-
สวัสดีคับ เพื่อน ๆ ทุกคน หวังว่าคงจะจำผม “แบงก์” กันได้นะครับ หลังจากเรื่อง คนโง่ ฯ จบไปแล้ว ด้วยกำลังใจจากเพื่อน ๆ ทำให้ผมมีโอกาสได้แต่งเรื่องใหม่ขึ้นมา
หวังว่าเพื่อน ๆ คงจะชอบเรื่องใหม่ที่ผมแต่งขึ้นมานะครับ
แบงก์.........
มีสิทธิ์ไหม...ที่จะรักใครสักคน ?
เปิดตัว...ทักทาย
.....ยิ้มให้ความผิดหวัง อย่างคนคุ้นเคยยิ้มให้ความมืดมน อย่างคนรู้จักกันนี่คือเพื่อนเก่าที่เราต้องเจอ เจอกันเมื่อนานแสนนาน............
”ว่าไง แป๋ม”
“นี่ ไอ้บิว แกอยู่ไหนวะ ฉันรอแกนานแล้วนะเว้ย”
“เออ ใกล้จะถึงแล้ว แป๊บนึง”
สวัสดีคับ เพื่อน ๆ ผมบิวครับ หนุ่มน้อยแสนจะน่ารัก แต่ไม่ยักจะมีใครมารักแฮะ แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกฮะ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง และที่วันนี้ผมต้องรีบขนาดนี้ก็เพราะว่า วันนี้ผมนัดเพื่อนไว้ครับ แต่ดันตื่นสาย เอาหละ พอแค่นี้ก่อนละกัน ต้องรีบครับวันนี้ เดี๋ยวโดนไอ้แป๋มกินหัว หุหุหุ
“แฮ่ก ๆๆๆ โทษทีวะ พอดีรถติด” แหมข้ออ้างของผม ใช่ได้ไหมคับ
“เออๆ ให้อภัย ปะ ไปกันดีกว่า ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะซื้ออะไรให้ฟิล์มดี”
“หา นี่แกจะไม่ให้ฉันนั่งพักเลยหรอ”
“เออ ก็ได้ ให้เวลา 5 นาทีนะเว้ย เจือกมาช้าเอง”
พอไอ้แป๋มพูดจบ ผมก็หาเก้าอี้นั่งพักเหนื่อยทันที ก็แหม วิ่งมาจากป้ายรถเมล์นิครับ คือว่า วันนี้ไอ้แป๋มมันชวนผมให้มาช่วยเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้แฟนมันหน่อย ก็ไอ้ฟิล์มนั่นอะครับ แต่ไม่รู้เป็นอะไร ผมไม่ถูกชะตากับมันเลย แต่ทำไงได้อะครับ แฟนเพื่อนนิ ก็หยวนๆ กันไป
ระหว่างที่นั่งพัก ขอเล่าเรื่องตัวเองก่อนละกัน คือแนะนำตัวกันอีกทีนะ ผมอะ ชื่อว่าบิวฮะ เอาแค่ชื่อเล่นก็พอเนอะ จะได้สนิทกันเร็วๆ พื้นเพเป็นคนต่างจังหวัดคับ และได้ดิบได้ดีมาเรียนต่อในกรุงเทพ พ่อ แม่ผมนะหรอ ตายไปหมดแล้ว ก็เหลือตัวคนเดียวนี่แหละคับ ญาติก็มีแต่ทางฝ่ายแม่ แต่ไม่อยากไปรบกวนเขา ตอนนี้ก็เลยมาอยู่หอคนเดียวคับ เงินที่มีใช้อยู่ทุกวัน ก็ไอ้เงินประกันที่พ่อกับแม่ทำไว้ บวกกับเงินของญาติ ๆ ครับ พวกเขาก็ดีเหลือหลาย โอนเข้าบัญชีให้ตลอด แต่ผมก็ไม่อยากรบกวนเขามาก ก็เลยต้องทำงานพิเศษด้วยคับ
ส่วนแป๋มเพื่อนสนิทของผมครับ เป็นเพื่อนคนแรกที่ผมรู้จักตอนเข้ามหาวิทยาลัย แป๋มเป็นคนสวยครับ น่ารัก ผู้ชายตอมกันให้เกรียว คนสวนมากจะเข้าใจผิดครับว่าผมกับแป๋มเป็นแฟนกัน นี่มั้งคงเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่มีใครมาจีบผมสักกะที
ส่วนแฟนไอ้แป๋มนะหรอ เพื่อน ๆ รู้ไว้แค่ว่ามันชื่อฟิล์มก็พอ เกียจมันครับ คนอะไรไม่มีมนุษยสัมพันธ์เลย ชิส์...
“เอ้า หายเหนื่อยยัง ไปกันได้แล้ว” ไอแป๋มครับ ตรงเวลาดีจริงๆๆ 5นาทีเป๊ง มันก็ลากผมเดินไปที่รถของมันครับ เออ ก็ได้วะ เดียวไปนั่งพักในรถมันก็ได้
“ไปซื้อที่ไหน” ผมถามไอ้แป๋มหลังจากที่มันสตาร์ทรถและกำลังจะออกตัวแล้วครับ
“เซ็นทรัลลาดพร้าวดีไหม ใกล้มหาลัยดี”
“เออ ปะ แล้วอย่าลืมละ ที่บอกว่าจะเลี้ยงหนัง” อิอิ มันสัญญาเอาไว้ครับว่าจะเลี้ยงหนังผม
“เออ แหมแกนี่ ไม่ได้เลยนะ”
อะๆๆ ของอย่างนี้ต้องรีบทวงครับ เดียวอด อิอิ
“บิว แก่ว่าฟิล์มมันเป็นคนยังไงวะ ฉันหมายความว่ามันเป็นคนลักษณะไหนวะ จะได้เลือกของขวัญให้มันถูก”
“อืม แฟนแกนะหรอ ก็....เป็นคนไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แม้ว่าจะหล่อก็เถอะว่ะ แต่ไม่ถูกชะตาวะ” ผมตอบไปตามความจริง
“นี่ แก อคติเกินไปหรือเปล่าวะ มันก็ออกจะดี” จ้า ดีเฉพาะแกคนเดียวนะสิ
“เออ ดีก็ดีวะ แล้วแกจะเอาให้มันเมื่อไหร่หละ ปีนี้มันจัดงานวันเกิดหรือเปล่า
“เออ ปีนี้ฟิล์มเขาจัด แต่ก็มีแต่เฉพาะพ่อ แม่ พี่น้องมันเนี่ยแหละ แกถามก็ดีเลย ฉันกะว่าจะชวนแกไปด้วย”
“เฮ้ย ไม่เอาอะ เรื่องไร” ไม่เอาครับ ไม่ไปเด็ดขาด ผมกับแฟนมันกินเส้นกันที่ไหน
“ญาติมันหล่อ ๆทั้งนั้นเลยนะเว้ย” น้าน เอาผู้ชายมาล่อ
“ไม่ไปอะ” เสียเริ่มอ่อยลงนิดนึง
“ฉันจ้างก็ได้”
“โอเช” หุหุ เรื่องเงินต้องมาก่อนคับ ผมรีบรับปากมันทันทีเพราะว่ากลัวมันเปลี่ยนใจ อิอิ
ครึ่งชั่วโมงผ่านไปในระหว่างที่เราเดินอยู่ที่ห้าง ตอนนี้ทั้งมือของผมและของแป๋ม เต็มไปด้วยถุงต่าง ๆ ที่แป๋มมันซื้อมาซะเพียบเลย ก็แหม ช่วงนี้ปลายปีนิครับ ร้านต่าง ๆ ก็แข่งกันเซลล์ซะ และด้วยนิสัยอย่างไอ้แป๋มด้วยแล้ว มันก็ไม่ยอมพลาดหรอกครับ
“นี่แก ไหนบอกว่าจะมาซื้อของขวัญให้แฟนแกไง ไหงมีแต่ของ ๆ แกวะ”
“เหอะน่า ก็ยังคิดไม่ออกนิหว่าว่าจะซื้ออะไรให้มันดี”
“ก็เลยซื้อแต่ของตัวเองเนี่ยนะ” ดีเนอะ ของที่ตั้งใจมาซื้อยังไม่ได้ ระหว่างที่ผมกับไอ้แป๋มเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่นั้น ก็มีเสียงใครไม่รู้ลอยมา
“แป๋ม ๆ ”
ผมกับไอ้แป๋มหันไปตามเสียงเรียก พอหันกลับไป เจ้าของเสียงที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้ อุ๊ แม่เจ้า นี่เทพบุตรหรือเยี่ยงไร ทำไมมันหล่อขนาดนี่เนี่ย ชายหนุ่มรูปร่างสมสวน ทรงผมตามสมัยนิยม คิ้มเข้ม ใส่แว่นตา ริมฝีปากบาง และที่สำคัญ ลักยิ้มกระชากใจ สเป็กเลยนะเนี่ย
“เก็บอาการไว้ลูก เก็บอาการไว้” ตอนนี้ผมข่มอารมณ์เต็มที่เพื่อไม่ให้แสดงอาการ์ใด ๆ ออกไป
“อ้าวกัส มาได้ไงอะ” ไอ้แป๋มครับ ทักทายเจ้าของเสียงนั้นด้วยความคุ้มเคย
“มาดูหนังกับเพื่อน” พูดเสร็จพร้อมพนักหน้าไปอีกทางหนึ่ง ทั้งผมและไอ้แป๋มหันหน้าทางนั้น ก็ได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งยืนรออยู่ สวยซะด้วย
“แหมๆๆ มากับแฟนละสิ” ไอ้แป๋มครับ ได้ทีแซวทันที
“แล้วแป๋มหละมาทำอะไร” นายกัสไม่ยอมครับ แต่เปลี่ยนมาถามแทน
“อ้อ แป๋มมาซื้อของขวัญให้ฟิล์มนะ และนี่เพื่อนแป๋ม ชื่อบิว”
“หวัดดีคับ” นายกัสเป็นฝ่ายเริ่มทักทายก่อน
“เออ หวัดดีคับ” แหมอะไรกันวะ แค่นี้ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“งั้นเราไปก่อนนะ แล้วเจอกันที่งานวันเกิดไอ้ฟิล์มมันนะ”
“จ้า บาย”
พอเรา 3 คนล่ำลากันเสร็จ ก็แยกย้ายกันเดินออกมา
“เฮ้ย แป๋ม นั่นใครอะ แฟนเก่าหรอ” ผมยิงคำถามใส่ไอ้แป๋มหลังจากที่เดินออกมาจากตรงนั้นได้สักพักแล้ว
“จะบ้าหรอ นั่นมันญาติฟิล์มมัน เป็นลูกพี่ลูกน้องนะ “
“อืม.......หรอ”
“ถามทำไม ชอบกัสมันหรอ” อ้าวไอ้นี่
“ไอ้บ้า เพิ่งรู้จักกันเนี่ยนะ จะให้ชอบได้ไง” ผมพูดกลบเกลื่อนความจริงครับ แต่จริงๆ แล้วก็ชอบนั่นแหละ อิอิ
-
เจิมมมมมม เรื่องใหม่ของน้องแบงค์.... :mc4:
จบตอนแย๊วววเหรอ ไมสั้นจังอ่า??? :m23:
เป็นกำลังใจให้นะคร๊าบบบบบบ แต่งต่อๆๆๆๆ
ป.ล. เกลียด << สะกดอย่างนี้จ้ะ ถ้า เกียจ...ต้องเป็น "รังเกียจ" นะจ๊ะ
:m4: :m4: :m4:
-
เข้าแถวอ่าน
อิอิ
-
มาเข้าแถว รออ่านด้วยคน คับ
:oni1:
-
:m13: แรกๆมีหลุดคำว่าสวัสดีคับอยู่นาน้องแบงค์ แต่เอาเถอะหยวนๆ อิอิ :haun5: อ่านๆมามีพิมพ์ผิดนิโหน่ยกะพิมพ์ตกคำเดียวเองอ่ะ ตรวจคำผิดใช้ได้เลยนะเนี่ย สายตาดีจริงๆ :m12:
-
มาเจิมเรื่องใหม่ รออ่านต่อนะ :m4: :m4:
-
คุณแบงค์เก่ง....ทำคนอ่านติดใจตั้งแต่ตอนแรกเลยนะ
เรื่องเล่าของตัวเองก็ดีมาก
เรื่องแต่งก็ดีเหลือเกิน...
ชอบงับ
-
อย่าลืมที่สัญญิงสัญญากันไว้ หึหึหึหึหึ
ละเมิดกฏกับแบงค์อีกแล้ว = = มาเจิมแล้วนะ
เดี๋ยวชัยมงคล มหาอุตรต่อ
-
หวัดดีครับ คุณแบงก์ ตัวละคร ชื่อ บิว ท่าทางจะน่ารักมากมายนะครับ
-
:oni1: :oni1: :oni1: :oni1: ตามมาอ่านแล้วจ้า
บรรยายตาบิวได้เห็นภาพมากมายเลย ชอบ :oni2: :oni2:
-
มีเรื่องสนุกๆให้อ่านอีกแล้ว เป็นกำลังใจให้นะ
-
เป็นกำลังใจให้ครับ
-
ตามมาเจิมเรื่องใหม่คร้าบ
เป็นกำลังใจให้นะคับ o13
-
o13เป็นกำลังใจให้ครับ :m1:
-
รออ่านน๊าค้าบบบ
-
ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยตรวจคำผิดให้ แสดงว่าตั้งใจอ่านมั่กๆๆๆ
ขอบคุณด้วยจิตคารวะครับ
แบงก์
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ระหว่างที่เราเดินหาของขวัญไปเรื่อย ๆ จนเริ่มเหนื่อยแล้ว ไอ้แป๋มมันก็เริ่มบ่นออกมาครับ
“แกคิดออกยังว่าจะซื้ออะไรให้แฟนฉันดีเนี่ย” อ้าว ไอ้นี่ แฟนแก แกก็คิดดิ
“จี้ห้อยคอดีไหม” ผมเสนอไปส่งๆ แบบสุดจะทน
“อืม....ก็ดีหวะ” เอ้า ไม่คิดเลยนะเมิง
แล้วเราทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปยังร้านขายเครื่องประดับครับ แล้วก็ช่วยกันเลือกจี้พร้อมสร้อยคอเท่ห์ ๆ มาหนึ่งอัน สวยดีครับ เป็นรูปฟุตบอล กลม ๆ ประดับด้วยเพชรเทียม พร้อมกับนิลครับ ไอ้ฟิล์มมันชอบฟุตบอลครับ มันคงจะชอบ”
“ปะ เสร็จแล้วกลับกันดีกว่า”
“เออ ก็ดีหวะ เมื่อยด้วย เดี๋ยวไปส่งเราที่บ้านด้วยนะ”
“จ้า คุณชาย” อิอิ ไหน ๆ มันมีรถแล้วก็ไปส่งเราซะเลย ก็ไม่เห็นเสียหายอะไร เนอะ
หลังจากที่ไอ้แป๋มขับรถมาส่งผมที่หอแล้ว เหลือบมองไปที่นาฬิกา โอ้ ที่เกือบ 3 ทุ่มแล้วหรอวะเนี่ย วันนี้ตะลอนๆ ทั้งวัน เหนื่อยชิบ ได้เวลานอนแล้วสิ แต่เออ เกือบลืม วันนี้ยังไม่ได้ให้อาหาร เจ้าปลาทองเลยนิหว่า ผมลืมบอกเพื่อน ๆ ไปครับ ว่าที่หอผมนั้นเลี้ยงนกแก้วเป็นเพื่อนไว้ตัวหนึ่งครับ มันชื่อว่าปลาทอง เพราะว่าขนของมันนั้นมีสีเหลืองเหมือนปลาทองเลยครับ ผมได้เจ้าปลาทองนี่มาจากเจ้าแป๋มนี่แหละครับ ที่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว ตอนแรกกะว่าจะไม่เลี้ยงมันครับ เพราะว่าขี้เกียจ แต่พอเลี้ยงไปเลี้ยงมา ผมกับติดมาซะนี่ อาจจะเป็นเพราะว่านอกจากเจ้าแป๋มแล้ว ผมก็มีเจ้าปลาทองนี่แหละครับที่เป็นเพื่อนคุย และอีกอย่างเจ้าปลาทองนี่ก็เปรียบเสมือนเพื่อนที่คอยรับฟังปัญหาผมทุกเรื่องเลยครับ มันเนี่ยแหละที่กุมความลับผมไว้ทุกเรื่องเลย
“ไหน ๆๆ ก่อนกินข้าวต้องพูดว่าอะไร ไหนพูดให้ฟังหน่อยสิ” ผมพูดกับเจ้าปลาทองครับ ซึ่งก่อนให้อาหารผมจะให้มันพูดให้ฟังเป็นประจำ
“บิวน่ารัก บิวน่ารัก” เสียงแหลมเล็กของเจ้าปลาทองเอ่ยขึ้นซ้ำไปซ้ำมา เหมือนจะรู้ว่าผมจะต้องพอใจ
“อิอิ อะๆ พอละ ไม่ต้องชมละ เขินหมด” 5555555 เพื่อน ๆ ไม่ต้องแปลกใจนะครับผมเป็นคนสอนให้เจ้าปลาทองพูดคนนี้เอง และมันก็พูดได้คำเดียวหละครับ
หลังจากนั้นผมก็จัดแจงให้อาหาร ให้น้ำมัน เล่นกับมันนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับมาเข้าล้มตัวลงนอนบนเตียง กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก็ไปสะดุดกับเทพบุตรของผม ชื่ออะไรน้า อ้อ กัส ใช่แล้ว มันชื่อกัส แถมไอ้แป๋มเพื่อนสนิทของผมก็ยังรู้จักมันด้วย ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าแฟนไอ้แป๋มจะมีญาติหล่อขนาดนี้ แต่เอ๊ะ ตอนจะกลับเห็นมันลากันว่าแล้วเจอกันที่งานวันเกิดไอ้ฟิล์มนี่หว่า คิดได้ดังนั้นผมก็ยิ้มออกครับ เพราะว่าผมคงจะต้องมีโอกาสได้เจอกับกัสอีกแน่นอน เพราะว่าผมจะไปงานวันเกิดไอ้ฟิล์มเป็นเพื่อนไอ้แป๋มด้วยนะสิครับ
“หวัดดีจะ สาวน้อย” ไม่ใช่เสียงใครหรอกครับ เสียงไอ้แป๋มเอ่ยทักขึ้น เมื่อผมวิ่งกระหืดกระหอบเข้าห้องเรียนในเช้าวันรุ่งขึ้น ใช่ครับ วันนี้ผมตื่นสายอีกตามเคย แต่ยังโชคดีที่วันนี้อาจารย์ยังไม่เข้าครับ มองไปข้าง ๆ เจ้าแป๋มก็ยังไม่เห็นไอ้ฟืล์มแฟนมันครับ
“นี่ ๆ แก แล้วแฟนสุดที่รักของแกหละ “ ผมถามเจ้าแป๋มเมื่อไม่เห็นแฟนมันมาด้วย ไอ้คู่นี้มันแปลกครับ ไม่รู้เป็นแฟนกันได้ยังไง ต่างคนต่างไป ไม่ค่อยอยู่ด้วยกันหรอกครับ นาน ๆ ทีจะเห็นมันทั้งคู่อยู่ด้วยกันซักที แต่ก็เห็นมันรักกันดีนะครับ
“ไม่สบาย เห็นเมื่อเช้าโทรมาบอกว่าเป็นหวัด”
“เขาว่าคนบ้ามักไม่เป็นหวัด ก็ไม่จริงนิหว่า” ผมอดไม่ได้ที่จะกัดแฟนมัน
“ไอ้บ้า” แหมเมิง ปกป้องกันจังนะ
“เออ แล้วนิ เรื่องที่ฉันให้ไปงานวัดเกิดฟิล์มเป็นเพื่อนฉันนะ อย่าลืมนะ วันศุกร์นี้แล้ว” เออ ใช่แล้ว วันศุกร์นี้แล้วนิหว่าที่ผมจะต้องไปงานวันเกิดฟิล์มเป็นเพื่อนไอ้แป๋มมัน ไม่รู้ว่าผมจะได้เจอกัสอีกหรือเปล่านะ
“อืม ไม่ลืมหรอก” ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ อาจารย์ก็เดินเข้ามาพอดี วิชาที่เรียนวันนี้ก็เป็นวิชาหลักของสาขาของผมนั่นแหละครับ น่าเบื่อชะมัด แต่ก็ต้องทนเรียนไปจนจบคาบนั่นแหละครับ กว่าจะจบ เล่นเอาง่วงเหมือนกัน ก็แหม มีเรียนซะเช้า ใครจะไม่ง่วงบ้างหละครับ
“แป๋ม ๆ วันนี้กินอะไรดีวะ” ผมถามไอ้แป๋มหลังจากที่เดินออกจากห้องเรียน
“ไปกินที่โรงอาหารดีกว่า จะได้ไปหาฟิล์มด้วยกัน”
“เออ ก็ได้” แต่เอ๊ะ ไปหาไอ้ฟิล์มด้วยกัน หมายความว่าตรูต้องไปด้วยใช่ปล่าววะเนี่ย
“เมิงไปคนเดียวนะ กรูขี้เกียจไป”
“โห ไรวะ จะให้กรูไปคนเดียวได้ไง กรูอายนะเฟ้ย และอีกอย่าง บ้านมันคนอยู่เยอะแยะ ทำตัวไม่ถูก เมิงไปด้วยนั่นแหละดีแล้ว” แฟนเมิงนิเว้ย ไม่ใช่แฟนตรู
“โห ไม่เอาอะ” ผมรีบปฏิเสธครับ ขี้เกียจไป
“หน่า นะ ไปด้วยกันเถอะนะ” เจอลูกอ้อนไม้นี้ของไอ้แป๋มไป ผมก็เลยปฏิเสธไม่ลงครับ นี่เมิงกับตรูมีแฟนคนเดียวกันใช่ไหมวะเนี่ย
พอไปถึงบ้านไอ้ฟิล์ม หวัดดีป๊ากับม๊ามันเสร็จแล้ว ผมกับไอ้แป๋มก็ขึ้นไปหามันบนห้องนอน บ้านมันใหญ่มากครับ มีรถต้องหลายคัน แถมมีสระว่ายน้ำอีกต่างหาก อิจฉาครับ อิจฉา
“เป็นไงบ้างจ๊ะ ฟิล์ม” ไอ้แป๋มครับ ทักทายแฟนมันทันทีหลังจากที่เห็นไอ้ฟิล์มนอนแม่บอยู่บนเตียง แหมเมิงเสียงสวยเชียวนะ
“แค่เห็นหน้าแป๋มก็หายแล้ว” ไอ้ฟิล์มตอบครับ
“อ้วกกกกกกกกกกกกกกก” หุหุ ไม่ใช่เสียงใครครับ เสียงผมเอง หมันไส้ครับ แหม อ้อนได้น่าถีบมาก ๆ
“ไง อีตุ๊ด เมิงอิจฉากรูอะดิ” อ้าวพูดงี้เดียวสวย
“ตุ๊ดพ่อเมิงดิ กรูบอกเมิงกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกกรูอย่างนี้ กรูไม่ชอบ” ผมอะ ไม่ชอบเลยครับที่จะให้
ใครมาเรียกว่าตุ๊ด เพราะผมก็ไม่ได้สะดีดสะดิ้ง จีบปากจีบคอซะหน่อย
“อ้าว ไอ้นี่ ทำมะ กรูจะเรียกเมิงยังงี้ เมิงจะทำไม อีตุ๊ดๆๆๆๆ” นอกจากมันยังไม่หยุดแล้ว มันยังเรียกผมซ้ำ ๆ
ด้วยความหมันไส้ ผมก็เอาโจ๊กร้อน ๆ ที่ไอ้แป๋มซื้อใส่ถุงมา วางไปบนหน้าไอ้ฟิล์มทั้งที
“โอ้ย ร้อนนะเมิง เล่นไรเนี่ย” 55555 สะใจครับ พี่น้อง
“นี่ พอเลยทั้งคู่ ไม่ต้องเล่นเลย กัดกันเป็นเด็กไปได้เดี๋ยวก็ด่าแม่ทั้งคู่เลยนิ” แป๋มคงทนไม่ไหวมั้งครับ เลยแหกปากขัดขึ้นมา
“นี่ถ้าไม่เห็นว่าแป๋มขอนะ เมิงโดนกรูแน่” อะโถ่ ไม่แน่จริงนิหว่า ผมก็ไม่วายที่จะยักคิ้วให้มันไปที เห็นมันทำอะไรผมไม่ได้แล้วสะใจครับ หุหุ
ระหว่างที่ไอ้แป๋มกำลังป้อนโจ๊กที่ซื้อมาให้กับไอ้ฟิล์มอยู่นั้น ผมก็อาศัยจังหวะนั้นพิจารณาห้องนอนไอ้ฟิล์มมัน ห้องนอนมันใหญ่มากครับ ใหญ่กว่าหอของผม 2 ห้องรวมกันได้มั้งครับ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวเท่ห์ ๆ ครับ ดูไปเรื่อย ๆ ตาก็ไปสะดุดกับรูปถ่ายรูปหนึ่งที่มันตั้งไว้ข้าง ๆ ทีวี เป็นรูปไอ้ฟิล์มในชุดฟุตบอลครับ และคนที่ยืนข้าง ๆ มันในภาพทำให้ผมต้องหยุดมองด้วยความสนใจ ใช่แล้วครับ กัสนั่นเองครับที่อยู่ในรูป สังเกตจากรูปแล้วไอ้คู่นี้มันต้องสนิทกับมากแน่ๆ เลยครับ ไม่รู้ว่านิสัยมันจะเหมือนกันด้วยหรือเปล่า
“เฮ้ยไอ้แป๋ม คนนี้นิหว่าที่เราเจอที่ห้างวันนั้นอะ” ผมถามไอ้แป๋มครับหลังจากที่เห็นรูปกัสแล้ว
“อืม ทำไมหรอ” อ้าว ตรูลืมไปเลยว่าทำไม ทำไมว๊า
“กรูรู้นะว่าเมิงคิดอะไร อย่ายุ่งกับน้องกรูเลยนะเว้ย” เสียงไอ้ฟิล์มครับ แหลขึ้นมาทันที ไอ้เชี่ยนนี่รู้ทันตลอด
“คิดเชี่ยไร เมิงอย่ามา” ต้องรีบปฏิเสธครับ เดี๋ยวไอ้เชี่ยนี่มันรู้
“เมิงทำอะไรน้องกรู เมิงตาย” อ้าว ๆ
“ไอ้เชี่ย กรูจะไปทำอะไรน้องเมิง กรูก็แค่คุ้น ๆ ขึ้นมาว่าเคยเห็นที่ไหน และอีกอย่างน้องเมิงก็ตัวยังกะฟาย ใครจะไปทำเชี่ยไรวะ ”
“นั่นนะสิฟิล์ม บิวมันก็ตัวนิดเดียว พูดยังกะมันจะไปฆ่าข่มขืนใครเขางั้นแหละ” ขอบใจมากแป๋ม แต่เอ๊ะมันจะปกป้องกรูหรือว่าจะหลอกด่ากรูวะเนี่ย
“เออ บิว งานกลุ่มวันนี้ที่อาจารย์สั่งอะ เราก็อยู่ด้วยกันเลยเนอะ 3 คนพอดีเลย” ใช่ครับ ลืมไปเลยว่าอาจารย์สั่งงานกลุ่ม เป็นวิธีการนำเสนองานขายอะครับ
“ยังไงก็ได้” ก็แหงล่ะ มันเป็นอย่างนี้มานานแล้วครับ มีงานกลุ่มทีไร ต้องมีไอ้ฟิล์มาอยู่ด้วยตลอด ไอ้เราก็ต้องทนอะครับ แฟนเพื่อนก็เหมือนแฟนเรา เอ้ยไม่ใช่ เหมือนเพื่อนเรา
หลังจากที่ผมกับไอ้แป๋มขลุกตัวอยู่บนห้องนอนไอ้ฟิล์มเกือบ 3 ชั่วโมง ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องไปทำงานพิเศษนิหว่า ก็เลยเร่งไอ้แป๋มให้กลับบ้าน
“แป๋มกลับบ้านยัง เดี๋ยวต้องไปทำงานอีก”
“อยากกลับก็กลับไปคนเดียวดิเมิง” เดียะๆๆ เดี๋ยวกรูตบ
“เออ.....................” อ้าวอีนี่
“เออ ๆๆ ไม่ต้องพูดละ กรูกลับเองก็ได้ ช่ายสิ กรูมันคนนอกนิ” เชอะ หมันใส้มัน งอนด้วยครับ
“งั้นกรูกลับละนะ”
“โทษทีนะ กลับถูกป่าว” ไอ้แป๋มถามผมครบ ไมหรอเมิง ถ้ากรูกลับไม่ถูกเมิงจะไปส่งกรูหรอไง
“เออ ๆ ถูก ไปละแป๋ม กลับแล้วนะเว้ยไอ้เชี่ย” ผมลาทั้งสองคน
“นี่เมิงจะเรียกกรูดี ๆ ได้ไหมวะ ไอ้ตุ๊ด” อีเชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย กรูบอกว่าอย่าเรียกกรูแบบนี้
“เดี๋ยวเหอะเมิง” น่าน ตัวนิดเดียวยังไม่วายปากดีอีกกรู 555
พอออกมาจากห้องไอ้ฟิล์มได้แล้วผมก็กะว่าจะเข้าไปลาป๊ากับม๊ามัน เห็นกำลังนั่งดูทีวีอยู่ แต่เอ๊ะ นั่นใครมานั่งด้วยหว่า หน้าคุ้นๆๆ
-
กัส สุดหล่อแน่เลย :m1: :m1:
-
ฟิล์มแอบชอบบิวรึเปล่านี่อิๆ
-
ตลกดี
-
:m4: สนุกดีครับ
-
หุหุ ตามลุ้นต่อจ้า :oni2: :oni2: :oni2:
-
-*-
-
หึหึ เจอกัสอีกแล้ว :oni2: บิวจีบไปเลยยยย อย่าช้า :oni1:
-
“เอ้าลูกบิว จะกลับแล้วหรอจ๊ะ” ม๊าตามมาด้วยป๊า และหนุ่มหน้าคุ้น ๆ กัสนี่เอง หันมาพอดีครับเลยทักผม
“ครับ พอดีผมต้องไปทำงานอะครับ”
“อ้าว ทำงานอะไรกันจ๊ะลูก” ทำไมไอ้ฟิล์มมันไม่ได้ครึ่งของแม่มันเลยครับ
“อ้อ งานพิเศษอะครับ”
“ขยันจังนะ ตัวแค่นี้ทำงานพิเศษ” แหม ชมอย่างนี้ผมก็เขินแย่นะสิครับ อุ
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ผมก็ยกมือไหว้ป๊ากับม๊าไอ้ฟิล์มเดินออกไปรอรถแท็กซี่หน้าบ้าน ยืนรออยู่กว่าครึ่งชั่วโมง ไม่เห็นมาซักกะที ก็เลยตัดสินใจเดินไปรอรถหน้าปากซอยดีกว่า
ระหว่างที่เดินมาได้ครึ่งทางแล้ว อยู่ดี ๆ ก็มีรถเก๋งสีดำคันใหญ่โฉบเข้ามาจอดข้าง ๆ พร้อมกระจกที่ติดฟิล์มทึบก็ถูกลดลง
“อ้าว ทำไมเดินออกมาละครับ” กัสนั่นเองครับที่เป็นคนขับรถ
“อ้อ เออ...” พอมีผู้ชายหล่อ ๆ มาพูดด้วยทีไร ตื่นเต้นทุกที
ด้วยความเห็นกัสเห็นผมมัวแต่อ้ำอึ้ง ก็เลยเลิกคิ้วเป็นเชิงสงสัย ทำให้มันดูน่ารักเข้าไปอีก
“เออ...พอดีรอรถแท็กซี่แล้วไม่มีอะครับ ก็เลยเดินออกมา” อย่ายิ้มได้ไหม จะละลาย
“ซอยนี้ แท็กซี่ไม่ค่อยเข้ามาหลอก มันไกล และอีกอย่างเปลี่ยวด้วย มา ขึ้นมา เดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวจะถึงแล้ว” เล่นตัวซะหน่อย
“ขึ้นมาเหอะน่า” ไม่ต้องรอให้ชวนอีกเป็นครั้งที่ 3 ไอ้บิวก็กระโดดแผ่วขึ้นไปนั่นบนรถเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ อิอิ
“จะไปไหนหรอ เดี๋ยวไปส่ง” เมิงจะไปส่งกรูจริง ๆ หรอ
“อ้อ จะกลับหออะ เดี๋ยวต้องไปทำงานต่อ” ผมตอบไปตามความจริงครับ
“ทำงานกี่โมงหละ”
“5 โมงเย็น”
“งั้นเดี๋ยวไปส่งที่หอเลยละกัน เดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน”
“เอ้ย ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวส่งเราที่ปายซอยก็ได้ เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเอง”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก อยู่ไหนเดียวไปส่ง”
“คือ อยู่แถว.......อะ”
“อืม ไม่ไกลเท่าไหร่ เราจะไปแถวนั้นพอดี เดี๋ยวสุดหล่อจะส่งให้ถึงที่เลย 5555” แหมเมิง ชมตัวเองก็เป็นด้วย
ระหว่างที่นั่งรถไป ผมก็นั่งเงียบไปตลอดทาง ฟังมันเล่านู้นเล่านี้ไปคนเดียว ทำให้ผมได้รู้ว่า มันกับไอ้ฟิล์มนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน อายุเท่ากัน แต่อ่อนเดือนกว่า มันก็เลยต้องกลายเป็นน้องไป แต่สนิทกันเหมือนเพื่อน ไปไหนไปด้วยกัน และที่สำคัญตอนนี้ พ่อและแม่ของกัสเสียหมดแล้ว (อิอิ เหมือนกันเลย ท่าทางจะเป็นเนื้อคู่) มันเลยต้องมาอยู่กับป๊าและม๊าของไอ้ฟิล์ม แต่จริง ๆ แล้วกัสจะอยู่คนเดียวก็ได้ เพราะ พ่อกับแม่ทิ้งสมบัติไว้ให้เยอะเหมือนกัน แต่ป๊ากับม๊าไอ้ฟิล์มเป็นห่วงก็เลยลากมาอยู่อยู่ด้วย ด้วยข้ออ้างว่ามาอยู่เป็นเพื่อนฟิล์ม เนื่องจากฟิล์มมันเป็นลูกคนเดียว มิน่าละ เลยเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่ง
“ขอบใจนะที่มาส่ง ขอโทษทีที่ไม่ได้ชวนขึ้นห้องนะ พอดีรีบอะ หุหุ”
“อืม ไม่เป็นไร งั้นไปก่อนนะ”
“อืม ขับรถดี ๆ ละกาน บาย”
ผมรอจนรถกัสลับหายไป ก็รีบวิ่งขึ้นห้อง อาบน้ำ แต่งตัวเพื่อไปทำงานพิเศษ ซึ่งก็คือเป็นงานเสิร์ฟอาหารร้านอาหนุ่ม ซึ่งเป็นเพื่อนแม่นั่นแหละครับ แต่อาหนุ่มแกไม่หนุ่มเหมื่อนชื่อ แกออกสาว ๆ หน่อย ไม่เหมือนผมฮะ ที่ไม่แสดงออก อิอิ
“วันนี้มาสายนะเรา” คำแรกเลยครับหลังจากวิ่งเข้าไปในร้านที่อาหนุ่มทักผม
“หวัดดีคับพี่ โทษที พอดีเพื่อนไม่สบายอะ ก็เลยไปเยี่ยมมัน”
“เออ ไม่เป็นไร อย่าเพิ่งพูดไร ไม่เปลี่ยนชุดก่อน วันนี้ทัวร์ลงเยอะ”
“คร้าบบบ” ผมรับคำซะเสียงยาว ก่อนจะวิ่งปร๋อเข้าไปหลังร้านเพื่อเปลี่ยนชุด
แล้วตั้งแต่เย็นนั้นลากยาวไปจนถึง 4 ทุ่ม ก็เป็นงานหนักของผม เพราะว่าวันนี้ทัวร์ลงเยอะมาก วิ่งกันให้วุ่นไปหมด ไหนจะคุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเป็นทัวร์จีน ไหนเสียงจะดังช้งเช้งอีก โอ้ยเหนื่อยมาก แทบขาดใจ พอร้านปิด ทุกคนแทบจะนอนกันตรงนั้น ไม่อยากลุกไปไหน เพราะเหนื่อยจริงๆ
-
เข้ามาอ่านแล้วจ้า
-
มาเป็นกำลังใจให้ครับ มาต่อเร็วๆนะครับ :oni1: :oni1:
-
:a4:เรื่องดีๆๆน่าติดตามอย่างนี้ต้องให้กำลังใจครับ
-
:m4: :m4:มารอนะคับ :m4: :m4: :m4:
-
กลับถึงบ้าน หัวถึงหมอนก็หลับเลย ครับ น้ำท่าไม่ได้อาบ ไม่ได้ให้อาหารเจ้าปลาทองมันด้วย ไว้รวบยอดพรุ้งนี้เช้าเลยละกัน ไม่รู้ว่านอนหลับไปนานเท่าไหร่ มารู้สึกตัวอีกทีก็เมือตอนได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
“โหล ใครครับ” เสียงงัวเงียมากตอนนั้น ไม่รู้แล้วว่ากี่โมงกี่ยาม
“นี่กรูเอง แป๋ม” น้ำเสียงตอนนั้นมันร้อนรน ดูรีบ ๆ พิกล ทำให้ผมต้องตื่นทันที ลางสังหรณ์ผมบอกว่ามันต้องมีเรื่องไม่ดีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆๆ
“เออ เมิง ใจเย็น ๆ มีไร ค่อย ๆ เล่า” ผมกรอกสายลงไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงมันสะอื้นเบา ๆ
“ฮึก ๆ ฮือๆๆ ไอ้บิว ช่วยกรูหน่อยดิ กรูไม่รู้จะทำยังไงดี ฮึก ๆ ฮืออ..อ” อ้าวเมิงร้องไห้ทำไมวะ
“เฮ้ย ใครทำอะไรเมิงวะ ใจเย็น ๆ“
“ไม่ใช่กรูหรอก ฮึกๆ ฟิล์มมันอะ มันโดนรุมกระทืบอะ” อ้าวชิบแล้วไง แล้วไหนมันป่วยอยู่ไม่ใช่หรอวะ
“แล้วตอนนี้เมิงอยู่ไหน เดี๋ยวกรูตามไป”
“ตอนนี้กรูอยู่ร้าน##### เมิงมาหากรูหน่อยนะ กรูไม่รู้จะทำไงดีอะ ฮึกๆๆ”
“เออ เมิงใจเย็น ๆ กรูจะไปถึงเมิงอีก 15 นาทีนะ” ผมเหลือบมองนาฬิกาดู เป็นเวลา ตี 1 กว่าแล้ว ร้านมันน่าจะปิดแล้วนิหว่า โชคดีครับว่าร้านที่ไอ้แป๋มมันบอกอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าไหร่ แล้วไอ้ฟิล์มมันไปมีเรื่องกับใครวะเนี่ย
หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็ไปถึงสถานที่เกิดเหตุ ตอนนี้ภายในร้านไม่มีใครอยู่แล้ว แต่เห็นกลุ่มพวกไอ้แป๋มและใครไม่รู้อีก 2-3 คนยืนอยู่ แต่เป็นผู้หญิงทั้งหมดเลย
“แป๋ม” ผมเรียกไอ้แป๋มทันที เมื่องไอ้แป๋มหันมาเห็นผม ก็หันมากอดผมพร้อมกับปล่อยโฮ ทันที
“เมิงเป็นไรบ้าง แล้วไอ้ฟิล์มหละ”
พอผมถามถึงไอ้ฟิล์ม พวกผู้หญิง 3-4 คน ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนไอ้แป๋มก็เปิดทางออก ภาพที่ผมมองเห็นทำเอาผมตาค้าง ก็สภาพไอ้ฟิล์มตอนนี้ดูไม่ได้เลย สะบักสะบอมอย่างบอกไม่ถูก ไม่ตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว
“แล้วพวกแกเรียกรถพยาบาลกันยัง” ผมหันไปถามไอ้แป๋ม ไอ้แป๋มก็เอาแต่ร้องไห้และส่ายหน้าไปมา
“นี่เมิงจะรอให้มันตายก่อนใช่ไหม” ผมถามไอ้แป๋มพร้อมหันไปทางผู้หญิงอีกคนให้มันโทรเรียกรถพยาบาล เพราะตอนนั้นผมไม่กล้าแตะตัวมัน กลัวว่ากระดูกกระเดี้ยวมันจะหัก ระหว่างที่รอรถพยาบาลนั้นไอ้แป๋มมันก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ไอ้แป๋มมาเที่ยวกับเพื่อนผู้หญิงที่โรงเรียนเก่า และดันสวยทั้งกลุ่มไง ก็เลยโดนจีบ โดนแซว แต่มีอยู่กลุ่มหนึ่งแซวไม่เลิก ไอ้แป๋มมันก็เลยโทรหาแฟนมัน และไอ้ฟิล์มก็ดันมาคนเดียว ก็เลยมีสภาพอย่างที่เห็น เฮ้ย เพื่อนตรู
สรุปคืนนั้นไอ้ฟิล์มเย็บไปหลายเข็มเหมือนกัน และต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อเช็คสมองอีก ตอนแรกไอ้แป๋มบอกว่าจะเฝ้าไอ้ฟิล์ม แต่ผมเห็นสภาพมันตอนนี้ดูไม่ได้เลย ก็เลยไล่ให้มันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วถ้าจะกลับมาเฝ้าค่อยกลับมา ระหว่างนี้ผมจะเฝ้าแทนไปก่อน กรรมของกรูแท้ๆ
ระหว่างที่เฝ้าอยู่นั้น ก็มีพยาบาลเข้ามาอยู่ 2-3 หน มาเช็คน้ำเกลือบ้าง มาให้ยาบ้าง ทำเอาผมแทบไม่ได้นอน คิดไปคิดมาก็โมโห กรูอยู่ของกรูดี ๆ แท้ ๆ ต้องมานั่งเฝ้ามันเนี่ย แฟนก็ไม่ใช่
ระหว่างที่ผมนอนไม่หลับ ผมก็นั่งมองมันไปเรื่อย ๆ ดู ๆ ไปแล้วไอ้ฟิล์มนี่มันก็หน้าตาดีนิหว่า แถมรวยอีกต่างหาก เสียอย่างเดียวปากหมาไปนิดหนึ่ง มิน่าไอ้แป๋มมันถึงทั้งรักทั้งหลง นั้งมองมันไปเรื่อย ๆ สักพัก ก็เห็นมักขยุกขยิกตัว เหมือนจะรู้สึกตัวแล้ว ผมเลยรีบเดินไปข้างเตียงมันทันที
“ฟิล์ม เมิงเป็นไงบ้างวะ” ผมถามมันทันทีเมื่องมันลืมตาขึ้นมา ดูมันกรอกตาไปมาอย่างงง พร้อมกับมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนที่จะมาหยุดที่ผม
“กรูเป็นไรไปวะเนี่ย” แน๊ ยังมีหน้ามาถาม
“เมิงโดนตรีนมา” ชัดไหมฮะเมิง
“หรอ” มันนิ่งไป พร้อมกับทำท่าคิด และดูเหมือนมันจะเริ่มคิดออกแล้ว
“แล้วแป๋มหละ” เมิงไม่ต้องห่วงไอ้แป๋มหรอก เมิงห่วงตัวเมิงเองดีกว่า ซ่าดีนัก เ ป็นไงละเมิง
“เออ กรูส่งมันกลับบ้านไปนอนละ เดี๋ยวมันคงมาอะ แล้วนี่ไปทำอีท่าไหนอะ”
“กรูจำท่าไม่ได้วะ คงหลายท่าอยู่เหมือนกัน หึหึ” ยังมีอารมณ์มาขำอีกนะเมิง
“เออ ไอ้บิว เอาน้ำให้กรูหน่อยดิ กรูหิววะ” แหม ได้ทีใช้กรูเลยนะเมิง
“เออ ๆ แป๊บ” ว่าแล้วผมก็รีบไปหาน้ำให้มันกินครับ ตอนแรกก็ยื่นให้มันกินเอง มันดันกินไม่ถนัด ผมเลยต้องจัดแจงหาหลอดและป้อนใส่ปากมัน
“อิ่มละ” มันพูดพร้อมกับปล่อยปากออกจากหลอด
“เออ แล้วนี่เมิงจะกินไรปะ กรูกะว่าจะไปหาไรกินหน่อย 7 โมงเช้าหละ กรูหิว” ผมถามมันครับ
“อย่าเพิ่งไปดิ อยู่เป็นเพื่อนกรูก่อน”
“เออ แป๊บ เดียวมา” ผมพูดเสร็จก็จะเปิดประตูออกไปไรกิน แต่ไม่ทันแล้วครับ ไอ้แป๋มมันเดิน
เข้ามาพอดี พร้อม ๆ กับถุงอะไรก็ไม่รู้เต็มมือไปหมด จนผมต้องรีบเข้าไปช่วยมันถือ
“นี่เมิงซื้อไรมาเยอะแยะวะเนี่ย” ผมถามมันครับ เมื่อเปิดถุงที่มันซื้อมาแต่ละถุงมีแต่ของกินเพียบ
“ก็ซื้อของกินมาเผื่อแบงก์กับฟิล์มไง จะกินเลยป่าว” โห นี่เมิงจะซื้อกันมากินกันทั้งโรงพยาบาลเลยหรอวะเนี่ย
“เออ แป๋ม แล้วป๊ากับม๊าฟิล์มอะ” ไอ้ฟิล์มมันถามไอ้แป๋มด้วยสีหน้าไปสู้ดีนัก ท่าทางจะกลัวโดนด่ามั้ง
“อ้อ ไม่เป็นไร แป๋มบอกไปแล้วว่าฟิล์มมาช่วยแป๋ม ตอนนี้คงกำลังมามั้ง”
สักพักใหญ่ ๆ ป๊ากับม๊าไอ้ฟิล์มพร้อมกับกัสก็มาถึงครับ มาถึงก็มานั่งลูกหัวลูบหางไอ้ฟิล์มเป็นการใหญ่ ส่วนผมก็ถอยออกมายืนดูห่าง ๆ ไม่รู้เหมือนกันครับ เห็นแล้วรู้สึกอิจฉาขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่มีพ่อแม่แล้วก็ได้มั้งครับ เพราะเห็นอย่างนี้แล้วทำให้คิดถึงท่านขึ้นมา ผมก็เลยถือโอกาสที่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ ค่อย ๆ เปิดประตูเดินออกมานั่งด้านหน้าห้อง
สักพักก็รู้สึกเหมือนมีใครมานั่งข้าง ๆ หันไปไม่ใช่ใครที่ไหน นายกัสนี่เอง ผมเลยยิ้มให้เขาไปทีหนึ่งและนั่งก้มหน้ามองขาตัวเองต่อไป
“เป็นไร” นี่เป็นคำถามแรกหลังจากที่กัสกับผมนั่งกันอยู่ตรงนั้นนานพอสมควรแล้ว
“เปล่า”
“หรอ.............งั้นทำไมไม่เข้าไปนั่งในห้องหละ ออกมานั่งทำไมตรงนี้ครับ”
“เห็นคนในห้องเยอะไปหมด ก็เลยออกมานั่งข้างนอกอะ” มันจะเชื่อไหมวะเนี่ย
“จริงอะ” จะซักเอาโล่ห์หรือไงวะ
ผมไม่ตอบครับ แต่พยักหน้าให้มันไปทีหนึ่ง ไอ้นี่ คนยิ่งเศร้า ๆ อยู่
“ป่ะ เข้าไปในห้องกันดีกว่า พอดีม๊าให้ออกมาตามมนะ” แล้วมันก็เดินนำเข้าไปในห้อง ไอ้ผมก็ต้องลุกตามมันเข้าไป พอเข้าไปในห้องม๊ามันก็ลากผมให้เข้าไปนั่ง
“พอดีหนูแป๋มเขาเล่าให้ม๊าฟังอะจ่ะ ว่าลูกบิวเป็นคนพาตาฟิล์มมาส่งโรงพยาบาล ยังไงม๊าก็ขอบใจมากนะจ๊ะ ถ้าไมได้ลูกบิวนิ แย่เลย”
“อ้อ ไม่เป็นไรครับ พอดีเพื่อนกันนะครับ” พูดจบก็หันไปหาไอ้ฟิล์มมันก็ยักคิ้วให้ทีหนึ่ง น่าหมันไส้ชิบ
“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีธุระ” แหะๆๆ ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก แต่ขี้เกียจอยู่นะ
“จ๊ะ ขอบใจมากนะจ๊ะ แล้วพรุ้งนี้อย่าลืมมางานวัดเกิดตาฟิล์มด้วยนะ”
“อ๊าว ยังจะจัดอยู่หรอครับ แล้วจะออกโรงพยาบาลเมื่อไหร่ครับเนี่ย”
“เมื่อกี้คุณหมอบอกว่าไม่เป็นไรมาก ก็อาจจะให้กลับพรุ้งนี้เช้าจ๊ะ ก็จะได้ฉลองไปพร้อมกันเลย”
“โอเคครับม๊า แล้วเจอกันนะครับ สวัสดีครับ” ผมลาป๊ากับม๊าไอ้ฟิล์มและเดินออกมา กลับหอ เพราะตอนนี้อยากนอนมาก ๆ ครับ ง่วงด้วย และเดี๋ยวเย็นนี้ต้องไปทำงานอีก ดีนะวันนี้ไม่มีเรียน
พอกลับถึงบ้านก็ให้อาหารเจ้าปลาทองซะหน่อย ลืมมันไปเลยนะเนี่ย 555+
“ไหน พูดเพราะ ๆ ก่อนซิ”
“บิวน่ารัก บิวน่ารัก”
“พอแหละ ไม่ต้องชม เขิน” อิอิ
-
อีตาฟิล์มชักแปลกๆ แต่เชียร์กัสอะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :a11: :a11:
-
:m4: :m4: :m4:
-
:oni1: มารอตอนต่อไปจ้า :oni1:
-
:a4:ผมก็เชียร์ กัส เหมือนกัน ครับ
-
กัสสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
นั่นซิแปลกก แต่1เชียร์2คนนะ มีหลายๆคนอุ่น....ใจดีอิๆ
-
เชียร์กัส :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:
-
เชียร์กั๊ก
อ้าวเฮ้ย เชียร์ผิดคน
อิอิ :m20: :m20: :m20:
-
555+ แหม พอดีพูดถึงกั๊กขึ้นมาพอดี เลยมีข่าวเกี่ยวกับมันมาบอกว่า มันจะแต่งงานวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้แล้วนะคับ :sad2: :sad2:
เปลี่ยนเรื่องดีก่า
ต่อเลยนะคับ
++++++++++++++++++++++++
ความในใจ
วันนี้วันศุกร์ครับ และก็เป็นวันฉลองวันเกิดบวกกับฉลองที่ไอ้ฟิล์มมันกลับบ้านด้วยครับ แต่ว่าตอนเช้าเราไปเรียนกันก่อน วันนี้มีเรียนถึงบ่าย 3 โมงครับ ก็เลยกะว่าจะกลับหอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ขี้เกียจไปในชุดนักศึกษา และนั่งรอให้ไอ้แป๋มมารับ สถานที่จัดงานก็เป็นบ้านไอ้ฟิล์มนั่นแหละครับ คิดว่าวันนี้คงจะอึกทึกคึกโครมแน่นอน เพราะได้ยินไอ้แป๋มมันพูดว่า ป๊ากับม๊าไอ้ฟิล์มชวนเพื่อน ๆ ลูกมาเยอะเหมือนกัน
พอเรียนเสร็จไอ้แป๋มก็มาส่งผมที่หอ ส่วนมันก็กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมก็จัดแจงให้อาหารเจ้าปลาทองก่อน และอาบน้ำอาบท่า เลือกเสื้อผ้าตัวที่คิดว่าดีที่สุดมาใส่ เพราะว่าวันนี้คนคงเยอะ เดี๋ยวอายเขาเปล่า ๆ พอแต่งตัวเสร็จก็นั่งรอไอ้แป๋มมารับ สักพักมันก็โทรขึ้นมาให้ลงไปรอมันข้างล่าง
“ไปละนะ เจ้าปลาทอง” ผมบอกลาเจ้าปลาทองเสร็จก็รีบลงไปใต้หอทันที เห็นรถไอ้แป๋มมันจอดรอไว้อยู่แล้วก็เลยขึ้นไปนั่งบนรถมัน
“โอโห วันนี้หล่อเชียวนะแก” ไอ้แป๋มครับ ทักผมขึ้นหลังจากที่ผมขึ้นไปนั่งบนรถ
“อิอิ เมิงก็สวย” เมิงชมกรูมากรูก็ต้องชมกลับ อิอิ
“นี่ เมิงแต่งตัวไปล่อใครหรือเปล่าวะเนี่ยไอ้บิว” รู้ทันกรูอีก ไอ้นี่ ผมไม่ได้ตอบมันครับ เพียงแต่หันไปยักคิ้วให้มันแบบกวน ๆ ทีหนึ่ง
ระวังที่นั่งรถไปไอ้แป๋มมันก็ยื่นการ์ดมาให้ผมและให้ผมเขียนอวยพรไอ้ฟิล์มลงไปด้วย
“อะ เมิงเอาไปเขียนอวยพรด้วย ของขวัญรวมกับของกรูก็ได้” ดี ๆ กรูจะได้ไม่ต้องเสียตังค์
“555+ กรูเนี่ยนะจะเขียนอวยพรให้มัน มีแต่จะแช่งมันมากกว่า โหะๆๆ”
“อ้าวอีนี่ แฟนกรู” แน้ๆๆ มีห่วงกันด้วย น่าอิจฉาวะ
“เออ ๆ เดี๋ยวกรูจะเขียนให้งดงามเลย” อิอิ เสร็จโจร
แล้วผมก็เขียนข้อความลงไปในการ์ด แต่ไม่แน่ใจว่าอวยพรหรือเปล่า และก็เสียบลงไปในของขวัญ
สักพักรถผมกับแป๋มก็มาถึงหน้าบ้านไอ้ฟิล์ม ซึ่งต้องจอดหน้าบ้าน เพราะในบ้านรถจอดเต็มไปหมดเลย รวมถึงเขากันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ตั้งซุ้มอาหาร พอเดินเข้าไปข้างใน ผมก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับอาหารนานาชนิดที่สั่งมาจากร้านหรู ๆ ผู้คนมากมายที่เดินกันเต็มบริเวณบ้านไปหมด นี่มันงานวัดเกิดหรืองานทอดผ้าป่ากันแน่วะเนี่ย ทำให้ผมที่คิดว่าแต่งตัวมาดีสุดแล้วหมองไปเลย
“บิว ๆ ทางนี้” เสียงไอ้แป๋มครับ ทำเอาผมตื่นจากภวังค์ ไอ้แป๋มมันเรียกผมไปสวัดดีป๊ากับม๊า ฟิล์มมัน พร้อมกับยื่นของขวัญให้ฟิล์มมันด้วย
“สุขสันต์วันเกิดนะฟิล์ม” ไอ้แป๋มครับอวยพรวันเกิดให้มัน
“แล้วเมิงหละ” ไอ้ฟิล์มมันหันมาถามผมครับ
“ไร” ผมงงครับว่ามันถามอะไรผม-
“ของขวัญกรูอะ”
“อ้อ ก็ เออ.......รวมกับของไอ้แป๋มมันนะ ชิ้นเดียวกัน 2 คน ไม่ได้หรอวะ” ไอ้นี่ทำเป็นงก จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เตรียมให้มันนั่นแหละ อิอิ”
“ไม่ได้เว้ย” อะไรของเมิงว๊า
“เออ ๆ แล้วเดี๋ยวกรูซื้อมาให้ใหม่ก็ได้ ไอ้เชี่ยนี่” ผมตัดปัญหาครับ ขี้เกียจเถียงกับมัน เชี่ยไรวะ งกชิบ หันไปเห็นป๊ากับม๊ามันก็ยืนขำลูกชายตัวเอง
“งั้นเดี๋ยวหนูขอตัวไปหาอะไรทานกันก่อนนะค่ะ” ไอ้แป๋มครับมันพูดเสร็จมันก็ลากผมออกมาหาอะไรที่ซุ้นกินกัน อาหารก็มีให้เลือกหลายอย่างครับ มีทั้งพวกส้มตำ ลาป รวมถึงอาหารไทย อาหารฝรั่งก็มี ขนมเค้กอีก พร้อมเครื่องดื่มเพียบ โอ้ย อะไรจะเยอะขนาดนี้
ตอนนี้ผมก็ไม่สนใจใครแล้วครับ รีบตักอาหารอย่างเดียว อิอิ ของดี ๆ ทั้งนั้น หันไปอีกทีก็ไม่เจอไอ้แป๋มมันแล้ว ไม่รู้ไปหาอะไรกินแถวไหน แต่ช่วงจังหวะนั้น ผมหันไปเห็นไอ้ฟิล์มกับกัสยืนคุยกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่ไม่รู้ แต่ไม่ได้สนใจหรอกครับ สนใจของตรงหน้าดีกว่า พอตักเสร็จแล้วก็เดินหาเก้าอี้นั่งกิน พอหาได้แล้วก็จัดการกับอาหารตรงหน้า แบบว่าหิวอะครับ ก็เลยซัดไม่เหลือคราบ
“นั่งด้วยคนนะครับ” เสียงหล่อ ๆทักผมขึ้น พอเงยหน้าขึ้นไปดู อ้าวกัสนี่เอง
“หวัดดีกัส” ทักทายตามมารยาทครับ และก็เขยิบเก้าอี้ให้กัสนั่ง
“อืมหวัดดี ท่าทางจะหิวมากนะเนี่ย หึหึ”
“แหะๆๆ” ผมทำอะไรไม่ถูกครับก็เลยได้แต่ยิ้มแหยๆๆ ส่งให้มันไป อายด้วย กลัวกัสจะหาว่าเราตะกละ มูมมามอะไรทำนองนั้น
“อ้าว เลยกินไม่ลงเลยหรอ 5555+” อะไรวะ ยังมีหน้ามาหัวเราะเยาะอีก เดี๋ยวก็จีบซะหรอก
“ไอ้บ้า” ก็ได้แต่ด่ามันอะครับ
“เออ บิวสนิทกับฟิล์มจังเลยเนอะ” อยู่ดี ๆ กัสมันก็ถามขึ้นครับ
“อ้อ ถ้าไอ้การที่ทะเลาะกันทุกวัน ด่ากันทุกวัน แปลว่าสนิทกัน ก็คงใช่” ผมก็ตอบมันไปตามความจริง ก็ผมกับไอ้ฟิล์มเนี่ย ทะเลาะกันเป็นประจำ
“รู้จักกันมานานหรือยัง”
“อืม ก็ตั้งแต่ปีหนึ่งอะ มันมาเป็นแฟนแป๋ม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทบิวอะ ก็เลยต้องมาอยู่กลุ่มเดียวกัน” ไม่กล้าบอกกัสมันครับว่าไม่ชอบขี้หน้าไอ้ฟิล์ม แบบว่าไม่ถูกชะตา
“น่าอิจฉาฟิล์มเนอะ มีเพื่อนน่ารัก ๆ อย่างบิว” อึ้งครับอึ้ง ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเองก็แสดงว่า นี่เรากำลังถูกจีบอยู่ใช่ปาวหว่า
“บ้าดิ เราเนี่ยะนะน่ารัก” เขินครับ ตอนนี้ข้าวในจานถูกเขี่ยไปเขี่ยมา เกิดมาไม่เคยถูกใครจีบ
“อืม น่ารักสิ” ไอ้บร้า เดี๋ยวกรูก็กระโดดหอมแก้มหรอก
ผมนั่งบิดไปบิดมาซักพักหนึ่ง หันไปมองหน้ากัส ก็เห็นมันยิ้มให้ตาหยีเลย ทำตัวไม่ถูก จนไอ้แป๋มมานั่งข้าง ๆ ผมก็เลยต้องเก็บอาการ
“คุยอะไรกันอยู่หรอ ท่าทางน่าสนุก” เมิงมาก็ดีแหละ กรูจะละลายอยู่มะรอมมะร่อ
“ก็เรื่อยเปื่อยนะ” ต้องชิงตอบไอ้แป๋มครับ กลัวใจไอ้คนข้าง ๆ มันจะพูดอะไรไป
“เออ เดี๋ยวกัสไปคุยกับฟิล์มมันหน่อยนะ แป๋ม ไปก่อนนะบิว” แล้วมันก็ลุกขึ้นเดินตรงไปยังไอ้ฟิล์ม ผมว่าไอ้คู่นี้มันแปลก ๆ นะ แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันกำลังทำอะไรกันอยู่ พอมันเดินไปถึง ไอ้ฟิล์มก็ดึงตัวกัสเข้าไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้ และหัวเราะกันนิดหน่อย ผมก็เลยไม่ได้สนใจ ก็เลยหันไปคุยกับไอ้แป๋มต่อ พอถึง 5 ทุ่ม ก็มีเป่าเค้กวันเกิดกัน ผมยอมรับว่าอิจฉ๊า อิจฉามัน ก็ตั้งแต่เกิดมา ผมยังไม่เคยมีงานวันเกิดเลยสิครับ
พอเป่าเสร็จไอ้ฟิล์มมันก็ตัดเค้กแจกคนโน้นคนนี้ที หลังจากนั้นมันก็ถือจานใส่เค้กมาหาผมกับแป๋ม แล้วมันก็เอาช้อนตักเค้กป้อนไอ้แป๋มไปทีหนึ่ง แล้วก็ตักอีกคำยื่นมาตรงหน้าผม
“เมิงทำไร” ผมก็ถามมันครับเมื่อเห็นว่ามันตักเค้กมายื่นตรงปากผม
“กินซะ”
“เมิงก็ไปป้อนแฟนเมิงนู้นสิ” ตอนนี้ไอ้แป๋มก็หัวเราะคิกคักๆๆ ส่วนมันก็พยายามจะเอาเค้กยัดเข้าไปในปากผม ผมก็พยายามปัดออก เพราะตอนนั้นอายไอ้แป๋มมัน ปัดกันไปปัดกันมา ไอ้เจ้าเค้กชิ้นโต ดันมาตกแหมะลงบนหัวผม
“อ๊ายยยยยยยยยยยยยย ไอ้เชี่ย เมิงทำเชี่ยไรเนี่ย” ผมตวาดไอ้ฟิล์มทันที มือก็ดึงเค้กออกจากหัวด้วย ทั้งครีม ทั้งสตอเบอรี่ เลอะเต็มหัวไปหมด
“5555555” เสียงไอ้ฟิล์มครับ หันไปเห็นมันกำลังนั่งหัวเราะเอามือกุมท้องอยู่ ท่าทางจะขำมาก เมิงตลกมากใช่ไหม ไอบ้า
“ปะ บิวไปล้างหัวก่อนดีกว่า” เย้ๆๆ เสียงพระเอกของผมครับมาพอดี
-
เชียร์กัส อะ แต่ก็ชอบฟิล์มนะ 555555555
-
o2 กุ๊ก... โกรธกุ๊กแล้ว... :a6: :serius2: :sad2:
:o12: :o12: :o12:
เจิมให้เพื่อนเกลอคนเก่งอีกหนด้วย
-
“ก็ซื้อของกินมาเผื่อแบงก์กับฟิล์มไง จะกินเลยป่าว” โห นี่เมิงจะซื้อกันมากินกันทั้งโรงพยาบาลเลยหรอวะเนี่ย
เออ...ไอ้แบงก์นี่เป็นหมอที่มารักษาฟิล์มชะมะ
แล้วไอ้บิวไปไหนละ
-
เข้มแข็งไว้นะคุณแบงค์ :a2:
เป็นกำลังใจเหมือนเดิม :a1:
-
ฟิล์มกะกัสกระซิบอารายกันน้า :oni1:
-
กัสกะฟิล์มซุบซิบอะไรกันอ่ะ
น่าสงสัย :m21:
-
“ก็ซื้อของกินมาเผื่อแบงก์กับฟิล์มไง จะกินเลยป่าว” โห นี่เมิงจะซื้อกันมากินกันทั้งโรงพยาบาลเลยหรอวะเนี่ย
เออ...ไอ้แบงก์นี่เป็นหมอที่มารักษาฟิล์มชะมะ
แล้วไอ้บิวไปไหนละ
อิอิ เขินจัง พิมพ์ผิด ชอบคิดว่าเป็นตัวเองอยู่เรื่อย อิอิ
-
กัสก้อน่ารักอยู่นะ แต่อ่านไปอ่านมารู้สึกเหมือนฟิลม์จะมาวินอ่า :o8:
อย่างนี้จะไม่กลายเปนเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดหรอ :m21:
รึเราคิดมากไป แห่ะๆ :m29:
ปล.เม้นครั้งแรก ฝากตัวด้วยคร้าบ
-
กัสวางแผนกับฟิลม์ปล่าว :m13:
-
คุณแบงก์สู้ๆๆนะคร๊าบบ แล้วสักวันนึงในเวลานึงเราจะผ่านไปได้
-
ไอ้กัสนั่นเองครับที่มาช่วยผมได้ทันเวลาพอดี ตอนนี้ไอ้ฟิล์มหยุดหัวเราะกึกทันที ไอ้เชี่ยนี่เปลียนอารมณ์ง่ายดีแท้ แต่ผมไม่สนใจครับ เดินตามกัสต้อยๆ ไปเข้าห้องน้ำล้างหัว ตอนแรกกะจะเข้าห้องน้ำชั้นล่างแต่มีคนอยู่ กัสมันก็เลยเดินนำขึ้นไปห้องน้ำชั้นบน ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันจะพาไปล้างที่ไหน จนมันพูดขึ้นมา
“บิว ไปล้างที่ห้องเราก่อนนะ” แล้วมันก็เปิดประตูห้องนอนมันนำผมเข้าไปห้องน้ำ
“บิว ๆ ถอดเสื้อก่อนดิ เดี๋ยวเสื้อเปียกน้ำ” น่าน คิดอะไรหรือเปล่าเมิง
“ไม่เอาอะ เดี๋ยวมันเลอะเค้กที่หัว ขอล้างหัวก่อน กัสวานไปหยิบผ้าให้หน่อยดิ”
แล้วมันก็เดินหายออกไปในห้องเพื่อไปหยิบผ้าขนหนูมาให้ ส่วนผมก็จัดการล้างหัวพอให้มันเกลี้ยง แต่มันก็ยังมัน ๆ ลื่น ๆ อยู่ ก็เลยถอดเสื้อออกกะว่าจะสระผม ตอนสระไปก็ระวังไม่ให้น้ำมันไหลลงไปที่กางเกง ไอ้กัสเดินเข้ามาพอดี ผมหันไปมองมันเห็นมันมองผมตาแป๋ว
“มองไร” ไอ้บร้า คนยิ่งเขิน ๆ อยู่ ตอนนี้ลืมไปเลยว่าถอดเสื้ออยู่
“เออ...เออ” ถ้าผมหูไม่แว่ว ผมคิดว่าผมได้ยินเสียงมันกลืนน้ำลายดังเอือก
“คือ มะ กัสช่วยสระให้เดี๋ยวกางเกงจะเปียก”
“อืม ขอบใจ”
แล้วมันก็เข้ามาถือฝักบัวให้ โดยที่ผมยังใช้มือขยี้หัวตัวเองอยู่ จนคิดว่าเกลี้ยงแล้ว ก็ร้องหาน้ำจากมัน
“กัส เสร็จแล้ว”
“.......................................”
“กัส เอาฝักบัวล้างหัวให้หน่อย ยาสระผมเข้าตาแล้ว”
“......................................”
“กัส บิวแสบตา” ผมชักพูดดังขึ้นครับ ส่วนมืออก็คว้าสะเปะสะปะไปเรื่อยเปื่อยเพื่อจะแย่งเอาฝักบัวจากกัสที่ถือไว้อยู่ เพราะว่าตอนนี้ยาสระผมไหลเข้าตาผมแล้ว
“ได้ แต่ก่อนจะล้างให้ กัสขออะไรบิวอย่างได้ป่าว” ไอ้นี่ ชักแปลก ๆ
“ได้ เร็ว ๆ เข้า” ตอนนั้นไม่ทันได้คิดอะไร เพราะว่าแสบตาจะแย่อยู่แล้ว แล้วเมิงจะขออะไรกรูเนี่ย
“เป็นแฟนกับกัสนะ”
“ได้” ไม่ทันคิดครับ ไม่ได้ฟังด้วย ตอบได้ไว้ก่อน เพราะว่าอยากจะเอายาสระผมออกจากหัว แสบไปหมดแว้วววววววว
แล้วมันก็ล้างหัวออกให้จนหมด ยังไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเมื่อกี้มันถามอะไรมา
“ขอบใจ” พอล้างเสร็จก็จัดแจงใส่เสื้อผ้า
“บิวเป็นแฟนกัสแล้วนะ”
“??????????????????”ตอนไหนวะ กรูไปเป็นแฟนเมิงตอนไหนวะ
“ไม่ต้องมางง ก็เมื่อกี้บิวรับปากกับกัสแล้วว่าจะเป็นแฟนเรา”
“นี่...........นี่ กัส.............ยังไง.............โอ้ย งง”
“รับปากแล้ว..ห้ามคืนคำ ปะ ไปข้างล่างกันดีกว่า” มันพูดพร้อมกับลากมือผมลงไปข้างล่าง ทั้ง ๆ ที่หัวก็ยังไม่ได้เช็ด เดินไปก็งงไป กรูไปเป็นแฟนเมิงตอนไหนวะเนี่ย...................เอ๊ะ หรือว่าที่มันขอก่อนจะล้างหัวให้ตรูวะ เอ๊ะ แล้วกรูตอบไปว่าได้หรอวะ เอ๊ะ งง
“บิวเป็นไร หน้าเบลอ ๆ “ ไอ้แป๋มถามผมเมื่อเดินลงมาข้างล่าง หันไปมองไอ้กัส ก็เห็นมันสบตากับไอ้ฟิล์ม
“อ้อ...เออ ปล่าว ไม่มีไร เออ แป๋ม เรากลับก่อนนะ” ผมลาไอ้แป๋มเสร็จก็เดินออกจากบ้านมันไปแบบงง
“เอ้ย เดี๋ยว เมิงจะกลับยังไง นี่มันดึกแล้วนะเว้ย” ไอ้แป๋มครับวิ่งตามผมออกจากบ้านมา มันคงงงเหมือนผมมั้งครับที่อยู่ดี ๆ ก็จะกลับบ้านซะงั้น
“เออ...อ้อ แท็กซี่....ใช่ กลับแท็กซี่”
“แล้วเดินไปปากซอยเนี่ยนะ”
“อืม”
“ให้กัสไปส่งดีกว่า” แป๋มมันเสนอครับ
“เอ้ย ไม่ต้อง เดี๋ยวไปเองดีกว่า เดินไปแป็บเดียว ไม่เป็นไร ไปก่อนนะ” แล้วผมก็ออกวิ่งทันที ไม่รอให้ไอ้แป๋มมันถามอะไร ยอมรับว่าตอนนั้นยังไม่ทันตั้งตัว งง แหม ก็คนไม่เคยมีแฟนนิหน่า
พอกลับถึงบ้าน อาบน้ำเสร็จแล้วก็ออกมาให้อาหารเจ้าปลาทอง
“บิวน่ารัก บิวน่ารัก” เสียงใส ๆ ของเจ้าปลาทองร้องทักขึ้น
“แหม พูดถูกใจ เอาไปเยอะ ๆ เลยวันนี้” แต่เอ๊ะ พูดเหมือนกัสเลยนิหว่า
“เราเนี่ยนะน่ารัก น่ารักหรอ “
“แล้วเราเป็นแฟนกัสเนี่ยนะ “
“กัสขอเราเป็นแฟนเนี่ยนะ”
“กัสเป็นเกย์หรอ”
"เอ๊ะ แล้วฟันมันอะ"
“แล้วคนเป็นแฟนกันเขาต้องทำยังไงหรอ”
ผมนั่งเพ้อ กับเจ้าปลาทองอยู่คนเดียว จนมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ผมต้องตื่นจากภวังค์
“ฮัลโหล มีไรแป๋ม” เป็นแป๋มนั่นเองครับที่โทรมา
“วันนี้เมิงเป็นไรป่าวเนี่ย”
“ป่าวนิ ทำไมหรอ”
“ป๊าว กรูเห็นเมิง ใจลอย ๆ พิกล ไม่เป็นไรแน่นะ” ซักกรูจังเลยอี่นี่
“อืม ไม่เป็นไร ง่วงแล้ว จะนอนแล้ว”
“เออ ๆๆ คนเขาอุตสาห์เป็นห่วง”
“จ้า ขอบใจจ้า ง่วงแล้ว แค่นี้ก่อนนะ” แล้วผมก็ชิงวางสายมัน ไม่อยากให้มันซักไปมากกว่านี้ครับ เพราะผมก็ยังไม่แน่ใจเลยครับว่าผมกับกัสเนี่ยนะจะเป็นแฟนกัน ผมว่ามันเร็วเกินไปนะ
“ปี๊ด ๆๆ” เสียงแมสเซสโทรศัพท์ผมดังขึ้นครับ แม่งใครวะคนจะหลับจะนอน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกดดูครับ
“ฝันดีนะครับ”
“กัสแฟนบิว”
เอ๊ะ นี่มันเอาจริงหรอวะเนี่ย คิดไปคิดมาจนเผลอหลับไป
-
:m30: ไวไฟเหมือนพี่กุ๊ก กับพี่แบงค์เลย...
พี่แบงค์ :m25: :m20: น้องรุส
ตอนนี้กำลังเคืองพี่แบงค์แรง = = :m16:
คนเขาอุตส่าห์โทรไปดีดี ไม่ต้องโทรก็ไม่ต้องโทร
ไม่ง้อละ :เฮ้อ:
-
ดีนะกัสแค่ขอเป็นแฟน ไม่ขอ......:o8:
ไอเราก้อเห็นถอดเสื้อแล้ว ก้อลุ้นให้ถอดกางเกงด้วยซะหน่อย :m30:
-
โอ้ย กัสแฟนบิว
สงสัยที่เห็นกัสมันซุบซิบกับ ฟิล์ม แอบสืบเรื่องของ บิวแน่เลย
-
เพิ่งอ่านรวบยอด
.....
เพื่อน ๆ ไม่ต้องแปลกใจนะครับผมเป็นคนสอนให้เจ้าปลาทองพูดคนนี้เอง และมันก็พูดได้คำเดียวหละครับ
หลังจากนั้นผมก็จัดแจงให้อาหาร ให้น้ำมัน เล่นกับมันนิดหน่อย ก่อนที่จะกลับมาเข้าล้มตัวลงนอนบนเตียง
.....
เค้างงกะช่วงนี้อ่ะ
ตกลงนกแก้วต้องกินน้ำมันด้วยเหรอ :m20:
แล้วไอ้คำว่าเข้าเนี่ย จะมีทำไม :confuse:
แต่กัสมันก็ร้ายเหมือนกันนะนี่
-
:m1:ขอกันง่ายดีจัง
-
:o8:
-
เป็นแฟนกันรวดเร็วทันใจจอร์จมาก :m1:
-
น้านซิเร็วมากกกกก
-
เป็นกำลังใจให้ครับ
-
:a4:งานนี้กัสเอาจริงหรือแค่เล่นขำๆๆครับเนี่ย
-
ชักแปลกๆกันทั้งฟิล์ม ทั้งกัส เลย งั้นจัดไปทั้ง 2 คนเลยดีมั๊ย
แบบว่าน้องพลับขอ 2........
:m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:
-
:a4:เข้ามารออีกวันยังไม่เห็นมาเลยครับ หรือว่ามัวคุยอยู่แต่กับเจ้าปลาทอง
-
โทษทีครับที่หายไป 2 วัน เพราะว่าไปดูงานที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้นอะครับ ได้ไปปลูกป่าชายเลนด้วย สนุกมาก ๆ
ต่อกันดีกว่าเนอะ
-----------------------
ภารกิจรัก
เช้านี้เป็นวันเสาร์ครับ แต่ผมกลับตื่นเช้าผิดปกติ อันเนื่องมาจากไอ้ข้อความ ที่ส่งมาอีกเมื่อเช้านี้
“วันนี้ไปเที่ยวกัน 9 โมงจะไปรับ”
“กัส”
ตอนนี้ผมบอกตามตรงครับ ว่าผมทำตัวไม่ถูกเท่าไหร่ อันเนื่องมาจากสาเหตุที่ผมบอกไปนั่นก็คือ ผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย และกัสเนี่ยก็เป็นคนที่เคยคิดว่าไกลเกินเอื้อมไปด้วย แต่ทำไมเขาเลือกผม แล้วทำไมผมไม่ดีใจเท่าที่ควรหละ แต่เอาเหอะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ หลวมตัวไปแล้วนิหว่า ไอ้เราก็ดันปากไว ไปรับปากเขาไว้แล้ว
พอถึงเวลา เกือบ ๆ จะ 10 โมง เสียงโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“บิว เรามาถึงแล้ว รออยู่ข้างล่างนะ ลงมาเลย” พูดจบปุ๊ ก็ตัดสายปั๊บ ไอ้เราจะถามอะไรซักหน่อย ก็เป็นอันไม่ได้ถาม มันจะรีบไปไหนกันวะเนี่ย แต่ก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมาก คว้ารองเท้าได้ก็รีบออกจากห้อง ก่อนจะออกชะเง้อมองถาดอาหารเจ้าปลาทอง ซึ่งก็เห็นว่ายังเหลือเยอะอยู่ แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมช่วงนี้เจ้าปลาทองกินน้อยจัง สงสัยอยากลดความอ้วน (ฮา)
ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ผมก็วิ่งลงมาถึงรถเก๋งคันงามสีดำหรู จอดสนิทอยู่ มองเข้าไปข้างในเห็นกัสนั่งอยู่ในที่นั่งประจำคนขับ พอกัสเห็นผม ก็ยิ้มให้หนึ่งที ก่อนจะควักมือเรียกผมให้ขึ้นไปนั่งในรถ ผมก็มัวแต่ตะลึงในความหล่อ เลยลืมไปเลย หุหุ
“หวัดดีกัส” ผมเริ่มทักกัสมันก่อนครับ เพราะว่าไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี กัสมันก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่หันมายิ้มให้หนึ่งที
“วันนี้จะไปไหนหรอ”
“ไปดูหนัง” กัสมันตอบแล้วครับ แต่ตามันยังคงมองอยู่บนถนน ระหว่างทางที่นั่งไป ผมก็เหลือบตามองไอ้กัสมันเป็นระยะ ๆ วันนี้มันดูดีจริง ๆ ครับ กัสมันอยู่ในเสื้อเชิร์ตสีดำ กางเกงผ้าสีครีม ผมถูกเซ็ตไว้อย่างพอดี ยิ่งมองยิ่งเห็นความแตกต่างระหว่างผมกับกัสมากขึ้น
“เบื่อหรอครับ” คำถามแรกจากปากกัสมันครับ มันถามผมหลังจากที่ผมจ้องกัสจนเพลิน ทำให้กัสมันสังเกตเห็น
“อ๋อ...เปล่า คิดอะไรเพลินไปหน่อย” กัสมันก็ไม่ได้ว่าอะไร เอาแต่ส่งยิ้มหวาน ๆ มาให้ จะละลายอยู่แล้ว
พอไปถึงห้าง เราก็ตกลงกันว่าจะไปซื้อตั๋วหนังก่อนแล้วค่อยไปหาอะไรกินกันต่อ เพราะเริ่มหิวแล้วด้วย
“บิว จะดูเรื่องไรดี” นาน ๆ ทีผมจะได้ออกมาดูหนังครับ แทบทุกเรื่องเลยที่ยังไม่ได้ดู
“แล้วแต่กัสสิ กัสอยากดูเรื่องไรหละ” จริง ๆ แล้วเกร็งนิดๆ ด้วยอะครับ กลัวเลือกออกมาแล้วจะไม่ถูกใจกัสเขา
“อืม........งั้นเป็นเรื่องนี้ละกัน ท่าทางน่าสนุก” กัสพูดพร้อมกับชี้ไปที่โปสเตอร์หนังเรื่องหนึ่ง เป็นหนังฝรั่งครับ สไตล์โรแมนติก คอมเมอดี้
“ก็ได้ ท่าทางน่าสนุกเนอะ” อิอิ ใจตรงกันอีกด้วย เพราะว่าตอนแรกผมกะจะเลือกเรื่องนี้เหมือนกันอะครับ แต่กลัวกัสมันหาว่าปัญญาอ่อน
ระหว่างที่กำลังเดินไปซื้อตั๋วนั้น ด้วยความที่เราเดินตัวติดกันเกินไปหน่อย ทำให้มือผมกับมือกัสมีโอกาสสัมผัสกันบ่อยครั้ง หลาย ๆ ครั้งเข้า กัสก็เลยค่อย ๆ เอานิ้วก้อยของเขา สอดเข้ามาในนิ้วก้อยของผม ผมหันหน้าไปมองหน้ากัสทันที แต่กัสเขาก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร แต่กัสเขาจะรู้ไหมนะว่าผมนะ ทั้งเขินทั้งอาย พยายามเอามือออก แต่นิ้วก้อยของกัสก็ยังคงเกี่ยวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ผมก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยไป ในใจก็ดีใจด้วยอะครับ ที่กัสเขาไม่รังเกียจเรา แถมยังเดินจับมือเราอีก อิอิ
พอได้ตั๋วหนังเสร็จเราก็ไปหาอะไรกินกัน ซึ่งพอดีว่าเราชอบอาหารญี่ปุ่นด้วยกันทั้งคู่ ก็เลยตัดสินใจกินฟูจิ ซึ่งก็ของโปรดผมเลยอะครับ ระหว่างที่กินไปเราทั้งคู่ก็คุยกันสนุกสนาน ดู ๆ ไปแล้วไอ้กัสนี่มันขี้เล่นเหมือนกันนะครับ ทำให้ผมหัวเราะได้อยู่เรื่อย ระหว่างโทรศัพท์กัสก็ดังขึ้นครับ
“สวัสดีครับ”
“........................................” ผมเห็นกัสมันเงียบไปนานก็เลยเงยหน้ามองมันนิดหน่อย ตอนแรกก็กะว่าจะไม่ได้สนใจหรอกครับ เพราะเรื่องส่วนตัวเขา แต่เห็นเงียบผิดปกติก็เลยมอง ก็เลยได้เห็นว่ามันกำลังมองผมอยู่ก่อนแล้ว
“กินข้าวกับเพื่อนครับ” อ้าว แล้วเมื่อวานใครขอกรูเป็นแฟนวะ แต่ก็เข้าใจอะครับว่ามันคงอายที่มีแฟนเป็นผู้ชาย เรื่องอย่างงี้ แม้โลกจะเปลี่ยนไป แต่ก็ไม่ได้หมายว่าจะรับได้ทุกคนหรอก ใช่ไหมครับ
“มาดูหนังครับ”
“ไว้กลับบ้านแล้วจะโทรหานะ เดี๋ยวต้องเข้าโรงหนังแล้ว” อ้าวโกหกนิหว่า
“เหมือนกันครับ”
“บายครับ” มันพูดเสร็จแล้วมันก็วางสาย แล้วก็หันมาถามผมว่าอิ่มยัง ถ้าอิ่มแล้วจะได้เก็บตังค์เลย มันถามผมมาอย่างนี้ผมก็เลยต้องอิ่มสิครับ แล้วมันก็เรียกเก็บเงิน ผลไม้ที่เขามีให้มันก็ไม่กิน ท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ
สักพักหนึ่งโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกแล้ว แต่คราวนี้เป็นไอ้ฟิล์มครับ ที่ผมรู้ เพราะว่ามันเรียกชื่อไอ้ฟิล์ม
“ว่าไงฟิล์ม” ไอ้กัสกรอกเสียงไปตามสาย
............................................................
“อืม เรียบร้อยดี”
………………………………………….
“อย่าลืมละกัน 555”
.........................................................
“อืม แค่นี้ก่อนละกัน จะเข้าโรงหนังแล้ว บาย” มันพูดเสร็จแล้วมันก็วางสายไป ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคุยเรื่องอะไรกัน ที่ได้ยินมาก็จับใจความไม่ถูก ปะติดปะต่อไม่เข้าใจ แต่คร่าว ๆ ว่าไอ้ฟิล์มมันคงใช้ให้กัสทำอะไรให้ซักอย่างนั่นแหละ แต่ก็ไม่กล้าถามครับ กลัวโดนหาว่าไปยุ่งเรื่องของเขา
ระหว่างดูหนังมือผมกับมือกัสก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากกันเลยครับ ท่าทางคงจะลืม แต่พอหนังเดินไปได้ซักครึ่งเรื่องหันไปมองไอ้กัส อ้าว หลับซะงั้น แล้วชวนกรูมาดูทำไมวะ แต่ผมไม่สนใจครับ ดูหนังดีกว่า เพราะว่าส่วนตัวชอบดูหนังสไตล์นี้อยู่แล้วครับ เรื่องนี้ไอ้แป๋มรู้ดี เพราะชวนมันมาดูบ่อย จนมันเบื่อซะละ
พอหนังจบแล้วผมก็เลยต้องรับหน้าที่ปลุกกัสให้ตื่นขึ้น มันหันมามองผมพร้อมกับท่าทางอาย ๆ ของมัน
“อ้าว จบแล้วหรอ” ไม่ใช่หนังควบนะเมิง
“อืม”
“งั้น ไปกันดีกว่า อยากเข้าห้องน้ำ” พูดจบมันก็ดันตัวผมขึ้นพร้อมกับผลักผมเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ท่าทางจะปวดฉี่ พอถึงห้องน้ำผมก็ให้มันเข้าไปก่อน แล้วผมเข้าต่อจากมัน พอผมทำธุระเสร็จแล้วเดินออกมาเห็นมันคุยโทรศัพท์อยู่
“งั้นแค่นี้ก่อนนะ แล้วจะโทรไปหาใหม่” มันพูดจบ ก็วางสายทันที ซึ่งผมทันได้ยินแค่ประโยคปิดท้าย
“เราจะไปไหนกันต่อหรอ” ผมหันไปถามไอ้กัสครับ เพราะนี่มันจะ 4 โมงเย็นแล้ว
“ไปเดินซื้อของกันดีกว่า…นะ” ประโยคแรกเหมือนจะเป็นประโยคคำสั่ง แต่พอฟังจบก็เหมือนจะเป็นประโยคขอร้อง
“อืม ก็ได้” ผมยังไม่ทันพูดจบมันก็จูงมือผมเดินออกมาเลย แหม คนเยอะแยะ ไม่อายเลยนะเมิง ผมเขินมากครับ คนก็แอบมองหลายคนเหมือนกัน แต่ผมเห็นมันเฉย ๆ ผมก็เลยเฉย ๆ บ้าง ระหว่างที่เราเดินกันอยู่นั้น มันก็ชี้ให้ผมดูนั่นดูนี่ แถมยังจะซื้อของให้ผมตั้งหลายอย่าง แต่ผมปฏิเสธครับ เพราะเกรงใจ แต่ในที่สุดมันก็ซื้อเสื้อให้ตัวหนึ่ง เพราะมันขู่ว่าถ้าไม่เอาเสื้อตัวนี้ มันจะจูบโชว์ครับ ผมก็เลยต้องรับ และอีกอย่างก็คือตุ๊กตาหมีที่ปักตัวอักษรไว้ที่เสื้อหน้าอกครับ กัสมันซื้อมา 2 ตัว ตัวที่ปักตัวอักษร G นั้นมันยกให้ผม ส่วนกัสมันเอาหมีตัวที่ปักตัวอักษี B ไปครับ มันบอกว่าไว้เป็นสัญลักษณ์ของกันและกัน จะได้เอาไว้ดูต่างหน้า มันพูดมาอย่างนี้ เลยทำให้ผมจากเดิมที่เคยชอบมัน ชักจะเปลี่ยนมาเป็นรักมันแล้วครับ จากแรก ๆ ที่ผมเกร็ง ๆ ตอนนี้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และสบายมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะว่าผมมีกัสอยู่ข้าง ๆ ก็ได้นะครับ
เราเดินซื้อของกันถึงประมาณ 1 ทุ่มถึงจะกลับบ้าน ตอนแรกกัสชวนกินข้าวด้วยกันอีก แต่ผมปฏิเสธไปครับ เพราะว่ายังอิ่มอยู่เลย
“กัส ขึ้นห้องก่อนไหม” ผมตัดสินใจอยู่นานมากครับระหว่างนั่งมาบนรถ ใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าไม่ชวนจะเสียมารยาท อีกใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าชวนมัน มันจะหาว่าเราให้ท่ามันหรือเปล่า หุหุ แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจชวนครับ คิดว่ามันคงไม่คิดอะไรมาก
“อืม ก็ดีเหมือนกัน จะขอเข้าห้องน้ำหน่อย” ว่าง่ายจริง ๆ นะพ่อหนุ่ม
“บิว ห้องน่ารักจังเลย จัดเองหรอ”
“อืม จัดเองคือว่าพอดีเราชอบนะ แต่มันเล็กไปหน่อย เนอะ”
“ไม่หรอก กำลังดี ก็อยู่คนเดียวนิ” อืมก็ถูกของมัน
เออ บิว หมีที่เราซื้อให้บิวนะ วางไว้ตรงนี้นะ” กัสพูดขึ้นพร้อมกับเอาหมีที่ซื้อมาวางแหมะไว้บนหัวเตียงนอน
“เผื่อจะได้ฝันถึงเรา”
“งั้นหมีตัวนั้น กัสก็เอาไปวางไว้ที่เดียวกับเรานะ” ผมพูดขึ้นบ้างหลังจากเขินอยู่นาน
“อืม...ได้สิ” กัสพูดจบพร้อมกับยิ้มตาหยีมาให้ โอ้ยจะละลาย
ระหว่างที่ผมจัดของกินที่ซื้อมาเข้าตู้เย็นอยู่ กัสก็เดินชมห้องผมอยู่ พร้อมกับชมไปตลอด อันนู้นก็น่ารัก อันนี้ก็สวย
“บิว ๆๆ” กัสครับ มันเรียกผมเสียงดังเลย
“อะไรหรอ”
“บิวเลี้ยงนกแก้วด้วยหรอ แล้วมันพูดได้ปล่าว” นี่เมิงจะตื่นเต้นทำไมเนี่ย แค่นกแก้ว กรูไม่ได้เลี้ยงนกฮูกไว้นิหว่า
“อืมพูดได้ แต่ไม่กี่คำหรอก”
“แล้วจะให้มันพูดต้องทำยังไงหละ”
“ก็แค่เอาของกินล่อ มันก็พูดแล้ว” แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่านกแก้วมันจะพูดว่าอะไร ก็กำลังจะห้ามไอ้กัสมัน แต่ไม่ทันแล้วครับ
“บิวน่ารัก บิวน่ารัก” ผมมองหน้ากัสมัน พร้อม ๆ กับมันที่หันมามองหน้าผม
“แหะๆๆ” ทำอะไรไม่เป็นเลย ได้แต่ส่งยิ้มแห้ง ๆไปให้มัน
“5555555555555555” ไอ้กัสมันคงกลั้นหัวเราะไม่ไหว ปล่อยก๊ากออกมาเลยครับ
“หัวเราะไร” ผมทำตาดุ ๆ ใส่มัน
“ปล่าว แค่อยากจะบอกว่า น่ารักดีเนอะ ให้นกแก้วชมตัวเอง 55555”
“ยังไม่หยุดอีก” ผมเริ่มโกรธนิด ๆ อะไร ผิดด้วยหรือไง ก็ไม่มีคนชมจริง ๆ นิหว่า
“อ๊ะ ๆๆ หยุดก็ได้” ปากมันบอกว่าหยุด แต่ผมเห็นมันเม้มริมฝีปากไว้แน่น พร้อมกับเอามือกุมท้อง
“บิว ๆ “
“อะไร”
“ขอขำอีกทีนะ” มันพูดเสร็จก็หัวเราะก๊ากออกมาอีกที ไอ้ผมก็ได้แต่กระฟัดกระเฟียด
“อ๊ะ ๆๆพอละ ไม่ขำละ บิวนี่ตลกดีเนอะ เอ้ยๆๆ น่ารักดี”
“ได้มายังไงอะ นกแก้วอะ”
“แป๋มให้มาวันเกิดนะ ”
“ชื่อไร” มันยังซักไม่เลิก
“ปลาทอง”
“ไม่ ถามว่านกตัวเนี้ย ชื่อไร”
“ก็ปลาทองไง มันชื่อว่าปลาทอง”
“เอ้า เป็นนกดันตั้งชื่อว่าปลาทอง เสียชาติเกิดหมด” มันจะสนใจอะไรนักหนาวะ
“ไหนบอกว่าจะมาเข้าห้องน้ำไง”
“เออ ใช่ ลืมไปเลย” พูดเสร็จมันก็ตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่มันเข้าห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์มันก็ดังขึ้น ครั้งแรกผมปล่อยให้มันดับไปเอง เพราะกลัวว่าจะเสียมารยาท แต่พอครั้งที่สองดังขึ้น ผมจึงรออยู่นาน มันก็ไม่ดับ และเสียงมันดังมาก ก็เลยเดินไปชะโงกดูที่หน้าจอ
“แจง”
-
เอ๋!
นั้นไง
ชักมีอะไรซะแล้วไหมหละ
ก็ชื่อสาวที่ไหนอะนั้น :m30:
-
รู้สึกแปลกๆ ทะแม่งๆไงไม่รู้ มันต้องมีเบื้องหลังแน่เลยอ่ะ :m21:
-
จะมาแกล้งบิวรึเปล่านะ
-
กัสกะฟิล์มนี่ท่าทางแปลกๆ นะ
มีแผนอะไรป่าวหว่า
:m16:
-
:a4:ฟิล์มต้องให้กัส มาแกล้งบิวแน่นอน ถ้าอย่างนั้นใจร้ายทั้งสองคนเลย
-
เออ แฮะ ชักเริ่มแปลก ๆ มีลับลมคมใน :o o12
-
“แจง”
“ใครคือแจงวะ” ผมพยายามคิดในแง่ดีเอาไว้ ว่าคงจะเป็นเพื่อนผู้หญิง คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง สักพัก กัสก็ออกมาจากห้องน้ำออกมาพอดี
“กัส เมื่อกี้มีโทรศัพท์มานะ โทรมาสองครั้ง” บอกเสร็จ กัสมันก็หยิบโทรศัพท์บนโต๊ะออกมาดูชื่อคนที่โทรมา
“อืม ขอบใจนะ งั้นเรากลับก่อนนะ แล้วคืนนี้จะโทรหา” พูดเสร็จกัสก็ออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมยืนคิดอะไรเงียบ ๆ อยู่คนเดียวในห้อง ตาก็จ้องมองระหว่างประตูที่กัสเพิ่งเดินออกไปกับหมีที่อยู่บนหัวที่นอน
“กัสจะให้เราฝันถึงกัสหรอ...แล้วกัสหละ จะฝันถึงเราบ้างหรือเปล่า” ผมก็ได้แต่ถามตัวเองเบา ๆ แหละครับ
“บิวน่ารัก บิวน่ารัก” ผมไม่รู้ว่าตัวเองยืนเหม่อนานเท่าไหร่ จนได้ยินเสียงเจ้าปลาทองร้อง จึงสะดุ้ง
“ตายละหว่า ลืมให้อาหารปลาทองนิหว่า” แต่พอหันไปหาเจ้าปลาทอง อ้าว อาหารยังอยู่เต็มนิหว่า มีแต่น้ำที่พร่องไปนิดหน่อย ทำไมไม่ยอมกินอะไรเลย ไม่สบายหรือเปล่า ไม่รู้ว่าจะทำยังไง เลยตัดสินใจโทรหาแป๋มทันที
“ฮัลโหล แป๋มหรอ ที่บิวนะ”
“อืมว่าไงจะ”
“แป๋ม แกรู้ปะว่าทำไมเจ้าปลาทองไม่กินข้าววะ”
“อ้าว ก็มันอยู่กับแก ฉันจะรู้ไหมหละ ลองพามันไปหาหมอดิ”
“หมอที่ไหนวะ เห็นมีแต่หมอหมา แต่หมอนกแก้วไม่เคยเห็นวะ”
“อืม ไม่รู้เหมือนกันวะ เอางี้ เดี๋ยวกรูถามเพื่อนให้ละกัน” ดีมากเมิง
“ได้ ๆ ขอบใจมากนะเว้ย” พูดเสร็จผมก็วางสายทันที เพราะตอนนั้นกังวลใจมาก ๆ ว่าเจ้าปลาทองมันจะเป็นอะไรหรือเปล่า เพราะเพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าพักนี้ไม่ค่อยกินอาหาร เสียงเจื้อยแจ้วที่เคยดังก็ไม่ค่อยได้ยิน ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น ผมรีบรับสายทันที ต้องเป็นแป๋มแน่ ๆ
“ฮัลโหล แป๋มหรอ เป็นไงบ้าง”
“อะไรเป็นไงหรอ” อ้าวไม่ใช่ไอ้แป๋มนิหว่า ไอ้กัสนี่เอง
“อ้อ .....เออ เปล่าไม่มีไรหรอก พอดีว่าเจ้าปลาทองไม่ยอมกินข้าวนะ ก็เลยโทรหาแป๋มให้ถามเพื่อนให้หน่อยว่ามันเป็นอะไร นี่ก็กำลังรอโทรศัพท์แป๋มอยู่”
“เราโทรมารบกวนหรือเปล่า”
“อ้อ เปล่า ๆ ไม่รบกวน คุยได้ มีไรหรอ”
“โทรหาบิวต้องมีอะไรด้วยหรอ ถึงจะโทรได้” ไรวะ แค่นี้ทำเป็นงอน
“เปล่า ๆ นะ คือว่า ยังไม่ชินอะ”
“55555 ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ล้อเล่น” ไอ้นี่ กรกูกำลังเครียด
“..................................”
“โกรธหรอ” มันเห็นผมเงียบไป มันก็เลยถามกลับมา ดูจากน้ำเสียงแล้วคงสลด
“เปล่า ใครจะกล้าโกรธกัสหละคับ” อิอิ หยอดมันไปหน่อย กลัวมันทิ้ง
“งั้นเราคุยได้ไช่ปะ”
“อืม คุยได้สิ”
“คือ เรื่องโทรศัพท์อะ” ว่าแล้ว กรูจะลืมได้อยู่แล้วเชียว
“อืม มีไรหรอ” ต้องแกล้งทำโง่เข้าไว้
“คือ............บิวเห็นแล้วใช่ปะว่าใครโทรเข้ามา”
“อืม เห็นแล้ว” เอาให้เคลียร์มาเลยดีกว่า
“เออ........จริง ๆ แล้วเขาเป็น...เป็น.. เออ.......เป็นแฟนเก่ากัสเองนะ”
“แล้วไง”
“ก็แค่อยากจะบอกว่ากัสเลิกกับแจงเขาไปแล้ว”
“อืม”
“บิวเชื่อกัสใช่ปะ”
“อืม บิวเชื่อกัส” ครับ ผมเชื่อกัสจริง ๆ ถ้าเราไม่เชื่อใจคนที่เรารัก แล้วจะให้ไปเชื่อใจใครละจริงไหมครับ ถ้าจะถามว่าผมหึงไหม ใช่ครับผมหึงนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่ค่อยกล้าแสดงออกอะไรมาก กลัวกัสมันรำคาญครับ ก็ดีครับที่เรารู้จากปากของกัสแทนที่จะไปรู้จากคนอื่น
“ขอบใจมากนะ ที่เชื่อใจกัส”
“อืม”
“งั้นพรุ้งนี้เราไปเที่ยวบ้านบิวได้ปล่าว”
“อืมได้สิ ทำไมจะไม่ได้หละ”
“ดีจัง แล้วเดี๋ยวกัสไปหานะ”
“คร้าบบบบ”
พอวางสายจากกัสเสร็จ ผมก็นึกถึงเจ้าปลาทองขึ้นมาได้ เลยรีบกดโทรศัพท์หาแป๋มอีกทีหนึ่งเพื่อที่จะถามว่าเป็นไงบ้าง พอไอ้แป๋มรับสายเท่านั้นแหละ เสียงแหลม ๆ ของมันก็ด่าสวนขึ้นมาทันที
“นี่แก ฉันโทรไปตั้งหลายรอบ ทำไมสายไม่ว่างเลยวะ” ดูท่าทางมันคงโมโหมาก ๆ
“เออ พอดีเพื่อนโทรมานะ” จะให้บอกได้ไงละว่าเป็นกัส มันยังไม่รู้เรื่องนี้ซักหน่อย
“แน่ใจหรอเมิง ไม่ใช่คุยกับผู้ชายหรอ” อีนี่ทำเป็นรู้ดีนะเมิง
“แล้วเรื่องเจ้าปลาทองกรูหละ ว่าไง” อิอิ ต้องเปลี่ยนเรื่อง
“เออ กรูเกือบลืม เมิงชอบชวนกรูเสียอยู่เลย กรูจะบอกว่า กรูมีเพื่อนเป็นสัตวแพทย์ เดี๋ยวพรุ้งนี้กรูจะพาเขาเข้าไปดูเจ้าปลาทองให้ พอดีมันว่างพรุ้งนี้พอดี วันอื่นคิวเต็มเอียด”
“เออ ๆ ดี ขอบใจมาก ๆนะ กรูกลัวว่ามันจะตายวะ”
“ปากหมา มันไม่ตายหรอกนะเว้ย”
“เออ ๆ ขอบใจ แค่นี้ใช่ปะ บาย”
“เออแค่นี้แหละ แหมรีบเชียวนะเมิง จะไปคุยกับผู้ชายต่ออะดิ”
“อีนี่ ไม่มีไร ง่วงนอนโว้ย จะนอน”
“เออ ก็ได้ แล้วพรุ้งนี้เจอกันนะโว้ย”
“อืมบาย” วางสายเสร็จก็กำลังจะหันหลังเพื่อที่จะล้มตัวลงนอน
“ตายละหว่า ตายแน่ๆๆ” จะไม่ให้ตายได้ไงละครับ ก็ไอ้แป๋มมันบอกว่าพรุ้งนี้มันจะพาเพื่อนมันมาดูเจ้าปลาทอง ส่วนไอ้กัสมันก็บอกว่ามันจะมาพรุ้งนี้ ชิบแล้วไงกรู ทำไงดีวะเนี่ย เฮ้ยกลุ้ม ถ้าไอ้แป๋มรู้เรื่องละก็ มันจะว่าไงบ้างวะเนี้ย
ผมก็นอนคิดไม่ตก คิดไปคิดมาก็คิดไม่ออก
“ปล่อยไปตามเวรตามกรรมละกันกรู”
เช้าวันรุ้งขึ้นไอ้แป๋มมาถึงห้องก่อนครับ มันมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่ง
“นี่ พัด นี่เพื่อนแป๋ม ชื่อบิวนะ แล้วบิวนี่พัดที่เป็นสัตวแพทย์ จะมาดูเจ้าปลาทองให้”
“หวัดดีคับ พี่พัด” ผมเรียกพี่ครับ เพราะเห็นเขาอายุมากกว่า
“ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ เรียกพัดเฉย ๆ ก็พอครับ” แหมเสียงนุ้มจังเลย แหะๆๆ
“ไหนๆๆ เจ้าปลาทองของบิวอยู่ไหน พามาให้พัดดูหน่อยสิครับ”
“อ้อ เดี๋ยวนะครับ” ผมตอบเสร็จก็วิ่งปร๋อไปตรงระเบียง หยิบกรงนกเจ้าปลาทองเข้ามาในห้อง พร้อมกับปิดประตู และหน้าต่างทั้งหมด เผื่อว่าต้องเอาออกมาจากกรง ระหว่างที่คุณหมอพัดก้มลงพิจารณา เจ้าปลาทองของผม ผมสังเกตเห็นว่าหมอพัดนั้นเป็นคนที่หน้าตาดีมาก ๆ สูงเชียว ขาว ตี๋ ใส่แว่นอีกต่างหาก
“นี่ไอ้บิว เพื่อนฉันถามแกว่าเจ้าปลาทองเป็นยังงี้นานยัง ไม่ได้ยินหรือไง มัวแต่จ้องหน้าเพื่อนฉันอยู่นั่นแหละ” อ้าว นี่กรูนั่งจ้องหน้าเพื่อนเมิงอยู่หรอวะเนี่ย
“อ้าว....อ้อ ก็น่าจะได้สักอาทิตย์แล้วหละครับ” พูดจบก่อนจะหันไปมองค้อนเจ้าแป๋ม 1 ที นังนี้รู้ทันอีก
แล้วหมอพัดก็หยิบเจ้าปลาทองออกมาดู พร้อมกับตรวจ
“เออ พัดครับ มันเป็นอะไรหรอครับ”
“อืม...จากที่ดู ๆ จากภายนอก ท่าทางคงจะเป็นโรค ซิททาโซซิล นะ”
“หา...โรคอะไรซิทๆๆ นะครับ” โรคอะไรวะ ไม่เคยเห็นรู้จักเลย
“อ้อ โรคซิททาโซซิลนะครับ หรือเรียกง่ายๆ ว่าโรคนกแก้ว คืออาการของมันก็จะเบื่ออาหาร ซืม ขนฟู และตาก็จะหม่น ๆ นะครับ เดี๋ยวผมจะส่งยามาให้นะครับ แล้วคลุกกับอาหารให้มันกินนะครับ”
“โห พัดนี่เก่งจังเลยนะคับ” พัดไม่ตอบครับ แต่ยิ้มตาหยีส่งมาให้
“เรียบร้อยแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีมีธุระ”
“อ้อ ครับ แล้วกลับยังไงละครับเนี่ย”
“ไม่เป็นไรยะ เดี๋ยวฉันจะไปส่งเพื่อนฉันเอง แกไม่ต้องไปส่งหรอก พอดีว่าจะกลับอยู่เหมือนกัน” แป๋มครับ พูดแทรกขึ้นมาเลย คงกลัวว่าผมจะไปทำอะไรเพื่อนมัน แหม ผมมีกัสอยู่แล้วทั้งคน
ระหว่างที่พัดกำลังเก็บอุปกรณ์อยู่นั้น ก็มีเสียงดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง
“บิว กัสมาแล้วคร้าบบบ คิดถึงบิว..........จังเลย”
“....................................................” :m21: :m21:
-
:m30:
จะเป็นไงต่อละนี่ ประกาศก้องมาแต่ไกล
-
โอ้ว เสียงมาแต่ไกลเลย จะเป็นยังไงต่อละทีนี้ :m4:
-
กัสมาดีหรือมาร้ายละเนี่ย ชักแปลก ๆ :m21:
-
นั่นซิ กัสมาดีมา
-
ไม่อยากให้รู้ก็ต้องรู้ล่ะทีนี้
:m20:
-
:m4: :m4: :m4: :m4:
-
หุหุหุ เสร็จกัน :m29:
-
... เล่นของสูง ไปเอา"พี่พัด" ของ "คุณพี่A-lone" มาเล่นด้วยเนี่ย
:m20: :m12: :m14: :m24:
:m13: :m30: o2 :m29:
-
พอกัสมองเห็นเรา 3 คนนั่งอยู่ หน้าของมันจากที่ยิ้ม ๆ ก็เจื่อนลงทันที ส่วนไอ้แป๋มนั้นไม่ต้องพูดถึง มันหันมองหน้าผมที หน้ากัสที สายตาแบบว่าอยากรู้มาก ๆ
“อ้าว กัส ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลย” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีครับ
“เอ๊ะ...อ้อ พอดีผ่านมาแถวนี้ เห็นรถแป๋มจอดอยู่ข้างล่างนะ ก็เลยขึ้นมา คิดไว้อยู่แล้วว่าแป๋มต้องอยู่” แหมๆๆ กัสเมิงแถได้เนียนมาก ๆ
“อืม ใช่ แต่กำลังจะกลับอยู่พอดีเลย เรากลับก่อนนะ บิว เดี๋ยวพัดต้องไปทำธุระอีก ไปก่อนนะกัส” ไอ้แป๋มบอกลาทุกคนครับ แต่ตานี่มันจ้องผมจนแทบจะหลุดจากเบ้าให้ได้
หลังจากที่แป๋มกับพัดออกไปแล้ว กัสมันก็เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ ผมที่ตอนนี้ทรุดตัวลงนั่งหมดแรงอยู่บนโซฟา
“ขอโทษนะ” ผมหันหน้าไปมองกัส เห็นทำหน้าสลดอยู่
“อืม...ไม่เป็นไร ว่าแต่กัสนั่นแหละ จะทำยังไง” ผมถามกัสมันกลับบ้างครับ สำหรับผมแล้วนะไม่เป็นไรหรอก เพราะว่าแป๋มมันก็รู้อยู่แล้วว่าผมเป็น แต่สำหรับกัสแล้วไอ้แป๋มมันคงช็อกอะครับ
“อืม ไม่เป็นไรหรอก แค่มีบิวอยู่ด้วย กัสก็ไม่กลัวอะไรแล้ว” พูดพลางก็เอามือมาขยี้หัวผม ตอนนั้นผมรู้สึกรักมันมากขึ้นกว่าเดิม และรู้สึกอบอุ่นมาก ๆ ครับ
“ปะ เรามากินข้าวเช้าดีกว่า นี่ยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ม๊า กัสซื้อมาเยอะแยะเลย” พูดจบกัสมันก็ชูถึงกับข้าวเยอะแยะเลยครับ ส่วนผมก็เดินไปหยิบจานมา
“เออ บิว เจ้าปลาทองเป็นอะไรไปหรอ” กัสพูดขึ้นขณะดีดนิ้วเล่นกับเจ้าปลาทองครับ แต่ดูแล้วเจ้าปลาทองคงไม่อยากเล่นด้วย
“เห็นพัดบอกว่าเป็นโรคอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ จำไม่ได้แล้วว่าโรคอะไร เขาจะฝากยาแป๋มมาให้”
“อ้อ แล้วใครคือพัดหละ” กัสเดินเข้ามาช่วยผมยกจานพร้อมถามมองหน้าผม
“อ้อ เพื่อนแป๋มมันนะ เขาเป็นสัตวแพทย์ เลยมาช่วยดูให้”
“อย่าไปเข้าใกล้เขามากละกัน” มันพูดไม่มองหน้ามองตาผม
“ทำไมอะ เขาก็ดีนะ”
“ไม่รู้หละ กัสไม่ชอบนิ” เมิงหึงกรูใช่ม๊า
“ก็ได้” พอผมรับปากมัน มันก็ยิ้มออกมาเลยครับ
ระหว่างที่กินข้าวกันเราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยครับ หยอกกันบ้าง งอนกันบ้าง ดู ๆ ไปแล้วก็น่ารักดี คิดไม่ถึงนะครับว่ากัสจะขี้หึง อิอิ
“เออ บิว เมื้อเช้ากัสซื้อหนังมาอะ บิวมีเรื่องเล่นปะ” กัสถามผมขึ้นขณะที่เราช่วยกันล้างจานอยู่ครับ
“อืม มีสิ ซื้อเรื่องไรมาอะ” กำลังเซ็ง ๆ อยู่พอดี
“เรื่องน็อททิ้ง ฮิลล์ นะ” ผมจำได้แล้วครับ หนังเรื่องนี้ ผมยังไม่เคยดูหรอก เพราะตอนนั้นอยู่ต่างจังหวัด เลยไม่มีโอกาสได้ไปดู
“จริงหรอ เรายังไม่ได้ดูเลย” ผมยิ้มกว้างเลยครับ ส่วนกัสพอเห็นผมยิ้ม มันก็เลยยิ้มตาม ตาหยีเลยครับ น่ารักดี
ล้างจานเสร็จก็จัดแจงเปิดหนังดู ดูไปได้ซัก 10 นาที หันไปหากัส อ้าว หลับไปแล้วนิหว่า ผมเลยค่อย ๆ จัดแจงให้กัสมันนอนเหยียดขาสบาย ๆ บนโซฟา ส่วนผมก็ลงมานั่งกับพื้นหันหลังพิงโซฟา ดูหนังที หันไปดูหน้ากัสที เห็นมันนอนกอดอก ก็เลยลุกขึ้นไปหยิบผ้าห่มในห้องนอนออกมาห่มให้มัน รู้สึกมีความสุขจังเวลาได้อะไรเพื่อคนที่เรารักเนี่ย
ระหว่างที่กำลังดูหนังเคลิ้ม ๆไปกับความโรแมนติกอยู่นั้น จู่ ๆ ก็ต้องสะดุ้งกับการจู่โจมของคนด้านหลังที่ขโมยหอมแก้มดังฟอดใหญ่ พร้อมกับอ้อมกอดแน่น ๆ ของคนข้างหลังที่คิดว่าหลับไปแล้ว
“กัส ทำอะไรอะ ตกใจหมด” ผมหันไปดุ ก็เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนที่นอนสบายอยู่บนโซฟา ท่าทางพึ่งจะตื่น
“ก็ตั้งแต่เป็นแฟนมา กัสยังไม่เคยได้หอมแก้มบิวเลยนะ”ไม่ต้องมายิ้มเลยเมิง
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะมัวแต่เขิน ครั้งแรกนะคับเนี่ย ส่วนไอ้กัสก็ยังไม่หยุดซักที ค่อยยื่นหน้าเข้ามา เอาหน้าผากมันมาชนกับหน้าผากผม
“หน้าแดง ๆ ตัวร้อน ๆ เนี่ย โกรธหรือว่าอายหรอ” ตอนนี้ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของมันเลยครับ
“ไอ้บ้า” เขินนะเฟ้ย
“ถามจริง ๆ บิวชอบกัสหรือเปล่า” มันไม่พูดปล่าว ยังทำตาเยิ้มใส่อีก ใกล้กันเกินไปแล้วนะเมิง
“อืมมมมมมมมม.....ไม่บอก” เล่นตัวหน่อย
“ง่า” ไม่ต้องมาทำหน้างุ้ม เสียงอ้อนเลย
“แล้วกัสหละ ชอบเราตอนไหน”
“อืม....ชอบบิวตอนไหนหรอ” ทำไมคิดนานจังวะ
“ก็...ก็ วันที่เจอบิวเดินกับแป๋มนะ กัสเห็นว่าบิวน่ารักดี ก็เลย..ก็เลย ชอบอะ” อิอิ ถ้าผมเดาไม่ผิด ผมเห็นไอ้กัสมันเขินนะเนี่ย
“แต่วันนั้นเราเห็นกัสเดินกับผู้หญิงนิ” ต้อนครับ ต้องต้อนให้จนมุม
“อ้อ คนนั้นนะแจง แต่เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนะ...เชื่อใจกัสนะ”
“กัส” ผมมองเข้าไปในตาของมัน
“หือ” มันก็จ้องกลับมา ท่าทางจะเคลิ้ม
“เอาหน้าผากออกได้ยัง ปวดฉี่!!!”
“โหบิวอะ ไม่โรแมนติกเลย” มันทำเสียงกระเง้ากระงอดก่อนจะปล่อยมือที่กอดผมอยู่ ผมก็ได้แต่ขำในท่าทีของมัน
…….....ยิ้มให้ความผิดหวัง อย่างคนคุ้นเคยยิ้มให้ความมืดมน อย่างคนรู้จักกันนี่คือเพื่อนเก่าที่เราต้องเจอ เจอกันเมื่อนานแสนนาน............ ไม่ใช่เสียงเพลงหรอกครับ เสียงริงโทนผมต่างหาก หุๆๆ
“อ้าว ชิบแล้วไง ไอ้แป๋มโทรมา” ผมกับกัสมองหน้ากันทันที ก่อนที่กัสจะตัดสินใจเดินมาหยิบโทรศัพท์จากมือผม และออกไปยืนคุยที่หน้าระเบียงโดยที่ไม่ให้ผมตามไปด้วย
มันสองคนคุยกันนานมาก นานจนผมแทบจะทนไม่ไหว ดูจากสีหน้าของกัสแล้ว ตอนแรกก็ออกจะเครียด ๆ แต่ตอนหลังรู้สึกว่าผ่อนคลายลง เพี้ยง!! ขอให้จบแบบสวย ๆ ด้วยเถิด สาธุ
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง แต่สำหรับผมแล้วมันเหมือนครึ่งวัน กัสก็เข้ามาในห้อง ผมรีบกระโจนเข้าไปถามทันที
“กัส เป็นไงบ้าง แป๋มมันว่าไงบ้าง”
“......................................................”ทำไมกัสไม่ตอบหละ
“กัส” ผมเรียกมันเสียงค่อยแล้วครับ ตอนนี้รู้สึกว่ามันจะจบไม่สวย
“บิวจะเอาข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อนหละ” เอ๊ะ ยังไง มีทั้งข่าวดีข่าวร้าย
“เอาข่าวดีก่อนละกัน” เผื่อว่ามันจะช่วยกลบข่าวร้ายได้
“ข่าวดีก็คือ............แป๋มมันยอมให้กัสคบกับบิวแล้วหละ มันแค่โกรธที่ไม่ยอมบอกมัน แถมมันยังบอกด้วยว่าให้กัสดูแลบิวดีๆ”
พอกัสพูดจบ หน้าที่เจื่อน ๆ ของผมก็อาบไปด้วยรอยยิ้มทันดี ก่อนที่จะกระโจนเข้าไปกอดคอกัสแบบลืมตัว แบบว่าดีใจอะ
“แต่เอ๊ะ แล้วข่าวร้ายหละ”
“ข่าวร้ายก็คือ...บิวคงจะต้องอยู่กับกัสไปตลอดเลยหละ” มันพูดจบก็ยักคิ้วให้ทีหนึ่ง นี่แกล้งกันนิหว่า
“บิว” อยู่ดี ๆ กัสก็หยุดยิ้ม ก่อนที่จะมองตาผม พร้อมกับเอามือขึ้นมาค่อย ๆ รูปไปตามหน้าผาก ไล่ลงมาตามแก้มอย่างแผ่วเบา
“หือ”
“กัสรักบิวนะ” ไม่พูดปล่าว แต่ค่อย ๆ ก้มหน้าเข้ามาช้า ๆ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น ใจหนึ่งก็อยากขัดขืน แต่อีกใจหนึ่งก็อยากตอบรับ ซึ่งความรู้สึกอย่างหลังกลับมีกำลังมากกว่า จึงทำให้ผมไม่ปฏิเสธ ผมค่อย ๆ หลุบเปลือกตาลงช้า ๆ ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามที่มันควรจะเป็น
ตอนนี้ลมหายใจของกัสมันชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสที่แผ่วเบาบนริมฝีปาก ไม่มีการรุกล้ำให้ตกใจ แต่แค่สัมผัสนิ่ง ๆ ของริมฝีปากที่เปียกชื้นนั้น ทำให้ใจผมหวิว ๆ พิกล ขาเริ่มไม่มีแรงทรงตัว จนต้องใช้มือทั้งสองข้างยึดไหล่อีกฝ่ายหนึ่งไว้ ริมฝีปากนั้นสัมผัสเนิ่นนาน และจูบเน้น ๆ อีกครั้งหนึ่งที่ริมฝีปากบนของผมก่อนที่จะค่อย ๆถอนออก
“ดีไหม” ตอนนี้หน้ากัสแดงเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่าหน้าของผมจะแดงเหมือนหน้ากัสหรือเปล่า
“รู้สึกดีไหม” กัสยังคงรุกคำถามผมต่อ แต่ตอนนั้นไม่มีแรงตอบเพราะอาการใจหวิว ๆ จึงได้แต่พยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องมองมาอย่างกับจะทะลุไปถึงข้างใน
เมื่อกัสเห็นผมพยักหน้า รอยยิ้มกว้างก็เผยอออกมา พร้อมทั้งดึงผมเข้าไปกอด ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมานานมากแล้ว ตั้งแต่ผมเหลืออยู่ตัวคนเดียว ผมพยายามซุกหน้าลงไปให้แนบแน่นกับหน้าอกกัสให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะได้จดจำความรู้สึกดี ๆ แบบนี้ตลอดไป
ตอนนี้ผมมั่นใจในตัวผู้ชายคนข้างหน้าผมมากขึ้น ผมไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามในอนาคตข้างหน้า ผมก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมันตราบใดที่ผมยังมีกัสอยู่ข้าง ๆ สำหรับคนอื่น ๆ แล้วการเจอกันครั้งนี้ของผมกับกัสมันอาจจะดูเหมือนว่าเร็วเกินไป แต่สำหรับผมแล้ว ผมถือว่ามันเป็น “รักแรกปิ๊ง” ในโลกนี้มีคนเป็นล้าน ๆ คน แต่ผมขอแค่คน ๆ เดียวที่พร้อมจะเดินไปพร้อม ๆ กับผม และผมก็มั่นใจแล้วครับว่าผมได้เจอคน ๆ นั้นแล้วครับ คนที่กอดผมอยู่นี่ไง....
-
:o8: :o8:
ขอให้รักราบรื่นนะ :oni2:
-
:a4:กัส น่ารักและดูอบอุ่นดีจัง แต่ผมยังกลัวว่ากัสจะมีแผนการณ์อะไรอยู่ อะดิ๊
-
ขอให้ราบรื่นด้วยคน
-
รักกันก็ดีแล้ว
แต่ก็ยังอดรู้สึกทะแม่งๆ ไม่ได้แฮะ
:m29:
-
รักกันนาน ๆ นะครับ
แต่รู้สึกจะมีอะไรบางอย่างที่ยังไม่กระจ่างนะ หุหุ
:m1: :m1:
-
:m1: :m1: :m1:
-
ตอนนี้ดูทะเลมันสงบยังงัยไม่รู้ กลัวมีเรื่องเศร้า :m23: :m23: รออ่านต่อนะ
-
สนุกดีแฮะ
-
ชอบครับมาต่ออีกเร็วๆนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ :m13:
-
ช่วงนี้เป็นช่วงสอบแล้วครับ จึงทำให้ผมกับกัสต่างต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่บางทีกัสก็จะมาอ่านหนังสือสอบที่ห้องผมนะครับ คณะที่กัสเรียนอยู่นั้นค่อนข้างยากเหมือนกัน ทำให้ต้องอ่านหนังสือหนักกว่าผม แต่ดูกัสมันก็ตั้งใจดีเหมือนกันครับ บางทีผมเห็นกัสเครียด ๆ ผมก็จะแหย่ให้มันหัวเราะบ้าง มันก็จะแหย่ผมคืนครับ แกล้งกันไปมา สนุกดีครับ แต่ผมกับมันนั้น ยังไม่มีอะไรเลยเถิดไปถึงขั้นมีอะไรกันหรอกนะครับ อย่างมากก็แค่จูบกัน นอนกอดกันแค่นั้น อาจจะเป็นเพราะว่าผมยังไม่พร้อมด้วย ส่วนกัสนะหรอ ตามใจผมสิครับ อิอิ
หลังจากผ่านช่วงหฤโหดแล้ว เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยวกัน โดยไปกันทั้งหมดอะครับ ก็มี ผม กัส แป๋ม และไอ้ฟิล์มแฟนมัน ดูท่าทางไอ้กัสกับฟิล์มจะกระดี้กระด้าใหญ่ จนผมแปลกใจ ถามมันมันก็บอกมันดีใจที่จะได้มาเที่ยวต่างจังหวัดกับแฟนเป็นครั้งแรก ผมก็หน้าบานเลยสิครับ
วันนั้นเราตกลงกันว่าจะขับรถไปกันเอง เพราะมีกันอยู่แค่สี่คน ฟิล์มทำหน้าที่คนขับครับ ไอ้แป๋มนั่งหน้า ส่วนผมกับกัสนั่งข้างหลังครับ จุดหมายปลายทางของพวกเราก็คือ หัวหิน เพราะไอ้ฟิล์มมันมีคอนโดอยู่ที่นั่น (รวยจริงนะเมิง) เราออกจากกรุงเทพกันแต่เช้า ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงหัวหิน ระหว่างทางนั่งรถมา ผมก็หลับมาตลอด เพราะว่าเมื่อคืนตื่นเต้นจัด จนนอนไม่หลับ
“บิว ๆ ถึงแล้ว”
ผมงัวเงียลืมตาขึ้นมา กัสนั่นเองครับที่ปลุกผม แต่พอผมหันไปอีกทางสิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เพราะว่าตอนนี้เบื้องหน้าของผมคือหาดทายที่ขาวสะอาด ตัดกับผืนน้ำสีเขียวอมฟ้าที่นิ่งสนิท เส้นขอบฟ้าอยู่ใกลๆ ที่แบ่งระหว่างท้องฟ้ากับผื่นน้ำ แม้ว่าจะเป็นช่วงบ่าย แต่ว่าแดดร่มลมตก กำลังดีเลยครับ ผมกำลังเคลิ้มได้ที่ถ้าไม่ได้ยินเสียงมาจากนรก
“ไอ้บิว เมิงจะลงจากรถได้ยัง เคลิ้มเชี่ยไร” ไอ้ฟิล์มนั่นเองครับ แม่งชอบขัดจังหวะความสุขกรู หันไปหาไอ้กัส ก็เห็นมันขำใหญ่ พอกันเลยนะเพื่อนคู่นี่
“ทำยังกะไม่เคยมาทะเล” ไอ้เชี่ยนี่ยังไม่เลิก ผมก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรออกไปครับ แต่ส่งค้อนให้มันวงใหญ่
“ปะ บิว เดี๋ยวกัสถือกระเป๋าให้” พูดจบก็จะดึงกระเป๋าผมไปถือครับ
“เฮ้ย ไม่เป็นไร ไม่หนักหรอก แค่นี่เอง เดี๋ยวถือเอง”
“เล่นตัวอีกนะเมิง” แม้ว่าจะเป็นเสียงเบา ๆ ที่ไอ้ฟิล์มมันพูดขึ้นมา แต่ผมก็ได้ยินอย่างชัดเจน ผมหันขวับไปมองหน้ามันทันที มันก็หันจ้องผมกลับมาอย่างไม่ลดละ พร้อมกับยักคิ้วให้หนึ่งที
“ไม่เอาน่าฟิล์ม” ไอ้แป๋มครับ หันไปดุแฟนมัน ส่วนผมนะหรอ อยากจะเดินเข้าไปสกายคิกมันซักที ดีนะเนี่ยที่มันตัวใหญ่กว่า ตัวสูงกว่าแค่นั้น ไม่งั้นได้เป็นเรื่องแล้ว
“แป๋ม เดี๋ยวเมิงช่วยหาตะกร้อช่วยครอบปากแฟนเมิงไว้ด้วยนะ อย่าให้ไปกัดใครเขา เดี๋ยวต้องเสียเงินค่าฉีดยาโรคพิษสุนัขบ้าอีก” ก่อนจะแยกย้ายกันไป ขอเอาคืนซักทีครับ
“ปากดีนักนะเมิง เดี๋ยวก็.........” ไอ้ฟิล์มครับ มันพูดจบไว้แค่นั้น และมันก็ทำหน้ากวนอวัยวะเบื่องล่างมาก ๆ พร้อมทั้งเอามือรูปคางตัวเอง
“แป๋ม กรูจะนอนที่ไหนวะ” ผมหันไปหาถามไอ้แป๋มครับเมื่อเราเดินขึ้นมาถึงห้องพักแล้ว ห้องพักนี้ค่อนข้างกว้างพอสมควรครับ เป็นห้องชุดที่มีห้องนอนสองห้อง ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ระเบียงที่มองเห็นวิวทะเลชัดเจน
“กรูเป็นผู้หญิง กรูก็ต้องนอนคนเดียว ส่วนแกก็ไปนอนห้องเดียวกับกัสกับฟิล์มนะ มันเป็นห้องใหญ่ นอนได้หลายคน”
“ง่า -*-“ ผมเริ่มกระเง้ากระงอด เพราะไม่อยากไปนอนห้องเดียวกับไอ้ฟิล์มมัน
“กรูนอนกับเมิงไม่ได้หรอ”
“ไม่ได้ อีนี่เมิงไปนอนกับพวกนั้นนะดีแล้ว” แล้วมันก็เดินเอาของเข้าไปเก็บในห้อง พร้อมกับปิดประตูหายไป ทิ้งให้ผมเผชิญหน้ากับมารคนเดียว เมิงนะเมิง จำไว้
“บิว นอนห้องเดียวกับกัสนี่แหละ ดีแล้ว” อยู่ ๆ ไอ้กัสมันก็พูดขึ้น แล้วก็ถือกระเป๋าผมนำเข้าห้องไป ตามด้วยฟิล์มที่เดินตามเข้าไป ทำให้ผมต้องจำใจเดินตามเข้าไปอีกคน
พอผมเข้าไปในห้อง ก็เริ่มสำรวจห้องทันทีครับ ห้องนี้ใหญ่เหมือนกัน มีเตียงอยู่ 2 เตียง ซึ่งเป็นเตียงขนาดนอนได้ 3 คนสบาย ๆ เลย ไอ้ฟิล์มนอนเตียงหนึ่ง ส่วนกัสบอกว่าให้ผมนอนเตียงเดียวกับมันครับ และไม่วายที่จะถูกไอ้ฟิล์มกัดอีกจนได้ ตามประสาคนชอบกระแหนะกระแหนของมันนั่นแหละครับ แต่ผมทำเป็นหูทวนลมซะ จนมันเลิกไปเองแหละครับ
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จแล้ว เราก็จะตกลงกันว่าจะเล่นน้ำทะเลกันก่อนที่จะไปหาอะไรกิน เนื่องจากว่ามันเป็นหาดส่วนตัวของคอนโดนี้ จึงทำให้ไม่มีคนเลยครับ หาดทรายก็สวย ทะเลก็สวย นิ่งสงบดี แต่เขาว่า ทะเลที่นิ่ง ๆ นี่น่ากลัวใช่ไหมครับ แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่กลัวหรอกครับ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพียงแต่เราจะรับมือกับมันยังไงต่างหาก
ช่วงนี้ก็ปล่อยให้เป็นช่วงหวาน ๆ ระหว่างไอ้แป๋มกับฟิล์มมันครับ ตอนแรกไอ้แป๋มจะไม่เล่นน้ำเพราะกลัวดำ แต่ไอ้ฟิล์มมันอุ้มไอ้แป๋มตัวลอยเลยครับและจับโยนลงไปในทะเล และมันก็แกล้งกันไปแกล้งกันมา จับกดน้ำมั่ง เอาทรายปั้นเป็นก้อน ๆ และปาหัวกันบ้าง ดูแล้วโหด ๆ ยังไงไม่รู้
ระหว่างนั้นผมหันไปมองไอ้กัส เห็นมันมองมาเหมือนกัน ผมเริ่มรู้ชะตาตัวเองแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เลยตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่ไม่ทันเสียแล้ว มือยาว ๆ ของมันคว้าเอวผมไว้ และแบกผมขึ้นบ่า และวิ่งลงไปในทะเลอย่างเร็ว
“กัส ปล่อยยยยยยยยย ไม่เอานะเว้ย ปล่อยยยยยยยยย” ผมแหกปากดังลั่นชายหาด ดีนะว่าไม่มีคนอยู่
แต่กัสเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงผม มันแบกผมวิ่งลงไปในทะเล พอลึกถึงระดับหนึ่งมันก็จับผมโยนลงไปในทะเล ทั้งเจ็บทั้งจุก จนลุกไม่ขึ้น ใครเคยโดนน่าจะรู้นะครับว่าตอนที่ก้นเรากระแทกลงบนพื้นทรายมันเจ็บขนาดไหน หันไปเห็นไอ้กัสเห็นมันยืนหัวเราะอยู่ เลยจะหาวิธีเอาคืนมัน
“โอ้ย!!!!” ผมร้องเสียงดังลั่น พร้อมกับทำหน้าเหยเกเพื่อให้กัสมันเห็นว่าผมเจ็บมาก กัสมันตกใจมาก เลยรีบเข้ามาพยุงผม
“ป๊าบบบบบบบ” ไม่ใช่เสียงอะไรหรอกครับ แต่เป็นเสียงทรายเนื้อละเอียดที่ผมกำขึ้นจากพื้นปาใส่หน้ามันเต็ม ๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะอย่างสะใจของผม
“โหย เล่นยังงี้ใช่มะ……..ด้ายยยยยย” มันกระเง้ากระงอดใส่ผม พร้อมทั้งกระโจนเข้าหาผมทั้งตัว พร้อมทั้งล็อคตัวผมไหวและแบกขึ้นจนลอยในอากาศ และก็ทุ่มผมลงน้ำอีกที แต่คราวนี้ผมไม่ยอมหรอกครับ ผมก็ยึดมันไว้แน่น ทำให้ตอนนี้ผมกับมันล้มไปด้วยกันทั้งคู่
“โอ้ยยยยย!!!!!!!” ไม่ใช่เสียงใครหรอกครับ เป็นเสียงของผมเองที่ร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด เนื่องจากว่าตอนล้มลงไปนั้นลงไปผิดท่า รวมถึงน้ำหนักที่ไม่ใช่เบา ๆเลยของกัสที่ล้มทับตามลงมา ทำให้มือที่ผมยันกับพื้นไว้รับน้ำหนักไม่ไหวนั่นเอง
“เฮ้ยยยย บิว เป็นไรอะ” ไอ้กัสถามผมเสียงตื่น ท่าทางงมันคงจะตกใจไม่ใช่น้อย หน้ามันเจื่อนลงไปเลยครับ ส่วนตอนนี้ไอ้ฟิล์มกับไอ้แป๋มก็วิ่งเข้ามาสมทบอีกคน
ไอ้กัสรีบดึงมือผมขึ้นมาดู โอ้โห นี่ขนาดแป็บเดียวนะครับเนี่ย บวมเป่งเลย
“ท่าทางมือคงจะเคล็ดวะ กรูว่ารีบพาส่งโรงพยาบาลเหอะ” เสียงไอ้มารฟิล์มครับพูดขึ้น
“เออ....ได้ บิวเดินไหวไหม” ไอ้กัสถามผมขึ้นครับ
“อืมไหว ไม่เป็นไรมากมั้ง คงจะแค่ซ้นนะ” และก็จริงครับ เมื่อเราไปคลีนิคแถวนั้น หมอก็เช็ค ๆ ดูแล้วก็บอกว่าแค่ซ้น นวดน้ำมัน ประคบผ้า และพันเอาไว้ ไม่กี่วันก็คงหาย แต่ผมนะสิครับ เซ็งเลย มาทะเลแทนที่จะได้เล่นน้ำ กลับต้องมานั่งแกร่วดูพวกมันเล่นน้ำกัน
ตอนเย็นหลังจากกินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว เราก็มีปาร์ตี้เล็ก ๆกัน 4 คนริมชายหาดนั่นแหละครับ กัสบอกให้ผมนั่งเฉย ๆ เดี๋ยวมันจะทำมาให้กินเอง ผมก็เลยนั่งคุยกับไอ้แป๋มมันไปเรื่อย ๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสองหนุ่มในการปิ้งบาบีคิวครับ
“แป๋ม ถามไรหน่อยดิ” ผมหันไปถามไอ้แป๋มที่ตอนนี้นั่งเขี่ยทรายเล่นอยู่
“อือ ว่าไง”
“แกรู้ไหมวะ ว่าทำไมกัสถึงมาชอบกรู”
ไอ้แป๋มมันทำท่าคิดไปนิดหนึ่ง
“อืมมมมมมม กรูไม่รู้เหมือนกันวะ บิว แต่ก่อนมันก็ไม่มีวี่แววว่าจะชอบผู้ชายเลยนะ”
“หรอ.......” ตอนนี้สายตาผมเลื่อนลอยไปหยุดที่กัสที่ตอนนี้กำลังหัวเราะร่ากับไอ้ฟิล์มสองคน ดู ๆ ไปกัสนี่มันหล่อเข้าขั้นเทพเลยนะ แล้วทำไมมันถึงมาบอกว่าชอบผม แถมยังขอผมเป็นแฟนหลังจากที่รู้จักกันไม่นาน เพราะอะไรน๊า
“เออ บิว”
“หือ” ผมขานรับไอ้แป๋ม แต่ตาผมยังคงเลื่อนลอยไปที่ไอ้กัสอยู่
“กัสเขาดีกับบิวไหม”
“ดีสิ ดีมากเลย” ผมหันไปยิ้มให้ไอ้แป๋มหนึ่งที
“งั้นก็ดีแล้ว ดีใจด้วยนะเว้ย มีแฟนซักที” ไอ้แป๋มกันก็ยิ้มตอบผมกลับมาพร้อมทั้งเอามือกอดไหล่ผม แล้วอยู่ ๆ ไอ้แป๋มมันก็ร้องเพลง ๆ หนึ่งขึ้นมาครับ
“อยากบอกให้รู้ เธอคือลมหายใจ
คือสายใยที่ใจ ผูกพันธ์
วันคืนที่แสนเศร้า ไม่นานก็พ้นผ่าน
คงมีสักวันที่เป็นของเธอ
พอไอ้แป๋มมันร้องขึ้นมาจนถึงตอนนี้ แล้วมันก็หยุด พร้อมกับยื่นกิ่งไม่มาให้ผม ผมก็เลยต้องรับมุขร้องต่อมันซะหน่อย
ได้ยินใช่ไหม หัวใจมันเต้นแรง
ทุกๆครั้งที่เราได้เจอ
ยืนยันให้มั่นใจ ยังไงก็รักเธอ
ไม่ต้องถามเลย ว่านานสักเท่าไหร่
พอมาถึงท่อนฮุก เราสองคนก็เริ่มใส่อารมณ์เต็มที่ ตะเบ็งแหกปากขึ้นมาพร้อม ๆกัน ส่วนไอ้ฟิล์มกับกัสตอนนี้มองเราสองคนอย่างอารมณ์ดีเลยแหละครับ
ตราบใดที่ฟ้า นั้นมีตะวัน ก็คงเปรียบดังใจฉัน
ต้องการแต่เธอ คนเดียวมั่นคงในใจ
หากวันใดฟ้า ไม่มีตะวัน ก็เหมือนเป็นความรัก มืด ไป
คงอยู่ไม่ไหว หากฉันไม่มีเธอ ... ฮุ้
ท่อนนี้อันที่จริงแล้วผมจะต้องเป็นคนร้องครับ เพราะว่ากิ่งไม้ที่ใช้แทนไมค์นั้นอยู่ที่ผม แต่กัสครับ มันแย่งไปร้องเสียก่อนพร้อมกับมองหน้าผมไปด้วย
เมื่อไหร่ที่ท้อ เมื่อไหร่ที่เสียใจ มองหาใครไม่เจอสักคน
เธอจะมีฉันอยู่ ปลอบใจที่หมองหม่น
คลายความร้อนรนให้มันหายไป
ยิ่งนานเท่าไหร่ฉันยิ่งรักเธอ
พอมันร้องท่อนสุดท้ายจบ ตามันมองผมเยิ้มเลยครับ
“เฮ้ย ๆ เมิงสองตัวจะกินกันมั้ย” เสียงไอ้ฟิล์มครับที่เป็นเสียงมารมาขัดความสุขผม ทำให้ผมกับกัสต้องแยกกันออกอย่างเขิน ๆ ส่วนไอ้แป๋มก็หัวเราะคิ๊กคัก เฮ้ย จะมีใครมีความสุขเท่าผมตอนนี้ไหมครับเนี่ย อยากให้ความสุขนี้อยู่ตลอดไปนาน ๆ จัง มีเพื่อนที่น่ารัก มีแฟนที่น่ารัก ทุก ๆ คนล้วนน่ารัก แต่เขาว่าความสุขมักอยู่กับคนเราไม่นานนัก เพื่อน ๆ ว่าจริงไหมครับ
-
คิ้มว่าเป็นแผนของฟิล์มที่ใช้กัสมาจีบบิวแน่ๆเลย
เพื่อให้บิวมีแฟนแล้วจะได้ไม่ตัวติดกันกับแป๋ม
เผื่อว่าฟิล์มมันจะได้จู๋จี๋ ดู๋ดี๋กับแป๋มมั่ง
-
คนที่น่าสงสารก็กลายเป็นบิวดิ ฮืออ
-
คิดเหมือนกันว่าเป็นแผนของไอฟิล์มแน่ ๆ
สงสัยอย่างที่บิวสงสัยกัสนั่นแหละ ว่าอยู่ดี ๆ ทำไมถึงมาชอบบิวได้ o12
-
:a4:คำว่าเพื่อนนั้นมีความหมาย ยิ่งใหญ่และจริงใจให้เทอครับ มอบให้แป๋มและบิวครับ
-
ความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน :o
ทิ้งท้ายไว้อย่างน่ากลัว
-
เมื่อไหร่น้า ความจริงจะเปิดเผย :m1: :m1:
-
มันจะเกิดอะไรขึ้นหว่า
แล้วทำไมถึงต้องถามด้วยว่ามีสิทธิ์ไหม?
-
หุหุ ต่างคนต่างจิ้น หุหุ เรื่องยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารครับ ยังไงอ่านแล้วช่วยรีพลายด้วยนะคร้าบบบ จะได้มีกำลังใจแต่งต่อ อิอิ :m12:
-
อย่าให้มีแผนก่อการร้ายมาทำลายจิตใจกันเลยนะ :เฮ้อ:
-
ไหงฟิล์มบอกว่ามือเคล็ดอ่ะ
แล้วกัสออกว่าเดินไหวไหม
แล้วทำไมจะเดินไม่ได้ว่ะ
มือเคล็ดนะไม่ใช่ขาหักเดินไม่ได้
แต่งไม่เนียนแก้ซะ
-
ไหงฟิล์มบอกว่ามือเคล็ดอ่ะ
แล้วกัสออกว่าเดินไหวไหม
แล้วทำไมจะเดินไม่ได้ว่ะ
มือเคล็ดนะไม่ใช่ขาหักเดินไม่ได้
แต่งไม่เนียนแก้ซะ
ขอบคุณคับสำหรับ comment :pig4: :pig4:แต่ผมคงแก้ไม่ได้ เพราะว่าใน feel นั้นที่ผมต้องการสื่อถึงก็คือ อารมณ์ของคนที่เป็นห่วงครับ
คงเข้าใจนะครับ
แบงก์
-
หุหุ อาจจะมีสองคู่รึเปล่า :m1: :m1:
-
ชอบแนวนี้ครับเศร้าดี
เป็นกำลังใจให้นะครับ
มาอัพตอนต่อไปเร็วๆนะครับกำลังอารมณ์ค้าง :sad2:
-
แป่มต้องรู้เรื่องของกัสมาแน่เลยถึงได้ถามบิงรอลุ้นครับ :oni2:
-
ยังไม่มาอัพอีกหรอรอนะครับ :sad2:
-
โทษทีคับที่มาต่อช้า พอดีมีเรื่องให้คิดเยอะแยะคับ แต่คิดไม่ตก+++++++
+++++++++++++++++
คืนนั้นทั้งคืนเราสนุกกันมากเลยครับ จนเวลาล่วงเลยไปได้เกือบ 4 ทุ่มแล้ว ตอนนั้นวงบาร์บีคิวถูกเปลี่ยนมาเป็นวงเหล้า (คออ่อนอีกแล้วกรู) ระหว่างที่เราหัวเราะคิกคักกันอยู่นั่นเอง ตอนนี้ไอ้แป๋มจิตหลุดไปแล้ว ไอ้ฟิล์มต้องคอยดุว่าให้กินเบา ๆ หน่อย ส่วนผมก็สะลืมสะลือแต่ยังพอมีสติอยู่บ้าง
“บิว พาแป๋มไปนอนให้หน่อยดิ” ไอ้ฟิล์มครับถือโอกาสใช้กรูเลยนะ
“เออ ก็ได้ เดี๋ยวกรูพาไปเอง” ตอนนั้นผมกลัวว่าไอ้ฟิล์มมันจะทำอะไรไอ้แป๋มมันถ้าปล่อยให้มันไปกันสองคน ถ้าผมเป็นคนพาไอ้แป๋มไปนอน น่าจะปลอดภัยกว่า
“แป๋ม ปะ เมิงอะเมาแล้วนะเว้ย”
“กรูไม่มาวววววววววว เอิ๊ก” แน่เมิง ยังปากดี
“แฟนกรูหรอวะเนี่ย” ผมได้ยินไอ้ฟิล์มแอบบ่น
“เมิงพูดอะไร ไอ้ฟิล์ม” เสียงไอ้แป๋มอ้อแอ้ดังขึ้น แน๊ หูดันดีอีกนะเมิง ไอ้แป๋ม
“ป่าวคร้าบบบบบบบบ ใครจะกล้าพูดอะไรละคร้าบบบบบบบ” น้าน เพิ่งเคยเห็นไอ้ฟิล์มอ้อนแฟน
“ดีมาก ฟิล์ม” ไอ้แป๋มครับพูดขึ้นพร้อมกับเอามือลูบหัวไอ้ฟิล์ม ผมละขำเลยละครับ กับท่าทีของมันตอนนี้ ผมประคองไอ้แป๋มที่ตอนนี้ไม่มีสติให้ลุกขึ้น ส่วนตัวผมนะหรอ ยังพอไหวครับ
แต่ทุลักทุเลน่าดู มือข้างหนึ่งก็เจ็บ แถมมึน ๆ อีกต่างหาก ไอ้กัสเลยรับอาสาช่วยประคองไอ้แป๋มด้วยอีกคน พอถึงห้องผมก็วางไอ้แป๋มลงบนเตียงและห่มผ้าให้มัน ก่อนจะออกจากห้องยังไม่ลืมที่จะล็อกประตูให้ด้วย ปลอดภัยไว้ก่อนเนอะ
ระหว่างที่ผมกับกัสกำลังเดินผ่านล็อบบี้ของคอนโดเพื่อที่จะกลับไปร่วมวงกับฟิล์มนั้น ก็มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังครับ
“กัส”
ผมกับกัสหันไปมองถึงที่มาของเสียงนั้น........
+
+
+
+
+
+
“แจง” กัสพูดขึ้นมาเบา ๆ ส่วนผมนะหรอ ตอนนี้เหวอแดกแล้วครับ มองหน้าแจงที มองหน้ากัสที ใช่ครับ คน ๆ นี้แหละครับที่ผมเห็นพร้อมกับกัสในครั้งแรก
“แจงมาได้ไงครับเนี่ย”
“โห มาเที่ยวกันแล้วก็ไม่ชวนแจงมาด้วยเนี่ยนะ” แจงทำท่ากระเง้ากระงอดได้น่าถีบมาก ๆครับ และไหนเมิงบอกว่าไม่ได้มีอะไรกันแล้วไง
“แล้วแจงรู้ได้ไงครับเนี่ยว่าผมอยู่ที่นี่” กัสมันถามแจง แต่ตามันกลับมองมาทางผม หน้ามันไม่มีสีแล้วครับ ซีดไปหมด
“อ้อ พอดีแจงโทรไปที่บ้านกัสมานะ แล้วพอดีเจอม๊าของฟิล์มว่าพวกฟิล์มและกัสมาเที่ยวที่นี่กัน ก็เลยตามมานะ”
“อ้อ” ไอ้กัสมันตอบได้แค่นั้นครับ และก็ยืนเก้ ๆ กัง ๆ ทำอะไรไม่ถูก
“และนี่จะไปไหนกันหรอ” แจงถามกัส พร้อมกับมองหน้าผมกับกัสสองคนไปมา
“เออ...พอดีเรามีปาร์ตี้กันนิดหน่อยครับ เออ แจงนี้บิว เป็น...เพื่อนกัสครับ”
“หวัดดีคับ” ผมทักทายแจง พร้อมก้มหน้านิ่ง ตอนนั้นมีคำถามมากมายอยู่ในหัว
“หวัดดีค่ะ แจงจำได้ละ เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งแล้วใช่ไหมค่ะ” ยิ้มหวานเลยนะเมิง
“อ้อ คิดว่าน่าจะใช้นะครับ” ผมส่งยิ้มที่คิดว่าจริงใจที่สุดแล้วกลับไป
“งั้น แจงขอไปสนุกด้วยได้ไหมค่ะ”
“ได้สิครับ ทำไมจะไมได้ละ” ผมรีบตอบสวนกลับไปทันทีเมื่อเห็นกัสทำท่าทางอึกอัก อยากจะรู้นักว่าไอ้กัสมันจะทำยังไง
“ระหว่างที่เดินไปชายหาด แจงก็เกาะแขนไอ้กัสแจ ไม่ยอมปล่อย เดินตีคู่นำหน้ากันไป ไอ้ผมก็เลยต้องเดินรั้งท้าย
เมื่อเดินไปถึงพอไอ้ฟิล์มมันหันมาเห็นหน้าแจงเท่านั้น อาการของมันก็ออกเหมือนไอ้กัสไม่ผิดเพี้ยน ทำไมมันจะต้องตกใจอะไรกันนักกันหนาเนี่ย วันนี้มีเรื่องเซอร์ไพสร์กรูเยอะเหลือเกิน
“หวัดดีจ่ะฟิล์ม” แจงทักฟิล์มอย่างสนิทสนม
“หวัดดีแจง แล้วนี่...เอออ...แจงมาได้ไงเนี่ย”
“แจงเขาตามกัสมานะ เขาจะมาเที่ยวด้วย” ผมตอบแทนครับ ทั้งไอ้กัสและไอ้ฟิล์มหันมามองผมเป็นตาเดียวเลย ส่วนผมก็ลอยหน้าลอยตาทำเฉย ๆ ไป
“เออ แล้วคืนนี้แจงพักที่ไหนหรอ” กัสถามไอ้แจงขึ้น
“อ้อ ก็กะว่าจะมานอนคอนโดฟิล์มเนี่ยแหละ ได้ไหมฟิล์ม” แจงพูดขึ้น แต่คำหลังหันไปขออนุญาตไอ้ฟิล์มมัน แหมพูดขึ้นมาซะขนาดนี้แล้วใครจะกล้าไม่ให้มันนอนวะ
“อืม ได้สิ แต่นอนห้องเดียวกับแป๋มนะ”
“อืม ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” แจงพูดขึ้นแล้วก็ยิ้มตาหวานเลยครับ แจงนี่ดู ๆ แล้วดูเป็นคนสวยที่ครบเครื่องจริง ๆ และท่าทางคงจะไม่มีพิษมีภัย
และหลังจากนั้น ดูเหมือนว่าแจงจะสนุกอยู่คนเดียว กัสกับฟิล์มก็ได้แต่หัวเราะเออออไปกับแจงด้วย ส่วนผมตอนนี้นั่นเล่นเขี่ยทรายไปเรื่อยเปื่อย จนเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ หันไปดูคลื่นในทะเล แต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะว่ามันมืดมาก ไม่ได้ยินแม้เสียงคลื่น ท่าทางคลื่นลมคงจะสงบ แต่ทำไมตอนนี้ใจผมไม่เห็นสงบเหมือนคลื่นเลย
ไหนบอกว่าเลิกกันแล้ว แต่ทำไมสนิทสนมกันจัง
หรือว่าเขาจะเป็นแค่เพื่อนกันเฉย ๆ
แต่เพื่อนกันเขาคงไม่ตามกันมาถึงนี้หรอกนะ
เอ๊ะ หรือว่าแค่อยากมาเที่ยวด้วย
แต่ทำไมต้องกอดแขนกันซะขนาดนั้น
นั่งห่าง ๆ กันหน่อยได้ไหมนะ
โอ้ยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยย
“กัส..............................” ตอนนี้สายตาทั้ง 3 คู่จ้องมองมาทางผมครับ
“..................................ไปนอนก่อนนะ” และก็สะบัดตูดลุกขึ้นจากตรงนั้นเดินขึ้นห้องทันที
อยากจะลุกขึ้นโวยวาย แต่ไม่กล้า
ไม่รู้ว่าจะโวยวายในฐานะอะไร
ไม่อยากเห็น...........ก็ไม่ต้องมอง
ไม่อยากสนใจ........ก็ไม่ต้องรู้
ขึ้นห้องได้ก็นอนคลุมโปง ข่มใจให้หลับ แต่มันหลับไม่ลง คิดไปต่าง ๆ นานา ตอนนี้ในหัวใจมีหลายอารมณ์เหลือเกิน
น้อยใจ.................
โกรธ.................
เกลียด..................
เจียมตัว.................
โมโห ................
ทุกอารมณ์ต่างแย่งกันที่จะเด่นออกมา
พอเข้ามาก็อดที่จะกลัวไม่ได้ว่าข้างนอกจะเป็นยังไงบ้าง
คงสนุกกันใหญ่เลยสินะ
ป่านนี้คงนั่งซบ ชวนกันดูดาวกันแล้วสินะ
คิดไปคิดมาน้ำตาดันไหลอาบแก้ม
อ่อนแอจริงนะ....ไอ้บิว
“ปัง!!!”
เสียงประตูนิหว่า กลับกันมาแล้วหรอวะ ทำไมเร็วจัง
“เดี๋ยวแจงนอนห้องนี้นะ” เสียงไอ้ฟิล์มนิ มันคงบอกให้แจงนอนห้องเดียวกับไอ้แป๋มนิ
“จ๊ะ ราตรีสวัสด์นะจ๊ะ”
พอสิ้นเสียงห้องนอนแจงกับแป๋มปิดลง ทุกอย่างก็อยู่ในความเงียบอีกครั้ง
“มันทำอะไรกันอยู่วะ”
“ปัง!!!” มันเข้ามาในห้องนอนแล้ววววววววว จังหวะนั้นผมนอนคลุมโป่งแน่น แต่หูยังคงพึงฟังความเคลื่อนไหว
“ไอ้ฟิล์ม เรามีเรื่องต้องคุยกัน” เอ๊ะ เสียงไอ้กัสนิหว่า มันทะเลาะกันหรือไงวะ ท่าทางไอ้กัสหัวเสียน่าดู
“เมิงพูดเบา ๆ สิวะ อยากให้ไอ้บิวได้ยินหรอ” มีชื่อกรูด้วย แล้วอะไรหรอวะที่มันกลัวว่ากรูจะได้ยิน
“งั้นเมิงตามกรูออกมานี่” เป็นเสียงไอ้กัสครับ แล้วสักพักทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ได้ยินแต่เสียงเปิดประตูระเบียงออกไป ผมเลยค่อย ๆ เคลื่อนหัวออกมาจากผ้าห่ม โดยลอดออกมาเพียงแค่ตามองเห็น ภาพที่ผมเห็นตรงระเบียงนอกห้องก็คือ ไอ้กัสกับฟิล์มกำลังพูดอะไรกันอยู่ไม่รู้ แต่ดูแล้วเหมือนไอ้กัสจะหัวเสียมาก คงกำลังขึ้นเสียงใส่ไอ้ฟิล์มอยู่ ซึ่งดูจากท่าทีแล้วไอ้ฟิล์มมันเหมือนจะกำลังคอยปลอบ หรืออะไรซักอย่าง เถียงกันไปมา ไอ้กัสคงกำลังคิดไม่ตกเกี่ยวกับอะไรซักอย่าง เพราะเห็นมันเดินไปเดินมาตรงระเบียง ส่วนไอ้ฟิล์มก็ยืนกัดเล็บ หลังพิงราวระเบียงอยู่ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่เหมือนกัน
ผ่านไปราว 5 นาทีได้มั้งไอ้กัสมันก็เดินเข้ามาในห้อง ส่วนผมก็รีบคลุมโปงเหมือนเดิมแทบไม่ทัน ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับว่าไอ้กัสมันเดินมาตรงเตียงผม สักพักเตียงผมก็ยวบลง คงเป็นเพราะว่ามันนั่งลงนั่นเอง หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ ผมก็สัมผัสได้ถึงมือของไอ้กัสที่กำลังลูบหัวผมไปมานอกผ้าห่ม
“ขอโทษ”
“ขอโทษ”
นี่เมิงทำอะไรผิดหรอ เมิงถึงมาขอโทษกรูเนี่ย ผมทำได้แค่เพียงหลับตาปี๋ รอว่ามันจะพูดอะไรต่อ แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากคำว่าขอโทษ
“กรูว่าเมิงนอนเหอะว่ะ ไอ้กัส มันคงไม่มีอะไรอย่างที่เมิงคิดก็ได้” เสียงไอ้ฟิล์มครับ ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นมันมีเรื่องอะไรที่กำลังปิดบังผมอยู่หรือเปล่า กลับกรุงเทพฯแล้ว คงต้องมีเรื่องต้องเคลียร์กันหลายเรื่อง แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว หลังจากที่ผ่านการร้องไห้มาพอสมควร เหนื่อยเหลือเกิน ทำไมตาหนักอย่างนี้เนี่ย และระหว่างที่ผมใกล้จะเข้าสู่ห้วงนิทรา ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของคนข้าง ๆ ก็เกิดขึ้น แม้จะเป็นการกอดนอกผ้าห่ม แต่ความอบอุ่นมันแผ่ซ่านเข้ามาถึงข้างในใจ ผมอดไม่ได้ที่จะกระแซะเข้าหาอ้อมกอดนั้นให้แน่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่ความรู้สึกจะดับวูบลง...
-
:serius2: นายกัส กับ นายฟิล์ม ปิดบังอะไรกันอยู่เนี่ย
-
อ่า ว่าแล้วไงครับ ว่ามันต้องมีอะไรแน่ ๆ
กัสกับฟิล์ม วางแผนกันแกล้งบิวหรือเปล่า :m15:
รอปริศนาคลี่คลาย ต่อไป :m4:
-
อืมมมมมมมมมมมมมมม
-
ไอ้สองคนนั้นมันต้องปิดบังอะไรไว้แน่ๆ เลย
อย่ามาหักหลังบิวให้เสียใจนะเฟร้ยยยยย o12
-
จะเป็นยังไงต่อน้า
:m1: :m1:
-
อยากรู้เป็นที่ซู๊ตตต
-
อย่างนี้ต้องเคลียร์ :m16:
-
ฟิล์มกะกัสวางแผนไว้แน่ๆเลย โธ่!!! บิวจ๋า :o12:
-
อยากรู้จะเป็นยังไงต่อไปน่ะ ยังไงก็จะติดตามต่อไปน่ะ
-
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงดังมาจากห้องข้าง ๆ ทำให้ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีในตอนเช้า ไม่ใช่ผมคนเดียวครับที่สะดุ้งตื่น ทั้งกัส และไอ้ฟิล์ม สะดุ้งตื่นเหมือนกันหมด เราสามนมองหน้ากัน พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปห้องข้าง ๆ ทันที
“ปั่ง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงเคาะประตูรัว ดังขึ้นหน้าห้อง
“ไอ้แป๋ม เปิดประตู ไอ้แป๋ม เป็นไร”
ไม่ต้องรอให้เรียกซ้ำสอง ประตูถูกเปิดมาจากคนภายในห้องอย่างเร็ว
“เมิงเป็นไรไอ้แป๋ม” ผมรีบถามมันครับ
“เออ!!!! ไม่มีไรหรอก” มันตอบมาพร้อมกับส่งยิ้มแห้ง ๆ กลับมา
“แล้วเมิงร้องทำด๋อยไร ร้องยังกะถูกข่มขืน”
“ก็.....”
“ก็แป๋มนะสิค่ะ พอตื่นขึ้นมาเห็นหน้าแจง ก็ร้องลั่น” แจงนั่นเองครับ รีบชะโงกหน้าออกมาจากห้อง ท่าทางหัวเสียพอดู”
“เอ้า ก็ใครจะไปรู้ละยะ ว่าหล่อนมานอนห้องฉัน ตื่นมาเห็นหล่อน ก็ต้องตกใจนะสิ”
“ฮู้!!!!!!!! ทั้งผม กัส และไอ้ฟิล์ม ร้องแบบระอาขึ้นมาพร้อมกัน ไอ้ฟิล์มเดินกลับห้องไปนอนต่อ เดินไปบ่นไป
ส่วนผมกับไอ้กัสหันมายิ้มให้กันแบบขำ ๆ แต่สักพักก็นึกขึ้นได้เรื่องเมื่อคืนเรื่องแจง และไหนจะเรื่องที่มันมีอะไรปิดบังผมอยู่ ทำให้ผมหยุดยิ้มขึ้นมาทันที ก่อนที่จะหมุนตัวเดินไปห้องครัวทันที ปล่อยให้ไอ้กัสยืนยิ้มเก้ออยู่ตรงนั้น
“ทะเลาะกันหรอ” เสียงไอ้แป๋มครับดังขึ้นมาจากข้างหลัง ในระหว่างที่ผมกำลังจะเปิดตู้เย็นหาน้ำกิน
“.........................”
“หรือว่าหึงที่มันพาแจงมา”
“..........................”
“ถ้าหึงมันก็บอกมันดิว๊า”
“.............................”
“กรูบอกให้เอาม๊า”
“..........................”
ผมพยายามเร่งกินน้ำในแก้วให้หมด ก่อนจะหมุนตัวเลี่ยงตัวไอ้แป๋มออกไป ไม่อยากตอบอะไรมันตอนนี้
“คนรักกันนะเว้ย มีอะไรก็เคลียร์กันสิวะ เมิงอยากรู้อะไร เมิงก็ถามเขาสิ ถ้าเมิงมัวแต่คิดไปเองยังเงี้ย แล้วเมิงจะรู้ได้ยังไง เชื่อกรู มันไม่มีอะไรเลวร้ายหรอก กะอีแค่ฟังความจริงจากคนที่เรารักเนี่ย”
ผมหยุดกึก และคิดตามมัน ก่อนที่จะหันมาพูดกับมัน
“และถ้าสมมติว่า ความจริงที่เมิงอยากรู้ ไม่ใช่สิ่งที่เมิงอยากจะฟังหละ เมิงจะทำไง”
ไอ้แป๋มมันยิ้ม พร้อมกับเดินเข้ามากอดคอผมครับ
“กรูก็จะยิ้มรับมัน...และกรูว่ารู้ว่าเมิงทำได้” ผมหันไปมองหน้ามันก็ได้เห็นรอยยิ้มที่จริงใจของมันส่งกลับมาให้ นี่แหละครับเพื่อนผม เพื่อนคนเดียวของผม
“ขอบใจนะแป๋ม”
“อืม ไม่เป็นไร ปะ อยากรู้อะไรก็ไปถามมัน”
“อืม ขอบใจนะ”
ผมหันไปตรงห้องรับแขก ก็เห็นไอ้กัสนั่งหน้าเครียดอยู่คนเดียว กำลังจะเดินไปหามัน แต่ไม่ทันแล้ว แจงนั่นเองครับ กลับเดินมานั่งข้าง ๆ กัส มันหันมาเห็นผมก็ยิ่งหน้าเจื่อนเข้าไปอีก
และผมก็ได้ทำในสิ่งที่ผมควรทำครับ ผมกะว่าจะถามความจริงเรื่องแจงจากไอ้กัส แต่ชั่วโมงนี้ผมขอทำอะไรสักอย่างก่อน
ผมก็เลยส่งยิ้มให้ไอ้กัสไปทีหนึ่ง ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาด้านที่ยังว่างอยู่อีกฝั่งหนึ่ง พร้อมกับยื่นมือข้างที่ซ้นไปตรงหน้ามัน
“ทายาให้หน่อยดิ” ลุ้นครับ ว่ามันจะเล่นด้วยหรือเปล่า
กัสกับแจงตอนนี้มองหน้าผมอย่างงง ๆ ชั่วอึดใจ ผมสาบานได้ว่าผมเห็นรอยยิ้มที่มุมปากไอ้กัส
“รอเดี๋ยวนะ ไปหยิบยาก่อน”
“บิวเป็นไรหรือค่ะ” แจงถามผมขึ้นหลังจากที่ไอ้กัสหายเข้าไปในห้องเพื่อที่จะหยิบยาครับ
“อ้อ กัสมันทับอะ และสงสัยผิดท่าไปหน่อย มันก็เลยซ้น”
“กัสทับ?” แจงทวนคำอย่างงง ๆ
ผมไม่ตอบครับ แต่ส่งยิ้มกลับไปให้มันแทน หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย สักพักกัสมันก็เดินมาพร้อมกับห่อยาและผ้าพันแผลผืนใหม่
“ไหนขอดูหน่อยนะ ว่าหายบวมหรือยัง” มันจับมือผมไปแก้ผ้าพันแผลออกพร้อมทั้งจับพลิกไปพลิกมา
“ยังบวมอยู่นิดหน่อยนะ เดี๋ยวทายาก็คงหาย” ครับ มันยังคงบวมอยู่ อาจจะเพราะว่าเมื่อนี้โดนไอ้กัสมันนอนกอดก็เป็นได้
“ที่จริงเมื่อวานมันไม่บวมขนาดนี้นิน่า สงสัยว่าเมื่อคืคงโดนทับ ตอนที่นอนกอดกันอะ” ผมพูดเสียงอ้อน ๆ แต่ว่าตอนนี้ทั้งไอ้กัสและแจงที่นั่งอยู่ตรงนั้นแทบจะตกเก้าอี้ ผมก้มหน้ากัดฟันไว้แน่นไม่ให้หลุดหัวเราะออกมา แต่ผมรู้สึกว่าได้ตอนนี้แจงมันคงจ้องหน้าผมอยู่แน่ ๆ ส่วนไอ้กัสตอนนี้ มือไม้พันกันวุ่นไปหมด หุหุ สะใจโว้ย
ยยยยยยยยยยยยยยย
“เมื่อคืน....
กัส.....กับ เออ.....บิว...คือ...กอดกัน....หรอ” เอ้า ๆ แจง ไปไม่เป็นเลยครับ 555
ไม่มีเสียงตอบจากผมกับกัสครับ ทำเหมือนคำถามของแจงเป็นอากาศธาตุที่ลอยไปมา
“อะ เสร็จแล้ว” เสียงสั่น ๆ ของไอ้กัสดังขึ้นครับ ผมหันไปยิ้มตาเยิ้ม ๆ ให้มันแทนคำขอบใจ
“กัส เป็นอะไรหน้าซีดๆๆ” ผมไม่พูดเปล่า แต่เอามือไปลูบหน้ามันด้วย ขอแกล้งมันต่ออีกหน่อยนะ
“เออ....สงสัยนอนน้อยมั้ง” มันรีบเอามือกุมหน้าผากทันทีเหมือนรู้ตัวว่าพูดอะไรผิดไป ส่วนแจงนั้นหน้าเสียไปอย่างเห็นได้ชัด แหมๆๆ เมื่อคืนนอนกอดกัน แถมไอ้กัสยังบอกอีกว่าเมื่อคืนนอนน้อย เป็นใคร ๆ ก็ต้องคิดละคร้าบบบบบบ เมิงพลาดเองนะไอ้กัส
“หรอ งั้นกัสไปนอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวบิวกับแจงจะไปเดินเล่นข้างล่าง” อะๆๆ แกล้งมันพอละ เดี๋ยวมันจะเละเป็นปุ๋ยไปซะก่อน
“อืม ก็ดีเหมือนกัน ชักปวดหัวขึ้นมาละ” ไอ้กัสรีบตอบครับ ก่อนที่จะรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องนอน ตอนนี้เหลือผมกับไอ้แจงสองคน ผมยิ้มให้มันทีนึง แจงก็ส่งยิ้มกลับมาเหมือนกัน แต่รู้สึกว่ายิ้มเมิงแห้งเหลือเกินนะ
“แจงไปด้วยกันไหม” ผมถามยังไม่ทันจบไอ้แจงรีบส่ายหัวทันที
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวแจงจะกลับแล้ว พอดีมีธุระ”
“อ้าว จะกลับแล้วหรอ ยังงี้ก็หมดสนุกอะสิ เอ้ยไม่ใช่ หมายความว่าก็ไม่ได้สนุกด้วยกันอะดิ”
“ไว้โอกาสหน้าดีกว่านะ” แจงพูดจบก็รีบลุกเดินเข้าห้องนอนมันทันที
เมื่อแจงเดินเข้าห้องไปแล้ว ผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทันทีด้วยความเหนื่อย ทำยังงี้ไม่สนุกเลยนะครับ สมเพชตัวเองมากกว่า ยังไงเรื่องกัสกับแจงก็ยังไม่เคลียร์ ต้องรอถามมันตัวต่อตัว
-
บิว จับให้มั่น คั้นให้ตายเลยนะ
มาแกล้งบิวก่อนทำไมล่ะ
:serius2: :o
-
ไปคุยให้เรื่องมันเคลียร์ไปเลย ลุยโลด :a2:
-
เคลียร์!!!
-
:a4:เฮ้อ คิดแล้วกลุ้มถ้าไม่รักกันจริงก็อย่ามาหลอกให้ดีใจเลย
-
ต้องเล่นบทโหดเลยแบบนี้
-
เย้ๆมาอัพแล้ว
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อครับ :m13:
-
:m22:รอครับ
-
ลงมาหลายตอนแล้ว ยังไม่ได้ทักทายกันเลย ขอบคุณมาก ๆ เลยนะครับสำหรับทุกคอมเม้นต์ที่จะทำให้ผมมีกำลังใจแต่งต่อ
ด้วยจิตคารวะ
แบงก์
++++++++++++++++++++++++++++
ระหว่างที่เดินเล่นกับไอ้แป๋มอยู่นั้น ผมก็เล่าเรื่องทุกอย่างที่ผมทำให้ไอ้แป๋มฟังทันที
“เมิงว่าเรื่องอะไรวะ ที่มันกำลังปิดกรูอยู่” ผมถามไอ้แป๋มขณะที่มันกำลังเลือกซื้อ
กางเกงเลสวย ๆ อยู่
ไอ้แป๋มมันทำท่าคิดแป็บหนึ่ง
“กรูก็ไม่รู้เหมือนกันวะ”
“เมิงว่ามันแปลกไหมวะแป๋ม”
“แปลกอะไรวะ” ปากมันถาม แต่มือมันยังคงเลือกกางเกงอยู่
“ไอ้กัสมันบอกว่าเลิกกับแจงแล้ว”
“อืม ใช่……ป้าๆๆ ตัวนี้เท่าไหร่ค่ะ” มันตอบผม พร้อมกับถามราคาด้วย
“ถ้าเมิงเป็นแจง เมิงจะกล้ามาหากัสไหมวะ ถ้าเมิงเลิกกันแล้วอะ” ผมยังคงถามต่อ
“เออวะ……ป้าๆๆๆ ลดไม่ได้หรอ” มันยังคงทำเหมือนเดิม
“แล้วเมิงว่ากรูจะเอาไงดีวะ”
“ถ้าเป็นกรูนะ................กรูเอาสองตัวเลย.............ป้า ๆๆ ใส่ถุงเอาสองตัวนี่แหละ”
“ไอ้เชี่ย เมิงฟังกรูป่าวเนี่ย”
“ฟังดิ เอางี้ เมิงก็ทำเฉย ๆ ไปก่อน รอให้ถึงกรุงเทพก่อน แล้วค่อยถามมัน ไม่งั้นหมดสนุกกันพอดี ส่วนกรูจะถามไอ้ฟิล์มให้ โอเค๊??”
“อืม...เอางั้นก็ได้”
ผมกับแป๋มเดินหาซื้อของกินเพื่อเอาไปฝาก 3 คนบนห้องด้วย ระหว่างที่เดินซื้อของอยู่นั้นก็บังเอิญไปเจอพัดครับ ว่าที่สัตวแพทย์สุดหล่อนั่นเอง
“อ้าวพัด มาได้ไงเนี่ย” เสียงไอ้แป๋มมันทักขึ้นก่อนครับ
“อ้าว หวัดดีแป๋ม หวัดดีบิว พอดีมาเที่ยวกับพ่อแม่อะ” อิอิ เสียงหล่อเหมือนเดิม
“บิว ปลาทองเป็นไงบ้าง”
“อ้อ ก็เรื่อย ๆ อะ ท่าทางมันจะแก่แล้วมั้ง ดูหงอย ๆ พิกล”
“อืมมมม แล้วว่าง ๆ จะเข้าไปดูให้อีกทีนะ”
“อืม ขอบใจนะ”
“แหมมมมมมมมม พัด แกสมกับเป็นหมดสัตว์จริง ๆ เจอหน้ากันดันถามถึงไอ้ปลาทอง”
“ก็มันชินแล้วนิ” พัดพูดจบก็เอามือเอาหัวอย่างเขินๆๆ แฮะๆๆๆ น่ารักดีแฮะ
“เออ แล้วนี่พักที่ไหนหรอ” พัดถามขึ้นครับ
“อ้อ มาพักคอนโดฟิล์มนะ อยู่แถวนี้เอง จะไปกินข้าวที่คอนโดเราก่อนไหม”
“อืมมม” พัดคิดอยู่พักหนึ่ง มองหน้าเราที มองหน้าแป๋มที
“ก็ได้”
เมื่อพัดตอบตกลงแล้ว เราสามคนก็เดินกลับคอนโด เมื่อมาถึงหน้าห้อง ผมเหมือนได้ยินเสียงคนกำลังทะเลาะกันอยู่ข้างใน เรา 3 คนสบตากันทันที ผมทำสัญญาณให้ทุกคนเงียบ ๆ และคอยเงี่ยหูฟังอยู่หน้าห้อง
“กัส แจงถามจริง ๆ เหอะ กัสกับบิวเป็นอะไรกัน” เสียงแจงดังลั่นห้องเลยครับ ตอนนี้ผมกับแป๋มมองหน้ากันทันที ส่วนพัดก็เหวอไปนิดนึงเหมือนกัน
“...........................”
“ตอบมาสิ กัสตอบแจงมาสิ ฮือๆๆๆๆ” เสียงแจงร้องไห้นิ
“เออ............คือ”
“แล้วแจงละ กัสเอาแจงไปไว้ไหน” ตอนนี้เราสามคนมองหน้ากันไปมอง แล้วไหนไอ้กัสบอกว่ามันกับแจงเลิกกันแล้วไง
“..........................”
“กัสไม่ต้องตอบแล้ว แจงพอจะรู้อะไรแล้ว แจงไม่น่าไว้ใจคนอย่างกัสเลย แล้วต่อจากนี้ แจงถือว่าแจงไม่เคยรู้จักกัส” สักพักใหญ่ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกอย่างแรง เป็นแจงนั่นเองครับ ตอนนี้สภาพแจงนั้นน่าสงสารมาก น้ำตาเปื้อนเต็มหน้าไปหมด แจงมองหน้าเรา 3 คนนิ่ง ๆ ซึ่งยากจะเดาว่ารู้สึกอย่างไร พร้อมกับค่อย ๆ เดินหายไปตามทางเดิน
“โถ่ เว้ย!!!” ผมได้ยินเสียงไอ้กัสสบถออกมาดังลั่นเลยครับ
“ฟิล์ม............กรูว่ากรูจะบอกบิววะ”
“เออ.......ก็แล้วแต่เมิงละกัน มาถึงขั้นนี้แล้วนิ” เสียงไอ้ฟิล์มครับ ตอนแรกนึกว่ามันไม่ได้อยู่ในห้อง
“เออ............แล้วเรื่องพนันละ ว่าไง” เอ๊ะ พนัน!!!!!!
“เลิกเล่นเหอะ กรู........”
ผมพอจะเดาอะไรออกแล้วครับ และผมคงทนโง่ที่จะยืนฟังความจริงต่อไปไม่ไหว ผมเลือกที่จะวิ่งออกมาจากตรงนั้น วิ่งออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อหนีความจริง หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นควายอยู่ตอนนี้
“บิว ๆๆๆ “ เสียงแป๋มดังอยู่ข้างหลัง แต่ผมไม่สนใจครับ ตอนนี้ผมอาย อายทั้งไอ้แป๋ม อายทั้งพัด ผมลงมาใต้คอนโดได้ แต่ไม่รู้ว่าจะไปไหน เลยนั่งมันตรงล๊อบบี้นั่นแหละครับ น้ำตาก็ไม่รู้มาจากไหน ไหลไม่ยอมหยุด ทั้งเช็ด ทั้งถู น้ำตาเจ้ากรรมก็ยังไหลอยู่ได้ ผมโกรธตัวเองมากว่าทำไมเราต้องเสียใจกับเรื่องงี่เง่าแบบนี้ด้วย ผมพยายามหลอกตัวเองว่า เราไม่ได้เสียใจ เราไม่ได้เสียใจ จนเผลอเอามือทั้งสองข้างปิดลูกตาไว้เพื่อกั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมาอีก
“อยากร้องก็ร้องออกมาเหอะครับ” มีเสียงพูดอยู่ข้างหลังผมครับ ผมอยากให้เสียงนั้นเป็นของกัสเหลือเกิน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ครับ ทุกอย่างเป็นแค่เกม แค่เกมสนุก ๆ เท่านั้น
เมื่อผมหันไปเห็นเป็นพัด ผมพยายามซ่อนรอยน้ำตาแห่งความเสียใจให้มิดชิดที่สุด
พยายามเม้มริมฝีปากแน่นเพื่อข่มความรู้สึกเจ็บปวด
มือก็จิกหน้าขาไว้ไม่ให้มันสั่น
“ไม่เป็นไรแล้ว….ไม่เป็นไรแล้ว” ไม่รู้ว่าเสียงผมสั่นไปหรือเปล่า แต่พัดก็พยักหน้าเพื่อยืนยันว่าเขาเข้าใจผม
ระหว่างที่ผมกับพัดนั่งกันเงียบ ๆ นั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่ามันจะไม่นาน แต่ผมก็ยอมรับว่าผมมีความสุขมาก คนอย่างผมนั้น น้อยนักที่จะมีโอกาสได้เจอกับความรัก ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม แต่เมื่อวันที่ผมเจอกัส ผมกลับคิดว่า นี่คงเป็นโอกาสของผมแล้วสินะที่ให้ผมได้มีโอกาสรู้จักกับความรัก แต่ผมไม่คิดว่าความรักของผมนั้นจะสั้นนัก ...มันสั้นนัก เปรียบเสมือนแค่ความฝันเท่านั้น ผมยังจำภาพของตัวเองตอนมีความสุขได้ไม่ชัดเจนเลย มันก็หายไปแล้ว.....หายไปหมดแล้ว ภาพจิ๊กซอว์แห่งความรักที่ผมคิดว่าผมจะตั้งใจต่อมันด้วยมือของผมกับกัส ตอนนี้มันกลับถูกขยี้ทิ้งด้วยมือของคนที่ผมคิดว่าผมจะต่อภาพจิ๊กซอว์นี้ด้วยกัน
มันเจ็บมากทีเดียวเลยแหละครับ
“บิว.....บางทีมันอาจจะไม่ใช่ที่บิวคิดก็ได้นะ” นี่เป็นคำพูดปลอบคำพูดแรกของพัดครับที่ปลอบผม
“บิวก็ยังได้ยินอะไรไม่ชัดไม่ใช่หรอ” อืมจริงสินะ เพราะผมดันวิ่งออกมาก่อน แต่ผมว่าผมก็พอจับใจความได้นะว่ามันคืออะไร
“บิวไม่เชื่อใจคนที่...เออ...คนที่บิวรักหรอ” ท่าทางพัดคงหนักใจที่จะพูดออกมาว่ากัสคือคนที่ผมรัก นี่พัดคงช็อกสินะที่ผมกับกัสเป็นแฟนกัน
“พัด.....................บิวอยากกลับบ้าน”
“ได้สิ............เดียวพัดพาบิวกลับบ้านเองนะ แต่สัญญาก่อนว่าจะไม่ร้องไห้............นะครับคนเก่ง”
“ผมไม่ตอบครับ ปล่อยให้พัดเดินจูงมือเหมือนเด็ก ๆเดินออกไปจากคอนโด ผมเดินตามพัดไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่านานแค่ไหน หรือเดินไปทางไหน มารู้สึกตัวอีกทีก็มาหยุดที่รถของพัด
“ปะ ขึ้นรถเหอะ เดี๋ยวพัดไปส่งที่บ้านนะ”
“แล้ว พ่อกับแม่พัดหละ” ผมถามพัดครับ เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพัดเขามากับพ่อแม่
“ไม่เป็นไร เรามารถคนละคัน เดี๋ยวพัดโทรบอกพ่อกับแม่เอง ว่าแต่บิวเหอะ แล้วพวกกระเป๋าเสื้อผ้าหละ จะทำไง”
เออลืมไปเลยครับ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ากระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของอยู่ที่ ห้องไอ้ฟิล์มหมดเลย เลยตัดสินใจโทรไปหาไอ้แป๋ม พอยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู โอ้โห สายเข้า 20 กว่าสาย เป็นของไอ้แป๋มมากที่สุด รองลงมาก็ไอ้กัส
“ฮัลโหล แป๋ม”
“บิว แกอยู่ไหนวะ ฉันโทรหาแกมือจะหงิกอยู่แล้วเนี่ย”
“......................กรูกำลังจะกลับกรุงเทพวะ เมิงช่วยเอากระเป๋ากลับให้กรูด้วยนะ”
“เดี๋ยวๆๆๆ แล้วเมิงกลับกับใคร กรูเป็นห่วงนะเว้ย” ตอนนี้ผมนึกโกรธตัวเองแล้วครับ ที่ทำให้เพื่อนดี ๆ อย่างไอ้แป๋มเป็นห่วง
“เออ กรูจะกลับกับพัดอะ อย่าเพิ่งถามอะไรกรูตอนนี้ ถึงกรุงเทพแล้วกรูจะโทรหานะ”
“เออ ได้ แล้วเมิงรู้ไหมว่าไอ้กัสนะ มัน...................”
“ปิ๊ด” ผมตัดสายมันก่อนที่ไอ้แป๋มจะพูดอะไรครับ ผมไม่อยากฟังอะไรตอนนี้
“เรียบร้อยแล้วหละพัด เราไปกันเถอะ”
“อืม” แล้วพัดก็ขับรถพาผมจากหัวหินบึ่งกลับกรุงเทพทันที ระหว่างทางเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย ผมนั่งเหมอมองออกไปทางหน้าต่าง ในใจมันสับสนไปหมด ส่วนพัดนั้นก็แอบชำเลืองมองผมเป็นระยะ ๆ ด้วยความเป็นห่วง
เรากลับมาถึงกรุงเทพกันประมาณบ่ายโมง โดยพัดขับมาส่งผมถึงหน้าหอพักเลยครับ วันนี้ตอนเย็นผมคงจะต้องไปทำงานพิเศษด้วย แม้ไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรก็ตาม แต่ก็คงขัดไม่ได้ เพราะว่าโดดมาหลายวันแล้ว
“ขอบใจมากนะพัด” ผมเอ่ยขอบคุณพัด เมื่อรถมาจอดที่หน้าหอครับ
“เออ....บิวอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม ให้พัดไปอยู่เป็นเพื่อนไหม” ท่าทางพัดคงเป็นห่วงผมจริง ๆ ครับ
“ไม่เป็นหรอก บิวอยากอยู่คนเดียวนะ ไปนะ” ก่อนที่พัดจะทันพูดอะไร ผมชิงพูดตัดหน้าก่อน เพราะว่าตอนนี้อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียวมากกว่า
พอขึ้นมาถึงห้อง ผมก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดแรง ก่อนที่จะเดินไปในครัวเพื่อเปิดตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม แต่ช่วงจังหวะนั้น ผมรู้สึกแปลก ๆ ที่ห้องเงียบผิดปกติ นึกขึ้นได้หันกลับไปตรงระเบียง
“เพล้ง!!!!” ...................................................................
-
เอาเรื่องความรักมาพนันกันได้งัยเนี้ย :m15:
อย่าบอกนะว่าเจ้าปลาทองจะเดี้ยง :serius2:
-
:m15: สงสารบิวอะ
-
บิวต้องเอาคืนทั้งไอ้ฟิล์ม..ไอ้กัส ให้สาสมเลย
:m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:
-
ปลาทองเป็นอะไร :o
-
ใช้ สู้ๆๆนะบิวสู้ๆๆ
-
ต้องมีอารายยซับซ้อนแน่ๆๆๆ
-
มันต้องมีอะไรมากกว่านี้อีกแน่ ๆ o12 :o
-
ลางอะไร.........ของแตก
-
:เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
ไอ้กัส....มึง....ต๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ปล. บีบคั้นอารมณ์ยิ่งนัก :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: ศรีทนไม่ได้เจ้าค่ะ
-
น่าสงสารจริงเชียว บางทีก็ทำไปเพราะความสนุก
รู้ตัวอีกที สงสารแต่ก็ทำไปแล้วอ่ะน่ะ
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
น่าสงสาร :o12:
โทษฟิล์มตัวต้นเรื่อง :angry2:
เจ้าปลาทองคงไม่... :sad2:
มาต่ออีกนะครับรออยู่อย่างใจจดใจจ่อมากมาย
-
“บิวๆๆๆๆๆ”
บิวมันวิ่งไปแล้ว มันคงทนฟังไอ้สองตัวในห้องพูดไม่ได้ อยากจะวิ่งตามไปปลอบมัน ติดตรงที่ว่าต้องเคลียร์กับไอ้คนในห้อง เลยวานพัดให้ช่วยดูให้ที พร้อมกับโทรศัพท์ไปหามัน โทรไปเท่าไหร่ก็ไม่รับสาย ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเตลิดไปถึงไหนแล้ว
ตอนนี้มีหลายอารมณ์เหมือนกัน ทั้งสงสาร ทั้งโกรธ ก็จะสงสารใครละ ถ้าไม่ใช่ไอ้บิวเพื่อนซี้ ส่วนโกรธนะหรอ ก็ไอ้นรกสองตัวในห้องตอนนี้นะสิ คิดว่าต้องตัดสินใจทำอะไรซักอย่างแล้ว ถ้าเลือดหัวมันไม่ออก งานนี้ก็คงไม่จบง่าย ๆ
“พลั่ว” เราเปิดประตูเข้าไปอย่างแรง ไอ้ทั้งไอ้กัสและฟิล์มแฟนตัวดีพอเห็นหน้าเราเท่านั้นแหละ หน้าซีดเผือดเลยนะเมิง แต่ไม่มีเวลาให้มันตั้งตัวแล้ว
“ที่พูดเมื่อกี้หมายความว่าไง” เราเปิดฉากตะคอกถามฟิล์มทันที
“เออ.................คือว่า แป๋ม” ฟิล์มยังคงอึก ๆ อักอยู่ เราก็เลยเปลี่ยนสายตาอัมหิตไปที่ไอ้กัส
“มีอะไรจะพูดไหมกัส” ตอนนี้เราพยายามข่มอารมณ์เต็มที่
“.......................................” กัสมันไม่ตอบค่ะ เอาแต่ก้มหน้าอย่างเดียว ท่าทางจะรู้สึกผิด แต่มันไม่ช้าไปหน่อยเลย
“กัส....แกลองโทรเข้าเครื่องไอ้บิวหน่อย ไม่รู้ป่านนี้มันเตลิดไปไหนแล้ว”
“ได้ ๆๆๆๆ แล้วบิวเป็นไงบ้าง” เห็นหน้ามันแล้วอดใจอ่อนไม่ได้
“ถ้ามันสติดี มันคงไม่วิ่งลงทะเลไปหรอกนะ” ดูหน้ามันสลดลงทันที แต่ก็อดที่จะประชดมันไม่ได้
ตอนนี้ไอ้กัสมันก็กดโทรศัพท์ยิ๊กๆๆๆ
“เป็นไงบ้าง” เรารีบถามกัสทันที
“บิวไม่รับสายเลยอะ”
“มา เดี่ยวเราลองโทรอีกที”
“ตื่อ ตื่อ ตื่อ ฮัลโหล แป๋ม” บิวรับสายแล้วค่ะ
“บิว แกอยู่ไหนวะ ฉันโทรหาแกมือจะหงิกอยู่แล้วเนี่ย” เราพูดกรอกสายลงไปทันทีเมื่อบิวรับสาย ตอนนี้ทั้งกัสและฟิล์มมาล้อมวงตรงเรากันทั้งหมด เราก็เลยกดสปิกเกอร์ให้พวกมันได้ยินกัน
“......................กรูกำลังจะกลับกรุงเทพวะ เมิงช่วยเอากระเป๋ากลับให้กรูด้วยนะ”
“เดี๋ยวๆๆๆ แล้วเมิงกลับกับใคร กรูเป็นห่วงนะเว้ย” ตอนนั้นเป็นห่วงมันจริง ๆ ค่ะ
“เออ กรูจะกลับกับพัดอะ อย่าเพิ่งถามอะไรกรูตอนนี้ ถึงกรุงเทพแล้วกรูจะโทรหานะ”
“เออ ได้ แล้วเมิงรู้ไหมว่าไอ้กัสนะ มัน...................” คือจะบอกมันว่าไอ้กัสเป็นห่วงมาก แต่ก็ไม่ทันแล้ว มันชิงวางสายไปเสียก่อน แต่ก็เข้าใจมันดี ว่าการถูกหักหลังมันเจ็บแค่ไหน ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมันมากนัก และคิดว่าไม่น่าจะเป็นไร เพราะว่าพัดก็กำลังจะไปส่งมันที่หอแล้วด้วย
“เดี๋ยว แป๋ม บิวจะกลับกรุงเทพกับใครหรอ” กัสถามขึ้นมาครับ
“ก็ไอ้พัด เพื่อนเราเองอะ พอดีเขามาเที่ยวกับพ่อแม่เขา และเจอกัน ทำไมหรอ”
“เปล่า ไม่มีไร ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้” ดูท่ามันหงอยไปนิด ๆ
“อยากน้อยมันก็ไม่เคยหลอกไอ้บิว” นี่ใส่ไปดอกนึง จะได้สำนึก
“แป๋มอย่าพูดอย่างนั้นดิ แค่นี้ไอ้กัสมันก็แย่พอแล้วนะ” ไอ้ฟิล์มออกรับแทน
“นี่ แป๋มยังไม่ได้คิดบัญชีกับฟิล์มเลยนะที่สมรู้ร่วมคิด” ไอ้ฟิล์มหัวหดในบัดดลค่ะท่านผู้ชม หุหุ
“ไปๆๆ มายืนหงอเป็นหมาเจ้าของหายอยู่ได้ ไปเก็บของดิ จะได้กลับกรุงเทพ ไม่มีอารมณ์เที่ยวแล้ว” เท่านั้นแหละ ไอ้สองคนรีบวิ่งปรู๊ดเข้าห้องไปทันทีเพื่อไปเก็บของ
“เก็บของไอ้บิวออกมาด้วยนะ” เราตะโกนบอกไอ้สองตัวนั้นในห้องก่อนจะวิ่งเข้าห้องตัวเองเพื่อไปเก็บของบ้าง
ระหว่างทางนั่งรถก็ทั้งบ่นทั้งด่าไอ้สองตัวนั่นมาตลอดทาง เลวมาก เมิงสองคนเลวมาก ๆ มาเล่นกับความรู้สึกของคนได้ยังไง และที่สำคัญ คน ๆ นั้นก็เป็นเพื่อนเราด้วย
“นี่ฟิล์ม ถามจริง ๆ เหอะ เกลียดอะไรไอ้บิวมันนักหนาหรอ” อดไม่ได้ครับที่จะถามมัน
“ก็ ปล่าว ไม่ได้เกียจ แค่แหย่เล่นขำๆ “ ไม่ต้องก้มหน้าเลย ขับรถไปเลยเมิง
“เนี่ยนะขำ ๆ” สะบัดหน้าใส่มันทีนึง เห็นแล้วก็อดสงสารมันทั้งคู่ไม่ได้เหมือนกัน คงจะรู้สึกผิดไม่น้อย แต่ก็สมควรแล้วมาทำเพื่อนเราต้องเอาให้หนัก
พอกลับถึงกรุงเทพก็ให้ฟิล์มขับรถไปยังหอบิว พอถึงก็รีบวิ่งขึ้นไปดูมัน เคาะเท่าไหร่ก็ไม่เปิด ท่าทางว่าจะไม่ได้อยู่ในห้อง หรือว่ามันไปทำงานหว่า คิดได้ดังนั้นก็เลยให้ไอ้ฟิล์มมันไปส่งที่ร้านอาหนุ่ม ที่บิวมันไปทำงานพิเศษด้วย
“สวัสดีค่ะ อาหนุ่ม” พอเข้าไปในร้านก็เห็นอาหนุ่มสาระวนกับการเสริฟอาหารแขกอยู่
“มาหาบิวหรอ ยังไม่เห็นมาเลย ไม่รู้ไปไหน โทรไปก็ไม่รับ”
“อ้าว!! วันนี้บิวไม่ได้มาทำงานหรอคะ ไปที่ห้องก็ไม่อยู่ หรือว่า....” เราสามคนมองหน้ากันไปมา ไอ้กัสตอนนี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้ว เพี้ยง ขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลยเถิด
“มีอะไรกันหรือเปล่าจ๊ะ” อาหนุ่มถามเราสามคนเมื่อเห็นเราหน้าเสียไป
“กัส แกโทร................”กะจะบอกให้ไอ้กัสโทรหาบิวซะหน่อย แต่ไม่ทันแล้ว ไอ้กัสมันรีบวิ่งไปที่รถมันแล้ว
“เฮ้ย กัส แกจะไปไหนอะ” เราตะโกนถามมันพลางก็วิ่งตามมันไปที่รถ
“หอบิว” มันตะโกนตอบกลับมา และก่อนที่มันจะออกรถ เราก็ฟิล์มก็พาตัวมันเข้ามานั่งในรถได้ฉิวเฉียด ระหว่างทางที่อยู่บนรถ อยู่ดี ๆ ไอ้กัสมันก็ร้องไห้ขึ้นมา
“แก แกเป็นไรวะ” ตอนนั้นตกใจมาก ๆ เพราะไม่คิดว่ามันจะร้องไห้
“อย่าเป็นอะไรเลยนะบิว ฮือ ๆๆ อย่าเป็นอะไรเลยนะ ฮึกๆ” มันไม่ตอบค่ะ แต่พร่ำเพ้อตลอดเวลา ว่าอย่าให้ไอ้บิวเป็นอะไร เราเลยเอามือไปไปตบบ่ามันเบา ๆ
“บิวมันต้องไม่เป็นไร เชื่อแป๋มนะ” คำนี้ปลอบทั้งกัส ปลอบทั้งตัวเองด้วยค่ะ
พอถึงหอบิว เราสามคนก็วิ่งขึ้นไปบนห้องมันทันที และเพิ่งสังเกตุเห็นว่า ห้องมันล็อคมาจากข้างใน แสดงว่าไอ้บิวมันยังคงอยู่ในห้อง แล้วมันกำลังทำอะไรอยู่หละ ลองโทรศัพท์เข้ามือถือมัน ก็ได้ยินเสียงมือถือดังอยู่ในห้อง แต่ไม่มีคนรับ
“หรือว่า บิวมันจะ................”
“หยุดเลยนะไอ้ฟิล์ม ปากเสีย” ขอด่าหน่อยเหอะ ไอ้นี่ ฟิล์มมันหงอยไปถนัดตา ปากก็บ่นกระปอดกระแปด
“บิว ๆๆๆ อยู่ไหม เปิดประตูให้หน่อย บิว” เราสามคนช่วยกันเคาะห้อง ทั้งเคาะ ทั้งตะโกนเรียก ก็ไม่มีเสียงใด ๆ ส่งกลับมา
“กุญแจสำรอง แป๋มมีเปล่า กุญแจสำรอง” อยู่ ๆ ไอ้กัสก็นึกขึ้นมาได้ค่ะ
“เออ ไม่มีว่ะ แต่เดี๋ยว ป้าเจ้าของหอน่าจะมีนะ รอเดียวนะ เดี๋ยวมา” นึกขึ้นได้ว่าป้าเจ้าของหอใต้ตึกน่าจะมีกุญแจสำรอง เลยใส่เกียร์หมาวิ่งลงไปทันที
“บิว แกอย่าเพิ่งเป็นไรนะ รอกรูก่อนนะเว้ย” ระหว่างที่ลงลิฟท์ไปก็ภาวนาในใจว่าอย่าให้ไอ้บิวเป็นอะไรเลย
พอลงไปถึง เลยไปคุยกับป้าเจ้าของหอ เล่าเรื่องคร่าว ๆ ให้ป้าฟัง โชคดีทีป้าเขาจำเราได้ ก็เลยให้กุญแจสำรองมา รอกรูเดี๋ยวนะบิว รอเดี๋ยวนะ
พอมาถึงหน้าห้องก็เห็นไอ้สองคนนั่นยืนเป็นหมาติดจั่นอยู่หน้าห้อง
“แป๋ม ได้ไหมกุญแจ ได้มาไหม” ไอ้กัสค่ะ พอเห็นเราเท่านั้นแหละ รีบวิ่งเข้ามาถาม
“เออ ได้ ใจเย็น ๆ รอแป็บ” แล้วเราก็ไขกุญแจเข้าไปในห้อง พอเข้าไปในห้อง สำรวจดูทุกอย่างยังคงปกติ แต่ ๆ แต่ว่า..................
ภาพที่เห็นนั่นทำเอาไอ้กัสถึงกับน้ำตาไหล ฟิล์มถึงกับอึ้งไป ส่วนเรานะหรอ ปล่อยโฮเลยค่ะ
++++++++++++++++++++++
-
จะเป็นไงต่อไปน้า
สงสารบิวอ่ะ
:m15: :m15:
-
จบตอนแบบนี้ ฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่า :m25: :serius2:
-
:oni2:อิอิ
-
แฮ่ๆ เพิ่งเข้ามาอ่าน
ชอบเรื่องนี้มากมายเลย ชอบปลาทองด้วย เอิ๊กๆ
ปล. จบตอนแบบนี้ รบกวนสงสารคนอ่านสักกะนิดนะคร๊าบบบ หัวใจมันจะหยุดเต้นเลยอ่า
o7 o7 o7 o7
-
:a4:สงสารบิวจังเลยครับ
-
:serius2: ค้างคาอย่างแรง :serius2:
-
ค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
อ้าวๆ
เป็นอะไรกันเนี่ย :serius2:
-
เกิดอะไรขึ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :serius2:
-
:o..........
-
:a5:
ตอนแรกก็คิดว่าปลาทอง แต่ ... ตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วว่าเป็นแต่ปลาทอง
ดูท่าเจ้าของก็คงอาการหนักเหมือนกันนะนี่
-
วันนี้อารมณ์ดี...เลยมาต่ออีกหน่อยคร้าบบบบบบบ
++++++++++++++++++++++++
ภาพนั้นเป็นภาพที่บิวนั่งอยู่บนพื้นหน้าระเบียง ที่เท้าเต็มไปด้วยเลือดที่แห้งกรัง ที่ดูเหมือนว่าจะโดนเศษแก้วบาด และที่สลดใจที่สุดก็คือ ในมือสองมือของบิวนั้นกำลังประคองเจ้าปลาทองอยู่ ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าซากเจ้าปลาทองต่างหาก เพราะว่าตอนนี้เจ้าปลาทองนอนนิ่งอยู่บนมือทั้งสองข้างของบิว โดยที่บิวจ้องไปที่มันอย่างไม่กระพริบตา ด้วยใบหน้าที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
ตอนนี้ทั้งไอ้กัสและฟิล์มกำลังอึ้งอยู่ ส่วนเราที่พอจะตั้งสติได้ จึงรีบเช็ดน้ำตา และค่อยเดินไปหาบิวช้า ๆ และทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ อยากจะดึงบิวเข้ามากอดก็ไม่กล้า ทำได้แค่เพียงเอามืออ้อมไปโอบกอดบิวเบา ๆ
สักพักบิวมันก็หันหน้ามาค่ะ หน้าบิวตอนนี้ยากที่จะเดาอารมณ์ได้ หน้านิ่งมาก ๆ
“แป๋ม” บิวมันพูดแค่นี้ เราก็ได้แต่พยักหน้าให้มัน ไม่รู้จะพูดอะไรค่ะ
“แป๋มจำวันแรกที่แป๋มให้เจ้าปลาทองเราได้ไหม” เสียงบิวตอนนี้นิ่งมาก ๆ
“อืม จำได้ดิ เราจำได้ดีเลย” เราตอบไอ้บิวไป พยายามข่มน้ำเสียงให้เป็นปกติ
“วันนั้นเราไปเลือกนกแก้วนี้ด้วยกันไง บิวบอกว่าอยากได้ บิวอยากมีเพื่อน แป๋มก็เลยซื้อให้บิว โดยบอกว่าเป็นของขวัญวันเกิด ทั้ง ๆ ที่วันเกิดของบิวนะอีกตั้ง 2 เดือนแนะกว่าจะถึง” พูดไปก็แสร้งหัวเราะไป แต่มันฝืน ๆ พิกลค่ะ
“................................”
“แป๋มยังจำได้เลยนะ วันที่บิวจะตั้งชื่อให้มันว่าปลาทอง แป๋มอาระวาดซะใหญ่ เพราะอะไรบิวจำได้ไหม”
“……………เพราะแป๋มอยากให้มันชื่อแองเจิ้ล” บิวพยักหน้าช้า ๆ พร้อมทั้งตอบคำถาม
“แต่ในที่สุด แป๋มก็ต้องยอมบิว เพราะว่ามันเป็นของบิวนิ จริงมั๊ย”
บิวพยักหน้าหงึก ๆๆ พร้อมกับรอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฎบนใบหน้า
“แป๋ม......เจ้าปลาทองมันเคยร้องได้ มันเคยบินได้ แต่ทำไมตอนนี้มันไม่ขยับเลยหละ บิวอยากให้มันเรียกชื่อบิวอีกอะ ทำไมมันไม่ตื่นเลยหละ...............หรือว่ามันจะนอนหลับไป แล้วทำไมมันไม่ตื่นหละ บิวเรียกมันหลายครั้งแล้วนะ” ตอนนี้บิวพูดไปหัวเราะไป
ตอนนั้นเราทนไม่ไหวแล้วที่เห็นเพื่อนในสภาพนี้ น้ำตาที่กลั้นไว้ไหลออกมาอีกครั้ง ไอ้กัสตอนนี้มาจากไหนไม่รู้ ลงมานั่งข้าง ๆ บิว พร้อมกับดึงบิวไปกอดเสียแน่น
“บิว กัสขอโทษ ฮือๆๆๆๆ กัสขอโทษ กัสรักบิวนะ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กัสขอโทษ” กัสพูดพลาง พร้อมกับดึงหัวบิวให้ไปซบที่อกของมัน และกอดรัดเสียแน่น เหมือนกับกลัวว่าบิวจะหนีหายไปไหนอีก
“กัส........ทำไมตอนนี้เจ้าปลาทองไม่พูดหละ………ทำไมมันไม่พูดว่า บิวน่ารัก เหมือนเดิมหละ” บิวยังคงถามต่อไปเรื่อย ๆ
“บิว......เจ้าปลาทองมัน...........มันไปสวรรค์แล้วนะ” พอกัสพูดมาถึงตรงนี้ จากเมื่อกี้ที่ไม่มีน้ำตาซักหยด ปรากฎว่าไม่รู้ว่าตอนนี้น้ำตาของบิวมาจากไหน บิวปล่อยโฮออกมาใหญ่ เหมือนกับความจริงที่ตนเองปฏิเสธมาตลอดได้ถูกยืนยันขึ้นแล้ว
“ไม่จริงอะ.......ฮึกๆๆๆ ไม่จริงอะ......เจ้าปลาทองมันยังอยู่กับบิวใช่ไหม เป็นเพราะบิวทิ้งมันไปใช่ไหม...บิวทิ้งมันไปใช่ไหม...บิวผิดเอง...ฮึกๆๆ บิวผิดเอง ที่ดูแลมันไม่ดี....” บิวสะอื้นจนตัวโยน ร้องถามขึ้นมาเสียงดังลั่น
ตอนนี้ทั้งไอ้กัสและเราต่างเข้ามากอดบิวซะแน่น น่าสงสารเป็นที่สุด
“แล้วบิวจะอยู่ยังไง .....ฮึกๆๆๆ บิวจะอยู่กับใคร........ฮือๆๆๆๆๆ ทุกคนทิ้งบิวไปหมดแล้ว ฮือออออออออ….ทิ้งไปหมดแล้ว”
เราก็ไม่รู้จะพูดปลอบใจบิวยังไงดี ทำได้ก็แค่กอดมันให้แน่น ๆ เท่านั้น ความอ่อนแอที่เคยถูกกักเก็บเอาไว้ ตอนนี้มันได้ทะลักทลายออกมาหมดแล้ว ทำให้เราเห็นอีกด้านหนึ่งของบิวว่า จริง ๆ แล้ว บิวไม่ใช่คนเข้มแข็งเลย เพียงแค่บิวไม่เคยแสดงความอ่อนแอออกมาให้เพื่อน ๆ เห็น
“บิว.....บิวยังมีกัสอยู่นะ บิวยังมี...........”
“..............ไม่จริง บิวไม่เหลือใครแล้ว บิวไม่เหลือใครแล้ว” บิวพร่ำพูดอยู่แบบนั้นตลอด มือก็ยังคงถือเจ้าปลาทองเอาไว้ เหมือนกับหวังว่ามันจะฟื้นขึ้นมา จนเราชักกลัวว่าบิวจะเป็นอะไร
“บิว ๆๆๆ” เรารีบเข้าไปเขย่าตัวบิวเอาไว้
“บิว ฟังเราดี ๆ นะ บิวยังมีแป๋มนะ เห็นไหม บิวยังมีแป๋มนะ” ตอนนี้ต้องประคองหน้าของไอ้บิวให้หันมามองหน้าเราเอาไว้ สายตาของมันเลื่อนลอยจนน่าตกใจ
“ฟิล์ม โทรตามพ่อแป๋มให้ที” ลืมบอกไปค่ะ ว่าพ่อของแป๋มเป็นหมอค่ะ
“เออ...เออ ได้” ฟิล์มมันพูดตอบตะกุกตะกักไอ้ฟิล์มนั้นมันไม่ขยับเขยื่อนไปไหนเลย จากหน้าประตู ท่าทางจะช็อก
“บิวมีแป๋มนะ มีกัสด้วย มีอาหนุ่ม มีไอ้ฟิล์มด้วยนะ บิวมีเพื่อนหลายคนนะ บิว ๆๆๆ บิว บิววววววววววววววววววววว” ตอนนี้เราตะโกนดังลั่นห้องเลย เพราะว่าบิวเหมือนไม่รับรู้อะไรแล้ว สักพักมือที่ประคองเจ้าปลาทองก็ตกลง พร้อมกับความรู้สึกก็เหมือนดับวูบลงด้วย
“พ่อค่ะ บิวเป็นไงบ้างค่ะพ่อ” เราถามพ่อ หลังจากที่ท่านตรวจบิวเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กัสมันอุ้มบิวมานอนบนเตียงแล้ว หลังจากนั้นสักพักพ่อของเราก็มา มาถึงก็ทำแผลที่บิวเหยียบแก้วน้ำแตกก่อน แล้วถึงฉีดยานอนหลับให้
“ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นไรมากหรอก แค่จิตใจกระทบกระเทือนนิดหน่อย”
“โห พ่อ ไม่นิดหน่อยแล้วนะเนี่ย พ่อไม่มาเห็นเหมือนหนูนิ” บิวน่ากลัวจะตายไปตอนนั้นอะ
“พ่อฉีดยานอนหลับให้แล้ว ปล่อยให้ลูกบิวนอนพักสักพัก ตื่นมาก็น่าจะดีขึ้น”
“ฟิล์ม แกไปส่งพ่อฉันหน่อยสิ ฉันจะคุยกับกัส” เราบอกไอ้ฟิล์มค่ะ ไอ้ฟิล์มก็หันไปหาไอ้กัส ประมาณว่าจะเอายังไง ไอ้กัสมันพยักหน้าตอบ ไอ้ฟิล์มมันก็เลยต้องไปส่งพ่อเรา
“กัส ถามอะไรตรง ๆ นะ” เราเริ่มเปิดประเด็นทันทีหลังจากที่พ่อเดินออกจากห้องไป
“.....................................” เมิงอย่าเอาแต่ก้มหน้าสิว๊า
“กัสรู้สึกยังไงกะบิว”
กันมันหยุดคิด พร้อม ๆ กับค่อย เดินไปนั่งบนโซฟา
“กัสยอมรับนะว่าแต่ก่อนกัสไม่ได้ชอบบิว แต่ที่ขอเป็นแฟนเพราะว่ากัสพนันกับฟิล์มมันอะ”
“พนัน!!!!….นี่กัสเราเรื่องความรักมาพนันกันได้ไงเนี่ย” ได้ยินกัสพูดแล้วอารมณ์เสียค่ะ สงสารก็แต่คนที่นอนอยู่ในห้องเนี่ยแหละ
“ฟังก่อนสิ แต่หลังจากที่กัสได้รู้จักกับบิวมากขึ้น สนิทกันมากขึ้น และได้รู้เรื่องอะไรของบิวมากขึ้น มันก็ทำให้กัสเริ่มที่จะ....เออ.....”
“รัก” ต้องพูดแทนค่ะ แหม แค่นี้ทำเป็นพูดไม่ออก
“กัสก็ไม่รู้เหมือนกันอะว่าใช่รักหรือเปล่า เพราะกัสเองก็ไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อน เพียงแค่ว่า กัสรู้สึกแปลก ๆ เวลาอยู่กับบิวอะ อยากคอยปลอบใจเขา อยากอยู่ใกล้ ๆ อยากนั่งใกล้ ๆ กัน อยากโทรหา และเออ.....ไม่อยากให้บิวไปกับคนอื่น โดยเฉพาะ กับคนชื่อพัดไรนั่นแหละ ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้”
“เฮ้ย กรรรมของกรู เจอเพื่อนมีความรักแบบไม่รู้ตัว”
“ไอ้กัสเอ๊ย นั่นแหละเขาเรียกว่ารัก เพียงแค่แกกำลังไม่แน่ใจใช่ไหมหละ”
“อืม..............หรอ ไม่ใช่เพราะว่าอารมณ์ชั่ววูบ หรือว่ากัสแค่สงสารบิวหรอ” ไอ้ปากไม่ตรงกับใจ
“แล้วไอ้ฟิล์มรู้เรื่องนี้ยัง”
“รู้แล้ว เคยปรึกษามันแล้ว ว่าจะบอกบิวดีไหมเรื่องพนันอะ แต่มันก็ไม่ให้บอก มันกลัวว่าบิวจะเสียใจอะ”
“ไอ้ฟิล์มเนี่ยนะกลัวบิวเสียใจ ไม่อยากจะเชื่อ”
“อืม จริงๆ”
“อยากพิสูจน์ไหมละ ว่ากัสชอบบิวหรือเปล่า” ตอนนี้ไอ้กัสเงยหน้าขึ้นมาจ้องเขม็งมาทางเรา ที่ทำหน้ากรุ้มกริ่มอยู่ อิอิ
“ทำไงหละ”
แล้วหลังจากนั้น เราก็เล่าแผนการทั้งหมดที่จะพิสูจน์ว่าความรู้สึกที่ไอ้กัสมีต่อไอ้บิวนั้น มันเรียกว่าความรัก ไม่ใช่ความสงสารอย่างที่มันเข้าใจ
++++++++++++++++++++++
มาต่อให้หายค้างแล้วนะคร้าบบบบบบบ เม้มเยอะๆๆนะคร้าบบบบบบบบบบ
-
เพื่อนแป๋มน่ารักมากๆ กัสอย่าทิ้งบิวไปน๊า
-
:sad2: ปลาทอง
-
สงสารปลาทองอ่ะ
โดนอะไรเหรอ
:sad2: :sad2:
-
จิตใจแหลกสลาย :m15: :m15: :m15:
-
เดาไว้ผิดที่ไหน
มาจะรอดูวิธีพิสูจน์
-
อยากให้บิวกับฟิล์มรักกันมากกว่าค่ะ
-
สงสารเจ้าปลาทองจัง สงสารบิวด้วย :m15:
กัสกับฟิล์ม เดาไว้ไม่ผิดจริง ๆ :o :serius2:
-
:sad2: :sad2: :o12: :o12:
รอแผนพิสูจน์รักนะครับ
-
แอบมาปูเสื่อรออ่านด้วยอีกคนงับ
สนุกมากเลยยยยยยยย
มาต่อเร็ว ๆ นะงับ...เอาใจช่วยบิวตัวโก่งง
ปล เพื่อนแป๋มน่ารักมากงับ
-
แป๋มสุดยอด! :a2: มีสติดีกว่าชายหนุ่ม2ตนนั่นอีก
ขอรายละเอียดตอนน้องปลาทองตายหน่อยอ่ะ งงๆ
-
“ฟิล์ม แกไปส่งพ่อฉันหน่อยสิ ฉันจะคุยกับกัส” เราบอกไอ้ฟิล์มครับ ไอ้ฟิล์มก็หันไปหาไอ้กัส
เค้าสะดุดตรงนี้อ่ะ ไอ้แป๋มมันมีค่ะมาตลอด จู่ ๆ เป็นครับซะงั้น
-
:a4:กัส อย่าทิ้งบิวนะ
-
“ฟิล์ม แกไปส่งพ่อฉันหน่อยสิ ฉันจะคุยกับกัส” เราบอกไอ้ฟิล์มครับ ไอ้ฟิล์มก็หันไปหาไอ้กัส
เค้าสะดุดตรงนี้อ่ะ ไอ้แป๋มมันมีค่ะมาตลอด จู่ ๆ เป็นครับซะงั้น
แก้แล้คร้าบบบบบบบบ แหมตาดีจัง!!!
-
สงสารบิวอ่ะ :m15: :m15:
-
รักพัด รักพัดเถอะ มาแหวกแนว :m22:
-
:sad2: :sad2: น่าสงสารจังเลย :angry2: ไอ้สองตัวนี้เล่นไรไม่คิดให้ดีมันน่านัก :m1: อยากมีเพื่อนแบบแป๋มมั่ง
-
:angry2: :angry2: :angry2:
ไม่ชอบฟิล์ม เกลียดไอ้กัส
เปลี่ยนให้บิวเป็นพระเอก แล้วให้แป๋มเป็นนางเอกดีกว่า อะไรคงง่ายกว่านี้เยอะ (กรี๊ด ชั้นพูดเล่นหรอกย่ะ)
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
ปล. หนูปลาทอง ไม่น่าเลย :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
“บิว.....ลูกบิว”
“แม่....นั่นแม่ใช่ไหมครับ...แม่มารับบิวแล้วใช่ไหมครับ....แม่” ผมพยายามตะเกียกตะกายดิ้นรนหาที่มาของเสียงนั่น เป็นเสียงที่ผมจะไม่มีวันลืม เสียงของแม่ผมครับ
“บิวต้องเข้มแข็งไว้นะลูก”
“ไม่นะแม่....แม่อย่าทิ้งบิวไปอีกนะแม่นะ.....บิวจะอยู่กับแม่....นะแม่” ระหว่างที่ผมพูด มือผมก็พยายามไขว่คว้าไปไปในอากาศที่มืดทืบ ปกคลุมไปด้วยมอง ทำให้มองอะไรไม่เห็นแม้กระทั่งเท้าของตัวเอง
“ยังไม่ได้จะ บิวต้องอยู่ต่อไปนะ แม่จะอยู่ข้าง ๆ บิวเอง บิวต้องเข้มแข็งไว้นะลูก จงเชื่อในความรักของตนเองนะจ๊ะ แล้ววันหนึ่งเราจะได้เจอกัน”
“ฮือๆๆ.........แม่”
“แม่ต้องไปแล้วนะ อย่าลืมนะ จงเชื่อในความรักของตัวเอง”
“แม่....ฮือ ๆ อย่าทิ้งบิวไปเลยนะ แม่ๆๆๆ แม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“บิวๆๆ”
เสียงคนเรียกชื่อผม ทำให้ผมต้องสะดุ้ง พยายามที่จะลืมตามองไปรอบ ๆ แต่ก็ต้องรีบหลับตาลงอีกครั้ง เป็นเพราะด้วยลำแสงจากพระอาทิตย์ที่ทอดผ่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นได้ถนัดนัก
“บิว ๆ” เสียงเรียกของแป๋ม ทำให้ผมต้องพยายามเพ่งสายตาสู้แสงจ้าของแดดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ผมเริ่มปรับสายตาให้สามารถมองเห็นคนรอบ ๆ ตัวได้
แป๋ม อยู่ทางด้านซ้าย
ฟิล์มอยู่ทางด้านขวา
แล้วกัสหละ กัสไปไหน ผมใช่เวลาทบทวนซักครู่ เรื่องราวต่าง ๆ กลับคืนสู่สมองผมอย่างฉับพลัน
ใช่แล้ว กัสหลอกผม
กัสไม่ได้รักผม
และเจ้าปลาทอง.....เจ้าปลาทองตายแล้ว
ไม่มีเสียงสะอื้น ไมมีการคร่ำครวญ ไม่มีแม้คำพูดใด ๆ มีเพียงหยดน้ำตาที่ล้นเอ่ยจากเบ้าตา จนยากที่จะกักเก็บไหว ค่อยหยาดรินลงผ่านแก้มขาว ๆ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
“บิว” แป๋มครางชื่อเพื่อนรักเบา ๆ หลังจากได้เห็นภาพนั้น
“แป๋ม...บิวฝันไปใช่ไหม” ผมพยาพยามถามแป๋มครับ ว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาผมอยากให้มันเป็นแค่ฝันร้าย แต่พอผมเห็นไอ้แป๋มมันเงียบ ผมก็รู้แล้วหละครับว่าเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านมา มันคือความจริง และเป็นความจริงที่ผมต้องยอมรับ ใช่ครับ ผมต้องเข้มแข็ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเพื่ออะไรเหมือนกัน
“แป๋ม....แป๋มไม่ต้องร้องไห้นะ บิวไม่เป็นไรแล้ว” ผมพยายามยกมือที่อ่อนแรงขึ้นเช็ดน้ำตาไอ้แป๋มที่ไหลไม่หยุด มันรีบเอามือมาประคองมือผมที่ค่อย ๆ เช็ดน้ำตาให้มัน
“ไอ้ฟิล์ม เมิงนะร้องไห้ทำไมว๊า กรูยังไม่ตายซักหน่อย” หันไปเห็นไอ้ฟิล์มตาแดง ๆ
“ใครบอกเมิงว่ากรูร้องไห้ คนอย่างกรูเนี่ยนะจะร้อง” ผมยิ้มให้กับความปากดีของมัน ไม่เปลี่ยนจริง ๆ
“แป๋ม...แล้ว.....เออ..เออ...กัสหละ” ผมถามอย่างที่ใจอยากรู้ว่าตอนนี้กัสมันไปไหน หรือว่ามันไม่รักผมจริง ๆ
“บิวให้โอกาสกัสมันพิสูจน์ตัวเองหน่อยนะ” ไอ้แป๋มพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวผมไปมา ชิส์ ไม่ใช่หมานะเฟ้ย
“พิสูจน์??” แป๋มไม่ตอบครับ แต่พยักหน้าน้อย ๆ ของมัน นี่ระหว่างผมกับไอ้กัสมันยังมีเกมอะไรทีต้องเล่นอีกใช่ไหมเนี่ย
จังหวะนั้น ผมได้ยินเหมือนเสียงใครเคาะประตูหน้าห้อง เลยให้ไอ้แป๋มไปเปิด
“หวัดดี บิว หายดีหรือยัง” พัดนั่นเองครับที่มาเยี่ยมผม มือถือผลไม้มาเยอะแยะเลย
“อืม ค่อยยังชั่วแล้ว ขอบใจนะ” ผมพูดพลางยันตัวจะลุกขึ้นนั่ง
“อืม...บิว เราเสียใจด้วยนะเรื่อง...ปลาทอง”
“อืม...” เหมือนมีอะไรมาสกิดแผลที่ใกล้หายแล้วให้เลือดไหลออกมาอีก ผมไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องเจ้าปลาทองอีก แต่มันคงยากที่ผมจะทำใจได้ และอดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ว่า มันตายในขณะที่ผมไปเที่ยว
“แป๋ม...วันนี้อยู่เป็นเพื่อนบิวหน่อยนะ”
“อืม ได้สิ แป๋มก็ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนอยู่แล้ว ฟิล์มด้วยใช่ป่าว” แป๋มพูดเสร็จก็หันไปหาฟิล์มเป็นเชิงแถมแกมบังคับ
“อืม ก็..ก็ได้”
“ขอบใจนะ...เออ แล้วมีอะไรกินบ้างหละ เราหิวแล้ว”
“แหม แกตื่นมาก็หิวเลยนะ 555” พูดจบเราทั้งหมดก็หัวเราะกันครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่มีกัส แต่ผมก็ยังมีเพื่อน ๆ ที่น่ารักเหมือนเดิมครับ
“นี่ไง พัดซื้อของมาเยอะแยะเลย” พัดพูดพร้อมกับชูถุงในมือ
“งั้นเดี๋ยวแป๋มไปเอามาใส่จานให้นะ แล้วเรากินพร้อมกัน ปะฟิล์มมาช่วยแป๋มหน่อย”
“แต่ว่า........”
“ไม่มีแต่...” พูดจบไอ้ฟิล์มก็กระเง้ากระงอดเดิมตามไอ้แป๋มไป
“แป๋มตลกดีนะครับ” ตอนนี้เหลือผมกับพัดสองคนแล้วครับ ผมไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มรับครับ พัดเหมือนจะรู้ใจผมดีครับ เขาไม่ได้เอ่ยถามถึงเรื่องกัสเลย เราคุยกันเรื่องต่าง ๆ อย่างสนุกสนาน พัดเป็นคนคุยเก่งครับ และเขาก็เป็นคนรักสัตว์มาก ทำให้เขาเลือกที่จะเรียนสัตวแพทย์ ดู ๆ ไปพัดก็เป็นผู้ชายที่อบอุ่นเหมือนกันเนอะ
-
พัดเริ่มทำคะแนนแล้วสิ
กัสจะทำยังไงน้า
:m14:
-
มาต่อนิดเดียวเอง
ขออีก ขออีก... :m21:
-
แอบเชียร์พัด อิอิ
:m14: :m14:
-
พัดจะมาแรงแซงทางโค้งหรือเปล่าหว่า :m1:
-
“ไม่นะแม่....แม่อย่าทิ้งบิวไปอีกนะแม่นะ.....บิวจะอยู่กับแม่....นะแม่” ระหว่างที่ผมพูด มือผมก็พยายามไขว่คว้าไปไปในอากาศที่มืดทืบ ปกคลุมไปด้วยมอง ทำให้มองอะไรไม่เห็นแม้กระทั่งเท้าของตัวเอง
มันควรจะเป็นหมอกใช่ม๊ะ
ปล. ไมวันนี้ชั้นติงเรื่องคำผิดเยอะจังฟะ หลายเรื่องแล้วนะนี่ มะว่ากันนะ
-
สู้ๆ o13
-
“ไม่นะแม่....แม่อย่าทิ้งบิวไปอีกนะแม่นะ.....บิวจะอยู่กับแม่....นะแม่” ระหว่างที่ผมพูด มือผมก็พยายามไขว่คว้าไปไปในอากาศที่มืดทืบ ปกคลุมไปด้วยมอง ทำให้มองอะไรไม่เห็นแม้กระทั่งเท้าของตัวเอง
มันควรจะเป็นหมอกใช่ม๊ะ
ปล. ไมวันนี้ชั้นติงเรื่องคำผิดเยอะจังฟะ หลายเรื่องแล้วนะนี่ มะว่ากันนะ
ขอบคุณคร๊าฟฟฟฟฟฟฟฟฟ คราวหน้าจะระวังให้มากขึ้นครับ ไม่ว่ากันคับ ดีใจซะอีกที่อ่านซะละเอียด
จุ๊ฟ ๆๆ
-
นั่นซิ ต้องตามอ่านต่อไป
-
กัสหายไปหนาย :angry2:
-
:a4:กัส มัวแต่ชักช้าอยู่นะแหละเดี๋ยวๆๆๆ พัดก็ทำคะแนนนำไปหรอก
-
เดาไม่ถูกเลยอ่ะ พัด ฟิล์ม กัส.... o2 o2
-
จะรอดูกัสมาพิสูจน์ตัวเอง
-
ตอนนี้ไม่มีกัส ดีจิงๆ หายไปอ้อนเมียเก่าเลย ไปไป ชิ่วๆ
ยังไม่เลิกกะแฟนเก่า แต่ดันมาพนันเจี้ยไรไร้สาระ ทำให้คนคนหนึ่งเสียใจ
ถ้ากัสรักบิวจริงๆ แฟนกัสจะเป็นคนที่น่าสงสารมาก :m15:
แต่ถ้าเลิกกันแล้วมันก็อีกเรื่อง
ปล่อยกัสมันไปตามยถากรรม 555 (บ้าไปแล้ว) :oni1:
-
รออ่านต่อนะ :oni2: :oni2:
-
พิสูจน์ตัวเองยังไงหว่า :m21:
-
อิอิ :oni1:
-
เข้ามารอตอนต่อไปครับ
อยากรู้ว่ากัสจะพิสูจน์ตัวเองยังไง
แล้วพัดนี่ แอบชอบบิวอยู่ด้วยหรือเปล่าเนี่ย :m1:
-
อยากตบหัวกัสซักป๊าบ o12
-
:a4:อย่าทำอะไรกัส เลยครับ ผมว่ากัสนี่แหละเหมาะสมกับบิวมากที่สุด
-
เชียร์พัด
หมั่นไส้กัสมาก
-
ตอนแรกๆคนที่เป็นเด็กก็รักสนุกหล่ะนะ
ไม่รู้ว่าคนที่โดนทำร้ายจิตใจจะเป็นอย่างไร
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
แต่พอรู้ตัว เรื่องบางเรื่องก็ยากจะแก้
บางคนก็ปล่อยเลยตามเลย
แต่คราวนี้มันดันมีเรื่องร้ายๆกระทบจิตใจมากเกินไป
:m15: :m15: :m15: :m15:
-
รอนะครับ :m13:
-
รอต่อไปครับ :m1: :m1:
-
รอครับ เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นเลยทีเดียว :m1:
-
“เอ๊า เฮ้ย กินข้าว” นั่นเสียงไอ้ฟิล์ม เมิงไม่เคาะกะมังแล้วค่อยเรียกกรูหละ ไอ้นี่
“ปะ พัด ไปกินข้าวกันดีกว่า” ผมชวนพัดพร้อมกับพยุงตัวเองขึ้นจากเตียง รู้สึกเจ็บแปล๊บที่แผลที่โดนแก้วน้ำบาดตอนเห็นว่าเจ้าปลาทองตาย
“กึก!!” เพิ่งนึกขึ้นมาได้ ตอนนี้ซากเจ้าปลาทองอยู่ไหนหว่า
“แป๋ม เจ้าปลาทองอยู่ไหนวะ” ผมที่เริ่มทำใจได้แล้ว หันไปถามแป๋มขณะที่เรา 4 คนนั่งกินข้าวกันอยู่
“เออ ฟิล์ม แกเอาเจ้าปลาทองไปไหนอะ” แป๋มหันไปหาฟิล์มที่ตอนนี้ทำหน้าอึกอึก
“เออ..........”
“นี่แกอย่าบอกนะว่าเอาไปทิ้งถังขยะ” พอแป๋มผู้อย่างนี้ ผมเริ่มเบ้หน้าจะร้องไห้ขึ้นอีกแล้ว น่าสงสารเจ้าปลาทอง ไหน ๆ ตายทั้งทียังถูกทิ้งเป็นขยะแห้งอีก
“เปล่าๆๆๆ” ฟิล์มมันรีบปฏิเสธ
“เออ...ฟิล์มไม่รู้จะเอามันไปไว้ที่ไหน ก็เลย...เอาไปไว้ที่..”มันพูดจบแล้วก็ชี้ไปที่มุมห้อง พวกผม 3 คนมองตามกันไปยังเป้าหมายที่มันชี้
“ไอ้ฟิล์ม” เสียงยังแป๋มแว๊ดขึ้นมาทันที ส่วนผมรีบเขย่งเท้าไปยัง...ตู้เย็น ใช่แล้วครับ ไอ้ฟิล์มมันเอาเจ้าปลาทองแช่ตู้เย็นไว้
“ยังน้อยก็ยังเก็บซากมันไว้ให้ไอ้บิวมาจัดการเองได้นิหว่า” ไอ้ฟิล์มแก้ตัวเสียงอ่อย ๆ แต่ผมต้องขอบใจมันมากกว่าที่ยังเก็บซากเจ้าปลาทองให้ผมดู ดีกว่าที่จะทิ้งลงถังขยะไป แหมในหอใจกลางเมืองขนาดนี้ จะหามุมที่ไหนไปฝังมันหละ ผมเลยตัดสินใจว่าจะเอามันไปฝังที่วัดใกล้ ๆ หอผม
“แป๋ม เดี๋ยวแกไปวัดเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
“เออ ได้ ไปกันหมดเนี่ยแหละ”
“งั้นไปรถพัดละกันนะครับ” พัดเสนอความเห็น
“ไม่เป็นไรหรอก คือว่าเรา..เกรงใจอะ” แค่นี้ก็เกรงใจพัดจะแย่อยู่แล้ว เพื่อนสนิทกันก็ไม่ใช่
“ไม่เป็นไรหรอกบิว เดี๋ยวไปกับพัดก็ได้ แค่นี่เองไม่ใช่หรอ”
หลังจากทานเข้าเสร็จแล้ว เราทั้งสี่คนก็ไปวัดที่อยู่ใกล้ ๆ หามุมที่สงบ ๆ ร่มรื่น และต้องอยู่ใกล้ ๆ หน่อย เพื่อที่จะได้พ้นจากพวกหมาวัดที่จะมาคุ้ยซากนกเอาไปกิน
“นี่แก เบา ๆ กันหน่อยดิ เดี๋ยวก็มีใครมาเห็นหรอก” หุหุ คือว่าที่มาวัดเนี่ย ไม่ได้แจ้งใครเขาไว้หรอกครับ มาถึงก็ต้องแอบขุดแอบฝัง เดี๋ยวพระมาเห็นแล้วจะซวย
“นี่ บ่นจังเลยนะไอ้บิว มาทำเอาเลยมะ” ไอ้ฟิล์มครับ ด่ากลับมา พร้อมกับบ่นหงุมหงิมอะไรอีกสองสามคำ
“เออ หน่า เดี๋ยวเลี้ยงข้าว” ผมตอบกลับไป เดี๋ยวมันไม่ช่วยครับ
หลังจากนั้นเราก็ไปหาซื้อของเข้าห้องกัน รวมทั้งหนังดี ๆ โดยวันนี้เรามีโปรแกรมกันว่า เราจะดูหนังกันที่บ้าน
พอมาถึงบ้าน พัดก็จัดแจงเอาของที่ซื้อมาใส่ตู้เย็น ส่วนไอ้ฟิล์มก็เอาแผ่นหนังยัดใส่เครื่องทันที หลังจากนั้น 5 นาที เราก็พร้อมกันที่หน้าทีวี ตอนนั้นเริ่มระบมแผลที่เท้าแล้วนิด ๆ แต่ยังพอทนไหว และคิดว่าไม่น่าจะเป็นไรมาก ท่าทางว่ายาแก้ปวดจะหมดฤทธิ์แล้ว
“ก๊อก ๆ ๆ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปเปิดให้ก็ได้” ผมทำท่าจะลุกไปเปิดประตู แต่ว่าพัดรับอาสาว่าจะไปเปิดให้ อิอิ สบายเหมือนกันมีแต่คนเอาใจ
“ใครมาอะ.......”
“กัส”
“บิว” กัสมันเรียกชื่อผมอยู่หน้าประตู ดูมันยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าประตู เหมือนทำอะไรไม่ถูก ส่วนผมก็ได้แต่มองหน้ามันตาค้างเหมือนกันครับ เพราะไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงดี จะทำเชิด ๆ เริด ๆ ก็กลัวมันหายไปอีก จะยิ้มให้มันก็กลัวเสียฟอร์ม โอ้ย จะทำไงดีวะเนี่ย
“อ้าว กัสมาแล้วหรอ” โอ้โห ขอบใจมากแป๋ม มาช่วยทันเวลาพอดี
“อืม พอดีซื้อของกินมาฝาก...เออ บิวนะ” มันตอบแป๋ม แต่ตามันมองผมครับ
“แหม เพิ่งกินอิ่มไปเมื่อกี้นี้เอง พอดีพัดเขาซื้อของกินมาเยอะแยะเลย” ไอ้แป๋มพูดหน้าตาย
“อ้าวหรอ” ดูหน้ามันจ๋อย ๆ ไปเหมือนกัน แต่ต้องใจแข็งไว้ก่อน ส่วนกัสนั้นก็ค่อย ๆ เลียบ ๆ เคียง ๆ เดินมานั่งที่เก้าอี้เยื้อง ๆ กับผม
“เป็นไงบ้าง” โอ้ยเมิง อย่าทำเสียงยังงี้ดิ เดี๋ยวกรูก็ใจอ่อนหรอก
“.........................................”
“เจ็บแผลไหม” มันพูดพร้อมกับเอามือไปลูบแผลที่เท้าเบา ๆ
“...........................................”
ผมไม่ตอบครับ ตายังคงจ้องไปที่หน้าจอทีวี แต่ว่าดูไม่รู้เรื่องเลย
ตอนนี้หน้ามันเสียมากเหมือนกัน แต่ต้องใจแข็งไว้ ให้มันรู้สำนึกเสียบ้าง
ตอนนี้เพิ่งสังเกตุเห็นว่าหน้ามันช้ำ ๆ พิกล เหมือนไปโดนใครเขาอัดมา ที่หน้าผากก็บวมนิด ๆ มุมปากก็เหมือนกับมีรอยฟกช้ำหน่อย ๆ ส่วนหน้านี่ไม่ต้องพูดถึง แดงกล่ำ อย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ผมจ้องหน้ามันจนมันรู้สึกตัวว่าผมเห็นร่องรอยบนใบหน้าของมัน
“กัส ไปทำอะไรมา” พอผมยิงคำถามใส่มัน มันรีบก้มหน้าหลบ ส่งผลให้เพื่อน ๆ อีก 3 คนหันไปมองมันเป็นตาเดียว
“เออนั่นสิไอ้กัส เมิงไปทำอะไรมาวะ ยังกะไปฟัดกับหมาที่ไหนมางั้นแหละ”
“ไม่มีอะไรหรอก” มันพูดพร้อมยังก้มหน้าต่อ
“ไม่มีได้ยังไง” ผมถามพร้อมกับปรี่เข้าไปหามันทันที จนลืมฟอร์มที่เก็กหน้าไว้นานจนหมดสิ้น
“เจ็บไหม” ผมถามพร้อมกับเอามือไปลูบริเวณรอยฟกช้ำของมัน
“นิดหน่อยเอง.....เราก็แค่....อยากจะให้มันจบ ๆ อะ”
“จบเรื่องอะไร...เล่าให้ฟังได้ไหม” ผมถามไอ้กัสครับ ซึ่งตอนนี้เงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมกับเหลือบตามองไปที่คนอื่น ๆ ด้วย
“กัสสัญญานะว่ากัสจะไม่ปิดบังอะไรบิวอีกแล้ว แต่ตอนนี้ขอกัสเคลียร์บางอย่างก่อนนะ รอให้กัสมั่นใจก่อน แล้วกัสจะบอกทุกอย่างที่บิวอยากรู้....นะ” กัสพูดพร้อมกับเอามือมากุมมือผมไว้ ทำเอาผมอึ้งไปนิดหนึ่ง
“กัส แป๋มขอคุยอะไรหน่อย”
พูดจบแป๋มมันก็ลุกออกไปตรงระเบียง ที่ตอนนี้มีแต่กรงของเจ้าปลาทองเปล่า ๆแขวนเอาไว้ กัสมองผมพร้อมกับยิ้มให้ผมนิดหนึ่ง แล้วลุกตามแป๋มออกไป ผมอยากรู้จริง ๆ ว่าสองคนนี้เขาทำอะไรกัน แต่ตอนนี้ผมเชื่อใจแป๋มว่าคงไม่มีวันที่จะทำอะไรแย่ ๆ แบบที่ไอ้ฟิล์มกับกัสเคยทำไว้แน่ ๆ ก็เลยได้แต่เก็บความสงสัยไว้เหมือนกัน ดู ๆ ไปแล้วไอ้ฟิล์มนี่ก็คงยังไม่รู้เรื่อง เพราะตอนนี้คิ้วของมันนขมวดจนแทบจะผูกโบว์กันแล้ว...
-
รอตอนต่อจ้า
-
คนมันรักไปแล้วเนอะ แม้จะทำใจแข็งแต่ในที่สุดก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
กัสจะรู้ใหม ว่าบิวรักกัสขนาดไหนน่ะ
คิดแล้วแค้นนนนน :angry2: :o
-
จาเป็นไงต่อไปน้า :m1: :m1:
-
รอครับ
-
จิ้นไม่ถูกเลย
จาเป็นไงต่อไปน้อออ
รอจ้ารอ :m13:
-
สร้างเรื่องไว้ ก็ต้องแก้หล่ะนะ
ขอให้ผ่านไปได้
:mc2: :mc2: :mc2:
-
รอคอยบทพิสูจน์นั้น ว่าจะพิสูจน์รักแท้ได้หรือเปล่า :oni2: :oni2:
-
มันน่างอนให้ตามง้อให้หายแค้นก่อนน่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o12
-
ความลับอะไรน๊า!!!
:m21: :m21:
-
ขอโทษด้วยนะครับ ช่วงนี้อาจหายไปนานหน่อย เพราะว่าทั้งทำงานทั้งเรียน เหนื่อยมากครับ แต่จะพยายาม อัพทุกวันนะครับ
ป.ล. ขอพีอาร์หน่อยนะครับว่าใครมีฝาน้ำอัดลมสามารถนำไปบริจาคได้ที่ร้านหนังสือซีเอ็ดได้นะครับ ในกล่องที่ใช้ชื่อโครงการว่า 1 ฝา เติม 1 ฝัน ปันขาเทียมครับ เป็นโครงการที่ทำอยู่กับมหาลัยตอนนี้ครับ ช่วยกันหน่อยนะครับั 555+
+++++++++++++
หลังจากนั้นไม่นาน ไอ้แป๋มกับกัสก็เดินเข้ามาในห้อง ในขณะที่ผมกับฟิล์มนั่งดูหนังอยู่ แน่นอนว่าใจผมนั้นไม่ได้จดจ่ออยู่กับหนังอีกต่อไปแล้ว และผมสาบานได้เลยว่าไอ้ฟิล์มก็เช่นกัน
ส่วนตอนนี้คงที่จะงงที่สุดคงเป็นใครไปไมได้ นอกจากพัด ใช่แล้วครับ ผมลืมพัดไปเลยตอนนี้ จนกระทั่งพัดเรียกชื่อผมขึ้น
“บิว ๆ” เสียงเรียกเบา ๆ ของพัด แต่เอาผมสะดุ้งได้เหมือนกัน พอพัดเห็นผมสะดุ้ง ก็รีบขอโทษขอโพยใหญ่
“บิวเป็นอะไรหรือเปล่า” พัดถามด้วยน้ำเสียงที่จับได้ว่าเป็นห่วงมาก
“อ้อ...เปล่า ไม่มีอะไร...แล้วนี่พัดเรียกเรามีอะไรหรอ”
“คือพัดว่าพัดจะกลับแล้วอะ”
“อ้าว จะกลับแล้วหรอ” ผมถามกลับครับ ว่าจะชวนกินอะไรก่อน นี่ก็จะเย็นแล้ว
“ใช่ พอดีเย็นนี้มีธุระนิดหน่อยนะ”
“อืม...งั้นเดี๋ยวเราไปส่งนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ขายังไม่หายเจ็บเลย แถมวันนี้ยังตะลอนๆ ไปซะทั่ว เราไปเองง่ายกว่า”
“อืม...ไปเองง่ายกว่าหรอ งั้นก็ได้” ทำไมน้ำเสียงมันเศร้า ๆ หว่า
“แล้วจะมาใหม่นะ” พัดพูดจบแล้วยิ้มให้ผมทีหนึ่ง
“อืม ได้ ขอบใจมากนะสำหรับทุกอย่าง” ผมยิ้มขอบคุณ นี่คือสิ่งที่ผมคงจะทดแทนพัดได้
พัดไม่ได้ตอบครับ แต่ยิ้มกลับคืนมาที่ผม ดูแล้วเป็นยิ้มที่เศร้า ๆ พิกล ผมมองพัดที่ค่อย ๆ เดินพ้นประตูไป หันไปเห็นไอ้ฟิล์มที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด มองไปทางเดียวกับผมเหมือนกัน พอมันหันมาเห็นว่าผมมองมันอยู่ มันก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนที่จะทำเป็นว่าสนใจหนังในจอทีวีนักหนา
สักพักหนึ่งกัสกับแป๋มก็เดินเข้ามาในห้อง และนั่งลงประจำที่เดิม ผมเลยรีบสะกิดถามไอ้แป๋มทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้แป๋มก็ได้แต่ส่งยิ้มมาให้และให้ผมตามกัสเอาเอง
หลังจากหนังแผ่นแรกจบไปด้วยความไม่รู้เรื่องแล้ว ไอ้แป๋มกับไอ้ฟิล์มก็ขอตัวกลับ โดยทิ้งให้ผมอยู่กับกัสเพียง 2 คน ห้องทั้งห้องเงียบขึ้นทันทีหลังจากที่ทั้งคู่ปิดประตูกลับออกไป แม้ว่าภายในห้องจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ตั้ง 2 คน แต่กลับไม่มีเสียงใด ๆ ลอดออกมาจากทั้งผมและกัส ผมทนความอึดอัดไม่ไหว จึงเริ่มต้นทำลายความเงียบนั้นขึ้น
“กัส หน้าไปโดนอะไรมาหรอ” ผมถามมันด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย แต่ในใจลึก ๆ แล้วเป็นห่วงมันมาก
“บิว.......บิว หายโกรธกัสยังอะ” มันไม่ตอบครับ แต่วกกลับมายังเรื่องนี้
“................................................”
“กัสรู้ว่าบิวยังโกรธกัสอยู่ แต่...”
“กัส บิวไม่โกรธกัสหรอก บิวยอมรับก็ได้ว่าบิวก็เศร้านิดหน่อย แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รวมถึงก่อนที่จะได้เจอกัส บิวรู้ตัวเองมาตลอดว่าบิวเป็นยังไง และบิวเป็นใคร” พูดถึงแค่นี้ก็เริ่มมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คอ
“บิวไม่หวังที่จะให้ใครมาชอบหรอก และบิวก็ชินที่จะอยู่แบบนี้แล้วด้วย กัสไม่รู้หรอกว่ามันนานมากแค่ไหนที่บิวอยู่คนเดียว มันนานซะจนมันเป็นเพื่อนกับบิวแล้ว ทั้ง ๆ ที่บิวไม่ต้องการมัน...บิวไม่ต้องการมันเลย”
“บิว” กัสครางชื่อผมเบา ๆ
“จนวันที่บิวเจอกัสครั้งแรกอะ จำได้ไหม กัสก็เหมือนกับคนอื่น ๆ ที่บิวรู้สึกชอบ กัสอาจจะมองว่าบิวใจง่ายใช่ไหมหละ แต่จริง ๆ แล้วกัสรู้ไหมว่าบิวรู้สึกยังไง บิวแค่อยากมีใครสักคนหนึ่ง และความรู้สึกนั้นทำให้บิวต้องเอื้อมมือขึ้นมาใครสักคนในความมืดเพื่อที่จะไขว่คว้าหาที่ยึด เจอใครก็อยากจะคว้าเอาไว้ แต่ในใจลึก ๆ แล้ว บิวแค่ต้องการใครสักคนหนึ่ง....แค่คน ๆ เดียวเท่านั้น มันจึงไม่แปลกหรอกที่บิวจะรักกัสง่าย ๆ
บิวก็เคยสงสัยนะว่าทำไมคนที่เพอร์เฟ็คอย่างกัสถึงได้มาชอบบิว ทั้ง ๆ ที่ต่างกันสุดขั่ว แต่เมื่อความจริงเป็นแบบนี้ บิวก็ไม่อยากจะฝืนใจกัสหรอก บิวไม่โกรธกัสหรอก และกัสก็ไม่ต้องรู้สึกผิดด้วย เพราะอย่างน้อยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากัสเป็นคนที่ทำให้บิวมีความสุขที่สุด
กัส ทำให้บิวได้รู้จักกับความรัก
กัสทำให้ทำบิวได้รู้ว่าการมีคนอยู่ข้าง ๆ มันอบอุ่นมากแค่ไหน
และกัสทำให้บิวรู้ว่าวันพรุ้งนี้มันมีค่าพอที่บิวจะตั้งตารอคอยให้มันมาถึงเร็ว ๆ”
ตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง ไม่มีเสียงพูด มีแต่เสียงสะอื้นของผมเบา ๆ
ริมฝีปากที่ขบกันแน่น เพื่อกั้นเสียงสะอื้น
ดวงตาที่ปิดสนิทเพื่อกั้นหยดน้ำใส ๆ ที่พร้อมจะทะลักได้ทุกเมื่อ ก่อนที่จะค่อย ๆเอ่ยคำพูดที่อยากจะพูดมานานมากแล้ว ถึงแม้ว่ามันคงจะไม่มีค่าก็ตาม
“บิว...รัก....กัสนะ แต่กัสไม่ต้องรักบิวก็ได้” พูดจบผมก็ยิ้มให้มัน ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ผมต้องรวบรวมพลังทั้งหมดในการที่จะเผยอรอยยิ้มนั้นออกมา มันเป็นรอยยิ้มพร้อมน้ำตา จนยากที่คนอื่นจะรู้ได้ว่าเป็นรอยยิ้มแห่งความดีใจหรือเสียใจ นอกจากผมคนเดียวเท่านั้นที่รู้
“บิว” กัสยังคงพูดอะไรไม่ออก ได้แต่นั่งจ้องผมนิ่ง ๆ
“ขอบ...คุณ...นะ...ที่...เคย...รัก...กัน” คำพูดแต่ละคำที่หลุดออกมาจากปากผม มันชั่งยากเย็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“บิวฟังกัสก่อนได้ไหม”
“.....................................”
“ขอร้องนะ” ตอนนี้สีหน้าอ้อนวอนของกัสทำให้ผมใจอ่อน เลยตัดสินใจที่จะฟังกัสอธิบายเรื่องทุกอย่าง ผมเลยพยักหน้ารับมันช้า ๆ
“อันที่จริงแล้ว กัสผิดเองแหละ กัสยอมรับว่าตอนแรกกัสคิดเพียงแค่ว่ามันคงสนุกดีนะ ที่ทำให้ใครมารักเราได้ กัสลืมนึกไปถึงความรู้สึกของบิว” กัสหยุดพูดพร้อมเงยหน้าขึ้นสังเกตอากัปกิริยาผมที่ต้องข่มอารมณ์โกรธและน้อยใจไว้แน่น
“แต่หลังจากนั้น กัสเริ่มไม่รู้แล้วว่า ความรู้สึกที่กัสมีต่อบิวมันคืออะไรกันแน่ แต่สิ่งที่กัสทำทุกอย่างนั้นไม่ใช่เพียงเพราะต้องการแกล้งให้สนุก แต่ทำเพราะอยากทำ และกัสก็ไม่กล้าบอกบิว ก็เลยปล่อยให้เรื่องนี้เป็นความลับ และคิดว่ามันคงจะเป็นอย่างนั้นไปตลอด”
“และแจงหละ” ผมสวนขึ้นทันทีว่ากัสยังคงเป็นแฟนกับแจงอยู่
“ใช่ ตอนแรกกัสยังคบกับแจงอยู่ คบเพราะอะไรไม่รู้”
“เห็นแก่ตัว” ผมสวนขึ้นมาเบาๆ หน้ามันตอนนี้ดูจ๋อยไปถนัด แต่มันยังคงก้มหน้าพูดไปเรื่อย ๆ
“ใช่ กัสก็รู้สึกว่ากัสเห็นแก่ตัว แต่ก่อนนั้นกัสก็คิดว่ากัสรักแจง แต่เมื่อเจอบิว กัสกับรู้ว่าความรู้สึกที่กัสรู้สึกกับแจงและบิวแตกต่างกัน “
“ยังไง”
กัสไม่ตอบ แต่ส่ายหน้าช้า ๆ และถ้าเมิงไม่รู้แล้วใครจะรู้วะเนี่ย
“แต่กัสก็ไปเคลียร์กับแจงมาแล้วนะ”
“หา!!! เคลียร์แล้วหรอ?”
“อืม”
“อย่าบอกนะว่าไอ้แผลที่หน้าพวกนี้เป็นเพราะว่าไปเคลียร์กับแจง”
“อืม”
“แล้วแจงว่าไร”
“แจงเขาเข้าใจดี ว่าความรักมันบังคับกันไม่ได้”
“บิว.....บิวเกลียดกัสไหม???”
ตอนนี้ผมยังให้คำตอบมันไม่ได้หรอกครับ ว่าผมจะเกลียดมาดีหรือเปล่า เพราะว่าความรู้สึกของผมตอนนี้มันโหว่งๆๆ พิกล ผมไม่อยากใช้เหตุผลและสมองในการชั่งน้ำหนัก ผมอยากใช้ความรู้สึกและหัวใจในการวัด แต่ตอนนี้ ผมเหนื่อยเหลือเกิน เกินกว่าจะรับหรือวัดอะไรได้
“ขอเวลาหน่อยได้ไหม…………………….”
เรื่องนี้ ผมคงต้องปรึกษาไอ้แป๋มซะแล้ว แล้วจะได้ถามมันด้วยว่ามันคุยอะไรกับไอ้กัสบ้าง...............
-
:a4:กัสน่ารักที่สุดเลย เชียร์กัสแล้วครับ
-
สงสารพัดอ่า
รักพัดดดดดดดดดดดดดดด :m1: :m1:
เกลียดกัสมันนนนนนน
-
สงสารพัดอ่า
รักพัดดดดดดดดดดดดดดด :m1: :m1:
เกลียดกัสมันนนนนนน
เห็นด้วย สงสารพัดมากกกก
-
กัส หรือ พัด
พัด หรือ กัส
:serius2: เลือกเชียร์ไม่ถูกว้อยยย
-
จะเชียร์กัส ก็สงสาร พัด ซะงั้น :เฮ้อ:
-
เชียร์ใครดีล่ะ เอาเป็นว่าใครไม่ถูกเลือกมาหาเราละกันจะช่วย...ปลอบ ฮุๆๆ :o8:
-
ไมู่รู้จาเชียร์ครายดี :เฮ้อ:
-
เชียร์กัส
กัส สู้ ๆ :m1: :m1:
-
เพิ่งอ่านอ่ะ ชอบครับ :mc4:
-
พัด....... :sad2:
-
อย่างนายกัส ต้องมีพิสูจน์ใจอีกนิด เอาคืนอีกหน่อย ถึงจะสม อิอิ
-
เฮ้ย เชียร์ใครดีละ :เฮ้อ:
-
สู้ๆ :m1:
-
:m23: เชียรกัส :oni2: :oni2: รออ่านต่อนะ
-
มารอคร๊าบบ :mc4:
-
เชียร์พัด ดีกว่า :m4:
-
“ขอเวลาหน่อยได้ไหม…………………….” เรื่องนี้ ผมคงต้องปรึกษาไอ้แป๋มซะแล้ว แล้วจะได้ถามมันด้วยว่ามันคุยอะไรกับไอ้กัสบ้าง...............
“กัสเข้าใจ...กัสจะรอนะ” รอยยิ้มบาง ๆ เริ่มปรากฎบนใบหน้ามัน
“แต่ช่วงนี้กัสอยู่ห่าง ๆ บิวสักพักได้ปะ” รอยยิ้มบาง ๆ ของมันหายไปทันทีเมื่อผมพูดจบ
“ทำไมอะ” ท่าทางมันจะงงเหมือนกัน
“มันอาจจะทำให้กัสรู้ใจตัวเองมากขึ้นไง” ผมจะได้มั่นใจด้วยอะครับว่าที่มันพูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะว่ามันแค่สงสารผม
“ก็ได้....แต่นานไหมอะ” โอ้ย เห็นหน้ามันตอนนี้แล้วอดสงสารไม่ได้ แต่ต้องใจแข็งไว้ก่อน
“บิวขอเวลาเดือนหนึ่งละกัน แต่กัสจำไว้นะ ว่าที่บิวทำเนี่ย ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อกัสต่างหาก บิวอยากให้กัสแน่ใจว่าสิ่งที่กัสทำทั้งหมด ไม่ใช่เพราะว่าสงสารบิว และอยากให้กัสรู้ใจตัวเองมากขึ้น กัสจะได้ไม่เสียใจทีหลัง...นะ” ผมพยายามอธิบายมันให้มันเข้าใจมากที่สุดถึงจุดมุ่งหมายจริง ๆ ของผม มันคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วหละ
“ก็ได้...กัสสัญญา”
“เริ่มเมื่อไหร่อะ” เออนั่นอะดิ ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ดี
“อาทิตย์หน้าได้ไหม” กัสมันเสนอขึ้นมาครับ มันคงเห็นผมเงียบไปเพราะกำลังใช้ความคิด มันเลยอ้อนต่อ โดยอ้างว่าให้มันได้ตั้งตัวบ้าง ไอ้ผมมันก็คนใจอ่อนซะด้วย ก็เลยตอบตกลงมันครับว่าจะให้มันเริ่มอาทิตย์หน้า และอีกอย่างมันก็เป็นช่วงเปิดเทอมพอดีด้วย
“ได้ งั้นเริ่มอาทิตย์หน้า” ผมตอบตกลงมัน มันก็ยิ้มหน้าบานเลยครับ มันคงคิดว่ามีเวลาอาทิตย์หนึ่งที่จะเปลี่ยนใจผมมั้ง แต่ไม่มีทางหรอกครับ หุหุ
“งั้นคืนนี้ กัสค้างที่นี่นะ เมื่อยแล้ว ขี้เกียจขับรถกลับบ้าน เจ็บแผลด้วย” มันบ่นเสร็จก็กระโดดขึ้นไปยึดพื้นที่บนเตียงทันที
“เฮ้ย ไม่ได้นะ มีบ้านก็กลับไปนอนบ้านดิ มานอนอะไรที่นี่หละ” ผมทั้งดึงทั้งลากมันให้ลุกออกจากเตียง แต่มันก็ทำตัวอ่อน พร้อมทั้งยึดเตียงเป็นตุ๊กแกไว้แน่น จะดึงจะลากยังไงก็ไม่หลุด จนผมเหนื่อย หมดแรงข้าวต้ม ยอมแพ้มันไปในที่สุด ทำไมเมิงเปลี่ยนโหมดไงจังวะ
พอมันเห็นผมหยุดดึงแล้ว มันก็หรี่ตาขึ้นมามองนิดหนึ่ง พร้อมกับยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะหลับตาลงไปเหมือนเดิม
“นี่ ถ้าจะนอนนะ ไปอาบน้ำก่อน ไม่งั้นถีบตกเตียงจริง ๆ ด้วย” ผมขู่มันครับ
“โห ใจร้ายอะ เจ็บแผลอยู่เลย ไม่อาบไม่ได้หรอ เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามา” มันยังมีหน้ามาต่ออีก
“ไม่ได้ ถ้าไม่อาบก็กลับบ้านไป”
“แล้วจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนเปลี่ยนหละ”
“อืม...ของบิวนี่แหละ” พูดจบผมก็ไปคุ้ย ๆ เสื้อกับกางเกงตัวที่ใหญ่ที่สุดในตู้เสื้อผ้า ในที่สุดก็เจอครับ เป็นเสื้อแถมมาจากน้ำชาเขียว
“อะ เอาไป” พูดจบผมก็โยนเสื้อใส่หน้ามัน แต่มันหลบทันครับ เพราะว่าตอนนี้มันลุกขึ้นมานั่งบนเตียงแล้ว
“บิวอะ ใจร้าย อย่าลืมสิ กัสมีเวลาแค่อาทิตย์เดียวนะ ก็จะไม่ได้เจอบิวตั้งเดือนหนึ่งแหนะ” มันบ่นอะไรไม่รู้อู้อี้ พร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไป
สักพักผมได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวดังขึ้น แสดงว่ากำลังอาบอยู่ ส่วนผมก็เดินไปตรงระเบียง หมุนกรงเจ้าปลาทองที่ตอนนี้ว่างเปล่าเล่น ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะว่าการสูญเสียสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวจนเราเคยชินเนี่ยะ จะเจ็บได้มากมายขนาดนี้ และผมคงจะไม่เลี้ยงอะไรอีกแล้ว ไม่อยากต้องเจ็บตอนมันจากไปเหมือนเจ้าปลาทองอีก
“บิว ๆ ลืมผ้าเช็ดตัวอะ หยิบให้หน่อยดิ” เสียงจากไอ้บ้ากัสตะโกนออกมาจากในห้องน้ำครับ ทำให้ผมต้องตื่นจากภวังค์ แหมมันน่านัก กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ
“เออ แป็บๆ” พร้อมกับเข้าไปคุ้ยหาผ้าเช็ดตัวให้มัน
“อะ ได้แล้ว ยื่นมือออกมาดิ” สักพักไอ้กัสมันก็เปิดประตูจากข้างในพร้อมกับยื่นหน้ากับมือขาว ๆ ออกมาโดยใช้ประตูบังส่วนล่างเอาไว้ ผิวขาว ๆ ที่มีหยดน้ำเกาะเต็มตัว ทำเอาผมกำเดาแทบไหล แต่ต้องเก็กหน้าเอาไว้ แต่ไอ้เลือดไม่รักดีดันวิ่งพล่านไปทั่วหน้า ทำให้ไอ้กัสมันเห็นจนได้
“อะๆๆ อย่านะ รู้นะว่าคิดอะไร”
“ไอ้บร้า” อายมากครับ เลยโดยผ้าขนหนูใส่หน้ามันพร้อมกับเดินปึง ๆ ออกมาตรงระเบียงเพื่อมาสงบจิตสงบใจ พูดมากเดี๋ยวก็จับปล้ำเลยนิ ตอนนี้ได้ยินเสียงมันหัวเราะแว่ว ๆ ดังออกมาจากในห้องน้ำครับ
สักพักนึงไอ้กัสมันก็พันผ้าเช็ดตัวเตินเปลือยท่อนบน ประหนึ่งจะโฆษณาแป้งเย็นออกมาจากห้องน้ำ โอ้ยพอผมหันไปเห็นเท่านั้นแหละ แทบกระอักเลือด คนบ้าอะไรขาวชะมัด แต่ว่าตรงแถว ๆ เอวมันมีรอยฟกช้ำนิด ๆ ไหล่เป็นไหล่ อกเป็นอก โอ้ยจะบร้าตาย ไอ้กัสคงสังเกตเห็นว่าผมแอบมองมันอยู่มันแกล้งเดินเข้ามาหา
“ทำอะไร” ผมถามมันปากคอสั่น
“เปล่า”
“เปล่าแล้วเดินมาทำไม” ตอนนี้ผมถอยหลังไปชิดกับประตูตรงระเบียงแล้วครับ
“ก็แค่.............” ผมตั้งท่าจะร้องแต่ไม่ทันมันแล้วครับ เพราะว่ามันเอามือทั้งสองข้างของมันขึ้นมาโอบผมไว้ทั้งตัว ตอนแรกก็ดิ้นพอเป็นพิธี แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก ชักรู้สึกดี เลยยืนให้มันกอดนิ่ง ๆ
“ขอกอดนิดเดียว....ได้ไหม” นี่เมิงไม่ถามกรูพรุ่งนี้เลยหละ ก็เมิงกอดกรูมาแล้วนิ ผมไม่ได้ตอบครับ แต่ยืนนิ่ง ๆ ให้มันกอดอยู่อย่างนั้น ช่างมัน ตามใจมันซะหน่อย มันมีเวลาแค่อาทิตย์เดียว ก่อนที่มันจะต้องหายไปจากผมตามสัญญาที่ได้ให้ไว้เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่ามันรักผมจริง ๆ
ตัวมันอุ่นดีเนอะ
หน้าอกมันก็แน้นแน่นเนอะ
ตัวก็หน๊าหนา
ท้องมันก็แข๊งแข็ง
แต่ก่อนที่มันจะทำอะไรมากกว่ากอด ผมต้องรีบสลัดความคิดบ้า ๆ ออกจากหัว อิอิ
“กัส ไม่หนาวหรอ ไปใส่เสื้อดิ”
“อีกนิดนะ”
“1............2..............” ยังไม่ทันนับถึงสาม ไอ้กัสก็เผ่นแนบออกจากตัวผม ไปใส่เสื้อทันที เป็นอันรู้กันว่าถ้าผมนับแบบนี้เมื่อไหร่ แสดงว่าผมเอาจริง
หลังจากที่มันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปะแป้งเด็กซะขาววอก มันก็มานั่งที่ปลายเตียงดูผมทำนั่นทำนี่ไปเรื่อยเปื่อย ไอ้ผมก็ไม่ชินกับการมีคนมานั่งจ้องเวลาทำอะไร
“นี่จะมองอีกนานไหม”
“ก็บิวน่ามองนิ” แหม ไม่ต้องมาทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่กรูเลย
“พูดแบบนี้มากี่คนแล้วหละ” 1 ดอก จัดไป หน้ามันหงิกเป็นกระด้งทันที
“พูดแบบนี้ใช่ไหม ได้” พูดจบมันก็สาวเท้าก้าวเข้ามาประชิดตัวผมทันที
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เชี่ย ไอ้กัส ปล่อยกรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรู”
-
จิ้ม ๆ สนุกดีครับ
มาต่อบ่อย ๆ น้า :m1: :m1:
-
จัดการเลย....คิกกก :m30:
-
จัดการๆ อิอิ
-
หุหุ กัสแผนสูงวุ้ย ขอก่อนหนึ่งอาทิตย์เผื่อบิวเปลี่ยนใจ :m4: :m4:
-
ว๊ากกกกกกกก กัสทำอะรายยยยยยยยยย!!!
หนุกดีค่ะ อ่านรวดเดียวติดเลย ไม่เป็นอันทำอะไร :m23:
-
สงสัยบิวจะไม่รอด อิอิ
-
:mc4: :mc4: :mc4:
-
สู้ตายกัส ....เชียร์ :m4:
-
:m4: :m4: :m4:
-
เรื่องสนุกมากเลยค้าบบ...^^
ตอนนี้ที่ เจ้าปลาทอง ตายนี้ทำเอาผมน้ำตาร่วงเลยค้าบบบ...^^
ปล. รีบมาต่อไวนะค้าบบบ...อิอิ
-
กัสสู้ๆ :m1:
ตอนนี้เชียร์กัส
(แต่ตอนหน้าไม่รู้ :m14:)
-
เชียร์กัส ก็สงสารพัด เฮ้ย :เฮ้อ:
-
ง่ะทำรายกานอ่ะ :m24:
-
สุดยอดเลย ร้องไห้สะได้กู
-
ว้าว ตอนนี้หวานมากมาย
กัสนี่บทจะน่ารัก ก็น่ารักซะ
:m4:
-
1 เดือนพิสูจน์ใจ น่าสนุกแฮะ
-
อิอิ :oni1:
-
อ่านแล้วบีบหัวใจจริงๆ น้ำตาไหลเลย
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เชี่ย ไอ้กัส ปล่อยกรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรู”
“ไอ้กัส เมิงจะทำอะไรกรู” แต่ให้ร้องให้ตายก็ไม่มีผลครับ ตอนนี้ตัวผมลอยไปอยู่บนบ่ามันเรียบร้อยแล้วครับ
“เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ” มันถามผมไปด้วยมือมันก็ตีก้นผมไปด้วย
“ไอ้เชี่ย ปล่อยยยยยยยยยยยยยย กรูกลัว” ผมยังคงแหกปากลั่นห้องให้มันปล่อยผม แต่มันก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยลง ผมเลยต้องใช้ไม่นวม พูดดี ๆกับมัน
“กัสครับ ปล่อยบิวนะครับ บิวกลัวนะครับ”
“อ๊ะ พูดดี ๆ อย่างนี้น่าฟังหน่อย”
.....ยิ้มให้ความผิดหวัง อย่างคนคุ้นเคยยิ้มให้ความมืดมน อย่างคนรู้จักกันนี่คือเพื่อนเก่าที่เราต้องเจอ เจอกันเมื่อนานแสนนาน............
น่านเสียงสวรรค์มาช่วยผมแล้วครับ โทรศัพท์มา ใครโทรมาไม่รู้ สงสัยคงต้องกราบงาม ๆ1 ที
“กัส ปล่อยก่อนโทรศัพท์มา” แต่นอกจากมันจะไม่ปล่อยผมลงแล้ว มันยังแบกผมเดินไปหยิบโทรศัพท์ตรงหัวที่นอนพร้อมกับดูที่หน้าจอ
“ใครโทรมาอะ” ผมถามไอ้กัสหลังจากที่เห็นมันนิ่งไป ไม่ยอมกดรับสักที จนผมต้องแย่งโทรศัพท์มันขึ้นมาดู
“พัด”
ผมมองหน้ากัสทันที ก็เห็นว่ามันจ้องมองผมกลับมาอย่างดุ ๆ แต่ผมทำไม่รู้ไม่ชี้กดรับโทรศัพท์ทันที ตอนนี้หน้าไอ้กัสงอเป็นกุ้งมังกรแล้วครับ
“ฮัลโหล พัดหรอ” ผมพูดไป พร้อมยักคิ้วให้ไอ้กัสไปที หุหุ
“ครับ” เสียงพัดก็ยังนุ่มเหมือนเดิมครับ
“พัดมีธุระอะไรหรือเปล่า” พูดจบก็ทำภาษาใบ้ให้ไอ้กัสวางผมลง
“เออ อ้อ ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากรู้ว่าบิวเป็นไงบ้าง” หูก็ฟัง มือก็ชี้โบ้ชี้เบ้ให้ไอ้กัสวางผมลง
“อ้อ ก็ค่อยยังชั่วแล้วแหละ ไม่ค่อยเจ็บแผลแล้ว........อั๊ก” ไอ้เชี่ยยยยยยยกัส มันโยนผมลงบนเตียงดังตุ๊บ จุกเลยครับ ส่วนไอ้กัสนั้นตอนนี้มันได้ก้าวขึ้นมานอนข้าง ๆ และเอาหูมาแนบโทรศัพท์อีกข้างหนึ่งเพื่อที่จะฟังเสียง
“บิว เป็นอะไรหรือเปล่า”
“อ้อ....เออ....คือว่า ไม่มีอะไรหรอก” แฮะๆๆ ทำไมไม่กล้าบอกก็ไม่รู้ว่าไอ้กัสอยู่ด้วย
“อะแฮ่ม ๆ “ น่านนนนนน ไอ้กัสไม่รู้ว่าอวัยวะส่วนไหนติดคอ ถึงต้องมาไอเอาตอนนี้ เมิงจะแกล้งกรูใช่ไหมเนี่ย
“บิว...บิวอยู่กับใครหรอ” อ้าว พัดดันหูดีอีก
“อ้อ ปล่าวนิ อยู่คนเดียว ทำไมหรอ”
“อ้าว หรอ พอดีได้ยินเสียงเหมือนคนไอนะ” ตอนนี้ไอ้คนที่อยู่ข้าง ๆ ยิ้มกรุ้มกริ่มขึ้นมาครับ เหมือนมันจงใจจะแกล้ง จมูกก็ไม่อยู่สุขแล้วครับ นัวเนีย ๆ อยู่แถว ๆ ต้นคอ ติ่งหู พวงแก้ม นั่นแหละ
“อืม....อึ๊ยยย” อ้าวซวยแล้วสิกรู คำแรกนั่นอะ ตอบพัดมัน แต่ไอ้เสียงที่ตามมา ไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาด้วยเลยครับ แต่เพราะว่าไอ้ตัวข้าง ๆ นี่มันไม่อยู่สุขเลย
“ยังไงบิวก็ต้องดูแลแผลให้ดีนะ อย่าให้สกปรกละ เดี๋ยวจะเป็นบาดทะยักได้” พัดยังคงพร่ำต่อไปเรื่อย ๆ
“ได้...อร๊าย.....แล้วบิว....อึ๊ย....จะดูอย่างดี.....อู๊ยย....เลยนะ” ตอนนี้ใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วครับ เพราะไอ้ตัวดีข้าง ๆ ผมเริ่มคืนร่างเดิมเป็นปลาดูด ดูดอยู่แถว ๆ ซอกคอผม ส่วนมือมันก็ยึดอีกมือผมที่ว่างเอาไว้แน่น ขาก็รัดขาผมไว้เหมือนกัน กระดิกกระเดี้ยวไม่ได้เลย นี่กรูจะต้องเสร็จมันหรอวะเนี่ย
“บิว เป็นอะไรหรือเปล่า” จะให้กรูบอกไหมละว่ากรูโดนดูดคออยู่เนี่ย
“อ้อ เปล่า ๆ เพิ่งอาบน้ำมานะ ก็เลยหนาวนิดหน่อย” ตอนนี้มืออีกข้างของผมได้พ้นจากการควบคุมของมันแล้ว ก็เลยรวบรวมแรงทั้งหมดกางมือออกและยันหน้ามันเอาไว้ พร้อมกับดันไม่ให้มันเข้ามา ท่าทางมือผมจะไปปิดจมูกมันด้วย เห็นมันหายใจฟึดฟาด ตาเหลือก มันรีบเอามือมันจับข้อมือผมและดึงออก เพื่อน ๆ นึกภาพออกไหมครับ ว่าตอนนี้คนสองคนนองฟัดกันอยู่บนเตียง โดยไม่มีเสียงใด ๆ ลอดออกมาเลย มีแต่การแสดงออกทางสีหน้า และแววตาเท่านั้นที่กำลังด่ากันอยู่
“งั้นบิวพักพักเหอะนะ พัดไม่กวนละ”
“คร้าบบบ บ้ายบายนะครับ” ระหว่างที่พูดขาผมก็ยันอยู่ที่หน้าท้องไอ้กัส ส่วนมือไอ้กัสนั้นก็ล็อกมือผมไว้เหนือหัว
“ครับ ฝันดีนะครับ บาย” พูดจบพัดก็วางหูไป หลังจากนั้นศึกของเราสองคนก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
“ไอ้กัส เมิงทำไรเนี่ย ปล่อยกรรรรรรรรรรรู” มันไม่ตอบครับ เอาแต่ยิ้มกรุ่มกริ่ม เห็นแล้วขนลุก
“ก็บิวคุยกับใครหละ”
“ทำมะ บิวคุยกับใครแล้วทำไม” กวนตรีนมันมั่งครับ
“ก็กัสอยู่นี่ทั้งคน ยังมีหน้าไปคุยกับพัดอีก ไม่รู้หรือไงว่าเขานะมาจีบเรา หึ” ทำเป็นงอนนะเมิง น่ารักตายหละ อันที่จริงผมก็พอจะรู้สึกนะครับว่าพัดนะคงจะมาจีบผม แต่ก็ดู ๆ ไปก่อน อย่าเพิ่งกระโตกกระตาก
“บ้า ไม่ใช่หรอก” แกล้งมัน อิอิ
“ไม่ใช่อะไร ก็เห็น ๆ อยู่” น้ำเสียงยังงี้งอนกรูชัวร์ ไรเมิงวะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นงอน
“เพื่อนกันเฉย ๆ เจอกันแค่สามสี่ครั้ง จะให้ชอบเลยเนี่ยนะ บ้าป่าว” ตอนนี้ผมขยับตัวไปไหนไม่ได้เลยครับ เพราะว่าไอ้คนข้าง ๆมันเอามือมาล็อกมือผมไว้ ส่วนขาก็รัดแน่นยังกะงูเหลือม
“จริงนะ” แนะ ยังมีหน้ามาถามซ้ำ
“ถ้าไม่จริงแล้วจะทำไม” ขอกวนมันซะหน่อย
“ก็จะทำยังงี้ไง” พูดยังไม่ทันจบ มันก็พลิกตัวขึ้นมาคล่อมตัวผมไว้ทั้งตัว ทั้งจุก ทั้งหนักไปหมด ตอนนี้หน้าตามันหื่นมาก ๆ
“กัส...กัสจะทำอะไร” ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมดถามมัน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะทำอะไร
“ก็จะทำยังงี้ไง” พูดจบก็ก้มลงมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ทำเอาผมต้องเบื้อนหน้าหนี หลับตาปี๋
“กัสทำอะไร!!!” อารามตกใจ เลยเผลอตะคอกไป ตอนนี้หน้าร้อนวูบ ๆ จนรู้สึกได้แล้วครับ
“ก็จะทำแบบนี้ไง” พูดเสร็จก็ก้มลงมาห้อมแก้มอีกข้างดังฟอด
“อย่านะ” ผมพูดเสียงสั่น ๆ เพราะตอนนี้อ่อนระทวยไปหมดแร้วววว
“อย่างงี้ด้วย” ครั้งนี้มันมาหอมหน้าผากผมครับ ทั้งตา ทั้งปากค้างพร้อมกันหมดเลย มันสยิ้ว ๆ ยังไงไม่รู้
“เอ้ มีตรงไหนที่ยังไม่ได้จูบอีกนะ” พูดจบก็ทำท่าทะเล้น มันพูดจบก็ทำท่าจะก้มลงมาจูบปาก ทำเอาผมต้องหลับตาปี๋ เบื่อนหน้าหนีมัน รับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของมันที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ไรผมของมันที่ปกหน้าผม แต่เอ๊ะ ไม่เห็นจูบเลยนิหว่า
รออยู่นะ
รู้ไหมว่ารออยู่
อิอิ
นานแล้วนะเมิง เมื่อไม่เห็นว่ามันจะก้มลงมาจูบ เลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ตอนนี้หน้ามันใกล้หน้าผมมาก มากเสียจนเห็นทุกอนูรูขุมขน พอมันเห็นผมลืมตาขึ้นมา มันก็ยิ้มให้ 1 ที และมันก็............
จ๊วบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
เสียงจูบดังลั่นของมันทำเอาผมนิ่งเหมือนถูกสาบ มือไม้ที่ถูกมันจับเอาไว้อ่อนแรง นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่มันค้างไว้อย่างนั้น รู้สึกตัวอีกที มันก็ถอนปากออกมาแล้ว
“กะ...กัส ทำไร” หัวอ่อนจริง ๆ เลยกรู รู้ทั้งรู้ว่ามันทำอะไร ยังมีหน้าไปถามมันอีก มือผมค่อย ๆ ยกขึ้นมาทาบริมฝีปากตัวเองอย่างลืมตัว
+
+
+
จูบแรก
+
+
+
เมิงเอาไปแล้ว
+
+
+
“เมื่อกี้...ทำอะไร” ช็อก ตาค้าง เสียสติไปแล้วแน่ๆๆเลยกรู
“อ้าว ก็อยากให้บิวเห็นเวลาจูบ....”
“ดีไหม?”
“เอาอีกไหม”
“ชอบป่าว”
“หือ ชอบที่กัสจูบหรือเปล่า”..................... :m12:
-
จิ้ม ๆ
น่ารักดี อิอิ
บิวโดนขโมยจูบแรกแล้ว :m1: :m1:
-
อืมมม รู้สึกดีจัง กัสจ๋า
ขออีกทีได้มะ
-
อิอิ บิวชอบกัสจูบรึเปล่าเหรอ :m13:ไม่รู้จิ แต่ว่า.....................
คนอ่านชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบ :laugh: :laugh: :laugh:
-
อย่าปากแข็งนะครับคุณบิว เอิ๊กๆ
:m14: :m14:
-
อิอิ บิวชอบกัสจูบรึเปล่าเหรอ :m13:ไม่รู้จิ แต่ว่า.....................
คนอ่านชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบ :laugh: :laugh: :laugh:
ถูกต้องที่ซู๊ดดดดดดดดดดดด :m25: :m25: :m1: :m1:
-
:m1: :m1: :m1: ชอบตอนนี้ค๊าบ :m1: :m1: :m1:
-
จุ๊บกันแล้วอ่ะ :m4:
-
โอย น่ารักได้โล่ห์ :m1: :m25:
-
วิ้ววววววววววววววววววววววววววว น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกอ่ะ
-
ไหนๆ กัสก็เอาจูบแรกไปแล้ว
ก็ให้กัสเอา "ครั้งแรก" ไปด้วยเลยสิ
:m1:
-
:m12: คงไม่ต้องขอเวลาแล้วมั้ง
-
ชอบเอาอีกกก
-
อู้ยยยยยยยยยยย น่ารักมากกกกกกกกกก
ชอบบบบบบบบบบบบบบบ :m4:
-
กัสน่ารักจังเลย
:o8: :o8:
-
น่ารักดีจังเลยอ่ะ
-
:a4:ขอชมกัสว่าน่ารักอีกคนครับ
-
:o8: เสียจูบแรกไปแล้ว เมื่อไหร่จะเสียจิ้นแรกนะ :m23: :m23: รออ่านต่อนะ
-
นายกัสชนะเริดดดดดดดด o13
-
:o8:
น่ารักซะ
-
อิอิ....กัส ทำเอา บิว อึ้งไปเยยอ่ะ...^^
-
“หือ ชอบที่กัสจูบหรือเปล่า”
“ชะ...ชอบ เอ้ย ไม่ชอบ เอ้ย ไม่ใช่” น้ำเสียงผมตอนนี้คงดูตลกมาก ลิ้นเลิ้นพันกันมั่วไปหมด ส่วนไอ้กัสได้แต่หัวเราะจนตาหยี
“ขำไร” ผมฉุนเล็ก ๆ ไอ้บร้านี้คนกำลังอาย มาหัวเราะอยู่ได้
“ป่าว ก็แค่ดีใจที่บิวชอบ” ก่อนจะพลิกตัวลงไปนอนตะแคง เอามือหนุนหัวมองผมอยู่ข้าง ๆ ตัว ส่วนอีกมือมันก็คลอเคลียร์อยู่แถว ๆ ใบหน้าของผม ทำเอาผมขนลุกซู่
“บิว”
“หือ” พูดตอบไปโดยที่ไม่ได้มองหน้ามันครับ....เขิน
“ถ้ากัสไม่ได้เจอบิวเดือนหนึ่งเนี่ย คงคิดถึงบิวแย่เลยเนอะ” พูดไปมือก็ยังไม่ยอมเอาออกจากตัวผม ตอนนี้เลื่อนลงมาลูบที่หัวไหล่ผมแล้วครับ ส่วนผมก็เหลือบตามองหน้ามันแว๊บหนึ่ง และก็หมุนคอกลับมาในองศาเดิม
“บิวจะมีคนอื่นไหม” เมิงนั่นแหละจะมีคนอื่น เชอะ
“บิวเนี่ยนะจะมีใครเอา”
“อ้าว ก็กัสไง” พูดจบมันก็คว้าตัวผมไปไว้ในอ้อมกอดมัน ตอนแรกก็ขืนตัวไว้นิด ๆ แต่ยิ่งขืนมันยิ่งรัดแน่นมากขึ้น
“กัส ปล่อย” มือก็พยายามดันหน้าอกมันออกไป แต่ว่ามันไม่ยอมปล่อย กลับใช้สายตาสะท้ายโลกันต์ของมันจ้องกลับมาจนผมสามารถเห็นเงาตัวเองในลูกตามันได้ถนัด เงาผมในตามันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับใบหน้ามันที่เคลื่อนเข้ามาใกล้หน้าผมจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจมันอีกครั้งหนึ่ง
ริมฝีปากเปียกชื้นค่อย ๆ สัมผัสลงบนริมฝีปากที่แห้งผากของผมอย่างกล้า ๆ กลัว แต่เมื่อเห็นผมไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืน เจ้าของริมฝีปากนั้นก็เหมือนกับได้ใจ ค่อย ๆ แทะเล็มริฝีปากบางทั้งบนและล่างของผมอย่างย่ามใจ ด้วยสัมผัสที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อน ทำให้ผมถึงกลับหลุดคราง มือไม้เริ่มไขว่คว้าสะเปะสะปะ เพื่อหาที่ยึดซึ่งจะเป็นที่อื่นไม่ได้นอกจากแผ่นหลังกว้างของคนด้านบน
“อ๊ะ.....อืม” ผมหลุดครางแบบไม่รู้ตัว ทำให้กัสสามารถสอดลิ้นอุ่นชื้นเข้ามาในริมฝีปากผมได้ ลิ้นอุ่นของกัสควานในริมฝีปากของผม พร้อมกับหยอกล้อกับลิ้นของผมอย่างร่าเริง มือทั้งสองของกัสเริ่มหายเข้าไปในชุดนอน เมื่อมือสัมผัสเนื้อใต้ร่มผ้าของผม ทำเอาผมสะดุ้งเพราะความไม่เคยชิน
ส่วนด้านล่างนั้นกัสมันพยายามเลี่ยงที่จะไม่ให้ขามันสัมผัสกับขาผม อาจจะเป็นเพราะว่าเท้าผมมีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ มันเลยพยายามไม่ให้ผมเจ็บ
ตอนนี้ปากมันเลื่อน ๆ ลงไปเรื่อย ๆ และหยุดแวะตรงซอกคอ พร้อมกับทั้งดูด ทั้งดุนจนผมรู้สึกเจ็บ พอปากมันสัมผัสโดนคอผม ทำเอาผมขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัว ตอนนี้ทั้งมือและปากของกัสทำงานผสานกันได้อย่างดีเยี่ยม มันสามารถปลุกอารมณ์ของผมให้กระเจิดกระเจิงได้
“กะ...กัส”
ไม่มีเสียงตอบจากมัน มีแต่เสียงจูบดังจ๊วบบริเวณคอ ไล่เรื่อยขึ้นมาจนถึงติ่งหู ขบเบา ๆ และมาวนอยู่ที่แก้มทางด้านซ้ายอยู่นาน ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาที่เยิ้มไปหมด
“มีอะไรหรอ” กัสเงยหน้าขึ้นมาถามผม พร้อมกับก้มลงมาจูบปากผมอีกทีแรง ๆ
“คือว่า....” ไม่มีแรงจะพูดแล้วครับ
“คือว่าอะไร” กันเงยหน้าจากปากผม ก่อนที่จะเอ่ยถาม และก้มลงไปหาริมฝีปากผมอีกครั้ง พร้อมกับดูดแรง ๆ ทำให้ผมต้องดันหน้ามันขึ้นมาก่อน ไม่งั้นก่อนที่จะพูดจบ ต้องโดนมันจูบจนปากเจ่อแน่ ๆ
“คือ บิวยังไม่พร้อมอะ” ตอนนี้ผมเอามือปิดปากมันอยู่ เมื่อผมพูดจบ กัสมันก็ทำหน้างงนิดหนึ่ง พร้อมกับแลบลิ้นเลียบริเวณมือของผม ทำให้ผมต้องรีบชักมือกลับ
“บิวไม่พร้อมไม่เป็นไร แต่กัสพร้อมแล้วนิ ให้กัสทำก่อนก็ได้” ก่อนที่จะก้มลงมาหาปากผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมรู้ทันเลยเบี่ยงหน้าหนี ทำให้ปากมันสัมผัสได้ที่แก้มผมเท่านั้น
เสียงมันหลุดหัวเราะในลำคอดังขึ้น ก่อนที่จะบดปากและจมูกมันลงไปที่แก้มผมและขยี้แรง ๆ ด้วยความหมันเขี้ยว
“ไม่เอาหน่า กัส” พูดไป มือก็พยายามจะดันหน้าอกมันออก จนมันต้องชักมือออกจากเสื้อผม และรวบมือทั้งสองข้างของผมไว้เนื้อหัว กรูเสร็จแน่ๆๆๆ
ตอนนี้รอยยิ้มของมันบ่งบอกว่าผมคงไม่รอดแน่ ๆ
ตอนนี้หน้ามันเคลื่อนเข้าใกล้หน้าผมเป็นครั้งที่สามในรอบคืนนี้ ปลายจมูกมันจรดปลายจมูกผม
“กัสจะทำให้บิวมั่นใจว่ากัสรักบิวจริง ๆ นะ ยังไงสัญญาก็คงต้องเป็นสัญญา แต่กัสขอรับรองด้วยเกียรติทั้งหมดที่กัสมีนะว่า กัสจะรักบิว จะรักแค่บิว แค่บิวคนเดียว แต่บิวอย่ามีคนอื่นนะ”
พูดจบก็เริ่มบดขยี้ปากผมอีกครั้ง แต่คราวนี้นุ่มนวลขึ้น และหลังจากที่ผมเริ่มเคลิ้ม ผมก็เริ่มรู้สึกว่า การถูกคนที่เรารักจูบนั้นมันหวานมากแค่ไหน
มือผมที่เคยดันหน้าอกมัน ก็เริ่มเปลี่ยนมาเป็นคล้องไปที่คอมัน หยอกเย้ากับผมมันเล่นเบา ๆ
เสียงที่เคยต้านทานกลายเป็นเสียงครางเบา ๆ
ริมฝีปากที่เคยปิดสนิทแน่น เริ่มเผยอออกรอรับรสจูบที่หวานแสนหวาน
และ.....
.....ยิ้มให้ความผิดหวัง อย่างคนคุ้นเคยยิ้มให้ความมืดมน อย่างคนรู้จักกันนี่คือเพื่อนเก่าที่เราต้องเจอ เจอกันเมื่อนานแสนนาน............
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นมา ทำเอาผมสะดุ้ง แต่ไอ้กัสยังไม่มีอากาสสะทกสะท้านแต่อย่างใดทั้งปากและมือยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม ผมตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบมาดู
“แป๋ม”
“ว่าไง” ผมพูดกรอกสายลงไปในขณะที่กัสเริ่มลงไปไซร์ซอกคอผมพร้อมกับกัดเบา ๆ ส่วนมือมันก็เริ่มปลดชุดนอนผมออก
“ทำไรอยู่วะ” ไอ้แป๋มมันถามกลับมา เมิงจะให้กรูบอกไหมละว่ากรูทำอะไรอยู่
“อืม เปล่า กำลังจะ......อึ้ยยยยยยยย..จะนอนแล้ว” ไอ้กัสนะสิครับมันแกล้งผมอีกแล้ว มันเลียติ่งหู จุดยุทธศาสตร์ของผม
“แน่ใจนะว่าเมิงจะนอน”
“อืม แน่ใจสิ” หวังว่าเสียงผมคงไม่สั่นหรอกนะ
“อ๊า......จ๊วบ...” ไอ้กัสครับมันจงใจทำเสียงดัง ๆ
“ไอ้บิวววววว.....ไอ้ลามก เมิงทำเสียงอะไร” เสียงไอ้แป๋มด่ามาตามสาย
“กร....กรูไม่ได้ทำนะเว้ย” เสียงผมสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อตอนนี้ไอ้กัสเริ่มหยอกกับหัวนมผม จนผมต้องงอตัวด้วยความเสียว
ตอนนี้ไอ้กัสเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม ก่อนที่จูบที่มุมปากผมดังจ๊วบจ๊าบ ทั้ง ๆ ที่ผมก็ถือโทรศัพท์จ่อปากอยู่ ทำให้ไอ้แป๋มได้ยินเสียงชัดเจน
“ไอ้บิว นี่เมิงอย่าบอกนะว่าเมิงกำลังทำ......”
“ทำอะไร อึ้ยยยยยยย” ผมร้องขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เพราะไอ้กัสมันเริ่มเลื้อยมือของมันลงไปที่ก้นผมแร้วววววววว เสียวเว้ยยยยยยยย
“ไอ้กัสใช่ไหม นี่เมิงอยู่กับไอ้กัสใช่ไหม ไอ้กัสมันข่มขืนเมิงใช่ไหม เมิงรอกรูแป็บหนึ่ง เดียวกรูไปหา กรูจะไปจัดการเอง”
“ไอ้แป๋ม...นี่ไอ้เมิงฟัง.....” พูดยังไม่ทันจบไอ้แป๋มก็วางสายไปทันที ปล่อยให้ผมเรียกมันดังลั่นไปตามสาย แต่ไม่เป็นผล งานเข้าแล้วสิวะกรู ไอ้เชี่ยไม่ฟังกรูเลย อีกไม่นานมันคงมาถึงนี้แล้ว คงได้เห็นภาพปะละแฮมกันแน่
“กัส....กัส” ผมเรียกไอ้กัสที่ขณะนี้กำลังเมามันกับยอดอกผมอยู่
“หือ” มันตอบแต่ยังคงไม่หยุด
“ไอ้แป๋มจะมาที่นี่แล้ว หยุดก่อน พอก่อน” ผมดันมันขึ้น กลัวไอ้แป๋มจะมาแล้วมาเห็นภาพบัดสีบัดทะเหลิง
“บ้านมันอยู่ตลิ่งชัน กว่าจะมาถึงลาดพร้าวก็อีกนาน ยังทัน” พูดจบก็หันไปจัดการกับหน้าอกผมต่อ
“เออหวะ ไกลเหมือนกันคงทันแหละ” คิดได้ดังนั้น ผมก็เลยปล่อยให้ไอ้กัสมันทำต่อไป ในเมื่อใจผมมันก็เรียกร้องเหมือนกันนิเนอะ...อุอุ
-
หุหุ ขอให้รถติด :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
-
ให้ แป๋มมารับผมไปด้วยน๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ไปด้วยคนค้าบบบ :m1: :m1:
-
นอกจากรถติดแล้ว ขอให้รถเสียด้วย มาถึงตอนเช้าเป็นเวลาที่เหมาะสม
-
แป๋มมาผิดเวลาอ่ะเปล่า
เหอ เหอ มาทันละก็ก็ หุ หุ :m14: :m14: :m14:
-
อยู่ตลิ่งชันเลยเรอะ ฮ่าๆๆๆๆ อีกนานเลยกว่าจะถึงลาดพร้าว ยังงี้กัสสบายใจได้เลย ฮ่าๆๆ
-
5555
กัสนะกัส ยังมีเวลา คิดได้ไง :m4: :m4:
บิวก็เนอะไม่ขัดขืนเลยยยย :o8: :m1:
-
“เออหวะ ไกลเหมือนกันคงทันแหละ” คิดได้ดังนั้น ผมก็เลยปล่อยให้ไอ้กัสมันทำต่อไป ในเมื่อใจผมมันก็เรียกร้องเหมือนกันนิเนอะ...อุอุ
:m20: :m20: :m20:
-
คงเอาเรื่องกัสยากแล้วล่ะแป๋ม
เพราะว่าบิวเขาสมยอมอ่ะนะ
:m14: :m14: :m14:
-
555+ :m20: ทัน ชัวร์
-
:m30: อ้าววววววววววววววววววววววว แบบนี้ก็เรียบร้อยโรงเรียนกัส แหงมๆ
-
ลุ้นๆๆๆๆๆ
-
เพิ่งเข้ามาอ่านค๊า :m1: ชอบมากเลยคะ
รวดเดียวตั้งแต่เที่ยง ทันตอนปัจจุบันแล้ว
เศร้าสุดๆตอนเจ้าปลาทองตาย :sad2:
แต่ตอนนี้สิ....
...บิวอย่าเพิ่งไปยอมมมมมมมมมมมมมมมมมน๊า :serius2:
อย่าสมยอมสิจ๊ะบิวจ๋า ไหนว่าจะให้ห่างกัน 1 เดือนไง :เฮ้อ:
-
“เออหวะ ไกลเหมือนกันคงทันแหละ” คิดได้ดังนั้น ผมก็เลยปล่อยให้ไอ้กัสมันทำต่อไป ในเมื่อใจผมมันก็เรียกร้องเหมือนกันนิเนอะ...อุอุ
:m30:
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยส์
แรงได้ใจเคอะคุณน้อง อิอิ
-
หลังจากเสร็จสมอารมณ์หมาย กัสก็ยังไม่ยอมคลายอ้อมกอดจากผม
“กัสรักบิวนะ” คำ ๆ นี้ไอ้กัสมันพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้จักเบื่อ ก่อนที่มันจะพลิกตัวลงลงนอนลงข้าง ทำเอาตอนนี้ผมโล่งไปหมด ร่างกายของเราทั้งสองคนเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ เสียงหอบเบา ๆ ของผมทำให้ไอ้กัสประคองหัวผมไปหนุนอยู่บนหน้าอกมัน
หัวของผมกระเพื่อมตามจังหวะการหายใจที่เร็วของมัน นอนคิดอะไรเพลิน ๆ ก็ต้องสะดุ้งยันตัวเองลุกขึ้นนั่ง ความเจ็บจี๊ดของร่างกายเบื่องล่างทำเอาผมหลุดครางซี๊ดออกมา แต่ก็ต้องฝืนไว้ หันกลับไปฉุดแขนไอ้กัสให้ลุกขึ้นหลังจากที่มันทำท่าว่าจะหลับไปทั้ง ๆ ที่ยังแก้ผ้าอยู่
“ไอ้กัส ลุกขึ้นก่อน เร็ว”
“อือ ขอนอนเลยไม่ได้หรอ เหนื่อยอะ” เมิงเหนื่อย แต่กรูเจ็บ
“ไม่ได้โว้ยยยยยย เร็ว ๆ ไอ้แป๋มจะมาแล้วนะโว้ยย” ผมทั้งลากทั้งดึงไอ้กัสที่ขืนตัวเองไว้ และดึงผมลงไปทับบนหน้าอกมัน
“มาก็ไม่เห็นเป็นไรเลย มันจะได้รู้ว่ากัสรักบิวไง” พูดจบก็จูบหน้าผากผมทีหนึ่ง แต่ผมไม่ตลกด้วย กลัวไอ้แป๋มมาเจอภาพนี้เข้าแล้วมันจกต๊กกะใจ
“จะเข้าไปอาบน้ำหรือเปล่า ถ้าไม่ไป ก็ไม่ต้องมาคุยกัน”
“โห ไรวะ มีขู่ด้วย ไปก็ได้”
พูดจบมันก็ยันตัวมันขึ้นแบบขี้เกียจ ก่อนจะเดินโทง ๆ เพื่อจะเข้าไปในห้อง ไม่อายผีบ้านผีเรือนบ้างเลยเมิง มันเดินไปสักพักก็หยุด และก็วิ่งกลับมาที่เตียงใหม่ ทำให้ผมเห็นอะไรต่อมิอะไรด้านหน้า โอ้ย กรูจะละลายคาเตียงแล้ว ตอนมีอะไรกันก็ไม่ทันได้มอง ก็แหม มันอะนะ อายอะ
“เออ กัสจะถามว่า เมื่อกี้เจ็บไหม” ไอ้นี่ ความรู้สึกช้าจริง ๆ
“เจ็บดิ ถามได้ บอกให้เบา ๆ ก่อนก็ไม่ฟัง คนไม่เคยนะเว้ย”
“ก็แหม มันอดใจไม่ไหวนิ” ไอ้หน้าด้าน เมิงพูดมาได้ยังไง
“ทีหลังไม่เอาแล้วด้วย เจ็บชิบ” พูดไปร้องไป ระบบไปหมด จะขยับตัวแต่ละทีก็ลำบาก เมื้อกี้เอามือไปแตะ ๆ เลือดซืมออกมานิด ๆ
“ไป ได้แล้ว เร็ว ๆ ด้วย เดี๋ยวไอ้แป๋มมาแล้ว” คราวนี้ว่าง่ายครับ มันยอมลุกไปเข้าห้องน้ำแต่โดยดี แต่ไม่วายกระโดดหอมแก้มผมฟอดใหญ่ก่อนจะวิ่งหัวเราะเข้าไปในห้องน้ำ
ส่วนผมนั้นก็ต้องหันมาจัดการกับเตียงที่เลอะเทอะไปหมด เยอะจริง ๆ นะเมิงของเมิงเนี่ย
.....ยิ้มให้ความผิดหวัง อย่างคนคุ้นเคยยิ้มให้ความมืดมน อย่างคนรู้จักกันนี่คือเพื่อนเก่าที่เราต้องเจอ เจอกันเมื่อนานแสนนาน............
ไอ้หยา มาแล้ว ไอ้แป๋มมาถึงแล้วแน่ ๆ ไอ้กัสนะไอ้กัส เพราะเมิงคนเดียว บอกว่าไม่ต่อ ไม่ต่อก็ไม่เชื่อ แล้วจะทำไงดีวะเนี่ย เสียงโทรศัพท์ก็ยังคงดังไม่หยุด
“ฮัลโหล ว่าไงแป๋ม”
“ไอ้บิว กรูถึงละ อีก 5 นาทีกรูจะขึ้นไปนะเว้ย นี่ไอ้กัสมันไม่ได้ทำอะไรเมิงใช่ไหม”
“เออ..เออ”
“เมิงไม่ต้องพูดอะไร รอกรูแป็บ กรูกำลังจะขึ้นไป”
“หา.....นี่เมิงกำลังจะขึ้นมาหรอ เมิงต้องเดินขึ้นมานะเว้ย ลิฟท์มันเสีย” หวังว่ามันคงเชื่อนะ
“เออหน่า ห้องเมิงก็อยู่ไม่สูง รอกรูแป็บ”
ชิบแล้วไง ไอ้บิวนะไอ้บิว ยอมเผลอไผลไปกับไอ้กัส แล้วเมิงจะทำไงดีวะเนี่ย ให้ไอ้กัสหลบใต้เตียงหรอ ไม่ดี ๆ หรือว่าจะให้มันอยู่ในตู้เสื้อผ้า ตัวมันก็ใหญ่ชิบ จะหลบหมดไหมเนี่ย แต่ก่อนที่จะคิดอะไรได้ ก็ต้องรีบไปคุ้ยเสื้อผามาใส่ก่อน เพราะว่าตอนนี้พันผ้าเช็ดตัวไว้ผืนเดียว เอาวะ ช่างมัน ทำลายหลักฐานก่อน
“ก๊อก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ตายแล้วกรู ตายแน่ๆ
“ไอ้บิว เปิดประตู เป็นไรปล่าววะ เปิดประตู”
“เออ ๆ เดี๋ยว ๆ “
ก่อนเปิดประตู อดไม่ได้ที่จะหันไปสำรวจห้องว่าเรียบร้อยหรือไม่
เตียง...เรียบร้อยดี
พื้น...เรียบร้อยดี
คนในห้องน้ำ...ตายละหว่า ฮำเพลงสบายใจเลยนะเมิง จะแก้ตัวว่าไงดีเนี่ย ช่างมัน เดี๋ยวค่อยว่ากัน
เอาหละ พร้อมละ 1.2......3
“หวัดดีแป๋ม มาได้ไงเนี่ย” ผมเปิดประตูออกไปพร้อมกับพูดทักทายแป๋มด้วยสคริปที่ท่องมา พอเห็นหน้ามันงง ๆ เอ๋อ ๆ ก็เพิ่งนึกออก กรรมละ มันเพิ่งบอกนิหว่าว่ามันจะขึ้นมา แล้วทำไมไปทักมันยังงั้นวะ ไม่ได้ละ มีพิรุธละกรู
“เมิงเป็นไรปะเนี่ย” ไอ้แป๋มมันถามพร้อมกับชะโงกหน้าเข้ามาดูในห้อง ก่อนที่จะดันผมที่พยายามยืนขวางมันไว้ออกมา
“เออ ไม่เป็นไร” หวังว่ามันคงจะจับน้ำเสียงที่พิรุธของผมไม่ได้นะ
“กรูขอเข้าไปหน่อย” พูดจบมันก็ผลักประตูผัวะเข้ามาในห้อง ก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อหาอะไรบางอย่าง
“เมิงมองหาอะไรวะ” ผมถามมันเมื่อมันเดินไปเปิดนู่น หยิบนี่ขึ้นมาดู หุหุ เมิงไม่ทันกรูหรอก กรูเก็บหมดแล้วทั้งเสื้อผ้าไอ้กัส ข้าวของไอ้กัส รองเท้าด้วย
แต่...”บิวอาบน้ำเสร็จแล้ว”
“ไอ้กัส” แหม เสียงผมกับไอ้แป๋มผสานกันได้ลงตัวดีจริง ๆ ส่วนไอ้เจ้าของเสียงนั่นยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ตีหน้าตายใสซื่อ บริสุทธ์ มันมองหน้าผม และหันไปยิ้มพร้อมกับยกมือขึ้นทักทายแป๋ม
“บิว ฉันว่าแกกับฉันคงต้องคุยกันยาว ๆ แล้วหละ แต่ว่าตอนนี้ฉันว่าแก...เออ...แกรีบไปจัดการตัวแกให้เรียบร้อยก่อนเถอะเมิง..........โอ้ย!!!!! อะไรกันเนี่ย ฉันจะเป็นลม แล้วนี่กรูมาทำด๋อยอะไรวะเนี่ย” พูดจบไอ้แป๋มก็เปิดประตูกลับออกไปทันที พร้อมกับบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ทิ้งให้ผมยืนอายแทบแทรกแผ่นดินหนีอยู่ตรงนั้น แต่ว่าเอ๊ะ ทำไมกรูต้องจัดการอะไรกรูด้วยวะ คิดว่าเคลียร์ทุกอย่างแล้วนิหว่า
“บิว บิว”
อยู่ ๆ ไอ้กัสมันก็เรียกผม ทำเอาสติสตังผมกลับคืนมา
“อะไรหรอกัส”
“บิวใส่เสื้อกลับด้านอะ”
“ชิบผายแล้วไงหละ มิน่าละเมื่อกี้ไอ้แป๋มถึงได้พูดแปลก ๆ แล้วเนี่ยกรูจะอธิบายกับมันยังไงดีวะเนี่ย
-
:a4:และแล้วก็เสร็จโรงเรียนกัสไปเรียบร้อย
-
หุหุ ในที่สุดดดดดดด :a3: :a3: :a3:
-
555 ไม่รอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ทำไมตัดฉากมาก้อเสร็จสมอารมณ์หมายซะแล้วอ่ะ
:เฮ้อ:บิวน๊อบิวเสร็จเจ้ากัสไปจนได้
กัสยังไม่ทันได้พิสูจน์อารัยเลย-* - รึวาพิสูจน์ไปแล้วหว่า
-
ใส่เสื้อผิดด้าน
5555555+
-
โห รุนแรงกันอีก กัสนะกัส เบา ๆ นุ่มนวล ไม่เป็นรึไง :o8: :m1:
ซาดิส นี่หว่า :o :serius2:
-
บิวเสร็จกัสแล้วอ่ะ.......เหอ เหอ :m4: :m4:
-
เหอๆ งานนี้ บิว ได้คุยกับ แป๋ม ยาวแน่ๆ...อิอิ
-
แก้ตัวกับแป๋มดีๆ น้า :m14: :m14:
-
จะแก้ตัวกับแป๋มยังไงหล่ะบิว อิอิ :m1: :m1:
-
55555555555
ไม่ต้องทำสัญญงสัญญาไรแล้ว
แป๋มจับแต่งงานกันเลย
:oni2: :oni2: :oni2:
-
ระวังโดนแป๋มตีนะบิว
ส่วนกัสก็ต้องไปขอบิวกะแป๋มให้เป็นเรื่องเป็นราวด้วยล่ะ
:m14: :m14: :m14:
-
:laugh3: สงสารแป๋มมาตั้งไกล ถ้ารถติดคงหงุดหงิดน่าดู
รออ่านต่อนะ :m4: :m4:
-
บิว เสร็จ กัสสะแย้ววววว :o8:
-
ในที่สุดก็โดนจับได้แล้ว อิอิ
-
ยังไม่1อาทิตย์ก็เสร็จแย้ว ฮุๆๆ
-
กรี๊ด
อย่างงี้จะห่างกันได้นานเร้อ :m12:
-
:m23: เป็นกำลังใจให้ในการเขียนต่อไปนะคร้าบบบ สู้ๆ จะติดตามต่อไปนะ
-
เข้ามารอนายกัสพิสูจน์ตัวเองจ้า :m1:
-
ตามอ่านทันและ.... :m1:
อิอิ... 1 อาทิตย์ไม่ต้องนับกันแล้วคราวนี้
เป็นของกัสไปซะแล้ว :m12:
ดีใจกับกัสน๊า... :mc3:
-
55+ :m20: ความแตกเพราะเสื้อกลับด้านอ่ะป่าว :m12:
-
มาต่อด้วยนะคับ
สนุกมากมาย
-
:L1: :L1::c5: :c5:
-
โทษทีนะครับ มาต่อช้า ยุ่งมาก ๆ ทั้งงานทั้งเรียน ทั้งรัก อุอุ
+++++++++++
“บิว บิว”
อยู่ ๆ ไอ้กัสมันก็เรียกผม ทำเอาสติสตังผมกลับคืนมา
“อะไรหรอกัส”
“บิวใส่เสื้อกลับด้านอะ”
“ชิบผายแล้วไงหละ มิน่าละเมื่อกี้ไอ้แป๋มถึงได้พูดแปลก ๆ แล้วเนี่ยกรูจะอธิบายกับมันยังไงดีวะเนี่ย
หันไปเห็นไอ้กัสกำลังหัวเราะใหญ่ แหม เมิงจะแต่งตัวให้ดี ๆ ก่อนออกมาก็ไม่ได้ ผ้าเช็ดตัวก็ตัวนิดเดียว จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่อยู่แหละ
“บิว ๆ มาดูให้หน่อยดิ ไม่รู้เป็นอะไร หลังมันแสบ ๆ อะ” ไอ้กัสมันเดินเข้ามาพร้อมกับหันหลังให้ผมดู ตายละหว่า รอยเล็บ รอยฟันกรูทั้งนั้นเลยนะเนี่ย นี่กรูซาดิตถ์ขนาดนี้เลยหรือวะ โอ้ยอาย ไอ้บร้านี่
“ก็รอย....เออ.....มันก็แดง ๆ นะ” พูดพร้อมกับเอามือค่อย ๆ ลูบไปบนรอยนั่น
“หรอ ไม่ใช่รอยเล็บของบิวหรอ” พูดจบก็หันหน้ามายักคิ้วให้ ไอ้บร้า กรูจะฆ่าเมิงงงงงงงงงงง
“บิวรู้อะไรไหม ตอนที่บิวร้องอะ น่ารักเป็นบ้าเลยหละ” พูดพร้อมกับเอาหลังมือมาค่อยคลอเคลียที่ตามใบหน้า ตามคอผม ทำเอาผมขนลุกซู่ ผมรีบปัดมือมันออกแทบไม่ทัน
“กัสไปแต่งตัวเหอะ” เอ๊ ทำไมหน้าร้อนผ่าว ๆ หว่า
“ไม่มีชุดมาเปลี่ยนอะ ไม่ต้องใส่ละกันเนอะ นอนทั้งยังงี้หละ” o_O
“ จะบ้าหรือไง นอนทั้งอย่างนี้ เดี๋ยวก็เป็นปอดบวมตายกันพอดี มานี่เดี่ยวจะหาเสื้อผ้าให้” พูดจบก็รีบเดินดุ่ย ๆ ไปที่ตู้เสื้อผ้า มือก็ควานหาเสื้อตัวที่คิดว่าใหญ่ที่สุด ตาก็คอยเหลือบมองมัน ชักไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองเท่าไหร่เลย
แต่ว่าไม่ทันแล้วครับ หันไปอีกที ก็เห็นผ้าเช็ดตัวพาดอยู่บนราวตากผ้า ส่วนตัวมันหายเข้าไปในผ้าห่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ไอ้กัส ลุกเดี๋ยวนี้เลยนะ ลุกขึ้นมา” พูดไป มือก็ลากมือมันขึ้นมาด้วย แต่ตัวใหญ่ชิบ ลากเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น ยิ่งลากผ้าห่มก็พลอยยิ่งร่นลงมาจากหน้าอก ลงมาที่เอว มาถึงสะโพก.......... โอ้ย ช่างมัน อยากนอนอย่างนี้ก็ช่างมัน ช่วงนั้นแอบเห็นมันอบยิ้มนิดหนึ่งก่อนที่จะพลิกตัวนอนหงาย ผ้าห่มก็ปิดได้แว๊บ ๆ แวม ๆ จนผมทนความหน้าด้านของมันไม่ไหว ต้องรีบดึงผ้าห่มขึ้นปิดหัวมันอย่างหมันใส้
ส่วนผมก็รีบเข้าไปอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย ถือว่าเป็นการอาบน้ำที่ทรมานมาก ๆ เพราะร่องรอยของการทะลุทะลวงนั้นเมื่อโดนน้ำเข้าไป สุดแสนจะแสบเข้าไปถึงทรวง อาบไป ปากก็ด่าไอ้กัสไป เมิงนะเมิง ทำกรูเจ็บ อย่าให้ถึงตากรูบ้าละกัน
พอออกมาจากห้องน้ำเหลือบไปเห็นคนนอนอยู่บนเตียง ท่าทางจะหลับไปแล้วจริง ๆ เพราะจังหวะการหายใจที่สม่ำเสมอและเสียงกรนเบา ๆ จึงรีบแต่งตัวให้เสร็จ ก่อนจะเดินไปที่เตียง
“กัส”
“............................”
“ไอ้กัส”
“................................”
“ค่อยยังชั่ว ท่าทางจะหลับแล้ว” คิดได้เช่นนั้นก็สบายขึ้นมาหน่อยว่าคืนนี้คงปลอดภัยแล้ว แต่พอหัวถึงหมอน นับแกะไปยังไมถึง 3 ตัว ก็มีมือลึกลับจากด้านหลังกระชากตัวผมให้ถอยหลังไปชิดกับหน้าอกหนา ๆ ของคนด้านหลัง
“อ๊ายยยยยยยยย ปล่อยดิ ทำไรว๊า” ปากก็บ่นไปยังงั้นหละครับ แต่ขัดมันไม่ได้ซักที
“ขอกอดหน่อยนะ หนาววว” ไอ้กัสมันพูดจบก็ทำตัวสั่นเพื่อให้เห็นว่ามันหนาวจริง ๆ อยากจะด่ามันเหลือเกิน
“สมน้ำหน้า หนาวตายไปได้ก็ดี”
“โห....พูดยังงี้ใช่มะ ด๊ายยยยยยยยยย” มันพูดจบก็จับตัวผมพลิกให้ขึ้นไปนอนทับอยู่บนตัวมัน ทำให้ผมสัมผัสกับอะไร ๆ ของมันเต็ม ๆ
“ปล่อยกรูนะ” ผมด่ามัน พร้อมกับทำหน้าขู่ (ไม่ใช่หมาซะหน่อย)
“ตัวเล็กแค่นี้ ดุจริงนะเรา” พูดจบมือมันก็ยกขึ้นมาบีบจมูกผมที่ตอนนี้ทำหน้าเป็นตูดลิงอยู่เบา ๆ
“ปี๊บ ปี๊บ” แต่ก่อนที่อะไรจะเลยเถิด ก็มี Message เข้ามาที่เครื่องผม ผมจะเอื้อมมือไปหยิบมาอ่าน แต่ก็ไม่ทันไอ้เจ้าของร่างที่ผมทับอยู่แล้ว มันมือยาวกว่า เอื้อมตัดหน้าผมกดอ่าน Message เฉยเลย อ่านไปซักพักหน้าเริ่มหงิก พร้อมกับได้ยินเสียงดังคลิก ก่อนที่จะมันยิ้มออกมา
“ไอ้เชี่ย เมิงลบ message กรูทำไม” ใช่แล้วครับ มันอ่านจบมันก็ลบหน้าตาเฉยเลย
“ใคร message เข้ามา และเขียนว่าไงหรอ” ผมถามมันเสียงดุ ๆ
“อย่ารู้เลย นอนดีกว่า” พูดจบมันก็พลิกตัวผมลงและนอนตะแคงกอดผมไว้ มันแน่นซะจนผมคิดว่าผมจะตายคาอกมันคืนนี้แน่ ๆ แล้วใครว๊าที่ message เข้ามา และเขียนว่าไงว๊า คิดไปคิดไปก็เผลอหลับไปคาอกหนา ๆ ของมัน ตอนนั้นรู้สึกว่ามันจูบหน้าผากผมเบา ๆ ก่อนที่มันก็จะหลับไปเหมือนกัน
ผมสะดุ้งตื่นมาอีกทีก็ตอนที่รู้สึกเหมือนว่าคนข้าง ๆ นั้นพลิกตัว หันไปอีกที ตายละหว่านี่กรูกอดมันเต็ม ๆ เลยนะเนี่ยแถมหมอนตัวเองมีก็ไม่นอน ดันไปหนุนหน้าอกไอ้คนข้าง ๆ เห็นเช่นนั้นก็ทำท่าจะขยับตัวลุกขึ้นแต่ถูกไอ้กัสเอามือกอดไว้ให้นอนแนบอกมันอีก
“นอนนิ่ง ๆ ดิ อย่าเพิ่งตื่น”
“ไม่เอา จะ 10 โมงแล้วนะ” ผมยังขัดขืนพยายามที่จะออกจากตัวมันครับ
“เพิ่ง 10 โมงเอง นอนต่อเหอะ”
“ปวดฉี่” พูดจบมันก็ลืมตาเลิกคิ้วขึ้นมาดูนิดหนึ่ง ก่อนที่จะยิ้มที่มุมปากน้อย ๆ ของมัน
“งั้นไปดิ เดี๋ยวก็มาราดบนเตียง และถ้าเสร็จแล้วกลับมานอนต่อหละ” โอ้โห อยากจะด่ามันเหลือเกิน แต่เมื่อพ้นจากอกมารไปแล้ว มีหรือว่าไอ้บิวจะยอมกลับไปหาอีก พอเข้าห้องน้ำได้ก็จัดแจงธุระส่วนตัว ก่อนจะออกมาเปิดตู้เย็นเพื่อดูว่ามีอะไรกินบ้างปล่อยให้ไอ้กัสนอนอยู่ในห้องนอน
เปิดตู้เย็นเจอกับข้าวที่เหลือจากเมื่อวาน หยิบขึ้นมาดม ๆ ยังไม่บูดแฮะ เลยจับเข้าไมโครเวฟ และก็เดินมานั่งรอที่โต๊ะกินข้าว ทำให้มีเวลาคิดถึงเรื่องของตัวเองกับไอ้กัสมัน คิดไปคิดมาก็เริ่มกลัว กลัวว่าอีกเดือนหนึ่งข้างหน้า ถ้าต้องทำตามสัญญาแล้วต้องห่างกัน กลัวว่าไอ้กัสมันจะเปลี่ยนไป กลัวว่าไอ้กัสมันจะกลับไปคบกับแฟนเก่ามัน กลัวว่ามันจะเริ่มชินเมื่อไม่มีเราอยู่ ยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว ยิ่งกลัวก็ยิ่งฟุ้งซ่าน
“บิว”
เสียงเรียกของไอ้กัสทำเอาผมสะดุ้ง หันไปเห็นมันแต่งชุดเดิมของมันเรียบร้อยแล้ว
“บิวเป็นอะไรเปล่า กัสเรียกต้องหลายครั้งแล้ว” มันพูดพร้อมกับเดินมานั่งข้าง ๆ
“อ้อ...เปล่า คือ คิดอะไรเพลินไปหน่อยนะ” ผมตอบไอ้กัสทั้ง ๆที่ตายังคงมองเหม่อไปที่ไมโครเวฟ
“คิดอะไรหรอ หน้าเครียด ๆ มีอะไรบอกกัสได้นะ” ระหว่างนั้นมันก็เอามือมาดึงหัวผมให้ไปซบที่ไหล่มัน
ตอนนั้นการที่ผมซบกับไหล่มันอย่างนี้ ผมรู้สึกได้เลยว่าผมปลอดภัย และอยากจะอยู่แบบนี้ไปนาน ๆ มีความสุขไปอย่างนี้นาน ๆ และไม่อยากจะยอมรับกับสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่เราคาดไม่ถึงและไม่อยากให้มันเกิด ไม่ว่าอะไรก็ตาม
“บิวมีกัสอยู่นะ จำได้ไหม กัสเคยบอกว่า ยังไง ๆ บิวก็ยังมีกัสอยู่นะ” พูดไปมือก็ลูบหัวเหมือนจะให้ผมคลายวิตก ผมไม่รู้หรอกครับว่ามันจะรู้หรือเปล่าว่าผมคิดอะไร แต่การกระทำของมันทำให้ผมผ่อนคลายลงเยอะทีเดียว
ผมพยักหน้ารับมันช้า ๆ ไม่อยากให้มันไม่สบายใจด้วยอะครับ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องของอนาคต และอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดใช่ไหมครับ ดังนั้นช่วงนี้ผมมีความสุขอยู่ ผมก็พยายามที่จะอ้าแขนให้กว้าง ๆ เพื่อที่จะกอบโกยความสุขตรงหน้าผมให้มากที่สุด
-
จิ้ม ๆ :m1: :m1:
-
ชอบกัสมากๆๆๆๆๆๆๆ+ เลยง้า :serius2: :serius2:
อยากมีแฟนอย่างงี้ง่า จาหาได้จากไหนเนี่ย!! :oni2: :oni2:
ปล.แต่ก้สงสารพัดอะ อยากรู้จังว่าพัดส่งข้อความมาว่าไร :m21: :m21:
-
Message พัดแน่ๆ เลย ว่าแต่พัดส่งอะไรมาหว่า
แต่กัสนิสัยไม่ดีนะ อ่าน Message คนอื่นแล้วลบเนี่ย :angry2: :o อย่างน้อยเจ้าตัวควรจะมีสิทธิ์ได้รับรู้ :oni1:
-
อ่านแล้วทำไมรู้สึกมีลางหว่า :m21: :m21:
-
Message พัดแน่ๆ เลย ว่าแต่พัดส่งอะไรมาหว่า
แต่กัสนิสัยไม่ดีนะ อ่าน Message คนอื่นแล้วลบเนี่ย :angry2: :o อย่างน้อยเจ้าตัวควรจะมีสิทธิ์ได้รับรู้ :oni1:
เหงด้วยเลยอ่ะ
แล้วอยากรู่ด้วยว่า Message ส่งมาว่าไงมั้งอ่ะ :m13:
-
มาเผ็นกำลังใจให้คับๆๆ
-
:m13: รออ่านตอนต่อไปจ้ะ
-
สงสารกัสเนอะ
โดนบิวทั้งข่วน ทั้งกัด
:m14: :m14: :m14:
-
:m12: :m12: ทายว่าmessage จากพัดแหงมๆเลยครับ มะงั้นกัสมะรีบลบทิ้งหรอก :m20: :m20:
-
ช่วงนี้ เป็นช่วงเวลาตักตวงความสุขนะค้าบบ...^^
-
ก็น่าจะมีความสุขแล้วนะ อิอิ
-
:เตะ1: :a11: :a3: :a4: :a12: :oni1:
-
รอน่ะคับ
-
:m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
ตามอ่านมาตั้งแต่เรื่องก่อน
จนมาถึงเรื่องนี้
ถึงได้มาเม้นให้
เป็นกำลังใจให้แระกานนะ คุณแบงค์
:m24: :m24: :m24: :m24: :m24:
-
เพิ่งมาอ่านหนุกหนานๆๆๆ
กัสน่ารักง่ะ
5555+
เเต่เเอบเลวนะ
Message มาจากพัดชัวร์เลย
-
กัสน่ารักมากๆๆๆ :m1: :m1:
-
กลัวไป massage นั้นจะมีปัญหาอ่า
-
ปิ้ง!!!!!!!!
แหม กำลังเคลิ้ม ๆ เสียงเตือนจากไมโครเวฟก็ดันมาขัดจังหวะจนได้
“มากัส หิวไหม” ผมลุกไปเปิดไมโครเวฟดู มันแหยะ ๆ ยังไงก็ไม่รู้
“จะตายไหมอะ” ไอ้กัสเดินมาดูพร้อมกับทำหน้าเจื่อน ส่วนผมนั้นหน้าบูดเป็นตูดลิงแล้วครับ
“ปะ ไปกินกันข้างนอกดีกว่า บิวเตรียมตัวก่อนดีกว่า เดี๋ยวกัสกลับบ้านก่อน อีกครึ่งชั่วโมงจะรีบมารับ นะ”
“เอางั้นก็ได้” เมื่อคิดบวกลบคูณหารแล้ว ยังไงก็ดีกว่ากินอาหารที่เหมือนไม่ใช่อาหารอยู่ที่บ้าน ก็เลยตกลงมันไป
หลังจากนั้นผมก็ปล่อยให้มันกลับบ้านไป ส่วนผมก็จัดแจงทำธุระส่วนตัวไปคนเดียวเงียบ ๆ พร้อมกับเปิดทีวีดูไปเรื่อยเปื่อยรอเวลาที่ไอ้กัสมันจะมารับ ครึ่งชั่ว่โมงเกินมา 5 นาทีไอ้กัสก็มาโผล่อยู่ที่หน้าประตูห้องแล้ว มันมาด้วยชุดหล่อของมันเลยครับ
“ไปยัง” เสียงของมันทำให้ผมต้องตื่นจากภวังค์
“อืม...ไปดิ” ผมตอบมันไปพร้อมกับหลบตา ไม่กล้าจ้องตามันครับ เขิน ระหว่างที่นั่งไปในรถผมคอยแต่แอบชำเลืองดูหน้ามัน เวลาหน้ามันนิ่ง ๆ นี่ก็น่าดูไปอีกแบบเนอะ ซอกคอมันก็ข๊าวขาว ผมแพ้เลยละครับคนที่มีซอกคอขาว ๆ ดูแล้วหน้าเอาหน้าไปซุกจังเลย
“มองไร ไม่เคยเห็นคนหล่อหรอ” น่าน พูดเหมือนใครวะ คุ้น ๆ ท่าทางตอนนี้น่าหมันใส้มาก ๆ
“คนหล่ออะเคยเห็น แต่ไม่เคยเห็นคนแปลก” ผมตอกกลับไปหนึ่งทีพร้อมกับสะบัดบ๊อบใส่หันหน้าออกทางหน้าต่างรถทันที มันได้ได้พูดอะไรกลับมาครับได้ยินแต่เสียงหัวเราะ ฮึฮึ
พอไปถึงห้างใหญ่ใจกลางเมืองที่เปิดมาแล้ว 60 ปี ในนี้คนเยอะมาก ๆ คงเนื่องจากว่าปิดเทอมด้วยและก็คนส่วนมากก็มาเดินตากแอร์กันด้วยหละมั้ง คนจึงแน่นไปหมด
“กินอะไรดี” มันถามผมระหว่างที่เดินไปเรื่อย ๆ
“อะไรก็ได้”
“พิดซ่าไหม”
“ไม่เอา ไม่ชอบอะ”
“งั้น เอ็มเคดีกว่า”
“ไม่ดีอะ ไม่ชอบกินผัก”
“งั้นเคเอฟซี”
“ยี้ ไข้หวัดนกยิ่งระบาดอยู่ เดี่ยวก็ตายกันพอดี”
“แล้วจะกินอะไร” มันยังคงถามผมต่อไป
“อะไรก็ได้” ผมก็ตอบไปคำเดิม ก็อะไรก็ได้จริง ๆ นิหน่า ส่วนมันหยุดเดินทันที
“แป๊ะ”
เมื่อสิ้นเสียงนั้น ผมรีบเอามือน้อย ๆ ของผมกุมไปที่หน้าผากทันที ก็ไอ้กัสนะสิ มันหันมาดีดหน้าผากผมดันแป๊ะ น้ำตาแทบร่วง
“ถามใหม่นะ จะกินอะไร” มันหันมาจ้องหน้าผมพร้อมถามด้วยน้ำเสียงจะกินเลือดกินเนื้อ ไรวะ แกล้งนิดหน่อยต้องลงไม้ลงมือกันด้วย
“ฟูจิ” ผมก้มหน้าตอบมันไปเบา ๆ
“เออ ก็แค่เนี้ยแหละ” แล้วมันก็ลากมือผมเดินไปรอคิวที่ฟูจิครับ คนแน่นมาก ๆ ยืนรอเหลืออีกประมาณ 4 คิว สาขานี้ดีครับเรียกชื่อครั้งเดียว ถ้าไม่โผล่หัวมาก็ข้ามไปเลย เลยเร็วหน่อย
“ลำดวน 2 ท่านค่ะ” เสียงใส ๆ ของพนักงานเรียกชื่อคิวต่อไปครับ แต่แม่งใครวะชื่อลำดวน ถ้ากรูชื่อนี้นะ กรูคงกัดลิ้นตัวเองตายแน่ ๆ แล้วอีกนานไหมวะเนี่ยจะถึงคิวกรู ระหว่างที่ผมกำลังคิดอยู่นั้นไอ้กัสมันก็ลากมือผมเข้าไปในร้าน
“คุณลำดวนใช่ไหมค่ะ”
“อ้อชื่อเพื่อนผมครับ ลำดวน” ไอ้กัสมันว่าพร้อมกับเหล่ตามาทางผม พร้อมกับเดินนำเข้าไปในร้าน ทิ้งให้ผมยืนเป็นเป้าสายตากับพนักงานอยู่หน้าร้าน ผมแอบเห็นพนักงานและคนแถวนั้นยิ้มกันน้อย ๆ เอ๊ะ เมื่อกี้มันบอกว่าเพื่อนมันชื่อลำดวน แต่นี่ก็มากันแค่สองคน งั้นหมายความว่า ชื่อลำดวนคือชื่อกรูหรอวะ ไอ้เชี่ย!!!!!! เมิงแกล้งกรูอีกแล้วนะไอ้กัส จังหวะนั้นกำลังจะวิ่งไปจัดการกับไอ้กัสที่เดินตามหลังมาพร้อมกับหัวเราะอยู่พอดี สายตาอันแหลมคมก็ปร๊าดดดดดดไปเห็นคนคุ้นหน้าคุ้นตานั่งอยู่ที่มุมร้าน
“ไอ้ฟิล์ม” มากับใครวะนั่น ผู้หญิงซะด้วย
ผมรีบดึงไอ้กัสให้หันไปมองทางเดียวกับผม เราสองคนหันมาสบตากัน สายตาของไอ้กัสมีแววสงสัยอยู่ไม่น้อย เพราะสังเกตุได้จากคิ้วมันขมวดพันกันเป็นเงื่อนพิรอดแล้ว
ไอ้ฟิล์ม........เมิง
-
เรื่องชักจะยุ่งแล้วซิ :m29: :m29:
-
หุหุ รอลุ้นต่อ :oni1: :oni1:
-
อ้าว น้องแป๋มเรา โดนหักหลังหรือป่าวเนี่ย
-
อ้าว...ค้างเลย :m21:
แล้วจะไปลงกะใครดีเนี่ย แอร๊ยยยยยยยยยย :o8:
-
นี้หละน้า นิยาย ถ้าไม่มีจุดขัดแย้งมันก็ไม่สนุกนะสิ
แต่ว่าไอ้ฟิลม์ เมิงมากับใครฟระ
-
อ่ะ...ฟิลม์ แอบนอกใจหรอ???
-
ฟิลม์ แอบนอกใจแป๋มเหรออ :เตะ1:
-
น้านซิใครรร
-
:angry2:ฟิล์มไปกะใคร
-
ฟิลม์ กล้าเหรอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แป๋มดุขนาดนั้น
-
Me.....เมิง.....ต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำไว้..... :angry2:
ปล.คบไปได้งับเนี่ย....สงสารแจง..... อ่ะ....
Don't Play With Somethings You Should Cherish For Life!
- I Want You : Madonna -
-
ไอ้ฟิล์ม หึหึหึ
ความลับไม่มีในโลก :oni3: :oni3:
เสร็จแน่ ๆๆๆ :m14: :m4:
-
ทำไมฟิล์มทำแบบนี้ :serius2: :serius2:
-
จะเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ย..........
-
หมายความว่ายังไงเนี่ยฟิล์ม
:m16: :m16:
-
พอนั่งลงที่โต๊ะปุ๊บ ผมเริ่มสังเกตุความผิดปกติ เลยเหลือบตามองไปที่ไอ้กัส เห็นมันนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
“เป็นอะไร” หน้าอย่างนี้แสดงว่าโกรธชัวร์
“เรื่องของเขา เราไม่น่าไปยุ่งเลย” เดือดสิครับเดือด
“กัส สมมุติว่า วันหนึ่งคนที่กัสรักมากๆๆเนี่ย กำลังมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการมีคนอื่นเนี่ย และถ้าเพื่อนกัสไปเห็นพฤติกรรมนั้น แต่ไม่ยอมบอกกัส กัสจะรู้สึกยังไง”
“................................” เงียบ แสดงว่าเมิงยอมแพ้แล้วใช่ไหม
“และนี่ไอ้แป๋มมันก็เพื่อนบิว ไอ้ฟิล์มด้วยมันก็เพื่อนบิว ดังนั้นบิวคนทนไม่ได้หรอกนะที่จะเห็นใครก็ตามต้องถูกนอกใจแบบนี้”
“อ๊ะ ๆๆ ไม่เถียงหละ แล้วนี่จะกินอะไรหละ” ไม่ต้องมาทำเป็นหงุดหงิดใส่กรูเลย
“ส้มตำปูมั้ง” 1 ดอก สงไปให้มันคับแต่มันไม่พูดอะไร ได้แต่สายหัวไปมาแบบระอา กรูสิต้องระอาเมิง ไมใช่เมิงมาระอากรู
พอพนักงานรับออเดอร์มาถึง มันก็ปล่อยให้ผมสั่งอยู่คนเดียว และพออาหารมาถึงมันก็ไม่ยอมแตะ ปล่อยให้ผมกินคนเดียว จนในที่สุดผมก็เหลืออดแล้ว มันจะอะไรกันนักกันหนาวะ เรื่องแค่นี้
“กัส กัสเป็นอะไร” ผมกระแทบตะเกียบลงบนโต๊ะ ด้วยความเหลืออด ไอ้กัสมันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปดูโต๊ะข้าง ๆ ที่สะดุ้งเหมือนกัน
“เปล่า” มันพูดมาแค่นั้นก่อนที่จะเอาตะเกียบคุ้ยซูชิเล่น ผมเหลือบดูการกระทำของมันนิดนึง และลุกขึ้นเดินออกไปนอกร้านเพื่อไปสงบสติอารมณ์ที่พร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ มีอะไรก็พูดมาดิว้า ไม่ใช่มาทำมึนตึงแบบนี้ และถ้าเป็นเพราะเรื่องว่ากรูห่วงไอ้แป๋ม กรูก็ขอบอกเลยว่ากรูไม่ได้ผิดเลยสักนิดเดียว ส่วนไอ้กัสนั้นก็นั่งเหวอแดกอยู่ที่โต๊ะคนเดียว ดู ๆ แล้วมันก็คงทั้งตกใจและอึ้งไปเหมือนกันคิดไม่ถึงว่าผมจะเดินออกมาแบบนั้น
“อ้าวบิวมายืนทำไมตรงนี้อะ ไม่เข้าไปหรอ แล้วไอ้กัสละ” ไอ้แป๋มครับมันมาพอดี แหม ไวจริง ๆ นะเมิง
“กัสอยู่ข้างใน แล้วกรูมีอะไรจะให้เมิงดูด้วย” ผมลากแขนไอ้แป๋มที่ยังทำหน้างง ๆ อยู่ว่าอะไรที่ผมจะให้มันดู
“นั่นไง เมิงเห็นอะไรไหม” พอเดินเข้ามาในร้านได้สักพักก็ลากไอ้แป๋มหลบมุมหลังเสาและชี้ไปที่โต๊ะไอ้ฟิล์มกับใครซักคนนนั่งอยู่ ตอนนี้ไอ้แป๋มนิ่งไป แต่สีหน้ามันเรียบเฉยมาก ๆ
“บิวมาเป็นเพื่อนเราหน่อย” พูดจบไอ้แป๋มก็ลากมือผมตรงไปยังโต๊ะไอ้ฟิล์ม ส่วนไอ้กัสตอนนี้รีบลุกจากโต๊ะเดินตามพวกเรามาแล้ว
“หวัดดีฟิล์ม” เสียงไอ้แป๋มดังขึ้นก่อนที่เราจะเดินไปถึงโต๊ะมันเสียอีก พอไอ้ฟิล์มหันมาเห็นหน้าพวกผมเท่านั้นหละ หน้ามันซีดเป็นไก่ต้มค้างวันเลยละครับ ส่วนนังผู้หญิงคนนั้น ดูใกล้ ๆ แล้วสวยซะด้วย แต่ไอ้แป๋มมันจะออกแนวน่ารักมากกว่า ตอนนี้ไอ้แป๋มดูร่าเริงผิดปกติมาก ๆ ส่วนไอ้กัสนั้นตอนนี้เดินมาสมทบทีหลังแล้ว
“มากับแฟนหรอ” ไอ้แป๋มย้ำคำว่าแฟนหนัก ๆ
“เออ.......คือว่า.....แป๋ม” ไอ้ฟิล์มตอนนี้พูดอะไรไม่ถูกแล้วครับ พยายามส่งสายตาไปที่ไอ้กัสให้ช่วยหน่อย
“พี่ฟิล์มค่ะ มีอะไรหรือเปล่า” นังสาวสวยคนนั้นพูดขึ้นมาบ้าง ท่าทางมันคงจะงงเหมือนกัน ที่มีคนเยอะแยะมามุงเต็มโต๊ะมันไปหมด ไอ้แป๋มหันไปยิ้มให้นังนั่นทีหนึ่ง แต่เป็นรอยยิ้มที่ใครได้รับคงสยอง พร้อมทั้งหันกลับมามองไอ้ฟิล์มใหม่
ก่อนที่มันจะค่อย ๆ เอามือไปลูบแก้มลูบคางไอ้ฟิล์มที่ตอนนี้นั่งนิ่งเป็นหิน ส่วนไอ้แป๋มนั้นตอนนี้มันยิ้มอย่างเดียวครับ แต่ยิ้มมันเย็นเหลือเกิน จนผมไม่กล้าเข้าไปขวางมันเลยครับ
ตอนนี้มือไอ้แป๋มวางแหมะลงบนไหล่กว้างของไอ้ฟิล์ม ก่อนที่จะค่อย ๆ ก้มลงไปใกล้ ๆ หูไอ้ฟิล์ม
“เมิงแน่ใช่ไหมที่เมิงทำแบบนี้”
แม้น้ำเสียงของมันจะเบา แต่ผมคิดว่าได้ยินกันหมดทั้งโต๊ะ ผมหันไปมองไอ้ฟิล์ม ไอ้กัส และนังผู้หญิงคนนั้น มันทั้งสามคนซีดพอ ๆ กันเลย ระหว่างนั้นไอ้แป๋มมันก็ควักตังออกมาวางบนโต๊ะ 2 พัน พร้อมกับหันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นว่า
“กินให้อร่อยนะค่ะ มื้อนี้พี่เลี้ยง”
พร้อมกับลากแขนผมเดินออกจากร้านโดยไม่สนใจไอ้ฟิล์มอีกเลย ส่วนไอ้กัสนั้นผมบอกให้มันกลับไปที่โต๊ะเพื่อไปจ่ายเงินก่อน โดยผมจะออกไปรอมันที่หน้าร้าน โดยมีไอ้แป๋มยืนสงบสติอารมณ์อยู่ข้าง ๆ
สักพักไอ้กัสก็วิ่งออกมาสมทบด้วย ผมตัดสินใจจะนั่งรถกลับเป็นเพื่อนไอ้แป๋ม เลยบอกไอ้กัสให้ขับรถกลับไปก่อน
“กัสเดี๋ยวไปเจอกันที่ห้องบิวนะ”
“อ้าว แล้วบิวนะไปไหนอะ”
“บิวจะนั่งไปกับแป๋มแล้ว ไม่กล้าให้มันขับรถคนเดียว” ไอ้คำหลังนั่นผมกระซิบบอกไอ้กัสมัน ซึ่งมันก็เข้าใจ
ก่อนจะแยกย้ายกันไปรถใครรถมัน ไอ้กัสมันก็หันมากระซิบกับผมว่า
“เหลืออีกแค่ 5 วันแค่นั้นนะ เรื่องของเรา”
พอผมได้ฟังเช่นนั้นผมก็หันไปมองหน้ามัน เห็นมันดูจ๋อย ๆ นิด ๆ ผมก็เลยเอามือไปจับมือมัน ประมาณว่า วันที่เหลือกรูจะทุ่มให้เมิงเต็มที่เลยละกัน วันนี้กรูขอละนะ เพื่อนกรูทั้งคน
“5 วันที่เหลือกัสอยากให้บิวทำอะไร บิวทำให้หมดเลย”
ผมก้มไปกระซิบบอกมันใกล้ ๆ มันจึงยิ้มออกมาได้ ใจหายเหมือนกันนะ ที่เหลืออีกแค่ 5 วันจะต้องห่างกันไปตั้งเดือนหนึ่ง แต่สัญญากันไว้แล้วนิครับ ก็คงต้องทำตามนั้น
“ไปหอกรูนะแป๋ม” พอไอ้บิวเดินไปเพื่อขับรถไปรอที่หอแล้ว ผมจึงหันไปบอกไอ้แป๋ม ซึ่งตอนนี้ยิ้มตอบผมกลับบาแบบร่าเริงเกินเหตุ
“อือ ได้ เดี๋ยวหาอะไรไปกินด้วยนะ ซื้อหนังไปดูด้วย ฉลองกันโว้ย” แล้วมันก็กอดคอผมลากผมเดินไปยังซุปเปอร์ฯ เพื่อซื้ออะไรไปกินกัน มันซื้อมาเยอะแยะเลยครับ ทั้งขนม น้ำอัดลม เบียร์ สปายฯลฯ สงสัยวันนี้มันกะเมาเต็มที่
ระหว่างนั้นไอ้ฟิล์มก็โทรเข้ามาเรื่อย ๆ นะครับ ทั้งเครื่องไอ้แป๋ม เครื่องผม แต่ไอ้แป๋มไม่ให้ผมรับสาย
“เมิงไม่อยากฟังมันหน่อยหรอวะ” ผมถามไอ้แป๋มขณะตัดสายไอ้ฟิล์มทิ้งไป
“ถ้ามันอยากอธิบาย มันก็ต้องตามกรูมา และมันก็น่าจะรู้ด้วยว่ากรูจะอยู่ทีไหน เวลาที่กรูเป็นแบบนี้”
“อืม เอางั้นก็ได้” พอซื้อของเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ขับรถไปที่หอผมกัน บรรยากาศภายในรถมาคุมาก ๆ ผมจึงได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ไม่กล้าพูดอะไรกับมัน เดาอารมณ์มันไม่ถูกครับ น่ากลัวชิบ
พอมาถึงที่ห้องผม เห็นไอ้กัสมารออยู่แล้วครับ เราเลยขึ้นห้องไปพร้อม ๆ กัน พอเข้าห้องไป ไอ้กัสก็เดินไปนั่งที่โซฟา ส่วนผมกับไอ้แป๋มนั้นก็เอาของกิจไปจัดใส่จาน ส่วนไอ้แป๋มถือพวกเบียร์ สบายออกมาหอบใหญ่ นั่งหน้าทีวีปุ๊บ ก็เปิดหนังดู ปากก็กินสปายไปด้วย ส่วนผมไม่ได้กินหรอกครับ กลัวเมาด้วยกันทั้งคู่แล้วจะไม่มีใครคอยดูไอ้แป๋ม เผื่อมันทำอะไรบ้า ๆ
ก็เลยให้ไอ้กัสกินเป็นเพื่อนไอ้แป๋มมัน ผ่านไปประมาณ ครึ่งชั่วโมง ตอนนี้ทั้งคู่เริ่มกึ่ม ๆ กันแล้ว แต่ไอ้กัสยังคอแข็ง ไม่ค่อยมีท่าทีเท่าไหร่ ส่วนไอ้แป๋มนั้นซึมลงอย่างเห็นได้ชัด
“เมิงมีอะไรจะบอกกรูไหม”
พร้อมกับเอามือไปกุมมือมันไว้ ผมพยายามที่จะให้ไอ้แป๋มได้ระบายออกมาบ้าง ผมรู้ครับว่ามันนะแข็งนอก แต่ข้างในอ่อนแอจะตาย เหมือนผมนั่นแหละครับ
“กรูสบายมาก” มันยังคงยิ้มอยู่
“อืม ถ้ามึงมีอะไรอยากระบาย บอกกรูได้นะ กรูเพื่อนเมิงนะ”
“อืม ขอบใจนะ” มันอ้อมหลังมาตบไหล่ผมเบา ๆ
“แล้วนี่เมิงกับไอ้กัสเป็นไงบ้าง เมื่อวานเมิงยังไม่ได้บอกกรูเลยนะเว้ย” ไอ้แป๋มถามผม ทำให้ผมหันกลับไปมองไอ้กัสที่มองผมมาเช่นเดียวกัน
“ก็เหมือนเดิมอะ กรูตกลงกับมันว่าจะห่างกันเดือนหนึ่งเพื่อวัดใจมัน แต่มันขอให้ไปเริ่มในอาทิตย์หน้า ตอนนี้มันก็เลยมาขลุกอยู่กับกรูทั้งวัน ไล่ก็ไม่ไป” พูดจบก็หันไปมองไอ้กัสอีกที เห็นมันยิ้มตาเยิ้มเชียว
“แล้วเมิงหละ” ผมถามไอ้แป๋มกลับบ้าง
“ไม่รู้”
“ป๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ”
“เดี๋ยวกรูไปเปิดเอง” ไอ้แป๋มห้ามผมไว้ขณะที่ผมทำท่าจะลุกไปเปิด รู้กันแหละครับว่าใครจะมา แต่ที่ผมแปลกใจก็คือ ไอ้แป๋มเลือกที่จะเผชิญหน้ากับไอ้ตัวต้นเหตุ เอาละสิ สงครามจะเกิดไหมวะเนี่ย
-
ไอ้ฟิล์มตายแน่ๆ
:m29: :m29: :m29: :m29: :m29: :m29:
-
เบาะ ๆ นะครับแป๋ม :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
-
เหอ เหอ เหตุการณ์จะเป็นไงต่อน้า หุ หู :serius2:
-
แป๋ม.........อย่าเอาถึงตายน่ะคับ แค่หยอดน้ำข้าวต้มพอ o12
-
หย๋า.................น่ากลัวอ่ะ
-
o12 o12 o12 o12 o12
ขอให้เข้าจายกานแระกานนะ
:oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
-
แป๋มน่ากลัวจัง :m1: :m1:
-
o12 o12 มะชอบคนทำตัวเจ้าชู้อย่างนี้เลยครับ ยังไงก็ต้องเอาให้จำจนตายนะแป๋ม :m16: :m16:
แต่ถ้าจะให้ดีก็เอาให้หลอนก็ได้นะคับ ลงไม้ลงมือกัน เจ็บตัวเปล่าๆ :m23: :m23:
-
:angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
เล่นมันเลย
-
เพื่อนแป๋มเก่งมากกกนับถือ
-
:a4:สงครามโลกจะเกิดแล้วครับ
-
เกลียดคนเจ้าชู้เป็นที่สุด ไอ้ฟิล์มต้องโดน :เตะ1: :เตะ1:
-
ตาฟิล์มตายแน่ :เตะ1: :เตะ1:
-
สงสารแป๋มอ่ะ
o12งานนี้คนเจ้าชู้ต้องโดน.........
-
กลัวใจแป๋มจริงๆนิ่งๆนี่ระเบิดมาทีนี่น่ากลัว :m22:
-
กลัวแป๋มง่ะ :o
-
ชอบแป๋มอ่ะ ต้องลงโทษให้สาสม :angry2:
สุดยอดแป๋ม o13
แต่ไปเลี้ยงเค้าทำไมตั้ง2พัน :serius2:
-
ได้ใจเว้ยยยยยยยยยยยยยย :a2: นี่แหล่ะผู้หญิงในอุดมคติเรา o13
ฮึ่มๆๆๆ พูดแล้วเลือดพล่านอย่ายอมไอ้ฟิลม์มันง่ายๆนะแป๋ม เอามันให้เข็ด พวกเลี้ยงไม่เชื่องนี่ :angry2:
-
ฟิล์ม เหลือไม่ครบ 32 แน่ งานนี้ :m29:
-
:a6: ผมหลงเข้ายังไงไม่รู้ อ่านที่เดียวเลย สนุกมากๆ :a11: :a3:
:a5:ยังไม่ค่อยไว้ใจกัสเลย ฟิล์มออกลายซะแล้ว สงสัยงานนี้โดนไม่ใช่น้อย :เตะ1:
แต่อย่าลืมพัดของผมล่ะครับ คนดีๆทำไมต้อง แห้วรับประทานอะครับ :a6: :a4:
-
“ป๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ”
“เดี๋ยวกรูไปเปิดเอง” ไอ้แป๋มห้ามผมไว้ขณะที่ผมทำท่าจะลุกไปเปิด รู้กันแหละครับว่าใครจะมา แต่ที่ผมแปลกใจก็คือ ไอ้แป๋มเลือกที่จะเผชิญหน้ากับไอ้ตัวต้นเหตุ เอาละสิ สงครามจะเกิดไหมวะเนี่ย
เมื่อไอ้แป๋มเปิดประตู ก็เป็นดังคาด ไอ้ฟิล์มยืนหงออยู่หน้าประตู ส่วนไอ้แป๋มเปิดประตูค้างไว้และเดินกลับมานั่งที่เดิม ไอ้ฟิล์มจึงค่อย ๆ เดินตามเข้ามา
มันเหลือบมามองผมทีนึง ผมเลยทำท่าเอามือเชือดคอให้มันดู หน้ามันยิ่งเสียใหญ่ โดยตอนนี้มันเลือกที่จะมานั่งฝั่งตรงข้างไอ้แป๋ม ตอนนี้ข้าง ๆ ไอ้แป๋มก็มีผมนั่งอยู่ ส่วนไอ้กัสนั่งเป็นผู้สังเกตุการณ์อยู่ด้านข้างไอ้ฟิล์ม
“แป๋ม”
ไอ้ฟิล์มเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อนครับ ผมหันไปดูไอ้แป๋มว่าจะมีปฏิกริยายังไง แต่น่าแปลกครับ มันกับส่งยิ้มหวาน ๆ ไปให้ไอ้ฟิล์ม แต่สายตาของมันเย็นชาเป็นที่สุด
“คือว่า....................”
อ้ำ ๆ อึ้งอยู่ได้ไอ้ฟิล์มเอ้ย แล้วมันจะรู้เรื่องไหมวะเนี่ย ผมหันไปมองไอ้แป๋มที ไอ้ฟิล์มที สนุกละเมิงงานนี้ ส่วนไอ้ฟิล์มทำท่าจะพูดอะไรก็ไม่พูด ไอ้แป๋มก็เลยหันไปหยิบแก้วปล่าว และรินเบียร์จนเกือบเต็ม ส่งให้ไอ้ฟิล์ม พร้อมกับส่งยิ้มไปอีกที
“กิน”
ไอ้แป๋มพูดขึ้นมาที ไอ้ฟิล์มรีบยกแก้วเบียร์ซดแทบไม่ทัน มันยกซดทีเดียวหมดแล้ว ไอ้แป๋มเลยเอื้อมไปหยิบแก้วจากมือไอ้ฟิล์มมาพร้อมกับรินเบียร์ให้ใหม่ และส่งคืนไอ้ฟิล์มอีกครั้ง
“กินอีก”
นี่มันจะมอมไอ้ฟิล์มหรือไงวะเนี่ย ไอ้ฟิล์มก็รีบรับแก้วจากไอ้แป๋มมือไม้สั่น ไอ้แป๋มทำอย่างนี้ประมาณ 3-4 แก้ว ตอนนี้ไอ้ฟิล์มเริ่มหน้า หูแดงแล้ว ตาก็ปรือหน่อย ๆ
“ไอ้แป๋ม เมิงทำอะไรวะ จะมอมมันหรอ” ผมหันไปกระซิบกับเจ้าแป๋มเมื่อเห็นอาการของแฟนมันร่อแร่เต็มทนแล้ว ส่วนไอ้กัสตอนนี้นะหรอ นั่งเอามือประคองหัวไอ้ฟิล์มอยู่
“ไม่มีอะไรหรอกบิว แป๋มแค่จะรีดพิษจากปากงูนะ” มันหันมาตอบผมก่อนที่จะหันกลับไปดูสารรูปไอ้ฟิล์มอีกที
“พูดได้ยัง” ไอ้ฟิล์มตอนนี้พยักหน้าน้อย ๆ ตาเยิ้มๆ แล้วด้วย
“ให้เวลา 20 นาที เล่ามาให้หมด ถ้ารับได้ก็คบต่อ แต่ถ้าไม่ได้ ก็ตัวใครตัวมัน” โอ้โห เพื่อนผม ใจเด็ดเว้ย
“ครึ่งชั่วโมงไม่ได้หรอ” แน๊ ยังมีต่อกันอีก
“15 นาที จะเอาหรือไม่เอา” ไอ้แป๋มขึ้นเสียง ตอนนี้ไอ้ฟิล์มหันไปทางไอ้กัสเพื่อขอตัวช่วย แต่ไอ้กัสพยักหน้าประมาณว่า ยอม ๆ ไปเหอะ
“อืม ตกลง จริง ๆ แล้วเมื่อบ่ายอะ ฟิล์มไม่อยากไปหรอก แต่ว่าน้องจูนเขาชวนอะ” มันพูดด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ตัวก็เซไป คออ่อนจริง ๆ เลยนะเมิง
“แล้วไง”
“ปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ก็เลยขัดไม่ได้”
“แล้วเขาเป็นใคร”
“รุ่นน้อง”
“รุ่นน้อง ทำไมแป๋มไม่รู้จัก เราก็เรียนคณะเดียวกัน” เออใช่ ๆๆ ทำไมกรูไม่รู้จักด้วยฟะ
“รุ่นน้องไอ้กัสอีกทีนึง” พูดจบ ผมกับไอ้แป๋มหันไปหาไอ้กัส ไอ้กัสรีบสายหัวประมาณว่า กรูไม่เกี่ยวนะเว้ย ไอ้แป๋มเลยหันมาเล่นงานไอ้ฟิล์มต่อ
“รู้ไหมว่าเขาชอบแก”
“รู้” มันน่าชอบตรงไหนวะไอ้ฟิล์มเนี่ย
“แล้วมันไม่รู้หรอว่าแกมีแฟนแล้ว”
“รู้ แต่เขาบอกว่าเป็นพี่น้องกันก็ได้”
“แล้วแกชอบเขาไหม” นี่เมิงเล่น 20 คำถามกันหรือไงวะเนี่ย
ไอ้ฟิล์มไม่ตอบ แต่สั่นหน้าหงึก ๆๆ อย่างแรง จนกลัวว่าคอของมันจะเคล็ดไปซะก่อน
“ถ้าบอกว่าห้ามติดต่อกับมันอีกทำได้ไหม”
“ทำได้” ไอ้ฟิล์มตอบเสียงอ่อย ๆ จนฟังเหมือนกระซิบ
“ไม่ได้ยิน”
“ทำได้ครับ” ไอ้ฟิล์มตอบเสียงดังขึ้นมาหน่อยนึง หน่อยเดียวจริง ๆ
“ห๊า ว่าไงนะ”
“ทำได้คร้าบบบบบบผม” ไม่พูดปล่าว ยังยกมือขึ้นตะเบ๊ะ 1 ที จนผมอดขำไม่ได้
“มีเบอร์มันไหม”
“มี” มันตอบเสียงอ่อย ๆ
“งั้นกดโทรหามันตอนนี้เลย” ไอ้แป๋มสั่ง
“ตอนนี้เลยหรอ”
“อืม”
พูดจบไอ้ฟิล์มก็ค่อย ๆ กดมือถือมันหาไอ้น้องจูนนั่น พอติดแล้วไอ้แป๋มรีบสั่งให้เปิดเสียงให้ได้ยินกันทั่ว ๆ
“หวัดดีค่ะพี่ฟิล์ม ทำไมเมื่อบ่ายรีบออกมาเลยละคะ เกิดอะไรขึ้นหรอ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรอคะ” แหม เสียงไอ้น้องจูนแหวขึ้นมาทันทีเพื่อมันกดรับ ตอนนี้ก็กำลังตอบกันอยู่ว่าไอ้ฟิล์มจะตอบไปว่าอะไร
“ผู้หญิงคนนั้นเขาเป็น........แฟนพี่อะครับ” แหม พูดยากจังนะเมิง
“อ้าว แฟนพี่หรอ แล้วก็ไม่บอก” อ้าว ยังไม่สำนึกอีก
“เอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ” นี่เมิงจะมีวันหลังอีกหรอ ตอนนี้ไอ้ฟิล์มหันหน้าแหยๆๆ ของมันมาสบตากับไอ้แป๋ม ไอ้แป๋มเลยเอื้อมไปหยิบกระดาษพร้อมปากกาขึ้นมาเขียนอะไรไม่รู้ ๆ และยัดใส่มือให้ไอ้ฟิล์ม
“พี่ค่ะ ทำไมเงียบไปละคะ”
“อ้อ เปล่า ๆ ครับ คือว่า อย่าเลยนะครับ เพราะว่า เออ....แฟนพี่ดุอะครับ” อ้อ เข้าใจละ ไอ้แป๋มมันเขียนให้ไอ้ฟิล์มอ่านตามนี่เอง แอบฮานะเมิงไอ้แป๋ม
“ก็อย่าให้แฟนพี่รู้สิค่ะ” อีนี่น่าจับให้หมอผ่านอออกจากหัวนะ ส่วนไอ้แป๋มก็เขียนอะไรยุกยิกส่งให้ไอ้ฟิล์มอีกแผ่น ไอ้ฟิล์มก็ก้มอ่านตาม
“แฟนพี่ฉลาดอะคับ...เขา เออ.......” ไอ้ฟิล์มนิ่งไปนิดนึงก่อนจะทำเสียงกระซิบกระซาบ
"นี่อ่านว่าไรอะ???"o_O ผมละกลั้นหัวเราะแทบตาม เฮ้ย ให้คนเมาอ่านหนังสือ จะรู้เรื่องไหมเนี่ย
“เอาะ อ้อ คือว่า แฟนพี่ฉลาดนะครับ เขาก็รู้จนได้หละ พี่ว่า.......” ไอ้ฟิล์มจะพูดต่อจนจบ แต่ไม่ทันแล้วไอ้แป๋มแย่งโทรศัพท์มาพร้อมกับกรอกเสียงลงไปประหนึ่งว่าเมิงไม่ต้องกรูเอง
“น้องค่ะ นี่พี่แป๋มแฟนพี่ฟิล์มนะคะ พี่ไม่รู้นะคะว่าน้องคิดอะไรกับพี่ฟิล์มแฟนพี่ แต่ถ้าน้องอยากจะเป็นกิ๊กพี่ฟิล์ม พี่ก็คงจะว่าอะไรน้องไม่ได้หรอกค่ะ แต่พี่ขอบอกนะคะว่าน้องคงเป็นได้แค่กิ๊ก แค่เครื่องระบายความเครียดทาง.......เออ.......ทางเพศเท่านั้นหละคะ ค่าของน้องมีอยู่เท่านั้น แต่อย่าริอาจตะกายให้สูงเพื่อจะมาเป็นมากกว่ากิ๊กนะคะ เพราะพี่คิดว่าน้องคงไม่อยากรู้หรอกนะคะว่าคนที่เคยทำอย่างนี้กับพี่มันโดนกับอะไร้บ้าง
อ่อ และไม่ต้องมาทำเสียงแบ๊วใส่พี่นะคะ เพราะว่าพี่คิดว่ามันเป็นบุคลิกของคนที่ปัญญาอ่อนมาก ๆ และถ้าพี่รู้ว่าน้องจูน ใช่ไหมค่ะ ยังติดต่อกับฟิล์มอีก พี่คงไม่รับประกันผลลัพธ์ที่จะเกิดกับน้องนะค่ะ ไอ้ฟิล์มแฟนพี่มันขี้เบื่อ อย่างมากเลยนะค่ะน้องก็เป็นได้แค่ Sex toy ของมันเท่านั้นหละคะ แค่นี้นะค่ะ สวัสดีค่ะ”
พูดจบ ผมแทบจะรีบไปหาโล่ห์พร้อมกับสลักชื่อมอมันลงไปมอบให้มันเลย ได้ใจมาก ๆ
"เราดีกันได้แล้วใช่ปะ" ไอ้ฟิล์มถามเสียงอ่อย ๆ
"ง่ายไปไหม" ไอ้แป๋มตอบกลับไปทำเอาไอ้ฟิล์มหน้าเสียอย่างแรง
“กัสอย่างมีเพื่อนไหม” ไอ้แป๋มมันหันไปถามไอ้กัสที่ยืนงงอยู่ เพื่อนอะไรวะ
“เดือนนึงไง”
“อะไรหรอ เดือนนึง” ผมพอจะรู้ชะตาไอ้ฟิล์มละ แต่ท่าทางไอ้ฟิล์มยังคงงงอยู่ หุหุ ไอ้กัสของผมคงมีเพื่อนซะแล้ว ท่าทางไอ้แป๋มคงกะเอาให้เข็ด
++++++++++++++
ช่วงนี้ใกล้สอบแล้ว อาจช้านิดนะคร้าบบบบ จะเร่งให้จบใน ปีครึ่ง เลยต้องรีบเสนอ Thesis
-
:a2: แป๋ม ได้ใจมากน้อง :a2: :a2: :a2: :a2:
-
555 สะใจโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :a2:
-
o7
แป๋มสุดยอดดดดดด
-
อ่านกี่ที่ๆก้อเลือดพล่านอ่า :serius2:
อย่าว่าแต่เดือนนึงเลย ปีนึง หรือชาตินึงเลยด้วยซ้ำ ถ้าเปนเรา :serius2:
เคืองโว้ยยยยยยยยยย :a6:
-
แป๋ม สุดยอด o13
-
:a2: :a2: :a2:
งานนี้นู๋แป๋มชนะเลิศค่ะ
:oni2: :oni2: :oni2:
กัสก้อได้มีเพื่อนสมชื่อตอนจิงๆ
-
มาต่อแล้วได้ใจมากๆ กลัวไอ้เดือนหนึงนี่ สองคนนั้นมันจะเที่ยวเพลินเลยอะดิ :a11:
-
แป๋มสุดยอด o13
-
โอ๊ยย สุดยอดดดดดได้แรงคับ
o13 o13 o13 o13
-
สมน้ำหน้า ไอ้ฟิมล์ไอ้กัส
โฮ่ๆๆๆๆๆๆๆ
โดนจนได้
แป๋มนี่ก็สุดยอดแรงได้ใจจริงๆ
o7 o7 o7 o7 o7 o7
o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
แป๋มเด็ดจริงๆ
-
o13 o13 แป๋มสุดยอดดดดดดดดด
-
เหอ เหอ มันส์อ่ัะ แป๋ม su su
:m14: :m14: :m14:
-
เลิศศศศ
-
แป๋มเด็ดขาดมาก ๆ :m1: :m1:
-
แป๋มทำดีมาก แต่ว่าไม่ตบไปซักทีเหรอ o12 อิอิ แอบโหด
-
สุดยอดเลย แป๋มนิ
-
o13 o13 แป๋มเจ๋งมาก :m20: :m20:
:m14: ในที่สุดสองพี่น้องก็โดนซ้า :m14:
-
กัสมีเพื่อน :m4:
คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย :oni1: :oni1:
-
เหอๆ กัสมีเพื่อนพิสูจน์ ความรัก ด้วยแย้วอ่ะ...อิอิ
-
:a4: :a4: :a4: :a4: :a4:
ไอ้กัสมีเพื่อนแร้วหายไปเลยหว่า
เมื่อไหร่จะมาต่อน๊า......
:a1: :a1: :a1: :a1: :a1:
-
ขอโทษนะคร้าบบบบบ ที่เอามาลงให้ช้า เพราะช่วงนี้ติดสอบด้วยนะครับ เหนื่อยมากมาย
แบงก์
++++++++++++++
ไอ้แป๋มไม่ตอบครับ แต่หันไปหาไอ้กัส ไอ้กัสซึ่งนั่งหัวเราะอยู่ก็เลยต้องเป็นฝ่ายเล่าขึ้นมาเอง พอเล่าเรื่องทุกอย่างจบไอ้ฟิล์มก็ประท้วงขึ้นมาทันที
“โห แป๋ม ใจร้ายอะ แล้วเดือนนึงนี่จะให้ฟิล์มอยู่กับใครหละ” ไอ้ฟิล์มกระเง้ากระงอด แบบว่าไม่พอใจสุด ๆ
“ตั้งเดือนหนึ่งเชียวหรอ”
“หรือว่าจะเป็นสองเดือน” ไอ้แป๋มพูดขึ้นมาอีกเมื่อเห็นว่าไอ้ฟิล์มยังแสดงท่าทีไม่พอใจ
“เดือนเดียวก็ได้”
“ถ้าในหนึ่งเดือนนี้แป๋มเห็นฟิล์มนอกลู่นอกทางอีกละก็ เราจบกัน” ไอ้แป๋มพูดอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า
“ใครจะกล้า” เสียงไอ้ฟิล์มบ่นกระปอดกระแปดลอดไรฟันออกมา ทำเอาผมกับไอ้แป๋มขำกันใหญ่
หลังจากนั้นไอ้แป๋มกับไอ้ฟิล์มก็พาเหรดกันกลับบ้านไป เราตกลงกันแล้วครับว่าทั้งไอ้กัสกับไอ้ฟิล์มนั้นจะเริ่มกันอาทิตย์หน้า ซึ่งก็เหลือเวลาอีก 5 วัน คืนนี้ไอ้กัสจะต้องกลับบ้านครับ เพราะว่าป้ามันโทรมาตามแล้ว คืนนี้ผมก็เลยต้องนอนคนเดียว
ช่วงเวลาที่เหลือก่อนที่จะนอนก็ไม่มีอะไรมากครับ ดูทีวี เล่นเกมไปเรื่อยเปื่อย พอสามทุ่มกว่าๆ กำลังดูทีวีอยู่ เสียงมือถือผมก็ดังขึ้น ผมก็รับสายโดยไม่ได้ดูหรอกครับว่าใครโทรมา นึกว่าไอ้กัส
“ฮัลโหล มีอะไรหรอคร้าบบบบ” กรอกเสียงอ้อนลงไปสุดฤทธิ์
“ไม่มีแล้วโทรมาไม่ได้หรอครับ” อ้าวฉิบ ไม่ใช่เสียงไอ้กัสนิหว่า ก็เลยหยิบโทรศัพท์ออกจากหูมาดูว่าเป็นใคร
“พัด”
“ฮัลโหล โทษที พอดีนึกว่าเพื่อนนะ”
“เพื่อนคนไหนหรอ ถึงได้พูดเสียงหวานขนาดนี้ กัสหรอ” ฟังดูก็รู้ว่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
“อ้อ อืม”
“อยากให้บิวพูดกับพัดแบบนี้บ้างจัง” o_O
“เหอะๆๆ แล้วนี่หายไปไหนมาตั้งหลายวัน ไม่เห็นโทรมาบ้างเลย” ดีนะหัวไว เปลี่ยนเรื่องได้ทัน
“อ้าว ก็เมื่อวานส่ง Message มาว่าเพิ่งกลับจากสิงคโปร์มา ว่าจะเอาของไปให้ ไม่ได้รับหรอ” เมื่อวานหรอวะ นึกไปนึกมา แน่ๆๆ เลย ต้องเป็น Message ที่ไอ้กัสลบไปแน่ๆๆ
“อ้อ ...เออ...ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ แต่พอดีลืมอะ...แหะๆๆๆ” ไอ้กัสนะไอ้กัส
“แล้วนี่ไปเที่ยวหรอ”
“อืม” ทำไมเสียงมันสลดลงไปว๊า
“เป็นอะไรหรือเปล่า บอกบิวได้นะ” ลืมไปว่าเรื่องของตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย อิอิ
“...........................”
“ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรนะ” ไม่อยากเซ้าซี้
“บอกดิ...บอก” พัดรีบชิงพูดแทรกขึ้นมาทีเดียว
“อืมมม...คือว่า...บิว”
“หืม”
“สมมุติว่า บิวไปชอบคน ๆ หนึ่งเนี่ยบิวจะบอกเขาไหม สมมุติเฉย ๆนะ” o_O
“ก็แล้วแต่นะ ว่าบิวกับเขาอยู่ในสถานะไหน ถ้าการที่เราบอกเขาแล้วอะไร ๆ มันจะดีขึ้นเนี่ย บิวก็คงบอกอะ แต่ถ้ามันแย่ลง บิวก็คงเลือกที่จะเก็บไว้คนเดียว...ให้มันตายไปกับบิวเนี่ยแหละ” พูดไปพูดมาแล้วนึกถึงตัวเองตอนที่แอบชอบคนอื่น ก็เลยพอจะเข้าใจหัวอกพัดนิดหน่อย แต่ว่ามันไปชอบใครวะ
“แล้วสมมุติอีกว่า ถ้าเขาคนนั้นอาจจะมีคนที่ชอบแล้วอะ บิวจะยังบอกไหม” อืม...ยากนะเนี่ย
“แต่มันคงไม่มีอะไรเสียหายนิถ้าเราบอกความจริง อย่างน้อยเราก็ถือได้ว่าเราได้ทำหน้าที่ของความรักเรียบร้อยแล้ว และทำเต็มที่แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเขาแล้วหละว่าเขาจะคิดยังไง”
“แล้วถ้าเขาปฏิเสธหละ บิวไม่เสียใจหรอ”
“อืม......ก็คงนิดหน่อยนะ แต่ถ้าความผิดหวังมันคือความจริง เราก็คงจะปฏิเสธมันไม่ได้หรอก จริงไหม”
“ความผิดหวังคือความจริงหรอ......แล้วบิวจะรับกับความจริงนั่นได้หรอ”
“เวลาไงพัด...เวลามันจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นนะ”
“อืม....ขอบใจมากนะบิว งั้นพัดรู้แล้วหละ ว่าพัดควรจะทำยังไง”
“อือ เอาใจช่วยนะ บางทีมันอาจจะไม่ใช่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ เนอะ”
“อืม ใช่ บางทีมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิด”
“ต้องยังงั้นสิถึงจะเหมาะกับสัตวแพทย์อย่างพัด 555+”
“ขอบใจมากนะ พัดสบายใจขึ้นเยอะเลย….ไม่รบกวนละ แล้วพรุ้งนี้เจอกัน พัดมีอะไรจะบอกนะ ฝันดีนะครับ”
“ครับ ฝันดีนะ พรุ้ง....” เอ๊ พรุ้งนี้เจอกันหรอ แล้วอะไรวะที่มันจะบอก คงจะเอาของฝากมาให้แหละ เมื่อกี้มันบอกว่ามีของมาฝากเรานี่น่า....
+++++++++++++
:a3:
-
สงสัยจะฝากตัวกับหัวใจมาให้ อิอิ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มาต่อด่วนๆ
พัดจะบอกเลยมั้ยเนี่ย
-
สงสาร พัด จังเลย
:เฮ้อ:
-
พัด รัก ....... เเน่เลย
อิอิ
รักคนมีเจ้าของน่าสงสารอ่า
TT__________TT
ขอให้สอบได้นะคะพี่เเบงก์
อวยพรคนอื่นวันนี้ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย
TT___________TT
555555555555+
-
:oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
ชัวร์!!!!!! ตัว และ หัวใจมาฝากแน่ ๆ
ฟันธงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
-
พรุ่งนี้รถไฟจะชนกันป่าว :oni2: :oni2: :oni2:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ:ตกลงพัดจะเฉลยความในใจแล้วเหรอคับ :m29: :m29: อย่างนี้กัสก็น่าสงสารดิคับ เพราะว่าจะต้องห่างไปเดือนนึงให้พัดเข้ามาทำคะแนนแบบเน้นๆเนี่ยะ :a5: :a5:
-
เฮ้อ ความรัก.... o2
-
หือ หือ ...เป็นกำลังจายให้จ้า o13 o13
-
อ่ะ...ยังนี้ เด๋ว พัด กับ กัส ก้อต้องเจอกันน่ะสิ...งิงิ
-
สั้นอะ.....................สั้นจัง :serius2: :serius2:
ยังอ่านไม่จุใจเลย แล้วจะมารอว่าพัดจะมาพูดอะไรต่อนะค่ะ
:oni1: :oni1: :oni1:
-
รถไฟชนกัน หุหุ :oni1: :oni1:
น่าสงสารพัดจัง :m15:
แต่ก็ยังเชียกัสอยู่อ่ะ :o8:
-
รีบกลับมาต่อเดี๋ยวนี้นะ... :oni3: :oni3: :oni3:
-
ความรักเวลามันมาก็มาซะแทบรับไม่ทัน เวลาไม่มีก็ไม่มีจิงๆ :เฮ้อ: รออ่านต่อนะ พัดจะเอาไรมาฝาก
-
รออ่านต่อจ้า
-
หลงรักคนมีเจ้าของก้อต้องทำใจ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
หรือพัดจะมาบอกว่าชอบบิว
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
น่าสงสารพัดอะ...
รับดามอกพัดได้ปะเนี่ย..
คิคิคิคิ..
:o12: :o12: :o12: :o12:
-
:a4:สงสารพัดจังเลยครับ แอบรักเขาข้างเดียว
-
เสน่ห์แรงจริง ๆ เลยบิว :m1: :m1:
-
:m4: จะติดตามต่อไปเช่นเดิมนะ
-
จะบอกรักแล้วหรอเนี่ย
-
ถ้าไม่รักก็ต้องตัดใจหล่ะนะ
แต่ก็จริง ถ้าได้บอก ก็บอกไป ถ้าคิดว่าเขารับได้
และไม่ทำอะไรให้มันแย่ลง
:oni2:
-
สงสารพัดจัง :sad2:
-
ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่หลาย ๆ เรื่องรุมเร้า ทั้งเรื่องเรียนที่มีทั้งสอบ รายงาน ทำให้หัวหมุมเหมือนกัน ไหนจะงานอีก จึงขอแจ้งว่า จะขอมาต่อในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้นะ รับรอง ไม่หายไปแน่นอน และจะเอามายาวๆๆๆ สัญญา แต่ตอนนี้ไม่ไหวจิง ๆๆคับ
-
ตามสบายเลยค่ะ เดี๋ยวทำงานรอได้ อิอิ :oni1:
-
ครับ เรื่องเรียนสำคัญกว่า
สอบเสร็จแล้วค่อยมาต่อนะครับ
แต่ถ้าว่างแล้วไม่มาต่อ มีเคือง 55+
-
มารอเหมือนกันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ :a4:
-
ค้าบ จะรอต่อไป...
วันอาทิตย์ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....
o7 o7 o7 o7
-
:m15: :m15:สงสารพัดอ่ะ พอมีคนมาชอบก็
มาพร้อม ๆ กันเลยเนอะ ทีเมื่อก่อนไม่มีกัส ก็ไม่มีพัด
เฮ้อ แปลก จิง ๆ เล้ย
-
รับทราบค้าบบ...แบงค์...^^
-
ขอโทษครับที่หายไปนาน หลังจากผ่านช่วงสอบ และทำ paper ส่งอาจารย์แล้ว ทุกอย่างก็เข้าสู่ภาวะปกติครับ
เกือบไม่รอดเหมือนกัน งวดนี้ถึงกับเข้าโรงบาล หุหุ
++++++++++
เช้าวันรุ่งขึ้น พัดมันก็มาตามสัญญาจริง ๆ มาแต่ไก่โห่เลยครับ ผมยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ
“อ้าว พัดมาปลุกบิวหรือเปล่า” พัดถามผมเมื่อผมที่อยู่ในสภาพหัวกระเซิง ตาบวมปูด ชุดนอนย้ำยู่ยี่ มาเปิดประตูให้มัน
“อ้อ ไม่หรอก พอดีบิวเพิ่งตื่นพอดี” ก็ตอนเมิงมาเคาะประตูนั่นแหละ
“เข้ามาก่อนดิ” ผมต้องเรียกพัดมันเข้าห้อง เพราะเห็นมันยืนบิดไปบิดมาอยู่ ไม่ยอมเดินเข้ามาซะที
ระหว่าที่พัดเดินเข้ามานั่งที่โซฟา ผมก็ได้มีโอกาสสังเกตเห็นพัดว่าวันนี้แต่งตัวมาดูดีเวอร์มั่ก ๆ เสื้อเชิดสีขาว กางเกงสีเทาสวมทับด้วยแจ็กเก็บสีน้ำตาลอีกที
“วันนี้พัดจะไปไหนหนอ” ผมถามขณะเดินไปหยิบน้ำมาให้มันกิน ตามมารยาท
“อ้อ เปล่านิ ก็มาหาบิวเฉย ๆ ทำไมหรอ“ อ้อ เหรอ นึกว่าเมิงจะไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวที่ไหน
“เปล่า เห็นแต่งตัวซะหล่อ” พอผมพูดจบ ไอ้พัดมันก็ยิ้มปากกว้างทันที ส่วนหน้ามันก็แดงไปถึงหู
“งั้นเดี๋ยวพัดนั่งรอแป็บนึงนะ เดียวบิวไปอาบน้ำก่อน น่าอายชะมันให้พัดเห็นตอนโทรม ๆ แบบนี้”
“ไม่หรอก น่ารักดี” o_O หยอดแต่เช้าเลยวุ้ย ผมไม่ได้ตอบอะไร แต่วิ่งหน้าแดงเข้าห้องไป หลังจากนั้น 15 นาที หลังจากทำกิจกรรมส่วนตัวด้วยความเร็วแสง พอออกมาจากห้อง ก็เห็นพัดกำลังง่วนทำอะไรซักอย่างอยู่ที่กรงที่ว่างเปล่าของเจ้าปลาทอง
“ทำอะไรอยู่หรอพัด “ ผมเดินเข้าไปเพื่อดูว่าพัดกำลังทำอะไร
“คิดถึงเจ้าปลาทองเนอะ พัดเป็นสัตวแพทย์แท้ ๆ ยังรักษามันไม่ได้เลย” คำพูดของพัด ทำให้ผมคิดถึงเจ้าปลาทองขึ้นมาเหมือนกัน
“อืม ไม่เป็นไรหรอก ไม่ใช่ความผิดของพัดหรอก เจ้าปลาทองมันแก่แล้วต่างหาก” ผมเดินเข้าไปตบไหล่พัดอย่างเข้าใจและให้กำลังใจ
“เอาอย่างงี้มะ เดี๋ยวพัดหาตัวใหม่มาให้บิวตัวนึง” พัดถามผมพร้อมเดินนำผมเข้ามาในห้อง
“ไม่เป็นไร อย่าดีกว่า บิวไม่อยากได้แล้วหละ กลัวทำมันตายอีก”
“อืม...งั้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าอยากได้สัตว์เลี้ยง บอกพัดนะ พัดจะหาให้” พัดพูดพร้อมหันมายิ้มให้ผม
“อืม ได้” ถ้าผมไม่ได้ชอบกัสนะ ผมคงอยากจะเป็นแฟนกับพัดเนี่ยแหละ
“เออ แล้วนี่บิวเปิดเทอมเมื่อไหร่หรอ”
“อีก 3 วันนะ” ใช่สิ อีก 3 วันก็จะเปิดเทอมแล้ว และนั่นก็หมายความว่า ผมกับไอ้กัสก็ต้องไม่เจอหน้ากัน ไม่ติดต่อกันอีก เดือนนึง
“บิว ๆๆ เป็นอะไรหรือเปล่า” ตอนนี้ไอ้พัดมันทำหน้างง ๆ ว่าทำไมอยู่ ๆ ผมถึงเงียบไป
“อ้อ เปล่านะ เออ แล้วไหนพัดบอกว่ามีของฝากจะให้บิวไม่ใช่หรอ” ผมต้องรีบฉีกรอยยิ้มกลบเกลื่อนเรื่องเมื่อกี้
“เออ ใช่ แหมๆๆ ไม่ค่อยงกเลยนะ” ดู ๆ มันแซว
“ไม่เอาก็ได้” เห็นมันแซวก็เลยต้องแกล้งงอนนิดหน่อย พยายามทำแก้มป่อง ๆ ให้ดูน่ารักที่สุด อิอิ
“อะๆๆ ล้อเล่นนิดเดียวเอง แค่นี้งอนไปได้ อะนี่ เราให้” พัดพูดพร้อมกับล้วงมืออกมาจากกระเป๋ากางเกง พร้อมกับกล่องเล็ก ๆ สีเขียว ผมรับมาถือไว้ในมืออย่างงง ๆ
“อะไรหรอ”
“อยากรู้ก็แกะดูสิ” พัดตอบพร้อมกับส่งยิ้มกลับมาให้ผม เฮ้ย น่ารักจัง...
ผมก็เลยค่อย ๆ แกะกล่องนั้นเบา ๆ ถ้าหากว่าผมอยู่คนเดียว ผมคงไม่ค่อย ๆ แกะอย่างนี้หรอก แต่นี้คนให้นั่งอยู่ตรงหน้า ก็เลยต้องรักษาภาพของตัวเองหน่อย พอผมเปิดกล่องออกดู ขางในก็มีกล่องอีกชั้นนึ่ง
“แหม ลึกลับจังนะ” ผมอดพูดไม่ได้ขณะค่อย ๆ เปิดกล่องชั้นในออก แล้วผมก็ได้เห็นของที่อยู่ด้านใน มันเป็นจี้เล็ก ๆ เหมือนลูกแก้วลูกเล็ก ๆ สีฟ้าน้ำทะเล ข้างในมีอะไรอยู่ก็ไม่รู้
“อะไรหรอ” ผมพยายามดูแล้วดูอีก หมุนซ้ายที ขวาที ก็ดูไม่ออกว่าข้างในมันเป็นอะไร
“หัวใจไง” พัดตอบพร้อมกับค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผม
“หัวใจหรอ” ผมก็ยังงงอยู่ดี ใช่ครับไอ้ของที่อยู่ข้างในมันดูเหมือนเป็นรูปหัวใจ แต่ว่าดู ๆ ไปมันก็ไม่ใช่อะ
“อืม เมอร์ไลออนนะ” ตอนนี้พัดค่อย ๆ เดินเข้ามาหาผม พร้อมกับเอามือจับมือผมที่ยืนถือจี้ลูกแก้วในมือ พร้อม ๆ กับยื่นหน้ามาและก้มดูลูกแก้ว จนหน้าเกือบจะชนกับหน้าผม
“หัวใจของสิงคโปร์” พอพัดเฉลย ผมก็เพ่งมองไปที่ลูกแก้วอีก ทำให้หน้าผมใกล้หน้าของพัดมากยิ่งขึ้น ใช่แล้วครับ ไอ้ที่ผมเห็นเป็นรูปคล้าย ๆ หัวใจนั้น จริง ๆ แล้วมันเป็นเมอร์ไลออน หรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละ มันมีอยู่ 2 ตัว หันหน้ามาชนกัน ตำแหน่งของมันทั้งสองตัวโค้งเข้าหากันจนเป็นรูปหัวใจพอดีเลย
“หัวใจของสิงคโปร์........หัวใจของพัดด้วยนะ”
“หัวใจของพัดหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นมามองหน้าพัด ตอนนี้ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจของพัดที่ยืนกุมมือผมที่ถือลูกแก้วอยู่
“อืม หัวใจของพัด พัดเกิดที่นั่น และบิวรู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วที่สิงคโปร์ มีเมอร์ไลออน 2 ตัว แต่มันถูกจับให้แยกออกจากกันและเหมือนกับว่ามันกำลังรอคอยอีกตัวหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้าม...มองเห็น...แต่ไม่ได้ใกล้ชิด..พัดเองก็เคยสงสัยเหมือนกันนะว่า เมื่อไหร่นะที่มันจะได้มาอยู่ด้วยกัน มันก็เหมือนกับพัดนะ ที่กำลังรอใครสักคนหนึ่ง
มองเห็น...
แต่ไม่ได้ใกล้ชิด...
“พัด” ผมครางชื่อพัดออกมาเบา ๆ
พัดยิ้มให้กับผมก่อนที่จะพูดว่า “แต่ในนี้ ในลูกแก้วนี้ มันสองตัวได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ มันต่างก็ได้เจออีกฝ่ายหนึ่งแล้ว...เหมือนพัดตอนนี้ไง”
ผมพอจะเข้าใจอะไรลาง ๆ ในสิ่งที่พัดบอกแล้ว
“บิวเก็บมันไว้ให้ดีนะ หัวใจของสิงคโปร์ ......แล้วก็หัวใจของพัดด้วย”
สิ้นเสียงของพัด ลมหายใจอุ่น ๆ ของพัดก็ค่อย ๆ รดบนใบหน้าผม ก่อนที่ผมจะทันตั้งตัวได้ ริมฝีปากของพัดก็ค่อย ๆ แนบลงอย่างแผ่วเบาบนริวฝีปากของผม สัมผัสในตอนแรกยังกล้า ๆ กลัว ๆ แต่เมื่อเห็นผมไม่ปฏิเสธ ดูเหมือนว่าเจ้าของริมฝีปากคู่นันจะดูมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นริมฝีปากร้อน ๆ ของพัดก็ค่อย ๆ เล็มเบา ๆ ไปรอบ ๆ ริมฝีปากของผม ก่อนที่จะเผยอริมฝีปากออก พร้อมกับลิ้นอุ่น ๆ ที่ค่อย ๆ ละเลียดไปตามริมฝีปาก แต่ก่อนที่ผมที่จะลืมตัวไปกับลิ้นร้อน ๆ นั้น ประตูก็เปิดผลัวะเข้ามาพอดี
“บิวววววววว ไปกินข้าวกะ.....กัน” เจ้าของเสียงที่พูดยังไม่ทันจบ ทำให้ผมกับพัดผละตัวออกจากกันทันที
“กะ...กัส”
-
หุหุ เจ้ากัสมีคู่แข่งแล้วววววววว....
555555555555555555
-
สงสารพัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พัดน่ารักอ่ะ
เปลี่ยนพระเอก ๆๆ 55555555+
-
รถไฟชนกันนนนนน :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
-
กัสเจอช๊อตเด็ด :o
-
จะมีพลิกล็อคมั้ยอ่ะ
....กัสเจอเข้าแล้วไง....
:sad2: :sad2:
-
ค้างอย่างแรง :o12: o7
-
เหอๆๆๆๆๆ :o :o :o
ต่อด่วนครับ o7
-
สงสารกัสอ่ะ
-
เดี๋ยวก็งอลกันอีกแหงง
-
งานนี้ มีป่วนแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :serius2:
-
เอาอีกแล้ว
ตายกันเลยทีเดียว คราวนี้
-
เอาล่ะเว้ย เฮ้ย
งานนี้มีเฮ :a3:
-
รักษาสุขภาพนะครับแล้วมาอัพนิยายต่อด่วนครับ :o8:
-
เวงแล้วมั้ยล่ะ
เห็นตอนไหนไม่เห็นนะกัส
ดันมาเห็นตอนนี้พอดี
:serius2: :serius2: :serius2:
-
แวะมาบอกว่า จะติดตามต่อไปนะ
-
มาเชียร์พัดนะ :bye2:
-
ยังไม่มาอีกเหรอ
รอหลายวันแล้วอะ
ค้างคาอย่างแรง
-
ผมหันไปมองไอ้กัส ตอนนี้ดูก็รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร ผมวิ่งเข้าไปหามันทันทีเพื่อที่จะอธิบายให้มันฟังว่าผมไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่ทันแล้วครับ มันปิดประตูเสียงดังปั้ง แล้ววิ่งออกไปตามทางเดิน ผมก็เลยรีบตัดสินใจวิ่งตามมันไป รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ เห็นมันยืนรอลิฟท์อยู่ ก็เลยเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันมัน พอมันเห็นผมวิ่งตามมา สายตาของมัน เป็นสายตาที่ผมไม่ชอบเลย มันปนกันไปหมด ระหว่างอารมณ์ตัดพ้อ โกรธ เศร้า และเสียใจ
พอมันยังเห็นว่าลิฟท์ยังไม่มา มันก็เลยตัดสินใจหันไปใช้บันไดแทน ผมก็เลยต้องวิ่งตามมันลงไป
“กัส กัสฟังก่อน” วิ่งไปพลางตะโกนเรียกมันไปเพื่อให้มันหยุด แม่ง ทำไมมันไวจังวะ
พอวิ่งมันลงไปถึงชั้นล่าง มันก็รีบวิ่งเข้ารถ พร้อมกับปิดประตูและรถก็กระชากตัวออกทันทีก่อนที่ผมจะไปถึง
“ไอ้กัส หยุดก่อน กัสสสสสสสส” ผมตะโกนสุดเสียงเพื่อให้มันได้ยิน แต่มันก็ไม่หยุดรถ ผมทำได้แต่ค่อย ๆ มองรถมันหลายไปทางหัวมุมซอยด้านหน้า
“เมิงเข้าใจกรูผิดนะ” แม้ว่าผมจะพูดออกไปเสียงดังขนาดไหน แต่ว่ามันคงไม่ได้ยิน ตอนนี้น้ำตาผมค่อย ๆ ไหลลงมาช้า ๆ ผมทรุดลงไปบนพื้นเพราะว่าหมดแรงยืน
ทำไมเมิงไม่ฟังกรูก่อน
ทำไม
ผมหมดแรงนั่งอยู๋ตรงนั้น นานพอดู จนมั่นใจว่ามันคงไม่หันรถกลับมาแล้ว ก็เลยตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อเดินกลับ
เข้าไปในห้องก็เห็นไอ้พัดนั่งซึมอยู่บนโซฟา ผมก็เลยเดินแบบเซ็งกระตายไปนั่งข้าง ๆ มัน
“ขอโทษนะ” ไอ้คนข้างๆ ผมพูดโดยไม่หันมามองหน้าผม เอาหน้านั่งก้มหน้าอย่างเดียว
“ไม่เป็นไร เราเองก็ผิด” ผมไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาปลอบมันว่าทั้งหมดไม่ใช่ความผิดขอบมัน มันรู้หละว่าผมกับไอ้กัสชอบ ๆ กันอยู่ แต่สิ่งที่ไอ้พัดทำก็ขอแค่ยังรักผมอยู่ แค่ได้รัก ซึ่งผมก็เข้าใจมัน เพราะว่าเคยเป็นแบบมันมาก่อน
“ให้พัดพูดให้เอาไหม” พัดมันเสนอความเห็นขึ้นมา
“ไม่ต้องหรอก เราจัดการเองได้” ถ้าไอ้พัดไปพูดเรื่องมันก็คงจะยุ่งกันเข้าไปใหญ่ ผมยอมรับว่าผมเองก็ผิดแหละ ที่เผลอใจไปนิดนึง แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่เคยนิ และอีกอย่างผมก็ยังคงรักมันอยู่นะ ทำไมไม่เชื่อใจกรูบ้างวะ อย่างน้อยฟังกรูอธิบายก็ยังดี เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ
แม้ว่าผมจะพูดว่าจะจัดการเอง แต่จริง ๆ แล้วผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำจะทำอะไรก่อนดี โทรไปแล้วก็ไม่รับสาย และหลังจากนั้นก็ปิดเครื่องหนีไปเลย สักพักผมจึงตัดสินใจว่าจะไปดูที่บ้านมัน ถ้ามันไม่อยู่ก็กะจะนั่งรอมันที่นั่นเลย
“ให้พัดไปด้วยไหม” ไอ้พัดหันมาถามผมเพื่อผมบอกมันว่าจะไปหากัสที่บ้าน
“ไม่เป็นไรหรอก” พัดกลับไปก่อนเถอะ
นิ่งไปสักพัก มันถึงพยักหน้าช้า ๆ อย่างเข้าใจ
“พัดขอโทษนะ” พัดหันมาพูดกับผมก่อนที่จะเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไป
หลังจากพัดกลับไปแล้ว ผมเลยรีบตรงดิ่งไปบ้านไอ้ฟิล์มซึ่งไอ้กัสมันพักอยู่ด้วยทันที
“อ้าว คุณบิว ไม่ได้มาซะนานเลยนะค่ะ” เสียงคนรับใช้ที่บ้านไอ้กัสทักผมขณะเปิดประตูให้ผมเข้าไปในบ้าน
“กัสอยู่ไหมครับ” ทำไมบ้านมันเงียบจัง เหมือนไม่มีคนอยู่
“อ้อ รู้สึกเหมือนจะยังไม่กลับนะคะ”
“แล้วคนอื่น ๆ หละคะ” คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชาย และคุณฟิล์มไปเที่ยวฮ่องกงค่ะ คงจะกลับพรุ้งนี้
“อืม พี่ศรีจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ ผมขอนั่งรอกัสตรงนี้ละกันนะ”
“ค่ะ” พี่ศรีซึ่งเป็นคนรับใช้ตอบก่อนจะวิ่งหายไปในครัว
เวลาผ่านไปช้า ๆ จาก 1 ชั่วโมง เป็น 2 ชั่วโมง 3 ชั่วโมง และ 4 ชั่วโมง ก็ไม่เห็นจะมีวี่แววไอ้กัสที่หน้าประตูบ้าน
นั่งก็แล้ว นอนก็แล้ว พลิกซ้าย พลิกขวา เดินไปเดินมา ผมก็ทำมาหมดแล้ว หนังสือที่โต๊ะ ก็หยิบมาอ่านจนจะจำได้ทุกตัวอักษรอยู่แล้ว
ไปไหนของมันว๊า~~~~~นี่มันจะ 4 ทุ่มแล้วนะ ส่วนพี่ศรี ก็มานั่งดูทีวีเป็นเพื่อนผม
+
++
สักพักผมก็ได้ยินเสียงบีปแตรลั่นหน้าบ้าน เสียงแตรดังลั่นไม่หยุด กลัวว่าแตรรถจะหลุดติดมือมันมาจริง ๆ
“คุณกัสมาแล้วค่ะ” เสียงพี่ศรีบอกผม ก็ที่จะวิ่งผลุบหายไปหน้าบ้าน สักพักหนึ่งผมก็ได้ยินเสียงเบรกรถดัง เอี๊ยดดดดดดด ดังสนั่นที่หน้าบ้าน ก็เลยวิ่งไปดู เห็นรถของไอ้กัสจอดแทบจะทิ่มเข้ามาในประตูบ้าน แต่มันก็ยังไม่ยอมลงมาซักที ผมกับพี่ศรีก็เลยวิ่งไปชะโงกดูตรงด้านคนขับซึ่งมันนั่งอยู่ เห็นมันค่อย ๆ เงยหน้าจากพวกมาลัยและยักแย่ยักยันเปิดประตูออกมา
โอโห้เมิง กลิ่นละมุดลอยมาแต่ไกล
“คุณกัสไม่เคยดื่มหนักแบบนี้มานานแล้วนะคะเนี่ย” หรือว่าจะเป็นเพราะกรูว่าเนี่ย เอาวะ รับผิดชอบหน่อยละกัน ผมจึงค่อย ๆ จับแขนของมันขึ้นมาพาดบนบ่าผม พร้อมบอกให้พี่ศรีช่วยอีกข้าง
“ดีนะค่ะ ที่คุณบิวอยู่ด้วย ไม่งั้นศรีไม่ไหวแน่ ๆ “ เสียงพี่ศรียังบ่นงืมงัมไม่หยุด แต่พอไอ้กัสพยุงตัวออกมาจากรถได้ มันก็สะบัดแขนใส่ผมทันที
“ปล่อยกรู” เมิงจะยืนไม่ไหวแล้วยังจะท่ามากอีก
“กัสเมานะ” ผมกับพี่ศรีพยายามที่จะเข้าไปพยุงปีกมันอีกทีหนึ่ง
“ปล่อยยยยยยยยยยยยยย” ไอ้กัสตะโกนตังลั่นก่อนที่จะผลักทั้งผมและพี่ศรีกระเด็นไปคนละทาง จนพี่ศรีก้นจ้ำเบ้ากับพื้น ส่วนผมนั้นปลิวไปกระแทกเสาหน้าบ้าน
ได้เลือดจนได้กรู
“พี่ศรีไปทำธุระของพี่เถอะ เดี๋ยวผมจัดการมันเอง” ผมปล่อยให้พี่ศรีวิ่งเข้าไปในบ้าน เมื่อเห็นว่าไม่มีคนอยู่แล้ว ผมก็เลยเข้าไปกระชากคอไอ้กัส เอามือทั้งสองข้างประคองหน้ามันให้มองมาตรง ๆ มองมาทางผม
“กัส นี่บิวเอง บิว” ไอ้กัสมันนิ่งไปแป็บนึงก่อนจะแสยะยิ้มออกมานิดหนึ่ง และก็หุบยิ้มตามเดิม
“บิวหรอ”
“อืม”
“มาทำไม” ก็มาง้อเมิงอะดิ ไอ้ฟายยยยยยยย
“มาง้อ” ฟอร์มวางไว้ก่อน
“ง้อ” มันทวนคำอย่างสงสัย คงเป็นเพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันต้องเป็นฝ่ายง้อผมมาตลอดมั้ง
“ช่างมันเถอะ แล้วทำไมเมามายังงี้หละ” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง
“สนใจด้วยหรอ” แดกกรูอีก ไอ้เวร
“เออๆๆๆ ไม่ถามหละ เดี๋ยวจะพาไปนอนนะ แกเมาละ” ผมจับแขนมันให้พาดบ่าผมอีกครั้ง คราวนี้มันยอมให้ผมพามันไปนอนด้วยดี แต่ก็ยังไม่วายกระฟัดกระเฟียดนิดหน่อย
กว่าจะถึงห้องนอนมันก็แทบจะตกบันไดตาย ตัวมันก็หนัก แถมเมาปลิ้นอีก -*-
พอถึงห้องปุ๊บ ผมก็จับมันโยนลงไปบนเตียง
“เจ็บนะ” ที่เงี้ยทำเป็นบ่น แล้วที่หัวกรูแตกนี่ไม่เจ็บเลยเนอะเมิง
“โทษ” ลืมไปว่ามาง้อมัน
สักพักนึงพอมันตั้งหลักได้ ก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง ก่อนจะค่อย ๆ ปีนลงจากเตียง คว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไป
“ไปไหน” ที่ถามมันเพราะว่ากลัวว่ามันจะไปล้มในห้องน้ำมาก ๆ
“อาบน้ำ” สะบัดเสียงใส่ ก่อนจะสะบัดตูดอีกทีนึงเดินเข้าห้องน้ำไป แหมเมิงเหมือนผู้หญิงมากกว่ากรูอีก ระหว่างที่รออยู่ข้างนอกก็ต้องเงี่ยหูฟังเสียงในห้องน้ำ กลัวว่ามันจะเอากระหัวกระแทกพื้นในห้องน้ำ พร้อม ๆ กับคิดว่าจะง้อมันไงดี
ผ่านไป 15 นาที ก็ได้ยินเสียงคลิกที่ประตู ผมก็เลยรีบวิ่งไปยืนขวางมันไว้หน้าห้องน้ำ ตอนนี้สภาพมันล่อแหลมมาก ๆ มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว พันรอบเอวไว้อย่างหลวม ๆ
พอมันเห็นผมยืนขวางไว้ก็มองหน้าผมแบบงง
“ทำไร” ทำเสียงแข็งนะเมิง”
“อย่าโกรธเลยนะ กัสเข้าใจผิดน๊า” พยายามทำเสียงออดอ้อนสุดฤทธิ์
มันเหลือบตามองผมทีนึง ก่อนที่จะขยับไปทางซ้ายเพื่อจะดันผมให้พ้นทาง แต่ผมไวกว่าเขยิบไปบังมันไว้ได้อีก
มันขยับไปทางขวา ผมก็ขยับไปทางขวา
“กัสเข้าใจผิดน๊า” นำเสียงออดอ้อนอีกที
“แต่กัสเห็น....” เออกรูรู้ว่าเมิงเห็น ไม่งั้นกรูคงไม่พล่านเป็นหมาบ้าแบบนี้หรอก
“ พัดเขาก็แค่เอาของฝากมาให้ แล้วก็เลย......”
“จูบ” ไม่ต้องพูดต่อกรูก็ได้นะ
มันเป็นความจริงนิน๊า ไอ้ผมก็เลยได้แต่ยิ้มรับหน้าเจื่อน ๆ
“แต่บิวไม่ได้คิดอะไรกับพัดนะ เป็นเพื่อนกันเท่านั้น”
“จิ๊ง ๆ “ ผมเห็นมันทำหน้าไม่เชื่อ ก็เลยย้ำมันอีกที ตอนนี้สีหน้ามันอ่อนลงนิดนึ่ง แสดงว่าได้ผล
“น่า นะ อย่าโกรธเลยนะ “ ผมไม่พูดเปล่า เอามือไปเขี่ยหน้าอกมันเล่น
“ นะๆๆๆๆๆๆๆ อยากได้อะไร ให้หมดเลย หายโกรธเถอะนะ”
“จริงนะ” มันพูดพลางมองผมด้วยสายตาหื่นใส่
ซวยแล้วสิกรู !!!!!!~ เข้าทางมันเลย
-
อ๊าก จบแบบค้างอย่างแรงอ่ะ ใจร้าย! T-T :m15:
-
:o8: :oni1: :m1:
-
เข้าทางกัสเขาล่ะ :m4: :m4: :m4: :m4:
-
กัสนี่เอาบางอย่างมาล่อก็ยอมเเละ
หื่นจริง 5555+
-
อาจจะเป็นแผนของกัสเพื่อการณ์นี้ :o9:
-
โอ้โห
จบอย่างนี้
ฆ่ากันเลยคับพี่น้องคับ
o7 o7 o7 o7
-
ฆ่ากันให้ตายเลย จบแบบนี้ ตอนหน้า ห้ามเซ็นเซอร์นะ :oni3:
ไม่งั้นมีเคือง :o :angry2:
-
รอฉาก...เลยอะ
-
จบแบบนี้อีกและ อานมณ์เสียยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :serius2:
-
ค้างอย่างแรงงงงงงงงงงงงง
มาต่อไวๆ นะค้าบบบบ
:serius2: :serius2: :serius2:
-
จะง้อไงเนี่ย รออยู่น้า :m12: :m12:
-
ค้างคามากอ่ะ
-
กลับมาก้อต่อแร้วววว
สนุกมากมายเลยคับ
-
เข้าทางไอ้กัส :oni2:
-
มันไม่พูดเปล่า แต่ค่อย ๆเดินเข้าใส่ผม จนผมต้องถอยหลังออกอย่างรวดเร็ว
“จะทำอะไร”
“แล้วคิดว่าจะทำอะไรหละ” ยังมีหน้ามาย้อนกรูอีกนะเมิง
“อย่านะเว้ย เดี๋ยวพี่ศรีได้ยินหรอก”
“ก็จะแค่นั่งคุยกันเฉย ๆ พี่ศรีไม่ได้ยินหรอก”
--//-- แป่วววว นั่งคุยกันเฉย ๆ หรอ
ว่าแล้วมันก็นั่งลงบนเตียง แล้วจับผมนั่งลงบนตักมัน ในสภาพที่ตอนนี้มันแต่งตัวล่อแหลมนัก ทำให้ผมไม่มั่นใจในความปลอดภัยของตัวเองเท่าไหร่ และดู ๆ ไปหน้ามันก็แดง ๆ คงยังสร่างเมาไม่สนิท
“ขอโทษนะที่ผลักเมื่อกี้” เพิ่งนึกได้หรอเมิง
“ดูสิ เลือดไหลเลยนะ” แล้วใครทำละ มันค่อย ๆ เอามือขึ้นมาลูบหน้าผากที่มีเลือดแห้ง ๆ เกาะติดอยู่
“ไม่เป็นไร นิดหน่อย แต่อย่ามีอีกก็แล้วกัน”
“มา ก้มหัวมา” แล้วมันก็โน้มคอผมลง แล้วค่อย ๆ กดริมฝีปากอุ่น ๆ ของมันแนบลงบนแผล
“อย่า มันสกปรกนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก…เจ็บไหม
“ลองมาโดนมั่งดิ” เจ็บชิบ
”ก็บิวอะ ไปยืนให้พัดมันจูบทำไมก้ไม่รู้”
“ก็....ไม่ได้ตั้งใจ”
“ทีหลังอย่าไม่ได้ตั้งใจบ่อยละกัน”
“แล้วนี่หายโกรธบิวยัง”
“ยัง” นี่เมิงยังไม่หายโกรธกรูอีกหรอ
“ง่า --//--”
“แล้วจะให้ทำอะไรอีกอะ”
“ยกเลิก 1 เดือน แล้วจะหายโกรธทันที” โหเมิง ได้คืบจะเอาศอก คิดหนักเลยนะเนี่ย
“แต่มันคนละเรื่องกันนะกัส”
“แต่ประเด็นเดียวกัน” ไอ้กัสพูดต่อให้ผมเสร็จสรรพ
“นะ”
“........................” เอาไงดีวะกรู
“ไม่งั้นไม่หายโกรธด้วย” ไม่ต้องมากระเง้ากระงอดเลย เฮ้ยยยย นี่กรูต้องแพ้มันอีกใช่ไหมเนี่ย
“ก็ได้ๆๆๆๆๆ”
เท่านั่นแหละ ไอ้กัสยิ้มหน้าบานเป็นจานไทยคมเลยนะเมิง
“แล้วนี้ไอ้หมอหมานั่นมันจูบบิวที่ไหนบ้าง”
“ไปว่าเขา เขาเป็นสัตวแพทย์นะเว้ย”
“เออๆๆๆ นั่นแหละ บอกมา ว่ามันจูบตรงไหนบ้าง”
“ก็ตรงนี้” ผมตอบมันพร้อมกับเอามือชี้ไปที่ปากตัวเอง
“งั้นยื่นหน้ามาใกล้ ๆ สิ”
“มีไรหรอ” งงสิครับ
“ยื่นมาเหอะน่า” แต่มันไม่รอให้ผมสงสัยอะไรไปมากกว่านี้ มันใช้มือที่กอดผมอยู่ประคองหน้าผมเอาไว้ และยื่นปากของมันมาประกบปากผมทันที
o_O
“เนิ่นนานมาก ๆ ที่ปากของมันเล็มอยู่บนริมฝีปากของผม ตอนแรกกะว่าจะเม้มปากให้แน่นเอาไว้ แต่ด้วยลีลาของมันทำให้ผมค่อย ๆ เผยอริมฝีปากออก จนทำให้มันสอดลิ้นอุ่น ๆ เข้ามาในปากผมได้อย่างถนัด
ปากมันประกบปากผม
ลิ้นมันก็พันลิ้นผมจนแทบจะกลายเป็นเงื่อนพิดรอด ความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูง ๆ
จนรู้สึกได้ว่าถ้าไม่รีบเอาปากออก ผมอาจจะต้องตายก่อนเรียนจบเพราะหายใจไม่ออกแน่ ผมจึงเอามือที่ไม่ค่อยจะมีแรงของผมขึ้นมาดันหน้าของมันออก เพื่อร้องขออิสระในการหายใจ
สักพักใหญ่ ๆ จนมันจะยอมถอนริมฝีปากมันออกจากริมฝีปากผม
“เมิงทำไรเนี่ย” ผมพูดไปหอบไป
“อ้าว ก็ลบรอยจูบไอ้หมอหมานั่นไง”
“สัตวแพทย์” ผมต้องรีบเถียงกลับ
“เออ นั่นแหละ สัตวแพทย์” กรูเกลียดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้ของเมิงจัง ทำให้กรูรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย
“แล้วมันจูบตรงไหนอีก”
“ไม่มีแล้ว” ถึงมีก็ไม่บอก เดี๋ยวกรูตายกันพอดี
“ดี แต่ถึงยังไงก็ต้องจูบอีก”
o_O ยังไม่ทันตั้งตัว มันก็กอดผมไว้แนะมันก็นอนหงายลงบนเตียง ทำให้สภาพของผมตอนนี้หมิ่นเหม่มเป็นที่สุด ตัวบนทาบลงบนตัวมันที่เกือบจะเปลือย แล้วมันก็กอดผมไว้ ทำให้แก้มของผมแนบลงบนอกเปลือยของมัน หอมดีจัง!!
“ทีหลังอย่าไปยืนให้ใครจูบอีกนะ นอกจากกัสคนเดียว”
“จะพยายาม” กวนตรีนมันหน่อย
“บิว” ไม่ต้องเสียงเขียวแบบนั้นก็ได้ -*-
“อืม จะไม่ทำแล้ว”
ผมไม่เห็นว่ามันทำหน้ายังไง แต่ด้วยแรงสั่นที่หน้าอก พอจะทำให้ผมเดาได้ว่ามันคงหัวเราะด้วยความพอใจ แต่ขณะกำลังเคลิ้ม ๆ อยู่นั้น มันก็รีบพลิกตัวผมให้กลับเป็นฝ่ายนอนอยู่ด้านล่าง แล้วมันก็พลิกกลับขึ้นมาคล่อมผมทันที
“อะ...เอาจริงหรอ” นึกว่ามันพูดเล่นซะอีก
“อืม” ตอบมาได้หน้าตาเฉยนะเมิง ส่วนมือมันก็ไม่อยู่สุข ค่อย ๆ ลูบไปตามเอว และสะโพกของผมตลอด
“เดี๋ยวพี่ศรีได้ยินนะ”
“ไม่ได้ยินหรอก”
“นะ บิวนะ สัญญาว่าจะทำเบา ๆ “
“แต่..............” พูดได้แค่นั้นแหละครับ ปากของผมก็ถูกปิดด้วยปากไอ้กัสอีกที คราวนี้ดูรุนแรงกว่าเก่า เสียงลมหายใจดังฟืดฟาด ขณะที่ปากมันทำงาน มือของมันก็ค่อยล้วงเข้าไปในเสื้อ พร้อมกับคลึงหน้าอกไปพร้อม ๆ กัน ผมโดนโจมตีทั้งข้างบนข้างล่างแบบนี้ ก็ทำให้ตัวอ่อนระทวยได้เหมือนกัน
++++++++
กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนงาน เลยมาลงให้ช้า โทษทีครับ :L1:
-
หึ หึ...เข้าทาง
แต่ค้างคานะ :serius2:
อยากเปลี่ยนงานบ้างจัง
-
:a4:สัญญาเป็นโมฆะ
-
:o8: เข้าทางกัสจริงๆ แต่...ค้างง่ะ o7
-
เสร็จกัส :oni1:
-
:m1: :m1:คริ คริ เข้าทางจิง ๆ ด้วย :m1: :m1:
-
ติดตาม เรื่องนี้มานานแล้วคร้าบบบ ไม่ได้มาเมนท์ให้กำลังใจซักที
สู้ๆครับ เป็นกำลังใจจาติดตามต่อไป คริคริ
น่าร้ากจัง o13
-
อ่ะจ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
มีโดน งานนี้มีโดน
-
กะแล้ว กัสไม่พลาด :oni1: :oni1: :oni1:
-
เย้ๆมาต่อแล้ว o7
รอตอนต่อไปนะครับ :m13:
-
อิๆๆ ได้อีก
-
บิวจะเป็นไงเนี่ย o2 o2 :o8: :o8:
-
และแล้วบิวก็เสร็จกัสจนได้ อิอิอิอิอิ
-
และแล้วก็เสร็จกัส
:laugh: :laugh: :laugh:
-
555555555+
โดนจนได้
-
:m4: :m4: เข้าทางกัสสุดๆเลยนะค่ะตอนนี้ :laugh: :laugh:
-
ตอนหน้ามาอธิบายต่อนะ ห้ามเซ็นเซอร์ ไมงั้นมีโกรธ :serius2: :angry2: :o
-
อุ้ย ค้างคาคร่ะ :m25: :m25:
มาต่อด่วนนะค่ะ
หุหุสนุก :o8: :o8:
[attachment deleted by admin]
-
และแล้วสัญญาก็ถูกยกเลิก
-
ลงตัวไว ๆ เน้อ
ขอให้มีความสุขกับงานใหม่นะ
-
พอมันเห็นผมไม่ขัดขืนแล้ว มันจึงค่อย ๆ ถอดเสื้อผมออกพร้อมกับใช้ปลายลิ้นหยอกล้อกับหัวนมผม ทำเอาผมต้องหลุดครางออกมา ไอ้กัสมันยิ่งได้ใจที่นี้เลยใช้ลิ้นละเลงกับหัวนมผมใหญ่เลย
สักพักมือมันที่เหลืออีกข้างก็ค่อย ๆ ปลดกางเกงผมออกอย่างชำนาญ ผมเหลือลิงตัวจ้อยเป็นปราการด่านสุดท้ายแล้ว ส่วนผ้าเช็ดตัวที่ไอ้กัสนุ่งอยู่ตอนนี้ไม่รู้ว่ามันหลุดไปอยู่ที่ไหนแล้ว ตอนนี้ต่างคนก็แทบจะเปลือยกันทั้งคู่
หลังจากที่ไอ้กัสเล่นกับหัวนมผมจนมันแดงเถือกแล้ว มันก็ค่อย ๆพรมจูบไล่ลงไปเรื่อย ๆ จากยอดอกถึงหน้าท้อง ผ่านสะดือ ก่อนที่มันจะดึงกางเกงในผมออก ทำให้บิวน้อยตอนนี้ชี้หน้ามันพอดี
“กะ...กัสสส อย่า...อ๊าร์” ผมต้องหลุกปากร้องครางออกมา เมื่อไอ้กัสใช้มือกอบกุมบิวน้อยพร้อมกับรูดขึ้นลงเบา ๆ ส่วนมืออีกข้างนั้นค่อย ๆ สอดเข้าไปยังเบื้องหลัง
“กะ...กัส เจ็บ” จะไม่ให้เจ็บได้ยังไงกันหละครับ ก็มันสอดนิ้วเข้าไปโดยไม่มีตัวช่วยเลยนิหน่า”
“เจ็บหรอ” เมิงมาโดนบ้างไหมหละ
“งั้นเดี๋ยวนะ” มันค่อย ๆ ขยับตัวขึ้นมาพร้อมกับเอื้อมไปที่หัวเตียง และหยิบเจลหล่อลื่นที่ยังใหม่แกะกล่องออกมา และก็บีบใส่มือมาทาที่ประตูหลังผม ผมสะดุ้งนิด ๆ เมื่อสัมผัสกับเจลเย็น ๆ ที่ไอ้กัสชะโลมลงมา แล้วมันก็ลงไปอยู่ในท่าเดิม พร้อมกับค่อย ๆ สอดนิ้วเข้ามาเหมือนเดิม ซึ่งตอนนี้มันสอดเข้ามาได้ง่ายขึ้น จากนิ้วหนึ่งเพิ่มเป็นสองนิ้ว และสามนิ้ว ผมรู้สึกเจ็บหน่วง ๆ บริเวณท้องมากขึ้นเมื่อมันค่อย ๆ ขยับนิ้วทั้งสามของมันเข้าออก
“อะ ๆๆๆๆๆๆ กัส บิวจะอะ...ออกแล้ว” ผมร้องออกมายังไม่ถนัดนักเมื่อจังหวะมือที่รูดบิวน้อย กับที่ทะลวงประตูหลังนั้นทำงานประสานกันได้อย่างดีเยี่ยมทำให้ผมใกล้จะถึงสวรรค์แล้ว
แต่....เมื่อมันเห็นผมใกล้จะเสร็จแล้ว มันดันหยุดมือทั้งสองของมันไว้เฉย ๆ จนทำให้ผมซึ่งอีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้วต้องแดะสะโพกขึ้นสวนมือมัน แต่มันก็ยังไม่ขยับมือมันอยู่ดี
“กะ...หยุดทำไม จะแกล้งกันหรอ” ผมด่ามันไป หอบไป
“เปล่า แต่ไม่อยากให้บิวเสร็จเร็ว” ยังมีหน้ามายิ้มอีกนะ
มันค่อย ๆ ยันตัวเองลุกขึ้นนั่งพร้อมกับถอดกางเกงในมันออก ไอ้กัสน้อยซึ่งมีขนาดไม่น้อยเลยชี้โด่เด่ ท้าทายอย่างน่ากลัว ทำให้ผมต้องจ้องมองมันอย่างลืมตัว จนตอนนี้มันค่อย ๆ พยุงผมลุกขึ้นและนั่งไปบนตักมัน จนกัสน้อยของมันเสียดสีกับบิวน้อยของผม
“บิวทำบ้างนะ กัสอยากให้บิวทำให้กัสบ้าง” มันพูดพร้อมกับจูบปากผม
“ทำไง ทำไม่เป็น ...”
“น่านะ เดี๋ยวสอนให้” มันว่าเสร็จก็จับสะโพกผมสูงขึ้นนิดนึง ส่วนอีกมือมันก็จับกัสน้อยของมันให้ตรงกับประตูหลังของผมพร้อมกับค่อย ๆ จับสะโพกผมและค่อย ๆ กดลงมาทีละนิด ๆๆ
“อะ...เจ็บ” อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้เจลมันแห้งแล้วมัน มันก็เลยเอื้อมไปหยิบเจลขึ้นมาชโลมที่กัสน้อยของมันจนชุ่ม และค่อย ๆ จับสะโพกผมกดลงไปใหม่
“บิวลองควบคุมดูเองนะ ถ้าเจ็บก็หยุดนะ” มันพูดพร้อมๆ กับวางมือมันที่สะโพกผม ตอนนี้ผมค่อย ๆ กดสะโพกลงลงตัวมันทีละนิด จนรู้สึกได้ว่ามันเข้าไปถึงไหนๆๆแล้ว
“เจ็บไหม”
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
“อย่าเพิ่งขยับนะ” ผมบอกมันในขณะที่ตอนนี้กัสน้อยของมันเข้าไปอยู่ในตัวผมหมดแล้ว
“ทีนี่ บิวลองยกตัวขึ้น แต่อย่าให้หลุดนะ และค่อย ๆ กดลงมาใหม่” มันบอกผมพร้อมกับจับสะโพกผมยกขึ้น และหยุดค้างเอาไว้ และจับกดลงมาอีกที
“อ้าร์.....ฟิตดีจัง” ทีนี้ไอ้กัสเป็นฝ่ายครางออกมาบ้าง มันควบคุมผมสองสามครั้งได้และหลังจากนั้นก็ปล่อยให้ผมโซโล่เอง นี่นี้พอผมจับจังหวะได้ก็เลยบรรเลงเองเลย
“อะ ๆๆๆๆ บิว....กะ...กัสเสียวจังเลย อาส์“ เมื่อผมเห็นไอ้กัสคราง ผมยิ่งได้ใจ ยิ่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ตอนนี้ไอ้กัสมันก็เด้งเอวสวนขึ้นมาด้วย ทำให้ตอนนี้ต่างคนต่างครางออกมาด้วยความเสียว มือที่ว่างของมันก็รูดบิวน้อยของผมไปด้วย พร้อมกับปากของมันก็ดูดหัวนมผมสลับกันไปมาซ้ายขวา
“กัส บิวจะถึงแล้ว”
“กัสก็จะเสร็จแล้ว เสร็จพร้อมกันนะ” ตอนนี้ไอ้กัสมันยิ่งเร่งมือของมันกับบิวน้อยของผมเร็วขึ้น ซึ่งสอดประสานกันเป็นอย่างดีกับจังหวะเอวของผม หลังจากนั้นสักพัก ผมก็ถึงสวรรค์ พร้อมกับปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมารดหน้าท้องไอ้กัสเต็มไปหมด จังหวะบีบรัดของร่างกายผม ทำให้ไอ้กัสก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน มันร้องออกมาดังลั่นก่อนที่มันจะปล่อยน้ำอุ่น ๆ ของมันเข้ามาภายในตัวผม มันมากเสียจนมันล้นออกมาเลอะที่นอนเต็มไปหมด
ผมเหนื่อยจนหมดแรง เลยเอาหัวไปซบกับไหล่มัน ส่วนมันก็หอบเป็นหมาหอบแดดพร้อม ๆ กับค่อย ๆประคองผมนอนลงบนเตียงทั้ง ๆ ที่ไอ้นั่นของมันยังคาอยู่ในตัวผม ก่อนที่จะหลับไปด้วยกันทั้งคู่
ตื่นเช้ามา ตอนแรกก็งง ๆ ว่าอยู่ที่ไหน แต่พอคิดได้ก็โมโหตัวเองว่าเสร็จมันอีกแล้ว ว่าจะมาง้อมันอย่างเดียวแท้ ๆ เชียะ
แล้วดูสิ คราบอะไรต่อมิอะไรก็ยังไม่ได้ล้าง หันไปมองไอ้คนข้าง ๆ ก็เห็นนอนหลับตาพริ้มดูท่าทางสบายใจ
“อยากอีกใช่เปล่า” เสียงของมันทำเอาผมที่กำลังมองมันเพลิน ๆ ถึงกับสะดุ้ง เจ้าเล่ห์นักนะ ตื่นแล้วมาทำเป็นหลับ
“ตื่นแล้วก็ไม่บอก ปล่อยก่อนจะไปห้องน้ำ” แหม ก็ตอนนี้มันนอนกอดผมซะแน่นจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกันแหละ
“จุ๊บก่อน” มันพูดพร้อมกับหลับตาพริ้มเลย
“ไม่เอา...ไม่เล่นแล้ว” สงสัยชาติที่แล้วเป็นปลาหมึก มือถึงเหนียวขนาดนี้ แกะยังไงก็ไม่หลุด
“ถ้าไม่จุ๊บก็ไม่ให้ไป”
“จ๊วบบบบบบบบบบ”
ผมจูบมันดังจ๊วบใหญ่ ๆ ก่อนจะสลัดตัวจากตัวมันเพราะความเขิน คว้าผ้าห่มพันร่างกันอุดจากก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำไปยืนสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ สำรวจตัวเองแล้ว โอโห แดงเถือกไปทั้งตัว
-
:m25: :m25: :m25:
-
อยากโดนบ้างจัง อุ๊ยพูดไรไป :o8:
-
:m25: :m25: :m25: :m25: :m25: เสียเลือดด้วยคน :o8:
-
:m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
:o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
[attachment deleted by admin]
-
:m25: :m25: :m25: :m25:
-
เหนื่อยมั้ยบิว
น่าสงสารเนอะ คงเหนื่อยน่าดู
งั้นต้องทำบ่อยๆ นะ จะได้ชิน เอิ๊กๆ
:laugh: :laugh:
-
555+ โดนจนได้ เป็นไงล่ะ
-
:m25: :m25: :m25:
:a2: :a2: :a2:
-
:oo1
บิวเสร็จกัสแล้วซิ
-
เลือดหมดตัวเลยอ่า :m25:
-
:m23: :m23: น่ารักมากๆ เลย ... จะบ้าตาย ...
มาต่อไวๆ นะครับ .... :m4:
-
:m29: :m29:เหลือเกิน!!!
-
โอ้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว :m25:
-
:m25: :m25:
กำเดาไหลเยย คริคริ
-
เหนื่อยมั้ยบิว
น่าสงสารเนอะ คงเหนื่อยน่าดู
งั้นต้องทำบ่อยๆ นะ จะได้ชิน เอิ๊กๆ
:laugh: :laugh:
^
^
^
^
เห็นด้วยกะน้องป๋อมแป๋ม o13
-
ยิ้ม อิอิ.........
-
:m25: :o8: :m25: :o8: :m25: :o8: :m25: :o8: :m25: :o8:
ต้องอย่างนี้สิบิว อิอิ
มาต่ออีกนะ งิงิ
-
:a4:เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์ครับ
-
:m23: :m23: แฮะๆๆๆ แบบว่า เออ คือว่า อืมมมมมมมมมคือมาทวงน่ะ อิอิ
อยากอ่านต่อแล้วน่ะเนียรีบๆๆมาต่อน่ะงับบบ
ไม่งั้นคงจะได้เห็นคนคลั่งตายตรงนี้แน่ๆๆเลย
:sad2: :sad2:
-
:m7: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:
ฮ่าๆสะจายเว้ยยยยยยยยยยยยยย :a4: :a4: :a4: :a4:
-
ต่อด่วนเลย
:oni3: :oni3:
-
เฮ้ออออออออออออออออ
:a11: :a11: :a11: :a11:
อยากให้ไอ้ฟิล์มเป็นพระเอกมากกว่าไอ้กัสอีก o7 o7 o7 o7 o7 o7
เชี่ยร์ไอ้ฟิล์ม ให้มันชอบไอ้บิว ฮ่าๆ :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2:
-
มาต่อเร็วนะ :a2: :a2: :a2: :a2: :a2: :a2:
คนอ่านอยากจะตาย :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
ถ้าไม่ได้อ่านเรื่องนี้ :a1: :a1: :a1: :a1: :a1: :a1:
ยังไงก้อยังเชียร์ให้ฟิล์มเปงพระเอกเหมือนเดิมนะ :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
:bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
-
:oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
จ
ง
ม
า
:oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
-
หนุกหนานคับ
:pig4:
-
มา
รอ
ด้วย
คน
:oni3:
:oni3:
:oni3:
-
ขอโทษครับที่มาต่อให้ช้า โทษทีนะครับ
ตอนนี้กำลังคิดมากในหลายๆ เรื่อง
เศร้า+++
เหงา+++
เครียด+++
หาทางออกไม่เจอ+++
ใครที่เห็นผมหัวเราะได้ คงคิดว่าสบายดี แต่จริง ๆ แล้ว..........เฮ้ย
++++++++++++++++++
จัดการทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินลงมา เห็นไอ้กัสหลับไปแล้วด้วยความสบายอกสบายใจ ไอ้เราก็เหนื่อยเหมือนกันก็เลยล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ก่อนจะหลับไปด้วยความรวดเร็ว
+
+
หลังจากวันนั้นก็เข้าสู่ช่วงเปิดเทอม ทุกอย่างก็ยังคงไปได้สวยครับ แม้ว่าผมกับไอ้กัสจะไม่ได้อยู่มหาลัยเดียวกันก็ตาม แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ ไอ้กัสก็จะคอยมานั่งรอผมกับไอ้แป๋ม ส่วนไอ้ฟิล์มถูกสตูเปฟายใส่ จนทำให้ไม่สามารถมานั่งรวมอยู่กับไอ้แป๋มได้ครับ555 แต่มันก็ยังคงมาด้อม ๆ ทำตาตก หางห้อยอยู่รอบ ๆ ไอ้แป๋ม ซึ่งก็ทำให้ไอ้แป๋มใจอ่อนในบางครั้งต้องเรียกมันมานั่งกินข้าวด้วย เพราะไอ้นี่มันคุณชายครับ ไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนหรอกนอกจากผมกับไอ้แป๋มและไอ้กัสเนี่ยแหละ
ชีวิตรักของผมกับไอ้กัสก็ราบรื่นดี จนไอ้แป๋มอิจฉาว่าทำไมไอ้ฟิล์มมันไม่นิสัยเหมือนไอ้กัสบ้างทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านเดียวกันแท้ ๆ เช้าไอ้กัสก็จะไปรับมาส่งที่มหาลัย เย็นถ้าผมเลิกหลังมันมันก็จะมานั่งรอ แต่ถ้าวันไหนที่ผมเลิกก่อนมัน ผมก็จะต้องเป็นฝ่ายนั่งรอมัน จนเดี๋ยวนี้เราตัวติดกันแล้วครับ จนมีอยู่วันหนึ่ง
“บิว ๆ พรุ้งไปกินข้าวที่บ้านกันนะ” ไอ้กัสชวนผมขณะที่มันมารอรับผมที่มหาวิทยาลัยครับ
“อืม ได้สิ มีอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก พอดีคุณป้าเขาบอกให้กัสชวนบิวไปกินข้าวด้วยนะ มีเรื่องจะคุยด้วย” คุณป้าที่ว่านี้หมายถึงแม่ไอ้ฟิล์มครับ
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า กัส” ชักกลัว ๆ ขึ้นมาแล้วสิเนี่ย
“ไม่รู้สิ ไม่มีอะไรหรอก” แม้ว่ามันจะบอกว่าไม่มีอะไร แต่ในใจผมนี่คิดไปไหนถึงไหนแล้วครับ ร้อยวันพันปี แม่ไอ้ฟิล์มไม่เคยชวนผมไปกินข้าว จะมีพูดคุยกันบ้างก็ตอนที่ผมไปบ้านมัน แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไร แถมนี้บอกว่าจะมีเรื่องคุยด้วย เฮ้ย แล้วมันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย
พอถึงวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันที่ผมต้องไปกินข้าวที่บ้านไอ้กัส ด้วยความกังวลทำให้เมื่อคืนผมนอมไม่หลับทั้งคืน กลัว กลัวไปหมด กลัวว่าป้าไอ้กัสมันจะรู้ กลัวว่าป้าไอ้กัสมันจะห้ามให้เราคบกัน กลัวๆๆๆๆๆๆๆ
แม้ว่าเวลานัดจะเป็นตอนเย็น แต่ผมก็แต่งตัวรอตั้งแต่ตอนบ่าย อาจจะเป็นเพราะว่าตื่นเต้นบวกกับกลัวด้วย เมื่อคืนอุตสาห์โทรไปปรึกษากับไอ้แป๋ม แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย ไอ้แป๋มมันบอกผมว่าป้าไอ้กัสใจดี ก็แน่อะดิ มันเป็นผู้หญิงนิ แถมผู้ใหญ่ของทั้งคู่ก็รู้จักกันด้วย
พอ 5 โมงเย็นปุ๊บ ไอ้กัสก็มารอรับที่หน้าหอด้านล่าง ตอนแรกมันบอกว่าจะขึ้นมา แต่ผมห้ามมัน เพราะกลัวว่าจะชักช้าเสียเวลา เลยบอกให้มันรอข้างล่างนั่นแหละแล้วผมจะลงไปเอง
ระหว่างที่อยู่บนรถ ผมก็นั่งแบบไม่พูดไม่จา นั่งกัดเล็บไปตลอดทางเพราะความเครียด
“กลัวหรอ” ไอ้กัสคงสังเกตเห็นผมเครียดมั้งครับ
“อืม นิดหน่อย” แต่จริง ๆ แล้วไม่หน่อยละครับ กลัวมากมาย
“เชื่อดิ ไม่มีอะไรหรอก” แล้วมันก็ยิ้มให้กำลังใจผมทีนึง ผมก็เลยต้องยิ้มตอบกลับไป ผมว่ามันก็คงเครียดเหมือนกันนั่นแหละ แต่งคงไม่อยากให้ผมไม่สบายใจมั้ง เลยไม่พูดออกมา
พอถึงบ้านไอ้กัสแล้ว ก่อนลงจากรถมันก็เอามือมาจับมือผมทีนึงเพื่อให้กำลังใจ แต่ดูเหมือนมือมันจะสั่นนิด ๆ แล้วมันก็เดินนำผมเข้าไปในบ้าน
ป้าไอ้กัสนั่งรออยู่แล้วที่โต๊ะรับแขก
“สวัสดีครับคุณป้า” ผมยกมือไหว้คุณป้าไอ้กัส ก่อนที่จะท่านจะยิ้มให้พร้อมกับไหว้ตอบกลับมา
“มา ๆ มากันเหนื่อย ๆ มานั่งพักก่อน เดี๋ยวรอแป๊บเดียวนะลูก ศรีเขาใกล้จะจัดโต๊ะเสร็จแล้ว แล้วเราจะได้กินข้าวพร้อมกัน
“ฟิล์มไม่อยู่หรอครับ” ผมต้องหาเรื่องมาคุยกับท่าน เพราะไม่งั้นคงอืดอัดตาย
“เห็นบอกว่าจะไปง้อแป๋มเนี่ยแหละ คู่นี่เขาน่ารักดีจริง ๆ เหมาะสมกับดี แป๋มเขาก็เป็นผู้หญิงที่น่ารัก จริงไหมลูกบิว”
“ครับ เหมาะสมกันดี” ผมตอบกลับไป แต่ก็สะอึกในใจเหมือนกัน
“คุณผู้หญิงคะ ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วค่ะ”
“ปะ กัส บิว ไปกินข้าวกัน” ก่อนที่คุณป้าจะเดินนำไป ส่วนไอ้กัสก็ยิ้มให้ผมทีนึงก่อนที่จะตบไหล่ผมเบา ๆ และก็ดันหลังผมไปยังโต๊ะเชือด เอ้ย โต๊ะกินข้าว
มื้ออาหารมื้อนั้น เป็นมื้อที่ทรมานที่สุด ผมทานเข้าไปได้นิดเดียวก็รู้สึกตื้อ ๆ กินอะไรไม่ลงซะงั้น แต่ก็ต้องทำเป็นนั่งกินเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ผ่านไปครึ่งชั่วโมงจนทุกคนทานอาหารเสร็จ ไอ้กัสก็เริ่มเปิดฉากขึ้นทันที
“เห็นคุณป้าบอกว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับบิวเขา มีอะไรหรือเปล่าครับ” ไอ้กัสถามไปแล้ว ส่วนผมก็รอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“แหม ใจร้อนจังหลานป้า ปะ กัสไปข้างนอกก่อน ป้ามีเรื่องจะคุยกับบิวสองคนจ๊ะ”
หา 2 คน ผมรีบหันไปมองหน้าไอ้กัสเป็นเชิงขอความช่วยเหลือ แต่ไอ้กัสก็ทำได้แค่ส่งยิ้มมาให้พร้อมกับเอามือมากุมมือผมใต้โต๊ะกินข้าวเบา ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นออกไป ปล่อยให้ผมเผชิญหน้ากับป้าไอ้กัสเพียงแค่สองคนบนโต๊ะอาหาร
หลังจากไอ้กัสลุกออกไปแล้ว ผมก็ได้แต่นั่งก้มหน้านิ่ง เพราะรู้สึกเกรงสายตาของป้าไอ้กัส ถึงแม้ว่าท่านจะยิ้ม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเลย จริง ๆ เถอะ
จนผ่านไปสังครู่ ป้าไอ้กัสก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
“บิวเป็นเพื่อนสนิทกับแป๋มเขาใช่ไหมลูก”
“อ้อ...ใช่ครับ เราสนิทกันครับ”
“แล้วฟิล์มหละจะลูก” ด้วยรอยยิ้มของคุณป้า ทำให้ผมหายเกร็งลง
“เราอยู่กลุ่มเดียวกันครับ”
“อืม...แล้วกัสละ ลูกบิวรู้จักกันได้ยังไงกันจ๊ะ”
“อะ...อ้อ ผมก็รู้จักกับกัส เมื่อตอนงานวันเกิดฟิล์มเขาครับ...คุณป้ามีอะไรหรรือเปล่าครับ”
“เปล่าจ๊ะ เห็นดูแล้วสนิทกันดี”
“อ้อ” แล้วเราก็เงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่คุณป้าจะเริ่มพูดขึ้นมาก่อน
“บิวก็รู้ใช่ไหมจ๊ะ ว่ากัสเขากำพร้าพ่อแม่”
“ครับ”
“กัสเขาน่าสงสารมากนะ ป้าพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้กัสเขาคิดมาก บอกตามตรง ป้าดูแลเขามากกว่าฟิล์มลูกชายแท้ ๆ ของป้าซะอีก เพราะว่าพ่อแม่เขาฝากเขาไว้กับป้า ป้าก็หวังให้เขามีชีวิตที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะชีวิตคู่”
พอป้าไอ้กัสพูดขึ้นมาแค่นี่ หน้าของผมก็เจื่อนลงทันที พอจะรู้อะไรลาง ๆ แล้วว่า ป้าไอ้กัสจะพูดอะไรต่อ
“ป้ารู้ว่าบิวรักกัสใช่ไหมลูก”
“...................................” ผมไม่รู้ว่าจะตอบอะไรครับ ได้แต่ก้มหน้านิ่ง สิ่งที่ผมกลัวมันคงจะเป็นความจริงเอาวันนี้แล้วหละครับ
“บิวคงอยากให้กัสเขามีชีวิตที่ดีใช่ไหม”
“.........................ครับ”
“เลิกยุ่งกับกัสเขาได้ไหมลูก”
………………………………………………………..
-
คุณป้าใจร้ายที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :o12: :o12:
สู้เค้านะบิว อย่ายอมแพ้ :m15:
-
:a4:ใจร้ายที่สุด
-
ถ้าได้อยู่กับผู้หญิง แล้วคิดว่าจะมีความสุขมากกว่ารึงาย o12
-
ผมว่า คนที่เคยโดนแบบนี้ คงเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
มันกระทบทั้งความคิด จิตใจ ความรู้สึก ความรัก...
ไม่ว่าเราจะหาทางออกยังไง มันจะติดกับความรู้สึกผิดอยู่ตลอดไม่ว่าจะไปทางไหน :o12:
แต่ยังไงก็ตาม ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออก
-
ปัญหาที่ตัวผู้ใหญ่อีกแล้วววววววววววววววววว :o12:
-
เฮ้อออ
-
:a6: :a6: :a6: :a6: :a6:
คุณป้ามหาโหด
เอาแล้วไง จะเป็นไงต่อไปหว่า
o7 o7 o7 o7 o7
-
ทำไมผู้ใหญ่ชอบคิดอย่างนี้กันหนอ o12
-
อย่างที่คิดไว้จริงๆ......ฮือๆๆๆ
-
:serius2:
ทำไมผู้ใหญ่ชอบคิดอะไรแปลก ๆอ่ะ
ไปบังคับฝืนใจลูกหลานตัวเอง แล้วคิดเองไปคนเดียวว่าเค้ามีความสุข
ทั้ง ๆที่จริง ๆแล้วมันเป็นแค่ความสุขและสบายใจของตัวเองฝ่ายเดียว
แถมยังจะไปเพิ่มทุกข์ให้กับลูกสาวคนอื่นอีกต่างหาก
เซ็ง เป็ดเจง ๆ :seng2ped:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
เอาอีกเเล้ว คนจะมีความสุขก็มีคนขัดขวาง เฮ้อ... :o12:
ชีวิตครู่ที่สมบูรณ์...จำเป็นต้อง ช-ญ เท่านั้นหรอ
ต้องกับคนที่เรารักเเละรักเรามากกว่า ช-ญ ไม่รักกันก็เท่านั้นเเละว้า~~ :a2:
-
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
กรูว่าแล้วววววววววว
-
เจ็บปวดจัง :sad2:
เป็นกำลังใจให้ขนเขียนนะครับขอให้ผ่านอุปสรรคในชีวิตไปได้ครับ o13
-
เฮ้อเซ็ง ไมผู้ใหญ่เค้าชอบคิดเอง เออเอง
โดยไม่ถามเจ้าตัวไม่รู้เนอะ :serius2: :serius2:
-
ว้าว ๆ ๆ ๆ
จาได้เจอพัดแล้วเหรอเนี่ย ดีจาย ๆ
เกิดเรื่องทีไร พัด โผล่มาทุกทีเลย
:oni2: :oni2:
:oni1: :oni1:
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ::sad2: :sad2: :sad2:
-
ใยป้าใจร้าย :serius2: :serius2: :serius2:
ทามไมถึงทามแปบนี้ o12 o12 o12
ดู ด๊ ดู ดูป้าทำ ทามไมถึงทำกับบิวได้ ๆ :m16: :m16:
-
เป็นกำลังใจให้นะครับ มาอัพต่อไวไวนะก๊าบบบบบบบบ
:m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
-
เฮ้อเซ็ง ไมผู้ใหญ่เค้าชอบคิดเอง เออเอง
โดยไม่ถามเจ้าตัวไม่รู้เนอะ :serius2: :serius2:
น้านจิ
ทำไม๊ ทำไม?
-
คุณป้า เลวมาก
-
ขอโทษนะครับที่มาต่อช้า
+
++
+++
++++
:sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
++++++++++
ผมหาเนื้อเพลงนี้ไม่ได้ ใครมีช่วยเอามาลงให้ทีนะคร้าบบบบ
ความรักที่เป็นไปไม่ได้
ศิลปิน : พีท(peacemaker)
ที่เคยได้ยิน ที่เคยได้สัมผัส
เรื่องความรักในทุกเส้นทาง
ในมุมที่ดี สมหวังได้ทุกอย่าง
ดั่งใจฝัน ทุกสิ่งที่มี
ลมแห่งรัก ที่พัดมา ..ร่วมประสาน ไออุ่นหัวใจ
คือความฝัน จนกลายเป็นรักแท้ ตลอดกาล นิรันดร์
โอ้รัก ที่จริง กับชีวิตที่สวนทาง
กับความรักที่ยังคงอ้างว้าง ตลอดกาล
ไม่มีวัน ไม่มีทาง จะเป็นจริง
อีกมุมเปลี่ยนไป ไม่เคยสวยงาม
ไม่มีรัก ไร้ความรู้สึก
หมดแสงตะวัน บดบังแสงจันทรา
ดวงดาราบนท้องฟ้า ไม่เคยสาดแสง
ลมแห่งรัก ไม่พัดมา ..จากเหน็บหนาว ไม่มีอบอุ่น
ไม่มีฝัน ไม่มีความรักแท้ ตลอดกาล
.. ไม่มีรัก ชั่วนิรันดร์
โอ้รัก ที่จริง กับชีวิตที่สวนทาง
เก็บความรัก ที่ยังคงอ้างว้างตลอดกาล
ไม่มีวีนไม่มีทาง
เหตุผลแห่งความจริง กับชีวิตให้เราแยกทาง
ไม่อาจฝืน ไม่มีเราสองคน ตลอดกาลนานเท่านาน
เหตุผล ให้ความจริง กับชีวิตให้เราแยกทาง
ไม่อาจฝืน ไม่มีเราสองคนตลอดกาล
ไม่มีวัน ไม่มีทาง จะเป็นจริง
++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมเดินออกมาจากบ้านกัส ด้วยความรู้สึกที่สับสน โดยที่ไม่ได้บอกกัส
มันไวเกินไป ไวจนผมตั้งตัวไม่ติด อยู่ ๆ ความรักมันก็เข้ามาแบบกะทันหัน แต่พอเราเริ่มที่จะรู้สึกดี ๆ กับมัน
มันก็ถูกกระชากกลับไป โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร ความรู้สึกแบบนี้ มันเจ็บปวดมากกว่าการที่ไม่มีความรักเสียอีก
เสียงโทรศัพท์มือถือของผมดังติดต่อขึ้นหลายครั้ง ผมรู้แหละ ว่าไอ้กัสคงโทรเข้ามา
แต่ผมไม่กล้ารับ กลัว กลัวว่าจะทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะบอกมันยังไงดีที่ออกมาแบบนี้
อีกใจนึงก็กลัวว่ามันจะโกรธที่ไม่ยอมรับสายมัน แต่เอาเถอะ ให้มันเป็นอย่างนี้นะ ดีแล้ว
ผมไม่รู้ว่าจะไปไหนดี เลยตัดสินใจไปบ้านไอ้แป๋ม ระหว่างทางก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
ผมไม่โกรธป้าไอ้กัสหรอก แน่นอนว่าเขาย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่หลานเขา ผมเข้าใจดี
เรื่องราวความรักระหว่างชายกับชายมันคงสวยหรูได้แค่เฉพาะในนิยายเท่านั้นแหละ มันไม่ยั่งยืนหรอก
กัสมันก็ผู้ชาย ผู้ชายที่พร้อมด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง เขาควรจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้
มีคนที่เขารักที่สามารถบอกกับคนอื่น ๆ ได้อย่างภาคภูมิใจ ไม่ใช่หลบ ๆ ซ่อน ๆ แบบนี้
ต่อจากนี้ ผมกับมันคงเป็นได้แค่เส้นขนานกันเท่านั้นแหละ
พอไปถึงบ้านไอ้แป๋ม เห็นบ้านมันล็อกอยู่ จะให้ผมกลับหอตอนนี้ก็คงไม่ได้
ก็เลยนั่งรอไอ้แป๋มอยู่ที่หน้าบ้าน โดยมีความเงียบเป็นเพื่อน ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ต้องการมันเลย
ความเงียบมันทำให้ผมเริ่มกลัว ไม่รู้ว่ากลัวอะไรเหมือนกัน แต่มันเป็นความรู้สึกที่เคว้ง ๆ ไม่มีอะไรยึด
ผมกลัวจนต้องร้องไห้ออกมา
ผมไม่รู้ว่าผมนั่งรอไอ้แป๋มไปนานเท่าไหร่ แต่มันก็นานพอที่จะทำให้ผมร้องไห้แล้วหยุด แล้วก็ร้องอีก เป็นอย่างนี้ 3 รอบ
เสียงป้าไอ้กัสก็ดังขึ้นในหัวผมตลอดเวลาจนผมได้ยินเสียงรถไอ้แป๋มมาจอดหน้าบ้าน
“นี่ ไอ้บิวลมอะไรหอบแกมาถึงนี่วะ แล้วมานั่งอะไรตรงนี้” ผมจึงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา
“ไอ้บิว แก แกเป็นอะไร” ไอ้แป๋มมันคงเห็นหน้าผมที่เต็มไปด้วยราบน้ำตา มันจึงทิ้งของพร้อมกับรีบวิ่งเข้ามากอดผม
“แป๋ม ฮือๆๆ แป๋ม” เหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ทำให้ผมได้แค่เรียกชื่อมัน
“บิว ใครทำอะไรเมิงวะ” เสียงไอ้ฟิล์มนี่เอง ไม่รู้ว่ามันมาพร้อมไอ้แป๋มด้วย
“ปะ ๆ เข้าบ้านกันก่อนดีกว่านะ” แล้วไอ้แป๋มก็ค่อย ๆ พยุงผมเข้าไปนั่งในบ้าน
พอเข้าไปในบ้านมัน ผมได้เอาแต่นั่งนิ่ง ๆ น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดเป็นครั้งที่สี่ ส่วนไอ้แป๋มก็วิ่งไปเอาน้ำมาให้ผม
“มึงอยากร้อง มึงก็ร้องให้พอเลยนะ แล้วเดี๋ยวเล่ามาว่าใครทำอะไรเมิง”
ไอ้ฟิล์มพูดขึ้นก่อนที่จะค่อย ๆ นั่งข้าง ๆ ผม สักพักไอ้แป๋มก็เดินถือน้ำมา พร้อมกับมานั่งอีกข้าง พร้อมกับเอามือมาโอบไหล่ผมไว้
“บิว กรูเพื่อนเมิงนะ มีอะไรก็เล่ามา”
ผมจึงเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่บ้านไอ้กัสให้พวกไอ้แป๋มกับไอ้ฟิล์มฟัง เล่าไปก็ร้องไห้ไป พอเล่าจบ ไอ้แป๋มก็โกรธแทนขึ้นมาทันที
“ไอ้ฟิล์ม ทำไมแม่แกทำอย่างนี้วะ” ไอ้แป๋มหันไปเปิดฉากกับไอ้ฟิล์มทันที
“ไรวะ ฟิล์มไม่รู้เรื่องด้วยสักหน่อย” ไอ้ฟิล์มตอบแบบงง พร้อมกับเอามือเกาหัว ไอ้ฟิล์มมันก็คงนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าแม่มันจะเป็นตัวต้นเหตุ
“เอางี้ เดี๋ยวแป๋มไปคุยกับคุณป้าให้ดีไหม ให้ไอ้ฟิล์มช่วยพูดด้วย ใช่ไหมฟิล์ม” คำหลังไอ้แป๋มหันไปพูดกับไอ้ฟิล์ม
“เออ ๆ ก็ได้” ไอ้ฟิล์มจำต้องรับเสียงอ่อย ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก อย่างนี้ดีแล้ว เจ็บแป๊บเดี๋ยวก็หาย” ผมไม่อยากให้คุณป้าไอ้กัสรู้สึกไม่ดีกับผม เดี๋ยวเขาจะหาว่าผมมาฟ้องไอ้สองคนนี่ และอีกอย่าง หากเขาไม่ยอมรับ ให้คบกันไปมันก็คงยิ่งแย่ลงไปเปล่า ๆ
“แล้วแกคิดว่าแกเจ็บคนเดียวหรอ แล้วไอ้กัสหละ” ไอ้แป๋มมันพูดขึ้นมา ทำเอาผมสะอึก นี่มันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรกับผม
.......................................
“ฉันรู้นะเว้ยว่าแกสองคนนะรักกัน แล้วแกจะยอมแพ้ปัญหาแค่นี้หรอวะ”
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงวะ จะให้กรูเดินเข้าไปบอกป้ามันหรอว่า ไม่ ไม่มีวัน เรารักกัน เราจะไม่เลิกกัน อย่างนั้นนะหรอ” ผมเริ่มพูดเสียงดังมากขึ้น
“ให้มันเป็นยังงี้นะ ดีแล้ว” มันคงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ
++++++++++++
เว็บเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมโพสไม่ค่อยได้อะ หรือว่าเป็นที่เราคนเดียว มันชอบเป็นหน้าว่าง ๆ อะ
-
แล้วจะเป็นยังไงต่อละเนี่ย :sad2:
-
สงสารอ่ะ.........................ทำไมต้องเป็นปัญหานี้ทุกทีเลยน่ะ
-
เราก็มองไม่เห็นทางออกเหมือนกัน เข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ
-
ป้าเค้าคงหวังดีกับหลานเค้าเนอะ :bye2:
-
ฮืออ เดี๋ยวก็ให้บิวงาบฟิล์มแทนกัสเลย ฮิๆๆ
-
อุปสรรคครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว
สงสารบิว :sad2: :sad2:
-
:m15: อย่าเพิ่งตัดใจสิ o7 o7
-
เย้ๆมาอัพแล้ว
แต่ทำไมมันดูน้อยๆแหะ o2
เศร้า :m15:
แต่ก็น่าจะคุยกันนะหนีมาแบบนี้ก็ไม่ดีหรอกเห็นใจกัสบ้างไม่ได้เจ็บคนเดียวอย่างที่แป๋มว่าแหละ
ปล.มาอัพอีก(ไวๆ)นะครับ
-
:o12: :o12: :o12:
-
อ่านตอนแรกๆ
นึกว่าฟิล์มเป็น
พระเอกอ่ะ
:pig4:
-
มาต่อแล้ว เย่เย่ ขอบคุณคร๊าบบ อย่างนี้ต้องให้ดอกไม้ครับ :L1:
-
มาต่อได้แระคร๊าบ
-
มาต่อได้แร้วค้าบ บ บ บ บ บ บ บ บ บ บ
:oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
-
รออ่านน้าๆๆๆๆๆๆๆ
-
ถ้ากัสไม่ทำอะไรก็คงถึงทางตันแล้ว
ฮือๆๆๆๆๆๆ
-
อย่ายอมแพ้นะบิว กัสก็ทำอะไรสักอย่างเซ่ :angry2:
-
บิวยางไม่มาอีกเหรอ
รอนานแล้วนะ
นี่ก็หลังสงกรานต์เป็นอาทิตย์แล้ว
มาต่อไวๆๆๆนะค้าบ
-
เข้ามารอ
:a12: :a12: :a12:
-
ขอโทษนะครับที่มาต่อให้ช้า
ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแร้วววววววววววว ดีใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทั้งเรื่องงานเรื่องเรียน
เกรดเทอมที่แล้วก็ออกมาดีมาก ๆ จนน่าตกใจ ทีนี่ก็ต้องมุ่งมั่นกับการปั่นวิทยานิพนธ์ให้เสร็จภายในอีกหนึ่งเทอม เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบบบบบบบ
+++++++++++++
หลังจากนั้นผมก็ออกจะบ้านไอ้แป๋มเพื่อจะกลับหอ พอถึงหน้าหอพักก็เจอกัสนั่งรออยู่ก่อนแล้ว คิดอยู่แล้วว่าต้องเจอกัสที่นี่ เพราะตลอดทางกัสได้โทรหาผมตลอด พอกัสเห็นผมก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันที
“บิว ๆ หายไปไหนมา
แล้วทำไมไม่รับสายกัส
แล้ว..แล้ว นี่ทำไมรีบออกจากบ้านมา..
.แล้วทำไมไม่บอกกัสก่อนหละ”
กัสละล่ำละลักถามผมด้วยหน้าตาตื่น ผมเห็นแล้วเกือบจะใจอ่อน แต่ไม่ได้หรอก ผมตัดสินใจแล้ว จึงไม่ตอบคำถามกัสใด ๆ ทั้งสิ้น และเลี่ยงเดินขึ้นห้องไป โดยมีกัสเดินตามมาติด ๆ
พอขึ้นมาถึงห้อง กัสก็ยังตามเข้ามาถามผมด้วยความเป็นห่วง ผมเข้าใจความรู้สึกกัสดีว่าคงเป็นห่วงผมจริง ๆ
“บิว ๆ บิวเป็นอะไรไป แล้วนี้หายไปไหนมาหรอ แล้วทำไมไม่รับสายกัส แล้ว...”
“เราเลิกกันเถอะ” ผมสวนแทรกกลับไป ก่อนที่กัสจะถามผมต่อ
“..........................................บะ...บิว” กัสครางออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“เรา เลิก กัน เถอะ” ผมเน้นทีละคำเพื่อตอกย้ำให้กัสได้ยินชัด ๆ อีกครั้ง
“ทะ...ทำไม...ไม่จะ...จริงใช่ไหม”เสียงสั่น ๆ พร้อมกับสีหน้าของกัสทำให้ผมต้องหันหลังให้เพราะเกรงว่าจะร้องไห้ออกมา รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่คออยู่ในขณะนี้
ตอนนี้กัสเงียบไปแล้ว ได้ยินแต่เสียงสะอื้นเบา ๆ ของกัสพร้อมกับเสียงครางเบา ๆ ว่าไม่จริง ๆ ซ้ำไปซ้ำมา ผมอยากจะหันกลับไปขอโทษใจจะขาด แต่ถ้าผมทำอย่างนั้น เรื่องก็คงไม่จบสักที ต้องใจแข็ง ผมต้องใจแข็งให้ได้
“เพราะนายพัดนั่นใช่ไหมที่ทำให้บิวเปลี่ยนไป” คำถามที่กัสถามผม ทำเอาผมตกใจ คิดไม่ถึงว่ากัสจะคิดว่าสาเหตุที่ผมเลิกกับเขาเพราะพัด แต่ในเมื่อกัสเขาเอ่ยมาอย่างนี้แล้ว ผมก็เลยตามน้ำไปเลย อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาคิดว่าผมเป็นคนที่แย่ ๆ ดีกว่าที่จะให้กัสเขาโทษตัวเองว่าเป็นความผิดขอบเขา
“ใช่แล้ว บิวชอบพัด เราเลิกกันเถอะ อย่างน้อย ๆ จุดเริ่มต้นของเรามันก็ไม่ได้เกิดจากความรักไม่ใช่หรอ แค่นี้คงไม่ทำให้กัสตายหรอก จริงไหม” ผมพูดได้แค่นั้น น้ำตาผมก็ไหลออกมาแบบสุดจะกลั้น ผมพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้สุดฤทธิ์ และจะไม่ยอมให้กัสเห็นน้ำตาของผมเด็ดขาด
“บิวคิดอย่างนั้นหรอ.............โธ่เว้ยยยยยยยยยยยยย!” กัสระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมกับหยิบของใกล้ตัวอะไรสักอย่างปาลงพื้นอย่างแรง คงจะเป็นแจกันแถว ๆ นั้น ทำเอาผมต้องย่นคอเพราะความกลัว แต่ก็ยังไม่กล้าหันไปเผชิญหน้ากับกัสอยู่ดี
“บิวจำเอาไว้นะ บิวเป็นของกัสแล้ว กัสจะไม่ยอมให้ใครได้บิวไปหรอก บิวจำเอาไว้นะ” แล้วกัสก็กระแทกกระทั้นออกจากห้องไป
จนผมมั่นใจกัสออกจากห้องผมไปแล้ว ผมจึงไม่กลั้นอะไรอีกแล้ว ปล่อยทั้งน้ำตา ปล่อยทั้งเสียงร้องไห้ออกมาแบบไม่กลัวว่าใครจะได้ยิน ผมอยากจะวิ่งตามกัสไปขอโทษพร้อมกับบอกรักเขาใจจะขาด ตอนนี้สิ่งที่ผมกลัวก็คือคำพูดสุดท้ายที่กัสพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ผมไม่รู้ว่ากัสจะทำอะไรแผลง ๆ หรือเปล่า
“กัส บิวขอโทษ ๆๆๆ” ผมพูดซ้ำไปซ้ำมา แต่ถึงแม้ว่าพูดออกมาดังขนาดไหน กัสก็คงไม่ได้ยินอีกแล้ว
ตอนนี้ในสายตาของกัส ผมคงเป็นคนเลวไปแล้ว
หลังจากนั่งสงบสติอารมณ์สักพักใหญ่ ก็ลุกขึ้นมาเก็บเศษกระเบื้องที่กัสปาลงพื้นเมื่อกี้นี้ ระหว่างที่เก็บอยู่นั้น ความคิด ๆ หนึ่งก็แว๊บขึ้นมาในสมอง ผมค่อย ๆ หยิบเศษแจกันขึ้นมาชิ้นหนึ่งและมองมันพร้อมตัดสินใจบางอย่าง
ผมค่อย ๆ กดเศษกระเบื้องแจกันลงบนข้อมือช้า ๆ ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกเจ็บหลังจากเศษกระเบื้องสัมผัสลงผิวหนัง แต่หลังจากนั้นความเจ็บก็เปลี่ยนมาเป็นความชา น้ำสีแดงค่อย ๆ ไหลซืมออกมาจากผิวหนัง พร้อมกับน้ำตาของผมที่ไหลออกมาด้วยความเสียใจเหมือนกัน
เสียใจที่ไม่มีใครรัก
เสียใจที่รักใครไม่ได้
เสียใจทีเกิดมาเป็นแบบนี้
และเสียใจ...ที่ไม่มีสิทธิ์รักใคร
ผมนั่งร้องไห้ค่อย ๆ มองเลือดไหลออกมาจากรอยกรีดอย่างช้า ๆ เลื่อดสีแดงสดไหลนองเต็มพื้น แต่ผมยังรู้สึกว่ามันช้าไป เลยค่อย ๆ กรีดเพิ่มอีกหนึ่งรอยเหนือรอยเก่า เลื่อดที่ไหนออกมาเยอะจนผมอดคิดไม่ได้ว่าถ้าออกมาหมดตัว มันคงท่วมห้องแน่ ๆ ทำให้ผมรู้สึกหน้ามืด อาจจะเป็นเพราะอาการเสียเลือดก็เป็นได้ ความรู้สึกและภาพตรงหน้า ค่อย ๆ พร่าเลือนและดับมืดลงในที่สุด
ลาก่อนนะกัส
ลาก่อนนะแป๋ม
ลาก่อนนะไอ้ฟิล์ม
ลาก่อน..................
-
:serius2: :serius2: :serius2:
ทำไมทำร้ายตัวเองอย่างนี้ละ
ตัวเองไม่รักแล้วจะไปรักใครได้
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
ง่า รีบมาต่อนะคับ
-
:serius2: :serius2: :serius2:
กลับมาต่อเร็วๆ นะ มันค้างงงงงงงง
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
ดีใจที่มาต่อ แต่ว่า มาต่อแบบค้างคาป่าวเนี่ย
มาต่อด่วน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
:a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:
ปล. คิดสั้นจิง ๆ ด้วย เฮ้อ.......
-
อย่าทำงี้นะบิว :serius2:
-
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
สงสารกัส
สงสารบิว
สงสารแป๋ม
สงสารฟิวส์
สงสาร..........
-
ม่ายจิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :o12:
-
ใครก็ได้ กลับมาช่วยบิวด่วน!!!!!! :o12: :o12: :o12:
-
:m15: :m15:
บิววววว ทำไมคิดสั้นอย่างนี้ :m15:
อย่าเป็นอะไรนะบิวววว
-
ทำไมคิดสั้นแบบนี้เนี่ย.....
-
:m15: สงสารอ่ะ อยากให้แม่เลี่ยงกัสมาเห็นจังเลย จะได้รู้ว่าเป็นต้นเหตุทั้งหมด
-
ค้างมากกกกกก
-
ดีใจจังคนโพสต์กลับมาแล้ว
แต่ค้างอ่า
ใครนะที่จะมาช่วย บิว
มาต่อเร็ว ๆ นะครับ
-
:serius2: ทำไมต้องฆ่าตัวตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
:serius2: :serius2: ทำไมทำร้ายตัวเองอย่างนี้ล่ะคับ :serius2: :serius2:
-
ทำไมบิวถึงเจอแต่เรื่องร้ายๆ
สงสารจัง
มาต่อเร็วๆด้วยนะ o7 o7 o7
-
เรื่องมันจะเศร้าไปถึงไหนกันนะเนี่ย :o12:
-
สั้นจัง :m31:
-
เย้ๆมาอัพแล้ว
ดีใจด้วยกับเกรดนะครับ
แต่ไหนๆก็ลงตัวแล้วขอวันละตอนเลยได้ไหมครับ
โดยเฉพาะตอนล่าสุดนี่... :sad2:
-
o2 o2
:sad2: :sad2:
ง่า ไม่อยากให้เป็นงี้เลยง่ะ รีบๆมาต่อเร็วๆนะ
-
:a5:ทำร้ายตัวเองทามม๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แล้วใครจะมาช่วยล่ะเนี่ย
-
@@@เข้าจัยความรู้สึกของบิวอะว่าเป็นยังหัยเราเคยอยู่ในสถานะการแบบนี้เราทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้สึกตัวเลยและไม่เจ็บด้วย???
-
เป็นกำลังใจให้บิว สู้สู้ o7
แล้วจะรอตอนต่อไปจ้า
-
ซะงั้นแง่ๆมาต่อเร็วๆเน้อ :o :o
อย่านะบิว :o12: :o12: :o12:
-
มารอ
-
อ๊ากกก
มาต่อไวไวน๊าาาา
ไม่ไหวแล้วคร๊าาบบบ
อยากอ่านจาแย่อยู่แล้วคร๊าบบผม
รักนะ
-
ขอโทษนะครับที่หายไปนาน พอดีต้องไปต่างจังหวัด และต้องหาข้อมูลทำวิทยานิพนธ์นะครับ วันนี้เลยมาต่อให้ยาว ๆ เลยนะครับ
++++++++++++++++
“เป็นยังไงบ้างค่ะหมอ”
“คนไข้ไม่เป็นไรแล้วครับ โชคดีที่มีดไม่เฉือนเส้นเลือดใหญ่ และคนไข้ถูกนำมาโรงพยาบาลได้ทันเวลา ต่อจากนี้ก็คงต้องให้คนไข้พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ แล้วหมอจะมาตรวจอาการอีกนะครับ”
“ขอบคุณมากนะครับหมอ”
+
+
+
+
นั่นเป็นเสียงแรกที่ผมได้ยิน แสงจ้าส่องเข้าตาผมทันทีหลังจากที่ผมพยายามจะมองหาต้นตอของเสียงนั้น ซึ่งทำให้ผมต้องหลับตาลงอีกครั้ง ไม่ใช่ตาอย่างเดียวที่ไม่อาจขยับตามที่ใจต้องการได้ มือไม้ก็เช่นกัน มันมีความรู้สึกเหมือนมีอะไรพันธนาการไว้อยู่
ผมยังไม่ตาย ใช่แล้วหละ ผมยังไม่ตาย ทำไมหละ แล้วใครกัน ใครที่มาช่วยผมไว้ แล้วทำไมเขาไม่ปล่อยให้ผมตาย ทำไม ทำไมกัน
“จะ...เจ็บ” ผมรู้สึกเจ็บและปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวไปหมด โดยเฉพาะตรงข้อแขน
“บิว ๆๆๆ”
“เฮ้ย ไอ้บิวฟื้นแล้ว”
“บิว เป็นไรมากไหม บิว”
“บลา บลา บลา บลา ๆๆๆ”
ตอนนี้แม้ว่าผมจะยังไม่สามารถปรับสายตาเพื่อสู้กับแสงที่ส่องเข้ามาได้ แต่ก็พอจะรู้ว่ารอบ ๆตัวผมมีคนเยอะแยะพอสมควร แต่มีเสียงเพียงเสียงเดียวที่ผมอยากจะได้ยินเหลือเกิน เสียงที่ผมเคยได้ยินมันมาตลอด เสียงที่แสดงถึงความห่วงใยมาโดยตลอด แต่ต่อไปนี้ผมคงจะไม่ได้ยินเสียงนั้นอีกแล้วหละ ก็เพราะว่าผมเป็นคนทำลายมันกับมือนินะ
ความพร่าเลือนของสายตาค่อย ๆ โฟกัสชัดขึ้น เมื่อสายตาชินกับแสงแดดภายในห้อง ที่น่าจะเป็นห้องพักในโรงพยาบาล
ตอนนี้คนที่ผมรู้จักทุกคนอยู่ล้อมรอบเตียงผม ยกเว้นกัส แต่ก็ดีแล้วที่กัสไม่อยู่ตรงนี้ ผมไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอของผม แค่ผมเห็นสายตาของทุก ๆ คนที่มองผมอยู่ ผมก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว ผมไม่น่าคิดสั้น ๆ แบบนี้เลย
“เป็นไงบ้างแก” เสียงเจ้าแป๋มเจือไปด้วยความเป็นห่วง
“ขอโทษนะ...” ผมไม่มีอะไรจะบอกพวกมันนอกจากคำว่าขอโทษ
ไอ้แป๋มได้ยินดังนั้นก็ค่อย ๆ ก้มลงมากอดผมไว้เบา ๆ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ บิว แกไม่เป็นไรแล้วนะ” เสียงของแป๋มสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ ทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก
“ขอโทษนะ แป๋ม”
“เออ ไม่เป็นไร เราเข้าใจ เราเข้าใจ แต่อย่าทำอย่างนี้อีกนะเว้ย เมิงรู้ไหมว่ากรูใจไม่ดีเลย” ไอ้แป๋มตอบพรางร้องไห้ ทำให้ผมอดที่จะร้องไห้ไปด้วยไม่ได้
หลังจากนั้นทั้งไอ้แป๋มกับไอ้ฟิล์มต่างก็ผัดเวียนกันมาเฝ้าผมตลอด ผมจะได้พักก็เฉพาะตอน ที่ไอ้แป๋มมาเฝ้าเท่านั้น แต่พอถึงเวรที่ไอ้ฟิล์มจะต้องมาเฝ้า ผมก็ต้องทะเลาะกับมันตลอด ก็แหม มันทำตัวเหมือนกับมาพักผ่อนต่างจังหวัดอย่างนั้นแหละ มาถึงก็นอนดูทีวี หรือไม่ก็อ่านการ์ตูน อ่านจบก็นอนกินของเยี่ยมพออิ่มก็นอน เวรจริง ๆ เพื่อนกรู
แต่ระหว่างที่ผมนอนอยู่โรงพยาบาล ผมก็ได้ข่าวคราวของไอ้กัสจากไอ้แป๋มเนี่ยแหละครับ ผมไม่ยอมให้ไอ้แป๋มบอกกัสว่าผมอยู่โรงพยาบาล มันคงคิดว่าผมหนีหน้ามัน แต่ไอ้แป๋มก็เล่าตลอดเลยนะครับว่าตอนนี้ไอ้กัสสภาพดูไม่ได้เลย วัน ๆ ไม่ยอมไปเรียน เมากลับบ้านมาทุกวัน จนป้ามันเองก็แปลกใจว่าทำไมหลานชายถึงได้เป็นแบบนี้
“เออ บิว เมื่อวานไอ้กัสมันไปมีเรื่องที่ผับนะ โดนซ้อมซะน่วมเลยนะ” ไอ้แป๋มพูดขึ้นมาขณะที่ปอกมะม่วงให้ผมกินอยู่
“...................................”
“สงสารมันเนอะ” มันพูดไปก็เหลือบตาขึ้นมามองผมนิดนึง
“เวรกรรมอะไรของพวกแกเนี่ย” ยัง ยังไม่หยุด
“เมื่อวานฟิล์มต้องไปลากมันกลับมาจากผับนะ”
“จากเจ้าชายผู้เนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า กลับกลายสภาพเป็นยาจกภายในพริบตา เฮ้ยยยยยย” ถอนหายใจซะเสียงดังไม่รู้ว่าไอ้แป๋มมันจะ Build อารมณ์ผมไปถึงไหน
“อีกนานมะ” ผมแทรกขึ้นมา
“อะไรหรอ อ้อ จะออกจากโรงพยาบาลนะหรอ”
“เปล่า หมายถึงอีกนานไหมที่แกจะหยุดพูด” แหม แค่นี้กรูก็รู้สึกผิดมากพออยู่แล้ว
“แหม กรูก็อยากให้เมิงรู้ว่าตอนนี้สภาพมันแย่ขนาดไหน แล้วเมิงไม่รู้สึกอะไรบ้างหรอวะ
“เออ กรูรู้ว่ากรูผิด แล้วเมิงจะให้กรูทำยังไงอะ”
“เมิงก็เปิดอกพูดกับป้าไอ้กัสดิวะ เดี๋ยวกรูช่วยเองนะเว้ย”
“................................”
“อีกนานไหมวะ” ผมถามไอ้แป๋มหลังจากที่เงียบไปนาน
“เออๆๆๆ กรูหยุดพูดก็ได้วะ” ไอ้แป๋มเริ่มงอน
“เปล่า กรูหมายถึงอีกนานไหมที่กรูจะได้ออกจากโรงพยาบาลนะ”
“อ้าวอีนี่กวนกรู เดี๋ยวก็จิ้มด้วยมีดเลยเมิง” หลังจากได้ปล่อยมุขไปผมกับไอ้แป๋มก็ได้หัวเราะกันเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผมฟื้นขึ้นมา ทำเอาไอ้ฟิล์มที่เพิ่งตื่นทำหน้างงกว่าพวกผมเป็นอะไรกัน
หลังจากนั้นสองวันผมก็ได้ออกจากโรงพยาบาล หลังจากออกมาแล้วก็ต้องมากลุ้มเรื่องเรียน เพราะหยุดไปหลายวัน ต้องตามเก็บทั้งเลคเชอร์ และรายงาน ทำเอาเหนื่อยไปเหมือนกัน แต่ก็ยังโชคดีที่รายงานได้ไอ้แป๋มช่วยได้เยอะเลย
จนวันหนึ่งหลังจากที่ผมเลิกเรียนแล้ว ก็แยกย้ายกับไอ้แป๋มเพื่อที่จะกลับบ้าน ตอนแรกกะว่าจะกลับพร้อมไอ้แป๋มแต่มันบอกว่ามันมีธุระให้ผมกลับไปก่อน ผมก็เลยต้องกลับหอพักคนเดียว
“บิว” เสียงเรียกชื่อผมคุ้น ๆ ทำเอาผมต้องหันกลับไปมอง พอผมหันกลับไปภาพที่ผมเห็นทำเอาผมแทบไม่เชื่อสายตาว่าคนตรงหน้าผมจะเป็นคนที่ผมรัก ไอ้กัสนะเอง แต่สภาพของมันตอนนี้ไม่หลงเหลือความหล่ออีกเลย หนวดเคราขึ้นรกหน้าใส ๆ ของมัน ผมเผ้าก็ไม่เป็นทรง เสื้อผ้าก็ยับยู่ยี่ เนื้อตัวก็ดูไม่ได้
“กัส” ผมครางออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง แต่พอตั้งสติได้ก็รีบหันกลับไปเพื่อจะรีบหนีมันไปจากตรงนั้น
แต่มันไวกว่า คว้าข้อมือผมไว้ทัน
“โอ้ย” ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ เพราะมันดันคว้าเอาตรงรอยแผลที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้ พอมันได้ยินผมร้อง มันก็สะดุ้งนิดนึงก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นความสงสัย ตามมาด้วยความสำนึกผิดของมัน
“บิว บิวเป็นอะไร” มันจับข้อมือผมเอาไว้และพลิกดูอย่างช้า ๆ
“ปะ เปล่า อย่าสนใจเลย” ผมตอบมันไปโดยไม่กล้าสบตา
“เปล่าได้ไง ก็เห็น ๆ อยู่” มันพยายามจับคางผมที่ก้มหน้าอยู่ให้เงยขึ้นไปสบตามัน
“ก็...แค่มีดบาด”
“แล้วบิวไปไหนมาหลายวัน กัสไปหาที่หอก็ไม่เจอ”
“พอ...เออ...พอดีกลับบ้าน”
“กลับบ้าน?” ไอ้กัสทวนคำอย่างไม่เชื่อ
“ปะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” อยู่ดี ๆ กัสก็ก็จับมือผมอีกข้างหนึ่งพร้อมกับลากให้เดินตามมันไป
“ไปไหน...ไม่ไป” ที่ผมไม่อยากไปเพราะว่าผมยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน
แต่มันไม่สนใจ กลับลากผมไปถึงรถของมันพร้อมกับดันผมเข้าไปในรถจนได้
“จะไปไหน” ผมถามมันหลังจากมันเข้ามานั่งข้าง ๆ ผมแล้ว มันไม่ตอบ แต่กลับออกตัวอย่างแรงทำเอาผมต้องรีบดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเอาไว้ หน้าตามันตอนนี้นิ่ง ๆ น่ากลัวเหลือเกิน ตอนนี้รถของเราแล่นออกนอกเมืองมาแล้ว รู้สึกว่ามันจะมุ่งหน้าไปพัทยา
“ไปพัทยาหรอ” ผมถามมันแต่มันไม่ยอมตอบ ผมเลยนั่งให้มันพาไป อย่างน้อยมันคงไม่พาผมไปฆ่าหรอก
ในที่สุดมันก็พาผมไปยังบ้านสีขาวหลังหนึ่งที่ตั้งหันหน้าออกสู่ทะเลที่เงียบสงบ จริง ๆ แล้วมันไม่ได้พาผมไปพัทยาหรอก แต่มันพาผมไประยองต่างหาก และนี่คงเป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวมัน
“ถึงแล้ว” นี่เป็นคำพูดแรกหลังจากที่มันพาผมมา
“พรุ้งนี้บิวมีเรียนนะ”
“มีกี่โมง” ปากมันถาม แต่มือมันก็ดึงผมออกจากรถ
“บ่ายโมง”
“งั้นกลับพรุ้งนี้เช้าก็ทัน” มันตอบเหมือนไม่ยีระ
“พรุ้งนี้หรอ ไม่ได้ ไม่ได้นะ บิวมีรายงานทำเยอะแยะ”
“แล้วก่อนหน้านี้ทำไมไม่ทำ” มันถามพร้อมกับลากผมให้เดินเข้าบ้าน
“จะทำได้ไงเล่า ก็นอนอยู่โรงบาล...” ผมตะคอกกลับไปอย่างลืมตัว มันน่าตบปากตัวเองนัก หลุดออกมาจนได้ ส่วนไอ้กัสตอนนี้ก็ชะงักทันทีพร้อมกัน
หน้าหน้ามาคาดคั้นผม
“ทำไมต้องทำร้ายตัวเอง” อย่าจ้องหน้ากรูดิ
“รู้ได้ไง”
“แป๋มบอก” ไอ้แป๋มนะไอ้แป๋ม กรูบอกว่าไม่ให้บอก ไม่ให้บอก
“อย่าไปโทษแป๋มมันเลย กัสบังคับมันเองแหละ” ไอ้กัสรีบออกตัวแทนแป๋มเหมือนจะรู้ว่าผมเคืองไอ้แป๋มอยู่
ตอนนี้มันเอามือสองมือมาประคองหน้าผมไว้ พร้อมกับเคลื่อนหน้าเข้ามาช้า ๆ ทำเอาผมมองเห็นแววตาหม่นหมองของมันอย่างเห็นได้ชัด
“เพราะป้ากัสใช่ไหม”
ผมก้มหน้า ไม่ตอบคำถามมัน
“รู้ได้ไง”
“แป๋มบอก” น่านไงหละ กรูว่าแล้ว
++++++++==
แล้วจะมาต่ออีกนะคร้าบบบ
-
ปรับความเข้าใจกันซะนะ :a2:
-
โอ้ งานนี้แป๋มเป็นนางฟ้ามาโปรด :oni1: :oni1: :oni1:
-
เคลียร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆกับป้าไปเลยยยยยยยยยยยยยยยย
-
ต้องขอบคุณแป๋มศรีนะนี่
-
ง่ะ ไมมันสั้นจังง่ะ
:serius2:
-
โห ต่อด่วนๆๆๆๆ -....- :serius2:
-
o7 o7 โชคดีที่มีเพื่อนอย่างแป๋มนะครับ o7 o7
:angry2: :angry2:แต่ทำร้ายตัวเองเนี่ยะ ยังไงก็ไม่เข้าท่านะครับบิว :m16: :m16:
-
ผู้หญิงดีๆ อย่างแป๋มนี่ หายากมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
ชอบแป๋มจัง ถ้าช่วยบิวปิดไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เข้าใจกัน ยังไงก็...มาต่อเร็วๆ นะ จะตามมาอ่าน
:m13: :m13: :m13:
-
สงสัยแป๋มต้องช่วยเรื่องบิวทุกเรื่องแน่เลย 555+
-
เอาจั๊ยช่วยนะกัสเคลียร์กับป้าใจร้ายยยให้จบกันไปเลลลยคนไรม่ายยข้าวใจความรู้สึกของหลานบ้าง สู้ๆๆๆๆๆๆนะอ่ะ
-
อาว..อ่าว...อ้าว..น้ำตากำลังจะล่วง อารมย์กำลังบิ้วได้ที่เลย
o12
ตัดดื้อๆเลย
-
มีไรก็เคลียร์กานซะนะ
ไงก็มาต่อบ่อย ๆ นะจ๊ะ
-
ค้างอีกแระ :angry2:
-
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
รอดสายตาไปด้ายไงเนี่ย :m23:
อยากบอกว่าสนุกมากค่ะ :m20:
อ่านรวดเดียวจบเรย o13
ตอนหวานก็ หวานซะ ตอนซึ้งก็ น้ำตาร่วงเรย :sad2:
แต่ที่อยากบอกพี่คนแต่งมากที่สุดคือ :o8:
มาต่อเร็วๆๆนะค่ะ :bye2: :bye2:
-
คุยกันให้เข้าใจน้า
:pig4:
-
อืม ต้องขอบคุณแป๋มนะเนี่ย
เป็นเพื่อนที่ดี
-
คู่รักบางคู่นี่ถ้าไม่มีเพื่อนคอยช่วยก็ไม่รู้เล้ยยยยว่ามันจะไปกันรอดมั้ย
55555555555
-
:m1: เราติิดเรื่องนี้มากเลยนะ รีบมาต่้อไว้นะ :m1: :bye2:
-
ตามมาทันแระ
มาต่อไวไวนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
o13
-
:m13: :m13: :m13: :m13: :m13:
หายไปไหนอีกหว่า
มาต่อเร็ว ๆ เน้อ รออยู่จ้า
-
ครบสัปดาห์แล้วนะครับ กลับมาต่อเร้ว :a2:
-
"เออ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครอยู่ข้างบิวแล้วนิ" พูดจบก็หันหลังให้ งอนครับงอน
"มีสิ กัสไง กัสอยู่ข้างบิวมาตลอดนั่นแหละ" ว่าแล้วมันก็ดึงตัวผมไปกอดจากทางด้านหลัง
"ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ อย่าคิดสั้นอีก ตอนนี้เราเหมือนคน ๆ เดียวกันแล้วนะ บิวเจ็บ กัสก็เจ็บ ถ้าบิวไม่อยากให้กัสเจ็บ บิวก็อย่าทำแบบนี้อีกนะ"
"บิวกลัว"
"กลัวไร หือ"
"กลัวว่าจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีกัส" ความรู้สึกตอนนั้นมันเคว้งคว้างมาก ๆ
"บิวรู้ไหม ว่ากัสกลัวมากกว่าบิวอีก กลัวว่าบิวจะเป็นอะไรไป กลัวว่าจะไม่ได้เจอบิวอีก ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ สัญญาได้ไหม"
ผมไม่ตอบได้แต่ก้มหน้านิ่ง ๆ เพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมา ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้าหรอกครับ แต่เป็นน้ำตาแห่งความปลื้มใจ ดีใจ
ดีใจที่มีคนอยู่ข้าง ๆ
ดีใจที่มีคนรักรอเราอยู่
"ขี้แยอีกแล้วนะเรา" กัสค่อย ๆ เอามือประคองหน้าผมขึ้นมา พร้อมกับปาดรอยน้ำตาออกอย่างช้า ๆ ผมชอบรอยยิ้มของมันตอนนี้จัง
"ส่วนเรื่องป้ากัส บิวไม่ต้องเป็นห่วงนะ กัสจะจัดการเอง ชีวิตกัส กัสเลือกเองได้ และอีกอย่างไอ้ฟิล์ม กับแป๋มมันก็จะช่วยอีกแรงด้วย เรามาสู้ด้วยกันนะ"
ผมส่งยิ้มให้กัสแทนคำตอบ ซึ้งใจมันจริง ๆ ครับ ก่อนที่ผมกับกัสจะค่อย ๆ เดินกันเข้าไปในบ้าน
"กัส ๆ บ้านนี้มีห้องนอนห้องเดียวหรอ" ผมตะโกนถามกัส เพราะเพิ่งสังเกตว่าบ้านหลังนี้แม้จะกว้างแต่ก็มีห้องนอนห้องเดียว แถมห้องน้ำยังเป็นแบบโอเพ่นอีกต่างหาก
"อืม ทำไมหรอ" กัสมันหันหลังจัดของเข้าตู้อยู่
"แล้วห้องน้ำหละ"
"ก็อยู่ตรงนั้นแหละ" ไอ้กัสมันก็ยังไม่หันหน้ามาอยู่ดี
"แล้วห้องน้ำทำไมไม่มีประตูหละ มันเสียหรอ"
เอ๊ะ หรือว่าประตูห้องน้ำมันเสียหว่า แล้วถ้าเสีย ทำไมไม่หาใครมาซ่อมหละ เปิดโล่งโจ้งแบบนี้ ใครจะไปอาบได้
"เปล่า ไม่ได้เสีย"
"อ้าว แล้วยังงี้จะอาบน้ำยังไงอะ"
"ก็อาบทั้งอย่างนี้แหละ" ไอ้กัสพูดจบก็วิ่งเข้ามาอุ้มผมเข้าห้องน้ำแบบไม่ทันตั้งตัว
"เฮ้ยยยยยยย ไม่เอา ไอ้กัส ปล่อยนะเว้ย ไอ้บร้า บอกให้ปล่อย xdojeos.nsfpe " คำด่าสารพัดถูกปล่อยออกมาเหมือนพายุ แต่ก็ไม่สามารถหยุดอารมณ์หื่นของไอ้กัสได้ ยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะเว้ย
"กัส ไม่เอานะ จะทำอะไรอะ"
"แล้วบิวคิดว่ากัสจะทำอะไรหรอ" ไม่ต้องมียิ้มแบบมีเลศนัยเลย
"ก็ ..............."
"5555555555 หน้าบิวแบบนี้ ดูกีที ๆ ก็ไม่เบื่อเลยเนอะ"
"ยังมีหน้ามาขำอีก คนเขายิ่งกลัว ๆ อยู่" งอนสิครับผม แต่ว่าเอ๊ะ ทำไมผมงอนง่ายจัง
"กลัวอะไร กัสก็แค่อยากให้บิวโกนหนวดให้เท่านั้นเอง ดูดิ เครียดมาหลายวัน เลยไม่ได้ดูแลตัวเองเลยเนี่ย"
"อ้าว โกนหนวดหรอกหรือ" หลงดีใจ หุหุ
"อือ ใช่ แล้วบิวอยากให้ทำอะไรหละ" ยังมีหน้ามากวนประสาทอีก
"มาๆๆ แล้วไหนหละ ที่โกนหนวด ถ้าได้เลือดแล้วอย่ามาบ่นแล้วกัน" ผมบ่นกระปอดกระแปดเพื่อกลบความเขิน ชอบจริง ๆ เลย แกล้งให้ผมเขินเนี่ย
"บาดตรงไหนก็ได้ แต่อย่าบาดมาที่ตรงนี้แล้วกัน" พูดจบกัสมันก็จับมือผมไปวางบนหน้าอกข้างซ้ายของมัน
"แหวะ จะอ้วก ไปฝึกมุขเสี่ยวมาจากไหนเนี่ย"
"ก็ตั้งแต่ที่เจอบิวนั่นแหละ" โอ้ยไม่ต้องทำตาหวานขนาดนี้ก็ได้ จะละลาย
"เอ้า มือนิ่ง ๆ สิครับ เดี่ยวก็บาดกันพอดี" เพราะใครหละเมิง
"เออ ๆๆ อยู่เฉย ๆ ละกัน" ผมถอนหายใจทีนึงเพื่อระบายความอายและความเครียด ก่อนที่จะหยิบครีมโกนหนวดมาค่อย ๆ ลูบบนผิวหน้ากัส ก่อนที่จะค่อย ๆ ใช้ที่โกนหนวดค่อย ๆ โกนให้มันอย่างเบามือที่สุด
"บิวที่มือเบาจังเนอะ" พูดพร้อมทำตาหวานใส่
"อยู่เฉย ๆ" ผมดุมันครับ
"ทำไมมือสั่นหละ" ไอ้กัสยังกวนไม่เลิก เดี่ยวก็จิ้มด้วยที่โกนหนวดซะเลยดีไหมเนี่ย
"มันหนาว"
"หนาวหรือว่าเขิน" โอ้ยไอ้บร้า
"บอกให้อยู่เฉย ๆ " ดุรอบที่สอง
"โทษครับ" แล้วมันก็รีบปรับสีหน้าจากทะเล้น ๆ เป็นขรึมลงทันทีเหมือนจะแกล้งผม
"โอ้ย" อยู่ดี ๆ ไอ้กัสมันก็ร้องออกมาซะดังลั่นทำเอาผมชะงัก
"บาดหรอ ตรงไหน ๆ ขอดูหน่อย" ผมจะหาน้ำมาล้างครีมโกนหนวดออก แต่ถูกมือไอ้กัสดึงเอาไว้
"มันบาดตรงนี้" แล้วมันก็เอามือมันวางที่หน้าอกด้านซ้ายพร้อมกับยักคิ้วให้ทีนึง
"เน่า" ไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาบรรยายมุขมันได้ดีกว่าคำนี้อีกแล้ว
"ถึงจะเน่า แต่ก็เห็นเงาจันทร์นะคร้าบบบบ" น่านนนนนนนนน กรูว่าแล้ว มันดูบางรักซอย 9 มากไปป่าววะเนี่ย
กว่าจะโกนหนวดเสร็จ ผมก็แทบจะสำรักมุขมันที่แสนจะเน่า เสี่ยว นี่แหละน้า ผู้ชายปล่อยมุข
"จะอาบน้ำเลยป่าว" อยู่ดี ๆ ไอ้กัสก็ถามขึ้นมา
"ทำไม" เริ่มระแวงหลังแล้วครับผม
"ป่าว ก็จะได้อาบด้วย"
"น่านไง น่านไง กรูว่าแล้ว"
"ไม่เอา จะอาบก็ไปอาบก่อน"
"จะมาอาบพร้อมกันได้ไง ตัวใครตัวมันดิ"
"เอ๊า ได้ไงหละ" แนะ ๆๆ เมิงยังเถียงไม่เลิก
"มาอง มาเอ๊า อะไร ไม่ต้องเลย ไปอาบเลย เร็ว ๆ เข้า"
"ทำไมจะเอ๊าไม่ได้ ก็เรามันคนนอกนิ" =_='' (เอ๊า=out= คนนอก)
เห้ย ผมละเหนื่อยใจ ขอไว้อาลัยให้มุขมันหนึ่งนาที
++++++++++++++++++
-
สปอย
ผมเห็นกัสอ้าปากค้าง ตาโตคาหูโทรศัพท์ ทำเอาผมใจคอไม่ดี
"กัส ๆ มีอะไรหรือเปล่า ใครเป็นอะไร"
"บิว ไอ้แป๋ม ไอ้แป๋มมัน"
"แป๋ม ไอ้แป๋มเป็นไร"
"..........................."
-
เปงอะไรหว่า......................... :a5:
-
แป๋ม แป๋ม เป็นรายอ่ะ
ม่ายนะ :serius2:
-
มุขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขขแบบว่าฟังแล้วจั๊กเดี้ยม อิอิ
แต่แป๋มเป็นอะไรละเนี่ย
-
:m4: :m4: :m4:
+1 ให้นะคับ ที่มาต่อ
แต่อย่าหายไปนานนักซิ
คิดถึงจะแย่แร้ว
ว่าแต่ ตอนต่อไป ไม่อยากคิดเลย จะเป็นไงกานหว่า
รออ่านต่อไปค๊าบ........
:a4: :a4: :a4:
-
แป๋มเป็นไร อ่ะ :o
หรือว่า กัสเล่นมุขไรอ่ะป่าว :m12:
-
สปอยซะงั้น
:m31:
-
แป๋มเปนไรอ่า ค้างๆๆๆ :serius2: :serius2: :serius2:
-
แป๋มเกิดอุบัติเหตุเหรอค่ะ หวังว่าคงไม่ใช่ :o12:
-
สปอยซะอยากอ่านต่อเลยอ่ะ :serius2: :serius2: :serius2:
-
เกิดไรอีกอะ
-
เป็นกำลังใจให้ครับ
-
โห้ มีสปอย ด้วย
แงๆ มาต่อเร็วเลยคับ ฮี่ๆๆ
:oni2:
-
สปอยพาตื่นเต้นได้อีกอ่ะ
-
:impress: :impress: :impress:
อ่าครับมาอ่านใหม่ครับผม ชอบมากๆๆเลย
อ่านถึงหน้า3อยู่เลยครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม สู้ๆๆ
:impress: :impress: :impress:
-
ชวนติดตามมากเรื่องนี้ ชอบๆ :m1: :m1: :m1:
เอาใจช่วย กัส+บิว สู้ๆ
เข้าใจป้ากัสอยู่..
แต่ลูกหลานก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง..
ให้เค้าเลือกทางที่จะเดินเองเหอะ..
กัส+บิว อย่ายอมแพ้..
ปล.อ่านแล้วชอบแป๋มจัง :m1:
เพื่อนดีๆแบบนี้หายากจริงๆ..
ที่สปอยไว้ อ่านแล้วกังวล :o
มาต่อเร็วๆน๊า :m13:
-
รอครับ
-
:m4: :m4:
สนุกมากเลยครับ
รีบๆมาต่ออีกนะ
-
จะดีอยู่แล้วเชียว ใครจะมาเป็นอะไรไปอีกเนี่ย
สู้ๆนะครับ รออ่านอยู่ ครับๆ o12 o12 o12
-
:a5: ห๊ะ ค้างได้ใจ...
-
:sad2: :sad2:
หาย ไป นาน จัง คับ
-
สปอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยไว้นานแล้น คิดถึงจัง
-
คนแต่งหายไปไหนอ่า
รีบ ๆ มาอัพเน้อ
-
โทษทีครับที่หายไปนาน ช่วงนี้เครียดกับวิทยานิพนธ์ครับ ต้องเร่งให้จบ
+++++++++++++++
หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมกับกัสก็ออกมานั่งเล่นกันที่ระเบียงหน้าบ้านครับ ท้องทะเลเงียบสงบดีทีเดียว ลมชายหาดพัดอ่อน ๆ ที่นี่เห็นดาวได้ชัดกว่ากรุงเทพมากเลยครับ มีความสุขจัง
"กัสๆๆ เรื่องป้า กัสจะทำไงหรอ" ผมลองถามกัสดูครับว่ามันจะจัดการเรื่องนี้ยังไง แต่เจ้ากัสไม่ตอบผมครับ ได้แต่เพียงหันหน้ามายิ้มให้ และละสายตาทอดออกไปยังทะเลอีกครั้ง
"เชื่อใจกัสไหม"
"อืม เชื่อสิ" ผมตอบพลางหันไปยิ้มให้กับกัส ซึ่งตอนนี้เอื้อมมือมากอดไหล่ผมไว้และดึงผมเข้าไปซบกับไหล่ที่แข็งแกร่งของกัส ทำไมผมถึงรู้สึกอบอุ่นมากมายก็ไม่รู้ ผมภาวนาว่าพรุ้งนี้อคงไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของเราสองคนได้
"จูบหน่อย"
o_O
"จูบหน่อยดิ" แหมๆๆ เปลี่ยนโหมดไวเหลือเกินนะไอ้กัส
"ไอ้บ้า" เขินครับเขิน ผมรีบดันหัวตัวเองออกจากไหล่ไอ้กัส แต่ไม่ทันแล้วครับ ตอนนี้กัสมันดึงตัวผมไว้ พร้อมกับใช้อีกมือยึดหน้าเอาไว้ไม่ให้หนี
"หน่านะ" มันถามผม แต่ไม่ยอมรอคำตอบจากผม
ปากของมันประกอบปากของผมแทบจะทันทีที่มันพูดจบ ปากนุ่ม ๆ อุ่น ๆ ของมันทำให้ผมขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว จากความดุดัน เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน จากที่ริมฝีปากประกบกันในตอนแรก ถูกเปลี่ยนเป็นค่อย ๆ กัด แทะ เล็มไปรอบ ๆ ริมฝีปากของผม
"หวานจัง" เสียงนุ่มทุ้มของมันสั่นกระเส่าอยู่รอบ ๆ ริมฝีปาก
หลังจากแทะเล็มริมฝีปากจนจุใจแล้ว ริมฝีปากผมก็ถูกแทรกเข้ามาด้วยลิ้นของกัสที่ตอนนี้พยายามจะเข้ามาในริมฝีปากที่เม้นแน่นของผม
มือที่ว่างอยู่ตอนนี้ก็ช่วยกันทำหน้าที่ตรงยอดอกได้อย่างดีเยี่ยมจนผมเผลอครางออกมา เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายสามารถสอดลิ้นเข้าไปในปากได้อ่ย่างง่ายดาย
"นุ่มจัง" เสียงกัสครางกระเส่าออกมาทั้ง ๆ ที่ลิ้นเราสองคนยังพันกันอยู่ ร่างของเราสองคนค่อย ๆ เอนกายลงบนระเบียงหน้าบ้าน เสื้อผ้าค่อย ๆ ถูกเปลื้องออกอย่างช้า ๆ ด้วยฝีมือของเจ้ากัส ทุกส่วนของร่างกายถูกโลมเลียด้วยรีมฝีปากของกัสแบบที่ไม่ให้มีที่ว่าง สองมือของกัสประสานเข้ากับสองมือของผม
ส่วนที่แข็งขืนถูกสอดใส่เข้าไปในส่วนที่อ่อนนุ่ม
ความโหยหาถูกเปลี่ยนมาเป็นแรงกระแทกกระทั้น
ลมหายใจที่อุ่นก็กลับร้อนระอุมากขึ้น แข่งกับเสียงแห่งความสุขที่ดังขึ้นเป็นจังหวะกระแทกกระทั้น
หลังจากพายุสงบลงพร้อมกับร่างที่เต็มไปด้วยเหงือชื้นของทั้งสองคน ผมกับกัสต่างก็นอนอาบแสงจันทร์กันอยู่ตรงระเบียง โดยไม่ลุกไปไหนเพราะกลัวว่าความสุขที่เพิ่งได้รับมันจะหล่นหายไปจากเราสองคน
"กัสรักบิวนะ" เสียงกระซิบเบา ๆ ตรงข้างหูผม ทำให้ผมจักกระจี้ขึ้นมาจนต้องเอี้ยวคอหลบลมร้อนจากริมฝีปากและปลายจมูก
"อืม บิวก็รักกัสนะ"
"แต่ตอนนี้กัสว่าเราเข้าไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่านะ กัสหนาวแล้วหละ"
พูดจบกัสก็อุ้มร่างผมลอยขึ้นจากพื้นทำเอาผมที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวร้องลั่น
"ปล่อย กัส เดี่ยวตก"
"ไม่ตกหรอกหน่า"
ผมรู้ว่ากัสคงไม่ปล่อยให้ผมตกหรอก แต่ผมก็ดิ้นไปยังงันแหละ ก็คนมันเขินนิหน่า
"บิว เดี๋ยวบิวอาบน้ำก่อนนะ กัสขอโทรกลับบ้านก่อน"
"อืม เอางั้นก็ได้"
ว่าแล้วกัสก็อุ้มผมเข้าไปส่งถึงในห้องน้ำ แหม เขินจัง ก่อนจะออกกลับมา ผมก็ต้องโดนลวนลามอีกตั้งหลายที เนื้อตัวช้ำไปหมด เฮ้ยๆๆ เซ้งคนเอาแต่ใจ
พอผมอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาจากห้องน้ำก็ยังเห็นกัสยืนคุยโทรศัพท์หน้าเครียดเชียว แต่พอกัสหันมาเห็นผมก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติและหันมายิ้มให้ทีนึง ผมรู้สึกใจไม่ดียังไงไม่รู้
สักพักกัสก็วางสายพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนผมก็มองตามจนกัสหายเข้าไปในห้องน้ำ แต่ประตูห้องน้ำยังไม่ปิดสนิทดี เสียงโทรศัพท์กัสก็ดังขึ้น ผมจะวิ่งไปรับแทน แต่กัสดันตะโกนออกมาว่า ไม่ต้อง พร้อมกับกับวิ่งออกมารับโทรศัพท์
"ฮัลโหล ว่าไงฟิล์ม" ผมทำเป็นไม่สนใจ แต่หูก็คอยแอบฟังอยู่ ตอนแรกนึกว่าป้ากัสจะโทรมา แต่กลับเป็นไอ้ฟิล์ม
"ผมเห็นกัสอ้าปากค้าง ตาโตคาหูโทรศัพท์ ทำเอาผมใจคอไม่ดี
"กัส ๆ มีอะไรหรือเปล่า ใครเป็นอะไร"
"บิว ไอ้แป๋ม ไอ้แป๋มมัน"
"แป๋ม ไอ้แป๋มเป็นไร"
"แป๋มมันรถคว่ำ ตอนนี้อยู่ห้องไอซียู"
พอผมฟังดังนั้น มือไม้อ่อนขึ้นมา ทำอะไรไม่ถูก
"แป๋ม รถคว่ำหรอ" ผมครางออกมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง อยากให้เรื่องนี้เป็นเพียงฝันร้าย
แป๋ม แกอย่าเป็นอะไรนะเว้ย"
++++++++++++++++++++++
แหม กำลังมัน เดี๋ยวจะมาต่อนะคร้าบบบบบบ ไปกินข้าวก่อน
-
:m4: :m4: ให้ครับ ที่มาต่อให้ได้อ่านกัน
แต่อย่าหายไปนานนักสิ งอลนะเนี่ย
มาต่อที ก็มีเรื่องร้าย ๆ อีกและ จะมีเรื่องดี ๆ บ้างไหมเนี่ย
เป็นกำลังใจให้นะค๊าบ......
:mc4: :mc4:
-
มาต่อได้ซะ :m1: :oni2:
-
อยากรู้อะ
กินข้าวไวไวหนา
เค้ารอนะตะเอง
:m31:
-
ทานให้อร่อยน่ะค้าบบบบบบบบบบบบบบบบ จะรออ่านตอนต่อไปด้วย อิอิ
-
ยังรออ่านอยู่นะ :L2:
-
รอๆๆๆ
-
รอตอนต่อไปคับ ^^
-
:serius2: :serius2: เพื่อนรักดีๆอย่างแป๋มอย่าเปนไรนะคับ :o :o
-
แป๋ม...จะเป็นไรมั้ยอ่ะ :a5:
-
กินข้าวนานจัง
:serius2: :serius2: :serius2:
-
อยากรู้เรื่องแป๋ม มาต่อด้วยนะจ๊ะ
-
ผมกับกัสรีบขับรถกลับในคืนนั้นทันที โดยไม่รอให้ถึงเช้า ใช้เวลาไม่นานก็ถึงกรุงเทพ
พอมาถึงโรงพยาบาล ก็เห็นทุกคนออกันอยู่ที่หน้าห้องไอซียูครบทุกคนแล้ว ทั้งฟิล์ม พ่อแป๋ม ป้ากัส ซึ่งคนหลังนั้นได้มองผมนิดหน่อย คงจะแปลกใจที่เห็นผมมากับกัส แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
ทุกคนมีสีหน้าอิดโรย โดยเฉพาะไอ้ฟิล์มที่ผมเพิ่งเคยเห็นมันร้องไห้หนักขนาดนี้ ส่วนป้าไอ้กัสนั้นก็ได้แต่ถือผ้าเช็ดหน้าแอบเช็ดน้ำอยู่คนเดียว
คนที่นิ่งที่สุดก็คงจะเป็นพ่อไอ้แป๋มละมั้ง แต่ก็ยังแอบเห็นสายตาที่ทุกข์ใจอยู่มาก
"เรื่องเป็นไงครับ และตอนนี้แป๋มเป็นไงบ้างครับพ่อ" ไอ้กัสเข้าไปหาพ่อแป๋มทันที ส่วนผมก็เข้าไปปลอบไอ้ฟิล์ม
"พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คนที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าคู่กรณีขับรถมาด้วยความเร็วสูงมาก และส่ายเป็นงูเลื้อยเชียว สงสัยจะเมา และสงสัยคงจะบังคับรถไม่อยู่ จึงพุ่งมาชนรถแป๋มที่ขับสวนมาพอดี ส่วนอาการก็...พ่อยังไม่รู้เลย...ฮืก..ก...ฮืออ"
หลังจากคุณพ่อของแป๋มเล่าจบก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อซ่อนน้ำตาของผู้เป็นพ่อไว้
สักครู่ใหญ่ หมอก็ออกมาจากห้องไอซียู ทุกคนต่างกรูกันเข้าไปเพื่อถามอาการของแป๋ม
"ไม่ทราบว่าใครเป็นญาติของผู้ป่วยครับ"
"ผมเองครับ ผมเป็นพ่อของแก" พ่อของแป๋มรีบละล่ำละลักตอบ
"ตอนนี้คนไข้ฟื้นแล้วครับ"
"จริงหรือครับหมอ ขอบคุณมาก ๆ ครับ ขอบคุณมาก" ไอ้ฟิล์มมันคงจะดีใจเป็นที่สุด รีบเข้าไปจับมือหมอพร้อมกับขอบคุณด้วยอาการดีใจ
"แต่ว่า หมอมีเรื่องจะปรึกษาญาติผู้ป่วยครับ งั้นขอเชิญคุณพ่อทางนี้ก่อนค่ะ หมอมีเรื่องจะปรึกษา" ว่าแล้วก็เดินนำพ่อของแป๋มไปอีกทาง
"พ่อครับ ผมไปด้วย" สักพักไอ้ฟิล์มคงทนไม่ไหว ก็เลยวิ่งตามพ่อแป๋มไปด้วยคน ตอนนี้ก็เหลืออยู่เพียงผม กัส และป้ากัสครับ
ตอนนี้ผมเริ่มไม่มั่นใจอาการของแป๋มสักเท่าไหร่ เพิ่งดีใจได้ไม่ถึงนาที ทำไม ฟื้นแล้วแล้วทำไมต้องปรึกษาอะไรกันอีก
แต่ตอนนี้เราสามคนนั่งกันเงียบ ๆโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีแต่เสียงสะอื้นเบา ๆของป้ากัส
ไอ้กัสมันเห็นดังนั้นก็เลยเอามือไปบีบมือป้ามันไว้เพื่อให้กำลังใจ ส่วนป้ากัสก็ได้แต่พยักหน้าเบา ๆ แทนคำขอบใจ
"คนเรา มันก็เท่านี้" ผมกับไอ้กัสมองหน้ากัน เพราะตอนนี้ป้ากัสเหมือนจะเพ้ออะไรออกมาเบา ๆ
"ชีวิตคนเรา...มันก็เท่านี้เอง" ป้าไอ้กัสกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว จึงปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร ทำให้ไอ้กัสต้องเข้าไปกอดเพื่อปลอบใจ
"คุณป้าครับ ใจเย็น ๆ ครับ แป๋มจะต้องไม่เป็นไรครับ"
"ใช่ครับ แป๋ม จะต้องไม่เป็นอะไรครับ" ผมไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไรดี เลยปลอบใจป้ากัสไปแบบนั้น และค่อย ๆ เอามือไปวางบนมือของป้ากัสอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เพื่อจะปลอบใจ
สิ่งที่ผมกลัวก็คือกลัวว่าป้ากัสจะไม่ยอมรับความหวังดีจากผม แต่กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น ป้ากัสค่อย ๆบีบมือผมตอบ พร้อมกับหันมายิ้มให้ผมและพยักหน้าช้า ๆ เหมือนจะบอกว่ารับรู้ในสิ่งที่ผมบอกไป แค่นี้มันก็ทำให้ผมดีใจมากแล้วครับ อย่างน้อย ๆ มันก็ยังมีเรื่องดี ๆ ในความเลวร้ายครับ
ผ่านไปนานพอสมควรครับ พ่อแป๋มกับไอ้ฟิล์มจึงเดินกลับมา ทั้งสองคนไม่แสดงสีหน้าใด ๆทั้งสิ้น ออกจะเลื่อนลอยด้วยซ้ำไป
ไม่ทันที่ผมจะอ้าปากถาม พ่อแป๋มก็พูดขึ้นมาก่อน
"เราเข้าไปเยี่ยมแป๋มกันดีกว่าลูก" พูดจบก็เดินนำหายเข้าไปในห้องไอซียู เราทั้งหมดจึงเดินตามกันเข้าไป
สภาพที่ผมเห็นตอนนี้ ผมแทบจะจำแป๋ม เด็กผู้หญิงแสนสวนแต่แก่นแก้วคนเดิมแทบไม่ได้
เพราะใบหน้าที่บวมปูด คราบเลือดที่ถูกเช็ดออกไปยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง ผ้าก้อต สายระโยงระยางเต็มไปหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยก็คือ
แววตาที่มุ่งมั่นของแป๋มที่ยังคงมีอยู่ตลอด
ผมสังเกตไอ้ฟิล์มกัดริมฝีปากแน่น มันคงไม่อยากร้องไห้ให้ไอ้แป๋มเห็น ส่วนป้าไอ้กัสก็ได้แต่ยืนหันหลังเหมือนกับไม่อยากเห็นภาพตรงหน้า
ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าทั้งพ่อแป๋มและไอ้ฟิล์มรู้อะไรมา แต่ผมคิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
แต่ตอนนี้ สิ่งที่ผมเห็นก็คือ แป๋มครับ แป๋มยังยิ้มได้
ตอนนี้พ่อของแป๋มได้เข้าไปกระซิบข้าง ๆ หูแป๋ม ซึ่งพอพูดเสร็จแป๋มก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ด้วยน้ำตา ก่อนที่พ่อของแป๋มจะพาป้ากัสออกไปข้างนอกห้องเพราะทนเห็นภาพนี้ไม่ได้
เรานิ่งกันไปสักพัก แป๋มก็พยักหน้าเรียกผมให้เข้าไปใกล้ ๆ
ผมรีบเข้าไปจับมือกับแป๋มเพื่อให้กำลังใจ และคอยฟังว่าแป๋มจะพูดว่าอะไร
"บิวจำได้ไหม ที่บิวเคยบอกแป๋มว่า..." พูดสักพักเสียงแป๋มก็เงียบไป เหมือนว่าคนอ่อนแรงมาก ๆ
"แป๋มถ้าเหนื่อยก็อย่าเพิ่งพูดเลยนะ ไว้รอแกหายดีก่อนก็ได้" แต่แป๋มสายหน้าและพยายามที่จะพูดต่อ
"ดอกกุหลาบ ก็คือดอกกุหลาบ ดอกไฮเดนเยีย ก็คือดอกไฮเดนเยีย ดอกทิวลิปก็คือดอกทิวลิป ถึงแม้ว่าดอกไม้แต่ละดอกมันจะต่างชนิดกัน สีสันต่างกัน หรือรูปร่างต่างกัน แต่มันไม่สำคัญเลย มันสำคัญตรงที่ว่า ดอกไม้แต่ละดอกมีพลังที่จะเติบโตในแบบฉบับของตัวมันเอง ก็เหมือนกับคนเรานั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะเกิดมามีรูปร่างต่างกัน เพศต่างกัน มันไม่สำคัญเลย มันสำคัญตรงที่ว่าเราต้องมีพลังที่จะเติบโตในแบบฉบับของตัวเราเอง และฉันก็เชื่อว่าแกจะเติบโตในแบบฉบับของตัวแกเองนะเว้ย" เสียงของบิวหายเป็นช่วง ๆ ตอนนี้ภาพของแป๋มพร่าเลือนเหลือเกิน เพราะตาผมท่วมท้นไปด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาเต็มแก้ม
"อืม...เราจะพยายามนะแป๋ม ...ฮืออ" ผมพยายามส่งยิ้มให้กับแป๋มที่ยิ้มตอบผมกลับมา
"เข้มแข็งไว้นะ...ถ้าเราไม่อยู่ ยิ้มไว้นะ" ภาพทุกภาพระหว่างแป๋มกับผมผุดขึ้นมาเต็มหัวไปหมด ดูสิ ขนาดนี้แล้วมันยังไม่ห่วงตัวมันเองอีก
"อืมได้...เราจะยิ้ม เราจะยิ้มนะแป๋ม" ผมพยายามยิ้มอยากลำบากเพื่อให้มันเห็น
"ดูแลไอ้บิวด้วยนะกัส เราเชื่อว่าแกทำได้" ไอแป๋มหันไปพูดกับไอ้กัสที่พยักหน้าตอบอย่างช้า ๆ
"ส่วนแกไอ้ฟิล์ม...ฉันรักแกนะ" พอพูดจบ ไอ้ฟิล์มก็วิ่งเข้ามาซบหน้ากับอกไอ้แป๋มพร้อมกับปล่อยโฮออกมา
"แป๋มอย่าทิ้งฟิล์มไปนะ..ฮือ..ฮืออออ แป๋มอย่าทิ้งฟิล์มไปนะ" ผมกับกัสมองภาพนั้นด้วยความสลดใจ
สักพักพ่อไอ้แป๋มและป้ากัสก็เข้ามาในห้อง เราทั้งหมดยืนล้อมเตียงแป๋มไว้
"คุณป้าค่ะ รักบิวด้วยนะค่ะ" พอแป๋มพูดจบ ผมกับป้ากัสก็สบตากัน สักพักนึง ป้ากัสก็หันไปพยักหน้าช้า ๆ กับแป๋มพร้อมกับบอกว่า
"แป๋มพักเหอะนะ เหนื่อยมาเยอะแล้ว"
"หลับให้สบายนะลูก"
แป๋มยิ้มให้พวกผมสักพักก่อนที่จะค่อย ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ
สภาพของแป๋มตอนนี้เหมือนคนนอนหลับที่กำลังฝันดี เพราะมุมปากมีรอยยิ้มนิด ๆ ...
แป๋มจากพวกเราไปแล้ว
แป๋มไปแล้ว....
-
:m15: :m15: :m15: โหมดเศร้า
ทำไมทำงี้อ่ะ
:m15: :m15:
ขอบคุณคัพที่มาต่อ
เป็นกำลังใจให้น๊า........
-
:m15: :o12: o7 ทำไมมาโหมดเศร้า ขนาดนี้อ่ะครับ :o12:
-
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7
-
:serius2: :o12: :sad2:
-
:m15:
:o12:
:sad2:
-
ทำไมผู้หญิงดีๆ แบบแป๋มต้องเจออะไรอย่างนี้ด้วย :m15: :m15:
-
แงๆม่ายยอมๆ :o12: :o12: :o12: :o12:
ปาฏิหารย์ มีจริง
แป๋มฟื้นเซ่ :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
(บ้าไปและตู) o2 o2 o2 o2
-
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
ทำไมคนดีแบบแป๋มต้องรีบจากไปด้วยล่ะ
-
:dont2: :sad4: :o7: :m8:
:o12: :o12: :o12: :o12:
-
เรื่องนี้พาให้ร้องไห้ได้ ตลอด :sad2:
-
น้ำตาไหลเลย ทำไมเป็นแบบนี้
:sad2: :sad2: :sad2:
-
สงสารแป๋มจังเลย คนดีๆ แท้ๆ เป็นคนดีที่สุดในเรื่องนี้เลย :m15: :m15:
-
:o12: :o12: :o12: :o12:
-
:m15: :m15: :m15:
จะเศร้าไปไหนอ่า แงงง.... :o12:
-
:sad2: :sad2: ทำไมถึงเกิดเรื่องร้ายๆกับเพื่อนดีๆอย่างแป๋มได้ละครับ :o12: :o12:
-
ง่ะ :sad2: แป๋มเพื่อนทุกข์เพื่อนยากไปสบายแล้ว :o12:
นี่แหละนะ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน :sad2: :sad2: :sad2:
-
ง่ะ โหมดเศร้า....................
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
คงไม่มีอะไรเศร้าๆอีกแร้วนะ
เป็นกำลังใจให้คับ
-
:a5: :serius2: :sad2: :o12:
-
:sad2: :sad2: :sad2: :o12: :o12: :o12:
ทำไมมันเศร้างเลยอะคับ ไม่แงแนคนอ่านเยยหยอ
แงแง
-
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
:m15: เศร้า อ่ะ
-
:m15:
:m15:
:m15:
นี่แหละความเสียใจ
หลับให้สบายนะสาวน้อย
แป๋ม
-
เศร้าอ่า
:m15: :m15: :m15: :m15:
-
:o12:เศร้า แป้ม :m2: ให้สบายนะ
มาต่้อเร็วนะ :bye2:
-
:o12: :o12: :o12: :o12:
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
เพื่อนดีๆอย่างพี่แป๋ม จากไปแล้ว
หลับให้สบายนะครับพี่แป๋ม ต่อจากนี้พี่บิวต้องเข้มแข็งนะครับ
ฟิร์มด้วย ตกลงใครเป็นพระเอกครับเนี้ย ยังคาใจอยู่เลยครับ
ใช่ฟิร์มหรือป่าว ใจผมมันบอกว่าพระเอกไม่ใข่กัส อะครับ อิอิ
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
+ มาต่อ ตอนต่อ ไปเร็วๆๆๆ นะค่ะ
:bye2:
-
อยากให้เป็นแค่ฝันจัง เพื่อนที่ดีของบิวไปแล้วฮืออ
-
:m15: รัยเนี๊ย...อ่านเรื่องไหนก็มีแต่เรื่องเศร้า ๆ
ทำมัยมันมีแต่เรื่องเศร้างี้ฟ่ะ ... :sad2:
-
:sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
เศร้าค่ะ
-
หลังจากการจากไปของไอ้แป๋มแล้ว ไอ้ฟิล์มก็ตัดสินใจโอนหน่วยกิจไปเรียนต่อที่อังกฤษทันที มันบอกว่ามันทนไม่ได้ที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อม และสังคมที่มันกับแป๋มเคยอยู่ด้วยกัน
หลาย ๆ ครั้งที่ผมแอบเห็นไอ้ฟิล์มนั่งร้องไห้อยู่เงียบ ๆ มันคงรักของมันมาก ถึงแม้ว่าบางครั้งมันจะวอกแวกไปบ้าง แต่คนที่มันรักที่สุดก็คือไอ้แป๋มเพื่อนสนิทของผม เรื่องที่มันขอไปเรียนต่อเมืองนอกนั้น แม่ของมัน (ป้าไอ้กัส) ก็เห็นดีเห็นงามด้วย คงจะเป็นเพราะสงสารและเข้าใจลูกชายมากๆๆ แถมยังเปรยๆๆให้ไอ้กัสไปเรียนเป็นเพื่อนด้วย ซึ่งถ้ากัสไปจริง ๆๆ ผมก็คงต้องปล่อยไป เนื่องด้วยฐานะทางบางผมคงไม่มีทางที่ผมจะกระเสือกกระสนตามนายกัสไปได้อย่างแน่นอน แต่ของอย่างนี้ ผมเคารพการตัดสินใจของกัสครับ
ในความคิดผม ตอนนี้ เรื่องที่มันเหมือนจะทำท่าจะดีขึ้นแล้ว กลับต้องหยุดชะงักลงไว้ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ป้าไอ้กัสมันจะเปลี่ยนความคิดลงหรือยัง หลังจากงานศพ ผมก็ไม่กล้าเข้าหาป้าไอ้กัสเลย บอกตามตรงว่ากลัวครับ ชีวิตผมตอนนี้เหมือนอยู่คนเดียว จากที่เคยนั่งเรียนพร้อมกับไอ้แป๋ม ไอ้ฟิล์ม ก็ต้องนั่งเรียนคนเดียว เพราะนอกจากสองคนนี้ผมก็ไม่มีเพื่อนสนิท ก็มีแต่ก็พูดคุยกันธรรมดา จากที่เคยกัดกับไอ้ฟิล์ม ตอนนี้มันก็มาบ้าง ไม่มาบ้าง คงจะยุ่งๆๆ ไอ้กัสตอนนี้ก็หายๆๆไป โทรไปก็ไม่ค่อยว่าง บอกแต่ว่าช่วยไอ้ฟิล์มจัดการธุระอยู่ ก็เลยไม่อยากรบกวนเท่าไหร่
อาการน้อยใจก็เริ่มกำเริบขึ้นทีละนิดๆๆ แต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ ไม่กล้าบอกใคร วันนี้ก็เช่นกัน ผมรู้สึกเบื่อ ๆๆก็เลยลองกดโทรศัพท์หาไอ้กัส เพราะไม่ได้คุยกันหลายวันแล้ว
"สวัสดีครับ ตอนนี้ผมไม่ว่างรับสาย มีอะไรฝากข้อความไว้ แล้วจะโทรกลับนะครับ. ตุ๊ด" เสียงฝากข้อความของไอ้กัสมันครับ มันไม่ว่างรับสายหรือทำอะไรอยู่กับใครก็ไม่รู้ อารมณ์ที่โกรธทำให้ผมปาโทรศัพท์ลงพื้นอย่างแรง แต่พอนึกขึ้นได้ว่ามีอยู่เครื่องเดียว ก็เลยรีบวิ่งไปดูมือถือ ปรากฎว่ามันเป็นเศษไปแล้ว
"ตายห่า แล้วกรูจะเอาอะไรใช้วะเนี่ย จำเบอร์ใครไม่ได้เสียด้วย" ผมนั่งจมอยู่ตรงนั้นพร้อมเศษมือถือตรงหน้า คิดถึงเจ้าแป๋ม คิดถึงเจ้าปลาทอง อยู่ๆๆ น้ำตามันก็ไหลออกมา
"แต่เดี๋ยวก่อน เรายังมีพี่นัทนิหว่า"......
-
:laugh: เหวอ สั้นได้จาย
อิอิ........
อย่าบอกนะ ว่าไอ้กัสเนี่ย ไม่ใช่พระเอก
:เฮ้อ:
ขอบคุณนะครับที่มาต่อ อย่าหายไปนานอีกนะ
ไม่มาต่อ อย่างน้อยก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนบ้างน๊า......
-
นานจนคนอ่านลืมตาม :laugh:
:L2: ขอบน้ำใจที่มาต่อ o7
-
สั้นเหมือนของคนแต่งเลย
ยังไม่รู้เรื่องเลยคร้าบบบบบบบ
-
เอ่อ..ครือว่า มันมีเเค่นี้จิงๆเหยอ :o12:
-
เล่นกันแบบเนี้ย เรยเหรอ
o2
-
สั้นมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ก็เป็นลางดีว่ายังไม่ทิ้งกัน อิอิ
-
o7
กว่าจะอ่านจบเสียตั้งแต่อ่านครั้งสุดท้ายทิ้งไว้
เสียน้ำตาไปหลายลิตร
แต่สะอื้นไม่ได้เพราะมาอ่านในห้องสมุด
เดี๋ยวเค้าจะหาว่าเราเป็นบ้าอะไร
อิอิ
อาย :sad2:
-
ง่า... แล้วจะมีต่ออีกไหม เนีย :serius2:
-
คนแต่งชอบสั้น ๆๆๆ :o8: :o8:
-
สั้นจังเลยอ่า
ขอยาว ๆ ได้ไหมค้าบ
เอิ๊ก ๆ
-
สั้น ด้ายจายจริง ๆๆ เรยน้า
ตอนหน้าขอแบบยาว ๆด้าย ปะ
*ทามมายกัสทามงี้อ่า
หายไปเรย
เชียร์กัส สุดใจ แต่ กลับ มาแบบ หวานๆๆ หน่อยน้า :bye2:
-
จะเข้าโหมดเศร้าอีกแล้วเหรอ
แป๋มไปดีแล้ว
-
ถึงสั้นพี่ก็ร๊ากกกก :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
ตกใจ...ที่มาต่อ
ตกใจยิ่งกว่า...ที่มาต่อได้สั้นมาก
เฮ่ เฮ่ ล้อเล่นนะ
:pig4:
-
หลังจากนึกถึงพี่นัทได้แล้ว ก็เลยนั่งรถเมล์ไปหาพี่ ดีนะที่เคยไปคลีนิคหมาของพี่นัทมาบ้าง
นิ้งหน่อง
"............................"
นิ้งหน่อง
"เดี๋ยวครับ รอเดี่ยว" สักพักนึงผมก็ได้เห็นเจ้าของเสียงนั่น ครับพี่นัทนั่นเอง แต่ว่าเอ๊ะ ใครอะนั่นเดินตามหลังออกมาด้วย หน้าตาหล่อตี๋ ดูดีทีเดียว
พอพี่นัทออกมาเห็นผมก็อึ้ง ๆเล็กน้อย
"อ้าว บิว มาได้ไงเนี่ย" ผมไม่ตอบครับ ได้แต่มองหน้าพี่นัทที มองหน้าเด็กหนุ่มข้างหลังที ก็พอจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร
"เออ ไม่มีอะไรครับ ผมไม่อยากรบกวนพี่ ผมไปก่อนนะ"
"เดี๋ยวสิ รบกวนอะไร บิวเป็นน้องพี่ทั้งคน"
ผมไม่ตอบครับ แต่เดินไปกระซิบข้าง ๆ หู ทำเอาเจ้าตัวที่ได้ยินถึงกับยิ้มอาย
"บ้า"
"55555+ ทำเป็นเขิน"
"ไม่อยู่ละ ไปดีกว่า แล้วเจอกันนะครับ"
"โอเค แล้วเจอกัน ว่าง ๆก็มาเที่ยวได้นะ"
"คร้าบบบผม" เมื่อกี้ผมกระซิบอะไรนะหรออ ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็แค่บอกว่า ช่วยแนะนำพี่สะใภ้ให้รู้จักหน่อยนะ" หุหุ ส่วนผมตอนนี้ยังไม่รู้จะไปไหน ก็เลยคิดว่าจะกลับหอดีกว่า จากที่เครียดๆๆเมื้อกี้ หายเลยครับ
-
สั้น อ่า
-
เง้อ... มากระปริดกระปรอยจัง :m31:
-
:m4: สุดยอด สั้นได้ใจ
ขอบคุณคับที่มาต่อ รออ่านต่อไปค๊าบ.....
-
:a5: แค่เนี๊ย! .... o7
-
ขอบคุณค่า วันนี้มาสองตอนเลย :pig4:
มาต่ออีกนะ รออ่านจ้า :oni3:
-
แง่ๆ หรอกให้อยากแล้วจากไป :o12: :o12: :o12:
แต่ก็ดีที่ม่ายลืมกาน สู้ๆครับ o7 o7
-
ตามหน้าทันแล้ววววว พี่นัทนี่เป้นครายยยยยย o2
-
เรื่องราวทำไมมัน...เศร้ามากมายอย่างนี้นะ... :sad2: :sad2: :sad2:
ปล. รีบมาต่อไวๆนะค้าบบ...งิงิ
-
รอตอนต่อจร้า
-
:m23:
เหะ ๆ
-
ก็ยังสั้นเหมือนเดิม :laugh: :laugh:
คนเนี้ย ๆๆๆ คนข้างบนหัวเนี่ย กลับไปต่อนิยายของตัวเอง ด่วน รอนานแล้วค๊าบ
-
บิวจะได้พี่สะใภ้แล้ว
มารออ่านต่อนะ ตอนต่อไปขอแบบยาวๆๆๆๆหน่อย
-
ก๊อก ๆๆๆๆๆ
ก๊อก ๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำเอาผมตื่นขึ้นจากผวัง หลังจากที่ผมกลับมาจากบ้านพี่นัท ผมก็ตรงกลับหอเลย และเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว มาสะดุ้งตื่นก็อีตอนมีใครมาเคาะประตูเนี่ย
"เฮ้ย ไรวะ อย่าบอกนะว่าเมิงหลับ" ไม่ใช่ใครหรอกครับ ไอ้ฟิล์มนี่เอง
"เออ แล้วกรูหลับไม่ได้หรอ แล้วนี่เมิงมาได้ไงเนี่ย "
"เมิงรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเลย แล้วไปกับกรู"
งงสิครับงง มันจะให้ผมไปไหนกับมัน
"ไปไหน" มันไม่ตอบครับ แต่กึ่งดันกึ่งลากพาผมกลับเข้ามาในห้อง และจับผมยัดเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับโยนผ้าเช็ดตัวตามเข้ามา
"อะไรเมิงเนี่ย"
"เออ ไม่ต้องถาม ทำตามที่กรูบอกละกัน แล้วเร็ว ๆ ด้วย เขารอเมิงอยู่คนเดียว"
"ใคร" ผมพุ่งออกมาจากในห้องน้ำเพื่อถามมันให้เคลียร์ที่ว่า เขารอผมอยู่คนเดียวเนี่ย หมายถึงอะไร ตอนนี้ไอ้ฟิล์มทำหน้าเหมือนนึกอะไรออก ก่อนจะตัดบทด้วยการ "ถีบ" ผมเข้าห้องน้ำพร้อมกับปิดประตู เล่นเอาผมงงไปเลย
ระหว่างทางที่อยู่ในรถ มันก็ไม่ยอมบอกผมสักทีว่าจะพาผมไปไหน ตอนหลังขี้เกียจถามก็เลยนั่งนิ่งๆๆ มันคงไม่เอาผมมาขายหรอก และเรื่องชุดอีกเหมือนกัน มันก็ให้ผมแต่งซะเว่อร์เลย ไม่รู้ว่ามันไปหาชุดมาจากไหน แต่ดูจากชุดแล้ว คงจะไปงานอะไรสักงาน
สักพักมันก็พาผมออกนอกตัวเมืองกรุงเทพไปเรื่อย ๆๆ ผมมองหน้ามัน มันก็ได้แต่หันมายิ้มให้แบบกวนๆๆ เห็นแล้วเสียวสันหลัง
ชั่วโมงครึ่งผ่านไป รถของไอ้ฟิล์มก็แล่นเข้ามาจอดในสถานที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะเป็นสถานที่ที่ผมกับกัสปรับความเข้าใจกัน
บ้านไม้สีขาวริมชายหาดที่ทอดยาวลงไปในทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ภาพเก่าๆๆ ย้อนกลับมาในวันนั้นวันที่ผมกับกัสอยู่ด้วยกันที่นี่ ก่อนที่แป๋มจะรถชนตาย
"อะแฮ่มๆๆ"
เสียงกระแอมเบาๆๆ ทำให้ผมต้องหันหลังกลับไปดูที่นอกรถ ภาพของคนตรงหน้า ทำเอาผมยิ้มทั้งน้ำตาเลยละครับ
-
จะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมั้งแล้วใช่มั้ย :m4:
-
มาต่ออีกแล้ว :m4: :L2:
-
ขอบคุณคับที่มาต่อ
เฮ้อ หวังว่าจะเจอเรื่องราวดีดีกันซักทีนะ
รออ่านตอนต่อไปคับ
-
อ่ะ อยากรู้เรื่องแล้ว มาต่อตอนต่อไปเลยค่ะ
-
ช่ายมาต่อเลย
-
สั้นๆ แต่ทำให้มีความหวัง :oni2:
-
"ภาพของคนตรงหน้า ทำเอาผมยิ้มทั้งน้ำตาเลยละครับ"
ใครน่ะ .... รีบมาเฉลยให้รู้เลยนะ
รออยู่คร้าบบบบ o2
-
อ่านทันแล้ววว สนุกมากครับ ^ ^
ตอนล่าสุดมีอะไรให้ลุ้นอีกแล้ว อิอิ
รีบๆมาต่อนะครับ =w=
-
งานแต่งงานของใครหรือเปล่า :m4:
-
หุหุ
:m1:
-
อิอิ งานไหร่หว่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :a2:
-
:m1: จามีการสะใภ้อะไรกันอีกล่ะเนี๊ย นู๋กัส คริ ๆ :o8:
-
รีบ ๆ มาอัพนะครับ
รออ่านตอนต่อไปครับ
-
มาอัพต่อสั้นๆแบบให้ความหวังคนอ่าน
ก็ต้องขอบคุณนะคะ
-
เอ่อ ! พอดีผมกลับไปดูตอนเก่า ๆ มา
รู้สึกว่าจะไม่มีพี่นัทอ่าคับ ไม่รู้ดูข้ามไปหรือเปล่า
มีแค่"พัด"ที่เป็นเพื่อนของแป๋มที่เรียนสัตวแพทย์อ่าคับ
รู้สึกว่านานจนคนแต่งจาลืมชื่อตัวละครไปแล้ว :laugh: :laugh:
แล้วก็มีความรู้สึกว่าฟิล์มจะเป็นพระเอก
-
สั้น ได้ใจจริงๆ
มาต่อไวไวนะครับ
-
o7 o7 o7 สนุกได้ใจมากๆเลยครับ มานอนรอตอนต่อไปครับ
-
เง้ออ...ค้างอ่าค้าบบ...งิงิ
รีบมาต่อไวๆนะค้าบบ...งิงิ
-
เกิดอะไรขึ้นเนีย
งานอะไรอะ :mc4:
อยากรู้อยากเห็นไวๆ จัง
-
:o12: :o12: :o12:ทามไมยังมาอีกอ่าครับ
-
ค้างงงงงงงงงงงงงแล้วมันจะเกิดอารายขึ้นต้องมีงานอะไรแน่ๆๆ
แป๋มน่าสงสารอ่ะสงสารฟิมล์มากกกกกก :o12:
ิรออ่านต่อไปค้าบบบบบ :oni2:
-
ผมหันหลังกลับไปตามเสียงกะแอมเบาๆๆ ภาพตรงหน้าทำเอาผมยิ้มทั้งน้ำตาเลยครับ ก็เพราะว่าเจ้าของเสียงนั่นก็คือ คนที่ผมเฝ้าคิดถึงมาตลอด วันนี้มันโคตรเท่ห์เลยครับ
มันมาในเสื้อเชิตสีขาว พร้อมกับกางเกงยีนส์สีขาว แหม มันคิดว่ามันเป็นพี่บี้ เดอะสตาร์หรือไงไม่ทราบ ผมนั่งงงอยู่ตรงนั้น จนกระทั่งมันยื่นมือมาเปิดประตูรถให้ พร้อมกับส่งมือมาที่ผม
ไอ้ผมก็งงสิครับ มองมือสลับกับมองหน้ามัน
"เอ้า ลงมาสิ หรือว่าต้องให้อุ้ม" ยังมีหน้ามาทะเล้นอีก
"ไม่ต้อง" งอนสิครับ ช่วงนั้น กรูงงไปหมดแล้ว พวกเมิงเล่นเชี่ยอะไรกันเนี่ย
ผมลงจากรถได้ก็เดินกระแทกส้นปึงๆๆ ตามไอ้ฟิล์มไป ส่วนไอ้กัสก็หัวเราะ วิ่งตามมาติด ๆๆ
พอเข้ามาในบ้าน ทำเอาผมแทบคลั่ง เพราะทุกคนอยู่กับครบองค์ประชุม ทั้งพ่อแป๋ม ป้าไอ้กัส ไอ้ฟิล์ม พี่พัด เมียเขาและพี่เจ้าของร้านอาหารที่ผมเคยไปทำงานพิเศษด้วย ทุกคนตอนนี้ บ้างก็ผิวปาก บ้างก็ยักคิ้วลิ่วตาใส่ผมใหญ่ แถมบ้านตอนนั้นก็ตกแต่งซะสวยเชียว ราวกับว่าจะมีงาน
ผมทำอะไรไม่ถูก ไม่ได้เขินนะครับ แต่งง ก็เลยได้แต่ยิ้มให้ทุก ๆ คน พร้อมกับทำปากขมุบขมิบเรียกไอ้ฟิล์มให้มาใกล้ๆๆ จะได้ถามมันถูก
"อะไรของเมิงวะ" ผมกระซิบถามไอ้ฟิล์มทันที่เมื่อมาเดินหัวมามาหาผม
"ที่บ้านนี้เขากำลังจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกสะใภ้เว้ย"
"ไหน ใครวะ" ผมเอ๋อแดก มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นมีใครสักคน
-
"ตอนแรกก็กลัวว่าจะไม่ทันกรูไปเมืองนอก เลยต้องรีบจัดการให้ซะก่อน เดี๋ยวมันจะลงแดงตาย" ไอ้ฟิล์มยังไม่หยุดพล่าม
"แล้วใครเจ้าบ่าวละ"
"นู้นไง เดินมานู้นแล้ว" ไอ้ฟิล์มพยักหน้าไปด้านหลังผม ซึ่งพอหันกลับไปดูก็ไม่ใช่ใคร ไอ้กัสนี่เอง
"เออ...แล้ว ใคร...เป็นเจ้าสาววะ" กลัวคำตอบที่ซู้ดดด
"หุหุ ก็เมิงไงครับไอ้เพื่อนรัก"
" o2"
หลังจากที่ไอ้ฟิล์มประกาศออกไป เสียงหัวเราะก็หลุดออกมาจากทุกคนดังครื่น เนี่ยพวกเมิงรวมหัวกันแกล้งกรูใช่ไหมเนี่ย ผมค่อยมองหน้าไล่ไปทีละคน ป้าไอ้กัสรีบปฏิเสธ
"ป้าไม่เกี่ยวนะ"
"พ่อก็ไม่เกี่ยวเหมือนกันนะ ถ้าจะโกรธ นู้นไปโกรธเจ้าฟิล์มนู้น" พ่อไอ้แป๋มเริ่มโบ้ย
"อ้าว ไหงเป็นงั้นละครับ ก็ช่วยกันคิดนิหน่า"
-
:oni2: มาต่อแล้วๆๆๆ
-
ตอนนี้ไอ้กัสก็เดินมาตอนไหนไม่รู้ มาหยุดที่ตรงหน้าผมแล้ว เล่นเอาผมเขิน
"รักนะ" คำพูดแรกที่หลุดออกมาจากปากไอ้กัส
"รักไหม?" คำพูดที่สองก็ตามออกมา
หน้าตาของมันเล่นเอาผมเคลิ้มเกือบจะหลุดออกไปแร้ว แต่นึกขึ้นได้ว่าคนตรึมเลยนิหว่า ก็เลยหันไปดูผู้ที่พยายามจะเป็นสักขีพยาน คนกลุ่มนั้นก็คงจะรู้สึกตัวว่าจ้องมองพวกผมอยู่ ก็เลยรีบทำเป็นหันไปคนละทิศละทาง ไอ้ฟิล์มแทบจะหันกลับไปแทะกรอบรูปเลยทีเดียว หลังรู้ว่าถูกจับได้ว่าแอบมอง
เล่นตัวซะหน่อย คือคำแรกที่คิดได้ครับ ผมเลยตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านทันที แต่วิ่งช้า ๆๆ กะว่าให้มันตามมาทัน หุหุ จะวิ่งไปตามถนนก็กลัวหลงทาง ก็เลยวิ่งลงไปที่ชายหาด บรรยากาศเหมาะกับการง้ออย่างยิ่งครับ หุหุ
-
จิ้มๆ
-
:a5:
เซอร์ไพส์ กับ 3 ตอนรวด จริงๆ
ดีใจ ที่มาต่อ
ปล. คิดถึง แป๋ม อ่า
-
หุ หุ เป็นนางเอกแสนงอนที่น่ารักมากกกกกกกกกก
วิ่งลงทะเลไปเลยค่ะ จะได้เป็นจำเลยรัก
-
แล้วถ้ากัสไม่วิ่งตามจะทำไงอะ
-
ชนะเลิศ
มามุกไหนกันเนี้ยะ
ขอบคุณครับ
-
แหม...............3 ตอนเลย อิอิ แล้วแถมวิ่งหนีเป็นหนังแขกด้วย o13
-
วิ่งเหมือนหนังแขก แต่ถ้าเขาไม่ตามทำไงล่ะ :o8:
-
เอ้า.... เจ้าสาวแสนงอนจะหนีงานวิวาห์ไปไหนจ๊ะ
ไม่สงสารเจ้าบ่าวเหรอ
กัสรีบตามด่วน...... :mc4: :mc4:
-
อ่ะโห...เล่นการแบบนี้เยยหรอค้าบบ...อิอิ
ปล.ได้มา 3 ตอนแย้ว แต่ยังค้างงอยู่เลยอ่ะค้าบบ...งิงิ
-
เอ่อ เกิดเค้าไม่วิ่งตามทำไงล่ะ :laugh:
-
^^
^^
จิ้มอุ๋ม อิอิ :กอด1:
วิ่งหนี เอ่อ เป็นหนังอินเดียเหรอ :m20:
ล้อเล่นนะจ้ะ :m14:
แต่ว่า....ค้างงงงงงงงงงงอ่ะ :m31:
มาต่อด่วนเลยนะจ้ะ
-
หมดกัน ...เห็นบอก 3 ตอน
..........................................
.........................................
......................................
...................................
................................
............................
........................
.....................
.................
..............
..........
สั้นโคตร
-
:a5: :a5: :a5: หมดแล้วอะขออีกได้ไหมอะครับ อิอิขอบคุณครับ
-
:laugh:
-
ว้าว 3 ตอน
แต่ อ่านไป อ่านมา
:a5: :a6: :a5:
-
3 ตอนจริงๆ :m30: แต่มันไม่จบนี่นา ยังไม่ทันหวานเล๊ย
-
:serius2: :serius2: :serius2: :serius2:ค้างคา
-
:serius2: ... สามตอนแค่เนี้ย....
คราวหน้า มา 30 ตอนเลยสิครับ :m12:
-
ง่ะ ตามอ่านตอนเค้าจะจบกันแล้วทุกที
กำ
มาต่อเร็วๆนะคับ เ็ห็นด้วยกับเมนต์ข้างบน
30 ตอนเลยคับ
5555555555
-
รอความใจดีของ คนเขียน ช่วยมาต่อให้หายค้างงทีเถอะนะค้าบบบ...สาธุ(อิอิ)
-
โอ้ งานแต่งงงงปิดเล้าฉลองงง555+
ว่าแต่ทำไมไม่บอกก่อนล่ะว่า3ตอนเนี่ย ตอนละ 3นิ้ว หุหุ
-
มาต่อซะที ได้โปรด
-
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
สรุปแล้วพระเอกคือไรครับผม
ไม่ใช่กัสใช่ไหม อยากให้ฟิส์ม เป็นพระเอกอะครับ
หายไปนานเลยครับ
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
:m31: ค้าง~
-
ชอบเรื่องนี้ค้าบบบ
แต่แป๋มมมมมไม่หน้าตายเลยอะ :o12: :o12:
สู้ๆ จ้า
-
มาต่อเร็วๆนะ ป่านนี้วิ่งง้อทั่วชายหาดแล้ว :pig4:
-
อ่านรวดเดียว โห มีความสุขกันซะที
ลุ้นตอนต่อไป :o8:
-
เข้ามานอนรอจ๊ะ :a12: :a12: :a12:
-
:m22:
:m32:
-
...ยังคงรอต่อปายย...งิงิ
-
รอนะครับ :a2:
-
>>>ให้คนอื่นรออออ...ตัวเองเปิดเว็บนางงาม :m14:
:กอด1:>>>ช่วงนี้เห็นคนแต่ง งานยุ่งมากๆครับ เห็นบอกว่ามีสัมนา :a3:
-
ขอบคุณมากนะครับคุณเกียรติเกย์ ที่ออกมาแก้ตัวให้ อย่างนี้ถือว่ารักกันจริง หุหุ :oni2:
.................................................ต่อกันเลยนะ
“บิว ๆๆ รอเดี๋ยวก่อน” ชิส์ ทำอะไรอะ ไม่เคยคิด และทีเนี้ยจะมาง้อ เห็นเราเป็นอะไร
“บิวคร้าบบบบ กัสขอโทษคร้าบบบบ” ทำเสียงยานเป็นเด็กปัญญาอ่อนเชียว
“ทุกคนรู้กันหมดเลยหรอ” อดใจไม่ไหว ต้องหันไปถามมัน
“ก็ประมาณนั้นอะ” ไอ้กัสพูดออกมาไม่ค่อยเต็มเสียงนัก ก็น่าไหมละ ตัวเองเป็นฝ่ายผิดนิ
“อืม...งั้นบิวก็โง่อยู่คนเดียว”
“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย” ไม่ต้องมาอ้อนเลย
“แล้วที่ผ่านมาไปไหนมาหละ”
“ก็ไปเคลียร์เรื่องของเราไง” พูดจบก็เอื่อมมือมากุมมือทั้งสองข้างของผมไว้ ดูจากสายตามันแล้ว คงไม่ใช่เป็นเรื่องล้อเล่นเหมือนที่ผ่านมา
“กัสอำเราปล่าว”
“นี่บิวยังไม่เชื่อใจกัสอีกหรอ...กัสยอมรับนะว่าที่ผ่านมามันอาจจะทำให้บิวเชื่อใจเราได้ยาก แต่ครั้งนี้ขอโอกาสกัสอีกครั้ง อีกครั้งเดียวเท่านั้น กัสสัญญา
ว่าจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้บิวมั่นใจและเชื่อใจกัส”
“แต่กัสต้องเข้าใจนะ ว่าความมั่นใจ ความเชื่อใจที่บิวมีให้กัสนะ มันอาจจะไม่เต็มร้อยเหมือนเดิมแล้วนะ” ไม่ต้องมาทำหน้าสลดเลย ก็เพราะใครหละ
“ไม่เป็นไรคับ เวลาที่กัสมีให้บิวต่อจากนี้ จะช่วยเติมเต็มทุกอย่างเอง”
“บิว”
“หือ อะไร”
“จูบหน่อยได้ไหม”
“ไอ้บ้า” ไม่ต้องมาทำหน้าหื่นเลย ไม่รู้ว่ามันไม่อายคนอื่นหรือไงไม่รู้
“น่านะ” ก่อนที่ผมจะพูดอะไร ไอ้กัสก็ค่อย ๆ ยื่นหน้าบรรจงจรดริมฝีปากที่หน้าผากผม พร้อมกับจรดหน้าผากของเราทั้งคู่เข้าด้วยกัน
“กัสรักบิวนะ” รอยยิ้มของกัส ทำให้ผมมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ความเชื่อใจ ความไว้ใจ หรือความรัก มันไม่ต้องเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดก็ได้ เพียงแค่มอง
ตา ผมก็รับรู้ได้แล้ว
“ฮิ้วววววววววววววววววว” เสียงโห่ดังลั่นจากในบ้าน ทำให้ผมสองคนสะดุ้งและหันกลับไปดู ก็เห็นไอ้ฟิล์มต้นเสียง ทำหน้าแลบลิ้นปลิ้นตาหลอก ส่วนคนอื่น ๆก็พลอยหัวเราะไปด้วย
“ไอ้บ้า” ผมด่ากลับไปครับ แหม ก็คนมันเขินนิ
“คุณป้าคับ เดี๋ยวผมกับบิวมานะคับ จะไปหาซื้อของกินสำหรับเย็นนี้ซะหน่อย” ไอ้กัสตะโกนกลับไปบอกป้ามัน ก่อนจะวิ่งเข้าไปไปหยิบกุญแจรถ และวิ่งออกมาด้วยความไวแสง เพื่อขับไปในตลาด
“นี่ซื้อเหล้ามาด้วยนะเว้ย จะได้ฉลองกัน 555” เสียงไอ้ฟิล์มตะโกนออกมาจากบ้านดังโหวกเหวกดังลั่น
“บิว เดี๋ยวบิวช่วยลิสต์รายการหน่อยนะว่าเราจะกินอะไรบ้าง” กัสหันมาบอกผม
“ได้เลยคับผม” ผมยิ้มรับอย่างทะเล้นๆๆ แหม ก็คนมันมีความสุขนิคับ
พอถึงตลาด เราก็หาที่จอดรถข้างทางและเดินลงไปเลือกซื้อของ ผมซื้อครับ แต่ไอ้กัสถือ หุหุ ไม่ค่อยเอาเปรียบกันเท่าไหร่
แต่ระหว่างผมกำลังหยิบเงินเพื่อที่จะซื้อไก่ทอดอยู่นั้น จู่ๆๆ ก็มีมือจากไหนไม่ทราบ ผลักเข้าที่อกผมเต็มแรง ก่อนที่จะกระชากกระเป๋าเงินผมไป ด้วยความตกใจ ผมก็ร้องให้ไอ้กัสช่วย พอไอ้กัสมันเห็นมันก็วิ่งตามจิ๊กโก๋หนุ่มรายนั้นไป ดูจากท่าทางแล้วคงจะติดยาแน่ๆ ก็ตัวมันผอมโทรมซะขนาดนั้น แต่พอนึกขึ้นได้ว่าอย่าตามมันไปเลย ก็ไม่ทันแล้ว ไอ้กัสวิ่งตามไปแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าพวกที่เรามันอยู่มีกี่คน ผมเลยต้องวิ่งตามมันไป
“คุณป้าครับ ฝากตามตำรวจด้วยนะครับ” ผมบอกคุณป้าขายไก่ทอด ก่อนจะวิ่งตามไป หวังว่าคงตามทัน เพราะเห็นหลังอยู่หลัดๆๆ พอเลี้ยวไปถึงมุมอาคารพาณิชย์ร้างแห่งหนึ่ง ก็เจอไอ้กัส ประจันหน้ากับพวกมันอีกสองคน
คิดว่าเบาะๆๆ เรื่องชกต่อยไอ้กัสไม่แพ้ใครแน่ และผมคิดว่าไอ้กัสมันก็คงคิดเหมือนผม มันก็เลยพุ่งเข้าใส่ ส่วนผมไม่ถนัดก็ได้แต่ตะโกนโหวกเหวกว่าตำรวจมาๆๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เชื่อกันเลย จากตอนนี้ดูเหมือนว่าไอ้กัสจะได้เปรียบอยู่ ในระหว่างที่คลุกวงในนั้น จู่ๆๆ ไอ้กัสก็ล้มลง พอไอ้กัสล้มลงทำให้ผมได้เห็นว่าในมือพวกมันนั้นมีมีดเปื้อนเลือดอยู่ด้วย ตอนนี้ผมไม่สนใจพวกมันแล้ว เลยปรี่เข้าไปดูไอ้กัสด้วยความเป็นห่วง ส่วนพวกมันก็คงจะตกใจเหมือนกัน ก็เลยทิ้งมิดและวิ่งหายไปคนละทาง
“กัสๆๆ อย่าเป็นอะไรนะ กัส ๆๆๆ ช่วยด้วย ๆๆๆ ใครก้ได้ช่วยด้วยๆๆ” ผมพยายามปลุกไอ้กัสพร้อมกับตะโกนเรียกให้คนอื่นช่วย แต่ดูเหมือนจะไร้ผล เพราะตรงนั้นมันเปลี่ยวเหลือเกิน
“ บิว ๆๆ กัสเจ็บ” เสียงของกัส ฟังแล้วแทบขาดใจ เพราะน้ำเสียงที่ขาดเป็นช่วงๆ ดูเหมือนว่ามันคงจะเจ็บมาก
“กัส ไม่เป็นไรนะ ทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็มีคนมาช่วยแล้ว โทรศัพท์ ใช่ๆๆๆๆ ต้องโทรศัพท์” พอผมหมดหวังจากการตะโกนให้คนช่วย ผมเลยต้องโทรศัพท์หาไอ้ฟิล์ม พอฟิล์มรับสายมันก็ตกใจใหญ่และรีบออกมา ส่วนผมก็ลากไอ้กัสออกมาจากมุมตึกนั่นอย่างทุลักทุเล ตอนนี้เลือดมันออกมาเยอะมาก ท่าทางคงจะโดนจุดสำคัญเหมือนกัน
“ทำใจดีๆๆ ไว้นะ” ผมพยายามปลอบใจกัส พร้อมๆๆกับค่อย ๆ ลากไอ้กัสออกมา
“อย่าเพิ่งหลับนะ”
“บิว”
“กัสอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลยนะ”
“ไม่ กัสจะพูด กะ...กัสรักบิวนะ” หลังสิ้นเสียงไอ้กัสก็นิ่งไป
“กัสๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
..................................................................
-
อ๊ากกกกก ม่ายยน้าาาาาาา :serius2:
-
หายไปนาน พอมาทีก็เศร้ากันเลยทีเดียว เฮ้อ
สงสัยจะจบเศร้าแล้วละมั้งเนี่ย
ขอบคุณนะคับที่มาต่อ รออ่านตอนต่อไปน๊ะคับ
-
:m15: :m15: :m15:หวังว่ากัสคงไม่เป็นไรนะ
-
อ้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรกันเนี่ย :serius2:
-
:ped149:>>>สู้ๆคร้าบบบบ ยังไงความรัก...ก็คงนำสิ่งที่ดีๆมาสักวัน
:กอด1:
-
สิทธิ์ที่จะรักใครสักคนขอให้เป็นบิวเถอะนะ
อย่าให้กัสเป็นอะไรเลย :o12: :o12: :o12:
-
:sad2: :serius2: :o12:
-
ขอเตือนไว้ก่อนนะฮะคนเขียนถ้าเรื่องนี้จบเศร้าละก้อรับรองมีเรื่องต้องเคลียกันยาว ขอบคุณนะฮะที่มาต่อ
-
อย่าทำร้ายจิตใจกันเลยนะ.....ติดตามมาตลอด สงสารกันหน่อย o7 บิวอ่ะน่าสงสารนะ เสียสิ่งที่รักมามากแล้ว
-
มาต่อแบบสั้นๆ แต่ทำให้ใจหายแวบบบบบ :a6: ไม่เอานะ
-
อย่าจบเศร้าน๊า
-
:serius2: กัสคงไม่เปงอารัยช่ายมั้ย
-
:o12: :o12: :o12: :o12:ไม่เอาน๊าเศร้ามากไปแล้ว
-
เง้ออ...อย่าให้ กัส เปงอะไรไปนะค้าบบ...งิงิ
-
คนอ่านมีขู่ :a5:
555555555555555
มาดูกันคนเขียนจะใจร้ายอ่ะป่าว
55555555 :laugh:
-
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อย่าทำร้ายคนอ่านเลยนะค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
-
o12 เริ่มมาอีกแร๊ะ .................... :เฮ้อ: จาให้เศร้าไปถึงหน๊ายยยยย :sad2:
-
รออ่านตอนจบครับ
ห้ามเศร้านะครับ
ไม่งั้นโดน
o12 o12 o12
-
ทุกสิ่งไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน...
ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ชีวิตผมก็เหมือนกัน...ไม่มีอะไรยั่งยืน อะไรที่เราคิดว่ามันเป็นของเรา บางทีมันก็ไม่ใช่ของเราเสมอไป
มีคนบอกว่า การยึดติดกับสิ่งใดมากเกินไป ทำให้เราเป็นทุกข์
การปล่อยวาง คือสิ่งที่ดีที่สุด
ขณะนี้ ผมกำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบสุดท้าย นับได้ตอนนี้ก็ โอ้โห 3 ใบแล้วสินะ ไม่น่าเชื่อว่าของ ๆ เราจะเยอะเหมือนกัน
กรงเจ้าปลาทองที่ว่างเปล่า...
รูปคู่ผมกับเจ้าแป๋ม ถูกห่ออย่างดี และใส่ลงกระเป๋า
ห้องพักของผมตอนนี้ว่างเปล่า...ดูๆ แล้วห้องเราก็กว้างเหมือนกันนะ
"กริ๊ง กริ้ง" เสียงสายเรียกเข้า ทำให้ผมตื่นจากผวัง
"โหล มีอะไร"
"ไอ้บิว...แกอยู่ไหน เร็วๆๆ เดี่ยวตกเครื่อง"
"เออๆๆ เสร็จแล้ว จะออกแล้ว อยู่ไหนแล้วหละ"
"อยู่ใต้หอแกแล้ว เร็วๆๆ หน่อยนะเว้ย"
"เออ แค่นี้นะ เดี๋ยวจะลงไป แต่แกขึ้นมาช่วยหน่อยก็ดีนะ"
"เออ ๆๆ รอแป็บ" แล้วเจ้าฟิล์มก็วางสายไป ผมเลยเร่งมือจัดกระเป๋า เช็คพาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน ยาเมาเครื่อง และของใช้อื่น ๆ อีกนิดหน่อย สักพักเจ้าฟิล์มมันก็ขึ้นมา
"โห ของเยอะมั่กๆๆๆ นี่หมดยังวะเนี่ย" ไอ้เจ้าฟิล์มมันขึ้นมาถึงก็ปากดี
"หมดแล้ว ก็เผื่อว่าอาจจะไม่ได้กลับมาอีก ไม่ใช่หรอ"
"อืม ก็ใช่ ไปเหอะๆๆๆ"
แล้วผมกับไอ้ฟิล์มก็ช่วยกันยกกระเป๋าลงไปยังรถของเจ้าฟิล์ม และมุ่งหน้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิทันที
-
ต่ออีกมั้ยเอ่ย :m17:
เศร้ากันเข้าไป :o12:
-
o2 o2 o2
-
มาไวๆนะค๊าบบบบ :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
รอลุ้นตอนบ่าย แต่เชื่อว่าต้องมีลุ้นแน่ๆ
-
รอลุ้นตอนจบครับ
รีบๆมาต่อนะครับ
-
:m15: :m15: งานก็เศร้า แล้วยังมาจบเศร้าอีกหรือเนี่ย :m15: :m15:
รออ่านตอนจบคับ :pig4: :pig4:
-
o7จะเศร้าอีกแล้วเหรอ....หวังไว้เผื่อมีลุ้นจบแบบhappyอ่ะ นะ :oni3:
-
อ่านแค่นี้ รู้สึกน้ำตามานก้อจะไหลแล้วอ่ะ
ใจไม่ดีเลยอ่า :m15:
-
สั้นจางงงงงงงงงงง :a5:
-
ไปไหนอ่า จะย้ายสำมะโนครัวไปอยู่กันที่เมืองนอกเยอออ :m22:
-
เง้ออ...บิว จาไปไหนอ่าค้าบบ...ค้างๆๆอ่า...งิงิ
-
ดีจ้า อ่านมาได้สักพักแล้วแต่ก็ยังไม่หมดนะ เราข้ามบางตอนต้องย้อนกลับไปอ่าน เรื่องนี้ต้องอ่านให้ละเอียดหน่อย
ตอนแรกที่เข้ามาอ่านก็เพราะ "ชื่อเรื่อง" ที่อ่านต่อมาก็เพราะว่าติดใจเนื้อเรื่อง เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงแล้วความรักที่ค่อยๆๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆๆของฟิกส์กับ
ฮิโระ ก่อนจะอ่านเรื่องไหนเราต้องดูก่อนว่าเป็นเรื่องเล่าหรือเรื่องแต่ง เราชอบอ่านเรื่องเล่ามากกว่า แต่เวลาอ่านเรื่องเล่าเราจะเม้มไม่ค่อยได้อ่ะ
เพราะมันไม่ใช่นิยาย ก็เลยได้แต่อ่านแล้วก็แอบให้กำลังใจอยู่เงียบๆๆ
เป็นกำลังใจให้ฟิกส์นะ :m4:รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะ :bye2:
-
ขอโทษทีนะเราเม้มผิดเรื่องแต่ว่าเรื่องนี้เราก็เข้ามาอ่านแล้วก็รอตอนจบเหมือนกัน :m23:
ขอโทษอย่างแรง :m13: เมื่อวานเราเข้ามาอ่านแต่ไม่รู้เน็ทมันเป็นอะไรเข้าไม่ได้เลย
วันนี้เราจะรอลุ้นตอนจบต่อไปนะ
-
:m31: :m31: :m31:ค้างอีกแล้วอะ ตอนจบอย่าเศร้าน๊า
-
พระเอกหายไปหนายยยยยยยยยยยยยยย :m31: :m31:
-
บิวจะไปไหนอ่ะ แล้วกัสอ่ะหายไปไหนนนนนนนนนนนน :m31:
อย่าจบเศร้านะ :m13:
-
ถ้าจะเดา คิดว่ากัสคงจะไปอยู่ต่างประเทศ บิว ซึ่งเป็นภรรยา เลยต้องตามไปดูแล
สาธุ ขอให้เป็นอย่างที่เดา
-
มาเร็วๆน้า อย่าหายไปนาน
-
ขอให้จบอย่างมีความสุขน้า
อย่า....เลย
มาต่อเร็ว ๆ นะค๊าบ :oni2:
-
อ่านแล้วเศร้า กลัวการสูญเสียจังเลย
-
ไร้คำบรรยาย
:serius2: :sad2: :o12:
-
มาเดินเล่นครับ แป้บๆๆนะ จะมาลงให้พรุ้งนี้
-
:m31: :m31:
พี่ค้าบบบ ค้างงงมากมายย
ได้กลิ่นอาไรทะแม่งๆๆ อย่าทำยังงี้ได้หมายยยย Happy ได้หมายยยย
แงๆ อาไรกานเนี้ย :o12: :o12:
จามาตามอ่านต่อคับ
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง :serius2: :serius2:
-
ค้าบบ...เปงเด็กดีมานั่งรออ่านแย้ววค้าบบ...อิอิ
-
หลังจากรถเคลื่อนมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่นั่นผมได้พบกับคนที่ผมคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นป้ากัส พ่อของแป๋ม พี่พัด และเพื่อนคนอื่น ๆ อีกสองสามคน ทุกคนคอยช่วยเตือนผมเรื่องของต่าง ๆ ย้ำแล้วย้ำอีกไม่ให้ลืม จนถึงเวลาที่ผมจะต้องเดินเข้าเกทแล้วจริงๆๆ
"ดูแลตัวเองด้วยนะลูก" นี่คือคำอวยพรของป้าไอ้กัสที่เดินเข้ามากอดผม ผมสัมผัสได้ถึงความรักและความอบอุ่นที่คุณป้ามีให้
"แล้วกรูจะตามไปนะเว้ย" ไอ้ฟิล์มเดินเข้ามาตบบ่าผมเบาๆๆ
"ดูแลตัวเองด้วยนะ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ" พี่พัด ยังไงก็ยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีของผมเสมอครับ
ผมล่ำลาทุกคนเสร็จ ก็เดินเข้าไปในเกทพร้อมกับของสองสิ่งที่อยู่ในมือ
สิ่งแรกเป็นรูปถ่ายของไอ้แป๋มใบเล็ก ๆ ที่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเอาติดตัวไปด้วย ไปอยู่ด้วยกันที่นู้น
สิ่งที่สองเป็นจดหมาย...จดหมายของคนที่ผมรักมากที่สุด และยังรักตลอดไป...
เมื่อขึ้นไปบนเครื่อง พนักงานสายการบินแห่งชาติให้การต้อนรับผมอย่างดี สักพักใหญ่ๆ เครื่องก็ค่อย ๆ ทะยานขึ้น
ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนที่ผมจะได้กลับมาเมืองไทยอีก
คงอีกนานละมั้ง...ความทรงจำหลาย ๆ เรื่องก็ผุดขึ้นมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเจอกัส ไล่มาเรื่อย ๆ จนความรู้สึกต่าง ๆ เริ่มก่อตัวขึ้นเป็นความรัก ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคต่างๆ มากมายแต่ผมก็ผ่านมันมาได้ จนมาถึงวันนี้ วันที่ผมตัดสินใจที่จะไปใช้ชีวิตในดินแดนที่ห่างไกล
ระหว่างอยู่บนเครื่อง ผมนั่งมองรูปแป๋มอยู่ ไอ้แป๋ม ยังไงมันก็ยังเป็นไอ้แป๋มเหมือนเดิม รอยยิ้มที่ทะเล้นของมันทำให้ผมอดอมยิ้มไม่ได้ ไม่รู้ว่าชาตินี้ผมจะได้เจอเพื่อนดี ๆ แบบนี้อีกหรือเปล่า
จากรูปแป๋ม ก็เป็นจดหมายที่ผมกำมันแน่นจนเริ่มแฉะเพราะเหงื่อ แม้ว่าผมจะได้อ่านมันมาหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่ทุกครั้งที่อ่าน ผมก็ยังรู้สึกตื้นตันในหัวใจทุกครั้ง และไม่เบื่อที่จะได้อ่านมันเลย
บิว...
บิวรู้ไหม...ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้กัสมีความสุขที่สุด นั่นก็คือการที่กัสมีบิวอยู่ข้าง ๆ ไง กัสไม่รู้หรอกว่ากัสกับบิวจะรักกันไปได้นานแค่ไหน เพราะว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต แต่กัสอยากให้บิวรู้ไวนะ ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม กัสยังรักบิวเสมอนะ
อ่านมาถึงตอนนี้ น้ำตาของผมก็เริ่มปริ่ม ๆ ที่เบ้าตาอีกแล้ว แต่ผมก็พยายามกลั้นมันไว้เพื่ออ่านต่อให้จบ
แต่ตอนนี้บิวคงรู้แล้วสินะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ต้องห่วงนะ กัสของบิวคนนี้ยังคงเข้มแข็งเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังคงรักกันไม่ใช่หรอ ไม่ว่าบิวจะอยู่ที่ไหน หรือทำอะไร กัสอย่ากให้บิวรู้ไว้นะว่ากัสจะอยู่ข้าง ๆ บิวเสมอ...ตลอดไป
พอผมอ่านมาจนหมดหน้าแรกแล้ว ผมก็เริ่มร้องไห้ออกมา ผู้โดยสารหลาย ๆ คนมากันมองด้วยความแปลกใจ ทำให้ผมต้องรีบเช็ดน้ำตาและทำสีหน้าให้ปกติที่สุด
ผมพลิกจดหมายไปอีกหน้านึง ซึ่งยังคงมีลายมือไอ้กัสเขียนไว้อีกสองสามบรรทัด
แต่บิวรู้ไหม ตอนนี้กัสทนรอที่จะเจอบิวไม่ไหวแล้วนะค้าบบบบ ที่รัก บิวรีบ ๆ เคลียร์เรื่องเรียนให้เสร็จไวๆๆหละ แล้วเราจะได้มาอยู่ด้วยกันที่นี่ ฮิฮิ กัสรักบิวนะคับ แล้วจะไปรอรับที่สนามบินนะ จะจูบให้หนำใจเลยยยยยยยย
จากสุดที่รัก...ถึงรักที่สุด
ผมเผลออมยิ้มออกมาด้วยความสุขที่มันเต็มตื้นหัวใจ อีกไม่กี่ชั่วโมง ผมกับกัสก็คงจะได้เจอหน้ากันแล้ว หลังจากที่กัสออกจากโรงพยาบาลและก็เคลียร์เรื่องเรียนเพื่อมาเรียนต่อในต่างประเทศ ตอนแรกกะว่าจะไปพร้อมกัน แต่ผมติดอยู่หนึ่งวิชา จึงทำให้ไปไม่ได้ ผมเลยตัดสินใจให้ไอ้กัสมาก่อน ตอนแรกมันก็กระเง้ากระงอดจะรอมาพร้อมกัน จนพร้อมทั้งปลอบทั้งขู่ จนในที่สุดมันก็ยอมไปก่อนจนได้
นี่แหละครับ บทสรุปความรักระหว่างผมกับไอ้กัส ไอ้ฟิล์ม และไอ้แป๋ม ต่อจากนี้จะเป็นยังไงต่อไป ยังไงก็ช่วยลุ้นด้วยนะครับ
บ้ายบายครับ
บิว
-
ขอบคุณนะคับ สำหรับเรื่องราวดีดีที่นำมาให้อ่านกัน
ถึงแม้ตอนจบจะเศร้า หรือป่าว เพราะมาเม้นตก่อน
ไงก็เป็นกำลังใจให้นะคับ
อ้าว ซึม มันไม่ได้เศร้านี่หว่า
happy ending ซะงั้น
เอาใจช่วยเน้อ
ไปแระ......
-
โห๋ ทำซะลุ้นไปหมดเลยย นึกว่าจะต้องเสียน้ำตาแล้วว
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยครับบบบบบ :m4:
รักพี่คนแต่งเรื่องนี้ อิอิ :L2:
-
เหอเหอ
หักมุมมากมาย
ขอบคุณ คุณ Bambu สำหรับเรื่องราวดีๆ ครับ
-
ดีใจจัง ที่ไม่ได้เป้นอย่างที่คิด :L1: :กอด1:
-
จบแบบ Happy ending ก็ดีใจนะ แต่ขออีกหน่อยได้ป่ะอ่ะ แบบว่าตอนพิเศษที่เค้าเจอกันแล้วได้อยู่ร่วมกัน :o8:
เพราะความรู้สึกคนอ่านมันค้างอ่ะ นะ :m23:
:pig4: ขอบคุณล่วงหน้า เอ๊ะ เรามัดมือชกรึเปล่าหว่า :laugh:
-
อิอิ.............จบแบบน่ารักน่าหยิกจิงๆ อิอิ
จะรออ่านเรื่องต่อไปน่ะค้าบบบบบบบบบบบบบบ
-
:m29:ทำซะลุ้นเรย
จนหมายหน้าแรกก้อทำใจหาย
แต่ที่แร้ว..ท้ายที่สุดก้อ Happy Ending :L2: :L2:
-
ค่อยโล่งใจหน่อย เห็นเปลี่ยนชื่อ ก็ใจหายแว้บ นึกว่าจะจบเศร้าซะแล้ว ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ :L2:
ป.ล. ถ้ามีตอนพิเศษให้ก็ดีนะ :m13:
-
เล่นเอาใจหายนึกว่าจะจบเศร้าซะแล้ว
ขอตอนพิเศษด้วยน้า ได้โปรด...
-
ลุ้นแทบตาย
นึกว่าจะเศร้าซะแระ
ขอบคุณครับที่นำเรื่องราวดี ๆ มาให้อ่าน
o13 o13 o13 o13
-
เกือบร้องไห้แล้ว อ่ะ.................
ใจร้ายอ่ะ................
มีภาค 2 เถอะ นะค๊าบบบบ................
-
จบแล้ว ไม่เศร้าด้วย :m4:
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ นะคะ :m1: :m1:
แต่แบบว่าสั้นไปหน่อยอ่ะ ขอตอนพิเศษด้วยน๊า :m13:
-
ป๊าดดดดดดดด ทำเอาใจหายกับจม.หน้าแรก แต่ดีแล้วที่จบอย่างมีความสุข ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆจ้า
-
เห็นชื่อ เรื่อง แล้ว ใจ หาย แว๊บ เรย
ขอบคุณสำหรับ นิยายดีๆๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราว ที่สอน ให้รู้จักคำว่ารัก
............
:L2: :L2: :L2:
-
แหมๆๆทำเอาใจเสียนึกว่าจบเศร้า..ดีจังที่จบแบบนี้ :o8:
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ มาให้อ่าน :pig4: :L2: :pig4:
-
ฮื้อออออๆๆ o7 เกือบจาน้ำตาทะลักแล้วอ้า
แต่ก้อ เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปเรียนต่อต่างประเทศ
ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆมาให้อ่านคับ :กอด1: :กอด1:
มีภาคพิเศษ หรือภาคต่อไปไหมงับ o13
-
เย้ๆๆๆ...จบได้น่ารักถูกใจมั่กๆเยยค้าบบ...^^
ปล.1 +1ให้ด้วย (โทษฐาน....อะไรไม่รู้แต่อยากให้อ่ะ...อิอิ)
ปล.2 แล้วแต่งเรื่องดีอย่างนี้มาให้อ่านอีกนะค้าบบ... o13 o13 o13
-
จบแบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย
-
โล่งอก ประคับประคองกันไปดีๆ รักกันไปนานๆ นะ
-
ขอบคุณฅนเขียนนะฅับที่จบแบบมีความสุข รักกันนานๆนะฮะ คุณ bambuมีความสุขมากๆนะฮะ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:เย้ๆ ชอบจริงจบแบบนี้
-
เสียน้ำตาไปซะมากมาย อย่างน้อยก็จบแบบแฮปปี้ :m1:
ขอบคุณที่เอาเรื่องดี ๆ มาลง :L2:
จะรออ่านเรื่องต่อ ๆ ไปนะคะ :man1:
-
นึกว่าจะเศร้าซะแล้ว
หักมุมจริงๆ หุหุ
แต่ก็ ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะ
ที่แต่งเรื่องดีๆ มาให้อ่าน ^-^
-
:laugh:
จบงี้ค่อยสบายใจหน่อย
-
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V274BDFPA0&Autoplay=1
-
มีแต่เรื่องต้อง ปวดใจ สุดท้าย ยังดีที่ไม่ต้องสูญเสีย อย่างที่คิด แง้ๆๆๆๆๆๆๆ ดีใจ :L1: :pig4:
-
ชอบมากมาย นิยายที่สุดแสนดี o22
-
ชอบแนวนี้มากเลยค่ะ
-
เอาแป๋มคืนมาเลยนะ ฮือๆๆๆ :serius2:
-
ตอนนี้แบงค์อยู่เมกาป่าวครับ
จะได้คุยด้วย..
มานเหงา...
มะได้จีบคุณน้า...
แค่อยากมีเพื่อนอ่า...
-
:เฮ้อ:กว่าจะอ่านจบได้
มีให้ลุ้นทุกตอนเลย
แต่สุดท้ายก็จบแบบแฮบปี้ดี.....ชอบจางงงงงง :o8: :o8: :bye2: :bye2:
-
นึกว่าจะเศร้าซะแล้ว
หักมุมจริงๆ
แต่ก็ ชอบค่ะ ขอบคุณนะคะ
ที่แต่งเรื่องดีๆ มาให้อ่าน :pig4:
-
o13 o13
55+
ทำเอาร้องไห้ไปหลายรอบเลยน่ะเนี่ย
เดาไม่ถูกเลย
เอาเปนว่า อ่านเเล้วมีความสุขมากๆเลย
เทคเเคร์น่ะคร๊าบบ
:n1: :n1: :n1:
-
อ่านรวดเดียวจบเลยครับ
สนุกมากๆเลย
-
ฮิฮิ จบแบบ HAPPY EADING
o13 o13
-
อ่านแล้วเศร้าจัง แต่ก็สนุกดีนะ :pig4: :pig4: :pig4:
-
:a5:
ขอบคุณคับ
อ่านรวดเดียว อ่านแล้วรู้สึกไว ๆ ยังไงไม่รู้แฮะ ๆ
-
อยากมีเพื่อนดีๆแบบแป๋ม
-
อ่านแล้ว ร้องไห้ครับ ... ได้ใจจิงๆๆ
-
ใจแป๊วเลยนึกว่ากัสจะเป็นอะไรไปซะอัก
ง่ารุสึกเหมือนเคยอ่านเรื่องนี้แล้วหาไม่เจอง่ะมาเจออีกที
จบแล้ว น่ารักมักเลยตอนจบชอบค่ะ คริคริ
น่าจะมีแป๋มอยู่ด้วยเนอะ จะได้เห็นความสุขของเพื่อนอ่า
แป๋มเป็นเพื่อนที่ดีมักๆเลย :bye2:
-
เย้ จบแล้วว :mc4:
รักกันนานๆ นะ กัส บิว :L2:
ปล. ตอนแรกคิดว่ากัวจะเปนไรไป ตกใจหมด o22
-
สนุกดีค่ะ ตอนแรกก็ลุ้นนึกว่าจะต้องเศร้าอีกแล้ว
แต่ก็นะ....ถึงจะ HAPPY แต่ก็แอบเศร้าที่แป๋มจากไปอ่ะ
-
happy happy :L2:
-
สนุกมากครับตื่นเต้นดี :impress2: เศร้าด้วย :m15:
สงสารแป๋มไม่รู้จะรู้รึเปล่าว่า
ตอนนี้ทุกคนมีความสุขมากๆ
โดยเฉพาะเพื่อนรักอย่างบิว :3123:
ความรักนะความรักสงสารฟีมมากๆ
ต้องเสียคนที่รักไป :sad11:
:bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
-
:bye2: :bye2: :bye2:
-
ชอบอ่า เสียน้ำตาไปเป็นโอ่งเลย แป๋มไม่น่าตายเลยอ่ะ อยากอ่านเรื่องของฟีล์มอ่ะ น่าจะคู่กับพัดเนอะ :bye2:
-
หักมุมไป หักมุมมาตลอด แต่เจ๋งมากเลย
-
ลุ้นไปมั้ยยยยยยย 55555 อยากจะบอกว่าเป็นเรื่องที่อ่านไปแล้วคิดว่าถ้าจะมีฉากเศร้าก็ไม่น่าจะทำให้ร้องไห้ไรมากมาย แต่อิชั้นร้องไห้เป็นเผาเต่าเลยคะ 55555 โดยเฉพาะตอนทีปลาทองตาย กะตอนแป๋มเสีย เศร้าเกินㅠㅠ
-
:L2: :L2: :L2: น้ำตาซึมเลยวุ้ย..... :L2: :L2: :L2:
-
แอบน้ำตาไหล
คิดอยู่เลยว่า...กูไม่น่าหลวมตัวอ่านเลย
แต่สุดท้าย..ก็....เฮ้อออออออออออออออออออออออออออออออ
อย่าให้เจอหน้านะไรเตอร์....จะกัดลิ้นให้ขาดเลยเชียววววววววววววววววว
-
:m15:นิยายเรื่องนี้จะดีมากถ้าไม่ทำให้คนอ่านร้องให้
-
ลุ้นจังเลยค่ะกลัวจบเศร้า
สงสารบิวจังเลยตอนที่บิวรู้ว่าถูกกัสหลอกว่ารัก โกรธกัสด้วย
พอปลาทองตายน้ำตาซึมเลย ยิ่งตอนแป๋มตายนี่เศร้ามาก
ตอนที่ป้าของกัสบอกให้บิวตัดใจนี่สงสารบิวจัง แต่ก็เข้าใจป้านะ
ตอนจบนี่เหมือนจะจบเศร้าเลย สุดท้ายก็จบอย่างมีความสุขดีจัง แต่รู้สึกเหมือนถูกหลอกให้เสียน้ำตาเลย :m16:
สุดท้าย ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ :3123:
-
ดีจังเลยน้า ที่จบแฮปปี้ เพราะเสียน้ำตามาก่อนหน้านี้แล้ว :sad11: จบด้วยความสุขเลยไม่เศร้ามาก :L2:
-
โหยกะว่าถ้าไรท์ให้ตายเป็นไรไปนะ :fire:
จะเอาระเบิดไปบึ้มบ้านเลย :angry2:
-
:z3: กว่าจะจบ เกือบกลั้นใจตายไปพร้อมแป๋มละคร้าบบบบบ
มีเพื่อนดีจริงๆ อ่ะอยากมีมั่ง แต่ไม่มีคนคบ แง้ :sad4:
...ยังไงสุดท้ายก็อิ่มกับผมงานของผู้แต่งละนะครับ จุ๊บๆ ขอบคุณครับ :pig4:
-
อ่านแล้วน้ำตาไหลหลายฉากมากๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
-
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
-
น่าสงสารแป๋มอ่ะ
ตอนที่บิวอ่านจดหมายนึกว่า กัสเสีย ที่ไหนได้มีหักมุมกันอ่าา
แต่ก็นะ เศร้าใจ อ่านไปน้ำตาไหลไป
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายตามอ่าน 2 เรื่องแล้วอยากบอกว่าสนุกมาก
เรียกน้ำตาได้ทั้ง 2 เรื่องเลย ทำให้มีกำลังใจตามหารักขึ้นเยอะเลย
เพราะว่าก่อนรู้จักบอร์ดนี้ไม่เคยสนใจ เรื่องรักแท้ พหมลิขิตเลยอ่าา
แต่พอได้อ่านแล้ว ทำให้ตัวเองศรัทธาในความรักมากมาย เหมือนความรักวิ่งอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา
ขอไปเช็ดน้ำตาก่อนนะค๊ะ
สนุกมากมายเลยค่ัะ
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
สนุกมากเลยค่ะ ตอนแรกมาอ่านเพราะชื่อเรื่อง
แต่พออ่านๆไปแล้ว หยุดไม่ได้เลย
อยากรู้ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง
บางตอนก็แอบร้องไห้ด้วยนะ
คิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมากเลยค่ะ มีหลายมุมมอง
อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจ
สารภาพว่า เข้ามาอ่านคลายเครียด ก่อนอ่านนี่ เครียดมากค่ะ คิดไรไม่ออก
เรื่องนี้ทำให้รู้สึกว่า นี่แหละ เป็นผลงานที่ดีๆ เรื่องหนึ่ง
จะรอเรื่องใหม่นะคะ
-
หลายอารมณ์มากกับเรื่องนี้
อินมาก อิอิ
เครียด โมโห ยิ้ม น้ำตาซึม
เฮ้อออ ชีวิตคนเราก้อเท่านี้
-
ดีใจมากนะครับที่ทุกคนชอบเรื่องนี้กัน ตอนแต่งรู้สึกกดดันมาก ก็เลยเอาความกดดันนั้นไปใส่ในเรื่องซะเลย อิอิ ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับที่ติดตาม ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ด เพราะงานยุ่งมาก แต่ว่างเมื่อไหร่ก็จะแว๊บมาตลอด และหลังจากนี้ไปสัญญานะครับว่าจะเข้าบอร์ดให้บ่อยขึ้น ตอนนี้ก็ซุ่มแต่งนิยายเรื่องใหม่อยู่ จะออกมาเป็นแบบไหน ต้องคอยติดตามชมนะครับ
-
เสียน้ำตาไปเยอะเลยเรา
สงสารแป๋มอะไม่อยากให้เป้นแบบนี่อะ
ตอนแรกนึกว่ากัสจะเป้นแบบเดียวกัน
สุดท้ายก็ไม่ช่าย นึกว่าจะทำเศร้าอีกน้ำตาเราเสียไปเยอะแล้วนะ
อยากบอกว่าเราชอบปลาทองอะน่ารัก 55555
บิวก็นะไปสอนมันได้ไม่ค่อยจะยอตัวเองเลย
อยากให้มีตอนพิเศษอ่าาาาา อยากอ่านจริง ๆๆนะ
-
มีแต่เรื่องร้ายๆๆสุดท้ายก็ผ่านมันไปได้ด้วยดี
ร้องให้ไปหลายรอบมากทั้งที่ปลาทองตาย...
และแป๋มเสียอีก...สุดท้านกัสก็มาถูกทำร้ายอีก..
แต่ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยดี....ชอบมากกก :-[ o13 o13
-
อ่านกี่ก็ซึ้งกับคำว่าเพื่อนทุกครั้ง แป๋มเพื่อนบิว :L1: :L1:
-
ชอบจัง มีความสุข 5555
ขอบคุนมากค้าบ o13
-
ในที่สุดก้ออ่านจบแล้ว
เรื่องนี้มันเศร้าเกือบทั้งเรื่องเลย
ทำเอาเราเสียน้ำตาไปหลายหยด
สงสารแป๋มมากๆๆเลย
แต่ตอนสุดท้ายในทีสุดก้อ happy ending
ขอบคุนมากๆๆครับ
-
สนุกมากค่ะ
-
รักแป๋ม!!
-
อ่านจบแล้ว รวดเดียวเลย อยากบอกว่าสนุกมากๆๆๆ
อ่านไปยิ้มไปบ้าง นั่งร้องไห้บ้าง กัวคนอื่นมาเห็นจะหาว่าเราบ้า
ยิ่งตอนสุดท้่ายเกือบทำใจไม่ได้เลยอ่ะ แต่ก้อจบแบบ happyๆ จนได้ :L2:
-
สนุกมากๆเลยคร้าบบติดตามเรื่องของคุณผู้เขียนมา2เรื่องแล้วอ่านแล้วรู้สึกดีทั้งสองเรื่องมั่กๆเลยคราบ เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
โอ๊ย ใจหายใจคว่ำ นึกว่าจะจบดราม่า แต่ก็ยังคิดถึงแป๋ม
-
อ่อยยยย
น่ารักมากเลยอ่ะ
อ่านแล้วชอบอ่ะ
แป๋มเป็นเพื่อนที่ดีมากกกกกกกกกกกก
คนดีไม่มีที่อยู่ตลอดๆๆๆ
ส่วนกัสน่ารักมาก แม้ตอนแรกจะน่าถีบมากก็ตามเหอะๆ
อ่อยยยย ,, สงสารฟิล์มอ่ะ จริงๆเป็นคนดีเลยล่ะ
แป๋มหลับให้สบายนะ
ทุกคนมีความสุขดี แล้วก็ยิ้มได้เพราะแป๋มนะ
^^
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดี นะคะ
-
:o8: ดีใจจังจบแบบนี้ แต่อยากให้แป๋มอยู่อ่ะ เพื่อนคนนี้ดีที่สุดในโลกเลย :กอด1:
-
อ่านจบแล้ว :mc4:
มีหลายอารมณ์ดี แต่เศร้านี่คงเยอะสุด :m15:
ลุ้นตอนสุดท้ายกลัวกัสจะตาย แต่ก็Happy จนได้
ขอบคุณนิยายดีๆค่ะ :L2:
:pig4:
-
Happy Ending สินะ
อย่างน้อยก็ยังได้รู้ว่ารัก
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟ
-
ซึ้ง
-
อยากให้เข้ามาแต่งอีกจังเลยครับ
-
จบได้ใจหายใจฟั่มมาก :pig4:
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดี
:bye2: o13 o13 o13 :bye2:
-
นึกว่าจะไม่ Happy Ending :mew2:
เขียนเรื่องได้น่าติดตามมากๆเลย
ลุ้นอยู่ตลอดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ตอนปลาทองเราร้องไห้เลย เศร้ามาก
มาเจอเหตุการ์ณถูกคนที่รักหลอก
แล้วยังมาเจอเรื่องสะเทือนขวัญอีก
สุดท้ายแฮปปี้ก็มีความสุขและ
แต่สงสารฟิลม์กะแป๋ม ทำไมต้องเจอเรื่องแย่ๆด้วย
ตอนแรกคิดสะระตะเลย บลัฟกันอีกแน่ๆ
คงเตี้ยมกะฟิลม์กะคุณพ่อแสดงละครหลอกป้ากัสแน่ๆ
ตอนทำบุญงานศพยังคิดอยู่เลย โหววว แป๋มช่างลงทุนเพื่อเพื่อนจริงๆ
จนมาถึงตอนสุดท้าย อ้าว...ว แป๋มจากไปจริงๆเหรอ
ชอบกัส-บิวค่ะ
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆแบบนี้ค่ะ
-
ขอบคุณมากๆๆๆครับ :o12:
-
:oo1: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
-
ปัญญอ่อนมากครับ
-
:mew1:
-
ขอบคุณค่ะ ^^
-
อ่านถึงหน้าห้าละ ถ้าเราเป็นแป๋มเราจะเลิกกับไอ้ฟืล์ม ไม่ได้เห็นแก่เพื่อนแต่กลัวว่าวันนึงคนแบบนี้จะนึกเพี้ยนมาทำเรื่องห่ามๆล้อเล่นกับจิตใจเรารึเปล่า แต่นี่มันในนิยายและเราไม่ใช่แป๋ม5555 ดังนั้นเราอ่านต่อแพพ