าผมเยอะ”คำพูดเหมือนจะแดกดันของเด็กหนุ่มทำให้เลขาสาวหุบยิ้ม
“แต่ก็ยังดูสาวและสวยมากๆเลย ผมละอิจฉาพี่เมศจริงๆที่มีเลขาสวยๆไว้ให้เชยชม”
“เฮ้ย!!ชื่นชม ไม่ใช่เชยชม”ปรเมศสะดุ้งก่อนรีบเปลี่ยนคำพูดของคนที่ไม่สันทัดด้านภาษา
“อ๊ะ!!ขอโทษครับ พอดีเพิ่งกลับจากนอกเลยใช้คำผิดๆถูกๆไปหน่อย พี่แอนอย่าถือสานะครับ”มัทรียิ้มแหยๆ เธอหวังว่าจะเป็นดั่งที่เด็กหนุ่มพูดจริงๆไม่งั้นเธอต้องคิดว่าเด็กหนุ่มกำลังหลอกด่าเธออยู่เป็นแน่
“ไม่ไหวเลยนะเรา”ปรเมศขยี้หัวคนตัวเล็กกว่าอย่างเอ็นดู
“แหะๆ พี่เมศเข้าห้องเถอะ ยืนนานจนจะเป็นตะคริวอยู่แล้ว”พูดจบก็หันมาคว้าท่อนแขนแข็งแรงดึงเข้าห้องไปด้วยกัน
ในห้องทำงานกว้างที่กำแพงด้านหนึ่งติดกระจกใสยาวไปเป็นแถบ เผยให้เห็นสกายวิวแสนสวยอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงาน และมีการจัดมุมเล็กๆมุมหนึ่งเป็นชุดโซฟารับแขกสีดำมัน นันทกรร้องว้าวก็ถลาตัวไปติดกับกระจกบานใหญ่นั้น
“วิวสวยมากอะ พี่เมศ”ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดูก่อนถอดสูทตัวนอกออกวางพาดไว้ที่พนักพิงเก้าอี้ทำงานตัวนุ่มของเค้า
“ชอบเหรอ??”
“อืม ตอนกลางคืนคงสวยมากๆเลยเนอะ”ปากพูดแต่ตากลับยังจ้องวิวด้านนอกตาแทบไม่กระพริบ
“เอาไว้วันหลังจะชวนมาดูตอนกลางคืนละกัน”นันทกรหันมามองก่อนทำตาเจ้าเล่ห์ใส่
“ไม่เอาหรอก กลัวมาเจอผีในนี้”
“ผีอะไร??”
“ผีผ้าห่มไงครับ เห็นคุณป้าช้อยบอกว่ามีในห้องนี้กลางวันแสกๆเลย”ชายหนุ่มตบหน้าผากเสียงดัง......แม่นะแม่เอาเค้ามาขายได้........
“ว่าแต่คนหน้าห้องนี้หรือครับที่พี่เล่นด้วย”ปรเมศยักไหล่
“ก็.....นะ”
“จริงจังเปล่าเนี่ย??”ชายหนุ่มส่ายหัว
“นิสัยไม่ดี”คนตัวเล็กกว่าบ่นออกมา ทำหน้ายู่ใส่
“อย่าทำหน้าตำหนิพี่อย่างนั้นสิ แหม.....ผู้ใหญ่มันก็ต้องมีบ้าง ที่อยากจะปลดปล่อย อยากมีเซ็กซ์ แต่ไม่จริงจัง ครั้งเดียวจบ อะไรอย่างเนี้ย”
“แล้วพี่แอนเค้าโอเคด้วยหรือพี่เมศ”
“ก็คงงั้น เค้าก็ต้องรู้แหละว่าอะไรเป็นอะไร”เด็กหนุ่มทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนเงยหน้าถามอีกครั้ง
“แล้วถ้าเค้าต้องการจับพี่ละ”ปรเมศยิ้มก่อนตอบเสียงเย็น
“เค้าต้องจบ ถ้าไม่จบคงต้องออก พี่ไม่ให้คนที่ไม่ได้รักมาจับได้ง่ายๆหรอกนะ”
“พี่เมศใจร้ายมากอะ พูดตรงๆเลย...........แล้วถ้าผมละ???ถ้าผมจะจับพี่ พี่ยอมไหม”ปรเมศมองเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้ม
“สำหรับอาร์พี่เว้นไว้ให้คนละกัน อย่ามาทำตาแป๊วใส่พี่สิ พี่ยิ่งแพ้ตาเราอยู่ มาให้หอมสักทีสิ”ว่าแล้วก็จับนันทกรที่ยืนอยู่มานั่งตักแล้วจับหอมซ้ายหอมขวาเหมือนเมื่อตอนเด็ก โดยไม่ได้สังเกตว่าใครบางคนเคาะประตูนานแล้วจนค่อยๆเปิดประตูเข้ามา
“อุ๊ย!!ขอโทษคะบอส”มัทรีมองอย่างตกตะลึง เมื่อเห็นบอสหนุ่มของเธอกอดเด็กที่บอกว่าเป็นน้องชายแน่นแล้วนั่งขโมยหอมแก้มกันอยู่ตรงหน้าเธอ
“ไม่เป็นไรครับ มีอะไรครับแอน”ปรเมศทัก ส่วนนันทกรก็กลับมายืนส่งยิ้มใสอีกครั้ง
“ถึงเวลาประชุมแล้วคะ”
“อ้าว??งั้นหรือ งั้นอาร์นั่งรอพี่อยู่ในนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา ถ้ามีอะไรอยากได้บอกคุณแอนละกัน”
“โอเคครับพี่เมศ”รับคำเสร็จ ปรเมศก็หยิบเอกสารเดินออกไป ทิ้งไว้เพียงเด็กหนุ่มกับหญิงสาวเท่านั้น
“เอ่อ.......งั้นดิฉันขอตัวนะคะ”มัทรีขอตัวทันที เธอรู้สึกแปลกๆกับเด็กหนุ่มคนนี้ ไม่รู้เพราะอะไรรู้แค่เพียงว่าเธอควรห่างไว้ก่อนดีกว่า
“พี่แอนครับ วานพี่แอนฝากบอกแม่บ้านชงโกโก้ให้ผมแก้วหนึ่งซิครับ หิวน้ำมากเลย”นันทกรบอกเสียงอ่อย แต่ดวงตากลับวาววับแปลกๆ
“อะค่ะ รอสักครู่นะคะ”เมื่อหญิงสาวออกไปแล้ว นันทกรก็วาดยิ้มร้ายกาจ ส่งเสียงหึในลำคอ นั่งลงบนเก้าอี้ของเจ้าของห้องก่อนไขว้ห้าง
“ก็ไม่แน่สักเท่าไหร่ แบบนี้ก็กำจัดง่ายๆ เอาวิธีไหนดีน่า”
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงได้ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะของมัทรีก็ดังขึ้น เธอมองสายที่จะรับก่อนหันไปมองในห้องอย่างหวาดๆ
“อะ เอ่อ!!แอนรับสายคะ”
“พี่แอนเหรอครับ แบบว่าอาร์เบื่อจังพี่แอนพอมีพวกนิตยสารบ้างไหมครับ ผมขอสักเล่มสองเล่มหน่อยสิ”เสียงพูดในโทรศัพท์ดูร่าเริงจนมัทรีแอบตำหนิตัวเองที่คิดกลัวเด็กหนุ่มไปได้จึงตอบเสียงใสกลับไป
“ได้คะ เดี๋ยวพี่เอาไปให้นะคะ”หญิงสาวรวบรวมหนังสือสองสามเล่มมาถือไว้ก่อนเคาะประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงเด็กหนุ่มทักก็เดินเข้าไปทันที
“ขอบคุณมากนะครับพี่แอน”นันทกรบอกก่อนรับหนังสือมาไว้ในมือ
“ไม่เป็นไรคะ พี่ยินดีรับใช้”
“แล้วเมื่อไหร่พี่เมศจะออกมาหละครับ ผมละเบื๊อ เบื่อ หิวด้วย”เด็กหนุ่มลูบท้อง มัทรีหัวเราะคิก
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปหาขนมมาให้ไหมคะ”
“พี่แอนเนี่ยใจดีจังนะครับ อย่างนี้พี่เมศไม่หลงบ้างหรือครับเนี่ย”พอได้ยินเด็กหนุ่มแซวเธอก็อดที่จะอายไม่ได้
“แหม พี่กับบอสไม่ได้เป็นอะไรกันนี้คะน้องอาร์”
“นั้นสิครับ ผมก็ว่างั้นเพราะพี่เมศจะหมั้นอยู่แล้ว ถ้าจะไปให้ความหวังผู้หญิงที่ไหนก็คงไม่ควร”นันทกรทำเป็นเปิดหนังสือไปเรื่อยๆคล้ายไม่สนใจแต่คำพูดกลับทำเอามัทรีชะงักกึก
“บอส บอสจะหมั้นหรือคะ”หญิงสาวแสดงท่าทางตกใจอย่างเห็นได้ชัด
“ใช่ครับ ต่อไปผู้หญิงที่พี่เมศคั่วเล่นๆคงต้องอกหักกันเป็นแถวเลย”นันทกรพูดแล้วหัวเราะเบาๆเหมือนกับว่าเป็นเรื่องตลกที่ไม่ได้มีความน่าสำคัญอะไรแต่ก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนโดนแทงใจดำไปเต็มๆ
“แต่ถ้าคุณเมศไม่เลิกละคะ ของอย่างนี้มันน้ำตาลใกล้มด คุณคู่หมั้นคงตามจับไม่ได้”มัทรีพูดอย่างมั่นใจ เธอก็หวังไว้เช่นกันว่าบอสหนุ่มคงชอบเธอไม่น้อยเช่นกัน นันทกรเหลือบมองมัทรีด้วยแววตาเย็นชาเพียงแวบเดียวก่อนส่งยิ้มให้
“เช่นใครละครับ.......อ๋อ!!ใช่ พี่แอนฟังอะไรไหม ผมมีคลิปเด็ดๆมาให้ฟังด้วย”เด็กหนุ่มพูดก่อนเปิดลำโพงมือถือของตนเอง.......เสียงที่เค้าคุยกับปรเมศ
“ว่าแต่คนหน้าห้องนี้หรือครับที่พี่เล่นด้วย”
“ก็.....นะ”
“จริงจังเปล่าเนี่ย??”
“นิสัยไม่ดี”
“อย่าทำหน้าตำหนิพี่อย่างนั้นสิ แหม.....ผู้ใหญ่มันก็ต้องมีบ้าง ที่อยากจะปลดปล่อย อยากมีเซ็กซ์ แต่ไม่จริงจัง ครั้งเดียวจบ อะไรอย่างเนี้ย”
“แล้วพี่แอนเค้าโอเคด้วยหรือพี่เมศ”
“ก็คงงั้น เค้าก็ต้องรู้แหละว่าอะไรเป็นอะไร”
“แล้วถ้าเค้าต้องการจับพี่ละ”
“เค้าต้องจบ ถ้าไม่จบคงต้องออก พี่ไม่ให้คนที่ไม่ได้รักมาจับได้ง่ายๆหรอกนะ”
“พี่เมศใจร้ายมากอะ พูดตรงๆเลย...........แล้วถ้าผมละ???ถ้าผมจะจับพี่ พี่ยอมไหม”
“สำหรับอาร์พี่เว้นไว้ให้คนละกัน อย่ามาทำตาแป๊วใส่พี่สิ พี่ยิ่งแพ้ตาเราอยู่ มาให้หอมสักทีสิ”
คำพูดที่ดังออกมาจากมือถือ แม้หญิงสาวจะรู้อยู่แล้วแต่ก็อดขัดเคืองไม่ได้ ดวงตาที่กรีดอายไลน์เนอร์จนแหลมหันมามองเด็กหนุ่มอย่างโกรธแค้น
“น้องอาร์จะเปิดให้พี่ฟังทำไมคะ”นันทกรเลิกคิ้วส่งยิ้มไร้เดียงสาแบบเดิมมาให้
“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ ว่าแต่พี่เมศช้าจังปล่อยให้คู่หมั้นนั่งคอยอย่างนี้นานๆได้ไง ไม่ไหวเลยสงสัยต้องอบรมว่าที่คุณสามีบ้างแล้ว”เด็กหนุ่มพูดเหมือนขบขันพลางส่ายหัวเบาๆ
“นะ น้องอาร์พูดอะไรนะคะ คะ ใครคู่หมั้นบอสคะ”
“เอ๋!!ได้ยินไม่ชัดหรือครับ หรือว่าพี่เชื่อจริงๆว่าผมเป็นน้องพี่เมศ หึหึ ใครเค้าก็รู้ว่าพี่เมศมีพี่รีเป็นน้องสาวคนเดียว.........คุณแม่พี่เมศนะเค้าเบื่อที่พี่เมศควงผู้หญิงพร่ำเพรื่อนะครับเลยเรียกคู่หมั้นอย่างผมกลับมา คงเร็วๆนี่แหละที่เราสองคนจะเปิดตัวให้ใครๆได้รู้กัน ยังไงพี่แอนก็เก็บเงียบไว้ก่อนนะครับ จะได้เซอร์ไพรส์”นันทกรขยิบตาส่งให้หญิงสาวที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดไปแล้ว
“อ๊ะ!!เก็บโกโก้ไปเลยนะครับ ผมอิ่มแล้ว ขอบคุณครับ”หญิงสาวรับแก้วที่มีโกโก้เย็นๆอยู่เหลือเกือบครึ่งมาถือไว้ แต่ยังไม่ทันรับไปถือได้เต็มมือ เด็กหนุ่มก็หักแก้วเอียงเล็กน้อย แก้วชนมือของมัทรีก่อนจะร่วงใส่เด็กหนุ่มทันที น้ำโกโก้เย็นพร้อมน้ำแข็งหกราดเต็มตักและหน้าท้องคนที่นั่งอยู่ทันที
“ว้าย!!!ขอโทษคะ!!”มัทรีรีบหยิบแก้วออก เด็กหนุ่มส่ายหัวยิ้มให้
“ไม่เป็นไรครับ”
“งั้นน้องอาร์ไปเปลี่ยน.......”
“เฮ้อ!!ประชุมเสร็จสักที อาร์เราไป............คุณแอนทำอะไรอยู่นะ??แล้วทำไมอาร์เปียกอย่างนั้น”ปรเมศถามเสียงเครียดเมื่อเห็นนันทกรตัวเปียกโชกนั่งยิ้มแหยๆอยู่บนโซฟา ในขณะที่มือของมัทรีถือแก้วน้ำที่น่าจะเป็นต้นเหตุอยู่
“เอ่อ คือว่า เอ่อ.......”มัทรีอึกอัก กลัวบอสหนุ่มจะว่าที่เธอทำให้คู่หมั้นเปรอะเลอะเทอะ
“ผมซุ่มซ่ามเองพี่เมศ ส่งแก้วให้พี่แอนเค้าไม่ดีเลยหกมารดตัวเองซะงั้น แหะแหะ ฮัดชิ้วๆเย็นอะพี่เมศ”
“ต้องเย็นอยู่แล้วสิเด็กบ๊อง น้ำแข็งเต็มตัวซะขนาดนั้น ไปพี่พาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า..........ส่วนคุณ คุณแอนไปบอกป้าแม่บ้านให้ทำความสะอาดที แล้ววันหลังระวังๆบ้างนะครับ ดีที่ไม่ใช่แขกของเราไม่งั้นคงเสียชื่อแน่”ปรเมศพูดเสียงเย็นชาก่อนพาน้องน้อยของเค้าไปอีกห้องทันทีโดยไม่เห็นว่าเด็กหนุ่มหันไปมองคนที่ยืนหน้าซีดด้วยสีหน้าสะใจเพียงใด
--------------------------------------
Neya : สวัสดียามดึกคะ ขอโทษจริงๆว่าจะมาลงตั้งแต่กลางวันแหละแต่ไม่ว่าง พอดีตอนเย็นก็ไปกินข้าวนอกบ้าน ฉลองหลุดเจล่อกินเนื้อย่างจากร้านMiyabi ไปเต็มคราบ เดินแถบไม่ไหว อาศัยคลานกลับบ้าน :z10: 555+ กว่าจะถึงบ้าน แล้วยังกลับมาดูThe voice ย้อนหลังอีก ขอนิดนึงเนอะ เชียร์พี่แสตมป์คะ พี่เก่งมากๆ o13 ในการเป็นโค้ช.......มีคนอ่านถามว่าคนเขียนเป็นคนที่ไหน กินเจด้วยหรือ?? เป็นคนกรุงเทพคะแต่กำเนิดเลย ที่บ้านเป็นคนจีนเค้ากินกันเลยกินตาม แต่ไม่ได้เคร่งคะ เห็นหลายคนอยากให้น้องอาร์แรง......แรงพอไหมตอนนี้?? ไม่เนอะ เพราะอาร์มีแรงกว่านี้อีกเยอะ ยังไงก้เชียร์น้องกันต่อไปนะคะ ฝากน้องอาร์และพี่เมศไว้ในอ้อมอกทุกท่านด้วย :กอด1: รักคนอ่านทุกคนคะ บาย :bye2:
-
สนุก ขอแรงๆกว่านี้อีกสิ๊ อยากดูความแรงของน้องอีก o13 o13
เมื่อไหร่มีncมายลโฉมบ้างเนี่ย อยากให้นายเอกของเราโดนจิ้มซะแล้วสิ๊ :z13: :oo1: :laugh:
-
โหหหหหหหหหหห น้องอาร์ พี่โบกธงเชียร์หนูสุดตัวเลยนะ ไม่อ่อนแอแบบนี้ พี่ชอบบบ
-
ต้องอย่างนี้สิ หึหึ ชอบนายเอกแบบนี้จังเลย กรี๊ดดดด
มาอัพบ่อยๆนะคะ ชอบเรื่องนี้อ่ะ
-
นายเอกแรง o13 ชอบๆๆๆๆๆ
-
เอ่อ พระเอกมั่วมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แถมไม่รู้จักป้องกันอีกอ่ะ (เพราะตอนที่ทำกับยัยคุณเลขา เท่าที่อ่าน มันทำสดกันเลยอ่ะ)
อย่างงี้มันสกปรกมากๆเลยนะ ขอยี้หน่อยเหอะผู้ชายคนนี้ :oak:
อาร์ก่อนที่ตกลงปลงใจ ก็รออิพี่เมศมันงดเพศสัมพันธ์กับทุกคนก่อน
แล้วหลังจากนั้นรอสัก3เดือน ก็พาอิพี่เมศเนี่ยไปตรวจเลือดซะนะ เพราะมันเสี่ยงโรคมากๆอ่ะพฤติกรรมแบบนี้ :เฮ้อ:
ไม่เข้าใจพวกมั่วแบบโง่ๆนี่เท่าไหร่อ่ะ เรียนก็สูงแต่ทำไมไม่รู้จักคิดกัน
อยากมั่วแต่ทำไมไม่ป้องกันสักหน่อยว๊า :เฮ้อ:
-
ได้จัยไปเลย จ้า :call: :call: :call:
-
น้องอาร์เป็นเคะราชินีถูกใจพี่มาก อร๊ายยย
-
นายเอกร้ายใช่เล่นนะเนี่ยชอบค่ะเอาพระเอกให้อยู่หมัด o13
มาอัพต่อไวๆน่ะ :กอด1:
-
อุ้ยตาย
น้องอาร์เนี่ยระดับความรายนี่จะเริ่มมากขึ้นทุกวัน
ชอบจัง ฮิฮิ
รอมาต่อนะคะ
-
ตายแล้ว น้องอาร์ขา
หนูแรงได้อีกนะลูก ทำตาใสแต่ร้ายเงียบ
อีตาพระเอกก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย 5555
เหมือนแผนจะไปได้ดีก็เพราะแกนี่หละ
จับน้องฟัดไม่ดูตาม้าตาเรือ
รออ่านตอนต่อไปจ้าาา
สนุกมากๆ มาต่อเร็วๆน้า
-
แสบใช่เล่นนะน้องอาร์
เชียร์น้องอาร์เต็มที่ o13
-
นางร้ายชัดๆเลยค่ะคุณน้องอา์ร์ขา เจิดค่ะ o13 o13
-
:-[
น้องอาร์ ร้ายได้น่ารักมากกก
-
แรงๆแบบนี้สิ เค้าชอบ
-
ต้องอย่างนี้สิน้องอาร์ อิอิ ^^b
ตัองปราบไอ้พวกพระเอกแบบนี้ได้อยู่หมัดแน่นอนค่ะ
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกค่ะ สนุกมากเลย สู้ๆ นะคะ
-
น้องอาร์แรงขนาดนี้ พี่เมศกลายเป็นหมูในอวยเห็นๆ
-
ร้ายกาจจจจ
:a5:
พระเอก กลาย เป็น ลูกเจี๊ยบไป เลย อ้ะ
ต่อๆๆๆ
มันส์ มากกก
-
นายเองเรื่องนี้
แรง!! ได้ใจ
555+
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
น้องอาร์สุด ๆอ่ะ
-
แอบแรงงง ! กรี๊ดดดดด ! ชอบบบบ :impress2: :impress2: :impress2:
-
อู้วววว แรงงง
-
คิดถึงทั้งสองคนเลย น้องอาร์แรงนะคะ เปิดตัวเองได้แรงมาก ชอบคะ
-
โห้ย แผนโหดนะเนี้ยะ แต่จะทำยังไงให้พี่เมศมาชอบจริงๆ ล่ะ :L2:
-
อาร์บอกได้ว่า นายเเรงมากกกกก o13
ชอบอ่ะ
นายเอกแรงได้น่าร้ากมากกกก o13
-
o13ดี
-
้น้องอาร์สุดยอดเลยครัย
ขอให้พี่เมศรัก พี่เมศหลง จนโงหัวไม่ขึ้น
เด็ดมากเลยนะครับ พยายามต่อไปนะครับสู้ๆๆ
-
แสบมากกกกกก
-
ชอบนายเอกแบบนี้อ่ะ ไม่ยอมคนดี แสบซะด้วย
-
o13
นายเอกในดวงใจเลยล่ะ 5555
-
สนุกมากๆ ชอบลุคของน้องอาร์ :m1:
-
ถ้าไม่ร้าย ผู้ชายไม่รัก
:z2:
-
มาอ่านเรื่องนี้ด้วยคนค่า
สนุกมากเลย
ชอบน้องอาร์
น่ารักมากกก
-
ต้องนายเอกแบบนี้แหละ ถึงจะจัดการพระเอกจอมเจ้าชู้ได้อยู่หมัด
ขอแรงกว่านี้หน่อยนะครับน้องอาร์ ฮ่าๆ
-
แรงงงงงง...อะ
แต่ชอบนะ o18 o18
-
น้องอาร์แอบร้าย และแรง!!!!!
-
o13
-
โอ๊ะ ออกตัวแร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง o16
-
นายเอกเรื่องนี้บอกได้คำเดียวว่า แร๊งง
อย่างนี้สิถึงจะปราบคนเจ้าชู้อยู่ :z1:
-
ร้ายนะคะ น้องอาร์
ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ
แต่พี่เมศนี่สุดๆๆ เจ้าชู้หื่นได้ตลอดเวลาจิงๆๆ
ต้องเจอน้องอาร์นี้แหละถึงจะโดนใจ โดนที่สุดดด
-
อาร์ร้ายน่าดูเลยนะนั่น แต่เมศท่าทางจะแพ้ทางอาร์เต็ม ๆ เลยนะเนี่ย
-
น้องอาร์ร้ายอ่ะ เอาใจไปเลยน้อง :m1:
รอตอนจ่อไปนะฮะ :')
-
มาต่อแหละ อาร์ร้ายอ่า 5 555
-
ร้ายกาจมากน้องอาร์
-
ตอนที่ 4 :: เดินเที่ยวกัน!! ::
“ไงเรา เหนียวตัวไหมเนี่ยเดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนเถอะ”ปรเมศพาเด็กหนุ่มมายังอีกชั้นหนึ่ง ชั้นนี้มีเพียงแค่สองห้องและค่อนข้างเงียบกริบ นันทกรกวาดตามองไปรอบๆห้องที่ประดับด้วยเตียงนอนเดี่ยว โทรทัศน์ เครื่องเสียง ตู้เย็นและยังมีห้องน้ำในตัวอีก ก่อนจะหันมาหาเจ้าของที่ทำท่าหาผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้าให้กับตัวเอง
“ห้องอะไรอะพี่เมศ ในบริษัทมีห้องแบบนี้ด้วยหรือ??”
“ห้องนอนเวลาพี่มาค้างที่บริษัทนะ ชั้นนี้พี่ปิดทำห้องพักผ่อนของตัวเองนะ”ปรเมศตอบพร้อมดึงเสื้อออกมาจากราวแขวน
“แล้วไม่เคยพาสาวๆมาทำรุ่มร่ามแถวนี้บ้างเหรอครับ”นันทกรถามเย้า แกะกระดุมเสื้อที่ตนใส่ไปด้วย
“คุณหญิงแม่ของอาร์เค้ารู้ไปหมดแหละ ใครจะกล้าพาขึ้นมา ขนาดในห้องทำงานที่ไม่น่าจะสงสัยเค้ายังรู้เลย ขืนพามาชั้นนี้สายของคุณหญิงแม่โทรรายงานกันสายไหม้แหงๆ”ชายหนุ่มพูดอย่างเซ็งๆหันมามองทางนันทกรก่อนจะชะงักกึก เมื่อเห็นบนร่างกายขาวสะอาดนั้นเหลือเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว และบ๊อกเซอร์ตัวนั้นก็กำลังจะถูกเจ้าของรูดออกแล้วด้วย
“ขาว........เฮ้ย!!ไม่ใช่ ทำไมไม่ไปถอดในห้องน้ำ!!.........หัดอายบ้างซิเรา!!”นันทกรมองอย่างงงๆ
“ทำไมอะ ปกติผู้ชายเค้าก็เดินถอดเสื้อแก้ผ้ากันทั้งนั้นอะ อยู่นู้นอาร์ก็ถอดออกบ่อย”จริงของเด็กหนุ่ม เค้าก็เคยทำแต่ทำไมไม่รู้พอเห็นนันทกรทำจึงเห็นว่ามันไม่เหมาะเลยสักนิดเดียว
“ไม่ต้องถามให้มาก เอ้า!นี้ผ้าเช็ดตัว รีบๆไปอาบน้ำเลย”ว่าแล้วก็ดุนหลังคนตัวเล็กกว่าเข้าห้องน้ำ
“เฮ้อ!!เหนื่อยจริงๆเลยเรา”ปรเมศนั่งลงบนเตียงเอามือลูบหน้าแล้วนึกไปถึงผิวขาวเนียนนั้นก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ ผิวสวยพอๆกับพวกผู้หญิงเลยแฮะ
“พี่เมศ อาบเสร็จแล้วผ้าเปลี่ยนอะ”เมื่อเสียงน้ำหยุดไหลเด็กหนุ่มก็ออกมานั่งลงบนเตียงในสภาพมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันไว้ที่เอว ทำเอาปรเมศไม่รู้จะเอาตาไปไว้ที่ไหนดี
“เอ้านี่!!รีบแต่งตัวเลยเดี๋ยวเป็นหวัด”
“คร้าบบบบ........เสื้อพี่เมศตัวใหญ่ไปไหมเนี่ย”หลังจากใส่เสื้อที่ว่าตัวเล็กที่สุดแล้วของปรเมศมันก็ยังหลวมโครกอยู่ดีเพราะคนที่ใส่ผอมบางผิดกับเจ้าของเสื้อเหลือเกิน
“เอาน่า มีอะไรก็ใส่ไปก่อน........อยากซุ่มซ่ามเองนิเรา”
“ก็ส่งให้พี่แอนเค้าไปแล้ว ใครจะรู้ละว่าเค้าจะทำหลุดมือ อุ๊บ!!!!”นันทกรบ่นเล็กน้อยก่อนจะรีบปิดปาก ทำให้ปรเมศเลิกคิ้วสงสัย ยิ่งน้องชายตรงหน้าทำหน้าตาเลิกลั่กเค้าก็ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน
“ทำหลุดมือ???สรุปนี่เราซุ่มซ่ามเองหรือยังไงกันแน่”ปรเมศยืนกอดอกถาม
“ซุ่มซ่ามเอง......จริงๆนะพี่แอนเค้าไม่ได้ทำอะไรหรอก”คำพูดเหมือนปกป้องใครอีกคนทำให้ปรเมศยิ่งอยากรู้ความจริงไปใหญ่
“อาร์ พี่ขอความจริง....”นันทกรทำท่าลังเลเล็กน้อยแล้วถอนหายใจออกมา
“แบบว่าอาร์กับพี่แอนก็คุยเล่นกันอยู่ พอดีเผลอหลุดปากเรื่องที่คุณป้าช้อยจะให้หมั้นกัน..........ก็เห็นพี่แอนแกหน้าซีดเลย ก็ว่าจะหาเรื่องเบี่ยงเบนเลยให้เค้าเอาแก้วโกโก้ที่กินไปเก็บ...........พอดียื่นให้เค้าแล้วอีท่าไหนไม่รู้มือพี่เค้ามาสะบัดโดนแก้วแล้วก็หกมาใส่อาร์..............มันเป็นอุบัติเหตุแหละพี่เมศ ผมว่าพี่แอนเค้าไม่ได้ตั้งใจหรอก”คำพูดของนันทกรทำเอาปรเมศคิดหนักเพราะไม่รู้เจตนาของมัทรีว่าแกล้งจริงหรือไม่ได้ตั้งใจ......
“เอาเหอะ งั้นกลับบ้านเลยดีไหม เดี๋ยวพี่ไปหยิบเอกสารที่ห้องทำงานก่อนแล้วเรากลับบ้านกัน วันนี้พี่ไม่มีงานอะไรแล้ว”
“แล้วแต่พี่เมศครับ”เด็กหนุ่มส่งยิ้มให้ก่อนทั้งคู่จะเดินกลับไปที่ห้องทำงานด้วยกันอีกครั้ง
“พี่เมศ สภาพผมแย่มากเลยไหมอะ”นันทกรถามเมื่อเดินมาสักพักจนเกือบถึงห้องทำงานของปรเมศแล้ว
“ทำไมหรือ ก็.......ไม่เห็นแปลก แค่เสื้อมันใหญ่ไปหน่อย”ร่างสูงมองรอบๆตัวเด็กหนุ่มก่อนตอบ
“ก็ตั้งแต่เดินมา พวกพี่ๆเค้ามองกันแปลกๆอะ”นันทกรบ่นอุบอิบอย่างเสียเซลฟ์ ปรเมศหันไปมองรอบๆเมื่อเห็นทั้งพนักงานหนุ่มสาวจ้องเจ้าตัวเล็กของเค้าแล้วหันไปซุบซิบกันก็รีบดึงนันทกรเข้าหาตัวแล้วพูดเสียงเย็น
“มองอะไรกัน...........มีงานก็รีบไปทำสิ แล้วถ้าใครอยากนินทาน้องผมมากนักก็จะให้กลับไปนินทาที่บ้านซะเลยดีไหม”พูดจบต่างคนต่างก็รีบหันกลับไปทำงานของตัวเองทันที
เมื่อกลับมาถึงห้องทำงาน สิ่งแรกที่ทั้งสองเห็นคือมัทรีที่หันมามองคนที่เดินเข้ามาในห้องแล้วสะดุ้งด้วยกลัวเจ้านายว่าอีก นันทกรยิ้มให้เหมือนจะบอกอีกฝ่ายว่าไม่ได้ถือสากับสิ่งที่เกิดขึ้นไปก่อนกระตุกชายเสื้อให้ปรเมศก้มหัวลงมาหาตน
“พี่เมศ เดี๋ยวผมไปรอข้างนอกนะครับ”นันทกรกระซิบที่ใบหูเบาๆแล้วหันไปยิ้มที่ไม่สื่อความหมายให้หญิงสาวอีกครั้ง ทำให้มัทรีไม่แน่ใจว่าเด็กคนนี้ต้องการทำอะไรกับเธอกันแน่ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย
“เอ่อ.........น้องอาร์ได้บอกอะไรคุณหรือเปล่าคะ”เมื่อเด็กหนุ่มฝรั่งออกไปแล้ว มัทรีก็ถามขึ้นทันที
“บอกอะไรครับ??”ปรเมศหันมาถามเสียงเรียบพลางเก็บเอกสารไปด้วย
“ก็เรื่องที่น้ำหก.......น้องอาร์เค้าคงไม่บอกว่าแอนตั้งใจทำใช่ไหมคะ”
“แล้วแอนตั้งใจทำหรือเปล่าละครับ”คราวนี้ชายหนุ่มหันมามองมัทรีทั้งตัว สายตาเต็มไปด้วยความตำหนิจนหญิงสาวไม่พอใจ
“เปล่าคะ........นี้สรุปน้องอาร์เค้าหาว่าแอนทำใช่ไหมคะ แล้วบอสก็เชื่อด้วย??”
“อาร์ไม่ได้พูดสักคำว่าคุณทำ เค้าบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ.......แต่ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันเป็นอุบัติเหตุจริง ผมถามตรงๆนี้คุณจงใจทำหรือเปล่า”ปรเมศไม่พอใจที่มัทรีพูดเหมือนนันทกรเป็นเด็กชอบใส่ความคนอื่น ทั้งที่เค้ามั่นใจว่าน้องเค้าไม่ใช่
“แอนเปล่านะคะ!!!เด็กนั้น........น้องอาร์ต่างหากที่เอาแก้วมาชนมือแอนจนมันหกรดตัวเอง!!!”หญิงสาวอารมณ์เสียเมื่อชายหนุ่มจะพยายามยัดเยียดให้เธอเป็นคนทำ
“คุณอย่ามาใส่ร้ายอาร์!!น้องผมไม่ทำอย่างนั้นแน่!!”
“น้อง.........น้องจริงๆหรือคะ หึ!!คุณรู้ไหมว่าน้องอาร์เค้าบอกว่าเค้าเป็นคู่หมั้นคุณ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเค้าจะใส่ร้ายแอนไปเพื่ออะไร เพราะเค้ารู้ไงคะว่าเราสองคนเคยทำอะไร.....”
“เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้!!ผมขอละกันขอให้เรื่องนี้จบ อย่าทำอะไรอย่างนั้นกับอาร์อีก ไม่งั้นผมคงให้คุณอยู่บริษัทนี้ไม่ได้”พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกนอกห้องทันที ปล่อยให้หญิงสาวยืนกำมือแน่นอยากจะกรีดร้องออกมา
“ฮะๆ โง่ชะมัดทำตัวเองแท้ๆ”เด็กหนุ่มที่นั่งนอกห้องหัวเราะเบาๆ เสียงทะเลาะกันดังออกมาถึงข้างนอกแม้จับอะไรไม่ได้เท่าไหร่แต่พนักงานข้างนอกก็พอรู้เลาๆแล้วว่าตนกับรองประธานเจ้าของบริษัทนี้เป็นอะไรกันจากคำพูดของมัทรีเมื่อครู่
เมื่อปรเมศออกมานันทกรรีบเดินเข้าไปหาทันที สายตาบ่งบอกถึงความเป็นห่วง มือขาวกำเสื้อสูทของอีกคนแน่น
“พี่เมศ......”ปรเมศลูบหัวอีกฝ่ายก่อนหันไปทางห้องเลขาที่อยู่ใกล้ๆ
“เปลี่ยนตัวเอาคุณมัทรีออกจากการเป็นเลขาของผมให้คุณนภดลมาทำงานแทนจนกว่าคุณพิมวรรณจะกลับมา เข้าใจไหม??”
“คะ ครับ!!”เลขาหนุ่มอีกคนรีบรับคำทันที
“กลับบ้านกันนะอาร์”ปรเมศพูดเสียงนุ่ม
“อืม”เด็กหนุ่มตอบรับแล้วทั้งสองก็เดินออกไปด้วยกัน ปล่อยให้ทั้งบริษัทเกิดข่าวลือว่ารองประธานหนุ่มเพลย์บอยตกร่องปล่องชิ้นกับเด็กหนุ่มหน้าฝรั่งเรียบร้อยจนหมดลายคาสโนว่าแล้ว!!!
“พี่เมศ........ทำอย่างนั้นมันจะไม่แย่หรือ??”เสียงติดหม่นของคนที่หันหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถ ทำให้ปรเมศต้องหันมามองแวบหนึ่งก่อนหันกลับไปที่ถนน
“ใคร?? อะไรแย่??”
“ก็พี่กับพี่แอนไง............ข้างนอกได้ยินหมดเลยนะ ทั้งเรื่องที่พี่พูดเหมือนพี่แอนแกล้งผมแล้วก็เรื่อง......หมั้น........พี่ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ”ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองคนขับรถอย่างไม่แน่ใจและเหมือนจะรู้สึกผิด
“ช่างมันเหอะ เรื่องหมั้นคนเราลือกันไม่กี่อาทิตย์ก็ลืมกันหมดแล้ว ส่วนเรื่องแอน........เค้าก้าวเกินกรอบที่เค้าควรจะเป็น นี้อาจเป็นโอกาสดีที่พี่จะเลิกยุ่งกับเค้าก็ได้”ปรเมศพูดปลอบใจพลางยื่นมือมาขยี้หัวคนขี้กังวล
“แต่ว่า......”
“ไม่มีแต่อาร์.........นี่ คืนนี้อยากไปเปิดหูเปิดตาไหม ไม่ได้กลับเมืองไทยมาหลายปี อยากไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือเปล่า??”
“ไม่รู้อะพี่เมศ ไม่ได้กลับมาหลายปีแล้ว นึกไม่ออกว่าที่ไหนเป็นที่ไหนบ้าง ขืนให้ผมออกไปเองคงต้องหลงทางแน่ๆเลย”เด็กหนุ่มสะบัดหัวผมกระจายตอบคำถามอีกคน แถมยังทำหน้าหวาดเหมือนกลัวคนที่ขับรถอยู่พาไปปล่อยทิ้งที่ไหน
“งั้นเอางี้ เดี๋ยวเรากลับบ้านกันก่อน อาบน้ำอาบท่ากันก่อนแล้วคืนนี้พี่ชายจะพาเที่ยวกลางคืนเอง”
“เที่ยวพวกผับบาร์หรือพี่เมศ ผมไปไม่ได้หรอก ผมแพ้เหล้ากับควันบุหรี่”นันทกรรีบบอก กลัวปรเมศจะพาไปที่ถนัดของตน
“อืม งั้นเหรอ............งั้นเราเดินเที่ยวดูแสงสียามค่ำคืนตามที่ต่างๆกันไหม”ปรเมศนึกก่อนเปรยออกมา
“แบบพวกถนนคนเดินเหรอพี่เมศ ก็ดีนะเผื่อผมอยากซื้ออะไรส่งไปให้แด๊ดกับมัมที่นู้นบ้าง”เด็กหนุ่มดวงตาเป็นประกายสดใสแบบคนถูกใจ ทำเอาคนชวนยิ้มเอ็นดู
“งั้นกลับถึงบ้านก็รีบกลับไปทานยาแก้หวัดแล้วนอนพักผ่อนซะ ตอนเย็นเดี๋ยวพี่บอกเค้าไม่ต้องเตรียมอาหารเผื่อเราสองคน พี่จะพาเดินดูของไปกินไปเปลี่ยนบรรยากาศ เอาไหม??”นันทกรพยักหน้าขึ้นลงรัวเร็ว ใบหน้าแย้มยิ้มจนแทบเห็นฟันครบ 32 ซี่ ท่าทางอยู่ไม่เป็นสุขทำเอาปรเมศแอบขำ.........อย่างน้อยก็ดีกว่านั่งจ๋องแบบเมื่อกี้ละกันน่า เจ้าตัวยุ่ง!!
......................................
......................
.........
...
“กลับมาแล้วครับ!!!”เสียงทักทายร่าเริงแจ่มใสจากหน้าประตูห้องโถง ทำให้คุณหญิงชดช้อยที่กำลังนั่งดูตลาดหุ้นทางโทรทัศน์นั้นหันมามองด้วยความเอ็นดู
“กลับมาแล้วหรือจ๊ะ.........หืม??น้องอาร์เมื่อเช้าหนูไม่ได้ใส่เสื้อตัวนี้นี่ลูก??”เมื่อเห็นเสื้อตัวใหญ่โคร่งของลูกชายคนโตอยู่บนตัวของว่าที่ลูกสะใภ้ สายตาคมกริบก็เบนไปหาเจ้าของเสื้อทันที
“ผมซุ่มซ่ามนิดหน่อยนะครับ คุณป....คุณแม่ เผลอทำแก้วน้ำหกใส่ตัวเองเข้า”นันทกรรีบอธิบายแล้วเข้าไปนั่งข้างๆอ้อนหญิงคนเดียวในห้อง
“ตายจริง......ระวังหน่อยสิลูก แล้วนี้อาบน้ำอาบท่าแล้วใช่ไหมจ๊ะ”คุณหญิงชดช้อยจับเด็กช่างอ้อนพลิกซ้ายพลิกขวา
“ผมพาไปอาบที่ห้องพักของผมแล้วครับแม่ พอดีไม่มีงานเลยรีบพากลับว่าจะให้กินยาแล้วนอนพักซะ กลัวไข้ขึ้น”ปรเมศเป็นฝ่ายตอบแทน คุณหญิงพยักหน้าตอบรับ
“งั้นรีบไปทานยาแล้วนอนเถอะนะจ๊ะ...........จริงสิ แม่ได้ให้เค้าจัดห้องให้เสร็จแล้ว จะไปอยู่เลยไหมจ๊ะน้องอาร์”
“ก็ดีครับ.........โชคดีเนอะพี่เมศ คืนนี้ไม่มีใครมาแย่งเตียงแล้วนะ”นันทกรหันไปเย้าแหย่อีกหนึ่งหนุ่มที่ยืนอยู่ ปรเมศส่ายหัวยิ้มๆ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า พูดเหมือนพี่รังเกียจเราไปได้”ปรเมศพูดตามความรู้สึกที่แท้จริง เค้าไม่เคยอึดอัดถ้าคนที่มานอนด้วยเป็นนันทกร แต่ทุกคนก็ควรจะมีห้องของตัวเองไว้เป็นที่ส่วนตัวบ้างไม่ใช่หรือไง??
“แม่ให้เค้าจัดห้องที่ติดกับตาเมศไว้ให้ ถ้าคืนไหนไม่สบายก็ไปเคาะประตูห้องพี่เค้านะลูก”
“ครับ งั้นผมไปทานยาแล้วนอนก่อนนะครับ เย็นนี้พี่เมศจะพาไปเที่ยวขืนเป็นหวัดขึ้นมาอดสนุกกันพอดี”เจ้าตัวคนพูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนเดินขึ้นไปยังชั้นสอง ปล่อยให้แม่ลูกเค้านั่งคุยกันต่อไป
“ว่าไงละเรา น้องน่ารักใช่ไหมละ..........แม่บอกแล้วดีกว่าอยู่กับพวกผู้หญิงของเราตั้งเยอะ”คุณหญิงชดช้อยยิ้มอย่างพออกพอใจ
“น้องน่ารักเป็นปกติอยู่แล้วละครับ แต่ผมบอกแม่แล้วว่าคิดกับอาร์แค่น้องชาย ต่อไปนี้ผมจะระมัดระวังในการใช้ชีวิต ไม่มั่วผู้หญิงอีกเพราะงั้นเลิกเล่นซักทีเถอะครับแม่ สงสารอาร์ด้วยไม่รู้อะไรด้วยเลยต้องมาโดนกับผมด้วย”ปรเมศพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง คุณหญิงชดช้อยทำหน้าหมั่นไส้
“ยะ!!!แม่คงเชื่อเราหรอก ขอดูความประพฤติอีกสี่ห้าเดือน ยังไงน้องก็ต้องอยู่กับเราอีกตั้งหลายปี จับหมั้นกันตอนไหนก็ไม่สาย...”ปรเมศถอนหายใจโล่งอกเมื่อแม่ของเค้าเริ่มผ่อนปรนให้ ไม่จับหมั้นดั่งที่เคยบอกในคราวแรก แต่สิ่งที่ทั้งสองคนไม่รู้เลยก็คือ เด็กหนุ่มหน้าฝรั่งที่คิดว่าเดินขึ้นบันไดเข้าห้องไปแล้วนั้นที่จริงยังอยู่ที่ระเบียงเหนือหัวทั้งสองคนนั้นแหละ
“คุณป้าใจดีเกินไปหน่อยแล้ว สงสัยต้องหาทางให้พี่เมศทำตัวแย่ๆซะบ้างดีกว่า”เสียงเยียบเย็นลอยออกมาจากนันทกร เล็บนิ้วโป้งถูกกัดระบายความไม่พอใจ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“ฮิวส์??........ชิ!!!น่ารำคาญชะมัด”มือเรียวกดรับสาย พลางเดินเข้าห้องนอนของตนไป
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า นกกาเริ่มกลับคืนสู่รัง เสียงนาฬิกาลูกตุ้มโบราณร้องเสียงกังวาน ร่างสูงที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องพักผ่อนเงยหน้าขึ้นมองเห็นเข็มสั้นชี้เลขหกและเข็มยาวชี้เลขสิบสองก็บิดขี้เกียจผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อยู่ในท่าเดียวตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา
“อืมมมมม!!ป่านนี้อาร์เป็นยังไงบ้างนะ”ว่าแล้วก็ปิดหนังสือเก็บลงชั้น เปิดประตูห้องออกไปยังอีกห้องหนึ่ง ห้องที่เค้าคาดว่าคงมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนหลับปุ๋ยอยู่ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ.......
“อาร์.........อาร์ตื่นได้แล้ว”เพียงการเขย่าตัวแผ่วเบา นันทกรก็ค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างงัวเงีย
“อือ.......พี่เมศ กี่โมงแล้ว??”พูดพลางหาวหวอด ทำให้ปรเมศอดขยี้หัวเล่นไม่ได้ด้วยความเอ็นดู
“หกโมงเย็นแล้ว ไปอาบน้ำอาบท่าซะ เดี๋ยวพี่จะพาไปหาอะไรกินกันข้างนอกเลย”นันทกรพยักหน้ากึกๆแบบคนยังไม่ตื่นเต็มตาก่อนลากสังขารเดินเข้าห้องน้ำไป ปรเมศเห็นแล้วก็หัวเราะ เคาะประตูห้องน้ำที่ถูกปิดไป
“พี่รอด้านล่างนะ ให้ว่องละ”
“คร้าบบบบบ”
////////////////////////////
“พี่เมศศศศศ ดูนู้นซิน่ากินชะมัด”เสียงร้องเจื้อยแจ้วตลอดทางทำให้ปรเมศอดยิ้มไม่ได้ นันทกรทำหน้าตื่นตาตื่นใจชี้ชวนเค้าดูนู้นดูนี้ตลอดทางถนนที่เดินผ่าน
“ชอบไหม เดินแบบนี้”คนร่างสูงถาม นันทกรยิ้มแฉ่งพยักหน้า
“ชอบครับ อยู่ที่นู้นต้องมีงานเทศกาลเท่านั้นถึงจะได้เดินแบบนี้”
“เราชอบก็ดี แต่พี่ว่าเราไปหากินแบบเป็นร้านก่อนดีกว่านะแล้วค่อยเดินหาขนมกิน”เด็กหนุ่มตอบตกลงอย่างว่าง่าย ปรเมศมองร้านอาหารสองฝั่ง พลางคิดว่าอะไรพอที่จะให้นันทกรทานได้บ้างก็ถูกเด็กหนุ่มดึงปลายเสื้อโปโลสีน้ำเงินเข้มของเค้ายิกๆ
“พี่เมศ ผมอยากกินนั้น”
“ข้าวผัดน้ำพริก??เผ็ดนะ เคยกินหรือเปล่าเรา??”ร่างสูงถามอย่างสงสัย กลัวนันทกรจะกินเผ็ดไม่ได้
“เคย!!อยู่นู้นมัมชอบทำอาหารไทยให้กินบ่อยๆ”
“งั้นก็ได้ แต่ถ้าเผ็ดก็อย่าฝืนละ เดี๋ยวจะปวดท้องเอา”นันทกรพยักหน้าดีใจ เดินคล้องแขนลากร่างสูงเข้าร้านทันที
“ยินดีต้อนรับคะ!!สองที่นะคะ เชิญคะ”หญิงสาวพนักงานเสิร์ฟในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ผูกผ้ากันเปื้อนไว้ด้านหน้าออกมารับแขกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนผายมือให้สองหนุ่มเดินเข้าไปนั่งในร้านพร้อมส่งเมนูให้ทันทีเมื่อเห็นว่าแขกนั่งลงแล้ว
“หูย!!รายการเยอะแยะเลยอะพี่เมศ เลือกไม่ถูกเลย”นันทกรว่าเข้า พลางกวาดตามองเมนูขึ้นลง
“นั้นสิ มีอันไหนแนะนำบ้างไหมครับ”
“ค่ะ คุณลูกค้ากินเผ็ดได้หรือเปล่าคะ?? ถ้าไม่ได้จะแนะนำเป็นพวกข้าวคลุกกะปิคะ เราใช้กะปิอย่างดี แถมมีทั้งไข่หั่นฝอย หมูหวาน แตงกวาฝาน กุ้งแห้งทอดกรอบ มะม่วงโรยหน้าครบเซ็ตคะ หรือถ้าต้องการเผ็ดเล็กน้อยแนะนำข้าวผัดน้ำพริกลงเรือคะ เรามีแบบเผ็ดน้อยและเผ็ดมาก เครื่องเคียงก็มีไข่หั่นฝอย หมูหวาน ปลาทอก หอมซอยแล้วก็พวกผักสดนะคะ รสชาติค่อนข้างเค็ม หวาน เปรี้ยว ส่วนถ้าชอบของเผ็ดๆก็แนะนำพวกข้าวน้ำพริกโจร น้ำพริกนรก รับรองความเผ็ดเลยคะ แบบพื้นๆเราก็มีนะคะเช่นพวกข้าวน้ำพริกกะปิ น้ำพริกอ่อง น้ำพริกกุ้งสด น้ำพริกมะขาม”
“งั้นพี่ว่าอาร์กินข้าวคลุกกะปิละกันนะ......อย่าเถียง เดี๋ยวกินเผ็ดมากขึ้นมาปวดท้องแล้วจะหาว่าพี่ไม่เตือน ส่วนผมเอาข้าวน้ำพริกกะปิครับ น้ำเอาเป็นน้ำเปล่าครับ”หญิงสาวพยักหน้าพลางจดรายการอาหารอย่างรวดเร็วก่อนจะจากไป นันทกรนั่งทำหน้าบูดทันที
“พี่เมศอะ!!เชอะ!!งอน”เด็กหนุ่มสะบัดหน้าทำงอน ปรเมศได้แต่หัวเราะหึหึ มองดูนู้นดูนี่ไปรอบๆร้าน
“เธอดูสิ เด็กคนนั้นน่ารักเนอะ อย่างกับตุ๊กตาฝรั่งแหนะ”
“จุ๊ๆ เบาๆสิเธอ คนที่มาด้วยเค้าเป็นคนไทยนะ เดี๋ยวเค้าได้ยินหรอก”ปรเมศฟังสองสาวที่นั่งอยู่ข้างหลังเค้าเม้าท์กันแล้วยิ้ม ก็สมควรหรอกวันนี้นันทกรอยู่ในชุดผ้านิ่มคอวีแขนกุดสีฟ้าสว่างมีฮู้ดห้อยอยู่ด้านหลังกับกางเกงผ้าสามส่วนพอดีตัวสีน้ำตาลเข้ม รองเท้าผ้าใบสีเดียวกับกางเกง สกรีนลายดาวอย่างเท่ห์ที่ส้นและหลังเท้า กระเป๋าสะพายพาดตัวสีฟ้า ผมสีน้ำตาลถูกรัดหางม้าสั้นกุดอย่างลวกๆ หากมองผ่านๆคงมีแต่คนนึกว่าเป็นเด็กหญิงฝรั่งท่าทางทอมบอยเป็นแน่
“พี่เมศ ยิ้มอะไร คนเค้างอนอยู่นะ”มีเหวี่ยงเว้ย.....ปรเมศแอบคิดในใจ
“งอนหรือ ว้า!!งั้นก็หมดสนุกเลยสิ งั้นกินเสร็จแล้วกลับเลยละกัน งานกร่อยแล้วนิ”
“อ๋า!!ไม่งอนก็ได้ ไม่งอนแล้ว ผมยังไม่ได้เดินเที่ยวดูอะไรเลย พี่เมศพาผมเดินก่อนนะ นะๆๆ”สายตาวิ้งๆน่าเอ็นดูถูกส่งมา ปรเมศที่แกล้งเก๊กเศร้าอยู่อดไม่ได้หัวเราะออกมาดังๆ พลางคิดนานเท่าไหร่และนะที่เค้าไม่ได้หัวเราะเต็มที่แบบนี้ อาจจะยิ้มบ่อย แต่ก็แค่ยิ้มเพราะพอใจแต่ไม่ได้หัวเราะเพราะมีความสุขมากขนาดนี้....
“โอเคๆ เห็นแล้วละเมื่อกี้ตอนเดิน พอเห็นขนมแล้วน้ำลายหยดแหมะๆเลยนี่เรา”
“แหมก็ขนมเมืองไทยน่าอร่อยทั้งนั้นเลยนิ อยู่นู้นกินแต่เค้ก สโคน คุ้กกี้ เบื่อจะแย่แล้ว”
“งั้นก็รีบกินไป แล้วเราไปหาขนมกินกันต่อ”ปรเมศเลื่อนจานน้ำพริกที่เพิ่งมาส่งพอดีให้ตรงหน้านันทกร เด็กฝรั่งพยักหน้าก้มหน้าก้มตากินอย่างตั้งใจ ร้องหาน้ำเป็นระยะจนปรเมศอดส่ายหัวขำๆไม่ได้
หลังจากทานอาหารเสร็จสองหนุ่มก็เดินดูของไปเรื่อยๆ นันทกรมักหยุดซื้อขนมนู้นนี้ตลอดจนปรเมศต้องเอ่ยปากห้ามเพราะกลัวกินไม่หมด คนโดนห้ามก็กลับพองแก้มบอกว่าเอาไปฝากคนนู้นคนนี้ที่บ้าน ฝากตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่ยันยามที่เฝ้าประตูบ้าน ซึ่งพูดขนาดนี้ปรเมศก็คงขัดไม่ได้ยอมให้ร่างเล็กซื้อไปชิมไปตลอดทาง
“อาร์........หยุดเดินทำไมน่ะ??”ปรเมศถาม เมื่ออีกคนหยุดชะงักอยู่กับที่เมื่อผ่านร้านหนึ่ง มันเป็นร้านแผงลอยที่ตกแต่งน่ารักๆสไตล์วินเทจ ดอกไม้พลาสติกถูกเกี่ยวตามเสาไม้สีขาวด้านข้างพันเหมือนไม้เลื่อย บนพื้นแผงลอยปูด้วยหญ้าพลาสติกสีเขียว ของที่วางบนหญ้านั้นเต็มไปด้วยของกระจุกกระจิกมากมาย เมื่อมองตามนันทกรไปแล้วก็เห็นดวงตาสีน้ำตาลนั้นมองตุ๊กตาผ้าเนื้อนุ่ม ผมทำจากเส้นไหมสีดำ ตาทำจากกระดุมสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ ในชุดเสื้อลายสก็อตสีฟ้าที่นอนยิ้ม แก้มชมพูอยู่ข้างเกวียนสีขาวบรรจุดอกไม้หลากสี
“อ๊ะ.....อ๋อ......มองตุ๊กตานิดหน่อยนะพี่เมศ”เสียงเล็กที่เคยเจื้อยแจ้วดูเรียบอย่างน่าประหลาด ดวงตานั้นมีแววสั่นไหวเล็กน้อย
“ชอบหรือ??”
“นิดหน่อยครับ.........พี่เมศว่ามันหน้าตาไม่เหมือนพี่เมศหรือ เหมือนออกเห็นปะ??”นันทกรหยิบตุ๊กตาขึ้นมาให้อีกคนดู ปรเมศมองเพ่งมองยังไงก็ไม่เห็นเหมือนตัวเอง
“เหมือนเหรอ?? คงงั้นมั้ง....”ปรเมศตอบกึ่งรับกึ่งสู้
“พี่เมศ ซื้อให้หน่อยสิ......นะ”ไม่รู้ว่าเพราะแววตาที่แสดงออกมาของนันทกรหรือบรรยากาศหรืออะไรก็แล้วแต่ ปรเมศพยักหน้าพลางถามราคาคนขายและส่งเงินให้ไป นันทกรดึงตุ๊กตาไปไว้แนบอก ยิ้มขอบคุณหากแต่ดูมันไม่สดใสเหมือนเคย
“ขอบคุณครับพี่เมศ อาร์จะเก็บรักษาให้ดีที่สุด”แม้นันทกรจะแปลกไปเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมในเวลาไม่ถึงสิบนาที ปรเมศจึงไม่ติดใจอะไรและพากันเดินเล่นต่อจนหมดแรงไปทั้งคู่.....
“วันนี้สนุกมากๆเลยพี่เมศ ขอบคุณครับ”นันทกรพูดเมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน
“สนุกก็ดีแล้ว งั้นก็ไปอาบน้ำพักผ่อนเถอะ”
“อืม งั้นพรุ่งนี้เจอกันครับ อ๋อ......พรุ่งนี้อาร์ตามไปด้วยอีกนะที่บริษัทอะ”ปรเมศถอนหายใจ
“ห้ามไม่ได้อยู่แล้วนิ คุณหญิงชดช้อยก็ต้องให้ไปอยู่แล้ว”
“อิอิ งั้นขึ้นนอนแล้วพี่เมศ ราตรีสวัสดิ์.......จุ๊บ!”นันทกรหอมแก้มกู๊ดไนท์คิสคนที่ตัวสูงกว่าก่อนวิ่งขึ้นห้องไป ปรเมศไม่ว่าอะไรเดินขึ้นห้องตัวเองไปเช่นกัน
เมื่อถึงห้องนอนแขกที่ถูกจัดไว้เป็นห้องของตัวเองแล้ว นันทกรก็ล้มตัวลงนอนทันทีแต่ก็ลุกขึ้นเหมือนนึกอะไรได้ เดินไปหยิบเจ้าตุ๊กตาในถุงขึ้นมากอดแนบอกแล้วล้มตัวนอนอีกครั้ง
“อเลน.......ผมคิดถึงคุณ.......อเลน ผมสัญญาผมจะต้องมีความสุขอย่างที่คุณต้องการ เพราะงั้นคุณต้องเชียร์ผมนะ เชียร์ให้พี่เมศรักผม......เพราะถ้าเป็นพี่เมศที่เหมือนคุณขนาดนั้น.........ผมจะต้องรักได้แน่ๆ รักไม่น้อยกว่าที่ผมรักคุณ.....”คำพูดภาษาอังกฤษถูกกล่าวออกมาราวกับจะกล่าวให้อีกคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ได้รับรู้ พูดจบก็น้ำตาไหลอย่างเงียบๆ ตุ๊กตาถูกกอดแน่นราวกับเป็นตัวแทนของคนที่ไม่มีวันได้มา.....
ติดตามตอนต่อไป...
----------------------------
Neya : สวัสดีคะ Neya รายงานสดจากที่ทำงาน 555+ :z2: แอบลงนิยายที่ทำงานคะ ถ้าหัวหน้ารู้คงโดนตบ :beat: เอาเป็นว่ามาพูดเรื่องของเรากันดีกว่าเนอะ เห็นกระทู้ที่ตอบๆกันมาแล้วก็ชื่นใจที่ทุกคนรักน้องอาร์กันมากมายเหลือเกิน อยากบอกว่าน้องอาร์เป็นหนึ่งในตัวละครซีรีย์นายเอกนายร้ายคะ คือจากการที่เขียนมาหลายเรื่องเราจัดนายเอกเราเป็นหลายระดับ มีทั้งใสซื่อ ร้าย เรียบร้อย เอาไว้วันหลังจะมาลงเรื่องอื่นให้อ่านบ้างคะแต่เรื่องนี้ให้มันจบก่อนเนอะ หากคนอ่านทุกท่านรักน้องอาร์ก็ขอให้รักตลอดไปนะคะ ไม่ว่าน้องอาร์จะร้ายยังไงก็ตามเราหวังเพียงแค่นั้น กลัวสักวันจะมีคนว่าลูกน้อยๆคนนี้ :กอด1: อ๊ะ!!พอ เดี๋ยวจะมาม่า มีอีกเรื่องที่อยากบอก......ตอนต่อไปยังแต่งไม่เสร็จเลยอะ ไม่รู้จะมาทันกำหนดที่ตั้งไว้คราวหน้ารึเปล่า แหะๆ(//ยังกล้ามาหัวเราะเนอะ) :z6: ยังไงก็รออ่านกันต่อไปนะจ๊ะ คนเขียนขอร้อง :monkeysad: วันนี้เม้าท์แค่นี้ก่อนละกันนะคะ เดี๋ยวเจ้านายมาเห็นจะแย่เอา งั้นก็สวัสดีอีกรอบคะ :bye2:
-
อาร์เคยมีคนรักมาก่อนด้วยอ่ะ แต่ก็ย่ารักมากค่ะ ชอบอาร์ พี่เมศเมื่อไหร่จะรักอาร์ซะที อยากให้รักกันเร็วๆจัง
-
อาร์มีความหลังเรื่องอดีตคนรักซินะ :L1: รออ่านต่อไป เมื่อไรที่พี่เมศจะคิดกับอาร์มากกว่าพี่ชายน้องชาย :o8:
-
เอาล่ะสิ สรุปอาร์รักเมศจริงหรือเปล่าอ่ะ
อย่าเอาเมศเป็นตัวแทนของใคนะหนูอาร์
บวกจ้า
-
ว้า
น้องอาร์มีคนรักอยู่แล้วเหรอ
แล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะเนี่ย
ดูว่าเรื่องมันจะขักมีอะไรมากกว่าขำๆกันแล้ว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
:กอด1:
-
อาร์มีอดีตซะแล้ว
ว่าแต่อาร์รักพี่เมษจริงๆหรือเห็นเป็นตัวแทนของเธอกันนะ
-
อาร์มีปมหรือนี่ :o11:
-
อาร์น่ารักอ่ะ
ว่าแต่อเลนเป็นใครอ่ะ
-
อ่าว มีปมซะงั้นอ่ะ
งี้อาร์ก็ไม่ได้รักพี่เมษแต่แรกอ่าสิ
หรือรักแล้วไปเจอคนใหม่ที่เหมือนพี่เมษก็เลยรักอีก
หรืออะไรยังไงเนี่ย
มาเฉลยๆเร็วๆน้า
-
อ้าวอเลนคือใครอ่ะ
จะให้พี่เมศเป็นตัวแทนอเลนเหรอหนูอาร์
ถ้าพี่เมศรู้พี่เมศเสียใจแย่เลย
-
กำลังเข้มข้น น่าติดตาม
-
สงสารน้องอาร์
-
:a5:
-
หื้ออออ อเลนนี่ใครอ่ะ? แฟนเก่า? แล้วตกลงน้องชอบพี่เมศจิงรึป่าวเนี่ยยยย :serius2:
รอตอนต่อไปนะฮะ :')
-
:call: :call: :call:
-
:a5: o22
-
:sad11: :sad11: :sad11:
อาร์เห้นพี่เมศเป้นตัวแทนใครหรือเปล่า อย่างนี้ก้อสงสารพี่เมศเหมือนกันนะ
-
ขอมอบรางวัลออสการ์ให้น้องอาร์ไปเลย เก่งขนาดนี้
น้องอา์ร์เห็นพี่เมศเป็นตัวแทนคนรักเก่าหรือเนี่ย (ยัง)ไม่ได้รักพี่เมศจริงๆ
(วี่แววจะดราม่า)
-
เงิ่มมม เหมือนอาร์ยังลืมคนรักเก่าไม่ได้
คิดว่า เมศคืออเลนที่เหมือนกันและต้องรักอาร์
ดูหลอนๆเนอะ ฮาาาา
-
อเลนไปไหนนะ เมศเหมือนจะเริ่ม ๆ ชอบอาร์ยังไงก็ไม่รู้
-
:o8:
-
ชักยังไงแระ
จะรักกันจริงหรือเปล่า
-
ตอนที่ 5 :: เริ่มสงคราม!! ::
“วันนี้แปลกแฮะ มีแต่คนโค้งให้ผมเต็มเลยพี่เมศ”นันทกรบอกอย่างแปลกใจ กวาดตามองพนักงานบริษัททั้งหลายที่เดินผ่านมาทั้งก้มทั้งโค้งและแหวกทางให้ แถมไม่สบตาสักคนผิดกับเมื่อวานจนอดถามคนข้างๆไม่ได้
“มันก็อะนะ.........”ปรเมศไม่รู้จะตอบอย่างไร รู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าข่าวลือจะต้องขจรขจายไปไกลแล้วแน่ เมื่อเสียงทะเลาะของเค้าและมัทรีดังออกไปข้างนอกขนาดนั้น เมื่อวานเค้าคุยกับนภดลแล้วรับรู้ถึงข่าวลือมากมาย ทั้งเรื่องที่เค้ามีคู่หมั้นแล้วแถมคู่หมั้นยังเป็นเด็กหนุ่มฝรั่งหน้าตาดี ทั้งเรื่องเค้าสลัดมัทรีเพื่อปกป้องอาร์ เรื่องที่เค้ามักตาขวางเมื่อใครมาจ้องน้องฝรั่ง จนตอนนี้ใครก็ตามในบริษัทก็ต่างเกรงใจ เกรงกลัวนันทกรทั้งนั้น
“ช่างเถอะครับ นี่พี่เมศมีงานอะไรให้ผมช่วยบ้างไหม มานั่งเล่นเฉยๆดูเปลืองเวลาไงก็ไม่รู้”คนตัวเล็กกว่าถามเมื่อเดินมาถึงแผนก เมื่อเห็นคนมองกันอย่างกล้าๆกลัวๆก็ส่งยิ้มให้ก่อนโบกมือน้อยๆ ทำเอาคนในแผนกถึงกับสะดุ้งแล้วยิ้มรับแหยๆกันเป็นแถว
“ก็บอกให้อยู่บ้านก็ไม่เชื่อ”
“อยู่บ้านยิ่งน่าเบื่อใหญ่ กว่ามหาลัยจะเปิดตั้งอีกสองอาทิตย์ มาช่วยพี่เมศทำงานดีกว่า”
“งั้นเอางี้ ลองไปถามคุณนภดลข้างนอกว่ามีงานอะไรพอช่วยไหม บอกว่าพี่อนุญาตให้ทำงานได้”นันทกรยิ้มอย่างดีใจ ก่อนถลาออกไปด้านนอกแล้วหายเงียบไป ปรเมศจึงกลับมาจดจ่อกับงานตรงหน้าอีกครั้ง
………………………………
…………………..
……….
..
ปรเมศที่เพิ่งเงยหน้าจากเอกสาร บิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบจากเนื้อตัวหันไปมองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูของตน พอเห็นเวลาเที่ยงแล้วก็ต้องตกใจ นี่เค้าทำงานจนลืมเวลาอีกแล้ว ป่านนี้เจ้าตัวยุ่งไม่หิวท้องกิ่วแล้วหรือไง??
“อ้าว พี่เมศ ว่าจะไปตามพอดีเลยครับ มานี่เร็ว”เมื่อเปิดประตูห้องก็ชนกับคนที่กำลังจะเดินเข้าไปเรียกพอดี ปรเมศโดนคว้าข้อมือแกร่งแล้วเดินตามที่นันทกรจูงอย่างงงๆก่อนจะถึงบริเวณที่จัดให้พนักงานได้นั่งพักผ่อน พนักงานชายหญิงเมื่อเห็นรองประธานหนุ่มต่างก็รีบลุกต้อนรับจนเค้าต้องยกมือเชิงไม่เป็นไรนั้นแหละถึงจะกลับมานั่งล้อมโต๊ะใหญ่ตรงกลางที่เรียงรายไปด้วยอาหารมากมาย
“วันนี้เรากินกับพวกพี่ๆเค้านะ พี่เมศ ดูสิ น่ากินทั้งนั้นเลย”ปรเมศมองอาหารบนโต๊ะแล้วหันไปมองนันทกรอีกครั้ง เด็กหนุ่มก็รีบพูดต่อทันที
“ก็กินสองคนมันไม่สนุก พอดีอาร์เห็นพวกพี่ๆเค้าจะออกไปกินข้างนอกเลยบอกให้มากินด้วยกันเลย จะได้กินหลายๆแบบไง อันนี้ของพี่นิด อันนี้ของพี่จูน อันนี้ของพี่พุด อันนี้ของพี่ดล...”แม้แต่เลขานภดลก็เอาด้วย ปรเมศเลยพยักหน้าเข้าใจก่อนนั่งลง
“แล้วเราซื้ออะไรละ??”นันทกรยิ้มก่อนชี้ไปที่พิซซ่าถาดใหญ่สี่ห้าถาดตรงหน้าเค้า
“ผมให้เค้าจ่ายบัญชีพี่เมศนะ”ว่าแล้วก็ยิ้มอ้อนคนที่ออกเงินโดยไม่รู้ตัว ปรเมศยิ้มไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะหันไปทางนภดล
“คุณนภดลช่วยสั่งเค้กไอติมให้เค้ามาส่งหน่อยนะครับ แล้วลงบัญชีผมไปเลย วันนี้ถือโอกาสเลี้ยงต้อนรับอาร์ ใครอยากกินอะไรเพิ่มก็บอกคุณนภดลนะครับแล้วให้ลงบัญชีผมไปเลย”เสียงโฮ่ร้องขอบคุณดังขึ้นรอบทิศ ก่อนเค้าจะหันมามองเจ้าเด็กหนุ่มข้างตัว
“โอเคไหม??”
“อือ!!!ขอบคุณครับพี่เมศ”ว่าแล้วนันทกรก็หยิบไก่ทอดน่องใหญ่วางลงบนจานปรเมศ ภาพน่ารักๆนั้นทำให้รอบข้างมองด้วยความเอ็นดู
“น้องอาร์คู่หมั้นคุณเมศนี้น่ารักนะเธอ นิสัยก็ดี เป็นกันเองมากๆเลย”นิดาหรือนิด พนักงานสาวคนหนึ่งเอ่ยกับเพื่อนสาวข้างๆ
“นั้นสิ เมื่อกี้ยังช่วยฉันถือของเลย แบบนี้สิถึงจะคู่ควรกับคุณเมศ......ไม่เหมือนกับ.....”ประภาหรือจูนเอ่ยตอบ พลางเหลือบมองหญิงสาวอีกคนที่ยืนมองพวกตนจากที่ไกลๆด้วยสายตาเกลียดชัง
“ดูสายตาสิเธอ สายตานางอิจฉาช่องเจ็ดมากอะ”นิดาจิกกัด เธอไม่ชอบมัทรีมานานแล้ว เพราะถือว่าตัวเองสวย ทำงานเก่งและเป็นที่ชื่นชอบของปรเมศจึงมักทำเป็นเหยียดพวกตนทั้งที่อยู่กองเลขาเหมือนกัน
“ก็ลองมาทำอะไรน้องอาร์ดูสิ เจ้าแม่จูนเนี่ยแหละจะออกโรงปกป้องเอง”ประภาตบหน้าอกคัพDของตัวเองอย่างแรง ทำให้เพื่อนสาวคนอื่นที่นั่งฟังอยู่หัวเราะคิก
“จะกล้าทำได้ไงละเธอ ขืนทำอะไรอีกคราวนี้โดนไล่ออกแน่”พุดตาล หญิงในร่างชายหนุ่มหุ่นบึ่กเพียงหนึ่งเดียวในกองเลขาว่าพลางหัวเราะเสียงดัง
ทางฝั่งมัทรีในตอนนี้ได้จับจ้องภาพตรงหน้าอย่างโกรธแค้น เธอไม่เคยโดนลดระดับขั้นความสำคัญลงมาขนาดนี้ ต้องถูกคนหัวเราะเยาะเย้ย โดนคนมองเหยียดยาม ทุกคนหาว่าเธอแกล้งไอ้เด็กนั้น.......ไอ้เด็กอาร์ด้วยความอิจฉา ทั้งๆที่งานนี้เธอเป็นผู้เสียหายแท้ๆ ไอ้เด็กนั้นหลอกให้ทุกคนเชื่อได้สนิทใจ ทำเป็นเด็กดีทั้งที่ร้ายยิ่งกว่าเธอมาก แม้อยากแก้แค้นให้สาสมกับความเจ็บใจแค่ไหนก็ไม่อยากเอาอนาคตหน้าที่การงานมาเสี่ยง แค่ที่เมื่อวานเธออกฤทธิ์ออกเดชกับปรเมศไปก็โดนลดขั้นไปเยอะแล้ว เธอได้แต่เฝ้าวนเวียนคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะสามารถแก้แค้นได้โดยเธอไม่ต้องเข้าไปเกี่ยว
เล็บสีแดงสดที่ถูกเคลือบไว้ถูกขบอย่างแรงเมื่อเจ้าของกำลังใช้ความคิด มัทรีนั่งพิงเก้าอี้ กวาดตามองไปรอบๆโต๊ะของเธอและสายตาก็หยุดอยู่ที่สมุดเล่มหนึ่ง เธอยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ หยิบสมุดเล่มนั้นขึ้นก่อนพลิกหาบางสิ่งบางอย่างที่เธอต้องการ
“เจอแล้ว หึหึ ผู้หญิงของคุณเมศไม่ได้มีฉันคนเดียวหรอกนะ คุณน้องอาร์”
Trrrr……Tr……Trrrrrr……
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดว่ายน้ำบิกินี่สีขาวที่นอนอวดรูปร่างเต่งตึงอวบอัดของเธออยู่ริมสระน้ำ ถอดแว่นกันแดดราคาแพงระยับออก เอื้อมมือไปหยิบ คิ้วสวยขมวดเมื่อเห็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยก่อนจะกดรับ
“แพรวาพูด นั้นใครโทรมานะ”
“สวัสดีคะคุณแพรวา ดิฉันเป็นเลขาของคุณปรเมศคะ”แพรวาดันตัวลุกจากเก้าอี้นอนอาบแดดแล้วถามทวน
“เลขาเมศ??มีธุระอะไร...”
“คือว่า.......ไม่ทราบว่าทางคุณแพรวาทราบหรือยัง ตอนนี้มีคนมาแอบอ้างเป็นคู่หมั้นคุณเมศที่บริษัทคะ”
“อะไรนะ!!”แพรวาถามเสียงแหลม แล้วความทรงจำก็ย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนั้นที่เอกำลังจะชวนปรเมศออกไปเที่ยวด้วยกัน
“หรือว่าเจ้าเด็กนั่น..........แล้วไงต่อ”
“คะ คือเด็กคนนั้นร้ายมากเลยคะเที่ยวบอกคนโน้นคนนี้ว่าเป็นคู่หมั้นแถมยังเกาะติดคุณเมศแจ ดิฉันเห็นแล้วก็คิดว่าคนที่เป็นตัวจริงอย่างคุณแพรวาน่าจะลงไปจัดการเด็กคนนี้ไม่ให้มาวอแวคุณเมศนะคะ”มัทรีรีบยกยอทางคนทางปลายสายพร้อมเสนอตัวแนะนำเสร็จสรรพ
“เข้าใจแล้ว........แต่ฉันไม่เห็นต้องลงไปทำอะไรเลยนี่ ถ้าเมศเค้าไม่เล่นด้วย เดี๋ยวมันก็เลิกไปเอง”แพรวากอดอกพูดเสียงเรียบ........เรื่องอะไรเธอต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงให้ปรเมศรำคาญด้วย
“แต่ท่าทางคุณเมศจะเล่นด้วยนะสิคะ วันก่อนยังดึงไปกอดไปจูบในห้องทำงานเลย”แม้จะการหอมกอดกันเล่นๆแบบพี่น้อง แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เห็นแบบแพรวาก็จินตนาการไปไกลแล้ว
“อะไรนะ!!เมศทำขนาดนั้นเลยหรือ........หึหึ ขอบใจละกันที่เอามาบอก แต่ฉันจะทำอะไรหรือไม่ทำมันก็สิทธิ์ของฉัน อย่าคิดว่าจะมาใช้ประโยชน์จากฉันได้ง่ายๆนะยะ”พูดจบก็วางสายทันที ทางมัทรีถึงแม้ไม่พอใจที่แพรวาพอจะจับแผนการของตนได้ แต่เธอรู้ดีว่าคุณหนูไฮโซแบบแพรวาไม่มีทางยอมให้ใครแย่งสิ่งที่เป็นของเธอแน่!!!
หลังจากมัทรีได้โทรไปรายงานแพรวาเรื่องของนันทกรก็ผ่านไปสามวันแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าแพรวาจะเริ่มทำอะไร แถมปรเมศก็ยังตัวติดกับนันทกรเหมือนเดิม ทำเอามัทรีอดร้อนใจไม่ได้ คาดว่าแผนที่วางไว้คงไม่ได้เรื่องเสียแล้ว
“อ๊ะ!!พี่แอน ไม่เจอกันนานนะครับ”มัทรีสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงที่เธอเข็ดขยาดเป็นที่สุด ดวงหน้าขาวซีดหันมามองคนที่ทักแล้วเอ่ยเสียงเบา
“น้องอาร์...”ร่างโปร่งที่ถือถ้วยกาแฟเข้ามาในห้องพักเครื่องดื่มยิ้มให้ ด้านหลังเด็กหนุ่มยังมีสองสาวนิดาและประภาคอยยืนคุมเชิงเหมือนเธอจะเข้าไปทำร้ายเด็กหนุ่มอย่างนั้นแหละ
“ครับ??..........แหมสงสัยพี่แอนจะไม่สบาย หน้าซีดเชียว พักผ่อนบ้างนะครับผมเป็นห่วง ยังไงพี่แอนก็เป็นพนักงานคนสำคัญของบริษัทเรา...”นันทกรพูดพลางเดินผ่านเธอไปหยิบโหลกาแฟที่อยู่ด้านหลังของมัทรี
‘บริษัทเรา!!พูดได้เต็มปากนะไอ้เด็กเวร’มัทรีกัดฟันกรอดเมื่อคำพูดของเด็กหนุ่มเหมือนจะสื่อถึงความเหนือกว่า
“พี่ไม่ได้เป็นอะไรหรอกคะ ขอตัวก่อนนะคะ”มัทรีพูดเสียงแข็งแล้วเดินเชิดออกไป สองสาวมองตามอย่างหมั่นไส้
“ยังทำหยิ่งได้อีก เหลือเกินจริงๆผู้หญิงคนนี้”นิดาท้าวเอวบ่น
“พี่นิด ต่างคนต่างอยู่เถอะครับ”นัททกรว่าแล้วกดน้ำร้อนลงถ้วย คนกาแฟในถ้วยเสร็จก็ใส่ถาด
“แต่ยัยนั้นเค้าแกล้งน้องอาร์ก่อนนะคะ ไม่คิดเอาคืนบ้างหรือไง??”ประภาพูดอย่างหัวเสีย
“ก็ผมบอกแล้วว่ามันเป็นอุบัติเหตุ พี่แอนเค้าไม่ได้ตั้งใจ พวกพี่ก็อย่าไปเอาเรื่องอะไรเลย อ๊ะ!!!เสร็จแล้ว ผมเอาขนมกับกาแฟไปให้พี่เมศดีกว่า ส่วนของพี่ๆผมวางไว้ตรงนี้นะครับ”นันทกรยกถาดใส่กาแฟและขนมที่ตนกับสองสาวไปซื้อมาก่อนยิ้มให้แล้วบุ้ยใบ้ไปที่อีกสองจานที่เหลืออยู่
“แหม น้องอาร์เนี่ยน่ารักจริง ช่างเอาอกเอาใจบอส อย่างเนี่ยบอสจะหนีไปไหนพ้น”นิดาแซว นันทกรส่ายหัว
“ไม่ใช่นะครับ อาร์กับพี่เมศเป็นแค่พี่น้องกัน พวกพี่อะชอบแซว เดี๋ยวชื่อเสียงพี่เมศก็เสียหายหมด”เด็กหนุ่มหน้าแดงบ่นแบบไม่จริงจัง
“ตอนนี้ยัง แต่อนาคตไม่แน่นะคะ แถมสมัยนี้เรื่องรักเพศเดียวกันมันเป็นเรื่องธรรมดาแล้วคะน้องอาร์”ประภารีบพูดเอาใจ
“เฮ้อ!!ไม่พูดกับพวกพี่แหละ ผมไปดีกว่า”นันทกรทำหน้าเขินๆก่อนเดินออกมา ทำให้สองสาวต่างแอบอมยิ้มถูกใจโดยไม่รู้เลยว่าเมื่อผ่านจากตรงนั้น หน้าตาเขินอายได้กลายกลับเป็นเรียบนิ่ง ดวงตาสีน้ำตาลดูเยียบเย็นมองไปทางโต๊ะของมัทรีที่ตีสีหน้ายิ้มอย่างน่าแปลกใจขึ้น ลางสังหรณ์ของเค้าบอกว่ามัทรีต้องทำอะไรลงไปแล้วแน่ๆ
“ยัยนั้นต้องกะจะทำอะไรแน่........ฮึ!!คิดว่าสู้ได้ก็สู้ไป ดีซะอีกคราวนี้จะได้หาเรื่องให้พี่เมศโดนเราจับอยู่หมัดไปเลย”
เมื่อเดินไปถึงหน้าห้องของปรเมศก็เห็นนภดลยืนหันรีหันขวางอยู่ เมื่อเห็นตนเดินมาก็ยิ่งหน้าซีดเข้าไปอีก
“พี่ดลเป็นอะไรหรือเปล่าครับ น่าซีดเชียว”นันทกรถามอย่างห่วงใย
“ปะ เปล่าครับ........เอ่อ แบบว่าน้องอาร์อย่าเพิ่งเข้าไปในห้องบอสเลยดีกว่านะครับ”นภดลละล่ำละลักบอก
“ทำไมละครับ?? มีแขกหรือครับ”
“ปะ เปล่าไม่ใช่แขกครับ”เลขาหนุ่มยังไม่พูด นันทกรชักเริ่มหงุดหงิดแต่ยังคงตีหน้าเฉยๆอยู่
“งั้นผมเข้าไปนะครับ ถือนานแล้วเริ่มหนัก”นันทกรไม่สนใจนภดลที่พยายามห้ามอีก เปิดประตูเดินเข้าห้องไป
“พี่เมศครับ ผมเอ.......”นันทกรที่เดินเข้ามาในห้องต้องชะงักกึกเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ภาพที่ปรเมศกำลังถูกหญิงสาวผมยาวท่าทางเปรี้ยวจี๊ดดึงโน้มตัวเข้าจูบอย่างดูดดื่ม......
//////////////////////////
“ไฮ!!!เมศคะ”เสียงทักที่ดังมาจากประตูห้องทำงาน ทำให้ปรเมศที่กำลังนั่งเซ็นต์เอกสารอยู่นั้นต้องรีบเงยหน้า
“แพร!!คุณมาได้ยังไง”ชายหนุ่มถามด้วยความแปลกใจ เหลือบมองไปที่ด้านหลังของหญิงสาวก็เห็นเลขาหนุ่มทำหน้าหนักใจอยู่
“เมศก็ถามแปลกๆ แพรก็ขับรถมาซิคะ”แพรวาหัวเราะอย่างจริต พลางเดินเข้าไปหาเจ้าของห้อง ปรเมศได้แต่ถอนหายใจแล้วโบกมือให้เลขาหนุ่มประมาณว่าไม่เป็นไร
“ไมใช่อย่างนั้น เห็นปกติแพรจะนัดผมตอนกลางคืนมากกว่า นานๆทีถึงจะมาหาตอนกลางวันแบบนี้เลยแปลกใจนิดหน่อย”
“แหม ก็เมศไม่โทรหาแพรเลยนี่คะ แพรเลยกะจะมาเซอร์ไพรส์คุณแล้วก็ชวนไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน”ว่าแล้วหญิงสาวก็โอบคอของปรเมศเข้ามาใกล้พลางหอมแก้มอย่างสนิทสนม
“ตะ แต่ว่า”ปรเมศกำลังจะค้านเมื่อเค้านึกได้ว่านันทกรจะต้องกินข้าวกลางวันกับเค้าทุกวัน นิ้วที่เคลือบเล็บสีสวยปิดปากได้รูปนั้นไว้แผ่วเบา
“ห้ามปฏิเสธคะ แพรรู้ว่าเมศก็คิดถึงเรื่องระหว่างเราอยู่ใช่ไหมละคะ”แพรวาแทนที่นิ้วของเอด้วยริมฝีปากแสนยั่วยวนของเธอ การจูบอันดูดดื่มจึงเริ่มขึ้น ปรเมศเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นตามประสาคนหนุ่ม ยิ่งตั้งแต่นันทกรมาอยู่ที่บ้านเค้าไม่เคยได้ออกไปเที่ยวไหนเลยก็ยิ่งประสาทสัมผัสทางกามรมย์มันตื่นตัวเร็วขึ้นแต่ยังไม่ทันที่ปรเมศจะได้จัดการอะไรมากไปกว่านั้นประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง
“พี่เมศครับ ผมเอ...”เสียงสดใสของเด็กหนุ่มดังขึ้นและเงียบลง ดวงตาสีน้ำตาลเบิกขึ้นเล็กน้อยในตอนแรกก่อนจะเย็นเยียบในเวลาต่อมาและกลับเป็นดูแตกตื่นในชั่วพริบตา
“อ๊ะ!!อะ ขอโทษครับ!!! บะ แบบว่า อะ เอ่อ”นันทกรหน้าแดงก่อนจะมือไม้อยู่ไม่สุข ทำให้ขนมและกาแฟในถาดหกกระเซ็นเล็กน้อย ปรเมศได้สติรีบมาคว้าถาดถือไว้แทนทันที แพรวามองท่าทางนั้นอย่างขัดใจ แต่ก็ส่งรอยยิ้มเหนือกว่าไปให้เด็กหนุ่มที่เธอเห็นว่าหน้าซีดไปแล้วเมื่อเห็นเธอกับปรเมศจูบกัน
“พี่เมศ เอ่อ ผม เอ่อ..ขอตัว..”
“ไม่ต้องหรอกอาร์ ใจเย็นๆ.......อืม นี่คุณแพรวา ถ้าอาร์จำได้อาร์เคยพบเค้าที่หน้าบ้านเมื่อวันที่กลับมา จำได้ไหม??”นันทกรพยักหน้าก่อนยกมือไหว้
“สวัสดีครับ..”
“สวัสดีคะ ถ้าจำไม่ผิดชื่อน้องอาร์ใช่ไหม เรียกพี่แพรก็ได้นะคะ”แพรวาเดินเข้ามาหาพร้อมยิ้มแย้มให้ราวกับเธอไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองอะไรกับเด็กหนุ่มตรงหน้า แล้วดึงแขนปรเมศมากอดแน่นแสดงความเป็นเจ้าของ
“ครับ...”นันทกรมองมือที่คล้องแขนอีกคนแล้วมองหน้ากระอักกระอ่วนของปรเมศแล้วตอบเสียงเบา
“จะว่าไป เจอกันครั้งที่แล้วเห็นน้องอาร์ว่าน้องอาร์เป็นคู่หมั้น พี่แพรนี้ตกใจเลยคะ แต่พอมาคิดดูดีๆแล้วน้องอาร์คงแหย่พี่เล่นมากกว่าเนอะ เพราะเด็กผู้ชายอย่างน้องอาร์จะมาหมั้นกับเมศที่เป็นผู้ชายเหมือนกันได้ยังไง วิปริตสิ้นดี ฮิฮิ”แพรวาหัวเราะราวกับเป็นเรื่องโจ๊กระดับชาติ ปรเมศแม้จะเห็นว่าจริง แต่ท่าทางที่แสดงออกมาของแพรวาทำให้ชายหนุ่มรู้สึกแย่พิกล
“ก็ประมาณนั้นแหละครับ........เพราะผมกับพี่เมศเรายังไม่ได้หมั้นกันจริงๆ จะว่าไปตั้งแต่คืนนั้นผมก็ยังไม่ได้ถามพี่เมศเลยเหมือนกัน เห็นพี่แพรว่าเป็นแฟนพี่เมศ เห็นอย่างนี้คงจะเป็นเรื่องจริงนะสิครับ”หน้าของแพรวาตึงขึ้นมาทันทีเพราะเธอเองก็ไม่ได้จะอยู่ในสถานะแฟนของชายหนุ่ม เพราะรู้ว่าถึงแม้ปรเมศจะมีใครมากแค่ไหน คนที่จะได้เป็นแฟนของปรเมศนั้นกลับน้อยยิ่ง เพราะสำหรับปรเมศแฟนคือคนที่รัก........และเธอยังไม่ใช่!!!
“เรื่องนั้นช่างมันเถอะจ๊ะ.......แหม!!ขนมน่ากินจัง น้องอาร์เอามาให้พี่กับพี่เมศใช่ไหมคะ ขอบคุณมากนะคะ”ถาดขนมในมือนันทกรถูกแพรวาดึงไปก่อนที่เธอจะลากให้ปรเมศเดินตามไปนั่งที่โซฟาและลงมือป้อนขนมเข้าปากปรเมศทันที
“เอ้าเมศคะ ทานซิคะ อ้าม”ปรเมศทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกกับการกระทำที่แปลกๆไปของแพรวา ปรกติเธอจะไม่เคยแสดงความเป็นเจ้าของเค้าขนาดนี้
“ผมกินเองได้ครับ แพร...........อาร์มานั่งนี้มา”ปรเมศเรียกนันทกรที่ยืนซึมอย่างน่าสงสารมานั่งข้างตัวเองอีกฝั่งแล้วดันขนมอีกชิ้นให้
“อาร์กินเถอะ”นันทกรมองขนมทีปรเมศทีก่อนเอ่ยปาก
“พี่เมศอะ??”
“ไม่เป็นไร”นันทกรมองขนมก่อนตัดชิ้นพอดีคำส่งส้อมให้ปรเมศถือ
“งั้นกินด้วยกันนะ พี่เมศเป็นพี่ อาร์ให้พี่เมศกินก่อน”ปรเมศยิ้มเอ็นดู ทำให้แพรวาแทบกรี๊ด เด็กนี่มันจะเก่งเรื่องจับจุดคนไปแล้ว เมื่อกี้เธอเผลอแสดงความเป็นเจ้าของมากเกินไป ซึ่งผู้ชายคาสโนว่าแบบปรเมศย่อมไม่ชอบการผูกมัดแบบนั้น เด็กนี่เลยเลือกใช้วิธียื่นให้ปรเมศหยิบกินเองซึ่งได้ผลดีกว่า
“เมศคะนี่ก็เกือบเที่ยงแล้วแพรว่าเราออกไปหาอะไรอร่อยๆทานกันเถอะนะคะ”หญิงสาวส่งสายตาอ้อนรีบเปลี่ยนเรื่อง ปรเมศหันไปมองนันทกร
“ก็ได้ครับ อาร์ไปทานด้วยกันนะ”นันทกรยิ้มได้อย่างไม่เต็มที่แต่ก็พยักหน้า ทางแพรวาก็ได้ไม่ได้พูดอะไรเพราะกะไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ และนั้นแหละที่เธอต้องการ เจ้าเด็กฝรั่งนี้จะได้รู้สักที่ว่าใครสมควรยืนข้างปรเมศ!!
“ยินดีต้อนรับคะ 3ท่านนะคะ”บริกรหญิงในชุดไทยเสื้อแขนกระบอกสีทองและผ้าซิ่นลายไทยยกมือไหว้อย่างงดงามก่อนจะผายมือให้ผู้มาใหม่ทั้งสามคนเดินเข้าร้าน
ร้านที่แพรวาพามานั้นเป็นร้านอาหารไทยสุดหรู บริเวณร้านเป็นเรือนไม้สักหลังใหญ่ที่ตกแต่งให้ดูผสมกันระหว่างตะวันออกและตะวันตก บนเพดานเป็นรูปบรรดาเทวาชั้นฟ้าทั้งหลายแบบไทยๆถูกส่องด้วยไฟสีส้มนวลตา บริเวณรอบๆร่มรื่นด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ฝั่งหนึ่งของตัวร้านประดับด้วยภูเขาธารน้ำเล็กที่ไหลเอื่อยเป็นแนวกั้นแต่ละโต๊ะให้เป็นสัดส่วน การบรรเลงดนตรีไทยสดก็เป็นอีกเสน่ห์หนึ่งของร้านแห่งนี้
ปรเมศมองรอบๆอย่างพอใจ ร้านสวยถูกใจเค้ามากและเค้าคิดว่าเด็กหนุ่มที่มาจากต่างแดนก็คงชอบบรรยากาศแบบนี้เช่นกันแต่เมื่อหันไปกลับเห็นนันทกรเดินหน้าหมองๆ ดวงตายังคงจับจ้องแขนของเค้าที่ถูกคล้องจากแพรวาเท่านั้น
“ไม่ชอบเหรออาร์??”นันทกรเงยหน้าขึ้นก่อนฝืนยิ้มให้พลางส่ายหัว
“เปล่าครับ...”แม้ภายนอกจะกล่าวอย่างนั้นแต่ในใจนันทกรกำลังคิดถึงเรื่องของแพรวา หล่อนกำลังคิดว่าเหนือเค้าอยู่และพยายามทำทุกอย่างให้เค้าเห็นว่าหล่อนเหนือกว่าดั่งที่คิดไว้
แค่ตลอดทางที่เดินจากห้องทำงานมา แพรวาก็มักเกาะแขนปรเมศมาตลอด ให้ใครต่อใครเห็นว่าเธอสวีทกับปรเมศแค่ไหน ปล่อยให้นันทกรเดินตามหลังไปเรื่อยๆ น่าโมโหตรงที่ปรเมศก็ไม่ได้แกะแขนหล่อนออกซะด้วย พอมาถึงรถเธอก็รีบนั่งหน้าคู่คนขับทันทีและผูกขาดการสนทนากับปรเมศตลอด แม้ปรเมศจะหันกลับมาชวนนันทกรคุยบ้างแต่ก็โดนแพรวาดึงกลับไปคุยด้วยอีก พอมาถึงที่นี้ยังจับปรเมศนั่งข้างตัวและส่งสายตาให้เค้านั่งอีกฝั่งอีกต่างหาก แน่นอนว่าเค้าก็ต้องทำอย่างนั้น ไม่งั้นคงแปลกพิลึกที่คนสามคนจะนั่งอยู่ข้างเดียวกันหมด...
“เมศคะ นี่คะปลาทอดราดน้ำสมุนไพรของที่นี้เค้าอร่อยมากนะคะ”เนื้อปลาชิ้นขาวๆถูกตักให้ปรเมศก่อนแพรวาจะตักอีกส่วนให้นันทกร
“ส่วนนี้ของน้องอาร์จ๊ะ”
“ขอบคุณครับ”นันทกรกล่าวเสียงเรียบ เหลือบตามองปลาที่ถูกตักให้ มันมีแต่ก้างปนเต็มไปหมด.....
“อุ๊ก!!แค่กๆๆ เจ็บ....”
“อาร์เป็นอะไร!!”ปรเมศร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อนันทกรกินปลาเข้าไปแล้วสำลัก น้ำตาเล็ด
“ปลาที่พี่แพรตักให้คงก้างเยอะไปหน่อยนะครับ มันแทงเหงือก”นันทกรเอามือกุมปาก นั่งน้ำตาซึม
“ไหนดูสิ”ปรเมศรีบเดินข้ามโต๊ะมานั่งฝั่งเดียวกับนันทกรแล้วจับเด็กหนุ่มอ้าปาก หยิบกระดาษทิชชู่มาซับเลือดในปากให้ แพรวามองภาพนั้นอย่างเจ็บใจ เธอจงใจแกล้งมันแต่เด็กนี้ดันเหนือกว่า กล้าทำตัวเองเจ็บเพื่อเรียกร้องความสนใจจากปรเมศ
“เรียบร้อย วันหลังกินระวังๆหน่อยนะอาร์”ปรเมศว่า
“ครับ พอดีผมเขี่ยก้างออกไม่ค่อยเป็น แต่พี่แพรอุตส่าห์ตักให้ก็เลย....”สายตาเด็กหนุ่มช้อนตรงมาที่แพรวา ปรเมศจึงหันไปด้วยเช่นกัน
“แหม!!!พี่ต้องขอโทษด้วยนะคะ ก็ไม่คิดว่าน้องอาร์จะเขี่ยก้างแค่นี้ไม่เป็นนี่คะ”แพรวาพูดเสียงแข็งเล็กน้อย
“เอาเถอะครับ........อาร์งั้นเดี๋ยวพี่เขี่ยก้างให้ละกัน”ปรเมศเลื่อนจานตัวเองมาด้านเดียวกับนันทกรก่อนจะหยิบปลาที่แพรวาตักให้เมื่อครู่มาเขี่ยๆเล็กน้อยก่อนตักใส่จานนันทกร
“ขอบคุณครับพี่เมศ งั้นเดี๋ยวอาร์ไปล้างคาวเลือดในปากก่อนนะครับแล้วจะกลับมากิน”นันทกรลุกขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองไปคนที่นั่งกัดฟันอยู่ตรงข้ามก่อนยกยิ้มเยาะเย้ยส่งให้ แพรวาเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นเช่นกัน
“งั้นแพรขอไปห้องน้ำแปปนึงนะคะ เมศนั่งกินคนเดียวไปก่อนละกัน”แน่นอนเธอไม่ได้ไปทำอะไรในห้องน้ำหรอกแต่เธอต้องการเคลียร์กับเจ้าเด็กอวดดีนี้ต่างหาก
/////////////////////
“คิดว่าตัวเองชนะแล้วหรือไง ถึงมาส่งยิ้มเยาะเย้ยฉันอย่างนั้น”เมื่อนัทกรเดินออกจากห้องน้ำ แพรวาก็รีบขวางหน้าทันทีพร้อมถามเสียงกร้าว
“พี่แพรพูดอะไรผมไม่รู้เรื่อง.....”นันทกรเอามือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางกวนๆ แต่ดวงตากลับพราวระยับเหมือนขบขันในสิ่งที่หญิงสาวทำเหลือเกิน
“เมศเป็นของฉัน อย่าคิดว่ายัยคุณหญิงแม่นั้นคอยถือหางอยู่แล้วฉันจะกลัวนะยะ อย่างนั้นก็อยู่อีกแค่ไม่กี่ปี พอถึงวันนั้นเมื่อไหร่ฉันกับเมศแต่งงานกันแน่ เพราะงั้นแกอย่ามานึกหวังเลยว่าเมศเค้าจะมาพิศวาสผู้ชายอย่างแกนะ ออกไปซะตอนนี้ดีกว่าฉันยังไม่อยากจะทำอะไรรุนแรง”
“เรื่องนั้นมันก็ต้องดูต่อไปครับ.......หวังว่าวันนั้นที่พี่แพรหวังคงจะมาถึงเร็วๆนะครับ”นันทกรโต้กลับสีหน้ายังคงยิ้มเหมือนเดิม ทำให้แพรวายิ่งโมโหหนักขึ้นไปอีกแต่เธอก็ฉลาดพอที่จะไม่ลงมือลงไม้กับเด็กหนุ่มเพราะรู้ว่านันทกรต้องใช้จุดนั้นเล่นงานเธอแน่
“ฮึ!!ฝากไว้ก่อนเถอะ แล้วเราจะได้รู้กัน”แพรวาเดินปึงปังกลับไปที่โต๊ะ ปล่อยให้อีกฝ่ายยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“คิกๆ โง่ชะมัด ฮิฮิ....ดันมาประกาศตัวโต้งๆอย่างนี้..........ทำตัวเหมือนนางอิจฉาไปได้ ขนาดละคร soap ที่อังกฤษยังไม่มีตัวคาแรคเตอร์อย่างนี้เลยนะเนี่ย ฮะๆๆๆหยุดหัวเราะไม่ได้เลย”นันทกรหัวเราะจนเกร็งไปทั้งตัว น้ำตาใสเล็ดออกมาจากหางตาเล็กน้อย ก่อนจะดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกง และในมือนั้นก็ถือเครื่องบันทึกเสียงเครื่องหนึ่งไว้
“อย่างยัยนี้คงช่วยให้คุณป้าจับเรากับพี่เมศหมั้นกันจริงๆได้แน่ หึหึ งั้นเก็บยัยนี้ไว้ก่อนดีกว่า จะใช้ยัยนี้ยังไงดีน่า”นันทกรเคาะที่เครื่องบันทึกเสียงกับคางตัวเองเบาๆ ยืนยิ้มคิดหาทางใช้ประโยชน์จากแพรวา ถึงเวลาทำสงครามอีกครั้งแล้ว.......
ติดตามตอนต่อไป
-----------------------------
Neya : สวัสดีวันอาทิตย์คะ ขอโทษที่หายไปนานกว่าเดิมนิดนึง แบบว่างานท่วมหัวคนเขียนเอาตัวไม่รอดอยู่คะ ตอนที่ผ่านมาทำเอาแม่ยกน้องอาร์สงสัยกันเป็นแถวๆว่าน้องอาร์ไม่ได้รักพี่เมศหรือ ถ้าตอบตามจริงคือใช่คะ เพราะตอนอาร์ไปอยู่นู้นยังเด็กมากไม่ได้คิดอะไรกับเมศแม้แต่น้อย แล้วอยู่ๆห่างกันไปเป็นสิบปีจะมารักกันง่ายๆคนเขียนคิดว่าคงไม่ได้แน่ๆ แล้วรักกันง่ายๆก็ไม่มีฉากชะกับเหล่านางร้ายมันๆให้อ่านซิเนอะ ตอนนี้แพรวาโผล่แล้ว ใครเกลียดหล่อนเชิญตอบกระทู้ว่าร้ายหล่อนได้เต็มที่คะ :laugh: เพราะจะถือเป็นแรงเชียร์ในฐานะนางร้ายอย่างดี วันนี้คุยแค่นี้ก่อนเนอะ จะออกไปข้างนอกคะ พบกันตอนหน้า สวัสดีคะ :bye2:
-
ผู้หญิงคนนั้นคิดจะแข่งกับอาร์ไม่ได้รู้อะไรเลยว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ในเมื่อเมศก็ไม่ได้คิดอะไรกับตัวเองสักหน่อย ไม่ได้สังเกตหรือไงว่าเมศดูจะใส่ใจและห่วงใยอาร์มากมายขนาดไหน แต่อาร์ร้ายน่าดูนะเนี่ย
-
ร้ายไม่เบามีบันทึกเสียงซะด้วย
ชอบๆ เก่งมาครับ
o13 o13
-
แววว่าน้องอาร์จะถูกแฟนนิยายด่าในอนาคตเริ่มเห็นลางๆ แล้ว
-
น้องอาร์ร้ายนะคะ อิอิ
ชะนีแพรชิดซ้ายๆไปเลยยยย
-
เนื้อเรื่องมันส์มาก อาร์นายแรงได้ใจ สู้ต่อไปนะอาร์ ชอบมากเรื่องนี้ รอตอนต่อไปนะคะ
-
นางร้ายในคราบนางเอกจริงๆ ฮ่าๆๆ ชอบน้องอาร์อ่ะ
-
พี่เมศ ถ้ายังไม่รู้ตัวอยู่แบบนี้
ระวังจะโดนเด็ดปีกเด็ดหาง นะคะ
-
นายเอกในดวงใจเลยยยยย o13
-
ร้ายได้อีก อ่ะ นายเอกของเรา
5555
สนุกทุกตอนๆ
ต่อๆ
-
จะรอดูว่าระหว่างแพรวากับอาร์ใครจะร้ายกว่ากัน
-
ต้องแบบนี้สิถึงจะมัน :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
น้องอาร์สุดยอด o13
คิดว่ายังมีผู้หญิงของเมศอีกเยอะมาให้น้องอาร์แก้เหงา
-
ร้ายกาจจจจจจจจจจจจจจจจ :m8:
-
นายเอกเราสุดยอดอ่ะ ได้ใจจริงๆด้วย
-
:pig4: อาร์ร้ายกาจมาก :m31:
-
สนุกอ่ะ ชอบนายเอกฉลาด ๆ แบบนี้อ่ะ
-
:call: :call: :call:
-
o13
-
เรื่องน่าสนใจมากกกค่ะ
-
ร้ายกาจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ o8
-
มาต่อเร็ว ๆ นะครับ ชอบเรื่องนี้สุดสุดอ่ะ
-
เพิ่งเข้ามาอ่านขอฝากตัวด้วยค่ะ
ขอบอกว่าปลื้มปริ่มกับ นายเอกเรื่องนี้มากกก :m3: :m3:
ตอนแรกนึกว่าจะตลกๆ วัยรุ่นทั่วไป แต่ชักไม่ธรรมดาแล้วซิ เพราะน้องอาร์ มีปมดราม่า อยู่เยอะทีเดียว
รอตอนต่อไปค่ะ
-
ได้โปรดเถอะนะ มาต่อนะครับ อยากอ่านมากมาก
-
อาร์น่ารักเว่อร์ มาต่อไวๆนะคะ
-
อเลนคือใครเนี้ยยยยยย :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:
ถึงน้องอาร์จะเคยรักใครมาก่อน แต่อย่ารักมากกว่าพี่เมศน่ะ รู้ป้ะ :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
ยังไงพี่ก็เชียร์หนูขาดใจเลยจ่ะหนูอาร์ :z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
รักกันเร็วๆน้า :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
ว้ากกกก น้องร้ายมากอ่ะ แต่เราชอบ บ บ :laugh: :laugh: :laugh:
รอตอนต่อไปนะฮะ :')
-
น้องร้ายได้ใจมากกกก
-
หายไปใหนคะนานเลยรีบๆกลับมานะคะ :z3:
-
ร้ายมากจ่ะน้องอาร์ เธอร้ายมากกกกกกกกกก :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
แต่ร้ายแบบนี่พี่ชอบบบ ทำ(อิ)พี่แพรเงิบไปเลย :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
และพี่ว่า..พี่เริ่มเห็นอนาคตลางๆละว่าถ้าไม่รักพี่เมศเร็วๆน้องอาร์อาจ(จะ)โดนแฟนๆแอบด่าได้คะ !! :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
-
ชอบนายเอกร้ายๆแบบนี้อ่ะ
สู้ๆนะอาร์ >___<
บวกจ้า
-
ร้ายมากน้องอาร์ชอบๆๆๆ :fire:
-
ตอนที่ 6 :: หอบหืด ::
“คืนนี้ เราออกมาไปเที่ยวกันนะคะเมศ...”เสียงของแพรวายังคงดังก้องอยู่ในหู ดวงตาคมที่กรีดอายไลน์เนอร์มองเค้าอย่างยั่วยวน เมื่อเธอกำลังจะลงจากรถไปหลังจากมื้ออาหารอันน่ากระอักกระอ่วนที่ผ่านมาจบลง แน่นอนว่าหญิงสาวกระซิบข้างหูของเค้าเมื่อเห็นเด็กหนุ่มอีกคนลงจากรถแล้ว ก่อนจะจูบแก้มชายหนุ่มแผ่วเบา หันหน้ามาเยาะเย้ยคนที่มองไม่คลาดสายตาอีกครั้งแล้วสะบัดผมยาวๆของเธอจากไป
เมื่อกลับมาถึงห้องทำงาน แม้ปรเมศจะอ่านเอกสารผ่านตาเท่าไหร่กลับไม่เข้าหัวแม้แต่น้อย มือใหญ่นั่งนับวันที่เค้าไม่ได้เริงร่าเที่ยวกลางคืนว่านานเท่าไหร่ แล้วก็ตอบได้ว่าเท่าที่นันทกรกลับมานั้นแหละ.....จริงอยู่ที่เค้ามัวแต่คลุกอยู่กับเด็กหนุ่มจนลืมเที่ยวเล่นตามปกติ แต่เมื่อมีตัวกระตุ้นขึ้นมา สัญชาตญาณดั้งเดิมก็อดจะตอบรับคำชวนของแพรวาไม่ได้ ซึ่งนั้นทำให้ปรเมศตัดสินใจว่า คืนนี้ขอหนีเที่ยวสักคืนละกัน!!
ทางด้านนันทกร แม้เค้าจะเงียบไม่ได้พูดอะไร แต่ก็สังเกตท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้าตลอด ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ลงอย่างใช้ความคิด ถึงเวลาที่ปรเมศจะเริ่มออกเที่ยวอีกครั้งแล้วซินะ......แต่จะทำอย่างไรต่อไปดีละในเมื่อหน้ากากที่เค้าสร้างขึ้น เค้าคือนันทกรหรือน้องอาร์ เด็กน้อยใสซื่อผู้เป็นภูมิแพ้และหอบหืด แพ้ควันบุหรี่และไม่ชอบความแออัดของสถานที่ยามราตรี แน่นอนถ้าจะขอตามไปด้วยก็คงไม่ได้ แต่จะขอร้องไม่ให้ปรเมศไปก็คงไม่ได้อีกเช่นกัน
ริมฝีปากแดงถูกขบกัดอย่างครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะหยักยิ้มขึ้นเมือนึกอะไรบางอย่างได้ ปรเมศคงลืมไปเสียแล้วมั้งว่าเคยได้พูดกับคุณหญิงชดช้อยว่าอย่างไร......อยากเที่ยวหรือครับพี่เมศ?? ตามสบายผมจะไม่ขัดขวางสักนิด แต่อย่าหวังเลยว่าจะได้เสพสุขกับผู้หญิงคนนั้น...........กับแพรวา!!!
“ก๊อก ก๊อก!!”เสียงเคาะประตูห้องในยามค่ำคืนทำให้ปรเมศที่กำลังแต่งตัวอยู่สะดุ้งโหยง ถามกลับออกไป
“ใครหน่ะ?”
“ผมอาร์เองพี่เมศ”ปรเมศถอนลมหายใจพรูก่อนเปิดประตูออก พบเด็กหนุ่มอยู่ในชุดนอนลายยาวยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
“มีอะไรหรือเปล่าอาร์??”
“ผมว่าจะมายืมหนังสือพี่เมศอ่านหน่อยนะครับ.......ว่าแต่พี่เมศจะไปไหนหรือครับ แต่งตัวซะหล่อ ดึกดื่นป่านนี้ หรือว่า........”นันทกรลากเสียงยาว ทำหน้าตารู้ทัน ก่อนจะท้าวเอว เหมือนครูที่จับได้ว่าเด็กจะหนีเรียน ปรเมศเลยได้แต่ยิ้มแหย เดินไปกอดเด็กหนุ่ม ก่อนขยิบตาส่งให้
“ตามที่อาร์คิดนั้นแหละ อย่าเอาไปบอกแม่พี่นะ”นันทกรทำหน้าคล้ายปลงตก ถอนหายใจแรงๆก่อนพยักหน้า
“ก็ได้ครับ แต่พี่เมศอย่ากลับดึกนะ พรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า”ท่าทางเหมือนจะสั่งสอนของเด็กหนุ่มตรงหน้าทำเอาปรเมศอดหมั่นเขี้ยวไม่ได้ขยี้ผมสีหน้าน้ำตาลนั้นแรงๆ
“คร้าบบบบบบบบบบบบบ พี่ชายคนนี้จะปฏิบัติตามที่คุณน้องอาร์สั่งนะขอรับ”
“พี่เมศอะ!!!หัวยุ่งหมด หึ...........อ้าว!!คอเสื้อกับกระดุมเบี้ยวนี้ครับ เดี๋ยวอาร์จัดให้นะ”นันทกรโวยวายในตอนแรก ก่อนจะหันมาจัดคอเสื้อกับกลัดกระดุมให้ชายหนุ่มให้เรียบร้อย ปรเมศได้แต่ยิ้มเอ็นดู
“สรุปตอนนี้พี่มีน้องหรือมีเมียกันแน่เนี้ยหืม??”ปรเมศแกล้งล้อคนตรงหน้า แต่กลับถูกนันทกรตอกกลับเสียเกือบหน้าหงาย
“โหย!!ถ้าพี่เมศเป็นสามีผมจริงๆคงยอมให้ออกไปเที่ยวกับผู้หญิงตอนกลางคืนหรอกครับ”
“จ้าๆ ขอโทษละกันที่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี งั้นคุณพี่ชายขอออกไปเที่ยวก่อนนะครับคุณน้องรัก แล้วรีบๆนอนละเรา”ปรเมศขยี้หัวนันทกรอีกทีก่อนเดินลงบันไดอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยให้เด็กหนุ่มอีกคนยืนหน้านิ่งก่อนเดินเข้าห้องตัวเองไป
นันทกรเดินไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตลากออกมาจากใต้เตียงก่อนจะคว้าโน้ตบุ๊คส์และหูฟังที่อยู่ข้างในกระเป๋าออกมา ทันทีที่วินโดว์ทำงานและเข้าสู่หน้าแรก นันทกรก็เปิดโปรแกรมหนึ่งขึ้นพร้อมเสียบหูฟังแนบกับหู ภาพที่ปรากฏตรงหน้าจอแสดงให้เห็นถึงพวงมาลัยรถคันหนึ่ง เสียงเพลงในรถดังแว่วเข้าหูอย่างชัดเจน นันทกรยิ้มกริ่ม
“อย่าคิดว่าเธอจะได้พี่เมศไปกกกอดคืนนี้เลยแพรวา อย่างที่เธอบอกถ้าคุณป้ายังไม่ตายเธอก็อย่าหวังจะได้พี่เมศไปครองเลย หึหึ”
เมื่อครู่นันทกรได้แกล้งทำเป็นจับคอเสื้อของปรเมศเพื่อติดลำโพงอันเล็กที่หลังปกเสื้อและติดกล้องตัวเล็กๆจนแทบมองไม่เห็นแถวกระดุมเสื้อ แน่นอนในสถานที่มือๆแบบคลับต่างๆนั้นย่อมมองไม่เห็น และเค้าคิดว่าคนอย่างแพรวาคงไม่มานั่งสำรวจเสื้อผ้าของร่างสูงหรอก สิ่งที่หญิงสาวปรารถนาคือร่างกายที่ไร้อาภรณ์ใดๆของปรเมศต่างหาก!!
ปรเมศขับรถมาถึงคลับที่ตนนัดกับแพรวาไว้ ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรออกหาหญิงสาวทันที และไม่ทันได้รอนานแพรวาก็กดรับสายทันที
“ไงคะเมศ ถึงไหนแล้ว”เสียงเพลงดังลั่นจากปลายสายทำให้ปรเมศรู้ว่าแพรวาคงต้องอยู่ในคลับแล้วแน่นอน
“ผมอยู่ที่ทางเข้าแล้วครับ แพรอยู่ที่ไหนละครับ??”
“แพรอยู่แถวๆตรงเวทีนะคะ เมศเข้ามาเลยคะ”ปรเมศเดินฝ่าฝูงชนเข้าไป เหล่าบรรดาหนุ่มสาวบางคนทักเข้าอย่างจำได้ เค้าเดินทักทายไปเรื่อยๆจนถึงหน้าเวที มองเห็นหญิงสาวที่นัดไว้อยู่ไม่ไกล
“เมศคะ ยู้ฮู้!!ทางนี้คะ”แพรวาโบกมือโบกไม้ เมื่อปรเมศเดินมาถึงตัวเธอ หญิงสาวก็คว้าต้นคอชายหนุ่มไปจูบอย่างดูดดื่มทันที
“มาคนเดียวหรือคะที่รัก”หลังจากกอดจูบลูบคลำกันอย่างหนำใจแล้ว แพรวาที่นั่งอยู่บนตักของปรเมศก็ถามขึ้น มือยังลูบไปตามเนื้อตัวชายหนุ่มเพื่อสร้างอารมณ์วาบหวามให้
“จะให้มากับใครละครับ??”ปรเมศพูดเสียงแหบพร่า ลูบขาเนียนของหญิงสาวอย่างพอใจ
“พ่อน้องชายหน้าฝรั่งของคุณละคะ”เธอออกจะแปลกใจเล็กน้อยที่เจ้าเด็กมารคอหอยนั้นไม่มาทำตัวเกาะติดเป็นปลิงเหมือนดั่งเมื่อกลางวัน
“อาร์นะหรือครับ??ก็อยู่บ้านซิครับ เค้าจะตามมาทำไม??”ปรเมศเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“ก็เห็นเมศอยากพาเค้าเปิดหูเปิดตาเลยนึกว่าจะพามาเที่ยวด้วย”แพรวาพูดแถกลบเกลื่อน
“เที่ยวที่อย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ อาร์เค้าแพ้ควันบุหรี่....”
“ยังงั้นหรือคะ.........งั้นก็ช่างเถอะคะ มาคุยเรื่องของเรากันดีกว่า คืนนี้แพรไม่ปล่อยให้คุณกลับจริงๆด้วย”นิ้วเรียวปิดปากชายหนุ่มไว้แผ่วเบา ดวงตาคู่สวยมองย่างยั่วยวน ปรเมศก็ส่งยิ้มให้เช่นกัน
“ตามต้องการครับ........แต่ก่อนอื่นเรามาดื่มกันหน่อยดีกว่านะครับ”ว่าแล้วก็หยิบเมนูมาดูสั่งกับแกล้มสองสามอย่างพร้อมเปิดขวดเหล้าทันที
ดวงตาสีน้ำตาลมองหญิงสาวในจออย่างรังเกียจก่อนจะเหลือบมองนาฬิกา เวลาแห่งวันใหม่ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้วจึงจัดการปิดเครื่องเก็บเข้าที่เดิม ร่างโปร่งลุกขึ้นเดินไปที่กระเป๋าเป้แล้วหยิบยาพ่นไปซ่อน ก่อนจะหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมากดสวิทต์จ่อที่หน้าตัวเอง ไอร้อนที่พุ่งออกมาทำให้นันทกรเริ่มไอ ไม่นานก็เปลี่ยนเป็นลมเย็นสลับไปมาเรื่อยๆจนอาการไอกระชั้นขึ้น หน้าอกแน่นเล็กน้อย นั่งสักครู่จนอาการหอบเริ่มมากขึ้นจนลมหายใจดังหวีด นันทกรรีบเดินออกนอกห้องมุ่งตรงไปที่ห้องของผู้เป็นเจ้าของบ้านทันที แล้วลงมือทุบประตูเสียงดัง
“คุณแม่ อึก! คะ คุณแม่ แฮ่ก!! โคล่กๆ!!”
“เสียงอะไรกัน??.......ว้าย!!!น้องอาร์ ลูก!!!เป็นอะไรเนี่ย คุณ!!คุณคะ!!!”คุณหญิงชดช้อยรีบประคองคนที่ยืนทำท่าจะล้มอยู่หน้าห้องก่อนตะโกนเรียกสามี คุณพิทักษ์รีบออกมาดูทันที
“แฮ่ก!!ผะ ผมหา.....ยะ ยา.....ไม่ อึก เจอ...”นันทกรบอกแล้วไอเสียงดังทำเอาอีกสองคนต่างหน้าซีดทันที
“ตามหมอ!!ไม่ซิ ไปหาหมอเร็วกว่า........ใครก็ได้ตื่นเร็ว!!!รีบพาอาร์ไปหาหมอที!!! ไอ้ชื่น ไอ้ทด!!!”คุณพิทักษ์ตะโกนเรียกคนขับรถและคนสนิททันที ขณะที่คุณหญิงชดช้อยก็คอยประคองกำกับให้นันทกรหายใจเข้าลึกๆ
“พ่อ แม่เกิดอะไรขึ้นเสียงดัง ว้าย!!น้องอาร์เป็นไร!!”วรารีถามขึ้น ดวงตาเบิกกว้าง
“น้องหอบกำเริบแล้วยาหาย.......เดี๋ยวแม่จะพาน้องไปโรงพยาบาลก่อน........แล้วนี้พี่ชายตัวดีของเราไปไหน ปล่อยให้น้องต้องเดินมาหาแม่ตั้งไกล ห้องตัวเองอยู่ข้างๆแท้ๆ”คุณหญิงชดช้อยพูดอย่างอารมณ์เสีย สอดส่ายสายตาหาลูกชาย
“พี่เมศ แฮ่ก!! มะ ไม่อยู่ ฮึก!! คครับ....”นันทกรบอกอย่างลำบาก เสียงหวีดจากหลอดลมดังมากขึ้นจนน่ากลัว คุณหญิงจัดการส่งนันทกรให้คนรับใช้ชายคนหนึ่งอุ้มขึ้นเพื่อวิ่งพาไปที่รถ
“รีบตามพี่ชายเรากลับมาเดี๋ยวนี้!!!แล้วไปเจอกันที่โรงพยาบาลทั้งคู่เลย!!!”คุณหญิงชดช้อยพูดเสียงแข็งขณะหยิบเสื้อคลุมมาใส่แล้วเดินไปที่รถ
“ตะ แต่ถ้าติดต่อพี่เมศไม่ได้ละคะ...”วรารีถามเสียงสั่น กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“โทรไปจนกว่าจะติด!!!”พูดจบก็ปิดประตูรถและสั่งให้คนขับขับรถออกไปทันที
“พี่เมศน่าพี่เมศจะเที่ยววันไหนไม่เที่ยวมาเที่ยววันนี้ ซวยแน่งานนี้”วรารีบ่นพึมพำก่อนหยิบโทรศัพท์บ้านมากดทันที
/////////////////////////////////////
ที่ชั้นสองของร้านที่ปรเมศและแพรวาไปนั้นถูกจัดเป็นห้องไว้สามสี่ห้อง แต่ละห้องนั้นจัดแต่งอย่างหรูหรามีเพียงบุคคลวีไอพีเท่านั้นที่จะได้มาใช้ห้องเหล่านี้เป็นที่หาความสุขกัน
บริเวณกลางห้องมีเตียงกว้างสี่เสาสีขาวอมชมพูวางอยู่ บนเตียงนั้นมีสองร่างกำลังกอดก่ายกันราวกับเป็นเนื้อเดียว ริมฝีปากแดงสดและปากนุ่มของอีกคนประกบกันจนหาที่แยกไม่ได้ เสียงการแลกเอนไซม์กันดังอย่างหยาบโลน เสื้อเซ็กซี่ตัวสวยที่ใส่มาอวดสายตาใครต่อใครของแพรวาถูกถอดทิ้งไว้ที่เสาอันหนึ่ง ชุดชั้นในเปรี้ยวดูร้อนแรงหลุดกองอยู่ริมเตียง ทางด้านปรเมศในตอนนี้เสื้อผ้าตัวเก่งก็หลุดลุ่ยจะเกือบหมดแล้ว
“อึก!!เมศคะ คุณทำให้แพรเสียวมากเลยคะ”แพรวาพูด พลางครางเสียงแผ่วมีหน้าอกของเธอถูกชิมลิ้มรสอยู่
“คุณก็สวยเหลือเกินแพร...”ปรเมศตอบอยางไร้สติ หวังเพียงได้กระทำตามความต้องการกับร่างตรงหน้าเท่านั้น
แพรวายิ้มกระหย่อง ที่จริงเธอไม่น่าไปกังวลกับเด็กอาร์นั้น เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่คาสโนว่าอย่างปรเมศนั้นจะหันไปชอบผู้ชายด้วยกัน แค่สรีระเธอก็ชนะแล้ว สิ่งที่ยืนยันคือภาพตรงหน้านี้ไงละ ปรเมศยอมทิ้งให้เด็กนั้นนอนเฝ้าบ้านแล้วมากกกอดเธอที่นี้ คืนนี้เธอจะบำเรอสวาทจนปรเมศไม่มีทางหนีเธอพ้นเลยทีเดียว!!
Trrr……..Tr….Trrrrrr………..
เสียงโทรศัพท์ของปรเมศที่ดังขึ้นทำให้สองคนบนเตียงต่างชะงัก ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจ
Trrrrr…….Trr……….Tr……..!!!
เสียงที่ดังขึ้นหลายๆครั้งทำให้ต่างคนต่างหมดอารมณ์ ปรเมศเดินหัวเสียไปที่กองเสื้อผ้าก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดดู
“ใครคะเมศ”แพรวาถามเสียงหวาน แต่ในใจกลับด่าแช่งชักหักกระดูกคนที่มาขัดความสุขมากมาย
“เบอร์บ้านนะครับ ไม่รู้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า...”ปรเมศว่าพลางรีบรับสาย
“ว่าไง......อ๋อยัยรีเองเหรอ มีอะไร??”
‘พี่เมศแย่แล้ว!!กลับบ้านมาด่วนเลย’เสียงจากปลายสายดูสั่นและร้อนรนจนปรเมศใจไม่ดี
“มีอะไรยัยรี มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า”
'น้องอาร์......พี่เมศน้องอาร์หอบกำเริบ.........ยาน้องก็หาย เมื่อกี้รีเห็นยังกลัวเลย น้องเหมือนคนที่จะหมดลมหายใจเลย....'วรารีรีบละล่ำละลักบอกเสียงเครียด
“อะไรนะ!!!แล้วใครพาน้องไปโรงพยาบาลหรือยัง!!!”เสียงตกใจของปรเมศทำให้แพรวาหันมามองทันที
'แม่กับพ่อพาไปแล้ว......แม่บอกให้ตามพี่กลับแล้วให้รีนั่งไปกับพี่'
“โอเค พี่จะรีบไป.......แต่เราให้ใครพาไปละกันพี่จะตรงไปเลย”
'งั้นรีรอฟังข่าวที่นี้ดีกว่า เผื่อแม่โทรมา'
“งั้นก็ได้ แค่นี้นะ”ปรเมศรีบคว้าเสื้อผ้ามาสวมทันที เมื่อแพรวาเห็นดังนั้นก็รีบถามทันที
“มีอะไรคะเมศ!!แล้วนี้เมศจะไปไหน??”
“อาร์อาการหอบหืดกำเริบหนัก เข้าโรงพยาบาลไปแล้วครับ เดี๋ยวผมต้องตามไปดู ต้องขอโทษคุณแพรด้วยจริงๆ”ว่าพลางติดกระดุมอย่างไวว่อง
“เค้าก็ถึงมือหมอแล้วนี่คะ คุณเมศจะไปทำไม?? พรุ่งนี้ค่อยไปเยี่ยมก็ได้”แพรวาพูดพลางคว้าข้อมือแกร่งไว้
“ขอโทษทีครับ น้องเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้ ผมคงไม่มีอารมณ์ต่อแล้ว แม่ก็บอกให้รีบตามไปด้วย”ปรเมศพูดอย่างรู้สึกผิดก่อนแกะข้อมือออกแล้วใส่กางเกงทันที
“โอเคคะ.........งั้นไปเหอะคะ ไม่ต้องมาห่วงความรู้สึกแพรหรอก”หญิงสาวพูดประชดประชันทำงอนเรียกร้องความสนใจ คาดว่าปรเมศต้องตัดสินใจลำบากแต่กลับผิดคาดเมื่อชายหนุ่มหอมแก้มลงมา
“งั้นผมไปนะแพร”พูดจบก็เดินลิ่วๆออกไปทันที แพรวามองตาค้างก่อนจะกรี๊ดออกมาอย่างโกรธแค้น
“ไอ้เด็กเวร!!!อย่างนี้มันจงใจชัดๆ!!!ฉันกับแกคงอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว!!!”เล็บสวยจิกทึ้งลงบนที่นอน ใบหน้าที่แต่งอย่างสวยงามบิดเบี้ยวไม่พอใจ
.................................................................
...............................................
....................
.....
“ฮัลโหล แม่ น้องอยู่ไหนครับ..........อย่าเพิ่งบ่นซิครับ เนี้ยผมมาถึงโรงพยาบาลแล้ว น้องอยู่ตึกไหน เดี๋ยวผมไปหา.......หมอให้แอดมิดหรือครับ งั้นอยู่ตึกไหน ห้องไหนครับ??..........โอเค เดี๋ยวผมไปหาครับ”ปรเมศจอดรถด้านหลังตึกหนึ่งในรพ.ก่อนสอบถามยามถึงตึกที่นันทกรนอนพักอยู่ โชคดีว่าเป็นตึกเดียวกับที่เค้าจอดพอดี จึงรีบคิดไปหาทันที
“อาร์เป็นไงบ้าง??”ปรเมศถามทันทีที่เปิดประตูห้อง เดินตรงดิ่งมาหาร่างบางที่นอนอยู่บนเตียง บนใบหน้ายังคลุมด้วยหน้ากากออกซิเจน
“พี่เมศ....”เสียงนันทกรที่เรียกช่างแหบพร่าและเบาหวิว ดวงตาสีน้ำตาลหรี่ปรือเหมือนคนไม่มีแรง ปรเมศนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียง
“หมอบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก แค่คงหายใจไม่ออกเพราะไม่มียาช่วยเท่านั้น ว่าแต่เราเถอะตาเมศ หายไปไหนกลางค่ำกลางคืน ดูสิ น้องไม่สบายจะเดินไปเรียกเราที่อยู่ห้องข้างๆให้ช่วยก็ไม่ได้ ต้องเดินไปที่ห้องพ่อกับแม่ที่อยู่อีกฝั่ง ถ้าน้องเดินไม่ไหวสลบไปก่อน จะทำไง!!”คุณหญิงชดช้อยว่าเข้าให้ ปรเมศก้มรับความผิด
“ใจเย็นๆน่าคุณ ลูกก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น..”คุณพิทักษ์พูดพลางลูบแขนภรรยาให้ใจเย็นลง
“ไม่ใช่ความผิดพี่เมศหรอกครับคุณแม่...”นันทกรบอกเสียงแผ่ว
“อย่าเพิ่งพูดเลยอาร์ พักผ่อนเถอะ...”ปรเมศลูบผมนุ่มเบาๆ
“แต่ว่า....”
“พี่ผิดจริงๆนั้นแหละ ไม่ต้องกลัว แม่เค้าไม่ตีพี่หรอก นอนซะนะ คืนนี้พี่จะนอนเฝ้าอาร์เอง”ปรเมศพูดติดตลกก่อนกล่อมให้คนบนเตียงนอน นันทกรจึงค่อยๆหลับตาลงอย่างเสียไมได้
เมื่อเห็นเด็กหนุ่มในความดูแลหลับสนิทแล้ว ทุกคนในห้องจึงเดินออกมาคุยที่นั่งพักสำหรับแขกที่อีกห้องทันที
“ว่าไงตาเมศไปไหนมา”คุณหญิงชดช้อยถามเสียงแผ่วแต่ยังคงความกดดัน
“ผมออกไปเที่ยวครับ ผมเสียใจครับแม่ไม่คิดว่าน้องจะอาการกำเริบแล้วไม่มียาอย่างนี้”
“ใช้ไม่ได้จริงๆลูกคนนี้ น้าพิมพ์เค้าฝากลูกชายมาให้เราดูแล แล้วลูกเค้าต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้ แม่จะบอกน้าพิมพ์เค้ายังไง........อีกอย่างไหนเราสัญญากับแม่ว่าจะไม่ไปเที่ยวเจ้าชู้กับแม่พวกสาวๆพวกนั้นแล้วไง แล้วทำไมต้องออกไปเที่ยวอีก??”คุณหญิงชดช้อยถามเป็นชุดจนสามีต้องรินน้ำมาให้แก้กระหาย
“ผมแค่เที่ยวกับเพื่อนๆผู้ชายเองครับแม่ ไม่ได้เที่ยวกับผู้หญิงคนไหนสักหน่อย”ปรเมศรีบแก้ตัว ถึงแม้จะเป็นการโกหกก็เถอะ
“แล้วทำไมยัยแม่แพรวานั้นถึงไปโผล่ที่ทำงานลูก”ปรเมศโคลงศีรษะ.........ว่าแล้วว่าต้องมีใครคาบข่าวเรื่องนี้ไปบอกมารดา
“ผมไม่ได้นัดไว้ครับ เธอมาเอง........แล้วอีกอย่างผมก็อยู่กับอาร์ตลอดที่เธออยู่ด้วยนะครับ”คุณหญิงชดช้อยมองลูกชายเล็กน้อยก่อนค้อน
“อย่าให้จับได้ละกันว่าไปทำนิสัยเจ้าชู้อีก......ลูกโดนดีแน่!!”ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม คุณพิทักษ์หันไปมองเวลาก่อนสะกิดคนข้างๆ
“เอาเหอะคุณ นี้มันก็ดึกมากแล้วเรากลับกันเถอะ”คุณพิทักษ์พูดแล้วพยุงผู้เป็นภรรยาลุกขึ้น
“เราจะเฝ้าน้องใช่ไหมตาเมศ แม่จะได้ให้แม่แก้วเค้าจัดเสื้อผ้ามาให้ลูกอาบน้ำด้วย พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องเข้าบริษัทหรอกนะ รับน้องกลับบ้านเลยแล้วก็ดูแลน้องด้วยละ”
“คร้าบบบบบ ครับคุณหญิงแม่ เดี๋ยวชายจะดูน้องไม่ให้ยุงไต่ไรตอมเลยครับ”ว่าแล้วก็เดินไปส่งพ่อแม่ของตนที่ประตูก่อนกลับมาหาร่างเล็กบนเตียงอีกครั้ง มองใบหน้าอิดโรยอย่างรู้สึกผิด
“หายเร็วๆนะอาร์”มือแกร่งลูบผมนิ่มก่อนหยิบผ้าห่มอีกผืนที่คาดว่าพยาบาลจะเอามาให้สำหรับคนนอนเฝ้าเดินตรงไปที่เตียงสำรองแล้วล้มตัวลงนอน
ดวงตาสีน้ำตาลลืมขึ้นในความมืดเมื่อทุกอย่างเงียบสงัด ผงกหัวขึ้นมามองคนที่นอนเฝ้า เมื่อเห็นว่าหลับสนิทจึงลุกขึ้นนั่งแล้วถอดหน้ากากออกซิเจนออก
“เป็นไปตามคาด........ป่านนี้ยัยป้านั้นคงชักดิ้นชักงอแล้วแน่ๆ”คนไข้ลุกขึ้นมาจากเตียงราวกับไม่ได้เป็นอะไรเลย ทั้งที่ตอนแรกราวกับคนขาดอากาศหายใจ
จริงอยู่ในตอนแรก นันทกรทำให้อาการของตัวเองเกิดขึ้น แต่เค้ารู้ลิมิตของตัวเองดีว่าทนได้ถึงแค่ไหน อาการที่ดูรุนแรงเกิดจากการแสดงของเค้ามากกว่าบวกกับการที่ไม่ยอมพ่นยาและปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อถึงมือหมอ อาการจึงดูพอเหมาะพอควรอยู่ที่จะนอนโรงพยาบาล และปรเมศก็มาหาสมใจ.........จะเสียก็แต่ตรงนี้คุณหญิงชดช้อยยังไม่เอาเรื่องลูกชายตนเองนั้นแหละ
“ถึงแผนจะได้ผลแค่ครึ่งเดียวก็ยังดี ยังไงก็มีแผนอื่น พี่ไม่มีทางรอดหรอกนะพี่เมศ”นันทกรเกลี่ยผมคนที่นอนหลับสนิทอย่างเอ็นดู เฝ้ามองใบหน้าคนที่เค้าหวังจะครอบครองอย่างมีความสุขจนเกือบชั่วโมงนั้นแหละจึงกลับไปนอนที่เตียงตัวเอง
ติดตามตอนต่อไป...
-------------------------------
Neya : สวัสดีคะ.......แบบว่าอย่าเพิ่งว่า&ด่าคนเขียนที่หายหัวแบบไม่บอกไม่กล่าว ไม่ว่างเลยอะ :sad4: ทางบริษัทจัดการปีใหม่เลี้ยงพนักงานและจัดโปรแกรมต่างๆมากมาย ตัวเองโดนให้ไปช่วยจัดและประชาสัมพันธ์คะ ทำสารพัดตั้งแต่จัดสถานที่ ซื้อของจับฉลาก ทำบัตรเข้างานให้แก่พนักงาน เช็คว่าใครจะไปร่วมบ้าง อยากบอกว่าเหนื่อยมากกกกกกกก.....(ลากยาวเพื่ออรรธรส) :serius2: มาต่อแล้วนะจ๊ะ ยังไงก็จะพยายามรีบปั่นไม่ให้เป็นแบบนี้อีก มาจิ้มๆกดดันคนเขียนได้ คนเขียนจะได้รีบปั่นให้(ฮา)ตอนนี้หลายคนอาจไม่ชอบน้องอาร์ที่ใช้วิธีนี้แต่อย่าเกลียดน้องอาร์เลยนะ :monkeysad: ยังไงก็รักปรหมั่นไส้หรือแกมหยิกกับคู่พระนายคู่นี้ต่อไปนะคะ อ๋อ!! อีกอย่างว่าจะพูดนานแหละ ลืม! ใครอยากเห็นรูปน้องอาร์กับพี่เมศบ้าง อยากเห็นเหลือบมองด้านซ้ายมือของคนเขียนคะ รูปแทนตัวนั้นแหละน้องอาร์พี่เมศ หุหุ วันนี้แค่นี้ก่อนเนอะ สวัสดีคะ :bye2:
-
- -" ผู้หญิงเอาฟรีแบบแพรวา....
-
อาร์ร้ายมาก ๆ เลยนะเนี่ย แต่อาร์เรื่องอย่างนี้ไม่น่าเอามาเล่นนะ ถึงจะคิดว่ารู้ตัวเองดีก็เถอะแต่ถ้ามีอะไรไม่คาดฝันขึ้นจะเป็นยังไง เมศห่วงอาร์มากเลยนะเนี่ย
-
บอกได้เลยว่าอาร์เเรงได้ใจเลยยยยยยย o13 o13
-
น้องอาร์ไม่ร้ายเลยกลับชอบวิธีการน้องมากกว่า :laugh5:
-
โอ้
ลงทุกนมากเลยน้องอาร์
-
น้องอาร์ถึงจะรู้ลิมิตตัวเองแต่มันเสี่ยงไปมั้ยหนู
เด็ก ๆไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างชีวิตไม่ใช่นิยายเพราะคุณอาจถึงตายได้ :laugh:
-
นายเอกเอาให้แรงกว่านี้อีกเอาให้ชะนีหายไปให้หมดเลย o13
:กอด1:
-
อย่างพี่เมศ มันก็ต้องเจอแบบน้องอาร์เนี่ยแหละ
และยัยชะนีแพรวา ถามจริงเถอะ อย่างหล่้อนเนี่ยใครเค้าจะเอาเป็นแม่ของลูกหะ :o10:
-
ปล่อยคลิปยัยป้านั่นมะ
ต่อๆๆๆ
มัดไว้ให้อยุ่หมัดเลยนะ
-
น้องอาร์แสบซนมากๆเลย อย่างนี้ซิถึงจะเหมาะกับคนเจ้าชู้ประตูดินแบบพี่เมศ ^^
-
นายเอกสมัยใหม่มันต้องอย่างนี้สิ 555
-
โฮก. . . นายเอกร้ายน่ารักได้ใจจริงๆ
-
เสี่ยงไปนะอาร์ ถ้าเกิดเผลอไปนี่ ....
-
ถ้าอาร์จะรักเมศจริงๆแล้วลงทุนทำแบบนี้ก็โอเคอ่ะ
แต่ถ้าทำไปเพื่อจุดประสงค์อื่นก็น่าสงสารเมศล่ะนะ
-
ชอบอาร์จัง แรงได้ใจ :m9:
-
อาร์แรงมาก ชอบนายเอกแบบนี้
แต่ว่ามันเสี่ยงไปมั๊ยเนี่ย หอบเนี่ยถึงตายก็มีนา
-
น้องอาร์เจ้าเล่ห์ได้ใจมาก!
ร้ายๆแบบนี้แหละถึงจะปราบพระเอกอยู่หมัด รวมถึงกำหราบพวกผู้หญิงนั่นด้วย
-
สรุปอาร์นี่เป็นนายเอกแน่นอนใช่มั้ย?
ทำไมเรารู้สึกเหมือนว่าอาร์เป็นตัวร้ายอย่างเน้ -0-
เอาเถอะ นางเอกยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องนั่งร้องไห้แล้ว แบบนี้แหละดี! o13
-
:pig4: อาร์ร้ายตลอดอ่ะ แผนสูงดี o13 แต่คนอ่านเชียร์
-
ต้องแบบนี้สิน้องอาร์ นายเก่งมาก เมศเมื่อไหร่นายจะเข้าใจตัวเอง ว่ารักน้องอาร์แล้วน่ะ
-
มาต่อได้แล้วสินะครับ มาลงอีกบ่อย ๆ นะ
-
สุดยอดน้องอาร์ ทุ่มทุนสร้างมาก o13
-
รอออออออออออออออออออออออ ^^
-
ร้ายตัวจริงๆๆๆๆเลยเนี่ยนายเอกเรา....แล้วถ้าเมศจับได้ล่ะว่าทุกอย่างคือการสร้างภาพของอาร์....จะเป็นยังไงนะ
-
แรง...เเต่ผมก็ชอบน่ะ
เเต่ถ้า หนูอาร์จะเอาเมสเป็นเเค่ตัวแทนอเลนแหละ
ก็...ไม่ต้องเดาเลยว่า เมสมารู้ความจริงเข้า
...จะเจ็บกันยังไง(ถ้าได้รักกันไปแล้วน่ะนะ)
...
-
อื้อหืออออ น้องอาร์ร้ายมาก
ชอบค่ะ >3<)
-
:call: :call: :call:
-
น้องอาร์ร้ายชริงๆเบรยยย ~ ~ :m4: :m4: :try2: :try2: :laugh: :laugh:
ระวังนะอาร์ ถ้ายังเล่นอยู่ซักวันมันจะกลับมาทำร้ายหนูน้า ~ ~ :o11: :o11: :try2: :try2:
-
รออยู่นะฮ้าพพพพพพพพพพพพพพพ
-
แรงมากคุณน้อง o18
-
่่อาร์ร้ายกาจ
-
จัดไปหนักๆเลยน้องอาร์ o13
รอตอนต่อไปฮะ :')
-
อร๊ายยยย ดีมากค่ะน้องอาร์ พี่ช๊อบชอบ o13 o13 o13
ต้องเป็นนายเอกอย่างนี้ซิคะ ถึงจะถึงใจพี่
นายเอกส่วนใหญ่ถูกแกล้งตลอดๆอ่ะ มันเศร้าเกินไป
-
:oo1: :oo1: :oo1:
ชอบมากเลย น้องทันคนดีจัง
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบเรื่องนี้มากกกกกกก o13
อาร์ร้ายได้ใจอ่ะ แล้วตกลงอาร์รักใคร? พี่เมศหรืออเลน :z3:
-
:a5: น้องอาร์ลงทุนมากๆ... เฮ่อ ถึงจะบอกว่ารู้ลิมิตตัวเองเเต่เเบบนี้มันก็เสี่ยงอยู่นา
ไม่เข้าใจพี่เมศของน้องอาร?เลย ทำไมชอบจิกผลไม้เน่าเป็นอาหารว่างอยู่เรื่อย...
จะคว้าทั้งที น่าจะเลือกให้ดี... เกิดพลาดพลั้งจะได้เเม่ของลูกเเบบไม่ตั้งใจ
(แม่ที่อาจไม่พร้อมดูแลลูก และอาจไม่อยากดูแลน่ะ)... น้องอาร์เเสบร้ายมากมาย
เกิดพี่เมศของน้องอาร์รู้ว่าตลอดมา อาร์จงใจให้เป็นไป เมศอาจจะโกรธนะ อาร์คิดถึงตรงนี้รึเปล่านี่
อืมมมมม :กอด1: น้องอาร์ให้หายคิดถึง แล้วก็ขอให้พี่เมศรักน้องอาร์ไวไวทีเถอะ
-
ยังไม่หายหอมหืบอีกเหรอ อาร์ คนอ่านจะคลั่งตายละ
-
น้องอาร์แรงจริง :z2:
-
มันต้องมีตัวกระตุ้นบ้างน้า
คุณเมศเค้าเฉยไปหน่อย อาร์เต้นอยู่คนเดียวเลยง่ะ :m21:
-
ตอนที่ 7 :: รับน้อง ::
เช้าวันรุ่งขึ้นปรเมศตื่นนอนเนื่องจากมีพยาบาลเข้าดูอาการนันทกรรอบเช้า ร่างสูงจึงเดินไปล้างหน้าล้างตาพอดีกับที่คนที่บ้านเอาของใช้มาให้ เมื่ออาบน้ำอาบท่าเสร็จเดินออกมาคนบนเตียงก็ตื่นพอดี
“เป็นไงบ้าง อาร์”ปรเมศเดินเข้าไปหาลูบหัวคนที่เพิ่งตื่นอย่างห่วงใย
“ค่อยยังชั่วแล้วพี่เมศ......ไม่อึดอัดแล้ว”นันทกรตอบพลางส่งยิ้มให้ ทำให้ร่างสูงพอวางใจไปเปราะหนึ่ง
“พี่เมศ.......ผมขอโทษนะครับ”
“หืม?? ขอโทษพี่เรื่องอะไรอาร์??”ปรเมศเลิกคิ้วสูง ถามเมื่อไม่เข้าใจว่าอีกคนจะมาขอโทษตนทำไม
“ขอโทษที่ทำให้ถูกคุณป้าดุ.........ถ้าผมไม่ป่วยคุณป้าคงจับไม่ได้ว่าพี่เมศออกไปเที่ยว”ดวงตาสีน้ำตาลดูเศร้าสลดก่อนหรุบตาลง ปรเมศขยี้หัวคนเศร้าซึมอย่างเอ็นดู
“เฮ้อ!!ไม่ใช่ความผิดของอาร์ซักหน่อย อาร์ไม่ได้ตั้งใจป่วยนี่น่า แล้วพี่ก็ผิดเองที่ผิดสัญญากับแม่ แถมยังดูแลเราไม่ดี ปล่อยให้เข้าโรงพยาบาลอย่างนี้ พี่สิควรจะขอโทษอาร์”
“ไม่ใช่ความผิดของพี่เมศหรอกครับ!!ผมป่วยเองนี่ พี่เมศไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย!!”นันทกรรีบบอกอย่างร้อนรนเมื่อเห็นอีกฝ่ายโทษตัวเอง
“งั้นเอาเป็นว่าต่างคนต่างไม่ผิดละกัน มันเป็นเรื่องสุดวิสัยนี่เนอะ”ปรเมศบอกก่อนจะยิ้มขึ้นจนทำให้นันทกรอดยิ้มตามไม่ได้
“ครับ เหตุสุดวิสัยจริงๆด้วย....”
“สวัสดีครับ ขอตรวจรอบเช้าหน่อยนะครับ...”เสียงพูดจากทางประตูทำให้ทั้งสองต่างหันไปพร้อมกันก่อนจะเชิญคุณหมอและคุณพยาบาลเข้ามาทำการตรวจ
ปรเมศทำท่าว่าจะลงไปซื้อของกินรองท้องข้างล่างระหว่างรอนันทกรตรวจให้คนบนเตียงดู นันทกรพยักหน้ารับทราบและหันไปสนใจคุณหมอต่อ ร่างสูงจึงออกจากห้องทันที
Trrr…….Tr………..Trr………
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ปรเมศที่กำลังสั่งกาแฟร้อนจากร้านเบเกอรี่รีบก้มลงมองทันที และก็เลิกคิ้วเมื่อเห็นใครโทรมา
“ว่าไงครับ แพร........เช้านี้คุณตื่นเร็วนะครับ...”ชายหนุ่มถามล้อๆด้วยรู้ว่าหญิงสาวมักจะเที่ยวดึกดื่นและตื่นเช้าไม่ค่อยไหว
‘ยังไม่ได้นอนต่างหากละคะ.......ว่าแต่เด็......น้องคุณเป็นไงบ้างคะ’เสียงหวานที่ถามมาค่อนข้างดูประชดประชัน
“อาร์ปลอดภัยแล้วครับ”
‘งั้นหรือค่ะ!!........น่าจะตายๆไปซะ...’แพรวาพูดเสียงดังในตอนแรกและกระซิบกับตัวเองในตอนท้าย
“ว่าอะไรนะครับ??”
‘อ๋อ เปล่าคะ.........ว่าแต่งั้นคุณก็ว่างแล้วนะสิคะ คืนนี้ไปเที่ยวกันอีกนะคะ เมื่อคืนเรายังไม่ได้สนุกกันเต็มที่เลย..’แพรวาอ้อนเสียงหวาน แต่ปรเมศถอนหายใจอย่างหนักอก
“ขอโทษครับแพร เพราะเรื่องเมื่อคืนคุณแม่เลยรู้เรื่องที่ผมหนีเที่ยว แล้วท่านค่อนข้างจะโกรธ.........ผมเลยว่าคงต้องหยุดเที่ยวสักระยะ แพรเข้าใจผมนะครับ”
แพรวากำมือแน่น เธอรู้ว่านั้นคงเป็นแผนภาคต่อที่เด็กหนุ่มหน้าฝรั่งจอมร้ายกาจนั้นวางไว้ เธอควรตอบรับปรเมศไปแต่โดยดีเพื่อไม่ให้มีปัญหา แต่เธอก็อดค่อนขอดเด็กนั้นไม่ได้จริงๆ
‘งั้นหรือคะ..........อาร์เนี่ยช่างป่วยได้ถูกเวลาจริงๆนะคะ ต้องมาป่วยตอนเมศไปกับแพรซะด้วย ฮึ! แถมคุณแม่คุณยังโกรธ ทำให้คุณออกไปเที่ยวไม่ได้อีก’
“พูดอย่างนี้หมายความว่าไงแพร??คุณจะบอกว่าน้องผมแกล้งป่วยงั้นหรือ??ไม่เอาน่า คุณโตแล้วนะแพร คุณก็รู้ว่าหอบหืดนี้อันตรายแค่ไหน อาร์คงไม่แกล้งทำตัวให้ป่วยหรอก”ปรเมศพูดเสียงเข้ม ไม่พอใจที่แพรวากล่าวหาคนอื่นอย่างนี้
‘แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ!!แต่แพรขอเตือนคุณไว้ก่อน น้องคุณคนนี้เค้าไม่ได้ดูซื่อๆแบบที่คุณคิดจริงๆหรอกคะ แค่นี้นะคะ แพรง่วง แล้วแพรจะติดต่อไปใหม่คะ!!’หญิงสาวรีบชิงวางสายก่อนที่ปรเมศจะโกรธ ก่อนจะกดเบอร์บางเบอร์ขึ้น
“ฮัลโหล ฉันต้องการนักสืบเอกชนช่วยจัดหาเก่งๆให้ฉันสักคนที”
///////////////////////////////////////////////
หลังจากวางสายไปจากแพรวา ปรเมศที่รับกาแฟมาแล้วก็ยังไม่ผละไปไหน นั่งเหม่อคิดบางสิ่งบางอย่างอยู่.......นั้นสินะ อย่างที่แพรวาพูดก็มีส่วนจริง ทำไมอาร์ถึงได้เกิดอาการป่วยตอนที่เค้าเที่ยวทันทีทั้งๆที่ก่อนไปยังไม่มีอาการอะไรด้วยซ้ำ หลายๆวันที่ผ่านมาก็ไม่มีสักครั้ง แถมยาพ่น.......ทั้งๆที่เป็นของสำคัญทำไมอาร์ถึงได้ทำหายได้.......หรือว่า......
ปรเมศส่ายหัวกับความคิดแง่ลบนี้.......ไม่สิ อาร์จะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร ในเมื่ออาร์กับเค้าก็แค่พี่น้องกัน อาร์จะมากันเค้าไม่ให้ไปพบแพรทำไม และทำไมอาร์ต้องเสี่ยงชีวิตตัวเองเพราะเรื่องเพียงแค่นี้ด้วย แพรวาคงคิดมากเพราะความหึงหวงไปเองก็ได้ ปรเมศโคลงหัวในสิ่งที่ตนคิดเป็นตุเป็นตะว่าเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ......มันเป็นความบังเอิญต่างหาก ใช่! มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว
ว่าแล้วร่างสูงก็ลุกออกจากที่นั่ง หาเบเกอรี่อร่อยๆดูน่ากินเพื่อให้คนที่อยู่บนห้องกินแทน เพื่อชดเชยความผิดที่เค้าเคยคิดไม่ดีชั่ววูบเกี่ยวกับอาร์ไป และเค้าก็ได้ขนมปังเนยสดโรยไอซ์ซิ่งหนึ่งก้อนกับพายรสหวานให้กับคนที่ชื่นชอบของหวานนั้นเอง
“พี่เมศลงไปนานจัง ไปซื้อของกินถึงไหนครับเนี่ย??”นันทกรถามขึ้นเมื่อเห็นพี่ชายในนามเดินเข้ามา
“ก็ร้านเบเกอรี่ข้างล่างหนะ พี่ซื้อของมาฝากเราด้วย ชอบหรือเปล่า??”นันทกรมองของในถุงกระดาษตรงหน้าก่อนยิ้มขึ้น หยิบขนมปังชิ้นหนึ่งขึ้นมากัดทันที
“อร่อยอะพี่เมศ ขอบคุณครับ”เด็กหนุ่มนั่งกินขนมปังตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย ปรเมศยิ้มขำๆก่อนจะใช้มือปัดไอซ์ซิ่งที่เลอะข้างแก้มออกให้
“อ๊ะ!!พี่เมศทำอะไร”นันทกรสะดุ้งเมื่อนิ้วใหญ่สัมผัสลงบนแก้มนิ่มของตน ใช้มือจับตรงที่โดนสัมผัสเบาๆ
“แก้มเลอะไอซ์ซิ่ง.......พี่เลยปัดให้เฉยๆ”ปรเมศชูนิ้วที่เลอะไอซ์ซิ่งให้ดู คนบนเตียงพยักหน้าเข้าใจ
“ขอบคุณครับ...”นันทกรพูดขอบคุณเสียงเบา ใบหน้าเนียนซับสีแดงเล็กน้อยก่อนจะนั่งกินต่อไปเงียบๆ มีเพียงปรเมศเท่านั้นที่กลับรู้สึกแปลกๆ.........ทำไมเค้าถึงรู้สึกว่าอาร์น่ารักขึ้นมาได้นะ.....
หลังจากวันนั้นแพรวาก็เงียบหายไปจนนันทกรแปลกใจ........เป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงคนนี้จะหลุดจากวงจรชีวิตของปรเมศได้ด้วยเรื่องแค่นี้......แล้วทำไมละ??เกิดอะไรขึ้น?? แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่นันทกรก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของเค้าต่างหาก ปรเมศเองก็คอยดูแลเอาใจทุกอย่างเพราะกลัวจะเป็นอย่างก่อนหน้านี้ ทางด้านที่บริษัทก็สุขใจที่ได้เห็นหน้ายัยเลขาตกกระป๋องนั้นมองอย่างเคียดแค้น เรียกได้ว่านี้เป็นช่วงที่เค้าต้องเริ่มสร้างต้นรักให้กับทั้งตัวเองและปรเมศดีกว่า.....
“ก๊อก ก๊อก!!”เสียงเคาะประตูทำให้นันทกรที่นั่งจัดของอยู่ลุกขึ้นไปเปิด แล้วก็พบกับร่างสูงที่ยืนส่งยิ้มมาให้อยู่
“อ้าว พี่เมศมีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ??”
“อ๋อ เปล่าหรอก พี่จะมาบอกว่าพรุ่งนี้ที่เราจะไปมหาลัยวันแรก เดี๋ยวพี่จะพาไปเอง แล้วนี้ต้องไปตอนกี่โมงละ??”
“ตอนแปดโมงเค้านัดปีหนึ่งไปทำความรู้จักกันก่อนครับที่คณะ ว่าแต่พี่เมศว่างหรือครับ พรุ่งนี้ไม่มีประชุมช่วงเช้าหรือ?? นี่ผมรบกวนพี่เมศหรือเปล่า...”นันทกรทำท่าเกรงใจ ปรเมศส่ายหัว
“ไม่หรอก มหาลัยเราก็เลยบริษัทไปหน่อยเดียวเอง แถมพี่ก็ไม่มีประชุมด้วย เข้าสายนิดสายหน่อยก็ไม่เป็นไร ห่วงแต่เรานี้แหละ ไม่ได้กลับเมืองไทยตั้งนาน วันแรกอาจมีติดขัดอะไรหลายเรื่องพี่ไปด้วยเผื่อช่วยได้”นันทกรมองคนพูดแล้วยิ้มพลางโถมเข้ากอด
“เฮ้ย!!เป็นอะไร อยู่ดีๆก็โถมเข้ามากอด โตเป็นหนุ่มแล้วนะเรา”ปรเมศแกล้งกระเซ้า แต่ก็ยังยอมปล่อยให้กอด.........ก็เวลานันทกรอ้อนมันน่ารักจะตายนี่.......
“ขอบคุณครับพี่เมศ พี่เมศเป็นพี่ชายที่ใจดีที่สุดเลย!!”นันทกรกอดกระชับแน่น...........ใช่..เป็นที่พี่ชายที่แสนดีไม่ผิดกับอเลนแม้แต่น้อย......
“จ้าๆ แต่นี่ดึกแล้วนอนได้แล้ว รู้ไหม...”ปรเมศดึงนันทกรออกก่อนขยี้หัวด้วยความเอ็นดู
“ครับ พี่เมศฝันดีนะครับ”เด็กหนุ่มแกล้งกระโดดหอมแก้มคนสูงกว่าก่อนจะแลบลิ้นให้
“กู๊ดไนท์คิสครับ..”พูดจบก็ปิดประตู ปล่อยอีกคนยืนลูบแก้มงงๆ
“เฮ้อ!!เจ้าตัวแสบเอ๋ย!!”ส่ายหัวไปมา ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเค้าคงขนลุกและไล่เตะไปแล้วที่มาหอมแก้มอย่างนี้ แต่ไม่ว่ายังไง สำหรับเค้าอาร์ในวันนี้หรือเมื่อก่อนก็ยังเป็นเด็กน้อยน่ารักของเค้าเหมือนเดิม ไม่มีเลยซึ่งความขยะแขยงนั้น......
//////////////////////////////////////
“อรุณสวัสดิ์คะ น้องๆทุกคน!!!ยินดีต้อนรับสู่มหาวิทยาลัยของเรา ยินดีต้อนรับสู่คณะวิทยาศาสตร์ของเรา!!!”ทันทีที่นักศึกษาหญิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าพูดจบ นักศึกษาคนอื่นๆที่อยู่รอบข้างต่างร้องเฮขึ้น บางคนตีกลองปลุกใจ ทำให้เด็กหนุ่มสาวหน้าใส นักศึกษาใหม่ต่างตื่นเต้นและประหม่า
ปรเมศมองไปรอบๆบริเวณที่เค้ายืนอยู่ แล้วก็ต้องยิ้มกับบรรยากาศที่ห่างหายไปเสียนาน บรรยากาศของมหาวิทยาลัย.......ขณะนี้เด็กน้อยของเค้านั่งเด่นอยู่ในแถว........ต้องเด่นอยู่แล้วในเมื่อหน้าตาออกจะฝรั่งจ๋าขนาดนั้น ผิดก็ขาว ผมกับตาสีน้ำตาลที่เป็นธรรมชาตินั้นอีก ทำเอาหนุ่มสาวทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องต่างชะเง้อมองแล้วซุบซิบกันทั้งนั้น
แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่สนใจยังคงนั่งมองหญิงสาวด้านหน้าพูดอย่างขะมักเขม้น บางทีก็มีหันหลังมามองเค้าเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้และโบกมือนิดๆและหันกลับไปอย่างเดิม.......ส่วนตัวเค้าเหรอเมื่อน้องโบกมือให้ก็ยิ้มแล้วโบกมือตอบ ทำเอาเด็กๆในสายตาเค้าหันมามองด้วยความสงสัยว่าตาลุงนี้มาทำอะไรกันเป็นแถว
“วันนี้อย่างที่น้องๆคงรู้กันอยู่ เราจะจัดงานกระชับความสัมพันธ์ขึ้นเพื่อให้น้องๆได้รู้จักกันมากขึ้น พวกพี่ๆหวังว่าอย่างน้อยงานในวันนี้คงทำให้น้องๆได้รู้จักเพื่อนได้มากขึ้นและขอให้น้องๆรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนให้นานๆ และอยู่กันอย่างมีความสุขตลอดสี่ปีที่เรียนอยู่ที่นี้นะคะ”หญิงสาวด้านหน้ากล่าวต่อ
“แล้วคนที่เรียนไม่จบสี่ปีละครับ พี่จ๋า”เสียงชายหนุ่มด้านข้างฝั่งรุ่นพี่แซวขึ้น
“ก็อยู่เป็นเพื่อนกับพี่โจ้ ที่ต้องเรียนแปดปีไงละคะ ไอ้คุณเพื่อนโจ้!!!น้องๆอย่าเอาอย่างนะคะ”เสียงทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ฮาครืน คนโดนกระทบกระเทียบรีบโห่ทันที
“เอาละๆ สนุกพอแล้ว เดี๋ยวพี่จะให้น้องแต่ละคนลุกขึ้นแนะนำตัวนะคะ บอกเอกที่เรียนด้วยแล้วเดี๋ยวพี่จะจัดที่นั่งใหม่ให้นั่งตามเอกนะคะ เริ่มจากน้องคนขวาสุดคะ เชิญ!!”
“สวัสดีครับผม......”เสียงแนะนำตัวของน้องแต่ละคนดังขึ้นเรื่อยๆจนใกล้ถึงนันทกร ปรเมศแอบลุ้นในใจ คาดว่านันทกรต้องโดนซักถามหนักกว่าคนอื่นแหงๆ ด้วยทั้งหน้าตาและเสื้อผ้าชุดไปรเวทที่ไม่เหมือนคนอื่นที่ใส่ชุดนักเรียนเก่ามา
“สวัสดีครับผม อาร์เธอร์ นันทกร วินแฮมครับ ชื่อเล่นชื่อ อาร์ มาจากโรงเรียนKing Edward’s School อยู่เอก IT ครับ”
“น้องอาร์เป็นลูกครึ่งหรือคะ??”เสียงหญิงสาวคนหนึ่งในบรรดารุ่นพี่ถามขึ้น
“ครับ พ่อเป็นคนอังกฤษแม่เป็นคนไทยครับ”นันทกรตอบอย่างสบายๆแถมยังแจกจ่ายยิ้มไปทั่ว
“เอ่อ ชื่อโรงเรียนไม่คุ้น มาจากจังหวัดไหนคะเนี่ย”หญิงสาวอีกคนถามขึ้น เนื่องจากเห็นนันทกรพูดไทยชัด คาดว่าเด็กหนุ่มคงอยู่เมืองไทยตั้งแต่กำเนิด ปรเมศนั่งเอามือเท้าคางยิ้มที่ทุกคนต่างสนใจเด็กน้อยของเค้า
“อยู่เมืองเบอร์มิ่งแฮม อังกฤษครับ”เสียงฮือฮาขึ้นเมื่อทราบว่านันทกรเป็นเด็กนอก เด็กรุ่นเดียวกับนันทกรต่างพากันซุบซิบกรี๊ดกร๊าดกันเป็นแถวๆ
“ว้าย!!เด็กนอกน่าหม่ำมากกกกกกกกกกก มาเป็นแฟนพี่ไหมคะน้องขา”มีพี่ผู้หญิงใจกล้าคนหนึ่งแซวขึ้น นันทกรอมยิ้ม
“คงต้องขออนุญาตพี่ชายผมด้านหลังดีกว่าครับ พอดีพี่ชายผมเค้าหวง”นันทกรหันมาหาเค้าพลางขยิบตาให้ ทุกคนต่างหันไปมองปรเมศกันพรึ่บ เจ้าตัวคนถูกกล่าวถึงได้แต่โบกมือยิ้มแหยๆ
“กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!พี่ชายล่ำน่าหม่ำกว่า พี่ขาสนใจกระเทยสาวสวยหมวยแฟบแต่เร้าใจไหมคะ!!”กระเทยนางหนึ่งพูดขึ้นเสียงดัง สายตาราวกับจะกลืนกินคนที่นั่งอยู่เข้าไปทำเอาปรเมศผวา
“คนนั้นไม่ได้ครับ พี่ชายผม ผมหวง....”นันทกรบอกยิ้มๆทำเอาเสียงกรี๊ดดังลั่นจนเด็กคณะอื่นหันมามอง
“เอาละ พอๆ เดี๋ยววันนี้เราจะแนะนำตัวไม่จบกันพอดี น้องอาร์นั่งได้คะ คนต่อไปเลยคะ”พี่ผู้หญิงคนแรกพูดขึ้น นันทกรจึงนั่งลงแต่ไม่วายหันมามองคนที่นั่งอยู่ด้านหลัง
“กลับบ้านจะจีบตีกัน”ปรเมศพูดแบบไม่มีเสียงส่งไปให้
“ไม่กลัวหรอกครับ แบร่”นันทกรตอบกลับ
“เอ้าๆ!!น้องอาร์ขาเดี๋ยวค่อยสวีทกับคุณพี่ชายค่ะ หันมาตั้งใจฟังเพื่อนแนะนำตัวก่อนเร็ว!!”พี่กระเทยคนเก่าพูดขึ้นทำเอานันทกรรีบหันกลับมาส่งยิ้มเขินๆไปให้เห็นโดยทั่วกัน
ปรเมศเห็นว่าเด็กแต่ละคนเริ่มไม่มีสมาธิในการร่วมกิจกรรมเพราะเจ้าตัวแสบของเค้าเสียแล้ว บางคนก็หันมามองเค้าที นันทกรที ร่างสูงจึงตัดสินใจส่งเมสเสจไปหาคนที่นั่งอยู่ในกลุ่มว่า ขอเข้าบริษัทไปก่อนเดี๋ยวเลิกกิจกรรมแล้วจะมารับ เพียงชั่วครู่ข้อความรับทราบก็ถูกส่งกลับมา เค้าจึงเดินกลับไปที่ลานจอดรถทันที
..........................................................
..................................
.............
....
“นี่ๆนาย”เสียงหวานแต่ห้าวของคนที่สะกิดจากด้านหลังทำให้นันทกรต้องหันไปมองก่อนจะเจอสองสาวสองสไตล์ส่งยิ้มมาให้
“อาร์ใช่ปะ เราชื่อน้ำหวาน เพื่อนเราชื่อส้มเอก IT เหมือนกัน”หญิงสาวที่ท่าทางดูแก่นแก้วบอกชื่อก่อนแล้วชี้ไปทางเพื่อนสาวที่แต่งตัวเสื้อนักเรียนโรงเรียนเดียวกันแต่ดูเรียบร้อยกว่า คนชื่อส้มพยักหน้าส่งให้
“อืม หวัดดี”นันทกรทักทายพลางยิ้มให้
“อาร์พูดไทยชัดจัง ยังกะไม่ใช่เด็กนอกแหนะ อยู่นู้นตั้งแต่เกิดเลยเหรอ”ส้มถามบ้าง ทั้งสองมีสีหน้าอยากรู้กันมากจนนันทกรเอ็นดู
“เปล่าหรอก เราย้ายไปอยู่อังกฤษตอนหกขวบ แต่แม่เราเค้าก็ให้พูดภาษาไทยตลอดก็เลยยังชัดละมั้ง”
“เหรอ........โอ๊ะ!!เค้าเรียกให้แยกย้ายตามเอกแล้ว เราไปด้วยกันเถอะ เดี๋ยวจะแนะนำเพื่อนเราคนอื่นให้รู้จัก”น้ำหวานจัดการลากมือเค้าไปยังป้ายที่เขียนว่า IT ด้วยตัวหนังสือนูนต่ำสีม่วงเข้ม ตรงบริเวณป้ายมีชายหญิงอีกสี่ห้าคนยืนอยู่ก่อนแล้ว
“เฮ้ย!! ไอ้อ๊อฟ ไอ้รี่ ไอ้โฟน ไอ้เพน”ชายสามหญิงหนึ่งที่ยืนคุยกันอยู่นั้นหันมาตามที่หญิงสาวเรียก ก่อนจะส่งเสียงทักทายกลับมา
“น้ำหวานเดี๋ยวนี้ควงผู้ชายหรือหล่อน แล้วยัยส้มไปไหน ปล่อยให้หล่อนเดินควงผู้ชายได้เนี่ย”ชายผิวขาวท่าทางสำอางถาม ก่อนโดนส้มยกขาเตรียมถีบ
“ขอร้องอย่าให้ผัวเมียเค้าต้องทะเลาะกันมึง ส้มก็อยู่กับกูเนี่ย กูพาเพื่อนใหม่มาแนะนำ........นี้อาร์ กูรู้ว่าพวกมึงต้องรู้จักเพราะอาร์โคตรเด่น อาร์นี้เพื่อนเรา ไอ้คนริมชื่อเพน อีกระเทยแรดนี้ชื่อโฟน ยัยจอมเชิดนี้เชอร์รี่ ส่วนเก๊กหล่อนี้อ๊อฟ”น้ำหวานไล่ชื่อแต่ละคนให้รู้จัก โดยคนแรก เพน เป็นผู้ชายผิวขาวใส ตัวเล็กกว่าอาร์เล็กน้อย หน้าตาออกแนวญี่ปุ่นแบ๊วๆ ท่าทางสดใส ตามด้วยโฟน หญิงในร่างชาย ท่าทางเฮฮาขี้วีน ผิวขาวอมชมพู หน้าตาทรงผมจัดเต็ม หน้าตาดูดีไปอีกแบบ คนต่อมาหญิงสาวที่เมื่อครู่ยืนเพียงหนึ่งเดียวในกลุ่ม เชอร์รี่ ท่าทางขี้วีนไม่แพ้โฟน แต่เป็นสาวสวย และอัธยาศัยดี คนสุดท้าย อ๊อฟ ชายหนุ่มร่างสูงผิวสองสี ท่าทางเคร่งขรึม ดวงตาดุ ไม่ค่อยพูดค่อยจา และตอนนี้กำลังจ้องนันทกรเขม็ง
“นายคนที่ยืนแล้วโดนพวกรุ่นพี่ถามเยอะๆเมื่อกี้นี้ใช่ปะ!!! โหย ที่เมื่อกี้นายเล่นมุก เราชอบมากเลย เล่นเอาฮาครืนเลย”เพนเปิดประเด็นก่อน นันทกรได้แต่ยิ้มส่งให้
“ใช่ๆ ว่าแต่พี่นายหล่อลากอะ!!สนใจอยากได้เราเป็นพี่สะใภ้มะ แนะนำให้รู้จักหน่อยดิ”เชอร์รี่รีบเข้าไปกระแซะทันที เพราะถูกใจชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังเมื่อครู่ แต่พอแยกกันเท่านั้นหละ หันไปชายหนุ่มก็หายไปแล้ว
“ต๊าย!!ยัยนี่ จะจิกผู้ชายตั้งแต่วันแรกเลยหรือไงยะหล่อน!! ไม่เห็นที่อาร์เค้าประกาศหรือไงยะว่าคนนี้เค้าหวง”โฟนแอบจิกกัดเชอร์รี่ก่อนให้ไปพยักเพยิดกับเพื่อนใหม่
“อืม งั้นแหละ ให้จีบไม่ได้หรอก เพราะพี่ชายคนนี้เราหวงมากๆ”คำพูดดูกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงของนันทกรทำเอาทั้งกลุ่มชะงัก ก่อนเจ้าตัวจะยิ้มที่ดูน่าหวาดเสียวมาให้และทั้งกลุ่มต้องพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย แต่ไม่ทันได้คุยเสียงทุ้มก็พูดขึ้น
“เค้าเรียกรวมแถวแล้ว รีบไปกันเถอะ...”อ๊อฟบอกก่อนเดินตรงไปที่แถวคนแรก คนอื่นจึงรีบเดินตามไป ระหว่างเดิน เชอร์รี่หันกลับไปมองนันทกรก่อนจะยิ้มแหยๆแล้วพูดขึ้น
“เมื่อกี้เราพูดเล่นนะ อาร์ โทษทีอาร์ไม่โกรธเราใช่ป่ะ”นันทกรส่ายหัว
“ไม่โกรธหรอก เรารู้ว่าเชอร์รี่พูดเล่น แต่อย่าให้เป็นจริงขึ้นมานะ........”นันทกรพูดแค่นั้นก่อนจะยิ้มเย็นๆ ทำให้เชอร์รี่เข้าใจทันทีว่าเธอไม่ควรคิดจีบชายหนุ่มพี่ชายนันทกรเป็นอันขาดหากไม่อยากชะตาขาด....
“เอาละคะ น้องๆพี่ชื่อพี่ฟ้านะคะ เป็นประธานเอก IT ของเรา ปีนี้เรามีน้องใหม่เอกเราทั้งหมด 52 คนขอให้น้องๆอยู่ครบ 52 คนจนกระทั่งเรียนจบนะคะ อย่างแรกวันนี้เราจะเริ่มกิจกรรมตามหาพี่รหัสก่อน.........ง่ายๆพี่รหัสของน้องแต่ละคนจะมีเลขสามหลักท้ายตรงกันกับน้อง บางคนอาจสงสัยว่า เอ๋...พี่รหัสเราอยู่เอกอื่นหรือเปล่า คำตอบคือ ไม่มีคะ เพราะมหาลัยเราใช้ระบบเลขเอกนำหน้าในเลขตัวที่สามส่วนสองตัวหลังจะเป็นเลขที่ไล่ตามตัวอักษรของแต่ละคนในชั้นปีนั้น และด้วยรุ่นพี่ปีที่แล้วมีทั้งหมด 55 คนนั้นหมายความว่าน้องทุกคนต้องมีพี่รหัส พี่จะให้เวลาสองชั่วโมงในการหารอบๆบริเวณสวนที่เรานั่งอยู่นะคะ ใครจะใช้วิธีไหนหาก็ได้ แล้วแต่ความสามารถคะ แต่ใครหาพี่รหัสไม่ได้จะต้องมีเกมลงโทษ เอาล่ะ พร้อมรึยัง!!!”เด็กหนุ่มสาวต่างมองหน้ากันเลิกลั่กแต่ก็ตะโกนออกมาว่าพร้อม เสียงนกหวีดดังขึ้นทุกคนก็แตกกระจายทันที
“ว้าย!!แล้วจะไปตามหาที่ไหนละแก”โฟนถามขึ้น
“เราว่าคงต้องเดินถามทีละคนละมั้ง”ส้มตอบพลางมองรุ่นพี่ที่อยู่รอบๆ
“ต้องโดนให้ทำอะไรประหลาดๆแน่เลยแก แบบที่ในหนังไงละ”เชอร์รี่บ่น
“เอาน่า คิดว่าทำสนุกๆ เริ่มที่คนไหนก่อนดี”น้ำหวานพูดเสียงตื่นเต้น
“คนโน้นไหมท่าทางใจดี.........อ้าวอาร์ทำอะไรอยู่หนะ เห็นนั่งกดไอแพทตั้งแต่เมื่อกี้แหละ”เพนถามขึ้นเมื่อเห็นนันทกรกดไอแพทในมือไม่พูดไม่จา
“อ๋อ.........เสร็จพอดีเลย......นี้ไง”นันทกรโชว์หน้าจอให้บรรดาเพื่อนใหม่เห็นก่อนทุกคนจะอ้าปากค้าง
“เราเจาะเว็บนักศึกษาเพราะปกติเว็บนักศึกษาต้องมีรหัสนักศึกษาพร้อมหน้าตาของนักศึกษาแต่ละคนอยู่แล้ว เลยลองหาคนที่รหัสเดียวกับเรา แล้วก็ได้นี้ไง........นายอัครเดช รหัส 422 พี่รหัสเรา...”รูปชายหนุ่มท่าทางสุภาพและเป็นคุณชายปรากฏบนไอแพท ทุกคนต่างมองนันทกรอย่างตื่นตะลึง
“โอ้ว บร๊ะเจ้า!!!อาร์จ๋า อาร์แสนดี ทำให้ฉันบ้างสิ”โฟนรีบขอเป็นคนแรก
“เฮ้ย!!เราด้วยๆ อ๊ะ!!หาให้ส้มก่อนดีกว่า”น้ำหวานว่าพลางกระชับมืออีกหนึ่งสาวแน่น
“เดี๋ยวเราทำให้ทุกคนก็ได้ จะส่งรูปไปที่มือถือละกัน บอกรหัสมาทีละคน...”
เมื่อแต่ละคนได้หน้าตาและชื่อของพี่รหัสตัวเองก็ต่างแยกย้ายกันไปหา นันทกรก็เช่นเดียวกันแต่เค้ารู้ว่าเค้าไม่ต้องหา เพราะตั้งแต่เมื่อกี้ก็รู้อยู่แล้วว่าใครบางคนนั่งมองอยู่
“สวัสดีครับพี่อัครเดช รหัส 07540422”ชายหนุ่มที่นั่งเลื้อยไปกับโต๊ะเมื่อกี้ยิ้มให้กับคนทักก่อนจะยื่นมือไปให้
“สวัสดีคุณน้องรหัส น้องอาร์ 07550422”นันทกรจับมือนั้นก่อนดึงตัวพี่รหัสให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ
“เก่งนะที่คิดวิธีหาจากเว็บได้ ถึงจะดูไร้ความพยายามไปนิดแต่ถือว่าได้ใช้หัวคิดดี”ชายหนุ่มชมอย่างจริงใจ
“พี่ชื่อเก่ง.......เอาโทรศัพท์มาสิ”นันทกรยื่นโทรศัพท์โดยไม่ซักถามอะไร อัครเดชกดเบอร์บนหน้าจออย่างรวดเร็ว ก่อนเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงจะดังขึ้นจึงส่งโทรศัพท์คืนไปให้
“ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรไปถามได้..........มีอะไรอยากถามพี่รึเปล่าเห็นจ้องจัง”อัครเดชที่นั่งในท่าสบายเลิกคิ้วถาม นันทกรยิ้ม
“ผมว่าพี่นิสัยคล้ายใครบางคน”นันทกรบอก
“ใครละ??”
“เหมือนผม...”อัครเดชฉีกยิ้ม
“พี่ก็ว่างั้นไอ้น้อง.......หวังว่าเราจะเข้ากันได้ดี”ระหว่างที่คนอื่นวิ่งพล่านหาพี่รหัส นันทกรกับอัครเดชกลับนั่งนิ่งราวกับให้ความเงียบเป็นกั้นกลางระหว่างเค้าทั้งคู่
“พี่ชายเราหนะ....”อัครเดชพูดขึ้น นันทกรที่นั่งอยู่เงียบๆจึงหันไปมอง
“น่าสนใจดีนะ”ชายหนุ่มยิ้มกวนเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องนิ่งแต่ในแววตากลับวาววับ
“แต่ว่า.......”มือขาวยื่นเข้ามาเด็กหนุ่มก่อนจะจับไหล่ไว้
“นายก็น่าสนใจเช่นกัน.........พวกนายทำให้ฉันอยากทำอะไรบางอย่าง”คำพูดคำหลัง อัครเดชกระซิบที่ริมหูอีกฝ่ายก่อนผละออก แล้วส่งยิ้มให้กับใครบางคนที่ยืนตื่นตะลึงอยู่.........ตะลึงที่ใครที่เค้าไม่รู้จักทำท่าราวกับจะบรรจงจูบแก้มเนียนของเด็กน้อยของเค้า.....
ติดตามตอนต่อไป
-----------------------------------
Neya : สวัสดียามดึก หุหุ ในที่สุดก็ทันวันที่ๅ12/12/2012 หุหุ ตอนนี้ง่วงมากแต่อยากปั่นให้เสร็จทันวันนี้จริงๆ แต่จบไม่ลงตัวแถมแก้แล้วแก้อีกแก้เยอะจริงๆคะ เอาเป็นว่าหมดแรง ขอไปนอนกอนะคะ บาย :bye2:
-
แอบหึงอะดิ คุณพี่ชาย
-
มาแล้วๆๆๆ มาต่อไวๆ น้า
สนุกมากๆเลย น้องอาร์ยังมีชั้นเชิงไม่เคยเปลี่ยนและดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นะ 555555555555
-
:z3:
อะไรเนี๊ย น้องอาร์ เข้ามหาลัยวันแรกก็สำแดงเดชแลวหรอ
แล้วคุณแพรสืบเรื่องน้องอาร์ไปถึงไหนแล้ว
จะแก้แค้นยังงัยหรอค่ะ
อยากรู้อ่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
-
เห็นรหัสนักศึกษา 0755xxxx ของน้องอาร์ กับ 0754xxxx ของพี่รหัส แล้วสะท้อนใจพิกล
รู้สึกว่าตัวเองแก่เลยอ่ะ :เฮ้อ:
0746xxx ผ่านมาหลายปีขนาดนั้นเลยนะนี่
-
เก่งคิดจะทำอะไร เก่งรู้อยู่แล้วใช่ไหมนะนั่น
-
ไม่อยากจะคิด ว่าถึงวันที่ พี่เค้ารู้ความจริงแล้วจะเป็นไงต่อ
ถ้าพูดจริงๆ พี่เค้าก็ไม่ไ้ด้ทำผิดอะไร ถ้าอาร์รักจริง แล้วใช้เล่ห์กลแบบนี้ก็โอ แต่ถ้าไม่รัก พี่เค้าน่าสงสารนะ
-
โอ้ แล้วแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อล่ะเนี่ย ดูท่าจะวุ่นวายน่าดูเชียว รอนะคะ
-
:call: :call: :call:
-
เชื่อแล้วว่าพี่รหัสน้องรหัสนิสัยเหมือนกันจริงๆ เจ้าเล่ห์จริงๆพี่เก่ง อิอิ
ว่าแต่จะหึงน้องอาร์มั้ยน้าาา
-
ถ้าแพรวาสืบได้แล้ว.....มันจะเป็นไงหว่า
-
เอาแล้วๆ อาร์ พี่รหัสนายนิสัยโดนใจอ่ะ ท่าทางจะชอบแกล้งซะด้วยยย :m3:
คราวนี้พี่เมศจะทำยังไงล่ะคร้าบบบ :m20:
รอตอนต่อไปนะฮะ :')
-
กลัวพี่เมศรู้แล้วเป็นเรื่อง :monkeysad:
-
หืออออออออออ :m29:
-
อ่าวววว เก่ง
จะทำอะไรน่ะ -.-
-
:pig4: เรื่องราวมากมายพุ่งมาหาอาร์แล้ว เข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะมีคนมาจีบไหมน้อ ให้พี่เมศแสดงอาการหึงหวง o18
-
พี่เก่งคิดจะทำอะไร
ว่าแต่น้องอาร์จริงใจกับพี่เมศให้มาก ๆนะ
ถ้าพี่เค้ารู้ทีหลังล่ะเป็นเรื่องแน่ๆ
-
พี่เมศหึงเลยๆ
-
เพิ่งตามมาอ่านจ้า สนุกดี น้องอาร์แสบใช่ย่อยนะคะเนี่ยะ
แต่ว่าพี่เมศเห็นใช่มั้ย เริ่มหึงแน่ๆเลย งานจะเข้ามั้ยน๊าาา
มาต่อไวๆนะค๊าาา
-
ohhhh. หึงสิ พี่เมศ 55555
-
เก่งคิดจะทำไร ??
-
เริ่มจะสนุกแล้วซิ :z2:
-
พี่เก่งคิดจะทำอะไรหว่า?
-
อ้าวๆๆคุณพี่ชาย เปลี่ยนใจจะขยับตำแหน่งตอนนี้ยังทันนะคะ
พี่รหัสคนนี้น่าสนใจดีนะ
ต้องมีเรื่องสนุกอีกแน่ๆเลย
ว่าแต่คุณพี่รหัสกระซิบอะไรอ่า
-
พี่เก่งงงงทำเลยลองอีกเยอะๆ อยากให้ไอคุณพี่ชายมันอกแตกตายไปมั้ง
ตอนนี้ยังแอบกังวลเรื่องยัยแพรจะสืบความลับของอาร์ได้แล้วเอาไปบอกไอคุณพี่ชายจัง
-
4 วันแล้วน้องอาร์ !!!
-
สนุกมากกกกกก...รอไร้เตอร์ครับบบบบบ อิอิ
-
:laugh: เจอเเบบนี้คุณพี่ชายก็เกิดอาการหึงหวงน้องชายที่น่ารักขึ้นมาเเบบแปลกๆอ่ะดิ...
ว้ายยยยยย... ชะนีลูกเเพรนี่ร้ายเอาเรื่อง ถึงขั้นจ้างนักสืบเลยเหรอ... ต้องการอะไรจากสังคม
จะเอาประวัติมาโจมตีเหรอไง ยังไงๆอาร์ก็เป็นหอบจริงๆนี่นา แล้วยังมีอะไรให้เธอขุดคุ้นอีก
หรือจะเป็นเรื่องพี่ชายคนสำคัญอย่างอเลนอีก เเต่มันก็เป็นอดีตที่อาร์จดจำนี่นา ไม่น่าเอามาเป็น
ข้อมูลทำร้ายกันได้เลย... แล้วปรเมศจะว่าอย่างไรเอ่ย เห็นน้องอาร์ถูกหอมเเบบมุมกล้อง...
เอ๊ะ หรือจะเห็นเเค่เเบบเกือบๆ รู้สึกว่าต้องคอยกันผู้ชายอื่นออกจากน้องอาร์รึยัง... กลัวจริงๆนะว่า
เมศเริ่มสงสัยอาร์เเบบนี้ นิมิตหมายเค้าลางไม่ดีเลย กลัวยัยลูกเเพรได้ข้อมูลอะไรมา... ถึงตอนนั้น
คงสงสารอาร์น่าดู ถ้าเมศจับได้ ทุกอย่างที่อาร์พยายามจะดิ่งลงเลยนะ น้องอาร์ :กอด1:
-
พี่รหัสก็ใช่ย่อย
คงแอบร้ายพฉกัน
หึ หึ
น่าสนุกเข้าไปอีก
พี่เมศเห็นพอดีสินะ
หึง มั้ยน้า หุหุ
ต่อๆจ้า
-
น้องอาร์ร้ายไปนะ แต่พี่ชอบ ฮาาาา
ตอนนี้ดูเรื่องราวชักจะเริ่มชุลมุนแล้วสิ
-
เมื่อไหร่จะมาอ่าาาา
คิดถึงน้องอาร์ ค้างมากกกกกกก :m15:
-
หึหึ น่าสนุกขึ้นเรื่อยๆแฮะ
หวังว่าจะไม่ค่อยมีมาม่านะคับ
ไม่ค่อยชอบกินอ่า อิอิ
-
เพิ่งอ่านตะกี้เจ็ดตอนรวด ตาแฉะเลย 55555
อาร์นี่ร้ายจริง เพลาๆบ้างนะหนู อยากรู้จังอเลนเป็นใครกัน?
แต่พอมาเจอพี่รหัสก็ยิ่งอยากรู้เข้าไปอีก! :z1:
มาต่อไวๆนะค้าบบ~
-
บร๊ะๆๆ!!!
น้องอาร์เจ้าเลห์น่ะเนี๊ยยยย
-
ตอนที่ 8 :: เป็นแฟนกันนะ... ::
บรรยากาศที่เงียบงันมีเพียงเสียงของแอร์ที่ให้ความเย็นจนหนาวในรถเท่านั้นที่ดังออกมา ปรเมศเหลือบตามองคนที่นั่งข้างๆที่เอาแต่มองออกไปนอกรถแล้วก็ต้องถอนหายใจเบาๆ พลางนึกไปถึงตอนที่เค้าเห็นบางสิ่งที่ไม่ควรเห็น........
“พี่เมศ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?” นันทกรถามเมื่อตนเองเลิกกิจกรรมแล้วหันไปเจอปรเมศนั่งอยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนตัวที่อยู่ใกล้กับตรงที่ตนนั่งทำกิจกรรม
“เมื่อกี้นี้เอง.....”ปรเมศยิ้มตอบได้อย่างไม่เต็มที่ นันทกรมองพลางอ้าปากจะถามบางสิ่งแต่ก็ต้องหุบลงเมื่อใครบางคนเดินเข้ามาจับไหล่
“จะกลับแล้วหรืออาร์...........อ้าว....คุณพี่ชายของอาร์สินะครับ สวัสดีครับ ผมเก่งเป็นพี่รหัสของอาร์ครับ”ดวงตาเรียวยาวพร้อมริมฝีปากบางยิ้มส่งให้คนที่ตนทักทาย ปรเมศมองใบหน้ายิ้มแย้มนั้นอย่างรู้สึกแปลกๆ
“สวัสดีครับ ยังไงก็ฝากน้องชายผมด้วยนะครับ”
“ได้ครับ ว่าแต่คุณพี่ชายต้องอายุมากกว่าผมแน่ๆ งั้นผมของเรียกว่าพี่ละกัน พี่ชื่ออะไรหรือครับ”ไม่ทันที่ปรเมศจะตอบ นันทกรก็หันขวับไปทางพี่รหัสทันที
“นี้ก็เย็นมากแล้ว อาร์ขอตัวกลับก่อนนะครับพี่เก่ง.......สวั..”
“อาร์!!จะกลับแล้วหรือ??”นันทกรหันไปมองกลุ่มคนที่เดินมาหา ใบหน้าใสซื่อแย้มยิ้มส่งให้ แต่ในใจขุ่นมัวเล็กน้อยที่เห็นเพื่อนใหม่มาผิดจังหวะ
“อ้าว!!พี่ชายอาร์นี้น่า สวัสดีครับ!!”เพนยกมือไหว้ร่างสูงอย่างมีมารยาท คนที่เหลือก็ทำตาม
“สวัสดีครับ/ค่ะ!!”ปรเมศมองหนุ่มสาวตรงหน้าอย่างเอ็นดู ยกมือรับไหว้พลางยิ้มเล็กน้อย
“สวัสดีครับ เพื่อนใหม่หรืออาร์.....”นันทกรผงกหัวพลางแนะนำแต่ละคนให้รู้จัก
“ครับพี่เมศ........นี้เพน อ๊อฟ เชอร์รี่ ส้ม น้ำหวาน โฟนครับ ส่วนนี้พี่ชายเรา พี่เมศ พี่รหัสเรา พี่เก่ง”เหล่าน้องใหม่หันไปไหว้อัครเดชที่ยังคงยืนยิ้มอยู่ก่อนเจ้าตัวจะหันไปมองปรเมศ
“งั้นก็พี่เมศสินะครับ.....”ราวกับจะตอบคำถามที่ตัวเองถามไปเมื่อครู่ ปรเมศผงกหัว
“อ๋อครับ...”ดวงตาแวววับที่เหมือนจะมองตรงไปที่ใจของเค้าทำให้ปรเมศรู้สึกอึดอัดเมื่อต้องมาอยู่ต่อหน้าคนๆนี้ โชคดีที่นันทกรหันจัดการดึงความสนใจคนๆนั้น เค้าจึงหันมาหายใจได้ตามปกติ
“เดี๋ยวเราจะกลับแล้ว พรุ่งนี้เจอกันนะทุกคน.............ผมขอคุยด้วยหน่อยพี่เก่ง พี่เมศรอแปปหนึ่งนะครับ..”ว่าแล้วนันทกรก็จับแขนลากอัครเดชไปอีกมุมหนึ่ง ปล่อยให้ปรเมศกับเพื่อนใหม่มองอย่างงงๆ
“งั้นพวกเราลานะคะพี่เมศ สวัสดีคะ”ส้มนำขบวนเพื่อนๆลาร่างสูง ปรเมศผงกหัวเข้าใจก่อนหันไปทางที่นันทกรลากคนตัวสูงอีกคนไป แล้วมองด้วยความรู้สึกไม่ดี.........ภาพที่เห็นเมื่อตอนมาถึงยังคงติดตาและสร้างความสงสัยให้กับเค้ามากมาย
มันเป็นความรู้สึกแปลกๆคล้ายความรู้สึกหงุดหงิดปนความไม่พอใจ ที่มีใครมาทำอะไรเด็กน้อยที่ยังดูไม่ประสาของเค้า แต่ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร........คงเป็นความรู้สึกหวง.....ใช่ หวง........แต่ทำไมเค้าต้องหวงละ?? อาร์ก็แค่น้องชาย.........ใช่ เพราะเป็นน้องชายเนี่ยสิถึงต้องห่วงและหวง.........ไม่อยากให้ใครมาทำตัวสนิทสนม......ปรเมศตีความเข้าข้างตัวก่อนจะตัดสินใจว่ามันเป็นเรื่องปกติที่พี่ชายจะหวงน้องชายคนหนึ่ง.....
ปรเมศยืนมองนันทกรเงยหน้าคุยกับอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเครียดๆแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่อีกฝ่ายกลับยิ้ม มือล้วงกระเป่ากางเกงอย่างสบายๆราวกับสนุกสนานที่ทำให้คนตัวเล็กกว่าเครียดได้................สักพักนันทกรก็เดินกลับมาแต่โดนอีกฝ่ายดึงแขนไว้แล้วก้มลงมาพูดที่ริมหู นันทกรยิ้มชวนเสียวสันหลังแล้วพูดบางอย่างให้อีกฝ่ายยกมือยอมแพ้แต่โดยดี
“กลับกันเถอะครับพี่เมศ”นันทกรชวนอีกฝ่ายกลับเสียงเรียบ ปรเมศรีบทำตามทันที เค้าหันไปมองเด็กน้อยของเค้าที รุ่นพี่ที่ยังคงยืนมองพวกเค้าอยู่ที ความไม่สบายใจและไม่พอใจกลับมาแผ่ซ่านไปเต็มใจของปรเมศอีกแล้วในขณะนี้......
......................................................................
..........................................
..............
...
“ไม่เป็นไรนะอาร์”ปรเมศถามเสียงแผ่ว นันทกรหันมากลับมามอง เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“เป็นอะไรครับ??”
“ก็..........พี่เห็นตั้งแต่อาร์นั่งรถก็เงียบตลอด........เลยไม่รู้ว่าอาร์เป็นอะไรหรือเปล่า.........แล้วพี่รหัสเราหน่ะ....”พอปรเมศพูดถึงอัครเดช นันทกรก็ขมวดคิ้วทันที ดวงตาคู่สวยวาววับ
“ทำไมหรือครับพี่เมศ พี่เก่งทำไม...”ปรเมศรีบส่ายหัว
“เปล่า........แค่พี่จะถามว่าเรามีอะไรกับพี่รหัสหรือเปล่า.........พี่ว่าเราดูแปลกๆไปตั้งแต่เจอพี่รหัสคนนั้นนะ”นันทกรพยักหน้าเข้าใจ ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ทิ้งตัวลงไปจมกับเบาะที่นั่ง
“ไม่มีอะไรหรอกครับ...........แค่พี่เก่งเค้าแปลกๆ.......เลยไม่รู้จะทำตัวยังไงกับเค้าดี”
“แปลกยังไง??”นันทกรเหลือบมองปรเมศเหมือนไม่แน่ใจที่จะพูดก่อนจะยอมเปิดปาก
“เหมือนเค้าจะจีบผม..........ไม่รู้สิพี่เมศ ผมอาจจะคิดมากไปเอง คงไม่มีอะไรหรอกครับ”พอดีที่นันทกรพูดจบ ปรเมศก็จอดรถตอนไฟแดงพอดี
“แล้วถ้าเค้าจีบอาร์จริงๆจะทำยังไง พี่ว่าไม่ค่อยปลอดภัยแล้วนะ เราไม่รู้ว่าเค้าจะทำอะไรขึ้นมาหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบในข่าวที่พอไม่เล่นด้วยก็เอาไปข่มขืนแล้วฆ่าจะทำไง??”ปรเมศหันมาถามด้วยความร้อนรนเป็นห่วง ความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เค้าไม่อยากให้น้องชายคนนี้ไปคลุกคลีกับคนที่เค้าไม่ถูกชะตาด้วย
“พี่เมศพูดซะน่ากลัว........แล้วจะให้ทำยังไงละครับ เค้าเป็นพี่รหัสของผมนะ........หนีกันยังไงก็ไม่พ้น”
“นั้นสินะ”ปรเมศทำท่าครุ่นคิด เค้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเช่นกัน
“งั้น........ถ้าพี่เมศไม่ลำบาก..........พี่เมศแกล้งทำตัวเป็นแฟนผมได้ไหมครับ??”
“ห๋า!!!”ปรเมศหันขวับ ร้องอย่างตกใจ
“ไฟเขียวแล้วพี่เมศ”นันทกรพูดขึ้น ปรเมศจึงจำใจขับรถต่อ และหยุดเรื่องที่คุยกันไว้ก่อน
เมื่อรถคันหรูมาถึงหน้าบ้านแล้ว ปรเมศกลับไม่ใช้รีโมทเปิดประตูรั้วแต่กลับจอดรถและหันมาคุยกับอีกคนเต็มตัว
“เมื่อกี้อาร์พูดอะไรออกมา รู้รึเปล่า??”ปรเมศถามเสียงเข้ม
“รู้สิ ในเมื่อผมเป็นคนพูดขึ้นมาเอง...........ถ้าอ้างว่าพี่เมศเป็นแฟน เดี๋ยวเค้าก็คงตัดใจไปเอง ดีกว่าที่จะโสดอยู่อย่างนี้แล้วให้ความหวังพี่เค้าไปเรื่อยๆไม่ใช่หรือครับ”นันทกรพูดกล่อม
“แต่ทุกคนก็จะคิดว่าอาร์เป็นเกย์นะ........แล้วชีวิตในมหาลัยของอาร์เป็นยังไง คิดบ้างหรือเปล่า”ปรเมศยังค้านอย่างไม่เห็นด้วย
“ก็ไม่มีใครแล้วนี่ครับนอกจากพี่เมศ จะให้ผมไปหาผู้หญิงที่ไหน.......แถมผมไม่แคร์เรื่องอย่างนี้หรอก ที่เมืองนอกเรื่องอย่างนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาแล้วผมว่าเมืองไทยเองก็ค่อนข้างเปิดรับเรื่องพวกนี้ด้วย”นันทกรแย้งขึ้นมาทันที
“เฮ้อ!!!............”ปรเมศถอนหายใจแรง พิงหัวไปกับเบาะ ยกมือตบเข้าที่หน้าผาก
“น่า......นะครับพี่เมศ........พี่เมศจะช่วยผมสักครั้งได้ไหม........พี่เมศ...”นันทกรเขย่าแขนอ้อน ปรเมศนิ่งไปสักพักก่อนจะผงกหัว
“ก็ได้....”
“ขอบคุณครับพี่เมศ!!!........งั้นเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้เลยนะครับ”นันทกรกอดขอบคุณไปหนึ่งที แล้วผละออกมาพูดต่อ
“แล้วพี่ต้องทำยังไงบ้างละ??”ปรเมศถามอย่างคนไม่รู้
“อืม.......พี่เมศแค่ไปรับไปส่งผมก็พอมั้งครับ แล้วถ้าเกิดพี่เก่งเค้าโผล่ออกมา อาจต้องแสดงละครอะไรนิดๆหน่อยๆ”
“ยังไง??”
“ก็โอบไหล่ ควงแขน แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ....คงงั้นแหละครับ”นันทกรทำท่านึกแล้วไล่นิ้วบอกทีละอย่าง
“อืมๆ ไหนๆก็ตกกระไดพลอยโจนแล้วนี่.........แต่ตอนที่พี่ไม่อยู่ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆละ พี่เป็นห่วง รู้ไหม??”ปรเมศลูบศีรษะน้องน้อยเบาๆ ก้มลงถามด้วยความอ่อนโยน
“อืม.......พี่เมศครับ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับ...”นันทกรพูดจากใจจริง โน้มตัวไปโอบกอดอีกคนแน่น รู้สึกดีกับความอบอุ่นที่ปรเมศมีให้ตลอดมา
เมื่อนันทกรเดินขึ้นห้องของตัวเองไปแล้ว รอยยิ้มใสๆก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที กระโดดลงบนเตียงคว้าตุ๊กตาตัวโปรดมากอดพลาง คิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
……………………………………………………
…………………………..
……………
..
“พี่ต้องการอะไรกันแน่..”นันทกรถามเสียงเรียบแข็ง อัครเดชยังคงยืนยิ้มมือล้วงกระเป๋าท่าทางสบายๆ
“ก็ไม่อะไรนี่ พี่แค่อยากรู้จักพี่ชายของอาร์ก็แค่นั้นเอง เผื่ออาจต้องมีอะไรต้องปรึกษากันบ้าง พี่ทำอะไรผิดงั้นเหรอ”อัครเดชพูดอย่างเสแสร้ง
“.......พี่สนใจพี่เมศ??....”นันทกรถามแบบลองเชิง
“ใช่........สนใจนายด้วยเหมือนกัน.........พวกนายน่าสนุกจะตาย ฉันเคยบอกไปแล้วไง”ท่าทางกวนๆของอัครเดชทำให้นันทกรโกรธขึ้นมา แต่ภายนอกยังคงลักษณะนิ่งๆดั่งเดิมไว้
“พูดกับพี่แล้วปวดหัว........ยังไงพี่ก็ไม่มีทางได้พี่เมศไปหรอกนะ”นันทกรทำท่าเดินผละออกมาแต่โดนคนข้างหลังดึงกลับไปแล้วก้มลงกระซิบที่ริมหู
“มั่นใจขนาดนั้นเชียว.........งั้นถ้าฉันจีบเค้าหรือนายขึ้นมาละ จะทำยังไง”นันทกรเหยียดยิ้มอย่างน่ากลัว
“อย่างผม........พี่ไม่มีทางจีบติดหรอก ส่วนพี่เมศ.........คิดว่าผมจะปล่อยให้พี่จีบได้หรือไง....”อัครเดชหัวเราะก่อนจะยกมือยอมแพ้
“ฮะฮะ!!โอเค.........ยอมแพ้...........แล้วอาร์จะพลิกสิ่งที่ทำเมื่อกี้เป็นโอกาสก็ได้นะ”นันทกรเลิกคิ้วแล้วมองตามสายตาของอัครเดชไปก็เห็นปรเมศที่กำลังชะเง้อมองอย่างเป็นห่วงอยู่จึงหันมายิ้มให้อีกครั้ง
“ถึงพี่ไม่พูด ผมก็ทำแน่อยู่แล้ว”
“แล้วผมก็ทำให้พี่เป็นแฟนกับผมจนได้พี่เมศ.........ถึงจะแค่แฟนหลอกๆก็เหอะ”นันทกรยิ้มพอใจ นอนฝันถึงอนาคตที่ตนจะมีความสุข จากนี้ไปเค้าจะมีปรเมศอยู่เคียงข้างและเค้ามั่นใจว่าปรเมศจะต้องรักและดูแลเค้าตลอดไป.....
////////////////////////////////////////////////
“ว่าไง ที่ฉันให้หามานะได้แค่ไหน.........ให้เวลาตั้งนานหวังว่าคงได้ข้อมูลอะไรดีๆมานะ”หญิงสาวที่นั่งจิบกาแฟอยู่ในห้องรับแขกแสนหรูหราถามขึ้น พลางจิกตามองชายสองคนที่อยู่ตรงข้าม
“ครับคุณแพรวา........ทางเราได้สืบประวัติทั้งหมดของเด็กคนที่คุณแพรวาสั่งไว้ได้เรียบร้อยแล้วครับ อยู่ในแฟ้มนี้ครับ”ชายหนุ่มคนหนึ่งเลื่อนแฟ้มกระดาษหนาบนโต๊ะกระจกเลื่อนให้แพรวา
หญิงสาวรับแฟ้มมาเปิดดูพลิกไล่ไปมาสองสามแผ่นก่อนจะวางลง ใบหน้าแสดงถึงความไม่พอใจ
“เยอะขนาดนี้ ฉันจะไปหาจุดอ่อนมันยังไงละ!!! พวกนายนี้มันไม่ได้เรื่องเลย ไม่รู้จักคัดมาแต่เรื่องเสื่อมเสียของมัน!!”หญิงสาวฮึดฮัด ชายหนุ่มตรงข้ามจึงรีบดึงแฟ้มเข้าตัวแล้วพลิกทันที
“เอ่อ.......ถ้าคุณแพรวาต้องการเรื่องนั้น ผมว่าเรื่องนี้คิดว่าคงจะได้นะครับ”ชายหนุ่มพลิกไปยังหน้าหนึ่งก่อนจะเลื่อนส่งให้หญิงสาว
“ไหน............นี้มัน.....เมศ........ไม่ใช่สิ!!!คล้ายมาก!!.........อเลน โจชัวร์ เจนส์กิน.......ฮึ!!อย่างนี้นี่เอง........”แพรวายิ้มอย่างมาดร้ายก่อนจะหยิบซองหนาซองหนึ่งส่งให้
“เอาไป!!พวกนายทำได้ดีมาก.......ถ้ามีอะไรแล้วฉันจะเรียกใช้ใหม่”ชายหนุ่มทั้งสองต่างเปิดซองเงินออกมาดูตาวาว รีบขอบคุณหญิงสาวก่อนจะเดินออกไป
“ฮึๆ แกเสร็จฉันแน่ ไอ้เด็กเวร”แพรวายิ้มขึ้นอย่างมาดร้ายก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“จองตั๋วเครื่องบินให้ฉันที ฉันต้องการไปอังกฤษ”
///////////////////////////////////
เมื่อยามแสงแดดได้โผล่พ้นปรากฏขึ้นบนขอบฟ้า ผู้คนเริ่มออกสู่นอกบ้านเพื่อเริ่มต้นวันใหม่ นันทกรที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินออกมาแต่งตัวอย่างอารมณ์ดี วันนี้จะเป็นวันแรกที่เค้ากับปรเมศต้องแสดงตัวเป็นแฟนกัน ถ้าเค้าจะประเดิมตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านก็คงไม่แปลกสินะ........หากปรเมศถามที่เค้าทำตัวแปลกๆ ก็บอกว่าเป็นการซ้อมก่อนต้องเผชิญหน้ากับอัครเดชก็ได้
ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคนที่เค้าหวังจะร่วมมือด้วย นันทกรรอสัญญาเล็กน้อยก่อนปลายสายจะรับสายอย่างงัวเงีย
“ว่าไง คุณน้องรหัส........โทรมาหาคุณพี่ตั้งแต่ฟ้าเพิ่งสว่าง มีอะไรให้ช่วยหรือไง”อัครเดชถามเหมือนประชดแต่นันทกรไม่สนใจพูดถามกลับไป
“พี่เก่งวันนี้เข้ามหาลัยรึเปล่า??”
“เข้าสิ วันนี้วันเรียนวันแรก........ถึงพวกนายปีหนึ่งจะไม่มีเรียนวันแรกแต่ก็ต้องเข้าหอประชุม ส่วนปีอื่นก็ต้องเรียนตามปกตินั้นแหละ”
“งั้นพี่มีเรียนกี่โมง??”อัครเดชมองโทรศัพท์ก่อนนิ่งไปสักครู่แล้วถามขึ้น
“ถามทำไม.......จะทำอะไรหรือไง”
“ประมาณนั้น..........สรุปพี่ไปมหาลัยกี่โมง”นันทกรถามอย่างหงุดหงิดที่อีกฝ่ายไม่ยอมตอบแต่โดยดี
“เล่าแผนการให้ฟังหน่อยสิ”อัครเดชยังไม่ตอบ ทำเอานันทกรถึงกลับกลอกตาไปมา
“ทำไมผมต้องเล่าให้พี่ฟังด้วย แค่พี่บอกเวลามามันก็จบ”
“ก็ถ้าแผนการมันน่าสนุก ฉันก็จะได้ช่วยไงละ............บอกแล้วไงว่าฉันสนใจนายสองคนและฉันก็ชอบเรื่องสนุกๆด้วย”อัครเดชยังพูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน นันทกรคำนวณผลดีผลเสียก่อนจะตัดสินใจ
“ก็ได้.........คืออย่างนี้......”นันทกรเล่าแผนการทั้งหมดให้อัครเดชฟัง ร่างเพรียวสูงที่ตั้งอกตั้งใจฟังค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา
“น่าสนุกนิ!!!ตกลง ฉันจะร่วมด้วย นายประชุมตอนเก้าโมงใช่ไหม งั้นฉันจะไปถึงมหาลัยตอนแปดโมงครึ่งละกัน ที่ม้าหินที่เดิมนะ..........อ๋อ!!ฉันมีอะไรสนุกๆจะส่งให้นายด้วย รอรับละกัน แค่นี้นะ”นันทกรวางสายแล้วก็มองโทรศัพท์อย่างสงสัยเพียงครู่เดียวเสียงสัญญาณจดหมายเข้าก็ดังขึ้น นันทกรกดอ่านก่อนยิ้มขึ้น เดินตรงไปห้องของคนที่อยู่ข้างๆทันที
“ก๊อกๆ!!!พี่เมศครับ ตื่นรึยังครับ”นันทกรเคาะห้องปรเมศสักพัก เจ้าของห้องก็เดินผูกเนกไทมาเปิดประตูให้
“ว่าไงอาร์.........เสร็จแล้วหรือ งั้นลงไปทานข้าวเช้ากันเถอะ”ปรเมศเดินนำคนที่มายืนหน้าห้องแต่เมื่อชายเสื้อด้านหลังโดนดึงเบาๆจึงหันกลับไปมองอีกรอบ
“พี่เมศ......”นันทกรทำหน้าดูกระอักกระอ่วนส่งให้ พูดเสียงแผ่ว อ้าปากแล้วหุบลงสองสามครั้ง ปรเมศอดสงสัยไม่ได้จึงต้องหันกลับมาเต็มตัว
“มีอะไรหรือเปล่าอาร์ ดูเราไม่สบายใจนะ”ปรเมศถามขึ้น เด็กหนุ่มฝรั่งยื่นโทรศัพท์ของตนให้ ปรเมศรับมาดู
“นี้มัน.......พี่รหัสเราส่งมางั้นหรือ??”นันทกรผงกหัว ไม่พูดอะไรออกมา ทำเอาปรเมศรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา........เด็กนั้นคงตั้งใจจะจีบอาร์จริงๆ ไม่งั้นคงไม่ส่งข้อความอย่างนี้มาหรอก......
........วันนี้มาเจอกันนะ พี่มีความรู้สึกบางอย่างอยากบอกอาร์ และหวังว่าอาร์จะรู้สึกเหมือนพี่........
ไม่ทันที่นันทกรจะขอโทรศัพท์กลับไป ปรเมศก็จัดการลบข้อความนั้นทิ้งทันที
“ทำไงดีพี่เมศ.........ผมไม่อยากไปเรียนเลยวันนี้ พี่เก่งต้องรออยู่แน่เลย.........ขืนอาร์ปฏิเสธเค้าไป ต่อไปจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้”นันทกรทำท่าหวาดกลัว ปรเมศส่ายหัว
“พี่ว่าอาร์ไม่ควรจะหนีนะ........ไม่ชอบเค้าก็บอกไปซะตั้งแต่เนิ่นๆนั้นแหละดีแล้ว เค้าจะได้ไม่คิดว่าเราให้ความหวัง”
“แต่ว่า.....”ปรเมศจับมือนันทกรขึ้นมา มองดวงตาที่ดูไม่แน่ใจปนระแวงของอีกฝ่ายก่อนคลี่ยิ้มอ่อนโยน
“ไม่เป็นไร........พี่จะอยู่ข้างอาร์เอง........ลืมไปแล้วหรือว่าเมื่อวานเราตกลงอะไรกันไว้”นันทกรพยักหน้า
“พี่เมศจะแกล้งเป็นแฟนกับผมจริงๆใช่ไหม??”
“อืม........แล้วพี่จะช่วยพูดให้เค้าตัดใจจากเราด้วย”ดวงหน้าที่แฝงไปด้วยความกังวลเมื่อครู่ค่อยๆยิ้มออก ปรเมศมองรอยยิ้มนั้นอย่างเอ็นดู.........ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ เค้าจะไม่มีวันให้ใครมาทำให้คนตรงหน้าต้องลบเลือนรอยยิ้มแบบนี้เป็นแน่
“ป่ะ!!ลงไปกินข้างแล้วไปเรียนเถอะ”ปรเมศจูงมือเด็กหนุ่มลงบันได พลางคิดแน่วแน่อยู่ในใจ
‘นายเจอฉันแน่ ไอ้เจ้าพี่รหัสขี้หลี!!!’
ท่าทางฮึดฮัดของปรเมศทำให้นันทกรอดยิ้มสมใจไม่ได้ รู้สึกขอบคุณอีกคนที่ช่วยให้เรื่องมันง่ายขึ้น แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าปรเมศจะทำอะไรอัครเดชหรือเปล่า
‘ถ้าพี่เมศทำอะไรขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นคราวเคราะห์นะพี่เก่ง.....’
ติดตามตอนต่อไป.....
-------------------------------------------------------
Neya : สวัสดีวันโลกแตกคะ!! จงใจลงวันนี้เลยนะคะเนี่ย ถ้าวันนี้โลกไม่แตก วันหน้าจะเอานิยายมาลงต่อนะคะ(ยิ้ม) ตอนนี้เป็นตอนแรกที่ตั้งแต่แต่งมาแต่งได้ติดๆขัดๆที่สุดคะ แก้หลายรอบมาก อ่านแล้วมันยังติดต้องแก้ แก้แล้วแก้อีกไม่รู้เป็นอะไรกว่าจะลงตัวได้สักที วันอาทิตย์ใครไปงานcomic season6 บ้างเอ่ย?? คนเขียนไปด้วยแหละ ไปด้วยความจงใจและพอดีกับที่ต้องทำงาน ด้วย หึหึ งงอะดิ...แบบว่าคนเขียนทำงานอยู่ตรงไปรษณีย์ไทยคะ เถิบCATไปนิดเดียว ใครเห็นคนแต่งชุดโปโลแดง ทักกันได้นะคะ หุหุ วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า ไว้เจอกันหลังโลกแตกนะคะ(ฮา)
ปล. พี่Angel_K จบจากมหาลัยที่มีพระพิฆเนศเป็นองค์ประจำมหาลัยหรือเปล่า!!! o22 กรี๊ดๆ คนเขียนรุ่น 07500xxx คะ
-
โอ๊ะโอ
แสบกันน่าดู วางแผนกันเก่งจริงๆเลยนะ
น้องอาร์
รออ่านต่อนะคะ
-
แพรวาจะทำอะไรเนี่ย อยากรู้อ่ะ เป็นห่วงอาร์แล้วสิ พี่เมศก็ไม่เปิดใจสักที
-
อยู่ๆก็ได้แนวร่วมมาซะงั้น
แต่แพรวาคิดจะทำอะไรกันแน่นะ
แล้วนายอเลน โจชัวร์ เจนส์กิน นี่มันใครละเนี่ย
-
แย่แล้วยัยนั่นรู้เรื่องซะแล้ว
แผนสูงนะจ๊ะน้องอาร์ อิอิ
-
เหมาะกันจริงพี่รหัส-น้องรหัส เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย o21
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
:call: :call: :call:
-
แสดงว่า อเลน ยังมีชีวิตอยู่ ตอนแรกคิดว่าตายแล้วซะอีก เหอๆ
เอา อเลนมาคู่เก่ง ก็ได้นะ อิอิ
ต่อๆ
-
:pig4: อาร์แผนการณ์ดีแฮะ อีกไม่นานคงได้เป็นแฟนกันจริงจริง :a2: แถมมีพี่รหัสคอยสนับสนุนด้วย แต่ระวังตัวมากมากนะช่วงนี้ แพรวาอะไรนั้นไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร แต่ต้องเกิดเรื่องแน่เลย
-
ผู้หญิงคนนั้นคิดจะทำอะไร อาร์จะทำยังไงกันนะนั่น
-
ยัยแพรวาก็ยุ่งไม่เลิก :fire: :fire: :fire:
ฝั่งทางนี้ก็ไม่รุเรื่องเล้ยว่าเค้าวางแผนจะทำอะไร
-
โอ้ยยยเราละเป็นห่วง นี่ถ้าเมศรู้ความจริงขึ้นมาแล้วจะมาม่ามั้ยอะ เครียดล่วงหน้าแล้วเนี่ย :z3:
ขอให้นังแพรวาตกเครื่องบินตายยยยยยยยยย :angry2:
-
เพี้ยง อเลน อะไรนั่นขอให้ตายไปเลยนะ เพราะดูจากลักษณะของอาร์แล้วตอนที่พูดถึงดูท่าว่า เศร้าขนาด
เพราะงั้นขอให้อเลนตายจริง เพราะยัยแพรวาจะได้ไปเสียเที่ยว โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆ
พี่เมศก็ซึนได้อีก เรื่มรู้สึกแล้วอ่ะดิ พี่เก่งก็นะ ใช้ได้ๆ
ส่วนนายเอกร้ายได้ใจ ชอบมากๆ แต่อาร์ก็ไม่ระวังเลยนะว่าเดี่ยยวนี้เค้าสืบประวัติกันได้
อย่าให้ดราม่าเลยนะ เพราะไม่งั้น อ่านไปตาแฉะแน่ๆ
ปล.เพิ่งอ่านสนุกมากชอบๆ มาต่อไวๆคับ
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
อาร์รุกนักจริงๆ 555
-
เอาแล้ววว แผนของอาร์ได้ผลดีแฮ่ะ :oni2:
ว่าแต่แพรวาเธอมีแผนอ่ะอีกเนี่ยยย :angry2:
รอตอนต่อไปนะฮะ :')
-
รอตอนต่อไปจ้า อาร์แบบว่าแผนเยอะนะ แต่แพรวาจะมาแนวไหนเนี่ยะ เดาไม่ถูก
-
สนุกค้าบบบบ รออ่านๆๆ
-
เหอๆ แผนมากอย่าพลาดซะเองก็แล้วกัน
-
น้องอาร์ความไม่จริงใจของหนูมันจะส่งผลในบั้นปลายนะ
-
กรี๊ดดดด พี่รหัสกับน้องรหัส
เคมีเข้ากันดีแท้ :z2:
อย่างนี้พี่เมศจะไปไหนรอดดด :z1:
ว่าแตยัยแพรวาจะเอาไงเนี่ยย ชริ :m16:
-
ติดตามตอนต่อไปอยู่นะคร้า:-)
-
ตอนที่ 9 :: จูบแรก... ::
“เฮ้ย!!เก่ง มาแต่เช้าเชียวนะมึง!วันนี้ไม่มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอวะ”เพื่อนคนหนึ่งของอัครเดชพูดขึ้น เมื่อเห็นเจ้าตัวโผล่เข้าที่โต๊ะกลุ่ม ทั้งๆที่วันนี้ชั่วโมงของพวกเค้ามีภาคบ่ายเท่านั้น
“ทีมึงยังมาแต่เช้าได้เลย ทำไมกูจะมาไม่ได้”อัครเดชหยิบน้ำดื่มของเพื่อนมาดูดจ๊วบก่อนนั่งกระดิกเท้าสบายๆ
“กูมาส่งน้องแพรวแฟนกู แต่อย่างมึงกูไม่เห็นเคยตื่นเช้าได้ถ้าไม่มีเรียนก็เลยสงสัย..........บอกมาดีกว่ามึงจะมาทำอะไรกันแน่ คนเจ้าแผนการอย่างมึงเนี่ยมาเช้าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ”ชายหนุ่มถามอย่างรู้ทัน อัครเดชไม่ตอบ เพียงยิ้มบางๆแล้วหันหน้าไปมองนู้นมองนี่ก้มมองนาฬิกาแล้วยิ้มกริ่มเมื่อใกล้ถึงเวลา
ไม่นานเท่าไหร่รถหรูคันสวยก็จอดลงที่หน้าคณะวิทยาศาสตร์ ใกล้ๆกับบริเวณที่อัครเดชนั่งอยู่ ชายหนุ่มลุกขึ้นทันทีพลางคลี่ยิ้มกว้างจนน่าขนลุกเมื่อเห็นใครเดินลงมา
“ไงครับน้องอาร์ วันนี้เจอกันแต่เช้าเลยนะครับ”นันทกรสะดุ้งเมื่อเห็นใครมายืนอยู่ด้านหลังก่อนจะทักเสียงแผ่ว
“พี่เก่ง.......สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ ได้รับข้อความที่พี่ส่งไปแล้วใช่ไหม??”ชายหนุ่มยังถามอย่างอารมณ์ดี เอามือไขว้หลังยืนเอนไปด้านหน้าจนใบหน้าอยู่ใกล้กับคนที่ตนกำลังพูดด้วย
“อ๊ะ อืม.....ได้แล้ว.......พี่เก่งครับ.....ใกล้ไปแล้วครับ..”นันทกรพยายามถอยหลังเพื่อให้ช่องว่างระหว่างเค้ากับอัครเดชมากขึ้น แต่อีกคนเหมือนจะจงใจก้มต่ำลงมากว่าเดิมเพื่อให้ชิดกันมากขึ้น
“ทำไมละครับ??..........ก็พี่อยากอยู่ใกล้อาร์นี่ ผิดหรือ??”อัครเดชถามเสียงหวาน ดวงตาสีดำนั้นช่างหวานเยิ้มจนเลี่ยน
“มันคงจะไม่ผิดหรอกครับ ถ้าคนที่น้องกำลังยื่นหน้าเข้าไปไม่ใช่อาร์”ร่างสูงใหญ่ดึงร่างเพรียวของเด็กในปกครองเข้าอกจนเหมือนแถมจะจมลงไปในอ้อมกอดแข็งแรงนั้น
“พี่เมศ”นันทกรเงยหน้าเรียกชื่อคนที่เข้ามาขัดจังหวะอย่างดีใจ ปรเมศส่งยิ้มปลอบให้
“อ้าว........คุณพี่ชายนั้นเอง สวัสดีครับ.........วันนี้ก็มาส่งอาร์หรือครับ ที่จริงไม่ต้องมาส่งก็ได้นะครับ ให้ผมไปรับอาร์ที่บ้านก็ได้”
“ไม่ต้องหรอกครับ น้องผมผมส่งเองได้”ปรเมศพูดเสียงเย็น
“แต่คุณพี่ก็น่าจะเปิดโอกาสให้ผมได้ทำความรู้จักน้องรหัสตัวเองบ้างนะครับ.......เผื่อบางทีจะได้เปลี่ยนสถานะจากพี่รหัสเป็นอย่างอื่นบ้าง”คำพูดของอัครเดชพร้อมแววตาที่ดูเหมือนจะชวนให้ยั่วโมโหนั้นทำให้ปรเมศรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันทีและรู้สึกเป็นห่วงนันทกรเมื่อยามที่ตนเองไม่อยู่ด้วยว่าจะโดนพี่รหัสคนนี้รังควานแค่ไหน
“แล้วน้องต้องการเปลี่ยนสถานะพี่รหัสเป็นสถานะอะไรละ??”ปรเมศถามลองเชิง แน่นอนว่าอัครเดชไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดมือ รีบพูดให้เรื่องถึงจุดไคล์แมกซะที
“ก็เช่นสถานะแฟ....”
“ถ้าสถานะนั้นคงไม่ได้เพราะสถานะนั้นมันเป็นของผมอยู่ก่อนแล้ว!!”ท่ามกลางตึกคณะวิทย์ที่ผู้คนเดินผ่านไปมา ทุกคนต่างอึ้งเมื่อได้ยินการประกาศของปรเมศ
ที่จริงเสียงของปรเมศก็ไม่ได้ดังนัก ถ้าเป็นเวลาปกติทุกคนคงจะไม่ได้ยิน แต่เมื่อเป็นสภาวะที่มีรถยนต์คันหรูจอดขวางอยู่หน้าตึกและที่รถนั้นมีผู้ชายร่างสูงสองคนกำลังเถียงอะไรบางอย่างกันอยู่โดยมีเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าเล็กน้อยยืนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่ง ก็ทำให้ต่อมอยากรู้เรื่องชาวบ้านของคนบริเวณทำงานขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงและเป็นเป็นใจให้รอบข้างไม่มีเสียงรบกวนแม้แต่น้อย ดังนั้นเมื่อปรเมศประกาศคำพูดออกมา ทุกคนจึงได้ยินโดยทั่วกัน
นันทกรที่อยู่ในอ้อมกอดนั้นยืนยิ้มอย่างสมใจ มองไปรอบๆเห็นว่ามีหญิงสาวหลายคนทำท่าเสียดายกันใหญ่เมื่อรู้ว่าพี่ชายของเค้ามีแฟนแล้ว
“หืม??........คุณพี่ชายพูดอะไรออกมานะ ในเมื่อคุณกับน้องอาร์เป็นพี่น้องกันแล้วจะมาเป็นแฟนกันได้ยังไงกัน........พี่กะจะกันท่าผมก็บอกมาเถอะ”อัครเดชพูดเสียงเยาะ ไม่เชื่อในสิ่งที่ปรเมศพูด
“ไม่เชื่อก็เรื่องของนาย แต่ว่าหากนายยังคงแสดงท่าทางหรือส่งเมสเสจบ้าๆนั้นมาให้อาร์อีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”ปรเมศพูดขู่ แต่อัครเดชยักไหล่
“ในเมื่ออาร์ยังว่างอยู่ พี่ก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามผมไม่ให้จีบอาร์ ถ้าพี่เป็นแฟนอาร์จริง แน่จริงก็พิสูจน์มาสิว่าเป็นจริงๆ”อัครเดชท้า ปรเมศคิดหนัก เค้าไม่รู้ว่าจะหาวิธีไหนมาแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเค้ากับนันทกร เด็กน้อยของเค้าหันมามองเค้าอย่างวิตก เมื่อหันไปมองอีกคนก็กำลังยืนยิ้มเยาะเค้าอยู่เช่นกัน
“ว่าแล้วว่าต้องไม่ใช่.........เพราะงั้นน้องอาร์ครับพี่.....”อัครเดชยื่นมือเข้ามาหานันทกร เด็กหนุ่มสะดุ้ง ยิ่งเบียดตัวเข้าหาคนตัวใหญ่และนั้นทำให้ปรเมศต้องตัดสินใจทำเรื่องบ้าๆที่ไม่เคยคิดจะทำขึ้นมาก่อนในชีวิต!!
“พี่....อืม!!...”ริมฝีปากได้รูปถูกประทับด้วยกลีบปากของอีกคน ดวงตาของนันทกรเบิกขึ้นอย่างตกใจ คนบริเวณรอบๆต่างฮือฮากันเสียงดัง เมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนจูบกันกลางที่สาธารณะ แต่ปรเมศไม่สนใจ ริมฝีปากของเค้ายังคงเล็มลิ้มชิมปากนิ่มๆนั้นอย่างเผลอตัว.........หวาน......นั้นแหละคือความรู้สึกเดียวที่มี....
“อึ!!อื้มมมมมม!!”เสียงประท้วงเล็กๆที่ดังจากปากที่เข้าบรรจงจูบอยู่ทำให้สติกลับคืนมา ปรเมศรีบถอยออกทันที มองนันทกรที่หน้าแดงก่ำ ก่อนมองไปรอบๆที่กำลังอ้าปากค้างกันทั้งนั้นไม่เว้นแม่แต่อัครเดช
“อ๊ะ!!!เอ่อ!!อาร์......คือ......ไปกันเถอะ!!”ด้วยความอายประชาชีที่มองอยู่รอบๆ ปรเมศก็รีบจูงคนที่เค้าเพิ่งจูบเมื่อครู่ขึ้นรถและขับออกไปทันที โดยไม่รู้เลยว่าบริเวณนั้นเพื่อนใหม่ของน้องชายกำลังยืนอ้าปากหวอกันอยู่
“กรี๊ดดดดดดดด!!แก!!เมื่อกี้มันอย่างกะนิยายวายเลยแก”เชอร์รี่กรี๊ดเบาๆอย่างห้ามอารมณ์ไม่อยู่
“อ๊ายยยยยยนั้นสิแก ทำไมไม่มีผู้ชายมาทำอย่างนี้กับฉันบ้างนะ อั๊ยยะ!!แม่จะจับกดมันซะตรงนี้เลย”โฟนพูดพลางกัดผ้าเช็ดหน้าไปมา
“หื่นไปแหละแก แต่ไม่น่าเชื่อเลย ไม่นึกว่าอาร์กับพี่ชายจะเป็นแฟนกันเนอะ อ๊อฟ..”เพนหันไปถามเพื่อนร่างสูงข้างๆแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นว่าอ๊อฟขมวดคิ้วแน่นเหมือนมีอะไรในใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่าอ๊อฟ..”เพนถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง อ๊อฟหันกลับมามองด้วยสายตาที่สื่อความหมายไม่ออกก่อนส่ายหัว
“เปล่า........ไม่มีอะไร”
///////////////////////////////////////////////////
“เอ่อ พี่เมศ.....”เสียงเรียกแผ่วๆของนันทกรทำให้ปรเมศหันมามอง ก่อนจะรีบเบือนหน้ากลับไปมองถนนด้วยความประหม่า
“วะ ว่าไง”ปรเมศพูดตะกุกตะกัก พยายามไม่มองหน้าคนข้างๆ
“เรา......จะไปไหนกันหรือครับ??”ว่าแล้วปรเมศก็นึกได้ เมื่อมองป้ายก็พบว่าตัวเองกำลังจะออกนอกเมืองเสียแล้ว จึงรีบจอดรถเข้าข้างทางทันที
เมื่อจอดรถเข้าข้างทาง บรรยากาศกระอักกระอ่วนก็กลับมาครอบงำทันที ร่างสูงรู้สึกผิดที่ล่วงเกินเด็กในปกครองตัวเองจนไม่กล้าสู้หน้าคนที่ถูกจูบ ยิ่งนันทกรไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเค้ายิ่งรู้สึกแย่ กลัวนันทกรจะรู้สึกไม่ดีกับเค้าเสียแล้ว
“อาร์.......คือ......พี่ขอโทษ”ปรเมศพูดออกมาเสียงเบา ก้มหน้าก้มตารับความผิด
“อาร์จะว่าพี่ จะต่อยพี่ก็ได้..........อาร์คงรู้สึกแย่ที่ถูกผู้ชายด้วยกันจูบ.........พี่ขอโทษ ตอนนั้นพี่มันเสียสติไปแล้ว........พอโดนหมอนั้นท้ามากๆก็เลย.......”
“พี่เมศครับ หันมามองผมหน่อย.....”นันทกรบอกเสียงเรียบ ปรเมศจึงเงยหน้าขึ้นมองอีกคน ก็เห็นดวงตาแบ๊วที่ถูกส่งกลับมา
“ผมยอมรับว่าผมตกใจ.........แต่ผมไม่เคยรังเกียจพี่เมศนะ”นันทกรบอกก่อนประคองแก้มอีกคนมาใกล้ ปากแดงจุมพิตที่แก้มสากเหมือนกำลังปลอบขวัญเด็กทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายโดนกระทำ
“พี่ขอโทษ พี่สัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก.....”ปลายนิ้วที่หยุดที่ริมฝีปากและใบหน้าหวานที่ยิ้มส่งมาให้คล้ายกับสุราที่ทำให้เมามาย ปรเมศรู้สึกเหมือนคนตรงหน้าไม่ใช่เด็กน้อยของเค้าตามเดิม นันทกรดูราวกับผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์น่าค้นหา นั้นทำให้ปรเมศคล้ายเหมือนอยู่ในภวังค์
“พี่เมศ..........อาร์อยากรู้เรื่องของผู้ใหญ่ พี่เมศสอนอาร์นะ...”แล้วนั้นก็เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนริมฝีปากของทั้งสองจะเข้าหากันจนแนบสนิท.......
......................................................................
...............................................
.................
....
“สวัสดีครับบอส วันนี้เข้ามาบ่ายเลยนะครับ วันนี้เรามีหมายกำหนดการดังนี้นะครับ.........เอ่อ บอสครับ??”เลขาหนุ่มเรียกเจ้านายที่วันนี้เข้ามาเสียบ่ายนั่งเหม่อเหมือนไม่สติอยู่กับตัว ขนาดเอามือไปปัดๆด้านหน้าก็ยังไม่รู้สึก
“บอสครับ......”ปัดไปมาสองหน
“บอสครับ........”ปัดไปมาอีกสี่หน
“บอสครับ!!!!!”คราวนี้นภดลถึงกับตะโกนใส่หู ทำเอาบอสหนุ่มสะดุ้งหันขวับมาทันที
“หะ ห๋า!!มีอะไร...”ปรเมศถามตะกุกตะกัก นภดลถึงกับส่ายหัว
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ บอส........ผมเรียกตั้งนาน ก็ยังเหม่อตลอดเลย ไม่สบายหรือเปล่าครับ??”
“เปล่าๆ ผมไม่เป็นไร..........แล้วมีอะไรหรือเปล่า ถึงมาเรียกผม??”ปรเมศกลับมานั่งหน้าเข้มในมาดผู้บริหารเหมือนเดิมตั้งใจฟังเลขาหนุ่มรายงานตารางงานที่จะทำวันนี้........
“โอเค........งั้นเดี๋ยวรบกวนคุณเอาเอกสารโปรเจ็คที่เราจะเริ่มเดือนหน้ามาให้ผมพิจารณาด้วย”
“ครับบอส”ว่าแล้วนภดลก็ออกไป ปล่อยให้บอสหนุ่มถอนหายใจแล้วเลื้อยไปกับเก้าอี้ตัวนุ่ม
“ให้ตายเหอะเรา ดันทำไปได้ไงนะ....”ปรเมศเอามือตบหน้าผากแล้วคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสองชั่วโมงก่อนขึ้นมาอีกครั้ง
“อืมมมมม.....อึก อืมมมม”ปากแดงๆของนันทกรราวกับขนมหวานชั้นยอดที่ทำให้ปรเมศลุ่มหลง มึนเมา
เสียงของการแลกจูบกันดังเพียงแผ่วเบาในความเป็นจริง แต่กลับดังก้องในหัวของปรเมศ........หวาน......นั้นอาจเป็นความรู้สึกเพียงอย่างเดียวที่ปรเมศสัมผัสได้ในขนาดนี้........ยิ่งท่าทางจูบตอบที่ดูไม่ประสานั้นยิ่งทำให้ปรเมศหลงใหล ฮึกเหิมกับการได้เป็นเจ้าของริมฝีปากนี้.........ครั้งแรกงั้นหรือ??........ความคิดของปรเมศดังขึ้นมาฉับพลัน......
มือแกร่งเริ่มไล้ลงไปที่แผ่นอกบางที่ถูกปกคลุมด้วยชุดนักศึกษาสีขาว เพียงสะกิดแผ่วเบา กระดุมเม็ดแรกและที่สองก็หลุดอย่างง่ายดาย มือหนาล้วงไปสะกิดตุ่มไตเล็กๆบนแผ่นอกนั้น
“อ๊ะ!!”เสียงครางของนันทกรเรียกสติของปรเมศกลับมา ร่างสูงทำท่าจะถอยห่างของจากร่างที่ยั่วเย้าตรงหน้าแต่วงแขนเล็กกลับโอบรอบคอเค้าและดึงให้เข้ามาใกล้ใบหน้าตนเองอีกครั้ง
“พี่เมศ.....”เสียงเรียกอ้อนๆพร้อมดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยภายใต้แพขนตาหนาช้อนมองพี่ชายในนามของตนอย่างเพ้อๆ ริมฝีปากแดงสดเคลือบมันวาวจากการกระทำเมื่อครู่ถูกแลบเลียเหมือนคนกระหาย ปรเมศมองภาพตรงหน้าแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก.........เซ็กซี่ชะมัด!!!....
“อาร์ พี่ว่า......เรา.....”ปรเมศพยายามดึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกลับมา นันทกรเห็นดังนั้นก็จึงดึงมือตัวเองออกจากคอของอีกฝ่ายแล้วเอนหัวซบลงที่อกแกร่งแทน
“พี่เมศ........พี่เมศมองผมมากกว่าน้องชายได้ไหมครับ......”ปรเมศกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่นิ้วเรียวกลับปิดปากไว้แล้วนันทกรก็ก้มลงไปกอดอีกครั้ง
“อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยครับ........ผมอยากให้พี่เมศลองดูกันไปก่อน.......นะครับ”เมื่อเห็นดวงตาอ้อนๆนั้นปรเมศก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้ารับอย่างจำยอม นันทกรยิ้มหวานพลางจูบแก้มคนตอบรับแผ่วเบา.......
หลังจากนั้นปรเมศก็พานันทกรไปส่งที่บ้านเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเช้าคงไม่เหมาะที่จะให้กลับไปเรียนอีกครั้งในวันนี้ก่อนที่เค้าจะขับมาที่บริษัทแล้วนั่งเหม่อลอยจนโดนเลขาหนุ่มถามนั้นเอง......
“อาร์นะอาร์........แล้วอย่างนี้พี่จะไปมองหน้าน้าแฟรงค์กับน้าพิมพ์ยังไงเนี่ย เฮ้อ!!!”ชายหนุ่มซบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน.......กลัวใจตัวเองว่าวันข้างหน้าอาจทำเรื่องผิดต่อพ่อแม่ของนันทกรก็เป็นได้.....
/////////////////////////////////////////////////
“มิสวินแฮมครับ อาร์เธอร์เค้าไปอยู่ที่ไหนกันแน่ครับ ผมโทรไปกี่ทีก็ไม่ยอมรับ แล้วผมไม่เข้าใจว่าทำไมอาร์เธอร์ต้องไปเข้ามหาลัยที่ประเทศอื่นด้วย มหาลัยประเทศเราที่ดีๆก็มีตั้งเยอะแยะ”ชายหนุ่มคนหนึ่งถามขึ้น ดวงตาคมจ้องเขม็งไปทางแม่ของคนที่เค้าต้องการเจอ
“ฉันบอกไม่ได้หรอกจ๊ะ เจนส์กิน........อาร์เธอร์ไม่ต้องการให้ฉันบอกกับเธอว่าเค้าอยู่ไหน”พิมพิกายกชาขึ้นจิบพลางยิ้มแบบลำบากใจส่งให้ชายหนุ่มที่เธอเคยเห็นแต่เล็กแต่น้อย.......
“ถ้าคุณพูดอย่างนี้แปลว่าอาร์เธอร์คงคิดจะทำอะไรแผลงๆอีกแล้วซินะครับ......”ชายหนุ่มพูดพลางถอนหายใจยาว ยกมือขึ้นนวดขมับ รู้สึกปวดหัวกับความดื้อที่ไม่มีวันสิ้นสุดของใครบางคน
“ปล่อยให้เค้าทำไปเถอะจ๊ะ..........อย่างน้อยที่เค้าทำอะไรแผลงๆก็ดีกว่านั่งบื้อใบ้อย่างตอนนั้น....”ดวงตาสีดำหวานมองน้ำชาในแก้วกระเบื้องเคลือบสีขาวอย่างเศร้าโศก
ภาพยามที่ลูกชายของเธอนั่งอยู่ในห้องมืดที่รายล้อมไปด้วยข้าวของที่เละเทะกระจัดกระจาย ดวงตาคู่สวยที่ถอดจากผู้เป็นสามีเหม่อลอยและเปรอะเปื้อนด้วยน้ำตาที่ไม่ขาดสาย ริมฝีปากแห้งผากมักกัดแน่น ข่มความรู้สึกข้างใน ตามร่างกายมีแต่รอยแผลขีดข่วนและฟกช้ำจากการอาละวาดและโดนสิ่งของกระแทก สิ่งที่อยู่ในสายตามีแต่เพียงภาพที่เล่นในโทรทัศน์เท่านั้น...........ภาพเหล่านั้นยังติดตาของเธอจนทุกวันนี้......หากสิ่งใดที่หากลูกชายทำแล้วมีความสุข เธอก็ไม่อยากขัดขวาง เธอจึงปล่อยให้ลูกชายไปอยู่เมืองไทยทั้งๆที่ไม่ควรเลย.......
“นั้นสินะครับ......”ชายหนุ่มยกชาขึ้นจิบเล็กน้อยก่อนถอนหายใจออกมาแรงๆ
“ชาอร่อยมากครับ ไว้วันหลังผมจะมารบกวนดื่มเป็นเพื่อนอีก”ชายหนุ่มจับมือที่ยังเต่งตึงผิดวัยของอีกฝ่ายขึ้นมาจุมพิตเบาๆตามธรรมเนียม หยิบโค้ทสีเข้มที่แขวนบนราวด้านหลังมาใส่
“ถ้าเกิดอาร์เธอร์ติดต่อมา บอกให้เค้าโทรหาผมบ้างนะครับ ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจสืบหาที่อยู่แล้วบุกไปเอาตัวกลับมาแน่ๆครับ”
“จ้าๆ ไว้ฉันจะบอกให้”พิมพิกาหัวเราะคิก พลางรับปาก ชายหนุ่มโค้งให้เล็กน้อยก่อนเดินจากไป ทิ้งให้พิมพิกาถอนหายใจอย่างลำบากใจ
“แม่ช่วยลูกได้แค่นี้นะอาร์ ถ้าเจนส์กินเค้าจะตามสืบเอง แม่ก็ไม่รู้ด้วยแล้วนะ....”
////////////////////////////////////////////
เมื่อยามเช้าได้มาเยือนอีกครั้ง ปรเมศที่แม้จะยังลำบากใจที่จะมองหน้านันทกรก็ยังคงรับทำหน้าที่ ‘แฟนกำมะลอ’ อย่างดีเพราะด้วยความเป็นห่วงกลัวพี่รหัสจอมขี้หลีบางคนจะมาเกาะแกะให้ร่างบางรู้สึกไม่ดีอีก แต่เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเมื่อวานก็อดไม่ได้ที่จะเกร็งขึ้นมาทันที
“พี่เมศไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้ครับ ทำอย่างกะผมจะจับพี่เมศกินอย่างนั้นแหละ”นันทกรเอ่ยแซวเมื่อเห็นคนขับนั่งตัวเกร็ง เงียบไม่พูดไม่จาตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกัน
“ก็.....ก็......เฮ้อ!!!!.........อาร์เล่นพูดอย่างนั้นกับพี่เมื่อวานแล้วยังเรื่องจูบอีก........เฮ้อ!!พี่รู้สึกผิดกับพ่อแม่อาร์มากๆเลยนะ.........พี่ว่าอาร์คิดใหม่เรื่องพี่เถอะ”
“ทำไมละครับ พี่เมศรังเกียจผมหรือ??”นันทกรตีหน้าเศร้าถามคนที่ขับรถอยู่
“พี่ไม่ได้รังเกียจ.......แต่.......เราเป็นผู้ชายทั้งคู่นะอาร์.............พี่ไม่ได้ชอบผู้ชาย.........แล้วยังเรื่องการยอมรับทางสังคมอีกละ”
“พี่เมศไม่ใช่ไม่ชอบผู้ชาย แค่ไม่เคยชอบผู้ชายต่างหากละครับ.........แล้วถ้าพูดเรื่องสังคมเดี๋ยวนี้สังคมเปิดกว้าง ผมเห็นคนที่เป็นชายรักชายแล้วเป็นที่ยอมรับก็มีตั้งเยอะ มันอยู่ที่การวางตัวมากกว่าครับ”นันทกรเถียงซึ่งก็จริง ทำเอาปรเมศถึงกับนิ่งอึ้ง ขับรถโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
นันทกรเม้มปากอย่างไม่ได้ดั่งใจก่อนเอนหัวซบลงบนบ่าของคนที่ขับรถอยู่ ปรเมศเหลือบหันไปมองก่อนจะถอนหายใจ เอื้อมมือข้างหนึ่งไปลูบผมนิ่มแผ่วเบา
“พี่เมศยังไม่ต้องรีบตัดสินใจตอนนี้ก็ได้ แต่ให้ผมได้พยายามเถอะนะครับ ถ้าผมเหนื่อยที่จะตามความรักของพี่เมศเมื่อไหร่.............ผมจะกลับไปเป็นน้องชายที่น่ารักของพี่เมศเหมือนเดิมเองครับ”ปรเมศไม่ได้ตอบรับอะไร มือแกร่งตบเบาๆที่ผมสีน้ำตาลเป็นเชิงรับทราบเท่านั้น
“เฮ้ย!!ไอ้เก่ง น้องรหัสสุดที่รักของมึงมาแล้วเว้ย”เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของอัครเดชทักขึ้นพลางส่งสายตาล้อเลียน ร่างโปร่งที่ดูดน้ำอยู่มองตามก่อนยกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นคนตัวสูงจ้องมาที่เค้าเขม็ง พยายามรั้งเด็กหนุ่มฝรั่งไว้ด้านหลัง สายตาที่จ้องมองมานั้นทำให้คนโดนจ้องรู้สึกดีเป็นที่สุด จะว่าเค้าโรคจิตก็ได้แต่เวลามีคนมองอย่างอาฆาตแค้นเนี่ยแหละที่ทำให้เค้ารู้สึกยิ่งกว่าดูหนังโป๊เสียอีก!!
“เห็นที่เค้ามองแล้วกูขนลุกแทนมึงเลยวะ”เพื่อนอีกคนพูดแบบสยอง
“แต่กูเห็นแล้วอย่างอื่นลุกวะ”อัครเดชพูดติดตลกเลยโดนเพื่อนโบกไปที
“ทะลึ่งแหละมึง!!เดี๋ยวก็โดนพี่ชายหน้าหล่อนั้นเจี๋ยนหรอก.........ว่าแต่มึงจะจีบน้องรหัสมึงจริงๆเหรอ”อัครเดชหันมามองก่อนยักคิ้ว
“ไม่รู้สิ”ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนเดินไปหานันทกรที่ยืนอยู่คนเดียวโดยไร้เงาร่างสูงเมื่อครู่
“คุณพี่ชายกลับไปแล้วหรือ??”นันทกรหันมามองก่อนพยักหน้า
“ครับ..........ขอบคุณเรื่องเมื่อวานนะครับ”
“ไม่เป็นไร..............แลกกับความสนุกเมื่อวานกับสายตาที่จ้องมาวันนี้ก็คุ้มแสนคุ้ม.........แล้วไงได้ผลไหม”นันทกรส่ายหัว
“ได้ผลแต่ไม่ตามคาด แค่รับพิจารณา พี่เมศใจแข็งเกินคาด ทั้งๆที่เป็นเพล์บอยแท้ๆ”
“เร็วเกินไปมักจะผิดพลาด ช้าๆก็ได้นี่น่า”ดวงตาของนันทกรเป็นประกายกล้า เหลือบมองหน้าจอมือถือแวบหนึ่ง
“เวลาของผมมีไม่มาก........ใครบางคนต้องการให้ผมกลับอังกฤษ ถ้าหมอนั้นรู้เรื่องพี่เมศต้องพาผมกลับแน่”อัครเดชทำท่าสนใจขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางเครียดของนันทกร ทั้งๆที่ปกติเจ้าตัวจะดูชิวๆกับปัญหาทุกเรื่องแท้ๆ กลับเคร่งเครียดขนาดนี้ คนๆนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่....
“เห๋!!คนๆนั้นเป็นใครกันละ น่าสนุกแฮะ คนที่ทำนายเครียดได้ขนาดนี้”นันทกรหันมามองก่อนยกยิ้ม
“ท่าทางพี่จะชอบเรื่องแรงๆนะ”
“หึหึ ชอบสิ ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจคนมันยิ่งน่าสนุก”อัครเดชยิ้มกว้างพลางนึกถึงสายตาเมื่อครู่ที่ปรเมศจ้องมา ตัวก็สั่นสะท้านปลาบปลื้มทันที
“ถ้าหมอนั้นมาเมื่อไหร่ ผมจะประเคนให้พี่เลยละกัน คงสมกันดี......”นันทกรพูดเสียงเรียบออกแนวประชดประชัน
อัครเดชหัวเราะแผ่วโดยไม่รู้เลยว่าโชคชะตาจะชักนำให้ได้พบกับใครบางคนคนนั้นในอีกไม่นาน..........และไม่รู้เลยว่าการพบกันของทั้งคู่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของแต่ละฝ่ายไปแบบนึกไม่ถึงเลยทีเดียว.......
ติดตามตอนต่อไป....
------------------------------------------------
Neya : สวัสดีปีใหม่คะ!! :mc4: ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ปีที่แล้วเนอะ หึหึ ขอโทษที่มาต่อช้าเป็นหวัดข้ามปีกันเลยทีเดียว นอนซมคะ พอลุกไหวหน่อยก็ต้องทำงานแล้วเลยไม่มีเวลามาพิมพ์ต่อเลย ตอนนี้ก็ยังไม่หายดีคะ เดี๋ยวจะไปนอนแล้ว ยังไงก็โปรดติดตอนต่อไปนะคะ สวัสดีคะ :bye2:
-
พี่เมศโคตรจะเป็นเพลย์บอลเลยอ่ะ น้องอาร์น่ารัก แต่ร้ายมากๆ ยิ่งตอนจัดการเลขาคนนั้นนะ หึหึ
แพรวาแรงแถมร้าย พี่เมศโดนหลอกแพรวาหลอกสนิทใจหรืออาจจะไม่คิดที่จะสนใจจะเป็นไงก็เลยไม่สน เพราะไม่ได้คิดอยากได้อีกฝ่ายเป็นแฟนอยู่แล้ว
แล้วตกลง อเลน โจชัวร์ เจนส์กิน นี่เป็นใครกันแน่ แต่แพรวารู้เรื่องนี้เข้าแล้ว และเจนส์กินคนที่ไปหาคุณแม่น้องอาร์นี่คนเดียวกับอเลนรึป่าวเนี่ย
อ๊อฟชอบน้องอาร์ของเราหรอถึงทำท่าแปลกไป แต่พี่เก่งต้องคู่กับคนที่ชื่อเจนส์กินแน่เลย o18
อยากจะคิดว่าความจริงน้องอาร์ก็แอบรักพี่เมศมานาน แต่อะไรก็ยังไม่เคลียร์ และเพราะอะไรก่อนหน้านี้น้องอาร์ถึงได้อยู่ในสภาพย่ำแย่จนคุณแม่ต้องเป็นห่วงขนาดนี้
เป็นกำลังใจให้นะคะ :pig4:
-
+ เป็ดก่อนเลย มันเป็นอะไรแม่เจ้าาา
เขาว่ากันว่าพี่รหัสส่วนมากจะเหมือนกันอย่างแรง
เห็นด้วยอย่างยิ่งอ่ะ เจอน้องอาร์กับพี่เก่งไป สุดยอด
แหมะ ตอนสุดท้ายนั่นทำเอาตื้นตันจนลืมฉากเรียกลืมของพี่เมศไปเลยนะนั่น
-
ตามๆๆ พี่เก่งจะเป็นไงน๊าาาาา :really2:
-
น้องอาร์นี่ร้ายเงียบนะเนี่ย ได้พี่เมศเป็นแฟนไปแบบง่ายๆเลยนะ ส่วนพี่รหัสนี่คงได้คู่กะแฟนเก่า(?)ของน้องหรือเปล่านะ คงต้องรอดู ^^
-
อเลน นามสกุลเจนส์กินใช่มั้ยคะ
แต่ถ้าให้เดา เราว่าอเลน เจนส์กิน กับเจนส์กินอีกคนที่มาตามหาอาร์อาจจะเป็นคนละคนกันนะ
เพราะดูเหมือนอเลนจะเป็นคนรักของอาร์ แต่อีกคนดูเหมือนเพื่อนที่คอยห่วงมากกว่า แต่อเลนกับเจนส์กินคนนี้อาจจะเป็นญาติกันไรงี้ (เดามั่ว55555)
รอนะคะ อย่าหายไปนานๆ อีกน้า คนเขียน
-
พี่เก่งนี่เก่งสมชื่อจริง น้องอาร์ก็แรงใช่ย่อย พี่เก่งเหมาะกับคนๆนั้นจริง จับคู่ให้เลยค่ะ
-
ใจแข็งเกินไปละน๊าาา พี่เมศอย่าใจร้ายนักสิคะ แต่ว่าก็เหมือนมีคิดบ้างแระหล่ะ
เริ่มมีแนวโน้ม รอตอนต่อไปจ้า
-
คู่ของคุณพี่อัครเดชนี่ดูท่าจะน่าสนุกนะ
-
:call: :call: :call:
-
เอาอีกๆ :z3: :z3:
-
อ๊อฟเพื่อนอาร์คิดอะไรอยู่นะ
แรงต้องเจอแรง รอวันที่พี่เก่งจะเจอกับเจนส์กิน อิอิ
-
สนุกมากอะครับบบ อย่าหายไปนานนะ ชอบมากๆๆ
-
แอบจิตนะเนี้ย เห็นหน้าตาแบบนั้นแล้วมีอารมณ์ น่ากลัวชะมัด
-
คนคนนั้นกับอัครเดชหรือเปล่านะ น่าสงสัยจังเลย
-
รอเจนส์กินมา หุหุ
จะได้ดูอะไรสนุกๆอีก
-
ชักเริ่มสงสารน้องอาร์แล้วสิเนี่ย
-
พี่เก่งเป็นโรคจิตป่ะเนี่ย
แต่ก็ต้องขอบคุณพี่เค้าล่ะหุหุ
^จูบแรกคริๆ^
-
ไม่ได้มาอ่านนาน สนุกดีครับ ^^
-
โอ๊ะโอ ชักน่าสนุกขึ้นมาแล้วสินะ พี่เก่งแกแอบโรคจิตนะ :laugh:
รอตอนต่อไปฮะ :')
-
เชียคู่พี่เก่งอีกคู่
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
ได้กันเร็วๆนะ ~
-
:กอด1: อาร์สู้ต่อไป แต่คนอ่านยังสงสัยกับคนที่อยู่เมืองนอกอยู่ว่าเป็นอะไรกับอาร์
แล้วพี่เมศจะทำยังไงต่อไป อาร์สารภาพไปแล้ว ใจอ่อนเร็วเร็วล่ะ เดี๋ยวมีคนมาตามอาร์กลับแล้วจะสายไป
-
อาร์สู้ๆต่อไปลูก เอาให้อีพี่เมศทั้งรัก ทั้งหลง จนโงหัวไม่ขึ้นไปเลยลูก ฮ่าๆๆๆ
-
พี่เก่งโรคจิตอะ แต่ก็รอลุ้นคู่พี่เค้าด้วย
น้องอาร์สูๆๆนะจ้า พี่เมศก็อย่าช้านะจ้า เด๋วมีคนพาอาร์ไปแล้วจะเสียใจนะ
-
:กอด1:
-
รออยู่นะ
-
แอร๊ยยยยยยย เขาจูบกัน
:z2:
ลป. รหัสนักศึกษาแบบนี้ สงสัยจะเป็นรุ่นน้องมหาลัยเค้า อิอิ
-
:m25: :m25: :m25:
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
:haun4: :haun4: :haun4:
:jul1: :jul1: :jul1:
-
ไม่มาลงอีกแล้วเหรอครับ
-
คนเขียนนนนน หายไปไหน T^T
-
รออีกที
-
ชอบอะ นายเอกแรงดีไมีมีตก
อย่าให้เมศต้องผิดใจกับอาร์น้า
-
อเลนกับเก่งสินะ กรีดร้องงงงง :katai1:
ขออย่าให้้มีมาม่าเล้ย :เฮ้อ:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก ก็ติดเสียแล้วล่ะค่ะ
อยากรู็จังว่าจะเกิดอะไรขึ้น ติดตามค่ะ
-
คิดถึงเรื่องนี้ที่สุดอ่ะ
-
o13 o13 o13 ชอบปรเมศจัง
-
รออยู่นะค่ะ
-
มันส์สุดๆ 55555555555555555555555 :katai1: :katai3:
-
:katai5:
-
อยากให้มาต่อนะ
-
ตามอ่านจนทัน มาต่อเร็วๆนะคร๊าอยากรู้แล้วว่าอิพี่เก่งจะรับมืออย่างไร..... :mew1:
-
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ค้าง! อย่าง!! แรง!!! :katai1:
-
1ปี2เดือนแล้วนะค่าาาาา
รออยู่ค่ะ^^
-
อยากอ่านต่อแล้ววว
พี่เมษรีบรักน้องเร็วๆนะะะะะ
-
สนุกมากเลย ต่อไปคงต้องมีเรื่องสนุกมาอ่านให้อ่านเยอะแน่ๆ o13 o13
-
มาตามน้องอาร์ด้วยคน
-
คิดถึงน้องอาร์จัง TT TT :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: