พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: July_Moon ที่ 26-04-2011 16:09:15

หัวข้อ: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 26-04-2011 16:09:15
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็น เวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

************************************************************************************************



เรื่องนี้ดราม่าค่ะ!!!!

เกิดจากการที่น้องคนหนึ่งบอกให้ลองเขียนดู "kyoya11"

แต่รับรองจบแบบ Happy Ending ฝากด้วยนะคะ


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[26/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 26-04-2011 16:13:52
Short Story :: คนสุดท้ายของหัวใจ


   “คบกันดูไหม?” 

   เขาหันมามองหน้าของผมด้วยแววตาตกใจ  เพียงครู่เดียวก็คลี่รอยยิ้มออกมาพร้อมกับเหม่อมองออกไปตรงจุดซึ่งมีรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามาจอด  คงคิดว่าเป็นเรื่องพูดกันเล่นๆอย่างที่ใจผมเองก็คิดแบบนั้น  วันนี้เป็นวันไม่ธรรมดาเพราะเหล่านักเรียนในโรงเรียนจะพากันจดจ้องเขาคนนี้ตรงหน้าของผม

   ทุกคนมักเรียกวันนี้ว่าวันแห่งการเริ่มต้นใหม่....

   “พิซซ่าที่สั่งได้แล้วครับ  ทั้งหมดเป็นเงิน 599 บาทครับ”  พนักงานส่งของยื่นกล่องพิซซ่ามาตรงหน้าของผมซึ่งผมรับมันมา  แต่ตอนล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก็พบว่ากระเป๋าสตางค์ของผมไม่ได้อยู่ในนั้น

   แย่แล้ว...ผมคงลืมมันเอาไว้บนห้องเรียนแน่ๆ ทำยังไงดีล่ะทีนี้

   “เอ่อ...ขอโทษนะครับ  ช่วยรอตรงนี้สักครู่เดี๋ยวผมขอไปหยิบเงินมาก่อน”  ผมส่งกล่องพิซซ่าคืนให้กับพนักงานส่งของคนนั้นก่อนเตรียมจะวิ่งไปเอากระเป๋าสตางค์บนห้องเรียน

   “อ๊ะ! พี่ครับ  ไม่ต้องครับ  นี่ครับเงิน”

   เขาส่งเงินให้กับพนักงานส่งของคนนั้นก่อนจะถือกล่องพิซซ่าเอาไว้ในมือ  ผมจ้องมองเขาด้วยความสงสัยลึกๆในใจ  บางอย่างซึ่งเขามีผมเองกลับไม่เคยมีมันมาก่อน  สิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่

   “ขอบใจนะ  เดี๋ยวฉันไปหยิบเงินคืนให้ที่ห้อง  นายอยู่ห้องไหนฉันจะได้เอาไปคืนให้ถูก”

   “ผมอยู่ห้อง ม. 5/1 ครับ  พี่จำผมไม่ได้หรือครับ”  เขาส่งรอยยิ้มที่ทุกคนเรียกกันว่าสิ่งเติมเต็มความอบอุ่นสู่หัวใจนั่นมาให้กับผม

   ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางนึกว่าเคยเจอเขาที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า  ผมก็แค่รู้จักเพราะเพื่อนของผมเองก็เคยเป็นแฟนกับผู้ชายคนนี้  จะว่าไป ม.5/1 มันก็รุ่นน้องสายรหัสของผมเองนี่นะ  แต่ผมเองจำไม่ได้ว่าเคยคุยกับเขามาก่อนหน้านี้

   “ไม่ได้  ขอโทษทีนะระบบความจำเรื่องชื่อกับหน้าคนฉันมันไม่ค่อยดีน่ะ”  ผมแค่นรอยยิ้มฝืนๆส่งไปให้  มันคงเสียมารยาทอยู่เหมือนกันที่เขาอุตส่าห์ออกเงินให้ก่อนแล้วยังไปบอกว่าจำเขาไม่ได้อีก  แต่ผมไม่ชอบการโกหกสักเท่าไหร่นี่นา

   “ไม่เป็นไรครับ  เพราะพี่คงไม่ได้มีเวลามาจดจำคนอย่างผมหรอกสินะครับ”  ผมคิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นใบหน้าของเขาดูหมองลงไป

   “เฮ้อ...บอกแล้วไงว่าขอโทษ  ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทแล้วไม่ได้เจอกันเลยฉันยังลืม  จะให้ทำยังไงล่ะก็เป็นแบบนี้นี่”  ผมชักเริ่มหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  แต่พอพูดแบบนั้นออกไปหมอนั่นก็หันหน้ามาส่งรอยยิ้มให้ผมเหมือนเดิม

   “ถึงห้องของผมแล้วล่ะครับ  ไว้เจอกันนะครับพี่”

   ผมรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องชอบกล  ไอ้อารมณ์แปรปรวนของผมวันนี้ทำให้พูดอะไรแปลกๆออกไปกับรุ่นน้องที่ดังไปทั่วโรงเรียนอย่างเขา  หลุดปากขอคบไปจนได้  แต่ดูท่าเจ้าตัวก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรนี่  คงไม่เป็นอะไรหรอกนะ

   “โมเดล!!!  ฉันเห็นนายเดินมากับฮิโระคุงด้วย  ไปสนิทกันตอนไหนยะ!”

   ปาล์มเด็กผู้หญิงซึ่งเคยเป็นหนึ่งในแฟนของฮิโรกิ  หรือที่ทุกคนมักเรียกกันว่าฮิโระ  เด็กรุ่นน้องที่มีข่าวลือเกี่ยวกับตัวของเขามากกว่าเรื่องราวใดๆ ในโรงเรียนนี้เสียอีก  เด็กผู้ชายที่เปลี่ยนแฟนไปเรื่อยๆ  แต่ไม่เห็นมีใครคนไหนที่คบกับเขาหลังจากเลิกกันจะเอาเขามาพูดในทางที่ไม่ดี  อย่างปาล์มเองก็บอกว่าเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับ 1 สัปดาห์ที่ได้คบกับฮิโระ

   คงเพราะแบบนี้ผมถึงได้อยากจะลองคบกับคนแบบเขาบ้างสักครั้ง  เผื่อว่าอาจจะได้พบเรื่องราวที่ไม่น่าเบื่อในชีวิตโรงเรียนนี้บ้าง 

   “เปล่าหรอก  ฉันลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ในกระเป๋านักเรียน  หมอนั่นเลยจ่ายให้ก่อนน่ะ  หาว~!!!”

   ผมง่วงนอนมากจนเผลอหาวกระทั่งน้ำตาไหล  แต่พอปาล์มเห็นท่าทางแบบนั้นของผมก็ดูเหมือนว่าจะอารมณ์บูดขึ้นมาซะทุกครั้ง  ทำให้ผมโดนทำร้ายร่างกายอยู่ประจำ

   โป๊ก!!

   “ฉันบอกนายกี่ทีแล้วยะให้สำรวมกิริยา!!  เพราะแบบนี้นี่ล่ะแฟนๆของนายถึงบอกเลิกน่ะ คนปัจจุบันนี่จะทนได้นานเท่าไหร่เชียว”

   “เลิกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ”

   ผมลูบหัวตัวเองป้อยๆตรงที่โดนฝ่ามือของปาล์มฟาดลงมา  ก่อนจะตอบคำถามที่ดูเป็นการประชดด้วยความเรียบง่าย  เด็กผู้หญิงพวกนั้นอยู่ๆก็มาขอคบ  พอไม่เหมือนที่คิดก็มาขอเลิกจนผมเริ่มจะชินกับวงเวียนชีวิตแบบนี้ไปเสียแล้ว

   “คบกันไปกี่วัน”

   ไนท์เพื่อนผู้ชายที่สนิทกับผมเดินเข้ามาถามด้วยสีหน้าอยากรู้  ปาล์มเองก็จ้องหน้าผมเพื่อรอคำตอบเช่นกัน  ผมลองนึกไปสักพักก่อนจะเอ่ยคำตอบซึ่งทำให้ปาล์มดูจะไม่พอใจเท่าไหร่

   “ไม่รู้”  สั้นๆง่ายๆได้ใจความ  ผมไม่เคยจำว่าแต่ละคนคบนานเท่าไหร่  ผมไม่อยากนับถอยหลัง  เพราะจะนานแค่ไหนก็จบลงที่ผมเป็นฝ่ายถูกบอกเลิกอยู่ดี  มีแต่พวกเอาแต่ใจตัวเองทั้งนั้น

   “หึ...แน่ล่ะสิ  ดูท่าทางภายนอกของนายมันชวนคิดว่าเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวนี่  แต่พอเอาเข้าจริงๆนิสัยนายมันออกจะไม่สนใจโลกเลยด้วยซ้ำ  พูดอะไรบางทีก็เหม่อไม่ฟัง  ผู้หญิงที่ไหนเค้าจะทนนายไหวหา?!!”

   “พอได้แล้วปาล์ม  พูดอะไรไม่เกรงใจเดลมันบ้างเลย”  ไนท์หันไปดุปาล์มซึ่งยืนชี้หน้าต่อว่าผมปาวๆในห้อง  อ่อ...ไม่ต้องห่วงหรอกครับช่วงนี้ใกล้งานโรงเรียนอาจารย์เลยไม่เข้าสอนปล่อยพวกผมเตรียมงานกัน  แต่ว่ายังไงกว่าจะเริ่มทำอะไรจริงจังคงใกล้ๆงานนู่น  ปล่อยพวกผมแบบนี้ก็สบายเลยสิครับ

   “เอาน่าๆ  ไม่เป็นไรหรอก  ปาล์มพูดความจริงนี่  ฉันมันแค่เปลือกนอกเท่านั้นล่ะ”  ผมโบกมือบอกว่าไม่เป็นไรจริงๆไปให้  ไนท์มันเลยยอมลดสายตาดุๆ นั่น  ก่อนจะนั่งลงกินพิซซ่าซึ่งผมสั่งมากินกัน

   “ว่าแต่นายตกลงจะไปที่นั่นจริงๆเหรอ”  ไนท์หยิบพิซซ่าขึ้นมากัดก่อนจะถามคำถามซึ่งผมเองไม่ค่อยได้ใส่ใจกับมันเท่าไหร่นัก

   “นายคิดว่าไงล่ะ?  ทำเหมือนฉันมีสิทธิ์เลือกหรือยังไง  สุดท้ายทุกอย่างมันก็ต้องมาลงที่ฉันอยู่ดี  ก็แค่เป็นตัวตายตัวแทนไม่เห็นน่ากังวลตรงไหน”  ผมกัดพิซซ่าเข้าไปคำใหญ่ทำเหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ผมต้องเจอกับอะไรแบบนี้

   “เลิกทำเหมือนไม่ใส่ใจทีได้ไหม?  นายคิดว่านายเป็นมนุษย์อยู่ไหม?  สิทธิมนุษยชนเคยอ่านบ้างไหมหา?!!  จะบ้าหรือยังไงไปตอบตกลงทำอะไรบ้าๆแบบนั้น  พวกคนที่บ้านนายเองก็เหมือนกันเห็นนายเป็นอะไรทำไมทำกับนายแบบนี้  เรื่องมันตั้งกี่ปีมาแล้วยังไม่เลิกโทษนายอีก  ไอ้สารเลวนั่นด้วยยังมีหน้ามาตีหน้าซื่อหลอกลวงคนอื่นได้อีก”

   ผมยิ้มอย่างปกติมองดูปาล์มซึ่งระบายออกมายาวเหยียดจนผมฟังแทบไม่ทัน  ผมคงตอบได้คำเดียวได้ว่าผมชินแล้ว  แต่ขืนพูดแบบนั้นออกไปปาล์มคงได้ร่ายยาวใส่ผมเรื่องสิทธิมนุษยชนต่างๆให้ผมฟังอีกเป็นกระบุง  ดังนั้นผมเลือกจะเงียบไว้มากกว่า

   “นายเลือกแล้วจริงๆสินะเดล”

   ผมพยักหน้าตอบรับคำพูดของไนท์ไป  เพียงพักเดียวเท่านั้นพิซซ่าและของกินเล่นที่ผมสั่งมาทั้งหมดก็หายลงไปในกระเพาะของพวกผมสามคนอย่างรวดเร็ว 

   เลิกเรียนผมเดินตรงไปยังห้อง ม.5/1  แต่ก็ไม่เห็นเงาของฮิโรกิแม้แต่น้อย  จึงตัดสินใจเดินไปยังชมรมทำสวนซึ่งอยู่ไม่ห่างจากห้องนั้นนัก  วันนี้คิดว่าจะไปดูกุหลาบซึ่งเพิ่งทดลองปลูกใหม่  สายพันธุ์นี้ได้มาจากประเทศญี่ปุ่นเห็นว่าตัดต่อสายพันธุ์จนได้สีฟ้าสวยทีเดียว

   “สวัสดีครับพี่  คิดอยู่แล้วว่าพี่ต้องมาอยู่ที่นี่”  ฮิโรกิซึ่งนั่งพักอยู่บนเก้าอี้พักผ่อนในเรือนกระจกหันมาส่งยิ้มให้ผม

   “เจอก็ดีแล้ว  นี่เงินของนาย  ขอบคุณที่ออกให้ก่อน”

   “ไม่เป็นไรครับ  ส่วนเงินขอไม่รับแล้วกัน”  เขายัดเงินคืนใส่กระเป๋าเสื้อของผม

   “แล้วจะเอายังไง  ฉันพานายไปเลี้ยงข้าวแล้วกัน  ตามมาสิ”  ผมเดินนำออกมาอย่างไม่คิดอะไรมาก  ไม่อยากติดเงินรุ่นน้อง  แต่ดูท่าทางหมอนั่นคงไม่ยอมรับเงินคืนไปง่ายๆเหมือนกัน

   “เดี๋ยวครับพี่...ผม...เอ่อ....”  ฮิโรกิวิ่งมาดึงแขนของผมไว้  แต่พอผมหันไปสบตาเขากลับมาท่าทีอึกอักไปเล็กน้อย

   “มีอะไรก็ว่ามาสิ  หรือว่านายมีแฟนประจำอาทิตย์แล้วสินะ  งั้นโทษทีไว้ฉันซื้อของตอบแทนให้แล้วกัน”

   “หมายความว่ายังไงครับ?  ไม่ใช่อย่างนั้นนะ....”

   “งั้นก็ตามมาสิ  ฉันหิวข้าว”  ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นเดินจูงมือฮิโรกิขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งเพิ่งถอยมาหมาดๆของผมทันที

   “เอ้านี่หมวกใส่ซะ  ถ้ากลัวก็กอดเอวฉันแน่นๆเข้าใจนะ”  ผมตีความท่าทางตะกุกตะกักไม่เป็นธรรมชาติของเขาว่าคงไม่เคยซ้อนมอเตอร์ไซค์มาก่อน  เห็นปกติมีรถหรูๆมาเทียวรับเทียวส่งตลอด  ไม่เคยเห็นไปไหนมาไหนเองคนเดียวสักที  จะว่าไปก็ไม่เคยเห็นหน้าคนขับซะด้วยสิ

   “คือว่าผม...”

   “รังเกียจอย่างนั้นสินะ  ช่างเถอะ...งั้นบายแล้วกัน”  ผมสตาร์ทรถเตรียมจะออกแต่อยู่ดีๆก็รู้สึกถึงแรงกอดจากด้านหลัง  ผมเผลอยิ้มออกมาแต่คงไม่มีใครเห็นเพราะผมสวมหมวกกันน็อคเรียบร้อยแล้ว

   พอรถเริ่มเคลื่อนตัวออกสายสมก็ตรงเข้าปะทะอย่างรุนแรง  ผมชินกับความเร็วระดับนี้เป็นธรรมดาที่ผมจะเร่งเครื่องเร็วๆ  เหมือนกับได้ติดปีกบินไปในอากาศ  มีอิสระ...

   ผมรู้สึกได้ว่าแรงกอดที่เอวผมออกจะแน่นขึ้นมาเล็กน้อย  แต่ผมก็ยังเป็นผมไม่ได้ใส่ใจจะลดระดับความเร็วต่ำลงไปกว่านั้น  พวกเด็กผู้หญิงที่เคยคบกับผมปกติคงไม่แค่กอดแต่ร้องโวยวายลั่นไปหมด  มีผู้ชายมานั่งซ้อนท้ายก็แปลกดีเหมือนกัน  ไม่ต้องทนสียงกรีดร้องดีด้วย  สบายหูสุดๆ

   ผมจอดรถตรงหน้าร้านเค้กเล็กๆ  ซึ่งมีเด็กผู้หญิงมากมายในนั้น  ผมสังเกตว่าคนด้านหลังของผมดูจะงงๆ กับการที่ผมลากเขามาที่นี่ 

   “ลงไปสิ  ฉันหิวแล้วนะ”  ผมถอดหมวกออกก่อนจะหันไปเตือนฮิโรกิ  ดูท่าทางเขายังคงมึนๆ  หรือว่าผมจะขี่เร็วเกินไปจนสมองเขากระทบกระเทือนไปแล้วนะ

   “....”  ผมเอื้อมมือไปสะกิดเขาก็ยังนิ่งอยู่แบบนั้นจนผมต้องลงมือถอดหมวกกันน็อคออกให้กับเขาเอง

   “ไหวไหมนายน่ะ”  ผมเริ่มจะใจไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าเหม่อลอยแบบนั้นของเขา  สุดท้ายเลยตัดสินใจเอี้ยวตัวไปสุดๆ  เพราะผมเองก็ลงจากมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ในเมื่อหมอนี่มันนั่นซ้อนหลังผมอยู่  “นี่...!”  ผมตะโกนสุดเสียง  หมอนั่นหับขวับมาทันทีทำให้ริมฝีปากของเราสองคนเฉียดผ่านกัน

   โครม!

   อย่ามามองผมด้วยสายตาแบบนั้น  ผมไม่ได้ชกหรือทำร้ายร่างกายสุดหล่อของใครๆแต่อย่างใด  พอหมอนั่นหันหน้ามาแล้วรู้ว่าปากชนกับผมก็ถอยหลังร่วงลงไปนอนกับพื้นเองมากกว่า  อะไรมันจะขี้ตกใจขนาดนั้น  กับแค่ปากเฉียดกันไปหน่อยเดียว  ทำอย่างกับเสียจูบแรกไปได้  นั่นถ้านับเป็นจูบก็จูบแรกของผมเหมือนกันล่ะมั้ง?  แต่มันก็แค่เอาปากเฉียดกันซะหน่อยไม่เห็นจะมีอะไร

   “ลุกไหวไหม?  เร็วเข้าสิฉันหิวแล้วนะ”  ผมดึงตัวฮิโรกิขึ้นมาก่อนหมอนั่นจะทำท่าปัดๆฝุ่นออกจากเสื้อผ้าและกางเกง

   “ขอบคุณครับ”  หมอนั่นเกาหัวเขินๆ  พอมามองใกล้ๆแบบนี้หมอนี่ก็หล่อดีอยู่หรอก  คิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง  ผิวขาวละเอียดเทรนด์เกาหลีกำลังมาแรงเลย  ตบท้ายริมฝีปากนุ่มๆนั่นด้วย  จะถามหรือไงว่าผมรู้ได้ยังไง?  ก็เมื่อตอนปากเฉียดกันนั่นล่ะอย่ามาทำไม่รู้เรื่อง

   “ไปเถอะ  ฉันไม่ชอบคนมอง”  ผมเดินนำเข้าไปในร้าน  ภายในมีเด็กผู้หญิงนั่งอยู่มากมาย  เจ้าของร้านเองก็กำลังแจกรอยยิ้มดูแลลูกค้าที่มากันอย่างหนาแน่น

   “เยลลี่ชาเขียวปั่น  ไม่หวาน  ดาร์คช็อกโกแลตเค้กด้วย  นายเอาอะไร?”  ผมหันไปมองฮิโรกิซึ่งยืนมองรอบๆตัวด้วยความงุนงง  หมอนี่มันจะอะไรกันนักหนานะ

   “ผมขอเป็นกาแฟดำดีกว่าครับ”

   “ตามนั้นล่ะ”  ผมเดินไปนั่งโต๊ะตัวที่ว่างซึ่งมันก็อยู่ติดกับเคาท์เตอร์ของร้านพอดี

   “โมเดล...นายมาที่นี่ทำไม?!”  เสียงตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวดังออกมาจากหลังเคาท์เตอร์  ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะยิ้มเยาะโดยไม่พูดอะไร

   “เดล...พี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ  ทานเสร็จแล้วก็รีบออกไปแล้วกัน”  มาสเตอร์ของร้านออกมากล่าวผมแค่นรอยยิ้มส่งไปโดยไม่ลืมหันไปมองผู้ชายที่มีหน้าตาพิมพ์เดียวกับผม

   “โฮมเพจ...นายรู้ไหมพ่อกับแม่ทำอะไรตอนนี้  เขาขายฉันยังไงล่ะ  ขายให้กับพวกยากูซ่าในญี่ปุ่น  ฉันต้องถูกตราหน้าว่าฆ่าพี่ชายของตัวเองจากคนในบ้าน  แล้วนายล่ะรู้ไหมว่าใครฆ่าเขา?”  ผมหัวเราะเหมือนคนเสียสติ  “เพราะฉะนั้นสิ่งที่ฉันทนมาตลอด 6 ปีมันจะจบลงแล้ว  ถ้าถึงที่นั่นเมื่อไหร่ฉันจะฆ่าตัวตายทันที  น่าสนุกดีไหมล่ะ?”

   “โมเดล!!  นายอย่ามาพูดไร้สาระในร้านของฉันนะ!!”  มาสเตอร์ของร้านตวาดใส่หน้าของผมลั่น  พนักงานของร้านคนอื่นๆไล่ลูกค้าออกไปจนหมด  พร้อมทั้งปิดร้านไม่ให้ใครเห็นเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นภายใน

   ผมเองไม่ได้อยากจะมาหาเรื่องหรอกนะ...  แต่พอเห็นคนสองคนนี้อยู่ด้วยกันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วผมรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม  ทั้งๆที่คิดว่าไม่เป็นไรมาตลอดแท้ๆ  ทั้งๆที่ไม่เจอมานานถึง 6 ปี  แต่แผลในใจผมไม่ได้จางหายไปด้วยเลยสักนิดเดียว  มันบาดและฝังลึกลงไปอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา

   “แก!  อย่ามาพูดแบบนั้นนะ  คนอย่างแกนั่นล่ะที่ถูกพี่ข่มขืน  แกเลยฆ่าพี่ให้ตาย  เพราะแกนั่นล่ะ!!”  โฮมเพจตะโกนพร้อมตรงเข้ามากระชากคอเสื้อของผมเข้าไปหา  แต่ผมกลับผลักเขาไปกระแทกโต๊ะข้างๆจนล้มลงไปได้อย่างง่ายดาย

   “ผมฆ่าเหรอ....?  หึหึ...รู้ไหมตอนนี้ตำรวจตรวจพบหลักฐานของจริงแล้วล่ะนะ  สิ่งที่คุณเหลือมันไว้ในที่เกิดเหตุพร้อมลายนิ้วมือไงล่ะ  พ่อกับแม่ก็รักคุณเหลือเกินนะ...พอรู้แบบนั้นก็สั่งตำรวจให้ปิดเรื่องเงียบ  ปล่อยใครๆคิดว่าผมเป็นฆาตกร  สนุกไหมล่ะพี่ชาย...ที่ทำลายชีวิตของผมตลอด 6 ปี  คุณสนุกกับมันมากไหม?”

   “พอได้แล้วโมเดล!!”  มาสเตอร์ของร้านตะโกนก่อนจะปล่อยหมัดออกมา  ผมหลับตาเตรียมพร้อมที่จะรับกับความเจ็บปวด  แต่กลับไม่ใช่...

   “ผมไม่รู้นะครับว่าพี่เขาทำอะไร  แต่คุณเองไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายคนอื่นครับ”  ฮิโรกิจ้องมาสเตอร์ด้วยแววตาน่ากลัว  ผมได้ยินเสียงกระดูกลั่นกรอบแกรบ

   “โอ๊ย!!  สารเลวปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”  มาสเตอร์ร้องลั่น  ฮิโรกิมองด้วยสีหน้านิ่งก่อนจะสะบัดมือของมาสเตอร์ทิ้งเอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมือด้วยท่าทางเหมือนเพิ่งจับของสกปรกมา

   “พี่ครับ  กลับกันเถอะ  ผมอยากไปทานร้านอื่นมากกว่าร้านนี้ท่าทางของจะสกปรก”  ฮิโรกิดึงมือผมให้ออกจากร้าน  กระทั่งลูกน้องในร้านของมาสเตอร์ก็ยังหลีกทางให้กับสายตาเย็นชาของเขา

   “ขอโทษนะ  ฉันไม่คิดว่าจะเจอคนพวกนั้นที่นี่”  ผมแค่นรอยยิ้มส่งไปให้กับฮิโรกิ  รุ่นน้องซึ่งผมเพิ่งจะได้คุยวันนี้  แต่กลับต้องมารับรู้เรื่องราวซึ่งแม้กระทั่งไนท์กับปาล์มยังเพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้  ทั้งๆที่ทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทของผมมาตั้งแต่สมัยประถม

   “พี่ครับ... ผมตั้งใจเป็นที่พักให้พี่นะครับ  ถ้าเหนื่อยผมมีไหล่ให้ซบ  ถ้าพี่เดินไม่ไหวเมื่อไหร่ผมจะแบกพี่ไว้บนหลังแล้วเราเดินไปด้วยกันนะครับ  ขออย่างเดียวอย่าฆ่าตัวตายอย่างที่พี่พูดเลยครับ  มีอีกหลายคนที่รักพี่แม้พี่อาจจะไม่ได้มองทางพวกเขา  ถึงอย่างนั้นก็รักตัวเองบ้างเถอะครับ” 

ฮิโรกิกุมมือของผมเอาไว้แน่นมากตอนนั้น  ผมรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก  เหมือนหมอกสีดำในใจของผมค่อยๆจางลงไปเมื่อได้ฟังคำพูดเหล่านั้น  บางทีผมอาจต้องการแค่ที่พักพิงก็ได้...  แค่ใครสักคนที่เข้าใจผมอย่างแท้จริง

   “นายขี่มอเตอร์ไซค์เป็นไหม?”

   “เอ๋?  อ...เอ่อ...เป็นครับ”  ฮิโรกิตอบอย่างตะกุกตะกักผิดกับท่าทางมั่นใจเมื่อสักครู่

   “ช่วยขี่ไปเรื่อยๆหน่อยได้ไหม?  ขอร้องล่ะนะ”  ผมฝืนยิ้มครั้งสุดท้ายก่อนจะสวมหมวกกันน็อคให้กับตัวเอง

   ฮิโรกิสวมหมวกแล้วขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์  ผมเองก็ขึ้นไปนั่ง  เขาหันมาสำรวจพร้อมดึงมือผมเข้าไปกอดเอวของเขาเอาไว้

   “กอดผมแน่นๆ นะครับ”  ฮิโรกิหันมายิ้มให้กับผม ก่อนจะเริ่มบิดคันเร่งออกตัวไปอย่างรวดเร็ว

   มือของผมกอดเอวของฮิโรกิเอาไว้แน่น  ศีรษะซบลงกับแผ่นหลังกว้างนั่นก่อนจะปล่อยให้น้ำตาที่ไม่เคยไหลตลอด 6 ปีไหลรินลงมาอย่างนั้น  เสียงของผมฟังดูอื้ออึงไปหมด  ผมไม่อายที่จะปล่อยเสียงสะอื้นออกมา  หายจะมีใครสักคนรับรู้ถึงความอ่อนแอของผม  เขาคนนั้นคงเป็นคนที่ผมกำลังใช้เป็นที่พักพิงอยู่ตอนนี้

   ผมเหนื่อยเหลือเกินกับการปั้นหน้าว่าไม่เป็นอะไร  เหนื่อยที่ต้องฟังคำว่าฆาตกรทั้งๆที่ผมไม่ได้เป็นคนทำ  เหนื่อยกับการต้องทำตามคำสั่งของคนในบ้าน  เหนื่อยกับการต้องฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบใจ  ดังนั้นพออยู่โรงเรียนผมจะแสดงท่าทางออกมาอย่างไม่เกรงใจใคร  เพราะผมทำแบบนั้นไม่ได้เมื่ออยู่ในบ้านหลังนั้น  ที่ที่ผมไม่เคยคิดว่ามันคือบ้านสักครั้งเดียว  มันคือกรงขังมากกว่า  พันธนาการเดียวที่ผมอยากจะหนีจากไปให้ไกล

   การที่ผมถูกขายไปให้พวกยากูซ่ามันเป็นเรื่องปกติ  พวกเขาไม่เคยต้องการผม  เด็กที่เกิดมาเป็นฝาแฝด  เพราะการคลอดผมออกมาทำให้แม่ต้องตาย  ไม่นานพ่อก็มีภรรยาใหม่ซึ่งผมถูกบังคับให้เรียกว่าแม่  แต่ไม่ว่าอย่างไรผมก็ถูกมองว่าเป็นตัวกาลกิณีของบ้าน  เป็นคนที่ทำให้บ้านเปลี่ยนไปตั้งแต่ผมเกิดมา  ทำให้ทุกคนสูญเสียคุณแม่ซึ่งเป็นที่รักไป  เพราะผมคนเดียว...  เป็นเพราะผมแค่คนเดียวเท่านั้นตลอดมา...  บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าผมน่าจะตายๆไปซะ  แต่สุดท้ายผมก็ยังรักคุณพ่อซึ่งตอนนี้นอนอยู่ในโรงพยาบาลไม่ได้สติอยู่ดี  ท่านช็อคเพราะพี่ชายคนโตของบ้านตายจนกลายเป็นเจ้าชายนิทรา

   ผมไม่เหลืออะไร  สูญเสียทุกอย่างตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรฆ่าพี่ชายตัวเอง...

   เอี๊ยด!

   เสียงของล้อรถมอเตอร์ไซค์เสียดสีกับพื้นถนน  ผมหลุดจากภวังค์หันมองรอบๆ น้ำตายังไหลอยู่ภายใต้เครื่องปิดบัง  ฮิโรกิถอดหมวกของตัวเองก่อนจะหันมาถอดหมวกของผมออก  ผมถอยหนีอย่างตกใจลงมายืนบนพื้นหญ้าด้านข้าง  ฮิโรกิดึงผมดึงผมซึ่งถูกเขาถอดหมวกกันน็อคออกไปเข้าไปกอด  เขาตัวสูงกว่าผมทำให้ใบหน้าของผมถูกกดซบลงไปบนไหล่ของเขา

   “ร้องออกมาให้หมดครับ  ผมจะรับหยดน้ำตาของพี่เอาไว้เองทั้งหมด”

   ผมยกแขนเข้าโอบกอดฮิโรกิเอาไว้แล้วปล่อยน้ำตาออกมาอย่างไม่อาย  เสียงสะอึกสะอื้นของผมดังไปพร้อมกับคำปลอบโยนของฮิโรกิที่ว่าเขาจะอยู่กับผมตรงนี้  เขายังอยู่ไม่ได้ไปไหน  ผมร้องระบายความเจ็บปวดตลอด 6 ปีที่ฝังจนกลายเป็นแผลเป็น  แม้ว่าผมพยายามจะรักษามันเท่าไหร่  ผมกลับเห็นแผลของตัวเองชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น

   มีใครได้ยินคำขอของผมไหมครับ....  ผมขอแค่ได้อยู่กับคนตรงหน้าของผมไปอีกสักพักจะได้ไหมครับ  ไม่ต้องตลอดไป  ขอแค่เวลาตอนนี้ซึ่งผมอ่อนแอ  ผมขอแค่นั้นคงไม่มากเกินไปใช่ไหมครับ...

*******************************************************************************************
 :เฮ้อ: กว่าจะจบ 1 ตอน เล่นเอาเครียดเหมือนกัน
ฝากด้วยนะคะสำหรับเรื่องนี้  และเรื่องสั้น เรื่องยาวๆอื่นๆที่เขียนเอามาแปะๆไว้
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[26/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-04-2011 16:35:16
 :z13: :z13:


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[26/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 26-04-2011 17:25:41
โอ้โหเฮะ - -
ดราม่ามาเชียว วันหลังจะไม่บอกให้แต่งแบบนี้และ
เดี๋ยวยุเรื่องใหม่ 55+
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[26/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 28-04-2011 18:12:24
 :mc4: เอามาลงใหม่อีกน้า สนุกๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[26/04/54]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 28-04-2011 18:42:41
ชอบฮิโระจัง
น่ารักว่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 02-05-2011 15:48:52
   เสียงข้อความเข้าของโทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้นมาในตอนเช้า  เสียงนั่นปลุกให้ผมต้องตื่นจากห้วงความฝันอันแสนโหดร้าย  ภาพในวันที่ทุกคนพบศพพี่อยู่กับผมตอนนั้นมันยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำ  ใบหน้าบูดเบี้ยวราวกับโกรธแค้นชิงชังนั้นยังตราตรึงอยู่ในมโนสำนึกของผม

   ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนเอื้อมมือไปกดเปิดดูข้อความในยามเช้าแบบนี้ 

   จาก ฮิโรกิ ::  อรุณสวัสดิ์ครับพี่

   ผมเริ่มขมวดคิ้วยุ่งเมื่อพบว่าข้อความที่ส่งมานั้นไมได้มีเนื้อหาสาระใดๆ เลยสักนิด  ซ้ำยังส่งมาสั้นๆให้เปลืองค่าส่งข้อความเล่นเสียอีก  ผมจึงลงมือกดปุ่มยุกยิกเพื่อส่งข้อความตอบกลับ

   อย่ามาตลกตอนเช้า  รู้ไหมนายทำฉันตื่นก่อนเวลาปกติ...  รับผิดชอบมาซะด้วย

   ได้โปรดอย่ามองผมด้วยสายตาหมั่นไส้ขนาดนั้น  ผมไม่ใช่คนไม่สำนึกบุญคุณของใคร  แต่ในกรณีปลุกผมในตอนที่ผมยังนอนไม่เต็มอิ่มนั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง  โรคความดันต่ำในตอนเช้าๆมันรักษาไม่หายจริงๆ

   หลังจากวันนั้นที่ผมร้องไห้โดยมีฮิโรกิเป็นที่พึ่งนั้นผมก็เล่าเรื่องราวของผมให้เขาฟังหมดทุกอย่าง  พอเล่าจบเขาก็ส่งยิ้มมาให้กับผมพูดว่าไม่เป็นไรนะ  แค่นั้นน้ำตาที่หยุดไหลไปแล้วของผมก็ไหลรินลงมาอีกครั้ง  รู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการตลอด 6 ปีที่ผ่านมา  ต่อจากนี้ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน  หรือจะต้องพบเจอกับอะไรในเส้นทางข้างหน้า  ผมเองก็คงจะไม่ย่อท้อยอมแพ้ง่ายๆอีกต่อไป  เพราะผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว

   จาก ฮิโรกิ :: ขอโทษครับ  ถ้าอย่างนั้นให้ผมออกไปให้ชกหน้าดีไหมครับ?

   เส้นอารมณ์ของผมขาดผึงในทันที  ไอ้บ้าฮิโรกิมันคิดจะเล่นอะไรของมันกัน  จะว่าไม่คล่องภาษาไทยมันก็อยู่มาตั้งหลายปีแล้ว  จงใจยั่วโมโหผมใช่ไหมนี่?!  ผมไม่รอช้ากดต่อสายไปหาฮิโรกิทันที

   “สวัสดีครับพี่”  เสียงทุ้มของฮิโรกิถูกส่งผ่านมายังโสตประสาทของผม

   “ไม่ต้องเลยนะ  นายเป็นบ้าอะไรถึงได้ส่งข้อความมาปลุกฉันแต่เช้าตรู่แบบนี้  อีกอย่างหนึ่งไอ้ที่ว่าบอกให้ฉันชกคิดว่าฉันเป็นคนยังไงกันแน่หา?!  คิดว่าฉันใจเป็นยักษ์มารขนาดนั้นหรือไง?  นายจงใจสินะ”  ผมเริ่มขั้นตอนการระบายอารมณ์ในยามเช้า

   “อ....อ่าผมขอโทษครับ  ผมแค่เห็นพี่โกรธเลยบอกไปแบบนั้น  แต่ดีจังนะครับที่ได้ฟังพี่พูดเยอะขนาดนั้น  อยากเห็นหน้าจังเลยครับ” 

   “โรคจิต!  นี่ฉันว่านายอยู่นะ  ยังจะมาหัวเราะอีก  ทีนี้นายจะชดใช้ยังไงนอกจากให้ฉันชกหน้าหา?!”  ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเขินกับคำพูดของฮิโรกิขึ้นมา  ไม่รู้ทำไมประโยคเรียบๆแบบนั้นกลับทำให้หัวใจด้านชาของผมรู้สึกเหมือนได้รับชีวิตใหม่อีกครั้ง

   “พี่ครับ...ไปเที่ยวกันนะ  ที่ไหนก็ได้ที่พี่อยากไป”

   “นายอยากไปไหนล่ะ?”  ผมย้อนถามกลับไป  ผมเองไม่มีที่ที่อยากไปเป็นพิเศษอยู่แล้ว  แค่มีฮิโรกิจะเป็นที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น  ความรู้สึกนี้คงเพราะมีแค่คนๆนี้ที่ยอมรับฟังเรื่องของผมทั้งหมดอย่างเต็มใจ

   “ผมเหรอครับ....”

   “อืม...นายนั่นล่ะ”

   “ที่ไหนก็ได้ที่มีพี่...  ผมพูดจริงนะครับอย่าเคืองผมนะ”

   “บ้า...นายมันบ้าจริงๆด้วย  แต่ก็ขอบใจนะที่คิดแบบเดียวกัน”  ผมยิ้มออกมาจนรู้สึกถึงแรงตึงบริเวณแก้มทั้งสองข้าง  รู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร

   “ประโยคหลังพูดอีกทีได้ไหมครับ?  ผมจะอัดเสียงเก็บเอาไว้ฟังอีก”

   “ไม่....อย่างนั้นไปดูหนังแล้วกัน  เห็นปาล์มบอกมาว่าเรื่องนี้น่าสนุก”  ผมเหลือบไปดูนาฬิกาบนหัวเตียงก็คิดว่ากว่าจะทำอะไรเสร็จก็คงได้เข้าดูหนังพอดี
   “ตกลงครับ  เจอกันที่โรงหนังนะครับ”

   “อืม...สักบ่ายๆแล้วกันนะ  แค่นี้ล่ะ”  ผมดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหูกำลังจะกดวางสาย  แต่ประโยคที่ตามมานั้นผมกลับได้ยินอย่างชัดเจน

   “ผมชอบพี่นะครับ  แต่อีกไม่นานผมจะรักพี่ครับ”

   ผมกดวางสายไปด้วยหัวใจที่เต้นรัว  ผมไม่ใช่เด็กสาวแรกรุ่นที่จะตื่นเต้นดีใจเวลาถูกผู้ชายมาบอกชอบ  แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกแบบนั้น  ยิ้มออกมาอย่างหยุดไว้ไม่ได้  นานแค่ไหนที่ผมไม่เคยได้ยินอะไรที่ทำให้ผมดีใจขนาดนี้มาก่อน
   
   “ขอโทษที่มาสาย  แต่ว่ายังไม่ถึงเวลานัดนี่?  นายมานานหรือยัง”  ผมเหลือบมองฮิโรกิซึ่งยืนยิ้มอยู่หน้าโรงหนังใกล้กับโรงเรียน  วันนี้เข้าแต่งตัวสบายๆ  เสื้อคลุมสีดำสลับขาวมีฮู้ด  กับกางเกงยีนสีซีดๆ  รองเท้าผ้าใบสีดำ

   “ผมมาได้สักพักเองครับ  ซื้อตั๋วแล้วด้วย  เราเข้าไปกันเถอะครับ”  ฮิโรกิชูตั๋วสองใบขึ้นมาให้ผมดู  ก่อนจะถือวิสาสะจูงมือผมเข้าไปในโรงหนังโดยมีสายตาหลายคู่จับจ้องมาทางเรา

   พอเข้าไปดูเท่านั้นอาการเบื่อ  เซ็ง  และง่วงของผมก็ตามมาอย่างหยุดไม่ได้  หนังบ้าอะไรไม่เห็นจะสนุกตรงไหน  รอดูจบก่อนเถอะผมจะลากคอปาล์มให้มาจ่ายเงินค่าตั๋วหนังคืนให้ได้  เสียเวลาดูจริงๆ

   “พี่ครับ...ไม่สนุกหรือครับ”  ฮิโรกิเอียงคอหันมากระซิบ

   “อือ...คอยดูนะจะไปตามเอาเงินคืน”

   “หา?  กับคนขายตั๋วหรือครับ?”  หน้าตาตกใจของหมอนี่ทำให้ผมรู้สึกอยากหัวเราะอย่างไรไม่รู้

   “เปล่า....ง่วงแล้วขอนอนได้ไหม?”  ผมหาวรอบใหญ่ก่อนจะหันไปมองหน้าของฮิโรกิเป็นการขออนุญาต

   “ครับ...”  ฮิโรกิยิ้มก่อนจะยกที่พักแขนระหว่างผมกับเขาขึ้นแล้วดึงหัวของผมให้เอนไปซบกับไหล่ของเขา  “นอนแบบนี้ดีกว่าครับ  จะได้ไม่เมื่อคอเท่าไหร่ด้วย” 

   ตอนนี้ในโรงหนังมืดมาก  มีแสงจากหนังบนจอส่องมาเพียงแค่รำไรเท่านั้น  ผมหวังว่าฮิโรกิคงจะไม่เห็นหน้าของผมในเวลานี้  เพราะผมกำลังยิ้มอย่างที่แทบไม่เคยทำมาก่อน  อยากจะขอบคุณนายจริงๆ....

   กลิ่นแชมพูผสมกับกลิ่นสบู่อ่อนๆบนตัวของฮิโรกิทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย  มือของเขาจับหัวของผมแล้วลูบอย่างอ่อนโยนเหมือนตอนที่ปลอบผมวันนั้น  แล้วผมก็เผลอหลับไปอย่างง่ายดายภายในอ้อมกอดของเขา

    ตอนนี้ผมกำลังถูกรบกวนด้วยสัมผัสนุ่มๆ บริเวณริมฝีปาก  สัมผัสหยุ่นๆที่คล้ายกับเคยพบเจอมาแล้วปลุกให้ผมต้องตื่นขึ้นมาจากห้วงนิทราอีกครั้งของวัน  ผมลืมตาขึ้นเห็นใบหน้าของฮิโรกิอยู่ห่างจากผมแค่เล็กน้อย  ใบหน้านั้นยิ้มแย้มแต่ข้างแก้มนั้นเจือรอยแดงๆ

   “อ...เอ่อ...หนังจบแล้วครับเราไปกันเถอะ”  ฮิโรกิจูงมือผมซึ่งยังงัวเงียให้ออกมาจากในโรงหนัง  ผมยังสงสัยอยู่ว่าสัมผัสเมื่อครู่ก่อนผมจะลืมตามันเป็นความฝัน  หรือผมถูกฮิโรกิจูบ...กันแน่

   “ฮิโรกิ  นายจูบฉันใช่ไหม?”

   “ไปบ้านผมกันนะครับ”  ผมยังไม่ได้รับคำตอบที่ต้องการก็ถูกฮิโรกิลากไปขึ้นรถยนต์คันหรู  ก่อนมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเขา

   พอไปถึงสิ่งที่ผมเห็นก็คือบ้านหลังใหญ่เหมือนพวกในละครโทรทัศน์หลังข่าวประมาณนั้น  มันใหญ่จนอดคิดไม่ได้ว่าเวลาทำความสะอาดครั้งหนึ่งต้องใช้คนไปเท่าไหร่  ต้องมีคนดูแลกี่คนกันแน่

   ฮิโรกิลากผมเดินผ่านห้องนั่งเล่นเข้าไปยังชั้นบนซึ่งมีห้องมากมายไม่รู้กี่ห้อง  แต่ผมก็ถูกลากเข้าไปในห้องหนึ่งในนั้นซึ่งมีป้ายชื่อของฮิโรกิเป็นภาษาญี่ปุ่นติดเอาไว้

   “พี่ครับ...ไปเล่นเกมกันนะ”

   แน่นอนว่าผมถูกลากให้เข้าไปเล่นเกมกับโทรทัศน์จอใหญ่ยักษ์ X-box รุ่นใหม่ล่าสุดล่อตาล่อใจแบบเหนือความคาดหมายไปเลยเต็มๆ  เล่นผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ  แต่ไม่ว่าผลจะเป็นแบบไหนก็ยังจบลงด้วยเสียงหัวเราะเสมอ

   สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา  ผมเห็นเข้าเหลือบไปมองมันเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าไม่มีชื่อขึ้นเขาก็กดตัดสายทิ้งไปอย่างไม่สนใจอะไร

   “ทำไมนายกดตัดสายทิ้งแบบนั้นกัน”

   “เพราะเป็นเบอร์ที่ผมไม่ได้บันทึกเอาไว้ครับ  อีกอย่างคนที่ผมเคยคบบางคนมักจะโทรมา  ผมไม่อยากคุยในเมื่อมันจบไปแล้ว”  ผมมองฮิโรกิใหม่อีกครั้ง  คำพูดของเขามันดูเฉยชาจนไม่คิดว่าเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่พูดปลอบใจผมก่อนหน้านี้

   “แล้วปาล์มล่ะ  นายไม่ได้เก็บเบอร์เธอไว้เลยเหรอ  เธอเคยคบกับนายมาก่อนนะ”  ผมถามถึงปาล์มเพื่อนสนิทของผมแต่ฮิโรกิกลับส่ายหน้า  นั่นทำให้ผมรู้สึกแย่กับเขาขึ้นมากะทันหัน

   “ผมบอกพี่แล้วครับ  ผมไม่ชอบเก็บเบอร์ของคนที่จบกันไปแล้ว” 

   ผมนิ่งเงียบไปสักพัก  เสียงโทรศัพท์ของฮิโรกิก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง  คราวนี้มีชื่อขึ้นที่มือถือว่า “โมเดล”  ผมตกใจมากแต่ทำเป็นเหมือนไม่ได้อะไร  ฮิโรกินั่งคุยอยู่ตรงข้างๆผม  ฟังดูก็รู้ว่าเขาดีใจแค่ไหนที่ได้คุยกับผู้หญิงในโทรศัพท์นั่น  ผู้หญิงที่ชื่อเหมือนกับผมไม่มีผิด  คุยไปสักพักก่อนวางสายฮิโรกิเหมือนพยายามจะยื้อเธอเอาไว้  แต่ดูเธอจะไม่ยอมให้เป็นไปเช่นนั้นตัดสายเขาไปทันที  ในตอนนั้นผมเห็นฮิโรกิทำท่าทางเหมือนคนหมดแรงไปชั่วขณะหนึ่ง  ส่วนผมเองก็เริ่มรู้สึกตัวว่าผมเปิดช่องว่างภายในใจให้เด็กคนนี้เข้ามามากเกินไปแล้ว

   “นายเห็นแก่ตัวจังนะ  เลือกเก็บแต่เบอร์ของคนที่ชอบเท่านั้น”  ผมแค่นรอยยิ้มเล็กน้อย  “ถ้าครบ 1 อาทิตย์ฉันเองคงอยู่ในจำนวนนั้นด้วยสินะ  แต่ระหว่างนี้ช่วยอย่านอกใจกันไม่ได้หรือไง”

   ฮิโรกิจ้องหน้าผมนิ่ง  ผมเองตอนนั้นก็คงไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกไปมากมาย  ผิดหวังก็เท่านั้นที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้  ทั้งๆที่ปาล์มบอกว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดีและเอาใจใส่คนที่คบอยู่ด้วยมากๆ  แต่สำหรับผมมันก็แค่สิ่งที่เคลือบเอาไว้ปิดบังความเลวร้ายลึกๆภายใน

   “เหลืออีก 3 วันสินะ  ถ้าอย่างนั้นวันนี้ฉันกลับก่อนล่ะ”  ผมเก็บกระเป่าเดินออกมาจากห้องนอนของฮิโรกิ  ระหว่างทางเดินก็พบกับเหล่าพ่อบ้านเดินโค้งตัวให้กับผม  ซึ่งผมก็ยังพอจะมีมารยาทโค้งตัวกลับไปพอเป็นพิธี

   “พี่หมายความว่ายังไงที่ว่า 1 อาทิตย์แล้วเราจะจบกัน?”  ฮิโรกิวิ่งมากระชากแขนผมเอาไว้ทำให้ผมเกือบพลาดตกบันได  เคราะห์ดีที่หันไปคว้าราวบันไดเอาไว้ได้ทัน

   “หมายความอย่างที่พูด  ระหว่างนี้ก็มามีความสุขกันเถอะนะ”  ผมเอื้อมมือไปยีหัวฮิโรกิเล่น  ก่อนจะผละออกจากเขาวิ่งสุดกำลังขาออกมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่นั่น

   ทั้งๆที่เพิ่งพบกันไม่นาน  เวลา 4 วันที่เขาคอยดูแลเอาใจใส่มันก็มากมายจริงๆ  จนเผลอลืมไปว่าผมเองก็แค่แฟนประจำสัปดาห์ของเขาอีกคน  จะแปลกะไรหากเขาเลือกจะเดินหนีผมไปหลังจากนี้  ส่วนตัวผมเองหลังจากจบ 3 วันนี้  คงต้องไปอยู่กับพวกยากูซ่านั่นเสียที  หมดแรงจะขัดขืนหรือดิ้นรน  เพราะสุดท้ายผมเองก็ทำได้แค่ยอมรับแล้วทำใจ  ไม่เคยจะมีอะไรต่างไปจากเดิมเลยสักนิดเดียว...


***********************************************************************************************
ไม่ค่อยได้รับความนิยมแต่ก็จะเขียนอ่ะ >< 55+ เพราะกานต์จาก หอพัก(รัก)ชายจะมาโผล่ด้วยล่ะ อิอิ
ฝากด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 02-05-2011 16:28:13
TToTT
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-05-2011 16:49:46
 :o12:
ไม่เอาแบบนี้ :z3:
 :z6:พี่อย่าเพิ่งเตะอายจิ  :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 02-05-2011 17:21:00
ชื่อก็น่าจะหวานนะ แต่ทำไมมันเครียดจังอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 02-05-2011 17:25:07
ยากูซ่าที่ซื้อโมเดลคือ ฮิโรกิหรือเปล่านะ
แต่สงสารโมเดลจังเลย
 :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 02-05-2011 18:16:26
ต่อๆๆๆ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 02-05-2011 19:14:26
ฮิโระ นายคุยกับใครน่ะ ห๊ะ :angry2:

โป้งแล้ว ชิ งอนๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ZuuZuu ที่ 02-05-2011 20:21:08
อ๋อยยยยยยยยยย
ไม่อยากจะบอกเลยค่ะว่าตอนแรกเห็นคำว่าดราม่าก็กะว่าจะไม่อ่านแล้วนะ แต่มาเจอต่อว่าสุดท้ายจะแฮปปี้เอน
เอาฟร๊ะ อ่านก็อ่าน
พออ่านแล้วมัน..............
โมเดลน่าสงสารมากๆเลยอ่ะค่ะ ปมเยอะจังเลยอ่ะ อยากรุ้ซะแล้วซิว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง แต่เดาว่ายากูซ่าคนนั้นคือบ้านฮิโรกิรึป่าวอ่า
ขอให้ใช่ทีเหอะนะ เพี๊ยง ไม่อยากให้โมเดลต้องเสียใจมากไปกว่านี้แล้วอ่าค่ะ
ส่วนโมเดลที่ฮิโรกิคุยโทรศัพท์ด้วย ก็ขอว่าอย่าให้เป็นแบบที่โมเดล((ชาย))คิดด้วยเหอะนะเพี๊ยง~~~~
สุดท้าย รออ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ แล้วก็รอน้องกานต์ด้วย คิคิคิ

ปล.อย่าไปคิดค่ะว่าเรื่องไม่ได้รับความนิยม เพราะเค้าก็เป็นคนนึงที่รออ่านค่ะ สู้ๆนะคะูู ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-05-2011 20:25:08
เพิ่งเห็นว่าชื่อตัวเองแดงแปร๋เลย -*-
อายคงไม่ถูกหั่นใช่มั้ย TT^TT
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 02-05-2011 22:21:01
ง่ะฮิโระคุยกับใครอ่ะชื่อเหมือนกันเลย


ง่าฮิโระคงไม่ได้จะคบแค่อาทิตย์เดียวหรอกมั้ง



น่าสงสารจังอ่ะทำไมถูกขายเหมือนเป็นสิ่งของแบบนี้



รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 03-05-2011 14:42:19
เริ่มมาก็ได้กินมาม่าแล้ว แต่ถ้าจบแฮปปี้ก็ไม่เป็นไร

แต่น่าสงสารโมเดลจัง  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: bambooiihallo ที่ 03-05-2011 14:57:13
แบมก็มารอตอนต่อไปนะพี่เฟิร์น 55
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 03-05-2011 20:31:53
มาม่ามากมาย  :sad4: :sad4:

เศร้าอ่ะ ไม่ไหวจะเคลียร์
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 04-05-2011 01:48:43
กว่าจะถึงตอนแฮปปี้ๆ มันจะมาม่ากันไปถึงเมื่อไรล่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ปี้ปี้ปี้~PalmY ที่ 04-05-2011 03:10:32
รีบมาต่อให้จบนะครับ ไม่อยากดราม่านาน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 04-05-2011 14:15:40
เครียดแฮะ :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[02/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 04-05-2011 17:31:10
 o22ไปอยู่กับพวกยากูซ่าเลยเหรอ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 04-05-2011 17:36:24
3 Days….

   วันนี้ผมตื่นออกจากบ้านแต่เช้า ไม่อยากติดต่อหรือพบปะกับใครทั้งนั้น  ความรู้สึกเหมือนตัวเองได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วถูกผลักให้ตกลงมาเพียงชั่วครู่ที่เริ่มบิน  มันทำให้ผมจุกไปหมด  ร่างกายปฏิเสธอาหารทุกอย่างที่เข้าปาก  ผมอาเจียนตั้งแต่เมื่อวานก็ยังไม่ดีขึ้น  โทรศัพท์มือถือถูกโยนวางเอาไว้ในลิ้นชัก  มีเสียงโทรเข้ารวมทั้งข้อความดังมาไม่ขาดสายตั้งแต่เมื่อคืน  จนสุดท้ายผมก็ตัดสินใจปิดเครื่องไปให้สิ้นเรื่อง

   “จะไปไหนของแก”  เสียงแม่เลี้ยงของผมตะโกนดังมาไล่หลัง  ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรเดินทิ้งระยะห่างออกมานอกบ้านเตรียมตัวจะออกไปงานเปิดรั้วมหาวิทยาลัยตามที่นัดกับไนท์และปาล์มเอาไว้

   ทั้งๆที่ปกติเวลาได้บิดมอเตอร์ไซค์เร็วๆอารมณ์ผมจะถูกปลดปล่อยแท้ๆ  แต่วันนี้ผมกับรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการอีกเส้นซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าค่อยๆคืบคลานเข้ามัดดึงตัวและหัวใจของผมเข้าไปทีละน้อย  บางทีก็รู้สึกอยากจะหยุดหายใจไปซะเฉยๆ  เผื่อว่าจะได้ไม่ต้องมารับรู้เรื่องราวอะไรต่อไปอีก

   “นี่! ทำไมมาช้านักนะ”  ปาล์มเดินตรงเข้ามาตบบ่าผม  วันนี้รู้สึกเธอจะแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ  ผมที่ยาวก็ถูกปล่อยลงมาเคลียใบหน้ารูปไข่นั่น  การแต่งตัวที่ปกติดูสบายๆ ก็ดูจะเรียบร้อยเป็นพิธีการมากขึ้น

   “ขอโทษที...”  ผมไม่รู้ว่าตอนพูดผมแสดงสีหน้าแบบไหนออกมาไนท์กับปาล์มถึงได้ดูมีท่าทีกังวลใจนัก

   “ไม่เป็นไรนะเดล”  ไนท์เอื้อมมือดึงมือผมเข้าไปกุมเอาไว้  ปาล์มเองก็ด้วย  กลายเป็นว่าเราสามคนเดินจูงมือเที่ยวดูมหาวิทยาลัยกันสามคนเหมือนเด็กเล็กๆ  แต่นั่นกลับทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาบ้าง  ถึงจะไม่มากก็เพียงพอจะทำให้ผมยังอยากหายใจต่อให้นานอีกสักหน่อย

   “น้องครับ! น้องสามคนนั้นน่ะ  ไม่ลองมาเล่นเกมกับพวกพี่หรือครับ!”  เสียงผู้ชายในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยตะโกนเรียกพวกเราให้หยุดหันไปมอง 

   “ฉันอยากลองเล่นดูอ่ะ  ไปเล่นกันนะ”  ผมแอบเห็นว่าปาล์มจ้องรุ่นพี่คนนั้นตาไม่กระพริบสงสัยจะตกหลุมรักเข้าแล้วล่ะมั้ง?

   “เดล...นายโอเคนะ?”  ไนท์หันมาถามก่อนได้รับคำตอบจากผมเป็นการพยักหน้าเล็กน้อย

   “มาๆเลยครับน้องทั้งสามคน  เกมนี้เล่นเป็นคู่เพื่อสร้างความสนุกสนาน  รางวัลของพวกพี่เป็นรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นต์วงเกาหลีวงนี้เลย!”  รุ่นพี่คนนั้นเอารางวัลออกมาล่อปาล์มเต็มที่  แต่ผมว่าถึงไม่ต้องเอาของรางวัลมายังไงปาล์มเองก็คงเล่นเพราะติดใจหน้าตาพี่เขาอยู่ดี

   “แล้วกติกาล่ะครับ”  ไนท์มองอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์  ไม่แปลกอะไรเท่าไหร่ก็ไนท์มันชอบปาล์มมาตั้งนานแล้ว  มีแต่ปาล์มคนเดียวมั้งที่ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นสักที

   “วิ่งสามขาไงครับน้อง  วิ่งวิบากด้วยไปยังจุกเช็คพอยท์ตามที่เรากำหนดเอาไว้  แค่นั้นเองไม่ยากอะไรเลย  เรามีป้ายบอกทางให้เสร็จเลยด้วยนะ  ขาดอีก 2 คู่พอดีเลย”  รุ่นพี่คนนั้นยิ้มพร้อมสาธยายจูงใจ

   “ขอโทษนะครับ  เพื่อนผมอีกคนคงไม่เล่นครับ”  ไนท์หันไปบอกพวกรุ่นพี่ซึ่งเหมารวมเอาผมเข้าไปอยู่ในเกม  อีกอย่างผมก็ไม่มีคู่...

   “โธ่! น้องครับ  อย่ายืนทำหน้าสวยอย่าเดียวสิ  เดี๋ยวพี่คู่กับน้องเอง”  มือของพี่คนนั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้าของผมซึ่งถูกปิดด้วยฮู้ดเอาไว้บางส่วน  แต่ยังไม่ทันจะโดนก็มีรุ่นพี่อีกคนเดินเข้ามาห้ามเอาไว้

   “บอกกี่ครั้งว่าอย่าลวนลามผู้หญิง”  ใบหน้านิ่งๆของรุ่นพี่อีกคนทำเอาคนที่คิดจะจับหน้าผมถอยหลังออกห่างอย่างรวดเร็ว

   “ขอโทษครับ...ผมเป็นผู้ชาย”  ผมถอดฮู้ดซึ่งใส่ไว้กันแดดกับหมวกออก  ถึงหน้าผมจะสวยยังไงก็ไม่น่ามองเป็นผู้หญิงได้เลยให้ตายสิ

   “ฮ่าๆๆ!  ไอ้กานต์หน้าแตกหมอไม่รับเย็บเลยวุ้ย!”  รุ่นพี่ที่เหลือยืนโห่รุ่นพี่คนที่เข้ามาช่วยผมเอาไว้  ผมเห็นว่าจากใบหน้านิ่งๆ กลายเป็นหน้าเหวอ  สักพักก็กลับมายิ้มยืนเกาศีรษะอย่างเขินๆ  ใบหน้านั้นเจือไปด้วยสีแดงอมชมพู  สุดท้ายพอเห็นแบบนั้นผมก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้

   “น้องครับ  อย่าหัวเราะพี่แบบนั้นสิ  ขอโทษที่พี่เข้าใจผิดครับ”  พี่คนที่ชื่อกานต์ยิ้มกว้าง  รอยยิ้มของพี่เขาดูดีมาก  ถ้าถามว่าพี่เขาหล่อไหมก็คงต้องตอบว่าหล่อ  แต่ถ้าเทียบกับรุ่นพี่ที่ยืนๆกันอยู่ในซุ้มแล้วก็แทบจะปกติ  เพราะในนั้นมีผู้ชายหน้าตาดียืนเรียงอยู่เป็นแถว  ก็พอจะเข้าใจว่าไนท์มันถึงได้หงุดหงิดเหลือเกิน

   “ไม่เป็นไรครับ  ผมเล่นด้วยก็ได้ครับ”  ผมนึกอะไรไม่รู้คงแค่อยากจะปล่อยตัวเองบ้าง  ในเมื่ออีกฝ่ายซึ่งผมคบอยู่ด้วยยังนอกใจผมได้  แล้วทำไมผมจะลองมองหาใครสักคนบ้างไม่ได้ล่ะ

   “ฮิ้วววว~!! พี่กานต์หาคู่ได้แล้ว  คราวหน้าจะได้ไม่มาจ้องเอ็กซ์ของพวกเราอีก”  เสียงกลุ่มของผู้ชาย 5 คนในนั้นโห่ร้อง  แต่ก็ถูกดุด้วยรุ่นพี่ซึ่งใส่แว่นท่าทางเป็นเด็กเรียนจนเงียบกริบ

   “พวกนายน่ะ! ถ้าไม่เลิกพูดแบบนั้นคืนนี้อดจริงๆด้วย”  ถึงแม้คำพูดนั้นจะดูคลุมเครือไปหน่อยก็เถอะนะ

   “เดล  นายไหวเหรอ?”  ไนท์เดินเข้ามาจับหน้าผากผมเพื่อวัดไข้  ที่รู้สึกปวดหัวนิดๆคงเพราะพิษไข้

   “อ้าว! พี่กานต์ครับน้องเค้ามีเจ้าของแล้วอ่ะ  เสียใจด้วยนะพี่!”  คราวนี้เสียงโห่ฮามาจากอีกมุม  มีผู้ชาย 8 คนยืนเกาะกลุ่มกันอยู่

   “เดลเป็นเพื่อนผม  แต่คนนั้นน่ะของผม!”  ประโยคหลังไนท์มันหันไปมองปาล์มซึ่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

   “ไม่ต้องห่วงหรอกว่าพวกพี่จะแย่งของน้อง  แต่ถ้าเพื่อนน้องโดนงาบไปก็ไม่แน่นะ”  พี่เอ็กซ์กล่าวยิ้มๆ  ก่อนจะยื่นผ้ามาให้ผมกับพี่กานต์ผูกขาเข้าด้วยกัน
 
   “พี่ผูกให้นะครับ”  พี่กานต์รับผ้านั้นมาก่อนจะก้มลงไปผูกขาของผมให้ติดกับของเขา  แต่พอเริ่มจะเดินเท่านั้นผมก็แทบจะสะดุดล้ม  โชคดีที่พี่กานต์โอบเอวผมเอาไว้ได้ทัน  ใบหน้าของผมซึ่งเกือบได้ไปนาบกับพื้นซีเมนต์จึงมาแนบอยู่กับแผงอกของพี่กานต์แทน

   “ฮิ้ววววว~!  เดือนปี 3 เราจะมีคู่แล้วโว้ย!” 

   “เงียบไปเลย”  พี่กานต์ค่อยๆ ปล่อยผมออกอย่างระวังพร้อมกับหันไปส่งสายตาอาฆาตให้พวกที่ร้องแซว  แต่ทำไมใบหน้านั่นต้องมีรอยแดงที่แก้มด้วยล่ะ หรือจะเขินผมเหรอ?

   “ฮิ้ววววว~! คนสวยครับระวังโดนพี่กานต์หม่ำนะครับ”

   “ไอ้เวรโจ  เดี๋ยวโดนถีบ!”  ยิ่งโดนล้อหน้าพี่กานต์ก็ยิ่งแดงหนักขึ้นเรื่อยๆ

   “ไปประจำที่ได้แล้ว  คนอื่นรอแล้วเห็นไหม”  พี่เอ็กซ์พูดก่อนดันหลังของพี่กานต์กับผมให้ออกไปตรงทางเดินซึ่งมีหลายคู่อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

   ผมเดินไปกับพี่กานต์อย่างกระท่อนกระแท่นโดยมีแขนของพี่เขาคอยประคองผมให้เดินไปตลอด  ถ้ามองจากสายตาคนอื่นผมกับพี่เขาก็คงเหมือนคู่รักที่ชวนกันมาเล่นเกมนี้ก็ได้  เล่นโอบผมไว้ขนาดนี้  ไม่แปลกใจเลยหากใครจะเข้าใจผิดเรื่องสถานะความสัมพันธ์

   แดดตอนสายๆร้อนมากผมต้องเอาหมวกมาสวมแล้วคลุมฮู้ดไว้ตามเดิม  พี่กานต์เองก็หยิบหมวกมาสวมไว้เช่นกัน  ผิวขาวๆของพี่เขาพอโดนแดดแล้วดูเหมือนมีออร่าเปล่งประกายออกมาชอบกล  แถมคนรอบๆทั้งนักเรียนที่มาเที่ยวชมงานกับพี่ๆ ในมหาวิทยาลัยเองก็จ้องมองมาทางพี่กานต์กันหมด  ทำเอาผมที่ต้องมาคู่กับพี่เขารู้สึกประหม่าไม่น้อย  เพราะพี่กานต์ท่าทางจะดังมาก  เป็นถึงอดีตเดือนของมหาวิทยาลัย

   ทันทีที่เสียงสัญญาณดังผมกับพี่กานต์ก็เริ่มเร่งฝีเท้าในการวิ่งสามขาไปยังจุดเช็คพอยท์แรก  โดยผมเองไม่ได้กลัวที่จะล้มลงไปเลยเพราะพี่กานต์โอบเอวของผมเอาไว้แนบกับลำตัวของพี่เขา  จนผมเหมือนกับถูกกึ่งอุ้มมากกว่าจะวิ่งสามขา 

   แต่ยังไม่ทันจะถึงจุดเช็คพอยท์ด้านหน้า  ผมรู้สึกเหมือนกับโลกเหวี่ยงหมุนรอบตัวอย่างรวดเร็ว  ขาที่วิ่งเริ่มก้าวไม่ออก  หายใจติดขัด  ได้ยินเสียงเรียงชื่อผมขณะที่ฝีเท้าหยุดวิ่ง  ก่อนทุกอย่างจะหายไปกลายเป็นความมืดมิด

   ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็เห็นฝ้าเพดานสีขาวๆลอยเด่นอยู่ตรงหน้า  คาดว่าคงไม่พ้นเป็นโรงพยาบาลที่ไหนสักที่  หันมองด้านข้างก็เห็นพี่กานต์กับเพื่อนอีกสองคนของผมกำลังคุยกับหมอด้วยสีหน้าโล่งอก  แต่พอปาล์มหันมาเห็นผมฟื้นเท่านั้นล่ะ  ผมแทบอยากจะหลับตาลงไปเสียเดี๋ยวนั้น

   “โมเดล!! แกทำพวกฉันลำบากรู้ตัวไหม  พ่อเจ้าประคุณนี่ไม่คิดจะดูสภาพตัวเองก่อนคิดจะเล่นอะไรเลยหรือไง  ป่วยเป็นไข้แถมยังไม่ได้กินข้าวอีก  แล้วไหนจะร่างกายอ่อนเพลียเพราะอดนอน  คุณเธอคิดว่าตัวเองเป็นยอดมนุษย์ใส่เกราะเหล็กหรือยังไงหา?!  ร่างกายเธอไม่ได้เสริมใยเหล็กนะยะจะได้แข็งแรงทนถึกสู้งานทุกสถานการณ์  หัดเอาสมองฉลาดๆคิดซะบ้าง  ฉันเพื่อนแกนะโว้ย!  มีอะไรทำไมไม่พูด”  ผมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้ไนท์  เผื่อจะช่วยห้ามปาล์มเหมือนกับครั้งที่แล้วแต่ดูเหมือนผมจะคิดผิดจริงๆ

   “คราวนี้ฉันไม่ช่วยนาย  ร่างกายขาดสารอาหารแถมยังเป็นไข้  ป่วยแล้วทำไมไม่โทรศัพท์มาบอกว่ามาไม่ได้  นี่ตอนนี้นายคิดว่าพวกฉันเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า  ฉันรู้ว่าชีวิตเป็นของนาย  แต่ช่วยเห็นใจเพื่อนอย่างฉันสองคนได้ไหม?  เห็นแกล้มไปต่อหน้าต่อตาแบบนั้นพวกฉันจะรู้สึกยังไง  แล้วพี่กานต์อีก...พี่เขาตกใจมากรู้ไหม?”  ไนท์ร่ายยาวใส่ผม  ผมเลยต้องหันหน้าไปทางพี่กานต์ซึ่งยืนยิ้มอย่างอบอุ่นมาให้ผม  อย่างน้อยคงไม่โดนพี่กานต์บ่นใส่ตั้งแต่วันแรกที่เจอ  ก็ยังดี...มั้ง?

   “ทีหลังอย่าฝืนตัวเองนะครับ”  พี่กานต์ยิ้มก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวผม  แต่ผมกลับสะดุ้งทำให้พี่กานต์ต้องชักมือกลับพร้อมกับมีสีหน้าหมองลงไป

   “ขอโทษครับ  ผม...”  ผมไม่รู้จะบอกพี่เขายังไงว่าผมไม่ชินเพราะกลัวจะถูกทำร้ายเหมือนตอน 6 ปีก่อนหน้านี้  ผมถูกคนในบ้านตัวเองทำร้ายเมื่อคิดว่าผมฆ่าพี่ชายตัวเอง  อาการก็ไม่หนักหนาอะไร  แค่ปางตาย...

   “ไม่เป็นไรครับ  ไม่ต้องขอโทษหรอกนะ”  พี่กานต์ยิ้มอย่างอ่อนโยน  ผมรู้สึกเหมือนพี่เขาคล้ายกับคุณพ่อของผมมาก  ตอนเด็กๆ ท่านเองมักจะลูบศีรษะผมอยู่เสมอ  กระทั่งเหตุการณ์วันนั้นท่านเองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าผมเป็นคนทำ  แต่ด้วยความที่ท่านช็อคที่ต้องเสียลูกชายไปทำให้ล้มป่วยจนต้องนอนรักษาเป็นเจ้าชายนิทราในโรงพยาบาล  ตั้งแต่นั้นมาผมก็ถูกทำร้ายมาโดยตลอด  จนเมื่อผมเริ่มโตก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรผม  เพราะผมเริ่มจะสู้  แล้วด้วยความที่เป็นผู้ชายจึงมีน้อยครั้งนักที่จะถูกทำร้ายต่อหน้า  ถ้าลอบกัดกันก็อีกเรื่องหนึ่ง

   “หมอบอกว่าให้น้ำเกลือหมดถุงนี้ถึงกลับบ้านได้  แต่อยากให้แกนอนค้างที่นี่สักคืนดีกว่า  กลับบ้านไปมีแต่จะทำให้ทรุดหนัก  ทางที่ดีอยู่นี่มันซะ 2 คืนจะได้หายขาด”  ปาล์มเขกหัวผมดังป๊อก  ก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นผมทำท่าลูบหัวตัวเองป้อยๆ

   “เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าให้ไม่ต้องกลัวผีหรอกน่ะ”  ไนท์แกล้งแซวผมเล่น  ผมเลยส่งหน้ามุ่ยแก้มป่องไปให้มันแทน  จนทั้ง 3 คนหัวเราะออกมาเสียงดัง

   “พี่ว่างครับ  ถ้ายังไงเดี๋ยวพี่ช่วยอยู่เฝ้าด้วย  มีอะไรพี่จะได้ช่วยจัดการเรื่องโรงพยาบาลได้ด้วย”  พี่กานต์ยิ้มก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าค่าห้องนี่จะเอายังไง  ดูท่าทางแล้วโรงพยาบาลเอกชนแน่ๆ

   “ขอโทษนะครับพี่กานต์  ไว้ผมจะหาเงินมาคืนให้นะครับ” 

   “คิดมากน่ะเรา  ค่าห้องไม่เท่าไหร่หรอกนี่มันโรงพยาบาลในเครือของคุณพ่อพี่เอง  ยังไงก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว”  คราวนี้กลับเป็นผมที่ทำหน้าเหวออยู่คนเดียว  เมื่อเพื่อนทั้งสองคนหันไปหัวเราะกันเหมือนรู้อยู่แล้ว

   “อ่า...ผมเกรงใจครับ”  ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ  เจอกันครั้งแรกเขายังดีกับผมขนาดนี้  ถ้าผมไม่เจอใครบางคนก่อนหน้าเขา  บางทีผมคงตกหลุมรักเขาไปแล้ว

   “ไม่ต้องเกรงใจครับ  หลับตาพักผ่อนเถอะครับ  เรื่องอื่นไว้เรามาคุยกันทีหลัง  พักผ่อนมากๆจะได้หายเร็วๆไงครับ”  ผมชอบจริงๆ รอยยิ้มของพี่กานต์แบบนั้น  รู้สึกเหมือนกำลังชมแสงแดดอ่อนๆยามเช้า  สว่างสดใสและเป็นมิตร

   ไม่รู้เพราะความโล่งใจหรือเปล่าที่ได้มาอยู่ตรงนี้  เปลือกตาของผมถึงได้เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นปิดสนิท  เพียงแค่ไม่นานก็ยังดีขอให้ผมได้ลืมเรื่องราวของฮิโรกิไปสักพักหนึ่ง  ขอให้หัวใจที่เผลอรักเขาไปได้หยุดพักเพื่อทบทวนความรู้สึกสักนิด  แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ผมก็ยังอยากครอบครองเขาเอาไว้เพียงคนเดียว  แต่เขาเองก็มีใครคนอื่นอยู่ในใจ  ชื่อนั้นทำไมต้องเหมือนผม  หรือผมเองก็แค่ตัวแทนของใครบางคนในหัวใจเขากันแน่

   ถ้าเป็นแบบนั้น  ผมคงอยากหยุดหายใจให้เร็วขึ้นอีกสักนิด...


************************************************************************************************
ตอนนี้ดูเรื่อยๆไปหน่อย แต่ตอนหน้ารับรองมีหึงโหดค่ะ!
ใครจำตัวละครได้บ้าง?ไหม 55+

มาจากหอพัก(รัก)ชาย กับเรื่อง หอพักไม่จำกัด(คน)รัก ค่ะ  ใครยังไม่ได้อ่านฝากติดตามในหมวดนิยายที่โพสต์จบแล้วค่ะ
ตอนนี้กานต์ออกโรงอีกแล้ว 55+ หลังจากอกหักจากน้องเอ็กซ์ยังต้องมาซ้ำซ้อนด้วยโมเดลอีก เอาใจช่วยใครก็เชียร์ด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุก comment ค่ะ  

จิ้มคนข้างล่าง :z13:
v
v
v
v
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: shokung ที่ 04-05-2011 18:01:53
ตามมาเชียร์กานต์ครับ โมเดลเหมา 2 เลย จะได้ไม่ต้องมีใครเสียใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-05-2011 18:09:45
จิ้ม  o22 ไม่ทัน
ตามมาด้วยคน มีใครจะมาดามใจน้อย ๆ ของพี่กานต์มั้ยน้า :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 04-05-2011 20:28:44
คิดถึงฮิโระ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ZuuZuu ที่ 04-05-2011 20:42:19
ดีใจที่รีเฟรชมาเจอว่าเรื่องนี้อัพแล้ว
สงสารน้องโมเดลมากเลยอ่ะค่ะ ทำไมน้องต้องเจอเรื่องร้ายๆด้วยเนี่ย
แล้วอยากรู้จังว่าตกลงโมเดลจะคู่กับใคร
และภาวนาว่าขอให้กานต์และฮิโรกิไม่ต้องช้ำรักเลยนะคะ ส๊า~~~~ธุ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 04-05-2011 20:50:28
ที่บอกว่าเรื่องนี้มีกานต์โผล่มาแจม
คงไม่ได้หมายความว่าเป็นพระรองโดนหักอกหรอกนะ :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: sayhi11 ที่ 04-05-2011 21:05:49
อยากอ่านอีกค่ะ...
มาต่อเร็วๆๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 06-05-2011 23:59:44
พี่กานต์อบอุ่นเหลือเกิน


ง่าฮิโรกิไปไหนแล้วววว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 07-05-2011 00:44:41
ง่าาา พี่กานต์จะอกหักจากเดลหรอ?

ฮิโรกิหึงโหดหรอตอนหน้าอ่ะ??  ต้องเตรีมทิชชู่มั๊ยเนี่ย  555++ [หื่นไปมั๊ยเรา?]  :haun4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 07-05-2011 01:21:15
ไม่รู้จะเลือกใครดี  ขอทั้งคูเลยแล้วกัน   :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[04/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: erascal ที่ 07-05-2011 11:04:01
เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากseven days ใช่ไหมคะ
รู้สึกฉากมันคุ้นเยอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 07-05-2011 15:01:18
เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากseven days ใช่ไหมคะ
รู้สึกฉากมันคุ้นเยอะ
ขอตอบว่าใช่ค่ะ แต่เนื้อหาไม่เหมือนกัน อันนั้นเค้าใสน่ารัก อันนี้...555 DRAMA(?)

**************************************************************************************************
Short Story คนสุดท้ายของหัวใจ

   ผมออกจากโรงพยาบาลหลังจากนอนพักฟื้นไปสองคืนเต็มๆ  ทีแรกว่าจะกลับตั้งแต่เช้า  เพราะว่าคุณหมอสั่งให้ตรวจสภาพร่างกายอีกครั้งจึงกินเวลาไปพอสมควร  พี่กานต์เองก็ดูแลผมตลอดทุกวันที่ผมอยู่โรงพยาบาล  คอยหาเรื่องตลกมาเล่าให้ผมฟังทำให้ผมไม่เบื่อ  บางครั้งพี่เขาก็เล่าเรื่องของพี่เอ็กซ์คนที่พี่เขารักมานาน  แต่สุดท้ายก็อกหัก 

   พี่กานต์ไม่ได้เล่าเรื่องพี่เอ็กซ์ด้วยความเศร้า  แต่กลับเล่าด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ  คล้ายกับว่าเขาทำใจได้แล้ว  ถึงอย่างนั้นผมก็ยังชอบวิธีการเล่าเรื่องต่างๆของพี่กานต์ซึ่งบ่งบอกว่าเขาเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่อง  เป็นคนที่รักใครแล้วรักจริงไม่มีวันเปลี่ยนใจ  จนบางทีผมก็แอบคิดอิจฉาพี่เอ็กซ์ที่มีคนแบบพี่กานต์มารัก

   “เดล  คิดอะไรอยู่หรือครับ”  พี่กานต์ซึ่งขับรถมาส่งผมที่บ้านหันมาถามหลังเห็นผมเงียบไปพักใหญ่

   “ผมคิดว่าพี่เอ็กซ์โชคดีที่มีคนอย่างพี่มารัก  และคอยดูแล” 

   “แต่พี่ก็อกหักซ้ำซ้อนนะ  เพราะเดลเองก็มีคนอื่นอยู่ในใจแล้วนี่นา”  พี่กานต์ยิ้ม  ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของเขาทั้งคำพูดและการกระทำ  ถ้าเลือกได้ผมเองก็อยากรักเขาเหมือนกันกับที่เขารักผม

   “คนสมัยนี้ชอบคนเลวครับ  แบบพี่นี่เขาไม่นิยมหรอก”  ผมสบายใจเวลาอยู่ข้างๆ กับพี่กานต์  สามารถพูดคุยหยอกล้อได้เหมือนชีวิตผมเป็นคนปกติเช่นคนอื่น

   “ใจร้ายจังเลยนะ  พูดตรงขนาดนั้นเดี๋ยวให้เลี้ยงข้าวพี่เลยนี่”  พี่กานต์เอามือข้างที่จับเกียร์มายีหัวผมจนยุ่ง  ช่วงเวลาสองวันที่พี่เขาดูแลผมทำให้ผมรู้สึกคุ้นเคยและวางใจมากขึ้น  อาการสะดุ้งหรือหลบไม่ให้แตะตัวจึงน้อยลง

   “ถ้าอย่างนั้นแวะร้านข้างทางนะพี่  ผมมีเงินไม่เยอะหรอก”  ผมพูดพลางควักกระเป๋าสตางค์ออกมารื้อให้พี่กานต์ดู

   “รู้สึกเหมือนพี่รังแกเด็กเลยแฮะ”  พอเห็นเงินในกระเป๋าผมพี่กานต์ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

   “ล้อเล่นน่า  ไม่ได้มีแค่สองร้อยซะหน่อย  ผมมีบัตรเครดิตนะพี่  อยากกินที่ไหนก็จอดเอาตามสะดวกเลยละกัน”  วงเล็บในใจว่าท้องผมก็ร้อง

   “ครับๆ  เดี๋ยวพี่พาไปร้านอร่อยๆให้เราเลี้ยงพี่จนกระเป๋าฉีกไปเลย”  พี่กานต์พูดจบก็เร่งเครื่องให้เร็วขึ้นก่อนจะพาผมไปยังร้านที่ผมคิดว่าไม่ว่ากินเท่าไหร่ผมก็ไม่มีวันกระเป๋าฉีกแน่

   “พี่ครับ...ถ้าพี่ทำผมกระเป๋าฉีกได้ผมจะแปลกใจพี่มากเลยล่ะ” 

   ร้านที่พี่กานต์พามาเป็นร้านบุฟเฟต์  จ่ายแค่ค่าหัวแรกเข้าไม่จำกัดเวลา อยากทานอะไรทานเท่าไหร่ก็ไม่ว่ากัน  แถมร้านนี้ยังเป็นร้านอาหารที่มีอาหารหลากหลายให้เลือก  ไทย จีน ฝรั่ง  หรืออะไรมีหมด  บรรยากาศของร้านก็ดูสบายๆเป็นกันเอง  ไม่ได้หรูหราอะไร  แต่ก็ไม่ได้ธรรมดาจนเกินไป  การตกแต่งร้านก็เน้นพวกเฟอร์นิเจอร์จำพวกไม้  ประกอบกับแสงไฟสีอ่อน

   “ก็กลัวว่าจะกินไม่อิ่มเลยพามาที่นี่ยังไงล่ะ  เราเองก็ทานเยอะๆร่างกายจะได้แข็งแรง”  พี่กานต์เลือกนั่งมุมติดกับน้ำตก  มีเสียงดนตรีคลาสสิกเบาๆคลอมา  ร้านนี้จะถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ  เพื่อแบ่งอาหารหลากหลายชนิดออกจากกันอย่างชัดเจน ถ้าอยากทานอะไรก็แค่เลือกเดินไปตักมาทานเท่านั้น

   พี่กานต์เดินไปตักอาหารมาบริการผมทุกอย่าง  ทั้งน้ำทั้งอาหารถูกทยอยลำเลียงด้วยฝีมือของพี่กานต์เพียงคนเดียว  โดยให้เหตุผลว่างานนี้เจ้ามือไม่ต้อง  ส่วนผมมีหน้าที่ทานไปอย่างเดียวก็พอ

   ผมกับพี่กานต์ทานอาหารเข้าไปเยอะมากทีเดียว  ทานบนโต๊ะถูกทยอยไปเก็บหลายรอบ  กระเพาะของผมกับพี่กานต์รวมกันแล้วก็คงหลุมดำดีๆนี่เอง  อิ่มจังตังค์ต้องจ่าย(ไปแล้ว)

   “อยากไปไหนอีกหรือเปล่า?  ค้างบ้านพี่ก่อนไหม?”  พี่กานต์ถามด้วยความเป็นห่วงหลังจากได้ฟังสองเพื่อนสนิทของผมเล่าเรื่องราวคร่าวๆของบ้านผมให้ฟัง  ยกเว้นเรื่องที่ผมถูกขายให้กับพวกยากูซ่า

   “ไม่เป็นไรครับ  ผมกลับบ้านดีกว่า  ถ้าหายไปนานกว่านี้คงจะมีปัญหาเกิดขึ้นอีก”  ใจจริงอยากจะหนีไปให้ไกล  อยากจะไปให้พ้นจากที่นั่น  แต่ยังไงก็หนีไปไม่พ้นอยู่ดี

   “เข้าใจล่ะ  อย่างนั้นพี่พาไปส่งที่บ้านแล้วกัน”

   กว่าจะถึงบ้านก็ใกล้ค่ำท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม  พระจันทร์เองก็เริ่มออกมาฉายแสงถัดจากพระอาทิตย์  พี่กานต์ลงมาส่งผมที่หน้าบ้าน  เราคุยอะไรกันหลายๆอย่าง  เนื้อความก็วนอยู่ที่เดิมว่าอยากให้ผมไปอยู่กับเขา  ทั้งๆที่ผมกับพี่เขาเพิ่งรู้จักกันเพียงไม่กี่วัน  แถมผมยังปฏิเสธความรักของพี่กานต์อีก  แล้วแบบนี้จะให้ผมรับน้ำใจของเขาเอาไว้ได้ยังไงกัน

   “พี่ว่าเดลน่าจะย้ายออกนะ  มาอยู่กับพี่ก็ได้บ้านพี่มีพี่เป็นลูกคนเดียว  คุณพ่อกับคุณแม่พี่เองวันนั้นที่เห็นหน้าเดลยังบอกเลยว่าอยากให้มาเป็นลูกชาย”  พ่อกับแม่ของพี่กานต์แวะมาเยี่ยมผม  ท่านทั้งสองคนเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใจไม่ถือตัว  ผมไม่แปลกใจเลยว่าพี่กานต์ได้แบบอย่างที่ดีมาจากใคร

   “ไม่เป็นไรครับ  พี่กานต์กลับเถอะมืดค่ำแล้ว  เดี๋ยวจะขับรถถึงบ้านดึกนะครับ”

   “เฮ้อ...ก็ได้ครับ  ถ้ามีอะไรโทรหาพี่นะ  อย่าลืมว่าเราติดค้างพี่อยู่”  ประโยคหลังพี่กานต์แกล้งแหย่ผมเรื่องค่ารักษาพยาบาล

   “อย่างนั้นไว้ผมไปจ่ายนะครับ  เลี้ยงข้าวพี่แบบวันนี้แล้วกัน  คราวหน้าอยากทานอะไรก็อย่าลืมมาชวนผมนะครับ”  ผมเดินเข้าไปกอดพี่กานต์อย่างไม่รู้สึกเขินแม้แต่น้อย  พี่กานต์เหมือนคุณพ่อของผมมากจริงๆ  เสียดายที่ท่านไม่สามารถมายืนกอดผมแบบนี้ได้อีกแล้ว

   “ถ้าลืมเขาได้แล้วพี่จะรอนะครับ”  พี่กานต์โอบกอดผมแน่น  ผมเองก็เผลอร้องไห้ไปกับคำพูดนั้น  ถ้าผมลืมได้ต่อให้ผมไม่ลืมผมก็ไม่มีสิทธิ์รักเขาอยู่ดี  ชีวิตมันไม่ใช่ของผมอีกต่อไปแล้ว

   “เดล!!”  เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังมาจากมุมหนึ่งของความมืด  ใบหน้าของฮิโรกิตอนนี้ดูน่ากลัวกว่าปกติ  ไม่มีรอยยิ้มแบบเมื่อหลายวันก่อนให้เห็น  หลงเหลือเพียงดวงตาซึ่งจ้องมาทางผมกับพี่กานต์ด้วยความขุ่นเคือง  มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่นจนผมอดกลัวว่าพี่กานต์จะโดนลูกหลงด้วยไม่ได้

   “พี่กานต์กลับไปก่อนนะครับ!”  ผมรีบผลักพี่กานต์ให้ขึ้นรถ  แต่พี่กานต์เองก็ดูจะไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจึงฝืนตัวไว้ไม่ให้ผมทำอะไรได้โดยง่าย

   “เกิดอะไรขึ้นน่ะเดล  หรือคนนี้ที่ไนท์กับปาล์มเล่าให้พี่ฟัง”  พี่กานต์หันกลับเอาตัวมาบังผมไว้แทน

   “ไปเถอะครับพี่  ทางนี้ผมขอจัดการเองนะครับ  รีบไปเถอะนะ”  ผมใช้แรงที่มีหันไปเปิดประตูรถ  แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่สามารถดันพี่กานต์ให้เข้าไปข้างในรถได้  ฮิโรกิเองก็เริ่มก้าวเท้าเข้ามาใกล้เต็มที  แววตาแบบนั้นทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัวเมื่อนึกถึงอดีตตอนที่ถูกทำร้าย

   “ห่วงมันนักหรือไง!!  ลืมไปหรือเปล่าว่าพี่เป็นแฟนผมอยู่!!”  ผมก้าวเท้าถอยหลังตามพี่กานต์ซึ่งพยายามกันผมเอาไว้  ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้ฮิโรกิโกรธได้ขนาดนั้นแต่ผมไม่ชอบแววตานั้นเอาเสียเลย  มันทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง

   “อย่ามายุ่งกับเดล!!  นายไม่มีสิทธิ์ไปบังคับใครต่อใคร”  พี่กานต์โต้กลับมือเกร็งกำหมัดแน่นพร้อมสู้ทุกเมื่อ

   “มีสิ!!  เพราะผมซื้อเดลต่อจากพวกยากูซ่าแล้วยังไงล่ะ!”  ผมอึ้งไปกับคำพูดที่ได้ยิน...  นี่ผมถูกซื้อขายต่ออีกแล้วใช่ไหม?  ผมก็แค่สิ่งของอย่างนั้นสินะ

   “หมายความว่ายังไง!!  เดลเป็นคนนายไม่มีสิทธิ์มาซื้อขายแบบนั้น”

   น้ำตาของผมไหลอีกแล้ว  นี่เพราะผมอ่อนแอหรือเพราะเรื่องที่มันเกิดขึ้นกับผมมันหนักเกินกว่าผมจะแบกรับมันไหวกันแน่  ผมคือใคร?  ผมเป็นอะไร?  ผมต้องทำอะไร?  ไม่รู้เลย...  ผมไม่รู้ว่าควรต้องรับรู้แล้วรู้สึกอะไรอีกหรือเปล่า?  ทำไมกันนะ?  ทำไมผมไม่ตายไปซักที...  ตายไปจะได้ไม่ต้องมาทนรับอะไรบ้าๆพวกนี้

   “หึ!  มานี่เดี๋ยวนี้เดล!!”  ฮิโรกิตรงเข้ามากระชากผมให้ตามไป  ร่างกายของผมหมดแรงตั้งแต่รับรู้เรื่องราวจากปากนั่น  ทั้งๆที่ผมอุตส่าห์คิดว่าฮิโรกิจะไม่เหมือนคนอื่น  ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น...แต่ทำไมตอนนี้ผมเจ็บเหลือเกิน

   “ปล่อยเดลนะโว้ย!”  เสียงของพี่กานต์ร้องโวยวายแต่ถูกล้อมกรอบด้วยลูกน้องของฮิโรกิ  ผมได้ยินเสียงการต่อสู่แต่แค่แรงจะหันกลับไปมองผมยังหมดไปแล้ว  ยังเหลืออะไรที่ผมต้องทำนอกจากตาย...

   ผมถูกพามายังบ้านของฮิโรกิด้วยสภาพไร้วิญญาณ  ความจริงที่ผมรับรู้ทำให้ผมเหมือนคนสูญเสียทุกอย่างไป  ศักดิ์ศรียังไม่มี  จะมีชีวิตต่อไปได้ยังไง?  อย่างน้อยผมก็ได้ทดแทนบุญคุณของพ่อ  เพราะเงินที่ได้จากการขายผมนั้นจะนำไปยื้อชีวิตของคุณพ่อได้อีกนานพอสมควร

   “ฮิโระนายพาใครมาน่ะ  สวยดีนี่นา...”  ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาทางผมซึ่งถูกฮิโรกิประคองเข้ามาภายในบ้าน 

   “เมียผม!  อย่าแตะต้องเขาเด็ดขาด!” 

   “หึ! แล้วอย่ามาร้องไห้ขอความรักจากฉันอีกล่ะ”

   “ไม่มีวันนั้น! คุณมันก็แค่งูพิษโมเดล...คนแบบคุณสักวันพี่ต้องรู้ความจริง”  ชื่อนั้นทำให้ผมต้องหลุดจากห้วงความคิด  ผมสบสายตากับผู้หญิงคนนั้น  คนที่ฮิโรกิคุยกับเธอตอนนั้น

   “ไม่มีวันนั้นหรอก  ฮิคารุน่ะเขาเองก็มีหลายคนจะตาย  เธอเองก็ด้วยนะต่อไปฮิโระเองก็คงทิ้งเธอไปเหมือนกับฉันที่ถูกฮิคารุเก็บสะสมเป็นของเล่น  ฉันเตือนด้วยความหวังดี...”  ผมมองตามร่างของเธอคนนั้นไปด้วยความสงสัย  ไม่เข้าใจในเรื่องราวที่เกิดขึ้น  แต่ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนผมคงเป็นได้แค่ของเล่นฆ่าเวลาอยู่ดี

   ฮิโรกิดูจะหงุดหงิดมากเขาแบกผมไว้บนบ่าก่อนจะพาผมไปยังห้องนอนของเขา  พอเปิดประตูได้ร่างของผมก็ถูกเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างรุนแรง  ผมรู้สึกปวดร้าวตามตัวซึ่งเกิดจากแรงกระแทก  ถึงแม้เตียงจะไม่ได้แข็งแต่การถูกโยนลงมาแรงๆก็ทำให้จุกได้เหมือนกัน

   “บอกผมมาว่าไอ้หมอนั่นเป็นใคร?!”  ผมคิดว่าฮิโรกิคงหมายถึงกานต์แต่ผมไม่สนใจจะตอบคำถามนั้น  มันไม่จำเป็นอะไรที่เขาต้องรับรู้เรื่องราวของของเล่นอยู่ดี

   “..................”

   “ดี....เดี๋ยวมาดูกันว่าที่ไม่ยอมพูดกับผมแล้วจะครางเสียงดังแค่ไหน!!”  ฮิโรกิตวาดลั่นก่อนกระชากเสื้อของผมออกเป็นชิ้นๆ นำไปผูกมัดแขนผมเอาไว้กับหัวเตียง  ผมนิ่งเงียบแต่ก็ดิ้นรนขัดขืน  แรงของผมสู้แรงของฮิโรกิในเวลาที่โกรธตอนนี้ไม่ได้เลยสักนิด  แขนทั้งสองข้างของผมจึงถูกมัดอย่างง่ายดาย

   ฮิโรกิก้มลงซุกไซ้ซอกคอของผมอย่างรุนแรง  ผมไม่รู้สึกถึงความรักมีเพียงแรงโกรธเท่านั้นที่สัมผัสได้ในเวลานี้  ผมเจ็บใจและตอนนี้คงไม่พ้นต้องเจ็บตัวเพราะคนตรงหน้า

   มือของฮิโรกิเลื่อนลงไปบีบแก่นกายของผมจากด้านนอกอย่างรุนแรง  ผมเจ็บแต่ก็ฝืนกัดริมฝีปากเอาไว้  แต่นั่นยิ่งดูเป็นการยั่วโมโหฮิโรกิทำให้เขาก้มลงไปกระชากกางเกงผมออกเหลือแค่ชั้นในปกปิดความเป็นชายของผมเอาไว้  ใบหน้านั่นเลื่อนลงไปใช้ลิ้มโลมเลียแก่นกายของผมจากภายนอก  ผมรู้สึกเสียวไปหมดกับการใช้ลิ้นของฮิโรกิ  แต่เพียงไม่นานแก่นกายของผมก็ถูกฮิโรกิขบกัด  ผมกัดริมฝีปากให้แน่นขึ้นไปอีกเมื่อรู้สึกถึงความเจ็บแปลบด้านล่าง  มือของฮืโรกิกระชากสิ่งปกปิดชิ้นสุดท้ายของผมให้หลุดไป  แก่นกายของผมถูกกลืนกินเข้าไปภายในโพรงปากของฮิโรกิ  ผมปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีกับการกระทำแบบนั้น  จนเผลอยกสะโพกขึ้นตามปากของฮิโรกิ

   ฮิโรกิหยุดการกระทำนั้นทันที ถอนปากออกจากแก่นกายของผมก่อนจะยิ้มอย่างผู้มีชัยเหนือกว่า  ผมเจ็บใจที่ทำอะไรไม่ได้  มือของผมก็ถูกมัดอยู่แบบนี้  ขาของผมก็ถูกฮิโรกินั่งกดทับเอาไว้ทำให้ขยับไม่ได้

   “ผมไม่ปล่อยพี่ไปแน่ๆ  ของของผมยังไงก็ต้องเป็นของของผม”  ฮิโรกิก้มลงมากระซิบประโยคที่ทำให้ผมยิ่งดิ้รนขัดขืนมากขึ้น  ไม่อยากต้องเป็นแบบนี้  ไม่อยากต้องมีอะไรกันทั้งๆที่อยู่ในสถานะแบบนี้  ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย...ผมไม่เข้าใจ...

******************************************************************************************************

 :กอด1: ขอบคุณทุก comment ค่ะ ตอนหน้าได้ความช่วยเหลือจากการให้คำปรึกษาของน้อง kyoya11
อะแฮ่มๆ รับกระทิชชู่กับเลือดเพิ่มไหมคะ? ตอนนี้(คง)เรียกเลือด(มั้ง?)คะ ฮ่าๆๆๆ :laugh:
ฝากด้วยคะคะ ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้ว ทีแรกจะลงเลยแต่ว่ายังปั่นไม่จบ ติดไว้ก่อนเนอะ~~
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 07-05-2011 15:34:30
อ่าฮะ
แวะมาอ่านด้วยคน
กานต์ไม่มีใครเอา น้องขอนะ ><
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 07-05-2011 15:54:06
ฮิโระ อย่าทำแบบนี้สิ
ยิ่งเลว ยิ่งดรามานะเฟ่ย ตูไม่ชอบ :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 07-05-2011 16:43:42
ฮิโระไมทำงี้อ่ะ เด๋วหันไปเชียร์พี่กานต์ซะเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 07-05-2011 17:05:37
เศร้าจังเลยย

สงสารเดล คนดีๆดันไม่รัก ดันมารักคนที่ค่อนข้างเลว  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ZuuZuu ที่ 07-05-2011 17:36:50
โกรธฮิโระมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ทำไมต้องทำกับเดลแบบนั้นด้วยละ พิษรักแรงหึงแรงนะนั่น
ถ้าเกิดเดลช้ำใจ หนีไปหากานต์อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนละ!!!

ส่วนน้องกานต์......
เฮ้อออออออ น้องเฟิร์นจ๋า พี่ขอร้องเหอะนะ อย่าให้น้องกานต์ต้องอาภัพรักเลยนะ พี่สงสาร
ถ้าไม่รู้จะจับคู่น้องกานต์ให้ใคร จับกับพี่ก็ได้นะ พี่เต็มใจ๊ เต็มใจเลยละ 555555
พูดจบก็เผ่น กลัวรองเท้า ฟริ้วววววววววว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 07-05-2011 17:51:45
 :เฮ้อ:สงสารราคาคงดีน่าดูถึงได้ซื้อขายเหมือนอีตัว



หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 07-05-2011 19:41:31
ขอกานต์ได้มั้ยอ่า  เค้ายังว่างเน้อออออ  :o8:
 :เฮ้อ: คนดี ๆ ทำไมไม่รัก

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 07-05-2011 23:48:11
อ้ากกกกฮิโรกิใช้อารมณ์มากไปแล้วคุยกันก่อนดิสงสารเดลอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: bambooiihallo ที่ 08-05-2011 00:34:00
พี่กานต์ TT 

ฉันเกลียดแกฮิโระ


(อินหนักมาก) 55

จุ้บๆพี่เฟิร์น อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[07/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 08-05-2011 01:16:05
พี่กานต์ขา ทางนี้ยังว่างนะ อิอิ

ส่วนแกฮิโระ ไปตายซะ  :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 08-05-2011 12:22:02
   ฮิโรกิกระชากใบหน้าของผมเข้าไปจูบอย่างรุนแรง  ลิ้นร้อนพยายามจะเข้ามาในปากของผม  แต่ผมเม้มปากแน่นไม่ยอมให้เข้ามาพยายามเบือนหน้าหนี  ฮิโรกิใช้มือบีบคางของผมอย่างแรงจนผมต้องเผลอปากออก  ลิ้นของเขาจึงถูกส่งเข้าไปสำรวจภายในโพรงปากของผม  ไร้ซึ่งความอ่อนโยนเต็มไปด้วยความใคร่และความหื่นกระหาย  น้ำตาของผมไหลลงมาอีกครั้ง  มือที่บีบคางของผมเอาไว้ถูกปล่อยออกไปบดบี้หน้าอกซึ่งชูชันด้วยแรงอารมณ์ของผม  ร่างกายกับความคิดของผมกำลังสวนทางกัน

   ถึงผมจะต้องการเซ็กซ์ในเวลานี้  แต่ผมไม่ต้องการมีเซ็กซ์ในเวลาที่ไม่น่ายินดีกับคนที่เห็นผมเป็นเพียงสิ่งของแบบเขา  ผมใช้สติกับแรงที่พอมีเหลือกัดปากของฮิโรกิจนรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือดนั้น  ฮิโรกิถอนริมฝีปากออกทันทีก่อนจ้องหน้าผมด้วยแววตาโกรธเกรี้ยวกว่าเดิม

   “ทำไม!!  รังเกียจผมมากนักหรือไง  ดี!! เรามาดูกันว่าคนที่พี่ขยะแขยงจะเอาพี่ได้แรงเท่ากับคนที่พี่รักไหม!”

   ขาของผมถูกยกพาดบ่าของฮิโรกิจนเข่าของผมชิดกับอกของตัวเอง  ผมสามารถเห็นช่องทางด้านหลังซึ่งถูกฮิโรกิกำลังใช้ลิ้นโลมเลียได้อย่างชัดเจน  ทั้งอับอายแต่ก็รู้สึกเสียวจนขนลุกเมื่อเห็นลิ้นนั่นสอดแยงเข้าไปในร่องสีแดงที่ตอดถี่  ผมหลับตาแล้วเบือนหน้าหนีไม่อยากมองสิ่งที่กำลังเกิดกับร่างกายของผมเอง  แต่ทำแบบนั้นผมยิ่งรู้สึกว่าเสียวมากขึ้นกว่าปกติ  เพราะฮิโรกิยิ่งลงลิ้นหนักขึ้นเรื่อยๆ  ผมอึดอัดที่ไม่ได้รับการปลดปล่อย  น้ำสีขาวขุ่นจากแก่นกายของผมไหลเยิ้มติดปลาย  ฮิโรกิไม่รอช้าใช้มือเขี่ยปลายสิ่งนั้นเบาๆทำเอาผมกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ทัน

   “อา....อ...อย่า....”  ผมร้องไห้ไม่รู้เท่าไหร่ฮิโรกิไม่ได้ใส่ใจน้ำตาของผมเลยสักนิด  ต่างจากวันนั้นที่เขายืนเป็นที่ซับน้ำตาให้กับผม  ไหนว่าจะเป็นที่พักแล้วที่ทำนี่มันอะไรกัน  โกหกทั้งหมดอย่างนั้นสินะ

   “อย่าช้าหรืออย่าหยุดล่ะ?  หืม?....”

   ผมรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกควบคุมโดยคนตรงหน้า  โคนขาของผมเริ่มมีรอยจ้ำสีแดงๆประปราย  แก่นกายของผมปวดหน่วงอย่างมากเมื่อไม่ได้รับการปรนเปรอ  ผมทรมาน  ต้องการ  แต่นั่นต้องไม่ใช่กับคนๆนี้  ไม่ใช่ในแบบนี้  ผมไม่อยากเป็นของของใครที่จะหยิบมาเล่นอย่างไรเมื่อไหร่ก็ได้  

   “ไม่ตอบ...อย่างนั้นผมจะเอาให้ร้องลั่นเลยคอยดู!”

   แก่นกายของฮิโรกิเสียบเข้ามาทีเดียวมิดด้าม  ผมทั้งเจ็บทั้งจุกจนร้องอะไรไม่ออก  รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะฉีกขาดออกเป็นเสี่ยงๆ  น้ำตายิ่งไหลออกมามากขึ้นทุกที  แรงกระแทกจากด้านหลังนั้นรุนแรงไม่ได้หลงเหลือความอ่อนโยน  

   “โอ๊ย!!!  ไม่เอา เอาออกไปนะ”  ผมเริ่มสะอื้นเสียงดัง  ช่องทางซึ่งไม่ได้รับการเตรียมพร้อมแต่ถูกแก่นกายขนาดใหญ่นั่นแทงเข้ามาพรวดเดียวจนสุด  ผมเห็นช่องทางด้านหลังกำลังตอดรัดถี่รัวคล้ายกับมันกลืนกินแก่นกายของฮิโรกิเข้าไป  แก่นกายของผมเองหดตัวไปแล้วเพราะความเจ็บที่ได้รับ  แต่ฮิโรกิไม่ได้ใส่ใจออกแรงถอดออกไปทีเดียว  แล้วแทงย้ำเข้ามาอีกครั้ง

   คราวนี้เขาไม่ได้หยุดค้างไว้แบบเมื่อครู่แต่กลับกระแทกตัวเข้าออกตามแรงอารมณ์  จากความเจ็บเริ่มเปลี่ยนเป็นอารมณ์แปลกๆเมื่อแก่นกายของผมเริ่มชูชันขึ้นมาอีกครั้ง  ผมสัมผัสได้ถึงการเสียดสีภายในซึ่งไปสะกิดจุดกระสัน  ฮิโรกิเริ่มยิ้มและออกแรงกระหน่ำแทงเข้ามาไม่ยั้ง

   “อ๊า....ฮ....ฮิ....โระ”   ผมครางเสียงหลงเมื่อแก่นกายนั่นตรงเข้าย้ำที่จุดเดิมๆนั้น  บิดกายเร่าด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นสูง

   แต่อยู่ๆ ฮิโรกิก็หยุดการกระทำถอดแก่นกายของตัวเองออกทั้งๆที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย  ผมเองก็ทรมานหนักกว่าเดิมเมื่ออารมณ์ที่พุ่งใกล้จุดสูงสุดถูกหยุดกะทันหัน

   “ผมรักพี่นะครับ....รักมากจนยอมเสียให้ใครไปไม่ได้  รักและอยากครอบครองเอาไว้แค่คนเดียว  รู้ทั้งรู้ว่าพี่ไม่รักแต่ผมก็ยังทำแบบนี้  ผมมันเลว...เลวจนไม่น่าให้อภัย”  ฮิโรกิร้องไห้  น้ำตาของเขาทำให้ผมเริ่มใจอ่อน  คำพูดเหล่านั้นที่ผมอยากได้ยินมากที่สุด  แต่รักนั้นไม่ใช่กับผมแค่คนเดียว

   “ฮึก...อย่ามาพูดดี  นายมีกี่คนฉันเองไม่รู้หรอกนะ  อย่ามาพูดว่ารักทั้งๆที่ไม่รู้สึกได้ไหม!!  ฉันไม่อยากเป็นควายเข้าใจไหม!!”  ผมกลั้นก้อนสะอื้นต่อว่าฮิโรกิ  แต่แล้วผ้าที่มัดมือทั้งสองข้างเอาไว้กับหัวเตียงก็ถูกแกะออก

   “จะต่อยผมหรืออะไรก็เชิญครับ  ผมรักพี่จริงๆ  ผมไม่เคยรักใครเท่าพี่มาก่อน  ไม่สิ...ผมไม่รู้ว่ารักเป็นอย่างไรด้วยซ้ำ  แต่พอเห็นพี่กับไอ้หมอนั่นผมสูญเสียการควบคุมตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง  แต่น้ำตาของพี่ที่ไหลตอนนี้มันทำให้ผมคลั่ง  ผมอยากเป็นที่พักแต่กลับมาเพิ่มปัญหาให้กับพี่  ผม...”

   พลั่ก!

   ผมสวนหมัดใส่หน้าของฮิโรกิไปทันที  ร่างกายของผมยังหลงเหลือความต้องการอยู่รวมถึงของเขาเองก็ด้วย  ผมอยาก...  อยากทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่สมควรจะเป็นแบบนี้  อยากถูกฮิโรกิกอดเอาไว้แล้วเติมเต็มช่องว่างทั้งหมดให้กับผม

   “ฉันรักนาย...”

   ผมพูดแล้วสะบัดหน้าหนีสายตาวิบวับจนน่าหมั่นไส้ของฮิโรกิ  ร่างกายของฮิโรกิโถมเข้ามากอดผมเต็มที่  ใบหน้านั้นมีรอยยิ้มกลับคืนมาอีกครั้ง  นี่ผมใจอ่อนกับคำบอกรักซึ่งผมต้องการจากใครสักคนมาตลอดใช่ไหม?  หรือเพราะผมเองตกหลุมรักฮิโรกิตั้งแต่แรกเจอกันแน่  จะเพราะอะไรผมเองก็ไม่รู้  รู้แต่ตอนนี้อารมณ์ของผมถูกฮิโรกิเข้ามาก่อกวนอีกครั้ง

   “ผมรักพี่มากกว่าครับ”  นัยน์ตาพราวระยับนั่นจดจ้องร่างกายของผมด้วยสายตาโลมเลีย  ผมรู้สึกว่าการโดนจ้องแบบนี้มันน่าอายกว่าโดนขืนใจเมื่อครู่ซะอีก

   “อย่างนั้นก็เข้ามาเร็วๆสิ”

   ฮิโรกิไม่รอช้ารูดแก่นกายของตัวเองให้กลับมาเตรียมพร้อมอีกครั้งก่อนสอดใส่เข้ามาในร่างกายของผม  คราวนี้ต่างออกไปตรงที่เขาค่อยๆสอดมันเข้ามา  แต่อารมณ์ของผมตอนนี้มันยังไม่พอ  แค่ทำแบบนั้นยังไม่พอกับความต้องการที่ฮิโรกิสร้างเอาไว้ให้กับผม

   “อา...กระแทกเร็วๆ  ฉันจะไม่ไหวแล้ว”

   “หึหึ!  ยั่วจัง...ระวังโดนหลายรอบนะครับ”  ผมหมั่นไส้กับใบหน้ายิ้มแบบกวนๆนั่นมาก  แต่แก่นกายที่เริ่มขยับเข้าออกอย่างเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆทำให้ผมละความสนใจจากรอยยิ้มนั้น  บิดกายไปมามือจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่นด้วยแรงอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูงเรื่อยๆ  แรงกระแทกที่รับมาจากฮิโรกิทำให้เตียงนอนนั้นดังเอี๊ยดอ๊าดลั่นไปหมด  ถ้าไม่แข็งแรงป่านนี้คงหักลงไปกองกับพื้นไปแล้ว

   “อ๊า....ไม่ไหวแล้ว....โอว....”  น้ำรักของผมพุ่งกระจากเปรอะไปตามลำตัวและหน้าของของผมเอง  แต่ภายในนั้นฮิโรกิยังไม่เสร็จกิจกระแทกรัวเข้ามาไม่ยั้งด้วยสีหน้าเริ่มเหยเก

   “ซี๊ด.....อ๊าววววว......”  น้ำรักจำนวนมากถูกฉีดเข้ามาในช่องท้องของผม  เสียงหอบหายใจของเราสองคนประสานกัน  เสียงหัวใจเต้นถี่รัว

   ฮิโรกิถอดแก่นกายออกก่อนจะตรงเข้ามาโลมเลียคราบน้ำรักของผมตามลำตัว  ไม่วายหยุดหยอกล้อแกล้งผมโดยการขบเม้มเม็ดสีชมพูซึ่งเริ่มแข็งเป็นไตอีกครั้ง  ผมแอ่นอกขึ้นตามแรงอารมณ์  แก่นกายของผมกับเขากำลังเสียดสีกันอย่างจงใจ  จากที่หลับก็ตื่นขึ้นมาพร้อมสำหรับการปฏิบัติกิจ

   ผมถูกจับไปยืนที่หน้ากระจก  ตอนนี้ผมเห็นสภาพตัวเองซึ่งบิดกายเร่าเมื่อฮิโรกินำแก่นกายมาเสียดสีกับช่องทางด้านหลังโดยไม่ยอมสอดเข้ามา  ลิ้นร้อนๆโลมเลียซอกคอและใบหู  มือทั้งสองข้างก็สาละวนหยอกล้อเล่นกับเม็ดสีชมพูซึ่งแข็งเป็นไต    แก่นกายของผมชูชันจนเห็นปลายซึ่งมีน้ำเยิ้มชี้ไปทางกระจก  ใบหน้าที่มีคราบน้ำตา  ริมฝีปากแดงซึ่งเจ่อออกมาเพราะรสจูบของฮิโรกิ  ซ้ำยังรอยรักซึ่งถูกฮิโรกิฝากไว้ตามร่างกาย

   “ดูดีๆนะครับ...พี่น่ะ...โคตรยั่วเลย”

   ผมไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกแก่นกายของฮิโรกิเริ่มกระหน่ำแทงเข้ามาอีกครั้ง  มือของผมจึงต้องไปยันพิงกับกระจกเงาบานใหญ่ซึ่งถูกติดไว้กับฝาผนัง  ผมเห็นร่างกายตัวเองกำลังสั่นไหวไปมาตามแรงกระแทกจากคนข้างหลัง  นัยน์ตาปรือหรี่ลงกับใบหน้าแดงๆถ้าใครเห็นก็รู้ว่ามีอารมณ์มากแค่ไหน  มองไปด้านล่างซึ่งมือของฮิโรกิช่วยปรนเปรอแก่นกายของผมใบหน้าของผมก็ยิ่งยั่วยวนมากกว่าเดิม  เห็นรอยยิ้มกวนๆของฮิโรกิส่งมาจากด้านหลังแล้วก็หมั่นไส้  ออกแรงสวนตัวตามจังหวะเดียวกับที่เขากระแทกเข้ามา

   “ซี๊ด.....พี่อย่ายั่วผมนะ  ไม่อย่างนั้นคืนนี้พี่ไม่ได้นอนแน่!”  ฮิโรกิกล่าวก่อนออกแรงกระแทกสะโพกเข้ามาซ้ำๆจนน้ำรักไหลเยิ้มเป็นทางเปรอะไหลลงมาตามเรียวขาของผม

   “นี่เปลี่ยนท่ากันไหม?”  ผมเห็นตัวเองในกระจกแล้วก็มีอารมณ์สูงขึ้นเรื่อยๆ  ทั้งๆที่เมื่อครู่ผมเองก็ปลดปล่อยก่อนฮิโรกิซะอีก  ฮิโรกิค่อยๆถอนแก่นกายออกจากตัวผม  ทำให้น้ำรักภายในไหลเยิ้มออกมาจนผมเหนียวเหนอะหนะไปหมด  ก่อนผมจะผลักฮิโรกิขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วนั่งทับแก่นกายซึ่งชูชันขึ้นมาของฮิโรกิ

   “ลามกนะนายน่ะ...ยังไม่ทันทำอะไรก็ตื่นอีกแล้ว”  ผมแกล้งแหย่ฮิโรกิ  ทำให้ใบหน้านั้นขึ้นสีแดงอย่างน่าเอ็นดู  ฮิโรกิที่น่ารักของผมกลับมาแล้วสินะ

   “อา....อูย....อย่าขมิบสิครับพี่...แค่เห็นพี่เปลือยกลางแสงไฟแบบนี้ผมก็มีอารมณ์จะแย่แล้วนะ”  ผมเริ่มกลั่นแกล้งเอาคืนฮิโรกิที่คิดจะขืนใจผม  แต่ใบหน้ากับท่าทางน่ารักนั่นผมอยากเห็นตอนมีอารมณ์แบบเมื่อครู่อีกครั้ง

   “เหรอ...งั้นแบบนี้ล่ะ”

   ผมกอดฮิโรกิใช้ไหล่ของเขาในการยันตัวเพื่อยกสะโพกขึ้น  ระหว่างนั้นก็แกล้งขมิบจนฮิโรกิหลับตาพริ้มส่งเสียงครางอย่างน่ารักออกมา  ผมขย่มตัวขึ้นลงบนแก่นกายของฮิโรกิ  ยอดอกของเราเสียดสีกันไปมาเพิ่มอารมณ์สวาท  เสียงเจาะแจะภายในตัวของผมคงเพราะน้ำรักของฮิโรกิยังค้างอยู่  แต่นั่นทำให้การเคลื่อนไหวของผมไม่ยากลำบากนัก  ผมกับฮิโรกิแลกลิ้นพันกันไปมา  น้ำลายของเราเชื่อมต่อเป็นสายเดียวกันยามถอนริมฝีปากเพื่อหายใจ  เสียงครางระงมของผมกับฮิโรกิดังลั่นไปทั่วห้อง  มือของฮิโรกิเองก็ช่วยกระแทกเข้าออกกับแก่นกายของผม

   “ผ....ผมไม่ไหวแล้วครับ  ขอนะ”  ฮิโรกิอุ้มผมขึ้นจนตัวลอย  ทำให้ผมต้องเอาขาไปรัดเอวฮิโรกิไว้  โดยแก่นกายของเขายังค้างอยู่ในตัวของผม  ร่างของผมถูกดันไปติดฝาผนังก่อนฮิโรกิจะเริ่มกระแทกแก่นกายเข้ามา  ท่านี้แก่นกายของเขาเข้าไปในตัวผมลึกไม่แพ้เมื่อครู่  ซ้ำยังกัดกระหน่ำได้รุนแรงกว่าตอนที่ผมโยกเองเสียอีก  เพียงไม่นานเสียงครางของเราสองคนก็สงบลงพร้อมกับการปลดปล่อยครั้งสุดท้ายของคืนนี้

       “พี่ครับผมพาไปอาบน้ำนะ”  ฮิโรกิยิ้มหวานถอดแก่นหายของตัวเองออกจากร่างกายผมแล้วอุ้มผมเข้าไปในห้องน้ำให้ยืนเอามือยันผนังไว้ ก่อนจะลงมือใช้นิ้วกดๆควานเข้าไปเพื่อนำของเหลวซึ่งตัวเขาใส่ไว้ออกมาจนหมด  ซึ่งขึ้นตอนนั้นผมก็ส่งเสียงครางออกมาเมื่อฮืโรกิแกล้งไปสะกิดจุดกระสันด้านในของผม

   กว่าผมกับฮิโรกิจะชำระร่างกายกันเสร็จก็กินเวลาไปร่วมชั่วโมง  เพราะร่างกายของผมโดนไปหลายทีเลยมีอาการอ่อนแพลียอย่างเห็นได้ชัด  ฝ่ายฮิโรกิเองดูจะดีใจเกินหน้าเกินตาเมื่ออกมาพบว่าห้องที่เลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำกามของผมกับเขาถูกเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว  

   “รักพี่นะครับ...รักมากกว่าใครทั้งนั้น  พี่เป็นคนแรกและเป็นคนสุดท้ายของหัวใจผมครับ”  ร่างของผมถูกวางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล  อ้อมกอดที่ผมได้มาครอบครองทั้งอบอุ่นและเป็นอ้อมกอดที่ผมโหยมาตลอดจากใครสักคน

   “ฉันรักนายนะฮิโระ  นายเองห้ามไปรักคนอื่นนอกจากฉัน  เพราะถ้าถึงวันนั้นฉันคงไม่อยากมีชีวิตอยู่”

   “อย่าพูดแบบนั้นนะครับ  เพราะมันจะไม่มีวันนั้น...  ผมเคยผิดพลาดเพราะอารมณ์ชั่ววูบใช้ของร่วมกับพี่ชายมาครั้งหนึ่ง  แต่ตอนนี้ผมมีคนที่ผมรักมากที่สุดนั่นคือพี่อยู่แล้ว  ถ้าพี่ไม่อยู่ผมเองก็คงไม่อยากอยู่ต่อเหมือนกัน”  ริมฝีปากนุ่มกดประทับบนหน้าผากของผม  ฝากรอยความห่วงใยและความรักเอาไว้เข้ามาเติมเต็มหัวใจที่แห้งผากของผม

   ไม่รู้...วันพรุ่งนี้จะดีหรือร้าย

   ไม่รู้...ผมกับเขา  เราจะรักกันตลอดไปหรือเปล่า

   ไม่รู้...ว่าวันข้างหน้าจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้เราทะเลาะกัน

   แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ในเวลานี้ก็คือผมรักเขา  และเขาเองก็รักผม  สิ่งเดียวที่ผมเฝ้าหาจากคนรอบข้างมานาน  ความรัก  รักอย่างไม่มีเหตุผล  รักอย่างไม่ต้องสรรหาถ้อยคำใดๆมาอธิบายให้เกิดความหมายหรือคำจำกัดความ  รักของผมอาจไม่สวยหรูหรือไม่ดีอย่างของใคร  รักของผมอาจไม่ยืนยาวตลอดทั้งชีวิต  

   แต่รักของเรา...จะมั่นคงจนกว่าจะถึงวันนั้น  วันที่เราต้องแยกจากกัน

   จะรักให้มากขึ้น มากขึ้น  จนกว่าจะถึงวันนั้น....

   “ฉันรักนาย  คนสุดท้ายของหัวใจฉัน  ฮิโรกิ”

******************************************************************************************************
 :z6: ได้ยินแว่วๆมีคนด่าว่าไหนกานต์? เหะๆ หนูกานต์มีคู่แล้วนะเออบ่ต้องแย่งกัน~~~ :z2:
เรื่องสั้นเรื่องหน้า(ยังมีอีกเหรอ?) เป็นของหนูกานต์ เพื่อหนูกานต์ พัฒนาหนูกานต์ (เหมือนหาเสียงแฮะ)
แต่ปัญหาคือ!!!! ยังไม่ได้เขียนมีแต่พล็อตโล่งๆ ฮ่าๆ(หัวเราะอย่างภูมิใจ)  o22
เอาล่ะ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบถึงตอนนี้นะคะ รักคนอ่านทุกคนค่ะ(โบกมืออย่างหล่อ)
v
v
v
จิ้มคนข้างล่างนะเออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 08-05-2011 12:37:52
^
^
แทงขึ้นไป
แว๊บไปอ่านก่อน
**********************
จบหวาน :-[
ฉากนั้นก็... :haun4:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 08-05-2011 12:42:09
ฮิโระกิ นายน่ารักมากๆ
 :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 08-05-2011 13:31:59
 :impress2:เล่นอะไรกันไม่รุ้



หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 08-05-2011 13:43:43
หวานมากมายจะรักจนคนสุดท้ายของหัวใจ


ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Papoonn ที่ 08-05-2011 13:48:29
ฮืออออออออออออออออออออออออ  !
จบแบบดราม่า น้ำตาท่วมจอ  : )
ใช่ ๆ พี่กานต์มีคู่แล้วเค้าเอง  โฮะ ๆ
แอร๊กกกก  ! โดนถีบ   55555555555
ไว้เด่วว่าง ๆ จะเล่าเรื่องเค้ากับพี่กานต์ให้ฟังน้ะค้า   โฮะ ๆ  
+1  ให้  อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 08-05-2011 14:11:07
หวานมากมาย

ตอนแรกดร่ามาโครตๆๆ

สงสารโมเดลมากๆๆเลย

ทำไมถึงทำกับโมเดลด้ายยย~~


แต่ตอนจบนี้เลือดพุ่งปรี๊ดๆๆ

ทำเอาเลือดสาดหน้าคอม

ชอบมากๆๆ

ขอบคุนมากๆครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 08-05-2011 14:19:10
เย้ๆๆๆ  สุดท้ายก็จบลงด้วยดี

รออ่านเรื่องสั้นของกานต์นะค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: ZuuZuu ที่ 08-05-2011 15:51:31
อยากจะบอกว่าสุดท้ายพี่ก็ยังไม่หายเคืองฮิโรกิหรอกนะ
หึงโหดรุนแรงกับโมเดลแบบนั้นได้ไงเนี่ย
โมเดลก็เหมือนกันอ่ะ แทนที่จะแกล้งให้ฮิโรกิคลั่งตายมากกว่านั้นหน่อย ดันยอมใจอ่อนง่ายๆอีก เฮ้ออออ ไม่ไหวๆ
สงสัยต้องจับมาอบรมที่บ้านซักอาทิตย์ละ ฮิโรกิจะได้ลงแดงตาย 5555555

ปล.น้องเฟิร์นเพรียกพี่กานต์ว่าหนูกานต์ อย่าบอกนะว่า..............
**ต้องไปรีสมองกลับใหม่ว่าหนูกานต์.....ไม่ใช่........****




อีดิท

=w= ชะอุ่ย...หนูกานต์ค่ะ  เพราะอีกฝ่ายเค้าพี่นะ~~~
แอบมาสปอยเพื่อพี่ปอเลยนะเนี่ย 55+ >< แบบว่าๆ หนูกานต์ก็จริงนะ  แต่หนูกานต์เป็น **** นะ
ปล.**** คืออะไรไม่เปิดเผย
  o22

น้องเฟิร์นอย่ามาสปอย เดี๋ยวพี่เก็บอาการไม่อยู่แล้วจะลำบาก 555

V
V
V
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: July_Moon ที่ 08-05-2011 16:46:03
อยากจะบอกว่าสุดท้ายพี่ก็ยังไม่หายเคืองฮิโรกิหรอกนะ
หึงโหดรุนแรงกับโมเดลแบบนั้นได้ไงเนี่ย
โมเดลก็เหมือนกันอ่ะ แทนที่จะแกล้งให้ฮิโรกิคลั่งตายมากกว่านั้นหน่อย ดันยอมใจอ่อนง่ายๆอีก เฮ้ออออ ไม่ไหวๆ
สงสัยต้องจับมาอบรมที่บ้านซักอาทิตย์ละ ฮิโรกิจะได้ลงแดงตาย 5555555

ปล.น้องเฟิร์นเพรียกพี่กานต์ว่าหนูกานต์ อย่าบอกนะว่า..............
**ต้องไปรีสมองกลับใหม่ว่าหนูกานต์.....ไม่ใช่........****


=w= ชะอุ่ย...หนูกานต์ค่ะ  เพราะอีกฝ่ายเค้าพี่นะ~~~
แอบมาสปอยเพื่อพี่ปอเลยนะเนี่ย 55+ >< แบบว่าๆ หนูกานต์ก็จริงนะ  แต่หนูกานต์เป็น **** นะ
ปล.**** คืออะไรไม่เปิดเผย
  o22
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 09-05-2011 01:57:01
พี่กานต์นี่น่าสงสารนะ
รักคนมีคู่ตลอดเลย 555555+
ส่วนฮิโระกับเดล...
ลุ้นระทึกจริงๆๆๆๆ
เดี๋ยวก็ดราม่า สุดท้ายมาแบบเร่าร้อน ><~~~~~
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 09-05-2011 09:12:24
เหอๆ  ยอดชายนายกานต์  อกหักอีกแล้ว  แถมดูท่าจะเจ็บตัวฟรีเพราะความสุภาพบุรุษเสียด้วย  แย่แฮะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 09-05-2011 22:16:10
ดีนะจบหวาน นึกว่าหนูเดลจะฆ่าตัวตายซะแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: crazythe ที่ 09-05-2011 22:34:57
ฮิดรกิว่าน่าสงสารแล้ว แต่กานต์น่าสงสารกว่า ก็เค้ายังไม่มีคู่  :laugh:

แล้วจะรอเรื่องของกานต์นะค่ะ  o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 09-05-2011 22:56:30
แหม คู่นี้ เดือดตอนแรก เร่าร้อนตอนหลัง เลือดจะหมดตัว  :haun4:

รอคู่หนูกานต์  อยากให้มีคู่กับเค้าซะที อกหักมาหลายรอบแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 09-05-2011 23:07:47
เชอะ เคือง ฮาๆๆๆ
เอาพี่กานต์เค้าคืนมาน๊า
ทำไมน๊า คนเราถึงรักคนไม่ดี ฮิโระบ้าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 10-05-2011 10:44:32
ตอนจบเลือดสาดกันเลยทีเดียว  :pighaun: :pighaun: :pighaun:
พี่กานต์จะคู่กับใครน้า  :impress2:
รอลุ้นต่อไปนะฮ๊าฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: tegonata ที่ 14-05-2011 14:24:07
ชอบฮิโระแล้วนะ ชื่อเหมือนพระเอกสกายออฟเลิฟเลยอ่ะ
หล่อแน่เลยอ่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 08-06-2011 13:21:52
นึกว่าฮิโรกิต้องเสียใจอีกนะเนี่ย แต่ดีแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 14-07-2011 09:25:56
โถ... กานต์ ผู้ชายดีๆ ที่ไม่มีใครเอา..
มาอยู่กับเค้าก็ได้นะตะเอง >.<
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: tookta ที่ 16-07-2011 21:03:37
ขอบคุณนะค่ะ
แฮปปี้มากๆ เลยจ้า
ทั้งฮิโระ - โมเดล  ผ่านอะไรร้ายๆ มามากมาย
แต่สุดท้ายก็ได้ค้นพบคนที่จะอยู่ด้วยไปจนวันตาย
เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ ^ ^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 18-07-2011 21:06:19
อ่านแล้วก็แบบว่า..ห๊ะ! รักง่ายจัง

แต่เอาเถอะ ถือซะว่ารักไม่มีเหตุผลล่ะเนอะ555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 19-07-2011 17:33:25
สงสารโมเดลอ่า
ฮิโรกิรุนแรงเกินไปหรือป่าว
ถ้าพูดกันดีดีก็น่าจะรู้เรื่อง
แล้วเมื่อไหร่พี่กานต์จะมีคนรักกับคนอื่นเขาสักทีอ่า
รออ่านตอนของพี่กานต์นะคะ
ิอิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 19-07-2011 18:23:00
รักออนท็อปจังโว้ยยยยยย ><~
เรื่องนี้ดราม่าแต่น่ารักง่ะ! -w-
ชอบๆๆๆๆๆ ><'
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 23-07-2011 01:30:05
ในที่สุดก็เข้าใจกัน แฮปปี้ๆๆๆ กันซะคนอ่านเลือดหมดตัวตามไปติดๆๆน่ะ อิอิ

(หนูกานต์อยู่ไหนหนอ ช่วงบอกทางทีจะตามไปอ่าน อิอิ)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Ryojung ที่ 23-07-2011 10:45:48
หวานนนน บอกตามตรงอ่านตอนแรกๆคิดว่าฮิโระเคะค่ะ!!! 5555
แต่จบได้หวานมากมายเลย ตอนแรกอ่านแล้วนึกว่ามาม่าซะแล้ว

เมื่อไหร่การ์นจะมีคู่กันนะ หาคู่ให้การ์นด่วนค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 26-08-2011 05:51:03
กานต์น่าสงสารอ่า รักคนมีคู่ตลอด เมื่อไหร่จะหาคู่ให้กานต์ซักทีละค่ะ

รออ่านคู่ของกานต์อยู่น้า  :serius2:

ส่วนคู่ของโมเดลกับฮิโรกิก็เฮปปี้เอนดิ้ง โอ้ยยยกว่าจะจบลุ้นแทบแย่

เฮ้ออออ ดีจังน้า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเป็นธรรมดาใช่มั้ยค่ะ อิ อิ  :impress3:



หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: senaria ที่ 02-11-2011 23:41:59
อยากอ่านเรื่องของพี่กานต์ไวๆจังเลยอ่า สงสาร

ว่าอต่พี่กานต์อกหักจากพี่เอ๊กซ์มะไหร่อะ เรื่องไหน ไม่เหนเคยอ่านเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 03-11-2011 16:08:18
ดราม่า...เลือดสาดจริงๆ :pighaun:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 08-01-2012 00:41:52
สนุกมากเลยครับ นึกว่าจะเป็น 3p  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 15-01-2012 16:01:39
นึกว่าจะเศร้า  :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: lervair_y ที่ 30-01-2012 00:19:50
สนุกมากค่าาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 22-02-2012 01:12:58
มาอะฮิอะฮิตอนสุดท้ายยย เลือดจะหมดตัวอีกแล้วจร้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: penda ที่ 22-02-2012 10:36:30
เรื่องนี้เคยอ่านไปแล้ว แต่จำไม่ได้ว่าอ่านไปแล้ว
เพราะอ่านแล้วไม่ได้เมนต์ เหอๆๆ เลยอ่านใหม่อีกรอบ
คราวนี้เมนต์ด้วย คราวนี้อ่านแล้วรู้สึกว่าเข้าใจเรื่องมากขึ้นนะ
คราวที่แล้วจำได้ว่าอ่านแล้วงงๆ เพราะเรื่องปมปัญหาเยอะ
พล็อตเรื่องเขียนเป็นเรื่องยาวได้สบายๆเลยนะเนี่ย
แต่เอามาเขียนเป็นเรื่องสั้นแบบนี้ มันเลยกระชับจบเร็ว
เลยงงบ้างเพราะตามเรื่องไม่ทัน
ถึงประเด็นหลักจะไม่ได้ต้องการเน้นที่ปมปัญหาของนายเอก
แต่แค่ปูให้รู้ที่มาของบุคลิกของนายเอกเฉยๆ(รึเปล่า เพราะไม่ได้เน้นที่ปมปัญหานี่นะ)
แต่ก็ทำให้คนอ่านบางคน(เราเอง)อยากรู้ถึงปมปัญหานั้นนะ
เพราะรู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยกระจ่างเท่าไร ถ้าเป็นเรื่องยาวคงได้ลงรายละเอียดมากกว่านี้
แต่ก็เป็นเรื่องที่ผูกปมได้ดีอ่ะนะ
ปล.คิดไม่ถึงว่าพระเอกที่ดูใจดีและออนโยน จะหึงโหดได้แบบนั้น
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 22-02-2012 18:13:22
สงสารกานต์อ่ะ  อกหักซ้ำซ้อน

 :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 23-02-2012 00:20:16
พี่กานต์ตายไปแล้วมั๊ง  :เฮ้อ:

ขอบคุณครับน่ารักดี  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 17-03-2012 02:50:06
โหย :m31: นึกว่าเปนเรื่องของพี่กานต์ซะอีก
เสียดายอ่ะ :serius2:
จะรอเรื่องต่อไปละกานนะคะ
ขอบคุนค่า  o1
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 18-03-2012 04:10:45
 :pighaun: กรี๊ดดดด ตามมาอ่านทีหลังทีเดียว รวดเดียว >.,< สนุกมากมายค่าา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 18-03-2012 11:15:30
สั้นไปหน่อย เนื้อเรื่องดีมากเลยนะ แต่เนื้อหาที่น่าสนใจมีเยอะ พอจบแบบสั้นๆทำให้อารมค้าง
แต่ชอบมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 23-03-2012 12:53:11
 :jul1: :jul1:
รอคู่ น้องกานต์อยู่น้าค้าาา

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: OuOkung ที่ 25-04-2012 18:33:14
หนูกานต์ OoO
อยากอ่านๆ เรื่องนี้เหมือนจะไม่มีบทบาทเลยแหะ

ฮิโระจังหึงโหดเป็นบ้า 55
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: white-goddess ที่ 16-10-2012 16:17:34
เหมือนจะจบลงด้วยดี

แต่เหมือนฮิโระจะไม่สนใจว่ากานต์เป็นใครแล้วสิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: zeeds ที่ 24-12-2012 15:20:46
จบแล้วๆ สนุกมากครับ แต่แอบสงสารกานต์อ่า เมื่อไหรคู้แท้จะมาเจอ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 15-03-2014 20:28:08
อะร๊าย ทำไมทำร้ายพี่กานต์ได้ลงคอตั้งสองเรื่องแบบนี้คะคนเขียน
นี่เข้ามากะจะอ่านพี่กานต์โดยเฉพาะเลยนะคะเนี่ย แต่ดู ดู๊ ดู
ไอ้เราก็อุตส่าห์จิ้นตอนหน้าว่าฮิโระคุงจะทิ้งน้องเดลของเราแล้วน้องเดลก็ไปหันไปซบอกพี่กานต์หรือไม่ก็หนูเดลถูกขายต่อไปหลายๆ มือเมื่อฮิโระคุงหมดรัก และในที่สุดก็ได้กลับมาเจอพี่กานต์แถมอีกฝ่ายก็ไม่รังเกียจอะไรงี้
แต่ดูคนเขียนทำ พลังจิ้นของสาววายอย่างเราหายหมดเลย แง T-T
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 15-03-2014 20:40:38
 :mew1: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 16-03-2014 01:01:09
งือ อยากอ่านต่อ  o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Nbear ที่ 27-01-2015 18:18:02
จบแล้ว เสียใจจัง น่าจะมีต่อนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 15-04-2015 19:10:56
ชอบครับ สนุกดี ฮิโระเท่ห์มาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Gear77 ที่ 17-04-2015 20:53:25
บางฉากเหมือนมาจากการ์ตูนป่ะครับ?
 :hao4:
คือชอบเรื่องนี้มากก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Mintny14891 ที่ 25-04-2015 20:51:10
 :haun4: :haun4: :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 16-06-2015 00:03:54
คู่นี้เร่าร้อนสุดๆ!!!!! :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 16-06-2015 06:59:51
 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: Aditi ที่ 24-10-2015 12:26:06
 :mew1: :mew1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 24-10-2015 19:33:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 19-05-2016 22:38:46
 :monkeysad: เจ๊บปวด รักเลยยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนสุดท้ายของหัวใจ[08/05/54]{จบ}
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 21-05-2016 23:36:33
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :pig4: