พิมพ์หน้านี้ - [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: JkrR ที่ 19-01-2010 23:19:07

หัวข้อ: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 19-01-2010 23:19:07
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

*****************************************************************

หวัดดีครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เอามาจากบอร์ดปาล์มครับ ขออนุญาตเจ้าของเรื่องเรียบร้อย ชื่อเดิมออกจะ...เอ่ออ

นิสนึง คือชื่อเรื่องเดิมจากบอร์ดปาล์มชื่อ "เปิดซิงน้องชายตัวเอง" แต่เกรงว่าชื่อเรื่องจะพาโดนอุ้ม

ก็เลยขอให้พี่เค้าเปลี่ยนชื่อเรื่อง ก็เลยกลายเป็นชื่อนี้แหละครับ

ผมอ่านแล้วรู้สึกสนุก แล้วก็ได้แง่มุมความรักในแบบ เอ่อ...แปลกดี

ก็เลยเอามาฝากเพื่อนๆในเล้าให้มาอ่านกันครับ

.
.
.
.

บทที่ 1 วัยเยาว์

สวัสดีครับหลังจากอ่านเรื่องของคนอื่นมามาก วันนี้จะลองเล่าเรื่องของตัวเองดูบ้าง
ปกติแล้วผมเป็นลูกคนเดียวแต่มีลูกพี่ลูกน้องหลายคน ส่วนมากเป็นผู้หญิง
จะมีผู้ชายก็เป็นลูกของอาคนเล็ก สมมติว่าชื่อนาวก็แล้วกัน ตอนเด็กๆผมจำได้ว่าไอ้นาวมันดื้อและซนมาก
ผมจะรู้สึกหมั่นไส้มันเป็นที่สุด รำคาญก็รำคาญ จนกระทั่งมันโตขึ้นมาหน่อย(ประมาณม.1)
ผมก็รู้สึกว่ามันเริ่มพูดง่ายขึ้นมาหน่อย ตอนนั้นผมก็เริ่มเข้ามหาวิทยาลัยพอดี
เวลากลับมาบ้านก็ได้เจอมันบ่อย ด้วยความที่ยังเห็นว่ามันเป็นเด็กอยู่ก็เลยชอบจับมันแก้ผ้าเล่น
มันเองก็ไม่ว่าอะไรออกจะขำๆด้วยซ้ำไป

แต่วันหนึ่งที่จับมันแก้ผ้าผมเริ่มเห็นถึงความผิดปกติตรงที่มันเริ่มมีขนหมออ้อยอ่อนๆขึ้นมาหน่อยๆแล้วอ่ะครับ  :o8:
(มิน่าช่วงหลังๆไม่ค่อยอยากให้จับแก้ผ้า)เรื่องมันก็เลยเริ่มต้นมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

"นาวมีขนขึ้นนานยังอ่ะ" ผมถามมัน
"ก็สักพักหนึ่งได้แล้วอ่ะพี่" นาวมันตอบซื่อๆ
"แล้วเคยคุยกับเพื่อนบ้างป่าวอ่ะ" ที่ถามก็เพราะตอนเด็กๆตอนที่เพื่อนผมขนขึ้นกัน
มันมาคุยกันตลอด บางคนถึงขนาดไปซื้อยาปลูกขนเพื่อให้ขนมันขึ้นทันเพื่อนเลยคิดดูละกัน
"ก็ไม่อ่ะ ทำมายเหรอ" ไอ้นาวแม่งโกหกชัดๆ ตอนตอบมันหลบตาเห็นๆเลย
โธ่แบบนี้มันจะไปเหลือเหรอ กูกินข้าวนะเว้ยไม่ได้กินหญ้า
" เหรอ งั้นพี่ขอดูหน่อยดิ จะดูว่าโตขนาดไหน" พูดเสร็จไม่เปิดโอกาสให้มันปัดป้องครับ
แล้วก็เอามือไปจับหนอนน้อยของมันทันที (หนอนน้อยจริงๆเพราะมันยังเด็กอยู่)
แต่ว่าพอโดนมือเข้าไปหน่อยมันก็แข็งสู้ มือเลยครับ ยังเล็กอยู่เลยหัวก็ยังไม่เปิด
ด้วยความสงสัยว่ามันจะรูดได้สุดรึยังก็จับมันรูดดู ปรากกฏก็เปิดได้หมดนะครับ
พอเอามือออกหนังหุ้มก็ปิดเหมือนเดิม แต่พอรูดไปรูดมาชักสนุก
ก็เลยนั่งกลายเป็นว่าใช้มือชักว่าวให้มันอยู่นาน จนกระทั่ง....

"พี่อามพอแล้ว นาวจั๊กจี้” (แต่ผมว่ามันเสียวมากกว่า เพียงแต่เด็กมันไม่รู้ว่าความเสียวเป็นยังไง)
"แล้วมันดีรึเปล่าล่ะ"ตอนนี้เริ่มสนุกหน้ามืด
" ไม่รู้อ่ะ บอกไม่ถูก" นาวตอบจากนั้นผมก็ชักว่าวให้มันอยู่นาน มันก็ร้องให้ผมปล่อยตั้งนานแล้ว ผมก็ไม่สนแล้ว ตอนนั้นมันยังเด็กก็เลยเอามือจับแล้วกดมือน้อยของมันทั้งสองข้างไว้อย่าง แน่น มืออีกข้างก็จับมันสาวว่าวซะจนดิ้นไปดิ้นมาเหมือนกุ้งโดนต้ม จริงๆผมกำลังจะปล่อยแล้วครับแต่ก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน

"โอ้ย พี่อามนาวน้ำแตกแล้ว"นาวมันร้องออกมา
" เฮ้ย จริงดิ"ตอนแรกผมไม่สังเกตเพราะหลับหูหลับตาสาวว่าวให้มันอย่างเดียว ไม่คิดว่าตัวมันแค่นี้จะมีน้ำแตกกับเขาแล้ว น้ำมันยังเป็นเมือกใสๆอยู่เลยครับ พอผมปล่อยมือจากมันปุ๊บมันรีบวิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำทันที ผมนี่ใจหายวาบเลยครับ มันจะฟ้องแม่กับพ่อมันมั้ยเนี่ย ยิ่งเป็นทหารทั้งคู่เลยด้วยตายแน่เลยกู

เสร็จจากตรงนั้นผมก็ได้แต่นั่ง กระวนกระวายใจ เหมือนว่าทำความผิดแล้วกลัวโดนจับได้ แป็บนึงไอ้นาวก็เข้ามาในห้องตามเดิมครับ ผมก็เลยถามนาวว่า
"เป็นไงบ้างอ่ะ" ผมก็ถามไปด้วยความแก้ขัดเขิน
"ก็ไม่รู้ดิ จั๊กจี้ดีมั้ง" ไอ้นาวตอบไปก็ครุ่นคิด แล้วซัดไปอีกคำถามว่า
" พี่อามแล้วไอ้น้ำใสๆเนี่ยมันคืออะไรอ่ะ" ไอ้นาวก็ถามด้วยความสงสัย พอจบคำถามนี่ผมก็เลยเปิดคอร์สเพศศึกษาเลยครับ ทำเป็นวิชาการกับเด็กสุดฤทธิ์ ก็คุยกันหลักๆเกี่ยวกับเรื่อง Sperm ของผู้ชายนี่แหละครับ (จะได้อ้างกับมันได้ว่าเนี่ยกำลังเรียนรู้เรื่องเด็กที่จะเข้าวัยรุ่นเลยนะ) แต่พอตอบไปแล้วผมก็งงกับมันตรงที่ว่า
"เออพี่อามจริงๆนาวก็พอรู้แหละ" ไอ้นาวมันบอกหน้าตาเฉย
"อ้าวแล้วจะถามทำไมว่ะ" ผมงง
"คือพึ่งรู้ว่ามันออกมาจากที่จู๋ได้อ่ะ" โอ้ยประเทศไทย ก็สอนเพศศึกษากันไม่ครบถ้วนแบบนี้ มันเลยมีปัญหาตามมามากแบบนี้แหละ
" วันหลังอย่าแกล้งนาวอีกนะ ไม่งั้นจะฟ้องแม่" ไอ้นาวพูดเสร็จก็ยิ้มท้าทายผมซะงั้น แต่ว่าผมไม่กลัวมันหรอกจะบอกให้ ฮ่าๆๆ ผมก็เลยทำหน้ากวนๆใส่มัน แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่แกล้ง อิอิ

หลังจากวันนั้นเนี่ย ผมก็ชอบจับมันแก้ผ้ามาอยู่บ่อยครั้ง เพื่อดูว่ายังโตขึ้นอีกเท่าไหร่ แรกๆก็ยังไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ แต่หลังๆเนี่ยเหมือนแกล้งมันแล้วไม่เร้าใจเท่าไหร่ก็เลยหาวิธีที่ทำให้ รู้สึกตื่นเต้นมาก แบบว่าไม่ต้องอยู่กันสองคนก็แกล้งให้มันแข็งจนแทบแตกได้
จะว่าไปแล้วเนี่ยน้องผมมันก็แปลกนะครับ เวลาแกล้งก็ขู่ว่าจะฟ้องแม่ตลอด เอาเข้าจริงมันไม่เคยทำซะที อย่างนี้มันชอบป่ะวะ หรือมันเกรงใจก็ไม่รู้ มาเข้าเรื่องกันต่อเลยนะครับ
ตอนนี้ผมให้ชื่อว่าโคนันทำเสียวก็แล้วกัน

หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้กลับ บ้านพักใหญ่ เพราะงานที่มหาลัยเยอะมาก พอกลับมาอีกทีก็พบว่ามันกำลังนอนดูหนังการ์ตูนโคนันกับอาอีกคนอยู่ครับ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เห็นว่ามันมีผ้าห่มคลุมด้วย แผนชั่วร้ายก็ผุดขึ้นทันที ก็อย่างที่รูกันนะครับว่า โคนันเนี่ยเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสืบสวน คนที่ดูต้องดูอย่างไม่ละสายตาไม่งั้นอาจพลาดจุดสำคัญ ผมก็เอาเลยครับ ทำเป็นไปเนียนนั่งข้างไอ้นาวแรกๆไม่มีอะไร ผ่านไปสักพักไอ้นาวมันนอนชันเข่าสองข้างขึ้นมาโดยที่มีผ้าคลุมคลุมอยู่ด้วย ไอ้นาวเอ้ยเสร็จกูแน่ เพราะว่าไอ้นี่เวลาอยู่บ้านไม่ชอบนุ่งลิงด้วย แล้วนึกออกมั้ยครับว่าเวลานั่งชันเข่าแล้วมีผ้าห่มอยู่ข้างบนอีกที ถ้าเราเอามือล้วงเข้าไป มันจะเหมือนไม่มีอะไรเคลื่อนไหว ถ้าเอาขาวางราบเวลาล้วงอะไรไปใต้ผ้าห่มมันจะดูรู้ทันที ผมไม่รอช้ารีบฉวยใอกาสเข้าไปเล่นหนอนน้อยมันทันที มันก็มองหน้าผมประมาณว่าเฮ้ยเอามือออกเดี๋ยวนี้ ผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ครับ ตาดูหนัง มือก็รูดขึ้นรูดลงหนอนน้อยมันอยู่นั่นแหละ แปลกตรงที่ว่ามันไม่โวยวายเลย ตาผมก็ไม่ได้เห็นเลยเพราะตามัวมองแต่การ์ตูน ผมก็เล่นใหญ่แล้วแอบหันมามองมันทีหน้านึง โอ้โหหน้าแบบว่าดูการ์ตูนไปก็ซี้ดส์ไป ตอนนั้นผมไม่ได้ทำเร็วนะครับ ทำแบบว่า "ช้าๆแต่เน้นๆ" ใช้นิ้วไปคลึงตรงหัวหนอนน้อยซะจนมันดิ้นเล็กๆเหมือนมันไม่กล้าดิ้นมากเพราะมันคงอาย

ผมจัดการรูดขึ้นรูดลงซักพัก มันก็เอามือมาจับที่แขนผม บอกว่าพอแล้ว (มันพูดออกมาแบบไม่ส่งเสียงนะครับแต่ผมอ่านปากมันออก เออมันก็ฉลาดนี่น่า) และรู้สึกว่าหนอนน้อยมันเริ่มมีการกระตุก ก็เลยเอามือไปบีบตรงกลางหนอนน้อยมัน เดี๋ยวมันเลอะจะเป็นเรื่อง โอ๊ยท่านผู้อ่านผมตื่นเต้นเหมือนคนหัวใจจะวาย ตื่นเต้นกว่าไปนั่งรถไฟเหาะที่ดรีมเวิร์ลอีก :z1:

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 20-01-2010 00:12:38
 :o8:
ลงชื่อติดตามความรักแบบแปลกๆต่อไป
หัวข้อ: Re: รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 20-01-2010 09:46:58
เด็ก..พรากผู้เฒ่า..
ผู้เฒ่าใจแตก..อิอิ
หัวข้อ: Re: รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Sameejaejung ที่ 20-01-2010 16:10:20
 :mc4:เข้ามาต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ :mc4:

มาเปงกำลังใจให้

รีบมาต่อด้วยนะ :L2:
หัวข้อ: Re: รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 20-01-2010 16:39:23
บทที่ 2 ความคะนอง

หลังจากนั้นนะครับผมก็เหมือนว่าตัวเองเสพติดความสนุกแบบนี่ครับก็เลยหาโอกาสแกล้งมันเรื่อยมา แล้วเวลาก็ผ่านไปประมาณสองปีครับ เชื่อมั้ยครับไอ้นาวมันโตเร็วมากเพราะมันเป็นนักเทนนิสครับ แบบว่าตัวมันทั้งสูง ทั้งใหญ่กว่าพ่อมันอีก (ให้ข้อมูลเพิ่มนิดเคยเห็นจู๋พ่อมันด้วยโดยบังเอิญแบบว่าเห็นแล้วช็อคอะครับ แบบว่าใหญ่มาก ขนาดว่าเป็นช่วงปกติก็เจ็ดเกือบแปดนิ้วไปแล้วครับ แถมอวบมากประมาณไส้กรอกบิ๊กไบท์มันรวมกันสามอันอ่ะครับตอนนั้นยังคิดเลยว่ามันจะได้เชื้อพ่อมันขนาดไหนเนี่ย) เนื้อมันก็แน่นปั๊กเหมือนเด็กกำลังโตอะครับ โคนขาใหญ่ ขายาว (อันนี้ผมเสียวเพราะเดี๋ยวถูกมันถีบตกเตียงเอา) อีกอย่างเห็นว่ามันเริ่มโตแล้วก็เลยไม่อยากยุ่งกับมันทีนี้เนี่ยเหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่มันก็เกิดจนได้ เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าผมนอนเล่นอยู่กับมันในห้องอยู่มันก็ดันบอกว่า

"พี่อามนวดขาให้นาวหน่อยดิ เมื่อยอ่ะ"
"เรื่องอะไรวะ ก็ให้พ่อแกนวดให้ดิ" ผมแบบว่านวดใครไม่เป็นครับ
"น่านะนะ นวดหน่อยดิ ทีแกล้งละแกล้งได้แกล้งเอา" มันมามุขนี้ผมก็อึ้งดิครับ

ก็เลยคิดว่าเออแกล้งมันมามากก็สงเคราะห์มันหน่อยละกัน ก็เลยไปบีบนวดที่น่องมันก่อน โอ้ยพราะเจ้าแน่นชิบหาย พอนวดขึ้นมาเรื่อยๆถึงต้นขาแบบว่าไม่ไหวแล้วผมอารมณ์กระเจิดกระเจิงไปหมดเลย ก็เลยแกล้งไปนวดก้นมันดู โหแบบว่าเนื้อนี่เป็นก้อน พอสักพักผมก็เลยแกล้งถลกกางเกงมันลงมา (ตอนนั้นมันนอนคว่ำครับ) ก็เลยเห็นถึงก้นกลมๆสองลูกของมัน แต่ไม่ขาวเหมือนซาลาเปานะครับเหมือนสีเก๋าลัดมากกว่า อิอิ เด็กอะไรไม่รู้ก้นโคตรด้านอ่ะ แล้วมันก็ยังไม่หลับนะครับ พยายามบีบก้นมันหลายทีมันก็ไม่ด่า จนที่สุดผมเบื่อก็เลยใส่กางเกงให้มันเหมือนเดิม แต่ว่ามันหลับครับแล้วก็นอนหงายขึ้นมา โอ๊ยตรงนี่แหละครับแบบว่าเด็ดมาก คือผมใจเต้นตูมตามมากขนาดช่วยตัวเองยังไม่เป็นขนาดนี่เลยนะ เลยเข้าใจเลยว่าอาการเวลาคนเราหน้ามืดมันเป็นยังไง และตรงนี่เองที่ทำให้ผมเห็นถึงป่าอะเมซอนของมันจากที่เป็นป่าละเมาะ และจากหนอนน้อยที่เป็นเสากระโดงของมัน

หลังจากที่ไอ้นาวมันนอนหงายขึ้นมาแล้ว ผมก็เหมือนอารมณ์ต่อเนื่องก็เลยจัดการปลดกางเกงมันอีกครั้ง เป้ามันก็อวบนูนใต้กางเกงใน ผมไม่รอช้ารีบดึงกางเกงในมันลงมา โอ้โหมันไม่ใช่หนอนน้อยแล้วครับ เพราะขนาดมันนิ่งอยู่ๆก็เกือบๆหกนิ้ว คิดดูว่าเด็กมันอายุไม่เยอะเลยยังใหญ่ขนาดนี้ สงสัยพอโตจะใหญ่กว่าของพ่อมันอีกนะเนี่ย ผมไม่รอช้าเอามือไปจับแล้วรูดขึ้นรูดลงแค่ไม่ถึงนาทีจู๋มันก็แข็งสู้มือผมขึ้นมาเป็นเสากระโดงเรือน้อยๆเลยครับ แล้วหัวมันก็เปิดอย่างเต็มที่ ผมก็คิดว่าทำไมมันเปิดหัวได้เร็ว ก็ไม่ใช่ใครอื่นหรอกก็เพราะผมนี่แหละที่จับมันรูดขึ้นรูดลงมาตั้งแต่เด็ก หัวมันก็ชมพูดี ท่อนลำมันก็ออกคล้ำหน่อย ผมก็จับมันชักมันไปเรื่อยๆ มันไม่มีท่าทีว่าจะตื่นเลยครับเพราะมันนอนอ้าปากหวอ แล้วเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ผมนอนลงข้างๆมันแล้วกะให้มือมันพอดีกับเป้าผม ผมรีบถอดกางเกงและกางเกงในตัวเองอย่างรวดเร็ว ผมนอนทางซ้ายของมัน ผมเอามือข้างขวาผมไปจับkมัน (ตอนนี้เรียกจู๋ไม่ได้แล้วครับเพราะมันใหญ่)แล้วก็เอามือซ้ายมันมาจับkผม มือตอนนี้ใหญ่กว่ามือผมซะอีก พอให้มันจับมือมันก็จับได้นะครับแต่แบบหลวมๆไม่ได้กำแน่นเหมือนมันไม่รู้ตัว โอ๊ยตอนนี้มันตื่นเต้นไปหมดเลยครับ เหมือนหัวใจจะวาย ผมรู้สึกว่าหน้ามันร้อนไปหมด เพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ผมเอามือข้างขวาจับkมันรูดขึ้นลง แล้วก็เอามือซ้ายมาประคองมือไอ้นาวที่จับkผมไว้แล้วก็จับชักขึ้นชักลง แม้ว่ามันจะหลวมๆแต่ก็รูดได้ โอ๊ยมันเสียวซ่านไปหมด ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยครับ มันเสียวจริงๆจากนั้นผมก็ใส่ใหญ่เลยครับ สุดท้ายผมก็น้ำแตกก่อน เหมือนว่าผมจะถึงจุดสุดยอดแบบสุดๆ เพราะผมรู้สึกว่าตัวเองกระตุกไปหมด เสียวซ่านไปเป็นเวลานาน น้ำก็พุ่งออกมาอย่างมากมายไปหมด ผมกลัวว่าถ้าเปียกๆแบบนี้มันจะรู้ตัวก็เลยต้องหยุดรูดให้มันก่อนแล้วเอาทิชชู่มาซับน้ำตัวเองให้แห้ง ก่อนจะพักเหนื่อยก่อน จากนั้นผมก็สำรวจเรือนร่างมัน เลิกเสื้อมันขึ้นไปถึงคอ กล้ามมันแน่นไปหมด นมก็แตกพานสวยงาม ผมเอานิ้วทั้งห้าลูบไปทั่วร่างกายมัน จนมันละเมอเสียงครางออกมา ผมรู้สึกเสียวไปด้วยเลยทีเดียว เอานิ้วไปเขี่ยหัวนมมันอย่างสนุกนาน จนตอนนั้นเหมือนว่าผมอยู่ในอารมณ์เสียวซ่านไม่รู้เรื่องอะไรเลยนอกจากความเสียวกระสัน
 
ผมลืมเล่าไปอย่างหนึ่งเรื่องป่าอะเมซอนของมัน จากที่ขนมันขึ้นเป็นทุ่งหญ้าอ่อนๆผ่านไปแค่ไม่นาน ขนมันขึ้นดกดำไปหมดตั้งแต่หมออ้อยที่มีมากมาย แม้กระทั่งไข่ทั้งสองใบก็ยังมีขนขึ้นมากมาย ปกติผมไม่ค่อยเห็นคนไทยมีขนขึ้นที่ไข่หรอก ถ้ามีก็ขึ้นน้อยส่วนมากจะเป็นฝรั่งมากกว่า แต่ว่าไอ้นี่มันขึ้นเยอะมากชวนให้ผมคิดถึงเงาะถ้าใครเคยกินเงาะก็จะรู้ว่าเป็นผลไม้ที่มีขนเต็มไปหมดแต่เงาะเป็นขนสีแดงแต่อันนี้เป็นขนสีดำ เป็นไข่เงาะดำครับ หลังจากที่ผมเสียวซ่านสุดๆผมก็เริ่มดำเนินการเอาทิชชู่มาเตรียมไว้ให้พร้อม แล้วผมก็เอาลิ้นไปแลบเลียที่หัวนมทั้งสองข้าง พร้อมกับจับมันชักว่าวไปด้วย ผมเอามือข้างหนึ่งของมันให้นอนช้อนไว้ใต้ศีรษะ แล้วอีกข้างก็ให้มันไปจับหมอนเอาไว้ จะได้ไม่เอามือปัดป่ายมาให้เสียเรื่องในเวลาสำคัญเช่นนี้ แม้ว่ามันจะหลับตาพริ้มแต่ก็ได้ยินเสียงครวญคราง ผมเองขนาดไม่ได้จับชักของตัวเองก็เสียวมากเหมือนจะแตกตามไปด้วย ผมจับมันชักไปได้ไม่นาน มันก็แตกออกมาแบบทะลักทลาย มันออกมาเป็นน้ำพุมากมายสาดไปทั่วตัวมัน แต่กลิ่นมันไม่คาวอะครับกลิ่นเหมือนใบเตยเหมือนสมัยที่ผมน้ำแตกตอนแรกๆเลย แต่รสชาติเป็นอย่างไรไม่รู้นะครับเพราะไม่กล้าชิม ผมรีบเอาทิชชู่มาเช็ดอย่างเร็ว น้ำมันเยอะขนาดที่ทิชชู่ที่เตรียมไว้เปียกชุ่มไปหมดแทบจะเช็ดไม่หมด ผมนอนแผ่หลาด้วยความเสียวซ่านและแทบจะหมดแรงไปในคราวเดียวกัน
หลังจากวันนั้นแล้วเมื่อกลับมาอยู่ที่หอของมหาวิทยาลัย ตอนที่ช่วยตัวเองเวลาที่นึกเรื่องเสียวอะไรไม่ออก ผมก็มักจะนึกถึงเรื่องตอนเรื่องเสากระโดงไอ้นาวบ่อยมาก และสุดท้ายก็น้ำแตกทุกครั้งไป จนในบางครั้งรู้สึกผิดเพราะยังไงมันก็น้องเรา แม้ว่าจะไม่ใช่น้องแท้ก็ตาม ด้วยเหตุนี้ผมก็ไม่คิดว่าจะให้มันเสียเอกราชทางประตูหลังให้กับผมหรอกนะครับ เพราะเอาแค่รู้สึกสนุกๆกับมันก็พอ อีกอย่างก็แค่อยากลองมากกว่า เพราะผมเองแม้ไม่ได้ปิดตัวเองแต่ก็ไม่เคยได้กินใครมาก่อน เลยรู้สึกว่าเก็บกดอยู่เหมือนกัน ดังนั้นแม้ว่าจะรู้สึกผิดอีกใจก็รูสึกขอบใจมันไม่ให้ผมต้องรู้สึกเก็บกดอารมณ์เพศของตัวเองมากเกินไป

****************************************************************


สามสี่ตอนแรกนี่ไม่อยากโพสเลยให้ตายเหอะ กลัวทู้โดนอุ้ม อยากให้ถึงตอนปัจจุบันไวๆจัง  :เฮ้อ: <<<< คนโพส
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่2 ความคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 20-01-2010 17:40:41
 :o8:
งั้นก็รีบเอามาลงให้หมดซิครับ
จะได้ถึงตอนปัจจุบันเร็วๆ

 :haun4:<<<<คนอ่าน
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่2 ความคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 20-01-2010 19:14:35
โหย ลักหลับด้วยอ่า

แต่ว่า นี่เพิ่งออกมาสองคน

ชื่อเรื่องมีสามคนใช่ไหม

แสดงว่ายังมีตัวละครสำคัญโผล่มาอีกแน่ๆ

 :mc4: ฉลองเรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่2 ความคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 20-01-2010 19:40:44
มาให้กำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่2 ความคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: princehoo ที่ 20-01-2010 21:03:30
 :mc4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่2 ความคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: aiwjun ที่ 20-01-2010 21:38:15
อย่างสนุกอ่ะ  เขียนแบบเลือดกำเดาจะหยดเลย   o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่2 ความคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 21-01-2010 01:28:45
ช่ายๆ :pighaun:
รีบๆลงสิจ๊ะ อยากอ่านตอนปัจจุบัน

ปล.ขำคนโพส อิอิ เป็นกำลังใจไม่ให้ทู้โดนอุ้มน้า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่2 ความคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 21-01-2010 17:31:22
บทที่ 3 จุดเปลี่ยน

จนกระทั่งถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ครับ พอผมกลับบ้านก็มีคนมาฉลองที่บ้านมากมาย ทั้งที่เป็นญาติสนิท ญาติห่างๆเพื่อนของบรรดาอาๆทั้งหลาย บางคนเป็นใครมาจากไหนผมยังจำไม่ได้เลยครับ ทำให้ช่วงนั้นมีคนมานอนพักที่บ้านเยอะมาก แล้วผมก็เลือกนอนห้องเดียวกับไอ้นาวและบรรดาเพื่อนๆอาทั้งหลาย จริงๆพอไม่เจอกับไอ้นาวนานก็ไม่ได้มีความอยากอะไรมากนะครับ แต่พอมานอนกับมันก็เกิดการอยากแกล้งมันอีกแล้ว เท่านั้นแหละครับผมก็เริ่มมีแผนในทันที คืนขึ้นปีใหม่หลังจากที่ทุกคนหลับสนิทกันหมดแล้ว(ฉลองกันจนเหนื่อย) ท่ามกลางแสงสลัวในห้องที่ผมนอนกับไอ้นาวและบรรดาคนอื่นอย่างที่บอกไปแล้ว ผมเริ่มทดสอบไอ้นาวว่ามันหลับสนิทจริงหรือไม่ เมื่อแน่ใจว่ามันหลับเป็นตาย ผมก็เริ่มเอามือของผมไปจับของมันจนมันเริ่มแข็ง ไอ้นาวเนี่ยคือมันเหมือนเด็กที่ยังไม่โตอะครับ กางเกงที่มันใส่ก็เป็นกางเกงก่อนที่จะเข้าวัยรุ่น กางเกงตัวมันก็เลยเล็กมาก พอเสากระโดงมันแข็ง หัวkมันก็โผล่พ้นขอบกางเกงมาทันทีไม่ใช่เฉพาะแค่หัวนะครับ มีท่อนลำโผล่มาอีกครึ่ง ผมอดใจไม่ไหวรีบเอาเอามือซ้ายไปจับของมันชักแล้วก็เขี่ยหัวKมันเล่นด้วย มันก็ดิ้นไปมา พยายามเอามือเอามือมันมาปัดป่าย ผมก็เลยเอาหมอนใบใหญ่ๆมาทับมือมันเอาไว้ มือขวาของผมก็จับของตัวเองรูดไป ทำไปทำมาผมแตกก่อนมันซะอีก แล้วต้องปล่อยให้มันแฉะไปอย่างนั้นเพราะไม่มีอะไรจะเช็ด แล้วไม่นานมันก็พุ่งพรวดตามมา น้ำมันเยอะซะจนผมต้องเอาส่วนที่เปื้อนมือผมมาป้ายตามตัวมัน จากนั้นผมก็รีบทำเป็นหลับต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปเวลาประมาณสิบนาที ไอ้นาวมันก็ตื่นขึ้นมา ผมก็ใจเต้นไปหมดกลัวว่ามันจะจับได้ มันพึมพำออกมาว่า

 
"ไม่น่าเชื่อเลย"แล้วก็รีบลุกออกไปห้องน้ำ พอมันกลับเข้ามาผมแอบเห็นว่ามันเอากางเกงตัวใหม่เข้ามาในห้องแล้วก็เปลี่ยนกางเกงตัวเก่า พร้อมกับเอากางเกงตัวเก่านั้นแหละไปซ่อนอยู่ในตะกร้าซักผ้า โดยเอาเสื้อผ้าที่จะซักตัวอื่นวางทับไว้ข้างบนแล้วกลับมานอนต่อ พอตื่น(สาย)ขึ้นมาแล้ว ไอ้นาวมันตื่นก่อนผมนิดนึง ผมทำเป็นแกล้งสังเกตว่า
"อ้าวทำไมเสื้อตัวเดิมแล้วใส่กางเกงตัวใหม่ทำไมอ่ะ น้ำก็ยังไม่อาบซักหน่อย" ผมแกล้งพูด ทันใดนั้นไอ้นาวมันก็เอามือมาปิดปากผมเลยครับ แล้วก็มากระซิบข้างหูว่า

"อย่าพูดเสียงดังดิ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน"
"อ้าวแล้วทำไมต้องเปลี่ยนกางเกงด้วยอ่ะ" ผมก็ถามต่อ โดยทำหน้าเป็นสงสัย
"ก็เมื่อคืนอ่ะดิ ไม่รู้ฝันเปียกได้ไง ฝันเรื่องอย่างว่าก็ไม่ได้ฝัน ตื่นมาก็เปียกไปหมดเลย" มันพูดอายๆ
"อ้อเหรอ งั้นนาวก็เป็นหนุ่มแล้วดิ อิอิ ไหนให้พี่พิสูจน์ดิ"ผมก็แกล้งแหย่ แล้วก็เอามือจะไปถอดกางเกงมัน บังเอิญว่าไปโดนเสากระโดงมันหน่อยเดียว มันแข็งขึ้นมาเลย
"เฮ้ย โดนแค่นี้แข็งเลยเหรอวะ"ผมก็แอบตกใจว่ามันไวจัง
"อืม เนี่ยก็เลยว่าจะปรึกษาหน่อย"ไอ้นาวก็กระซิบ
"เรื่องอะไรล่ะ"ผมทำเป็นงง
"เอาเป็นว่าเดี๋ยวเย็นนี้ไปที่ศาลาท้ายสวนกันมั้ย คนอื่นจะได้ไม่เห็น"ไอ้นาวทำหน้าอ้อนวอน
"เออๆก็ได้" นี่แหละครับจะทำให้ผมเจอกับเรื่องที่คาดไม่ถึงในเวลาต่อมา
หลังจากที่นัดกันที่ศาลาท้ายสวน เราสองคนก็แอบไปตามนัดกันครับ โดยที่ไปช่วงเย็นๆแล้วเวลานั้นพวกผู้ใหญ่เขามัวแต่นั่งสังสรรค์กันเลยไม่ได้มาสนใจอะไรเราสองคนกันมาก อีกอย่างศาลาท้ายสวนเป็นอะไรที่ลึกลับมาก มีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นรกไปหมด ซึ่งเป็นที่กำบังอย่างดีและทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากมาเพราะกลัวถูกงูกัดจากการที่ต้นไม้ขึ้นรกไปหมด เมื่อมาถึงที่แล้วผมก็เปิดประเด็น
"เอานาวมีอะไรก็ว่า" ผมยิงคำถามตรงขี้เกียจอ้อมไปมา
จากนั้นไอ้นาวมันก็ปรึกษาหลายเรื่อง ตั้งแต่ทำไมKมันแข็งบ่อยๆแค่โดนไปหน่อยเดียวก็แข็งแล้ว ผมก็ตอบไปประมาณว่าเข้าวัยรุ่นใหม่ๆก็งี้แหละ ร่างกายมันตื่นตัวง่าย และสารพัดปัญหาเกี่ยวกับเพศศึกษานู่นนั่นนี่เยอะมาก พอตอบไปเหมือนสำนึกมันเริ่มเกิดครับเพราะรู้สึกว่ามันเริ่มโตแล้วก็ไม่อยากแกล้งมัน เพราะถ้าอีกหน่อยเกิดมันรู้ตัวกลัวว่าจะเป็นปมในจิตใจมันแล้วจะเป็นปัญหาในชีวิตมันต่อไปอีก ก็เลยว่าจะไม่แกล้งมันต่อแล้วครับ แต่ว่าเหมือนจะเป็นกรรมเพราะที่สุดแล้วก็มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ

"เฮ้ยพี่อาม นาวมีอะไรจะให้ดูหน่อยอ่ะ" นาวพูดเบาๆเหมือนว่ามันดูลึกลับมาก
"อะไรวะ" ผมก็งง(อันนี้งงจริงครับ) แล้วมันก็ยืนขึ้น พร้อมๆกับถอดกางเกงขาสั้นและกางเกงในลงไปกองกับพื้น ผมถึงกับตะลึง แล้วมันก็พูดขึ้นมา
"พี่อาม ช่วยดูน้องนาวให้หน่อยดิมันแปลกๆไปอ่ะ" ตอนนี้ผมเริ่มหน้าซีดแล้วครับ
"เออ มันแปลกยังไง มันก็ยังเหมือนเดิม ก็แค่ใหญ่กว่าเดิมเท่านั้นเอง" อันนี้ผมพูดแบบพยายามไม่มองKมันเลยครับ
"ก็นี่แหละ ตอนฉี่นาวไม่เห็นว่าเพื่อนรุ่นเดียวกันมันก็ยังไม่ใหญ่เท่านาวเลยอ่ะ" แถมหนังหุ้มมันก็ยังไม่เปิดออกหมดแบบนี้ด้วยอ่ะ พูดไม่พูดเปล่ามันเล่นรูดไปรูดมาด้วยครับ ยิ่งรูดมันก็ยิ่งพองครับ โอ้ยผมอยากจะบ้าตายครับ
"อ้าว ไม่เห็นแปลกเลย ก็นาวเป็นนักกีฬาต้องโตเร็วอยู่แล้ว" ผมก็ให้เหตุผลครับ
"อ้าวพี่อามก็ว่ายน้ำ ทำไมไม่เห็นเหมือนนาวเลยอ่ะ" ผมลืมบอกไปครับว่าคือว่า ตอนนี้ไอ้นาวมันตัวใหญ่กว่าผม สูงกว่าผมไปแล้วครับ เหลืออย่างเดียวคือKครับที่ของผมยังใหญ่กว่าของมันอยู่ แต่ผมคิดว่าถ้ามันยิ่งโตอีกไม่นานคงแซงหน้าผมไปแล้วครับ
"พี่แค่ออกกำลังกายเฉยๆไม่ได้เป็นนักกีฬา"
"แล้วตอนนี้ของน้องพี่อามเป็นไงบ้างอ่ะ ผมขอดูหน่อยดิ" เฮ้ยผมตกใจมากตั้งตัวไม่ทัน มือมันไวมากเผลอไปเดี๋ยวมันดึงกางเกงพร้อมกางเกงในลงไปกองที่ขา แล้วมันก็เอามือมาจับของผมเล่นเหมือนเป็นของเล่นของมัน เล่นไปเล่นมามันก็แข็งครับ

"ไอ้นาว หยุดเดี๋ยวนี่นะเว้ย" ผมพยายามปรามมันครับ แล้วก็พยายามผลักมันออกไปจากตัวผม แต่ว่า...
"อย่าดิ้นได้ป่ะ น้องพี่อามอยู่ในมือนาว ถ้าขัดขืนละก็ นาวจะบีบไข่พี่อามให้หน้าเขียวเลย" ฉิบหาย Mega Project เข้าเลยกู ผมก็เลยอยู่ในภาวะปฏิเสธไม่ได้ เลยต้องให้มันจับอยู่อย่างนั้น ผมก็รู้สึกเสียวมากแต่ร้องออกมาไม่ได้เพราะกลัวมันจะได้ใจ แล้วผมก็สังเกตว่าหน้ามันหื่นมากๆแบบไม่เคยเห็นมาก่อน
"นาวเล่นนานแล้วพอได้ยัง" ผมเริ่มหงุดหงิดครับ จริงๆก็เสียวนะครับ แต่ว่าไม่อยากทำกับน้องตัวเองแล้วครับ แล้วก็ไม่อยากน้ำแตกต่อหน้าน้องด้วยครับ
"ยังนาวอยากทำแบบในหนังแผ่นที่เคยดูมาก่อน" นาวหน้ามันหื่นเกินไปแล้วครับ
"หนังอะไรว่ะ"ผมสังหรณ์ใจ มันไม่ได้ตอบอะไรครับ แต่ว่ามันเอาปากมาครอบหัวKผมทันที แล้วก็เอาลิ้นเลียเหมือนเลียไอติม
"เฮ้ย ทำเชี่ยอะไรเนี่ย ปล่อยนะเว้ย กูเป็นพี่มึงนะ" ผมโวยวายสุดเสียง
"เอาดิ ร้องเสียงดังๆไปเลย จะได้มีใครมาเห็นเข้า อยากอายก็ร้องดังๆไปเลย" ไอ้นาวเอาปากออกมา แล้วก็พูดท้าทายผมครับ ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ถูก เพราะถ้ามีใครมาเห็นก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน ไอ้นาวพอเห็นผมเงียบมันก็โม๊คต่อเลย ผมไม่รู้ทำไงก็ต้องปล่อยเลยตามเลย ด้วยความที่ผมยืนอยู่ก็เริ่มเมื่อย ก็เลยขอมันนั่งลง มันก็รอบคอบครับกลัวผมจะวิ่งหนี มันจับKผมไว้แน่นเลย พอผมนั่งลงได้มันก็เริ่มโม๊คต่อทันที

หลังจากที่ผมนั่งลงได้ ไอ้นาวก็ถอดเอากางเกงกับกางเกงในที่กองอยู่ที่เท้าออกไป แล้วโยนไปให้ไกลจากตัวผม เหมือนไม่ให้ผมหนีไปเอาได้ จากนั้นมันก็ตั้งหน้าตั้งตาทั้งดูดทั้งเลีย แรกๆผมบอกนาวว่าเจ็บเพราะโดนฟันมันครับ สักแป็บมันเหมือนเป็นงานขึ้น จนผมรู้สึกเสียวมากๆ ลิ้นมันก็แลบเลียหัวKผมตลอด จนที่สุดผมก็ต้องครางออกมา จนผมรู้ว่าตัวเองกำลังจะถึงที่หมาย ผมไม่อยากจะน้ำแตกคาปากน้องชายตัวเอง ก็เลยเอามือไปจิกผมแล้วดึงศีรษะขึ้นมาให้มันเงยหน้าแล้วก็บอกมันว่า

"นาวอย่าทำแบบนี้เลยนะ รู้มั้ยว่าแบบนี้มันผิด ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกันไหนนาว" ผมรู้ครับว่าตอนก่อนผมผิดแต่ผมรู้แล้วก็เลยไม่อยากให้น้องผิดซ้ำ
"ทำไมอ่ะพี่อาม" นาวมันจ้องตาผมเขม็ง
"เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นระหว่างพี่น้องไม่ได้นะ เราจะทำเรื่องใต้สะดือแบบนี้กับพี่น้องตัวเองไม่ได้นะนาว" ตอนนี้เหมือนผมด่าตัวเอง ผมเริ่มน้ำตาคลอแล้วครับ
"เป็นพี่น้องกันซิดี ถ้าให้นาวไปทำแบบนี้กับคนอื่น นาวก็ไม่เอาหรอก พี่อามเป็นพี่ชายนาว นาวสนิทใจมากกว่า ตอนเด็กๆพี่อามยังชอบจับจู๋นาวบ่อยๆเลย" (แสดงว่ามันไม่เคยรู้ตัวเลยครับว่าพอมันเริ่มโตน้ำว่าวมันเคยแตกคามือผมไปแล้ว )
"มันไม่เหมือนกันนะ ตอนนั้นนาวยังเด็ก ตอนนี้นาวโตแล้วนะ นาวทำแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ นาวเป็นน้องพี่นะ"
"พี่อามเป็นพี่ก็ต้องยอมนาวดิ เป็นพี่ก็ต้องเสียสละให้น้อง" โอ้ย ดูมันให้เหตุผลดิ
"โว้ยมันไม่ใช่แบบนี้ สัดเอ้ย" ผมเริ่มอารมณ์เสีย ตอนนี้มันเผลอผมรีบผลักมันออกทันที แต่ว่า...
มันไวกว่าครับ มันคว้าไข่ผมเอาไว้แล้วบีบซะจนหน้าเขียว ผมถึงกับจุกถึงกับลงไปนอนกองเลยครับ หมดแรงขัดขืนโดยสิ้นเชิง ไอ้นาวไม่รอช้ารีบเข้ามาโม๊คต่อ จนผมเสียวรอบสอง ผมก็นอนครวญครางไปพร้อมกับความเจ็บปวด จนกระทั่ง...
"นาวพี่จะออกแล้วเอาปากออกเดี๋ยวเลอะ” พูดแล้วมันก็ไม่ฟัง มันก้มหน้าก้มตาโม๊คจนกระทั่งผมน้ำแตกจนได้ ผมไม่รู้ว่ามันเยอะแค่ไหน เพราะไอ้นาวมันกลืนไปหมด แถมรีดเลียซะจนไม่เหลือหลอ
"พี่อามน้ำหวานจังเลย น้ำมันกินได้เหมือนในหนังแผ่นนั้นจริงๆด้วย (ช่วงบ่ายๆผมกินน้ำสัปปะรดของทิปโก้เข้าไปแก้วใหญ่ ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้น้ำตัวเองหวานเลยให้ตาย)
"นาวหนังแผ่นที่ว่าเอามาจากไหน"ผมเริ่มสงสัย
"ก็เอามาจากกระเป๋าพี่อามนั่นแหละ เห็นผู้ชายตี๋ๆสองคนทำอะไรกันแบบนี้นาวเลยอยากลองบ้าง สนุกดีออก" โอ๊ย ตายหะ กูพลาดไปตอนไหนวะ
"สะใจแล้วสิ พี่ไม่นึกเลยว่านาวจะทำกับพี่แบบนี้" ผมร้องไห้ฮือๆ
"ทำไมต้องร้องไห้ด้วยอ่ะ แค่พี่น้องเล่นกันเอง" พูดเสร็จมันก็เอาตัวมาคร่อมผม แล้วเอามือปาดน้ำตา เสร็จแล้วก็ทำให้ผมช็อกต่อ โดยการหอมแก้ม เอาจมูกมาไซร้ที่ซอกคอ แล้วก็ลงท้ายด้วยการจูบครับ ผมก็เลยบอกว่า
"ทำแบบนี้ไม่ได้นะ ผู้ชายเขาไม่ทำกันแบบนี้"ผมพยายามอธิบาย
"ทำไมจะไม่ได้ ตอนเด็กพี่อามชอบหอมแก้มนาวจะตาย ในหนังของพี่อามเขาก็ทำกัน ทำไมอามจะทำไม่ได้ล่ะ" โอ้ยน้องกูมันโตแต่ตัวใช่มั้ย เชี่ยเอ้ย ผมไม่อยากทำอะไรแล้วจัดแจงใส่เสื้อผ้า แล้วก็นั่งเงียบไม่อยากพูดกับมัน

"พี่อามเป็นอะไรอ่ะ โกรธนาวใช่มั้ย นาวขอโทษนะ นาวแค่อยากลองเล่นดูเท่านั้นจริงๆ" พูดจบมันก็เข้ามากอด ผมก็เหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก นั่งนิ่งๆให้มันกอด ผมยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีกเมื่อมันเข้ามากอด เพราะผมรู้เลยว่ามันไม่ได้กอดผมแบบพี่น้องแล้ว มันเข้ามากอดเหมือนแฟน มันแบบว่าเข้ามากอดทางด้านหน้าใช้มือสองข้างประสานกันแล้วโอบข้างหลังผมเอาไว้ เอาก็เอาหน้ามาซุกไว้ที่ซอกคอด้านขวา แล้วก็จูบที่คอผมไปหนึ่งทีครับ ตอนนี้ผมแบบว่าหลุดโลกไปเลยครับ คือว่าตอนนี้อยากตายมากๆ

หลังจากที่ไอ้นาวมันมาซบผมอยู่นาน ผมเองเริ่มรู้สึกว่าต้องตั้งสติครับ เพราะยิ่งนานเรื่องมันจะยิ่งบานปลาย ผมสูดหายใจลึกๆแล้วก็ผลักตัวมันออกไป ยืนขึ้นอย่างมั่นคงแล้วรีบเดินออกไปจากที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด แล้วก็ต้องพยายามปั้นหน้าตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุดเพื่อไม่ให้ที่บ้านจับได้ ไอ้นาวมันรีบตามมา ผมรีบเดินไปโดยพยายามไม่มองมันเลย วันนั้นผมกะว่าจะรีบเก็บกระเป๋ากลับหอเลยครับ แต่ว่าผมลองไปโทรเช็คกับเพื่อนที่พักอยู่ด้วยกัน(อยู่กันสี่คน) มันยังไม่กลับกันมาสักคน กะว่าจะกลับกันพรุ่งนี้เช้า ผมก็เลยต้องอยู่บ้านต่อไป เพราะกลัวว่าอยู่คนเดียวแล้วจะประสาทเสียมากกว่าเก่า

อืมผมยังไม่ได้บอกว่าบ้านที่กรุงเทพเนี่ยไม่ได้เป็นบ้านผมนะครับ แต่เป็นบ้านทางญาติคุณพ่อที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ บ้านผมจริงๆอยู่ต่างจังหวัด ใบ้ให้หน่อยละกันว่าอยู่เกือบใต้สุดแดนสยามและเวลาผมมาอยู่ที่นี่ที่ไหร่ ผมก็ต้องนอนกับไอ้นาวตลอดเพราะไม่มีห้องส่วนตัวของผม แล้วมันเป็นหลานชายคนเดียวของบ้านนี้เพราะลูกพี่ลูกน้องคนอื่นเขาเป็นผู้หญิงกันหมดเลย และนี้คือปัญหาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เพราะคืนนี้พวกญาติที่เขาอยู่บ้านอื่นและคนอื่นๆที่มาฉลองกัน เขากลับกันไปหมด ผมต้องนอนกับไอ้นาวสองคนถ้าเป็นสมัยก่อนคงไม่มีอะไรแต่ว่าตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วครับ

ผมพยายามคิดหลอกตัวเองว่ามันคงไม่มีอะไรหรอก เด็กกำลังเข้าวัยรุ่นอยู่คงอยากรู้อยากลอง แต่ว่าในคืนนั้นเหมือนผมกำลังถูกพระเจ้าลงโทษครับ หลังจากมื้ออาหารเย็นในวันนั้น ผมก็อาเจียนออกมาหมดเลยครับเหมือนร่างกายปฏิเสธอาหาร จากนั้นก็ไข้ขึ้นสูงอย่างหนัก ผมไม่ไหวเลยต้องขอตัวไปนอนก่อน พอเวลาผ่านไปสักพักผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องนอนเข้ามาครับ ก็คือไอ้นาวนั้นเองครับ ผมลืมตาดูขึ้นมานิดนึงด้วยความงงๆเห็นมันถืออะไรเข้ามาซักอย่าง ผมไม่อยากอยู่กับมันสองคนก็เลยพยายามลุกขึ้นมา

"พี่อามจะไปไหนอ่ะ"
"ร้อน จะไปอาบน้ำ" ผมก็พยายามลุกขึ้นมาแล้วเดินออกมาจากเตียง ไอ้นาวก็คว้าแขนผมไว้
"จะบ้าเหรอ ไข้ขึ้นขนาดนี้ ไปอาบน้ำก็ไข้กลับกันพอดี"
"ปล่อยพี่นะไอ้นาว" ผมสะบัดมือมันออก แต่ผมออกฤทธิ์ได้มานาน ก็เซแล้วหงายหลังลงไป ไอ้นาวมันมารับทันครับ แต่ตัวผมก็ไม่ใช่เบาๆก็เลยล้มทับกันไปก็กับพื้น
"เห็นมั้ย เดินยังไม่ได้เลยยังจะมาทำซ่าอีก"
"เฮ้ยนี่แกกล้าด่าพี่เลยเหรอว่ะ"
"ไม่ได้ด่า แค่พูดความจริง" ผมพึ่งเริ่มรู้สึกว่ามันกอดผมไว้แน่นมากเลย แต่ผมหมดแรงจะตอบโต้แล้วครับ
"แม่ให้มาเช็ดตัว ถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวจะพาไปโรงพยาบาล มาเดี๋ยวนาวจัดการให้" จากนั้นมันก็ลากผมขึ้นเตียง เสร็จแล้วมันก็จัดท่าให้ผมกึ่งนอนกึ่งนั่ง แล้วเอามือโอบจากด้านหลังถอดกระดุมเสื้อผมทีละเม็ด แต่ผมรู้สึกว่ามันเอามือลูบไล้ตามตัวผมด้วย พอถอดเสื้อเสร็จมันก็จับผมให้นอนลง จากนั้นก็มาถอดกางเกงผมต่อแล้วมันมาถอดกางเกงในผมด้วย ตอนนี้เหมือนโดนกรรมตามทันที่เคยจับมันแก้ผ้าครับ
"ทำเชี่ยอะไรเนี่ย" ผมพยายามโวยวายแต่ก็เป็นได้แค่เสียงบ่นเบาๆ
"อยู่เฉยๆเหอะน่า ป่วยแล้วก็นอนนิ่งๆไปเลยไป" จากนั้นไอ้นาวมันก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามตัวผม แต่ว่ามันไม่ได้เช็ดอย่างเดียวครับ มันเอาเอามือมาลูบไล้ตามเนื้อตัวผมอย่างเบามือ แล้วมันก็ไม่หยุดแค่นั้นมันก็ฉวยโอกาสมาไซร้ซอกคอผมด้วย ก่อนที่ผมจะพูดอะไรต่อจากนี้ มันก็มากระซิบที่ข้างหูผมว่า
"พี่อามครับ ผมชอบพี่อาม!!!" เฮ้ยฉิบหาย บรรลัยแล้วกู

****************
หึหึ ใกล้ถึงดราม่าแล้วครับ พี่น้อง<<<<คนโพส
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่3 จุดเปลื่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: J๐ly ที่ 21-01-2010 18:10:14
ตอนปัจจุบันเร็ว ๆ


อยากอ่าน ๆ





กินเด็ก ๆ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่3 จุดเปลื่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-01-2010 18:44:18
 :haun4:พี่อามจะตกเป็นเมียน้องนาวใช่มั้ยเนี่ย

ผลของการชอบแกล้งเด็ก
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่3 จุดเปลื่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 21-01-2010 20:42:44
 o18โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย  อยากอ่านนนนนนนนต่ออออออออออมาเร็ววววววว o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่3 จุดเปลื่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 21-01-2010 21:19:19
 :mc4:ฉลองเรื่องใหม่ เปิดเรื่องมาก็ให้หวาดเสียวเสียแล้ว  :haun4:

+1 เป็นกำลังใจให้ จะดราม่าหรือดราก๋ง ก็ช่างรีบจัดมาครับ  :z2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่3 จุดเปลื่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: princehoo ที่ 21-01-2010 21:36:56
 :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่ 4 ความสับสน
เริ่มหัวข้อโดย: moonlightjoe ที่ 21-01-2010 21:55:20
ถ้าไงผมช่วยโพสไหมครับ ^^

บทที่ 4 ความสับสน
---------------------------------------------------------------------------------------------
ทันที ที่ผมได้ยินคำนั้น ผมรู้สึกตกใจมากประกอบกับพิษไข้ด้วย ก็เลยหลับ(สลบ)ไป โดยที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อหลังจากนั้น จากนั้นผมมารู้สึกตัวอีกทีประมาณช่วงกลางดึก ในห้องที่นอนกับไอ้นาวจะเปิดหน้าต่างไว้ทำให้พอจะมองเห็นอะไรได้ลางๆบาง ตอนตื่นขึ้นมารู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆมาทับตัวเอง พอหันไปมองก็เห็นไอ้นาวนอนกอดผมอยู่ ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่การกอดของมันเหมือนจะกลัวว่าผมจะหนีมันไป ผมลองก้มลงไปดูตัวเองพบว่าเปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้ว ผมคิดในใจว่ายังดีที่มันไม่ให้เราต้องนอนแก้ผ้า จากนั้นผมรู้สึกเริ่มกังวล น้ำตาเริ่มไหลเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ผมรู้สึกว่าการรอให้ถึงเช้ามันช่างยาวนาน แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าในคืนนั้นจะรู้สึกมีความทุกข์อย่างไร คืนนั้นมันก็ต้องผ่านไปจนได้ เหมือนในเพลงคืนอันเป็นนิรันดร์ จากภาพยนตร์รักแห่งสยาม(ภาพยนตร์ที่ผมรักที่สุด)ที่บอกว่า "ความทุกข์จะผ่านเพราะไม่มีคืนใดเป็นนิรันดร์ วันคืนต้องผ่านนั่นคือเวลาอันเป็นนิรันดร์"

การรอให้ถึงเช้าของผมช่างแสน ยาวนาน ในที่สุดพระอาทิตย์ก็เริ่มฉายแสงในตอนเช้า ผมลุกออกจากเตียงและแกะตัวไอ้นาวออกจากตัวผมอย่างเบามือเพราะกลัวมันตื่น ผมเอามือไปจับแก้มมันเบาๆแล้วร้องไห้อีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดต่อมัน ผมไม่ได้โกรธน้องเลย แต่ผมโทษตัวเองที่ทำให้เรื่องมันเกิดขึ้น แม้ว่าจะยังมีไข้อยู่แต่ผมก็อยากอาบน้ำเพื่อชำระล้างความเศร้าหมองในจิตใจ เผื่อว่ามันจะได้มลายหายไปกับสายน้ำบ้างก็ดี ผมรีบแต่งตัว ผมบอกลาอาๆที่ตื่นแล้ว โดยไม่ได้แตะข้าวเช้า แล้วออกจากบ้านทันทีโดยบอกว่ามีเรียนเช้าทั้งที่ความจริงมีในช่วงบ่าย ผมพยายามคิดว่าเรื่องที่ไอ้นาวบอกชอบผมก็เป็นแค่การละเมอเฟ้อภพแล้วก็ฝันไป เอง ขณะที่ผมนั่งรถกลับมหาวิทยาลัย ไอ้นาวมันโทรศัพท์เข้ามือถือ ผมตัดสินใจอยู่นานก่อนที่จะรับโทรศัพท์มัน

"พี่อามอยู่ไหนแล้วครับ ออกไปทำไมนาวไม่เห็นรู้เรื่องเลย" เสียงไอ้นาวเหมือนงอน
"ก็ออกมาตั้งแต่เช้ามืดแล้วอ่ะ ออกสายเดี๋ยวรถติด"
"แล้วพี่อามจะกลับมาบ้านเมื่อไหร่อีกล่ะ" คราวนี้ไอ้นาวถามเสียงอ้อน
"ไม่รู้สิ อาจจะไม่กลับมาเลยก็ได้นะ"
"เฮ้ยไม่ได้นะ อย่างงี้นาวก็ไม่ได้เจอพี่อามดิ" ไอ้นาวดูตกใจมาก
"อืม ก็ดีแล้วไง เราสองคนอยู่ห่างๆกันไว้น่ะดีแล้วล่ะ" พอพูดจบต่างคนต่างก็เงียบไปอยู่นาน แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้
"พี่อามเกลียดนาวขนาดนี้เลยเหรอ" ไอ้นาวดูน่าสงสารมาก
"พี่รักนาวนะ แต่ว่ารักแบบพี่น้องไง พี่ว่านาวกำลังสับสน เราอย่าพึ่งเจอกันเลยดีกว่านะ"
”ทำไม พี่อามพูดอย่างงี้ล่ะะครับ นาวรักพี่อามนะครับ" นาวพูดเสียงสั่น ผมกลัวว่าตัวเองจะร้องไห้ให้คนอื่นเห็น เลยตัดสินใจตัดสายทิ้งแล้วปิดเครื่องหนีไปเลย
หลังจากที่ผมปิดโทรศัพท์ ไปแล้ว ผมรู้สึกว่าเหนื่อยมากเพราะยังมีไข้อยู่ ทันทีที่เปิดเข้าไปในห้องเพื่อนทั้งสามคนก็นั่งอยู่กันที่ห้องโถงแล้ว

"เฮ้ยเป็นไง ปีใหม่สนุกเปล่า" ไอ้วินทักผมครับ
"อืม ก็ดี" ผมเหนื่อยมากครับ แล้วไม่ทันคาดคิดผมก็เป็นลมล้มไปกองกับพื้น ก่อนที่ผมจะสลบผมก็ได้ยินเพื่อนทั้งห้องโวยวายแล้ววิ่งกรูเข้ามาหาผมครับ ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ผมหลับ เมื่อลืมตามาผมก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงแล้วครับ แล้วบนหน้าผากก็มีผ้าขนหนูชุบน้ำวางอยู่ แล้วก็มีเพื่อนผมคนนึงเปิดประตูเข้ามา
"เฮ้ย มึงดีขึ้นบ้างแล้วยังว่ะ" บีมเพื่อนรักของผมเดินเข้ามา แล้วเอาผ้าขนหนูชุบน้ำออกมาแล้วปิดน้ำใหม่ ก่อนจะวางไว้ที่หน้าผากผม
"อามกูถามมึงจริงๆนะ มึงมีอะไรหรือเปล่า ปกติมึงไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนี่หว่า สมแล้วที่มันเป็นเพื่อนรักผม ผมเลยจับมือมันแล้วพูดว่า
"กูไม่รู้ว่าจะเล่าให้มึงฟังยังไงดี" พูดจบผมก็ร้องไห้
"แล้วคนอื่นไปไหนกันหมดอ่ะ"ผมถามบีมหลังจากที่ไม่เห็นใครอื่น
"ไอ้ วินกับไอ้คิมมีเรียนอ่ะ"กูมีเรียนพร้อมมึงก็เลยอยู่เฝ้า บีมมันอยู่คณะเดียวกับผมครับ มีเรียนด้วยกันหลายวิชา ผมยันตัวเองขึ้นมานั่ง แล้วพูดกับมันว่า
"บีมมึงกอดกูหน่อยได้มั้ย กูไม่ไหวแล้วว่ะ กูไม่รู้จะทำไงดี"จากนั้นบีมก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ มันเข้ามากอดผม ผมรู้สึกอบอุ่น ไอ้บีมตัวใหญ่เหมือนหมี เวลากอดจะรู้สึกดีมาก ผมเอาหน้าซบไหล่มัน แล้วร้องไห้จนแขนเสื้อมันเปียกไปหมด
"มึงไหวมั้ย ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวกูไปเอา Course Outline มาให้ก่อนก็ได้นะ"ผมพยักหน้าบนไหล่มัน จากนั้นก็หลับไป กว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็เย็นมากแล้วครับ ซึ่งพอตื่นมางานก็จะเข้าอีกแล้วครับ
ขอโทษด้วยนะครับคือว่าผมเล่าผิดไปนิดนึง คือว่าไอ้บีมเนี่ยไม่ได้ไปเอา Course Outline นะครับแต่ว่าช่วยจด lecture ให้เพราะ Course Outline จะแจกให้ตั้งแต่คาบแรกที่เรียนครับ
เมื่อตื่นขึ้นมาผมก็รู้สึกว่าไข้ลดลง แล้วก็เห็นไอ้คิมนั่งเฝ้าผมอยู่
"อ้าวตื่นแล้วเหรอ ดีขึ้นยังอ่ะ"
"มึงมาตั้งเมื่อไหร่"
“ก็ตั้งแต่บ่ายสาม แล้วอ่ะเนี่ยก็ช่วยเปลี่ยนผ้าชุบน้ำบนหน้าผากมึงไปหลายรอบแล้วอ่ะ"
"ขอบ ใจมากนะ" หลังจากนั้นพยายามยันตัวขึ้นมานั่ง แต่ว่านั่งได้ไม่ทันไรก็รู้สึกมึนเหมือนจะตกเตียง ไอ้คิมก็เลยเข้ามากอดผมไว้ไม่ให้ผมล้ม ไอ้คิมอาจตัวไม่เป็นหมีแบบไอ้บีมแต่ก็เต็มไปด้วยกล้ามจากการเล่นบาสของมัน

"เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้อ่ะ ไข้ก็ลดแล้วไม่ใช่เหรอ" พูดจบมันก็เอามือมาอังหน้าผากผม ขนาดว่ามันเล่นบาสมือมันยังนิ่มกว่าผมอีก สมเป็นลูกคุณหนูจริงๆ
"อืมสงสัยว่ายังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เช้ามั้ง"
"หาจริงดิ เดี๋ยวกูไปซื้อให้เอาเปล่า"ไอ้คิมดูตกใจมาก
"อืมกูอยากออกไปกินข้างนอกมากกว่า นอนทั้งวันกูเบื่อ”
“เอา ดิเดี๋ยวรอไอ้บีมกับไอ้วินมาก่อนละกัน จะได้ลงไปพร้อมกัน” เมื่อพวกมันมาพร้อมกันผมก็เลยลงไปทานข้าว พวกเพื่อนผมก็ช่วยกันพยุงผมลงไปข้างล่าง เวลาก็เย็นมากแล้วครับ และผมรู้สึกว่าเหมือนวันนี้พวกมันพยายามเอาใจผมเป็นพิเศษ ผมว่าไอ้บีมน่าจะเล่าอะไรให้พวกนี้ฟังบ้างแล้วล่ะ
“เฮ้ยนี่มึงไปโดนใครเขาอกหักมารึเปล่าว่ะ” ไอ้วินมันแหย่ผม”
“ถ้าอกหักได้ก็ดีแต่ว่านี่มันแย่กว่านั้นอีก”
“แล้วมันยังไงวะ”คราวนี้ไอ้คิมถามผม
“อืม คนบางคนเราก็รักเขาไม่ได้นะ แต่ก็ไม่สามารถหนีเขาพ้น กูก็เลยไม่รู้จะทำยังไง” พูดจบผมก็ทำหน้าซึมๆ จนไม่มีใครกล้าถามอะไรต่อ ผมนึกได้ว่าปิดโทรศัพท์มือถือไว้นานแล้ว ก็เลยบอกไอ้บีมว่าช่วยโทรบอกแม่ผมให้หน่อยว่าโทรศัพท์มือถือเสีย ต้องรออีกห้าวันกว่าจะซ่อมเสร็จ บีมมันคงรู้ว่าผมคงอยากอยู่เงียบๆก็เลยไม่ถามอะไรมาก แต่ว่านั่นแหละครับงานเข้าก็คืองานเข้าหนีไม่ได้ด้วยครับ พอกลางดึกเท่านั้นแหละครับไอ้บีมก็เอาโทรศัพท์มือถือมาให้ผม บอกว่าแม่มีเรื่องด่วนมาก
“ฮัลโหล สุดที่รักว่าไงครับ” (ผมเรียกแม่ตัวเองว่าสุดที่รักครับ)
“อาโอมโทรมาบอกว่าน้องนาวถูกรถชนอยู่ที่โรงพยาบาล... (ใบ้ให้ว่าอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา)”
“หา นาวถูกรถชนเหรอครับ” ผมตกใจสุดขีด
พอ ได้ยินแม่โทรมาบอกแค่นั้นผมตกใจมาก เลยรีบลากไอ้บีมไปเป็นเพื่อนด้วย แล้วรีบนั่งรถแท็กซี่จากที่รังสิตไปเลย พอไปถึงก็ให้จอดที่แผนกฉุกเฉินอุบัติเหตุที่โรงพยาบาล แล้วรีบวิ่งเข้าไปเลย ผมเห็นบรรดาญาติๆยืนออกันอยู่เพียบเลยครับ ผมเลยตรงเข้าไปเลย

“อาโอม อานาถครับ ไอ้นาวเป็นไงบ้างครับ” ผมเป็นห่วงไอ้นาวมาก
“น้องยังไม่ฟื้นเลยลูก แต่ว่าพ้นขีดอันตรายแล้วล่ะ” อาโอมเป็นคนตอบให้เพราะท่าทางอานาถยังช็อกมากๆ
“คืนนี้อามอยู่กับน้องหน่อยได้มั้ยลูก” พอพูดจบผมก็เริ่มสงสัย
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“คือ ว่าเดี๋ยวอาต้องพาอานาถกลับไปพักผ่อนก่อน แล้วเดี๋ยวคนอื่นจะกลับไปจัดการเรื่องที่บ้านอะไรให้เรียบร้อยด้วย อีกอย่างคือ...นาวเขาเพ้อถึงอามบ่อยมากเลย น้องคงอยากเจอลูกมาก” เท่านั้นแหละครับผมก็อึ้ง
“ได้ครับเดี๋ยวคืนนี้อามดูแลน้องเอง” ผมรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ครับ แต่ต้องข่มใจไว้ จากนั้นบรรดาอาๆทั้งหลายก็กับบ้านไปกันหมด ผมเลยเฝ้าน้องอยู่กับไอ้บีมสองคน
“เออน่ามึงทำใจดีๆเอาไว้” ไอ้บีมเห็นผมหน้าเครียดก็เลยพยายามปลอบใจผม
“กูไม่น่าเลยอ่ะ”ผมเริ่มพึมพำ
“ทำไมอ่ะ”
“เอ่อ (ผมต้องโกหกแล้วครับ) ก่อนกลับมาที่หอกูทะเลาะกับน้องมา ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับกูรึเปล่า”
“หาเรื่องแค่นี้เอง ที่ทำให้มึงป่วยเนี่ยนะ”นั่นทำมารู้ทันกูอีก ผมก็เลยตามน้ำไปว่า
“ปกติแล้วกูไม่เคย ทะเลาะกับน้องมาก่อนเลยนะ”ผมหาทางแก้ตัวไปเรื่อยๆ
“เอา น่า อย่าคิดมาก” ด้วยความที่พึ่งฟื้นไข้ไม่นาน ผมก็เลยง่วงแล้วหลับไปต่ออีกรอบ ก็เลยขอพิงไหล่ไอ้บีมมันนอน มันก็ให้พิงนะครับแต่ไม่วายมันก็พูดประมาณว่าจะมีคนคิดว่าเป็นคู่เกย์กันป่ะ เนี่ย ผมก็เลยบอกมันประมาณว่าให้มึงหน้าเหมือนแบรด พิทท์ ก่อนแล้วกันค่อยมากังวล ก็เลยโดนมันเขกหัวไปทีหนึ่ง เวลาผ่านไปพักใหญ่ๆ ก็มีพยาบาลมาบอกว่าไอ้นาวฟื้นแล้ว ผมก็เลยให้บีมมันรออยู่ข้างนอก แล้วก็เดินเข้าไปข้างใน ไอ้นาวมันนอนนิ่งแล้วก็ตาลอยๆ พอผมเรียกมันก็หันมาแล้วก็พยายามขยี้ตาเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป ผมเดินเข้าไปลูบหัวมัน แล้วมันก็ร้องไห้ ผมโน้มตัวลงไปกอดมัน (มันยันตัวขึ้นมาไม่ได้เพราะเจ็บแผล) ผมบอกมันประมาณว่า ไม่ต้องพูดอะไรนะให้อยู่เฉยๆเพราะเดี๋ยวจะเจ็บแผล แต่ว่าไม่วายครับไอ้นาวมันแอบหอมแก้มผมอีกแล้ว แต่จะให้ด่ามันก็ดูจะใจร้ายไปก็เลยยอมมันสักครั้งหนึ่ง พอผมไม่ว่ามันก็เลยเอาอีกรอบ จากนั้นผมก็เลยถามมันว่า

“ทำไมถึงโดนรถชน ได้ว่ะ” มันก็เลยเล่าว่าพอโทรหาผมไม่ติดก็เลยใจลอย พอแม่มันใช้ให้ไปซื้อของที่เซเว่นก็เดินไปแบบไม่ได้สนใจรถรา เลยโดนเสยเอา เอ่อเพราะผมอีกแล้วสินะ
“อยากกินอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้” ไอ้นาวมันบอกอยากกินโจ๊กครับ ผมก็เดินออกไปซื้อให้ แต่ซื้อไปก็คิดไปไม่รู้จะทำยังไงต่อดี กับเรื่องของมัน
จากนั้นผมเห็นไอ้บีมมันนั่งหลับอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ก็เลยบอกว่าให้มันกลับไปก่อนดีกว่ามั้ย ก็เลยโดนมันสวนว่า
“นี่มึงจะทิ้งกูเหรอว่ะ”
“เชี่ย กูก็แค่ไม่อยากให้มึงลำบากกับกูด้วยไง อีกอย่างเผื่อพรุ่งนี้กูกลับไม่ทัน จะได้ให้มึงจด Lecture ให้ก่อนไง เดี๋ยวกูออกค่า Taxi ให้ก็ได้”
“มันจะดีเหรอวะ”
“เฮ้ย เชื่อกูดิ เดี๋ยวกูไปส่ง”จากนั้นผมก็เดินไปส่งมันขึ้นรถ จ่ายค่า Taxi ให้มัน ซื้อโจ๊กแล้วก็กลับมาหาไอ้นาว แล้วก็ไปอ้อนคุณพยาบาลขอชามมาใส่โจ๊กให้ไอ้นาว พอเอาโจ๊กมาให้มัน มันก็ไม่ยอมกินเอง ทำท่าจะให้ผมป้อนท่าเดียว
“นาวมือก็ไม่เจ็บก็กินเองดิ”
“พี่ อามจะไม่เห็นใจคนป่วยเลยเหรอ” มันเสียงดังจนผมต้องเอามือปิดปาก แล้วบอกมันว่านี่โรงพยาบาลนะ มันก็บอกว่าป้อนสิแล้วจะเงียบ ผมก็เลยต้องป้อนมันอีก แล้วบังเอิญว่าห้องฉุกเฉิน มีเก้าอี้เฉพาะนั่งรอด้านหน้า ก็เลยต้องยืนป้อนมัน แล้วมันก็เอามือโอบตัวผมไว้ครับ จะด่ามันก็ไม่ได้เดี๋ยวโวยวายใส่อีก ไอ้นี่ชอบใช้วิธีการให้ผมปฏิเสธไม่ได้ตั้งแต่โดนโม๊คแล้วครับ ถ้าไม่ใช่ญาติตัวเองก็น่าจะจบไปแล้วครับ แต่พอเป็นน้องตัวเองก็เลยไม่รู้ทำไง ที่สำคัญดันแกล้งมันไว้เยอะนี่แหละครับเวรกรรม ผมค่อนข้างกังวลว่าคนจะเข้าใจผิดว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน เพราะมันก็ร่างกายโตเป็นหนุ่มแล้วครับ แล้วหน้าเราสองคนก็ไม่เหมือนกันเพราะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ มือมันก็โอบเอวผมอีกต่างห่าง แถมมีพยาบาลหลายคนชอบส่งสายตาแปลกๆแล้วก็ยิ้มมาทางไอ้นาวกับผมบ่อยจัง กินเสร็จมันก็นอนหลับปุ๋ย ก่อนหลับก็ไม่วายจับมือผมไว้ตลอดเวลา ตายหะนี่กูกำลังทำอะไรที่เหมือนเป็นแฟนกันเลยนี่หว่า อืมชิ่งมันไปตอนนี้ก็ไม่ได้อีก เอาไงดีละทีนี้ ผมรอถึงตอนเช้าจนกระทั่งไอ้นาวตื่น ผมก็โทรไปบอกอาโอมกับอานาถให้มารับกลับบ้าน เสร็จแล้วก็เดินเข้าไปหามัน ผมคุยกับมันประมาณว่า อย่าลืมกินยานะ แล้วก็อย่าพยายามออกแรงมาก มันก็ดันพูดขึ้นมาว่า
“ถ้าพี่อามอยู่ด้วย คงหายเร็วแหละ”พูดเสร็จมันก็ยิ้มเผล่ ผมก็บอกว่าต้องเรียนหนังสือ มันก็เลยบอกว่าขอกอดหน่อยเพราะเดี๋ยวไม่ได้เจออีกหลายวัน ผมก็ให้มันกอดแต่ผมก็พูดกับมันข้างๆหูว่า
“เราเป็นพี่น้องกันนะ จำไว้ให้ดีๆ”
“งั้น นาวก็ขอเป็นน้องที่รักพี่อามมากกว่าใครๆเลยก็แล้วกัน” ผมฟังแล้วก็น้ำตาร่วงครับ คือไม่รู้จะสงสารน้องหรือสงสารตัวเองดี ไอ้นาวมันเอามือมาปาดน้ำตาผม
“อย่าร้องไห้ดิ นาวกำลังมีความสุขเลย เสียบรรยากาศหมด “ ดูมันไม่ได้คิดว่าผิดเลยใช่ไหม ผมก็เลยมองว่างั้นคงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปสักพักละกัน แล้วไอ้นาวมันก็อ้อนให้ผมหอมแก้มมันหน่อยบอกว่าเป็นรางวัลที่หายป่วย ผมเลยต้องตบกบาลมันทีนึง แล้วบอกว่าอย่าลามปามแค่ที่ทำตอนนี้ก็เยอะแล้ว โอ้ยผมปวดประสาทจริงๆ

ผมเดินหนีไอ้นาวออกมาบอกว่าปวดฉี่จะไปเข้าห้องน้ำ แต่จริงๆแล้วอยากออกมาสงบสติอารมณ์มากกว่า พอมาล้างหน้าที่อ่างก็มีคุณหมอคนหนึ่งอยู่ข้างๆแล้วก็ยิ้มๆให้ ผมสงสัยก็เลยถามไปว่า
“คุณหมอมีอะไรกับผมรึเปล่าครับ” แล้วก็ได้คำตอบที่ทำให้อึ้งว่า
“เห็นคุณกับแฟนดูแลกันดีผมก็เลยอิจฉา เนี่ยแฟนผมที่พึ่งเลิกไปเขายังไม่เคยดูแลผมขนาดนี้เลย” โอ้ยขอบคุณพระเจ้างานเข้าอีกแล้วกู
“คุณหมอครับเอ่อนั่นมันน้องชายผมนะ”
“จริง อ่ะ โธ่คุณไม่ต้องปิดก็ได้แฟนผมก็ผู้ชายเหมือนกันไม่ต้องอายหรอก” เอาเข้าไปไม่ฟังกูเลย ผมก็ต้องอธิบายความประมาณว่าน้องจริงๆแต่ว่ามันติดผมมากก็เท่านั้นเอง พูดจบผมก็รีบออกมาจากห้องน้ำเพราะพูดมากเดี๋ยวความแตกกันพอดี รอสักพักอาโอมกับอานาวก็มาถึงพร้อมกับขอบอกขอบใจผมใหญ่ที่อุตส่าห์ช่วยดูแล ไอ้นาวให้ทั้งคืน แต่คนที่ดูจะมีความสุขมากกว่าใครก็คือไอ้นาว (แน่ละสิกำไรเห็นๆทั้งกอด ทั้งหอม ถ้าทำอะไรมากกว่านั้นได้กูคงเสร็จมันไปรอบสองแล้วมั้ง) แล้วเหมือนว่าความซวยจะมาอีกครั้งเพราะไม่มีรถเข็นว่างผมก็ต้องประคองมันอีก คราวนี้ได้ทีมันโอบผมใหญ่ผมก็เลยต้องหยิกมันไปทีนึง มันร้องโอ๊ยซะดัง ผมก็เลยกลบเกลื่อนบอกพ่อกับแม่มันไปว่าสงสัยโดนมดกัด (สมน้ำหน้ามัน) ระหว่างที่เดินประคองมันมันก็บอกว่าอย่าปิดมือถือนะ อยากโทรไปคุยกับผมทุกวัน จริงๆก่อนหน้านี้ประมาณเดือนสองเดือนมันก็โทรหาผมบ่อยนะครับแต่ออกแนวชอบถาม เรื่องการบ้านแล้วผมก็รู้สึกว่ามันเหมือนไม่ค่อยจะถามอะไรจริงจังหรอกเหมือน หาเรื่องคุยไปนานๆมากกว่าแต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วครับ
“แสดงว่าที่โทรหาตลอดนี่ไม่ได้ จะโทรมาถามการบ้านเลยใช่ไหม” มันยิ้มแทนคำตอบแล้วก็ไม่พูดอะไรต่อครับ แล้วผมก็ต้องมาส่งมันถึงบ้านจนได้ ตอนนั้นอาโอมกับอานาถต้องไปทำงานก่อน เลยฝากผมดูแลไอ้นาวไปก่อนจนกว่าจะกินข้าวเสร็จกินยาแล้วหลับ(เพราะยาที่กิน มีส่วนผสมของยานอนหลับเพื่อให้คนไข้ได้พักผ่อน) พร้อมให้ค่าแท็กซี่สำหรับกลับมหาวิทยาลัยเรียบร้อย บ้านก็ไม่มีใครอยู่เพราะไปทำงานหมดเหมือนกัน ผมก็ไม่คิดอะไรมากเพราะคิดว่ามันเจ็บหนักขนาดนี้น่าจะไม่มีพิษสงอะไร (แต่จริงๆแล้วคิดผิด) ยังดีที่ว่าไอ้นาวไม่เป็นอะไรมากแล้ว แต่ก็ยังเจ็บแผลอยู่นิดหน่อยและยังยืนนานๆไม่ค่อยได้ ก็เลยไม่น่าจะลำบากมากแล้ว จากนั้นผมก็จัดแจงหาข้าวปลา หายาให้มันกิน คราวนี้มันต้องทานเองแล้วครับเพราะมันโวยวายให้ใครรู้ไม่ได้ (แอบดีใจ แต่ว่า...)

“พี่อามนาวอยากอาบน้ำ” ผมก็เลยบอกว่าก็ไปอาบเองสิ แต่ก็จำนนด้วยเหตุผลว่าก็มันยังยืนไม่ค่อยได้ต้องมีคนไปช่วยมันอาบ ผมก็เลยต้องไปอาบให้มัน ดีที่ว่าที่บ้านมีเก้าอี้พลาสติกอยู่ตัวหนึ่งก็เลยเอาไปให้มันนั่งอาบ และแล้วพอมันเข้าห้องน้ำ มันก็จัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองจนล่อนจ้อนหมดเลย ผมก็เลยถามมันว่าไม่คิดจะอายกันบ้างเหรอ มันก็บอกว่า
“นาวก็โป๊ให้พี่อาม ดูมาตั้งแต่เด็ก นาวก็เห็นของพี่อามมาหมดแล้วทุกอย่าง จะอายอะไรอีก” ผมคิดในใจว่า เออจริงของมันแต่ผมก็อายมันอยู่ดี พอมาถึงตอนนี้ผมก็เลยนึกย้อนไปถึงตอนเด็กๆที่เคยอาบน้ำให้มัน ตอนนั้นมันยังดื้ออยู่เลย อาบน้ำให้มันทีไรมันชอบทำตัวผมเปียกทุกที เวลาอาบน้ำเสร็จเสื้อผ้าก็ไม่ยอมใส่มาเกาะผมเป็นลูกลิงอยู่ได้ กว่าจะจับมันใส่เสื้อผ้าได้ก็เล่นเอาเหนื่อย ผมจัดการอาบน้ำสระผมให้มันเสร็จสรรพ แต่พอกำลังจะเช็ดตัวให้มัน มันก็ถามว่า
“พี่นาวยังไม่ได้อาบน้ำใช่ไหม”
“ก็เออดิ เฝ้านาวทั้งคืนไม่ได้ไปไหนเลย จะให้ไปอาบตอนไหน”
“ตอน นี้ไง” พูดจบมันก็เอาฝักบัวฉีดน้ำใส่ผมทันที ผมหลบไม่ทันก็เลยเปียกทั้งตัว โดนเหมือนตอนมันเป็นเด็กเลย ตาโดนน้ำจนพร่ามัวแล้วไอ้นาวก็เข้ามาหาผม มันดันผมเข้ากับฝาผนัง แล้วก็คว้าคอผมมาจูบ แล้วมันก็เลื่อนมาไซร้ที่ซอกคอ โอ๊ยนี่คอจะเป็นรอยมันดูดรึเปล่าวะ เสื้อผมกำลังจะโดนมันถอด ผมพยายามผลักมัน แต่มันเอาวงแขนรัดผมไว้ซะแน่น
“ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยกู” แต่โวยวายไปก็ไร้ผลเพราะไม่มีใครได้ยิน แล้วกูจะโดนมันปล้ำมั้ย โอ๊ยไม่ได้นะผมยังไม่อยากเสียจิ้นตอนนี้ ไม่ใช่กับน้องชายตัวเอง ใครก็ได้ช่วยผมด้วย
เรื่องก็ยังดำเนินต่อไป ผมถูกไอ้นาวกระชากเสื้อหลุด กางเกงพร้อมกางเกงในก็ถูกถอดออกมากองหมดแล้ว ผมเลยพยายามทำใจว่าคงต้องโดนปล้ำแน่แล้วละกู แต่ว่าเรื่องมันพลิกล็อกตรงที่ว่าอยู่ๆ ไอ้นาวมันก็หมดแรงแล้วล้มไปกองกับพื้นซะงั้น (ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ใครหลายคนผิดหวังแต่ผมไม่อยากเล่าเกินจริง) ผมก็เลยตกใจรีบไปประคองมันให้นั่งบนเก้าอี้ แล้วก็เลยถามว่ามันเป็นอะไรไป

“ไม่ รู้อยู่ๆมันก็ง่วงอยากนอน” อ๋อเป็นผลจากยานอนหลับนั่นเองครับ อีกอย่างมันยืนไม่ค่อยได้อยู่แล้วด้วย ผมก็เลยรอดพ้นจากการถูกปล้ำอย่างหวุดหวิด แต่ผมก็ต้องลำบากอยู่ดีที่ต้องแบกมันขึ้นห้อง แล้วสภาพผมก็แย่มากเพราะมันมีผ้าเช็ดตัว ส่วนผมเปลือยเปล่าเพราะเสื้อผ้าเปียกไปหมดก็เลยต้องถอดทิ้งไว้ก่อน กว่าจะทิ้งมันลงบนเตียงได้ก็แทบแย่ ขณะกำลังจะใส่เสื้อผ้าให้มัน มันมองผมตาไม่กระพริบแล้วบอกผมว่า
“ดีจังเลยได้เห็นพี่อามโป๊ชัดๆ” (เพราะคราวที่ตอนโดนมันโม๊คเป็นช่วงเย็นแล้วอยู่ในที่ทึบๆเลยมองเห็นอะไรไม่ ค่อยชัด) ไม่ทันที่ผมจะด่ามันก็คว้าตัวผมไปกอดบนเตียงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้กลายเป็นว่าเราสองคนกอดกันบนเตียงในสภาพเนื้อแนบเนื้อ เปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ ผมหลับตาไม่อยากมอง พร้อมใจที่เต้นระรัว ไอ้นาวไม่รอช้าระดมจูบผมไปทั่วร่าง ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองคงไม่รอดแล้วเพราะร่างกายมันระทวยไปหมดแล้ว มือมันก็คว้าท่อนลำผมไว้เพื่อเคล้าคลึงให้ผมเกิดอารมณ์พร้อมๆกับใช้มือบีบ เค้นกล้ามเนื้อผมไปพร้อมๆกัน อารมณ์ผมจะกระเจิดเจิงไปหมดแล้วครับ แต่ว่า....ด้วยฤทธิ์ยาทำให้ไอ้นาวหลับคาอกผมไปครับ คิดตอนนี้แล้วก็ยังตลกไม่หาย พอมันหลับผมคิดถึงตอนเด็กๆที่มันนอนหลับโดยที่มันต้องกอดผมหรือผมกอดมัน ทุกที มันรู้สึกอบอุ่นมาก พอมาถึงตอนนี้ตอนที่มันหลับผมเลยนอนกอดมันไว้สักพักและคิดถึงความรู้สึก เก่าๆที่ยังคงบริสุทธิ์ กอดกันเพราะความรักไม่ใช่ความกระหายใคร่ในกามารมณ์ มันโตขึ้นมากจริงๆ ผมก็หอมแก้มมันไปหนึ่งทีแบบพี่หอมน้อง ที่ทำตอนมันตื่นไม่ได้เพราะเดี๋ยวมันจะเข้าใจผิดไปเสียฉิบ ผมรู้สึกว่าตอนนี้ผมเหมือนกำลังกอดเด็กตัวโตๆไว้ในอ้อมแขน ตัวมันหอมเพราะพึ่งอาบน้ำมาใหม่ คิดถึงมันตอนเป็นเด็กจริงๆเลย สักพักผมก็เอาตัวมันออกจัดแจงใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วจัดการหาถุงพลาสติกในบ้านมาใส่เสื้อผ้าที่เปียกเพื่อกลับไปซัก แล้วก็หาชุดไอ้นาวที่พอจะใส่ได้ใส่กลับไปก่อน ก่อนกลับผมก็ทิ้งโน้ตไว้มันว่า

“หลับให้สบายนะ แล้วอย่าลืมกินยาด้วย” จากนั้นก็ออกมาจากบ้านแล้วนั่งแท็กซี่กลับมาที่มหาวิทยาลัย เมื่อผมคิดถึงตอนกอดมันเมื่อสักครู่ที่ทำให้รู้สึกดี ผมก็เริ่มสำรวจหัวใจของตัวเองว่าผมรักมันในรูปแบบใดกันแน่
พอผมนั่ง แท็กซี่มาได้สักพัก ผมก็รู้สึกว่าการปิดมือถือไม่มีความหมายอีกต่อไป เพราะยังไงก็ต้องคุยกับไอ้นาวอยู่ดี เชื่อมั้ยครับทันทีที่เปิดโทรศัพท์มือถือ มีข้อความเข้ามาใหม่เยอะมาก ดูๆไปมีแต่ไอ้นาวส่งมาทั้งนั้นเลย (พูดไปยังกับหนังไทย นั่นว่าเน่าแล้วนะเรื่องผมยิ่งกว่าเขาอีก) ข้อความมันประมาณว่า

“ขอโทษนะ นาวไม่ได้ตั้งใจ”
“อย่าโกรธนาวเลย”
“นาวผิดไปแล้ว”
“ที่ทำไปก็เพราะรัก”
“พี่อามไม่เห็นใจน้องบ้างเหรอ”
“พี่อามไม่มาหานาวแล้วนาวจะอยู่กับใคร”
“ไม่ มีพี่อามแล้วนาวจะขาดใจ” อ่านไปแล้วก็แบบว่าผมอยากจะบ้าตาย พอหลับตาผมก็พลันนึกถึงที่ได้กอดมันเมื่อสักครู่ มันรู้สึกอบอุ่นมากมาย อยากกลับไปทำแบบนั้นอีก แต่ผมกลัวว่ามันจะเข้าใจผิด และจะเผลอใจไปทำอะไรที่เกินเลยซะเอง ผมแค่อยากทำอะไรด้วยความไตร่ตรอง ไม่อยากใช้แต่อารมณ์ตัดสินอย่างเดียว ผมรู้ว่าความรักต้องใช้หัวใจนำทางแต่ว่าเรื่องนี่มันคงใช้หัวใจไม่พอครับ คงต้องพูดถึงเรื่องความถูกต้องด้วย แล้วโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น อานาถโทรมาครับ
“นาวเขาโอเคใช่ไหมลูก”
“เรียบร้อยดีครับ หลับสบาย อามกำลังนั่งรถกลับมหาวิทยาลัยอยู่ครับ”
“ขอบใจอามมากนะลูก น้องคงดีใจน่าดู”
“อ้าวทำไมล่ะครับ” ผมสงสัย
“ก็ น้องเพ้อหาแต่อาม ตั้งแต่เด็กๆแล้ว ใครพูดอะไรไม่ค่อยฟังหรอก นอกจากพี่อามพูดมาคำเดียวจบเรื่อง ติดอามยังกับอะไรดี ขนาดอาบน้ำยังต้องให้พี่อามอาบให้เลยดูสิ พ่อแม่จะอาบให้ไม่มียอม” อานาถพูดเสียงดูรื่นเริง แต่ผมอึ้งและเริ่มคิดทบทวนเรื่องในอดีต
“แล้วอามจะกลับมาบ้านมาอีกเมื่อไหร่ละลูก”
“อืม ไม่แน่ครับ อาจเป็นเดือนหน้าเลยก็ได้ครับ มีงานเยอะครับ”
“โอ๊ย เจ้านาวคงบ่นน่าดู แค่อามไม่กลับทุกอาทิตย์ นาวก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งแล้วแล้วลูก” ผมก็ขำกลบเกลื่อนแต่แอบถอนใจเบาๆ เมื่อวางสายผมก็เผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาผมพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงของไอ้นาวพร้อมร่างกายที่เปลือย เปล่า และไอ้นาวก็กำลังคร่อมตัวผมอยู่
“พี่อามของผมตื่นแล้วเหรอครับ” ผมมาอยู่บนเตียงกับมันได้ไงวะเนี่ย
“นาวมาอยู่กับพี่ได้ยังไง” ผมเริ่มงงและกลัว

“พี่ อามก็ต้องอยู่กับนาวสิ ก็พี่อามเป็นของนาวไง” จากนั้นไอ้นาวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มคว้าผมไปจูบอย่างดูดดื่ม ผมพยายามเอามือผลักมันออก แต่ก็ได้รู้ว่าทั้งสองมือได้ถูกพันธนาการไว้กับเสาเตียงเรียบร้อยแล้ว ผมรู้สึกว่าลิ้นจะขาดเพราะโดนรุกเร้าหนักมาก จากนั้นนาวเริ่มไซร้ไปที่ซอกคอ พร้อมกับใช้ฟันขบเบาๆ ตอนนี้ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ อารมณ์กระเจิดกระเจิง คราวนี้ไอ้นาวกลับมาใช้ลิ้นอีกครั้ง โดยโลมเลียไปทั่วตัวผมอย่างเบาจนผมต้องเผลอครางออกมา นาวไม่รอช้ารีบเอามือเคล้าคลึงท่อนลำของผม รูดขึ้นรูดลงพร้อมการดูดอมอย่างเมามัน ผมพยายามดิ้นแล้วแต่ไม่เป็นผล เพราะมือนึงของนาวก็เคล้าคลึงท่อนลำผมไป อีกมือก็กดผมไว้ไม่ให้ดิ้นได้ ปากของนาวก็จดจ่อท่อนลำของผมอยู่อย่างนั้นไม่นานก็ใกล้ถึงที่หมาย ผมพยายามให้นาวหยุด แต่ที่สุดแล้วก็เสร็จคาปากมันจนได้ พร้อมๆกับการรีดเลียน้ำกามของผมจนไม่เหลืออีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่านาวจะไม่พอใจอยู่แค่นั้น นาวลุกขึ้นไปหยิบเชือกพร้อมกับมามัดขาผมทั้งสองข้างกับปลายเตียง ผมพยายามดิ้นสุดฤทธิ์เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ไอ้นาวก็มัดผมจนเสร็จ แล้วมันก็พูดว่า
“พี่อามอยู่นิ่งๆนะ ผมไม่ทำคนที่ผมรักเจ็บหรอก” จากนั้นมันก็โน้มลงมาห้อมแก้มผม จากนั้นมันก็เอานิ้วชี้ชโลมเบบี้ออยล์แล้วเริ่มสอดเข้าไปในร่องก้นของผม
“ไม่ไม่ไม่ อย่าทำแบบนี้ อ๊ากกกกกกกก” ผมหวีดสุดเสียง

“คุณ ครับเป็นอะไรรึเปล่าครับ”พี่คนขับแท็กซี่ถามเข้ามา เฮ้ยนี่กูฝันใช่ไหมเนี่ย อู้ยโล่งอก ก็เลยต้องบอกเขาไปว่าบังเอิญว่าฝันร้ายไปหน่อย พอกลับมาถึงหอก็ไม่ไหวแล้วครับ ล้มตัวลงนอนทันที เพราะนอกจากบนแท็กซี่ก็ไม่ได้นอนเลย แถมต้องออกแรงฟัดกับไอ้นาวมาอีก ค่อยไปเรียนตอนบ่ายละกันตอนเช้าวันนี้ไอ้บีมหมียักษ์คงจัดการจด Lecture แทนผมไปแล้ว หวังว่าคงไม่ฝันว่าโดนไอ้นาวปล้ำอีกนะ แต่ใครจะคิดว่าตื่นมาอีกทีจะพบว่าตัวเองโดนลวนลามจากคนใกล้ๆตัวนี่เอง
---------------------------------------------------------------------------------------------
ผมก็ชอบนะเรื่องนี้ หุหุหุ มาโพสให้แค่ตอนหนึ่งละกัน กลัวโดนคุณ JkrR ฆ่าปาดคอ อิอิ ล้อเล่นนะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่3 จุดเปลื่ยน
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 21-01-2010 22:01:04
มาสลับกันลงก็ได้ครับ ไม่ว่ากัน ผมเองก็ยุ่งๆ

(แต่ลงซักวันละตอนนะครับ เด๋วหมดสต๊อกก่อน หุหุ)
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่4 ความสับสน
เริ่มหัวข้อโดย: moonlightjoe ที่ 21-01-2010 22:53:40
รับแซ่บบบบบ    o18

ถ้าวันไหน คุณ JkrR ไม่มาลง  :m15:

เดียวหลัง 4 ทุ่มผมจะมาลงให้ครับ  :laugh:

อิอิ คุณ JkrR ที่ว่ายุ่งๆนี้ยุ่งไรหว่า (คิดไปไกลนะเนี่ย)  :o8:

555+  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่4 ความสับสน
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 22-01-2010 11:37:46
 :z1:จริงๆแล้วพี่อามก็อยากตกเป็นของน้องนาวใช้มั้ยเนี่ย
ขนาดเก็บไปฝัน
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่4 ความสับสน
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 22-01-2010 12:30:46
น้องนาวน่ารัก

แหม ถึงเป็นน้องก็ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันซะหน่อย

อย่าคิดมากเลยน้องอาม

ยอมๆน้องไปเต๊อะ สมน้ำหน้า อยากแกล้งน้องมันมาตั้งแต่เด็กๆ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่4 ความสับสน
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 22-01-2010 12:43:58
กรรมติดจรวดอ่ะ...คิกคิก...

น้องนาว กะ พี่อาม :z1: :z1:

ชอบๆๆ รอตอนต่อไปค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่4 ความสับสน
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 22-01-2010 19:40:05
บทที่ 5 คนใกล้ตัว
ขณะที่ผมกำลังนอนหลับอย่างสนิท ก็เริ่มมีความรู้สึกว่าเหมือนมีคนมาจับแก้มอยู่ ผมก็นึกว่าขนาดกูนอนหลับไอ้นาวมันจะตามมาหลอกหลอนไปถึงไหน แต่ก็คิดว่าแค่ความฝันช่างมันเถอะกูง่วงไม่อยากต่อกรกับมันในฝัน พอสักพักเฮ้ยมันชักลามไปมากกว่าเดิม คราวนี้มันมาจูบเบาๆที่ปาก หน้าผาก คาง แล้วยังจะเอามือล้วงไปในเสื้อผมอีกไปบีบนมผมอีก ผมก็ในใจว่าไอ้นาวมึงจะเล่นแบบนี้กับกูตลอดไม่ได้หรอกนะ ปรากฏว่าคราวนี้มันไม่หยุดมันถอดกางเกงและกางเกงในผมออก จับท่อนลำของผมรูดขึ้นรูดลง และเริ่มเอาปากงับแล้วใช้ลิ้นแลบเลียเหมือนคราวแรก คราวนี้ผมทนไม่ไหวลุกขึ้นมาโวยวาย

“ไอ้บ้าเอ๊ยพอได้แล้ว นี่มึงจะตามมาโม๊คกูตลอดไม่ได้หรอกนะ” แต่พอก้มหน้าลงมามองที่ขาตัวเอง เฮ้ยนี่มันเรื่องจริงนี่หว่า k คาปากเลย แต่คราวนี้ไม่ใช่ไอ้นาวแต่เป็น”ไอ้คิม” ผมอึ้งสุดขีด
“ไอ้เชี่ย นี่มึงเป็นเกย์เหรอว่ะ” ผมตกใจพูดอะไรต่อไม่ถูก มันก็บอกผมประมาณว่า มันก็บอกว่ามันก็เป็นเหมือนผมนั่นแหละ (ผมเป็นไบเซ็กช่วลแล้วเพื่อนที่รู้จักก็รู้กันดี แต่ผมเป็นประเภทไม่ชอบป่าวร้องให้ชาวโลกรู้ไปทั่ว ก็มันเรื่องของผมนี่หว่า) แล้วมันบอกว่าชอบผมมาตั้งนานแล้วแต่ไม่รู้จะทำยังไง เมื่อวานที่ผมออกไปกับไอ้บีมมันห่วงผมแทบตาย แล้วก็น้อยใจที่ผมไม่เอ่ยปากชวนมันไปด้วยสักคำ


“เฮ้ยแล้วแฟนสาวคนสวยของมึงอ่ะ (แฟนมันสวยมากกกก) มึงทำแบบนี้มันนอกใจเขานะเว้ย กูไม่อยากเป็นมือที่สาม” ผมพยายามปฏิเสธมัน
“ตั้งแต่กูรู้ว่ากูรักมึง กูก็ขอบอกเลิกเขาไปแล้ว อีกอย่างเขาก็มีคนที่ถูกใจกว่ากูอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับมึงหรอก” แล้วมันก็บอกผมต่อว่า ตอนผมไม่สบายมันอยากอยู่กับผมตลอด มันอยากมาเช็ดตัวให้ตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ แต่กลัวมีพิรุธเลยต้องให้ไอ้บีมทำไปก่อน พอมันเข้ามาตอนบ่ายวันนั้นมันดีใจมากที่ได้อยู่กับผมตลอดบ่ายวันนั้น
“ไอ้คิมคือบอกตามตรงได้มั้ย ตอนนี้กูไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น เพราะที่บ้านพึ่งมีเรื่องมา กูอยากพักผ่อน” แล้วก็ด่ามันไปหน่อยนึงประมาณว่าทีหลังอย่าลักหลับนะ ถ้ากูจะมีอะไรกับใครสักคนกูต้องมีความสุข ไม่ใช่ให้อีกฝ่ายสนุกอยู่ฝ่ายเดียว
“ถ้างั้นกูขอโทษนะที่ลักหลับมึง กูแค่ทำตามความรู้สึกของตัวเอง แต่ตอนนี้กูขอนอนกอดมึงได้มั้ย กูอยากให้มึงรับรู้ว่ากูรักมึงมากแค่ไหน” ผมคิดอยู่สักพักก่อนที่จะให้มันนอนกอด แต่ก็บอกมันว่ากอดในฐานะเพื่อนนะ และอย่าลวมลามกูด้วยไม่งั้นมีถีบ ผมตอบตกลงมันง่ายขนาดนี้เพราะไม่รู้ว่าต้องการหาที่พักพิงรึเปล่าจากเรื่องที่เกิดจากไอ้นาวรึเปล่า ไอ้คิมมันยิ้มดีใจมันเข้ามานอนกอดผมจากข้างหลัง ผมสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่ง กลิ่นหอมอ่อนๆจากเนื้อตัวของมันที่มาจากน้ำหอมราคาแพง ผมบอกมันว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนเลยคงตื่นเพื่อไปเรียนตอนบ่าย มันบอกว่ามันก็ไปเรียนบ่ายเหมือนกัน


“ดีเลยจะได้นอนกอดอามนานๆ” ผมไม่ได้พูดอะไรต่อครับ เพราะเหนื่อยล้ามากจริงๆผมหลับไปในอ้อมอกของไอ้คิม จนตื่นอีกทีก็เวลาเที่ยงก็ลุกขึ้นไปหาข้าวกินก่อนที่จะไปเรียนต่อช่วงบ่าย ไอ้คิมมันดูแลผมตอนทานข้าวดีมากกกกกก เหมือนผมเป็นเจ้านายมันเลย ผมต้องบอกให้มันอย่าเว่อร์มาก ไอ้คิมบอกว่า
“ไม่ได้หรอกเราต้องดูแลที่รักของเราให้ดีๆ” อ้าวเฮ้ยดูมันพูดพร้อมเปลี่ยนสรรพนามเสร็จสรรพ จากกูเป็นเราเรียบร้อย ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมต้องบอกมันว่านี่เรายังเป็นเพื่อนกันนะ มันก็ทำหน้าเศร้าจนผมนึกถึงไอ้นาว ผมต้องสั่งให้มันทำหน้าดีๆหน่อยเดี๋ยวกินข้าวไม่อร่อย พอมันทำหน้าดี๊ด้าขึ้นมาก็ทำให้นึกถึงไอ้นาวเวลามันดีใจอีก เฮ่อ
เมื่อเรียนเสร็จช่วงบ่ายครับ ไอ้คิมมันขับรถมารับเลยครับ บอกว่าจะพาไปทานข้าวข้างนอก ผมก็เลยบอกมันว่าไม่ไปทานข้าวได้มั้ย อยากไปที่อื่นมากกว่า


“ไปไหนล่ะอาม” ไอ้คิมสงสัย
“ไปวัด”
“หาอามอยากไปวัดเหรอ” ผมก็เลยบอกคิมไปว่า ไม่ค่อยสบายใจอยากไปทำบุญ คิมก็เลยพาผมขึ้นรถไปวัดทีใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย ไปถึงก็ไปซื้อชุดสังฆทานที่ร้านขายของชำที่หน้าวัด แล้วก็เข้าไปถวายสังฆทาน ทำบุญกรวดน้ำ พระท่านก็มีเมตตานอกจากให้ศีลให้พรแล้ว ยังแสดงธรรมเทศนาให้อีกด้วย คำพระที่ท่านพูดที่ผมจำไม่ลืมคือ
“อยู่กับตัวเองให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา” แล้วพอท่านทราบว่าผมกับไอ้คิมยังเป็นนักศึกษากันอยู่ ท่านก็บอกว่า
“สิ่งสำคัญในการศึกษาเล่าเรียนไม่ได้มีอยู่ในตำรา แต่ว่าอยู่ในใจของตน ต้องมีสติระลึกรู้อยู่ตลอดเวลา” ผมได้ฟังคำพระแล้วรู้สึกว่าคำเทศน์ของท่านมีความหมายกับผมมาก พอเสร็จพิธีผมก็เดินเล่นอยู่ในวัดสักพักนึง ก่อนขอให้ไอ้คิมช่วยพาผมไปนั่งรถเล่นสักระยะ ก่อนจะไปหาอะไรกินที่ร้านข้าวต้มโต้รุ่ง(แต่ว่าไปกินกันประมาณช่วงค่ำนะครับ)ซึ่งเป็นร้านที่ต่อมาตอนนี้โด่งดังมากอยู่ตรงข้ามเมเจอร์รังสิต ผมกินด้วยความเงียบเชียบเพราะมัวแต่ครุ่นคิด จนไอ้คิมถามว่ามันทำให้ผมไม่มีความสุขรึเปล่า ผมบอกว่าไม่ใช่จริงๆต้องขอบใจด้วยซ้ำที่คิมช่วยพาผมมาทำบุญ มาหาของอร่อยๆให้ทาน


“คิมเป็นเพื่อนกันไปก่อนได้มั้ย คือตอนนี้กูมีเรื่องต้องคิดเยอะน่ะ แต่กูสัญญานะว่าจะรับมึงไว้พิจารณา” ผมพูดโพล่งออกไป
“จริงๆนะอาม” คิมดูมีสีหน้าที่มีความสุขมากๆ แต่ในใจผมกำลังคิดว่าตอนนี้ผมกำลังจะหนีจากไอ้นาวยังไงดี แล้วอยู่ๆก็งานเข้า ไอ้นาวมันก็โทรมาทันที มันก็ถามนู่นถามนี่ไปเรื่อยเปื่อย พอคุยมันก็ลงท้ายว่า
“รักพี่อามนะครับ”
“อืมขอบใจนะน้องชาย” ผมพยายามเน้นคำหลัง
“ว้า เป็นได้แค่น้องชายเองเหรอ เป็นมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ”
“เป็นอะไรล่ะ” ผมถาม
“เป็นคนที่รักกันไง” อืม ผมว่าไอ้นาวมันคงไม่กล้าพูดคำว่าแฟนน่ะครับ มันพูดจบผมก็รีบวางสายทันที เหนื่อยใจสับสนว่าตัวเอง ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองรักไอ้นาวแบบน้องหรือแบบแฟนกันแน่ จริงๆแล้วผมก็แอบชอบไอ้คิมอยู่เหมือนกันนะครับ แต่เหมือนว่าออกจะปลื้มมากกว่า ไม่ได้คิดแบบแฟน


หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมไปวัด ไม่ได้ไปเทคหรือผับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวไม่ได้ว่าใครนะครับ ผมมองว่าเวลามีปัญหาคนเราควรจะตั้งสติ ดีกว่าไปกินเหล้าเมามายเพราะอาจจะทำให้ปัญหาบานปลายไปกว่าเดิม ถ้าอยากกินเหล้าจริงๆเอาไว้เวลาที่อยากสนุกกันจะดีกว่าครับ ไปเที่ยวอย่างมีความทุกข์ไม่มีความสุขหรอกครับ


พอกินข้าวเสร็จผมกับไอ้คิม ก็กลับมาที่มหาวิทยาลัย ไอ้คิมไปจอดรถที่ค่อนข้างมืด ขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ ไอ้คิมก็มาคว้าตัวผมเข้ากอดแล้วบอกว่าขอบใจมากที่วันนี้ผมทำให้มันมีความสุข ผมก็ยิ้มไม่ได้พูดอะไร แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็คือ ไอ้คิมค่อยๆดึงผมไปจูบอย่างนุ่มนวล ริมฝีปากของคิมนิ่มมาก ผมได้กลิ่นหอมจากสเปรย์ระงับกลิ่นปากที่มันฉีดก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปอย่างไม่รู้ตัว แล้วฉับพลันผมก็นึกไปว่าตัวเองกำลังจูบอยู่กับไอ้นาว ผมรู้สึกผิดกำลังจะถอนปากออกจากคิม แต่คิมก็ยังจับศีรษะผมไว้ จนเราจูบกันอย่างเนิ่นนาน จนที่สุดแล้วคิมก็เป็นคนถอนปากไปเอง


“ขอโทษนะ อารมณ์มันพาไป” คิมกลัวว่าผมจะโกรธ
“ไม่ต้องขอโทษหรอก เพราะว่าเรารู้สึกดี”
“เฮ้ยอามแทนตัวเองว่าเราแล้วเหรอ”
“อืม มันคงใช้คำว่ากูไม่ได้อีกแล้วล่ะ” ผมมองตาคิม
“ขอบใจนะ” คิมคว้าตัวผมกอดอีกครั้ง ตอนนี้กลายเป็นว่าเรากลายเป็นแฟนกันไปโดยปริยาย ท่ามกลางความสับสน ในใจของผมว่า ผมคบคิมเป็นเพราะรักคิมหรือต้องการหนีห่างจากไอ้นาวไปให้ไกลๆกันแน่ ผมหวั่นใจเพราะไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เมื่อผมขึ้นมาที่ห้อง ผมรีบอาบน้ำ แล้วเข้านอนไปด้วยความเหนื่อยใจ ก่อนนอนคิมเดินมาจากห้องโถงขณะที่เล่นเกมส์กับพวกไอ้วินและไอ้บีม คิมเดินมาที่เตียงแล้วมาจูบที่แก้มสองข้างและหน้าผากของผมแล้วอวยพรให้ฝันดี แต่ในคืนนั้นผมไม่ได้ฝันดีเลย ไอ้นาวมาเข้าฝันผม แล้วบอกว่า


“พี่นาวใจร้ายๆๆๆๆๆๆ” แล้วก็ร้องไห้ฮือตลอดเวลา ในที่สุดผมทนไม่ได้ต้องตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง จนเพื่อนๆผมที่เข้ามานอนจากนั้น ต่างตกใจตื่น โดยเฉพาะคิมที่ตกใจมาก เข้ามากอดแล้วปลอบผมตลอด ผมอ้างกับคิมว่าผมฝันร้ายมากแล้วน่ากลัว เลยตื่นมาร้องไห้ เมื่อผมหยุดร้องไห้คิมก็มาที่เตียงผมแล้วมานอนกอดผมไว้ทั้งคืน โดยไม่ได้สนใจเลยว่าไอ้สองคนนั้นมันจะคิดอย่างไร ส่วนผมก็ไม่คิดอะไรแล้วครับ อยากนอนหลับซึ่งก็ยังดีที่ในค่ำคืนนั้นผมรู้ว่าผมไม่ได้นอนอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่ยังมีอ้อมกอดอุ่นๆของคิมที่คอยปลอบผม มันช่วยให้ผมหนีออกจากความอึดอัดในเวลานั้นได้เป็นอย่างดี


ผมตื่นขึ้นมาในเวลาเช้าตรู่ และรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆที่ตัวผม อ๋อคิมนั่นเองครับที่ยังคงนอนกอดผมอยู่ คิมหลับตาพริ้มดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หน้าของคิมในวันนี้ดูดีกว่าทุกๆวัน ผมตื่นขึ้นมาแล้วก็นั่งอยู่ได้สักระยะหนึ่ง และกำลังจะออกไปสูดอากาศด้านนอกเพราะผมไม่ได้ตื่นเช้าแบบนี้มานานแล้ว แต่ว่าไม่ทันจะได้ยืน คิมก็คว้าผมไปนอนกอดอีกครั้ง


“อามของคิมจะไปไหนอ่ะ” คิมถามผมทั้งๆที่ยังคงหลับตาอยู่ ผมเห็นแล้วก็ขำว่าคนอย่างคิมทำเป็นมาอ้อนผมได้ด้วยเหรอ
“ไปสูดอากาศน่ะ เราไม่ได้ตื่นเช้าแบบนี้นานมากแล้ว” แล้วผมก็ชวนคิมลุกขึ้นมาครับ คิมยืนทั้งที่ยังง่วงอยู่ แล้วก็เดินตามผมมา อากาศในเช้าวันนี้ช่างน่านอนเสียจริง เวลาที่ผมมีเรื่องเครียดอะไรในใจผมจะชอบมาเดินเล่นแบบนี้ให้ใจสงบ ที่ผมชอบมากคือได้กลิ่นหญ้าอ่อนๆพร้อมๆกับน้ำค้างที่เกาะอยู่ยอกหญ้าดูสวยงามมากจริงๆ พอเดินมาได้สักพักผมก็หามุมสงบๆนั่งลง เพื่อซึมซัมบรรยากาศในเวลานั่น คิมแซวผมว่าผมดูมีความสุขกับต้นไม้ใบหญ้าขนาดนี้ชาติก่อนเป็นกวางเล็มหญ้ารึเปล่า ผมก็ยิ้มๆไม่ได้พูดอะไรครับ และด้วยความที่เราสองคนนั่งกันอยู่เป็นมุมที่ลับตาคน คิมก็จับแก้มผมไปจูบอีกครั้งนึง ด้วยความนุ่มนวลอีกครั้ง เมื่อจูบกันเสร็จด้วยความที่เป็นตอนเช้าทำให้เห็นสีหน้าสีตาของเราสองคนชัดเจน ที่ผมงงก็คือแทนที่ผมจะแก้มแดงเพราะเขินที่โดนจูบแต่กลับกลายเป็นคิมที่หน้าแดงซะเอง โดยคิมให้เหตุผลว่า


“ได้เห็นหน้าอามตอนที่จูบชัดๆก็เลยเขิน” โอ้ยตอนเป็นเพื่อนกันไม่เคยเห็นคิมขี้อายขนาดนี้เลย จากนั้นเราก็กอดกันอีกครั้ง แล้วก็นั่งก็กันอยู่นานก่อนจะเดินกลับไปที่หอ พอมาถึงห้องเท่านั้นแหละครับ
“เฮ้ย พวกมึงไปสวีทกันที่ไหนกันมาวะ” ไอ้บีมมันแซวผมครับ
“เดินเล่นแถวนี่แหละ” ผมก็ตอบไปตามปกติ
“พวกมึงอ่ะ ทำอะไรเกรงใจพวกกูกันหน่อยดิ เมื่อคืนก็นอนกอดกันทั้งคืน” ไอ้วินมันทำเป็นว่าครับ แต่จริงๆมันแซวเล่นเพราะมันพูดไปยิ้มไป
“เหรอ เอองั้นกูจะทำมากกว่านี่แหละกัน ใช่ไหมครับอาม” คิมพูดจบก็เข้ามากอดผมเลย
“เฮ้ยๆ พวกมึงอย่าปล้ำกันนะเว้ย” ผมก็เลยด่าไอ้วินมันไปว่า ไอ้บ้าแต่คิมได้แต่อายครับ
“เออ ก่อนพวกมึงขึ้นมาน้องนาวมึงโทรมาด้วยวะอาม” ไอ้บีมมันบอก ผมก็เลยถามว่าแล้วมึงบอกน้องกูว่าไง
“บอกว่าไปเดินเล่นกับแฟน” ผมอึ้งสุดขีด แล้วเหมือนจะหน้าซีดด้วย
“เฮ้ยอามเป็นอะไรไปอ่ะ” คิมถามเพราะเห็นผมอาการไม่ดี ก็เลยบอกว่าถ้าน้องรู้ว่าแฟนเป็นผู้ชายกลัวมันจะไม่เข้าใจ ไอ้บีมก็ขอโทษใหญ่บอกว่ามันแย่เองที่พูดอะไรไม่คิด ผมก็บอกมันไปประมาณว่า
“มึงไม่ผิดหรอก ความจริงก็คือความจริง” แต่ความจริงของผมในตอนนี้คือกลัวนาวเสียใจแล้วกลัวนาวคิดสั้น ผมตัดสินใจโทรกลับไปอีกหลายรอบ แต่ว่านาวปิดเครื่อง ผมก็เลยต้องทำใจว่าคงต้องรออีกสักระยะ นาวคงจะช็อกมาก แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้นดูเหมือนคิมจะดูแลผมดีขึ้นมากกว่าเดิมอีกหลายสิบเท่า จนผมหวั่นใจถ้ารู้ว่าในวันหนึ่งไม่ได้รักคิมเท่าทีเขารักผมผมคงรู้สึกผิดไปตลอดกาล

**************************

เริ่มดราม่าตามชื่อเรื่องละไง ปล่อยเรทกันอยู่นาน หึหึ <<< คนโพส
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 22-01-2010 20:23:12
^
^
^
^ตามมาจิ้มคนโพส์

เอ่อ...อ่านไปแล้วบอกไม่ถูก...แต่รู้แค่ว่า

พี่อาม   o22  :freeze:
น้องนาว   :z6: :z3: :z10:
คิม  :confuse:
เพื่อนบีม :m17: :m23:

แต่คนอ่าน.... :z2: :z2: ฮ่าฮ่า..สงสารน้องนาวเหมือนกัน...รอตอนต่อไปจ้ะ o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 22-01-2010 20:33:07
3P



.
.
.
พี่อามจะได้ไม่เครียด
 :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 22-01-2010 21:01:58
ดราม่าโพด ๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-01-2010 21:28:55
ความวุ่นวาย เริ่มขึ้นแล้ว

+1 ให้เป็นกำลังใจให้เสมอ ๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: thananuluk ที่ 22-01-2010 21:51:14
ปูเสื่อนั่งรอตอนต่อครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: princehoo ที่ 22-01-2010 23:19:48
 :serius2:

เริ่มดราม่า..
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 23-01-2010 22:52:58
บทที่ 6 เราสามคน
เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน ความดีของคิมทำให้ผมรักคิมมากขึ้นทุกวัน ผมไม่ได้กลับไปหานาวเลยจริงอยู่ที่ว่าผมอาจจะไม่อยากเจอนาวแต่งานที่มหาวิทยาลัยก็มีมาก เดี๋ยวก็สอบ ไหนจะทำกิจกรรมอีก แล้วนาวก็ไม่ได้โทรหาผมเลยเช่นกัน ผมก็นึกไปว่าบางทีน้องชายสุดที่รักของผมคงจะทำใจได้แล้วและเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนก็เป็นแค่การอยากรู้อยากลองของเด็กวัยรุ่นเท่านั้น

จนกระทั่งวันหนึ่งผมก็ได้รับโทรศัพท์จากอานาถ โทรมาถามว่าเป็นอย่างไรบ้างเพราะไม่ได้กลับมาบ้านเลย พวกญาติเขาบ่นว่าคิดถึงกันตลอด ผมก็บอกว่าช่วงนี้เรียนหนัก งานยุ่ง ผมก็เลยถามว่านาวเป็นอย่างไรบ้าง อานาถก็เงียบๆไปก่อนที่บอกว่า
“อืมน้องไม่ค่อยกลับบ้านนะลูก ไม่รู้ว่าไปเถลไถลกับเพื่อนกลุ่มไหน ไม่รู้ว่าอ่านหนังสือบ้างรึเปล่าเพราะอีกไม่นานก็จะสอบแล้ว (ปกติแล้วพวกเด็กมัธยมจะสอบเร็วกว่าเด็กมหาวิทยาลัยอยู่แล้วครับ) แล้วช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรน้องดูเงียบๆไปมากไม่รู้ว่าไปมีปัญหาอะไรมา ถามก็ไม่ยอมตอบบอก อาก็เป็นห่วงไม่รู้จะทำยังไงดี” ผมฟังแล้วก็รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ เลยคิดอยู่นิดนึงก่อนที่จะตอบกลับไปว่า

“งั้นถ้านาวกลับมาบ้าน ฝากบอกนาวด้วยนะครับว่า อามจะกลับบ้านอาทิตย์นี้”
“จริงๆนะลูก ดีเลยถ้านาวรู้คงดีใจมาก” ผมได้ยินคำนั้นแล้วก็ไม่แน่ใจว่าน้องชายสุดที่รักจะดีใจหรือว่าเสียใจอย่างสุดซึ้งกันแน่
ผมกลับมาบ้านในช่วงเย็นของวันศุกร์ ซึ่งก็เป็นปกติที่ต้องมานอนห้องนาว พอเปิดเข้าไปผมก็ต้องตกใจว่าห้องรกมาก พอถามอานาถอานาถบอกว่านาวไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำความสะอาดเลย สภาพก็เลยรกมาก ผมก็เลยลงมือจัดการทำความสะอาดห้องซะเอี่ยมอ่องเหมือนห้องใหม่ แต่ก็ไปพบกับกับอะไรบางอย่างเป็นกระดาษที่ถูกขยำทิ้งไว้มากมาย อะไรไม่รู้ดลใจให้ผมเปิดอ่านแล้วก็พบข้อความประมาณว่า

“คนที่เรารักเขาไม่รักเราแล้ว” อ่านแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจ คืนนั้นไอ้นาวก็ไม่มีวี่แววว่าจะกลับซะที ผมง่วงก็เลยเข้าห้องไอ้นาวไปนอนก่อน ผมหลับไปได้สักพักคิมก็โทรมา ผมก็งัวเงียตื่นมารับโทรศัพท์
“อามนอนแล้วเหรอ”
“ก็ง่วงแล้วอ่ะ ป่านนี้คิมยังไม่นอนอีกเหรอ”
“คงนอนไม่หลับหรอก เพราะคืนนี้ไม่มีใครให้กอด คงเหงาพิกล” ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา คิมกับผมนอนกอดกันทุกคืน ผมไม่กลับบ้านคิมก็ไม่ยอมกลับบ้านเลย จนกระทั่งพ่อกับแม่ของคิมต้องมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อมากินข้าวด้วยเพราะไม่ได้เจอหน้าลูกชายนานแล้ว คิมก็พาผมมากินข้าวกับพ่อแม่ด้วย คิมไม่ได้แนะนำว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน แต่เหมือนท่านทั้งสองน่าจะพอทราบความสัมพันธ์ของเราสองคนแต่ก็ท่านปฏิบัติกับผมดีมากแถมยังฝากฝังคิมให้ผมดูแล (ผมแอบคิดในใจว่าไม่รู้ใครดูแลใครกันแน่)

“ก็เปลี่ยนบรรยากาศไง ไม่กี่คืนเอง”
“เราจะโทรหาอามบ่อยๆนะ ฝันดีครับ” ทันทีที่ผมวางสาย ผมได้ยินเสียงตามมาจากด้านหลังทันทีว่า
“แฟนโทรมาเหรอ” ไม่รู้ว่าไอ้นาวโผล่มาตอนไหน
“นาวมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็มาตั้งแต่ตอนที่พี่อามสวีทกับแฟนอยู่นั่นแหละ ว่าแต่แฟนพี่อามน่ะผู้หญิงหรือผู้ชาย”
“ชื่อคิม แล้วบอกว่าฝันดีครับคิดว่าเป็นผู้หญิงรึเปล่าล่ะ” ผมไม่รู้ว่าไอ้นาวมันทำหน้ายังไงนะครับ เพราะในห้องตอนนั้นปิดไฟอยู่ มีแต่แสงสลัวๆจากหน้าต่าง ผมเลยเดินลุกขึ้นไปจะเปิดไฟว่าจะคุยกับนาวในหลายเรื่องๆ แต่ว่าทันทีที่ผมลุกออกจากเตียง นาวก็ดึงแขนผมไว้แล้วคว้าไปกอดทันที ไอ้นาวกอดผมแน่นมาก ถึงไฟปิดแต่ผมก็รับรู้จากการสัมผัสได้ว่าน้องชายของผมโตขึ้นมากแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันแค่หนึ่งเดือน แล้วที่สุดนาวก็ร้องไห้

“นาวร้องไห้ทำไม” เวลาที่น้องร้องแล้วผมอยากจะร้องตามไปด้วย แต่ก็ต้องข่มใจไว้
“ก็คนที่เรารักไปเป็นคนรักของคนอื่นแล้ว จะให้นาวหัวเราะดีใจหรือไง” ผมก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อครับ ได้แต่คอยบอกนาวว่าอย่าร้องไห้ได้ไหม พี่ฟังแล้วมันปวดหัวใจ
“พี่อามรักแฟนพี่อามจริงๆเหรอ”
“รักสิ ไม่รักจะเป็นแฟนกันได้ไง”
“ไม่จริงหรอก พี่อามน่ะรักนาว เป็นของนาวคนเดียว”
“พี่ก็รักนาวนะ แต่เป็นน้องชายสุดที่รักไง”
“เป็นคนรักไม่ได้เหรอ” ผมพยายามบอกว่าความรักมีหลายรูป พี่ก็รักนาวแบบน้องไง แต่ว่านาวไม่ฟังครับ ในที่สุดนาวก็ดึงผมไปจูบผมพยายามปัดออกแล้วแต่ฝืนแรงนาวไม่ไหว ผมไม่อยากนอกใจคิม ที่สุดนาวก็พยายามมาไซร้ซอกคอผมแล้วพยายามถอดเสื้อผ้าผมออก ผมผลักนาวออกทันทีตอนที่นาวเผลอ แล้วพยายามออกไปนอกห้อง นาวก็มาตะครุบตัวผมไว้ ทันทีที่ผมลงไปกองกับพื้น นาวก็ต่อยท้องผมจนจุก ผมพยายามจนขัดขืนแล้วแต่ก็สู้แรงนักกีฬาอย่างนาวไม่ได้ เสื้อผ้าของผมถูกถอดออกไปจนหมดสิ้น นาวจู่โจมผมอย่างหื่นกระหายและรุนแรง ใช้ริมฝีปากสัมผัสร่างกายผมไปทุกส่วน ผมเหมือนตัวเองกำลังจะหลอมละลายและกลัวว่าความเกินเลยที่กำลังจะเกิดกับน้องชายตัวเองจะนำมาสู่ความวุ่นวายในใจของผมอย่างไม่สิ้นสุด

หลังจากที่นาวได้สัมผัสร่างกายผมอย่างหนำใจ นาวก็ลากผมขึ้นเตียงตอนนั้นผมเริ่มมีแรงก็เลยผลักนาวลงได้อีกครั้ง แต่ว่าก็โดนนาวสวนหมัดเข้าที่ท้องอีกทำให้ผมหมดแรงไปด้วยปริยาย นาวรีบวิ่งเข้าไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วค้นอะไรบางอย่างออกมา นาวหยิบมาพันคอออกมา ผมเริ่มรู้โดยทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้น นาวเอาผ้าพันคอผูกมือทั้งสองของผมไว้กับหัวเตียง (เตียงนาวเป็นแบบราวเหล็กน่ะครับ ก็เลยสามารถผูกมือผมไว้ที่เสาได้ ผมพยายามดิ้นสุดชีวิตเท่าที่ผมทำได้แต่ไม่เป็นผล ผมร้องไห้อย่างมากมายเพราะทำอะไรไม่ได้ เมื่อนาวได้ยินเสียงร้องไห้ของผม (นาวไม่เห็นน้ำตาของผมเพราะแสงค่อนในข้างสลัว) นาวก็เอามือมาปาดน้ำตาที่แก้มผม

“พี่อามอย่าร้องไห้เลย เดี๋ยวเรากำลังจะมีความสุขกันแล้วนะ” จากนั้นนาวก็เข้ามาไซร้ที่ซอกคออีกครั้ง
“นาวหยุดเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นพี่จะโวยวายให้ลั่นบ้านจริงๆด้วย”
“พี่อามไม่โวยวายหรอก เพราะนาวรู้ว่าพี่อามอาย แล้วก็ไม่อยากทำร้ายนาวให้อับอายด้วย เพราะพี่อามรักนาวไง” พูดจบนาวก็ใช้ริมฝีปากสัมผัสร่างกายผมอย่างต่อเนื่อง
“คนที่เขารักกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก พี่ไม่อยากนอกใจแฟนพี่” ผมพยายามหาคำอธิบายให้นาวหยุดการกระทำนี้ แต่นาวเอามือมาจับหน้าผมไว้อย่างแรงแล้วเอาหน้าตัวเองเข้ามาใกล้ๆแล้วพูดว่า
“แล้วที่พี่อามนอกใจผมไปหาคนอื่น ผมไม่ยอมหรอก พี่อามเป็นของผม”
“นาวเป็นน้องไม่ใช่แฟนพี่ พี่ไม่ใช่ของนาว”
“พี่อามเป็นของผม” นาวพูดด้วยเสียงเกรี้ยวกราด แล้วใช้มือบีบหน้าอกผมอย่างรุนแรง จนผมสะดุ้งโหยง แล้วก็เอามือมาเคล้าคลึงที่ท่อนลำผมจากแผ่วเบาจนรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คราวนี้ผมไม่ได้มีความสุขเลย แต่ผมรู้สึกเจ็บจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น จนทำนบน้ำกามของผมกำลังใกล้แตกเข้าไปทุกขณะ

“นาวพอได้แล้ว พี่จะไม่ไหวแล้ว” แต่คราวนี้ก็เหมือนทุกครั้งนาวไม่ฟังผม พร้อมกับที่ผมเห็นลางๆว่านาวก้มลงไปที่ท่อนลำของผม พร้อมกับใช้ปากงับที่ส่วนหัวและใช้ลิ้นแลบเลียไปพร้อมๆกัน จนที่สุดแล้วท่อนลำของผมก็กระตุกแล้วพ่นหยาดหยดของความเป็นชายออกมาสู่ปากนาวอีกครั้ง และนาวก็ทำแบบเดิมคือการรีดเลียมันไปจนไม่เหลือพร้อมๆกับการใช้ปากที่สาละวนกับท่อนลำผมอยู่นาน จนผมต้องยกก้นลอยขึ้นด้วยความเสียว เมื่อผมยกก้นขึ้นนาวก็เอามือมาจับก้นทั้งสองข้างผมไว้ พร้อมๆกับบีบเค้นมันอย่างเมามือ จนผมเผลอครางออกมา

“เห็นมั้ย บอกแล้วว่าเรากำลังจะมีความสุขกัน” นาวพูดด้วยความเมามัน น้ำเสียงนาวดูเหมือนคนที่กำลังหน้ามืด เหมือนผมตอนแรกๆที่แกล้งน้องนาวไม่มีผิด ผมจึงตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างให้นาวรู้สึกสะอึก
“ใครบอกละ พี่กำลังนึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขตอนมีอะไรกับคิมต่างหาก” ทันที่ผมพูดประโยคนี้จบทั้งห้องก็มีแต่ความเงียบ ทันทีที่นาวเผลอ เท้าของผมที่ยังไม่ถูกมัดผมก็ใช้เท้าถีบนาวทันที จนนาวลงไปนอนหงายก็อยู่ที่พื้น ผมพยายามเขย่ามือตัวเองที่ถูกมัดจนหลุด เพราะผ้าพันคอไม่ได้แน่นมาก แล้วก็รีบเดินไปเปิดไฟ เพื่อหาเสื้อผ้าของตัวเอง ผมรีบใส่เสื้อผ้าของตัวเองโดยที่ไม่ทันสังเกตนาว แต่เมื่อผมมองไปที่นาว นาวนอนแผ่หลาหลับตาลงเหมือนคนหมดสติ ผมตกใจรีบเข้าไปประคอง กลัวว่านาวจะเป็นอะไร แต่เอาเข้าจริงๆพอนาวลืมตาขึ้นมา นาวดูโกรธผมมากบอกผมว่าอย่ามายุ่ง ผมพยายามเข้าไปดูว่านาวเป็นอะไรมากมั้ย แต่ก็โดนนาวเอามือปัด แต่ว่ามือนาวที่ปัดนั้นแรง แล้วก็โดนแก้มผมดังเพี้ยะ สรุปง่ายๆก็คือผมโดนนาวตบหน้านั่นเอง ผมตะลึงส่วนนาวก็อึ้งไม่แพ้กัน ที่สุดผมก็ร้องไห้ไม่ใช่เพราะเจ็บหรอกครับ แต่สะใจที่ตัวเองโดนลงโทษซะบ้าง (เหมือนโรคจิตเลยนะครับ แต่มันเป็นความรู้สึกอย่างงั้นจริงๆ) นาวเองเข้ามากอดผมไว้อย่างเนิ่นนาน ร้องไห้เสียใจ บอกกับผมว่าไม่ตั้งใจ แล้วเข้ามาเอามือผมไปจูบเหมือนว่าจะขอโทษ เข้ามาคลอเคลียผมไม่ห่าง ผมต้องหลับตาเอาไว้ ไม่ใช่เพราะโกรธหรอกครับ แต่เพราะไม่อยากให้นาวเห็นความหวั่นไหวในใจ เขาบอกกันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ผมไม่อยากลืมตาแล้วปล่อยให้น้องจับได้ว่าตัวเองกำลังหวั่นไหว และคำที่บอกว่ากำลังคิดถึงตอนที่มีอะไรกับคิมก็ไม่เป็นความจริง เพราะตลอดเดือนที่ผ่านมานั้นเราสองคนไม่ได้มีอะไรกันเพราะสถานการณ์ไม่ได้เอื้ออำนวย อย่างมากก็แค่ใช้ปากปรนเปรอให้กันเท่านั้น

แม้ว่าผมจะหยุดร้องไปแล้วแต่ว่านาวก็ไม่ได้หยุดตามไปด้วย ยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น ปลอบเท่าไหร่ ก็ไม่หยุดสักทีผมก็เลยตัดสินทำในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะทำคือ ผมตัดสินใจจูบนาว และจูบอย่างเนิ่นนาน ริมฝีปากของนาวอาจจะไม่นุ่มเหมือนคิม แต่กลับให้ความรู้สึกร้อนแรงเพราะนาวตอบสนองการจูบของผมอย่างเร่าร้อน ลิ้นของผมไม่ได้กระดิกเลยเพราะโดนลิ้นนาวสอดแทรกเข้ามาตลอด ผ่านไปนานมือของนาวก็อยู่ไม่สุขเพราะเอามือมาเคล้าคลึงบั้นท้ายผมตลอดเวลา ทำให้ผมรู้สึกว่า น่าจะพอได้แล้วก่อนที่จะเกิดเหตุไม่คาดคิดอีก

“พี่จูบนาวเองขนาดนี้ นาวยังไม่พอใจอีกเหรอ”
“ขอมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ” นาวอ้อนวอนผมอย่างน่าสงสาร
“ทำแค่นี้ก็ไม่ดีแล้วนะ แค่นี้พี่กำลังรู้สึกผิดกับคิมจะแย่อยู่แล้ว”
“ถ้างั้นเวลาที่พี่อามอยู่กับนาวขอนอนกอดพี่อามตลอด ขอสัมผัสตัวของพี่อามได้มั้ย”
“ถ้าแค่นี้ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
“สัญญาแล้วนะ” ผมก็คิดว่ามันแค่ขอกอดกับแค่สัมผัสตัวเองคงไม่เป็นไร ความหมายคำว่าสัมผัสของผมก็แค่คิดว่าไอ้นาวอาจอยากจับใช้มือจับแก้ม อยากใช้มือโอบผมอะไรแบบนั้นแต่ว่าความหมายของนาวกลับตีความเข้าข้างตัวเองสุดๆ เพราะทันที่บอกว่าสัญญา นาวก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อผมออกอีกครั้ง ผมตกใจก็เลยพยายามปกป้องตัวเองแล้วบอกว่าเฮ้ยนี่จะปล้ำพี่อีกแล้วเหรอ นาวพูดบางอย่างที่ทำให้ผมจดจำมาตลอด

“ไหนบอกว่าสัญญาแล้วไง นาวไม่ได้บอกนี่ว่าจะใช้อะไรสัมผัส แต่นาวรับรองว่านาวจะไม่ปล้ำพี่อามหรอก พี่อามไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะเสียประตูหลังให้นาว ไหนๆพี่อามก็มีแฟนไปแล้ว พี่อามจะเห็นใจน้องที่รักพี่อามมาตลอดไม่ได้เหรอ ให้ผมได้รู้สึกว่าพี่อามยังเป็นของผมไม่ได้เหรอ ผมรู้ผมแทนที่แฟนพี่อามไม่ได้หรอก” ทันทีที่อามพูดจบผมก็ได้แต่นิ่งเงียบแล้วก็สงสารน้องไปพร้อมๆกัน เมื่อนาวเห็นว่าผมเงียบไม่ได้พูดอะไร นาวก็ค่อยๆถอดเสื้อผมออก แล้วก็จูบพรมไปทั่วทั้งที่ ต้นคอ หน้าอก แผ่นหลัง ผมบอกตามตรงว่าผมรู้สึกดีกับที่รู้สึกผิดไปพร้อมกัน หลังจากนั้นนาวก็พยุงผมขึ้นเตียงแล้วถอดกางเกงนอนของผมออก นาวมองผมอยู่นานแล้วบอกว่าดีจังที่เห็นผมเปลือยชัดๆอีกครั้ง แล้วนาวก็ใช้มือสัมผัสผมเบาๆร่างกายผมเบาๆมันรู้สึกสยิวไปหมดจนผมครางออกมา นาวก็ยิ้มดีใจที่ดูผมจะมีความสุข และนาวก็กำลังจะใช้ปากสัมผัสท่อนลำของผมอีกครั้ง ผมเลยต้องเอามือไปจับหน้านาวไว้ แล้วบอกว่าทำแบบนี้ไม่เบื่อบ้างเหรอ

“ถ้านาวชอบอะไรแล้วนาวไม่เบื่อหรอก ถามแบบนี้เกรงใจอยากทำแบบนี้ให้นาวหรือไง” ผมก็เลยต้องเงียบเลยครับ คราวนี้พอนาวทำด้วยความนุ่มนวลผมพอใจจนต้องร้องครางออกมาตลอดเวลา นาวดูจะเก่งขึ้นอีกแล้ว ที่สุดแล้วผมก็เสร็จคาปากนาว แล้วนาวก็ทำแบบเดิมอีก จนผมต้องบอกให้นาวไปคายน้ำกามทิ้งซะ เพราะว่ามันไม่ใช่ของกิน แต่นาวก็ไม่ฟังพร้อมบอกว่าที่กลืนลงไปเหมือนว่าผมได้ไปอยู่ในตัวนาวแล้ว ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง จากนั้นนาวก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนหมด แล้วเข้ามากอดผมให้เนื้อแนบกับเนื้อ แล้วก็ลูบไล้ผมไปทั่วตัว ผมต้องพยายามเกร็งมือตัวเองไม่ให้เผลอไปสัมผัสกับเนื้อตัวน้องด้วย แล้วนาวก็จัดการตัวเองให้เสร็จตามไปด้วย ถ้าหากเป็นคิมผมคงร่วมด้วยช่วยกันเสร็จตามไปแล้ว แต่ว่าถ้าทำแบบนี้กับนาวแสดงว่าผมกำลังมีใจไปด้วย และเรื่องอาจจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ก็เลยต้องทำเป็นอยู่เฉยๆ ทั้งที่ๆพอใจแต่ก็พูดออกมาไม่ได้ พอเช้าขึ้นมานาวก็ยังนอนกอด ยังซุกไซร้ที่ตัวผม มือก็อยู่ไม่สุขคอยจับนู่นจับนี่ตลอดเวลา พอท่อนลำผมแข็งนาวก็จะจัดการผมอีก ผมต้องบอกนาวว่าพอแล้ว เพราะไม่อยากจะหมดแรงไปซะก่อน

จากนั้นมาทุกครั้งที่อยู่กันสองคนนาวก็จะทำแบบนี้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีโอกาสเมื่อไหร่นาวจะจูบผมตลอดเวลาแต่ผมต้องอยู่นิ่งๆไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ต่อรสจูบของนาว แม้ผมจะมีความสุขแต่ก็รู้สึกผิดไปพร้อมๆกัน แต่ก็ต้องทำเพราะไม่อยากให้น้องเสียใจแล้วไปเสียคนและเป็นการยับยั้งความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่ให้เกินเลยไปพร้อมๆกัน

********************************

ให้ตายดิ เรทอีกแล้วอะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: aorta999 ที่ 24-01-2010 03:04:42
รออยู่คราบบบบ มาเร็วๆเน้อ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 24-01-2010 06:50:06
น้องนาวแก้ปัญหาด้วยวิธีเด็กๆมากเลยอ่ะ เอะอะก็จะปล้ำ

เฮ่อ เปลี่ยนจากรักสามเศร้าเป็นสามพีแทนดีม้ะ

 :laugh:

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: maxtorpis ที่ 24-01-2010 09:44:54
 :z10:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 24-01-2010 23:45:56
น้องนาวใจกว้างๆ
3P ไปเลย
 :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 24-01-2010 23:57:23
เง้อ...นาวจะปล้ำพี่อามซะงั้น รุนแรงไปมั้ย ต่อยไปสองทีป่านนี้ ดีนะพี่อามไม่ม้ามแตกไปก่อน...

สงสารทั้งอามทั้งนาว...แต่ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี...อืมมม ตกลงอามคบคิมเพราะความดีที่คิมทำให้ไม่ใช่เพราะรักเหรอ??...เอ้อ..คิดเองไปไกล..รอลุ้นต่อใหม่ดีกว่า o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: PAnppyJunJii ที่ 25-01-2010 00:12:52
 :เฮ้อ:

สงสารทั้ง คิม อาม นาว

เรื่องนี้ต้อง 3p เท่านั้น  555 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 25-01-2010 02:08:37
 :L2: มาอุดหนุนเรื่องนี้เพราะชื่อคนโพสต์ หุหุ
หนุงหนิง อย่ายุ่งจนลืมมาต่อนะ พี่จะมาอ่านเรื่อยๆจ้า
ขอบคุณหนุงหนิง และคุณ moonlightjoe ที่มาแปะเรื่องด้วยนะจ๊ะ

เรื่องนี้วุ่นวายสมชื่อเรื่องจริงๆ
สงสารอามพร้อมๆกับสมน้ำหน้าดีมั้ย การกระทำของอามเป็นที่มาของความรู้สึกของน้องนาวหรือเปล่า
หรือว่าไม่ว่าอย่างไร ความสนิทสนมของสองพี่น้องนี้ก็ทำให้น้องนาวรักพี่อามอยู่แล้ว

แต่สงสารคิมจริงๆ ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย
เด็กอย่างน้องนาวก็น่าสงสาร

รอลุ้น รออ่านต่อ บวก 1 แต้มให้จ้า
ขอบคุณที่มาโพสต์ให้อ่าน และขอบคุณคนเขียนด้วยนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 25-01-2010 02:37:19
แว่บไปปาล์มมา เช็คจำนวนวัตถุดิบ

ขอตอบแต่ละเม้น หน่อยละกัน

รออยู่คราบบบบ มาเร็วๆเน้อ

ช่วงนี้วัตถุดิบยังพอมี มาทุกวันแน่ครับ

:z10:

ตอบไรดีล่ะ เอาเป็นว่า ขอบคุณที่มาอ่านละกันครับ

เง้อ...นาวจะปล้ำพี่อามซะงั้น รุนแรงไปมั้ย ต่อยไปสองทีป่านนี้ ดีนะพี่อามไม่ม้ามแตกไปก่อน...

สงสารทั้งอามทั้งนาว...แต่ไม่รู้จะเข้าข้างใครดี...อืมมม ตกลงอามคบคิมเพราะความดีที่คิมทำให้ไม่ใช่เพราะรักเหรอ??...เอ้อ..คิดเองไปไกล..รอลุ้นต่อใหม่ดีกว่า o13

รอลุ้นครับ แต่บอกได้ว่า ถึงเนื้อหาจะดราม่า แต่เลือดพุ่งกันได้ทุกตอน :laugh:

:เฮ้อ:

สงสารทั้ง คิม อาม นาว

เรื่องนี้ต้อง 3p เท่านั้น  555 :กอด1:
น้องนาวใจกว้างๆ
3P ไปเลย
 :z1:

หึหึ ลุ้นเอาละกัน ว่าจะกี่p

:L2: มาอุดหนุนเรื่องนี้เพราะชื่อคนโพสต์ หุหุ
หนุงหนิง อย่ายุ่งจนลืมมาต่อนะ พี่จะมาอ่านเรื่อยๆจ้า
ขอบคุณหนุงหนิง และคุณ moonlightjoe ที่มาแปะเรื่องด้วยนะจ๊ะ

เรื่องนี้วุ่นวายสมชื่อเรื่องจริงๆ
สงสารอามพร้อมๆกับสมน้ำหน้าดีมั้ย การกระทำของอามเป็นที่มาของความรู้สึกของน้องนาวหรือเปล่า
หรือว่าไม่ว่าอย่างไร ความสนิทสนมของสองพี่น้องนี้ก็ทำให้น้องนาวรักพี่อามอยู่แล้ว

แต่สงสารคิมจริงๆ ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย
เด็กอย่างน้องนาวก็น่าสงสาร

รอลุ้น รออ่านต่อ บวก 1 แต้มให้จ้า
ขอบคุณที่มาโพสต์ให้อ่าน และขอบคุณคนเขียนด้วยนะจ๊ะ


ขอบคุณสำหรับ+ครับพี่น้ำตาล ช่วงนี้ยุ่งจริงๆอะแหละ จะจบแล้ว ไม่มีเวลาไปต่อนุ้งยอดนุ้งทัยเลย อีกสองสามตอนอะไรๆจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: Unbelievable ที่ 25-01-2010 06:40:25
เห็นในปาล์ม ว่าเอามาลงเล้าเป็ดด้วย
เลยย้ายหัวตามมาจากปาล์ม มาอ่านเว่อร์ชั่นที่ผ่านกองเซนเซอร์แล้ว  :laugh:
พอจะเม้นดั๊นจำล็อกอินเก่าไม่ได้ซะงั้น  :m31:
ต้องมาสมัครใหม่อีก เวรแท้ๆ T.T  :sad4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: Sakana2yunjae ที่ 25-01-2010 10:57:22
มาเป็นกำลังใจให้จ้าๆๆ

เจ๊อ่านทันแล้วนะหนิง อิอิ เพิ่งได้อ่าน

กอด  :กอด1:แล้ว +1 ให้จ้าๆๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: moonlightjoe ที่ 25-01-2010 17:19:37
แหมคุณ JkrR  ขยันจังเลย 555+

ผมเลยไม่มีโอกาสได้ช่วยเลย อย่ารีบมากนะครับ กลัววัตถุดิบหมด

อิอิเดียวคนอ่านจะรอนาน

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่6 เราสามคน
เริ่มหัวข้อโดย: หอยทาก ที่ 26-01-2010 04:21:04
โอ๊ะ โอ๋ = [] =
อ่านตอนแรกแบบว่า เอ่อ ง่ะ หื่นกระทั่งน้องนุ่ง
พออ่านๆไปก็เริ่มเข้าใจชีวิต กรรมตามทันอย่างไว
โดนน้องตามป่วนเลยไงล่ะ กร๊ากกก
แต่อ่านไปอ่านมา แหงะ น่าสงสารจังเยยอ่า
ทั้งสามคนเลย แล้วจะเป็นยังไงต่ออ่ะเนี่ย
 ยังไงก็ ขอบคุณนะคร้าบ คุณ JkrR= w =
ปล.กำลังตามอ่านนิยายที่อ่านเรื่องน้องอุทัยกtพี่โออยู่
แหะๆ แบบว่าตอนนั้นจิตตกเลยหยุดไปพักนึง แล้วลืมไปเลยอ่า = [] =
แล้วพอจะกลับมาอ่านก็ไปไกลแล้ว แถมแอบแง้มตอนล่าสุดแล้วมันมึนๆ
เลยง้างไว้ก่อน ไปๆมาๆเลยง้างไว้นานเลย เด๋วจากลับไปอ่านละงับ เอิ้กๆ
(ดูตรูโรคจิตยังไงชอบกลเนอะ = w =)
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 27-01-2010 21:22:17
บทที่ 7 รสรักสองหนุ่ม
ช่วงปิดเทอมซัมเมอร์เป็นอะไรที่ดีกับผมมากเพราะนาวมีโปรแกรมต้องไปแข่งกีฬาหลายที่ (จริงๆก็ไม่ใช่เทนนิสหรอกครับ แต่ไม่ขอบอกนะครับว่าเป็นอะไร) ผมก็เลยหาโอกาสไปเที่ยวทางใต้กับคิม เพราะช่วงหน้าร้อนผมว่าภาคใต้บ้านผมน่าเที่ยวกว่าภาคอื่น แต่ผมก็ขี้เกียจไปเที่ยวทะเลครับเพราะเบื่อแล้ว เลยพาคิมไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันดีกว่า มันเป็นอะไรที่ดีมากเพราะอยู่ในป่าอากาศก็ไม่ค่อยร้อน แถมเป็นส่วนตัวสุดๆเนื่องด้วยสัญญาณมือถือเข้าไม่ถึงไอ้นาวก็ไม่มีทางจะตามตัวผมได้ ผมกับคิมได้ใช้เวลาอยู่กันอย่างเต็มที่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เราสองคนก็เดินป่าเยอะเหมือนกัน คิมจะชอบวาดรูป ส่วนผมก็ชอบดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย และ....แน่นอนครับผมกับคิมก็ตกเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบ แรกๆก็เก้ๆกังๆนะครับเพราะต่างคนก็ไม่มีเคยมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันมาก่อน (แม้ว่าผมจะเกือบไปแล้วก็เถอะ) แต่เราก็ช่วยกันครับ แม้ว่าอากาศในป่าจะเย็นแต่ไม่ได้ช่วยให้เราลดความเร่าร้อนของกันลงได้เลย เราก็พบว่า ผมกับคิมต่างคนก็ต่างเป็นโบทที่ยอดเยี่ยม (เล่าไปจะมีใครเชื่อมั้ยเนี่ย) ไม่รู้ทำไมเราสองคนต่างเหมือนรู้ว่าจะรุกเร้ากันและกันให้เจอจุด G-Spot ของอีกคนหนึ่งได้อย่างไร ถ้าให้บอกตามตรงก็คือคราวที่ใครโดนเสียบก็จะถึงออกัสซั่มกันตลอด ผมกับคิมต่างน้ำแตกโดยไม่ต้องชักกันหลายครั้งหลายครา ทำให้ต้องหาที่พักออกมาอยู่ให้ห่างๆจากที่คนอื่นเขาอยู่กันเพราะต่างคนต่างร้องระงมดังกันลั่นป่า แต่ผมจะเสียเปรียบหน่อยเพราะท่อนลำของคิมจะใหญ่เวลาที่ผมโดนเสียบก็จะเจ็บ ทำให้พอโดนไปหลายๆทีติดกันก็จะระบม พอออกจากป่า คิมต้องคอยประคองผมตลอดเวลา เพราะขามันสั่นไปหมดเลย ก่อนจะกลับมาพยาบาลกันที่บ้านผมซึ่งอยู่ทางใต้เหมือน เราสองคนต่างก็ต้องงดเสียบไปประมาณหนึ่งอาทิตย์เพื่อพักฟื้น แต่ไม่วายก็ผมยังเมื่อยปาก เพราะพอคิมได้เสียบก็ดูเหมือนจะต้องการถี่มาก แต่จะว่าคิมอย่างเดียวก็ไม่ถูกเพราะคิมก็น่าจะเมื่อยปากไม่แพ้กัน และหลังจากที่เรามีอะไรกันโดยสมบูรณ์ผมก็มีความรู้สึกว่าคิมหวงผมมากกว่าเดิม อย่างเช่นมีอยู่คราวหนึ่งผมไปลงเล่นน้ำตกพร้อมคิมและเพื่อนๆ โดยปกติแล้วผมก็ถอดเสื้อเล่นน้ำตามปกติ แต่ว่าคราวนี้พอจะถอดเสื้อคิมมองผมตาเขียวจนผมงง เลยต้องเดินเข้าไปถามคิมว่ามีอะไรหรือเปล่า คิมบอกผมว่า

“ไม่ถอดได้มั้ย หวงไม่อยากให้ใครดู” ซึ่งทำให้ผมเถียงว่าผมเป็นผู้ชายแค่ถอดเสื้อไม่เห็นจะโป๊ตรงไหน แล้วทำไมคิมถอดได้แล้วผมจะถอดไม่ได้
“อย่าเถียงได้มั้ย เนื้อตัวอามน่ะต้องเก็บไว้ให้คิมดูคนเดียว อามเป็นของคิม” เฮ้ยทำไมคำพูดมันดูคล้ายกับนาวเลย เราก็เลยเถียงกันอยู่นานด้วยเรื่องงี่เง่านี้นานมาก แต่สุดท้ายผมก็ต้องยอมเพราะว่าคิมร้องไห้ขึ้นมา ผมตะลึงเพราะไม่เคยเห็นคิมร้องไห้จากการที่ทะเลาะกันมาก่อนเลย เพื่อนๆต่างก็ตกใจไปตามกัน ไอ้บีมเห็นผมหน้าเหวอทำอะไรไม่ถูกเลยต้องเข้ามาตบไหล่ให้ผมมีสติให้ไปคุยกับคิมให้ดีๆ ผมก็เลยต้องเข้าไปโอบกอดคิม แล้วก็ขอโทษคิมยกใหญ่ คิมพูดว่า

“เราทำให้อามได้ทุกอย่าง อามจะทำแค่นี้เพื่อเราไม่ได้เหรอ” ผมได้ฟังแค่นั้น ก็เลยยอมแต่โดยดีเพราะเห็นแก่ความรักที่คิมมีให้ผม และอาจจะเป็นเพราะเรื่องของนาวด้วย นอกจากนี้คิมจะโอบกอด จูงมือผมต่อหน้าคนอื่นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่างเปิดเผย เวลาไปเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์สวยๆบางทีผมชอบไปยืนหรือนั่งชมวิว คิมจะเข้ามากอดผมไว้ไม่ห่าง จนเพื่อนๆแซวว่าพวกมึงอย่าสวีทกันตลอดเวลาได้มั้ยพวกกูไม่อยากโดนฟ้าผ่าตาย ผมเองก็สงสัยว่าทำไมคิมถึงกล้าแสดงออกขนาดนี้ทั้งที่เมื่อก่อนถ้าอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวหรือเพื่อนจะแสดงออกเหมือนเป็นเพื่อนกัน แต่ถ้าคนที่ช่างสังเกตจะรู้ว่าเราสองคนน่าจะเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อน

เวลาผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งนาวเริ่มเข้าสู่มัธยมฯปลาย การที่พบเจอหน้านาวอย่างมากก็สัปดาห์ละครั้ง ทำให้ผมเห็นพัฒนาการทางร่างกายของนาวอย่างต่อเนื่อง จากเด็กชายกลายเป็นเด็กหนุ่มที่รูปร่างสูงโปร่ง อุดมไปด้วยกล้ามเนื้ออันสวยงามตามแบบหนุ่มวัยฉกรรจ์ หน้าตาก็หล่อเหลา และแน่นอนว่าแก่นกายความเป็นชายก็ขยายออกไปกว่าเดิมมากและดูเหมือนว่าจะมากกว่าของพ่อตัวเองด้วย ทำให้ผมนึกถึงพวกนักแสดงหนุ่มๆของค่ายหนังเบลลามี่น่ะครับ ไอ้นาวก็เป็นประมาณนั้นเลย ผมก็รู้สึกภูมิใจเหมือนกันว่าน้องเรามันหน้าตาดี แล้วก็มีน้องๆผู้หญิงหน้าตาน่ารักมาชอบนาวกันมากมาย

จนวันหนึ่งผมเองก็พยายามจะเชียร์ให้นาวคบกับใครไปสักคนเพื่อที่จะได้ยุติความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงระหว่างเราสองคนลง และพยายามบอกนาวว่าสิ่งที่นาวรู้สึกกับผมอาจเป็นแค่ความเผลอไผลไปเป็นบางเวลาตามประสาวัยรุ่น แต่ผมโดนนาวตอกกลับมาว่า

“ถ้าไม่คิดจะรักกัน ก็อย่ามาไล่นาวให้ไปอยู่กับคนอื่น อย่าให้นาวรู้สึกแย่ไปกว่านี้เลย” พูดจบนาวก็น้ำตาปริ่มขึ้นมา ผมทำผิดกับน้องอีกแล้วครับ พอตกกลางคืนนาวเหมือนจะกอดจูบลูบไล้ผมมากกว่าปกติ เหมือนจะบอกกับผมว่าเขาเป็นเจ้าของของผม แม้ว่าผมจะไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆก็ตาม แต่ความจริงแล้วผมต้องอดทนแทบตายที่จะไม่แสดงความพอใจออกมา

แล้วผมก็คิดแผนบางอย่างได้ว่าอาจจะทำให้นาวตัดใจจากผมได้ซะที ก็คือผมตัดสินใจทำเป็นแกล้งละเมอชื่อคิมออกมาบ่อยๆเพื่อแสงให้เห็นว่ายังไงผมก็จะไม่ตัดใจจากคิม ทั้งเรียกชื่อคิม บอกว่าคิดถึงคิม ผมรักคิม ไปจนถึงแสดงท่าทีว่าตัวเองกำลังเมคเลิฟกับคิมอยู่ แต่ผมก็ทำผิดอีกแล้วครับ นาวตัดสินใจเอาผ้ามามัดปากไม่ให้ผมพูดต่อ แล้วมัดผมกับเตียงก่อนที่จะใช้มือและปากจู่โจมไปที่ท่อนลำผมจนหยาดหยดความเป็นชายของผมทะลักทลาย แต่คราวนี้เหมือนนาวจะไม่หยุดแค่การสัมผัสผมอีกต่อไป แต่เริ่มใช้นิ้วของตัวเอง
ชโลมกับวาสลีน ผมรู้แล้วว่านาวกำลังจะทำผิดสัญญา ผมจึงพยายามดิ้นสุดชีวีต แล้วพยายามใช้เท้าถีบ แต่คราวนี้นาวจับเอาเท้าผมไว้ได้จากนั้นก็มัดขาผมไว้ข้างหนึ่ง มือหนึ่งจับขาผมให้ตั้งขึ้นแล้วพยายามอ้าให้กว้างๆจากนั้นก็จับไว้แน่น อีกมือหนึ่งกำลังจะเอานิ้วที่ชโลมวาสลีนแล้วสอดเข้าไป ผมดิ้นสุดฤทธิ์แต่ก็ไม่อาจจะหยุดการกระทำของนาวในครั้งนี้ได้

“นี่ติดใจมากขนาดเพ้อเลยเหรอ แสดงว่าโดนมาเยอะละสิ ดีนาวจะทำให้พี่อามรู้ว่านาวก็ลีลาดีไม่แพ้แฟนพี่หรอก” จากนั้นนาวก็ค่อยๆเอานิ้วที่ชโลมวาสลีนแล้วค่อยสอดเข้าไปในร่องก้นของผม (รู้สึกว่าจะสองถึงสามนิ้ว) ผมสะดุ้งโหยงแล้วรูก้นผมก็ตอดนิ้วนาวอย่างอัตโนมัติ นาวเอานิ้วเสียบเข้าเสียบออกอยู่หลายครั้ง จนผมเริ่มเสียวและที่สุดท่อนลำของผมก็แข็งขึ้นเรื่อยๆ นาวก็เอาปากมาครอบท่อนลำของผมพร้อมกับใช้นิ้วเสียบก้นผมไปพร้อมกัน จากนั้นพอนาวพอใจ นาวก็หยุดแล้วขยับตัวมากระซิบข้างหูผม

“ทำไมฟิตดีจังเลย นี่แค่ใช้นิ้วนะเนี่ย ว่ายน้ำบ่อยละสิ เดี๋ยวจะถึงตอนสำคัญแล้วนะครับที่รักของผม” จากนั้นนาวก็เข้ามาละเลงที่หัวนมทั้งสองข้าง ถึงผมจะเสียวแต่เครียดมากกว่าก็เลยเริ่มร้องไห้ เหมือนนาวจะได้ยินเสียงว่าผมร้องไห้ก็เลยเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดแบบที่ผมตกใจสุดๆขีด

“อย่ามาบีบน้ำตาหน่อยเลย พี่อามน่ะเป็นมารร้าย ทำให้นาวหลงรัก แล้วก็หนีไปมีคนอื่น แถมยังไล่นาวให้ไปไกลๆอีก พี่อามควรจะโดนอามลงโทษมาตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ แต่ไม่ต้องกลัวหรอกบทลงโทษของนาวมีแต่ความเสียว” จากนั้นนาวก็ไปเอาผ้ามาผูกปากตัวเองเหมือนจะกันตัวเองไม่ให้ร้องเสียงดัง แล้วเอาวาสลีนมาทารูก้นผมแล้วเอาท่อนลำของตัวเองที่ใหญ่และยาวดันเข้ามาทีละนิด ในขณะที่ผมพยายามเกร็งก้นสุดขีด เพื่อไม่ให้นาวดันท่อนลำเข้ามาได้ นาวเหมือนจะรู้ก็ดันเข้ามาอีกจนสุดลำ จากนั้นก็ซอยไม่ยั้ง ผมรู้สึกว่าเหมือนตัวเองกำลังตัวจะขาด ยังดีที่ว่าผมไม่โดนเสียบเป็นครั้งแรกไม่งั้นป่านนี้คงก้นแหกไปแล้ว ผมรู้ว่าผมเสียวเพราะด้วยความที่ท่อนลำยาวพอที่จะสะกิดโดนจุด G-Spot ของผม(เคยอ่านในเว็บหนึ่งถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจุดนั้นจะอยู่บริเวณต่อมน้ำกาม) แต่ก็รู้สึกผิดเพราะคิดถึงคิมไม่รู้ว่าจะมองหน้าคิมอย่างไร สุดท้ายแม้ว่าจะไปถึงจุดออกัสซั่มโดยไม่ต้องชักเหมือนกับตอนที่โดนคิมเสียบแต่ผมรู้สึกไม่มีความสุข ส่วนนาวไม่ต้องพูดถึงนาวก็น้ำแตกไปพร้อมกับผมแล้วหลั่งเข้าในตัวผม แล้วก็แช่ท่อนลำตัวเองอยู่นาน ผมรู้สึกหมดแรง นาวค่อยๆแก้มัดผมออก จากนั้นก็ทิ้งตัวลงมากอดผมแล้วก็แนบศีรษะผมไว้กับหน้าอกของตัวเอง

“เจ็บมากใช่ไหม นาวขอโทษนะ พี่อามจะโกรธนาวก็ได้นะ แต่อย่าเกลียดนาวเลย นาวรู้ว่าพี่อามไม่เลือกนาวหรอก ขอแค่นาวเป็นเจ้าของพี่อามบางเวลาบ้างก็พอ” แล้วผมก็ได้แต่ร้องไห้
“อย่าร้องไห้เลยนะ พี่อามร้องไห้แล้วนาวใจไม่ดี” พูดจบแล้วนาวก็เอาผมมากอดไว้ ตอนนั้นต่างคนต่างเปลือยอยู่เลยครับ นาวบอกกับผมประมาณว่าดีจังได้กอดพี่อามแบบนี้ นึกถึงตอนตัวเองยังเด็กที่ชอบแก้ผ้ากอดผม แล้วนาวก็จูบผมเป็นระยะตลอดคืน ที่ผมรู้เพราะผมรู้สึกว่าคืนนั้นนอนไม่หลับ เพราะพอจะหลับก็ฝันเห็นคิมมาบอกว่า

“คิมรักอามนะ อามเป็นของคิม” ผมเลยไม่กล้าหลับเพราะกลัวว่าจะฝันเห็นคิมอีก แต่ก็หลับตาเพราะกลัวว่านาวจะทำอะไรผมอีก พอเช้ามาผมก็รู้สึกมีไข้ นาวก็เลยป้อนข้าวเช้าผมกิน แล้วป้อนยา จากนั้นก็เช็ดตัวให้ผม บังเอิญว่าผมได้ยินเสียงมือถือดัง แต่ผมไม่ได้รับ คนที่รับคือนาว ปรากฏว่าเป็นคิมที่โทรมา นาวก็บอกว่าผมไม่สบายเลยไม่ได้มาคุย แต่ที่ผมรู้สึกกังวลไปกว่านั้นเพราะเมื่อคุยไปคุยมา เหมือนว่าคิมจะคุยถูกคอกับนาวมาก พอวางสายผมก็เลยถามว่า นาวกำลังจะทำอะไร
“ก็ตีสนิทไง ถ้านาวเข้ากับพี่คิมได้ นาวจะได้หาโอกาสอยู่กับพี่นาวมากขึ้น” ผมฟังแล้วรู้สึกกังวลว่านาวจะทำให้ความสัมพันธ์ของผมกับคิมมีปัญหา
“นอกจากนาวผิดสัญญาจนได้พี่สมใจอยากแล้ว นาวจะทำให้พี่ผิดใจกับคิมอีกเหรอ” นาวเข้ามาแตะแก้มผมแล้วบอกว่า
“นาวไม่คิดจะแทนที่ใครหรอก นาวก็แค่อยากอยู่กับพี่อามอย่างเปิดเผยบ้าง ไม่ต้องหลบๆซ่อนแบบนี้” แล้วนาวก็คว้าผมมากอด แล้วเข้ามากอดจูบลูบไล้ผม เพื่อที่จะดำเนินเกมรักของเราอีกครั้ง
นาวพยายามเริ่มเกมส์รักกับผมอีกครั้งโดยพยายามล่วงล้ำเข้ามาในตัวผม แต่ผมบ่ายเบี่ยงเพราะไม่สบายอยู่หากโดนนาวเสียบเข้ามาอีกรอบคงถึงขั้นคางเหลือง นาวเห็นท่าไม่ดีก็เลยบอกกับผมว่า

“งั้นเราเปลี่ยนกันนะ” ผมตกใจอุทานออกมาว่า
“เฮ้ยอย่าบอกนะว่า” ผมพอจะเดาออกแล้วครับ
“ก็พี่อามเป็นของนาวแล้ว คราวนี้นาวเป็นของพี่อามบ้างไง” นาวไม่รอช้าว่าแล้วก็เอาวาสลีนมาป้ายนิ้วตัวเองแล้วลองสอดเข้าไปในก้นตัวเอง
“อืมแน่นจัง คงต้องให้ชินมือสักพัก” แต่ผมก็พยามหยุดนาว เพราะกลัวว่าน้องจะเจ็บมากเพราะเป็นครั้งแรกด้วย แต่นาวปฏิเสธแล้วบอกให้ผมอยู่เฉยๆเดี๋ยวจัดการเอง แล้วนาวก็เอามืออีกข้างหนึ่งที่ยังว่างมากระตุ้นท่อนลำของผมให้แข็งไปพร้อมกัน สักพักพอนาวรู้สึกว่าตัวเองและผมน่าจะพร้อมแล้ว ก็มานั่งคร่อมตัวผมแล้วจับท่อนลำของผมให้ตรงแล้วค่อยๆดันก้นตัวเองลงไปโดยไม่ลืมจะป้ายวาสลีนที่ก้นตัวเองเพื่อความหล่อลื่น นาวเอามือหนึ่งยันไว้กับเตียง อีกมือก็จับท่อนลำของผมแล้วค่อยๆดันเข้าไป ผมกลัวน้องเจ็บก็เลยเอามือตัวเองไปช่วยรองที่สะโพกจะได้ช่วยผ่อนแรง นาวเห็นผมทำแบบนี้เลยยิ้มกริ่มก่อนจะพูดว่า
“ดีจังคราวนี้พี่อามมีส่วนร่วมด้วย” แต่ผมก็ทำหน้านิ่งๆไว้ นาวก็ดันท่อนลำของผมไปจนสุดลำ
“โอ๊ยพี่อามมันแน่นไปหมดเลย ทำไมมันตอดแบบนี้” นาวพูดจบแล้วก็มีแต่เสียงซี๊ดซาดส์นาวแช่ท่อนลำของผมไว้กับก้นตัวเองไว้สักพักหนึ่ง ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างไปด้านหลังแล้ววางบนเตียง (นาวหันหน้ามาทางผมครับ) แล้วชันเข่าไว้ประมาณกลางลำตัวผมแล้วค่อยๆโยกขึ้นโยกลงอย่างเบามือ ผมทนไม่ไหวต้องเด้งสะโพกไปพร้อมกับจังหวะการโยกของนาว นาวโยกขึ้นผมเด้งลง นาวโยกลงผมเด้งขึ้น สอดประสานกันอยู่อย่างงี้ นาวส่งเสียงครวญครางอยู่ตลอดเวลา ส่วนผมเองก็ไม่แพ้กัน แต่ไม่มีใครกล้าลองเสียงดังเพราะกลัวคนที่บ้านจะได้ยิน แล้วต่างคนต่างก็เร่งจังหวะถี่มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวแล้วแตกข้างในตัวนาว ส่วนนาวก็ชักท่อนลำตัวเองจนแตกไปพร้อมๆกัน แน่นอนว่าหยดหยาดความเป็นชายของผมไหลลงมากองที่ท่อนลำตัวเองจากก้นนาว ส่วนหยาดหยดของนาวก็สาดใส่ไปทั่วตัวผมไปทั่วตัว ลามไปลำคอและใบหน้า พอนาวถอดท่อนลำของผมออกมา นาวก็บอกว่า

“พี่อามก้นนาวยังไม่หยุดตอดเลย” แต่ผมไม่ได้อยากชื่นชมด้วยเลยบอกว่าไปว่า
“นาวสนุกแล้วพี่ล่ะ จะกลับไปมองหน้าคิมยังไง”
“ถ้ามองหน้าพี่คิมไม่ติดก็มามองหน้านาวสิ มาเป็นของนาวคนเดียว” ผมหลับตาลงด้วยความเหนื่อยใจ จากนั้นผมรู้สึกว่านาวเอาลิ้นมาเลียน้ำกามของตัวเองที่ติดอยู่ตามตัว ตามคอ และตามหน้าผมไปจนหมดสิ้น แล้วมากระซิบที่ข้างหูผมว่า
“นาวว่าน้ำพี่อามอร่อยกว่าเยอะเลย” ผมคิดในใจว่านาวมันโรคจิตเปล่าว่ะ กินน้ำ..เกลี้ยงตลอด นาวพูดจบผมก็รีบหันหลังไม่อยากคุยกับนาว นาวก็เข้ามากอดที่หลังผมแล้วคลอเคลียผมอีกตามเคย ทำให้ผมคิดถึงแมวที่คุณยายเคยเลี้ยงไว้อ่ะครับ มันจะชอบมาคลอเคลียคุณยายผมมาก ตอนนี้นาวเป็นเหมือนลูกแมวน้อยของผมเลยครับ ก่อนที่ผมจะหลับผมก็ได้ยินนาวพูดกับผมว่า
“เราเป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะพี่อาม” เฮ่อชีวิตผม

******************

เรทอีกแล้ว พี่น้อง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 27-01-2010 21:28:53
 :z1:

น้องนาวสุดยอด
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Unbelievable ที่ 28-01-2010 03:18:02
 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: philophobia ที่ 28-01-2010 03:23:04
โอย โอย

เลือดกำเดากระฉูดอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 28-01-2010 07:53:58
เด็กอะไรเนี่ย แก่นเซี้ยวจริง... :o8: :-[

นาวจะพยายามทำให้คิมรู้มั้ยเนี่ย.........................

แต่ตอนนี้แบบว่า :z1: :haun4: :m25:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 28-01-2010 08:05:45
ความรู้สึกผิด ชอบ ชั่วดี หายไปหมด

มารอกันต่อไป ว่าเจ้านาว จะดำเนินแผนการครอบครองตัวพี่อามยังไง

แล้วถ้าคิมรู้ จะเกิดอะไรขึ้น คงต้องติดตามตอนต่อไป ว่าจะเกิด ธรณีพิโรธ หรือ 3 p :z1:

ขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่ง และคนโพส +1 เช่นเคย  :z2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 28-01-2010 11:51:39
โอ้โหยยยย อนาคตต้องกลายเป็น 3P แน่ๆ หึๆๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 28-01-2010 13:24:12
งือแต่ละคน

เห็นอนาคตร่ำไร

ไม่พ้น สามคนผลัดกันเสียบ แน่ๆ

 :haun4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่ 8 เกมสวาท
เริ่มหัวข้อโดย: moonlightjoe ที่ 30-01-2010 05:31:17
เห็นไม่มาโพส 3 วันแล้วเลยมาโพสให้น้าครับ คิดว่าหลายคนคงรอมะไหวแล้วอิอิ ช่วยแบ่งเบาภาระ

-------------------------------------

ตกเย็นขณะที่ผมกำลังจะกลับหอพักที่มหาวิทยาลัย นาวก็เอาสร้อยเส้นนึงมาคล้องคอผม พอหยิบขึ้นมาดูมันเหมือนเลขแปดแต่เป็นแนวนอนอ่ะครับ ผมก็เลยถามว่า

“จะเอาเลขแปดมาใส่คอพี่ทำไม”
“ตกเลขหรือไง เนี่ยเข้าเรียกว่าสัญลักษณ์ Infinity” อืมผมก็คิดว่ามันแปลว่าอะไร พอลองนึกตามความหมายภาษาอังกฤษดีๆ เฮ้ย ไม่สิ้นสุด อนันตกาล นาวมันจะแสดงความเป็นเจ้าของผมมากไปแล้ว ผมรีบ
ถอดทิ้งทันที แต่นาวก็ยื้อไว้”

“ใส่ไปเหอะ สวยดีออก”
“นี่มันจะมากไปแล้วนะ แล้วแบบนี้พี่จะไปบอกคิมว่าไงล่ะ คิมอาจจะไมรู้ว่าพี่มีน้องตัวเองเป็นกิ๊ก แต่เขาไม่ได้โง่หรอกนะ” ผมพยายามจะดึงสร้อยเส้นนี้ออก นาวก็ไม่ยอมลูกเดียว จนที่สุดท้ายนาวหน้าแดงแล้วเดินไปหยิบแก้วใบใหญ่สุดในห้อง จากนั้นก็ขว้างลงกับพื้นจนเสียงแตกดังเพล้งดังไปทั้งบ้าน ผมตะลึงงั้น แล้วนาวก็หยิบชิ้นส่วนแก้วที่คมและใหญ่ที่สุดออกมา และกำลังจะเชือดข้อมือตัวเอง ผมรีบเข้าไปห้ามโดยทันที

“นาวอย่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ผมเข้าไปห้ามนาวไว้ แล้วยื้อยุ้ดฉุดกระชากกันอยู่นาน สรุปแล้วผมห้ามนาวสำเร็จแต่คนที่ซวยเป็นผมเพราะผมล้มลงแล้วเอามือซ้ายลงไปเท้ากับพื้นเพื่อไม่ให้ก้นกระแทก แต่ว่ามือผมก็โดนเศษแก้วบาดมือจนเป็นแผลเต็มไปหมดด้วยเศษแก้วชิ้นเล็กชิ้นน้อยมากมาย เลือดไหลออกมาอย่างน่ากลัว นาวเองตกใจมากแต่ยังมีสติรีบเข้ามาประคองผมแล้วช่วยกับญาติคนอื่นๆพาไปส่งโรงพยาบาลทันที ท่ามกลางความตกใจของบรรดาญาติๆที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยความที่ผมเสียเลือดมากประกอบกับยังไม่หายไข้ก็เลยหมดสติเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากนั้นบ้าง ผมตื่นมาอีกครั้งก็น่าจะมืดแล้ว บังเอิญว่าตื่นมาเจอคุณหมอมาตรวจพอดี

“อ้าวตื่นแล้วเหรอครับ หมอจะเข้ามาบอกกับคุณพอดีว่าเราจัดการทำแผลให้เรียบร้อยแล้วนะครับ แต่ห้ามโดนน้ำสองอาทิตย์นะ แล้วถ้าเป็นไปได้อยากให้มาล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวันเลยนะครับ”
“โหไม่ไหวมั้งครับ ผมเรียนอยู่ตั้งรังสิตจะให้มาถึง...คงตายก่อนอ่ะครับ”
“ถ้างั้นเนี่ยต้องให้คนที่ดูแลมาให้พยาบาลสอนให้นะครับ เพราะถ้าล้างไม่ถูกวิธีอาจพลาดได้นะครับ” ฟังแล้วก็แบบว่าอะไรมันจะซวยซ้ำ ซวยซ้อน ซวยซ่อนเงื่อนขนาดนั้น ต้องมาลำบากคนอื่นอีก
“ถ้างั้นเนี่ยจะให้คนที่ทำแผลให้ผมมาเรียนวิธีกับคุณพยาบาลกี่โมงดีครับ”
“เช้าๆหน่อยก็ดีนะครับ เพราะพอพ้นจากช่วงนี้ไปพวกพยาบาลก็จะเริ่มยุ่งแล้วครับ ไปบอกเขาว่าเคสคุณอามของหมอ.. ก็ได้ครับ” จากนั้นผมก็ขอบคุณคุณหมอ แล้วเห็นไอ้คนต้นเรื่องนอนหลับอยู่ที่โซฟา ดูท่าจะเพลียมาก

“นาวตื่นได้แล้ว” ผมส่งเสียงดังมากครับเพื่อปลุกนาว พอนาวได้ยินเสียงผมเท่านั้นแหละครับ ลุกขึ้นน้ำตานองหน้าเลย แล้วเข้ามากอดผมลูกเดียว ผมก็ไม่ได้โกรธนะครับแต่แบบแอบเซ็งที่ตัวเองต้องมาเจ็บมือซะงั้น
“นาวพอแล้วพี่หายใจไม่ออก แล้วคนอื่นไปไหนกันหมด”
“กลับไปกันหมดแล้ว นาวอาสาขอเฝ้าต่อให้เอง” เฮ้ยผมนึกขึ้นได้แล้วคิมล่ะ
“เอามือถือพี่มาให้หน่อย” แล้วนาวก็ไปเอามือถือให้ผม พอผมกดดูโอ๊ยฉิบหาย Miss call 30 สายของคิมทั้งนั้นเลย ผมชอบตั้งระบบสั่นไว้เลยไม่มีใครได้ยินเสียงมือถือ สงสัยเห็นผมยังไม่กลับหอคงเป็นห่วงผมมาก ก็เลยรีบโทรกลับ เท่านั้นแหละครับ
“อามมมม อยู่ไหน ทำไมไม่โทรกลับ คิมจะเป็นบ้าตายแล้วรู้ไหม” แล้วคิมก็ร้องไห้ โอ๊ยแฟนกับกิ๊กมาร้องไห้พร้อมกันปวดกบาล
“คิมฟังเราดีๆนะคือว่า” แล้วผมก็เรื่องเมื่อเย็นประมาณว่า ผมทำแก้วแตกแล้วบังเอิญล้มทับแก้วที่แตกจนบาดมือ บอกเรื่องหมอที่ให้มาเรียนทำแผล พอพูดจบปุ๊บคิมใจร้อนขึ้นมาทันที
“อามเดี๋ยวคิมขับรถไปหาเลยนะ”
“อย่าเลยดึกแล้วเดี๋ยวอันตราย เอาไว้ตอนเช้าดีกว่า ตอนนี้นาวก็เฝ้าอยู่ด้วยไม่ต้องห่วงหรอก”
“จะดีเหรอ อืมงั้นคิมขอคุยกับน้องนาวหน่อยสิ” ผมก็ลังเลอยู่นานก่อนยื่นโทรศัพท์ให้นาว นาวหลบไปคุยกับคิมสักแป็บนึง สักพักนาวก็ยื่นมือถือมาคืน

“ฝันดีนะครับที่รัก เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปแต่เช้าเลยนะ”
“เช่นกันครับ” พอวางสายผมก็เลยถามว่า นาวไปพูดอะไร คิมถึงได้เปลี่ยนใจง่ายๆอย่างนั้น
“ก็แค่บอกว่าพี่อามเป็นของผม ผมต้องดูแลดีอยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง” เฮ้ยดูมันกวนแล้ว
“กวนแบบนี้โดนซักทีละกัน” แล้วก็ใช้มือที่ยังดีอยู่ขว้างหมอนใส่ แต่ว่านาวหลบทันครับนาวก็เลยบอกว่า
“นาวบอกว่าไม่ต้องห่วงจะดูแลให้อย่างดี แหมเรื่องอะไรจะยอมให้พี่คิมมาคืนนี้ล่ะ นาวจะได้อยู่กับพี่อามนานๆหน่อย ผมรู้สึกกดดันครับก็เลยร้องไห้
“พี่ต้องมาเจ็บใจ แล้วก็เจ็บตัวเพราะนาวกี่ครั้งแล้ว พี่ไม่เข้าใจ จริงๆพี่น่าจะเป็นคนกรีดข้อมือตัวเองมากกว่านะ นาวยังเด็กนาวยังมีโอกาสเจอคนที่ถูกใจอีกมาก อย่ามารักพี่เลยนะ ขอร้องล่ะ” พูดจบนาวก็เข้ามาจับแก้มผม

“ปัญหามันเกิดเพราะพี่อามไม่ยอมรักนาวต่างหาก ถ้ารักนาวก็จบ ไม่น่าไปมีคนอื่นเลย นาวจะอยู่กับพี่อามไปแบบนี้แหละ ยังไงนาวก็เป็นน้องพี่อามพี่อามไม่มีทางหนีพ้นหรอก” พูดจบก็คว้าผมมาจูบ ผมพยายามผลักออกแต่มือเดียวสู้แรงไม่ไหว นาวดูรุนแรงมากจนผมรู้สึกปากระบบไปหมด
“ถ้าพูดเรื่องไล่นาวไปไกลๆอีกนะ พี่อามจะถูกลงโทษแบบนี้แหละ เอาให้พี่คิมสงสัยไปเลยว่าโดนใครปล้ำมา” ผมทนไม่ไหวเลยตบหน้านาวจนหงาย
“ก็เอาสิ พี่อยากรู้เหมือนกันว่าคิมจะเห็นใจแฟนที่โดนปล้ำหรือว่าน้องที่ปล้ำพี่ตัวเอง” นาวก็เข้ามากระชากมือผมแล้วบอกว่า

“อืมงั้นมาสร้างร่องรอยกันดีกว่า จะได้รู้ว่าพี่คิมจะเอาไง” พูดจบนาวก็ดึงเสื้อผม พอจะนึกออกไหมครับว่าชุดผู้ป่วยเนี่ยมันถอดง่ายอยู่แล้ว แล้วพอถอดเสื้อได้นาวจะมาทำเป็นรอยดูดตามร่างกายผม ผมกลัวคิมเห็นก็เลยต้องยอมแล้วถามว่าจะเอาอะไรก็ว่ามา
“งั้นเรามาจูบกันดีๆนะ” พูดจบนาวก็เข้ามาจูบแบบนิ่มๆ พร้อมๆกับเอามือลูบไล้ตัวผมไปด้วย ก่อนจะไซร้ไปทั่วช่วงบนของผม
“นาวพี่ขอถามอะไรหน่อยสิ ทุกครั้งที่เราอยู่ด้วยกันต้องทำอะไรแบบนี้ตลอดเลยเหรอ” นาวกอดผมไว้แล้วบอกว่า

“ถ้าเรายังจับมือกันให้ใครเห็นไม่ได้ บอกให้คนอื่นรู้ว่าเราเป็นอะไรกันไม่ได้ นี่ก็เป็นทางเดียวที่จะทำให้นาวรู้สึกว่านาวได้แสดงความรักต่อพี่อามจริงๆ” ผมได้แต่อึ้ง
“นาวรักพี่อามมาแต่แต่เด็กแล้ว ตอนที่พี่อามมาเล่นหนอนน้อยของนาวตั้งแต่เด็กๆถ้าเป็นคนอื่นมาจับนะโดนนาวถีบไปแล้ว แต่ถ้าเป็นพี่อามนะนาวจะพอใจมาเลย ตอนนี้มันเป็นหนอนยักษ์แต่นาวให้พี่อามมันเป็นเจ้าของมันคนเดียว พี่อามทำอะไรนาวนาวรู้หมดแหละ แต่ไม่อยากพูดเท่านั้นเอง ถ้าพี่อามไม่ชอบนาวจริงคงไม่ทำกับนาวแบบนี้หรอก

“นาวพี่ขอโทษนะ พี่แค่อยากสนุก มันเป็นความผิดพลาด”
“แต่สำหรับนาวมันเป็นความรัก นาวเชื่อว่าพี่อามก็รักนาว แต่ติดที่ว่าเราเป็นพี่น้องกัน คนอื่นเขาอาจจะสนุกแล้วจบกันไปแต่นาวอยากไปไกลกว่านั้น”
“แต่พี่รักคิม” ผมพยายามบ่ายเบี่ยงจากนาว
“ถ้ายังงั้นก็รักผมอีกคนด้วยละกันนะ” แล้วนาวก็จูบผมต่อจากนั้นนาวก็เดินไปล๊อกประตู แล้วก็ลากผมลงมาจากเตียงคนป่วย

“จะทำอะไรน่ะ”
“พาพี่อามไปนอนด้วยกันที่โซฟาไง เตียงอันเนี่ยนาวขึ้นไปนอนด้วยไม่ได้” จากนั้นนาวก็ขึ้นไปนอนก่อนแล้วให้ผมขึ้นไปนอนบนตัวนาวอีกที แล้วนาวก็โอบผมจากด้านหลัง
“ดีจังได้นอนกอดเต็มๆเลย” พูดจบนาวจับผมถอดเสื้อ แล้วลูบไล้ผมอีก
“พอแล้วนาวเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า”
“น่านะพี่อามของผม คืนนี้เราอุตส่าห์อยู่ด้วยกันอีกคืน ขอโบนัสผมหน่อยสิ” โอ๊ยตายแล้วคืนนี้ผมจะโดนนาวจัดการยังไงเนี่ย
“หาขอโบนัสตลกแหละ พี่เลือดสาดเนี่ยโบนัสไม่พออีกเหรอ” แต่นาวก็ไม่สนรุกเร้าผมต่อ จนเสื้อผ้าผมหายไปหมดแล้ว นาวพยายามให้ผมอยู่ข้างบนแล้วให้คร่อมทับท่อนลำนาว แต่ผมไม่ไหวเพราะป่วยอยู่ นาวก็เลยลากผมมาอยู่ที่ปลายโซฟาแล้วให้ผมนอนคว่ำเพื่อที่จะได้สอดท่อนลำตัวเอง แต่ก็ไม่ได้อีกเพราะว่าไม่มีที่วางมือ แผลก็พึ่งทำมาถ้าแผลแตกเดี๋ยวซวยจะลำบากอีก ผมคิดว่ายังไงก็น่าจะรอด แต่ว่า...อยู่ๆขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่บนโซฟา นาวก็ลุกขึ้นยืนแล้วใช้มือดันศีรษะผมจนติดกำแพง พร้อมๆกับพยายามดันท่อนลำเข้ามาในปากผม

“ช่วยหน่อยนะ นาวขอ” ผมไม่พอใจมากกำลังจะอ้าปากด่า โดยไม่ทันตั้งตัวนาวก็ดันท่อนลำเข้ามาในปากผมไว้แล้ว ผมกำลังจะใช้ฟันขบเพื่อให้นาวเอาท่อนลำตัวเองออกแต่นาวเหมือนจะรู้ทัน
“อย่ากัดเชียวนะ ไม่งั้นละก็พี่อามพังแน่” ผมคิดในใจว่าไอ้นาวมึงทำกับกูได้นะ ผมเลยต้องจำใจปฏิบัติโอษฐกามให้น้องตัวเอง ประเด็นคือมันใหญ่จนคับปากไปหมด แต่ยังดีที่นาวไม่ได้รุนแรงกับผม มือหนึ่งจับแขนซ้ายผมไว้เพื่อไม้ให้มือซ้ายต้องกระเทือน แล้วอีกมือก็ประคองศีรษะผมไว้อย่างดี ผมไม่รู้สึกมีความสุขเลย เมื่อยก็เมื่อย แถมขัดใจนาวก็ไม่ได้อีก
“อืมพี่อามนาวเสียวจังเลย จะแตกแล้ว อ๊าส์ๆๆ” ผมเลยพยายามดันศีรษะตัวเองออกมาจากท่อนลำนาว แต่นาวจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนที่สุดหยาดหยดของนาวก็ทะลักทลายเข้าสู่ปากผม นาวก็ยังไม่ปล่อยศีรษะผม ปล่อยมันออกมาจนหมด จะคายทิ้งก็ไม่ได้ แต่ผมไม่ยอมกลืน มันเต็มปากผมไปหมด พอนาวถอดท่อนลำออกมาก็ก้มตัว ลงมาจูบผมแล้วกลืนน้ำกามตัวเองที่อยู่ในปากผมลงไปในกระเพาะตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ถ้าเป็นคิมผมคงไม่กระอักกระอ่วนใจแบบนี้ ผมหมดแรงเลยขอให้นาวพาผมไปล้างปาก พอผมมานั่งลงที่โซฟา นาวเหมือนจะพอใจมากประมาณว่า
“นาวอิจฉาพี่คิมจัง เขาคงมีความสุขมากเลยนะ”
“เขาต้องมีความสุขอยู่แล้ว เพราะพี่เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับให้จำยอมแบบนี้” ผมเบือนหน้าหนีไม่อยากพูดกับนาว แต่นาวก็เขามาสวมกอดผมแล้วบอกว่า

“ก็มันเป็นวิธีเดียวไงที่พี่อามจะเป็นของนาวได้ ถ้ารอให้พี่อามเต็มใจคงไม่มีหวังหรอก หรือว่าไม่จริง” ผมเงียบไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นนาวก็ใส่เสื้อผ้าให้ผมเรียบร้อย ผมหลับบนโซฟาในอ้อมกอดของนาว ก่อนที่ผมจะหลับผมรู้สึกว่านาวคอยจูบผมเบาๆตลอดเวลา แล้วพูดตลอดเวลาว่าพี่อามเป็นของนาว ผมก็เลยพูดไปว่า
“พี่รักคิม ” พูดจบนาวก็เอามือมาปิดปากผมซะแน่น แล้วไซร้ผมซะรุนแรง
“ไม่เอาน่าพี่อามน่ะเป็นของผมคนเดียว” ผมไม่ไหวแล้วครับ ง่วงมากปล่อยนาวไซร้ผมซะจนนอนหลับไปเลย ตื่นมาอีกทีผมตกใจไม่รู้ว่าคิมมารึยัง รีบขึ้นมาบนเตียงคนไข้ แต่นาวรัดผมซะแน่น กว่าจะเอาออกมาได้ก็แทบตาย แล้วมาหลับบนเตียงต่อ พอตื่นมาอีกทีก็รู้สึกว่าโดนจูบอยู่

“ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก เจ็บมากมั้ย” คิมมาแล้วครับ ดีจังคิมมาช่วยผมแล้ว ผมยันตัวขึ้นมาด้วยมือขวาแล้วก็เอาโอบคิมแล้วกอด
“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง” ผมก็คว้าคิมมาจูบ โดยที่ผมก็พลันเห็นว่านาวตื่นขึ้นมาแล้ว แทนที่ผมจะหยุดผมกลับจูบคิมหนักขึ้น ถึงขั้นแลกลิ้นกันอย่างสนุกสนาน เหมือนจะแสดงว่านี่แหละแฟนผม นาวดูจะไม่แสดงอาการใดๆ แต่นาวกลับทำเป็นนอน พอได้จูบคิมอย่างหนำใจคิมรีบไปหาคุณพยาบาลเพื่อไปตามมาล้างแผลให้ผมจะได้สอนคิมไปด้วย และทันทีที่คิมออกไปนาวก็ลุกขึ้นมาแล้วเข้ามาจูบผมอย่างรุนแรง ผมกัดฟันไม่ให้นาวเอาลิ้นเข้ามา นาวเลยพูดว่า
“ไม่ให้จูบมีรอยโดนดูดแน่” ผมก็เลยต้องเปิดปาก ให้นาวเอาลิ้นเข้ามาอย่างเต็มที่ สักพักผมรีบถอนปากออกแล้วบอกนาวว่าพอแล้ว เดี๋ยวคิมมาเห็นเข้านาวก็เลยหยุดแล้วหันมาหอมแก้มผมหนึ่งที ก่อนจะกลับไปนั่งที่โซฟาตามเดิม แล้วคิมก็เข้ามาพร้อมคุณพยาบาล พอทำแผล สอนคิมทำแผลผม แล้วจัดการเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องใช้ทำแผลทั้งหมดเสร็จ ก็จะกลับทันที แต่ในระหว่างนั้นนาวก็ตีสนิทกับคิมเป็นที่เรียบร้อย โอ๊ยผมเห็นแล้วเดาใจนาวไม่ถูกเลย
“ขอบใจน้องนาวมากนะครับ ที่ช่วยดูแลอามอย่างดี”
“แหมไม่เป็นไรหรอกครับ พี่อามเป็นพี่ชายสุดที่รักของผม ผมต้องดูแลอยู่แล้ว” นาวเน้นคำว่าสุดที่รักพร้อมกับยิ้มกรุ่มกริ่ม แต่คิมไม่ได้สังเกตเลย จากนั้นคิมก็จัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมด ผมบอกว่าไม่ต้องหรอก แต่คิมก็ยืนยันว่าเป็นหน้าที่ของคิมที่ต้องดูแลผม พอคิมออกไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่าย นาวก็เข้ามาบอกกับผมว่า
“เตรียมตัวเจอกันบ่อยๆนะ พี่อามของนาว”

“หมายความว่าไง”
“เดี๋ยวก็รู้” ผมคิดในใจว่า เออแล้วเราจะได้เห็นกัน
พอกลับมาที่หอพัก ผมแถบจะนอนมาหมดแรง เพราะเหนื่อยมากเจ็บมือไม่เท่าไร แต่โดนนาวล่อซะเหนื่อยมากกว่า ยังดีที่ว่ามีเรียนบ่าย บังเอิญว่าคิมก็เรียนบ่ายด้วย ก็เลยนอนกอดกันยาว โดยที่ผมต้องเป็นคนที่โอบกอดคิมไว้เพราะกลัวว่าถ้าให้คิมกอดมือผมอาจจะโดนทับจนเป็นแผลซ้ำได้ พอตื่นมากินข้าวเที่ยง คิมก็เตรียมไว้ให้เรียบร้อย ผมพยายามกินเอง แต่คิมบอกว่าใช้มือเดียวเดี๋ยวเลอะหมด เลยป้อนผมทุกคำ ยังดีที่ว่ากินในห้องก็เลยไม่มีใครเห็น ไม่งั้นคงอายเขาน่าดู ป้อนไปก็จะหาโอกาสหอมแก้มผมอยู่เรื่อยเลย พอตกกลางคืนผมพึ่งรู้ว่าไอ้บีมกับไอ้วินมันไม่อยู่ ไอ้บีมไปทัศนศึกษา ส่วนไอ้วินไปประชุ่มกลับพวกชมรมมันที่ต่างจังหวัด ทำให้ผมกับคิมอยู่กันตามลำพัง จริงๆแล้วเนี่ยถ้าเป็นเวลาปกติเราสองคนคงขึ้นสวรรค์กันไปไหนต่อไหนแล้ว แต่ด้วยความที่ผมมือเจ็บทำให้คิมกลัวว่าผมจะเจ็บแผลเลยต้องห้ามใจว่า แต่ดูท่าทางคิมน่าสงสารมากเพราะเดินงุ่นง่านไปมา ด้วยความสงสารผมก็เลยบอกว่า
“เราทำกันบนเก้าอี้ดีมั้ย มือเราน่าจะไม่โดนนะ”
“จะดีเหรออาม”

“มันคงไม่ดีหรอกถ้าคิมยังเดินเป็นหนูติดจั่นขนาดนี้” จากนั้นผมก็ลากให้คิมนั่งบนเก้าอี้ แล้วก็คุกเข่าลงไปที่หว่างขาของคิม คิมไม่รอช้ารีบถอดกางเกงกับกางเกงในออกไปกองกับพื้น มือหนึ่งคิมจับศีรษะผมไว้ อีกมือก็จับแขนซ้ายผมไว้ เพื่อให้แน่ใจว่ามือซ้ายผมจะไม่ต้องขยับเขยื้อนมากนัก จากนั้นผมก็จัดการปรนเปรอให้คิมอย่างถึงใจ คิมร้องครวญครางไม่เป็นภาษา ที่พอจับจะได้น่าจะมีคำว่า เอาอีกๆหลายครั้ง พอท่อนลำคิมแข็งได้ที่ผมก็เลยลุกขึ้น แล้วนั่งคร่อมท่อนลำของคิม ก่อนที่มันจะค่อยๆหายเข้าไปในร่างกาย คิมใช้สองมือยกสะโพกของผมขึ้นลง มือหนึ่งของผมของกอดคอคิมไว้ มือที่เจ็บก็วางไว้บนไหล่คิม ผมกับคิมต่างเสียวกันสุดๆ จนกระทั่งน้ำของผมกับคิมก็แตกพร้อมกันอีกครั้ง โดยที่น้ำของผมกระฉูดไปที่ริมฝีปากคิมพอดี แล้วคิมก็เอาลิ้นมาเลียโดยรอบจนน้ำหายไปจนหมด
“คิมอย่ากินน้ำอามสิ มันไม่ใช่ของกินนะ”
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย น้ำอามหอมดีออก แล้วเราก็ทำกันแค่สองคน ไม่เห็นต้องกลัวเลย” ได้ยินแล้วผมแอบหน้าเสียแต่ก็พยายามปั้นหน้าให้นิ่งที่สุด

“อามสุดยอดเลย ถึงป่วยก็มันสุดๆไปเลย เดี๋ยวเราใช้ปากให้นะ ผลัดกัน”
“ไม่เอาแล้ว เราเหนื่อย” จริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นข้ออ้างครับ พราะผมรู้สึกผิดจากที่คิมพูดเมื่อสักครู่ว่ามีอะไรกันแค่สองคน แต่สำหรับผมแล้วคือสาม แต่คิมไม่พูดพร่ำทำเพลง จัดการใช้ปากปรนเปรอผมอีกรอบ ผมว่าคิมใช้ปากเก่งกว่าผมอีก ผมเสียวจนพูดอะไรไม่ออก จนพอน้ำผมใกล้ทะลัก ผมจะถอนท่อนลำออกจากปากคิม แต่คิมไม่ยอม จนน้ำผมมันพุ่งออกมา พอคิมถอนปากหยดหยาดของผมก็เยิ้มจากปากคิมมาเป็นสายเลย ยังกับหนังโป๊เลย เห็นแล้วเซ็กส์แตกสุดๆ พอกลืนน้ำผมลงไปเสร็จ คิมก็ยังเลียท่อนลำผมจนสะอาด ตอนโดนคิมเลียท่อนลำผมเสียวจนตัวผมกระตุกไม่หยุด ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าผมตายคาอกคิมได้ก็ดีเรื่องจะได้จบๆ ผมก็เลยบอกคิมว่า

“ถ้าวันนึงอามต้องตายขึ้นมา อามขอตายคาอกคิมนี่แหละคงจะมีความสุขมาก”
“ถ้าอามตายจริง เราคงจะตายตามไปด้วย เราอยู่ไม่ได้หรอกถ้าไม่มีอาม”
“ไม่มีอะไรแน่นอนหรอกคิม วันข้างหน้าคิมอาจจะไปมีคนใหม่ที่ดีกว่าเราก็ได้นะ”
“ทำไมพูดอย่างเงี้ย คิมทำอะไรให้อามไม่พอใจหรือเปล่า”
“เราพูดตามความจริงเฉยๆ คนธรรมดาไม่มีใครรู้หรอกว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร”
“เราบอกอามไว้ตรงนี้เลยนะ วันไหนที่เราเลิกกันเราคงอยู่ไม่ได้หรอก คิมขอไปตายดีกว่า”
“บ้าแล้ว คิดอะไรแบบนั้น คิมจะทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ”
“เรารักอามจริงๆนะ แล้วเราจะไม่รักใครอีกแล้ว” พูดจบคิมก็ร้องไห้แล้วกอดผม แต่ผมเครียดหนัก ผมหนีจากนาวไปก็ไม่ได้ คิมก็จะตายถ้าไม่มีผม แล้วผมจะทำยังไงดีล่ะ

-------------------

สมกับที่รอคอยไหมครับ ^^
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 30-01-2010 12:31:23
ขอบคุณครับ วุ่นวายดีนะครับรักของสามหนุ่ม
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 30-01-2010 13:43:56
อ่า...นับน้ำไม่ทันแล้ว ไม่รู้ของใครเท่าไรแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: moonlightjoe ที่ 30-01-2010 22:31:18
สงสัยเจ้าของกระทู้ไม่ว่างจริงๆ เหะ ไม่มาหลายวันละ

คุณ thaitanoi  แค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอหรอกคร้าบบบบบ อิอิ :mc4: :mc4:

อิอิ เดียวคุณ เอ็ดเวิร์ด เฉิน  จะต้อง งง มากกว่าอีกนี้คร้าบบบ หุหุหุ :really2: :really2: :really2:

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 01-02-2010 18:15:51
เพิ่งมาได้ อ่าน สนุกคะ กดดันดี
อยากรู้ว่าพี่อามจะทำยังไง
มันเป็นเรื่องของจิตใจอ่ะนะ เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Sameejaejung ที่ 01-02-2010 19:37:47
งืมๆๆๆๆ

อยากให้เป็น 3P อะ

สาธุ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 02-02-2010 01:00:10
บทที่ 9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งแรก
ช่วงเวลาที่ผมมือซ้ายเจ็บ ผมไม่ได้ไปหานาวเลยเพราะอ้างว่าไม่มีใครล้างแผลให้ อีกอย่างนาวติดแข่งกีฬาด้วยเลยทำให้ยุ่งกับผมมากไม่ได้ แต่ส่ง SMS มาขู่ว่า
“อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ละก็ จะโดนไม่ใช่น้อย” ผมรีบลบทิ้งข้อความนั้นแล้วส่งกลับไปว่า
“กูไม่กลัวมึงหรอกเว้ย” ส่วนคิมเองดูแลผมดีมากๆๆๆ ที่ผมชอบมากที่สุดก็คือตอนที่คิมโกนหนวดให้ผม มันรู้สึกได้ถึงความนุ่มนวลที่คนรักปฏิบัติให้กัน แต่ก็นั่นแหละครับขนาดผมมือเจ็บพอสบโอกาสคิมก็ปฏิบัติการรักทันที สงสัยจะติดใจลีลาบนเก้าอี้(ฮ่าๆ) แต่เราก็ผลัดกันนะครับเพียงแต่เวลาผมเป็นฝ่ายรุกคิมจะต้องช่วยผมมากหน่อย ก็คิมเขาดูแลผมขนาดนี้จะไม่ไห้รักยังไงไหว แล้วคิมก็จะคอยประคองผมตลอดด้วยความกลัวล้มเแบบว่าแทบจะอุ้มผมได้อยู่แล้ว ยังกับเป็นลูกเลย ไอ้เพื่อนร่วมห้องสองตัวมันก็ล้อใหญ่เลยครับ
“พ่อคิมมึงมาแล้วว่ะลูกอาม” ไอ้วินมันเริ่มก่อนครับ
“เฮ้ยไอ้คิมมันมีเมียแล้วเหรอว่ะ” ไอ้บีมมันรับมุขต่อ
“เปล่า ไม่ได้มีเมีย” ไอ้วินส่งต่อ
“อ้าวแล้วมีลูกออกมาได้ไง” ไอ้บีมมันชงต่อเลยครับ
“ก็มันเลี้ยงต้อยไง พอโตแล้วก็เลยโดนเย่อประจำเลย ใช่ไหมลูกอาม ทนเจ็บหน่อยนะลูก พ่อเขารักมากก็เลยโดนเย่อมากแบบนี้แหละ” ผมเลยด่าไปว่าไอ้สาดดดด แล้วคิดในใจว่า เดี๋ยวจับปล้ำให้เป็นเกย์กันให้หมดเลยไอ้พวกนี้ เฮ้ยไม่ได้แค่ตอนนี้มีคิมคนเดียว(กับไอ้นาว) ก็จัดการไม่ไหวแล้ว เฮ่อ ไอ้เพื่อนบ้าล้ออยู่ได้นะมึง ส่วนคิมก็ไม่ได้เดือดร้อนเลยรับมุขไปกับสองตัวนั้นอีกต่างหาก อย่างเวลากินข้าวคิมก็จะบอกว่า
“ได้เวลากินข้าวแล้วครับเด็กชายอาม มาให้พ่อป้อนข้าวเร็ว” ช่วงเวลาอาบน้ำคิมก็จะเป็นคนอาบให้ผมตลอด เพราะใช้มือข้างเดียวมันไม่ถนัดเอาซะเลย แล้วแบบว่าทุกเย็นที่อาบน้ำคิมก็จะใช้ปากให้ผมตลอด จนผมต้องขอใช้ปากให้คิมบ้างเพราะสงสารแต่คิมไม่ค่อยจะยอมบอกว่าเดี๋ยวผมจะลำบากเปล่าๆ เลยต้องใช้มือขวาช่วยคิมไปก่อน แต่ผมมันก็นิสัยไม่ดี เพราะเวลาที่คิมลูบเนื้อลูบตัวผมตอนที่อาบน้ำหรือป้อนข้าวผม ผมก็จะชอบนึกถึงนาวตอนเด็กๆที่ผมต้องอาบน้ำ ต้องป้อนข้าวให้นาวบ่อยๆ ตอนนี้เหมือนผมกำลังเป็นไอ้นาวเมื่อตอนเด็กๆ แล้วคิมก็เป็นผมในตอนนั้น ทำให้แม้ผมจะมีความสุขแต่ก็กลับมีความเศร้าในใจลึกๆไปพร้อมๆกัน ผมแอบคิดในใจเสมอว่า
“คิมเราขอโทษนะ ที่เราคิดถึงนาวด้วย” ทำให้เวลานอนผมกับคิมผมจะนอนกอดคิมแน่นๆเหมือนจะให้ตัวเองรู้สึกผิดน้อยลง คิมก็จะชอบคิดว่าผมอยากอ้อนก็เลยถ้าไม่จูบก็หอมแก้มตลอด ผมเลยรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก เฮ่อไม่เข้าใจอยู่กับนาวก็โหยหาคิม อยู่กับคิมก็คิดถึงนาว นี่ผมเป็นคนประเภทไหนกันแน่
พอสองสัปดาห์ผ่านไปผมก็เลยกลับไปที่โรงพยาบาล เพื่อให้คุณหมอเช็คอาการอีกครั้งแต่บังเอิญว่า คุณหมอเจ้าของไข้ไปประชุมต่างประเทศ ก็เลยให้หมอคนหนึ่งมาดูแลให้แทน เป็นใครทราบมั้ยครับ ใช่แล้ว ก็คุณหมอคนที่บอกว่าผมกับนาวเป็นแฟนกันแหละครับ ไอ้เชี่ยแจ็กพ็อตไปแล้วมั้ง ผมเลยรีบอ้างกับคิมว่าคือคุณหมอบอกว่าอยากให้ผมเข้าไปตรวจอาการคนเดียวเพราะข้อมูลในการรักษาเป็นความลับของคนไข้ ดีที่ว่าคิมไม่ได้สงสัยอะไร พอเข้าไปตรวจปุ๊บงานเข้าเลยครับ
“อ้าวนึกว่าใคร คุณคนที่สวีทกับแฟนในห้องฉุกเฉินนั่นเอง เอ๋วันนี้ไม่ได้มากับแฟนเหรอครับ”
“คุณหมอขอโทษนะครับ ผมเคยบอกแล้วว่านั่นนะน้องชายผม คนที่มากับผมวันนี้เป็นแฟนผม”
“อ้าวเหรอ ขอโทษครับแต่วันนั้นเหมือนแฟนกันเลย” ผมคิดในใจว่าดีนะที่ผมรอบคอบไม่ปล่อยให้คิมเข้ามาได้ยิน ไม่งั้นตายแน่ หมออะไรว่ะ มายุ่งเรื่องส่วนตัวกูซะจริง
“ว่าแต่ทำไมคุณหมอมาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ละครับ”
“โธ่คุณผมก็มารับจ็อบพิเศษสิครับ โรงพยาบาลรัฐน่ะตังค์ไม่เยอะนะครับ ผมก็มีค่าใช้จ่ายนะเหมือนกันนะ”
“งั้นคุณหมอก็สนใจแต่เรื่องตรวจนะครับจะได้มีตังค์เยอะๆ อย่าสนใจเรื่องส่วนตัวคนไข้มากเดี๋ยวจะไม่ได้มีโอกาสใช้ตังค์” ผมขู่ฟ่อเลยครับ
“โอ๊ยดุจัง ไม่เอาน่าเราเป็นเพื่อนกันดีกว่า ผมขอโทษนะที่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของคุณมากไป ที่ทำไปเพราะว่าเก็บกดน่ะ เพราะเพื่อนๆในวงการที่อยู่กลุ่มเดียวกันก็ไม่มีใครเป็นแบบผม เวลามีปัญหากับแฟนเลยปรึกษาใครไม่ได้ พอเจอคนประเภทเดียวกันก็เลยอยากเป็นเพื่อนไว้ปรึกษาน่ะครับ” พอได้ฟังแล้วก็อึ้งครับ รู้สึกเห็นใจเพราะสมัยเรียนอยู่มัธยมผมก็เคยเป็นมาก่อน เพื่อนที่รู้จักก็ไม่มีใครเป็นแบบผม ผมก็เลยเก็บกดเหมือนกันก่อนที่จะมาผ่อนคลายกับนาว (ไม่น่าเลย) แล้วมาเจอคิมในภายหลัง จากนั้นเราก็เลยเป็นเพื่อนกันครับ คุยกันถูกคอมาก แลกเบอร์ไว้โทรปรึกษากันเรียบร้อย ผมขอเรียกหมอคนนี้ว่า พี่หมอชาญล่ะกัน เขาก็อายุมากกว่าผมไม่เยอะนะครับ แต่ก็เข้ากันได้ดีทีเดียว แล้วก็คุยเรื่องอาการรักษามือกันแป็บเดียว ก่อนจะออกมา คิมก็เลยงงว่าคิมเป็นอะไรมากหรือเปล่า ทำไมเข้าไปนานจัง ผมก็ประมาณว่ามันมีรายละเอียดที่ต้องดูเยอะน่ะ (ตอบได้เหมือนนักการเมืองมากๆ) ดีจังผมจะมีใครสักคนให้ระบายแล้ว และแล้วที่ผมไม่คาดคิดครับ ไอ้นาวก็โผล่มาที่หน้าห้องตรวจ
“เฮ้ยมาได้ยังไง” ผมงง

**************
ตอนที่9ยาวมากครับ ขออนุญาตซอยครึ่งนึง

ปลล.ขอโทที่ไม่ค่อยมาอัพ งานยุ่งๆครับ นิยายตัวเองยังดองเลย 555+
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่7 รสรักสองหนุ่ม
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 02-02-2010 02:40:41
เรื่องนี้อ่านแล้วก็นึกสงสาร นาว นะ






 :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: YBlood ที่ 02-02-2010 02:51:30
 :jul1: :m25: :pighaun: :jul1: :haun4:

อ่านไปปาดเลือดไป nc กระฉูดดมากกกกกกกก


หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 02-02-2010 09:23:47
 :monkeysad:
สงสารน้องนาว

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 02-02-2010 11:00:02
เฮ้อ...คิมก็ดีแสนดี นาวก็เป็นน้องที่หนีไม่พ้น....

เรื่องนี้ช่างยุ่งชุุลมุนพันกันอิรุงตุงนัง......จับมา3Pเลยแล้วกัน :z3:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 02-02-2010 18:02:00
น่าสงสารนาวนะครับ แต่ถ้าคิมรู้เข้าก็คงไม่ค่อยดีแน่เลยรออ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 02-02-2010 18:13:58
 3 p

ว่าแต่ คงแข่งขันประชันกันน่าดู ฮ่าๆๆ

เอาเถอะ กรรม ใด ทำอะไรไว้ก้อได้อย่างนั้นแหละ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 02-02-2010 18:32:20
ตอนที่9 ครึ่งหลัง
.
.
.



“อ้าวก็วันนี้หมอนัดถอดผ้าพันแผลนี่ นาวก็ต้องมาดิ เนี่ยพึ่งกลับมาจากแข่งเลยนะ” นี้ขนาดไม่ได้บอกมันแล้วนะ มันยังตามมาป่วนผมอีก
“อืมดีเลย เดี๋ยวพี่พาไปเลี้ยงข้าวเที่ยงนะ ขอบใจที่นาวช่วยดูแลอามให้ไง” ผมคิดในใจว่าเทวดาน้อยของผมทำไมใจดีแบบนี้ ไม่นะ ผมเองเริ่มบ่ายเบี่ยงสุดฤทธิ์ เลยโดนนาวเล่นซะ
“อะไรเนี่ย แค่นี้พี่อามหวงพี่คิมเหรอ โธ่นาวไม่จีบพี่คิมหรอก” คิมได้ยินก็ขำก็าก แต่ผมแบบว่าแอบโกรธนาว นาวรู้ทันแอบยิ้มเยาะผมครับ
“เอาน่า อย่าเถียงกันไปกินข้าวกันเถอะ หิวแล้วคร้าบ” คิมตัดบทแล้วก็พาไปร้านประจำทันที ผมแอบรู้สึกระแวงมาก เพราะนาวชอบเล่นทีเผลอมาก ผมเดินกับคิมอยู่ข้างหน้านาวก็เอามือมาจับก้นผม จะโวยวายก็ไม่ได้

พอไปนั่งที่โต๊ะ ก็สั่งอาหารกันตามปกติ ผมก็คิดว่าน่าจะไม่มีอะไรแล้ว แต่โต๊ะในร้านที่เราไปนั่งกันมีผ้าปูโต๊ะ แล้วนาวก็นั่งตรงข้ามกับผมพอดี เรื่องมันก็เกิดตรงที่ว่า ขณะที่กินอาหารกันตามปกติ นาวก็คุยกับคิมสนุกสนานเหมือนคิมพยายามสร้างความสนิมสนมกับครอบครัวผม แต่นาวเอาเท้าที่ถอดรองเท้าแล้วยกมาเขี่ยที่เป้าผมครับ ผมจ้องตามันเขม็ง มันไม่ยอมปล่อยครับ ยิ่งเอากระตุ้นผมหนักกว่าเดิม มันเล่นเอาผมแข็งคับกางเกง แล้วบังเอิญว่าวันนั้นผมจำได้ว่าท่อนลำผมมันตั้งขึ้น นาวพอจะสัมผัสได้ก็เลยถูขึ้นถูกลงใหญ่เลย เหมือนช่วยตัวเองนอกกางเกงในครับ ทำเอาผมจะแตก พยายามส่ายหน้าหน้าว่าขอเหอะ ผมไม่ไหวแล้วเดี๋ยวน้ำแตก นาวก็ยังไม่หยุด ผมต้องปั้นสีหน้าเฉยๆไว้แต่จริงๆแล้วกำลังเสียวสุดขีด ที่สุดแล้วผมน้ำแตกคากางเกงจนแฉะไปหมด นาวมันรู้ก็เลยเอาเท้าอีกข้างที่ยังไม่เมื่อยมายันเป้าผมไว้ต่อ จนพอใจก็เอาลง ดีที่วันนั้นน้ำกามผมไม่ได้มีกลิ่นโชยมากนัก ผมต้องทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ใจจริงโกรธนาวมาก พอคิมลุกไปห้องน้ำผมรีบเปิดฉากใส่นาวทันที

“ทำไมทำแบบนี้ อยากให้พี่อายเลยใช่ไหม”
“ก็บอกแล้วไงว่ากลับมาจะโดนไม่น้อย แล้วเนี่ยไม่ได้เจอกันสองสัปดาห์ก็ต้องเอาคืนบ้างสิถ้าสัปดาห์นี้ไม่กลับบ้านนะ อืมจะโดนหนักมากกว่านี้แน่” นาวยิ้มแบบมีชัย เพราะรู้ว่าผมไม่มีอำนาจต่อรอง

จริงๆแล้วผมหาทางหลีกเหลี่ยงไม่ยอมกลับบ้าน พยายามจะไปอยู่กับคิมที่บ้าน แต่สัปดาห์นั้นคิมติดไปทำธุระต่างจังหวัดกับที่บ้าน จึงไม่มีข้ออ้างอะไรที่จะบอกกับนาว พอสุดสัปดาห์ผมเลยต้องกลับบ้านด้วยความจำใจ แม้ว่าผมจะดีใจที่ได้เจอบรรดาอาๆทั้งหลาย แต่ว่าผมไม่อยากจะเข้านอนเลย ผมเลยตัดสินใจกินยาแพ้ (คลอเฟนิรามีน) เข้าไปสองเม็ด พอจะทราบกันใช่ไหมครับว่ายานี้เนี่ย มีส่วนผสมของยานอนหลับ พอกินเข้าไปแล้วจะง่วงและหลับยาว ผมไม่อยากรับรู้ว่าผมจะต้องโดนอะไรบ้าง แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรอย่างที่ใจคิดบังเอิญว่านาวเข้ามาเห็นซะก่อน

“กินยาอะไรเนี่ย” นาวสงสัย
“ก็ยาแก้แพ้ไง” เท่านั้นแหละครับ นาวตรงเข้าปัดมือผมจนยาสองเม็ดนั้นหล่นหายไปแล้วหาไม่เจอ (เพราะยาแก้แพ้เม็ดมันจะเม็ดเล็กมาก)
“ทำบ้าอะไร” ผมหงุดหงิดมาก
“พี่อามนั่นแหละ ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย แล้วจะกินยาแก้แพ้เข้าไปทำไมต้องสองเม็ดเดี๋ยวก็หลับไม่ตื่นหรอก”
“ก็พี่อยากหลับ จะได้ไม่ต้องรับรู้ว่าคืนนี้นาวจะทำอะไรพี่บ้าง ไม่ตื่นก็ดี พี่ก็ไม่อยากอยู่แบบนี้อีกแล้ว” พูดจบผมก็น้ำตาไหล นี่ผมเป็นคนขี้แยอีกแล้วครับ คราวนี้ผมก็ได้รับรู้ว่าน้องชายของผมบางทีก็ไม่ได้เป็นเด็กน่ารักเสมอไป
“อย่ามาใช้น้ำตาทำให้นาวใจอ่อนนะ ถ้าพี่อามหลับคืนนี้ก็ไม่สนุกสิ บอกแล้วไงว่ากลับมาจะโดนไม่ใช่น้อย” เสร็จแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว นาวก็จัดการมัดมือไพร่หลังผมไปแล้ว ผมโดนนาวจัดการถอดเสื้อผ้าออก แล้วทำการบดขยี้เนื้อตัวของผมอย่างบ้าคลั่ง ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดเป็นชิ้นๆ แต่ผมได้แต่นิ่งเฉย เหมือนคนไร้ความรู้สึก ในใจผมคิดถึงคิมตลอดเวลา ผมปล่อยให้นาวจัดการตามสบาย แต่เมื่อผมเงียบนาวคงจะรู้ได้ถึงความผิดปกติ เลยเงยหน้าขึ้นมามองผม ผมรู้สึกได้ว่าน้องกำลังรู้สึกผิด จากนั้นเลยมาแก้มัดผม

“ขอโทษนะครับ นาวไม่ได้ตั้งใจ งั้นคืนนี้นาวขอกอดพี่อามก็แล้วกันนะ” แล้วนาวก็เอาตัวผมขึ้นเตียง เดินไปปิดไฟห้องนอน แล้วก็มานอนกอดผม คืนนั้นผมรู้ว่าตัวเองเงียบมากจนน่ากลัว ส่วนนาวผมรู้สึกได้ว่านาวร้องไห้ เพราะหน้าอกผมเปียกไปหมดเลย แล้วก็นาวก็จูบผมแทบทั้งคืน พอตื่นเช้าขึ้นมา ผมก็เห็นนาวยกอาหารเช้าเข้ามาให้
“ยกมาทำไม เดี๋ยวลงไปกินก็ได้”
“ช่วงที่พี่อามมือเจ็บ นาวเป็นคนผิดแต่ไม่ได้ดูแลพี่อามเลย ให้นาวได้ดูแลพี่อามบ้างเถอะนะ ผมอยากทำแบบพี่คิมบ้าง” แล้วผมมันก็แย่ แค่เห็นนาวทำหน้าสำนึกผิดหน่อยเดี่ยวก็ใจอ่อนยอมน้องอีกแล้ว นาวก็ป้อนข้าวป้อนน้ำผมอย่างดี แล้วก็เปิดเพลงเพราะๆให้ฟัง เข้ามาโอบกอดแล้วก็คอยจูบผม พอนาวทำแบบนี้ทำให้ผมคิดถึงตอนที่นาวเด็กๆที่เวลาจะนอนผมต้องกล่อม แล้วก็ต้องอยู่ในอ้อมกอดผมก่อนจึงจะหลับได้

“ทำไมทำเหมือนพี่เป็นเด็กเลย”
“ก็มันเป็นอีกวิธีที่จะแสดงความรักไง นาวเห็นพี่อามซึมแบบนี้นาวก็ปล้ำไม่ลงหรอก” พูดจบก็กอดผมแน่นกว่าเดิม ผมรู้สึกสงสารน้องเลยเอามือไปลูบศีรษะเบาๆ นาวก็มีปฏิกิริยาคือส่ายศีรษะไปมาเล่นกับมือผม ผมรู้สึกตลกเลยหัวเราะออกมา ทันทีที่เห็นผมยิ้มได้ นาวก็ดูจะยิ้มกว้างกว่าผมอีก
“พี่อามยิ้มได้แล้วดีจัง” ผมรู้สึกว่าน้องน่าสงสาร เรื่องที่นาวทำลงไปก็คงจะเป็นการเรียกร้องความสนใจจากผม ให้รู้ว่าเขายังมีตัวตนในหัวใจของผม ผมก็เลยคว้านาวเข้ามาจูบเหมือนเป็นการให้รางวัล นาวก็ตอบสนอง มันเป็นจูบที่ดีและนุ่มนวลที่สุดครั้งหนึ่งของผม

เราจูบกันอยู่นาน จนผมรู้สึกว่าน่าจะดีแล้ว ก็ปล่อยปากออก แต่ภาพที่ผมเห็นคือนาวยังดูเคลิบเคลิ้มไม่หาย จนผมต้องเขย่านาวให้รู้สึกตัว นาวดูจะมีความสุขมาก เข้ามาอ้อนผมใหญ่เลย
“ขอแบบนี้บ่อยๆนะครับ ที่รักของผม” พูดจบก็ทิ้งตัวลงมานอนหนุนตักผม ผมก็เลยเอามือไปลูบศีรษะเบาๆ พอผมจะลุกขึ้นไปอาบน้ำนาวก็ขอตามเข้ามาอาบด้วย ไล่ยังไงก็ไม่ไป ดีที่ว่าตอนนี้ผมกับนาวอยู่ในบ้านอีกหลังที่พ่อแม่ของไอ้นาวสร้างขึ้นมาในบริเวณพื้นที่เดียวกันของครอบครัว ห้องใหม่ของนาวมีห้องน้ำในตัวด้วย ไม่ต้องลงไปใช้ห้องน้ำด้านล่างเหมือนช่วงก่อน ไม่งั้นถ้ามีใครมาเห็นเข้าคงวุ่นวายน่าดู

ถึงแม้ว่าผมเองจะเคยเปลือยต่อหน้าน้องมาก็หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ชินสักที นาวก็เลยเป็นคนจัดการถอดเสื้อผ้าของเราออก ตอนแรกผมจะอาบแบบไม่สนใจนาว แต่ว่าก็ไม่รอดอยู่ดี นาวเข้ามาจัดการอาบน้ำสระผมเหมือนผมเป็นเด็กเลย โดยให้เหตุผลเดิมคืออยากทำแบบพี่คิมบ้าง ผมเองไม่อยากตกลงเพราะรู้ว่าถ้านาวโดนตัวผมต้องเกิดอารมณ์แน่นอน แล้วก็เป็นจริงตามคาด ท่อนลำของผมก็ผงาดขึ้นมา นาวจะเข้ามาจัดการผม ผมเลยขอร้องให้ใช้แค่มือ นาวตกลงแต่ขอเอาท่อนลำของตัวเองไถร่องก้นผมไปด้วย บรรยากาศในตอนนั้นมันดูเร้าใจมาก มีน้ำไหลออกมาจากฝักบัว ผู้ชายสองคนต่างกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกลางสายน้ำอย่างหื่นกระหาย ปากจูบกันอย่างเมามัน มือสองข้างของผมโอบไปที่ต้นคอนาว มือหนึ่งของนาวลูบไล้เนื้อตัวผม มือหนึ่งรูดท่อนลำไปมา พร้อมกับเอาท่อนลำของตัวเองไถร่องก้นผมไป ด้วยความที่ของนาวใหญ่ ไม่ต้องเสียบเข้าไปแค่นี้ก็แน่นจนก้นผมขมิบไปหมด ที่สุดแล้วเราสองคนก็ทะลักทลายไปพร้อมๆกัน พอเสร็จกิจเราสองคนก็หันหน้ามาจูบกันอย่างเร่าร้อน มือของนาวบีบเค้นเนื้อตัวผมอย่างหนักหน่วง นาวเพ้อหาแต่พี่อามตลอดเวลา นาวบอกด้วยความดีใจกับผมว่า
“ในที่สุดพี่อามก็ยินยอมกับนาวแล้ว” พอผมฟังก็เริ่มให้คิดว่านี่เรากำลังทำอะไรลงไป แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปดี พอเช็ดตัวแล้วผมก็ไปนั่งบนเตียงเพื่อเช็ดผม นาวก็เข้ามากอดที่ขาผม เหมือนแมวที่มาคลอเคลียที่ขาเจ้าของ ผมเห็นอาการแบบนี้เลยไม่แน่ใจว่าคิดผิดหรือถูกที่ยอมให้น้องมีความสุขได้ขนาดนั้น พอสักช่วงบ่ายๆผมไม่อยากอยู่บ้านเพราะเดี๋ยวจะมีอีกหลายยก วันนั้นผมก็เลยคิดว่าอยากให้นาวออกมาจากมุมมืด ก็เลยพาไปดูหนังกัน ตอนที่ดูหนังนาวก็นอนซบผมตลอดเวลา มือก็ไม่ยอมปล่อยผมเลย แล้วก็พาไปเลี้ยงไอติมสเวนเซ่นส์ ด้วยความที่ไปกินกันสองคนก็เลยสั่ง Earth Quake มาทานด้วยกัน นาวพยายามป้อนผมบ่อยมากแต่ผมไม่เอาลูกเดียวแต่แค่นี้นาวก็ดูจะมีความสุขมาก ปิดท้ายด้วยการไปนั่งเล่นกันที่สวนสาธารณะที่อยู่ริมน้ำ ก่อนที่ผมจะพูดอะไรบางอย่าง

“นาวเรามาตกลงอะไรกันดีมั้ย”
“อืม ครับพี่อาม” นาวดูกังวลใจ ผมเลยจับมือนาวแล้วมาวางบนตักผม
“เราสัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทำอะไรที่ทำให้พี่ต้องลำบากใจ ถ้านาวต้องการอะไรนาวบอกพี่ถ้าพี่ให้ได้พี่จะให้ แต่พี่บอกตามตรงเลยนะพี่เลิกกับคิมไม่ได้หรอก พี่ก็ไม่อยากให้เขาเสียใจเหมือนกัน แต่พี่ก็ใจร้ายกับน้องตัวเองไม่ได้ด้วย นาวจะตกลงตามนี้ได้ไหม”
“แค่พี่อามไม่บอกว่าจะทิ้งนาวไปอยู่กับพี่คิม นาวก็ดีใจมากแล้ว ที่พี่อามบอกเป็นโบนัสอีกต่างหาก” นาวน้ำตารื้นขึ้นมา ผมเลยคว้านาวมากอดแล้วก็ร้องไห้เหมือนกัน แล้วบอกว่า
“ขอบใจนะนาว พี่รักนาวนะ”
“ผมก็รักพี่อามครับ” โชคดีที่ว่าตอนนั้นค่ำแล้วเลยไม่มีใครสังเกตเห็น เรื่องที่เราคุยกันวันนี้เหมือนว่าจะจบ แต่ชีวิตจริงไม่ได้ง่ายอย่างในนิยาย ผมยังต้องเจอกับอะไรอีกมากที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ในอนาคต

พอกลับบ้านในคืนนั้น นาวดูจะมีความสุขมากมาย แล้วก็กอดผมไว้ในอ้อมแขน ในขณะที่ผมกำลังคิดถึงคิม
“นาวพี่จะติดคุกหรือเปล่า”
“อ้าว ทำไมอ่ะ” นาวสงสัย
“ก็นาวอายุไม่ถึง 18 เลย แล้วแบบนี้พี่จะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์รึเปล่า” ผมตอบแบบยิ้มๆ
“ไม่หรอก ถ้าจะติดต้องเป็นนาว เพราะนาวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน นาวไม่ยอมให้คนรักของนาวไปจากนาวง่ายๆหรอก”
“แต่วันนึงนาวก็คงจะเบื่อพี่แล้วล่ะ เพราะพอนาวโตเป็นผู้ใหญ่ เข้ามหาวิทยาลัยไป ก็ได้เจอกับคนใหม่ๆ วันนั้นนาวอาจจะเจอคนที่ใช่แล้วก็ได้นะ” ผมพยายามพูดตามความจริง
“นาวจะไม่เถียงพี่อามแล้ว ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วกัน” เสร็จแล้วก็คว้าผมมาจูบ แล้วก็เอาตัวเองมาซุกไซร้ผม
“ไม่เบื่อบ้างเหรอทำกับพี่แบบนี้ตลอด”
“ไม่หรอกนาวมีความสุข อยากอยู่กับพี่อามแบบนี้ตลอดเวลา ไม่อยากให้พี่อามไปเป็นของใคร” พอนาวพูดประโยคสุดท้าย นาวดูน้ำเสียงแผ่วเบา คงน้อยใจตัวเอง
“ตอนนี้พี่ก็เป็นของนาวแล้วไง” ผมพยายามปลอบนาว นาวก็เลยเอามือมาจับแก้มผมแล้วก็ลูบไปมาอย่างแผ่วเบาเหมือนไม่อยากให้ผมหนีไปไหน จากนั้นนาวก็เริ่มเกมรักกับผมด้วยความที่ผมยินยอม นาวตักตวงความสุขอย่างไม่รู้จบตลอดค่ำคืน ผมไม่เคยเห็นนาวมีอาการแบบนี้มาก่อน ผมมีความรู้สึกว่าเหมือนน้องตัวเองกำลังขึ้นสวรรค์ ผมตกเป็นของนาวอย่างสมบูรณ์ แต่ว่าผมเองนั้นกำลังรู้สึกเหมือนกำลังจะตกนรก เพราะนอกใจคิม

********************

ยังคงวุ่นวายเหมือนเดิมเนอะ ใบ้นิดนึง ตอนหน้านี่ งานงอกของจริง อย่าลืมติดตามชม หึหึ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 02-02-2010 20:18:38
 :เฮ้อ:

สามคนน่าจะรีบเคลียร์กันให้เข้าใจนะ

โดยเฉพาะน้องอาม น่าจะพูดความจริงให้คิมฟัง

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 02-02-2010 22:27:15
มันจะถล่ำลึกลงไปมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว

ยิ่งมาสปอยตอนหน้าแบบนี้ ไม่ตามไม่ได้แล้ว  :z2:

+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 03-02-2010 00:43:17
 :เฮ้อ:

สงสารทุกคนเลย ทั้ง อาม คิม นาว

 :pig4:

รอติดตามๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 03-02-2010 01:00:25
 o16
ใจเราร่มเย็นเป็นพอ

3P ไปเลย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 03-02-2010 02:15:33
สงสารทั้งนาว ทั้งคิม...ทั้งอาม..เอ้อ...จะงานงอกอะไรอีกเนี่ย... :z3: :z3:

ปล...ชอบรีบน..ฮาอ่ะ :m20: (แอบเห็นด้วย คิกคิก)
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 03-02-2010 02:35:01
+1      :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 03-02-2010 15:03:22
เริ่มถลำลึกลงไปเรื่อยๆ

ยังไงอามกับนามก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะถึงเค้าจะยอมรับความรักแบบ ชาย-ชาย ได้

แต่ยังไง 2 คนนี้ก็เป็นพี่น้องกันนะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่9 เกมรัก เกมร้าย ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 03-02-2010 15:12:16
บทที่ 10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร

เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา นาวยังคงนอนหลับปุ๋ยโดยที่ยังกอดผมไว้ในอ้อมแขน ผมค่อยๆเอาตัวออกจากนาว แล้วอาบน้ำชำระล้างตัวเอง เผื่อความผิดบาปของผมจะได้ถูกน้ำชำระล้างให้สะอาดได้บ้าง ผมรู้สึกว่าตัวเองขัดสีฉวีวรรณตัวเองมากกว่าปกติ แต่พออาบไปก็ทำให้คิดถึงสัมผัสของสองหนุ่มที่เข้ามาแทรกแซงในความคิดพร้อมๆกัน ยิ่งอาบน้ำแทนที่จะสดชื่นกลับสับสนมากกว่าเดิม ผมออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งลงที่เตียงพร้อมจิตใจล่องลอยแล้วนาวก็โผล่มาก่อนเอวผมจากด้านหลัง

“พี่อามทำไมตื่นเร็วจัง ไปอาบน้ำก็ไม่ชวนนาว” พูดจบก็มาจูบที่หลังผมไปอีกหลายฟอด แต่ผมดูจะนั่งเงียบจนนาวต้องถามว่า
“พี่อามเป็นอะไรอ่ะ ทำไมดูหน้าเศร้าๆ”
“พี่กำลังรู้สึกผิดกับคิมน่ะ” ผมหันมายิ้มกับน้องแบบฝืน รู้สึกว่าน้ำตามันขึ้นมาปริ่มเหมือนจะร้องไห้ นาวเห็นก็เลยคว้าผมมากอดปลอบ แล้วก็หอมแก้มผมเบาๆ
“ไม่ต้องคิดมากหรอก พี่อามก็มีนาวเป็นน้องแล้วมีพี่คิมเป็นแฟนไง พี่อามไม่เห็นต้องรู้สึกผิดเลยจริงไหม” โธ่น้องรักถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ ถ้าเราเป็นพี่น้องกันจริงๆอ่ะ แต่ผมไม่รู้จะพูดยังไงต่อดี เลยได้แต่อยู่นิ่งๆให้นาวกอดอยู่อย่างงั้น
ช่วงเย็นก่อนที่ผมจะกลับหอ ผมก็ยังไม่ค่อยรู้สึกสบายใจที่จะกลับไปเจอหน้าคิม แถมก่อนที่นาวจะกลับยังจูบมัดจำผมไว้อีกตั้งนาน เลยไม่รู้จะทำหน้ายังไง นาวบอกว่าทำหน้าก่อนหน้านี้แบบไหนก็ทำไปแบบนั้นแหละ
“นาวก็พูดได้สิ นาวไม่ได้เป็นพี่ซะหน่อย”
“แล้วพี่อามรู้รึเปล่า ว่านาวต้องอดทนขนาดไหนที่ต้องคิดถึงพี่อามตลอดเวลา นาวก็ต้องเฝ้ารอคนที่รักกลับมาหา มันก็ทรมานไม่น้อยเหมือนกันนะ” โอ้โห เป็นคำพูดที่ผมยังจดจำได้มาถึงทุกวันนี้ เพราะไม่คิดว่านาวจะพูดได้ขนาดนี้ ยังกับในหนังรักเลยอ่ะ นี่นาวพูดมาจากใจหรือจำเขามารึเปล่า แต่แค่นี้ผมก็พูดอะไรไม่ออกแล้วครับ นาวเอาสองมือมาจับแก้มผม

“ผมรักพี่อาม พี่อามอย่าคิดมากเลย แค่พี่อามบอกว่ารักนาว ไม่ทิ้งนาวไปไหนนาวก็พอใจแล้ว แม้ว่าพี่อามจะไม่ได้เป็นของนาวคนเดียวก็ตาม” แล้วนาวก็มาจูบผมอีกที ผมก็ได้แต่พูดอะไรไม่ออก นี่ผมเป็นนายอิจฉาไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย
พอกลับไปถึงห้อง คิมคว้าผมมาจูบก่อนเลย เล่นเอาผมตั้งตัวไม่ทัน แทบล้มไปกองกับพื้น
“คิดถึงอามจังเลย” คิมพูดจบก็ยิ้มกว้างเชียว ตอนแรกผมก็คิดว่าไม่มีใครอยู่ห้อง ปรากฏว่าไอ้วิน กับไอ้บีมมันอยู่ในห้องครับ ผมตกใจเกือบตาย เพราะอย่างมากแค่กอดก็ถูกไอ้สองตัวนี่มันล้อจะแย่อยู่แล้ว เลยตีคิมที่แขนเบาๆแล้วบอกว่า
“คิมทำไมทำแบบเนี่ย แค่กอดพวกนี้มันก็ล้อจนแย่แล้ว” ผมแอบงอน
“โธ่อามเราก็แค่จูบกัน ไม่ได้เย่อกันให้ใครเห็นเหมือนไอ้สองตัวนี่นิ”
“หาคิมหมายความว่ายังไง ไอ้สองตัวนี้มันไปเย่อกับใครมา อย่าบอกนะว่า....” เฮ้ยผมไม่เชื่อ ไอ้สองคนนี้มันจะ.....
ตอนนั้นหน้าไอ้สองคนนั้นแบบว่า หน้าแดงก่ำด้วยความอายครับ ผมก็เลยพอจะมองออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“พวกมึงเป็นคู่เกย์กันตั้งแต่เมื่อไหร่วะ กูงง แล้วทำไมพวกมึงถึงแบบว่าเย่อกันจนคิมมาเห็นได้ล่ะ” ผมซักใหญ่เลยครับ
“เออ แบบว่ามันเริ่มต้นจากที่ว่าพวกกูสองคนเมาแล้วมีอะไรกันโดยไม่ตั้งใจตั้งแต่เมื่อเดือนก่อน พวกเราสองคนก็พยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ตั้งใจน่ะ แต่พออยู่ด้วยกันสองคนทีไรมันก็ห้ามใจไม่ได้ทุกที ที่ไอ้คิมมาเห็นกูพลาดเองแหละที่ไม่ได้ล็อกห้องให้ดี เลยพลาดเลยนี่พึ่งออกจากเตียงก่อนมึงมาแป็บเดียวเอง” วินเป็นคนเล่าครับ บีมนั่งเงียบเลยดูแบบว่าอายมาก

“เฮ้ยไม่ต้องซีเรียสหรอก กูไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย แล้วทำไมต้องมานั่งกันอยู่ตรงนี้ด้วยล่ะ” ผมรู้สึกเห็นใจพวกมันมากกว่าครับ
“ก็พอไอ้คิมมาเห็นกูก็หมดอารมณ์แล้ว แล้วไม่รู้จะพูดต่อว่ายังไงดีอ่ะ เลยออกมานั่งตรงนี้กันซักพัก รอให้มึงกลับมาด้วยจะได้บอก” วินดูหน้าซีดมากครับ เหมือนกลัวผมจะล้อมันยังไงไม่รู้
“แล้วพวกมึงสองคนเป็นอะไร ทำไมดูกลัวๆขนาดนั้น” ทีนี้บีมพูดบ้าง
“บอกตามตรงเลยนะ คือเราสองคนกำลังสับสน คือปกติพวกเราชอบผู้หญิงกันอยู่นะ แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ด้วยกันทีไรมันเหมือนห้ามใจไม่ได้กันสักที”

“เอางี้ดีกว่า พวกมึงก็ลองถามกันดูให้ดีๆ ว่ารู้สึกยังไงกัน แล้วทำตามที่หัวใจปรารถนาเถอะ” จากเหตุการณ์ในคืนนั้น พวกมันสองคนก็ดูจะผ่อนคลายและยอมรับในตัวเองกันได้มากขึ้น แม้ว่าพวกมันสองคนจะเริ่มจากความไม่ตั้งใจ ไม่ได้ดูหวานซึ้ง แต่ก็รักกันมาก สิ่งที่ผมอิจฉาก็คือ อย่างน้อยมันก็มีสองคน ไม่เหมือนผมที่ต้องไม่รู้จะทำอย่างไร ความสัมพันธ์แบบสามคนของผมดำเนินไปเรื่อยๆในระยะเวลาหนึ่ง พอถึงช่วงเรียนจบ ทำให้ผมทนต่อไปไม่ไหว ผมคงต้องเลือกใครสักคนเพื่อยุติความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้ หรือจบไปกับคนทั้งคู่เลย ผมรู้สึกอัดอั้นตันใจมากมาย

จนในที่สุด ผมเลยทำการร่างจดหมายเพื่อสารภาพความผิดทั้งหมด เพื่อเตรียมจะขอเลิกกับคิม เพราะผมไม่อยากให้คนดีๆอย่างเขา มารักคนแบบผมอีกต่อไป ให้เขาไปเจอใครที่ดีกว่า แม้ว่าผมจะเห็นเขาเจ็บปวดในตอนนี้ แต่ถ้าปล่อยไว้ไปอีกนาน คิมที่รักของผมคงเจ็บกว่านี้อีกมากมายหลายร้อยเท่า ส่วนนาวนั้นผมเชื่อว่าอีกไม่นานถ้าได้เข้ามหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ ผมคงยุติความสัมพันธ์ที่สับสนนี้ลงได้ซะที ผมกะว่าจะให้จดหมายกับคิมในวันที่ผมขนของกลับบ้านที่ใต้ คิมจะได้ตามตัวไม่เจอ เพราะคิมไม่เคยไปที่บ้านใหม่ของผมที่ภาคใต้ อย่างมากคงทำได้แค่โทรมาหาผม เมื่อใกล้สอบเสร็จผมแอบร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก เพราะรู้ว่าจะต้องจากคิมแล้ว ทั้งที่ไม่อยากทำ ผมคิดไว้ว่าจะยื่นจดหมายให้คิมวันที่กลับบ้านที่ใต้ แล้วจะกำชับว่าให้เปิดอ่านอีกสามวันหลังจากที่ผมให้เพราะคิมจะได้ตามผมไม่เจอ แต่ว่าจดหมายสารภาพบาปของผมก็ไม่ได้ให้ตามที่มุ่งหวัง เพราะว่าคิมมาพบมันเข้าซะก่อน วันนั้นไอ้สองคนนั้นมันก็ไม่อยู่ ไม่มีใครช่วยผมได้ทั้งนั้น ผมกำลังจะถูกพิพากษาแล้ว

เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นวันที่ผมและคิมสอบเสร็จพร้อมกันพอดี ส่วนไอ้สองตัวนั้นนะเหรอ พอสอบเสร็จก็ไปลันลากันแล้ว ผมก็เริ่มเก็บข้าวของครับ แล้วก็พบว่าจดหมายสารภาพบาปของผมหายไป ผมกังวลมากไม่รู้มันหายไปไหน ตอนนั้นผมหงุดหงิดมากแทบคลั่งแล้วครับ แล้วอยู่ๆคิมก็เข้ามาในห้องพอดี พร้อมกับบางสิ่งในมือ

“ หาไอ้นี้อยู่ใช่ไหม” คิมชูจดหมายสารภาพบาปของผมขึ้นมา ผมตกใจจนล้มลงไปกองกับพื้น ตอนนั้นผมหมดแรงไปเลย แต่ที่ผมตกใจมากไปกว่านั้นคือ คิมเข้ามาลากตัวผมไปนั่งที่โซฟาในห้องโถง แล้วก็รีบไปหาผ้าพันคอที่มีอยู่มามัดมือมัดเท้าผมไว้ อืมผมคิดในตอนนั้นว่าถ้าคิมจะฆ่าผมตายผมก็จะไม่โกรธเลยถ้ามันจะชดเชยความผิดได้ คิมเอามือมาจับที่แก้มผมอย่างเบามือ แต่สีหน้าคิมเฉยชาปราศจากความรู้สึกใดๆ สายตาคิมของคิมหม่นเศร้า ผมมองแล้วรู้สึกกลัวจับจิตจับใจ

“ทำไมล่ะอาม ทำไมล่ะที่ไม่เป็นคิม คิมไม่ดีตรงไหนถึงอยู่กับอามไม่ได้”
“คิมเป็นคนดี เราต่างหากที่เป็นคนไม่ดีจนต้องเดินออกมาจากคิม เราไม่สามารถทรยศคิมได้อีก เราอยากให้คิมไปหาคนที่รักและซื่อสัตย์กับคิม อย่าอยู่กับคนแบบเราเลย” แต่ดูเหมือนว่าคิมจะไม่ได้ใส่ใจคำที่ผมพูดเลย คิมดูเหมือนคนเลื่อนลอยและไม่มีสติ แล้วคิมก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด เขาใช้เรี่ยวแรงจากไหนก็ไม่รู้มาฉีกทึ้งเสื้อผ้าผมจนขาดหมด ผมถูกมัดในสภาพเปลือยเปล่า แล้วคิมก็เข้ามาโอบผมจากทางด้านหลัง แล้วลูบตามเนื้อตัวผมพร้อมกับเพ้อแต่คำว่า
“อามเป็นของคิม คิมรักอาม ไม่ยอมให้อามไปเป็นของใครทั้งนั้น” พูดจบก็เอามือมาจับท่อนลำผมรูดขึ้นลงไปมา
“คิมอย่าทำแบบนี้ ขอร้องล่ะ” ผมมีไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมีอะไรกับคิมได้จริงๆ
“เราลีลาไม่ดีพอใช่ไหม เราจะปรนเปรอให้ดีกว่าเดิมนะ รับรองเลยมันต้องเยี่ยมกว่าไอ้เด็กบ้านั่นแน่ๆ”
“ไม่นะไม่เกี่ยวกัน เรารักคิม แต่เราอยู่กับคิมแบบนี้ต่อไปไม่ได้” แต่คิมเอามือมาปิดปากผม แล้วกระซิบข้างหูว่า
“อย่ามาพูด ชอบใช่ไหมล่ะ เนื้อเด็กๆเคี้ยวแล้วมันกรุบๆดีใช่ไหมล่ะ ถึงได้ไม่ยอมเลิกยุ่งกับมันซะที คิมก็รอว่าเรียนจบแล้วอามจะมาเป็นของคิมคนเดียว แต่อามกลับไปหามัน” พอคิมพูดจบ ผมค่อยๆคิดตาม เฮ้ยแสดงว่าคิมรู้เรื่องมาก่อนแล้ว ทำไมผมไม่ระแคะระคายเลย
“ทำไมคิมรู้” ผมรู้สึกตระหนกมาก
“วันที่อามมือเจ็บอยู่ในโรงพยาบาล คิมเห็นมันจูบอาม ไอ้บ้านาวมันจูบแฟนเรา คิมแทบเป็นบ้าเลยรู้ไหม” ฉิบหายทำไมผมไม่เคยเอะใจมาก่อนเลย ที่ผ่านมาคิมรู้มาตั้งนานแล้วเหรอเนี่ย เชี่ยเอ้ย งานเข้าเลยกู

**********************

งานงอกกกกแล้วพี่อาม ความแตกมาตั้งนานแล้ว!!!
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 03-02-2010 15:31:20
อ่านบทนี้แล้วคิดว่าดีแล้วล่ะที่รีบๆมาเคลียร์กัน

แต่อารมณ์คิมก็ไม่ปกติเอาซะเลย

 :เฮ้อ:

แต่สองคนดูจะรักอามมากเลยนะ

ถึงกับยอมที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าแฟนตัวเองมีอะไรกับคนอื่น

คิมเองก็คงหวังให้อามเป็นคนบอกตัวเองเหมือนกัน

 o22 งานเข้าของแท้แล้วทีนี้ รอตอนต่อไปดีกว่า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 03-02-2010 15:40:59
รัก 3 เศร้า เรา 3 คน

..ความแตกนานแล้ว  อย่างอื่นก็แตกมานานแล้วเหมือนกัน  (บ่อยด้วย) หุหุ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 03-02-2010 16:33:33
 o22 :a5: คิมรู้...

ก็บอกแล้ว มา3P ตั้งแต่แรกก็จบ... :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 03-02-2010 18:41:26
สงสารคิมอ่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 03-02-2010 19:18:08
ความรักมันไม่เข้าใครออกใคร

 :sad11:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: nbee ที่ 03-02-2010 20:44:24
 :a5:คิมรู้เรื่องแล้ว

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปล่ะเนี่ย

ไงก็ขอให้เรื่งอมันไม่เลวร้ายมากนักก็แล้วกัน


+1ให้กำลังใจทั้งคนโพส แล้วก็อามด้วยนะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-02-2010 21:06:11
งานนี้คนที่น่าสงสารคือ คิม เพราะเก็บความรู้สึกที่ฝืนทนมาตลอด :เฮ้อ:

มารอดูว่า ตกลง ว่าอามจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นยังไง เพราะดูแล้วไม่มีใครยอมใครเลย

เป็นกำลังใจให้ครับ แต่เวลานี้ยัง + ให้ไม่ได้ ติดไว้ก่อนอีกไม่กี่ชม. ก็กดได้แล้ว
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 03-02-2010 22:15:16
อย่างงี้ต้องพบกันครึ่งทาง
.
.
.
.
แต่เตียงเดียว :haun4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 04-02-2010 11:18:00
คงมีทางใดทางหนึ่งหรือสองทางจบแบบดีๆนะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: Gu_Ton_Za ที่ 04-02-2010 11:18:32
หนุกมากมายเลยก้าบ

มาให้กำลังใจก้าบผม อิอิ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 04-02-2010 12:19:23
 :a5:

สงสารทั้งสามคนเลย

รอติดตามๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 04-02-2010 12:38:01
แย่จังแล้วอามจะแก้ปัญหาได้หรือเปล่าน้า เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่10 รักแฟนเสียดายน้อง แล้วผมจะเลือกใคร
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 04-02-2010 16:23:54
บทที่ 11 โทษทัณฑ์ (ครึ่งแรก)

โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบเขียน Diary เพื่อบันทึกเรื่องราวต่างๆเก็บไว้ เพราะผมมีความรู้สึกว่าถ้าเก็บอะไรไว้ในหัวอย่างเดียวผมคงต้องประสาทตายก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีเราสามคน ผมเขียนแล้วก็จะเก็บซ่อนอย่างมิดชิด แต่คิมก็หามันเจอจนได้

“พอมาอ่าน Diary อามเราก็เลยยิ่งรู้ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร ผมตกใจมากเพราะปกติแล้วเราสองคนไม่เคยก้าวก่ายข้าวของส่วนตัวของกันและกันแบบนี้มาก่อนเลย
“ทำไมคิมทำแบบเนี่ย” ผมรู้สึกเหมือนจะร้องไห้
“ไม่ทำแล้วจะรู้เหรอว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น” คิมตวาดใส่ผม เป็นครั้งแรกที่คิมทำแบบนี้
“แต่คิมยังดีใจนะที่อามยังรักคิมอยู่ เราเลยเฝ้ารอไงว่าเมื่อไหร่อามจะเป็นของคิมคนเดียว อามเข้าใจมั้ยว่าคิมจะไม่เลิกกับอาม” คิมพูดจบก็เอามือมาบีบที่หน้าอกผมอย่างรุนแรง มันเจ็บไปหมด
“ไม่ได้ เราไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปแล้ว” ผมตวาดสุดเสียง แล้วคิมทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด คือเอาฟันของตัวเองมากัดที่ต้นคอผม ผมเจ็บจนสะดุ้ง ผมรู้สึกได้ว่าเลือดผมไหล แล้วคิมก็ใช้ปากดูดตามตัวผมจนเป็นรอยไปทั่วตัว
“คิมทำสัญลักษณ์ของเราไว้ทั่วตัวอาม อามไม่มีทางกลับไปหานาวในสภาพนี้ได้หรอก” ตอนนี้เหมือนคิมจะกลายเป็นแวมไพร์ไปแล้ว
“ปล่อยเราไปเถอะ” ผมร้องไห้ด้วยความกลัว
“ฝันไปเถอะ นี่อามชอบกินเด็กตั้งแต่เมื่อไหร่ มันปรนเปรอให้อามถึงใจกว่าคิมใช่มั้ย” คราวนี้คิมเริ่มโกรธขึ้นมามากจริงๆ
“เราทำคิมเจ็บไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วต่างหาก”
“การที่อามทิ้งคิมไปต่างหากที่ทำให้เราเจ็บ ถ้าอามทิ้งคิมเราขอตายดีกว่า” แล้วคิมก็เดินไปหยิบมีดปอกผลไม้มา คิมมายืนตรงหน้าผม แล้วเตรียมจะเชือดคอตัวเอง ผมตกใจกับคิมอีกครั้ง

“อย่าคิม คิมเป็นคนที่ดี อย่าทำร้ายตัวเองเพราะคนแบบเรา” ผมสงสารคิมมาก
“อามทิ้งคิม แล้วจะมาสนใจอะไร ถ้าเราตายอามก็จะได้ไปอยู่กับนาวแล้วไง” คิมยิ้มสั่งลา แล้วกำลังจะเชือดคอตัวเอง
“อย่าทำแบบนี้เลย คิมอยากได้อะไรเราจะยอมทั้งนั้น” ผมกลัวคิมตายครับ เลยจำยอมอย่างไม่มีทางเลือก
“อามพูดจริงนะ” คิมเริ่มยิ้มออก ผมพยักหน้าทั้งน้ำตา
“ห้ามเลิกกันเด็ดขาด ไปอยู่กับเราเดี๋ยวนี้เลย”
จากนั้นคิมก็เดินเข้าไปหาเบตาดีนมาทำแผลที่ต้นคอผม แต่ก็ยังไม่แก้มัดและปล่อยให้ผมเปลือยเปล่าอยู่อย่างนั้น ผมสังเกตว่าคิมจัดการเก็บข้าวของตัวเองและผมอย่างรวดเร็วที่สุด แล้วคิมพยุงผมให้ดื่มน้ำไปแก้วหนึ่ง ผมคิดว่าน่าจะใส่ยานอนหลับ เพราะหลังจากที่ดื่มเข้าไปก็หลับไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย
จนกระทั่งตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองไม่อยู่ในหอพักแล้ว รู้แต่ว่าอยู่ในที่ที่ดูหรูหรา มองมาที่ตัวเองก็พบว่าอยู่ในชุดนอนสีขาวสะอาดตา (ปกติแล้วผมไม่ใส่เสื้อสีขาวนอนนะครับ) พอจะลุกขึ้นก็เลยรู้สึกว่ามือสองข้างของตัวเองผูกอยู่กับที่เสาเตียง แล้วคิมก็เดินเข้ามาพร้อมถาดอาหารเช้า
“ตื่นแล้วหรือครับ ทาสที่รักของผม” เอ่อผมคิดในใจว่า ทาสที่รักเหรอ
“ที่นี่ที่ไหน” ผมงงไปหมดแล้ว
“คอนโดคิมเองแหละ ที่บ้านเราซื้อไว้ พอเราอายุ 20 ก็ไปโอนชื่อให้เป็นของขวัญวันเกิด จริงๆเรากะจะให้เป็นเรือนหอเรานี่แหละ ชอบมั้ยที่รัก อามต้องอยู่กับคิมที่นี่แหละ แล้วอย่าได้คิดหนีเชียว เพราะจะเข้าจะออกต้องมี Key card แล้วก็มีที่คิมคนเดียว อามอย่าหวังเลย ผมกลับมาคิดตอนนี้ว่าเฮ้ยกูเป็นโสรยาในเรื่องจำเลยรักไปแล้วเหรอว่ะ เขาไปถูกขังในเกาะ กูถูกขังในคอนโด

“คิมปล่อยเราไปเถอะ คิมทำแบบนี้แล้วพ่อแม่เราจะว่ายังไง เขาคงเป็นห่วงเราแย่แล้ว”
“ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆ ! ปล่อยอามไปก็ไปหาน้องนาวน่ะสิ”
“ไม่หรอกคิม เราว่าคิดไว้แล้วว่าจะกลับบ้าน แล้วจะไม่มาเจอนาวอีก”
“เป็นไปไม่ได้หรอก ยังไงนาวก็ต้องตามหาอามอยู่ดี อยู่กับคิมดีที่สุดแล้ว”
“ไม่นะ เราไม่ใช่นักโทษอามนะ”
“เป็นสิ ข้อหาทรยศนอกใจไง แต่อามไม่ทรมานหรอก จะมีแต่ความหฤหรรษ์จนทนไม่ไหวซะมากกว่า เราจะปรนเปรออามให้คิดถึงใครไม่ได้อีกเลย” คิมคว้าผมมาจูบ ผมหันหน้าหนี แต่โดนคิมบีบปากไว้ให้จูบต่อ
“กินข้าวซะเดี๋ยวเราป้อนนะ เมื่อเย็นวานก็ไม่ได้กินอะไรเลย”
“ปล่อยเราไปเถอะ” ผมเริ่มร้องไห้ แต่ว่า...
“อ้าปากนะครับ เดี๋ยวเราป้อนเอง” ผมรู้ว่าไม่มีทางเลือกเลยต้องอ้าปากให้คิมป้อนข้าวทั้งน้ำตา

พอกินข้าวเสร็จ คิมก็แก้มัดจากเตียง แล้วผมไปอาบน้ำ แต่ไม่วายก็ถูกมัดมือไพล่หลังอีก ผมโดนควบคุมยิ่งกว่านักโทษ พออาบน้ำเสร็จคิมก็จับผมมัดกับเตียงเหมือนเดิม แล้วเริ่มต้นเกมสวาทกับผมในวันนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า ผมเหมือนกวางที่โดนหมาป่าขย้ำซะยับเยิน เจ็บปวดไปหมดทั้งตัว เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าตัวเองมีเลือดไหลมาจากก้น มันแดงฉานไปหมดเลย หยดหยาดความเป็นชายของผมก็เหมือนจะหมดไปจากตัวแล้ว มันทรมานกว่าตายซะอีก ผมร้องไห้คิดถึงพ่อแม่ และหลังจากที่คิมเปลี่ยนผ้าปูที่นอน คิมก็เข้ามานอนกอดผมผมไว้ทั้งที่ผมยังโดนมัดอยู่ เหมือนกลัวว่าผมจะหนี ไม่ต้องมัดหรอก แค่นี้ก็ระบบไปทั้งตัวจนลุกไม่ไหวแล้ว

ผลจากคืนนั้นทำให้ผมไข้ขึ้นเพราะอ่อนเพลีย คิมก็เลยมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ผม คิมคงจะเห็นสภาพผมแย่มากก็เลยพูดด้วยความสำนึกผิดว่า
“ขอโทษนะที่เราทำรุนแรงกับนาย ได้อยู่กันสองคนแท้ๆ ยังจะทำให้เสียบรรยากาศอีก เรานี่มันแย่แล้วก็ไม่ได้ความเลย”
“เราไม่โกรธคิมหรอก” ผมรู้สึกว่าที่โดนไปมันยังน้อย ถ้าคิมจะฆ่าผมให้ตายก็ไม่แปลก
“แต่ก็จะเลิกกับเราใช่ไหม” ผมพูดอะไรต่อไม่ถูกครับ คิมดูหม่นเศร้าเสียจริง
“อย่าอยู่กับคนทรยศอย่างเราเลยนะ” ผมขอร้องคิมดีๆ
“ไม่เอาแล้ว ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า เช้านี้กินอะไรดี เอาอ็อมเล็ตใส่ชีสเยอะๆมั้ย ที่อามชอบน่ะ เราทำอร่อยนะ”
“คิมใจร้าย คิมที่เรารักหายไปไหน”
“อามต่างหากใจร้าย จะทิ้งเราได้ลงคอ คิมที่รักอามยังอยู่ตรงนี้แหละ แต่เขาเปลี่ยนไปตั้งแต่คนที่รักปันใจให้คนอื่น อามจะเลิกกับเราทำไม ขนาดใน Diary ยังบอกเลยว่ายังรักคิมอยู่ อามไม่มีเหตุผลเลย
“แต่ตอนนี้เราเกลียดคิม คิมได้ยินมั้ย” ผมประชดประชันคิม เพราะกดดันมาก แล้วก็ร้องไห้อีกแล้ว
“แต่เรารักอามสุดขั้วหัวใจเลย อามเป็นของคิมตลอดกาล” คิมดูน่ากลัวขึ้นทุกที

ผ่านไปประมาณสองสามวัน ผมเริ่มจะยอมรับสภาพได้ ไม่ร้องไห้ฟูมฟาย ไม่ร้องโวกเวกโวยวาย ผมรู้สึกว่าอยู่แบบนี้สักพักก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยจะได้ทบทวนตัวเองในเรื่องที่ผ่านๆมา คิมก็ไม่ได้ทำทารุณกรรมผม แต่ผมเหมือนเป็นเจ้านายน้อยๆที่คิมดูแลอย่างดี เพียงแต่มีข้อแม้ว่าผมห้ามออกจากห้องเท่านั้นเอง พอผมดูสงบลง ไม่พูดว่าจะเลิกกับคิม คิมดูจะเหมือนร่าเริงอย่างเก่า เอาใจผมมากมาย ทำอาหารอร่อยๆให้ผมทานเยอะแยะ จนผมรู้สึกได้ว่าตัวเองน้ำหนักขึ้นแน่นอน (จากเดิมที่ไม่ค่อยจะผอมอยู่แล้ว) แล้วที่ผมชอบมากคือคิมเอาเพลงแนวแจ๊สมาเปิดให้ผมฟังอยู่เสมอ จนผมรู้สึกเคลิบเคลิ้มและทำให้ลืมความทุกข์ไปได้ช่วยขณะ ตอนที่เราสองคนบรรเลงเพลงสวาท คิมกับผมก็ดำเนินมันไปอย่างช้าๆ มันนุ่มนวลอ่อนหวาน คิมดูทะนุถนอมผมมาก เวลาที่เกมสวาทของเราจบลง ครั้งหนึ่งคิมพูดออกมาว่า

“เราขอโทษนะ เราไม่น่ารุนแรงกับอามเลย” ผมไม่โกรธคิมเลย ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็ส่ายหน้า ประมาณว่าไม่โกรธเลย แล้วก็เอามือสองข้างไปโอบคิมไว้ คิมก็เข้ามาจูบผมแล้วกอดผมไว้ทั้งคืน ตื่นมาเช้าอีกวันพอคิมตื่นแล้ว ผมก็เลยถามว่า
“คิมตั้งแต่เราคบกันมา เรายังไม่รู้เลยว่า ทำไมคิมมารักคนอย่างเราได้”
“ไม่รู้สิ บางทีความรักมันก็อธิบายยากเหมือนกัน รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว” ผมฟังแล้วก็คิดตาม แล้วผมกับนาวล่ะ ผมก็เลยได้แต่เงียบ คิมเห็นผมเหมือนจะรู้ว่าคิดอะไรอยู่ ก็เลยพูดว่า
“คิดถึงเรื่องนาวอยู่ละสิ” น้ำเสียงคิมเหมือนงอนผม ผมก็เลยบอกว่า
“ขอโทษนะ แต่เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน” ผมจับมือคิมมาจูบ
“แล้วเราจะรอนะ” คิมพูดจบก็ขยับผมเข้ามากอดไว้ที่อก ผมได้ยินเหมือนคิมจะร้องไห้ ผมทำคิมร้องไห้อีกแล้ว ผมมันแย่จริงๆ
ระหว่างที่ผมอยู่ในห้องผมก็ทำเจริญสติ ทำสมาธิภาวนา เพื่อให้จิตใจของตัวเองสงบลง โดยที่คิมก็เริ่มที่จะเรียนกับผมด้วย หลังจากที่เห็นผมปฏิบัติมาตั้งแต่คบเป็นแฟนกับใหม่ๆ คิมเองก็จะดูสงบลงมากทีเดียว
แต่ว่าแม้คิมจะดูสงบลง ก็ไม่ได้มีท่าทีจะปล่อยตัวผมแต่อย่างใด แต่ผมไม่กังวลอะไร เพราะรู้ว่าคิมจะไม่ทำร้ายผม และดูเหมือนคิมจะดูหลงใหลผมมากกว่าเดิม อืมที่ต้องใช้คำว่าหลงใหลเนี่ย เพราะดูคิมชอบที่จะคลอเคลียผมตลอดเวลายังกับแมว เอ้พอดูไปดูมานาวกับคิมก็มีอะไรคล้ายกัน เหมือนคิมเป็นนาวแต่อยู่ในอายุที่มากกว่าเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ที่ผมห่วงคือพ่อกับแม่ เพราะผมเล่นหายไปแบบไร้ร่องรอย บ้านช่องก็ไม่กลับ ก็เลยเจรจากับคิมประมาณว่า คิมจะขังเราไว้ก็ไม่ว่าหรอก แต่ช่วยบอกพ่อแม่เราหน่อย เราไม่อยากทำให้พ่อแม่เป็นห่วง คิมฟังแล้วก็พอจะเข้าใจ และจัดการให้ผมเรียบร้อย คิมบอกที่บ้านผม ว่ามือถือผมเสียระหว่างไปออกต่างจังหวัดแล้วหาร้านซ่อมไม่ได้ แล้วคิมก็บอกไปอีกว่าบริษัทที่บ้านมีโครงการจะเก็บข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อทำโครงการ ผมเลยต้องอยู่กับคิมเพื่อช่วยงานอีกพักใหญ่ๆ สุดที่รัก(แม่ผม) ก็เห็นดีเห็นงามแบบไม่ถามอะไรสักคำ แถมบอกคิมอีกว่าอย่าตามใจผมมาก เดี๋ยวงานจะเสีย ผมอยากพูดกับที่บ้านมาก แต่คิมก็รอบคอบได้อีก คือจับผมมัดมือ มัดปากไว้ก่อน เพราะกลัวผมจะร้องแล้วความแตก คิมก็เลยปิดท้ายว่าผมไม่สบายเลยนอนอยู่มาคุยโทรศัพท์ไม่ได้ เรื่องที่ผมถูกคิมจับมาก็เลยเป็นความลับต่อไป  

มาอีกครั้งวันเสาร์นะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 04-02-2010 16:45:20
คิมโรคจิตไปแล้ว

รักมากเกินไป ไม่ยอมรับความจริงอะไรเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 04-02-2010 17:34:05
กักขังฉันเถิดกักขังไป
 :z10:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 04-02-2010 18:52:59
ความรัก(แบบผิด)ทำให้คนตาบอด....เปลี่ยนจากคนดี...คนบ้า  :z10: :z10:


จะขังโสรยา เอ้ย..อามอีกนานเท่าไหร่กัน..
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Gu_Ton_Za ที่ 04-02-2010 19:09:20
คนอย่างคิมอันตรายกว่านาวเยอะอ่ะ

ไงก็เอาใจช่วยนะก้าบ

 :z2:  :z2:  :z2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 04-02-2010 23:28:26
 :เฮ้อ:

ความรักทำให้คนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลย

แต่ก็ไม่อยากจะโทดคิม เห็นใจทั้งสามคนอ่า

 :pig4: :pig4:writerนะคะ

รอติดตามๆๆน๊า o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 05-02-2010 04:24:51
คิมดูน่ากลัวจัง แล้วอามจะทำไงต่อไปดี
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 05-02-2010 10:08:59
รุนแรงงจังง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 05-02-2010 10:46:04
สงสารทั้ง 3 คนอ่ะ

จะเป็นยังไงต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: TaNWa ที่ 06-02-2010 08:33:45
 :z13: พี่อาม
ชอบๆๆๆๆๆพี่คิมมาก :sad4:พี่คิมรักพี่อามมากชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 07-02-2010 00:02:12
ตอนที่11 ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ซอยสามนั่นเอง พี่อามเขียนยาวมากตอนนี้)
.
.
.
จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งอาทิตย์คิมต้องกลับไปจัดการเรื่อง Check out ออกจากหอที่ยังค้างคาให้เรียบร้อย แต่วันนั้นเหมือนว่าฟ้าจะเป็นใจ คิมลืมโทรัพท์มือถือผมเอาไว้ พอได้โอกาสผมรีบเปิดดูทันที และผมว่ามี SMS จนเต็มกล่องจัดเก็บ ถูกต้องแล้วครับ นาวนั่นเองที่ส่งมาประมาณว่า
 
“พี่อามไปไหนนาวคิดถึงจะแย่แล้ว”
“ทำไมไม่เปิดมือถือ”
“เกลียดนาวแล้วใช่ไหม”
“พี่อามใจร้าย” ผมเลยส่งข้อความบอกกลับไปสั้นๆว่า
“คิมรู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว ตอนนี้กำลังโดนขังอยู่ไม่รู้อยู่ที่ไหน” เท่านั้นแหละครับ นาวโทรมาหาผมทันที
“พี่อามเป็นไงบ้าง” เสียงนาวขาดห้วง ฟังแล้วรู้เลยว่าร้องไห้
“พี่ก็สบายดี คิมไม่ได้ทำรุนแรงกับพี่หรอก แต่ก็มีเจ็บตัวบ้างเหมือนกัน”
“พี่คิมทำอะไรพี่อาม” นาวอารมณ์เปลี่ยนเร็วมาก ดูโกรธขึ้นมาทันที เมื่อผมบอกว่าเจ็บตัว
“ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็กำลังชดใช้ความผิดไง”
“ให้นาวไปช่วยนะ”
“นาวครับ พี่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ไหน”
“ฮือพี่อามนาวขอโทษ นาวผิดเองที่ทำให้พี่อามเป็นแบบนี้” นาวเริ่มกลับมาร้องไห้อีกครั้ง
“ไม่หรอก พี่เป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเอง”

“แต่นาวสมยอม นาวเต็มใจ แล้วนาวก็ข่มขืนพี่อามด้วย พี่อามจะผิดได้ไง” ผมคิดในใจว่า ผมโดนนาวข่มขืนหรือเหมือนโดนข่มขืนกันแน่ เพราะก็ต้องยอมรับความจริงว่าลึกๆแล้วผมรู้ว่ามันจะเกิดแต่ก็ไม่ได้จะยับยั้งมัน”
“นาวแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่โทรไปใหม่ อย่าโทรมานะ เพราะถ้าคิมจับได้ เราอาจไม่ได้คุยกันอีก” นาวร้องไห้เหมือนน้ำตาจะเป็นสายเลือดเลย ผมฟังแล้วหดหู่หัวใจมากมาย พอพูดกับนาวจบ ผมก็นึกถึงคนๆหนึ่งขึ้นมา
“พี่หมอชาญช่วยผมด้วย”
“เฮ้ย ใจเย็นๆเกิดอะไรขึ้น ค่อยๆพูดดิ” พี่หมอชาญฟังแล้วตกใจคำพูดผมมาก ผมเลยต้องอธิบายคร่าวๆว่าผมโดนคิมจับตัวมา แต่ไม่ได้บอกว่าเกิดจากเรื่องนาว แต่บอกว่ามีปัญหากันแล้วก็เลยถูกจับตัวมา เพราะถ้าเล่าทางโทรศัพท์ตอนนี้คงเล่ารายละเอียดได้ไม่ดีพอแน่นอน

“เฮ้ยลองดูดีๆ ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยเหรอว่าอยู่ที่ไหน”
“อืม ไม่รู้ ไม่มีอะไรบอกเลย”
“มีโทรศัพท์ในห้องรึเปล่า ลองโทรไปถามส่วนกลางดู อาจได้คำตอบก็ได้นะ”
“แต่ผมไม่เห็นโทรศัพท์เลยนะ”
“ลองหาดู คิมอาจจะซ่อนไว้ก็ได้นะ เป็นไปไม่ได้หรอก ที่คอนโดหรูๆจะไม่มีโทรศัพท์ไว้ในห้องน่ะ”
“ครับพี่หมอชาญ ผมจะลองดู”
“ได้เรื่องแล้ว รีบโทรมาบอกนะ จะได้รีบช่วย”

จากนั้นผมรีบไปรื้อค้นโทรศัพท์โดยทันที ตอนแรกก็หาไม่เจอไม่รู้ว่าว่าคิมเอาไปไว้ที่ไหน จนกระทั่งมาถึงในห้องน้ำผมก็ค้นไปเรื่อยๆปรากฏว่าเจอครับ คิมเอาโทรศัพท์ไปซ่อนอยู่ในกล่องแล้วเก็บไว้ในตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า (ถ้าใครเคยไปพักที่โรงแรมบางแห่งก็เป็นประมาณนี้) ผมรีบหาสายโทรัพท์ให้เจอแล้วรีบต่อสายทันที โดยผมโทรไปถามส่วนกลางถึงข้อมูลของคอนโดนี้ โดยให้เหตุผลว่าต้องการเขียนจดหมายแต่จำที่อยู่โดยละเอียดไม่ได้ ก็เลยทำให้รู้ว่าตัวเองอยู่ไหน แอบตกใจเล็กน้อยว่าตัวเองถูกขังกลางเมืองเลยทีเดียว แล้วก็ใช้มุขบอกว่าบังเอิญทำ keycard หายเลยออกจากห้องไม่ได้ พอเจ้าหน้าที่ทราบเขาก็มาจัดการแก้ไขเปิดห้องให้ครับ โดยผมซื้อ keycard ไว้อีกใบ แต่ก็นั่นแหละครับไม่รู้ว่าเป็นอะไร ทำไมถึงมีคนชอบมายุ่งเรื่องของผมอยู่เรื่อย

“ขอโทษนะคะ พี่รู้จักแฟนคุณ....(ชื่อจริงคิม)รึเปล่าคะ” สาวน้อยน่ารักที่มาช่วยผมถามทำไมหรือครับ
“ครับรู้จักดีเลยมีอะไรรึเปล่า” ผมคิดในใจกูนี่แหละ มีอะไรรึเปล่าเนี่ย
“อ๋อเห็นคุณ...บอกว่าจะเอาคอนโดนี้มาไว้เป็นเรือนหอนะค่ะ เลยไม่นึกว่าจะมีใครมาอยู่ที่ห้องนี้ได้ เพราะปกติแล้วดูคุณ...จะหวงห้องนี้มาก” เอาแล้วนี่ถ้าคิมกลับมาความจะแตกมั้ยเนี่ย เอาไงดีวะ

“อ๋อ คิมเขาให้ผมมาพักด้วยเพราะต้องไปทำงานเก็บข้อมูลด้วยกันที่ต่างจังหวัดนะครับ จะได้ทำงานด้วยกันสะดวกๆ” ผมนึกเรื่องที่คิมแต่งเรื่องให้สุดที่รักผมฟังมาใช้โดยฉับพลันครับ แล้วเรื่องก็จบลงไปครับ แต่เรื่องใหม่ก็เกิดเพราะผมคิดว่าถ้าคิมสนิทกับคนที่ส่วนกลางขนาดบอกว่าจะเอาห้องนี้ไว้เป็นเรือนหอ ถ้าวันนี้เกิดผู้หญิงคนนี้บอกว่าได้คุยกับผมจะทำอย่างไรล่ะ ไม่ได้แหละต้องรีบโทรตามพี่หมอชาญมาด่วนเลย

จากนั้นผมรีบโทรไปบอกพี่หมอชาญโดยด่วน พี่หมอชาญขับรถมาหาผมใน 45 นาที แล้วก็รอบคอบมากคือใส่แว่นดำแล้วแต่งตัวปกปิดมาอย่างดี กันกล้องจับได้ ดีอย่างที่คิมกับพี่หมอชาญไม่เคยคุยกันโล่งใจไปอีกดอก อย่างน้อยถ้าผมต้องหนีไปกับพี่หมอชาญคิมคงสืบลำบาก ตอนแรกจะช่วยผมเก็บของหนีโดยด่วน แต่ในตอนนั้นผมรู้สึกว่า การหนีต่อไปไม่มีประโยชน์ เพราะสุดท้ายก็ต้องเจอทั้งสองหนุ่มอยู่ดี ผมเลยตัดสินใจแฉตัวเองอย่างหมดเปลือกต่อหน้าพี่หมอชาญ ผมบอกพี่หมอชาญว่า ถ้าฟังเรื่องจบจะด่าผมก็ได้ แต่ขอให้ช่วยผมหน่อย ผมไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้ว ผมเลยเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นยกเว้นเรื่องลีลาสัมพันธ์สวาทบนเตียงเท่านั้น พอเล่าจบพี่หมอชาญก็เงียบสักพักก่อนจะพูดว่า

“เฮ้ย พี่ไม่ด่าแกหรอกว่ะ พี่ออกจะอิจฉาแกด้วยซ้ำ เขาสองคนดูรักแกมากนะเว้ย”
“พี่ครับ แต่ผมน่ะมีอะไรกับน้องตัวเอง แถมนอกใจแฟนอีกต่างหาก มันน่าอิจฉาตรงไหน”
“คนบางคนโหยหาความรักยังไม่มาเลย แต่แกเนี่ยมาเกยให้ถึงที่ เรื่องนี้พี่ว่ามันไม่มีผิดถูกหรอก แต่ว่ามันอยู่ที่ว่าความไม่ลงตัวต่างหาก”
“ถ้าผมเลิกกับทั้งสองคน น่าจะดีกว่านะ”
“อาม พี่ว่าถ้าแกเลิกทั้งสองคน ทั้งสองคนถ้าไม่ฆ่ากันตาย ก็ฆ่าตัวตายแน่ๆ”
“งั้นถ้าผมไปมีใหม่ล่ะ”
“หนักกว่าเดิมแน่นอน”
“โอ้ย งั้นผมไปตายดีกว่า
“แกตาย อีกสองคนนั้นก็ตายตามแกอยู่ดี”
“แล้วให้ทำไง”
“คิมเคยได้ยินเรื่องการแต่งงานของคนอินเดีย สมัยโบราณมั้ยที่ว่า ภรรยามีสามีหลายคนได้ในเวลาเดียวกันน่ะ ในเรื่องมหาภารตะก็มีปรากฏการแต่งงานของพี่น้องปาณฑพทั้งห้ากับผู้หญิงคนเดียวกันด้วยนะ
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่า” ผมอึ้งสุดขีด
“เห็นทีว่าต้องอยู่ด้วยกันสามคนแล้วล่ะ”
“ไม่อาววววววววววว แล้วผมจะบอกญาติพี่น้องว่ายังไง มีลูกพี่ลูกน้องน้องตัวเองเป็นแฟนเนี่ยนะ ขนาดคู่ชายหญิงยังโดนวิจารณ์แหลกเลย แล้วผมโดนไม่โดนด่าเจียนตายก่อนเหรอ (รู้สึกว่าช่วงนี้ของผมคล้ายละครชิงชังที่พึ่งจบไปเลย ตอนที่เห็นก้อยกับยงชัยต้องผิดหวังเพราะเป็นพี่น้องกัน คิดถึงตัวเองขึ้นมาทันทีเลยครับ)

“จะยอมโดนด่าเจียนตายหรืออยากเห็นน้องสุดที่รักของตัวเองตายจริงๆล่ะ” ผมอึ้งไม่รู้จะทำยังไงดีครับ
“มันเป็นไปไม่ได้หรอก มันเป็นไม่ได้” ผมได้แต่ส่ายหัว
“หรือว่าจะหนีดีละ อามก็ไม่อยากทำใช่ไหมล่ะ” พี่หมอชาญพูดซะจนหาทางหนีทีไล่ไม่ถูก
“ไม่หนีแต่ขอหลบไปสักพักนึงก่อนละกัน เรื่องนี้คงเร็วเกินไปที่จะพูด คงต้องขอเวลาสักพักหนึ่ง กลับบ้านก่อนละกัน” ผมตัดสินใจ “พักปัญหา”
“เฮ้ย ถ้าแกกลับบ้านนะรับรองมีเฮ รับรองเกิดศึกชิงนายแน่ๆ”
“พี่หมอชาญอย่ากวนดิ คิมไม่รู้จักบ้านใหม่ผมซะหน่อย” ผมแย้ง

“เอาจริงๆ แกคิดเหรอว่าคิมเขาจะหาแกไม่เจอ บ้านรวยขนาดนั้นคิดว่าจะไม่มีเส้นสายหรือไง แค่หาบ้านคนไม่ยากหรอก คิดดูดิขนาดแบกน้องๆหมีอย่างแกมาไว้ที่คอนโดกลางเมือง โดยที่ไม่มีใครตามมาสืบหรือมาเจอแกเลย แบบนี้คิดว่าควรกลับบ้านรึเปล่า” ผมก็เลยแบบว่า เออพี่หมอชาญมันก็พูดจริงว่ะ ประเด็นก็คือแล้วผมจะไปอยู่ไหนล่ะ

“แล้วพี่หมอชาญจะให้ผมไปอยู่บ้านพี่หรือ ผมว่ามีความเสี่ยงที่จะเจอคิมได้ทุกเมื่อเลยนะ”

“ฮื่อ ไม่อ่ะถ้าคิมตามมาเจอ พี่ก็โดนฉีกอกเอาน่ะสิ ขนาดรักแกจะตายแกยังโดนขนาดซะยับเยินเลย” ประมาณว่าฟังผมเล่าแล้วก็ยังกลัวแทน
“แล้วจะให้ไปอยู่ไหนอ่ะ”
“ไปอยู่บ้านสวนยายพี่ละกัน ที่สมุทรสงคราม ติดแม่น้ำ อากาศดี อยู่สบาย ว่าแต่เราเหอะอยู่ได้รึเปล่า ออกจะพ่อแม่หวง แฟนก็ดูแลไม่ห่างเลย เดี๋ยวถูกยายพี่ใช้งานหนัก ร้องไห้หนีไปก่อนจะว่าไง” พอผมได้ยินที่ติดริมน้ำผมก็หูผึ่งแล้วครับ เพราะผมชอบที่ริมน้ำมาก ไอ้พี่หมอชาญยิ้มกวนๆ ดูมันดิกวนไม่เคยเปลี่ยน

“โหพี่หมอชาญ พูดอะไรแบบนั้นผมน่ะติดดินนะ ตอนเด็กๆผมชอบไปสวนผลไม้บ้านน้าที่นราธิวาสบ่อยจะตาย อยู่กับคิมผมก็ทำตัวธรรมดา แม้คิมจะดูแลผดีเกินก็เหอะ”
“ถ้างั้นรีบไปเก็บของเลย ยิ่งช้ายิ่งเสี่ยง พี่ขับรถแบบแวนมาน่าจะขนของได้เยอะนะ เร็วๆเลย” ผมรีบไปเก็บของตัวเองทันที เอาที่คิดว่าต้องใช้ หลักฐานประจำตัวอะไรก็เอาไปด้วยเพื่อต้องใช้ ปกติผมเก็บของช้า แต่วันนั้นเก็บของเร็วมาก ของเยอะมากแต่เก็บเสร็จภายใน 45 นาที ตรวจดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่ลืมอะไรแน่ ก่อนจะไปผมรู้สึกว่าถ้าหายไปเฉยๆเดี๋ยวคิมจะคลั่งแน่ เขียนจดหมายไว้สักหน่อยดีกว่า ผมไม่อยากทำร้ายคิมให้ต้องเจ็บมากไปกว่านี้ ผมเขียนประมาณว่า

"คิมสุดที่รัก
ถ้าคิมได้อ่านจดหมายของเราแล้ว แสดงว่าเราคงไม่อยู่ในห้องนี้แล้วล่ะ เราไม่ได้จะหนีจากคิมไปหรอกนะ อามแค่คิดว่าเรื่องที่เกิดระหว่างเราสองคน บางทีต่างฝ่ายอาจต้องการเวลาพัก ให้แต่ละฝ่ายได้คิดทบทวนบ้าง เพราะบางครั้งการที่อยู่คนเดียวอาจจะพิจารณาได้ถ้วนถี่มากกว่าเหมือนตอนที่เราทำใจให้จิตสงบไง เราไม่สามารถให้ใครมาทำให้เราสงบได้หรอกนะ นอกจากตัวเราเองที่ต้องดูแลใจของตัวเราให้ดีๆ ที่ผ่านมาคิมรักเรามากเกินไป จนทำให้เรารู้สึกผิดที่ไม่ได้มีรักเดียวอย่างคิม คิมอย่าโทษตัวเองนะว่าเป็นเพราะคิมทำอะไรรุนแรงเลยเป็นต้นเหตุที่ทำให้อามหนีไป อามแค่อยากไปพักผ่อนให้สบายใจ คิมแน่ใจได้เลยว่าเราไม่ได้ไปอยู่กับนาวแน่นอน แต่เราไปอยู่ในที่ที่หนึ่งที่รับรองได้เลยว่า สงบและปลอดภัย เป็นที่ในแบบเราชอบ ถ้าเราพร้อมแล้วเราจะกลับมาหาคิมนะ เราสัญญา สิ่งหนึ่งที่อยากขอร้องคือคิมอย่าทำร้ายตัวเองนะ เพราะมันคงจะเป็นตราบาปสำหรับเรามากเลยถ้าคิมทำร้ายตัวเอง เราสัญญาว่าเราจะกลับมา ขอบคุณที่ดูแลเรามาตลอดตั้งแต่เป็นเพื่อนกัน จนมาเป็นแฟนกันคิมก็ยังคงดูแลเราดีมากกว่าเดิม แม้เราจะถูกขังไว้ที่นี่ คิมก็ดูแลเราอย่างดี ชาตินี้อามคงหาใครที่ดีกว่าคิมไม่ได้อีก
อามรักคิม
อาม"

พอเขียนจบผมรู้สึกเศร้าใจมาก แทบจะร้องไห้ออกมา แต่รู้ว่าถ้าร้องไห้จะหมดแรงเดินไหว เลยต้องรีบข่มใจ วางจดหมายในที่ที่เห็นชัด แล้วรีบขนของออกมา พอได้ขึ้นรถพี่หมอชาญตอนที่ขับออกมาแล้ว จึงปล่อยโฮออกมายกใหญ่ เป็นมหกรรมการร้องไห้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตผม มันหลายอารมณ์ความรู้สึกมาก ทั้งเศร้าใจ ผิดหวังในตัวเอง คิดถึงเรื่องเก่าๆระหว่างคิมกับผม ถ้าไม่มีนาวอยู่ด้วยเราแทบไม่เคยห่างกันเลย เป็นห่วงคิม แล้วอีกสารพัดอารมณ์ ร้องไห้เหมือนน้ำตาจะท่วมรถได้อยู่แล้วมั้งครับ พี่หมอชาญต้องคอยปลอบเป็นระยะ ผมร้องไห้จนหลับคารถไปเลยครับ

พอตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองตื่นมาอยู่ในบ้านสวนของคุณยายพี่หมอชาญแล้วครับ ตอนมาถึงก็น่าจะประมาณช่วงบ่ายสองบ่ายสามได้แล้วครับ
พอผมลงจากรถ คุณยายท่านก็รออยู่แล้ว ผมคิดว่าพี่หมอชาญคงโทรบอกคุณยายตอนที่ผมหลับน่ะครับ คุณยายอัธยาศัยดีมาก ต้อนรับผมอย่างดียังกับเป็นหลานตัวเองจริงๆเลย คิดถึงคุณยายตัวเองจัง พี่หมอชาญบอกกับคุณยายว่า เหตุผลที่ต้องมาอยู่ที่นี่เพราะต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบชุมชนชาวสวน เพื่อไปพัฒนาที่ดินของตัวเองในอนาคต แต่ก็เป็นเรื่องจริงนะครับ เพราะที่บ้านผมมีที่ดินในครอบครองที่รกร้างว่างเปล่าอยู่ ผมว่าเหมาะกับการทำเกษตรที่สุด มาอยู่ที่นี่ก็ดีเลยจะได้เก็บความรู้เยอะๆ แล้วสวนคุณยายก็อยู่ริมน้ำผมก็ชอบมากๆด้วย อยู่ที่นี่คงได้สงบจิตสงบใจเป็นอย่างดี

ตกเย็นคุณยายลงมือทำอาหารเอง เป็นอาหารพื้นบ้านที่รสชาติอร่อย ผมว่าอาหารพื้นบ้านเนี่ยไม่จำเป็นต้องปรุงรสชาติมาก แค่มีวัตถุดิบที่หาได้สดๆตามท้องถิ่นก็อร่อยแล้วครับ คุณยายบอกว่าดีใจที่ผมมาอยู่ด้วย เพราะปกติคุณยายอยู่คนเดียวแล้วก็มีคนงานในสวนที่เป็นคนเก่าคนแก่อยู่ด้วย ลูกๆหลานๆก็ออกไปทำงานข้างนอกหมด แต่คุณยายยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ เพราะรักสวนแห่งนี้มาก เพราะเป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างคุณยายกับคุณตาที่เสียชีวิตไปแล้ว ฟังแล้วผมละซาบซึ้งจริงๆ เฮ่อแล้วผมละ คิดแล้วกลุ้ม

พี่หมอชาญกลับหลังทานข้าวเสร็จเพราะพรุ่งนี้ต้องตรวจคนไข้แต่เช้า ผมคิดอะไรได้บางอย่าง เลยเขียนจดหมายถึงคิมและนาวเพราะกลัวจะว่าถ้าหายเงียบไปเลยเรื่องอาจบานปลายมากกว่านี้ โดยให้พี่หมอชาญหย่อนจดหมายที่กรุงเทพแทนที่จะเป็นที่นี่เพราะจะได้ไม่รู้ว่าปลายทางจริงๆคือที่ไหน และคืนนี้จะเป็นคืนแรกที่ผมนอนคนเดียว ผมจำไม่ได้แล้วว่านอนคนเดียวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และคืนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะทนกับความเหงาเปล่าเปลี่ยวในค่ำคืนนี้ไปได้อย่างไร

ค่ำคืนผมต้องนอนคนเดียว มันช่างอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว เดียวดาย เมื่อไม่มีคิมหรือนาวมาอยู่แนบกาย การนอนคนเดียวมันทำให้ใจผมว้าวุ่นและยิ่งสับสนในความรู้สึกของตัวเองว่าอันที่จริงแล้วผมรักใครกันแน่ เพราะในตลอดคืนผมก็คิดถึงทั้งสองคนสลับกันไปมา จนแทบจะนอนไม่หลับ พอหลับก็เหมือนได้ยินเสียงของสองคนนี้ร้องเรียกชื่อผมสลับกันไปมา จนพลอยฝันเห็นว่าสองคนนั้นกำลังทำร้ายตัวเองเพราะเสียใจที่ผมหนีไปและไม่ยอมอยู่กับใครสักคนหนึ่ง ที่สุดแล้วผมไม่ได้นอนทั้งคืนจนกลายเป็นหมีแพนด้าไปในบัดดล แต่โดนแบบนี้ซะบ้างก็ดี จะได้ไม่ต้องไปรักใครง่ายๆแล้วตัดใจไม่ลงแบบนี้อีก เฮ่อ

การที่ผมอยู่ในบ้านสวนคุณยาย ก็มีเรื่องสนุกให้ทำเยอะมาก เพราะได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่เด็กในเมืองอย่างผมไม่เคยทำมาก่อน ตั้งแต่ขุดดิน เก็บผลไม้ รดน้ำต้นไม้ แปรรูปผลิตผลทางการเกษตร และที่ผมชอบมากคือการได้มีโอกาสใส่บาตรทางน้ำ ซึ่งปกติผมจะเห็นแต่ในละครไทยแนวพีเรียดซะมากกว่า ผู้คนในละแวกใกล้เคียงทั้งคนงานหรือเพื่อนบ้านทั้งหลายก็ใจดีกับผมมาก นอกจากนี้ผมยังได้มีโอกาสเป็นไกด์นำชมสวนของคุณยาย เพราะคุณยายทำโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์กับนักท่องเที่ยวทั้งหลาย คุณยายท่านก็ใจดี๊ ใจดีอุตส่าห์จ่ายค่าจ้างโดยหักจากเปอร์เซ็นต์จากตค่าบัตรเข้าชมสวนของนักท่องเที่ยว ผมพยายามปฏิเสธแล้วแต่คุณยายท่านก็ยืนยันว่าคนเราทำงานแล้วก็ต้องได้เงิน ผมเป็นเหมือนลูกหลาน ท่านไม่ปล่อยให้ผมทำงานฟรีๆหรอก โธ่คุณยายครับแค่ให้ที่พักพิงกับผมก็เป็นบุญคุณมากแล้วครับ

ในที่สุดเวลาผ่านไปประมาณสองเดือนกว่า รู้สึกว่าอยู่ในช่วงเปิดเทอมใหม่ของพวกมัธยมปลายแล้วมั้ง ผมก็ยังเขียนจดหมายหาคิมกับนาวโดยฝากพี่หมอชาญส่งเป็นประจำแต่ผมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปเคลียร์ปัญหาให้มันจบๆซะที.....

****************************

ตอนนี้ยาวได้อีก ดังนั้น เห็นทีต้องซอยสาม ตอนหน้า ยิ่งมันได้อีก เหอๆๆ อย่าลืมติดตามชม หุหุ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 07-02-2010 00:10:23
ค้างๆอ่ะค่ะ..มาต่อเร็วๆนะคะ รอติดตามค่า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 07-02-2010 11:45:27
แล้วจะรอตอนหน้าครับ





 :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 07-02-2010 12:11:19
สองเดือนที่อามหายไป..นาวกับคิมจะเป็นยังไงบ้างเนี่ยะ....


รออ่านตอนต่อไปจ้า :L2: o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 07-02-2010 12:35:54
มาไวๆ เด้อ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 07-02-2010 12:59:28
รอตอนต่อไปอย่างด่วนเลยครับ

อยากรู้บทสรุปแล้วว่า จะเป็นยังไง

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 07-02-2010 14:33:36
คงต้องทำตามอย่างที่พี่หมอว่าอ่ะ

สามคนบนเตียงเดียว

 :-[
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 07-02-2010 16:14:11
รอคนโพส คะ

ตอนหลังนี้เศร้าๆๆ คิม ดูโรคจิตมากขึ้นจนน่ากลัววว


ง่าๆๆๆ อามจะทำไงต่อไป


รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรกของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า)
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 07-02-2010 23:18:07
รู้สึกว่าอยู่ในช่วงเปิดเทอมใหม่ของพวกมัธยมปลายแล้วมั้ง ผมก็ยังเขียนจดหมายหาคิมกับนาวโดยฝากพี่หมอชาญส่งเป็นประจำแต่ผมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะกลับไปเคลียร์ปัญหาให้มันจบๆซะที จนกระทั่งวันนึงมีคณะนักเรียน ม.ปลายคณะหนึ่งเดินทางมาทัศนศึกษาที่สวนคุณยาย ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็พบว่าโรงเรียนที่มาคือโรงเรียนที่นาวเรียนอยู่ ผมเลยป้องกันตัวไว้ก่อนโดยอ้างว่าไม่สบายกะทันหันและให้พี่อีกคนรับหน้าไปแทนก่อน แต่ก็ยังแอบมาดูห่างๆว่าจะมีนาวมาอยู่ในคณะนี้ด้วยรึเปล่า พอไม่มีก็โล่งใจแต่เพื่อความปลอดภัยผมคงต้องอู้งานไปก่อนเพราะอาจมีใครรู้จักนาวก็ได้ ขอแอบกลับไปที่ห้องก่อนดีกว่า แต่ขณะที่ผมกำลังเดินกลับห้องเพราะก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกติดตาม พอหันกลับไปมอง ปรากฏว่าถูกตามจริง ซึ่งก็คือนาวนั่นเอง ผมตกใจวิ่งหนีไม่คิดชีวิต นาวก็วิ่งติดตามผมอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นผมเหมือนโจรหนีตำรวจยังไงยังงั้นเลย แต่ที่สุดแล้วเมื่อถึงที่ลับตาคนที่รกไปด้วยต้นไม้จนไม่มีใครกล้าเข้ามาเพราะถูกงูกัด นาวก็ตะครุบตัวผมไว้ได้จนลงไปกองไปกองกับพื้นทั้งคู่ นาวใช้ปากบบดขยี้จูบผมอย่างบ้าคลั่ง

“พี่อามทำไมทำแบบนี้ นาวจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วรู้มั้ย” นาวพูดจบก็ไซร้ตามเนื้อตัวผมไม่หยุดหย่อน
“นาวปล่อยพี่เดี๋ยวนี้นะ อย่าทำแบบนี้”
“ไม่ พี่อามไม่รู้หรอกว่านาวคิดถึงพี่อามขนาดไหน นาวจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วรู้มั้ย นาวได้แต่เอาจดหมายของพี่อามมาจูบก่อนนอนทุกคืน การที่เราไม่รู้ว่าคนที่เรารักหายไปไหน มันทรมานยิ่งกว่าตายอีกรู้มั้ย” เมื่อนาวพูดจบเสื้อผ้าท่อนล่างผมก็หายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วนาวก็ใช้มือและปากจัดการท่อนลำของผมอย่างหื่นกระหาย ผมขัดขืนสุดกำลัง แต่ก็โดนนาวเอาตัวทับไว้ ตอนนั้นนาวแรงเยอะมากจริงๆผมสู้ไม่ไหว แบบนี้รึเปล่าที่เขาบอกว่าเวลาเกิดเหตุการณ์บางอย่างอาจทำให้คนเรามีพละกำลังมหาศาล อย่างไฟไหม้แล้วยกโอ่งได้เป็นต้น ผมเองแม้ว่าไม่อยากทำแบบนี้แต่ก็อดเสียวกับนาวไปไม่ได้ ที่สุดแล้วผมก็เสร็จคาปากนาวและน้ำก็แตกออกมาอย่างมากมายเพราะไม่ได้ออกมาเลยตั้งแต่มาอยู่ที่สวนคุณยาย มันเลอะเทอะเปรอะเปื้อนทั้งปาก ทั้งหน้า ทั้งตาของนาวเต็มไปหมด นาวปาดน้ำกามที่เลอะเทอะทั้งหลายไปกินหมดจนเกลี้ยงโดยความหื่นกระหาย พอผมน้ำแตกผมก็หมดแรงขัดขืน นาวไม่รอช้ารีบเอาท่อนลำของตนออกมา มันผงาดออกมาอย่างน่ากลัวกว่าครั้งใดๆ นาวใช้น้ำลายป้ายที่หัวท่อนลำตัวเองและที่รูสวรรค์ผมก่อนจะเสียบเข้าไปอย่างรวดเร็วและไม่บันยะบันยัง ผมสะดุ้งเฮือกเพราะไม่ได้โดนเสียบมานาน มันทั้งเจ็บทั้งเสียวในเวลาเดียวกัน แรงกระแทกของนาวทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ผมสั่นไปหมดทั้งร่าง จนที่สุดแล้วนาวเองก็เสร็จสมอารมณ์หมายจนผมเองก็น้ำแตกไปอีกรอบ ผมรู้สึกว่าตัวเองน่าจะมีเลือดซึมออกมาด้วย นาวลงโน้มตัวลงมาซบผมทั้งๆที่เราสองคนกำลังเปลือยท่อนล่างอยู่ด้วยกันทั้งคู่ แล้วก็เอาแต่ร้องไห้ แทนที่ผมจะโกรธ จะต่อว่านาว ผมกลับเอามือไปโอบกอดนาวเอาไว้ ผมเห็นนาวร้องไห้แล้วก็ใจอ่อนทุกที ที่สุดแล้วนาวกับผมก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วนาวก็จูบผมต่ออย่างหื่นกระหายเพราะขาดรสรักระหว่างกันไปนาน ผมพยายามปฏิเสธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ถูกนาวโอบรัดเอาไว้ในอ้อมแขน ขณะที่ปากก็จูบผมไปอย่างไม่รู้จักจะพอได้ซะที

นาวจูบผมอยู่นานจนพอใจ ก็เข้ามากอดผมไว้ไม่ยอมปล่อยเลย
“พี่อามกลับบ้านกับนาวนะครับ” นาวใช้สายตาวิงวอนสุดๆ
“ไม่ได้หรอกพี่บอกคิมไว้แล้วว่าจะไม่กลับไปหานาว อีกอย่างคุณยายเจ้าของสวนที่นี่ก็ดีกับพี่มาก จะให้หายไปเฉยๆคงไม่ได้หรอก”
“แต่นาวคิดถึงพี่อามทุกวันเลย พี่อามจะไม่เห็นใจน้องเลยเหรอ”
“คิดถึงอย่างเดียวไม่พอหรอก พี่ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเองที่สัญญากับคิมไว้แล้ว อีกอย่างพี่เกรงใจคุณยายด้วย” ผมพยายามหาเหตุผล
“อะไรๆก็พี่คิมตลอด พี่อามไม่รักนาวแล้วใช่ไหม” นาวทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว เสียบผมซะจนสมใจแล้วยังจะมาบีบคั้นหัวใจผมอีก
“แล้วมันไม่ใช่เพราะพี่ไม่ยอมทิ้งนาวหรอกเหรอ พี่ถึงโดนคิมเล่นงาน ถ้าพี่ไม่รักนาว ไม่เห็นใจนาว พี่ไปอยู่กับคิมไม่ดีกว่าเหรอ” พูดจบผมก็หันหน้าไปทางอื่นเพราะรู้สึกว่ากดดันเหลือเกิน จนไม่อยากมองให้นาวเห็น

“งั้นคืนนี้นาวขออยู่กับพี่อามทั้งคืนเลยได้มั้ย” นาวอ้อนวอนด้วยความน่าสงสาร แต่ผมไม่ใจอ่อนง่ายๆหรอก
“ไม่!!! กลับไปกับที่โรงเรียนซะ” ผมรีบใส่กางเกงแล้วเดินหนีออกมาทันที นาวก็ตามไม่ลดละ พออกมาจากที่ตรงนั้นได้ ก็เจอคุณยายพอดี
“อามมาทำอะไรตรงนี้ละลูก รกจะตายเดี๋ยวก็โดนงูกัดหรอก” คุณยายถามด้วยความสงสัย

“เอ่อ คือว่า” ผมนึกอะไรไม่ออกเลยครับ แล้วก็มีเสียงแทรกพูดขึ้นมาว่า
“พี่อามเขาพาผมมาชมสวนให้ทั่วๆน่ะครับ” พูดจบนาวก็แนะนำตัวเองกับคุณยายเสร็จสรรพ ไม่เปิดโอกาสให้ผมพูดอะไรเลย
“อ้าว นี่น้องชายอามเหรอเนี่ย บังเอิญจังเลย ว่าแต่เย็นนี้ต้องรีบไปไหนต่ออีกรึเปล่า
“ไม่ล่ะครับว่าจะอยู่กับพี่อาม เพราะเราไม่ได้เจอกันนานมากเลย” นาวยิ้มกริ่ม แล้วผมก็ตกเป็นรองจนได้
“งั้นเย็นนี้อยู่ทานข้าวเย็นกันนะลูก จะค้างเลยก็ได้นะ อยู่กันหลายคนสนุกดี”
“จริงเหรอครับคุณยาย ดีมากเลยครับ” นาวยิ้มดีใจสุดขีด โอ้ยงานเข้าอีกแล้วกู

นาวรีบวิ่งเข้าไปบอกอาจารย์ที่คอยมาคุมว่าจะขอกลับกับพี่ชาย อาจารย์ก็ไม่ว่าอะไร เป็นอันว่าคืนนั้นนาวก็ได้ร่วมทานข้าวเย็นกับผมและคุณยาย นาวดูร่าเริงสุดขีดแต่ผมได้แต่นิ่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าคืนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อถึงเวลานอนผมตัดสินใจมานอนที่พื้นข้างล่าง เพราะไม่อยากนอนใกล้นาว เพราะกลัวว่าจะโดนอะไรอีก แรกๆดูเหมือนว่าจะดี ต่างคนต่างก็นอนหลับไป แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้สักพักนึง อยู่ๆนาวก็มามัดมือผมไพร่หลัง ผมตั้งตัวไม่ทันโดนนาวอุ้มขึ้นมาแล้วโยนลงไปที่เตียงดัง “พลั่ก”

“พี่อามนี่ตัวหนักนะเนี่ย กว่าจะอุ้มขึ้นมาได้แทบแย่”
“ปล่อยพี่เดี๋ยวนี้นะ” ผมไม่พอใจมาก
“เรื่องอะไรกว่าจะอุ้มขึ้นมาได้หนักจะตาย นาวจะเล่นรักกับพี่อามให้หายอยากไปเลย
“นาวพี่ขอละ อย่าทำกับพี่แบบนี้เลยนะ” ผมกลัวและกำลังจะร้องไห้
“ทำไมอ่ะ เวลาสองเดือนนี้ทำให้พี่อามลืมรสชาติระหว่างเราไปแล้วเหรอ”
“พี่สงสารคิม”

“งั้นตอนนี้สงสารผมก่อนละกัน” พูดจบนาวก็บรรเลงเพลงรักต่อ ผมจำอะไรไม่ได้มากรู้แต่ว่าตัวเองน้ำแตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เต็มไปด้วยความเสียวซ่านและเสียงครวญครางของเราสองคนตลอดคืน แม้ผมกำลังจะหลับแต่นาวก็ยังปฏิบัติการอยู่ เมื่อตื่นเช้ามาผมแอบตกใจที่ว่าเรานอนอยู่ในท่า 69 ผมนอนตามปกติ แต่ท่อนลำของผมนาวยังอมไว้คาปาก เหมือนว่ามันจะมีน้ำทิพย์ที่นาวต้องรองรับมันเอาไว้โดยไม่ให้หกหล่นแม้แต่หยดเดียว ผมเห็นภาพนี้แล้วเหนื่อยใจว่านาวดูจะอาการหนักและหื่นกามขึ้นอีกมากมาย ด้วยความที่ผมยังคงถูกมัดไพล่หลังอยู่ เลยต้องใช้วิธีการขยับตัวไปมาเพื่อปลุกนาว พอนาวลื่มตาตื่นขึ้นมา อ้าปากออกจากท่อนลำผมแล้ว นาวก็ลุกขึ้นมาก่อนจะทิ้งตัวลงมากอดผมเหมือนจะไม่ให้ผมจากไปแน่น เพราะกอดรัดซะแน่นเหมือนผมกับเขาจะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

“ปล่อยได้แล้ว พี่หายใจไม่ออก” นาวดูเหมือนจะไม่ฟัง ทันทีที่ผมอ้าปากพูด นาวก็บดขยี้ปากผมอย่างเร่าร้อนและเนิ่นนาน จากนั้นนาวก็กลับมากอดผมอีกแต่คลายวงแขนลงไปมาก ผมนึกว่าจะขาดอากาศตายซะแล้ว นาวพูดขึ้นมาว่า
“พี่อามกลับบ้านกับนาวเหอะ” นาวพูดเสียงวิงวอน
“ให้พี่อยู่ที่นี่เถอะ ไม่งั้นพี่จะผิดสัญญากับคิมที่ว่าจะไม่กลับไปหานาว”
“งั้นนาวจะมาหาพี่อามทุกอาทิตย์เลยนะครับ”
“อืมได้สิ” ผมไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรดี นาวได้ยินแบบนี้ก็ดีใจมาก เข้ามาโอบกอดผมอีกเป็นเวลาเนิ่นนาน แต่คราวนี้แก้มัดผมด้วยแล้วก็ให้ผมโอบกอดเขาด้วยเช่นกัน นาวได้แต่พูดคำว่า “พี่อามของผม ผมรักพี่อาม” แต่ผมได้แต่นิ่งเงียบด้วยความเหนื่อยใจ

นาวอยู่กับผมตลอดจนกลับไปในช่วงบ่าย ช่วงก่อนกลับไปนาวดูมีความสุขมากกกกกกกก แต่ผมกลับร้อนรุ่มไม่เป็นอันทำอะไรเลย หลังจากที่ทานข้าวเย็นเสร็จ ผมก็ออกมาเดินเล่นนอกบ้านเพื่อให้ใจสงบแก้อาการสับสนของตัวเอง ขณะที่ผมกำลังเดินเล่นอยู่ๆก็มีรถคันหนึ่งแล่นเข้ามา ผมมองไม่ชัดเพราะแสงไฟหน้ารถแยงตา คนขับลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าเป็นใครเพราะช่วงนั้นเริ่มค่ำแล้ว แต่เมื่อเขาเดินมาใกล้ๆผม Shock สุดขีด เพราะคนที่เดินเข้ามาก็คือคิมนั่นเอง คิมมาได้ไงผมงงไปหมดแล้ว

“อามจริงๆด้วย” คิมเข้ามากอดผมไว้ซะแน่น ต่อจากนั้นเกิดอะไรขึ้นผมไม่รู้ เพราะผมเป็นลมไปแล้ว
ตื่นมาอีกทีผมก็รู้สึกตัวว่านอนอยู่ในห้องแล้ว แต่ไม่ได้นอนอยู่คนเดียวมีอะไรสักอย่างหนักๆมาทับตัวผมอยู่ ดูอีกทีก็คือคิมนั่นเองที่นอนกอดผมไว้อยู่ เมื่อผมตื่นก็เป็นธรรมดาที่จะขยับเขยื้อนตัวเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ แต่คิมก็ตื่นขึ้นมาด้วย พร้อมๆกับพูดว่า

“ตื่นแล้วหรื่อครับที่รัก” พูดจบก็โผเข้ามากอดผมอีก แต่ผมได้แต่นิ่งอึ้งและเงียบไปพักใหญ่ จนคิมสังเกตได้
“อามเป็นอะไรทำไมเงียบจัง”
“คิม เราขอโทษนะ เรากลัวแล้วก็สับสนไปหมดแล้ว”
“เราขอโทษนะ เราทำให้อามกลัวใช่มั้ย เราไม่จะไม่ทำอย่างนั้นแล้วนะ ตอนที่อามไม่อยู่กับเรา เราทรมานแทบตายเราจะไม่ทำอะไรให้อามหนีเราไปอีกแล้ว เราขอโทษนะ” พูดจบก็มาหอมแก้มผมแล้วก็ซอกคอ โอ้คิมคนเดิมของผมกลับมาแล้ว
“ที่เรางงคือคิมตามเรามาถูกได้ไง”
“คือมันเป็นเรื่องบังเอิญน่ะ เราไม่เคยเล่าให้อามฟังล่ะสิ ว่าเราจบมัธยมมาจากที่เดียวกับน้องนาว แล้วก็มีรุ่นพี่คนนึงที่จบที่เดียวกับคิมซึ่งสนิทกันมาฝึกสอนอยู่ที่นี่ด้วย เขาโทรมาบอกคิมว่าเหมือนเห็นแฟนคิมมาอยู่ที่นี่ เพราะคิมเล่าให้เขาฟังว่าแฟนตัวเองหายไป เรารู้ก็แทบจะเหาะมาเลยรู้มั้ย” ผมรู้สึกว่าทำไมชีวิตกูมันช่างนิยายชะมัด เล่าไปคนต้องมีคนบอกว่าไม่จริงชัวร์ๆ ทำไมชีวิตผมต้องเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยเลย

“แล้วคุณยายอ่ะ” ผมนึกถึงคุณยายขึ้นมาได้พอดี
“ไปนอนแล้วล่ะ บอกคิมให้ดูแลอามดีๆด้วย ว่าแต่น้องนาวมาที่นี่ด้วยใช่ไหม” ผมก็พยักหน้าแต่ก็อธิบายบอกว่าผมไม่ได้ชวนนาวมานะ แต่เขามาของเขาเอง
“เราไม่ได้ว่าอะไรหรอก แค่น้อยใจที่นาวตามอามเจอก่อน เราคิดถึงอามมากเลยรู้มั้ย” คำพูดคิมช่วงท้ายดูขาดห้วง เป็นเสียงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ แต่คิมกลั้นมันเอาไว้ ผมเลยเข้าไปโผกอดคิม
“เราก็คิดถึงคิมเหมือนกัน เราขอโทษด้วยที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ เราแค่ไม่อยากทำร้ายคิมแล้วแค่นั้นเอง”
“อามอย่าหนีเราไปอีกเลยนะ เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาม เราจะเป็นที่สองรองจากน้องนาวก็ได้ แต่อามอย่าทิ้งเรานะ เราทนไม่ได้จริงๆ” คำพูดคิมคำนี้มันเสียดแทงไปในใจผม ปกติแล้วผมไม่ชอบคนที่ชอบคบใครมากกว่าหนึ่งคนในเวลาเดียวกัน แต่ตอนนี้ผมกลับทำซะเอง ผมก็เลยสับสนและรังเกียจตัวเองเหลือเกิน

“ไม่เอาคิม ไม่พูดอย่างนั้น” ผมไม่อยากให้คิมลดค่าของตัวเองมาขนาดนี้
“พูดแบบนี้อามจะทิ้งเราจริงๆเหรอ อามฆ่าคิมให้ตายดีกว่า เราทนไม่ได้จริงๆนะ” คิมกำลังจะร้องไห้จริงๆ ผมจะบ้าตายแล้วครับ จะอธิบายก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาในเวลานั้น ผมก็เลยตัดสินใจจูบคิม คิมจูบตอบผมอย่างหื่นกระหาย และต่อจากนั้นเราก็บรรเลงเพลงสวาทตลอดคืน อย่างเร่าร้อนสลับกับแผ่วเบา คืนนั้นผมมีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถูกคิมกลืนกินไปทั้งตัว เพราะไม่มีส่วนไหนในร่างกายผมที่ไม่ถูกปากและลิ้นของคิมในการขบกัดอย่างเบาๆและโดนเลียไล้ไปทั่วทั้งตัว ตอนนั้นเหมือนผมจะเหือดแห้งไปทั้งตัว คืนก่อนก็โดนนาวเล่นทั้งคืน คืนนี้ก็มีคิมคอยปรนเปรอ น้ำกามของผมมันหายไปหมดเลย ผมเหนื่อยจนหลับแต่คิมยังบรรเลงเพลงรักต่อไป ไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่

ผมตื่นมาอีกครั้ง เพราะโดนแสงแดดส่องเข้าตา เลยเห็นคิมเอาหน้าซุกไซร้กับอกผมอยู่ คิมยิ้มกริ่มมีความสุข แดดที่ส่องหน้าเขา ทำให้เขาช่างดูน่าหลงใหล คิมผมยาวขึ้นมากดูท่าว่าสองเดื่อนที่หาผมไม่เจอเขาจะไม่ตัดผมเลย เป็นเพราะผมใช่มั้ยเนี่ยที่ทำให้เขาไม่สนใจจะดูแลตัวเอง ผมปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมา เพื่อจะไปใส่บาตรพร้อมกับคุณยาย วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมากอีกวันเพราะไม่ได้ใส่บาตรกับคิมนานแล้ว แต่ที่ผมแปลกใจคือคิมดูสงบและเยือกเย็นลงมาก ปกติเขาเป็นใจร้อน แต่รอยยิ้มของเขาที่ปรากฏบนใบหน้าทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างจริงๆ

ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นคิมก็อยู่กับผมโดยตลอด คราวนี้คิมติดผมมากยังกับพ่อหมีลูกหมี (ใครเป็นพ่อเป็นลูกคิดเอาเอง) แต่ช่วงที่อยู่ด้วยกันสองวันแรก ผมขอคิมพักเรื่องบนเตียงก่อนเพราะไม่ไหวแล้ว มันปวดเมื่อยไปหมดเลยทั้งตัว แต่คิมก็ยังไม่วาย เดี๋ยวจูบๆผมตลอดจนผมละกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเขา แม้ว่าคิมจะมีความสุขแต่ผมกลับมีความกังวลว่าเดี๋ยวปลายสัปดาห์นี้นาวก็ต้องมา และไม่ต้องรอนานนาวก็มาจริงๆ แถมมาตั้งแต่เช้าโดยที่คิมยังนอนกอดผมอยู่ด้วย (ดีนะที่วันนั้นไม่ได้เปลือยเปล่า) ในขณะนั้นเราทั้งสามคนต่างก็ได้แต่นิ่งอึ้งไปตามๆกัน บรรยากาศมันดูอึดอัดมาก (สมัยนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าน่าจะเรียกว่า บรรยากาศแบบมาคุๆ) จนคุณยายยังทักเลยว่าเป็นอะไรกันไป ผมเองก็ตอบแถไปตามเรื่อง จนมาถึงจุดสำคัญเมื่อตอนกลางคืน เพราะเราสามคนต้องนอนในห้องเดียวกัน ปัญหาคือต่างคนต่างก็ไม่รู้จะนอนกันตรงไหน ผมเลยตัดสินใจนอนที่พื้น สองคนนั้นเลยต่างคนต่างไปนอนที่พื้นโดยแยกกันไปคนละมุม ตอนแรกคิดว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว แต่ว่า... ผมรู้สึกได้ว่ามีคนมากอดผมจากด้านหลังแล้วก็รัดแน่นมาก

“คืนนี้หนาวจังเราขอนอนกอดอามนะ” คิมนั่นเอง ผมพยายามห้ามแล้วแต่คิมรัดผมแน่นมากซะจนทำอะไรไม่ได้ ต้องปล่อยคิมไปเพราะถ้าพูดดังก็กลัวนาวจะได้ยิน แต่ไม่ต้องรอนานหรอกครับ นาวก็เขามาหาผมเหมือนกัน โดยนาวดึงแขนของผมที่ยังว่างอยู่ออกมาแล้วก็มาหนุนแทนหมอนแล้วกลิ้งไปกลิ้งมา ก่อนจะมาซบลงที่ใกล้กับหน้าผมแล้วพูดว่า

“ให้นาวอยู่ใกล้ๆพี่อามนะครับ พูดจบก็ซุกหน้านอนลงไปโดยสงบ สองคนนั้นหลับปุ๋ย แต่ผมกำลังจะเป็นบ้าตายด้วยความสับสน ประเด็นก็คือ คิมมาป่วนเปี้ยนที่เป้าผมเลย แถมถอดกางเกงแล้วก็รูดท่อนลำขึ้นลงเลย ผมพยายามเอามือปัดแล้วแต่ไม่ได้ผล ผมไม่อยากให้น้องเห็น แต่ไม่ทันแล้วครับ นาวรู้สึกได้ว่าผมขยับตัว แล้วการกระทำก็ไวกว่าความคิดนาวทำสิ่งที่ผมตกใจมากคือมือหนึ่งก็รัดผมไว้ อีกมือก็เอาไปเล่นก็ท่อนลำผม กลายเป็นคู่แข่งทั้งสองคนกลายมาเป็นพันธมิตรทางเซ็กส์ คือต่างคนต่างใช้มือคนละข้างโอบรัดผม มืออีกคนละข้างก็เล่นกับท่อนลำและพวงสวรรค์ของผมอย่างเมามัน

“ทั้งสองคนหยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอ้บ้าเอ้ย” ผมพยายามร้องห้ามแต่เหมือนทั้งสองคนเข้าขั้นหน้ามืดขนาดหนักต่างคนต่างเร่งมือของตัวเองเพื่อให้ผมถึงเส้นชัย ต่างคนต่างระดมจูบ ระดมไซร้ผมอย่างไม่มียั้ง ที่สุดแล้วผมก็น้ำแตกคามือของคนทั้งคู่ ที่ผมตะลึงก็คือต่างคนต่างก็เอาปาดน้ำของผมมาไว้ในมือ แล้วเอาขึ้นมาเลียกินไปจนหมด ผมทั้งตกใจและรู้สึกร้อนผ่าวในเวลาเดียวกัน เมื่อเสร็จกิจต่างคนต่างโอบรัดผมไว้แน่น เหมือนเราสามคนกลายเป็นแซนวิช ที่มีสองคนนั้นเป็นขนมปังชิ้นใหญ่ๆที่กำลังเบียดแฮมอย่างผมเอาไว้อย่างแน่นหนา ผมอึดอัดมาก จนต้องร้องว่าให้คลายวงแขนลงหน่อย แม้ว่าสองคนนั้นจะคลายวงแขนลง แต่ต่างคนก็ไม่ยอมปล่อยผมเลย และท่อนลำของผมแทบจะพ่นน้ำรักออกมาตลอดทั้งคืน จนผมแทบจะขาดใจตาย

เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาผมรู้สึกเหมือนตัวเองถูกเบียดแบบแทบเอาเป็นเอาตาย คิมประกบหลังนาวประกบหน้า ต่างคนต่างโอบรัดผมไว้อย่างแน่นหนา ยังกับนักโทษเลย จนผมต้องบอกว่า

“ปล่อยเหอะ เช้าแล้วจะไปใส่บาตร” สิ่งที่ทำให้ผมตกใจกว่าก็คือ สองคนนี้กลับไม่ได้ปล่อยผม แต่มองกันไปมองกันมา แล้วโดยที่ไม่ต้องเอ่ยคำใด ผมก็โดนสองคนนี้เปลื้องผ้าจนล่อนจ้อน
“เฮ้ยทำอะไรอ่ะ พอเหอะเมื่อคืนนี้แทบตายแล้วนะ ยังไม่พออีกเหรอ”
“เปล่านะ คิมจะพาอามไปอาบน้ำต่างหาก” คิมยิ้มกริ่ม
“ใช่ๆๆ อาบน้ำๆ พี่อามจะได้สบายตัวไง” นาวดูท่าทางเจ้าเล่ห์กว่ามาก ผมยังไม่ทันจะตอบโต้อะไร ก็โดนสองคนนี้ลากเข้าไปในห้องน้ำแล้ว ผมพยายามบ่ายเบี่ยงและหนีออกมา แต่ก็โดนสองคนนี้ล็อกเอาไว้

“พี่อามอย่าขัดขืนดิ เดี๋ยวไปใส่บาตรไม่ทัน คุณยายจะสงสัยเอานะ ว่าสามคนเนี่ยหายไปไหนกัน” นาวพูดดักทางผมจนผมต้องยอม ห้องน้ำในห้องที่ผมนอนไม่มีฝักบัว มีแต่ขันตักอาบ นาวเป็นตักน้ำมารดตัวผม จากนั้นคิมก็เอาสบู่เหลวมาใส่มือแล้วลูบไล้ตามตัวผม ผมดิ้นหนีแต่ก็ถูกนาวล็อกเอาไว้จากด้านหลัง นาวไซร้ไปที่หลังใบหูและตามซอกคอผม คิมก็ใช้มือลูบไล้ไปตามตัวผม แล้วจัดการดูดผมอย่างแทบเป็นแทบตาย ที่สุดแล้วนาวก็ล็อกผมไว้ให้คิมได้ใช้ปากเล่นกับท่อนลำของผม แล้วสองคนนี้เขาก็เปลี่ยนกันมาเป็นคิมที่เข้ามาล็อกตัวแล้วให้นาวได้ใช้ปากกับท่อนลำผมบ้าง ผมได้แต่ดิ้นไปดิ้นมา จนที่สุดแล้วพอผมใกล้จะกระฉูดออกมาอีกรอบ ทั้งสองคนก็ยืนขึ้นมาโอบผมไว้จากด้านหลัง ต่างคนก็เอามือหนึ่งโอบผมไว้ อีกมือหนึ่งก็ช่วยกันให้ท่อนลำของผมให้ถึงจุดหมาย พอใกล้ถึงขีดสุด ทั้งสองคนก็เอาผมผิงไว้กับผนังให้ห้องน้ำ ต่างคนต่างคุกเข่าลงแล้วก็ใช้ปากของตน ปากสองปากต่างดูดเลียท่อนลำแท่งเดียวอย่างหื่นกระหาย จนที่สุดแล้วน้ำกามผมก็พุ่งกระฉูดไปที่หน้าของทั้งสองคนจนเลอะเทอะไปหมด แต่ต่างคนต่างก็ยังดูดท่อนเลียท่อนลำของผมต่อไปจนมั่นใจว่ามันแห้งสนิท ต่างคนต่างก็ปาดน้ำกามที่เลอะหน้าของตนเข้าไปยังลิ้นของตน ผมหมดแรงทรุดฮวบลงมาตรงกลางระหว่างคนสองคน สองคนนี้ก็เข้ามระดมจูบผมไม่ยั้ง จนอารมณ์ของผมแตกกระเจิงไปหมดแล้ว จากนั้นคิมก็เอาน้ำมาล้างตัวผมอีกที แล้วช่วยกันลากผมออกมาแต่งตัว ตอนที่ออกมาใส่บาตรกัน สองคนนั้นต้องช่วยประคองผมออกมาจากห้อง จนคุณยายถามว่าผมเป็นอะไร ผมก็บอกว่าไม่สบาย

“ยายใช้งานอามหนักไปรึเปล่าลูก” คุณยายสงสัย
“เปล่าครับ ไม่ใช่นะครับ” ผมรีบปฏิเสธ
“อ๋อพอดีว่าอามเขาคิดถึงบ้านแล้วน่ะครับ” คิมรีบตอบทันควัน เป็นการส่งสัญญาณมาที่ผมว่า ผมต้องกลับไปชดเชยความผิดที่หนีมาได้แล้ว
“อ้าวเหรอ อืมอามก็อยู่นี่นานแล้วนะ ที่บ้านคงเป็นห่วงแล้ว จะกลับวันไหนบอก เดี๋ยวยายจะทำอาหารสุดฝีมือเลี้ยงส่งเลยดีมั้ย” แม้ว่าคุณยายดูรื่นเริง แต่เหมือนท่านจะใจหายเหมือนกัน
“ดีเลยครับคุณยาย” นาวยิ้มกริ่มแล้วตาที่มองมายังผมก็เหมือนจะกินผมได้ทั้งตัว น่ากลัวจริงๆ

“ไปใส่บาตรกันเถอะลูก สายแล้วนะ” คุณยายเร่งพวกเรา ผมเองลำบากที่สุดเพราะแทบจะหมดแรง พอมาถึงที่ท่าน้ำ แรงจะตักข้าวยังไม่มีเลยครับ สองคนนั้นเลยได้ทีร่วมกันกุมมือผมไว้ แล้วตักข้าวร่วมกัน ในสักษณะที่มือผมอยู่ใต้มือเขาทั้งสองคน ตายแล้วแบบนี้ก็โดนข่มนี่หว่า แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ ตายแน่ๆเลยกู พอกรวดน้ำสองคนนี้ก็กุมมือผมไว้อีก สรุปคือหนีไปไหนไม่ได้เลย ยังดีที่คุณยายไม่ทันสังเกต ไม่งั้นคงงงว่าไอ้สามคนนี้มันจะกุมมืออะไรกันหนักหนา ต่อจากนั้นคุณยายก็บอกให้ผมไปพักผ่อน เพราะดูท่าแล้วถ้ายังทำงานอาจอาการแย่กว่านี้ แต่ผมกลัวมากว่าถ้ากลับไปนอน อาจจะไม่ได้นอนมากกว่า พอถึงที่ห้องผมพูดเลยว่า อย่าทำอะไรผมเลยผมกลัวแล้ว แรงก็ไม่มี คิมกับนาวคงจะเข้าใจ เลยไม่ได้รุมปรนเปรอผมต่อ แต่ทั้งสองก็เข้ามานอนกอดผมไว้ คิมโอบผมจากทางด้านหลัง ส่วนนาวก็มาก็กอดผมจากข้างหน้า ผมหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ภายใต้อ้อมกอดจากทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน
 
************************************

น่าอิจฉาหรือน่าสงสารดีละเนี่ย เหอๆๆๆ แต่ดูท่า ฝันของท่านผู้อ่านหลายๆท่านใกล้จะเป้นจริงแล้วล่ะ หุหุ   
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 07-02-2010 23:35:18
3P

 :impress2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 08-02-2010 00:03:01
กลายเป็น 3P ไปจริงๆแล้วซินะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 08-02-2010 00:26:56
 :haun4:
พี่อามจะขาดน้ำตายซะก่อน
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: ErosAmor ที่ 08-02-2010 01:54:23
ในที่สุดก็ 3P  :haun4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: nithiwz ที่ 08-02-2010 03:44:06
มีแต่เรท  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
รับไม่ได้จริงๆ

อ่านต่อ  :o8: เคลิ้ม.....
(สงสารพี่อามจริง  คงจะฟ้าเหลืองเป็นเนืองนิจ)
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 08-02-2010 13:41:06
ท่าทางอามจะแย่แน่ๆเลย  รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 08-02-2010 17:53:25
พึ่งจะมีเรื่องนี้แหละที่ทำให้เราได้สมหวัง
3Pที่ใฝ่ฝัน
กร๊ากกกกกกกกกกกกก
 :m25:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 08-02-2010 19:17:27
3p จริงๆโด้ยยยยยยยยย

คริๆ +1 ให้เพราะความถูกจายยยยย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: J๐ly ที่ 08-02-2010 20:51:21
ทำไมดูมัน รักอาม แต่มันไม่สงสารเลยว่ะ

หุหุหุ



แต่ก็นะ...อยากเป็นอาร์มจัง 5555
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 08-02-2010 22:30:36
 :-[ น้องอาม ฟ้าเหลืองแน่เลยอ่ะเจอแบบนี้
ทั้งคิมทั้งนาวแต่ละคน

น่าอิจฉามีโอกาสได้เล่นแซนวิสด้วย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 08-02-2010 23:08:21
 :m25:

ทั้งน่าสงสารเเละน่าอิจฉา  :laugh:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 09-02-2010 03:24:41
ไม่รู้ว่าจะพูดไรดีแล้ว ทั้งคิมทั้งนาวไม่มีใครยอมกันแน่ๆ

อามเอ้ย ฟ้าเหลืองยาวแน่ๆ :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งหลังของครึ่งหลัง (ต้องซอยสามอ่า
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 10-02-2010 03:08:30
คิม กับ นาว ช่วยกันอย่างนี้แล้วจะเหลืออะไรอีกหละ






 :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 11-02-2010 04:49:40
บทที่ 12 ทางออกของสามหัวใจ
เมื่อตื่นขึ้นมาผมพบว่า ตัวเองไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคนทั้งสองคนแล้วครับ พอเดินออกไปข้างนอกก็พบว่าทั้งสองคนนั้นกำลังช่วยคุณยายทำงานบ้านอยู่ด้วยความขยันขันแข็ง มองไปแล้วก็น่ารักดีครับ ผมอยากให้เราสามคนกลับไปเหมือนวันเก่าๆ ถ้าผมมีสองคนนี้เป็นน้องกับเพื่อน คงมีความสุขมากกว่านี้ เพราะถ้าเราจะอยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้มันคงไม่ง่ายเลย เพราะปกติแล้วผมเป็นคนเปิดเผย อาจจะไม่ได้ป่าวประกาศว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ก็ไม่ได้ซ่อนเร้น ถ้าผมมีแฟนผมก็อยากให้ทุกคนได้รับรู้ แต่แบบนี้มันทำให้ผมไม่แน่ใจเลยว่าจะทำยังไงกับชีวิตตัวเองต่อไป เพราะถ้าผมจะแสดงออกต่อสาธารณะชนจริงๆ ผมคงทำได้เฉพาะกับคิม แล้วนาวก็จะน่าสงสารมากที่ต้องถูกผมซ่อนเอาไว้ สุดท้ายก็ต้องมีคนเจ็บอยู่ดี ผมไม่อยากให้ใครเจ็บเลย นี่คือเหตุผลจริงๆที่ผมอยากจะเดินจากคนทั้งสองมาในตอนแรก แม้ว่ามันจะเจ็บปวดบ้างในช่วงแรก แต่ดีกว่าที่ต้องมาเจ็บปวดกันตลอดไป แต่พอมาตอนนี้ผมก็เลือกใครไม่ได้อีก เลยได้แต่ถอนหายใจแล้วก็ไปนั่งถอดอารมณ์ที่ริมน้ำอย่างไร้จุดหมาย

ซักพักก็มีคนมานอนตักผม แล้วก็มีคนมาหอมแก้มผมจากนั้นก็กอด คนที่มานอนตักผมคือนาว ส่วนที่ผมหอมแล้วก็กอดผมคือคิม
“นึกว่าหายไปไหน แอบมานั่งอยู่นี่เอง หายเพลียรึยัง” คิมแถมผมด้วยความอารมณ์ดี แต่ผมได้นั่งเงียบไม่เคลื่อนไหว เหมือนหมีซึมๆเพราะอาหารไม่ย่อย
“พี่อามโกรธเราสองคนเหรอ ขอโทษนะ อารมณ์มันพาไป เราสองคนรักพี่อามมากจริงๆ มากกว่าทีใครจะยอมปล่อยให้พี่อามจากไป” นาวพูดแล้วก็เอื้อมมือขึ้นมาจับแก้มผม คำว่ารักกว่าที่จะปล่อยไป มันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองน้ำตามันเอ่อขึ้นมาว่านี่ผมต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ไปจริงๆใช่ไหม คิมเห็นท่าทางผมไม่ดี เลยกอดผมแน่นกว่าเดิม
“ขอโทษนะอาม เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เราจะไม่ทำให้อามเหนื่อยขนาดนี้อีกแล้ว” คิมดูรู้สึกผิดมาก
“ไม่ได้โกรธหรอกแต่ว่า...” ผมก็ให้เหตุผลกับทั้งสองคนไปตามที่เล่าไว้ช่วงแรกของบทนี้แล้วละครับ พอผมพูดจบทุกคนก็ได้แต่เงียบ จนกระทั่ง....
“อาม คิมถามคำเดียว อามรักเราสองคนจริงๆใช่มั้ย”
“ไม่รักจะหนีมานี่ทำไมให้ลำบาก ก็เพราะการที่เรามันเห็นแก่ตัวไม่ยอมเลือกใครไงล่ะ ที่ทำให้เราสามคนต้องอยู่ในสภาพนี้” ผมพูดด้วยเสียงขาดช่วง มันยากเหลือเกินที่จะบอกอะไรที่ช่างลำบากใจอย่างนี้ออกมา
“งั้นอามแค่รักเราสองคนก็พอที่เหลือเป็นเรื่องที่คิมกับนาวเอง” ผมตะลึงไม่คิดว่านี่จะเป็นเรื่องจริง แต่นาวพยักหน้าเห็นด้วย
“แค่พี่อามบอกว่ารักเราสองคนก็พอครับ” นาวพูดจบแล้วก็คว้าผมมากอดไว้ แล้วคิมก็คว้าผมไปจูบ นาวเองก็เข้ามาด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้ลิ้นของผมกำลังพันกับทั้งลิ้นของสองหนุ่มที่เหมือนจะตักตวงความต้องการจากผมไม่พอซะที

“พอเหอะ พอแล้ว อย่าทำแบบนี้ในที่แบบนี้เลยนะ” ผมรู้สึกว่ามันจะเลยเถิดไปแล้ว เลยต้องหยุด แล้วทั้งสองหนุ่มก็หยุด แต่ก็ไม่วายซบผมที่ซอกคอผมคนละข้าง จากนั้นก็เดินกันออกมาโดยที่ทั้งสองคนยังกุมมือผมอยู่ ผมไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายที่มีคนสองคนมารัก แล้วผมก็รักเขาสองคนอย่างหมดหัวใจ คนหนึ่งก็เจ้าชายที่แสนดี อีกคนก็น้องชายที่ตัดกันไม่ลง ผมคิดถึงอนาคตตัวเองไม่ออกเมื่อต้องกลับไปกรุงเทพ เฮ่อ

ตกคืนนั้นสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิดมันก็เกิด เพราะที่สุดแล้ว เราก็เล่น Threesome กันอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ยังดีที่ว่าคราวนี้ไม่ได้รุนแรงแต่ก็ไม่วายที่ผมต้องเหนื่อยอยู่ดี ก็ผมต้องโดนทั้งสองคนเล่นทั้งช่วงบนช่วงล่าง ไม่ให้เหนื่อยให้เมื่อยยังไงไหว แต่สองคนนั้นดูจะแฮปปี้มาก ไม่ร้องครวญครางก็ร้องเรียกชื่อผมตลอดเวลา มันจะอะไรกันนักหนา โอ้ยผมจะบ้าตาย เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ดีนะที่คืนนั้นผมไม่ต้องเสียบด้วย เพราะไม่มีน้ำจะให้แตกแล้วครับ แล้วผมก็หลับไปใต้อ้อมกอดที่เปลือยเปล่าของเราสามคน แต่ไม่วายที่มือสองคนนั้นจับท่อนลำผมไว้ คือถ้าแข็งขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะปฎิบัติการต่อโดยทันที คงไม่ไหวแล้วล่ะ ถ้าจะให้แข็งคงต้องไปกินม้ากระทืบโรงหรือไวอะกร้าแล้วมั้ง โอย ทำไมโลกเรามันช่างไม่รู้จักความพอดีซะเลย ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้กำลังถูกพระเจ้าให้รางวัลหรือถูกลงโทษกันแน่ จริงอยู่ครับว่ามันสุดแสนจะหฤหรรษ์ เสียวซ่านสะท้านไปทั่วทั้งกายแต่อะไรก็ตามที่มากเกินไปมันก็ไม่ดีใช่ไหมครับ อย่างชูชกก็กินจนท้องแตกตายเพราะโลภมากในการบริโภคอาหาร ผมก็กลัวเหมือนกันว่าจะตายคากองน้ำกามของสองหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักจักพอที่จะตักตวงกามรสจากผมซะที

สัปดาห์ต่อมาผมก็ได้เวลากลับบ้านซะที โดยที่คิมกับนาวมารับผมกลับไป ก่อนกลับผมโทรคุยกับพี่หมอชาญเพื่อที่จะขอบคุณที่ช่วยหาที่พักพิงให้และเล่าเรื่องที่ผมตกลงอยู่กันไปแบบสามคน พี่หมอชาญได้ฟังแล้วก็เงียบไปซักพัก ก่อนที่จะถามว่า

“แน่ใจแล้วนะ ที่จะเลือกแบบนี้” พี่หมอชาญถามเสียงเครียด
“อ้าวก็พี่หมอชาญบอกว่าเคยบอกนี่ว่าอาจต้องคบไปสามคน”
“นั่นน่ะมันโบราณมาแล้วนะเว้ย ไม่ใช่ปัจจุบันนี้”
“แล้วจะให้ผมทำไงอ่ะ เลิกก็ไม่ได้อีก ผมก็เครียดนะเนี่ย”
“อามต้องแบ่งเวลาดีๆ เพราะสองคนนี้เขารักอามมาก แล้วอามคิดว่าจะอยู่แบบนี้ไปตลอดเหรอ”
“บอกตามตรงเลยนะพี่หมอ ผมว่าเรากันอยู่กันแบบนี้ต่อไปนานๆไม่ได้หรอก เพราะผมรู้แล้วว่าจริงๆ สองคนนี้เขาแย่งชิงความรักจากผมกันอยู่ตลอดเวลา ผมรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นพันธมิตรกันจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้มันจะจบลงตรงไหน” จากนั้นพี่หมอชาญก็อวยพรให้ผมโชคดี และดูแลความรักของตัวเองดีๆ ฟังแล้วก็เหนื่อยใจ เพราะผมไม่รู้ว่าอนาคตความรักของผมจะเป็นอย่างไรเหมือนกัน

ทำไมผมถึงรู้ว่าสองคนนี้เขาไม่ได้เป็นพันธมิตรกันจริงๆเหรอครับ เพราะเวลาที่เราปฏิบัติการเล่นรักกันสามคน ผมจะเหนื่อยมาก เพราะสองคนนั้นต่างคนต่างงัดเอากลเม็ดทั้งหลายมาปรนเปรอผมให้ผมพอใจใครคนใดคนหนึ่งมากที่สุด แล้วพอต่างคนต่างเห็นลีลาของอีกฝ่ายบนเตียง ก็กลัวว่าจะน้อยหน้าก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้รู้สึกว่าผมเสียวกระสันแบบสุดๆ โดยที่หลายครั้งก็ลืมไปว่าผมจะไม่ไหวมั้ย จนช่วงหลังผมต้องเป็นฝ่ายเสียบสองคนนั้นบ้าง ไม่งั้นก็อาจจะไม่มีแรงเดินได้ เวลาจะจูบก็ไปจูบใครก่อนไม่ได้ ต้องดึงสองคนนั้นมาจูบๆพร้อมๆกัน ไม่งั้นจะโดนใครคนใดคนหนึ่งงอนเอาได้ง่ายๆ มันลำบากจริงๆนะครับ ดีที่ว่าผมได้กลับบ้านที่ใต้เพื่อเอาของจากหอที่เคยอยู่ในมหาวิทยาลัยไปเก็บโดยที่ไม่มีสองคนนั้นตามมา เพราะนาวก็ต้องเรียนหนังสือ คิมก็ต้องเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานบริหารในบริษัทของที่บ้านแล้ว ผมก็เลยได้พักเรื่องบนเตียงหนึ่งสัปดาห์ แต่ว่าสองคนนั้นก็โทรมาหาผมได้ตลอดเวลา คือเขาแข่งกันโทรมา เหมือนรู้ว่าต่างฝ่ายต่างก็ต้องโทรมาหาผมโทรศัพท์ดังตลอดจนผมเองแทบประสาทเสีย ต้องดุไปคนละทีถ้าไม่เลิกทำแบบนี้จะปิดโทรศัพท์ ก็เลยดีขึ้น

พอตกกลางคืนต้องนอนคนเดียว ก็เลยคิดถึงสองคนนั้นขึ้นมา โอ้ยนี่ผมกลายเป็นคนสองใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพอไม่มีสองคนนั้นมานอนกอดผมก็นอนไม่หลับอีก พอหลับก็ยังฝันถึงสองคนนั้นตลอดทั้งคืนอีก โอ้ยมันจะอะไรกันหนักหนาวะเนี่ย เราสามคนเคยทำอะไรร่วมกันมา ถึงได้มีความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ ไม่รู้ว่ากลับกรุงเทพเที่ยวนี้ ผมจะจัดการยังไงดี แล้วผมต้องไปอยู่กับใคร จะแย่งกันอีกมั้ยวะเนี่ย
 
  ******************************************

น่าสงสาร หรือน่าเห็นใจดีครับนี่ เหอๆๆ

ตอนนี้พี่อามเริ่มลงไม่ถี่แล้วครับ ใกล้จะทันกับต้นฉบับแล้วจากอีกเว็บแล้ว

ส่วนจะเพราะอะไร อีกสักสามสี่ตอนน่าจะทราบกัน

ปล. อยากให้พี่อามมาทักทายชาวเล้ามั้งจังแฮะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 11-02-2010 07:38:30
 :z1:

พี่อามน้ำหมดตัวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: gypsy ที่ 11-02-2010 09:04:26
แอบอิจฉามาอ่ะ
มีคนมารักตั้งสองคน
แบบนี้คงต้องแบ่งวันกันแล้วมั้งเนี่ย
จันทร์ พุธ ศุกร์ให้นาว
อังคาร พฤหัส เสาร์ ให้คิม
วันอาทิตย์ก็ 3P ไปเลย
 :m4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 11-02-2010 11:47:33
+ 1 จัดไป.... o13 o13


โอยย...อ่านแล้วก็เลือดหมดตัว :haun4: :pighaun: 

ว่าไปอามก็น่าสงสารนะ..หมดตัวแล้วมั้ง....คิกคิก

ลองตกลงกันดีๆๆ แบบรีบนที่แนะนำก็ได้..หรือไม่ก็สลับกันไปคนละวัน....แล้วเหลือวันนึงให้ทุกคนได้พักผ่อน..ฮ่าฮ่า....ไปคิดให้เค้าอีก...

ปล.อามกับคิม...หื่นอ่ะ...แต่ชอบบบบบ  :m4:

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: cmos ที่ 11-02-2010 12:09:11
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 11-02-2010 12:35:21
งานหนักเลยนะคุณอาม ถ้าไม่ตัดใจสักคนก็คงต้องทนลำบากกันต่อไป  ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 11-02-2010 13:20:01
 :m25:

อามจะไหวมั๊ยเนี่ย เหอๆ

 :pig4: ขอบคุณwriterนะคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 11-02-2010 13:20:47
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: หอยทาก ที่ 11-02-2010 13:45:47
เอ่อ 3P จริงๆรึเนี่ย
น่ากลัวยิ่งนัก อุอุ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: *SparklinG* ที่ 11-02-2010 17:30:28
อุ้ย.....สามพี ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 11-02-2010 17:36:02
สงสารพี่อาร์มนะเนี่ย

ต่างคนต่างรักพี่อามรึว่ารักตัวเองกันแน่น้อ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 11-02-2010 23:52:20
ถ้าไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด ก็แย่หน่อยนะ
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่12 ทางออกของสามหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 12-02-2010 21:08:47
บทที่ 13 สงครามดอกกุหลาบ ครึ่งแรก

ผมตัดสินใจที่จะอยู่บ้านต่อไปอีกประมาณสองสัปดาห์ เพราะคิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกันที่จะได้พักผ่อนจากเรื่องราววุ่นวายทางความรัก แต่ว่า....

“ทำไมล่ะอาม อามเบื่อคิมแล้วใช่ไหม” คิมพูดด้วยความน้อยใจเหมือนจะร้องไห้
“พี่อามไม่คิดถึงนาวเลยใช่ไหม นี่จะแอบไปหนีไปอยู่กับพี่คิมสองคนล่ะสิ นาวไม่ยอมจริงๆนะ” เฮ่อ ช่วยฟังผมบ้างเถอะ สุดท้ายผมก็ต้องบอกทั้งสองคนไปว่า อยากพักผ่อน ถ้าไม่โดนทั้งสองคนรุมเอารุมเอา อาจจะกลับเร็วกว่านี้ก็ได้ สองคนนี้ก็เลยเงียบ จริงๆผมก็สงสารทั้งสองคนน่ะครับ แต่ว่าตอนนี้สงสารตัวเองมากกว่า ถ้าไม่ได้พักนานๆอาจตายได้เหมือนกัน

การอยู่บ้านนานๆของผมเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะผมได้อยู่ช่วยดูแลที่บ้าน ได้ทำอาหารซึ่งเป็นเรื่องที่ผมโปรดปรานหลังจากที่ห่างหายไปนานเพราะโอกาสไม่เอื้ออำนวยเลย ได้ไปเที่ยวในพื้นที่ท้องถิ่นของตัวเองที่ในบางพื้นที่ผมเองยังไม่เคยได้ไปเลย ช่วงเวลานี้ที่ผมได้กลับบ้านนี่เองที่ทำให้ผมเยียวยาร่างกายและจิตใจตัวเองได้อย่างเต็มที่

พอครบใกล้สองสัปดาห์ขณะที่ผมกำลังจะกลับกรุงเทพ ปัญหาที่ผมคิดไม่ตกก็คือ ผมจะไปอยู่กับใครดีละเนี่ย โอ้ยลำบากใจจังเลย แต่ไม่ต้องคิดนานหรอกครับ สองสามวันก่อนที่ผมจะกลับกรุงเทพ ในช่วงสายๆขณะที่ผมนอนหลับอยู่ๆดี ก็มีคนมากอดผมเอาไว้อย่างแน่นหนา เฮ้ยอะไรวะเนี่ย

“คิดถึงที่รักจังเลยครับ” คิมนั่นเอง
“คิมมาได้ไง” ก่อนที่ผมจะพูดอะไรต่อ คิมก็คว้าผมมาจูบไว้แล้ว
“คิมอย่าแลกลิ้นนะ เรายังไม่ได้แปรงฟัน” ผมพยายามปราม
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ร่างกายภายนอกของอามทุกส่วนเราก็ลิ้มรสมาหมดแล้ว อามไม่ได้จูบคิมสองคนแบบนี้มาตั้งนาน คิมไม่ปล่อยโอกาสดีๆอย่างนี้ไว้หรอก” แล้วคิมก็จูบผมอย่างเร่าร้อน รุนแรง จนผมรู้สึกว่าเหมือนปากตัวเองจะไหม้เลยทีเดียว พอผละออกจากปากคิมได้ผมก็ถามต่อ

“แล้วคิมรู้บ้านใหม่อามได้ไง” ผมยังสงสัย
“อ้าว อามลืมไปแล้วเหรอ ว่าเรามีเบอร์คุณแม่อามอยู่นะ โอ้ยบ้านอามหาไม่ยากหรอก” เออว่ะ ลืมไปจริงๆด้วย ดีนะที่ตอนนั้นไม่หนีกลับบ้าน ไม่งั้นก็ไม่รอดอยู่ดี แล้วคิมก็ไม่เว้นวรรค จับกางเกงผมกระชากออกไปจากขาแล้ว ด้วยความที่เป็นชุดนอน ก็เลยไม่ได้ใส่กางเกงใน คิมก็อ้าปากครอบพร้อมกับลงลิ้นกับท่อนลำของผมอย่างเมามัน คิมทำเอาผมเสียวซ่านจนรับไม่ไหว จนน้ำกามทะลักทะลายออกมาอย่างมากมาย คิมจัดการกับน้ำกามของผมอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเป็นมื้อเช้าของวันนั้น คิมกำลังจะจับผมหงายหลังเพื่อเล่นรักกันทางประตูหลังต่อ

“ไม่ได้นะคิม เรายังไม่ได้เข้าห้องน้ำ เดี๋ยวเราใช้ปากให้ก็ได้” คิมจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็ว ผมก็จัดการปรนเปรอคิมด้วยความที่อารมณ์พาไปล้วนๆ คิมดูจะเสียวซ่านมากจนตัวกระตุกเป็นระยะๆ แม้มันจะคับปากผมก็จริง แต่มันก็สนุกมาเช่นกัน ที่สุดแล้วน้ำกามคิมก็พุ่งเข้ามาในปากผมมากมาย จนแทบจะต้องกลืนเข้าไป แต่ไม่ทันไรคิมก็คว้าผมไปจูบแล้วเอาลิ้นมาแลกน้ำกามตัวเองอย่าสนุกสนาน

“เห็นมั้ยร่างกายภายนอกทุกส่วนของอามคิมก็ชิมได้หมดแหละ อร่อยด้วย” คิมยิ้มกรุ่มกริ่ม แล้วก็ทำในสิ่งที่ผมไม่อยากให้ทำคือพยายามดูดต้นคอผมให้เป็นรอย ผมแทบผลักออกไม่ทัน แต่ก็ไม่วายมีรอยมานิดนึง
“คิมอย่าทำแบบนี้ใครเห็นมันจะไม่ดี”
“อามไม่ได้กลัวคนอื่นหรอก อามกลัวนาวเห็นมากกว่าล่ะสิ” คิมดูมีสีหน้าไม่พอใจ นั่นรู้ทันผมอีก
“ไม่หรอกคิม ใครเห็นมันก็ไม่ดีทั้งนั้น อย่าพาดพิงน้องนาวเลย”
“ทำไมล่ะ แค่พูดแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ เรามันไม่ได้เร้าใจอามเหมือนนาวใช่มั้ย อามต้องปกป้องมันเรื่อย” ผมรู้สึกหมดความอดทนกับอาการไม่เหตุผลของคิม
“ถ้ายังเป็นแบบนี้นะ คิมกลับบ้านไปดีกว่า เรากลับไปอยู่กับนาวดีกว่า” จริงๆผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนี้กับคิมหรอกครับ แต่ด้วยความโกรธอารมณ์มันก็เลยพาไป ผมเดินหนีไปเข้าห้องน้ำ แต่แล้วก็ถูกคิมตะครุบตัวไว้จนล้มไปนอนกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่ คิมไม่ได้พูดอะไร เขาซบบนหน้าอกผม จนผมรู้สึกว่าหน้าอกผมเปียก โอ้ยเอาอีกแล้วผมทำคิมร้องไห้เหรอเนี่ย ทำไมผมชอบทำคนที่ตัวเองรักร้องไห้แบบนี้

“คิมอย่าร้องเลยนะ เราขอโทษนะ เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ไม่หรอกเราผิดเอง เรารู้ว่าเราทำตัวงี่เง่า ทำตัวไม่มีเหตุผล เราผิดเองที่จริงๆแล้วก็ยอมรับไม่ได้ซะที่ว่าอามมีนาวเป็นเจ้าของด้วย ฮือ” คิมร้องไห้หนักกว่าเดิม
“อย่าโทษตัวเองเลยนะ เราผิดเอง เราขอโทษนะ คิมอย่าร้องไห้เลย”
“งั้นอามย้ายไปอยู่กับคิมได้มั้ย เราบินลงมารับอามไปอยู่กับเรา เรากลัวว่าถ้าอามกลับไปกรุงเทพ อามจะไปกลับอยู่กับนาว เพราะยังไงก็เป็นญาติกัน แล้วอามไปหาเราน้อยลง อามอยู่กับเราได้มั้ย”
“แต่เราก็ต้องไปหานาวอยู่ดีนะ ปกติเราก็กลับบ้านญาติทุกอาทิตย์อยู่แล้ว”
“แต่อามก็ยังอยู่กับเรามากกว่านะ ไปอยู่กับเราเหอะนะๆๆๆ เนี่ยเรารีบเคลียร์งานแล้วมารับอามโดยเฉพาะเลยนะ” สายตาคิมที่มองมาทำให้ผมไม่มีทางเลือก ผมปฏิเสธคิมไม่ลงจริงๆ ผมได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบ คิมดีใจสุดขีด ขยับตัวขึ้นมาเอาแก้มตัวเองมาแนบแก้มผม แล้วจูบผมอย่างแผ่วเบา
“คิมรักอามนะครับ” ผมไม่ได้ยินคำนี้จากปากของคิมนานมาก
“อามก็รักคิมเหมือนกัน” คิมยิ้มกว้างจูบผมที่หน้าผากอย่าเบาๆ ผมไม่ได้สัมผัสแบบนี้จากอามมานานแล้ว ผมผละตัวเองไปจัดการอาบน้ำชำระล้างตัวโดยที่ไม่คิมตามมาด้วย พอผมออกมาจากห้องน้ำเท่านั้นแหละ คิมก็เข้ามาไซร้ผมใหญ่ บอกว่าอาบน้ำใหม่ๆแบบนี้ตัวผมหอมมาก ขณะที่คิมกำลังไซร้ผมอยู่ นาวก็โทรมา

“พี่อามจะกลับแล้วใช่ไหม มาอยู่กับนาวเร็วๆนะ นาวคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว”
“อืม นาวพี่คงไปหานาวได้แต่คงไม่ได้อยู่กับนาวหรอก” ผมพูดเสียงเครียด
“อ้าวทำไมล่ะ”
“คิมมารับพี่ถึงบ้านเลยนาว พี่ปฏิเสธคิมไม่ได้”
“ครับพี่อาม ผมเข้าใจ พี่อามรักนาวมั้ยครับ”
“รักสิครับ พี่อามรักน้องเสมอแหละ” ผมรู้สึกผิดจนน้ำตาจะไหล
“แค่พี่อามรักนาวก็พอ แล้วนาวจะรอพี่อามมาหานะครับ“ นาวน้ำเสียงสั่นเครือ แล้วก็วางสายไป ส่วนผมน้ำตาไหล ได้แต่หันหน้าไปมองทางอื่นไม่อยากให้คิมเห็น แต่คิมก็เอามือมาปาดน้ำตาผม
“อย่าร้องไห้นะ คิมสัญญาว่าจะไม่เก็บอามไว้คนเดียว แม้ว่าจริงๆแล้วคิมไม่อยากทำอย่างนั้นก็ตาม”
“ขอบใจนะคิม” ผมพูดอะไรไม่ออก
“เราบอกแล้วไง ว่าแค่อามรักคิมกับนาวก็พอ เรายอมได้ทั้งนั้น” คิมพูดแล้วก็มาซบที่ไหล่ผม เหมือนแมวป่วยๆที่ต้องการให้เจ้าของเยียวยา แต่เหมือนว่าแมวตัวนี้จะถูกเจ้าของทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่มันก็ไม่ยอมไปไหน ยอมเจ็บยอมทน ก็เพียงเพราะคำว่ารักคำเดียวเท่านั้น

ผมกลับมากรุงเทพกับคิมด้วยสัมภาระที่เป็นกระเป๋าเสื้อผ้า กับเอกสารสำคัญบางอย่าง นอกนั้นก็ไม่ต้องเอาอะไรมาเพราะที่คอนโดของคิมก็มีทุกอย่างอยู่แล้ว ก็คอนโดที่ผมโดนจับไปขังอยู่ช่วงหนึ่งแหละครับ ทันทีที่ผมไปถึงก็ได้เจอกับพนักงานหญิงคนนั้นแหละครับที่ซักไซร้ผมในช่วงก่อน แล้วก็ดันจำผมได้ด้วยนะครับ

“อ้าวกลับมาทำวิจัยกันอีกแล้วเหรอค่ะ” ผมก็ได้แต่พยักหน้าครับ ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง แต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นั้น
“แม้คุณคิม ป่านนี้ยังไม่เห็นคนที่จะมาอยู่ร่วมเรือนหอกับคุณคิมเลยคะ เห็นแต่เพื่อนคนนี้ตลอด” เอาเข้าไปแล้วคิมจะตอบยังไงเนี่ย ผมล่ะสังหรณ์ใจ และแล้วมันก็..... คิมเอามือมาโอบไหล่ผมแล้วดึงเข้ามากอดใกล้ๆ และพูดว่า
“ก็นี่แหละครับ สุดที่รักของผม มีอะไรสงสัยอีกมั้ยครับ” คิมตอบอย่างมั่นใจ ผมรู้ว่าตัวเองหน้าซีด ส่วนพนักงานหญิงคนนั้นได้แต่อึ้ง พร้อมกับพนักงานคนอื่นๆที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้นแล้วได้ยินก็เหมือนช็อคไปตามๆกัน จริงๆผมก็ไม่ได้อายนะครับ แต่ว่าไม่รู้จะวางตัวยังไงดี เล่นประกาศต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ และทันทีที่เข้าห้องได้เรียบร้อย คิมก็ลากผมขึ้นเตียงแล้วปฏิบัติการรักทันที

“เฮ้ยพึ่งมาถึงเอง ขออาบน้ำก่อนได้มั้ย” ผมบ่ายเบี่ยงสุดฤทธิ์
“ไม่เอา เรารอไม่ไหวแล้ว อยู่บ้านอามก็ทำอะไรได้ไม่เต็มที่ ตอนนี้คิมจะกลืนกินอามทั้งตัวได้อยู่แล้วรู้มั้ย” พูดจบก็ผลักผมลงเตียง แล้วจัดการถอดเสื้อผ้าผมซะล้อนจ่อน จากนั้นก็ใส่ไม่ยั้ง ปากก็ดูดอมท่อนลำผมไป มือข้างหนึ่งก็ลูบไล้ตัวผม มืออีกข้างก็ใช้นิ้วจิ้มเข้าจิ้มออกรูสวรรค์ของผมจนเสียวซ่านไปหมด ผมกำลังดิ้นพล่านไปทั่วทั้งตัว
“อ๊าส์ พอก่อน เดี๋ยวน้ำแตก” ผมพยายามดันศีรษะคิมออก
“ดีแตกมาเลย เรารอกินอยู่ น้ำอมฤตของอามน่ะ รีบๆแตกมาเลย”
“บ้าแล้วคิม กินเข้าไปก็ไม่ได้เป็นอมตะซะหน่อย”
“แต่เราอยากจะเป็นอมตะ แล้วอยู่กับอามตลอดไป” คิมพูดจบก็บรรจงเลียหัวท่อนลำของผมต่อไป
“แต่เราไม่อยากเป็นอมตะนะ คงอยู่กับคิมไปตลอดกาลไม่ได้หรอก”
“งั้นเราจะตามหาอามจนเจอ แล้วเราจะกลับมาอยู่ด้วยกันอีก แล้วอามจะต้องเป็นของเราคนเดียวไม่ไปเป็นของใครอีก” ผมสังเกตว่าใครที่อามพูดถึงก็คือนาว คิมดูแววตาวาวโรจน์ ดูจะคิดตามที่พูดจริงๆ
“งั้นให้มันเป็นเรื่องของอนาคตล่ะกัน” ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี เดี๋ยวพูดไปพูดมา หาว่าเข้าข้างนาวอีก
“งั้นมาทำกันตอนนี้ให้ดีละกัน” คิมพูดไปก็เล่นกับทอนลำผมไป ไม่ทันขาดคำจากประโยคนี้ผมก็แตกกระจายเต็มหน้าเต็มตาเต็มปากของคิม และก็อย่างที่เคยบอกไว้ คิมก็ปาดน้ำของผมไปกินจนหมด นี่คิมเห็นน้ำกามของผมเป็นน้ำอมฤตไปแล้วรึไง

ถ้าไม่รักกันจริงคงกินกันเข้าไปไม่ได้หรอก แล้วคิมถอดเสื้อผ้าตัวเอง พร้อมๆกับท่อนลำที่ผงาดขึ้นมาอย่างองอาจ ลำพอง(อืม พองจริงๆ) แล้วก็มาใกล้ผมแล้วมากระซิบผมที่ข้างหูว่า
“อมให้หน่อยนะ ปากอามน่ะเราโหยหามันตลอดเลย” คิมนอนหงายแล้วผมก็นอนตะแคง (ไม่นอนคว่ำเพราะว่าจะทับท่อนลำตัวเอง) พร้อมกับปฏิบัติการโอษฐกามอย่างเร้าใจที่สุด ให้สมกับการเรียกร้องของคนที่เขารักผมหมดหัวใจ
“ฮ๊าส์ๆๆ เสียว เอาอีกๆ เรารักอาม” คิมได้แต่พูดประโยคซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนที่สุดแล้วคิมก็พ่นพิษใส่ปากผมจนได้ คือแทบไม่ต้องกลืนเพราะมันแทบจะลงคอหอยไปเลย ผมแทบสำลักตาย แล้วคิมก็คว้าผมไปกอด ผมเองด้วยความที่เดินทางเหนื่อยก็เลยหลับไปตามอ้อมกอดคิม ตื่นมาอีกทีคิมก็กำลังเล่นประตูหลังผมอยู่อย่างเมามัน นี่มันนิยายมากไปมั้ย หลับไปก็เสียวตื่นมาก็เสียว

“อืมฟิตจัง อามอย่าตอดนักสิ คิมเจ็บไปหมดแล้ว” อืม ขนาดเจ็บก็ยังแทงเอาแทงเอา นี่ถ้าไม่เจ็บก้นผมไม่แหกไปแล้วเหรอ โอ้ย เสียว แต่ขณะที่กำลังปฏิบัติการอยู่นั้น ผมเห็นโทรศัพท์ตัวเองวางอยู่บนเตียง เฮ้ยนี่มันหมายความว่าไง ผมรีบหยิบมาดู คิมโทรหานาวแล้วเปิด Speaker phone เหรอเนี่ย
“นาวได้ยินพี่มั้ย” ผมรีบถามปลายสาย
“อ้าวตื่นแล้วเหรอ กำลังสนุกเลย” เฮ้ยสองคนนี้ไปไกลแล้วนะเนี่ย
“ทำอะไรกันสองคนเนี่ย ใครก็ได้บอกที” ผมสับสนในสิ่งที่สองคนนี้ทำ
“ก็นาวโทรหาอามตอนอามหลับ คิมเลยบอกว่าอามหลับ แต่เสียงมันลอดเข้าไปในโทรศัพท์นาวก็เลยรู้ว่าเราสองคนกำลังเล่นรักกันอยู่ นาวก้เลยโวยวายใหญ่ เราก็เลยบอกว่าถ้านาวอยากขนาดนั้น ก็ช่วยตัวเองตามละกัน เราก็เลยเปิด Speaker phone ซะเลยนาวจะได้ยินชัดๆ” เฮ้ยนี่มันอะไรกัน ทีเรื่องรักแย่งกัน พอเรื่องเซ็กส์ดันมาช่วยกันได้อีก
“พี่อามต่อเหอะนาวจะกระฉูดแล้ว” พอสิ้นเสียงนาวคิมก็ใส่ผมไม่ยั้ง จนผมกระฉูด คิมทะลักทลายในตัวผม ส่วนนาวก็ตามมาทีหลัง (ที่รู้ว่านาวเสร็จก็เพราะเสียงครางทางโทรศัพท์)
“พี่อามมาหานาวด้วย อย่าให้นาวเล่นกับตัวเองนานนะ ขอร้อง” แต่ไม่ทันที่ผมจะตอบ
“นาวรอไปละกัน พี่จะกักตัวอามไว้ก่อน พี่ไม่กลืนกินอามคนเดียวมานาน คงต้องนานหน่อยนะ”
“อย่าให้ถึงทีนาวบ้างนะ จะขังพี่อามไม่ให้กลับไปหาพี่คิมเลย”
“เหรอ งั้นพี่จะแจ้งความข้อหากักขัง”
“เอาสิ พี่อามไม่ยอมหรอก นาวรู้”
“งั้นตอนนี้อามเป็นของพี่ไปคนเดียวก่อนละกัน แค่นี้นะ” พูดจบคิมก็ตัดสายนาวทิ้ง ปิดมือถือผม แล้วขว้างไปที่โซฟา เหมือนจะกลัวว่าผมจะโทรกลับไปหานาว
“คิมอย่าทำแบบนี้สิ“
“ไม่เอาๆ ตอนนี้อามต้องสนใจเราคนเดียว” คิมดูเหมือนจะเริ่มต้นอีกรอบ
“พอเหอะ”
“ไม่เอา จะทำอีก”
“พอแล้ว เราเหนื่อย อยากนอน”
“ก็นอนไปดิ เดี๋ยวเราปฏิบัติการเอง” เออเอาเหอะ ผมไม่เถียงด้วยแล้ว ง่วงมาก ท่อนลำของคิมกำลังตื่นตัวในรูสวรรค์ผมอีกครั้ง แล้วคิมก็โยกตัวอีกครั้ง นี่ผมจะตายคากองน้ำกามจริงๆใช่ไหมเนี่ย โอ๊ยใครก็ได้ช่วยด้วย

ผมตื่นมาอีกครั้ง คิมกำลังกอดผมแล้วเอาหน้าซุกหน้าอกผมอยู่ แล้วเหมือนจะเป็นเซ็นส์นะครับ คิมก็ลืมตาตื่นขึ้นมา แล้วก็พยุงตัวขึ้นมา เอามือมาลูบศีรษะผมของผม แล้วก็จูบผม เป็นจูบเย็นๆที่อ่อนหวานนุ่มนวล แต่ไม่ทันไรเลย ปากคิมเลื่อนตัวไปอยู่ที่ท่อนลำผมซะแล้ว

“คิมครับ คิมจะเล่นแต่เช้าเลยเหรอ เมื่อคืนเสร็จไปกี่รอบล่ะ”
“โธ่ พออามหลับเราก็ต่ออีกครั้งเดียวแล้วก็นอนเลย เรามีอะไรกับอามต่อไม่ได้หรอก ถ้าอามไม่รู้สึกด้วย เราอยากมีความสุขกับอาม” ผมฟังแล้วก็อึ้ง แบบว่า คิมเขารอเราเหรอเนี่ย ตอนแรกจะบ่นคิมเรื่องทำแล้วก็ทำเล่า ก็เลยพูดอะไรไม่ออก และก็กลายเป็นว่า

“คิมมานี่มา เดี๋ยวเราใช้ปากให้” คิมก็เดินขึ้นมาคร่อมตัวผมบนเตียง ผมนอนเอาหลังพิงกับเสาเตียง ท่อนลำของคิมแทบจะเข้าไปในคอหอยของผม ผมปรนเปรอท่อนลำคิมประดุจการบูชา ผมรู้สึกได้ว่าคิมกำลังขาสั่น มือก็กำลังขย้ำผมของผมด้วยอาการลืมตัว ผมก็ไม่แพ้กัน มือผมก็กำลังบีบก้นคิมที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างมันมือ

“อามพอแล้ว เราจะแตก เดี๋ยวอามเลอะ อ๊าส์”
“ช่างมันเหอะ คิมยังทำให้เราได้มากกว่านี้เลย” พูดจบผมยิ่งรุกหนัก จนคิมบิดก้นไปมาด้วยความเสียว ที่สุดก็แตกคาปาก คาหน้า คาตา และคาเส้นผมของผม แม่เจ้าทำไมน้ำเยอะขนาดนี้ เมื่อคืนคิมก็แตกไปสองรอบ คิมเห็นก็แบบว่า
“ขอโทษนะอาม เราทำเลอะเทอะหมดเลย” คิมดูหน้าเสีย แต่ก็มีสีหน้าปนความเสียวแฝงอยู่ที่เพิ่งเสร็จแฝงอยู่ ผมปาดน้ำกามที่เลอะตามที่ต่างๆมาเลียกิน คิมทำหน้าตกใจ จับมือผมเอาไว้
“เฮ้ยนี่อามจะกินหมดจริงๆเหรอ”
“ทำไมอ่ะ ที่คิมกับนาว กลืนเอาๆ เราก็จะกินบ้างไง ไม่เห็นเป็นไร” ตอนนี้ผมเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย

“เปล่าเราขอกินด้วย” พูดจบคิมก็เอามือมาปาดน้ำกามตัวเอง แล้วเลียเข้าไป จากนั้นก็เอาลิ้นที่เปื้อนน้ำกามเข้ามาในปากผม ผมเองทั้งรู้สึกขนลุกและเสียวซ่านในเวลาเดียวกัน นับวันเรื่องกามารมณ์ของเราสอง(สาม)คนเหมือนจะลึกล้ำเข้าไปทุกที จากนั้นคิมก็นั่งเทียนผมต่อซะจนผมกระฉูดข้างในแล้วหลั่งออกมาข้างนอก คิมเองก็กระฉูดออกมาอีก แม้ว่าคราวนี้จะน้อยลงก็ตาม ในความรูสึกของผมตอนนี้ ทำไมไปทำมากลายเป็นว่า ผมโดนสองคนนี้ปรนเปรอ จนกลายเป็นคนหมกมุ่นในเกมกามไปแล้วรึเปล่า แม้ผมจะเหนื่อยแต่ในความจริงแล้วผมก็รู้ว่าผมขาดมันไม่ได้เลยซักวัน ยิ่งสองคนนี้แข่งขันกันมากเท่าไหร่ ไฟราคะในตัวผม ยิ่งเผาไหม้มากขึ้นเป็นทวีคูณ และคิมดูจะเติมเชื้อไฟตลอดเวลา ผมจึงเร่าร้อนได้ในทุกครั้งที่เราดำเนินเกมรักกัน

****************************************************

เฮือกกกก รอบนี้ กระบวนท่าของคิม รอบหน้า น้องนาวครับ  :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 12-02-2010 21:46:55
 :m25:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 12-02-2010 22:28:42
 :m25: :pighaun: :haun4: :jul1:

แย่แล้ว...เลือดหมดตัว.......................
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 12-02-2010 23:39:28
เหอๆ ไหวมั้ยเนี่ยอาม
สองหนุ่มหื่นเข้าขากันดีเหลือเกิน
 :jul1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: ErosAmor ที่ 13-02-2010 02:41:24
มันหื่นเกินไปเเล้วน้าาาาา

จะได้พักผ่อนไหมเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 13-02-2010 04:42:51
 :jul1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 13-02-2010 05:16:10
หื่นจนน่ากลัว  มาติดตามครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 13-02-2010 23:11:58
ครึ่งแรกยังขนาดนี้  :z1:

รอครึ่งหลังจ้า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-02-2010 23:29:49
สามคนนี้แบบว่า แรงเหลือเกิน  :jul1:

บวก 1 แต้มให้หนุงหนิงจ้า
นานๆมาไล่ตามอ่านที ตาลายเน้อ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 14-02-2010 00:43:58
หื่นกันจนคิดว่า ยังไหวอีกเรอะ :serius2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 14-02-2010 15:17:44
แล้วพี่อามจะคางเหลืองตายมั้ยเนี่ย

2 คนนี้ก็เกิ้นไปนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 14-02-2010 21:14:50
ครึ่งหลัง


แต่สุดท้ายแล้วคิมก็ครอบครองผมได้ไม่ตลอด (ประมาณสองสัปดาห์)เพราะต้องไปดูงานต่างประเทศกับทางบริษัท คิมจะลากให้ผมไปด้วย แต่ผมปฏิเสธเพราะคิมไปเรื่องงาน ผมไม่ควรไปให้เปลืองค่าใช้จ่ายของบริษัทโดยใช่เหตุ เพราะผมไม่ได้เกี่ยวกับงานของบริษัทคิมอยู่แล้ว ถ้าไปด้วยคงไม่ดีแน่ คิมเองแทบจะผมมัดแล้วจับผมยัดใส่กระเป๋าเดินทางไปด้วย จนก่อนออกเดินทางวันนึงผมต้องบอกว่า

“มีเหตุผลหน่อยสิครับ คิมต้องไปทำงานน่ะ”
“ฮือ เราจะไม่ได้เจออามตั้งหนึ่งเดือน คงต้องขาดใจตายแน่”
“ไม่เอาน่า โทรศัพท์ก็มี โทรหาก็ได้”
“ไม่เอาอ่ะ อามก็รู้ว่าไม่มีอามเราก็นอนไม่หลับ”
“เอางี้เอารูปถ่ายเราไปด้วยสิ”
“ไม่เหมือนกันอ่ะ เราอยากได้อะไรที่มาจากตัวอามอ่ะ ไม่ใช่แค่รูปถ่าย”
“แล้วจะให้เราทำไง ไปเข้าฝันดีมั้ย” ผมกวน คิมเหมือนจะคิดอยู่แป็บนึง
“อามเรานึกออกแล้วล่ะ” พูดจบอามก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เป็นผืนใหญ่พอสมควร แล้วก็ดูหนาด้วย ผมก็เลยงง
“เอามาทำอะไรอ่ะ”
“ก็เอามาเก็บน้ำอมฤตอามไง” เฮ้ย อย่าบอกนะว่า
“โรคจิตแล้ว บ้าเหอะ” ทันทีที่ผมผมจะพูดจบคิมรีบเข้ามาดึงกางเกงผมออกอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเข้ามากอดผมจากด้านหลัง อีกมือก็เค้นคลึงท่อนลำผมไปจนเสียว แล้วก็ปฏิเสธไม่ได้

“อืม อามนั่งลงเหอะ เดี๋ยวเราจัดการเอง” จากนั้นคิมก็โอบผมจากด้านหลัง มือก็คอยชักให้ผมตลอด พร้อมๆกับเอาผ้าเช็ดหน้า มารองให้ตรงจุด ปากก็ดูดต้นคอ ฟันขบหัวไหล่ผม โอ๊ยเสียวเป็นบ้า สุดท้ายแล้ว ผมก็กระฉุดไปสามยก และผ้าเช็ดหน้ามันก็เปียกเหมือนกับแช่อยู่ในน้ำ แล้วคิมก็ยกมันขึ้นมาดม
“อืมนี่แหละ กลิ่นนี่ใช่เลย เหมือนอามอยู่ใกล้เราจริงๆ” ส่วนผมหมดแรงจนไปนอนกองคาตักของคิมเลย ลืมบอกไปว่าทุกสามครั้งทีผมกระฉูดคิมจะรีดเร้นน้ำรักของผมออกมาจนไม่เหลือไว้ในท่อแม้แต่นิดเดียว

ที่สุดแล้วคิมก็บินไปเมืองนอก ผมเลือกที่จะไม่ไปส่งเพราะกลัวบ่อน้ำตาคิมจะแตกกลางสนามบิน ถึงผมไม่ได้ปิดบังความสัมพันธของผมกับคิม แต่ผมก็ไม่ชอบร้องไห้ให้ใครเห็นน้ำตาเหมือนกัน ด้วยความที่ไม่ได้ไปส่งคิม เลยโดนไปอีกหลายยกก่อนที่คิมจะเดินทางไป ผมรู้เลยว่าก้นระบบจนแทบเดินไม่ได้ คิมเหมือนจะรู้ก็เลยเอาน้ำแข็งมาประคบให้ แต่ไม่วายจับนู่นจับนั่นจับนี่ตลอดเวลา จะทำให้ผมเสียวไปถึงเมื่อไหร่กัน ผมตื่นมาอีกทีคิมก็ไม่อยู่แล้วครับ มีโน้ตทิ้งเอาไว้ว่า

“แล้วเราจะโทรหาที่รักทุกวันเลยนะ” สักแป๊บก็มีโทรศัพท์เข้ามา
“พี่อามอยู่ไหนอ่ะ พี่คิมไปแล้วไม่ใช่เหรอ” นาวน้ำเสียงดู need ผมเหลือเกิ๊น
“อยู่คอนโดคร้าบ น้องรัก”
“ทำไมไม่มาหานาวอ่ะ พี่อามไม่สนใจนาวแล้วใช่ไหมอ่ะ” ฟังก่อนสิครับ น้องพี่ที่รัก
“ปล่าวพี่ลุกไม่ไหวนาว พี่รู้สึกว่าก้นตัวเองฉีก มันระบบไปหมดเลย” ผมพูดตามจริง
“อ้าวจริงเหรอ เจ็บมากรึเปล่าครับ” นาวดูตกใจ
“ไม่แล้วอ่ะ แต่เพลียลุกไม่ไหว”
“ให้นาวไปหานะ นาวเป็นห่วงเดี๋ยวพี่อามไม่สบาย ยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่ะดิ”
“อืม แล้วนาวจะมาถูกเหรอ”
“ไม่ยากหรอก นั่ง BTS แล้วเดินไปไม่ไกลก็ถึงแล้วนี่”
“งั้นเดี๋ยวนาวมาแจ้งชื่อที่ Reception นะ เดี๋ยวพี่จะบอกเขาให้เปิดประตูเข้ามาในห้อง พี่คงไม่ไหวอ่ะ”
“คร้าบแล้วนาวจะรีบบินไปเลยนะ ฮิฮิ” น้องผมยังแอบตลกได้อีก หลังจากที่ผมโทรไปที่ Reception ด้านล่าง ก็หลับเป็นตายเลย จำได้ว่าเสื้อผ้าก็ไม่ได้ใส่ ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็มีผ้าชุบน้ำเย็นๆวางไว้บนหน้าผากแล้ว

“ตื่นแล้วเหรอครับ มีไข้ด้วยรู้รึเปล่า” พูดจบก็หอมแก้มผม
“ซื้ออะไรมาให้พี่กินครับ น้องรัก” ผมถามด้วยความเพลีย
“โจ๊กแหละ จะได้กินง่ายๆ แต่เดี๋ยวนาวเช็ดตัวให้นะครับ” พอนาวเปิดผ้าห่มผมออก ก็ดูท่าว่าจะตกใจมาก
“มีอะไรเหรอทำไม ทำหน้าแบบนั้น” ผมเริ่มเอะใจ
“ก็.. รอยดูดเต็มตัวเลยอ่ะ มีรอยกัดด้วยแหละ” เอาแล้วไง คิมทำสงครามไว้บนตัวผมแล้ว นาวจะว่าไงเนี่ย แต่สิ่งที่นาวทำก็คือ นาวจูบผมตรงรอยทั้งหลายเหล่านั้น
“แต่นาวไม่สนหรอก นาวรักของนาว รอยแค่นี้ไม่ทำให้นาวสติแตกหรอก” พูดจบนาวก็เอาลิ้นมาเลียผมไปทั่วทั้งตัว โอ๊ยนี่ถ้าผมไม่เพลียคงเสียวกว่านี้อีกมาก”

“ก้นฉีก แต่แท่งสวรรค์ของพี่อามไม่เป็นไรใช่ไหม” ผมเงียบไม่ตอบครับ เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อ และแล้วนาวก็เข้าไปดูดเลียท่อนลำผมอย่างเมามันแต่ก็นุ่มนวล แม้ว่าผมป่วยก็อดไม่ได้ที่จะเอามือมาขยี้ผมนาวไปด้วย ยิ่งนาวเร่งเร้า ผมยิ่งจับผมนาวแรงขึ้นเรื่อยๆ
“พี่จะแตกแล้วนะ” คราวนี้นาวเอามือมาชักแล้วอ้าปากรอน้ำกามของผมที่จะหลั่งไหลออกมา นาวรองรับมันไว้โดยไม่หกหล่นเลย แต่นาวไม่ได้หยุดแค่นั้น กลับเข้ามาบีบปากผมให้อ้าออกแล้วคายน้ำกามลงมาก่อนที่จะเข้ามาแลกลิ้นกับผมอย่างเมามัน ผมรู้สึกว่าตัวเองร้อนฉ่ากว่าเดิมซะอีก เสร็จกิจผมก็ได้แต่นอนนิ่งๆให้นาวเช็ดตัว จากนั้นพอกินโจ๊กเสร็จเลยถามนาวว่า

“นาวครับ นี่ก็เริ่มค่ำแล้วนะ กลับบ้านเถอะ” นาวได้ยินดังนั้นก็เลยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา
“ฮัลโหล แม่ครับ คืนนี้นาวไม่กลับบ้านนะ พีอามป่วยนาวขอมาดูพี่อามก่อนนะครับ ครับ ครับ สวัสดีครับ”
“เฮ้ยเอางี้เลยเหรอ” ผมอึ้ง
“ทำไมอ่ะ คืนนี้ก็วันศุกร์แล้ว เสาร์อาทิตย์นี้ นาวดูแลพี่อามเองนะครับ”
“เฮ้ยเสื้อผ้าอะไรก็ไม่ได้เอามา” ผมไม่ค่อยเห็นด้วย
“ไม่จำเป็นอ่ะ นาวอยู่ในห้องนี้ก็แก้ผ้าได้ ไม่มีอะไรที่เราสองคนไม่เคยเห็นหรอก”
“มันก็น่าอายอยู่ดี พี่ไม่ชิน” ผมรู้สึกอายแบบบอกไม่ถูก
“ไม่เอาน่า ให้สัปดาห์นี้เป็นสวรรค์ของนาวนะครับ” หน้าตานาวในตอนนั้นหื่นสุดๆ
“อ้าวสวรรค์ของนาวแล้วพี่ล่ะ” ผมชักกลัวๆ
“ของพี่อามต้องสวรรค์ชั้นเจ็ดเลยสิครับ”
“นาวพี่ให้ประตูหลังเราไม่ได้นะ พี่ไม่ไหวจริง”
“ก็ไม่ต้องหรอก ประตูหลังนาวก็สุดๆแล้วล่ะ แต่ว่าตอนนี้นาวขอกอดพี่อามแบบเนื้อแนบเนื้อก่อนละกัน” พูดจบนาวก็ถอดเสื้อผ้าแล้วเข้ามากอดผมจากด้นหลัง แล้วก็เอามือมาลูบเนื้อลูบตัวผม
“เฮ้ยทำไมใจพี่อามเต้นแรงขนาดนี้” ผมก็ไม่รู้เป็นไง อดตื่นเต้นไม่ได้ทุกที
“ไม่รู้สิ ก็มันตื่นเต้น”
“นาวทำดีใช่ไหมล่ะ” นาวยิ้มๆแล้วก็เข้ามาไซร้ซอกคอผม ก่อนที่จะพูดว่า
“นาวรักพี่อามครับ”
“พี่ก็รักนาวครับ” แล้วเราสองคนก็จูบกันอย่างดูดดื่ม แต่ตัวนาวเองดูหื่นกระหายมาก เหมือนคนที่รักกันใหม่ๆ อาจเป็นเพราะนาวไม่เจอผมนาน ปากผมเหมือนกำลังจะไหม้ เกมรักของเราสองคนจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง

ผมตื่นมาอีกครั้งในกลางดึก หลังจากที่ปฏิบัติการรักกันไปได้สามรอบ ผมตื่นขึ้นมาพบว่านาวนอนหลับปุ๋ยภายใต้อ้อมกอดผม เขากอดผมไม่ยอมห่างเลย ผมแงะตัวเขาออกจากร่างกายผมไม่ได้เลย ในขณะนั้นเอง นาวก็นอนเพ้อออกมา
“พี่อามอยู่กับนาวนะครับ อย่าหนีนาวนะครับ” โอ้นี่ขนาดผมอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว เขายังเพ้อถึงผมอีกเหรอ ผมก็เลยเอามือไปลูบหน้านาวเบา เหมือนนาวจะรู้เพราะนาวส่ายหน้าเบาๆเล่นกับมือผมไปมา ตอนนี้น้องผมน่ารักจัง เหมือนแมวคลอเคลียกับเจ้าของ เขายิ่งกอดผมแน่นกว่าเดิมอีก จนผมแทบจะหายใจไม่ออกเลย แต่ว่าก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา คิมโทรมานั้นเอง
“คิดถึงแฟนเราจังเลยครับ อามเป็นไงบ้าง” คิมน้ำเสียงสดใส
“ไม่สบาย ไข้ขึ้นแหละคิม”
“จริงอ่ะ เป็นเพราะคิมหรือเปล่า” รู้แล้วจะถามทำไม กวนจริงๆ
“ช่างมันเถอะเราไม่เป็นไรเท่าไหร่แล้วล่ะ”
“อ๋อ อามไปหาหมอแล้วใช่ไหม”
“เออ... นาวมาเฝ้าไข้ให้น่ะ” ผมไม่อยากโกหกคิม
“แล้วนาวนอนกอดอาร์มอยู่ใช่มั้ย” คิมเริ่มเสียงเปลี่ยนด้วยความสั่นเครือ
“คิมอย่าโกรธนาวเลยนะ เราผิดเอง”
“ไม่หรอก เราคิดถึงอามนะ แค่นี้ก่อนนะ” พูดจบก็วางสายเลย ไม่ทันให้ผมแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น ผมรู้สึกผิดมากเลยที่ทำให้คิมร้องไห้
“พี่คิมโทรมาเหรอ” นาวตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ ผมเองได้แต่พยักหน้า
“อย่าคิดมากเลยนาวผิดเอง หลับให้สบายแล้วนาวจะคอยปลอบพี่อามเองนะ โอ๋ๆ” พูดจบก็มาลูบศีรษะผมเหมือนตัวเองเป็นเด็กๆเลย คิดตอนนี้แล้วก็ขำ
“นาวพี่ถามจริงๆนะ เราไม่คิดจะเบื่อพี่บางเหรอ นี่นาวก็เป็นหนุ่มเต็มที่แล้วนะ พี่ไม่ได้พูดไล่นาวหรอกนะ แต่พี่แค่คิดถึงอนาคตของเรา พี่ไม่อยากให้นาวต้องมีความสัมพันธ์ลับๆแบบนี้ไปตลอด พี่อยากให้นาวมีความสุข” นาวไม่ได้พูดตอบผมในทันที แต่เอาหน้าไปซบบนอกผม ก่อนจะพูดว่า

“ไม่ใช่ว่านาวไม่พยายามหรอกนะพี่อาม ตอนที่พี่นาวหายไปอยู่บ้านสวนน่ะ นาวพยายามทำใจแล้ว พยายามบอกว่าตัวเองว่ามันเป็นแค่ความพลาดพลั้ง แต่พอเจอพี่อามนาวรู้ว่าจริงๆแล้วนาวหลอกตัวเองไปวันๆ นาวไม่เคยอยากจะอยู่ห่างพี่อามเลยซักวัน นาวรักพี่อามจริงๆนะ พี่อามไม่ต้องกลัวหรอก นาวเป็นน้องพี่อามอยู่แล้ว นาวจะอยู่กับพี่ตัวเองใครจะทำไม พี่อามอย่าให้นาวไปอยู่ไกลๆก็พอ นาวขอแค่พี่อามรักนาวก็พอ แค่นี้ก็พอ พี่อามให้นาวได้ไหม” ผมรู้สึกตกใจว่านี่คือคำพูดของเด็ก ม.ปลายจริงๆเหรอ ทำไมดูกินใจมากมายขนาดนั้น ผมพูดอะไรแทบจะไม่ออก

“รักพี่ทั้งๆที่รู้ว่าพี่รักนาวคนเดียวไม่ได้เนี่ยนะ” ผมพูดไปก็ร้องไห้ไป
“แค่พี่อามรักนาวก็พอ” แล้วนาวก็ล้มลงตัวลงนอนโดยไม่ได้พูดอะไรอีก” เป็นอันว่าสรุปแล้วชีวิตนี้ผมคงต้องมีคนรักสองคนไปพร้อมๆกัน โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไปดี

แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ในวันเสาร์นาวก็หยิบยืมเสื้อผ้าของผมมาใส่ แม้ว่าจะดูหลวมไปหน่อยแต่พอใส่ได้ จริงๆถ้าให้พอดีนาวควรจะใส่เสื้อคิม แต่ถ้าทำอย่างงั้นจริง เดี๋ยวคิมจะยิ่งน้อยใจหนักมากกว่าเดิมอีก แล้วผมก็พานาวไปเที่ยว ไปดูหนัง ไปไหว้พระ ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ผมไม่สามารถที่จะจับมือน้องท่ามกลางที่สาธารณะได้เพราะกลัวจะคนรู้จักจะมาเห็น แต่กับคิมนั้นต่างกันเพราะเราจับมือกันเป็นเรื่องปกติ ถ้านาวไม่ได้เป็นน้องผมผมก็ไม่ได้กลัวใครที่จะเห็น ถ้าใครรู้ว่าผมคบน้องตัวเองเป็นแฟนมันเสี่ยงมากเลยนะครับที่ความสัมพันธ์ของเรามันจะล่มสลาย ผมก็ได้แต่จับมือนาวในสถานการณ์ที่พอจะตามน้ำได้บ้างเท่านั้น ผมก็กลัวน้องจะน้อยใจ แต่เหมือนว่านาวจะไม่ได้บ่นอะไร เหมือนว่าแค่ได้มาเที่ยวกับผมก็พอใจ ที่ยังเป็นแบบนี้อยู่ก็พอแล้ว

ผมพาน้องไปไหว้พระที่วัดๆหนึ่งที่ริมน้ำเจ้าพระยา วัดแห่งหนึ่งที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมาก เพราะที่นี่ก็มีพระเครื่ององค์สำคัญที่อยู่ในเบญจภาคีด้วย เราไปถวายสังฆทานแล้วก็กรวดน้ำกัน เอาอีกแล้วครับ ผมโดนจับมือซะแน่นเลยระหว่างกรวดน้ำ ผมจะบอกให้นาวปล่อยก็ไม่ได้ เพราะกำลังทำพิธีอยู่ งานนี้นาวได้แต่ยิ้มกริ่มลูกเดียว

“นาวทำแบบนี้ไม่ได้นะ นีมันในวัด” ผมดุนาว
“แล้วนาวทำอะไรอ่ะ นาวก็แค่กรวดน้ำ” นาวทำหน้าเป็นใส่ผมครับ
“นาวววววววววววว” ผมคำรามใส่
“ครับ ว่าไงครับที่รัก” นาวมากระซิบที่ข้างหูผม ผมขี้เกียจเถียง จากนั้นก็เลยไปเสี่ยงเซียมซีกันต่อ พอใบดูใบหมายเลขที่ได้ ก็เขียนประมาณว่า
“อันความรักนั่นแสนประหลาด
จะต่างแตกต่างจากคนชนทั้งผอง
ไม่มีคู่เหมือนใครดังใจปอง
ต้องมีสามสมานกันเสมอไป”

โอ้โห ผมอึ้งแบบว่าพูดอะไรไม่ออกส่วนนาวก็หน้าเหวอไม่แพ้กัน คือเหมือนกับการปิดบัญชีไปเลยว่า ยังก็ตามผมต้องอยู่กับสองคนนี่แน่นอน แต่นาวก็ยังทีเล่นทีจริงว่า
“แสดงว่า นาวก็เป็นที่รักของพี่อามแน่นอนใช่มั้ย นาวดีใจจัง”
“ทั้งที่มีกันสามคนเนี่ยนะ”
“ก็ยังดีกว่านาวต้องเสียพี่อามไปละกัน” ถ้าไม่อยู่ในวัด นาวคงจับผมจูบไปแล้ว แล้วความสัมพันธ์ของเราสามคนจะดำเนินต่อไป

*************************************************

หะๆๆๆๆๆ น้องนาวชวนพี่อามไปทำบุญแฮะ ไม่หยิวเท่าพี่อาม 555+

รอบหน้าตอนพิเศษครับผม รับรองความมันส์

ปล.สำหรับตอนหน้ากรุณาเตรียมของทิชชู่ไว้ข้างตัวหนึ่งม้วน เพราะท่านอาจเสียเลือดและของเหลวอย่างอื่นจนหมดตัวได้

เราเตือนคุณแล้ว o3
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 14-02-2010 21:40:12
โห..นี่คิมกะให้อามตายคาเตียงกันเลยว่างั้น....แถมเอาผ้าไปดมอีก.. :z1: เออ..หื่นมากมายยยย...

น้องนาวนี่อีกคน...หื่นอันดับสองรองจากคิม ...

เซียมซีเสี่ยงรักก็ทำนายได้แม่นเป๊ะ หุหุ อย่างนี้ก็อยู่กันสามคนนี่แหล่ะ..

ปล. ไรท์เตอร์จ๊ะ อันนี้พิมพ์ผิดป่ะ

“เออ... นาวมาเฝ้าไข้ให้น่ะ” ผมไม่อยากโกหกคิม
“แล้วนาวนอนกอดคิมอยู่ใช่มั้ย” คิมเริ่มเสียงเปลี่ยนด้วยความสั่นเครือ

ต้องเป็นอามป่ะ....

แล้วก็ Happy Valentine's Day  นะจ๊ะ :L2:

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 14-02-2010 22:01:04
แก้แล้วครับผม

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 15-02-2010 04:27:14
เตรียมทิชชู่ เตรียมหมอน เตรียมผ้าห่ม เตรียมรออ่านอิอิ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-02-2010 11:32:13
 :-[ :-[ :-[


ทำไมไม่เกิดแบบนี้กับชั้นบ้างงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่13 สงครามกุหลาบ ครึ่งหลัง
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 15-02-2010 18:01:06
เราสามคนจริงๆนะเนี่ย รออ่านตอนหน้าท่าทางจะดุเดือดสินะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ (รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 15-02-2010 20:12:15

คุณเตรียมทิชชู่ไว้แล้วหรือยัง หึหึ  o18
************************************************************
บทที่ 13(พิเศษ) ฝันบอกเหตุ( รึเปล่า?)
หลังจากที่กลับมาจากเที่ยวเต็มที่ นาวก็ตักตวงหาความสุขจากเรือนร่างผมอย่างเต็มที่ เที่ยวทั้งวันที่นาวบ่นว่าเหนื่อย พอขึ้นเตียงแล้วรู้สึกว่าจะมีเรี่ยวแรงกลับมาทันทีเลยนะน้องรัก เราสองคนก็เหนื่อยจนหลับกันไป พอตื่นเช้ามาในอีกวัน ก็เกิดสิ่งที่ผมไม่คาดคิด

เช้าวันต่อมาผมรู้สึกว่า มีคนมาระดมจูบผมไปทั้งตัว จนผมรู้สึกสยิวไปทั้งตัว แต่ที่แปลกก็คือ ทำไมมันช่างเหมือนเป็นการรุมกันจูบจังเลยนะ เหมือนมีสองคนกำลังรุมจูบผมอยู่ ผมตกใจรีบลืมตาตื่นขึ้นมา ตอนแรกก็เห็นนาว แต่พอดูไปดูมา เฮ้ย
“คิมกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเร็วเงี้ย” ผมงงมากๆ
“ก็ใครจะปล่อยอามไว้กับนาวนานๆล่ะ เราทนไม่ไหวหรอกนะ”
“เฮ้ยแล้วเรื่องงานล่ะ”
“เอาไว้ก่อน ถึงทำไปก็ไม่รู้เรื่อง เราจะเป็นบ้าตายเพราะอามอยู่กับนาวนี่แหละ”
“แต่ว่า คิมจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ มัน....” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ

“หยุดพูดแล้วอยู่เฉยๆ เข้าใจไหม” คิมมีสีหน้าบึ้งตึงและระดมจูบใส่ผมไม่ยั้ง พอผมเงียบนาวกับคิมก็บรรเลงเพลงรักกับผมแข่งกัน นาวกำลังไซร้ที่ซอกคอผมเบาๆ คิมก็กำลังใช้ลิ้นวนที่หัวนมของผมและขบมันเหมือนเป็นของเล่นยังไงอย่างนั้น ผมได้แต่ร้องครางอือลูกเดียว สักพักคิมก็ลงไปลงเล่นกับท่อนลำของผมอย่างเมามันทั้งดูด ทั้งเลีย มือก็เค้าคลึงอัณฑะผมไป ผมเหมือนจะแตกให้ได้ นาวก็ไม่ปล่อยให้ผมว่าง เขายืนขึ้นแล้วจัดการยัดท่อนลำขนาดเขื่องของเขาใส่ปากผมอย่างไม่บันยะบันยัง ผมด้วยอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิง จึงเห็นท่อนลำเป็นเหมือนอมยิ้มที่ต้องดูดเลียอย่างสุดพลัง นาวจับหัวผมพร้อมโยกเข้าโยกออดอย่างเมามัน ไม่ช้าไม่นานผมก็ได้ลิ้มรสน้ำกามน้องที่รักของผมเข้าไปเต็มๆโดยที่ไม่มีโอกาสได้คาย เพราะมันแทบลงไปในคอโดยทันที ท่อนลำขอนาวเองก็แทบจะลงคอหอยผมไปเหมือนกัน ผมเหนื่อยล้าและเมื่อยปากมากๆ เมื่อนาวเสร็จสมก็จะลองไปใช้ปากกับผมบ้าง แต่คิมก็ยังคงง่วนกับแท่งสวรรรค์ของผมอย่างเมามัน

“พี่คิม แบ่งให้ผมมั้งดิ”
“ไม่อาว อามยังไม่แตกเลย” เสียงคิมตอนนี้อู้อี้ เพราะอมของผมไว้เต็มปาก
“ช่วยๆกันดิ พี่อามจะได้เสร็จเร็วๆแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ” ทันทีที่นาวพูดจบสิ่งที่ผมไม่อยากเชื่อคือสองคนนี้กำลังผลัดกันดูดแท่งสวรรค์ผมอย่างเมามัน ผมเสียวมาก แต่ดูเหมือนแค่นั้นไม่พอ สองคนนี้ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดคือ สองคนนี้กำลังใช้ปากรูดขึ้นรูดลงแท่งสวรรค์ของผมอย่างเป็นจังหวะจะโคนและสอดคล้องกัน ผมตกใจมากเพราะมันเหมือนฉากในหนังโป๊ซะจริง

“อ๊า เบาๆหน่อย เราเสียว” มือสองข้างผมต้องจับกับผ้าปูเตียง นิ้วเท้าสองข้างต่างหงิกงอด้วยความเสียว
“แตกมาเลยเร็วๆ เราสองคนรออยู่” สองคนนี้ดูเหมือนแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว ผมเองก็แตกในท้ายที่สุด น้ำกามของผมมันพวยพุ่งออกไปมากมายมากกว่าครั้งใดๆ เหมือนจะรู้ว่าถ้าออกมาน้อยสงคนนี้จะไม่พอบริโภคแล้วทะเลาะกันอีก และก็เป็นดังคาด สองคนนี้ก็แทบจะแย่งกินกันไม่ทัน ไหนจะเลอะหน้าเลอะตาไปทั่วอีก แต่ว่าตอนนั้นผมไม่มีอารมณ์จะต่อกรด้วย นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปตามใจของทั้งสองคน

“ที่รักหันหลังมาเร็ว เราจะเอาคืนแล้วนะ” คิมพูดด้วยเสียง Needs สุดขีด แต่สิ่งที่เกิดคือนาวกำลังปัดป้องผม
“ไม่เอาอ่ะพี่คิม สองสามวันก่อน พี่อามเกือบตายเลยนะ นี่จะเอาอีกแล้วเหรอ” นาวดูเหมือนจะเป็นห่วงผม
“อย่ามาปากดี อย่าบอกนะว่าเราน่ะไม่อยากลอดถ้ำสวรรค์ของอาม ปากนะบอกว่าไม่ แต่ดูไอ้หนูตัวเองซะก่อนตั้งโด่ซะชูชันขนาดนั้น อยากจะลอดถ้ำอยู่แล้วล่ะสิ” พูดไม่พูดเปล่า คิมยังเอามือมาดีดไอ้หนูของนาวจนนาวสะดุ้งเฮือก (จริงๆผมควรจะเรียกเจ้าหนูของนาวว่าไอ้ยักษ์มากกว่า)
“แต่นาวกลัวพี่อามเจ็บ” นาวพยายามบ่ายเบี่ยง
“อย่ามาโกหก นาวไม่อยากให้พี่ทำก่อนใช่มั้ยล่ะ ตามันฟ้อง” คิมพูดแทงใจดำนาว จนนาวหูแดง หน้าแดง
“เอางี้มั้ย เรามาเล่นสองคนกันเลยดีกว่า” เฮ้ยไม่นะ ก้นคราวนี้ไม่ฉีกแล้ว บอกได้คำเดียวเลยว่า แหกๆๆๆๆ
“ไม่เอาโว้ย อย่าแม้แต่จะคิดเชียว” ผมบ่ายเบี่ยงสุดฤทธิ์พยายามใช้มือที่พอจะมือแรงผลักคนทั้งสองออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล คิมจับผมกดไว้

“ทำหน้าตกใจไปได้ นาวไปเอาเชือกมาเร็วๆ ชักช้าแบบนี้ไม่อยากใช่มั้ย” แล้วด้วยความหื่นนาวก็รีบวิ่งไปหาเชือกมาจากนั้นก็มัดมือไพล่หลังผมไว้
“ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะคิม” ผมพยายามอ้อนวอน ก่อนที่คิมจะกระซิบข้างหูผมว่า
“ที่รัก อยู่กันสามคนก็ต้องทำใจหน่อยนะ อามอ่ะอย่าใจร้ายเลย รักแล้วก็ต้องรักเท่ากันสิจ๊ะ”

จากนั้นสองคนนั้นก็นอนหงายในลักษณะที่เอาไอ้หนูของแต่ละคนมาชิดกันที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วจับผมให้นั่งข้างบน พร้อมกับใช้มือประคองไป จากนั้นคิมก็เอาเจลหล่อลื่นมาใส่ที่มือตัวเองและก้นของผมก็ที่จะเสียบมันเข้าไปจากนิ้วแรกจนถึงนิ้วที่สี่ จนแน่ใจแล้วว่ากล้ามเนื้อหูรูดผมเริ่มชินมือ จึงค่อยๆช่วยกับนาวประคองตัวผมเพื่อทำการเสียบท่อนลำของทั้งสองเข้าไปในก้อนผม โดยที่เจลหล่อลื่นแทบจะหมดขวด ผมเหงื่อแตกด้วยความกลัว ตอนแรกๆดูเหมือนจะเข้าไม่ได้เลย

“อามอย่าเกร็งดิใจเย็นๆนะ งั้นเดี๋ยวเราเสียบก่อน แล้วนาวค่อยๆตามพี่เข้ามานะ จากนั้นไม่นาน คิมก็ค่อยๆเข้ามา
“อ่าแน่น แน่น อืมเข้าได้แหละ ได้แล้ว นาวรีบเสียบเข้ามาเลย” นาวไม่รอช้าพยายามดันท่อนลำตัวเองเข้าไป มันแน่นมากเลย ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นตัวเองเสียวหรือเจ็บกันแน่เพราะมันปนเปไปหมดรู้ตัวอีกที ก็โดนเสียบไปทั้งสองลำแล้ว จากนั้นผมก็ถูกสองคนนี้ดันขึ้นดันลง เสียบเข้าเสียบออก ผมทำอะไรไม่ได้เลยเพราะมือถูกมัด ได้แต่พยายามขยับตัวไปมา แต่ยิ่งขยับเหมือนจะยิ่งทำให้เราสามคนสามคนเสียวหนักกว่าเดิม

“อ๊าส์ๆๆ พี่อามนาวเสียว โคตรฟิตเลยอ่ะ โอ๊ยๆๆ เอาอีกเอาอีก”
“อามอ่ะ ตอดมากเลย คิมเสียวมากรู้มั้ย” เออเอาเข้าไปก้นผมจะแหกนี่ไม่ได้มีใครสนจะถามแล้วใช่มั้ย ดี ถ้าไม่มีให้เสียบไปหลายวันอย่ามาบ่นนะ ที่สุดแล้วไม่นาน เราสามคนก็เสร็จสมอารมณ์หมาย กลายเป็นว่าผมน้ำแตกก่อนใครก่อนที่ทั้งสองคนนี้จะแตกตามผมพร้อมๆกัน เพราะรู้สึกได้ว่ามีอะไรอุ่นๆพุ่งเข้ามาในตัวผมสองทาง ด้วยความที่ผมอยู่ข้างบน น้ำของสองคนนี้ก็ผสมกันออกมาจากก้นผมมั่วไปหมด แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้นเพราะสองคนนี้ไม่มีใครถอนท่อนลำจากผม เฮ้ยเสร็จแล้วก็เอาออกสิฟะ

“เอาออกซะทีสิ จะแช่ไว้ทำไม”
“อามครับอามก็รู้ว่าเราสองคนชอบดูบอล” คิมหน้าตากรุ่มกริ่มมาก
“แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย” ผมงงไปหมดแล้ว
“ก็...เราสองคนชอบทำแฮททริกด้วยนี่ครับ พี่ชายที่รัก” นาวตอบอย่างอายๆ เฮ้ยสามรอบ สองคนนี้บ้าไปแล้ว ไม่เอาแล้ว ผมพยายามลุกหนี แต่ด้วยความที่แรงไม่มี ถูกมัด จึงหนีไปไหนไม่ได้

“ไม่เอานะครับ เป็นเด็กดีแล้วก็เชื่อฟังไม่งั้นโดนมากว่านี้ไม่รู้นะ” สุดท้ายผมก็ไม่มีทางเลือก ไม่ทันไรสองคนนี้ก็แข็งสู้กันอีกแล้ว สรุปแล้วผมโดนไปสามรอบเต็มๆ นี่ถ้าสองคนนี่ยังมีน้ำเหลือผมว่า ไม่แคล้วจะโดนรอบสี่ แต่แค่นี้ก็เกินทนแล้วครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่เสียว จริงๆคือ เสียวมาก แต่ปัญหาคือ ก้นผมมันแหกไปเรียบร้อย เลือดมันออกมากองพร้อมน้ำกามที่เยอะพอกัน เสร็จแล้วสองคนนี้ก็ช่วยกันทำความสะอาดให้ผมและประคบถ้ำสวรรค์ของพวกเขาด้วยความน้ำแข็ง ผมหมดเรี่ยวแรง แล้วสองคนนั้นก็กอดผมไว้ในอ้อมอก คิมโอบจากด้านหลัง นาวซบอกผมจากด้านหน้า โอ้ยผมไม่รู้ว่าจะรู้สึกดีหรือรู้สึกกลัวกันแน่ดีเนี่ย
.
.
.
.

ผมตื่นมาอีกครั้ง มันเป็นตอนเช้า เฮ้ย นี่ผมหลับไปหนึ่งวันเลยเหรอ เอทำไมผมไม่เห็นคิม เห็นแต่นาวที่นอนกอดผม แล้วคิมไปไหน มองไปมอง เฮ้ยทำไมนาฬิกายังบอกเวลาเป็นเมื่อวาน อ๋อ ไอ้บ้าเอ้ย มันเป็นความฝัน ผมฝัน เชี่ยเอ๊ย ฝันบ้าอะไรสมจริงขนาดนี้ สมจริงฉิบหาย ทั้งเสียว ทั้งเสร็จ พร้อมสรรพ ดีนะไม่โดนจริงๆ ไม่งั้นกูตายไปนานแล้ว ผมล้มต้วลงนอนอีกรอบด้วยความโล่งอก นี่ผมอยากมากขนาดว่าเอาไปฝันหรือเป็นลางบอกเหตุว่ะเนี่ย เป็นฝันที่สมจริงจนผมลืมไม่ลงจริงๆเอา

***************************************************

เราเตือนคุณแล้ว  :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 15-02-2010 20:21:52
ูู^
^
^
^

จิ้มตรูดคนเขียน

ว่ะฮ่ะฮ่าาาาาา
มาทันพอดี กริ๊วววววววววววววววววววววววว
เลือดท่วมหมดตัว นี้ถ้าพี่อามโดนจริงๆจะเป็นไรน้อ ขนาดฝันยัง  :haun4: :pighaun:
ฮิ้วววววววววววววววว  :-[
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: ErosAmor ที่ 15-02-2010 20:58:10
ขนาดเซียมซียังต้องเป็น 3 ห้าๆ

เริ่มไม่รู้จะสงสารใครดี นาวทำตัวน่ารักจังช่วงนี้
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 15-02-2010 21:02:43
^
^

^

จิ้มทะลวงสองรีบน

ผมแค่ขอเอาเรื่องเค้ามาลงครับ ไม่ใช่คนเขียน

คนเขียนเรื่องนี้คือพี่อามครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 15-02-2010 21:13:49
อ่านเเรกๆสงสารพี่อามมากๆเพราะเวลามีอะไรกะนาวเสร็จก้อรู้สึกผิด  ต่อมาก้อสงสารทุกคนเลย เเละก้อน่ะ :m25:

หื่นซะไม่มีเรา  :m25: :m25:

ฝันบอกเหตุๆๆ 555+ :pigha2: :pigha2:

เมื่อไรจะมีความสุขอย่างเเท้จงน่ะ :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-02-2010 21:45:37
 :haun4: ฝันบอกเหตุ หุหุ
ทนมะไหวแอบไปอ่านตอนที่สิบฉี่ก่องและกัน หุหุ :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 16-02-2010 10:05:28
 :haun4: :z1: นี่ขนาดแค่ฝัน....

แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆๆ.... :z1: :m25:


แนะนำร้านทำรีแพร์(ตรูด)ให้อามด่วน....... :laugh:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 16-02-2010 11:15:05
ฝันเรียกเลือดซะ อยากให้เป็นจริงรึป่าวจ้ะอาม :z1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 16-02-2010 13:55:56
ฝันน่ากลัวจัง มารออ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: veeva ที่ 20-02-2010 13:57:48
รักกันสามคนอย่างนี้ตลอดไปนะคะ เค้าทั้งสองคนของคุณก็ตัดสินใจและสมัครใจอยู่ร่วมกันแล้วนี่ ในเมื่อคุณตัดใครไม่ขาด ทำร้ายใครไม่ลง ก็รักกันแบบนี้ไปเรื่อยๆดีแล้ว ไม่เห็นต้องสนใจใครเลย ความสุขของคุณ และคนที่คุณรักซะอย่าง อย่าแคร์คนอื่นจนทำร้ายคุณและคนที่คุณรักเลย เพราะไม่มีใครทำร้ายคุณได้มากกว่าตัวของคุณเอง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนพิเศษ ฝันบอกเหตุ(รึปล่าว?)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 20-02-2010 19:53:40
3P ของจริง  อืมมมม....


รักของแต่ละคนรุนแรงจริงๆ ทั้งนาว ทั้งคิม เลยนะ  :serius2:

พอเข้าใจเลยว่าตอนแรกๆอามรู้สึกอึดอัดแค่ไหน   :เฮ้อ:

แต่ก็สุขไปด้วยใช่ไหมล่ะ   :-[

แต่เรื่องของความรักที่ได้รับ(ทั้งความรู้สึกและsex)บางทีมันก็หนักไปจริงๆนะ ไอนึกไม่ออกเลยว่าถ้าไอเป็นแบบนี้บ้างจะเป็นไงแห๊ะ   :z10:


ไงก็ขอให้มีความสุขนะคะ   o13


เชียร์อยู่นะและจะติดตามตลอดไปค่ะ   :bye2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 20-02-2010 20:55:25
บทที่ 14 พวกเรา “รัก” กันครับ
ระหว่างที่คิมไม่อยู่ ผมก็กลับไปอยู่กลับนาวประมาณหนึ่งเดือน นาวดูจะมีความสุขมากกกก เรียนเสร็จก็กลับบ้านอย่างรวดเร็ว นาวดูรื่นเริงออกนอกหน้าจนคนในบ้านยังสังเกตได้
“แหม พอพี่อามกลับมาอยู่ด้วยหน่อย นาวดูอารมณ์ดีจังเลยนะลูก” อานาถแซวนาว
“แน่นอนสิคุณแม่ พี่อามของนาวทั้งคน” นาวยิ้มกริ่ม พูดแล้วก็เอามือมาโอบผมเลย ผมถึงกับตั้งตัวไม่ทัน แต่ไม่ได้มีใครเอะใจอะไร ญาติๆที่เห็นท่าทีของนาวต่างก็หัวเราะ ด้วยความเอ็นดู ประมาณว่าพี่น้องคู่นี้มันน่ารักกันจัง ผมละระแวง

ด้วยความที่เราอยู่ด้วยกันทุกวัน ทุกค่ำคืน เรื่องเกมรักของรักสองคนก็ร้อนแรงขึ้นทุกวัน พร้อมๆกับความผูกพันที่ลึกซึ้งมากขึ้นทุกทีๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคิมจะโดนผมลบออกไปจากใจนะครับ คิมก็ยังอยู่ในใจผมเสมอ
วันหยุดวันนึงก่อนที่คิมกำลังจะกลับเมืองไทย ผมพานาวไปเดินเล่นและซื้อของที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ขณะที่กำลังเดินๆอยู่นั้น ก็บังเอิญพบกับ ไอ้วินกับไอ้บีมพอดีเลย

“เฮ้ย ไอ้อามดีใจจังที่เจอมึง สบายดีนะเว้ย” บีมเข้ามาตบไหล่ทักทายผมด้วยความดีใจ วินก็เช่นกัน
“แล้วพวกมึงมาทำอะไรกันอ่ะ” ผมเริ่มอยากรู้
“เออคือว่า” วินเริ่มอึกอัก จนบีมต้องบอกว่า
“เราสองคนมาดูของตกแต่งบ้านน่ะ ตอนนี้เราสองคนย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันแล้วน่ะ” บีมยิ้มอายๆ
“ว้าวจริงเหรอว่ะ ที่คอนโดของวินอ่ะนะ กูดีใจด้วยจริงๆโอ้ยอิจฉาๆ” ผมแกล้งแหย่พวกมันสองคน
“แหมว่าไปนั้น มึงอ่ะตัวดีเลย พอสอบเสร็จก็หายหัวไปกับไอ้คิมสองคนเลย ไม่เคยส่งข่าวให้เพื่อนฝูงรู้บ้างเลยนะมึง กูนึกว่ามึงตั้งท้องไปแล้วนะเนี่ย” ไอ้วินกัดกูได้อีกนะมึง
“ไอ้บ้า พูดเชี่ยอะไรเนี่ย กูไม่ได้มีมดลูกนะเว้ย” ผมแย้งกลับไป พูดจบก็ขำๆกันไป
“อ้าวน้องนาวมาด้วยเหรอ ไม่เจอกันแป๊บเดียว กลายเป็นหนุ่มหล่อเลยนะเนี่ย ตอนแรกกูนึกว่าเป็นกิ๊กมึงซะอีกนะเนี่ย” ผมรู้ว่าไอ้บีมพูดเล่นที่บอกว่านาวเป็นกิ๊กผม ผมกลับคิดในใจว่า ตอนนี้เป็นมากกว่านั้นอีกมึง ไม่รู้ว่าจะพูดว่ายังไง ทำไมมึงนี่เป็นที่รู้ใจกูไปหมดทุกอย่างเลยวะ นาวยิ้มอายๆพร้อมกับเข้ามาโอบผม

“ดูๆทำเข้า นี่ถ้าใครไม่รู้จักคงคิดว่าเป็นแฟนกันจริงๆนะเนี่ย” วินก็เข้ามาแซวสมทบอีก ผมเองได้แต่ยิ้มกลบเกลื่อนไป แต่แอบถอดถอนใจ วันนั้นเราสี่คนก็เลยเดินดูของจตุจักรด้วยกัน จำได้ว่าวันนั้นซื้อของไปเยอะมาก โดยเฉพาะไอ้บีมกับไอ้คิม ยังกับคู่แต่งงานใหม่เลย ไม่ได้หวานจนเลี่ยน แต่ก็ดูห่วงใยใส่ใจกันตลอดเวลา นาวเห็นเข้าก็เลยพยายามเข้ามาอ้อนผมตลอด ซึ่งเหตุนี้ทำให้ผมงานเข้า
ขณะที่ผมไปเข้าห้องน้ำ แล้วบีมก็ตามเข้ามาด้วย ขณะที่กำลังล้างมือ บีมถามผมเบาๆว่า
“มึงกับน้องนาวเป็นกิ๊กกันจริงๆใช่มั้ย” ผมแทบจะหน้าเสียไปเลย แต่ว่าต้องเก็บอาการสุดฤทธิ์
“มึงถามเชี่ยอะไรเนี่ย นาวเป็นน้องกูนะเว้ย” ผมพยายามทำเป็นหงุดหงิดประมาณว่า มันถามอะไรไม่เข้าท่า
“อามกูเป็นเพื่อนมึงนะเว้ย กูมองตามึงกับน้องนาวตอนที่อยู่ด้วยกัน ดูท่าทางการแสดงออกก็รู้แล้วว่ามันเกินกว่าความเป็นพี่น้อง มึงบอกกูมาเหอะว่ะ” ผมได้แต่อึ้ง บีมมันรู้เรื่องจริงๆด้วย ผมไม่รู้ว่าจะตอบมันอย่างไรดี หน้ามันก็ไม่กล้ามอง ผมไม่รู้จะไปต่อยังไงดี

ในที่สุดผมก็ยังคงตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จต่อไปด้วยความระแวงสุดขีด
“มึงเป็นอะไรมากปะเนี่ย เรื่องอื่นมึงล้อเล่นอะไรก็ได้กูไม่ว่า แต่ว่าเรื่องนี้กูซีเรียสนะเว้ย” ผมทำหน้าดุๆใส่มันอีกที ปรากฏว่า
“เฮ้ยเชี่ย มึงเป็นอะไรกูแค่ล้อมึงเล่นเอง โหดูดิหน้าเหียกเลยมึง” ไอ้บีมมันขำครับ
“ก็ดูเรื่องที่มึงล้อดิ มันตลกซะที่ไหน” ผมแอบโล่งอก
“แต่พูดก็พูดเถอะนะ มึงกับน้องมึงอ่ะเหมือนแฟนกันเลยเหอะ นี่ถ้ากูไม่รู้ว่าน้องนาวเป็นน้องมึงนะ คงคิดว่าเป็นกิ๊กมึงจริงๆนะเนี่ย”
“มึงพูดจริงเหรอว่ะ” ผมเริ่มกลับมากังวลใหม่
“จริงดิ มึงลองสังเกตสายตาคนรอบข้างดีๆดิ เขามองว่ามึงมีแฟนเด็กทั้งนั้นแหละ” เฮ่องานเข้าอีกแล้ว
หลังจากคุยกันจบผมแทบจะหมดอารมณ์เดินเจเจต่อ แล้วก็พยายามไม่ให้นาวถูกเนื้อต้องตัว นาวเลยงงๆไปว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมดูเฉยเมยกับเขาไปโดยกะทันหัน ขณะกลับบ้านผมไม่พูดอะไรกับนาวสักคำ พอกลับมาถึงห้อง เราก็เริ่มทะเลาะกันใหญ่โต

“พี่อามไม่พอใจอะไรนาวรึเปล่า” นาวเริ่มซักไซ้
“ปล่าวหรอก ไม่มีอะไร” ผมตอบด้วยความกังวลใจ
“ไม่มีอะไรได้ไง ดูหน้าพี่อามดิ ซีดอยากกับเจอผีหลอก ตั้งแต่กลับมาก็ไม่พูดอะไรกับนาวเลย ทำแบบนี้หมายความว่าไง” นาวเริ่มโวยวาย
“พี่ขอไปอยู่บ้านคุณย่าก่อนนะ” ผมไม่รู้จะพูดกับนาวยังไงดี เพราะนาวก็ไม่ได้ทำอะไร ผมกำลังกังวลใจมากกว่า แต่ว่าขณะที่กำลังเดินออกไปจากห้อง นาวตะครุบตัวผมไว้ แล้วจับผมกดลงกับพื้น
“พี่อามนาวทำอะไรผิด บอกนาวสักคำไม่ได้เหรอครับ” นาวมองเขามานัยย์ตาผมเหมือนเค้นหาความจริงอะรบางอย่าง
“นาวไม่ผิดหรอก มันไม่ใช่ความผิดของนาว”
“แล้วพี่อามเป็นอะไร นาวเห็นเงียบมาตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำกับพีบีมแล้ว” ผมมองหน้านาวแป๊บนึงก่อนจะบอกว่า
“พี่บีมบอกว่าเราสองคนดูเหมือนกิ๊กกัน”
“พี่อามเลยมากังวลใจแบบนี้เนี่ยนะ” นาวดูหัวเสียมาก
“ไม่ใช่แค่พี่บีมนะที่สงสัย คนอื่นๆที่เห็นเราสองคน หลายคนก็คิดแบบนี้นะ
“แล้วทำไมอ่ะ แต่ก่อนพี่อามยังไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย”
“พี่คิดว่าตอนนั้นพี่แสดงออกกับเราเหมือนน้อง แต่การที่เราใกล้ชิดกันทุกวัน ท่าทีที่แท้จริงมันก็คงจะเผยออกไปเรื่อยๆแล้วล่ะ” พูดจบเท่านั้นแหละครับ นาวก็เริ่มร้องไห้
“ใช่สิ นาวมันเป็นแค่น้องชายที่รัก ไม่ใช่ที่รักของพี่อามนี่” นาวเริ่มโวยวายต่อ ผมเองก็ได้แต่เงียบไม่รู้จะพูดอะไร เลยผลักนาวออกแล้วลุกขึ้น แต่คราวนี้ผมเปลี่ยนใจไม่ได้ไปบ้านคุณย่า

“พี่อามทำอะไร”
“เก็บของ พรุ่งนี้พี่พึ่งนึกได้ว่าคิมจะกลับแล้ว” ผมตอบแบบไม่มองหน้านาว
“ไม่ให้ไป เรายังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนะ” นาวเข้ามาคว้าข้อมือผมไว้
“ไม่ต้องรู้เรื่องหรอก พูดกันไปก็ไม่จบอยู่ดี ปล่อยพี่เหอะ ได้เวลากลับแล้ว” แต่นาวก็ไม่หยุด หยิบกระเป๋าผมขว้างออกไปให้ไกลตัวผม
“นาวอย่าทำแบบนี้ เราไม่ได้เป็นเด็กแล้วนะ”
“ก็เพราะใครล่ะที่ทำให้นาวไม่เป็นเด็ก รับผิดชอบด้วย”
“อ๋อแสดงว่าที่ผ่านมาพี่ผิดใช่ไหม งั้นก็ปล่อยพี่ไปดีกว่า นาวจะได้ไม่ต้องทรมานแบบนี้ไง”
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง จะทิ้งนาวเหรอไง แค่มีคนนึกว่าเราเป็นแฟนกัน จะมาหาเรื่องเลิกกันง่ายๆเหรอไง ไม่ต้องเลยนาวไม่ให้กลับ” นาวจับผมกดไว้ครับ
“ปล่อยนะเราพูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว”
“ก็นาวไม่ได้ให้พูดนี่ นาวกำลังจะบรรเลงเพลงรักของเราต่อต่างหาก”
“ปล่อยนะ เจ้าดื้อ อย่าดีแต่ใช้กำลังแบบนี้”
“พี่อามก็อย่าเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้สิ” นาวเริ่มไซร้ผมอีกแล้ว ผมรู้ว่าทำอะไรไม่ได้ เลยอยู่เฉยๆ จนนาวเริ่มรู้ตัวเลยหยุด แล้วเริ่มหันมากอดผมแทน
“พี่อามครับ เราสองคนยังรักกันใช่ไหม ถ้ายังงั้นทำไมต้องสนใจคนอื่นด้วยล่ะ”
“โลกนี้ไม่ได้มีเราสองคนนะ พี่กลัวสังคมจะลงโทษเป็นเหมือนกัน”
“งั้นเราจะแบกไว้คนละครึ่งนะ” นาวตอบแบบคนที่ยังมีความเป็นเด็ก ผมได้แต่คิดในใจว่า นาวเอ้ยนาวไม่รู้หรอกว่า ความจริงโลกเรามันยากกว่าที่คิดเยอะ แค่เป็นคู่เกย์ก็ลำบากแล้ว นี่มีกันสามคนอีก อนาคตเราจะต้องอยู่กันไปแบบหลบๆซ่อนๆยังงี้นะเหรอ พี่ไม่อยากเป็นแบบนี้แล้ว นาวเข้าใจรึเปล่า แล้วเราก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วย เรื่องราวยิ่งเลยเถิดเข้าไปกันใหญ่ พี่ต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว นาวไม่รู้หรอก ผมเองจึงได้แต่เงียบๆไป แล้วปล่อยให้นาวจูบผมแล้วจูบผมเล่าเหมือนจะให้ผมคลายกังวล แต่มันไม่ได้ทำให้ผมคลายกังวลแต่อย่างใดเลย

สรุปแล้วว่าผมก็ยังไม่ได้กลับไปหาคิม คืนนั้นทั้งคืนผมก็ยังอยู่กับนาว โดยที่เจ้าน้องชายตัวดีของผมก็เล่นตักตวงความสุขไว้แทบทั้งคืน ตื่นเช้ามานาวก็ไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยผมไปง่ายๆ ขนาดว่าตื่นแล้วก็กอดผมแน่น มือก็ยังกับตีนตุ๊กแกแงะออกยากชะมัด
“นาวครับ ปล่อยพี่ได้แล้วครับ เดี๋ยวพี่ต้องกลับแล้ว”
“ไม่อาว พี่อามอยู่กับนาวต่ออีกหน่อยนะ ขอนอนกอดที่รักของผมอีกสิบนาทีก็ยังดี”
“อย่ามาพูดเลย สิบนาทีมาหลายรอบจนจะครบชั่วโมงอยู่แล้ว” ผมรีบชิ่งหนีเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แต่ก็ปิดประตูไม่ทันจนได้
“ไม่ต้องหนีเลย มาให้นาวขย้ำตอนเช้าซะดีๆ” นาวหน้าตาหื่นมาก พร้อมกับจับผมกดลงอ่างน้ำทันที
“ไม่อาวววว เมื่อคืนก็เยอะแล้วนะ ไอ้เด็กหื่น ปล่อยพี่นะ” ผมร้องไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะสุดท้ายก็เสร็จนาวอยู่ดี โอ้ยเหนื่อยอีกแล้วผม

วันนี้ตามกำหนดการแล้ว คิมจะกลับมาถึงประมาณช่วงบ่าย ผมกะว่าจะกลับคอนโดแล้วไปรับที่สนามบิน แต่ปรากฏว่าคิมรออยู่ที่ห้องแล้วเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนแรกไม่เห็นเพราะเขาแอบอยู่ ผมรู้ตัวอีกที ก็ลงไปนอนกองกับพื้นโดยที่รู้สึกได้ว่ามีอะไรใหญ่ๆทับไปเรียบร้อยแล้ว และไม่ทันที่จะพูดอะไรปากผมก็โดนประกบ ลิ้นผมก็โดนพันเรียบร้อยไปแล้ว เป็นการจูบที่เนิ่นนานที่สุดครั้งนึงเลยทีเดียว
“คิมกลับมาแล้วครับที่รัก คิดถึงคิมบ้างมั้ย หรือว่าอยู่กับไอ้เด็กหน้าอ่อนจนลืมที่รักคนนี้ไปแล้ว” เอาเข้าไปไม่วายกัดผมจนได้นะคิม แต่เอาเถอะ ผมไม่ถือ
“คิดถึงสิครับ ทำไมจะไม่คิดถึง เราไม่เคยลืมคิมได้หรอก” ไม่ทันที่จะพูดจบ คิมก็เอามือมาถอดกระดุมเสื้อผมจนเกือบจะหมดซะแล้ว เฮ่อ รู้สึกว่าตั้งแต่คบกับสองคนนี้มา ผมแก้ผ้าพอๆกับใส่เสื้อเลยมั้งเนี่ย
“คิมครับ จะทำเลยเหรอ พึ่งกลับมาไม่เหนื่อยหรือไง” ผมแซวคิม
“โธ่อาม อามรู้มั้ยว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเราต้องอดทนแค่ไหน มือตัวเองไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กับอามหรอกนะ เราได้จินตนาการว่าเรามีเมคเลิฟกันไปวันๆจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
“จริงอ่ะ ไม่ได้ไปหาฝรั่งที่ไหนมาแก้เหงาเหรอ” ผมแซวอีก แต่ว่าคราวนี้งานเข้าครับ
“ทำไมอามพูดเงี้ย เราไม่ได้เป็นคนสองใจแบบอามน่ะ” ผมฟังแล้วผมปรี๊ดแตกเลยครับ
“ถ้าเราสองใจจะคบเราทำไม เลิกๆไปเลยตั้งแต่แรกสิ จะได้หมดปัญหา ก็เราสามคนตกลงกันแบบนี้นี่ แล้วจะมาพูดแบบนี้หาสวรรค์วิมานอะไร เราก็ไม่อยากเป็นแบบนี้หรอก แบบนี้นะเลิกกันไปเลยดีกว่า” ผมผลักคิมออกแล้วเดินหนี ตอนนั้นผมร้องไห้ ในใจคิดแต่จะกลับบ้านอย่างเดียว

“ทำไมอ่ะ แค่คิมพูดแค่นี้ อามรับไม่ได้เหรอ ทีอามยังหาว่าเราไปหาฝรั่งได้เลย”
“คิมไม่เข้าใจเหรอว่าเราแค่ล้อเล่น ทำไมคิมต้องจริงจังขนาดนี้ คิมเป็นอะไรไป เราไม่เข้าใจเลย”
“อามแกล้งโง่รึเปล่า เราไม่ได้อยากได้ยินอามหาว่าเราไปหาคนอื่น เพราะเรารักอามคนเดียว เข้าใจมั้ย” ตอนนี้คิมก็น้ำตาเริ่มไหลเหมือนกัน แต่ผมน้อยใจคิมจนอารมณ์อยู่เหนือเหตุผลไปแล้ว แล้วผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“อามจะทำอะไร” คิมถามเสียงเขียว
“จะโทรให้นาวมารับ เราทนไม่ไหวแล้ว เราจะกลับบ้านไป เราทนอยู่กับคิมไม่ได้แล้ว ถ้าเราเป็นหลายใจก็ปล่อยเราไปเหอะ” ทันทีที่ผมกำลังกดโทรศัพท์ คิมก็มาฉกโทรศัพท์จากมือผมแล้วขว้างทิ้งไปที่ข้างฝาทันที ผมรีบวิ่งไปหาโทรศัพท์แต่โดนคิมล็อกตัวไว้

“แค่คิมหายไปเดือนเดียว นาวก็เทใจไปนาวมากกว่าแล้ว แล้วแบบนี้จะให้คิมทนได้ไง มาเดี๋ยวเราจะรื้อฟื้นรสชาติเก่าๆของเราให้” จากนั้นคิมก็เริ่มโหดร้ายกับผมแบบที่เคยเกิดก่อนหน้านี้
“ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ” ผมดิ้นหนีสุดฤทธิ์ ขณะเดียวกันก็โดนคิมไซร้อย่างไม่ปล่อย
“ไม่เรารักอาม อามต้องเป็นของเราคนเดียว”
“ปล่อยเราเดี๋ยวนี้นะ”
“ไม่ จนกว่าอามต้องรับรสรักของเราเข้าไปก่อน” ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะข่มขืนโดยคนที่ตัวเองรักอีกครั้ง มันช่างน่าเจ็บปวดจริง ผมได้แต่หลับตาเพื่อไม่เห็นภาพแย่ๆของคิมที่ทำกับผม ผมอยากรู้สึกดีๆกับคนที่ผมรักมากกว่า มากกว่าจะจดจำเรื่องแย่ๆเอาไว้แบบนี้

แต่ในขณะที่เสื้อผ้าผมถูกถอดไปหมด ทำไปทำมากลายเป็นว่าคิมร้องไห้ แล้วก็มาซบอกผม
“เราขอโทษนะ เรารักอามนะ อามอย่าเกลียดเรานะ เราแค่กลัวว่าอามจะรักนาวมากกว่าเรา เราทนไม่ได้จริงๆ” จากนั้นอามก็ร้องห่มร้องไห้อย่างมากมาย ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เอามือไปโอบกอดคิมไว้
“อย่าโทษตัวเองเลย เราก็ผิดด้วย เราไม่เคยรักใครมากกว่ากันเลยนะ เราคิดถึงคิมมากนะ ได้โอบคิมไว้แบบนี้ เรารู้สึกดีมากเลยคิมรู้มั้ย”
“อามพูดจริงๆนะ” คิมดูดีใจมาก
“จริงสิ เราจะโกหกคิมทำไม”
“งั้นอามนอนเฉยๆนะ เราอยากสำรวจร่างกายอาม” จากนั้นคิมก็เริ่มใช้ปากจูบตามจุดต่างๆของร่างกาย อารมณ์ผมมันช่างเปลี่ยนไปเร็วจริงๆ เมื่อกี้ยังหดหู่ ตอนนี้เริ่มที่จะเสียวซ่านอีกแล้ว คิมจูบผมอย่างแผ่วเบา มันก็แค่จูบ แต่ผมรู้สึกว่าใจมันหวิวๆยังไงไม่รู้
“อามอ้วนขึ้นอ่ะ แต่ก็น่ารักดีนะ เหมือนหมีน้อยมากกว่าเดิม เอหรือว่าไปท้องกับใครมา”
“บ้า อย่ามาแซว เราไม่มีมดลูกซะหน่อย” ผมขำที่คิมแซว
“งั้นเรามามีลูกกันดีมั้ยครับที่รัก”
“พูดอะไรตลกๆ ทำงานมากไปจนเพี้ยนแล้วมั้งเนี่ย”
“พูดจริงๆนะ เราอยากมีลูกกับอามมากเลย”
“แล้วจะให้ใครเป็นพ่อ เป็นแม่ แล้วนาวจะเป็นอะไรล่ะ”
“ไม่รู้เรื่องนาวหรอกนะ รู้แต่ว่าคิมจะมีลูกกับอาม จะมีลูกกับอาม จะมีลูกกับอาม”
“เพ้อใหญ่แล้วนะคิม” พูดจบคิมก็มากอดผม
“เราจะมีลูกกันนะครับ”
“เราตามใจคิมละกัน”
“สัญญาแล้วนะที่รัก” ผมพยักหน้าตอบ คิมเข้ามาโอบกอดผม แต่ในใจผมคิดว่า แล้วนาวล่ะจะอยู่ในฐานะไหน

****************************

ยุ่งๆอะครับ ช่วงนี้ มาได้ไม่บ่อย ต้นฉบับร่อยหรอละ พี่อามมาลงช๊า ช้า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 20-02-2010 21:26:07
อามบางทีก็คิดมากเกินไปนะ เพราะถ้าเลือกแล้ว อย่าได้ไปแคร์ แค่นี้คิมกับนาวก็เเข่งกัน แล้วก็กลัวจะเสียอามไปจะแย่ เป็นกำลังใจให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข  o13

ไรท์เตอร์จ๊ะ ที่บอกว่า "แค่คิมหายไปเดือนเดียว นาวก็เทใจไปนาวมากกว่าแล้ว"
จะบอกว่า อามก็เทใจไปที่นาวมากกว่าแล้ว  ป่ะ?  เป็นกำลังใจให้จ้า
ปล.ตอบเม้นท์จากมือถือจิ้มทีละตัวเหนื่อยมากมาย :z10:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 20-02-2010 23:06:13
อามเลยแย่เลย ยังไงก็จะรออ่านต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 21-02-2010 08:27:38
อามคงลำบากน่าดู
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 21-02-2010 09:47:38
อืมมมม.... นั่นสิ เรื่องมันขนาดนี้เข้าไปแล้ว ไงๆก็ปล่อยมือจากทั้งคู่ไม่ได้ก็อย่าไปแคร์ไปคิดมากมันเลยนะ   :เฮ้อ:


ว่าแต่.. จะมีลูกไงอ่ะ  ท่าทางพูดจริงนะนั่น  o22
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 21-02-2010 14:17:17
หาคนใหม่ไปเรย

5555+
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 23-02-2010 14:53:31
 :sad4: :sad4:สงสารนาวอ่ะ

สงสารพี่อามด้วยเป็นคนกลาง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 24-02-2010 03:03:34
มาติดตามเรื่องราวของสามหนุ่ม
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 24-02-2010 03:22:46
รู้สึกว่าพี่อามแก้ปัญหาไม่ค่อยตรงจุดเท่าไหร่
เรื่องมันเลยยุ่งยาก
.
.
.
ทางที่ดีคือ
รวมกันเรา... :haun4:
แยกหมู่เราจ๋อย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: surfsurf ที่ 25-02-2010 15:54:02
รอ อ่านตอนต่อไปนะครับ

อยากให้มี 3P เยอะๆๆๆ :fire:

แต่เราแอบเชียร์พี่คิมมากกว่านะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 07-03-2010 15:03:02
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่14 เรา รัก กัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ash ที่ 07-03-2010 17:02:32
3P ก็ดีเนาะ :haun4:

แต่ท่าทางจะเหนื่อยอีกนาน :oo1:

ติดตามอ่านตอนต่อไปจ้า o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 08-03-2010 20:02:25
ขอโทษทุกคนนะครับ หายไปนานเลย ติดเคลียร์เรื่องสอบ แล้วก็โปรเจคอะครับ

บทที่ 15 สมาชิกใหม่
“คิมครับ เราก็รักเด็กนะ แต่ถ้าเรามีลูกกันขึ้นมาจริงๆ มันจะไม่มีปัญหาจริงๆเหรอ” ผมก็ยังคงสงสัย
“ไม่มีอะไรในโลกที่สมบูรณ์แบบหรอก ทุกครอบครัวก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น เราว่าสำคัญที่จะทำอย่างไรให้มีความสุขที่สุดมากกว่า จริงมั้ย” คิมพูดด้วยแววตาจริงจัง แล้วก็เอามือมาจับหน้าผม
“คิมอย่าโกรธนะ ถ้าเราสองคนมีลูก แล้วนาวจะอยู่ตรงไหน” ผมถามด้วยความหวาดหวั่น
“เขาอยู่ตรงไหนมาก่อน ก็ให้เขาอยู่ตรงนั้นแหละ แต่เราจะมีลูกกับอาม โอเคนะ เข้าใจนะจ๊ะที่รัก” ผมได้แต่พยักหน้ารับ จากนั้นคิมก็เข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงผมอย่างเต็มที่
“ทำอะไรน่ะคิม เราหายใจไม่ออกนะ” คิมรัดผมไว้แน่นมาก
“ก็ขอกอดอามแน่นๆหน่อยสิ ไม่ได้อยู่กับอามนาน เราจะบ้าตายแล้วรู้เปล่า” จากนั้นคิมก็ใส่ผมแทบไม่ยั้ง จนผมแทบจะทนไม่ไหว เหมือนว่าตัวเองกำลังจะสำลักความสุขตาย คิมเองก็ดูเหมือนกำลังตักตวงสิ่งที่เขาขาดหายไปเป็นเดือน เหมือนตอนนี้เขาจะไม่รู้จักพอเอาซะเลย ในตอนนี้สีหน้าของคิมบิดเบี้ยวไปด้วยความปรารถนาและความเสียวซ่านสุดขีด ที่ผมมองแล้วก็ทำให้ไฟปรารถนาของตัวเองคุกโชนมากขึ้นไปกว่าเดิม ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เราเติมเต็มความปรารถนาให้แก่กันและกัน รู้แต่ว่าผมหลับไปในอ้อมกอดของคิม ตื่นมาอีกทีก็ค่ำแล้ว รู้ตัวอีกทีเห็นอาหารมากมายเต็มตาไปหมดเลย
“ตื่นแล้วเหรอครับที่รัก”
“ทำไมอาหารมากมาย เต็มไปหมดแบบนี้”
“ก็เราหิวแล้วอ่ะ”
“แล้วทำไมต้องทำอาหารมากมายขนาดนี้อ่ะ จะชวนใครมากินด้วยรึเปล่า” ผมงงเพราะอาหารมันเยอะไปหมดมากกว่าที่เราสองคนจะกินหมดในหนึ่งมื้อ
“ก็ตั้งแต่กลับเรามาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย ใช้พลังงานไปกับอามอีก อีกอย่างอามต้องทานเยอะๆเพื่อลูกของเราด้วยรู้มั้ย” ตายแล้วแฟนผมเป็นเอามากเลยนะเนี่ย
“บ้าจะเพิ่มพูนไขมันน่ะสิ ไม่ว่า ตลกแหละ” ผมส่ายหัวแล้วก็ทำหน้าเบื่อๆใส่คิม
“ดีไม่ต้องหล่อมากหรอก ไม่อยากให้ใครมายุ่ง อ้วนๆไว้น่ะ ดีแล้ว”
“แหมจะอะไรกันมากมาย เราไม่ได้หล่ออะไรเลยจะหวงอะไรกันหนักหนา”
“ไม่รู้ล่ะ แฟนเรา เราหวง” ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรก็ได้แต่ยิ้มๆ ในความง็องแง็งเวลาที่เขาอยู่กับผม เวลาทำงานละก็คนละเรื่องกันเลย
เรานั่งกินอาหารกันจนเสร็จและเก็บอาหารที่กินเหลือไว้พรุ่งนี้ แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“ฮัลโหลครับแม่ ว่าไงครับ ครับพึ่งกลับมาถึง อะไรนะครับ........ ครับๆคิมจะไปเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงคิมดูตกอกตกใจมาก
“มีอะไรเหรอคิม”
“พี่เคท(พี่สาวคนที่สาม)กับแฟนถูกรถชนอาการสาหัส ตอนนี้ที่บ้านคิมอยู่ไอซียูกันหมดแล้ว เรารีบไปกันเหอะ” ผมได้ยินถึงกับตกใจมาก ผมเคยเจอพี่เคทหลายครั้ง พี่เคทเป็นผู้หญิงที่นิสัยน่ารักและสวยมาก แล้วก็มีลูกชายตัวน้อยชื่อกาเบรียล (ชื่อเล่นชื่อกีกี้) ก็น่ารักมากเพราะเป็นลูกครึ่งที่มีพ่อเป็นคนสเปนที่หล่อมาก ผมไม่อยากให้เกิดอะไรกับครอบครัวนี้เลย
“แล้วกีกี้กับคุณโฮ่เซ่ เป็นอะไรรึเปล่า”
“พี่โฮเซ่ตายคาที่ ส่วนกีกี้นั่งมาข้างหลังเลยรอดหวุดหวิด แต่คงจะเสียขวัญน่าดู แม่บอกว่ากีกี้ร้องไห้ไม่หยุดเลย”
“น่าสงสารจังเลย” ผมรู้สึกเศร้าใจมาก
“รีบไปกันเถอะ” ผมกับคิมในเวลานั้นสีหน้าไม่สู้ดีเลย
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล คิมก็เข้าโผกอดกับคุณแม่โดยทันที คุณแม่ของคิมดูช็อกมาก โดยที่คุณพ่อต้องคอยปลอบตลอด ส่วนบรรดาพี่ๆน้องๆทั้งสี่คนก็มารวมตัวกันหมด ต่างคนต่างหน้าเสีย แต่ที่ดูจะแย่ที่สุดคือ กีกี้ที่ยังร้องไห้ไม่หยุดเลย
“ฮือ ป่าป๊า ม่าม๊า อยู่ไหนอ่ะ ฮือๆ”
“โอ๋ๆๆเดี๋ยวก็มาแล้วลูก อย่าร้องนะ อย่าร้อง” พี่เคนพี่ชายคนโต ปลอบกีกี้แต่ก็ร้องไม่หยุดเลย ผมเห็นเข้าก็ไม่รู้นึกยังไง เลยบอกออกไปว่า
“พี่เคนครับ ให้อามอุ้มกีกี้ได้มั้ยครับ เพื่อจะปลอบได้”
“ดีเลยน้องอาม ขอช่วยหน่อยนะ ทั้งพ่อ แม่ พี่กับแคน ไม่มีใครช่วยปลอบได้เลย เหนื่อยจนจะหมดแรงแล้ว” พูดจบก็ส่งกีกี้ให้ผมเลย
“น้าอามป่าป๊ากับม่าม๊าไปไหนอ่ะ” ถามไปก็ร้องไห้ บังเอิญผมคิดอะไรบางอย่างออก
“ไม่รู้จริงๆเหรอ” ผมทำหน้ายิ้มเหมือนกุมความลับอะไรบางอย่าง
“น้าอามรู้เหรอครับ” กีกี้ทำตาโตด้วยความอยากรู้
“ก็พ่อกับแม่เราเล่นซ่อนหากันอยู่ ต้องหาให้เจอ ถ้ามัวแต่ร้องไห้แล้วจะหาเจอเหรอครับ”
“น้าอามพูดจริงเหรอครับ” กีกี้เริ่มสงบ
“จริงสิ แต่ว่าเราต้องหยุดร้องไห้ก่อนนะครับ เดี๋ยวป่าป๊าม่าม๊าไม่มาไม่รู้ด้วยนะ” แล้วกีกี้ก็เงียบเลยครับ ผมก็โอ๋กีกี้จนหลับคาไหล่ผมไปเลย
“โหอามนี่มีพรสวรรค์ในการเลี้ยงเด็กเนาะ ดูดิโอ๋กีกี้แป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยแล้ว” พี่แคนทำหน้าทึ่งๆครับ
“ไม่หรอกครับพี่แคน ผมว่ากีกี้คงร้องไห้มานานจนเหนื่อยแล้วก็หลับไปมากกว่าครับ” ผมพยายามถ่อมตัว แต่ผมเหลือบเห็นว่า คิมมองผมด้วยสายตาแปลกๆพร้อมด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“ขอบใจอามมากนะลูก นี่ถ้าเคทเป็นอะไรไปก็ไม่รู้จะทำยังไง” คุณแม่ดูท่าทางเหมือนจะเตรียมใจไว้แล้ว แป๊บเดียวคุณหมอก็ออกมาครับ พร้อมกับข่าวที่ไม่ค่อยดีนัก
“คนไข้ขอพบหน้าญาติๆครั้งสุดท้ายครับ เธอรู้ตัวว่าคงไม่รอดแล้ว” ฟังแล้วทุกคนก็อยู่ภาวะช็อกอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะรวบรวมสติได้แล้วพาเข้าไปกันข้างใน ดีที่กีกี้ยังหลับอยู่ไม่งั้นคงช็อคหนักกว่าเดิม
พี่เคทแม้จะนอนป่วยอยู่บนเตียง แต่ก็ยังดูดีมาก พี่เคทก็รู้ว่าตัวเองจะไม่รอด จึงบอกลาพ่อแม่และบรรดาพี่ๆน้องๆของตน แต่ที่พี่เคทดูห่วงที่สุดคือ ลูกชายคนเดียว กีกี้
“ไม่ต้องห่วงนะเคท พวกเราจะดูแลกีกี้ให้เอง” พี่เคนรับปากพี่เคท
“พี่เคนก็มีลูกตั้งสามคนแล้วนะ จะมาดูแลลูกเคทยังไงไหว พี่แคนเองก็มีลูกแฝด แค่นี้ก็เลี้ยงกันไม่ไหวแล้ว” พี่เคทยิ้มเศร้าๆ
“แต่กีกี้เป็นหลานเรานะลูก ไม่ให้พวกเราดูแล แล้วจะไปให้ใครดูแล” คุณพ่อพูดด้วยความสะเทือนใจ
“หนูแค่อยากให้กีกี้มีพ่อกับแม่ที่ดูแลเขาโดยตรง เขาเป็นลูกหนูคนเดียวนะคะ หนูแค่อยากให้มีใครคนหนึ่งเป็นเหมือนพ่อแม่เขาได้จริงๆหลังจากที่หนูกับโฮเซ่ตายแล้ว” พูดจบพี่เคทก็เอื้อมมาลูบหัวลูกชายสุดที่รัก ผมต้องน้อมตัวลงเพื่อให้พี่เคทเอื้อมถึงกีกี้ และแล้วความเจ้าเล่ห์ของคิมก็ปรากฏขึ้น
“ทุกคนครับคิมขอพูดอะไรกับพี่เคทเป็นการส่วนตัวหน่อยได้มั้ยครับ”
“เรื่องอะไรเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความแปลกใจ
“นะครับ ขอเวลาแป๊บเดียว” คิมวิงวอนต่อทุกคน ทุกคนรวมทั้งผมและกีกี้ก็เลยเดินออกมา ผ่านไปได้ประมาณสิบห้านาที คิมก็ออกมาตามด้วยสีหน้าที่ดีใจกับอะไรบางอย่าง ทุกคนมาพร้อมกันที่เตียงพี่เคท ก่อนที่พี่เคทกำลังจะบอกลากับทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย
“คุณพ่อคุณแม่ค่ะ หนูตัดสินใจแล้วว่า หนูจะมอบหน้าที่ดูแลกีกี้ให้คิมกับอามน่ะค่ะ”
“หาพี่เคททำไมพูดแบบนี้ละครับ” ผมช็อกมาก
“ทุกๆคนฟังให้ดีนะ ที่เคทเลือกคิมกับอามให้ดูแลกีกี้ต่อไป เพราะเราทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน สิ่งที่สองคนนี้มีไม่ได้ก็คือลูก คิมบอกกับหนูว่าเขาอยากมีลูก เขาให้สัญญากับหนูว่าจะดูแลกีกี้ให้ดีเหมือนลูกตัวเอง เคทเป็นแม่เคทเห็นก็รู้แล้วว่าคิมพูดจริงขนาดไหน แล้วหนูเห็นกีกี้หลับสนิทคาอกอามขนาดนี้ เคทเชื่อว่าอามจะดูแลกีกี้ได้แน่ๆ” ผมอึ้งมาก ไม่คิดว่าคิมจะพูดจริงทำขนาดนี้ นี่ผมกำลังจะมีลูกแล้วเหรอวะเนี่ย
“เคทพูดจริงๆเหรอลูก” คุณแม่เป็นกังวลแทนลูกสาว
“แม่ขา หนูมั่นใจว่า หนูเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกหนูแล้ว อีกอย่างกีกี้เขาเป็นหลานทุกคน ไม่ใช่ว่าต้องอยู่เฉพาะอามกับคิมซะหน่อยนี่คะ กีกี้ก็ยังไปมาหาสู่กับทุกคนได้เหมือนเดิม แต่หนูแค่ให้อามกับคิมดูแลกีกี้โดยตรงเท่านั้นเอง นี่คือสิ่งสุดท้ายแล้วที่หนูอยากจะขอ หนูไม่ขออะไรแล้วค่ะ”
“พวกเราทุกคนเข้าใจแล้วลูก ไม่ต้องเป็นห่วงนะ” คุณพ่อเริ่มร้องไห้ แล้วทุกคนก็อยู่ในอาการสงบ”
“คิมกับอาม ตอนนี้เราสองคนเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แล้วนะ ดูแลกีกี้แล้วดูแลกันดีๆนะ” พี่เคทสั่งเสียครั้งสุดท้าย
“ครับเราสองคนสัญญา” คิมรับปากพี่เคท ส่วนผมได้แต่อึ้งจนพูดไม่ออก ได้แต่พยักหน้ารับ พี่เคทยิ้มอย่างสวยงาม ก่อนจะสิ้นใจอย่าสงบ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จนผมปรับตัวแทบไม่ทันเลยทีเดียว ทุกคนต่างร้องไห้เสียใจ คิมเข้ามาโผกอดผมกับกีกี้ แล้วเข้ามาบอกกับผมว่า
“ต่อไปนี้เราต้องดูแลลูกของเรากันดีๆนะ” ผมเลยแอบคิดในใจว่า เราที่ว่า นี่หมายรวมถึงนาวไว้ด้วยรึเปล่า แม้ผมจะรักกีกี้ก็จริง แต่ผมกำลังกังวลว่า คิมกำลังมีแผนบางอย่างจากการใช้กีกี้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นหลักประกันว่า ผมจะไม่ไปจากเขา เพราะเรามีสองคนต่างมีพันธะต่อกันแล้ว ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปรึเปล่า แต่ถ้าเป็นไปตามนี้ คิมก็ช่างร้ายล้ำลึก ผมมองว่าต่อไปถ้านาวยังไม่ไปจากผม ที่สุดแล้วน้องชายผมก็จะกลายเป็นกิ๊กไปเท่านั้น เพราะนาวจะถูกกีดกันออกไปเนื่องจากไม่สามารถแทรกมาอยู่ตรงกลางระหว่างครอบครัวที่คิมสร้างขึ้นใหม่ต่อไปจากนี้ได้
ผมกับคิมต้องฝากกีกี้ไว้กับที่บ้านคิมก่อน เพราะต้องกลับมาเก็บของไปอยู่กับที่บ้านคิมสักพักเพื่อช่วยงานศพพี่แคทก่อน ระหว่างนั่งรถกลับคอนโดกลับผมก็โทรหานาว
“นาวครับ ช่วงนี้พี่คงไม่กลับไปหานาวสักพักนะ”
“อ้าวทำไมอ่ะ”
“ก็มีเรื่องน่ะสิ” หลังจากนั้นผมก็เล่าเรืองพี่เคทครับ นาวก็ดูอึ้งๆครับ แต่ผมยังไม่ได้เล่าเรื่องกีกี้ออกไป
“แล้วนี่จะตั้งไว้ที่วัดไหนอ่ะ”
“อืม ยังไม่รู้เลย เดี๋ยวพี่โทรไปบอกอีกทีล่ะกัน”
“ฝากบอกพี่คิม ด้วยนะครับว่านาวเสียใจด้วย”
“อืม ขอบใจนะนาว” ผมแอบรู้สึกดีที่นาวยังห่วงใยคิม ผมวางสายลง
“นาวฝากแสดงความเสียใจด้วยนะคิม”
“อืม ฝากขอบใจนาวด้วยนะ” แล้วคิมก็ดูเงียบๆไป สงสัยจะยังเศร้าเรื่องพี่เคท พอพวกเรากลับมาถึงคอนโด อยู่ๆคิมก็เข้ามากอดผม แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้น ผมเลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น
“คิมเป็นอะไร ทำไมอยู่ๆร้องไห้ขึ้นมาอีก”
“จริงๆแล้วเราอยากร้องไห้มากๆตั้งแต่พี่เคทเสียแล้ว แต่เห็นที่บ้านร้องกันเยอะแล้ว เราไม่อยากให้ที่บ้านเศร้ากว่านี้อีก เลยกลับมาร้องไห้กับอามดีกว่า อามเข้าใจเราใช่ไหม” โหแฟนผมแมนโคตร แล้วก็แอบดีใจว่าเขาอยากกลับมาร้องไห้กับเรา แสดงว่าเราคงสำคัญกับเขามาก จำได้ว่ากอดคิมไว้นานมาก คิมร้องไห้จนหมดแรงไปเลย ร้องจนผมเศร้าไปด้วยเลย
“ขอบใจนะอาม ถ้าเราไม่มีอามสักคน เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำยังไงดี”
“เราเป็นคนรักกัน ก็ต้องดูแลกันสิครับ” ผมตอบปลอบใจอาม
“งั้นอามจะอยู่กับคิมตลอดไปได้มั้ย” เฮ้ยทำไมพอคิมถามคำถามนี้ ผมรู้สึกว่าไม่สามารถตอบออกไปได้เต็มปากเต็มคำ
“เรารักกันก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ” ผมตอบแบบดารามากๆ(ไม่บอกว่าเป็นแฟนกัน แต่เป็นคนรู้ใจกันอะไรแบบนี้ที่เขาชอบตอบกัน)
“ตลอดไปใช่มั้ย ใช่มั้ยครับที่รักของผม” คิมมองผมด้วยสายตาคาดคั้นมากมาย น้ำตาคิมกำลังไหลเพราะความเศร้าจนผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ในที่สุดผมก็เข้าโผกอดคิม แล้วพูดว่า
“ถ้าคิมยังไม่หมดรักเรา เราก็จะอยู่กับคิมเสมอนะ” ผมไม่กล้าตอบว่าตลอดไป ไม่รู้ว่าทำไม เพราะลึกๆแล้วผมมองว่าโลกนี้มันไม่มีอะไรที่ตลอดไป จะนานที่สุดเท่าไหร่มากกว่า ไม่เลิกกันก็ต้องตายจากกันในวันใดวันนึงอยู่ดี ทำทุกๆวันให้ดีที่สุดดีกว่า
“ไม่มีวันซะหรอก คิมจะอยู่กับอามตลอดไป” แล้วคิมก็โอบรัดผมซะแน่นเลย หลังจากคิมร้องไห้จนพอใจก็หมดแรงไปเลย ผมเลยต้องรับหน้าที่เก็บของต่อ แล้วจัดการเคลียร์กับข้าวที่อยู่ในตัวเย็นให้เกลี้ยง เพราะไม่อยู่สองอาทิตย์คงเน่าแน่ๆ ซึ่งต้องเตรียมข้าวของไปให้พอกับสองสับดาห์ พอจัดของเสร็จก็ต้องปลุกคิมให้ตื่น คราวนี้เป็นผมบ้างที่ต้องขับรถ ซึ่งก็ขับกลับไปบ้านคิมเลย แม้ว่าบ้านจะหลังใหญ่โตอลังการ แต่บรรยากาศก็ดูเศร้าแต่ก็ไม่เงียบเพราะมีเสียงเด็กร้องอยู่ตลอดเวลา ใช่แล้วครับ เสียงกีกี้นั่นเอง
“จะหาป่าป๊า ม่าม๊าๆๆ ฮือๆๆ”
“คนเก่งของน้าอาม ร้องไห้แบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ จะตามหาป่าป๊า ม่าม๊าเจอล่ะครับ” พูดเสร็จผมก็เอากีกี้มาอุ้มบนตัก
“มันนานไปแล้วอ่ะ กีกี้เบื่อแล้ว กีกี้ไม่เล่นแล้ว”
“เอางี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้น้าอามพากีกี้ไปหาป่าป๊า ม่าม๊า แต่กีกี้สัญญาก่อนว่าจะหยุดร้องไห้ โอเคมั้ยครับ” ผมพูดจบก็หอมกีกี้ไปฟอดหนึ่ง
“ก็ได้ๆ น้าอามห้ามหลอกนะ”
“ม่ายหลอกๆ เดี๋ยวน้าอามเล่นกับกีกี้ไปก่อนละกัน” ผมก็เล่นกับกีกี้ จนเจ้าตัวน้อยหัวเราะคึกคัก เสียงหัวเราะนี่ช่วยกลบเกลื่อนความเศร้าในบ้านหลังใหญ่โตได้บ้าง คนอื่นๆต่างก็มองด้วยความชอบใจ เล่นจนกีกี้เหนื่อยแล้วก็หลับคาตักผมไป คุณแม่เห็นเขาก็บอกว่า
“แหม เห่อลูกคนใหม่จังเลยนะ อามเนี่ย” คุณแม่แซวผมทั้งที่ยังเศร้า
“อ้าวคุณแม่ ก็ลูกผมนะครับ ก็ต้องเห่อเป็นธรรมดา ใช่มั้ยคุณแม่อาม” อ้าวคิมไหงพูดแบบนี้ล่ะ เราไม่ได้เป็นผู้หญิงนะ
“ไม่เอาเราไม่ได้เป็นผู้หญิงนะ เป็นแม่ไม่ได้หรอก คิมอย่าพูดแบบนี้สิ”
“แหมอะไรกันอาม แค่นี้ทำเป็นอาย ไม่มีใครว่าอะไรหรอกน่า” เอาเข้าไป พี่แคนแซวผมอีกคน ทำเอาผมอายม้วนต้วน จนคนอื่นขำจนลืมเศร้าไปชั่วขณะหนึ่ง
“อืมอย่างนี้แสดงว่า อามต้องบอกความจริงกับกีกี้แล้วใช่ไหม” พี่เคนเริ่มกลับมาถามเสียงเครียดอีกครั้ง
“ก็คงต้องอย่างงั้นแหละครับ แรกๆอาจเจ็บปวดบ้าง แต่ไม่มีใครหนีความจริงหรอกครับ ถ้ากีกี้ไม่รู้พรุ่งนี้ ก็ต้องรู้วันอื่นอยู่ดี อามจะรับผิดชอบเองครับ” ผมเองก็แอบเครียดอยู่เหมือนกัน คิมก็จับมือผมไว้เพื่อให้กำลังใจ
ความจริงแล้วยังมีสมาชิกในบ้านคนอื่นๆอีก คือบรรดาลูกๆของพี่แคนและพี่เคนที่บอกไปแล้ว แต่ว่าตอนนั้นมันดึกมากแล้ว เด็กๆก็เลยไปนอนกันหมด เหลือแต่กีกี้ที่ร้องไห้ไม่หยุดซะที จนผมปลอบแล้วจึงหลับไป คืนนั้นเมื่อกีกี้หลับไปได้เราสามคน(ผม คิม กีกี้) ก็เลยขึ้นไปนอนกันที่ห้องของคิม คืนนี้จึงเป็นคืนแรกที่เราอยู่ด้วยกันในลักษณะเป็นครอบครัว แต่ไม่วายคิมจะหื่นได้อีก เพราะตลอดคืน คิมจะจูบผมตลอดเวลา ผมก็บ่ายเบี่ยงเพราะกลัวว่ากีกี้จะตื่นมาเห็น แต่ว่า
“ไม่เห็นเป็นไรเลย พ่อจูบแม่ให้ลูกดูไม่เห็นจะเป็นไรเลย” เฮ้ยทำไมคิมพูดยังเงี้ย
“คิมจะบ้าเหรอ ใครเป็นแม่หา เราบอกคิมตั้งแต่ตอนไหน” ผมเริ่มโวยวาย
“ไม่เอาดิ โวยวายแบบนี้เดี๋ยวลูกรักของเราก็ตื่นพอดี”
“ก็เราไม่ใช่ผู้หญิง อย่าทำแบบนี้กับเราได้มั้ย” ผมเริ่มไม่พอใจ คิมเลยเริ่มกอดกระชับผมไว้มากขึ้น
“แล้วอามจะเป็นอะไรดี แม่ก็ไม่ยอมเป็น จะเป็นน้าอามก็ไม่ได้นะ เพราะกีกี้เป็นลูกของเราแล้ว”
“อืม คิมเป็นป่าป๊า แล้วเราเป็นแด๊ดดี้ ได้ไหม เพราะสองคำนี้ก็แปลว่าพ่อเหมือนกัน โอเคนะ”
“เออจริงด้วย ก็โอเคนะ งั้นคืนนี้ป่าป๊าขอจูบแด๊ดดี้ทั้งคืนเลยนะครับ”
“ไม่อาว จะหื่นไปไหน”
“ถ้าไม่ให้จูบคิมจะทำมากกว่านี้นะ” ผมรู้ว่าคิมพูดจริงทำจริง เลยต้องยอมแต่โดยดี ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่กีกี้นอนกอดผม แล้วผมก็โดนคิมก็นอนกอดผมอีกที มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยครับ คือมันอบอุ่นแล้วก็หอมหวาน ผมเริ่มรู้สึกว่ารักกีกี้ขึ้นมาเหมือนลูกจริงๆซะแล้ว เลยก้มหน้าไปหอมเจ้าตัวน้อยเบาๆ แป๊บนึงเจ้าตัวน้อยก็งัวเงียตื่นขึ้นมา
“น้าอามครับ กีกี้หิวข้าวแล้วอ่ะ”
“งั้นกีกี้อาบน้ำก่อนนะ แล้วเดี๋ยวลงไปกินข้าวกันนะ”
“น้าอามอาบให้กีกี้นะครับ”
“อารายโตขนาดนี้ ยังอาบเองไม่ได้อีกเหรอ” (ตอนนั้นกีกี้อายุประมาณเกือบ 5 ขวบ)
“ปกติป่าป๊าจะอาบให้ น้าอามอาบให้หน่อยนะครับ” แล้วคิมก็ตื่นขึ้นมาครับ
“กีกี้ถอดชุดนอนเลย เดี๋ยวน้าคิมกับน้าอามอาบให้นะ” สิ้นคำปุ๊บกีกี้ก็ถอดชุดนอนตัวเองเสร็จสรรพแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว
“คิมตามใจกีกี้แบบนี้เดี๋ยวก็เสียเด็กกันพอดีหรอก”
“แหมแค่อาบน้ำเอง อีกอย่างนี้จะเป็นเรื่องแรกที่เราช่วยกันดูแลลูกของเราเลยนะ” ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เลยต้องยอมตามใจคิมอีกจนได้ พอกีกี้อาบน้ำเสร็จก็เข้ามากอดผมทั้งที่ยังตัวเปียก ทำแบบนี้เหมือนนาวตอนเด็กๆเลย
“เหมือนนาวจัง” ผมพูดออกมาเบาๆ แต่ว่าคิมดันได้ยิน
“เหมือนนาวยังไง นี่ลูกเรานะ ไม่ใช่นาว อามจะหยุดคิดถึงนาวบ้างได้มั้ย” อ้าวเรื่องแค่นี้จะมางอนทำไม แต่ไม่อยากจะเถียงเพราะกีกี้ก็อยู่ด้วย
“อย่าทะเลาะต่อหน้าเด็กเลยนะ ถ้าคิมจะไม่พอใจเรา ก็ว่าเราทีหลังก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ” ผมเลี่ยงการทะเลาะ คิมฟังแล้วก็ได้สติ จึงเงียบๆกันไป ผมเอาชุดดำมาให้กีกี้ใส่เพราะวันนี้ต้องไปงานศพกันจริงๆแล้ว
“น้าอามทำไมให้กีกี้ใส่ชุดดำอ่าครับ” เฮ่อจะให้ตอบว่าไงดี
“วันนี้ทั้งบ้านเขาก็ใส่ชุดดำหมดแหละ วันนี้จะไปงานสำคัญงานหนึ่งกัน”
“งาน งานอารายเหรองับ” เจ้าตัวน้อยสงสัย
“ก็งานที่จะได้ไปเจอป่าป๊ากับม่าม๊ากีกี้ไงครับ” ผมพูดประโยคนี้ พร้อมกับเอามือมาลูบหัวเจ้าตัวน้อย และเริ่มจะรู้ตัวว่าน้ำตากำลังจะไหลเพราะสงสารลูก (อ้าวนี้กีกี้เป็นลูกไปแล้วจริงๆเหรอเนี่ย
“น้าอามพูดจริงๆนะครับ” กีกี้ดูดีใจมาก เข้ามากอดผมใหญ่ โดยที่ไม่รู้ว่า เรื่องน่าเศร้าที่ต้องรับรู้กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า พอลงมาข้างล่างทุกคนก็ลงมาพร้อมหมดแล้ว สีหน้าก็ต่างเศร้าสร้อย จะมีก็แต่กีกี้คนเดียวเท่านั้นที่ทำหน้ารื่นเริงเพราะคิดว่ากำลังจะได้เจอพ่อแม่ หลังทานมื้อเช้าเสร็จก็เร่งให้ผมพาเขาไปหาพ่อแม่
หลังจากที่มาถึงงานไม่ขอบรรยายบรรยากาศในช่วงนี้นะครับ ผมรู้สึกสะเทือนใจเอาเป็นว่า กว่าจะอธิบายให้กีกี้เข้าใจได้ มันยากจริงๆ ไหนจะต้องปลอบอีกตั้งนาน จนกีกี้ดูเงียบงันเป็นเด็กซึมเศร้าไปช่วงหนึ่งเลย ผมต้องกอดกีกี้ไว้กับตัวตลอดเลย กีกี้ก็ติดผมมากเหมือนเป็นม่าม๊าเขา นอกจากผมแล้วเขาแทบไม่อ้าปากพูดกับใครเลย
อย่างที่เคยบอกไปว่าครอบครัวคิมมีฐานะมาก ดังนั้นจึงมีใครต่อใครก็ไม่รู้มากกันมากมายไปหมด แต่คนที่มางานทุกคนดูจะสนใจกีกี้มากที่สุดด้วยความที่เป็นเด็กหน้าตาน่ารัก มีหลายคนพยายามมาคุยด้วย แต่กีกี้เบือนหน้าหนีเลย แล้วก็จะร้องโวยวายจนผมต้องพาหลบออกจากงานเป็นระยะๆ กว่าจะเสร็จงานของพี่เคทกับคุณโฮเซ่ก็เล่นเอาผมเหนื่อยมาก เพราะเจ้าตัวน้อยไม่ยอมห่างผมเลยถ้าไม่หลับขนาดไปฉี่ยังตามไปเลย
นาวเองก็มางานนี้ด้วย และก็สังเกตว่าทำไมเด็กคนนี้ติดแฟนตัวเองจัง ก็เลยอธิบายว่าเด็กที่พ่อแม่ตายทั้งคู่ก็ต้องหาที่พึ่งพิงเป็นธรรมดา นาวก็เลยเข้าใจ แต่ผมไม่อธิบายนะครับว่าตอนนี้กีกี้กลายมาเป็นอะไรในชีวิตผมไปแล้วเพราะผมยังไม่พร้อม ซึ่งเลยต้องบอกนาวไปว่าช่วงนี้คงต้องห่างกันสักพักจนกว่าทุกอย่างจะลงตัว
พอเสร็จงานกีกี้ก็ยังดูเงียบอยู่ จนผมกับคิมต้องพาเจ้าตัวน้อยไปเที่ยวทะเลเปลี่ยนบรรยากาศ พอได้เห็นทะเลเท่านั้นแหละครับเด็กก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำแทบจะวิ่งเข้าใส่แทบไม่ทัน พอซักพักหลังจากที่ดูว่ากีกี้เริ่มสบายใจขึ้นมาแล้ว คิมเลยบอกเรื่องสำคัญ
“กีกี้ครับ ต่อไปนี้กีกี้ต้องไม่เรียกน้าคิมกับน้าอาม ว่าน้าแล้วนะ” คิมเป็นฝ่ายบอก
“ทำไมเหรองับ” กีกี้ชักสงสัย
“ก็ก่อนม่าม๊ากีกี้เสีย ฝากให้น้าสองคนเป็นพ่อกับแม่ดูแลเราแทนน่ะสิ”
“จริงเหรองับ งั้นกีกี้เรียกน้าคิมว่าป่าป๊าแล้วเรียกน้าอามว่าม่าม๊านะครับ” เอ่อกีกี้อย่าทำกับน้าอามแบบนี้สิลูก ส่วนคิมเอาแต่หัวเราะชอบใจที่กีกี้เรียกผมว่าม่าม๊า
“กีกี้ครับ กีกี้เรียกน้าอามว่าม่าม๊าไม่ได้นะน้าอามไม่ได้เป็นผู้หญิงนะลูก” ผมพยายามบ่ายเบี่ยง
“ไม่ได้เหรอ แบบนี้กีกี้ก็ไม่มีแม่สิ น้าอามเป็นม่าม๊าให้กีกี้เถอะนะ” พูดจบเด็กน้อยน้ำตาไหล แล้วจะให้ผมปฏิเสธก็เห็นทีจะไม่ได้แล้วครับ แต่ว่าของแบบนี้ผมกันคึ่งทางละกัน
“เอางี้ก็ละกันเวลาอยู่กันสามคนแบบนี้ ให้เรียกม่าม๊าได้ แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นให้เรียกว่าแด๊ดดี้ ตกลงตามนี้นะ” พูดจบกีกี้ก็โผเข้ากอดผมทันที
“ได้ครับม่าม๊า” ส่วนคิมก็ทำหน้ากรุ่มกริ่ม
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้เลย เราให้กีกี้เรียกว่าม่าม๊าได้คนเดียว ถ้าคิมเรียกเราไม่ต้องมาคุยด้วยเลย
“โอ๋ๆๆ กลัวแล้วจ้าที่รัก อย่าโกรธป่าป๊าเลยนะ คนดี”
ที่สุดแล้วผมก็มีสมาชิกใหม่เป็นทางการเสียที


***********************************************

ลงให้เต็มเลยนะครับ ตอนนี้ยาวมาก ตอนแรกจะหั่นสองตอน แต่เห็นว่าหายไปนาน เพราะอยู่ในช่วงสอบกับเคลียร์โปรเจค เลยจัดให้เต็มๆเลย

ตอนนี้ คนโพส.
.
.
.
.
.


.
.
.
.
.


เรียนจบละคร้าบบบบบ  :mc4:

ตอนนี้ก็เหลือหางานและหาแฟน  :z1:

อิอิ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 08-03-2010 20:54:11
น้องกีกี้น่ารัก แต่ก็น่าสงสารที่เสียแม่ไปแล้ว แต่อย่างน้อยครอบครัวใหม่ที่มีอาคิมกับอานาวเป็นป่าป๊า หม่าม๊า น่าจะช่วยรักษาจิตใจให้เด็กน้อยได้แหล่ะเนอะ..

แต่ถ้านาวรู้อ่ะ..มันก็เหมือนกับที่อามนึกไว้แหล่ะว่ามันจะเป็นการกีดกันนาวออกจากวงโคจรรึปล่าว..รออ่านต่อจ้า

ปล.ยินดีด้วยที่เรียนจบนะจ๊าา..ขอให้ได้งานดีๆในเร็ววัน และมีรักที่สดใสด้วย o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 08-03-2010 23:41:33

เรียนจบละคร้าบบบบบ  :mc4:

ตอนนี้ก็เหลือหางานและหาแฟน  :z1:

อิอิ

ยินดีกับwriterด้วยค่ะ..ขอให้ได้งานดีๆนะคะ

ps. lucky in love ด้วยนะคะ^^  :bye2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 09-03-2010 03:13:13
น้องกีกี้น่ารัก แต่ก็น่าสงสารที่เสียแม่ไปแล้ว แต่อย่างน้อยครอบครัวใหม่ที่มีน้าคิมกับน้านาวเป็นปาป๊า ส่วนน้าอามมาม๊า น่าจะช่วยรักษาจิตใจให้เด็กน้อยได้บ้างแหละเนอะ..

แต่ถ้านาวรู้อ่ะ..มันก็เหมือนกับที่อามนึกไว้แหล่ะว่ามันจะเป็นการกีดกันนาวออกจากวงโคจรรึปล่าว..รออ่านต่อจ้าา


Ps.ยินดีด้วยที่เรียนจบนะจ๊าา..ขอให้ได้งานดีๆในเร็ววัน และมีรักที่สดใสด้วย

ก็ว่ากันตามนี้ล่ะนะคะ  :teach:

ถ้าโดนเด็กพูดแบบนั้น ไอก็คงปฏิเสธไม่ลงเหมือนกัน  :o12:

แต่.. :เฮ้อ:  รู้สึกมันรวดเร็วดังใจคิมจังเลยนะ อยู่ๆก็นึกอดใจหายไม่ได้แห๊ะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน



ยินดีด้วยนะคะ!  o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 09-03-2010 08:01:48
ขอบคุณครับ ต่อไปเรื่องราวคงยุ่งแน่เลย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 27-03-2010 09:18:34
ยาวแบบได้ใจมาก

 o13

 o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-03-2010 10:00:32
ย๊าววว ยาววว แต่ตามอ่านทันแว้ววว :o8:

แอบสงสารนาวยังไงไม่รู้ กลัวโดนกีดกันง่ะ :monkeysad:

ยินดีกะบัณฑิตใหม่ด้วยนะคร้า ขอให้ทั้งงานและแฟนเน้อ o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 27-03-2010 12:01:19
เข้ามารอตอนใหม่  :z2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 28-03-2010 16:36:45
 :m22: แอบแว๊บมาดู มารึยังนะ ตอนใหม่ๆๆๆๆ  wantๆๆๆๆๆๆๆๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: coon_all ที่ 06-04-2010 03:07:30
 :jul1: :jul1:
เลือดท่วมได้อีก
เรื่องนี้
สงสารอามแฮะ
เหนื่อยแย่
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 06-04-2010 03:23:22
เมื่อไหร่ตอนใหม่จะมาจ๊ะ   :z13:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 06-04-2010 09:46:56
รอนานแล้วนะเมื่อไรต่ออะ

 :call:

 :call:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 06-04-2010 10:56:54
เงียบเลยอ่ะ...รออ่านอยู่นะตะเอง :o11:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 09-04-2010 21:38:49
ความจริงแล้วอ่านมาระยะนึง
ตอนนี้อ่านทันแล้ว
 :haun4: หื่นดีจริงๆ

รีบๆมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: autthawat ที่ 10-04-2010 10:53:31
 :pighaun: สนุกมากครับ  :pighaun:
 :pig4: ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนเอามาโพสท์คับ :pig4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่15 สมาชิกใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 16-04-2010 18:32:29

บทที่ 16 เด็กวุ่นวายป่วนใจสามหนุ่ม
นับตั้งแต่กีกี้มีคิมเป็นป่าป๊า และมีผมเป็นแดดดี้(ม่าม๊า) ผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนดูเหมือนว่าเราจะปรับตัวเข้าหากันได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกีกี้จะติดผมแจเลยยังกับลูกลิง แล้วนิสัยก็เหมือนคิมสมกับเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ทำไมนะเหรอครับ เพราะมีโอกาสเมื่อไหร่กีกี้เดี๋ยวหอมแก้ม เดี๋ยวกอดผมตลอดเวลา ที่ตลกก็คือ เวลาที่คิมมาหอมแก้มผม เจ้าตัวป่วนจะเอามือมาปัดทันที

“อ้าว ทำไมกีกี้ทำกับป่าป๊าแบบเนี่ย” คิมเกิดอาการงง
“ไม่เอา แก้มม่าม๊าต้องให้กีกี้หอมคนเดียว คนอื่นห้ามยุ่ง” พูดจบกีกี้เอามือข้างหนึ่งมาปิดแก้มผม ทำท่าประมาณว่าไม่ยอมให้คิมหอมต่อ แล้วก็หอมแก้มผมอีกข้างหนึ่ง
“กีกี้ขี้โกง เรื่องอะไรหวงแก้มแดดดี้ไว้คนเดียว ป่าป๊าไม่ยอมหรอก” เท่านั้นแหละครับ สองพ่อลูกเปิดศึกชิงแก้ม แล้วคนที่หนักสุดก็คือผมนี่แหละครับ จำได้ว่าแก้มผมช้ำไปหมด
“พอแล้ว แบ่งกันดีๆไม่งั้นไม่ต้องหอมแล้ว เจ็บเป็นเหมือนกันนะ” สุดท้ายก็ลงเอยด้วยกันที่กีกี้จะหอมก่อนแล้วคิมจะหอมอีกที อ่อศึกชิงแก้มนี่จะเกิดขึ้นตอนอยู่กันสามคนแบบนี้เท่านั้นนะ ถ้าอยู่กันหลายคนกีกี้จะได้เปรียบเพราะคิมก็ไม่กล้าทำอะไรประเจิดประเจอกับคนเยอะๆหรอกครับ แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวก็เหอะ
“พอแล้วกีกี้ จะหอมแก้มแดดดี้อามกันกี่ครั้งเชียวลูก” พี่เคนหัวเราะด้วยความเอ็นดูหลาน
“ก็แดดดี้ของกีกี้อ่ะ กีกี้จะหอมแก้มกี่ครั้งก็ได้” พูดจบก็เล่นอีกฟอดหนึ่ง ทุกคนในบ้านต่างยิ้มกันใหญ่ ส่วนผมอายจนหน้าแดงไปหมดแล้วครับ
“เออมันตลกดีนะ” พี่แคนพูดขึ้นมา
“ตลกเรื่องอะไรเหรอครับ” ผมสงสัย
“รู้รึเปล่าว่าทำไปทำมา กีกี้นิสัยเหมือนคิมตอนเด็กๆเลยนะ ทั้งที่ๆเป็นลูกเคทแท้ๆ ไอ้เรื่องขี้อ้อน หวงแม่ อะไรแบบนี้ คิมชัดๆเลยอ่ะ” ผมคิดในใจว่า อืม กูว่าแล้วเชียว
“อ้าวก็ลูกผมก็ต้องเหมือนผมดิพี่แคน ใช่มั้ยครับอาม” ผมทำหน้าเบื่อๆใส่ ประมาณว่า รู้อยู่แล้วว่าคิมต้องพูดแบบนี้

หลังจากที่อยู่บ้านคิมเกือบหนึ่งเดือน พอจัดการเรื่องราวต่างๆเสร็จแล้ว ในที่สุดเราก็ได้กลับมาที่คอนโดของคิมสักที และถือได้ว่าเป็นการเริ่มความเป็นครอบครัวอย่างที่คิมปรารถนา แต่ผมเองกลับค่อนข้างกังวล เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมากนัก รู้ตัวอีกทีก็มีลูกน้อยสุดแสนจะน่ารักโผล่มาตอนไหนก็รู้ ผมภาวนาว่าขอให้กีกี้เป็นเด็กเลี้ยงง่ายๆผมจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากนัก เพราะนอกจากเลี้ยงกีกี้แล้วผมคงต้องเริ่มทำงานบ้างแล้ว หลังจากที่ให้คิมเลี้ยงมานาน แม้ว่าคิมจะไม่เห็นด้วยมากนัก หลังจากที่กีกี้หลับไปแล้วเราจึงเริ่มคุยกัน

“คิมครับ เราว่าเราคงจะหาช่องทางทำธุรกิจนะครับ เราไม่อยากอยู่เฉยๆแล้ว นี่ก็เกือบปีแล้วนะครับที่เราสองคนเรียนจบมา”
“ทำไมอ่ะ เราดูแลอามไม่ดีตรงไหน เราให้เงินอามใช้ไม่พอรึเปล่า เดี๋ยวเราให้เพิ่มก็ได้” คิมดูงงที่ผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“ไม่ได้เกี่ยวกับเงินหรอกครับ เกี่ยวกับความรู้สึก”
“เรื่องอะไรเหรออาม” คิมถามผมด้วยความสงสัย
“อืม เรารู้สึกว่าเราดูแลแต่บ้าน เหมือนเราเป็นแม่บ้านเลย เราไม่ใช่ผู้หญิงนะคิม เราอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้ เราอึดอัด”
“งั้นอามจะเอาเวลาที่ไหนดูแลกีกี้ล่ะ ตอนนี้ยังเข้าอนุบาลไม่ได้ด้วยนะ เพราะยังไม่ถึงเวลา อามจะดูแลกีกี้ไปก่อนได้มั้ย
“เราต้องดูแลลูกของเราอยู่แล้ว แต่แค่จะบอกว่าเราอยู่เฉยๆแบบนี้ไม่ได้ เราอึดอัด คิมเข้าใจเรานะ”
“อืมเข้าใจ แต่ก็อยากให้คิมอยู่ดูแลกีกี้มากกว่า ไม่อยากให้อามเหนื่อย”
“ไม่อยากให้เหนื่อย หรือไม่อยากให้เราไปหาใครรึเปล่า” ผมมองตาคิมอย่างรู้ทัน คิมดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“ทำไมล่ะ อามจะหยุดคิดถึงนาวไม่ได้บ้างเลยเหรอ” คิมน้ำเสียงดุดันมาก

“ยังไงเขาก็เป็นแฟนของเราอีกคนเหมือนกันนะ เราไม่อยากทิ้งเขาไว้นานแบบนี้” ผมตัดสินใจพูดออกไป ทั้งๆที่รู้ว่าระเบิดจะลง
“ใช่สิ เราทำให้อามไม่มีเวลาไปอยู่กับน้องชายสุดที่รักนี่ อามมีคนรักต้องดูแลสองคน แต่เรามีอามคนเดียว อามจะเห็นใจเราบ้างมั้ย” คิมน้ำตาคลอๆ
“พวกเราคุยกันเรื่องนี้เข้าใจแล้วนี่ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจากที่ตกลงกันดีๆ กลายเป็นว่าต่างคนต่างแย่งชิงกันอีกแล้ว”
“ความจริงแล้ว ไม่มีใครอยากแบ่งของรักให้คนอื่นหรอก จำไว้เลยนะอาม วันนึงเราจะทำให้อามเป็นของเราคนเดียวให้ได้ เราสัญญา”
“เราไม่รับปาก เราเลิกกับนาวไม่ได้เหมือนกัน เรารู้ว่ามันเป็นคำตอบที่แย่ แต่เราทำอย่างที่คิมปรารถนาไม่ได้หรอก เราขอโทษนะ” ผมรู้สึกแย่มาก แต่ก็ฝืนใจโกหกไม่ได้ คิมไม่พูดอะไรต่อ แต่จับผมกดลงกับพื้น
“งั้นตอนนี้อามอยู่กับเรา อามต้องเป็นของเราให้เต็มที่เลยนะ เดือนนึงที่ผ่านมา กีกี้อยู่กับอามตลอด อามรู้มั้ยเราโหยหารสรักของเรามากขนาดไหน อย่าเสียเวลาเลยนะ” คิมดูต้องการระบายอารมณ์กับผมมากกว่าแสดงความรัก แต่ผมกลับรู้สึกว่านี่คือสิ่งที่ผมสมควรจะได้รับ คิมดูหื่นกระหายมากกว่าครั้งใดๆ คิมดิบและเถื่อนที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ผมรู้สึกตัวเองเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็กระหายเหมือนสัตว์ป่ามากกว่าครั้งใดๆเช่นกัน ตื่นมาอีกครั้งก็พบว่ากีกี้มานอนกอดผมตอนไหนก็ไม่รู้ แต่คิมไม่อยู่แล้วครับ เห็นแต่โน้ตทิ้งเอาไว้
“เมื่อคืนขอโทษนะที่รุนแรงไป ส่วนเจ้าตัวป่วนมานอนด้วยตั้งแต่เช้าแล้ว ตื่นมาก็ร้องหาอามเลย แล้วคืนนี้จะรีบกลับมาไถ่โทษนะ”
“ม่าม๊าตื่นแล้วเหรอครับ ทำไมนอนนานจังเลย ป่าป๊าแกล้งเหรอครับ เดี๋ยวกลับมานะ กีกี้จะไม่ให้ป่าป๊าหอมม่าม๊าเลยคอยดู” เฮ่อ เด็กอะไรเนี่ยเกือบจะเดาถูกเลยนะเนี่ย
“อ้าวแล้วนี่กี่โมงแล้วละครับ”
“สิบโมงกว่าแล้วฮับ” หาจริงอ่ะ กีกี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่ะดิ
“หิวแล้วยังครับกีกี้”
“หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้วฮับม่าม้า” พูดเสร็จก็ลูบท้องด้วยความน่าสงสาร แล้วอยู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“พี่อามกลับมาที่คอนโดแล้วใช่ไหม” นาวโทรมาครับ
“ใช่ โทรบอกแล้วนี่”
“ลงมารับนาวข้างล่างหน่อยดิ”
“หามาแล้วเหรอ”
“อือ ซื้อของกินมาเพียบเลย มาเร็วๆนะ หนักมากเลย” เอาแล้วนาวคงต้องรู้เรื่องกีกี้แล้วล่ะ
“ม่าม้าใครจะมาเหรอฮับ” เจ้าตัวป่วนถามผม
“ก็อานาวไงครับกีกี้ จำได้อ่ะป่าว”
“ไม่อ่ะ จำไม่ได้” เออว่ะ ผมลืมไปกีกี้จะไปจำใครได้ไง ก็ตอนนั้นไม่สนใจใครอะไรเลย ติดผมยังกับอะไรดี
“อานาวเป็นน้องชายม่าม้าครับ เนี่ยซื้อของกินมาฝากด้วยนะกีกี้”
“จริงอ่ะ ม่าม้าให้ขึ้นมาเลยนะ กีกี้หิวจะแย่อยู่แล้วครับ
“อือ งั้นกีกี้ตามม่าม้าลงมาเลยนะครับ” ผมก็จูงกีกี้ลงมาด้วยครับ พอลงมาถึงชั้นล่าง นาวก็ทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยครับ พร้อมกับถามกีกี้ว่า
“กีกี้มาอยู่ที่นี่ได้ไงฮับ” นาวถามยิ้มๆ
“ก็ป่าป๊ากับแดดดี้อยู่ไหน กีกี้ก็ต้องอยู่ด้วยดิฮับ” คราวนี้เจ้านาวงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย ผมกลัวว่าสถานการณ์จะบานปลาย เลยรีบพาสองคนนี้ขึ้นห้องมาก่อน โดยที่ยังไม่อธิบายอะไรกับนาว ระหว่างอยู่ในลิฟท์ ผมกับนาวก็มองกันไปมา แต่ไม่พูดอะไรมาก บรรยากาศขณะนั้นมาคุสุดๆ พอถึงห้องเท่านั้นแหละครับ
“กีกี้ครับ กินก่อนได้เลยนะครับ เดี๋ยวอานาวขอคุยกับแดดดี้ของกีกี้แป๊บนึงนะ” นาวพยายามฝืนยิ้มแต่สายตาบ่งบอกถึงความขุ่นเคืองที่ซ่อนอยู่ภายใน
“ได้ฮับ แต่อย่านานนะ กีกี้หวงแดดดี้” พอกีกี้ให้โอกาสปุ๊บนาวรีบลากผมเข้าไปคุยในห้องที่เราเคยนอนด้วยกันทันที
“พี่อาม อธิบายมาสิ นี่หมายความว่าไง ทำไมกีกี้มาเป็นลูกพีอามกับพี่คิมได้” พูดไม่พูดเปล่าจับผมจับกดกับฝาผนังอีกต่างหาก นี่กะให้ผมหนีไปไหนไม่ได้เลยใช่ไหม
“นาวครับใจเย็นหน่อยได้มั้ย พี่เจ็บนะ”
“นาวรู้เลยอ่ะ ว่านี่พี่คิมเป็นคนต้นคิดใช่ไหม เขาจะกันนาวออกจากพี่อามใช่ไหม อย่าคิดว่านาวไม่รู้ทันนะ” เออสมแล้วที่เป็นน้องผม เพราะรู้ทันเหมือนกัน
“นาวจะมองแบบนั้นก็ได้ แต่นาวจะไม่เห็นใจเด็กน้อยสักคนเลยเหรอ นาวรู้มั้ยกีกี้น่าสงสารแค่ไหน อายุแค่นี้พ่อแม่ก็ตายหมด แล้วเราจะให้พี่ปล่อยกีกี้ไปงั้นเหรอ”
“แล้วญาติพี่น้องเขาหละ ไม่มีหรือไง บ้านพี่คิมรวยจะตาย ทำไมนาวจะไม่รู้” ผมเลยตัดสินใจเล่าเรื่องพี่เคทที่สั่งเสียก่อนตายเอาไว้ให้นาวฟัง นาวก็เลยเงียบๆไป พอดีว่าเจ้าตัวป่วนมาเคาะระฆังหมดยกพอดีครับ
“ออกมากันได้แล้วฮับแดดดี้ คุยกันนานจังเลย ไม่หิวกันเหรอฮับ”
“เดี๋ยวออกไปแล้วครับ กีกี้” ผมบอกกับนาวว่า
“เราออกไปกินข้าวกันเถอะ เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้วนะ” ผมมองลึกเข้าไปถึงในดวงตาของนาว นาวเข้ามากอดผม
“ขอโทษนะครับที่นาววู่วาม นาวสัญญาว่าวันหลังจะใจเย็นๆมากกว่านี้” ผมเลยคว้านาวมาจูบเพื่อเป็นการปลอบประโลมน้องรัก นาวเองก็ดูจะพอใจมาก แต่ก็มีคำถามนึงที่ทำให้ผมสะอึกก็คือ

“พี่อามครับ พี่อามจะมีลูกกับนาวได้บ้างมั้ยครับ” ถามจบนาวก็มองผมด้วยสายตาเว้าวอนสุดฤทธิ์ เฮ่อ ชีวิตผมจะงานเข้าไปถึงไหน เลี้ยงกีกี้คนเดียวก็เหนื่อยแล้วนะน้องรัก จะเห็นใจพี่บ้างได้มั้ยเนี่ย
“เราไปกินข้าวกันเถอะนะ พี่หิวแล้วครับ อย่าพึ่งถามอะไรเลยนะ” ผมก็บ่ายเบี่ยงไป นาวก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ ก็เข้ามาโอบกอดผมจากด้านหลังเอาไว้
“ขอเวลานาวกอดพี่อามห้านาทีนะครับ ที่รักของผม” ผมเลยอยู่นิ่งๆให้นาวกอดเต็มที่นาวสัมผัสเนื้อตัวผมอย่างเต็มไม้เต็มมือ ผมรู้สึกได้ว่าเขากำลังใช้จมูกสูดดมกลิ่นจากตัวผมอย่างโหยหา หลังจากที่จากนั้นก็ยอมไปกินข้าวด้วยแต่โดยดี
พอไปกินข้าวกีกี้ก็ขยับมานั่งตักผมทันที นาวก็นั่งฝั่งตรงข้าม ตลอดเวลาการกินข้าว สิ่งที่ผมรู้สึกดีคือนาวกับกีกี้เข้ากันได้ดีมาก สุดท้ายกีกี้ก็เรียกนาวว่า “อานาว” ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ แต่ที่ผมแอบงอนกีกี้มากก็คือ
“อานาวเป็นน้องแดดดี้ใช่ไหมครับ”
“ใช่ครับ เป็นอาก็ต้องเป็นน้องพ่อสิครับ กีกี้สงสัยอารายหรือครับ” ผมถามนาวด้วยความเริ่มงง
“ถ้างั้นอานาวก็ต้องน้านาวด้วยดิ เพราะแดดดี้อามเป็นม่าม๊าด้วยอ่ะ” โอ้ยงานเข้าอีกแล้วผม
“ไหนสัญญากันแล้วไงว่าจะไม่เรียกว่าม่าม๊าต่อหน้าคนอื่น” ผมเริ่มดุนาว
“ไม่ใช่คนอื่นซะหน่อย น้านาวเป็นน้องชายม่าม๊าแล้วยังงี้เป็นคนอื่นตรงไหน” เด็กก็นะ พูดอะไรก็ไม่ผิดหรอกแต่ว่าผมเองก็อดที่จะคิดมากไม่ได้ นาวเองเลยหัวเราะชอบใจใหญ่ ผมเลยขอตัวไปอาบน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง แล้วให้นาวเล่นกับกีกี้ไปพลางๆ ผมเข้าไปนอนแช่อ่างน้ำอยู่พักใหญ่ๆ อยู่ๆนาวก็เปิดประตูเข้ามา ผมถึงกับงงมาก

“เข้ามาได้ไง แล้วกีกี้ล่ะ”
“เจ้าตัวน้อยน่ะ กิ่นอิ่ม เล่นสนุกก็หลับไปแล้ว ส่วนกุญแจห้องน้ำ นาวจำได้นะว่าอยู่ตรงไหน เด็กเขาเล่นสนุกแล้ว เรามาสนุกกันบ้างเถอะครับพี่อาม” เฮ้ยอะไรวะ ผมยังไม่ทันตั้งตัว
“ไม่นะ พี่ยังไม่พร้อม” แต่นาวไม่ฟังลากผมออกจากอ่างน้ำ แล้วจับผมนั่งบนแท่นหินที่เป็นอ่างล้างหน้า (ดีนะที่ออกแบบเป็นแท่นใหญ่ๆแล้วทำจากหินแกรนิต ไม่งั้นอ่งล้างหน้าคงแตกไปแล้ว)
“เราไม่ได้มีอะไรกันมาเดือนกว่าแล้ว นาวทนไม่ไหวแล้วครับ” เกมรักระหว่างผมกับน้องจะเริ่มต้นอีกครั้งอย่างเร่าร้อน
นาวก้มลงดูดท่อนลำผมด้วยความเมามัน จนผมแทบจะหล่นจากอ่างล้างหน้า จนที่สุดก็น้ำแตกคาปากนาวอีกจนได้ นาวก็กลืนมันลงไปอย่างที่เคยเป็นมา
“นาวขอลอดถ้ำสวรรค์ของพี่อามเลยนะ นาวไม่ไหวแล้ว” พูดจบนาวก็หาสิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุดเพื่อมาหล่อลื่น สุดท้ายก็หยิบสบู่เหลวมาแล้วเทใส่ท่อนลำตัวเองและรูสวรรค์ของผมอย่างมากมาย นาวค่อยๆเสียบ ก่อนจะซอยกระหน่ำอย่างไม่ยั้ง แต่ละครั้งที่นาวกระแทกผมก็เสียวซ่านไปด้วยทุกครั้ง
“แน่นมาก แน่นชะมัด พี่อามนาวขอนะ” แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดคือ นาวจับผมยกตัวลอย (ทั้งๆที่ผมออกจะตัวเหมือนหมี) แล้วพิงกับข้างฝา ใช่แล้วครับ นาวกำลังจะเล่นท่า “ลิงอุ้มแตง” ผมตกใจมากเดี๋ยวนาวจะล้มซะก่อน เพราะผมไม่ได้ตัวเบาๆเลย
“จะบ้าเหรอเล่นลิงอุ้มแตง ตัวพี่หนักนะ เดี๋ยวนาวก็โดนพี่ล้มทับพอดี”
“อย่าห้ามนาว นาวอยากเข้าไปลึกกว่านี้อ่ะ เวลานาวหื่นน่ะ เรียวแรงนาวไม่มีหมดหรอก ขอแค่ได้เล่นรักกับพี่อาม อะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ อยู่นิ่งๆนะ เดี๋ยวหลุด” จากนั้นนาวก็ใส่ไม่ยั้ง นาวเข้ามาลึกได้ใจผมจริงๆ ผมเสียวจนออกัสซั่มแบบแตกเองโดยไม่ต้องชักอีกรอบ นาวเองนั้นยิ่งกว่าเพราะเสร็จไปสามรอบโดยที่ไม่เอาท่อนลำออกจากรูสวรรค์ผมเลย เสร็จแล้วเราสองคนก็แช่อ่างน้ำล้างตัวกันเลย นาวก็เข้ามาคลอเคลียผมไปซะทุกส่วน นอกจากเส้นผมก็ไม่มีส่วนไหนที่ไม่โดนปากกับลิ้นของนาว ผมออกมาอีกทีโชคดีที่กีกี้ยังหลับอยู่ ถ้าตื่นขึ้นมาคงงว่าผมกับนาวเข้าไปทำอะไรกัน แต่สิ่งที่ผมไม่คิดก็คืออยู่ๆคิมก็มากอดผมจากด้านหลัง ผมตกใจมาก
“คิมมาได้ไง นี่พึ่งจะบ่ายเองนะ”
“ก็วันนี้ไม่มีอะไรแล้วอ่ะ เลยกลับบ้านมาอยู่กับอาม กับลูกดีกว่า” ขณะที่คิมกำลังไซร้ซอกคอผมคิมก็เห็นนาวออกมาจากห้องน้ำ เราสามคนก็อึ้งกันไปหมด จนกระทั่ง
“มาหาพี่อามเสร็จไปกับรอบล่ะ เราน่ะ” แล้วนาวก็ชูสามนิ้วขึ้นมาครับ คิมก็มองหน้าผม แล้วพูดว่า
“อามไม่ยุติธรรมเลย ทำไมไม่รอเราด้วยอ่ะ มานี่เลย เราก็ไม่ไหวแล้วนะ” เฮ้ยตายแล้ว คิมทำไมทำกับผมยังงี้ล่ะ
“ไม่เอาเราพึ่งอาบน้ำมาเองนะคิม”

“อาบแล้วก็อาบใหม่ได้ แต่ถ้าคิมอยากจะกินอาม แล้วอามไม่ให้น่ะ เราไม่ยอมจริงๆด้วย แล้วนาวจะมองอะไร ถ้าอยากก็เข้ามาอย่ามาแอ๊บ เราสองคนตักตวงจากอามไม่เคยพอหรอก” จากนั้นผมก็โดนสองคนลากเข้าไปในห้องนอนโดยที่ผมปฏิเสธอะไรไม่ได้เลย
“ใครจะเริ่มลอดถ้ำพี่อามก่อนดีอ่ะ” นาวตั้งข้อสงสัย และแล้วสิ่งที่ผมเคยฝันกำลังจะเป็นจริง
“ก็เข้าไปพร้อมกันนั้นแหละ เมื่อกี้อามก็พึ่งโดนมา คงไม่ยากหรอก ยิ่งแน่นน่ะ ยิ่งมัน”
“ไม่นะ เรากลัว” ผมบ่ายเบี่ยงต็มที่
“ไม่ต้องกลัวนะเราสองคนไม่รุนแรงกับพี่อามหรอก แค่พี่อามรองรับความเสียวดีๆก็พอ”ทันทีที่นาวพูดจบปฏิบัติการสองรุมหนึ่งก็เริ่มต้นทันที ตอนนี้ผมกลัวจริงๆนะเนี่ย
จากนั้นทั้งสองคนก็ค่อยๆเข้ามารุมจูบผมกันอย่างเมามัน จนผมรู้สึกว่าตัวเองจะหายใจแทบไม่ทัน จากนั้นทั้งสองคนก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าผมออกอย่างรวดเร็ว และทั้งสองก็กำลังปฏิบัติการชิวหาพาเพลินกับท่อนลำของผมอย่างสนุกสนาน ทั้งสองคนดูดเลียท่อนลำของผมทานไอศกรีมที่หอมหวาน ต่างคนต่างพยายามตักตวงรสชาติจากไอศกรีมแท่งนี้อย่างไม่รู้หน่าย และพยายามกันอย่างยิ่งยวดที่จะชิมน้ำเชื่อมสีขาวขุ่นที่ซ่อนอยู่ภายในให้ออกมาด้วยเร็วที่สุด จนทั้งสองคนสมใจอยาก เมื่อเขื่อนผมแตก ต่างคนต่างน้ำปากของตนมารองรับน้ำกามที่ไหลทะลักออกมาอย่างเอร็ดอร่อย และกลืนกินมันลงไปอย่างไร้ข้อรังเกียจใดๆ

จากนั้นคิมก็นำท่อนลำของเขามาให้ผมปฏิบัติการชิวหาพาเพลินอย่างพวกเขาสองคนบ้าง ด้วยอารมณ์ของผมที่กระเจิดกระเจิงในขณะนั้น ผมจึงเห็นท่อนลำคิมกลายเป็นของเล่นสนุกที่จะต้องใช้ปากปรนเปรออย่างถึงใจ คิมเสียวกระสันอย่างลืมตัวจนเผลอจิกศีรษะผมเพื่อต้องการให้ผมอมท่อนลำของเขาเข้าไปจนสุดคอหอย นาวเองก็ยกขาผมขึ้นพร้อมกับใช้ลิ้นโลมเลียรูสวรรค์ของผมอย่างเมามัน และใช้นิ้วสอดใส่ผมเข้าไปเพื่อเตรียมความพร้อม แม้ผมจะมีท่อนลำของคิมอยู่เต็มปากก็อดไม่ได้ที่จะต้องบิดตัวไปมาด้วยความเสียวไปด้วย
ที่สุดแล้วคิมก็น้ำแตกลงคอผมไปเรียบร้อย แม้ว่าจะเสร็จแต่คิมก็จับผมดกศีรษะไว้นานเพื่อให้เขาเสียวเต็มที่ ผมแทบตายเพราะหายใจไม่ออก และที่สุดแล้วทั้งสองคนก็เตรียมความพร้อมที่จสอดใส่ท่อนลำของตัวเองเข้าไปในตัวผมพร้อมๆกัน ที่สุดแล้วทั้งสองคนคนตกลงใจที่ให้ผมนั่งเทียนบนตัวนาวส่วนคิมจะยืนเสียบเข้ามาอีกทีหนึ่ง จำได้ว่าในเวลานั้นคิมกับนาวแทบจะเทเจลหล่อลื่นจนหมดขวด ก่อนที่จะให้ผมนั่งเทียนนาวอย่างช้าๆซึ่งก็ไม่ยากเท่าไหร่ แต่พอคิมเริ่มจะเสียบเข้ามา มันแน่นมาก เพราะขนาดท่อนลำของสองคนนี้แทบจะไม่มีใครยอมใคร ผมเองรู้สึกว่าเหมือนก้นตัวเองจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ที่รักอย่างเกร็งสิ ผ่อนคลายหน่อย คิมเข้าไม่ค่อยจะได้”
“ก็มันแน่นอ่ะ” ผมร้องออกมาด้วยความเสียวพร้อมความอึดอัดในเวลาเดียวกัน
“พี่อามสูดหายใจลึกๆนะ ไม่มีอะไรต้องกลัว เราสองคนจะช่วยพี่อามเอง” พูดเสร็จนาวก็พยายามขยับตัวเพื่อให้คิมเสียบได้มากขึ้น จนที่สุดคิมก็เขามาได้อีกคน จากนั้นก็ค่อยๆสองคนนี้ก็เข้าออกรูสววรค์ของผมอย่างช้าๆ และสลับกันเป็นจังหวะ ก่อนที่จะดำเนินเกมไปอย่างรวดเร็ว จนเราสามคนต่างเสียวซ่านและครวญครางออกมาไม่เป็นภาษา
“แน่นฉิบ โคตรฟิตเลย เราขอโยกแรงๆเลยนะ” คิมพูดออกมาขณะกำลังปฏิบัติการอย่างเมามัน
“พี่อามโยกแรงๆเลยครับ นาวจะขาดใจแล้ว” นาวกำลงเสียวซ่านไม่แพ้คิมเช่นกัน ส่วนผมในตอนนั้นโดนกามารมณ์กลบเกลื่อนอารมณ์อื่นๆคิดแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้ถึงฝั่งโดยเร็วเท่านั้น
จนที่สุดแล้วผมก็เป็นคนแรกที่ฝั่งก่อนคนอื่น ผมถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า Super Orgasm อีกครั้ง โดยที่น้ำกามของผมไหลออกมาเองโดยไม่ต้องใช้มือช่วย ต่อเนื่องเนืองนองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันช่างมากมายกว่าครั้งใดๆ ผมครวญครางออกมาเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังหวีดร้องอย่างสุขสมสุดๆ เตียงก็สั่นอย่างควบคุมไม่ได้ พอผมเสร็จมันก็เกิดการบีบรัดตัวของกล้ามเนื้อหูรูด ทำให้ท่อนลำของสองหนุ่มที่กำลังคารูผมนั้นถูกบีบรัดไปด้วย จนทั้งสองหนุ่มทนไม่ไหวต่างเนืองนองออกมาพร้อมๆกัน จนผมเองก็รู้สึกเสียวตาม จนที่สุดกลายเป็นความเสียวซ่านที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของผมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะสองหนุ่มต่างไม่ได้พอใจครั้งเดียว นาวเองก็เสร็จสมอีกครั้ง ในขณะที่คิมเอาไปอีกสองรวมเป็นสาม สรุปว่าในช่วงสายกลางวันของวันนั้นผมเสร็จรวมกันไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง รู้แต่ว่าพอเสร็จสิ้นภารกิจผมได้แต่นอนหายใจรวยรินเหมือนคนกำลังจะตายด้วยความเสียวซ่าน ปิดท้ายด้วยสองคนนั้นต่างคนต่างก็เขามาขัดท่อนลำตัวเองเพื่อกระฉูดน้ำกามตัวเองใส่ผมอีกครั้ง ตัวผมเหมือนรู้หน้าที่ได้แต่อ้าปากรอรับน้ำกามของทั้งสองอย่างไม่มีข้อสงสัย เมื่อสองคนนี้พ่นน้ำออกมาผมยังไม่ทันจะได้กลืน สองคนนี้ก็เข้ามาจูบผม กลายเป็นว่าเราสามคนแลกเปลี่ยนน้ำกามกันอย่างสมบูรณ์ ต่างคนต่างแทบจะนอนหมดแรก โดยเฉพาะผมเมื่อเสร็จกิจก็ไม่รู้รับรู้อะไรทั้งสิ้น ได้แต่หลับตาลงอย่างอ่อนล้าหมดสติไปอย่างเสียวซ่านและอ่อนระโหยโรยแรง
 ผมตื่นมาอีกทีก็เย็นเลย แต่พบว่าตัวเองใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว แล้วกีกี้ก็เดินทางเข้ามาพอดี
“ม่าม้าตื่นแล้วเหรอ ทำไมหลับไปนานขนาดเนี่ย ไม่สบายเหรอฮับ ไปกินข้าวเหอะนาวหิวแล้ว”
“แล้วน้าอามกับป่าป๊าล่ะ” ผมสงสัยว่าสองคนนั้นหายไปไหนกัน
“ไปเตรียมอาหารรอม่าม้าแล้วฮับ บอกว่าต้องให้ม่าม้ากินเยอะๆเพราะเสียพลังไปมาก ม่าม้าไปทำอะไรมาอ่ะครับ ทำไมเสียพลังไปเยอะเหรอฮับ” อืมสองคนนี้ ทำไมต้องพูดให้เด็กสงสัยด้วยนะ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย
“ก็ตอนกีกี้หลับ ม่าม้าซ่อมห้องน้ำอ่ะครับ เหนื่อยมากเลยรู้มั้ย” ผมก็แถไปเรื่อยๆแหละครับ
“อ๋อ มิน่าล่ะ ม่าม้าหลับยาวเลย ไปกินข้าวกันเหอะครับ ม่าม้าอุ้มกีกี้ด้วยนะครับ” ผมก็เลยอุ้มลูกชายออกจากห้องนอน สองคนนั้นก็นั่งรอด้วยอารมณ์ดี
จากนั้นเราสี่คนก็นั่งกินข้าวกัน กีกี้อ้อนผมให้ป้อนตลอด คิมกับอามได้แต่มองตาปริบๆด้วยความอิจฉาเด็ก จากนั้นสงครามบนโต๊ะอาหารก็เกิดขึ้น
“กีกี้ครับให้ม่าม้าป้อนข้าวป่าป๊าหน่อยนะครับ” เมื่อกีกี้พยักหน้าผมเลยต้องทำตาม และแล้ว
“กีกี้ครับให้ม่าม้าป้อนข้าวน้าอามด้วยนะครับ” แล้วกีกี้ดันพยักหน้าตาม ตอนแรกผมไม่ทำตาม แต่ว่านาวจ้องหน้าเขม็งเลยไม่รู้จะทำยังไง เลยต้องป้อนนาวด้วยอีกคน คิมมีสีหน้าไม่พอใจมาก จากนั้นคิมก็รุกหนักโดยเข้ามากอดผมจากด้านหลังแล้วอ้อนให้กีกี้ป้อนข้าวให้เหมือนพ่อแม่ลูกเล่นกัน นาวก็ไม่ยอมแพ้ตักข้าวป้อนกีกี้ซะงั้นเลย เล่นเอากีกี้หัวเราะชอบใจ คิมหงุดหงิดมากกอดผมกับกีกี้แน่นกว่าเดิม ตลอดเวลาที่กินข้าวนั้นต่างคนต่างไม่ยอมกันเลย จนกระทั่งตอนเข้านอนซึ่งผมจะนอนกับกีกี้ต่างคนต่างก็เข้ามากอดผม ประเด็นที่สำคัญก็คือ ตอนที่นอนด้วยกันทั้งคิมและนาวต่างซุกซนเอามือมาป้วนเปี้ยนอยู่ที่เป้าผมตลอด หื่นกันไปไหนว่ะเนี่ย ตอนเข้ากลางดึกผมก็โดนสองคนลากไปจัดการอีกรอบเหมือนจะระบายอารมณ์กันจากสงครามมื้อเย็น ผมเองพยายามบ่ายเบี่ยงสุดฤทธิ์แต่ต้านแรงความหื่นของสองคนนี้ไม่ไหวแม้ว่าสองคนนี้จะไม่เล่นสองดุ้นในหนึ่งรูเหมือนเมื่อตอนสาย แต่แค่นี้เหลือรับประทานแล้วครับ ยังดีที่ว่ากีกี้ไม่ได้ตื่นขึ้นมากลางดึกไม่งั้นเกิดมาเห็นผมเล่นรักกับป่าป๊าและน้าชายกลางดึก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายอย่างไร
ผมกลับมานอนกอดกีกี้ด้วยความอ่อนเพลีย ส่วนสองคนนั้นแยกกันไปนอนคนละมุม เพราะผมขอร้องเองว่ามันจะเกิดเรื่องไม่เหมาะสมอีก แต่ไม่วายต่างคนต่างมาจูบผมกันคนละทีก่อนนอน เมื่อไหร่สองคนนี้จะใจเย็นๆลงกันบ้างซะที

มาต่อละครับ ตอนที่19 ก็จะจบแล้ว ขอโทดที่หายไปนานนะครับ ยุ่งจริงๆตอนนี้

หางานยุคเสื้อแดงเนี่ย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-04-2010 19:01:11
ู^
^
^
 :z13:  :z13:
อ๋อยยย...เหนื่อยแทนอาม แถมเลือดก็หมดตัว :jul1: :jul1:
ทำไมอามอึดอย่างเน้ละคร้า  :try2:

เรื่องงานสู้ๆนะคะ JkrR เป็นกำลังใจให้ค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 16-04-2010 19:04:22
+1 รีบน โทษฐานเม้นไว อิอิ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: ujen ที่ 16-04-2010 20:00:43
 :o8: กี้น่ารักจัง

 :-[ :-[ :-[

 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 16-04-2010 20:25:11
ในที่สุดฝันก็เป็นจริงจนด้ายยยยยยยยยย  :haun4: :m10: :m25:

น้องกีกี้น่ารักจังงเนอะ  :-[


เป็นกำลังใจให้นะคะ :กอด1:


 :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 16-04-2010 21:13:04
คิดถึงเรื่องนี้มากมาย...มาต่อแล้ววว :mc4:

อาม จะไหวมั้ยเนี่ย....สองรุมหนึ่ง o22 คิมกับนาวหื่นมากมาย ยิ่งเวลามาอยู่ใกล้ๆกันเนี่ย เหมือนยิ่งอยากจะทำให้เอาชนะกันบนร่างกายอามอ่ะและท่าทางมันจบยากด้วยความสัมพันธ์แบบนี้ ท่าทางนาวก็จะมีลูกให้ได้เลย....หุหุ

สงสารก็สงสาร แต่ก็อยากอ่านอีก คึคึ :z1:

อ้อ เจอคำผิดนะจ๊ะ

“ม่าม้าตื่นแล้วเหรอ ทำไมหลับไปนานขนาดเนี่ย ไม่สบายเหรอฮับ ไปกินข้าวเหอะนาวหิวแล้ว” => เป็นกีกี้ป่าวจ๊ะ

“แล้วน้าอามกับป่าป๊าล่ะ” ผมสงสัยว่าสองคนนั้นหายไปไหนกัน => นาว

จากนั้นเราสี่คนก็นั่งกินข้าวกัน กีกี้อ้อนผมให้ป้อนตลอด คิมกับอามได้แต่มองตาปริบๆด้วยความอิจฉาเด็ก => นาว


“กีกี้ครับให้ม่าม้าป้อนข้าวน้าอามด้วยนะครับ” แล้วกีกี้ดันพยักหน้าตาม => นาว


ปล.อ่านแล้วก็เสียเลือดมากมาย :haun4:............อ๊าากกกกกก จะจบแล้วเหรอเนี่ยยย เร็วจัง :z3:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 16-04-2010 21:46:48
คนอ่านเสียเลือดหมดตัวแลัวฮับ :haun4:


พี่อามทนได้ไงเนี่ย
 :oo1: 2 อันรูเดียว


ไม่ไหวแล้ว เหนื่อยแทน
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: bakanishi1 ที่ 18-04-2010 20:53:55
ท่าจะเหนื่อยหน่อยแหละ

แหม้เจอพร้อมกัน 2 ....

แต่ก็รับได้เสมอ ...

เบา ๆ กันหน่อยละกัน
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 19-04-2010 23:45:07
กีกี้น่ารักอะ
แต่ว่า เหมือนว่ามันจะมากกว่าฝันนะเนี่ยยยยย
 :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: Oo๐FosfoggY๐oO ที่ 20-04-2010 02:51:45
อ่านกี่รอบก็เลือดหมดตัวทุกที :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 23-04-2010 08:26:57
อ่านแล้วเลือดจะหมดตัวเอา :jul1:

สนุกดีจ้ะไว้มาต่ออีกนะ ใกล้จะจบแล้วสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 10-05-2010 21:54:49
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 10-05-2010 22:11:56
เข้ามารอ คิดถึงแล้วเน้ออออ  มาต่อได้แล้วจ้าาาา o13 :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-05-2010 22:49:29
 :m22:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 13-05-2010 00:30:00
 :z2:รอรอตอนจบ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 13-05-2010 02:03:32
ยังไม่จบใช่ไหม  :sad5:

ทำไมถึงคิดว่าจะจบกันแล้วล่ะ เพิ่งไม่กี่สิบกว่าตอนเองนะ  :serius2:

ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ จบเร็วจัง ไม่ยอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะ  :z3:

รอตอนต่อไปและต่อไปๆๆๆๆๆค่ะ! :amen:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 16-05-2010 10:07:22
ตอนที่  19 จบ เหลือ อีก 3 ตอนเองซิ ยังไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่16 ฝันที่เป็นจริง
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 16-05-2010 16:16:11
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:


และรอตอนต่อไปงับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่17 ข้อตกลง
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 16-05-2010 20:31:57
บทที่ 17 ข้อตกลงเกมกาม
หลังจากที่ทั้งคิมและนาวได้ลิ้มลองกามรสแบบสองลำในหนึ่งถ้ำแล้ว ดูเหมือนทั้งสองคนนี้ต่างก็หาโอกาสที่จะสุขสมกับผมแบบนี้เรื่อยมา ผมเองแม้ว่าจะเสียวซ่านสุดหรรษาแค่ไหน แต่ก็เหนื่อยใช่ย่อย ที่สุดแล้วก็ต้องทนเพื่อความสุขของคนที่เรารักต่อไป จากตอนแรกที่ติดว่าจะหางานทำเลยต้องหยุดพักไว้ก่อน เพราะแค่ดูแลกีกี้กับถูกประเคนกามรสจากสองหนุ่มอย่างไม่วายเว้นแค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วครับ และดูเหมือนว่าทั้งความต้องการของทั้งสองหนุ่มจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะภายหลังมา เมื่อไหร่ก็ตามที่สองหนุ่มมีความต้องการ ทั้งสองต้องหาโอกาสปลดปล่อยโดยทันทีไม่มีรีรอ แม้หลายครั้งจะเสี่ยงต่อการถูกจับได้ในที่สาธารณะ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเป็นใจให้พวกเขาปฏิบัติการสำเร็จและกลายเป็นความตื่นเต้นรูปแบบใหม่ของทั้งสองหนุ่มที่ต่างติดอกติดใจไม่แพ้กัน
อย่างมีวันนึงหลังจากเราสามคนพากีกี้ไปเที่ยวสวนสนุก กีกี้เล่นอย่างสนุกสนานจนเหนื่อยหลับคาเบาะด้านหลังสุดไป ช่วงนั้นก็ค่อนข้างค่ำแล้ว ขณะที่ผมกำลังจะเอนเบาะนอน อยู่ๆนาวก็เอามือมาเลื่อนเบาะผมให้เลื่อนออกไปด้านหลังมากขึ้น จากนั้นเขาก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดคือนาวจัดการปลดซิปของผมโดยทันที และพยายามนัดท่อนลำของผมออกมา ผมพยายามปัดป้องเต็มที่
“ทำบ้าอะไรเนี่ย หยุดเดี๋ยวนี้” ผมตวาดใส่นาว
“ไม่เอาน่าพี่อาม ตื่นเต้นดีออก ดูหน้าพี่คิมสิ นี่ก็ดูท่าจะเสียวเต็มที่แล้วมั้ง อยากสุดๆแล้วอ่ะ” คิมเองก็ทนไม่ไหว หามุมมืดจอดรถเพื่อจะเข้ามาร่วมด้วย
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ทำอะไรแบบนี้เดี๋ยวกีกี้ตื่น จะหื่นกันไปถึงไหน” ผมพยายามห้ามปราม
“ไม่เอาน่า อามก็รู้ว่าลูกชายเราน่ะ เวลาหลับปลุกยังไงก็ไม่ตื่นหรอก อย่ามาบ่ายเบี่ยงเลย ยอมพวกเราซะดีๆ” ถึงผมไม่ยอมก็ถูกนาวจับถอดเสื้อผ้าไปหมดแล้ว ที่สุดแล้วผมก็เสร็จสองหนุ่มในรถจนได้ และระหว่างทางที่กลับ นาวก็ยังปฏิบัติโอษฐกามกับผมอย่างไม่เว้นวาย จนคิมต้องรูดท่อนลำของตัวเองตามไปด้วย จนเมื่อกลับถึงคอนโดแล้วหลังจากส่งกีกี้เข้านอน ผมก็โดนลากมาสำเร็จโทษอีกครั้ง ที่สุดแล้วผมก็พ่ายแพ้ต่อความหื่นกามของสองหนุ่ม เสียน้ำกามให้สองหนุ่มไป และรับน้ำกามสองหนุ่มเข้ามาใหม่อย่างไม่ขาดสาย เมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย ต่างคนต่างก็กอดรัดฟัดเหวี่ยงผมกันอย่างเมามัน ที่สุดแล้วผมคิดว่าถ้าไม่ตกลงอะไรกันให้ดี ผมคงไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ผมคงต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่สักวันผมอาจตายเตียงกับสองหนุ่มนี้ก็เป็นไปได้
กระทั่งวันนึงเมื่อเราสี่คนไปพักผ่อนที่ชายทะเล ขณะที่นั่งเล่นกันริมชายทะเล แล้วลูกชายตัวน้อยของผมนอนหลับปุ๋ยบนตักผม ผมจึงตัดสินใจพูดถึงข้อตกลงบางอย่างระหว่างเราสามคน
“ที่รักทั้งสองของอาม เราว่าเราต้องตกลงอะไรบางอย่างกันแล้วนะ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราเหนื่อยเราไม่ไหวแล้วนะ“
“อ้าวพี่อามไม่ชอบเหรอ เห็นแต่ละที่ครางไม่หยุดเลยอ่ะ นาวฟังกี่ครั้งก็ได้อารมณ์ทุกที” เอาเข้าไปหาว่าผมชอบซะงั้น ก็มันเสียวนี่หว่าจะไม่ให้ร้องได้ไง แต่ผมก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว โดนแต่ละครั้งก้นแทบฉีกจนจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว
“ชอบกับเหนื่อยมันคนละเรื่องกัน ถ้าไม่เพลาๆเรื่องนี้กันบ้าง ถ้าพี่ไม่ไหว พี่จะหอบกีกี้หนีไปอยู่ที่อื่นแล้วนะ” ผมพูดด้วยความจริงจังสุดๆ
“ไม่ได้นะ พวกเราไม่ยอมจริงๆด้วย” สองหนุ่มพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ถ้างั้นต้องตกลงอะไรกันบางอย่าง เพราะตอนนี้เราก็ไม่ไหวแล้ว”
หลังจากนั่งคุยกันสักพัก ผมตกลงมาได้ว่า จะสลับกันคนละวัน วันเสาร์เป็นกินกันสามคน วันอาทิตย์เป็นวันพักเอาไว้ไปทำบุญ ไหว้พระ เพราะรู้สึกว่าหลังๆนี่แทบไม่ได้ไปวัดเลย เพราะวุ่นวายแต่เรื่องพวกนี้ ส่วนสองหนุ่มก็ต่อรองกับผมว่า เวลาที่พวกเขาอยากจูบผม ผมห้ามบ่ายเบี่ยง ถ้าวันไหนผมมีปัญหาว่าผมให้ประตูหลังพวกเขาไม่ได้ก็ทำโอษฐกามตอบแทน และพวกเขาต้องได้กินน้ำผมเสมอเมื่อต้องการ โดยที่ผมห้ามปฏิเสธ ผมฟังดูแล้วก็น่าจะเหนื่อยเหมือนเดิม แต่มันก็คงจะน้อยลง เพียงแต่ผมสงสัยอยู่ข้อเดียวเท่านั้นเอง
“ถามจริง กินน้ำกามเราไปแทบจะทุกวัน ไม่เบื่อบ้างเหรอ มันไม่ใช่น้ำหวานนะ ไม่อร่อยหรอก”
“ก็คิมบอกอามแล้วไงว่ามันเป็นน้ำอมฤต เราอยากกินมันไปทุกวันเลย” คิมพูดยิ้มๆ
“ช่ายๆ มันเป็นน้ำอมฤต มันกินจนชินไปแล้ว ถ้ามีอะไรกับพี่อามแล้วไม่กินน้ำพี่อามตามนาวว่ามันเหมือนขาดๆอะไรไป เหมือนกินข้าวแล้วต้องกินน้ำตามถึงจะครบ ก็กินพี่อามแล้วก็ต้องกินน้ำพี่อามตามสิครับ ถึงจะครบ” ฟังสองคนนี้พูดแล้วได้แต่ส่ายหัว ฟังแล้วไม่รู้จะดีใจหรือรู้สึกว่าสองคนนี้โรคจิตดี
“งั้นตอนนี้เราสองคนขอกินน้ำพี่อามนะครับ ไม่ไหวแล้ว” นาวดูหื่นสุดๆ
“กีกี้ยังหลับอยู่เลยนะ” ผมพูดไม่ทันจบ คิมก็อุ้มกีกี้แล้วรีบพาเข้าที่พักทันที นาวก็ลากผมมาอีกที เมื่อส่งกีกี้ลงบนเตียงเรียบร้อย สองคนนี้ก็ปฏิบัติการรีดน้ำอมฤตจากตัวทันที จนผมแทบจะครวญครางตลอดเวลา แล้ววันนี้ก็ดันเป็นวันเสาร์ผมเลยโดนสองคนนี้เสียบเข้าไปในถ้ำสวรรค์พร้อมกันสองท่อนลำเป็นการปิดท้าย ดูเหมือนว่าวันนี้ทั้งสองหนุ่มดูจะได้ประโยชน์จากข้อตกลงนี้เข้าไปเต็มๆ
มาอีกครั้งกลายเป็นว่ากีกี้อยู่ในอ้อมกอดผมแล้ว โดยที่ทั้งสองหนุ่มหายไปอีกแล้ว มองดูนาฬิกาก็เริ่มค่ำแล้วสงสัยว่าทั้งสองคงไปเตรียมอาหารเย็นละมั้ง แป๊บเดียวกีกี้ก็ตื่นขึ้นมาแล้วหอมแก้มผมฟอดใหญ่เป็นการปลุกผมให้ตื่นจากความงัวเงีย
“ตื่นแล้วเหรอครับคนเก่ง หลับนานจังเลยครับ” ผมคิดในใจว่า นานซะจนคุณพ่อกับคุณน้าเล่นสนุกสนานกันบนเตียงไปไม่รู้กี่รอบแล้ว
“อือ ม่าม้า กีกี้หิวข้าวแล้วฮับ” แหมตื่นมาก็จะกินเลยนะครับกีกี้
“โอเคงั้นไปหม่ำๆกันเหอะครับ” พออกไปปุ๊บก็เห็นสองหนุ่มจัดการเตรียมอาหารเรียบร้อย บรรยากาศเย็นวันนั้นดูดีมาก ผ้าปูโต๊ะสีขาว กับ เทียนสามเล่มสีขาวที่ถูกจุดอยู่บนเชิงเทียน ดอกกุหลาบสีขาวและลิลลี่สีขาวที่จัดเข้าช่อด้วยกันวางอยู่ตรงกลางโต๊ะอย่างสวยงาม อาหารต่างๆถูกเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพ พร้อมด้วยไวน์ขาวอีกหนึ่งขวดที่แช่ไว้ในถังอย่างเย็นเจี๊ยบ เพลงเย็นๆก็ถูกเปิดให้เข้ากับบรรยากาศ คลื่นในทะเลก็กำลังซัดเข้าฝั่งอย่างช้าๆ ผมกำลังนึกว่าตัวเองกำลังฝันไป มีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ในสวรรค์ พร้อมด้วยคนที่รักและลูกตัวน้อย ผมตื่นตะลึงไปชั่วขณะ จนเสียงกีกี้ปลุกผมจากภวังค์
“ม่าม้าเรารีบๆไปนั่งกันเถอะครับ กีกี้หิวแล้วครับ” จากนั้นกีกี้ก็รีบๆจูงมือผมไปนั่งกินข้าว ผมนั่งลงด้วยความทึ่งในผลงานของสองหนุ่ม ปกติแล้วผมไม่เคยเห็นพวกเขาทำอะไรที่โรแมนติกขนาดนี้มาก่อนเลย จนที่สุดผมต้องเอ่ยปากถาม
“วันนี้สองคนนี้ไปกินอะไรผิดสำแดงอ่ะเปล่า วันนี้มาอารมณ์ไหนเนี่ย” ผมถามไปก็ยิ้มไปด้วยความซาบซึ้ง สองหนุ่มคงจะทราบความรู้สึกผมดี เพราะทั้งสองก็มองตาผมด้วยความรู้สึกเปี่ยมสุขเช่นเดียวกัน
“ไม่มีอะไรมากหรอกที่รัก เราสองคนแค่อยากทำอะไรดีๆให้อามกับลูกน่ะ นานแล้วนะที่ไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้” คิมเป็นคนตอบคำถามนี้ ทำเอาผมซึ้งหนักเข้าไปอีก
“กีกี้ชอบที่ป่าป๊ากับน้านาวจัดมั้ยลูก” คราวนี้นาวถามกีกี้บ้าง
“ชอบฮับ สวยมากเลย เหมาะสมกับม่าม๊าที่สุดเยย” โอ๊ยกีกี้อย่าตอบแบบนี้สิลูก ม่าม๊ากำลังจะละลายแล้วครับ
จากนั้นเราจึงเริ่มลงมือทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย ที่ไม่ใช่แค่รสชาติอย่างเดียวเท่านั้น แต่บรรยากาศก็ชวนให้จดจำไปอีกครั้งหนึ่งในชีวิตของผม เราสี่คนป้อนกันไปมาอย่างสนุกสนาน พอจบมื้ออาหารลง สองหนุ่มก็ไม่ให้ผมทำอะไรเลย บอกให้ไปนอนกอดกีกี้ริมหาดให้สบายใจ เดี๋ยวพวกเขาสองคนจัดการเอง ผมก็ทำตามจนกระทั่งกีกี้หลับคาอ้อมกอดผมไป สองหนุ่มก็มาตาม แล้วผมก็วางกีกี้ลงบนเตียงในห้องนอน แล้วเราสามคนก็มานอนตากลมกันที่ระเบียงภายใต้อ้อมแขนระหว่างกันอย่างอบอุ่น
“ขอบคุณทั้งสองคนมากนะ เราชอบมากที่ทั้งสองคนทำให้ เราซึ้งจนพูดอะไรไม่ออกเลย วันนี้ดีมากเลย ที่ไม่มีใครทะเลาะกันเพราะเราด้วย เราดีใจเรื่องนี้ที่สุดเลย” ผมพูดออกมาจากความรู้สึกจากก้นบึ้งของหัวใจ สองคนนั้นกอดกระชับผมมากขึ้นกว่าเดิม คิมพูดขึ้นมาก่อนว่า
“ขอแค่วันนี้อามไม่ทิ้งพวกเราไปไหน แค่นี้เราก็ดีใจกันสุดๆแล้ว” คิมพูดจบก็เอาหน้ามาซุกที่ซอกคอผม
“เราสองคนจะไม่พยายามทำเรื่องงี่เง่าอีก แต่พี่อามห้ามลำเอียงนะครับ นาวไม่ยอมจริงๆด้วย” น่านไม่วายมีขู่อีกน้องชายผม
“แหมตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ยังจะกลัวอะไรหาเจ้าเด็กดื้อ” ผมทำหน้าเบื่อๆใส่น้อง พูดจบนาวก็เอาหน้าซุกซอกผมอีกคน ผมตัดสินใจชันตัวนั่งขึ้น สองคนนั้นก็ลุกตาม และโดยไม่ได้นัดหมาย เราสามคนก็จูบกันอย่างดูดดื่มชื่นฉ่ำ และคิมกับนาวได้พูดมาคำหนึ่งที่จะเปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล
“แต่งงานกับพวกเราสองคนนะ สุดที่รักของเราสองคน” คิมพูดขึ้นก่อน
“แต่งงานกับพวกเรานะครับ พี่อาม” นาวพูดตามมา แต่ผมกำลังไม่เชื่อหูตัวเอง
“สองคนนี้ว่าอะไรนะ พูดใหม่อีกทีสิ” ผมตะลึงสุดขีด

**************************************************

เด๋วขอเบิ้ลให้อีกตอนครับ หายไปนาน ตอนนี้ได้งานแล้ว

เลยยุ่งๆอะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่18 แต่งงานกันนะ
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 16-05-2010 20:38:03
บทที่ 18 แต่งงานกันนะ
ผมตกตะลึงในคำพูดของสองหนุ่ม อะไรนะสองคนนี้เขาขอผมแต่งงาน เฮ้ยผมฟังไม่ผิดจริงๆใช่ไหม ผมตกใจจนพูดอะไรไม่ถูก เหมือนตกอยู่ในภวังค์ไปพักใหญ่ๆ ก่อนที่จะค่อยๆคืนสติกลับมา แล้วกลับมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“อย่ามาล้อเล่นได้มั้ย แต่งงานกันสามคนเนี่ยนะ ตลกแหละ เรื่องนี้เรื่องใหญ่นะ อย่ามาทำเป็นเล่นได้มั้ย ” ผมพยายามจะไม่เชื่อในตอนแรก แต่ในใจลึกๆแล้วก็อดดีใจไม่ได้ มันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของผมจริงๆ
“คิดว่าพวกเราล้อเล่นใช่ไหม” คิมพูดแล้วก็ยิ้มเหมือนว่าซ่อนอะไรบางอย่างไว้ แล้วก็มองหน้านาวพร้อมด้วยกันพยักหน้า จากนั้นสองคนนั้นก็หยิบเอากล่องเล็กๆออดมาพร้อมกัน ผมมองแล้วก็รู้เลย กล่องใส่แหวน แหวนแต่งงาน ผมรู้สึกตื้นตันจนน้ำท่วมตาไปหมดแล้ว พร้อมพูดออกไปด้วยเสียงสั่นเครือปนความปีติ
“นี่วางแผนกันไว้นานรึยัง ทำไมเราจับไม่ได้เลย” พูดจบผมก็ร้องไห้ไม่หยุดเลย จนพูดอะไรต่อแทบไม่ได้เลย
“อืมก็ประมาณเดือนหนึ่งได้แล้วแหละพี่อาม พี่คิมมาคุยกับนาวว่าน่าจะถึงเวลาได้แล้ว นาวก็เห็นด้วยเต็มที่เลย”
“แล้วตกลงอามที่รักของเรา จะแต่งงานกับพวกเรามั้ย” คิมถามแล้วก็มองตาผม พร้อมๆกับที่นาวมองตาผมเช่นกัน ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่พยักหน้า พอพยักหน้าเสร็จสองคนนั้นก็เข้าโผกอดผมอย่างแน่นและเนิ่นนาน ก็ที่จะเอาแหวนออกมาสวมให้ผม คิมสวมแหวนให้ผมที่นิ้วนางข้างซ้าย นาวสวมแหวนให้ผมที่นิ้วนางข้างขวา เหตุผลที่คิมได้สวมแหวนให้ผมที่นิ้วนางข้างซ้ายเพราะนาวยอมให้เนื่องจากเห็นว่าผมรับคิมเป็นแฟนก่อน นอกจากนี้สองคนนี้ยังเตรียมแหวนไว้อีกสองวงเพื่อให้ผมได้สวมให้เขาทั้งสองคนด้วย แหวนสี่วงเป็นแหวนทองคำขาววงเกลี้ยง พอสวมแหวนเสร็จสองคนนี้เขาก็บอกอะไรบางอย่างกับผมต่อ
“เราจะแต่งงานกันแบบในนิยายสันสกฤตนะ” นาวบอกผมผมก็คิดตามว่า หือ นิยายสันสกฤตเป็นยังไงนะ อ่อ นึกออกล่ะ
“แบบที่สาบานรักกันต่อหน้าเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนะเหรอ” สองคนนั้นก็พยักหน้ารับ จากนั้นก็เอาเทียนหอมที่เตรียมไว้หลายใบ (เทียนใส่ในแก้ว) มาจุดไฟ พร้อมทั้งโปรยดอกไม้โดยรอบ จากนั้นคิมก็เข้าไปอุ้มกีกี้ออกมาให้ผมอุ้มนอนไว้บนตัก เพราะคิมบอกว่าจะได้เป็นพยานรับรู้เรื่องราวด้วย
“ทั้งที่ลูกชายเราหลับปุ๋ยอย่างนี้นี่นะ“ ผมสงสัย
“แล้วอามไม่อยากให้เขารับรู้เหรอ ว่าป่าป๊ากับม่าม้าแต่งงานกันน่ะ” อืมมันก็จริง ผมก็เลยอุ้มกีกี้ไว้บนตัก ส่วนสองคนนั้นก็กำลังกล่าวคำสาบาน
“ข้าแต่ทวยเทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ขอได้โปรดรับรู้เรื่องราวความรักระหว่างเรา ขอได้บันดาลประทานพรความเป็นสิริมงคลต่อพวกเรา ให้พวกเราได้ครองรักกันไปอย่างยั่งยืน ยาวนานตราบจนชั่วฟ้าดินสลาย ขอให้ความรักของพวกเราราบรื่นอย่าได้มีอุปสรรคอันใดเลย ขอให้พวกเรารักกันเสมอไปด้วยเทอญ” สองคนนั้นกุมมือผมไว้ ผมเลยกล่าวต่อไปอีกว่า
“ขอทวยเทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุ้มครองพวกเราให้มีความสุขตลอดไปด้วยเทอญ” พูดจบผมก็น้ำตาไหล สองคนนี้ก็กอดผมไว้ แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิด เมือกีกี้ได้ตื่นขึ้นมา

“อือ ม่าม้าทำอะไรกันอ่ะ ทำไมมันกลิ่นอบอวลไปหมดเลย เทียนก็จุดตั้งมากมาย” กีกี้ขยี้ตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ผมก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นได้
“อ้อ นี่ม่าม้า ป่าป๊า และก็น้านาวกำลังฉลองที่เราอยู่ด้วยกันไงครับกีกี้” สองหนุ่มก็พยักหน้าตามผม
“อือ ทำไมขี้โกงกันแบบนี้อ่ะ ไม่ยอมเรียกกีกี้ออกมาด้วยแต่แรก ม่าม้าอ่ะ กีกี้ไม่ยอมด้วย” กีกี้งอนผมแล้วก็ทำเป็นไม่ยอมพูดด้วย ผมเลยต้องห้อมแก้มเจ้าตัวน้อย แล้วบอกว่า
“ใครบอกอ่ะ ถ้าไม่ตามแล้วกีกี้จะอยู่บนตักม่าม้าได้เหรอครับ”
“แล้วทำไมไม่ปลุกอ่ะ ปล่อยให้กีกี้นอนอยู่ได้”
“อ้าวก็กีกี้อ่ะ นอนหลับแล้วปลุกยากจะตาย ตื่นขึ้นมาได้ตอนนี้ม่าม้ายังงงเลย” ผมทำหน้ากวนๆใส่ลูก
“ไม่รู้แหละ ม่าม้าต้องไถ่โทษด้วยการให้กีกี้หอมแก้มร้อยทีด้วย” โหชอบเอาเปรียบผมเหมือนคิมเลย
“หอมเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวก็ปากไหม้หรอกครับ” ผมแกล้งแหย่ลูก กลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้สองหนุ่มเข้ามารุมผมซะงั้น
“งั้นเดี๋ยวให้ป่าป๊ากับน้านาวช่วยกีกี้ได้ไหมละกันนะครับ” คิมพูดโพล่งขึ้นมา นาวยิ้มกรุ่มกริ่ม สิ่งที่ไม่น่าเชื่อคือกีกี้ดันพยักหน้าเห็นด้วยซะงั้น ผมก็เลยถูกสามหนุ่มรุมห้อมแก้มกันไปหนึ่งร้อยครั้ง ผลัดกันไปคนละที จนผมมึนไปหมดเลย แต่ละคนหอมผมจนแก้มผมเหมือนจะหลุดออกมา สรุปแล้วแบ่งกันไปคนละสามสิบสามครั้ง ยกเว้นกีกี้ที่ได้สามสิบสี่เป็นการปิดท้าย หอมเสร็จก็นอนหลับคาตักผมอีกรอบ บอกว่าหอมผมจนเหนื่อย แต่เมื่อกีกี้หลับสนิทไปกีกี้ก็ถูกอุ้มไปนอนบนเตียงตามเดิม ส่วนผมก็ถูกสองคนนั้นจัดการอย่างหฤหรรษ์ เสมือนเป็นพิธีกรรมอย่างที่ตัวผมเหมือนต้องถูกเซ่นสังเวย แต่คนที่ได้รับเครื่องสังเวยไม่ใช่เทพเจ้า แต่เป็นสองหนุ่มกลัดมันที่ดูเหมือนได้รับกามรสจากผมไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอสักที ในที่สุดผมก็เหนื่อยจนหลับในสภาพร่างกายอันเปล่าเปลือยแต่ทั้งสองหนุ่มดูเหมือนจะยังไม่อิ่มเอมจากศึกบนเตียงในครั้งนี้ซะที
เมื่อตื่นมาอีกทีตอนเช้า ผมตกใจมาก เพราะเราสามคนก็อยู่ในสภาพอันเปลือยเปล่า โดยที่ไม่มีใครลุกไปไหน ผมกลัวว่ากีกี้จะมาเห็นสภาพนี้ แต่ความคิดนี้ไม่ทันซะแล้ว เมื่อกีกี้มายืนอยู่ตรงปลายเตียงในสภาพที่เห็นเราสามคนนอนกอดก่ายกันในร่างอันเปล่าเปลือย โอ้ยผมจะอธิบายยังไงดีนะ
“อือทำไมม่าม้ากับป่าป๊าแล้วก็น้านาวนอนโป๊กันแบบเนี่ย” กีกี้ตั้งคำถามกับผม ผมก็ไม่รู้จะตอบว่าไง บังเอิญว่าคิมตื่นขึ้นมาพอดี เลยตอบแทนผมว่า
“ก็เมื่อคืนอากาศมันร้อนครับลูก แอร์ก็เสีย เลยต้องนอนถอดเสื้อผ้ากัน” โหคิม คิดได้ไงเนี่ย
“ไม่รู้แหละ เมื่อคืนกีกี้ไม่ได้นอนกับม่าม้า ทิ้งกีกี้ให้นอนคนเดียว แล้วหนีกันมานอนสามคนได้ไง กีกี้ไม่ยอมจริงๆด้วย” กลายเป็นว่ากีกี้ไม่ได้สนใจที่พวกเราสามคนโป๊ แต่ไม่พอใจมากกว่าที่ตื่นมาแล้วไม่เจอผม พอกีกี้พูดจบก็ร้องไห้งอแง รู้สึกว่าพอไม่พอใจผมแล้วร้องไห้เนี่ยเหมือนคิมยังไงก็ไม่รู้ ผมเลยต้องดึงกีกี้เข้ามากอด แล้วหอมแก้มเพื่อให้เขาสงบลง ทั้งๆที่ในขณะนั้นก็ยังไม่ได้ใส่อะไรเลย ทำให้คิดถึงตอนที่กอดนาวตอนเด็กๆเลย คิมก็เขาโอบผมอีกที ส่วนนาวในตอนนั้นพอตื่นมาแล้วก็ดูอึ้งๆไปเล็กน้อย ก่อนที่จะโอบผมต่อจากคิมอีกที
“โอ๋ๆอย่าร้องนะครับ ม่าม้าผิดไปแล้วครับลูก วันนี้กีกี้อยากได้อะไรม่าม้ายอมให้ทุกอย่างเลยครับ”
“จริงๆนะครับ” กีกี้หยุดร้องโดยทันที นั่นไงเหมือนคิมเลยจริงๆ ผมเลยต้องพยักหน้ารับแบบเสียไม่ได้
“ถ้างั้นวันนี้ม่าม้าต้องกอดกีกี้ทั้งวันเลย ถ้ากีกี้ไม่บอกว่าปล่อยได้ ม่าม้าห้ามปล่อยด้วย”
“งั้นกีกี้ให้ม่าม้าไปอาบน้ำก่อนได้มั้ยครับ แล้วเดี๋ยวจะกอดทั้งวันเลย” ผมพยายามต่อรอง
“ถ้างั้นม่าม้าก็พากีกี้ไปอาบน้ำเลย” เท่านั้นแหละครับสองหนุ่มก็ถือโอกาสตามเข้าไปอาบด้วย และผมก็ถูกลูกชายและสองหนุ่มรุมแกล้งอย่างสนุกสนาน กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ก็ร่วมชั่วโมง แล้วผมก็ต้องกอดกีกี้ไปอีกครึ่งวันด้วยกัน โอยเหนื่อยได้อีก
เราพักผ่อนกันอยู่ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก่อนจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดอย่างเป็นทางการ และดูเหมือนว่ากฎการผลัดกันคนละวันที่ตกลงกันไว้จะถูกยกเลิกไปด้วยปริยาย แต่คราวนี้สองหนุ่มต่างรู้ได้โดยอัตโนมัติว่าความพอดีที่ผมจะสามารถรับไหวอยู่ที่ตรงไหน แต่คนที่แย่งซีนสองหนุ่มจริงๆน่าจะเป็นกีกี้มากกว่า แต่เด็กก็ไม่ค่อยจะทันเล่ห์เหลี่ยมผู้ใหญ่เท่าไรหรอก เพราะสองหนุ่มก็มีวิธีการหลอกล่อให้ผมได้อยู่กับเขาทั้งสองคนมากกว่าอยู่ดี
การที่เราอยู่ด้วยกันสามคนแม้ว่าจะดูลงตัวดี แต่ก็มีเรื่องต้องระมัดระวังอยู่ไม่น้อย อย่างเรื่องการระวังไม่ให้บรรดาญาติๆทางผมหรือทางคิมเองก็ตามรู้สึกระแคะระคายในความสัมพันธ์ของเราสามคน การระวังไม่ให้กีกี้เห็นเรามีความสัมพันธ์บนเตียงอีก เป็นต้น
แต่เรื่องที่น่าเศร้าก็เกิดขึ้นอีกจนได้ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันเพราะอาโอมกับอานาถประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกัน ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ส่วนนาวเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดเลย ผมสงสารน้องมากจนไม่รู้จะปลอบยังไงให้เขาหายเศร้า พอพ่อแม่ของนาวไม่อยู่อีกแล้ว ผมก็ยิ่งกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขา จึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทิ้งผมไปหาใคร เพราะผมกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเขาไปซะแล้วนั่นเอง ผมเองก็หวั่นใจในช่วงแรกๆว่าคิมจะน้อยใจรึเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเมื่ออะไรมันลงตัว คิมก็ดูใจกว้างกว่าเดิมมาก แต่ก็ยังแอบบอกว่าอย่ามัวแต่ปลอบใจน้องจนลืมเขา ไม่งั้นคิมก็ไม่ยอมเหมือนกัน กีกี้ก็ช่วยปลอบใจนาวอีกแรงจนนาวดูจะคลายทุกข์ไปได้มากทีเดียว
และที่สุดก็มีเรื่องให้ผมประหลาดใจได้อีก เพราะที่สุดแล้วนาวก็ได้ของขวัญชิ้นสำคัญมาปลอบใจ และจะเป็นเหตุให้กีกี้มีน้องจนได้อย่างไม่น่าเชื่อ****************************************************************************************************************************************************

ลงทันกันแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 16-05-2010 21:02:54
 :mc4: :mc4: เย้ๆๆๆๆๆ มาแล้วววววววว

เอร่ออ..อ.อ...สองหนุ่มคิม-นาว ยังคงหื่นคงเส้นคงวา .. :haun4: :oo1:แล้วแบบนี้อาร์มจะทนไหวได้ไงเนี่ย....
ข้อตกลงที่ว่าในที่สุดมันก็ไม่เป็นผล เหอเหอ... แบบนี้ก็เข้าสู่อีหรอบเดิม...จะหื่นไปไหนเนี่ย น้องกีกี้น่ารักอ่ะ แถมเจ้าเล่ห์คล้ายคิมจริงๆแหละ มีข้อแลกเปลี่ยนตลอด

แอบซึ้งกับการขอแต่งงานของทั้งสามคนนะ ....ได้แต่หวังว่าชีวิตทั้งสามจะอยู่อย่างราบรื่น

สงสารนาวที่เสียพ่อ แม่ แต่สงสัยว่าแม่จะมีลูกหลงป่าวหว่า เลยทำให้กีกี้มีน้องอ่ะ...

ขอบคุณที่มาต่อให้อ่านนะคะ ยินดีด้วยที่ได้งานค่ะ....คราวนี้อย่าหายไปนานอีกน๊าาาาาาาา o13 :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: bakanishi1 ที่ 16-05-2010 21:19:05
หายไปนาน ... แต่ก็มาต่อให้แบบยาว ๆ ๆ อ่านได้อย่างจุใจ

เฮ้อ .. อาร์มเจอแบบนี้เหนื่อยหน่อยนะ

ต้องโดฟเยอะ ๆ  ... ข้อตกลงอะไรกัน...

ในที่สุดก็ต้องรับไปตามสภาพ ...

สลับวันกันวันเว้นวัน ... วันเสาร์กินกัน 3 คน

หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-05-2010 21:22:03
กีกี้จะมีน้องแว้วววว :o8:
แต่เสียพ่อกับแม่พร้อมกันในคราวเดียว น้องนาวคงเสียใจน่าดู :monkeysad:
คนโพสต์ได้งานแล้ว ยินดีด้วยนะค้าา :L2:
ขอบคุณและรออ่านตอนต่อไปค่าา
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: vvivy ที่ 16-05-2010 22:43:34
หง่ะกีกี้จะมีน้อง....

ปล.อย่าหายไปนานนะคะ รอติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 16-05-2010 23:01:39
มาแล้ววว

สงสารนาววว
ที่เสียพ่อแม่

แต่สงสารอามที่โดนเยอะ

แนะนำให้อยู่บ้าน เปนคุนแม่ และภรรยาที่ดีพอ
555
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: O_o ที่ 17-05-2010 00:43:34

และที่สุดก็มีเรื่องให้ผมประหลาดใจได้อีก เพราะที่สุดแล้วนาวก็ได้ของขวัญชิ้นสำคัญมาปลอบใจ และจะเป็นเหตุให้กีกี้มีน้องจนได้อย่างไม่น่าเชื่อ****************************************************************************************************************************************************

ลงทันกันแล้วนะครับ


คนอ่านก็ประหลาดใจ ของขวัญอะไรอะ???
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 17-05-2010 02:23:53
 :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 17-05-2010 03:03:56
เย่ๆๆ มาต่อแล้วววววววว  :pig4: ค่ะ


นาวกับคิมยังหื่นแอบจิตเหมือนเดิมเลย อามก็ต้องรับศึกหนักไปอ่ะนะ  :laugh:

(มีอย่างที่ไหน... จะหอบลูกหนีเพราะรับเซ็กซ์อันหนักหน่วงนี้ไม่ไหว 555+)


กีกี้ก็น่าร๊ากกกกกกกกกกกก น่ารักกกกกกกกกกกอ่า :กอด1:


แอบซึ้งกับงานแต่งงานอ่ะ ทั้งสองหนุ่มน่ารักมากมาย  :m3:


แต่ตอนท้ายนี้แอบสงสารนาวอ่ะ เสียใจด้วยเนอะ ชีวิตคนเราไม่แน่ไม่นอนแบบนี้แหละค่ะ  :เฮ้อ:


แต่....อยากรู้จริงๆว่านาวไปได้ลูกมาจากไหน :confuse:


กีกี้มีน้องแล้วจะเป็นพี่ที่ดีป่าวนะ เห็นขี้อ้อนม่าม้าซะขนาดนั้น คงไม่คิดว่าโดนแย่งความรักไปนะ (เห็นแย่งซีนนาวกะคิมซะขนาดดด) :m12:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: aojroonra ที่ 17-05-2010 03:42:50
ความสุข...ชิมิ.
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 17-05-2010 12:07:04
นาวก็ได้ของขวัญชิ้นสำคัญมาปลอบใจ

^
^
^

มาจากไหนอ่ะ ค้างคา อ๊ากก อยากรู้ ๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: อิสระ ที่ 17-05-2010 13:03:57
ในที่สุดก็มาต่อเสียที
หลังจากตั้งตารอมานานมากกกกกกกกก
ยังวุ่นวายไม่เปลี่ยน
และ....หื่นเหมือนเดิม
แต่เราชอบบบบบบ
แล้วมาต่ออีกนะ
ยังรออ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 17-05-2010 21:46:12

และที่สุดก็มีเรื่องให้ผมประหลาดใจได้อีก เพราะที่สุดแล้วนาวก็ได้ของขวัญชิ้นสำคัญมาปลอบใจ และจะเป็นเหตุให้กีกี้มีน้องจนได้อย่างไม่น่าเชื่อ****************************************************************************************************************************************************

ลงทันกันแล้วนะครับ


คนอ่านก็ประหลาดใจ ของขวัญอะไรอะ???

มีลูกอีกคนนึงใช่ปะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 29-05-2010 03:30:19
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 29-05-2010 06:52:19
ไรท์เตอร์หายไปอ่ะ...คนอ่านคิดถึงเน้ออออ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 29-05-2010 08:50:10
นั่นดิ  มาปลุกเร้า แล้วหนีได้ไง อ่ะ

นอนรอ ไรเตอร์  หุหุ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่5 คนใกล้ตัว
เริ่มหัวข้อโดย: kuro ที่ 29-05-2010 16:36:02
สนุก
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 อวสาน
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 07-06-2010 21:21:59
อนอื่นผมต้องขอแก้ข้อผิดพลาดอย่างสุดท้ายก่อนนะครับ ผมเคยตอบในกระทู้ที่ตั้งครั้งแรกเลยว่าอายุไม่เกิน 25 จริงๆแล้วผมพิมพ์พลาดไปหน่อยนึง จริงๆต้องเป็นไม่เกิน 35 นะครับ ว่าจะตอบแก้หลายทีแล้วลืมทุกที ครั้งนี้ไม่ลืมแล้วครับ
เชิญพบกับ บทอวสาน ของ "เปิดซิงน้องชายตัวเองฉบับสมบูรณ์" (ขอลงตั้งแต่ต้นบทที่ 19 อีกรอบ)
บทที่ 19 บทสรุป
เราสามคนใช้ชีวิตร่วมกันด้วยความสุขสุดเสน่หา ดูเหมือนว่าวันเวลาที่ผ่านไป ทั้งสองหนุ่มจะใช้เวลาตักตวงความสุขจากตัวผมไปอย่างมากมาย ตัวผมก็รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็เหนื่อยไม่น้อยเหมือนกัน เพราะหลายครั้งเหมือนรู้สึกว่าตัวเองจะตายคาเตียงก็ไม่ปาน ผมรู้สึกว่าทั้งสองหนุ่มเหมือนลีลาบนเตียงจะชำนาญช่ำชองมากขึ้นทุกวัน ไม่รู้ว่าไปสรรหากลยุทธ์กันมาจากไหนตั้งมากมาย จนแต่ละวันแต่ละคืน ผมร้องครวญครางจนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นอยู่แล้ว ปกติแล้วคนเราต้องบริโภคน้ำเปล่าในปริมาณที่พอเหมาะจึงจะเป็นผลดีต่อร่างกาย แต่ดูเหมือนว่าเราสามคนแทบจะบริโภคน้ำกามกันแบบกินต่างน้ำกันเลยทีเดียว
เวลาผ่านไปประมาณอีกปี ผมมีเวลามากขึ้น เพราะกี้เริ่มเข้าโรงเรียนไปแล้ว ผมก็ได้เริ่มงานอย่างที่คาดหวังไว้ ก็เป็นธุรกิจเล็กๆอย่างหนึ่ง แต่ไม่ขอบอกละกันนะครับว่าเป็นอะไร ก็ยุ่งพอสมควร ยังโชคดีที่มีทุนจากคิมเลยไม่ต้องเดือดร้อนไปกู้ธนาคาร แม้ว่าคิมจะไม่ค่อยเต็มใจอยากจะให้เพราะไม่อยากให้ผมทำงานก็เหอะ แต่ผมก็ให้เหตุผลอย่างที่บอกไปในช่วงก่อนหน้านี้แล้วว่าเพราะอะไร แต่เพราะผมเอาเงินคิมไปลงทุน คิมก็ชอบบอกว่าผมเป็นลูกหนี้เขา ดังนั้นผมต้องจ่ายดอกเบี้ยให้เขาด้วย แต่คิมไม่ยอมให้ผมจ่ายเป็นเงิน แต่ให้ผมจ่ายเป็นจูบ โดยทุกครั้งที่ตื่นนอนต้องมาจูบเขาก่อนกีกี้หรือก่อนนาวเสมอ และเมื่อไหร่ที่เขาต้องการบรรเลงเพลงสวาทกับผมผมก็ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด ผมเองก็เลยไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร ทำให้นอกจากที่จะมีอะไรกันที่คอนโดแล้ว คิมยังชอบให้ผมมีอะไรกับเขาในสถานที่ที่ผมไม่กล้า แต่เมื่อคิมอยากขึ้นมาผมก็ต้องสนองให้เขา ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำสาธารณะ ในสวนสาธารณะ หรือในที่ทำงานของคิมเอง ผมเองกลัวมากว่าจะมีใครมาเห็น แต่คิมดูเหมือนว่าจะไม่สนใจอะไรเลย ครั้งหนึ่งผมเคยพูดกับคิมขณะที่มีอะไรกันอยู่ในที่ทำงานของคิมว่า
“คิมครับ พอเหอะครับ”
“ทำไมอ่ะ คิมเข้าไปในตัวอามไม่ลึกพอเหรอ อามก็ขยับดีๆกว่านี้หน่อยสิ เข้าไปลึกๆจะได้เสียวๆ”
“ไม่ใช่นะ เราไม่อยากให้ใครมาเห็น พอแล้วครับ นี่มันที่ทำงานนะคิม”
“ก็ให้เห็นไปเลยดิ เขาจะได้รู้ไปเลย ว่าอามน่ะ เป็นของคิม”
“ทำไมไม่มีเหตุผลแบบเนี่ย อย่าทำแบบนี้สิครับ” พอผมพูดจบ คิมก็กอดผมเอาไว้ แล้วบอกกับผมว่า
“คิมแค่อยากมีอะไรกับอามแบบสองต่อสองบ้าง โดยที่ไม่มีนาวมาเกี่ยว ไม่มีกีกี้มากวน อามเห็นใจเราหน่อยเถอะ เรายอมอามทุกอย่างเลย คิมขอแค่นี้อามจะให้เราได้มั้ย” พูดจบคิมก็ยังจ้องตาผมด้วยความเว้าวอน เจอแบบนี้ใจผมก็ละลายไปในใจคิมหมดแล้วครับ เลยได้แต่พูดแค่ว่า ทำอะไรก็ระมัดระวังหน่อยละกัน หน้าตามีหูประตูมีช่อง จากนั้นเมื่อไหร่ที่เราอยู่กันแค่สองคน คิมต้องหาโอกาสปล้ำผมทุกที มาถึงจุดนี้อย่าคิดนะครับว่านาวจะหื่นน้อยกว่าคิม เพราะว่าเมื่ออยู่กับผมตามลำพัง นาวก็ต้องหาโอกาสปล้ำผมทุกที เพียงแต่ไม่ใช่ในสถานที่เสี่ยงๆอย่างที่คิมทำเท่านั้นเอง
วันนึงขณะที่ผมกำลังดูแลธุรกิจอยู่ พี่หมอชาญก็โทรศัพท์มาหา
“สวัสดีน้องรัก เป็นไงบ้าง โดนสองหนุ่มเล่นงานซะเหนื่อยเลยละสิ”
“แหมๆๆ ไม่ต้องมาแซวเลย วันนี้นึกไงโทรมาหาผมเนี่ย คิดถึงพี่หมอจัง”
“อ่านะไม่ต้องมาปากหวานเลย ว่าแต่เย็นนี้ว่างไหมอ่ะ”
“มีธุระอะไรสำคัญรึเปล่า ปกติผมต้องไปรับกีกี้ที่โรงเรียนอ่ะพี่หมอ ถ้าสำคัญมากเดี๋ยวผมให้เจ้านาวไปรับกีกี้แทน” (ที่นาวต้องไปรับกีกี้เพราะช่วงนั้นคิมต้องไปดูงานเมืองนอกหนึ่งเดือนเหมือนคราวที่แล้ว ผมกับนาวเลยต้องอยู่ดูแลกีกี้กันไปสองคน) ผมเริ่มสงสัยว่าธุระของพี่หมอชาญคืออะไร
“อืม สำคัญมาก เกี่ยวกับชีวิตคนๆหนึ่งเลยล่ะ”
“หา ขนาดนั้นเลยเหรอพี่หมอ” ผมตกใจไปชั่วขณะ
“ใช่ และพี่ว่าเราจะช่วยเรื่องนี้ได้”
“โห จริงอ่ะ โอเคๆงั้นเดี๋ยวเย็นนี้ผมไปหานะ ที่โรงพยาบาลเลยรึเปล่าครับ”
“อืม มาที่โรงพยาบาลเลย เพราะเรื่องนี้อยู่ที่โรงพยาบาล” ฟังแล้วผมยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก
“โอเคพี่หมอ งั้นเดี๋ยวผมไปหาเย็นนี้เลยนะ” หลังจากนั้นผมจึงจัดการโทรบอกนาวให้ไปรับกีกี้ให้เรียบร้อย
พอผมขับรถมาถึงโรงพยาบาล ก็ตรงเข้าไปหาพี่หมอชาญที่เขาประจำอยู่เลย เมื่อไปถึงปุ๊บสิ่งที่ผมเห็นสิ่งแรกคือก็คือ พี่หมอชาญกำลังอุ้มทารกน้อยอยู่ในอ้อมกอด และเด็กกำลังร้องไห้ใหญ่เลย
“อ้าวมาพอดีเลย ช่วยพี่หน่อยดิ เนี่ยน้องร้องยังไม่หยุดเลย” แม้ว่าผมจะยังงงๆอยู่แต่ก็รับเจ้าตัวน้อยมาอุ้ม โอ๋ไป โอ๋มา ก็เงียบลง ยิ่งมองก็ยิ่งน่ารัก จนมีความรู้สึกในว่าอยากเอาเด็กคนนี้มาเลี้ยงจัง ถ้านาวเห็นคงจะชอบใจ อยากได้เป็นลูกแน่ๆเลย พอเห็นเด็กเงียบปุ๊บ พี่หมอชาญก็พูดต่อทันที
“โห มีพรสวรรค์จริงเลย มาแป๊บเดียว ให้น้องหยุดร้องได้เลย” พี่หมอชาญยิ้มๆ
“เออว่าแต่มีเรื่องอะไรเหรอ เรียกผมมาถึงที่นี่”
“ก็เด็กที่อามอุ้มอยู่นั่นแหละ ทำให้พี่ต้องเรียกเรามา”
“หา พี่หมอหมายความว่าไง” ผมตกใจมาก
พี่หมอชาญจึงเริ่มเล่าให้ฟังว่า พี่หมอชาญมีเพื่อนผู้หญิงคนนึงโดยส่วนตัวเป็นคนรักสนุก ไม่ชอบผูกมัดกับผู้ชายคนไหน แต่ว่าบังเอิญพลาดเลยท้องขึ้นมา ตอนแรกเพื่อนคนนี้มาขอให้พี่หมอชาญทำแท้งให้ เพราะถ้าไม่ทำให้ ก็จะไปหาคนอื่นให้ทำให้อยู่ดี พี่หมอชาญก็เลยไม่รู้จะทำยังไง ถ้าปล่อยให้เพื่อนตัวเองไปทำแท้งเถื่อนคงจะไม่ปลอดภัยแน่ๆ เลยขอร้องว่าอย่าทำแท้งได้มั้ยเพราะมันจะเป็นบาป สงสารเด็กด้วย อีกอย่างเด็กก็ตัวโตมากแล้วอาจจะเป็นอันตรายทั้งเด็กและแม่ พี่หมอชาญเลยเสนอว่าเดี๋ยวจะหาคนมาเลี้ยงเด็กให้เอง พอเด็กคลอดออกมาแล้วเมื่อสามวันก่อนแม่เด็กก็ไม่ได้สนใจจะรับรู้อะไรอีกเลย พี่หมอชาญเลยต้องให้พยาบาลช่วยกันเลี้ยงไว้ก่อน แล้วพี่หมอชาญจำได้ว่าก่อนหน้านี้ผมบ่นว่านาวเองอยากจะมีลูกสักคน เลยติดต่อให้ผมมาหา เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าจะรับอุปการะเด็กคนนี้ไว้รึไม่ ผมเองก็เอ็นดูเด็กคนนี้มาก เหมือนจะรู้ว่าเขาต้องมาเป็นของขวัญของผมและนาว
“แล้วทำไมพี่หมอไม่เลี้ยงเองอ่ะ น้องน่ารักออกขนาดนี้” พูดจบผมก็อดใจไม่ได้ ต้องลงไปหอมแก้มเด็กอีกจนได้

.....มีต่อ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 07-06-2010 21:26:15
“โธ่เอ้ย พี่งานยุ่งจะตาย ครอบครัวก็ไม่มี จะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลกัน พี่รักเด็กก็จริงแต่ว่าถ้าดูแลไม่ได้จะไปมีประโยชน์อะไร จริงไหม อามมีครอบครัวที่น่าอิจฉา อามจะรับเด็กคนนี้เข้าไปเติมเต็มครอบครัวตัวเองให้สมบูรณ์กว่าเดิมได้ไหม” ผมบอกตัวเองในตอนนั้นว่า พี่หมอชาญไม่ต้องพูดขนาดนี้ก็ได้ ผมเทใจให้เด็กคนนี้ไปซะแล้ว
“โธ่พี่หมอ น้องน่ารักขนาดนี้ผมจะปฏิเสธได้ไง แต่ผมคงต้องปรึกษากับสองหนุ่มให้เรียบร้อยซะก่อนนะ”
“อืม เร็วๆนะ จะได้จัดการเรื่องเอกสารอะไรต่างๆให้เรียบร้อย”
เสร็จจากธุระที่โรงพยาบาล ผมก็ขับรถกลับมาที่คอนโด หลังจากที่นั่งกินข้าวกับกีกี้ลันาวเรียบร้อย ก็มานั่งดูทีวีกัน ผมคิดว่ากำลังจะพูดกับนาวเมื่อจะเข้านอน อยู่ๆกีกี้ก็พูดขึ้นว่า
“ม่าม้าคร้าบ เมื่อไหร่ม่าม้าจะมีน้องให้กีกี้สักทีอ่ะ
“ทำไมถามแบบนี้อ่ะครับลูก”
“ก็กีกี้อยากมีน้องอ่ะ เนี่ยเพื่อนกีกี้ที่ชื่อวินนี่อ่ะ ม่าม้าเขาพึ่งคลอดน้องคนใหม่มา มาเล่าให้ฟังทุกวันเลยว่าน้องใหม่น่ารักอย่างนู่นอย่างนี้จนกีกี้อิจฉาอยากมีน้องมั่งอ่ะ ม่าม้าคลอดน้องออกมาให้กีกี้สักคนสิครับ” พอกีกี้พูดว่าให้ผมคลอดน้องออกมาสักคน นาวก็ขำก๊ากในความไร้เดียงสาของเด็กที่คิดว่าผู้ชายจะออกลูกได้ ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มๆและคิดถึงเด็กคนนั้นขึ้นมาจับใจ
“ไม่ได้หรอกครับลูก ม่าม้าไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย ไปแล้วเหรอ”
“งั้นม่าม้าหาน้องให้กีกี้สักคนสิครับ กีกี้อยากมีน้องจริงๆนะครับ นะๆๆ” พูดเสร็จก็เข้ามากอดผมอย่างออดอ้อน นาวเองก็พูดแทรกขึ้นว่า
“งั้นป๊านาวเป็นพ่อของน้องคนใหม่ของกีกี้แหละกันเนอะ” นาวยิ้มอย่างมีความหวังว่าตัวเองจะได้มีลูกกับผม (ตั้งแต่เมื่อเราสามคนแต่งงานกัน คิมก็อนุญาตให้กีกี้เรียกน้านาวเป็นป๊านาวได้แต่ให้เรียกป่าป๊ากับตัวเขาได้คนเดียวเท่านั้น)
“ไม่มีปัญหา ถ้าเป็นลูกม่าม้าก็เป็นน้องกีกี้หมดแหละครับ ขอให้มีก็พอ กีกี้อยากมีน้องใจจะขาดแย้ว นะๆม่าม้าหาให้กีกี้สักคนนะครับ”
“แล้วถ้ามีกีกี้จะรักน้องไหมลูก ถ้าเห่อแค่แป๊บเดียวม่าม้าไม่เอาด้วยนะ สงสารน้อง” ผมกำลังทดสอบกีกี้ครับ
ทำไมม่าม้าพูดอย่างนั้นอ่ะครับ” กีกี้ทำหน้าสงสัย
“เพราะถ้ามีน้องขึ้นมา ลูกก็ต้องช่วยเลี้ยงด้วยนะครับ จะเอามาทิ้งขว้างไม่ได้นะ ถ้าลูกไม่ช่วยม่าม้า ป่าป๊า ป๊านาวเลี้ยงน้อง มาม่าม้าจะเอาน้องไปให้คนอื่นเลี้ยงตกลงมั้ย” พูดไม่ทันจบกีกี้เอามือมาปิดปากผมแล้ว แล้วก็บอกว่า
“ ไม่เอา ม่าม้า ม่าม้าต้องมีน้องให้กีกี้นะ ม่าม้าห้ามเอาไปให้คนอื่นเลี้ยงนะ กีกี้อยากมีน้องจริงๆนะ” พูดจบกีกี้ก็ร้องไห้เหมือนกลัวว่าผมจะเอาน้องไปจากเขาจริงๆ” (นี่ขนาดยังไม่มีน้องจริงๆนะเนี่ย) ด้วยเหตุนี้ผมก็เลยมั่นใจว่าถ้าเราสามคนมีลูกกันอีกคน กีกี้ต้องรักน้องแน่นอน
“งั้นม่าม้าจะลองคิดดูแล้วกันนะ” ผมยิ้มให้กีกี้อย่างมีความสุข
“ไม่ต้องคิดแล้ว มีเลยๆ” นาวเชียร์กีกี้อีกแรง โดยที่ไม่รู้ว่าอีกไม่นานตัวเองก็จะได้เป็นพ่อคนแล้ว
คืนนั้นผมโดนนาวเล่นงานหนักทั้งคืน โดยอ้างเหตุผลที่ไม่สามารถเป็นความจริงได้ว่า กลัวว่าทำไม่กี่ครั้งเดี๋ยวลูกไม่ติด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือทำให้รูสวรรค์ผมเจิ่งนองด้วยน้ำกามของนาวมากกว่า เมื่อเสร็จสมดั่งใจหมายของนาว ผมก็บอกนาวว่า
“พรุ่งนี้วันเสาร์ พวกเราไปเที่ยวกับพี่นะ”
“ไปไหนกันดีอ่ะ” นาวนอนถามขณะที่กำลังซบอกแล้วเอามือไปลูบท้องผม (นาวชอบลูบท้องผมตั้งแต่แรกๆที่บอกกับว่าผมอยากมีลูกกับผม แล้วบอกว่าทำแบบนี้กระตุ้นให้ผมมีลูกเร็วขึ้น ตอนแรกผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคิดว่านาวเพ้อเจ้อ ทำไปทำมาจะกลายเป็นจริงเอาซะแล้ว)
“เอาเป็นว่าพี่จะพาเราไปในที่ที่ทำให้เรา ดีใจสุดๆเลยก็แล้วกัน” ผมทิ้งให้เขาสงสัย
“หา หมายความว่าไงพี่อาม” นาวงงไปเลย
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้” ผมยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ไม่บอกแบบนี้ ต้องปล้ำอีกที จะได้มีลูกกับนาวเร็วๆ”
“พอเหอะไม่ไหวแล้วนะ เจ็บก้นแล้วอ่ะ”
“ไม่เอาอ่ะ ขออีกรอบ นะๆๆ” พูดไม่ทันขาดคำผมก็โดนนาวจัดการไปอีกรอบแล้ว
เมื่อถึงวันต่อมา ผมตื่นแต่เช้ามืดเพื่อโทรปรึกษากับคิมเรื่องจะรับเด็กมาเลี้ยงอีกคน ผมแปลกใจมากที่คิมเห็นด้วยอย่างง่ายดาย โดยให้เหตุผลที่ผมคาดไม่ถึงว่า
“ก็รับมาเลี้ยงสิ ดีแล้ว นาวเองเขาจะได้หายเศร้าจากที่พ่อแม่เขาตายด้วย อีกอย่างถ้านาวเป็นพ่อแล้วเขาก็ต้องอยู่กับลูกมากขึ้น อามจะได้อยู่กับคิมมากขึ้นด้วย รีบๆเอามาเลย” พอฟังคิมพูดแล้วผมจะดีใจดีมั้ยเนี่ย
จากนั้นผมก็พากีกี้กับนาวไปเที่ยวกันแต่เช้า โดยเข้าวัดไปไหว้พระก่อน แล้วไปหาอะไรอร่อยๆทานกัน หลังจากนั้นจึงไปที่โรงพยาบาลที่พี่หมอชาญทำงานอยู่
“พี่อามพานาวกับกีกี้มาที่โรงพยาบาลทำไมครับ” นาวทำหน้างงๆ
“อ้าวก็เราอยากมีลูกไม่ใช่เหรอ ก็พามาหาลูกไง”
“หาหมายความว่าไง” นาวยิ่งงงหนัก
“เดี๋ยวก็รู้” ผมยิ้มอย่างมีเลศนัย
ผมพานาวกับกีกี้ไปหาพี่หมอชาญ แล้วพี่หมอชาญก็อุ้มน้องคนใหม่ออกมา เมื่อกีกี้เห็นเข้า ก็ดูจะตื่นเต้นกว่าใครๆ ผมต้องสอนให้กีกี้อุ้มน้องด้วยความระมัดระวัง กีกี้ก็อุ้มไปหอมไปและชมน้องอย่างไม่ขาดปาก
“น้องน่ารักจัง กีกี้ขอเอาตัวน้องกลับบ้านเลยนะครับคุณลุงหมอ”
“อือหือใจร้อนจังเลยลูก ไม่คิดจะถามม่าม้ากับป๊านาวบ้างเหรอครับ” พี่หมอชาญถามหลานด้วยความเอ็นดู
“ไม่ถามแล้ว จะเอากลับเลย นะครับม่าม้านะๆๆ”
“ให้ป๊านาวอุ้มน้องก่อนสิครับ แล้วถ้าป๊านาวตกลง ม่าม๊าก็โอเค” พอกีกี้ได้ยินอย่างนั้นปุ๊บ กีกี้รีบส่งน้องให้ป๊านาวอุ้มโดยทันที
เมื่อนาวรับว่าที่ลูกของเขามาไว้ในอ้อมแขน นาวได้พินิจพิจารณาอย่างละเอียด สักพักนึงนาวก็ร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตัน
“น้องน่ารักมากเลยพี่อาม พี่อามรับเขาไว้เป็นลูกของเราเถอะนะ นาวสัญญาว่าจะรักเขาเหมือนลูกของเราจริงๆ นาวรู้สึกได้เลยว่าเขาเป็นของขวัญจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้กับเราจริงๆนะพี่อาม” เมื่อนาวพูดจบผมต้องเอามือไปปาดน้ำตานาว
“โอ๋ๆไม่ต้องร้องไห้แล้วครับ พี่เชื่อแล้วครับว่าเราอยากมีลูกกับพี่จริงๆ” ในที่สุดนาวได้เป็นคุณพ่อคนใหม่สมใจอยากแล้ว ซึ่งผมต้องพากีกี้ออกไปข้างนอกแป๊บนึงเพื่อให้พี่หมอชาญเล่าประวัติของเด็กให้นาวฟังอย่างละเอียดเหมือนที่เล่าให้ผมฟัง แต่ในวันนั้นก็ยังพาน้องกลับบ้านไม่ได้อยู่ดี เพราะเอกสารหลักฐานอะไรต่างๆยังไม่ได้เตรียมกันเลย ความรู้และอุปกรณ์ในการเลี้ยงเด็กอ่อนก็ยังไม่มี เลยต้องขอเวลาเตรียมตัวกันก่อนประมาณสองสัปดาห์ ช่วงนั้นผมกับนาวก็ต้องมาเรียนรู้เรื่องการเลี้ยงเด็กอ่อนกับนางพยาบาลทุกวัน กีกี้ก็ตามมาด้วยเพราะอยากเจอหน้าน้อง เวลาสองสัปดาห์ผ่านไปเร็วมาก จนในที่สุดเราก็พาน้องกลับบ้านได้ซะที โดยที่ผมต้องจดทะเบียนรับเป็นพ่อบุญธรรม เพราะนาวอายุยังไม่ถึง 25 ปี (ส่วนกีกี้คิมจดทะเบียนรับเป็นพ่อบุญธรรม) ส่วนชื่อลูกผมคนใหม่ ผมสมมุติให้ชื่อว่า “โกโก้” ก็แล้วกัน เกือบลืมบอกว่าลูกคนใหม่ของผมเป็นผู้ชายนะครับ แต่ความจริงดูจากชื่อก็น่าจะรู้แล้วล่ะมั้ง
วันที่เรารับโกโก้มาอยู่ที่คอนโด คิมก็กลับมาพอดี สรุปก็คือ เราสามคนจึงได้มีโอกาสเลี้ยงโกโก้ไปพร้อมๆกัน และกีกี้เองก็ทำตามสัญญาคือก็ช่วยดูแลน้องอย่างดี เวลาเกิดอะไรขึ้นก็ตามกีกี้จะคอยรายงานตลอด ตอนนี้จากที่ชอบกอดผมตลอดกลายเป็นว่าตอนนี้แบ่งไปกอดน้องด้วย เวลานอนกีกี้ก็อาสาขอให้น้องมานอนด้วย เมื่อเกิดขึ้นมีอะไรจะไปตามผมเอง ซึ่งสองหนุ่มชอบมากเพราะจะได้อยู่กับผมตลอดทั้งคืน โชคดีอีกอย่างที่โกโก้เป็นเด็กเลี้ยงง่ายเหมือนกีกี้ เวลานอนตอนกลางคืนก็ไม่ค่อยตื่นมากลางดึกบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ความว่าผมจะได้พักผ่อนเพราะเมื่อมีโอกาสทองมาอยู่ตรงหน้าของสองหนุ่มพวกเขาก็ไม่ปล่อยผมไปง่ายๆ แทนที่จะเป็นเสียงลูกร้องไห้กลางดึก กลายเป็นผมซะเองที่ร้องครวญครางตลอดทั้งคืน ดีที่ว่าห้องนอนค่อนข้างเก็บเสียง เสียงครางของผมจึงไม่เล็ดลอดออกไปให้เด็กๆได้ยิน
ส่วนช่วงกลางวันนั้น ผมก็ต้องเอาโกโก้ไปเลี้ยงด้วย เพราะคิมเองก็ไปทำงานส่วนนาวก็ยังเรียนไม่จบ แล้วด้วยความที่โกโก้เป็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูจึงมีคนมาขอดูเสมอ ผมก็ไม่ได้หวงอะไรก็ให้ดูแต่โดยดี แต่ปฏิเสธที่จะให้อุ้มเพราะกลัวลูกหายแล้วก็กลัวว่าจะติดเชื้อโรคได้ง่าย เพราะยังเป็นเด็กอ่อน อีกอย่างโกโก้ก็ไม่ได้กินนมแม่ด้วย แม้ว่าผมจะให้อาหารเสริมพิเศษแต่ก็สู้นมแม่ไม่ได้อยู่ดี จึงต้องประคบประหงมโกโก้เป็นพิเศษ พอถึงช่วงเย็นๆคิมก็จะมารับผมกลับคอนโด ทั้งๆที่ก่อนหน้าผมจะขับรถเอง เพราะคิมห่วงความปลอดภัยของผมกลัวว่าขับรถไปดูลูกไปจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แล้วสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือ บางวันคิมก็รับนาวกลับมาจากมหาวิทยาลัยด้วยถ้าหากว่างตรงกัน คิมให้เหตุผลว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไหนๆก็อยู่บ้านเดียวกันอยู่แล้ว ผมรู้สึกสองคนนี้ชอบมีอะไรลับลมคมกัน และแล้วมันก็ปรากฏกับเรื่องบนเตียง
เมื่อทั้งสองหนุ่มอยู่กับผมโดยไม่มีเด็กๆมากวนใจ พวกเขาก็ทำการบางอย่างในลักษณะที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน อย่างเช่น การที่จับผมมัดกับเสาเตียงไม่ให้ผมดิ้นหนีได้ จนผมแทบจะรับกับความเสียวที่ทั้งสองหนุ่มต่างก็แข่งกันกระแทกกระทันเข้าไปข้างในตัวผมแทบไม่ไหว ยิ่งผมดิ้นหนีไม่ได้พวกเขายิ่งชอบใหญ่เพราะเวลาที่ผมโดนเข้าไปแรงๆก็ไม่สามารถจะเอามือมาปัดป้องตัวเองได้เลย ถ้าไม่กระแทกเข้ามาในตัวผม สองคนนี้ก็จะชอบอมน้ำแข็งไว้ในปากแล้วเคี้ยวให้ละเอียดจากนั้นก็จะมาอมท่อนลำของผม ผมโดนทีไรก็สะดุ้งเฮือกทุกทีมันเสียวมากจนไม่มีครั้งไหนที่ผมจะไม่น้ำแตกคาปากของสองหนุ่ม แต่ที่ผมทนไม่ได้มากที่สุดคือ การที่สองหนุ่มชอบเอานมข้นหวานมารินรดบนตัวผม จนมีครั้งหนึ่งที่สองคนนี้มันมือไปหน่อย เทนมข้นจนตัวผมเมือกไปหมดเลย แล้วผมก็คันไปหมด มีผื่นแดงขึ้นตามตัวเยอะมาก จนเดือดร้อนต้องไปหาคุณหมอให้ช่วยรักษากว่าจะหายก็ตั้งสัปดาห์กว่า ผมเลยลงโทษด้วยการงดมีอะไรกันกับทั้งสองคนไปหนึ่งเดือนโดยหนีมานอนกับลูกๆแทน สองคนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่อ้อนวอนว่าผิดไปแล้ว พอกลับมามีอะไรกันใหม่สองคนนี้ก็ระมัดระวังไม่ให้ผมต้องเดือดร้อนอีก แต่ก็ไม่เคยหยุดที่จะชอบสรรหาอะไรใหม่ๆเพื่อไม่ให้เกิดความจำเจในเรื่องบนเตียงจนผมแทบจะเป็นคนหมกมุ่นในกามไปซะแล้ว
ทำไปทำมาตอนนี้กลายเป็นว่าผมมีลูกชายสี่คน ทำไมนะเหรอครับ คือปกติแล้วเด็กๆเล็กๆเขาต้องกินนมแม่ใช่มั้ยครับ แต่โกโก้เนี่ยไม่ได้กินนมแม่เพราะว่าผมเองก็ไม่สามารถจะผลิตน้ำนมได้ (ก็ผมไม่ใช่ผู้หญิงนี่ครับ) ประเด็นมันเกิดเมื่อเรานอนอยู่บนเตียงด้วยกันตอนเช้า (ปกติเวลาเช้าถ้าผมยังไม่ได้ถ่ายหนักเราจะไม่มีอะไรกันเพราะกลัวจะไม่สะอาด อีกอย่างต่างคนต่างหมดแรงจากตอนกลางคืนด้วย แต่เช้านี้เป็นต้นไปมันจะต่างไปจากเดิม)
“พี่อามผมกินขอนมหน่อยดิ” ผมก็เข้าใจว่านาวอยากกินนมเลยเดินไปห้องครัวจะไปหยิบนมจากตู้เย็นให้นาวกินแต่ปรากฏว่าถูกนาวดึงมากอดไว้
“อ้าวดึงพี่ไว้ทำไมอยากกินนมไม่ใช่เหรอ” ผมงงกับนาว
“ไม่ใช่นมโคอยากกินนมจากพี่อาม” หานมอะไร ผมให้น้ำนมได้เองตั้งแต่เมื่อไหร่
“นมจากพี่เนี่ยนะ เมาน้ำเปล่ารึเปล่าเนี่ย” ผมเริ่มงงๆกับนาว
“อามไม่เข้าใจจริงๆเหรอ พวกเราอยากกินน้ำนมข้นขาวจากท่อนมหัศจรรย์ของอามอ่ะ” คิมก็เป็นคนเฉลยคำตอบ
“จะหื่นกันไปถึงไหน เมื่อคืนก็แตกกันไปเยอะแล้วนะ จะมากินน้ำเราแต่เช้าเลยนี่นะ น่าเกลียดชะมัด” ผมพยายามปราม
“พี่อามให้นมลูกไม่ได้ พี่อามก็ให้เรานมพวกเราแทนดิ จะได้ไม่เสียของ” นาวพยายามหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองสุดๆ
“นาวมันไม่ใช้น้ำนมนะ มันเป็นน้ำเชื้อ”
“อามครับมันก็ขาวข้นเหมือนกันแหละ เอามาป้อนพวกเราเถอะครับ นะม่าม้าอาม”
“ช่ายๆๆ เอามาป้อนเลย”
“ไม่เอา ไปอาบน้ำแล้ว” ผมพยายามเดินหนีแต่ไม่ทันโดนสองคนนั้นตะครุบตัวไว้แล้ว
“อามให้พวกเราสองคนกินเหอะครับ ไม่งั้นนะโดนจับมัดแน่ๆ แล้วจะไม่ปล่อยไปไหนแน่ๆ”
“ไม่ได้นะ เดี๋ยวไปเปิดร้านไม่ทัน ปล่อยเหอะครับ”
“งั้นพี่อามก็ให้พวกเรากินนมซะดีๆ”
“ถามจริงๆไม่ขยะแขยงบ้างเหรอ มันไม่ได้อร่อยเลยนะ” ผมไม่เข้าใจพฤติกรรมของสองคนนี้จริงๆ
“ก็อามเป็นคนที่พวกเรารัก พวกเราอยากกลืนกินอามทุกอย่างที่มีอยู่ในตัวอามไปหมดเลย เราไม่เคยคิดรังเกียจเลย น้ำอมมฤตของอามน่ะหอมหวานสำหรับพวกเราเสมอ ให้พวกเราได้กินเถอะนะ ถือว่าให้น้ำหล่อเลี้ยงชีวิตพวกเราเหมือนที่ให้นมลูกไง” ผมไม่รู้จะทำไง ยิ่งโดนลูกอ้อนของสองหนุ่มก็เลยอดใจอ่อนไม่ได้ สุดท้ายแล้วก็เลยต้องใช้มือคั้นน้ำนมขาวข้นออกมาสาดใส่ให้สองหนุ่มได้ดื่มกินกันอย่างเปรมปรีดา แล้วมันก็เป็นอย่างนี้เรื่อยมาที่ผมจะต้องทำหน้าที่สาดน้ำนมอุ่นๆให้สองหนุ่มนี้ได้ดื่มกินกันในยามเช้า ที่สุดผมก็มีลูกชายสี่คนจนได้ เฮ่อ
ในระยะเวลาไม่นานหลังจากนั้นนาวก็เรียนจบปริญญาตรี แล้วก็เข้าไปทำงานในบริษัทของที่บ้านคิม ตำแหน่งก็ประมาณว่าเป็นผู้ช่วยเลขาของคิมอีกที จริงๆผมก็ไม่ค่อยอยากให้เขาทำงานบริษัทคิมอ่ะครับ บอกตามตรงว่ากลัวที่บ้านคิมรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเราสามคนแล้วจะเป็นเรื่องขึ้นมา แต่คิมก็บอกว่า
“ก็ดีแล้วไง เราจะได้คอนโทรลนาวด้วย เราไม่อยากให้เขาอยู่กับอามมากกว่าเราหรอกนะ ทำอะไรก็ต้องเท่าเทียมกันดิ”
“งั้นคิมอย่าแกล้งใช้งานนาวหนักนะ เดี๋ยวมีปัญหากันขึ้นมา”
“แหมเป็นห่วงน้องจังเลยนะครับ คุณพี่อาม เคยคิดจะห่วงเราบ้างมั้ยเนี่ย” พูดเสร็จคิมก็ทำเป็นงอน ผมขี้เกียจเถียงก็เลยจับคิมจูบปิดปากซะเลย
“อามรักคิมนะครับ อย่างอนเลยนะ”
“รู้แล้วครับที่รักของผม คิมก็รักอามนะครับ ขอกินอามตอนนี้เลยได้มั้ย”
“ง่ะ ไม่เอาเดี๋ยวกลางคืนก็ต้องทำอีกอยู่ดี เอาไว้ก่อนได้ป่าว”
“อือ ม่าม้าอ่ะ ม่าม้าอย่าใจร้ายกับลูกคิมสิครับ ลูกคิมรับปากแล้วว่าจะไม่แกล้งนาว ม่าม้าต้องให้ลูกคิมกินซะดีๆ” สรุปก็ไม่แคล้วที่เที่ยงวันนั้นต้องเป็นของคิมอยู่ดี
หน้าที่หลักของผมในช่วงที่โกโก้ยังเป็นเด็กอ่อนอยู่ คือ ต้องพาไปหาพี่หมอชาญบ่อยมาก เพราะอยากที่บอกว่าเด็กไม่ได้กินนมแม่แล้วช่วงที่ท้องแม่จริงๆของโกโก้ไม่ค่อยใส่ใจดูแลครรภ์มากนัก ทำให้โกโก้มีปัญหาสุขภาพเยอะในช่วงแรกๆ แต่ในแง่ดีอีกอย่างคือทำให้ครอบครัวของเราผูกพันกันแนบแน่นเพราะต่างคนต่างห่วงใยใส่ใจน้องเล็กของบ้านและพยายามดูแลกันและกันอย่างดี โดยเฉพาะกีกี้ที่ไม่เคยผิดสัญญาเลยว่าจะดูแลน้องเป็นอย่างดี โดยมีเหตุการณ์หนึ่งที่ผมจะยกตัวอย่างถึงการรักษาสัญญาของกีกี้ให้ฟัง
ตอนนั้นผมอยู่เฝ้าอยู่หน้าห้องตรวจไข้ เวลานั้นโกโก้ไม่สบายบ่อยมาก จนผมแทบจะไม่เป็นอันทำอะไรเลย สองหนุ่มเองเห็นผมเป็นแบบนี้ก็เครียดตาม ส่งผลให้ช่วงนั้นเรื่องบนเตียงของพวกเราหายๆตามไปด้วย เป็นอีกครั้งแล้วที่ผมต้องมาเฝ้าโกโก้ผมสงสารลูกมากจนไม่รู้จะทำยังไงดี เลยร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัวอยู่อย่างงั้น สักพักหนึ่งสองหนุ่มแล้วก็กีกี้ก็เดินทางมาเยี่ยมน้องเล็ก ก็เห็นผมนั่งร้องไห้อยู่ กีกี้ตกใจมากรีบวิ่งเข้ามาหาผมก่อนใครเลย
“ม่าม้า ร้องไห้ทำไมน้องอาการไม่ดีมากเลยเหรอ”
“ไม่ใช่ครับลูก น้องอาการดีขึ้นแล้ว แต่ม่าม้าสงสารน้องครับลูก” ผมพยายามหยุดร้องแต่น้ำตามันไม่หยุดไหลเลย จนกีกี้ต้องปาดน้ำตาให้ผม
“พอแล้วครับ ไม่ต้องร้องแล้ว กีกี้สงสารม่าม้า เห็นม่าม้าร้องไห้แล้วใจคอกีกี้ไม่ดีเลย” ส่วนสองหนุ่มต่างก็เข้ามากอดผมคนข้าง แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรแต่นาวเองก็ร้องไห้ตามไปด้วย
“ม่าม้าจำได้มั้ยที่กีกี้บอกว่าจะดูแลน้องอ่ะ”
“จำได้สิครับ”
“ม่าม้าไม่ต้องกลัวนะ กีกี้จะช่วยม่าม้าเอง ม่าม้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก แล้วกีกี้จะเป็นเด็กดีไม่ทำให้ม่าม้าปวดหัวด้วย” ผมฟังแล้วซาบซึ้งมาก
“กีกี้เป็นเด็กดีอยู่แล้วครับลูก แค่กีกี้ไม่ลืมสัญญาที่เคยบอกม่าม้าไว้ ม่าม้าก็ดีใจแล้วครับ เข้ามาให้ม่าม้าหอมแก้มหน่อยนะครับลูก” กีกี้ก็เข้ามาให้ผมหอมแล้วกอดผมด้วย
“ม่าม้าไม่ต้องร้องไห้แล้วครับ กีกี้จะดูแลม่าม้าด้วยนะ ม่าม้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยไงล่ะครับ”
“ครับขอบคุณครับ คนเก่งของม่าม้า” ผมพูดจบก็หอมแก้มลูกอีกฟอดหนึ่ง
“อ่ะ กีกี้ขอหอมแก้มป๊านาวให้กำลังใจด้วย ป๊านาวเลิกร้องได้แล้ว เดี๋ยวม่าม้าของกีกี้ใจเสียพอดี” กีกี้พูดจบก็หอมนาวไปฟอดนึง
“ครับ ไม่ร้องแล้วครับกีกี้” นาวเริ่มยิ้มออก
“กีกี้ขอหอมแก้มป่าป๊าด้วย เดี๋ยวป่าป๊างอนกีกี้” พูดจบกีกี้เข้าไปหอมคิม คิมยิ้มชอบใจ
“ขอบคุณครับ นึกว่ากีกี้จะลืมป่าป๊าซะแล้ว”
“ป่าป๊าทั้งคนกีกี้ไม่ลืมหรอก ใช่มั้ยม่าม้า” ผมได้แต่ยิ้มๆในความน่ารักของกีกี้ ทุกอย่างก็สงบลงและจบด้วยกีกี้นั่งบนตักผมแล้วหลับ ส่วนสองหนุ่มก็ซบไหล่ผมหลับคนละข้าง ผมเองก็หลับไปเช่นกัน ตื่นมาอีกทีพี่หมอชาญก็มาเรียก พร้อมให้ดูอะไรบางอย่าง นั่นก็คือภาพที่พวกเราสี่คนนอนหลับซบกันหน้าห้องสักครู่นี้ พี่หมอชาญบอกว่าน่ารักดีเลยขอถ่ายเก็บไว้ แล้วจะส่งไฟล์รูปให้ผมทางอีเมล์อีกที รูปนี้ผมก็จัดการอัดออกมาเอง โดยการที่ไปซื้อกระดาษฟิล์มมาแล้วปริ้นสีใส่อีกทีนึง ออกมาก็สวยนะครับ คุณภาพดีทีเดียว ภาพนี้เป็นภาพที่มีความหมายต่อครอบครัวของเรามาก เพราะเป็นความผูกพันกันลึกซึ้ง เวลาที่ที่เราสามหนุ่มทะเลาะกัน พอไปมองภาพนี้ทีไรก็ทำให้ได้สติเตือนใจว่าเรารักกันแค่ไหน เรื่องราวทั้งหลายก็จะยุติลงไปปริยาย แต่ผมจะเหนื่อยเพราะตกลงท้ายด้วยการที่สองหนุ่มต้องจับผมปล้ำเกือบจะทุกที เฮ่อ
ตอนนี้ผมก็ไม่รู้นะครับว่า อนาคตจะเป็นอย่างไรรู้แค่ว่า ปัจจุบันนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหน แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ปกติที่สังคมจะเข้าใจได้ง่าย (ก็ลองคิดดูว่าเป็นเรื่องไม่ปกติขนาดไหน เป็นรักเพศเดียวกัน แล้วอยู่กันสามคนอีก แล้วยังไปมีลูกอีกตั้งสองคน) แต่ผมก็พอใจที่จะให้มันเป็นอย่างนี้ เพราะผมเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด อาจจะแตกต่างจากคนทั่วไปเท่านั้น ซึ่งผมก็รู้สึกว่าไม่ใช่ที่บ้านผมเขาจะไม่รู้ว่าผมกับนาวรักกันแบบไหนนะครับ แต่เหมือนกับพวกเขาไม่กล้ายุ่งมากกว่า เพราะเราก็ไม่เคยสร้างปัญหา ญาติพี่น้องคนไหนเดือดร้อนผมกับนาวก็ช่วยตลอด หน้าที่การงานก็ดี ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง เลยไม่มีใครทำอะไรเราได้ ส่วนทางบ้านคิมผมก็ไม่ทราบนะครับ แต่อาจจะเป็นเพราะเราดูแลกีกี้ดี ก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไรก็ได้
สุดท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน เป็นกำลังใจให้กับครอบครับพวกเราด้วยด้วยนะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาตลอดเวลาแปดเดือนกว่า (ลงเรื่องครั้งแรก 28 กันยายน 2552) ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขมากๆนะครับ
“รักเจ้าเอย คำว่ารักคืออะไร
บ้างก็ว่าเจ้าคือสิ่งสวยงาม
บ้างก็ว่าเจ้าคือความเสียสละ
บ้างก็ว่าเจ้าคือความลุ่มหลง
บ้างก็ว่าเจ้าคือเจ้าก่อให้เกิดความเจ็บปวด ทรมาน และคราบน้ำตา
แต่ถึงอย่างนั้นรักเจ้าเอ๋ย
เจ้าก็เป็นที่ปรารถนาของมนุษย์
แม้ว่าเจ้าจะทำให้สมหวังหรือผิดหวัง
แต่ทุกคนก็ยังคงเพรียกหาเจ้า
เพราะเพียงเพราะต้องการรักเพียงคำเดียว
จะเจ็บ จะช้ำ ก็จำทน เพราะรักคำเดียว ไม่ผันแปร”
จบบริบูรณ์

------- มีต่อ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่17 ข้อตกลง และตอนที่18 ......
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 07-06-2010 21:26:32
ทส่งท้าย
ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ผมงานค่อนข้างยุ่งมากจนกระทั่งพักผ่อนไม่เพียงพอ วันนึงขณะที่กำลังขับรถกลับบ้านก็เลยเผลอหลับจนประสบอุบัติเหตุ ลืมตาตื่นมาอีกทีก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว
“ม่าม้าฟื้นแล้วครับป่าป๊า ป๊านาว” เสียงกีกี้ดังขึ้นมาในโสตประสาทของผมที่กำลังมึนงง พร้อมๆกับมีมือของสองหนุ่มเข้ามาสัมผัสกับใบหน้าผม
“คิมใจหายหมดเลย พวกเราดีใจมากที่อามฟื้นรู้ไหม”
“นาวเป็นห่วงพี่อามแทบแย่ พอโกโก้ไม่เห็นพี่อามลูกเราเขาร้องไห้ไม่หยุดเลย นี่ก็พึ่งหลับไปเพราะร้องจนเหนื่อย” นาวพูดเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้
“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ ไม่เป็นไรแล้วล่ะ” ผมตอบยิ้มๆ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ไม่ตาย
“ไม่ต้องขอโทษหรอกอามแค่อามฟื้นขึ้นมาหาพวกเรา เราก็ดีใจจนพูดไม่ออกแล้ว เรากับนาวจะเคลียร์งานแล้วพาอามไปพักฟื้นทีต่างจังหวัดนะ
“อืม งั้นพาเรากลับบ้านที่ใต้ได้มั้ย อยากกลับไปหาแม่ด้วยอ่ะ”
“ได้ๆ เดี๋ยวเราจัดการให้เลยนะที่รัก” แล้วผมก็รู้สึกเพลียอีกรอบจนนอนหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
ผมพักอยู่ในโรงพยาบาลประมาณหนึ่งสัปดาห์กว่า ก่อนจะกลับบ้านที่ใต้ไปพักฟื้น โดยเป็นการลงไปทั้งห้าคน พอไปกันเยอะขนาดนี้ที่บ้านผมมีห้องนอนไม่พอ คิมเลยจัดการจองรีสอร์ทริมทะเลไว้ให้ผมพักฟื้นแล้วไปรับสุดที่รัก (แม่ผม) มาหาผมทุกวันแทน ผมเองก็ไม่ลืมกำชับกีกี้กับโกโก้ว่าให้เรียกสุดที่รักว่าคุณย่านะลูก ไม่ใช่คุณยาย เดี๋ยวสุดที่รักจะช็อคต่อไปอีกรอบ ดูแม่ผมจะชอบกีกี้มาก เพราะลูกผมคนนี้อ้อนคุณย่าซะเหลือเกิน
ทุกๆเช้าคิมกับนาวต้องพาผมเดินสูดอากาศเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกาย แล้วก็จะได้ฟื้นฟูกล้ามเนื้อขาที่ไม่ได้เดินมาเพราะนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลด้วย พอฝึกเดินเสร็จผมก็จะนอนรับลมบนตักของสองหนุ่มสักพักก่อนที่กีกี้จะยกอาหารเช้ามาให้ได้ทานกัน
“ม่าม้าทานเยอะๆนะครับ”
“กินเยอะๆม่าม้า ก็อ้วนแย่สิครับลูก”
“อ้วนก็ดี กีกี้จะได้กอดแน่นๆ น้องจะได้กอดแน่นๆด้วย ใช่เปล่าโกโก้” โกโก้พยักหน้าแล้วก็หัวเราะอารมณ์ดี
ผมพยายามกินอาหารด้วยตัวเอง แต่พยายามอยู่นานก็พลาดตลอด เพราะเหมือนกล้ามเนื้อยังไม่ค่อยมีแรงอยู่ คิมกับนาวเลยต้องให้กีกี้พาน้องไปวิ่งเล่นก่อน แล้วมาช่วยกันป้อนผมแทน ผมต้องพยายามบอกว่า อย่าป้อนตลอดเดี๋ยวผมจะเป็นง่อยไปซะก่อน
“ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราจะดูแลอามไปตลอดชีวิตเลย”
“เราก็แค่อยากอยู่เป็นปกติ เราสามคนจะได้มีความสุขด้วยกันไปนานๆไง” พูดจบเราก็กอดกัน ผมว่าการที่ตัวเองป่วยแบบนี้กลับเป็นผลดีมากกว่าที่ทำให้เราสามคนแนบแน่นกันอย่างยิ่ง
เมื่อถึงยามค่ำคืนผมเองมีความรู้สึกว่าสงสารสองหนุ่มมาก ผมรู้ว่าพวกเขามีความต้องการ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรผม เพราะกลัวว่าเดี๋ยวผมจะล้มป่วยไปอีก ผมเลยต้องคว้าทั้งสองหนุ่มมาจูบแล้วบอกว่า
“ทำเหอะ เราเองก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน”
“แล้วอามจะไหวเหรอ” คิมยังกล้าๆกลัว
“ก็กระแทกให้มันเบาๆกันหน่อยสิ หรือจะนั่งเทียนเราหรือไง”
“อืม นาวก็คิดว่างั้นแหละ”
“หา แต่คิมกับนาวไม่ได้รับมานานมากแล้วนะ เดี๋ยวมันจะลำบากนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ให้อามมีความสุขก่อน พวกเราสองคนยอมได้” ผมได้ยินแบบนี้ก็อึ้งเลยไม่อยากพูดอะไรต่อ
จากนั้นสองหนุ่มก็ค่อยๆใช้ปากสัมผัสร่างกายผมอย่างแผ่วเบาไปทั่วทุกอณู จนผมอดที่จะส่งเสียงครางไม่ได้
“อ๊าส์ สุดยอดเลย คิมเอาหนวดแข็งๆ ไซร้เราหน่อยดิ นั่นแหละ ดีมากเลย นาวใช้ลิ้นวนหัวนมพี่หน่อย นั่นยังงั้นแหละ” ตอนนี้ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำแล้ว ก่อนที่สองหนุ่มจะลงมาผลัดกันดูดเลียท่อนลำผมอย่างเมามัน
“อย่าให้แตกก่อนนะ เดี๋ยวนั่งเทียนไม่ได้”
“ไม่ต้องห่วงพี่อาม” นาวยกนิ้วโอเค จากนั้นคิมก็ขึ้นนั่งเทียนผมโดยนาวเข้าไปคล้องแขนคิมเพื่อประคองให้นั่งเทียนผมได้ง่ายขึ้นและเป็นจังหวะมากขึ้น พอได้ที่คิมก็โยกๆอย่างเมามัน
“โอ๊ยก้นคิมฟิตขั้นเทพ เราจะตายแล้วคิม”
“อย่าพึ่งดิ อามต้องแข็งนานๆหน่อยเดี๋ยวไม่สนุก”
“พี่คิมเอางี้ดีกว่าเราผลัดกันกินคนละสิบนาที พี่อามจะได้แข็งนานๆไง คนไม่ได้เสียบก็ไปเล่นกับปากพี่อามแทนดีป่ะ”
“โหยสุดยอดเลยนาว เอาเลยแต่พี่ขอก่อนนะ” คิมก็โยกใหญ่ ผมก็นอนดูดของนาวตามไป ผลัดกันไปมาผลัดกันมา กลายเป็นว่าในคืนแรกที่ผมมานอนที่รีสอร์ท สองหนุ่มก็แตกคาปากผมไปคนละสองยก จนผมต้องจัดการน้ำอมถฤตของสองหนุ่มจนเกลี้ยง ก่อนที่จะน้ำแตกออกมาเองจากการนั่งเทียนเองอีกคนละครั้ง คราวนี้กลายเป็นว่าผมแตกช้าสุด แต่เมื่อมันแตกออกมาเพราะความที่ไม่แตกมานานมันพวยพุ่งออกมายังกับลาวาภูเขาไฟจนสองหนุ่มแทบจะแย่งกันกินไม่ทัน เสร็จกิจผมได้แต่ร้องครวญครางเหมือนว่าตัวเองจะตายอีกรอบก็ไม่ปาน ก่อนจะหลับในอ้อมกอดของที่รักของผมทั้งสองคน ตื่นมาทุกเช้าสองคนนี้ก็ใส่เสื้อผ้าให้ผมเรียบร้อยกันเด็กๆเห็นพวกเรา อาบน้ำแล้วก็พาผมไปเดินเล่น ป้อนข้าว นอนเล่นริมหาด ตกดึกผมก็ถูกสองหนุ่มปรนเปรอรักอย่างเร้าร้อน เป็นเวลาที่มีความสุขจริงๆ



“ช่วงปลายๆก่อนที่ผมจะกลับกรุงเทพ ขณะที่ผมกำลังนอนเล่นอยู่ที่ชายหาด อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงเหมือนเป็นซินแสอยู่ๆก็เดินเข้ามาทักผม ก่อนที่จะเดินหายไปอย่างรวดเร็ว
“หายป่วยแล้วจะได้ลาภเป็นสัตว์สองเท้า” หาสัตว์สองเท้าหมายความว่าไง บังเอิญว่ากีกี้มาได้ยินพอดี ด้วยความเป็นเด็กหัวไว กีกี้ทำตามเบิกโพล่งแล้ววิ่งดีใจไปหาโกโก้
“โก้จะมีน้องแล้วนะ ดีใจเปล่า”
“พี่กี้พูดจริงนะ ว้าว เยี่ยมเลย” พูดจบก็กอดกันกลม กระโดดโลดเต้นกันยกใหญ่
ผมอึ้งไปอยู่พักหนึ่ง กำลังงงสุดขีด สองหนุ่มก็มองหน้ากันเลิกหลั่ก
“ไชโยพวกเราจะมีลูกอีกคนแล้ว” คิมกับนาวร้องออกมาพร้อมกัน
ผมจะมีลูกอีกแล้วเหรอ เฮ้ยโครตช็อค แต่ไม่ทันรู้ตัวก็โดนสองหนุ่มลากเข้าห้องไปทำลูกเรียบร้อยแล้ว รุกได้แป๊บเดียวกลับมารับอีกแล้วกรู งวดนี้ขอให้ได้ลูกสาวที่เถอะวะ บ้านนี้มีผู้ชายเยอะไปแล้ว คิมใจร้อนจะไปซื้อบ้านหลังใหม่ซะแล้ว บอกว่าคอนโดไม่พอแล้ว โอ้ยวุ่นวายจริงๆชีวิต จบดีกว่า แล้วเจอกันเมื่อผู้อ่านต้องการ
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับการติดตาม
ลาก่อนแล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้านะครับ บ๊าย


*************************************จบแล้วครับ

ขอบคุณทุกคนนะครับ เรื่องต่อไป เป็นนิยายของผม

รักใสๆ จากใจหุ่นกระป๋อง
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16203.0

 :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 07-06-2010 21:48:21
จบลงแล้วอ่ะ เสียดายนะเนี่ย...หุหุ แต่จบได้ดีมากค่ะ
ถึงจะอยู่กันแบบสามหนุ่ม กันสองเด็ก แต่ครอบครัวนี้ก็มีความสุขมากๆๆ มากกว่าบางครอบครัวที่มักันสองคนซะอีก..
ประทับใจที่คิมกับนาว ก็ยังสมานสามัคคีกัน ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียงนะ แต่ว่าการอยู่ร่วมกันในชีวิตปกติ ทั้งยังดูแลอาร์มได้ดีมากๆๆๆฃ

อาร์มโชคดี มีคนที่อาร์มรักและรักอาร์มมากกกกอยู่รอบตัวเลย ...

กีกี้-โกโก้ น่ารักที่สุด....
แต่อยากรู้นะว่าตกลงน้องของโกโก้เป็นผู้หญิงจริงป่ะ ..คึคึ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆเรื่องนี้ที่เอามาแบ่งปันกันค่ะ  :L2:
ปล.แวะมาบ้างเป็นครั้งคราวหรือมาบ่อยๆๆก็ดีนะคะ :)))))  
ปลล.คิมกับนาว...เป็นตัวหื่นขั้นเทพ ลีลาท่าททางไม่ต้องพูดถึง
ปลลล.อาร์ม อย่างอดทนอ่ะ....สองหื่นนี่แทบจะไม่ให้ได้พักเลย คึคึ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 07-06-2010 23:02:37
 :sad4:  ใจหายค่ะ  คิดถึงมากมาย ขอให้มีความสุขค่ะ  และเป็นกำลังใจใหเสมอไปค่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ๛゙★βra_11!☆゙ ที่ 07-06-2010 23:29:36
สามหนุ่มน่ารักมากก :'D
สู้ๆค่า

ขอบคุณจ้าที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านกัน
ชอบ อิอิ
 :L2:  :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: O_o ที่ 07-06-2010 23:42:16
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ

ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม
รักกันมาก ๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Yunatsu ที่ 08-06-2010 00:33:35
จบแล้วววว

เสียจายยยที่เข้ามาอ่านช้าาาา
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:


ขอบคุนสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 08-06-2010 04:31:50
 :L2: :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 08-06-2010 20:26:00
 :กอด1:


ขอให้รักกันนานๆ นะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-06-2010 21:39:01
จบแว้ววววว...แต่มีความสุขกันทุกคนเลยย :-[
ขอบคุณนะคะ ที่มาลงให้อ่าน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 09-06-2010 03:58:50
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เพิ่งจาเข้ามาอ่าน รวดเดียวจบ
 :impress2:สนุกมากมาย  :haun4:หื่นได้ตลอดเวลา

+1 เปงกำลังใจให้คนโพสน๊า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ตอนที่11 โทษทัณฑ์ ครึ่งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: kuro ที่ 11-06-2010 19:01:59
ลุกสามคน
เลยหรือเนี่ย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 11-06-2010 23:11:08
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่มาแบ่งปันกันนะครับ เรื่องของคุณอาร์มเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากจริงๆเลยแค่มีคู่ชีวิตเป็นเกย์ก็ยากแล้วยังเป็นแบบสามคนอีกแถมยังมีลูกเล็กๆ มาอีกตั้งสองคนนับว่าไม่ธรรมดา ถ้ามีโอกาสก็มาทักทายกันอีกนะครับ  ขอบคุณทั้งเจ้าของเรื่องและคนโพสต์นะครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: kangkaw ที่ 12-06-2010 02:54:22
จบแหละ จะมีตอนพิเศษไหมเนี้ย
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 12-06-2010 11:37:33
ดีใจที่เรื่องนี้จบเเบบมีความสุขค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 29-06-2010 20:33:40
สนุกมากเลย น่ารักจังเลยครอบครัวนี้ กีกี้ โกโก้น่ารักมากอ่ะ ดูไม่มีปมเลย^^

อยากอ่านตอนพิเศษจัง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Flowersteel ที่ 29-06-2010 21:17:31
เคยอ่านแล้วครับ สนุกมากมายๆ

ขอบคุณครับๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 30-06-2010 18:32:13
เห็นชื่อ เรื่องแล้วนึกถึง สามเขย่า เลยซะง้าน ฮา(นอกประเด็นไปไกลถึงแม่ยกสภาเซย์ยู)
ขออ่านก่อนละกันนะค่ะ เดี๋ยวป้ามาเม้น ฮา
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 01-07-2010 00:22:52
พึ่งเข้ามาอ่านครับ

น่ารักมากมายเรยหล่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 02-07-2010 18:20:42
เคยอ่านแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นมันยังไม่สมบูรณ์

ได้อ่านจนจบรู้สึกตัวเองเสียเลือดไปหลายรอบ :m25: :m25:

สงสัยต้องพักอ่านแนว 18+ ไม่งั้นมีหวังซีด   :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: archi_10_001 ที่ 04-07-2010 22:24:06
ว้าววววววววววววววววว อยากรู้เลยว่าลูกคนที่สามจะเป็นไง ๕๕๕

สนุกมากเจ้าค่ะ

ขอบคุณมากที่เอามาแบ่งปัน อิอิ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: genieposh ที่ 04-07-2010 23:40:42
 เหนื่อยแทนอาร์มจริงๆเลย เป็นซุปเปอร์แมนหรือเปล่าเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 06-07-2010 18:52:02
อ่านจบแล้ววววววววววววว

เฮือก ใช้เวลาไปนานอยู่

เรื่องนี้ว่าแล้ว ในที่สุดมันก็ต้อง สามพี ละนะ

ฮา ก็แอบกังวลเล็กๆตอนที่อยู่ด้วยกันใหม่ๆ สามคน มันจะแข่งกันขนาดนั้น ก็กลายเป็นว่าสงสารอามไปเลย

แต่สุดท้ายก็อยู่ด้วยกันด้วยความสุขน้อ

เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ต่อไปเน้อ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Chubby ที่ 13-07-2010 18:59:01
อยากรู้จัง...ตกลงได้ลูกสาวหรือลูกชายคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 15-07-2010 23:36:17
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นจัง ถึงจะไม่เหมือนครอบครัวปกติทั่วไปแต่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนแถมยังสอนให้กีกี้-โกโก้เป็นเด็กดี ไม่มีปมด้อยถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่ก็รักและเข้าใจกันดีกว่าครอบครัวปกติบางครอบครัวซะอีก
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆและขอให้มีความสุขรักกันตลอดไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: beautyless ที่ 16-07-2010 06:25:19
น่ารักจังเลยนะครับ นี่เป็นชีวิตที่ีมีปัญหากว่าปกติแต่ก็มีความสุขมากอยู่
เพราะแต่ละคนต้องมีความอดทนสูงกว่าปกติ แต่ทุกคนก็ผ่านมาได้ระดับหนึ่ง
และด้วยความที่ทุกอย่างมันมีความพร้อมสูงทั้งเรื่องการยอมรับจากครอบครัวสามฝ่าย
การมีเด็กที่ต้องคอยดูแลด้วยกัน การที่เข้ากับเด็กได้เป็นอย่างดี
การที่แต่ละฝ่ายเข้าใจเรื่องการแบ่งสรรเวลา และอื่นๆ อีก

คุณเป็นคู่ที่โชคดีมาก ขอให้อยู่ด้วยกันและรักกันตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 07-08-2010 14:19:27
ชอบบบบบบ
เป็นครอบครัวที่ดูมีความสุขจัง
แอบสงสารพี่อาม 55+
อยากรู้ว่าน้องของกีกี้กับโกโก้จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่
รอเผื่อมีตอนพิเศษ  อิอิ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie] ลงเบิ้ล ตอนที่19 บทส่งท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 09-08-2010 19:38:20
 :haun4: :haun4: :haun4:

ชอบเรื่องนี้สุดๆๆ

หื่นมากกกกกกกกก
555.
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 21-10-2010 10:22:37
อ่านจบต้องรีบไปโรงบาลด่วน
 :jul1: เลือดหมดตัวแว้ววว
3P เรื่องนี้  :haun4: :haun4: ได้ใจมากมาย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 21-10-2010 15:13:23
อ่านเรื่องนี้แล้วฟ้าเหลืองเลย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: pidoma ที่ 21-10-2010 17:44:53
 o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: JkrR ที่ 21-10-2010 20:42:38
แอบดีใจ มีคนไปขุดมาอ่าน ดีใจแทนพี่อาร์มด้วย แต่แอบเสียดายแทนเหมือนกันครับ พี่อาร์มไม่มาเล่าต่อเลยว่า ลูกคนที่สามเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 21-10-2010 22:37:47
เหนื่อยครับ
อ่านจบแล้วบอกได้คำเดียวว่าเหนื่อยเหลือเกิน
เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 22-10-2010 00:06:52
สนุกมากกกกกก ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 12-11-2010 10:40:12
คิดถึงพี่ๆและน้องๆ(ลูกของพี่)จางงงงงงงงงง :กอด1:

อยากให้มาเพิ่มตอนพิเศษอีกจังค่ะ :m13: น้องคนสุดท้องเป็นยังไงบ้างคะ? มาเล่าให้กันบ้างสิคะ ^^
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 18-12-2010 14:06:59
อ่านแล้ว....จบแล้ว..... > > >  :jul1:  < < < สภาพตอนนี้

โอย......เลือดจะหมดตัว น่ารักมากๆเลยค่ะ อ่านไปเขินไป :-[

ขอให้มีความสุขนะอาม.....ไม่จำเป็นต้องเหมือนใครเราก็มีความสุขได้

เห็นเยอะแยะไปอยู2คนตีกันบ้านจะแตกอยู่3แล้วสามัคคีกันดูแลแบบนี้สิดี ว่าแต่...น้องอีกคนจะเป็นผู้หญิงมั้ยน้อ??  :m3:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 20-12-2010 21:21:48
อ่านจบก็เกิดอาการ  :m25: :m25: :m25:
ช่างเป็นครอบครัวสุขสันต์จริงๆ
ว่าแต่มีลูกชาย 2 คน กีกี้ + โกโก้ คนที่ 3 ที่ขอเป็นลูกสาว อย่าให้ชื่อ "(เลดี้)กาก้า" นะ กลัวแทนเลย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 25-12-2010 00:42:18
 :pighaun: กระฉูดดดดดดดดดดด ครับพี่น้องงงงงงงง


สนุกดีเราชอบ เรื่องจริงเหรอ อยากรุจักจิงครอบครัวสุขสันต์


น่าอิจฉา เฮ้อ เมื่อกี้แฟนบ่นหูฉีกกกกก เลยยยย   เห้ออออออออออ :z3:


สุดท้ายอย่าลืมมาบอกนะว่าลูกสาว หรือชาย แต่ถ้าสาวมีหวังคงถูกบรรดาป๊าๆ กะพี่ๆ หวงด่าดู
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: watermoonj ที่ 09-01-2011 19:53:41
เรื่องนี้มันช่างชุลมุนสมชื่อกับเรทที่ตั้งไว้จริงๆ เลยค่ะ
อ่านจบก็อดใจที่จะเม้นไม่ไหวเพราะชอบเรื่องนี้จัง อารมณ์ตอนอ่านแบบว่า อึ้ง ทึ่ง ลุ้น และจบลงด้วยความแฮปปี้มากๆ
ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ คนกลางอย่างคุณอามนี่ทั้งน่าอิจฉาทั้งน่าเห็นใจ เกิดมาชาตินึงมีคนให้ความรักมากมายแบบนี้ถึงสองคน
ช่วงแรกคงทั้งสุขทั้งทุกข์ แต่ช่วงหลังของชีวิตก็ขอให้มีแต่ความสุขนะคะ ได้อ่านเรื่องนี้แล้วครบรสจริงๆ ดีใจเอามากๆ ที่ได้ผ่านมาอ่านเรื่องนี้
ขอขอบคุณ JkrR ที่เอามาโพสต์ต่อให้ได้อ่าน
และขอขอบคุณ Roxie มากนะคะที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา  :man1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: sa~waii ที่ 10-01-2011 00:57:26
อ่านจบแล้วววววววววววววววววววววววววววว

 :jul1: เลือดกระจุยกระจาย

แต่ดูมีความสุขดีจัง รักมันไม่มีกฎเกณฑ์หรอกเนอะ o13

แล้วลูกคนที่สามอ่าาาาาาาาาาาาาาาา

เค้ารออยู่น้า
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 14-01-2011 10:32:58
อ่านแล้วสนุกมากค่ะ รู้สึกว่าเป็นครอบครัวที่มีความสุขมากกกกกก รู้สึกดีใจด้วยมากๆเลยที่คนเขียนสร้างครอบครัวที่สุขสันต์ได้ขนาดนี้

แม้จะดูเหนื่อย และอาจจะมีปัญหามาบ้าง แต่ก็ขอให้ฝ่าฟันให้ได้นะคะ

ขอชื่นชมให้เป็นครอบครัวตัวอย่างเล้ยยยยย o13

ปล.อยากรู้จักว่าตอนนี้ได้ลูกคนที่ 3 มารึยัง ขอให้ได้ลูกสาวนะคะ จะได้เป็นดอกไม้ประจำบ้าน ถ้าได้ลูกสาวมาจริงดูท่าจะโดนพี่ๆ กับป๊าๆหวงน่าดูแน่ๆ :man1:

ปล2. อยากให้มีมาลงเพิ่มอีกจังอร๊ายยยยย :-[
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: loveryuichi ที่ 17-01-2011 15:05:33
เข้ามาอ่านค่ะ

สนุกมากๆเลย

เป็นเรื่องราวชีวิตที่ให้ลุ้นมากว่าตกลงจะเอาไง

ยังไงก็สนุกแหล่ะ

ขอบคุณที่ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องราวแบบนี้มาให้อ่านกันนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: InuyashaM ที่ 17-02-2011 19:49:16
อื้มมม ม ม มหืมมมมม ม ม ม
 :m25:  :m25:  :m25:
คารวะอามเลย :call:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 23-02-2011 21:38:11
อ่านแล้วอิจฉาเลยอ่ะ...ถึงช่วงแรก ๆ จะไม่ค่อยราบรื่นแต่สุดท้ายก็ลงตัวได้เพราะความรัก...ซึ้ง :กอด1:
น้อง ๆ น่ารักมากเลยค่ะ...ว่าแต่ถ้าได้ลูกสาวเมื่อไหร่อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: nonae ที่ 06-03-2011 02:37:29
ก่อนอ่านเรื่องนี้ หนิงบอกว่าจะอ่านหรือ เรื่องนี้หื่น ๆ นะ แต่อยากรู้ว่าจะหื่นขนาดไหน
แค่ตอนแรกก็  :jul1: โอ๊ย เลือดออกแล้ว สุดท้ายเลือดกระฉูดตลอดทั้งเรื่องเลย 555
หาผ้าซับน้ำหมาก เอ๊ย..ซับเลือดแทบไม่ทัน
จะว่า ไปทำให้เห็นแง่มุมของชีวิต จากที่ไม่ลงตัวลงรอยกันเท่าไหร่
สุดท้ายเพราะความรักที่มีให้กันด้วยความจริงใจ ทำให้เข้าใจกันไปโดยปริยาย
อีกอย่างคงเพราะฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มากันมานาน 
ยิ่งมีเด็ก ๆ เข้ามาเป็นส่วนเติมเต็มให้ความสมบูรณ์ของคำว่าครอบครัวมากขึ้นอีก
กลายเป็นครอบครัวที่มีความสุขสนุกสนานเลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอบอกว่า อาม...นายแน่มาก  o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 11-03-2011 22:35:13
ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร คงจะจริง
เป็นแง่มุมที่ต้องอาศัยอะไรหลายอย่าง
ขอให้มีความสุขนะ 
 :L1:
แต่อิจฉาเล็กๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Water ที่ 23-03-2011 00:35:11
ครบทุกรสจริงๆครับเรื่องนี้ อ่านแล้วเลือดกำเดาพุ่งกระฉูดเลย อิอิ :pighaun:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: pingwowo ที่ 27-03-2011 00:20:09
หนุกมากๆๆๆๆ

คิดดว่าจะไม่ happy ending  สะแล้วว

พึ่งเคยอ่าน 3P แบบนี้แร๊ะ  o13

ปกติมีแต่แบบพี่น้อง  :o8:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 27-03-2011 03:37:37
สุดยอดมากเลยครับ

อ่านจบแล้วเพลียเลย  :haun4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: kazama ที่ 27-03-2011 19:36:45
น่ารักมากมาย

ถึงสองหนุ่มจะยังแกางแย่งกันนิดๆหน่อยๆก็เหอะ

ขอให้มีความสุขกันมากๆนะ ทั้งสามคนเลย+ลูกน้อยอีกสอง(หรือสาม??)

ลงเอยแบบนี้ล่ะดีสุดแล้ว  ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บ

ขอบคุณมากๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: uoupoptot ที่ 27-03-2011 20:44:32
Happy สุดเลยน่ะค่ะ  :impress2:


ดีกว่าความรักของชาย หญิงปกติซะอีก


สนุกมากเลยคร้านั่งอ่านไปลุ้นไป ว่าจะจบยังไง   :serius2:


จบแบบนี้ดีสุดเลยค่ะ  o13





ปล. รอดูน้องคนต่ออยู่นะค่ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: angelTT ที่ 30-03-2011 11:16:06
ทั้งสนุกสนาน ทั้งหื่น ทั้งเรท ยินดีด้วยนะคะที่ Happy Ending  :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Bench ที่ 02-04-2011 06:29:21
พี่เนะ  หนิง

ทำกันได้่!!!!

 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 02-04-2011 08:12:48
ชอบๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: KuMaY ที่ 04-04-2011 00:34:05
เพิ่งจะอ่านจบ

สนุกมากๆเลย

หื่นดีด้วย

และสุดท้ายก้อจบแบบแฮปปี้

ชอบกีกี้มากอ่ะ เด็กอาไร น่ารักชะมัดเลย

ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสนะครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: jincool ที่ 25-05-2011 12:09:27
ชอบกีกี้อ่ะ
เด็กอะไรไม่รู้น่าร้ากกกกกกกกกกกน่ารัก

ถ้ามีลูกจริงๆ ก็อยากได้เด็กแบบนี้อ่ะ

แต่อ่านนิยานเรื่องนี้แล้วต้องไปขอเลือดบริจาคที่เดียวหลายถุง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: nove ที่ 25-07-2011 19:46:19
น่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 27-07-2011 00:23:25
อันนี้เป็นเรื่องแต่งใช่มั้ยคะเนี่ย?? สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Cc-kun ที่ 28-07-2011 01:12:14
อ่าววว

จบแล้วอ่า

ตกลงมีน้องอีกคนจริงป่ะเนี่ยอ้ายยยยอยากรุ้

ขอบคุณมากๆทั้งคนโพสคนแต่งเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 04-08-2011 22:40:45
ปรกติไม่ใช่คนชอบอ่านหลายพี
แต่เรื่องนี้
ยกนิ้วอ่ะ o13 o13 สู้ดดดดดดยอดดดดดดด
 :m25: สนุกมากกก แบบว่าน่ารักมากกกก
อยากอ่านตอนพิเศษอีกตอนมากเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: earnearn ที่ 13-08-2011 19:26:32
ครั้งแรกที่เปิดเจอเรื่องนี้ เป็นตอนที่กำลังเซ็งๆๆอยู่พอดี พอเจอเรื่องนี้ปุ๊ป อ่านตอนแรกจบนึกว่าต้องไปโรงพยาบาลและซะอีก
 :jul1: เลือดหมดตัวเลยทีเดียว ยอมรับเลยว่ามันเป็นรักที่วุ่นวายได้สมกับชื่อเรื่องมากจริงๆๆ
และยังเป็นอะไรที่เรียกเลือดมาก อ่านแล้วรู้สึกลุ้นทุกตอนจริงๆๆ ว่าชีวิตรักอย่างนี้จะจบเช่นไร
และเมื่อมาถึงบทสรุป รู้สึกดีใจมากๆๆ เพราะต่างฝ่ายต่างมีความสุข แรกๆๆก็คิดว่าน่าจะลงเอยกันแบบนี้
แล้วทำไมแต่ละคนไม่เข้าใจอะไรให้ง่ายๆๆว่ะ แต่สุดท้ายเราก็เข้าใจ ว่า กว่าคนเราจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้นั้นต้องใช้เวลา
และต้อมมีสติมากพอ เราถือว่าพี่อาร์มสุดยอดมาก ที่สามารถผ่านเรื่องราวต่างๆๆมาได้ด้วยดี และมีความอดทนสูงอยู่พอควร
โดยส่วนตัว คิดว่าพี่บรรยายได้ตรงถึงใจมาก ฮาๆๆๆ ไม่เคยเจอนิยายที่แบบตรงอะไรเช่นนี้มาก่อน
ถึงยังไงก็ขอขอบคุณที่พี่อาร์มนำประสบการณ์ชีวิตมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ

และขอขอบคุณคนโพสด้วยที่ช่วยนำมาแบ่งปันในเล้าเป็ดแห่งนี้ ทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวความเป็นมาของพี่อาร์ม
ที่กว่าจะลงตัวได้ลุ้นอยู่นานมาก ฮาๆๆๆๆ  :กอด1: :กอด1: แต่ว่าเสียดายจริงๆๆ ที่สุดท้ายพี่อาร์มไม่มาบอกว่าลูกคนที่สาม
เป็น หญิง หรือ ชาย อิอิ คนโพส ถ้าได้ข่าวมา อย่าลืมมาบอกกันบ้างนะค่ะ ขอบคุณจริงๆๆค่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Huasia ที่ 15-08-2011 19:35:24
หนุกๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 16-08-2011 12:49:40
 :-[
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 26-08-2011 12:36:58
ไม่เคยอ่าน 3p แล้วรู้สึกดีอย่างนี้มาก่อนเลย เป็นครอบครัวที่น่ารักมากๆ  รู้สึกว่าอาร์มโชคดีมากที่มีคนรักที่ดีทั้งสองคน
ีมีลูกที่น่ารัก

อยากบอกว่า อ่านแล้วรู้สึกสนุก แล้วก้อชุ่มชื่นใจมาก

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆๆ่คะ o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 27-08-2011 12:58:41
เรื่องของพี่อาร์มน่ารักมากๆเลย อยากรู้จังว่าน้องเล็กจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย

แล้วตอนนี้ทั้ง 6 คนเป็นยังไงกันบ้างน้อ ถ้าใครรู้ช่วยมาอัพเดทให้ด้วยนะคะ

ขอให้ทั้ง 3 คน + 3 เด็ก มีความสุขกันแบบนี้ไปตลอดนะคะ

กว่าที่อะไรๆจะลงตัวก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคกันมามากมาย

อยากให้รักษาความรักนี้เอาไว้ให้นานๆ

ขอบคุณพี่อาร์มที่มาเล่าให้พวกเราฟัง

ขอบคุณคนโพสที่ช่วยเอาเรื่องนี้มาแบ่งปัน

ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ

บางครั้งความรักก็ออกแบบไม่ได้ แต่เราก็สามารถมีความสุขกับความรักได้

ถ้าเราเข้าใจกัน ผูกพันธ์ เสียสละ และรู้จักแบ่งปัน

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 27-08-2011 23:18:19
พี่อามโชคดีจังเลยค่ะ มีคนที่รักเรามากขนาดนี้ตั้งสองคน
แถมยังมีหนูน้อยอีกสองคนแน่ะ หรือสามหว่า :L2:
หนูยังหาไม่ได้สักคนเลยอ่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 29-08-2011 17:29:33
สนุกมากค่ะ  o13

อ่านตอนแรกรู้สึกว่าเครียดตามอาร์มไปด้วยเลยนะค่ะ

อยากรู้ว่าอาร์มจะเลือกใคร แล้วใครจะได้อาร์มไปครอบครอง

แต่สุดท้ายแล้วก็จบแบบแฮปปี้คือได้อยู่ด้วยกันทั้ง3คนเลย

แถมยังมีลูกน้อยอีก2คนมาเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์

เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ และมีความสุขมากเลยนะค่ะเนี่ย

แอบอิจฉาอาร์มนิดๆด้วยล่ะ ที่มีคนมารักตั้ง2คน แถมยังมีครอบครัวที่มีความสุขอย่างนี้

เอ่อ...แล้วสรุปว่า ได้ลูกคนที่3สมใจมั้ยละค่ะเนี่ย อยากรู้ๆค่ะ

แหม...ก็พอซินแสบอกปุ๊บทั้ง2หนุ่มก็ลากอาร์มไปปั่มปั้มลูกทันทีเลยนี่ค่ะ หุ หุ หุ  :z1:

ท้ายนี้ก็ขอขอบคุณคนเขียนที่นำเรื่องราวมาแบ่งปันให้กันได้อ่าน

แล้วก็ขอบคุณคนโพสที่กรุณาเอามาลงไว้ให้ในเล้าด้วยนะค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: MooZee ^6^ ที่ 29-08-2011 17:54:29
 o18  :3123:  :o8:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 06-11-2011 21:43:32
(ปรบมือ)

happy ending จนได้ ~!
ขอบคุณสำหรับเรื่องที่มาแบ่งปันกันค่า ~~
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 07-11-2011 00:51:30
 :-[ :กอด1: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: chill_chill ที่ 07-11-2011 02:55:23
อ่านแล้วอิจฉาความรักของครอบครัวนี้จังเลยค่ะ อบอุ่นดีจัง
แต่อ่านไปก็ต้องคอยเติมเลือดไป  :pighaun:

ขอบคุณนักเขียนที่นำเรื่องนี้มาให้อ่านนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: J_Dargon ที่ 13-11-2011 13:44:50
สนุกมาก ๆ เลยค่ะกรี๊ ดด ด ด
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-11-2011 14:57:27
อ่านจบแล้ว
เป็นครอบครัว
ที่สุขสรรค์กันจัง
อิจฉาอาร์มมีคน
รักมากถึง2คน :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 14-11-2011 10:21:11
3 P สนุกสุดยอด แต่ก็ทำเอา  :pighaun:  :jul1: ไปเลยดีเดียว
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: senaria ที่ 14-11-2011 11:46:38
ชอบอะ โคดน่ารักเลย ทั้งคิมกะนาวนี่แบบว่าเปนสามีในฝันมากมายอะ

ว่าแต่ลาภเปนสัตว์ 2 เท้านี่ จะมีลูกอีกคนเรอะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: ภัทร ที่ 15-11-2011 15:55:38
 :o8:   
หนุกหนานมากเลยครับเรื่องนี้  คิมก็น่ารัก  อามก็สุดยอด  นาวก็โดนใจ ยิ่งกีกี้นะ เอาไปเลยหัวใจทั้งดวงเลย
[/color] :m3: :give2: :จ้อบจัง1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 18-11-2011 13:39:26
อ่านเรื่องนี้เเล้วมีความสุขมาก

ดูรักกันมากเลย อิจฉา

รักกันไปนานๆนะค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 27-11-2011 00:03:50
สนุกอ่ะ
อยากอ่านตอนพิเศษจัง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 01-12-2011 02:18:41
ขอให้รักกันตลอดไปนะคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: babydolldreamer ที่ 03-12-2011 22:04:45
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว

กีกี้xโกโก้ อีกคู่เลยได้มะ

5555555555

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 12-03-2012 20:31:09
 :L2: อ่านเมื่อไรก็ :pighaun:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 04-06-2012 15:44:19
สนุกมากกกกกกกกกกกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 06-06-2012 13:42:47
 :pighaun: ตายอย่างสงบ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: topperha ที่ 15-06-2012 19:24:14
อ่านแล้วมีความสุข
เป็นครอบครัวน่ารัก
    :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 30-06-2012 21:47:51
ขอบคุณมากนะคะ

 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 12-08-2012 15:01:16
ชอบมากกก
ชอบที่สุด 3P อิอิ
 :haun4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: vocaloid ที่ 25-08-2012 12:36:42
เรื่องนี้สนุกมากๆ
อ่านรวดเดียวจบเลย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 18-10-2012 11:31:19
หื่นพอกันเลย ฮ่าๆๆ
แต่อามโชคดีมากๆ เลยที่มีคนรักขนาดนี้ตั้งสองคน
ขอหั้ยรักกันนานๆ ตลอดไปนะคะ
ครอบครัวสุขสันต์ น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: paintshinki ที่ 19-10-2012 17:44:18
ตอนแรกอ่านแล้วสงสารพี่อามมากเลยอ่ะที่ต้องเจอปัญหาที่ไม่รู้แก้ยังไง
แต่หลังๆอ่านไปยิ้มไปเลยทีเดียวรักกันนานนะคะ^^
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: omeye ที่ 19-10-2012 23:13:34
 :-[ :o8: :impress2:

อ่านไป ก็ ยิ้มไป ไม่อยากให้จบเลย

แล้วสรุปน้องของโกโก้ นี้ผู้หญิง ใช่ป่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 21-06-2013 19:58:56
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน อ่านจบแล้วมีความสุขมากมาย
แต่กว่าจะมีความสุขได้ก็ต้องพบเจอกับอะไรมาเยอะเลยเนอะ
ขอบคุณมากเลยค่ะที่นำมาโพสให้ได้อ่านกัน  :L2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 22-06-2013 20:10:54
 :z2: :z2: :z2:  สุดยอดแห่งความสนุก

คนแก่ชอบมากกกกกกก  :hao3: :hao3: :hao3:

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 25-10-2013 04:30:30
ตอนแรกอ่านแล้วรู้สึกเห็นใจทุกคนเลยอ่ะแต่พี่อามเป็นคนกลางคงจะตัดสินใจลำบากสุดๆแต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีจบแบบมีความสุขขอให้พี่ๆรักกันไปนานๆๆๆๆๆมีลูกเยอะๆๆๆๆ
ปล.เลือดแทบหมดตัวเลยอ่ะ^.,^
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-10-2013 13:02:28
3P เรื่องนี้  :pighaun: :m25: :jul1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 16-09-2014 23:51:21
 :z2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 18-09-2014 21:15:52
 :mew3: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 20-09-2014 02:03:44
โอ้ยอิจฉาอย่างแรง น่ารักมากมาย
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 07-10-2014 14:55:42
ชอบมากคับ 3p คือเป้าหมายสูงสุดของชิวิต5555555 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: kittisak Intarasarn ที่ 28-10-2014 15:23:28
ตอนแรกคิดว่านิยาย ชีวิตคุณอาร์มนี่สุดยอดมากครับ น่าอิจฉาและดูวุ่นวายดีแท้  แต่ดีใจด้วยนะครับมีครอบครัวที่อบอุ่น
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 29-10-2014 21:23:37
ขอบคุณนะค่ะเล่าเรื่องราวดีๆให้ได้ฟินกัน :pig4:

และขอบอกว่าเป็นเรื่องราวชีวิตที่ครบรสเลยค่ะ :กอด1:

ขอให้มีความสุขมากๆรักกันให้นานๆด้วย :L1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-01-2015 12:05:11
 o13  ในที่สุดก็จบด้วยดี มีความสุขกันทุกคนใช่ไหมคะ
อยากให้มาอัพเดทชีวิตบ้างจัง
น้องๆคงโดขึ้นมากว่าแต่ลูกคนล่าสุดชื่ออะไรเอ่ย กาก้ารึเปล่าคะ อิอิ

มาอ่านช้าไปห้าปี แหะๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-01-2015 20:46:08
หมดแรง...
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 01-02-2015 21:53:32
ขอบคุณนะคะ ที่เขียนเรื่องให้อ่านชุลมุนจริงๆกว่าจะลงตัวได้
ความรักและความเข้าใจก็จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้จริงๆ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: jeabjunsu ที่ 16-03-2015 23:17:15
สุข เศร้า เหงา ซึ้ง ของแท้เลย
หลากหลายอารมณ์มากมาย บีบคั้นมากกก
แต่ว่าก็จบแบhappy เนอะ เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์มีความสุขมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 11-04-2015 15:38:37
 :-[  กว่าจะลงตัว กลัวอาร์มจะเปื่อยไปทั้งตัว
ครอบครัวสุขสันต์ กีกี้โกโก้ น่ารักค่ะ
แอบลุ้นเล็กน้อยกับรักของสามคนสุดท้ายก็
ปล่อยใครไปไม่ได้ คนที่รับบทหนักหนีไม่พ้นมาม๊าอาร์ม
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: AutumnWind ที่ 10-05-2015 18:45:15
น่ารักมากเลยค่ะ
อ่านแล้วก็มีควาสุขไปด้วยเลย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 18-05-2015 01:50:16
ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องนี้
ปัจจุบัน ก็หวังว่าคงยังเป็นครอบครัวที่น่ารักอย่างนี้อยู่นะคะ มีความสุขมากๆค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: choinudee ที่ 19-05-2015 08:13:16
มันมากกกก   สนุกมากกกกกก

ขอบคุณมากกกนะคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 16-06-2015 23:34:06
ครอบครัวนี้น่ารักมากๆๆๆเลยอะ กีกี้กะโกโก้นิน่ารักสุดๆๆๆๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-07-2015 10:50:12
เรื่องนี้หื่นมากก

ขอบคุสำหรับนิยายค่ะ สนุกมาก
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 02-01-2016 07:23:03
ขอบคุณค่า...อ่านรวดเดียวจบ :laugh:
เรื่องนี้ทำเสียเลือดเยอะเลย
 :jul1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 23-02-2016 23:15:20
อ่านอีกรอบก็ยังชอบอ้ะเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 05-05-2016 08:27:05
เราสงสารนาว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 05-05-2016 10:01:35
ฝันได้เลือดสาดมากอามม :pighaun: :jul1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 05-05-2016 12:50:20
ชอบเวรวันเสาร์ที่สุดอ่ะอาม :hao6: :oo1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 05-05-2016 13:04:12
จบแล้ววว :katai5:
รับประกันความหื่นจริงๆ :hao7:
ดีใจกับครอบครัวนี้ด้วยย
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Sweettemp ที่ 07-05-2016 05:07:43
สนุกมากค่ะ ขอบคุณคนโพสต์นะคะที่มาแบ่งปัน  :L2:

แล้วถึงไม่แน่ใจว่าเป็นเค้าโครงจากเรื่องจริงหรือเปล่า (เสียดายพึ่งได้อ่าน :hao5:) แต่ยังไงก็ขอยินดีและขอให้ครอบครัวคุณอาม-คิม-นาว มีความสุข พบแต่สิ่งดีๆ ก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆได้ด้วยดีนะคะ  o13


ปล.  :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 04-10-2016 20:21:39
ชอบมากเลยค่ะ คิดว่าจะจบดราม่า แต่ก็ไม่
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: meng ที่ 06-10-2016 09:01:08
อ่านช่วงแรกๆมันเป็น3pที่หน่วงมาก

แต่ก็พอมีกีกี้กะโกโก้ดูน่ารักขึ้นเป็นกองเลย

ชอบๆครับ

ปล.อยากให้มีตอนพิเศษอีกจัง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 05-02-2017 11:54:07
ปวดหัวแทนอามจริงๆ
แต่สุดท้ายก็แฮปปี้กันทั้งสามคนอ่ะนะ คริคริ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 10-02-2017 23:27:23
ครอบครัวสุขสันต์กันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 22-05-2017 17:21:39
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 27-05-2017 06:08:28
น่ารัก :pig4:
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: armsa2531 ที่ 12-11-2017 10:38:49
เหอๆๆๆ เปนกรุนะ โดนแน่น้องนาว555
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: ultrakim ที่ 15-11-2017 21:58:25
สนุกดีครับมีหลายอารมณ์ดี
อ่านแล้วอิจฉาอามจัง
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: lovemongjang ที่ 13-01-2019 21:24:52
สนุกมากจ้ะ
หัวข้อ: Re: [18+]รักชุลมุน สามหนุ่มวุ่นวาย [by Roxie]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 06-01-2020 10:31:10
สนุกมากๆค่ะ
น้องกีกี้น่ารัก