พิมพ์หน้านี้ - - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: campping ที่ 17-04-2011 13:51:51

หัวข้อ: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 17-04-2011 13:51:51
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ เพิ่งลงครั้งแรก อิอิ

G E T  L O S T 1 – หลงทางกลางฮ่องกง
ฟิ้วววว…..
   เสียงเครื่องบินดังขึ้นตามมาด้วยเสียงล้อของเครื่องบินที่เสียดสีลงบนรันเวย์บ่งบอกให้ผมรู้ว่าตอนนี้ผมได้เดินทางมาถึงฮ่องกงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางจนสิ้นสุดการเดินทางผมไม่ได้หลับเลยแม้แต่น้อย เป็นเหตุให้ผมเห็นทางตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงเกาะฮ่องกงแห่งนี้ (ได้ข่าวว่าพอขึ้นจากสุวรรณภูมิไม่นานนักก็มีแต่เมฆ) ทิวทัศน์ของที่แห่งนี้ไม่แตกต่างอะไรกันมากนักกับที่สุวรรณภูมิ เนื่องจากมันก็เป็นแค่รันเวย์ธรรมดา ๆ เหมือนกันนั่นแหละ

   “เอ้า ลงดิ มึงจะอยู่เป็นเพื่อนกัปตันหรอไง ?” เสียงเพื่อนในกลุ่มของผมดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือที่ตบเข้ากลางหัวผม ปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ความคิดได้เป็นอย่างดี … เจ็บนะเนี่ย

   “ไอแซนด์ มึงเรียกดีดีไม่ได้รึไง” ผมบ่นออกไปพร้อมกับเอามือคลำที่ที่มันตบป้อย ๆ ก่อนที่ผมจะเริ่มเคลื่อนตัวลงจากที่นั่งแล้วออกเดินตามมันไป

   “ไม่ลืมของนะไอไนท์” เพื่อนในกลุ่มของผมอีกคนเอ่ยทักขึ้นทางด้านหลังเรียกให้ผมหันกลับไปหามันพร้อมกับส่ายหัวเป็นคำตอบ ไอปอร์เช่ ผู้ออกเงินในการเดินทางครั้งนี้ทั้งหมดพยักหน้าให้ผมก่อนจะออกเดินตามผมกับไอแซนด์ไป

   “เหี้ย นี่คนหรือปลวกวะ!” ไอแซนด์อุทานขึ้นเมื่อพวกเราทั้งสามเดินสะพายเป้มาจนถึงด่าน ต.ม. ผมกวาดสายตาของผมผ่านแว่นกรอบหนาที่ใหญ่ครึ่งหน้าของผมไปร้อยแปดสิบองศา ทั่วทั้งคลองสายตา มีแต่คนต่อแถวเต็มไปหมดจริง ๆ นี่ไม่รู้ว่าเค้าทำงานช้าหรือว่าคนมันเยอะจริง ๆ นะเนี่ย

   “เออ ๆ อย่าบ่นไปเข้าแถวกันเหอะ!” ปอร์เช่ผลักหลังพวกผมให้ไปต่อแถวหญิงสาวสวยที่ต่อแถวเป็นคนสุดท้ายโดยให้ไอแซนด์เข้าไปก่อนต่อด้วยผมแล้วก็มัน
 
   “เห้ย ๆ พักโรงแรมไรวะ” ไอแซนด์หันหลังมาถามผมที่ยักไหล่เพื่อเป็นคำตอบแทน มันเลยขยับหน้าของมันไปนิดเพื่อถามไอตัวคนจอง

   “InterContinental Hong Kong โรงแรมห้าดาวย่านจิมซาจุ่ย โหยมึงที่นี่นะห้องอาหารโคตรสวย กูจองห้องเตียงคู่ไว้อ่ะ เตียงใหญ่สองเตียงอย่างดี นอนด้วยกันแม่ง
หมดเนี่ยแหละสามคน” ปอร์เช่ตอบพร้อมกับทำตาเป็นประกาย บ้านมันรวยครับ ปกติแล้วมันจะพาพวกผมมา เดย์ทริป กับมัน สังเกตจากชื่อมัน ปอร์เช่ พ่อมันบ้ารถมีลูกชายสามคนตั้งชื่อว่า พอร์ช ปอร์เช่ และ เบนซ์ และแน่นอน พ่อมันมีทุกคัน  จริง ๆ พวกผมก็เกรงใจมันนะแต่มันก็ลากผมมาทุกทีมันบอกไม่งั้นก็ไม่มาแล้วไม่ต้องมาคบกันอีก เออดี..ลาภลอยพวกกูอีก

   “โรงแรมห่าไรชื่อโคตรยาว” ผมบ่นพึมพำเรียกให้ไอแซนด์หัวเราะกับท่าทีของผมไปด้วย ไม่ได้พูดเปล่านะ ผมจำชื่อโรมแรมไม่ได้จริง ๆ
   หลังจากที่พวกเราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาเรียบร้อยก็ต้องนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีนี้ไปที่อีกสถานีหนึ่ง ความจริงผมกับแซนด์มาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่ปอร์เช่มากับที่บ้านมันบ่อยแล้วพวกเราเลยไม่ต้องการไกด์ และมันก็รู้ดีอย่างกับประเทศไทย จริง ๆ แล้วสถานีนี้พวกคนที่โหลดกระเป๋าจะต้องมารอรับคืนแต่พวกเราใช้แบบเป้เอาเลยไม่ต้องไปยืนรอให้เมื่อยตุ้ม (คนมันเยอะจริง ๆ ครับ)

   “ไหนใครบอกหนาววะสัด” ผมถอดเสื้อกันหนาวตัวหนาของผมเก็บเข้ากระเป๋าหลังจากที่เดินออกมาจากท่าอากาศยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไอตัวต้นที่บอกว่าที่นี่อากาศหนาวแน่ ๆ มึงช่วงนี้มันรีบไปหลบหลังไอแซนด์โดยเร็ว

   “เชี้ยยย กูพูดจริง ก็ตอนกูเช็คสภาพอากาศมัน 15 องศาสูงสุดจริง ๆ”

   “มึงไม่ต้องมาแก้ตัวเลย ออกมานี่ร้อนชิบหาย แน่ใจมึงใส่เสื้อกันหนาวของมึงต่อไปดิ” ผมบ่นอุบ เพราะผมเป็นคนที่ขี้หนาวที่สุดเลยใส่เสื้อตัวหนาที่สุด แต่พอออกมาจากสนามบินเท่านั้นแหละ อากาศจริง ๆ มันไม่ร้อนหรอก แต่เพราะเสื้อนี่แหละเลยร้อนตับแตกแทบถอดไม่ทัน

   “เอาน่ะ ๆ อย่ากัดกันมึง เอ้าไอปอร์เช่มึงจะพาพวกกูไปไหนก่อน โรงแรม ?” ไอแซนด์เป็นคนเข้ามาสงบศึกที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างฉิวเฉียด เออดีไม่งั้นกูฆ่ามันแน่
   “ไม่ ๆ ไปช้อปกับกูก่อน ก็เดี๋ยวนั่งรถไฟใต้ดินไปลงย่านม่องก๊กแล้วก็เดินซื้อของก่อนแล้วค่อยกลับเข้าโรงแรม”
 
   “แล้วทำไมมึงช้อปตั้งแต่วันแรกวะ” ผมถามมัน

   “กูกลัวลืมลิสต์ เชี้ยคนที่บ้านสั่งมาเพียบต้องทยอยซื้อ วันเดียวกูก็ตายดิ”

    “อ๋อ นี่สามวันมึงกะใช้ช้อปทุกวันเลย ?”

   “ก็ใช่อ่ะดิ !”

   “เชี้ย กูไม่มีเงินช้อปกับมึงนะ” ผมขำออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะชูกระเป๋าตังค์ของมันขึ้นมาทำท่ากวนตีนใส่

   “แต่กูมีให้พวกมึงนะ” สาด รวยจริงอะไรจริงครับเพื่อน!

   “รวยจริงจังนะมึง”

   “ไม่ได้รวยสักหน่อย” มันทำปากเบะเล็กน้อย มันไม่ชอบเลยครับเวลาพวกผมพูดกับมันแบบนี้ มันชอบบอกก็มีเท่า ๆ พวกมึงแหละ และพวกมึงก็เป็นเพื่อนรักของกูด้วย เออ แต่น่าจะยอมรับนะว่ามึงรวยจริง!

   “เออ ๆ”

    ตอนนี้ผมเริ่มเห็นความแตกต่างระหว่างกรุงเทพกับฮ่องกงแล้วครับ อย่างแรกอากาศ อากาศที่นี่ไม่หนาวเกินไปและไม่ร้อนตับแตกเหมือนไทย อากาศเย็นสบาย หายใจสบายจมูก รถของที่นี่ก็มีแต่แบบหรูหรา แต่ไอปอร์เช่มันบอกรถที่นี่ถูก (กูเชื่อมึงได้ป่ะ ?) ต้นไม้ของที่นี่เยอะมากให้ความรู้สึกว่าร่มรื่นดี
 
    “เอ้านี่ตั๋ว หัดทำเองมั่งก็ได้นะพวกมึงเผื่อหลงจะได้กลับถูก” พวกผมสองคนทำหน้าเมินเฉย มันเลยส่ายหัวแล้วตบหัวพวกผมไปคนละฉาด
    “กูจะหลงได้ไง ก็มีมึงอยู่ทั้งคน ปอร์เช่ ที่น่ารักกกก” ผมพูดพร้อมกับเอาแก้มไปถูที่แขนมัน มันทำท่าสยองแล้วรีบดันหัวผมใหญ่
    “เออ ๆ อย่าหลงแล้วกัน ถ้าหลงแล้วเจอกันที่โรงแรม” ผมก็พยักหน้าไป จริง ๆ แล้วก็ไม่คิดว่าจะหลงแม้แต่น้อย ก็ตัวติดกันสามคนอย่างงี้จะไปหลงบ้าไรวะ ?
   “เห้อ อากาศที่นี่ดีจริง ๆ ว่ะ ตึกก็สวย การ์ตูนที่นี่สวยด้วยป่ะวะ ?” ไอแซนด์ตัวบ้าการ์ตูนถามขึ้นหลังจากที่เราขึ้นมาจากทางรถไฟใต้ดินเรียบร้อย
    “เกี่ยวห่าไรกับการ์ตูน” ผมถามมัน
    “อ้าว ถ้าดีจริงก็ต้องดีหมดดิวะ ว่าไงไอเช่มึงพากูไปดูร้านการ์ตูนหน่อย”
    “ไม่เอาอ่ะ มันหายาก” จะว่าไปอาจจะจริงของมัน ตอนนี้พวกเรามองไปรอบ ๆ ตัวมีแต่ร้านขายเสื้อผ้ากับตึกสูง ๆ แสงสีเพียบเต็มไปหมด
    “เอาล่ะ ตามกูมาอย่าหลงแล้วกัน อยากได้ไรบอก ๆ” มันว่าพร้อมกับออกเดินถลาตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

    ผมกับแซนด์ยืนดูมันเดินวนไปวนมาซื้อของร้านนู้นร้านนี้ คนก็เยอะ อยากรู้จริง ๆ ว่าคนฮ่องกงเค้าทำงานกันรึเปล่าเนี่ยคนถึงได้เต็มถนนขนาดนี้ ไอปอร์เช่มันเข้าแต่ร้านแบรนด์เนมครับ มันบอกที่นี่ถูก ชอบหันมาถามด้วยนะ เอาอันนี้มั้ย ๆ ไม่เอาเว้ยไม่ใช่แบบที่ชอบเลยสักนิด

    “เห้ยมึงดูร้านนี้หน่อย” ผมพูดพร้อมกับเดินเข้าไปในร้านขายรองเท้าที่มีรองเท้าวางอยู่อย่างแบบจัดเต็ม มีทั้งรองเท้ากีฬา รองเท้าแฟชัน รองเท้าใส่เล่น ลายตาแต่สวย
    “พวกมึงว่าอันนี้เป็นไง……วะ” หะ…เห้ย ทำไมในร้านมีแต่คนที่กูไม่รู้จักวะ ผมรีบวางรองเท้าในมืออย่างรวดเร็วแล้ววิ่งออกไปดูนอกร้าน กลับมาชะโงกในร้านอีกสักครั้ง เห้ย ไม่มี พวกมึงต้องเล่นซ่อนแอบกับกูอยู่แน่ ๆ ก็กูบอกมึงแล้วนี่ว่าให้แวะร้านนี้ก่อน ว่าแล้วก็เดินไปหาตรงอีกฝั่งของร้าน นั่นแน่ ! พวกมึงต้องอยู่ที่นั่นแน่ ๆ
    “เห้ย ไอแซนด์” ผมเข้าไปตบหัวคนข้างหน้าที่นั่งหันหลังลองรองเท้าอยู่อย่างโล่งอก เห้อ นึกว่ากูจะหลง
    “@$%$$^&#&$%&%$&$&$&^%!!!” เห้ย ๆ ภาษาไรวะ ไอแซนด์มันพูดภาษาจีนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ
    “เห้ยมึงพูดภาษา……..” ชะ…ชิบหาย ใครวะ ไอหน้าตี๋นี่มันเป็นใครวะ แต่ก่อนจะรู้เรื่องนั้นกูต้องรีบหาไอแซนด์ตัวจริงให้เจอก่อน!
    “@@#$&^*%^&%&^” ตายห่า มันโมโหใหญ่แล้วอ่ะ ทำไมมึงต้องใส่เสื้อสีเดียวกับเพื่อนกูด้วยวะ เลยเข้าใจผิดว่าเป็นคนเดียวกันอีก ผมวิ่งออกมาจากร้านอย่างรวดเร็ว สายตาสอดส่องมองหาเพื่อนทั้งสอง ตามความจริงถ้าอยู่ไทยคงหาง่ายเพราะสูงกันพอสมควร แต่ที่นี่ คนฮ่องกงมันสูงเป็นตึกกันหมดหรอฟระ!!
    “I’m…..m sorry” หมดปัญญา เมื่อกี้จริง ๆ ตั้งใจจะหนีมันด้วยแหละแต่ตอนนี้ไอตี๋มันมายืนกอดอกอยู่ข้างหลังผมเป็ยที่เรียบร้อย ดวงตาอันน้อยนิดของมันกับคิ้วที่เทเข้าหากันนั้นทำให้รู้ได้ว่ามันกำลังไม่พอใจ (แม้กูจะฟังจีนไม่ออก)
    “@#$#$^%^&%”
    “ควาย…กูฟังไม่ออก” ผมสบถคำไทยออกไปทั้ง ๆ ที่หน้ายังยิ้มอยู่ (ใจดีสู้เสืออ่ะ เค้าอาจจะคิดว่าเป็นคำขอโทษเค้าอยู่ก็ได้เนอะ สังเกตจากสีหน้าเนี่ย)
    “แล้วมาตบหัวผมทำไม”
    ชิบหาย………………………………………….






นอกจากกูจะหลงทางแล้ว กูยังมาเจออะไรอีกเนี่ย!!!


ฝากติชมด้วยนะคับ ^ ^
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 17-04-2011 14:07:47
 :z13: :z13:น้องแคมป์   น่ารักดีเนอะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-04-2011 14:13:11
 :m20: :m20:

เป็นไงเอ๋อแดกอ่ะดิแบบนี้
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 17-04-2011 14:27:05
 :mc4: :call:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 17-04-2011 14:58:25
 :laugh: ดันเจอคนฟังออก กร๊ากกกกกกกก


เพื่อนเช่นี่รวยจริงเนอะ ขอสมัครเป็นแฟนหน่อยได้ป๊ะ อิอิ :o8:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-04-2011 20:35:30
 :3123:มาต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคน
หุ หุ  ต่อไปจะเกิดอะไรขี้น เค้าฟังไทยออก แถมพูดได้อีกแน่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-04-2011 20:59:17
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไปตบหัวว่าที่สามีทำไมคะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 18-04-2011 10:10:09
อยากสมัครเป็นแฟนเพื่อนเช่ได้นะงับ มันยังว่าง  :laugh:
ขอบคุณทุกคอมเม้นนะค้าบ
มาต่อกันเลยดีกว่างับ


G E T  L O S T 2 – ปัญญาอ่อน (?)
    “Excuse me ?” ผมทำหน้าแบ๊วพูดอังกฤษใส่มัน ขอให้มันนึกว่ากูเป็นคนประเทศอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไทย มึงลืมไปซะเหอะที่กูด่ามึงเมื่อกี้น่ะ
    “ไม่ต้องมาเสแสร้ง คุณเป็นคนไทย” นอกจากจะพูดไทยได้แล้ว เสือกพูดชัดแจ๋วอีกต่างหาก!!
    “คุณก็…เป็นคนไทยหรอครับ งั้นผมขอโทษนะครับผมนึกว่าเพื่อนผมผมเลยเผลอตบหัวคุณไปแหะ ๆ” ฟังขึ้นเปล่าวะ ไม่รู้แหละผมยกมือไหว้ไอหน้าตี๋นั่นแล้วออกตัววิ่งอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องชะงักเมื่อมันล็อกคอผมเข้าอย่างจัง
    “จะ…จับผมทำไม”
    “นายกำลังหลงทาง ?” เออไอสัด…แล้วมึงรู้ได้ไงเนี่ย ?
    “นายรู้ได้ไง ?” ผมหยุดดิ้นก่อนจะพลิกตัวหันกลับมามองหน้ามัน
    “ก็เห็นทำท่าโล่งอกตอนตบหัวก็เข้าใจแล้วว่าเป็นพวกหมาหลงทาง” ปากมึงนี่น่าเอาฝ่าเท้าไปประทานจริง ๆ นะ
    “เออ แล้วไง เอางี้ดีกว่าในฐานะที่เราเป็นคนไทยเหมือนกันนายก็ช่วยพากู…ผมไปที่โรงแรมที่เราพักทีได้ไหม ?”
    “อย่างแรกนะ” อย่างแรกอะไรของมึง =  = “ผมเป็นคนฮ่องกง อย่างที่สอง มึงมาตบหัวกู อย่างที่สาม มึงมาพูดหยาบใส่กู!!” เชี้ยยย อย่าตะคอกกกก น่ากลัวชิบหายเวลามันตะคอก ทำหน้าโหดใส่แล้วยังดึงคอเสื้อกูอีก แล้วทำไมคนที่นี่ไม่มีใครมาช่วยกูเลยล่ะ ?
    “เอ่อ ขอโทษแล้วกันนะครับพี่ครับ” ผมยกมือไหว้มันปะหงก ๆ นี่กูกลัวจริงนะ มึงสูงกว่ากูเป็นหัวเลยน่ากลัวชิบหาย หน้าก็โหด
    “เออ!” มันตะคอกอีกก่อนมันจะปล่อยคอเสื้อผมลง ให้ตายเหอะกูเกือบจะตายเพราะไปตบหัวผิดคน วันหลังกูจะไม่ตบหัวมึงแล้วไอแซนด์ (จากด้านหลังน่ะนะ)
    “เอ่อ แล้วนาย…พี่ช่วยพาผมไปโรงแรมที่พักหน่อยได้มั้ยครับ ?” พูดจาซะเพราะน่ารักเชียวกู
    “โรงแรมไรล่ะ”
   “………..” เออแม่งโรงแรมไรวะ ชื่อแม่งยาว ๆ อะไรจุ่ย ๆ เจี่ยะจุ่ยเปล่าวะ (มั่วและไอไนท์)
    “ว่าไง!” อย่าขึ้นเสียงเดะ ตกใจ!
    “อะไรจุ่ย ๆ เนี่ยแหละครับเป็นโรงแรมห้าดาว”
    “คิดว่าโรงแรมห้าดาวที่ฮ่องกงมีกี่โรงแรมกัน ?”
    “สักสิบได้มั้งครับ”
    “กวนตีนกูหรอ!” มึงอย่าตะคอกแล้วจับคอเสื้อกูแบบนี้ กูกลัววววววววว แล้วกูทำไรผิดเนี่ย ก็คิดแบบนี้จริง ๆ นี่หว่า
    “เปล่านะ ก็คิดแบบนี้จริง ๆ ใครจะไปรู้ละ ไม่ได้อยู่ฮ่องกง เป็นคนไทย” กูไปกวนตีนมันทำไมเนี่ย มันจ้องจะรับประทานกูอยู่แล้วววว
    “มึง!!!”
    “อะไร!!!” หมดเวลากับการยอมมึงและ ต้องสู้มั่งและ (ใจจริงก็ปอดแหละวะ)
    “นี่มึงกำลังขอความช่วยเหลือกูอยู่ไม่ใช่เรอะ”
    “กูไม่ขอก็ได้ เจอคนแบบมึงน่ะ ขอคนอื่นเค้าก็ได้วะ แม่ง ไร้เหตุผล!” ผมสะบัดมือมันออกจากคอเสื้อแล้วเดินไปหาคนข้างหน้าด้วยความโมโห
    “Excuse me , could you tell me how to go to the 5 star hotel named …..like it has Jui in its title” วะฮ่า ๆ ถู ๆ ไถ ๆ ไปไม่ต้องพึ่งมึงก็ได้วะ ไอคนใจดำ!
    “@#$@$@$#$%%^” หญิงสาวเบื้องหน้าผมตอบเป็นกวางตุ้งแล้วเดินจากไป…เหมือนกับจะบอกกูว่าพูดอังกฤษไม่ได้ใช่มั้ย …. ผมยังไม่ลดความพยายามครับเดินถามประโยคเดิมต่อไป แต่คำตอบที่ได้มาก็มีดังนี้
    ‘sorry I’m in rush’
   ‘I don’t know where you wanna go’
   ‘sorry I’m new here’
   ‘sorry I’m a tourist’
   เย้ มีแต่คนพึ่งพาได้ทั้งนั้น ถามมาเป็นสิบไม่มีใครตอบได้สักคน ไม่มีคนไทย ไม่มีคนที่รู้ว่าไอโรงแรมนี้มันอยู่ที่ไหน เห้อ…เงินก็มีอยู่น้อยนิด ของก็แพงจะรอดในฮ่องกงได้ไหมวะ ? สงสัยชีวิตต้องตายอยู่ที่ฮ่องกงชัวร์ ผมนั่งลงที่ม้านั่งริมถนนอย่างเหนื่อยหน่าย ยกนาฬิกาขึ้นดู… จะทุ่มนึงแล้ว เห้อ… ขอให้พวกมันหากูเจอทีเถอะ
   “กินนี่ดิ” ขวดแก้วเย็น ๆ ถูกทาบเข้าที่แก้มของผม ผมหันไปมองหน้าไอหน้าตี๋ที่ยืนอยู่หลังม้านั่งกำลังยื่นขวดนมให้กับผม
   “ไม่ ขอบใจ”
    “ไม่กินระวังตายเอาซะก่อน” เออไม่เถียง แต่กูไม่รับของจากมึงหรอก “มึงจะกินไม่กิน!” มันว่าพร้อมกับเอาขวดมายัดใส่มือผม เออกินก็ได้วะ
    “วันนี้คงหาไม่เจอ” ไอหน้าตี๋มันพูดขึ้นพร้อมกับกระดกเบียร์ในมือมันเข้าปากอึกใหญ่ “โรงแรมห้าดาวในฮ่องกงมีเป็นเบือ ที่บอกลงท้ายด้วยจุ่ย ๆ เนี่ยก็ไม่ได้มีแค่ที่เดียว แต่ละที่ก็ไม่ได้ใกล้กันเลย”
    “หาไม่เจอก็นอนตายมันที่นี่แหละ”
    “ปัญญาอ่อน” โห ไอสาด ทำไมมันเป็นผุ้ชายที่ปากจัดอย่างงี้วะ!
    “ปัญญาอ่อนยังไง ?”
    “คนที่คิดว่าจะตายโดยที่ยังไม่ดิ้นรนจนสุดชีวิตแล้ว มันก็แค่พวกปัญญาอ่อนสวะสังคมเท่านั้นแหละ” สาบานได้ว่ากูคิดว่ามันไม่ใช่คนฮ่องกง พูดไทยชัดแจ๋วแถมศัพท์รู้ลึก ปากหมาชิบเป๋ง
    “รู้ได้ไงว่ากูไม่ดิ้นรน!”
    “ก็ถ้าดิ้นรนคงไม่พูดคำนั้นออกมาหรอก ไอปัญญาอ่อน”
    “คำไหนวะไอตี๋!” น่าน จริง ๆ แล้วกูก็ปากเสียไม่แพ้มันนะเนี่ย
    “คำว่าจะตายอยู่ที่นี่น่ะ”
    “ไอห่า เงินก็มีอยู่แค่นิดเดียวซื้อตั๋วบินกลับประเทศก็ไม่ได้ อาหารที่นี่ก็แพง ถ้ากูหาเพื่อนไม่เจอกูก็ต้องตายจริง ๆ นั่นแหละวะ!!” ชักฉุนและ ก็กูพูดเรื่องจริงทั้งนั้นน่ะแหละ
    “แล้วมึงอยากตายรึเปล่าล่ะ ?” อ้าว ไอนี่ถามคำถามเอาเท้ามาสัมผัสหน้าซะแล้ว
    “ใครจะอยากตาย ชีวิตกูยังมีค่ามากกว่าจะมาตายที่นี่ อีกอย่างก่อนตายกูไม่อยากเจอมึงเป็นคนสุดท้ายหรอก!!”
    “เออ ค่อยหายปัญญาอ่อนหน่อย” มันว่าแล้วกระดกเบียร์อึกสุดท้ายลงคอไปแล้วทิ้งกระป๋องลงในถังขยะอย่างเรียบร้อย ปากเสียแต่มีระเบียบแฮะ
    “เห็นแก่การที่กูพูดไทยได้ กูจะช่วยมึงตามหาเพื่อน หาโรงแรมก็แล้วกัน”


เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจจากการไปเที่ยวฮ่องกง
คนหล่อ ๆ เพียบ  :laugh:
ฝากด้วยนะค้าบ (เหมือนตอนนี้มันสั้น ๆ นะ = =)
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 2 ปัญญาอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: tatar* ที่ 19-04-2011 01:36:01
ยังไม่รู้ชื่อไอ้ตี๋หล่อคนนั้นเลย ><

ชื่อโรงแรมยังจำไม่ได้ จะรอดมั้ยเนี่ยยย?


แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไปตบหัวว่าที่สามีทำไมคะ

กระทืบ like ด่วนๆ

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 2 ปัญญาอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 19-04-2011 07:50:12
555+ 'ไมช่างเป็นคนฮ่องกงที่พูดไทยชัดอะไรเช่นนี้ คึคึ อยากช่วยหาแต่ทำเล่นตัวนะเรา :pigha2:

เหมือนจะเป็นเรื่องสั้น..ใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 2 ปัญญาอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-04-2011 08:08:47
 :L1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 2 ปัญญาอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 19-04-2011 09:19:30
เรื่องนี้น่าติดตามค่ะ กด1เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 2 ปัญญาอ่อน
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 19-04-2011 09:48:47
น่าสนใจรออ่านต่อเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T -
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 19-04-2011 16:04:00
น้องแคมป์   น่ารักดีเนอะ

ขอบคุณค้าบพี่หมู อิอิ

:laugh: ดันเจอคนฟังออก กร๊ากกกกกกกก


เพื่อนเช่นี่รวยจริงเนอะ ขอสมัครเป็นแฟนหน่อยได้ป๊ะ อิอิ :o8:
ได้คับ มันโสด ฮี่ ๆ
:3123:มาต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคน
หุ หุ  ต่อไปจะเกิดอะไรขี้น เค้าฟังไทยออก แถมพูดได้อีกแน่ะ
ขอบคุณคับ อิอิ
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไปตบหัวว่าที่สามีทำไมคะ
น่านนน เหมือนรู้ ฮ่า ๆ
ยังไม่รู้ชื่อไอ้ตี๋หล่อคนนั้นเลย ><

ชื่อโรงแรมยังจำไม่ได้ จะรอดมั้ยเนี่ยยย?


แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไปตบหัวว่าที่สามีทำไมคะ

กระทืบ like ด่วนๆ

รอตอนต่อไปค่ะ
ไนท์มันเป็นพวกถ้าไม่ได้อยู่ในความสนใจจะจำไม่ได้เลยน่ะคับ ฮี่ ๆ
555+ 'ไมช่างเป็นคนฮ่องกงที่พูดไทยชัดอะไรเช่นนี้ คึคึ อยากช่วยหาแต่ทำเล่นตัวนะเรา :pigha2:

เหมือนจะเป็นเรื่องสั้น..ใช่ไหม?
พูดชัดเพราะ... เดี๋ยวมีบอกคับ แล้วก็ เป็นเรื่องยาวน่ะงับ ^ ^
ปล เรื่องยาวมันต้องยาวขนาดไหนง่ะ ?
:L1:
ขอบคุณค้าบ
เรื่องนี้น่าติดตามค่ะ กด1เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณมาก ๆ เลยคับ อิอิ
น่าสนใจรออ่านต่อเจ้าค่ะ
ขอบคุณเช่นกันคับ

เอาล่ะ ต่อกันเยย ^^

G E T  L O S T 3 – ก๋วยเตี๋ยว
   “เห็นแก่การที่กูพูดไทยได้ กูจะช่วยมึงตามหาเพื่อน หาโรงแรมก็แล้วกัน” มึงมีความเป็นคนดีอยู่ในตัวด้วยหรอวะเนี่ย ไม่น่าเชื่อ ไม่เอา ๆ ไม่พูดออกไป ฮุบเอาไว้ก่อนเดี๋ยวตายในต่างแดน
   “ขอบคุณ”
   “อะไรนะ!” กูรู้และ สันดานมึงชอบขึ้นเสียง มันถามเสียงดังแล้วยื่นหูมาใกล้ผม
   “ขอบคุณ…ไอสัด!!” ผมตะคอกใส่หูมัน แต่มันกลับหัวเราะออกมาเล็กน้อย มึงบ้าป่ะ ?
    “เอาล่ะ งั้นก็ตามกูมา ลองเดินหาในย่านนี้ก่อนก็แล้วกัน ย่านนี้ก็มีอยู่เหมือนกัน” มันว่าแล้วเดินตัวปลิวไปเลย ผมเลยต้องรีบวิ่งตามมันทั้ง ๆ ที่หลังยังมีเป้ขนาดยักษ์อยู่ หนักก็หนัก วิ่งตามก็ต้องวิ่ง
   ไอหน้าตี๋มันเดินเข้าโรงแรมขนาดยักษ์เบื้องหน้าก่อนที่มันจะส่งภาษากับพนักงานแล้วเดินออกมาหาผม
    “โรงแรมนี้ไม่มี” ไม่เป็นไร แค่โรงแรมแรกเว้ย!
    “ไม่เป็นไร ยังมีอีกไม่ใช่หรอ” มันพยักหน้าแล้วให้ผมเดินตามมันไป
   หลังจากนั้นมันก็พาผมไปอีกสี่โรงแรม ซึ่ง…มันก็ไม่มีทั้งนั้นแหละ ผมมองดูนาฬิกาอย่างเริ่มท้อใจ ตายห่าแล้วสามทุ่มกว่าแล้ว อากาศที่นี่เริ่มเย็นตัวลงแล้วครับ เย็นกว่าเมื่อตอนกลางวันมากโขอยู่ ถ้าไม่รีบหาให้เจอจะแย่เอานะเนี่ย หิวก็หิว เมื่อยก็เมื่อย อะไรวะ!
   “หิวยัง ?” ผมหันซ้ายหันขวาแล้วหันไปข้างหลังก่อนจะหันกลับมาที่เดินแล้วชี้นิ้วเข้าที่ตัวเอง
   “ถามกูหรอ ?”
   “ถามควายมั้ง” เอ่อ…ไม่อยากจะเถียง เหนื่อยใจจริง ๆ
   “ไม่หิว” ถึงปากจะบอกอย่างงั้น แต่ท้องมันก็ไม่โกหกไอคนข้างหน้าผมหรอก มันดันร้องซะดัง ตอนนี้อยากเอาหัวโขกเสาให้ตายกันไปข้าง แม่งหักหน้ากู..
   “นั่นน่ะหรอไม่หิว” กูไม่เถียงแล้วก็ได้ แม่ง ก็หิวจริง ๆ นั่นแหละ
   “อยากกินอะไร ?”
   “ไม่รู้” กูไม่รู้จริง ๆ ไม่ได้กวนตีน นี่ไม่ใช่ไทยนะมึง
   “ติ่มซำมั้ย ?” เออก็ดีนะ ขึ้นชื่อที่ฮ่องกงเลยนี่หว่า
   “ก็ดีนะ”
   “ไอควาย! ติ่มซำเค้ากินกันตอนเช้ากับกลางวัน ตอนเย็นบ้านมึงกินติ่มซำกันหรอ!” โดนด่าอีกกู แต่ที่ไทยเค้ากินเวลาไหนก็ได้ว่ะ ไอควายกว่า -*-
   “กูไม่รู้แล้วเว้ย อะไรก็ได้!”
   “เออ บอกงี้ตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง” อะไรของมึงวะ กูจะไปรู้หรอว่ามึงต้องการคำตอบแบบไหน เบื่อมึงจริง ๆ อะไรของมึงเนี่ย!
   “เออ จะกินไรก็เอาเถอะกูกินได้ทั้งนั้นแหละ” ยังจะปากดีอีกกู เงินก็ไม่ค่อยจะมี
   “งั้นกินบะหมี่ดีกว่าถูกดี” พอมันพูดจบมันเดินนำลิ่วไปเลย ให้ตายเหอะ แน่จริงแบกของให้กูเดะวะ หนักชิบ เดินซะเร็วเลย ขาก็ยาวของก็ไม่มี เห้อ ถ้ากูหลงจากมึงอีกคนชีวิตคงบัดซบแหละนะเลยต้องรีบวิ่งตามมึงนี่ไง (บ่นไรฟะกู)
   ไอตี๋พาผมมานั่งที่ร้านร้านหนึ่ง ถ้ามองจากภายนอกแล้วก็เหมือนร้านที่ไทยเลยนะ กลิ่นร้านนี่เยาวราชชัด ๆ พอมาถึงร้านมันก็ส่งภาษากับอาแปะเจ้าของร้านสั่งของ ไม่นานนักบะหมี่เกี๊ยวกุ้งอันเท่ากำปั้นสองชามก็มาวางอยู่เบื้องหน้าของเราสองคน
   “ทำไมมึง…พี่ถึงพูดไทยได้ ?” ผมถามขณะกำลังตักเกี๊ยวกุ้งชิ้นใหญ่เข้าปาก
   “ไม่ใช่เรื่องของมึง” ฉึก!....ปากหมาจริง ๆ
   “แล้วมึงชื่ออะไรเนี่ย ?”
   “มึงล่ะชื่ออะไร มารยาทน่ะมีไหม ต้องบอกชื่อตัวเองก่อนถามคนอื่น” เออออออออออออออออ กูผิดเอง
   “กูชื่อ ไนท์”
   “เฟยหลง” เอ้ย ชื่อมันเพราะเว๊ยขัดกับสันดาน = =”
    “อืม”
    “แล้วมึงจะไปพักที่ไหน ?” เออว่ะ กูจะตายจริงเปล่าวะเนี่ย มาวันแรกได้เรื่องเลย
    “เอ่อ…กูไม่รู้ ข้างถนนก็ได้มั้งเอาเป้รองทำหมอน”
    “ปัญญาอ่อน” คำก็ปัญญาอ่อนสองคำก็ควาย โห ไอคนประเสริฐ ถุย!
    “เออ! กูนอนได้และกัน จานนี้เท่าไหร่!” แม่งเริ่มโมโหอีกและกู
    “#@^&%^&%^(*&^*&^*” มันไม่สนใจผมหันไปคุยกับแปะเจ้าของร้านก่อนจะจ่ายเงินไป
    “ว่าไง เท่าไหร่”
    “เก็บเศษตังค์ของมึงไว้ประทังชีวิตเหอะ!” เห้อ กูล่ะหน่ายกับการคุยกับมันจริง ๆ เหมือนทะเลาะกันตลอดเวลา
    “เออ ขอบใจสัด!” สาธุ..ขอให้กูเจอคนไทยแถวนี้ทีเหอะจะได้รอดพ้นจากมันสักที
    “ขอบใจสำหรับวันนี้ กูไปและ กูไม่รบกวนมึงและ มึงจะกลับบ้านก็กลับเหอะห้าทุ่มและ กูหาทางเองได้!!” ว่าแล้วผมก็เดินออกมาจากร้านบะหมี่อย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจมันสักนิด ถึงแม้จะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของผมแต่มันปากแบบนั้นไม่ได้อยากอยู่ด้วยนานสักเท่าไหร่หรอก
    ผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของผม เข็มมันบ่งบอกเวลาว่าห้าทุ่มสิบนาทีแล้ว ผมเอนตัวลงนั่งบนม้านั่งที่ตั้งอยู่ริมถนน ถึงจะเป็นเวลานี้แต่ก็ยังมีรถแล่นไปมาประปราย อากาศเริ่มเย็นลงมากกว่าเดิมแม้ตอนนี้ผมจะใส่เสื้อกันหนาวแล้วแต่ก็ยังอดหนาวใจไม่ได้อยู่ดี นี่ไม่ใช่ประเทศไทย มองไปทางไหนก็เจอแต่คนฮ่องกง หรือคนที่คุยกับเราไม่รู้เรื่อง ไอแซนด์ ไอปอร์เช่ มึงอยู่ไหนกันแน่วะ ! มึงจะรู้รึเปล่า ว่ากูกำลังหลงทางอยู่!!
    ผมเริ่มเอนตัวลงนอนโดยใช้เป้เป็นหมอนรอง ลำตัวของผมเหยียดไปตามความยาวของม้านั่ง ท้องฟ้ายามค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยดวงดาวสว่างไสว มันคงจะดีถ้าได้ดูกับเพื่อนหรือคนที่เรารัก เห้อ…
    “หนาวว่ะ” พูดไปก็คงไม่มีใครฟังร้อก เวลาผ่านมานานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ อยากจะนอนแต่ก็นอนไม่หลับ
    “หนาวแล้วยังคิดจะนอนตรงนี้อีกหรอ ?”
    “เออ” แล้วกูตอบใครเนี่ย ? แต่เสียงมันคุ้น ๆ นะ ผมแหงนหน้าขึ้นไปมองด้านบน ไอตี๋!! มึงจะมาทำไมวะเนี่ย ?
    “มาทำไม” ประเด็นคือหากูเจอได้ไงด้วย กูเดินมายังไม่รู้เลยมาทางไหนยังไง
    “มาดูลูกหมาหลงทาง ว่ามันจะเจอฝูงมันเมื่อไหร่”
    “มึงว่าใครเป็นลูกหมา!”
    “มึงไง” ชี้หน้ากูอีก ถ้ามันไปหลงทางในไทยนะกูจะด่าแม่งให้…
    “ปล่อยกูเหอะ กูบอกแล้วกูไม่ต้องพึ่งมึง” ผมบอกมันแล้วหันหน้ากลับมานอนตามเดิม
    “มานี่” มันว่าพร้อมออกเดินเล็กน้อย
    “ไม่”
    “มึงจะมามั้ย ?” กูไม่ตอบมึงคงทำไรกูไม่ได้หรอกไอเฟยหลง
    “งั้นก็ต้อง…”
    “โอ๊ย สัดทำไรวะ” มันแย่งเอากระเป๋าไปจากหัวผมทำให้หัวลงมาโขกกับที่ม้านั่งอย่างแรง เอาไปเหอะเงินอยู่ที่ตัวกู ในนั้นมันก็แค่เสื้อ อย่างดีก็แค่เน่าวะ!
    “เห้ย ๆ ๆ ปล่อย!” มึงจะอุ้มกูทำเชี้ยไรวะ!!!


ฮุ ๆๆ รู้ชื่อแล้วว
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 3 ก๋วยเตี๋ยว
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 19-04-2011 16:53:18
เฟยหลงเข้าทำนองปากหมาแต่ใจดีนะ อิอิ เพื่อนเป็นห่วงแย่เลยนะไนท์
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 3 ก๋วยเตี๋ยว
เริ่มหัวข้อโดย: O[]OVampire ที่ 19-04-2011 16:55:03
ชื่อเฟยหลง เหมือนเคยอ่านเจอในการ์ตูน
อ๊ายๆไนท์หลงแล้วไปอยู่กับเฟยหลงเลยนะอย่าพึ่งรีบกลับ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 3 ก๋วยเตี๋ยว
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 19-04-2011 18:49:42
^^
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 3 ก๋วยเตี๋ยว
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 19-04-2011 23:04:41
หนุกอ่ะ ชอบนะ แต่สะดุดคำว่า "ไอ" อย่างเดียวเอง เปลี่ยนเป็น "ไอ้" ไปเลยไม่ได้เหรอ  :z13:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 3 ก๋วยเตี๋ยว
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 20-04-2011 12:01:25
แล้วจะได้เจอเพื่อนไหมอ่ะไนท์

แต่ก่อนจะเจอเพื่อน ได้เจอเนื้อคู่ก่อน ก๊อดีน่ะ

 :impress3: :impress3:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 3 ก๋วยเตี๋ยว
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 20-04-2011 20:21:02
เฟยหลงเข้าทำนองปากหมาแต่ใจดีนะ อิอิ เพื่อนเป็นห่วงแย่เลยนะไนท์
หมามากด้วยคับ ฮ่า ๆ
ชื่อเฟยหลง เหมือนเคยอ่านเจอในการ์ตูน
อ๊ายๆไนท์หลงแล้วไปอยู่กับเฟยหลงเลยนะอย่าพึ่งรีบกลับ
ฮันหลงรึเปล่าครับ (มาเฟียที่รัก) เฟยหลงคิดเองง่ะ แต่มันก็ซ้ำกันได้นา  :laugh:
หนุกอ่ะ ชอบนะ แต่สะดุดคำว่า "ไอ" อย่างเดียวเอง เปลี่ยนเป็น "ไอ้" ไปเลยไม่ได้เหรอ  :z13:
เดี๋ยวจะเปลี่ยนให้ในตอนถัด ๆ ไปนะครับ ขอบคุณครับ ^ ^
แล้วจะได้เจอเพื่อนไหมอ่ะไนท์

แต่ก่อนจะเจอเพื่อน ได้เจอเนื้อคู่ก่อน ก๊อดีน่ะ

 :impress3: :impress3:
เฟยหลงอาจจะไม่ใช่พระเอกก็ได้นะ ฮ่า ๆ
 o18


ไปต่อกันเลยค้าบ

G E T  L O S T 4 – บ้านหรรษา
    “ไอสัด ปล่อยกู มึงปล่อยกูลงเดี๋ยวนี้เลย!!!!” ชีวิตไม่เคยถูกผุ้ชายคนอื่นนอกจากพ่ออุ้ม แม่งมันน่าขยะแขยงอย่างงี้เอง ตอนนี้มันเอากระเป๋าผมไปสะพายที่หลังแล้วยกตัวผมเดินมาได้ราวครึ่งชั่วโมงแล้วครับ ให้ตายเหอะ ดิ้นตั้งครึ่งชั่วโมง แรงกูหมด แต่มึงไม่หมด เชื่อเค้าเลย อึดได้อีก
    “แหกปากเห่าอยู่ได้ เงียบไปเหอะมึงอ่ะ” น้ำเสียงมันดูเซ็งกับกูมาก แล้วกูเซ็งกว่าป่ะล่ะ แม่ง
    “แล้วมึงมาอุ้มกูทำไม”
    “ถ้าให้มึงเดินเองมึงจะตามกูมามะ ?”
    “ไม่!”
    “เออ งั้นก็จงอยู่แบบนี้ต่อไปเหอะมึง”
    “แล้วมึงจะมาเดือนมาร้อนเรื่องกูทำไม ?”
    “แค่ไม่อยากเห็นลูกหมาตายต่อหน้าต่อตา” ถ้ากูเป็นหมาข้างถนนมึงคงเป็นหมาขี้เรื้อนแหละ ปากนี่…สุดยอด
    “ก็เดินไปที่อื่นเดะจะได้ไม่เห็นกูตาย”
    “กูมีมนุษยธรรมพอ” มีด้วยหรอมึงอ่ะ
    “โกหกตัวเองก็เป็นด้วย คนห่าอะไรวะ”
    “ใครโกหกตัวเอง ?”
    “มึงไง ทำอย่างงี้เรียกมีมนุษยธรรมหรอไง ?” ตอนนี้มันเริ่มคิ้วชนกันอีกแล้วครับ จะว่าไปตอนนี้พอมองมันดีดีแล้วก็เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่ง ตาตี่ผิวขาว(กว่าผมเยอะ) สูง หุ่นดี ผมตัดสั้นสีน้ำตาลแก่ธรรมชาติเหมือนตามัน แต่น่าเสียดายที่ปากหมาไม่เข้ากับหน้า
    “ถึงแล้ว” มันหยุดลงตรงหน้ารั้วบ้านหลังหนึ่งแล้วปล่อยผมลงกับพื้นพร้อมโยนกระเป๋าลงที่เท้า (มารยาทไม่งามเลยนะมึง) จากการสำรวจด้วยสายตาอันสั้นของผมก็พอจะรุ้ได้ว่าบ้านมันก็มีขนาดใหญ่พอสมควร ไม่มากเท่าไหร่ เคยได้ยินไอปอร์เช่พูดว่าบ้านที่นี่ขายแพง แสดงว่ามันคงมีฐานะพอสมควร
    “พากูมาที่นี่ทำไม”
    “บ้านกูเอง” กูรู้แล้ว = =’’
    “นั่นแหละ พามาทำห่าไร”
    “มึงก็พักที่นี่แหละ” ห๊ะ ? กูคงหูฝาด
    “มึงว่าอะไรนะ ?”
    “หูมึงหนวกเรอะไง เป็นลูกหมาน่าจะหูดีนะ กูบอกว่า มึง พัก ที่ นี่ แหละ!”
    “ไม่ล่ะขอบใจ” จริง ๆ คือ กูเกรงใจมึงด้วยแหละ มึงบ้าเปล่าพาคนที่ไหนไม่รู้เข้าบ้านกลางคืนดึก ๆ ดื่น ๆ
    “มึงจะมาไม่มา”
    “มึงบ้าเปล่า ? มึงพาใครเข้าบ้านก็ไม่รู้ รู้จักแค่ชื่อกู กูอาจจะเป็นสิบแปดมงกุฎ โจรใต้ก็ได้นะมึง”
    “สิบแปดมงกุฎ โจรใต้ ? ปวกเปียกอย่างมึงน่ะถ้าคิดจะทำอะไรคนในบ้านกูมึงคงหมอบกระแต้ไปตั้งแต่คิดแล้ว” โห นี่กูปวกเปียกขนาดนั้นเลยหรอวะ
    สุดท้ายหลังจากที่สงครามน้ำลาย(ขนาดย่อม)จบลงมันก็พาผมเข้าบ้านมันจนได้ บ้านมึนมีขนาดปานกลางตกแต่งได้สวยงามอย่างไม่น่าเชื่อในสไตล์ยุโรป พอก้าวเข้าประตูรั้วไปก้าวแรกสิ่งที่ผมเจอคือ
    “โฮ่ง ๆๆๆ” พร้อมกับเสียงกรงที่สั่นไปมา โกลเดนรีทีฟเวอร์ขนยาว(ซึ่งมองไม่ค่อยชัด)กำลังร้องเรียกเจ้านายมัน(หรือจะกัดกู)อย่างรื่นเริง
    “มันเรียกมึงหรอ ?”
    “เออ” มันว่าแล้วเดินเข้าไปหากรงที่น้องหมาตัวเบ้อเริ่มของมันกำลังคึกอยู่ “@#^%^&%%$%*)(&*^&)” ไม่น่าเชื่อ หมามันนั่งสงบทันทีเลยครับ แล้วมันก็เดินนำผมเข้าบ้านมันไป อย่างมันนี่ก็ดูรักสัตว์นะ แต่ให้กุเป็นลูกหมา แถมทำท่าเหมือนจะฆ่ากูตลอดเวลาเนี่ยนะ เหอะ ๆ
    “^%^&&(*&” มันเปิดประตูพร้อมพูดภาษาจีนเข้าไปในบ้านมัน
    “^&^&^&^_*(&” เสียงคนข้างในตอบกลับมาแล้วตามมาด้วยเสียงเอะอะพร้อมกับผู้คนที่พรั่งพรูออกมาจนผมตกใจ!
    “หวัดดี” เหยยยยยย ทำไมพูดไทยได้ เด็กชายคนหนึ่งที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมทักผมขึ้นมา
    “หวัดดี” ผมทักตอบไป มันเดินเข้ามามองหน้าผมแล้วส่งยิ้มให้ก่อนที่พ่อแม่ พี่สาวมัน(มั้ง) กับน้องชายมันอีกคนจะเริ่มเข้ามาพูดคุยกับผม
    “แม่เป็นคนไทยนะลูก” ผมเริ่มเข้าใจเค้าลางและว่าทำไมมันพูดไทยได้กันทั้งบ้าน
    “อ๋อ…ครับ”
    “สวัสดีจ้า พี่ชื่อหลินหลิน นะ เป็นพี่สาวของเฟยหลง” หญิงสาวสวยที่สุดในบ้านทักทายผมพร้อมกับส่งยิ้มให้ นะ…น่ารักมาก
    “ส่วนเราชื่อต้าฟง” คนแรกที่ทักผมเอ่ยขึ้นพร้อมกับส่งมือมาให้จับเบา ๆ
    “ส่วนผมก็หวังเฟยครับ” น้องเล็กที่สุดในบ้าน(ดูจากหน้าและส่วนสูง)มาทักผมเป็นคนสุดท้ายก่อนที่ทั้งหมดจะพา(ลาก)ผมเข้าไปในห้องรับแขก
    “หนูมาเที่ยวหรอจ๊ะ ?” แม่ของไอตี๋เอ่ยยิงคำถามแรกหลังจากที่พวกเราเข้ามานั่งในห้องรับแขกเรียบร้อยกันทุกคนแล้ว ให้ตายเหอะบ้านขนาดนี้แต่คนเยอะขนาดนี้ก็ค่อนข้างอึดอัดนะเนี่ย พี่น้องมันเยอะจริงจัง
    “ครับ”
    “แล้วหลงทาง ?” ผมพยักหน้าให้กับต้าฟง
    “ไม่เป็นไรนะจ๊ะ เดี๋ยวเราจะช่วยกันตามหาเอง” พี่หลินหลินสุดสวย(ของผม)บอกผมอย่างอ่อนโยน เห้อ เฟยหลงแกมีพี่สาวน่ารักขนาดนี้ด้วยเรอะ ไม่เข้ากับแกเลย
    “พี่ว่างหรอ ?” ต้าฟงหันหน้าไปถามหลินหลิน
    “เออจริงด้วย อาทิตย์นี้มีบินทุกวันเลย เซ็งชะมัด จะยัดก็ยัดเข้ามาทีเกือบตาย งั้นต้าฟงไปช่วยเค้าแล้วกันนะ”
    “ได้ที่ไหน ผมมีงาน ช่วงนี้วันหยุดด้วยคนยิ่งเยอะ” ต้าฟงเถียง
    “งั้นแกล่ะหวังเฟย” เด็กหนุ่มส่ายหัวก่อนยิ้มออกมา
    “มีนัดกับเพื่อนอาทิตย์นึง พรุ่งนี้ก็ไม่อยุ่บ้านแล้ว”
    “ว๊า!” พี่หลินหลินทำแก้มป่องแลดูน่ารัก(มาก)ก่อนจะนึกขึ้นมาได้
    “เฟยหลง!” สามพี่อน้งพูดพร้อมกันก่อนจะหันไปหาไอหน้าตี๋
    “เฟยหลง แกน่ะว่างช่วงนี้ไม่ต้องมาเนียน” พี่หลินหลินเปิดฟลอร์ก่อนเลย
    “ไม่ว่างแล้ว พรุ่งนี้มีนัด”
    “ไม่เชื่อหรอกพี่” ต้าฟงว่าพร้อมกับเอาสมุดอะไรของมันไม่รู้มาเปิดดูแล้วส่งให้เฟยหลง
    “นี่พี่ว่างจนถึงสิ้นเดือนแน่ะ ตารางงานพี่มันบอกอย่างนั้น” เฟยหลงมองน้องชายอย่างอารมณ์เสีย
    “แต่…”
    “ไม่มีแต่ เค้าเป็นคนประเทศแม่ แม่เคยสอนลูกไว้ว่ายังไงเฟยหลง ?”
    “แต่…”
    “ไม่มีแต่!!” คราวนี้ทั้งบ้านพูดพร้อมกันเลยครับ
    “แต่ว่า…” ผมพูดเสียงค่อย “ผมเกรงใจนะครับ เดี๋ยวผมตามหาเองก็ได้”
    “ไม่เป็นไรจ้ะ ยังไงเฟยหลงเป็นคนฮ่องกง เส้นทางอะไรก็รู้ดี ให้เค้าพาเราไปน่ะแหละดีแล้วจ้ะ ไม่อย่างนั้นเราจะหลงหนักกว่าเดิมนะ” แม่ของไอตี๋พูดอย่างอ่อนโยน
    “ถูกอย่างที่แม่เค้าว่า เฟยหลงเราต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นะ” พ่อของมัน (ที่เข้ามาพึ่งพูดเป็นครั้งแรก) บอกกับมันที่คิ้วเข้าชนกันอีกแล้ว
    “ก็ได้ ๆ”
    “เย้!!” สามพี่น้องร้องอย่างดีใจ เห้อ แต่ไปกับมันนี่เป็นนรกหรือว่าเป็นโชคดีวะ !
    “เอาเป็นว่าคืนนี้นอนที่นี่ แล้วให้เฟยหลงพาตามหาเพื่อนแล้วกันนะจ๊ะ”
    “ครับ” ผมตอบแม่สุดสวยแสนดีของมันไปอย่างนอบน้อม
    “แล้วก็ วันนี้หนูนอนห้องเฟยหลงแล้วกันนะ…”
    “ไนท์ครับ”
    “นอนห้องเฟยหลงนะลูกไนท์”
    “แต่…” เฟยหลงเงียบไปทันทีที่แม่มันมองด้วยสายตาทรงอำนาจ ผมเห็นแล้วยังขนลุก
    “จริง ๆ ผมนอนห้องนี้ก็ได้นะครับ”
    “ไม่ได้จ้ะ”






สะ…สงสัยจะไม่ได้จริง ๆ



ฝากด้วยนะค้าบบ ^ ^ ขอบคุณทุกเสียงคับ

หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-04-2011 21:48:28
 :กอด1:เข้ามาดูน้องไนท์หาที่นอนได้แล้วยัง :m20: :m20:


หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 20-04-2011 22:53:16
เปิดตัวกับแม่สามีอย่างไว 555
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 20-04-2011 22:58:58
พี่น้องเยอะจังเฟยหลง นอนห้องเดียวกันแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นป่าว
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 20-04-2011 23:29:34
ครอบครัวใหญ่จังอิอิ


แหมเป็นลูกครึ่่งนี่เองถึงว่าพูดไทยได้
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 20-04-2011 23:50:23
ได้นอนห้องเดียวกันแล้ว หึหึหึ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 21-04-2011 10:53:08
เอ๊ะ อย่างนี้นี่เอง เฟยหลงพามาเจอกับครอบครังแล้วซะอย่างนั้น หุหุ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: Natavishi ที่ 21-04-2011 11:22:50
 :laugh: :laugh: :laugh:   


หนุกดี  แล้ว มา ต่อ เร็ว ๆๆ น่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-04-2011 11:25:33
ไนท์ครับ..สงบปากสงบคำมั่งก็ได้เนอะตอนนี้อ่ะ
ปากเก่งนัก เดี๊ยะ..ยุให้เฟยหลงจัดการน้า อิ อิ ล้อเล่งจ้า
นอนห้องเดียวกัน อย่าตีกันน้าเด็กๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 21-04-2011 12:30:34
ครอบครัวเฟยหลงน่ารักจัง

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 4 บ้านหรรษา [20/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 21-04-2011 19:10:39
:กอด1:เข้ามาดูน้องไนท์หาที่นอนได้แล้วยัง :m20: :m20:



ได้แล้วค้าบ ฮ่า ๆ
เปิดตัวกับแม่สามีอย่างไว 555
ฮ่า ๆๆ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่จุดประสงค์ ฮี่ ๆๆ
พี่น้องเยอะจังเฟยหลง นอนห้องเดียวกันแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นป่าว
ต้องอ่านต่อคับ  :laugh:
ครอบครัวใหญ่จังอิอิ


แหมเป็นลูกครึ่่งนี่เองถึงว่าพูดไทยได้
พูดได้ทั้งบ้านด้วยคับ  :laugh:
ได้นอนห้องเดียวกันแล้ว หึหึหึ
หึหึหึหึ
:laugh: :laugh: :laugh:  


หนุกดี  แล้ว มา ต่อ เร็ว ๆๆ น่ะ
ขอบคุณค้าบ
ไนท์ครับ..สงบปากสงบคำมั่งก็ได้เนอะตอนนี้อ่ะ
ปากเก่งนัก เดี๊ยะ..ยุให้เฟยหลงจัดการน้า อิ อิ ล้อเล่งจ้า
นอนห้องเดียวกัน อย่าตีกันน้าเด็กๆ
ไนท์ก็ปากเฉียคับ ฮี่ ๆ
ครอบครัวเฟยหลงน่ารักจัง

 :กอด1: :กอด1:
ยกเว้นเฟยหลง ? ฮ่า ๆๆ



G E T  L O S T 5 – ห้องนอน
    การนอนเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุดที่จะฟื้นฟูร่างกายของมนุษย์ แม้แต่สัตว์ชนิดอื่น ๆ ก็เช่นกัน และยิ่งถ้าได้หลับลึกจนถึงขั้นคลื่นสมองเป็นเป็นเดลต้าแล้วล่ะกูจะดีต่อสุขภาพจิตอย่างแน่นอน นั่นคือ…ทฤษฎีที่เคยเรียน แต่! เห้อ การมาอยู่ห้องเดียวกับไอหมอนี่มันทำให้กูหลับไม่ลงเว้ย คลื่นสมองปั่นป่วนหมดแล้ว ตั้งแต่เข้าห้องมานะ
    ‘มึงนอนที่พื้น กูนอนบนเตียง ห้ามลุกขึ้นมาข่มขืนกูล่ะ’
    ‘ใครจะไปทำมึงลงห๊ะ!!’
    ‘ไม่รู้ล่ะ ห้ามขึ้นมาแม้แต่นิดเดียว’
    ผ่านไปห้านาที
    ‘มึงไปนอนข้างล่างทำไม ?’ ไอเชี้ย ก็มึงแหละบอกกูว่าห้ามนอนข้างบน
    ‘ก็มึงบอกกูอ่ะ!’
    ‘แล้วมึงอาบน้ำยังเนี่ย ?’
    ‘ยัง’
    ‘ไปอาบเดะ!’
    ขณะกำลังอาบน้ำ
    ‘เสร็จยังวะ!’
    ‘กูพึ่งเข้ามาได้แค่ห้านาที มึงบ้าเปล่าไอหน้าตี๋!’
    ‘ไม่รู้เว้ย กูให้มึงอีกสิบนาที ไม่เสร็จกูจะถล่มเข้าไป!!’
    ผ่านไปห้านาที
    ‘เห้ย เสร็จยังวะ นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้วนะเว้ย!’
    ‘เออ เสร็จแล้ว นี่มันยังไม่สิบนาทีเลยนะสัด!’ คิดว่ามันจะเชื่อผมมะ ?
    ‘ไม่รู้เว้ย ออกมาได้แล้ว กูจะอาบ’ เห้อ…………..
     หลังจากที่สู้รบกันเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ก็ได้เวลานอนกันสักที ผมก็นอนที่พื้นนั่นแหละโดยมีหมอนใบนึง (เตียงแม่งก็ออกจะใหญ่ให้กูนอนที่พื้น) กับผ้าห่มอีกผืนนึง
    “ปัญญาอ่อนว่ะ”
    “อะไร ?” ผมตอบงัวเงีย ง่วงก็ง่วงยังคิดจะหาเรื่องกูอีกหรอเนี่ย ?
    “ชุดนอนมึงไง” ผมก้มลงมองชุดนอนตัวเองแล้วเอาผ้าปิดหัวหนีมัน ก็ไม่เห็นจะปัญญาอ่อนเลย มันก็เป็นชุดที่เข้ากัน (แบบชุดนอนจริง ๆ น่ะ) เป็นลายตารางสีน้ำตาล ปัญญาอ่อนตรงไหนวะ ? ช่างเหอะ ขี้เกียจเถียง ง่วง
    “มึงจะไม่นอนข้างบนหรอ ?”
    “หึ” ถ้าไปนอนแล้วต้องเถียงกับมึงทั้งคืนกูนอนพื้นดีกว่าสบายใจดี คับที่อยู่ง่ายคับใจอยู่ยากเว้ย
    “กูอยากได้หมอนข้าง” บอกกูทำไม ?
    “บนเตียงมึงไง”
    “…” มันไม่ตอบผม ผมเงี่ยหูฟังเสียงมันว่ามันจะทำอะไร แต่สุดท้ายก็ได้ยินแต่เสียงหายใจเป็นจังหวะของมัน เออดี แปลว่ามันหลับแล้วผมจะได้หลับได้สบาย ๆ ตัวสักที เห้อ…ราตรีสวัสดิ์วันหลงทางฮ่องกง







    “เห้ย!!” ผมร้องเสียงดัง เพราะรู้สึกได้ถึงอะไรหนัก ๆ มาทับที่กลางตัวผม
    “อ่อ ขอโทษที ละเมอว่ะ” ผมเปิดผ้าห่มมาดูไอคนตัวใหญ่ที่กำลังนอนทับผมที่กลางตัว มันกำลังงัวเงียจริง ๆ ท่าจะละเมอจริง ๆ
    “เออ ๆ รีบ ๆ ขึ้นไปเลย”
    “ไม่เอาอ่ะ ขี้เกียจขึ้นแล้ว” มันว่าแล้วไถลตัวลงมานอนใกล้ผมมากขึ้นอีก แม่ง อึดอัด!
    “งั้นกูไปนอนบนเตียงเอง” ผมทำท่าจะลุกไปจากที่นอนแต่ก็โดนมันคว้าแขนไว้ก่อน
    “มึงห้ามนอนบนเตียง”
    “งั้นมึงก็ไปนอน”
    “ขี้เกียจ”
    “งั้นกูจะไป” ผมดึงแขนออกจากมือมันซึ่งไร้ผล มันกลับกระชากตัวผมเข้าไปนอนที่เดิม
    “กูว่า กูไปนอนห้องรับแขกดีกว่านะ”
    “…………….” ไม่ตอบกูและ หลับไปแล้วหรอวะไอตี๋ ว่าแล้วกูก็แอบไปนอนบนเตียงมึงดีกว่า ท่าทางจะนุ่มดี
    “เชี้ย…” ผมสบถเบา ๆ ก็มันเล่นเอาตัวมันมาก่ายผม หนักก็หนักขยับไมได้เลย ถ้าปลุกมันตอนนี้กูคงโดนมันฆ่าตายเป็นแน่แท้ =  = กูหลับก็ได้ ฝืนใจหลับสุดเท้า!






   “เห้ย ตื่นได้แล้ว! บ้านกูหายไปครึ่งหลังแล้วนะมึง” เสียงอะไรวะ แม่งน่ารำคาญจริง ผมดึงผ้าห่มที่โดนไอคนเรียกมันดึงไปกลับขึ้นมาคลุมหัวอีก
    “มึงจะตื่นไม่ตื่น”
    “อะไรวะ คนจะนอนนน!”
    “สิบโมงแล้วนะมึง มึงจะไปตามหาเพื่อนมึงมั้ย ?” ตามหาเพื่อน …
    “เออว่ะ” ผมว่าพร้อมเด้งตัวขึ้นมานั่ง มือของผมขยี้ที่ตาเบา ๆ เออใช่เมื่อวานกูอยู่บ้านไอตี๋ นอนที่พะ…พื้น ทำไมที่นี่ไม่ใช่พื้นวะ เป็นที่นอนของมันแทน ผมรีบคว้าแว่นที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงมาใส่อย่างรวดเร็ว
    “ทำไมกูมานอนบนนี้”
    “ก็มึงดิ้น กูรำคาญ”
   “มึงก็ขึ้นมานอนเตียงเดะวะ จะลากกูขึ้นมาทำไม”
    “ก็เห็นมึงละเมออยากขึ้นนอนบนเตียงกูเลยลากมึงขึ้นไป”
    “เออ ขอบใจ” นี่เป็นคำขอบคุณจริง ๆ นะไม่ได้ประชด
    “ไปอาบน้ำได้แล้ว นอนกินบ้านกินเมือง ประเทศกูจะหายไปครึ่งประเทศแล้วเนี่ยเจอมึงน่ะ” ตื่นเช้าก็ปากหมาเลยนะ แต่ตอนนี้มันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยไปแล้วล่ะครับ ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นสีดำธรรมดา ดูแตกต่างจากเมื่อวานอย่างเห็นได้ชัด (เมื่อวานดูดีกว่านี้นะ แต่วันนี้ก็วัยรุ่นดี)
    “เออ”
    “เห้ยเดี๋ยว”
    “ไร ?” แม่งเซ้าซี้จริง ๆ
    “อยากกินติ่มซำอยู่เปล่าไอหมา ?” ช่วยตัดคำว่า ‘หมา’ ออกจะได้มะ
    “ก็อยาก แต่ถ้ามันยากก็ไม่เอา”
    “เออ มึงไปอาบน้ำได้และ” อะไรของมึงวะ ? แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเลยทันที
    หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ตามมันลงมาข้างล่างโดยวางเป้ไว้ที่ห้องมันก่อนเพราะมันบอกว่าเดี๋ยวเจอเพื่อนแล้วค่อยมาเอาก็ได้ วันนี้บ้านมันดูเงียบกว่าเมื่อวาน พี่หลินหลินไปทำงานแล้ว ส่วนต้าฟงกับตงตงก็คงไปที่อื่นเช่นกัน เหลือแต่แม่กับพ่อมันที่นั่งจิบชาอยู่ในห้องรับแขก
    “สวัสดีครับ” ผมว่าพร้อมยกมือไหว้คนอาวุโสทั้งสอง
    “จ้ะ เดี๋ยววันนี้ให้เฟยหลงพาไปกินติ่มซำก่อนแล้วค่อยไปนะลูก”
    “พาไปกิน ?”
    “จ้ะ ร้านเพื่อนพ่อเค้าเองล่ะ ไปเถอะจ้ะ เห็นบอกอยากกิน” ถ้าผมพูดว่า ‘แต่’ ไปคงไม่มีประโยชน์ ผมก็เลยได้แต่ยักหน้าให้กับเธอไป


    เฟยหลงคุยกับพ่อแม่มันสักพัก(ด้วยภาษาจีน)แล้วก็เดินนำผมออกจากบ้านไป ก่อนหน้านั้นมันยังเล่นกับหมามันอีกสองสามนาทีแล้วก็สั่งอะไรมันไม่รู้ (เดา) ก่อนจะเดินนำออกไปจากรั้วบ้านของมัน


ผิดหวังอะไรรึเปล่านะ ? ฮ่า ๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณที่อ่านคับผม  :pig4:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-04-2011 19:18:48
 :กอด1:เข้ามาอ่านเป็นกำลังใจครับผม


 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: tatar* ที่ 21-04-2011 20:41:46
ไม่ได้เข้ามาวันเดียว อัพไปเยอะเลย

>< เฟยหลงง!

เหมือนเฟยหลงจะคิดอะไรกับไนท์นะฮ้าาาา

นอนบนเตียงดีๆไม่ชอบ  :z1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-04-2011 20:50:18
เฟยหลง..นายต้องคิดอะไรกับไนท์แน่ๆเลย แต่นายมันพวกฟอร์มเยอะไง เลยออกมาในรูปนี้ 555
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 21-04-2011 21:28:31
เฟยหลงแอบชอบไนท์ แน่ ๆ

แต่ไม่กล้าแสดงออก
เลยทำโหดใส่อะดิ๊


 :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 21-04-2011 21:37:11
โอ้วๆๆ มีซัมติ้งแน่ๆ คุณมังกรบิน
ปากก็บ่นนะแต่เนียนลงไปนอนกอดเค้า
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-04-2011 21:54:12
ผิดหวังมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าไอ้ตอนที่หลังหลงหลงมันจะไมไ่ด้แอบทำอะไร อิอิ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 21-04-2011 22:17:12
มีนอนกอดก่ายกัน ถ้ายังหาเพื่อนไม่เจอ คงจะได้สามีกลับบ้านแน่ๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 22-04-2011 00:31:37
แหมเอาเค้าไปเป็นหมอนข้างแล้วไมตอนแรกไล่ให้นอนที่พื้นล่ะ


อยากกอดก็ว่ามาตรงๆๆอิอิ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 5 ห้องนอน [21/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: zeit ที่ 22-04-2011 01:28:02
เห้ยยยยย จะบอกว่าโคตรเนียนอ่ะ แหม่ๆๆ อยากนอนข้างๆไนท์อ่าเดะ

ห้าๆๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 24-04-2011 11:52:35
:กอด1:เข้ามาอ่านเป็นกำลังใจครับผม


 :L1: :L1:
ขแบคุณค้าบ ^ ^

ไม่ได้เข้ามาวันเดียว อัพไปเยอะเลย

>< เฟยหลงง!

เหมือนเฟยหลงจะคิดอะไรกับไนท์นะฮ้าาาา

นอนบนเตียงดีๆไม่ชอบ  :z1:
ฮ่า ๆ ไม่บอกกก อิอิ
เฟยหลง..นายต้องคิดอะไรกับไนท์แน่ๆเลย แต่นายมันพวกฟอร์มเยอะไง เลยออกมาในรูปนี้ 555
อืมมมมม์ นั่นสินะคับ ไม่แน่นะ เฟยหลงอาจจะทำอะไรที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็ได้ ฮ่า ๆ
เฟยหลงแอบชอบไนท์ แน่ ๆ

แต่ไม่กล้าแสดงออก
เลยทำโหดใส่อะดิ๊


 :m14: :m14:
แต่เฟยหลงโหดอยู่แร้วนะ ฮ่า ๆ
โอ้วๆๆ มีซัมติ้งแน่ๆ คุณมังกรบิน
ปากก็บ่นนะแต่เนียนลงไปนอนกอดเค้า
เนียน ๆ อิอิ
ผิดหวังมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าไอ้ตอนที่หลังหลงหลงมันจะไมไ่ด้แอบทำอะไร อิอิ
ฮี่ ๆๆๆๆๆ นั่นสิ ๆ ไนท์อาจจะไม่รู้ตัว
มีนอนกอดก่ายกัน ถ้ายังหาเพื่อนไม่เจอ คงจะได้สามีกลับบ้านแน่ๆ
:laugh:
แหมเอาเค้าไปเป็นหมอนข้างแล้วไมตอนแรกไล่ให้นอนที่พื้นล่ะ


อยากกอดก็ว่ามาตรงๆๆอิอิ
อาจจะอยากแต่ไม่กล้าบอก ? ฮ่า ๆ
เห้ยยยยย จะบอกว่าโคตรเนียนอ่ะ แหม่ๆๆ อยากนอนข้างๆไนท์อ่าเดะ

ห้าๆๆ

ปกติมันไม่นอนละเมอหรอกครับ (อ้าว) ฮ่า ๆๆๆ



G E T  L O S T 6 – ติ่มซำ (กูเป็นคนไทย กินแบบมึงไม่เป็นเว้ย!)
    “มึงอยากกินอะไร”
    “อะไรก็ได้” ผมตอบไปตอนมองเมนูในมือ อยากกินนู้นนี่ไปหมดแต่ไม่สั่งหรอกเกรงใจ(แม่)มัน
   “งั้นกูสั่งและนะ”
   “อืม”
   ตอนนี้เรามานั่งอยู่ในร้านที่ขายติ่มซำเรียบร้อยแล้ว ภายในร้านตกแต่งเป็นแบบออกแนวผสมระหว่างจีนกับทางยุโรป สวยงามสมเป็นภัตตาคาร อาหารในเมนูนี่น่ากินทั้งนั้น ส่วนราคานั้นแพงเกินกว่าที่ผมจะกล้าสั่งอะไรลงไปเลยให้มันจัดการนั่นแหละดีแล้ว รอบ ๆ ตัวพวกเรามีคนจากทัวร์จีนมั่ง คนฮ่องกงมั่ง คุยกันเสียงดังเชียว
    และแล้วอาหารก็มาส่งถึงโต๊ะพร้อมกาน้ำชาสองใบ อาหารที่มันสั่งมาเป็นลักษณะคล้ายเข่ง มีของที่ผมรู้จักและไม่รู้จัก (เป็นส่วนมาก) บรรจุอยู่เยอะพอสมควร แล้วก็ยังมีผัดผักอีกจาน ข้าวอีกคนละถ้วย เอ่อ…เยอะแบบนี้ก็เกรงใจ(แม่)มันเหมือนกันนะครับเนี่ย
    “มึงทำอะไร” มันถามหลังจากที่เห็นผมใช้ตะเกียบคีบอะไรก็ไม่รู้มาวางไว้ในจานข้าวแล้วตักกินกับข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
    “กินข้าวไง”
    “ไอควาย!” แม้แต่ตอนกินข้าว มึงยังอยากเปิดสงครามกับกูใช่มั้ยเนี่ย =  =
    “แล้วไง ?”
   “ถ้ากินแบบนั้น เค้าจะหาว่ามึงบ้า!”
   “ทำไม ?”
   “ติ่มซำกินกับน้ำชา ไม่นิยมนำมากินพร้อมข้าว”
   “แล้วสั่งข้าวมาทำห่าไร ?”
   “สั่งมาให้มึงกินกับพวกผัดผักนี่ไง ไอลูกหมาควาย” เอาสักตัว เอาหมาหรือควาย ไอเวร!
   “แล้วกินยังไงวะ”
   “อย่างงี้เว้ย” มันพูดพร้อมกับตักกินให้ผมดูแล้วจิบน้ำชาตาม “อ้า…..อร่อยจริง ๆ” ทำท่าน่าขยะแขยงจริง ๆ นะมึง
   “เอ้า กินเดะ” มันเอาตะเกียบชี้หน้าผมแล้วขยับไปมาเพื่อบอกว่า กินได้แล้ว ผมก็ทำตามมันอย่างว่าง่าย ไม่ใช่อะไรหรอก ขี้เกียจเถียงกับมัน น่ารำคาญ
   “เห้ย ไอควาย!” อะไรอีกวะ = =  ขี้บ่นจริง ๆ เลยเว้ย
   “ไรอีกอ่ะ” ผมมองค้อนลอดแว่นไปหามัน
   “อันนี้เค้าจิ้มน้ำจิ้มอันนี้ ไปจิ้มอันนั้นเผ็ดตายห่า” มันใช้ตะเกียบชี้แบบส่ง ๆ เห้อ…กูโคตรกลุ้มใจเลยกินข้าวกับมันกูว่ากินกับหมาที่ซื่อสัตย์ที่บ้านมันยังจะดีซะกว่า
   “อันนี้เค้าไม่ได้กินแบบนี้ เค้ากินอย่างงี้ มึง! อย่าควายมากได้ป่ะ ?” บ่นอีกและ
   “กูไปควายบนหัวมึงเรอะไง ?”
   “ใช่” เถียงไม่ออกเลยกู ไม่รู้ทำไงดี กินก่อนแล้วกันวะ กองทัพเดินด้วยท้อง ที่สำคัญ กู ขี้เกียจ เถียง กับ มึง แล้ว ไอตี๋เอ๊ยยยย
   หลังจากที่พวกเรากินเสร็จก็จัดการเช็คบิลอะไรเรียบร้อย แน่นอน มันจ่าย แต่มันบอกไม่ใช่เงินมันหรอก เงินแม่มัน =  = มีการบอกต้องเกรงใจกูมั่งนะ กูว่า (แม่)มึงมากกว่ามั้งที่กูต้องเกรงใจ ขี้ตู่ว่ะ!
   “แล้ววันนี้จะไปหาที่ไหนดี ?” ผมเปิดฉากคุยกับมันก่อนขณะที่มันกำลังซื้อตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินอยู่
   “นาธาน”
   “โอมานด์ ?”
   “อะไรของมึง!!” มันทำเสียงสูงหันหน้ามามองหน้าผม เอ๊า ก็นาธาน โอมานด์ จอมแหลลวงโลกไง มันออกจะดังมึงไม่รู้จักได้ไงวะ
   “เอ๊า ก็แหลลวงโลกไง มึงไม่รู้จักหรอ ?”
   “ไม่รู้เว้ย ไม่ใช่คนไทย!”
   “โด่ เค้าออกจะดัง”
   “ในทางดีหรือเลวล่ะ ?”
   “ทางเดียวกับมึงแหละ” ผมพูดงึมงำ
   “มึงว่าไรนะ”
   “เปล๊า!” ผมรับตั๋วจากมือมันแล้วรีบเดินนำมันเข้าไปก่อนเพื่อดึงความสนใจ เกือบได้เปิดศึกอีกแล้วมั้ยล่ะกู
    “แล้วตกลงนาธานนี่คืออะไร ?”
    “มึงนี่ควายของจริง”
    “กูไม่ใช่คนฮ่องกง!!” เอาอีกและ ศึกเล็ก ๆ เริ่มเปิดหลังจากที่เราเข้ามาในตัวรถไฟเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นที่ไทยคนคงต้องมาและว่าทำไรกัน แต่ที่นี่ไม่เลย ดีเนอะไม่ไทยมุง
    “ชื่อถนน แล้วไอนาธาน โอมานด์ ของมึงคืออะไร ?”
    “ชื่อดารา อย่าไปสนใจแม่งเลย” นี่กูพูดจริงนะ ตามความจริงเรื่องชาวบ้านนี่ผมไม่ช๊อบไม่ชอบ
    “มาสนใจถนนนาธานดีกว่า มันเป็นยังไง เล่าหน่อยดิ”
    “ไม่” เออ คำเดียวเลย สั้น ๆ ได้ใจความ สาด
    “เห้ย บอกหน่อย เดี๋ยวกูหลงอีกจะทำยังไง” ผมบอกพร้อมกระตุกแขนเสื้อมันเบา ๆ มันหันมาเลิกคิ้วใส่ผมข้างนึงแล้วดึงแขนผมเข้าไปควง
    “แค่ทำแบบนี้มึงก็ไม่หายไปไหนแล้ว”
    “มึงบ้าป่ะ!” ผมว่าพลางขัดขืนการเกาะกุมของมัน กูไม่ชอบเลยไอหน้าตี๋นี่มันทำบ้าอะไรของมันวะ
    “ไม่บ้า ถ้าคราวนี้มึงหลุดไป มึงจะให้ใครช่วยได้”
    “ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ กูไม่วอกแวกหรอก เดินตามหลังมึงคนเดียวเลยเอ้า” แต่มันก็ยังไม่ปล่อยอยู่ดีครับ มันหันหน้ามาทำสายตากวนประสาทใส่แล้วยักคิ้วให้ข้างนึง กวนตีนทั้งคำพูดและการกระทำจริง ๆ ไอคนคนนี้
    “เดี๋ยวลูกหมาหายอีก กูขี้เกียจวิ่งตามมึงอีก” ห๊ะ เมื่อกี้มันว่าอะไรนะ ?
    “วิ่งตาม ? มึงวิ่งตามใคร”
    “เปล่า” มันพูดแล้วหันหน้ากลับไปมองกระจกอีกด้านทันที แต่มือมึงเนี่ย ปล่อยได้มั้ย ?
    “ปล่อยเหอะ” ผมบอกมันอีกที แต่มันก็ยังเฉย











    “ถ้ามึงหลง กูคงแย่น่าดู งั้นกูไม่ปล่อยดีกว่า”
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-04-2011 13:23:41
ชอบเค้าก้บอกเคาสิไอ้ตี๋ ปากแข็งจริงๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-04-2011 18:32:22
ไอ้ตี๋ปากสุดยอดจริงๆพูดคำด่าคำ  สุดยอด


 :L1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-04-2011 19:32:46
เฟยหลงถ้าชอบไนท์ ก็จีบเลยเซ่ ยึกยักอยู่นั่น กล้าๆหน่อยเพ่
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: zeit ที่ 24-04-2011 21:59:49
อ่านเสร็จอยากไปนั่งเจี๊ยด้วยคนเลย

อ่อออออ ไนท์ หัดไว้ๆ เดี่ยวได้อยู่นี้แบบถาวรจะได้ทานเป็นน๊า

ห้าๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-04-2011 23:31:14
ไม่อยากปล่อยก็บอกมาเด้ๆๆๆ  :laugh:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 24-04-2011 23:39:32
แหมคนไม่เคยกินก็สอนดีๆๆหน่อยดิเล่นด่าไปสอนไปใครมันอยากจะฟัง


หลอกจับมือป่ะเนี่ยแอบเนียนน่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: tatar* ที่ 25-04-2011 00:09:07

    “ถ้ามึงหลง กูคงแย่น่าดู งั้นกูไม่ปล่อยดีกว่า”


อะไรหรอจ๊ะ? ที่แย่น่ะ 55

แอบสั้นนะคนเขียน  o18
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 6 ติ่มซำ [24/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 25-04-2011 22:41:06
ประโยคท้ายเด็ดจริงๆ จะหาเพื่อนเจอไหมนะ รอชมจ้า
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 26-04-2011 20:54:26
ขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์สละเวลามาอ่านนะงับ  ^^
เรื่องนี้ไม่ดราม่าเลย = =  :laugh:

ฮี่ ๆ ผมจะพยายามสู้ต่อไปเย้ ๆ


G E T  L O S T 7 – ในร้านกาแฟ
   “ถ้ามึงหลง กูคงแย่น่าดู งั้นกูไม่ปล่อยดีกว่า” มึงหมายความว่าไงของมึงวะ กูไม่ค่อยเข้าใจเลย =  =
    “หมายความว่าไง”
   “ก็มึงเป็นคนไทยเหมือนแม่กู แม่กูฝากมา กูก็ต้องทำให้ดีที่สุดเดะ” อ๋อ นึกว่าอะไร
   “แต่มึงให้กูเดินเองก็ได้นะ กูมีขามีตามองมึงได้”
   “อย่าเถียงกูได้มะ” โว้ย! คนไรวะ บ้าอำนาจ เดี๋ยวกูถีบเลย (ทำปากดีด้วยนะกู)
   “เออ ไม่เถียงก็ได้วะ” เมื่อยปาก หึ
   และแล้วเราก็มาถึงสถานีที่เรียกว่านาธาน พอผมเดินก้าวพ้นจากสถานีขึ้นมาบนดินก็พบกับตึกสูงมากมาย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งแออัดแหล่งนึงเลยก็ว่าได้ ว่าแต่ที่นี่ไม่เห็นมีวี่แววของสิ่งที่เรียกว่าโรงแรมเลยสักนิดเดียว
   “จะไปโรงแรมไหนก่อน ?”
   “ใครบอกว่าจะไปโรงแรมก่อน ?”
   “เอ้า ไม่งั้นมาทำห่าไรเนี่ย!” นี่ก็บ่ายโมงกว่าแล้วจะมาทำบ้าอะไรถ้าไม่ได้มาตามหาเพื่อนกูเนี่ย
   “มาหาเพื่อนของกู”
   “เห้ย!”
   “ทำไม ?” ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย โอย ทำไมมันเอาแต่ใจอย่างงี้วะ แล้วเมื่อไหร่มึงจะให้กุเอามือออกจากแขนมึงสักทีวะ ?
   “แล้วไม่หาโรงแรมให้กูหรอ ?” ลองทำเสียงอ้อน ๆ ดิ๊เผื่อมันจะหาให้
   “หา แต่ไม่ใช่ตอนนี้” ขอขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ตอนนี้ชีวิตผมคงจบสิ้น! ตายลงเป็นแน่แท้ ทำไมต้องซวยให้มันเป็นคนพามาหาด้วยวะ
   “แล้วตอนนี้จะไปทำอะไร ?”
   “ไปหาเพื่อน” คนอย่างมึงมีเพื่อนกับเค้าด้วยหรอ ? อยากจะพูดจริง ๆ คันปาก ถ้าไม่ติดว่าแขนกูอยู่ในแขนมึงนะ กูพูดแล้ววิ่งหนีไปและ
   “ที่ไหน”
   “ที่นี่” มันว่าแล้วชี้ลงที่พื้น กูเข้าใจและ มึงหมายถึง ที่ถนนนี้ เออขอบใจนะ อยากรู้จริง ๆ ว่ามันโง่หรือมันกวนตีนกูอยู่วะ!
   ไอตี๋พาผมมาที่ร้านแห่งหนึ่งที่ริมถนน ระหว่างทางผมพบเห็นร้านค้าที่มีหน้าตาแตกต่างกันไป ที่สำคัญ เจอคนสวย ๆ น่ารัก ๆ เต็มไปหมด ขาว…สูง วู้ว! สุดยอดจริง ๆ แต่ร้านที่ผมกำลังเหยียบอยู่นี้เป็นร้านขายเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ผมมองไปรอบร้านก็มีทั้ง iPhone iPad มือถืออีกเต็มไปหมด
   “@#*(^&^()^&^%&” มันส่งภาษากับคนที่อยู่หน้าร้านก่อนที่เค้าจะหายไปแล้วเอามือถือเครื่องหนึ่งออกมา (อยากจะบอกว่าตอนนี้ดีใจมากเพราะมันปล่อยมือผมแล้ว!)
   “เอ้า ชอบรึเปล่า ?” มันว่าพร้อมกับส่งมือถือเครื่องนั้นมาให้ผมดู มันก็สวยดีนะแต่คงไม่ใช่รุ่นที่ดีเท่าไหร่ ว่าแต่เอามาทำไมเนี่ย ?
   “ก็ดีนะ เอามาทำไม”
   “&*&(&^&” มันไม่ตอบแต่หันไปส่งภาษากับคนที่(คาดว่าจะ)เป็นเพื่อนมันที่ยักหน้าแล้วเดินเอามือถือเข้าไปในร้านอีกครั้งแล้วกลับออกมาพร้อมกล่อง
   “What’s your name guy ?” เพื่อนของมันหันมาถามผมแล้วยิ้มให้ คนนี้ดูท่าทางเป็นมิตรกว่าไอตี๋เยอะ ผมยิ้มรับแล้วตอบเสียงหล่อ (?)
   “Night,nice to meet you” ผมส่งมือข้างหนึ่งออกไปด้านหน้าก่อนที่เพื่อนมันจะส่งมือกลับมา
   “I’m Wang , nice to meet you too” ชื่อหวังนี่เอง หน้าตาก็ใช้ได้เลยทีเดียวแต่ไว้ผมยาวเลยคอไปพอสมควรเลยทำให้ผมคิดว่าดูรกไปหน่อย (แต่ผมเค้ายาวตรงดำสวยดีนะ)
    “Hey , Long I think he’s such a cute guy , isn’t he ?”
    “No,he isn’t cute, don’t say a thing like that again.”
    “your boyfriend ?” โห คุณหวัง ดูจากสภาพผมเหมือนเกย์นักหรอไงวะ ก็แค่ตาโต หน้าเรียวเหมือนแม่ ใส่แว่นใหญ่เพื่อนความแนว(แต่สายตาสั้นจริง) ตัวเตี้ยกว่าไอตี๋ แต่ผิวกูไม่ขาวว่ะ แค่นี้คิดว่ากูเป็นแฟนมันหรอ ? ไม่มีทางเว้ย คนปากหมาขนาดนี้ไม่อยากได้เลยสักกะนิด
    “No”
    “That means….” คุณหวังว่าพร้อมกับชะโงกหน้ามาใกล้หน้าผมแล้วหอมแก้มผมทีนึง กูไม่อยากจะพูดเลยว่ากูโมโหมันนะเนี่ย!!
    “What are you doing ?!!” ผมโพล่งออกไป แต่มันกลับขำเพียงเล็กน้อย
     “ไปกันเถอะ” ไอตี๋มันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดแล้วจับแขนผมไปไว้ตำแหน่งเดิม แต่จริง ๆ แล้วคนโมโหควรจะเป็นกูนะ ทำห่าไรเนี่ย ผมเอามือขึ้นลูบหน้าด้วยความหงุดหงิด แล้วก็ได้ยินไอตี๋มันส่งภาษาแบบเสียงดังกว่าปกติใส่เพื่อนมันแล้วรีบพาผมเดินออกมาอย่างเร็ว
    “เห้ย ๆๆ! กูเจ็บนะ!” มัน ‘ลาก’ ผมเดินไปตามทางถนนอย่างรวดเร็ว ขามันก็ยาวกว่า แรงก็เยอะกว่า มึงบ้าเปล่าเนี่ย กูเดินไม่ทัน
    “ให้กูอุ้มเลยมั้ย ?”
    “ไม่ต้อง กูเดินเองได้ แต่ช้า ๆ หน่อยดิ!”
    “…” ไม่ตอบ ไม่ลดความเร็ว ไม่อะไรทั้งสิ้น ทำไมมึงน่าเบื่ออย่างงี้วะเนี่ย!!
    “โอย ค่อยยังชั่วหน่อย” ผมนั่งกดที่ข้อขาของตัวเองหลังจากที่มันลากผมจนพอใจมาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ตอนนี้มันเดินไปซื้อกาแฟอยู่ ไม่เคยถามสักคำว่าชอบไม่ชอบแต่จะซื้อกาแฟดำให้ กูล่ะหน่าย ว่าแต่คนบ้าไรวะแรงก็เยอะ เอาแต่ใจ ทำไมมันนิสัยเสียขนาดนั้นทั้ง ๆ ที่บ้านมันก็ดูเป็นคนอารมณ์เย็น ขี้เล่น
    “อ่ะ” มันวางแก้วลงที่ด้านหน้าของผมแล้วนั่งลงจิบกาแฟอยู่ที่อีกฝั่ง
    “แล้วนี่ก็มือถือของมึง”
    “ห๊ะ ?” กูคงไม่ได้หูฝาดไปใช่มั้ยเนี่ย มันบอกมือถือกู กูไปขอจากมันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ มันดันกล่องมือถือมาให้ผมแล้วนั่งไขว่ห้างจิบกาแฟต่อ
    “ควาย ไม่ได้ยินหรอไงว่ามือถือมึง กูกลัวมึงหลงทางเลยซื้อมือถือถูก ๆ ให้ เม็มชื่อกูไว้แล้ว หายก็โทรหากันได้แล้วทีนี้”
    “งี้ก็โทรหาเพื่อนกูได้แล้วดิ ?” ความหวังเริ่มปรากฏ ในที่สุดจะได้พ้นนรกสักที
    “รู้เบอร์รึเปล่าล่ะ ?” เออว่ะ ผมถอนหายใจแล้วมองลอดกระจกออกไปนอกหน้าต่างด้วยความเซ็ง ทำไมกูไม่จำชื่อโรงแรมให้ได้ ทำไมกูไม่ขอเบอร์มันไว้ก่อน ทำไมกูไม่เดินตามมันไปวะตอนนั้น เห้อ!
    “เห็นมั้ยล่ะ กูว่าแล้วว่าลูกหมาอย่างมึงต้องไม่มี”
    “เออ ไม่มี ก็คงต้องหาต่อไป”
    “ไหนดูหน่อยดิ๊” ผมสะดุ้งทันทีที่มันเอื้อมมือมาดึงคางผมให้หันแก้มไปทางสายตาของมัน แก้มข้างนั้นที่เพื่อนมันหอมผมไปนั่นเอง
    “ดูห่าไร!” ผมสะบัดหน้ากลับ แต่มันก็จับกลับไปใหม่
    “หวังแม่งทำห่าไรวะ” มันบ่นเสียงเบา แต่ผมก็ยังได้ยินอยู่ดี ในร้านที่คนน้อยแบบนี้ย่อมได้ยินเป็นธรรมดา มันเอามือที่ค่อนข้างหยาบกร้านของมันลูบที่แก้มผมอย่างแผ่วเบา ทำไมผมไม่ขัดขืน ? ทำไมผมถึง…อยากให้มันทำ…
    จุ๊บ!
    


ทำไมตอนมันหอมแก้มผมซ้ำผมถึงไม่ขัดขืนกันนะ ?


ผมหันหน้าไปมองหน้ามันอย่างสงสัย สงสัยทั้งทำไมมันทำแบบนี้ และสงสัยว่าทำไมผมไม่ขัดขืน
    

ที่สำคัญที่สุดคือ



ผมสงสัย…
















ว่าทำไมสุดท้ายแล้ว





































เราถึงได้จูบกันแบบนี้
 :pig4:







หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 26-04-2011 21:13:41
อ๊ายยยยย หอม แต่มีจูบด้วยเหรอออออออ  :-[
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 26-04-2011 21:22:22
ง่ัะไหงโดนหอมแก้มตั้งสองครั้งแนะ


สงสัยๆๆๆว่าจะโดนเค้าชอบแล้วอ่ะดิ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: zeit ที่ 26-04-2011 21:38:10
บ้างทีไนท์ดูไม่รีบร้อนที่จะหาเจอเพื่อนเลยเนอะ

อีกอย่างพ่อพระเอกเราไวไฟมากกกกก
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 26-04-2011 21:57:39
ไวไฟนะไนท์ ติดไฟง่ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-04-2011 22:20:38
 :m20:อ๊ะ อ๊ะ เผลอแป็บเดียว ไหงให้เค้าจูบซะแล้วล่ะไนท์ ที่แท้ ก็ใจตรงกันอะดิสองคนนี้น่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 26-04-2011 23:18:47
อิชั้นว่า คืนนี้กลับไปนอนบ้านเค้าต่ออีกถเถอะนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: ice-vanilla ที่ 26-04-2011 23:20:22
จูบกันแล้ว จูบกันแล้ว ฮ่าๆๆ

ยังไม่อยากให้ไนท์เจอเพื่อนเลยอ่ะ

ขอให้สองคนนี้สวีทกันนานๆหน่อยนะคะ คุณ campping :กอด1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 7 ในร้านกาแฟ [26/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 27-04-2011 00:15:01
โดนเข่้าจนได้นะ o18.     ดูท่าคุนหลงจะแอนหึงนะอยากรู้ว่าที่พูดกับคุนหวังจะพูดอะไรเน้อออ :m3:  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 30-04-2011 19:48:35
G E T  L O S T 8 – เหตุผล
“ไอสัด!” ผมผลักหน้าไอคนตรงหน้าออกแล้วต่อยหน้ามันไปทีนึง คิดว่าแรงพอสมควรอยู่ แต่ไอคนโดนต่อยมันไม่แสดงอาการเลยว่าเจ็บแม้แต่น้อย
    “มึงจูบกูทำไม!” พอได้สติผมเริ่มตั้งคำถาม แต่ว่า…เมื่อกี้…ไม่หรอก มันทำตอนกูเผลอต่างหากล่ะ
    “ไม่รู้” เป็นคำตอบที่ควายมาก! มึงกล้าตอบแบบนี้กูก็กล้ากระทืบมึงนะเนี่ย นี่มันจูบแรกกูเลยนะ!
    “มึงรู้มั้ย…นี่มันจูบแรกกูเลยนะสัด!”
    “ไม่รู้” บทมันจะเงียบนะ ก็แทบไม่ปริปากพูดอะไรออกมาเลย เป็นคนที่เข้าใจยากจริง ๆ
    “งั้นก็ไปล่ะ ขอบใจสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา ต่อจากนี้กูหาเองได้!!” ผมลุกขึ้นจากโต๊ะอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกไปจากร้านด้วยความโมโห ไม่ แม้แต่จะหันไปมองมันด้วยซ้ำ และคิดว่ามันคงไม่ตามมาเหมือนกันเพราะผมไม่ได้ยินเสียงฝีเท้ามันเลยแม้แต่น้อย
    ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมเดินมาไกลเท่าไหร่แล้ว ด้วยโทสะทั้งหมดที่มีมันทำให้ผมยั้งตัวไม่ทันและก็ลืมคิดไปด้วย ว่ากระเป๋าผมไม่ได้อยู่ที่ตัวผมแล้วตอนนี้ จะมีก็แค่ไอมือถือบ้านี่กับเงินติดตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมหยุดลงตรงหน้าร้านเบอร์เกอร์คิงส์แล้วเดินเข้าชั้นใต้ดินไปนั่งอยู่ที่โต๊ะโดยที่ไม่ได้ซื้ออะไรเลย
    ตามความจริง ผมหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เลย ทำไมผมถึงโกรธมันขนาดนั้น จริงอยู่ที่มันเป็นจูบแรกของผม แต่มันก็คงจะไม่เสียหายถ้าหากผมไม่ได้คิดอะไรกับมัน ก็เป็นผู้ชายด้วยกันนี่… แต่… ผมใจเต้นแรงมาก มันเป็นเพราะความตื่นเต้นที่เป็นจูบแรก หรือที่ได้จูบผู้ชาย หรือ.. เป็นเพราะคนจูบเป็นมัน! ผมยังคงหาเหตุผลไม่ได้ แต่กับไอคนปากหมาอย่างงั้นผมคงไมได้ไปชอบมันเข้าหรอก มันต้องเป็นเพราะจูบแรกแน่ ๆ!
    ผมนั่งให้ความคิดของผมมันล่องลอยไปเรื่อย ๆ พอยกนาฬิกาขึ้นมาดูอีกที หนึ่งทุ่ม! ประเด็น : กูจะนอนไหน ? หิวก็หิวนะครับ นั่งที่นี่มากี่ชั่วโมงแล้วก็ไม่รู้ จะซื้ออะไรกินก็ไม่กล้าเพราะมันแพง ว่าแล้วก็ออกจากร้านดีกว่า เผื่อจะมีร้านอะไรให้กินที่มันถูกกว่านี้
    ในสถานที่ที่ไม่ใช่บ้านเกิดตัวเองแบบนี้ การเดินไปไหนมาไหนก็คล้ายกับลูกหมาหลงทาง (อย่างที่ไอหน้าตี๋มันว่า) จริง ๆ ตัวหนังสือก็อ่านไม่ออก แถมของยังราคาแพงอีกด้วย ตอนนี้เงินในตัวผมเหลือแค่ห้าร้อยเหรียญคิดเป็นเงินไทยก็สองพันบาท จริง ๆ จะกินอะไรมันก็ได้ทั้งนั้นแต่เพื่อเป็นการประหยัดไม่ให้ตายก่อนกลับไทยเราก็ต้องทำแบบนี้ไปก่อน จะว่าไป.. พรุ่งนี้ก็หมดเดย์ทริปของพวกผมแล้ว แล้วพวกมันก็ต้องกลับบ้าน จริงด้วย! งั้นก็น่าจะไปรอที่สนามบินได้เหมือนกัน !ยังไงพาสปอร์ดกับตั๋วเครื่องบินก็อยู่ที่เรา จริงสิ ! ทำไมเราไม่คิดให้ได้ตั้งแต่แรกนะ จะได้ไม่ต้องไปพึ่งไอตี๋บ้านั่น แต่จะว่าไปแล้ว … ตอนนี้กูอยู่ไหนเนี่ย ?
    “^&^*%^%$&%$&” ใครเรียกกูวะ เสียงไม่คุ้น ในที่ที่มืดอย่างนี้ ถ้าเป็นสาวน้อยคงกลัวไปแล้ว แต่สำหรับผมมันก็แค่เรื่องธรรมดา สิ่งที่น่ากลัวกว่าความมืดคือคนต่างหาก เจ้าของเสียงเริ่มปรากฏตัวให้ผมเห็น เป็นชายผิวขาว สูง หน้าตาเถื่อน ๆ ตัวใหญ่ กำลังแบมือมาทางผม ถึงกูจะไม่รู้ว่ามึงพูดอะไร แต่กูรู้นะ ว่ามึงหมายถึงอะไร
    “Sorry I don’t have any money in my bag” มันทำหน้างงครับ เออกูลืมไป ถ้าคนมาเป็นโจรอย่างมึงฟังออกคงไม่ต้องมาเป็นโจรแล้วล่ะ =  =
    “&^^*%^&$%(&(^&^^%%$” แต่กูฟังมึงไม่ออกเนี่ย กูไมได้โง่นะ =  =’’ ตอนนี้มันเริ่มขึ้นเสียงแล้วครับ มันตรงมาหาผมแล้วกระชากคอเสื้อผมขึ้น
    Help me! ตลก! ผมไม่พูดหรอก มึงรู้มั้ยเนี่ยว่าเวลากูโมโหอยู่แล้วกูเป็นยังไง ! ตอนนี้มันยกตัวผมลอยแล้วครับ ผมจ้องหน้ามันอย่างเอาเรื่อง คราวนี้มันเลยยิ่งโมโหใหญ่
    “&T%^*%^&%” ถ้าจะให้กูพูดอีกก็คือ กูฟังมึงไม่ออก แต่กูคงไม่พูด อย่างพวกมึงคงต้องใช้กำลังถึงจะคุยกันรู้เรื่องเว้ย!
    ไอตัวใหญ่ข้างหน้าผมมันเหวี่ยงหมัดใส่ผมอย่างแรง ทำเอาผมกระเด็นไปจากมือมันก่อนที่ผมจะลุกขึ้นมาแล้วตรงหน้าเข้าไปหมัดตรงใส่มันอย่างแรง
    แทนที่มันจะกระเด็น แต่มันก็แค่หน้าหัน ! ท่าทางไอหมอนี่จะแข็งแรงจริง ๆ แต่ในฐานะที่กูเรียนมวยไทยมาสามปี กูว่ากูน่าจะล้มมึงได้นะไอยักษ์ (เรียนตอน ป.2 อ่ะนะ)
    ตอนนี้มันโมโหใหญ่แล้วครับ มันเดินตรงหน้ามาหาผมก่อนเหวี่ยงหมัดใส่อย่างแรง ผมก้มตัวหลบอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งตัวขึ้นเสียคางมันไปหนึ่งหมัด จากนั้นถอยตัวออกมาอย่างเร็วแล้วจระเข้ฟาดหางไปหนึ่งที คราวนี้มันกระเด็นไปอีกด้านหนึ่งแต่ไม่ไกลมากนัก
    “&(^*%&)*()*)(&!!!” มันคงด่าอะไรผมสักอย่าง แต่ผมทำท่าไม่รู้ไม่ชี้แล้วชูนิ้วกลางให้มัน หึหึ โมโหเลยดิยิ่งดี คนเราเวลาโมโหจะค่อนข้างขาดสติทำให้โจมตีไม่ถูกเป้าหมายนะ
    ไอยักษ์มันถลาตัวเข้าหาผมที่หลบมันด้วยความที่ตัวเล็กกว่า มันน่ะไม่เร็วเท่าไหร่หรอกแต่อย่าโดนหมัดมันเป็นพอ… เมื่อกี้หมัดแรกนี่ปากแตกเลย มันเอามือมหึมาของมันเอื้อมมาจับแขนผมไว้ข้างหนึ่ง ชิบหาย! สลัดไม่หลุดด้วยก่อนที่มันจะดึงตัวผมไปทางมันแล้วเสยคางผมอย่างแรง!
    คราวนี้ผมกระเด็นจริง ๆ ครับ แรงที่เกิดจากความโมโห(ไอหน้าตี๋)ที่มันทำให้ผมบ้าเมื่อกี้มันเริ่มหดหายไป อดรีนาลินเริ่มไม่สูบฉีดแล้วกู ผมรู้สึกได้ว่าตอนนี้ผมกำลังกองอยู่กับพื้น ตอนนี้ไอคนตรงหน้ามันกำลังนั่งลงล้วงกระเป๋ากางเกงผม แต่! กูไม่ให้เว้ย!!
    ผมยันตัวขึ้นจากพื้นเล็กน้อยแล้วฟาดหมัดที่คิดว่าแรงที่สุดในชีวิตใส่หน้ามัน มันกระเด็นออกไปเล็กน้อย คราวนี้มันสบถด้วยความโมโหอีกแล้ว ทำไมไอบ้านี่มันอึดนักวะ! ต่อยเท่าไหร่ ๆ ก็ไม่ล้ม ไม่เหมือนกูเลยโดนสองหมัดของมึงหมอบกระแตเลยเนี่ย
    มันคงโมโหจัดเลยเดินมากระทืบที่ท้องผมซ้ำไปทีนึง คราวนี้มันจุก… หายใจไม่ออก ไอออกมาก็ไม่ได้ ทรมาน เหมือนกูจะตายอยู่ตรงนี้เลยว่ะไอแซนด์ไอเช่ ไอบ้านั่นมันล้วงเอากระเป๋าตังค์ผมไปแล้ว มันกำลังสำรวจกระเป๋ากางเกงอีกข้างของผม แต่คงโชคดีมั้งที่มือถือผมมันตกไปตั้งแต่แรกแล้ว (ผมได้ยินอยู่ แต่เก็บไม่ทัน) มันบ่นอะไรของมันไม่รู้แล้วหายตัวไปพร้อมกับกระเป๋าตังค์ของผม
    ผมไม่รู้หรอกว่าสภาพผมเป็นยังไง รู้แต่ว่าแว่นผมมันตกหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แค่แรงจะยกมือขึ้นยังไม่มีเลย อา… แต่ตอนนี้ไอได้แล้ว ผมไอออกมาเล็กน้อย นั่นเป็นสัญญาณชีพรึเปล่านะ ? ไม่เคยโดนใครต่อยขนาดนี้ หมัดมันหนักมาก ตอนนี้เริ่มคิดแล้วสิว่าการตายเป็นแบบนี้รึเปล่า เปลือกตาของผมมันแคบลงเรื่อย ๆ ตอนนี้รู้ได้แค่ว่าตัวเองกำลังพิงกำแพงอะไรสักอย่างอยู่ อีกด้านก็เป็นกำแพงตึก แต่ไม่รู้นี่มันที่ไหนวะ ?
    “ไนท์!!!!” เสียง…เสียงใคร ผมพยายามจะหันหน้าไปทางต้นเสียงแล้ว แต่คอผมมันไม่มีแรง ตาผมก็มองไม่เห็น แว่นก็ไม่มี ชีวิตกูคงจบสิ้นแล้วไอเพื่อนทั้งสอง พ่อ … แม่ พี่…  เสียงนั้นยังคงพร่ำเรียกชื่อผม ผมรู้สึกเหมือนมันมาเขย่าตัวผมเบา ๆ แล้วก็เริ่มแรงขึ้นเรื่อย ๆ




แล้วตอนนี้






สติผมก็…






















ไม่เหลืออีกแล้ว



อิอิ ขอบคุณทุกกำลังใจนะงับ ^ ^
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 30-04-2011 20:23:46
สนุกดีค่ะ
ได้อ่านก่อนไปเที่ยว
แอบหน้ากลัวมาเฟียนิดๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 30-04-2011 21:27:06
ง่ะซะงั้นอ่ะ


โดนซัดซะหมอบเลย


รออ่านตอนต่อไปค้าบบบ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: zeit ที่ 01-05-2011 01:24:43
เพื่อนๆๆ หายไหนกันหมดน้ะ

มาตามไนท์สิ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 01-05-2011 06:23:45
เค้าตามมาช่วยแล้ววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 8 เหตุผล [30/4/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: ice-vanilla ที่ 01-05-2011 22:44:13
ไนท์โกรธพระเอกเราทำไมอ่ะ  :o12:

นึกว่าจะคล้อย...

คุณ campping ใจร้ายมาก หวานกันยังไม่ทันไรเลย :serius2:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 02-05-2011 11:45:16
ง่ะ ใครว่าผมใจร้ายนะ ...
ไม่จริงหรอกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่เชื่อดูสิ  :laugh:


G E T  L O S T 9 – เมื่อลืมตา
    “^%$&$%$%*^”
    “^&*&”
    “*^&%^%()*)(_(**(&%$%” บทสนทนาสามบรรทัดนี้ ผมเองก็ฟังไม่รู้เรื่องครับ รู้แต่ว่าเป็นเสียงของคนสองคนคุยกัน เป็นชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง ผมลืมตาขึ้นทีละน้อยเพื่อจะได้ดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม หรือว่า นี่ผมตายแล้ว ? แต่ถ้าตายแล้ว แล้วทำไมยมบาลพูดภาษาจีนวะ !
    “คะ…ใคร” มันจะพูดยังพูดลำบากเลยครับ ผมดันตัวขึ้นจากเตียงเท่าที่แรงของผมมันจะเอื้ออำนวยให้ แต่แล้วแขนของคนคนนึงก็ช่วยพยุงผมให้ขึ้นมานั่งได้ง่ายขึ้น ผมเอนหลังพิงกับหัวเตียงหนีตาทีนึงก่อนจะลืมตาขึ้นมาดู
    “ที่นี่ที่ไหน” ผมพึมพำกับตัวเอง มองไปรอบ ๆ แล้วนี่ไม่คุ้นเลย หรือว่าเราจะอยู่ไทยแล้ว ?
    “โรงพยาบาล” เสียงของคนคนนึงดังขึ้นตอบผม ผมหันไปหาต้นเสียง ไอเสียงแบบนี้ หน้าตี๋ ๆ แบบนี้ เฟยหลง!
    “เฟยหลง!” มันพยักหน้าให้ผม สีหน้ามันดูไม่ค่อยดีเลย เป็นอะไรไป ?
    “เป็นไร ทำหน้าทำตาไม่สดชื่นเลย”
    “………” นั่นคือคำตอบครับ คำตอบของมันคือเงียบ
    “เดี๋ยวนะ…กู…เอ้ย! ผมมาอยู่ที่นี่ได้ไง” ผมเปลี่ยนสรรพนามทันทีที่เหลือตาไปเห็นทุกคนในบ้านมันกำลังยืนมองมาที่ผมอย่างเป็นห่วง ตอนนี้น้ำตาผมแทบจะไหลเลยล่ะครับกับความดีที่พวกเขาทั้งบ้านทำให้ผม ทั้ง ๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมอาจจะเป็นโจรด้วยซ้ำ เค้ากลับเชื่อใจผม
    “เฟยหลงไปเจอไนท์เข้าที่ซอยร้างน่ะ”ต้าฟงตอบขึ้นมา ถึงผมจะมองหน้าไม่ชัดเพราะไม่ได้ใส่แว่น แต่ผมก็จำเสียงได้เป็นอย่างดี
    “แล้ว..ไปเจอได้ยังไงหรอ..ครับ ?”
    “มือถือไง” มือถือ ?
    “มือถือ ? ผมไม่ได้ใช้โทรเลยนะครับ” ผมตอบทุกคนออกไป
    “เฟยหลงใช้ระบบ GPS ระบุตำแหน่งไนท์ไว้น่ะ เค้ากลัวหายไปน่ะสิ” อ่อ… เพราะแม่ฝากฝังไว้สินะ
    “ไนท์ ทำไม.. ถึงไปกองอยู่กับพื้นขนาดนั้นล่ะ ?” พี่หลิงหลิงเอ่ยถามผมด้วยความเป็นห่วง
    “ก็… มันมีนักเลงที่ไหนไม่รู้เข้ามาจะปล้นผมแล้วพอดีตอนนั้นกำลังหงุดหงิดอยู่เลยสู้มันเข้าน่ะครับ สู้ไปสู้มา… มันก็เอากระเป๋าตังค์ผมไปได้ แต่พาสปอร์ดไม่น่าโดนขโมยไปครับเพราะว่าเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง”
    “พวกนักเลงนั่นเอง แล้วทำไมไม่โทรเรียกเฟยหลงหรือร้องให้คนอื่นช่วยล่ะ ?”
    “ผมกำลังโมโห…อยู่น่ะครับ”
    “โมโห ?”
    “ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องเล็กน้อยไร้สาระเท่านั้นเอง ก็ด้วยแรงโมโหเลยทำให้ไม่ทันได้คิดอะไรเท่าไหร่น่ะครับ”
    “วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ ไม่ว่าจะเป็นที่ไทยหรือฮ่องกง หรือที่ไหนก็ตาม มันอันตรายนะ” พี่หลินหลินว่าพร้อมกับลูบหัวผมเบา ๆ เหมือนกำลังโอ๋เด็ก
    “ครับ ผมจะระวังตัวให้มากขึ้น”
    “อ๊ะ! เดี๋ยวพี่ไปก่อนแล้ว วันนี้ตอนสิบโมงเช้าพี่มีบิน”
    “อ่ะ…ครับ ๆ” พี่หลินหลินบอกลาผมแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ต่อจากนั้นพ่อแม่ของไอตี๋ก็ขอตัวไปทำธุระกันก่อนเหลือแค่สามพี่น้องกับผมเท่านั้น
    “นี่ไนท์นอนหลับไปกี่วัน” ผมเอ่ยถามพลางกวาดตามองทั้งสามคน
    “สองวัน” ต้าฟงเป็นคนตอบผม สองวัน…งั้นหมายความว่าหมดเดย์ทริปไปแล้วสิ!
    “สองวัน!! ตอนแรกไนท์ว่าจะไปรอเพื่อนที่สนามบินแล้วกลับพร้อมกัน แต่มันเลยวันมาแล้วอ่ะ ทำไงดี ?” ชิบหายแล้ว ความหวังที่จะได้เจอเพื่อนแล้วกลับพร้อมเพื่อนมันมลายสิ้นไปในทันที กระเป๋าตังค์ก็โดนขโมย ช่างซวยซ้ำซวยซ้อนอะไรอย่างงี้ เห้อ..
    “พี่เฟยหลงเดี๋ยวผมไปทำงานและฝากดูไนท์ด้วยนะ” ต้าฟงบอกไอหน้าตี๋อย่างรีบ ๆ แล้วเดินออกไปจากห้องอีกคน หลังจากนั้นเจ้าน้องเล็กก็ขอตัวไปหาเพื่อนอีกเลยเหลือแค่ผมกับไอหน้าตี๋แค่สองคนเท่านั้น
    “เป็นแค่ลูกหมายังจะทำซ่าอีก” นี่มึงคิดจะซ้ำเติมกูใช่มะ ? ใช่สิ! กูมันคนทำมึงซวยนี่ ทำมึงต้องลำบาก
    “มึงน่าจะปล่อยให้กูตายไปเลยนะ”
    “ไร้มนุษยธรรมเกินไป”
    “หึ!” อย่างมึงน่ะมีมนุษยธรรมที่ไหน ที่จริงก็แค่แม่มึงฝากดูกูเฉย ๆ ใช่มั้ยล่ะ
    “เห้ย เจ็บ!!” อยู่ดีดีมันก็เอามือมาจับที่แก้มผมข้างที่โดนต่อยครับ แค่มันแตะนิดเดียวผมก็ร้องจ้ากแล้ว ก็มันเจ็บนี่หว่า เจ็บชะมัด
    “ทำซ่า” เสียงมันแผ่วลงกว่าทุกครั้งที่ผมเคยได้ยินมา น่าแปลกจริงเวลาฟังเสียงไอหมอนี่แผ่ว ๆ แล้วก็ดูดีเหมือนกันแฮะ
    “เสือก!” ผมว่าแล้วเบนหน้าหนี เห้อ ถ้าจะด่ากูก็ออกไปดีกว่ามั้งเนี่ย
    “แล้วจะเอาไงต่อ ?”
    “กลับไทยเลยก็ได้มั้ง…คงต้องขอยืมเงินจากบ้านของมึงก่อนแหละ” ก็เงินพึ่งโดนขโมยไป คงไม่มีปัญญาไปหามาจากที่ไหนหรอก
    “ไม่อยากเที่ยวฮ่องกงก่อนหรอ ?”
    “เจอไปขนาดนั้น ไม่อยากเที่ยวแล้วล่ะ”
    “นั่นเพราะมึงไม่มีกู”
    “ห๊ะ!?” มันหมายความว่ายังไงฟระ!
    “ไอควาย เพราะมึงเซ่อไงเลยโดนขนาดนี้” ตอนแรกกูคงหูฝาดไปมั้ง ตอนนี้เนี่ยแหละใช่มึงเลย ปากแบบเนี้ย!
    “เออ! กูมันเซ่อ อย่ามายุ่งกับกูเลย”
    “แล้วตกลงจะกลับบ้านเลยหรอ ?” มึงจะถามกูซ้ำ ๆ ทำไมวะ!
    “แหงอยู่แล้ว คิดถึงที่บ้านจะแย่อยู่แล้วด้วย ป่านนี้เพื่อนกูห่วงแย่แล้ว”
    “ไม่ห่วงหรอก”
    “ห๊ะ ?” ทำไมมันพูดแมว ๆ งี้ฟระ เพื่อนกูคนดีเว้ยไม่เหมือนมึงหรอก
    “โทรศัพท์มึงที่เอามาจากไทย เปิดต่างประเทศไว้ใช่มั้ยล่ะ ? ตอนแรกมันโทรหากันไม่ได้หรือไม่เพื่อนมึงก็ไม่ได้เอามา แต่เมื่อวานนี้เพื่อนมึงถึงไทยแล้วเลยโทรหา กูก็ให้แม่กูคุยว่ามึงอยู่กับพวกกูเรียบร้อยแล้ว แม่กูบอกไปแล้วด้วยว่าอีกไม่เกินอาทิตย์มึงถึงจะกลับ”
    “แล้วเพื่อนกูไม่มีคนบอกว่าจะบินกลับมาเลยหรอ ?” แน่ล่ะผมหมายถึงไอเช่ครับ เพราะไอนี่มันห่วงเพื่อนสุด ๆ ไปเลย
    “มี แต่แม่กูบอกไม่ต้อง เพราะที่นี่ไว้ใจได้ ก็เล่นแจ้งชื่อ ถ่ายเอกสารทุกอย่างที่ระบุได้ส่งไปให้เพื่อนมึงดู เค้าคงเชื่ออยู่แล้วล่ะ”
    “อืม…” ไม่รู้จะตอบว่าอะไรต่อดี เห้อ… ถ้ากลับเลยก็ดีเหมือนกัน จะได้ไปประเทศตัวเองสักที!
    “ไม่อยากอยู่เที่ยวต่ออีกหน่อยหรอ ?” มันเป็นอะไรวะวันนี้ อยากให้กูอยู่จังฮ่องกงเนี่ย
    “มีอะไรล่ะ ?” ถามแบบนี้แสดงว่ามีเงื่อนงำ ถามซะหลายรอบเลย
































    “อยากรู้รึเปล่าล่ะว่าทำไมกูถึงจูบมึงวันนั้น”



หึหึหึหึหึหึ
ผมใจดีใช่ป่ะล่าาา ? :laugh:

ขอบคุณที่สละเวลาเข้ามาอ่านงับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 02-05-2011 11:58:26
 :sad4: :a5:นั่นแน่มีซัมติ้งใช่มะละ  o18.     :L2:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 02-05-2011 12:58:34
อยากให้เค้าอยู่เที่ยวอะดิ  แกล้งเล่นตัวดีป่ะ  o18
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 02-05-2011 14:20:15
จับทำเมียแล้วขังไว้นี้หละไม่ต้องให้กลับหรอก อิอิ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 02-05-2011 14:32:41
แอบรำคาญเฟยหลง
นี่ชอบหรือว่ากวนส้นตรีนเฉยๆ เนี่ย
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 02-05-2011 14:49:41
เฟยหลง ชอบเค้าก็บอกเค้าไปดิ
เล่นตัวอยู่นั่น

 :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 02-05-2011 19:05:21
ค้างเลยแบบนี้แหมแล้วทำไปเพราะอะไรละเนี่ย
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 02-05-2011 19:39:13
ใจดีมากกกกกกกกกกก  :z3:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 02-05-2011 20:10:13
เฟยหลงชอบเขาเข้าแล้วซี ทำเหมือนยังไม่อยากให้เขากลับไทยน่ะ
แต่สงสัยฟอร์มเยอะ ไม่ยอมพูด ไม่ยอมแสดงออกตรงๆ ชิส์
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: ice-vanilla ที่ 02-05-2011 20:13:18
ไนท์อย่าเพิ่งกลับไทยเลย

อยู่รักกับเฟยหลงก่อน ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-05-2011 20:16:12
อยากรู้ว่าทำไมเฟยหลงถึงจูบ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 9 เมื่อลืมตา [2/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: Papoonn ที่ 02-05-2011 20:44:29
อยากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  !
หมายถึงเค้าอ้ะ  เค้าอยากรู้  ><     
มาต่อเร็วเน้อ  +1 ให้เฟยหลง  อิอิ 
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 03-05-2011 10:32:01
กระซิก ๆ :o12: มีคนหมั่นไส้เฟยหลง ม่ายยยยยยยย

งั้นคงต้องรำคาญพระเอกเราไปอีกสักสองสามตอนนะคับ  :laugh:


G E T  L O S T 10 – กระเช้า 360 องศา
    “โห วิวที่นี่สวยดีว่ะ!” ผมมองลงไปที่พื้นกระจกแก้ว เห็นวิวด้านล่างแบบ 360 องศา มันเป็นวิวที่ลืมได้ยากจริง ๆ ครับ เหมือนเราอยู่บนเครื่องบินแก้วที่ใสแจ๋วจนมองเห็นได้ทุกส่วนของเกาะฮ่องกง
    “นั่งลงได้ป่ะวะ เดี๋ยวแม่งตก”
    “มึงกลัวอ่ะดิ!”
    “ใครกลัว ?”
    “มึงไง” ผมว่าแล้วขำออกมาเล็กน้อย ที่ความสูงจากพื้นดินระดับนี้คนจะกลัวมันก็ไม่แปลกหรอกครับ แต่พอดีผมชอบ ตอนนี้พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปไหว้พระกันครับ เรียกว่าอะไรหรอ ? ช่างมันเหอะผมจำไม่ได้ จำได้แต่ว่าเป็นกระเช้า 360 องศา (มันชื่อนี้จริง ๆแต่เป็นชื่อจีน) เมื่อเช้าไอ้ตี๋มันปลุกผมเช้ามากครับมันบอกเดี๋ยวคนเยอะ มาถึงก็หกโมงเช้า แต่ก็คุ้มค่าล่ะครับ มันสวยจริง ๆ และแน่นอน สภาพผมตอนนี้ทั้งฟกช้ำ มีผ้าปิดแผลเพียบ ก็พึ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานมันก็ลากมาแล้วครับ
    “แล้ววันนี้เดี๋ยวไปไหนต่อรึเปล่า ?” ผมหันไปถามไอ้ตี๋ที่นั่งนิ่งมองทางข้างหน้าอยู่ ผมก็รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ได้กลัวหรอก แต่มันคงเบื่อการนั่งรอคอยมั้ง
    “มึงจะไปไหนล่ะ ?”
    “ดิสนี่แลนด์!!” อย่าหาว่าผมปัญญาอ่อนนะครับ มาฮ่องกงใครไม่อยากไปดิสนี่บ้าง ?
    “เออ ก็คิดไว้เหมือนกัน”
    “แล้วที่ไหนอีก ๆ”
    “เดินดิสนี่แลนด์ก็หมดเวลาแล้ว มึงนี่ควายจริงไอลูกหมา” กูอยากจะอัดเทปให้มึงฟังจริง ๆ ว่า ‘กูไม่ใช่คนฮ่องกง!!’
    “เออ!” จากการที่เราตกลงกัน ผมจะกลับไทยภายในวันพรุ่งนี้ครับ ถือเป็รการอนุโลมที่สุดแล้วสำหรับคนหลงทางอย่างผม ทั้งเกรงใจมันแล้วก็คิดถึงที่บ้านกับเพื่อน ๆ มากเลยด้วย
    “ถึงแล้วโว้ย ๆ!” ผมตะโกนอย่างดีใจทันทีที่เห็นกระเช้าเลื่อนเข้าเทียบท่า พอลงกระเช้าเสร็จไอ้ตี๋มันรีบเดินนำหน้าผมออกไปอย่างเร็ว มึงยังต้องกลัวเสียเวลาหรอวะ นี่พึ่ง 8 โมงกว่า =  =
    “กูนึกออกแล้ว” นึกอะไรของมึงออกวะ อยู่ดีดีก็พูดมา กูอ่านใจมึงไม่ได้นะ ผมเลิกคิ้วให้มันข้างนึงเป็นคำถามว่า นึกอะไรออก(วะ?)
    “มีอีกที่นึง หลังจากดิสนี่แลนด์แล้วจะพาไปเป็นที่สุดท้าย”
    “คือ ?”
    “เดี๋ยวก็รู้เองแหละ ตามมานี่เดี๋ยวมึงก็หลงอีก!” ทำเสียงหงุดหงิดอีกและ ทำไมมันช่างเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เผด็จการแบบนี้วะ มันดึงแขนผมไปข้างนึงให้เดินตามมันแต่..
    “โอ้ย!” ไอเชี้ย ดึงให้มันเบา ๆ หน่อยไม่ได้เรอะไงฟระ นี่คนป่วยนะ!
    “เป็นไรลูกหมา” มันถามเสียงค่อยแล้วปล่อยมือผมก่อนจะหันมาดูที่แขนผม
    “กูเพิ่งออกจากโรงพยาบาลนะ มึงเบา ๆ ไม่เป็นหรอวะ แรงก็เยอะ โอย…” ผมคลำจุดที่ช้ำป้อย ๆ ปวดจากแผลไม่เท่าไหร่ แต่ปวดจากที่มึงดึงเนี่ย เยอะ!
    “เออ งั้นเอางี้” ไอ้ตี๋เอามือมันมาจับที่มือผมเบา ๆ ไอ้เชี้ย ทำไรวะ!
    “ทำไรวะ!”
    “จูงหมา” ขอบใจ! ไม่ใช่คำตอบที่กูอยากได้เลยแม้แต่น้อยว่ะ
    “เชี้ย ปล่อยเลย ๆ กูเดินเองได้” ผมทำท่าจะสะบัดมือจากมันแต่มันหันกลับมามองด้วยตาลีบ ๆ ของมันอย่างอารมณ์เสีย นี่กูผิด ?
    “กูขี้เกียจหามึงอีก” มันไม่ฟังคำผมต่อแต่จูง(ลาก)ผมไปตามตัวมันเลย เห้อ! ผู้หญิงคนไหนได้มึงเป็นแฟนคงต้องทำใจยาวเลยว่ะ
    “แล้วนี่จะเดินไปไหนอ่ะ ทำไมไม่แวะข้างทางดูมั่ง ๆ” ผมกระตุกมือมันเบา ๆ แต่มันไม่สนใจยังคงลากผมต่อไปข้างหน้าแล้วหยุดลงตรงบันไดสูงประมาณสองร้อยขั้นที่บ้านบนมีพระพุทธรูปประทับอยู่
    “จะขึ้นไปไหว้รึเปล่า ไหวเปล่าไอลูกหมาซมซาน” หยามกูมากอ่ะ!
    “ไหวเดะ ไปเดี๋ยวนี้เลยอย่าให้เสีย!” ผมว่าแล้วลากมันบ้างแต่มันกลับหยุดนิ่งจนผมต้องหันไปมอง
    “อะไรเสีย ?” ห๊ะ ? แล้วอะไรวะเสีย ? อ๋อสงสัยมันงงคำว่าอย่าให้เสีย
    “มันเป็นคำของไทย นี่มึงไม่รู้คำวัยรุ่น ๆ เลยหรอวะ ?”
    “ลึก ๆ กูก็ไม่รู้เว้ย!”
    “เออ ๆ ช่างเหอะ ไปเหอะเสียเวลา” ผมว่าแล้วออกเดินนำมันอ้อมเคาน์เตอร์ขายของที่ระลึกไปที่บันไดอย่างรวดเร็ว
    “เรามาแข่งกันดีกว่าไอ้ปากหมา”
    “ใครปากหมา ?” กูดีใจมากที่เห็นมึงทำหน้าหงุดหงิดได้ ฮ่า ๆ
    “มึงไง”
    “ไอ้ลูกหมา!!” มันทำท่าจะต่อยผมแต่ผมดีดตัวขึ้นบันไดไปก่อนมันสี่ขั้นแล้วหันกลับมามองหน้ามัน
    “แน่จริงก็ตามให้ทันเดะ ไอ้ ปาก หมา!” ผมว่าแล้วแลบลิ้นปลิ้นตาให้มันก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว ไอ้หน้าตี๋มันก็วิ่งตามผมมาติด ๆ แต่น่าเสียดายที่กูวิ่งเร็วกว่าว่ะ ฮ่า ๆ
    “โห ลุงระวังเหนื่อยตายนะ” ผมหันไปหามันที่กำลังเดินหอบเล็กน้อย ตอนนี้พวกเราได้ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
    “ฝากไว้ก่อนนะ … นี่เห็นว่าเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ไม่อยากทำร้ายสัตว์” ขอบใจนะ! ฮ่า ๆ แต่จริง ๆ ผมก็ดูออกครับ มันก็ไมได้เหนื่อยมาก เหมือนผมนั่นล่ะ
    “เอ้า ขอพรจากพระซะแล้วจะได้นั่งกระเช้ากลับ”
    “อย่าบอกนะว่ามาแค่นี้ ?”
    “ก็ถ้ามึงจะแวะร้านในเมืองจำลองกูก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอพรได้แล้วมึงอ่ะ”
    “เดี๋ยว ๆ”
    “อะไร ?” มันหันมาหาผมอย่างหงุดหงิด
    “พระท่านฟังภาษาไทยออกหรอ ?”
    “ไอสัด!”
    “ด่ากูทำไม กูถามจริงนะเนี่ย!!” ผมตะคอกใส่มัน มันส่ายหน้าให้ผมอย่างเอือมก่อนจะตอบ
    “เค้าว่ากันว่าภาษาที่เราใช้กันอยู่บนโลกนี้เป็นภาษาสมมติ ถ้าเป็นเทพหรือพนะพุทธเจ้าล่ะก็จะฟังออกทุกภาษา มึงนี่ไม่มีความรู้เอาซะเลยนะ”
    “ไอเชี้ย ถ้ารู้แล้วจะถามมั้ย ?” พอจบสงครามน้ำลายขนาดย่อมแล้วผมก็เริ่มขอพรตามที่ใจผมคิดไว้
    “มึงขอบ้าน ที่ดิน อยู่หรอไงวะ ?” ไอ้ตี๋มันถามผมหลังจากที่มันขอพรเสร็จเรียบร้อยแล้ว แม่งไม่รู้หรอเนี่ยว่ารังแกคนกำลังสวดมนต์มันบาปนะเฟ้ย
    “เปล่าเว้ย!” ผมตอบมันหลังจากที่สวดมนต์พอพรเสร็จ
    “มึงขออะไร ?” ไอ้ตี๋ถามผมตอนที่พวกเราเริ่มออกตัวจะเดินลงจากบันได มือมันนี่ก็ติดกาวจริง ๆ แค่ลงบันไดกูคงไม่หลงหรอกเว้ย!
    “ไม่ใช่เรื่องของมึง” ผมตอบเสียงหลงแล้วหันหน้าไปหามัน
    “แล้วมึงล่ะ ขอไร ?”
    “ก็ไม่ใช่เรื่องของมึงไอ้ลูกหมาหลงทาง!” ผมทำท่าล้อเลียนท่าทางของมันเล็กน้อยทำเอามันโมโหขึ้นมานิดหน่อย


หึหึ ถ้าถามว่ากูขออะไรน่ะหรอ




หลายอย่างเลยล่ะไอ้ตี๋





แต่อย่างนึงคือ..























กูอยากให้มึงปากไม่หมากับกูบ้าง!

 :pig4: ค้าบ ฝากด้วยเน้อ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นทุกเม้นนะงับ ^ ^

ปล ผมใจดี เห็นมั้ยยย ????




หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-05-2011 11:12:01
เฟยหลงอ่ะ พูดจาให้มันดี ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง

 :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-05-2011 11:48:20
ผัวก็หมา เมียก็หมา อิิอิ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 10 กระเช้า 360 องศา [3/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-05-2011 12:20:58
ในวันเที่ยวส่งท้ายนี้เชื่อว่า ทั้งสองคนต่างก็คงทำใจตัวเองหล่นใส่ใจซึ่งกันและกันไปแล้วม้างงง
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 08-05-2011 23:25:49
เย้ มาลงฉลองวันเกิดตัวเอง  :mc4:


และก็


จะบอกว่า
ใกล้
ถึง
จุด
คลายแม็กซ์ ซะที ขอบคุณทุกท่านคับบบ



G E T  L O S T 11 – Disney Land Hong Kong
    “สวยจริง ๆ ด้วยว่ะ” ผมว่าขณะกำลังกวาดตามองทางเข้าที่ยาวเป็นร้อยเมตรของที่แห่งนี้ มันประดับประดาไปด้วยดอกไม้กับต้นไม้อย่างสวยงาม สถาปัตยกรรมชั้นยอด ก็เหมือนในการ์ตูนเลยจริง ๆ นั่นแหละ
    “ธรรมดา คนฮ่องกงมาที่นี่ครั้งเดียวก็เบื่อแล้ว” ไอ้ตี๋ยักไหล่แบบไม่ยี่หระแล้วดึงมือผมให้เดินตามมันไปอย่างแผ่วเบา มันคงรู้ว่าผมเจ็บมั้งเลยเริ่มใช้แรงน้อยลง
    “ขอบอกไว้ก่อนนะที่ซื้อนี่ต้องจ่ายกูคืนด้วยนะ!” มันยกของที่มันถือให้ผมขึ้นมาให้ดู ผมยักไหล่ไม่สนใจมันแล้วเดินต่อไปพลางมองไป ไอของพวกนี้น่ะหรอครับ ก็หลังจากลงมาจากไหว้พระแล้วก็เจอร้านคนไทย ก็เลยไปอุดหนุนแว่นกันแดดกับหมวกมา แล้วเดิน ๆ อีกก็เจอพวงกุญแจอีก สวยดีก็เลยซื้อมา แต่ก็อย่างที่รู้ ผมไม่มีเงิน เลยให้มันออกไปก่อนเท่านั้นเอง นี่มันทวงตั้งกะขึ้นกระเช้ากลับยันมาดิสนี่แลนด์เลยนะเนี่ย =  =
    “เอ้า บัตร” มันส่งบัตรทางเข้ามาให้ผมเป็นลายสติช น่ารักดี แต่กระดาษมันค่อนข้างอ่อนอยู่นะเนี่ย ก่อนมันจะเดินนำผมไปตรงทางเข้าที่ต้องสอดบัตรเหมือน BTS บ้านเรา
    พอเราผ่านทางเข้าไปสิ่งแรกที่เห็นคือพุ่มดอกไม้ที่ปลูกไว้เป็นรูปมิกกี้เม้าส์! ทำไมมันน่ารักอย่างนี้เนี่ย ผมล่ะอยากถ่ายรูปใจจะขาดแต่ไอ้ตี๋มันบอกว่าไม่มีกล้อง ไม่ได้เอามา สาด! แล้วมาเที่ยวทำไมไม่พกกล้องฟระ! หลังจากที่ผมมองดูซุ้มดอกไม้ตรงหน้าอยู่พักใหญ่มันก็จูงมือผมไปที่ชานชาลารถไฟมิกกี้ ! นอกจากคนจะเยอะแล้ว คนขับยังสวยด้วย
    “นั่งรถไฟไปไหนอ่ะ ?” ผมถามมันเมื่อเห็นว่ามันใกล้ถึงคิวของเราเต็มที่แล้ว นี่กูยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหนเนี่ย
    “….” มันเงียบครับ เห้อ… กลุ้มใจ เดินทางกับมันมีแต่ความกวนประสาท แล้วแต่อารมณ์มันน่ะครับว่าถ้ามันอารมณ์ดีมันก็คุยด้วย ถ้าไม่ดีก็ไม่คุยไม่งั้นก็กวนตีนผม ไรฟระ
    ตอนนี้รถไฟได้มาจอดที่ชานชาลาแล้วครับ เป็นรถไฟเหมือนในการ์ตูนเลย แต่ที่นั่งให้หันมาแค่ฝั่งเดียว พวกผมเลือกเข้าไปตรงโบกี้ที่ใกล้ที่สุดเพราะคนมันแย่งกันเข้าเกือบตาย นี่ขนาดมีพนักงานคอยจำกัดจำนวนคนนะเนี่ย
    รถไฟเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาอย่างเชื่องช้า และแล้วคุณโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศบอกถึงสถานที่ที่เราผ่านไป ก็มีป่าวิเศษไรเงี้ยเป็นภาษาอังกฤษ จีนกลาง จันกวางตุ้งตามลำดับ อยากบอกว่าปวดหัวมากตอนฟังทั้งสองจีน ฟังไม่รู้เรื่องเฟ้ย! พอรถไฟมาหยุดที่ชานชาลาอีกแห่งหนึ่งไอ้ตี๋มันก็บอกให้ผมลง ผมก็ตามมันลงไป ก็เป็นสถานีที่มีเครื่องเล่นเยอะอยู่ แต่ถ้าให้กวาดตามองแล้วล่ะก็ มีแต่เครื่องเล่นที่รุนแรงทั้งนั้นเลย! ม้าหมุนขนาดยักษ์  ล่องเรือไปตามสายน้ำ  ของเล่นที่หมุน ๆ แล้วเวลากดปุ่มมันจะยกขึ้นไปประมาณยี่สิบเมตร แลดูน่าเล่นน่ากลัวทั้งนั้น =  =
    “อะไรที่มันน่ากลัวสุด ?” ผมถามมันหลังจากที่เดินดูแถวนั้นจนทั่ว ใช้เวลาแค่สี่สิบนาทีนี่กูเดินทั่วดิสนี่แลนด์ฮ่องกง!!! พระเจ้า ช่างใหญ่อะไรอย่างงี้
    “รถไฟเหาะมั้ง”
    “รถไฟเหาะ!!” ในที่สุด กูก็เจอของเล่นที่กู(พอจะ)เล่นได้สักที
    “พาไปหน่อยดิ ๆๆ” ผมดึงมือมัน เมื่อกี้จริง ๆ คงผ่านมาแล้วล่ะแต่มองไม่เห็นเพราะบางอันมันไม่ใช่เครื่องเล่นในที่เปิดโล่ง
    “เออ ๆ” มันทำหน้าหงุดหงิดใส่ผม เออให้มันได้อย่างงี้ แต่ก็ยังดีวะที่มันเดินจูงผมไปถึงที่จนได้
    “คน เยอะ ชิบ หายเลยว่ะ!” ผมบ่นงุบงิบ ให้ตายเหอะคนหรือหนอน มันเป็นแถวต่อแบบธนาคารไทยพาณิชย์อ่ะครับ แต่มีตั้งเจ็ดแถว =  = สาด…
    “งั้นใช้ Fast Pass แล้วกัน”
    “Fast Pass ?”
    “เออ มันเป็นโปรแกรมของที่นี่ แค่ใส่บัตรไปที่เครื่องมันก็จะปริ้นใบออกมาให้ว่ามาอีกทีกี่โมง เราก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วก็เข้าได้เลย ไม่ต้องรอ” อ๋อ… ดีจังเลยเว๊ย ที่ดรีมเวิร์ลบ้านเราน่าเอามาทำมั่งนะเนี่ย ว่าแล้วไอ้ตี๋ก็พาผมไปกดเครื่องที่มันบอก เวลาที่เราได้คือบ่ายสามโมง อืม ไม่นานหรอกครับ แค่สองชั่วโมงเอง!
    “แล้วระหว่างนี้จะไปทำอะไรอ่ะ ?”
    “แล้วมึงอยากทำอะไรล่ะ?”
    “อืม…. อยากกินข้าวแล้ว หิวแล้ว”
    “เออ มีโรงอาหารอยู่ แต่มึงต้องกินให้หมดนะ” แล้วเราก็เดินไปที่โรงอาหารซึ่งมันทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมมันบอกว่าต้องกินให้หมด อาหารจานนึงคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300 กว่าบาทครับ แต่! จานใหญ่มากก ใหญ่มากจริง ๆ ทำเอาผมถึงกับอึ้ง มันเป็นจานหลักจริง ๆ ด้วย แต่ผมไม่สนหรอก ทำตกใจไปงั้นจริง ๆ ก็กินหมดอยู่แล้วล่ะ
    “เครื่องบินพรุ่งนี้ออกตอนกี่โมงนะ ?” ผมเริ่มถามมันหลังจากที่เรารับจานข้าวมานั่งที่โต๊ะแล้ว มันเงยหน้าขึ้นจากจานที่มันกำลังจะกินเล็กน้อย มองผมด้วยสายตาแปลก ๆ
    “แปดโมงเช้า เวลาที่นี่ ถ้าที่ไทยก็เจ็ดโมงเช้า ไปถึงประมาณสิบโมง ที่ไทยก็เก้าโมง โทรไปบอกให้คนมาเตรียมรับไปด้วยล่ะ” มันก้มหน้าก้มตาลงกินต่อ
    นี่คงเป็นการกินข้าวกับมันที่เงียบที่สุดนับตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอมันมา เราต่างคนต่างกินไป ผมคิดว่าเราต่างรู้ดีว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่ สำหรับมัน ผมก็คงเป็นแค่คนหลงทางธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่บังเอิญไปเจอเข้า หรือจะเรียกว่าเป็นลุกหมาหลงทางมันก็ไม่ผิดนักหรอก พอลูกหมาเจอฝูงหรือหนทางกลับบ้านแล้วก็จะได้พ้นจากความดูแลของคนที่เก็บมาเสียที แต่สำหรับผม ถ้าเปรียบผมเป็นลูกหมา ผมคงเป็นลุกหมาหลงทางที่โชคดีมาก อย่างน้อยก็มีคนที่ปากเสียอย่างมันเก็บไปดู มันน่ะปากหมาแต่จิตใจดีนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้างคาใจผมมาตลอดนั่นก็คือ มันจูบผมวันนั้นทำไม ถ้าถามว่าผมรังเกียจมันมั้ย ? ตามความจริง ควรจะรังเกียจ ก็ผู้ชายด้วยกันจะมาจูบกันแบบนี้มันถูกที่ไหนล่ะ ? แต่ผมกลับไม่ปฏิเสธมันตั้งแต่เริ่มต้น ก็อย่างที่บอก ผมหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไม ผมคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนนั้นแหละครับ ผมอยากรู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนี้
    ผมไม่กล้าเชื่อใจตัวเองได้ว่า วันนั้นที่มันถามผมว่าอยากเที่ยวต่อไหม แล้วมันจะบอกเหตุผลของมันกับผม ผมตัดสินใจมาเพราะเหตุผลนี้รึเปล่า ผมไม่แน่ใจจริง ๆ ผมรู้แค่ว่าเวลาอยุ่กับมันแล้วก็ดีเหมือนกัน มันรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก หลังจากสองวันแรกที่ผมได้เจอมันและครอบครัวของมัน จะนับว่าทริปนี้เป็นทริปฮ่องกงที่ดีที่สุดทริปหนึ่งก็ว่าได้ แต่จะว่าไม่ดีก็ได้เพราะผมดันไม่ได้เที่ยวกับเพื่อน แต่คิดในแง่ดีดีกว่าอย่างน้อยผมก็รู้จักคนดีในโลกนี้เพิ่มนี่นา
    “เอาอะไรอีกมั้ย ?” เฟยหลงถามผมเมื่อมันเห็นผมกินเสร็จ ผมส่ายหัวเป็นคำตอบให้มันไป
    “บ่ายสองโมงสิบนาทีเอง เห้อ อยากเล่นแล้วอ่ะ”
    “อีกแค่ชั่วโมงเดียวเอง หรือจะกลับกันก่อน ?”
    “กลับตอนนี้แล้วไปไหนฟระ =  =” มันส่ายหัวยิ้ม ที่ไม่ค่อยจะได้เห็นจากหน้ามันเท่าไหร่ ให้กับผมเบา ๆ ถึงจะแค่แวบเดียว แต่มันยิ้มจริง ๆ นะ
    “ทำไม ถึง….จูบกู” ผมได้ยินเสียงตัวเองถามออกไปแบบนั้น ผมแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ตอนนี้ตาผมมองลอดแว่นไปสบกับตาตี่ ๆ ของมัน
    “เพราะว่า…..”
    “เพราะว่า ?” ผมทวนคำถามซ้ำ มันหลบตาลงเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
    “มันยังไม่ถึงเวลานะ” มันว่าแล้วเอามือตบเข้าที่แก้มผมเบา ๆ
    “อืม” ผมตอบมันแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้เหยียดตัวไปตามความยาวพนักพิง ตามความจริงกูซึ่งเป็นผู้เสียหายต้องมีสิทธิ์ที่จะรู้สิวะ
    “แล้วคิดจะบอกเมื่อไหร่ ?”
    “ที่สุดท้าย” ผมลอบถอนหายใจแผ่วเบา ตอนนี้ในใจผมมันเต้นตูมตามไปหมด ไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ แต่มีความรู้สึกว่ามันตื่นเต้นที่จะได้ยินคำตอบ
    “ไปเดินดูของฝากได้เปล่า เผื่อจะซื้อกลับไปฝากใครมั่ง”
    “ได้สิ” มันว่าก่อนจะลึกขึ้นพร้อมกับผมแล้วส่งมือของมันมาจับเข้าที่มือของผมเช่นเคย น่าแปลกที่ผมไม่มีความคิดที่จะสะบัดมันออกไปเลยแม้แต่น้อย
    เราเดินไปถึงร้านที่เป็นร้านเฉพาะเพื่อขายของที่ทำมาจากดิสนี่ มันตกแต่งอย่างสวยงาม มีไฟสีส้มอ่อนดูโรแมนติกดี คนคลาคล่ำเต็มร้านไปหมด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งซะมากกว่า ผมเดินไปเลือกไป แต่ที่ได้มาก็แค่พวกพวงกุญแจสวย ๆ ประมาณสิบพวงมั้ง แน่นอน เฟยหลงจ่าย ! หลังจากที่ผมเลือกของเสร็จเรียบร้อยก็ใกล้เวลาพอดี พวกเราเลยเดินไปที่สถานีรถไฟเหาะแล้วยื่นบัตรผ่านเข้าไปเลย สมแล้วที่เรียกว่า Fast Pass
    รถไฟที่ให้นั่งเป็นเหมือนรถไฟตะลุยอวกาศของบ้านเรา มันมีทั้งหมดสิบสองที่นั่ง 6 คู่ แน่นอนว่าผมนั่งกับมัน ก่อนจะเล่นยังมีการบอก ถ้ากลัวก็หลับตาไปตลอดเลยก็ได้นะ ฮ่า ๆ ผมไม่เคยกลัวของแบบนี้อยู่แล้ว! และแล้วรถไฟเหาะก็เคลื่อนตัวออกจากชานชาลา อยากจะบอกว่าเหมือนรถไฟตะลุยจักรวาลจริง ๆ แต่ว่าโค้งและความหวาดเสียวมันมีมากกว่า ถ้าถามว่าเทียบกับรถไฟเหาะบ้านเราล่ะ ? เอ่อ..รถไฟเหาะบ้านเราสนุกกว่าครับ
    พอเล่นเสร็จก็เดินออกมาจะเป็นร้านขายของที่ระลึก (อีกแล้ว) แต่ว่าคราวนี้มันมีขายภาพด้วยครับ ภาพของคนที่เล่น เค้าจะซ่อนกล้องไว้ แอบถ่ายตอนพวกเราเผลอ
    “มึงทำหน้าฮามากอ่ะไอ้ตี๋!” ผมยืนขำกับภาพที่มีเราสองคนอยู่ ไอ้ตี๋มันทำหน้านิ่งมาก แต่ด้วยความแรงของลมผมมันเลยพัดเป็นทรงแปลก ๆ ตลกดี ส่วนผมก็นั่งอ้าปากกว้างกำลังร้องอย่างเมามันส์
    “เอารึเปล่าล่ะ ?” ผมยักหน้าหงึก ๆ ที่อยากได้ไม่ใช่อะไรหรอก






ก็แค่…ให้รู้ว่าครั้งหนึ่งได้มาดิสนี่แลนด์…







กับมึงไงเฟยหลง




ว่าแล้วมันก็เดินไปขอซื้อภาพมาสองใบ ส่วนอีกใบนึง
















มันเก็บไว้เอง…







ใกล้แล้ววววววววววววววว ^ ^
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 09-05-2011 00:03:54
เฟยหลง หลงเข้าให้ซะแล้ว o18
เป็นกำลังใจให้จ้า :L2:
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: iranen ที่ 09-05-2011 02:16:33
อยากอ่านความคิดของเฟยหลงนะว่าคิดยังไง
ไม่ใช่ตามไปไทยด้วยหรอกนะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 09-05-2011 02:31:54
อยากอ่านความคิดของเฟยหลงนะว่าคิดยังไง
ไม่ใช่ตามไปไทยด้วยหรอกนะ
เห็นด้วยเฟยหลง หลงตามไปไทย :impress2: :m20:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 09-05-2011 10:16:47
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ย้อนหลังคร้าบบ  มันหนุกมาก อ่านตามรวดเดียว
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 11 Disney Land Hong Kong [8/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-05-2011 10:40:00
อยากอ่านพาสเฟยหลงบ้าง

 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 09-05-2011 20:17:24
ฮี่ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เรื่องตอนฮ่องกงจะปิดฉากแย้ว ^ ^
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาครับผม



G E T  L O S T 12 – Star Avenue
    แสงหลากสีแข่งกันเฉิดฉายขึ้นบนตึกระฟ้าทั่วเมืองฮ่องกง เมื่อมองดูจากที่ตรงนี้แล้วจะสามารถเห็นตึกของอีกฝั่งได้ นั่นก็คือฝั่งฮ่องกง ตึกที่ฝั่งนั้นส่องแสงประกายเจิดจ้ายามค่ำคืนอย่างงดงาม ตอนนี้ผมกับไอ้ตี๋กำลังเดินอยู่บนถนนของเหล่าหมู่ดาว หรือ Star Avenue ที่พื้นที่เราเดินไปจะมีกรอบที่มีลายเซ็นกับฝ่ามือของดาราฮ่องกงที่โด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ที่พื้นนี้ยังฝังไฟดวงเล็ก ๆ เอาไว้เป็นทางเดินสำหรับคนที่มาท่องเที่ยวด้วย ลมเย็นพัดมาปะทะใบหน้าที่มีผ้าพันแผลของผม มันไม่ได้บาดลึกเข้าไปในผิวหนังแต่กลับทำให้ผมรู้สึกเย็นสบายดี ยามค่ำคืนแล้ว ที่แห่งนี้ก็เป็นที่หนึ่งที่ดีเช่นกัน
    "เฉิน หลง อยู่ไหน ?” ผมถามเฟยหลงขณะที่กำลังเดินไปข้างหน้าพร้อมก้มลงมองพื้นเป็นระยะ
    “อยู่เกือบท้าย ๆ” มันว่าพร้อมกับดึงมือผมให้ลุกขึ้นจากที่พื้น ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้ามันเล็กน้อยแล้วทำตาม
    “รู้จักดาราพวกนี้หมดเลยเปล่า ?”
    “ไม่หมดหรอก ดาราที่มีชื่อที่นี่บางคนเกิดก่อนฉันอีก” ผมพยักหน้าหงึก ๆ ตาก็ยังคงก้มมองพื้นอยู่ดี มันน่าสนใจจริง ๆ นะครับ ที่นี่ทำคล้าย ๆ ฮอลลีวูดที่จะมีรูปมือแปะเอาไว้ที่แท่นหินที่พื้นน่ะครับ สวยดี
    ตามรายทางของถนนแห่งนี้ก็มีของขายนะครับเต็มไปหมด ทั้งจานที่รูปของเราจะไปติดอยู่น่ะครับ แล้วก็พวกของกินต่าง ๆ เยอะมาก เบียร์ก็มีนะ แต่ผมไม่กินหรอก ไม่แตะต้องแอลกอฮอล์ (แหล!) ว่าแล้วก็อยากได้จานชะมัดเลยแฮะ
    “เฟยหลง”
    “ห๊ะ ?” มันหันมาหาผมที่กำลังจ้องมองร้านถ่ายรูป
    “อยากถ่าย ไปถ่ายกัน” ไม่รีรอครับ ผมดึงมือมันเข้าไปเลย ไอ้เจ้าคนที่ถูกดึงก็เลยต้องพลอยตามมาด้วย มันส่งภาษากับเจ้าของร้านครู่หนึ่งพวกเราก็ได้ถ่ายรูปกับวิวข้างหลังสวย ๆ กันครับ ตอนแรกผมทำท่าชูสองนิ้วกับมันธรรมดา แต่มันบอกปัญญาอ่อนมันเลยเอาแขนมาโอบไหล่ผมแทน ส่วนผมหรอ เติมเขาให้มันไง ฮ่า ๆ
    หลังจากที่ถ่ายเสร็จก็จ่ายเงินแล้วก็รับจานมาสองใบ(อีกแล้ว)
    “อยากได้รุปกูอ่ะดิ!” ผมแซวมันไป ฮ่า ๆ เพราะกูหล่อใช่ไหมล่ะ ?
    “อืม” ห๊ะ ? เมื่อกี้กูคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม ?
    “อะไรนะ”
    “เปล่า”
    “เปล่าอะไร ก็เมื่อกี้ยังพูดอยู่เลย อะไรนะ ๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมเซ้าซี้มัน มันเลยทำหน้ารำคาญขมวดคิ้วใส่ผมซะงั้นอ่ะ ผมหรอ ก็กลัวสิครับ ไม่ชอบให้มันทำหน้าแบบนี้เลย ทำแบบนี้แล้วหน้าโคตรโหด
    “แล้ว จะไปส่งรึเปล่า ?” ผมถามขณะที่เรากำลังเดินต่อไปเรื่อย ๆ
    “ส่ง ?”
    “อ่า ใช่ หมายถึงไปส่งที่สนามบินน่ะ”
    “ไม่รู้ดิ อาจจะไม่ว่างก็ได้มั้ง” ยังจะมีมั้งอีก จะมีมั้งทำไมฟระก็ในเมื่อมันวันพรุ่งนี้แล้วทำไมยังไม่รู้ตารางตัวเองอีกเนี่ย ?
    “ทำไมถึง อาจจะ ล่ะ ?”
    “ก็…คนบางคนอาจจะไม่อยากให้ไปก็ได้”
    “ใครล่ะ คนบางคนที่ว่า” ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเราเดินมาไกลแค่ไหนแล้ว รู้แต่ว่าคนรอบข้างมันน้อยลงเรื่อย ๆ แล้วทางก็มืดลงเล็กน้อยเพราะไฟที่ข้างทางมันห่างกันมากขึ้น
    “ก็ ไม่ใช่คนหรอก เป็นลูกหมา”
    “เอ… รู้ได้ไง ว่าลูกหมาตัวนั้นไม่อยากให้ไป” นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดจริง ๆ ผมคิดอะไรมักจะตรงกับคำพูด.. ผมไม่อยากพูดเต็มปากว่าผมกำลังจะคิดแบบไหนกับคนข้าง ๆ ผมกันแน่ในตอนนี้
    “ก็ไม่รู้สิ แล้วอยากให้ไปรึเปล่าล่ะ ?” เราสองคนหยุดเดิน เฟยหลงหันหน้ามาหาผมเล็กน้อย ผมทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วโพล่งออกไป
    “ไม่อยาก! ให้พี่หลินหลินมาส่งคนเดียวก็พอแล้ว” ผมหยอกคนข้างหน้าเล่น แต่ว่าทำไมเฟยหลงถึงขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างนั้นล่ะ
    “หรอ ?” มันถามผมแผ่วเบา ไม่รู้ว่าไอมือขนาดใหญ่นี้มันมาแตะที่แก้มผมตั้งแต่เมื่อไหร่
    “อืม ก็คงอย่างงั้นแหละ ให้สาวสวยไปส่งดีกว่า” ผมพูดอย่างร่าเริง แต่คนข้างหน้ากลับเงียบ “แล้วก็ไปนอนค้างที่บ้านเลยก็ได้ ฮ่า ๆ สวยขนาดนั้นพ่อแม่คง…..” คำพูดของผมถูกกลืนไปกับริมฝีปากของคนตรงหน้าของผม ผมค่อย ๆ หลับตาลง ริมฝีปากของผมเริ่มเปิดออกให้คนตรงหน้าสอดลิ้นเข้ามาอย่างอ่อนโยน เค้าคงรู้ ว่าผมเจ็บปากอยู่จากอาการบาดเจ็บนั้น กล้ามเนื้อนั้นสัมผัสกับบริเวณที่เป็นแผลอย่างแผ่วเบา
    “โอ้ย!” ผมร้องออกมาเมื่อริมฝีปากนั้นสัมผัสเข้ากับบริเวณที่บวมตรงแก้มของผม เฟยหลงผละตัวออกเกือบจะในทันทีแล้วมองผมอย่างอ่อนโยน
    “เจ็บใช่ไหม ?” ผมพยักหน้าแผ่วเบา เป็นคำตอบให้กับคนตรงหน้า
    “จูบ….ทำไม ?”
    แล้วคำตอบของคนตรงหน้าผมก็คือการก้มลงมาประทับริมฝีปากเข้ากับริมฝีปากของผมอีกครั้ง แต่คราวนี้ผมใช้มือของผมผลักหน้าคนตรงหน้าออกไป สายตาของผมมองไปยังดวงตาคู่ตรงหน้าอย่างค้นหา
    “ตอบมาก่อน” เฟยหลงยิ้มให้ผมอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนตลอดห้าวันนี้ เป็นยิ้มที่ทำให้ดูดีขึ้นมาในทันใด มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบที่หัวผมอย่างแผ่วเบา ผมไม่เข้าใจเลย ทำไม…ทำไมผมถึงรู้สึกดีกับคนตรงหน้านี้
    “เพราะว่า” เฟยหลงค้างคำแล้วก้มหน้าลงมาใกล้ผมอีกครั้ง “น่ารักขนาดนี้ยังไงล่ะ” แล้วคำพูดที่ผมจะพูดต่อไปก็ถูกกลืนหายไปกับรสจูบของคนตรงหน้า ลิ้นหนาของเฟยหลงสอดแทรกเข้ามาภายในริมฝีปากของผม ผมอดไม่ได้ที่จะต้องสอดลิ้นตอบกลับไป มันไม่เจ็บบริเวณบาดแผลสักนิด มันอ่อนโยนกว่าครั้งแรกที่เราจูบกัน
    เฟยหลงผละใบหน้าออกจากผมเล็กน้อยแล้วก้มลงมามองตาของผมผ่านแว่นขนาดใหญ่นี้ ผมรู้ว่าต่อไปคนข้างหน้าจะต้องถามอะไรผมแน่ ๆ
    “คำตอบล่ะ ?” เฟยหลงถามผมขึ้นมา ผมก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับคนตรงหน้า
    “จะมีคำตอบได้ยังไง ก็ยังไม่ได้ยินคำถามเลย”
    “ต้องถามอีกหรอ ?” เฟยหลงพูดเสียงแผ่ว อบอุ่นกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยินมา มือทั้งสองข้างของเฟยหลงมาโอบที่ตัวของผมให้เข้าไปชิดตัวมากขึ้นอีก
    “ก็ไม่ได้อ่านใจคนออกนี่ เดี๋ยว ๆ ไม่ต้องมาเปลี่ยนประเด็นเลย ตกลงพรุ่งนี้จะไปส่งมั้ย ?”
    “ไม่ไป” นั่นทำให้ผมใจแป้วขึ้นมาในทันที แต่เฟยหลงกลับยิ้มให้ผม







“ได้ยังไงเล่า”
    



“นี่..” ผมเว้นช่วงเล็กน้อยแล้วกลืนน้ำลายลงคอเพื่อถามคำถามต่อไป “คิดว่า ผู้ชายกับผู้ชาย เป็นแฟนกันได้หรอ แล้ว ไม่ได้อยู่ด้วยกันจะเป็นแฟนกันได้หรอ ?”
    “ของอย่างงี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ หรือระยะทางหรอกนะ” เฟยหลงก้มหน้าลงคุยกับผมในอ้อมกอดของเขา ใบหน้าหล่อเหลาจูบลงที่ปากผมทีนึงแล้วพูดต่อ “ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจต่างหาก ใจของแต่ละคนว่าจะรักกันเพราะอะไร รักกันได้นานเท่าไหร่ ถ้าใจของคนสองคนผูกกันแล้ว ต่อให้อะไรก็มาทำลายเส้นใยที่เหนียวแน่นได้หรอก”
    “แล้วคำตอบล่ะ เจ้าลูกหมา ?” คนที่กำลังโอบกอดผมอยู่เอ่ยถามผมอีกครั้ง ผมยิ้มแผ่วเบาให้กับคนตรงหน้าแล้วดันตัวออกห่างจากอ้อมกอด
    “ไม่มีหรอก” ผมส่งยิ้มให้กับเฟยหลงอย่างอ่อนโยน



































“จนกว่าจะถึงบ้าน”



ไนท์ไม่ได้ง่ายนะครับ แต่ก็ไม่ยาก 5555555

สำหรับคนอยากอ่านพาร์ทเฟยหลงนะงับ ตอนนี้ยังไม่ได้แต่งตรงนั้นน่ะงับ แต่เดี๋ยวจะเขียนเป็น
side story นะงับ ^ ^

ปล สงสัยเฟยหลงอ่านยากจริง ๆ คนถึงหมั่นไส้เยอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 09-05-2011 20:31:25
อ๊ายยยย รีบกลับบ้านอย่างด่วน  :laugh:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 09-05-2011 21:01:25
อุ้ยพ่อปากทองคำใช้ภาษากายแทนสินะ o18
เป็นกำลังใจให้จ้า สู้ๆ :L2: :L2:
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-05-2011 21:07:21
ตอนนี้ เฟยหลง น่ารักมาก 

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 12 Star Avenue [9/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 09-05-2011 21:29:34
กลับบ้านด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 13 คำตอบ [28/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 29-05-2011 00:04:17
G E T  L O S T 13 – คำตอบ
    “พี่ได้เล่นรถไฟเหาะรึเปล่าครับ ?” เจ้าตัวเล็กที่สุดในบ้านของเฟยหลงถามผมขณะที่พวกเรากำลังนั่งคุยกันหลังจากที่ผมกับเฟยหลงกลับมาจาก Star Avenue แล้ว
    “ได้เล่น ๆ แต่ได้เล่นแค่อย่างเดียวเองนะ อย่างอื่นมัน…ไม่ค่อยน่าเล่นน่ะ”
    “แล้วที่ star avenue ได้ดูโชว์ตึกรึเปล่า ?” พี่หลินหลินถามผม
    “ไม่ได้ดูเลยครับ ดูไม่ทัน” ไม่อยากจะบอกเลยว่าตอนที่เค้าเปิดไฟไล่ตึกกันเราทำอะไรกันอยู่
    “นี่ ๆ พรุ่งนี้ก็กลับแล้วนี่” ผมหลุบตาลงเล็กน้อยให้กับคำถามของต้าฟง ก่อนจะส่งยิ้มไปให้เป็นคำตอบ
    “คงต้องให้เฟยหลงไปส่งคนเดียวอีกแล้วนะจ๊ะ เพราะพวกเราไม่ว่างกันเลย” พี่หลินหลินบอกผม ผมพยักหน้าแล้วรับคำอย่างแผ่วเบา
    “เอาล่ะ วันนี้ก็เหนื่อยมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีก นี่ก็สามทุ่มครึ่งแล้ว ไปนอนกันเถอะลูก” ลูก ๆ ทั้งสี่ของบ้านรับคำแล้วต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันออกไป ผมกับเฟยหลงเองก็เช่นกัน
    “วันนี้ผมขอนอนเตียงด้วยนะ” ผมบอกหลังจากที่เฟยหลงเข้าห้องมาแล้วพร้อมกับกระโดดลงนอนบนเตียงเป็นท่าประกอบด้วย
    “ก็เอาสิ” เฟยหลง…จริง ๆ แล้วผมต้องเรียกว่าพี่นั่นล่ะครับ เพราะเค้าบอกว่าเค้าอายุ 26 แล้ว ผมเพิ่งจะ 19 เอง ฮ่า ๆ แต่มันเรียกจนติดปากไปแล้วน่ะ
    “เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมว่าพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียง แล้วหยิบผ้าขนหนูเตรียมตัวจะเข้าห้องน้ำ
    “อาบด้วย!”
    “เห้ย! ไม่เอา” ผมบอกปัดในทันที ถึงจะเคยอาบน้ำกับไอแซนด์ไอเช่ก็เหอะ แต่กับคนตรงหน้านี่มัน…เหมือนกันซะที่ไหน
    “อย่าลีลา” เฟยหลงว่าพร้อมกับดันผมเข้าประตูห้องน้ำแล้วกดล็อกอย่างรวดเร็ว ห้องน้ำที่บ้านของเฟยหลงก็เป็นแค่ห้องฝักบัวธรรมดา อันที่จริงมันจะค่อนข้างแน่นถ้าเกิดว่าอาบสองคนน่ะนะ
    คนข้างหน้าผมประกบริมฝีปากผมทันทีที่เดินพ้นจากประตูห้องน้ำมาเล็กน้อย มันเหมือนจะดุเดือดแต่ก็อ่อนโยน ผมเข้าใจว่าเค้ารู้ว่าผมเป็นแผลอยู่เลยไม่อยากทำรุนแรง ผมสอดลิ้นกลับไปหาเค้า เราแลกลิ้นกันอยู่สักพักเฟยหลงก็เปลี่ยนมาเป็นหอมแก้มผมแล้วไล่ต่ำลงที่ซอกคอ ริมฝีปากนั้นดูดเข้าที่คอผมอย่างอ่อนโยน มันไม่เป็นรอยหรอกครับแต่เค้าดูดตรงที่มันเขียว ๆ มากกว่า สงสัยเข้าใจว่าทำแล้วผมจะหายปวดมั้งครับ
    มือของเฟยหลงเลื่อนขึ้นสูงถึงหน้าอกผมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นิ้วมือทิ้งสองข้างจับที่ยอดอกของผมทำให้ผมรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วตัว ก่อนที่มือนั้นจะถอดเสื้อของผมออกไปแล้วถอดของตัวเองออกตาม ตอนนี้มือข้างหนึ่งได้เลื่อนลงต่ำจนถึงเป้ากางเกงของผมที่กำลังแข็งตัวได้ที่ ให้ตายเถอะ ผมไม่มีแรงจะขัดขืนจริง ๆ
    “เดี๋ยว…” เฟยหลงหยุดทันทีแล้วหันมามองหน้าของผม
    “ทำไม ?”
    “ผมกลัว”
    “ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ฉันไม่ทำให้เจ็บหรอก”
    “เปล่า…” คนข้างหน้าผมเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ
    “ผมกลัวว่าพี่จะทิ้งผมไป เราไม่ได้อยู่ประเทศเดียวกัน เราติดต่อกันได้ยาก ถ้าสักวันหนึ่งอยู่ดีดีพี่เกิดไปเจอคนอื่นที่ใช่แล้วทิ้งผมให้รักพี่อยู่คนเดียว ผมจะทำยังไงล่ะ ?” เฟยหลงหัวเราะพร้อมกับยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน
    “ไม่มีทาง…” คนตรงหน้าผมเอ่ยพร้อมกับดันตัวผมให้นั่งลงกับที่นั่งเพื่อใช้อาบน้ำ มือทั้งสองข้างเริ่มปลดกางเกงผมลงทีละชิ้น จนไม่เหลืออะไรเลย “ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนเลยนะรู้มั้ย ? จะบอกให้ว่า ไม่เคยรู้สึกรักใครเท่านี้มาก่อนจะดีกว่า…เหตุผลหรอ ไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันก็รู้ว่าคนคนนี้ปล่อยให้หลงทางไม่ได้หรอก หลังจากนั้นมันก็รู้สึกแบบนี้ตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วก็อย่างที่บอก…”
    “ถ้าเรารักกันจริง ๆ ไม่ว่าระยะทางหรืออะไรก็มาทำลายเส้นใยอันแข็งแกร่งของพวกเราไม่ลงหรอก” พูดจบ คนตรงหน้าของผมก็ใช้มือข้างหนึ่งกำเข้าที่ท่อนของผมแล้วขยับขึ้นลง ใบหน้านั้นเลื่อนเข้ามาใกล้ผมแล้วกอมแห้มผม..หอมไล่ลงไปจนทั่วตัว ตอนนี้เลือดผมพลุ่งพล่านทั่วร่าง ไม่รู้จะทำอะไรดีแล้วตอนนี้
    “แล้ว…” ผมถามเสียงสั่น ผมพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นแล้ว แต่มันทำไม่ได้จริง ๆ ครับ “พี่จะไปหาผมบ้างไหม ?” คนที่ถูกถามส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยนก่อนจะนั่งลงข้างผมแล้วดึงมือผมไปจับที่แก่นกายของเขาที่ถอดออกหมดเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ (เก่งเนอะ)
    “อาชีพของพี่ ต้องไปไทยบ่อยอยู่แล้ว” มือของผมขยับขึ้นลงตามจังหวะที่มือของอีกคนทำให้ผม ผมทำไปโดยที่รู้ตัว..ใช่ ผมรู้ด้วยว่าคนข้างหน้าผมพูดจริงไม่ได้โกหกผมแต่อย่างใด ผมไม่รู้เลยว่า ทำไมผมถึงเชื่อใจคนข้างหน้านี้อย่างสนิทใจ
    เฟยหลงโน้มหน้ามาหาผมแล้วจูบผมอีกครั้ง มือของเราขยับขึ้นลงเป็นจังหวะที่ใกล้เคียงกัน ผมรู้สึกเสียวสันหลังกว่าทุกครั้งที่เคยทำมาก่อนที่ผมจะร้องออกมาอย่างลืมตัว
    “อ๊า…” ผมควบคุมเสียงให้เบาที่สุดแล้ว มือใหญ่ยังคงขยับขึ้นลงด้วยจังหวะที่รวดเร็วมากขึ้น น้ำสีขาวข้นพุ่งขึ้นจากแก่นกายของผมเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้องกับหน้าอกของผม ความเสียวซ่านที่บอกไม่ถูกถูกระบายออกไปเป็นผลให้ผมเผลอปล่อยมือข้างที่กำของเฟยหลงเอาไว้
    “จะในนี้หรือห้องนอน ?”
    “หืมม์ ทำอะไรอีก ?” ผมถามอย่างหมดแรง
    “ก็เราเสร็จแล้ว แต่ฉันยังเลยนะ”
    “มะ…ไม่เอาในนี้” เฟยหลงยกตัวผมขึ้นจากที่นั่งอย่างแผ่วเบาก่อนจะเดินออกไปวางผมลงที่เตียงอย่างนุ่มนวล ร่างของคนตรงหน้าขึ้นคร่อมที่ตัวผม ริมฝีปากของเขายังคงทำงานตั้งแต่ใบหน้าลงมาจนถึงท้องน้อย มันทำให้น้องชายของผมตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง
    “ทำไมน่ารักอย่างนี้” น้ำเสียงตรงหน้าพูดกับผมอย่างอ่อนโยน ตอนนี้ใบหน้านั้นหันมาทำหน้าที่จูบผมอีกครั้ง
    “โอะ…” ผมร้องออกมาเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมผ่านตัวผมเข้ามา
    “เจ็บหรอ ?” เฟยหลงหยุดการสอดนิ้วของตัวเองทันทีที่ได้ยินผมร้อง ผมพยักหน้าอย่างหมดแรง มันเจ็บจริง ๆ นะ
    “แต่…ใส่มาเถอะครับ”
    “ไม่ได้ เราเจ็บตัวอยู่ด้วย พี่หยุดแล้ว ๆ” ว่าแล้วก็ค่อย ๆ ถอนนิ้วของตัวเองออกอย่างแผ่วเบา เฟยหลงล้มตัวลงนั่งกับเตียงแล้วมองดูทั่วตัวผมว่ามีอะไรที่เจ็บบ้างไหม
    “หะ…เห้ย!” คนเบื้องล่างของผมร้องอย่างตกใจ ทันทีที่ผมดันหน้าตัวเองขึ้นมาให้นั่งทับอยู่บนตัวของเขา
    “ทำอะไรน่ะเรา”
    “นี่คือคำตอบ คำตอบของผมทั้งหมด” ผมว่าพร้อมกับเลื่อนก้นของตัวเองจ่อเข้าที่แก่นกายของอีกฝ่าย
    “แต่เรา…” คำพูดนั้นถูกผมลบมันออกไปด้วยจูบของผมพร้อม ๆ กับที่ผมค่อย ๆ นั่งลงทีละน้อย ของใหญ่ที่กำลังสอดแทรกเข้ามาในกายผมมันใหญ่มาก มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บ และอึดอัด แต่ทำไงได้ ก็ผมอยากจะพิสูจน์คำพูดของผม ผมเริ่ม..รักเค้าซะแล้วล่ะครับ
    “อือ….เจ็บ”
    “เจ็บก็เอาออก” เฟยหลงพยายามดึงตัวผมขึ้น แต่ผมใช้แรงทั้งหมดขืนนั่งลงไปจนสุดทาง มันจุกเสียดที่หน้าท้องอย่างบอกไม่ถูก เจ็บก็เจ็บจนต้องร้องออกมาอย่างลืมตัว
    “ก็บอกแล้วให้เอาออก เจ็บก็เอาออกเถอะ” ผมไม่ฟังคนตรงหน้า ยังคงขยับตัวขึ้นลงเป็นจังหวะ จนเฟยหลงเองก็คงรู้สึกเสียวซ่านตามไปด้วยเลยใช้มือข้างหนึ่งประคองเอวผมไว้แล้วใช้อีกข้างรูดแก่นกายให้ผม
    “แบบนี้เราก็เจ็บกว่าปกติน่ะสิ” เฟยหลงเอ่ยแล้วพลิกตัวให้ผมไปนอนข้างใต้แทน สะโพกของร่างสูงค่อย ๆ ขยับเข้าออกอย่างแผ่วเบา มือของเฟยหลงยังคงทำงานที่แก่นกายของผม จากความเจ็บปวด ความจุกแน่นที่ท้องน้อยตอนนี้ถูกแทรกแทนที่ด้วยความเสียวซ่าน ร่างสูงก้มลงมาจูบผมครั้งแล้วครั้งเล่าจนตัวเค้าเองก็เริ่มไม่ไหว
    “จะออกแล้วนะ” น้ำอุ่น ๆ พุ่งเข้าในตัวของผม มันเป็นปริมาณที่เยอะมาก ท้องของผมรู้สึกมวนแบบแปลก ๆ มันรู้สึกเสียวอย่างที่อธิบายไม่ถูก ก่อนที่ผมจะปล่อยออกตามไปติด ๆ
    “เจ็บมั้ยน่ะเรา” เฟยหลงรีบใช้นิ้วเขี่ยน้ำขาวข้นในตัวผมออกมาทันทีที่ตัวเองถอนแก่นกายออกมาแล้ว
    “ไม่เจ็บหรอก”
    “ปากเก่งนักนะ ไป..ไปอาบน้ำได้แล้ว” แล้วเฟยหลงก็อุ้มผมไปอาบน้ำให้ในห้องน้ำเนื่องด้วยผมหมดซึ่งเรี่ยวแรง แม้แต่จะเดินหรือลุกจากเตียงเลยล่ะครับ


คลานมาแปะ แล้วกลับไปนอนคับ ^ ^
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 13 คำตอบ [28/5/2554]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 29-05-2011 01:29:07
 :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:


เริ้ส ฟร่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: campping ที่ 30-07-2011 22:03:16
G E T  L O S T 14 – กลับไทย
    บรรยากาศที่อึมครึมของท้องฟ้าในวันนี้ทำให้ใจของผมรู้สึกอึมครึมตามไปด้วย ไม่ใช่ว่าฝนจะตกหรืออะไรหรอกนะครับ แต่ตอนนี้เป็นเวลาตีห้าครึ่งเท่านั้น ผมกำลังยืนอยู่ที่ชานชาลารถไฟฟ้าใต้ดินกับเฟยหลง ที่ตัวของผมมีเพียงพาสปอร์ตเท่านั้น เพราะกระเป๋า ของฝาก รวมถึงเที่ยวบินอะไรเจ้าคนตาตี่บอกผมว่าเดี๋ยวจัดการให้เอง
    “ง่วงอ่ะ” ผมว่าก่อนจะหาวหวอด ๆ ตามออกมา คนข้าง ๆ ผมหันมายิ้มให้แล้วหอมแก้มผมเบา ๆ
    “ไปถึงเช็คอินแล้วนอนก็ได้นะ”
    “ไม่เอาอ่ะ จะนอนกับใครนี่ไปถึงก็อยู่คนเดียวแล้ว”
    “เจ้าลูกหมา น่ารักจริง ๆ นะ” ว่าแล้วเฟยหลงก็หอมแก้มผมอีกครั้ง ถามว่าทำไมพวกเรากล้าน่ะหรอครับ ก็ป่านนี้มันจะมีคนสักกี่คนในชานชาลา มีน้อยมากครับ แล้วเราก็อยู่ตรงที่แทบจะไม่มีคนเลยด้วย
    รถไฟฟ้าใต้ดินได้เคลื่อนที่มาจอดตรงหน้าพวกผมที่ก้าวเข้าไปในตัวโบกี้ที่แทบจะว่างเปล่า ผมไม่อยากที่จะให้รถคันนี้เคลื่อนออกไปจากชานชาลานี้เท่าไหร่เลย เมื่อคืนหลังจากที่เราเอ่อ…เสร็จกิจกรรมกัน เราก็คุยกันเล่น ๆ ถึงการกลับบ้านของผม ผมไม่รู้ว่าเค้าจะพูดออกมาจากใจจริงหรือเปล่าว่าเค้าจะมาหาผม แต่ผมเชื่อใจเค้า มันก็แค่นั้น เหตุผลแค่นี้ทำให้ผมยอมกลับแต่โดยดี ทั้งที่จริงก็อยากอยู่ต่ออีกหน่อย
    น่าแปลกที่ช่วงแรกที่เจอกับเฟยหลงแทบจะไม่อยากมองหน้าด้วยซ้ำ แต่เราผ่านเรื่องราวมากมายเพียงแค่เกือบหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ถ้าถามผมว่ามันเร็วไหม มันก็เร็วครับ เร็วมาก แต่พวกเรารักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ อาจไม่สวยหรูอย่างชาย หญิง คู่อื่นแต่อย่างน้อยเราก็รักกัน อาจเป็นเพราะใครสักคนทำให้ผมหลงทางแล้วได้เจอกับคนดีดีอย่างเฟยหลง ที่เป็นพวกปากร้ายใจดี ถ้าเป็นผู้หญิงผมคงชอบไปนานแล้ว แต่เพราะผมเป็นผู้ชายและเฟยหลงก็เป็นผู้ชาย ผมจึงตัดสินใจนาน ตอนที่มาบอกผมว่าชอบผม รักผม ผมใจเต้นตูมตามแทบตาย เป็นเพราะเค้าดูแลผมดีมาโดยตลอด ผมเลยรู้สึกผูกพันกับเค้า และผมก็ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ความรักของเราจะเป็นยังไง ก็คงต้องปล่อยให้มันดำเนินต่อไป ด้วยเส้นใยอันแข็งแกร่งที่เจ้าตาตี่ของผมว่า
    “ไปถึงแล้วจะเล่าเรื่องไอ้หน้าตี๋ให้ไอเช่กับไอแซนด์ฟังดีป่ะ ?” ผมถามคนตัวสูงที่กำลังต่อแถวกับผมเพื่อทำการเช็คอิน
    “แล้วแต่น่า แต่เล่าไปก็ดีเค้าจะได้รู้ว่าไอ้ลูกหมาตัวนี้มีคนมาอุปการะแล้ว”
    “นี่ ๆ เพื่อนนะ แล้วผมก็ไม่ชอบผู้ชายคนอื่นแล้วด้วย!” ผมขึ้นเสียงเล็กน้อย เฟยหลงเลยลูบหัวปลอบผมเบา ๆ
    “รู้แล้ว ๆ เจ้าลูกหมานี่”
    “ว่าแต่คนอื่น ตัวเองเหอะ จะไปมีคนอื่นตอนไหนก็ไม่รู้” ผมทำเสียงแข็ง ฮ่า ๆ จะว่าไปตอนนี้ตัวเองก็คล้ายผู้หญิงอยู่นะ ไม่ได้และ ๆ
    “ไม่มีทางมีหรอก ว่าแต่ เราอยากนั่งใกล้หน้าต่างใช่มั้ย ?” ผมพยักหน้า ตอนนี้คิวตรงหน้าก็เป็นของเราแล้ว เฟยหลงจัดการพูดกับคนที่ทำการตรวจให้
    “อืม เดี๋ยวต้องนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปอีกนะถึงจะถึง Gate ที่ต้องขึ้นน่ะ” ผมพยักหน้าแผ่วเบา นั่นหมายถึงถ้าไปมากกว่านี้เฟยหลงจะไปส่งผมไม่ได้แล้ว
    “อย่าทำหน้าเป็นหมาหงอยสิ ไป ๆ เดี๋ยวไปส่งที่ไกลที่สุด…ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้” ผมรู้ดี ว่าคนที่เป็นคนรักของผมก็เศร้าเหมือนกันที่เราต้องแยกจากกัน เราเพิ่งตกลงจะเป็นคนรักกันเมื่อคืนเท่านั้น แต่ตอนนี้ก็ต้องจากกันไปไกลแล้ว
    “หิวรึเปล่า ?” ผมพยักหน้า ผมไม่ชอบโกหก และผมก็รู้ด้วยว่าคนตรงหน้าผมก็ไม่ชอบโกหกใครเหมือนกัน “เดี๋ยวใช้เงินที่ฉันให้ไปซื้อของกินตรง Gate ที่เค้าบอกว่ามีโรงอาหารนะ ตรงนี้มันไม่มี จำเบอร์ฉันได้ใช่มั้ย ? โทรมาตอนที่กำลังกินก็ได้ จนกว่า…จนกว่าเค้าจะบอกให้ปิดเครื่องน่ะ แล้วถึงไทยโทรมาด้วยนะ เดี๋ยวฉันโทรกลับเอง” ว่าจบแล้วเฟยหลงก็จูบปากผมเบา ๆ หนึ่งที
    “รู้แล้วครับ เจ้านาย!” ผมทำท่าตะเบ๊ะเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี ตอนนี้เค้ามาส่งผมถึงที่ที่ไกลที่สุดที่จะไปได้แล้ว ผมรอให้คนเดินผ่านไปเรื่อย ๆ ผมไม่อยากเดินออกจากตรงนี้ไป อยากเข้าเป็นคนสุดท้ายเลยก็ได้
    “เดี๋ยวคนเยอะ เข้าไปเถอะ”
    “ครับ…อืม เดี๋ยวโทรหานะ” ผมว่าเสียงแผ่วเบาแล้วกระโดดเข้ากอดคนตรงหน้าแน่นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน คนตาตี่ตรงหน้าผมก้มลงจูบผมอีกครั้ง คราวนี้เป็นจูบที่นานพอสมควรจากนั้นเราก็ผละออกจากกัน
    “รักนะเจ้าลูกหมา” นั่นทำให้ผมใจเต้น น้อยครั้งที่คนคนนี้จะพูดคำนี้ออกมา ผมยิ้มให้เฟยหลงแล้วจูบเค้าที่แก้มอีกครั้งก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินเข้าไปต่อแถว เฟยหลงยังคงยืนรอผมจนผมเดินเข้าไปแล้วนั่นล่ะเค้าถึงจะยอมเข้าไป
    ผมเดินเข้ามาจนถึงด้านหน้าประตูที่จะขึ้นเครื่องบินแล้วถึงจะโทรหาเฟยหลง แน่นอนครับเสียงปลายสายด่ากลับมาว่าทำไมนานจัง จะว่าไปไอ้ตี๋นี่ก็ใจร้อนไม่เคยเปลี่ยน เราคุยกันนานมาก เพราะว่ากว่าเครื่องบินจะออกก็อีกเกือบสองชั่วโมงต่อมา พอเค้าเรียกตรวจตั๋วเพราะจะให้ขึ้นเครื่องแล้วผมเกือบตกเครื่องเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ได้ขึ้นเครื่องพร้อมกับการวางสายปิดเครื่องของผม ผมเดินขึ้นเครื่องบินไปพร้อมกับความคิดของผมที่ฝากเอาไว้ที่นี่
    เครื่องบินบินออกจากรันเวย์ทำให้ทัศนียภาพเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตอนนี้เริ่มเห็นแต่เกาะฮ่องกงแล้ว ผืนน้ำสะท้อนแสงแดดระยิบระยับอย่างสวยงาม เท้าของผมไม่ได้อยู่บนพื้นของประเทศที่ชื่อว่าฮ่องกงอีกแล้ว ผมเปิดเป้หยิบรูปสองรูปที่เราถ่ายคู่กันออกมาดู เจ้าคนข้าง ๆ ผมในรูปนี่ช่างกวนประสาทอะไรอย่างนี้นะ… แต่ผมก็รักเจ้าคนคนนี้ของผมล่ะนะ ผมหันกลับไปมองเกาะฮ่องกงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เครื่องบินจะบินขึ้นบนกลีบเมฆไป
    “เห้ย นั่นไง ๆ ไอไนท์!” ผมได้ยินเสียงไอแซนด์ดังมาแต่ไกล ตอนนี้ผมเดินออกมาจากที่รับกระเป๋าของสนามบินสุวรรณภูมิเรียบร้อยแล้ว ทั้งไอเช่ ไอแซนด์ พี่ชายผม พ่อ แม่ มารอรับผมกันหมด น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความดีใจ ไอแซนด์มันวิ่งหรี่เข้ามาหาผมแล้วกอดผมแน่น ตามมาด้วยไอเช่
    “ไอสัตว์ กูโคตรห่วงมึงอ่ะ” ทั้งสองคนสูดน้ำมูกเบา ๆ
    “มาทำเป็นซึ้ง ร้องไห้ทำห่าไรครับพวกคุณมึง” ผมบอกเบา ๆ แต่เสียงผมก็สั่น แล้วน้ำตาผมก็ไหลเหมือนกัน
    “เห้ย ๆ มึงไปหาครอบครัวมึงก่อน พวกเรามีเรื่องต้องคุยกันยาวว่ะ” ไอแซนด์ว่าแล้วปล่อยผมออกไปให้ผมเจอกับคนที่บ้านผมทั้งสามคน
    “ไหนดูดิ๊” พี่เดย์ พี่ชายของผมเดินเข้ามาจับตัวผมหมุนไปรอบนึงแล้วก็ดูตามตัวไปเรื่อย “เห้อ… น้องชายพี่ปลอดภัยกลับมาแล้วเว้ย!” พี่เดย์ตบไหล่ผมเบา ๆ แล้วพ่อกับแม่ก็เข้ามากอดผมต่อ
    “ลูกโชคดีนะที่เจอคนไทยด้วยกัน เค้าเป็นคนดีนะ” แม่ผมพูดทั้งน้ำตา “ขอบคุณเค้าจริง ๆ ถ้ามีโอกาสแม่อยากไปหาเค้า ไปตอบแทนเค้าที่ดูแลชีวิตลูกแม่เหลือเกิน” ผมพยักหน้าแผ่วเบา ส่งยิ้มให้พ่อและแม่ของผม
    “แม่ อย่าไปว่าไอเช่กับไอแซนด์มันนะ มันไม่ผิด ไนท์ผิดเอง” แม่กับพ่อผมพยักหน้าแล้วขำออกมาเบา ๆ
    “ลูกน่ะ ไม่รู้หรอก เพื่อนลูกทั้งสองคนเค้าไม่เป็นอันเที่ยวฮ่องกงเลยนะ” พ่อผมบอกผม เออจะว่าไปมันยังไม่ได้เล่าตอนที่ผมหลงทางเลยนี่นะ
    “เอาเป็นว่า วันนี้กลับไปที่บ้านเราก่อนแล้วกัน ให้แซนด์กับเช่ไปด้วย” แม่ผมว่าแล้วหันไปทางเจ้าเพื่อนตัวดีที่ตาแดงก่ำน้ำตาเต็มแก้มทั้งสองคน
    “จะไม่ให้ไปก็ไม่ได้ด้วยล่ะ เพราะรถเจ้าเช่ ฮ่า ๆ” พี่เดย์หัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วเราทั้งหมดก็เดินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไป…
   แน่นอนว่าผมมีความสุขมากที่ได้กลับมาเมืองไทยหลังจากที่หลงทางมานาน และสิ่งที่ผมนำกลับมาด้วย ก็คือคนที่รักผม และเป็นคนเดียวกันกับที่ผมรัก… ขอขอบคุณ ดินแดนฮ่องกงจริง ๆ ครับ

และแล้วก็มาถึงตอนจบ ^ ^
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านนะครับบบ ^ ^
ขอบคุณฮ่องกงที่ทำให้ผมคิดพลอตขึ้นมาได้ เลยอยากแต่งเท่านั้นแล ^ ^
ถึงมันจะไม่ยาวมาก แค่ 14 ตอน แต่ก็ขอบคุณทุก ๆ คนมากคับบบบบ

หลังจากนี้ว่าจะแต่งเรื่องใหม่ จะมีคนอ่านมั้ยอ่า ? TwT
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 30-07-2011 23:03:01
 :impress3:

น่าร๊ากกกกก

แต่นะจะมีตอนพิเศษนะ  มีเหอะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 31-07-2011 00:20:40
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 31-07-2011 01:29:30
สนุกดีอ่าาาาา  ชอบบบบ

สนับสนุนให้มีตอนพิเศษเช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 31-07-2011 11:30:06
ขอตอนพิเศษด้วยนะ สนุกดีนะ
 :man1: :mc4:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-07-2011 12:37:58
แอ๊! อย่าเพิ่งจบ ให้พี่ตี๋กะลูกหมาเจอกันอีกครั้งก่อน :z3:
ล้อเล่นค่ะ สนุกมากๆๆ เลย นั่งอ่านเพลินจนคิดว่า 14 ตอนมันน้อยไปนะเนี่ย อยากอ่านอีก :impress2:
ขอตอนพิเศษได้ไหมน้า พลีสส :m13:
+1 ขอบคุณค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 31-07-2011 14:31:59
อยากได้ตอนพิเศษจังเลยค๊า~~~ อยากเจอพี่ตี๋อีก T^T~
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 31-07-2011 15:12:34
เรื่องน่ารักดีครับ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 02-08-2011 06:15:56
น่ารักมากถ้าหลงทางแล้วเจอคนดีๆแบบเฟยหลงคงดีไม่น้อยแล้วไม่มีฉากหวานๆตอนเฟยหลงมาไทยบ้างเหรอ ขอบคุณมากครับจะคอยติดตามผลงานต่อไป
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 02-08-2011 13:25:33
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: CHADMM ที่ 02-08-2011 15:37:20
อ่านจบแล้ว..สนุกมากๆเลยค่า ,, แต่น่าจะมีตอนพิเศษอีกหน่อยเนอะ ><

ขอบคุณสำหรับเรื๊องสนุกๆนะคะ  ถ้าแต่งอีกก็จะตามไปอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 18-12-2015 21:57:19
มีต่อซักหน่อยสิฮะ นะนะนะ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-12-2015 04:03:28
มีตอนพิเศษสักตอนสองตอนไหมครับ อยากอ่านๆ
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 21-12-2015 21:28:05
สนุกดี แต่ว่าอ่านจบแล้วก็ยังค้างอยู่อ่ะ :ruready
น่าจะมีอีกสักตอนนะ 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 21-12-2015 23:41:30
อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะคะ อยากรู้ความรู้สึกเฮียหลง แล้วก็เรื่องราวต่ออีกอ่ะคะ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: - G E T L O S T - 14 กลับไทย [30/7/2554] End
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 20-11-2018 23:44:58
อิพี่ตอนแรกกับตอนท้ายนี่ต่างกันฟ้า เหวมากจ้า อห.ตอนแรกๆคือหมั่นไส้อะ คนอะไรปากร้ายมากกกกกกกกก ด่าลูกชั้นได้แบบ ถึงแกจะเปนพระเอกชั้นไม่ยกลูกชั้นให้!   :angry2: 555555555555555555555 แต่พอสารภาพปุ้บคือหลงแฟนเว่อร หวานๆๆๆค่ะ รักกันนานๆนะระยะทางไม่เป็นอุปสรรคถ้าใจของคนทั้งคู่มั่นคง  o13