พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Rafael ที่ 11-12-2010 20:04:40

หัวข้อ: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-12-2010 20:04:40
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ

กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-12-2010 20:06:24
สวัสดีค่ะ วันนี้เอาเรื่องสั้นมาฝากกัน  เขียนแก้เพ้อเล่นๆน่ะค่ะ จะถูกใจไม่ถูกใจกันยังไงก็ติชมกันได้นะคะ
 
:กอด1: :กอด1: :กอด1:

                                                              ฝากใจ...
   สายลมเอื่อยๆยามเย็นพัดผ่านสวนสาธารณะที่ตอนนี้มีเพียงร่างบางๆของใครคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สีซีดบ่งบอกถึงอายุการใช้งาน นัยน์ตาสีดำสนิททอดมองอย่างเหม่อลอยไปยังผืนน้ำเบื้องหน้าที่สะท้อนภาพท้องฟ้าสีอมส้มยามเย็น ดวงอาทิตย์กำลังจะลับริมขอบฟ้าแล้วแต่ร่างนั้นยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่ราวกับถูกบางอย่างสะกดไว้
   ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะลุกแต่เพียงตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงพอ มือเรียวยาวสีขาวซีดยกขึ้นทาบบริเวณหน้าอกข้างซ้ายอย่างลืมตัว
‘ หมออยากให้คุณเข้ามาทำการรักษาอย่างจริงจัง เพราะหากยิ่งปล่อยไว้มันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตคุณ ‘
ประโยคของหมอดังขึ้นในโสตประสาทของธารินอีกครั้งเหมือนหนังที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยอาการเจ็บหน้าอกเป็นพักๆของเขาที่เคยเกิดขึ้นไม่บ่อยนักจนเขาคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาก่อนหน้านี้เลยไม่ได้คิดจะใส่ใจกลับถี่ขึ้นเรื่อยๆในช่วงนี้ ทำให้เขาจึงตัดสินใจลางานพาตัวเองไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล และนี่จึงทำให้เขาได้รับรู้ถึงสาเหตุของอาการที่เป็นอยู่ ‘เขาเป็นโรคหัวใจ’
 “ เฮ้อ...แล้วเราจะเงินจากไหนมารักษากัน “ ธารินพึมพำกับตัวเองอย่างหมดหวังเมื่อนึกถึงเรื่องค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อยที่ต้องใช้ในการรักษา แต่ลำพังตอนนี้ที่เขาทำงานหามรุ่งหามค่ำเลี้ยงแม่บวกกับภาระที่ต้องใช้หนี้กองโตมันก็หนักมากเกินพอ เรื่องการรักษานี่จึงไม่ต้องพูดถึงเพราะเขาคงไม่มีปัญญาแน่ๆ
อากาศเริ่มเย็นลงพร้อมกับท้องฟ้าที่เริ่มมืด ธารินยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองไปมาเมื่อลมที่พัดผ่านร่างเย็นจนบาดผิวเนื้อ เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆก่อนที่ขาทั้งสองข้างจะทำหน้าที่พาเขาก้าวเดิน ถนนภายในเมืองยังคงวุ่นวายคับคั่งไปด้วยรถราที่ติดยาวเป็นสาย ผู้คนยังคงเดินกันไปมาขวักไขว่อยู่บนทางเท้า ร่างบางเดินต่อไปเรื่อยๆอย่างเหม่อลอย จุดหมายของเขาคือป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่นัก
‘ ปี๊น ปี๊น ‘
เสียงแตรรถดังสนั่นทำให้ผู้คนที่เดินอยู่บนทางเท้าหันไปให้ความสนใจก่อนจะรีบวิ่งหลบกันอย่างเอาเป็นเอาตายเมื่อรถกระบะสีเงินคันหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาทางนี้ด้วยความเร็วสูง แต่ไม่ใช่สำหรับธาริน เขายืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนรอให้รถที่พุ่งเข้ามาปะทะกับร่างของตัวเอง ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะยืนอยู่แบบนั้น แต่ขาของเขาต่างหากที่มันไม่ยอมก้าวไปไหนทั้งๆที่ในใจกลัวกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นเหลือเกิน
“ หลบสิคุณ! “ เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมกับร่างของเขาที่ถูกกระชากอย่างแรงเข้าหาอกแกร่งของใครคนหนึ่งจนพ้นทางที่รถพุ่งเข้ามา ร้านค้าแผงลอยบริเวณนั้นเสียหายจากการพุ่งชนแต่โชคดีที่ไม่มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
“ ขะ...ขอบคุณครับ “ ธารินที่เหมือนเพิ่งจะตั้งสติได้กล่าวตะกุกตะกัก นึกไปถึงเหตุการณ์เฉียดตายเมื่อสักครู่ก็ทำเอาใจหายวูบ ถ้าไม่ได้ชายหนุ่มตรงหน้านี้ช่วยไว้ป่านนี้เขาคงได้ไปเฝ้ายมบาลอยู่ในนรกแล้ว
 “ อืม...วันหลังก็อย่าเหม่อให้มันมากนักนะคุณ “ ชายหนุ่มว่าเสียงเรียบ ทำให้ธารินหน้าเจื่อนลงไปอีก  “ เอาเถอะ แต่ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ยังไงก็เดินดีๆล่ะ “  เมื่อเห็นสีหน้าของคนถูกว่าซีดแล้วซีดอีกเหมือนเด็กๆเวลาโดนผู้ใหญ่ดุชายหนุ่มจึงเปลี่ยนโทนเสียงให้อ่อนลง และเมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยเอาไว้จะไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ชายหนุ่มจึงขอตัวแล้วเดินจากไป แต่ลางสังหรณ์ของเขากลับบอกว่า เขาจะได้เจอกับคนคนนี้อีกเป็นแน่
 “ ขอบคุณครับ... “ ธารินเอ่ยพึมพำกับตัวเองอีกครั้งก่อนจะมองตามแผ่นหลังหนานั่นจนหายลับไปกับฝูงคน
 เขากลับไปถึงบ้านด้วยอาการเพลียมากกว่าทุกวัน บ้านหลังนี้เกิดจากน้ำพักน้ำแรงที่ของเขาสู้กัดฟันผ่อนมาหลายปีกว่าจะได้เป็นเจ้าของอย่างเต็มตัว  
 “ ริน...กลับมาแล้วหรอลูก เป็นอะไรหรือเปล่าสีหน้าดูไม่ดีเลยนะ “ เสียงของคนเป็นแม่ดังขึ้นด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของลูก เธอรู้ว่าลูกชายคนนี้ของเธอทำงานหนักมากขนาดไหนกว่าที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองรวมถึงภาระเรื่องการชำระหนี้กับเจ้าหนี้รายต่างๆที่สามีของเธอไปกู้เอาไว้หวังจะใช้เป็นทุนสร้างธุรกิจแต่ก็พังไม่เป็นท่า ด้วยความเครียดสามีของเธอจึงตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองลงเมื่อหลายปีก่อน ภาระทั้งหมดจึงตกมาอยู่ที่ลูกชายคนเดียวอย่างธาริน ทั้งๆที่รู้แต่เธอก็ไม่สามารถจะช่วยลดภาระเหล่านี้ได้เนื่องจากร่างกายของเธอเองก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงนัก ทำงานหนักอย่างใครเขาก็ไม่ได้จึงได้แต่อยู่บ้านทำงานเล็กๆน้อยๆ
“ ไม่เป็นไรครับแม่ แม่ไปนอนเถอะนะเดี๋ยวเกิดวูบขึ้นมาอีกจะลำบากเอา “ ธารินกล่าวพร้อมกับเดินไปจูงแขนมารดาของตนเองขึ้นไปพักผ่อนบนบ้าน
“ แม่ไม่เป็นไรหรอกลูก ว่าแต่ลูกเองเถอะอย่าฝืนให้มันมากนะ ถ้าลูกเป็นอะไรไปอีกคนแม่คงทนอยู่ต่อไปไม่ได้... “ มืออุ่นลูบลงบนเส้นผมนุ่มของธารินอย่างเบามือ
“ รินไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไรจริงๆ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง “ ความรักความห่วงใยของแม่ที่ส่งผ่านมาทำให้ธารินต้องฝืนยิ้มกลับไปให้ ด้วยไม่อยากจะให้มารดารับรู้เรื่องที่เขากำลังกังวล ขอโทษครับแม่แต่รินไม่อยากให้แม่เป็นห่วง...
********
อาการเจ็บหน้าอกของธารินยังคงเกิดขึ้นบ่อยๆในรอบหลายวันที่ผ่านมา แต่เขาก็ยังฝืนไปทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแต่เขาเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยขึ้นเมื่อมีอาการและรับยามากินแต่ถึงกระนั้นหมอก็ยังกำชับให้เขารีบมาทำการรักษาอย่างจริงจังเสียที ซึ่งเขาก็ได้แต่ผัดผ่อนออกไปอย่างเช่นทุกครั้ง
“ เลิกงานแล้วจ๊ะพ่อพนักงานดีเด่น ทำงานหนักไม่เกี่ยงเวลาขนาดนี้เห็นทีปีนี้จะได้โบนัสทบหลายเดือน “ เสียงหยอกล้อของวารีเพื่อนร่วมงานของเขาดังขึ้นพร้อมกับร้อยยิ้มหวาน
“ ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีสิ “ ธารินหันไปยิ้มให้เพื่อนสาวก่อนจะหันกลับไปเคลียร์กับกองเอกสารมากมายที่อยู่บนโต๊ะ ถึงเงินเดือนพนักงานบัญชีอย่างเขาจะไม่มากมายนักแต่ถ้าได้โบนัสทบหลายเดือนอย่างที่วารีบอกล่ะก็ เขาคงจะมีเงินเป็นกอบเป็นกำขึ้นมาบ้างล่ะ
“ จ้าๆพ่อคุณ ยังไงก็อย่าฝืนให้มันมากนักนะ ฉันกลับก่อนล่ะ “ วารีตบบ่าเพื่อนสองสามทีก่อนจะเก็บของแล้วเดินออกไป ถึงทุกคนจะคอยบอกให้เขาอย่าฝืนให้มากก็เถอะแต่ถ้าใครมาตกอยู่ในสภาพเดียวกับเขาตอนนี้ไม่อยากฝืนก็คงต้องฝืนกันล่ะ
ช่วงหัวค่ำ ในบริษัทไม่มีพนักงานหลงเหลืออีกแล้วนอกเสียจากธารินที่อยู่เคลียร์เอกสารจนเสร็จเรียบร้อย เขากล่าวทักทาย รปภ.หน้าตึกเมื่อเดินลงมาชั้นล่างเหมือนอย่างเคยเวลาที่อยู่ทำงานจนมืดค่ำก่อนจะออกมายืนรอรถเมล์ที่ป้าย อาการหวิวในอกทำให้ธารินต้องสูดลมหายใจลึกๆ แต่มันก็ไม่ช่วยให้เขาดีขึ้นเลยเมื่ออาการเจ็บแปลบที่หน้าอกวิ่งพล่านจนเขาต้องยกมือขึ้นกุมที่หน้าอกข้างซ้าย ธารินเผลอกัดริมฝีปากบางของตัวเองจนขึ้นสีเลือดเมื่ออาการเจ็บปวดไม่ทุเลาลงเลย
“ คุณๆ เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าคุณซีดมากนะ “ เสียงและใบหน้าคมเข้มของใครคนหนึ่งที่เขาจำได้ดีว่าเคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ดังขึ้นข้างๆแต่เขาไม่มีแม้แรงที่จะตอบกลับไป สติที่มีอยู่ดูเหมือนจะเลือนลางลงเรื่อยๆจนในที่สุดทุกอย่างก็ดับมืดลง
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งธารินพบว่าตัวเขาเองอยู่ในโรงพยาบาล มือข้างหนึ่งถูกเจาะสายน้ำเกลือเอาไว้ เขาเหลือบไปมองนาฬิกาแขวนผนังที่บอกเวลาสี่ทุ่มกว่า แย่จริงๆ ป่านนี้แม่ของเขาคงจะเป็นห่วงมากแล้ว โทรศัพท์มือถือก็ไม่รู้อยู่ที่ไหนเพราะตอนนี้เขาถูกจับเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
“ เป็นอย่างไรบ้างคุณ “ ชายหนุ่มผู้ที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้เป็นครั้งที่สองเอ่ยขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาในห้องหลังจากที่ออกไปจัดการธุระเรื่องค่ารักษายาบาล
 “ ผมดีขึ้นแล้ว ตอนนี้ผมอยากกลับบ้าน แม่คงจะเป็นห่วงมาก ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย...คุณจะช่วยออกให้ก่อนได้มั้ย คือ...คือ...ตอนนี้ผม ผมจะเอามาคืนให้วันหลังนะ... “ ธารินเอ่ยรัวเร็วในตอนแรกแต่ก็ต้องเสียงแผ่วในช่วงท้ายประโยคเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีเงินติดตัวอยู่ไม่ถึงร้อยบาท ทำให้ชายหนุ่มต้องยกมือขึ้นห้ามเหมือนอยากจะบอกว่าพอก่อน เขาจึงได้แต่นั่งก้มหน้ามองมือของตัวเอง
“ ฟังนะ คุณจะกลับได้ก็ต่อเมื่อน้ำเกลือหมดกระปุกเท่านั้น ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายผมจัดการให้เรียบร้อยแล้วไม่ต้องห่วง แล้วก็นี่...โทรศัพท์คุณ “ ชายหนุ่มกล่าวก่อนจะส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้เจ้าของที่รีบรับมาแล้วกดโทรออกทันที
“ ขอโทษครับแม่ ผมทำงานเพลินไปหน่อยเลยเพิ่งโทรมาบอก คงกลับดึกๆนะครับ แม่ไม่ต้องรอนะ...ครับๆ ”
น้ำเสียงที่ดูฝืนๆบอกกับปลายสายทำให้ชายหนุ่มยืนมองอย่างใช้ความคิด โทรศัพท์ถูกกดวางไปแล้วแต่สีหน้าของร่างบางตรงหน้ายังคงมีความกังวลอยู่ไม่น้อย
“ ขอบคุณครับคุณ... “ ธารินไม่ลืมที่จะหันมากล่าวขอบคุณชายหนุ่มแต่เหมือนว่าเขาจะยังไม่รู้จักชื่อของคนตรงหน้าเลย
“ ภูมินทร์ ผมชื่อภูมินทร์ “ ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเหมือนรู้ใจคนตรงหน้าพร้อมกับยื่นนามบัตรให้
“ ครับ ผมธาริน เรียกรินเฉยๆก็ได้ครับ “ ธารินรับมาตามมารยาท ‘ประธานบริษัทนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชื่อดังของประเทศ’ เขาเหลือบมองนามบัตรในมือแล้วส่งยิ้มแห้งๆกลับไปให้ แล้วคนรวยระดับนั้นไปเดินทำอะไรอยู่แถวป้านรถเมล์กัน คำถามนี้ผุดขึ้นมาในหัว แต่ก็ต้องถึงบางอ้อเมื่อเขาเอ่ยปากถามเจ้าตัวออกไปตรงๆ แล้วได้คำตอบมาว่า ‘ก็ป้ายรถเมล์ที่คุณอยู่นั่นมันหน้าตึกบริษัทของผม แล้วมันจะไปแปลกอะไรจริงไหมถ้าเจ้าของบริษัทจะออกมาเดินสำรวจหน้าบริษัทของตัวเอง’
ภูมินทร์นั่งรอจนน้ำเกลือในกระปุกหมดจึงทำเรื่องให้ธารินออกจากโรงพยาบาลและอาสาพากลับไปส่งที่บ้านทำเอาธารินรู้สึกเกรงใจจนไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร ช่วยพาเขามาส่งโรงพยาบาล แถมยังออกค่ารักษาพยาบาลให้อีก ทั้งๆที่เขาบอกว่าจะเอาเงินมาคืนให้แต่เจ้าตัวก็ดันบอกว่าไม่รับคืนโดยอ้างว่ามีคนมาเป็นลมอยู่หน้าบริษัทของเขาเขาก็ต้องรับผิดชอบสิ แล้วคนอย่างธารินจะไปเถียงอะไรได้
“ ขอบคุณมากๆอีกครั้งครับ ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้นะครับ ผมยินดี “ ธารินกล่าวขอบคุณอีกครั้งเมื่อรถของภูมินทร์เคลื่อนมาจอดที่หน้าบ้าน
“ คือ...เรื่องโรคหัวใจ...หมอบอกว่าคุณต้องเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง... “ ภูมินทร์เอ่ยขึ้น ทำให้ใบหน้าขาวของธารินสลดลงไปเล็กน้อยแววตาของเขาฉายแววหม่นหมองออกมาอย่างเห็นชัดเจน ทำเอาคนที่มองอยู่ถึงกับใจกระตุก ภูมินทร์คงจะรู้เรื่องของเขาจากหมอแล้วธารินคิดในใจ
“ ครับ ผมรู้ แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม คงต้องรอไปก่อน “ เขาทำได้เพียงแค่นี้ได้แค่รอ รอและรอต่อไปเรื่อยๆทั้งๆที่รู้ดีว่าคงไม่มีวันนั้น และที่สำคัญเขาจะให้แม่รู้ไม่ได้
“ ผมอยากให้คุณรีบเข้าทำการรักษา อย่างน้อยก็เพื่อตัวคุณเอง... “ ทั้งๆที่เรื่องนี้มันไม่น่าจะเกี่ยวอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อยแต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกเป็นห่วงคนตรงหน้าที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงนี้นัก
“ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริงๆ “ ธารินตัดบทก่อนที่ภูมินทร์จะได้อ้าปากพูดอะไรออกมาอีก เขาเปิดประตูแล้วก้าวขาลงจากรถทันที อาจจะดูเสียมารยาทไปบ้างแต่เขาไม่ต้องการให้ใครมากังวลกับเขาในเรื่องนี้ ร่างบางยืนรอจนรถของภูมินทร์เคลื่อนออกไปแล้วจึงค่อยหันหลังเดินเข้าไปในบ้านของตนเอง
********
   หลังจากวันนั้นธารินก็มีโอกาสได้เจอกับภูมินทร์โดยบังเอิญหลายครั้ง จนทั้งสองคนสนิทและคุ้นเคยกันดีจนไปไหนมาไหนด้วยกันหลายครั้ง แต่ความบังเอิญในความคิดของธารินนั้นเขาหารู้ไม่ว่าบางครั้งนั่นคือความจงใจของตัวภูมินทร์เองและจากการที่ได้พูดคุยกันอย่างสนิทใจทำให้ภูมินทร์รับรู้เรื่องราวต่างๆของธารินมากขึ้นจนเขาอดที่จะเป็นห่วงคนคนนี้ไม่ได้   
“ อ้าวสวัสดีครับพี่ภู มาทำอะไรที่โรงพยาบาลครับ “ คำเรียกสนิทสนมที่ภูมินทร์บังคับให้ธารินเรียกมาได้สักพักหนึ่งดังขึ้นทำให้ภูมินทร์หันไปส่งยิ้มให้อย่างถูกใจ
   “ มาเยี่ยมเพื่อนน่ะครับ ว่าแต่รินเหอะมาตรวจตรงตามที่หมอนัดทุกครั้งหรือเปล่า? “   ภูมินทร์ถามเมื่อรู้มาว่าเจ้าตัวเบี้ยวการนัดตรวจเมื่อครั้งที่แล้วจากหมอ ก็จะไม่ให้รู้ได้อย่างไรล่ะก็ในเมื่อการตรวจและทำการรักษาของธารินเขาเป็นธุระจัดการให้เองทั้งหมดนับตั้งแต่วันที่เขาได้รับรู้เรื่องราวปัญหาชีวิตเจ้าตัว และกำชับไม่ให้หมอบอกเรื่องนี้แก่ธารินแต่ให้บอกไปว่าเป็นโครงการพิเศษของทางโรงพยาบาลแทน เพราะเขามั่นใจว่าถ้าธารินรู้เรื่องนี้คงจะไม่ยอมเข้าทำการรักษาเป็นแน่ ภูมินทร์เร่งให้หมอรีบติดต่อเจ้าตัวมาทำการรักษาในทันที ถึงตอนแรกธารินจะดูงงๆไปบ้างแต่เขาก็ยอมเข้ารับการรักษากับทางโรงพยาบาลแต่โดยดี จึงทำให้ภูมินทร์รู้สึกสบายใจไปได้เปราะหนึ่ง
บางทีภูมินทร์เองก็ไม่เข้าใจตัวเองสักเท่าไหร่นัก เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงตัดสินใจทำแบบนี้ แต่เพียงแค่นึกถึงแววตาเศร้าๆของธารินเขาก็รู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก จะเรียกว่าเขาถูกชะตากับธารินตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันก็ว่าได้ แล้วยิ่งได้มารับรู้เรื่องราวของเจ้าตัวแบบนี้แล้ว ยิ่งทำให้เขาตัดใจทิ้งคนคนนี้ให้ตกอยู่ในสภาพแบบนั้นไม่ลง
นึกถึงวันที่เจ้าตัวมาบอกกับเขาด้วยสีหน้าท่าทางดีใจว่าทางโรงพยาบาลมีโครงการพิเศษทำให้เขาได้เข้ารับการรักษาฟรี โดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าของโครงการน่ะนั่งอยู่ตรงหน้านี้แล้วก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าเขาก็ไม่ต้องการจะให้เจ้าตัวรู้อยู่แล้วจึงได้แต่แสร้งทำเป็นตื่นเต้นดีใจไปกับธารินด้วย
“ อะ...เอ่อ ปกติก็มาตามนัดครบนะครับแต่ครั้งก่อนรินไม่ได้มาน่ะ “ ธารินก้มหน้าก้มตาตอบออกไปตามความจริง ทำให้ภูมินทร์นึกขำกับท่าทีของคนตรงหน้า ก็เป็นคนตรงๆอย่างนี้น่ะสิเขาถึงได้รู้สึกชอบและสบายใจเวลาอยู่ใกล้ๆ
ไม่นานธารินก็ถูกพยาบาลเรียกเข้าไปพบหมอ เขาเดินตรงไปยังห้องตรวจอย่างคุ้นชินแต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อได้ยินบทสนทนาหนึ่งของพยาบาลสาวสองคนซึ่งไม่คิดว่าเขาจะผ่านมาได้ยิน...
********
ภูมินทร์ไม่สามารถติดต่อกับธารินได้อีกหลังจากเจอกันที่โรงพยาบาลครั้งนั้นจนถึงวันนี้ก็หนึ่งอาทิตย์เต็มแล้ว เขาพอจะเดาได้ว่าที่เหตุการณ์เป็นแบบนี้เพราะอะไร ธารินคงจะบังเอิญไปได้ยินใครในโรงพยาบาลพูดถึงเรื่องที่เขาปิดบังอยู่เข้า และเมื่อเขาไปสอบถามที่โรงพยาบาลก็พบว่าธารินไม่ได้เข้ามาตามนัดที่หมอนัดได้สองครั้งแล้วจริงๆอย่างที่คาด
“ ริน รินจะทำแบบนี้กับพี่ไม่ได้นะ... “ ภูมินทร์ได้แต่พึมพำกับตัวเองอย่างร้อนใจ ทั้งๆที่รู้นิสัยของเจ้าตัวดีแต่ก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ แค่รับการช่วยเหลือจากเขานี่มันทำให้ธารินลำบากใจมากขนาดนั้นเลยหรือ รัก...ในเวลานี้เขาพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเขารักธารินเข้าแล้ว จากความสงสารก่อตัวเป็นความห่วงใยชอบและก็เผลอรักไปในที่สุด...แล้วคนที่เขากำลังเป็นห่วงอยู่ตอนนี้ล่ะจะรับรู้ถึงสิ่งนี้ได้ไหมนะ
ทางด้านของธารินนั้น เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอก ทำไมภูมินทร์ต้องทำแบบนี้ด้วย ถ้าจะบอกกับเขาก่อนซักคำเขาก็เป็นคนที่มีเหตุผลพอถ้าฝ่ายนั้นยินดีที่จะช่วยเรื่องนี้เขาก็ยินดีที่จะเข้าทำการรักษา แต่แน่นอนว่าหลังจากที่เขาหายดีแล้วเขาจะรีบหาเงินมาคืนให้ครบทุกบาททุกสตางค์
ธารินหลบหน้าหลบตาไม่รับโทรศัพท์ภูมินทร์มาได้ซักพักแล้วไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะเจอ แต่เพียงตอนนี้เขาคิดว่าเขายังไม่พร้อมที่จะคุยมากกว่า มันอาจจะฟังดูไร้เหตุผลเพราะการที่เขาทำแบบนี้มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดูดีขึ้นมาเลยมิหนำซ้ำยังจะทำให้เรื่องแย่ลงไปกว่าเดิมอีก แต่เรื่องของอารมณ์มันก็ไม่เคยเข้าใครออกใครจนทำให้เขาตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ออกไป
 เมื่อขาดการรักษาที่ต่อเนื่องอาการเจ็บหน้าอกของธารินก็กลับมากำเริบอีกครั้งจนเขาต้องตัดสินใจกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็คิดได้ว่าการที่เขาดื้อดึงที่จะทำแบบนี้ต่อไปคนที่จะได้รับผลเสียที่สุดก็คือตัวเขาเอง ธารินถูกหมอตำหนินิดหน่อยที่ไม่มาตามนัดถึงสองครั้ง ซึ่งเขาก็ยอมรับผิดแต่โดยดีและก่อนที่จะกลับหมอก็ยังไม่ลืมที่จะย้ำถึงกำหนดการนัดครั้งต่อไปให้เขาฟังอีกรอบ
ร่างบางเดินเหม่อๆออกมาจากโรงพยาบาลโดยไม่ทันได้สังเกตเห็นภูมินทร์ที่มายืนดักรออยู่หน้าโรงพยาบาลหลังจากที่หมอโทรไปบอกว่าธารินกลับเข้ามาทำการรักษาต่อแล้ว
“ ริน... “
“ พี่ภู! “ ธารินเบิกตาโพลงด้วยไม่คิดว่าจะมาเจอกับภูมินทร์ที่นี่ ข้อมือเล็กของเขาถูกคนตัวสูงกว่าจับไว้แน่นก่อนจะกึ่งจูงกึ่งลากไปที่รถ โดยไม่รอให้ร่างบางได้เอ่ยอะไรไปมากกว่านี้
“ ฟังพี่นะริน... “ ภูมินทร์เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบภายในรถ ธารินยังคงนั่งเงียบเขาจึงถือว่าอีกฝ่ายยอมให้เขาพูดแล้ว
“ พี่รู้ว่ารินโกรธที่พี่ทำแบบนี้ แต่ที่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพราะพี่เป็นห่วงริน พี่คิดว่ารินคงไม่ยอมรักษาแน่ถ้าพี่จะเป็นคนจ่ายค่ารักษาให้ทั้งหมดพี่ถึงต้องทำแบบนี้ รินจะโกรธจะเกลียดพี่ก็เอาเลยนะแต่ขอร้องได้ไหม ให้หมอรักษารินให้หายดีก่อนเถอะนะ... พี่รู้ว่ารินไม่ได้เป็นอย่างพี่แต่ก่อนที่พี่จะไม่มาให้รินเห็นหน้าอีกพี่อยากให้รินรับรู้ไว้ว่า พี่รักรินนะ...“ ภูมินทร์ว่าพลางดึงมือขาวของธารินขึ้นมากุมไว้ ความรักความห่วงใยของคนที่กุมมืออยู่ส่งผ่านไปถึงอีกคนอย่างช้าๆ
ธารินรู้ตัวเองดีว่าไม่ได้เป็นเกย์แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสัมผัสของคนข้างตัวทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย และตอนนี้เขาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นคนที่โง่มากที่สุดในโลก โง่เสียยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าตัวเองโดนหลอก เพราะเขาน่าจะรู้ได้เสียตั้งนานแล้วว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาตอนนี้เป็นห่วงเขามากแค่ไหน ตลอดเวลาที่เขารู้จักกัน คนคนนี้จะคอยเป็นห่วงเป็นใยเขาตลอดเวลา แล้วทำไมล่ะ เพียงแค่คนคนนี้จะโกหกเขาเพราะหวังดีอยากให้เขาหายป่วยนี่มันเป็นสิ่งที่ผิดมากขนาดที่เขาจะไม่ยอมให้อภัยเชียวหรือ
น้ำใสๆเอ่อคลออยู่ที่ดวงตาคู่สวยของธารินอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ ทำให้ภูมินทร์ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก นี่เกลียดกันมากจนถึงกับขนาดร้องไห้เลยใช่ไหม
“ ไม่ร้องนะริน...พี่สัญญาพี่จะไม่มาให้รินเห็นหน้าอีก ดีไหม “ ภูมินทร์กลั้นใจเอ่ยในสิ่งที่ไม่อยากจะทำมากที่สุดออกมา แต่ธารินกลับส่ายหน้าพรืดแทนคำตอบ
“ ฝากได้ใช่ไหม...รินจะฝากหัวใจของรินไว้ที่พี่ได้ใช่ไหม...พี่ภู “ ธารินหันหน้าไปเอ่ยกับภูมินทร์ทั้งน้ำตา เขากำลังทำสิ่งที่ถูกแล้วใช่ไหมเขาควรจะลองเปิดใจให้คนคนนี้ เปิดใจให้คนที่คอยห่วงใยเขามาตลอด
“ ได้...ได้สิ “ ภูมินทร์ตอบกลับมาเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน ความรักความห่วงใจที่เขามีให้ส่งไปถึงใจคนคนนี้แล้วสินะ
“ ขอบคุณครับ...ขอบคุณสำหรับทุกอย่างครับพี่ภู “ ธารินส่งยิ้มให้ทั้งๆที่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ พี่ก็เหมือนกันริน ขอบคุณนะขอบคุณที่รินเลือกที่จะฝากใจไว้กับพี่... และตราบใดที่รินยังเลือกที่จะฝากหัวใจไว้กับพี่พี่สัญญาว่าจะดูแลมันให้ดีที่สุดจนกว่ารินจะไม่ต้องการและมาเอาคืนไป... “ภูมินทร์รั้งร่างของคนรักเข้ามากอดเอาไว้แน่น ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตามแต่แค่วันนี้คนในอ้อมกอดเลือกที่จะฝากใจไว้กับเขาแล้วเขาก็พร้อมจะดูแลมันให้ดีที่สุด…สัญญาด้วยหัวใจ

                                                         THE END
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: peepee502 ที่ 11-12-2010 20:20:33
อ่านแล้วอยากเป็นโรคหัวใจขึ้นมาตะหงิดๆแฮะ ;;;


'สัญญาด้วยหัวใจ' น้องรินรินอย่าช็อคตายไปก่อนละ เดี๋ยวไม่มีหัวใจให้คนอื่นเค้าดูแล


พี่ภู ใจดีเว่อร์อะ ถ้าไรต์เตอร์เป็นลมสลบหน้าคอมฯ พี่ภูจะมาจ่ายค่ารักษาให้มั้ยเนี่ย \\โดนตรบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 11-12-2010 21:16:39
อ๊ายยย อยากมีคนรับฝากหัวใจ ฮ่าๆๆๆ พี่ภูน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 11-12-2010 22:17:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 11-12-2010 22:48:10
จะเรียกว่าพรมลิขิตได้มั้ยอ่ะ
แบบ...เจอกันครั้งแรกนี้ก้อเพราะอุบัติเหตุ
ครั้งที่สองก็เรื่องบังเอิญ
ส่วนครั้งต่อไปจะตั้งใจก็เถอะ อิอิ ><~~~

ดีใจที่รินจะฝากใจไว้กับพี่ภู อิอิ
ดูแลดี ๆ นะพี่ภู ^O^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 11-12-2010 23:10:07
ถ้าผมเป็นแบบพี่ริน จะมีสาวมาช่วยรักษาไหมค้าบบบบบ

ถ้ามี ยอมเป็นเลยเอ้า ><!!!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 11-12-2010 23:35:59
โอ้ย  หวานจังเลยย    ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 11-12-2010 23:36:10
:monkeysad: ดูแลหัวใจตัวเองดีๆนะจ๊ะธาริน...
โฮ่...ผู้ชายแบบพี่ภูมีขายตามท้องตลาดมั้ยอะคะ น่ารักเกินไปแล้ว ><
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 11-12-2010 23:54:05
อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ ผู้ชายแบบพี่ภูนี้จะมีจริงๆสักกี่คนกันเชียว แอร๊ยอยากได้บ้าง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-12-2010 07:16:39
หายากว่ะผู้ชายดีๆแบบนี้ :L1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-12-2010 11:04:32
ขอบคุณคนเขียนต่ะ
เป็นเรื่องดีๆที่น่าอ่านอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-12-2010 11:21:48
 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 12-12-2010 11:35:16
ซึ้งจัง ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-12-2010 20:22:24
ไม่มีคนให้ฝากใจไว้..อิจฉาคู่นี้นิ
มีแต่มาฝากรอยตีน(กา)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 12-12-2010 20:55:15
ชอบจ้า

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: sa~waii ที่ 12-12-2010 23:04:03
ถึงไม่เป็นโรคหัวใจ แต่ก็อยาก"ฝากใจ"กับใครซักคน

ก๊ากกกกกกกกก


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: crazy_jum ที่ 12-12-2010 23:36:53
อ่านแล้วรู้สึกว่ารินนี่ โชคดีชะมัดเลยแฮะ
อยากได้พี่ภู  กร๊ากกกกกกกกกกกกก

ขอบคุณค่ะ  น่ารักที่สุ๊ดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 13-12-2010 00:34:55
จะหาใครที่แสนดีได้ขนาดนี้ครับ


รู้สึกดีสุดๆๆๆๆอยากหาที่ฝากใจบ้าง


ขอบคุณครับบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-12-2010 01:19:20
ต่างเป็นคนดีด้วยกันทั้งคู่

นับเป็นโชคดีที่สองคนนี้ได้มาเจอกัน เปิดใจ และฝากใจให้กัน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ บวกไป 1 แต้มค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 13-12-2010 02:28:22
 :monkeysad: ซึ้งอ่ะ  ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



ชอบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 13-12-2010 02:53:50
บอกได้แต่ว่า :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: humanculus ที่ 13-12-2010 15:10:05



ผู้ชายมีมากมายตามท้องถนน  5555+

แต่มิมีของเราสักคน เหอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 13-12-2010 15:19:10
พี่ภูน่ารักจัง รับฝากหัวใจบ้างดิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 13-12-2010 15:59:36
ดีจังที่จบไม่เศร้า ขอบคุณมากนะค่า  :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-12-2010 16:52:33
อย่าลืมรักษา "เบาหวาน" ต่อด้วยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 09-01-2011 21:12:33
รับฝากหัวใจด้วยคน ได้ปะพี่ภูหห
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: zombiepe ที่ 10-01-2011 23:50:28
ไม่รู้ทำมอ่านชื่อเรื่องตนอแรกนึกไปถึงกระซวกหัวใจออกมา
555 ช่วงนี้ค่อนข้างจิตๆค่ะ
นิยายหวานใสมากค่ะ ถ้าไม่สบายจะมีโอกาศได้เจอคนหล่อมากิ๊บก๊าวบ้างไหมนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 16-01-2011 17:53:41
อ่านแล้วยิ้มออกเลยค่ะ ชอบจัง...รักใสๆแบบนี้  :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 26-01-2011 01:08:57
 :o8:น่ารักจังเลยค่ะ
เฮ้อ รักพี่ภูแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 18-09-2011 14:32:14
 :กอด1:น่ารักอ่ะอ่านไปน้ำตาซึมนิด ๆ แต่ก็มีความสุขอ่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 18-09-2011 14:55:51
 :o8:  ฝากใจ   

น่าร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 23-10-2015 02:30:26
หลงรักพี่ภูเลยอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-10-2015 13:12:49
ธารินโชคดีเพราะเป็้นคนดีซินะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 23-10-2015 19:53:50
ซึ้งมากเลย  :mew2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 26-10-2015 19:32:16
 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 27-10-2015 19:27:15
คนดี+คนดี=ดีสุดๆ    น่ารักมาก ดีแล้วที่รินกลับมารักษาและยอมรับใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-10-2015 19:57:40
หวานๆๆๆ จนคนอ่านเป็นเบาหวานแล้วค่าาา หุหุ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: มาม่าหมูสับ ที่ 30-06-2016 19:54:13
ตอนแรกคิดว่าจะดราม่า แต่ตอนจบมัน... งื้อ เขินแทนนน :ling1: :hao5: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นตอนเดียวจบ] ฝากใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 30-06-2016 20:24:09
โอ๊ยยยย อิจฉาตาลุกเป็นไฟแล้วอ่ะ อยากได้แบบพี่ภูจังง :mew2: