------------------------------------------ตอนจบ---------------------------------------------
เสาร์ - อาทิตย์ผ่านไป คงไม่ต้องสาธยายถึงความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ และกำลังประสบอยู่ในตอนนี้ ฉันว่านะ ฉันรู้ข้อดีของยาคลอเฟนิรามินอีกอย่างหนึ่งแล้วล่ะ คือ มันทำให้ฉันนอนหลับได้ไง ถึงจะพยายามฝืนสู้ขนาดไหนก็เถอะ มันก็ต้องมีบางครั้งล่ะที่มันไม่ไหว
วันนี้ฉันพยายามสอนนักเรียนตามปกติ อยากจะลาป่วยจริงๆ แต่ไม่รู้จะลายังไง เพราะ ร.ร.ก็อยู่หน้าบ้านพักแค่นี้เอง แต่ยังดี ที่มีครูบอมมาถามไถ่แต่เช้า อยากจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง แต่มันคงยังไม่เหมาะทีจะเล่าในตอนนี้ ฉันเลยชวนบอมออกไปนั่งรถเล่นหลังเลิกเรียนแทน
ระหว่างทาง ฉันระบายกับบอมอย่างเต็มที่ ร้องไห้ระงมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันรู้สึกดีขึ้นที่เรามีคนมารับฟัง มันเหมือนปัญหาบางส่วนมันได้ยกออกจากอกไปบ้าง แต่ร่องรอยความเจ็บช้ำมันคงไม่จางหาย จนเราไปถึงริมอ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของอำเภอนี้
(ส่วนหนึ่งซึ้งๆ จากถ้อยคำของครูบอม)
“ครูอุ้ย เรามันจะต้องมีเรื่องราวอะไรบางอย่างที่เราจะต้องพบเจอบ้างนะครับ บางคนก็เจออย่างนั้น บางคนก็เจออย่างนี้ แตกต่างกันไป ผมไม่อยากให้ครูอุ้ยย่อท้อ และมองแต่ตัวเองนะครับ บางคนที่เขาย่ำแย่กว่าครูอุ้ยก็มีอีกเยอะ บางคนร่ำรวยมาก แต่ไม่มีความสุข บางคนไม่มีฐานะ แต่เขากลับอยู่กันอย่างมีความสุข เรามองแบบนี้ แล้วเราจะมีกำลังใจขึ้นอีกเยอะนะครับ”
จริงอย่างที่ครูบอมว่านะคะ ต่างคนต่างเจอ ต่างกรรม ต่างวาระ เรื่องแบบนี้มันออกแบบไม่ได้จริงๆ
ครูบอมให้ฉันยืมอ้อมอกของเขาให้ฉันซบและร้องไห้ เขาช่างเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้น ชนิดว่า น้ำหูน้ำตาเปื้อนเสื้อผ้าเขาหมด
“ไม่เป็นไรนะ ครูอุ้ย” บอมปลอบใจฉัน มือก็ลูบหัวฉัน สักพักเขาเชยคางฉันขึ้น เอามือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าฉัน
“เลิกร้องไห้เป็นเด็กได้แล้ว” สักพัก บอมทำเรื่องที่ฉันไม่คาดคิดขึ้น...........................
เขาก้มลง จูบที่ริมฝีปากฉันเบาๆ ฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในทันที
(แต่ไม่นะ แบบนี้มันไม่ใช่ เราเป็นเพื่อนกันนะ เธอมีครอบครัวแล้ว)
ฉันเผลอใจไปกับบอมชั่วขณะ แต่เมื่อสติ และเส้นศีลธรรมของฉันเริ่มทำงาน ฉันก็รีบผละออกจากตัวเขาทันที
“บอม แกทำไรลงไปน่ะ ทำไมแกทำอย่างนี้ เราเป็นเพื่อนกันนะบอม ทำแบบนี้ทำไม”
“............................................” ครูบอมเงียบ ไม่ยอมตอบ หลบสายตาฉันไปสักพัก
“แกมีครอบครัวแล้วนะบอม อย่าให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้สิ ฉันเพิ่งโดนอะไรมา แกก็รู้หนิ ฉันไว้ใจแกนะบอม แกมาทำแบบนี้ทำไม”
“ผมไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้น ครูอุ้ย ผมอยากให้ครูอุ้ยสบายใจ ในสภาพแบบนี้ ผมว่าครูอุ้ยคงต้องการใครสักคน”
“แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้แกมาแทนที่ใครนะ ฉันยอมรับว่า ฉันรู้สึกดีกับแก เคยคิดว่าอยากได้แกเป็นแฟน ความสัมพันธ์ของเรามันดำเนินมาแบบเพื่อนสนิทกันมากกว่า ฉันไม่อยากสูญเสียเพื่อน หรือคนที่เข้าใจในตัวฉันนะ”
“ผมก็อยากยอมรับว่าผมก็รู้สึกดีกับครูอุ้ยนะครับ ผมรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ผมอยากให้เรามีความรู้สึกดีๆ ให้กัน”
“ความรู้สึกดีๆ ฉันมีให้แกเสมอนะบอม แต่อย่ามาทำแบบนี้”
“ครูอุ้ยครับ ผมแค่อยากให้ครูอุ้ยรู้สึกสบายใจขึ้นเท่านั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เมื่อกี้ผมทำไปแบบนั้นได้อย่างไร ผมคิดแค่ว่า อยากให้ครูอุ้ยรู้สึกดีขึ้นเท่านั้นเอง”
“ฉัน ฉันรู้สึกดีนะบอม ฉันยอมรับ ขอโทษนะเมื่อกี้ที่ตวาดไปหน่อย ฉันตกใจ ฉันกลัว ตอนนี้ฉันกลัวมากๆ กลัวเสียใจ”
“ผมก็ขอโทษนะที่ทำแบบนั้น ผมไม่รู้สึกเสียใจหรอกนะที่ทำแบบนั้นลงไป ดีใจที่ครูอุ้ยเข้าใจ”
“ทำไมแกถึงจะมาอยากมารู้ใจอะไรชั้นนักหนาเหรอบอม”
“............................................” ครูบอมเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง
“คือว่า ผมก็โดนแฟนผมทิ้งไปเหมือนกัน”
“ห๊า ตอนนี้น่ะเหรอบอม”
“ครับ คนปัจจุบันนี่ล่ะ คนที่เป็นแม่ของลูกผมนี้ล่ะ”
“เห้ย จริงเหรอ”
“ครับ”
“โอ้ แม่เจ้า” “เค้าทิ้งไปนานหรือยังบอม”
“เค้าทิ้งไปตอนลูกอายุได้สามขวบ พอดี ผมพยายามประคองไว้ให้ได้ที่สุดแล้ว แต่สุดท้าย ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ผมเสียใจไม่เท่าไรหรอกนะครูอุ้ย แต่ผมสงสารลูก”
ฉันได้ยินเรื่องของบอมแบบนี้แล้ว มันยิ่งทำให้ฉันรู้สึกได้ทันทีเลยว่า คนที่หนักหนากว่าเรานั้น มันยังมีอีกเยอะ
“บอม โทษนะ แล้วทำไมเรื่องถึงเป็นแบบนั้นล่ะ”
“เราอยู่ห่างกันครับครูอุ้ย ตอนนั้นเค้าได้ไปบรรจุอยู่ทางอำเภอ XXXX เสาร์ - อาทิตย์ถึงจะได้กลับมาสักครั้ง ลูกก็ฝากแม่ผมเลี้ยงดูช่วงที่ไปทำงาน ช่วงแรกๆ ปกติดีนะครับ ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย”
“แต่ความจริงแล้วน่ะ ผมกลับไม่รู้เลยว่า เขาแอบเล่นชู้กับครูคนหนึ่งที่โรงเรียนนั้น ซึ่งครูคนนั้นเป็นรุ่นพี่ที่เค้าแอบชอบในสมัยที่เค้าเรียน”
“แล้วเขาก็ทิ้งบอมไปเลยเหรอ”
“ผมใจเย็นที่สุดแล้วนะครูอุ้ย ผมไม่โกรธ ไม่ถือโทษอะไรเขาเลย แต่เขาพยายามที่จะทำอะไรๆ หลายๆ อย่างให้เกิดเรื่อง ให้มีปัญหา เพื่อที่เค้าจะได้ออกห่าง พอผมรู้ความจริงที่เกิดขึ้น ผมโกรธเขามากเลยนะ แต่ผมพยายามทน ทนเพื่อลูกไงครูอุ้ย ผมไม่อยากให้ครอบครัวมีปัญหา ผมน่ะหมดรักเขาไปแล้วล่ะตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง แต่ผมต้องการให้เขายังอยู่ เพื่อลูกของเรา”
“แล้ว...........” ฉันลากเสียงเป็นเชิงให้บอมเล่าต่อ
“ผมรั้งอะไรไว้ไม่ได้แล้วครูอุ้ย เขาบอกว่า เขาอยากไปดีๆ ไม่อยากถึงขั้นต้องฟ้องหย่าอะไร เขาขอว่า ให้เราทั้งสองคนดูแลลูกตามปกติ แต่เราไม่ใช่ของกันละกันอีกแล้ว”
“โห บอม หนักเลยอ่ะแบบนี้”
“ครับ”
ฟังเรื่องที่บอมเล่าให้ฟังแล้ว ฉันยิ่งรู้สึกสลดไปอีก ไม่ได้สลดเพราะเรื่องของฉันด้วยนะคะ สลดเพราะว่า นี่ขนาดคนเขามีครอบครัวแล้ว เขายังเจอปัญหาอะไรแบบนี้กันเลย เมื่อเทียบกับเรื่องของฉันแล้ว เรื่องของฉันเหมือนจะกลายเป็นเรื่องขี้ประติ๋วไปเลย
“บอม เราเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิมนะ อย่าให้มันเกินเลยกว่านี้เลยนะ”
“ครับ ครูอุ้ย ผมเข้าใจ ผมก็ไม่ได้หมายความว่าจะคิดอะไรถึงขนาดนั้น ผมว่านะ มีคนที่เข้าใจเรานะ มันดีกว่ามีคนรักอีก”
“ใช่บอม คนรักกันน่ะนะ จุดจบของมันก็คือ เลิก”
“อืม ครับ”
“บอมเสียใจมากอ่ะดิแบบนี้”
“เสียใจสิ แต่มันทำอะไรไม่ได้แล้ว เสียใจมันน้อยไปครูอุ้ย ที่สำคัญน่ะคือ ไอ้ตัวเล็กของผมน่ะ”
“ฉันนึกว่าครอบครัวเธออยู่กันอย่างมีความสุขซะอีก เพราะภาพที่ใครๆ เขามองเธอ เค้าพากันมองว่าเธอเนี่ย แฟมิลี่แมนสุดๆ”
“แล้วเราจะไปประกาศให้ใครเขารู้ว่าครอบครัวเราแตกแยกทำไมล่ะครับครูอุ้ย”
“เออ มันก็ใช่”
“นี่ล่ะครับชีวิตคน มันก็ต้องมีบ้างในช่วงชีวิต แบบที่ผมบอก”
“บอม แกน่าสงสารว่ะ นี่เรื่องชั้นกลายเป็นเรื่องกากๆ ไปเลยนะหนิ แล้วเธออยากให้เค้ากลับมาหรือเปล่าหนิบอม”
“ไม่ครับ อย่ามาเลย คนเรามันหมดรักไปแล้ว ตอนแรก ผมก็รู้สึกเหมือนครูอุ้ยนี่ล่ะ ตอนนี้ครูอุ้ยก็รู้สึกเหมือนกันแน่ๆ ครับ คือ ผมอยากให้เขากลับมามากๆ อยากทำทุกทางให้เขากลับมาหาเราให้ได้ แต่พอเราข้ามพ้นช่วงนั้นมาแล้ว เราจะมารู้สึกภายหลังเองว่า ไม่กลับมาน่ะดีแล้ว”
“ใช่ ชั้นอยากให้เค้ากลับมา ชั้น..................ไม่รู้สิแก ถ้ากลับมาจริงๆ จะเป็นยังไง แต่คงเป็นไม่ได้หรอกที่เขาจะกลับ”
“กลับไม่กลับก็ไม่ต้องไปสนใจครับ ชีวิตเรายังต้องดำเนินต่อไป”
“แล้วแกน่ะ เคยมีครอบครัวมาแล้วแบบเนี้ย ตอนนี้แกอยู่ตัวคนเดียว แกไม่เหงา ไม่อะไรบ้างเหรอ”
“เหงาสิครูอุ้ย ผมอยากมีใครสักคนที่ไปกับเราได้จริงๆ” “ผมยอมรับนะครูอุ้ย ว่าบางครั้งผมรู้สึกอยากให้ครูอุ้ยมาอยู่เคียงข้าง”
“เฮ๊ยยยยยยยยยยยยยย” ฉันตวาดเสียงทันทีที่ได้ยินแบบนั้น (ใจฉันก็อยากเหมือนกันนะบอม แต่ว่า ตอนนี้ หัวใจฉันมันยับเยินเกินกว่าที่เปิดรับใครอีก และอีกอย่าง ฉันอยากเป็นเพื่อนที่ดีของเธอมากกว่า)
“ตกใจอะไรน่ะ”
“ก็ ไม่รู้ดิ ทำไมคิดแบบนั้นน่ะ”
“ก็เวลาผมอยู่กับครูอุ้ยแล้วผมรู้สึกสบายใจดี ครูอุ้ยเป็นคนสนุกสนาน หลายๆ เรื่องเราคุยกันได้อย่างลงตัว หลายๆ อย่างเราไปด้วยกันได้ ผมเลยอยากอยู่ใกล้ๆ ครูอุ้ย ผมคิดแบบนี้จริงๆ”
“ชั้นเป็นกะเทยนะแก ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงนะยะ”
“ความรักมันไม่มีพรหมแดน ไม่มีข้อจำกัดครับ”
“ก็ใช่แก ชั้นก็รู้สึกกับแกแบบนั้นเหมือนกันนะ แต่ชั้นอยากให้เราเป็นเพื่อนกันมากกว่าบอม เหมือนที่แกพูดไปนั้นล่ะว่า มีคนที่รู้ใจ ดีกว่ามีคนรัก”
“ครับ”
“เป็นอันว่าเราเข้าใจกันแล้วเนอะ”
“อ่าครับ” “แล้วครูอุ้ยน่ะ รีบๆ กลับมาเป็นครูอุ้ยเหมือนเดิมเถอะนะครับ”
“อื้ม!”
ฉันรู้สึกดีขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะตัวแปรสำคัญคือครูบอม ฉันต้องยอมรับว่าเขาเป็นพระเอกในงานนี้จริงๆ ฉันชอบนะคะ ครูบอมเนี่ย แต่ก็อย่างที่บอกน่ะค่ะ ฉันอยากได้เขาเป็นคนสนิทมากกว่า ส่วนตำแหน่งสามีนั้น ฉันบอกตรงๆ เลยว่า ยังอยากให้เป็นป๊อปอยู่
หลากหลายคนคงจะบอกว่า ผู้ชายแบบนี้ เลิกได้ซะก็ดี เค้าทำร้ายเรามาเยอะ จบกันไปตั้งแต่ตอนนี้ เราจะได้ไม่เจ็บช้ำตลอดไป มันจริงตามที่หลายๆ คนพูดไว้นะคะ แต่เรื่องแบบนี้ ลองไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คงไม่รู้หรอกค่ะว่า คำว่า “รักฝังใจ” น่ะ มันมีจริงๆ แล้วมันก็เกิดกับฉันในตอนนี้
เวลาเท่านั้น ที่มันสามารถรักษาเยียวยาความเจ็บช้ำของจิตใจที่เกิดจากความรักได้ แล้วเวลาก็ค่อยๆ ทำให้ฉันเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาเรื่อยๆ โดยมีครูบอมเป็นตัวช่วยที่แสนดี ฉันอยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรในตอนนี้ บางครั้งเวลานึกถึงตอนเขามีความสุขกับนังพลอย ฉันก็แทบจะสาปส่งทั้งคู่ให้ไปตายให้นอนแดรก แต่บางครั้งก็นึกเป็นห่วงเขาอยู่ห่างๆ
ตลาดที่ฉันเคยไปซื้อของเป็นประจำช่วงที่อยู่กับเขา นับแต่นั้นมา ฉันก็แทบจะไม่ไปตลาดนั้นเลย ฉันเลือกที่จะเลี่ยงไปตลาดอีกหมู่บ้านหนึ่งดีกว่า เพราะไม่อยากให้ภาพความหลังมันมาตอกย้ำแผลเก่าในใจ
ร้านใบเตยนี่แทบจะเลี่ยงไม่ได้เลย เวลาไปในแต่ละครั้ง เฝ้าภาวนาว่า ขอให้ไม่เจอมัน
บางครั้งเวลาไปเซเว่นสาขาที่มันชอบมานั่งรอรับฉันเวลาฉันลงมาจากดอย ฉันมักจะหยุดยืนดูบริเวณมุมที่เขาชอบมานั่งรอฉัน ก็เศร้านะคะ ที่จากนี้ไป มันไม่มีภาพเหล่านี้อีกแล้ว
สถานที่มันไม่ผิดหรอกค่ะ มันผิดที่ความคิดของฉันเองนี่ล่ะที่ชอบนึกไปถึงอดีต
ขนมชูครีมของโปรดของฉันกับเค้า ฉันไม่สนค่ะ กินตามปกติเหมือนเดิม ของกินนี่ ไม่ตัดใจหรอกค่ะ เดี๋ยวตายไปจะไม่ได้กิน
เวลาผ่านพ้นไป เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น มันเริ่มกลายเป็นเหมือนครูสอนฉัน ให้รู้อะไรๆ มากขึ้น รู้ถึงใจของคนคนนึงที่มันยากที่จะเข้าใจ
ทำให้ฉันเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเจ็บปวด ความโดดเดี่ยวเดียวดาย และต้องยอมรับมัน มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แต่ฉันต้องทำให้มันไม่มากระทบกับส่วนหลักของชีวิตฉัน
อยากให้ลองฟังเพลง ความเจ็บปวด ของปาล์มมี่ พร้อมๆ กัน เพราะมันเข้ากับบรรยากาศในตอนนี้มากๆ
ใคร คนที่เคยรู้ใจ
รอยยิ้มที่เคยรู้จัก
กำลังจะหายลับไปทุกที
คำพูดที่ซึ้งใจ
ที่เคยว่ารักมากมาย
ไม่มีอีกแล้วนับจากนี้
แต่คนจะไปก็ต้องไป
รักเท่าไหร่แต่ฉันคงทำได้เท่านี้
(Chorus) : ได้แต่ยินยอมรับความเจ็บปวด
และฉันจะอดทนแม้แทบขาดใจ
ไม่อาจจะวิ่งหนีความจิงที่มันโหดร้าย
จะพร้อมจะยอมเข้าใจความเปลี่ยนแปลง
จะอยู่เพื่อเรียนรู้ความเจ็บปวด
จะฝืนเดินต่อไปแต่ไร้เรี่ยวแรง
และคงมีที่สักวันหนึ่งฉันจะเข้มแข็ง
ถึงแม้ไม่รู้ต้องนานซักเท่าไร
เธอ เธอเคยเป็นทุกสิ่ง
จะขอขอบคุนทุกอย่าง
ที่เคยให้ฉันจนวันนี้
แต่คนจะไปก็ต้องไป
รักเท่าไหร่แต่ฉันคงทำได้เท่านี้
(ซ้ำ : Chorus)
ทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็ดำเนินไปตามทำนองคลองธรรมของมัน ชีวิตของฉันก็เช่นกัน มันก็ดำเนินไปตามรูปแบบของกะเทยที่ราบสูงผลัดถิ่นมาอยู่บนดอย (สูงกว่าเก่าอีก) ไม่มีใครตอบได้หรอกค่ะ ว่าอนาคตเราจะเป็นอย่างไร แต่การกระทำของเรา มันสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะกำหนดอนาคตของเราได้
ณ วันนี้ ฉันต้องเป็นครูที่ดีของศิษย์น้อยๆ ผู้ด้อยโอกาสของฉัน ถึงแม้ฉันจะเป็นเช่นนี้ แต่ฉันก็ใช้จุดเด่น และความสามารถของฉันในการทำงานอย่างเต็มที่ และไม่ผิดจรรยาบรรณ
และคงมีที่สักวันหนึ่งที่ฉันจะเข้มแข็ง ถึงแม้ไม่รู้จะนาน...........................สักเท่าไร
------------------------------------------------------The End------------------------------------------------
ปัจจุบัน...................
ครูอุ้ย.................................ครูดอยผู้พลัดถิ่นจากบ้านเกิดอุบลราชธานี มาสอนเด็กๆ ชาวเขา ในจังหวัดเชียงราย ปัจจุบันเป็นครู คศ.1
ป๊อป................................สารวัตรหนุ่มเชียงใหม่ไฟแรง ทำงานสายสืบสวนสอบสวน ปัจจุบันเป็นพันตำรวจตรี ณ สภ.แห่งหนึ่งในเชียงราย
ครูบอม..........................อาร์ตติสจากพะเยา ติสแตกจนได้บรรจุเป็นครูที่เชียงราย ปัจจุบันเป็นครู คศ.1
หมวดยุทธ.......................สารวัตรน้องใหม่จากพะเยา ลูกน้องผู้กองป๊อป ปัจจุบันเป็นร้อยตำรวจเอก
น้องต้น.............................หนุ่มขาสั้นจากเชียงราย ปัจจุบันเป็นนักศึกษาใหม่ของ มช.แล้ว
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกแรงใจ คำติชม คำแนะนำ จากแฟนๆ ผู้อ่านทุกคนนะคะ
ขอขอบคุณที่ให้ครูอุ้ยกะเทยดอยคนนี้ ได้ไปนั่งอยู่ในใจใครหลายๆ คน
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันตลอดเวลา
อย่าลืมคิดถึงครูอุ้ยกันบ้างนะคะ อย่าทิ้งกันไปน๊า...........
ขอบคุณค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------
ฉันไม่ค่อยอยากจะมาตลาดนี้เอาซะเลย ยัยน้องแป้งหนิ บอกให้ไปตลาดอื่นก็ไม่ไป แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องมันผ่านมานานแระ ไม่สนใจหรอก
ฉันเดินเลือกซื้ออาหารสด ตับ ไต ไส้ พุง ไรพวกนี้ เอาไปตุนไว้บนดอย จะได้ไม่ต้องลงมาบ่อย ขนง ขนม ไม่ต้องพูดถึงหรอกคร๊า ซื้อไปเพียบ
คนเหนือนี่ก็แปลกนะคะ ขายข้าวสารเป็นลิตร อิชั้นไปบอกเขาว่าซื้อ 5 กิโล เขาทำหน้าเอ๋อใส่ชั้น พร้อมเปล่งเสียงสำเนียงเมืองมาว่า
“ขายเป๋นลิตรจ้าวววววววววววววว” (อะไรวะ เป็นลิตร กรูงง)
ในขณะที่กำลังเลือกซื้อของในตลาดนั้น...................................
“อุ้ย...........อุ้ย................” เสียงเรียกนี้ น้ำเสียงนี้มัน...............
ฉันคุ้นกับเสียงนี้เหลือเกิน ฉันยืนอึ้งพิจารณาถึงน้ำเสียงนั้น ไม่กล้าที่จะหันไปมอง หัวใจเริ่มเต้นรัวอีกแล้ว
ฉันค่อยๆ หันไปมองที่มาของเสียงนั้น เผื่อมันอาจจะเป็นคนอื่นที่เสียงคล้ายๆ กัน แต่พอหันไปแล้ว หัวใจฉันแทบตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
ผู้ชายคนที่เรียกฉันเมื่อกี้นี้ คือ................................................... ป๊อป
ฉันพยายามจะเดินหนีออกไป เขาก็รีบเดินมาใกล้ๆ
“เดี๋ยว......มากับใครเหรอ”
“น้องแป้ง” “ชั้นไปนะ ต้องรีบกลับ” ฉันคิดถ้อยคำมาแบบน้ำขุ่นๆ พร้อมกับเดินหนีออกมานอกตลาด โดยที่ไม่หันกลับไปมองเขา แล้วไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาจะเดินตามมาหรือไม่
“อุ้ย....................” ฉันได้ยินเสียงเขาเรียกอีกครั้ง ฉันหยุดสักพักเพื่อมองหาน้องแป้ง จะได้ชวนออกมาจากที่แห่งนี้ ในขณะที่เขาก็คงจะเดินตามฉันออกมานอกตลาด เพราะตอนที่ฉันมองหาน้องแป้งก็เหลือบเห็นเขาตามมาพอดี ฉันมองเขาสักพักด้วยหัวใจสั่นรัว
“คิดถึงนะ...............................................”
สิ้นเสียงนั้นจากเขา ฉันก็รีบเดินหนีออกไปไกลๆ ทางที่จอดรถทันที.....................................................
แม่งห่า!!! ไอ่บักป๊อป!!! โดดเตะแม่ง
:z6: :z6:
แกกล้าทำครูอุ้ยเสียใจหรา
นึกว่าจะจบแบบแฮบปี้ซะแล้ว
ที่ไหนได้ ดราม่าอ่าา น่าจะมีภาคต่อนะ
สงสารครูอุ้ยมากเรย ฮือออ
:hao5:
:pig4: :pig4: :pig4: