พิมพ์หน้านี้ - กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: tianqin ที่ 10-12-2009 20:27:45

หัวข้อ: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 10-12-2009 20:27:45
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

........................



เรื่องนี้เป็นบทประพันธ์ของ “ใบปอ” ซึ่งได้ทำการแต่งจนจบไว้นานแล้วนะคะ อาจจะมีผู้เคยอ่านผ่านตามาบ้างแล้ว  แต่ก็อาจจะมีนักอ่านที่ยังไม่ได้อ่านอีก ข้าพเจ้าจึงได้ทำการขออนุญาต ใบปอ  นำมาโพสให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้ง  และได้รับอนุญาตเป็นที่เรียบร้อยแล้วคะ


ข้าพเจ้า เทียนฉิน เป็นแต่เพียงผู้นำมารีโพสใหม่เท่านั้นนะคะ

.....................

ปฐมบท

เสียงฝีเท้าม้าดังกึกก้องไปทั้งปราสาทไม่อาจกลบ
บรรยากาศวังเวงชวนหนาวเหน็บหัวใจ  ทหารยามและเหล่านางกำนัลในที่เคยเดินไปมาขวักไขว่หายหน้ากันไปหมด  ร่างโปร่งค่อนข้างบางด้วยเพิ่งย่างเข้าสู่วัยรุ่นโดดตัวปลิวลงจากหลังม้าและวิ่งเข้าไปในห้องบรรทมด้านในอย่างรวดเร็ว
ในห้องบรรทมมืดสลัวและเย็นเยือกอย่างประหลาด  ร่างโปร่งถลันเข้าไปหาคนบนเตียง  แต่นางกำนัลสองคนเข้ามากันเอาไว้
“นี่อะไรกัน  เราจะมาเฝ้าเสด็จแม่”
   “อย่าเพคะทูลกระหม่อม...พระชายาทรงพระประชวร...หมอหลวงห้ามใครแตะพระวรกายเพคะ”
“ไม่แตะก็ไม่แตะสิ  ถอยไป”
“แต่...พะ...เพคะ”  นางกำนัลทั้งสองถอยกรูดเมื่อเห็นตาคมเป็นประกายกร้าวอย่างไม่พอใจ ร่างโปร่งบางเข้าไปทรุดลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง
“...แม่จ๋า...ทรงเป็นอย่างไรบ้าง?”
ใบหน้าที่ผินมาช้าๆทำให้ร่างบางสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ  ใบหน้าที่เคยขาวนวลเนียนกลายเป็นสีดำคล้ำราวกับสวมหน้ากาก หนุ่มน้อยถลันเข้าไปกอดร่างดำคล้ำบนเตียงด้วยความลืมตัว
“แม่จ๋า..แม่เป็นอะไร!”
“อย่าเพคะอย่าถูกองค์  หมอหลวงเกรงจะได้รับพิษไปด้วยเพคะ”
“เราไม่กลัว  แม่...ใครทำกับแม่อย่างนี้?”
“ไนท์...อย่าลูก...แม่ถูกพิษ...ลูกอย่าโดนตัวแม่”
“ลูกไม่กลัว  ใครกัน  ใครมันกล้า!” ดวงตาคมเป็นประกายเคียดแค้นและเกรี้ยวกราด  ใครที่ทำร้ายพระมารดาเขาจะไม่ให้มันได้ตายดี
“ไนท์ปล่อยแม่เถอะลูก”
“ไม่เป็นไรฝ่าบาท...พิษไม่แพร่ด้วยการสัมผัส” หมอหลวงทั้งคณะที่เพิ่งกลับเข้ามาอีกครั้งกราบทูลเบาๆ  หลังจากออกไปประชุมเครียดกันอยู่อีกห้อง
“เสด็จแม่ปลอดภัยแล้วใช่ไหม...พวกท่านรักษาได้ใช่ไหม?”
ไนท์เหลียวมองหน้าหมออย่างมีความหวังแต่หมอทั้งคณะหลบตาวูบ  ต่างถวายความเคารพแล้วก้มหน้านิ่ง  กิริยานี้ให้ใครก็เดาได้ว่าอาการของพระชายาโซฟียาอยู่ในขั้นอันตรายแค่ไหน
“...นี่! ทำไมนิ่งกันไปหมด  เราถามก็ตอบมาสิ!”
“ฝ่าบาท...” หมอหลวงทุกคนลงไปคุกเข่า  แนบหน้าผากติดพื้นไม่มีใครกล้าเงยขึ้นสบตากริ้วโกรธและหวาดกลัวนั้น
“ตอบเรามาว่ารักษาได้หรือไม่...ถ้าไม่ได้เราจะได้ตัดหัวพวกเจ้าให้หมดทั้งคณะ”  
“พระอาญาไม่พ้นเกล้า...ฝ่าบาท...คือว่า...เอ่อ...”  หมออ้ำอึ้งพูดไม่ออก  ด้วยความสงสาร  หากทูลความจริง  หัวใจของเจ้าชายหนุ่มน้อยคงแหลกสลาย
“หมอ...ออกไปก่อน...เราขอคุยกับรามิลตามลำพัง”
“กระหม่อม”
ไนท์มองตามหมอทุกคนอย่างกังวล  ดวงตาแดงก่ำสบกับพระมารดาอย่างห่วงใย  พระชายาโซฟียายิ้มอ่อนโยนปลอบประโลม  ด้วยสงสารและห่วงใยลูกรักจับหัวใจ
“ไปหาท่านราชครู...อย่า...อยู่ที่นี่...สัญญากับแม่นะไนท์...ว่าลูก...จะไม่อยู่ที่นี่...อีก...”
“ทำไมละจ๊ะแม่...ทำไม?...เกิดอะไรขึ้นกับแม่...บอกลูกสิจ๊ะ...ใครทำกับแม่อย่างนี้?”
“อย่าถาม...ไปหาท่าน...ราชครูนะ...ไนท์...อย่าอยู่ที่นี่...แม้แต่วันเดียว...”
 “ท่านราชครูมาเฝ้าแล้วเพคะ”
นางพระกำนัลหน้าห้องรีบเข้ามากราบทูล  ดวงตาเลื่อนลอยด้วยความเจ็บปวดเป็นประกายแจ่มใสขึ้นเล็กน้อย    
“เชิญท่าน...เข้ามา”
ราชครูเข้ามาทันควันด้วยความร้อนใจ  หากเป็นภาวะปรกติคนเคร่งครัดธรรมเนียมอย่างราชครูไม่มีวันเข้ามาในห้องบรรทมเป็นอันขาด  แต่ด้วยรู้ว่าอาการของพระชายากำลังทรุดหนัก ราชครูจึงยอมแหกกฎของตนเอง  กระนั้นนางพระกำนัลก็ถูกเรียกเข้ามาอีกเกือบสิบคน  รวมถึงราชองครักษ์ประจำองค์พระชายาอีกด้วย  
“ฝ่าบาท”
“ฝากไนท์...ด้วย...เราคงไม่ไหวแล้ว”
“กระหม่อมให้คนตามหมอพิษที่เก่งที่สุดมาแล้ว  ฝ่าบาทจะต้องปลอดภัยกระหม่อม”
“เรา...รู้ตัวดี  ห่วงแต่ไนท์เท่านั้น...เราฝากท่านราชครู...ดูแลลูกเราด้วย”
“แต่ฝ่าบาท...”
“สัญญาสิ...เรา...มีเวลาไม่มากแล้ว”
“กระหม่อมให้สัญญา  กระหม่อมและทุกคนในตระกูลจะปกป้ององค์รัช-ทายาทด้วยชีวิต”
“ขอบใจมาก...ไนท์...สัญญากับแม่นะลูก...ว่าต่อไปลูกจะเชื่อฟังท่านราชครู   ลูกจะต้องเข้มแข็งให้สมกับที่เป็น รามิล ราจีสอับดุล......แม่เสียใจ...ที่แม่อยู่ช่วยลูกไม่ได้...แม่วางลูกไว้บนกองไฟแท้ๆ...อำนาจ...ตัณหา...จะทำให้ผู้คนแก่ง แย่ง เพื่อจะได้เป็นใหญ่...หนทางข้างหน้าของลูก...หนักหนาเหลือเกิน”
ประโยคหลังเป็นคำพูดพึมพำเลื่อนลอยด้วยความรันทดและเวทนาต่อชะตากรรมของลูกรัก แม้ไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ขยับอีกแล้วแต่พระชายาโซฟียา ก็ยังคงมีรอยยิ้มอ่อนโยนเสมอ  โลหิตสีดำไหลจากจมูกและปากหยดลงบนหมอน  ไนท์ผวาขึ้นตัวด้วยความตกใจ
“แม่!...แม่จ๋า อย่าทรงเป็นอะไรนะ  หมอ! หมออยู่ที่ไหน?”
“รามิล! ลูกเป็นใคร  ฟูมฟายเหมือนไร้สติได้อย่างไร  แม่เพิ่งสอนลูกไปแท้ๆ...” ดวงตาคู่งามเป็นประกายกล้า  น้ำเสียงเฉียบขาดผิดกว่าทุกครั้งทำให้ไนท์หยุดร้องไห้ด้วยความดีใจ
“แม่!...ทรงดีขึ้นแล้วหรือ?...แม่ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม  ลูกดีใจที่สุด”
“กลัวแม่ตายหรือไนท์  กลัวทำไมกัน...ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุด  แต่ความตายคือการเริ่มต้นต่างหาก...รู้ไหมว่าเริ่มอะไร?”
ดวงเนตรงามของพระชายาโซฟียาสดใสขึ้นจนเจ้าชายหนุ่มน้อยคลายความกลัว  แม้แต่น้ำเสียงก็ไม่กระท่อนกระแท่นอีกแล้ว  แต่ราชครูกลับหนาวเยือกไปทั้งใจเมื่อสังเกตเห็นเส้นสีแดงในพระเนตร  วาระสุดท้ายของพระชายากำลังจะมาถึง
“ไม่รู้กระหม่อม”
“ลูกอย่างไรล่ะ...ลูกคือตัวแทนของแม่ ลูกคือจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของแม่ ถ้าอยากให้ชีวิตใหม่ของแม่ดี  ลูกก็ต้องทำแต่สิ่งดีๆทำได้ไหมลูก?”
“ได้กระหม่อม  ลูกทำได้”
“ดี...มาให้แม่กอดลูกหน่อยสิจ๊ะ”
ไนท์ขึ้นไปนอนหนุนต้นพระพาหาทันที  อ้อมพระกรหอมกรุ่นโอบรัดร่างผอมบางแน่น
“แม่รักลูก...และแม่จะอยู่ข้างๆลูกเสมอ...เพียงแค่ลูกคิดถึง...แม่อยู่ที่หัวใจลูกอย่างไรเล่า...ดวงใจของแม่...” หางเสียงแผ่วหายไปในลำคอ  ดวงเนตรหรี่ปรือสบตากับราชครู เยือกเย็นและไร้ความหวาดกลัวรอยพระสรวลน้อยๆยังแต้มบนเรียวปากสีเขียวคล้ำแม้ลมหายจะออกจากร่างไปแล้วก็ตาม
   “ฝ่าบาท...พระชายาทรง...บรรทมแล้ว...กระหม่อม”
“เรารู้แล้ว  แต่เราอยากกอดแม่อีกสักนิดไม่ได้เหรอ?”
“กระหม่อมหมายถึง...”  
ราชครูพูดไม่ออกได้แต่กลืนคำพูดกลับไป ลำคอปวดร้าวด้วยความเศร้าโศกและเคียดแค้น  เจ้าชายยังซบอกพระมารดาเพลินจนไม่ได้สังเกตว่าอกอุ่นที่ซุกซบอยู่ไม่ไหวกระเพื่อมอีกแล้ว
“พี่หญิง...พี่หญิงเป็นอย่างไรบ้าง?” เสียงร้อนรนนำมาก่อนที่ร่างค่อนข้างสูงขาวจะเข้ามาอย่างร้อนรน  ทหารองครักษ์หน้าห้องปล่อยเฉพาะร่างในชุดขาวปักเลื่อมผ่านเข้ามาเพียงลำพัง ส่วนทหารคนสนิทเกือบ10 คนถูกกันไว้ด้านนอก
“ชูววว...แม่หลับแล้วเสด็จอา” ไนท์ผงกศีรษะขึ้นตอบเบาๆก่อนจะซบลงนอนอย่างเดิม  ผู้มาใหม่ชะงักหันกลับมาสบตากับราชครูด้วยสีหน้าเก้อกระดาก
“อย่างนั้นเหรอ?...อาพาหมอพิษที่เก่งมากมาด้วย  ว่าจะให้ดูอาการพี่หญิงเสียหน่อย”
“คงไม่จำเป็นอีกแล้วกระหม่อม” ราชครูเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ทำไมกันท่านราชครู  หรือคิดว่าหมอของเราเก่งสู้หมอของท่านไม่ได้”
ใบหน้าขาวขมวดบึ้งฉับพลันด้วยความโกรธเกรี้ยว  
“พระชายาทรง....เสด็จดาวดึงส์แล้วกระหม่อม”
“อะไรนะ?” ชีคฟาฮัสหันขวับไปมองบนเตียงด้วยสีหน้าแตกตื่น  ไนท์ผวาลุกขึ้นมองพระมารดาด้วยความตกใจ
“ไม่จริง  ท่านครูพูดอะไร  แม่หลับต่างหาก...แม่จ๋า...ทรงคุยกับลูกหน่อย”  ไนท์เขย่าพระมารดาแรงๆหวังจะปลุกให้ตื่น   แต่รางบางกลับนอนนิ่งไม่ไหวติง  แม้ผิวสัมผัสยังอบอุ่น แต่ไร้ร่องรอยของชีวิต ไนท์เขย่าร่างบางด้วยมือสั่นระริก
“ไม่จริง! แม่  แม่...เมื่อครู่แม่ดีขึ้นแล้วนี่นา...ท่านครู...ท่านครูช่วยแม่ที”
“รามิล...แม่เขาตายแล้วจริงๆหลาน”ชีคฟาฮัสเข้าไปโอบไหล่เล็กเพื่อปลอบประโลม
เหล่านางพระกำนัลเบือนหน้าไปซับน้ำตาและพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้สุดความสามารถ  แม้แต่ทหารองครักษ์ด้านนอกก็เงยหน้าขึ้นสูงด้วยไม่อยากให้คนนอกเห็นน้ำตา
“ฝ่าบาท  ทรงลืมที่พระชายาทรงสอนแล้วหรือกระหม่อม?”
น้ำเสียงเนิบนาบนุ่มนวลของราชครูกลับทำให้เจ้าชายหนุ่มน้อยได้สติ  ไนท์นั่งนิ่งขึง  น้ำตาไหลพรากแต่ปราศจากเสียงร่ำไห้  มือเรียวขาวค่อยๆลูบไล้ใบหน้าดำเกรียมของพระมารดาแผ่วเบา...ไม่ว่าเมื่อไหร่  ใบหน้าของแม่ก็ฉายแววกรุณาปราณีเสมอ....
“แล้วนี่เจ้าพี่ละ  ทรงทราบหรือยังว่า...เอ่อ...พี่หญิงสิ้นแล้ว”
“เสด็จพ่อไปไหน...” ไนท์เพิ่งนึกได้  ความน้อยใจพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที  แม้แต่ตอนแม่ตายพ่อก็ไม่มา  
“องค์ฮัสซาทรงบาดเจ็บสาหัส...แม้จะพ้นขีดอันตรายแล้ว  แต่ยังทรงเคลื่อนย้ายไม่ได้...กระหม่อมจึงไม่ได้ทูลเรื่องพระชายา”
คำตอบที่ได้รับทำให้หัวใจดวงน้อยไหวเยือก หนาวเหน็บไปทั้งตัวด้วยความหวาดหวั่น
“...เสด็จพ่อ...จะไม่เป็นอะไร...ใช่ไหมครู?”
 “ทรงปลอดภัยกระหม่อม  ให้ทรงแข็งแรงอีกนิด  ก็เสด็จกลับมาได้กระหม่อม”
“ตอนนี้เสด็จพี่อยู่ที่ไหน?” ใบหน้าขาวใสบัดนี้ซีดเผือด  แต่ดวงตาวาววับด้วยความโกรธ  ราชครูเหลือบมองดวงตาใบหน้าเผือดสีของชีคหนุ่มด้วยสายตาเยือกเย็น
“ทรงอยู่ในที่ปลอดภัยกระหม่อม  แต่มีรับสั่งไม่ให้แพร่งพรายว่าทรงอยู่ที่ไหน“
“แม้แต่เราก็บอกไม่ได้รึ?” ดวงตาคมเป็นประกายกร้าว
“กระหม่อม...ขอฝ่าบาทโปรดอภัย”
เสียงชีคหนุ่มสูดหายใจลึกอย่างเกรี้ยวกราด  แต่ไม่อาจทำอะไรได้จึงได้แต่เบือนหน้าหนี  ความโกรธทำให้ลืมตีหน้าเศร้าเสียสนิท
“แจ้งข่าวออกไป พระชายาโซฟียาสิ้นพระชนม์แล้ว ด้วยโรคพระหทัย”ราชครูสั่งทหารองครักษ์เพื่อให้ไปแจ้งแก่ฝ่ายสำนักราชวัง
ชีคฟาฮัสเหลือบมองอย่างแปลกใจ แต่พอสบตาเยือกเย็นที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้วก็รีบหลบตาวูบ  เมินมองไปทางอื่น ก่อนจะหันไปโอบร่างเล็กดึงออกมาจากเตียง  นางพระกำนัล 4 คนเข้ามาช่วยกันเตรียมเปลี่ยนฉลองพระองค์ใหม่  ทุกคนๆจึงต้องออกไปนอกห้อง  ไนท์ยึดมือกรุ่นกลิ่นน้ำหอมของชีคฟาฮัสแน่น  แม้ไม่อบอุ่นเหมือนพระมารดา  แต่ในยามนี้เขามองไม่เห็นใคร...........



***เิข้ามาแก้หัวเรื่องเฉยคะ***

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 10-12-2009 20:31:34
.......

เสียงระฆังก็ดังกังวานขึ้น 7ครั้ง  เสียงร่ำไห้ระงมไปทั้งเมือง กลิ่นน้ำมันหอมจากทุกบ้านถูกจุดเพื่อส่งพระวิญญาณ  พายุทะเลทรายที่พัดมาหลายวันหยุดลง  ราวกับจะรอส่งพระวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย 
ขบวนเกียรติยศในชุดสีขาวอัญเชิญเสด็จพระศพในโลงแก้วไปยังสุสานของราชวงศ์  ประชาชนมากมายยืนรอส่งเสด็จพระชายาเป็นครั้งสุดท้ายตลอดแนวสองฟากถนน  ร่างโปร่งบางของเจ้าชายรัชทายาทชักม้าเคียงคู่โลงแก้ว  ใบหน้าขาวซีดแต่ดวงตาแห้งผาก  นอกจากชีคฟาฮัสกับราชครูแล้ว  ก็มีเพียงเหล่าทหารองครักษ์เท่านั้นที่มาส่งเสด็จ  ด้วยสงครามระหว่างเผ่าที่ยังวุ่นวายทำให้บรรดาจอมทัพทั้งหลายต้องออกไปประจำแต่ละแค้วน จึงไม่มีใครมาร่วมงานได้ 
แต่ลึกลงไปเจ้าชายหนุ่มน้อยก็ทราบดีว่าทุกคนต่างก็รอดูท่าทีว่าใครที่จะได้ดำรงอำนาจ  แน่นอนว่าทุกคนต่างรู้เรื่องตราประทับหายไป  ตอนนี้ไม่มีใครกุมอำนาจเบ็ดเสร็จ  เว้นแต่ว่าองค์ฮัสซาจะปลอดภัยเท่านั้น
โลงแก้วถูกวางลงบนแท่นในห้องสุสานอย่างบรรจง  ร่างโปร่งบางยืนข้างโลงแก้วเดียวดาย  เพราะนอกจากราชวงศ์  แม้แต่ทหารที่หามโลงแก้วเข้ามาก็ต้องออกไปรอข้างนอกตามธรรมเนียมโบราณ แม้ใบหน้าจะดำเกรียมด้วยผลของยาพิษ  แต่มุมปากงามยังแย้มสรวลน้อยๆราวกับจะปลอบประโลมหัวใจลูกรัก  ไม่ให้แหลกสลายลงไปเสียก่อน
“แม่จ๋า...แม่จะอยู่ในหัวใจลูกตลอดไป...” ปากสีสดแตะบนโลงแก้วแผ่วเบา  ดอกลิลลี่ขาวถูกวางบนโล่งแก้วอย่างบรรจง  แล้วจึงถอยออกมาถวายความเคารพ  เจ้าชายหนุ่มน้อยหมุนตัวกลับออกจากห้องเก็บพระศพ  เสียงประตูปิดตามหลังเสมือนความรักความอ่อนโยนในหัวใจถูกปิดตาย  นับแต่นี้จะดำรงพระชนม์อยู่ด้วยความแค้นและชิงชัง  มันผู้ใดที่ทำร้ายพระมารดาย่อมไม่อาจอยู่ร่วมแผ่นดินอีกต่อไป............

ร่างผมบางที่ดูเหมือนจะผอมยิ่งกว่าเดิมนั่งนิ่งราวกับหุ่น ทหาร-องครักษ์วัยเยาว์ที่เป็นทั้งทหารและเพื่อนเล่นต่างเหลือบมองตากันแล้วได้แต่นั่งเงียบ แม้แต่เสียงลมหายใจก็พยายามให้เบาที่สุด 
เจ้าชายรามิลทรงเงียบขรึมและดูน่ากลัวมากขึ้นทุกวันนับแต่สูญเสียพระมารดาไป  ยิ่งสองสามวันมานี้ก็เสด็จมารอท่านราชครูกลับจากราชการทุกวัน
เสียงตบปืนทำความเคารพดังลอดเข้ามาเบาๆ  ร่างที่นั่งนิ่งผุดลุกขึ้นแล้วเสด็จออกอย่างรวดเร็ว จนองครักษ์รุ่นเยาว์ทั้งหลายเกือบลุกตามแทบไม่ทัน
   ถึงจะรีบร้อนอย่างไรเจ้าชายรามิลก็ยังหยุดเคาะประตูห้องพระอักษร รอจนได้ยินเสียงอนุญาตจึงเสด็จเข้าไปเพียงลำพัง
“ได้ความว่าอย่างไรครับครู?”
“เป็นอย่างที่สงสัยกระหม่อม  พิษที่พระชายาทรงได้รับมาจากเผ่าของพระชายาองค์ใหม่แน่นอน” 
ไนท์รับเอกสารผลการตรวจพระโลหิตของพระมารดามาอ่านแล้วกำไว้แน่นจนแทบแหลก  ดวงเนตรคมเป็นประกายเรืองด้วยความคั่งแค้น
“หมายความว่า...”
“กระหม่อมไม่อยากให้ทรงด่วนตัดสินเร็วนัก เรื่องนี้อาจมีเงื่อนงำกว่าที่ทรงคิด”
“แต่ที่แน่ๆคือชายาใหม่ของเสด็จพ่อมีส่วนรู้เห็นแน่”
“แต่กระหม่อมว่าฝ่าบาทต้องพระทัยเย็นๆ อย่าเพิ่งเคลื่อนไหวอะไรตอนนี้”
“คงไม่ทันแล้วล่ะ  เพราะตอนนี้นางอยู่ที่ห้องใต้ดินแล้ว”
“ฝ่าบาท!”
“ขอโทษนะครับครู  แต่เราจะไม่ปล่อยให้คนที่ทำร้ายแม่ได้อยู่ดีเป็นอันขาด มันต้องชดใช้อย่างสาสม”
เจ้าชายรามิลเสด็จออกจากห้องพระอักษรมุ่งตรงไปยังห้องใต้ดินทันที  โดยมีเหล่าองครักษ์ตามติด  ราชครูถอนใจยาวด้วยความกังวล  ดูท่าเรื่องนี้จะบานปลายแน่แล้ว  เพราะแน่ใจได้ว่าเจ้าชายรามิลต้องไม่ทรงปล่อยให้พระชายาองค์ใหม่มีชีวิตรอดไปได้  นั่นอาจหมายถึงสงครามกวาดล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่ก็เป็นได้
   พระชายาองค์ใหม่ผวาลุกขึ้นนั่งตัวสั่น  เมื่อฟื้นขึ้นมาเห็นร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนพระแท่นห่างออกไป  แม้จะเพิ่งแรกรุ่น  แต่ดวงเนตรคมกล้าด้วยอำนาจก็ทำให้คนทั่วไปไม่ค่อยกล้าสบตาด้วย...ยิ่งคนที่มีชนักปักหลัง ยิ่งแล้วใหญ่!
   “เจ้า..เจ้าชายรามิลทำอย่างนี้ได้อย่างไร  เราเป็นพระชายานะ  จะมากุมตัวเราแบบนี้ไม่ได้” นางละล่ำละลักปากคอสั่น  ทั้งตกใจทั้งงุนงง  ก็เมื่อคืนได้ข่าวว่าองค์ฮัสซากำลังจะเสด็จกลับจากชายแดน นางจึงแต่งตัวมารอในห้องบรรทม  แต่พอตื่นขึ้นมากลับมาอยู่ในห้องใต้ดินแทนเสียนี่
   “งั้นเหรอ...แล้วมีใครกล้าช่วยเจ้าไหมล่ะ?”
“เราจะฟ้องฝ่าบาท”
“...แล้วขวดนี้ล่ะ  จะบอกเสด็จพ่อด้วยไหม?”
พระชายาองค์ใหม่สะดุ้งวาบทั้งตัวเมื่อเห็นขวดยาที่ถูกโยนมาตรงหน้า  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมอเฒ่าคงถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้ว
“ขวดอะไร?...เราไม่รู้เรื่อง”
“เราได้มันมาจากหมอประจำตัวเจ้า”
“อย่ามาใส่ความกันดีกว่า  เด็กอย่างเจ้าจะมารู้อะไร  นี่แม่เจ้าคงเสี้ยมสอนไว้ละสิว่าเราเป็นคนวางยาพิษ  ขี้อิจฉาทั้งแม่ทั้งลูก  อิจฉาใช่ไหมล่ะที่ฝ่าบาทโปรดปรานเรามากกว่าแม่เจ้า”
“รู้ได้อย่างไรว่าพระชายาทรงโดนวางยา  ในเมื่อคนที่รู้เรื่องนี้มีแค่องค์รัชทายาทกับเราเท่านั้น” ราชครูเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับก้าวเข้าไปในห้อง  ใบหน้าเชิดๆของพระชายาองค์ใหม่ขาวเหมือนกระดาษฉับพลัน  ดวงตาส่ายล่อกแล่กไปมาอย่างตื่นตระหนก  พยายามหาคำแก้ตัวแต่ก็จนปัญญา 
ไนท์ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ราชครูไวกว่า  มือแข็งแรงยึดไหล่บางไว้อย่างรวดเร็ว
“อย่าทรงวู่วามกระหม่อม”
“ทำไม!...นางเป็นคนฆ่าเสด็จแม่แท้ๆ  ยังจะปล่อยไว้อีกเหรอ?”
“เราต้องรู้ให้ได้ฝ่าบาท  ว่าใครสั่งนางมา”
“จะมีใครก็ไอ้ความอิจฉาริษยาของนางนะสิ”
“เราน่ะเหรออิจฉา  เราน่ะเป็นว่าที่สนมเอกเชียวนะ เป็นรองตำแหน่งรานีแค่ขั้นเดียวเท่านั้น  องค์ฮัสซากำลังจะประกาศแต่งตั้งเรา...รู้ไว้เสียด้วย”
“เจ้าก็เลยฆ่าเสด็จแม่เพื่อจะเป็นรานีเสียเองงั้นสิ”
“ถึงแม่เจ้ายังอยู่เราก็ควรได้รับแต่งตั้งอยู่แล้ว เผ่าเรามีอำนาจมีทรัพย์สินเท่าไหร่  ยังไงๆฝ่าบาทก็ต้องเห็นความสำคัญของเรามากกว่าเจ้าหญิงลูกครึ่งที่ไม่มีอะไรเลยอย่างแม่เจ้า”
“สามหาว!” ดวงตาคมเป็นประกายกร้าวทำให้คนที่กำลังลอยหน้าถึงกับลนลานถอยหนีจนล้มกลิ้งด้วยความหวาดกลัว  กระนั้นนางก็ยังไม่วายปากดีด้วยแน่ใจว่าอย่างไรเสียเจ้าชายรัชทายาทย่อมไม่กล้าฆ่านางแน่
“อย่านะ!ถ้าขืนเจ้าทำอะไรเราเจ้าเดือดร้อนแน่ แค่เรื่องตาเจ้าลอบทำร้ายองค์ฮัสซาน่ะเจ้าก็แย่แล้ว  ขืนแตะต้องเราเจ้าจะไม่มีเงาหัว  เฮอะ!ไม่รู้ตัวเลยละสิว่าความชั่วช้าที่ตาเจ้าทำน่ะทำให้ทั้งเจ้าทั้งแม่เจ้า ยิ่งเป็นที่เกลียดชังของราชวงศ์แค่ไหน ที่แม่เจ้าต้องตายนี่น่ะ  เป็นคำสั่งโดยตรงจากฝ่าบาทฟะ...อึ๊ก!”
ประกาย โลหะสว่างวาบ! 
ราชครูถลันเข้าบังไนท์ทันควัน แต่ใบมีดคมกริบปักเข้าที่ลำคอขาวของพระชายาใหม่จนมิดด้าม เลือดสดๆไหลพรูราวกับท่อน้ำแตก ร่างอวบสะท้านเฮือก ตาเหลือกค้างด้วยความเจ็บปวดแล้วล้มลงจมกองเลือด  เงาดำที่แอบอยู่ข้างบันไดเผ่นหนีไปทันที  คนสนิทของราชครูวิ่งตามเงาดำไปติดๆ  เสียงต่อสู้ดังลอดมาแว่วๆ......ไม่นาน  องครักษ์ร่างใหญ่ก็กลับมาก้มหน้านิ่ง
“หนีไปได้เหรอ?”
“มันฆ่าตัวตายแล้วขอรับท่านราชครู”
“เสด็จพ่อต้องรับผิดชอบ!” ไนท์ตะโกนก้องด้วยความแค้น  แม้จะรู้ว่าตอนนี้องค์ฮัสซามีปัญหากับดินแดนทางเหนือ  ซึ่งเป็นของพระบิดาพระชายาโซฟียาหรือพระอัยกาของเจ้าชายรามิล  ถึงขั้นจะทำสงครามกัน  และองค์ฮัสซาถูกลอบทำร้ายอาการสาหัส  แต่ไม่คิด...ไม่คิดว่าพระบิดาจะสั่งฆ่าแม่ได้ลงคอ
“ฝ่าบาท!”
“เราจะตัดหัวมันส่งไปให้เสด็จพ่อ!”
“อย่าทรงทำอย่างนั้นนะฝ่าบาท เรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่   แค่นางตายในมือเราก็เป็นเรื่องใหญ่พออยู่แล้ว”
“เราไม่สน  ถ้าเสด็จพ่อจะเอาเรื่องก็ให้มาจัดการเราเลย!”
“องค์ฮัสซาคงไม่เอาเรื่องฝ่าบาทหรอกเพราะอย่างไรก็เป็นพระโอรส  แต่เผ่าของพระชายาจะต้องไม่พอใจ  นั่นอาจหมายถึงสงคราม  ฝ่าบาททรงนึกบ้างไหมว่าจะต้องสูญเสียอะไรไปบ้างหากเกิดสงครามขึ้น  ราษฎรจะเดือดร้อนแค่ไหน  ทรงนึกถึงบ้างหรือเปล่ากระหม่อม?”
ปากบางเม้มแน่นด้วยความแค้นเคือง  ความคั่งแค้นกับความถูกต้องตีกันยุ่งอยู่นานกว่าที่เสียงแผ่วเบาจะหลุดออกมา
“...เราขอโทษที่วู่วาม...แล้วจะจัดการอย่างไร?”
“นางเป็นถึงพระชายา  การที่จู่ๆจะหายตัวไปคงไม่ใช่เรื่องเล็ก  กระหม่อมจะจัดการเรื่องนี้เอง  ฝ่าบาทควรเสด็จไปอยู่ที่วังขององค์ซารีฟก่อนดีกว่า”
“แต่เรา...”
“อย่าทรงกังวล  กระหม่อมจะจัดการเรื่องนี้เอง”
“ขอบคุณครับครู”
“ไคซัค...” องครักษ์หนุ่มน้อยที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าอายุก้าวออกมาค้อมคำนับ
“เตรียมเชิญเสด็จฝ่าบาทไปที่วังขาว  ระวังตัวด้วยล่ะ”
“ขอรับท่านพ่อ”
ราชครูยืนมองร่างที่จมกองเลือดด้วยดวงตาไตร่ตรอง ยังดีที่คนปลิดชีวิตพระชายาใหม่หนีไม่รอด  อย่างน้อยคนที่บงการก็ยังไม่รู้ว่านางตาย  เห็นทีเขาจะต้อง ‘ส่งพระชายากลับไปที่วังอย่างปลอดภัย’ เสียแล้ว ............

ไนท์ชะงักกึกเมื่อเห็นร่างอวบในชุดคลุมแพรวพราวตามเสด็จขึ้น เครื่องบินไปกับพระบิดา…ถึงจะเห็นหน้าไม่ชัด  แต่รูปร่างกับกิริยาท่าทางนั้นเป็นพระชายาองค์ใหม่แน่นอน...เป็นไปได้อย่างไรในเมื่อได้เห็นกับตา ว่านางถูกฆ่าไป แล้ว! 
แต่การเสด็จประพาสโรงแรมตากอากาศที่เพิ่งเปิดใหม่กับพระบิดา เป็น เสมือนเป็นการประกาศตัวว่านางคือว่าที่องค์รานีองค์ต่อไป  ความข่มขื่นน้อยใจ ในเรื่องหลังทำไนท์ลืมเรื่องที่สงสัยแต่แรกไปทันที
“มีอะไรหรือหลานถึงได้ทำหน้าอย่างนั้น” มือเย็นหอมกรุ่นที่แตะไหล่ทำให้ไนท์ต้องหันไปทำความเคารพ  ความสนิทสนมทำให้ไนท์หลุดความในใจออกไป
“หลาน...ไม่มีอะไรกระหม่อม  แค่หลานนึกไม่ถึงว่าเสด็จพ่อจะทรงพา พระชายาองค์ใหม่เสด็จประพาสทั้งๆที่เสด็จแม่เพิ่งสิ้นไปไม่ถึง3เดือน...ทรงทำได้”
ชีคฟาฮัสหรี่ตาอย่างครุ่นคิด ยังไม่ทันแสดงความคิดเห็นใด ราชองครักษ์ รุ่นเยาว์ก็โผล่เข้ามาห้อม ล้อมรอบองค์รัชทายาท
“ได้เวลาเสด็จแล้วกระหม่อม”
“จริงสิ…ขอบใจไคซัค  หลานขอตัวก่อนกระหม่อม”
“นั่นหลานจะไปไหน?”
“เสด็จอาซารีฟชวนหลานไปที่วังกระหม่อม”
“งั้นรึ...งั้นก็ไปเถอะ”
“ทูลลากระหม่อม”
ชีคฟาฮัสมองตามร่างเล็กๆที่รายล้อมด้วยองครักษ์รุ่นเยาว์ด้วยดวงตาวาววับ  คนสนิทปราดเข้ามาเคียงข้างทันที
“หามือสังหารเจอหรือยัง?”
“ยังกระหม่อม  สงสัยไอ้ราชครูเจ้าเล่ห์มันจะได้ตัวไปแล้วกระหม่อม”
“บัดซบ!”
“ไม่ต้องกังวลฝ่าบาท  มันไม่มีทางซัดทอดแน่กระหม่อม”
“เจ้าแน่ใจนะ?”
“แน่กระหม่อม  มันรักลูกยิ่งกว่าชีวิต  ตราบใดที่ลูกมันยังอยู่ในมือเรามันไม่กล้าทรยศแน่  แต่กระหม่อมจะหาศพมันให้เจอกระหม่อม”
“ดี...แปลกนะที่รามิลยอมปล่อยคาร์เมียน”
“คงไม่มีหลักฐาน  อีกอย่างไอ้ราชครูเจ้าเล่ห์มันอยู่ด้วย  มันคงไม่ยอมให้ทำอะไรวู่วามแน่กระหม่อม”
“แล้วคาร์เมียนว่าไงบ้าง?”
“เอ่อ...เกล้ายังไม่ได้พบกระหม่อม”
“ทำไม?”
“พระชายาเข้าเฝ้าองค์ฮัสซาตลอดคืนเลยกระหม่อม  แล้วก็เสด็จประพาสด้วยกันกระหม่อม”
“หึ...รีบแจ้นไปฟ้องเสด็จพี่สินะ  ก็ดีที่นางรู้จักหลบหลีก  เพิ่งรู้ว่านางก็มีสมองเหมือนกัน  คิดว่ามีแต่หัวไว้ตั้งบนบ่าอย่างเดียวเสียอีก”
“แล้วจะให้กระหม่อมจัดการอย่างไรต่อไปกระหม่อม”
“เฉยไว้ก่อน  อย่างเพิ่งเคลื่อนไหวอะไรตอนนี้”
ตลอดเวลาที่ทั้งคู่สนทนากัน  มีสายตาของทหารพื้นเมืองตัวเล็กแกร็นที่ยืนเข้าแถวส่งเสด็จอยู่ห่างๆคอยจับจ้องริมฝีปากของทั้งคู่อยู่ตลอดเวลา  และทุกถ้อยคำได้ถูกถ่ายทอดไปสู่ท่านราชครูในอีกชั่วโมงถัดไป ............      
ข่าวใหญ่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนทั้งประเทศอีกครั้งเมื่อโรงแรมที่สร้างใหม่ถูกลอบวางระเบิด  องค์ฮัสซาได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่พระชายาองค์ใหม่หายสาบสูญไปในกองซากตึก!
เจ้าชายรามิลกลับมาเข้าเฝ้าอย่างรีบเร่งทันทีที่ทราบข่าว แต่เปิดประตูเข้าไปในห้องบรรทมกลับพบว่าองค์ฮัสซายืนอยู่กลางห้องแทนที่จะนอนอยู่บนเตียง
“เสด็จพ่อ! ทรงลุกขึ้นได้แล้วหรือกระหม่อม?”
“หรือต้องให้เราตายไปด้วยถึงจะสะใจเจ้า”
“เสด็จพ่อ!?”
“หากไม่เพราะความเอาแต่ใจของเจ้า เรื่องราวมันคงไม่บานปลายอย่างนี้หรอก  สำนึกบ้างหรือไม่ว่าเจ้าทำผิดแค่ไหน?”
“...กระหม่อมผิดที่พยายามจะหาตัวคนฆ่าแม่ของกระหม่อม...แต่กระหม่อมไม่ได้มือเปื้อนเลือดเหมือน...ใครบางคน”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไรรามิล”
“หรือไม่จริง...ทรงคิดว่าตบตาใครๆได้ แต่หลอกกระหม่อมไม่ได้หรอกนะ  ทรงคิดว่าท่านตาส่งคนไปลอบทำร้ายเลยแก้แค้นโดยให้นางมาวางยาฆ่าเสด็จแม่!” 
“เจ้าพร่ำเพ้อบ้าบออะไรรามิล”
“นางบอกกระหม่อมก่อนที่จะถูกฆ่าว่าคนที่ช่วยหนุนหลังนางคือฝ่าบาท  ทรงสั่งฆ่าปิดปากนางเองแล้วจะมาโยนให้กระหม่อมรับผิดชอบหรืออย่างไร?”
กษัตริย์ฮัสซาตาลุกวาบด้วยความโกรธ  รามิลคิดได้อย่างไรว่าทรงสั่งฆ่าหญิงที่ทรงรักที่สุด  ทั้งๆที่พระองค์ต้องทรงระเบิดโรงแรมใหม่เพื่อสร้างเรื่องให้พ้นตัวรามิลไปแท้ๆ  แต่ลูกกลับคิดว่าพระองค์คือคนบงการ
“เราคือใครรามิล! ในฐานะของกษัตริย์สิ่งที่เจ้ากล่าวหาเราก็ต้องโทษประหารแล้ว  หากในฐานะของพ่อเจ้าก็เป็นลูกอกตัญญู!”
“ก็ทรงประหารเสียเลยสิ  กระหม่อมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนี่”
“รามิล!”
“ทรงทำได้อย่างไร?  ไหนว่าทรงรักเสด็จแม่นัก...ปากว่ารักแต่ทรงทำร้ายหัวใจเสด็จแม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  แล้วยัง...”  เสียงขาดหายกระท่อนกระแท่นด้วยความสะเทือนใจ  ไนท์เมินหน้าหนีไปทางอื่น  จึงไม่ได้เห็นแววตาเจ็บปวดขององค์ฮัสซา
“กระหม่อมยินดีรับโทษที่บังอาจล่วงเกินกษัตริย์  แต่กระหม่อมไม่มีโทษอื่นเพราะกระหม่อมไม่มีพ่อ!”
ฉาด!!!! ใบหน้าเรียวเล็กสะบัดไปตามแรงตบ  รอยแดงเป็นปื้นผุดขึ้นทันที 
กษัตริย์ฮัสซายืนนิ่งขึง  ไม่เคยสักครั้งที่จะลงโทษใครป่าเถื่อนแบบนี้  แต่คำพูดของพระโอรสที่ทรงเสน่หาที่สุดเหมือนมีดกรีดใจจนพลั้งมือ  ดวงตาเป็นประกายรวดร้าวของลูกทำให้หัวใจพ่อแทบสลาย 
ไนท์จ้องมองพระบิดาด้วยความปวดใจก่อนจะหลับตาลง  ภาพแม่ที่ทุรนทุรายอยู่บนเตียงผุดวาบขึ้นมา  ความน้อยใจถูกแทนที่ด้วยความเคียดแค้น 
กษัตริย์ฮัสซาชาวาบทั้งตัวเมื่อเห็นดวงตาที่ลืมขึ้นสบตาอีกครั้ง  ความรู้สึกหนาวเยือกเกาะกุมหัวใจ  ดวงตากลมโตไม่มีความน้อยใจเสียใจอีกต่อไป มีเพียงความว่างเปล่าเย็นชาเท่านั้น
“รามิล...พ่อ...”
เสียงเคาะพระทวารดังแทรกขึ้น  ก่อนที่ทหารองครักษ์จะเข้ามาค้อมกายเคารพอย่างร้อนรน
“ฝ่าบาทฟาฮัสมาขอเข้าเฝ้ากระหม่อม”
คำขอโทษถูกกลืนหายไปในลำคอ ทิฐิทำให้องค์ฮัสซาเชิดหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว พระองค์เป็นทั้งกษัตริย์และพระบิดา  แต่ลูกกล้ากล่าวหาเช่นนี้  การลงโทษแค่นี้ถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ
“รับรองที่ห้องน้ำเงินก่อน แล้วอีก15นาทีค่อยให้เข้ามา บอกไปว่าหมอตรวตอาการเราอยู่”
“กระหม่อม”
กษัตริย์ฮัสซาเสด็จไปนั่งที่แท่นข้างเตียงโดยไม่ยอมตรัสอะไรกับโอรสอีกเลยพร้อมๆกับหมอหลวงก็เข้ามาเตรียมพันผ้าถวายเพื่อให้ดูสมจริงที่สุด  ไนท์ค้อมกายเคารพตามธรรมเนียมแล้วเดินแยกไปอีกทางสายใยของพ่อลูกสะบั้นลงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

                  ♜...........♜...........♜



ขอบคุณที่ติดตามคะ  :pig4:
เรื่องที่สามของใบปอนำมาลงให้แล้วนะคะ มีตัวละครเกี่ยวพันกับสองเรื่องแรกเหมือนกันคะ ลองอ่านดูสนุกคนละแบบกับคู่ของ เท็ดกาย แต่สนุกไม่แพ้กันเลยคะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 10-12-2009 21:08:49
รออ่านตอนต่อไปครับ

อิอิ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 10-12-2009 22:01:30
 :z2:
รอด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Lost_walker ที่ 10-12-2009 22:26:58
เพิ่งเคยอ่านครับ 

ตัวผมชอบเรื่องแนวโบราณ อย่างราชวงศ์หรือขัตติยา พวกเลือดสีน้ำเงินที่ทำสงครามชิงไหวพริบหักเหลี่ยม มากล่ะครับ

แต่ผมยังเดาไม่ออกเลยว่า ตกลงซีคฟา(เรียกย่อๆนะครับ) กับราชครูใครเป็นโจ๊กเกอร์กันแน่

ไม่อยากให้ซีคฟาร้ายเลย แต่ดูท่าจะร้ายน่าดูแฮะ

ผมชอบนะครับ 

แล้วจะติดตามเรื่อยๆครับ

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-12-2009 22:40:48
ยัไงม่ได้อ่าน แต่ขอวิ่งเข้ามากรี๊ดก่อน  นิยายคุณใบปอ  :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 10-12-2009 22:41:32
แอร๊ยยยยยยยยย คุณ THIP ตัดหน้า  :z3:

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด้วยคน รอตั้งหลายวันแล้ว  :mc4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 10-12-2009 23:29:25
 :mc4:  โย้ โย เย้ เย  เรื่องที่ 3 มาแว้วววว  เหมือนจะฉีกไปคนละแนวกันเลยนะนี่
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 11-12-2009 10:35:20
 o13 o13 o13 o13 o13



รออ่านตอนต่อไป ครับบ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 11-12-2009 12:56:12
ชอบจัง ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" 10/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 11-12-2009 14:01:32
เจ้าชายน้อยน่าสงสารนะครับ  มาติดตามเรื่องใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 13-12-2009 11:43:24
ขอบคุณทุกคนที่คอมเมนท์นะคะ มาอ่านกันต่อเลยคะ

..............
♚…2…♚

แสงแดดยามบ่ายค่อนข้างแรง แต่ร่างโปร่งที่นอนทอดตัวอยู่บนเก้าอี้ชายหาดดูเหมือนจะไม่ใส่ใจ ดวงตาภายใต้แว่นกันแดด ราคาแพงจับอยู่ที่คู่รักเดินคลอเคลียกันไปตามหาดทราย ร่างเล็กโดดขึ้นขี่หลังและร่างสูงใหญ่ก็พาเดินลุยน้ำห่างออกไป
“เอ่อ…ร้อนแล้วนะครับ  ฝ่าบาทยังไม่อยากขึ้นอีกเหรอ?”
ท่าทางเฉยเมยเหมือนไม่ใส่ใจของคนที่ถูกถาม กับเสียงขลุกขลักในลำคอของชายร่างยักษ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังทำให้คนถามหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ 
ลอเรนซ์  โซว์วาร์ด ตวัดตามองคนที่อยู่ห่างออกไปอย่างเกรี้ยวกราด แต่คนถูกมองตีหน้าเฉยหากแต่ดวงตาเป็นประกายเยาะหยัน
นายแบบหนุ่มผุดลุกขึ้นถอดเสื้อโชว์เรือนร่างเพรียวแน่นด้วยกล้ามเนื้อ เจตนาจะดึงดูดสายตาของชีคหนุ่ม ยื่นมือให้ด้วยมาดที่ถูกฝึกมาอย่างดีพร้อมกับยิ้มเก๋อย่างมั่นใจ
“ไปเล่นน้ำกันดีกว่าครับคุณไนท์...เอ่อฝ่าบาท”
คำพูดตีเสมอถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อลอเรนซ์เหลือบไปสบตาดุดันขององครักษ์ร่างยักษ์  ชื่อเล่นของชีครามิลเป็นชื่อเฉพาะคนในราชวงศ์เท่านั้น
“ตามสบายลอเรนซ์  เราอยากพักยังไม่อยากลงน้ำตอนนี้”
“แต่มาทะเลทั้งทีไม่ลงเล่นน้ำก็เสียเที่ยวแย่…นะครับ”ลอเรนซ์ยังพยายามต่อไป  แต่สีหน้าของชีครามิลยังคงไร้แววกระตือรือร้น
“เรารองานอยู่น่ะ…อีกสักครู่คนของเราคงส่งข่าวมา”
“เดี๋ยวนายยักษ์นั่นก็ไปบอกฝ่าบาทเองแหละน่า…นะครับน้าาา”
“ไคซัคไม่กล้าไปเรียกหรอก  เขารู้ว่าเราไม่ชอบให้รบกวนเวลาพักผ่อน” ลอเรนซ์หน้าชารู้สึกเหมือนกำลังโดนตำหนิ แต่ท่าทางเฉยๆนั้นทำให้เดาไม่ถูกว่าอีกฝ่ายเจตนาหรือไม่
“ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องเล่นน้ำคนเดียวซะแล้ว”ลอเรนซ์ข่มอาการหงุดหงิดไว้เต็มที่  ด้วยไม่อยากให้เสียภาพลักษณ์  นายแบบหนุ่มจำต้องลงทะเลไปลำพัง
องครักษ์ร่างใหญ่ถอนใจยาวอย่างรำคาญ หากไม่ติดที่อีกฝ่ายเป็นลูกชายของหุ้นส่วนธุรกิจของฝ่าบาท เขาคงเขี่ยไปไกลๆไม่ปล่อยให้มาป้วนเปี้ยนเกะกะอยู่อย่างนี้  อีกอย่างฝ่าบาทก็เจตนาให้หมอนี่ตามมา  แต่จะด้วยเหตุผลใดนั้นเขาไม่รู้
ดวงตาคมกริบตวัดตามไปยังคู่รักที่เห็นอยู่ไกลๆ ‘จีนส์’ หนุ่มน้อยหน้าสวยคู่ควงคนล่าสุดของทราวิส คือเหตุผลที่ชีคหนุ่มปล่อยให้ลอเรนซ์ตามมา เพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง...
ถึงจะแน่ใจว่าจีนส์ไม่ได้หวังจะจับทราวิสเพราะเงิน  แต่เท่าที่เขาให้คนตรวจสอบดูเด็กนั่นก็มีประวัติฉาวโฉ่ไม่ใช่ย่อย  ด้วยรูปลักษ์สะดุดตาทำให้ลอเรนซ์สนใจจีนส์มาก  คอยหาโอกาสแทะโลมอยู่เสมอ  แต่จีนส์จะคอยหลบเลี่ยงและอาศัยทราวิสเป็นเกราะกำบังทำให้ลอเรนซ์เข้าไม่ถึง แม้พฤติกรรมที่เห็นตอนนี้จะไม่เหมือนกับข่าวที่ได้มา  แต่ไนท์ก็ไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นการสร้างภาพของเด็กหนุ่มหรือไม่  สักวันจีนส์อาจเผยสันดานแท้ๆออกมา  และถ้าเป็นเช่นนั้นเขาจะทำให้จีนส์ได้ซาบซึ้งว่าการทรยศต่อความรักของทราวิสนั้นเป็นอย่างไร
เพียงแค่การขยับตัวของคนสนิทก็ดึงความสนใจของไนท์กลับมาทันที
 “ทางไกลจากฮาลีกระหม่อม”  ไคซัคค้อมตัวลงส่งโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กบางให้    แล้วถอยออกไปยืนอยู่ที่เดิม
“ขอบใจ…ว่าไงได้อะไรมาบ้าง?”
“ทางเราตรวจสอบแล้วกระหม่อม…ของถูกเปลี่ยนด้วยสินค้ามีตำหนิและถูกตีตราปลอม  มากกว่าครึ่ง”
“ใครทำเรื่องนี้?” น้ำเสียงเรียบเรื่อยราวกับคุยเรื่องดินฟ้าอากาศไม่ใช่สินค้ามูลค้าหลายล้านเหรียญ
“มีคนของเราร่วมด้วยแน่ แต่การเปลี่ยนสินค้าต้องลงมือที่โน่นกระหม่อม”
“แน่ใจเหรอ?” สีหน้าของชีคหนุ่มไม่เปลี่ยนแต่ดวงตาหลังแว่นเย็นเยือก
“กระหม่อม ตอนสินค้าลงที่ท่าเรือยังอยู่ในสภาพเรียบร้อย แต่คงสับเปลี่ยนระหว่างขนส่งกระหม่อม”
“แฮมิลตันกล้าเล่นตุกติกกับเรา?”
“เท่าที่เคยร่วมงานกันมา...กระหม่อมไม่เชื่อว่างานนี้ริช แฮมิลตันจะเป็นคนทำ  หมอนี่ถึงจะเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวแต่ไม่นิยมเล่นสกปรกอย่างนี้กระหม่อม”
“แล้วคิดว่าใครทำ ในเมื่อสินค้าอยู่ในมือแฮมิลตัน?”
“ให้ทีมเช็คอยู่แล้วกระหม่อม  คิดว่าคงรู้ผลในสองสามวันนี้”
“รู้ผลแล้วส่งข่าวทันทีนะ”
“กระหม่อม”
ไนท์ส่งโทรศัพท์คืนให้ไคซัคแล้วผุดลุกขึ้น เรือนร่างเพรียวเมื่อยืนเคียงกับร่างสูงใหญ่แทนที่ถูกข่มให้ด้อย กลับแผ่ซ่านด้วยพลังแห่งอำนาจ
“เราจะไปที่ห้อง...อย่าให้ใครไปกวน”
“กระหม่อม”
ชีคหนุ่มเดินลิ่วขึ้นไปยังบ้านพักเพื่อพักผ่อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเหลือบเห็นลอเรนซ์เดินวนเวียนรออยู่หน้าบ้านพัก ไนท์นิ่วหน้าอย่างหงุดหงิด ดูท่าเขาคงไม่ได้พักอย่างที่ตั้งใจเสียแล้ว
“กระหม่อมจะจัดการเอง”
“ไม่ต้อง...เราจะออกไปข้างนอกสักพัก  ไม่ต้องให้ใครตาม”
“แต่ฝ่าบาท...”
“ไม่ต้องห่วงหรอก  เราจะไม่ออกนอกเขตอารักขา”
“กระหม่อมขับรถนะให้”
“ก็เราอยากขับรถเล่น  จะให้เจ้าขับให้ทำไม”
“...กระหม่อม...”
ชายหนุ่มเดินลิ่วไปยังลานจอดรถ ทันทีที่พนักงานนำรถมาให้เขาก็ขับออกไปด้วยความเร็ว    ธุรกิจตัวใหม่ของเขาน่าจะไปได้สวย  ด้วยคู่ค้าคือตระกูลแฮมิลตัน ตระกูลใหญ่ที่ได้ชื่อว่าทรงอิทธิพลในโลกธุรกิจที่สุดตระกูลหนึ่งก็ยังไม่วายมีปัญหาอีกจนได้
ดวงตาสีน้ำตาลทองเป็นประกายกร้าวเมื่อนึกถึงสินค้ามูลค่าหลายล้านเหรียญ หากแฮมิลตันกล้าเล่นตุกติกกับเขาจริง  การจัดการกับตระกูลใหญ่อย่างนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่เชื่อเถอะ อย่างไรเสียก็ฮาลีก็จะสืบหาความจริงมาให้เขาจนได้  ขนาดเรื่องลับๆของคู่ควงคนใหม่ของพี่ชาย เขายังได้รายละเอียดมาภายใน24ชั่วโมงนี่นะ
ไนท์กดเท้าที่คันเร่งมากขึ้นเมื่อนึกถึงจีนส์ คู่ควงที่ดูเหมือนจะกลายเป็นคู่รักจริงๆไปแล้ว  ทราวิสไม่เคยจริงจังกับใครขนาดนี้มาก่อน  เมื่อตอนที่เด็กคนนั้นกินยานอนหลับเกินขนาดทราวิสคร่ำครวญราวกับคนเสียสติ  ไม่อยากจะเชื่อว่าคนสุขุมเยือกเย็นอย่างทราวิสจะเป็นไปได้ถึงเพียงนั้น
รถสปอร์ตคันงามเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง จู่ๆก็มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งวิ่งออกมาจากทางแยกเล็กๆขึ้นมาบนถนน  ไนท์หักหลบทำให้รถที่วิ่งด้วยความเร็วสูงพุ่งข้ามราวกั้นข้างทางลงสู่ทะเลเบื้องล่าง ทันทีที่รถปะทะเข้ากับผิวน้ำระบบก็ล็อคทันทีโดยอัตโนมัติ เครื่องยนต์สำลักแล้วดับลงในที่สุดเมื่อรถจมลงสู่ใต้ผืนน้ำ
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วินาที  แต่ชีคหนุ่มก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เขาปลดเข็มขัดนิรภัยออกและพยายามเปิดประตูแต่ไร้ผล  แรงดันมหาศาลของน้ำทำให้ประตูเปิดไม่ออก  อีกไม่นานเขาก็จะขาดอากาศหายใจอย่างแน่นอนรามิลมองหาอุปกรณ์ที่จะช่วยทุบกระจกให้แตกแต่ก็หาไม่เจอ
แสงสว่างจากข้างบนค่อยๆลดลงทุกทีเมื่อรถจมลึกลง รถไหวยวบทั้งคันก่อนจะค่อยๆหยุดนิ่งอยู่กับที่ ฟิล์มกรองแสงทึบทำให้รอบตัวสลัวลางจนแทบไม่เห็นสิ่งใด  ชีคหนุ่มพยายามหาวิธีออกไปจากรถ ก่อนที่ออกซิเจนจะหมด
กึก!ๆๆ…ไนท์เกือบผวาเมื่อจู่ๆก็มีเงาใหญ่มาปรากฏที่กระจกหน้า  แต่เมื่อร่างนั้นเคลื่อนไหวจึงรู้ว่าเป็นคน  แม้จะยังไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้ายแต่เขาก็รู้สึกดีกว่าอยู่ลำพัง  ร่างที่มีเพียงแว่นดำน้ำแนบมองมาในรถก่อนจะชี้ไปที่เบาะหลังและให้สัญญาณมือว่าเขาจะทุบกระจกก่อนจะพุ่งตัวหายไป  ชายหนุ่มเลื่อนตัวไปเบาะหลังอย่างรวดเร็ว พร้อมกับถอดรองเท้าและถุงเท้าออก  เขาต้องให้ร่างกายเบาที่สุดคล่องตัวที่สุดก่อนออกจากรถ
ร่างนั้นหายไปครู่หนึ่งจึงกลับมา  รถสะเทือนยวบๆอยู่หลายครั้งกว่าที่กระจกหน้าจะแตก  น้ำพุ่งปราดเข้ามาด้วยแรงดันภายนอกทำให้ชายหนุ่มต้องก้มลงบังหลังเบาะเพื่อหลบเศษกระจกและวัสดุที่พุ่งเข้ามากับน้ำ
ทันทีที่แรงดันน้ำเริ่มอ่อนลงชีคหนุ่มก็พุ่งตัวผ่านกระจกหน้าออกไป เท้าเปล่าเปลือยกระแทกกับอะไรบางอย่างจนเจ็บแปลบ แต่ไนท์มุ่งความสนใจไปที่แสงสว่างข้างบนมากกว่า โดยมีมือหนึ่งคอยช่วยดึงเขาขึ้น
แต่กว่าจะถึงผิวน้ำอากาศก็หมด  ทำให้เขาสูดเอาน้ำทะเลเข้าไปเต็มที่  ในอกอึดอัดและมือเท้าอ่อนแรงลง ไนท์เกือบจมลงไปอีก โชคดีที่มือแข็งแรงนั้นดึงเขาพ้นจากน้ำเสียก่อน
“คุณ!เป็นไงบ้าง?”
ชายหนุ่มไอโขลกอาเจียนน้ำเค็มๆออกมา  แสบไปหมดทั้งโพรงจมูก
“...ค็อกๆ...ผม...ไหว...ผมว่ายเองไหวแล้วครับ”
“โอเค...ลอยตัวนิ่งๆดีกว่า ผมจะไปเอาเรือมารับ”
มือที่ช่วยดึงเขาขึ้นมาปล่อยแล้วก็ผละว่ายไปหาเรือที่ลอยลำอยู่ไม่ไกล  ไนท์ว่ายตามไป  คนที่นำมาก่อนจึงช่วยดึงเขาขึ้นเรือ
“ขอบคุณครับ”ไนท์ขอบคุณหอบๆขณะลูบน้ำออกจากใบหน้าและดวงตาที่แสบจนพร่า ใบหน้าคล้ำแต่ฟันขาวเป็นระเบียบสวยยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายอย่างอารมณ์ดี
“ไม่เป็นไรครับ…แต่ตอนเขาลากรถขึ้นมาคุณอาจขอบคุณผมไม่ออกก็ได้ผมต้องใช้ไอ้นี่...ถึงทุบกระจกหน้ารถคุณแตก”
ไนท์มองตามที่อีกฝ่ายชี้ถึงเห็นกุญแจเลื่อนเปียกๆวางอยู่ข้างลังเครื่องมือซ่อมรถที่ท้องเรือ  ชายหนุ่มหันไปมองหน้าอีกฝ่ายอย่างระแวง
“ออกทะเลต้องใช้ด้วยเหรอครับ?”
“ผมไปช่วยพี่สาวซ่อมรถที่เกาะโน้นแล้วลืมเอาไว้ นี่เพิ่งไปเอามาครับ”ชายหนุ่มตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้างขวาง
ไนท์มองใบหน้าคล้ำๆนั้นอย่างทึ่งๆเมื่อสังเกตเห็นความคมคายบนใบหน้าคล้ำเกรียมแดด  รูปร่างสูงได้สัดส่วนด้วยกล้ามเนื้อแบบคนที่ทำงานหนักทำให้ดูแปลกตาสำหรับเขา
สำหรับไนท์ รามิล ราจีสอับดุล เขาเห็นมนุษย์รูปงามมามากเสียจนเอียนแต่สิ่งที่สะดุดตาของคนตรงหน้าคือรอยยิ้มซื่อ แจ่มใส ที่เขาไม่ได้เห็นมานาน  มันทำให้เขาอดยิ้มตอบไม่ได้
“ผมชื่อแจ็ค  มิเคเน่  เรียกแจ็คเฉยๆก็ได้ครับ”
“ผมชื่อไนท์…ไนท์  จิงเจอร์  คุณเรียกผมว่าไนท์แล้วกัน”
“แล้วคุณไนท์จะให้ผมไปส่งที่ไหนละครับ?”
“ผมพักที่…คุณส่งผมที่หน้ายอร์ชโฮเทลก็ได้ครับ” ไนท์เปลี่ยนใจที่จะบอกที่พักแก่หนุ่มชาวประมง ภัยที่อยู่รอบตัวมาตั่งแต่เกิดทำให้เขาระวังตัวแจ
“ได้ครับ  ข้างหลังคุณมีเสื้ออยู่ตัว  เหม็นสาบหน่อยแต่คงแก้หนาวได้”
“ขอบคุณครับ”
ไนท์หยิบเสื้อแจ็คเก็ตมาสวมทับ  ได้กลิ่นโคโลจน์ปนกลิ่นเหงื่อนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้เหม็นเหมือนที่เจ้าของออกตัว นับว่าเป็นชาวประมงที่สำอางไม่น้อยสำเนียงฝรั่งเศสปนอังกฤษน่าฟัง ชีคหนุ่มมั่นใจว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ชาวประมงธรรมดาแน่  อย่างน้อยก็ต้องมีการศึกษาพอสมควร
แจ็ครู้สึกถึงความกดดันในดวงตาคมดุที่มองมาอย่างพินิจ  ถึงจะคุ้นเคยกับดวงตาเปี่ยมด้วยอำนาจของนายจ้าง แต่บรรยากาศกลับต่างกัน อาจเพราะหนุ่มแปลกหน้าที่เขาช่วยเป็นหนุ่มหน้าสวยแต่ตาดุอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน  แม้จะเพิ่งเจอกันแต่ชายหนุ่มกลับเก็บรายละเอียดของหนุ่มต่างชาติได้มากมาย
เรือนร่างเพรียวค่อนข้างสูง ผิวสีทรายละเอียดจนเห็นสีระเรื่อบนแก้ม ปากบางแบบคนที่มีนิสัยเด็ดขาด  ผมสีน้ำตาลเหลือบแสงกับดวงตาสีน้ำตาลอมทองล้อมกรอบด้วยขนตายาวหนาเป็นแผงบอกถึงเลือดผสม   ถึงจะอยู่ในสภาพเปียกปอนแต่คนตรงหน้าก็ดูโดดเด่นด้วยรูปลักษณ์และอำนาจที่แผ่ซ่านออกมาจนสัมผัสได้
โดยเฉพาะดวงตาคมกล้า เป็นความงามที่ผสมผสานกับความเหี้ยมโหดชวนให้มองแต่ก็น่าเกรงขามในที
 “คุณเก่งนะครับ  ลงไปช่วยผมได้เร็วมากเลย”  แม้จะวางท่าสบายๆแต่
แจ็คก็สัมผัสได้ถึงความระแวงระวังของคนตรงหน้า
“ดวงคุณดีมากกว่า  ผมเห็นตั้งแต่ตอนรถพุ่งมาจากข้างบน ไม่ทราบว่ารถขัดข้องอะไรเหรอครับถึงได้เกิดอุบัติเหตุ?”
“รถน่ะไม่มีปัญหาหรอกครับ  ผมขับเร็วแล้วเผอิญมีคนตัดหน้า”
“คนที่นี่ก็เป็นแบบนี้แหละครับ เขาเคยชินกับถนนว่างๆแล้วนิสัยสบายๆไม่รีบร้อน  แต่บางทีก็ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน”
“แต่ว่าผมยังโชคดีที่ได้คุณช่วยไว้  ผมอยากตอบแทน…” ไนท์เอ่ยยังไม่ทันจบประโยค ชายหนุ่มตรงหน้าก็โบกมือว่อนแถมตอบสวนขึ้นมาทันควันด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นเลยครับ  เป็นใครมาเจออย่างผมก็ต้องช่วยทุกคน…คุณโชคดีเพราะรถคุณมีระบบกันภัยที่ดีนะครับ  นี่ถ้ากระจกแตกตั้งแต่ตกน้ำคุณคงแย่กว่านี้”
“ครับ”
ไนท์รับคำยิ้มๆทั้งที่ยังไม่คลายความระแวง  มันบังเอิญมากไปหรือเปล่าที่เขาเกิดอุบัติเหตุแล้วหมอนี่ก็เห็นเข้าพอดี  แม้จะทำเป็นไม่รับการตอบแทนแต่ก็ใช่ว่าควรไว้ใจ  เมื่อไม่มั่นใจว่าคนตรงหน้าจะเป็นคนของศัตรูหรือแค่บังเอิญผ่านมาเจอเขาก็ควรนิ่งไว้ก่อน  หากหมอแสดงพิรุธออกมาเขามั่นใจว่าสามารถจัดการกับแจ็คได้ไม่ยาก
เรือเบนเข้าเทียบท่าอย่างนิ่มนวลบอกถึงฝีมือคนบังคับได้เป็นอย่างดี  ร่างสูงโดดขึ้นบนท่าอย่างคล่องแคล่วก่อนจะหันมาส่งมือให้ราวกับเขาเป็นผู้หญิง  ไนท์เกือบกระโดดสวนขึ้นไปให้หมอนี่หน้าแตกเล่นหากไม่เห็นดวงตาห่วงใยจริงใจเสียก่อน ชีคหนุ่มจำต้องส่งมือให้อีกฝ่ายดึงขึ้นเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ
ทันทีที่ขยับตัวอาการเสียวแปลบที่ข้อเท้าทำให้เขาต้องก้มลงมองอย่างประหลาดใจ  เลือดไหลทะลักออกมาจากแผลค่อนข้างยาวไหลอาบเท้าเปล่าเปลือยจนชุ่มโชก
“อ้าว!คุณได้รับบาดเจ็บนี่...ขอผมดูหน่อยครับ”
แจ็คก้มลงพิจารณารอยแผลอย่างละเอียดรอยบาดยาวอยู่ด้านหน้าคงไม่โดนเส้นเลือดที่สำคัญแต่ก็คงลึกเอาการเพราะเลือดไหลเยอะมาก
“สงสัยกระจกหน้าบาด ผมว่าคุณไปทำแผลก่อนดีกว่าครับ” ชายหนุ่มเงยขึ้นบอกอย่างหวังดี ทันได้เห็นสีหน้าอิหลักอิเหลื่อของคนเจ็บ
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอกลับโรงแรมดีกว่า ผมหายมานานเกรงทางโน้นจะเป็นห่วง”
“ไม่ได้ครับ ท่าทางแผลคุณจะลึก  ผมนี่สะเพร่าจริงไม่ได้สังเกตตั้งแต่แรกจะได้ห้ามเลือดไว้ก่อน” ประโยคหลังชายหนุ่มบ่นตัวเองงึมงำก่อนจะโดดกลับลงไปในเรือ  ร่างสูงปีนกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  แล้วเอาเสื้อยืดสีขาวมาพันข้อเท้าให้ ไนท์เกือบสะดุ้งเมื่อแจ็คย่อตัวหันหลังให้เขาขี่  ชีคหนุ่มถอยก้าวหนึ่งอย่างลำบากใจ
“ผมว่า…ผมพอจะเดินเองได้นะครับ”
“ไม่ได้หรอกคุณ  ผมว่าเรารีบไปหาหมอดีกว่า  แผลลึกขนาดนั้นอาจจะติดเชื้อได้ง่าย  อีกอย่างเราก็ไม่รู้ว่ามีเศษกระจกค้างอยู่ในแผลหรือเปล่า  ถ้าคุณเคลื่อนไหวมากๆผมกลัวมันจะหลุดเข้ากระแสเลือด  คราวนี้ละเรื่องใหญ่แน่  มาครับรีบไปกันเถอะ”
ไนท์จำต้องขึ้นขี่หลังกว้างๆท่ามกลางสายตาของชาวเรือที่อยู่บริเวณท่าแผ่นหลังเปลือยค่อนข้างลื่นและร้อนเพราะเหงื่อ ยิ่งเดินไกลเหงื่อก็ยิ่งมากขึ้นแต่คนแบกเขาก็ยังเดินลิ่วๆด้วยความเร็วที่ไม่ลดลงสักนิด  ชีคหนุ่มหน้าชาเมื่อเหลือบเห็นคนที่เดินสวนมามองเขาแล้วหันไปซุบซิบกันใหญ่
“คุณแจ็คผมว่าผมเดินเองก็ได้นะครับ  ท่าทางคุณจะเหนื่อยแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงครับเพราะถึงแล้ว  คุณหมอครับ!  คุณหมอ!...มาธาร์หมออยู่
ไหมครับ?”
“เด็กทะลึ่ง!มาถึงก็ส่งเสียงเอะอะเชียว หมอตรวจคนไข้อยู่สิยะ... อ้าว! แล้วนั่นพ่อคนนี้เป็นอะไรมา?” สตรีชรารูปร่างผอมบางหยอกเย้าอย่างสนิทสนม  แจ็คยิ้มกว้างตามเคย  ในคลินิกค่อนข้างเล็กสะอาดโล่ง         
“สงสัยจะกระจกบาดครับ  เขาเพิ่งเกิดอุบัติเหตุ ผมอยากให้คุณหมอช่วยตรวจให้ละเอียดหน่อย”  แจ็คอธิบายขณะวางคนเจ็บลงบนเก้าอี้  มาธาร์พลอยชะโงกเข้ามาดูข้อเท้าที่บัดนี้เสื้อยืดที่พันไว้ชุ่มไปด้วยเลือด
“เดี๋ยวฉันไปดูให้ว่าคุณหมอตรวจเสร็จหรือยัง” มาธาร์เดินหายเข้าไปในห้องด้านหลัง  แจ็คหันกลับมายิ้มให้อย่างปลอบประโลม
“ปวดมากไหมครับ?”
“ชาๆมากกว่าครับ”
“เดี๋ยวให้คุณหมอตรวจสักหน่อยดีกว่าครับ…”
“พาเข้ามาได้เลยจ้ะหมอว่างแล้ว” มาธาร์ออกมาเรียก  แจ็คผุดลุกขึ้นตั้งท่าจะอุ้มอีกครั้ง
“ไปครับ”
“ผมขอเดินเองดีกว่า”  ไนท์รีบห้าม  ด้วยไม่ชอบให้ใครถูกเนื้อต้องตัว
“ได้ครับ มาผมประคองให้”  ท่าทางกุลีกุจอนั้นดูจริงใจเสียจนไนท์ไม่อยากทำลายน้ำใจ  จึงยอมให้แจ็คช่วย
“ขอบคุณครับ”
ไนท์ถูกพาไปยังห้องตรวจด้านใน  แจ็คทักทายคุณหมอสูงวัยอย่างคุ้นเคยก่อนจะออกจากห้องไป หมอตรวจอาการอย่างละเอียดและทำแผลที่ข้อเท้าให้  โชคดีที่ไม่ต้องเย็บเพราะแผลไม่ลึกอย่างที่คิด
“อย่าให้โดนน้ำสักอาทิตย์ก็แล้วกัน”
“ขอบคุณครับหมอ”
“เป็นไงบ้างครับ ต้องเย็บหรือเปล่า?”  แจ็คชะโงกหน้าเข้ามาดูก่อนจะรี่เข้ามาประคอง
“ไม่ต้องเย็บครับ”
“แล้วนี่คุณจะกลับไปโรงแรมเลยหรือเปล่าครับผมจะได้ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไปแท็กซี่ได้  ต้องขอบคุณคุณแจ็คมากนะครับ ที่ช่วยผมไว้”
“เรื่องเล็กน้อยครับ  ส่วนรถคุณ...ผมว่าคงต้องรีบแจ้งให้เขามาเอาขึ้นให้นะครับ  เผื่อจะยังซ่อมได้”
“ขอบคุณครับ  คิดว่าเพื่อนผมคงจัดการให้ได้”
“รอเดี๋ยวนะครับผมจะไปเรียกแท็กซี่ให้” แจ็คผลุนผลันออกไปเร็วจนไนท์ ห้ามไม่ทัน  ครู่เดียวหน้าคล้ำๆก็โผล่เข้ามายิ้มเผล่
“ไปครับรถมารอแล้ว”
“ขอบคุณคุณแจ็คอีกครั้งนะครับ”
“ด้วยความยินดีครับ  โชคดีนะครับ” แจ็คยืนมองตามแท็กซี่ไปจนลับตา  ใจกระตุกวูบอย่างประหลาด  ลางสังหรณ์บอกเขาว่า บางอย่างในชีวิตเขากำลังจะเปลี่ยนไป

......ƒ......
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 13-12-2009 11:47:51
ไคซัคชะงักเมื่อเห็นชีคหนุ่มลงมาจากแท็กซี่ เขากำลังจะออกตามเพราะทราบข่าวจากลูกน้องว่าชีคออกไปนกเขตและทหารองครักษ์ก็ตามไม่ทัน แต่จู่ๆชีครามิลก็กลับมาด้วยรถแท็กซี่ในสภาพที่เปียกปอนไปทั้งตัวและสวมเสื้อแจ็คเก็ตปอนๆเข้ามาในโรงแรม
ร่างเพรียวเดินลิ่วลงมาด้วยสีหน้าเฉยเมย  ทั้งที่เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า
“ฝากจ่ายค่าแท็กซี่ด้วยไคซัค” น้ำเสียงราบเรียบไร้แววขึ้งโกรธ  แต่องครักษ์หนาวๆร้อนๆไปตามๆกัน  เพราะสายตาตำหนิของไคซัคที่ตวัดมองอย่างคาดโทษ
“กระหม่อม”
ไคซัคจ่ายเงินเสร็จกลับมาไม่เจอชีคหนุ่มจึงตามไปที่บ้านพัก   เสื้อผ้าเปียกชื้นอยู่ในตะกร้าแต่เสื้อแจ็คเก็ตถูกพับวางไว้บนโต๊ะ  ประตูห้องน้ำเปิดออกร่างโปร่งในชุดคลุมเดินเช็ดผมออกมา  ชายเสื้อคลุมที่พันทบไว้เรียบกริบทำให้ร่างโปร่งมองดูบอบบางยิ่งขึ้น
“ฝ่าบาท…เอ่อ...”ไคซัคตั้งใจจะถามถึงสาเหตุที่ทำให้บาดเจ็บแต่ไนท์กลับถามหาเรื่องงานขึ้นเสียก่อน
“ทางโน้นส่งข่าวมาหรือยัง?”
“ยังกระหม่อม”
“ถ้ามีข่าวก็เข้ามาบอกด้วย เราจะนอนพัก  ถ้าไม่มีเรื่องด่วนห้ามกวน”
“กระหม่อม”ไคซัครับคำแล้วหันไปหยิบตะกร้าผ้ากับเสื้อแจ็คเก็ตบนโต๊ะ
“นั่นจะเอาเสื้อไปไหน?”
“จะส่งซักกระหม่อม”
“ตัวนั้นไม่ต้องวางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ”
“กระหม่อม”
ไนท์กินยาที่หมอให้แล้วหยิบโทรศัพท์ออกไปนั่งรับลมที่ระเบียง  นึกถึงคนที่อุตส่าห์แบกเขาไปจนถึงคลินิก ตาคมเหลือบไปมองเสื้อแจ็คเก็ตบนโต๊ะแล้วขมวดคิ้วนิดๆ เพราะมัวแต่วุ่นวายเรื่องทำแผลทำให้ลืมคืนเสื้อให้ ไม่รู้ว่าหมอนั่นจะลำบากหรือเปล่า  แม้จะยังไม่มั่นใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องบังเอิญหรือเกิดจากการจัดฉากขึ้นมา แต่ก็ต้องให้คนเช็คประวัติแจ็คดู  คงน่าเสียดายไม่น้อยถ้าคนที่มีรอยยิ้มจริงใจแบบนั้นจะเป็นมนุษย์สองหน้า  RRRRRR…
เสียงโทรศัพท์ภายในปลุกให้ตื่นจากภวังค์  ไนท์เดินไปกดรับสายทันที
“ว่าไง?”
“ฮาลีติดต่อมาแล้วกระหม่อม”
“ดี…เอากาแฟมาแก้วด้วย”
“กระหม่อม”
ทันทีที่มีเรื่องงานเข้ามาความคิดเรื่องอื่นก็หายวับ ดวงตารื่นรมย์อ่อนแสงกลับเย็นชาดังเดิม  ชีคหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้วตรงดิ่งเข้าห้องทำงานทันทีที่นั่งลงสัญญาณภาพก็ปรากฏขึ้น  หนุ่มหน้าทะเล้นผมดำยิ้มแป้นทั้งที่เรื่องที่จะรายงานเครียดจนแทบเดือด
“ไงฮาลี” รามิลทักทายหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองอย่างสนิทสนม
“กระหม่อมได้หลักฐานชิ้นใหญ่มาถวายด้วย...แต่ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะโปรดไหม?”
“ว่ามาเลย”
“คนของเราเช็คจนแน่ใจแล้วกระหม่อม…มีปลวกรังใหญ่จะพยายามเจาะฐานบัลลังค์แฮมิลตันกับเรา ดูเหมือนเจ้าปลวกพวกนั้นพยายามแหย่ให้เราเล่นงานแฮมิลตันเพราะงานนี้อยู่ในความรับผิดชอบของริช  แฮมิลตันกระหม่อม”
“แล้วรู้จักปลวกตัวนั้นหรือยัง?”
“ขอเช็คเพื่อความแน่ใจอีกครั้งกระหม่อม” รอยยิ้มทะเล้นจางลงแสดงว่าคนที่ฮาลีสงสัยต้องไม่ธรรมดา
ไคซัคเข้ามาวางถ้วยกาแฟแล้วถอยออกมายืนด้านหลัง  ไนท์ยกกาแฟขึ้นจิบ  ดวงตาคมหรี่ลงเล็กน้อยอย่างใช้ความคิดก่อนจะวางแก้วกาแฟลงเมื่อตัดสินใจได้เด็ดขาด
“เรากำลังจะย้ายไปพักร้อนที่ฮาวาย”
“อา…ดีจัง ที่นั่นมีโรงแรมชั้นหนึ่งในเครือแฮมิลตัน กระหม่อมคิดว่าเจ้าของควรไปต้อนรับแขกทรงเกียรติอย่างฝ่าบาทด้วยตัวเอง” ฮาลีแนะนำยิ้มๆและได้รับรอยยิ้มเย็นตอบแทน
“ดี!จัดการได้เลย”
“กระหม่อม”
สัญญาณภาพตัดวาบไป ไนท์ยังครุ่นคิดเงียบๆ ถึงจะได้รับการยืนยันจากฮาลี แต่ก็ควรต้องตรวจสอบ ริช แฮมิลตันอีกครั้ง เห็นทีคงต้องเลื่อนงานอื่นออกไปก่อน
“สงสัยเราต้องเดินทางกันอีกแล้ว”
“กระหม่อม…”
“จะไปไหนกันครับ?”
เสียงแทรกดังมาจากหน้าประตู ไนท์และไคซัคหันไปมองพร้อมกัน
“นี่เป็นบ้านพักส่วนตัวของฝ่าบาทคุณไม่มีสิทธิ์เข้ามา”ไคซัคตำหนิอย่างเหลือทน  นึกโมโหคนของเขาที่ปล่อยให้ลอเรนซ์เข้ามาโดยพละการ  เห็นทีต้องจัดระเบียบกันใหม่เสียแล้ว
ลอเรนซ์หน้าเจื่อนรีบหันไปมองชีครามิล  ดวงตาคมดุมองนิ่ง ใบหน้าเรียบเฉยไม่บอกอารมณ์ทำให้อีกฝ่ายได้ใจ  ลอเรนซ์หันกลับไปมองไคซัคตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเหยียดหยามเต็มที่
“นายเขาจะคุยกันไม่ใช่เรื่องที่แกควรสอดจมูกเข้ามา”
“ไคซัคเป็นทั้งราชองครักษ์และเป็นเพื่อนของเรา  ถ้ามิสเตอร์โซว์วาร์ดไม่มีธุระอะไรขอเราพักผ่อนตามลำพัง”
รอยยิ้มเย็นๆยังปรากฏบนใบหน้าเนียนสวย แต่คนฟังหน้าชา ยืนเซ่อราวกับถูกตบอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะกัดกรามกรอดแล้วจ้ำพรวดๆกลับไปบ้านพักด้วยความ แค้น
“ไคซัค...ไปตรวจสอบประวัติ ริช แฮมิลตันให้ที...ละเอียดยิบด้วยนะ”
“กระหม่อม”
“แค่นั้นแหละ...เราจะพักหน่อย”
“เอ่อ...บาดแผลของฝ่าบาท...”
“เรื่องเล็กน่า  ไปหาหมอมาแล้วด้วย”
“ทูลลากระหม่อม”
ไคซัคค้อมกายเคารพก่อนจะออกจากห้องไปอย่างเงียบกริบ  ไนท์ขยับข้อเท้าไปมาเพื่อทดสอบว่าเคลื่อนไหวได้ดีอยู่หรือไม่  แม้จะยังมีอาการเจ็บระบมอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากนัก  ดวงตาดุทอดมองไกลไปยังทะเลกว้างและหาดทรายเบื้องล่างน่าเสียดายที่งานเร่งรัดจนต้องไปจากที่นี่ทั้งๆที่ยังไม่ได้เที่ยวให้ทั่วอย่างที่ตั้งใจ  ชีคหนุ่มลุกออกไปด้านนอกองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ไม่ไกลรีบผุดลุกขึ้นทำความเคารพกันพรึบ  รามิลโบกมือไล่แล้วกลับเข้าบ้าน  ล้มเลิกความตั้งใจจะเดินเล่น  เบื่อที่จะต้องชักแถวตามกันเป็นพรวน ......ƒ.....                     

   เกือบเที่ยงคืนสัญญาณภาพจากฮาลีถูกส่งเข้ามา      ไนท์วางมือจากแฟ้มทันที
“ว่าไงฮาลี?”
“กระหม่อมมีข่าวไม่ค่อยดีฝ่าบาท”
“ว่ามา”
“เราได้ภาพจากวงจรปิดด้านหลังโกดังเก็บสินค้า กับที่ลานจอดรถขนส่งคนที่เข้ามาปลอมตราเราตรวจสอบแล้ว  เป็นคนของ...ฝ่าบาทฟาฮัส”
ไนท์นั่งตะลึงตัวแข็ง เย็นวาบไปทั้งหัวใจแล้วเปลี่ยนเป็นขมขื่น  แต่เสียงที่เอ่ยออกมากลับราบเรียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คนของเสด็จอาฟาฮัสงั้นเหรอ?”
“กระหม่อม”
“ตรวจสอบแน่แล้วเหรอ?”
“กระหม่อม”
“เช็คให้ละเอียดอีกที...เราต้องการหลักฐานที่มากกว่าภาพจากกล้องวงจรปิด”
“กระหม่อม”
ภาพสัญญาณตัดไปตั้งนานแล้ว  แต่ไนท์ยังจ้องหน้าจอมอนิเตอร์เขม็ง  ข่าวที่ได้รับใช่จะเป็นเรื่องใหม่ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ พยายามปลอบใจตัวเองว่ามันอาจเป็นเพียงการเข้าใจผิด  หรืออาจเกิดจากความผิดพลาดอะไรบางอย่าง  แม้อีกใจจะค้านด้วยรู้ถึงประสิทธิภาพของหน่วยข่าวกรองเป็นอย่างดีก็ตาม  แต่มันยากที่จะทำใจว่าคนที่ถือมีดซ่อนหลังไว้คือเสด็จอาฟาฮัส  คนที่เขารักและเทิดทูนมาตลอด  อาผู้แสนดีที่เคยเข้าอกเข้าใจเขาเสียยิ่งกว่าบิดาแท้ๆ
ชีคหนุ่มนั่งตัวตรงแน่ว หลับตานิ่งแต่คิ้วขมวดจนแทบชิดกัน  ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยเย็นชา ดูดุกระด้างขึ้นอีกเท่าตัว ทำให้องครักษ์ที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟชะงัก  แล้วค่อยๆถอยออกไปโทรศัพท์หาไคซัค
   “หัวหน้าครับ”
“มีอะไรอามิล”
“เมื่อครู่มีข่าวจากคุณฮาลี  แล้วฝ่าบาทก็มีสีพระพักตร์ไม่ดีเลย”
“คอยดูแลห่างๆแล้วกัน  ถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้าไปรบกวนเด็ดขาด  ฉันจะรีบกลับทันทีที่งานทางนี้เสร็จ”
“ครับผม”
                                       ............

ไนท์ถอนใจยาวเมื่อนึกถึงความโกลาหลของบรรดาองครักษ์ที่หา
เขาไม่เจอ  แม้จะรู้ว่าเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะไปไหนเพียงลำพัง แต่ปัญหาหนักๆ ที่เผชิญอยู่ในเวลานี้ มันทำให้เขาหงุดหงิดจนไม่อยากเห็นหน้าใคร  อยากมีช่วง เวลาส่วนตัวที่จะได้คิดอะไรคนเดียวเงียบๆ หากไคซัคหรือฮาลีอยู่ด้วย ก็ยังพอหา คนพูดคุยได้บ้าง
ชีคหนุ่มเลือกใช้บริการรถเช่า เพราะทำให้ยากแก่การติดตามและไม่ค่อยเป็นที่สนใจนัก สองข้างทางมีแต่ร้านรวงและนักท่องเที่ยว  เมื่อคนมากขึ้นทิวทัศน์สวยๆก็เริ่มน้อยลงและถูกแทนที่ด้วยเมือง ความจอแจของการจราจรทำให้เขาไม่มีเวลาครุ่นคิดสิ่งใดนอกจากตั้งสมาธิอยู่กับการขับรถ
ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดง  รถจี๊ปกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดในเลนส์ข้างๆ  ไนท์เหลือบมองด้วยสัญชาติญาณระวังภัย  ชีคหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นคนขับได้ถนัด ไม่อยากเชื่อว่าโลกจะกลมกว่าที่เขาคิด 
ชั่วข้ามคืนเขากลับได้เจอแจ็คอีกครั้งจนได้  แต่ดูเหมือนแจ็คกำลังหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตนเองเช่นกันจึงไม่เห็นเขา ทันทีที่สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว  ไนท์ก็ขับตามรถจี๊ปไปทันที 
แจ็คเลี้ยวรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง  ที่ดูเหมือนจะเพิ่งได้เวลาเปิดทำให้มีคนมาซื้อของยังไม่มาก  ลานจอดรถค่อนข้างโล่งและกว้าง  ไนท์ เลือกจอดรถห่างจากรถจี๊ปเพื่อไม่ให้แจ็ครู้ตัว
แจ็คตรงดิ่งเข้าไปแผนกของเด็กเล่นทำให้ชีคหนุ่มแปลกใจ  วัยขนาดนี้ไม่น่าที่แจ็คจะสนใจของเล่นพวกนี้  ดูเหมือนแจ็คจะเจาะจงเลือกเฉพาะของเล่นสำหรับเด็กเล็กเสียด้วย หรือว่าแจ็คจะซื้อของเล่นไปให้ลูก...
แจ็คเดินดูโน่นดูนี่อยู่ครู่หนึ่งก็เดินเลยไปแผนกหนังสือโดยไม่ได้ของเล่นแม้แต่ชิ้นเดียว  ไนท์เดินตามไปเรื่อยๆความตั้งใจจะเข้าไปทักทายแจ็คหายไป นึกสนุกกับการเป็นนักสืบเฉพาะกิจขึ้นมาทันที
ไนท์เกือบหัวเราะเมื่อเห็นแจ็คชะงักหยุดเดินแล้วเหลียวมองไปรอบๆอย่างระแวง นับว่าสัญชาติญาณของหมอนี่ใช้ได้ที่รู้สึกตัวว่ากำลังถูกตามเพราะมั่นใจว่าเขาพรางตัวได้ดี  จู่ๆแจ็คก็หันกลับมา  ดีที่เขามองผ่านเงาสะท้อนจากกระจกร้านขายเกมทำให้แจ็คไม่สังเกตเห็น  แจ็คเหลียวมองไปรอบๆช้าๆราวกับชมข้าวของ แต่ไนท์แน่ใจว่าแจ็คกำลังมองหาคนที่สะกดรอยมากกว่า  ชีคหนุ่มเกือบเดินตามอยู่แล้วหากไม่สังเกตว่าแจ็คมองผ่านเขาไปยังด้านหลังเขม็ง  ไนท์จึงมองตาม 
ชีคหนุ่มใจหายวูบแล้วเปลี่ยนเป็นโกรธ  เขาโกรธตัวเองที่ประมาทจนไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกตาม  ไนท์เปลี่ยนใจแยกจากแจ็ค  เขาไม่อยากดึงชายหนุ่มให้เข้ามาพัวพันด้วย  ชีคหนุ่มเข้าร้านโน้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น จนแน่ใจว่าสลัดคนที่สะกดรอยได้แล้วจึงย้อนกลับมาที่รถเช่า
จังหวะที่บิดกุญแจเพื่อสตาร์ท  จู่ๆลางสังหรณ์ก็ทำให้เขาหนาวเยือกทั้งตัว  ชีคหนุ่มเปิดประตูแล้วพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว  อากาศรอบๆตัวเขาเหมือนหยุดนิ่งก่อนที่จะระเบิดกึกก้องจนหูเขาอื้อ  แรงดันมหาศาลเหวี่ยงร่างเขาจนกระเด็นไถลไปใต้ท้องรถที่จอดอยู่ห่างออกไป  เนื้อตัวถูกลวกด้วยไอร้อนจนแสบวูบไปทั้งตัว  โดยเฉพาะแผ่นหลังเจ็บจนชาหมดความรู้สึก ทั้งที่ร่างกายหนักและปวดหนึบ  ในสมองเบลอมึนงงไปหมด  หูทั้งสองข้างถูกแรงอัดจนอื้อและเจ็บร้าว แต่สัญชาติญาณทำให้ชีคหนุ่มก็ยังกัดฟันลากตัวเองลึกเข้าไปใต้ท้องรถคันที่อยู่ในสุด    แรงระเบิดทำให้ไฟลุกโหมซากรถและระเบิดติดๆกันอีกสองครั้ง เพราะรถที่อยู่ข้างๆ ก็พลอยระเบิดไปด้วย
รองเท้าหนังเป็นมันปลาบสองคู่วิ่งผ่านรถคันที่เขานอนหลบอยู่  ได้ยินเสียงสนทนากันแว่วๆด้วยหูยังอื้อจากเสียงระเบิดเมื่อครู่
“หาให้เจอเร็ว”
“ระเบิดขนาดนี้ไม่เหลือซากหรอก”
“อย่าประมาท  ถ้าไม่เห็นศพก็ยังวางใจไม่ได้”
“แล้วจะไปดูได้ยังไง  ไฟลุกแรงขนาดนั้น”
“รอดูก่อนเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ของห้างต้องหาทางมาดับไฟแน่”
“มาพอดี...แน่ะ!มากันเยอะเลย”
“หลบก่อนอย่าพวกมันเห็น”
เจ้าหน้าประจำห้างวิ่งมาพร้อมถังดับเพลิง  ไม่นานบริเวณนั้นก็คลาคล่ำไปด้วยฝรั่งมุง  ไนท์ค่อยๆคลานลอดออกมาให้พ้นจนถึงบันไดหนีไฟด้านหลัง  ชีคหนุ่มเกือบไปถึงบันไดแล้วหากแต่เหลือบไปเห็นรถจี๊ปของแจ็คเสียก่อน   ไนท์รีบปีนขึ้นไปบนรถที่เปิดโล่งทั้งคัน  ข้าวของด้านหลังจัดไว้เป็นระเบียบ  ไนท์กวาดรื้อข้าวของทุกอย่างให้กองสุมกันเพื่อพรางตัวก่อนจะสอดตัวเองลงไปใต้ผ้าเต็นท์สีเข้ม  ไม่ถึงอึดใจพวกมันก็วิ่งผ่านรถของแจ็คไป
“มันไม่อยู่ในรถได้ยังไง?”
“ก็มันมาคนเดียว  ใครจะสตาร์ทรถถ้าไม่ใช่มัน”
“รีบหาดูเถอะ  มันคงไปได้ไม่ไกลหรอก”
“โธ่โว้ย!ทำให้กูลำบาก  เจอเมื่อไหร่จะเชือดแม่งทีละชิ้นเลย”
เสียงฝีเท้าค่อยๆห่างออกไป  ไนท์ค่อยๆผ่อนอาการเกร็งตัว  เลือดจากบาดแผลไหลจนบริเวณที่เขานอนแฉะชื้นไปหมด  ตอนนี้ชีคหนุ่มไม่มีแม้แต่แรงจะขยับตัวด้วยซ้ำ  เขาไม่มีทางเลือกใดๆนอกจากรอให้เจ้าของรถกลับมา
   แจ็คไม่ได้ผลีผลามออกมาดูที่เกิดเหตุเร็วนัก  ชายหนุ่มลอบสังเกตการณ์อยู่ห่างๆจนกระทั่งแน่ใจว่าชายแปลกหน้าสองคนที่ตามเขาอยู่เมื่อครู่ไม่ได้อยู่แถวนั้นจึงกลับไปที่รถ
กว่าแจ็คจะฝ่าการจราจรที่กลายเป็นจลาจลด้วยความแตกตื่นของคนที่หนีออกมาจากห้างได้ก็เกือบครึ่งชั่วโมง  ยังดีที่เขารู้จักซอกเล็กซอยน้อยแถวนี้ดีจึงไม่ต้องติดเป็นตังเมอยู่บนถนนใหญ่
“...คุณแจ็ค...”
แจ็คเกือบสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงครางแผ่วๆจากด้านหลัง  เขาเหลือบมองกระจกส่องหลัง  เห็นใบหน้าซีดเผือดโผล่ขึ้นมาจากกองข้าวของด้านหลังก็อุทานอย่างตกใจแกมประหลาดใจ
“คุณ!”  ชายหนุ่มค่อยๆชะลอรถแอบเข้าข้างทาง  แล้วเอี้ยวตัวไปดู
“เกิดอะไรขึ้นครับ...แล้วนี่คุณมาอยู่บนรถผมได้ยังไง?”
“เรื่องมันยาว...ตอนนี้ช่วยออกรถก่อนได้ไหม?” ไนท์พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วใบหน้าขาวซีด  เพราะอาการชาหายไปแล้ว ความเจ็บปวดกำลังแผ่ซ่านไปทั้งตัว
“แล้วคุณจะไปไหนครับ?”
“ไปคลินิก...แต่ไม่ใช่แถวนี้นะ...ขอเป็นไกลๆหน่อย เลือกที่ไม่ค่อยมีคนนะ...ได้ไหม?” ไนท์พยายามอธิบายทั้งๆที่ตาเริ่มพร่ามัว  สติเริ่มลอยไกลจนแทบทรงกายไม่อยู่ 
“คุณไม่สบายเหรอครับ?”
      “อย่า...เพิ่งซักเลย...รีบออกรถเถอะ” ไนท์ผลุบหน้าหายไปหลังเบาะอีกครั้ง
แจ็ครีบออกรถทันที ชายหนุ่มขับรถอยู่ครู่ใหญ่จึงหลุดออกมานอกเขตเมือง  ก็เห็นคลินิกแห่งหนึ่งจึงเลี้ยงรถเข้าไปจอด
“ถึงแล้วครับ...คุณไนท์...คุณไนท์ครับ...”
เงียบกริบ  ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ  แจ็คชะโงกไปมองข้างหลังอย่างสงสัย 
เต็นท์ผ้าใบกับข้าวของที่เขาจัดเรียงไว้ถูกรื้อจนกระจัดกระจายกองสุมกัน  ใบหน้าขาวซีดโผล่ออกมาจากกองเต็นท์เพียงนิดเดียวเท่านั้น  แต่ที่ทำให้แจ็คชะงักคือกลิ่นคาวฟุ้งของเลือดกับกลิ่นเหม็นไหม้คล้ายๆกลิ่นกำมะถัน  ชายหนุ่มแหวกผ้าเต็นท์ออกอย่างร้อนใจ
ร่างค่อนข้างเพรียวขดตัวตะแคงอยู่ชิดเบาะ  เสื้อเชิ้ตสีขาวมีรอยไหม้และมีคราบเลือด โดยเฉพาะด้านหลังที่ขาดวิ่นและโชกด้วยเลือดจนมองไม่เห็นว่าบาดแผลสาหัสแค่ไหน  แต่เลือดที่ไหลนองบอกให้รู้ว่าชายหนุ่มเสียเลือดไม่น้อย
 แจ็คประคองร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นมาอย่างตกใจ
“นี่คุณได้รับบาดเจ็บนี่  คุณไนท์...คุณไนท์...”
แจ็คคว้าเสื้อแจ็คเก็ตมาคลุมร่างบางก่อนจะอุ้มเข้าไปในคลินิกอย่างรวดเร็ว  โชคดีที่ไม่มีคนไข้อยู่ในร้าน  พยาบาลที่อยู่เคาเตอร์ด้านหน้ารีบวิ่งมาเปิดประตูให้เมื่อเห็นแจ็คอุ้มร่างโชกด้วยเลือดเข้าไป
“หมอครับเป็นไงบ้าง?”
“นี่เขาไปโดนอะไรมา  เหมือนไฟลวกแต่มีเศษโลหะกับคราบกำมะถันติดมาด้วย?” หมอเลื่อนถาดให้ดู  นอกจากเศษผ้ากอซชุ่มเลือด ยังมีเศษโลหะชิ้นเล็กๆหลายชิ้น  ตลอดเวลาไนท์แทบไม่รู้สึกตัวเลย
“เขาโดนลูกหลงระเบิดรถที่ห้างนะสิครับ”
“ไอ้ที่กำลังออกข่าวเนี่ยเหรอ?” สีหน้าระแวงของหมอทำให้แจ็ครีบรับสม-อ้างเพื่อกันไนท์ออกจากความยุ่งยากที่ตามมา
“ครับ  เขาออกมาเก็บของที่รถก่อนผมเลยโดนลูกหลงเข้าเต็มที่”
“ยังดีนะที่ไฟลวกแค่หลัง ถึงแผลไม่ลึกแต่กินบริเวณกว้างมาก แล้วเศษ
โลหะพวกนี้ก็ฝั่งอยู่ค่อนข้างลึก เขาถึงได้เสียเลือดไปมาก คงต้องคอยดูแลให้ดีเพราะแผลจะติดเชื้อได้ง่าย”
“ขอบคุณครับหมอ”
“ทางที่ดีคุณควรพาไปโรงพยาบาลนะ  จะได้เช็คให้ละเอียดอีกที?”
“ครับผมจะพาเขาไป  ขอบคุณหมอมากครับ”
แจ็ครีบพาไนท์ออกมา แต่สีหน้าของหมอทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าพาไนท์ไปโรงพยาบาล  เพราะชักมั่นใจว่าไนท์คงมีส่วนพัวพันกับเหตุระเบิดที่ห้าง แต่เขาก็เชื่อว่าไนท์ต้องไม่ใช่คนร้ายแน่ 
ดูท่าตอนนี้ในเมืองคงไม่ปลอดภัยสำหรับไนท์ เพราะตำรวจน่าจะควานหาตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ให้ควั่กไปหมดแล้ว  สภาพหมดสติเช่นนี้อาจทำให้ไนท์ได้รับอันตรายถ้าตกไปอยู่ในมือคนที่จ้องทำร้าย
          ♜...........♜...........♜

ขอบคุณที่ติดตามคะ :pig4:

หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 13-12-2009 11:56:57
กี๊สสส ท่านไนท์เจอชายหนุ่มรูปงามซะแล้ว

รออ่านต่อจ้า
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 13-12-2009 12:59:36
ตามมาเจอเรื่องที่สามแล้ว

เป็นเรื่องของแจ็คนี่เอง

อ่านเรือง เท็ดกาย ริชราเชล แล้ว สนุกมากค่ะ อ่านสองวันติดเลย ปวดตาไปหมด

รอตอนต่อไปค่ะ ขอบคุณที่นำเรื่องดี ๆมาแบ่งปันนะค่ะ o13


หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-12-2009 23:52:03
บวก 1 แต้ม เป็นกำลังใจกับเรื่องใหม่นะีคะ
เห็นตั้งแต่วันแรกที่ลง แต่ยังไม่มีเวลาอ่าน
แค่ชื่อผู้แต่งก็รับประกันความสนุกแล้ว
ท่าทางเรื่องนี้ก็สนุกไม่แพ้สองเรื่องที่แล้ว
แถมตัวละครยังเกี่ยวข้องกันอีก ชวนติดตามมากๆค่ะ
ขอบคุณคนโพสต์มากๆนะคะ


หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 14-12-2009 01:07:27
 :3123:
เอาอีกๆๆ
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 14-12-2009 01:34:47
ตอนแรกนึกว่าเรื่องของใคร
รออ่านนะ :mc4:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 14-12-2009 11:13:56
เจอกันแต่ละทีท่านชีคแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ท่าทางคู่นี้จะทรหดสุดในบรรดา 3 คู่   :m2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 14-12-2009 12:01:51


เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เรื่องที่สามแล้ว


 :mc4:


ตามติดๆ 
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 14-12-2009 12:38:43
เรื่องนี้ออกแนวบู๊นะครับ  ยังไงก็ติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 14-12-2009 15:56:31
ฮ่าๆๆๆๆ  มันส์ๆๆๆๆๆ   :z2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-12-2009 19:12:11
หืมเรื่องนี้พล้อตน่าสนใจมาก   :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 15-12-2009 20:39:49
มารอค่าาาา

คิดถึง :L1:
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 15-12-2009 21:00:15
 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: (นิยาย) เรื่อง กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 15-12-2009 22:05:00
ว้าวๆๆๆ เรื่องที่สามแล้ว
แอบลุ้นไว้ว่าน่าจะเป็นแจ็ค   แล้วก็เป็นแจ็คจริงๆ
เรื่องน่าสนใจดีค่ะ  ดูลุ้นแล้วก็น่าติดตามดีค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ 13/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: in_nov ที่ 16-12-2009 22:58:48
อ่านครบทั้ง 2 เรื่องแล้ว
สนุกมากค่ะ มีครบทุกรส ทุกอารมณ์
เรื่องที่ 3 รู้สึกว่าตัวละครจะเกี่ยวพันกับสองเรื่องแรก
เนื้อเรื่องน่าสนุกและน่าติดตาม

รออ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 17-12-2009 21:59:00
ขอบคุณที่ติดตามผลงานของ คุณใบปอ นะคะ มาอ่านกันต่อเลยคะ

......

แจ็คตัดสินใจพาไนท์ไปยังหมู่บ้านริมทะเล ที่นั่นห่างจากตัวเมืองพอสมควรและยังรายล้อมด้วยป่า  ทำให้ง่ายแก่การหลบหนีหากถูกติดตาม ที่สำคัญที่นั่นเป็นถิ่นของเขาย่อมต้องปลอดภัยกว่าไปพักตามโรงแรมแน่
แม้แจ็คจะพยายามให้เบาแสนเบาแค่ไหนแต่ไนท์ก็สะดุ้งทุกครั้งที่รถตกหลุม   ดูท่าแผลคงบอบช้ำมาก ชายหนุ่มเอารถเข้าไปจนถึงบ้านแล้วจึงค่อยๆช้อนอุ้มร่างบอบบางเข้าไปอย่างระมัดระวัง
“...อือ...” ดวงตาที่เคยดุคมบัดนี้ลอยคว้างด้วยยังไม่รู้สึกตัวดีนัก
“คุณ...เป็นไงบ้างครับ?” แจ็คก้มลงมองจนใกล้  ดวงตาโตยังลอยไกล
“ไค...เราเป็นอะไร...ทำไมร้อน...อย่างนี้?”ภาษาอาหรับกระท่อนกระแท่นและแผ่วเบา  แต่ก็พอฟังรู้เรื่อง
“คุณได้รับบาดเจ็บครับ”
“...ใคร?...” คราวนี้ตาหรี่ปรือไหววับและพยายามจ้องหน้าเขาให้ชัด
“ผมแจ็คไงครับ...เมื่อวานเราเจอกันที่ทะเล  จำผมได้ไหม?”
“แจ็ค?...”
“ครับ” แจ็ครับคำหนักแน่นทั้งที่พอจะรู้ว่าไนท์คงยังจำอะไรไม่ได้แน่
“...แล้ว...นี่ที่ไหน?...” สีหน้าระแวงขึ้นมาฉับพลัน ไนท์ทำท่าเหมือนจะดิ้น  แต่บาดแผลที่หลังช่วยยับยั้งการเคลื่อนไหวไว้ ใบหน้าขาวซีดบิดเบี้ยวอย่างเจ็บปวด แจ็ควางร่างบางลงบนเตียงโดยให้ไนท์นอนคว่ำเพื่อกันไม่ให้แผลกระเทือน
ไนท์ยังคงพูดพึมพำไม่ได้หยุด แต่เสียงอยู่ในลำคอทำให้ได้ยินไม่ถนัด ท่าทางกระวนกระวายทำให้แจ็คต้องตบหลังมือขาวเบาๆเพื่อปลอบโยน  ขณะอีกมือกดไหล่บางไว้ไม่ให้เคลื่อนไหว
“คุณไนท์ครับ...ไม่เป็นไรแล้วนะครับ  คุณปลอดภัยแล้ว”
ผมชื้นเหงื่อตกลงมารกใบหน้าซีดเซียวแจ็คจึงเสยขึ้นเบาๆ  ผิวสัมผัสเนียนละมุนมือจนชายหนุ่มแปลกใจ แม้คิ้วเรียวจะยังขมวดมุ่นแต่คงเพราะฤทธิ์ยาทำให้อาการทุรนทุรายจะลดลง  มีเพียงลมหายใจตื้นและแรง แบบคนเจ็บเข้ามาแทน
  แม้จะห่วงและกังวลกับอาการของคนเจ็บ แต่เขาก็ต้องตัดใจทิ้งไนท์ไว้คนเดียว  แจ็ครีบขับรถไปซ่อนไว้ที่ไร่อีกฟากของแม่น้ำเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย เพราะหากถูกตามล่าจริง ก็จะทำให้ตามได้ยากขึ้น
ขากลับแจ็คเดินแกมวิ่งลัดเลาะไปตามป่าอย่างร้อนใจ  เขาทิ้งไนท์ไว้คนเดียวนานเกินไปแล้ว แต่นอกจากซ่อนรถแล้วเขายังต้องเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านให้คอยเป็นยามให้ ถึงจะมั่นใจว่าเขาระวังตัวได้ดีแล้วแต่จะประมาทไม่ได้เด็ดขาด
บ้านยังคงมืดและเงียบกริบจนเขากังวล  แจ็คภาวนาให้ไนท์ปลอดภัยและชายหนุ่มก็ถอนใจเฮือกอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าไนท์ยังหลับอยู่ในสภาพที่เขาจัดไว้ 
แจ็คจุดเตาผิงเพื่อให้ห้องอบอุ่นขึ้น  แล้วยกกะละมังน้ำอุ่นมาวางเตรียมเช็ดตัวให้  เสื้อคนไข้ที่หมอให้สวมมาแทนเสื้อเชิ้ตขาดวิ่นทำให้ถอดง่าย  ชายหนุ่มชะงักเมื่อเห็นรอยไหม้รอบๆนอกเหนือจากบริเวณที่ปิดผ้าพันแผลไว้  เพราะมันกินเนื้อที่เกือบตลอดแผ่นหลังขาวก็ว่าได้  ชายหนุ่มประคองร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นพิงอก  ใบหน้านวลแดงจัดด้วยพิษไข้ กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นยายังไม่อาจกลบกลิ่นหอมอ่อนๆ จากร่างเพรียวได้ 
ดวงตาโตค่อยๆเผยอขึ้นและลอยคว้างอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะจับที่หน้าเขา ลมหายใจจากหน้าที่ห่างเพียงคืบร้อนระอุด้วยพิษไข้ ปากแห้งแตกขมุบขมิบพูดบางอย่างแต่ไม่มีเสียง แจ็คค่อยๆหยอดน้ำทีละน้อยแม้จะรู้ว่าหิวแต่ไนท์ยังไม่รู้สึกตัวดีนักอาจทำให้ไนท์สำลักได้ง่าย
“..ขอน้ำ...อีก”
“พอแล้วครับคุณต้องจิบทีละน้อย  ถ้าดื่มรวดเดียวคุณจะสำลัก”
“...อือ...”
“ผมจะเช็ดตัวให้”
ไนท์หลับตาอย่างอ่อนล้า มือใหญ่ค่อนข้างหยาบเช็ดคราบเลือด คราบไคลจากเขม่าและฝุ่นละอองออกจากร่างบางอย่างนุ่มนวลคล่องแคล่ว
ความที่มัวกังวลกับบาดแผลและอาการเจ็บป่วยทำให้แจ็คแทบไม่ได้สังเกตอะไรนอกจากตั้งหน้าตั้งตาเช็ดตัวจนไนท์สะอาดเอี่ยม ชายหนุ่มเลือกเสื้อเชิ้ตตัวโตที่ดีที่สุดมาสวมกลับหน้ากลับหลังเพื่อเปิดด้านหลังให้โล่งไว้  ก่อนจะประคองร่างบอบบางลงนอน
ไนท์ไข้ขึ้นจนเขาต้องคอยเช็ดตัวให้ทั้งคืนจนใกล้รุ่งอาการไข้จึงค่อยทุเลา แต่แจ็คก็ยังไม่วางใจพอที่จะนอนหลับได้ลง  เขาวนเวียนดูไนท์ระหว่างที่จัดข้าวของและทำความสะอาดบ้าน  เพราะไม่ได้มาพักที่นี่นานทำให้บ้านค่อนข้างรก  ยังดีที่เขาจ้างคนในหมู่บ้านมาทำความสะอาดห้องนอนให้อาทิตย์ละครั้ง ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องพาไนท์มานอนทั้งๆที่ฝุ่นเต็มห้องแน่
เสื้อผ้าที่เขาทิ้งไว้ที่นี่มีไม่กี่ชุดและเขาต้องแบ่งให้ไนท์สวม  แจ็คอยากออกไปซื้อของใหม่มาให้  แต่อาการของไนท์ยังหนักหนาจนไม่กล้าทิ้งไว้คนเดียวจึงทำได้เพียงซักสลับเปลี่ยนมาให้เท่านั้น
หลังจากเคี่ยวซุปจนข้นได้ที่แจ็คก็กลับเข้าไปดูคนป่วยอีกครั้ง  มือใหญ่ค่อนข้างหยาบแตะหน้าผากและซีกหน้าเกลี้ยงเบาๆ ดูเหมือนความร้อนจะลดลงแล้ว หน้าผากและไรผมชื้นด้วยเหงื่อ  แจ็คจึงเช็ดตัวให้อีกครั้งเพื่อให้คนเจ็บนอนได้สบายขึ้น
“อือ...” ไนท์ห่อตัวแล้วเบือนหน้าหนีผ้า  แจ็คยึดไหล่บางไว้ทันก่อนที่ไนท์จะพลิกตัวนอนหงาย
“ผมเช็ดตัวให้คุณจะได้ดีขึ้นไงครับ?”
“อย่า...หนาว...”
“คุณยังมีไข้ ต้องลดไข้นะครับ  เจ็บแผลไหม?”
“...เจ็บ...หิว...น้ำ...”
แจ็คค่อยๆหยอดน้ำลงปากแห้งผากทีละน้อยจนคนเจ็บประท้วง
“ขออีก”
แม้จะอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่นแต่น้ำเสียงของไนท์ก็ยังวางอำนาจจนแจ็คนึกขัน
“ทีละนิดนะครับ  ดื่มรวดเดียวมากๆเดี๋ยวสำลัก...ทานซุบนิดนะครับจะได้ทานยา”
เปลือกตากว้างขยับขยุกขยิกอยู่ครู่หนึ่งจึงปรือขึ้นมองเขา  แต่ยังคงลอยๆคว้างๆเหมือนเมื่อคืน
“...ขอน้ำอีก...”
“ทานซุปนะครับ”
ไนท์จำต้องกลืนซุปขมขื่นในความรู้สึกลงไป  แต่เพียงไม่กี่คำเขาก็อาเจียนออกมา หลังหายอาเจียนแจ็คก็พยายามให้ไนท์กลืนยาลงไปจนได้ ชีคหนุ่มพยายามขยับตัวแต่ความเจ็บปวดทำให้ขยับไม่ได้อย่างใจ
“อย่างเพิ่งลุกนะครับ  คุณได้รับบาดเจ็บที่หลังต้องนอนนิ่งๆก่อน”
“...อึดอัด...”
“แต่ต้องทนก่อนนะครับ   แผลที่หลังคุณกว้างมากแล้วก็กำลังอักเสบด้วย”
“...ขอน้ำ..”
“นี่ครับ ช้าๆครับเดี๋ยวสำลัก”
“อืม” พอได้กินน้ำจนสมใจไนท์ก็ผล็อยหลับไปอีกครั้งอย่างอ่อนเพลีย
            ...... .......

ไนท์รู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อมีสัมผัสแผ่วเบาที่ไล้ผ่านผิวหน้า ทิ้งความ เย็นชื้นเหลือไว้ทำให้สติสัมปชัญญะกลับคืนมาเต็มที่  ดวงตาที่พร่าพรายจับภาพ คนที่เคลื่อนไหวอยู่ใกล้ๆอยู่ครู่หนึ่งถึงจำได้
“…แจ็ค...”
“เป็นไงบ้างครับ...ปวดแผลไหม...หิวหรือเปล่า?”
“...นี่...ที่ไหน?”
“บ้านผมเอง...เฮ้!...นี่คุณรู้สึกตัวแล้วนี่” แจ็คอุทานอย่างยินดีเมื่อสังเกต
เห็นดวงตาคมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แม้จะดูอิดโรยอยู่มากก็ตาม       
“...ผม...เป็นอะไรไป?”         
“คุณได้รับบาดเจ็บ  หนักเอาการ...เจ็บแผลมากไหมครับ?”         
“...ยังทนไหว...ผมอึดอัด...อยากนอนหงาย”         
“ไม่ได้ครับ  หลังคุณมีแผลไฟลวก” 
คำว่าไฟลวกกระตุ้นความทรงจำให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว  ไนท์สูดลมหายใจลึก  ความเป็นชีครามิล ราจีสอับดุลกลับคืนมาอีกครั้ง   น้ำเสียงที่เปล่งออกมาจึงเย็นเยือกด้วยความเคยชิน     
“งั้นเหรอ...ลึกไหม?”         
“หมอบอกว่าลึกแค่ชั้นผิวเท่านั้นครับ แต่ก็ยังวางใจไม่ได้  เพราะแผลค่อนข้างกว้าง  อีกอย่างมีเศษโลหะฝังในด้วย หมอต้องผ่าออกให้ อาจติดเชื้อได้ง่ายนะครับ”         
“แต่ให้นอนอยู่แบบนี้ทั้งวันคงไม่ไหว…” เสียงเย็นกลับทอดอ่อนอีกครั้งด้วยชีคหนุ่มเพิ่งสำนึกว่าเผลอแสดงความเป็นตัวตนมากไป  แม้สีหน้าแจ็คจะยังดูสงสัยแต่ความห่วงใยทำให้ชายหนุ่มมองข้ามกิริยาของไนท์ไปเสีย       
“ผมจะช่วยประคองลุกขึ้นนะครับ...ช้าๆ...เอาละ เจ็บมากไหมครับ...ต้องนั่งตัวตรงๆครับ  พิงไม่ได้”         
“ยังดีกว่านอนน่า..” ไนท์ตอบแต่นิ่วหน้าด้วยความเจ็บและแสบร้อนตลอดทั้งหลัง
 “ทานซุบนี่สักหน่อย จะได้ทานยาไงครับ”
ไนท์ฝืนกลืนซุปไปได้ไม่กี่ช้อนก็เลิกเพราะปากคอขมจนปร่าด้วยพิษไข้  แจ็คจัดยาให้ไนท์ก็ยอมกินแต่โดยดี  ยาแรงออกฤทธิ์เร็ว ทำให้ไนท์ทั้งง่วงและเพลียแต่ไม่อยากนอนคว่ำอย่างเดิม  แจ็คมองร่างบางที่ตาปรือแต่ยังทนนั่งโงนเงนไปมาอย่างแปลกใจ 
“นอนพักเถอะครับ”
“...ไม่เอา...อึดอัดจะแย่อยู่แล้ว...ผมอยากนอนหงายหรือนอนตะแคงก็ได้”         
“แต่คุณมีแผลที่สีข้างด้วยนะครับ  นอนอย่างเดิมเถอะ  ดูสิคุณเพลียจนนั่งไม่ไหวแล้ว”       
“...ไม่...ขอผมนั่งหลับ...ก็ได้...”         
“เอาอย่างนี้ดีกว่าครับ...พิงผมแบบนี้ดีขึ้นไหม” แจ็คเลื่อนตัวคนเจ็บเข้ามาพิงอกเขาเต็มที่  ไนท์ทำท่าเหมือนจะขืนๆตัว  แต่แล้วก็กลับยอมซุกซบแต่โดยดี           
“เจ็บ...กระดุมเสื้อ...” ไนท์นิ่วหน้า  กระดุมเสื้อเชิ้ตของแจ็คกดผิวจนเจ็บ  อาจเพราะไฟลวกทำให้ร่างกายเขาระบม ไม่ว่าจะโดนตรงไหนก็เจ็บไปหมดทุกที่ 
“อ้าว...เดี๋ยวนะครับ...เป็นไงบ้างครับ  สบายขึ้นไหม?” แจ็คปลดกระดุมเสื้อออกเพื่อไม่ให้ไนท์เจ็บ  แต่พิงอกกว้างอยู่ครู่เดียวไนท์ก็นิ่วหน้าอีก  เพราะเมื่อนั่งนานๆก็ทำให้รู้สึกแย่  หัวหมุนคว้างจนไม่อยากขยับเขยื้อนร่างกาย 
“ผมอยากนอนแล้วแจ็ค” ชีคหนุ่มกัดฟันบอกเบาๆ  ถึงจะเกลียดการนอนคว่ำ แต่เขาทนนั่งเวียนหัวอยู่อย่างนี้ไม่ไหว  แจ็คกลับเป็นฝ่ายเข้าใจด้วยคุ้นชินกับการดูแลบรรดาหลานๆดี
“อย่างนี้สบายกว่านอนคว่ำไหมครับ?” แจ็คถามขณะรั้งร่างบอบบางลงนอนบนอกเขาแทนที่จะนอนบนที่นอน
“อืม”
ไนท์หลับตาพริ้มทั้งที่รับรู้ได้ถึงหัวใจที่เต้นหนักๆจากอกเปลือย  กล้ามเนื้อ ตึงแน่นค่อนข้างเย็นอาจเพราะตัวเขาร้อนจากพิษไข้    การได้นอนแบบนี้จึงช่วยให้สบายขึ้นมาก ไนท์ขยับตัวอีกนิดเพื่อให้นอนได้สบายขึ้น  แม้ทั้งร่างจะแนบประกบชิดกับร่างหนาโดยมีแค่เนื้อผ้าบางๆของเสื้อกั้นไว้  แต่ไนท์กลับไม่รู้สึกรังเกียจ  ชีคหนุ่มนอนฟังเสียงหัวใจเต้นหนักสม่ำเสมอจนผล็อยหลับไป
แจ็คหยิบปอยผมนุ่มมาขยี้เล่นเบาๆ  ผมนุ่มเหมือนไหมทำให้เขานึกถึงบรรดาหลานชายที่ชอบมานอนเล่นบนอกเขาจนหลับไป  ถึงคนที่นอนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆแต่ความรู้สึกสงสารปนเอ็นดูนี้ก็แทบไม่ต่างจากที่เขารู้สึกกับหลานชายตัวน้อยๆของเขาเช่นกัน.......ƒ......   
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 17-12-2009 21:59:58
.....
แสงสลัวรางยามเช้าทำให้ห้องสว่างขึ้น  แจ็คก้มมองผมยุ่งๆที่ซบอยู่บนอกเขาอย่างกังวล  แม้อุณหภูมิของร่างที่เขาสัมผัสจะไม่ร้อนจัดนัก  แต่ดูท่าจะยังมีไข้อยู่แน่นอน  เสียงลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขาไม่กล้าขยับตัวด้วยเกรงจะเป็นการปลุกคนป่วยขึ้นมาจึงได้แต่นอนนิ่งๆ  กลิ่นหอมน้ำหอมอ่อนอวลชวนให้เขาฉงนว่าทำไมยังคงอยู่ทั้งที่ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว   
มือที่เคยกำสาบเสื้อเขาไว้แน่นเลื่อนตกลงข้างตัว  แจ็คเหลือบมองก่อนจะดึงขึ้นมาดูใกล้ๆ  ดูท่าคนๆนี้คงได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี และคงไม่ใช่คนระดับเดียวกับเขา  ผิวเนียนละเอียดบางใสราวกับผิวเด็ก ไม่มีรอยด้าน  นิ้วยาวเรียวสวย  ปลายเล็บเจียนไว้สั้นแต่มีรอยคราบเลือดติดแห้งกรังทำให้แจ็คนึกตำหนิตัวเองที่ละเลยไม่ได้ทำความสะอาดให้เรียบร้อย ชายหนุ่มเหลือบมองแสงสลัวด้านนอกก่อนค่อยๆวางร่างบางลงบนที่นอน  เพื่อไปจัดเตรียมมื้อเช้าให้คนป่วย
ไนท์ขยับตัวแล้วนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ  แม้อาการแสบร้อนราวกับอยู่กลางกองเพลิงจะทุเลาแล้ว แต่สิ่งที่ตามมาคืออาการปวดตึงและระบมจนไม่อยากเคลื่อนไหว  เสียงกุกกักจากอีกห้องบอกให้รู้ว่าคนที่อุทิศตัวเป็นที่นอนให้เขาหายไปไหน
ทั้งๆที่ร่างกายยังปวดร้าวไปทั้งตัวแต่สภาวะเร่งเร้าตามธรรมชาติทำให้นอนอยู่ไม่ได้  ไนท์กัดฟันลุกขึ้น แม้ร่างกายจะไม่ไหวแต่ใจเขาสั่งว่าต้องทำให้ได้  ความเคยชินต่อการบังคับกายและใจมาตลอดชีวิตทำให้ไนท์ลุกขึ้นนั่งจนได้  หัวหมุนคว้างจนเหมือนพื้นจะตีตลบขึ้นหน้าแต่ไนท์ก็เท้าแขนยันพื้นไว้แน่น  เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องเปิดเข้ามา
“อ้าว!ลุกไหวแล้วเหรอครับ?”
“...ครับ...”
“โห!หน้าคุณซีดจัง ไม่น่าลุกขึ้นมาเลย  จะเอาอะไรก็บอกสิครับผมหยิบให้”
“ผม...อยากไปห้องน้ำ”
“ได้ครับ...มาครับผมช่วย”
แจ็คประคองร่างบางขึ้นช้าๆ แต่ท่าทางโงนเงนทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจอุ้มไปเสียเลย ไนท์จำต้องปล่อยให้ชายหนุ่มจัดการทุกอย่างให้แม้แต่ประคองให้เขาปลดทุกข์ เพราะหัวเขาหมุนคว้างจนทรงตัวเองไม่ไหว
ความอับยศอดสูทำให้ชีคหนุ่มต้องกัดกรามกรอด ใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย  แจ็คเหลือบมองสีหน้าทุกข์ทนอย่างเห็นใจ  รีบแต่งกายให้แล้วอุ้มร่างเพรียวกลับมาที่ห้องจัดการป้อนอาหารและยา 
ตลอดเวลาไนท์นั่งพิงอกเขานิ่ง  หน้าแดงก่ำเมื่อครู่กลายเป็นซีดเผือด เมื่อแจ็คประคองร่างบางลงนอนจึงได้ยินคำขอบคุณเบาๆก่อนที่จะหลับตาเหมือนเพลียจัด  แจ็คเก็บถาดอาหารและเสื้อผ้าใช้แล้วออกไปจากห้องเงียบๆ
ทันทีที่ได้ยินเสียงปิดประตูไนท์ก็ลืมตาฉับพลัน  พยายามยกมือขึ้นแต่กลับสั่นไปทั้งตัวด้วยความเจ็บปวด ชีคหนุ่มตาลุกวาบในอกเดือดพล่านด้วยความ แค้น ใครก็ตามที่มันทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้ จะต้องได้รับการตอบแทนอย่าง -
สาสม  หากคราวนี้แจ็คไม่ช่วยไว้เขาคงเอาชีวิตไม่รอด  ดวงตากราดเกรี้ยวอ่อนแสงลงเมื่อนึกถึงแจ็ค ดูท่าแจ็คคงรู้ว่าเขาอายถึงได้พยายามทำทุกอย่างให้อย่างรวดเร็วและไม่พูดอะไรเลย...คนแปลกหน้าที่แสนอ่อนโยน...
เขาเป็นหนี้ชีวิตแจ็คถึง 2 ครั้งแล้ว  เห็นทีเขาคงต้องหาทางตอบแทนคนๆนี้ให้จงได้...........    

แจ็คชะโงกมองแล้วยิ้มให้เมื่อเห็นคนป่วยตะแคงหน้ามองเขาตาใส ความจริงเขาเข้ามาดูแล้วหลายครั้ง แต่เห็นไนท์ยังหลับเขาเลยไม่อยากรบกวน  สีหน้าและแววตาของไนท์ดูสดใสขึ้นมาก 
แจ็คแตะหน้าผากขาวเบาๆ ไออุ่นที่เกือบเป็นปกติทำให้ชายหนุ่มยิ้มกว้าง อย่างยินดี
“ไข้ลดแล้วละครับ...เดี๋ยวผมจะเช็ดตัวให้แล้วจะได้ทานอาหาร ทานยากัน”
“ขอบคุณคุณแจ็คมากเลยนะครับ  คุณช่วยชีวิตผมอีกครั้งแล้ว”
“คิดอะไรมากครับเราคงชะตาต้องกันมั้ง ผมจะประคองคุณลุกนะครับ...เจ็บหรือเปล่าครับ ค่อยๆนะครับ”
“...คุณเป็นบุรุษพยาบาลหรือครับ?” ไนท์ถามเสียงแผ่ว  ด้วยแปลกใจกับ ความคล่องแคล่วในการดูแลคนป่วยของแจ็ค
“หึๆ...ทำไมคิดอย่างนั้นละครับ?”
“ผมเห็นคุณดูแลผมคล่องยังกับเป็นมืออาชีพก็เลยสงสัย” ไนท์ตอบเก้อๆ รู้สึกหน้าร้อนๆ  เป็นครั้งแรกที่เกิดความไม่มั่นใจและกังวลใจว่าคำพูดของตัวเองจะทำให้คนฟังขุ่นเคือง
“คงเป็นความเคยชินน่ะครับ สมัยเป็นนักศึกษาผมเคยเป็นอาสาสมัครตามโรงพยาบาลกับหน่วยฉุกเฉิน  แถมผมยังมีหลานๆหลายคน ก็เลยชินกับการดูแลคนป่วย”
“มิน่า...คุณถึงได้คล่องนัก”
แจ็คยิ้มกว้าง  มือใหญ่และหยาบเช็ดตัวได้นุ่มนวลรวดเร็วจนไนท์มองตามอย่างพิศวง  ทั้งๆที่ดูแข็งแกร่งแต่คนๆนี้กลับนุ่มนวลได้อย่างไม่น่าเชื่อ  มืออย่างนี้หากได้ปกป้องดูแลใคร คนๆนั้นคงอบอุ่นและวางใจได้อย่างแน่นอน
“ผมว่าคุณคงเป็นคุณพ่อที่ดี” ไนท์หลุดปากอย่างเผลอตัว
  แจ็คเงยขึ้นสบตายิ้มกว้างเหมือนเคย
“ฮะๆ...คงงั้นมั้งครับ  ถ้าผมหาเจ้าสาวได้นะ”
แจ็คหลิ่วตาให้อย่างล้อๆก่อนคว้าเสื้อผ้าที่ใส่แล้วออกไป ครู่เดียวก็กลับเข้ามาพร้อมถาดอาหาร  มื้อนี้ก็ยังเป็นซุปเหมือนเคย  แต่แปลกที่รสชาติถูกปากเสียจนไนท์กินได้หมด  แจ็คยิ้มกว้างอย่างดีใจ
“ลองคุณทานได้อย่างนี้รับรองคุณต้องหายป่วยเร็วแน่”
“ผมละอายใจจริงๆที่ต้องมาเป็นภาระให้คุณอย่างนี้”
“อย่าคิดมากสิครับ  แล้วคุณอยากให้ผมติดต่อเพื่อนหรือญาติให้ไหมครับ?”
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณจนเกินไป”
“ไม่เลยครับ...ป่านนี้ครอบครัวคุณคงเป็นห่วงแย่แล้ว”
“ผมมีองคะ...โอ๊ย!” ไนท์พยายามยั้งปากไว้จนเผลอกัดลิ้นตัวเอง  แจ็คเองก็ตกใจที่เห็นเลือดกบปากจึงรีบกุลีกุจอทำแผลให้จนลืมเรื่องที่คุยกันเสียสนิท ทำให้ไนท์โล่งใจ มันคงเป็นการไม่สมควรหากเขาจะเผลอเล่าเรื่องส่วนตัวให้คนอื่นฟัง
หลังจากทำแผล  ยาก็ออกฤทธิ์จนไนท์ผล็อยหลับไปอีก
“อ้าว!เลยไม่ได้ถามเรื่องที่อยู่ญาติเขาเลย  ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่”
แจ็คโคลงหัวก่อนจะลุกออกไปเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นของคนป่วย.............

   ไนท์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เกือบค่ำแล้ว  ชีคหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ
แต่ไม่เห็นแจ็ค บ้านเงียบจนรู้สึกวังเวง เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกังวลกับการที่ต้อง อยู่คนเดียว ทั้งที่ตลอดชีวิตเขาชื่นชอบเวลาที่ได้อยู่ลำพังที่สุด
เสียงประตูลั่นเอี๊ยดแผ่วเบา  ไนท์ขนลุกซู่ ความที่ต้องระวังตัวตลอดเวลา ทำให้ชีคหนุ่มระแวงขึ้นมาทันที  แม้ร่างกายจะเจ็บร้าวไปหมด แต่ไนท์ก็กัดฟัน ลุกขึ้นยืนจนสำเร็จ  ถึงจะเวียนหัวจนต้องเกาะข้างฝาไว้เพื่อพยุงตัว  แต่ไนท์ ก็ลากเท้าหนักอึ้งเลาะเรียบไปตามผนัง 
เสียงฝีเท้าเบาอย่างคนที่ถูกฝึกทำให้ชีคหนุ่มหลับตาลงอย่างคับแค้น  เขาไม่มีอาวุธใดๆในมือสักชิ้น  ร่างกายที่อ่อนแอขนาดนี้คงไม่มีทางเอาตัวรอดได้แน่  แต่เขาก็ขอเลือกที่จะไปตายเอาดาบหน้าดีกว่ารอให้คนอื่นมาฆ่า  ไนท์ตัดสินใจ ผลักหน้าต่างออกกว้างเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูเปิดผลัวะเข้ามา
“คุณไนท์!” แจ็คกระโจนทีเดียวเข้าไปรับร่างอ่อนเปียกที่ทรุดฮวบลงได้ทัน  ร่างที่เขาประคองไว้สั่นระริกทั้งตัว  เหงื่อเปียกโชกพอๆกับเลือดที่ซึมออกมาจาก ผ้าพันแผลด้านหลัง  ทำให้แจ็ครีบประคองไนท์กลับไปที่เตียง
“เกิดอะไรขึ้นครับ  คุณลุกขึ้นมาทำไม?  แย่ละเลือดซึมออกมาอีกแล้ว”
“ผมคิดว่าเป็น...ขโมย”
“อย่ากังวลเลยครับแถวนี้ไม่มีขโมยหรอก  ผมไปซื้ออาหารกับยา  ขอโทษ ด้วยนะครับที่ไม่ได้บอกคุณก่อน  เพราะเห็นคุณหลับอยู่  ไม่คิดว่าจะทำให้ตกใจ”
“ไม่ใช่ความผิดคุณหรอก...ผมต่างหากที่ไม่ดูให้ดี...ตื่นตูมไปเองแท้ๆ”
“ทนเจ็บหน่อยนะครับ  ผมต้องทำแผลให้คุณ”
ไนท์ไม่ปริปากเลยตลอดเวลาที่แจ็คทำแผลให้  กล้ามเนื้อแก้มกระตุกเป็นระยะเมื่อแจ็คค่อยๆลอกเอาผ้าพันแผลออก  ไฟลวกทำให้แผลแดงและเยิ้มด้วยน้ำเหลือง  ถึงหมอจะเลาะผิวหนังบางส่วนออกไป  แต่สภาพแผลก็ไม่น่าดูนัก  แจ็คทำแผลส่วนที่เศษโลหะเข้าไปฝังเรียบร้อยแล้วจึงประคองไนท์ลงนอน   ก่อนจะค่อยๆชโลมน้ำสีทองลงไปที่แผลไฟลวก
“อะไรครับ?”
“น้ำผึ้งครับ  น้ำผึ้งช่วยรักษาแผลสดให้แห้งได้เร็วขึ้น  ผมไม่อยากพันแผลคุณไว้มันจะอบและร้อน  เวลาแกะผ้าออกคุณก็เจ็บเปล่าๆ  เด็กๆในหมู่บ้านผมขนาดโดนไฟคลอกเขายังเอาน้ำผึ้งทา จะทำให้ไม่เหลือรอยแผลเป็น  นอกจากแผลลึกมากๆ…แสบหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ครับ...เย็นๆ”
“เอาละครับเสร็จแล้ว  เหนียวหน่อยแต่ก็ไม่มีอันตรายอะไร  พักไปก่อนนะครับ ขอผมไปทำอาหารแป๊บเดียว”
“ครับ” ไนท์ยิ้มให้ทำให้แจ็คชะงักคล้ายลืมหายใจไปชั่วขณะ  ท่าทางของแจ็คทำให้รอยยิ้มของไนท์ค่อยๆจางลงด้วยความเก้อกระดาก
“เอ่อ...มีอะไรเหรอครับ?”
“คุณยิ้มสวยจัง...ทำไมถึงไม่ยิ้มบ่อยๆละครับ” แจ็คอุทานเสียงแจ่มใส  ไนท์ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆให้  ชายหนุ่มจึงค้อมตัวล้อเลียนแล้วออกไป ....... ƒ.....
........
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 17-12-2009 22:01:55
....
สัญชาติญาณระแวงภัยทำให้ไนท์สะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เงาของใครบางคนเคลื่อนเข้ามาชิดเตียง  ไนท์คลายอาการเกร็งตัวลงเมื่อจำสัมผัสของมืออุ่นที่แตะไหล่เขาได้
“อย่าส่งเสียงนะครับ” แจ็คกระซิบเสียงแผ่ว 
ไนท์เพิ่งสังเกตว่าห้องมืดผิดกว่าเคย เสียงนกดังขึ้นแว่วๆจากภายนอก  ไนท์นอนฟังอยู่ครู่หนึ่งจึงจับสังเกตได้ว่าเสียงนกเป็นจังหวะถี่ห่างกันเป็นระยะ  ในความสลัวรางแจ็คเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว  ครู่เดียวชายหนุ่มก็นำอะไรบางอย่างที่เย็นลื่นเป็นแผ่นยาวๆมาแปะจนทั่วแผลก่อนจะพันทับด้วยผ้าพันแผลจนแน่นแล้วจึงสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งทับให้อีกที  แม้จะเจ็บแต่ไนท์ก็กัดฟันทน  ด้วยรู้ว่าแจ็คพยายามเบามือที่สุดแล้ว
“ทนหน่อยนะครับ  ผมต้องพาคุณไปแล้ว  มีคนตามเรามาที่นี่  เพื่อนผมส่งข่าวมา” 
แจ็คกระซิบเบาๆก่อนจะคลุมผ้าห่มผืนใหญ่ห่อตัวเขาไว้อีกชั้น  จากนั้นก็ค่อยๆประคองเขาขึ้นหลัง ไนท์คล้องแขนรอบลำคอแข็งแรงทันที เขาต้องทำตัวให้เป็นภาระน้อยที่สุดเพราะนอกจากตัวเขาแจ็คยังสะพายเป้ใบย่อมมาด้วย  แม้จะแปลกใจที่แจ็คไม่ถามถึงสาเหตุที่มีคนตามล่าเขา  แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลามาอธิบาย   แจ็คพาไนท์ลัดเลาะเข้าไปในป่ารกชัฏบนเนินสูง  ครู่หนึ่งจึงก็หยุดสังเกตการณ์หลังพุ่มไม้ใบหนา
รถยนต์สองคันดับไฟมืดแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน  คนในรถกรูกันเข้าไปในบ้าน  ถึงไม่มีแสงไฟเลย แต่แสงดาวก็ส่องให้เห็นเงาตะคุ่มเหล่านั้นได้  ไม่นานนักพวกมันก็ออกมา  และเริ่มกระจายกันค้นหา 
แจ็คหันมาประคองไนท์ขึ้นหลังอีกครั้งแล้วพาเดินลัดไปในความมืดอย่างรวดเร็ว  ท่าทางคุ้นเคยและคล่องแคล่วทำให้ไนท์วางใจ  ชีคหนุ่มเม้มปากแน่นด้วยความคับแค้น  โกรธที่เขาช่างอ่อนแอจนต้องพึ่งพาคนอื่นอยู่ตลอดเวลา  นี่ถ้าเขาไม่บาดเจ็บแจ็คคงไปได้เร็วกว่านี้...ไม่สิ ถ้าเขาไม่บาดเจ็บ  พวกมันจะไม่เหลือรอดกลับไปแม้แต่คนเดียวต่างหาก 
   ทางที่แจ็คพาเขาไปเริ่มสูงชันขึ้นเรื่อยๆ เสียงแจ็คหายใจหนักและแรงขึ้น
แต่ความเร็วของชายหนุ่มไม่ลดลงเลย  ไนท์แทบครางออกมาอย่างผิดหวังเมื่อแจ็คนำเขามาถึงหน้าผาสูงเบื้องหน้า...ทางตัน? 
แต่แจ็คกลับพาเขาบุกดงไม้ทึบเข้าไปจนถึงรอยแยกของแผ่นผา เป็นถ้ำลึกเข้าไปและมืดทึบ  ปากถ้ำมีเถาวัลย์ปกคลุมอยู่หนาแน่น  หากไม่ใช่คนรู้เส้นทางคงไม่มีทางหาเจอแน่  แจ็คคาดไฟติดหน้าผากแล้วเปิดจนสว่างเป็นลำ แสงจากไฟฉายกระทบหินงอกหินย้อยสะท้อนเป็นประกายเหมือนโรยด้วยกากเพชร  ภายในค่อนข้างอับและไม่สูงมากนัก แจ็คค่อยๆเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังเพราะไม่อยากให้คนที่อยู่บนหลังกระทบกระเทือนไปมากกว่านี้
   สิ้นสุดทางคดเคี้ยวคือห้องในถ้ำค่อนข้างใหญ่  มีช่องทางเล็กๆหลายช่องทางแยกออกไป  แต่แจ็คกลับหยุดแหงนมองผนังตะปุ่มตะป่ำด้วยหินงอกหินย้อยค่อนข้างชัน  ไนท์แหงนมองอย่างตกใจเมื่อเห็นแจ็คดึงเชือกขดใหญ่ออกมาจากเป้
   “แจ็ค...คุณจะทำอะไร?”
“เราต้องปีนข้ามไปครับ  บนโน้นมีถ้ำใหญ่  เราจะไปอาศัยกันที่นั่น”
“แต่คุณจะปีนทั้งๆที่แบกผมอยู่เนี่ยเหรอ?”
“ครับ”
“อย่าดีกว่าแจ็ค  มันอันตรายนะ  คุณวางผมลงเถอะ  มาถึงนี่แล้วพวกมันคงตามมาไม่เจอหรอก”
“มันก็ไม่แน่หรอกครับ  เพราะไม่ใช่จะมีแต่ผมที่รู้จักปากถ้ำนี้  แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ  ถ้ำบนโน้นมีผมคนเดียวที่รู้รับรองได้”
“แต่คุณจะปีนขึ้นไปยังไง?”
“เชื่อมือผมน่า รับรองว่าผมพาคุณขึ้นไปได้แน่” 
แจ็คเหวี่ยงตะขอขึ้นไปจับกับแง่หินด้านบนอย่างแม่นยำ  ชายหนุ่มลองกระตุกดูความมั่นคงแล้วหันมายิ้มอย่างมั่นใจ
“เจ็บหน่อยนะครับ ผมต้องยึดคุณไว้ให้แน่น” แจ็คอธิบายขณะคล้องผ้าผืนยาวมัดตัวไนท์ติดกับหลังเขาแน่นขึ้น  ไนท์ไม่ปริปากแม้จะรู้สึกเจ็บแผล  เพราะไม่ต้องการให้เป็นภาระให้แจ็คมากกว่านี้
ไนท์อยากห้ามแต่แจ็คเริ่มไต่ผนังสูงชันอย่างรวดเร็ว ถึงจะรู้สึกว่าแจ็คเตรียมตัวมาพร้อม  แต่เชือกที่โรยลงมายึดพวกเขาก็เส้นไม่ใหญ่นัก  ไม่น่าจะทานน้ำหนักคนสองคนได้   แน่นอนว่าถ้าพลาดทั้งเขาและแจ็คอาจจะต้องร่วงลงไป  ไนท์มองเสี้ยวหน้าชุ่มเหงื่ออย่างพิศวง ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ไม่เคยมีสนิมสนมคุ้นเคยกันมาก่อนเหตุใดถึงต้องช่วยเหลือผู้อื่นจนเอาชีวิตตัวเองเข้ามาเสี่ยงขนาดนี้
   แจ็คหยุดพักถึง3ครั้งกว่าที่จะพาเขาขึ้นมาถึงชานกว้างด้านบนได้  ลมเย็นพัดผ่านทำให้อากาศบนนี้โปร่งกว่าข้างล่าง  แจ็คหอบหายใจอยู่ครู่หนึ่งจึงแบกเขาเดินลึกเข้าไปด้านใน  มีโพรงเล็กโพรงน้อยเต็มไปหมด  ชายหนุ่มเลี้ยวเข้าซอกโน้นออกซอกนี้หลายครั้งกว่าที่จะพาเขามาพักที่โพรงไม่กว้างนักและค่อนข้างอับลมทำให้ลมเย็นจัดพัดเข้ามาไม่ถึง
แจ็คค่อยๆประคองร่างในห่อผ้าห่มลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง  ผ้าในเป้ที่สะพายมาถูกลาดลงกับพื้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะประคองไนท์ลงนอนคว่ำบนนั้น
   “เอามาให้ผมรองนอนจนหมดแล้วคุณจะห่มอะไร?”
“อย่าห่วงเลยครับ  ที่นี่ไม่หนาวหรอก  แต่คุณยังมีไข้อาจรู้สึกว่าหนาว”
“เราก่อไฟไม่ได้เหรอ?”
“ตรงนี้ค่อนข้างอับลม  ควันจะไม่มีทางระบายออก เราจะเป็นอันตรายได้ แต่ถ้าเลือกบริเวณที่โล่งนักเกรงว่ากลิ่นควันจะทำให้พวกนั้นตามเราได้ครับ  ทนหนาวสักคืนนะครับ  พรุ่งนี้ผมจะพาคุณเข้าเมือง  รับรองว่าคุณจะปลอดภัย”
ไนท์นอนมองหนุ่มลูกทะเลอย่างไม่สบายใจนัก  ขนาดเขามีทั้งผ้าห่มผ้ารองนอนยังเย็นเยือก  แต่แจ็คไม่มีอะไรเลยนอกจากเสื้อผ้าชุดเดียว  ถึงจะอ้างว่าเขามีไข้แต่ไนท์แน่ใจว่าอากาศต้องหนาวไม่น้อย  แจ็คนั่งกอดอกพิงผนังถ้ำนิ่ง แต่ไนท์รู้ว่าเขายังไม่หลับ
   “คุณแจ็ค”
“ครับ...เป็นอะไรหรือเปล่า?”แจ็คขยับเข้ามาหาทันทีที่เรียก
“คุณมาห่มผ้ากับผมก็ได้  ทนนั่งอยู่อย่างนั้นทั้งคืนไม่ไหวแน่”
“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ คุณพักผ่อนเถอะ”
“แต่ผมว่าห่มสองคนจะอุ่นกว่านะ  มาเถอะครับ  ขืนคุณนั่งอยู่อย่างนั้นผมคงนอนไม่หลับแน่”
แจ็คลังเลเล็กน้อยก่อนจะเข้ามานอนข้างๆ  ผ้าห่มดูเหมือนอุ่นขึ้นเมื่อมีไอตัวของแจ็คเข้ามา  ไนท์พยายามนอนนิ่งๆแต่อาการปวดที่หลังก็ทำให้ทรมานขึ้นทุกที 
“ปวดแผลหรือเปล่าครับ?” แจ็คถามเบาๆเพราะสัมผัสได้ถึงอาการหายใจสะดุดๆของคนข้างๆ
“...ครับ..”
แจ็คประคองไนท์ลุกขึ้น  ค่อยๆคลายผ้าที่พันออกเล็กน้อย  ก่อนจะดึงร่างบอบบางขึ้นมานอนบนอกเหมือนเคย ทำให้นอนได้สบายขึ้น  ไนท์หลับตาลงแม้จะรู้สึกประหลาดใจที่ตนเองไว้ใจแจ็ค แต่เมื่อได้นอนบนอกอุ่นกลับผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว ......ƒ......   
   
เสียงนกและเสียงสัตว์ร้องได้ยินไกลๆ  ไนท์ตื่นขึ้นมาเพราะอาการปวดระบมทั้งตัว  ดูเหมือนเขาเริ่มจะมีไข้และแผลก็ปวดกว่าเมื่อวานมาก แจ็คคงตื่นนานแล้วเพราะทันทีที่เขาลืมตาก็เห็นดวงตาวาววามจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว
    “อรุณสวัสดิ์ครับ”
“อรุณสวัสดิ์ครับ...ทำไมไม่ปลุกละครับ  ผมเลยนอนสบายอยู่คนเดียว”
ไนท์ต่อว่าเบาๆ  ใบหน้าร้อนผ่าวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชีคหนุ่มได้แต่โทษว่าเป็นผลของพิษไข้ที่ทำให้เขารู้สึกใจเต้นผิดปรกติอย่างนี้
“ก็เพราะเห็นคุณนอนสบายถึงไม่ปลุก  เมื่อคืนคุณนอนกระสับกระส่ายทั้งคืนเพิ่งมาหลับสนิทเอาตอนใกล้สว่างนี่เอง”
“ผมเลยทำให้เราเดินทางช้าลงไปอีก” 
“ไม่ใช่หรอกครับ ยังไงๆก็ต้องรอจนสัญญาณจากทางหมู่บ้านก่อนแล้วเราค่อยเดินทาง”
“หมายความว่าเพื่อนคุณรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”
“เขารู้ว่าผมอยู่ในป่า  แต่ไม่รู้หรอกครับว่าอยู่ตรงไหน?”
“แล้วเขาจะส่งข่าวให้คุณรู้ได้ยังไงครับ?”
“ควันไฟไงครับ”
“ยังไงครับ  ทำแบบอินเดียแดงสมัยโบราณนะเหรอ?”
“คล้ายๆอย่างนั้นแหละครับ วัสดุที่เอามาก่อไฟจะให้ความหนาแน่นของควันที่แตกต่างกัน  เป็นสัญญาณที่รู้กันในหมู่พวกเรา  ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร”
ไนท์พยักหน้า  ท่าทางไม่ประหลาดใจนัก   ทั้งที่ควรจะสงสัยว่าทำไมหมู่บ้านเล็กๆต้องมีการส่งสัญญาณควัน  คนในหมู่บ้านช่วยกันคิดวิธีนี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องแจ็คโดยเฉพาะ  ทำให้เขารอดพ้นจากการตามล่ามาตลอด
 แจ็คเปิดกระป๋องซุปสำเร็จรูปมาให้ไนท์และขนมปังสำหรับตัวเอง  หลังมื้อเช้าแจ็คก็ทำแผลให้ไนท์ใหม่  สิ่งที่ไนท์คิดว่าเป็นแผ่นเจลที่แท้คือว่านหางจระเข้ แจ็คตัดก้านใหญ่ใส่มาในเป้อีกหลายอัน  ชายหนุ่มปอกเอาเปลือกออกและนำเนื้อที่เป็นเจลใสๆไปล้างจนหมดยางแล้วแบ่งเป็นแผ่นบางๆ ก่อนจะแปะลงไปบนแผลแล้วจึงพันผ้าทับอีกครั้ง  สิ่งนี้เองที่ทำให้แผลไม่ติดกับผ้าจนเจ็บ 
   “ทนหน่อยนะครับ ผมต้องพาคุณเดินไปอีกนานต้องระวังไม่ให้แผลติดเชื้อ”
“ผมทนได้ครับ  ขอบคุณที่เป็นห่วง”
“เดี๋ยวผมจะออกไปรอดูสัญญาณ  คุณพักผ่อนไปก่อนนะครับ”
แจ็คหายไปครู่ใหญ่จึงกลับเข้ามา สีหน้าชายหนุ่มไม่ค่อยดีนัก
“ไม่มีสัญญาณเหรอครับ?”
“พวกนั้นยังอยู่ในหมู่บ้านครับ  ผมเกรงว่าจะไม่ได้มีแค่ในหมู่บ้าน  อาจจะดักรอเราอยู่รอบนอกด้วยก็ได้”
“แล้วจะทำยังไงครับ?”
“มีทางเชื่อมต่อกับในเมืองอีกเส้นทางหนึ่งครับ  แต่คุณจะลำบากมาก”
“ผมทนได้  ความจริงคุณไม่น่าจะต้องมาเดือดร้อนเพราะผมด้วยซ้ำ  แต่คุณอุตส่าห์ช่วยผมขนาดนี้แล้วผมจะเป็นภาระให้คุณได้ยังไง”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิครับ  เอาเถอะครับ  ถ้าคุณคิดว่าไปไหว เราจะเดินทางกันเลย  คิดว่าค่ำๆคงถึง”
แจ็คแบกร่างบางขึ้นไหล่อีกครั้ง  ชายหนุ่มไม่ได้พาไนท์กลับเส้นทางเดิมอย่างที่ไนท์คิด  แต่พาไต่ลงอีกด้าน  ซึ่งดูจะเป็นป่าหนาทึบกว่าด้านที่ผ่านเข้ามาเมื่อคืน  ไนท์มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง  แม้แจ็คจะดูชำนาญเส้นทางแต่เขาก็อดห่วงไม่ได้  ด้วยไม่รู้ว่ากลุ่มที่ตามมาจะมีความเชี่ยวชาญมากแค่ไหน 
แผ่นหลังกว้างเปียกโชกด้วยเหงื่อ แต่แจ็คเร่งเดินไม่หยุด  ป่าที่หนาทึบ อบร้อนด้วยไม่มีลมพัดผ่าน  กิ่งไม้คมเฉียวผ่านผิวจนแสบ  ขนาดแจ็คคอยแหวกให้ก็ยังมีบางส่วนที่เล็ดลอดมาโดนเอาบ่อยๆ  ไนท์ลอบมองหน้าชุ่มเหงื่อด้วยความเป็นห่วง จู่ๆแจ็คก็ชะงักเหลียวขวับมามองจนเขาหลบตาไม่ทัน
“เจ็บแผลหรือเปล่าครับ  ผมมัวแต่รีบเดินไม่ทันนึก  พักก่อนไหมครับ?”
“คนที่ควรถามน่าจะเป็นผมมากกว่า คุณแบกผมเดินมาตั้งนานแล้ว  น่าจะ พักได้แล้วนะ”
“ยังหรอกครับ  แถวนี้ไม่ค่อยปลอดภัยนัก  ถ้าคุณไม่เหนื่อยเกินไป  เราคงต้องเดินกันอีกหน่อย”
“แต่คุณไม่พักเสียหน่อยเหรอแจ็ค?”
“ยังไม่ได้ครับ...ไปต่ออีกหน่อยนะครับ”
แจ็คเดินดุ่มไปข้างหน้า ยาวนานในความรู้สึกของไนท์กว่าที่แจ็คจะหยุดมองไปรอบๆก่อนจะค่อยๆปลดเขาลงวางที่โคนไม้ใหญ่
“พักได้แล้วครับ...ปวดแผลมากไหมครับ?” แจ็คถามเสียงอ่อนขณะช่วยแกะผ้าห่มที่ห่อตัวเขาออกอย่างระมัดระวัง  กิริยาที่แตะต้องบาดแผลเขาอย่างอ่อนโยนนั้นทำให้หัวใจของชีคหนุ่มไหววูบอย่างประหลาด
ไนท์จ้องหน้าคล้ำนิ่งจนชายหนุ่มหันมาสบตา  ดวงตาที่เหมือนจะสื่ออะไรถึงกันได้มากกว่าคำพูด  แจ็คเกือบสะดุ้งเมื่อมือขาวเช็ดเหงื่อออกจากหน้าเขาอย่างนุ่มนวล  ผ้าเช็ดหน้าสีขาวที่ติดอยู่ในกระเป๋ากางเกงเปื้อนเป็นคราบทันที 
“โธ่!ผ้าเช็ดหน้าสกปรกหมดแล้วครับ”
“เปื้อนก็เปื้อนสิ  ผ้าเขาเอาไว้เช็ดหน้านี่  ไม่ได้เอาไว้ประดับ”
“ทราบครับ  แต่ผมเสียดาย  หน้าผมมอมขนาดนี้คุณเอามาเช็ดมันจะซักไม่ออกเอาสิครับ”
“ดี..ผมจะได้เก็บไว้เป็นที่ละลึก  จริงสิ! วันก่อนผมลืมคืนเสื้อให้คุณ”
“ไม่เป็นไรครับ  คุณจะได้มีของที่ละลึกจากผมหลายๆอย่างไง”
“ถึงไม่มีอะไรเลยผมก็ไม่มีวันลืมคุณหรอก”
ทั้งๆที่คำพูดของไนท์ไม่ได้มีความหมายอะไรลึกซึ้ง  แต่แจ็คกลับหน้าร้อนวูบ หัวใจเหมือนจะโลดแรงขึ้นมาดื้อๆ
   เสียงครางครืนไกลๆเหมือนระฆังช่วย  แจ็คแหงนขึ้นมองท้องฟ้าที่ค่อยๆมืดครึ้มอย่างกังวล 
   “สงสัยฝนจะตก  เราต้องรีบไปให้ถึงที่หลบฝน  แถวนี้เป็นร่องน้ำ หากฝนตกหนักมากๆอาจมีน้ำป่าไหลบ่าลงมาได้”
แจ็คประคองร่างบางขึ้นหลังอีกครั้ง  คราวนี้เขาเร่งเดินแทบเป็นวิ่ง  ไนท์ยึดไหล่กว้างแน่น  เพื่อให้แจ็คเคลื่อนไหวคล่องตัวที่สุด   ลมพัดจนใบไม้ปลิวว่อนเมื่อแจ็คพาเขาไต่ขึ้นหน้าผาชันอีกครั้ง  ฝนเริ่มหยดลงมาเม็ดใหญ่ทำให้การปีนยากขึ้นด้วยความลื่น
กว่าจะถึงซอกถ้ำเล็กๆบนหน้าผาแจ็คก็หอบจนตัวโยน  ชายหนุ่มปลดร่างบางลงวางกับพื้นแล้วนอนแผ่หลาข้างๆทันที  เสียงลมและฝนดังสนั่นไล่หลังมา  ไม่นานไอฝนเย็นเฉียบก็สาดเข้ามา  แจ็คยันตัวลุกขึ้นอุ้มร่างบางเดินโซเซเข้าข้างในจนฝนสาดมาไม่ถึงจึงค่อยนั่งพัก 
ไนท์พยายามคลายผ้าที่ห่อตัวออกเอง  ด้วยไม่อยากเป็นภาระให้แจ็คมากนัก  แต่ดูเหมือนแจ็คจะหลับไปแล้วด้วยความอ่อนเพลีย  ชีคหนุ่มพยายามเก็บเศษไม้เท่าที่เห็นมารวมเพื่อก่อไฟ  แต่ขาที่สั่นเทาไม่ให้ความร่วมมือ  ร่างกายปวดร้าวแม้ขยับเพียงเล็กน้อยทำให้เคลื่อนไหวไม่ถนัด เศษไม้จำนวนน้อยนิดไม่สามารถทำอะไรได้  ไนท์กำมือแน่นด้วยความโมโหตัวเอง  ดูเขาช่างอ่อนแอและเป็นภาระให้ แจ็คตลอดเวลา 
“บ้าจริง!” ไนท์ปัดกิ่งไม้ที่รวมมาได้จนกระจายด้วยความโกรธ  มือเย็นเฉียบเอื้อมมาแตะแขนเขาเบาๆ  ชีคหนุ่มหน้าร้อนผ่าวด้วยความอาย ไม่แน่ใจว่าแจ็ค ตื่นขึ้นมาเห็นเขานานแล้วหรือยัง
“ผมทำเองครับอย่าหงุดหงิดไปเลย คุณยังบาดเจ็บอยู่นะครับอย่าเคลื่อน ไหวมากนัก”
“ทำผมถึงอ่อนแออย่างนี้นะ  ผมเป็นภาระให้คุณจริงๆ”
ไนท์คำรามตาวาววับในความมืด ทำให้แจ็คตระหนักได้ถึงความเครียดและความโกรธเกรี้ยวที่สภาพร่างกายไม่พร้อมอย่างใจ
“บอกแล้วไงครับว่าอย่าคิดมาก  เดี๋ยวผมก่อไฟให้”
“แต่เศษไม้มีแค่นี้จะทำอะไรได้”
“มีอีกครับ  คนที่เคยมาอาศัยหลบฝนที่นี่ต้องเตรียมไว้เสมอ  แต่เรามีที่เก็บของพวกเรา  เดี๋ยวผมมานะครับ”  แจ็คลุกหายไปครู่หนึ่งจึงกลับมาพร้อมฟืนหอบใหญ่  ไม่นานกองไฟอุ่นก็ลุกเรืองขึ้นในถ้ำ  ไนท์มองตามควันไฟอย่างกังวล
“ไม่ต้องห่วงนะครับ  ถ้ำนี้มีปล่องเล็กปล่องน้อยมากมาย  รับรองว่าไม่มีใครสังเกตเห็นแน่ว่ามีควันลอดออกไปข้างนอก  มาเถอะครับพักผ่อนเสียดีกว่า  ถึงอย่างไรก็ต้องรอจนฝนหายถึงจะไปต่อได้”
ไนท์เหลือบมองใบหน้าคร้ามอย่างทึ่งๆ แค่ปฏิกิริยาเล็กๆน้อยๆ แจ็คก็อ่านใจเขาได้ทะลุปรุโปร่งอย่างนี้เชียวหรือ เห็นทีเขาต้องระมัดระวังความคิดตัวเองให้มากกว่านี้เสียแล้ว
“อีกนานไหมครับกว่าฝนจะหยุด?”
“ปรกติไม่นานนะครับ เพราะนี่ไม่ใช่หน้ามรสุม อีกสักพักคงหยุด  แต่เราคงไปถึงตัวเมืองดึกหน่อย”
“แล้วเราจะเข้าเมืองยังไง?”
“ผมมีคนรู้จักขับรถส่งของอยู่ที่ท่าเรือ  คิดว่าคงอาศัยรถเขาเข้าเมืองได้”
ไนท์อึดอัดใจ  อยากบอกแจ็คว่าคนที่ตามล่าเขามีเส้นสนกลในมากแค่ไหน ไม่อย่างนั้นแค่เขายกหูโทรศัพท์กริ๊กเดียวคนของเขาก็จะรีบมารับทันที  แต่ป่านนี้สายโทรศัพท์ในเขตนี้คงถูกดักฟังหมดแล้ว  และเขาก็ไม่อาจบอกให้แจ็ครู้ฐานะที่แท้จริงได้จนกว่าจะเขาจะกลับไปถึงถิ่น
เมื่อฝนหายแจ็คก็ค่อยๆพาไนท์ไต่ลงมาอีกครั้ง  การไต่ลงเขาที่ลื่นและมีคนถ่วงอยู่บนหลังอีกคนเป็นเรื่องยากลำบาก  หลายครั้งที่แจ็คลื่นถลา  แต่อาศัยเชือกที่เขามัดเอวและมือที่เหนียวแน่นทำให้ลงมาเหยียบพื้นดินได้สำเร็จ  กระนั้นมือแจ็คก็โดนเชือกบาดจนเลือดซึม  ไนท์เหลือบมองแผลแล้วเงยขึ้นมาเจอกับรอยยิ้มกว้างก็ยิ้มตอบเก้อๆ  ถึงไม่มีคำพูดใดๆแต่สายตาห่วงใยของไนท์ก็ทำให้แจ็ค อิ่มเอิบใจจนแทบหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง  และแจ็คมั่นใจว่าเป็นความรู้สึกดีๆของการได้ช่วยเหลือผู้อื่นเท่านั้น...เท่านั้นจริงๆ?
          ♜...........♜ ...........♜

มาลุ้นกันนะคะว่าจะหนีผู้ตามล่าได้ไหม

แล้วพบกันคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 17-12-2009 22:32:26
เป็นคนดีไปม๊ายอ่าแจ๊ค ยังงี้ไนท์จะตอบแทนยังไงถึงจะพอ

สู้ๆ ต่อไป  ^^ รออ่านต่อด้วยค่ะ ลงเยอะสมกับที่รอจริงๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: PAN@DA ที่ 17-12-2009 22:43:02
นิยายคุณใบปอสนุก น่าติดตามทุกเรื่องเลย ดูเหมือนเรื่องนี้จะลุ้นระทึกมากกว่าเรื่องอื่นนะเนี่ย
ขอบคุณคุณ tianqin ที่เอานิยายดีๆ แบบนี้ มาโพสต์ให้อ่านนะ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-12-2009 22:43:43
หุหุ ตามล่าตามรัก อิอิ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 17-12-2009 22:48:11

ถ้ามีคนปกป้องคุ้มครองช่วยเหลือเราได้เข้มแข็งอย่างแจ๊คทำ จบเรื่องไปเราคงจะแต่งงานไปด้วยแล้วอ่ะ  :-[

ขอบคุณคนแต่งและคนโพสต์ค่ะ (แอบอยู่ในเล้ามานานเพิ่งสมัครและโพสต์ตอบค่ะ)
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 17-12-2009 22:51:31
มาต่อแล้ว  :sad4:

จะหนีรอดไหมเนี่ย  ไนท์บาดเจ็บ อีก  :serius2: แจ็คก็ใจดี มีน้ำใจเหลือเกิน

ขอให้ไนท์หาย เร็ว ๆ มาจัดการไอ้พวกคนที่ทำร้ายตัวซะทีเถอะ

เหมือน ๆ ว่า ต่างคนต่าง รู้สึก ดี ๆ ให้กันแล้ว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-12-2009 23:40:59
แจ็คมีน้ำใจจริงๆ ทุ่มสุดตัวเลย
แบบนี้ใจไนท์คงจะค่อยๆละลายแล้ว

เป็นอีกเรื่องของใบปอที่สนุกมากๆเลย รออ่านต่อนะคะ
ขอบคุณมากๆและ บวก 1 แต้มค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 18-12-2009 02:13:31
ขอบคุณค่า..

สนุกมากเลย..เรื่องนี้แจ็คเป็นฮีโร่มากๆ ทั้งเข้มแข็งทั้งอบอุ่น..ไนท์ไม่รักยังไงไหว.. :-[

แต่เรื่องชนชั้นเนี่ยแหละจะมาเป็นอุปสรรคของทั้งสองคน..
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 18-12-2009 04:27:49
แจ็คสุดยอดเลยอ่ะ เป็นที่พึ่งได้ทุกสิ่งจริงๆ  o13

รออ่านต่อค่า 
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 18-12-2009 10:48:45


แจ๊คสุดยอด    o13


 :L2:   น้องไนท์ที่รัก


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 18-12-2009 12:53:44
เรื่องนี้ได้ลุ้นดีนะครับ  ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 18-12-2009 14:07:52
หูยยยยยย คู่นี้ อ่านไปยิ้มไปแล้วเนี่ย  อยากรู้ว่า ถ้ารักกันแล้วจะหวานเยิ้มสักแค่ไหน   :o8:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 18-12-2009 17:03:04
 :bye2:  เรื่องนี้โรแมนติกมากมายเลย  โรแมนติกผจญภัย  ชอบจังครับ  สนุกดี  นิยายของคุญใบปอเนี่ย อ่านแล้วเหมือนได้อ่านนิยายแปลจากต่างประเทศเหมือนกันนะครับ  ฝีมือเยี่ยมจริงๆ  o13

นิยาย 3 เรื่องนี้เหมือนจะเขียนมานานแล้ว(เหมือนจะเคยรวมเล่ม)  แล้วปัจจุบันมีเรื่องใหม่ๆอีกมั้ยครับ  ขอบคุณเทียนฉินที่เอานิยายสนุกมากมาโพสให้อ่าน  อย่าหายไปนานนะครับ  อยากอ่านต่ออีกอ่าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-12-2009 21:44:09
ดันๆๆๆๆๆ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 20-12-2009 22:14:06
ช่วยดัน อยากอ่านต่อมากกกกกกกกกกก >.<
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-12-2009 10:10:16
วันนี้มามั้ย  :z3:  :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 21-12-2009 20:40:07
มารอค่ะ

วันนี้จะมาไหนน้าาาา

อยากอ่านต่อจังเลย :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 21-12-2009 20:50:55
จำได้เรื่องนี้เคยอ่านหลายปีแล้ว ชอบมากๆของคุณใบปอ เมื่อไรจะเขียนอีกซักที่หละก๊าบบบบบ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาลงตอนใหม่แล้วคะ 17/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 21-12-2009 22:13:11
จำได้เรื่องนี้เคยอ่านหลายปีแล้ว ชอบมากๆของคุณใบปอ เมื่อไรจะเขียนอีกซักที่หละก๊าบบบบบ

ตอนนี้คุณใบปอกำลังเขียนอยู่คะ ได้อ่านต้นฉบับแล้ว 1 ตอน+ฟังพล๊อดเรื่องแล้วขอบอกว่าเรื่องใหม่สนุกมากกกกกกกก แต่คุณใบปอบอกว่าขอแต่งให้จบก่อนนะคะ ค่อยให้นำมาลง


และก็ขอบคุณทุกท่านที่มาข่วยลุ้นแจ๊คและไนท์นะคะ
ไปอ่านตอนต่อไปกั้นได้เลยคะ
......................
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 21-12-2009 22:14:45
.......
แสงไฟจากลานจอดรถบรรทุกทำให้แจ็คมีสีหน้าสดชื่น  ตรงข้ามกับไนท์ที่กังวลมากกว่าตอนอยู่ในป่า 
   “รอผมอยู่ที่นี่นะครับ  ผมจะไปหารถ รับรองครับว่าผมจะรีบไปรีบกลับ”
“ระวังตัวนะแจ็ค”
“ครับผม”  แจ็คลัดเลาะหายไปในความมืด  ป่าที่ไม่มีแจ็คหนาวเยือกอย่างประหลาด  แต่ไนท์กลับห่วงคนที่หายไปมากกว่าตัวเอง  หากคนที่แจ็คไปติดต่อเป็นคนของพวกที่ตามล่าเขา  แน่นอนว่าแจ็คต้องถูกเก็บแน่  ชีคหนุ่มเย็นวาบทั้งตัวเมื่อเหลือบไปเห็นรถเก๋งสีดำที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามา  หายลับเข้าไปในอาคารอีกด้าน
“ไม่เป็นไรนะครับ”
ไนท์เกือบสะดุ้งเมื่อจู่ๆแจ็คก็โผล่มาใกล้ๆ  ชายหนุ่มประคองเขาลุกขึ้นแล้วห่อผ้ารอบตัวเขาจนมิดชิดถึงปลายเท้าก่อนจะอุ้มเขาเดินดุ่มไปยังด้านหลังอาคาร
   “อย่าพูด อย่าส่งเสียงอะไรทั้งนั้นนะครับ” แจ็คกระซิบเบาๆ  ก่อนจะได้ยินเสียงห้าวๆตะโกนทักดังลั่น
   “ไฮ้แจ็ค”
   “ไฮ้ เรย์...เห็นข้างในบอกว่านายจะเข้าเมืองตอนนี้เหรอ?”
“ใช่แล้ว...ไงไอ้เสือ นั่นจะพาใครไปด้วยหรือไงเพื่อน?”
“อืม...”
“ต้องห่อกันมิดชิดอย่างนี้เลยเหรอ...หรือว่าพาลูกสาวใครหนีมา?”
“เออ...อย่าเสียงดังไปสิ” แจ็ครีบรับสมอ้าง  เขาไม่ค่อยชอบโกหกทำให้นึกหาคำพูดไม่ทัน  ยังดีที่เรย์เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน
“อะไรวะ  หนุ่มเนื้อหอมอย่างนายต้องพาสาวหนีงั้นเหรอ  ล้อเล่นหรือเปล่า?” เรย์ทำเสียงเย้าๆทั้งทีสีหน้าดูพึงพอใจ  ไม่ใช่มีแต่เขาที่มีนิสัยชอบลักพาผู้หญิงที่ไม่เต็มใจ  แม้แต่คนที่ใครว่าดีแสนดีอย่างแจ็คก็มีวันนี้ด้วยเหมือนกัน  เรย์รู้สึกเหมือนได้พวกเพิ่มขึ้นมาอีกคน
“ช่วยไม่ได้ ตาแก่นั้นทำเป็นวางมาดดีนัก หมั่นไส้เลยลักลูกสาวมาเสียเลย”
“ให้มันได้อย่างนี้สิวะเพื่อน  เจ๋งว่ะ! “
“ว่าแต่ฉันขึ้นรถได้ยัง  เดี๋ยวเจ้าหล่อนตื่นขึ้นมาได้โวยลั่น  เผื่อว่าที่พ่อตาตามมาฉันจะได้หลบทัน”
“ไปเลยคันสีน้ำเงินนั่นแหละ  เข้าไปทางคนขับนะ  เปิดพนักเก้าอี้ด้านหลังออก  จะมีประตูอยู่  นายเข้าไปในนั้นได้เลย  รับรองว่ากว้างขวางพอจะกล่อมแม่สาวของนายให้อยู่หมัดก่อนถึงในเมืองแน่”
“ขอบใจมากเรย์  รับรองงานนี้มีรางวัลงามแน่” แจ็คตอบยิ้มๆทั้งที่ในใจรู้สึกรังเกียจ  ลองเตรียมพร้อมอย่างนี้แสดงว่าเรย์ต้องเป็นหนึ่งในแก็งค์ที่ลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองแน่  แต่ยังไงวันนี้เขาก็ต้องพึ่งพาหมอนี่อยู่ดี  เพราะต้องใช้คนเจ้าเล่ห์กะล่อนแบบเรย์เท่านั้นถึงจะพาเขาเข้าเมืองไปโดยไม่พบกับด่านตรวจหรือพวกที่ตามล่าไนท์
“สบายอยู่แล้วเพื่อน อ้อ!อย่าให้เสียงดังนักล่ะมันรบกวนสมาธิคนขับรถว่ะ”
เรย์หลิ่วตาอย่างอารมณ์ดี  แจ็คยิ้มตอบแม้จะขัดหูกับถ้อยคำกินนัยหยาบโลนของเรย์ก็ตาม  ชายหนุ่มอุ้มร่างในผ้าห่มปีนขึ้นไปบนรถ เมื่อปลดล็อคและเลื่อนเบาะด้านหลังออก  ก็พบประตูอยู่หลังเบาะจริงๆห้องด้านในแม้จะไม่กว้างนักแต่ก็ไม่ถึงกับอึดอัด  แจ็คค่อยๆประคองร่างบางเข้าไปวางเบาๆ  ไนท์โผล่ตาออกมามอง  ชายหนุ่มจึงยิ้มให้
“ทนหน่อยนะครับประมาณตีหนึ่งเราคงไปถึงในเมือง...เรย์มาแล้วคุณต้องหลบก่อน”
แจ็ครีบเลื่อนประตูปิดแล้วปรับเบาะไว้อย่างเดิม  ก่อนจะนอนพิงเบาะแล้วเอาหมวกคลุมหน้าเสีย  เรย์เดินมาถึงพร้อมชายชุดดำสองคน
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีๆ  นี่ไงเพื่อนผม ใช่คนที่คุณตามอยู่หรือเปล่าล่ะ?”
“อะไรวะเรย์เสียงดังชิบ” แจ็คสบถหยาบคายแบบเดียวกับที่พวกขับรถบรรทุกชอบพูดกัน  เรย์ลอยหน้าตอบรับมุขได้ทันควัน
“คุณตำรวจเขามาตามหาคนต่างชาติ  เห็นว่าเป็นพวกหลบหนีเข้าเมืองอะไรนี่แหละ”
“ว่าไงครับคุณตำรวจ?”แจ็คแกล้งกวนทั้งๆที่แน่ใจว่าพวกมันดูยังไงๆก็ไม่ใช่ตำรวจแน่  ชายชุดดำกวาดตามองไปทั่วรถก่อนจะถอยออกไป
“นายเห็นผู้ชายต่างชาติหน้าตาสวยเหมือนกระเทยบ้างไหม  ตัวสูงสัก178เห็นจะได้  รูปร่างบางๆผิวขาว?”
“ไม่เห็นครับ”
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มี” เรย์ได้ทีรีบสำทับ  หนึ่งในสองส่งกระดาษจดเบอร์โทรศัพท์ให้
“ถ้าเจอนะรีบแจ้งมาที่เบอร์นี้เลยนะ  ทางการกำลังต้องการตัวหมอนี่”
“ได้ครับ  ถ้าเจอเราจะรีบโทรไปบอก” เรย์แสยะยิ้มกว้างทั้งที่ในใจอยากลากพวกมันมาเหยียบให้จมดินด้วยความเกลียดตำรวจเข้าไส้
ทันทีที่ชายชุดดำสองคนลับตัวไป  เรย์ก็ถมน้ำลายปรี๊ด ฉีกกระดาษจดเบอร์เป็นชิ้นๆแล้วเร่งให้แจ็คไปแอบด้านหลังก่อนที่เพื่อนเขาจะมา  แสดงว่าแม้แต่เพื่อนเรย์ก็ไม่บอกว่ามีพวกเขาไปด้วย  แจ็ครีบหลบเข้าไปในห้องลับอย่างรวดเร็ว  ไม่นานเสียงเครื่องยนต์ก็ครางกระหึ่มแล้วรถก็เคลื่อนออกจากลานจอด  แม้ในห้องลับจะมืดและเสียงเครื่องยนต์ก็ดังอื้ออึง แต่แจ็คก็ยังได้ยินเสียงลมหายใจสั้นกระชั้นของไนท์  ชายหนุ่มค่อยๆควานไปประคองร่างบางขึ้นมาพิงอกเขา  ผิวสัมผัสร้อนผ่าวทำให้เขาใจหายวูบทันที
“คุณไข้ขึ้นนี่ครับ?”
“อืม...สงสัยแผลจะอักเสบ”ไนท์ตอบทั้งๆที่ฟันกระทบกันกึกด้วยความหนาว
“เดี๋ยวผมจัดยาให้”
“มืดอย่างนี้ทำได้ยังไงล่ะ  อย่าลำบากเลยแจ็ค  ผมทนได้”
“ไม่เป็นไรครับผมมีไฟฉาย”
แจ็คค้นยาออกมาให้ไนท์กินทันที  หน้านวลที่เห็นรางๆจากแสงของไฟฉายแดงจัดด้วยพิษไข้  การเดินทางที่ตรากตรำทำให้อาการของไนท์ทรุดลงอีก  แต่สถานที่บังคับอย่างนี้ทำให้แจ็คไม่สามารถดูแผลให้ได้ 
“หนาวไหมครับ?”
“..หนาว...”
“ผมจะกอดคุณไว้ถ้าโดนแผลบอกนะครับ”
“อืม...”
แจ็คนั่งพิงผนังตู้คอนเทนเนอร์เย็นเฉียบประคองร่างร้อนเหมือนไฟไว้ในอ้อมแขน เมื่อยาออกฤทธิ์ไม่นานอาการสั่นสะท้านก็ค่อยๆลดลง  แต่ไอร้อนผ่าวยังไม่จาง  แจ็คค่อยๆรินน้ำดื่มลงบนชายเสื้อของเขาก่อนจะเช็ดตามหน้าให้ไนท์เพื่อลดไข้  แม้จะไม่ค่อยได้ผลแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
เสียงไนท์ครางแผ่วๆด้วยความเจ็บปวดทำให้แจ็คต้องคลายผ้าห่มออก  ร่างบางร้อนระอุ ท่าทางแผลคงอักเสบไม่น้อย  แต่แจ็คก็ทำได้เพียงเช็ดตัวและกอดไนท์ไว้เท่านั้น ไอร้อนจากคนป่วยดูเหมือนจะแทรกซึมผ่านเข้ามาจนตัวเขาพลอยร้อนไปด้วย  ยาวนานในความรู้สึกของแจ็คกว่าที่จะได้ยินเสียงเคาะเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
แจ็ครีบห่อร่างบางด้วยผ้าห่มจนมิดชิดอีกครั้งเพื่อเตรียมลง  รถค่อยๆชะลอและหยุดนิ่งในที่สุด  ครู่หนึ่งประตูลับเปิดออกพร้อมกับเรย์โผล่หน้ามายิ้มเผล่  เพื่อนที่นั่งมาในรถคงถูกใช้ให้เข้าไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อข้างหน้านั่น  แจ็คโยนธนบัตรปึกหนึ่งให้  เรย์ยิ้มกริ่มรีบยัดใส่กระเป๋าทันที 
แจ็คหอบร่างบางลงจากรถไปซุ่มอยู่ที่มุมมืดข้างปั๊ม  ไม่นานเพื่อนร่วมทางของเรย์ก็กลับมา  รถบรรทุกสีน้ำเงินก็แล่นตะบึ้งจากไปด้วยความเร็ว
แจ็ครอจนแนใจว่าไม่มีคนติดตามจึงไปซื้อเบียร์จากร้านสะดวกซื้อนำกลับ มาราดบนตัวเขาจนเปียกชุ่มก่อนจะออกไปเรียกแท็กซี่  สภาพโซเซกับกลิ่น
แอลกอฮอล์เหม็นหึ่ง ทำให้แท็กซี่เหลือบมองอย่างไม่สนใจนักแม้จะมีคนในชุดดำรุ่มร่ามขึ้นมาด้วยก็ตาม
ถนนตอนตี1 กว่าๆเงียบและว่างเปล่า  ไม่ถึง20นาทีแท็กซี่ก็พา ‘ขี้เมา’ ทั้งสองมาส่งยังที่หมาย
แจ็คหัวเราะลงลูกคอเบาๆเมื่อเห็นแสงไฟจากบ้านข้างหน้า  ในที่สุดเขาก็พาไนท์มาถึงสถานที่ปลอดภัย  ชายหนุ่มประคองร่างในห่อผ้ารุ่มร่ามลงจากรถ 
บ้านหลังเล็กมรดกของตาที่เขาเพิ่งได้รับเมื่อไม่นานมานี้  หากไม่ได้คนของริชช่วยค้นหา เขาคงไม่มีโอกาสรู้ว่าตัวเองยังเหลือญาติผู้ใหญ่คนสุดท้าย  และท่านเพิ่งจากเขาไปเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา  บ้านสองชั้นสีขาวที่รายล้อมด้วยไม้ดอกไม้ใบสะพรั่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองไม่มากนักแต่เงียบสงบอย่างเหลือเชื่อ 
แจ็คอุ้มร่างบางไปวางบนเตียงในห้องนอนใหญ่  พร้อมกับเปิดฮีทเตอร์เพื่อให้ห้องอบอุ่น  ชายหนุ่มคลี่ผ้าห่มแน่นหนาออก  ใบหน้าและดวงตาของไนท์แดงก่ำด้วยพิษไข้  แจ็ครีบเอาน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้ทันที  แผลที่ถูกพันไว้แน่นเริ่มอักเสบและบวมแดงจริงๆ  แจ็คชโลมน้ำผึ้งซ้ำ หลังทำแผลให้ใหม่  สีหน้าของไนท์ดูผ่อนคลายและไม่ทุรนทุรายเหมือนตอนแรก  แต่พอแจ็คขยับจะลุกไนท์กลับยึดมือเขาไว้แน่น
“ไปไหน?”
“เปล่าครับ...หลับเสียเถอะครับ  คุณปลอดภัยแล้ว”
ไนท์ถอนใจยาว มือเรียวขาวกำมือแจ็คแน่นกว่าเดิม  แจ็คจ้องมองหน้า นวลอย่างเป็นห่วง เขาเปลี่ยนใจที่จะไปนอนอีกห้อง  ชายหนุ่มค่อยๆเลื่อนตัวลงไปนอนเคียงข้างไนท์  แผ่นหลังขาวเปลือยโล่ง  เงาสะท้อนของน้ำผึ้งที่กระทบกับแสงไฟเป็นรอยด่างดวง  ทำให้แผลดูน่ากลัวกว่าความเป็นจริง 
ดวงตาคมกวาดไล้ทั่วใบหน้าขาวเผือดที่เอียงตะแคงมาทางเขาอย่างชื่นชม แม้จะอยู่ในสภาพคนป่วย  แต่ความงามของคนตรงหน้ากลับดูไม่ถดถอยลงสักนิด ยิ่งมอง...ก็ยิ่งงดงาม...สวยจนใจเต้นผิดจังหวะ...แจ็คเกือบสะดุ้งกับความคิดของตัวเอง  คงเป็นเรื่องน่าทุเรศหากเขาจะคิดอกุศลกับคนป่วย  ชายหนุ่มสลัดศีรษะแล้วหลับตา  เพื่อจะได้เลิกคิดฟุ้งซ่านเสียที  ความอ่อนเพลียทำให้เขาผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว.......ƒ.....
      

   แสงแดดอุ่นยามเช้าไล้ผ่านผิวหน้าช้าๆ คงเป็นความอุ่นก่อนที่จะร้อนระอุราวกับจะแผดเผาให้เขาตายอยู่กลางทะเลทราย  ไนท์ลืมตาขึ้นฉับพลัน  สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าหน้าคล้ำค่อนข้างหยาบ  อยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจ
‘...แจ็ค...’ เมื่อนึกออกว่าเป็นใคร  ความทรงจำทั้งหมดก็หลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว  ชีคหนุ่มขยับกายช้าๆ  รู้สึกยินดีที่ร่างกายเคลื่อนไหวได้ตามใจ  แม้จะยังเจ็บแสบบริเวณแผ่นหลังอยู่บ้างแต่ก็ไม่สั่นเทิ้มไปทั้งตัวเหมือนวันก่อน  ชีคหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ  ห้องสีเขียวอ่อนทำรู้สึกผ่อนคลาย  ม่านสีขาวปลิวไสวด้วยแรงลม   ทำให้แสงแดดที่สาดเข้ามาอุ่นมากกว่าที่จะร้อน 
ไนท์ละสายตาจากรอบตัวกลับมามองใบหน้าที่ห่างแค่คืบด้วยสายตาอ่อนโยน หากไม่ได้แจ็ค เขาอาจไม่มีโอกาสตื่นขึ้นมาเห็นแสงแดดอีกครั้งก็ได้  เปลือกตากว้างขยับเล็กน้อยแล้วค่อยๆปรือขึ้นมองเขาอยู่ครู่หนึ่งแจ็คก็ผุดลุกขึ้นนั่ง
“รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?” ขณะถามมือใหญ่ก็เลื่อนแตะไปตามหน้าผากและซอกคอ  ไนท์นอนเฉย ไม่ถอยหนีด้วยไม่รู้สึกขยะแขยงหรือรังเกียจเหมือนยามคนอื่นสัมผัส 
“ตัวไม่ร้อนจัดแล้ว” แจ็คอุทานอย่างยินดีและยิ้มกว้างให้ ไนท์ยิ้มตอบด้วยความรู้สึกอ่อนโยนระคนตื้นตันใจ
“ดีขึ้นมากเลย...ขอบคุณนะครับ”
“ได้ยินอย่างนี้ค่อยโล่งอก  มาครับผมจะพาไปห้องน้ำ”
“ไม่เป็นไรครับ  คิดว่าน่าจะลุกไหวแล้ว”
“จริงเหรอครับ...งั้นลองดูไหมครับ?”
“ครับ”
แจ็คประคองร่างเพรียวขึ้นช้าๆ  ไนท์ค่อยๆลุกตามแรงพยุง  แรกๆขาเขาก็สั่นเหมือนจะทรงตัวไม่อยู่  แต่ครู่เดียวเขาก็รวบรวมเรี่ยวแรงได้ 
เมื่อสังเกตเห็นว่าไนท์ช่วยตัวเองได้  แจ็คจึงส่งไนท์ไว้ที่ห้องน้ำแล้วลงไปที่ห้องครัว 
ถึงจะพอช่วยตัวเองได้  แต่ทุกการเคลื่อนไหวก็เชื่องช้าจนชีคหนุ่มหงุดหงิด  กว่าที่เขาจะเสร็จธุระส่วนตัว  ก็ออกมาเจอแจ็คกำลังจัดอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง  พอหันมาเห็นเขาก็รีบสาวเท้าเข้ามาช่วยประคองไปนั่ง เก้าอี้กลมนุ่มตัวใหญ่แต่ไม่มีพนัก  ไนท์เหลือบมองอาหารบนโต๊ะก่อนจะหันมาขอบคุณเบาๆ  ยังไม่ทันจะลงมือจัดการกับอาหารเช้า  ก็มีแขกตัวเล็กๆบินปร๋อมาเกาะที่ขอบหน้าต่าง   แจ็คหยิบเมล็ดธัญพืชในถ้วยโปรยให้  ดูเหมือนเจ้านกน้อยทั้งสองจะคุ้นเคยกับชายหนุ่มเป็นอย่างดี  พวกมันเข้ามาจิกกินเมล็ดธัญพืชเสียจนใกล้ 
“คุณเลี้ยงไว้เหรอครับ?” ไนท์เลิกคิ้วอย่างทึ่งๆ  นกกระจอกไม่น่าจะใช่นกที่จะเชื่องกับคนมากขนาดนี้  แม้มันจะได้ชื่อว่าเป็นนกเมืองก็ตาม
“เปล่าครับ...ตอนผมมาที่นี่ใหม่ๆก็เห็นมันคุ้นเคยกับคนอย่างนี้อยู่แล้ว  สงสัยคุณตา...เอ่อ...เจ้าของบ้านคนเก่าคงให้อาหารมันแบบนี้บ่อยๆ  มันเลยคุ้นกับการกินแบบนี้”
ไนท์ลองหยิบอาหารในถ้วยไปโปรยบ้าง  พวกมันก็หันไปหาทันที  แจ็ค มองตาแวววาวด้วยความตื่นเต้นและพึงใจของคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู  จู่ๆเจ้านกตัวหนึ่งก็อาจหาญขนาดยื่นหน้ามาจิกเมล็ดพืชในอุ้งมือไนท์  แจ็คหัวเราะเบาๆอย่างเห็นขันขณะที่ไนท์เพียงแค่ยิ้มเท่านั้น   แต่ก็เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนเสียจนแจ็ค เผลอมองอยู่นานอย่างลืมตัว   จู่ๆไนท์ก็หันกลับมามองและทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง  แต่เมื่อตาสบกันคำพูดนั้นก็ค้างอยู่แค่ริมฝีปาก  ปากแดงสีสดสะท้อนกับแสงทองยามเช้าเป็นมันวาวชุ่มฉ่ำ  ดวงตาสีทองเข้มลึกเหมือนจะดึงดูดให้จมลึกตกอยู่ในมนต์สะกด  กลิ่นหอมอ่อนอวลจากร่างบางปลุกความรู้สึกวาบหวามระคนอ่อนหวานให้กระพือโหมขึ้นอย่างรวดเร็ว...RRRRRRR…..
เสียงโทรศัพท์มือถือทำให้แจ็คสะดุ้งโหยง  ขณะที่ไนท์เพียงแต่หลุบเปลือกตาลงต่ำแล้วหันกลับไปสนใจนกตัวน้อยทั้งสองตัว  แจ็คเดินเร็วๆไปรับสายความรู้สึก โกรธเกรี้ยวและฉุนเฉียวประทุขึ้นมาจนอยากขว้างทิ้งมากกว่ารับสาย
“สวัสดีครับ”
“ฉันเองนะ...ตอนนี้พวกนั้นเข้ามาจ้างคนในหมู่บ้านให้ออกตามนาย  พวกมันเจอรถนายด้วยแต่ยังดีที่เป็นรถเช่า ทุกคนก็เลยตีหน้าตายทำไม่รู้ไม่ชี้กันได้สนิท  ฉันกะว่าจะรับจ้างพวกมันไปวนๆหานายให้หลงป่าเล่นสักวัน นายจะได้มีเวลากลับไปฮาวาย”
“ขอบใจมากแคล  หนนี้ฉันเป็นหนี้นายนะ”
“บ้าน่า...นายช่วยครอบครัวฉันไว้ตั้งเยอะ  แค่นี้เรื่องเล็ก...แค่นี้นะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”
แจ็คกล่าวอำลาเบาๆ  นึกเสียใจที่เขาโกรธตอนแคลวินโทรมา  ทั้งๆที่เขาหาเรื่องยุ่งไปให้แท้ๆ  แคลวินไม่ถามสักคำตอนที่เขาขอให้ช่วยระวังให้หากมีคนตามมา  แม้แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ช่วยกันปกปิดร่องรอยเขาอย่างแข็งขัน  ทำให้เขาพาไนท์หนีมาได้  ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร แต่ทุกคนกลับเต็มใจให้ความช่วยเหลือ  แต่เขายังโกรธที่ถูกขัดจังหวะ...
‘ขัดจังหวะจากอะไร?’  แจ็คถามตัวเองอย่างตื่นตระหนก  ความรู้สึกวาบหวามปนตื่นเต้นเมื่อครู่คืออะไรกันแน่  แจ็คสลัดศีรษะ  พยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้น  ตอนนี้เขาควรไปดูลาดเลาในเมืองมากกว่าเผื่อว่าจะได้รู้รายละเอียดของเหตุระเบิดที่ห้าง  อีกอย่างอาหารกระป๋องในตู้ก็มีนิดหน่อยเท่านั้น 
“ผมจะไปซื้อของนะครับ  คุณต้องการอะไรบ้างหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ...ขอบคุณมาก”
“งั้นผมไปก่อนนะครับ  เดี๋ยวมา”
“เอ่อ...คุณแจ็ค”
“ครับ?”
“ผมขอใช้โทรศัพท์ได้ไหมครับ?”
“ได้ครับ  ในห้องนอนก็มีครับ แต่ผมถอดปลั๊กออกเพราะไม่ได้ใช้”
“ขอบคุณมากครับ”
“ตามสบายครับ  เดี๋ยวผมมา”
ไนท์มองตามร่างสูงที่นั่งแท็กซี่ออกไป  ก่อนจะลุกไปต่อโทรศัพท์ถึงคนสนิท
“ฝ่าบาท”
“เราอยู่ที่..............”
หลังจากวางสายไนท์ก็ลุกขึ้นเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย  เขาฝืนสวมเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งเข้าไป  หวังว่าน้ำผึ้งคงช่วยให้ผ้าติดแผลไม่มากนัก  ชีคหนุ่มเหลือบมองเตียงด้วยความรู้สึกอาวรณ์  มือขาวลูบไล้เสื้อเชิ้ตเนื้อนิ่มที่สวมอยู่แผ่วเบา  เสื้อราคาถูก หากแต่ค่าน้ำใจของเจ้าของเสื้อตัวนี้มหาศาลนัก   
ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากโทรศัพท์ ไคซัคและองครักษ์อีกสองคนก็มารับ ชีคหนุ่มก้าวเข้าไปนั่งตัวตรงราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ  สีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกทำให้ไม่มีองครักษ์คนใดกล้าเปิดปาก  แม้ภายนอกจะดูไร้อารมณ์   แต่ในใจของไนท์กลับไม่สงบนิ่งเหมือนเคยอีกแล้ว  สายใยบางอย่างได้ถักทอแน่นหนาขึ้นท่ามกลางความเป็นความตายที่เขากับแจ็คเผชิญร่วมกัน ...... (......
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 21-12-2009 22:18:21
......
แจ็คแทบกระโจนลงจากแท็กซี่เมื่อสังเกตเห็นหน้าต่างชั้นบนปิด -
สนิท  ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นไนท์ถึงได้ปิดมัน  บ้านเงียบและวังเวงจนเขาใจ เสีย หนังสือพิมพ์ในมือลงข่าวหมอและพยาบาลคลินิกที่เขาพาไนท์ไปรักษาถูกฆ่า ปาดคอขึ้นหน้าหนึ่งหรา  ทำให้เขาต้องเผ่นกลับมาบ้านแทบไม่ทัน แจ็คทิ้งข้าวของ ทั้งหมดไว้ที่โต๊ะ  โดดขึ้นบันไดทีละ 2-3 ขั้นอย่างร้อนใจ 
   “คุณไนท์! คุณไนท์ครับ...อยู่ที่ไหนครับ?” 
แจ็คหันคว้างอย่างตกใจ ห้องนอนว่างเปล่าและจัดไว้เรียบกริบ  บนเตียงมีจดหมายฉบับหนึ่ง  แจ็คคว้ามาดูอย่างร้อนใจ
‘ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือทุกอย่าง  คนของผมมารับแล้ว 
ไม่ต้องเป็นห่วง’
            ..............ไนท์  จิงเจอร์............
แจ็คถอนใจยาว บอกไม่ถูกว่าโล่งอกหรือใจหายกันแน่ ทั้งที่เขาควรดีใจว่าไนท์ได้กลับไปอย่างปลอดภัย แต่ความรู้สึกเคว้งคว้าง เสียดาย และผิดหวัง กลับประดังกันขึ้นมา  ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนมองเพดาน  สับสนด้วยความรู้สึกที่อัดกันอยู่ภายใน  ความจริงใม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ไนท์จะโทรหาญาติให้มารับ  แต่นึกน้อยใจที่ไนท์ไม่คิดจะบอกลาเขาสักคำ...แต่นั่นแหละเขากับไนท์ก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมากมายนัก  แค่บังเอิญเขาเคยช่วยไนท์ไว้ก็เท่านั้น   ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึก  ในอากาศเหมือนมีกลิ่นหอมอ่อนๆเจือแทรกอยู่บางเบา
แจ็คพยายามสลัดความผิดหวังออกไป  ตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำคือรีบจัดของแล้วกลับไปทำงานก่อนจะเสียประวัติจะดีกว่า  แม้แจ็คจะทำเหมือนไม่สนใจ  แต่ลึกๆในใจเขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าดวงตาสีทองคู่นั้นได้ประทับอยู่ในความทรงจำเขาแนบแน่นเสียแล้ว
           ♜.........♜...........♜
         

   ♚..5..♚

เสียงเครื่องปั่นไฟติดกระหึ่มขึ้นมาอีกครั้งหลังจากปลุกปล้ำกับมันอยู่ตั้งครึ่งค่อนวัน
แจ็คถอนใจพรูด้วยความโล่งอก  ความจริงไม่ใช่หน้าที่เขา แต่แผนกซ่อม บำรุงไปติดตั้งเครื่องกรองน้ำตัวใหม่ที่โรงแรมอีกเกาะ ช่างซ่อมบำรุงที่เหลืออยู่เพียง คนเดียวเกิดป่วย  เขาเลยรับหน้าที่ช่างจำเป็น 
ชายหนุ่มคว้าจักรยานคันโปรดปั่นกลับไปยังบ้านพักเพื่ออาบน้ำ ขณะที่ผ่านรั้วด้านที่ติดถนนก็สวนเข้ากับขบวนรถ4-5คัน หนึ่งในนั้นชะลอและเลื่อนกระจกลง แต่แจ็คไม่ได้สนใจเขาเร่งความเร็วรถมากขึ้นเพราะเห็นว่าหัวขบวนเลี้ยวเข้ามาที่โรงแรม  เห็นทีเขาต้องรีบกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปรายงานตัว ก่อนที่ผู้จัดการจะตำหนิเพราะเขาละทิ้งหน้าที่ตัวเองมาหลายชั่วโมง
ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องรับรอง  แจ็คก็เจอเข้ากับชายต่างชาติหน้าตาดุดันสองคนที่ปราดมากั้นเขาไว้  หนึ่งในสองพยายามจะคว้าตัวเขาแต่แจ็ค หลบทำให้อีกคนรีบเข้ามาช่วย
“อ้าว!คุณ  พูดกันดีๆสิครับ” แจ็คถอยไปตั้งหลักห่างๆ  เหลือบมองปราดไปรอบๆเพื่อสังเกตการณ์ก็พบว่ารอบตัวเงียบผิดปรกติ  ลูกค้าของโรงแรมมักเดินเข้าออกด้านนี้กันพลุกพล่านเพราะสามารถลงไปที่หาดได้เร็วกว่าเดินอ้อมจากด้านหน้า  แต่วันนี้ไม่มีใครเดินออกมาจากด้านในเลยแม้แต่คนเดียว  ชายหนุ่มใจหายวูบเมื่อนึกถึงข้อมูลที่เจฟฟรี่โทรมาบอกเมื่อ2-3วันก่อน  เรื่องผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ 
“เราต้องค้นตัวคุณ”
“ผมเป็นพนักงานโรงแรมนี้นะครับ จะต้องค้นตัวทำไมเนี่ย?”
“เป็นใครก็ตามหากต้องการเข้าไปข้างในเราก็ต้องค้น”
“เอ๋!โรงแรมเรามีกฎนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” แจ็ครำพึงกับตัวเองดังๆด้วยเจตนาจะแหย่คนหน้าเคร่งทั้งสอง
“ตั้งขึ้นมาเดี๋ยวนี้แหละ  ใครจะเข้าจะออกต้องให้เราค้นตัวไม่อย่างนั้นห้ามเข้า!”
“ผมไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่เพื่อความบริสุทธิ์ใจ ก็...เชิญครับจะค้นก็เชิญ”         
คนหนึ่งปราดเข้ามาลูบตบไปตามร่างกายของแจ็คอย่างรวดเร็ว  ท่าทางชำนาญคล่องแคล่วเหมือนเป็นตำรวจ  แต่แจ็ครู้สึกว่าหน้าตาเหมือนโจรมากกว่า  คนหนึ่งจ้องมองสายร่มที่แจ็คห้อยคออยู่และปราดเข้ามาดึงไปดื้อๆ   ดวงตาคมเป็น ประกายวาววับด้วยความโกรธ  กระสุนที่เขาเก็บมาจากข้างศพพ่อถูกยึดไปอย่างไร้มารยาท
“เสร็จหรือยังครับ  ผมจะได้ไปทำงาน”
“เชิญ”
“ขอสร้อยผมคืนด้วยครับ”
“ไม่ได้  กระสุนนี่ยังใช้การได้  เราต้องยึด”
 “คุณครับนั่นของๆผม  คุณไม่มีสิทธิ์เอาไปนะครับ”
“มันเป็นสิทธิ์ของเราโดยตรงเลยละ”
“คุณจะค้นผมก็ให้ค้นแล้ว  แต่ไอ้เรื่องจะมายึดของผมดื้อๆผมยอมไม่ได้”
“เสียใจ  เพื่อความปลอดภัย เราต้องยึดไว้ก่อน  ไว้เรากลับเมื่อไหร่จะคืนให้  ของพรรณนี้เราไม่เอาไปหรอกน่า”  ท่าทางยียวนและสีหน้าหยามเหยียดเต็มที่นั่นทำให้เลือดแจ็คระอุร้อนขึ้นทันที
แจ็คไหวไหล่ แต่ทันทีที่ชายในชุดสูทเผลอตัวเขาก็กระชากสร้อยกลับมาอย่างรวดเร็ว หนึ่งในสองคว้าคอเสื้อแต่แจ็คก้มตัวหลบแล้วเตะตัดข้อเท้า ร่างสูงล้มสนั่นอย่างไม่เป็นท่าด้วยไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่โรงแรมคนหนึ่งจะมีฝีมือทางนี้  อีกคนปราดเข้ามา  แจ็คยักคิ้วแผล็บแต่สับเท้าหลีกอย่างว่องไว  หมอนั่นไม่ได้ผลีผลามเหมือนคนแรก  แต่เข้ามาอย่างระมัดระวัง หมอนั่นพุ่งหมัดเข้าใส่แจ็คไม่ได้ถอยแค่เบี่ยงหลบหมัดขณะสืบเท้าเข้าหา หมุนตัวฟันศอกเข้าที่ปลายคาง  ร่างสูงใหญ่หยุดชะงักแล้วร่วงลงกับพื้น  คนที่โดนเตะข้อเท้าลุกขึ้นแต่แจ็คเหวี่ยงแข้งฟาดเข้าทัดดอกไม้อพอดี  ร่างสูงล้มฟาดลงไป  โชคดีที่ล้มไปทับเพื่อนที่เพิ่งยันตัวลุกมานั่งสลัดศีรษะ  ทำให้กระแทกพื้นไม่แรงนัก 
 แกร๊ก!!!! เสียงขึ้นปืนกราว ชายในชุดสูทสีดำสองคนจ้องปืนมาที่เขาเขม็ง  ด้านหลังประตูห้องรับรองเปิดกว้าง  ชายในชุดสูทสีดำยืนกันสลอน รวมทั้งพนักงานระดับสูงของโรงแรมที่ยืนมองอ้าปากค้าง
“แจ็ค!หยุดนะ…เอ่อ…ท่านครับต้องของอภัยจริงๆครับ  นั่นเป็นพนักงานของเราเอง  เขาไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายคนของท่าน” ผู้จัดการรีบห้ามละล่ำละลัก  ก่อนจะหันไปค้อมตัวให้แขกVIP
ร่างที่นั่งหันหลังอยู่ที่เก้าอี้รับรองโบกมือ  ชายในชุดสูททั้งหมดลดปืนลง ร่างโปร่งในชุดสูทสีเทาลุกขึ้นขนาบด้วยการ์ดร่างหนาและอีกทั้งโขยงทยอยเข้าไปในลิฟต์สำหรับชั้น VIP โดยมีสองคนปราดเข้ามาหิ้วปีกคนที่นอนอยู่ให้ลุกตามไปด้วย
ผู้จัดการหันขวับมาตาเขียวปัด  แจ็คยิ้มแห้งๆทั้งที่ใจหายวูบ  เขาเข้าใจผิดหรือนี่  แสดงว่าเขาเล่นงานการ์ดเข้าให้แล้ว  ผู้จัดการกระดิกนิ้วเรียกก่อนจะเดินนำไปยังฝ่ายบริหาร
“นี่ผมดูคนผิดหรือไงแจ็ค...ผมคิดว่าคุณเก่ง...เป็นมืออาชีพ...ทำงานดี แล้วนี่อะไร? คุณทำกับแขกอย่างนี้ได้ยังไง?…แล้วรู้ไหมรายนี้ไม่ใช่ VIPธรรมดา แต่เป็นหุ้นส่วนธุรกิจในเครือน้ำมันของเราด้วย”
“ขอโทษครับผู้จัดการ  ผมใจร้อนไปหน่อย  เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกก่อการร้ายเสียอีก...เป็นความผิดของผมทั้งหมดครับ” แจ็คยอมรับผิดแต่โดยดี  หากการกระทำครั้งนี้จะทำให้เขาถูกไล่ออกเขาก็เป็นเรื่องสมควร
“นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนพักงานแน่ๆ  แต่สำหรับนาย...คงต้องรอคุณแฮมิลตัน มาจัดการเอง”
ประโยคหลังของผู้จัดการทำให้แจ็คอึดอัดใจอีกครั้ง  ให้เขารับโทษตามปรกติเหมือนพนักงานทั่วๆไปคงดีกว่าที่จะต้องรอ  เพราะอภิสิทธิ์ของความเป็น ‘คนสนิท’ อย่างที่ทุกคนปฏิบัติกับเขา
“คุณริชจะมาที่นี่เหรอครับ?”
“ใช่…คงมาถึงพรุ่งนี้  แขกพิเศษของท่านด้วยสิ…ไม่รู้ท่านจะว่าไง  เอาเถอะผมจะช่วยพูดให้เพราะถึงยังไงคุณก็ตั้งใจทำงานดีมาตลอด ไม่น่ามาพลาดง่ายๆแบบนี้เลย” ผู้จัดการหน้าเครียดด้วยความกังวล ไม่ว่าจะเป็นความผิดใครงานนี้เขาต้องรับผิดชอบเต็มๆ  และต้องรีบรายงานผู้บริหารก่อนที่ริชจะมาถึง
“ขอโทษอีกครั้งครับ…ผมจะขึ้นไปขอโทษแขกด้วย”
“อย่าเพิ่งเลย  เอาไว้ให้คุณริชมาก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที  ว่าแต่วันนี้ไปไหนมาเห็นที่ฟร้อนบอกว่าไปซ่อมอะไร?”
“อ๋อ!ที่ปั่นไฟสำรองน่ะครับ”
“แล้วฝ่ายซ่อมบำรุงละ?” คิ้วหนาขมวดยิ่งกว่าเดิม
“ลาป่วยครับอยู่โรงพยาบาล”
“ทำไมไม่รอให้พวกที่ไปโรงแรมโน้นกลับมาซ่อมละ” ผู้จัดการยังไม่หายข้องใจ
“ผมเกรงว่าพวกนั้นจะกลับดึก หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะไม่มีไฟใช้ครับ”
“นายนี่รอบคอบไปทุกอย่าง  ทำไมถึงได้…เฮ้อ! เอาละไปทำงานเถอะ”
“ครับผม”  ทันทีที่แจ็คออกมาถึงหน้าฟร้อน  สาวๆแผนกต้อนรับก็ปราดเข้ามารุมล้อม
“แจ็คผู้จัดการว่าไง?”
“โดนพักงานหรือเปล่า?”สาวๆถามกันเซ็งแซ่ทำให้แจ็คได้แต่ยิ้มแห้งๆไม่รู้จะตอบใครก่อนดี
“แหม! คนของท่านทั้งทีจะไปเดือดร้อนอะไร  แค่ทำร้ายร่างกายแขกแค่นี้เรื่องเล็ก!” หัวหน้าแผนกต้อนรับสาวคนสวยเอ่ยเยาะๆ
แจ็คเหลือบมองอย่างระอา  ตั้งแต่เขาย้ายมาประจำที่นี่ดูเหมือนจะเป็นที่เขม่นของอีกฝ่ายเหลือเกิน ทั้งๆที่เขาแน่ใจว่าไม่เคยทำอะไรให้ แต่ก็ไม่วายถูกกระทบกระเทียบตลอดเวลา แต่เแจ็คก็เฉยเสียไม่อยากมีปัญหาเพราะเกรงจะเสียชื่อไปถึงริช  แจ็คยิ้มให้สาวๆก่อนจะขอตัวไปทำงาน ............
                                           

เช้านี้อากาศแจ่มใสคลื่นก็ลูกโตจนอดใจไม่ไหว  แจ็คคว้ากระดาน ลงทะเลตั้งแต่เช้าอย่างไม่กลัวหนาว เนื่องจากย้ายที่ทำงานใหม่ ต้องปรับตัวและ เรียนรู้งานเยอะ  ทำให้เขาต้องทิ้งกระดานไปนาน  เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขาใช้วันหยุด ไปหาพี่สาวที่มาร์ตินีก  วันหยุดคราวนี้จึงขอยกให้กระดานโต้คลื่นสุดที่รัก  ละอองน้ำและลมปะทะหน้าให้ความรู้สึกดีจนอะไรที่อัดๆอยู่ในอกคลายลง  แจ็คไต่ตามยอดคลื่นอย่างสนุกสนาน หางตาเขาเห็นร่างหนึ่งพุ่งปราดตามมาติดๆ
“วู้!”แจ็คตะโกนอย่างมันเขี้ยวไม่นึกไม่ฝันว่าจะมีคนมาแข่งด้วย จาก เพียงแค่ลงเล่นสนุกๆกลายเป็นเอาจริง คลื่นลูกใหญ่โถมเข้ามา แจ็ครีบไต่ขึ้นยอด คลื่นลูกเล็กแล้วโผนเข้าหาหลังคลื่นไต่ขึ้นไปอย่างรวดเร็ว  ร่างที่ตามเขามาก็ไต่ขึ้น มาเช่นกันแต่จังหวะที่ช้ากว่าเล็กน้อยทำให้โดนคลื่นอีกลูกซัดจมหายลงไปเสีย ก่อน 
แจ็คไต่ตามยอดคลื่นครู่หนึ่งแต่ไม่เห็นคู่แข่งโผล่ขึ้นมา แต่เมื่อคลื่นอีกลูก ซัดมาก็เห็นร่างเปรียวไต่ฉวัดเฉวียนมาแต่ไกล  แจ็คหัวเราะร่าโผนตามทันที  ทั้งคู่ ไล่กวดกันอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะยอมเข้าฝั่ง 
แจ็ควิ่ง เหยาะๆไปหา  ร่างนั้นค่อนข้างบางสวมชุดติดกันทั้งตัวสีน้ำเงินสด ขณะที่แจ็คสวม แค่กางเกงว่ายน้ำแบบยาวตัวเดียว
“อรุณสวัสดิ์ครับ…คุณไนท์!” แจ็คอุทานอย่างแปลกใจเมื่อคนในชุดสีน้ำ- เงินหันกลับมา  ใบหน้าสวยมีรอยยิ้มเล็กน้อยแต่ช่วยให้ดวงตาคมดุดูละมุนลง
“อรุณสวัสดิ์ครับ”
“คุณเป็นอย่างไรบ้างครับ...หายดีแล้วหรือยัง?”แจ็คถามเป็นชุดด้วยความตื่นเต้น ใจไหวระทึกอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกยินดีซ่านไปทั้งตัว   เดือนกว่ามาแล้วที่เขาเฝ้าตามหาคนๆนี้  คิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เจออีกแล้วด้วยซ้ำ
“ดีขึ้นมากแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผมไว้  วันนั้นผมรีบร้อนจนไม่ได้อยู่ลาคุณ  ต้องขอโทษด้วย”
   “ไม่เป็นไรครับ  แล้วนี่มาเที่ยวเหรอครับ?”
“มาเรื่องงานน่ะครับ  แล้วคุณแจ็คละครับ?” ร่างบางตอบยิ้มๆพร้อมกับนั่งลงแกะเชือกออกจากข้อเท้าช้าๆ  แจ็ครีบนั่งลงไม่ห่างนัก
“ผมเป็นพนักงานที่โรงแรมเกรซครับ…แล้วคุณพักที่ไหนครับ?”
“ก็พักที่เกรซนั่นแหละครับ”
“อ้าว!ทำไมผมไม่เห็นคุณเลย…อ๋อ!สงสัยมาเมื่อวานแน่เลย”
“ครับ”ไนท์ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดวงตาไหววับเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน  แสดงว่าแจ็คไม่รู้จักเขาจริงๆ
“เมื่อวานผมไปซ่อมเครื่องปั่นไฟครับ  กว่าจะได้มาทำงานก็บ่ายมากแล้ว”
“มิน่า…”
“มิน่าอะไรครับ”
“ก็…มิน่าผมถึงไม่เจอคุณ  แล้ววันนี้ไม่ทำงานเหรอครับ?”ไนท์นึกสนุก อยากรู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่แจ็คจะรู้ว่าเขาเป็นใคร
“วันนี้วันหยุดผมครับ…ไม่รู้ว่าจะได้หยุดยาวหรือเปล่า” แจ็ครำพึงหน้าแห้งๆ มือที่กำลังถอดเชือกรัดข้อเท้าออกชะงัก ไนท์หันมามองหน้าแจ็คด้วยความสงสัย
“ทำไมครับ?”
“คือ…บอกแล้วคุณอย่าตำหนิพนักงานคนอื่นนะครับเพราะไม่มีใครเขาเสียมารยาทเหมือนผมหรอก…เมื่อวานผมดันไปมีเรื่องกับคนของหุ้นส่วนโรงแรม”
“แล้วทำไมถึงได้มีเรื่องกันละครับ?”
“เขาก็มาค้นตัวผมตามหน้าที่แหละครับ…แต่เผอิญผมเข้าใจว่าเป็นคนร้าย  พอเขาจะยึดสร้อยผมเลยฟิวส์ขาด” แจ็คชูลูกกระสุนที่ห้อยอยู่ที่คอให้ดู
โดยที่เขาไม่คาดคิดไนท์ก็ชะโงกตัวเข้ามาจนเกือบชิด  มือขาวเอื้อมมาจับสร้อยที่คอไปพิจารณาใกล้ๆ
แจ็คสะดุ้งคว้าข้อมือบางไว้โดยอัตโนมัติ  วงหน้าขาวเงยขึ้นมองทำให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงนิ้ว กลิ่นน้ำหอมอวลอ่อนกลบกลิ่นทะเลไปสิ้น 
แจ็คตัวชา...สิ่งที่อยู่รอบๆตัวหายวับ เหลือเพียงดวงตาคู่งาม...ที่เหมือนจะดูดกลืนเขาไว้....จนแทบหายใจไม่ออก  ความรู้สึกกดดันและวาบหวามเหมือนเช้าวันนั้น...ในบ้านคุณตากลับมาอีกครั้ง 
มือกร้านด้วยแดดลมยกขึ้นแตะหน้าเนียนใสอย่างเผลอไผล ผิวสัมผัสอบอุ่นและนุ่มนวลด้วยเลือดเนื้อของคนจริงๆ  ไม่ใช่ภาพมายาในความฝันทุกคืนของเขา...แจ็คก้มลงใกล้ปากบางเฉียบสีสดอย่างไม่รู้ตัว  ได้ยินเสียงลั่นเปรี๊ยะในหัวก่อนที่ปากจะประกบกันแน่น
ปากบางที่เย็นเฉียบกลับร้อนระอุขึ้นอย่างรวดเร็ว  แจ็คเบียดปากนุ่มชื้นแรงขึ้น  ปลายลิ้นสอดไล้เข้าไปและดันแนวฟันขาวออก  ลิ้นร้อนตวัดโอบรัดลิ้นนุ่มไว้แน่น ได้ยินเสียงครางแผ่วแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงใคร มือนุ่มเย็นวางมาบนอกแผ่วเบา
แจ็คเลื่อนตัวเข้าโอบรัดร่างบอบบางนั้นไว้ในอ้อมแขน  เนื้อผ้าที่กางกั้นบางเบาจนสัมผัสได้ถึงผิวตึงแน่นใต้เสื้อ  เสียงหัวใจของเขาและร่างในอ้อมแขนแข่งกันเต้นระรัว  แจ็คดันร่างบางลงกับพื้น ปากยังประกบแน่นไม่คลาย ในอกระอุร้อนด้วยเพลิงปรารถนา ลิ้นนุ่มๆเป็นฝ่ายหดหนี  แจ็คควานตามติดแต่ปากนุ่มเบี่ยงหลุดไปเสียก่อน
ไนท์เบี่ยงหน้าไปด้านข้าง...แก้มเนียนใสแดงระเรื่อ...ทรวงอกสะท้อนขึ้นลง ด้วยแรงหอบหายใจ  ทรายเปียกๆติดผมสีน้ำผึ้งเต็มไปหมด
“พระเจ้า…” แจ็คครางแผ่วหวิว...หนาววาบตลอดสันหลัง  ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะกล้าทำอย่างนี้...กับคนที่เจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง มิหนำซ้ำยังเป็นลูกค้าของโรงแรมเสียอีก  ไนท์พยายามจะลุกขึ้นแต่ติดที่ร่างหนากว่ายังทาบทับอยู่  ตาคมเหลือบมองสบมาทำให้ความคิดที่จะลุกขึ้นของแจ็คหายไป  ชายหนุ่มก้มลงไปใหม่         
“…แจ็ค…”เสียงกระซิบแผ่วๆสะเทือนไปทั้งสมอง  แจ็คได้สติรีบผุดลุกขึ้นและเหนี่ยวร่างบางขึ้นมาด้วย ไนท์ปัดทรายออกจากตัวก่อนจะหันไปคว้ากระดานเดินหนี
แจ็คใจหายวูบ…รู้สึกว่าหากเขาไม่ทำอะไรสักอย่างเขาจะไม่มีโอกาสเจอไนท์อีก  ชายหนุ่มตามไปฉวยแขนเรียวไว้แน่น  ไนท์หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า  ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
 “คุณไนท์  ผมขอโทษ…คุณคงรังเกียจที่ผมทำอย่างนี้  แต่ผม...ไม่ได้ตั้งใจจะให้มัน...เกินเลยมาอย่างนี้”
คำอธิบายนั้นกลับทำให้ไนท์ใจขุ่นวูบขึ้นทันที
“ไม่ได้ตั้งใจหรือคิดว่านี่เป็นค่าตอบแทนที่เคยช่วยชีวิตผม?...” น้ำเสียงเยาะหยันกับสายตาของไนท์ทำให้แจ็คใจเสีย
“ไม่ใช่นะครับ!” แจ็คปฏิเสธเสียงดังจนแทบเป็นตะโกนด้วยความตกใจ 
“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น...ผม...เอ่อ...” แจ็คอ้ำอึ้ง  ไม่รู้จะพูดยังไงให้อีกฝ่ายไม่รังเกียจเขาไปมากกว่านี้  นึกเกลียดตัวเองที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ
“ผมทราบว่าคุณโกรธ...แต่อย่าถึงกับเกลียดผมเลยนะครับ  ยกโทษให้ผมสักครั้ง…ได้ไหมครับ?” สีหน้าเย็นชาของไนท์ทำให้แจ็ครู้สึกหมดหวัง  แต่เขาก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไนท์จบลงแบบนี้
“ผม…ผมจะได้เจอคุณอีกไหม?” แจ็คคิดว่าเป็นคำพูดที่ไม่เข้าท่าที่สุด แต่เขานึกไม่ออกว่าเขาควรพูดยังไง  ไนท์เบือนหน้าไปมองทะเลเฉย
“เจอเพื่อถูกคุณทำอย่างนี้อีกเหรอ?…ไม่ดีกว่า”ดวงตาคมดุเหลือบมองมือที่ยึดข้อมือบางแน่น  แต่แจ็คไม่ยอมปล่อย
“ผมสัญญาว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก  จริงๆนะครับ…มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแน่ๆ” แจ็คละลำละลักจนทุเรศตัวเอง  แต่เขากลัวจะไม่ได้เจอไนท์มากกว่าจะมัววางมาดอยู่
แจ็คจำต้องปล่อยเมื่อไนท์ดึงมือออก ทันทีที่เขาคลายอุ้งมือรอยแดงก็ปรากฏที่ข้อมือขาว
“แน่ใจเหรอ?”ไนท์ถามเบาๆ  แต่ดวงตาเป็นประกายแปลกๆ
“ครับ” แจ็ครับคำหนักแน่น  สีหน้าแว่วตาเข้มขึ้นด้วยความจริงจัง  ไนท์มองนิ่งอยู่นานก่อนจะพยักหน้าช้าๆ
“ก็แล้วแต่โชคชะตาแล้วกัน ผมอาจไม่ต้องเจอกับคุณอีกเลยหรือเราอาจจะเจอกันเร็วกว่าที่คุณคิดก็ได้” ไนท์เอ่ยขึ้นลอยๆแล้วหมุนตัวจากไปเงียบๆ
แจ็คได้มองตามจนลับตา  ชายหนุ่มกลับที่พักอย่างละห้อยละเหี่ย  ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะไร้สติได้ถึงขนาดนั้น  ชายหนุ่มตัดสินใจไปทำงานแทนที่จะหยุดพักผ่อน  อย่างน้อยเขาได้คุยกับเพื่อนๆบ้างก็ยังดีกว่าที่อยู่คนเดียวหรืออาจจะโชคดีได้เจอไนท์…………



ขอบคุณมากคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-12-2009 22:39:46
 :-[ :-[ แจ็ครุกเร็วชะมัด  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 21-12-2009 22:44:09
อรั้ยยยย แจ๊คใกล้รู้ความจริงแล้วสิ
จะเป็นยังไงต่อ ลุ้นอ่าลุ้นๆๆๆ
+ ค่ะ + แทนคำขอบคุณ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 21-12-2009 23:25:27
 :serius2:  แง้..........เอาอีกๆๆๆๆ ลงน้อยเกินไปแล้ว  ไม่ยอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กำลังลุ้นเลย  นายแจ็คผู้ริจะเด็ดดอกฟ้าโดยไม่รู้ตัว   แง่มๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 22-12-2009 00:59:08
ถ้าแจ็ครู้ความจริง จะกล้าเหรอ
แบบนี้ไนท์ต้องทำอะไรบ้างแล้วสิ

บวก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 22-12-2009 01:16:45
ขอบคุณค่า..

และแล้วก็ห้ามใจไม่อยู่..จุ๊บเค้าไปหนึ่งที..แล้วยังบอกไม่ตั้งใจอีก..เป็นไงล่ะ..แจ๊คเอ้ย..

ว่าแต่..ไนท์โกรธจริงอ่ะ..

รอลุ้นว่ารู้ฐานะที่แท้จริงแล้วจะเป็นไงต่อไปน๊า.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: doomare ที่ 22-12-2009 03:31:15
เริ่มแล้วๆ ฉากเด็ดๆกำลังมา อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 22-12-2009 04:18:11
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 22-12-2009 10:17:46
บวก 1 แต้มค่ะ


มาต่อเร็วๆ นะค่ะ



 :m15:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 22-12-2009 11:17:36
โอ้ววว น่าติดตามมากค่ะ  อยากจะรู้ว่า เจอกันในรูปแบบไหน แล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไป  -.- ถ้ารู้ว่าคนที่อยากจะใกล้ชิด เป็นคนที่สูงเกินเอื้อม
 o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 22-12-2009 12:23:16
แจ็คหนุ่มหน้ามนคนซื่อจะช้ำใจแค่ไหนเนี้ย ถ้ารู้ว่าไนท์เป็นเจ้าชาย....คงเครียดน่าดู ..... แต่คงไม่เท่ามาต่อช้า นี่เครียดกว่าของจริง....
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 22-12-2009 18:15:07
มาแล้ว ๆๆๆ


 :L1:


แจ๊ค อ่ะ มือไวใจเร็ว อดใจไม่ไหวล่ะสิ

แจ๊คยังไม่รู้ว่าไนท์เป็นใคร ถ้ารู้นะ อาจมีเคืองรึเปล่าเนี่ยย

แอคชั่น โรม๊านน จริง ๆ เลยนี้

ว่าแต่ กระสุนที่ห้อยคอแจ๊ค มันต้องมีความสำคัญต่อไปใช่ไหมเนี่ยยย

อดใจรอ...

รอตอนต่อไปค่ะ


 :mc4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 22-12-2009 22:21:45
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย จูบกันแล้ว  :o8:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประ
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 23-12-2009 15:04:18
อ๊าย.....................

โรแมนติกมา๊กค่ะ

โรแมนติกสุดๆ  แจ็คช่างเป็นพระเอกในฝันเลย  พึ่งพาได้เข้มแข็งอบอุ่น

ทุกทีอ่านเรื่องไหนจะกรี๊ดนายเอก  แต่เรื่องนี้  พระเอกได้ใจไปเต็มๆ เลย  :-[

มาต่ออีกนะคะ   :pig4:

ขอเยอะๆ  สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-12-2009 17:24:44
แอร๊ยยย  สนุกจังเลยยย
แจ๊คสู้ๆนะคร้า  :L2:
+1 ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 24-12-2009 03:45:37
มารออ่านครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 24-12-2009 09:18:21
เง้อ...ชักจะสงสารแจ็คขึ้นมาตะหงิดๆ
รักที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 24-12-2009 10:37:49
ทีแรกนึกว่าจะคู่กับไคซัค ไป ๆ มา ๆ กลับมีพระเอกใหม่

แต่คิดว่า แจ๊ค คงจะไม่ใช่คนธรรมดา ๆ มัง อาจเป็นคนมีฐานะ แต่ชอบรักสงบหรือป่าว ฮ่า ๆ ๆ

สนุกดีครับ รออ่านต่อไปนะค้าบผม โย่วววว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 24-12-2009 10:48:20
ทีแรกนึกว่าจะคู่กับไคซัค ไป ๆ มา ๆ กลับมีพระเอกใหม่

แต่คิดว่า แจ๊ค คงจะไม่ใช่คนธรรมดา ๆ มัง อาจเป็นคนมีฐานะ แต่ชอบรักสงบหรือป่าว ฮ่า ๆ ๆ

สนุกดีครับ รออ่านต่อไปนะค้าบผม โย่วววว

ไม่ทราบว่ารีนี้ได้อ่านอีก 2 เรื่องของคุณ ใบปอ โพสโดยคุณเทียนฉิน รึยังครับ เรื่องอยู่ใน นิยายที่จบแล้วอ่ะ  อ่านในนั้นจะรู้ครับว่านายแจ๊คเป็นใคร
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 24-12-2009 11:11:17
 o13 ยังครับ เพิ่งเคยอ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ฮ่า ๆ ๆ สงสัยต้องไปตามอ่าน แหะ ๆ

ขอบคุณรีบนมากนะค้าบผม โย่วววว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 24-12-2009 11:59:45
 :o12: หาไม่เจอค้าบ เด๋วค่อยไปไล่ดูใหม่ แหะ ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 24-12-2009 12:04:39
ถนนสายหัวใจ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=11123.0

เล่ห์รัก
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=11595.0

นี่ครับๆ ลองเข้าไปอ่านนะครับ สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประ
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 24-12-2009 13:31:21
พอดีเจอเรื่องนี้ก่อน  อีกสองเรื่อง

อ่านแล้วสนุกมาก  ทนไม่ไหว  เลยไปอ่าน ถนนสายหัวใจ  เพิ่งจบเมื่อกี้เอง

สุดยอดแห่งความสนุก  สนุกมากๆ..................  เจ็บปวด  บีบคั้น ทรมานวิญญาณเหลือแสน แต่แฮปปี้น้า

น่าเสียดาย  เราพลาดไปได้ยังไงน่าจะได้อ่านตั้งนานแล้ว  :serius2:

ส่วนแจ็คพระเอกเรื่องนี้อยู่ใน เรื่องเล่ห์รักค่ะ 

ผู้ชายดีขนาดนี้  ไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก  แจ็คสุดแสนจะอบอุ่น
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 24-12-2009 16:39:00
ขอบคุณค้าบบบบ โย่ววว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาแล้วคะ 21/12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 25-12-2009 08:56:37
ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเมนท์นะคะ คุณใบปอเข้ามาอ่านคงดีใจที่มีคนสนใจและชื่นชอบ ทุกคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งได้อย่างดีเชียวคะ :3123:

ไปตามความรักของทั้งคู่กันต่อเลยคะ
...............

ไนท์กลับเข้าโรงแรมทางประตูข้าง  เจ้าหน้าที่ปราดเข้ามารับกระดานไปเก็บ   ไคซัคยืนมองอยู่ไม่ไกล นั่นหมายความว่าองครักษ์ของเขาเห็นทุกอย่างที่ริมหาด  ชีคหนุ่มเหลือบมองคนสนิทแวบเดียวก็ขึ้นไปห้องพักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
ไนท์ถอดเสื้อผ้าออกแล้วก้าวไปหยุดยืนมองเงาสะท้อนของตัวเอง  เรือนร่างค่อนข้างเพรียวก็จริง แต่กล้ามเนื้อเป็นลอนสวยแบบคนออกกำลังกายไม่ใช่นักกล้าม  ทรวงอกค่อนข้างตึงนูน มียอดสีสดประดับลอยเด่น รับกับหน้าท้องเป็นลอนน้อยๆเรียงสวย  รูปร่างที่ทำให้ผู้หญิงกรี๊ดว่าเซ็กซี่ แต่ก็ดึงดูดผู้ชายได้ไม่แพ้กัน
ชีคหนุ่ม หมุนตัวส่องดูด้านหลัง  รอยแผลขนาดใหญ่จากไฟลวกเหลือเพียงรอยสีชมพูจางๆเท่านั้น  และอีกไม่นานคงหายไป  แต่รอยประทับในหัวใจกลับเด่นชัดจนทำให้เขาทุรนทุรายมาหลายสัปดาห์  คนของเขาออกตามตัวแจ็คให้ควั่ก แต่กลับคว้าน้ำเหลว  ประวัติที่ได้มีเพียง แจ็คเป็นลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านชาวประมง  ตอนเด็กๆเคยป่วยเป็นโรคหัวใจรั่ว และย้ายโรงเรียนบ่อยมาก  ดูเหมือนทุกอย่างเกี่ยวกับตัวแจ็คจะมาหยุดอยู่ที่บริษัทในเครือแฮมิลตัน  ที่ไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลย
ไนท์ไหวไหล่แล้วก้าวลงในอ่างน้ำอุ่นที่ถูกเตรียมไว้แล้ว  มือเรียวกอบน้ำใสขึ้นมาดูแล้วปล่อยให้ไหลลอดง่ามมือลงไป  แต่ใจลอยไปถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่         
เขายอมให้แจ็คจูบ! ไนท์แตะปากที่บวมเจ่อของตนเองเบาๆ...ง่ายไปหรือเปล่าสำหรับคนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง?...และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง แจ็คเป็นผู้ชาย!
ไนท์ทอดกายลงพิงขอบอ่าง หลับตาแล้วปล่อยความคิดให้ล่องล่อย...
ใช่ว่าจะไม่เคยมีผู้ชายเข้ามาจีบ  อย่างลอเรนซ์ก็ตามเขาแจตั้งแต่แรกพบ  แต่เขาทั้งรำคาญและขยะแขยง....แต่เมื่อปากของแจ็คสัมผัส...ความรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัวนั้นจะเรียกว่าอะไร? ...หากไม่ติดว่าอยู่ในสายตาของเหล่าองครักษ์ ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเขาจะหยุดตัวเองไว้ได้
คำถามมากมายวนเวียนเข้ามาในสมอง จนแม้แต่การแช่น้ำอุ่นก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้น  ไนท์ถอนใจยาวเมื่อหาข้อสรุปให้ตัวเองได้...แม้จะยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง  แต่ความรู้สึกที่มีให้แจ็คก็แตกต่างจากทุกคน
ความรู้สึกคาดหวัง...ถวิลหา....และสัมผัสอบอุ่นอ่อนโยน ติดตรึงใจเกินกว่าที่เขาจะลืมได้  ใช่...มันยากเกินกว่าจะลืมและไนท์ก็แน่ใจว่าเขาไม่ปรารถนาที่จะลืมช่วงเวลาที่เขากับแจ็คเผชิญร่วมกันแม้สักเสี้ยววินาที ............         
ทันทีที่แจ็คไปถึงโรงแรมก็โดนสาวแผนกต้อนรับทักเกรียวกราว
“แจ็ค!ขยันจริงนะ  วันหยุดก็ยังมาทำงานอีก  จะเอาสองขั้นหรือจ๊ะ?”
แจ็คยิ้มเฉยก่อนจะหลบวูบเมื่อเห็นหัวหน้าแผนกต้อนรับสาวสวยเดินมาแต่ไกล
“อ้าว!วันนี้วันหยุดนี่” ผู้จัดการเดินสวนออกมาจากฝ่ายบริหารทักขึ้นอย่างแปลกใจ  ก่อนจะทำ
หน้าเหมือนเข้าใจ
“มาหาคุณริชละสิ  ใครบอกละว่ามาแล้ว?”
“มาแล้วเหรอครับ  ทำไมมาถึงเช้าจัง?” แจ็คถามอย่างแปลกใจ ผู้จัดการขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าแจ็คไม่รู้จริงๆ
“มาถึงตั้งแต่เมื่อคืน  นี่ไม่ได้มีใครบอกหรอกเหรอ?”
“ไม่มีครับ  ผมอยู่ว่างๆแล้วไม่รู้จะทำอะไรก็เลยมาทำงาน”
“ถ้าทำได้แบบนั้นนายก้าวหน้าแน่…แต่ติดอย่างเดียวละ  นายดันไปมีเรื่องกับหุ้นส่วนนี่สิ  เอาเถอะยังไงคุณริชก็มาแล้วท่านคงไม่ถึงกับไล่ออกหรอกน่า”ผู้จัดการตบไหล่แล้วเดินจากไป แจ็คยิ้มแหยไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายให้กำลังใจหรือข่มขวัญกันแน่ ชายหนุ่มจึงขึ้นไปหาริช ที่ห้องพักส่วนตัว...ก๊อกๆ
“ไงไอ้เสือ...ได้ข่าวว่าซัดคนของหุ้นส่วนคุณริชซะหมอบไปเลยนี่” เจฟฟรี่เปิดประตูให้แล้วแซวยิ้มๆ  แจ็คได้แต่ยิ้มเจื่อนๆตอบ
“ขอโทษครับคุณเจฟ ผมเสียมารยาทกับแขกมากเลยครับ”
“ไว้ขอโทษคุณริชดีกว่า ไม่รู้จะโดนทางนั้นเล่นงานแค่ไหน?”
แจ็คหน้าจ๋อยลงไปอีกพอดีกับที่ริชเปิดประตูออกมา
“อ้าวแจ็ค! วันนี้วันหยุดนี่?”
“ผมไม่รู้จะทำอะไรครับก็เลยมาทำงาน”
“ดี ขยันดี  ตั้งใจทำงานเข้าล่ะเผื่อจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการเร็วๆ”
“คุณริชครับ…เรื่องหุ้นส่วน…”
“ช่างเถอะไว้จะคุยกับเขาเอง  นายไปทำงานเถอะ”
“ขอบคุณครับ” แจ็คลงไปทำงานด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นเล็กน้อย
ช่วงบ่ายมีคำสั่งด่วนให้แต่ละแผนกเตรียมให้พร้อม เพราะริชจะตรวจการเตรียมงานเลี้ยงต้อนรับหุ้นส่วนแฮมิลตันคอปเปอร์เรชั่นที่จะเดินทางมาประชุมในวันพรุ่งนี้
ความจริงงานเลี้ยงนี้ควรจัดตั้งแต่เดือนที่แล้ว  แต่หุ้นส่วนสำคัญติดธุระจึงเลื่อนมาถึงตอนนี้  แถมยังแจ้งล่วงหน้ามากระชั้นชิด แจ็ควิ่งวุ่นประสานงานแต่ละฝ่ายมาตลอด3วัน  ยังดีที่เขาเคยไปช่วยงานมาแล้วเกือบทุกแผนกทำให้การประสานงานง่ายกว่าที่คิด แต่กระนั้นแจ็คก็ยังต้องเหนื่อยใจกับแผนกต้อนรับอยู่ดีหัวหน้าฟร้อนคนสวยเอาแต่หน้าเชิด ตาขุ่นขอความร่วมมืออะไรก็ทำเฉยจนเขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะให้ความร่วมมือหรือไม่  ยังดีที่ผู้จัดการรู้ก็เลยสั่งการเสียเอง ทำให้งานดำเนินมาได้อย่างเรียบร้อย
ถึงจะมีเวลาเตรียมเพียงไม่กี่วัน แต่ทุกอย่างก็เพียบพร้อมงดงาม  ทุกคนยิ้มหน้าบานเมื่อริชออกปากชม  แต่คนที่ได้รับคำชมมากที่สุดกลับดูซึมๆ แจ็คเงียบลงทุกทีจนแทบไม่พูดกับใครถ้าไม่เกี่ยวกับงาน  แต่ที่น่าแปลกคือเขาคอยแต่วนเวียนไปแถวๆหน้าฟร้อนบ่อยๆแม้จะถูกหัวหน้าแผนกว่ากระทบ  แต่ชายหนุ่มก็หลบหายไปประเดี๋ยวๆก็กลับมาวนเวียนอยู่อีก 
แจ็คไปขอดูรายชื่อแขกแล้วได้แต่จ๋อยด้วยไม่มีชื่อไนท์  จิงเจอร์ แสดงว่าเขาโดนหลอก หรือไม่ไนท์ก็ไม่อยากเจอเขาจึงหนีไปพักที่อื่น แจ็คยืนเหม่อจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าริชมาหยุดยืนมองอยู่นานแค่ไหน         
“ใจลอยไปถึงไหนแล้วแจ็ค?”       
“คุณริช…มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?”         
“พูดเสียเป็นทางการเชียวนะ…ฉันถามว่านายใจลอยถึงใคร?”         
“เปล่าครับ” สีหน้าหมองๆของแจ็คทำให้ริชหมดอารมณ์กระเซ้า     
“นายยังคิดถึงรามอสอยู่อีกเหรอ  ป่านนี้เด็กนั่นมีแฟนใหม่ไปแล้วมั้ง?”         
“ผมไม่ได้คิดเรื่องคุณรามอสหรอกครับ...แปลกนะครับ...ผมเคยพยายามแทบตายที่จะลืม...แต่ก็ทำไม่ได้  แต่พอเลิกพยายามปล่อยใจให้คิดไป ผมกลับไม่รู้ตัวว่าผมเลิกคิดถึงเขาตั้งแต่เมื่อไหร่...หากคุณริชไม่พูดถึงผมคงไม่รู้ตัว”
ริชจ้องมองแจ็คนิ่งนานก่อนจะถามเสียงเรียบแต่เล่นเอาคนถูกถามสะดุ้ง         
“แล้วคนที่ทำให้นายเป็นอย่างนี้นี่ใคร?”         
“เอ่อ…ผม…”         
“ลำบากใจก็ไม่ต้องพูดหรอก…คืนนี้นายร่วมงานหรือเปล่า?”
“ครับ ผมต้องคอยประสานงานอยู่แล้ว” แจ็คโล่งอกที่ริชเปลี่ยนเรื่องคุย   
“แล้วอย่าเผลอไปซัดคนของแขกฉันเข้าอีกล่ะ”ริชเย้ายิ้มๆ
“คุณริชจะไม่บอกผมหน่อยเหรอครับว่าชีคราจีสอับดุลท่านว่าอะไรบ้าง?”
“อ้าว!ยังไม่ได้บอกหรือว่าเขาไม่ได้ว่าอะไรเลย?”
“ไม่ตำหนิเลยเหรอครับ?”
“อืม…ฉันกับผู้จัดการยังแปลกใจที่เขาไม่เอาเรื่อง  พอฉันขอโทษเขาก็ไม่พูดอะไร  ยิ้มๆแล้วก็คุยแต่เรื่องงานเท่านั้น”
“แปลกนะครับ”
“คืนนี้นายก็ระวังตัวหน่อยแล้วกัน  ยิ้มตานิ่งๆแบบนั้นบอกตรงๆว่าฉันไม่ค่อยไว้ใจ ไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหนคนเดียว  งานอะไรที่ไม่สำคัญมากก็ให้คนอื่นไปทำแทนก็ได้”
“คุณริชกลัวเขาจะเล่นงานผมเหรอครับ?”         
“เรียกว่าไม่ประมาทจะดีกว่า  คนบางคนเปลือกนอกก็ดูดีแต่ข้างในสกปรกกว่าที่เราคิด  ระวังตัวไว้แหละดีที่สุด”
“ครับผมจะระวัง”
“งั้นฉันไปเตรียมตัวก่อน  คืนนี้ต้องออกงานคู่กันเสียด้วย ยังมีอะไรที่ต้องเจออีกเยอะ…ไปละ”
“ครับผม” แจ็คก็รีบกลับไปเตรียมตัวสำหรับงานคืนนี้เช่นกัน
         ♜...........♜...........♜
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 25-12-2009 09:01:51
.........

แขก VIP ทยอยเดินทางมาถึงเกือบค่ำ  ส่วนใหญ่เข้าพักตามที่ทางโรงแรมจัดให้  แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญกลับอาระวาดจนพนักงานแผนกต้อนรับลมแทบจับ  หัวหน้าแผนกก็ไปอยู่ในงานเลี้ยงแล้ว  สาวๆจึงโทรตามแจ็คแทนที่จะไปตามหัวหน้าให้ถูกดุ
แจ็คแต่งตัวเสร็จแล้วพอได้รับโทรศัพท์เขาก็รีบมาทันที  ร่างในชุดหนังหรูหรายืนหน้าบึ้งอยู่หน้าฟร้อน  พนักงานต้อนรับสาวทั้งสามคนยืนเกาะกลุ่มกันแน่น  แต่ละคนแทบร้องไห้ด้วยความยินดีที่เห็นแจ็ค
“ขออภัยครับท่าน…ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรเหรอครับ?”         
“นายเป็นใคร?” สายตาที่ตวัดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าหมิ่นๆไม่ทำให้แจ้คสะดุ้งสะเทือน  รอยยิ้มนุ่มนวลทำให้ใบหน้าคล้ำคมคายสะดุดตาขึ้น       
“ผมเป็นรองผู้จัดการฝ่ายบริหารครับ”
“ฉันจะพูดกับผู้จัดการหรือเจ้าของโรงแรมเท่านั้น” น้ำเสียงยโสอ่อนลงเล็กน้อยด้วยเริมสนใจผู้ที่กำลังเจรจาด้วย
“ผมมีหน้าที่โดยตรงในการดูแลแขกที่มาร่วมงานเลี้ยงคืนนี้ครับผม…ไม่ทราบว่าท่านต้องการอะไรครับ?”
แม้แจ็คจะยิ้มอย่างสุภาพแต่ดวงตาคมกริบเอาจริงก็ทำให้ลอเรนซ์ไม่กล้าอาระวาดไปมากกว่านั้น
“ฉันเป็นแขกของชีครามิล  ฉันต้องการไปพักกับชีค”
“ท่านชีคราจีสอับดุลพักที่ชั้นรับรองส่วนตัว หากท่านเป็นแขกของท่านชีคผมต้องขออนุญาตท่านเสียก่อน กรุณารอสักครู่นะครับ” แจ็คหันไปหาประชาสัม พันธ์สาว
“ติดต่อไปที่ชั้นรับรองส่วนตัว...เรียนว่าคุณ...อะไรนะ?” แจ็คกระซิบถาม         
“คุณลอเรนซ์ โซว์วาร์ดค่ะ”
“เรียนว่าคุณลอเรนซ์  โซว์วาร์ด ต้องการพักด้วย  ทางท่านสะดวกหรือไม่”
“ค่ะ”
“กรุณารอสักครู่นะครับ  เชิญท่านด้านนี้เลยครับ”
สีหน้าของลอเรนซ์ดีขึ้น  ร่างสูงปราดไปกระแทกตัวนั่งที่เก้าอี้รับรอง  แจ็คให้สัญญาณพนักงานเข้าไปเสริฟเครื่องดื่มให้  พนักงานหน้าฟร้อนติดต่อขึ้นไปที่ชั้น VIP และได้รับการยืนยันว่าทางนั้นห้องเต็ม  แต่ก็ขอให้ทางโรงแรมช่วยจัดที่พักและออกบัตรเชิญร่วมงานเลี้ยงให้ลอเรนซ์  แจ็คจึงสั่งจัดบ้านพักพิเศษทันที
“ต้องขออภัยครับท่านที่ให้รอ” แจ็คค้อมตัวให้อย่างสุภาพ  ลอเรนซ์ผุดลุกขึ้นทันทีอย่างกระตือรือร้น
“ขึ้นไปได้แล้วใช่ไหม?”
“ต้องขออภัยอีกครั้งครับท่าน ทางท่านชีคยืนยันว่าห้องพักเต็มหมด
เนื่องจากท่านมีผู้ติดตามมาด้วยจำนวนมากครับ”
ลอเรนซ์หน้าบึ้งขึ้นมาทันที “แล้วจะให้ฉันไปนอนที่ไหน  โรงแรมออกใหญ่ขนาดนี้ทำไมชั้นรับรองพิเศษถึงมีห้องน้อยนัก?”
“อย่างที่แจ้งแหละครับผู้ติดตามของท่านหลายคน  แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ  ทางเราได้จัดบ้านพักส่วนตัว บรรยากาศงดงามสำหรับแขกพิเศษไว้ให้ท่านแล้วครับ”         
“พิเศษแน่นะ…ถ้าไม่พิเศษฉันเล่นงานนายแน่”         
“พิเศษจริงๆครับ...เชิญท่านทางนี้ครับ”
ทันทีที่ได้เห็นบ้านพักเสียงบ่นก็ค่อยๆเบาลงและเงียบกริบเมื่อได้เห็นภายในจนทั่ว  บ้านพักพิเศษของโรงแรมเกรซจัดไว้งดงามสมกับที่ติดอันดับโลก...จะว่าไปก็ดูเป็นส่วนตัวดีหากว่าเขาจะพาใครมาพักด้วยบางครั้งบางคราว
                   ...... ƒ......
 
หลังจากส่งแขกพิเศษแล้วแจ็คก็รีบกลับมาประจำหน้าที่  แขกเริ่มทยอยเข้ามาในห้องจัดงาน  ส่วนใหญ่จะคุ้นหน้าคุ้นตาจากสื่ออยู่แล้ว แต่กระนั้นการตรวจตราก็เข้มงวดพอสมควร   
เสียงฮือฮาจากแขกสาวๆกับแสงแฟลสวูบวาบไปหมดเมื่อแขกจอมโวยปรากฏกายในชุดสูทสีขาว  ใบหน้าหล่อเหลาดูโดดเด่น ท่วงท่าสง่าสมกับเป็นนายแบบค่าตัวแพง  ร่างสูงโฉบไปรอบห้องด้วยมั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเองเต็มที่ 
แต่ไม่นานความสนใจทั้งหมดกลับพุ่งไปที่ประตูทางเข้าอีกครั้ง แสงแฟลสสว่างวูบวาบยาวนานกว่าครั้งไหนๆ  ร่างสูงใหญ่ของริชเคียงกันมากับร่างโปร่งระหง ตามด้วยองครักษ์ร่างยักษ์อีก 2 คน
ทุกคนสวมสูทสีดำเหมือนกันหมดก็จริง แต่ริชกับร่างระหงกลับโดดเด่นด้วยรัศมีแห่งอำนาจที่มีมาตั้งแต่เกิด  ทำให้นายแบบหนุ่มดูด้อยลงไปทันทีที่คนทั้งสองปรากฏตัว  ลอเรนซ์พยายามที่จะแทรกเข้าไปเดินเคียงกับไนท์แต่ก็เจอเข้ากับดวงตาเหี้ยมเกรียมขององครักษ์ทั้งสองจึงต้องถอยกรูดออกมา
แจ็คตัวชาวาบเมื่อเห็น ชีครามิล ราจีสอับดุล...นี่เองที่เขาถึงหาชื่อ  ไนท์ -
จิงเจอร์ในรายชื่อแขกไม่เจอ  หมายความว่าไนท์รู้ว่าเขาเป็นใครตั้งแต่มีเรื่องกับองครักษ์แล้ว  ที่ริมหาดเมื่อวานก็เป็นการเล่นสนุกของไนท์เท่านั้น นี่คือคำเฉลยปริศนาที่ไนท์เคยทิ้งไว้ให้เขา เจอกันอย่างที่เขาคาดไม่ถึงจริงๆ
แจ็คหันกลับออกไปจากห้องนั้น  ความรู้สึกเจ็บปวดและผิดหวังประดังกันขึ้นมาทนเห็นหน้าไนท์ไม่ไหว ฐานะที่เปลี่ยนไปของไนท์ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาเสียใจ หากแต่ความรู้สึกดีๆที่เขามีให้เหมือนถูกเหยียบย่ำอย่างไร้ค่า  สำหรับไนท์เขาก็แค่ไอ้หน้าโง่ หรือไม่ก็ตัวตลกที่ถูกมองอย่างขบขันและสมเพช       แจ็คหลบไปได้ครู่เดียวก็โดนผู้จัดการตามตัว
“แจ็ค  คุณริชให้นายไปหาแน่ะ”         
“ครับผม” แจ็คจำต้องกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง 
ร่างโปร่งยังคงยืนสนทนาอยู่กับริช 
“ทางเราได้รับอนุญาตจากทางรัฐบาลแล้ว  คิดว่าคงจัดแสดงในสัปดาห์หน้าครับ” ริช หันมาเห็นก่อนจึงพยักหน้าเรียก
“อ้อ!แจ็คมาพอดี ช่วยพาท่านชีคเยี่ยมชมห้องนิทรรศการหน่อยนะ...เชิญครับ”
แจ็คสูดลมหายใจยาวลึก แม้จะเสียวในอกแปลบแต่เขาก็กัดฟันเดินเข้าไปหา           
“ทางนี้ครับท่าน” 
แจ็คได้ยินเสียงตัวเองราบเรียบ  เขารู้สึกว่าใบหน้าของเขาชาไปหมดจนไม่รู้กำลังแสดงสีหน้าแบบไหน  ชายหนุ่มเดินนำหุ้นส่วนคนสำคัญมายังห้องที่จัดนิทรรศการเกี่ยวกับชีวิตและความเป็นอยู่ของชนเผ่ารุ่นแรกๆของเกาะ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณของชาวบ้าน
ชายหนุ่มเปิดประตูนำเข้าไปก่อน  ห้องนิทรรศการสว่างไสวและอบอุ่นด้วยแสงสีเหลืองอมส้ม  นอกจากแจ็คและชีคหนุ่ม ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆในห้องนั้น  แม้แต่เสียงลมหายใจก็ได้ยินชัดเจน       
“ในที่สุดเราก็เจอกันอีกครั้งนะคุณแจ็ค”         
“ครับท่าน ต้องขออภัยที่ผมเสียมารยาท ไม่ทราบว่าท่านเป็นแขกสำคัญของโรงแรมเรา”
รอยยิ้มแจ่มใสของไนท์ค่อยๆจางหายไป  คิ้วเรียวย่นเข้าหากันเล็กน้อย ตาคมจ้องใบหน้าคมสันนิ่งอย่างประหลาดใจ  แต่แจ็คไม่ยอมสบตาด้วย เอาแต่ยืนประสานมืออย่างสุภาพเป็นทางการ  น้ำเสียงราบเรียบห่างเหินและเย็นชา
“…ที่นี่มีอะไรบ้างละ  อธิบายให้ฟังหน่อยสิ?”
“ผมจะตามเจ้าหน้าที่ประจำห้องนี้มาให้” แจ็คหนีหน้าเพราะฝืนทนอยู่ไม่ไหว    แต่ยังไม่ทันถึงประตูเสียงเย็นชาเบื้องหลังก็ดังขึ้นเสียก่อน
“หนีเหรอ…ไหนร่ำร้องกลัวจะไม่เจอฉันไง?”
แจ็คสูดลมหายใจลึกหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า ไนท์ไม่แน่ใจว่าตนเองอุปาทานหรือไม่ ที่รู้สึกว่าใบหน้าคร้ามเผือดสีไป  แต่ดวงตาที่เคยสดใสบัดนี้ว่างเปล่าจนน่าใจหาย         
“ผมต้องขออภัยที่เคยล่วงเกินท่าน  หากทำให้ท่านระคายใจก็ต้องขออภัยอย่างสูงครับ”         
“ขี้ขลาด” ไนท์ตวาดเบาๆรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงที่แจ็คไม่ได้กล้าหาญอย่างที่คิด  เพียงแค่รู้ว่าเขาเป็นใครก็พร้อมจะหนีหน้า 
แจ็คค้อมศีรษะรับคำบริภาษ       
“กรุณารอสักครู่นะครับท่านผมจะตามเจ้าหน้าที่มาให้”
ไนท์มองตามแจ็คออกไปจากห้องด้วยความโกรธ  ไม่เคยมีใครกล้าแสดงกิริยาอย่างนี้กับชีครามิลราจีสอับดุล ไหล่บางไหวนิดๆราวกับไม่ยี่หระ หากแต่ส่วนลึกในหัวใจกลับวูบหายและอ้างว้างขึ้นมาทันที
   แจ็คเดินลิ่วจนพ้นเขตห้องนิทรรศการ ไหล่ที่ตั้งตรงคู้ค้อมราวกับคนแก่  ใบหน้าคร้ามซีดขาวเหมือนกระดาษ ขณะที่ดวงตาหม่นแสงด้วยความเจ็บปวด  ชายหนุ่มยืนพิงเสากลมต้นใหญ่กลางห้องราวกับจะให้ความเย็นของหินอ่อนช่วยบรรเทาไฟที่กำลังแผดเผาหัวใจจนร้อนรนอยู่อย่างนี้.......ƒ......      

แจ็คนำแขกที่เมาจนหมดสภาพมาส่งห้อง โดยมีสาวสวยร่างอวบอั๋น เดินตามมาเงียบๆ
“ต้องการให้แม่บ้านมาช่วยหรือเปล่าครับ?”แจ็คถามขณะวางร่างอ้วนกลมลงบนเตียง
“ต้องการ…แต่ไม่ใช่แม่บ้าน…” เสียงกระซิบแผ่วเบื้องหลัง  แจ็คหมุนตัว
กลับไปเจอกับอกอวบๆที่เบียดกระแซะเข้ามา  แขนเรียวคล้องรอบคอ  ปากอิ่มสีแดงสดเผยอนิดๆแบบที่เจ้าตัวคิดว่าเซ็กซี่
“เอ่อ…ต้องขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องรีบไปช่วยงานข้างล่างก่อน…หากมีอะไรก็เรียกแม่บ้านได้นะครับ”
แจ็คปลดแขนเรียวออกอย่างนุ่มนวลแล้วรีบเผ่น  ได้ยินเสียงของกระแทกด้านหลังประตูห้องนอน  แจ็ครีบเผ่นออกจากห้องสวีทแทบไม่ทัน
“ให้ได้อย่างนี้สิน่า…” แจ็คบ่นงึมงำขณะลงลิฟต์มาชั้นล่าง  เมื่อลิฟต์เปิดออกเขาก็จ๊ะเอ๋กับร่างเพรียวซึ่งเดินมากับนายแบบหนุ่มคนดัง ไนท์หน้าแดงก่ำ ท่าเดินโอนเอนไปมาเล็กน้อย  ทั้งคู่ขึ้นลิฟต์ไปด้วยกัน 
แจ็คยืนนิ่งขึง แต่ตามองตามไฟกระพริบบอกชั้นที่ลิฟต์ขึ้นไปอย่างกระวน กระวายในอกเดือดพล่านด้วยความวิตกกังวล  นายแบบคนนั้นจ้องไนท์ราวกับเสือหิว ท่าทางไนท์เมามากอย่างนั้นคงช่วยอะไรตัวเองไม่ได้ เขาควรตามขึ้นไป...แต่...     
‘หากมันไม่ใช่อย่างที่เราคิดล่ะ ถ้าเขาเต็มใจให้หมอนั่นขึ้นไปก็เท่ากับเราแส่ไปเปล่าๆ’  แจ็คหันรีหันขวางไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร 
“คุณแจ็คครับ  เชิญทางนี้หน่อยครับ” พนักงานหน้าฟร้อนกะดึกเข้ามาหาแจ็คท่าทางรีรอด้วยความเกรงใจ
“มีอะไร?”
“แขกที่พักห้องสวีทปีกซ้ายมีปัญหาครับ  เขาต้องการห้องเพิ่มให้เพื่อนหญิงที่จะติดตามมาในวันมะรืนนี้ครับ”
“แล้วห้องพักด้านนั้นเต็มหรือยัง?” แจ็คถามเหม่อๆเพราะใจมัวพะวงถึงห้องรับรองชั้นบน
“เต็มหมดแล้วครับ  ผมว่าจะจัดห้อง...คุณแจ็คครับ...คุณแจ็ค”
“เอ่อ...ว่าไงนะ…ไม่ทันฟัง”
“ผมว่าจะจัดห้องปีกขวาให้ แต่ไม่ใช่ห้องสวีท ไม่ทราบว่าจะเป็นการสมควรหรือเปล่า...คุณแจ็ค...เอ่อมีอะไรที่ลิฟต์เหรอครับ?”
“เปล่า...เอ่อ...เอาอย่างนี้นะ  เรียนแขกไปเลยว่าห้องสวีทเต็ม  เราจะจัดบ้านพักที่รีสอร์ทให้  แล้วจัดรถคอยรับส่งให้ด้วย”
“ได้ครับ”
“เท่านี้ใช่ไหม...งั้นผม...”
แจ็คชะงักเมื่อเห็นลอเรนซ์ออกมาจากลิฟต์ ใบหน้าขาวแดงแจ๊ดท่าทางโกรธหัวฟัดหัวเหวียง
นายแบบหนุ่มเดินลิ่วด้วยความแค้นจัด  เขาอุตส่าห์ทิ้งหนุ่มน้อยหน้าสวยคนหนึ่งเพื่อตามชีครามิลมาจากงานเลี้ยง  ดูเหมือนชีคก็เต็มใจให้เขาตามมา  แต่พอเข้าไปในลิฟต์ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ   ลอเรนซ์สบถแรงๆเมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆในลิฟต์
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดสนิท  ร่างโปร่งที่พิงผนังลิฟต์ราวกับเมาจัดกลับหยัดกายตั้งตรง  ลอเรนซ์ขยับเข้าใกล้หมายจะโอบประคองไหล่บาง  แต่ชีครามิลขยับตัวออกห่างอย่างรวดเร็ว  ดวงตาคมตวัดมองลอเรนซ์เย็นชาจนนายแบบหนุ่มหน้าเจื่อน
“ผมเห็นฝ่าบาทเมาเลยจะช่วยประคอง”
“ขอบใจ  เรายืนเองได้”
ชีครามิลกอดอกพิงกับผนัง  แม้โหนกแก้มเนียนจะแดงจัด  แต่สีหน้ากลับราบเรียบไร้อารมณ์จนลอเรนซ์ไม่กล้าตอแย  ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิด  องครักษ์ร่างสูงใหญ่ 3 คนก็ยืนรอรับอยู่แล้ว
ชีคหนุ่มเดินตัวตรงผ่านคนของเขาไปยังห้องพัก  ลอเรนซ์ขยับจะตามแต่องครักษ์ทั้ง 3 ขวางไว้  หนึ่งใน3กดลิฟต์เปิดรอ  ขณะที่อีกคนผายมือเชิญ  ลอเรนซ์เหลือบมองหน้านิ่งๆของทั้ง3แล้วไม่กล้าตามชีครามิลต่อไปอีก  ได้แต่กลับเข้าลิฟต์ด้วยอาการฮึดฮัดเต็มที่ คนอย่างเขาเคยแต่เขี่ยคนอื่นทิ้ง  แต่ชีครามิลกลับทำเหมือนเขาเป็นเศษหินเศษดินไร้ค่า  ความอับอายครั้งนี้เขาต้องเอาคืนให้สาสม
“ทำเป็นเล่นตัวไปเถอะ  สักวันนายจะรู้จักฉันดีกว่านี้”
ลอเรนซ์เดินลิ่วออกไปยังประตูหน้า  อารมณ์เขาเดือดพล่านเกินกว่าที่จะทนกลับไปนอนไหว  ต้องออกไปผ่อนคลายข้างนอก...ไม่แน่ว่าหนุ่มน้อยคนนั้นอาจจะยังรอเขาอยู่ก็ได้
ร่างสูงที่ยืนอ่านเอกสารอยู่ที่เคาเตอร์เหลือบมองตามนายแบบหนุ่มจนลับตาด้วยความโล่งใจ  แจ็คส่งเอกสารคืนให้พนักงานก่อนจะกลับไปทำงานด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย.......ƒ.....
                  
แสงแดดตอนแปดโมงเช้ายังอ่อนละมุน แจ็คออกเวรเสร็จก็มุ่งมายังอาคารจอดรถเพื่อกลับบ้านพัก  งานเลี้ยงผ่านไปอย่างเรียบร้อยสมความคาดหมาย  แต่หัวใจเขากลับยุ่งเหยิงยิ่งกว่าเดิม  แค่เรื่องที่ไนท์หลอกเขาเห็นความรู้สึกของเขาเป็นเรื่องตลกเขาก็เครียดแทบบ้าแล้ว  นี่ยังมีนายคนนั้นมาวุ่นวายกับไนท์อีก
แจ็คมองหาจักรยานของเขาแต่หาไม่เจอ  ชายหนุ่มยืนงงได้แต่สงสัยว่าใครจะเอาไป  เรื่องหายไม่ต้องพูดถึงเพราะระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ยอดเยี่ยมที่สุด  แถมจักรยานเขาก็ไม่ใช่ของราคาแพงอะไร  เสียงเบรกลั่นเอี๊ยด แจ็คหันกลับไปมองก็เผชิญหน้ากับคนที่เอาจักรยานเขาไป
“เบรกไม่ค่อยดีนะ  น่าจะเปลี่ยนสายเบรกใหม่” ร่างระหงในชุดวอร์มสีขาวเข็นจักรยานมาคืนที่
แจ็คเผลอจ้องหน้าเนียนใสค้างอยู่ครู่หนึ่ง จนดวงตาดุเป็นประกายพราวนั่นแหละจึงรู้สึกตัว ชายหนุ่มเป็นฝ่ายหลบตาพยายามควบคุมสีหน้าให้ดูราบเรียบ แต่เสียงหัวใจกลับดังระรัวจนเขาเกรงว่าคนตรงหน้าจะได้ยิน
“ขออภัยครับท่าน  เดี๋ยวผมจะจัดรถของทางโรงแรมมาไว้ให้”
“ทำไมต้อง...”ไนท์ชะงัก คำพูดถูกกลืนกลับไปในคอเมื่อลอเรนซ์พุ่งรถ -
จักรยานเข้ามาเทียบแทบจะชนแจ็ค  แต่ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบทัน   
“ฝ่าบาทปั่นเร็วจนผมตามไม่ทันเชียว  นี่ขนาดใช้รถกระจอกๆนะครับนี่”
ลอเรนซ์แซวยิ้มๆแต่ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ   เพื่อหาโอกาสใกล้ชิดไนท์เขาต้องตาลีตาเหลือกตามไนท์มาออกกำลังทั้งๆที่ยังไม่ได้นอนเพราะเพิ่งกลับมาจากเที่ยว แต่ไนท์กลับปั่นจักรยานหนีทิ้งให้เขาต้องปั่นตามจนลิ้นห้อย  แล้วไนท์ยังดูเต็มใจจะคุยกับพนักงานโรงแรมชั้นต่ำมากกว่าคุยกับเขา  การได้ระบายอารมณ์อะไรสักอย่างจึงเป็นเรื่องสมควรอย่างยิ่ง
“ทางเรามีรถไว้บริการแขกครับ เพียงแต่ท่านแจ้งที่ประชาสัมพันธ์เขาจะจัดการให้ครับ” ชายหนุ่มแนะนำเสียงเย็น ไนท์มองนิ่งในขณะที่ลอเรนซ์ยังคงพล่ามต่อไป
“เห็นไหมผมบอกฝ่าบาทแล้ว ถ้าเชื่อผมก็ไม่ต้องมาขี่ไอ้เศษเหล็กคันนี้ให้เมื่อย”
“ขี่ไปจนกลับมาแล้วจะมาบ่นทำไม…ขอโทษด้วยที่เอารถคุณไปใช้”
“ฝ่าบาทจะไปขอโทษทำไม  ของกระจอกๆพรรณนั้น”
 “พรุ่งนี้ผมจะให้เขาจัดรถมาไว้ให้ครับ”
 แจ็คยังคงพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ ทั้งที่ภายในร้อนระอุด้วยความโกรธ  เขาไม่เคยเดือดร้อนเวลาที่โดนดูถูก  แต่วันนี้อยากตะบันหน้าขาวๆนั่นให้ยับสมกับปากเสียๆ
“ไม่ต้องหรอก  ขอบใจมากนะ”
ไนท์อ่านประกายตาวาววับของแจ็คออก  ชีคหนุ่มจึงตัดปัญหาด้วยการวิ่งเหยาะๆไปทันที  ทำให้ลอเรนซ์ต้องรีบทิ้งจักรยานวิ่งตามไป
 แจ็คเดินไปยกจักรยานคันนั้นขึ้นพิง คว้าจักรยานของตัวเองปั่นกลับบ้านพักเร็วจี๋  ชายหนุ่มเปิดโรงเก็บรถ เอาจักรยานคันเก่งเข้าไปเก็บแล้วปิดล็อค  ต่อไปนี้เขาจะไม่ขี่เจ้า ‘เศษเหล็ก’ คันนี้ไปให้ระคายตาใครอีก ............
         
ไนท์ขยี้ผมเปียกจนหมาด  ดวงตาหม่นแสงของแจ็คยังติดในความ
รู้สึก  เมื่อเช้าเขาต้องการเพียงแค่ไปวิ่งออกกำลังกาย แต่พอผ่านลานจอดรถของ พนักงานก็เห็นจักรยานของแจ็ค  แทบไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าทำไมแต่เขาอยากลองขี่รถ คันนั้นดู  แล้วลอเรนซ์ก็ตามไปกวนอารมณ์อีกจนได้  ก๊อกๆๆ
“ไคซัคกระหม่อม”
“มีอะไร?”
“เอ่อ...เรื่องแจ็ค  มิเคเน่”
“ทำไม?”
“หมอนั่นเป็นคนเดียวกับที่เคยช่วยฝ่าบาท?”
“ใช่”
“ทั้งสองครั้ง?”
“แล้วทำไม?”
“กระหม่อมว่ามันบังเอิญเกินไป  คนอะไรจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาตลอด...แล้วพอฝ่าบาทเสด็จมาที่นี่ก็ยังมาเจอกันอีก”
“ก็แค่บังเอิญ”  ไนท์ทำหน้าเฉยเมย  ความจริงเขาไม่ได้เล่าเรื่องการเจอกันครั้งที่สองนั้น  แจ็คไม่ได้อยู่ถูกที่แต่เพราะเขาเป็นฝ่ายตามแจ็คไปเอง 
“แต่กระหม่อมไม่ไว้ใจ  เราเคยเช็คประวัติแต่กลับถูกเครือแฮมิลตันขัดขวาง  กระหม่อมคิดว่าเราน่าจะ...”
“บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร...เลิกยุ่งเรื่องของแจ็คได้แล้ว”
“แต่...”
“เลิกยุ่ง!”
“กระหม่อม”ไคซัคค้อมกายเคารพแล้วออกไปจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ไนท์เดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง  ผนังกระจกใสด้านที่ติดทะเลเปิดกว้าง  ลมทะเลพัดแรงทำให้คลื่นที่ม้วนหาฝั่งลูกโต  มีนักเล่นเซิฟไต่อยู่บนยอดคลื่น2-3คน 
ไนท์ถอนใจเฮือกเมื่อมองจนแน่ใจว่าไม่มีคนที่เพิ่งออกเวร  นิ้วยาวไล้ไป บนกลีบปากบางอย่างใจลอย  สัมผัสร้อนผ่าวยังติดอยู่ในความรู้สึก  ไนท์กลับไป ยืนหน้ากระจก  ปลดเสื้อคลุมออก  รอยจ้ำสีแดงที่เอวหายไปหมดแล้ว  แต่ที่ข้อมือ ยังมีรอยนิ้วเป็นริ้วจางๆต้องสวมผ้ารัดข้อมือปิดไว้  ดวงตาคู่งามเป็นประกายจ้าขึ้น           
“ทำเป็นเย็นชากับฉันเหรอแจ็ค ไม่เคยมีใครกล้า...นายท้าทายผิดคนแล้ว ฉันจะทำให้นายหัวปั่น…คอยดูเถอะ” ............

Merry X' mas & Happy New Year :L1:
ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 25-12-2009 10:13:32

ตอนหน้ามีลุ้นชิมิ



 o18


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 25-12-2009 11:12:38

โอว้ เกมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 25-12-2009 12:11:35
 :laugh:  เชิญเลยขอรับท่าน  เชิญปั่นหัวนายแจ็คได้ตามสบายเลย  รออยู่จ้าาาา  :impress2:




มาต่ออีกนะคร้าบบบบบบ จะอดใจไม่ไหวแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 25-12-2009 14:57:50
....ว่าแล้วเชียวอีตาทึ่มแจ็คต้องโกรธแน่ๆ เลยอ่ะ ทำไงล่ะทีนี้ ดูเหมือนจะใจแข็ง (เปล่าหว่า) ด้วยสิ .... เจ้าชายแย่แน่ ยิ่งปั่นหัวจะไม่ยิ่งโกรธหรือคะ.... อยากอ่านอีกจังใครวันหยุดยาวแล้วด้วย ...
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 25-12-2009 17:13:04
โอ้ย..แจ็คไม่ได้ใจเลย  ไรว้า 
แต่ก็นะคนมันเจียมตัวนี่นา
สงสัยต้องให้ไนท์ลงมือเองซะแล้ว

อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆ :sad4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 25-12-2009 18:45:23
 :z1: มาต่อแล้ว รออยู่เหมือนนานเลยเรื่องนี้ ใจจดจ่อมากกกก

กะแล้วว่าแจ๊คต้องรู้สึก แบบนี้ ก็นะ เหมือนถูกหลอกลวงทั้งที่ตัวเองเปิดใจกะเค้าแล้ว

เรายังโมโหแทนเลย :m16: แต่เอาเถอะ ทางด้านไนท์จะให้บอกก็ไม่ได้เพราะศัตรูรอบตัว เอาเป็นว่า ขอให้พูดคุยกันดี ๆ เถอะ จะได้  :impress2:ซะที

ฮ่าๆๆ
หมั่นไส้ ลอเลนซ์ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย

ไปล่ะคะ รอตอนต่อไป :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 25-12-2009 19:42:22
แจ็คช่างน่าสงสาร

เรื่องอื่นมีแต่นายเอกระทม  เรื่องนี้ความระทมทั้งปวงกลับตกมาอยู่ที่พระเอกแสนดีไปได้

โธ่...

มาต่ออีกนะคะ   :L1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 25-12-2009 21:45:03
จัดไปเลยเพคะ

+ + Merry X Mas ด้วยคนค๊า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: PAN@DA ที่ 25-12-2009 22:00:25
อ่านจบแล้ว ...ก้ออยากอ่านอีกจังเลย  จารอดูว่าท่านชีคจะทำให้แจ็คหัวปั่นแบบไหนกัน  :m1:
 :mc3: :mc2: Merry X'Mas  มีความสุขมากๆนะคะ  :mc3: :mc2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 26-12-2009 00:32:42
ขอบคุณค่า..

ว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้..แต่ก็นะ..ชีคกับคนธรรมดาต่างกันขนาดไหน..ใครมันจะกล้าหวังกัน.. :เฮ้อ:

สงสัยเรื่องนี้ไนท์ต้องลุยเองแล้วหล่ะนะ..ไนท์ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-12-2009 00:41:51
อุว้าววว  ไนท์จะทำอารายแจ๊คนน๊อ
รอตอนต่อไปคร้า :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-12-2009 13:25:56
ผิดคาดแฮะ งานนี้ไนท์ต้องลุยเองเลยหรือวุ้ย  :z3: :z3: :z3: แบบนี้ก็ลุ้นมันส์เลยสิ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 26-12-2009 14:11:00
ไนท์จะทำอะไรนะ รอติดตามครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-12-2009 16:51:58
ท่าทางจะงอน เพราะแจ๊คไม่ได้ดั่งใจของท่านชีคคนงาม  :m20:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 26-12-2009 18:32:17
ก็น่ะดูแล้วท่าจะฐานะต่างกันลิบลับเลยนี่



เอะหรือว่าแจ็คเองก็มีเรื่องลึกลับอะไรเบื้องหลังหรือป่าวเนี่ย




รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 26-12-2009 22:56:49
รอต่อไป โอ๊ย ความไม่เข้าใจกัน ไนท์จะรู้ไหมเนี่ย ว่าตัวเองทำผิดน่ะ ฮ่า ๆ ๆ

น่าสงสารแจ๊คออกนะ งานนี้
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 28-12-2009 00:48:30
ไนท์จะปั่นหัวแจ็คแบบไหนหนอ
แต่จะว่าไป งานนี้แจ็คก็ไม่ผิดนะ น่าจะน้อยใจมากมายซะด้วยหละ

บวก 1 แต้มค่ะ ขอบคุณนะคะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านตอนต่อไปได้แล้วคะ 25 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 29-12-2009 18:07:20
มาดันอ่ะ

ตกไปหน้าสองแล้ว

ไม่ยอม  :o12:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 29-12-2009 21:51:59
ขอบคุณสำหรับทุกรีพลายนะคะ มาอ่านกันต่อเลยคะ

........
ชายหาดวันนี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจนแทบลงเล่นน้ำไม่ได้  ด้วยเป็นช่วงไฮน์ซีซั่น นักท่องเที่ยวจึงมากเป็นพิเศษ  หากเป็นเวลาปรกติแจ็คคงรำคาญ แต่อารมณ์ของเขาตอนนี้หนักและเหน็ดเหนื่อยเกินกว่าที่จะอยู่ตามลำพัง  ชายหนุ่มจึงมานั่งดูเด็กๆเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน  แต่ใจลอยไกล
“เอ่อ...ช่วยส่งบอลให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”
แจ็คหันกลับไปมองด้านหลัง  ชายหนุ่มร่างผอมเพรียวผิวขาวออกซีดส่งยิ้มให้และชี้ไปที่ลูกบอล แจ็คขมวดคิ้วแปลกใจที่เขาไม่รู้สึกตัวว่ามีลูกบอลกลิ้งมาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ ชายหนุ่มโยนบอลให้แต่คนรับยังคงอ้อยอิ่ง เหมือนจะยังไม่อยากไป         
“ขอบคุณครับ  ผมชื่ออัลเฟรด...แล้วคุณละครับ?”         
“แจ็คครับ”         
“คุณแจ็คมาคนเดียวเหรอครับ  ไปเล่นบอลกับพวกเราไหมครับ  เรามากันหลายคนเลย”         
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ  ขอบคุณ”         
“รบกวนอะไรกันครับ  พวกเราน่ะ....”         
“เฮ้!อัลเฟรดได้บอลหรือยัง?...มัวแต่จ้ออยู่นี่เอง”         
“มาร์คัสนี่คุณแจ็คนะ  เขามาคนเดียวเลยว่าจะชวนเขาไปเล่นบอลกับเรา  คุณแจ็คครับ มาร์คัสเพื่อนผม”         
“สวัสดีครับ  ไปเล่นบอลกับพวกเราไหมครับ” มาร์คัสชวนทันทีอย่างคนอัธยาศัยดี   
“ไปนะครับ” หนุ่มผิวซีดชวนด้วยน้ำเสียงติดจะอ้อนวอนด้วยซ้ำ     
“เอ่อ...ครับ ขอบคุณมาก”  ตอนแรกแจ็คคิดจะปฏิเสธ  แต่การเล่นบอล กับเพื่อนใหม่ก็น่าจะดีกว่าการคิดอะไรฟุ้งซ่านอยู่คนเดียว       
“มาเลยครับ พวกเรายินดีต้อนรับอยู่แล้ว....เฮ้! พวกเรา  มีเพื่อนใหม่มาแจมด้วย” หนุ่มสาวหลายคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นต่างหันมาโบกมือทักทาย
หลังจากที่แบ่งตัวกันได้ แจ็คก็ได้อยู่ข้างเดียวกับมาร์คัส ส่วนอัลเฟรดอยู่อีกฟากกับเพื่อนผิวสีอีกคน ทั้งสองฝ่ายโต้บอลกันสนุกโดยมีสาวๆอีกสองคนเป็นกองเชียร์  มาร์คัสโดดขึ้นบล็อกลูกทำให้อัลลเฟรดรับพลาด  เพื่อนผิวสีช่วยสาดบอลกลับมา  แจ็คจึงโดดขึ้นตบสวนลงไปเต็มแรง   
บอลพุ่งผ่านหนุ่มผิวดำข้างหน้าไปกระแทกศีรษะของอัลเฟรดจนล้มคว่ำเสียงสองสาวอุทานอย่างตกใจ  ทุกคนวิ่งกรูกันเข้าไปดูอัลเฟรดอย่างรวดเร็ว
“อัลเฟรด...อัลเฟรดเป็นไงบ้าง?”         
“ไม่...ไม่เป็นไร...มึนๆเท่านั้น”
“ไปพักก่อนดีกว่า”
“ขอโทษครับคุณอัลเฟรดผมตบแรงไป”
“ไม่เป็นไรครับ  ผมว่าจะเข้าไปรับแต่ไม่รู้ทำไมกลายเป็นเอาหัวเขาไปรับแทน”         
“มาครับผมช่วย” แจ็คประคองร่างผอมบางแทบปลิวไปยังหมู่เก้าอี้ที่ทุกคนชี้บอก มาร์คัสวิ่งไปขอยาที่หน่วยพยาบาลเพราะหน้าผากอัลเฟรดเขียวช้ำเป็นวง  ขณะที่ทุกคนกำลังมะรุ่มมะตุมอยู่กับอัลเฟรดจู่ๆไหล่ของแจ็คก็ถูกกระชากตามด้วยหมัดหนาๆที่พุ่งเข้าหาใบหน้า 
แจ็คเบี่ยงหน้าหลบแล้วกระชากคนต่อยเหวี่ยงจนเซถลาล้ม เขาเกือบทุ่มอีกฝ่ายลงไปกองแล้วหากแต่ยั้งมือไว้ทัน  ร่างสูงไล่เลี่ยกับแจ็คแต่เพราะเพาะกล้ามเนื้อไว้มากจนดูเตี้ยสั้นถลันลุกขึ้นและทำท่าจะกระโจนเข้าใส่แจ็คอีกครั้ง         
“เฮ้ยหยุด!...อะไรกันซีโน่” มาร์คัสตะโกนห้ามมาแต่ไกล         
“ไอ้หมอนี่มันหยามกันชัดๆ  ฉันจะฆ่ามัน”         
“เป็นบ้าหรือไงซีโน่...อยู่ๆก็เข้ามาทำร้ายคนอื่นแล้วยังมีหน้ามาโวยวายอีก”หนึ่งในสองสาวตวาดแหวอย่างไม่พอใจ
“หุบปากไปเลยนังคางคก  อย่าเสือก!”
“เฮ้ยทำไมพูดจาแบบนี้ละ  มันจะมากไปแล้วนะ”หนุ่มผิวหมึกตวาดสวนด้วยความไม่พอใจ  ซีโน่หันไปแสยะปากใส่ท่าทางยียวนสุดๆ
“แกสิหุบปากไอ้มืด”
“อ้าวเฮ้ย!พูดงี้ก็สวยสิวะ”
ตลอดเวลาที่ทุกคนเถียงกัน แจ็คเพียงแต่ฟังเงียบๆ   ตอนนี้เรื่องเขากลาย เป็นเรื่องเล็กไปแล้วเพราะเพื่อนผิวสีคนเดียวในกลุ่มทำท่าจะเอาเรื่องซีโน่ให้ได้ขณะที่สองสาวก็ไม่พอใจที่ซีโน่ที่พูดจาหยาบคายกับพวกเธอ
“หยุด...บอกว่าให้หยุด  นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”มาร์คัสแทรกเข้าไปตรงกลางระหว่างซีโน่กับเพื่อนๆแล้วตะโกนห้ามดังลั่น
“ก็ซีโน่นะสิ  มาจากไหนไม่รู้อยู่ๆก็เข้ามาจะชกคุณแจ็ค” สองสาวแข่งกันฟ้อง  ซีโน่หน้าแดงก่ำด้วยความโมโหที่ถูกรุมว่าอยู่คนเดียว         
“ไอ้ห่...นี่มันลวนลามอัลเฟรด  แล้วไอ้เพื่อนพวกนี้ก็ล้อมดูกันหน้าตาเฉย  จะปล่อยมันไว้ทำซากอะไร?”
แจ็คยังคงตีหน้าเฉยทั้งที่นึกขันท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงของซีโน่เต็มที  นึกไม่ถึงว่าโลกนี้จะมีคนเพี้ยนขนาดนี้อยู่ด้วย         
“ประสาทกลับแล้วหรือไง  คุณแจ็คเขาพยายามปฐมพยาบาลอัลเฟรด ต่างหาก”   
“ใช่นี่ฉันก็ไปขอยามาจากหน่วยพยาบาล  นายอย่าหึงจนเป็นบ้าอย่างนี้ได้ไหม?” มาร์คัสชูตลับยาในมือให้ดูแต่ซีโน่แสยะปากใส่อย่างไม่เชื่อถือ
“หุบปากไปเลยมาร์คัส  อย่ามาแก้ตัวให้พวกนี้ดีกว่า”         
“นายต่างหากที่ควรหุบปากแล้วไสหัวไป  อย่ามาทำนักเลงแถวนี้...แล้วไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของฉัน  เราจบกันไปตั้งนานแล้วซีโน่”
คนที่นั่งเงียบมาตลอดโพล่งขึ้นมาทันที  เล่นเอาทุกคนอึ้งไปตามๆกัน  ด้วยนึกไม่ถึงว่าอัลเฟรดที่แสนอ่อนแอจะกล้าตวาดอดีตคนรัก  ซีโน่เองก็อ้าปากค้างอยู่นานกว่าจะหายตกใจ         
“ไม่มีทาง...อ๋อ!หรือว่าไอ้หมอนี่คือคนใหม่ของนาย  มิน่าถึงซบอกมันใหญ่...อีร่านเอ๊ย!”
ซีโน่ปราดเข้าหาอัลเฟรด เพื่อนผิวสีที่อยู่ใกล้สุดพยายามจะผลักซีโน่ออกไป  แต่กลับถูกซีโน่ต่อยเปรี้ยงเดียวล้มคว่ำ เลือดอาบใบหน้าคล้ำอย่างรวดเร็ว  สองสาวร้องกรี๊ดพยายามลากอัลเฟรดออกห่าง มาร์คัสกระโจนเข้าไปล็อคคอซีโน่  แต่กลับโดนศอกซีโน่เข้าที่คิ้วจังหวะที่ซี่โน่เหวี่ยงเขากระเด็นออกไป  ซีโน่เกือบถึงตัวอัลเฟรดแล้วหากแจ็คไม่เข้าไปขวางเสียก่อน 
ซีโน่ตาลุกวาบพุ่งหมัดเข้าใส่ชายหนุ่มทันที  แต่แจ็คเตะข้อมือของซีโน่จนวัตถุที่อยู่ในมือกระเด็นหวือ  สนับมือทองเหลืองที่เปื้อนเลือดกระเด็นไปไกล    ซีโน่ร้องจ๊ากสะบัดมือเร่าๆ  แต่พอตั้งหลักได้ก็พุ่งเข้าหาแจ็คอย่างโกรธเกรี้ยว  แจ็คฉากหลบแล้วเตะฉาดเข้าที่ต้นขา  ซีโน่หน้าเบี้ยวเจ็บจนแทบทรุดแต่ความโมโหทำให้ฝืนกัดฟันพุ่งเข้าไปหาแจ็คอีกครั้ง
ปึก!เสียงกระแทกหนักๆ ทึบๆ  แต่ก็หยุดทุกอย่างลงอย่างสิ้นเชิง  ซีโน่ตาลอยคว้างแล้วร่วงลงไปนอนคลุกทราย  แจ็คอมยิ้มเลิกคิ้วให้มาร์คัสอย่างทึ่งๆ  เจ้าของเท้าที่ทัดดอกไม้ให้ซีโน่หอบแฮ่กหน้าแดงก่ำ ทั้งโมโหทั้งเจ็บ  ที่สำคัญเขาอายเพื่อนใหม่ที่ต้องมารับรู้เรื่องบ้าๆแบบนี้ด้วย         
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าแจ็ค?”         
“ไม่ครับ  แต่ดูเหมือนคุณเจ็บนะ” แจ็คชี้ที่หัวคิ้วของมาร์คัส 
หนุ่มร่างสูงยกมือขึ้นแตะคิ้วมาดู  พอเห็นเลือดก็เบ้ปาก  ท่าทางอยากจะเตะซีโน่อีกซักที  แต่ติดที่หมอนั่นยังสลบเหมือดอยู่ที่พื้น เพราะทุกคนไม่รู้ว่าซีโน่มีอาวุธจึงประมาททำให้เกือบพลาดท่า   อัลเฟรดลุกขึ้นมาหาแจ็คกับมาร์คัสด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน
“ขอโทษนะครับคุณแจ็คที่เกิดเรื่องบ้าๆแบบนี้  นายเจ็บมากไหมมาร์คัส”         
“ไม่เท่าไหร่หรอก  ฉันว่านายกับสาวๆไปพักกันดีกว่า  ท่าทางนายไม่ค่อยดีเท่าไหร่  อีกอย่างถ้าซีโน่มันฟื้นมาเจอนายอีกจะเป็นเรื่อง  เอ้า!นี่กุญแจไปพักที่บ้านฉันเดี๋ยวนี้เลยดีกว่า  ซีโน่มันจะได้ไม่กล้าตามไป”         
“ขอบใจมากมาร์คัส  ลาละครับคุณแจ็ค  หวังว่าเราคงได้เจอกันอีก”         
“ครับ”
อัลเฟรดกับเพื่อนๆรับกุญแจแล้วผละจากไป ส่วนมาร์คัสยังคงรอดูอาการของซีโน่อยู่ที่กับแจ็ค   
“คุณนี่ใจเย็นดีจัง  เป็นคนอื่นคงซัดซีโน่หมอบไปตั้งแต่แรกแล้ว”         
“อาจเป็นผมก็ได้นะครับที่โดนซัดจนหมอบ”         
“ไม่มีทาง  กระดูกคนละเบอร์แบบนี้ ซีโน่โดนเข้าไปคงคางเหลือง”         
“คุณเองก็ใช่ย่อย  โครมเดียวหมอนั่นนอนเงียบไปเลย”       
“ผมประมาทมากไปหน่อย  อีกอย่างซีโน่ก็เป็นเพื่อน...ใครจะไปนึกว่าไอ้บ้านี่มันจะพกสนับมือ”
“สงสัยจะขโมยมาจากพิพิธภัณฑ์” แจ็คเอ่ยขึ้นลอยๆ  มาร์คัสทำตาโตก่อนจะปล่อยก๊ากออกมา  นึกขันอาวุธโบราณที่มีแต่คนอย่างซีโน่เท่านั้นที่พก
สองหนุ่มช่วยกันลากซีโน่ไปโยนไว้ใต้ต้นไม้  แล้วนั่งลงคุยกันระหว่างที่รอให้ซีโน่ฟื้น         
“คุณมาเที่ยวที่นี่บ่อยไหม?”         
“ไม่ครับ  นานๆมาสักที”         
“มิน่าผมถึงไม่เคยเห็นคุณ ผมน่ะเจ้าถิ่นเชียวนา...ว่าแต่คุณก็เป็นมวยไทยด้วยเหรอ?”
“ครับ”         
“ผมก็ไปหัดมาเหมือนกัน  แต่เพิ่งเรียนได้ไม่กี่เดือน  คงไม่เก่งเหมือนคุณ”         
“รู้ได้ยังไงว่าผมเก่ง?”       
“ผมดูออก  ท่าทางคุณดูสบายๆแต่คุณไม่มีจุดอ่อน  บอกตรงๆนะว่าที่ผมซัดซีโน่เสียเต็มที่เพราะกลัวหมอนั่นทำให้คุณโกรธแล้วเอาจริงขึ้นมา  ผมเสียวเพื่อนผมตาย”         
“ผมคงไม่เก่งขนาดนั่น”
“อย่าดูถูกผมนะ  ถึงผมจะไม่เก่งเท่าคุณแต่ผมคลุกคลีกับเรื่องหมัดๆมวยๆมาตั้งแต่เด็ก  ที่บ้านผมเป็นค่ายมวย  อยู่ไม่ไกลจากที่นี่หรอก...นี่นามบัตรผม  ว่างๆไปเที่ยวได้นะ  ผมอยากเห็นฝีมือคุณแบบเต็มๆตาสักหน่อย” นิ้วที่คีบนามบัตรส่งให้แจ็คแม้จะยาวเรียวแต่มีรอยแตกตามข้อนิ้วเห็นได้ชัด
“ผมไม่สู้กับคุณ”
“ใครบอกว่าผมจะสู้กับคุณ  ผมจะให้คุณชกกับคนอื่นต่างหาก  ขืนสู้กับคุณผมก็ม้วยนะสิ”
ถึงจะชวนคุยเรื่องหมัดๆมวยๆแต่ดวงตาของมาร์คัสก็หวานระยับเกินไป           
“ท่าทางเพื่อนคุณจะรู้สึกตัวแล้ว”         
“ตื่นไวดีแฮะ...แล้วนั่นคุณจะกลับแล้วเหรอ?” มาร์คัสรีบลุกตามเมื่อเห็นแจ็คผุดลุกขึ้น
“ครับ”
“เอ่อ...ไปทานอะไรกันก่อนไหม?”
“ไม่ดีกว่า  เพื่อนคุณตื่นมาเจอผมจะโมโหขึ้นมาอีก”
“ไม่หรอก  หมอนี่พอโดนแรงๆเข้าไปทีก็หายซ่าไปอีกนาน...ผมอยากชวนคุณไปกินมื้อเที่ยงด้วยกัน”  มาร์คัสปราดไปรั้งศอกแจ็คไว้ดื้อๆ
แจ็คชะงักเหลียวมาสบตามาร์คัสอย่างแปลกใจ  แวววูบวาบในดวงตามาร์คัสทำให้ชายหนุ่มอึ้งไปครู่หนึ่ง
         “ผมอยากคุยกับคุณ  อยากรู้จักคุณมากกว่านี้ไม่ได้เหรอแจ็ค?” มาร์คัส กระซิบเสียงแผ่วแล้วขยับเข้าไปใกล้แจ็คอีกนิด  เขาถูกใจแจ็คตั้งแต่สบตาครั้งแรก  และยิ่งปลื้มเมื่อได้เห็นฝีไม้ลายมือ  แม้จะรู้ว่าอัลเฟรดก็สนใจแจ็ค  แต่เขาถือว่าเรื่องแบบนี้อยู่ที่คนกลางมากกว่า และเขาไม่ใช่คนเสียสละเสียด้วย         
“ผมว่าไว้คราวหน้าดีกว่า...ขอตัวนะครับ” แจ็คแสร้งเฉย         
“ขอนามบัตรผมบ้างสิ...เอ่อ...เบอร์โทรก็ได้”         
“ขอโทษนะมาร์คัส...ผมคงไม่ใช่สไตล์ที่คุณชอบ”         
“คุณจะปฏิเสธว่าคุณไม่ได้...เอาเถอะ  ผมเป็นเพื่อนเฉยๆก็ได้  นะ...ขอเบอร์ผมหน่อย”       
แจ็คได้แต่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ชายหนุ่มยอมให้นามบัตรทั้งที่เขาไม่รู้สึกอะไรกับมาร์คัสในแบบอื่น  แต่ด้วยนิสัยขี้เกรงใจและเป็นมิตรกับคนง่ายทำให้แจ็ค มองว่าการที่เขาไม่ชอบมาร์คัสก็ไม่จำเป็นที่จะปฏิเสธหรือแสดงความรังเกียจ  ถึงอย่างไรเขาก็คบมาร์คัสแบบเพื่อนได้           
“โอเค...นี่เบอร์ผม แต่ถ้าโทรไปแล้วผมปิดเครื่องก็อย่าโกรธแล้วกัน เพราะเวลาทำงานผมจะปิดโทรศัพท์  แล้วงานผมก็ไม่ค่อยเป็นเวลาเท่าไหร่”         
“เอาน่าผมไม่ใช่คนขี้ใจน้อยหรอก...แล้วคุณจะไม่เปลี่ยนใจไปกินมื้อเที่ยงกับผมจริงๆเหรอ?”         
“ไม่ดีกว่าครับ  ผมไปละ  โชคดีมาร์คัส”         
“โชคดีแจ็ค  แล้วผมจะโทรหาคุณ”
แจ็คหัวเราะเบาๆแล้วเดินลิ่วไปยังท่าเรือ ยังไม่ทันถึงเรือโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น  ชายหนุ่มมองเบอร์แปลกตาอย่างขันปนระอาไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครโทรมา         
“สวัสดีครับ”         
“ผมคิดถึงคุณจัง  กินมื้อเที่ยงกันก่อนไม่ได้เหรอ?”         
“ผมต้องกลับให้ถึงบ้านก่อนมืด  ไว้โอกาสหน้านะครับ”         
“คุณใจแข็งจัง  ไม่เป็นไร  ผมรอได้”         
“ผมต้องไปแล้ว  บายครับ”         
“เฮ้เดี๋ยวสิ  คุณมีแฟนหรือยังแจ็ค”         
“หึ...ยังครับ”
“งั้นคุณก็ว่างสิ”
“เปล่าครับ...หัวใจผมเต็มแล้ว”
“อ้าว...ไหนว่าไม่มีแฟน”
“แค่นี้นะครับ”
“เดี๋ยวสิ...แจ็ค...แจ็ค..”
แจ็คปิดโทรศัพท์หัวเราะเบาๆอย่างขันๆ มาร์คัสเปิดเผยและตรงไปตรงมา เสียจนเขาทึ่ง  นึกไม่ถึงว่าเขาจะโดนตื๊อแบบนี้  ชายหนุ่มขับเรือออกจากท่าช้าๆ  เพราะท่าเรือจอแจไปด้วยเรือสารพัดชนิดที่เข้ามาจอด  อาศัยว่าเรือที่เขาขับเล็กและเพรียวจึงออกมาจากความชุลมุนวุ่นวายนั้นได้ไม่ยาก  เสียงโทรศัพท์มือถือยังดังไม่หยุดและเขาก็ไม่อยากละมือจากพวกมาลัยจึงปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆ  สุดท้ายฝ่ายโน้นคงยอมแพ้จึงหยุดโทรไปในที่สุด 
สายลมร้อนผ่าวปะทะใบหน้าจนชาแต่แจ็คชินกับมันจนแทบไม่รู้สึก  เขาออกจะชื่นชอบช่วงเวลาที่สายลมบาดผิวแบบนี้  มันเหมือนเขาได้เป็นอิสระจากทุกอย่าง  มีตัวเขาเป็นผู้ควบคุมว่าเขาจะไปในทิศทางใด
‘ใช่เราต้องควบคุมตัวเองให้ได้  อย่าปล่อยให้ใจมามีอำนาจเหนือเหตุผลได้อีก  ถึงมันจะยากแค่ไหนนายก็ต้องทำให้ได้แจ็ค’
          ♜...........♜ ...........♜
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 29-12-2009 21:54:28
เสียงหัวเราะต่อกระซิกของสาวๆฝ่ายห้องอาหารเบาลงเมื่อร่างสูงโผล่เข้าไป  หลายคนหันมาส่งยิ้มหวานให้
“คุณแจ็คต้องการอะไรคะ?”         
“หิวครับมาขออะไรทานหน่อย”  ชายหนุ่มยิ้มกว้างตามสไตล์       
“อ้าว!จัดไปที่ห้องอาหารแล้วนี่ครับ”
เชฟโผล่ออกมาถามงงๆ อาหารสำหรับพนักงานจะถูกจัดไว้ที่ห้องอาหารภายใน  พนักงานทุกคนสามารถไปรับประทานได้ฟรี           
“ผมมาช้าครับเลยไม่ทัน  ต้องมาขอรบกวนหน่อยนะครับ”         
“รบกวนอะไรกันครับ ความจริงคุณแจ็คโทรมาสั่งก็ได้ผมจะให้เด็กเอาไปส่งให้”
“ไม่เป็นไรครับ  ผมมาเองสะดวกกว่า”
เชฟรีบจัดอาหารให้อย่างเกรงใจ ปรกติเขาไม่เคยสนว่าพนักงานคนไหนจะอิ่มหรืออด หน้าที่เขาคือควบคุมให้อาหารมีรสชาติดีที่สุดสำหรับลูกค้าของโรงแรมเท่านั้น…แต่แจ็คแตกต่างจากคนอื่น ชายหนุ่มไม่เคยอวดว่าตัวเองมีอำนาจเหนือใครทั้งๆที่ทุกคนรู้ดีว่าแจ็คเป็นคนสนิทของเจ้าของโรงแรมนี้  หากมีอะไรที่แจ็ค ช่วยได้เขาก็ช่วยไปทุกแผนก ทำให้เป็นที่ชื่นชมของทุกคนโดยเฉพาะสาวๆ แต่ดูเหมือนแจ็คจะไม่มีใจให้ใครเป็นพิเศษ
“คุณแจ็คไปรอที่สวนดีกว่าครับ”         
“แต่ที่นั่นจัดไว้ให้แขกนะครับ  พนักงานไม่มีสิทธิ์ใช้สถานที่”         
“ก็ไปนั่งที่ส่วนพักผ่อนของพนักงานสิครับ”
“ขอบคุณครับ“
ต้นไม้ในสวนถูกจัดให้เป็นฉากกั้นให้แต่ละโต๊ะแยกกันเป็นสัดเป็นส่วน 
หลังคาโค้งสูงเกือบ6เมตร ตีด้วยไม้สานเป็นตาข่ายโปร่ง ไม้เถาที่เกาะพันออกดอกห้อยระย้าส่งกลิ่นหอมตลบ ด้านในสุดติดกับส่วนพักอาหารมีโต๊ะสำหรับพนักงานนั่งพัก แจ็คเข้าไปนั่งไม่ถึง5นาทีอาหารก็ถูกนำไปเสริฟ
“ขอบคุณครับ”         
“ไม่เป็นไรค่ะ…ว้าว!ช่างสง่างามจริงๆเชียว หล่อสวยสมกันยังกับเจ้าชายเจ้าหญิง  เสียดายจังที่เป็นผู้ชายทั้งคู่” พนักงานสาวรำพึงราวกับละเมอแต่คนฟังร้อนวาบในอกเมื่อเหลือบไปเห็นนายแบบคนดังเคียงคู่มากับร่างระหง  มีองครักษ์เดินตามหลังมาห่างๆ
ลอเรนซ์เหลือบมองรอบกายแล้วนิ่วหน้า  เขาไม่ค่อยชอบทานอาหารกลางดินกลางทรายแบบนี้เลย ความจริงไนท์น่าจะไปที่ห้องอาหารหรูข้างในมากกว่า
   “ฝ่าบาทน่าจะเข้าไปทานในห้องอาหารมากกว่านะครับ ที่นี่ร้อนออก”
“หากมิสเตอร์โซววาร์ดชอบก็เชิญข้างในได้นี่”
“ไม่ได้หรอกครับ...อาหารจะไปมีรสชาติอะไร...ถ้าไม่มีฝ่าบาท” ประโยคหลังนายแบบหนุ่มชะโงกเข้ามากระซิบจนใกล้  ไนท์เกือบผงะหนีหากไม่เหลือบไปเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านในสุดทะลึ่งพรวดขึ้นยืนเสียก่อน  ชีคหนุ่มรับเมนูมาเปิดเสมือนสนใจรายการอาหาร  แต่ใบหน้าขาวปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ  พึงพอใจกับปฏิกิริยาของคนแอบมอง 
ลอเรนซ์ใจฟูฟ่องด้วยความยินดี  นี่เป็นครั้งแรกที่ไนท์ไม่ปฏิเสธเขาแถมยังมีท่าทางพอใจ  แสดงว่าไนท์ต้องมีใจให้เขาเช่นกัน
แจ็ครู้สึกตื้อหายหิวขึ้นมาเฉยๆ  เขาเมินหน้าหลบภาพบาดตา หันไปยิ้มเจื่อนให้พนักงานเสริฟสาวที่ยืนมองแขกวีไอพีตาค้างอยู่เช่นกัน
“…เอ่อ…จะรบกวนมากไปไหมครับถ้าผมจะขอให้ช่วยเอาอาหารใส่กล่องให้  พอดีเพิ่งนึกได้ว่ายังต้องไปตรวจงานฝ่ายซ่อมบำรุงก่อนบ่ายโมง  นี่ก็ใกล้เวลามากแล้ว”
“ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ”
แจ็คกลับมาทำงาน  อาหารกล่องนั้นเขายกให้ลูกน้องไปเพราะกินไม่ลง  หัวใจยังปวดหนึบด้วยภาพไนท์กับลอเรนซ์ยังติดตา
“หัวหน้าครับ…ผู้จัดการโทรมาบอกให้ขึ้นไปหา”
“ขอบใจ”
แจ็คขึ้นไปพบผู้จัดการก็ได้รับคำสั่งที่ทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปอีก
“คุณริชให้นายไปดูแลคณะชีคราจีสอับดุลที่จะล่องเรือไปเกาะส่วนตัวของท่านเย็นนี้นะ…ดีใจละสิจะได้กลับไปเยี่ยมเพื่อนๆ”
“เอ่อ…ให้คนอื่นไปได้ไหมครับ?”
“อะไรของนาย  นี่เป็นคำสั่งคุณริชนะใครจะกล้าเปลี่ยน”
“ขอโทษครับ  ผมจะรีบไปเตรียมตัว”
ผู้จัดการมองตามหลังผู้ช่วยคนใหม่อย่างสงสัย  ไม่แต่เขาหรอกที่รู้สึกว่าแจ็คดูแปลกไป พนักงานหลายคนก็แอบมาบอกเรื่องนี้กับเขาเช่นกัน......ƒ......
      
ชีครามิล  ราจีสอับดุล เดินเคียงลงมากับนายแบบคนดัง  องครักษ์ร่างยักษ์เดินตามมาไม่ห่าง  ริชกับเจฟฟรี่จึงลุกขึ้นต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม         
“ขอโทษด้วยนะครับที่ช้า” ไนท์เอ่ยขอโทษยิ้มๆ ทั้งที่ความจริงคนทำให้ช้าคือนายแบบหนุ่มที่นอนอยู่จนเย็น แล้วยังแต่งตัวช้าด้วยส่องกระจกแล้วส่องอีกราวกับจะไปเดินแบบ  จนต้องให้คนเข้าไปตามถึง3ครั้ง
“ก็คุณไนท์อยากปลุกผมช้านี่นา  ขอโทษนะครับเป็นความผิดผมเอง”
ลอเรนซ์พูดตีขลุมเหมือนเขากับชีครามิลนอนห้องเดียวกันและเจตนาเรียกชื่อเล่นเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสนิทสนมของเขากับชีคโดยทำไม่รู้ไม่ชี้กับดวงตาลุกเรืองราวกับไฟขององครักษ์  เพราะแน่ใจว่าต่อหน้าคนอย่างนี้ชีครามิล คงไม่กล้าฉีกหน้าเขาเหมือนยามอยู่ลำพัง
“ไม่เป็นไรครับ…แล้วมาแค่นี้เหรอครับ?” ริชรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อสังเกตเห็นสายตาองครักษ์ของแขกวีไอพี
“ครับ” ชีคหนุ่มยังคงเฉยเมย แต่สายตาที่มองลอเรนซ์ว่างเปล่าราวกับอีกฝ่ายเป็นอากาศธาตุ       
“เชิญฝ่าบาทด้านนี้เลยครับ”       
“เรียกผมรามิลดีกว่า บอกหลายครั้งแล้วนี่ครับว่าไม่ต้องพูดราชาศัพท์กับผม”
ลอเรนซ์หน้าชา กับเขาชีครามิลเย็นชาและทำเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา  แต่แฮมิลตันกลับถูกวางไว้ในฐานะเสมอกันอย่างเห็นได้ชัด
“ขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติ...เชิญด้านนี้เลยครับ  เชิญครับคุณโซว์วาร์ด”
“เรียกผมลอเรนซ์ก็ได้”
“ยินดีครับ  เกาะแฮมิลตัลยินดีต้อนรับครับ”
“ขอบคุณครับ”ลอเรนซ์ยิ้มหวานทั้งปากและตา 
ริชเดินนำแขกไปยังหมู่เก้าอี้รับรองด้านหัวเรือ  ขณะที่เรือถอนสมอออกจากท่าช้าๆ พนักงานเข้ามาเสริฟเครื่องดื่มให้ทันทีที่ทุกคนนั่งลง  โดยมีแจ็คคอยยืนกำกับอยู่ห่างๆ  ร่างสูงยืนนิ่งราวกับหุ่น  มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่กวาดมองตามพนักงานและบางครั้งก็ลอบมองเลยไปยังร่างโปร่ง ที่เดินไปยืนรับลมที่หัวเรือ 
“ใช้เวลาเดินทางสักเท่าไหร่ครับ?” ไนท์หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็วจนแจ็คหลบไม่ทัน  ดวงตาคมเป็นประกายวาววับอย่างรู้ทัน  ขณะที่แจ็คทำได้เพียงหลบตาแล้วตีหน้าเฉย
“ถ้าเร่งเดินทางก็ราว6-7ชั่วโมงครับ  แต่ผมอยากให้เราเดินทางแบบสบายๆ  ชมธรรมชาติไปด้วย คืนนี้เราจะแวะรับประทานอาหารกันที่เกาะ  ที่นั่นยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าชมมากครับ  ส่วนพรุ่งนี้บ่ายๆเราจะถึงเขตปะการังที่สวยมาก  ตอนค่ำเราก็จะไปถึงเกาะส่วนตัว” ริชตอบยิ้มๆทำไม่เห็นสายตาที่ส่งถึงกันของแขกคนสำคัญกับลูกน้อง     
“ผมได้ข่าวว่าที่นั่นไม่ต้อนรับคนนอกนี่ครับ”         
“แต่ชีคเป็นแขกสำคัญ  เรายินดีต้อนรับครับ”         
“ขอบคุณมากครับที่ให้เกียรติ”
“แล้วผมละครับมีเกียรติพอหรือเปล่า?” เรื่องจะให้คนอื่นเด่นกว่าไม่เคยมีอยู่ในหัวลอเรนซ์อยู่แล้ว
“แน่นอนครับ  ผมหมายถึงคุณลอเรนซ์ด้วยอยู่แล้ว”
ดวงตาสีเขียวหวานระยับและอ่อนเชื่อมยิ่งขึ้น  แต่ริชทำไม่รู้ไม่ชี้เสีย  เพราะไม่อยากมีปัญหายุ่งยากภายหลัง  ชายหนุ่มอมยิ้มนิดๆเมื่อไพล่ไปนึกถึงลูกแมวตัวน้อยที่อาจกลายเป็นเสือตัวโตทันทีถ้ารู้ว่าเขาเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น......ƒ......
         
แสงไฟบนดาดฟ้าสว่างพราวแข่งกับแสงดาว ร่างระหงสวมเสื้อเชิ้ตหลวมๆสีนวลตากับกางเกงขายาวสีเดียวกัน ริช เจฟฟรี่และไคซัค ก็แต่งกายคล้ายๆกันเพียงแต่สีเสื้อมีลวดลายมากกว่า   แต่คนที่แต่งแปลกตากว่าทุกคนคือ
ลอเรนซ์  นายแบบหนุ่มสวม เสื้อเชิ้ตสีสดปลดกระดุมหมดทุกเม็ดโชว์เสื้อกล้ามตัวในรัดตัวติ้ว กับกางเกงขาสั้นสีขาวเน้นรูปร่าง
โต๊ะตัวกลางจัดเพียงอาหารว่างเบาๆกับเครื่องดื่ม เพราะตามหมาย กำหนดการ ทุกคนจะลงเรือเล็กไปกินมื้อค่ำบนเกาะที่จอดพักเรือ  ซึ่งทางเกาะได้จัดการต้อนรับแบบพื้นเมืองเต็มรูปแบบ  ระหว่างที่รอเวลาจึงนั่งสนทนากันด้วยท่าทางสบายๆ  ทั้งชีครามิลและริชต่างก็ซ่อนเหลี่ยมไว้มิดชิด  ด้วยยังดูเชิงกันอยู่  และมี 'คนนอก‘ อย่างลอเรนซ์อยู่ด้วย  บทสนทนาจึงเป็นเรื่องทั่วๆไป  ริชสังเกตว่าแขกของเขาเผลอกวาดตามองหาอะไรหรือหา‘ใคร’บ่อยๆ  แต่กระนั้นก็ยังคงสีหน้าได้เย็นชาคงเส้นคงวาดีเหลือเกิน
เรือลำน้อยประดับไฟพราวถูกพายเข้ามาเทียบ  ฝีพายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นแบบชาวเลโบราณ  ตอนแรกลอเรนซ์ทำท่าลังเลแต่เมื่อได้เห็นว่าเรือทุกลำถูกตกแต่งไว้สวยงามสะอาดสะอ้านเพื่อรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะสีหน้าของนายแบบหนุ่มก็ดีขึ้น  เสียดายอย่างเดียวคือเรือเล็กจนนั่งได้เพียงคนเดียว  หากได้นั่งเบียดไปกับชีครามิลหรือริชคงดีกว่านี้ 
เมื่อเรือพาแขกทุกคนเข้าเทียบท่า  คบไฟก็ถูกจุดวางรายไล่จากท่าเรือเข้าไปจนถึงในหมู่บ้านเป็นแนวยาวในความมืด  กลางลานกว้างก่อกองไฟสว่างไสว สาวๆผิวคล้ำคมถือพวงมาลัยดอกลั่นทมยืนรอต้อนรับ  โต๊ะตัวใหญ่ประดับตกแต่งด้วยทางมะพร้าวกับดอกไม้  อาหารบนโต๊ะส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเลสดใหม่หอมกรุ่น  แจ็คช่วยพนักงานอีกคนยกถาดเข้ามาวางกลางโต๊ะ  ปลาตัวโตส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย เมื่อทุกคนเข้าประจำที่ระบำพื้นเมืองก็เริ่มบรรเลง 
 “ไม่ทราบว่าคุณโซว์วาร์ดชอบดื่มอะไรบ้างครับ?” แจ็คจงใจถามลอเรนซ์เป็นคนแรกด้วยสังเกตเห็นแล้วว่าลอเรนซ์ชื่นชอบที่จะได้เป็นที่หนึ่งอยู่ตลอดเวลา
ลอเรนซ์ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ  แจ็คซักละเอียดทั้งเครื่องดื่มและผลไม้ที่ชอบของแขกทุกคน จากนั้นก็กลับไปที่บาร์ผสมเครื่องดื่มด้วยท่าทางคล่องแคล่วจนลอเรนซ์อดแขวะไม่ได้
“แหม! พนักงานคุณนี่อเนกประสงค์ดีจัง  ค่อยคุ้มค่าจ้างหน่อย”
“ครับ ทั้งเก่งและฉลาด มนุษย์สัมพันธ์ก็ยอดเยี่ยม...ทั้งแขกที่มาพักและเพื่อนร่วมงานชื่นชอบเขาทั้งนั้น”
“เก่งขนาดนี้ไม่กลัวถูกซื้อตัวไปหรือไงครับ?”   
   “เงินซื้อแจ็คไม่ได้หรอกครับ”
“รับรองเสียขนาดนี้คนที่อยากได้ตัวเขาไปทำงานด้วยคงผิดหวังแย่”
ปากพูดกับริช แต่ลอเรนซ์เจตนาแขวะชีครามิล ด้วยริษยาที่ชีคให้ความสนใจแจ็คเสียยิ่งกว่าตนเอง  ไคซัคเหลือบมองลอเรนซ์ด้วยความรำคาญปนสมเพช กับนิสัยชอบกระแหนะกระแหนและพยายามเรียกร้องความสนใจจนน่าเกลียดของนายแบบหนุ่ม
เมื่ออาหารค่ำถูกยกออกไป  ผลไม้ก็ถูกยกเข้ามาแทน  พร้อมๆกับเครื่องดื่มสีสันสดใสที่ไม่ซ้ำกันสักแก้ว         
“อะไรน่ะ…รสชาติพิลึก?”ถึงรสจะถูกปากแต่ลอเรนซ์ก็ไม่อยากยอมรับ 
“ชีคว่าเป็นไงครับ?” ริชหันไปถามความเห็นจากไนท์และคอยจับสังเกตชีคหนุ่มตลอดเวลา
“รสดีครับ  หอมกลิ่นผลไม้  แต่อุ่นท้องดี...เรียกว่าอะไรครับ?” ประโยคหลังไนท์เจาะจงถามคนผสม  แจ็คหลบตาก้มหน้าตอบอ้อมแอ้ม   
“ก็…ยังไม่มีชื่อหรอกครับ  ผมผสมจากสิ่งที่แต่ละท่านชอบ  รสชาติก็เฉพาะแก้ว  ไม่มีแก้วไหนเหมือนกัน”         
“ผสมมั่วอย่างนี้ถ้าแขกจะสั่งใหม่ก็ทำไม่ได้เหมือนเดิมละสิ?” ลอเรนซ์เบ้ปากอย่างดูถูก  แต่แจ็คยังคงยิ้มเฉย
“ผสมได้ครับ  หรือจะต้องการรสแบบไหนก็สั่งได้ครับ”         
“ขอแรงกว่านี้หน่อยซิ  จืดชืดแบบนี้จะไปได้เรื่องอะไร”
ลอเรนซ์ยื่นแก้วให้เป็นคนแรก คนอื่นๆก็พลอยขอเพิ่ม แต่ไม่มีใครขอเปลี่ยน แปลงอะไร  เครื่องดื่มชุดใหม่ถูกนำมาเสริฟอีกครั้ง
แจ็คลอบมองหน้าใสที่กระจ่างนวลเพราะแสงจากโคมและกองไฟใหญ่  จู่ๆตาคมก็ตวัดมองราวกับรู้ตัวว่าถูกจ้อง  แจ็ครีบหลบตาเสทำเป็นไปเตรียมผสมเครื่องดื่ม  เป็นความสามารถเฉพาะตัวที่เขาทำได้ดี  และงานนี้ริชก็เจาะจงเลือกเขาเพื่อความปลอดภัย
ยิ่งดึกเสียงหัวเราะก็ยิ่งดัง เพราะเครื่องดื่มถูกนำมาเสริฟรอบแล้วรอบเล่า      ลอเรนซ์ก็เป็นคนแรกที่เมา  เขาพยายามชวนไนท์ออกไปเต้นรำแต่ไนท์ไม่ยอมไป ทำให้ลอเรนซ์หงุดหงิดมากขึ้นทุกที เมื่อเริ่มครองสติไม่อยู่ลอเรนซ์ก็ปาแก้วจนแตกกระจายและทำท่าจะอาระวาดมากกว่านั้น ดีที่ริชชวนออกไปเต้นรำ ตาแดงๆหวานเยิ้มขึ้นทันที  ร่างโอนเอนด้วยความเมาถลามาซบอกกว้างหลายครั้ง
เมื่อถึงเวลากลับขึ้นเรือริชจึงต้องประคองร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นไปให้
               ............

เรือแล่นด้วยความเร็วสูง  แต่ความที่มีขนาดใหญ่ทำให้คนบนเรือ
แทบไม่รู้สึก ลมหอบเอาละอองน้ำปลิวขึ้นมาปะทะจนเสื้อสะบัดแม้จะเย็นเยือกจน บาดผิว แต่ไม่อาจบรรเทาความรุ่มร้อนในหัวใจให้เบาบางลงได้เลย มือที่เกาะ ราวเหล็กกำแน่นราวกับจะให้มันแหลกคามือ นึกหยันในโชคชะตาของตัวเอง  คนที่เขาหลงรักช่างแตกต่างและห่างไกลจนสุดมือคว้า เมื่อครั้งรามอสเขาเป็น เพียงของเล่นคลายเหงานั้นก็ทำให้เขารู้สึกแย่มากแล้ว 
แต่กับไนท์มันเจ็บปวดยิ่งกว่านั้น ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ที่ผ่าน มาด้วยกัน สร้างความผูกพันที่ดื่มด่ำลึกซึ้งจนเขาต้องตระเวนตามหาไนท์ไปตาม โรงแรมทุกวันหยุด  แต่กลับไม่เจอแม้เงา  กระนั้นเขาก็ยังไม่หมดหวัง 
ครั้นได้เจอไนท์ที่ฮาวายอีกครั้ง  หัวใจก็พองฟูด้วยความยินดี  จนเผลอ ล่วงเกินไปโดยไม่ตั้งใจ ถึงกลัวว่าไนท์จะรังเกียจ…แต่รสชาติหวานหอมของปากนุ่ม   ก็ทำให้เขาละเมอเพ้อหา ราวกับเป็นหนุ่มน้อยริรัก 
ชายหนุ่มตั้งใจแน่วแน่ ว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ไนท์หลุดมือไปอีก เพราะ เขาแน่ใจแล้วว่า...เขากำลัง ‘ตกหลุมรัก’
แต่ไนท์กลายเป็นชีครามิล ราจีสอับดุลผู้ยิ่งใหญ่  มหาอำนาจของตลาด น้ำมันโลก  ไม่ใช่ ‘ไนท์’ หนุ่มต่างชาติที่บาดเจ็บคนนั้นอีกแล้ว และเขาคือนายแจ็ค มิเคเน่  พนักงานโรงแรมต๊อกต๋อย 
ยิ่งคิดก็ยิ่งขมขืนและเจ็บปวด ทางเดียวที่จะบรรเทาความทรมานนี้ คือ เขาควรอยู่ให้ห่างจากไนท์  เพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บมากไปกว่านี้
ชายหนุ่มถอนใจยาวก่อนจะผละจากกราบเรือเพื่อกลับห้องพัก  หางตาเห็น เงาคนวูบวาบไปทางหัวเรือ  ชายหนุ่มรีบย่องตามไป  ร่างโปร่งยืนพิงราวจับนิ่ง ชายเสื้อสะบัดพลิ้วด้วยแรงลม  แม้แสงสว่างจะน้อย  แต่เห็นเพียงแวบเดียวก็จำได้ทันที  ด้วยเงานี้คือสาเหตุของความเจ็บปวดทุรนทุรายที่เผชิญอยู่
   “ผมว่าดึกเกินไปที่ท่านจะอยู่ตามลำพังนะครับ”
“งั้นเหรอ...เผอิญฉันอยากรับลมตรงนี้อีกสักครู่” ชีคหนุ่มเพียงเหลียวมองนิดเดียวก็หันกลับไปอย่างเดิม  เพื่อซ่อนรอยยิ้มพอใจ
“แต่ผมเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย”
“ถ้ากลัวจะมีอันตรายเธอก็อยู่เฝ้าไว้สิ”
“ผมเป็นแค่พนักงานธรรมดาไม่ใช่ฝ่ายอารักขา คงทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ ถ้าท่านต้องการการ์ดผมจะไปตามมาให้”
“เมื่อวันก่อนเธอก็แสดงฝีมือได้ไม่มีที่ตินี่” 
แม้น้ำเสียงของไนท์จะราบเรียบ  แต่แจ็คกลับรู้สึกเหมือนถูกเยาะหยัน “แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นครับ กรุณารอสักครู่ผมจะไปตามการ์ดมาให้ท่าน”
“ไม่จำเป็น  ฉันจะกลับห้องแล้ว...แค่เดินไปส่งคงไม่ต้องตามการ์ดกระมัง”
“เชิญครับท่าน”
ไนท์กลับห้องโดยมีร่างสูงเดินตามมาไม่ห่างนัก  ทางเดินลาดด้วยพรมสีอ่อนทำให้แสงไฟสลัวที่ซ่อนอยู่ตามมุมต่างๆสะท้อนนวลตา  ร่างโปร่งเดินลากเท้าคล้ายเซหลายครั้งคงเกิดจากความเมา เพราะเรือสำราญขนาดใหญ่แบบนี้แล่นได้เรียบราวกับอยู่บนแผ่นดินอยู่แล้ว
ยังไม่ทันถึงหน้าห้องไนท์ก็สะดุดพรมเซถลา  แจ็คกระโดดคว้าไหล่บางไว้ได้ทัน   น้ำหนักตัวของไนท์ทับลงมาเต็มที่แม้จะไม่ล้ม แต่ไหล่หนาก็กระแทกกับผนังห้องจนชา   แต่ชายหนุ่มกลับห่วงคนในอ้อมแขนมากกว่า
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เจ็บ...เจ็บขา” ไนท์นิ่วหน้าและยึดไหล่แจ็คประคองตัว 
“ทนหน่อยนะครับอีกนิดก็ถึงห้องแล้ว”
“โอ๊ย...อย่าขยับ...”
ทันทีที่แจ็คขยับไนท์ก็สะดุ้งทั้งตัว  มือที่ยึดอยู่ที่ไหล่เขากำเกร็งแน่น  ทำให้แจ็คพะวงจนไม่กล้าเดินต่อ  ทั้งๆที่อยู่ในสภาวะอย่างนี้แต่กลิ่นหอมอวลอ่อนจากคนในอ้อมแขนก็ทำให้ใจเต้นระรัวขึ้นมาดื้อๆ  แจ็คพยายามข่มความรู้สึก  นึกโมโหตัวเองที่มารู้สึกหวั่นไหวอะไรในสถานการณ์อย่างนี้
“เดี๋ยวนะครับผมดูเท้าให้”
“ไม่ต้อง...ไปส่งที่ห้องก็พอแล้ว”
“ขอโทษนะครับ” แจ็คตัดสินใจช้อนร่างบางขึ้นอุ้มพาไปยังห้องพักอย่างรวดเร็ว  แม้จะมาถึงหน้าห้องแล้วแต่ก็ทุลักทุเลอยู่นานกว่าจะเปิดประตูเข้าไปในห้องได้  แจ็คเข้าไปวางชีคหนุ่มบนเตียงแล้วคุกเข่าลงบนพรมเพื่อดูขาข้างที่เจ็บ  แต่ไนท์หดเท้าหนี
“ไม่ต้องหรอก…เดี๋ยวฉันเรียกคนของฉันมาดูแลเอง”
แจ็คชะงัก...ขนาดเท้าเขายังไม่มีสิทธิแตะ  ใบหน้าร้อนวาบด้วยความโกรธและอายที่ถูกแสดงความรังเกียจ ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกเพื่อข่มอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งจึงเค้นเสียงออกมาได้
“...ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว” แจ็คผุดลุกขึ้นหันกลับเพื่อออกจากห้องให้เร็วที่สุด
“ขอบใจนะที่พามาส่ง”
“เป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนอยู่แล้วครับ”
ตาคมเป็นประกายวาบเมื่อได้ยินเสียงเย็นชา  ความรู้สึกอ่อนโยนระคนอบอุ่นเมื่อครู่หายวับ
“งั้นฉันต้องทิปสินะ  เธอทำงานได้ดีอย่างนี้น่ะ”
“ไม่ต้องครับ  พนักงานที่นี่ทุกคนไม่รับทิปจากแขกครับ”
“จริงสิ  ลืมไปว่าเธอเป็นพนักงานมือหนึ่ง”
“ผมขอตัวครับ”
แจ็คผลุนผลันออกมาอย่างรวดเร็ว  ในอกยังร้อนผ่าวด้วยความคับแค้นและผิดหวัง  นึกโมโหตัวเองที่ไปแสดงความห่วงใยจนถูกเยาะกลับมาอีกจนได้
   มือขาวฟาดลงบนเตียงอย่างโกรธๆ  หงุดหงิดทั้งคนที่เพิ่งเดินออกไปและโมโหตัวเอง  ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องแกล้งทำเป็นเจ็บขา  ทั้งๆที่พ้นวัยจะเรียกร้องความสนใจแบบนี้มาตั้งนานแล้ว............
..........

 :z3: :z3:




ขอบคุณคะ :pig4:

สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้ผู้อ่านทุกคนมีความสุขมากๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นที่รักของทุกผู้คนที่เจอนะ :L1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 29-12-2009 22:01:53
จิ้ม + ก่อนเลย นึกว่าจะได้อ่านอีกทีปหน้าซะแล้ว ขอบคุณค๊า ^^

ท่าไนท์แอบมารยานะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 29-12-2009 22:55:19
โอ้ยๆ หงุดหงิดอ่ะ
ไนท์อุตส่าห์แกล้งเจ็บขาแล้ว แต่ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
หนำซ้ำแจ็คยิ่งน้อยใจเข้าไปอีก
แถมตอนนี้ยังมีคนมาสนใจแจ็คเพิ่มเข้ามาอีก 
เรื่องจะยุ่งไปกันใหญ่ป่ะเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 29-12-2009 22:59:02
 o13 ขิงก็รา ข่าก็แรง ฮ่า ๆ ๆ รออ่านต่อนะค้าบผม ขอบคุณค้าบบบ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 29-12-2009 23:36:48
มารยาไนท์ ไม่สำเร็จแฮะ

เปิดมาก้อแอคชั่นเลย ว่าแต่ อีตา มาร์คัส นี่คงมาช่วบเร่งปฎิกิริยาอะไรได้บ้างนะ

 :fire:

สงสารลอเลนซ์ อ่ะ ไม่รู้ตัวเองเลยว่า ไม่ควรมา

 :z6:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: k[1mE]:D ที่ 30-12-2009 00:13:00
ต่างฝ่ายต่างชอบกัน แต่ไม่ชัดเจน เรื่องเรยกลับกันซะงั้นนนน

แอบหมั่นใส้ลอเรนต์มากกกกกกก

แจ็คฮอตมากกกกกกก หน้าตาดี อะไรก้ดีไปซะทุกอย่าง  แต่อาภัพเรื่องความรัก

รอตอนต่อไปดีก่า ว่าจะสมหวังไง เมื่อไร

แฮปปี้นิวเยียร์ ขอให้มีความสุขค่า.....

 :3123: :3123: :3123:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 30-12-2009 00:25:26
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ
 :L2:

คนหนึ่งก็น้อยใจในความต่ำต้อยของตัวเอง
อีกคนก็หงุดหงิดที่เห็นความไ่ม่ได้ดั่งใจ
แบบนี้จะเข้าใจกันได้ยังไงนะ ลุ้นๆๆ
บวก 1 แต้มค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-12-2009 11:36:09
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 30-12-2009 12:26:36
สงสารแจ๊ค เฮ้อ!
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 30-12-2009 12:38:08
อ๊าก ก ก ก ก ก ก  อยากอ่านต่ออ่ะค่ะ ...... มาเร็วๆ นะคะ ..... ไนท์ช่างกล้าทำนะ .....เหมือนนางร้ายเข้าไปทุกทีและ ...เดียวตาอยู่ก็ขว้าไปกินจนได้ล่ะ....
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 31-12-2009 11:42:13
ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสรักกันได้ไหมนะ  ขอบคุณครับและสวัสดีปีใหม่นะครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-12-2009 12:21:50
(http://i.kapook.com/glitter/2009/th/12/T231209_12C.gif) (http://glitter.kapook.com/category.php?category_id=120&sid=ea78b0eb2504d8e4d7967bfd87d5e128)
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 31-12-2009 15:31:16
ชีคจ๋าชีค  รีบๆทำอะไรเข้าสักอย่างเหอะ  อย่าปล่อยให้แมงหวี่แมงวันมาตอมนายแจ็คเซ่  ไม่หวงหรือไงฮึ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 31-12-2009 17:04:10
อ๊าย...... สนุกมาก ทนไม่ไหว ไปหาซื้อมาอ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ

โรแมนติกสุดๆ

เลิฟ แจ็คมากมาย

คุณใบปอมีบอร์ดลงเรื่องใหม่ๆ ไหมคะ อยากตามไปเป็นแฟนจังเลยค่ะ

 
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 31-12-2009 19:38:46
อ๊าย...... สนุกมาก ทนไม่ไหว ไปหาซื้อมาอ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ

โรแมนติกสุดๆ

เลิฟ แจ็คมากมาย

คุณใบปอมีบอร์ดลงเรื่องใหม่ๆ ไหมคะ อยากตามไปเป็นแฟนจังเลยค่ะ

 

แง้.....อยากได้มั่งง่า  :serius2: เรื่องนี้มันรวมเล่มตั้งหลายปีแล้วไม่ใช่หรอ ไปซื้อที่ไหนมาอ่ะ  ขี้โกงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประ
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 31-12-2009 22:43:11
อ๊าย...... สนุกมาก ทนไม่ไหว ไปหาซื้อมาอ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ

โรแมนติกสุดๆ

เลิฟ แจ็คมากมาย

คุณใบปอมีบอร์ดลงเรื่องใหม่ๆ ไหมคะ อยากตามไปเป็นแฟนจังเลยค่ะ

 


แง้.....อยากได้มั่งง่า  :serius2: เรื่องนี้มันรวมเล่มตั้งหลายปีแล้วไม่ใช่หรอ ไปซื้อที่ไหนมาอ่ะ  ขี้โกงๆๆๆๆ


ไปขอซื้อต่อมาค่ะ  เล่มหนาสะใจมาก  หุ..หุ  สี่ร้อยกว่าหน้าแนะ  อ่านสองวันถึงจบ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-01-2010 21:08:35
ดันๆ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 02-01-2010 22:51:58
มองซ้าย ก็ยังไม่มา o16 
มองขวาก็ไม่ยักกะมี  o16 
เมื่อไหร่จะมาซักทีน้า   รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 03-01-2010 00:03:19
ไนท์ เรื่มเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว  :laugh:

สวัสดีปีใหม่นะคะ สุขภาพแข็งแรงนะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 03-01-2010 00:12:42
มารอน้องไนล์กะพี่แจ๊ค
writer มาเถอะนะ   :กอด1:
................

Happy New Year  :mc4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 03-01-2010 15:42:05
 happy New Year ค่าา

มารอตอนต่อไปด้วย
 :z1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-01-2010 21:43:55
จากสถิติ ไม่คืนนี้ก็พรุ่งนี้คงมาต่อ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 03-01-2010 21:50:07
กี๊สสส ซื้อต่อใครมาอ่า อยากอ่านม่างงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 04-01-2010 15:18:03
แบบนี้ก็ไม่เข้าใจกันซะทีเซ่


 :m16:


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 05-01-2010 22:56:34
สนุกมากค่ะ มาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: Panny ที่ 06-01-2010 20:09:47
พี่เทียนฉินหายไปไหนเอ่ย ข้ามปีแล้วนะคะ อยากอ่านต่อมากๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: PAN@DA ที่ 06-01-2010 22:05:04
มารอลุ้นท่านชีค ว่าจะทำไงต่อ

แล้วก้อสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังคุณเทียนฉิน กับคุณใบปอด้วยนะคะ

ปล. นิยายเรื่องนี้ยังพอมีขายมั้ยคะ อยากได้เก็บไว้อ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 06-01-2010 22:12:04
มีแต่คนอยากได้เล่มนี้ ฝากพี่เทียนฉินไปอ้อนวอนถึงพี่ใบปอได้มั้ยค๊า ^^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-01-2010 22:32:47
ยังไม่มา ทำไมถึงยังไม่มา  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อจ้า 29 /12/2009
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 06-01-2010 22:51:16
ขออภัยที่ทำให้รอนานนะคะ :call:

ปีใหม่ยุ่งมากจริงๆตอนนี้เริ่มเคลียร์แล้ว ตั้งใจว่าคืนนี้จะมาอัพตอนต่อไปให้เพราะได้ต้นฉบับตอนใหม่มาแล้ว แต่ลืมดูไปว่ามันเป็นไฟล์วินโดว์ 2007 เลยต้องเอากลับไปอออฟฟิศเพื่อแปลงไฟล์เป็นวินโดว์ xp ก่อน

พรุ่งนี้จะมาต่อให้ช่วงบ่ายๆนะ รออีกนิดนะ :3123:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" บอกข่าวคะ 06/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 06-01-2010 23:11:11
รอค่ะรอ อิอิอิ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" บอกข่าวคะ 06/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 07-01-2010 00:57:38
 :mc4:  เย้ๆๆ  จะมาแล้นน  เข้ามารอแบบใจจดใจจ่อ  พรุ่งนี้แล้นนนน
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" บอกข่าวคะ 06/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 07-01-2010 01:14:24
ขอบคุณมากค่ะ

รอนะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" บอกข่าวคะ 06/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-01-2010 01:44:10
รอได้คร้า  ขอบคุณที่เข้ามาบอกน๊า
จุฟฟฟ  :man1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" บอกข่าวคะ 06/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 07-01-2010 08:27:28
  เข้ามาดันรอค่ะ   :z2:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" บอกข่าวคะ 06/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 07-01-2010 08:58:20
สวัสดีปีใหม่ค่ะ ...... รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 07-01-2010 09:31:06
เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ เดี๋ยวจะลองถามคุณ ใบปอดูนะคะว่ายังพอมีไหม  เพราะนานมากแล้วคะ และเรื่องนิยายเรื่องต่อไป คุณใบปอกำลังเขียนอยู่คะ แต่ยังไม่ได้ลงที่ไหนเลย ถ้ายังไงจะนำมาลงให้อ่านกันที่นี่ด้วยคะ
คุณใบปอได้เข้ามาอ่านและฝากขอบคุณมาสำหรับทุกคอมเมนท์นะคะ

มาอ่านกันต่อเลยคะ

.......
เช้านี้เป็นวันที่ไม่สดใสสำหรับใครหลายคน  ลอเรนซ์ฝืนลุกขึ้นมาทั้งๆที่ยังมีอาการเมาค้าง  ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวเป็นพิเศษ
ไนท์กับไคซัคออกจากห้องพักมาไล่ๆกับเจ้าของเรือ  ส่วนเจฟฟรี่กับแจ็ค นั้นลุกมาตรวจตราความเรียบร้อยตั้งแต่เช้ามืด
แจ็คยืนคุมอยู่จนพนักงานจัดอาหารเรียบร้อยก็เตรียมหลบไป
“แจ็คอยู่ก่อนนะ” ริชรีบเบรกไว้เสียก่อน  ขืนปล่อยให้แจ็คหลบไปเขาคงไม่ได้เห็นอะไรดีๆแน่   สีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาหม่นๆของคนสนิทดูเหมือนจะมากขึ้นกว่าเมื่อวานหลายเท่า  แสดงว่าหลังจากกลับมาจากเกาะคงมี ‘อะไร’ ที่ทำให้แจ็คอาการหนักกว่าเดิม
“ครับ”
“ทานมื้อเช้าแล้วหรือยัง  ไงทานด้วยกันสิ” ริชชวนด้วยความเคยปาก แต่สะดุดหูลอเรนซ์ขึ้นมาทันที 
“ให้ขี้ข้าทานอาหารร่วมกับแขกงั้นเหรอคุณริช...พิลึก!“ ลอเรนซ์ทะลุกลางปล้องขึ้นดื้อๆด้วยความหงุดหงิด  นึกโทษว่าเหล้าของแจ็คทำให้เขาเมาค้างจนปวดหัวแทบแตก ทั้งยังหมั่นไส้ที่ริชให้ความสำคัญถึงกับเรียกทานอาหารร่วมโต๊ะ
แจ็คยังคงสีหน้าเรียบเฉยไว้ได้ แต่เปลือกตากว้างหลุบบังดวงตาลุกเรืองราวกับไฟไว้ เขาท่องไว้ในใจว่านี่คืองาน  ลอเรนซ์เป็นลูกค้า เขาจะโกรธหรือแสดงความไม่พอใจออกมาไม่ได้
ทุกคนอึ้งไปกับคำพูดของลอเรนซ์  ริชมองอย่างเห็นใจขณะที่เจฟฟรี่กลับพอใจที่แจ็ครู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น  ส่วนไคซัค...เขาสนใจแจ็คตั้งแต่เห็นลูกน้องมือดีลงไปนอนกลิ้งชั่วพริบตา  ไม่ใช่ใครจะทำอย่างนั้นก็ได้  เพราะลูกน้องของเขาได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ  แต่กลับถูกแจ็คคว่ำอย่างง่ายดาย
ไนท์เองก็พอใจในความอดทนของชายหนุ่ม ขณะเดียวกันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแจ็คจะตีหน้าเคร่งอย่างนี้ไปได้นานแค่ไหน  ตาคมเป็นประกายรื่นรมย์เมื่อคิดแผนดีๆได้         
ลอเรนซ์รู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นทุกคนมองแจ็คแล้วเงียบกันหมด ไม่เข้าใจว่าพนักงานคนนี้มีอะไรดีนักหนาทุกคนถึงต้องสนใจ
“นี่เราต้องนั่งเรือเป็นวันๆอย่างเดียวเลยเหรอครับเนี่ย น่าเบื่อแย่” ลอเรนซ์กระแทกตัวลงพิงพนักเก้าอี้ อาการเมาค้างบวกกับความริษยาทำให้แสดงตัวตนออกไปโดยไม่รู้ตัว
ริชหันมายิ้มให้อย่างใจเย็น หากเป็นเมื่อก่อนคนงี่เง่าที่ยึดตัวเองเป็นศูนย์ กลางอย่างนี้คงได้บทเรียนเจ็บแสบไปแล้ว  แต่เพราะเดี๋ยวนี้เขาโตเกินกว่าจะเล่น พิเรนทร์เอาแต่ใจแบบเดิมๆแล้ว  มันต้องมีวิธีใหม่ๆต่างหาก ริชจ้องนายแบบหนุ่มด้วยดวงตาที่วาวระยับ
ลอเรนซ์สบตาคมแล้วสะท้านจนต้องหลบตาวูบ  เมื่อวานเขาพยายามส่งสายตาให้ตลอดแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผลจนเกือบหมดหวัง  แต่เมื่อได้เห็นสายตาริช ตอนนี้ความหวังก็เรืองรองขึ้นมาทันที ตาสีเขียวลอบมองร่างสูงสง่าที่เอนพิงเก้าอี้ด้วยอิริยาบถสบายๆด้วยหัวใจที่แทบหลอมละลาย  ผิวสีแทนกับกล้ามเนื้อตึงแน่นน่ามอง  ดวงตาคมปลาบที่มองเหมือนจะทะลุความรู้สึกชวนให้ร่างกายร้อนฉ่า รู้สึกตื่นเต้นจนวูบวาบไปทั้งตัว หากงานนี้เขาต้องพลาดจากชีครามิล ก็ควรได้คนที่ทัดเทียมกันไปแทน
 “ฝ่าบาทเดี๋ยวดำน้ำกันไหม?”  แม้ปากจะพูดกับไนท์แต่ดวงตาหวานกลับส่งให้ริชแทน ด้วยความที่มัวส่งสายตาให้ริช สรรพนามที่เรียกไนท์จึงกลับไปเป็นอย่างเดิมด้วยความเคยชิน
“เราดำน้ำไม่เก่ง คงต้องขอตัว” ไนท์ตอบเรียบๆ ตาเย็นนิ่งเหมือนเคย
“แล้วคุณริชละครับ?” หากเป็นเมื่อก่อนลอเรนซ์คงผิดหวังที่โดนชีครามิล ปฏิเสธ แต่เวลานี้กลับรู้สึกถูกใจสมใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อได้รับคำตอบ จาก ริช
“ด้วยความยินดีครับ…เดี๋ยวพอถึงแหล่งปะการังจอดเรือเลยนะ” ริชตอบรับยิ้มแย้มและหันไปสั่งเจฟฟรี่  ร่างสูงลุกออกไปตามคำสั่ง         
“ผมขอไปเตรียมตัวก่อนนะครับ” ลอเรนซ์ลุกขึ้นแต่หางตายังเหลือบแลริช อย่างมีความหมาย  ริชก้มศีรษะให้แล้วหันกลับมาคุยกับหุ้นส่วนใหญ่         
“ไม่ดำน้ำด้วยกันเหรอครับ?”         
“ผมดำน้ำไม่เก่งครับ  เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งขับรถตกหน้าผาเกือบจมน้ำตาย ดีที่มีคนมาช่วยไว้...แต่ก็ยังขยาดน้ำอยู่เลย” หางตาเห็นร่างที่ยืนนิ่งชะงัก  หันขวับมามองเขาแวบหนึ่งแล้วรีบหันกลับ  ขณะที่ไคซัคก็ขยับตัวอย่างอึดอัดใจ มันเป็นความผิดพลาดของเขาเองที่การอารักขาบกพร่อง  ทำให้ชีครามิลเกือบเอาชีวิตไม่รอด
“เหรอครับ…แล้วบาดเจ็บมากหรือเปล่า?”
“อย่างที่บอกแหละครับว่ามีคนช่วยไว้ทันก็เลยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร”
“เพื่อนผมก็เคยประสบอุบัติเหตุแบบนี้แต่เขาโชคร้ายที่บาดเจ็บสาหัส  เล่นเอาความจำเสื่อมอยู่หลายปี  แต่นี่ก็หายเป็นปกติแล้วครับ”
 “ผมเองก็คงแย่ถ้าไม่มีคนมาช่วยไว้” ไนท์ทิ้งท้ายยิ้มๆ  เห็นใบหน้าเกรียมแดดเมินมองออกไปในทะเล
“แต่ถ้าชีคอยากลองดำน้ำก็ได้นะครับ ผมจะให้แจ็คคอยดูแล เขาดำน้ำเก่งมากรับรองว่าปลอดภัย” ริชยิ้มรื่นทำไม่รู้ไม่ชี้กับสีหน้ากระอักกระอ่วนของแจ็ค
“เก่งมากเลยเหรอครับ?”
“มือหนึ่งเลยละครับ  ไม่ต้องใช้ถังออกซิเจนยังลงน้ำลึกได้ยังกับปลา”
ไนท์หันมองหน้าคล้ำนิ่ง ริชกับไคซัคพลอยหันมามองกันหมดทำให้ชายหนุ่มจำต้องตอบรับทั้งที่อึดอัดใจ
“ยินดีรับใช้ครับท่าน”
“งั้นก็ดีสิครับ  ขอตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าสักครู่”
ไนท์ลุกไปอีกคน  ไคซัคก็ลุกตามไปติดๆ 
ริชเลิกคิ้วมองหน้าลูกน้องคนสนิทเหมือนจะถาม  แจ็คหลบตารีบออกตัว
“ผมไปเตรียมอุปกรณ์นะครับ”
“รีบหนีเชียวนะ…ไม่มีอะไรจะบอกฉันเหรอแจ็ค?”         
“ผมคิดว่าควรเตรียมถังสำรองลงไปอีกสักสองชุดนะครับ เผื่อคนอื่นๆจะเปลี่ยนใจอยากดำน้ำด้วย” แจ็คเดินหนีได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วๆตามหลัง
ตอนแรกที่รู้ว่ามีคนอื่นๆร่วมทางไปดำน้ำด้วยลอเรนซ์ถึงกับหน้างอ  แต่เมื่อริชแบ่งกลุ่มให้อยู่กับเขาตามลำพัง สีหน้าของนายแบบหนุ่มก็ดีขึ้น 
ริชกับลอเรนซ์ลงดำที่จุดแรก  ส่วนไนท์กับแจ็คยังนั่งเรือออกมาจนถึงเกาะขนาดเล็ก           
“ด้านนี้จะมีปะการังสวยมากครับแล้วก็อยู่ไม่ลึกเท่าไหร่  หากท่านไม่ค่อยถนัดดำน้ำลึกผมว่าที่นี่คงเหมาะกว่า”         
“ยังไงก็ได้  ฉันต้องเชื่อฟังผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้วนี่” ไนท์ตอบยิ้มๆ แจ็คหลบตาหันไปจัดอุปกรณ์  ไคซัคเข้าไปช่วยยกถังออกซิเจนขึ้นหลังให้ชีคและช่วยตรวจอุปกรณ์ให้เรียบร้อยก่อนที่จะลงน้ำ  ความจริงเขาอยากตามไปด้วย แต่ไนท์สั่งห้ามอย่างเด็ดขาด
แจ็คอธิบายสัญญาณมือคราวๆเพราะไนท์เคยดำน้ำมาแล้ว จากนั้นจึงนำลงไปยังหมู่ปะการังเบื้องล่าง  สีสันสดใสของปะการังกับปลาหลากสีทำให้โลกใต้ทะเลงดงามราวภาพฝัน  ไนท์จ้องมองคนที่ว่ายนำอยู่เบื้องหน้าอย่างหมั่นไส้  พอแจ็คหันมาจึงชี้ไปด้านขวาแล้วว่ายนำไปก่อน  แจ็คใจหายวาบรีบว่ายตามไปติดๆ  ด้านนั้นมีถ้ำใต้น้ำขนาดใหญ่และกระแสน้ำค่อนข้างแรง หากว่ายไม่แข็งจริงอาจโดนดูดเข้าไปได้ง่ายๆ 
ชายหนุ่มตามไปดึงข้อศอกไนท์ไว้ แต่ไนท์สะบัดหนี แถมยังว่ายลึกเข้าไปอีก ทำให้เจอเข้ากับแรงดูดของถ้ำใต้น้ำเบื้องล่าง  โชคดีที่แจ็คตามไปคว้าร่างบางไว้ได้ แต่น้ำหนักของถังออกซิเจนถ่วงทั้งคู่ไว้  แจ็คดึงมีดพกจากข้อเท้ามาตัดถังออกซิเจนทิ้งทั้งสองใบ เมื่อไม่มีถังถ่วงก็ทำให้สามารถถีบตัวขึ้นสู่เบื้องบนได้ง่ายขึ้น
ทั้งคู่โผล่ขึ้นด้านหลังกองหินขนาดใหญ่  ไนท์เพิ่งรู้ว่าว่ายลึกเข้ามาในเกาะเล็กแห่งนี้แล้ว  เรือคงลอยลำอยู่ไม่ไกลมากนัก         
“คุณทำอะไร! รู้ไหมเลยไปหน่อยมันมีถ้ำใต้น้ำนะ กระแสน้ำแรงกว่านี้มากหากโดนดูดเข้าไปจะทำไง?”
แจ็คตวาดอย่างลืมตัว  เมื่อครู่ตอนที่เห็นไนท์โดนดูดเข้าไปในถ้ำเขาตกใจแทบตาย  กลัวเหลือเกินว่าจะคว้าไว้ไม่ทัน
“เรื่องแค่นี้เอง  ไม่เห็นต้องโกรธเลย” ไนท์ตอบหน้าตาเฉย         
“ผมเตือนแล้วทำไมไม่หยุด อย่าบอกนะว่าไม่รู้สัญญาณมือ”         
“ก็แค่อยากรู้ว่าเธอจะปั้นหน้าเคร่งไปได้อีกนานแค่ไหน?”         
“คุณ!…นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ  หากเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง?”         
“เธอไม่มีวันปล่อยให้ฉันเป็นอะไรอยู่แล้วน่า…จริงไหมแจ็ค?”
แจ็คคำรามในลำคออย่างเหลืออด  ปากบางสีสดยิ้มยั่วทำให้ชายหนุ่มฉุนขาด  เขากระชากร่างบางเข้าหาอย่างรวดเร็ว  ปากร้อนเบียดปากนุ่มปลายลิ้นสอดเข้าไปกอดรัดในปากนุ่มรุนแรงตามอารมณ์
ไนท์ยึดไหล่หนาไว้เพื่อประคองตัว  เปิดปากรับลิ้นร้อนที่ฉกวูบเข้ามาราวกับงู ปล่อยให้แจ็ครุกไล่ตามอารมณ์  ร่างบางเบียดกระชับกับร่างหนาจนผิวร้อนฉ่า  ฝ่ามือกร้านดึงสะโพกกลมให้เบียดแน่นกว่าเดิม  จนสัมผัสได้ถึงความร้อนเบื้องล่าง   
แจ็คจูบอย่างที่อยากทำมานาน  ความโกรธ ความน้อยใจ ความหึงหวงถูกระบายออกด้วยจูบรุนแรง  กว่าที่แจ็คจะถอนปากออก ปากบางก็ถึงกับบวมเจ่อ 
แจ็คมองปากแดงช้ำอย่างเสียใจ  เขาไม่เคยคิดว่าจะทำให้ไนท์เจ็บสักนิด อารมณ์วูบเดียวจริงๆที่ทำให้เขาปฏิบัติกับอีกฝ่ายอย่างรุนแรง         
“ผมขอโทษ...” น้ำเสียงของแจ็คอ่อนโยน เว้าวอน  ไม่เหลือความเย็นชา  มืออุ่นเกลี่ยไล้แก้มนวลเบาๆอย่างถนอม 
ตาคมจ้องตาชายหนุ่มนิ่ง  แจ็ครู้สึกเหมือนโดนดูดลงไปในหลุมดำ  เขาไม่มีทางขัดขืนนอกจากปล่อยใจให้เพริดตาม  ปากร้อนแนบประกบปากบางอีกครั้ง  คราวนี้ไม่รุนแรงเหมือนครั้งแรกแต่สั่นสะเทือนไปทั้งหัวใจ         
“กลับกันเถอะ”ไนท์กระซิบแผ่วเบาเมื่อปากเป็นอิสระ  นิ้วยาวยั้งแก้มสากระคายไว้ ตาสบกันใกล้ๆเปิดเผยความรู้สึกได้ดีกว่าคำพูด  แจ็คดูดดึงปากนุ่มช้ำเบาๆอยู่หลายหนกว่าจะยอมคลายอ้อมแขนออก  เลือดเขายังร้อนผ่าวด้วยความปรารถนา           
“เราจะกลับไปที่เรือยังไง?”         
“ผมจะวิทยุให้เรือมารับครับ” แจ็คตอบเสียงแผ่ว  เสียดายช่วงเวลาแสนหวานที่แสนสั้น
ไนท์เกาะไหล่หนาไว้เพื่อพยุงตัว  ถึงจะว่ายน้ำได้ดี  แต่เขาก็เกิดโตมากับทะเลทรายไม่ได้เก่งกาจคล่องแคล่วเหมือนแจ็ค  ขืนว่ายเองนานๆคงหมดแรงไปเสียก่อน  แจ็คสูดลมหายใจลึก  เพียงสัมผัสแผ่วเบาของไนท์ก็ทำให้หัวใจเขาพร้อมจะเตลิดได้ง่ายดาย  ต้องพยายามรวบรวมสติไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปมากกว่านี้  ไม่อย่างนั้นเขาอาจเผลอทำอะไรที่ร้ายแรงกว่าจูบหุ้นส่วนคนสำคัญของเจ้านายก็ได้   
 “อ้าว!ไหนว่าจะวิทยุไง...หรือได้รับบาดเจ็บที่ไหน?”  ชีคหนุ่มอดถามไม่ได้เมื่อเห็นแจ็คเอาแต่จ้องหน้าเขาแล้วก็หลับตาเฉย  มือขาวแตะไปตามหลังไหล่หนาอย่างเป็นห่วง  แต่คนถูกแตะสะดุ้งและค่อยๆถอยออกห่าง
“ห่างอีกหน่อยดีกว่าครับ  ไม่งั้นผมคงแย่”
 แจ็คอ้อนวอนเสียงแผ่ว  ไนท์สบตางงๆแต่กลับขยับเข้ามาเกาะไหล่เขาไว้อีก  แจ็คทนไม่ไหวคว้าร่างบางเข้ามากอดแนบกระชับ
“ถ้าใกล้กันผมก็หยุดตัวเองไม่ได้ทุกที” แจ็คกระซิบเสียงเครียดชิดปากช้ำ  ไนท์ดันคางระคายไว้ตาวาววับ
“งั้นฉันช่วยดีไหม?”มือขาวเลื่อนขึ้นไปกดที่ต้นคอ  แจ็คสะดุ้งเฮือกเพราะเจ็บแปลบจนชาไปหมดทั้งตัว ต้องปล่อยร่างบางเป็นอิสระโดยอัตโนมัติ         
“นี่แค่เตือนสติ  คราวหน้านายอาจหมดสติไปเลยก็ได้” ไนท์หัวเราะเบาๆก่อนจะโหนตัวขึ้นไปบนโขดหิน  แจ็คมองตามตาละห้อย  คว้าวิทยุสื่อสารในซองกันน้ำที่เหน็บเอวขึ้นมาเรียกเรือ  ไม่นานนักเรือก็วนมารับ
ไคซัครีบรับนายขึ้นเรือ  พอเห็นสภาพที่ขึ้นมาโดยปราศจากถังออกซิเจนก็เดาได้ไม่ยากว่าต้องเกิดเรื่อง  สายตาที่มองแจ็คตำหนิชัดเจน
“ฝ่าบาทเกิดอะไร...”
“อุบัติเหตุเล็กน้อยเท่านั้น” ไนท์รีบตัดบทด้วยสีหน้าเรียบเฉย  เมื่อมีบุคคลที่สาม เขาก็กลับไปเป็นชีครามิลเหมือนเดิม น้ำเสียงเย็นๆนั้นเป็นสัญญาณให้ไคซัคสงบปากสงบคำลง  ขณะที่แจ็คแยกไปนั่งที่ท้ายเรือ  แต่ดวงตายังลอบมองแผ่นหลังบอบบางอยู่ตลอดเวลา
เรือตีวงย้อนกลับไปรับริชกับลอเรนซ์  สีหน้าลอเรนซ์สดใสเริงร่า ตาพราวระยับจับอยู่ที่ใบหน้าริชไม่คลาดสายตา
“เป็นไงครับสนุกไหม?” ริชถามขณะปลดถังออกซิเจนออกจากหลังให้
ลอเรนซ์ โดยมีแจ็คเข้ามาช่วยปลดถังออกให้เขา         
“สนุกครับ  แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นนิดหน่อย  ดีที่คนของคุณช่วยไว้ทัน…แต่ก็ต้องเสียถังออกซิเจนไปสองใบ”
“แต่ชีคไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนะครับ?”
“ครับสบายดี…คนของคุณเก่งสมกับที่เป็นมือหนึ่งจริงๆ”
ไนท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ริชหันไปมองลูกน้องคนสนิทยิ้มๆ แจ็ค หลบตาและเมินมองไปนอกเรือ  ลอเรนซ์รู้สึกหงุดหงิดที่ดูเหมือนพนักงานคนหนึ่งจะมีบทบาทมากกว่าเขา ทันทีที่ถึงเรือใหญ่นายแบบหนุ่มจึงสะบัดหน้ากลับเข้าห้องไปอย่างไม่พอใจ   ไนท์ก็ขอตัวไปพักเช่นกัน   ริชคว้าไหล่ไว้แน่นเมื่อแจ็คทำท่าจะหลบไปอีกคน         
“ทำไมชีครามิลเกิดอุบัติเหตุได้?”         
“เขาดำน้ำออกนอกทางครับ  ก็เลยเจอเข้ากับกระแสน้ำใกล้ถ้ำ” แจ็คตอบแต่ไม่ยอมสบตาริช         
“งั้นเหรอ…เพิ่งเกิดเรื่องแท้ๆแต่ดูหน้านายสดชื่นจังนะ…เมื่อเช้ายังหน้าเคร่งอยู่เลย”
“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ…เอ่อ…ผมขอไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
“แต่ฉันว่าชีครามิลบาดเจ็บนะ…” ริชเอ่ยยิ้มๆ  แจ็คหันขวับไปมองอย่างงุนงง  ริชยักคิ้วแล้วเคาะที่ปากตัวเองเบาๆ แจ็ค หน้าเก้อหันกลับทันควันได้ยินเสียงริชหัวเราะตามหลัง
          ........................................................ 

……………………
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 07-01-2010 09:38:34
...
แสงสุดท้ายกำลังจะลับขอบฟ้าสีแดงจัด  เรือสำราญลำใหญ่ก็เข้าเทียบท่าที่เกาะส่วนตัวของตระกูลแฮมิลตัน   ทุกคนขึ้นฝั่งอย่างสดชื่นยกเว้นลอเรนซ์ที่ยังคงมีสีหน้าบึงตึงและหงุดหงิด  นายแบบหนุ่มขอแยกไปพักผ่อนทันที
แจ็คถูกทักเกรียวกราวจากทุกคนที่มารอรับ โดยเฉพาะเด็กๆมีแต่เสียงคิดถึงๆจนระงมไปหมด  สาวน้อยหน้าตาคมขำคนหนึ่งโผเข้าหาแจ็ค แม้จะไม่ได้ยินสิ่งที่ทั้งสองสนทนากัน แต่ท่าทางต่อว่ากระเง้ากระงอดของสาวน้อยกับท่าทางเดือดเนื้อร้อนใจของแจ็ค  ก็สร้างความขุนมัวในหัวใจบางดวง  แจ็คง้ออยู่ครู่หนึ่งสาวน้อยก็หัวเราะเสียงใส  ใบหน้าคร้ามที่เคยเคร่งขรึมดูสดใสขึ้นทันตา สาวน้อยคล้องแขนแจ็คแล้วเดินเคียงกันไปท่ามกลางเด็กๆที่วิ่งตามกันกรูเกรียว
ไนท์ยืนนิ่ง  ใบหน้าเรียบเฉย  แต่ดวงตาดุที่เคยนิ่งเย็นกลับไหววูบ
“ไม่ทราบว่าการต้อนรับของเรามีข้อบกพร่องอะไรหรือเปล่าครับ?” ริชทักถามด้วยมาดเจ้าบ้านที่ดี  แต่ความจริงอยากแหย่ชีคหนุ่มมากกว่า
“ไม่หรอกครับ  ทุกอย่างงดงามสมบูรณ์แบบ สมแล้วที่ได้ฉายาว่าสวรรค์บนดิน  แต่จุดประสงค์ที่เชิญผมมาที่นี่คงไม่ใช่มาพักผ่อนอย่างเดียวกระมัง?”   ดวงตาชีคหนุ่มกลับสงบนิ่งและเย็นชาอีกครั้ง
“แต่วันนี้เพิ่งมาถึง  ผมอยากพาคุณเที่ยวชมรอบๆเกาะให้สบายใจก่อน”
“ผมชอบทำงานให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพักผ่อนทีหลัง”
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญที่ห้องประชุมเลยครับ”
ไคซัคขยับจะตามแต่ชีคหนุ่มหันขวับมาสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
“ไม่ต้องตาม  รอสายจากฮาลี ติดต่อมาเมื่อไหร่รีบต่อเข้าไปให้เรา”
“กระหม่อม”
ไคซัคถูกเชิญไปรอที่ห้องรับรอง  องครักษ์หนุ่มเพิ่งสำนึกว่าเขากับนายหนุ่มอยู่กลางรังพญาราชสีห์เสียแล้ว  แม้พนักงานที่มาคอยดูแลจะหน้าตาดี แต่งกายดีแบบพนักงานต้อนรับทั่วไป แต่เสียงฝีเท้าเบากริบของแต่ละคนก็บอกให้รู้ว่าได้รับการฝึกศิลปะการต่อสู้มาอย่างดี ชายหนุ่มหายข้องใจแล้วว่าเหตุใดพนักงานโรงแรมแบบแจ็คถึงได้ล้มคนของเขาลงได้ เพราะแจ็คเคยประจำอยู่ที่นี่มาก่อนนี่เอง
ไคซัคมองทางหนีทีไล่อย่างหนักใจ หากริชคิดไม่ซื่อเขาจะเหลือหนทางใดบ้างหรือไม่ที่พานายเหนือหัวออกไปจากที่นี่  ร่างสูงใหญ่นั่งนิ่งทั้งที่ภายในเดือดพล่านด้วยความกังวล
จากพลบค่ำจนสี่ทุ่มกว่าที่ไนท์หายเข้าไปในห้องประชุม ตลอดเวลาไคซัคปักหลักรออยู่ที่เดิม แม้จะมีพนักงานมาเชิญเขาไปรับประทานอาหารหลายครั้งแล้วก็ตาม เสียงฝีเท้าแผ่วเบาทำให้องครักษ์หนุ่มขยับตัวอย่างระวัง ร่างสูงใหญ่พอๆกับเขาแต่มีใบหน้าเกลื่อนด้วยรอยยิ้มใจดีปรากฏกายตรงหน้าประตู
“ทานมื้อค่ำหรือยังครับ…แต่ถ้าจะรอท่านชีคละก็ไม่ต้องเลยนะครับเพราะท่านสั่งอาหารเข้าไปในห้องประชุมแล้ว”
“เอ่อ…ผมอยากไปดูฝ่าบาทนิดหนึ่งไม่ทราบว่าจะรบกวนหรือเปล่า?”
“อ๋อได้สิครับ…อองรี…พาคุณไคซัคไปห้องประชุมด้วย”เจฟฟรี่หันไปสั่งพนักงานที่เพิ่งเดินเข้ามา
“ครับผม  เชิญทางนี้ครับ”
ไคซัคหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้า  หัวใจกระตุกวูบเมื่อได้เห็นใบหน้าคมสวยที่เหมือนจะมีรอยยิ้มตลอดเวลา ดวงตาพราวระยับดูขี้เล่นแต่ก็ปั่นหัวใจให้ป่วนได้ง่ายๆ
หัวฝ่ายต้อนรับหนุ่มเดินนำไปด้านใน แผ่นหลังบอบบางชวนพิศจนไคซัคแทบลืมไปว่าก่อนหน้านี้เขากำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่  อองรีพาแขกมาหยุดหน้าห้องประชุมและผายมือให้อย่างล้อๆเมื่อเห็นไคซัคยังมองเขานิ่ง
ไคซัคกล่าวขอบคุณเบาๆแล้วหันไปเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป ห้องประชุมไม่ใช่ห้องสี่เหลี่ยมปิดม่านมิดชิด มีโต๊ะประชุมยาวๆอย่างที่ไคซัคเคยเห็น
ห้องกว้างโล่งตลอดแนวโค้งรวมถึงเพดานครึ่งหนึ่งกรุด้วยกระจกใสมองเห็นท้องฟ้าและทะเลมืดภายนอก  มีแสงดาวและแสงไฟจากเรือประมงประดับระยิบระยับ  โต๊ะกระจกใสรูปวงกลมมีคอมพิวเตอร์เรียงรายรอบโต๊ะ  ทายาทของสองตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดนั่งอยู่คนละฟากและต่างก็จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เขม็ง  ชีคหนุ่มเงยขึ้นมาเห็นไคซัคก็โบกมือไล่แล้วหันไปสนใจหน้าจอต่อ   
ไคซัคจำต้องถอยออกมาแต่ก็โล่งใจขึ้น ท่าทางริชคงเป็นที่ไว้วางใจไม่อย่างนั้นฝ่าบาทจะไม่ไล่เขาไปเด็ดขาดและเขาก็เชื่อมั่นในตัวเจ้านายว่าสามารถเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน  พนักงานต้อนรับรูปงามเดินนำเขาออกมาด้านนอกอีกครั้ง
“คืนนี้จะกลับไปพักที่บ้านพักหรือว่าจะพักที่นี่ดีครับ  ทางเรามีห้องรับรองอยู่ด้านข้างๆนี่เอง”
“ขอพักที่ห้องรับรองแล้วกันครับ”
“เชิญทางนี้ครับ ผมจะให้เขาจัดอาหารมาให้คุณที่ห้องแล้วกันนะครับ”แม้แต่พนักงานต้อนรับหน้าสวยก็มีฝีเท้าเงียบและเบาอย่างคนที่ถูกฝึกมาอย่างดี
ไคซัคลอบมองหน้าเนียนใสอย่างพึงใจ  ร่างเพรียวเดินไปเปิดม่านและเปิดแอร์อย่างคล่องแคล่ว
“ผนังด้านนี้เป็นกระจกนิรภัยครับ   สามารถเลื่อนเปิดได้หากต้องการรับลมธรรมชาติ...พักผ่อนก่อนนะครับอีกสักครู่อาหารจะมาถึง”
องครักษ์หนุ่มคว้าเอวบางกระชากมาประชิดตัวอย่างรวดเร็ว
“อาหารน่ะเลื่อนไปก่อนก็ได้…ตอนนี้ผมอยากคุยส่วนตัวกับคุณมากกว่า”   
“แหม…จะไม่ถามหน่อยเหรอครับว่าผมจะอยากคุยหรือเปล่า?” หัวหน้าฝ่ายต้อนรับหนุ่มยังคงยิ้มละไมแต่ดวงตาวาววับ ไคซัคยิ้มเย็นกระซิบข้างหูนิ่มเบาๆ
“ผมแน่ใจว่าจมูกผมไม่พลาด  กลิ่นของคุณมันพร้อมตั้งแต่เราเจอกันไม่ใช่เหรอ?”
อองรีหัวเราะคิก  สอดแขนขึ้นโอบไหล่หนาด้วยสายตายั่วยวน
“เพิ่งรู้ว่าองครักษ์เขาใช้จมูกกันแบบนี้เอง…อืม…” ปากร้อนแนบประกบเร่าร้อน ร่างบางถูกดันไปปะทะข้างฝา  เสียงซิปเลื่อนแล้วฝ่ามือร้อนก็สอดเข้ามาอย่างรวดเร็ว  อองรีเลื่อนมือลงไปปลดปล่อยอีกฝ่ายให้เป็นอิสระเช่นกัน  สะโพกบางถูกเสียดสีด้วยความร้อนจัดขณะที่ปากก็แลกจูบกันดุเดือด หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศสสะดุ้งเมื่อทางแคบถูกสำรวจโดยไม่ทันตั้งตัว  แม้จะผ่านศึกมาไม่น้อยแต่เขาไม่เคยถูกรุกอย่างนี้มาก่อน
“อะ…ผม…ผมว่าเราไปที่เตียง..อา…กันเถอะ” อองรีพูดปนหอบ ด้วยปลายนิ้วที่ขยับเสียดสีอยู่ภายใน ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บเสียดปนเสียววาบจนต้องเกร็งหน้าท้องตามทุกครั้งที่นิ้วยาวขยับ  ดูเหมือนไคซัคจะเชียวชาญจนรู้ว่าควรสัมผัสตรงไหนเป็นพิเศษ  เพียงแค่ปลายนิ้วก็ทำให้อองรีติดลมบนอย่างง่ายดาย
“คงไม่ทันแล้วล่ะ…โทษทีนะ” เสียงกระซิบตอบร้อนรนพร้อมกับขาเรียวที่ถูกยกขึ้นพาดไหล่
“อะ....เดี๋ยว...โอ้ย!”
อองรีต้องโหนไหล่กว้างไว้แน่นเมื่องูเห่าแห่งทะเลทรายแทรกลึกเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว  เสียงครางด้วยความเจ็บปวดถูกกลืนหายไปในปากร้อนผ่าว
ไคซัคแปลกใจจนเผลอปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระ ดูเหมือนช่องทางนี้จะไม่เคยมีใครผ่านมาก่อนจึงทั้งแคบและฝืดคับ ตาดุเหมือนเสือจ้องใบหน้าแดงซ่านที่ เหยเกด้วยความเจ็บปวดเขม็ง ความรู้สึกฮึกเหิมยินดีพลุ่งพล่านในอก  ชายหนุ่มสอดกายลึกช้าเพราะรู้สึกได้ถึงอาการเกร็งจนสั่นด้วยความเจ็บปวดของอองรี  มือร้อนละจากเอวบางเลื่อนลงมาลูบไล้จะกระตุ้นด้านหน้าที่อ่อนนุ่มเพราะความเจ็บปวดให้กลับมาเข็มแข็งอีกครั้ง 
ทั้งๆที่เหงื่อไหลโซมด้วยความเจ็บ แต่ความสามารถในการปลุกเร้าของ ไคซัคก็ทำให้อองรีเสียวซ่านจนหลุดเสียงครางแผ่วตลอดเวลา
“อะ...อือ...ผม...” ความเจ็บปวดจากช่องทางด้านหลังกับแรงกระตุ้นเสียวกระสันด้านหน้า  ทำให้อองรีสับสนว่าควรต่อต้านหรือตอบรับดี
ลำคอขาวซับสีแดงจัดด้วยเลือดที่กำลังสูบฉีด  ไคซัคจูบไซ้และกัดเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว ทิ้งรอยแดงไว้เป็นทางทุกที่ที่ปากเขาผ่าน  ความฉ่ำเยิ้มลื่นร้อนในมือบอกให้เขารู้ว่าอองรีกำลังจะถึงที่สุด  ช่องทางแคบบีบและคลายเป็นจังหวะ  สะโพกหนาจึงอาศัยช่วงเวลาที่คลายตัวสอดลึกเข้าไปจนสุดตัว
“อ๊ะ...” อองรีหอบหายใจแรงด้วยรู้สึกจุกแน่นไปหมด  ไคซัคเลาะเล็บกลีบปากนุ่มแล้วค่อยๆเพิ่มความหนักหน่วงดูดดื่ม  ปลายลิ้นที่ฉกรัดเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร  ต่างงัดเอาความชำนาญเชิงมาสู้กันเต็มที่  รสจูบหนักหน่วงดุดันกลับกระตุ้นให้ร่างกายร้อนยิ่งขึ้น   อองรีสะท้านเบาๆเมื่อสัมผัสได้ว่าไคซัคกำลังขยายใหญ่ขึ้นอีกในกายเขา   ช่องทางแคบจึงบีบรัดเพื่อต่อต้าน  สร้างความกดดันแสนหวานให้ไคซัคจนต้องขยับกายเลื่อนออกช้าๆ
“อา...อืม...” เสียงครางของทั้งคู่ดังแผ่วอยู่ในลำคอ  ความรู้สึกเสียดเสียววาบสึกเมื่อสะโพกหนาดันกลับเข้าไปใหม่  มือขาวเลื่อนจากการเกาะกุมไหล่หนามาลูบไล้แผ่นอกกว้างและบีบเคล้นกระตุ้นที่กล้ามนูนแข็งหนักๆ  ไคซัครุกรานปากนุ่มหนักหน่วงขึ้นแต่ลิ้นนุ่มก็สอดรัดตอบรับอย่างไม่ยอมแพ้  ช่องทางที่เจ็บเหมือนจะฉีกขาดกลับเสียววูบวาบปนเข้ามาด้วย  และค่อยๆทวีมากขึ้นจนแทบไม่เหลือความเจ็บปวด
“ขะ...เข้ามาอีก...อา...” อองรีขยับสะโพกรับแก่นกายร้อนทุกครั้งด้วยปรารถนาให้ไคซัคแทรกลึกยิ่งกว่านี้
ไคซัคอยากหัวเราะอย่างสมใจ แต่เสียงที่หลุดรอดออกมากลายเป็นเสียงคำรามต่ำลึกด้วยสภาวะบีบคั้นรอบกาย มือร้อนเลื่อนลงไปช้อนสะโพกกลมให้ยกลอยขึ้นรับเขามากขึ้น ทางแคบลึกร้อนดูดกลืนเขาไว้จนแทบทนไม่ไหว  เสียงครางระริกรัวข้างหูยามปากบวมช้ำเป็นอิสระ ทำให้เปลวไฟในกายลุกโหมยากจะดับนอกจากดิ่งลึกเข้าไปให้ถึงที่สุด  สะโพกบางขยับร่อนอยู่ไม่นานก็เกร็งกระตุก  ผนังบางตึงกลับมีแรงบีบรัดมหาศาลจนผู้รุกรานต้องครางเสียงกระเส่า ไคซัคเคลื่อนไหว อย่างรุนแรง ในที่สุดร่างหนาก็สั่นเทิ้มและทิ้งตัวลงกอดรัดร่างบางไว้แน่น  หยาดร้อนๆพร่างพรูลงสู่พรมสีอ่อนจนชุ่มโชก
“ขยับหน่อยครับ…ขาผมจะเป็นตะคริวแล้ว” อองรีกระซิบทั้งที่ยังหอบกระเส่า  ขาที่ถูกปลดลงจากบ่ากว้างชาจนไร้ความรู้สึก
“โทษที…ไปที่เตียงดีกว่า” ไคซัคโอบร่างบางไปทิ้งตัวลงที่เตียงด้วยกัน
เมื่อลมหายใจเริ่มเข้าสู่สภาวะปรกติ  พนักงานต้อนรับหนุ่มก็พยายามยันกายลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก  แต่แขนหนากลับตวัดร่างบางกลับลงไปใหม่
“ผมต้องไปทำงานแล้วครับ…คุณเองก็ควรทานอาหารได้แล้ว”
“อย่าเพิ่งเลย   ผมอยากกินคุณมากกว่า”
“ไม่ได้ครับ  ถึงพวกคุณจะแข็งแรงกว่าคนทั่วไปก็ใช่จะเจ็บป่วยไม่เป็นนะ…ปล่อยครับ ผมจะโทรสั่งอาหารให้” อองรีประชดอย่างหมั่นไส้นิดๆ  ขณะเลื่อนตัวไปที่โทรศัพท์อีกฟากของเตียง ขืนปล่อยตามใจไคซัคเขาคงขาดใจตายเสียก่อนเป็นแน่
ไคซัคมองตามสะโพกกลมที่ยังเปลือยเปล่าเพราะกางเกงถูกเขาโยนหายไปอย่างพอใจ  ร่างเปลือยที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตไม่ได้ติดกระดุมกระตุ้นให้เลือดระอุขึ้นมาอีกครั้ง  อองรีเกือบสะดุ้งเมื่อนิ้วยาวกดตัดสัญญาณแล้วเขาถูกตวัดรัดกลับที่เดิมอย่างรวดเร็ว 
“ก็ได้…แต่ต้องหลังจากนี้”
อองรีพูดไม่ออกเมื่อปากร้อนฉกวาบเข้าหาทรวงอกอย่างรวดเร็ว ฟันคมแทะเล็มแล้วดูดดึงยอดเม็ดเล็กผ่านเสื้อเนื้อบาง ขณะที่สะโพกก็เลื่อนเข้าหาทางแคบ ที่ชุ่มฉ่ำด้วยหยาดรักที่ยังคั่งค้างอยู่อย่างรวดเร็ว  ไม่นานนักทั้งคู่ก็ขยับโยกอย่างเมามัน เสียงเตียงลั่นประสานกับเสียงครางระรัวอยู่จนดึกกว่าที่พายุจะพ้นผ่านอองรีไป............         

   ห้องเงียบสนิทไร้สรรพเสียง  ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจของคนที่ควรนอนอยู่ข้างๆ   อองรีควานมือไปกดสวิตช์โคมไฟ
ข้างเตียง  แสงสว่างกะทันหัน ทำให้ต้องหรี่ตาหลบ  ดวงตาวาวหวานกวาดไปรอบๆห้องหาเจ้าของห้อง  แต่ไร้ วี่แววของไคซัค อองรีเหลือบมองนาฬิกาแล้วสะดุ้งเฮือก เกือบตี3แล้ว...เขาต้อง รีบกลับไปเข้าเวร
   “อะ...อูย...ซี๊ด...”ทันทีที่ขยับอาการปวดร้าวไปหมดทั้งตัวก็ทำให้ต้องหยุดนอนนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง  กว่าจะรวบรวมเรี่ยวแรงลุกขึ้นช้าๆ
แม้ขาจะสั่นจนแทบทรง กายไม่ไหว   แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอิ่มเอมกับรสรัก อย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
   ของเหลวร้อนๆที่ไหลออกมาจากช่องทางด้านหลัง ที่ทั้งเจ็บระบมและแสบร้อนทำให้อองรีต้องรีบชำระล้างให้สะอาด  เพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดอดีตคู่รักหรือเซ็กเฟรนด์สมัยเรียนของเขาถึงหมดเรียวหมดแรงและบ่นเป็นหมีกินผึ้งทุกครั้ง เพราะคนรับมันเจ็บอย่างนี้เอง
   อองรีชะโงกดูกระจกเพื่อเช็คความเรียบร้อยของตัวเองก่อนจะออกจากห้องแสงวูบวาบเป็นประกายล้อแสงไฟสลัวหน้ากระจก ทำให้ชายหนุ่มชะงักก้มลงดูใบหน้าขาวเผือดซีดก่อนจะเปลี่ยนเป็นแดงจัดด้วยความโกรธเกรี้ยว แหวนตราล้อมเพชรแบบผู้ชายวางทับกระดาษแผ่นเล็กที่มีข้อความสั้นๆประโยคเดียว
   ‘ขอบคุณ’
   “บัดซบ...นี่เห็นเราเป็นไอ้ตัวหรือไง  ไอ้ทุเรศ!”
อองรีขยำกระดาษแผ่นเล็กกับแหวนขว้างไปกระทบผนัง  ไม่สนใจว่ามันจะไปตกที่ไหน  ก่อนจะผลุนผลันออกไปจากห้อง......ƒ......

...............
ไนท์พิงตัวกับพนักแรงๆ แล้วขยี้หัวคิ้วหนักอย่างหงุดหงิด  ไม่ว่าจะรายงานจากฮาลีหรือหลักฐานจากแฮมิลตันล้วนแต่ให้ข้อมูลที่ตรงกัน นั่นหมาย ความว่า ชีคฟาฮัสคือคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องของที่ถูกสับเปลี่ยนและเรื่องรถที่ถูกวางระเบิดในห้างรวมถึงกลุ่มนักฆ่าที่พยายามตามเก็บเขาก็เป็นคนของอาฟาฮัส...คนที่เขานับถือและไว้ใจมากที่สุดคนหนึ่งจะกลาย เป็นคนทำร้ายเขา...เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ยากเหลือเกิน
แม้จะอยู่ในภาวะวุ่นวายใจ แต่กลิ่นน้ำยาหลังโกนหนวดที่อยู่ใกล้เกินไปก็เรียกให้ชีคหนุ่มต้องลืมตาขึ้นฉับพลัน  ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจ้องอยู่ใกล้นิดเดียว  ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดใบหน้าจนอุ่นระอุ
“พักหน่อยดีไหมครับ ดูชีคเครียดจัง” ริชกระซิบชิดหน้าผากหอม
“ไม่เป็นไรผมยังไหว  หากคุณเหนื่อยก็เชิญนะครับ” ไนท์ปฏิเสธด้วยใบหน้าเรียบเฉยหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานต่อ  แต่ริชผลักหน้าจอให้หมุนไปอีกทาง
“ผมคงเป็นเจ้าของบ้านที่แย่มากๆ หากปล่อยให้แขกต้องนั่งทำงานอยู่คนเดียว”
“อย่ากังวลเลยครับ ผมเคยชินกับการทำงานคนเดียวอยู่แล้ว”ไนท์เสียดสีกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ผมว่าถ้าชีคเครียดมากเราก็ลองมาคุยกันดูไม่ดีเหรอครับ?”
“แล้วที่คุยกันมาตั้งแต่เช้าจนป่านนี้ยังไม่เรียกว่าคุยอีกเหรอครับ?”
“แหม…นั่นมันเรื่องธุรกิจ  ผมกำลังชวนชีค ‘คุย’ เรื่องส่วนตัวต่างหาก”
“ผมไม่ชอบคุยเรื่องส่วนตัวกับเด็ก”ไนท์เจตนาเน้นคำว่าเด็ก ริชเลิกคิ้วแต่ดวงตากลับพราวระยับกว่าเดิม
“ไม่ลองแล้วคุณจะรู้เหรอครับว่าเด็กก็มีเรื่องน่าสนใจไม่แพ้ผู้ใหญ่เหมือน-
 กันนะครับ”
“แต่ผมไม่อยากทราบ”ไนท์ตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉยจนริชหมั่นเขี้ยว  อยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าเขาจะสามารถละลายน้ำแข็งขั้วโลกลงได้หรือเปล่า 
ริชชะโงกลงไปท้าวบนที่พักแขนทำให้เก้าอี้ไหวยวบ  ใบหน้าคมคายห่างจากหน้าเนียนสวยไม่ถึงคืบ
“แต่ผมว่าคุณควรพิสูจน์” ปากร้อนแนบบนปากบางฉาบฉวย ยังไม่ทันเน้นหนัก ปลายนิ้วเรียวยกขึ้นแตะกั้นกลาง  ดวงตาคมเย็นนิ่งไม่เปลี่ยนแต่ริชสัมผัสได้ถึงไอยะเยือกชวนหนาวสันหลัง
“บอกแล้วไงว่าผมไม่อยากลอง…นี่ก็ดึกแล้วผมขอตัวไปพักผ่อนก่อนดีกว่า”
ร่างบางพลิกตัวจากเก้าอี้ว่องไว  ริชมองตามยิ้มๆ ............
.........


ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 07-01-2010 10:13:58
ขอบคุณค๊า สั้นจัง (แอบโลภ)อยากอ่านเยอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-01-2010 10:49:36
อองรีเข้าใจอะไรไคซัคผิดอ๊ะป่าว :m28:
+1 ขอบคุณที่มาต่อนะคร้า :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jandk ที่ 07-01-2010 11:42:27
คราวนี้แล้ว แจ็คยังจะปฏิเสธตัวเองได้อีกหรอ

ว่าแต่ทำไมริชดูจะมีอะไรอยู่ในใจเลย อยากจะแกล้งใครล่ะเนี่ย

มีคู่ใหม่ด้วย แต่น่าสงสารอองรีนะ

รอตอนต่อไปนะฮับ 

อยากได้หนังสือจัง ถ้ามีทั้งสามเล่มจะดีมากเลย
พิมพ์ใหม่เถอะคร้าบ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 07-01-2010 12:07:00
ดีใจจังได้อ่านต่อแล้ว
ขอบคุณทั้งคนโพสและคนแต่งนะคะ +1 ให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 07-01-2010 12:45:02
ลุ้นอ่ะ แจ๊คกะ ไนท์ แต่ อองรีกะไคซัคชิง....ตัดหน้าไปแล้ว

ริช กะลังเล่นสนุกกะสองคนนี้อยู่ ฮ่าๆๆ

รอตอนหน้าค่ะ มาเร็ว ๆ นะ แล้ว ถ้าจะสั่งซื้อหนังสือนี่ตอ้้ง ดูที่ตรงไหนเหรอค่ะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 07-01-2010 13:30:39
 :impress2:  เน่!!!  ท่านชีคคร้าบบบ  นายการ์ดส่วนตัวชิงตัดหน้าหวานมันกันไปก่อนแล้วน้าาาา  ยอมได้ไง



อืม....แหวนของไคซัคที่วางไว้เนี่ย  เป็นค่าตัว หรือว่า ขอหมั้นจับจองไว้กันหนอ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 07-01-2010 14:59:49
มาต่ออีกนะ :impress2: 
เห็นด้วยกะรีฯ บนเรื่องหนังสือ
สนุกทุกเรื่อง แต่ชอบภาคนี้ที่สุด
ตามลุ้น น่าสนใจทุกคู่
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 07-01-2010 15:25:42
ไคซัคไม่น่าทำอองรีอย่างนี้เลยงะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 07-01-2010 16:28:16
 o13

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-01-2010 19:27:30
 :z1: มาแล้ว  :mc4: :mc4: :mc4:  อีกคู่เค้ามาแรงเนอะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 07-01-2010 20:17:39
 o13 แหวนนั่นอาจมีความสำคัญก็ได้ ฮ่า ๆ ๆ ไม่น่าปาทิ้งเลยย

แต่อย่างว่านะ เจอคำพูดแบบนั้น ต้องปาทิ้งสถานเดียว ฮ่า ๆ ๆ

อีกคู่ก็นะ ขิงก็ราข่าก็แรง แต่ได้แรงสนับสนุนจากริช คงไม่พลาด ฮ่าๆ

รออ่านต่อนะค้าบ สนุกมากมาย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 07-01-2010 22:42:55
อ๊ากกกก ริชจะทำอะไรเนี่ย  จะแกล้งอะไรใครรึเปล่า  :m31:

คู่ไคซัค-อองรีเนี่ยรถด่วนสุดๆ เจอปุ๊บติดปั๊บเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 08-01-2010 16:53:57
ริชทำอะไรกันเนี่ย  มีอีกคู่เข้ามาแล้วน่าสนุกดีนะครับ ขอบคุณคนโพสต์แลเจ้าของเรื่องด้วยครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 08-01-2010 21:50:01
 :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-01-2010 21:56:13
คู่หลักเขาแค่จูบกันเอง แต่คู่ไคซัคกะอองรี นี่ แย่งซีนเห็นๆๆๆ  :m25:  :m25:  :m25:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 09-01-2010 02:01:03
ขอบคุณค่า..

แหม..จมูกดีจริงพ่อคุ๊ณ..ดมแล้วรู้เลยชิมิ..ว่าคนนี้นะใช่เลย..

เอิ่ม..แต่เจอคำขอบคุณแบบนี้มัน.. :m16:

วุ้ย..ตาริชจะทำอะไรก็ระวังคนที่บ้านด้วยล่ะ.. o18
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kajeaw ที่ 09-01-2010 11:59:52
ติดตามอ่านครับ สนุกมากเลย  o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 09-01-2010 14:34:21
.... อ๊า มีคู่ของไคซัคกะอองรีเพิ่มมาอีก ....แต่แหมฟันแล้วแจกแบบนี้จะให้เข้าใจว่าไงอ่ะ พ่อบอร์ดี้การ์ด น้องอองเราชอกช้ำหมดอย่างนี้เสียของ มองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ ..... ริชรู้ว่าไนท์เด็กแจ็คไหงเกี้ยวซะล่ะ ข้ามหน้าข้ามตาน้า. .. .ลุ้นค่า รอตอนต่อไปยิ่งมีคู่ใหม่เพิ่มมาอีกยิ่งลุ้น x10 อ่ะ . .. . . :serius2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tamtam ที่ 10-01-2010 22:56:47
รออ่านตอนต่อไป อย่างลุ้นยิ่ง
ได้รับการสปอยมาเล็กน้อย

อ๊ากกก อยากอ่าน
 :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 10-01-2010 23:05:06
มารออ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-01-2010 20:20:01
วันนี้มามั๊ยค๊า  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 11-01-2010 21:55:05
มารออ่ะ วันนี้จะมาไหม   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PAN@DA ที่ 11-01-2010 22:00:31
มารอด้วยคนนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 11-01-2010 22:04:33
 :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-01-2010 22:35:50
ดันจ้าดัน  :z2: :z2: อึ๊บๆๆๆ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 07/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 12-01-2010 22:49:19
รออยู่นะคะ จะคู่ไหนก็น่าลุ้น
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อแล้วคะ...13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 13-01-2010 09:04:54
 :call: ขออภัยที่มาช้านะคะ  
สำหรับเรื่องหนังสือ ภาคนี้ยังมีอีกเหลืออีก 3 เล่มคะ ถ้าใครอยากได้ PM มานะคะ

มาอ่านกันต่อเลยคะ
..............
อองรีเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก  สัญชาติญาณทำให้เขาทิ้งตัวราบลงกับพื้นแต่ร่างที่พุ่งเข้าหากลับตามลงมาคร่อมทับเขาทันควัน  อองรีพยายามแก้ให้หลุดจากการถูกล็อคแต่ไม่สำเร็จ
“หึๆขนาดพนักงานต้อนรับยังถูกฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยเหรอเนี่ย  ถามจริงๆเถอะอองรี นายคุณเขาทำโรงแรมหรือทำค่ายทหารกันแน่?”
“ปล่อยผมได้แล้ว” อองรีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นๆอย่างไม่พอใจ  นี่มันห้องพักส่วนตัวของเขาแต่ไคซัคถือวิสาสะเข้ามาทั้งที่เขาไม่อนุญาต
“โกรธที่ผมว่านายคุณ หรือไม่พอใจที่ผมเข้ามาในห้อง” ไคซัคถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆขณะที่ปล่อยร่างบางให้เป็นอิสระ  อองรีสะบัดแขนที่ถูกบีบจนชาเบาๆเดินหนีไปยืนอยู่ที่มุมห้องอย่างหงุดหงิด
“ทั้งสองอย่าง  คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาในนี้ทั้งๆที่ผมไม่ได้อนุญาต”
“ก็ตั้งแต่วันนั้นคุณก็หลบผมมาตลอด  แล้วจะให้ผมขออนุญาตคุณตอนไหน?”
“ผมก็ต้องทำงานนะคุณ”
“แต่ผมอยากเจอคุณนี่”
“ผมไม่ใช่ลูกน้องคุณนะที่คุณจะมาสั่งโน่นสั่งนี่”
“แต่เรา…คบกันแล้วนะ”
“นี่…การที่เรานอนด้วยกันครั้งสองครั้งมันไม่ได้แปลว่าผมจะต้องคบกับคุณหรอกนะ”
อองรีหันกลับมาสบตาอย่างไม่พอใจ  รู้สึกถึงความยุ่งยากที่กำลังตามมารำไร นึกโมโหตัวเองที่เผลอใจไปกับคนอย่างไคซัค ทั้งที่เขาก็พอรู้ว่าคนพวกนี้เจ้าอารมณ์แค่ไหนแต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องยุ่งแบบนี้
“ผิดแล้วอองรี  ธรรมเนียมของพวกผม ถ้าผู้หญิงคนไหนเสียพรหมจรรย์ให้ใคร  นั่นหมายถึงชายคนนั้นย่อมเป็นเจ้าของ  มีอำนาจเหนือชีวิตเธอไปตลอดกาล”
“บ้าแล้ว! นี่ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ แล้วยิ่งไม่ใช่คนประเทศคุณด้วย  อีกอย่างระหว่างเราก็แค่เซ็กส์ คุณไม่ใช่ผู้ชายคนแรกหรอกน่าที่ผมนอนด้วย”
“แต่ผมก็เป็นคนแรกของคุณ”
“ถ้าจะหมายถึงผมรับคุณเป็นคนแรกคงใช่  แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนี่  ผมว่าคุณกลับไปดีกว่า คืนนี้ผมต้องรีบนอนพรุ่งนี้ผมมีงานแต่เช้า” อองรีเดินผ่านร่างสูงใหญ่เพื่อไปเปิดประตูไล่ แต่กลับถูกเหวี่ยงล้มกลิ้งไปบนเตียงโดยมีร่างหนาโถมทับไว้แน่นจนกระดิกตัวไม่ได้ ดวงตาดุวาววับด้วยความโกรธเกรี้ยวทำให้อองรีหนาวเยือกทั้งตัวด้วยความกลัว
“อย่ามาไล่ฉัน! เพราะตั้งแต่นี้เธอเป็นสมบัติของฉันจำไว้!”          
“ไม่…ไคซะ...โอ้ย!…” อองรีร้องไม่ออกเมื่อปากร้อนกระแทกลงมาจนปากเขาแตก  เสียงเสื้อผ้าฉีกขาดพร้อมๆกับมือร้อนๆที่บีบเคล้นไปทั่วร่าง อองรีสับสันมือไปที่ลำคอหนาแต่ถูกยึดมือไว้
เพี๊ยะ!!!  หน้านวลสะบัดไปตามแรงตบ  รอยนิ้วขึ้นเป็นผื่นทันทีพร้อมๆกับเลือดที่ซึมมุมปากช้ำ  อองรีตาลุกวาบด้วยความโกรธพยายามจะทำร้ายอีกฝ่ายแต่กลับถูกกดจมลงในที่นอน  ร่างบางผวาและกัดฟันแน่นเมื่อร่างหนาแทรกเข้ามาอย่างรวดเร็ว เจ็บแปลบเมื่อช่องทางด้านหลังฉีกขาดเพราะต้องเปิดรับแรงแทรกสอดกะทันหัน  แม้จะเจ็บจนน้ำตาแทบร่วงแต่ชายหนุ่มก็ไม่ร้องขอความเมตตา  อองรีหลับตาแล้วกัดฟันแน่น นอนนิ่งแม้ร่างหนาจะเบียดรุกรุนแรงแค่ไหนก็ตาม
ไคซัคกัดกรามกรอดให้มันรู้ไปว่าเขาจะเอาชนะอองรีไม่ได้  องครักษ์มือหนึ่งหยุดการรุกรานแช่สะโพกนิ่ง  มือกร้านปลุกเร้าร่างบางใหม่  
แม้จะพยายามอดทนแต่ไม่นานอองรีก็ต้องหลุดเสียงครางเมื่อร่างกายตื่นเพริดไปกับมือร้อนผ่าว สะโพกหนาเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ร่างบางขยับรับอย่างลืมตัว ทั้งสองเคลื่อนตัวเข้าหากันถี่รัว  อองรีกอดรัดร่างหนาแน่นขณะที่ร่างกายบิดเกร็งด้วยความเจ็บปวดและสุขสมพร้อมๆกับหยาดร้อนพุ่งเหมือนจะทะลุผ่านเข้าไปในกาย  ร่างหนาซุกซบลงมากอดไว้แน่น ไม่นานก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งแม้จะไม่เต็มใจและเจ็บปวดแทบขาดใจ  แต่อองรีก็ไม่อาจปฏิเสธว่าเขาก็สุขจนล้นไปด้วยทุกครั้ง............         

เจฟฟรี่รับฟังรายงานเงียบๆก่อนจะพยักหน้าให้หัวหน้าฝ่ายบุคคลออกไป        
“ผมจะไปเยี่ยมอองรีสักหน่อยนะครับ”เจฟฟรี่หันไปรายงานริชเบาๆ          
“ก็ดี…ฝากบอกอองรีด้วยว่าเรายินดีช่วยถ้าเขาต้องการ”
“ครับผม” เจฟฟรี่รับคำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
อองรีทำงานกับตระกูลแฮมิลตันมานาน เป็นคนซื่อสัตย์และเป็นที่ไว้วางใจมากคนหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างอองรีกับ องครักษ์ของชีครามิล  ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ แต่เห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวเขาถึงทำเฉย จนกระทั่งได้รับรายงานว่าอองรีไม่มาทำงาน หลายวัน และมีจดหมายลาออกที่ไม่มีลายเซ็นของอองรีส่งมา  เขาถึงต้องมาดูด้วยความเป็นห่วง
บ้านพักของอองรีเงียบกริบและไม่มีคนอยู่อย่างที่คิด  เจฟฟรี่เปลี่ยนเป้าหมายใหม่ทันที
ลูกน้องของไคซัคมีสีหน้าลำบาก ใจ เมื่อเขาขอเข้าไปพบ          
“ขอผมรายงานท่านราชองครักษ์ก่อนนะครับ”
“ครับ”
ไม่นานนักเขาก็ถูกเชิญเข้าไปข้างใน  บ้านพักดูแปลกตาไปเมื่อมีพรมลวดลายแปลกตามาตกแต่ง  กลิ่นน้ำมันหอมอวลอ่อนไปทั่วห้อง  ไคซัคสวมชุดประจำชาติแต่ลุกขึ้นต้อนรับเขาตามธรรมเนียมตะวันตก
“วันนี้คุณให้เกียรติมาถึงนี่”
“ผมอยากพบอองรี  เขาเป็นไงบ้าง?”
องครักษ์ร่างใหญ่อึ้งไปนิดกับคำพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม ใบหน้าเข้มคมยัง คงเรียบเฉยแต่ดวงตาเป็นประกายกร้าวอย่างไม่พอใจ
“ผมว่านี่เป็นเรื่องส่วนตัวนะครับ”
“ผมคงไม่สอดจมูกเข้ามาถ้าไม่ใช่อองรี  เขาเป็นคนในครอบครัวของเรา  คุณเข้าใจใช่ไหมครับ?”
“…ก็ได้…กรุณารอสักครู่”
ไคซัคลุกออกไปอย่างจำยอม ไม่นานนักอองรีก็เดินตามเขาออกมา  
“คุณเจฟ!” อองรีผวาเข้าหา แต่ไคซัคยึดไหล่เขาไว้แน่น  
เจฟฟรี่ผุดลุกขึ้นช้าๆสบตากับไคซัคไม่หลบ  ไคซัคยืนนิ่งขึงอยู่ครู่หนึ่งจึงยอมปล่อยไหล่บางเป็นอิสระ   อองรีก็ผวาเข้าหาเจฟฟรี่ทันที
“เจฟผมไม่อยากอยู่ที่นี่  พาผมออกไปที” อองรียึดแขนแข็งแน่น  ไม่กล้าหันไปมองคนข้างหลังแต่ก็สัมผัสได้ถึงความโกรธเกรี้ยว
เจฟฟรี่ตบไหล่บางเบาๆอย่างเข้าใจ  เขาสบตาไคซัคที่จ้องเขม็ง
“ผมจะพาเขากลับ”
“ไม่ได้!อองรีต้องอยู่ที่นี่” ไคซัคเค้นเสียงตอบ  แทบกระโจนเข้ามาแยก อองรีออกห่างจากเจฟฟรี่
“อองรีเป็นพนักงานของบริษัทแฮมิลตันคอปฯครับ”
“เขาลาออกแล้ว”
“ไม่นะเจฟผมไม่ได้ลาออก” อองรีปฏิเสธละร่ำละลัก  ไม่สนใจตาวาววับด้วยความโกรธของไคซัค
“ไม่ว่าเขาจะลาออกหรือไม่เรื่องนี้ขอเราพิจารณาเองได้ไหมครับ?”
“ไม่ได้อองรีต้องอยู่ที่นี่” ไคซัคเสียงเย็นมากขึ้นทุกทีเพราะภายในกำลังเดือดพล่านด้วยความโกรธ
“งั้นคุณควรบอกผมว่าเขา ‘ต้องอยู่’ เพราะอะไร?”
“ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องตอบคุณ” ไคซัคกัดกรามกรอดเมื่อเจฟฟรี่ลุกขึ้นยืนประจันหน้า รอยยิ้มยังประดับที่เรียวปากแต่ดวงตาสีฟ้าที่เคยอ่อนโยนเป็นประกายกล้าแข็ง
“ขึ้นอยู่กับความพอใจของอองรี  หากเขาต้องการไปผมต้องพาเขาไป  แต่ถ้าเขาเลือกจะอยู่ผมก็ให้อยู่  อย่างนี้ดีกว่านะครับ”
“ผมอยากไป  ผมไม่อยากอยู่ที่นี่” อองรีตอบสวนขึ้นมาทันควัน
“อองรี!” ไคซัคเค้นเสียงหนักอย่างเหลืออด  แต่อองรีไม่ยอมหยุด
“คุณบังคับผมไม่ได้  ผมไม่อยากอยู่ที่นี่  ไม่อยากอยู่กับคุณ!”
ดวงตาสีดำลุกวาบอย่างเกรี้ยวกราด  ไคซัคจ้องมองร่างบางราวกับจะเผาให้เป็นจุล กว่าจะเค้นเสียงรอดไรฟันออกมา
“ก็ตามใจ…เมื่อต้องการอย่างนั้นก็ตามใจ  แล้วจะเสียใจอองรี”
“ไม่มีวันนั้นหรอก  ผมคงไม่ต้องขอบคุณสำหรับความกรุณาที่ผ่านมา”
อองรีประชด  ไคซัคกัดกรามกรอดแล้วหมุนตัวกลับเข้าไปข้างใน  เจฟฟรี่พาอองรีออกมาโดยไร้การขัดขวางจากคนของไคซัค
“ขอบคุณนะครับเจฟ  ถ้าคุณไม่ไปช่วยผมคงแย่”
“แน่ใจเหรออองรีว่าเธอดีใจที่ฉันไปช่วย”
“คุณพูดอะไร  หมอนั่นน่ะบ้าจะตาย  ทั้งรุนแรงทั้งหิวกระหายยังกับ…สัตว์ป่า” อองรีโวยวายแต่ไม่ยอมสบตา
เจฟฟรี่มองอย่างอ่อนใจ ดูท่าเรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆ  อองรีพลาดเสียแล้วที่ลองดีกับคนอย่างนั้น  แค่ดวงตาวาววับที่เห็นเมื่อครู่ก็รู้แล้วว่าไคซัคไม่ยอมให้เรื่องจบง่ายๆแบบนี้แน่
“ก็ถ้าคิดอย่างนั้นก็ตามใจ  ฉันไปละ วันนี้ก็พักผ่อนก่อนก็แล้วกัน”
อองรีมองตามร่างสูงไปอย่างหงุดหงิด  ทำไม่เจฟฟรี่ต้องทำท่าเหมือนไม่เชื่อทั้งที่เขาพูดเรื่องจริง  สามวันที่ต้องอยู่กับไคซัคทำให้เขาแทบไม่เหลือความเป็นตัวเอง  ยามโกรธไคซัคทำให้เขากลัวแทบขาดใจ  แต่ยามอยู่บนเตียงไคซัคกลับออดอ้อนอ่อนหวาน สัมผัสเร่าร้อนชวนให้มึนเมาเคลิบเคลิ้ม  เขาไม่อาจต้านทานหรือขัดขืนไคซัคได้เลย  ราวกับกลายเป็นเพียงหุ่นให้ไคซัคชักเชิดตามใจ
“บ้าแล้วเรา! คิดถึงคนทุเรศๆอย่างนั้นอยู่ได้  อาบน้ำดีกว่า”
อองรีถอดเสื้อผ้าออกแล้วชะงักเมื่อเห็นเงาสะท้อนในกระจก  แหวนตราที่คล้องอยู่บนคอส่องประกายล้อกับแสงไฟวาวระยับ
‘ “ห้ามถอดออกเด็ดขาด  จำไว้!” ‘ ดวงตาคมกริบที่จ้องมองอย่างขู่เข็ญยังคงติดตรึงในหัว  อองรีจ้องมองเงาสะท้อนของเพชรนิ่ง  ก่อนจะไหวไหล่
“ช่างปะไร  ถือซะว่าเป็นค่าสึกหรอก็แล้วกัน” อองรีพึมพำเบาๆเพื่อลบเสียงร่ำร้องแปลกๆในหัวใจ เปิดน้ำแรงๆสาดทั้งตัว รอยช้ำแดงเต็มตัวไปหมด บางแห่งกลายเป็นสีม่วงจางๆด้วยซ้ำอองรีมองร่องรอยเหล่านั้นด้วยใบหน้าแดงก่ำ  น่าตกใจที่เขาจำที่มาของแต่ละรอยได้ชัดเจน ฟองครีมอาบน้ำที่ไหลผ่านซอกขาทำให้เขาร้อนวาบเมื่อนึกถึงมือร้อนที่ซอกซอนไปทั้งร่างและนิ้วยาวที่แทรกลึกเข้าไปสำรวจ…
’บ้าจริง คิดอะไรอยู่นี่?’ อองรีล้างฟองออกจากตัวแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า  พยายามทำทุกอย่างให้เร็วๆเพื่อไม่ให้มีเวลาคิดถึงเรื่องอื่นแล้วตัดสินใจไปทำงานแทนที่จะพักผ่อนอย่างที่ตั้งใจ
……………………

ลอเรนซ์เดินวนเวียนอย่างหงุดหงิด  เกือบอาทิตย์ที่เขามาถึงเกาะนี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดชีครามิลหรือริชเลย  ทั้งคู่ตั้งหน้าตั้งตาประชุมบ้าบออะไรไม่รู้อยู่ในห้อง  กว่าจะเลิกก็ดึกดื่นเกินกว่าจะรอไหว
วันนี้ก็เข้าประชุมกันตั้งแต่เช้าจนบ่ายคล้อยแล้วก็ยังไม่ออกมา นายแบบดังตาลุกวาบเมื่อความคิดบางเกิดขึ้น  ร่างสูงพรวดพราดไปที่ห้องประชุมแต่โดนขวางไว้ด้วยการ์ดร่างใหญ่สองคน  ลอเรนซ์โวยวายเสียงดังลั่นจนเจฟฟรี่ต้องออกมาดู  แล้วให้สัญญาณคนของเขาปล่อยนายแบบหนุ่มเข้าไป
ร่างสูงยืนก้มตัวอยู่ข้างพนักเก้าอี้ของชีครามิล  ทั้งคู่ก้มอ่านเอกสารบางอย่าง แต่ในสายตาของลอเรนซ์เหมือนริชกำลังจะจูบชีครามิลมากกว่า
“แหม!ประชุมกันเครียดเชียวนะครับ” ลอเรนซ์ทักยิ้มๆแต่ตาวาววับด้วยความโกรธ ทั้งชีครามิลและริชเหลือบมองเขาก่อนที่ริชจะถอยกลับมานั่งที่ตัวเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม  ไนท์มองตามอย่างรู้ทันแต่ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์
“ก็จวนจะเสร็จแล้วละครับ…คุณโซว์วาร์ดมีอะไรเหรอครับ?”ริชถามยิ้มๆ
“บอกแล้วไงครับว่าให้เรียกลอเรนซ์”
“ครับคุณลอเรนซ์…ต้องการอะไรเหรอครับ?”
“ก็เห็นพวกคุณประชุมกันดูเครียดๆก็อยากให้ออกไปพักสมองบ้าง”
“ก็ดีนะครับ…หรือไงครับชีค?”
“ครับ...ก็ดี”ไนท์รับคำหน้าเรียบเฉยไม่บอกอารมณ์ว่าพอใจหรือไม่
ลอเรนซ์หน้าระรื่นที่ทั้งคู่ให้ความสำคัญกับเขาจนยอมทิ้งการประชุม  แต่ถึงอย่างไรเขาก็ต้องให้ริชรู้ว่าเขาเป็นคนที่ชีครามิลแคร์กว่าที่ริชคิด
“คืนนี้ผมอยากชวนดินเนอร์กลางแสงเทียน  อ้อ!ขอร้องเลยนะครับว่าแค่เราสามคนไม่มีคนอื่น”
“ได้ครับ” ริชรับคำยิ้มแย้ม............         

อาหารค่ำสุดหรูจัดที่ริมน้ำตกจำลอง โต๊ะเก้าอี้จัดไว้ในธารน้ำตื้นแค่ข้อเท้าตามคำสั่งของลอเรนซ์   อาหารฝรั่งเศสหรู และเลิศรส  สมความต้องการ ของนายแบบหนุ่มเช่นกัน  
ลอเรนซ์เทคแคร์ชีครามิลเต็มที่ แต่บ่อยครั้งที่ดวงตาวาวหวานทอดมองมายังร่างสูงอีกด้าน ยิ่งดึกลอเรนซ์ก็ยิ่งครองสติ ไม่อยู่ เขาพยายามแตะเนื้อต้องตัวไนท์บ่อยครั้ง  แต่ไนท์ก็เลี่ยงไปได้อย่างไม่น่าเกลียด
แจ็คกำขวดแชมเปญแน่นเมื่อจมูกโด่งแหลมยื่นเข้าไปแทบจรดแก้มเนียนแต่ไนท์เบี่ยงหลบ  คราวนี้นายแบบหนุ่มตะโกนอ้อแอ้ด้วยความโกรธ          
“กาบ...แฮมิลตันม่าย...เห็นฝ่าบาทปา...ติ...เสด...เหมือนโผมเลย…โผม...ซ่อค้าวว...ไม่ได้ที่ตรงหนายย...?”
ใบหน้าไนท์ยังคงเรียบเฉย แต่ตาคมฉายแววอำมหิตขึ้นมาวูบหนึ่ง   และริชก็เห็นเข้าพอดีจึงรีบลุกขึ้นกันนายแบบหนุ่มออกห่าง
“ผมว่าคุณดื่มมากไปแล้ว…กลับที่พักดีกว่า”  ริชแย่งแก้วจากลอเรนซ์ก่อนจะเหนี่ยวร่างโปร่งลุกขึ้น      
“คุณหึงละสิ...ฮะๆๆ...หึงช่ายป่ะ...ที่โผม...ให้ความสนใจชีค...มากกว่าคุณ” ลอเรนซ์กระซิบชิดหูร่างสูงก่อนจะคอพับคออ่อนไปอีกด้วยความเมา  ริชได้แต่ยิ้มอย่างสมเพชก่อนจะประคองลอเรนซ์ไปส่งที่บ้านพัก
ไนท์เหลือบมองคนที่คอยเติมไวท์  ใบหน้าคล้ำก้มต่ำทำให้มองไม่เห็นว่ามีสีหน้าเช่นไร  ชีคหนุ่มยื่นแก้วที่ยังมีไวน์เหลือติดอยู่เล็กน้อยไปหา  แจ็คเข้ามาเติมแล้วถอยออกไปอย่างรวดเร็ว          
“เธอเคยทำงานอยู่ที่นี่เหรอ?”    ไนท์ถามขึ้นลอยๆทำให้คนที่ทำท่าจะถอยห่างชะงัก ต้องหยุดตอบคำถาม    
“ครับ…ผมเริ่มทำงานที่นี่เป็นที่แรก”        
“งั้นเหรอ…มิน่าดูสนิทกับคนที่นี่มาก”ไนท์แซวยิ้มๆทั้งที่ในใจขุ่นมัวเมื่อนึกถึงสาวน้อยหน้าตาคมขำเมื่อวันที่มาถึงเกาะ        
“ผมทำงานที่นี่หลายปีแล้วครับ…ไม่ทราบว่าจะรับอะไรเพิ่มอีกไหมครับ?”
“ไม่ละสั่งเก็บโต๊ะเลย”        
“ครับ” แจ็คหันไปให้สัญญาณ  พนักงานที่ยืนรออยู่ห่างๆต่างรีบเข้ามาช่วยกันเก็บโต๊ะ  
ไนท์ผุดลุกขึ้นเดินแยกไปอีกทาง อาการเซน้อยๆทำให้แจ็คเป็นห่วง  เขาสั่งให้ลูกน้องดูแลที่เหลือต่อ ส่วนตัวเขารีบเดินตามร่างบางไปห่างๆ  ชายหนุ่มกัดกรามกรอดเมื่อเห็นสถานที่ที่ไนท์ไป ชีคหนุ่มเดินไปหยุดยืนหน้าบ้านพักของ
ลอเรนซ์  ริชลงบันไดมาเผชิญหน้า  เขาไม่รู้ว่าทั้งสองคุยอะไรกันแต่ริชก้มลงกระซิบบางอย่างข้างหูและไนท์หัวเราะ  กังวานเสียงสดใสบาดความรู้สึกจนทนไม่ไหว  แจ็คหมุนตัวเดินเร็วแทบเป็นวิ่ง  เขาไม่เคยแคร์ว่าไอ้นายแบบนั่นจะทำท่าสนิทสนมกับไนท์แค่ไหน  แต่หากเป็นริชเขาไม่สิทธิ์เผยอ          
“โธ่โว้ย! “ แจ็คต่อยต้นไม้ข้างทางเต็มแรง  มือเขาเจ็บแปลบและชาดิก  แต่เขาไม่สนใจชายหนุ่มลุยลงไปในทะเล  ดำผุดดำว่ายอยู่นาน  แต่ความคับแค้นก็ไม่คลาย  เสียงต่อว่าไนท์ของลอเรนซ์ดังก้องอยู่ในหู  ตอนแรกเขายังปลอบใจตัวเองว่าหมอนั่นพูดเพราะความพาล แต่ภาพที่เห็นเมื่อครู่บอกให้เขารู้ว่าระหว่างไนท์กับริช มีอะไรที่มากกว่าธุรกิจเสียแล้ว............    
         

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 13-01-2010 09:09:52
......
ริชชะงักเมื่อลงมาจากส่งลอเรนซ์ก็เจอกับร่างโปร่งบางที่หน้าบ้าน
“คุณโซว์วาร์ดเมาหลับไปแล้วละครับ”
“ครับ...ขอบคุณนะครับที่ช่วยดูแลแขกของผม”
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ...และจะเป็นเกียรติมากยิ่งขึ้นถ้าชีคจะไปดื่มต่อที่บ้านพักของผม” ประโยคหลังชายหนุ่มขยับเข้า ไปกระซิบข้างหูบางด้วยเจตนาเร้าอารมณ์ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ใบหน้าแดงระเรื่อยังคงเรียบเฉย แม้แต่ดวงตาก็เย็นนิ่งไม่เปลี่ยน  แต่มุมปากบางปรากฏรอยยิ้มน้อยๆก่อนจะหัวเราะเสียงใส
“ฮะๆๆ...อย่าดีกว่าคุณแฮมิลตัน  มันดึกไปและผมก็ดื่มมากไปแล้ว”
“อะไรกันครับ  ราตรีนี้ยังเยาว์นัก  ผมว่าเรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก”
“แต่ผมคิดว่าผมเมาเกินกว่าจะคุยแล้ว”
“งั้นให้เกียรติผมไปส่งที่บ้านพักนะครับ”
“ผมอยากเดินเล่นให้หายเมาสักครู่...ตามลำพัง”  ไนท์เน้นประโยคสุดท้ายก่อนจะเดินจากมา
ริชได้แต่มองตามยิ้มๆก่อนจะแยกไปบ้านพักของตัวเอง
                  ...... ......

กว่าจะขึ้นจากทะเลก็ดึกมากแล้ว แจ็คเดินเลาะริมหาดไปเรื่อยๆ จนเสื้อผ้าแห้งกับตัว 
ไม่อยากกลับไปที่พัก  ไม่อยากรับรู้ว่าคืนนี้ไนท์จะนอนที่ไหน  มือที่แตกทั้งเลือดและน้ำเหลืองเกาะแห้งกรัง เริ่มปวดหนึบแต่ไม่เท่าความเจ็บในใจ….สุดท้ายเขาก็กลับบ้านพักจนได้
“กลับดึกนะ…นึกว่าจะค้างที่อื่นเสียอีก”
เสียงทักจากมุมมืดทำให้แจ็คหันขวับ  เขาคิดว่าตัวเองหูฝาดแต่เมื่อร่างบางเดินเข้ามาในแสงไฟ   จึงแน่ใจว่าคนตรงหน้า คือไนท์ 
“ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ” แจ็คประชดอย่างอดไม่อยู่
ดึกขนาดนี้ไนท์คงไม่ได้เดินเล่นอยู่แน่  แต่ทางกลับจากบ้านพักของริช ไปยังบ้านพักของไนท์ผ่านทางนี้ใกล้ที่สุดแล้ว         
“ก็ไม่มีอะไรหรอก  อยากได้กาแฟสักถ้วย  ถ้าไม่รบกวนเกินไป”         
“เชิญที่บ้านพักของท่านชีคเลยครับ  เดี๋ยวผมจะให้เขาจัดไปให้”         
“กาแฟถ้วยเดียวไม่อยากรบกวนคนอื่น  ถ้านายไม่เต็มใจฉันกลับไปชงเองก็ได้”
“ถ้าชีคไม่รังเกียจก็เชิญข้างบนครับ”
ไนท์เดินไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้รับแขกกลางห้อง  แจ็คชงกาแฟมาเสริฟด้วยท่าทางนอบน้อมอย่างประชดเต็มที่ ไนท์เหลือบมองไปรอบๆห้องที่ค่อนข้างโล่งอย่างสนใจ ของที่ตกแต่งดูรู้ว่าไม่ใช่การจัดของทางรีสอร์ท เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่กลมกลืนกัน  ทำให้ห้องดูโล่งโปร่งแต่อบอุ่นอย่างประหลาด         
“เธอพักที่นี่ทุกครั้งที่มาเหรอ?”
“ครับ…ผมมันแค่พนักงานโรงแรม หากคุณริชไม่กรุณาก็คงไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่” แจ็ค เสียดสีอย่างอดไม่อยู่  ไนท์ชะงักวางแก้วกาแฟลงแล้วลุกขึ้น
“ถ้าเธอไม่เต็มใจต้อนรับฉันว่าฉันกลับดีกว่า”
“ทำไมครับ! ผมพูดถึงคุณริชนี่คิดถึงจนทนไม่ไหวเลยเหรอ?”
“ก็…คงจะอย่างนั้น…เพิ่งนึกได้ว่าลืมบอกเรื่องสำคัญ…ขอบใจสำหรับกาแฟ” ไนท์ผุดลุกขึ้นเดินตรงไปยังประตู         
“ผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น!”แจ็คปราดเข้าประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว  ไนท์ถึงกับผงะเมื่อหันกลับมาแล้วโดนรวบเข้าไปกอด         
“อย่านะแจ็ค…ปล่อย! อยากถูกไล่ออกหรือไง?”         
“ผมยอมโดนไล่ออก  ยอมถูกลูกน้องคุณเชือดผมเสียดีกว่าจะยอมปล่อยคุณไปหาใคร” แจ็คคำรามชิดใบหูหอมกรุ่นพร้อมกับบดปากขยี้ไปทั่วใบหน้าเนียนใส         
“แจ็ค…อื้อ…อย่าแจ็ค…อย่าทำอย่างนี้…แจ็ค…”  ไนท์นิ่วหน้าพยายามจะดันร่างหนาหนักออก  แต่แอลกอฮอล์ที่เขาดื่มด้วยความหงุดหงิดตั้งแต่หัวค่ำ  ผสมกับสัมผัสร้อนผ่าววาบหวามทำให้เรียวแรงหายไปหมด  ความตั้งใจเพียงจะปั่นหัวยั่วให้แจ็ค เดือดเล่นกลายเป็นเลยเถิดเสียแล้ว       
“คุณไม่ต้องการผมก็อย่ามาหาผม ผมเป็นคนไม่ใช่ก้อนหินจะได้ไม่รู้สึกอะไร ผมจะไม่ทนอีกแล้ว” แจ็คดันร่างบางลงบนเตียง  แล้วเลื่อนกายขึ้นกดทับไว้แน่น         
“แจ็ค…” เสียงห้ามเงียบหาย  ปากร้อนผ่าวประกบแนบแน่นและสอดลิ้นเข้าไปพัวพันในโพรงปากนุ่มหอม  อารมณ์หึงหวงของแจ็คทะลักผ่านผิวสัมผัสที่ร้อนผ่าว  มือสากนิดๆโลมลูบผ่านเนื้อผ้าไปทั่วเรือนร่าง  ไนท์แทบหมดลมหายใจกว่าที่ปากร้อนจะถอนออกแล้วขบเม้มไปตามผิวเนื้ออ่อน แก้ม ซอกคอ ระเรื่อยไปขบเม้มที่ติ่งหู ไนท์ผวาไม่ใช่ไม่เคยถูกสัมผัสแต่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาเสียววาบไปหมดทั้งตัวได้อย่างนี้ 
 ไนท์สอดมือใต้เรือนผมหนาอย่างลืมตัว ได้ยินเสียงฉีกขาดของผ้าพร้อมกับเจ็บแปลบที่ซอกคอ  แจ็คขบเม้มเนื้ออ่อนอย่างเมามัน อารมณ์เขาโลดแรงเกินกว่าจะหยุดแล้ว  กระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวขาดกระเด็นตามแรงกระชาก  แผ่นอกเปลือยได้สัดส่วนละลานตา  ยอดเม็ดสีเข้มลอยเด่นเหนือกล้ามเนื้อนูนงาม  สวยราวกับถูกปั้นขึ้นมามากกว่าจะเป็นเลือดเนื้อจริงๆ
แจ็คมองนิ่งแทบลืมหายใจ  แม้จะเคยเห็นไนท์ในสภาพเกือบเปลือย แต่ไม่ได้สังเกตเลยว่าจะงดงามขนาดนี้ อาจเพราะตอนนั้นไนท์บาดเจ็บมากและเขาก็กังวลจนไม่ได้สังเกต
ไนท์ลืมตาขึ้นสบตา ดวงตาคมเป็นประกายหวานระยับ  ปากที่บวมเจ่อด้วยพิษจูบเผยอเหมือนจะเอ่ยสิ่งใดแต่กลับไม่มีเสียง 
แจ็คปลดเสื้อผ้าออกจากกายอย่างรวดเร็ว แต่สายตาไม่ได้ละจากร่างงามแม้แต่น้อย  ชายหนุ่มค่อยๆเลื่อนเสื้อส่วนที่เหลือออกช้าๆ ดวงตาสบกับตาคมหวานแน่วแน่  ดวงตา…ที่สะกดหัวใจเขาไว้ในพริบตาแรกที่เห็น 
แจ็คก้มลงไล้เลียปากนุ่มอย่างเย้าหยอกแล้วจูบโฉบผ่านเบาๆ แล้วค่อยๆหนักขึ้นทุกครั้งที่จูบ  ร่างหนาแนบลงไปประกบช้าๆ  ทันทีที่อกแตะกันปากร้อนก็ผนึกเข้าหากันแน่น  ไนท์ตวัดรัดรอบลำคอหนา  ร่างบางถูกกดจมลงในที่นอนตามน้ำหนักของทั้งคู่ที่ทิ้งลงมา  ฝ่ามือระคายลูบไล้ทรวงอกและฟอนเฟ้นจนร้อนผ่าว  ไนท์ถึงกับผวาเมื่อนิ้วยาวบีบคลึงและขยี้ยอดอกหนักๆ ปากและลิ้นร้อนพัวพันแน่นหนาจนหายใจไม่ออกต้องสูดลมหายใจจากปากของแจ็ค  ความรู้สึกเหมือนมีลมหายใจร่วมกันดูดดื่มลึกซึ้ง ร่างกายตื่นและไวต่อสัมผัสอย่างประหลาด  ความรู้สึกทั้งคล้ายและแตกต่างกับยามสัมผัสหญิงสาว  ความดูดดื่มลึกซึ้งและอบอุ่นท้วมท้นจนอยากจมอยู่ในอ้อมกอดนี้ตลอดไปคือสิ่งที่ชีคหนุ่มไม่เคยรู้สึกยามสัมผัสผู้หญิง
“อาาา…” ไนท์ครางลึกอยู่ในลำคอ  เมื่อมือร้อนข้างหนึ่งละจากอกนูนลูบลงไปตามกล้ามเนื้อหน้าท้อง เสียงซิปเลื่อนปราดพร้อมๆกับนิ้วยาวที่สอดผ่านขอบกางเกงชั้นในลงไปลูบไล้ความตื่นตัวของชีคหนุ่ม  ไนท์เกร็งแขนที่โอบรัดรอบบ่ากว้าง  ลมหายใจหอบกระชั้นขึ้นทุกที  ยิ่งมือร้อนฟอนเฟ้นเบื้องล่างมากเท่าไหร่ร่างกายก็ยิ่งสั่นระริกมากขึ้นเท่านั้น           
“…แจ็ค…”เสียงอุทานแผ่วระโหยเมื่อปากเป็นอิสระ ฟันขาวกัดปากแน่นเพื่อหยุดเสียงครวญครางไว้ แต่ร่างกายกลับเกร็งไปหมด  ดวงตาคมเป็นประกายกล้าอย่างสมใจ มือกร้านกระตุ้นเร้าเป็นจังหวะขณะที่มืออีกข้างยังลูบไล้บนเนินอกตึง ปลายนิ้วขยี้คลึงยอดอกจนตึงเขม็ง  ไนท์ขยับสะโพกหนี  แจ็คเลื่อนตัวเข้ากดไว้แน่น  ละมือจากทรวงอกตึงไปยึดสะโพกกลมไว้ไม่ให้ขยับ ขณะแนบปากลงหายอดอกช้าๆ 
เสียงสูดลมหายใจแรงจนแทบเป็นเสียงสะอื้นเมื่อเขาครอบครองยอดสีแดงไว้ในปาก  แจ็คไล้เลียอย่างเมามัน  จนได้ยินเสียงครางระโหย ชายหนุ่มดูดเม้มรุนแรงจนอกตึงแอ่นผวาขึ้นตามปาก  หน้าท้องเนียนเกร็งเขม็งขึ้นขณะที่ความร้อนผ่าวเบื้องล่างขยับเบียดต้นขาของเขา  แจ็คเร่งมือและปากฟอนเฟ้นยอดทรวงหนักบ้างเบาบ้างสลับกันไปมา  ไนท์สอดมือเข้าสางไล้ผมหนาแน่นทรวงอกแอ่นลอยขึ้นหาปากร้อนไม่หยุด  นิ้วยาวที่กดตรึงสะโพกเริ่มซุกซน  ชายหนุ่มเกี่ยวรั้งขอบกางเกงด้านหลังแล้วค่อยๆเลื่อนลงจนหลุดลงจากก้นกลม 
เสียงครางสะดุด แจ็คไม่รอช้าเลื่อนมืออีกข้างลงไปรวบเนื้อร้อนผ่าวไว้ในอุ้งมือขยับอย่างนุ่มนวล ขณะที่มืออีกข้างฟอนเฟ้นก้นกลมแน่นอย่างมันเขี้ยว  กล้ามเนื้อแน่นแต่นุ่มตึงให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก  แจ็คบีบคลึงไปทั่วก่อนจะลองลูบไล้รอบร่องหยักนิ่มตรงกลาง  เสียงอุทานขลุกขลักในลำคอพร้อมกับอาการเกร็งหนีทำให้แจ็ครู้ว่าคนในอ้อมแขนยังไม่พร้อม 
ชายหนุ่มเลื่อนตัวลงไปนั่ง รูดกางเกงทั้งชั้นนอกและในออกไป  รั้งเข่าทั้งสองข้างของไนท์ให้ตั้งสูงขึ้น  และเริ่มไล้เลียตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาทีละข้าง  ลิ้นร้อนตวัดเข้าไปในข้อพับใต้เขา หางตาชำเลืองดูหน้าเนียนที่แดงก่ำ  ไนท์มองทุกการกระทำด้วยดวงตาหรี่ปรือ  ลิ้นสีชมพูแลบออกมาเลียปากแห้งผากช้าๆ ดูเซ็กซี่และเร้าอารมณ์จนแจ็คต้องลากปลายลิ้นขึ้นหาซอกขาขาว  ไนท์เผลอกลืนน้ำลาย มือทั้งสองกำหมอนที่หนุนอยู่แน่น  เมื่อแจ็คแกล้งแทะซอกขาด้านในเบาๆ  มองตาที่ท้าทายอย่างหมั่นเขี้ยว  หน้าท้องขาวเกร็งเป็นละลอกเมื่อเขาลากปากไปถึงส่วนชูชัน ที่ขยายตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ไนท์กัดปากแน่นเผลอกลั้นใจไว้ไม่รู้ตัว   แจ็คแกล้งตวัดลิ้นผ่านส่วนยอดแรงๆ  ร่างบางสะท้านเฮือกทุกครั้งที่ลิ้นร้อนตวัดผ่านหนักๆ  บางครั้งก็ลากลงจนสุดโคน  แล้วตวัดขึ้นถึงส่วนปลาย  บางขณะก็หยุดเย้าหยอกแซะซอนรูเล็กๆที่ปลายยอดอย่างหยอกล้อ  แต่คนถูกหยอกสั่นเทาไปทั้งตัว       
“อะ…อื้อ..”
 ไนท์หลุดเสียงครางในลำคอ ปากที่กัดไว้แทบห้อเลือด ขณะที่สะโพกยกเกร็งขึ้นเพราะทนความเสียวกระสันไม่ไหว แจ็คดูดกลืนเนื้อร้อนผ่าวเข้าไปทีละน้อยจนหมดและเริ่มขยับเลื่อนเข้าออกช้าๆ ปากที่เม้มแน่นรูดรั้งลงไปจนส่วนปลายกระทบลำคอ บางครั้งก็เร่งกระชั้นหากบางคราก็ผ่อนเนิบช้า  สะโพกกลมขยับรับทุกจังหวะเลื่อนปาก  แจ็คบีบเค้นสะโพกตึงแน่นอย่างเมามัน ผิวเนียนเต็มแน่นอยู่ในมือกระตุ้นให้เลือดระอุขึ้นทุกทีและดูเหมือนจะมีผลต่อไนท์มิใช่น้อย เพราะมือที่กำแน่นอยู่ที่หมอนเปลี่ยนเป็นยึดไหล่เขาไว้  เล็บสั้นจิกไหล่หนาแรงตามอารมณ์
หยาดอุ่นร้อนที่เล็ดลอดออกมาถูกไล้เลียและดูดกลืนไว้  เสียงครางกระเส่าสะดุดเมื่อท่อนเนื้อเปียกชุ่มถูกปล่อยเป็นอิสระ
แจ็คเลื่อนปากไปสำรวจรอยแยกสีอ่อนข้างล่าง  รอยจีบพับเขม็งเกร็งขึ้นด้วยความตกใจปนสยิว  ไนท์พยายามเลื่อนสะโพกหนี แต่อาการเสียววาบๆทุกครั้งที่ลิ้นเปียกตวัดผ่านก็ทำให้เขาไม่มีเรี่ยวแรง  ได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายลูบไล้ช่องทางแคบด้านหลังจนเปียกชุ่ม  จุดที่ควรจะรังเกียจในความไม่สะอาด  แต่ไม่ใช่สักนิด  แจ็คกลับรู้สึกว่ามันสะอาดสะอ้านน่าลิ้มลอง  ยิ่งเป็นของคนที่รัก  ยิ่งปรารถนาจะเชยชมให้ทั่วทุกซอกมุม  ไม่เพียงแค่ภายนอก...แต่เขาต้องการเข้าไปให้ถึงในซอกเร้นลับ
หลังจากไล้ลิ้นละเลงไปจนพอใจ ก็เริ่มขบเม้มแทะเล็มด้วยฟันเบาๆ ได้ยินเสียงร้องอุทานก็ยิ่งพึงใจ  ปลายลิ้นซนจึงพยายามแทรกเข้าไปในจีบซ้อนพับที่บีบรัดแน่นเป็นจังหวะๆ  ทำให้ลิ้นสอดเข้าไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น  กระนั้นก็ยังเรียกเสียงครางให้ระริกระรัวด้วยความทรมาน  หยาดรักไหลซึมออกมาอาบแก่นกายเหยียดชันจนเยิ้มถึงโคน  แจ็คจึงยอมผละจากช่องทางด้านหลังเลื่อนขึ้นมาปลดปล่อยไนท์จากความทรมานนั้น  ปากอุ่นครอบลงรวดเดียวสุดและดูดกลืนอย่างหนักหน่วงทุกจังหวะการเลื่อนปากเข้าออก  สะโพกขาวเกร็งและขยับยกตามไม่หยุด 
“อือ...อึก...”
ไนท์ปล่อยมือจากหมอนเลื่อนมากดศีรษะที่ซุกไซ้อยู่กับหน้าท้องให้แนบแน่นยิ่งขึ้น  แรงดูดรัดสร้างความเสียวกระสันวูบลึกไปทั้งท้อง  จนไม่อาจอดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป  นิ้วยาวขยำเส้นผมหน้าไว้แน่นขณะที่สะโพกยกลอยขึ้นสวนเข้าไปโพลงปากร้อนสุดแรง  กระแสพิศวาสหลั่งล้นจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว เหมือนสติดับไปชั่วขณะ  เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้งสะโพกก็ยังถูกรั้งให้ยกลอย  ลิ้นอุ่นตวัดไล้เลียไปทั้งหน้าท้องจนเสียวปลาบทั้งหน้าขา  ส่วนที่ควรอ่อนนุ่มกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง
แจ็คเหลือบมองหน้าแดงก่ำที่จ้องตาเขาเขม็งทั้งที่ยังหอบฮัก  ชายหนุ่มดึงหมอนหนุนใบใหญ่มารองก่อนจะวางสะโพกขาวลงไป  ไนท์นิ่วหน้าแต่ไม่ห้ามปราม 
แจ็คชโลมหยาดรักข้นลื่นที่เขาคายใส่มือไว้ลงบนตัวเอง  ก่อนจะสอดนิ้วที่ยังเปรอะเปื้อนเข้าไปในรอยจีบซ้อนด้านหลัง เพียงแค่ปลายนิ้วก็โดนบีบดันต้านเอาไว้ 
ไนท์สะท้านเฮือก  แม้จะรู้ว่าจุดสุดท้ายของความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไร  แต่การรับรู้กับสัมผัสจริงมันก็ต่างกันจนเทียบไม่ได้  ทั้งที่รู้ว่าควรผ่อนคลายแต่ร่างกายกลับเกร็งแน่น  จนแม้แต่นิ้วก็สร้างความเจ็บปวดให้  กระนั้นชีคหนุ่มก็ปล่อยให้นิ้วยาวสอดลึกเข้าไปในกายช้าๆ
ปากทางแดงก่ำที่หดรัดแน่นจนนิ้วแทบแทรกเข้าไปไม่ได้ ทำให้แจ็คต้องละเลงลิ้นรอบช่องทาง  ช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นและลดอาการเกร็ง  กว่านิ้วจะสอดเข้าไปได้สุดไนท์ก็เม้มปากจนชา  ทุกครั้งที่นิ้วยาวเลื่อนเข้าออกคิ้วเข้มก็ขมวดเข้ากัน  และขมวดแน่นขึ้นเมื่อจำนวนนิ้วเพิ่มเข้ามากระนั้นก็ยังไม่มีเสียงห้ามปราม
แจ็คสอดนิ้วที่สามเข้าไปและตามติดด้วยปลายลิ้น  เสียงอุทานอึกอักในลำคอของไนท์กับสะโพกที่กระตุกเยือกทุกครั้งที่เขาสอดลิ้นลึกเข้าไปทำให้แจ็คถางนิ้วค้างไว้แล้วสอดลิ้นเข้าไปภายในทำให้ไนท์สะดุ้งทุกครั้งที่สัมผัสโดน
ไนท์กัดปากแน่น  ทุกครั้งที่ปลายลิ้นเสียดผ่านอาการเสียววาบราวกับถูกไฟช็อตก็ทำแทบกรีดร้องด้วยความทรมาน  จังหวะการเสียดสีเร่งกระชั้นทำให้ต้องยกสะโพกรับ  ปลายเท้าจิกบนเตียงแน่นขณะที่ในท้องเกร็งจนปวด  จู่ๆอารมณ์ที่ถูกเร้าจนสูงลิบก็สะดุดวาบเมื่อทุกอย่างถูกถอดถอนออกกะทันหัน
“ไม่...อือ...”  ไนท์หลุดเสียงห้ามด้วยความเสียดายปนกริ้วโกรธ  ไม่ใช่แจ็คจะไม่สงสารแต่เขาเองก็หมดความอดกลั้นแล้วเช่นกัน  ชายหนุ่มเลื่อนตัวขึ้นปิดปากนุ่มที่พยายามสะบัดหนีเพราะความโกรธที่ถูกขัดใจไว้  สอดลิ้นเข้าไปในโพลงปากหอมและดูดดึงลิ้นนุ่มไว้อย่างงอนง้อ
มืออุ่นกอบกุมส่วนร้อนผ่าวของทั้งคู่ไว้ด้วยกัน  ขยับเลื่อนให้เสียดสีไปพร้อมๆกันความฉ่ำเยิ้มเบียดกระแซะกับผิวแห้งผากของเขาจนเสียวซ่าน  ชายหนุ่มเบียดปากให้แน่นยิ่งขึ้น  ร่างบางคราวแผ่ว หยาดรักร้อนรินรดมือและตัวเขาจนชุ่ม  แจ็ครอจนแน่ใจว่าไนท์พร้อมเต็มที่แล้วจึงค่อยแทรกเข้าไปในทางคับแคบช้าๆ  ช่องทางอุ่นร้อนผ่าวบีบรัดจนเสียวไปทั้งท้อง
“อือ...โอย....อออ”
ไนท์สะดุ้งเฮือก  อารมณ์หวานล่องลอยไหววาบเมื่อพบกับความจริงที่เจ็บแทบขาดใจ  สิ่งที่พยายามแทรกเข้ามาทั้งร้อนและใหญ่โตเกินกว่าจะรับไหว  ร่างกายหดเกร็งหนี  แต่ส่วนที่แทรกเข้ามาค้างคาอยู่กลับไม่เลื่อนถอยออกไป  เสียงร้องของเขาถูกดูดหายไปในปากร้อน  มือระคายบีบคลึงส่วนยอดที่ไวต่อความรู้สึกขณะที่พยายามแทรกลึกเข้ามา  ไนท์ไม่คิดว่าเขาจะรับแจ็คไว้ได้อีกแล้ว  แต่ทุกครั้งที่ร่างหนาขยับความร้อนผ่าวก็กดลึกเข้ามาทีละน้อย
แจ็คเหงื่อโทรมตัวด้วยความกดดันภายในกาย  แรงบีบรัดที่ต่อต้านไม่ให้เขาเข้าไปมากขึ้นทุกทีแต่ชายหนุ่มก็ไม่ยอมแพ้  เขาปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระได้ยินเสียงสะอื้นแผ่วด้วยความทรมานเช่นกัน  แจ็คสำรวจช่องทางแคบพบว่าเขายังอยู่ข้างนอกอีกเล็กน้อยเท่านั้น  ชายหนุ่มเลื่อนมือมาประคองสะโพกเกร็งไว้แล้วขยับเลื่อนออกนิดหน่อยก่อนจะดันเข้าไปใหม่  เขาสร้างความคุ้นเคยซ้ำๆอยู่ครู่หนึ่งแรงขยับจึงค่อยห่างและแรงขึ้น 
ไนท์กัดปากแน่น  ในความเจ็บแทบขาดใจมีอาการเสียววาบๆแทรกมาเป็นระยะและดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  ทั้งที่เจ็บตึงเหมือนจะฉีกแต่จู่ๆความกำยำนั้นก็เลื่อนวาบเข้ามา ไนท์ได้ยินเสียงลั่นกึกเมื่อหน้าท้องของแจ็คปะทะเข้ากับต้นขาของเขา  ท่อนขาที่ถูกรวบขึ้นพาดบนไหล่หนาเริ่มชาแต่แล้วเขาก็ลืมมันไปเมื่อความเสียวกระสันแปลกๆนั้นทวีขึ้นทุกขณะ
แจ็คขยับลึกและแรงขึ้นเมื่อแรงดึงดูดแสนหวานเปิดต้อนรับเขาเต็มที่         
“…แจ็ค..อือ…”
เสียงครางกระเส่ากระตุ้นเลือดให้เดือดพล่าน  แรงบีบรัดเป็นจังหวะถี่ขึ้น  แจ็คปลดขาเรียวลงโน้มตัวลงแลกจูบเร่าร้อน  สอดแขนเข้าประคองไหล่บางไว้แน่น  สร้อยลูกกระสุนที่คอพาดบนอกขาวเย็นเฉียบจนไนท์ต้องลืมตาขึ้นมอง         
“ไปกับผมนะ” แจ็คกระซิบเบาๆที่ใบหูเล็ก  ไนท์จ้องตาเขาแน่วแน่  น้ำตาใสไหลเป็นทางเมื่อสะโพกแข็งขยับถอยห่างก่อนจะกระแทกเข้าหารุนแรง  ไนท์กระซิบเรียกแจ็คกระเส่าสะโพกกลมยกลอยขึ้นรับแรงปะทะที่โหมถี่รัวขึ้นทุกที  เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดถี่ยิบเมื่อต้องรับแรงปะทะของคนทั้งสอง  ไนท์ตวัดขารัดรอบเอวหนาแน่น เล็บสั้นจิกครูดกล้ามเนื้อแข็งอย่างทรมาน  อาการตึงเขม็งในท้องขาดผึงออก ความรู้สึกเสียวซ่านแล่นวาบไปทั้งตัวก่อนที่ทุกอย่างจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ 
แรงบีบรัดรุนแรงรอบกายทำให้ความอดทนสิ้นสุดลง  แจ็คปล่อยให้ความเสียวสะท้านแล่นวาบไปทั้งตัว  แต่ยังขยับลึกในความหวานร้อนจัดจนกระทั่งแรงขับในร่างทะลักล้นออกมา 
แจ็คฟุบลงกอดร่างบางไว้แน่น  ในอกเต็มตื้นด้วยความสุขหอมหวาน  ไม่รับรู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร...ขอแค่วินาทีนี้เขามีคนที่รักอยู่ในอ้อมกอดเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญ  แม้ลมหายใจยังหอบกระชั้นแต่ความปรารถนากลับทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว 
มือสากลูบไล้ต้นขาเรียวเบาๆ  ผิวตึงเนียนเหมือนแพรกระตุ้นให้เลือดหนุ่มระอุ  เสียงไนท์อุทานเบาๆอย่างตื่นตระหนกเมื่อร่างหนาเริ่มต้นขยับลึกอีกครั้ง  หยาดรักที่ยังคั่งค้างอยู่ภายในทำให้การเคลื่อนไหวราบรื่น 
แจ็คถอนตัวออกพลิกร่างบางให้นอนคว่ำลง  เสียงไนท์ถอนใจยาวด้วยความปวดร้าวด้านหลังบรรเทาลง  แต่เขารู้ตัวว่าคิดผิดเมื่อสะโพกถูกประคองให้ลอยขึ้น  ฝ่ามือร้อนกอบกุมด้านหน้าไว้ทั้งสองมือและความกำยำก็สอดลึกเข้ามา ไนท์ร้องไม่ออกได้แต่กัดฟันด้วยเสียววาบตลอดช่องท้องเพราะแรงดันรวดเดียวสุดตัวของอีกฝ่าย  แจ็คขยับเข้าออกเนิบช้าก่อน  ปากและฟันแทะชิมแผ่นหลังขาวที่ยังเหลือร่องรอยของแผลบางส่วนอย่างห้ามใจไม่อยู่ รอจนความร้อนในอุ้งมือเขาพลิกตัวราวกับมีชีวิตนั่นแหละจึงค่อยเร่งจังหวะขึ้น           
“แจ็ค!”ไนท์อุทานอย่างตกใจเมื่อถูกประคองให้ลุกขึ้นนั่งซ้อนบนตัก  ฝ่ามือร้อนประคองสะโพกเขาร่อนขึ้นลงอย่างเมามัน  ไนท์หลับตาปี๋กัดฟันแน่นแต่เมื่อทนไม่ไหวก็หลุดเสียงครางกระเส่า อาศัยยึดแขนแข็งแรงเป็นหลักยามร่างกายถูกโยนขึ้นลง แจ็คปล่อยมือเมื่อร่างบางหาจังหวะของตัวเองได้  มือข้างที่ว่างจึงเลื่อนขึ้นไปบีบคลึงยอดสีสดแรงๆ  แผ่นหลังบางแต่ได้สัดส่วนสวยกับเสียงครางกระเส่าทำให้เขาอยากเห็นใบหน้ายามสุขสมของคนรักให้เต็มตา  แจ็คยึดสะโพกบางไว้แน่นจนเคลื่อนไหวไม่ได้แล้วถอนตัวออก         
“อือ…ทำไม?”เสียงอุทานอย่างผิดหวังทำให้แจ็คยิ้มกว้าง  เขาหมุนร่างบางให้หันกลับมานั่งคร่อมตักอีกครั้ง  ดวงตาดุหวานเยิ้มด้วยแรงอารมณ์         
“ผมอยากเห็นหน้าคุณ” แจ็คกระซิบพร้อมกับเสือกตัวเองขึ้นสู่ความหวานลึก  ไนท์สะท้านไปทั้งตัว  ใบหน้าเนียนสะบัดไปด้านหลัง เพลิดเพลินความเสียวกระสันได้ยินเสียงคำรามต่ำๆในลำคอ ฟันคมขบเม้มที่ยอดอกตึงเขม็ง  ชีคหนุ่มสะดุ้งเสียววาบทั้งที่ยอดอกและในท้องจนต้องครางออกมา  ท่อนแขนแข็งแรงโอบรัดรอบเอวบางเพื่อเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น  ไนท์ยึดบ่ากว้างประคองตัวให้ลอยโลดแล่นไปตามการนำของแจ็ค  แรงเสียดสีเสียวซ่านจนเผลอครางเรียกแจ็คกระเส่า         
“แจ็ค…แจ็ค…เร็ว..ไม่…ไม่ไหวแล้ว”         
“ที่รัก…ที่รัก” แจ็คกระซิบเรียกเสียงกระเส่าจับเอวบางกระชากลงหาตัวถี่ยิบ  ช่องทางแคบบีบเกร็งอัตโนมัติเมื่อไนท์พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดทำให้ความอดทนของ
แจ็คขาดสะบัน  หยาดรักร้อนพุ่งขึ้นแรงจนไนท์รู้สึกร้อนไปทั้งท้องพร้อมๆกับที่ร่างบางแอ่นเกร็งขึ้นทั้งตัว  น้ำใสกระเซ็นเปื้อนทั้งสองจนฉ่ำเยิ้มไปหมด  ร่างบางซบฮวบลงกับอกหนา แจ็คจูบยอดอกช้ำเบาๆแล้วค่อยๆประคองกันลงหลับใหลด้วยความอ่อนเพลีย
ไนท์รู้สึกเหมือนพื้นไหวโคลงก่อนที่รู้สึกตัวเต็มที่เมื่อสัมผัสกับน้ำอุ่นจัด  มืออุ่นวักน้ำลูบไล้ตัวเขาแผ่วเบา  ไนท์ลืมตาขึ้นสบกับตาหวานระยับใกล้ๆ  รอยยิ้มกว้างแบบวันแรกที่เจอปรากฏอีกครั้งและเขาก็อดยิ้มตอบไม่ได้เหมือนเดิม น้ำในอ่างไหววูบเมื่อร่างหนากว่าจุ่มจมลงมาอีกคน  อ่างแคบทำให้หลีกไม่พ้น  แจ็คเลื่อนร่างบางขึ้นมานั่งซ้อนตัก  ได้ยินเสียงอุทานเบาๆเพราะความเจ็บเมื่อนิ้วยาวสอดลึกเข้าไปข้างในแบบไม่ได้ตั้งตัว         
“ทำขนาดนี้ยังไม่หนำใจอีกเหรอ?”ไนท์ตาขุ่นด้วยความโมโห เพื่อกลบเกลื่อนอาการขัดเขินของตัวเอง         
“โธ่…ผมจะทำความสะอาดให้ต่างหาก”         
“จริงเหรอ?” ไนท์ยังไม่มั่นใจ แต่ดวงตาอ่อนโยนนั้นมีแววจริงจังทำให้คลายความระแวงลง         
“จริงครับ  ปล่อยไว้มันจะเกิดปัญหาขึ้นภายหลัง”         
“บอกมาแล้วกันฉันทำเอง”ไนท์ปรามเขินๆ แค่นั่งคุยกันโดยที่นิ้วยาวๆยังอยู่ในตัวนี่ก็แทบทำหน้าไม่ถูกแล้ว         
“ไม่ถนัดหรอกครับ  ผมทำให้ดีกว่า”         
“แต่…”         
“นะครับผมอยากช่วยจริงๆ  ผมเป็นคนทำคุณเจ็บผมก็ต้องรับผิดชอบสิ”
ไนท์จำต้องยอมรับการช่วยเหลือ  ทีนอนกับผู้หญิงเขาไม่เห็นต้องเจอปัญหายุ่งยากอย่างนี้ นอนกับผู้ชายครั้งแรกกลับมีแต่เรื่องเจ็บตัว  แจ็คปล่อยให้เขาแช่น้ำอุ่นอยู่ครู่ใหญ่จึงกลับเข้ามาพร้อมกับอุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง  ไนท์มองตามอย่างงุนงงงกระทั่งชายหนุ่มช้อนตัวเขาขึ้นนั่งบนขอบอ่างและคุกเข่าอยู่ตรงหน้าในมือถือลูกโป่งยางสำหรับสวนใหม่เอี่ยม
“หมายความว่าไง…ไม่นะ” ไนท์ร้องลั่นแต่หนีไม่พ้น  ชีคหนุ่มกัดปากกลั้นเสียงครางเมื่อน้ำถูกปล่อยเข้าไปภายใน  แจ็คเบนความสนใจของคนรักด้วยการประคองร่างอุ่นนุ่มไว้ในปาก  ครู่เดียวความอุ่นนิ่มก็กลับร้อนผ่าวและเต้นระริกอยู่ในปากเขา  ไนท์กำผมเขาไว้แน่นเมื่อเขาขยับเลื่อนปากเร็วๆ ก่อนที่สะโพกกลมจะยกลอยขึ้นพร้อมๆกับหยาดร้อนผ่าวถูกเก็บกลืนลงไปจนหมด  แจ็คกระตุ้นจนหมดทุกหยาดหยดจึงค่อยประคองคนรักให้ลุกขึ้น ห่อร่างบางด้วยผ้าขนหนูเนื้อหนานุ่มแล้วอุ้มราวกับอุ้มเด็ก   
ไนท์ซบหน้ากับอกกว้างยอมจำนนกับการปรนนิบัติแสนหวาน  และแจ็คก็ไม่ได้รุกรานมากไปกว่าวนเวียนจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนปากระบมไปหมด แต่หัวใจกลับอิ่มเอม  เป็นครั้งแรกที่ชีครามิล ราจีสอับดุล ยอมนอนหลับในอ้อมแขน’คู่นอน’และยังปราศจากอาวุธในมือ............   


“ผมอาจจะเป็นแค่พนักงานโรงแรมธรรมดา แต่คุณเป็นของผมนะ”
“ฮะๆๆฉันเคยแต่เป็นเจ้าชีวิตคนอื่น เพิ่งจะมีเธอนี่แหละที่ทำตัวเป็นเจ้าชีวิตฉัน  จุ๊ๆๆ…อย่าให้มันมากนักแจ็ค  ฉันอาจจะหมดความอดทนกับเธอเร็วๆนี้ก็ได้”
“แต่ผมรักคุณ”
“แล้วไง การที่เธอรักฉัน หมายถึงฉันต้องยอมให้เธอเก็บฉันไว้รวมกับสาวๆของเธองั้นเหรอ? มากไปแล้วแจ็คอย่าได้ใจนัก”
“คุณไนท์ครับ  ซารีฟะเธอเป็นเหมือนน้องสาวผม  เธอเพิ่งแต่งงานเมื่อวันก่อนนี้ เผอิญผมไม่ได้ไปร่วมงานเธอก็เลยเอาขนมมาให้  มันเป็นทำเนียมของคนที่เกาะแถวนี้ เขาจะให้ของในงานแต่งงานซึ่งเขาถือว่าเป็นของมงคลไปแจกจ่ายแก่ญาติสนิทที่ไม่ได้ไปร่วมงานนะครับ”
“อือฮึ?”
“ผมไม่ได้โกหกนะครับ…ผมไม่มีใครจริงๆ”
“กำลังจะบอกว่าฉันผิดเหรอแจ็ค”น้ำเสียงเรียบเย็น ดวงตานิ่งเย็นชาไม่แสดงความตกใจหรือพอใจเมื่อแจ็คพยายามอธิบาย
“ไม่ใช่อย่างนั้น…ผมต้องทำยังไงคุณถึงจะเข้าใจ ผมไม่เคยโกหกคุณนะครับ ผมไม่มีใครจริงๆ”
“ไม่จำเป็น ฉันจะพิสูจน์เอง” ไนท์ตอบเสียงเย็นชา  แล้วเดินออกไปจากห้อง  แจ็คทรุดนั่งกุมหัว  เขาไม่เคยคิดว่าการพูดคุยหรือแสดงความสนิทสนมกับคนอื่นจะกลายเป็นเรื่องไปได้ขนาดนี้  ปฏิกิริยาของไนท์ทำให้เขาเครียด กลัวเหลือเกินว่าจะต้องสูญเสียไนท์ไป  มือเย็นนุ่มหอมวางบนไหล่เขาแผ่วเบา แจ็คเงยขึ้นมอง ดวงตาคมดุอ่อนแสงลง 
“ไปเดินเล่นกันไหม?”
“ครับ” แจ็คละล่ำละลักอย่างยินดี  รีบคว้ามือที่แตะไหล่ไว้แน่น
ไนท์เดินทอดน่องไปตามร่มสนช้าๆ ไม่ปฏิเสธที่แจ็คยังเกาะกุมมือไว้มั่น  ในใจยังสับสนกับความใจอ่อนของตัวเอง  สีหน้าแตกตื่นกังวลและเสียใจของแจ็คทำให้เขาต้องย้อนกลับมาหา  ที่สำคัญเขาไม่อยากให้แจ็คคิดว่าหนีหน้าเพราะ ‘หึง’
แจ็คพาคนรักลัดเลาะไปยังมุมโปรดของเขา  น้ำตกจากต้นน้ำบนเกาะทิ้งตัวลงสู่ทะเลเบื้องล่างอย่างงดงาม เป็นความงามตามธรรมชาติผสมผสานกับการตกแต่งอย่างชาญฉลาดของสถาปนิกมือหนึ่งทำให้มันกลายเป็นแดนสวรรค์ได้อย่างลงตัว
“…สวย...”
“ครับ…ผมชอบที่นี่ที่สุด  เวลาไม่สบายใจก็จะหลบมากางเต็นท์นอนที่นี่”
“งั้นเหรอ?…คืนนี้ฉันอยากมานอนที่นี่”
“เอาสิครับ…เดี๋ยวผมไปขนของมากางเต็นท์ให้”
“ฉันไปด้วย…จะไปโทรศัพท์เสียหน่อย”
แจ็คจูงมือนุ่มเดินเคียงกลับบ้านพักอย่างสบายใจ
…………………………


 :z2:ขอบคุณคะ แล้วเจอกัน
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 13-01-2010 09:30:32
จิ้ม + พี่เทียนฉิน อิอิ
กี๊ดดดดดดดดด เบาหวานขึ้นตา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-01-2010 10:19:06
เอิ๊กๆๆ เลือดหมดตัว :jul1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 13-01-2010 12:39:29
 :m25:  แอ่กๆๆๆๆๆ  หวานชื่น จนแอบกลัวว่าต่อไปจะมีไรเกิดขึ้นบ้าง


ส่วนอองรี  ดูเหมือนจะไปกระตุกหนวดสิงห์ใหญ่แห่งทะเลทรายเข้าซะแล้ว :oo1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 13-01-2010 13:59:34
 :jul1: เลือดแทบหมดตัว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 13-01-2010 15:27:16
อ่านตอนบ่าย
หายซึมเลย ..lol
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-01-2010 15:36:24
อ้าวววว เพิ่งจะรักกันเร่าร้อน nc กระจาย ทำไมจู่ๆ ก็มาทะเลาะกันซะละ  แจ๊คไปทำอะไรให้ ไนท์ โมโห 

งง อะ   :serius2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jandk ที่ 13-01-2010 15:39:31
อ่านแล้ว ดุเดือดกันจริง ๆ

คู่องค์รักษ์นี่ก็โหดชะมัด

ชอบจังเลย

PM ไปแล้วนะค่ะ หวังว่าคงจะทัน
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 13-01-2010 18:28:29
..... แจ๊คสุดยอดมากค่ะ ..... ไนท์นี่ท่าจะเพี้ยนเขารักตัวขนาดนั้นยังระแวงได้อีก ....ชิชะ ยุแจ๊คเลยดีไหมน่า ....ความรักต่างชนชั้นจะจบลงยังไงอ่ะ อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ จัง
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 13-01-2010 18:34:15
เลือดสาดนะเนี่ยจู่ ๆ ก็มาแบบนี้ ไม่ยอมน้อยหน้าคู่ อองรีกะไคซัคเลย

ว่าแต่ ท่าทางออรีจะลำบากนะเนี่ย ไคซัคคงไม่ยอมหยุดง่าย ๆ แน่

เมื่อไหร่ ลอเลนซ์จะไป ๆ ซะที ชิ  :beat: 
แล้วคนที่จ้องทำร้าย ไนท์ มันจะโผล่มาเมื่อไหร่

แจ๊ค ท่าทางเก็บกดมานานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน 

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 13-01-2010 19:07:19
 :m25: :m25:

ดุเดือดเลือดพล่านดีจัง :o8:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: torto ที่ 13-01-2010 19:09:16
เราอยากได้บ้างอ่ะ  ต้องทำยังงัยเหรอ


จะติดตามรออ่านนะ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: underscoreONES ที่ 13-01-2010 19:47:12


รักเรื่องนี้จังค่ะ แจ๊คน่ารักมากเลย อ่อนโยนแต่ก็ร้อนรุ่ม     :-[
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 13-01-2010 20:39:13
 :m25: :m25:

แอ้ก!!  จมกองเลือดไปแล้ว

ในที่สุดก็ยอมรับกันซะที
แต่รักต่างชนชั้น  มันจะผ่านไปได้ง่ายๆงั้นเหรอ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 13-01-2010 20:47:52
+1 ให้คุณเทียนฉิน ขยันโพสต์ดีจังค่ะ เรื่องนี้สนุกมาก แจ๊คน่ารักสุขุมในบางเรื่อง
แต่พอหึงและน้อยใจขึ้นมาก็ใจร้อนสุด ๆ ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องจะหวานชื่น แต่อุปสรรค
ที่รออยู่ข้างหน้ามีมากมายเหลือเกิน น่าสงสารทั้งคู่เลย จะเกิดอะไรขึ้นอีกที่ทำให้ต้อง
แยกจากกัน ......จะรอติดตามต่อไปค่ะ ....... :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-01-2010 20:54:01
หุหุ ตอนนี้ตามลุ้นทั้งสองคู่เลยล่ะ  คนละแบบแต่เร้าใจไม่แพ้กัน  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: shine ที่ 13-01-2010 21:03:33
เกือบโดนคู่อองรีกับไคซัคแย่งซีนไปหมดนะเนี่ย แต่ไนท์กับแจ็คก็เรียกคะแนนตีตื้นมาได้ :z1:

แต่ท่าทางคู่อองรีจะโหดได้ใจ ฮิฮิ ไม่รู้ว่าจะแอบมีคู่ไหนมาเพิ่มอีกไหมเนี่ย แต่ขอเป็นลอเรนซ์ก่อนได้ไหม จะได้เอาไปเก็บให้ไกลๆ สักที  :laugh:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 13-01-2010 22:28:06
ชอบเรื่องนี้ค่ะ  เอาใจช่วยแจ็คนะ

ถ้าคุณใบปอ ทำหนังสือ ก็ขอจองด้วยนะค่ะ

ขอบคุณ คุณเทียนฉิน ที่เอาเรื่องดีๆๆมาโพสให้อ่าน :L1:

ขอบคุณ คุณใบปอ ที่เขียนได้ สุดยอดมากเลยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-01-2010 22:55:39
 :m25:
ในที่สุดแจ็คก็ไม่ปล่อยไนท์ีอีกแล้ว ลุ้นจริงๆว่าคู่นี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง

ส่วนคู่ไคซัคกับอองรีก็ไม่น้อยหน้า ท่าจะไม่ธรรมดา

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 14-01-2010 00:30:04
 o13 โอ้วว ในที่สุด
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 14-01-2010 14:57:08
 :m25:  ตายหมู่


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: k[1mE]:D ที่ 14-01-2010 20:59:47
คู่หลักก็หวานนนนนซะ เลือดเต็มจอเเล้วเนี้ยย 55+

คู่รอง รอต่อไปถ้าจะมีเลือดตามมาไม่เเพ้กัน แต่เลือดอะไรหรอ???

 :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pokky ที่ 14-01-2010 23:14:25
รออ่านอยู่ค่ะ
อ่านไปอ่านมาเริ่มรู้สีกชอบคู่อองรี แทนซะแระ 
อ้อ PM ไปแล้วอ่ะ เรื่องหนังสือ ไม่รู้ทันอ่ะเปล่า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 14-01-2010 23:41:37
อ่าว.. เรื่องนี้ ไม่ใช่ทำเป็นหนังสือแล้วหรอกเหรอ??    :confuse:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 14-01-2010 23:44:04
คู่รักเริ่มหวานกันแล้ว แต่คู่รองท่าจะดุเดือดไปหน่อยนะครับ ขอบคุณคนโพสต์และเจ้าของเรื่องครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ต่อคะ 13/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-01-2010 02:14:38
สนุกดีค่ะ แจ็คน่ารักจังเลย
ไนท์ก็อย่าแกล้งแจ็คบ่อยๆนะ สงสารอ่ะ -*-
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 17-01-2010 08:59:53
ขอบคุณทุกคอมเมนท์คะ

สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือ กำแพงใจ ตอนนี้ ใบปอ จะพิมพ์ใหม่คะ แต่ยอดจอง ขอที่ 10 เล่มนะคะ ถ้าใครอยากได้ลงชื่อไว้เลยคะ จะได้รู้คะว่ายอดถึงไหม  :3123:

มาอ่านเรื่องราวกันต่อเลยคะ
..........

แม้ละอองน้ำจะพัดมาไม่ถึงที่พัก แต่อากาศก็ยังค่อนข้างเย็นและชื้นกว่าบริเวณอื่น ไนท์ทอดตัวบนเสื่อผืนใหญ่อย่างสบายอารมณ์  นานมากแล้วที่เขาไม่ได้พักทั้งกายและใจอย่างนี้  สายตารื่นรมย์จับอยู่ที่ร่างเปียกๆซึ่งกำลังขนข้าวของเข้าไปจัดในเต็นท์หลังใหญ่ 
“ผมจะเผาปลาให้คุณลองชิมดูดีไหมครับ?”
“เอาสิ…ปลาที่จับมาเมื่อกี้เหรอ?”
“ครับ”
“หน้าตามันตลกๆ”
“แต่เนื้อหวานนุ่มอย่าบอกใครเลยครับ”
แจ็ควางปลาย่างหอมกรุ่นตัวโตลงบนใบไม้ใบโตหน้าตาประหลาด  ไนท์สูดจมูกเหลียวไปมองรอบๆ
“หาอะไรครับ?”
“ได้กลิ่นดอกอะไรไหม…หอมแปลกๆ”
“ใบนี่มังครับ”
“ใบอะไร?”
“ผมไม่รู้จักชื่อหรอกครับ  แต่ชาวบ้านที่นี่นิยมเอามารองปลาหรืออาหารย่าง กลิ่นมันจะหอมก็ต่อเมื่อโดนความร้อน  แล้วมันก็ช่วยดับกลิ่นคาวได้ด้วย”
“อืม…ไม่มีกลิ่นคาวเลยจริงๆ”
ไนท์ก้มลงดมปลาที่แจ็คกำลังเลาะหนังและก้างปลาออกอย่างสนใจ  แจ็คถือโอกาสป้อนให้เสียเลย มุมปากบางยกขึ้นนิดๆอย่างขำขันในความช่างเอาใจ ไนท์กินปลาย่างเพลินจนอิ่มโดยไม่แตะอาหารอย่างอื่นซึ่งแจ็คนำมาจากโรงแรม  สร้างความภูมิใจแก่พ่อครัวเอกอยู่ไม่น้อย
“เล่นน้ำกันดีกว่า”ไนท์ผุดลุกขึ้นชวนแล้วออกเดินนำ แจ็คตามมายึดข้อมือ เล็กไว้แน่น
“เพิ่งทานเสร็จใหม่ๆอย่าเพิ่งลงน้ำเลยครับ  เดี๋ยวจุก”
“ไปนั่งคุยริมน้ำคงได้นะ”
“ได้ครับ”
ไนท์เดินไปหาลานหินถูกใจแล้วหย่อนเท้าลงไป  แจ็คตามไปนั่งข้างๆยกขาเรียวขึ้นพาดตักแล้วม้วนขากางเกงให้พ้นน้ำ  ไนท์มองการกระทำนั้นนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงไล้ปลายนิ้วบนแก้มระคาย  แจ็คหันมายิ้มกว้างเหมือนเคย
“แจ็ค…เธออายุเท่าไหร่?”
“25 ครับ” ปลายนิ้วเรียวแตะนิ่งอยู่กับที่ครู่หนึ่ง  ก่อนดึงใบหน้าระคายให้หันมามอง
“คิดว่าฉันอายุเท่าไหร่?”
“20อย่างมากก็ไม่เกิน 23” แจ็คตอบอย่างมั่นใจ  ไนท์อมยิ้มก่อนจะชะโงกไปกระซิบข้างหู
“หา!ไม่จริงอ่ะ…ผมไม่เชื่อ...”
“ฉันดูเหมือนคนขี้โกหกเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับ…แต่คุณ…ดูเด็กกว่าผมอีกนะ”
“ใช่ว่าฉันจะภูมิใจหรอกนะ…จะว่าไปมันก็เหมือนจะเป็นปมด้อยกลายๆด้วยซ้ำ เวลาทำธุรกิจมักโดนมองว่าเป็นเด็กมืออ่อน  บางครั้งก็แทบพลาดงานใหญ่เพราะอีกฝ่ายไม่มั่นใจที่จะทำงานกับเด็ก…ฉันยังว่าจะลองไว้หนวดไว้เคราดูนะ”         
“อย่าไว้เลยครับ…เอ่อ…หน้าใสๆแบบนี้เหมาะกว่า” แจ็คเสียงอ่อยลงเมื่อรู้สึกเหมือนกำลังสั่งไนท์  ท่าทางจ๋อยๆเรียกรอยยิ้มอ่อนโยนจากปากสีสด
“เล่นน้ำกันเถอะ”
“แต่ว่า…”แจ็คห้ามไม่ทัน ร่างบางไถลลงน้ำอย่างรวดเร็วแถมยังลากร่างสูงให้ร่วงตามไปด้วย  อุณหภูมิที่ค่อนต่ำของน้ำทำให้คนลงมาก่อนแทบวิ่งกลับขึ้นไป ไนท์หมุนตัวกลับเข้าไปกอดร่างหนากว่าแน่น
“เป็นอะไรไปครับ?”
“หนาว…ทำไมมันเย็นอย่างนี้ล่ะ  ตอนแช่เท้าไม่เห็นเย็นเท่าไหร่เลย”
“ก็คุณลงเร็วไปหน่อย  ร่างกายยังไม่ทันปรับตัวก็เป็นอย่างนี้แหละครับ” แจ็คกระชับอ้อมแขนให้แน่นกว่าเดิมเพื่อลดอาการสะท้านของร่างบาง  ไนท์ยิ้มหวานทำตาเจ้าเล่ห์
“งั้นมาทำอะไรให้ตัวอุ่นกันดีกว่า” ปากนุ่มเลื่อนมาสัมผัสคางระคายเบาๆ แจ็ค เลื่อนปากลงมารับปากบางอย่างนุ่มนวล
เสื้อเปียกน้ำทำให้ร่างที่สัมผัสกันรับความร้อนของผิวหนังได้เต็มที่  แจ็ค ถอนใจยาวอย่างเสียดายเมื่อมือนุ่มๆดันอกเขาออกห่าง  ชายหนุ่มจำต้องคลายอ้อมแขนออก  ไนท์ยิ้มนิดๆโผว่ายไปมาอย่างสนุก  แจ็คปีนขึ้นไปจัดเสื้อผ้าให้เปลี่ยน  ครู่ใหญ่ไนท์ก็วิ่งตัวสั่นงันงกด้วยความหนาวขึ้นมาถอดเสื้อผ้าส่งให้หน้าตาเฉย แจ็ครับเสื้อผ้าเปียกๆไปใส่กล่อง แล้วเช็ดร่างเปลือยด้วยผ้าเนื้อหนานุ่มหนักๆเพื่อให้เลือดหมุนเวียน 
ไนท์มองการปรนนิบัตินั้นอย่างพินิจพิเคราะห์  อยากรู้ว่าแจ็คทำทุกอย่างด้วยความจริงใจหรือแค่ต้องการพะเน้าพะนอเขาไว้เพื่อยกระดับตัวเองเหมือนที่คนรอบข้างเขาเป็น
“ยังหนาวอยู่เหรอครับ?” แจ็คถามอย่างสงสัยเมื่อรู้สึกถึงอาการนิ่งขึงของไนท์
“ไม่แล้ว ขอบใจมาก”
“งั้นพักผ่อนก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปเติมฟืนอีกหน่อย”
ไนท์เดินไปนั่งเช็ดผมในเต็นท์  ตามองจ็คเติมฟืนอย่างสนใจ
“มีแต่ฟืนท่อนเล็กๆอย่างนี้ไม่ต้องเติมกันทั้งคืนเหรอ?”
“มีท่อนใหญ่ครับ  พอจะนอนผมค่อยใช้ไม้ท่อนใหญ่ จะได้อยู่ทั้งคืนแต่ไม่สว่างมากเหมือนฟืนท่อนเล็กๆ”
ไนท์เพียงพยักหน้ารับ  แจ็คออกไปเติมฟืน เมื่อกลับเข้ามาก็พบร่างบางนอนอยู่บนกองหมอน  เสื้อผ้าถอดโยนกระจายไปทั่วไม่เว้นแม้แต่ชั้นใน  แจ็คแน่ใจว่าใต้ผ้าขนสัตว์หนานุ่มร่างงดงามเปลือยแน่นอน
“มานอนด้วยกันสิแจ็ค”
“ครับ” แจ็คขยับเข้าไปใกล้ แต่ไนท์ส่ายหน้าและมองที่เสื้อผ้าเขายิ้มๆ  แจ็ค ถอดออกอย่างรวดเร็ว  แล้วรีบสอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มเคียงกับร่างบาง
ไนท์หัวเราะหึๆเมื่อปากร้อนๆซุกไซ้ไปตามต้นคอและแผ่นหลัง  ชีคหนุ่มผุดลุกขึ้นแล้วหันมานั่งประจันหน้ากับแจ็ค
“เธอหลงฉันเหรอแจ็ค?”
“ทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งคลั่งไคล้เลยครับ” แจ็คตอบเบาๆตาวาวระยับ  แต่ไนท์ยิ้มเย็นเยือก
“งั้นพิสูจน์สิว่าเธอรักฉันจริง...ไม่ใช่ต้องการแค่ร่างกาย”
“ทำยังไงครับ?”
“คืนนี้ห้ามมีเซ็กส์กับฉัน”
“ห้าม…แต่…”
“ทำไม่ได้?”ไนท์เลิกคิ้วสูง ดวงตาวาววับเจ้าเล่ห์
“ได้ครับ  ผมจะทนให้ได้”
“ดี…ปิดไฟเถอะฉันง่วงแล้ว”
แจ็คลุกขึ้นแล้วทั้งเต็นท์ก็มืดสลัวเพราะยังมีแสงสว่างจากกองไฟข้างนอกส่องผ่านเต็นท์เข้ามา ไม่นานร่างร้อนก็เข้ามานอนใกล้ๆ ไนท์พลิกตัวเข้าไปในอ้อมแขนแข็งแรง  รู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อแข็งที่ตึงเขม็งขึ้นทั้งตัวและเสียงลมหายใจสะดุดไปครู่หนึ่งของชายหนุ่ม
“...คุณไนท์ครับ…”
“ฉันหนาว  กอดแน่นๆหน่อย”
“ครับ” ไนท์ลอบยิ้มในความมืด ร่างที่เบียดกระชับเขาร้อนขึ้นทุกที กล้ามเนื้อที่เบียดชิดสะโพกร้อนเหมือนจะลวกเขาให้สุก  ไนท์หลับไปอย่างสบายใจ  อยากรู้เหมือนกันว่าแจ็คจะอดทนได้นานสักแค่ไหน............      

ความเย็นจากภายนอกลอดเข้ามา ที่นอนข้างกายเขาเย็นเฉียบ…แจ็คหายไปไหน?  ยังไม่ทันขยับประตูเต็นท์ก็ถูกแหวกเข้ามา  แจ็คถอดเสื้อผ้าออกแล้วค่อยแทรกเข้ามา  กระนั้นเนื้อตึงที่สัมผัสเขาก็เย็นเฉียบ
“หายไปไหนมา?”
“ผมไปเติมฟืนครับ”
“เธอตัวเย็นอย่างนี้ฉันหนาวนะ”
“ขอโทษครับ”แจ็คขับออกห่าง แต่มือบางคว้าไหล่เขาไว้
“จะถอยไปทำไม  บอกว่าหนาวไม่ได้ยินเหรอ?”
“ผมจะไปทำให้ตัวอุ่นก่อนครับ”
“ไม่ต้อง กอดฉันแน่นๆก็พอ…”
“คุณไนท์ครับ  คุณบอกว่าห้ามผม…เฉพาะคืนนี้ใช่ไหมครับ?”
“ใช่…อย่าถามมากน่า...ฉันง่วง” ไนท์เบียดชิดกับร่างหนาอย่างสบายใจ  แจ็ค สูดกลิ่นหอมของผมนุ่มเบาๆแล้วกอดร่างบางกระชับ  แต่ตาสว่างโพลงรอคอยให้ผ่านพ้นคืนแสนทรมานอย่างยากเย็น ....
ไนท์ขยับตัวอย่างอึดอัดแต่อ้อมแขนแน่นหนากลับรัดตัวเขาแน่นกว่าเดิม  ปากร้อนไล้ผ่านใบหูและซอกคอจนสยิวไปทั้งตัว  มือร้อนสากลูบไล้สะโพกแผ่วเบาอีกมือก็บีบคลึงยอดอกจนเสียวยิบๆไปหมด  ไนท์พยายามดิ้นหนีแต่ท่อนขาแข็งแรงกดร่างของเขาไว้สะโพกเขารับสัมผัสร้อนฉ่าเบียดสีไปมาที่รอยแยกอย่างเจตนา
“แจ็ค  จะทำอะไร  นายผิดคำพูดเหรอ?”ไนท์พยายามหันไปมองแต่แจ็คขืนไว้
“เสียใจครับ  เกือบ6โมงเช้าแล้ว ผมถือว่าผมรักษาสัญญาได้แล้ว”
“แจ็ค…” ไนท์สะดุ้งเมื่อความเย็นลื่นแทรกเข้ามาในกายและนิ้วยาวก็สำรวจไปทั่วจนทนไม่ไหว  สะโพกบางขยับหนีแต่ไม่พ้น  แจ็คเบี่ยงร่างบางท่อนบนให้หงายมาหาเพื่อเชยชมยอดอกสีสดได้ถนัดขึ้น  สะโพกตึงแน่นที่เขาเสียดสีชวนให้สัมผัสจนอดใจไม่อยู่  แจ็คเลื่อนมือลงไปตามหน้าท้องแบนที่มีกล้ามเนื้อเป็นลอนสวย  แล้วผ่านลงไปหาความอุ่นนุ่มเบื้องล่าง เพียงสัมผัสโดน...ก็ขยับขึ้นมาราวกับมีชีวิต  ขาเรียวเหยียดเกร็งเมื่อมือร้อนขยับจนทนไม่ไหว  ร่างบางผวาเกร็งค้างปลดปล่อยความร้อนระอุรินรดมือกร้านที่ยังขยับเบาๆ แจ็คค่อยๆกดตัวเองเข้าไปในทางแคบร้อนระอุ  ที่เพียงแต่แทรกเข้าไปก็ได้รับการตอดรัดจนเสียววาบไปทั้งท้อง
ไนท์นิ่วหน้า  แต่ท่อนขาเขาถูกประคองยกขึ้นทำให้การแทรกลึกจากด้านหลังเป็นไปอย่างสะดวก  ชีคหนุ่มกัดปากแน่นมือกำผ้าปูรองนอนไว้  ท่าที่นอนตะแคงซ้อนกันอย่างนี้ทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ถนัด แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกสบายกว่าที่ร่างหนาจะกดทับลงมา  และความรู้สึกล้ำลึกที่ไม่อาจบรรยายเมื่อแจ็คแทรกเข้ามาในกายจนแน่นสนิท         
“ขยับเถอะ” ไนท์ครางเบาๆอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อความปรารถนาเร่งเร้า
แต่แจ็คกลับขยับมือเนิบช้าอย่างใจเย็น
“ทีผมยังรอคุณทั้งคืน  รอผมสัก1นาทีนะครับ”
“บ้าจริง…ฉันคง…รอนายไม่ไหวหรอก”ไนท์กัดฟันตอบหอบๆ
“งั้นก็ได้ครับ”
แจ็คละมือจากหน้าท้องตึงมากยึดไหล่บางแล้วขยับเลื่อนกายออกช้าๆ  ไนท์หลับตาแน่นเมื่อแจ็คขยับลึกกลับมาหนักๆ แผ่นหลังบางสัมผัสกับกล้ามเนื้อหนาที่เสียดสีตลอดเวลา จนเสียววาบตั้งแต่หน้าท้องไปจนจรดปลายเท้า
“แจ็ค…”
“ครับ..”
“เร็ว…เร็วหน่อย”
“ครับ” แจ็คไล้เลียใบหูนิ่มเบาๆ  ไนท์เหนี่ยวใบหน้าคร้ามจนปากสัมผัสกันหนักหน่วง  แรงสอดลึกเบื้องล่างเรียกเสียงครางทั้งที่ปากยังผนึกกันแน่น  ไนท์เป็นฝ่ายถอนปากออกโอบแขนรอบคอหนาด้านหลังแน่น  แจ็คซุกหน้ากับผมนุ่มหอมขณะขยับกายกระซั้น  แรงบีบรัดทำให้เสียววาบลึกไปทั้งตัวยามเคลื่อนไหวจนแทบทนไม่ได้  ไนท์ครางกระเส่าสะโพกขยับรับเท่าที่จะเคลื่อนไหวได้ ความเสียวซ่านเหมือนน้ำที่เอ่อท้นขึ้นทุกที ในที่สุดเขื่อนก็ทลาย  กระแสน้ำเชียวกรากบิดตัวอย่างรุนแรง พุ่งผ่านจากจุดศูนย์กลางไปยังทุกอณูทั่วร่าง  ผิวหนังเห่อร้อนและเสียววูบวาบ มือเท้าอ่อนเปลี้ยไม่อาจเคลื่อนไหวร่างกายได้นอกจากหอบหายใจระรัว  แรงปะทะอุ่นซ่านในท้องจนเสียววาบทั้งตัว  อ้อมแขนรัดรอบกายแน่น  ลมหายใจร้อนรินรดต้นคอและข้างแก้ม เสียงกระซิบรักพร้อมกับหอบหายใจชวนขัน  ไนท์ผล็อยหลับไปทั้งที่รอยยิ้มยังค้างอยู่ที่กลีบปากบาง  ............

แจ็คแกะสายรัดข้อเท้าอย่างหงุดหงิด ปกติการเล่นกระดานโต้คลื่น จะช่วยให้เขาคลายเครียดได้ แต่วันนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย  ชายหนุ่มเกือบสบถด้วยความโมโห เมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ในชุดนักท่องเที่ยวที่ดูไม่เข้าท่าที่สุดยืนอยู่ที่ดงสน เป็นอย่างนี้มาเกือบสัปดาห์แล้วนับแต่เขากับไนท์มีความ สัมพันธ์กันคนของไนท์ตามเขาทุกฝีก้าว แจ็คเปลี่ยนใจที่จะหยุดพักผ่อนกลับไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานแทน
น้ำเย็นเฉียบช่วยให้ความเครียดคลายลง  แจ็คเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดที่จะใส่ไปทำงาน  สายตาที่ไล่ไปตามเสื้อชะงักเมื่อสะดุดเข้ากับเสื้อสูทหลายตัวที่มุมตู้ จึงหยิบออกมาดูอย่างประหลาดใจ  เพียงแค่การตัดเย็บที่ประณีตก็บอกให้รู้แล้วว่าเสื้อเหล่านี้มีราคาสูงเพียงใด  หรือว่าจะเป็นเสื้อของไนท์?  แต่ทำไมมาอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเขา  ชายหนุ่มตัดสินใจโทรหาไนท์ทันที
“สวัสดีครับ” ไคซัคเป็นคนรับสาย
“ผมแจ็คครับ  ขอผมพูดสายกับไนท์...เอ่อ...ท่านชีคหน่อยครับ”
“ฝ่าบาทอาบน้ำอยู่ครับ  หากเป็นเรื่องด่วนก็ฝากผมไว้ได้”
“…คุณไคซัคพอจะทราบไหมครับว่าชีคใสเสื้อเบอร์อะไร?”
“มีปัญหาอะไรเหรอครับ?”
แจ็คนิ่งไปครู่หนึ่ง  ก่อนจะตัดสินใจถามตรงๆ 
“คือเสื้อสูทที่ตู้ผมมัน…”
“อ๋อ!นั่นไม่ใช่ของฝ่าบาทหรอกครับ  ของคุณ”
“อะไรนะครับ...ของผมเหรอ?”
“ครับ ของคุณ”
“ผมไม่เข้าใจ?”
“ฝ่าบาทต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย...คุณอาจต้องไปกับท่าน เราจึงจัดเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้  เพื่อคุณจะได้ไม่ต้องยุ่งยากไปหาไงครับ”
ปากว่าไม่ต้องยุ่งยาก แต่ความจริงคือปรามาสว่าเขาไม่มีปัญญามีเสื้อผ้าระดับนี้นั่นเอง แจ็คสะอึกกับคำหยามซึ่งหน้า  แต่เพราะไคซัคเป็นคนของไนท์ทำให้เขาไม่อยากให้บาดหมางกันมากกว่านี้ แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไนท์คงไม่ใช่สิ่งคนอื่นๆจะยอมรับได้  แต่การเหยียดหยามกันขนาดนี้ก็ทำให้ความอดทนเขาชักน้อยลงทุกที  ชายหนุ่มกัดกรามจนเป็นสันนูน 
“…งั้นเหรอครับ  ขอบคุณนะครับที่ช่วยจัดการให้”
“ไม่เป็นไรครับ  เป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นผมคงรบกวนคุณแค่นี้แหละครับ”
“สวัสดีครับ”
“ใครโทรมาซัค?” ไนท์เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ  ไคซัควางชุดใหม่ไว้ให้บนเตียงเรียบร้อยแล้ว
“คุณแจ็คกระหม่อม”
“อ้าว!มีอะไรหรือเปล่า?”
“คุณแจ็คเพียงแต่โทรมาถามเรื่องเสื้อสูทกระหม่อม”
“นั่นสิ เรียบร้อยหรือเปล่า  ว่าจะถามอยู่เหมือนกัน?”
“เรียบร้อยกระหม่อม  แต่ดูท่าทางคุณแจ็คจะไม่ค่อยพอใจ”
“อะไรของเขาอีกละ…ช่างเถอะ! ว่าแต่ฮาลีโทรศัพท์มาหรือยัง?”
“ยังกระหม่อม”
“ฉันจะทำงานเลยนะ  ฮาลีติดต่อมาเมื่อไหร่ก็ต่อเข้าไปเลย”
“กระหม่อม” 
ไคซัคค้อมกายเคารพแต่ดวงตาเป็นกังวล เมื่อสังเกตเห็นไนท์เดินไปยืนมองบ้านพักของแจ็คอยู่ครู่หนึ่งถึงลงมือแต่งตัว  ไคซัคถอนใจเบาๆ หนักใจที่แจ็คดูจะทวีความสำคัญต่อชีคหนุ่มขึ้นทุกที  ขนาดเรื่องเล็กๆน้อยๆอย่างเสื้อผ้า  ไนท์ก็ยังพิถีพิถันจนถึงกับเลือกแบบเลือกเนื้อผ้าให้เอง  ทั้งที่สูทของตัวเองชีคหนุ่มยังไม่สนใจขนาดนี้ด้วยซ้ำ  แม้แต่เวลาทำงานแต่ละวันก็ถูกเลื่อนให้มากขึ้นเพื่อให้มีวันหยุดยาวๆ
สำหรับเขาสิ่งที่เป็นความสุขของชีครามิลเขาไม่เคยคิดขัดขวาง  แต่สักวันชีครามิลต้องครองราช  แจ็คอาจสร้างปัญหาให้ก็ได้  ที่สำคัญประวัติของแจ็คดูคลุมเครือชอบกล  แค่พนักงานโรงแรมธรรมดาๆ  ทำไมแฮมิลตันต้องปกปิดขนาดนั้น...นอกจากแจ็คจะมีความลับอะไรอยู่เบื้องหลัง! ............

พนักงานฝ่ายต้อนรับออกมายืนหันรีหันขวางอยู่ที่ลานจอดรถพอเห็นแจ็ค ก็ดีใจแทบโดดมากอด
“แจ็ค! พระเจ้า...ผมกำลังจะไปหาคุณอยู่พอดีเลย”
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
“ชีคท่านสั่งตัดเสื้อผ้าสำหรับงานเลี้ยง แต่ทางร้านยังไม่มาส่งให้ เลย”
“อ้าว!โทรไปเช็คแล้วเหรอครับ?”
“โทรแล้ว...ทางนั้นบอกว่าช่างป่วยเกือบทั้งร้าน ชุดก็เลยเสร็จล่าช้า”
“แล้วจะทำยังไงละครับ?”
“ที่ร้านขอให้ทางเราไปเอา  เพราะเขาเกรงว่าส่งมาให้ไม่ทันท่านใช้งาน”
“งั้นคงต้องใช้เฮลิคอปเตอร์”
“นี่แหละผมถึงต้องไปตามคุณ  นักบินลาป่วยไปคน  อีกคนก็พาท่านชีค ไปธุระตั้งแต่เช้าแล้ว”
“งั้นคุณเอาที่อยู่ร้านมา  ผมไปรับให้เอง”
“ขอบคุณมากนะแจ็ค”
“ไม่มีปัญหาครับเรื่องเล็กน้อย”
“นี่ครับที่อยู่ร้าน…ส่วนเรื่องค่าเสื้อผ้าท่านชีคจ่ายไว้หมดแล้ว”
“ได้ครับผมจะรีบไปรีบกลับ”
แจ็คดุ่มเดินออกมาถึงลานจอดเฮลิคอปเตอร์ก็ต้องชะงักเมื่อองครักษ์ร่างสูงใหญ่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
“ผมขับให้ครับผม”
“ไม่ต้องหรอกครับ ไปแค่นี้เองผมขับเองก็ได้”
“ไม่ได้ครับผม นี่เป็นคำสั่งครับผม”
“หมายความว่าไง?”
“ผมมีหน้าที่ดูแลคุณครับในฐานะ...พระสหาย”
น้ำเสียงเน้นหนักตอนท้ายทำให้คนฟังหน้าชา  หมอนี่เลือกใช้คำว่าพระสหาย...แต่สายตาที่มองเขาเหยียดเยาะและดูแคลน
“เชิญครับ”
แจ็คไปขึ้นด้านผู้โดยสาร ปล่อยให้องครักษ์ร่างใหญ่นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นอย่างชำนาญ  แจ็คนั่งกอดอกนิ่งขึง  ในอกอัดแน่นจนเหมือนจะระเบิด  น่าขัน...พนักงานโรงแรมอย่างเขาต้องมีบอร์ดี้การ์ดติดตาม......ƒ.....
         
ออกจากห้องเสื้อหรูแจ็คก็นั่งกอดอกนิ่ง  แม้จะผิดสังเกตที่ถูกพาออกนอกเส้นทางแทนที่จะกลับไปที่เกาะของแฮมิลตัน  เครื่องลดระดับลงบนดาดฟ้าภัตตาคารหรูชื่อดัง  ที่นี่รับเฉพาะแขกวีไอพีและสมาชิก  พนักงานในชุดสูทยืนรอรับอยู่ก่อนแล้ว  และพาลงไปยังห้องอาหารในสวนที่เงียบสงบ  ด้วยไม่มีแขกคนอื่นเลย  แจ็คกวาดตามองรอบๆอย่างอึดอัดและงุนงง
“ทานมื้อเที่ยงด้วยกันคงไม่เสียเวลางานมากหรอกนะ”  ไนท์ผ่านประตูอีกด้านออกมา  เสื้อสูทตัวนอกถูกปลดออกส่งให้บริกร  ทำให้ความแตกต่างระหว่างไนท์กับแจ็คหมดไป
“มาธุระแถวนี้หรือครับ?”
“ฮื่อ...มีประชุมผู้ถือหุ้นรายใหญ่  นี่เขาก็มีงานเลี้ยงกัน  แต่เบื่อจะฟังเรื่องธุรกิจเวลาทานอาหาร  เลยให้เธอมาทานเป็นเพื่อน...อาหารที่นี่อร่อยนะ  วันนี้สั่งเมนูเด็ดไว้ให้ลอง”
“...แล้ว...เอ่อ...”  แจ็คกวาดตาไปรอบๆ  แปลกใจที่ไม่เห็นไคซัคหรือองครักษ์คนอื่น
“เราทานกันสองคน...ส่วนคนอื่นไล่ไปทานห้องข้างๆ...ดีไหม?” ไนท์หลิ่วตาให้ล้อๆ  แจ็คหันมายิ้มเก้อๆด้วยความเขินที่ถูกไนท์จับความรู้สึกได้
ถึงจะรู้ว่ามีองครักษ์อีกโขยงนั่งอยู่ห้องข้างๆ  แต่ความรู้สึกปลอดโปร่งก็ทำให้ใบหน้าคร้ามสดใสจนเห็นได้ชัด  ไนท์เหลือบมองอย่างขันๆแต่ไม่แสดงให้ชายหนุ่มรู้ตัวด้วยไม่อยากทำลายบรรยากาศดีๆในตอนนี้
ไม่ว่าจะเป็นด้วยอาหารรสชาติถูกปากหรือเพราะโล่งอกที่ไม่มีคนมาตามดูเวลากินก็ตาม แต่แจ็คก็ทานได้มาก  จนชีคหนุ่มนึกดีใจที่ไม่ให้องครักษ์อยู่ด้วย
“สั่งของหวานไหม?”
“ดีครับ ผมชอบเค้ก”
“แปลกนะ...นานๆเห็นผู้ชายชอบกินเค้กเสียที”
“แล้วคุณละครับทานอะไร?”
“ขอเป็นชาดีกว่า” ไนท์หันไปสั่งบริกรเบาๆ  ฝ่ายนั้นค้อมตัวแล้วรีบออกไป
“ชามันขมนี่ครับ”
“ชาอย่างดีจะขมจัด แต่จะทิ้งความหวานชุมคอไว้ตอนกลืน”
“งั้นเหรอครับ?  ผมเคยลองครั้งหนึ่ง  เข็ดเลยครับ”
“แต่ถ้าอยู่เมืองทะเลทรายจำเป็นต้องดื่ม  ชามีประโยชน์มาก ใบชาสดช่วยให้เราไม่ค่อยหิวน้ำเวลาเดินทางในทะเลทราย  ชาจะออกฤทธิ์ช้าแต่ยาวนานกว่ากาแฟมาก”         
“มาพอดีครับชาของคุณ”
ถ้วยชาและจานขนมเค้กถูกวางลงตรงหน้า แต่บริกรร่างสูงยังไม่ถอยออกไป  แจ็คขนลุกอย่างประหลาด  เขาเงยขึ้นสบตากับบริกรเป็นจังหวะเดียวกับที่มันยื่นมือที่มีผ้าสีขาวพาดคลุมไว้มาที่ไหล่ไนท์   ส่วนปลายกระบอกที่สวมที่เก็บเสียงโผล่ลอดออกมาจากผ้าเล็กน้อย         
“เชิญท่านชีคไปกับผม”         
“ฝ่ายไหนส่งมาอีกละ  กวนใจกันจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่เวลากินเชียวนะ”       
“หุบปากแล้วตามผมมาดีกว่า”         
“ขอดื่มชาก่อนไม่ได้เหรอ?”
“ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ชีครามิล! อย่าลีลาให้มันมากนักเดี๋ยวปืนในมือผมมันจะลั่นเสียเปล่าๆ”
แจ็คนั่งนิ่ง  เขาไม่ได้กลัวมันแต่กำลังคิดหาทางช่วยไนท์  ไนท์ผุดลุกขึ้นอย่างเบื่อๆ  แต่มือปืนก็หมุนตัวตามอย่างระแวง จังหวะนั้นเองแจ็คก็คว้าชาสาดใส่หน้ามัน ชั่วพริบตาที่มันผงะ มือเรียวขาวก็คว้าบางอย่างบนโต๊ะแล้วหมุนตัวอย่างรวดเร็ว  ส้อมเงินเล่มเล็กแต่ยาวเรียวปักเข้าไปในคอหอยของมันจนมิดด้าม  มือปืนตาเหลือกค้าง แต่ปืนยังไม่เบนออกจากเป้า 
แจ็คพุ่งตัวข้ามโต๊ะถีบมันกระเด็นไปล้มฟาดโครม พร้อมกับที่กระสุนกราดเฉียดไนท์ไม่เกิน3นิ้ว กระสุนกราดไปโดนข้าวของบนโต๊ะจนแหลกกระจุยแล้วขึ้นไปฝังอยู่บนเพดานจนหมดแม็ก ตามแรงกระตุกครั้งสุดท้ายของนิ้วที่แข็งเกร็ง แขนขายังกระตุกเป็นระยะๆอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อยสงบ   เลือดไหลโกรกจากลำคอจนมองไม่เห็นส้อม
แจ็คยังบังไนท์ไว้ตาจ้องมองร่างบนพื้นอย่างระแวง  ขณะที่ไนท์อมยิ้มชอบใจในความฉับไวของแจ็ค พนักงานสาวที่ได้ยินเสียงข้าวของตกแตกชะโงกเข้ามาดูเหตุการณ์กรีดร้องอย่างตกใจที่เห็นคนนอนเลือดโชกอยู่ที่พื้น ทำให้องครักษ์จากห้องข้างๆวิ่งพรูเข้ามา
อามิลปราดไปดูร่างที่เหยียดยาวอยู่ที่พื้นก่อนจะกลับมายืนก้มหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า  ชีคหนุ่มกวาดตามองเหล่าองครักษ์ทีละคน
“ตรวจสอบดูซิว่าใครส่งมา  แล้วอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก” 
“กระหม่อม”อามิลค้อมกายเคารพแล้วองครักษ์ทั้งโขยงก็ออกไปจากห้องพร้อมศพของนักฆ่าคนนั้น
         ไนท์กวาดตามองสภาพโต๊ะที่แหลกด้วยแรงฉีกทึ้งของกระสุน  ก่อนจะหันมาเย้ายิ้มๆราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เธอเลยไม่ได้ทานเค้ก”
“...เกิดเรื่องเพราะผมแท้ๆ...” แจ็คครางเสียงแผ่วด้วยความกังวลใจ  สองครั้งแล้วที่ไนท์ตกอยู่ในอันตรายเพราะอยู่กับเขาตามลำพัง
“ไร้สาระ...ฉันเป็นคนชวนเธอนะ...ว่าแต่ไปไหนกันต่อดี?”
“ผมว่าเรากลับกันเถอะครับ...ผมไม่อยากให้เกิดอะไรขึ้น”
“แล้วถ้าบอกว่ามันเป็นความพอใจของฉันล่ะ”
“...ครับ...ตามใจ”  แจ็คไม่ได้ถอนใจแม้ในอกจะหนักอึ้งด้วยความห่วงคนตรงหน้าจนไม่เหลือความรื่นรมย์ใดๆอีก ไนท์มองหน้าเครียดของแจ็คอย่างหงุดหงิดหมดอารมณ์เที่ยวต่อโดยปริยาย
“กลับกันเถอะ  เธอต้องกลับไปทำงานนี่นะ”
“ครับ”
                    ...........

เมื่อกลับไปถึงโรงแรมแจ็คก็แยกตัวไปเงียบๆ อามิลมองตามหลัง แจ็คไปด้วยสายตาหมิ่นแคลน
‘เพียงแค่เห็นฝ่าบาทฆ่าคนก็หน้าซีดหน้าเซียว  นี่หากได้เห็นฝ่าบาทแล่เนื้อศัตรูที่ละชิ้นหมอนี่คงเป็นลม...อ่อนแออย่างนี้ ยังหมายจะบินเคียงพญาเหยี่ยวช่างไม่ดูเงาของตัวเองเสียเลย’
แจ็คมองมือตัวเองนิ่งงัน  เขากำลังเผชิญหน้ากับความผกผันของชีวิต  เมื่อเขาเป็นแจ็ค มิเคเน่ เขาคือพนักงาน โรงแรมธรรมดา คนหนึ่งที่อาจมีเรื่องโลดโผนเข้ามาในชีวิตบ้าง  แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะคิดฆ่าใคร
แต่หากเขาปรารถนาจะอยู่เคียงข้างชีค รามิล ราจีสอับดุล ต้องมีสักครั้ง ที่เขาต้องทำ...มือเขาจะเปื้อนเลือดคนอื่น  เขาอาจต้องส่งคนที่...อาจมีลูก...หรือ ครอบครัว  รออยู่เบื้องหลังไปนรก  เพื่อปกป้องคนที่เขารักและปกป้องตัวเอง
เขาจะทำได้หรือ?...หากทำไม่ได้  เขาคงต้องไปจากชีวิตไนท์...แต่หากทำได้...เขาคงไม่ต่างอะไรกับสัตว์ ที่ต้องฆ่าคนอื่น เพื่อต่อชีวิตตัวเองอย่างนั้นหรือ?
ทั้งๆที่พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งนี้มาตลอด  แต่สุดท้ายเขาก็มาถึงทางแยกนี้ จนได้  มีถนนเพียงสองเส้นให้เดิน  ไปจากไนท์… หรือโดดเข้าสู่วังวนนี้
ชีวิตไนท์ผูกติดอยู่กับหน้าที่  ด้วยภาระขององค์รัชทายาท  อันตรายนานา ประการคือสิ่งบังคับให้ไนท์ต้องสู้เพื่อป้องกันตนเอง  จนแจ็คกลัว...ว่ามันจะกลาย เป็นความเคยชิน และสุดท้ายมันอาจเป็นความพอใจ...พอใจในการประหัตประหารผู้อื่น............



หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 17-01-2010 09:05:52
.......
ริชเหลือบมองคนสนิทเป็นเชิงถาม  เมื่อเห็นอาการเคร่งเครียดของชีครามิล  เจฟฟรี่ไหวไหล่อย่างจนปัญญา  จริงอยู่ว่าสถานการณ์ตอนนี้ค่อน ข้างเครียดแต่เท่าที่ผ่านมา  ชีคหนุ่มก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาจัดการปัญหาทุกอย่างได้ดีเพียงใด
   “มีปัญหาอะไรเหรอครับ?”
“ปัญหา?”
“ผมเห็นคุณเครียดๆ”
“สิ่งที่ผมกำลังรับมืออยู่นี่คุณว่ามันไม่น่าเครียดหรือไง?” แม้น้ำเสียงจะราบเรียบ  แต่ริชก็เห็นประกายขุ่นในดวงตาคมกริบนั้นได้ชัด
“ก็...ครับ  ถ้างั้นก็แล้วแต่คุณ”
“หมายความว่าไง?”  ชีคหนุ่มหรี่ตามองริชอย่างเอาเรื่อง  ริชยักไหล่เลื่อนรายชื่อแขกมาให้ไนท์ดู  เจตนาเบี่ยงประเด็นดื้อๆ
“แขกที่จะต้องเชิญร่วมกัน...คุณคิดว่าโอเคไหม?”
“...เท่าที่ดูคราวๆก็ดี...แต่ถ้าผมจะเพิ่มเข้ามาอีกสัก 2-3 คน คุณจะว่าไง?”
“ได้ครับตามสบาย...ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ริชลุกขึ้นยืนช้าๆ  ทำเหมือนจะให้ชีคหนุ่มทักท้วง  แต่ไนท์กลับอ่านเอกสารในมือเฉย  เจ้าบ้านจึงทำได้เพียงไหวไหล่แล้วออกไปจากห้องประชุม
ชีคหนุ่มรอจนริชกับเจฟฟรี่ออกไปครู่หนึ่งจึงพยักหน้าให้ไคซัคเข้ามาใกล้ๆ
“เชิญหมอนั่นมาให้ได้ล่ะ”
“แต่หมอนั่นเป็นคนของฝ่าบาทฟาฮัส”
“ถึงต้องเชิญไงล่ะ...หาข่าวให้ยัดใส่ปากมันดีกว่าให้มันไปงมเอง  อาจพลาดไปเจออะไรเข้า”
“กระหม่อม”
“ช่วงนี้ลอเรนซ์เงียบไป”
“เพิ่งกลับจากเดินแบบกระหม่อม  มาถึงเมื่อวาน แล้วก็ตามแฮมิลตันแจ”
“ดี...จะได้ไม่มากวนเรา...อืม...เชิญทราวิสกับคู่รักมาด้วยดีกว่า”
“ฝ่าบาท...” ไคซัคท้วงด้วยน้ำเสียงอ่อนใจแต่ไนท์ยิ้มเฉย
“จะได้มีอะไรสนุกๆดูไง...หึๆ...ไหนๆก็ทนรำคาญลอเรนซ์มาตั้งนาน  ใช้ให้คุ้มจะได้ไม่เสียเที่ยว”
“...กระหม่อม”
.......................

เครื่องบินร่อนลงแตะลานจอดอย่างนุ่มนวลร่างสูงใหญ่โดดลงมา  ก่อนจะหันไปรับร่างบอบบาง แล้วพากันวิ่งหลบฝุ่นผง จากใบพัดเข้ามาในอาคาร  รถไฟฟ้าที่รออยู่พาแขกพิเศษทั้งสองไปส่งยังสำนักงานใหญ่ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านพักหรูหรา  ทันทีที่รถจอดร่างโปร่งก็เดินเข้าไปหา  สองพี่น้องกอดทักทายแล้วตบ ไหล่กันเบาๆ           
“ยินดีต้อนรับทราวิส”         
“คิดถึงนายชะมัด  หายไปดื้อๆไม่ส่งข่าวส่งคราวกันบ้าง”         
“ก็ให้คนไปบอกแล้วนี่ว่าจะมาธุระ”         
“แต่นายก็ควรโทรหาฉันบ้าง  ฉันสิโทรตามให้วุ่นแต่คนของนายยอดแสบ เลย  ไม่เคยได้คุยกับนายสักที”
ทราวิสโวยลั่นแถมเหลือบมองไปยังไคซัค ที่ยืนทำหน้าเรียบเป็นกระดาษ เหมือนเคย
“บ่นเป็นตาแก่ไปได้  มาเถอะเจ้าภาพเขารอต้อนรับอยู่”         
“สวัสดีครับคุณรอยเตอร์ ยินดีต้อนรับครับ” ริชยิ้มกว้างเข้ามาต้อนรับอย่างเจ้าบ้านที่ดี         
“สวัสดีครับคุณแฮมิลตัน  ที่นี่สวยมากเลย สมแล้วที่ได้ฉายาว่าแดนสวรรค์บนโลก”         
“ยินดีครับที่คุณชอบ  สวัสดีจีนส์สบายดีหรือเปล่า?”ประโยคหลังริชหันไปทักจีนส์อย่างสนิทสนม เด็กหนุ่มยิ้มหวานตามสไตล์         
“สบายดีครับ”
ไนท์เหลือบมองเด็กหนุ่มหน้าสวยที่เดินตามหลังพี่ชายด้วยดวงตาเย็นชา  จีนส์หุบยิ้ม  ค่อยๆเลื่อนไปแอบหลังทราวิสอย่างลืมตัว  ริชรีบแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเชิญทุกคนไปยังห้องรับรองด้านใน  จีนส์เดินรั้งท้ายเพราะไม่อยากอยู่ในรัศมีตาของไนท์         
“ไงจ๊ะหนูน้อยคนสวย?” จีนส์สะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกโอบเข้าไปกอดไว้แน่น  จุมพิตซ้ายขวาคงไม่น่าทุเรศหากหมอนั่นไม่เจตนาเลียแก้มเขา  เด็กหนุ่มกระโดดโหยงอย่างตกใจ  และลอเรนซ์ก็ปล่อยอย่างรวดเร็วจนเขาเซ  แต่อ้อมเขนแข็งแรงที่โอบรับไว้คือคำตอบว่าเหตุใดลอเรนซ์จึงยอมปล่อยเขาง่ายๆ ไม่รู้ว่าทราวิสเดินย้อนกลับมาตอนไหน แต่จีนส์ก็รู้สึกโล่งใจที่ทราวิสอยู่ด้วย           
“ฮาย!ทราวิส” ลอเรนซ์ทักหน้าตาเฉยทั้งที่เพิ่งลวนลามจีนส์มาหยกๆ         
“สวัสดีลอเรนซ์...นี่ยังไม่ผุดไปเกิดอีกเหรอ? เมื่อไหร่จะเลิกกระดิกหางวิ่งตามรามิลเสียที”         
ลอเรนซ์กัดกรามกรอดอย่างโกรธจัด  เขาเกลียดไอ้คนเถื่อนปากเสียคนนี้ที่สุด  หากไม่ติดว่าเป็นพี่ชายของคนที่เขาหมายปองไว้ เขาคงไม่ปล่อยหมอนี่ให้มาลอยหน้าตีฝีปากอยู่แบบนี้แน่         
“ฉันไม่อยากจะเสวนากับพวกป่าเถื่อนไร้มารยาทแบบนาย” ลอเรนซ์กระชากเสียงใส่แล้วเดินหนี           
“ทำเป็นปากดี  ไอ้ขี้ขลาดเอ๊ย!…ไม่เป็นไรนะจีนส์?”         
“ไม่ครับ”         
“ไปข้างในกันเถอะ เขาจัดการต้อนรับเราเสียหรูเชียว ไปกินเสียหน่อยเดี๋ยวอาหารมันจะเสียใจ” ทราวิสชวนหน้าทะเล้น  จีนส์หัวเราะคิก ลืมความโกรธความขยะแขยงเมื่อครู่ไปแล้วพากันเดินคลอกันไปยังห้องอาหาร โดยไม่รู้ตัวว่าอยู่ในสายตาคนของไคซัสที่ถูกสั่งให้จับตามอง
....................................

จีนส์เดินกลับไปยังห้องอาหารอีกครั้ง หลังจากที่ขอออกมาห้องน้ำ  ความจริงห้องน้ำในห้องอาหารก็มี แต่เขาเห็นลอเรนซ์เข้าไปจึงรีบหนีมาเข้าเสียข้างนอก  ขณะที่จะเลี้ยวไปห้องอาหารก็เจอเข้ากับสูงที่เดินสวนมา กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารในมือ         
“แจ็ค!”
“คุณจีนส์!...สวัสดีครับ”
“ดีใจจังที่เจอคุณ ผมเคยโทรมาแต่เขาบอกว่าคุณย้ายไปประจำที่ฮาวายแล้ว”
“ครับ...ตอนนี้ผมกลับมาช่วยงานที่นี่ชั่วคราว คุณจีนส์ดูสดใสจังครับ สูง ขึ้นด้วย”
“ดำปี๋เลยเห็นไหม?” จีนส์ยื่นแขนให้ดูอย่างอวดๆ  แจ็คหัวเราะจนฟันขาว
“โห!ถ้าอย่างนี้ดำผมคงมืดตึดตื๋อ  แล้วนี่มาเที่ยวหรือครับ?”
“ใช่…แจ็ค ผมอยากเจอคุณมากเลย”
“ทำไมครับ?”
“ผมอยากขอบใจคุณที่เตือนสติผม”
“เตือนสติ?….ตอนไหนครับ?”
“จำวันที่คุณไปส่งผมที่สนามบินได้ไหม คุณเคยอวยพรให้ผมเจออีกครึ่งหนึ่งของตัวเอง  ผมอยากบอกแจ็คว่า...ผมเจอแล้ว และผมก็รู้ความหมายของมันแล้วว่ามันมีค่าและยิ่งใหญ่แค่ไหน”
“ผมดีใจด้วยครับ  ในที่สุดคุณก็มีความสุขเสียที”
“ใช่มันสุขมากๆเลย...สุขจน....บางทีผมก็อดกลัวไม่ได้”
“กลัวอะไรครับ?”
“กลัวว่าความสุขนี้มันจะไม่ยั่งยืน  กลัวว่าสักวันมันจะมีอะไรเข้ามาทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปอีก” จีนส์มองออกไปข้างนอก  สีหน้าสุขแกมเศร้าจนแจ็คต้องแตะมือบางเบาๆ
“อย่ามัวแต่กลัวเลยครับ  ผมว่าคุณมีความสุขกับวันนี้ให้เต็มที่ดีกว่า  แล้วถ้าพรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้นก็ปล่อยมันไป”
“นั่นสินะ  กลัวไปก็เป็นทุกข์เปล่าๆ” จีนส์พลิกมือมากำมืออุ่นหยาบไว้
“คุณเปลี่ยนไปนะครับ?”
“มากเลยล่ะ  ชีวิตผมไม่ไร้ค่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว  ทั้งทำงาน ทั้งเรียน  หนักมาก...แต่ก็มีความสุขมากด้วย”         
“ผมยินดีด้วยอีกครั้ง”         
“ผมสิที่ต้องขอบคุณแจ็คมากๆ แล้วแจ็คล่ะ...เจออีกครึ่งหนึ่งหรือยัง  อย่าบอกนะว่ายังรอรามอสอยู่  เพราะผมไม่เชื่อเด็ดขาด”
“ทำไมละครับ?”
“ก็เพราะผมคิดว่าระหว่างคุณกับรามอสมันไม่ใช่ความรักน่ะสิ  คนดีๆแบบคุณน่าจะได้เจอคนที่เป็นอีกครึ่งหนึ่งจริงๆ...เจอแล้วใช่ไหมแจ็ค?”       
“ครับ...เจอแล้ว...แต่ผมก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าสำหรับเขาแล้วผมใช่ครึ่งหนึ่งของเขาหรือเปล่า  แต่สำหรับผมเขาเป็นทั้งชีวิตของผมแล้วด้วยซ้ำ”         
“เอาอีกแล้วเหรอเนี่ย…ทำไมคุณเจออะไรแบบนี้ตลอดเลยละแจ็ค”   จีนส์ครางเบาๆด้วยความสงสาร  ยิ่งมีความสุขเท่าไหร่จีนส์ก็ยิ่งรู้ว่าคนที่ไม่สมหวังนั้นต้องเจ็บแค่ไหน
“นั่นสิครับ ผมยังอดสงสัยไม่ได้ ว่าพระเจ้าท่านกำลังเล่นอะไรกับชีวิตผม”
“อย่าท้อนะแจ็ค  ผมเชื่อว่าความดีของคุณเอาชนะได้ทุกอย่าง”
“ขอบคุณครับคุณจีนส์”
“ผมต้องไปแล้ว  ดีใจนะที่ได้เจอแจ็คอีก”         
“โชคดีครับคุณจีนส์”         
“เช่นกัน บาย” จีนส์โบกมือให้แล้วเข้าไปห้องอาหาร  ส่วนแจ็คแยกไปอีกทาง โดยทั้งคู่ไม่รู้ตัวว่าตกอยู่สายตาเกรี้ยวกราดของพญาเหยี่ยวตลอดเวลา......ƒ......
         
จีนส์ดึงพวงดอกไม้ออกจากคอ  อาหารค่ำมื้อนี้คงน่าอร่อยกว่านี้ถ้าไม่มีนายแบบคนนั้น  เด็กหนุ่มไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ที่ต้องเจอกับลอเรนซ์บ่อยๆ  ตอนที่ลอเรนซ์ตามไนท์ไปเขารู้สึกโล่งใจมาก  แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกันที่เกาะของริชอีกจนได้
“ทำอะไรอยู่?”เสียงกระซิบอ่อนโยนพร้อมกับอ้อมแขนแข็งแรงที่โอบรอบเอวทำให้จีนส์หันไปยิ้มหวาน
“กำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าครับ…ผมนึกว่าคุณจะอยู่ดื่มต่อเสียอีก”
“ไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว…เดี๋ยวเหงา”
“ขอบคุณครับที่ห่วงผม”
“ไปอาบน้ำกันดีกว่า”
“ไปสิครับเดี๋ยวผมผสมน้ำให้”
“ไม่เป็นไร…ผสมด้วยกันดีกว่า” จีนส์หัวเราะคิกๆเมื่อโดนอุ้มตัวลอยเข้าห้องน้ำ ............
         
เช้านี้ริชจัดงานเลี้ยงต้อนรับทราวิสกับจีนส์บนเรือสำราญ  แม้จะมีแขกแค่5-6คน  แต่งานเลี้ยงก็มีสีสันจากการแสดง ที่มีให้ชมไม่ขาดระยะ  ร่างสูงปราดเปรียวคอยเทคแคร์ทุกคนอย่างคล่องแคล่ว  แต่ที่ต้องดูแลอยู่ตลอดเวลากลับเป็นลอเรนซ์  เพราะนายแบบหนุ่มคอยเบียดกระแซะไม่ห่าง
ส่วนไนท์แม้จะนั่งอยู่ในโต๊ะ แต่แทบไม่พูดอะไรเลย  นอกจากนานๆครั้งจะหันไป สนทนากับไคซัคเบาๆ     
“ทราวิส…ผมสงสัยมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว?” จีนส์กระซิบคนรักเสียงแผ่วขณะลุกออกไปตักอาหารด้วยกัน เพราะเห็นริชลุกออกไปเติมเครื่องดื่มโดยมีลอเรนซ์ ตามราวกับเงา         
“มีอะไร?”         
“ก็นายลอเรนซ์นะสิครับ  ผมเห็นตอนอยู่ที่โรงแรมเขาคอยตามคุณไนท์แจ แล้ววันนี้เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมเขาถึงได้ทำท่า…สนใจริชจนออกนอกหน้าแบบนั้น”         
“เขาคงแน่ใจละมั้งว่าไนท์ไม่สนเขาแน่ๆ  ก็เลยผละไปหาแฮมิลตัน”         
“นายคนนี้เขาเอ่อ…เป็นแบบไหนกันแน่ บางทีก็ดูแมนสุดๆ บางทีก็ทำอ่อนไหวจนน่าเกลียด”         
“เขามันพวกสองขั้ว  อยู่กับคนที่อ่อนแอกว่าเขาก็พร้อมจะเป็นแมน  แต่กับคนที่ดูเข้มแข็งกว่าเขาก็พอใจที่จะอ่อนเข้าหา…แต่ดูท่าจะเกาะแฮมิลตันไม่ปล่อยแน่”         
“แล้วคุณไม่ห่วงคุณไนท์เหรอครับ?”         
“ไนท์เขาเอาตัวรอดได้…ฉันห่วงเธอมากกว่า หมอนั่นจ้องเธอจนตาเป็นมันมาหลายครั้งแล้วนี่”         
“คุณรู้!”         
“รู้สิ…แล้วก็รู้ด้วยว่าเธอกลัวแค่ไหน…จีนส์ ฉันสัญญากับเธอแล้วนี่ว่าจะไม่มีใครทำอะไรเธอได้อีกแล้ว  เธอไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”         
“ผม…ขอบคุณครับ” จีนส์ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยความตื้นตัน         
“อย่าทำหน้าแบบนั้นน่า…ฉันยังไม่อยากจูบเธอโชว์คนอื่น”         
“กล้าก็ลองสิครับ” เด็กหนุ่มยั่วตาหวานระยับ         
“อย่าท้าดีกว่า…เจ้าภาพมาโน่นแล้ว”
“เป็นไงครับคุณทราวิส จีนส์ล่ะอาหารถูกปากหรือ?”
จีนส์เกือบสะดุ้งเมื่อจู่ๆคนที่ถูกนินทาก็มายืนอยู่ข้างหลัง  โชคดีที่ลอเรนซ์แยกไปนั่งหน้าเชิดอยู่ที่เก้าอี้ของตัวเองแล้ว  จีนส์ได้แต่ยิ้มให้เขินๆ แต่ทราวิสยังทักทายได้ปรกติ
“เยี่ยมมากครับ อาหารอร่อย  การแสดงก็สนุก  ธรรมชาติก็งดงาม ที่นี่คงได้รับการจัดอันดับโลกแน่หากคุณยอมให้สื่อเข้าชม”         
“ไม่ดีกว่าครับ…ผมอยากเก็บที่นี่ไว้ให้เป็นที่ส่วนตัวจริงๆ แต่สำหรับคุณและจีนส์ ผมยินดีต้อนรับนะครับจะมาเมื่อไหร่ก็ได้”         
“ขอบคุณมากครับ  ผมต้องมาแน่ๆ ที่นี่สวยออกอย่างนี้”         
“มาได้ทุกเมื่อเลยครับ…จีนส์แน่ะเป็นเจ้าบ้านแนะนำให้ด้วยนะ”         
“ได้ครับ”         
“ขอตัวก่อนนะครับ”         
“ครับ…สนิทกับริชมากเหรอ?” ทราวิสหันมาขู่คนรักทันทีที่เจ้าภาพพ้นสายตา  จีนส์อมยิ้ม ขันท่าทางคาดคั้นปนงอนๆของทราวิส         
“ผมเคยมาพักที่นี่กับพี่ชายครับ  เขาเป็นเพื่อนสนิทกัน คุณริชก็เลยค่อน ข้างคุ้นกับผมพอสมควร”         
“งั้นเหรอ…งั้นเสร็จแฟชั่นที่เวนิสคราวนี้เรามาพักผ่อนที่นี่กันดีกว่า”         
“อ้าว!ไหนว่าจะไปเที่ยวอินเดีย” จีนส์ตามอารมณ์คนรักแทบไม่ทัน         
“เปลี่ยนใจแล้ว ที่นี่ออกสวย...แถมทุกอย่างฟรีหมดแบบนี้จะไปที่อื่นให้เปลืองเงินทำไม”         
“ครับ…ตามสบายครับพ่อคนงก”         
“น่า...เก็บเงินไว้ให้เธอเรียนดีกว่า”         
“ขอบคุณครับ…ผมจะเรียนให้จบปริญญาเอกไปเลย  คุณจะได้ไม่เสียน้ำใจที่อุตส่าห์ส่ง”...... ......
         
ลอเรนซ์รีบลุกตามทันทีที่เห็นริชแยกตัวออกไปจากงานเลี้ยง  ปรกติเจฟฟรี่จะตามประกบชายหนุ่มเป็นเงา ทำให้เขาไม่มี โอกาสเข้าใกล้ริชเลย  แต่วันนี้เจฟฟรี่อยู่รับแขกแทน   ขณะที่ริชแว่บออกมาจากงาน
ห้องเย็นและกว้างขวางโอ่อ่างดงามสมกับเป็นของแฮมิลตัน นายแบบหนุ่มยิ้มอย่างมาดหมายเมื่อเห็นร่างสูงในชุดลำลอง เดินอยู่ริมสระท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
ลอเรนซ์พยายามย่องเข้าไปใกล้  แต่ยังไม่ทันถึงตัว ชายหนุ่มก็หันขวับมายิ้มให้ราวกับมีตาหลัง         
“งานไม่สนุกเหรอครับคุณลอเรนซ์?”         
“คุณนี่หูไวจัง ผมอุตสาห์ย่องแล้วนะ”         
“เปล่าหรอกครับผมเห็นตั้งแต่คุณเดินเข้ามาแล้ว”
หนุ่มเจ้าของเกาะเอ่ยยิ้มๆแล้วผายมือให้แขกไปยังมุมที่จัดวางเก้าอี้ยาวไว้  ลอเรนซ์ไปทรุดลงนั่งด้วยท่วงท่าสบายๆ แต่ได้รับการฝึกมาให้ดูดีสมอาชีพ 
ริชมองยิ้มๆ เรียกความเชื่อมั่นให้นายแบบหนุ่มขึ้นอีกเยอะ ลอเรนซ์แน่ใจว่าริชน่าจะเป็นพวกเดียวกัน หรืออย่างน้อย ก็น่าจะเป็นเสือไบ เพราะมีข่าววงในว่าริชมีหนุ่มน้อยหน้าสวยเคียงข้างออกงานด้วยบ่อยๆ           
“คุณริชอยู่ที่นี่เหรอครับ?”         
“เปล่าครับผมมาพักมากกว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับงานครับ ถ้าว่างก็จะพยายามหาเวลามา เพราะที่นี่เป็นที่โปรดของผม เหมือนกัน”         
“แล้ว…คนพิเศษละครับ ชอบที่นี่ด้วยหรือเปล่า?”         
“แน่นอนครับ” ริชตอบยิ้มแย้มอย่างไม่ปิดบัง
ลอเรนซ์ใจหายวาบด้วยความเสียดายกึ่งริษยา เขาคิดว่าริชจะปฏิเสธเรื่องคนพิเศษ แต่ท่าทางภาคภูมินั้นทำให้เขาเสียกระบวนไปชั่วขณะกว่าจะตั้งหลักได้
“แล้วทำไมไม่เคยเห็นมาด้วยละครับ?”         
“ช่วงนี้เขางานยุ่งน่ะครับ  ผมก็เลยฉายเดี่ยว”         
“อย่างนี้คุณก็เหงาแย่สิครับ  มาตั้งหลายวันแล้ว”         
“แขกพิเศษมาเที่ยวทั้งทีก็ต้องดูแลให้ดีสิครับ”         
“แขกพิเศษนี่หมายถึงไนท์คนเดียวเหรอครับ?”         
“ก็ต้องหมายถึงคุณด้วยอยู่แล้วครับ”         
“อยากรู้จังว่าคุณเห็นผมพิเศษแค่ไหน…พิสูจน์หน่อยสิครับ” ลอเรนซ์เลื่อนตัวเข้าไปเบียดร่างหนาอย่างรวดเร็ว  ริชยังคงยิ้มแม้มือเรียวขาวจะลูบเลื่อนขึ้นมาบนต้นขา         
“ผมรู้นะว่าคุณรู้สึกยังไงกับผม…” ลอเรนซ์กระซิบพร้อมกับกัดที่ใบหูแข็งเบาๆแล้วแหย่ลิ้นเข้าไปในหู ก่อนจะลากปากมาตามสันกรามแข็งอย่างชื่นชม ร่างเพรียวกว่าเบียดกระแซะกล้ามเนื้อแน่นอย่างร้อนรน  ดวงตาคมเป็นประกายกล้าชวนให้ละลายตั้งแต่แรกสบตา
นายแบบหนุ่มเลื่อนตัวขึ้นคร่อมตักกว้างอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวเขี่ยกระดุมเสื้อให้เปิดออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นตึง ที่เขาแอบมองมาตั้งวันที่ดำน้ำด้วยกัน  มือขาวลูบไล้แล้วก้มลงจูบไปทั่ว  ร่างกายร้อนผ่าวไปหมดด้วยความปรารถนา
ริชยังคงยิ้มเย็นมองนายแบบหนุ่มที่กำลังรุกรานร่างกายเขาเฉย  อยากรู้เหมือนกันว่าลอเรนซ์จะมีฝีมือสักแค่ไหน
ลอเรนซ์ดันร่างหนาให้เอนลงบนเก้าอี้ แล้วคลุกเคล้าปากไปทั่วมัดกล้ามแข็ง  สูดดมกลิ่นไอร้อนผ่าวด้วยพลังทางเพศอย่างลุ่มหลง  หน้าท้องแข็งเป็นลอนชวนให้สัมผัส  แต่ทันทีที่มือเรียวเอื้อมไปแตะก็ถูกมือใหญ่ยึดไว้แน่นจนเจ็บ
ลอเรนซ์เหลือบมองหน้าหล่อเหลาแล้วยิ้มท้าทาย ร่างโปร่งเอนทาบทับร่างหนาทั้งตัวพร้อมกับประกบจูบ  แต่ริชพลิกตัวอย่างรวดเร็วทำให้นายแบบหนุ่มเลื่อนลงไปอยู่ข้างล่างแทน         
“ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณชอบรุกมากกว่า…” ลอเรนซ์กระซิบพร้อมกับเลียปากช้าๆอย่างยั่วยวน  ริชไม่พูดแต่ยิ้มบาดตา  นิ้วยาวแตะที่ปลายคางบุ๋มแล้วลากลงมาที่ลำคอช้าๆ ลอเรนซ์หลับตาพริ้มแล้วครางออกมาเบาๆอย่างระงับไม่อยู่  เหมือนกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วยาวลงไปบนเนื้อ ทุกที่ที่นิ้วยาวลากผ่านร้อนวูบวาบจนอยากให้อะไรๆมันเกิดขึ้นเร็วๆ  ปลายนิ้วยาววนไล้บนยอดอกเบาแต่ยอดเม็ดใหญ่สีสดก็ตั้งเขม็งขึ้นรับทันที
“อา…คุณ…ทำให้ผมทนไม่ไหวแล้วนะ…เร็วๆเถอะริช…” ลอเรนซ์รัดร่างหนาเข้าหาอย่างรวดเร็ว  ทันทีที่กล้ามเนื้อแข็งเสียดสีลงมานายแบบหนุ่มก็แทบดิ้นพล่านด้วยความทะยานอยาก  อยากให้ริชสัมผัสมากกว่านี้...อยากให้ร่างหนาเบียดแทรกเข้ามาเร็วๆ  มือเรียวเลื่อนลงไปบีบเคล้นสะโพกหนาและกดลงเบียดกับสะโพกบางกว่าอย่างเร่าร้อน 
จู่ๆเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ริชลุกผละไปรับ  ลอเรนซ์มองตามอย่างงุนงงแกมขุ่นเคือง  หลังวางสายริชก็หันมายิ้มให้
“พอดีผมมีงานด่วนคงต้องขอตัวก่อน”
“อะ…อะไรนะ…คุณล้อผมเล่นใช่ไหม?”
“ไม่ได้ล้อเล่นครับ  เผอิญผมมีงานด่วนจริงๆ  ขอตัวก่อนนะครับ”
“ริช…บ้าที่สุด!คุณจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ…นี่!อย่าทำแบบนี้นะ..ริช! ริช!” ลอเรนซ์ตะโกนตามหลังด้วยความคั่งแค้นและเดือดดาล  ไม่อยากจะเชื่อว่าริชจะทำแบบนี้  ชีวิตนี้ไม่เคยมีใครปฏิเสธเขามาก่อน  แต่ริช แฮมิลตันกลับทิ้งเขาให้ค้างเติ่งหน้าตาเฉย  ลอเรนซ์แผดเสียงด้วยความคั่งแค้นและเสียงก็ถูกกลืนหายไปกับแสงแดดยามบ่ายตามลำพัง
…………………………


จีนส์ไขประตูเข้าไปในบ้านพักอย่างอารมณ์ดี หลังจากงานเลี้ยงเมื่อเช้าก็ได้เที่ยวตามลำพังกับทราวิสอยู่จนเย็นค่ำโดยไม่มีใครรบกวน 
ฉะนั้นตอนนี้เขาก็ควรปล่อยให้ทราวิสได้ไปดื่มกับไนท์บ้าง  ทันทีที่ประตูเปิด เงาดำๆก็พุ่งวาบมาจากด้านหลัง  ร่างบางถูกผลักจนเซถลาเข้าไปข้างใน  ยังไม่ทันตั้งตัวประตูก็ปิดโครมพร้อมๆกับไฟที่สว่างพรึ่บขึ้นทั้งห้อง       
“คุณ!” จีนส์อุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ผลักเขาคือลอเรนซ์
“หวัดดีหนูน้อย รู้สึกว่าฉันจะปล่อยให้เธอยั่วฉันมาหลายวันแล้วนะ คิดถึงฉันละสิ”
“พูดบ้าๆ  ผมไม่อยากเข้าใกล้คุณด้วยซ้ำ”
“จุ๊ๆๆๆ…อย่าทำเป็นดีดดิ้นไปหน่อยเลยน่า  ตอนนี้มีแค่เราสองคนเธอจะทำเป็นเล่นตัวอยู่ทำไม?”
“ออกไปนะ  ทราวิสฆ่าคุณแน่ถ้ารู้ว่าคุณเข้ามาในนี้”         
“ฉันก็อยากรู้ว่าทราวิสจะว่ายังไงถ้ารู้ว่าเธอนอนกับฉัน”         
“ไม่นะ  อย่า!”
จีนส์วิ่งวนหนี  เมื่อเข้าใกล้ประตูก็รีบปลดล็อคแต่ยังไม่ทันจะเปิดลอเรนซ์ก็กระชากร่างบอบบางถลากลับมา  จีนส์ดิ้นหนีแต่ไม่พ้นจึงถีบเข้าที่อกลอเรนซ์เต็มแรง  ร่างสูงผงะหงายไปด้านหลัง 
           จีนส์รีบตะกายลุกขึ้นวิ่งไปที่ประตูแต่ลอเรนซ์ตามไปทันก่อนที่เด็กหนุ่มจะถึงหน้าประตู  มือเรียวสวยแต่แข็งแรงพอที่จะกระชากผมสีทองเข้มจนจีนส์เซถลากลับมา  มือและเท้าประเคนเข้าใส่ร่างเล็กโดยไม่สนใจเสียงหวีดร้องอย่างเจ็บปวดของเด็กหนุ่ม  ดวงตาสีเขียวเป็นประกายหื่นกระหายและวาววามด้วยความตื่นเต้นที่เห็นเหยื่อดิ้นเร่าๆด้วยความเจ็บปวด  เมื่อลอเรนซ์ปล่อยมือร่างบางก็รูดลงกองอยู่กับพื้นทันที  เลือดสีแดงไหลซึมจากมุมปากและหางคิ้ว  ใบหน้าเนียนใสมีรอยแตกช้ำหลายแห่ง
ลอเรนซ์พยายามฉีกกระชากเสื้อ  แต่ผ้าอย่างดีทำให้ไม่ขาดง่ายๆ  นายแบบตัวแสบพยายามพลิกร่างบางขึ้นเพื่อถอดเสื้อ  จีนส์ยังไม่หมดสติแม้จะเจ็บจุกจนแทบขยับไม่ได้แต่เด็กหนุ่มก็ขืนตัวไว้ไม่ยอมให้ลอเรนซ์ถอดเสื้อผ้าออกง่าย แถม ยังถ่มเลือดและน้ำลายเต็มหน้าหล่อเหลา  ลอเรนซ์ตาลุกวาบด้วยความโกรธ         
“เด็กเวร!…อยากตายใช่ไหม? ให้ขึ้นสวรรค์ดีๆไม่ชอบ นี่ไง!…เป็นไงยังจะซ่าอยู่ไหม?” ลอเรนซ์ตบหน้าจีนส์หลายฉาด  ก่อนจะโยนร่างบอบบางไปบนเตียง  จีนส์หมดสติไปตั้งแต่ถูกตบครั้งแรกแล้ว  ลอเรนซ์ถอดเสื้อผ้าอย่างใจเย็นจู่ๆประตูก็เปิดผลัวะเข้ามาพร้อมกับร่างหนึ่งที่พุ่งตามเข้ามา         
“เฮ้ยเสือกเข้ามาทำไม  ไสหัวไปนะ?”         
“เวรเอ๊ย!…ไอ้ทุเรศ!” แจ็คคำรามเมื่อเห็นสภาพของคนบนเตียงเต็มตาพร้อมกับกระโจนเข้าใส่ร่างสะโอดสะองของนายแบบหนุ่ม  มือหยาบกระชากคอเสื้อที่ปลดกระดุมหมดแล้วเข้ามา หมัดหนักๆต่อยสวนจนหน้าขาวสะบัดเรียกเลือดกระฉูดจากมุมปากทันที  ลอเรนซ์ตาเหลือกพยายามปัดป้อง แต่แจ็คฟาดสันมือผัวะที่คอ ร่างสะโอดสะองงอก็ลง แจ็คยกเข่าสวนขึ้นจนหน้าขาวสะบัดหงายโครมลงไปทันที  ชั้นเชิงมวยที่ผิดกันลิบทำให้นายแบบหนุ่มลงไปคลานอยู่กับพื้นในพริบตา
แจ็คจิกผมหนาขึ้นมาและกระหน่ำมือเท้าเข้าใส่ไม่หยุด  ภาพบอบช้ำของจีนส์กระตุ้นให้ความโกรธของชายหนุ่มพุ่งสูงจนขาดสติ   มารู้สึกตัวเอาเมื่อมีมือหลายมือมายึดเขาไว้และพยายามลากออกห่างจากลอเรนซ์
“คุณแจ็ค!พอแล้วครับ”
“คุณแจ็คหยุดเถอะครับ” คนของเจฟฟรี่ยึดแจ็คไว้แน่น บางส่วนวิ่งไปดูร่างโชกเลือดที่พื้น 
“เอาคุณโซว์วาร์ดไปที่โรงพยาบาลเร็ว”
นายแบบหนุ่มกองอยู่กับพื้นเหมือนผ้าขี้ริ้วเก่า ใบหน้าหล่อเหลาแตกยับและบวมจนไม่เหลือเค้าเดิม  ร่างโชกเลือดของลอเรนซ์ถูกหามออกไปแล้ว  คนของเจฟฟรี่ถึงปล่อยแจ็ค 
ทราวิสวิ่งสวนร่างยับเยินของนายแบบหนุ่มเข้ามาในห้อง ก็เห็นแจ็คกำลังประคองร่างบนเตียงขึ้นมา หนุ่มใหญ่ถลันเข้าไปคว้าตัวคนรักมากอดด้วยความตกใจ  สภาพบอบช้ำของคนรักทำให้ทราวิสหน้ามืดด้วยความโกรธ  รีบอุ้มร่างบอบช้ำพาไปยังโรงพยาบาล  หากไม่ติดว่าห่วงจีนส์เขาคงตามไปจัดการกับลอเรนซ์ให้เละคามือแน่  ............

..........................



ขอบคุณคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 17-01-2010 09:58:26
 :sad4:  โฮยยยย  เรื่องราวมันเร่าร้อนรุนแรงจริงๆ  หนูจีนส์ตกป็นเหยื่ออีกแล้ววง่า





ปล.  เราจองไว้แล้วนะงับ 1 เล่มง่า   :m18:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 17-01-2010 10:28:49
อาไรกานเนี๊ยะ   :serius2:


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Donpopper ที่ 17-01-2010 11:07:21
เรื่องราวจะเป็นยังไงหนอ

ปล.ขอจองไว้ด้วยคนนะครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: k[1mE]:D ที่ 17-01-2010 11:16:13
เรื่องมันช่างวุ่ยวายจิงเลย

แต่มันก็เข้มข้นมากกกกก

คาดว่าไนท์ต้องหึงแน่เลย  มีจีนส์เป็นคนก่อไฟ 555+

ว่าแต่ลอเรนซ์นี้แบบบจิงๆเลย เถอะ  เฮ้อออ

ตอนนี้สนุกง่ะ  ^^

 :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 17-01-2010 11:35:36
.... ไอ้แมงกระจั๊วเอ๊ยย ย ย ยย  ..... ทำไรของมัน ค้างจากคนอื่นมาลงที่นู๋จีนส์ซะนี่ ..... ฮึ่ม มม ม ม ม ม  :angry2: รอตอนต่อไปค่ะ สงสารจีนส์  :o12:      ... .. . :sad4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 17-01-2010 11:36:53
 :beat: แด่ ลอเลนซ์

ตอนนี้เข้มข้นจริง แต่ละคู่ที่มา

อยากรู้อดีตแจ๊คจังเลย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-01-2010 11:41:59
หลายอารมณ์มากมายตอนนี้
อิลอเรนซ์ :beat: :z6:
สงสารจีนส์ เจ็บตัวเลยนู่น้อย :sad4:
+1 ขอบคุณจร้า :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 17-01-2010 11:48:19
เรื่องราวชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ นายแบบคนนี้ชอบก่อเรื่องอยู่เรื่อยเลย จีนส์ก็ต้องพลอยมารับกรรมไปด้วย  ขอบคุณครับอยากได้นิยายเหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-01-2010 11:50:27
อ๊ากกกกก ลอเรนซ์  ไปตายซะ  :fire:
สงสารหนูจีนส์อ่ะ
แล้วไหนจะแจ็คอีก  ดูท่าอุปสรรคของแจ็คจะเยอะน่าดู

ปล.ขอลงชื่อสั่งหนังสือด้วย 1 เล่มนะคะ  
ปล.2 อยากได้เรื่องเล่ห์รักด้วยสิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: raruruz ที่ 17-01-2010 12:14:11
ลงชื่อจองด้วย 1เล่ม ค่าา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: pokky ที่ 17-01-2010 12:39:14
จองด้วยจ้า 1 เล่ม  PM ไปแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 17-01-2010 13:10:40
จอง 1เล่มค่ะ

ทำเรื่องนี้ เรื่องเดียวหรือค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 17-01-2010 16:21:19
ใครยังไม่มีใครอบครองแนะนำให้จองด่วนนะคะ
เพิ่งได้นิยายจากพี่ใบปอมา อ่านจบแล้วจะเพ้อ >.< (พอดีทันล็อตเก่าที่แอบเหลือ ^^)
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 17-01-2010 16:30:28
สนุกมากกก สนุกที่แจ๊คเจอความขัดแย้งข้อใหญ่เกี่ยวกับตัวตนของตัวเองที่ไม่ชอบฆ่าฟันใคร แต่หัวใจรักก็อยากเคียงข้างไนท์อีก

คนเขียนเก่งมากในการผูกเรื่องและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร สุดยอดค่ะ บันเทิงทุกครั้งที่อ่าน  o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 17-01-2010 18:23:50
รอบนี้สงสารจีนจัง

จองหนังสือด้วยนะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-01-2010 18:50:53
 :เฮ้อ: หนูจีนส์โชคร้ายตลอดเลย  :เฮ้อ:

ปล. จอง 1 เล่มนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 17-01-2010 19:23:49
ขอลงชื่อจองด้วย 1 เล่มค่ะ
........ :pig4:...........
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-01-2010 01:49:40
เข้มข้นมากๆค่ะ
หนูจีนส์มาถึงก็เจ็บตัวเลย
แต่ไนท์คิดอะไรอยู่นะ ลุ้นมากมาย

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากค่ะ

ปล ส่ง pm เรื่องหนังสือไปแล้วค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jandk ที่ 18-01-2010 09:22:05
ไนท์นี่อายุเท่าไหร่กันนะ

แจ็คหลงขนาดนี้ ยังกลัวเค้าหลอกอีก

ว่าแต่ จีนส์นี่ ออกมาปุ๊ป โดนทำร้ายเลย ซวยจริง ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 18-01-2010 11:08:14
สงสารจีนส์ ออกมาก็รับบทหนักเลย
ไนท์ขี้ระแวงนะเนี่ย สั่งคนตามแจ๊คตลอด...สนุกมากค่ะตอนนี้

หนังสือราคาเท่าไรค่ะ อยากได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 18-01-2010 11:19:14
ขอจองด้วยค่ะ 1 เล่ม

แล้วอีก 2 เรื่องทำเป็นหนังสือด้วยรึเปล่าค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 19-01-2010 00:31:21
ขอบคุณค่า..

อีตาลอเรนซ์พอยั่วริชไม่สำเร็จก็หันไปปล่ำจีนส์งั้นเรอะ.. :beat: :z6:

นู๋จีนส์น่าสงสารจัง..โดนแบบอีกแล้ว.. :m15:

เฮ้อ..ไน์ขี่ระแวงเกินไปแล้ว.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-01-2010 12:58:57
ไนท์ นี่ท่าทางทั้งรักและหลงจนหมดใจ

แต่เจ้าลอเรนซ์ มันต้องโดนตื้บๆๆๆๆๆๆๆ   :z6:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 19-01-2010 13:24:01
มาติดตามครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้วคะ(พร้อมแจ้งเรื่องหนังสือ) 17/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-01-2010 20:37:49
 :z2: :z2:

ยอดจองถึง 10 เล่มยังน้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-01-2010 21:52:55
ขอบคุณสำหรับยอดจองหนังสือนะคะ

ขอเช็ครายชื่อนะคะ รายชื่อไหนจองแต่ไม่มี หรือท่านใดไม่ได้จองแต่ดันมีรายชื่อบอกได้คะ สำหรับรายละเอียดราคาจะแจ้งให้ทราบอีกทีคะ
                      จำนวนเล่ม 1 เล่มต่อ 1 รายชื่อคะ
jokirito /donpoper/ohja/thaitanoi / muyong / pokky/ little devil /Moo_Aor/ DEMON3132 /Namtaan / ysuyu /DEVIL DEWA/raruruz /THIP

รวม 14  เล่ม

สำหรับผู้อ่านที่สนใจเรื่องอื่น จะพยายามหามาให้นะคะ


ขอบคุณคะ :pig4:
................
ไปอ่านกันต่อเลยจ้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-01-2010 21:55:16
.............

ไนท์ ริช และเจฟฟรี่ ไปที่โรงพยาบาลทันทีที่ทราบข่าว 
ทราวิส นั่งกุมมือคนรักไม่ห่าง  แม้หมอจะบอกว่าเด็กหนุ่มปลอดภัยแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยัง ไม่วางใจเพราะจีนส์ยังไม่ฟื้น           
“ต้องขอโทษจริงๆครับที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เป็นความบกพร่องของระบบรักษา ความปลอดภัยของเรา” ริชเข้าไปขอโทษทราวิสด้วยความรู้สึกผิด         
“มันไม่เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยหรอกแต่มันเป็นความตั้งใจต่างหาก...ใช่ไหมไนท์?”  ทราวิสตาวาววับหันขวับไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังสุด
ทุกคนเหลียวไปมองชีคหนุ่มทันที  ไนท์ยิ้มเย็นถามด้วยน้ำเสียงเรียบ เรื่อยกึ่งเยาะ
“นายหมายความว่าไง?”
“เอ่อ…ผมขอตัวไปดูคนป่วยอีกห้องก่อนนะครับ”ริชหันไปพยักหน้ากับเจฟฟรี่แล้วออกไปจากห้อง เพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้อง ได้พูดกันตามลำพัง 
ไนท์ยืนนิ่งสีหน้าเย็นชาไม่เปลี่ยน ตรงข้ามกับทราวิสที่แทบลุกเป็นไฟด้วย ความโกรธ         
“นายกล้าพูดไหมล่ะ...ว่านายไม่ได้ชวนลอเรนซ์มาเพื่อให้ลอเรนซ์มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดจีนส์  ตั้งแต่ที่โรงแรมที่มาตินีกโน่น แล้ว”
“แล้วไง  ถ้าฉันเจตนาให้เขาใกล้ชิดแล้วไง?”         
“แล้วที่มันกล้าทำแบบนี้เพราะนายสั่งด้วยหรือเปล่าล่ะ?”         
“อย่าดูหมิ่นฉันทราวิส  อย่าลืมสิว่าฉันเป็นใคร”         
“อย่ามายกตัวข่มฉัน  ตอบมาดีกว่าว่านายสั่งหมอนั่นใช่ไหม?”         
“คนอย่างฉันน่ะไม่จำเป็นต้องใช้ลอเรนซ์ทำหรอก  หากต้องการให้เด็กนั่นหายไปจากโลกนี้ฉันทำได้โดยที่ไม่เหลือร่องรอยให้นายตามด้วยซ้ำ” ไนท์ยิ้มแต่ดวงตาเป็นประกายกร้าว         
“อย่าแตะจีนส์! ไม่งั้นเห็นดีกันแน่”
“อย่าท้าฉัน ทราวิส”
“ฉันไม่ได้ท้า แต่หากจีนส์เป็นอะไรไป หมาบ้าอย่างฉันก็กัดไม่เลือกได้เหมือนกัน”
“เพื่อเด็กสำส่อนคนเดียวนายลุกขึ้นท้ารบกับฉันเชียวเหรอ?” ไนท์ถามยิ้มๆพร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างสมเพชและเยาะหยัน
“จีนส์เป็นคนรักของฉัน  อย่าหยามกันให้มากนัก ฉันไม่อยากให้ความเป็นพี่น้องของเรามันจบเพราะความริษยาของนาย”
“ฉันเนี่ยนะริษยา!…มากไปแล้วทราวิส  คราวที่แล้วนายก็หยามฉันไปทีแล้วว่าฉันอิจฉาเด็กนั่น  แล้วนี่นายยังกล้ากล่าวหาฉันอีกงั้นเหรอ?” ไนท์ตา ลุกวาบไม่มีรอยยิ้มอีกต่อไป
ทราวิสก้าวเข้ามาชิดร่างเพรียวของน้องชาย  จ้องหน้าเนียนใสด้วยสายตาเจ็บปวดและขมขื่น         
“ทำไมไนท์?…นายก็มีคนที่นายรัก  นายไม่รู้หรือไงว่าเวลาที่เราเห็นคนที่เรารักเจ็บน่ะ…เราเจ็บยิ่งกว่าไม่รู้กี่เท่า”         
“นายพูดถึงอะไร?”       
“หรือนายจะปฏิเสธว่านายไม่ได้รักแจ็ค”         
“ฮะๆๆ…ฉันเนี่ยนะรัก  ตลกดีที่นายคิดว่าฉันจะรักคนธรรมดาๆแบบนั้น”         
“หึ…ถ้าแจ็คธรรมดาจริงๆนายคงไม่เก็บเขาไว้ข้างตัวหรอก...จริงไหม?  แล้วยังมื้อพิเศษที่เกือบถูกยิ่งนั่นอีกล่ะ”         
 “ไม่ใช่เรื่องแปลก...ทั้งวางยาทั้งยิงถล่มร้านฉันก็โดนมาแล้วทั้งนั้น...ไม่เห็นว่าจะพิเศษตรงไหน”
“งั้นเหรอ?...แล้วคุยธุรกิจสำคัญหรือไงถึงต้องให้องครักษ์ไปอยู่อีกห้อง” “ใครบอกนาย?” ไนท์ตาวาววับด้วยความโกรธ         
“นายคิดว่าใครล่ะ?”
“คิดว่านายแน่นักหรือที่รู้เรื่องฉันได้”
“แน่นอน...อย่าคิดว่าความเคลื่อนไหวของนายเป็นความลับนักสิน้องรัก”
“ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน  แต่ที่แน่ๆฉันต้องรู้ให้ได้ว่าใครคาบข่าวไปบอกนาย”         
“ฉันว่าที่สำคัญนายควรรู้หัวใจตัวเองให้ได้ก่อนดีกว่ามั้ง”         
“ฉันไม่เคยคิดจะจริงจังกับใคร  ชีวิตฉันเป็นของแผ่นดินเท่านั้น”ไนท์ทำเสียงหยัน แต่ไม่ยอมสบตา  ทราวิสมองนิ่งอยู่อึดใจก็หัวเราะแผ่วๆ         
“ตามใจ นายอยากคิดอย่างนั้นก็ตามใจ  แล้วสักวันนายจะต้องเสียใจที่ปล่อยให้สิ่งมีค่าที่สุดหลุดลอยไป”       
“หึ! ฉันจะรอดูวันนั้นนะ…ถ้านายไม่มีอะไรแล้วฉันจะกลับ”         
“เดี๋ยว! ตอบฉันมาก่อนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ นายไม่ได้รู้เห็นกับหมอนั่น”         
“ฉันจะตอบนายครั้งเดียวเท่านั้นแล้วอย่ามาถามอีก...” ไนท์มองหน้าพี่ชายนิ่งก่อนจะตอบเน้นคำอย่างเย็นชา
“ฉันไม่ได้ทำ!”
“แค่นั้นแหละที่ฉันต้องการได้ยิน”
ไนท์มองพี่ชายต่างมารดาด้วยดวงตาเย็นชาก่อนจะหมุนตัวออกไปจากห้อง 
ทราวิสทรุดลงนั่ง  ลูบหน้าผากด้วยมือชื้นเหงื่อ  โล่งใจที่ไนท์ยืนยันแบบนี้ เขารู้จักนิสัยไนท์ดี  หากทำไนท์จะไม่มีทางปฏิเสธเด็ดขาด  ทราวิสเสียววาบในหัวใจเมื่อนึกว่าหากไนท์มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้จริงๆความเป็นพี่น้องคงสะบั้นลงในวันนี้         
“คุณไม่ควรทำให้เรื่องมันใหญ่แบบนี้เลย”         
“จีนส์!ฟื้นแล้วเหรอ  เป็นไงบ้างที่รัก”ทราวิสปราดเข้าประคองจีนส์ขึ้นพิงบนหมอนแล้วไขเตียงขึ้นสูง  จีนส์ยึดมือใหญ่ที่เกาะกุมไว้แน่นอย่างเสียใจ         
“ผมเสียใจที่ผมเป็นต้นเหตุให้คุณกับน้องทะเลาะกันอีกแล้ว”         
“มันไม่ใช่ความผิดของเธอ  แต่มันเป็นเพราะฉันกับไนท์มากกว่า  เราไม่คุยกันให้จบเสียตั้งแต่ตอนนั้น  เรื่องราวมันถึงได้บานปลายมาจนวันนี้”       
“สองครั้งแล้วนะครับที่คุณทะเลาะกันเพราะเรื่องผม”         
“บอกแล้วไงว่าเรื่องเธอมันเป็นแค่ปลายเหตุ  ต้นเหตุจริงๆคงเป็นความผิดของฉันเอง”         
“ทำไมละครับ?”         
“ฉันรักเขามากเกินไป  ยอมลงให้เขามาตลอด  เมื่อจู่ๆฉันลุกขึ้นมาขัดใจเขาเรื่องราวมันถึงได้บานปลาย  ที่ผ่านมาฉันคบใครก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่เคยคิดจริงจังไนท์ถึงไม่เคยสนใจ  แต่ที่เขาหันมาเขม่นเธอเพราะเขาแน่ใจว่าฉันจริงจังกับเธอ”         
“ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไม?”         
“ไนท์ก็เหมือนกับเธอ...เหมือนฉัน...เราต่างเป็นโรคขาดความรัก  ฉันกับเธอยังโชคดีที่เกิดในประเทศเสรี  มีอิสระ  มีชีวิตเป็นของตัวเอง...แต่ไนท์ไม่ใช่ เขาถูกลิขิตตั้งแต่ยังไม่ลืมตาดูโลก  ชีวิตเขาถูกวางไว้ในกรอบที่แน่นหนาและเข้มงวด  ไม่มีสิทธิ์เลือกแม้แต่ความรัก  ทุกอย่างเป็นไปเพื่อหน้าที่เท่านั้น”         
“ทำไมถึงโหดร้ายอย่างนั้นละครับ” จีนส์ครางออกมาด้วยความสงสาร         
“ภาระอันหนักหนาของคนที่เป็นรัชทายาทอย่างไรล่ะ  แม่ฉันไม่ต้องการให้ฉันเติบโตมาในสภาพแบบนั้นถึงหนีพ่อมาอยู่เสียที่อิตาลี  แต่พ่อก็ตามไปหา  โชคดีที่พ่อเข้าใจยอมหย่าให้  แม่กับฉันก็เลยปักหลักกันที่อิตาลี่  นานๆครั้งถึงจะกลับมาหาตากับยายที่อังกฤษ  แต่แม่ของไนท์ต่างกัน ยายของไนท์เป็นคนต่างชาติที่ไปเที่ยวแล้วถูกตาต้องใจท่านชีคตาของไนท์  ลูกเลือดผสมน่ะยิ่งกว่าพลเมืองชั้นต่ำเสียอีก  หากไม่เพราะพ่อหลงรักตั้งแต่แรกเห็น แม่ไนท์คงมีชะตากรรมที่น่าสงสาร  แต่การเป็นพระชายาที่ไม่ได้รับการยอมรับก็เป็นเรื่องโหดร้ายไม่ต่างกัน 
พ่อมีผู้หญิงมากมายในฮาเร็ม  ผู้หญิงอ่อนแอน่าสงสารอย่างน้าโซฟียาถึงต้องระทมทุกข์จนตรอมใจตาย  ไนท์เป็นโอรสองค์แรกตามกฎหมาย  จึงได้รับตำแหน่งรัชทายาทโดยกำเนิด”         
“น่าสงสารนะครับ”         
“อย่าห่วงเลย  ไนท์น่ะไม่ธรรมดาหรอก  ท่านพ่อไม่เคยควบคุมไนท์ได้เลยสักครั้ง คนเดียวที่ไนท์เคารพและเชื่อฟังคือท่านราชครูยาซิดพ่อของไคซัค  ท่านยาซิดเป็นพระอาจารย์และเป็นที่ปรึกษาที่ท่านพ่อฉันไว้ใจที่สุด ไคซัคเองก็เป็นลูกครึ่ง เขาถึงได้อยู่ใกล้ชิดไนท์เพราะเข้าอกเข้าใจกันที่สุด”         
“แล้วคุณกับคุณไนท์เจอกันได้ยังไงครับ?”
“ไนท์เขาไปตามหาฉันที่อิตาลี่  ตอนนั้นฉันเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ไนท์เพิ่งอายุ13”         
“อะไรนะครับ เด็กอายุ13เนี่ยนะครับไปตามหาคุณถึงอิตาลี่?”         
“ใช่  ฉันเองก็นึกไม่ถึง  กลับมาจากเรียนก็เจอเด็กหน้าตาน่ารักยืนรอยู่หน้าห้อง  ยังคิดอยู่เลยว่าลูกสาวใคร  ที่ไหนได้พอสบตากันเท่านั้นแหละไนท์ก็วิ่งเข้ามาเตะหน้าแข้งฉันเฉยเลย  แถมยังตวาดว่าฉันเห็นแก่ตัวที่ทิ้งเขาไว้คนเดียว”       
“อ้าว!”         
“ฉันงี้มึนเลย...แถมพอเปิดประตูเข้าไป เจอองครักษ์อีกกลุ่มใหญ่รออยู่เต็มห้อง  เจ้าแม็คเพื่อนฉันนั่งหน้าจ๋อยตัวลีบเชียวล่ะ”         
“แล้วคุยกันรู้เรื่องเหรอครับ?”         
“ฮะๆๆ…เธอคิดว่าไนท์พูดได้กี่ภาษา”         
“ตอนนั้น11ขวบ...คงพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง...แต่คุณเคยบอกว่าเมื่อก่อนคุณพูดอิตาลี่นี่ครับ?”         
“ใช่แต่พูดนะ  ด่างี้เป็นไฟเลย  ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี่  ได้หมด  แต่โตขึ้นมานี่เห็นว่าเรียนเพิ่มอีกหลายภาษา”         
“มากขนาดนั้นจำได้ยังไงหมดครับ?” จีนส์อุทานอย่างทึ่งๆ  แค่เรียนภาษาฝรั่งเศสเพิ่มภาษาเดียวเขาก็แทบแย่แล้ว         
“เขามีหน้าที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศ  ก็จำเป็นต้องเรียนรู้ให้มากไว้....ถึงจะเก่งแค่ไหน แต่ลึกๆไนท์ก็โดดเดี่ยว  ฉันก็เลยกลายเป็นคู่หูมากกว่าเป็นพี่....มีอะไรเราก็ปรึกษากันตลอด แล้วฉันก็ไม่เคยให้ความสำคัญกับใครมากไปกว่าเขา...จนกระทั่งมาเจอเธอ” นิ้วยาวกร้าน  ไล้บนแก้มบวมช้ำแผ่วเบาด้วยความรัก  จีนส์กุมมืออุ่นไว้แน่น  แม้จะเห็นใจไนท์แต่เขาก็ขาดทราวิสไม่ได้เหมือนกัน
“มิน่าเขาถึงเกลียดผมนัก”
“อย่าใช้คำว่าเกลียดเลย  หากถึงขั้นนั้นไนท์คงจัดการเธอไปแล้ว  แต่นี่เขาแค่หงุดหงิดที่ถูกแย่งคู่หูก็เลยหมั่นไส้  แต่ที่ไอ้หมอนั่นทำกับเธอเขาไม่ได้รู้เห็นด้วยหรอก คนอย่างไนท์หยิ่งเกินว่าจะใช้วิธีนี้”
“ผมก็ไม่คิดว่าคุณไนท์จะให้เขาทำ”
“ว่าแต่เธอไม่เจ็บแผลแล้วเหรอ?”
“ดีขึ้นมากแล้วครับ”
“โชคดีที่แจ็คมาทัน รู้ไหมแจ็คซัดเสียหมอนั่นกรามร้าวฟันร่วงแทบหมดปากเลย  แถมยังซี่โครงหัก แขนเดาะ  เรียกว่าน้องๆรถชนเลยละ...เจอเข้าอย่างนี้หมอนั่นคงเข็ดไปอีกนาน  แต่ถ้าถึงมือฉันมันคงตายคามือไปแล้ว” ทราวิสเล่าอย่างสะใจ  จีนส์ตาค้างอย่างตกใจ นึกไม่ถึงว่าแจ็คจะโหดได้ขนาดนั้น         
“อย่านะครับ  ผมไม่อยากให้คุณติดคุก  ชีวิตผมมีคุณคนเดียวเท่านั้น ถ้าคุณติดคุกแล้วผมจะอยู่กับใครละครับ?”         
“นั่นสินะ...ฉันเองก็มีเธอแค่คนเดียวเหมือนกัน หากติดคุกฉันคงคิดถึงเธอแย่เลย”         
“เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรผลีผลามนะครับ  คุณต้องคิดด้วยว่ามีผมอีกคน”         
“แล้วสิ่งที่มันทำกับเธอล่ะจะไม่ให้ฉันจัดการอะไรมันเลยเหรอ?”         
“สภาพนั้นคงไม่ต้องแล้วละครับ  แจ็คจัดการให้แล้ว”         
“เราสองคนเป็นหนี้บุญคุณแจ็คนะ”         
“ครับ…โดยเฉพาะผม  แจ็คเขาช่วยผมมาตั้งหลายครั้งแล้ว  แต่ผมยังไม่ได้ตอบแทนเขาเลยสักอย่าง”
จีนส์บ่นแล้วก็ถอนใจเฮือกใหญ่อย่างหนักใจ  ทราวิสขยี้ผมของคนรักเบาๆอย่างเอ็นดู  แต่ในใจก็คิดเหมือนจีนส์  เห็นทีเขาต้องหาทางตอบแทนแจ็คให้ได้ ............

เสียงเคาะประตูถี่ๆยามดึกทำให้แจ็คสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขาเพิ่งหลับไปชั่วโมงกว่าๆทำให้ค่อนข้างหลับลึก ชายหนุ่มหยิบปืนจากหัวเตียงมาถือไว้เพื่อความไม่ประมาทขณะที่แอบมองลอดม่าน แต่เมื่อเห็นร่างเพรียวที่ยืนอยู่หน้าประตูแจ็คก็รีบเปิดอย่างรวดเร็ว         
“ทำอะไรอยู่ทำไมเพิ่งมาเปิด?” ไนท์เสียงขุ่นขณะแทรกตัวเข้ามาข้างใน  แจ็ครีบปิดล็อคทันที         
“ผมเพิ่งออกเวรครับ  เพิ่งหลับก็เลยตื่นยากหน่อย”
ไนท์เดินเข้าไปในบ้านแล้วเลยเข้าไปถึงห้องนอน  แจ็คล็อคประตูแล้วเดินตามเข้าไปอย่างแปลกใจ       
“คืนนี้จะค้างที่นี่เหรอครับ?”       
“ได้ไหมล่ะ......หรือว่านัดคนอื่นแล้ว”         
“คุณก็รู้นี่ครับว่าผมไม่มีใคร”         
“ของแบบนี้มันไม่แน่นี่  เธออาจไม่มีใครจริงๆ...หรืออาจสับหลีกได้เก่งจนไม่มีใครจับได้ก็ได้นี่นา”         
“คุณอารมณ์ไม่ดีเหรอครับ?” แจ็คถามเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของคนรัก           
“เปล่า...ก็มีเรื่องงานยุ่งๆอยู่เหมือนกัน” ไนท์ถอนใจยาวอย่างหงุดหงิด ขยี้หัวคิ้วหนักๆ  แจ็คปลดเสื้อสูทออกไปแขวนให้อย่างเอาใจ.       
”ผมนวดให้เอาไหมครับ…ช่วยให้คลายเครียดได้นะครับ”         
“เอาสิ”
แจ็คปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกจากร่างบางขณะแนบจุมพิตแผ่วเบา  ไนท์เหนี่ยวลำคอแข็งแรงให้โน้มลงมามากขึ้นและแลกลิ้นอย่างเร่าร้อน 
แจ็คปลดเสื้อผ้าออกจากร่างบางจนเปลือยเปล่าจึงถอนจุมพิต ช้อนอุ้มร่างงดงามลงวางกลางเตียงอย่างนุ่มนวล  ไนท์พลิกกายนอนคว่ำ  หลับตาพริ้มปล่อยให้แจ็คชโลมน้ำมันลงบนแผ่นหลังและลำคอ         
“ผ่อนคลายนะครับ  ถ้าง่วงก็หลับไปเลยก็ได้...เส้นประสาทคุณตึงมากเลย” แจ็คนิ่วหน้าค่อยๆกดคลึงเส้นบริเวณศีรษะทุยสวยเป็นจังหวะแล้วกดลากนิ้วลงมายังก้านคอเพื่อกดเปิดปิดระบบไหลเวียนเลือด         
“สบายดีจัง...ไปเรียนมาจากไหน?” ไนท์ครางเบาๆอย่างพอใจขณะที่แจ็ค กดนวดลงไปตามไขสันหลัง         
“จำป้ามาธาร์ที่คลินิกคุณหมอได้ไหมครับ...นั่นแหละครับนักกายภาพเก่า  พอแกเกษียณคุณหมอก็เลยชวนมาทำงานด้วยกัน  สมัยผมเป็นนักศึกษาแกเคยให้ผมไปช่วยนวดคนไข้ที่ตัวโตมากๆเพราะแกนวดไม่ไหว  นวดอยู่เกือบปีแน่ะครับ ผมก็เลยได้ความรู้มา”
แจ็คอธิบายพร้อมกับนวดไปพลาง  จากต้นคอ แผ่นหลังไล่ลงมาจนถึงปลี่น่องและฝ่าเท้า  จึงพลิกร่างบางนอนหงายเพื่อนวดด้านหน้า  แต่ไนท์เหนี่ยวใบหน้าระคายลงมาจุมพิตที่แก้มเบาๆแล้วพลิกตัวลงคว่ำตามเดิม         
“พอเถอะ...เธอเองก็ทำงานมาทั้งวันแล้ว  นอนพักเถอะ”         
“ขอผมนอนกอดคุณได้ไหม?” แจ็คก้มลงกระซิบแผ่วเบาข้างใหหูนิ่ม  ไนท์เหนี่ยวไหล่หนาจนชายหนุ่มล้มลงนอนข้างๆแล้วเลื่อนตัวเข้าสู่อกกว้างอย่างเต็มใจ         
“ไม่เห็นต้องขออนุญาตเลย”
แจ็คโอบร่างบางเข้ามากอดกระชับ ผิวตึงในอ้อมแขนอบอุ่นและหอมเย้ายวนจนเขาอดสูดดมกลิ่นหอมจากแก้มเนียนใสไม่ได้ ไนท์ขยับตัวแนบชิดยิ่งขึ้นเพื่อ ให้นอนสบายกว่าเดิม         
“คุณโกรธผมหรือเปล่า...ที่ผมทำร้ายแขกของคุณ?”แจ็คจ้องมองคนรักที่ยังหลับตาพริ้มอย่างกังวล         
“แล้วริชลงโทษนายหรือเปล่าล่ะ?”ไนท์ถามทั้งๆที่ไม่ลืมตา         
“ครับ...พักงาน 1 เดือน...แต่ต้องพักเดือนหน้าเพราะงานผมยังค้างอยู่”         
“เรียกว่าทำพอเป็นพิธีสินะ”แม้น้ำเสียงของไนท์จะเรียบเรื่อยแต่แจ็คก็รู้สึกถึงความไม่พอใจ         
“คุณยังโกรธผมอยู่ใช่ไหมครับ?”         
“ทำไมถึงคิดว่าฉันควรโกรธล่ะ”         
“ก็คุณลอเรนซ์เป็น...เพื่อนคุณ”
ไนท์ลืมตาขึ้นประสานสายตากับแจ็คฉับพลัน         
“แล้วเธอละแจ็ค...เธอคิดว่าเธอเป็นอะไรกับฉัน?”         
“ผมก็เป็นคนที่รักคุณที่สุดไงครับ”แจ็คหลบตา ไม่กล้าตอบอย่างที่ใจคิด  กลัวเหลือเกินว่าไนท์จะหัวเราะเยาะหากเขาเข้าใจผิดไปเอง  ไนท์มองหน้าสลดของชายหนุ่มอยู่ครู่หนึ่ง  นึกโกรธตัวเองที่โมโหทราวิสแล้วมาลงกับแจ็ค  แต่คนอย่างเขาไม่เคยขอโทษใคร  จึงอยากเอาใจแจ็คบ้างเพื่อเป็นการไถ่โทษ
“พิสูจน์หน่อยสิว่ารักที่สุดในโลกน่ะ...แค่ไหน?”
ไนท์กระซิบข้างหูแถมยังเป่าลมเข้าไปเบาๆ  แจ็คตาเป็นประกายวาววับอย่างดีใจ  ก้มลงจูบปากสีสดหนักหน่วงและยินดีที่ได้รับการแลกลิ้นที่ร้อนรนไม่แพ้กัน  ร่างนวลเนียนเบียดรับร่างหนาหนักอย่างเต็มใจ  ต่างปรนเปรอให้กันและกันจนฟ้าสางจึงหลับใหลอยู่ด้วยกัน............

   ทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุด  แต่แจ็คก็ยังหอบเอกสารกลับมาทำเต็มโต๊ะ    ตามปรกติ  ทำให้เขาไม่ทันได้สังเกตว่ามีแขกมาเยือน
“แจ็ค” จีนส์ส่งยิ้มมาให้ทั้งที่ใบหน้ายังบวมช่ำแต่ดวงตาของ เด็กหนุ่มดูสดใส       
“อ้าว!ออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอครับ?” แจ็คเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารแล้วรีบเลื่อนเก้าอี้ให้เด็กหนุ่มนั่ง  จีนส์นั่งลงช้าๆด้วยร่างกายยังเจ็บระบม  วางถุงยาที่เผลอถือติดมือมาลงบนโต๊ะ
“ฮื่อ…ขอบคุณมากนะที่ช่วยผมไว้  แจ็คช่วยผมตั้งหลายครั้งแล้ว  แต่ผมสิไม่เคยตอบแทนคุณเลย” นอกจากไม่เคยตอบแทนเขายังเคยด่าทอดูถูกเหยียดหยามแจ็คอีกหลายต่อหลายหน  ทำให้จีนส์ยิ่งละอายแก่ใจ         
“อย่าคิดมากเลยครับ เห็นคุณปลอดภัยผมก็ดีใจแล้ว”
“แล้วแจ็คเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า?”
“ไม่หรอกครับ”
“แจ็คมีเวลาคุยกับผมไหม?”
“มีสิครับ คุยได้เลย”
“แจ็ค....เจอรามอสบ้างไหม?” จีนส์ถามอย่างลังเล เกรงว่าจะทำให้แจ็คไม่สบายใจอีกครั้ง         
“ตั้งแต่เขาไปผมก็ไม่ได้ข่าวเขาอีกเลยครับ”สีหน้าแจ็คยังปกติทำให้จีนส์โล่งใจ         
“ตอนนี้รามอสเขาเรียนจะจบแล้วนะ  ถึงไม่ได้เกียรตินิยมแต่ก็เกรดสูงเชียวละ”         
“ผมดีใจที่คุณรามอสกลับไปตั้งใจเรียนได้”         
“เขาทำได้เพราะแฟนเขา…เอ่อ…รามอสมีแฟนแล้วนะ  คบกันตั้งแต่ปี2 ตอนนี้แฟนเขาเรียนจบแล้ว กำลังต่อโท  รามอสเองก็ตั้งเป้าว่าจะเรียนต่อกับแฟนเขา”         
“หากคุณเจอคุณรามอสฝากบอกด้วยนะครับว่าผมดีใจด้วย  หากไม่รังเกียจวันรับปริญญาผมจะไปแสดงความยินดีด้วยตัวเอง”         
“ได้สิ…ว่าแต่ คุณไม่เสียใจเหรอที่รามอสมีคนอื่น?”         
“ผมควรดีใจต่างหากละครับที่เห็นคุณรามอสมีความสุข  มีอนาคตที่สดใสรุ่งโรจน์”         
“เพราะคุณมีคนอื่นแล้วละสิ” จีนส์แซวยิ้มๆ  และแจ็คก็ยิ้มกว้างตอบ         
“ถึงไม่มีใครผมก็ยินดีกับคุณรามอสจริงๆครับ”         
“คุณนี่เป็นคนดีจนน่าหมั่นไส้เชียวละ” จีนส์แซวอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้         
“ยังไงก็คงดีสู้คุณทราวิสไม่ได้หรอก จริงไหมครับ?”         
“แน่นอน…ผมกลับดีกว่า ชวนคุยเสียนานเดี๋ยวคุณโดนตัดเงินเดือนพอดี”
จีนส์ยันตัวลุกขึ้นแต่เซเล็กน้อย  แจ็ครีบเข้าไปประคอง  เด็กหนุ่มเงยขึ้นยิ้ม  ทั้งที่เพิ่งเจอกับเรื่องร้ายๆมา  แต่ดวงตาวาวระยับด้วยความสุขก็ทำให้แจ็ค หมดห่วง
“ขอบคุณอีกครั้งนะแจ็ค  สำหรับสิ่งดีๆทุกอย่างที่คุณเคยทำให้ผม”
“ไม่เป็นไรครับ  ผมเต็มใจ  ผมรู้สึกเหมือนคุณเป็นน้อง”
จีนส์ชะเง้อขึ้นกอดคอชายหนุ่มไว้แน่นอย่างตื้นตันใจ  แจ็คกอดตอบอย่างปลอบโยน  จีนส์ถอนใจยาว  รู้สึกดีที่รู้ว่ามีคนห่วงใยเขาอยู่ตรงนี้อีกคนก่อนจะผละออกจากอกอุ่นช้าๆ
“ไปก่อนนะ...พี่ชาย” ประโยคหลังเด็กหนุ่มหลิ่วตาให้อย่างล้อๆ 
“โชคดีครับ”
จีนส์เดินขโยกเขยกจากไป  แต่ยังไม่วายหันมาโบกมือลา  แจ็คมองตามด้วยสายตาอ่อนโยน  ยังไม่ทันหันกลับก็เหลือบไปเห็นร่างโปร่งยืนมองมาจากใต้ร่มไม้ใหญ่  แจ็คเดินเข้าไปหาอย่างแปลกใจ
“เลิกประชุมแล้วเหรอครับ  ผมนึกว่าจะเสร็จค่ำๆเสียอีก”
“ถึงได้กล้านัดคนอื่นมาหาสินะ”
“ฮั่นแน่...หึงผมละสิ”  แจ็คแซวยิ้มๆทั้งที่แน่ใจว่าไนท์ไม่ได้สนใจเขามากขนาดนั้น  ดวงตาคมดุดันและเกรี้ยวกราดจนแจ็คยิ้มเจื่อนไปอย่างประหลาดใจ
“คุณไนท์  มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“สนิทกับเด็กนั่นมากเหรอ?”ไนท์กอดอกหรี่ตามองแจ็คราวกับกำลังประเมินอะไรบางอย่าง
“คุณจีนส์เคยเป็นแขกที่นี่ครับ”
“มิน่า…ถึงดูคุ้นเคยกับที่นี่นัก”
“คุณรู้จักคุณจีนส์ด้วยเหรอครับ?” แจ็คยังไม่รู้เรื่องที่ทราวิสกับไนท์เป็นพี่น้องกันเพราะถูกกันให้อยู่ห่างจากไนท์เพื่อไม่ให้สะดุดตาคนของชีคฟาฮัส     
“ก็พอสมควร”
“คุณจีนส์เป็นเด็กน่าสงสารครับ  แต่ตอนนี้เขามีความสุขเสียที  ผมก็อดดีใจไม่ได้” แจ็คอธิบายอย่างใจเย็น  ด้วยไม่ต้องการให้ไนท์อารมณ์เสียไปมากกว่านี้         
“แคร์เขาขนาดนั้นเชียว?”         
“บอกแล้วไงครับว่าเขาเป็นแขก  อีกอย่างเขาก็เป็นญาติกับเจ้านายผมด้วย”         
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ทำไมต้องชักสีหน้าด้วยล่ะ?”         
“ไม่ได้ว่าอะไร...แต่ท่าทางคุณมันบอกนี่ครับว่ามีอะไรมากว่านั้น...คุณจีนส์แค่มาทักทายผมเพราะเคยเจอกันมาก่อนก็แค่นั้น”
“ร้อนตัวจังนะแจ็ค”  ไนท์หยันด้วยรอยยิ้มเย็นบาดลึก         
“ผมอธิบายคุณก็ว่าร้อนตัว  แต่ไม่พูดคุณก็เข้าใจผิดๆอีก”         
“ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าฉันเข้าใจอะไรเธอผิด”         
“แล้วไอ้เสียงเย็นๆกับหน้าเยาะๆนี่ละครับ”         
“ฉันก็เป็นอย่างนี้มาตลอดนะ  นอกจากเธอเพิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกใจเท่านั้น”
แจ็คจ้องมองไนท์อย่างผิดหวัง  ชีคหนุ่มไหวไหล่แล้วเดินหนีไปดื้อๆ  แจ็ค มองตามจนลับตาจึงกลับมานั่งซึมที่โต๊ะ   ชายหนุ่มสถบเบาๆแล้วปัดเอกสารบนโต๊ะจนกระจายด้วยความหงุดหงิด
ทั้งที่เมื่อคืนเขาคิดว่าเขากับไนท์เข้าใจกันดีแล้ว  แต่จู่ๆไนท์ก็กลับมาพูดจาเยาะหยันเสียดสีอีกเหมือนเคย  แจ็คกุมศีรษะอย่างกลัดกลุ้ม  เขาไม่เคยอ่านใจไนท์ออกเลยสักครั้ง  มันทำให้เขาชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าไนท์เคยมีใจให้เขาบ้างหรือเปล่า...หรือเห็นเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น
   จีนส์เหลียวมองทราวิสแล้วยิ้มให้แหยๆ   เขาแค่จะขอบคุณแจ็คแต่ไม่คิดว่าไนท์จะเข้าใจผิดไปกันใหญ่  นี่หากเขาไม่ลืมถุงยาไว้แล้วกลับมาเอาคงไม่รู้ว่าตัวเองสร้างปัญหาให้แจ็คแค่ไหน
ทราวิสมองตามน้องชายไปอย่างคาดไม่ถึง  ไนท์ไม่ใช่แค่รักแจ็คเสียแล้ว แต่ทั้งหลงและยึดถือเป็นสมบัติส่วนตัวเชียวละ...ไม่อย่างนั้นคงไม่หึงหูตาลายจนไม่มีเหตุผลได้ขนาดนี้แน่
ทราวิสถอนใจยาวอย่างเป็นห่วง  ดูท่าทั้งทั้งคู่คงเจอกับเส้นทางแสนวิบากเสียแล้ว  ที่สำคัญ...ทางที่ไนท์และแจ็คเดินมันเป็นเส้นขนานที่มองยังไงก็ไม่มีวันบรรจบกันได้เลย  ............
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-01-2010 22:01:44
......

ชีค รามิล ราจีสอับดุล มององครักษ์คนสนิทนิ่งจนเจ้าตัวอึดอัด          
“ฝ่าบาท…เอ่อ…ต้องการอะไรหรือกระหม่อม?” สุดท้ายไคซัคก็ต้องถามหลังจากที่เลี่ยงทำเป็นจัดโน่นจัดนี่ยุ่งไปหมดจนไม่มีอะไรให้ทำอีกแล้ว
“เราสิต้องเป็นฝ่ายถาม  เจ้ามีอะไรหรือเปล่าไคซัค?”
“ไม่มีกระหม่อม”
สายตาที่ทอดมองนิ่งไม่เปลี่ยนทำให้ไคซัคละอายแก่ใจ  ที่ทำให้เจ้าชีวิตต้องมากังวลกับเรื่องของเขาไปด้วย
“มันก็...ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยฝ่าบาท”
“ถ้าไม่สำคัญคงไม่ทำให้เจ้าพล่านอย่างนี้หรอก  จะเล่าเองหรือจะให้เราไปถามจากคนอื่น”
“เล่าเองกระหม่อม…กระหม่อมพบคนถูกใจ...เรามีสัมพันธ์กันแต่เขากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น…แค่นี้กระหม่อม” ไคซัคเล่ารวบรัดเสียจนแทบฟังไม่รู้เรื่อง...เพราะเขาเองก็สับสนจนไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
“แล้วไง?...จะปล่อยให้มันจบกันไปง่ายเลยเหรอ...เจ้าไม่คิดจะทำอะไรสักอย่างหรือไง...ไคซัค...พระเป็นเจ้าจะไม่มีวันประทานพร หากเจ้าไม่ได้ใช้ความพยายามเสียก่อน”
“...แต่…มันผิดจารีตของเรากระหม่อม”
“ห่วงจารีตจนปล่อยให้สิ่งที่ต้องการหลุดมือก็ตามใจเจ้าสิ...ทำให้เจ้าร้อนรนได้ขนาดนี้  ท่าทางคนนี้จะเอาจริงละสิ”
“…กระหม่อม”
“หากเจอคนที่เจ้าหามาทั้งชีวิตแล้วปล่อยให้หลุดลอย  เราว่าเจ้าโง่มากนะไคซัค” ไนท์ลุกขึ้นตบไหล่องครักษ์หนักๆแล้วลุกออกไปจากห้อง  ไคซัคค่อยๆยืดตัวขึ้นดวงตาเป็นประกายวาววับด้วยเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ ซึ่งหากใครได้เห็นคงขนหัวลุกด้วยความกลัว
          …………………….

      
งานเลี้ยงคืนนี้เต็มไปด้วยนักธุรกิจคนดัง และทุกคนก็มีจุดประสงค์ที่คล้ายๆกันคือหาโอกาสในการร่วมมือทางธุรกิจ กับสองทายาทผู้กุมเศรษฐกิจโลกยิ่งมีข่าวว่าทั้งสองฝ่ายร่วมกันเปิดบริษัท นั้นหมายถึงคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจตัวนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคน จะต้องพยายามหาข่าวให้ได้  ว่าสองตระกูลใหญ่ จะจับมือกันทำธุรกิจอะไรบ้าง
ริช แฮมิลตัน เดินเคียงกับ ชีครามิล ราจีสอับดุลรับแขก ทั้งสองทักทาย และพูดคุยกับแขกทุกคนด้วยสีหน้าแจ่มใส  ริชนั้นดูสบายๆและมีวาจาหยิกแกมหยอกที่เจ็บๆคันๆให้คนที่มีชนักปักหลังได้สะดุ้งเล่นอยู่เรื่อยๆ
แต่ชีครามิลกลับนิ่ง และลึกล้ำจนไม่อาจประเมิน  เมื่อได้เวลาทั้งคู่ก็ขึ้นไปบนเวทีเพื่อเซ็นสัญญาร่วมลงทุนด้วยกัน  จากนั้นริชก็เป็นผู้กล่าวขอบคุณ แขกแทนสองตระกูล
“ขอบทุกท่านครับที่ให้เกียรติมาร่วมงานในการเซ็นสัญญาร่วมทุนของบริษัทเอชอาร์อินเตอร์เนชั่นแนล   ผมกับชีคราจีส อับดุล ทำธุรกิจร่วมกันมาหลายปี  จึงได้ตัดสินใจลองสร้างแบรนด์ใหม่ คาดว่าต้นปีหน้าทุกท่านคงได้ยลโฉมบริษัทใหม่ของเรา  และหวังว่าทุกท่านคงให้โอกาสแก่บริษัทของเรานะครับ……………”
หลังจบการขอบคุณแขก  ก็เป็นการตอบคำถามสื่อมวลชนที่มาทำข่าว  ตลอดเวลาไนท์แทบไม่แสดงความคิดเห็นใดๆเลย  นอกจากมีใครถามเจาะจงมา  ซึ่งก็มักจะได้รับคำตอบสั้นๆเท่าที่จำเป็น แม้จะมีคนคันปากอยากถามไปถึงข่าวลือเรื่องปัญหาการส่งสินค้าระหว่างสองตระกูลเมื่อ3-4เดือนก่อน  แต่ดวงตาเย็นเยือกของไนท์ก็ทำให้คนคันปากทั้งหลายจำต้องปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เมื่อทั้งสองลงจากเวทีแต่สองหนุ่มกลับแยกกันไปคนละทาง
บรรดาแขกอาวุโสต่างเข้ามาแสดงความยินดีในการเปิดบริษัทใหม่  หลายคนแบะท่าเต็มที่ว่าอยากจะร่วมลงทุนด้วย ไนท์เพียงยิ้มรับ  แต่ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ
“ฝ่าบาทราจีสอับดุล  จำกระหม่อมได้หรือไม่ กระหม่อมไคล์ มอร์แกน  จากไอทีซีทาว์กระหม่อม” ชายร่างอ้วนในชุดสูทขาวที่ทำให้เขาดูอ้วนและเตี้ยกว่าเดิมปราดเข้ามาทัก  แม้จะนึกเกรงบารมีของชีคหนุ่มจนเหงื่อซึมหัวล้าน  แต่ผลประโยชน์มหาศาลที่ต้องการก็ขับดันให้เกิดความกล้าเสนอหน้าเข้ามา
“สวัสดีมิสเตอร์มอร์แกน”
“กระหม่อมทราบมาว่าจะเปิดให้คนนอก เข้าร่วมทุนในคาสิโนที่สร้างใหม่ ไม่ทราบว่า...เอ่อ...จะเปิดขายหุ้นเร็วๆนี้หรือไม่กระหม่อม”
“นั่นเป็นหุ้นในส่วนมิสเตอร์แฮมิลตัน  คงต้องถามเจ้าตัวเขาเองกระมัง”
“คือในส่วนของมิสเตอร์แฮมิลตันเขาเต็มหมดแล้ว  กระหม่อมก็เลยอยากทราบว่าในส่วนที่ฝ่าบาทถืออยู่จะเปิด...เอ่อ...ขายเมื่อไหร่กระหม่อม”
“คุณคงทราบข่าวมาผิด  เราไม่คิดจะเปิดขายหุ้นในส่วนของเรา”
“แต่ว่าฝ่าบาท...กระหม่อมแน่ใจว่าทางบริษัทกระหม่อมจะให้ราคา...”
“ฝ่าบาท...ทรงพระสำราญดีหรือไม่” ร่างสูงหนาของหนุ่มผมสีน้ำตาล  ก้าวเข้ามาทักไนท์ราวกับไม่เห็นคนที่ยืนอยู่ก่อน  ใบหน้าหล่อเหลาราวกับดารายิ้มพราย  ดวงตาที่มองชีคหนุ่มแพรวพราวเกินกว่าจะเป็นเพียงความสนใจเรื่องธุรกิจ  แต่ไนท์ยังสีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ได้เหมือนเคย
“ก็ตามอัตภาพมิสเตอร์เอเบลล์”
“เอ่อฝ่าบาทกระหม่อมคิดว่า...”ร่างอ้วนเตี้ยพยายามเรียกร้องความสนใจแต่ดูเหมือนผู้มาใหม่จะผูกขาดการสนทนาไว้เฉพาะตัว  ทำให้คนอยู่ก่อนหน้าแดงจัดด้วยความโกรธ
“กระหม่อมได้รับเชิญจากทางญี่ปุ่นให้ไปร่วมงานเทคโนโลยี  ทราบมาว่าฝ่าบาทก็ได้รับเชิญไปเป็นแขกกิตติมศักดิ์...ไม่ทราบว่าฝ่าบาทจะเดินทางเมื่อไหร่  คือ...กระหม่อมเช่าเครื่องเหมาลำไว้  และคงเป็นเกียรติอย่างยิ่งถ้าฝ่าบาทจะเสด็จ”
“ผมเกรงว่ามิสเตอร์เอเบลล์คงต้องผิดหวัง  เพราะผมกับท่านชีคมีกำหนดว่าจะไปอัมสเตอร์ดัมหลังจากเสร็จงานทางนี้แล้วครับ”  
ริชแทรกเข้ามาระหว่างชีคหนุ่มกับ‘มิสเตอร์ตื้อ’ ที่ดูเหมือนจะพยายามกระแซะเข้าไปจนไนท์แทบจะเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนอยู่แล้ว  แม้จะไม่ถึงกับโอบไหล่  แต่กิริยาของริชก็แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าเขากับชีครามิลเป็นมากกว่าหุ้นส่วน  โดยเฉพาะหูตาแพรวพราวของริช  ส่วนไนท์ยังคงสีหน้าเรียบกริบราวกับสวมหน้ากากไว้เหมือนเคย  ทำให้มิสเตอร์ตื้อทั้งสองจำต้องถอยร่นออกไปในที่สุด
“ดูคุณสนุกจังนะ” ไนท์เอ่ยเสียงเรียบเมื่อไม่มีคนที่อยู่ใกล้พอจะได้ยิน
“แน่นอน...หรือว่าคุณไม่สนุก?”
“นั่นสิ...ได้ดูละครนอกเวทีก็น่าสนใจดีนะ”
“ผมไม่เกี่ยงสักนิด...ถ้ามันจะไม่ใช่แค่ละคร” ริชจงใจกระซิบแทบชิดแก้มอีกฝ่าย  แต่ไม่อาจชิดมากกว่านั้นด้วยชีคหนุ่มเลื่อนศอกเข้ามากันไว้เสียก่อน
“หึ...อย่าพูดในสิ่งที่ทำไม่ได้ดีกว่า” ไนท์ยิ้มเย็นเหมือนเคย  ดวงตาเป็นประกายขบขันปนเยาะๆนั้นทำให้ริชขมวดคิ้วมุ่น
“ผมเนี่ยนะทำไม่ได้”
“หึ...เด็กหนอเด็ก” ไนท์เย้ยเบาๆก่อนจะผละออกมาห่าง  ริชยังคงยิ้มแต่มีรอยงุนงงมากกว่าหงุดหงิด นึกสงสัยว่าไนท์ต้องรู้อะไรมาสักอย่าง  ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำเหมือนเหนือเขาอยู่นิดๆอย่างนี้แน่
ทุกอิริยาบถของชีคหนุ่มถูกจับตามองจากมุมหนึ่งของห้องอยู่ตลอดเวลา  ไม่ว่าเขาจะสนทนาหรือยิ้มกับใคร  สายตาหวงแหนจนแทบลุกเป็นไฟก็มองตามไม่คลาดสายตา  กระนั้นก็ยังรักษากิริยานิ่งเฉยไว้ได้อย่างแนบเนียน
ไนท์รับแก้วจากไคซัคที่นำมาเปลี่ยนให้และอดเหลือบมองร่างสูงในชุดสากลที่หลบอยู่มุมห้องไม่ได้  ดวงตาวาววับที่จ้องแน่วแน่ไม่หลบทำให้ชีคหนุ่มอิ่มเอมระคนพอใจ  รื่นรมย์กับสายตาของแจ็คที่หากเป็นเปลวไฟเขาคงมอดไหม้ไม่เหลือซาก
นี่เป็นเพียงการสั่งสอนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น  เพราะชีคหนุ่มยังขัดเคืองไม่หายที่รู้ว่ามีคนมาถามหาแจ็คที่ฮาวายอยู่บ่อยๆ  ทั้งผู้ชายผู้หญิง  แต่คนดูเหมือนคนชื่อมาร์คัส และอัลเฟรดจะมาบ่อยเสียจนน่าหงุดหงิด  ไม่รู้ว่าสนิทกันแค่ไหนถึงมาหากันบ่อยอย่างนั้น   คนหน้าซื่อๆไม่นึกว่าจะหว่านเสน่ห์ไว้ทั่ว...
“มันคงเตรียมส่งข่าวเร็วๆนี้กระหม่อม”ไคซัคกระซิบบอกทั้งที่ปากแทบไม่ขยับ นัยน์ตาจับนิ่งอยู่ที่เอเบลล์เย็นนิ่ง  ไนท์ยิ้มหยันและตอบด้วยวิธีเดียวกัน
“จับตาดูให้ดีๆ อย่าให้มันกลับไปมือเปล่า  หาข่าวให้มันไปบอกอาฟาฮัสด้วย”
“กระหม่อม”ไคซัครับคำสั่งแล้วทำท่าจะรีบไป  แต่ไนท์ทักขึ้นเสียก่อน
“อย่ามัวแต่ทำงานจนลืมเรื่องสำคัญไปล่ะ...บางเรื่องปล่อยไว้นานก็มีแต่ผลเสียมากกว่าผลดีนะ”
“กระหม่อม”
“แล้วก็...คืนนี้เราจะไปค้างที่เกาะ   ไม่ต้องให้ใครตามล่ะ  เราอยากพัก”
“กระหม่อม”
ไคซัคแยกออกไปจัดการตามคำสั่ง  แต่ก็มีอามิลปราดเข้ามาทำหน้าที่แทน  ไนท์ยังคงทักทายกับแขกไปเรื่อยๆ  แต่อดหงุดหงิดไม่ได้เมื่อสังเกตเห็นว่าแจ็คหายไปจากงานเลี้ยงนานแล้ว  ยังดีที่ริชคอยมากันให้เวลาที่เอเบลล์เข้าใกล้สร้างความขุ่นเคืองให้พ่อค้าเพชรคนดังไม่น้อย  แต่นั่นแหละ...เอเบลล์ไม่ใช่คนโง่ที่จะปล่อยให้ความหงุดหงิดมาทำลายธุรกิจของตนเอง  หากเทียบกับริช  เขามันแค่ปลาซิวปลาสร้อย ถ้าริชไม่พอใจขึ้นมาเขานี่แหละที่จะหายไปจากวงการได้ง่ายๆ ที่สำคัญเขายังมีงานใหญ่รออยู่ ......ƒ......


มารอลุ้นกันในตอนหน้านะคะว่าคู่นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 20-01-2010 22:16:58
ไนท์นี่โหยหาความรักมากเลยนะเนี่ยย
เค้าบอกว่ารัก แต่ก็ยัง ...นะ คงไม่มั่นใจ ไม่กล้าเชื่อในความรัก
ขอให้กำแพงใจ ของไนท์ ลดลงเร็วๆ ละกัน แต่ถ้าไม่ลดก็ขอให้ แจ๊ค ปีน ข้ามไปเลย

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: k[1mE]:D ที่ 20-01-2010 22:27:17
ไม่รู้จะพูดไงดีเลย 55+

แบบ ไนท์ทำตัวเหมือนเด็กมากเลย ที่หึงจนทำอะไรไม่เหตุผลเอาซะเลย

แจ็คออกจะรักขนาดนี้ทำไมถึงยังหยิ่งอีกน๊า...

เรื่องวุ่นวายจะเกิดอีกแล้วหรอเนี้ยย

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 20-01-2010 22:34:30
โห ไนท์ ไหงกลายเป็นคนงี้อ่ะ
นิสัยส่วนตัวของไนท์เนี่ย ออกแนวน่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย
ไม่รู้คิดอะไรอยู่ 
น่าสงสารแจ็คอ่ะ แค่ความแตกต่างทางฐานะก็ย่ำแย่แล้ว
ยังจะมาเจอนิสัยแบบเจ้าคนนายคนของไนท์อีก  เรื่องมันไม่ง่ายเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประ
เริ่มหัวข้อโดย: raruruz ที่ 20-01-2010 22:41:55
ลุ้นคู่ไคซัค กับอองรี  >.<

 สงสารแจ็คจัง  รักใคร ก็ดูเหมือนความรักไม่ค่อยราบรื่น 

แต่ไนก็รักแจคแต่ยังไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ 2คนนี้ถึงจะเข้าใจกัน

ริชก็นะ เจ้าชู้น่ารักสมำ่เสมอจริงๆ

ภาคนี้มาจีน น่าร๊ากก  เป็นกำลังใจให้คนโพส นะค้าา

ขอเดาอายุไน  น่าจะแระมาน  30 ต้นๆ  แน่เลยๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-01-2010 23:05:16
 :z3: :z3: :z3:

ปล. จองหนังสือ 1 เล่มนะ แต่ไม่เห็นชื่อเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 20-01-2010 23:07:26
น่ากลัวจัง นิสัยร้ายลึกของไนท์
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-01-2010 23:17:36
:z3: :z3: :z3:

ปล. จองหนังสือ 1 เล่มนะ แต่ไม่เห็นชื่อเลยอ่ะ

 :call:ขอโทษตะ ไปใส่รายชื่อให้แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 21-01-2010 00:04:30
ลุ้นคู่นี้คงต้องใช้พลังมากแน่ๆเลย
แจ็คน่ะเปิดใจเต็มๆ แต่ไนท์นี่สิ กั๊กใจตัวเองสุดๆ
เดือดร้อน ทั้งทราวิส และริชช่วยแน่ๆเลย

ลุ้นคู่ของไคซัคด้วยอีกคู่หนึ่ง

บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ

ปล ขอบคุณสำหรับรายชื่อผู้สั่งหนังสือด้วยค่ะ
รอลุ้นเรื่องอื่นด้วย เผื่อจะมีความหวัง  :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Joobperman ที่ 21-01-2010 01:47:44
น้อง tianqin คะ
พี่ได้แจ้งกับคุณใบปอในทางโทรศัพท์ ขอจอง 2 เล่ม
แต่ลืมไปบอกทาง e-mail ของคุณใบปออ่ะจ้า
อย่างนี้ก็ขอจองกับทางน้อง tianqin เลยได้มั้ยคะ
ยังไงช่วยบอกคุณใบปอด้วยว่า พี่ขอเขียนจองในกระทู้นี้น๊า
ป๋อล๋อ...พี่จองกะคุณใบปอในนาม joobperman อ่ะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 21-01-2010 08:49:38
 :pig4:  คนแต่งค่ะ


เนื้อเรื่องสนุกเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เลย

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 21-01-2010 09:32:24
กำแพงใจที่ทั้งสูงทั้งหนา และเสริมใยเหล็กขนาด 14 หุน ซะขนาดนี้ (เริ่มมั่วๆละ)  การจะทำลายกำแพงคงจะยากเกินกำลังแจ็ค  หนทางเดียวคือ ต้องปีนข้ามไปให้ได้ซะละมั้ง
 o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 21-01-2010 11:58:41
.... อะไรกันน้า รักกันยังมากเรื่องอีก ชีคก็จริงเลยอ่ะ เจ้าอารมณ์ สุดท้ายได้แยกจากกันแน่ๆ .... คู่ไคซัคอองรีน่าลุ้นมากเลยค่ะ .... รอตอนต่อไปน้าค่า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: maicy ที่ 21-01-2010 12:26:03
เนื้อเรื่องเข้มข้ม สนุกมากๆ  จองด้วย 1 เล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 21-01-2010 19:09:01
+1 เป็นกำลังใจให้น้อง tianqin คนโพสต์แสนขยัน
ไนท์ปากแข็งแถมใจแข็งด้วย สงสารแจ๊ค รักและภักดีตลอดเวลา
ไนท์ยังไม่รู้ใจตัวเองพอ แต่กลับไปสอนไคซัคให้ทำก่อนที่จะสูญเสีย
คนที่รักไป แต่ตัวเองกลับไม่ทำอะไรเลย คอยแต่ใช้อารมณ์ใส่แจ๊ค
เมื่อไหร่กำแพงใจจะพังทลายเสียทีน้า....รอลุ้นตอนต่อไปค่ะ ....
 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 21-01-2010 20:02:56
กำแพงสูงจริงๆไนท์ รักเขาแล้วยังระแวงได้อีก
ลุ้นคู่ไคซัค จะง้ออองรีสำเร็จไหมหนอ.....

จองหนังสือ 1 เล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 22-01-2010 01:40:41
 o13 โย่ววว สนุกมาก ๆ ค้าบบบ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 22-01-2010 13:43:38
คือเห็นรายชื่อคนจองไว้ เป็น ysuyu คือว่า ตกลงเป็นเราใช่มั้ย เพราะว่า ชื่อเราเป็น tsuyu อ่ะค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 22-01-2010 17:36:56
เห็นรายชื่อคนจองแล้วขอบคุณครับ ส่วนเรื่องของไนท์กับแจ๊คคงจะเป็นไปได้ยากนะครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 22-01-2010 17:42:06
วันนี้จะมาลงไหมค่ะ รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-01-2010 18:01:16
ไนท์คงคิดอะไรหลายอย่างมั้ง
แต่สอนไคซัคซะดิบดี อย่าลืมบอกตัวเองด้วยล่ะ  o18
คนดีๆอย่างแจ๊ค หาไม่ได้ง่ายๆนะนี่ :-[
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 22-01-2010 19:16:46
 :z2:  แหะๆๆ  มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบจ้ะ  กระผมนาย jokirito ขอถอนตัวออกจากรายชื่อคนจองลอตใหม่นะครับ  พอดีว่าจองลอตแรกที่เหลือของคุณใบปอทันน่ะครับ  ได้รับหนังสือแล้ว  (แต่ยังไม่ได้โอนเงินค่าหนังสือเลยงิ)  เลยมาแจ้งให้ทราบอ่ะจ่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 23-01-2010 00:35:33
ขอจองทั้งสามเรื่องเลยครับ..ทำไงต่อช่วยบอกด้วยครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 24-01-2010 10:45:31
มาดันตกหน้าสองแระ o18

วันนี้มาไหม  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 25-01-2010 08:57:05
รออยู่นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 25-01-2010 14:32:21
รอนะค่ะ   :m15:


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 25-01-2010 20:54:20
อ่านเล่มจริงจบหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังอยากตามอ่านในนี้ด้วย อิอิ

พี่เทียนฉินจะเป็นโพสเรื่องใหม่ของพี่ปอที่นี่ด้วยรึเปล่าคะ อยากอ่านมากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาอัพต่อแล้ว 20/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 25-01-2010 21:29:18
คือเห็นรายชื่อคนจองไว้ เป็น ysuyu คือว่า ตกลงเป็นเราใช่มั้ย เพราะว่า ชื่อเราเป็น tsuyu อ่ะค่ะ  :monkeysad:

แก้แล้วนะคะ ขอโทษคะ :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 25-01-2010 21:35:29
ขอบคุณสำหรับการจองหนังสือนะคะ คืบหน้าเป็นอย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบคะ

รายชื่อคะ
donpoper/ohja/thaitanoi / muyong / pokky/ little devil /Moo_Aor/ DEMON3132 /Namtaan / tsuyu /DEVIL DEWA/raruruz /THIP/joobperman(2)/maicy/va_yu/perfectpie/

รวม 18 เล่มคะ
............

มาอ่านกันต่อได้เลยคะ

.........
หลังงานเลี้ยง ไนท์ก็กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหิ้วกระเป๋าลงไปยังท่าจอดเรือ  องครักษ์ที่เฝ้าเรือโดดขึ้นมาค้อมกายเคารพ
“เราจะขับเรือเอง  พวกเจ้าไม่ต้องไป”
“กระหม่อม”
ไนท์เอากระเป๋าลงไปเก็บแล้วกลับขึ้นบนดาด  ฟ้าเห็นองครักษ์ยืนจับกลุ่มกันอยู่ที่สะพานเดินเรือ  ก็ส่งสัญญาณให้แก้เชือกแล้วกลับเข้าห้องเครื่อง  องครักษ์ที่ยังอยู่บนเรือทำหน้าอึดอัดแต่ก็ยกสมอขึ้นเรือก่อนจะโดดขึ้นท่าน้ำไป  ชีคหนุ่มขับเรือด้วยความเร็วสูง  แสงไฟจากเรือประมงกระพริบพราวไปทั่วท้องทะเลที่มืดมิด  สวย...ราวจะแข่งกับแสงดาวบนท้องฟ้า
เรือโผนเข้าตัดคลื่นด้วยความเร็วสม่ำเสมอ  สองชั่วโมงเศษๆก็เข้าเทียบท่าที่เกาะขนาดไม่ใหญ่นัก แสงไฟจากบ้านพักหลังเดียวบนเกาะสว่างเรืองเช่น เดียวกับทางเดินอันสว่างไสว  ไนท์ดับเครื่องแล้วออกไปยังท้ายเรือ ยังไม่ทันถึงน้ำก็ดังตูมเมื่อสมอถูกโยนลงไป  แจ็คเหวี่ยงเชือกไปคล้องกับหลักอย่างคล่องแคล่ว
“แจ็ค…นี่เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันจะมา?”
“บังเอิญผมออกจากงานมา...เห็นคนของคุณเตรียมการอยู่ที่เรือ...ก็พอจะเดาได้  กระเป๋าคุณอยู่นี่แล้ว” แจ็คตอบแค่นั้นก็โดดลงจากเรือไป  ความจริงเขาตามไคซัคออกมาต่างหาก  แล้วก็เลยได้ยินไคซัคสั่งให้คนเตรียมเรือเขาถึงได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามไนท์มา โดยที่องครักษ์ที่เฝ้าเรือไม่กล้าขัดขวางตอนเขาขึ้นเรือ
แจ็คโดดลงจากเรือไปพร้อมกับกระเป๋าใบย่อมสองใบเดินนำลิ่วไปยังบ้านพัก  ไนท์มองตามด้วยสีหน้าเรียบเฉยหากแต่แววตาไหวระริก
“ฉันสั่งแล้วนี่ว่าไม่ให้ใครตามฉันอยากพักผ่อน...ตามลำพัง…” ไนท์เน้นประโยคท้ายด้วยน้ำเสียงยั่วเยาะ  แจ็คหันขวับมาตาขุ่นด้วยความโกรธ
“ตามลำพังหรือนัดกับใครไว้กันแน่?” ชายหนุ่มคำรามเสียงกร้าว  ทำไมเขาจะไม่เห็นว่าไอ้มิสเตอร์ตื้อนั่น  มาวนเวียนอยู่ที่ท่าเรือ  หมอนั่นรออยู่พักใหญ่ถึงได้กลับไปเขาไม่คิดว่าไนท์จะนัดกับหมอนั่น  แต่ความหึงหวงก็ทำให้อดแขวะไม่ได้
“…ความจริง...ฉันจะมากับใครก็เรื่องของฉันนะ”
เหมือนราดน้ำมันลงบนกองไฟ  แจ็คโยนกระเป๋าในมือทิ้ง  หันกลับมากระชากร่างบางเข้าไปในอ้อมกอดแถมยังบิดข้อมือเล็กไพล่หลังไว้ดันให้อกกดเข้าหากันแนบแน่น  ไนท์อุทานออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ
“เป็นบ้าไปแล้วหรือไงแจ็ค?”
“คุณเพิ่งรู้เหรอว่าคบกับคนบ้า”แจ็คคำรามเสียงกร้าว  บีบข้อมือบอบบางราวกับจะให้แหลกคามือ  ไนท์มองหน้าเครียดขึงที่ห่างไม่ถึงคืบด้วยสายตาท้าทาย
“อย่าท้าผมนะคุณไนท์  ความอดทนของผมมันแทบไม่เหลือแล้ว”
“จะทำอะไร…เธอกล้าทำร้ายฉันเหรอแจ็ค?”
“ผมไม่คิดจะทำร้ายคุณหรอกนะ  แต่ผมจะทำให้คุณรู้ว่าคุณเป็นของผม...ของผมคนเดียวเท่านั้น!” แจ็คก้มลงขยี้ปากบางแรงๆจนบวมเห่อขึ้นมาทันทีที่ถอนปากออก
“ของๆผมไอ้หน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะ” แจ็คคำรามเสียงต่ำในลำคอ  ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยวหึงหวง  ไนท์ยังคงยิ้มยั่วแม้ปากจะระบมด้วยรสจูบรุนแรงเมื่อครู่
“ฉันไม่เห็นรู้สึกเลยว่าเป็นสมบัติของใคร...”
“ผมจะพิสูจน์ให้คุณดู” แจ็คช้อนร่างบางเดินลิ่วเข้าสู่ห้องนอนด้านใน  ทันทีถึงเตียงไนท์ก็ถูกทาบทับด้วยร่างหนาหนัก
แจ็คบดปากนุ่มแรง  ความหึงหวงเดือดพล่านอยู่ในอกจนระงับไว้ไม่ได้อีกต่อไป...ผิวสีทรายนวลเนียนนี้เป็นของเขา...ร่างแสนงามนี้เป็นของเขา...ทุกซอกทุกมุมของร่างนี้ไม่มีส่วนใดที่เขาไม่เคยลองลิ้มชิมรส ไนท์เป็นของเขาไม่ใช่ของลอเรนซ์  ไม่ใช่ของริช และไม่ใช่ของเพื่อนร่วมธุรกิจเหล่านั้น
เสียงเสื้อฉีกขาดเมื่อไนท์พยายามจะลุกขึ้น  เนื้อนวลๆแดงเป็นปื้นตามรอยบาดของกระดุมและรอยนิ้ว  แต่วงหน้างามยังคงมีรอยยิ้มท้าทายไม่หาย  แจ็ค กดตรึงร่างบอบบางไว้แน่น  ทรวงอกตึงนูนเด่นด้วยกล้ามเนื้องดงามสะท้อนขึ้นลง
“คิดว่าใช้กำลังแล้วจะชนะฉันได้เหรอแจ็ค…รู้อยู่แล้วนี่ว่าฉันฆ่าคนตัวโต กว่าเธอได้สบาย…ยังจะกล้าอีกเหรอ?” ไนท์กระซิบเสียงเย็น  แต่ดวงตาวาววามไม่ดิ้นไม่ขยับหนี  กลับยกศีรษะขึ้นจนจ้องตาแจ็ค...ใกล้จนลมหายใจอุ่นริดรดกัน
“อยากฆ่าผมก็เชิญ  แต่ตราบใดที่ผมยังหายใจ คุณจะเป็นของใครไม่ได้นอกจากผม” แจ็คจ้องตาคมหวานไม่หลบ  หากต้องสูญเสียไนท์ไปชีวิตเขาก็ไม่เหลืออะไรเช่นกัน แล้วเขาจะมีชีวิตอยู่ไปทำไม  แจ็คก้มลงกดปากลงบนปากนุ่มจนไนท์ต้องเอนลงบนหมอนอีกครั้ง เบียดกระชับและแทรกซอนเข้าชิมความหอมหวานภายใน  สองมือเลื่อนลงไปปลดเปลื้องกางเกงผ้าเนื้อนุ่มรูดรั้งออกไปพร้อมกางเกงชั้นในสีขาวสะอาด  ผิวสีทรายเปลือยเปล่าอวดความนวลเนียนท้าแสงไฟ
แจ็คปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระ  หันมากัดเม้มไปตามเนื้อนวลทิ้งรอยแดงเป็นปื้นทุกที่ที่ปากสัมผัสผ่าน
“นี่ก็ของผม...ตรงนี้ก็ของผม...” แจ็คกดจมูกและปากบนซอกคอขาว  อดไม่ได้ที่จะดูดเม้มที่ต้นคอจนทิ้งรอยแดง  ไนท์หลับตาพริ้ม  สองมือยกขึ้นโอบรอบลำคอแข็งแรง  ปล่อยให้ปากร้อนผ่าวเลื่อนจากซอกคอลงไปหาแผ่นอก  ฝ่ามือสากบีบเคล้นบนกล้ามเนื้อนูนงามหนักๆ  ปากก็ดูดดึงยอดตึงอีกข้างอย่างหิวกระหาย
ฟันคมที่ขบเม้มก่อให้เกิดความเจ็บแปลบแต่ปลายลิ้นที่ตวัดรัดตามหลังมาก่อให้เกิดประกายไฟร้อนๆไหลวนไปทั้งร่าง  แผ่นหลังตึงหยัดขึ้นรับการเล้าโลม แจ็คถือโอกาสนั่นสอดมือไปไล้แผ่นหลังและลูบลงไปยังสะโพกตึง  ขณะที่ปากก็เลื่อนลงมาสู่หน้าท้อง  ปากร้อนปัดผ่านส่วนร้อนรุ่มเพียงวาบเดียว  ไนท์เม้มปากแน่นแต่ลมหายใจกระชั้นขึ้น  ต้นขาเกร็งรับสัมผัส  แต่แจ็คกลับผละออกไปถอดเสื้อผ้า 
ชีคหนุ่มลืมตาขึ้นมอง  เรือนร่างกำยำเปลือยเปล่าได้ในชั่วไม่ถึงนาทีนั้นกลับขึ้นมานั่งบนเตียง  ชายหนุ่มวางหลอดเจลลงข้างหมอนขณะรั้งขาเรียวให้แยกออกและแทรกกายเข้าไปอยู่ตรงกลาง  ดวงตาที่ยังกรุ่นด้วยไอโทสะสบกับดวงตาหวานยั่วอย่างไม่พรั่นพรึง  มือสากลูบไล้จากข้อเท้าเรียวขึ้นไปลูบวนเบาๆที่ปลี่น่องและเลยขึ้นไปสัมผัสต้นขาเนียน  ไนท์ยังคงมองตาม  แต่ดวงตาหรี่ปรือลง  และลมหายใจก็หอบแรงขึ้น  ด้วยทุกครั้งที่มือกร้านลูบผ่านหน้าขา  กระแสเสียวแปลบปลาบจะไหลวาบขึ้นมาถึงหน้าท้อง  ส่วนชูชันขยับตัวรับสัมผัสอย่างไม่อาจควบคุม 
แจ็คค่อยๆช้อนท่อนขาเนียนขึ้นพาดไหล่  ปากร้อนจูบไซร้จากน่องขึ้นมาหาโคนขา  ไม่ลืมที่จะกัดเม้มทิ้งรอยแดงเป็นระยะ  จนจรดซอกขา  เส้นผมที่พริ้วผ่านเสียดสีความชูชันเพียงวูบเดียวก็ผละห่าง
ไนท์สูดลมหายใจลึก  นิ้วยาวเรียวสอดเข้าไปในกลุ่มผมหนา พยายามดึงรั้งให้ปากร้อนช่วยปลดปล่อยความอัดอั้น  แต่แจ็คขืนไว้  เขาต้องทำให้ไนท์รู้ว่าเรือนร่างนี้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว  ลิ้นร้อนกวาดไล้หยอกล้อซอกขาขาวแผ่วเบาลากผ่านไปตามหน้าท้องเนียน หยุดแวะไล้เลียที่สะดือบุ๋มลึกแล้วเลยมายังซอกขาอีกด้าน         
“แจ็ค…อา…” ไนท์นิ่วหน้าเมื่อความต้องการไม่ถูกตอบสนอง  สะโพกขยับเลื่อนไปมาอย่างทรมาน  แจ็คแตะปากบนเนื้อร้อนตึงแผ่วเบาแล้วกลับเลื่อนขึ้นมาจูบทรวงอกตึงนูนแทน  ฝ่ามือสากลูบไล้บนหน้าขาแต่ไม่ยอมแตะต้องจุดอ่อนไหว
ดวงตาสีน้ำตาลอมทองหม่นมัวด้วยไฟพิศสวาท  ไนท์ผุดลุกขึ้นดันร่างหนาออกแต่แจ็ครู้ทัน  จึงกดร่างบางลงคว่ำกับเตียง  และตรึงไว้ไม่ให้ขยับ ชายหนุ่มก้มลงกัดที่ใบหูเล็กแผ่วๆ  เลาะเล็มซอกคอแล้ววนมาหาต้นคอ   ลากปลายลิ้นจากลงมาตามแนวกระดูกสันหลังช้าๆ  ทิ้งรอยชื้นเป็นทาง  ไนท์สูดลมหายใจลึกแผ่นหลังหยัดขึ้นอย่างลืมตัวเมื่อ ฝ่ามือกร้านกอบกุ่มสะโพกขาวแยกเนื้อแน่นออกจากกันเพื่อลากปลายลิ้นผ่านจุดอ่อนไหว  ช่องทางแคบบีบรัดแน่นขึ้นทุกครั้งที่ลิ้นตวัดผ่านซ้ำๆ  แจ็คดึงสะโพกขาวให้ยกสูงเพื่อสำรวจทุกซอกมุมได้ขึ้นถนัดกว่าเดิม
ไนท์หอบหายใจหนัก  มือทั้งสองจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น  น้ำตาซึมด้วยความเสียวกระสันเมื่อลิ้นที่สำรวจอยู่ภายนอกจนชุ่มโชกพยายามสอดเข้าไปข้างใน
“อือ...อะ...”
แจ็คประคองร่างบางให้คุกเข่าขึ้น  แล้วเลื่อนปลายลิ้นลงไปยังพวงเนื้อร้อนรุ่ม  สอดตัวเองเข้าไปข้างใต้เพื่อสัมผัสเอ็นเนื้อเกร็งเขม็งนั้นได้ถนัด  แรกๆชายหนุ่มเพียงลูบไล้ท่อนเนื้อเกร็งนั้นจนเปียกชุ่ม  ก่อนจะบรรจงจุมพิตบนส่วนยอดแผ่วเบาแล้วเม้มรูดท่อนเนื้อร้อนผ่าวเข้าไปในปาก  เสียงอุทานระรัวพร้อมๆกับอาการเกร็งหน้าท้องรับนั้นไม่ได้เป็นเพราะความเจ็บ  แต่เกิดจากความพอใจ  แจ็คตวัดลิ้นไล้ส่วนที่อยู่ในปากแรงๆ  ขณะที่รูดรั้งเข้าออก
ไนท์เท้าศอกข้างหนึ่งลงกับเตียง  ขณะที่มืออีกข้างเลื่อนลงไปจิกรั้งผมหนาไว้  สะโพกขยับโยกเข้าหาปากร้อนผ่าวรับแรงดูดรัดที่แรงและเร็วขึ้นทุกขณะ                ปลายนิ้วสากที่สอดผ่านรอยแยกเข้าไปแทบไม่ต้องออกแรง  ด้วยสะโพกขาวที่โยกคลอนอยู่ทำให้มันสอดเข้าไปได้ลึกสุด
“โอ...อือ...” ไนท์ครางระงมทุกครั้งที่เร่งจังหวะขึ้น   ด้านหน้ากำลังถูกดูดกลืนอย่างหิวกระหาย  ส่วนด้านหลังก็ถูกสะกิดกระตุ้นราวกับรู้ว่าควรสัมผัสตรงไหนจะทำให้เขาเสียวซ่านได้มากขึ้น     
ไนท์หลับตาแน่น  ในท้องเหมือนมีเชือกนับพันที่บิดควั่นกันไว้แน่นเขม็งขึ้นทุกที  ความเสียวกระสันทวีขึ้นจนเห็นจุดสูงสุดอยู่รำไร  ร่างกายแอ่นเกร็งเพื่อปลดปล่อย  จู่ๆสวรรค์ก็หายวับเมื่อปากและนิ้วยาวถอนออกไป         
“แจ็ค!” ไนท์อุทานด้วยความโกรธและเสียดาย  แจ็คพลิกร่างบางให้นอนหงายแล้วเลื่อนตัวขึ้นทาบทับอย่างรวดเร็ว  ดวงตาคมเป็นประกายวาววับทั้งทีน้ำตาคลอ  แจ็คยิ้มตอบไม่สะทกสะท้านขณะสอดนิ้วที่ชโลมเจลไว้จนชุ่มเข้าไปในทางแคบ  ไนท์สะท้านนิดหนึ่งเมื่อความเย็นลื่นนั้นสอดเข้ามาและขยับเข้าออกอย่างรู้ตำแหน่ง
“คุณเป็นของผม…จำไว้นะครับว่าคุณเป็นของผมเท่านั้น” แจ็คก้มลงคำรามชิดใบหูเล็ก ฝ่ามือกร้านช้อนสะโพกกลมขึ้นขณะดันตัวเองเข้าไป  ช่องทางแคบร้อนจัดบีบรัดต่อต้านทันที  แต่ชายหนุ่มก็ยังกดตัวเองเข้าไปเรื่อยๆโดยไม่ยอมขยับถอยสักมิลเดียว 
ไนท์ผวาทั้งตัวปากบางกัดแน่นเพื่อกั้นเสียงครางเพราะความเจ็บ สัมผัสร้อนจัดเสียดลึกเข้ามาช้าๆ  แม้จะพยายามผ่อนคลายแต่ก็ไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ  ปลายเท้าเรียวที่ลอยคว้างอยู่เหนือไหล่ของแจ็คจิกเกร็งเข้ามาแล้วคลายออกเป็นระยะ   แจ็คก้มลงจูบปากที่เม้มแน่นให้คลายออกขณะดันกายเข้าไปได้จนสุด 
ไนท์ปล่อยมือจากหมอนมายึดไหล่หนาไว้  แม้ลิ้นแจ็คจะยังคงพัวพันอยู่ในปากแต่สะโพกแข็งกลับถอยร่นออกช้าๆและดันกลับหาเนิ่บๆ  เสียงอุทานด้วยความเจ็บดังอยู่ในลำคอและแจ็คก็ดูดกลืนเข้าไปในปากเขา  ชายหนุ่มบดสะโพกหนักๆขณะดันเข้าไปเพื่อสัมผัสจุดกระสันของไนท์ได้ถนัดขึ้น
ไนท์เกร็งตัวด้วยความเจ็บทำให้ส่วนที่ดันเข้ามาถูกบีบรัดแรงกว่าเดิม  แจ็คต้องปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระเพื่อหอบหายใจ
“โอว...ซี๊ด...ไนท์...คุณ...”  ชายหนุ่มยกสะโพกออกจนทั้งคู่เกือบหลุดออกจากกันแล้วกระแทกกายลงไปสุดตัว
“โอ...อืออ...อออ...”ไนท์อ้าปากหายใจ  นิ้วยาวจิกครูดไหล่หนาแรงขึ้นเพื่อระบายความเจ็บและเสียดเสียวนั้นออกไปบ้าง
แจ็คปลดขาเรียวลงจากไหล่  โน้มตัวลงไปแทบอยู่ในระนาบเดียวกันเพื่อให้ส่วนชูชันของไนท์สัมผัสกับหน้าท้องขณะดันกายเข้าออก  มือข้างหนึ่งกดท่อนเนื้อร้อนให้แนบชิด  ส่วนอีกข้างเลื่อนขึ้นมาบีบเคล้นอกตึงสวย  ขณะที่ปากก็กัดเม้มยอดอกตึงเป็นระยะๆ 
ขาเรียวตวัดรัดสะโพกแข็งไว้แน่น  แผ่นหลังบางเดาะขึ้นรับปากและมือ  ร่างบางสะเทือนไปทั้งตัวด้วยแรงกระทั้น  ที่เคยเนิบช้าเปลี่ยนเป็นเร่งแรงขึ้นทุกที           
แม้จะแสบหลังไปหมดทั้งไหล่จากแรงจิกของเล็บคม  แต่แจ็คไม่สนใจเพราะตอนนี้เขาเองก็ถูกความลุ่มลึกแสนหวานบีบคั้นจนแทบทนไม่ไหว  เลือดในกายร้อนจนเหมือนจะปะทุ  ชายหนุ่มเหยียดตัวขึ้นตรง ปล่อยมือจากอกและท่อนเนื้อร้อน  หันมามารั้งสะโพกตึงกระชากเข้าหา  ขณะกระแทกกายสวนเข้าไปถี่ระรัวจนร่างบางโยกคลอนไปทั้งตัว  สะโพกแข็งกระหน่ำกายกระชั้นเพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่เห็นอยู่ลิบๆ         
“…โอย...แจ็ค!” ไนท์อุทานเรียกชายหนุ่มเสียงกระเส่า แรงเสียดสีเสียวกระสันถึงขีดสุด สะโพกแอ่นเกร็งขึ้นรับแรงกระทั้น  ก่อนฉีดหยาดร้อนพร่างพรูจนเปียกเปื้อนทั้งตัวเองและหน้าท้องแข็งที่ขยับดันเข้าหา แจ็คยังคงโหมตัวเข้าออกระรัวก่อนจะหยุดฝังร่างในลึกปลดปลดปล่อยไอรักร้อนเข้าไปจนบางส่วนทะลักล้นออกมาภายนอก  ชายหนุ่มทิ้งตัวลงซุกซบกับซอกคอขาว  จุมพิตแผ่วซับเหงื่อที่เปียกชุ่มให้ทั้งที่ตนเองยังหายใจกระชั้นด้วยความเหนื่อย
ไนท์หอบหายใจ  ในอกยังเต้นระรัวแทบระเบิด  มือหยาบใหญ่สัมผัสทั่ววงหน้าอย่างอ่อนโยน  ขณะที่ปากร้อนๆที่เกลื่อนไปทั่วแผ่วเบา
“ถอยออกไปได้แล้ว”  ไนท์สั่งเสียงแผ่วหลังจากนอนนิ่งๆอยู่เกือบ10นาที  โดยมีเนื้อร้อนผ่าวฝังอยู่ในกาย  แม้จะทำให้รู้สึกดีที่ได้แนบชิดกันสนิทแต่เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนและการขยายตัวของท่อนเนื้อในกาย  ชีคหนุ่มก็อึดอัดจนต้องดันไหล่หนาออก  แจ็คเท้าแขนขึ้นแต่ชะโงกหน้าเข้ามาจนใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่กี่นิ้ว  ดวงตาคมเป็นประกายวับล้อกับแสงไฟเจ้าเล่ห์จนไนท์หวั่น แต่สะโพกแข็งกลับยอมขยับถอยออกช้าๆ  ลมหายใจที่ผ่อนตามเมื่อแจ็คยอมถอยสะดุดกึกเมื่อร่างหนาดันตัวกลับเข้ามากระทันหัน
 “แจ็ค...หยุดนะ...ฉันเหนื่อย...อา...” ไนท์ห้ามเสียงกระเส่าเมื่อฝ่ามือสากกอบกุมส่วนอ่อนไหวขยับเป็นจังหวะ         
“คุณเป็นของผม…ทุกตารางนิ้วบนตัวคุณเป็นของผม…ของผมคนเดียวเท่านั้น  ห้ามให้ใครแตะอีกรู้ไหม?…” แจ็คกระซิบเสียงเครียด  แล้วตวัดลิ้นเลียยอดอกตึงแรงๆ  บางครั้งก็ขบดึงจนแดงจัด  ขณะสะโพกยังขยับเข้าหาทางแคบเป็นจังหวะ
ไนท์โหนลำคอแข็งประคองตัวขึ้น  จูบตอบที่สันกรามแต่ต้องนิ่วหน้าเมื่อแจ็คดันกายเข้ามาอีก
“พอก่อน...เถอะ...ฉันเหนื่อยจริงนะ...อือ...แจ็ค...ให้ฉันพัก...อะ..ก่อน” ไนท์กระซิบเสียงสั่นและจูบใบหูแข็งเบาๆอย่างเอาใจ  แต่แทนที่แจ็คจะยอมปล่อยกลับรั้งร่างบางขึ้นนั่งคร่อมตัก  ยกสะโพกบางขึ้นแล้วกระชากลงมาขณะดันกายสวนขึ้นแรงๆ  ไนท์กัดปากแน่น  จิกเล็บไปบนไหล่หนาแรงๆแต่แจ็คก็ไม่ยอมหยุด  ซ้ำยังเร่งจังหวะขึ้นทุกที  จนร่างบางต้องขยับกายรับเมื่อทนต่อแรงเสียดเสียวไม่ไหว
อารมณ์ถูกเคี่ยวจนลอยลิบแล้วระเบิดออกอย่างรวดเร็ว  หากแต่แจ็คยังไม่สาสมใจ  ร่างงามถูกพลิกผันเปลี่ยนแปลงท่าทางไปตามความทะยานอยากทั้งคืน 
เสียงครางระโหยด้วยความสุขสมเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า  ยาวนานจนไนท์คิดว่ามันคงจบสิ้นเมื่อเขาขาดใจตายเท่านั้น…ดอกไม้แสนงามจากทะเลทรายผวาขึ้นสุดตัวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่สติจะดับวูบไป         
สายน้ำเย็นฉ่ำไหลผ่านจนน่าจะสะท้านหากไม่ได้อยู่ในอกอุ่นที่โอบกอดเอาไว้แนบแน่น  ดวงตาคู่งามขยับเขยื้อนอย่างยากเย็นกว่าจะลืมขึ้นแต่แล้วกก็ต้องหลับลงไปใหม่เมื่อพบกับแสงสว่างจ้ากะทันหัน  กว่าจะปรับสายตาได้ก็ครู่ใหญ่  ไนท์กวาดตาไปรอบๆอย่างงุนงงเมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้อง  แต่แช่อยู่ในลำธารตื้น  ละอองน้ำเย็นฉ่ำจากน้ำตกกระเซ็นมาสัมผัสใบหน้าและเนื้อตัวเป็นระยะ  ใบหน้าคร้ามที่คลอเคลียอยู่กับแก้มนวลแจ่มใสจนน่าหมั่นไส้
“อรุณสวัสดิ์ครับ...อ้อ! ไม่สิ  ต้องสวัสดียามบ่ายต่างหาก”
“ปล่อย!”
“คงจะไม่ได้หรอกครับ…คุณไม่มีแรงยืนด้วยซ้ำ”         
“สะใจละสิที่ทำให้ฉันเป็นอย่างนี้ได้”         
“ใครบอก  ผมไม่ได้อยากแกล้งคุณสักนิด  แต่ผมต้องการพิสูจน์ต่างหากว่าคุณเป็นของผม”ไนท์ตวัดตามองอย่างขุ่นเคือง  อยากซัดหน้ายิ้มๆนั้นให้หงายแต่แค่ขยับกายยังยากเย็น  ต้องปล่อยให้มือสากๆโลมลูบทำความสะอาดให้ทั่วกาย  ดวงตาคมเหลือบแลไปรอบๆ  เพิ่งสังเกตเห็นที่ผ้านวมผืนใหญ่ปูอยู่บนผ้าใบใต้ร่มไม้ไม่ห่างนัก 
แจ็คมองตามก่อนจะช้อนร่างงามขึ้นจากน้ำมาวางบนที่นอนใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้ม  แสงแดดยามบ่ายส่องลอดกิ่งไม้ลงมาอาบไล้เนื้อเนียนจนแทบเปล่งประกาย จุดสีแดงช้ำกระจายทั่ว บางแห่งกลายเป็นสีม่วง  ไนท์พิงหมอนกองโตเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความเคือง         
“คุณจะโกรธผมก็ได้…แต่อย่าเกลียดผม  จะทำร้ายผมให้เจ็บแค่ไหนผมก็ยอม...แต่อย่าให้ใครแตะคุณ  สัมผัสคุณ เหมือนที่ผมสัมผัส...ผมทนไม่ได้”         
ดวงตาคมดุตวัดกลับมาจ้องหน้าแจ็คเขม็ง  ชายหนุ่มจ้องตอบไม่หลบ เขาเลื่อนตัวลงไปช้าๆและคุกเข่าลงที่ปลายเท้าเนียนสะอาด  แจ็คก้มลงจูบหลังเท้าเนียนแผ่วเบา  ขาเรียวกระตุกหนีนิดเดียวก็ต้องสะดุดกึกด้วยความเจ็บร้าวที่สะโพก
 “อย่าทำแบบนี้นะ…เธอไม่มีศักดิ์ศรีหรือไงถึงได้มาจูบเท้าคนอื่น” ไนท์หน้าบึ้งตาขุ่นด้วยความโกรธผสมกับความตกใจ  รู้อยู่หรอกว่าแจ็ครักและลุ่มหลงแค่ไหน  แต่ถ้าทำขนาดนี้เขาก็ไม่ต้องการ
แจ็คยิ้มกว้าง  ดวงตาใสซื่อเปี่ยมด้วยความรักจนแทบทะลักล้นออกมา  ไนท์เบือนหน้าหนีไม่อาจสบตาได้อีก
“มองผมสิครับ…ผมไม่จำเป็นต้องมีศักดิ์ศรีกับคนที่ผมรัก  ผมมีแต่หัวใจกับชีวิต  ผมให้คุณไปหมดแล้ว  อยู่ที่คุณว่าจะเก็บไว้หรือจะโยนทิ้ง”
“พูดออกมาได้...เลี่ยนจะตาย” ไนท์ทำปั้นปึ่งทั้งที่หน้าร้อนวาบจนต้องเมินไปทางอื่น  ไม่อยากให้แจ็ครู้ว่าเขาปลื้มแค่ไหน
“ทำเป็นโรแมนติกไปได้...ก็แค่เซ็กส์...” ไนท์หยุดพูดเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบกับคำพูดของตัวเอง  เขาไม่ชอบโกหก  และเพิ่งรู้ว่ากำลังพูดเรื่องไม่จริง
นิ้วยาวกร้านแตะคางมนให้หันกลับมาแผ่วเบา  ดวงตาคมเป็นประกายแน่วแน่ อ่อนโยน  และเว้าวอนจนไนท์สะท้าน
“ไม่ใช่แค่เซ็กส์สำหรับผม  การสัมผัสคุณคือการอธิบายคำว่า ‘รัก’ อย่างหนึ่ง...ความรู้สึกบางอย่างมันสื่อด้วยคำพูดไม่หมดหรอกครับ  แต่ผมคิดว่าคุณเข้าใจ”
ไนท์พูดไม่ออกได้แต่จ้องใบหน้าคมคายนิ่งงัน แจ็คยิ้มให้แล้วก้มลงจุมพิต นิ้วเท้าเรียวที่ละนิ้ว  ไล่เรื่อยตามเรียวขาขึ้นมาจนถึงหน้าท้อง ทรวงอก ใบหน้าและเรือนผม จากนั้นก็พลิกร่างบางนอนคว่ำ จูบไล่ลงไปที่หลัง จนจรดปลายเท้าอีกครั้งก่อนจะพลิกร่างบางให้นอนหงาย  และเลื่อนตัวขึ้นมาเท้าแขนคร่อมร่างบาง  ไล้ข้อนิ้วไปตามแก้มละมุนแล้วแทนที่ด้วยปาก  สุดท้ายก็หยุดจุมพิตที่เปลือกตากว้างเบาๆ
ไนท์จ้องการกระทำนั้นเขม็ง  เขาเคยถูกบอกรักด้วยหลายวิธี  จากหลายภาษา  แต่แจ็คกลับทำให้ทุกคำรักของคนอื่นไร้ค่าอย่างสิ้นเชิง  ไม่ใช่การจูบเขาทั้งตัว  หากแต่เป็นความจริงใจที่เอ่อท้นจนแทรกซึมเข้าไปถึงวิญญาณ           
ไนท์ดึงใบหน้าระคายด้วยไรหนวดมาจูบตอบอ่อนโยน  เมื่อถอนปากออกก็ได้เห็นดวงตาวาววามด้วยความยินดีจนน่าหมั่นไส้  ไนท์คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะผลักร่างหนาลงนอนแล้วขึ้นนั่งทับต้นขาแข็ง  มือนุ่มลูบไล้กล้ามอกแน่นตึงแผ่วเบาก่อนจะลูบเลื่อนลงมาบนกล้ามท้อง
แจ็คกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว  ยิ่งมือนุ่มไล้วนเบาๆบนหน้าท้องเขาก็ชูชันขึ้นสู้ตาทันที
“หน้าไม่อาย...” ไนท์ชะโงกขึ้นไปกระซิบเบาๆที่ข้างหูแถมยังแกล้งเป่าลมอุ่นๆเข้าไป  แจ็คถอนใจหนักๆเอื้อมมาคว้าร่างบางไปกอดแต่ไนท์ปัดแขนเขาทิ้งเลื่อนตัวกลับมาลูบบนหน้าขาเบาๆ  อาการเสียววาบจนแสบยะยิบไปถึงท้องทำให้แจ็คต้องหลุดเสียงครางในลำคอแผ่วเบา  ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อปากนุ่มสัมผัสเขาแผ่วเบา  ผิวแห้งตึงร้อนผ่าวขึ้นทันใด  เสียงแจ็คอุทานแผ่วอย่างคาดไม่ถึง  อย่าว่าแต่แจ็คเลย ตัวเขาเองก็ไม่เคยคิดว่ารามิล ราจีสอับดุลผู้ยิ่งใหญ่จะยอมทำอะไรอย่างนี้
ลิ้นสีชมพูสดแลบเลียส่วนยอดเบาๆด้วยความไม่คุ้น  ผิวแห้งระคายปากแต่ร้อนผ่าวกระตุ้นให้ชีคหนุ่มทดลองไล้เลีย  เพียงส่วนปลายมุดหายเข้าไปแจ็คก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างน่าตกใจ  ไนท์ดูดกลืนชายหนุ่มเข้าไปจนรู้สึกแน่นปากก็ถอยออก บางครั้งก็ลากลิ้นลงไปจนถึงโคน             
แม้จะไม่มีประสบการณ์ตรงแต่ก็มีประสบการณ์ทางอ้อมที่เคยได้รับการปรนเปรอแบบนี้มามาก  ไนท์ตอบแทนคำรักด้วยความตั้งอกตั้งใจ  แม้บางครั้งฟันจะกระทบโดนบ้างแต่เสียงครางกระเส่าของชายหนุ่มก็ทำให้เขาภูมิใจ มือกร้านลูบไล้เส้นผมของเขาหนักหน่วงขึ้นทุกที  ไนท์แทบผวาเมื่อสะโพกหนาขยับยกสวนขึ้นจนความร้อนเสียดแทงแทบถึงคอหอย  นานจนปากชากว่าที่สะโพกหนาจะแอ่นเกร็ง  ของเหลวอุ่นร้อนหลั่งรินออกมาไนท์ตั้งใจจะกลืนลงไป  ในเมือแจ็คทำให้เขาออกบ่อยเขาก็ทำได้  แต่แจ็คดึงหน้านวลขึ้นเสียก่อน
“อย่าครับ…สกปรก” แจ็คห้ามเสียงหอบๆ  ดวงตาไหวระริกด้วยความสุข  ปล่อยให้หยาดอุ่นรินรดลงบนผ้าห่มขณะจูบปากนุ่มดื่มด่ำด้วยความซาบซึ้งใจ
“ทำไม? เธอยังทำได้เลย” ไนท์ถามทันทีที่ปากเป็นอิสระ
“มันไม่เหมือนกัน…คุณไม่เคยทำแบบนี้  ผมไม่อยากให้คุณรู้สึกไม่ดี”
แจ็คกระซิบชิดปากบางก่อนจะจูบคว้านไปทั่วโพลงปากนุ่ม
“ขอบคุณมากครับที่ยอมทำแบบนี้ให้ผม” 
สายตาวิบวับภาคภูมินั้นทำให้ไนท์รู้สึกเขินและเสียหน้าหน่อยๆ 
“ฮึ…อย่าทะนงตัวไปนะแจ็คว่าที่ทำให้เพราะฉันแพ้เธอ”
“ผมไม่เคยทะนงตัว  แต่ผมแน่ใจว่าไม่มีที่ไหนในตัวคุณที่ผมไม่รู้” แจ็ค กระซิบชิดใบหูนิ่มก่อนจะเป่าลมเข้าไปเบาๆ  ไนท์ผวาขนลุกซู่ ยังไม่ทันขยับทรวงอกก็ถูกดูดดึงจนต้องผวาโอบรอบคอหนาแน่น  ปลายนิ้วระคายแทรกเข้ามาในทางแคบสอดสะกิดจุดอ่อนไหวจนเสียวซ่านไปทั้งท้อง         
“แจ็ค….”         
“ดูสิครับ…ร่างกายคุณทรยศคุณแล้ว…ผมบอกแล้วว่าคุณเป็นของผม…ของผมคนเดียวเท่านั้น” แจ็คโอบประคองร่างงามให้นอนลงบนกองหมอน  ไนท์กอดรัดไหล่หนาแน่น  ร่างกายสั่นไหวไปตามจังหวะที่คนรักชักนำ  ดวงตาคู่งามหรี่หลบแสงแดดที่ลอดลงมาจากกิ่งไม้เบื้องบน  ปล่อยให้ความพิศวาสชักนำไปจนสุดทาง         

เสียงน้ำกระซิบกระซาบกับชายฝั่งแผ่วเบา  แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดกว้างจนห้องสว่างไสว  ไนท์เหลือบมองคนข้างๆแจ็คนอนคว่ำซบหน้ากับหมอน  แขนยังโอบรอบเอวเขาไว้แน่นราวกับกลัวหาย  ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยอาหารกับเซ็กส์  วันคืนดูเหมือนจะลับหายไปกับอ้อมกอดเร่าร้อน  ร่างกายเหมือนถูกแผดเผาจนหลอมละลายนับครั้งไม่ถ้วน  จนร่างกายนี้เหมือนจะไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป เพราะมันขยับเขยื้อนไปตามแต่แจ็คจะชักเชิดเท่านั้น         
พญาเหยี่ยวแห่งทะเลทรายถอนใจยาว  ไม่อยากจะเชื่อว่าคนแพ้จะกลายเป็นเขา  บางครั้งความพ่ายแพ้ก็หอมหวานได้อย่างไม่น่าเชื่อ  เสียงลมหายใจสม่ำเสมอสะดุดนิดหนึ่ง  อ้อมแขนร้อนรัดรึงแน่นหนากว่าเดิม  ศีรษะยุ่งๆเลื่อนขึ้นมาก่ายเกยบนอก         
“ของผม…คุณเป็นของผมเท่านั้น…ที่รัก”
ไนท์ยิ้มหวาน  แม้ในยามหลับแจ็คก็ยังบอกรักไม่คลาย  และครั้งนี้เขามีพยานเป็นพระจันทร์สุกสว่างภายนอก............
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 25-01-2010 21:38:28
.......
ไคซัควางโทรศัพท์ลงช้าๆ  ช่างเป็นโอกาสที่ดีอะไรเช่นนี้  เขาได้รับอนุญาตให้ลาพักร้อนได้ถึง7วัน เพราะชีครามิลต้องการพักผ่อนเงียบๆที่เกาะส่วนตัว  แน่นอนว่าเขารู้ว่าท่านชีคอยู่กับใคร  หน้าที่เขาเพียงจัดเวรยามไม่ให้ใครเข้าใกล้เกาะนั้นอย่างแน่นหนา  และลูกน้องเขาก็ไว้ใจได้  คงถึงเวลาที่เขาจะได้สะสางปัญหาในหัวใจเสียทีเขาปล่อยให้อองรีได้ใจมานานเกินไปแล้ว
           ............
 
แผนกต้อนรับแทบลมจับไปตามๆกันเมื่อหัวหน้าแผนกมาตรวจงานแล้วพบข้อบกพร่อง  คำเตือนเย็นเยือกแต่เจ็บแสบไปถึงหัวใจเล่นเอาทุกคนตัวลีบยามอองรีเดินผ่าน  สองสัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนหัวหน้าแผนกต้อนรับจะน่ากลัวขึ้นทุกทีจนตอนนี้ไม่มีใครกล้ารอหน้าแล้ว
เจฟฟรี่ขันสีหน้ากระอักกระอ่วนของแม่สาวแผนกต้อนรับตอนที่เขาถามถึงอองรี         
“คุณอองรีอยู่ที่เวทีการแสดงค่ะ  เอ่อ…คุณเจฟฟรี่คะ ระวังตัวหน่อยนะคะ”         
“ทำไมล่ะ?”         
“ช่วงนี้คุณอองรีดูอารมณ์ไม่ค่อยดีน่ะค่ะ”         
“งั้นเหรอ  ขอบใจนะที่เตือน” เจฟฟรี่รับคำขันๆ 
ร่างบางดูเพรียวผอมกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอมาก  ไม่รู้ว่าอองรีพูดอะไรแต่แม่สาวที่กำลังจัดดอกไม้ถึงกับปล่อยโฮออกมาโดยที่เพื่อนๆได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งไม่มีใครกล้าปลอบ         
“ขอตัวสาวๆไปช่วยงานสัก5นาทีได้ไหมครับ?”         
“ไม่ได้!…เอ่อ…คุณเจฟ ขอโทษครับจะให้พนักงานไปทำอะไรเหรอครับ?”         
“ล้อเล่นน่ะ...เห็นกำลังเคร่งเครียดกันอยู่ ความจริงฉันมีธุระกับเธอมาก กว่า”         
“ได้ครับ เชิญที่ห้องทำงานผมดีกว่า” พนักงานในบริเวณนั้นแทบปรบมือให้เจฟฟรี่  ที่ขี่ม้าขาวมาช่วยไว้ทันก่อนที่ทุกคนจะลมใส่จนทำงานไม่เสร็จ         
“คุณเจฟมีอะไรครับ?”         
“ช่วงนี้เป็นอะไรไป...เล่นงานลูกน้องไม่เว้นแต่ละวัน จนพนักงานเราจะลาออกกันหมดอยู่แล้ว” สีหน้ารื่นเริงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเอาจริง  อองรีหลบตาวูบ
“…ผม…”         
“ถ้าคิดถึงเขาก็ไปหาสิอองรี  อย่ามัวแต่ทิฐิ”         
“คิดถึง…ผมไม่เห็นคิดถึงใคร” อองรีทำไขสือแต่ไม่ยอมสบตาเจฟฟรี่         
“อย่ามาแกล้งไถล  ทำไมละอองรี? มันไม่ได้เสียหน้าอะไรหรอกนะที่จะไปหาเขาก่อน”
อองรีลูบหน้าด้วยความกลัดกลุ้ม           
“ผมคงเป็นบ้าไปแล้วที่เอาแต่คิดถึงคนที่ทำร้ายตัวเองขนาดนั้น”         
“ความรักไม่ใช่เรื่องบ้าหรอกนะอองรี”         
“…แต่ผมรู้สึกตัวเองเหมือนคนบ้า ที่ไปหลงรักคนป่าเถื่อนอย่างนั้นจนทำให้เสียงาน  ผมก็รู้ว่าตัวเองทุเรศที่อารมณ์เสียเรื่องส่วนตัว แล้วมาระบายกับคนอื่น ทำให้งานเสียหาย”
“งานยังไม่เสียหาย แต่พนักงานแผนกเธอขวัญหายกันหมดแล้ว”         
“ผมขอโทษครับ…ผมอยากลาออก” อองรีโพล่งออกมาอย่างที่ใจคิด         
“แล้วกัน! พูดแค่นี้ถึงกับลาออกเลยเหรอ?”         
“ไม่ใช่หรอกครับ...แต่ผมรู้สึกละอายแก่ใจที่ตัวเองไร้ประสิทธิภาพแบบนี้  นะครับให้ผมลาออกเถอะ”         
“คิดให้ดีๆนะอองรีอย่าทำอะไรด้วยอารมณ์…เอางี้ดีกว่า ฉันให้เธอลาพักร้อน  จะสักกี่เดือนก็ตามใจ ไว้สบายใจค่อยกลับมาทำงานต่อ”         
“แต่………..ขอบคุณครับ  งั้นผมขอไปมอบหมายงานก่อน”         
“เที่ยวให้สนุกนะอองรี แล้วก็ขอให้นายหาทางออกให้ตัวเองได้ด้วย คุณริชเป็นห่วงนายมากนะ”         
“ขอบคุณครับคุณเจฟ ฝากขอบคุณคุณริชด้วย ผมขอพักให้หัวเย็นแล้วจะกลับมารับใช้คุณริชแน่นอนครับ” ............
         
อองรีโยนกระเป๋าลงบนเตียงอย่างเซ็งๆ  คิดไม่ออกว่าควรไปไหนดี  หลายปีมาแล้วที่เขาไม่ขอใช้วันหยุดพักร้อน เพราะเขาแน่ใจว่าไม่มีที่ไหนในโลกจะสวยงามและเพียบพร้อมไปกว่ารีสอร์ทที่เกาะส่วนตัวของตระกูลแฮมิลตัลอีกแล้ว  เมื่อเจฟฟรี่ยื่นข้อเสนอให้เขาพักร้อน แถมยังให้ฮอมาส่งให้ถึงบนฝั่ง เขาจึงทำได้เพียงหาโรงแรมพักไปก่อน
ชายหนุ่มเลื่อนกระเป๋าลงใต้เตียงก่อนจะปิดไฟนอน  ไว้พรุ่งนี้ค่อยคิดแล้วกันว่าจะไปไหน  คืนนี้ขอเขาพักให้สบายใจแล้วกัน         
ชายหนุ่มหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้  แต่มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้กลิ่นหอมเอียนฟุ้งทั้งห้อง  อองรีพยายามลุกขึ้นแต่ร่างกายชาและไร้เรียวแรง  มีคนเข้ามาในห้องแต่เปลือกตาเขาหนักเกินกว่าจะขยับ  ร่างเขาถูกพันห่อด้วยผ้าแล้วถูกยกลอยลิ่วขึ้นจากนั้นเขาก็หมดสติไป         
น้ำเย็นเฉียบปลุกสติเขาให้กลับมา พร้อมกับสัมผัสร้อนผ่าวเบียดกระชับที่ปาก  อองรีเบือนหน้าหนีแต่กลับถูกยึดคางไว้มั่น         
“อย่าทำสะบัดสะบิ้งไปหน่อยเลยน่า ของมันเคยๆกันอยู่” เสียงคำรามข้างหูทำให้หนุ่มฝรั่งเศสรู้สึกตัวว่าอยู่กับใคร         
“คุณ! นี่คุณมาอยู่ในห้องผมได้ยังไง?”         
“ลืมตาแล้วมองไปรอบๆสิอองรีว่านี่ที่ไหน?”
อองรีมองไปรอบๆ  ฤทธิ์ยาทำให้เขาเบลออยู่ครู่หนึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าอยู่ในกระโจมกว้างใหญ่  ที่สำคัญคือเขาแน่ใจว่านอกจากผ้าห่มนี้เขาก็ไม่มีอาภรณ์ใดอีก         
“คุณลักพาตัวผม!…คุณทำอย่างนี้ทำไม?”  อองรีพยายามดันใบหน้าที่ซุกไปตามซอกคอออกห่าง  ขืนปล่อยให้ไคซัคแนบชิดอยู่อย่างนี้สุดท้ายเขาเองนั้นแหละที่จะแพ้ใจตัวเอง
“ลืมแล้วเหรอว่าเธอคือสมบัติของฉัน  การที่ฉันจะหอบหิ้วสมบัติไปไหนๆมันก็เป็นสิทธิ์ของฉันถูกไหม?” ไคซัคเงยหน้าขึ้นสบตาอย่างท้าทาย       
“ธรรมเนียมป่าเถื่อนอะไรนั่นใช้กับผมไม่ได้หรอกนะ แล้วผมก็ไม่ใช่สมบัติของคุณ!”         
“อยากให้ฉันทบทวนความสัมพันธ์ของเราไหมล่ะอองรี?”
“คุณ!…คุณจะเอายังไง?”อองรีตวาดเบาๆอย่างหงุดหงิด
“หึ!...ทำเป็นปากแข็ง...ทั้งที่เธอก็แทบคลั่งที่ฉันไม่สนใจ” สีหน้าอิ่มเอมอย่างคนเหนือกว่าของไคซัคทำให้อองรีหน้าชาด้วยความโกรธและอาย   
“ไม่จริง! ผมไม่เห็นแคร์ว่าคุณจะทำอะไร ผมสบายใจด้วยซ้ำที่คุณอยู่ห่างๆ”         
“งั้นเหรอ?...แล้วทำไมที่งานเลี้ยงเธอถึงทำหน้าบึ้งนักล่ะ”ไคซัครุกต่อทันที  อองรีอึ้งไปครู่หนึ่งกว่าจะหาคำตอบได้         
“ผมอาจจะอารมณ์เสียเพราะคนอื่นต่างหาก  คิดว่าผมรอคุณอยู่หรือไง?”
อองรีเยาะยิ้มๆ ซึ่งมันก็ได้ผลเสมอ 
   “สันดานมากรักหลายใจนี่มันอยู่ในสายเลือดเลยหรือไงนะ...หรือที่ฉันปรนเปรอให้มันไม่อิ่ม?” มือแข็งบีบแก้มนุ่มจนเจ็บร้าวไปหมด  แต่อองรีก็ยังตีฝีปากอย่างสะใจที่ได้เห็นความเกรี้ยวโกรธของไคซัค
 “พระเจ้า!คุณคิดว่าเซ็กส์ของคุณมันเยี่ยมยอดเสียจนผมยังหลงละเมอเพ้อหาอยู่หรือไง?  จะบอกอะไรให้นะ...คุณน่ะ...ห่วยแตก! ช่วยตัวเองยังสนุกกว่าเลย”
ไคซัคตาลุกวาบแต่แล้วกลับเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกจนอองรีสะดุ้งพยายามจะขืนตัวหนีเมื่อไหล่สองข้างถูกบีบแน่นจนเจ็บร้าวไปทั้งแขน         
“งั้นรึ...อย่างฉันมันห่วยแตก  แล้วอยากได้แบบไหนล่ะ...เอาอย่างนี้ดีกว่าอองรี...เรามาเล่นเกมกัน ฉันให้โอกาสเธอเลือก ข้างนอก...มีทหารของฉันมากมาย  เธอเลือกใครก็ได้  ลองนอนกับเขาดูซิว่ายอดเยี่ยมกว่าฉันแค่ไหน...หรือถ้าคนเดียวไม่ถึงใจจะลองแบบหมู่ดูก็ได้นะ...ฉันอนุญาต”
“คุณจะบ้าเหรอ…คิดได้ยังไง ทุเรศที่สุด!...เกมอุบาทว์อย่างนั้นเชิญคุณเล่นไปคนเดียวเถอะ” อองรีตะโกนใส่ไคซัคลั่น...ช็อคกับสิ่งที่ได้ยิน ไม่อยากจะเชื่อว่าไคซัคจะเหี้ยมโหดได้ขนาดนี้
“เลือกเอา...นอนกับเขา...แล้วฉันจะปล่อยให้เธอกลับไป  หรือจะทนมีเซ็กส์กับผู้ชายห่วยแตกอย่างฉัน”         
“บ้า!...คุณบ้าไปแล้ว...ปล่อยนะผมไม่ใช่ลูกน้องคุณ  คุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับผม แล้วผมก็ไม่เล่นเกมทุเรศๆนี้ด้วย  ปล่อย!”
“ฉันพูดจริง  ว่าไงอองรี  ข้างนอกมีคนที่พร้อมจะให้เธอเลือก  มาสิ...มาดูกัน”
อองรีแทบคว้าผ้าห่มไว้ไม่ทันเมื่อถูกลากออกมานอกกระโจมอย่างรวดเร็ว   ทหารที่ยืนยามอยู่ข้างนอกขยับตัวพรึ่บเมื่อร่างสูงใหญ่ปรากฏตัวหน้ากระโจม         
“ไปเรียกทหารองครักษ์มา  ให้มาเข้าแถวที่นี่...ทุกคนนะ!”       
“อย่าทำอะไรบ้าๆนะ” อองรีกระซิบเสียงเครียด  แต่ดวงตาคมที่มองสบมาไม่บอกว่าล้อเล่นสักนิด  ทำให้หนุ่มเลือดฝรั่งเศสหนาววาบด้วยความกลัว         
ทหารองครักษ์ร่างสูงใหญ่จนเกือบจะเท่าๆกันหมด เดินเรียงเข้ามาในเขตกระโจมของไคซัค  ก่อนจะผ่านแนวเขตผ้าที่กางกั้นอยู่ต่างก็ปลดอาวุธส่งให้ทหารพื้นเมืองร่างเตี้ยล่ำที่คอยแหวกผ้ากั้นเขตให้  ทุกนายมาเข้าแถวพร้อมพรึ่บอย่างรวดเร็ว  ไคซัคสั่งให้เดินเรียงเข้ามาให้อองรีดูทีละคน  ทหารทุกนายทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดทั้งๆที่ไม่รู้เหตุผล
อองรีกัดปากแน่นด้วยความโกรธและเสียใจ ไม่เคยสักครั้งในชีวิตที่ถูกหยามแบบนี้  ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีไม่ยอมเลือกใครจนทหารคนสุดท้ายออกไปด้านนอกเขตกระโจม         
“ตกลงจะไม่เลือกใครเลยเหรอ? น่า...ไหนว่าอยากให้ฉันปล่อยไปไม่ใช่เหรอ  เลือกเอาสักคนสิ จะได้จบเกมกันไป”  ไคซัคพูดปนหัวเราะอย่างสะใจ ที่อองรีไม่กล้าจริงอย่างปาก แม้การทำแบบนี้จะเหมือนฉีกหน้าอองรี แต่หากเขาไม่กำราบไว้ตั้งแต่ตอนนี้  อองรีจะยิ่งได้ใจ  กล้าท้าทายเขาอีกก็ได้       
“คุณมันไอ้ทุเรศ! ไอ้คนป่าเถื่อนทุเรศ”         
“อย่าปากดีนักนะอองรี  ที่ฉันยอมขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว  ขืนสามหาวกับฉันมากนักแล้วเธอจะเสียใจ” มือแข็งบีบแก้มนุ่มจนช้ำ  อองรีจ้องตอบไม่กลัวเกรง         
“เอาสิ!...นี่มันถิ่นนายนี่...จะทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว  แต่อย่าให้ฉันรอดก็แล้วกัน...ฉันจะทำให้นายเจ็บจนตายแน่!” อองรีตวาดสวนทันควัน ในเมื่อไคซัคดูถูกเขาขนาดนี้  ก็ให้มันหมดเยื่อใยกันไปในวันนี้เลย         
“กล้าขู่ฉันเหรออองรี?”  ไคซัคลากร่างบางไปเหวียงบนที่นอนและทาบทับลงไปอย่างรวดเร็ว  ไม่สนใจแรงดิ้นเร่าเบื้องล่างสักนิด       
“ปล่อย…บอกว่าให้ปล่อย!…ปล่อยสิ!”         
“ในเมื่อไม่เลือกใคร ตัวเลือกสุดท้ายก็คือฉัน”ไคซัคเย้ยยิ้มๆ         
“ใครบอกว่าไม่เลือก” อองรียิ้มหวาน สะใจที่เห็นไคซัคหุบยิ้มฉับ         
“หมายความว่าไง?”       
“ทหารยามข้างหน้านั่นปะไร  เข้าท่าดีนะ”         
“หมายถึงพวกที่ยืนยามอยู่หน้ากระโจมหรือไง?”         
“ไม่ใช่...ผมหมายถึงคนที่ยืนอยู่ตรงผ้ากั้นด้านนอกนั่นต่างหาก…ผมเลือกคนนั้น” ทำไมอองรีจะไม่รู้ว่าคนที่เขาพูดถึงคือพวกทหารรับใช้ชาวพื้นเมือง  แต่เขาต้องการให้ไคซัคเจ็บอย่างที่เขาเจ็บ  หรืออย่างน้อยก็เสียหน้าอย่างไม่อาจกู้คืน         
ไคซัคกัดกรามกรอด อองรีเจตนาหักหน้าและประชดเขาน่ะเรื่องแน่  แต่เขาพูดไปแล้วไม่อาจคืนคำ  ร่างสูงผุดลุกขึ้นอย่างด้วยความเกรี้ยวโกรธ         
“ตกลงอองรี...แต่งตัวซะฉันจะพาเธอไปหามัน!”
อองรีหนาวเยือกกับสิ่งที่ตัวเองเลือก  แต่เปลี่ยนใจตอนนี้คงถูกไคซัคหัวเราะเยาะ  ทิฐิทำให้ชายหนุ่มคว้าเสื้อผ้ามาสวมทั้งที่มือสั่นเทา  ทันทีที่แต่งตัวเสร็จไคซัคก็เรียกทหารยามให้มาพาเขาออกไป  ลมร้อนผ่าวปะทะหน้าเมื่อออกมาพ้นกระโจม  แม้จะเย็นมากแล้วแต่ความร้อนยังไม่คลาย  ทหารยามหนุ่มตัวเตี้ยล่ำ ผิวดำมะเมื่อม ทำหน้างงเมื่อเขาถูกเรียกมารับตัวอองรีไปนอนด้วยคืนนี้  แม้จะไม่ค่อยเข้าใจแต่เขาก็นำหนุ่มต่างชาติหน้าสวยกลับไปยังหมู่กระโจมหลังเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากเขตกระโจมใหญ่  ที่นี่แออัดด้วยทหารพื้นเมือง  ทุกคนจ้องมองอองรีด้วยท่าทางหื่นกระหายแต่กลับไม่มีใครกล้าเข้าใกล้           
“เอ่อ…ผมพักหลังนี้  ท่านเข้าไปนั่งพักข้างในนะขอรับ  ผมจะไปเอาน้ำกับอาหารมาให้” ทหารรับใช้พูดภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นก่อนจะรีบจ้ำหนีไป         
อองรีจำต้องเข้าไปในกระโจมหลังเล็กค่อนข้างเก่า  ทหารที่อยู่ในนั้น2คนรีบหอบผ้าและเครื่องนอนลุกออกมา อองรีทรุดตัวลงนั่งที่พื้นอย่างหมดแรง  ใจสั่นระรัวกับสิ่งที่เลือก  ดวงตาคู่งามแห้งผากทั้งที่อยากจะร้องไห้เต็มที  แม้นายทหารคนนั้นจะหายหน้าไปแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความเครียดคลายลง  อองรีมองเหม่อไปรอบๆอย่างหวาดวิตก  การรอคอยดูเหมือนจะโหดร้ายจนแทบทนไม่ไหว 
กว่าทหารยามหนุ่มจะกลับมาก็มืดสนิท  แต่อองรีกลับรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปแป๊บเดียว  เสียงสนทนากันแว่วๆด้านนอก  ก่อนที่เงาดำๆจะปรากฏที่รอยแหวกของกระโจม 
“ท่านขอรับ  ผมเอาอาหารมาให้”
หนุ่มหน้าสวยกัดปากแน่นหน้าซีดขาวด้วยความกลัว  สายตาเหลือบไปเห็นมีดในปลอกแกะสลักหยาบๆ  ชายหนุ่มลนลานคว้ามาซุกไว้ใต้ผ้าห่ม  เขาจะขอร้องหมอนี่ดีๆให้ปล่อยเขาและจะให้ค่าตอบแทนอย่างงาม แต่ถ้าหมอนั่นไม่ยอม  บางที…คืนนี้เขาอาจต้องจบชีวิตลงที่นี่  อย่างน้อยการตายด้วยน้ำมือตัวเองก็คงอดสูน้อยกว่าต้องถูกข่มขืน
         ร่างเตี้ยล่ำเข้ามาพร้อมกับอาหารและน้ำนำมาวางไว้ที่หีบเก่าคร่ำตรงปากทางเข้ากระโจม
“อาหารของพวกผมมีแต่แบบนี้  ท่านกินเสียนะขอรับ”         
“คุณกินเถอะ  ผมไม่หิว”         
“ผมมีส่วนของตัวเองแล้วขอครับ  ผมวางไว้ตรงนี้นะขอรับ  แล้วผมจะมาเก็บถาดทีหลัง”
อองรีนั่งมองอาหารเฉย  ให้ตายเขาก็กลืนมันไม่ลง  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดกำลังจะเกิด  ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามีเซ็กส์  แต่เขาไม่เคยนอนกับคนแปลกหน้า  ตั้งแต่มาทำงานกับริชเขาก็ไม่เจอใครที่ถูกใจ  ไคซัคเป็นคู่นอนคนแรกในรอบหลายปี  และที่สำคัญเขาไม่เคยปล่อยให้ใครล่วงล้ำมาก่อน           
อองรีข่มกลืนความแค้นและเจ็บช้ำเมื่อนึกถึงไคซัค เขาบ้าไปเองที่ไปหลงรักผู้ชายเลือดเย็นคนนั้น  จู่ๆกระโจมก็ถูกแหวกเข้ามา  อองรีสะดุ้งกำมีดใต้ผ้าห่มแน่น  แต่พอเห็นหน้าคนที่เข้ามาเขาก็ดีใจจนแทบระงับอาการไม่อยู่         
ไคซัคยืนกอดอกมองเขานิ่ง  ทหารคนหนึ่งเข้ามาวางเก้าอี้แล้วออกไป  ร่างสูงใหญ่ทรุดลงนั่งที่เก้าอี้มองเขาราวกับมองทาส  อองรีเบือนหน้าหนีไปทางอื่นไม่อยากให้ไคซัคได้ใจ  หากรู้ว่าเขาดีใจแทบตายที่คนเข้ามาเป็นไคซัค
“เผอิญฉันชอบชมการแสดง  เธอคงไม่ว่านะหากฉันจะขอชมลีลาของเธอกับทหารยามว่าจะดุเด็ดเผ็ดมันแค่ไหน”
ยิ่งกว่าถูกตบหน้า!  อองรีชาวาบทั้งตัวแล้วเจ็บแปลบจนแทบทนไม่ไหว  เขาหันไปจ้องมองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง  ใบหน้าเย็นชาเรียบเฉยไม่เปลี่ยน แต่ดวงตาเยาะหยันถากถางให้เจ็บแสบไปถึงไหนๆ  อองรีจ้องตอบด้วยความแค้นและเจ็บช้ำ  ไม่สนใจแม้จะรู้ว่าทหารยามคนนั้นเข้ามาในกระโจมแล้ว
“เอาละ  เริ่มการแสดงเสียที” ไคซัคสั่งหน้าตาย
ทหารยามทำหน้ากระอักกระอ่วน  ถึงหนุ่มต่างชาติตรงหน้าจะสวยเสียจนใจเต้นไปหมด  แต่การที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นสมบัติของใคร มิหนำซ้ำเจ้าของยังมานั่งอยู่ด้วยเล่นเอาเกร็งไปหมด...เขาคุกเข่าลงข้างร่างบาง  ก้มมองพื้นเพราะไม่กล้ามองคนตรงหน้า  ด้วยอาการหนาวต้นคอยะเยือกไปจนถึงสันหลัง
อองรีค่อยๆคลายฟันที่ขบกันแน่นออกช้าๆ  จะมีอะไรต้องเสียอีกเล่า...ในเมื่อไคซัคทำลายทุกอย่างของเขาจนสิ้นแล้ว  เมื่อไคซัคอยากดูเขาก็จะให้ดู           
นิ้วเรียวขาวปลดกระดุมเสื้อออกเสียเอง  แม้แรกๆนิ้วเขาจะแข็งเกร็งและสั่น  แต่สุดท้ายกระดุมเสื้อทั้งหมดก็ถูกปลดออก     
“เดี๋ยว!...เจ้าผูกตาเสีย” ไคซัคตวาดเสียงห้วนแล้วกัดกรามกรอด  รู้สึกเหมือนหน้าร้อนผ่าวเมื่อเห็นสายตาเยาะหยันของอองรี  นายทหารหนุ่มรีบดึงผ้าโพกศีรษะมาคาดตาอย่างรวดเร็ว  อองรีไหวไหล่แล้วสลัดเสื้อออกไป ร่างขาวตึงด้วยกล้ามเนื้องามสะท้อนกับแสงไฟจากตะเกียงลุกขึ้นยืน แล้วถอดกางเกงออกช้าๆ  ทันทีที่กางเกงชั้นในตัวจิ๋วปลิวลงไปอยู่ที่พื้นอองรีก็ทรุดลงนอน           
“ฉันถอดเสร็จแล้ว...เชิญ”
ทหารยามหนุ่มค่อยๆขยับเข้าไปใกล้  ถึงจะมองไม่เห็นแต่คลื่นความโกรธของนายเขาดูเหมือนจะทวีขึ้นทุกทีจนอารมณ์อื่นไม่มีเหลือ  มือเขาสั่นขณะเอื้อมไปหาร่างที่อยู่บนที่นอน ยังไม่ทันแตะเขาก็ถูกกระชากไหล่จนหัวซุน         
“แค่นี้แหละ!…พรุ่งนี้ไปเอารางวัลที่หัวหน้าหน่วย”         
“ครับผม”
ทหารหนุ่มทำความเคารพส่งเดชด้วยยังไม่ได้ดึงผ้าคาดตาออก  รอจนเสียงย่ำเท้าหนักๆกับเสียงอุทานอู้อี้ห่างออกไป จึงกล้าดึงผ้าลง  กระนั้นยังทันได้เห็นนายเขาอุ้มร่างบางนั้นไป  โดยมีผ้ารองนอนของเขาพันร่างบางไปด้วย         
ไม่นานนักทหารหน้ากระโจมท่านราชองครักษ์ก็เอาผ้ารองนอนเขามาคืนให้  แม้จะไม่รู้ว่านายเล่นอะไรกัน  แต่เขาก็โล่งใจที่ไม่ต้องแตะหนุ่มต่างชาติหน้าสวยคนนั้น  ถึงจะเสียดายแค่ไหนก็ตาม  แต่เขาก็แน่ใจว่าเขาเพิ่งรอดตายมาอย่างฉิวเฉียด
“นี่ปล่อยนะ! นายพูดแล้วนะว่าจะปล่อยฉันไป ถ้าฉันเล่นตามเกมของนาย”
อองรีดิ้นขลุกขลักอยู่ภายในผ้าห่มที่พันจนหนาแน่น  แต่ดูเหมือนไม่ทำให้คนอุ้มรู้สึกรู้สา         
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว”         
“นายเสียสัตย์นี่  พูดแล้วคืนคำได้ยังไง?”         
“หาพยานมาสิอองรี”         
“นาย!”อองรีพูดไม่ออกเมื่อถูกโยนลงบนกองผ้าหนานุ่มบนพื้น ผ้าห่มที่พันตัวมาถุกไคซัคกระชากออกไปส่งให้ทหารยามข้างนอก  อองรีรีบคว้าผ้าบนที่นอนมาคลุมกายไว้แทน  ไคซัคเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกายช้าๆอย่างใจเย็น         
“ทำไม?...อยากนอนกับทหารยามจนตัวสั่นเชียวเหรอ...เสียดายมากไหมที่ไม่ได้นอนกับมัน?”         
“นายมันทุเรศ!” อองรีสะดุ้งสุดตัวเมื่อร่างหนาโถมลงทับเขาไว้แน่น มือแข็งเหมือนคีมบีบคางเขาจนเจ็บแปลบ         
“จำใส่หัวไว้ว่าเธอเป็นของฉันเท่านั้น!”  ไคซัคคำรามชิดปากนุ่มแล้วขยี้ด้วยความเกรี้ยวกราด         
“ไค…อื้อ…” อองรีดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างหนา  เรี่ยวแรงค่อยๆหดหายไปเพราะฤทธิ์ฝ่ามือร้อนและปากร้อนผ่าว  ไม่นานร่างบางก็บิดเร่าไปตามแต่มือร้อนจะชักเชิด  เสียงครางกระเส่ายามร่างหนาโหมกระแทกกระทั้นลอยลอดออกมาให้ทหารยามข้างนอกหนาวๆร้อนไปด้วย  กว่าเสียงครวญครางจะสงบก็ทำให้ทหารยามไม่มีใครง่วงลงแม้แต่กะเดียว ............
   
   เนื้ออุ่นจัดจนผะผ่าวที่เบียดเข้ามาหาทำให้ไคซัคตื่นทันทีเพราะนอนไว  ร่างในอ้อมแขนเขาร้อนแต่กลับสั่นสะท้านอยู่ตลอดเวลา  ไคซัคสัมผัสแก้มและซอกคอขาวจนแน่ใจว่าอองรีมีไข้จึงลุกขึ้นจุดเทียนเพื่อค้นยาจากกล่องที่ให้หมอเตรียมไว้ให้  จะว่าไปก็ตรงกับที่คิดว่าอองรีอาจจะเจ็บป่วยได้  เพียงแต่สาเหตุที่ทำให้ป่วยกลับเป็นเพราะเขาไปเสียนี่  มุมปากหนาจุดรอยยิ้มน้อยอย่างภาคภูมิ  ขณะประคองร่างขึ้นพิงอก  แสงจากเทียนส่องหน้านวลให้ดูแดงจัดกว่าปรกติ
   “อองรี...กินยาหน่อยนะ”
   “อื้อ...อย่า...หนาว...”
“ฉันรู้...แต่เธอต้องกินยาก่อน...อองรี”
อองรีเบือนหน้าหนีและพยายามจะซุกลงนอนต่อ  ไคซัคส่งยาเข้าปากตัวเอง  ตามด้วยน้ำแล้วดึงคางมนขึ้นรับยาจากปาก  แม้จะไม่เต็มใจ  แต่อองรีก็จำต้องกลืนยาที่ชายหนุ่มป้อนให้  แถมยังต้องรับจูบหนักหน่วงอยู่ครู่ใหญ่กว่าไคซัคจะยอมปล่อยให้เขานอน  อองรีพลิกตัวหนันหลังให้ทันที แผ่นหลังเปลือยเปล่า  กระทบแสงเทียนผุดผ่องเป็นสีส้ม  นิ้วยาวสากลากไล้แผ่วเบาอย่างอดใจไม่ไหว   ไคซัคก้มลงกัดใบหูนิ่มเบาๆ  อย่างหยอกเย้า  ก่อนจะช้อนร่างบางให้หันกลับมาหา
“อองรี...ยังโกรธฉันอยู่อีกเหรอ?”
“เลิกงอนซะทีเถอะน่า...”   
อองรีนอนนิ่ง  ดวงตาที่หรี่ปรือเมื่อครู่ตื่นเต็มที่  ซ้ำยังเบือนหนีไปจากหน้าไคซัค  นิ้วยาวเกี่ยวคางมนกลับมาสบตากัน  เห็นแววขมขื่นแกมเศร้าก็ใจหาย
“ใจคอจะไม่พูดกันเลยหรือไงหืม?”
“ยังมีอะไรต้องพูดกันอีก  อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ...สักวัน  ผมจะไปจากคุณให้ได้”
“จนป่านนี้แล้ว  ยังคิดว่าเธอจะไปจากฉันได้อีกเหรอ  เธอไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอกอองรี”
“หึ...ก็ให้มันรู้ไป  ว่าคุณจะไม่เผลอ”
“จะบอกอะไรให้นะอองรี  ต่อให้ฉันไม่ควบคุมไว้เธอก็ไม่มีวันไปจากฉันได้หรอก”
“ลองดูสิ  ป่วยแค่นี้ผมไม่ถึงตายหรอก  ถ้าคุณยอมปล่อยผมผมก็จะไปทันที”
“ไม่ว่าตัวเธอจะไปได้ไกลแค่ไหน  แต่หัวใจเธอมันอยู่ที่ฉัน  แล้วเธอจะหนีหัวใจตัวเองพ้นได้ยังไง?”
“พูดบ้าๆ  หลงตัวเองมากไปแล้ว”
“อองรี...เรามาพูดกันดีๆเถอะนะ  ฉันไม่อยากเดินอ้อมอีกแล้ว  ทำไมเราต้องทิฐิใส่กันด้วย  ทั้งๆที่เรารักกันขนาดนี้”
“...โกหก...”
“งั้นเหรอ  เธอนี่ปากแข็ง  แต่ใจเธอไม่ได้แข็งอย่างปากหรอกนะ  ไม่อย่างนั้น  ระหว่างเราคงไม่มาถึงขั้นนี้กันหรอก”
“คุณจะพูดยังไงก็ได้...แต่การกระทำกับคำพูดของคุณมันสวนทางกันตลอด...ทั้งดูถูกทั้งเหยียดหยามสารพัด  ทำกับผมเหมือนผมเป็นไอ้ตัวนี่นะที่คุณว่ารัก”
“อะไรที่ทำให้เธอเข้าใจอย่างนั้น  ฉันแน่ใจว่าไม่เคยดูถูกเธออย่างนั้นแน่”
“แล้วไอ้แหวนนี่...เอ่อ...มัน...ไปไหน?” อองรีใจหายเมื่อพบว่าลำคองว่างเปล่า
“สงสัยจะขาดหายไปแล้ว  เมื่อเย็นฉันเห็นแต่สร้อยคอหล่นอยู่บนที่นอน  แต่ไม่มีแหวน...ช่างมันเถอะเรื่องนั้น  มาพูดเรื่องที่เธอคิดว่าฉันดูถูกเธอก่อนดีกว่า  ว่ามันเกี่ยวอะไรกับแหวน”
“ก็ตอนที่...เจอกันครั้งแรก  คุณให้แหวนผมเป็นค่าตัวที่นอนกับคุณไม่ใช่หรือไง  จะบอกให้นะว่าคนอย่าง...” พูดไม่ทันจบก็สะดุ้งทั้งตัวเพราะไคซัคจับเขาลุกขึ้นเขย่าจนหัวสั่นหัวคลอน  ท่าทางโกรธจัด
“บ้า!  คิดอะไรบ้าๆ  แหวนนั่นน่ะเป็นแหวนตระกูล  เป็นของที่ฉันรักมาก  เธอคิดว่าฉันจะให้ของที่เป็นสัญลักษณ์ของตระกูลกับคนที่ฉันเห็นเป็นแค่คู่นอนชั่วคราวงั้นเหรอ?”
“...ก็...คุณ...”
“วันนั้นฉันต้องรีบไปดูแลฝ่าบาท  ถึงต้องทิ้งเธอไว้คนเดียว  กลับมาแทนที่จะเจอเธอกลับเจอแหวนโดนปาทิ้งไม่ใยดี  คิดบ้างไหมว่าฉันรู้สึกยังไง?...ทั้งที่ฉันแค้นนักที่เธอกล้าทำอย่างนั้นกับฉัน  แต่ใจฉันมันหยุดโหยหาเธอไม่ได้  ถึงต้องตามไปหาเธอถึงห้อง...แล้วไง?เธอกลับบอกว่าเรื่องระหว่างเรามันเป็นแค่เซ็กส์  คนที่ควรจะโกรธน่าจะเป็นฉันมากกว่า! ทั้งๆที่ฉันจริงจัง...แต่เธอต่างหาก ที่เอาแต่หลบหลีก  รู้ไหมอองรี?...ถ้าฉันเห็นเธอเป็นแค่ไอ้ตัวอย่างที่เธอพูด  ฉันคงไม่ยอมให้เธอหยามฉันขนาดนี้หรอกนะ  ฉันแล่เนื้อเธอเป็นชิ้นๆไปแล้ว  ให้สมกับที่เธอกล้าดูถูกฉัน!”
“ก็...เอ่อ...ผม...”
“ต้องให้ฉันทำยังไงอองรี  ต้องให้ฉันลงไปคุกเข่าให้เธอหรือไงถึงจะยืนยันว่าฉันรักเธอแค่ไหน...หืม? ต้องให้ฉันทำยังไง?”
“หยุดเขย่าผมเสียที  จะบ้าหรือไง...ไม่ต้องทำอะไรขนาดนั้นหรอก  ผมไม่ใช่ผู้หญิงจะได้ให้คุณมาคุกเข่าขอความรัก  ผมแค่อยากให้คุณเห็นผมเป็นคนไม่ใช่ตุ๊กตา  ไม่ใช่ทาสที่จะสั่งให้ทำโน่นทำนี่  สิ่งที่คุณทำกับผมมันไม่เหมือนรักแต่มันเหมือนผมเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของคุณเสียมากกว่า”
“...งั้นเหรอ...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าต้องทำยังไง  เพราะตั้งแต่เกิดมาฉันก็ไม่เคยรักใครเสียด้วย...เอาเป็นว่าถ้าเธออยากให้ฉันทำยังไงก็บอก  ฉันจะได้ทำตัวถูก”
อองรีเหลือกตาขึ้นมองเพดานแล้วถอนใจเฮือกอย่างฉุนๆ  อยากจะพูดแรงๆให้หน้าหงายแต่เห็นสีหน้าจริงจังของไคซัคแล้วก็พูดไม่ออก
“...แค่คุณอย่าบังคับผมก็พอแล้วมั้ง”
“ตกลง...ฉันจะไม่บังคับเธอก็อีกแล้ว  ฉันสัญญาเลย”
“ดี  งั้นพรุ่งนี้ส่งผมกลับ”
“ตกลง”
อองรีนิ่งงันไปชั่ววินาทีด้วยไม่คิดว่าไคซัคจะรับปากง่ายๆขนาดนี้  ชักไม่แน่ใจว่าไคซัคจะมีแผนอะไรอีกหรือเปล่า  แล้วก็จริงดังคาด
“แต่ต้องไปแวะที่บ้านฉันก่อนนะ  เห็นว่าซ่อมแซมเสร็จแล้ว  พักที่นั่นสักคืนสองคืนก่อน”
“ไหนว่าจะตามใจผมไง?”
“อ้าว! ก็ตามใจไง  เธออยากกลับเราก็กลับ  ฉันแค่แวะทำธุระนิดหน่อยเท่านั้น  น่า...บ้านฉันน่าอยู่ออก  รับรองว่าเธอต้องชอบพรุ่งนี้เราเดินทางกันเลย”
ไคซัคยิ้มพรายอย่างเจ้าเล่ห์ขณะจ้องมองหน้ามุ่ยๆของอองรีอย่างพอใจ  แม้ว่าจะไม่ได้ยินคำบอกรักตอบจากอองรี  แต่เขามั่นใจว่าอีกไม่นานอองรีต้องเป็นฝ่ายบอกเขาเอง
............   


ขอบคุณที่ติดตามคะ :pig4:


สำหรับเรื่องใหม่ของคุณใบปอ เทียนฉินจะนำมาลงให้อ่านแน่นอนคะ รับประกันความสนุกคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 25-01-2010 22:08:08
ไนท์น่าร๊ากที่สุดอ่ะตอนนี้ อิอิ ชีคขี้วีนของนายแจ๊ค >.<
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: raruruz ที่ 25-01-2010 22:16:09
กรี๊ด อองรีกะไคซัค ไปๆมาๆเชียร์คู่นี้มากกว่า  :z1:
รอรวมเล่มอยู่นะคะ

วันนี้ก็นึกอยู่ว่าจะมาต่อไหม 

เดี๋ยวไปทำงานต่ออย่างแฮปปี้ 
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: underscoreONES ที่ 25-01-2010 22:19:52



ใจหายหมดเลย นึกว่าทิฐิจะทำให้ไคซัคกับอองรีต้องเสียใจกันไปมากกว่านี้ซะแล้ววววว   ดีกันเถอะนะ เข้าใจกันซักทีเถอะน๊าาาา


ท่านชีคก็ด้วย เลิกล้อเล่นกับหัวใจนายแจ็คเถอะ  :o12:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 25-01-2010 22:23:56
 :m25:
 :-[
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 25-01-2010 22:31:37
2 คู่......เรียกเลือดกันเลยทีเดียว
ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 25-01-2010 22:34:21
หวานๆๆๆๆทั้งสองคู่เลย  :o8:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-01-2010 22:37:37
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 25-01-2010 23:14:21
ไคซัคกับอองรีก็เข้าใจกันไปมากแล้ว
ลุ้นคู่ของแจ็คกับไนท์ต่อ ว่าเมื่อไรจะหวานชื่นเต็มร้อย

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากนะคะ
รอเรื่องใหม่ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 25-01-2010 23:18:59
โอ๊ยย :m25: :m25:ไม่ไหวๆ อ่ะ ตอนที่แจ๊คแสดงออกถึงความรักโดยการก้มลงไปจูบเท้าเราแทบกรี๊ดแน่ะ
สุดๆเลย ซาบซึ้งดื่มด่ำอ่ะ
คู่ของอองรีกะไคซัคก็ให้รสชาดเข้มข้นดี สนุกมากค่ะ ขอบคุณค่ะคนแต่งและคนโพสต์ o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 26-01-2010 00:02:05
 :m25:    เลือดพุ่งกันอีกรอบ  หวานชื่นกันแล้วววววว  อ่านอีกๆๆๆๆ  ชอบจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 26-01-2010 10:45:04
 :m25:  ละลายเลยตอนนี้


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 26-01-2010 15:00:04
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้
ดีใจที่หลวมตัวเข้ามาอ่าน เพราะสนุกมากกกกกกกกกก  o13

กำลังอยากอ่านพล็อตเรื่องที่ชีคเป็นฝ่ายรับอยู่พอดี
เพราะกี่เรื่องๆ ก็มีแต่ชีคที่เป็นฝ่ายรุก

อีก 2 เรื่องก่อนหน้านี้ยังไม่ได้อ่านเลย
เดี๋ยวจะไปอ่านให้ครบ

ขอบคุณคุณเทียนฉินที่นำมาโพสต์
และคุณใบปอคนแต่งมากๆ น้าาาา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 26-01-2010 15:29:33
ขอบคุณครับ มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปในทางที่ดีแล้วนะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 26-01-2010 20:55:14
อย่างงี้ก้อ สองคู่ชูชื้น อ่ะ ดิ

หวาน แบบนี้ คราวหน้า ได้กลิ่น พายุเข้า

 :fire:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: raruruz ที่ 27-01-2010 13:33:07
“มองผมสิครับ…ผมไม่จำเป็นต้องมีศักดิ์ศรีกับคนที่ผมรัก  ผมมีแต่หัวใจกับชีวิต  ผมให้คุณไปหมดแล้ว  อยู่ที่คุณว่าจะเก็บไว้หรือจะโยนทิ้ง”


ประทับใจกับคำนี้สุดๆอยากให้มีคนมาพูดแบบนี้กับเรามั่งจัง
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 28-01-2010 01:19:11
 o13 แหวนหายไปแล้วจิง ๆ เหรอ สงสารแหวน เปนของล้ำค่าเลยนะนั่น แหะ ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-01-2010 19:49:07
เข้ามารอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนต่อไปคะ 25/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 30-01-2010 00:25:15
มารอค่ะ

คาดว่า พายุจะเข้า  o18
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 30-01-2010 20:15:23
มาต่อแล้วคะ ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ มาลุ้นกันว่ากำแพงศักดินานี้จะถูกทำลายได้ไหม

............

อองรีกลิ้งผลไม้ในถาดเล่นอย่างเบื่อๆ  ไคซัคออกไปที่กระโจมสื่อสารเพราะมีข่าวบางอย่างและหายไปนานหลายชั่วโมงแล้ว           
“ขออนุญาตครับผม” เสียงขออนุญาตดังอยู่หน้ากระโจม อองรีกระชับเสื้อคลุมให้มั่นใจว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยจึงอนุญาต  ทหารยามเข้ามาพร้อมกับวางวัตถุบางอย่างบนโต๊ะ         
“เอามาจากไหน?”         
“ทหารยามข้างนอกเอามาให้ครับผม”         
“ให้เขารอก่อนฉันจะออกไปพบ”         
“ท่านสั่งไม่ให้คุณออกไปไหนครับผม”         
“งั้นก็ให้เขาเข้ามาก็ได้”         
“ที่นี่เป็นเขตที่พักส่วนตัวของท่านราชองครักษ์  ให้เข้ามาไม่ได้ครับผม”         
“อ้าว!แล้วจะเอายังไง  ออกไปก็ไม่ได้  ให้เข้ามาก็ไม่ได้?”อองรีอุทานด้วยความฉุน  ไม่รู้ว่าจะห้ามอะไรกันนักหนา  ทำยังกับเขาเป็นอาชญากรก็ไม่ปาน         
“ไม่ได้จริงๆครับผม”         
“งั้นฝากบอกเขาแล้วกันว่าขอบใจมาก  อ้อ!ฝากนี่ให้เขาด้วย” อองรีวิ่งไปหยิบมีดที่เขาถือติดมือมาคืนให้พร้อมกับเงินที่ติดตัวเขามาจำนวนหนึ่ง  ทหารยามทำหน้าลำบากใจแต่ก็ยอมนำออกไป
อองรีหยิบแหวนเพชรขึ้นมาอย่างยินดี  เขาเกือบตัดใจอยู่แล้วตอนที่รู้ว่ามันขาดหายไป  แหวนวงนี้ไคซัคให้เขาเมื่อมีความสัมพันธ์กันครั้งแรก  จำได้ว่าเขาโมโหและหลบหน้าคนป่าเถื่อนอยู่หลายวันจนไคซัคตามไปลากตัวเขาถึงห้อง  ความจริงหากไคซัคบอกเขาแต่แรกว่าให้ด้วยความเสน่หาเขาคงไม่โมโห แต่นี่เล่นวางไว้ให้แบบนั้นมันเหมือนเป็นค่าตัวที่เขานอนด้วย  เป็นใครก็เดือด
“ดีใจมากนักเหรอที่มันมาหา” อองรีสะดุ้งเมื่อจู่ๆร่างสูงก็ถึงตัว แถมยังเขย่าเขาเสียหัวสั่นหัวคลอน
“นี่ปล่อยผมนะ  ผมเจ็บ” อองรีอุทานออกมาอย่างตกใจและงุนงง  ไม่เข้าใจว่าทำไมไคซัคกลับมาทำอย่างนี้อีก  ในเมื่อที่ผ่านมาก็ได้ปรับความเข้าใจกันดิบดีแล้ว
“เจ็บเป็นด้วยเหรอ นึกว่าชอบแรงๆแบบนี้เสียอีก?” ไคซัคคำรามชิดหน้านวลอย่างเดือดดาล เขาผลุนผลันมาทันทีที่ทหารยามไปรายงาน         
“นี่คุณเป็นบ้าหรือไงจู่ๆก็มาเขย่าๆผมแบบนี้นะ?”
“แล้วเธอส่งอะไรให้ชู้รักล่ะ?”         
“บ้าเหรอ! เขาเอาแหวนมาคืน ผมก็ให้เงินเขา”         
“โกหก! เธอให้สัญญากับมันด้วยคนของฉันบอกหมดแล้ว”         
“สัญญาบ้าบออะไร?”อองรีเบิกตากว้างอย่างงุนงง แต่ไคซัคกลับตาลุกเรืองอย่างโกรธเกรี้ยว         
“แล้วเธอให้อะไรมันล่ะนอกจากเงิน”         
“ไม่นี่…อ้อใช่! ผมคืนมีดให้เขา”         
“นั่นไง!”         
“หมายความว่าไง ‘นั่นไง’ ของคุณ?”         
“ก็เธอส่งสัญญาณรักมั่นเสียขนาดนั้นแล้วยังตอแหลอีกเหรอว่าไม่ได้ทำอะไร?”         
“โอ้ย!..นี่ปล่อยผมนะ  ผมคืนมีดให้เขานี่มันสัญญาณบ้าบออะไรอีก”         
“คืนมีด?”
“ใช่…คืนนั้นผมกลัว...เอ้อ...ผมหยิบมีดเขามาดูเล่น แต่คุณไปเอาตัวผมมากะทันหัน มีดมันก็เลยติดมาในผ้าห่ม  พอเขาเอาแหวนมาคืน ผมก็คืนมีดให้เขาไปนะสิ”         
ไคซัคทำหน้าชอบกล  แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยไหล่บางเป็นอิสระ  อองรีลูบบ่าป้อยด้วยความเจ็บ         
“ธรรมเนียมของเรา  การแลกมีดระหว่างชายหญิงถือเป็นการสัญญาหมั้นหมาย  แต่ถ้าเป็นชายด้วยกันถือเป็นการสาบานว่าจะเป็นมิตรต่อกันจนตาย”ไคซัคอธิบายเรื่อยๆเมื่อสงบสติอารมณ์ได้แล้ว         
“แล้วไงคิดว่าผมจะสัญญาว่าจะเป็นมิตรกับเขาจนตายนี่ต้องมาเขย่าคอผมด้วยเหรอ?”         
“ฉันคิดว่าเธอสัญญาหมั้นหมายกับมันต่างหาก” ไคซัคตอบยิ้มๆด้วยอารมณ์ดีขึ้นเยอะเมื่อรู้ว่าเข้าใจผิด
“บ้าสิ!ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ อย่าดูถูกกันให้มากนัก” หน้าขาวแดงแจ๊ดด้วยความโกรธ  ไคซัคคว้าร่างบางเข้ามากอดไว้อย่างรวดเร็ว         
“ฉันไม่เห็นรู้สึกว่าเธอเป็นผู้ชาย”ไคซัคซุกไซ้ซอกคอขาวเบาๆ         
“ลองไหมล่ะ  ผมทำให้คุณได้แบบที่คุณทำกับผมนั่นแหละ  ผมมีประสบการณ์มาพอตัวเชียวล่ะ ก่อนที่จะมาเจอกับคุณ…โอ้ย…”อองรีร้องลั่นเพราะคางถูกบีบจนเจ็บ  มือแข็งดึงแก้มนุ่มมาจนชิดและคำรามใส่ด้วยเสียงกร้าว         
“อย่าพูดถึงคนอื่นอีก  เธอเป็นของฉันแล้วห้ามคิดถึงคนอื่น จำไว้”         
“ไค…อือ…” อองรีพูดไม่ออกเพราะถูกปากร้อนๆขยี้ปากนุ่มจนช้ำ  ร่างบางถูกกดจมบนกองผ้าด้วยร่างหนาหนัก  ไม่นานเสียงครางก็ลอดออกมาข้างนอก  ยังดีที่คราวนี้ทหารยามถูกสั่งให้เฝ้าอยู่ห่างเกินกว่าจะได้ยิน
                    ............

แจ็คตรวจดูข้าวของจนแน่ใจว่าไม่ลืมอะไรแล้วจึงขึ้นไปบนบ้าน 
บนเตียงนอนว่างเปล่า...แต่มีเสียงฝักบัวลอดออกมาจากห้องน้ำแว่วๆ ชายหนุ่มจัดเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาวางไว้ให้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องน้ำเปิดออกมาพอดี         
“หายไปไหนมาแต่เช้า?” ไนท์เดินมานั่งบนเตียงส่งผ้าขนหนูให้แจ็คเช็ดผมให้  แจ็คก้มลงสูดดมผมหอมเบาๆแล้วเช็ดต่อ
“ผมไปเตรียมเรือมาครับ”
“จะไปไหน?”
“พาคุณไปเที่ยวไงครับ”
“เที่ยว?...ที่ไหน?”
แจ็คพาดผ้าขนหนูบนราวแล้วหันกลับมาหลิ่วตาให้อย่างขี้เล่น
“ความลับครับ บอกก็ไม่ตื่นเต้นสิ”
ไนท์ไหวไหล่แต่ก็ยอมแต่งตัวโดยดี  ทั้งที่รู้ดีว่านี่เป็นเรื่องเสี่ยงไม่น้อยที่เดินทางโดยไม่ได้บอกให้เหล่าองครักษ์รู้ หากคาดคั้นให้แจ็คบอกโดยอ้างความปลอดภัยแน่นอนว่าแจ็คต้องบอกแน่ แต่ไนท์ไม่ต้องการให้แจ็คเสียความรู้สึก และไม่อยากให้บรรยากาศดีๆในเวลานี้กร่อยลง           
แจ็คขับเรือพาเขาออกทะเลอย่างชำนาญ  ไนท์นั่งหัวเรือปล่อยให้ลมตีจนผมปลิวไสว  นี่อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งในชีวิตที่เขาได้ทำตัวสบายๆโดยไม่ต้องมีสายตาของเหล่าองครักษ์คอยจ้องมอง  แต่...ก็ใช่จะเป็นอิสระเสียทีเดียว ชีคหนุ่มอมยิ้มเมื่อเหลือบไปเห็นสายตาละห้อยที่มองอย่างอ้อนวอนผ่านกระจกห้องเคบิลออกมา  ไนท์ลุกเดินเอื่อยๆเข้าไปข้างใน  พออยู่ในระยะที่คว้าถึงแจ็คก็ไม่รั้งรอที่จะดึงเขาเข้าไปกอดไว้แน่น
“อะไรอีกละ?”
“ไปยืนทำไมครับหัวเรือ  ลมแรงออก  มาอยู่กับผมในนี้ดีกว่า  อุ่นอกอุ่นใจกว่าตั้งเยอะ”
“หึ...ใครอุ่นใจ?”
“ผมไงครับ...”  แจ็คตอบพร้อมกดจมูกลงบนแก้มเนียนหนักๆ  กลิ่นหอมอ่อนเบาที่ติดตรึงไปจนถึงในฝันชวนให้กดจมูกซ้ำ  ไนท์เบี่ยงหน้าหนีแต่ไม่พ้นสักทีจนอ่อนใจต้องปล่อยให้แจ็คหากำไรจนพอใจนั่นแหละ  ถึงได้ยอมปล่อยให้เขายืนพิงอกสบายๆ  แม้ระหว่างนั้นจะไม่มีใครพูดอะไร  แต่ความรู้สึกอ่อนหวานลึกซึ้งก็ถ่ายทอดถึงกันผ่านความเงียบและอ้อมกอดอันอบอุ่น
เพียง20นาทีเรือก็ลอยลำอยู่ไม่ห่างจากเกาะเล็กๆกลางทะเลมากนัก  แจ็คทอดสมอแล้วหิ้วอุปกรณ์ดำน้ำมาส่งให้         
“ปะการังที่นี่สวยมากเลยครับ มีปลาหายากให้ดูด้วย  แล้วที่พิเศษสุดๆเราอาจได้ไข่มุกดำที่แสนจะหายากติดมือไปก็ได้ถ้าเราโชคดีพอ”
“ทำไมต้องรอโชค?”
“เพราะที่นี่เคยมีไข่มุกดำมากสมัยก่อน แต่หลายปีแล้วที่ไม่มีใครเจอมันอีก”
“แปลว่าถ้าเราไม่ได้ไข่มุกดำก็เท่ากับมาเสียเวลาเปล่าสิ?” ไนท์แกล้งถามสีหน้าจริงจัง  นึกขันที่ได้เห็นแจ็คหน้าเก้อ  ลูบต้นคอไปมาอย่างอึดอัด
“ผมว่าแค่ปะการังกับปลาก็คุ้มค่าแก่การลงไปแล้วครับ...ที่นี่ปะการังสวยมากนะครับ...แต่ถ้าคุณไม่ชอบ...เอ่อ...”
“ฉันล้อเล่นน่า...คิ้วจะเป็นปมอยู่แล้ว” ปลายนิ้วยาวลูบหัวคิ้วขมวดของ แจ็คล้อๆ  แจ็คหัวเราะออก  คว้ามือขาวมาจูบปลายนิ้วอย่างแสนรัก  ไนท์มองตามด้วยสายตาอ่อนโยน
“ไปดำน้ำกันดีกว่า”
“มาครับผมช่วย”แจ็คกุลีกุจอยกถังออกซิเจนใส่หลังให้ไนท์  แล้วจึงสวมให้ตัวเอง  จากนั้นก็ทิ้งตัวลงสู่ผืนน้ำใสแจ๋วเบื้องล่าง
หมู่ปลาสีสดว่ายน้ำผ่านไปราวกับมนุษย์สองคนที่ดำผ่านพวกมันเป็นปลาเหมือนกัน  ไนท์มองตามอย่างขันๆเมื่อแจ็คพุ่งสู่กลางฝูงปลาขนาดเล็กจนมันตกใจว่ายหนีแตกฮือ   แจ็คว่ายตีวงกลับมาหาแล้วกวักมือให้ไนท์เข้าไปหา  พอไนท์เข้าไปใกล้ก็คว้าไหล่บางไว้ ชะโงกเข้ามาทำเหมือนจูบผ่านหน้ากากออกซิเจน  ถึงจะไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ  แต่ไนท์กลับรู้สึกอุ่นๆในใจจนต้องแก้เก้อด้วยการจิ้มหน้า ผากแจ็คแรงๆ  แจ็คคว้าข้อมือเล็กฉุดให้ว่ายต่ำลงไปเพื่อดูปะการังสีสดเบื้องล่าง
ดอกไม้ทะเลสีสดแข่งกันบานสล้างแต่เมื่อมีมนุษย์โฉบเข้าใกล้มันก็หุบหายวับอย่างน่าขัน  ไนท์ถูกดึงให้ว่ายลัดเลาะไปตามช่องหินอย่างเพลิดเพลิน  จู่ๆแจ็คก็หยุดลอยตัวนิ่งๆแล้วให้สัญญาณไปด้านข้าง ไนท์มองตามแล้วชะงักกึกเมื่อเห็นสิ่งที่แจ็คชี้ให้ดู  ฉลามขาวตัวหนึ่งว่ายผ่านไปในระยะไม่ห่างนัก  ไนท์ผงะหนีแต่แจ็ค เลื่อนตัวมาประชิดและยึดเขาไว้แน่น  เมื่อฉลามตัวนั้นว่ายกลับมาสำรวจแถวนั้นอีกครั้งแจ็คก็โผว่ายตามมันไปราวกับเป็นเพื่อนร่วมฝูง  มันว่ายวนเวียนอยู่ครู่เดียวก็ผละออกห่าง  ไนท์ค่อยๆผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก  และอดทึ่งในความบ้าบิ่นของแจ็คไม่ได้ 
แจ็คให้สัญญาณให้ไนท์ขึ้นก่อนแล้วดำดิ่งลึกลงไป  ชีคหนุ่มลอยตัวขึ้นเหนือน้ำแล้วปีนขึ้นไปบนเรือ  พักใหญ่กว่าที่แจ็คจะโผล่ขึ้นมา
“ทำไมนานจัง? ฉันกำลังจะไปตามอยู่พอดี” ไนท์ถามด้วยความเป็นห่วงขณะที่ช่วยรับมือแจ็คดึงขึ้นมา  แจ็คยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวตัดกับหน้าคล้ำๆ  ดวงตาเป็นประกายพราวอย่างมีความสุข  ชะโงกเข้ามาจูบปากบางอย่างรวดเร็ว
“ดีใจจังที่คุณห่วงผม”
ไนท์มองหน้าทะเล้นอย่างหมั่นไส้  และบีบจมูกโด่งแรงๆ  แจ็คร้องโอดโอยราวกับเจ็บปวดนักหนา แต่พอเห็นไนท์ยืนกอดอกมองเฉยก็ได้แต่ทำหน้าจ๋อย วางหอยตัวใหญ่ลงบนพื้นเรือเพื่อปลดถังออกซิเจนออกจากไหล่
“แล้วนั่นอะไร?”
“หอยมุก  ผมเลือกตัวที่ใหญ่ที่สุดมาเลยนะเนี่ย”
“จะเอามันมาทำไม?”
“ผมว่าวันนี้ผมอาจเป็นคนโชคดีได้ไข่มุกดำให้คุณเป็นที่ละลึกไง”
แจ็คโอ่ยิ้มๆรีบอุ้มเจ้าหอยตัวโตไปยังท้ายเรือ  ครู่เดียวก็เดินมายืนหน้าจ๋อยอยู่ข้างๆ
“ไหนละมุกสีดำ ฉันรออยู่เชียวนะ”ไนท์แกล้งถามยิ้มๆ
“ได้มุกครับ แต่มันไม่ใช่สีดำ” แจ็คแบมือที่ไพล่หลังออกให้ดูมุกเม็ดเล็กแวววาวสีขาวอมชมพูนิดๆ
“แล้วก็เม็ดเล็กนิดเดียว แหม...เจ้าหอยนั่นตัวเบ้อเร่อ แต่ดันให้ไข่มุกเม็ดนิดเดียวเอง”
“ก็สวยดีออก  น่าอย่าไปคิดมาก”
ไนท์รับมุกเม็ดเล็กมาใส่กระเป๋าเสื้อ  ก่อนจะดึงคางระคายเข้ามาจูบเบาๆเป็นการขอบคุณ  แจ็คได้ทีไล่ปากตามติดแนบจูบดื่มด่ำอยู่พักใหญ่กว่าจะยอมปล่อย
“ว่าแต่ฉันชักหิวแล้วสิ”
“งั้นเราไปพักทานมื้อกลางวันที่เกาะกันนะครับ”
แจ็คพาเรือเข้าเทียบฝั่งก่อนจะยกตะกร้าปิกนิกนำลงไปก่อน ไนท์กวาดตามองไปรอบๆ เกาะขนาดเล็กมีต้นไม้ขึ้นประปรายเงียบสงบและปราศจากผู้คน  และยากแก่การหลบซ่อนหากมีเหตุฉุกเฉิน
“เราจะทานมื้อเที่ยงกันที่นี่เหรอ?”
“ครับ…มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“เปล่า…ก็แค่ถามดู มีอะไรมาบ้างล่ะ?”
แจ็คจัดอาหารลงบนผ้าปูรองอย่างรวดเร็ว แต่ในใจยังครุ่นคิดถึงสีหน้าของไนท์เมื่อครู่  มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ไนท์ไม่บอกเขา
หลังอาหารไนท์ก็ออกเดินสำรวจรอบๆเกาะ  ส่วนแจ็คเอาตะกร้าและของขึ้นไปเก็บบนเรือ
“ขึ้นมาเถอะครับ…เดี๋ยวเราจะไปดูพระอาทิตย์ตกไม่ทัน”
“ตลกน่าแจ็คนี่เพิ่งเที่ยงจะไปดูพระอาทิตย์ตกไม่ทันได้ยังไง”
“ก็ที่ที่ผมจะพาคุณไปมันอยู่ไกลจากที่นี่ตั้งเยอะนะครับ  แต่รับรองครับว่าสวยจนคุณลืมไม่ลงแน่ๆ”
“งั้นเชียว”
“จริงๆนะครับ มาเถอะ”
ไนท์ยอมขึ้นเรือตามคำชวน  แจ็คเดินไปยังห้องเครื่องเพื่อสตาร์ทเรือ  แต่กลับชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นเรือเร็วลำหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว  สัญชาติญาณทำให้แจ็ควิ่งกลับไปที่หัวเรือ  แล้วกระชากร่างบางให้ล้มลง...แต่ช้าไปเสี้ยววินาที เปรี้ยงๆๆๆ!!!
เสียงปืนดังระรัวพร้อมๆกับอาการเจ็บแปลบที่สีข้าง แจ็คกระชากโต๊ะ ปิกนิกลงมาบังกระสุนไว้ทันท่วงทีก่อนที่กระสุนชุดที่สองจะสาดมาถึง           
“บัดซบ! แกได้เห็นดีกันแน่  แจ็ครออยู่นี่นะ” ไนท์ตวาดออกมาเป็นภาษาอาหรับอย่างลืมตัว ร่างเพรียวพุ่งปราดไปยังเคบิลก่อนที่แจ็คจะห้ามทัน เป็นจังหวะเดียวกับที่เรือเร็วเทียบมาที่ท้ายเรือ  ชายฉกรรจ์หลายคนโดดขึ้นมาบนเรือแล้วกระจายกันโจมตีอย่างรวดเร็ว  เมื่อไนท์โผล่ออกมาจากห้องเครื่องมันก็สาดกระสุนเข้าใส่ทันที     
ร่างบางทิ้งตัววูบลง  กระสุนร้อนๆพุ่งผ่านไปชั่วเสี้ยววินาที และทันทีที่ตั้งหลักได้เสียงปืนก็แผดก้องสวนกลับไป ร่างหนาล้มโครมลงโดยไม่มีเสียงร้อง  กระสุนจากลำกล้อง Desert Eagle.357 เจาะทะลุกลางดั้งจมูกยุบหายไปรูเบ้อเริ่ม แต่กะโหลกด้านหลังแหว่งหายไปทั้งแถบ  ไนท์ไม่ได้รอดูผลงานแต่กลิ้งหลบเข้าไปในเคบิลเรือ  เสียงกระสุนถากขอบประตูจนไม้กระจายฟุ้ง  ไนท์ยิงตอบโต้ขณะถอยหนีไป  แต่ต้องชะงักกึกเมื่อโผล่ออกไปด้านข้างกราบเรือแล้วประจันหน้ากับมือปืนทั้งสองคน  พวกมันต่างจ้องปืนมาที่เขา  หนึ่งในสองแสยะยิ้มอย่างพอใจ เสียงกุกกัก ที่หัวเรือก็เรียกให้อีกคนวิ่งไปทันที  ไนท์เหลือบมองตามด้วยความห่วงแจ็ค
“อ๊ะๆ...อย่ามัวแต่ห่วงคนอื่นดีกว่า…วางปืนลงเดี๋ยวนี้แล้วนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น...ช้าๆนะท่านชีค ไม่อย่างนั้นสมองกระจุยแน่”
ไนท์ก้มลงวางปืนลงช้าๆ ขณะที่มันขยับเข้ามาเตะปืนออกไปไกล ทันทีที่มือถึงพื้น ไนท์ก็ตวัดส้นเท้าข้ามศีรษะไปกระแทกกลางศีรษะของร่างหนา  มือปืนร่างยักษ์ร้องลั่น เซถลาไปด้านหลัง  ร่างเปรียวพุ่งตามติด มีดคมกริบที่น่องถูกกระชากติดมือปราดและเสือกเข้าใส่สุดแรง  มันสะดุ้งเฮือกทั้งตัว  ก่อนจะทรุดลงกับพื้น ใบมีดคมกริบเสียบทะลุลำคอมิดถึงด้าม  เลือดสีคล้ำฉีดพุ่งออกมาขณะที่มันคว่ำโครมลงกับพื้น
ไนท์เหลือบมองแวบเดียวขณะก้มลงหยิบปืนแล้วพุ่งไปยังหัวเรืออย่างร้อนใจ  แต่ร่างสูงยืนนิ่งอยู่ไม่ห่างนัก  มือกุมอยู่ที่สีข้าง  เลือดเปียกมือจนชุ่มบางส่วนไหลหยดลงสู่พื้น  ที่หัวเรือมือปืนอีกคนนอนกลิ้งอยู่กับพื้นสลบเหมือด  มีเก้าอี้ที่อยู่ในสภาพพังยับกลิ้งอยู่ไม่ห่าง
“เป็นไงบ้าง?”
“ไม่เป็นไรครับโดนเฉียดๆเท่านั้น”
“เอาผ้านี่ห้ามเลือดไว้  เดี๋ยวกลับไปทำแผลที่บ้านพัก” ไนท์ล้วงผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าส่งให้  แจ็ครับไปกดไว้กับแผลด้วยสีหน้าเรียบๆเหมือนไปไม่สะดุ้งสะเทือนกับบาดแผลที่ได้รับ
“ผมขับให้นะครับ”
“อย่าทำเก่งนักเลย…เจ็บออกขนาดนี้แล้ว ไปนั่งพักเถอะเดี๋ยวฉันขับเองได้…มาสิ”
“ครับ” แจ็คเหลือบมองร่างที่นอนเหยียดยาวอยู่บนพื้นนิดหนึ่งก่อนจะเดินตามเข้าไปข้างใน ไนท์กำลังพูดโทรศัพท์อยู่พอดี
“กำลังจะไปที่บ้านพักส่งหมอมาด้วย” ไนท์วางโทรศัพท์ลงแล้วหันมาเลิกชายเสื้อเชิ้ตของแจ็คขึ้นสูง  รอยกระสุนถากไปก็จริง แต่...หากวิถีกระสุนเบนเข้ามาอีกนิด...นั่นหมายถึงกลางอกของแจ็คพอดี
“ขอบใจมากที่ช่วยฉัน แต่ทีหลังอย่าทำตัวเป็นฮีโร่แบบนี้อีกนะ คราวหน้าเธออาจไม่โชคดีแบบนี้ก็ได้”         
“นี่ยังมีคนตามล่าคุณอยู่อีกเหรอครับ?”         
“ฮื่อ”         
“พวกมันรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่?...อย่างนี้แสดงว่ามันรู้ทุกการเคลื่อนไหวเราเลย...ผมนึกว่าไม่มีอะไรแล้วเสียอีก...มันเรื่องอะไรกันแน่?...”
“...”
แจ็คมองปากบางที่เม้มสนิท  แววครุ่นคิดทำให้เขาค่อยๆรู้สึกตัว ที่ผ่านมา เขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไนท์เลยสักอย่าง เพราะไนท์ไม่เคยเล่าอะไรเกี่ยวกับ ตัวเองเลย  คงเป็นเพราะ...เขาไม่น่าไว้ใจหรือไม่  เขาก็ไม่สำคัญพอที่จะรู้
“ขอโทษ...ผมไม่ควรถาม” แววตาของแจ็คทำให้คนมองใจหาย  ในอกวาบลึกด้วยรับรู้ถึงความเจ็บปวดของชายหนุ่ม  น้ำเสียงของไนท์จึงอ่อนลงจนแทบเป็นง้องอนอย่างไม่รู้ตัว
“...ฉันเองก็ไม่แน่ใจ  ศัตรูของฉันมีมากเกินกว่าที่เธอจะนึกถึง”
“ถึงกับต้องตามฆ่ากันเชียวเหรอครับ?...แค้นอะไรกันนักหนา...”         
“ต่อให้ไม่มีความแค้นอะไรกัน แต่ถ้าฉันตายก็ต้องมีการหาตัวผู้ที่เหมาะ สมจะมาเป็นรัชทายาทแทน...ซึ่งก็มีคนรออยู่ไม่น้อย” ไนท์ไหวไหล่ราวกับสิ่งที่พูดไม่สลักสำคัญแต่สีหน้าคนฟังซีดสลดจนชีคหนุ่มหงุดหงิด
“ทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่บอกผม  ผมจะได้ไม่พาคุณออกมาตามลำพังแบบนี้  หรืออย่างน้อยก็แจ้งให้องครักษ์ของคุณรู้ก่อนก็ยังดี”         
“กลัวจะรับผิดชอบไม่ไหวหรือไงแจ็ค?”
“ผมไม่ได้กลัวที่จะต้องรับผิดชอบ  แต่กลัวคุณได้รับอันตรายต่างหาก”         
“ฉันเอาตัวรอดได้น่า นี่ก็คอยระวังอยู่แล้ว”         
“แต่คนระวังกับคนจ้องทำร้ายมันต่างกันนะครับ  คนระวังอาจพลาดเข้าสักวันจนได้”  แจ็คยั้งปากไว้ไม่อยากพูดถึงครั้งที่ไนท์พลาดเสียจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดด้วยซ้ำ  แต่ถึงไม่พูดไนท์ก็นึกไปถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นเช่นกัน  ชีคหนุ่มรู้สึกอายจนพาลโกรธ
“อย่าจุกจิกไปหน่อยเลยน่า เรื่องแค่นี้เอง”         
“มันอาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับคุณแต่สำหรับผมมันเรื่องใหญ่  ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก  ไม่สิ...ต้องไม่มีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด”
“ทำยังกับเธอห้ามไม่ให้พวกนั้นมาตามฆ่าฉันได้อย่างนั้นแหละ”
“ถึงผมห้ามพวกมันไม่ได้แต่ผมป้องกันได้  ต่อไปนี้ผมจะไม่พาคุณไปไหนโดยไม่บอกให้คนของคุณรู้อีกแล้ว  อย่างน้อยคุณก็ควรมีคนคอยดูแลใกล้ชิด”
“ไม่มั่นใจในตัวเองเลยเหรอแจ็คว่าคุ้มครองฉันได้”
“ผมมีแค่ชีวิตเดียวเท่านั้น  ถ้าพวกมันยกโขยงกันมามากกว่านี้ล่ะ ถึงผมตายผมก็ต้องแน่ใจว่าคุณต้องปลอดภัยผมถึงจะตายตาหลับ”
 ไนท์ยิ้มเฉยเสียไม่ตอบโต้เพื่อไม่ให้แจ็คโมโหไปมากกว่านั้น

............      
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 30-01-2010 20:19:28
.....

เมื่อกลับไปถึงบ้านพักที่เกาะหมอและองครักษ์มารออยู่ที่ท่าเรือแล้ว   แจ็คถูกประคองเข้าไปข้างในเพราะเขาไม่ยอมนอนไปในเปลหาม         
“ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้างกระหม่อม?”อามิลปราดเข้ามาหาด้วยสีหน้ากังวล         
“เราไม่เป็นไร  แต่แจ็คช่วยเราก็เลยได้รับบาดเจ็บ”         
“เป็นความผิดของกระหม่อมเองที่บกพร่อง”
“คนจ้องอยู่แล้วกับคนระวังมันก็มีโอกาสพลาดอย่างนี้แหละ...”ไนท์ชะงักเมื่อรู้ตัวว่าเขาเอาคำพูดใครมาใช้  แม้แต่อามิลยังทำหน้าชอบกลเมื่อได้ฟัง  นี่ไม่ใช่ปรกติวิสัยของชีครามิล  ผู้เกลียดความผิดพลาดเป็นที่สุด
“แต่กระหม่อม…”
“ช่างเถอะ เราจะเข้าไปดูแจ็คก่อน”
“กระหม่อม”
แจ็คถอดเสื้อนั่งอยู่กลางห้องรับแขก  หมอกำลังพันผ้าพันแผลให้
“เป็นไงบ้างหมอ?”         
“กระสุนถากไปกระหม่อม  เสียเลือดไม่มาก แต่คืนนี้อาจมีไข้ กระหม่อมฉีดยาให้แล้ว และจะจัดยาแก้ปวดลดไข้ไว้ให้ ขอฝ่าบาทโปรดวางพระทัย”
“ขอบใจมากหมอ”
ไนท์มองคนเจ็บนิ่งทั้งที่นึกขันสีหน้าเคร่งเครียดของแจ็คเต็มที  รอจนหมอถวายคำนับแล้วออกไปแล้วนั่นแหละถึงได้ทรุดลงนั่งข้างๆ นิ้วยาวแตะที่รอยแผลเป็นเกือบกลางอกของแจ็คเบาๆ
“ว่าจะถามตั้งหลายครั้งแล้ว  รอยแผลนี่?…”
“เมื่อสองปีก่อนมีเรื่องกับคนที่เกาะคู่แฝด  ก็เลยโดนยิงครับ”
“ฝีมือระดับเธอเนี่ยนะโดนทำร้ายได้?”
“ตอนนั้นผมก็ไม่ได้มีฝีมืออะไรหรอกครับ  หลังจากเกิดเรื่องก็เลยขอเข้ารับการอบรมกับพวกบอดี้การ์ด  คุณริชให้อดีตนาวิกโยธินของซีลมาสอนให้”
“แต่ที่เธอใช้มัน...ไทยบ๊อกซิ่ง?”
“ครับ...คุณริชให้ไปเรียนเพิ่มเติมตามแต่ใครจะสนใจศิลปะการต่อสู้แบบไหน  ผมชอบมวยไทย  ก็เลยไปเรียนอยู่เกือบปี”
“มิน่าฝีมือถึงได้ดีนัก ขนาดองครักษ์ของฉันยังโดนสอยร่วงไปเสียสองคน”         
“ผมยังรู้สึกแย่ไม่หายจนทุกวันนี้”
“ทำไม?”         
“ครู…ผมหมายถึงคนที่สอนมวยไทยให้ผม  เขาให้ผมปฏิญาณว่าจะไม่เอาวิชาต่อสู้ไปใช้เพื่อทำร้ายคนอื่น  สิ่งที่เขาสอนมีไว้ป้องกันตัวเองและเพื่อฝึกร่างกายแข็งแรง  แต่ผมกลับใช้ทำร้ายคนอื่นเพราะความโกรธ...”         
“คนอ่อนแอย่อมตกเป็นเหยื่อเสมอ  ถ้าเธอคิดจะมีชีวิตรอดในโลกใบนี้เธอก็ต้องแข็งแกร่งกว่าถึงจะอยู่ได้  คนเราน่ะ...พึ่งได้เชื่อได้  ก็แต่ตัวเองเท่านั้นแหละ”
“แปลว่าเราจะไว้ใจใครไม่ได้เลยเหรอครับ  ชีวิตแบบนั้นมัน...มันน่าเศร้านะครับ”
“มันก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน  แต่สำหรับฉันการไว้ใจคนอื่นคือความประมาท  และความประมาทคือหายนะ”
“แล้วผมละครับ  เชื่อใจได้บ้างไหม?”
“ของแบบนี้มันต้องดูกันนานๆแจ็ค  เราเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นนะ”
“…นั้นสินะครับ  ผมน่าจะรู้ตัว…” แจ็ครำพึงเสียงแผ่วแล้วก้มลงหยิบเสื้อเปื้อนเลือดมาถือไว้
“สักวันผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมเป็นคนที่คุณเชื่อใจได้”
“ฉันจะรอดูวันนั้น”ไนท์กอดอกแล้วพิงพนักเก้าอี้มองชายหนุ่มด้วยใบหน้าเรียบเฉย  แจ็คพยักหน้าน้อยๆ ดวงตาหม่นแสง  ชายหนุ่มกลับไปที่ห้องตัวเอง ซึ่งตลอดอาทิตย์  เขาใช้เป็นที่อาบน้ำและเก็บเสื้อผ้าเท่านั้น แต่คืนนี้เขาคงได้ใช้มันอย่างคุ้มค่า
          ♜...........♜...........♜


    ♚..14..♚

 ร่างโปร่งยืนมองทะเลสีครามนิ่ง แม้ภาพตรงหน้าจะงดงามเพียงใดแต่ชีคหนุ่มกลับมองไม่เห็น ด้วยสมองมัวครุ่นคิดถึงใครบางคน 
 “ข่าวจากฮาลีกระหม่อม”   ไคซัคเข้ามาค้อมกายเคารพ
ไนท์พยักหน้าเดินลิ่วไปยังห้องทำงาน  สัญญาณภาพมารออยู่แล้ว  ฮาลียิ้มกว้างกว่าเคย ท่าทางตื่นเต้นเห็นได้ชัด
“มีอะไรฮาลี?”
“เราไขปริศนาของแผนที่ได้บางส่วนกระหม่อม”
“ว่าไงบ้าง?”
“คล้ายรหัสมอสกระหม่อม  แต่ถ้าแปลตรงๆจะออกมาไม่เป็นคำ”
“หมายความว่าคนเขียนเป็นทหาร?”
“อาจใช่กระหม่อม แต่ที่เราตรวจสอบยังหาข้อมูลใดๆไม่ได้เลยกระหม่อม...เกรงว่าเขาจะ...ถูกเก็บไปแล้วกระหม่อม”         
“หาให้ละเอียด  บางทีครอบครัวเขาอาจรู้เรื่องนี้”         
“กระหม่อม...มีอีกเรื่องกระหม่อม  ชีคซารีฟต้องการพบฝ่าบาทเป็นการส่วนพระองค์”         
“ที่ไหน?”         
“ที่วังขาวกระหม่อม”         
“ตกลง...เราจะรีบไป...มีอะไรอีกหรือเปล่า?”ไนท์ดักคอเมื่อสังเกตเห็นท่าทางอึกอักของคนสนิท         
“เอ่อ..กระหม่อมไม่กล้าทูล”         
“พูดมา”         
“ท่านชีคเปรยว่าอยากเจอ...เอ่อ...คนของฝ่าบาท”         
“เจ้าหมายถึงใคร?” ไนท์นั่งตัวตรงขึ้น  ตาคมเป็นประกายวาววับจนฮาลีหน้าเจื่อน         
“ท่านชีคพูดถึงคนที่เกาะส่วนตัวกระหม่อม”         
“...งั้นเหรอ...ไว้เราคิดดูก่อนแล้วกัน”         
“กระหม่อม”
ไนท์กดตัดสัญญาณแต่ปลายนิ้วยังค้างอยู่ที่ปุ่ม  ขนาดท่านอาซารีฟอยู่ไกลขนาดนั้นยังรู้เรื่องของแจ็ค  โอกาสที่อาฟาฮัสจะรู้เรื่องแจ็คย่อมไม่ใช่เรื่องยาก  เขาไม่รู้ว่าจะกันแจ็คให้ห่างจากสถานการณ์นี้ได้นานแค่ไหน  แต่หากเขายังคบกับแจ็คต่อไปไม่ช้าแจ็คต้องเข้าสู่วังวนนี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง
มือขาวแตะที่อกแล้วดึงสร้อยที่ห้อยคอออกมา  มุกสีชมพูเม็ดจิ๋วถูกฝังบนกางเขนของมารดา  น่าแปลกที่ของที่มาจากคนละคนกลับเข้ากันได้อย่างลงตัว  ราวกับแม่เว้นจุดกึ่งกลางนี้ไว้ให้ประดับมุก  นานแค่ไหนแล้วที่เขากับเจ้าของมุกเม็ดนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง นับตั้งแต่กลับจากเกาะ  เขากับริชก็ประชุมเครียดกันตลอดสัปดาห์ ตอนนี้ริชเองก็รีบกลับไปนิวยอร์คเพราะห่วงคนรัก         
“ไคซัค” ไนท์เรียกคนสนิทผ่านอินเทอร์โฟน ร่างสูงใหญ่เข้ามารวดเร็วราวกับรออยู่แล้ว         
“กระหม่อม”         
“เตรียมตัวเดินทาง  เราจะไปวังขาวพรุ่งนี้         
“กระหม่อม”         
“ดูตารางงานของแจ็คด้วย”
ร่างสูงชะงักกึกหันกลับมามองเขาด้วยความประหลาดใจ         
“พาคุณแจ็คด้วยหรือกระหม่อม?”         
“ใช่”         
“กระหม่อมจะจัดการให้เรียบร้อย”         
“ขอบใจ”
ไคซัคค้อมกายเคารพแล้วออกไปจากห้อง  ไนท์ถอนใจยาว  ทำไมจะไม่รู้ว่าไคซัคไม่เห็นด้วย  แต่อาจถึงเวลาแล้วก็ได้ที่เขาต้องตัดสินใจเสียที ว่าจะวางแจ็คไว้ในฐานะอะไร............
         
ก็อกๆๆ  แจ็คโผล่หน้าเข้าไปในสำนักงาน  เจฟฟรี่เงยหน้าขึ้นจากเอกสารกองใหญ่และยิ้มให้           
“คุณเจฟเรียกผมเหรอครับ?”         
“นายไปส่งใบลาพักร้อนให้เรียบร้อยนะ”         
“ลาพักร้อน...จะให้ผมไปไหนครับ?”แจ็คขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ         
“ชีครามิลจะกลับประเทศพรุ่งนี้ คุณริชให้นายลาพักร้อน”         
“...อ่า...ครับ...กี่วันครับ?” แจ็คอึ้งอยู่นานกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ         
“นายมีวันลากี่วันก็ลาไปหมดนั่นแหละ”         
“ครับผม” แจ็คหันกลับออกไปอย่างรวดเร็ว  แต่กลับเปิดประตูพรวดกลับเข้ามาใหม่  ใบหน้าเป็นสีเข้มขึ้นเพราะระงับอาการดีใจไว้ไม่อยู่         
“เอ่อ...ขอบคุณครับคุณเจฟ  ฝากขอบคุณเจ้านายด้วยนะครับ”         
“ไม่เป็นไร เที่ยวให้สนุกนะ”         
“ครับ”
เจฟฟรี่หัวเราะเบาๆอย่างเอ็นดู  เสียดายที่ริชไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแจ็คตอนนี้
                    ............

เครื่องบินโดยสารที่ถูกเช่าเหมาลำค่อยๆร่อนลงแตะรันเวย์อย่าง นุ่มนวล  ทันทีที่เครื่องจอดสนิทองครักษ์ในชุดดำทั้งหมด ก็ปลดเข็มขัดแล้วลุกขึ้น หายไปรวมทั้งไคซัคด้วย  มีเพียงไนท์เท่านั้นที่ยังจ้องจอคอมพิวเตอร์ง่วนอยู่  ครู่เดียวไคซัคก็กลับเข้ามาพร้อมกับองครักษ์หน้าคุ้นๆคนหนึ่ง ทั้งคู่เปลี่ยนจากชุด สากลเป็นชุดพื้นเมืองเรียบร้อยแล้ว         
“เปลี่ยนเครื่องทรงเถอะกระหม่อม”         
“อืม…แป๊บนึง  แจ็คแน่ะ...ไปเปลี่ยนก่อนไป”         
“เชิญทางนี้ครับคุณแจ็ค” องครักษ์หน้าตายอีกคนผายมือไปยังม่านด้าน ข้าง  แจ็คลุกตามไป...ชุดพื้นเมืองอีกชุดแขวนรออยู่แล้ว           
องครักษ์หน้าเคร่งให้คำแนะนำการสวมทีละชิ้น มาติดปัญหาที่ผ้าคลุม ศีรษะกับเชือกรัดที่แจ็คสวมเองไม่ถนัด  แถมองครักษ์ของไนท์ก็ไม่ยอมทำให้         
“คงต้องให้ฝ่าบาทสวมให้ครับ”         
“อ้าว!ทำไมละครับ”         
“กัฟฟียากับอะกาลเป็นของประทาน  คนอื่นจะหยิบจับส่งเดชไม่ได้ครับ”
แจ็คได้แต่พยักหน้าทั้งที่ยังงุนงงกับธรรมเนียมที่แปลกและยุ่งยากสำหรับคนตะวันตกแบบเขา  แต่เมื่อกลับเข้ามาที่ห้องก็พบว่าไนท์เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้ว           
เดิมทีแจ็คคิดว่าคนเป็นชีคต้องสวมเสื้อผ้าที่ตกแต่งหรูหราเหมือนที่เคยเห็นในภาพยนตร์...แต่เครื่องแต่งกายของไนท์กลับไม่แตกต่างจากที่พวกองครักษ์ใส่  เพียงแต่อะกาลเท่านั้นที่เป็นสายรัดสีดำและทองไขว้ขัดกันเป็นเกลียวมีตราประทับรูปเหยี่ยวประดับด้วยเพชร  ซึ่งของเหล่าองค์รักษ์จะเป็นสีน้ำเงินขาวธรรมดา         
แจ็คมองคนรักด้วยอาการคล้ายตะลึง  เขาเคยคิดว่าไนท์ช่างดูโดดเด่นและงามสง่าในเครื่องแต่งกายแบบสากล แต่เมื่อได้เห็นไนท์สวมชุดพื้นเมืองเขากลับรู้สึกว่า ไม่มีชุดใดในโลกที่ทำให้ไนท์ดูสง่างามและฉายรัศมีแห่งอำนาจได้มากไปกว่าเครื่องแต่งกายประจำชาติของไนท์อีกแล้ว และนั่นยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความแตกต่าง ระหว่างเขากับไนท์มากขึ้น         
ไนท์หันมามองแล้วยิ้ม เมื่อแจ็คส่งกัฟฟียาให้ด้วยใบหน้าเหยเก         
“ผมใส่เองไม่ถนัด  คุณคนนี้เขาก็ไม่ยอมใส่ให้”         
“อ๋อ…มันเป็นกฎน่ะ  ของประทานใครก็ใส่ให้กันไม่ได้ทั้งนั้น  เอาละเรียบร้อยแล้ว”ไนท์ถอยออกมามองชายหนุ่มด้วยสีหน้าพึงพอใจ  ขณะที่แจ็คก้มมองตัวเอง  ถึงไม่มีกระจกเขาก็แน่ใจว่าตัวเองคงดูเปิ่นในเครื่องแต่งกายแบบนี้
“เชิญเสด็จกระหม่อม” องครักษ์คนหนึ่งเข้ามาถวายคำนับแล้วแหวกม่านรอ  ไนท์ออกเดินนำ  ไคซัคตามประกบทันที  แจ็คยืนลังเลไม่รู้ว่าเขาควรอยู่ที่ใดในขบวนแต่องค์รักษ์หน้าเคร่งก็เป็นผู้จัดการให้โดยการดันหลังเขาให้เดินตามไคซัคไปติดๆ
พรมสีแดงปูลาดจากบันได้เครื่องและทอดยาวไปถึงรถบัสที่ติดม่านทึบทั้งคัน  ชายในชุดพื้นเมืองยืนเรียงเข้าแถวจากเชิงบันได้จนถึงหน้ารถบัสเป็นแถวตรงเป๊ะ ทันทีที่ไนท์ก้าวลงไปทั้งหมดก็ค้อมศีรษะลงพร้อมกันพรึบ  ไม่มีดนตรีหรือดอกไม้มาต้อนรับแบบที่แจ็คเคยเห็นในภาพยนตร์  บรรยากาศเต็มไปด้วยพิธีการที่เคร่งขรึมจนชายหนุ่มรู้สึกเครียด  หากแต่ในคณะผู้ต้อนรับกลับมีคนที่แตกต่างจากคณะเพราะยิ้มแย้มกว้างขวาง  และไนท์ก็พุ่งตรงไปหาทันที
“ไงฮาลี…สีหน้าแบบนี้หวังว่าเราคงได้ฟังข่าวดีสินะ”
“กระหม่อม  มีแต่เรื่องดีๆกระหม่อม”
“แล้วไงเดินทางสะดวกสบายดีหรือเปล่า?”
“กระหม่อม…ฝ่าบาทเสด็จห้องประชุมเลยไหมกระหม่อม?”
“ไปเฝ้าเสด็จอาก่อนดีกว่า…ไคซัคไปพักเถอะ  ให้ฮาลีดูแลเราแทน”
“กระหม่อม”
องครักษ์ทั้งหมดค้อมตัวรับคำสั่งแล้วเดินแยกไปขึ้นรถอีกคัน  แจ็คเดินตามไปด้วยแต่ฮาลีปราดมาแตะแขนเขาเดินตามไนท์ไปขึ้นรถ  แถวที่รอรับเสด็จค้อมตัวราวกับอ้อลู่ลมเมื่อไนท์เดินผ่าน  แจ็คสังเกตว่าฮาลีเดินตามไนท์ก็จริง  แต่ไม่ได้เดินไปในพรมแดง  แจ็ครีบเลื่อนลงไปเดินด้านข้างๆแต่ฮาลีรั้งศอกไว้ให้เดินไปบนพรม
         “ผมเดินข้างล่างดีกว่า” แจ็คกระซิบเสียงเครียด  แต่ฮาลียิ้มเฉย
         “ทางนี้ขอรับ”ฮาลีค้อมศีรษะให้แจ็ค  องครักษ์ที่ยืนหน้าประตูก็เช่นกัน  แจ็คจำต้องก้าวขึ้นรถด้วยความกระอักกระอ่วน
ในรถตกแต่งราวกับเป็นห้องๆหนึ่งมากกว่าจะเป็นรถ  พื้นปูด้วยพรมสีครีมเกือบขาว  มีเก้าอี้ประทับอยู่ด้านหนึ่งตั้งโต๊ะคั้นกลางเก้าอี้อีกตัว  เห็นได้ชัดว่าเก้าอี้ตัวนี้เพิ่งถูกเสริมเข้ามา  ห่างออกมามีเก้าอี้เรียงอยู่เป็นแถว  และมีชายในชุดพื้นเมืองนั่งรออยู่แล้ว  ทันทีที่ไนท์เข้าไปทุกคนก็ลุกขึ้นค้อมกายเคารพพร้อมกันพรึบ  ฮาลีผายมือเชิญแจ็คไปยังเก้าอี้ที่วางคู่กับเก้าอี้ประทับ  ไนท์ทรุดลงนั่งก่อน  แจ็คเดินเข้าไปและเหลือบมองฮาลี ฮาลีขยิบตาแล้วก้มศีรษะให้ดู  แจ็คก้าวไปโค้งให้ไนท์ก่อนจะทรุดลงนั่ง  ทุกคนจึงค้อมตัวแล้วนั่งลงพร้อมกัน  รถค่อยๆเคลื่อนตัวไปอย่างนิ่มนวล  ............

ชีคซารีฟเป็นบุรุษร่างสูงสง่า  ผู้มีใบหน้าที่ยังคงหล่อเหลา  แต่ดูแข็งแกร่งและบึกบึนแม้จะเลยวัยกลางคนแล้วก็ตาม 
เมื่อเห็นไนท์ก็ยิ้มกว้าง  ทำให้ใบหน้ากร้าวแกร่งดูอ่อนโยนเปี่ยมเมตตา  จนทุกคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบ
“ไงเจ้าตัวแสบ?”         
“เสด็จอา”ไนท์เดินเข้าหาไปกอดทักทาย  ในอกวาบลึกเมื่อรู้สึกหนาวหัวใจ  อกอุ่นที่ไว้ใจได้เหลือเพียงหนึ่งเดียวเสียแล้ว
“หายหน้าไปเลยนะ  อาไม่ได้เจอเรามานานแค่ไหนเนี่ย?”
“2 เดือนกระหม่อม”
“ดีนะ...นี่ถ้าอาไม่ใช้ให้ฮาลีตามมา คงจะไม่เจอเราเลยละสิ”
“ก็งานหลานเยอะ”
“มิน่าพ่อเรานั่งหน้าเป็นม้าหมากรุกทุกที  ขนาดอายังไม่ได้เจอ...แล้วไปหาพ่อบ้างหรือเปล่า?”
“เอ่อ...หลานไม่ค่อยว่าง”
“เลิกอ้างได้เลย...แล้วนี่เพื่อนหลาน?”
“แจ็ค มิเคเน่ กระหม่อม”
แจ็คค้อมกายเคารพได้งดงามตามพิธีการ  ไนท์มองนิ่งอย่างแปลกใจและพอใจ
“ยินดีต้อนรับสู่เมืองแห่งตะวันแจ็ค...เป็นไงเดินทางสะดวกสบายดีหรือเปล่า?”
“ด้วยพระบารมี การเดินทางสะดวกสบายดีกระหม่อม”
ใช่แต่ชีคซารีฟที่อึ้งไปเมื่อได้ยินภาษาอาหรับที่ถูกต้องตามแบบแผนจากปากแจ็ค  แม้แต่ไนท์และองครักษ์ต่างก็หันไปมองแจ็คเป็นตาเดียว  มีแต่ฮาลีเท่านั้นที่ยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
“เก่งนะพูดภาษาเราได้คล่องเชียว”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท”
“ตามสบายนะ  ถือซะว่ามาเที่ยวบ้านอีกหลัง  อย่าพะวงกับราชาศัพท์ให้ยุ่งยากเลย  คิดเสียว่าฉันเป็นอาเธอก็แล้วกัน”
“เป็นพระมหากรุณากระหม่อม”
“ไปคุยที่ห้องโน้นดีกว่า ป่านนี้เขาคงตั้งโต๊ะเสร็จแล้ว  ไปไนท์  แจ็ค “
“กระหม่อม”
ทั้งแจ็คและไนท์ต่างค้อมกายเคารพพร้อมกัน ไนท์เหลือบมองแจ็ค นิดหนึ่งก่อนจะเดินนำเข้าไป......ƒ......
         
แจ็คตื่นแต่เช้าทั้งที่นอนไม่ค่อยหลับ  เมื่อคืนเขากับไนท์ไม่ได้พูดอะไรกันเป็นการส่วนตัวเลย  ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกกังวล  เขาแน่ใจว่าไนท์คงโกรธเรื่องที่เขาพูดภาษาอาหรับได้แล้วไม่บอก  ชายหนุ่มรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปหาไนท์แต่พบว่าหน้าห้องของไนท์มีทหารยืนเฝ้าอยู่หลายคน
“ผมมาขอพบ...เอ่อ ขอเฝ้าฝ่าบาทครับ”
“กรุณารอสักครู่ครับผม” นายทหารคนหนึ่งเดินเข้าไปด้านในก่อนจะออกมาเชิญแจ็คเข้าไป 
แจ็คเคาะประตูเบาๆก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไป  รอยยิ้มกว้างสลายวับเมื่อเห็นภาพตรงหน้า  ร่างโปร่งนั่งพิงเอนๆอยู่บนเตียง  ร่างท่อนบนเปลือยเปล่า  กำลังอ่านข้อมูลจากโน้ตบุ๊คบนตัก  ไคซัคยืนอยู่ไม่ห่างนักและมีเสื้อคลุมพาดอยู่บนแขน  พอเหลือบเห็นเขาไนท์ก็ลุกขึ้น  ท่อนล่างมีเพียงผ้าสีขาวผืนยาวถึงข้อเท้าพันอยู่ผืนเดียว  ไคซัคกางเสื้อคลุมออก  ไนท์สวมแล้วพยักหน้าให้ไคซัคออกไป
ไนท์เดินไปทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ริมหน้าต่างบานกว้าง  แจ็คตามเข้ามาวาง กัฟฟิยาที่ใส่ไม่เป็นบนโต๊ะ   ในอกร้อนวูบวาบด้วยความหึงหวง  ยิ่งเห็นท่าทางเฉยเมยเหมือนเป็นเรื่องปกติที่ไคซัคจะถึงเนื้อถึงตัวอย่างนี้เขายิ่งหงุดหงิด     
“ไม่เห็นบอกเลยว่าเธอพูดภาษาฉันได้” ไนท์เอ่ยเสียงเรียบแต่ในใจขุ่นมัว ด้วยไม่คิดว่าแจ็คจะกล้ามีความลับกับเขา
“ก็คุณไม่เคยถามนี่ครับ”
“ทำไมต้องรอให้ถาม จะบอกเองไม่ได้หรือไง?”         
“ผมไม่รู้ว่าควรบอกคุณตอนไหน ในเมื่อทั้งคุณแล้วก็องครักษ์ของคุณก็พูดภาษาอังกฤษกันทุกคน”       
“คิดจะล้วงความลับจากพวกเราหรือไงแจ็ค?” ไนท์แซวยิ้มๆ  แต่คนฟังเจ็บลึกในอก  แจ็คหยิบกัฟฟิยาขึ้นมากำไว้แน่น 
‘พวกเรา...นั่นสินะ  ในสายตาของไนท์  เราเป็นคนนอกเสมอ’         
“ก็คงงั้นมังครับ ผมจะได้รู้ไงว่าโดนนินทาหรือเปล่า” แจ็คแสร้งหัวเราะเบาๆ         
“แล้วเป็นไงได้ข้อมูลลับอะไรไปบ้างล่ะ?”
“แหม...พวกคุณรอบคอบกันขนาดนั้น ผมคงล้วงความลับได้ยาก”
ไนท์หรี่ตามองชายหนุ่มเขม็ง...แม้เสียงจะสดใสขี้เล่น แต่มีอะไรบางอย่างในคำพูดบอกให้รู้ว่าแจ็คกำลังน้อยใจ
“เป็นอะไรไปวันนี้ดูแปลกๆ”
แจ็คเมินมองออกไปนอกหน้าต่าง  ใจยังขุ่นมัวด้วยความหึงหวง เมื่อนึกถึงตอนที่เข้ามาพบไคซัคจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ไนท์  ทั้งๆที่ไนท์ยังนอนอยู่บนเตียงในสภาพเกือบเปลือย
“ผมไม่ชอบที่คนของคุณเข้ามาในห้อง ทั้งๆที่มันควรเป็นที่ส่วนตัว”
“มันเป็นหน้าที่ของไคซัค”
“หมายความว่าหมอนี่เข้านอกออกในห้องนอนคุณได้ตลอดเวลางั้นเหรอ?”
“ใช่...เขาต้องดูแลฉัน มันเป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัย”         
“อย่างนี้ตอนเราเมคเลิฟกันเขาควรต้องอยู่ด้วยสินะ....จะได้มั่นใจในความปลอดภัยไง” แจ็คประชดด้วยความหึงหวง
“อย่ามาประชดประชันเป็นเด็กๆ  เธอควรรู้ด้วยว่าฉันมีสถานภาพยังไง  ฉันทำอะไรตามใจตัวเองเหมือนเธอไม่ได้หรอกนะ”
“จริงสินะ...กระหม่อมเป็นใคร?...ฝ่าบาทเป็นใคร?...ความจริงกระหม่อมควรพึงสังวรให้มากกว่านี้ถูกไหมฝ่าบาท”
“แจ็ค!...อย่าให้ความอดทนฉันสิ้นสุดลงเพราะวาจาโง่ๆ  ฉันมีเรื่องให้ปวดหัวมากพออยู่แล้ว เธอไม่ควรมาสร้างความยุ่งยากให้ฉันมากกว่านี้  ไม่อย่างนั้นฉันจะส่งเธอกลับ…”  หลุดปากออกไปแล้วไนท์ก็ใจหาย  แต่เมื่อพูดไปแล้วจะเรียกกลับคืนได้อย่างไร
แจ็คชะงัก...ชายหนุ่มถอยหลังแล้วค้อมกายทำความเคารพตามประเพณีแล้วถอยออกไปจากห้องเงียบๆ         
ไนท์ถอนใจยาว...ในอกวาบลึกอย่างประหลาด เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเสียใจในคำพูด  ทั้งๆที่เขาเป็นคนรอบคอบและระมัดระวังคำพูดทุกคำอยู่เสมอ แต่กับแจ็คเขามักเผลอหลุดปากพูดอะไรไม่คิดไปประจำ นี่หากท่านราชครูยังอยู่เขาคงถูกตำหนิ         
‘ฝ่าบาทเป็นรัชทายาท...วันหน้าต้องทรงเป็นกษัตริย์แทนพระบิดา...สิ่งที่พระองค์ตรัสโยกย้ายได้แม้แผ่นดิน...ทุกคำที่ออกจากโอฐจึงต้องระมัดระวังยิ่ง’
หน้าที่ของรัชทายาททำให้เขาถูกปลูกฝัง  เคี่ยวเข็ญ ไว้ในกรอบอันเข้มงวดนับตั้งแต่ลืมตาตื่นจนเข้านอน ยามอยู่ในพระราชฐานเขาเป็นองค์รัชทายาท  แต่ยามอยู่ในค่ายทหารเขาเป็นเพียงทหารคนหนึ่งที่ต้องฝึก ต้องถูกเคี่ยวเข็ญ ตรากตรำไม่ต่างจากทหารทุกนาย  อาจจะหนักกว่าผู้อื่นด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นผู้นำจะให้มีฝีมือเท่าๆกับลูกน้องคงไม่ได้ 
แต่เมื่อได้อยู่กับแจ็ค  เขาไม่ต้องระแวดระวัง  อบอุ่นในหัวใจเสียจนแทบกลายเป็นความประมาท  นับวันแจ็คก็ยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นทุกทีจนเขานึกกลัว........กลัว  ที่ไม่อาจควบคุมหัวใจตัวเองได้อีกต่อไป...
เสียงโทรศัพท์ปลุกชีคหนุ่มขึ้นจากภวังค์
“ฝ่าบาท”
“ว่าไงไคซัค?”
“ฮาลีส่งข่าวมาแล้วกระหม่อม...ตอนแรกเข้าใจกันว่า เป็นรหัสมอส ธรรมดา  แต่กลายเป็นภาษาชาวเลโบราณ คนส่งต้องมีความรู้เชี่ยวชาญทางภาษาและน่าจะเป็นทหารกระหม่อม”
“หมายความว่าไง?...เป็นทหารแต่เชี่ยวชาญด้านภาษา...คนที่มีความสามารถเฉพาะแบบนี้น่าจะมีไม่มาก ลองตรวจสอบ ดูซิ”
“กระหม่อม”
“แล้วแปลได้บ้างหรือยัง?”
“ได้บางส่วนแล้วกระหม่อม  แต่เรียงเป็นประโยคไม่ได้  ข้อความบางส่วนที่ลบเลือนไปฮาลีกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ใกล้เคียงที่สุด  กระหม่อมกำลังจะไปสมทบกับฮาลีที่ฐานลับ...หากได้รายละเอียดจะได้ออกค้นหาเดินทันทีกระหม่อม”
“ได้ความว่ายังไงแล้วส่งข่าวมาด่วนนะ”
“กระหม่อม”         
“โชคดีไคซัค”         
“ขอบพระทัยฝ่าบาท”
ไนท์กดปิดโทรศัพท์  ดวงตาคมเป็นประกายกล้า  หากเสร็จงานนี้  อาจได้หยุดพักสักระยะ...อย่างน้อย ก็น่าจะพาแจ็คไปเที่ยวชมความงามของทะเลทรายให้ทั่ว อาจช่วยให้แจ็คคุ้นเคยและเข้าใจในสถานภาพของเขาได้มากกว่านี้
......

แดดร้อนระอุทำให้แจ็คต้องคว้าน้ำมาดื่มติดๆกันหลายครั้ง เหงื่อ ไหลท่วมตัวราวกับอาบน้ำทำให้เขารู้สึกอ่อนเพลีย 
แจ็คเหลือบมองทหารองครักษ์ด้านหลังอย่างทึ่งๆ  พวกนั้นยืนนิ่งจนแทบไม่ขยับได้อย่างไรในเปลวแดดร้อนระอุเช่นนี้  แม้แต่ม้าก็ดูอดทนและสงบนิ่งไม่ต่างกัน
“อย่าดื่มมากนัก  พวกเรายังต้องไปกันอีกไกล เดี๋ยวน้ำจะหมดเสียก่อน” ไคซัคเตือนเบาๆเมื่อสังเกตเห็นแจ็คดื่มน้ำติดๆกันหลายครั้ง
“พวกคุณเก่งแฮะ...ร้อนขนาดนี้ไม่เห็นดื่มน้ำกันสักที  แถมยังยืนได้นิ่งยังกับหุ่นแบบนั้นอีก” แจ็คเอ่ยอย่างชื่นชม   อามิล ยิ้มเยาะเอ่ยสอดขึ้นมาลอยๆ
“ก็เราเป็นทหาร จะมาเหยาะแหยะใจเสาะอยู่ได้ยังไง  ขืนกินน้ำจนหมดตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งทาง  คงได้ตายอยู่กลางทะเลทรายโดยยังไม่ได้รบกับใคร”         
“อดน้ำไม่กี่ชั่วโมงคงไม่ถึงตายกระมังครับ  อีกอย่างผมก็ไม่ได้เป็นทหารคงไม่ต้องไปรบกับใคร  ยกเว้นแต่จะออกกำลังกันเล็กๆน้อยๆก็ยังไหวอยู่นะครับ”
แจ็คหันไปตอบยิ้มๆ แต่ดวงตาเย็นเยือกแน่วแน่จนอามิลเผลอหลบตาวูบอย่างลืมตัว  ก่อนจะนึกเดือดตัวเองที่ทำอย่างนี้  แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องเกรงหมอนั่นจนเผลอหลบตา  ทั้งที่เขายังแค้นหมอนี่ไม่หายที่ซัดคนสนิทของเขาที่เสียหมอบตอนไปฮาวาย ความอับอายครั้งนี้ทำให้อามิลยิ่งเพิ่มความหมั่นไส้หนุ่มต่างชาติ ‘ตัวเท่าลูกหมา’ คนนี้มากขึ้น
“งั้นก็ดีสิกำลังอยากลองอยู่พอดี” องครักษ์ร่างยักษ์ขยับเข้ามาใกล้หมายจะเล่นงานแจ็คให้เข็ด  แต่ไคซัคขึงตาห้ามไว้เสียก่อน         
“อามิล!อย่าเสียมารยาท”
“ขออภัยครับผม”
“ไปเตรียมเดินทางได้แล้ว”
“ครับผม”
อามิลถอยออกไปทันที แต่กระนั้นก็ยังไม่วายส่งสายตาอาฆาตมาให้ แจ็คมองตามอย่างหนักใจเขาคิดผิดหรือถูกกันแน่ที่ตามไคซัคออกมา
กว่าจะถึงจุดนัดหมายก็เกือบบ่าย3โมง  แจ็คดื่มน้ำหยดสุดท้ายตั้งแต่ยังไม่เที่ยง แต่เขาก็กัดฟันเดินทางจนมาถึงโดยไม่ยอมรับน้ำจากไคซัคแม้แต่หยดเดียว  ทันทีที่เข้าเขตเมืองแจ็คก็แยกไปหาบ่อน้ำโดยไม่สนใจว่าใครจะหัวเราะเยาะ 
ชายหนุ่มตักน้ำขึ้นมาถังใหญ่แต่กลับเอาไปให้ม้ากินก่อน  พฤติกรรมของเขาทำให้นายทหารที่ไม่ชอบหน้าเขาถึงกับอึ้งไป  หลายคนรู้สึกดีกับหนุ่มต่างชาติผิวบางคนนี้ขึ้นมาเล็กน้อยเพราะสำหรับพวกเขา ม้าเปรียบเสมือนเพื่อนตาย เมื่อแจ็คแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญกับม้าก่อนตัวเองก็ทำให้อคติที่หลายคนมีลดลง         
“ที่พักของคุณอยู่ทางนี้ครับ”
แจ็คเหลือบมองก็จำได้ว่าเป็นนายทหารคนที่เอาม้าทรงมาให้เขา  ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นแล้วคว้าบังเหียนจูงสกายไปด้วย แต่มีนายทหารอีกคนมารับบังเหียนไปจากเขาเสียก่อน
“พวกนั้นเขาจะดูแลสกายอย่างดี คุณไม่ต้องห่วง...เชิญด้านนี้เลยครับ...นี่เป็นกระโจมส่วนตัวของคุณ พักผ่อนให้สบายนะครับ”
“เอ่อ...ผมถามอะไรหน่อยได้ไหม...คุณไคซัคไปไหนแล้ว?”
“ท่านราชองครักษ์อยู่ที่กระโจมด้านโน้นครับ”
“ขอบคุณมากครับ  คุณ...?”
“กระผมรามเรส  หากคุณไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”
“ขอบคุณอีกครั้งครับ”
องครักษ์คนนั้นพยักหน้าให้แล้วจากไปเงียบๆ  แจ็คทิ้งตัวลงบนที่นอนหนานุ่มด้วยความอ่อนล้า...นึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเช้า  เขาผลุนผลันออกมาจากห้องไนท์ด้วยความขมขื่นและน้อยใจ  จนมาเจอเข้ากับไคซัคและเหล่าองครักษ์ที่กำลังจะเดินทาง  ความเซ็งทำให้แจ็คขอตามมาด้วย
ตอนแรกไคซัคทำท่าจะไม่ยอม  แต่เมื่อเขายืนยันว่าจะตามมาให้ได้ ไคซัคจึงต้องไปรายงานไนท์  และเมื่อกลับลงมาเขาก็สั่งให้คนจัดม้าให้แจ็ค   
รามเรสจัดเจ้าสกายมาให้ สร้างความไม่พอใจให้กับทุกคนเพราะมันเป็นม้าทรงของชีคซารีฟ แต่เมื่อรามเรสยืนยันว่าเป็นรับสั่งของชีคซารีฟทุกคนก็นิ่งไป  ยิ่งทำให้แจ็คหนักใจ...ดูเหมือนเรื่องระหว่างเขากับไนท์จะไม่เป็นที่ยอมรับของเหล่าบรรดาองครักษ์  ทุกคนทำท่ารังเกียจเขาเหลือเกิน  ไม่ใช่แค่เรื่องความรักที่ผิดจารีตประเพณีอย่างร้ายแรงเท่านั้น...หากแต่ฐานันดรของไนท์ก็เป็นกำแพงมหึมา  ที่แจ็คมองไม่เห็นหนทางว่าเขาจะฝ่าข้ามมันไปได้อย่างไร
แจ็คพลิกตัวกระสับกระส่ายแต่ความอ่อนล้าก็ทำให้ชายหนุ่มผล็อยหลับไปในที่สุด......ƒ......
..........


ขอบคุณมากคะที่ติดตาม :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 30-01-2010 20:21:11
^
^
^
จิ้ม + พี่เทียนฉินนนนนนน
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 30-01-2010 20:33:38
กำแพงยังสูงเหมือนเดิมอะ่ แต่มันบางลงๆ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 30-01-2010 22:07:16
 :z3: อยากอ่านอีก
ต้องรอลุ้นกี่วันเอ่ย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: punch-punch ที่ 30-01-2010 22:31:22
อยากรู้จังตอนจบจะเป็นไง   Happy ending ที่เถิดดดด  อย่าจบเศร้าเลยนะ นะ นะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-01-2010 22:32:18
 :z3: :z3: :z3: เริ่มบีบหัวจาย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 30-01-2010 23:34:54
ขอบคุณค่า..

ขอถอนหายใจที :เฮ้อ:หนักใจแทนแจ็คซะแล้ว.. :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 30-01-2010 23:48:51
ไนท์ก็วางตัวลำบาก
แจ็คเองก็ลำบากใจ
แบบนี้มีแต่จะคอยน้อยใจกันหละสิ ต้องค่อยๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจกันและกัน

อ่านแล้วลุ้นมากค่ะ บวก 1 แต้ม ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 31-01-2010 00:29:59
 o13   เรื่องนี้นี่มีให้อ่านครบทุกรสชาติจริงๆ  ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 31-01-2010 00:42:43
 :sad11:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 31-01-2010 00:43:41
แจ๊คลำบากใจแย่เลย ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 31-01-2010 03:18:55
 o13 แจ๊คต้องเปนที่รักได้แน่ แต่ว่า พ่อแง่แม่งอนกันอยู่อย่างนี้

จะกลายเปนปัญหาของผัวเมียตีกัน ฮ่า ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 31-01-2010 10:51:17
 :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 31-01-2010 13:42:36
สนุกมาก  เอาใจช่วยแจ๊คด้วยคนจ้า แจ๊คสู้ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 31-01-2010 18:06:34
กำแพงแห่งศักดิ์ทั้งหนา ทั้งสูง ทั้งแข็งแรง
เห็นใจแจ็คสุดๆ
ถ้ามีฝ่ายไม่คอยช่วย คอยพยุง
เห็นทีแจ็คคนเดียวคงข้ามไม่ไหวแน่ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 31-01-2010 23:07:29
ชอบไคซัคมาก ก ก ก ก ก ก หื่น เผด็จการ รุนแรง ขี้โมโห แบบนี้ ข้อยมัก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 01-02-2010 00:08:00
 :sad4: จองๆๆๆๆๆๆๆๆ 1 เล่มๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



ยังทันมั้ยอ่ะคะ



ขอให้ทันน้า  :กอด1:


ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ



ว่าแต่..ทำหนังสือแค่เรื่องเดียวหรอคะ เรื่องแรกๆ อ่ะคะ อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆ


รอน้า..อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 03-02-2010 13:14:54
เข้ามาดัน   :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 03-02-2010 20:13:05
หนักใจแทนแจ๊ค จะก้าวข้ามกำแพงแทบจะทุกด้านพ้นไหม

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 03-02-2010 21:28:49
รอต่อไป  :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-02-2010 22:11:55
รอ ร้อ รอ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-02-2010 21:49:56
ยังไม่มาเหรอค้า  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 05-02-2010 22:02:43
 :o12: ยังไม่มา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" มาต่อแล้วคะ 30/01/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 06-02-2010 00:02:42
มารอค่ะ :fire:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 06-02-2010 21:36:34
ขออภัยที่มาช้าคะ มาตามกันต่อเลยคะ
.........
แจ็คตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะท้องลั่นโครก  วันนี้ทั้งวันเขากินแต่น้ำ  ความร้อนทำให้ความอยากอาหารหายไปหมด  แต่ตอนนี้เขาแน่ใจว่าเขากินวัวได้ทั้งตัว
ชายหนุ่มลุกขึ้นล้างหน้าบ้วนปาก  เขาใช้น้ำอย่างประหยัดด้วยรู้ดีว่าแผ่นดินนี้น้ำมีค่ามหาศาลแค่ไหน  เมื่อออกมานอกกระโจมก็เจอกับทหารยามคนหนึ่ง  ดูเหมือนหมอนี่จะรอเขาอยู่นานแล้ว พอเห็นหน้าเขาก็รีบไปนำถาดอาหารมาให้ทันที         
“แล้วคุณกินหรือยัง?”         
“เรียบร้อยแล้ว  ครับผม!”
“ขอบคุณมากครับ”
“เป็นหน้าที่ครับผม!”         
แจ็คส่ายหน้าอย่างขันๆกลับเข้าไปจัดการอาหารรสชาติแปลกอย่างรวดเร็วด้วยความหิว  ไม่นานชายหนุ่มก็ยกถาดเปล่าออกมา  ทหารยามคนนั้นรับถาดไปจากแจ็คแล้วทำท่าจะเอาไปเก็บ         
“เดี๋ยวครับ...ตอนนี้คุณ...ท่านราชองครักษ์อยู่ที่ไหน?”         
“ท่านอยู่ที่กระโจมสื่อสารหลังโน้นครับผม!”         
“ขอบใจมาก”         
“ครับผม!”         
แจ็คเดินเรื่อยไปยังกระโจมสื่อสาร  ผ่านกระโจมของเหล่านายทหารองครักษ์ก็สังเกตได้อย่างว่า  ทุกคนต่างพักอยู่ในกระโจมหลังเดียวกันหลายคน  คงมีแต่เขาที่ได้พักตามลำพัง  แจ็คถอนใจอย่างระอา  อึดอัดกับการปฏิบัติที่แตกต่างระหว่างเขากับคนอื่นๆ       
หน้ากระโจมสื่อสารมีทหารเฝ้าอยู่แน่นหนา  แจ็คชะงักเมื่อปืนถูกไขว้กั้นไม่ให้เขาผ่าน         
“ผมมาหาคุณไคซัค”         
“ที่นี่เป็นเขตหวงห้าม  ไม่มีคำสั่งห้ามเข้า...ครับผม”
แจ็คยกมือสองข้างอย่างยอมแพ้  ค่อยๆถอยห่างออกมา  แต่เสียงเนิบๆด้านหลังทำให้นายทหารทั้งสองลดปืนลงอย่างรวดเร็ว
“คุณแจ็คเป็นพระสหาย อย่าเสียมารยาท!”       
“ขออภัยครับผม!”
“เชิญครับคุณแจ็ค”
“หากเป็นที่หวงห้ามผมไม่เข้าไปดีกว่าครับคุณฮาลี”
“อ้าว!มาจนถึงที่ไม่เข้าไปได้ยังไงละครับ  ไปครับเชิญทางนี้” ฮาลีเดินนำไปยังกระโจมหลังใหญ่  ทหารที่รักษาการณ์อยู่แถวนั้นทำความเคารพพรึบพร้อมกัน
แจ็คชะงักเมื่อเข้าไปแล้วพบว่าภายในมีทหารรักษาการณ์อยู่มากกว่าข้างนอกเสียอีก  ทันทีที่เห็นหน้าแจ็คทหารองครักษ์ทุกคนก็ทำหน้าอึดอัดต่างหันมองตากัน  แต่ก็ยอมเปิดทางให้ฮาลีพาแจ็คเข้าไปด้านใน
ทหารยามที่นั่งคุยกันเบาๆผุดลุกพรวดเมื่อเห็นแจ็ค  แต่ฮาลีหันไปขึงตาใส่  ทำให้อามิลเองก็ต้องหุบปากไปโดยปริยาย  ฮาลีปราดไปดึงพรมที่ปูซ้อนกันหลายชั้นที่พื้นขึ้น  ใต้พรมแทนที่จะเป็นพื้นทรายกลับกลายเป็นแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ที่มีแผงควบคุมเป็นแถว  ฮาลีกดตรงโน้นตรงนี้อย่างรวดเร็ว  ได้ยินเสียงลั่นครืดก่อนที่พื้นเหล็กจะเลื่อนออกเห็นบันไดวนลับหายลงไปข้างล่าง
“เชิญครับ” ฮาลีหันมาบอกสั้นๆก่อนจะเดินนำลงไป  แจ็คเดินตามไปทันที  เมื่อลงมาสุดบันไดก็พบว่ามีทางแยกเป็นอุโมงค์หลายสาย  ฮาลีเดินนำลิ่วอย่างคุ้นเคยพาเขาเดินวกไปวนมาอยู่หลายแยกกว่าจะไปหยุดที่ประตูบานหนึ่งเช่นเคยหน้าห้องมีแผงไฟพราวระยับเช่นกัน  ต้องใส่รหัสผ่านประตูจึงเลื่อนเปิดออก  หลังประตูคือห้องโถงขนาดใหญ่กว่าสนามฟุตบอล2-3สนามด้วยซ้ำ  มีเจ้าหน้าที่เดินกันขวักไขว่
“ไงไคซัค  ได้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง?”         
“ถ้าเป็นแค่รหัสมอสฉันแกะได้ฉลุยไปแล้ว แต่นี่...อ้อ..คุณแจ็ค ตื่นแล้วเหรอครับ?”ไคซัคทักด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเคย         
“ครับ”         
“คุณไม่คุ้นกับอากาศร้อนจัด ร่างกายก็เลยปรับตัวยากหน่อย  ขนาดพวกผมอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิดยังแย่เลยครับ” ฮาลีปลอบแจ็คยิ้มๆ ดูเหมือนฮาลีจะเป็นคนเดียวที่เป็นมิตรกับแจ็คที่สุดแล้ว         
“คุณฮาลีก็แย่เหรอครับ?”         
“ไม่แย่ผมจะต้องหนีไปนอนพักเหรอครับ”         
“ถ้านายยังอยากพักก็กลับไปนอนได้นะฮาลี”ไคซัคเอ่ยขึ้นมาอย่างขวางๆเมื่อเห็นว่าฮาลีดูจะย้ายพรรคไปอยู่ข้างแจ็คแน่แล้ว         
“ตอนนี้ฉันสดชื่นรื่นรมย์จนพร้อมที่จะทำงานแล้วล่ะ...เอาละไหนดูซิ..”ฮาลีนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์พร้อมกับกดรหัสที่แปลออกมา  ภาพรหัสที่เรียงกันเป็นพรืดหน้าจอถูกเทียบด้วยอักษรทีละตัว
“ประโยคนี้ว่าอะไรน้า...เมฆหมอก...เดือดพล่าน....อะไรน้ำหว่า.....ตะวันไม่มีแสง...นก...เอ๊ะ...ตกลงนกหรือปีศาจ....?”
ฮาลีหันไปถามเจ้าหน้าที่อีกคนที่กำลังเทียบตัวอักษรอยู่ด้านหลัง
แจ็คหันขวับไปทางฮาลีเมื่อได้ยินประโยคนั้น ชายหนุ่มกวาดตาดูสัญลักษณ์เหล่านั้นแล้วขนลุกซู่เมื่อเห็นสัญลักษณ์ตัวล่างสุด  ใบหน้าคล้ำเผือดสีอย่างเห็นได้ชัด  แม้จะทำหน้านิ่งแต่ปฏิกิริยาของเขาหาได้รอดพ้นสายตาดุจเหยี่ยวของไคซัคไม่       
“มีอะไรหรือคุณแจ็ค?”         
“เปล่าครับ!...เอ่อ...ผมจะชวนออกไปดูตลาด แต่เห็นพวกคุณกำลังยุ่งเลยว่าจะออกไปคนเดียว”         
“ไปสิ  ผมจะไปเป็นเพื่อน” ไคซัคผุดลุกขึ้นทันที  ฮาลีทำท่าจะลุกตามมาอีกคน แต่ไคซัคห้ามไว้         
“นายทำงานไปสิ  เพิ่งพักมาแท้ๆอย่าอู้น่า...ถึงตาฉันพักบ้างแล้ว  เชิญครับคุณแจ็ค  ผมว่าจะพาคุณชมเมืองอยู่พอดี” 
แจ็ครู้ว่าไคซัคไม่ได้จะนำเขาเที่ยวแต่ราชองครักษ์ตัวร้ายคงจับสังเกตเขาได้  ชายหนุ่มไหวไหลนิดๆอย่างไม่แคร์  เดินตามร่างสูงใหญ่ไปเรื่อยๆ 
แม้จะไม่ใช่เมืองขนาดใหญ่แต่ผู้คนก็คึกคัก สินค้าหน้าตาประหลาดสำหรับแจ็ควางขายเกลื่อน  หลายครั้งที่ชายหนุ่มหยุดมองอย่างสนใจ           
“ถ้าคุณอยากได้อะไรก็เชิญเลือกได้ตามสบายนะ”         
“ไม่ละ ผมดูเพราะมันแปลกดี”         
“นั่นสิ  เพราะแปลกถึงควรซื้อไปฝากเพื่อนๆที่โรงแรมไง”         
“ขอบคุณที่แนะนำ...แต่ผมไม่ค่อยชอบหอบหิ้วอะไร  ลำพังตัวผมก็เป็นภาระให้พวกคุณมากพออยู่แล้ว ขืนผมมีของพะรุงพะรังเกรงว่าจะถูกทิ้งไว้กลางทะเลทรายนะสิ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ  ยังไงคุณก็เป็นพระสหาย  เราต้องดูแลคุณอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว”
ทำไมแจ็คจะไม่รู้ว่าไคซัคเจตนาเน้นเรื่องสภานะของเขา  ในสายตาของ
ไคซัคและเหล่าราชองค์รักษ์ เขาไม่ใช่พระสหาย  แต่เป็นของเล่นในฮาเร็มของไนท์มากกว่า
“แหม...การเป็นพระสหายนี่ดีจัง  ผมชักติดใจอยากเป็นไปนานๆเสียแล้ว  เอ...นอกจากพระสหายแล้วมีอะไรที่ใหญ่ๆกว่านี้อีกใหม่ครับ?”
“มีแต่ตำแหน่งพระชายา  แต่เผอิญว่าตำแหน่งนี้มีเจ้าหญิงพระคู่หมั้น รอการโปรดเกล้าอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดเรื่องยุ่งๆช่วงนี้คงอภิเษกกันไปแล้ว” ไคซัคตอบเยาะๆ  สะใจที่ได้เห็นใบหน้าซีดเผือดของหนุ่มต่างชาติ  ต่อให้แจ็คเป็นคนโปรดแค่ไหนก็ต้องพึงสังวรไว้ว่านายเขาไม่ใช่เครื่องมือที่จะเปลี่ยนสถานะจากกาเป็นหงส์ได้
แจ็คมองเหม่อไปยังหมู่ต้นปาล์มและดงกระถิ่นเบื้องหน้า  แม้จะรู้ว่าไนท์กับเขาเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้  แต่เพิ่งรู้ว่าไนท์มีคู่หมั้นแล้ว  อีกไม่นานไนท์ก็จะกลายเป็นกษัตริย์และมีพระชายาเคียงข้าง  ทำไมเขาไม่ช่วยให้คนที่เขารักสมหวังเร็วๆเล่า.......         
“นกน้อยถูกพรากจากเมืองไกล”แจ็คพูดขึ้นมาลอยๆแต่ไคซัคหันขวับมาทันที         
“นายพูดว่าอะไรนะ!”         
“ประโยคเต็มคือนกน้อยถูกพรากจากเมืองไกล”  แจ็คยิ้มทั้งที่ในกายว่างเปล่า...เขาตอกตะปูฝาโลงให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว           
“...นายอ่านรหัสนี้ได้ยังไงแจ็ค!” ไคซัคเค้นเสียงจนแทบเป็นตะคอก  กระชากคอเสื้อจนร่างเพรียวกว่าแทบปลิวตามแรง         
 “ผมจะแปลรหัสทั้งหมดให้...มาสิ”
แจ็คยังคงยิ้มแต่ใบหน้าขาวซีด  ดวงตาแน่วแน่สบกับดวงตาดุเรืองของไคซัคอย่างไม่หวั่น ชายหนุ่มปัดมือไคซัคออกจากคอเสื้อ  เดินนำลิ่วกลับไปยังฐานลับ  ฮาลีเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้แต่พอเห็นสีหน้าของคนทั้งสองก็ชะงัก         
“เกิดอะไรขึ้น?”         
“พระสหายจะแปลรหัสให้เรา”ไคซัคตอบเสียงหยันๆ แต่แจ็คทำหน้าเฉย         
“อะไรนะ?”
“นายหูไม่ฝาดหรอกฮาลี  ถอยออกมาให้พระสหายหน่อยสิ” ไคซัคยังพูดเยาะเหมือนเคย  แต่สายตาที่มองแจ็คเต็มไปด้วยความระมัดระวังและเหี้ยมเกรียม  หากแจ็คเป็นคนของชีคฟาฮัส เขาจะฆ่าหมอนี่ก่อนที่มันจะมีโอกาสทรยศ         
แจ็คอ่านข้อความที่แปลไว้กระท่อนกระแท่นก่อนจะค่อยๆเติมประโยคที่ขาดหายช้าๆ  แม้เนื้อความบางส่วนจะถูกเปลี่ยนไป  แต่นี่คือเพลงพื้นบ้านที่เคยได้ยินตอนเด็กๆ แม้จะไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรกัน  แต่ข้อความเหล่านี้ต้องสำคัญมาก  วิธีการอ่านเหมือนกับเกมที่พ่อเคยเล่นกับเขาสมัยเป็นเด็ก  โดยพ่อจะซ่อนของไว้และเขียนแทนด้วยรหัสมอส  เป็นข้อความปริศนาให้เขาหา
“เสร็จแล้วครับ”
‘นกน้อยถูกพราก  จากเมืองไกล 
สู่แดนเมฆหมอกไอ  เดือดพล่าน
ยามตะวันไร้เงา  จึ่งเปิดอดีตกาล
นกน้อยบินข้ามผ่าน  เงามาร ในราตรี’
ฮาลีเงยขึ้นมองแจ็คอย่างประหลาดใจ  พวกเขาแกะรหัสปริศนานี้มาเป็นเดือน แต่คนเฉลยกลับเป็นหนุ่มต่างชาติ  นั่นหมายความว่าแจ็คต้องอ่านรหัสนี้ออก... หรือไม่....แจ็คก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนที่ซ่อนตราประทับ!         
“คุณอ่านรหัสมอสได้ด้วยเหรอแจ็ค?”
“พ่อผมเป็นเจ้าของจดหมายฉบับนี้” แจ็คยิ้มหมอง  รหัสล่างสุดไม่ใช่ปริศนาแต่เป็นสัญลักษณ์ชื่อบิดา
“อะไรนะ!” ฮาลีและไคซัคอุทานออกมาพร้อมกันอย่างคาดไม่ถึง  ใครจะคิดว่าจะจุดไต้ตำตอเอาเช่นนี้ แจ็คคือลูกของคนที่พวกเขาตามหาแทบพลิกแผ่นดิน  ครอบครัวที่หายสาบสูญไปเป็นสิบปี
“งั้นคุณก็คือเจอร์ราด  เลอซัวร์!”         
“...เจอร์ราด  เลอซัวร์งั้นรึ...นั่นสินะ  ผมเคยใช้ชื่อนี้อยู่จนเกือบ10ขวบ  แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นเป็นแจ็ค มิเคน่ หลังจากที่คนกลุ่มหนึ่งเอาของมาฝากให้พ่อเก็บไว้ในที่ๆปลอดภัย แล้วพ่อก็หายไป3วัน หัวหน้าหมู่บ้านไปเจอพ่อเป็นศพอยู่หลังเกาะ   ผมไม่รู้ว่าพ่อทำอะไร  แต่สิ่งที่พ่อพยายามปกป้อง มันเป็นสาเหตุให้พ่อถูกฆ่า”
‘ส่วนเราก็ถูกตามล่าจนต้องสวมรอยเป็นคนอื่น  หนีหัวซุกหัวซุนมาชั่วชีวิต’ แจ็คได้แต่เก็บประโยคหลังไว้ในอย่างขมขื่น  แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รู้สาเหตุที่บิดาถูกฆ่าเสียที
“งั้นคุณก็รู้นะสิว่าพ่อคุณซ่อนของสิ่งนั้นไว้ที่ไหน?”ฮาลีถามอย่างตื่นเต้นและเปี่ยมด้วยความหวัง         
“ตอนนั้นผมแค่10ขวบ  คุณคิดว่าพ่อจะบอกอะไรกับเด็ก10ขวบมากนักเหรอ  อีกอย่างพ่อคงไม่อยากให้ใครรู้ว่าพ่อซ่อนของสำคัญไว้ที่ไหน  นอกจากคนที่มีรหัสนี่เท่านั้น”
“พ่อคุณซ่อนได้เก่งมาก  เราแปลกันแทบตายยังไขรหัสของพ่อคุณไม่ได้เลย”
“คนที่ได้รับสารน่าจะทราบ...นี่เป็นรหัสที่ใช้กันเฉพาะคนที่คุ้นเคย” แจ็ค ถามด้วยความสงสัย
“คนที่ได้รับสารนี้มาถูกฆ่า  แผนที่ถูกชิงไปแต่เราเพิ่งได้รหัสมาเมื่อไม่นานมานี้” ไคซัคกลับเป็นคนตอบคำถามนี้เสียเอง
เมื่อแจ็คคือลูกของคนที่บิดาไว้ใจที่สุด ก็เท่ากับเขาได้รับการไว้ใจในระดับหนึ่ง  แต่ไคซัคก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว  บทเรียนจากที่ผ่านมาก็เคยมี  ลูกของคนซื่อสัตย์ก็ใช่จะต้องซื่อสัตย์เหมือนพ่อ
“รหัสนี้คล้ายๆเพลงพื้นบ้าน  พูดถึงลายแทงขุมทรัพย์ในนิทาน  แต่มีบางข้อความแตกต่างไปจากเพลงต้นฉบับ  พ่อคงเปลี่ยนเพื่อบอกรายละเอียดของที่ซ่อน...จะให้ผมช่วยหาไหม?”  ถามเสร็จแล้วแจ็คก็กลั้นใจรอคำตอบ  ถึงจะพยายามตัดใจแล้วสัญชาติญาณของมนุษย์ก็อดเห็นแก่ตัวไม่ได้  อย่างน้อยเขาก็อยากยืดเวลาที่ไนท์จะต้องแต่งงานกับคนอื่นออกไปอีกนิด
ฮาลียิ้มร่าแล้วก็ต้องหุบฉับเมื่อไคซัคปฏิเสธทันควัน
“ไม่ต้องหรอก  แค่นี้คุณก็ช่วยเรามากแล้วที่เหลือเราจัดการกันเองได้”
ให้อย่างไรไคซัคก็ยังไม่ไว้ใจแจ็ค  อีกอย่างเขาไม่ต้องการให้แจ็ครู้รายละเอียดไปมากกว่านี้
แจ็คเพียงแต่ไหวไหล่ไม่ยี่หระ  ขณะที่ฮาลีมองหน้าชายหนุ่มอย่างเกรงใจ
“ให้คุณแจ็คช่วยน่าจะเร็วกว่าเรามานั่งตีความกันอยู่  คุณแจ็คพอจะทราบใช่ไหมครับว่าหมายถึงที่ไหน?”
ไคซัคเม้มปากอย่างไม่พอใจ  ขณะที่แจ็คเดินไปหยุดยืนมองแผนที่ที่กางอยู่บนโต๊ะ
“น่าจะเป็นหมู่เกาะแถวนี้” แจ็คเอ่ยขึ้นหลังจากอ่านแผนที่อยู่ครู่หนึ่ง
“ที่ไหนครับ!...หมู่เกาะทั้งหมดนี้น่ะเหรอ?” ฮาลีผละจากหน้าจอคอมฯมาทันที         
“ครับ...แถบนี้ยังมีภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ทำให้ถ้ำใต้น้ำหลายแห่งปกคลุมด้วยไอน้ำ”  ใบ้ให้ขนาดนี้แล้ว  ถือว่าเขาไม่ได้ทำผิดต่อไนท์แล้วนะ  แต่ถ้าพวกนี้หาเจอช้าเองก็ช่วยไม่ได้...แต่เมื่อนึกถึงเทคโนโลยีและเครื่องไม้เครื่องมือที่คนของไนท์มี  ชายหนุ่มก็หน้าหมองลงไปอีก         
“คุณแน่ใจนะแจ็ค?”         
“เมฆหมอกไอเดือดพล่านน่าจะเป็นแหล่งภูเขาไฟ  อีกอย่างพวกเราเป็นลูกทะเล  ไม่มีที่ใดในโลกที่เรารักและไว้ใจเท่ากับทะเลหรอกครับ”         
“แม้แต่ยามทะเลคลั่งงั้นสิ” ไคซัคอดไม่ได้อีกตามเคย  แจ็คหันไปยิ้มเยือกเย็น         
“จะแปลกอะไรครับ เราถือว่ามนุษย์กำเนิดจากน้ำ  หากต้องกลับไปในสายน้ำก็ไม่เห็นแปลก”         
“อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลยไคซัค  ส่งคนไปสำรวจแถวนั้นก่อนดีกว่า”                 
“แน่ใจเหรอท่านที่ปรึกษาฮาลี?” ไคซัคถามพร้อมกับปรายตาไปยังแจ็ค  ฮาลียิ้มเย็นแต่คำตอบของเขาทำให้ไคซัคหน้าเปลี่ยนสี
“ฉันเชื่อในสายพระเนตรของฝ่าบาท...หรือว่านายไม่เชื่อ?”
ไคซัคอึ้งไปด้วยความโกรธก่อนจะผลุนผลันออกไปเรียกลูกน้องประชุม  ฮาลีเหลือบมองหนุ่มต่างชาติอย่างเห็นใจ
“ขอบคุณมากนะครับคุณแจ็คที่ช่วยเรา”
“ยังไม่รู้เลยครับว่าสมมุติฐานที่ผมตั้งไว้จะถูกหรือเปล่า...ถ้าไม่ถูกคงต้องเสียเวลาเปล่า”
“ไม่ว่าจะถูกหรือไม่ พวกเราก็ต้องขอบคุณที่คุณช่วยให้เราได้ข้อมูลที่สำคัญมา”         
“ผมดีใจหากสิ่งที่ผมทำจะเป็นประโยชน์กับ...พวกคุณบ้าง” แจ็คตอบเสียงเรียบแต่ฮาลีเห็นแววขมขื่นในดวงตาของชายหนุ่มได้ชัดเจน         
“เป็นประโยชน์มากครับ  ผมคิดว่าฝ่าบาทก็คงดีพระทัย หากทราบว่าพ่อของคุณแจ็คคือคนที่รักษาของสำคัญไว้ให้”  ถึงอย่างไรฮาลีก็ไม่อยากบอกรายละเอียดให้แจ็ครู้  ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ  แต่เขาชักแน่ใจว่าที่ฝ่าบาทรามิลไม่บอกให้แจ็ครู้ ก็เพื่อป้องกันแจ็คจากอันตราย  เพราะยิ่งแจ็ครู้เรื่องมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเสี่ยงมากเท่านั้น
“อย่าบอกเรื่องนี้กับไนท์...เอ่อ...ฝ่าบาทได้ไหมครับ”         
“อ้าว!ทำไมละครับ”         
“ผมมีเหตุผลของผม...นะครับผมขอร้อง”         
“ผมน่ะรับปากคุณได้  แต่ไคซัคนี่สิจะว่าไงก็ไม่รู้”         
“บอกเขาสิครับว่าผมอยากทูลเป็นการส่วนตัว....ผมอยากเห็นเวลาท่านตื่นเต้นดีใจคงน่ารักดี” แจ็คจงใจพูดดังขึ้นเมื่อเห็นไคซัคกลับเข้ามาหยิบแผนที่บนโต๊ะ         
“ตามสบาย  ผมก็ไม่คิดจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคุณอยู่แล้ว”         
“ขอบคุณครับ...อยากเจอฝ่าบาทเร็วๆจัง ต้องทรงปลื้มมากแน่ๆเลยที่รู้ว่าผมช่วยไขปริศนาได้สำเร็จ  แหม...จะทรงประทานอะไรให้หนอ?...”       
ไคซัคเหยียดยิ้มหยันแล้วออกไป รอยยิ้มยั่วของแจ็คจางหายเหมือนน้ำค้างโดนตะวัน  ฮาลีส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ  ไม่เข้าใจว่าทำไมแจ็คต้องทำตัวให้ดูติดลบในสายตาของไคซัคด้วย  ไคซัคเป็นคนที่ท่านชีควางใจที่สุด เรียกว่าเพื่อนสนิทก็ว่าได้  แต่แจ็คกลับจงใจทำให้ไคซัคเกลียดขี้หน้ามากขึ้นทุกที         
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ”       
“ครับ...คุณแจ็คครับ...อยากกลับไปที่วังไหมครับ?”         
“ถ้าได้ก็ดีครับ”         
“งั้นเตรียมตัวเลยครับ  ผมจะโทรบอกนักบินให้เตรียมพร้อมไว้ อีก2ชั่วโมงเราจะเดินทางกัน”         
“ที่นี่มีสนามบินด้วยเหรอครับ?”         
“เป็นเครื่องขนาดเล็กครับ...ของส่วนพระองค์  แต่ทรงประทานมาให้ใช้ในงานครั้งนี้  ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมก็ต้องไปเข้าเฝ้าอยู่แล้ว”  ฮาลีรีบดักคอเมื่อเห็นแจ็คทำหน้าลำบากใจ     
“งั้นผมขอติดไปด้วยคนแล้วกัน”         
“ครับ”
                
  ............ 

ชีคซารีฟกับชีครามิลไปประชุมด่วนที่มุมไบ  และจะเสด็จกลับ เช้าพรุ่งนี้  ฮาลีกับแจ็คจึงแยกกันไปพักผ่อน  สีหน้าหมองๆของแจ็คทำให้ฮาลี ไม่อยากรบกวน 
แม้เช้าวันรุ่งขึ้นแจ็คจะมีรอยยิ้มให้  แต่ก็ดูเฝื่อนจนฮาลีต้องปล่อยให้แจ็คนั่งคิดอะไรเงียบๆโดยไม่ชวนพูดคุยให้รำคาญ  ถึงจะนึกสงสัยว่าแจ็ค หอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาด้วยทำไม  แต่ก็ไม่ได้ถาม
“หาอะไรทานกันก่อนนะครับ  กว่าเครื่องจะลงก็อีกหลายชั่วโมง” ฮาลีก้มดูนาฬิกาซ้ำเพื่อความแน่ใจ  ความจริงเขาควรไปตรวจการเตรียมรับเสด็จ แต่เขาห่วงความรู้สึกแจ็คมากกว่าจึงตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อน
“ผมขอตัวนะครับ  จะกลับฮาวายเลย”
“อ้าว!...คุณแจ็คจะไม่รอฝ่าบาทก่อน?”
“วันลาผมใกล้หมดแล้ว  ขอตัวกลับเลยแล้วกันครับ”
“แต่ฝ่าบาท...”
“แล้วผมจะโทรบอกท่านเอง  บายครับ”
ฮาลีมองตามหลังชายหนุ่มไปอย่างเป็นห่วง  เขาเคยคิดว่าแจ็คต่างจากพวกเขา  ต่างจากคนที่แวดล้อม  ทำให้ฝ่าบาทชื่นชอบในความเรียบง่ายและจริงใจ  แต่วันนี้เขากลับได้เห็นบางอย่างที่เหมือนกันของฝ่าบาทและแจ็ค  รอยยิ้มเยือกเย็นทรนงนั้นช่างเหมือนกันราวกับพิมพ์
แจ็คมองผ่านหน้าต่างเครื่องบินออกไปข้างนอก  เมฆลอยอยู่ใกล้เหมือนจะเอื้อมถึงเสียดายที่มีกระจกกั้นไว้...แต่นั่นแหละ ต่อให้ไม่มีอะไรกั้นก็ใช่จะคว้ามาเป็นเจ้าของได้...ของสูงที่ไม่อาจครอบครอง เหมือนเขากับไนท์...ที่นับวันก็ยิ่งห่าง ไกลจนเหมือนจะเอื้อมไม่ถึงอีกต่อไป......ความเจ็บปวดและอ่อนล้าทำให้แจ็คเปลี่ยนใจอีกครั้ง  แทนที่จะกลับไปทำงาน  เขาเปลี่ยนใจไปมาร์ตินีก  อย่างน้อยที่นั่นก็ยังมีเสียงหัวเราะของหลานๆ คงช่วยให้คลายเศร้าได้บ้าง ............   

สีหน้าของชีครามิลเรียบเป็นกระดาษเมื่อรู้ว่าแจ็คกลับไปแล้ว  แต่ทันทีที่กลับถึงห้องบรรทมกลับกระชากอะกาลเหวี่ยง ไปบนเตียงด้วยความฉุนเฉียว  ฮาลีตามเข้ามาเปิดหน้าต่างออกกว้างเพื่อรับกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้จากในสวน
“ทำไมแจ็คไปโดยไม่บอก...เสียมารยาทจริง...เสด็จอาจะทรงคิดยังไงจู่ๆก็แยกตัวไป?” ไนท์ทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทรงพระอักษรอย่างหงุดหงิด  เขารีบเคลียร์งานแทบตาย  หวังว่าเมื่อแจ็คกลับมาจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง  แต่จู่ๆแจ็คก็กลับไปเฉยๆโดยไม่บอกเขาสักคำ                 
“กระหม่อมรู้สึกเหมือนคุณแจ็คไม่ค่อยสบายใจ  ดูเหมือนจะครุ่นคิดอะไร อยู่ตลอดเวลา”
“แล้วเขาบอกไหมว่าจะไปไหน?”
“เห็นบอกว่าจะกลับไปทำงานกระหม่อม”
ไนท์ลุกไปยืนระเบียง  ไอเย็นฉ่ำของน้ำพุกลางลานช่วยให้ความขุ่นมัวบรรเทาลง         
“...เราจะไปธุระที่ฮาวาย2-3วัน...จัดการเรื่องที่พักให้ด้วย”
“กระหม่อม” ฮาลียิ้มกว้างอย่างโล่งอก  ดีใจที่ท่านชีคยอมอ่อนข้อให้  แจ็คและครอบครัวทำอะไรเพื่อองค์รัชทายาทมากมายถึงท่านจะยังไม่รู้ แต่แจ็คก็ควรได้มีความสุขบ้างมิใช่หรือ         
แต่เรื่องกลับไม่ราบรื่นอย่างที่ฮาลีคิดเมื่อเขาติดต่อไปที่เกาะของตระกูลแฮมิลตันแล้วพบว่าแจ็คยังไม่ได้ไปทำงาน
“คุณมิเคเน่ยังอยู่ช่วงลานี่คะ  เขาไม่ได้มาทำงานหรอกค่ะ”
“ยังไงกันแน่ครับ”
“เดี๋ยวดิฉันจะเช็คไปที่ฮาวายให้อีกทีนะคะ...”  เสียงปลายสายหายเงียบไปสักครู่ก็ตอบรับกลับมา
“คุณมิเคเน่ยังไม่มาทำงานจริงๆค่ะ”
“รู้ไหมครับว่าเขาไปไหน?”
“อาจจะไปหาพี่สาวที่มาร์ตินีกมั้งคะ  เขาชอบไปบ่อยๆ”
“ขอบคุณมากครับ”
                                        ............

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 06-02-2010 21:41:13

ฮาลีชะงักไม่กล้าเข้าไปด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวน
“มีอะไรฮาลี?” ทั้งที่หันหลังให้ชีครามิลกลับทักได้ทันทีราวกับมีตาหลัง
“ลองไปเที่ยวมาร์ตินีกดูไหมฝ่าบาท?”
“ฮาลี!ทำไมเราต้องง้อเขาขนาดนั้น” ไนท์หันมาตวาดก้อง
ฮาลียืนนิ่งไม่มีทีท่าหวาดกลัว ด้วยรู้ดีว่าอาการแบบนี้คือหงุดหงิดมากกว่ากริ้ว จริงจัง
“เราไม่ได้ไปง้อใครฝ่าบาท...ก็แค่เสด็จประพาส...”
“อย่ามาเสนอเรื่องไร้สาระกับเรา” ไนท์เบือนหน้าหนีไปทางอื่น  ในใจยังขุ่นเคืองแต่ก็อยากรับฟังข้อเสนอของฮาลี
“แต่กระหม่อมอยากไปมาร์ตินีกสักครั้ง  หากฝ่าบาทอนุญาต”
“อยากทำอะไรก็เรื่องของเจ้า”
“รับด้วยเกล้า” ฮาลีอมยิ้ม  ลององค์รัชทายาทอ่อนให้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะสานรอยราวให้ทั้งคู่
……………………



♚..15..♚

คลื่นที่ม้วนเข้าหาฝั่งลูกเล็กเกินกว่าที่จะเล่นกระดานโต้คลื่น  แต่ทรายขาวละเอียดกับหมู่ต้นมะพร้าวร่มรื่นก็ทำให้ที่นี่ สวยงามไปอีกแบบ  ด้วยเป็นเพียงเกาะเล็กๆในหมู่เกาะมาร์ตินีกทำให้ยังรักษาความสงบและร่มรื่นไว้ได้
เด็กๆวิ่งไล่กวดกันอย่างสนุกสนานไปตามชายหาด  แจ็คแยกตัวออกมานั่งอยู่โคนต้นมะพร้าว ตามองหลานๆแต่ใจลอยไกลจนไม่รู้สึกตัวว่ามีใครมายืนอยู่ข้างๆ
‘ป่านนี้คุณคงได้ของที่คุณต้องการไปแล้วสินะ...ต่อไปคุณจะนึกถึงผมบ้างไหมไนท์’
“สวัสดีครับคุณแจ็ค”ฮาลีทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ  แจ็คสะดุ้งหันขวับมามองหน้า         
“คุณฮาลี!...มาได้ยังไงครับเนี่ย?”
“ผมได้ข่าวว่าที่นี่สวยก็เลยมาเที่ยว”
“แล้วนี่พักที่ไหนครับ?” แจ็คซักถามอย่างกระตือรือร้น  ฮาลียิ้มกว้างชี้ไปที่เป้ข้างหลัง
“เพิ่งลงจากเครื่องเดี๋ยวนี้เองครับ”
“งั้นเหมาะเลยครับ  ไปพักบ้านพี่สาวผมดีกว่า”
“ยินดีเป็นอย่างยิ่ง”
บ้านสีฟ้าอ่อนกระจ่างตา ร่มรื่นด้วยอยู่ท่ามกลางดงมะพร้าว  และเจ้าของก็ขยันปลูกไม้ดอกไม้ใบไว้รอบบ้านจนเหมือนบ้านโผล่ขึ้นกลางกอดอกไม้  เด็กๆยังวิ่งเล่นอยู่ที่ชายหาดทำให้บ้านเงียบ
“มิเชล...มิเชล ผมมีแขกมาเยือนบ้านเรา”
“ว่าไงพ่อตัวแสบโวยวายอะไรแต่เช้า...เอ๊ะ!...อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
มิเชลทำตาโตเมื่อเห็นว่าน้องชายไม่อยู่ตามลำพัง แต่ก็ต้อนรับแขกได้ทันควันด้วยความที่มีอัธยาศัยดี
“อรุณสวัสดิ์ครับ ผมฮาลีครับ”
“มิเชลค่ะเป็นพี่สาวแจ็ค...มีเพื่อนมาก็ไม่บอกให้พี่ขายหน้าอยู่ได้”
“อ้าว!ก็ผม...” แจ็คหน้าเหรอหรา ไม่คิดว่ามิเชลจะโทษเขาดื้อๆ แต่มิเชลไม่สนใจหันไปยิ้มแย้มต้อนรับฮาลี
“ทานมื้อเช้ากับเรานะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ”
เสียงเด็กๆวิ่งไล่กวดกันเกรียวกราวเข้ามาในบ้าน  หลังการแนะนำตัวที่ดูชุลมุนวุ่นวาย ทุกคนก็ถูกต้อนให้เข้าประจำที่ในโต๊ะอาหาร  เด็กๆสนใจฮาลีมาก โดยเฉพาะเด็กผู้ชายที่พากันตาโตเมื่อรู้ว่าฮาลีเป็นทหาร  ทันทีที่ทานอาหารเสร็จเด็กๆก็ห้อมล้อมฮาลีอยู่ในห้องนั่งเล่น  เพื่อฟังเขาเล่าเรื่องเกี่ยวกับทะเลทราย  ซึ่งฟังดูตื่นเต้นโลดโผนจนพวกเด็กๆนั่งฟังอ้าปากค้าง
กว่าที่มิเชลจะต้อนเด็กๆออกไปบ้านคุณย่าได้ก็เล่นเอาเหนื่อย  กระนั้นทุกคนก็ยังคาดคั้นให้ฮาลีสัญญาว่าจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับทะเลทรายอีกครั้งตอนค่ำ
แจ็คพาฮาลีเที่ยวรอบๆเกาะ  สีหน้าของแจ็คดูสดชื่นขึ้นเล็กน้อย
“ดูคุณฮาลีรักเด็กนะครับ?”
“ผมมีลูก 3คนแล้วนี่...คนเล็กผมเกือบ10ขวบแล้ว”
“โห!คุณดูยังหนุ่มอยู่เลย”
“คนประเทศผมส่วนใหญ่แต่งงานเร็วครับ”
“มิน่าล่ะถึงดูคุณเข้ากับเด็กๆได้ดี  ไม่ทันไรเจ้าพวกทโมนติดคุณกันใหญ่”         
“ก็ผมเลี้ยงลูกเองนี่ครับ  แต่หลานๆคุณนี่ยังถือว่าเรียบร้อยนะ  ลูกผมแต่ละคนสร้างวีรกรรมได้เจ็บแสบกว่านี้หลายเท่า  ผมว่าภรรยาผมเธอคงดวงดีที่ไม่ต้องอยู่เผชิญกับเจ้าตัวแสบพวกนี้”         
“ภรรยาคุณ?...”       
“เสียไปตั้งแต่เจ้าคนเล็กได้ 3 เดือน  เธอสุขภาพไม่ค่อยดีตั้งแต่หลังคลอด พอมาเจอโรคแทรกซ้อนก็เลยทรุดหนัก  แล้วก็จากไปเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว”       
“เสียใจด้วยนะครับ”         
“มันนานแล้วครับ  ไม่ใช่ว่าผมจะลืมเธอได้หรอกนะครับ  แต่เวลาก็ทำให้ผมคลายความเศร้าไปได้เยอะ...ตอนเธอเสียผมมัวแต่วุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงลูก ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาเศร้าเท่าไหร่  ขนาดพ่อตาแม่ยายผมยังค่อนขอดเอาบ่อยๆว่าผมไม่ค่อยรักเธอ”         
“แล้วคุณไม่คิดจะแต่งงานใหม่เหรอครับ?”         
“ไม่...มันยากนะครับ กว่าที่เราจะเจอใครสักคนที่เรารู้สึกว่า ‘คนนี้แหละที่เรารอมาตลอดชีวิต’ แล้วเมื่อเราสูญเสียเขาไป...มันก็ยากที่จะหาใครมาแทนได้”       
“ครับ...เมื่อสูญเสียไปแล้วชีวิตมันก็ว่างเปล่า...” แจ็คซุกมือลงในกระเป๋ากางเกง  เตะทรายเล่นเหม่อๆ  ใบหน้าหมองจนเห็นได้ชัด
“คุณสูญเสียไปแล้วเหรอแจ็ค  แน่ใจเหรอ?”ฮาลีหันไปจ้องหน้าแจ็คเขม็ง  แจ็คไม่ตอบคำถาม  แต่ยิ้มหม่นแล้วแหงนขึ้นมองท้องฟ้า  ก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆ         
“......คุณฮาลีเห็นเมฆไหมนั่นไหมครับ  ตอนเป็นเด็กผมเคยจินตนาการว่าเมฆคงเหมือนขนมน้ำตาลสายไหม  นุ่มและหอมหวาน  ผมอยากจะบินได้เหมือนนกเพื่อที่จะได้ขึ้นไปบนนั้นแล้วก็หยิบเมฆกลับมาบ้านเยอะๆ…แต่เมื่อโตขึ้น ผมก็ได้รู้ว่า  เมฆที่ห็นนั่นเป็นละอองน้ำ  สวยงาม...สูงส่ง...แต่จับต้องไม่ได้  จะสัมผัสได้ก็เมื่อเมฆยอมกลั่นเป็นฝนแล้วตกจากฟ้าลงมาเท่านั้น”         
“แต่มนุษย์ไม่ใช่เมฆ  เรามีเลือดเนื้อ  จับต้องสัมผัสได้...จริงไหม?” ฮาลีถามยิ้มๆ       
“แต่มนุษย์มีกรอบและขีดคั่นของสังคมนะครับ...ขนบธรรมเนียม หรือภาระหน้าที่  ก็ทำให้มนุษย์อยู่ในสถานภาพที่แตกต่างกัน”         
“ความรักทำให้ความแตกต่างเหล่านั้นน้อยลงได้  หรืออาจไม่มีเลยก็ได้”         
“สำหรับบางคนเท่านั้นแหละครับ...ไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีอย่างนั้น”         
“แปลว่าคุณถอดใจยอมแพ้แล้วงั้นเหรอแจ็ค”         
“เปล่าครับ...ผมเพิ่งส่องกระจกต่างหาก  ผมเพิ่งสำนึก...ว่าผมเป็นใคร....”         
“ผมผิดหวังในตัวคุณมากเลยแจ็ค  ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณ ผมคิดว่าคุณกล้ามากที่ไปรักฝ่าบาททั้งๆที่มีแต่อุปสรรค  ผมดีใจที่ฝ่าบาทมีคนที่แข็งแกร่งเคียงข้าง.....แต่ไม่ใช่...พอเจอปัญหาเข้าหน่อยคุณก็หนี แล้วฝ่าบาทล่ะ?...ฝ่าบาทจะทำยังไง คุณจะปล่อยให้ทรงเผชิญทุกอย่างเพียงลำพังอย่างนั้นเหรอ?” ฮาลีเยาะเสียงกร้าว  แจ็คหันขวับราวกับงูถูกตีขนดหาง  ดวงตาคมวาววับด้วยความโกรธและคับแค้น         
“คุณคิดว่าผมไม่อยากกลับไปอยู่ข้างๆเขาหรือไง?...ผมรักไนท์...รัก...ตั้งแต่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร แต่ต่อให้ผมรักเขาแค่ไหนผมก็เป็นผู้ชาย...วัฒนธรรมของประเทศคุณไม่ยอมรับเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ?........แล้วไนท์ไม่ได้เป็นแค่ มิสเตอร์ไนท์  จิงเจอร์.....แต่เขาคือกษัตริย์องค์ต่อไปของประเทศคุณนะ........”
น้ำเสียงเข้มข้นขาดหาย  แจ็คสูดลมหายใจลึก  ตัวสั่นนิดๆด้วยความทรมานในอก  ก่อนจะพูดต่อเสียงละห้อย
“...ผมจะเป็นยังไงก็ชั่งเถอะ แต่ผมทนเห็นเขามัวหมองไม่ได้...หรือคุณทนได้...หากจะมีข่าวแพร่ออกไปว่ารัชทายาทมีคนรักเป็นผู้ชาย”
แจ็คพรั่งพรูทุกอย่างออกมาจนหมดแล้วหลับตานิ่งอย่างทรมาน  ใบหน้าคร้ามขาวซีดเหมือนกระดาษ บรรยากาศรอบตัวเงียบกริบราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากแจ็คกับฮาลี           
“แต่ฝ่าบาทต้องมีคุณ” ฮาลีจ้องหน้าแจ็คนิ่ง         
“หมายความว่ายังไง?...”         
“แล้วคุณคิดว่าผมหมายความว่าไงละ?”         
“....ไนท์...รักผมงั้นเหรอ?....เป็นไปไม่ได้หรอก คุณเข้าใจผิดมากกว่า”         
“ผมก็ไม่ทราบ....แต่ฝ่าบาทไม่เคยมีสัมพันธ์กับผู้ชาย  และยิ่งไม่เคยเห็นว่าทรงวางใจใครเหมือนกับคุณ  คุณรู้ไหมเวลาที่ผู้หญิงเข้าไปถวายงาน ไคซัคต้องอยู่ในห้องด้วยตลอดเวลา  และฝ่าบาทไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนนอนค้างด้วยทั้งนั้น”         
“อยู่ด้วยระหว่างที่...เอ่อ..”         
“ใช่  สำหรับคุณอาจฟังดูประหลาดหรือน่าตกใจ  แต่สำหรับรัชทายาทมันไม่ใช่เรื่องแปลก  เพราะนี่เป็นเรื่องของการรักษาความปลอดภัย”       
“ผมไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย......”         
“ผมถึงได้บอกอย่างไรล่ะว่าฝ่าบาทไว้ใจคุณมาก  ขนาดองค์ซารีฟยังอยากเห็นคุณจนถึงกับมีรับสั่งให้ฝ่าบาทพาคุณมา”
แจ็คนิ่งอึ้งอยู่นาน  ข้อมูลใหม่ที่เพิ่งรู้ทำให้เขาพูดไม่ออก ไม่แน่ใจว่าเกิดจากความดีใจหรือตกใจกันแน่  แต่ที่แน่ๆคือรู้สึกผิดที่เอาแต่ทิฐิเจ้าอารมณ์  คงเพราะเขาอัตตาสูงถึงทนไม่ได้ที่ถูกคนของไนท์เหยียบย่ำ  และรู้สึกว่าไนท์ก็คอยซ้ำเติมให้ต่ำต้อยกว่าอยู่ตลอดเวลา  ที่สำคัญ...เขาไม่เคยแน่ใจว่าไนท์คิดกับเขายังไง
“....ผมนี่โง่จริงๆ...คิดอะไรๆไปเองเสียใหญ่โต  ผมอยากไปหาไนท์  ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนครับ?”
“ยังอยู่ที่วังขาวครับ”
“พรุ่งนี้หลังงานวันเกิด ผมจะรีบเดินทางทันที”
“พรุ่งนี้วันเกิดใครครับ?”
“วันเกิดของผมกับหลานชายคนเล็กครับ  หมอนี่เกิดวันเดือนเดียวกับผมเลย  แต่ห่างกัน2รอบครับ”
“แล้วนี่ครบกี่ขวบครับ”
“ 2 ขวบครับ  คนที่ต้องขี่อยู่บนคอพี่ตลอดเวลานั่นแหละ”
“อย่างนี้ต้องหาของขวัญให้สักหน่อย”
“ไม่ต้องหรอกครับ  เราจัดงานเล็กๆให้เขารู้สึกว่าวันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับเขาอีกวันเท่านั้น”
“แล้วคุณละแจ็ค....อยากได้ของขวัญอะไร?”
“บอกไม่ได้ครับ  เดี๋ยวไม่สำเร็จ…..ปรกติทุกปีผมจะไปที่หลุมศพพ่อกับแม่....ไปคุยกับพวกท่าน  บอกท่านว่าผมโตขึ้นอีกปีแล้ว  บางครั้งก็เล่าเรื่องดีๆที่ผมได้พบมาให้ท่านฟัง…”
“ปีนี้ละครับ?”
“คิดว่าจะแวะไปหาท่านพรุ่งนี้เช้าครับ  ขอพรให้ท่านช่วยให้สิ่งที่ผมขอสมหวัง”
“ผมก็ขออวยพรให้คุณสมหวังเช่นกันครับ”
“ขอบคุณครับ...เดี๋ยวแวะซื้อของแต่งหน้าเค้กกับเทียนหน่อยนะครับ”
“ได้ครับ”
         ............

แจ็คเข็นเรือขึ้นไปที่ๆเคยจอดประจำก่อนจะหอบดอกไม้ป่าช่อโต ปีนขึ้นไปยังลานหินกว้างบนหน้าผาเตี้ยๆ ชายหนุ่มชะงัก เมื่อพบว่ามีลิลลี่สีขาว ช่อใหญ่วางอยู่หน้าหลุมศพก่อนแล้ว 
แจ็คมองไปรอบๆแต่ไม่เห็นใคร  นึกขึ้นมาได้ว่าอาจเป็นฮาลี  เพราะเมื่อเช้าฮาลีออกจากบ้านไปตั้งแต่ยังไม่สว่าง           
“พ่อครับ แม่ครับ...สบายดีใช่ไหมครับ ปีนี้ผมอายุ26แล้วนะครับ เป็นปีที่มีอะไรเข้ามาในชีวิตผมมากมาย  มาก...เสียจน ผมตั้งตัวไม่ทัน....คืนนี้ผมคงไม่ได้มานอนดูดาวกับพ่อแม่นะครับ เพราะผมกำลังจะไปหาคนรัก ผมจะไปขอโทษเขา ที่ผมใจร้อน วู่วาม  แล้วก็หนีหน้าเขามาดื้อๆ  พ่อกับแม่ช่วยดลใจให้เขาใจอ่อนยอม ยกโทษให้ผมด้วยนะครับ”แจ็คก้มลงจูบป้ายบนหลุมศพ เบาๆ
แต่เมื่อหันกลับมาก็ต้องยืนตะลึงตัวชา ร่างเพรียวในชุดสีขาวยืนมองเขาอยู่นานแค่ไหนแล้วไม่รู้  แจ็คก้าวยาวๆไม่กี่ที ก็คว้าร่างบางเข้ามากอดไว้แน่น
“ไนท์!  ผมฝันไปหรือเปล่า....คุณ...คุณมาที่นี่ได้ยังไง?”
“มาตามคำอธิฐานของเธอละมั้ง”
“แล้วผมจะสมหวังเหมือนที่อธิฐานหรือเปล่า?”
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอขออะไร?”
“ผมขอ...ให้คุณยกโทษให้  ที่ผมใจร้อนวู่วาม...แล้วก็มาโดยไม่บอกคุณ….คุณจะยกโทษให้ผมไหม?”         
“ถ้าฉันไม่ยกโทษให้ พ่อกับแม่เธอคงเสียใจ  ก็ได้...ฉันยกโทษให้  แต่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ”         
“ครับผม....คุณน่ารักที่สุดในโลกเลย”  แจ็คกระชับอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม         
“แจ็ค!  อือ......”
ปากร้อนผ่าวประกบจูบแน่นไม่ปล่อย  ไนท์พยายามขืนตัวไว้  แต่ด้วยความที่ห่างเหินกันมานาน  พอลิ้นร้อนๆกวาดไล้ไปทั่วแบบนี้ก็ร้อนวาบไปทั้งตัว  ไนท์โอบรัดรอบลำคอแจ็คแน่น  เบียดร่างเสียดสีกับร่างหนาจนต่างร้อนวูบวาบไปทั้งตัว  แจ็คบีบเคล้นและดันสะโพกตึงให้แนบกระชับยิ่งขึ้นจนไนท์ต้องเป็นฝ่ายผละออกห่างเมื่อรู้สึกได้ว่าแจ็คกำลังจะควบคุมตัวเองไม่ได้         
“อย่า...แจ็ค....ต่อหน้าพ่อแม่เธอนะ” ไนท์ปรามดุๆ...แต่ดวงตาวาววับ         
“...ขอโทษครับ...พ่อครับแม่ครับ  นี่ไนท์ครับ  คนที่ผมรักมากที่สุดอีกคน นอกจากพ่อกับแม่....”
ถึงจะอยู่กันลำพังสองคนแต่ไนท์ก็อดเขินไม่ได้  แจ็คหันมายิ้มให้อย่างอ่อนโยน  ดวงตาเปี่ยมด้วยความรักหวานระยับ ทำให้ไนท์อยากทำอะไรสักอย่างเพื่อแจ็ค
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” ไนท์พูดแค่นั้นแล้วหลับตานิ่งส่งใจไปถึงผู้ให้กำเนิดทั้งสองของแจ็ค
‘....ผม...สัญญาว่าผมจะดูแลแจ็คให้ดีที่สุด  ให้สมกับที่เขาให้ความรักกับผม  พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ‘
แจ็คจ้องคนรักด้วยสายตาดื่มด่ำ  ไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นความจริง  หากนี่เป็นความฝัน  ก็ขอให้ฝันนี้ยืดยาวไปอย่างไม่มีวันจบ
“คุณมาที่นี่ได้ยังไงครับ  ผมไม่เห็นมีเรือเลย?”         
“ฮาลีมาส่งแล้วก็กลับไปแล้ว”         
“นี่ถ้าผมมาสายคุณก็ต้องรออยู่นี่อีกนานเลยสิครับ”         
“จะเป็นไรไป...ที่นี่สวยดีออก  ถึงเกาะจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรแต่ก็ร่มรื่นดี  เธอเข้าใจหาที่พักให้พ่อกับแม่นะ”         
“พ่อกับแม่รักที่นี่มากครับ  ตอนผมเด็กๆพ่อชอบพาผมมาที่นี่บ่อยๆ  มานั่งคุยกับแม่บ้าง  มาปิกนิกกันบ้าง  บางทีเราก็มากางเต็นท์ข้างหลุมศพแม่  นอนดูดาวด้วยกันเสียเลย” แจ็คอธิบายพลางจูงมือคนรักเลาะลงจากลานที่ฝังศพพ่อแม่ 
“เรียกว่าเป็นที่รวมความทรงจำที่ดีๆของเธอสินะ”         
“ครับ...ลงด้านนี้ครับ”  แจ็คดึงร่างเพรียวให้โดดลงไปด้วยกัน  หาดกว้างที่ปกคลุมด้วยไม้ใหญ่จนร่มครึ้มไปทั้งหาด  ไนท์เดินตามงงๆเมื่อแจ็คพาลัดเลาะไปอีกด้านแทนที่จะไปยังบริเวณที่จอดเรือ         
“ผมมีอะไรจะอวด”
แจ็คพาไนท์ก้มตัวลอดอุโมงค์สูงขนาดเมตรกว่าๆ  น้ำที่สูงประมาณหัวเข่ากับหินค่อนข้างลื่นทำให้ทุลักทุเลไปบ้าง  แต่มือแข็งที่ยึดไว้แน่นหนาก็ทำให้ไนท์รู้สึกดีจนชักไม่อยากให้อุโมงค์นี้สิ้นสุดลง 
แสงค่อยๆสว่างขึ้นเมื่อมาถึงอีกฟากของอุโมงค์  ไนท์หรี่ตาเมื่อเจอแสงสว่างจ้าสะท้อนจากน้ำเข้าตา  ไม่น่าเชื่อว่าเกาะเล็กๆที่มีแต่ลานหินกับหน้าผาสูงชัน  เมื่อเดินลอดอุโมงค์มากลับมาโผล่ที่เกาะใหญ่ที่อยู่ติดกัน  เกาะใหญ่ซึ่งมองภายนอกเหมือนภูเขาหิน  ตรงกลางเป็นปล่องกว้างใหญ่  แสงส่องลงมากระทบชายหาดเบื้องล่างจนเป็นสีขาวสว่างจ้า    โพรงกว้างที่เกิดจากการกัดกร่อนของน้ำฝนเชื่อมต่อกับถ้ำที่มีอยู่เดิมทำให้กลายเป็นห้องขนาดใหญ่  น้ำฝนที่ซึมลงมาจากปากปล่องรวมกับตาน้ำในถ้ำกลายเป็นธารน้ำกว้างใสแจ๋วไหลมารวมกันเป็นแอ่งใหญ่แล้วไหลออกไปทางอุโมงค์ที่แจ็คพาเข้ามา  ปลาตัวเล็กๆสีสดใสว่ายอยู่เป็นหมู่  ที่สำคัญคือ...น้ำในแอ่งเป็นน้ำจืด
“ที่นี่...สวยมาก” ไนท์อุทานอย่างทึ่งๆขณะเงยขึ้นมองไปรอบๆ  แสงที่ส่องกระทบหินงอกหินย้อยในถ้ำวิจิตรเกินกว่าจะนึกถึง
“แหล่งน้ำจืดของคนในแถบนี้ครับ...แถวนี้มีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย  บางเกาะก็ไม่มีแหล่งน้ำจืด  ได้อาศัยที่นี่ตอนหน้าแล้ง”
“สวยจริงๆ...นี่ถ้าเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวคงทำรายได้มหาศาล...แต่ความ บริสุทธิ์งดงามคงถูกทำลายย่อยยับ”
“เพราะอย่างนั้นที่นี่ถึงได้เป็นที่ลับสำหรับพวกเราไงครับ”
ไนท์ก้มลงถอดรองเท้าแต่แจ็คแย่งไปถือให้  ชีคหนุ่มอมยิ้ม...ชอบใจกับทรายละเอียดเหมือนแป้งนุ่มเท้า ปล่อยให้แจ็คจูงมือลุยผ่านแอ่งน้ำมายังลานกว้างในถ้ำ  พื้นถ้ำเป็นลานหินกว้างราบเรียบอย่างไม่น่าเชื่อ  จุดที่มีหินงอกขึ้นมาจึงเหมือนเสาที่โผล่ขึ้นกลางห้องโถง  เพดานสูงลิบลิ่วทำให้ลมพัดเย็นสบาย  และไม่มีกลิ่นอับ  ชีคหนุ่มหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนกำลังตั้งใจฟังอะไรสักอย่างก่อนจะหันมายกนิ้วให้สัญญาณให้แจ็คเงียบ
“ได้ยินใช่ไหม?...เหมือนเสียงเป่าเขาเลย...ไม่สิ...เสียงเครื่องดนตรีหรือเปล่า?”
“เปล่าหรอกครับ...เสียงลมต่างหาก”
“ไม่ใช่ๆ...ฟังสิ...นี่ไง” ไนท์ปราดเข้ามาป้องหูทั้งสองข้างของแจ็ค  ทำหน้าตื่นเต้นเหมือนลุ้นให้แจ็คได้ยินในเสียงเดียวกัน
“ใช่ไหม?”
“ครับ...เสียงดนตรี...สายลมกับถ้ำนี้ ช่วยกันบรรเลงไงครับ”
ไนท์หัวเราะเบาๆ  เปลี่ยนจากป้องหูแจ็คมาดึงจมูกโด่งๆนั้นแทน
“พ่อคนช่างฝัน...”
“คุณต่างหากที่ช่างฝัน...คงมีไม่กี่คนหรอกครับ  ที่ได้ยินบทเพลงของธรรมชาติอย่างคุณ”  แจ็ครวบมือที่บีบจมูกเขามาจูบเบาๆ  รอยยิ้มหวานกับตาพราวๆแบบนี้น้อยครั้งเหลือเกินที่จะได้เห็น  คุ้มแสนคุ้มที่พาไนท์ดั้นด้นมานี่
“ผอมไปนะ...ไม่สบายหรือเปล่า?” ไนท์ไล้มือข้างที่ว่างไปตามแก้มซูบเบาๆ  ถึงจะเป็นห่วงแต่สันดานเห็นแก่ตัวของมนุษย์ก็อดยินดีไม่ได้ที่รู้ว่าตัวเองมีอิทธิพลเหนือใจใครขนาดนี้
“ผมคิดถึงคุณ...คิดถึงมาก”  แจ็คตอบเบาๆ ขณะที่ปากก็เลื่อนจูบจากข้อมือขึ้นไปหาไหล่แล้วเลื่อนไปถึงซอกคอ 
ไนท์โอบไหล่กว้างเงยหน้าให้แจ็คซุกไซ้ได้ถนัด  เสียงดูดเนื้ออ่อนดังจุ๊บๆขณะที่ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดไปทั่วลำคอจนเสียวแปลบๆไปทั้งตัว  แจ็ควางมือที่เขากุมไว้บนไหล่เพื่อแทรกเข้าไปกอดไนท์แนบแน่นกว่าเดิม  ซุกไซ้ผ่านซอกคอขาวขึ้นมาหาใบหู ขบเม้มและดูดดึงเบาๆ  พอใจกับอาการเกร็งรับของกล้ามเนื้อหลังใต้ฝ่ามือ 
ชายหนุ่มเลื่อนมือทั้งสองลงไปโลมลูบสะโพกบางกดให้แนบกระชับกับตัวขณะแทรกลิ้นผ่านกำแพงไข่มุกเข้าไปหารสหวานซ่านภายใน  ลิ้นอุ่นนุ่มหดหนีอย่างยั่วเย้า  และแจ็คเองก็ไม่รีบ  เขาสำรวจทั่วโพรงปากนุ่มหอมก่อนจะวกกลับมาเกี่ยวพันลิ้นนุ่มๆเอาไว้  เพียงแค่ปลายลิ้นสัมผัสกันกระแสร้อนวาบก็กระจายไปทั้งตัว  เสียงลมหายใจหอบกระชั้นสลับกับเสียงจูบปลุกเร้าให้เลือดร้อนผ่าว  เพียงแค่จูบก็จุดไฟปรารถนาให้ลุกโพลงขึ้นมา  และต่างก็ไม่มีใครคิดจะห้ามใคร  ช่วงเวลาของการปลดเปลื้องเสื้อผ้าดูช่างยาวนานและแสนทรมาน  ร่างเปลือยเปล่าเสียดสีเข้าหากันอย่างเร่าร้อน  แจ็คประคองคนรักลงนอนลงบนกองเสื้อผ้า         
“ผมคิดถึงคุณ...คิดถึงแทบคลั่ง...การอยู่ห่างคุณมันทรมานเหลือเกิน...”
แจ็คผละจากปากนุ่มเลื่อนลงไปซุกไซ้ซอกคอขาวและหยุดฟอนเฟ้นที่ทรวงอกตึงนูน  ไนท์หยัดหลังขึ้น  มือเรียวสางไล้ในผมหนานุ่มเพื่อบรรเทาความเสียวซ่าน ฟันคมขบเม้มและดูดดึงยอดสีสดจนแข็งเป็นไต  ขณะที่มือร้อนลูบผ่านจากชายโครงลงไปหาหน้าท้องเนียนแน่น  จุดไวต่อสัมผัสตื่นรับมือเขาอย่างรวดเร็ว  แจ็คกอบกุมอย่างนุ่มนวล  อยากให้ความทรงจำวันนี้เป็นความทรงจำที่แสนหวานทั้งสำหรับเขาและไนท์
ปากร้อนแตะชิมทุกตารางนิ้วบนร่างนวลเนียนช้าๆ  อยากสัมผัสให้ถึงทุกอณูเนื้อ เสียงไนท์ครางเบาๆอย่างทรมาน  ร่างกายตื่นเพริดจนอยากไปให้ถึงจุดหมายเร็วๆ  แต่แจ็คกลับถ่วงเวลาให้ช้าลง           
ขายาวแยกกว้างเมื่อแจ็คเลื่อนกายลงสำรวจหน้าท้องเนียน  ลิ้นร้อนแตะชิมส่วนยอดเพียงเบาๆแล้วไล้ลิ้นลงต่ำ  เสียงไนท์ครางระโหย  สะโพกยกลอยขึ้นโดยไม่รู้ตัว  แจ็คประคองสะโพกตึงไว้  ปลายลิ้นร้อนลากผ่านด้านหน้าลงมาหาซอกหลืบสีชมพูเข้มด้านหลัง  เมื่อลิ้นร้อนลูบผ่านสะโพกเนียนก็เกร็งขึ้นทันที 
แจ็คขบฟันบนรอยหยักตึงเบาๆแล้วแหวกช่องทางแคบให้เปิดออก  เพื่อกดลิ้นเข้าไปภายใน  ไนท์ผวาทั้งตัวจนแทบถลันลุกขึ้นด้วยความเสียวซ่าน  รู้สึกถึงลิ้นซุกซนที่สอดลึกเข้ามาในกาย  ฟันคมขบชิมอยู่ภายนอกกับลมหายใจร้อนๆที่รินรดส่วนอ่อนไหวทำร่างบางบิดเกร็งอย่างทรมาน           
“แจ็ค...อา...แจ็ค...ไม่..ไม่ไหว...มาเถอะ...แจ็ค...อ๊า” ไนท์ครางระงม  สะโพกตึงขยับหนีแต่แจ็คยึดไว้แน่น  ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในทางแคบเข้าออกเป็นจังหวะถูกต้อนรับด้วยแรงบีบรัดมหาศาล  จนเสียววูบไปทั้งท้อง  ชายหนุ่มยอมละจากสะโพกตึงเลื่อนขึ้นมาครอบครองจุดอ่อนไหวไว้ในปาก  แรงบีบรัดเสียดสีเป็นจังหวะเร่งเร้าทำให้ไนท์หมดความอดทน  ร่างบางขยับสะโพกรับทุกการเคลื่อนไหวของปากและลิ้นร้อน  ฝ่ามือกร้านบีบเคล้นสะโพกตึงเพื่อเร่งให้ไนท์พุ่งขึ้นไปสู่จุดสูงสุดเร็วขึ้น           
“แจ็ค..แจ็ค....”ไนท์ครางเรียกกระเส่า สะโพกยกเกร็งค้างและอยู่ชั่วขณะ  หยาดรักร้อนฉีดซ่านออกมาแต่ถูกกลืนกินไว้จนหมด   ลิ้นร้อนตวัดไล้เลียความสะอาดให้         
แจ็คประคองร่างอ่อนระทวยขึ้นนั่งบนตักเหนี่ยวขาเรียวให้โอบรัดรอบเอวขณะที่สอดกายเข้าไปในทางแคบคับแน่นช้าๆ  ไนท์เหนี่ยวใบหน้าคร้ามเข้าหา  ปากนุ่มประกบแลกลิ้นดูดดื่ม  ขณะที่ทางแคบบีบรัดผู้รุกรานจนแทบขาดใจด้วยความเสียวซ่าน  ไม่ว่าจะถูกผลักดันขนาดไหนผู้รุกรานก็ยังรุกคืบเข้าไปทีละน้อย  ตราบจนฝังกายเข้าไปแนบสนิทจึงหยุด เพื่อชื่นชมกับแรงบีบรัดเร่าร้อนแสนหวานรอบกาย
ชายหนุ่มปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระ  แต่เลื่อนลงมาดูดดื่มยอดตึงเขม็งแทน  ไนท์หยัดทรวงอกเข้าหา  มือนุ่มประคองหน้าระคายด้วยไรหนวดไว้  ดวงตาคู่งามหรี่ปรือมองปากและลิ้นที่กำลังดูดดื่มยอดอกอย่างกระหายราวกับทารก  ทรวงอกเสียวซ่านแต่ในท้องกับตึงแน่นด้วยผู้รุกรานที่ฝังกายเงียบ  ไนท์เลียปากเบาๆขณะเกร็งสะโพกแล้วบีบรัดความคับแน่นภายใน           
“อา...ที่รัก...” แจ็คอุทานเบาๆด้วยไม่ทันตั้งตัว  แรงบีบรัดรุนแรงจนเขาต้องยกสะโพกตึงขึ้นสูงแล้วเหนี่ยวกลับเข้ามาหาช้าๆ เสียงไนท์ครางกระเส่าทุกครั้งที่สะโพกถูกยกขึ้นลงด้วยแรงเสียดสีทำให้กล้ามเนื้อในกายเต้นระริกจนต้องบีบรัดผู้รุกรานแรงขึ้นทุกขณะ  แจ็คเลิกถ่วงเวลา ชายหนุ่มเหนี่ยวเอวบางเข้าหาแรงขึ้น  ไนท์อาศัยโหนไหล่หนาช่วยประคองขณะยกตัวขึ้นและทิ้งกายลงครอบครองเนื้อร้อนจัดที่เหมือนจะเสียดลึกขึ้นมาทุกที 
แจ็คเป่าลมร้อนๆรินรดยอดตึงเขม็ง  ความเสียวซ่านทำให้ช่องทางแคบบีบรัดแรงขึ้นอัตโนมัติ  แจ็คหมดความอดทน  มือกร้านกอบกุมสะโพกตึงแน่นกระชากเข้าหาตัวถี่ยิบ   เสียงครางกระเส่าริมหูเร่งให้จังหวะเสียดทานถี่รัวขึ้นทุกที  เสียงเนื้อปะทะกันกระตุ้นให้อารมณ์ตื่นเพริด แรงเสียดสีเสียวกระสันพุ่งวาบจากหน้าท้องกระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว  เสียงครางประสานกันระรัว  ทั้งสองต่างเกร็งตัวและกอดรัดกันและกันแนบแน่น  ไอรักร้อนฉีดซ่านทั้งในทางแคบและบนหน้าท้องแจ็คก็เปียกชุ่ม  แจ็คไล้เลียปากนุ่มแล้วสอดลิ้นเข้าไปกอดเกี่ยวกับลิ้นนุ่มภายใน  กายเขายังสอดลึกเพื่อซึมซับกับความสุขและแรงบีบรัดที่ยังคงรัดแรงเป็นจังหวะ  ความอบอุ่นแสนหวานที่ทำให้แจ็ค ไม่อยากถอนกายออกมา 
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนโดยมีร่างเพรียวบางซบอยู่บนอก  กว่าไนท์จะหยุดหอบหายใจ  แจ็คก็เข็มแข็งร้อนฉ่าอีกครั้ง  ร่างบางถูกพลิกลงนอนบนเสื้อขณะที่ร่างหนาโหมกายเข้าหาอีกครั้ง  เสียงครางหวานระริกอยู่ริมหูทำให้แจ็คเร่งกายระรัว  ตราบจนความเสียวซ่านพุ่งขึ้นถึงขีดสุดจึงซวนซบกันหลับใหลด้วยความสุขอิ่มเอม
         ......ƒ......

 :jul1:

ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: lookfa ที่ 06-02-2010 22:10:02
 :impress2:

มาแล้วๆๆๆๆๆ เย้ๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณมากๆ เลย

สนุกมากค่ะ แล้วจะรออ่านตอนต่อไปนะ

มาเร็วๆ นะจ๊ะ

.........................
 :L3:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 06-02-2010 22:24:21
เข้าใจกันซะที ลุ้นเกือบตาย   :impress2:
ต้องขอบคุณฮาลีมากมากแล้วทั้งคู่
ภูมิหลังแจ๊คซับซ้อนดีเนอะ
กลุ่มแฮมิลตันถึงคอยช่วยปกปิด
รออ่านตอนต่อไป
+++ เป็นกำลังใจแล้วนะ    :L2:


หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 06-02-2010 23:16:11
 :jul1:  แอ่ก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-02-2010 23:18:18
 :haun4: :haun4: ปิดตอนได้เยี่ยมมาก  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 07-02-2010 00:11:44
 :jul1:  หวานนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 07-02-2010 00:13:36
คู่นี้งอนกันได้แป๊บๆ ก็คืนดีกันแล้ว
แถมคืนดีกันซะหวาน เลือดกระฉูด  :jul1:

ชอบฮาลีจัง เป็นกาวใจให้แจ็คและไนท์ แถมนิสัยดีอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 07-02-2010 00:23:07
นี่ถ้าไนท์ท้องได้ สงสัยลูกหัวปีท้ายปีแน่ๆๆ เลย  :m25:  :m25:  :m25:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 07-02-2010 00:24:01
ซาบซ่านใจมาก  :impress2: เขิล
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 07-02-2010 00:46:44
เย้...มาแล้ว...รักแจ๊คที่ซู้ด...เฮ่อ..แล้วมันจะยังไงต่อ  ชีคมีพระคู่หมั้นซะแล้ว สงสารแจ๊ค :sad11:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: KriT_SuN ที่ 07-02-2010 01:00:37
 o13 โหย แจ๊คค อ่านรหัสได้ด้วย ลุ้น ๆ ๆ

สนุกดีค้าบบ เข้าใจกันซะที สู้ ๆ ค้าบ รออ่านต่อไป ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 07-02-2010 01:05:42
เบื้องหลังแจ็คก็ไม่ธรรมดาเลย ซับซ้อนเพิ่มขึ้นไปอีก
ส่วนไนท์ก็เริ่มอ่อนลงมากแล้ว แบบนี้คงเข้าใจกันมากขึ้น
ต้องขอบคุณฮาลีด้วย ทำหน้าที่ประสานได้ดีมาก
สนุกมากๆค่ะ
บวก 1 แต้ม ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์ค่ะ  :L2:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 07-02-2010 05:58:22
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 07-02-2010 10:34:17
 :pighaun: 
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 07-02-2010 14:37:02
หวานกันได้ที่เลยล่ะ

แจ๊คนี่ว่าแล้วต้องไม่ธรรมดา

แต่ เวลา ....ต้องมีไคซัคด้วยนี่ ไม่กระดากเหรอ  :o8:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 07-02-2010 22:52:39
ขอบคุณค่า..

ตอนนี้ยกให้ฮาลีเป็นพระเอกเลยนะ..ถ้าไม่ได้ฮาลีนี่แย่แน่.. :เฮ้อ:

แอบหมันไส้ไคซัคอยู่นิดๆแหะ หวงไนท์อย่างกับพ่อหวงลูกสาวแน่ะ..ตัวเองก็มีอองรีก็น่าจะเข้าใจแจ็คบ้างนะ.. :angry2:

เบื้องหลังแจ็คนี้ไม่ธรรมดาเลย..
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 08-02-2010 16:10:12
งอน ง้อกัน...เล่นเอาคนอ่านเลือดพุ่ง :haun4: o22

ขอบคุณค่ะ....

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-02-2010 20:45:39
ก็รู้นะว่าคงไม่มาวันนี้ แต่อยากอ่านแล้วอ่า  :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 09-02-2010 20:47:32
 :jul1:


โอ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย


เลือดหมดตัว
 


:กอด1:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 10-02-2010 20:23:45
มาช่วยดันตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านกันต่อเลยคะ 06/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 10-02-2010 22:49:19
 :z2: รอแล้วรอเล่า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 11-02-2010 22:57:45
อ่านกันต่อเลยคะ

.......
แจ็คเบนหัวเรือเข้าเทียบท่าช้าๆ  ก่อนจะโดดขึ้นไปบนสะพานแล้วโค้งศีรษะให้ไนท์อย่างล้อเลียน  ไนท์อมยิ้มส่งมือให้แจ็ค ดึงขึ้นไปบนท่าจอดเรือ  แล้วเดินจูงมือกันไปยังบ้านของมิเชล  ไม่ทันถึงก็เห็นชายในชุดดำ 2 คนตรงรี่เข้ามา  แจ็คเบี่ยงกายบังไนท์ทันทีอย่างระแวง  แต่ไนท์บีบมือที่ยึดเขาไว้เบาๆเป็นเชิงปราม  คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ   แจ็คเดินแยกไปห่างๆ  ปล่อยให้ไนท์ได้เจรจากับคนของเขาตามลำพัง         
“เราบอกแล้วไงว่าอยากอยู่ลำพัง  ตามมาทำไมอามิล?”         
“มีเรื่องด่วนกระหม่อม  ท่านชีคฟาฮัสจะเสด็จมาเยี่ยมฝ่าบาทที่เกาะส่วนตัวของแฮมิลตัน  ทางโน้นให้กระหม่อมมาเชิญเสด็จ”
“เสด็จอารู้ได้อย่างไรว่าเรากลับมาจากวังขาวแล้ว”
“ทรงเจอกับท่านที่ปรึกษากระหม่อม ท่านที่ปรึกษาเห็นว่าเกาะของแฮมิลตัน น่าจะปลอดภัยกว่าที่ให้ฝ่าบาทเสด็จไปเยี่ยมท่านฟาฮัสที่พระราชวังใหม่”
“แล้วตอนนี้ฮาลีอยู่ที่ไหน?”
“ท่านที่ปรึกษากลับไปที่วังขาวกระหม่อม”
“ไปหาเช่าเรือมา  เราต้องไปขึ้นเครื่องที่อื่น”         
“มิสเตอร์แฮมิลตันจัดเรือมารับแล้วกระหม่อม  แต่อยู่ห่างจากที่นี่เกล้าเองก็ลงเรือเร็วมากระหม่อม”
“ดี...นับว่าแฮมิลตันรอบคอบไม่น้อย” 
“ฮึ! ท่านที่ปรึกษาเป็นคนวางแผนต่างหากกระหม่อม”  ให้ยังไงอามิลก็ไม่ยอมให้เครดิตริช   ความชิงชังคนตะวันตกดูเหมือนจะซึมลึกอยู่ในสายเลือดของพวกเขาเกินกว่าจะจางหายกันง่ายๆ
“ไคซัครู้หรือยัง?”
“ท่านที่ปรึกษาส่งข่าวบอกแล้วกระหม่อม”
“งั้นเราจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลย...รอเดี๋ยว”  ไนท์ปลีกตัวจากองครักษ์กลับไปหาแจ็ค  ชายหนุ่มยิ้มรับอย่างเข้าใจเมื่อเห็นสีหน้าของชีคหนุ่ม
“แจ็ค...ขอโทษนะที่อยู่ร่วมงานวันเกิดไม่ได้”
   “มีเรื่องด่วนหรือครับ”
“ฮื่อ...ต้องรีบกลับไปที่รีสอร์ทแฮมิลตันเดี๋ยวนี้เลย...”
“แต่เครื่องที่จะไปฮาวายมีตอนค่ำนะครับ”
“ไปเครื่องไม่ได้หรอกแจ็ค...ต้องไปเรือ”
“ลำบากนะครับ  แล้วยัง...มีปัญหาสินะครับ...เอาอย่างนี้ดีกว่า  ผมจะพาไปเอง”
“อย่าเลย  แจ็คยังไม่หมดวันลานี่  อยู่กับครอบครัวดีกว่านะ”
“ผมยังมีเวลาอยู่กับพวกเขาอีกมาก  แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของคุณสำคัญกว่า...ติดต่อเรือได้หรือยังครับ”
“ได้แล้ว  ทางแฮมิลตันจัดเรือมารอรับแล้ว  แต่อยู่ห่างจากที่นี่พอสมควร”
“ผมชำนาญแถวนี้…ขอผมไปเก็บของ 5 นาที”
อามิลทำท่าจะค้านแต่เมื่อเห็นไนท์พยักหน้าก็ได้แต่เงียบ  ไนท์ตามแจ็คเข้าไปในบ้านเจอมิเชลเดินวนไปมาท่าทางกระวนกระวาย
“แจ็ค...คนพวกนั้น...เอ่อ...”หญิงสาวยั้งคำพูดไว้เมื่อเห็นว่าแจ็คไม่ได้มาคนเดียว
“มิเชลพี่สาวผมครับ...มิเชลนี่ท่านชีครามิล  ราจีสอับดุล ส่วนคนที่พี่เจอนั่นเป็นองครักษ์”
มิเชลย่อตัวลงเคารพ  ไนท์ก้มศีรษะรับและส่งยิ้มอ่อนโยนให้มิเชล  แจ็ครีบขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าบนห้อง  ส่วนองครักษ์ทั้งสอง  หลบหายไปอย่างรวดเร็ว 
“ตั้งใจจะมางานวันเกิดหลาน  แต่เห็นทีจะอยู่ร่วมงานไม่ได้เสียแล้ว  ฝากอวยพรหลานด้วยครับ”         
“เมื่อเช้าคุณฮาลีเอาของขวัญมาให้แล้ว  ขอบคุณท่านชีคมากค่ะ”         
“ยินดีครับ”
พูดกันแค่นั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไรกันอีก  มิเชลได้ยืนบีบมือเย็นๆของตัวเองแน่น  ขณะที่ไนท์ยังคงสงบเยือกเย็น  จนแจ็ควิ่งลงบันไดมาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า
“ไปครับผมพร้อมแล้ว...ไปก่อนนะมิเชล” แจ็คหันมากอดมิเชลเพื่ออำลา
“แจ็ค...เอ่อ...” มิเชลอึกอัก ทำท่าเหมือนจะพูดแต่ไม่กล้า
“จะออกไปรอที่เรือ...ลาก่อนครับคุณมิเชลแล้วเราคงได้พบกันอีก”
“สวัสดีค่ะ”
ไนท์ออกไปจากบ้านก่อนเพื่อให้พี่น้องได้คุยกันตามลำพัง
“...คนๆนี้ใช่ไหมที่ทำให้นายกลับมานั่งซึมอยู่หลายวัน?”         
“ผมรักเขา”
“แจ็ค...ระวังตัวให้ดีๆนะ  ท่าทางเขา...อันตราย  พี่เป็นห่วงนะ”         
“ขอบคุณครับ...แต่ผมถอยไม่ได้แล้ว  นอกจากเขาจะไล่ผมออกมาจากชีวิตเขาหรือไม่ก็...ผมตาย...ผมต้องไปแล้วมิเชล   ฝากลาเด็กๆด้วย”         
“โชคดีแจ็ค”  เป็นคำอวยพรที่มาจากหัวใจจริงๆ มิเชลมองตามแจ็คจนลับตา  ถึงไม่ใช่สายเลือดแท้ๆแต่เธอกับแจ็คก็โตมาด้วยกัน  มีกันแค่สองคนมาตลอด   เพียงแค่เห็นไนท์เธอก็หนาวยะเยือกไปถึงหัวใจแล้ว  ต่อแต่นี้ไปชีวิตของแจ็คคงไม่อาจกลับมาเรียบง่ายและเป็นสุขอย่างที่ผ่านมาอีก  มิเชลได้แต่ภาวนา  ขออย่าให้แจ็คต้องซ้ำรอยบิดาของเขาอีกคนเลย  ......ƒ......
         
ด้วยความชำนาญพื้นที่ของแจ็ค ทำให้สามารถมาขึ้นเรือได้เร็วและปราศจากผู้รู้เห็น  ไนท์เดินทางถึงเกาะส่วนตัวของริช ก่อนเวลาที่คาดไว้ถึง 2 ชั่วโมง
ริชกับเจฟฟรี่มารอรับอยู่ก่อนแล้ว  ทันทีที่ไนท์ถึงมือริช แจ็คก็ถูกแยกไปก่อนที่จะมีใครรู้ว่าไนท์กับแจ็คมาด้วยกัน
“ผมจะจัดงานเลี้ยงรับรองอาคุณให้เป็นทางการ” ริชบอกเบาๆขณะเดินไปส่งชีคหนุ่มที่บ้าน         
“จะเชิญใครมาบ้าง?”         
“มีนักธุรกิจอาวุโสหลายคน  เลือกแต่คนที่อาคุณไม่กล้าแตะทั้งนั้นแหละน่า”         
“อย่าประมาทก็แล้วกัน...เพราะถ้าเกิดเขาอยากกวาดไปพร้อมกับผม คุณจะเดือดร้อน”
“พูดอย่างนี้ก็ดูถูกระบบรักษาความปลอดภัยของที่นี่นะสิ”
“เท่าที่ผมได้ข้อมูลมา  อาฟาฮัสติดต่อกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายหลายกลุ่ม ผมไม่อยากให้เขาฉวยโอกาสก่อความวุ่นวายที่นี่  จนคุณต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย”         
“ว้าว...ปลื้มใจจังที่คุณห่วงผม” ริชทำตาเยิ้มอย่างยั่วเย้า         
“แน่นอน...ก็คุณเป็นหุ้นส่วนคนสำคัญนี่  ยังมีผลประโยชน์อีกหลายพันล้านที่เราต้องทำร่วมกัน  เรื่องอะไรผมจะปล่อยให้มันเสียหายจริงไหม?”
ริชทำท่าเหมือนอกหักขณะที่ไนท์หัวเราะแล้วเดินแยกไปเพื่อไปยังเรือนรับรอง         
“คุณไคซัคส่งข่าวมาแล้ว และคงมาถึงในราวๆ...2ชั่วโมง”         
“ขอบคุณ”         
“อ้อ!ผมลืมบอกไปว่าพี่ชายคุณจะมาถึงตอนพรุ่งนี้เช้า”
“อะไรนะ?” ไนท์หันขวับมาทันที
“คุณทราวิสจะมาพักผ่อนที่นี่  เขาเพิ่งเสร็จงานแสดงแฟชั่น  ตอนนี้กำลังเนื้อหอม  นักข่าวตามเขาหึ่งไปหมด  งานนี้น่าจะมีปาปารัสซี่แอบตามมาที่นี่ด้วย”         
“คุณนี่เจ้าเล่ห์  กะจะใช้นักข่าวเป็นกันชนกับอาฟาฮัสละสิ”
“ยิ่งเขาพยายามสร้างภาพเขายิ่งต้องพึ่งสื่อ  ผมแน่ใจว่าเขาไม่กล้าเสี่ยงกับสื่อนักหรอก”
“แล้วคุณละ...เกิดพลาดขึ้นมาไม่กลัวสื่อเอาไปเขียนยับเหรอ?”
ริชไหวไหล่อย่างกวนๆ  ไนท์ส่ายหน้ายอมแพ้กับท่าทางไม่ยี่หระของคนตรงหน้า  ชีคหนุ่มผละไปบ้านพักโดยมี 2 องครักษ์ตามไปห่างๆ............

   การเดินทางมาเที่ยวของทราวิสครั้งนี้  แตกต่างจากครั้งที่แล้วตรง ที่ไนท์ไม่มารอรับทราวิสเหมือนเคย  แม้เมื่อเจอกันในห้องรับรองชีคหนุ่มก็ทำหน้าเฉยเมย  ความบาดหมางจากเหตุการณ์ครั้งก่อนทำให้เขาไม่คิดจะเสวนากับพี่ชาย  ตอนแรกทราวิสก็หมั่นไส้และคิดจะไม่สนใจบ้าง  แต่คนเดือดร้อนคือคนรักตัวน้อยๆของเขาที่เฝ้าอ้อนวอนให้เขาตามมาง้อไนท์
   ทราวิสจึงไปหาไนท์ถึงบ้านพักส่วนตัว  เพราะเป็นเขาจึงไม่มีใครเข้าไปบอกไนท์ล่วงหน้า  ชีคหนุ่มจึงเก็บเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะไม่ทันทำให้ทราวิสได้เห็นภาพหนุ่มผมทองหลายใบพร้อมกับเอกสารปึกใหญ่
   “เข้ามาทำไมไม่เคาะประตู”  ไนท์รวบภาพกับเอกสารบนโต๊ะยัดใส่ซองด้วยท่าทางเฉยเมย  ทราวิสทิ้งตัวลงนอนบนเก้าอี้รับแขกหน้าตาเฉย
“เคาะแล้ว แต่นายคงมัวแต่หึง...เอ๊ย!มัวแต่ดูเอกสารสำคัญอยู่ละมั้ง  เลยไม่ได้ยิน”  ทราวิสตะโกนตอบกวนๆ  เขาจำหนุ่มผมทองในภาพได้  เขากับจีนส์เจอรามอสตอนไปแสดงแฟชั่นที่ปารีส  และได้รู้ถึงความสัมพันธ์ในอดีตของเด็กหนุ่มคนนั้นกับแจ็ค
ไนท์ลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งที่เก้าอี้รับแขกฝั่งตรงข้าม  อามิลเข้ามาเสริฟกาแฟแล้วถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
“มาถึงก็หาเรื่องเลยนะ...มีธุระอะไร?”
“มาหาเพราะคิดถึงไม่ได้เหรอ?”
“คนอย่างนาย...เด็กนั่นใช้ให้มาละสิ”
“แน่ละ  จีนส์กลุ้มแทบตายที่ฉันกับนายไม่พูดกัน”
“หึ...ถูกเด็กจูงจมูกเสียแล้วทราวิส  ไม่น่าเชื่อว่านายจะสิ้นลายง่ายๆ”
“แหงล่ะ...ใครเขาจะมาดเยอะอย่างนายล่ะ  จะรักจะชอบก็ทำเย็นชาไม่รู้ร้อนรู้หนาว  ระวังเถอะสักวันเขาทนไม่ไหวขึ้นมาจะน้ำตาตก” ทราวิสเตือนอย่างจริงใจมากกว่าคิดจะเยาะหยัน
ไนท์เหยียดยิ้มเย็น  ยื่นมือออกไปข้างหน้าแล้วกำรวบไว้  ทราวิสถอนใจเฮือกอย่างหมั่นไส้ท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยมนั้น
“ไม่กลัวหรือไง?...เขาอาจจะยังมีภาพคนอื่นอยู่ในใจก็ได้นะ”
“ฉันไม่สนว่าเขาจะมีใครในอดีต  แต่ตอนนี้เขาเป็นของฉัน  และจะไม่มีวันมีใครได้อีกเลย  ถ้าฉันไม่ปล่อยมือ”
“นายมั่นใจขนาดนั้นเชียว” ทราวิสทำเสียงไม่เชื่อถือ  ซ้ำยังเหลือบไปมองซองเอกสารบนโต๊ะ  ไนท์มองตามด้วยรอยยิ้มเกลื่อนหน้าไม่เปลี่ยน
“หึ...แม้แต่นายทราวิส  ถ้าฉันไม่ปล่อยมือ เด็กนั่นไม่มีวันได้นายไปหรอก...จริงไหม?”
ทราวิสสบตาน้องชายคนละแม่นิ่งงัน  ใช่เขารักจีนส์...แต่หากไนท์ไม่ยอมปล่อยเขา  เขากับจีนส์ต้องไม่มีวันได้อยู่ด้วยกันแน่  เขารู้นิสัยไนท์ดี  ความรักแรงเกลียดแรงของไนท์เป็นที่ประจักษ์กับตาเขามาหลายครั้งแล้ว
   “บอกเด็กนั่นนะ...ฉันให้เขาอยู่กับนายเพราะนายรักเขา  แต่ถ้าวันไหนเขาทำให้นายเจ็บ  เขาจะได้รู้จักนรก”
   “หยุดเสียทีเถอะไนท์!...นายไม่ใช่พระเจ้านะ จะได้คอยลิขิตชีวิตคนอื่น นายควบคุมเศรษฐกิจของโลกได้  แต่นายควบคุมชีวิตคนทั้งโลกไม่ได้หรอกนะ”
   “ฉันไม่เคยคิดจะควบคุมคนทั้งโลก  ฉันควบคุมเฉพาะชีวิตของคนรอบๆ ตัวฉันเท่านั้น  นายจะเดือดร้อนทำไมพี่ชาย  ฉันไม่ได้วุ่นวายอะไรกับนายสักหน่อย”
   “ที่ผ่านมาฉันยอมมาตลอดเพราะนายเป็นน้อง...แต่ตอนนี้ฉันมีทางของฉันเองแล้ว  นายเองก็มีทางของตัวเองเหมือนกัน  เราต่างคนต่างเดินไม่ได้หรือไนท์”
“แน่นอน...แต่ทางของนายมีฉันเดินไปด้วยข้างๆแค่นั้นเอง”
“ไนท์ นี่นาย...”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัว...ต้องไปธุระ  อ้อ!อาซารีฟอยากเจอนายนะ  ว่างๆก็พาคนรักนายไปหาท่านบ้างล่ะ”
ทราวิสส่ายศีรษะอย่างระอา ขณะมองตามร่างเพรียวที่ลุกไปหยิบเอกสารบนโต๊ะ  ทั้งสองออกมาจากบ้านมาพร้อมกัน  แต่แยกกันไปคนละทาง... 
ทราวิสเดิน กลับบ้านพักไปหาคนรักตามลำพัง  ขณะที่ไนท์แวดล้อมด้วยองครักษ์ไปประชุมเพื่อหาทางจัดการศัตรู!

          ........................................

“ฝ่าบาท…ชีคฟาฮัสมาถึงแล้วกระหม่อม” ไคซัครีบเข้าไปรายงาน  ไนท์สบตากับริชแล้วรีบผุดลุกขึ้น
“ห้องรับรองดีที่สุด  ผมเตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว” ริชรีบบอกขณะที่เจฟฟรี่ลุกออกไปตั้งแต่ได้ยินไคซัครายงานไนท์
“ก็ดี...แต่ผมต้องออกไปรับหน้าก่อน”ไนท์ยังคงรักษาความเยือกเย็นไว้เหมือนเคย       
“งั้นไปพร้อมกันดีกว่า”         
“สั่งคนของเราให้เตรียมพร้อมด้วย”ไนท์หันไปสั่งไคซัค
“กระหม่อม”
 ไนท์กับริชไปรอรับที่ลานจอดเครื่องบิน  ชีคฟาฮัสจัดเป็นบุรุษที่รูปงามคนหนึ่ง  ด้วยเข้าวัยกลางคนแล้ว  ร่างสูงที่เคยโปร่งบางอ้อนแอ่นในวัยหนุ่มจึงค่อนข้างท่วม  แต่ก็สง่าด้วยราศีของความเป็นเจ้าคนนายคน  แม้จะมีรอยยิ้มเกลื่อนหน้า กระนั้นก็ดูเย่อหยิ่ง เย็นชา  โดยเฉพาะดวงตาแข็งเย็นชวนขนลุก
“เสด็จอา”ไนท์ค้อมกายเคารพตามพิธีการ  ชีคฟาฮัสยิ้มเย็นแต่ทักทายอย่างอบอุ่น         
“หลานรัก…เป็นไงบ้าง?”         
“สบายดีกระหม่อม  นี่มิสเตอร์ริช  แฮมิลตันกระหม่อม”
ริชเข้ามาค้อมกายเคารพ  ชีคฟาฮัสยิ้มรับอย่างพอใจ  เขาไม่ค่อยชอบจับมือแบบตะวันตก  เพราะมันทำให้เขาต้องสัมผัสมือกับพวกต่ำศักดิ์กว่า         
“เคยได้ยินชื่อมานาน  อายุยังน้อยแต่ประสบความสำเร็จมากนี่”         
“ข่าวลือเท่านั้นครับ  ยังมีอะไรที่ผมต้องเรียนรู้อีกมาก”ริชกล่าวถ่อมตัว
“เข้าใจถ่อมตัว  ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น  ฉันเคยเจอมิสเตอร์แฮมิลตันตอนประชุมผู้นำการค้าโลก  หลักแหลมและสง่างามมาก”  นี่เป็นคำพูดจริงใจครั้งแรก  ใช่หลักแหลมสง่างามจนน่าริษยาสตรีที่ได้ยืนเคียงข้าง  ช่างเป็นภาพที่น่าหงุดหงิดใจเหลือเกิน
“ผมคงไม่ได้ครึ่งของพ่อ  เชิญเสด็จด้านในดีกว่า”
“ที่นี่งดงาม...สมแล้วที่เขาให้ฉายาว่าแดนสวรรค์”ชีคฟาฮัสเอ่ยอย่างพอใจเมื่อได้เห็นการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่หรูหรา  พนักงานชายที่เข้ามาคอยต้อนรับล้วนแต่หน้าตาดี  มาดดีทั้งสิ้น  ไคซัคชะงักแอบกวาดตามองไปรอบๆเมื่อไม่เห็นคนที่เขาห่วงก็โล่ง อก
“ผมยินดีที่ท่านพอใจ หากท่านไม่รังเกียจเชิญพักกับเราหลายๆวันนะครับ”
“คงต้องแล้วแต่งานนะ  อาจจะไปพร้อมรามิลก็ได้จริงไหม?”
ไนท์ยิ้มเฉยไม่ตอบอะไร  ไคซัคเดินนำไปห้องรับรองด้านในซึ่งจัดตกแต่งไว้อย่างงดงาม  ริชแยกไปก่อนเพื่อให้อาหลานได้อยู่กันลำพัง
“พักผ่อนก่อนกระหม่อม  คืนนี้เสด็จอาต้องเป็นประธานในงาน คงเหนื่อยกว่าใครๆ”
“ขอบใจมากหลานรัก”ชีคฟาฮัสตบไหล่ไนท์เบาๆก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป  โดยมีองครักษ์สองคนตามไปติดๆ  ส่วนคนอื่นๆกระจายอยู่ที่ห้องรับรองและห้องโถงข้างนอก  ตึกนั้นทั้งตึกจึงแทบกลายเป็นอนาเขตของชีคฟาฮัสไปเลย  หากไม่มีพนักงานของรีสอร์ทเดินเข้าออกคอยดูแลอำนวยความสะดวก
ไคซัคปราดเข้าประกบทันทีที่ไนท์ออกจากห้องรับรอง  รอจนพ้นจากหูตาคนของชีคฟาฮัสจึงรายงานเบาๆ
“ทุกอย่างเรียบร้อยกระหม่อม”
“ไม่ได้ติดเครื่องดักฟังนะ”
“ไม่กระหม่อม”
“ดีแล้ว  คนอย่างเสด็จอาฟาฮัส  เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว  ขืนติดเครื่องดักฟังไว้มีแต่จะทำให้ระวังตัวมากขึ้นไปเปล่าๆ  ให้ทรงลังเลว่าเรารู้หรือไม่รู้ไปก่อนนั่นแหละ”
“กระหม่อม...แต่เรื่องสัญญาณดาวเทียม?”
“แฮมิลตันจัดการเองได้  อาณาจักรของเขา  เขาย่อมไม่ปล่อยให้ใครลูบคมง่ายๆ  ทำงานกับคนฉลาดร้ายแบบนี้ต้องระวัง...แล้ว...แจ็คละ?”
“อยู่ที่สำนักงานกระหม่อม”
“กันแจ็คออกให้ห่าง  อย่าให้เข้ามาเจอกับอาฟาฮัส”
“กระหม่อม”  ไคซัคทำความเคารพแล้วรีบออกไปจัดการ
ไนท์มองลงไปยังอาคารสำนักงานนิ่งงัน  แม้จะรู้ว่าอีกไม่นานชีคฟาฮัสต้องรู้เรื่องแจ็คจนได้ แต่เขาก็จะทำทุกวีถีทางให้เจอช้าที่สุด  ที่สำคัญชีคฟาฮัสต้องไม่รู้สึกว่าแจ็คคือจุดอ่อนของเขา หาไม่แล้วแจ็คจะกลายเป็นเป้าหมายที่ชีคฟาฮัสมุ่งทำลายให้ย่อยยับแน่ …………
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 11-02-2010 23:00:57
เจฟฟรี่ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อไคซัคแจ้งจุดประส่งค์ของชีครามิล ที่ให้ส่งแจ็คไปอยู่ที่อื่นโดยเร็วที่สุด รวมถึงต้อง ไม่ปรากฏตัวในงานเลี้ยงรับรองคืนนี้ด้วย     
“ทำไมไม่อธิบายให้แจ็คฟังตรงๆละครับว่าเกิดอะไรขึ้น ผมว่าการทำแบบ นี้จะทำให้เรื่องมันยุ่งมากกว่า”         
“เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของประเทศเรา ฝ่าบาทย่อมไม่ต้องการให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายด้วย” ไคซัคตอบหยันๆเมื่อกล่าว ถึงแจ็ค 
เจฟฟรี่เริดคิ้วนิดหนึ่ง  ชักสงสัยว่าทั้งหมดนี่ไคซัคคงพูดเองมากกว่าจะเป็นคำพูดของชีครามิล         
“นี่ผมถามจริงๆเถอะ  อย่างแจ็คนี่ยังเป็นคนนอกอีกเหรอ?”         
“มากไปแล้วนะ! กล้าดียังไงมาพูดจาลบหลู่ฝ่าบาท” ไคซัคหน้าตึงด้วยความไม่พอใจ  หงุดหงิดและขุ่นเคืองทุกครั้งที่มีใครเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่         
“ผมไม่คิดจะลบหลู่  แต่คุณปฏิเสธได้ไหมล่ะว่าท่านชีคไม่ได้รักแจ็ค”         
“เรื่องนั้นผมไม่ทราบ”ไคซัคไหวไหล่แล้วมองเมินไปข้างนอก         
“ผมไม่เข้าใจว่านายคุณจะอยู่หลังม่านน้ำแข็งนั่นไปอีกนานแค่ไหน  บอกตรงๆนะไคซัค  ผมกลัว…กลัวว่าสักวันไอ้กำแพงที่เขาก่อมันจะทำให้เขาพลาด”         
“คุณหมายความว่ายังไง?”ไคซัคหันกลับมามองเจฟฟรี่เขม็ง         
“คุณยังไม่รู้นิสัยของแจ็ค เมื่อรักเขาก็ทุ่มเทสุดชีวิต  หากผิดหวังเขาต้องแหลกเป็นชิ้นๆแน่  จู่ๆจะมากันเขาออกห่างโดยไม่มีเหตุผล  แถมยังดึงเอาคุณริช  เข้ามาพัวพันอีก  ผมว่ามันจะยุ่งกันใหญ่”  ทำไมเจฟฟรี่จะดูไม่ออกว่าชีครามิลมีเจตนาอะไร  การที่อยู่ๆลุกขึ้นมาจี๋จ๋ากับริชย่อมต้องมีจุดประสงค์บางอย่าง  ดูเหมือนนายน้อยของเขาก็สนุกกับการเล่นตามบทเสียด้วย  สำหรับริชน่ะไม่เท่าไหร่หรอก  เพราะยังไงคนรักก็อยู่ไกลหูไกลตา  แต่แจ็คเล่าจะรู้สึกยังไง?
“แต่ถ้าบอกให้รู้ตัวก็ต้องบอกรายละเอียด  ผมว่าฝ่าบาทคงไม่ยอม” ไคซัค เสียงอ่อนลง  เพราะตัวเองก็มีความรัก  มีหรือจะไม่เข้าใจความเจ็บปวดของแจ็ค
“ตามใจพวกคุณก็แล้วกัน  หากเกิดอะไรขึ้นก็อย่ามาเสียใจภายหลังล่ะ”
เจฟฟรี่ส่ายหน้าอย่างระอา  ไคซัคนิ่งไปครู่หนึ่งจึงพูดต่อ         
“เอ่อ…ผมขอรบกวนอีกเรื่อง”
“ครับ?”
“ฝากอองรีด้วย...ช่วงนี้ผมเข้าใกล้เขาไม่ได้เด็ดขาด เพราะคนของชีคฟาฮัส จับตามองผมอยู่แน่ๆ”  แม้จะทั้งกระดาก  ทั้งเจ็บใจที่ต้องฝากคนของตัวเองไว้กับคนอื่น  แต่ตอนนี้ความปลอดภัยของอองรีสำคัญเกินกว่าจะมามัวทิฐิอยู่
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก อองรีต้องไปตรวจงานกับฝึกอบรมพนักงานใหม่ที่ออสเตรเลียอีกเป็นเดือนคงไม่มีปัญหา  ระวัง ก็แต่เรื่องโทรศัพท์เท่านั้น”
“ผมเตรียมไว้พร้อมแล้ว  ไม่มีทางจับสัญญาณกันได้ง่ายๆ”
“ถ้างั้นผมจะไปจัดการเรื่องแจ็ค”
“ขอบคุณครับ”
เจฟฟรี่โทรศัพท์หาแจ็คทันทีที่ไคซัคกลับไป
“แจ็ค…มาที่ออฟฟิศหน่อย”
“ครับคุณเจฟ”
“คุณริชให้นายบินไปออสเตรเลียพร้อมอองรีพรุ่งนี้นะ” เจฟฟรี่สั่งทันทีที่แจ็คโผล่หน้าเข้าไปในห้อง
“เอ๊ะ!…ทำไมครับ?”
“เราอยากให้นายสืบอะไรทางนั้นให้หน่อย เรามีเรื่องบางอย่างที่…ไม่ค่อยดีที่โน่น ส่งอองรีไปคนเดียวอาจไม่ค่อยปลอดภัย”
“ได้ครับ”
“คืนนี้ฉันจะเอารายละเอียดไปให้ที่บ้านหลังงานเลี้ยง”
“ได้ครับ  งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
เจฟฟรี่เรียกคนสนิทเข้ามาทันทีที่แจ็คลับหลังไป
“วิกโก้”
“ครับคุณเจฟ”
“ถ่วงเวลาแจ็คไว้จนกว่างานเลี้ยงคืนนี้จะเลิก  อย่าให้เขาเข้ามาร่วมงานได้เด็ดขาดและ...ระวังอย่าให้แจ็ครู้ตัวด้วย”
“ทราบครับ”
“ขอบใจมาก…โทษทีนะแจ็คที่ต้องทำแบบนี้กับนาย”
         …… ……
   งานเลี้ยงที่ไม่ได้แตกต่างจากงานเลี้ยงไหนๆ ทำให้ทราวิสเบื่อแทบอ้วก  หากไม่ติดว่างานนี้เขาถูกขอให้มาเพื่อช่วยไนท์เขาคงไม่มาร่วมงานเด็ดขาด  ดูเหมือนคนสนุกคือคนข้างตัวเขา  ตาโตเป็นประกายระยับอย่างตื่นเต้นเมื่อได้เห็นแขกบางคน  ที่เคยเห็นเฉพาะทางโทรทัศน์หรือหน้าหนังสือพิมพ์มาเดินกันให้ไขว่
   “ทราวิส...คนที่ใส่สูทสีเทานั่นใช่...เขาไหม?”
“ใคร?”
“ก็...เจ้าพ่อวงการซอฟแวร์ไง...เศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกเชียวนะ”
“หึ...เจ้าพ่อวงการซอฟแวร์คงใช่  แต่ไม่ใช่เศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกหรอกนะ”
“แต่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่างั้นนี่”
“โธ่เอ๊ยที่รัก...เศรษฐีตัวจริงน่ะ  ไม่ค่อยเปิดเผยรายได้ตัวเองกันง่ายๆหรอกนะ  ไอ้ที่เขาเอามาจัดอันดับโลกน่ะ  มันธุรกิจที่ต้องเปิดเผยกันตามกฎหมายต่างหาก  ไม่มีใครเขามานั่งโพนทะนาหรอกน่าว่าเขามีรายได้จริงๆเท่าไหร่  สรรพากรจะได้เล่นงานตาย”
“ยังมีคนที่รวยยิ่งกว่านั้นอีกเหรอ?”
“มี...มากด้วย  อย่างคนที่กำลังเดินเข้ามานั่น  แค่คนใดคนหนึ่ง  ก็มีทรัพย์สินมากว่าที่เธอจะนึกออกแล้ว”  ทราวิสบุ้ยใบ้ไปที่ประตูทางเข้า  แสงแฟลสสว่างวูบวาบราวกับเพชรเมื่อชีคฟาฮัสเสด็จเข้ามา  ขนาบด้วยริชและไนท์คนละด้าน  ท่วงท่าแย้มยิ้มโอภาปราศรัยนั้นดูเป็นกันเองจนทราวิสอยากขย้อน  ถึงจะไม่ได้อยู่กับไนท์  แต่เขาก็ได้รู้ข่าวสารของน้องชายอย่างละเอียด  มีหรือจะไม่รู้ว่าชีคฟาฮัสนั้นจ้องจะเล่นงานไนท์อยู่ตลอดเวลา
“นั่นเหรอครับชีคฟาฮัส”
“ใช่...อย่าเข้าใกล้เลยจะดีที่สุด  ไปหาอะไรกินกันดีกว่า”
คนที่อยู่ในหัวข้อสนทนาเองก็เหลือบไปเห็นทราวิสเช่นกัน  แต่คนระดับทราวิสไม่เคยอยู่ในสายตาอยู่แล้ว  และชีคฟาฮัสก็ไม่คิดว่าทราวิสจะเป็นจุดอ่อนของรามิล  แค่ลูกนอกสมรสที่แม้แต่องค์ฮัสซาก็ไม่เหลียวแล  จะไปมีประโยชน์อะไร  ที่สำคัญเขาไม่อยากนับญาติกับลูกนังหัวแดงต่างชาติ
“ฝ่าบาท...ได้เวลากล่าวเปิดงานแล้วกระหม่อม”
“ขอบใจไคซัค”  ชีคฟาฮัสขึ้นไปบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงานและขอบคุณแขก  ทำให้ทราวิสกับจีนส์ถือโอกาสแวบ  นักข่าวที่แอบตามมาทำข่าวทราวิสก็เลิกสนใจด้วยเหมือนกัน  ก็แค่ดีไซน์เนอร์ชื่อดังคนหนึ่ง  มีหรือจะสู้นักธุรกิจที่ระดับโลกที่มารวมกันเต็มห้องอย่างนี้ได้  นับว่าการตามมาทำข่าวครั้งนี้คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
นักข่าวมากมายทั้งที่ได้รับเชิญอย่างเปิดเผยและแฝงตัวเข้ามาอยู่เต็มงานทำให้แผนของคนอีกกลุ่มจำต้องเลื่อนออกไป  แม้จะดูว่าการป้องกันหละหลวม  แต่ชีครามิลก็ไม่ใช่คนที่ใครจะลูบคมได้ง่ายๆ  ยิ่งอยู่ในถิ่นของแฮมิลตัน  ยิ่งทำให้ต้องระมัดระวังขึ้นอีกหลายเท่า
องครักษ์คนสนิทเกร่เข้าไปใกล้  ชีคฟาฮัสเหลือบเห็นก็ขอแยกตัวจากแขกที่สนทนาอยู่เดินออกมาที่ระเบียง  องครักษ์ก็รีบตามไปประกบ
“ว่าไง?”
 “กระหม่อมหาจังหวะไม่ได้เลยฝ่าบาท  คนของแฮมิลตันยุบยับยังกับหนอน  กระหม่อมเกรงว่าไอ้พวกนั้นจะยิงสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามา”
“ยุซุฟมันไม่โง่หรอก ถ้าไม่ส่งสัญญาณไปมันย่อมต้องรู้ว่าข้ายังอยู่ในงาน”
“แต่ถ้า...เอ่อ...” แม้คันปากอยากจะบอกว่า  เกรงว่าไอ้ยูซุฟมันจะหวังกำจัดชีครามิลเสียจนไม่สนว่าจะชีคฟาฮัสจะโดนลูกหลงไปด้วยหรือไม่ล่ะจะทำอย่างไร  แต่ก็ทำได้เพียงกลอกตาไม่กล้าเอ่ย...
คนที่ถูกกล่าวถึงในคราบปาปารัสซี่  ซึ่งมีอยู่มากมายที่เข้าไปในเกาะไม่ได้  และพากันเช่าเรือมาวนรอบๆเกาะเพื่อถ่ายภาพ ยูซุฟทำเป็นหิ้วกล้องติดเลนส์ยาวถ่ายมุมโน้นมุมนี้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ของเกาะที่คอยวนเรือออกตรวจ  แม้เรือจะลอยลำอยู่นอกเขตที่อนุภาพของ L115A สนิปเปอร์ ไรเฟิ้ลจะหวังผลร้อยเปอร์เซ็นต์  อีกทั้งลมทะเลก็เป็นอุปสรรค  แต่ย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับปืนยิงจรวดรุ่นพิเศษที่เพิ่งได้มา  รอเพียงทางโน้นส่งสัญญาณมาเท่านั้น  ห้องจัดเลี้ยงซึ่งอยู่ตรงไหนสักแห่งในรีสอร์ทก็จะแหลกเป็นจุล
“ว่าไง?”
“ไม่มีการติดต่อมาเลยครับผม”
“จะเอาไงกัน...นี่เราลอยลำอยู่ตรงนี้นานเกินไปแล้วนะ  เกิดพวกมันมาตรวจอีกรอบต้องสงสัยแน่”
“แต่ทางโน้นไม่ส่งสัญญาณมาเลย”
ยูซุฟสบถหลายคำก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นดูแล้วตัดสินใจ
“รออีก5นาที  หากไม่มีการติดต่อมาก็ยกเลิกแผนเลย”
“ครับผม”
งานเลี้ยงจบลงอย่างสมบูรณ์งดงาม  ต่างชื่นมื่นกันทั่วหน้า  ทั้งนักข่าวที่ได้ภาพข่าวไปเต็มที่  ทั้งนักธุรกิจที่ได้เจรจากับเจ้าภาพได้ความหวังไปหลายรายกว่าจะล่ำลากันเสร็จก็เกือบตี2  ไนท์และริชจึงไปส่งชีคฟาฮัสถึงห้อง
“งานคืนนี้จัดได้ดีมากมิสเตอร์แฮมิลตัน”
“ขอบคุณครับ”
“เสด็จอาทรงพักผ่อนเถอะ  ทรงเหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว”
“ขอบใจมากทั้งสองคน  ไปพักเถอะ  เดี๋ยวอาก็จะนอนแล้ว”
“กระหม่อม”
ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มกระด้างขึ้นทันทีที่ทั้งสองลับตา  องครักษ์ปราดเข้ามาหาทันที
“เราส่งสัญญาณไม่ได้  ทางโน้นเลยไม่ลงมือกระหม่อม”
“ไอ้แฮมิลตันมันไม่โง่สักนิด  เห็นฉาบไปฉวยมาอย่างนั้น  แต่มันกลับระวังตัวแจ  ครั้งนี้เราคงทำอะไรพวกมันไม่ได้”
“กระหม่อมจะหวาดเสียวไม่หาย...โชคดีจริงๆที่ไอ้ยูซุฟมันไม่ลงมือ เพราะที่ผ่านมามันไม่เคยรั้งรอถ้ามันมีโอกาสอย่างนี้”
“เพราะมันมีสัญญากับข้าไว้นะสิ”
“สัญญา?”
“ใช่...เจ้ารู้เท่านี้ก็พอ”
ชีคฟาฮัสตอบห้วนๆแล้วเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเข้านอน  หนุ่มน้อยหน้าหวานที่พาติดมาด้วย  แต่ถูกสั่งให้อยู่แต่ในห้อง  ถลาเข้ามารอรับอย่างเอาอกเอาใจ
“ฝ่าบาท...เหนื่อยหรือเปล่ากระหม่อม”
“เหนื่อย”
“กระหม่อมเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้สรงแล้ว  แต่ว่า...ทรงอยากได้คนปรนนิบัติหรือไม่กระหม่อม”
สีหน้าบึ้งตึงของชีคฟาฮัสค่อยสดชื่นขึ้น  ปล่อยให้หนุ่มน้อยปลดเปลื้องเครื่องทรงออกจากตัวแล้วเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน  แม้จะมีร่างบางคอยคลอเคลียแต่ชีคฟาฮัสก็ยังไม่หายหงุดหงิด  เสียดายโอกาสที่ผ่านไปต่อหน้า
...ผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวมากับนักข่าว  ยิงจรวดเข้าไปในงานระหว่างที่ชีคฟาฮัสอยู่ในห้องน้ำ...ชีครามิลตายและคนที่ต้องรับผิดชอบคือแฮมิลตัน  ทุกอย่างถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว  แต่กลับหาโอกาสลงมือไม่ได้  ช่างน่าแค้นในอย่างยิ่ง
“ฝ่าบาทเครียดจัง...กระหม่อมจะนวดถวาย” เด็กหนุ่มกระชิบอย่างเอาใจขณะล้างฟองสบู่ออกจากร่างท้วมขาว  ชีคฟาฮัสพยักรับทั้งที่ยังมีสีหน้าครุ่นคิด
“ก็ดี”
เด็กหนุ่มเช็ดตัวให้อย่างรวดเร็ว  ร่างท้วมขาวเดินไปทิ้งตัวนอนบนเตียงอย่างล้าๆ  มือนุ่มๆกดไปตามต้นคอและบ่าอย่างคล่องแคล่วทำให้อาการปวดตึงด้วยความเครียดบรรเทาลง  ชีคฟาฮัสหลับตาพริ้ม  คิ้วที่ขมวดมุ่นค่อยคลายตัวช้าๆ
‘ช่างมัน...ถึงครั้งนี้พลาด  ก็คงมีโอกาสอีกจนได้  ขอเพียงหาจุดอ่อนรามิลให้เจอ  อะไรๆก็คงง่ายเข้า...ยังไงเสียยูซุฟกับองค์กรก็ต้องช่วยหาทางจัดการรามิล อย่างเต็มที่  เพราะมันย่อมต้องหวังตั้งองค์กรของมัน  ซึ่งจะเป็นไปไม่ได้เลย  ถ้าคนครองราชย์ไม่ใช่เรา’
นั่นคือข้อตกลงระหว่างชีคฟาฮัสกับองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติที่หวังจะฟื้นฟูฐานปฏิบัติการขึ้นมาอีกครั้ง  หลังจากถูกกองทัพภูติของชีครามิลทำลายจนราบ  ทั้งยังการให้การศึกษาแก่ประชาชนเกี่ยวกับหลักการแท้จริงของศาสนาตามพระคัมภีร์ที่เคยถูกบิดเบือน ก็ทำให้ประชาชนทั่วไปเริ่มรู้และเข้าใจหลักศาสนาอย่างถูกต้อง ไม่ตกเป็นเหยื่อให้องค์กรเหล่านี้หลอกใช้ได้อีกต่อไป  ทำให้ชีครามิล ถูกวางไว้ในฐานะศัตรูหมายเลขหนึ่งขององค์กรนี้  และยูซุฟคือตัวแทนที่มีอำนาจในการบังคับบัญชากองกำลังใต้ดินของมัน  ชีคฟาฮัสเผลอยิ้มเหี้ยมอย่างไม่รู้ตัว
“ฝ่าบาททรงยิ้มน่ากลัวจัง”
“ก็เราหาวิธีจัดการกับเจ้าได้แล้วน่ะสิ...มานี่”
เด็กหนุ่มหัวเราะคิกเมื่อถูกกระชากลงไปนอนแทนที่  ฟันคมๆกัดทึ้งไปทั่วร่างบอบบางจนขึ้นแนวจ้ำเขียว  เช่นเดียวกับที่เด็กหนุ่มก็ทั้งกัดและจิกกระชากเล็บจนเรียกรอยเลือดซิบ  ทั้งแผลเก่าแผลใหม่ทิ้งร่อยรอยเต็มแผ่นหลัง  แต่กลับกระตุ้นอารมณ์ชีคฟาฮัสให้ลุกโพลงยิ่งขึ้น
“ฝ่าบาท...คืนนี้ต้องทรงสุขสุดขีดเลยล่ะ...กระหม่อมสัญญา”  เด็กหนุ่มกระซิบข้างหูก่อนจะเหวี่ยงตัวเองขึ้นคร่อม แล้วใช้เชือกจากเสื้อคลุมอาบน้ำมัดข้อมือชีคฟาฮัสติดกับหัวเตียง  มือเล็กเลื่อนลงไปที่หน้าท้องขาวโพลน  ลูบไล้และขยับมือไปมาขณะที่ฟันก็กัดทึ้งยอดอกแดงที่แข็งเป็นไตอย่างรวดเร็ว มืออีกข้างคว้ากระดิ่งบนหัวเตียงมาเขย่าเบาๆ...
สิ้นเสียงกระดิ่งแก้ว ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มสูงใหญ่กล้ามเป็นมัดสองคนในสภาพเปลือยเปล่า  ปราดเข้ามาช่วยรุมปลุกเร้าชีคฟาฮัส  เด็กหนุ่มร่างบางยิ้มหวานหันไปสบตาผู้เข้ามาใหม่แล้วเลื่อนตัวลงไปรอ  ทั้งสองคนเข้าไปนอนขนาบข้างตัวชีคฟาฮัส  ต่างยกขาที่เนื้อเริ่มนิ่มเหลวด้วยวัย แยกออกคนละทาง  ขณะที่ปากก็กัดทึ้งยอดอกที่แดงจัดให้ห้อเลือด  เด็กหนุ่มยิ้มเย็นขณะแทรกตัวลงไปนั่ง  จรดร่างกายให้พอดีกับช่องทางด้านหลังแล้วกระทั้นตัวเข้าไปอย่างเร็วและแรง  เสียงชีคฟาฮัสกรีดร้องลั่น 
ร่างท้วมขาวสะท้านสะเทือนด้วยแรงกระแทกและปลุกเร้า  แต่กลับครวญครางอย่างมีความสุข  ยอมแม้กระทั่งใช้ปากให้เด็กหนุ่ม ขณะที่หนุ่มนักกล้ามทั้งสองช่วยกันขย่มอยู่ข้างหลัง  แน่นอนหากไม่ฝึกกันมาจนเชียวชาญ การต้องรับคนสองคนพร้อมกันชีคฟาฮัสคงได้รับบาดเจ็บ  แต่เมื่อผู้กระทำฝึกท่านี้มาจนช่ำชอง  จึงทำให้ชีคฟาฮัสสุขสมเกินกว่าจะบรรยาย  จนต้องระบายความสุขด้วยการดื่มกินเด็กหนุ่มจนคับปากระหว่างที่จะไปถึงจุดสุดยอด
ในขณะที่ในห้องมีแต่เสียงครวญคราง  องครักษ์คนสนิทกลับนั่งทำหน้าเมื่อยอยู่ข้างนอก  ด้วยต้องฟังเสียงนี้อยู่ทุกคืนมาหลายสิบปีแล้ว  และตนเองก็ไม่ได้รู้สึกรู้สมกับอารมณ์นั้น  เพราะร่างกายถูกทำให้ไร้ความปรารถนา  ชีวิตนี้จึงรักและภักดีต่อนายเพียงคนเดียว  และชีคฟาฮัสเองก็ไว้ใจจนให้อยู่ข้างกายไปทุกที่ทุกเวลายิ่งกว่าคนสนิทอีกคน
เงาที่ไหวเพียงวูบเดียวก็ทำให้ร่างสูงใหญ่กระชากมีดออกจากฝัก  แต่คนที่มาก้าวเข้ามาในแสงไฟให้เห็นเสียก่อน
“เจ้าเข้ามาได้ยังไง?” แม้จะเห็นชัดแล้วว่าคนเข้ามาคือยูซุฟแต่องครักษ์สนิทของชีคฟาฮัสก็ยังไม่คลายความระวัง  เพราะยังไงก็ไม่เคยไว้ใจไอ้หมอนี่
“ก็เพราะที่นี่มีแต่คนของฝ่าบาทฟาฮัสน่ะสิถึงลอบเข้ามาได้...ทำไมวันนี้ไม่ออกไปส่งข่าว”
“เหอะ! จะออกไปได้ยังไง  คนของไอ้แฮมิลตันเฝ้าอยู่ตลอดเวลา   แปลกนะที่เจ้าเข้ามาได้...เอ๊ะ!”
ทั้งคู่สบตากันอย่างตกใจ  ต่างสงสัยว่านี่อาจเป็นกับดัก  แต่ยูซุฟยังคุมสีหน้าได้ราบเรียบทั้งที่ใจร้อนเหมือนไฟลน
“ข้าพลาดแล้ว  ต้องรีบไปก่อน  แล้วจะติดต่อไปเอง” 
ร่างนั้นเร้นหายไปราวกับเงา  แต่ไม่นานกลับได้ยินเสียงต่อสู้ดังมาจากในสวน  เสียงต่อสู้ค่อยๆห่างออกไป  องครักษ์ของชีคฟาฮัสเตรียมคำแก้ตัวไว้แล้วหากคนของริชจะเข้ามาจับผิด  แต่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างเงียบสนิท...จนน่ากลัว 
เกือบสว่างหนุ่มร่างใหญ่สองคนจึงออกมาจากห้องชีคฟาฮัส  และอีกครู่ใหญ่กว่าเด็กหนุ่มจะตามออกมา
“ฝ่าบาทบรรทมหรือยัง?”
“อย่าเข้าไปดีกว่าท่านองครักษ์  ท่านก็รู้ว่าฝ่าบาทไม่ชอบให้รบกวนตอนบรรทม  ไว้พรุ่งนี้เราจะทูลให้  ว่าแต่...มีเรื่องอะไรเหรอ  ด่วนหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่กิจของเจ้า”
“แหม!ท่านราชองครักษ์  เราก็ไม่ได้อยากจะวุ่นวายอะไรหรอก  หากท่านไม่ไว้ใจเรา พรุ่งนี้พอฝ่าบาทตื่นบรรทมเราจะออกมาตามท่านแล้วกัน”เด็กหนุ่มงอน ป่องๆไปราวกับเป็นสตรี  ทำให้องครักษ์คนสนิทของชีคฟาฮัสมองตามอย่างรำคาญ
                                                     ............

แล้วเจอกันใหม่ :z2:
เรื่องหนังสือตอนนี้รอทาง ใบปอ อยู่คะ ถ้ามีอะไรคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบนะ
ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 11-02-2010 23:04:23
 :pig4: สุดยอดมากค่ะ เหมือนนั่งดูหนัง Thriller เรื่องนึงเลย ครบรสมาก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-02-2010 23:18:40
 :a5: ฉากแบบนี้เหมือนตอนใกล้จบยังไงไม่รุ แต่ไม่คิดว่ามันจะใกล้จบเลย  :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 11-02-2010 23:21:45
ขอบคุณเช่นกันสำหรับเรื่องหนังสือ

ลุ้นมากเลย
แจ๊คจะรอดไม่เนี่ย
ท่านอานี้เลว ร้าย สุดยอด
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 12-02-2010 01:06:26
ท่านอานี่ดูวิปริตนะครับ  แล้วแจ๊คจะมาช่วยไนล์ได้หรือเปลานะไปอยู่ซะไกลเลย รออ่านตอนต่อไปแล้วกัน
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: daizodiac ที่ 12-02-2010 01:22:04
ชีคฟาฮัสเป็นตาแก่ตัณหากลับ -___-,,
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 12-02-2010 01:57:04
ขอบคุณที่มาต่อเร็วนะ  :pig4:
คราวที่แล้วนี่ทิ้งช่วงนานมาก

อาของไนท์นี่สุดยอดดดดด
4P ยังเอาไหว! รับ 2 คนได้ เธอช่างเป็นรับที่เก่งกาจเหลือเกิน  :laugh:

สงสารก็แต่แจ๊ค จะรู้ไหมเนี่ยว่าที่ไนท์ทำไปเพราะรัก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 12-02-2010 02:07:06
ขอบคุณค่า..

เฮ้อ..ถ้าไนท์ยังเป็นคนแบบนี้ก็คงต้องพลาดเข้าสักวัน :angry2:คิดว่ามันจะเป็นไปตามที่คิดทุกเรื่องรึไง..ไม่มีใครควบคุมชีวิตคนอื่นได้หรอกนะ..

สงสารแจ็คอ่ะ..เข้าไม่ถึงตัวตนของไนท์เสียที..ไนท์รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับแจ็ค..แต่แจ็คไม่มีสิทธิรู้อะไรเกี่ยวกับคนที่รักเลยงั้นหรอ..งั้นจะรักกันไปทำไม.. :เฮ้อ:

เหมือนวิ่งชนกำแพงอ่ะ..เจ็บตัวป่าวๆ ไม่ได้อะไรเลย..มันคงต้องมีวันเหนื่อยและท้อบ้างแหละ.. :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 12-02-2010 04:23:50
 :-[ รอตอนต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 12-02-2010 04:25:40
 o13  เรื่องนี้มันครบทุกรสจริง  สุดยอดมากเลย  กำลังเข้มข้นเลย  
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 12-02-2010 08:37:47
กด + ให้พี่เทียนฉิน อิอิ

อ่านแล้วอ่านอีก ก็มีความสุข
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 12-02-2010 09:51:01
 o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 12-02-2010 23:32:19
o13
มีหนังสือเรื่องถนนสายหัวใจ ตั้งนานแล้ว ชอบมาก ๆๆๆ พยายาม
ติดตามหนังสือเรื่องอืน ๆ ตลอด แต่ก็ไม่เจอ มาเจอที่นี้ดีใจสุด ๆ :monkeysad: :monkeysad: :L1: :L1: :mc4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-02-2010 11:47:25
ยิ่งนานวันยิ่งสงสารทั้งแจ็คและไนท์
อึดอัดไปคนละแบบ ทั้งรักทั้งห่วงคนของตัว
แสดงออกมากเกินไปก็ไม่ได้
ลุ้นจริงๆว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อไป
บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 13-02-2010 17:30:38
มารอด้วยคน :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-02-2010 20:12:15
ดันๆ  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-02-2010 20:22:44
 :z2: อีกรอบ  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 17-02-2010 07:38:33
รอคอยตอนใหม่อยู่นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 17-02-2010 16:47:43
 :undecided: รอเธอออออออออออ..วันนั้น..วันนี้..พรุ่งนี้..วันที่เท่าไร..

วันนี้..วันไหน..ใจฉันก็ยังรอเธอ.................








 :กอด1:







หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 18-02-2010 08:18:08
มารอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-02-2010 20:09:25
 :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tsuyu ที่ 18-02-2010 20:30:31
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ

 :z13:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 18-02-2010 21:28:26
ยังไม่มาอีกเหรอ....รอๆๆๆๆๆๆๆแล้วก็รอ :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 18-02-2010 21:32:07
เข้ามารอด้วยคน   :z13:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 18-02-2010 21:36:32
คิดถึงจังมาเร็ว ๆ นะ :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-02-2010 23:14:15
ลงชื่อรอด้วยคนนะจ๊ะ
 :-[

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 20-02-2010 15:32:59
 :sad4: :sad4:
รอต่อไปด้วยความหวัง...... :monkeysad:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" Up 11/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 20-02-2010 19:42:15
เพิ่งได้มาอ่าน ตอนล่าสุด

แม่เจ้า สี่พี แถมรับอีกต่างหาก สงสาร พ่อหนุ่มนักกล้าม สองนนั่นจัง ฮ่าๆๆ
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-02-2010 20:12:06
มาอ่านกันต่อเลยนะคะ

...
ห้องรับรองสว่างเรืองด้วยม่านถูกรูดเปิดให้โล่งตลอดแนว  แสงสีทองของอาทิตย์ยามเช้าจับใบหน้าที่เริ่มกร้านด้วยวัยจนเป็นสีทอง  หากแต่รอยยิ้มหยันกับดวงตาแข็งนิ่งทำให้ดูเหี้ยมโหดอย่างประหลาด  ยิ่งเมื่อเห็นร่างเพรียวที่ผ่านซุ้มประตูเข้ามา  ดวงตาดำดุก็เป็นประกายเหี้ยมเกรียมและชิงชังวูบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ไนท์ปวดหนึบไปทั้งใจเมื่อเห็นดวงตาของฟาฮัส  แต่ชีคหนุ่มยังคงรักษาสีหน้าและแววตาให้ดูแจ่มใสไร้พิรุธ
“เห็นคนของเสด็จอาเตรียมตัวกันคึกคัก”
“อาคงต้องรีบเดินทางแล้ว” 
“มีงานด่วนหรือกระหม่อม?”
“ก็พ่อหลานนั่นแหละเร่งเรื่องโครงการใหม่  อาก็เลยต้องไปออสเตรเลียสัก 2-3วัน”         
“เสียดายจัง...เห็นว่าแฮมิลตันจัดโปรแกรมทัวร์ไว้ให้ยาวเหยียด เลยเก้อเสียแล้ว”         
“งานอากำลังยุ่ง....แล้วนี่จะกลับบ้านเมื่อไหร่ พ่อเจ้าเขาบ่นถึงใหญ่แล้ว?”
ชีคฟาฮัสบ่นปนเอ็นดูและเข้าอกเข้าใจเหมือนเคย  แต่น่าแปลกที่ไนท์กลับดูออกว่ามันเป็นการเสแสร้ง ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเชื่อว่าสีหน้าแบบนี้คือความรักและห่วงใยจริงๆ
“คงอีกสักสองสามสัปดาห์กระหม่อม  ขอเคลียร์งานทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน”
“ดี...อาจะได้บอกพ่อเจ้า...ยังไงๆเขาก็เป็นพ่อ  อ่อนๆให้บ้างเถอะน่าเขาจะได้ชื่นใจ...ถึงแม้เขาจะทำอะไรไม่ดีไว้บ้างแต่มันก็เป็นอดีตนะ เรื่องอะไรที่ลืมได้ก็ลืมๆมันไปเสียบ้าง”
“กระหม่อม”
“อาไปละ เดี๋ยวจะต้องรีบขึ้นเครื่อง”
“รักษาสุขภาพด้วยกระหม่อม”
“หลานก็เหมือนกันนะ  อาไปล่ะ”
ไนท์ทำความเคารพงดงามตามแบบแผน   ชีคฟาฮัสตบไหล่ไนท์เบาๆก่อนจะรีบไปขึ้นเครื่องพร้อมคนทั้งโขยง
ไคซัคปราดเข้ามายืนข้างนายทันที
“ให้คนเช็คดูซิว่าอาฟาฮัสติดต่อกับใคร?”
“กระหม่อม”
ในเครื่องบินเช่าเหมาลำ  ชีคฟาฮัสนั่งหน้าบึ้งตึงอย่างหงุดหงิด  การมาครั้งนี้ถือว่าขาดทุนอย่างสิ้นเชิง  เพราะไม่สามารถดำเนินการตามแผนได้เลยสักอย่าง  ทั้งที่ควรมีอะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง
แต่สิ่งที่ทำให้หนักใจที่สุดก็คือภาพความสัมพันธ์ระหว่างแฮมิลตันกับหลานชายต่างหาก  สายตาของแฮมิลตันที่คอยมองไนท์ชวนให้สงสัยว่า  ระหว่างของทั้งคู่อาจมีอะไรมากกว่าการทำธุรกิจร่วมกันเสียแล้ว ............
      
แจ็ควางเอกสารทั้งหมดลงแล้วมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง  งานที่นี่ดูมากก็จริง แต่เขาเชื่อว่าผู้จัดการของที่นี่สามารถแก้ไขได้แน่นอน และเท่าที่เขาตรวจดูก็ไม่เห็นพิรุธใดๆว่าจะมีการทุจริต
แต่ทำไมริชต้องส่งเขามากับอองรี...จะว่ากลัวล่าช้า อองรีคนเดียวก็จัดการทุกอย่างได้ดีและเรียบร้อย  ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องให้เขามาด้วย...หรือการที่เขาถูกส่งมาที่นี่เป็นเพราะสาเหตุอื่น?
แต่ที่เขาไม่กล้าคิดก็คือ...ริชส่งเขามาเพราะต้องการกันเขาออกห่างจากไนท์  เขาแน่ใจว่าริชรักคนรักมาก   แต่นั่นแหละ...เสน่ห์แห่งพญาเหยี่ยว ใช่ว่าใครจะปฏิเสธได้ง่ายๆ  แต่นั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เขาถูกส่งมาเพราะนิสัยริชชอบเล่นแบบยุติธรรมมากกว่าจะใช้วิธีนี้…ก็อกๆๆๆ         
“แจ็ค…ผมอองรีนะ เข้าไปได้หรือเปล่า?”         
“เชิญครับ”         
“ทำอะไรอยู่…ผมมารบกวนหรือเปล่า?”อองรีโผล่เข้ามาทำหน้ายุ่งๆ         
“เปล่าครับ…คุณอองรีมีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?”         
“ผมอยากส่งเอกสารนี่สักหน่อย แต่ตอนบ่ายผมมีอบรมพนักงานอีกชุด” 
“บริการส่งจดหมายของทางโรงแรมละครับ”
“เอกสารพวกนี้ผมก็ไม่อยากให้ทางโรงแรมรู้”         
“ทางนี้มีพิรุธเหรอครับ?”         
“ไม่มีนะสิครับถึงต้องส่งหลักฐานไปโดยไม่ให้รู้  ที่นี่ตั้งใจทำงานกันมากหากรู้ว่าถูกเพ่งเล็งในทางไม่ดีคงเสียกำลังใจ”         
“คุณอองรีครับ…ผมอยากถามอะไรสักอย่าง พอจะคุยกับผมได้ไหม?”         
“ได้สิครับ”         
“ผมรู้สึกแปลกๆที่ถูกส่งมานี่  ตอนที่มาคุณเจฟทำเหมือนที่นี่มีปัญหาใหญ่มากต้องการให้เรามาแก้  แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นว่าที่นี่ไม่มีอะไรเลย  เหมือนเราถูกส่งมาให้พ้นจากวงในยังไงชอบกล”         
“คิดเหมือนกันแฮะ…ผมคิดว่าผมกังวลไปเองเสียอีก”         
“แต่ผมคิดไม่ออกว่าทำไม่เราสองคนถึงถูกเขี่ยออกมา  จะว่าเรื่องงานก็ไม่น่าจะใช่เพราะงานของผมกับคุณอองรีก็ไม่เกี่ยวข้องกันเลย  อีกอย่างผมก็ประจำอยู่สาขาฮาวายไม่ใช่ที่เกาะ”         
“นั่นสิ ผมก็คิดจนหัวแทบแตกก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเราสองคน”         
“งานทางนี้จวนเสร็จหรือยังครับ  จะได้รีบกลับ?”
“เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่มีคำสั่ง...เรายังกลับไม่ได้หรอก”
“อะไรนะครับ?”
“ก็คุณเจฟโทรมา...บอกให้เราสองคนช่วยงานทางนี้ไปก่อน อย่าเพิ่งไปไหนจนกว่าจะมีคำสั่งให้กลับ”         
“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ครับ?”         
“ผมก็ไม่รู้  แต่พอคุณทักถึงได้คิดออก...เราเหมือนถูกตามประกบตลอด 24ชั่วโมงยังไงก็ไม่รู้”         
“ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเรื่องอะไรกันแน่…อ้อ!เอกสารที่จะให้ส่งอยู่ไหนครับ?”         
“อ้าว!มัวแต่คุยเกือบลืมแน่ะ  อยู่ในซองนี้ทั้งหมดแหละ...ฝากจัดการด้วยนะ”         
“ครับ  ผมไปก่อนนะครับ”         
“ขอบคุณมากแจ็ค”         
“ไม่เป็นไรครับ”
         ............

แจ็คก้มตรวจดูรายการที่ส่งเพื่อความเรียบร้อยอีกครั้งจึงออกมาจากสำนักงานจัดส่งเอกสาร  ชายหนุ่มสังเกตเห็นชายในชุดสีดำ 3-4 คนเดินตามเขามา  แจ็คลองหยุด พวกมันก็หยุด พอเขาเดินต่อพวกมันก็ตาม  ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างสงสัยแต่เมื่อถึงรถก็พบชายร่างสูงหน้าเสี้ยมยืนยิ้มเหมือนแสยะอยู่ข้างรถ         
“สวัสดีครับมิสเตอร์มิเคเน่“
“คุณทักคนผิดแล้ว”
“ไม่ผิดหรอกครับ  ฝ่าบาทฟาฮัสให้ผมมาเชิญคุณ”
“ผมแน่ใจว่าผมไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนนะ?” แจ็คยังคงตอบโต้อย่างใจเย็นทั้งที่สังเกตเห็นชาย 4คนเดินโอบล้อมเข้ามา
“แต่อีกไม่นานคุณจะได้รู้จักท่าน ...เชิญครับ”
“ผมไม่ไปกับคุณ  ช่วยหลีกทางด้วยผมกำลังรีบ” แจ็คปฏิเสธเสียงเรียบแต่สมองวางแผนว่าควรรับมือพวกมันอย่างไร
“ไม่ได้ครับ  ท่านต้องการพบคุณวันนี้”
“เสียใจครับ...ผมต้องรีบกลับไปทำงาน  กรุณาหลีกทางด้วย”
“ผมคิดว่าคุณคงอยากไป...หากทราบว่าเราต้องการจัดงานต้อนรับท่าน -
ชีครามิล ราจีสอับดุล คุณได้รับเชิญไปเป็นแขกเพื่อให้ท่านตื่นเต้น”
แจ็คยิ้มเย็น ในที่สุดพวกมันก็แบไต๋ออกมา  เรื่องอะไรเขาจะเอาตัวเข้าไปเป็นเหยื่อล่อไนท์ไปติดกับ
“ผมไม่รู้จักชีครามิลเป็นการส่วนตัว  ทำไมท่านจะต้องตื่นเต้น”
“แต่ผมคิดว่าท่านคงตื่นเต้นที่เจอคุณ”
“ท่านชีครามิลเป็นแขกของเจ้านายผม  ผมว่าคุณควรไปเชิญเจ้านายผมคงเหมาะกว่า  ผมไม่มีเวลาเล่นเกมกับคุณแล้วขอตัว”
แจ็คพยายามจะเดินหนีแต่กลุ่มชายฉกรรจ์รายล้อมเข้ามาอย่างรวดเร็ว  เจ้าหน้าเสี้ยมที่มาเจรจากับเขายังคงทำท่ามีมารยาท แต่พรรคพวกของมันท่าทางเหี้ยนกระหือรือไม่น้อย
แจ็คเกือบออกกำลังกับพวกมันอยู่แล้ว หากไม่เหลือบไปเห็นร่างเพรียวบางที่เดินเลี้ยวหัวมุมถนนมา  ถ้าเขาไม่ไปกับพวกมันอาจดึงเอาอองรีมาพัวพันด้วย 
แจ็คแน่ใจแล้วว่าริชเจตนากันเขากับอองรีออกห่าง  เมื่อตัวเขาหลบไม่พ้นก็ไม่ควรให้อองรีเดือดร้อนไปอีกคน
“พูดกันดีๆก็ได้ไม่เห็นต้องทำเป็นมาล้อมอะไรเลย ว่าแต่ผมต้องขึ้นรถคันไหน?”
“เชิญคันนี้เลยครับ”
พวกมันหันไปแสยะยิ้มให้กันอย่างดูถูก  นี่นะหรือคู่ขาคนโปรดของชีครามิล  ท่าทางแหย่แฟ่นอย่างนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกใจชีคจอมยโสนั่น  พวกมันกระจายกันไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว  แม้แต่อองรีที่เดินตามหาแจ็คก็ไม่เห็นว่าชายหนุ่มถูกพาตัวไป............
         
ชีคฟาฮัสส่องกล้องมองร่างสูงที่ลงมาจากเครื่องบินโดยมีลูกน้องของเขาเดินประกบมาไม่ห่าง  ไม่นานนักเจ้าหน้าเสี้ยมก็ขึ้นมารายงานด้วยใบหน้าภาคภูมิ
“เรียบร้อยกระหม่อม”
“นั่นนะเหรอคู่ขาของรามิล?”
“กระหม่อม”
“ดูธรรมดามากๆ แน่ใจนะว่าไม่ผิดตัว...คนอย่างนั้น...ไม่น่าทำให้รามิล ถูกใจได้?”
“นอกจากจะดูกระจอกแล้วยังขี้ขลาดด้วยกระหม่อม  ตอนแรกทำเป็นฮึด ฮัดไม่ยอมมา  แค่พวกเด็กๆล้อมเข้าหน่อยก็หน้าจ๋อยรีบลนลานขึ้นรถแทบไม่ทัน”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ารามิลจะชอบคนที่ดูธรรมดาแบบนี้  หน้าตาก็ไม่ได้เด่นเท่าไหร่นี่”
เจ้าหน้าเสี้ยมยิ้มแย้มประจบ  ทั้งที่ลึกๆในใจกลับอดขยาดไม่ได้  หมอนั่นนิ่งเกินไป  เฉื่อยชาเกินไป  เป็นคนอื่นหากถูกควบคุมตัวมาย่อมต้องแสดงอาการไม่สบายใจออกมาบ้าง  แต่หมอนั่นทำเหมือนกำลังจะไปเที่ยว  ที่น่าขนลุกคือดวงตาเย็นเยือกที่ได้เห็นเพียงแวบเดียวนั่นต่างหาก
“นั่นสิกระหม่อม ตอนแรกที่ไอ้นายแบบสองขั้วนั่นบอกกระหม่อมคิดว่าจะน่ากลัวกว่านี้เสียอีก”
องครักษ์ของชีคฟาฮัสคาดหมายอย่างแปลกใจ  ลอเรนซ์หลบมารักษาตัวที่นี่เกือบสัปดาห์แล้ว  แม้ใบหน้าจะยังเหลือร่องรอยอยู่แต่ข้อมูลของลอเรนซ์น่าสนใจจนกว่าใบหน้ามาก  และนี่เป็นสาเหตุให้ชีคฟาฮัสสั่งให้คนไปเอาตัวแจ็คมา
“ลอเรนซ์น่ะเหรอ…หมอนั่นมันขี้ขลาด  ตาขาวก็เท่านั้น  คงจะเจ็บใจที่โดนยำเสียเละเลยปั้นเรื่องหลอกใช้เรามากกว่า...ข้าคิดว่าคนที่จะทำให้รามิลสนใจน่าจะเป็นไอ้ แฮมิลตัน”
“แต่หมอนั่นควงนางแบบอยู่นี่กระหม่อม”
“ทีหลังถ้าไม่รู้จริงอย่าเสนอหน้า…ไอ้แฮมิลตันมันเลี้ยงเด็กผู้ชายไว้คนหนึ่ง  รู้สึกจะจริงจังมาก  พาออกงานด้วยบ่อยๆ” ชีคฟาฮัสหรี่ตาอย่างหงุดหงิด  นึกถึงเด็กหนุ่มหน้าสวย ท่าทางเขินอายไร้เดียงสาต้องตาจนอยากได้มาครอบครอง ติดที่ริชตามประกบไม่ห่าง   แต่เกรเซอร์สัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะเอาตัวมาเป็นของกำนัลให้ทันทีที่ฆ่าริชได้
“โห…พาออกงานเชียวหรือกระหม่อม?”
“ก็ใช่นะสิ  ก็กำลังหาทางจัดการอยู่  เห็นว่าเด็กนั่นเป็นจุดอ่อนอย่างเดียวของแฮมิลตันเสียด้วย”
“ไม่น่าเชื่อเลยกระหม่อม  เห็นมันควงนางแบบสวยๆตั้งหลายคน”
“เฮอะ!ผู้หญิง พลเมืองที่ไร้ค่า  ดีแต่งตัว…ไร้สมอง  ในหัวมีแต่เพชรพลอยกับซื้อของ  หากมันไม่มีประโยชน์ตรงที่สามารถให้กำเนิดทายาทแก่ข้าละก็ ป่านนี้ข้าสั่งประหารหมดเมืองไปแล้ว” ชีคฟาฮัสพูดด้วยท่าทางเยาะหยันหมิ่นแคลน  คนสนิททั้งสองยืนฟังเฉยทั้งที่ในใจไม่ได้เห็นด้วยกับนาย
“จัดให้มันพักที่ไหน?”
“ที่ห้องรับรองท่านรามิลกระหม่อม”
“ดี…อยากรู้นักว่ารามิลมันจะว่าไง”
“กระหม่อมติดเครื่องดักฟังกับกล้องไว้หลายจุดแล้วกระหม่อม” เจ้าหน้าเสี้ยมเสนออย่างเอาหน้าสุดชีวิต  หน้าที่บานแฉ่งค่อยๆหดเหลือแค่ 2นิ้วเมื่อชีคฟาฮัสหันมาตาเขียวปัด
“ไปเอาออกให้หมด!”
“อ้าว!...”
“คิดอะไรตื้นๆ...คนอย่างรามิลมันไม่โง่ขนาดปล่อยให้ของพวกนี้รอดหูรอดตามันไปได้หรอก  โง่แล้วยังมาอวดฉลาดอีก”
“ขอเพียงชีครามิลเอาแหวนมาด้วย  กระหม่อมแน่ใจว่าจะชิงมาได้  เกรงแต่ชีครามิลจะฝากไว้กับแฮมิลตันเท่านั้น” ยูซุฟที่ยืนกอดอกนิ่งอยู่นานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  ชีคฟาฮัสหรี่ตาครุ่นคิดตาม  ความเจ้าเล่ห์และเหี้ยมเกรียมบวกกับฝีมือระดับพระกาฬอย่างนี้ควรจะได้เป็นคนสนิทเคียงกาย  แต่มันก็เหมือนดาบสองคม  ชีคฟาฮัสชอบเรียกใช้แต่ไม่ให้ใกล้ชิด  เพราะคนสนิทกับองครักษ์แม้จะไม่เก่งและฉลาดเท่า  แต่ก็มั่นใจได้ใจความซื่อสัตย์
“พวกเจ้าไม่รู้จักรามิลดีพอ...มันมั่นใจในความสามารถของตัวเองมาก  ไม่มีทางที่มันจะปล่อยให้ของสำคัญอย่างนั้นห่างตัวเด็ดขาด”
“เราคงต้องวางแผนให้รัดกุมว่าจะจัดการกับชีครามิลอย่างไร”
“ช่างเถอะ...ขอเพียงมันยอมมาก็พอแล้ว”
“ฝ่าบาทคิดจะใช้...”
“ใช่! ถ้าหมอนั่นสำคัญกับรามิล  เราก็จะใช้มันต่อรอง”
“คราวนี้...เราจะได้ทั้งตราประทับและกำจัดรามิลไปพร้อมกัน...ฮะๆๆๆ อยากเห็นหน้าฮัสซาจริงๆว่าจะเป็นยังไงหากได้รู้ว่าลูกชายสุดที่รัก ที่แสนจะภาคภูมิในความเก่งกาจ กลับเลือกคนรักเป็นชาย...ฮะๆๆ...คงแทบกระอักเลือด”  สามนายบ่าวประสานเสียงหัวเราะกันอย่างสะใจ.  ขณะที่ยูซุฟยืนเฉย  แต่ตาเย็นนิ่งเหมือนปลาตายเป็นประกายกร้าว ...........

อองรีนั่งไม่ติดเมื่อแน่ใจว่าแจ็คหายตัวไปจริงๆ  เขากับคนของโรงแรม พยายามตระเวนค้นหากันจนรอบแต่ไม่พบ  ชายหนุ่มจึงตัดสินใจโทรบอกเจฟฟรี่
“ว่าไงอองรี?”เสียงเจฟฟรี่รื่นรมย์เหมือนเคย
“คุณเจฟครับ  แจ็คหายตัวไป”
“อะไรนะ!”
“แจ็คหายตัวไปครับ  เมื่อวานผมให้เขาไปส่งเอกสารให้ แต่เขาหายไปนานผิดปกติ ผมไปตามที่สำนักงานส่งเอกสารเขาก็ยืนยันว่าแจ็คส่งเอกสารเรียบร้อย  แต่เขาหายตัวไปเฉยๆ  รถยังจอดอยู่ที่หน้าสำนักงานเลยครับ”
“ค้นทั่วแล้วแน่นะ?”
“แน่ครับ...มีคนเห็นคนสวมสูทสีดำกลุ่มหนึ่งมาที่นี่”
“…อองรีเตรียมตัวกลับมาเดี๋ยวนี้ ส่วนเรื่องแจ็คฉันจัดการเอง  อีกสักครู่จะให้เครื่องไปรับ”
“ครับ”
เจฟฟรี่วางโทรศัพท์ช้าๆ แววตาครุ่นคิดและกังวล  ริชเหลือบมองแล้ววางสายจากคนรักทันที
“เกิดอะไรขึ้น?”
“แจ็คหายไปครับ...ผมจะให้คนตรวจสอบอีกทีว่าเป็นการลักพาตัวหรือเปล่า  หากใช่ต้องรู้ให้ได้ว่าใครทำ”
“บ้าฉิบ!อุตส่าห์ส่งแจ็คไปอยู่ที่อื่นแล้วทำไมมันยังดมกลิ่นเจอ”
“ผมว่างานนี้เกลือเป็นหนอนแน่  ต้องมีคนปูดเรื่องแจ็คกับชีครามิล”
“ใคร?…คนที่รู้เรื่องนี้มีไม่กี่คนเท่านั้น” ริชขมวดคิ้วยุ่งอย่างร้อนใจ         
“ผมจะหาตัวมันให้ได้ครับ”         
“บอกให้ชีครามิลรู้ตัวด้วย  บางทีเขาอาจหาตัวคนร้ายได้เร็วกว่าเรา”         
“ครับ”
         ............
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 20-02-2010 20:17:30
...
ขณะที่อองรีโทรหาเจฟฟรี่ ไนท์ก็ได้รับโทรศัพท์จากชีคฟาฮัสเช่นกัน         
“ไงหลานรัก…งานยุ่งมากหรือเปล่า?”
“งานเยอะเชียวกระหม่อม แต่คิดว่าน่าจะเสร็จทันไปร่วมประชุมกลุ่มผู้ค้าน้ำมัน”
“ก่อนไปแวะมาเที่ยวที่วังใหม่ของอานะ”
“ซ่อมเสร็จแล้วหรือกระหม่อม?”
“เสร็จแล้ว...รับรองว่าสวยกว่าที่คิด  อาจจะสวยสูสีกับเกาะของแฮมิลตันก็ได้”
“จะให้หลานไปเมื่อไหร่กระหม่อม?”
“สัก...2-3วันนี้เป็นไง?”
“กระหม่อม”
“อาดีใจที่เจ้ารับปาก  อย่างนี้คนรอคงไม่เหงา”
“คนรอ...ใครหรือกระหม่อม?”
“อาคิดว่าจะเซอร์ไพรท์เจ้า ก็เลยชวนเพื่อนสนิทของเจ้ามาร่วมงานด้วย”
“เพื่อนกระหม่อม?”
“ไว้มาถึงก็รู้เอง…เร็วๆนะ ไม่งั้นเพื่อนหลานรอแย่เลย”
ไคซัคเดินเร็วแทบเป็นวิ่งเข้าไปในห้องทำงานของชีคหนุ่ม  ไนท์กำลังวางโทรศัพท์ลงพอดี
“ฝ่าบาท”
“มีอะไรไคซัค?”
“แจ็คหายไปตั้งแต่เมื่อวานกระหม่อม”
“อะไรนะ!”
“อองรีส่งข่าวมาบอกคุณเจฟฟรี่ ว่าแจ็คหายตัวไประหว่างที่ไปส่งเอกสาร  มีคนเห็นว่ากลุ่มคนใส่สูทสีดำมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นก่อนที่แจ็คจะหายไป”
“มิน่า...อาฟาฮัสถึงได้โทรมาชวนให้ไปเที่ยวที่วังใหม่...เช็คไปที่สายของเราสิว่าใช่แจ็คแน่ไหม?”
“กระหม่อม” ไคซัครีบออกไปจัดการ  ไนท์ยกมือขึ้นกำจี้กางเขนที่คอไว้มั่น  ประมาณครึ่งชั่วโมงไคซัคก็กลับเข้ามา  สีหน้าขององครักษ์ทำให้ไนท์ใจหายวาบ
“คนที่ท่านฟาฮัสพาไปรอที่วังคือแจ็คแน่นอนกระหม่อม”
“เสด็จอารู้เรื่องแจ็คได้ยังไง…บ้าจริง!…อุตส่าห์แยกไปให้ห่างแล้วเชียว”
“กระหม่อมจะไปเอาตัวแจ็คกลับมา”
“ไม่ได้!หากเจ้าไปเข้าทางเขาแน่  งานนี้เสด็จอาต้องวางแผนไว้อย่างรอบคอบแล้ว….เมื่อทรงอุตส่าห์เชิญเราก็ไปเสียหน่อยปะไร” ไนท์ยิ้มเย็นแต่ดวงตาวาววับด้วยความโกรธ
“แต่ฝ่าบาทฟาฮัสต้องใช้โอกาสนี้ทำร้ายฝ่าบาทแน่”
“เรารู้…แต่จะให้เราอยู่เฉยๆหรือไง...เขาเปิดเกมขึ้นมาก่อนก็ดี เราก็จะทำให้เกมมันใหญ่กว่าที่เขาคิด”
“ฝ่าบาทจะทำยังไงกระหม่อม?”
“แล้วเจ้าก็รู้เอง…เราจะไปหาแฮมิลตัน  หากฮาลีติดต่อมารีบไปบอกเราด้วย”
“กระหม่อม” ไคซัคมองตามหลังนายจนลับตา  เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นฝ่าบาทร้อนรนเช่นนี้  ความรู้สึกของชีครามิลที่มีให้แจ็ค ย่อมลึกซึ้งเกินกว่าที่คิดมากนัก  เห็นทีเขาต้องทำทุกวิถีทางที่จะเอาตัวแจ็คออกมาให้ได้  แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม 
............

“ผมยินดีร่วมมือกับคุณ ยังไงแจ็คก็เป็นเพื่อนผม  ผมไม่ยอมปล่อยให้เขาอยู่ในอันตรายแน่” ริชตอบรับด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกว่าเคย         
“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ  ถ้าอย่างนั้นคุณจัดการเรื่องสื่อไปได้เลย”         
“ไม่มีปัญหา  ว่าแต่คุณจะให้ผมทำอะไรอีกหรือเปล่า?”         
“ระบบดาวเทียมต้องพร้อมตลอด ผมไม่แน่ใจว่าเราจะเจออะไรบ้าง”         
“ได้ครับ…ดีใจจัง” ริชยิ้มกริ่ม  ตาวาววับอย่างขี้เล่น         
“ดีใจ?…เรื่องอะไร?” ไนท์มองหน้าชายหนุ่มอย่างงุนงง         
“ดีใจที่คุณใช้คำว่าเราไง  ดูสนิทสนมดีจัง  อย่าลืมนะครับว่าห้องผมยังเปิดรออยู่เสมอ”         
“ผมว่าคุณไปรอรบกับเทพบุตรตัวน้อยๆของคุณดีกว่า  ได้ข่าวว่าอารมณ์ร้อนไม่ใช่ย่อยนี่” ไนท์โต้ยิ้มๆขณะลุกขึ้น  ริชทำตาโตอย่างคาดไม่ถึง         
“โห…ผมเชื่อแล้วว่าการข่าวคุณเยี่ยมจริงๆ”         
“ก็ผมหาข่าวจากมือดีที่สุดของคุณนี่นา”       
“ใคร?”       
“เจฟฟรี่ไง  ผมจะไปเตรียมตัวก่อน พรุ่งนี้เจอกัน”         
“เจฟนะเจฟ…ทำกันได้นะ” ริชเข่นเขี้ยวถึงคนสนิทอย่างแค้นๆ ............

แจ็คยืนมองทะเลเฉยเหมือนกำลังเพลิดเพลินกับธรรมชาติของที่นี่  แต่ความจริงชายหนุ่มกำลังประเมินว่าเขาควรอยู่ที่ไหน  แน่นอนว่าที่นี่ต้องเป็นเกาะส่วนตัว  และคนที่พาเขามามีเจตนาใช้เขาเป็นเหยื่อล่อไนท์  แม้จะไม่รู้ว่าเพื่อจุดประสงค์ใด  แต่คนที่ทำอย่างนี้ต้องไม่หวังดีกับไนท์แน่ๆ  ชายหนุ่มเดินทอดน่องไปตามขอบผาเพื่อลงไปที่ชายหาดเบื้องล่าง  เรื่องหนีไม่ต้องคิดให้เปลืองสมอง  เพราะมีทหารยืนยามกันเป็นระยะทั้งเกาะ
“แก!”
เสียงแผดเกรี้ยวกราดดังมาก่อน  ตามด้วยเสียงฝีเท้าพุ่งตรงมาหา  แจ็คเหลือบมองและหันกลับไปเผชิญหน้าอย่างแปลกใจ  ร่างสะโอดสะองของนายแบบหนุ่ม  รี่เข้ามาหาเขาอย่างประสงค์ร้าย  ไล่หลังมาด้วยนายทหารคนหนึ่ง
“มึงต้องตายไอ้แจ็ค  ไอ้เลว  กูจะฆ่ามึง”  ร่างที่พุ่งเข้าใส่กลับหยุดชะงักกึก  ก่อนจะถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างลืมตัวเมื่อเห็นสายตาเย็นเยือกของแจ็ค  รสชาติมือเท้าที่เคยโดนมายังเข็ดไม่หาย  ทำให้นายแบบหนุ่มต้องเบรกความโกรธไว้  แต่หันไปสั่งนายทหารที่วิ่งตามมาแทน
“กระทืบมัน  แล้วฉันจะจ่ายให้นายอย่างจุใจเลย”
แทนที่นายทหารคนนั้นจะทำตามกลับตรงเขาไปล็อคแขนลอเรนซ์แล้วลากกลับไป  โดยไม่สนใจเสียงเอะอะของนายแบบหนุ่มแม้แต่น้อย
แจ็คมองตามอย่างสมเพชก่อนจะเดินลงไปที่หาดตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก  ตอนแรกที่เห็นลอเรนซ์เขาคิดว่านายแบบหนุ่มให้คนไปเอาตัวเขามาซ้อม  แต่จากสภาพที่เห็นคงไม่ใช่  แล้วลอเรนซ์มาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร?...ตัวล่อไนท์เหมือนอย่างเขา...หรือเต็มใจมาเอง
แจ็คครุ่นคิดไปเรื่อยขณะถอดเสื้อออก  นายทหารคนหนึ่งปราดเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“จะทำอะไรครับ”
“ผมจะว่ายน้ำ...ไม่ได้เหรอครับ”
“คลื่นที่นี่แรงนะครับ  เกรงว่าจะได้รับอันตราย” ใช่ถ้าแขกพิเศษคนนี้เป็นอะไรไป  คนที่ซวยคือมันแน่นอน  เรื่องหนีนั้นไม่ต้องพูดถึง  ทั้งกระแสน้ำที่ไหลวนกลับเข้ามาและฉลามมากมายรอบเกาะก็เป็นปราการธรรมชาติชั้นดี
“ผมไม่ออกไปไกลหรอกครับ  แค่ว่ายเล่นแถวๆนี้”
“...งั้นก็...เชิญครับ”
แจ็คลงไปดำผุดดำว่ายอยู่ครู่หนึ่งก็ขึ้น  เป็นอย่างที่เขาคิดคือคลื่นซัดเข้าหาเกาะแรงเฉพาะด้านหน้า  ส่วนด้านหลังเกาะที่เป็นหน้าผากลับค่อนข้างสงบ  และน้ำก็ลึกมาก 
ตลอดเวลา3วัน  แจ็คไม่ได้ทำอะไรนอกจากไปว่ายน้ำดำน้ำแล้วก็กลับเข้าห้อง  ไม่มีใครเยี่ยมหน้ามาหาแม้แต่ลอเรนซ์  จนกระทั่งวันนี้ที่ทหารยามดูจะคึกคักกันเป็นพิเศษ  แล้วทุกอย่างสงบเงียบเหมือนเดิม...เงียบเกินไป  เหมือนทะเลก่อนจะมีพายุใหญ่  และแจ็คก็เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น   ทั้งร่างกายและจิตใจ

         ...............................................................

ชีคฟาฮัสยิ้มกว้างเมื่อริชและไนท์ลงมาจากเฮลิคอปเตอร์  ทั้งคู่ต่างค้อมกายเคารพ  ชีคฟาฮัสโอบไหล่ไนท์พาเดินเข้าไปด้านใน  หลังการทัก ทายตามธรรมเนียม  ริชก็แยกไปพักผ่อน  ฟาฮัสรอจนร่างสูงลับตาจึงหันมาซักไซ้ไนท์ทันที         
“ทำไมอยู่ๆแฮมิลตันถึงมากับหลานได้ล่ะ?”         
“พอทราบว่าหลานจะมาหาเสด็จอาเขาก็ขอตามมาด้วย คงเพราะอยากจะมาดูกิจการน้ำมันของเราด้วยกระหม่อม”         
“แน่ใจเหรอ  อาว่าเขาอาจอยากได้อย่างอื่นมากกว่านะ”ชีคฟาฮัสเย้ายิ้มๆ         
“ท่านอาหมายถึงอะไรกระหม่อม?”         
“อาคิดว่าหลานเองก็คงรู้...ว่าแฮมิลตันต้องการอะไร  อยู่ที่หลานแล้วละว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธ”
“หลานถือว่าเขาเป็นนักลงทุนที่น่าสนใจ หากได้มีโอกาสร่วมงานกันก็คงดีไม่น้อย” ไนท์ตอบยิ้มๆ  แต่ไม่ปฏิเสธเสียทีเดียว           
“แล้วแต่หลานตัดสินใจแล้วกัน  แต่ก็อย่าลืมดูแลคนของหลานด้วยล่ะ ไม่งั้นเขาอาจจะทำให้หลานเสียงาน” ชีคฟาฮัสลองหยั่งเสียงและจับตาดูปฏิกิริยาของหลานชายเขม็ง 
“คนของหลาน?”
“อย่าปิดอาเลยน่า...นายมิเคเน่นั่นไง  อาชวนเขามาเที่ยวด้วย  กะจะให้หลานแปลกใจเล่น  ไม่คิดว่าหลานจะชวนแฮมิลตันมาด้วย  เลยกลายเป็นเสียเรื่องใหญ่เสียใช่ไหม?” 
ไนท์ไหวไหล่สีหน้าเหมือนรำคาญนิดๆ
“อย่าห่วงเลยกระหม่อม สำหรับหลานไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่างานอยู่แล้วเสด็จอาก็ทราบ”
“ถ้าหลานจัดการได้อาก็หมดห่วง...อามัวแต่ชวนคุย ไปพักเถอะ”
“กระหม่อม”
“ชิ…ทำเป็นยโส  แล้วฉันจะรอดูว่าแกจะปากแข็งไปได้นานแค่ไหน?”
ชีคฟาฮัสมองตามหลังไนท์ด้วยดวงตาที่วาวโรจน์............
           
“ไนท์!” แจ็คอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นคนรักเดินเข้ามาในห้อง  ไนท์ถอดเสื้อสูทออก...แจ็ครับไปแขวนให้ 
ชีคหนุ่มเดินนำออกไปยังสวนโล่งกว้างภายนอก  แจ็คก็เดินตามไป  เมื่อไปถึงสนามกว้างก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้รับรองจ้องมองแจ็คด้วยสายตาเย็นชา  แจ็คเดินมานั่งที่เก้าอี้อีกตัว
“ทำไมถึงถูกจับตัวมาได้?”
แจ็คเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างละเอียด
“ผมไม่อยากให้อองรีติดร่างแหมาอีกคนก็เลยจำต้องตามพวกนี้มา”
“ฉันยังแปลกใจที่เธอยอมมาง่ายๆผิดปกติ”
“หวังว่าคงไม่เข้าใจว่าผมร่วมมือกับท่านชีคฟาฮัสล่อคุณมานี่หรอกนะ?”
“นั่นสิ...ของแบบนี้มันก็ไม่แน่เสียด้วยนี่นา…อาฟาฮัสน่ะใจดี แถมยังมีเด็กๆ  รูปร่างน่าตาน่ารักเยอะออกอย่างนั้น อาจจะมีสักคนที่ตรงสเป็คเธอก็ได้นี่”
แจ็คหัวเราะชอบใจแล้วค่อยๆเจื่อนลงเมื่อเห็นสายตาจริงจังของไนท์
“คุณ…ไม่ได้ล้อเล่นเหรอ?…นี่คุณคิดว่าผมทรยศคุณจริงๆเหรอ…ผมไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
“ไม่รู้สิแจ็ค รอบตัวฉันมันมีแต่คนแบบนี้ จนฉันชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าควรเชื่อใจใครได้อีก”         
“ไนท์!นี่คุณไม่ได้ล้อเล่นเหรอครับ  ผมคิดว่าคุณพูดเล่น  ผมไม่เคยคิดว่าคุณ….จะระแวงผม…คุณระแวงผมเหรอเนี่ย?”แจ็คครางออกมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเจ็บปวด  ไนท์มองหน้าเขานิ่งๆแต่ดวงตาเย็นชา  แจ็คผุดลุกขึ้นเดินหนีเมื่อความโกรธและน้อยใจประดังกันขึ้นมาจนทนไม่ไหว         
“นั่นจะไปไหน?”
“เรื่องของผม...ถ้าคิดว่าผมไม่น่าไว้ใจก็ไม่ควรปล่อยผมไว้ใกล้ๆจริงไหม?”         
“ไม่ต้องห่วง ฉันให้เสด็จอาจัดห้องให้เธอใหม่แล้ว  อีกสักครู่คนของท่านคงมารับ”
แจ็คกัดกรามกรอด กำมือแน่น  เจ็บแสบเหมือนถูกราดซ้ำด้วยน้ำเกลือ         
“ขอบคุณนะครับที่จัดการให้” แจ็คหันมาประชดอย่างน้อยใจแล้วเดินหนีออกไป
ทันทีที่แจ็คลับหายไป  ไนท์ก็กลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  ใบหน้าเรียบเฉยเย็นชา  แต่ดวงตาดุอ่อนแสงลงจนหม่นหมอง การสนทนากันที่สนามจะช่วยไม่ให้ใครดักฟังได้  เพราะไม่แน่ว่าคนของชีคฟาฮัสอาจซ่อนกล้องหรือเครื่องดักฟังไว้ในห้อง  แต่เชื่อเถอะว่าเขายังถูกจับตามองอยู่  หากไม่ทำแบบนี้เขาก็กันแจ็คออกจากความสงสัยของชีคฟาฮัสไม่ได้  ยิ่งแจ็คดูสำคัญมากเท่าไหร่ อันตรายก็ยิ่งมากเป็นเงาตามตัว         
‘ขอโทษนะแจ็ค…’ 
............
                                       
โต๊ะอาหารคืนนี้ดูงดงามและหรูหรา  แจ็คมองไปรอบๆอย่างอึดอัด  เขายังไม่พร้อมที่จะเจอไนท์ตอนนี้  ถ้อยคำบาดหูเมื่อกลางวันทำให้เขาเจ็บเกินกว่าจะควบคุมกิริยาไว้ได้
“แจ็ค!มาทำอะไรที่นี่?”เสียงอุทานคุ้นหูจากข้างหลังเรียกให้แจ็คหันกลับไปมองแล้วยืนตัวชา  ริช แฮมิลตันยิ้มร่ามาแต่ไกลและที่สำคัญ ชีครามิล  ราจีสอับดุลเดินเคียงมากับเขาด้วยท่าทางสนิทสนมยิ่ง
“คุณริช…”
“ดีใจจังที่เจอนาย  ว่าแต่มาที่นี่ได้ยังไงกัน?”
“แจ็คเป็นแขกของฉันเอง...มากันครบแล้วนี่ ลงมือกันเลยดีไหม” ชีคฟาฮัสเอ่ยยิ้มๆ ทุกคนทำความเคารพเจ้าของงานแล้วแยกไปนั่งเก้าอี้ที่มีชื่อวางไว้  แจ็คปฏิบัติตามทุกคนด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ลอบมองไนท์ผ่านแก้วไวน์ตลอดเวลา           
“อาคุณจะมาไม้ไหนถึงทำเป็นสนิทกับแจ็ค  ปรกติเห็นหยิ่งจะตาย” ริชก้มลงกระซิบข้างหูไนท์ขณะเลื่อนเก้าอี้ให้ไนท์นั่ง         
“เราคงต้องรอดูกันเอง” ริชหัวเราะหึๆ  ขณะที่ไนท์เงยขึ้นยิ้มหวาน  แล้วริชก็เดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้าม
เนื่องจากทั้งคู่กระซิบกันเบาเกินกว่าที่ทุกคนจะได้ยินบทสนทนา  แต่ท่าทางของทั้งคู่ก็ทำให้คนที่เห็นร้อนรนไปตามๆกัน         
“ผมเพิ่งทราบว่าคุณก็มาด้วย”ลอเรนซ์เพิงมาถึงและปราดเข้าหาริชทันทีที่เห็น
“จะไม่มาได้อย่างไรละครับ  ที่นี่มีอะไรน่าสนใจตั้งเยอะ  ผมดีใจแทบแย่ที่รามิลเชิญผมมา”
“ผมเป็นแขกประจำที่นี่เหมือนกัน  หากคุณต้องการเที่ยวชมที่นี่ผมก็ยินดีจะพาคุณชมปราสาท”         
“ยินดีเป็นอย่างยิ่งเชียวครับ”
สีหน้าของลอเรนซ์ชื่นขึ้นทันที ดูเหมือนทั้งริชและไนท์จะไม่สนใจเรื่องที่เขาก่อไว้ที่เกาะส่วนตัวของริช บาดแผลที่แจ็คทำไว้ถูกตกแต่งด้วยเครื่องสำอางจนมองไม่เห็น  แต่ความแค้นในใจนายแบบหนุ่มยังไม่จาง ยิ่งเห็นคนที่เกลียดได้มาเสนอหน้าในโต๊ะอาหารยิ่งขุ่นเคืองมากขึ้น  แต่จำต้องเก็บความแค้นไว้ก่อน เพราะชีคฟาฮัสสัญญาว่าจะให้เขาได้ทรมานมันหลังเสร็จงาน
ไนท์นั่งลงด้านซ้ายของชีคฟาฮัสขณะที่ริชนั่งฝั่งตรงข้ามคู่กับลอเรนซ์  แจ็คนั่งถัดจากไนท์ ตลอดเวลาที่รับประทานอาหารชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว  ส่วนใหญ่ลอเรนซ์จะผูกขาดการสนทนาไว้แต่เพียงผู้เดียว
ทันทีที่จบมื้ออาหารทั้งหมดก็ย้ายไปยังห้องพักผ่อนด้านข้าง  ลอเรนซ์ชวน ริชลุกออกไปเต้นรำทันทีและชายหนุ่มก็ไม่ได้ปฏิเสธ         
“ทำไมเงียบๆไปล่ะรามิล?”       
“หลานพูดไม่ค่อยทันลอเรนซ์กระมังกระหม่อม”         
“คงจะอย่างนั้น  หมอนี่แปลก…วันก่อนก็ร้อนรนมาโวยวายกับอาว่าหลานไม่สนใจเขาปล่อยให้เขาถูกเพื่อนของหลานทำร้าย  แต่มาวันนี้กลับไปตามแฮมิลตันแจเชียว”         
“ลอเรนซ์เขาชอบเป็นจุดเด่น ไม่ชอบให้ใครเหนือกว่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้วกระหม่อม”         
“แล้วนี่ตกลงเขาชอบหลานหรือชอบแฮมิลตันกันแน่?”         
“นั่นสิกระหม่อม  เดาใจยากเสียจริง” สองอาหลานหัวเราะให้กันเบาๆ

แจ็คมองบรรยากาศเหล่านั้นด้วยความรู้สึกหม่นหมองและเจ็บปวด ถึงจะบอกตัวเองให้ตัดใจแต่มันก็ยังเจ็บจนแทบทนไม่ได้  ชายหนุ่มก้มมองแก้วเครื่องดื่มในมือที่น้ำแข็งละลายจนแยกน้ำกับแอลกอฮอล์ออกเป็นชั้น...เหมือนเขา...ที่อยู่คนละโลกกับคนเหล่านี้
โลกของเขาคือมนุษย์สามัญธรรมดาที่ต้องปากกัดตีนถีบดิ้นรนทำกิน  แต่คนเหล่านี้ไม่ใช่  ทุกคนล้วนแล้วแต่มาจากตระกูลสูง มีเงิน มีอำนาจ เพียบพร้อมมาตั้งแต่เกิด นับวันเขากับไนท์ก็ยิ่งแตกต่างแปลกแยกกันมากขึ้นทุกที
ชีคฟาฮัสออกไปขอเต้นรำกับลอเรนซ์แทน นายแบบหนุ่มหน้าเสียด้วยความไม่พอใจแต่ก็จำต้องยอม ชีคฟาฮัสหันมาขยิบตาให้ไนท์ก่อนจะหมุนตัวออกไปห่าง   ริชกลับเข้ามาหย่อนกายลงนั่งข้างไนท์
“อาคุณพยายามเอาใจคุณน่าดูเลย”
“นั่นแหละที่น่ากลัว  เสด็จอาไม่เปลี่ยนเลย เคยดีกับผมอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นเหมือนเดิม  ผมยังไม่อยากเชื่อว่าอาจะเป็นคนอยู่เบื้องหลัง...ที่ผ่านมาผมไม่เคยระแวงเขาสักนิด” ไนท์รำพึงประโยคหลังอย่างเจ็บปวด  แต่สีหน้าราบเรียบ
ริชเหลือบมองชีคฟาฮัสนิดหนึ่งก่อนจะแตะหลังมือขาวชะโงกเข้าไปใกล้  ในสายตาของคนอื่นคงคิดว่าเขากระซิบคุยหยอกเย้ากับไนท์  ซึ่งเขาก็อยากให้ทุกคนคิดอย่างนั้น
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป?”         
“ผมต้องพยายามกันแจ็คออกไปจากที่นี่เสียก่อน อย่างอื่นค่อยคิดกันอีกที”         
“คงยาก ดูท่าแจ็คคงไม่ยอมไปง่ายๆ”         
“ผมมีวิธีบีบเขาก็แล้วกัน อยู่ที่คุณจะให้ความร่วมมือแค่ไหน?”         
“ผมน่ะเต็มที่อยู่แล้ว  ไม่รู้งานนี้จะโดนแจ็คต่อยหน้าเอาหรือเปล่าหนอ…นั่นไงตาเขียวปัดขนาดนั้น”         
“คุณอย่าทำเป็นเรื่องตลกได้ไหม  ผมซีเรียสนะ”         
“น่าผมก็อยากให้คุณผ่อนคลายกว่านี้หน่อย  คุณน่ะหน้ายิ้มแต่ตาดุจะแย่อยู่แล้ว”       
“ช่างผมเถอะน่า”         
“เอ้ายิ้มหน่อย  ตอนนี้ทุกคนมองมาทางนี้กันหมดแล้ว”
ไนท์เงยขึ้นยิ้มหวานจนริชยังอดยิ้มตอบไม่ได้  ชื่นชมในความสามารถของชีคหนุ่มไม่น้อย  ทั้งแข็งแกร่งและเยือกเย็นขนาดนี้ คงยากที่ชีคฟาฮัสจะเอาชนะได้  สงสารก็แต่แจ็ค  งานนี้คงเจ็บเจียนตายกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย

............
         


 :z3: เฮ้อ... สงสารแจ๊คจัง

ขอบคุณทึติดตามคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 20-02-2010 20:33:29
 :sad4:  งี๊ดดดดดดดดดดด  แจ๊คทำใจดีๆไว้นะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: underscoreONES ที่ 20-02-2010 20:52:36


โถววว... สงสารแจ็ค   อดทนอีกนิดนะแจ็คนะ ...
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 20-02-2010 20:54:53
เฮ้อ สงสารแจ็คอ่ะ  ความรักมีอุปสรรคเสียจริงเลย
 :sad2:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-02-2010 22:12:39
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 20-02-2010 22:31:15
สงสารแจ็ค...ท ทหาร อดทน...น้า :sad11:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 20-02-2010 22:43:02
สงสารแจ็คอ่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 20-02-2010 22:53:04
ทนอีกนิดนะแจ๊ค

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 20-02-2010 22:53:29
เป็นแฟนกับไนล์ต้องอดทน  รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 20-02-2010 23:00:08
 :serius2:  :serius2:  :serius2:

เครียดแทนแจ็ค!!!
ไนท์ก็ห่วงจนต้องทำให้เจ็บ (เจียนตายยยย)  
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 20-02-2010 23:08:52
อ่านเเล้วเหนื่อย
T  T"
สงสารเเจ๊ค
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 20-02-2010 23:18:54
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 21-02-2010 00:49:30
แจ็คสู้ๆ อดทนเข้าไว้
ไนท์ก็อึดอัด แต่หน้าที่มันบังคับ
กว่าจะลงตัว ลุ้นกันตัวโก่งแน่ๆ

บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 21-02-2010 03:32:07
 :monkeysad: สงสารแจ๊ค
นายริชกระซิบนิดนึง
ละครจะได้เนียน
แล้วมัวแต่ห่วงหน้า
ไม่ระวังหลังกันเลย
เริ่มเป็นห่วงราเชลแล้วซิ
++ ให้ความสนุก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 21-02-2010 09:04:55
 :sad4: ไม่รู้จะว่ายังไง





รอตอนต่อไปดีก่า





 :z3:




หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 21-02-2010 10:01:17
หลานแจ๊ค  :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 22-02-2010 23:37:53
 :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 23-02-2010 13:46:19
ไนท์เล่นเนียนจนแจ๊คโกรธแล้วอ่ะ......ลุ้นกันต่อไป
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 23-02-2010 17:12:01
เรื่องกำลังจะพีคคค

สงสารทั้งแจ๊คและไนท์ >.<
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: hopeful ที่ 23-02-2010 22:02:22
ชอบนิยายที่คุณใบปอแต่งจัง

โดยเฉพาะเอา ตัวละคร 3 เรื่องมาเกี่ยวพันกัน  น่ารักทุกคู่เลย
 o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 25-02-2010 21:03:14
 :t3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-02-2010 00:08:11
 :monkeysad: :monkeysad: รออยู่น้า  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 26-02-2010 22:16:40
คืนนี้จะมามั้ยเอ่ย

รออยู่นะคะ  :impress:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 26-02-2010 22:41:50
รอ....รอ...... :m15:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยนะคะ 20/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 26-02-2010 23:03:51
 :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 27-02-2010 22:26:39
ช่วงต้นปีงานการรัดตัวมากเลยทำให้มาต่อช้าไม่ว่ากันนะคะ :call:

ส่วนเรื่องหนังสือรอก่อนนะ ใบปอหายตัวไปตามตัวไม่ได้มาอาทิตย์นึงแล้ว555+

อ่านกันต่อเลยนะคะ
.....

แจ็คค่อยๆเลี่ยงออกมาจากห้องพักผ่อน  ภาพหวานชื่นของริชกับไนท์ทำให้เขาแทบแหลกเป็นชิ้นด้วยความทรมาน  ถึงรู้ว่าดีว่าเขากับไนท์ต่างชั้นกัน  แต่ความร้อนรนในหัวใจกลับทับทวี  เพิ่งซาบซึ้งกับตัวเองว่าเพลิงริษยานั้นแรงร้อนเพียงใด  ทั้งๆที่พยายามบอกตัวเองว่าเขาไม่มีสิทธิ์  แต่อีกใจก็ค้านอยู่ตลอดเวลา  อดคาดเดาไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งที่เขาถูกส่งออกมาเสียไกล เพราะริชกับไนท์กำลังสานสัมพันธ์ลึกซึ้งและไม่ต้องการให้เขาเป็นตัวเกะกะหรือเปล่า
เสียงคลื่นซัดฝั่งแต่ไกลเรียกให้เท้าพาแจ็คมุ่งไปหา  หน้าผาเตี้ยๆที่เขาเคยลงไปดำสำรวจตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เหมือนกำลังกวักมือเรียก  แจ็คถอดเสื้อผ้าออกเหลือเพียงกางเกงชั้นในแล้วทิ้งตัวลงสู่อ้อมกอดของมหาสมุทร  น้ำเย็นเฉียบโอบอุ้มเขาไว้อย่างอ่อนโยน  แจ็คดำดิ่งลงสู่ความลึกเบื้องล่าง  อยากทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังและไม่หวนกลับขึ้นไปอีก แต่สัญชาติญาณเอาชีวิตรอดก็ทำให้เขาต้องลอยตัวขึ้นสูงเมื่ออากาศจะหมดปอด         
แจ็คนอนหงาย ปล่อยกายลอยคว้างไปกับคลื่น  ในมโนภาพยังเห็นไนท์เงยขึ้นยิ้มหวานเมื่อริชก้มลงกระซิบถ้อยคำบางอย่างข้างหู  ร่างบอบบางที่เคยอยู่ในอ้อมแขนเขาคืนนี้เคียงข้างอยู่กับริช และตลอดเวลาไนท์ไม่เคยเหลือบแลเขาแม้แต่น้อย         
แม้จะคลางแคลงในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่มโนสำนึกก็ปฏิเสธที่จะยอมรับ สัญชาติญาณบอกเขาว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น เขาไม่เชื่อว่าไนท์จะกันเขาออกห่างเพียงเพราะเกิดเปลี่ยนใจไปชอบริช แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือทำไมไนท์ไม่บอกอะไรเขาเลย...หรือว่าไนท์ระแวงเขาจริงๆ         
“โว้ย!” แจ็คตะโกนก้องแล้วมุดหายลงไปในน้ำ ดำดิ่งจนปอดแทบฉีกจึงโผล่ขึ้นมาหายใจแล้วดำลงไปใหม่  โดยไม่รู้ว่าตกอยู่สายตาของ ชีครามิล ราจีสอับดุล ตลอดเวลา
“หมอนี่หึงคุณจนแทบคลั่งแล้วนะ”เสียงขำๆปนสงสารเอ่ยขึ้นข้างหลัง
ไนท์เหลือบมองร่างสูงที่เดินมายืนเคียงข้างด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เขาควรรู้ว่าต้องทำตัวยังไง  ถ้าต้องคอยเอาใจก็เสียงานกันพอดี”
“แจ็คเขาเคยเจ็บมามาก คุณเองก็รู้แล้วนี่” ริชเสียงขุ่นด้วยนึกโมโหแทนแจ็ค  ระหว่างที่เดินทางมาที่นี่เขาตัดสินใจเล่าอดีตรักที่เจ็บปวดของแจ็คให้ฟัง  แต่ไนท์กลับเฉยเมยราวกับฟังพยากรณ์อากาศจนเขานึกฉุน
“ผมไม่สนว่าอดีตเขาเคยเป็นยังไง”
“แต่มันมีผลกับปัจจุบันนะ…เขาทุ่มเทให้คุณทั้งชีวิตไปแล้ว มาเจอกับเหตุการณ์วันนี้ เขาคงทำใจไม่ได้”
“ถ้าเขาไม่เชื่อใจผมก็ป่วยการที่จะคบกัน คนเราต้องหัดเชื่อใจและให้เกียรติกันสิถึงจะคบกันได้”         
“คร๊าบ…คุณอาจคิดอย่างนั้นได้สิ แต่ใช่ว่าทุกคนจะคิดได้เหมือนคุณนี่  แจ็คน่ะรักมากก็ทุกข์มาก  คนรักเก่าก็ไม่เคยรักเขาจริง  แล้วพอเจอคุณก็...เหมือนจะซ้ำรอยเดิม  เขาคงรับไม่ไหว”
“ช่วยไม่ได้  หากเขาจะเอาคนในอดีตมาตัดสินว่าผมต้องเหมือนกันแล้วจะมาโกรธผมก็…เกม!”         
“จริงอะ…คุณคิดแค่นั้นจริงๆน่ะเหรอ?”         
“ใช่”         
“โธ่เอ๊ยแจ็คที่น่าสงสาร!  นายรักคนผิดเสียแล้ว รักใครไม่รักดันไปรักน้ำแข็งขั้วโลก”  ริชแกล้งโอครวญราวกับเป็นแจ็คเสียเอง ไนท์เหลือบมองตาขุ่น
“หยุดล้อเล่นเสียที  บอกแผนต่อไปของคุณมาดีกว่า”         
“ผมว่าเขาต้องหาทางเอาแหวนไปจากคุณแน่  เพราะนั่นเป็นกุญแจดอกเดียวที่จะเปิดกล่องตราประทับได้นี่นะ”
“ได้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตราประทับซ่อนอยู่ที่ไหน  ต่อให้เขาได้แหวนไปและรู้ที่ซ่อนตราประทับเขาก็เปิดมันไม่ได้อยู่ดีเพราะต้องใช้รหัสกับกุญแจถึงจะเปิดกล่องตราประทับได้”
“แน่ใจเหรอว่านอกจากคุณกับไคซัคแล้วไม่มีใครรู้รหัส…อย่าประมาทดีกว่า”
“ไคซัคไม่มีวันทรยศผม”         
“ถึงไคซัคไม่ทรยศเขาอาจมีวิธีอื่นเอาความลับนี้ไป”
“แล้วคุณจะเอายังไง?”
“ผมว่าเราต้องล่อให้เขาลงมือ  แต่ควรเป็นที่ๆเรารับมือได้...ออกไปจากที่นี่ก่อน  แล้วค่อยส่งคนตามประกบชีคฟาฮัส  หากเขาเคลื่อนไหวคนของผมจะรายงานให้เรารู้”
“ก็ได้”
“ตอนนี้ไคซัคไปทำงานแล้วใช่ไหม?”
“ใช่…ผมให้เขาออกไปหาตราประทับแล้ว”
“อย่างน้อยก็กันไคซัคออกไปได้แล้ว  เหลือแต่แจ็ค”
“ผมคิดว่าเสด็จอาคงเลิกสนใจเมื่อรู้ว่าแจ็คไม่สำคัญสำหรับผม และคงปล่อยแจ็คไป”
“ภาวนาให้อาคุณคิดอย่างนั้น  หากเขาเปลี่ยนใจฆ่าแจ็คทิ้งมันจะยุ่ง”
“งั้นต้องส่งแจ็คออกไปก่อนที่เราจะเดินแผนต่อ...”ไนท์ยังมองคนที่ว่ายน้ำอยู่ข้างล่างนิ่งงัน
“ผมจะลองหาวิธีดู” ชีคหนุ่มสรุปแล้วก็นิ่งไป  เลิกใส่ใจราวกับริชไม่มีตัวตนอยู่ตรงนั้น  แจ็คยังดำผุดดำว่ายไม่เลิกจนน่ากลัวจะเป็นตะคริว  ริชมองแจ็ค ก่อนเหลือบมองใบหน้าในแสงสลัวอย่างข้องใจ  แต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาหรือใครก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง  ริชเดินจากมาเงียบๆปล่อยให้ไนท์ยืนมองคนรักอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง............
         
แจ็คถอนใจยาวไม่อยากเข้าไปเหยียบห้องนี้อีก  แต่นี่เป็นคำสั่งของไนท์  เขาจำต้องมา
ไนท์นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานกำลังดูบางอย่างในกล่อง  เมื่อแจ็คเข้าไปก็วางกล่องอย่างไม่ค่อยสนใจนัก
“คืนนี้จะมีงานเลี้ยง  เราต้องไปร่วมงาน”
“คงไม่เกี่ยวกับผมมังครับ”
“บอกแล้วไงว่าเรา” ไนท์ผุดลุกขึ้นเก็บกล่องใส่เซฟแล้วหมุนรหัสปิดล็อค  แจ็คมองด้วยความรู้สึกเฉยเมย  แต่กลับจำตัวเลขได้โดยอัตโนมัติ
“ผมยังเป็นเราอยู่อีกหรือครับ?”
ไนท์ชะงักกึก  หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าดวงตาวาววับแต่ใบหน้าเย็นชาเหมือนหน้ากาก
“งั้นฟังให้ดี  คืนนี้ชีคฟาฮัสจะจัดงานเลี้ยงฉลองวังใหม่และต้อนรับริชกับฉัน  เธอต้องไปร่วมงานด้วย”
“ไปในฐานะอะไรละครับ  หรือว่าคนรับใช้ส่วนตัวคุณริช?”
“นั่นมันเป็นเรื่องของเสด็จอา ในเมื่อท่านเชิญเธอมาท่านคงหาตำแหน่งอะไรสักอย่างให้เธอได้ละมั้ง” หางเสียงหยันเยาะทำให้แจ็คหน้าชา  ชายหนุ่มจ้องหน้าใสด้วยดวงตาเจ็บปวด  ไนท์มองตอบไม่หลบ   แจ็คเป็นฝ่ายเมินมองออกไปที่สวนข้างล่าง
“คุณเรียกผมมามีธุระแค่นี้ใช่ไหมครับ?” แจ็คเอ่ยขึ้นเบาๆหลังจากเงียบอยู่นาน
“ใช่”
“งั้นผมขอตัว”แจ็คออกไปแล้วปิดประตูตามหลังอย่างเงียบกริบ
ไนท์ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้  สายตาเจ็บปวดของแจ็คบาดลึกในความรู้สึก จนอยากเข้าไปกอดปลอบและเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง  แต่สถานการณ์ตอนนี้ให้แจ็ครู้เรื่องน้อยที่สุดจะทำให้เขาปลอดภัยที่สุดเช่นกัน
.....................................
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 27-02-2010 22:36:48
........
งานเลี้ยงฉลองวังใหม่ที่จัดขึ้นห่างไกลกับคำว่างาน ‘เล็กๆ’ เฉพาะ ‘คนภายใน’ อย่างที่ชีคฟาฮัสบอกไว้ แขกที่ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้ค้าน้ำมันด้วยกัน  กับเจ้าครองแค้วนต่างๆในประเทศใกล้เคียง 
เมื่อมีแต่แขกจากชาติอาหรับ  ริช และลอเรนซ์จึงโดดเด่นขึ้นมาทันทีด้วยเป็นคนตะวันตกเพียงไม่กี่คน  แม้แต่แจ็คที่พยายามหลบๆก็ยังมีคนสนใจไม่น้อย 
งานที่จัดอย่างหรูหรา ทุกอย่างล้วนแต่คัดสรรแต่ของดีที่สุด หาชมยากที่สุด โดยเฉพาะระบำพื้นเมืองที่มีหนุ่มน้อยหน้าสวย เรือนร่างบอบบางแต่กลับเต้นรำได้ยั่วยวนยิ่งกว่าผู้หญิง  สร้างความฮือฮาและพึงพอใจจากแขกที่มาร่วมงานมาก
ชีคฟาฮัสฝืนยิ้มรับแขก   แต่สายตาจับจ้องอยู่ที่ไนท์กับริชอย่างหงุดหงิด ทั้งคู่หัวเราะต่อกระซิกกันตลอดเวลาจนแทบไม่สนใจการแสดงบนเวที  ผู้ที่มาร่วมงานต่างก็ลอบมองและแอบวิพากษ์วิจารณ์แต่ทั้งคู่ไม่สนใจใคร
แต่ชีคฟาฮัสก็ยังไม่เลิกสนใจแจ็ค แม้ไนท์จะหันไปสนใจริชแทน  แต่แจ็คใช่ก็ไร้ประโยชน์เสียทีเดียว  เรื่องจะพึ่งลอเรนซ์เห็นทีจะไม่มีทางเพราะเห็นเอาแต่ดื่มเหล้าจนเมาพับตั้งแต่หัวค่ำแล้ว  ช่างเป็นคนไร้ประโยชน์เสียจนไม่น่าเก็บไว้อีกต่อไป
แจ็คยืนหลบอยู่เงียบๆที่มุมสลัวห่างจากเวที  ตลอดเวลาชายหนุ่มไม่มองไปที่ไนท์เลยด้วยไม่อาจทนเห็นท่าทางหวานชื่นของทั้งสองได้  ชายหนุ่มรอจนคนของชีคฟาฮัส  ละความสนใจ จึงหลบออกมาข้างนอก
แจ็คเดินเรื่อยเปื่อยไปตามทางเดินสลัวราง  เขาไม่อยากกลับไปหาไนท์จนกว่าสภาพจิตใจเขาจะพร้อมกว่านี้  หากเจอกันในขณะที่เขายังอยู่ในสภาวะหึงหวง ไม่แคล้วเขาต้องทำตัวไม่เหมาะสมอีกตามเคย  แล้วไนท์ก็จะทำท่าราวกับเขาเป็นเด็กเจ้าอารมณ์ที่ไม่มีเหตุผล  นั่นจะยิ่งทำให้รอยร้าวระหว่างเขากับไนท์ยิ่งมากยิ่งขึ้น
ทางเดินค่อนข้างมืดและปราศจากยามเหมือนด้านอื่นๆ  แจ็คชะงักเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกตินี้  ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งมุ่งตรงมา ชายหนุ่มหลบเข้าหาพุ่มไม้ข้างทางอย่างรวดเร็ว           
“ต้องรีบเค้นให้ได้ก่อนที่คนของมันจะหาที่ซ่อนเจอ”
“แต่เราทรมานมันขนาดนี้แล้วนะ  ไอ้ไคซัคมันยังปากแข็งอยู่ได้…ไหนว่ามันรักลูกน้องมันนักไง...ขนาดเชือดไอ้หมอนั่นต่อหน้ามันยังไม่ยอมพูดสักคำ...ไอ้พวกห่...นี่มั่นไม่กลัวตายหรือยังไง  แต่ละคนทำหน้ายังกับหุ่น ทรมานแค่ไหนก็เฉย”
“หรือว่ามันอาจจะไม่รู้ก็ได้นะครับว่าตราประทับซ่อนอยู่ที่ไหน  ขนาดชีคฟาฮัสได้รหัสมาตั้งนานแล้ว  ยังแปลไม่ได้เลย”
“แต่ข้าว่ามันรู้  ไม่สังเกตเหรอว่ามันส่งคนออกมาค้นหากันแล้ว  แสดงว่ามันต้องแปลได้...ไม่น่าใจร้อนรีบจับตัวมันมาเลย  รอให้มันได้กล่องตราประทับมาก่อน  แล้วค่อยลงมือก็ดี”
“แต่ท่านยูซุฟได้ตัวไอ้ไคซัคมา   ก็เท่ากับได้รหัสเปิดมาทีเดียวนะครับ   ชีคฟาฮัสต้องให้รางวัลเราอย่างงามแน่”
“รางวัลน่ะเรื่องเล็ก  แต่ถ้าได้ตราประทับมาก็เท่ากับว่าชีคฟาฮัสได้กำลังทหารทั้งหมดไว้ในมือ  ถึงตอนนั้นงานเราจะได้เดินหน้าต่อเสียที    ฮึ่ม!ได้ตราประทับมาเมื่อไหร่  ข้าจะแล่เนื้อไอ้ไคซัคสังเวยให้พวกเราที่ถูกมันฆ่า”         
“แล้วรหัสเปิดละครับ?...ไอ้ไคซัคมันปากแข็งจะตาย”         
“เจอยาสูตรพิเศษของชีคฟาฮัสมันก็คาย  เดี๋ยวเราจะได้เห็นเวลามันโดนยาพิษ  รับรองว่าสะใจจนลืมไม่ลงเชียวละ  ฮะๆๆๆๆ”
พวกมันหัวเราะกันเกรียว  แจ็คใจหายวูบรีบตามไปติดๆ  ชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นไปหยุดที่เรือนรับรองหลังเล็กที่อยู่ห่างจากทุกหลัง  แล้วไขประตูเข้าไป  แจ็คพยายามจะเข้าไปให้ใกล้ที่สุดแต่ติดที่ไฟบริเวณนั้นค่อนข้างสว่าง  และมีพวกมันยืนยามอยู่หลายคน
แม้จะได้ยินที่พวกมันพูดไม่ค่อยถนัด  แต่แจ็คก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องได้แล้วว่าสิ่งที่พ่อเอาไปซ่อนไว้คือตราประทับ แสดงว่าคนของไคซัคคงหาที่นั่นไม่เจอทั้งที่เขานึกว่าไนท์ได้มันไปตั้งนานแล้ว  แม้จะไม่รู้ว่าตราประทับคืออะไรแต่ต้องมีความสำคัญมาก แจ็คตัดสินใจกลับไปหาไนท์เพื่อบอกข่าว  แต่ไม่ทันถึงครึ่งทาง ร่างท้วมในชุดขาวของชีคฟาฮัสก็เดินลิ่วมาแต่ไกล มีคนสนิทขนาบซ้ายขวา
“แน่ใจนะว่าไอ้ไคซัคมันแค่บาดเจ็บ ถ้ามันตายละก็รหัสเปิดสาบสูญแน่?”
“แน่กระหม่อม”
แจ็คครุ่นคิดด้วยความกังวล  ถ้าเขามัวไปหาไนท์พวกมันอาจใช้ยาพิษอะไรนั่นกับไคซัคไปแล้ว ฉะนั้นควรช่วยไคซัคให้เร็วที่สุดมากกว่า  แจ็คตามสะกดรอยตามชีคฟาฮัสไปจนถึงอาคารที่อยู่โดดเดี่ยวตรงท่าเรือ  แต่ไม่รู้จะหาทางเข้าไปยังไงเพราะมียามเฝ้าอยู่หลายคน  ชายหนุ่มตัดสินใจเสี่ยงโดยแกล้งทำลับๆล่อๆให้ยามเห็น       
“นั่นใคร....ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”  เสียงตวาดพร้อมกับยามหลายคนจ้องปืนมากันเป็นแถว         
“อย่านะ!  อย่ายิงนะ! ผมเป็นคนสนิทของท่านรามิลนะ” แจ็คแหกปากดังลั่นจนมันตกใจชะงักค้างไปชั่วครู่
“อะไรกัน”เจ้าหน้าเสี้ยมคนสนิทของชีคฟาฮัสวิ่งออกมาดู  หมอนั่นชะงักกึกเมื่อเหลือบมาเห็นแจ็ค         
“มาที่นี่ทำไม!”         
“ผมตามท่านฟาฮัสมาจากงานเลี้ยง  ผมมีข่าวสำคัญจะมาบอกท่าน  แต่ไม่รู้ท่านหายไปไหน  ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาบุกรุกอะไรที่นี่นะ”         
“มีเรื่องสำคัญอะไร” เจ้าหน้าเสี้ยมซักเสียงเครียดแต่ให้สัญญาณลูกน้องเข้ามาจับแจ็คไว้         
“ผมบอกคุณไม่ได้หรอก  เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องบอกท่านชีคฟาฮัสคนเดียวเท่านั้น”         
“อย่ามาเล่นลิ้นนะมึง”         
“ก็บอกแล้วไงว่าสำคัญ  ถ้าผมบอกคุณเกิดคุณเอาความชอบคนเดียว ผมก็แย่สิ”         
“มีอะไร”ชีคฟาฮัสออกมาดูเหตุการณ์อีกคน  แจ็ครีบโวยวายดังกว่าเดิม         
“ท่านชีคผมมีเรื่องจะบอก  เรื่องสำคัญด้วยนะ”         
“เรื่องอะไร ฉันกำลังยุ่งไม่มีเวลาสนใจเรื่องไร้สาระ?”         
“แต่เรื่องนี้สำคัญจริงๆนะ  เกี่ยวกับตราประทับ” แจ็คลองแหย่  และได้ผลเมื่อตาดุเป็นประกายวาบอย่างสนใจทันที
“อะไรนะ?”
“ผมคิดว่าผมพอรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”         
“พามันเข้ามา”
แจ็คถูกผลักจนเซเข้าไปในห้องซึ่งไม่ได้กว้างใหญ่อะไรนัก  แต่ชายหนุ่มเชื่อว่าไคซัคต้องถูกขังอยู่ในนี้แน่
“ว่าไงแกจะบอกอะไรฉัน?”         
“ก่อนจะบอกผมต้องขอสัญญาจากท่านก่อน”         
“อะไร?”       
“ก็...อย่างที่รู้ๆ  ข่าวสำคัญขนาดนี้ท่านจะไม่ให้รางวี่รางวัลผมบ้างเหรอ?”         
“แกอยากได้อะไร?”         
“ก็ไม่มาก...อย่างเงินให้ผมไปทำทุนสักก้อน” แจ็คทำท่าถูมืออย่างเหี้ยนกระหือรือ  ชีคฟาฮัสหรี่ตามองอย่างครุ่นคิด  มันดูง่ายไปหรือเปล่าที่จู่ๆแจ็คก็จะมาบอกข้อมูลเขาง่ายๆ         
“ทำไมถึงมาบอกฉัน  ความจริงแกควรไปบอกรามิลมากว่านะ”
“ไม่มีทาง!...เอ่อ...ผม...เอ่อ...ไม่ค่อยสนิทกับชีครามิล  แล้วเห็นท่านดูใจดีกว่า...ท่านคง...ให้รางวัลผมจุใจ”  แจ็คอึกๆอักและไม่ยอมสบตา  ชีคฟาฮัสยิ้มหมิ่นอย่างรู้ทัน
“จนป่านนี้แล้วแกยังคิดจะโกหกฉันอีกหรือ  ฉันรู้หรอกน่าว่าแกเป็นของเล่นของรามิล”
“ท่านเอาอะไรมาพูด...ไม่จริงหรอก...ท่านขะ...เข้าใจผิดแล้ว” แจ็คหน้าเลิกลั่ก ก่อนจะปาดเหงื่อ ท่าทางเคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆ
“หึ!เลิกโกหกได้แล้ว...คงจะรักรามิลมากละสิถึงได้คอยปกป้องกันขนาดนี้”
แจ็คเงยหน้ามาสบตาด้วยท่าทางเกรี้ยวโกรธราวกับงูถูกตีขนดหาง
“แล้วจะมีประโยชน์อะไร! ท่านก็เห็นว่าตอนนี้เขา...มีคนอื่น...เขาไม่แยแสผมสักนิด  แล้วทำไมผมต้องสนว่าเขาจะเป็นยังไง...” สีหน้าเจ็บปวดทุกข์ทรมานของแจ็คทำให้ทุกคนในห้องสบตากันเยาะ  แต่แจ็คเหมือนหลุดโลกไปแล้ว  เขายืนเหม่ออยู่ครู่หนึ่งก็หันมาจ้องหน้าชีคฟาฮัสด้วยสีหน้าดุดันราวชีคฟาฮัสคือไนท์
“ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ตราประทับอะไรนั่นมันสำคัญแค่ไหน...แต่ยิ่งมันสำคัญก็ยิ่งดี...เวลาที่มันตกอยู่ในมือคนอื่นเขาจะได้รู้รสของคำว่าผิดหวังซะบ้าง...ท่านเองก็อยากได้มันนี่จริงไหม...ถึงยังไงเราก็มีผลประโยชน์ร่วมกันนะท่าน”
“ผลประโยชน์ร่วมกัน?...แกคิดว่าแกเป็นใครกล้ามาต่อรองกับฉัน” ชีคฟาฮัสถามเยาะ  แต่แจ็คทำท่ารู้ทันและเยาะกลับ
“หึ!ท่านก็เลิกใส่หน้ากากด้วยดีกว่ามั้ง...ที่ท่านพาผมมาที่นี่ก็เพราะคิดจะใช้ผมต่อรองกับชีครามิลไม่ใช่เหรอ? แต่มันผิดแผนไปหน่อยที่ชีครามิลเลิกสนใจผมไปแล้ว  ตอนนี้หายใจเข้าหายใจออกก็เป็นไอ้แฮมิลตันคนเดียว...ช่างเถอะ  ผมว่าเรามาตกลงผลประโยชน์กันดีกว่า”
“ว่ามาสิ”
“ผมขอ10ล้านเหรียญ  โอนเข้าบัญชีผมที่ฮาวาย  โอนเสร็จผมจะพาไปเอาตราประทับ”
 “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าแกรู้ที่ซ่อนจริง?”         
“ผมเคยเห็นรหัสที่ซ่อนตราประทับมาบางส่วน ถ้าผมได้เห็นทั้งหมด  รับรองว่าผมบอกได้ว่ามันซ่อนอยู่ที่ไหน”  แจ็คยังแกล้งต่อรองถ่วงเวลาขณะที่สมองหมุนจี๋หาทางที่จะได้เจอไคซัค     
“แกจะบอกว่าแกอ่านได้?”
“แน่นอน”
“งั้นฉันคงต้องหาคนมายืนยัน  ตามมาทางนี้”
แจ็คเดินตามไปด้วยใจระทึก  ชีคฟาฮัสกับลูกน้องพาเดินไปด้านหลัง  ทันทีที่ตุ๊กตาประดับถูกหมุนไปทางซ้าย  ผนังทึบตันกลับเลื่อนเปิดเป็นช่อง มีบันไดทอดยาวลงไปข้างล่าง  แจ็คถูกผลักให้เดินตามลงไป 
ห้องใต้ดินเย็นยะเยือก  อับและชื้นจนได้กลิ่นสาปสาง ยิ่งลงไปลึกเท่าไหร่กลิ่นสาปก็ยิ่งรุนแรงยิ่งขึ้น  ยูซุฟเหลือบมองแจ็ค อย่างหมั่นไส้  อีกสักครู่เถอะไอ้ท่าทางมั่นอกมั่นใจนี้จะกลายเป็นลนลานด้วยความหวาดกลัว 
เสียงบางอย่างลอดขึ้นมาแว่วๆและได้ยินชัดขึ้นเมื่อลงไปถึงบันไดขั้นสุดท้าย  เสียงนั้นแผดโหยหวนจนแทบไม่น่าเชื่อว่ามนุษย์จะเปล่งเสียงแบบนั้นออกมาได้  แจ็คชะงักทำท่าเหมือนจะหันหลังกลับ  แต่คนที่ตามมาข้างหลังเอาปืนกระทุ้ง  จึงจำต้องก้าวต่อไป 
สุดทางเป็นอุโมงค์ค่อน ข้างกว้าง ทอดยาวและสว่างไสวด้วยแสงไฟ  สองฝั่งอุโมงค์เป็นห้องขังหลายสิบห้องตลอดแนว หลายห้องมีคนถูกพันธนาการแน่นหนา กระนั้นก็ยังดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งแผดเสียงร้องโหยหวนด้วยความทรมาน  ทุกร่างอาบโชกไปด้วยเลือดสีดำ  นี่เองคือที่มาของเสียงโหยหวนที่ได้ยิน บางร่างกลายเป็นซากแห้งๆกลิ้งอยู่กับพื้น  แจ็คผงะหนีลนลานขณะที่คนอื่นหัวเราะเยาะกันเกรียวกราว  ชายหนุ่มถูกพาตัวไปยังห้องหนึ่งและทันทีที่ประตูเปิดแจ็คก็ใจหายวูบด้วยความตกใจจริงๆ  ไม่ได้แกล้งทำเหมือนที่ผ่านมา
ไคซัคถูกขึงลอยพ้นพื้น ไหล่ข้างขวากับขาข้างซ้ายมีรอยถูกยิง  และคงโดนซ้อมด้วยเพราะใบหน้าแตกยับ  ร่างกายก็โชกด้วยเลือด  ทันทีที่ตั้งสติได้แจ็ค  ก็รีบเล่นละครต่อ
“อะ...อะไรกัน...ทำไมไคซัค...หรือว่า...ทะ...ท่านชีคจะฆ่าผม?” แจ็คแหกปากโวยวายราวกับคนบ้า   จึงโดนคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง โขกด้วยด้ามปืน เบาะๆที่หัว กระนั้นก็เล่นเอามึนจนเกือบล้ม
“อย่าแหกปากได้ไหม  มันน่ารำคาญ” ยูซุฟตวาดอย่างรำคาญ    เสียงเอะอะเรียกให้ไคซัคค่อยๆเงยขึ้นมอง  แต่พอเห็นแจ็ค  ไคซัคก็สะดุ้ง  หน้าเปลี่ยนสีฉับพลัน
“นาย!...มานี่ได้ยังไง?”         
“จุ๊ๆๆ....อย่าตื่นเต้นไคซัค  แจ็คเขาไม่ได้ถูกจับตัวมาเหมือนนายหรอก  แต่เขามีสินค้าที่จะเสนอขายนะ”
ไคซัคมองแจ็คอย่างงุนงงในทีแรกแต่แล้วก็ตาลุกวาบด้วยความโกรธ       
“ไอ้เนรคุณ...คิดอยู่แล้วว่าแกต้องทรยศสักวัน  ฝ่าบาทเลี้ยงงูเห่าไว้หรือนี่”         
“พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะ  นายคุณอยากทำผมเจ็บก่อนก็ช่วยไม่ได้  เรื่องอะไรผมจะยอมกลับไปมือเปล่า มันก็ต้องมีของติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง...คุณเองก็อยู่เฉยๆดีกว่า  แล้วผมจะช่วยพูดกับท่านชีคให้”         
“บัดซบ...แก...อย่าให้ฉันรอดไปได้...ฉันฆ่าแกแน่...อุ๊ก...”
ปึก!! ร่างสูงงอตัวลงมาเมื่อถูกทหารที่ยืนคุมอยู่กระทุ้งด้วยปืนที่ท้อง  แจ็คกลั้นหายใจไว้  พยายามตั้งสติไม่ให้กระโดดถีบไอ้หมอนั่น  ได้แต่ภาวนาให้ไคซัคหุบปากเงียบๆ  ไม่อย่างนั้นคงถูกทำร้ายมากกว่านี้
“เอาละเรามาเจรจากันดีกว่า…เห็นนี่ไหม...คงรู้นะว่าอะไร ส่วนนี่เป็นแผนที่ที่เราค้นได้จากสมุนของมัน”
แจ็ครับกระดาษรหัสกับแผนที่มาดู  ทันทีที่เห็นแผนที่ชายหนุ่มก็สะดุ้งวาบ  นึกออกทันทีว่าบิดาควรซ่อนตราประทับไว้ที่ไหน  แสดงว่าคนของไคซัคคงสำรวจแถวนั้นเสียปรุแต่คงหาทางเข้าไม่เจอเพราะรอยกากบาทไว้หลายจุด
“ผมรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน”
“แกโกหก...แกไม่รู้หรอกว่าอยู่ที่ไหน” ไคซัคยังพยายามห้าม  ทั้งที่ใจหายวาบ  เพราะแน่ใจว่าแจ็ครู้ที่ซ่อนจริงๆ  นึกเจ็บใจตัวเองที่ไม่จัดการกับแจ็คเสียก่อน
“ที่คนของคุณหาที่นั่นไม่เจอเพราะคุณไม่รู้วิธีเข้าไปต่างหาก  มีแต่ผมเท่านั้นที่เคยเข้าไปที่นั่นมาก่อน...ท่านชีควางใจได้  ผมรู้แล้วว่าตราประทับซ่อนอยู่ตรงไหน  ผมจะไปเอามาให้...แต่ท่านต้องยกไคซัคให้ผม...ผมจะได้เอาไว้ต่อรองกับชีครามิล...ไม่งั้น ชีครามิลเล่นงานผมแน่”
“ได้...แต่มีข้อแม้...แกต้องไปเอาแหวนเหยี่ยวที่อยู่กับรามิลมาให้ฉัน  แลกกับไอ้ไคซัค”       
“แต่...ผมไม่รู้ว่าแหวนนั่นอยู่ไหน?”
“อยู่ในเซฟของมัน...อย่าบอกนะว่าแกไม่รู้รหัสเปิดอีก  ถ้าแกไม่ได้มาคืนนี้  ไอ้ไคซัคเป็นศพแรก...ส่วนแกเป็นศพที่สอง”
“ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ  คนของคุณเก่งๆกว่าผมทั้งนั้น  เซฟแค่นั้นพวกคุณจัดการได้อยู่แล้ว”
“คนที่เข้าออกห้องรามิลได้มีแต่แกคนเดียวนะสิ  รามิลมันไม่วางใจใครง่ายๆหรอก  แต่กับแก...มันคงไม่ระแวง  ว่าไง ตกลงไหม?” ชีคฟาฮัสหรี่ตามองแจ็ค อย่างประเมิน
แจ็คยืนนิ่งขึง สิ่งที่พวกมันเรียกร้องยากเกินกว่าที่เขาจะตัดสินใจ  ชีวิตของไคซัคเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายบางๆ  และหากเขาตัดสินใจผิดพลาด  ก็เท่ากับเขาเป็นคนฆ่าไคซัคเหมือนกัน           
“ว่าไง  จะไปเอาแหวนมาแล้วไปเอาตราประทับมาให้ฉัน  แล้วแกจะได้เงินกับไอ้ไคซัคไป หรือว่าจะให้ฉันฆ่าแกเสียเดี๋ยวนี้” เสียงไคซัคตะโกนก่นด่าเขาไม่หยุด  แต่ก็ถูกทหารของชีคฟาฮัสซัดด้วยปืนจนหน้าหงายทำให้แจ็คต้องรีบตัดสินใจ 
“ตกลงผมจะไปเอาแหวนมาให้”         
“ดีรีบไปรีบมาล่ะ  แล้วอย่าได้พยายามส่งสัญญาณอะไรให้รามิลเป็นอันขาด  จำไว้ว่าทุกก้าวของแกถูกจับตาดูอยู่ตลอดเวลา”  ชีคฟาฮัสเตือนเสียงเย็น  เป็นการย้ำให้รู้ว่าแจ็คยังไม่เป็นที่ไว้วางใจสักนิด
“แล้วไคซัคล่ะ?”         
“ไม่ต้องห่วง  ข้าจะไม่ให้ใครแตะต้องมันอีก...ทันทีที่ได้ตราประทับมาเจ้าเอามันไปได้เลย”
“แต่...”         
“รีบไปฉันไม่ชอบคนชักช้า”         
“อย่า…อย่าทร..ยศ…ต่อฝ่าบาท…” ไคซัคพยายามห้ามทั้งที่เลือดท่วมปาก         
“ผมจะไปเอาแหวนมาให้คุณเดี๋ยวนี้”         
“ดีมาก”
แจ็คเดินดุ่มออกมาจากที่นั่น  ไม่หันกลับไปมองไคซัคให้เกิดพิรุธ  อย่างไรเสีย คืนนี้เขาต้องช่วยไคซัคให้ได้ ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
“กระหม่อมไม่ไว้ใจมันเลยฝ่าบาท” องครักษ์ปราดเข้ามากระซิบข้างหู  ชีคฟาฮัสกลับมองตามหลังแจ็คอย่างมั่นใจ
“ข้าจะให้ไอ้ยูซุฟไปกับมัน...คนเจ้าเล่ห์มันต้องปราบด้วยคนเจ้าเล่ห์เหมือนกัน...ในที่สุดสวรรค์ก็ช่วยให้ข้าได้บัลลังค์   ใครจะคิดว่าคนช่วยข้าจะเป็นคู่ขาเก่าของรามิล  ถ้ามันรู้คงแทบกระอัก  ฮะๆๆๆ”
“ฝ่าบาท...ไอ้หมอนั่นมันจะทรยศชีครามิลได้จริงๆหรือกระหม่อม”
“พิษรักแรงหึงนั้นมันมีอำนาจกว่าที่เจ้าจะนึกถึง”  ชีคฟาฮัสยิ้มหยัน  เยาะทั้งแจ็คและตนเอง  ไม่เพราะความรักความหึงหวงหรอกหรือ...ที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดทุรนทุรายมาชั่วชีวิต
‘น้องรักและเทิดทูนเจ้าพี่แค่ไหนก็ทรงรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่กลับทำเมินเฉย  ทรงรักนังโซฟียากับไอ้รามิลนักหนา...แล้วยังเห็น
ไอ้ลูกทาสเลือดต่ำอย่างซารีฟดีกว่าน้อง  ทรงชื่นชมมัน  เอ็นดูมัน...แต่กลับไม่ทรงเห็นความรักของน้องสักนิด...เจ้าพี่... ถ้าจะโทษก็โทษองค์เองเถิดที่อยุติธรรมกับน้อง  ในเมื่อไม่ทรงรักน้อง  เจ้าพี่ก็จะไม่เหลือคนที่รักแม้แต่คนเดียว!’ 
............

ในห้องรับรองของไนท์ยังเงียบกริบ  แสดงว่าไนท์ยังอยู่ที่งานเลี้ยง  ทหารองครักษ์ของไนท์เหลือบมองเมื่อแจ็คเดินผ่าน  แต่ก็ยอมปล่อยให้เขาไปในห้อง  แจ็คปราดไปที่เซฟอย่างไม่ลังเล เขาไม่สนใจกล้องวงจรปิดหรือสิ่งใด หมุนรหัสที่เห็นเพียงครั้งเดียวแต่กลับจำได้ขึ้นใจอย่างรวดเร็ว  เสียงลั่นกริ๊กเบาแต่กลับสะเทือนไปทั้งหัวใจ  การกระทำของเขาวันนี้คือการทรยศหักหลังคนที่รัก  แต่เขาไม่อาจปล่อยให้ไคซัคตายไปต่อหน้าต่อตาได้         
‘ไนท์…ผมรักคุณ…และผมสัญญาว่าจะไม่ยอมให้ตราประทับตกอยู่ในมือคนชั่วพวกนั้นเด็ดขาด’
กล่องแหวนวางอยู่กับเอกสารและเงิน  เมื่อกดสปริงเปิดแสงเพชรบนดวงตาเหยี่ยวเป็นประกายเจิดจ้าสะท้อนเข้าตา  แจ็คหยิบมันออกมาแล้วรีบไปหาชีคฟาฮัส   โดยปราศจากการขัดขวางจากทหารองครักษ์ของไนท์
“ผมเอามาแล้ว”  แจ็คชูแหวนให้ดู  ชีคฟาฮัสจ้องดูแหวนเขม็งแต่ไม่ยอมแตะต้อง  คนอย่างรามิลพิษสงรอบตัว  แหวนอาจมีพิษร้ายเคลือบไว้
“ดีมาก  ทีนี้ก็…ส่งแหวนมาให้ฉัน”  ชีคฟาฮัสดึงผ้าเช็ดหน้าออกมารอรับแหวน  แต่แจ็คกลับสวมแหวนไว้กับนิ้ว
“แกจะทรยศเหรอ?”
“เปล่า...ของแบบนี้ต้องยื่นหมูยื่นแมว  เกิดผมให้แหวนท่านไป  แล้วท่านฆ่าไคซัคล่ะ  ผมจะเอาอะไรไปต่อรอง...ถึงได้เงินไปก็ไม่มีประโยชน์ถ้าไม่ได้ใช้  ผมก็ต้องมีเกราะมีโล่ไว้ป้องกันตัวเองบ้าง  จริงไหมท่าน?”
“แกไอ้...” เจ้าหน้าเสี้ยมกระโจนเข้าใส่อย่างเดือดดาล  แต่ชีคฟาฮัสยกมือห้ามไว้
“...ฉลาดนี่  มิน่า...รามิลถึงถูกใจแก  ไม่สิ...เคยถูกใจต่างหาก”
“เลิกเสียดสีผมได้แล้ว” แจ็คตาขุ่นเมินมองไปทางอื่น  เหมือนจะระงับอารมณ์แต่ความจริงกำลังประเมินสภาพรอบๆตัว
“ดูท่าคงเตรียมพร้อมเดินทางแล้วสิ...เปลี่ยนเสื้อผ้ามาแล้วนี่” ชีคฟาฮัสยิ้มหยัน กวาดตามองชุดที่แจ็คสวม รวมทั้งเป้บนไหล่
“ในนั้นมีอะไร?” คนสนิทของชีคฟาฮัสปราดมาแย่งไปเปิด  เสื้อชูชีพตัวโตสีแปร๋นมัดด้วยผ้าไว้ลวกๆถูกดึงออกมา  กับยาแก้ปวดลดไข้หนึ่งซอง
“ก็แค่เสื้อชูชีพ...ที่ซ่อนตราประทับบางช่วงต้องลงดำน้ำ  หวังว่าช่วงนี้คลื่นลมคงสงบพอ”
“ไม่ต้องห่วง  ลูกน้องฉันว่ายน้ำเก่งทุกคน...คงไม่ว่านะถ้ายูซุฟกับลูกน้องจะตามไปช่วยค้นหา”
แจ็คยักไหล่  สีหน้าไม่ยีหระ
“ยังไงคุณก็ไม่ไว้ใจผมอยู่แล้ว  ผมไงก็ได้...อีกอย่าง  จะได้มีคนคอยหามไคซัค”
ชีคฟาฮัสชะงักไปนิดหนึ่ง
“จะเอาไปด้วยได้ยังไง  ไคซัคบาดเจ็บ”
“คนของท่านคงยินดีช่วย เพราะผมจะไม่ไปถ้าไม่เอาตัวไคซัคไปด้วย  บอกแล้วไงว่าเขาเป็นโล่ของผม  ยังไงก็ต้องหอบหิ้วไปด้วย  พอได้ตราประทับมาผมจะไปรอท่านที่เม็กซิโก  เงินเข้าบัญชีแล้วผมจะมอบแหวนกับตราประทับให้ทันที”
คนของชีคฟาฮัสทำท่าฮึดฮัด  แต่ชีคฟาฮัสยิ้มเย็น
“ฟังดูตลก ถ้าหากแกเชิดไปทั้งของทั้งคน  ข้าคงเสียเปรียบแย่...แต่ไม่เป็นไร...แค่แกต้องกินยานี้เข้าไปก่อน มันเป็นยาพิษสูตรพิเศษของข้า  หากไม่เคลื่อนไหวมากภายใน3วันมันจะไม่ออกฤทธิ์ ก็น่าจะนานพอที่แกจะไปเอาตราประทับมาได้ แล้วเรามายื่นหมูยื่นแมวกัน ข้าจะให้ยาถอนพิษแก พร้อมทั้งเงินสดอีกสิบล้านเหรียญ...แต่ถ้าแกทรยศ...สภาพแกก็ไม่ต่างจากไอ้หมอนั่น”  ชีคฟาฮัสชี้หัวแม่โป้งไปที่ร่างสีดำ  ที่บัดนี้หยุดเคลื่อนไหวอย่างสิ้นเชิง  ผิวที่กลายเป็นสีดำสนิทมีเลือดสีดำหยดลงจากตัวตลอดเวลา
“แจ็ค…อย่ากิน…”ไคซัคพยายามห้าม
แจ็คกรอกน้ำสีทองลงคออย่างรวดเร็ว  มันไม่ได้ร้อนจนลวกกระเพาะอย่างที่เขาคิด  แต่มันเย็นเยือกและค่อยไหลลงไปช้าๆจนรู้สึกได้ว่ามันไหลไปถึงที่ใดในร่างกาย
“ฮะๆๆไอ้หน้าโง่...แกคิดเหรอว่าชีคฟาฮัสจะให้ยาถอนพิษกับแก...สุดท้ายแกก็ต้องมีสภาพไม่ต่างอะไรกับลูกน้องฉัน...คงได้ไปใช้เงินในยมโลกแน่...ค็อกๆๆ” ไคซัคตะโกนเยาะทั้งที่แทบไม่มีแรงทรงตัว  แจ็คหันไปยิ้มให้  ในรอยยิ้มนั้นแฝงอะไรบางอย่างที่ทำให้ไคซัคชะงักและหยุดพูด
“ดีมาก...ทีนี้ก็ออกเดินทางกันได้แล้ว”
“ทำแผลให้ไคซัคด้วยนะครับ...ผมยังไม่อยากให้เขาตายไปเสียก่อน”
แม้คนสนิทจะไม่พอใจ  แต่เมื่อชีคฟาฮัสพยักหน้าก็จำต้องทำตามที่แจ็ค ไคซัคถูกปลดลงจากโซ่และได้รับการปฐมพยาบาลขั้นต้น  ก่อนที่จะถูกหามไปลงเรือพร้อมกับแจ็ค
“ฝ่าบาทยอมให้มันพาไอ้ไคซัคไปด้วย  เกิดมันพากันหนี” องครักษ์คนสนิททำท่ากังวล  แต่ชีคฟาฮัสยิ้มเยือกเย็น
“หึ...แกคิดว่ามันจะกล้างั้นเหรอ  มันเห็นแล้วว่าคนที่โดนพิษเข้าไปเป็นยังไง ถ้าหนีมันก็ตายสถานเดียว...อีกอย่างไอ้ไคซัค มันบาดเจ็บขนาดนั้น  ก็ยิ่งเป็นตัวถ่วงถ้าคิดจะหนี”

..........


ช่วยลุ้นให้แจ๊ครอดนะ
ขอบคุณคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-02-2010 22:47:29
มาแล้ว  :mc4: :mc4: :mc4: คิดถึงแจ๊คมากกกกก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 27-02-2010 22:48:18
โพสหมดแล้วใช่ไหมค่ะ

แบบว่า แจ๊ค พ่อยอดชาย นายไม่ใช่ซุปเปอร์แมนนะ จิตใจก็ดี ขอให้ช่วยได้หมดเถอะทั้งไคซัคและไนท์

ว่าแต่ แจ๊คมีวิธีรับมือกับพิษที่กินเข้าไปยังไง ทำไมถึงยิ้มอย่างนั้น

ตอนหน้าอย่านานนะคะ

ได้โปรด

อยากกดบวกให้แต่ไม่รู้กดยังไงคาดว่าสถานะตัวเองตอนนี้คงไม่สามารถกดให้ได้

 o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 27-02-2010 23:06:56

ลุ้นระทึก   :เฮ้อ:
หวังว่าคงปลอดภันทั้งคู่
ไม่ชอบไนท์ช่วงนี้เลย
++เป็นกำลังใจคนโพสท์

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 27-02-2010 23:09:24
การตัดสินใจของแจ็คจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น หรือเลวร้ายลงกันนะ
ไนท์คงไม่เข้าใจแจ็คผิดนะ
รออ่านต่อ ลุ้นมากค่ะ

บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้กับคนโพสต์ด้วยค่ะ
ขอให้ภารกิจลุล่วงด้วยดีค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: CHADMM ที่ 27-02-2010 23:11:56
โห ตอนนี้ค้างคาใจมากๆ อยากอ่านต่อแล้วอ่ะ   แจ็คเอ้ยยย  จะรอดไหมน่ะ

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: underscoreONES ที่ 27-02-2010 23:14:03


โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย... อ่านตอนนี้จบแล้วทรมานที่สุดเลยค่ะ!!!

ทรมานเพราะว่าไม่รู้ต้งรออีกนานกี่วันถึงจะได้อ่านตอนต่อ TT^TT  สงสารทั้งแจ็คทั้งไคซัค...


.
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 28-02-2010 00:37:00
 :z3: :z3:

แต่เดี๊ยนเชื่อมั่นในแจ๊คนะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 28-02-2010 01:21:00
 :sad4:  มาถึงตอนนี้แล้ว  ก็ใกล้ฉากจบเข้าไปทุกทีแล้วสิ  นายแจ็ค พ่อยอดขมองอิ่ม
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 28-02-2010 01:32:05
ลุ้นๆๆๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับตอนต่อ

ตอนหน้าอย่าทิ้งช่วงนานนักนะ plz...
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 28-02-2010 10:17:13
 :z3:   ลุ้นตอนหน้า

ขอบคุณนะค่ะที่มาต่อ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 28-02-2010 13:20:15
น่าลุ้นจังเลยแจ๊คจะรอดไหมนะ  เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 28-02-2010 16:01:59
 :เฮ้อ:แจ็ค หนอ แจ็คขนาดเจ็บขนาดนี้ยังมีกะใจช่วยเค้าอีกหนอ  ช่างเป็นชายหนุ่มในฝันอะไรขนาดนี้
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 28-02-2010 16:40:38
 o22
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 28-02-2010 17:02:55
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 28-02-2010 23:57:20
อยากได้แบบแจ็คสักคน  :m1:  แต่ตอนนี้น่าสงสารมากๆเลยอ่ะ
แล้วจะเป็นยังไงต่อเนี่ย เฮ้อ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 01-03-2010 09:37:04
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sand281017 ที่ 01-03-2010 09:40:39
ชอบจิงๆ เลยเรื่องนี้

เอ่อ ไม่ทราบว่าพอจะมีหนังสือเหลือป่าวค่ะ

อยากได้มาเก็บเป็นที่ระลึก

ถ้ามี ไม่มี ยังไงช่วยบอกด้วยนะค่ะ  :m15:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-03-2010 22:12:55
ไนท์น่ากลัวอะ แล้วแจ๊คจะเป็นอย่างไงบ้างเนี่ย ไนท์จะเข้าใจมั้ยว่าแจ็คกำลังจะทำอะไร
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 03-03-2010 21:26:44
 o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-03-2010 09:40:57
มารอๆๆๆๆ  :impress:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 04-03-2010 17:57:08
มารอค่ะ :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-03-2010 21:32:52
 :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: nanahashi ที่ 05-03-2010 07:51:50
เพิ่งตามมาอ่านสนุกมากๆเลยคะ ไม่ทราบว่ามีเป็นหนังสือไหมคะ อยากได้เก็บไว้จัง

แล้วก็อีกสองเรื่องของคุณใบปอก้อยากได้เก็บไว้เหมือนกันคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 05-03-2010 20:47:40
แจ๊คจะรอดไหมนะ ลุ้นสุดตัว...

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 05-03-2010 22:29:50
มารอ.... :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 07-03-2010 09:16:27
 :L1: :call: :L1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: koi ที่ 07-03-2010 14:03:37
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" up 27/02/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 07-03-2010 14:20:08
ยังไม่มา... :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 07-03-2010 14:51:10
ก่อนอื่นแจ้งข่าวเรื่องการตีพิมพ์ใหม่ของหนังสือเรื่องนี้นะคะ สำหรับคนที่จองไว้อดใจรอหน่อยนะคะ ใบปอฝากมาบอกว่ากำลังติดต่อสำนักพิมพ์ที่รับพิมพ์เป็นเล่มๆและไม่แพงอยู่คะ คงรอได้นะคะ

เรื่องนี้ใกล้จบแล้วล่ะ หลังจากจบเรื่องนี้ ผู้ประพันธ์ใบปอก็มีเรืองใหม่ที่กำลังเขียนอยู่สดๆร้อนๆไม่เคยตีพิมพ์หรือลงที่เว็บไหนมาก่อน มาต่อให้ได้อ่านกันคะ อดใจรอนะ :3123:
ไปอ่านกันต่อเลยคะ
.............

แจ็คและไคซัคถูกพาตัวไปขึ้นเครื่องบินแล้วมุ่งหน้าไปยังเกาะตามที่แจ็คบอกในคืนนั้น  ตลอดเวลาไคซัคนั่งคอพับคออ่อนมีสติบ้างไม่มีบ้างเพราะเสียเลือดไปมาก กว่าจะมาถึงเกาะก็เกือบเที่ยงของอีกวัน  แจ็คถูกต้อนลงเรือเล็กแต่แยกกันคนละลำกับ
ไคซัค ทำให้เขาพลาดโอกาสที่จะช่วยไคซัคไปอย่างน่าเสียดาย  เมื่อแผนแรกไม่สำเร็จแจ็คจำต้องพาพวกมันขึ้นเกาะ
เที่ยงตรง...คือเวลาเดียวที่ตะวันเสมือนไร้เงา  แจ็คเดินนำเข้าไปยังช่อง กว้างขนาด 3เมตร ที่ปกติจะถูกห่อหุ้มด้วยไอน้ำจนมองไม่เห็นทางเข้า ยกเว้นยามเที่ยง ไอน้ำจึงจะน้อยลง  นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกน้องของไคซัคหาทางเข้านี้ไม่เจอ
ชายฉกรรจ์ทั้ง 6คน ตามประกบแจ็คและไคซัคอย่างแน่นหนาในตอนแรก  และค่อยๆคลายความระมัดระวังลง เนื่องจากมั่นใจในประสิทธิภาพของยาพิษว่าจะทำให้แจ็คไม่กล้าเล่นตุกติก 
แจ็คเหลือบมองราชองครักษ์ร่างใหญ่ที่ถูกหามตามมาอย่างเป็นห่วง ไคซัคเสียเลือดมากขึ้นทุกที ใบหน้าซีดปากขาวจนเกือบเขียวแล้ว แต่ดวงตาที่มองมายังเขาแข็งกร้าวด้วยความจงชังและหยามเยาะในความขี้ขลาด
แจ็คพาทุกคนลัดเลาะขึ้นไปตามทางแคบชันที่เดินยากมากขึ้น  ในที่สุดก็ต้องเดินเรียงหนึ่ง มีพวกมันเดินนำหน้าหนึ่งคน และเดินแทรกกลางอีกคน     
“เมื่อไหร่จะถึงเสียทีวะ  อย่าให้รู้นะว่าแกเล่นตุกติกน่ะ  อย่าลืมล่ะว่ามีเพียงองค์ฟาฮัสเท่านั้นที่มียาแก้”
“น่าผมก็ยังไม่อยากตายหรอก ยังอยากใช้เงินไปอีกนานๆ เดินขึ้นไปถึงตรงนั้นนะแล้วค่อยๆไต่เลาะผนังไป  นี่...คอยดึงผมด้วยสิ ผมออกแรงไม่ได้นะ เกิดพิษกำเริบขึ้นมาผมก็พาไปไม่ถึงตราประทับพอดี”
พวกมันกัดกรามกรอดแต่ก็ยอมช่วยฉุดลากแจ็คไปแต่โดยดี ไคซัคหลับตานิ่งไม่เคลื่อนไหวปล่อยให้มันหามแคร่ขึ้นไปอย่างยากลำบาก
ในที่สุดทุกคนก็ไต่ขึ้นมาถึงลานกว้างช่วงปากปล่องถ้ำ ตรงกลางเป็นหุบเหวลึก แบ่งถ้ำออกเป็นสองฝั่ง  ไอน้ำจากลาวาเดือดเบื้องล่างพลุ่งฟุ้งขึ้นมาตลอดเวลา มีสะพานหินกว้างประมาณเมตรกว่าๆทอดข้ามไปฝั่งตรงข้าม แต่ไอน้ำจากเบื้องล่างพลุ่งขึ้นมาบดบังทางเดินส่วนใหญ่ไว้ 
แจ็คขยับจะเข้าไปก่อน  แต่พวกมันคนหนึ่งผลักอกเขาออกแล้วก้าวไปแทน ร่างหนาเลี้ยงตัวไปช้าๆ  แต่ไอน้ำทำให้หินเปียกและลื่น  ทั้งยังมองไม่ค่อยเห็นทางทำให้มันหยุดลังเล         
“ไปทางไหนวะ?”       
“ทางซ้าย…”แจ็คเอ่ยขึ้นมาลอยๆ มันก้าวตามที่ได้ยินทันที         
“อ๊ากกกก…”ร่างสูงใหญ่หล่นวูบหายลงไปต่อหน้าต่อตา  เสียงร้องโหยหวนบาดลึกเข้าไปในความรู้สึก  ทุกคนตะลึงอยู่กับที่         
“จะบอกว่าทางซ้ายน่ะเดินไม่ได้มันเป็นเหว” แจ็คแกล้งเอะอะและทำเป็นตกใจ         
“นี่มึงเล่นตุกติกเหรอ!ตายเสียเถอะมึง” สมุนคนหนึ่งกดปืนเข้าที่หัวแจ็ค แต่หัวหน้าของมันยึดไหล่ไว้  แจ็คแกล้งร้องโวยวายดังลั่น         
“นี่คุณ  เพื่อนคุณฟังอะไรที่ไหน ผมยังพูดไม่ทันจบก็พรวดพราดเข้าไป  ถ้ามันไปกันง่ายๆเขาจะเอามาซ่อนไว้ที่นี่เหรอ?”         
“ฮึ่ม!ไอ้กะล่อน…อย่าให้จับได้นะว่าแกคิดเล่นตุกติก  ถ้างั้นแกนำไป”         
“จะดีเหรอหัวหน้า”         
“หุบปากหรือแกอยากจะเป็นคนนำแทนมัน”         
“ไม่ครับผม” ลูกน้องยูซุฟหน้าเจื่อน  และหันมากระทุ้งปืนที่หลังแจ็ค
“ไปสิ!”
“คร๊าบ…แล้วคนเจ็บจะเอาไง  พาไปด้วยยากนา”
พวกมันหันมองไคซัคอย่างหนักใจ  ลำพังเดินตัวเปล่าก็ลำบากอยู่แล้ว นี่ยังต้องหามร่างสูงใหญ่ที่ทั้งหนาทั้งหนักไปด้วยอีก         
“แกนั่นแหละแบกไป”         
“อ้าว!ถ้าพลาดตกลงไปทั้งคู่ ใครจะเปิดเอาตราประทับให้นายคุณ  ผมว่าปล่อยเขาไว้ฝั่งนี้แล้วเราไปช่วยกันเอาตราประทับกลับมาให้เขาเปิดไม่ดีกว่าเหรอ”         
“…ก็ได้  แกเฝ้ามันไว้ ที่เหลือไปด้วยกัน” ยูซุฟสั่งสมุนคนหนึ่งให้เฝ้าไคซัค
“ครับผม”         
“นำไปได้แล้ว อย่าลีลาให้มากนัก”         
“ทางนี้ครับ  ตามผมมาเลย...ที่สำคัญ อย่าก้าวออกจากรอยเท้าผมแม้แต่ก้าวเดียว เดี๋ยวจะหาว่าผมเล่นตุกติกอีก”
แจ็คเดินนำช้าๆ ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง  คนที่ตามมาเหงื่อหยด  พยายามก้าวตามรอยต่อรอยไม่ให้พลาด กว่าจะไปได้สักเมตรกินเวลาหลายนาที  ดังนั้นการข้ามสะพานหินแคบและปกคลุมด้วยไอน้ำหนาจึงใช้เวลาเกือบชั่วโมง
ก้าวพ้นสะพานหินมาได้หลายคนถอนหายใจพรู  แจ็คลอบยิ้มหยันก่อนจะแกล้งนำพวกมันมุดลอดช่องเล็กช่องน้อยเข้าทางโน้นวนออกทางนี้  เสียงพวกมันบ่นอุบแต่ก็จำต้องตามชายหนุ่มไปติดๆ  เพราะหากคลาดกันคงหลงอยู่ในถ้ำนี้แน่
เกือบ2ชั่วโมงกว่าแจ็คจะพาทุกคนมาถึงลานหินกว้าง  ตรงหน้าคือแผ่นหินตัดตรงที่ราบเรียบราวกับถูกสร้างด้วยน้ำมือมนุษย์  ตอนนี้ไม่มีใครคุมตัวแจ็คเลยสักคน  เพราะแต่ละคนยืนบ้างนั่งบ้างหอบกันตัวโยน 
“ตรงไหนวะ?”         
ไฟฉายกำลังสูงถูกส่องสว่างจ้า  แจ็คชี้ไปยังแผ่นหินเรียบเสมอตรงหน้า     
“ที่เนี่ยเหรอ?...ไม่เห็นมีร่องรอยอะไรเลย?”   
 “คุณไม่เคยดูอาราดินกับตะเกียงวิเศษเหรอ  โอเพนเซซามีไง”         
“ต้องท่องคาถาด้วยเหรอนี่” พวกมันเหลียวมองหน้ากันเลิกลั่ก  แจ็คกลั้นหัวเราะด้วยความขันแกมสมเพช
“เปล่าหรอกผมล้อเล่น เห็นคุณซีเรียสก็เลยชวนคุย...โอ้ย!”แจ็คถูกกระชากจนลอยลิ่วไปกระแทกผนังถ้ำ  ยูซุฟจ้องชายหนุ่มตาแทบถลนด้วยความโกรธและอายที่ถูกไอ้หนุ่มต่างชาติหลอกปั่นหัวอีกครั้ง     
“อย่าได้บังอาจมาล้อเล่นกับคนอย่างข้า  ไปเอากล่องตราประทับมาได้แล้ว”
ยูซุฟเหวี่ยงแจ็คลงกับพื้น  แจ็คไอโขลกลูบคอที่ยังเป็นรอยแดงไปมาก่อนลุกขึ้นไปยืนตรงหน้าผนังเรียบเป็นเงา  แต่หากสังเกตให้ดีๆในลายหินจะมีริ้วสีแดงเส้นเล็กๆพาดพันเป็นลวดลาย  แจ็คลูบปราดไปตามลายจนเมื่อสะดุดที่มุมหินด้านหนึ่งชายหนุ่มก็ออกแรงผลักเบาๆ  หินก้อนนั้นก็เลื่อนราวกับมีชีวิต 
ลูกน้องของชีคฟาฮัสอ้าปากค้างเมื่อผนังราบเรียบตรงหน้าแยกออกจากกันเป็นช่อง  ที่พื้นตรงกลางเป็นหลุมกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ7นิ้ว ลึกลงไปหนึ่งช่วงแขนพอดี 
“อยู่ในนั้น”
สมุนคนหนึ่งปราดเข้าไปหาช่องสี่เหลี่ยมดำมืดแล้วล้วงมือเข้าไปอย่างรวดเร็ว         
“เฮ้!เดี๋ยว…”         
“โอ๊ย!”ไม่ทันขาดคำร่างหนาก็ผงะหงายหลัง  แมงมุมตัวเล็กจิ๋วไต่พรูขึ้นมาตามแขน ไหล่  และไต่ขึ้นบนศีรษะจนยุบยับไปหมด         
“ว่าแล้วเชียว”แจ็คส่ายหน้าอย่างสมเพช  ไม่อยากเชื่อว่าชีคฟาฮัสจะมีลูกน้องซื่อบื้อ แบบนี้
“ช่วยด้วย…อ๊อก..มันมี…พิษ…” หมอนั่นตาเหลือก ยกมือขึ้นกุมคอ เดินโซเซ    ก่อนจะล้มฟาดโครมลงไปนอนกรอกตาด้วยความหวาดกลัว   
“เฮ้ย!อะไรวะ?”  หนึ่งในสี่ร้องออกมาอย่างขวัญกระเจิงเต็มที่  เมื่อครู่ก็ตกสะพานหินไปหนึ่งคนแล้ว  นี่ยังมีโดนแมงมุมพิษกัดเอาอีก  ทำให้พวกมันขวัญบินไปหมด
“อย่าเอะอะไปน่า  เขาแค่ชาตรงที่ถูกกัดเท่านั้น  อาจจะเจ็บหน้าอกในรายที่แพ้แต่ไม่เป็นไรมากหรอก  พอออกไปผมจะทำยาพอกให้” แจ็คบอกหน้าตาเฉย 
แม้จะรู้ว่าหลังได้ตราประทับแจ็คต้องถูกฆ่าแต่เจ้าคนที่โดนแมงมุมพิษก็ยังไม่วายส่งสายตามีความหวังไปยังลูกพี่  ยูซุฟเมินมองไปทางอื่นก่อนจะหันไปกระทุ้งปืนเข้าที่หลังของแจ็ค
“เลิกเล่นได้แล้ว  ไปเอาตราประทับมาก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”     
“ก็ได้ๆ  ขอไฟแช็คหน่อยสิ ผมไม่อยากถูกกัดเหมือนเขา”
แจ็คลอยหน้าลอยตา  ยูซุฟกัดกรามกรอดด้วยความโกรธ  แต่ก็จำต้องส่งไฟแช็คให้  แจ็คหันซ้ายหันขวาก่อนจะก้มลงดึงผ้าโพกศีรษะจากเจ้าคนที่โดนแมงมุมกัดหน้าตาเฉย  มันทำตาเหลือกเหมือนจะประท้วงแต่ไม่มีใครสนใจ  แจ็คม้วนผ้าเป็นก้อนกลมๆแล้วจุดไฟโยนเข้าไป  ครู่เดียวแมงมุมสีขาวนับพันก็พรูออกมาแล้วซุกเข้าหาซอกหลืบใต้ก้อนหินทันที         
“พวกมันไม่ชอบแสงไฟเท่าไหร่  เอาละขอไฟฉายผมหน่อย” แจ็คส่องดูจนแน่ใจว่าไม่มีพวกมันจึงมองหาสลักภายใน 
แจ็คหมุนสลักไปทางซ้ายช้าๆ  ช่องหินเล็กแคบก็เลื่อนเปิดขยายออกกว้างทันที  กล่องโลหะสีเขียวปีกแมลงทับก็ปรากฏแก่สายตา  แจ็คมองนิ่ง...สิ่งนี้เองที่พรากพ่อไปจากเขา  ของที่พ่อใช้ชีวิตแลกเพื่อปกป้องมันไว้  และเขาก็จะใช้ชีวิตแลกเพื่อปกป้องมันไว้ให้คนที่รักเช่นกัน         
“มันอยู่นี่” แจ็คแกล้งถอยกรูดพลอยพวกมันประสาทเสียต่างรีบถอยหนีกันพัลวัน       
“ก็เอาขึ้นมาสิ”         
“แต่…เอ่อ…”         
“อะไรอีก...อย่าให้ฉันโมโห” ยูซุฟหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธจัด       
“ผมไม่มีถุงมือจะหยิบมันได้ยังไง”         
“ทำไมจะหยิบไม่ได้!”         
“ก็กล่องนี่มันอยู่ในรังแมงมุมพวกนั้นนะ  มันขับพิษออกมาจนเคลือบกล่องไว้เต็มไปหมด ใครจะไปกล้าหยิบเล่า”แจ็คแกล้งโวยทั้งที่รู้ว่ามันไม่ใช่เมือกพิษ         
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า  พิษในร่างกายแกมันร้ายแรงจนพิษอื่นๆทำอะไรแกไม่ได้อยู่แล้ว  อย่าเรื่องมาก  หยิบมันออกมาแล้วเราจะได้ไปกันเสียที”         
“…ก็ได้…มันจะเป็นอะไรไหมเนี่ย…น้ำพิษเพียบเลย  อึบ!”
แจ็คค่อยๆดึงกล่องขึ้นมาช้าๆ  พวกมันหลีกอย่างไม่รู้ตัวเมื่อเขายกกล่องที่มีแต่เมือกคาวผ่าน  ต่างคนต่างไม่อยากให้แจ็คสัมผัสด้วยเกรงพิษจากแมงมุมบนกล่อง  แจ็คแกล้งเดินโซซัดโซเซ ราวกับกล่องหนักมากแต่ไม่ใครยอมช่วย         
“นี่คุณ มันหนักนะ  จะให้ผมแบกคนเดียวเหรอ”         
“อย่าพูดมาก รีบนำไปได้แล้ว”
แจ็คบ่นพึมพำแต่ก็ยอมแบกกล่องเดินนำกลับไปตามช่องทางเดิม  เจ้าคนที่ถูกแมงมุมกัดกรอกตาตามสายตาวิงวอน  แต่ไม่มีใครสนใจช่วยพากลับมาด้วยแจ็คแกล้งทำเป็นหอบเหนื่อยเพื่อถ่วงเวลาจนไปโผล่ที่สะพานอีกครั้งก็เกือบมืด  ทำให้มองแทบไม่เห็นสะพาน  เมื่อแจ็คเริ่มก้าวนำช้าๆ  ทุกคนเดินตามรอยเท้าชายหนุ่มอย่างระมัดระวัง   แจ็คเหลือบมองฝั่งตรงข้ามสลับกับนาฬิกาที่ข้อมือเป็นระยะ
ขณะที่ทุกคนอยู่กลางสะพานพอดีก็บังเกิดเสียงประหลาดหวีดผ่านอากาศมาดังสนั่น   แจ็คพุ่งพรวดข้ามสะพาน  อาศัยไอน้ำแน่นหนาอำพรางตัวไว้
สมุนของชีคฟาฮัสตะลึงเมื่อฝูงค้างคาวนับพันพุ่งออกมาจากถ้ำดำมืดโถมเข้าหาพวกมันดุจกระแสน้ำเชี่ยวกราก  พวกมันพยายามจะข้ามสะพานให้ทันแจ็ค แต่ทางเปียกลื่นที่แทบมองไม่เห็น กับฝูงค้างคาวที่บินมาปะทะมากขึ้นทุกทีทำให้ต้องหมอบลงกับพื้นไม่อย่างนั้นอาจพลาดตกไปเบื้องล่าง
แจ็คพุ่งตัวลงจากสะพานแล้วโยนกล่องตราประทับในมือให้สมุนที่จ่อปืนอยู่ที่ศีรษะไคซัค 
“เฮ้!รับ”
หมอหันขวับมาทันเห็นกล่องแวบๆก็เผลอรับโดยอัตโนมัติทำให้ปืนหล่นจากมือ   แจ็คถีบโครมเข้ากลางตัวมันกระเด็นไปฟาดกับผนังแล้วรูดลงสลบคาที่         
“คุณไคซัคเร็วเข้า” แจ็คปราดไปคว้ากล่องมายัดใส่เป้แล้วลากร่างหนาหนักไปยังถ้ำอีกด้าน       
“อย่าให้มันหนีไปได้!” เสียงตวาดลั่นมาจากสะพาน  แจ็คเหลือบมองแวบเดียวแล้วกระชากไคซัคหลบหลังก้อนหินใหญ่.....เปรี้ยง!ๆๆๆๆ   ฟิ้ว! 
เสียงลูกปืนกระทบก้อนหินข้างตัวถี่ยิบ  แจ็คสบถเบาๆที่คว้าปืนของพวกมันมาไม่ทัน  แต่ตอนนี้ชีวิตของไคซัคสำคัญกว่า ชายหนุ่มสับเท้าสุดชีวิต หิ้วปีกร่างหนาหนักให้พุ่งเข้าหาช่องทางอีกด้าน ความสูงของไคซัคทำให้การเดินทางทุลักทุเลยิ่งขึ้น  โชคดีที่ถ้ำมีซอกเล็กซอกน้อยเต็มไปหมดช่วยให้การติดตามยากขึ้น         
“อดทนไว้นะครับผมจะพาคุณไปจากที่นี่ให้ได้”
“นาย…อย่าออกแรง…ไม่อย่างนั้น…พิษ..”ไคซัคพยายามห้ามไม่ให้แจ็คออกแรง แต่หนุ่มลูกทะเลไม่หยุด เพราะเสียงฝีเท้าไล่หลังมาไม่ไกล แสดงว่าพวกมันข้ามสะพานมาได้แล้ว 
“ช่างหัวมันผมไม่สน  คุณไคซัคต้องรอดให้ได้นะ  มีแต่คุณเท่านั้นที่จะช่วยไนท์ได้  ผมจะไม่ยอมให้ใครได้ตราประทับไปเด็ดขาด  ทนหน่อยนะครับ”  แจ็ค ลากไคซัคผ่านซอกถ้ำมายังลานกว้างอีกด้าน  แล้วหยุดหอบหายใจกันทั้งคู่
“ฉัน…ขอ…โทษ  ที่เข้า…ใจ นายผิด…”
“ผมดีใจที่คุณเข้าใจผิด...ถ้าพวกเดียวกันยังเชื่อ ผมก็หลอกพวกมันได้เนียนสนิท” แจ็คตอบยิ้มๆแล้วหิ้วปีกไคซัคไปตามทางคดเคี้ยวจนมาทะลุในโพรงขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างสว่างเพราะมีแสงลอดลงมาจากข้างบน
“แจ็ค…นายต้องมียาแก้พิษ”
“ช่างมันเถอะครับ  ที่สำคัญคือต้องช่วยให้คุณและตราประทับไปให้ถึงมือไนท์อย่างปลอดภัยต่างหาก”
รอยยิ้มของแจ็คอ่อนโยน  แต่ดวงตาที่สบกับเขาเยือกเย็นและแน่วแน่จนไคซัคหนาวหัวใจวูบ  ไม่มีวันที่เขาจะห้ามปรามแจ็คได้  เพราะแจ็คเลือกหนทางให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว    ใครจะคิดว่าแจ็คจะซ่อนความเด็ดเดี่ยวและแข็งแกร่งไว้ภายใต้เปลือกที่อ่อนโยนจนเหมือนอ่อนแอมาตลอด
 “ฝ่าบาทคงดีใจ…หากรู้ว่า…นายรักท่าน…แค่ไหน”
“ขอแค่เขารู้ว่าผมไม่ได้ทรยศเขาผมก็พอใจแล้ว  ตอนนี้คุณต้องทนหน่อยนะไคซัค  ผมต้องพาคุณออกไปก่อนที่มันจะตามเราเจอ”
ไคซัคอยากจะร้องครางด้วยความผิดหวังเมื่อพบว่าแจ็คพาเขามาสู่ทางตันแต่แจ็คกลับลากเขาลงน้ำ
“ทาง…ตัน…แล้วนะ”
“ผมรู้จักถ้ำนี้ทุกซอกทุกมุมไม่ต้องห่วงนะครับ...แต่ผมคงต้องขอยืมกัฟฟียาของคุณหน่อย” เพราะเป็นของประทานแจ็คจึงไม่กล้าหยิบเอง ด้วยเกรงจะเป็นการดูหมิ่นอีกฝ่าย
ไคซัคปลดผ้าโพกส่งให้แม้จะต้องกัดฟันด้วยความเจ็บอยู่ตลอดเวลาก็ตาม แจ็คสวมชูชีพให้ไคซัคแล้วใช้ผ้าโพกศีรษะของไคซัคมัดร่างหนาหนักไว้บนหลังแล้วค่อยๆเลื่อนตัวลงในน้ำช้าๆ
“กลั้นใจไว้เดี๋ยวนะครับ”
ไคซัคกัดฟันแน่นเมื่อแผลกระทบกับน้ำทะเล  ทั้งปวดทั้งแสบแต่ก็ทำให้เขามีสติมากขึ้น  อึดใจหนึ่งจริงๆแจ็คก็พาไคซัคดำลอดเข้ามาโผล่อีกด้าน
ผนังถ้ำที่ดูเหมือนตันเมื่อมุดลอดเข้าไปกลับเป็นโพรงสูงเกือบสองเมตรอยู่ด้านใน  แต่บางช่วงหินก็งอกลงมาเกือบจรดแผ่นน้ำ  แจ็คต้องดำน้ำเป็นระยะๆเพื่อให้ใบหน้าของไคซัคลอยอยู่เหนือน้ำเสมอ  โชคดีที่มีชูชีพช่วยประคองให้ไคซัคปลอดภัยและเบาแรงในการลาก
ไคซัคกัดกรามกรอด  แค้นใจที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ต้องเป็นภาระให้คนที่เขาดูหมิ่นมาตลอด  วันนี้แจ็คได้พิสูจน์ถึงหัวใจรักที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เขาหรือใครจะอาจเอื้อม  เขาเชื่อแล้วว่าองค์รามิลเลือกรักคนไม่ผิดจริงๆ  เพราะสิ่งที่แจ็คทำเพื่อพระองค์คือรักที่ให้ด้วยชีวิต
สายลมเย็นเอื่อยค่อยๆแรงขึ้น  จู่ๆผนังถ้ำดำมืดก็หายวับเมื่อแจ็คพาเขาหลุดออกมายังทะเลกว้าง  ท้องฟ้ามืดพราวด้วยดาวนับล้าน
“จะ…ไป…ไหนแจ็ค?”         
“เราจะไปเกาะข้างหน้านั่น  เห็นไหมครับ/”   แจ็คชี้ให้ไคซัคดูเกาะใหญ่ที่มองเห็นอยู่ไกลๆ   ถึงจะมองเห็นแต่ก็ใช่จะว่าจะใกล้   
“แต่มันไกลมากนะ…ทำไม…ไม่ไปเกาะเล็กข้างๆนั่นล่ะ?”         
“พวกมันต้องมุ่งไปที่นั่นก่อนแน่ๆ  อีกอย่างเกาะไกลๆที่คุณเห็นนั่นเป็นเหมือนบ้านอีกหลังของพ่อผม  ผมไปที่นั่นประจำก่อนพ่อตาย  ผมเชื่อว่าคุณจะปลอดภัยที่นั่น”         
“นายรู้ได้ยังไง....ว่ากล่องตราประทับ...ซ่อนอยู่ตรงไหน?”         
“ความจริงผมพอเดาได้ตั้งแต่เห็นรหัสนั่นแล้ว...ขอโทษนะที่ผมไม่ยอมบอกเสียตั้งแต่ตอนนั้น...ที่นั่นเคยเป็นที่ซ่อนสมบัติโจรสลัดสมัยโบราณ...ตอนเด็กๆผมเคยมาเล่นบ่อยๆเวลาพ่อมาหาไข่มุก จริงๆแล้วก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร นอกจากจะข้ามไปตอนที่ฝูงค้างคาวออกหากินกับตอนที่มันกลับเข้ามาเท่านั้น”         
“...ค๊อกๆๆๆ…” ไคซัคไอแรงขึ้นทุกทีด้วยพิษไข้ที่เริ่มรุมเร้าเพราะบาดแผลกำลังอักเสบ     
“ดื่มน้ำก่อนนะครับ”         
“เอา…น้ำ…มาจากไหน?”
“ผมเตรียมมันตั้งแต่ตอนไปเอาแหวน  โชคดีที่ซ่อนมันไว้ได้ ไม่อย่างนั้นแผนคงแตก”         
“หมายความว่านาย…แค็กๆ…วางแผนไว้หมด…เฮ้อออ…แล้วเหรอว่าต้องทำอย่างนี้”         
“ครับ”         
“แล้วนาย…กินยาพิษเข้าไปทำไม?”       
“ก็มันเป็นทางเดียวที่จะได้ตัวคุณมาอย่างปลอดภัย  ไม่อย่างนั้นชีคฟาฮัสจอมเจ้าเล่ห์นั่นไม่ยอมให้คุณมากับผมง่ายๆแน่”         
“แต่…เราไม่มียาถอนพิษ”
“ผมรู้....แต่มันต้องแลกกันนี่ครับ”           
“นายรู้รึเปล่าว่า...พิษนั่น...มันทรมานแค่ไหน?”         
“ผมไม่กลัว…เสียใจอยู่อย่างเดียวที่จะไม่มีโอกาสได้เจอไนท์...เอ่อ…ฝ่าบาท อีกแล้ว”         
“เรียกอย่างที่เคยเรียกเถอะ...ฝ่าบาทชอบให้คุณเรียกแบบนั้น...และคุณก็คู่ควร”         
“…ผมต้องขอโทษคุณด้วยนะครับที่คอยกวนโมโหอยู่บ่อยๆ  ผมเพียงแต่รู้สึกเหมือนต่ำต้อยเรี่ยดินทุกครั้งที่ต้องเรียกไนท์ว่าท่านชีค  เหมือนเขาไม่ใช่คนรักของผม  แต่เขาคือฟ้าที่สูงลิบจนผมไม่บังควรแตะต้อง”         
“แต่ฝ่าบาท...ไม่เคยคิดอย่างนั้น...ฝ่าบาทมีความสุขเสมอ...เวลาที่ได้เป็นแค่ไนท์  จิงเจอร์...ผมรู้ว่าฝ่าบาท...มีความสุขมากที่มีคุณเคียงข้าง”   ไคซัคอธิบายเสียงกระท่อนกระแท่น   แต่คนฟังหวานลึกในอกด้วยความยินดีและเป็นสุข     
“ผมก็มีความสุขที่ได้อยู่กับไนท์  และยิ่งมีความสุขที่เขาจะได้ตราประทับไป  พ่อผมรักษาสิ่งนี้ไว้ด้วยชีวิตของท่าน และผมก็ได้มีโอกาสสานต่อสิ่งที่พ่อทำไว้  ผมต้องพาคุณส่งให้ถึงไนท์ให้ได้…ค็อกๆๆ…แฮ่ม…แหม…สงสัยจะเป็นหวัด”
แจ็คยังพูดเล่นด้วยเสียงสดใส  แต่กลิ่นคาวฟุ้งของสิ่งที่เขาบ้วนทิ้งทำให้
ไคซัคใจหายวาบ  พิษร้ายกำลังสำแดงผลของมันแล้ว!
............
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 07-03-2010 14:55:05
+ ให้ความรักอันยิ่งใหญ่ของแจ๊คผู้น่าสงสาร กาซิกๆ

รอเรื่องใหม่ของพี่ใบปออยู่เสมอค๊า แอบรู้พลอตมานิดหน่อย อยากอ่านใจจะขาด >.<
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 07-03-2010 15:00:19
^
^
จิ้มรีบนคะ
....

ชีคฟาฮัสกลับเข้ามาก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกเล็กน้อย  เมื่อมาถึงก็รีบเดินเข้าไปหาไนท์ทันที
“เป็นไงงานสนุกไหม?”
“เสด็จไหนมากระหม่อม หายไปนานเชียว”
“ก็...นิดหน่อย” ชีคฟาฮัสทำท่ามีเลศนัยแต่ตาเหลือบไปยังนักเต้นหนุ่มน้อยร่างบางที่เดินตามหลังมาเงียบๆ  ไนท์อมยิ้มอย่างรู้ทัน
“แล้วแฮมิลตันละ?”
“ขอตัวกลับห้องไปแล้วกระหม่อม”         
“ทะเลาะกันหรือเปล่า?”         
“เปล่ากระหม่อม  แต่ว่าพรุ่งนี้จะออกเดินทางแต่เช้า  หลานเองก็ว่าจะไปดูเหมืองเพชรใหม่กับเขาด้วย  คงทูลลาเสด็จอาคืนนี้เลยกระหม่อม”         
“แล้วกัน...รีบไปกันหมดอาก็เหงาแย่สิ...น่าจะอยู่ด้วยกันอีกหน่อย”
จู่ๆองครักษ์คนสนิทของชีคฟาฮัสก็เดินลิ่วเข้ามากระซิบข้างหู  ชีคฟาฮัสหน้าบึงตึงฉับพลัน         
“เกิดอะไรขึ้นฝ่าบาท?”         
“รู้สึกว่าอาจะถูกหยามเสียแล้ว…ยามของอาถูกทำร้าย  และเรือถูกขโมยไป”         
“ใครจะกล้าทำเช่นนั้น?”         
“คนของอากำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิด  เดี๋ยวก็รู้ว่าใครมันบังอาจ”
ครู่เดียวคนของชีคฟาฮัสก็กลับเข้ามากระซิบกระซาบชีคฟาฮัสอีกครั้ง  ไนท์ยังนิ่งเมื่อเห็นชีคฟาฮัสหันมามองหน้าเขาอย่างไม่ค่อยพอใจ         
“รู้สึกว่าคนของหลานจะเล่นไม่ซื่อเสียแล้ว  แจ็คเข้าไปเปิดเซฟในห้องหลานแล้วหยิบของไป  แถมยังทำร้ายคนของอาเพื่อแย่งเรืออีก  งานนี้คงต้องคุยกันหน่อยกระมัง?”         
“หากแจ็คทำอย่างนั้นหลานจะรับผิดชอบเอง”
ไนท์ตามคนของชีคฟาฮัสออกมาดูกล้องวงจรปิด  ภาพแจ็คที่กำลังเปิดเซฟในห้องของเขาทำให้ชีคหนุ่มพูดไม่ออก
ไนท์ยังคงยิ้มสดใสแม้ในใจจะระอุด้วยความโกรธ  ไม่เคยมีใครกล้าหยามเขาขนาดนี้มาก่อน  หากแจ็คคิดว่าความรักจะทำให้เขายอมอ่อนข้อให้ทุกอย่างละก็ แจ็คจะได้สำนึกในวันนี้ว่าคิดผิด  ร่างระหงเดินลิ่วไปยังห้องพัก  เขารูดคีย์การ์ดแล้วกระชากประตูเปิด 
ไฟสว่างวาบขึ้น ทุกอย่างในเซฟยังคงอยู่ในสภาพเดิมยกเว้น...กล่องใส่แหวนหายไป  ไนท์ตาลุกวาบ ความโกรธทวีขึ้นทุกขณะ  แจ็คกำลังเล่นเกมกับเขาและเขาจะสอนให้รู้ว่า รามิล ราจีสอับดุล ไม่ใช่คนที่แจ็คจะบังอาจมาล้อเล่น         
“อามิล...ส่งคนของเราออกไป  หาตัวแจ็คให้เจอใน 24 ชั่วโมงนี้”
............

อองรีเกือบสะดุ้งเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วพบว่ามีคนรออยู่ในห้องนอนของเขาแล้ว
“ท่านชีค!” อองรีอุทานเบาๆเมื่อเห็นคนที่รออยู่ถนัดตา
“สวัสดีอองรี  ขอโทษที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้องเธอ”
“ผมคิดว่าฝ่าบาทต้องมีเรื่องสำคัญมากถึงมาที่นี่แทนที่จะเรียกผมไปพบ”         
“ก็คิดว่าสำคัญนะ  แต่ก็ขึ้นอยู่กับเธอว่าจะเห็นว่ามันสำคัญหรือเปล่า”
ไนท์ลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง  อองรีมองตามอย่างร้อนใจ         
“ผมรอฟังอยู่แล้วครับ”         
“ไคซัคหายสาบสูญ  อาจได้รับบาดเจ็บสาหัส…หรือตาย” เสียงไนท์ราบเรียบแต่คนฟังรู้สึกเหมือนหล่นวูบจากที่สูง  อองรีเซไปปะทะผนังข้างหลังด้วยความตกใจ         
“อะ...อะไรนะครับ?...”         
“เธอได้ยินชัดแล้ว...ฉันต้องมาบอกเองเพราะหากให้คนอื่นมาอาจอันตรายกับเธอ”ไนท์จ้องมองคนรักของคนสนิทอย่างเห็นใจ         
“…ไม่จริง…เมื่อ3วันก่อนเขายังโทรมากวนประสาทผมอยู่เลย…”อองรีหลุดเสียงครางระโหยด้วยความตกใจมากกว่าจะไม่เชื่อ         
“เขาขาดการติดต่อมา3วันแล้ว  ฉันให้คนออกค้นหา  คิดว่าต้องเจอเขาเร็วๆนี้”         
“ผมไปด้วย…ขอผมไปหาเขาด้วยคน”         
“ไม่ได้! ที่ไคซัคไม่ยอมให้เธอรู้ว่าอยู่ที่ไหน  ก็เพื่อความปลอดภัยของเธอ  คนที่เล่นงานไคซัคไม่ธรรมดา…แต่ฉันเชื่อว่า
ไคซัคยังมีชีวิตอยู่ อีกไม่นานเราต้องได้ตัวเขาแน่”         
“ฝ่าบาท...ผมขอร้องนะครับ  ได้โปรดอนุญาตให้ผมไปหาไคด้วยเถอะ ผมรออยู่อย่างนี้ไม่ไหว” อองรีวิงวอนด้วยใบหน้าซีดเผือด  ไนท์ได้แต่ส่ายหน้า         
“เสียใจนะอองรี  ฉันรับปากไคซัคแล้วว่าเธอจะต้องปลอดภัย  ไคซัคเขารักเธอมากนะ  ที่เขาทุ่มสุดตัวก็เพราะมันเป็นงานสุดท้ายในหน้าที่องครักษ์ หน้าที่ที่ต้องทำไปจนตาย แต่ไคซัคของานที่เสี่ยงที่สุดเพื่อแลกกับอิสรภาพ  เขาอยากสร้างครอบครัวเล็กๆกับเธอ”         
“ไค…” อองรีเรียกชื่อคนรักด้วยเสียงระโหย ขาอ่อนแรงจนอยากทรุดลงนั่ง แต่ทำได้เพียงยืนพิงผนังห้องและหลับตาอย่างปวดร้าว         
“ทำไมไม่บอกผมสักคำ…เขาไม่เคยบอกอะไรผมเลยสักอย่าง  จะคิดจะทำอะไรก็ทำอยู่คนเดียว…แล้วจะให้ผมเชื่อได้อย่างไรว่าเขารักผม?”         
“พวกเราก็เป็นอย่างนี้แหละอองรี  เธอเกิดในประเทศเสรี  จะคิดจะทำอะไรก็ล้วนแต่เปิดเผยตรงไปตรงมาได้อย่างอิสระ  แต่พวกเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น  เราถูกกำหนดชะตาตั้งแต่เกิด ยิ่งไคซัคยิ่งแล้วใหญ่ เขาถูกกำหนดตั้งแต่ยังไม่เกิดมาด้วยซ้ำว่าเขาต้องทำหน้าที่องครักษ์  หน้าที่...ที่ถ่ายทอดจากต้นตระกูล  ชีวิตเขาเกิดมาต้องไร้รัก มีแต่ความภักดีไปจนตายเท่านั้น  ไคซัคยังโชคดีกว่าคนอื่นที่ไม่ได้ถูกทำพิธีจนครบทุกขั้น เนื่องจากเขาเป็นลูกชายคนเดียวของภรรยาเอก จึงได้รับการยกเว้น”         
“ยกเว้น?”         
“ใช่ยกเว้นไม่ต้องทำให้ไร้รัก”
“ผมไม่เข้าใจ”
“มันเป็นพิธีของเรา  แพทย์จะทำการผ่าตัดให้คนๆนั้นไร้ความปรารถนา”
“หมายถึงถูกตอนเหรอครับ?”
“สมัยนี้เป็นเพียงการกำจัดฮอร์โมนบางตัวเท่านั้น  สภาพร่างกายทั่วไปจะปรกติ  แต่พิธีนี้ต้องทำตั้งแต่ยังเป็นเด็กจึงจะได้ผลดีทั้งกายและใจ  แต่ไคซัคเขาเป็นลูกชายคนเดียวก็เลยไม่ได้เข้าพิธีอย่างสมบูรณ์”         
“ถ้าอย่างนั้นองครักษ์คนอื่นๆก็…เข้าพิธีกันหมดสิครับ...โหดร้ายที่สุด…”         
“สำหรับเธออาจจะมองว่าโหดร้าย  แต่สำหรับคนประเทศฉัน การได้รับเลือกเป็นตระกูลองครักษ์ถือว่าเป็นเกียรติสูงสุด  ไคซัคถือเป็นความอัปยศต่อตระกูลที่ไม่สามารถรักษาหน้าที่นี้ไว้ได้  เขาถึงต้องเอาชีวิตเข้าแลกเพราะตอนนี้เขารักเธอเกินกว่าที่เสียเธอไป”         
“ผม……ผมควรจะดีใจหรือเสียใจกันแน่ครับที่เขารักผมขนาดนี้...ผมไม่รู้ว่าควรทำยังไงแล้ว สำหรับผมความรักคือความเสมอภาค...มันคือสิ่งที่คนสองคนมีร่วมกัน แบ่งปันทุกข์และสุขด้วยกัน ไม่ใช่การสั่งหรือบังคับกันแบบนี้”         
“เรามองต่างมุมกันสินะ”         
“ครับ…ผมอยากให้ไคถามผมสักคำว่าผมอยากให้เขาทำแบบนี้หรือเปล่า  สำหรับผม...ขอแค่รู้ว่ารักก็เพียงพอแล้ว การจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ”
“แต่สำหรับไคซัคสำคัญมาก  เขาขาดความรักมานาน ทุกอย่างได้มาด้วยสองมือของตัวเองทั้งนั้น  นอกจากพ่อของเขาเธอเป็นคนแรกที่ทำให้เขารู้จักความรักนอกเหนือจากความภักดี  เขาถึงดิ้นรนทุกอย่างที่จะได้ครอบครองเธอไว้...พวกเราก็อย่างนี้แหละ อองรี...รักแรงเกลียดแรง  สำหรับมิตรเราพร้อมที่จะให้แม้ชีวิต  แต่สำหรับศัตรูเราก็จะทำทุกวิถีทางให้มันพินาศ  เธอคงต้องตัดสินใจแล้วละว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง”         
“จะมีประโยชน์อะไรครับ…ในเมื่อผมยังไม่รู้เลยว่าจะ...ได้เจอเขาอีกหรือเปล่า...ถ้าเขา...ไค...คุณทำกับผมอย่างนี้ได้ยังไง?”  อองรีรูดลงไปนั่งพิงผนัง  แม้ไม่มีน้ำตาแต่ดวงตาคู่งามลอยคว้างและแห้งผากด้วยความทุกข์
“ทันทีที่รู้ข่าวฉันจะโทรบอก จำไว้ว่าเธอต้องรออยู่ที่นี่เท่านั้นแล้วไคซัคจะมาหาเธอเอง  ห้ามไปกับใครเด็ดขาด เพราะหากต้องการให้เธอเดินทาง จะต้องเป็นฉันหรือไคซัคเท่านั้นที่มารับเธอ”         
“ครับ”
“ฉันต้องกลับละ  ดูแลตัวเองดีๆนะ”
“ฝ่าบาท…ฝากไคด้วยนะครับ”
“เธอสองคนนี่พูดประโยคเดียวกันเลย...แล้วเจอกันอองรี”
..........................

น้อยไปไหมอ่ะ ฮิฮิ น้อยไปเนอะ

แต่..แต่.. อยากบอกว่าตอนหน้าเป็นตอนจบแล้ว รอหน่อยนะ

ขอบคุณที่ติดตามและคอมเมนท์นะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 07-03-2010 15:04:00
มันบีบคั้นหัวใจมากๆ แจ๊คกับไคซัคอย่าเป็นไรนะ ไม่ยอมด้วย  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-03-2010 15:19:22
 :m15: :m15: ทำไมรู้สึกว่าตอนนี้เศร้าเยี่ยงนี้  :m15: :m15:

ลงต่อเลยได้มั๊ยอ่า   
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 07-03-2010 17:34:40
+1 ให้คนโพสต์ที่ขยันมาโพสต์ให้อ่านค่ะ รอลุ้นตอนจบด้วยใจจดจ่อ
อยากเห็นจุดจบของท่านอาผู้มีจิตใจวิปริตแถมยังอยากเป็นกษัตริย์จน
ไม่คำนึงถึงความผูกพันทางสายเลือด อยากเห็นไนท์เอ่ยคำว่ารักให้กับ
แจ๊คแบบไม่ต้องมีข้อแม้ใด ๆ ขอให้แจ๊คและไคซัคกลับสู่อ้อมแขนของคนรัก
อย่างปลอดภัย ..... :pig4:... :call:....
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 07-03-2010 18:43:41
สงสารแจ็คอ่ะ   :monkeysad:
แล้วตอนยังสั่งหนังสือได้หรือเปล่าคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 07-03-2010 18:48:45
รออยู่ทีเดียว

ตอนหน้าจบแล้วจะได้อ่านเรื่องใหม่ อีก
ขอบคุณคนโพส กะคน แต่งค่ะ

หวังว่า ไนท์ คง ไม่เข้าใจผิด นะ

แจ๊ค คงไม่ตาบเพราะพิษ ของ ฟาฮัสหรอก จะตายเพราะ พิษรักเยือกเย็นของ ไนท์นี่แหละ

ตอนหน้า กำแพง ทลาย แล้ว :bye2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: mayamay ที่ 07-03-2010 21:53:40
โอ้วววววววววววววววว :sad4:

ถึงจะพอรู้สปอยล์มานิดๆ แต่มันบีบค่ะ บีบหัวจายยยยยยยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 07-03-2010 22:33:39
อ่านแล้ว...ค้างงงงงง  สงสารแจ๊ค...:serius2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: underscoreONES ที่ 07-03-2010 22:51:13
 :m15:  เศร้าใจที่สุดอ่ะ... ไม่ว่าใครก็เจ็บ ฮือออออ

ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 07-03-2010 23:26:32
ขอบคุณค่า..

"พวกเราก็เป็นแบบนี้" พูดมาได้ :angry2:แล้วทำไมไม่คิดจะปรับตัวเข้าหาอีกฝ่ายบ้าง..คิดแต่จะให้คนอื่นเข้าใจตัวเองแต่ไม่เคยคิดจะเข้าใจคนอื่นบ้างรึไง :เฮ้อ:

ถ้าแจ็ครู้เรื่องทั้งหมด..คงไม่ต้องเลือกวิธีนี้และมันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้แน่ o8แล้วถ้าผลสุดท้ายแจ็คต้องตาย..มันจะเป็นความผิดใครดีล่ะไนท์ :confuse:แจ็ครึป่าวที่รักด้วยชีวิต :o11:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: O_a ที่ 08-03-2010 00:13:39
ผ่านไป 3 วันแล้ว แจ็คจะเป็นไงบ้าง

ตอนหน้าตอนจบแล้ว  อย่าบีบคั้นมากนะคะ

สองเรื่องที่แล้วอ่านแล้วน้ำตาท่วมคอมกว่าจะสมหวัง
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 08-03-2010 01:07:13
อ่านตอนนี้จบแล้วโหยหวนมากๆๆๆๆๆ  :serius2:
มันเข้มข้นซะจริงๆ เลย
แจ็คเอ๋ย....จะรอดหรือม่องกันนะงานนี้

แต่ช่างเป็นพระเอกที่สุดแสนจะดีเลิศจริงๆ
ขอบคุณสำหรับตอนต่อมากๆๆ จ้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 08-03-2010 01:10:43
สงสารแจ๊ค  :monkeysad:
ทำไมจบเร็วจัง

+1 ให้คนโพสท์
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 08-03-2010 03:00:09
บวก 1 แต้มค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ ทั้งผู้แต่งและผู้โพสต์ค่ะ

เครียดจริงๆตอนนี้ ไนท์ก็เข้าใจแจ็คผิดซะแล้ว
ยังดีที่ตอนหน้าตอนจบ ลุ้นต่อไป

รอเรื่องอื่นของคุณใบปอด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 08-03-2010 03:28:32
น่าลุ้นจังว่าไคซัคกับแจ๊คจะรอดหรือเปล่านะ  เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 08-03-2010 10:34:29
+1 ค่ะ  บีบหัวใจจริงๆ ตอนนี้  :z3:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 08-03-2010 15:42:52
 :monkeysad: แจ็คผู้น่าสงสาร

พูดไม่ออก  บีบคั้นหัวใจมากมาย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: CHOKUN ที่ 09-03-2010 19:37:01
รออ่านตอนต่อไปอยู่น้า   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 10-03-2010 12:21:31
จะจบแล้วเหรอ ตอนนี้สนุกมาก..ลุ้นไปกับแจ๊ค ว่าจะรอดหรือไม่รอด
รอตอนจบ และเรื่องใหม่ด้วยค่ะ.....
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: kimagain ที่ 10-03-2010 16:45:56
อ่านตอนจบแล้วเลือดท่วมจอกันแน่เลย :z1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" อ่านต่อเลยคะ 07/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 10-03-2010 17:24:55
 :o12: 
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 12-03-2010 22:02:01
แจ้งเรื่องหนังสือ กำแพงใจนะคะ
สำหรับเพื่อนๆที่สั่งจองไว้ในรายชื่อด้านล่าง เดี๋ยวเทียนฉินจะ PM รายละเอียดไปบอกนะ
donpoper/ohja/thaitanoi / muyong / pokky/ little devil /Moo_Aor/ DEMON3132 /Namtaan / tsuyu /DEVIL DEWA/raruruz /THIP/joobperman(2)/maicy/va_yu/perfectpie/

สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ต้องการจองแล้วหรือเพื่อนคนไดต้องการจองเพิ่มบอกได้นะ ไม่ว่ากันคะ
......................
มาลุ้นแจ๊คกันต่อเลยคะ
......
เกาะที่เห็นอยู่ไม่ไกลแต่กลับใช้เวลาว่ายมาตลอดทั้งคืนจนบ่ายคล้อยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะถึง  ไม่ได้ทำให้ความมุ่งมั่นของแจ็คสั่นคลอน 
ชายหนุ่มกัดฟันว่ายต่อไป แม้ความเจ็บปวดจะทวีขึ้นทุกขณะ  น้ำจืดในถุงหนังเหลืออยู่น้อยเต็มทีแต่เขากินไม่ได้  ต้องสงวนไว้ให้ไคซัค  ราชองครักษ์ร่างใหญ่ไม่รู้สึกตัวเลยนับแต่เมื่อคืน  ร่างหนาหนักทำให้การเดินทางยากลำบากแต่แจ็คก็ยังไม่ปล่อย  หากไคซัคตายไปกับเขาอีกคน กล่องตราประทับก็จะไม่ถึงมือไนท์และอาจตกไปอยู่ในมือชีคฟาฮัส  นั่นอาจทำให้คนที่เขารักตกอยู่ในอันตราย 
แจ็คแหงนขึ้นมองเกาะไกลลิบเบื้องหน้า แค่ไปให้ถึงเส้นทางเดินเรือของเรือประมงในเกาะเท่านั้น ไคซัคก็จะมีโอกาสรอด
แม้ร่างกายจะล้า  แต่หัวใจเขายังเปี่ยมด้วยความหวัง และความหวังนี้คือแรงผลักดันให้เขากัดฟันว่ายต่อไป
แจ็คหอบแฮ่กลอยตัวไปเรื่อยๆกวาดตามองไปรอบๆ  พระอาทิตย์กำลังจะตก เขาลอยตัวนิ่งๆเพื่อพักเหนื่อย อีกสักครู่ค่อยเริ่มว่ายต่อ  แจ็คหันมาแตะมือกับหน้าผากเขียวช้ำ  ไคซัคตัวร้อนจัด เลือดซึมออกมาจากต้นแขนเป็นวงกว้าง แจ็คค่อยๆรินน้ำลงปากแตกแห้งทีละน้อย
ตาสีดำลืมขึ้นมองเขา  เส้นเลือดในตาแตกแดงระเรื่อ ปากแห้งขมุบขมิบแต่ไม่มีเสียง ไม่นานไคซัคก็หมดสติไปอีก  แจ็คกระชับผ้าที่พันระหว่างตัวเขากับไคซัคแน่นขึ้น  แสงสุดท้ายลับโลกไปนานแล้ว แจ็คเหม่อมองออกไปสุดสายตา  ป่านนี้ไนท์คงอยู่เคียงข้างริชที่เหมืองเพชรหรือที่ไหนสักแห่ง  และคงรู้ตัวแล้วว่าแหวนหายไป  หลักฐานคงชี้มาที่เขาเพียงคนเดียว  แจ็คหลับตาลงเมื่อความเจ็บปวดทวีขึ้นทุกที  เขาไม่กลัวตายแต่สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลายเป็นคนทรยศในความคิดของไนท์ 
เสียงหวีดแหลมดดังแหวกอากาศ  แจ็คเงยขึ้นมองไปทางต้นเสียง ปีกกว้างใหญ่ร่อนถลาผ่านศีรษะเขาไปไม่ถึงเมตร ขนสีขาวที่ต้นคอเรืองแสงเป็นเงาทำให้แจ็ค ขนลุกวาบด้วยความยินดี  คนเดียวเท่านั้นที่เลี้ยงเหยี่ยวชนิดนี้เป็น และพาพวกมันออกเรือไปด้วยทุกครั้ง
“โฮรัส!” แจ็คตะโกนสุดเสียงที่เขามี  เงาดำโฉบวาบกลับมาวนอยู่เหนือศีรษะแล้วพุ่งปราดไปอีกทาง แจ็คมองตาม   แสงไฟจากเรือเหมือนแสงจากสวรรค์ 
แจ็ครั้งร่างหนาหนักให้แน่นยิ่งขึ้น ว่ายโผไปหาแสงไฟลิบๆเบื้องหน้า ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนเขาก็ไม่กลัวอีกแล้ว เพราะ
ไคซัคกำลังจะได้รับการช่วยเหลือจากคนที่เขาไว้ใจที่สุดในโลก  หัวเรือเบนมาที่เขา  ไม่นานแสงไฟจากเรือก็ส่องลงมาจับที่แจ็คและไคซัค  คนที่อยู่บนเรือชะโงกมามองเป็นแถว   
“ช่วยด้วยลุงเดวิด…ช่วยพวกเราด้วย!”
เรือยางถูกโยนลงมา  แจ็คพยายามดันร่างหนาหนักขึ้นไปก่อนแล้วจึงปีนตามไป
เมื่อเรือยางถูกดึงขึ้นมาถึงดาดฟ้าเรือเหมือนแรงเฮือกสุดท้ายของแจ็คก็หมดไปด้วย ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั้งกาย  ลูกเรือชะโงกเข้ามาดูเขาและไคซัคอย่างไม่ค่อยไว้ใจเมื่อเห็นสภาพบาดเจ็บของทั้งสอง
“ขอผม...พบ...ลุงเดวิดหน่อย...ขอพบ...กัปตันหน่อยครับ”  แจ็คพยายามพูดทั้งที่เจ็บในอกจี๊ด  ของเหลวคาวข้นเอ่อล้นขึ้นมาถึงคอหอยแต่เขากลืนกลับลงไป
“เฮ้ย!ตามกัปตันที...อ้าวมาพอดี...กัปตันครับหมอนี่รู้จักกัปตันนี่ครับ”
“นายเป็นใคร...รู้จักฉันได้ยังไง?”
“ผมเจอร์ราด…ไงครับ…ลูกชายของเซบาสเตียน…ค็อกๆๆๆ…” แจ็คไอ ออกมาเป็นเลือดสีดำคาวฟุ้ง  กัปตันเดวิดช้อนร่างเขียวคล้ำของลูกชายเพื่อนรักขึ้น มาด้วยความตกใจ         
“พระเจ้า!เจอร์ราด...แกเองหรือนี่...ลุงได้ข่าวว่าแกตายไปแล้ว...โอ!เกิดอะไรขึ้น...ใครทำร้ายแก?”         
“ช่วยเขาด้วย…ส่งข่าวถึงชีครามิล ราจีสอับดุล...ที่เกาะส่วนตัวของแฮมิลตัน…ต้องชีครามิลเท่านั้น  อย่า…คุยกับ…คนอื่น…บอกเขาว่า…นกน้อยอยู่ที่ลุง…”
แจ็คยัดกล่องตราประทับกับแหวนตราใส่มือเดวิดแล้วอาเจียนเลือดสีดำออกมากองโต
“เจอร์ราด!…เฮ้ย!ต้นหนเอาเรือกลับหมู่บ้าน...แล้ววิทยุให้หมอมารอที่ท่าเรือเลย”
“ลุงครับ...เก็บแหวน...กับกล่องนั้น...ไว้...ให้ดีนะครับ...แล้วเอา...ผ้านี่...ไปด้วย” แจ็คพยายามแกะผ้าโพกเกล้าของไคซัคที่ยังห้อยอยู่ที่คอเขาส่งให้เดวิด
“เขาจะรู้...ว่าลุง...หมายถึงอะไร...ขอบคะ...คุณ...”
“เจอร์ราด!…เจอร์ราด!…”
อาการเจ็บแน่นในอกทวีขึ้นจนลมหายใจเริ่มติดขัด ความเจ็บปวดราวกับร่างกายถูกฉีกทึ้งออกจากกันลามไปทั่วตัว  โลกของแจ็คมืดและหนาวเหน็บเกินกว่าที่เขาจะฝืนไว้ได้อีกต่อไป   …………


..............หาดทรายสีขาวหม่นกับทะเลกว้างสุดลูกตาชวนให้อ้างว้าง………..
ไนท์กวาดตามองไปรอบๆก่อนถอนใจเฮือกอย่างหงุดหงิด  เมื่อเห็นร่างสูงยืนอยู่ในทะเล 
“แจ็ค...แจ็ค ลงไปทำไม  ขึ้นมาได้แล้ว...ฉันจะรีบไปนะ”
ใบหน้าคล้ำแดดเบือนกลับมามองเขาช้าๆ  ดวงตาคมหมองจนใจเขาวูบหาย 
“ผมคงไปกับคุณไม่ได้อีกแล้ว...ขอโทษนะ...”
“ทำไมจะไปไม่ได้...นี่! จะไปไหนน่ะ  แจ็คขึ้นมานะ...แจ็ค!ระวังนะ  แจ็ค!”
ไนท์สะดุ้งเฮือกสุดตัว  ก่อนจะหอบหายใจแรง  หัวใจเต้นระรัวราวกับวิ่งมาไกล  ทั้งที่ห้องเปิดแอร์จนเย็นแต่เหงื่อกลับไหลโซมตัว  ชีคหนุ่มสลัดผ้าห่มออกจากตัวแล้วผุดลุกขึ้น  ไม่ใช่แต่หัวใจที่ยังระรัว  แม้แต่ขาก็พลอยสั่นจนต้องยืนอยู่ครู่หนึ่งจึงเดินไปที่ระเบียง  ลมยามดึกปะทะใบหน้าทันทีที่เปิดประตูออกไป
ชีคหนุ่มเม้มปากแน่น ภาพกำแพงคลื่นขนาดยักษ์ที่ม้วนตัวแจ็คหายไปต่อหน้าต่อตาในฝัน  ยังติดตาจนยะเยือกไปทั้งตัว  ลำคอยังแสบและปวดร้าวเพราะเขาตะโกนซ้ำๆจนสะดุ้งตื่น  4 วันแล้วที่แจ็คหายไปอย่างไร้ร่องรอย  ทั้งเขาและริชระดมคนออกค้นหา  แต่กลับไม่มีวี่แวว  ทั้งที่เคยคิดว่าแจ็คจะต้องกลับมาแน่ๆ  แต่ยิ่งเวลาผ่านไป  ความมั่นใจนั้นก็เริ่มคลอนแคลน
‘ฉันจะรอดูว่าเธอจะใจแข็งไปได้สักกี่วัน...ให้มันรู้ไปสิว่าเธอจะหมดรักฉันแล้ว’ ทั้งที่คิดอย่างนั้นแต่ดวงตาคมกลับหมองลงทุกที
RRRRRRRRRR....
เสียงโทรศัพท์ภายในกรีดเสียงขึ้นเบาๆ  ชีคหนุ่มตวัดตามองนาฬิกาบนผนัง  พรายน้ำบอกเวลาเกือบตี3  แสดงว่าต้องมีข่าวด่วน  ไม่อย่างนั้นอามิลไม่กล้าปลุกเขาแน่  ชายหนุ่มจึงรีบรับสาย
“ว่าไง?”
“ขออภัยฝ่าบาท...แฮมิลตันส่งคนมา เขามีกัฟฟียาของท่านราชองครักษ์แต่ไม่ยอมบอกว่าท่านอยู่ที่ไหน  เขายืนยันว่าต้องคุยกับฝ่าบาทคนเดียวเท่านั้น”
“เดี๋ยวเราลงไป”
“กระหม่อม”
ไนท์เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว  ทันทีที่เปิดประตูออกไป  องครักษ์สองคนก็ตามประกบทันที  แสดงว่าอามิลสั่งความไว้แล้ว  เมื่อลงไปถึงห้องรับรองข้างล่าง  ก็เจอกับองครักษ์จำนวนมาก  รายล้อมห้องรับรองไว้
“ข้างในฝ่าบาท  กระหม่อมตรวจอย่างละเอียดแล้ว  ไม่มีอาวุธใดๆ  แต่ก็อยากขอให้ฝ่าบาทประทับหลังกระจกเพื่อ...”
“ไม่ต้อง...เจ้าเข้าไปกับเรา  นอกนั้นรออยู่ข้างนอก”
“กระหม่อม”
คนที่รออยู่ในห้องท่าทางกระวนกระวายและอิดโรย  ใบหน้าคล้ำที่ดูระแวดระวังคลายลงเมื่อเห็นเขา  ก่อนจะคำนับผลุบลงอย่างเก้ๆกังๆ
“ท่านชีครามิลใช่ไหมครับ?”
“ใช่...มาพบเราด้วยธุระอะไร?”
“ผมเดินทางทั้งวันทั้งคืนกว่าที่มาถึงนี่...กัปตันเดวิดใช้ให้ผมมาหาท่าน”
“กัปตันเดวิด?  เราไม่เคยรู้จัก”
“กัปตันให้มาบอกท่านว่า  นกน้อยอยู่กับกัปตัน  “
“อะไรนะ!”
“กัปตันว่านกน้อยอยู่กับกัปตัน...ผมก็ไม่เข้าใจหรอก  แต่เมื่อ2-3วันก่อนกัปตันช่วยคนตัวโตๆหน้าคล้ายๆพวกท่านไว้ได้  เขาบาดเจ็บมาก”
“เจ้าของกัฟ...เอ่อ ผ้านี่ใช่ไหม?”
“ผมก็ไม่รู้  กัปตันเดวิดเอามาให้ผม  ตอนแรกจะไปหาท่านที่รีสอร์ทบนเกาะส่วนตัว  แต่ที่นั่นบอกว่าท่านอยู่มาติกนีกแล้วก็ส่งผมมานี่แหละ”
“ขอบใจมาก  แล้วกัปตันเดวิดอยู่ที่ไหน?”
“ผมจะนำทางกลับไป”
“เจ้าเหนื่อยมากแล้ว  พักผ่อนก่อนดีกว่า  แค่บอกทางมา  คนของเราจะพาเราไปพบกัปตันเดวิดเอง”
“คนของท่านคงไปไม่ถูกหรอกครับ  เกาะที่เราอยู่มันเล็กๆ  ไม่มีชื่อยู่ในแผนที่ด้วยซ้ำ”
   “อยู่แถวไหนระบุมา  เราจะไปกันเอง”
“ครับ...อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งบาฮามาสนักหรอกครับ...ถ้าดูในแผนที่ก็...”
ไนท์กลับขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  นักบินถูกตามตัวมาด่วน  คนของเขาส่วนหนึ่งจะตามไปด้วย  แต่ชีคหนุ่มห่วงไคซัคเกินกว่าจะรอ
............

ไนท์ลงจากเฮลิคอปเตอร์ไปยังหมู่บ้านริมทะเลเบื้องหน้า ร่างท้วมหนาค้อมกายให้อย่างเคารพ 
“ขอบใจกัปตันมากที่ช่วยคนของเราไว้” ไนท์เอ่ยยิ้มแย้มขณะรับกล่องตราประทับและแหวนเหยี่ยวมาส่งให้อามิลที่รีบเก็บอย่างแน่นหนา
“ผมเป็นเกียรติที่ได้รับใช้ท่านชีค…ทางนี้ขอรับ”
ร่างสูงใหญ่บนเตียงขยับเมื่อเห็นนาย  แต่ไนท์โบกมือให้นอนลงและเดินเข้ามาก้มลงมองใกล้ๆ
“เราดีใจที่เจ้าปลอดภัย”
“กระหม่อมรอดมาได้เพราะคุณแจ็ค” น้ำเสียงแหบแห้งกลับดังก้องในความรู้สึกของไนท์  ชีคหนุ่มหันขวับไปตามไคซัคชี้  ไนท์ก้าวพรวดเดียวถึงร่างที่คลุมผ้าไว้ ใบหน้าที่โผล่พ้นผ้าเป็นสีดำปนม่วงแทบจำไม่ได้ มือขาวคว้าชายผ้าจะกระชากออก แต่ชายชราที่นั่งอยู่ข้างๆคว้าข้อมือเขาไว้แน่น         
“อย่า…ข้ากำลังถอนพิษออกอยู่”
“อะไรนะ?”
“คุณแจ็คโดนพิษกระหม่อม…ค็อกๆๆ…ชีคฟาฮัสให้คุณแจ็คกินยาพิษก่อนที่จะไปเอาตราประทับ หากไม่เคลื่อนไหวมากภายใน3วันพิษจะไม่กำเริบ แต่คุณแจ็คพากระหม่อมว่ายหนีออกมาจากถ้ำจนมาเจอเรือกัปตันเดวิด”
“ทำไม…ทำไมแจ็คต้องทำอย่างนั้น...แล้วเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไง?”  ไนท์ครางเสียงระโหย   ตลอดเวลาทั้งสองสนทนากันด้วยภาษาอาหรับ  หมอเฒ่าชาวเลจึงได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ
“พ่อของคุณแจ็คคือคนที่ซ่อนตราประทับแล้วส่งรหัสลับไปให้พ่อ…ก่อนจะถูกฆ่า…คุณแจ็คทำเพื่อฝ่าบาท”
คำตอบของไคซัคทำให้ไนท์ถึงกับนิ่งอึ้งไปอย่างคาดไม่ถึง  จากพ่อแล้วก็มาสู่ลูก  เพื่อปกป้องตราประทับไว้ให้เขา เลอซัวร์ คนสุดท้ายกำลังจะตายอย่างนั้นหรือ?
ไนท์ทรุดลงนั่ง  ทั้งที่เคยคิดว่าจะจัดการสั่งสอนชายหนุ่มเสียบ้างที่บังอาจสร้างความวุ่นวายให้เขา  แต่ไม่เคยสักครั้งที่จะคิดว่าจะเจอกันในสภาพนี้
“แจ็ค…ไม่…ไม่นะ…ห้ามตายนะแจ็ค…เธอจะทิ้งฉันไปไม่ได้” ไนท์กระซิบเสียงแผ่วอยู่ในลำคอ ภาพแม่ที่ดำเกรียมไปตัวเพราะพิษ  ภาพคลื่นลูกโตในความฝันซ้อนทับกันเข้ามาจนชีคหนุ่มสะท้านเยือก  ไนท์หันขวับไปมองหน้าหมอเฒ่า
“รักษาเขาให้ได้  เราจะให้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ”
“แหม!ถ้าข้าขอทองหนักซักเท่าตัวเจ้าหนุ่มนี่เจ้าก็จะให้งั้นสิ”หมอเฒ่าหัวร่อเอิ้กอ๊ากอย่างขำๆ
“ได้…แต่ถ้าเขาตายเจ้าต้องตายด้วย” น้ำเสียงราบเรียบหากแต่เย็นเยือก
หมอเฒ่ายิ้มแหยแล้วค่อยๆกลายเป็นหน้าซีดด้วยความกลัวเมื่อเห็นดวงตาแน่วแน่เอาจริงของอีกฝ่าย
“เอ่อ…ข้าล้อเล่นเท่านั้น”
“แต่เราพูดจริง  เจ้าต้องรักษาคนๆนี้ให้หาย  หากเขารอดเจ้ารอด เขาตายเจ้า…ตาย” หมอเฒ่าแทบลมจับ  หันไปปรุงยาอุตลุด  เห็นวาระสุดท้ายของตัวเองชัดแจ๋วหากปล่อยให้เจ้าหนุ่มนี่ตาย
รามิลผลุนผลันออกมานอกห้อง  อามิลปราดเข้ามาหาทันใจ
“ไปรับหมอมา…เอายาแก้พิษตัวที่เพิ่งวิจัยได้มาด้วย”  นับแต่การตายของมารดาไนท์ได้ตั้งศูนย์วิจัยลับขึ้นมาศึกษาเรื่องพิษ  โดยเฉพาะพิษที่คร่าชีวิตมารดา
“กระหม่อม”
เวลา12ชั่วโมงสำหรับชีคหนุ่มยาวนานเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด  ในที่สุดเฮลิคอปเตอร์ก็ร่อนลงจอด  ร่างเล็กผอมๆในชุดขาวถูกขนาบแทบจะเป็นหิ้วมาด้วยร่างสูงใหญ่ขององครักษ์
“ดอกเตอร์มาแล้วกระหม่อม”
“เชิญทางนี้หมอ”
“กระหม่อม”
หมอเฒ่าเงยขึ้นมองร่างผอมที่เพิ่งเข้ามาสมทบ  ผ้าคลุมถูกยกขึ้นเล็กน้อยมือดำเกรียมสอดเข้าไปจับชีพจรครู่หนึ่ง  ก่อนจะชะโงกไปเปิดดูตาและบีบปากชายหนุ่มให้อ้าออกเพื่อตรวจดูลิ้น
“ยาท่านดี” ผู้มาใหม่เอ่ยชมยิ้มๆ  หมอเฒ่าหน้าบาน ยืดขึ้นอีกเล็กน้อย         
“วิธีถอนพิษถูกต้องกระหม่อม” หมอหันไปรายงาน
“แล้วทำไมเขาไม่รู้สึกตัว”ไนท์ถามอย่างร้อนใจ
“เขารับพิษไปมาก  แล้วยังเคลื่อนไหวมากอีก  ทำให้พิษแทรกซึมไปทั้งตัว”
“เขา…จะรอดไหม?”เสียงสุดท้ายหลุดจากปากอย่างยากเย็น
“กระหม่อมขอรับรองด้วยชีวิต  ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย” ร่างผอมค้อมศีรษะลงติดพื้น หมอเฒ่าลนลานทำตาม ด้วยชักแน่ใจว่าคนที่ตนคุยด้วยคงไม่ใช่คนธรรมดาๆเสียแล้ว
ถึงจะได้รับการยืนยันแต่ไนท์ก็ยังไม่วางใจ  เขาวนเวียนอยู่ใกล้ร่างที่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้น  ไคซัคกัดฟันลุกขึ้น  เขาเคยเห็น
ชีครามิลเวลาโกรธหรือเกลียดมาแล้ว  แต่เขาเพิ่งรู้ว่าความรักทำให้ท่านน่ากลัวยิ่งกว่าทุกอารมณ์ ดวงตาคมดุเรืองจนไม่มีใครกล้าสบตา  ท่านชีคห่วงแจ็คเสียจนไม่สนใจตราประทับด้วยซ้ำ
แสงทองของวันใหม่มาเยือนพร้อมกับสัญญาณชีวิตของแจ็ค  ชายหนุ่มไอและอาเจียนเลือดสีดำออกมาหลายครั้ง  จากนั้นก็นอนเงียบ  ทรวงอกค่อยยุบพองแรงขึ้นจนสังเกตเห็นได้  ทำให้ไนท์ไม่ต้องคอยแนบหูฟังเสียงหัวใจอีกแล้ว
เนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนย้ายคนป่วยได้ ไนท์จึงเป็นฝ่ายย้ายมานอนที่บ้านพักหลังเล็กแทน  เล่นเอาทุกคนวิ่งกันวุ่นเพื่อรักษาความปลอดภัยให้
ไคซัคลุกขึ้นเดินไปมาเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น  ขณะที่ไนท์แทบไม่ลุกห่างจากร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติง คอยหยดน้ำให้ทีละน้อยทุกๆ10นาที มีเพียงลมหายใจเท่านั้นที่บ่งบอกถึงชีวิต ก่อนค่ำแจ็คก็อาเจียนเลือดสีดำออกมาอีกกองโต   แล้วหมดสติไปอีกครั้ง         
ไคซัคเข้าไปคุกเข่าข้างๆ ชีคหนุ่มหันกลับมามองแล้วถอนใจยาว  สำหรับเขาหน้าที่สำคัญกว่าทุกสิ่งแต่วันนี้เขาอยากทิ้งทุกสิ่งแม้แต่หน้าที่เพื่อดูแลคนที่เป็นเสมือนชีวิต         
“รอฉันนะ…ห้ามทิ้งฉันไป” ไนท์ก้มลงกระซิบและจุมพิตปากแห้งดำเกรียม ไม่สนใจว่าใครจะมอง         
“รักษาเขาให้หายเพื่อชีวิตของพวกท่านเอง” ไนท์หันกลับไปย้ำเสียงเรียบก่อนจะลุกออกไปข้างนอก  หมอหันมองตากันก่อนจะก้มหน้าก้มตาเตรียมยาต่อไป         
“ฝากแจ็คด้วย” ไนท์บอกเสียงเรียบ กัปตันค้อมตัวรับแทบจรดพื้น         
“ขอรับ” ไนท์ขึ้นเครื่องไปพร้อมไคซัค  กัปตันกลับเข้าไปอยู่ในบ้านคนป่วย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาต้องรักษาชีวิตของหลานรักไว้ให้
ไคซัคปลดรหัสแล้วยกกล่องทองคำภายในขึ้นถวาย ชีคหนุ่มรับกล่องทองแต่ตามองคราบสีดำบนกล่องเซฟ เลือดของคนที่พยายามปกป้องตราประทับไว้ด้วยชีวิต  ไนท์มองคราบเลือดด้วยดวงตาที่แทบลุกเป็นไฟ  ใครที่ทำเขาเจ็บมันต้องเจ็บกว่าหลายเท่าแต่คนที่ทำให้แจ็คเจ็บมันต้องพบจุดจบที่ทรมานยิ่งกว่าความตาย         
“ได้เวลาปิดบัญชีเสียที”
“กระหม่อม”
                                            …………

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 12-03-2010 22:05:53
ยูซุฟกัดกรามกรอดเมื่อฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าถูกมัดกลิ้งอยู่กับพื้นท่ามกลางคนในชุดดำปิดหน้ามิดชิด  แต่เมื่อเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาช้าๆ อาการฮึดฮัดก็ยิ่งมากขึ้นด้วยตระหนักว่าภัยกำลังมาถึงตัว แน่นอนว่าคนของมันที่เหลือคงถูกเก็บไปแล้ว ไม่อย่างนั้นไคซัคคงตามหามันไม่ถูกแน่
ไคซัคเข้ามาหยุดยืนมองคนของชีคฟาฮัสที่เคยลั่นกระสุนใส่เขาอย่างสนุกมือด้วยสายตาว่างเปล่า  ไม่สนใจสายตาลุกวาวด้วยความอาฆาตปนหวั่นกลัวของพวกมัน
เสียงตบปืนกราวเป็นการทำความเคารพทำให้คนในชุดดำทั้งหมดหลีกเป็นช่องและต่างค้อมตัวลง  ร่างโปร่งเพรียวในชุดสีดำไม่ต่างจากคนอื่นๆนอกจากไม่คลุมหน้าก้าวเข้ามาทรุดลงนั่งบนเก้าอี้มุมห้อง        
“...ฝ่าบาท!...”
เสียงครางสั่นพลิ้วจากเชลยทั้งสองเรียกรอยยิ้มเย็นจากชีครามิล ราจีสอับดุล ทั้งสองสั่นเทิ้มราวกับได้เห็นรอยยิ้มของพญายม ร่างโปร่งระหงก้าวลงไปทรุดตัวลงตรงหน้าสองนักฆ่า...
“เมื่อพวกเจ้ารู้จักเราก็ดีแล้ว  เราจะถามพวกเจ้าแค่ครั้งเดียว...ท่านอาได้ยาพิษมาจากไหน?”        
“ไม่รู้...พวกเราไม่รู้เรื่อง”        
“งั้นเหรอ...เราไม่ชอบพูดมาก  เมื่อเจ้าจงรักภักดีจนไม่กลัวตาย...เราก็เคารพการตัดสินใจของพวกเจ้า...ไคซัค...ใครที่ยิงเจ้า?”        
“ยูซุฟกระหม่อม”
“อืม...”
กึก! “อ๊ากกกกกก....”
ร่างหนาดิ้นพราด  มีดคมกริบกดลึกลงไปในเนื้อช้าๆ  ราวกับกลัวว่าหากกดแรงเลือดจะกระเซ็นเปื้อน  ความยาวและคมของมีดทำให้กดลงไปถึงเอ็นข้อต่อบริเวณไหล่ได้ไม่ยาก  ไนท์มองตามันด้วยดวงตาว่างเปล่าขณะที่กดคมมีดผ่านรอยต่อของเอ็นและกระดูกลงไปช้าๆ
ร่างหนากระตุกทั้งตัว  ดวงตาเหลือกลานจนเห็นแต่ตาขาว  เสียงร้องโหยหวนแผดก้องไปทั้งห้อง  นักฆ่าอีกคนสั่นเทิ้มทั้งตัวก่อนจะละล่ำละลักขอชีวิต  แต่ไนท์ไม่เหลือบแล  คมมีดผ่านลงไปทะลุด้านหลังแล้วปักตรึงไว้กับพื้น  เลือดคาวฟุ้งไหลนองพื้นแต่ไม่มีสักหยดที่ติดมือเรียวขาว  มีดเล่มที่สองถูกดึงออกมา  และถูกกดลงที่ไหล่อีกข้าง เช่นเดียวกับครั้งแรก ยูซุฟดิ้นพล่านตาเหลือกขาวและสลบไปในที่สุด  ไนท์กลับไปนั่งรอที่เก้าอี้อย่างใจเย็น  ดวงตาคู่งามลอยไกลราวเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง  แต่เมื่อร่างหนาขยับฟื้นคืนสติ ไนท์ก็ลุกมายืนมอง          
“ฝ่าบาท...กระหม่อมบอกแล้วฝ่าบาท...กระหม่อมบอกทุกอย่างเลย”        
“แต่เรายังไม่อยากฟัง...”
เช้าวันรุ่งขึ้นไนท์ก็ได้สูตรยาพิษจากห้องแล็ปของชีคฟาฮัส มีเสียงระเบิดกึกก้องตามหลังมา  ไฟลุกโหมอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะดับและมีศพของทีมวิจัยอยู่ในนั้นครบทุกคน!  ............

ชีคฟาฮัส ราจีสอับดุลหัวร่อร่าเมื่อคนสนิทนำกล่องทองคำขึ้นถวาย  ยูซุฟหายไปเกือบอาทิตย์ทำให้คาดหมายกันว่าจะถูกฆ่าไปแล้ว  แต่จู่ๆมันก็โทรมาบอกว่าชิงกล่องตราประทับได้  ไคซัคกับแจ็คถูกฆ่าไปแล้วแต่พวกมันกำลังถูกตามล่าขอให้ชีคฟาฮัสไปรับ  เมื่อคนของชีคฟาฮัสไปถึงกลับพบแต่รอยเลือด  และกล่องก็ยังถูกซ่อนอยู่ตามที่ยูซุฟบอก
ชีคฟาฮัสแตะเพียงนิดเดียวฝาสปริงก็เปิดออก  ตราประทับราชวงศ์เป็นประกายวูบวาบด้วยอัญมณีที่ประดับไว้  ชีคฟาฮัสลูบไล้ไปมาอย่างปลาบปลื้ม เกือบ16ปีที่เฝ้าติดตามค้นหา  เสียทั้งเงินทองและลูกน้องไปมากมาย ในที่สุดตราประทับก็มาอยู่ในมือเขาจนได้
“ในที่สุดข้าก็ได้มันมา  ว่าแต่หาศพยูซุฟเจอไหม?”
“ไม่เจอกระหม่อม แต่คาดว่ามันคงไม่รอด...ตอนแรกที่มันโทรมากระหม่อมยังหวั่นว่าจะเป็นกับดัก  ดีที่มันยังฉลาดรู้จักซ่อนตราประทับไว้ก่อน...ไม่รู้ว่ามันปูดเรื่องเราให้ชีครามิลรู้หรือเปล่า”
“รู้แล้วทำไม...ตราประทับอยู่นี่  ก็เท่ากับกองทัพอยู่ในมือข้าทั้งหมด...ต่อให้รามิลมันติดปีกก็หนีไม่พ้นแน่  ข้าจะให้เจ้าพี่ฮัสซาสละราช...หลังจากนั้นก็เก็บกวาดไอ้พวกเลือดโสโครกทั้งหมด  ฮะๆๆๆ”
ฟาฮัสปิดกล่องแล้วสอดเข้าไปซ่อนในช่องลับใต้ที่พักแขน ดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว ร่างบางอ้อนแอ้นของเด็กหนุ่มกับสาวนักระบำก็ทยอยเข้ามา  เด็กหนุ่มเติมน้ำหอมลงในเตา เพื่อให้กลิ่นหอมแรงอย่างที่ชีคฟาฮัสโปรด  น้ำมันหอมกลิ่นใหม่ระเหยโชยกรุ่นไปทั้งห้อง  ชีคฟาฮัสสูดหายใจลึกอย่างพอใจ ร่างบางขึ้นไปนั่งก่ายเกยบนตักของชีคฟาฮัสแล้วรินเหล้าจากกาทองคำใส่จอกทองใบน้อย แล้วยกขึ้นจ่อถึงปาก  ชีคฟาฮัสหัวร่อร่าฝ่ามืออูมขาวขยำสะโพกเล็กกลมอย่างมันเขี้ยว
“อุ๊ย! ฝ่าบาทน่ะ...แกล้งกระหม่อมอยู่เรื่อย”
ส่วนสาวงามอีกสองนางรีบเข้าไปคอยรินให้คนสนิททั้งสอง  เหล่านางระบำเริ่มร่ายรำลีลายั่วยวนใจ    ชีคฟาฮัสเลิกสนใจเหล้าหันมาซุกไซ้ซอกคอขาวของเด็กหนุ่ม  เจ้าตัวหัวร่อคิกเขยิบตัวเสียดสีแนบชิดยิ่งขึ้น  แต่เมื่อก้มลงจะรับจูบกลับเบิกตากว้างอย่างตกใจ        
“ฝะ…ฝ่า..ฝ่าบาท”        
“เป็นอารายไป”ชีคฟาฮัสเอ่ยอย่างรำคาญ ประหลาดใจที่เสียงตนอ้อแอ้คับปากทั้งที่ยังไม่รู้สึกมึนเมาเท่าไหร่        
“ฝ่าบาทเลือดไหล”
ชีคฟาฮัสยกมือขึ้นแตะจมูก   พบว่าเลือดสีแดงคล้ำติดมือมามากมาย
“เฮ้ย…เลือดคำดาวไล้ดายงาย” เสียงอ้อแอ้แทบไม่เป็นภาษาทำให้
ชีคฟาฮัสตกใจมากขึ้น
“อย่าเพิ่งโวยวาย  นี่แค่ฤทธิ์เริ่มต้นของมันเท่านั้น  อีกสักพักจะได้ทรงทราบว่ายาพิษของเสด็จอามันยอดเยี่ยมขนาดไหน?”
เสียงเย็นเยือกดังมาจากหน้าประตู  ร่างเพรียวขนาบด้วยเหล่าองครักษ์เดินเข้ามาด้านในราวกับเป็นบ้านตัวเอง        
“ระ…อิน…เอ้า..อ๊อก…” ใบหน้าแดงก่ำบวมและกลายเป็นสีแดงคล้ำลงทุกที  ลิ้นบวมพองเริ่มคับปาก จนพูดไม่เป็นภาษา ขากรรไกรแข็งค้างทำให้น้ำลายปนเลือดเริ่มไหลย้อยจากมุมปากดูน่าสยดสยอง   สองคนสนิทเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน  เหล่านางระบำหวีดร้องและวิ่งหนีออกไป        
“จัดการสิ...หาลอเรนซ์ด้วย” ไคซัคสั่งลูกน้องลูกน้องเสียงห้วน
หนุ่มน้อยร่างอ้อนแอ้นที่ทำท่าหวาดกลัวเมื่อครู่ลุกขึ้นโบกมือให้
“ไม่จำเป็น...แค่เก็บตัวไว้จนกว่าจะหมดเรื่องยุ่งๆก็พอ  ผมจัดการเอง”
ร่างบางก้มศีรษะให้ชีครามิล ราจีสอับดุล ก่อนจะเดินตัวปลิวออกไปโดยไม่สนใจสายตาคั่งแค้นของชีคฟาฮัส          
ไนท์มายืนตรงหน้าชีคฟาฮัส  ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก
“เสด็จอา  ไม่ใช่แต่ท่านหรอกที่มีมุสตาฟเป็นสายลับ  ไซริสก็เป็นคนของกระหม่อมเช่นกัน  ทั้งที่ระวังตัวแจอย่างนี้กลับไม่ทรงระวังตราประทับ...ทรงอยากได้มันนักมิใช่รึ  แล้วพิษที่ใช้ก็เป็นของเสด็จอาเองแค่เปลี่ยนคุณสมบัติของมันนิดหน่อย เคลือบพิษไว้บนตราให้มันระเหยเข้าไปสะสมอยู่ในปอด  พอทรงสูดสารในน้ำมันหอมตามเข้าไปก็...บูม! ระบบประสาทถึงได้ถูกทำลายเป็นอย่างแรก...แต่ถึงอย่างไรเสด็จอาก็เป็นพระญาติ  กระหม่อมให้สัตย์ไปแล้วว่าจะไม่ฆ่าผู้ร่วมสายโลหิต”  
ดวงตาชีคฟาฮัสเป็นประกายวาบอย่างมีหวัง  แต่ประโยคถัดไปกลับทำให้แทบช็อค
“เสด็จอาคงไม่ถึงตาย แต่…จะอยู่ในสภาพเจ็บปวดทรมานแบบนี้ไปอีกนานแสนนานเท่านั้น…แล้วไม่ต้องห่วงนะ…พิษที่ผสมใหม่มันจะไม่เหลือร่องรอยไว้ให้หมอตรวจเจอหรอก  ขอให้เสด็จอาเพลิดเพลินกับความทรมานที่ทรงมอบให้เสด็จแม่และแจ็คดูบ้างว่ามันน่าอภิรมย์เพียงใด”
ชีคฟาฮัสตาเหลือกลานด้วยความกลัว  ปากบวมแตกปริขยับวิงวอนแต่ไม่มีเสียงลอดออกมา  แม้ทั้งร่างจะเหมือนเป็นอัมพาตกระดิกตัวไม่ได้ แต่กลับไม่ด้านชาอย่างที่คิด ทั่วร่างเจ็บปวดราวกับถูกเข็มนับร้อยทิ่มแทงและปวดลึกลงไปทุกทีจนต้องดิ้นพล่าน        
ไคซัคมองร่างที่กลิ้งเกลือกไปมาด้วยความทรมานอย่างสมเพช  หากวันนั้นแจ็คไม่ช่วยเขาไว้ เขาก็อาจเป็นหนูลองยาของชีคฟาฮัสและคงมีสภาพไม่ต่างจากพวกมันนัก  
องครักษ์ส่วนหนึ่งนำน้ำมันหอมระเหยออกไปเททิ้ง หนุ่มน้อยนักเต้นระบำกลับเข้ามาเปิดช่องลับใต้ที่พักแขนแล้วถวายกล่องตราประทับให้ชีครามิล  โดยมีสายตาเคียดแค้นและเจ็บปวดของชีคฟาฮัสที่มีโอกาสได้มองภาพนั้นเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่ประสาทตาจะถูกทำลายลง
ดูเหมือนลอเรนซ์จะนกรู้หลบหายไปก่อนที่องครักษ์ของไนท์จะเข้ายึด
วังของชีคฟาฮัส  ไม่มีใครรู้ว่านายแบบหนุ่มไปไหน แต่ที่แน่ๆเขาไม่มีโอกาสกลับขึ้นไปยืนบนแคทวอร์คที่เขาภาคภูมิใจอีกต่อไป............

รัชทายาทแห่งราจีสอับดุล นั่งหลับตานิ่งไปตลอดทาง  ใจนั้นไปอยู่ในบ้านน้อยที่เกาะแล้ว แต่ภารกิจสำคัญรออยู่ที่นี่...  
‘รอหน่อยนะแจ็ค...รออีกหน่อย  ฉันจะรีบไปหาเธอ รออีกนิดเดียวเท่านั้น’
น่าขันที่เขาสั่งสอนไคซัคไว้เสียมากมาย  แต่เขาเองต่างหากที่โง่งม ตัวเขาเองหรือมิใช่ที่เป็นกำแพงใหญ่กางกั้นแจ็คมาตลอด  ทั้งที่ที่รู้ว่ารัก...แต่ทำไมยังระแวงคลางแคลง ไม่เคยเชื่อหมดใจสักครั้ง
แจ็คพิสูจน์แล้วว่าเมื่อรักเขาก็รักหมดหัวใจ ให้ได้แม้ชีวิต แล้วหัวใจของเขาเล่า?...มีค่าได้เท่ากับหัวใจของแจ็คหรือไม่?...หากไม่เกือบ ‘สูญเสีย’ เมื่อไหร่ที่เขาจะรู้ตัว  
ไนท์สูดลมหายใจลึก  แม้จะแปลบปลาบในอก แต่เขาก็ได้คำตอบแล้ว  เขาจะไม่ลังเลที่จะรักและวางชีวิตทั้งหมดไว้กับแจ็คอีกต่อไป
ไนท์ลืมตาฉับพลันเมื่อรถจอด ร่างระหงในชุดพื้นเมืองก้าวลงจากรถ  
ไคซัคเดินเยื้องไปด้านหลัง  เหล่าข้าราชบริพารค้อมตัวลงคำนับและนิ่งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งองค์รัชทายาทเข้าสู่ห้องโถงด้านใน        
สีหน้าของกษัตริย์ฮัสซา ราจีสอับดุล ดูหม่นหมอง  แต่เมื่อเห็นไนท์ดวงตาก็เป็นประกายยินดี
“รามิล”
“กระหม่อม” ไนท์ค้อมตัวเคารพก่อนจะเข้าไปทรุดลงนั่งเคียงข้าง  ไคซัคอัญเชิญตราประทับไปวางที่โต๊ะ  แล้วออกจากห้องไป
กษัตริย์ฮัสซาเปิดกล่องตราประทับดูก่อนจะเปิดออกวางเคียงข้างกับแหวนพญาเหยี่ยว  แล้วถอนใจเฮือกใหญ่
“พ่อดีใจที่เจ้าปลอดภัย...แต่ฟาฮัส...เฮ้อ!”
“ทรงคิดว่ากระหม่อมโหดเหี้ยมมากสินะที่ทำกับเสด็ดอาฟาฮัสอย่างนั้น”
“ถ้าสิ่งที่เจ้าทำเหี้ยมโหด  แล้วจะเรียกสิ่งที่ฟาฮัสทำว่าอะไร?...พ่อยุติธรรมพอรามิล  แต่พ่อสลดใจที่สายเลือดเดียวกันต้องมาประหัตประหารกันเอง   จะว่าไป  พ่อก็เป็นต้นเหตุส่วนหนึ่ง  หากพ่อเอื้ออาทรกับฟาฮัสสักนิด  บางทีทุกอย่างคงไม่เลวร้ายขนาดนี้...”
ใช่...แม้จะรับความรู้สึกที่ฟาฮัสมีให้ไม่ได้  แต่หากไม่ห่างเหินเย็นชาอาจไม่บีบให้ฟาฮัสแค้นจนกลายเป็นความอาฆาตพยาบาท  แต่จะมาเสียใจตอนนี้ก็ดูเหมือนจะสายเกินไป        
“โชคดีที่เจ้านำตราประทับกลับมาได้  สิทธิ์ในการปกครองประเทศย่อมเป็นของเจ้าอย่างสมบูรณ์”
“กระหม่อมได้ตราประทับกลับมาก็จริง แต่หากไม่ได้เสด็จอาซารีฟช่วย  กระหม่อมก็คงทำไม่สำเร็จ หากเสด็จอาซารีฟจะเก็บแหวนไว้เสียเองก็ย่อมได้  แต่ก็ไม่ทรงทำ  ซ้ำยังพยายามช่วยรักษาไว้จนแทบเอาชีวิตไม่รอด  ใครกันแน่ฝ่าบาท ที่ควรเป็นเจ้าของตราประทับ?”
 “เจ้าอยากจะพูดอะไรรามิล?”
“เสด็จอาซารีฟปกป้องแหวนมา15ปี ทั้งยังดูแลปกครองประเทศให้ร่มเย็นเป็นสุขมาโดยตลอด  ทำไมถึงไม่ได้รับสิทธิ์นี้”
“รามิลเจ้าก็รู้ว่าซารีฟมิได้สืบสายเลือดบริสุทธิ์”
“สายเลือดบริสุทธิ์?  เสด็จอาซารีฟมีมารดาสืบเชื้อสายจากเบดูอิน  เบดูอินหรือมิใช่เจ้าของแผ่นดินนี้  ท่านเป็นชาวทะเลทรายทั้งกายและวิญญาณ  ไม่เรียกว่าเลือดบริสุทธิ์ได้อย่างไร  แล้วท่านก็เป็นผู้ปกครองที่ยอดยิ่ง  เสด็จอาซารีฟกุมหัวใจ  ราษฎรไว้ได้ทั้งแผ่นดินใครก็รู้  กระหม่อมขอสละสิทธิ์รัชทายาทให้เสด็จอาซารีฟ”
กษัตริย์ฮัสซามองบุตรชายอย่างหนักใจ  ความจริงซารีฟก็เหมาะสมจริงอย่างที่รามิลพูด  แต่เนื่องจากฝ่ายมารดามีเลือดเบดูอินปะปนทำให้ยากแก่การยอมรับจากราชวงศ์
“ถึงเจ้าจะยกสละตำแหน่งให้แต่ราชวงศ์ย่อมไม่เห็นด้วย”
“เรากำลังจะเปลี่ยนการปกครองให้เป็นประชาธิปไตยในอีกไม่กี่ปีนี้มิใช่หรือฝ่าบาท เหตุใดไม่ทรงถามความเห็นจากราษฎร  ให้เขาได้เลือกผู้นำคนใหม่ด้วยตัวเขาเองมิดีกว่าหรือกระหม่อม”
กษัตริย์ฮัสซาจ้องหน้าบุตรชายอย่างพินิจพิเคราะห์
“ลูกมีเหตุผลอื่นใช่ไหมรามิล?” น้ำเสียงอ่อนโยนเรียกวันคืนวัยเยาว์ให้กลับมา นั่นหมายถึงการสนทนาแบบทางการได้ยุติลง ห้องนี้จึงเหลือเพียงพ่อกับลูกเท่านั้น
“...ลูกมีคนรักแล้ว…และลูกไม่ต้องการคนอื่นอีก” ชีคหนุ่มหมายถึง ‘ว่าที่พระชายา’ ที่ถูกคัดสรรไว้รอท่า แต่เขาหลบเลี่ยงมาตลอด
“ไม่เห็นเป็นไร  ลูกมีฮาเร็มได้นี่นา”        
“คนที่ลูกรักเป็นชาย...หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปลูกเกรงว่ามันจะไม่เหมาะสม ”
“ชีคหลายองค์ก็มีผู้ชายเก็บไว้ในฮาเร็ม  พ่อไม่เห็นว่าสำคัญที่ตรงไหน”
“สำคัญสิเสด็จพ่อ  เพราะลูกตั้งใจจะมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น  หัวใจลูกแบ่งเป็นสองไม่ได้”
“รามิล…เจ้าว่ากระทบพ่อหรือ?”
“ลูกไม่บังอาจ…แต่ลูกพูดตามที่ใจคิด  ขอเสด็จพ่อเมตตาปล่อยลูกเป็นอิสระด้วย”
ดวงตาคมเป็นประกายกล้า  เด็ดเดี่ยวจนหัวใจพ่อไหววูบ  ร่างหนาทิ้งตัวลงพิงพนักอย่างอ่อนแรง  หัวใจล้าเพราะปัญหาที่รุมเร้ามากมายรอบกาย แต่ข้างกายกลับว่างเปล่า...ไม่มีคนที่พระองค์รักเคียงข้างแม้แต่คนเดียว
“สุดท้ายเจ้าก็ทิ้งพ่อเหมือนพี่เจ้า”
“ทราวิสไม่ได้ทิ้ง  เขารักเสด็จพ่อ แต่เขาถูกเลี้ยงมาอย่างอิสระเสรีย่อมไม่อาจถูกขังด้วยขนบธรรมเนียมแบบเราได้…แต่ลูกไม่ใช่  ลูกยอมรับการกักขังนี้มาตลอด และยินดีจะรับใช้บ้านเมืองต่อไป  เพียงแต่ลูกขอเป็นอิสระเท่านั้น  ลูกไม่อยากเป็นรัชทายาท”
หัวใจเจ็บเหมือนถูกเหยียบซ้ำ  สำหรับรามิลการเป็นรัชทายาทคือการถูกขัง  รัชทายาทกลายเป็นโซ่ตรวนจองจำลูกรักอย่างนั้นหรือ?...หากเป็นเช่นนั้น  สิ่งที่ดีที่สุด  ที่ ‘พ่อ’ จะมอบให้ ‘ลูก’ ได้คงเป็น...อิสระภาพ...
“ตามใจเจ้า…แต่เรื่องรัชทายาทเจ้าต้องจัดการเอง พ่อจะออกหน้าคงไม่เหมาะ”
“น้อมรับพระบัญชา”
ไนท์ รามิล ราจีสอับดุล ค้อมตัวรับแล้วออกจากวังมุ่งสู่สนามบิน  เขาส่งข่าวให้ลุงคาล์ลพี่ชายมารดา รู้ว่าพระบิดายอมเปิดไฟเขียว
คาล์ล จิงเจอร์ได้ทีบีบกลุ่มผู้ค้าน้ำมันรายย่อยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนในราชวงศ์ราจีสอับดุบ ให้เพิ่มกำลังการผลิต  หากน้ำมันในตลาดมีมากเกินไปนั่นหมายถึงราคาที่จะตกวูบลง ทำให้ต้องเปิดการเจรจา  แน่นอนว่าตัวแทนที่วิ่งวุ่นคือชีคซารีฟเหมือนเดิม  คราวนี้คาล์ลแกล้งเล่นตัวอยู่นานกว่าจะยอมลดเงื่อนไขลง  ทำให้คะแนนนิยมของชีคซารีฟในสายตาของเหล่าราชวงศ์ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อมีข่าวว่ารัชทายาทคนต่อไปอาจเป็นชีคซารีฟจึงแทบไม่มีเสียงคัดค้าน
.....................................
    

♚..อวสาน..♚

ไนท์โดดลงจากเครื่องทันทีที่ร่อนลงแตะพื้น  ใจเขาพุ่งไปสู่บ้านหมอเฒ่าแล้ว  แต่กัปตันเดวิดรีบมาต้อนรับและพาไปยังบ้านพักหลังใหญ่ที่ตอนนี้มีทั้งหมอและพยาบาลเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคน
คนเจ็บลุกขึ้นได้แล้ว...แม้จะดูอ่อนเพลียอยู่บ้าง  แต่ใบหน้าดำเกรียมก็เริ่มลอกเป็นด่างดวงแสดงถึงพิษที่กำลังหมดไป ไนท์ยืนมองนิ่งอย่างตื้นตัน  แจ็คหันมามองแล้วก้มศีรษะให้ช้าๆเพื่อทำความเคารพเช่นเดียวกับหมอและพยาบาลที่หมอบราบลงกับพื้น
“ขอเราอยู่ตามลำพัง” ไนท์สั่งเบาๆ
ทุกคนทำความเคารพแล้วพากันออกไป ไนท์เดินเข้าไปหาร่างในอ่างยาช้าๆ ก่อนจะโผเข้าสู่อ้อมแขนเมื่อแจ็คกางแขนออกรับ
แจ็คลูบผมนุ่มที่ยาวเลื้อยต้นคอ ก่อนจะจุมพิตที่ขมับหอมแผ่วๆ
“ตอนอยู่ในทะเล…ผมคิดว่าผมคงตายไปโดยไม่ได้บอกคุณ…ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมไม่เคยทรยศต่อความไว้ใจของคุณ…”  แจ็คอธิบายน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นด้วยยังหายใจไม่สะดวกนัก
“ขอโทษแจ็ค...อภัยในความโง่เขลาของฉันด้วย” ไนท์กระซิบตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเบาผิดวิสัย  แจ็คดันร่างเพรียวออกห่างเล็กน้อยเพื่อมองหน้า  ดวงตาที่เคยดุดันอ่อนแสงและหมองหม่นจนแจ็คใจหาย        
“ทำไมพูดอย่างนั้น”
“ตอนที่รู้ว่าเธอเอาแหวนไป  ฉันก็ปักใจว่าเธอทำไปเพราะต้องการเอาชนะ อยากแกล้งให้ฉันหัวหมุนและขายหน้า แต่ฉันไม่เคยคิดว่าเกือบต้องเสียเธอไป…แจ็ค…อย่าทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้อีกนะ  หากเธอเป็นอะไรไปฉันจะอยู่ได้ยังไง?”
“ผมสัญญา...ต่อไปนี้ผมจะทำตามที่คุณสั่งเท่านั้น” แจ็คเบียดปากนุ่มอย่างอ่อนโยน หัวใจเบาโล่งที่สามารถปรับความเข้าใจกันได้  ความสุขเต็มตื้นเอ่อท้นเมื่อเห็นคนที่รักจูบตอบโดยไม่รังเกียจสภาพของเขา
“ขอบคุณนะครับที่ไม่รังเกียจสภาพแบบนี้ของผม”
“ใครจะรังเกียจคนที่เรารักได้ละแจ็ค”
“อะ...อะไรนะครับ?”
“ฉันรักเธอ...รัก สุดหัวใจ เหมือนอย่างที่เธอรักฉัน”
“ผม....ผมฝันอยู่หรือเปล่า...คุณบอกรักผมงั้นเหรอครับ?” แจ็คประคองหน้านวลด้วยมือสั่นเทาเพราะความตื่นเต้น
“เธอเป็นรักครั้งแรก และครั้งเดียวของฉัน....ฉันสัญญากับพ่อแม่เธอแล้วว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุด...ให้สมกับความรักที่เธอมีให้และก็จะรักเธอให้มากกว่าที่เธอรักฉัน”
“ไนท์...ขอบคุณครับ...ผมก็จะรักคุณคนเดียวตลอดไป”
ไนท์ประคองหน้าด่างดำไว้และก้มลงจุมพิตอย่างอ่อนโยน  แจ็คกอดรัดร่างบางแนบแน่นเท่าที่เรี่ยวแรงเขาจะมี  
‘ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงให้ผมรอดตายจนได้ยินคำนี้’
ลำแสงสีทองสุดท้ายทาบผืนฟ้าเรืองอร่าม  นกนับพันทยอยบินกลับรังเพื่อหาครอบครัว  ไนท์เฝ้ามองภาพนั้นผ่านหน้าต่างเปิดกว้างด้วยหัวใจที่เป็นสุขอิ่มเอิบ  นิ้วยาวสางไล้ผมหนาที่ซุกซบอยู่กับตัก แม้กลิ่นยาในอ่างจะโชยฉุนแต่ไนท์ไม่รู้สึกว่าต้องทนแม้แต่น้อย............

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามีห้องว่างให้ผมบ้างหรือเปล่า?”
อองรีเกือบทำแฟ้มหลุดมือได้ยินเสียงทุ้มแจ่มใสเหนือศีรษะ  หัวหน้าแผนกต้อนรับคนงามผุดลุกขึ้นจ้องมองหน้าคร้ามที่ค่อนข้างซูบและยังซีดเซียว ด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“เสียใจที่พักเราเต็มหมดแล้วครับ” อองรีตอบหน้าตาเฉยหลังตั้งสติได้
“โอ…แล้วผมจะทำยังไงดีละครับ?”ไคซัคร้องเสียงหลงราวกับเป็นนักท่องเที่ยวขี้โวยวายแต่สีหน้ายิ้มละไม
“ห้องผมยังว่างอยู่อีกซีกหนึ่ง....หากคุณสนใจก็เชิญ ผมแบ่งให้เช่า”อองรียังคงสีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงวาว หวานระยับ
“ตกลงครับ ผมขอซื้อขาดเลยแล้วกัน  รวมทั้งเตียงคุณครึ่งหนึ่งด้วย ไม่ทราบว่าต้องจ่ายยังไงครับเงินสดหรือเครดิต?”
“อืม…จ่ายด้วยลมหายใจก็แล้วกัน  ผมขอถึงเฮือกสุดท้ายก็พอ”
“ตกลงครับ”ไคซัคตอบยิ้มๆแล้วเซ็นชื่อที่เสื้อเชิ้ตขาวตัวในของอองรีหน้าตาเฉย  อองรีอมยิ้มแล้วยื่นกุญแจห้องส่งให้
ไคซัคไม่ได้รับแค่กุญแจแต่คว้าร่างบอบบางเข้าไปกอดไว้แน่น
“เป็นห้องที่แพงที่สุดที่ฉันเคยพักมา  แต่เป็นห้องที่วิเศษที่สุดสำหรับฉัน” ไคซัคกระซิบข้างใบหูนิ่ม  อองรีโอบรอบลำคอแข็งแรงและยิ้มใส่ตาอย่างยั่วยวน
“รับรองครับว่าคุณจะไม่ผิดหวังที่พักห้องนี้”
“ฉันเชื่อว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน”ไคซัคตอบแล้วจูบปากนุ่มดูดดื่มท่ามกลางสายตาเบิกค้างของหนุ่มสาวแผนกต้อนรับ............

เมื่อแจ็คแข็งแรงพอ ไนท์ก็พาเขากลับไปรักษาตัวต่อที่วังขาวด้วยวัยหนุ่มทำให้แจ็คฟื้นตัวได้รวดเร็ว 3สัปดาห์พิษก็ถูกขับออกจนหมด มีเพียงที่มือเท่านั้นที่ยังมีอาการลอกเป็นแผ่นๆจนเห็นเนื้อแดงๆ  แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ไนท์เดินเคียงกับคนรักไปในสวนงดงามอย่างแสนสุข  อีกไม่นานชีคซารีฟก็จะขึ้นครองบัลลังค์แน่นอน ประเทศกำลังจะเปลี่ยนระบอบการปกครองใหม่สร้างความตื่นเต้นให้แก่ประชาชนมากมาย และศรัทธาแห่งมหาชนที่มีต่อชีคซารีฟก็มั่นคงจนแทบไม่ต้องฟังผล  ภาระหนักอึ้งจะถูกปลดลงจากบ่า  และเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระกับคนที่รัก  คนที่เป็นของเขาอย่างแท้จริง ไนท์เหลือบมองคนที่เดินเคียงข้างด้วยแววตาอ่อนโยน  แจ็คหันมาสบตาแล้วยิ้มกว้าง  กระชับมือนุ่มในอุ้งมือให้แน่นขึ้น
“คุณรู้ไหม?…ผมชอบเวลาที่คุณมองผมแบบนี้  มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกอยู่ในมือผมเลย”
“อะไรจะปานนั้น” ไนท์หัวเราะเบาๆ  ไม่ใช่การหยามเยาะหากแต่เป็นการแก้เขินมากกว่า
“จริงๆครับ…ไม่รู้สิ…เวลาที่คุณมองผมรู้สึกดีชะมัด…รู้สึกว่าตัวเองมีค่าอย่างบอกไม่ถูก”
แจ็คหยุดเดินโอบรัดร่างเพรียวเข้ามากอดไว้กระชับ  ไนท์เงยหน้าขึ้นยิ้มอย่างอ่อนโยน
“แจ็ค...สำหรับฉันเธอมีค่ามากนะ  มากยิ่งกว่าตำแหน่งรัชทายาทเสียอีก”
“ทำแบบนี้จะดีเหรอครับ...ผมตื้นตันนะครับที่คุณรักผม...แต่ผมไม่ต้องการให้คุณเสียสละขนาดนั้น...คุณก็รู้ว่าอยู่ตรงไหนก็ได้  ไม่จำเป็นต้องยกผมขึ้นมาเคียงข้างคุณเลย”
“แต่ฉันอยากให้เธออยู่ข้างๆฉันนี่...มันอาจจะเห็นแก่ตัว...แต่ในชีวิตฉันไม่เคยมีใครมีค่ากับฉันมากเท่าเธอมาก่อน...ฉันจะไม่ยอมเสียเธอไปอีกแล้ว”
“ผมก็ไม่ยอมเสียคุณไปเหมือนกัน...สำหรับผมคุณเป็นมากกว่าคนรักนะครับ...คุณเป็นครอบครัวของผม...ครอบครัวที่ผมโหยหามาชั่วชีวิต”
ไนท์อมยิ้มสอดแขนรอบเอวแข็งแน่นกว่าเดิม  แจ็คจุมพิตผมนุ่มหอมเบาๆเมื่อไนท์เงยขึ้นยิ้มให้
“ฉันชอบรอยยิ้มแบบนี้ของแจ็ค…ชอบ...ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น…”ไนท์สารภาพเสียงอ่อย  แจ็คยิ้มกว้างจนตาแทบปิด
“แปลว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่เจอรักแรกพบ…คุณก็ด้วยเหรอเนี่ย?”
ไนท์พยักหน้ายิ้มเขิน  แจ็คหัวเราะก้องคว้าร่างบางเหวี่ยงไปมา
“โอ้ยๆๆ” ชายหนุ่มอุทานเมื่อเจ็บมือจี๊ดขึ้นมาต้องรีบวางรางบางลง  ไนท์ดึงมือที่มีเลือดซึมมาดูอย่างร้อนใจ
“เป็นไงบ้าง…เจ็บมากไหม?”
“เจ็บครับ…ทายาให้หน่อย” แจ็คได้ทีรีบอ้อนซึ่งก็น่าเอ็นดูหนักหนาในสาย ตาของไนท์
“เดี๋ยวนะจะไปเอายามาทาให้”ไนท์ทำท่าจะผละไปแต่แจ็คคว้าร่างบางมากอดไว้แน่น
“ไม่ต้องไปเอาหรอกครับ  ยาอยู่นี่แล้ว”
“ไหน?” ไนท์เงยขึ้นมองงงๆ
“ก็…นี่ไง” แจ็คก้มลงจูบปากแดงหนักๆ  ไนท์ทำตาดุจนชายหนุ่มจ๋อย...
“อย่ามาแกล้งแบบนี้นะ”
“ขอโทษครับ”
“ยกโทษให้ก็ได้…ครั้งนี้เท่านั้นนะ” ไนท์กระซิบประคองหน้าคร้ามไว้ทั้งสองมือก่อนจะแนบปากบางเข้าหา  แจ็คทำตาโต กอดเอวบางกระชับ จูบตอบหนักแน่นจนเมื่อถอนปากออกปากบางก็บวมช้ำ
“สัญญาครับว่าคราวหน้าจะจูบให้เบากว่านี้”
ไนท์หัวเราะเสียงใส  ในความสุขมีความอิ่มเอิบและปลอดโปร่ง  
นี่ไง...คนที่รักได้โดยไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะถูกทรยศหักหลัง ความรักที่ถักสานจากความไว้เนื้อเชื่อใจและห่วงใย มิใช่แค่คนรักหากแต่รวมถึงเพื่อนตาย รักอันจีรังยั่งยืนที่เขาตามหามาตลอด...คนที่เกิดมาเพื่อให้รักและรักเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น....และจะเป็นเช่นนี้ไปจนกว่าลมหายใจสุดท้ายของกันและกัน…
                    
…….จบ......

ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ หวังว่าคงถูกใจเพื่อนๆไม่มากก็น้อย

เดี๋ยวจะมีตัวอย่างเรื่องหน้ามาให้อ่านคะ เทียนได้อ่านแล้ว 2 ตอนขอบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 12-03-2010 22:16:44
กี๊ดดด มะกี้แอบปาด ลบให้แล้วค่ะ เม้นท์ใหม่ๆ
แจ๊คกับไนท์น่ารักที่สุดใน 3 โลกกกกก ^^

อยากอ่านเรื่องใหม่มากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 12-03-2010 22:27:30
ขอบคุณค่ะ สำหรับเรื่องสนุก ๆ แบบนี้

กำแพงใจก็ได้พังทลายลงแล้ว อย่างมีความสุข

รอเรื่องใหม่ค่ะ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 12-03-2010 22:38:51
ตัวอย่างเรื่องใหม่ ตัดตอนมาลงให้นะคะ ชื่อเรื่องยังไม่แน่ใจคะ แต่รับรองสนุกแน่ ใบปอ รับประกันคุณภาพ

สำหรับเรื่องนี้ ใบปอบอกว่า อาจจะเรทแรงนะคะ ถ้าเด็กๆมากอย่าอ่านเลยนะ (ห้ามได้เหรอ)

.........

สิงห์สะบัดหัวแรงๆ  ไล่ความคิดฟุ้งซ่านไปจากหัว  ทั้งที่พยายามย้ำกับตัวเองตลอดเวลาว่าเขาทำไปเพื่อต้องการป้อนยาให้อติ...แต่นิสัยซื่อตรงอันเป็นพื้นฐานก็เตือนให้เขาละอายใจ  ละอายที่เขาพยายามโกหกแม้แต่ตัวเอง 
หากไม่นับครั้งแรกที่อติดิ้นรนจนเขาต้องปิดปากมันไว้ไม่ให้บ้วนยาทิ้งแล้วละก็  อติก็ไม่ได้มีแรงขัดขืนเขาสักหน่อยเด็กหนุ่มแทบไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำตอนที่เขาป้อนยาให้  แต่เป็นเขาเองที่หาเหตุมาอ้างเพื่อตัวเองสบายใจที่จูบอติ...
ทุกครั้งที่ป้อนยามัน  หัวใจเขาก็เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น  ปากนุ่มแม้จะซีดเซียวแต่ก็ทำให้เขาต้องวนเวียนดูดกินความหวานจากมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแทบทำปากนุ่มนั้นช้ำ
“นี่ข้าทำกระไรลงไป” สิงห์โยนขวานในมือทิ้งแล้วทรุดลงนั่งกุมขมับ...เกลียดตัวเอง...เกลียดความรู้สึกอ่อนหวาน รุ่มร้อนที่พาให้อกไหวสะท้านทุกคราที่ได้แตะต้องสัมผัสอติ  เขาต้องห้ามใจมากมายทุกครั้ง
“นี่ข้ามิใช่ชายชาญแล้วรึ  ถึงมีใจให้บุรุษด้วยกัน  ผีห่าตนใดสิงใจ...ข้าถึงเป็นไปได้ถึงเพียงนี้”  สิงห์ทอดถอนใจยาว  เงยขึ้นมองตะวันแล้วรีบขนฟื้นไปก่อไฟอุ่นยาต้มให้อติ
ใบหน้าที่เคยซีดจนเกือบเขียว  บัดนี้ดูมีเลือดฝาดขึ้นบ้าง  แผลที่สีข้างแห้งสนิทจนไม่ต้องพอกยาซ้ำอีกแล้ว  เหลือแต่เพียงไข้ป่าเท่านั้นที่ทำให้อติไม่รู้สึกตัวเสียที  ได้แต่หลับๆตื่นๆอยู่อย่างนี้มา หลายวันแล้ว
สิงห์กลั้นใจถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือเพียงร่างขาวเปล่าเปลือยเพื่อเช็ดตัวให้อติ  ความจริงคนเป็นไข้ห้ามโดนน้ำ  แต่ในเมื่อแม่เฒ่าสั่งเขาก็ต้องทำตาม  ผิวขาวลออทั้งตัวนั้นตึงแน่นกว่าผิวสตรี  หากแต่ละเอียดเนียนราวกับทารก  ใบหน้ายามหลับใหลงามเสียจนหัวใจเต้นแรง  สิงห์สูดหายใจลึกเพื่อไล่อาการมือไม้สั่น  เร่งรีบเช็ดทั่วร่างบางเร็วขึ้นเพื่อให้เสร็จเสียก่อนที่เขาจะคิดบัดสีไปมากกว่านี้
“อติเอ๋ย...เจ้าทำให้ข้าวิปริตผิดเพศไปเสียแล้ว  ตอนอยู่อโยธยา  ข้าหาเคยลุ่มหลงสตรีใดไม่ แม้มีใจชอบพอก็เพียงชั่วครั้งชั่วคราวยามเจอสตรีที่งามพร้อมเท่านั้น...แต่กับเจ้า...ข้า...เฮ้อ!” สิงห์ทอดถอนใจยาวขณะสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้อติ  อดไม่ได้ที่จะลูบแก้มตึงใสด้วยปลายนิ้วแผ่วเบา 
ตั้งแต่เมื่อไหร่หนอที่เขามีใจให้มัน  จำได้ว่าพบกันคราแรก  เขายังนึกชังในความวางโตอวดเก่ง...ปากคอก็เราะร้าย ช่างค่อนขอด...เจอกันไม่กี่วันก็โดนมันหลอกไปทิ้งให้รอเสียครึ่งค่อนวัน  ไหนจะโดนหลอกให้ลงไปงมหามันในน้ำเย็นจัดจนแทบจับไข้...ดื้อรั้นเอาแต่ใจเหลือทน...แต่เขากลับไม่เคยโกรธมัน  หลายครั้งที่โมโห  แต่สุดท้ายก็เห็นเป็นเรื่องขัน
“รีบหนีไป...เจ้านาย...ทิ้งเฮาไว้...บ่ต้องช่วยเฮา...หนีไปเสีย” อติเพ้อด้วยพิษไข้จนสิงห์ต้องจับมันกรอกยาอีกหน
แม้แต่ยามเจ็บป่วยอติก็ยังห่วงแต่คนอื่น  เด็กหนุ่มเสี่ยงตายเข้าไปช่วยเพื่อน  แม้ไม่ได้เป็นพี่น้องคลานตามกันมา แต่อติก็ไม่ยอมทิ้งใครไว้สักคน  แล้วยามมันเจ็บป่วยจะให้เขาทิ้งมันได้อย่างไร
............

ไม่นานเกินรอคะ :really2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 12-03-2010 22:50:22
อ่านจบแล้วคะ ล้นกับตอนจบอยู่เหมือนกัน ชอบตอนที่อธิบายถึงสถานที่ต่างๆ  เป็นนิยายที่เราชอบอีกเรื่องนึงเลย ขอบคุณที่นำนิยายดีๆมาให้อ่านคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-03-2010 22:53:17
เรื่องนี้ชอบมากๆๆๆๆๆๆ  พอๆกับถนนสายหัวใจเลย บอกไม่ถูกทั้งๆที่พล็อตเรื่องก็ไม่โลดโผนมาก แต่สำนวนเยี่ยมจริงๆ


แล้วจะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ

ปล. ถ้าโอนเงินแล้วจะPM ไปบอกจ้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 12-03-2010 23:05:41
สวัสดีค่ะ

ได้pm แล้วนะค่ะ
ถ้าโอนเงินแล้ว จะแจ้งให้ทราบในpmที่ส่งมานะค่ะ
ขอบคุณค่ะ

ส่วนที่อยากได้เรื่องอื่นๆๆของคุณใบปอ ได้โทรคุยแล้วค่ะ
ทั้งเล่ห์รักและถนนสายหัวใจ

ส่วนเรื่องใหม่ของคุณใบปอ เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ
จะคอยติดตามนะค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 12-03-2010 23:11:54
จบได้เยี่ยมมากค่ะ ลุ้นตามอย่างระทึกทุกตอนทุกตัวหนังสือ เป็นนิยายที่สนุกมากจริงๆค่ะ ขอบคุณผู้เขียนที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆมอบความบันเทิงให้ตลอดสามเรื่องที่ผ่านมา และผู้โพสต์ที่ช่วยโพสต์ให้พวกเราได้อ่านนะคะ o13 :pig4: ส่วนตัวอย่างตอนต่อไปก็น่าสนใจมากๆ กลับมาสู่ setting แบบคนไทยแล้ว  :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 12-03-2010 23:28:23
เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นเอาใจช่วยตัวละครแทบตลอดเลย สนุกมากครับขอบคุณที่นำมาให้อ่านกันนะครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 12-03-2010 23:46:23
 :เฮ้อ: จบเร็วมาก
ขอตอนพิเศษได้มั๊ย

ขอบคุณสำหรับ pm  :L2:

+1
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 13-03-2010 00:03:19
ขอบคุณค่า..

และแล้วก็จบลงด้วยดี :เฮ้อ:เกือบไปแล้วไหมล่ะไนท์ :กอด1:คู่อองรีน่ารัก..

ส่วนเรื่องใหม่ก็น่าติดตามมาก..ออกแนวย้อนยุคนะเนี่ย :m26:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 13-03-2010 00:20:29
WoWwwwwwwwwwwwwww  น่าสนใจๆๆ  :interest:

ท่าทางเรื่องใหม่จะเป็นแนวไทยย้อนยุคนะเนี่ยยยยยยยย  :m12:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 13-03-2010 02:18:40
จบได้ลงตัว สวยงามมากค่ะ
เรื่องนี้สนุกจริงๆ
ุทุกเรื่องของคุณใบปอที่อ่านมา มีช่วงที่ทำให้ลุ้นมากๆทุกเรื่องเลย
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกยิ่งติด

ขอบคุณทั้งคุณใบปอ และคุณเทียนนะคะ
ขอบคุณเรื่องหนังสือด้วยค่ะ

บวก 1 แต้มนะคะ  :L2: รอติดตามเรื่องใหม่ด้วยค่ะ น่าสนุกเช่นกัน
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jokirito ที่ 13-03-2010 03:45:00
ว้าวววววววว  เรื่องใหม่แนวย้อนยุคซะด้วย


อยากอ่านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: nanahashi ที่ 13-03-2010 08:34:19
จบแล้ว อยากได้ตอนพิเศษจังเลย แล้วเรื่องนิยายเก่าพอจะมีรีปริ้นไหมคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 13-03-2010 12:28:18
ในที่สุดแจ็คก็ได้ฟังคำว่ารักจากปากไนท์ซะที
สงสารตาแจ็ค โดนพิษตัวดำเลย
 :L2: ขอบคุณคุณเทียนฉินมากๆๆๆๆ ที่มาลงให้อ่านจนจบ  :pig4:

เรื่องใหม่น่าสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกก
แค่น้ำจิ้มก็สนุกเหลือทน  o13

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 13-03-2010 14:25:38
ได้รับ pm แล้วเช่นกันค่ะ โอนเงินเมื่อไรจะแจ้งไปนะคะ
รอหนังสือด้วยใจจดใจจ่อเช่นกัน  :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 13-03-2010 15:40:52
ในที่สุด กำแพงหัวใจก็ทะลายลงด้วยรักแท้ :-[

สนุกมากๆเลย  ลุ้นจนจบเรื่องเลยทีเดียว o13

ขอบคุณคุณใบปอสำหรับนิยายดีๆ ขอบคุณคุณเทียนที่นำมาให้ได้อ่านกัน

จะรอติดตามเรื่องต่อไป อย่างจดใจค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: muyong ที่ 13-03-2010 17:29:20
โอนเงินแล้วนะค่ะ

รายละเอียดแจ้งไว้ใน PM ค่ะ

ขอบคุณ คุณใบปอ คุณเทียนฉิน ที่นำเรื่องที่สนุก ซาบซึ้งประทับใจ มาให้อ่านนะค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 13-03-2010 19:35:39
ตอนจบหวานบาดใจ เรื่องใหม่ก็น่าอ่านมาก ๆ
ใบปอเขียนเก่งมาก ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sand281017 ที่ 13-03-2010 22:23:15
เง้อ จบแล้วหรอ

หนังสือหมดยังอ่ะ

เอาด้วยชุดนึง ค่ะ

ยังไงช่วย PM บอกด้วยนะว่าได้รึป่าว
จะได้โอนเงินให้ ขอบคุณค่าาาา :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-03-2010 22:34:49
อ่า .... ไม่ได้เข้ามาอ่านแป๊บเดียว จบแระหรือนี่

งั้นขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 14-03-2010 14:53:58
อยากอ่านไคซัคกะอองรีอีกอ่ะคะ ..... คุณใบปอเก่งจริงๆ เรื่องหน้าเป็นพีเรียดหรือนี่ ....
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 16-03-2010 12:53:57
 :impress2: จบประทับใจสุดๆ

ขอบคุณนะคระ

แล้วก็รอเรื่องต่อไป อิอิ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: daizodiac ที่ 16-03-2010 14:24:42
อ๊ะ.. จบได้ซึ้งใจดี
ไนท์กับแจ๊คมีความสุขละน้า า  :กอด1:

ชอบคู่อองรี กะ ไคซัคด้วย ย

ขอบคุณ คุณเทียน กับ คุณใบปอ นะคะ : ))
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 16-03-2010 15:24:03
จบได้สดใสซาบซ่ามากกกกก ถูกใจเป็นที่สุด  :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนจบพร้อมควมคืบหน้าเรื่องหนังสือคะ 12/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰ ที่ 16-03-2010 18:24:37
ปิดฉากเรื่องราวความรัก....ดั้ยสมบูรณ์แบบมากค่ะ...

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดี.....ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 16-03-2010 23:14:50
ขอบคุณที่ชื่นชอบนะ มาอ่านตอนพิเศษกันเลยดีกว่าคะ
.......
ภาคพิเศษ
 
เครื่องบินโดยสารของสายการบินไทยประกาศให้ผู้โดยสารปลดเข็มขัดออกได้หลังจากที่เครื่องไต่ระดับขึ้นสู่สภาวะปกติแล้ว
ชั้นเฟริสคลาสเงียบกริบด้วยถูกเช่าเหมา  กระนั้นเหล่าองครักษ์ก็ยังอยู่แยกต่างหาก  แจ็คลุกขึ้นเดินไปหยุดยืนมองทัศนียภาพด้านนอกเครื่องบินเงียบๆ  ขณะที่ชีครามิล ราจีสอับดุลกำลังก้มอ่านเอกสารง่วนเหมือนเคย
 ด้านหลังคู่รักอีกคู่กำลังชี้ชวนกันดูทัศนียภาพภายนอกพร้อมกับหัวร่อต่อกระซิกกันเบาๆ  แจ็คอมยิ้มเผลอตะแคงหูฟังโดยอัตโนมัติ  เพิ่งรู้ว่าคนแข็งๆอย่าง อดีตราชองครักษ์บทจะหวานขึ้นมาก็เรียกมดได้ทั้งกองทัพเหมือนกัน  คงเพราะไม่อยากดูความหวานของท่านอดีตราชองครักษ์กระมั่ง  ฮาลีถึงได้บินล่วงหน้ามาก่อน
“แอบฟังเขาระวังไคซัคจะสั่งตัดใบหูทิ้ง” ไนท์ย่องเข้ามากุมมือสากไว้เงียบๆ         
“จ้างก็ไม่กลัวครับ  ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นราชองครักษ์แล้ว  ตำแหน่งผมสูงกว่าเป็นไหนๆ” แจ็คแอบชะโงกไปจูบผมนุ่มเบาๆ  อยากรวบร่างบางเข้ามากอดใจจะขาด  แต่ไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของไนท์ไม่ดีในสายตาองครักษ์ที่อยู่อีกฟากของม่าน
“ถึงจะลาออกไปแล้วแต่พวกลูกน้องก็ยังเคารพเขาอยู่เหมือนเดิม  ลองเขาสั่งมีหรือใครจะกล้าขัด”         
“แล้วฝ่าบาทจะปล่อยให้ผมถูกตัดหูได้จริงๆเหรอครับ?”         
“มันน่าลองดูนะ  เผื่อจะน่ารักไปอีกแบบไง”         
“ใจร้ายจัง....คืนนี้ผมต้องทำโทษเสียแล้ว” ประโยคหลังชายหนุ่มก้มกระซิบเบาๆทั้งที่ไม่มีใครอยู่ใกล้พอจะได้ยินที่ทั้งคู่สนทนากัน         
“ดูอะไรอยู่?” ไนท์เปลี่ยนเรื่องแก้เขิน         
“ดูเมฆครับ”  แจ็คกำมือนุ่มให้กระชับแน่นขึ้นอีกนิดก่อนจะพูดต่อ
“ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่า เมฆช่างสูงส่งและแสนไกลเหลือเกิน  คนธรรมดาอย่างผมคงได้แต่แหงนมอง”         
“แล้ววันนี้ละ?”
แจ็คละสายตาจากภายนอกมาจ้องหน้านวลด้วยสายตาดื่มด่ำลึกซึ้ง         “วันนี้ผมโชคดี  ที่เมฆยอมลดตัวจากฟ้า โปรยเป็นสายฝนลงมาให้ชีวิตใหม่
กับผม”         
“แต่เธอก็ต้องแลกกับทุกอย่างในชีวิต  ไม่มีที่ให้เธอกลับไปอีกแล้วนะแจ็ค”
ไนท์ลูบแก้มสากแผ่วเบา  ส่งความอาทรผ่านสัมผัสและดวงตาให้แจ็คได้ซาบซึ้งและเต็มตื้นในหัวใจ  แจ็คคะแคงหน้าไปจูบมือนุ่มแล้วก้มลงจุมพิตแผ่วที่หน้าผากนูนงาม  สายตาที่มองไนท์ดื่มด่ำรักใคร่ลึกซึ้ง
“ผมก็ไม่ต้องการไปไหนอีก...ที่ของผมจะอยู่ข้างหลังฝ่าบาทหนึ่งก้าวเสมอ
ไปครับ”
ไนท์อมยิ้มหันไปมองทัศนียภาพภายนอกด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบ เบิกบาน
ขณะที่มือยังเกาะกุมกันไว้แนบแน่น
                                                          ......❀......
 
เพราะเป็นการมาเมืองไทยอย่างไม่เป็นทางการ ไนท์กับคณะจึงต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดียวกับผู้โดยสารอื่นๆ 
แจ็คยืนต่อคิวอยู่ข้างหลังร่างบาง  สายตาที่กวาดไปรอบๆอย่างระแวดระวังสะดุดเข้ากับใครคนหนึ่ง  ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวก็จำเขาได้เช่นกัน
“คุณรามอส...”
 “อะไรเหรอแจ็ค?” ไนท์เงยขึ้นถามเบาๆ
“เปล่าครับ...ไปเถอะครับ เกือบถึงเราแล้ว”
ไนท์หันไปมองข้างหน้าแล้วขยับเข้าไปที่เจ้าหน้าที่  พร้อมกับส่งเอกสารให้  ดูเหมือนตราประทับด้านบนจะทำให้การตรวจเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าปกติ  ทั้งคณะจึงออกมาเร็วกว่าที่คิดไว้มาก
                รถของโรงแรมในเครือมาจอดเทียบรอท่าอยู่แล้ว  ความหรูหราของรถทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเหลียวมามองอย่างสนใจ  ยังดีที่ไม่ได้ติดธงชาติไม่อย่างนั้นคงวุ่นกว่านี้ คนของทางโรงแรมจัดการกระเป๋าอย่างรวดเร็ว  ขบวนรถแบบเดียวสีเดียวกันที่วิ่งตามกันเป็นแถวสะดุดตาจนประชาชนแถวนั้นต่างหยุดยืนมองอย่างสนใจ 
แจ็คเหลือบมองไปหน้าอาคารท่าอากาศยาน  ทันได้เห็นร่างบอบบางแบกเป้เดินคลอออกมากับหนุ่มร่างสูงเพื่อขึ้นแท็กซี่ด้านหน้าเช่นกัน
                                          ......❀......
 
ทางโรงแรมจัดที่พักไว้รับรองอย่างหรูหรา  ไนท์จำต้องพักเพื่อการรักษาความปลอดภัยจะได้ง่ายขึ้น   
กว่าจะเสร็จพิธีการต้อนรับชีคหนุ่มก็ตาแทบปิด  เพราะไม่ได้นอนมาเกือบ 18 ชั่วโมงแล้ว  ไนท์ทิ้งตัวลงกับเตียงทันที  แจ็คตามเข้ามาช่วยถอดเสื้อผ้า ถุงเท้ารองเท้าให้ แล้วจึงประคองร่างอ่อนปวกเปียกขึ้นนอนให้เรียบร้อย  และไนท์งึมงำขอบคุณแล้วผล็อยหลับอย่างอ่อนเพลีย
แจ็คถอดเนคไทออกแขวนเสร็จก็คลายเสื้อผ้าให้หลวมแล้วมาทรุดลงนั่งที่พรมข้างเตียง ใบหน้ายามหลับของไนท์ดูไร้เดียงสาราวกับเป็นทารก  แจ็คไล้มือกับแก้มเนียนแผ่วเบา  ก่อนจะดึงมือนุ่มหอมขึ้นมาจูบ  ใครจะนึกว่ามือขาวบางนี้จะฆ่าคนได้ชั่วพริบตา  และมือนี้เช่นกันที่โอบอุ้มทารกบาดเจ็บจากสงครามระหว่างเผ่า
มือบอบบางที่หยิบยื่นความตายแก่ศัตรูและความการุณแด่ประชาชน  ทั้งที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทแล้วแต่ไนท์ก็รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ  ต้องเดินทางไปเจรจาการค้าต่างประเทศไม่ได้หยุด  แม้การมาเมืองไทยครั้งนี้จะมีหมายกำหนดการล่วงหน้า  แต่ไนท์ก็ยังทำงานจนวินาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง  อยู่บนเครื่องก็ยังเซ็นเอกสารและอ่านรายงานมาตลอดทาง  แจ็คจึงต้องช่วยแบ่งเบาภาระทุกอย่างให้เพื่อให้ไนท์ได้พักผ่อนบ้าง
“ไม่เหนื่อยเหรอ...ทำไมไม่พัก” ไนท์ตื่นเพราะเป็นคนนอนไวมาแต่ไหนแต่ไร
“ผมอยากนั่งมองคุณอย่างนี้มากกว่า”
“มีเวลามองไปตลอดชีวิตอยู่แล้วน่า...นอนเถอะ  เธอเองก็เหนื่อยพอๆกับฉันนั้นแหละ”
“ไม่ต้องห่วงครับ  เหนื่อยแค่นี้ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคืนนี้แน่”
“ไม่ต้องมาทะเล้นเลย  นอนพักซะ...นี่เป็นคำสั่ง”
“กระหม่อม...ขอกอดฝ่าบาทด้วยนะกระหม่อม”
“ดี...ห้ามปล่อยจนกว่าฉันจะตื่นนะ”
“รับด้วยเกล้า”แจ็ครวบร่างเพรียวเข้ามากอดกระชับไว้กับอกแล้วหลับไปด้วยกัน
......❀......
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 16-03-2010 23:16:57
... :jul1:

ด้วยเป็นการตรวจเยี่ยมโรงแรมสาขาเมืองไทยเป็นครั้งแรก ทุกแผนกจึงต้อนรับกันเอิกเกริก ยังดีที่ฮาลีกับทีมช่วยแบ่งเบางานไปได้มากไม่อย่าง นั้นแผนที่จะเที่ยวเมืองไทยคงสูญเปล่า
แจ็คกับไนท์ลงมาเดินเล่นที่ชายหาดแต่เช้าเพราะอากาสดีและคนค่อนข้างน้อย  ทั้งคู่ต่างสวมเสื้อผ้าสีอ่อนๆเพื่อไม่ให้สะดุดตา  แต่บุคลิกของไนท์ก็ดึงดูดให้คนที่เดินผ่านไปมาเหลียวมามองไม่ได้ขาด  ดูเหมือนเจ้าตัวจะชินเสียจนไม่ได้สนใจ
 แต่แจ็คนึกขันระคนห่วงนิดๆ  เพราะเขาพาไนท์ออกมาตามลำพัง หากมีศัตรูตามมาเกรงว่าไนท์อาจเป็นอันตรายได้
“เป็นอะไรไป เหลียวหน้าเหลียวหลังอยู่ได้?”
“ผมไม่ควรพาคุณมาโดยไม่มีคนติดตามเลย”
“ทำไม...ชักชินกับการมีคนห้อมล้อมหรือไง?”ไนท์เย้ายิ้มๆ
“เปล่าครับ...แต่ห่วงคุณมากกว่า  เกิดมีศัตรูตามมาคุณจะเป็นอันตราย”
“ไม่เห็นกลัว  มีเธอทั้งคนใครจะทำอะไรฉันได้”
“พูดอย่างนี้ผมก็ลอยกันพอดี...หิวไหมครับ  เช้านี้ยังไม่ได้ทานอะไรเลย?”
“หิว...”
คำตอบนั้นทำให้แจ็คนึกห่วงจนไม่ทันเห็นแววตาเจ้าเล่ห์วาวระยับของชีคหนุ่ม
“ข้างหน้ามีร้านขายอาหาร เข้าไปดูกันไหมครับ?”
“ไม่เอา...ไปที่โน่นดีกว่า” ไนท์ชี้ไปที่บ้านพักหลังเล็กๆที่ปลูกอยู่ในทะเล  มีอาณาเขตค่อนข้างชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยวบริเวณนั้นบางตากว่าแถบที่พวกเขายืนอยู่
“อยากไปทานอาหารที่นั่นเหรอครับ...ไปครับเดี๋ยวผมจัดการให้”
ครู่เดียวแจ็คก็ชูกุญแจบ้านให้ดู  พนักงานตัวสั้นล่ำ ขับรถพาไปยังบ้านพักที่อยู่ห่างกว่าทุกหลัง  แต่ถูกโอบล้อมด้วยเขาและทะเลมองเห็นหลังคาบ้านพักหลังอื่นอยู่ลิบๆ
ไนท์เหลียวมองรอบๆอย่างพอใจ  ขณะที่แจ็คส่งทิปให้  แต่พนักงานปฏิเสธอย่างสุภาพ  ด้วยเป็นนโยบายของรีสอร์ทที่ไม่ให้พนักงานรับทิปจากแขก
“ผมสั่งอาหารให้แล้วนะครับ...อีก15นาทีเขาจะมาส่งให้”
“ขอเลื่อนไปอีกชั่วโมง”
“อ้าว!ไหนว่าหิวไงครับ?”
“หิว...แต่ไม่ใช่อาหาร” ไนท์อมยิ้ม  หมุนตัวกลับมาโอบคอแข็งแรงไว้  นิ้วยาวลากไล้จากปากสีเข้มกรีดผ่านลงมาบนอกแข็งแน่นอย่างยั่วยวน
“หิวนายต่างหาก”
“ผมกำลังจะพาไปดูอ่างน้ำกลางแจ้งของที่นี่อยู่พอดี...เห็นเขาว่าสวยสุดๆ ไปดูกันไหมครับ?”  แจ็คกระซิบตอบตาพราว
“ไปโทรเลื่อนอาหารก่อนแล้วกัน” ไนท์ทิ้งท้ายแล้วเดินไปยังระเบียงด้านข้าง  
แจ็คโทรยกเลิกอาหาร ก่อนจะตามออกไปที่ระเบียง  เสื้อเชิ้ตขาวตกอยู่ที่ทางเดิน  ชายหนุ่มก้มลงหยิบแล้วยกขึ้นมองยิ้มๆ  ไม่ไกลนักเขาเห็นเข็มขัดหนังขดอยู่ที่พื้นเช่นกัน  แจ็คเดินเก็บเสื้อผ้าทีละชิ้น จนกระทั่งถึงกางเกงชั้นในสีขาวซึ่งตกอยู่หน้าห้องอาบน้ำกลางแจ้งพอดี
ร่างบางทอดกายพิงขอบอ่างหลับตาพริ้ม  แสงแดดยามเช้าส่องอาบไล้ไหล่ขาวละมุนจนเป็นสีทอง  แจ็ควางเสื้อผ้าของคนรักลงบนชั้นหวายด้านข้างแล้วไปทรุดลงนั่งที่ขอบอ่าง  มือใหญ่วักน้ำรดไหล่ขาวนวล  ยอดอกสีแดงไหวรางอยูในน้ำยั่วให้ลองลิ้ม  แจ็คก้มลงจูบปากนุ่มเบาๆแล้วค่อยเน้นหนักขึ้น  ฟันขาวเผยอรับเมื่อลิ้นร้อนสอดลึกเข้าไปภายใน  แจ็คสอดลิ้นเกี่ยวรัดหนักหน่วงขึ้นขณะที่มือสากก็ลูบไล้ยอดสีสดในน้ำแผ่วเบา  
ไนท์ดึงปกเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มจนร่างสูงเลื่อนลงมาในอ่างทั้งที่ยังสวมเสื้อผ้าครบชุด  แจ็คเกี่ยวเอวบางเข้ามากดแนบกับเอวเขาหนักๆ  ฝ่ามืออีกข้างลูบไล้ทั่วร่างตึงนุ่มอย่างเร่าร้อน ต่างแลกลิ้นกันดุเดือด ไนท์สอดมือลึกไปในอกเสื้อและสะกิดยอดอกสีเข้มให้ตึงเขม็งขึ้น  แจ็คคำรามในลำคอเบาๆ  กระชากเสื้อออกเร็วๆเมื่อปลดกระดุมไม่ทันใจ  ด้วยความช่วยเหลือของไนท์ไม่นานร่างหนาก็เปลือยเปล่าและเบียดกระชับกับร่างขาวเนียน  
แจ็คปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระ  ฟันคมขบเม้มยอดสีสดหนักและดูดดึงแรงจนอกบางแอ่นผวาตามปาก  ฝ่ามือร้อนซอกซอนลงไปสำรวจหน้าท้องเนียนแน่นแล้วกอบกุมส่วนอ่อนนุ่มให้ร้อนระอุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  ไนท์เลียปากอย่างทรมาน  มือนุ่มเลื่อนลงไปสำรวจร่างแข็งแน่นด้วยกล้ามเนื้ออย่างไม่ยอมแพ้  ผิวสัมผัสร้อนผ่าวให้ความรู้สึกร้อนและโหยหาบอกไม่ถูก  เมื่อมือนุ่มสัมผัสหน้าท้องแข็งก็ต้องชะงัก...ดูเหมือนแจ็คจะพร้อมกว่าที่คิด
แจ็คดึงมือนุ่มให้ประคองทั้งคู่ไว้ด้วยกัน  ขณะที่เขาสัมผัสสะโพกตึงนุ่มกดให้หน้าท้องเสียดสีกันแรงขึ้น
“อืม...แจ็ค...” ไนท์ครางเรียกคนรักแผ่วเบา แจ็คละปากจากยอดสีสดมาประกบปิดปากนุ่มแทน  ลิ้นร้อนกอดเกี่ยวกันหนักหน่วงต่างไม่มีใครยอมใคร ขณะที่สะโพกก็บดเบียดเข้าหากันไม่หยุด  มือนุ่มกำลังทำให้แจ็คทนไม่ไหว  ปลายนิ้วกลางจึงสอดลึกเข้าไปสำรวจช่องทางแคบ  ขณะที่ฝ่ามือยังบีบเคล้นเนื้อนุ่มภายนอก
“อื้อ..” เสียงไนท์อุทานอึกอักในลำคอ  สะโพกบางยกหนีอย่างลืมตัว  แต่แจ็คดันร่างบางจนชิดกับขอบอ่าง ทำให้ไนท์หมดทางหนี  ต้องยอมให้นิ้วเย็นๆสอดลึกเข้าไปสำรวจภายในจนซ่านเสียว  
แจ็คปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระอีกครั้ง  ช้อนร่างบางขึ้นนั่งบนขอบอ่าง แล้วครอบครองเนื้อร้อนผ่าวของคนรักไว้ในปาก  ไนท์กัดปากแน่น  มือทั้งสองสอดไล้ในผมหนาด้วยความทรมาน  สะโพกบางยกร่อนขึ้นตามแรงดูดดึงของปากร้อนผ่าว  ปลายลิ้นร้อนแซะซอนราวกับจะแทรกผ่านรูเล็กๆบนส่วนยอดเข้าไปกระตุ้นให้ความเสียวกระสันพุ่งขึ้นทุกที  ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางแจ็คยิ่งดูดดื่มเนื้อร้อนๆในปากหนักหน่วง  แต่ก่อนที่ไนท์จะไปถึงฝั่งฝันเนื้อร้อนๆก็ถูกปล่อยเป็นอิสระ แจ็คดันสะโพกกลมให้ยกสูงขึ้นอีกนิด  ปลายลิ้นร้อนแตะชิมรอยหยักจีบพับด้านหลังแผ่วเบา  ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าแดงซ่านที่เหยเกด้วยความทรมานเมื่อเขาลูบไล้ลิ้นรอบทางแคบหนักขึ้น  ไนท์สะบัดหน้าไปด้านหลัง  อ้าปากหายใจอย่างสุขเสียวและทรมาน  รับรู้ถึงลิ้นลื่นที่ตวัดไล้เลียไปมาไม่หยุด  สะโพกกลมเกร็งเป็นจังหวะตามแรงบีบรัดของช่องทาง จีบหยักสีสดขยับบีบรัดแน่นขึ้นเมื่อชายหนุ่มลากไล้ลิ้นผ่านและแทะชิมหนักขึ้นทุกที  เสียงครางสะดุดเมื่อแจ็คหยั่งนิ้วเข้าไปภายใน  
แจ็คค่อยๆแยกปลายนิ้วถางช่องทางสีแดงให้กว้างขึ้น  เพื่อสอดลิ้นเข้าไปชิมความร้อนลี้ลับ ปลายลิ้นสอดเข้าสลับกับนิ้วยาวกระตุ้นให้ไนท์ดิ้นพล่าน พยายามขืนกายหนีด้วยทนความเสียววาบลึกอย่างนี้ไม่ไหว  แจ็คไม่ปล่อยโอกาสทองให้หลุดมือ  เขารู้ว่าการทำอย่างนี้ทรมานคนรักแค่ไหน  แต่สุดทางแห่งความทรมานมีความสุขที่ไม่อาจลืมรออยู่  ชายหนุ่มกดตรึงสะโพกตึงไว้แน่น  ขณะที่ลิ้นก็ลากไล้ไม่หยุด  สลับกับการสอดเข้าไปเป็นจังหวะ  
ไนท์ร้องเสียงหลงสะโพกยกลอยขึ้น ขณะที่ปลายเท้าจิกยางรองกันลื่นก้นอ่างแน่น  แจ็ครีบละจากทางแคบมาครอบปากบนส่วนร้อนผ่าวที่ขยายตัวถึงขีดสุด  ดื่มกินธารร้อนระอุไว้จนหมด  สะโพกกลมเกร็งค้างค่อยคลายกล้ามเนื้อลง   นิ้วยาวที่จิกรั้งผมหยักหนาจึงค่อยๆคลายออกเปลี่ยนเป็นลูบไล้อย่างขอลุแก่โทษ
“...แจ็ค...เจ็บไหม...ขอโทษนะ...”
                แจ็คเลื่อนตัวขึ้นมาจูบปากนุ่มเบาๆอย่างอ่อนโยนเพื่อให้คนรักได้ผ่อนคลายและหายเหนื่อยเสียก่อน  แต่ไนท์ก็ไม่อยากเอาเปรียบ  จึงเลื่อนสะโพกลงถูไถกับเนื้อร้อนผ่าวของแจ็ค
“อย่าเล่นแบบนี้สิครับ...เดี่ยวผมหยุดไม่ได้กัน...พอดี”
แจ็คสะดุ้งเพราะโดนร่องเนื้ออุ่นจัดไถลไปมาบนส่วนยอดจนเสียววาบ ไนท์หัวเราะแผ่วๆทั้งที่ยังหอบหายใจ
“ทีนายยังแกล้งฉันได้เลย”
“จะเอาคืนงั้นเหรอครับ...งั้นอย่าหาว่าผมใจร้ายนะ” แจ็คกระซิบเบาๆแล้วยึดเอวบางไว้มั่นขณะสอดกายลึกเข้ามา  เสียงไนท์อุทานชิดหูแต่ชายหนุ่มไม่ได้หยุด  ช่องทางแคบบีบรัดผู้รุกรานให้รุกคืบไม่หยุดจนกระทั่งผสานสองร่างเป็นหนึ่งเดียวได้แนบสนิท
“แจ็ค...”ไนท์ครางเบาๆอย่างอึดอัด
“คุณยั่วผมเองนะ...”
“ฉัน...ยัง..อือ...ไม่พร้อม…”
“ไม่เป็นไรครับ...ผมรอได้” แจ็คขยับกายออกช้าๆจนเกือบสุดทางจึงสอดลึกเข้าไปใหม่ช้าๆ  ทุกครั้งที่เสียดสีผ่านความลึกร้อน...ช่องทางแคบจะบีบรัดด้วยกล้าม เนื้อเล็กๆมากมายที่ตอดรัดจนเขาเสียววาบไปทั้งกาย
“แจ็ค...เร็วเถอะ” ไนท์ครางออกมาเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป  แรงเสียดสีลึกร้อนล่อหลอกให้ต้องไขว่คว้าติดตาม สะโพกบางขยับรับทุกจังหวะสอดแทรก  และพยายามเร่งให้เร็วขึ้น  แจ็คยังคงอิ่มเอมกับความลุ่มลึกแสนหวานจนไม่อยากให้ทุกอย่างจบเร็วนัก  ชายหนุ่มกดกายจนแนบสนิทแล้วตรึงสะโพกนุ่มไว้   หันมาให้ความสำคัญกับทรวงอกตึงสวยอย่างบรรจง  ไนท์ครางเบาๆอย่างขัดใจ แต่ไม่อาจทำอะไรได้  นอกจากปล่อยให้แจ็คดูดดื่มยอดอกอย่างหิวกระหาย  สัมผัสเสียดลึกที่หยุดนิ่งก่อให้เกิดความทรมาน  
ชีคหนุ่มตาวาววับด้วยความสนุกเมื่อนึกแผนดีๆได้  มือขาวเลื่อนไปกดที่ไหล่แข็ง แจ็คสะดุ้ง...รู้สึกเหมือนถูกไฟช๊อตทำให้เผลอคลายมือโดยอัตโนมัติ  ร่างบางดิ้นหลุดและถอนกายออกอย่างรวดเร็ว  
แจ็คขยับจะคว้าไว้เป็นจังหวะเดียวกับที่ไนท์ทิ้งตัววูบลงมา  ร่างหนางอตัวด้วยความเสียวซ่านที่ไม่ทันตั้งหลัก  ชายหนุ่มหลุดเสียงครางกระเส่า ขณะที่ร่างบางร่อนกายขึ้นลงอย่างสนุก โดยอาศัยยึดไหล่กว้างเป็นหลัก และทุกครั้งที่เลื่อนกายขึ้นสูง ทางแคบบีบแรงจนแจ็คต้องยกสะโพกตาม  เป็นเหตุให้ร่างบางที่ทิ้งสวนลงมาครอบกายเขาลึกดื่มด่ำ  น้ำในอ่างกระฉอกตามแรงปะทะของทั้งคู่
“ออออ...โอ...แจ็ค....อือออ” แรงตอดรัดหนักและถี่ขึ้นเรื่อยๆบอกให้รู้ว่าไนท์กำลังจะถึงจุดหมาย
แจ็คเองก็จวนเจียนถึงฝั่งเช่นกัน  มือกร้านกระชากสะโพกบางเข้าหาหนักๆ  ขณะที่ดันกายสวนขึ้น  แรงปะทะทำให้ร่างบางสะท้านไปทั้งกาย  เสียงครวญครางดังระงมเมื่อสองร่างต่างโถมกายเข้าหากัน  เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย...เสียงไนท์หวีดสูงขณะที่หยัดร่างขึ้นเกร็งค้าง  หยาดรักร้อนฉีดซ่านปนไปกับน้ำในอ่างน้ำวน  ขณะที่
แจ็คเองก็ปลดปล่อยไอรักร้อนเข้าไปในทางลึกแคบจนหมดทุกหยาดหยด  แจ็คกอดรัดร่างอ่อนระทวยแน่น  พิงกายลงกับอ่างด้วยความเหนื่อยอ่อน  ปล่อยให้กระแสน้ำวนช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อจากเกมรักที่ดุเดือดให้หายเหนื่อยล้า
                                                          ......❀......



 :pig4: รอตอนจบในวันพรุ่งนี้นะคะ ของดีมีน้อยต้องใจเย็นๆคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 16-03-2010 23:29:36
 :m25: กิ๊สสส ดีใจมากที่มีตอนพิเศษ  :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: อนันตกาล ที่ 16-03-2010 23:30:54
หวานมาก  ไนร้อนแรงเหลือเกิน    :jul1:   ตายตาหลับแล้ว จะรอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 16-03-2010 23:53:27
รออยู่เลย ตอนพิเศษ

โอ้ย เร่าร้อน อ่อนหวานดีแท้

กระอัก  :jul1: (วันนี้มีแต่ละเลงเลือด)

บวกหนึ่งค่าาา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 17-03-2010 02:28:28
 :jul1:
ทั้งหวาน ทั้งร้อนแรง

แต่มีรามอสมาปรากฏตัวนี่สิ
ถึงเวลา แจ็คต้องเล่าอดีตให้ไนท์ฟังหรือเปล่า

รอตอนจบนะคะ
บวก 1 แต้ม ขอบคุณทั้งคนแต่ง คนโพสต์ค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 17-03-2010 03:21:45
 :m25: ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษ

+1
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 17-03-2010 08:15:06
ไนท์น่าร๊ากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 17-03-2010 08:35:23
 :jul1: ต๊ายยยยยยย!! มาฮันนีมูนเหรอค่ะ

รอต่อไป  อิอิ  :z2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 17-03-2010 08:59:21
ยังจองหนังสือทันมั้ยคะ ชอบเรื่องนี้มากเลย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 17-03-2010 12:31:33
 :m25:
ไม่มีใครยอมใคร รอตอนจบ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 17-03-2010 14:52:45
 :haun4: :haun4:  เอาอีก เอาอีก ของไคซัคจะมีตอนพิเศษรึเปล่าคะเนี้ย  รอตอนพิเศษต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 17-03-2010 16:35:48
 :m25: อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก


เลือดพุ่งกระจาย 55+


นอนรอตอนต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 17-03-2010 18:38:38
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 17-03-2010 18:56:47
+1 ให้แทนคำขอบคุณ
สมกับเป็นตอนพิเศษจริง ๆ เร่าร้อน รุนแรง
 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 17-03-2010 20:32:47
เกินคำบรรยาย... :haun4: :haun4: กด +1 ตรงไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-03-2010 21:23:24
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษคะ 16/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 19-03-2010 01:00:59
:pighaun:
:haun4:
:jul1:
They's so HOT!!!  :fire:
เซ็ก(ซี่)กันสุดๆ ไปเลย ไนท์ค่อยๆ เปลื้องทีละชิ้นให้แจ็คตามเก็บ  :impress2:
แล้วฉากในอ่างน้ำวนนั้นอีก นัววเนียกันได้ใจยิ่งนัก
โอ้ววววว...พระเจ้าแจ็ค มันฮ็อทมากกกกกก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 19-03-2010 18:25:59
ต่อเลยคะ
...

                แจ็คออกไปเซ็นชื่อในบิลแล้วให้บริกรออกไป  ชายหนุ่มจัดโต๊ะเสียเอง  เพราะไม่อยากให้มีใครรบกวนเวลาที่จะอยู่ตามลำพังของเขาและไนท์ 
แสงตะวันยามบ่ายยังกล้า  อาศัยลมทะเลช่วยพัดพาความร้อนให้คลายลง  แต่ในบ้านพักหรูย่อมเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศอยู่แล้ว  แจ็คชะโงกไปมองร่างที่นอนคว่ำอยู่บนเตียง  เสียงลมหายใจสม่ำเสมอทำให้เขาเอ็นดูเกินกว่าที่จะปลุก  ไนท์เหนื่อยทั้งเดินทางและเรื่องงาน  แล้วยังจะต้องมารับภาระหนัก...ในอ่างน้ำอีก  ย่อมต้องการพักผ่อนมากกว่าเขา 
แจ็คเดินออกไปสำรวจดูรอบๆบ้านพักระหว่างรอ บ้านพักตั้งอยู่เหนือหน้าผาเล็กๆ มีธารน้ำที่กว้างราว 4 เมตรไหลผ่านหน้าบ้านพอดี ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อเหลือบเห็นดอกไม้ช่อหนึ่งลอยผ่านหน้าบ้านไปและกำลังจะปลิวลงไปยังหน้าผาเบื้องล่าง
จู่ๆก็มีเสียงโดดน้ำและคนๆหนึ่งก็ว่ายโผตามดอกไม้มาติดๆ  แต่กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากก่อนจะตกจากหน้าผาทำให้ร่างนั้นทรงตัวไว้ไม่ได้ ทำท่าจะถลาร่วงตามช่อดอกไม้ไปด้วย  แจ็คใจหายวาบ  กระโจนตามไปคว้าร่างนั้นอย่างไม่ต้องคิด  แม้เขาจะคว้าไว้ทันท่วงที   แต่แรงกระแทกก่อนหน้านั้นก็ทำให้เจ้าตัวหมดสติไปแล้ว
แจ็คว่ายฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากขึ้นมาถึงฝั่งจนได้  ทันทีที่เห็นร่างอ่อนพับในอ้อมแขนถนัดชายหนุ่มก็อุทานด้วยความตกใจแกมประหลาดใจ
“คุณรามอส!” เด็กหนุ่มหมดสติและที่ศีรษะมีเลือดไหลอาบ  แม้แผลจะไม่ใหญ่นักแต่แจ็คก็ไม่แน่ใจว่าภายในจะกระทบกระเทือนแค่ไหนจึงอุ้มร่างบางขึ้นไปบนฝั่งอย่างรวดเร็ว  ยังไม่ทันถึงบ้านพักเจ้าหน้าที่กับชายหนุ่มคนที่เขาเจอที่สนาม-บินก็วิ่งสวนลงมาหน้าตาตื่น
“เกิดอะไรขึ้น...เขาเป็นอะไรไป?”
“รู้สึกศีรษะจะกระแทกกับโขดหินที่ริมหน้าผา  ผมว่าพาไปโรงพยาบาลดีกว่า”
“โธ่ที่รัก...ผมขอโทษ...ผมขอโทษ”ชายหนุ่มคว้าร่างบางไปกอดไว้ และสั่นไปทั้งตัวเมื่อเห็นเลือดแดงฉานอาบศีรษะคนรัก
“คุณครับ รีบพาเขาไปโรงพยาบาลดีกว่าครับ”
“...ไป..ไปโรงพยาบาล” ชายหนุ่มเอาแต่กอดรามอสแน่น และไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อน
แจ็คหันไปสบตากับเจ้าหน้าที่ก่อนจะดึงร่างบางมาอุ้มเสียเอง ดูท่าเจ้าหนุ่มนี่คงตกใจจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว  แจ็คตามไปด้วยจนถึงโรงพยาบาล  ชายหนุ่มคนนั้นเอาแต่นั่งกุมหัวด้วยความตกใจ  แจ็ครู้สึกเห็นใจ...เขาเองหากเจอไนท์เจ็บตัวต่อหน้าต่อตาแบบนี้ก็คงทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
ไม่นานหมอก็ออกมาจากห้อง  ชายหนุ่มคนนั้นปราดเข้าไปถามอาการระรัว  พอหมอบอกว่ารามอสพ้นขีดอันตรายเขาก็ทรุดลงนั่งแปะกับพื้นด้วยความโล่งอก
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยแฟนผมไว้”คนรักของรามอสหันมาขอบคุณเขาเบาๆ
“ไม่เป็นไรครับ  เป็นใครเจออย่างผมก็ต้องช่วยทั้งนั้น”
“ผมเรนครับ  แล้วคุณ?...”
“แจ็คครับ”
“ครับคุณแจ็ค  ขอบคุณคุณมากเลย”
“ผมว่าคุณเข้าไปดูเขาก่อนดีไหมครับ?”
“ครับ...เอ่อ..ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”
“โชคดีครับผมก็ต้องขอตัวเหมือนกัน”
                                                          ......❀......
 
                เมื่อกลับไปถึงบ้านพักปรากฏว่าคนบนเตียงยังไม่ตื่น  แจ็คถอดเสื้อผ้าที่เกือบแห้งคาตัวใส่ตะกร้าเตรียมส่งซัก  แล้วไปอาบน้ำ
ร่างที่นอนนิ่งเหมือนหลับสนิทค่อยๆพลิกนอนหงาย  ตาคมตวัดมองประตูห้องน้ำก่อนจะเหลียวมองนาฬิกาบนหัวเตียง  ร่างบางลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมแล้วเดินออกไปรับลมเค็มคาวจากทะเลเบื้องนอก  เสียงประตูเลื่อนเปิด  ไม่นานอ้อมแขนเย็นๆก็เลื่อนเข้ามาสอดรัดรอบเอวบาง
                “หิวหรือยังครับ?”
“ยัง...ที่นี่ร้อนกว่าฮาวาย”
“ครับ...แต่ชายหาดก็สวยงามเหมาะกับการเล่นน้ำนะครับ”
“เหรอ...งั้นคืนนี้ไปเล่นน้ำกัน”
“กลางคืน?...ตอนเย็นๆก็ไม่มีแดดแล้วครับ”
“ไม่เอา  ไปตอนกลางคืนดีกว่า  ไม่มีคนดี”
“ได้ครับ...ทานอะไรสักหน่อยนะครับ  เกือบเที่ยงแล้ว”
“ก็ได้...แต่เธอป้อนนะ”
“จะแกล้งผมอีกละสิ”
ไนท์หมุนตัวกลับมาคล้องแขนรอบคอแข็งแรง  ดึงใบหน้าคร้ามลงมากัดเบาๆที่คาง
“แล้ว...อยากถูกแกล้งไหมล่ะ?”
“แน่นอนครับ”
“งั้นจัดการซะทาสที่รัก”
แจ็คช้อนร่างบางกลับไปที่โต๊ะอาหาร  จัดการป้อนอาหารด้วยปากบ้างสลับกับการแลกจูบ  ไม่นานอาหารมื้อนั้นก็ถูกลืม  เพราะทั้งคู่มัวสาระวนกับการสำรวจเนื้อใต้ร่มผ้าของกันและกัน  เสียงครางสลับกับเสียงจูบดังลอดออกมาคละเคล้ากับเสียงคลื่นลมภายนอก  ให้แมกไม้แถวนั้นได้อิจฉาเล่น
                                     ……❀……
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 19-03-2010 18:27:34
....
“อรุณสวัสดิ์ครับ” แจ็คโผล่เข้าไปในห้องคนป่วยแต่เช้า  รามอสนั่งพิงเอนๆ  ใบหน้ายังซีดแต่ดูดีกว่าเมื่อวานมาก
“แจ็ค...” รามอสอุทานเสียงแผ่ว  แต่ท่าทางไม่แปลกใจมากนัก
“หน้าตาสดใสขึ้นเยอะเลย...หมอว่าไงบ้างครับ?”
“หมอขอเช็คสมองอีกที...อาการทั่วไปก็ปรกติดี”
“นึกยังไงครับถึงได้โดดตามดอกไม้มาแบบนั้น?”
“ผมเสียดาย...เขาอุตสาห์ซื้อให้ แต่ผมกำลังโมโห ก็เลยโยนมันออกนอกหน้าต่าง   ไม่นึกว่าจะตกน้ำ...พอตามไปเก็บเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่”
“คุณนี่ใจร้อนไม่เปลี่ยน...อย่าแสนงอนนักเลยครับ สงสารเขาบ้าง”
“แจ็ค...สบายดีไหม?...” รามอสถามเบาๆอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
“ครับ...สบายดี...ตอนนี้ผมมีความสุขมาก”  แจ็คยิ้มกว้างจนเด็กหนุ่มยิ้มออกท่าทางโล่งใจ
“ดีใจด้วย...ได้ฟังอย่างนี้ผมค่อยหายรู้สึกผิดหน่อย...บอกตรงๆว่าผมรู้สึกไม่ดีมาตลอด ที่ทำกับคุณไว้อย่างนั้น”
“มันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านเลยไปเถอะครับ  ผมไม่ได้คิดอะไรอีกแล้ว  คุณเองก็มีความสุขกับปัจจุบันมากไม่ใช่เหรอครับ  จะนึกถึงอดีตไปทำไม?”
“นั่นสินะ...แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณแจ็คมากที่ช่วยผมไว้  ผมเป็นหนี้บุญคุณมากเลย...มีอะไรให้ช่วยก็บอก  ผมอาจช่วยคุณไม่ได้เต็มที่แต่พี่ๆผมคงช่วยคุณได้ถ้าต้องการ” รามอสหันไปหยิบนามบัตรพี่ชายจากกระเป๋าสตางค์มาส่งให้ 
แจ็คอมยิ้มเมื่อเห็นนามสกุล อารานอสราตัน ในนามบัตร ใครจะคิดว่าเขาจะมีโอกาสเจอบริษัทคู่ค้าที่ไนท์สนใจรวดเร็วเช่นนี้
“ขอบคุณครับ...ผมสงสัยว่าคงได้มีโอกาสให้พี่คุณช่วยเร็วๆนี่แน่”
“ยินดีเป็นอย่างยิ่งเลย”
เสียงเคาะประตูครั้งเดียวแล้วเปิดเข้ามาทันที  เรนยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าใครมาเยี่ยมคนรัก
“อ้าว!คุณแจ็ค  อรุณสวัสดิ์ครับ  มาแต่เช้าเชียว?”
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณเรน  ผมเอาดอกไม้มาเยี่ยมคนป่วยครับ”
“ทานมื้อเช้ากับเราสิครับ  ผมซื้อมาเยอะเลย” เรนวางของในมือลงบนโต๊ะข้างเตียงคนป่วย
“เห็นทีต้องขอตัวครับ  ผมมีคนรอทานอยู่ที่บ้าน”
“อ้าว...อย่างนั้นเหรอครับ” หน้าใสๆเก้อไปนิดหนึ่งด้วยความเขิน
“หายเร็วๆนะครับ” แจ็คหันมาบอกรามอสเบาๆ
“ขอบคุณ”
“อยู่กับคนป่วยเถอะครับ ไม่ต้องไปส่งผมหรอก”แจ็ครีบบอกเมื่อเรนขยับตัว
“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”
“บายครับ”
                                                ......❀......
 
แจ็คกลับไปถึงบ้านพักก็พบว่าไนท์ตื่นแล้ว  ร่างเพรียวสวมเสื้อคลุมเพียงตัวเดียวนั่งขยี้ตาง่วงๆราวกับเด็กเพิ่งตื่นนอน
“ไปไหนมาแต่เช้า?..”
แจ็คคว้าเอวบางมากอดกระชับ  และจูบปากนุ่มหนักๆครู่หนึ่งจึงปล่อยเป็นอิสระ
“ไปเยี่ยมเพื่อนมาครับ...คุณหิวไหม?  ผมซื้อโจ๊กมาฝาก”
“อะไรนะ?”ไนท์หันมามองถุงที่เขาวางไว้บนโต๊ะทันที
“โจ๊กครับ...คล้ายๆซุบ  แต่เขาต้มข้าวในน้ำซุป อร่อยนะครับ ลองไหม?”
“เอาสิ...แจ็ค...ลุกไม่ไหว” ไนท์ทำตาอ้อน ชูแขนทั้งสองข้างราวกับจะให้อุ้ม
“มาครับผมช่วย...ขอโทษนะครับที่ทำให้คุณแย่…อุ๊บ” แจ็คหัวซุนลงไปเมื่อไนท์ดึงจนเขาถลาล้มลงไปทับบนร่างบางทั้งตัว
“ใครบอกฮึว่าแย่...ฉันหลอกให้นายขึ้นเตียงกับฉันต่างหาก”ไนท์กระซิบตาหวานระยับ  แขนเรียวคล้องรอบคอหนาอย่างยั่วเย้า
“ไม่หลอกผมก็ขึ้นครับ...แต่ตอนนี้ไปทานโจ๊กก่อนดีกว่า เดี๋ยวเย็นแล้วไม่อร่อย”
“ถ้านายป้อนด้วยปากรับรองว่าอร่อยแน่” ลิ้นนุ่มๆไล้เลียปากบางเบาๆ  แจ็ค ถึงกับครางอย่างอ่อนใจ
“พูดแบบนี้ผมจะลุกไปได้ยังไงละครับ”
“อืม...” ปากนุ่มเผยอรับลิ้นร้อนที่กวาดไล้เข้ามาอย่างไม่ยอมแพ้  อาหารเช้าถูกเลื่อนออกไปอีกตามเคย
......❀......
                                               
“มาแล้วครับ...ผมอุ่นจนร้อนแล้ว  รสไม่เปลี่ยนด้วยครับ รับรอง” แจ็คประคองถ้วยโจ๊กควันฉุยเข้ามาวางบโต๊ะอาหารอย่างบรรจง  ไนท์วางหนังสือพิมพ์ลงทันที
“ท่าทางน่าอร่อย”
“ผมป้อนให้ไหมครับ?” แจ็คอาสายิ้มๆ  ไนท์มองตามงงๆเมื่อชายหนุ่มตักโจ๊กเข้าปากแทนที่จะให้เขากิน
“ล้อเล่นน่า...นี่..เอาจริงเหรอ?” เสียงปรามหายวับเมื่อปากร้อนแนบประกบจนแทบสำลักอาหาร  กว่าแจ็คจะยอมปล่อยปากนุ่มเป็นอิสระก็เล่นเอาไนท์ตาลอย
“...อร่อยไหมครับ?”
“หวานไปหน่อย...สงสัยนายใส่น้ำตาลมากไป”ไนท์ตอบหน้าตาเฉย
“งั้นต้องชิมคำต่อไปนะครับว่าจะรสดีขึ้นหรือเปล่า”
“....อืม...แจ็ค...ปล่อยก่อนสิ...” ไนท์ดันร่างหนาออกห่างเมื่อเห็นท่าแจ็คจะกินเขามากกว่าให้เขากินอาหาร
“ก็คุณทำให้ผมเป็นอย่างนี้เองนะ”
“ไม่เอาน่า....หิวจะตายอยู่แล้ว...ปล่อยนะคนดี๊คนดี”
“ก็ได้ครับ...เฮ้อ!...ทานให้เสร็จเร็วๆนะครับ  ผมจะทานบ้าง” แจ็คทำตากรุ้งกริ่งขณะที่ไนท์อดค้อนไม่ได้ 
“ทะลึ่ง”
“แต่คุณก็รักแล้วกันแหละ” แจ็คตอบหน้าทะเล้น 
ไนท์หัวเราะเบาๆอย่างอ่อนใจก่อนจะยอมให้แจ็คป้อนโจ๊กจนหมด   จึงออกมานั่งรับลมที่ระเบียงด้วยกัน  แจ็คโอบเอวบางแล้วก้มลงจูบผมนุ่มเบาๆ  ตาคมเป็นประกายแน่วแน่  อย่างคนที่ตัดสินใจได้เด็ดขาดแล้ว
“ผมมีนิทานจะเล่าให้ฟัง..อยากฟังไหมครับ?”
“อยากฟังสิ” ไนท์เอนพิงอกกว้างอย่างสบายใจ
“กาตัวหนึ่งอาศัยอยู่ที่ป่าเล็กๆนอกเมืองตามลำพัง  แม้จะเหงาไปบ้างแต่มันก็มีความสุขดี...อยู่มาวันหนึ่งมันก็ไปเจอนกหงส์หยกแสนสวยที่หลุดจากกรงมา  เจ้ากาลุ่มหลงจนไม่เป็นอันทำอะไร แรกๆนกก็ชอบอยู่กับมันเพราะอิสระดี แต่ไม่นานก็เบื่อและคิดถึงกรงทองจึงทิ้งกาไป  เจ้ากาเสียใจแทบบ้าจึงหนีไปอยู่ที่ป่าแห่งใหม่เพื่อให้ลืมความทุกข์
ที่นั่นเจ้ากาได้เจอพญาเหยี่ยวตัวหนึ่งหลงฝูงมาและได้รับบาดเจ็บ มันช่วยดูแลจนพญาเหยี่ยวกลับมาแข็งแรงดังเดิมแล้วพญาเหยี่ยวก็กลับไปอยู่กับฝูง  เจ้ากาก็ตามไป ทั้งๆที่มันรู้ว่ามันต่างกับพญาเหยี่ยวแค่ไหน  แต่มันหลงรักพญาเหยี่ยวจนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว  สุดท้ายพญาเหยี่ยวก็ยอมรับรักมัน  เจ้ากาจึงได้อาศัยอยู่กับฝูงเหยี่ยวเรื่อยมา
วันหนึ่งกาไปเจอนกน้อยโดยบังเอิญ  นกน้อยกำลังตกอยู่ในอันตราย  เจ้ากาจึงรีบเข้าไปช่วย  มันพานกหงส์หยกกลับไปส่งที่หมู่บ้าน  แล้วกลับไปอยู่กับพญาเหยี่ยวดังเดิม”
“ทำไมถึงพานกน้อยไปส่งเสียล่ะ?”
“เพราะมันรู้ดีนะสิครับ...ว่ามันไม่เคยรักนกน้อยอย่างที่มันเคยคิด  แต่มันรักพญาเหยี่ยวต่างหาก”
“แน่ละ...ยังไงพญาเหยี่ยวก็ย่อมเหนือกว่านกในกรงอยู่แล้ว”
“ครับ...และเจ้ากาก็สัญญาว่ามันจะรักพญาเหยี่ยวของมันไปจนกว่าจะถึงลมหายใจสุดท้ายเลย” แจ็คกระซิบพร้อมกับซุกไซ้จมูกที่แก้มเนียน
“แน่เหรอ?”
“แน่ครับ”
“รับรองยังกับเป็นเจ้ากาตัวนั้นเสียเองนะ?”
“ถึงไม่ใช่แต่ผมก็แน่ใจครับว่ามันรักมั่นคงเหมือนผม”
“ก็ดี...จะได้ดูกันว่าเธอจะมั่นคงแบบนี้ได้นานแค่ไหน”
“รับรองครับว่าคุณได้เห็นแน่...”
ไนท์จ้องตาคมเป็นประกายกล้าอยู่ครู่หนึ่งจึงอมยิ้มแล้วซุกซบกับอกอุ่นอย่างสบายใจ 
“เอาละฉันจะไปอาบน้ำแล้ว...อ้อ!เมื่อกี้คนชื่อรามอสเขาโทรมาบอกว่าหมอให้เขาออกจากโรงพยาบาลได้พรุ่งนี้  เขาจะจัดงานเลี้ยงขอบคุณเธอด้วย” ไนท์บอกยิ้มๆ แต่แจ็คตาเหลือกอย่างตกใจ  นี่แสดงว่าไนท์รู้เรื่องรามอสก่อนที่เขาจะเล่าให้ฟัง
“คุณไนท์!...”
“ไม่ต้องห่วง...ฉันเชื่อในความรักของเธอเสมอ”ไนท์ยิ้มหวานจูบที่แก้มสากเบาๆแล้วผุดลุกขึ้น
“ขอบคุณมากครับ”
“ฉันบอกเขาไปแล้วนะว่าขอบคุณมาก  แต่เธอกับฉันคงไปร่วมงานไม่ได้เพราะเราต้องเดินทางกันมะรืนนี้...พรุ่งนี้เราต้องใช้เวลาฮันนีมูนกันทั้งวัน”
ไนท์บอกลอยๆขณะเดินไปยังห้องอาบน้ำโดยไม่เหลียวหลังมามอง
“คุณไนท์!”
...............
จบจ้า :really2:



ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดนะคะ เจอกันเรื่องหน้าคะ คงไม่นานเกินรอ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 19-03-2010 18:39:05
 :pig4: ขอบคุณ ทั้งคนแต่งคนโพสเลย
ตอนพิเศษน่ารักมาก
คิดว่าไนท์จะไม่หึงแล้วนะ ที่ไหนได้แอบหึงอยู่ชัดๆเลย
+1 ให้แล้วจร้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 19-03-2010 18:41:55
 :m20:  :laugh: ถูกใจเจรงๆ
ไนท์นี่แสบ ซ่ายันหยดสุดท้ายจริงๆ
มีเมียแรงก็แบบนี้ล่ะ ทำใจซะนะแจ็ค
คนแบบนี้ อยู่ด้วยกันกี่ปีก็ไม่มีเบื่อ
ทันกันไปหมดทุกอย่าง  :pigha2:

ปล. ขอบคุณคุณเทียนฉินและคุณปอมากๆๆๆๆ
เรื่องนี้สนุกไม่แพ้ 2 เรื่องก่อนเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 19-03-2010 18:45:58
เอิ๊กๆ ชอบตอนจบแบบนี้ที่สุดเลย แบ่บ บ่งบอกว่าความเป็น "ไนท์" ได้ชัดเจนแจ่มแจ้ง อิอิ

รอเรื่องใหม่ของพี่ใบปอค๊า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 19-03-2010 20:15:45
ถูกใจจริง ๆ ไนท์ หึง จัดการเสร็จสรรพ

แบบว่า อย่างอ่านไคซัคกะอองรีด้วย

จริงๆ แล้วไม่ตอ้งป้อนโจ๊ก น่าจะหลอกให้ ไนท์กิน ส้มตำปลาร้าแทน ฮ่าๆๆ

บวกหนึ่งค่าาา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-03-2010 21:43:40
ไนท์ยังร้ายลึกคงเส้นคงวาเหมือนเดิม

ถึงเรื่องนี้ไม่ค่อยมีเวลาได้เข้าอ่านมาแบบต่อเนื่องเหมือนเรื่องที่ผ่านมา แต่ก็ชอบเรื่องนี้ไม่น้อย

ขอบคุณทั้งผู้แต่งและคนโพสต์มากค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: perfectpie ที่ 19-03-2010 22:12:32
ไนท์...แรงงงงงงง....ฮ่าๆๆๆ ชอบๆๆ :m20:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 19-03-2010 22:25:21
หวานจังเลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 19-03-2010 22:30:19
หวานซ่อนเปรี้ยว
ความรักของสองคนนี้
แรงได้ตลอด .... o18

+1 ขอบคุณคนโพสท์และ writer
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 19-03-2010 23:57:18
 :laugh: ไนท์แอบแร๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!




5555+



ขอบคุณนะคะ ^ ^



หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-03-2010 07:41:33
 o13 ตอนท้ายนี่ไนท์สุดๆๆ  o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: va_yu ที่ 20-03-2010 10:21:50
ไนท์ยังคงเป็นไนท์ ร้ายจนวินาทีสุดท้าย...น่ารักซะ
ชอบนิทานของแจ๊ค เล่าได้เห็นภาพ เรื่องของรามอสกระจ่างในทันที

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 20-03-2010 13:19:15
นิทานของแจ๊คเป็นบทสรุปของเรื่องนี้จริง ๆ แต่ไนท์ก็ยังหวานซ่อนเปรี้ยวได้อีก
หวงแจ๊คแถมยังกันแจ๊คออกมาแบบสุภาพ ๆ แต่ลึกซึ้งมาก เล่นบอกว่าติดฮันนีมูน
ใครจะกล้าตื๊อชวนอีก แต่ก็ชอบอยากให้ไนท์แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาเพราะหึง
แสดงว่ารักแจ๊คนั่นแหละ .....น่ารัก.....เร่าร้อน.....หวานได้ใจ...แจ๊ค+ไนท์
 :L1:       :L1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: wan2055 ที่ 20-03-2010 13:53:12
อิอิ   :z2:
แจ๊คไปไหนไม่รอดแล้วววว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: PAN@DA ที่ 20-03-2010 15:59:28
พญาอินทรีย์นี่ร้ายจริงจริง  :laugh:

ปล.ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะค้า ...แล้วจะรออ่านเรื่องใหม่นะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 20-03-2010 17:24:41
สนุกจริงๆ นั่งอ่านทั้งวันเลย

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 21-03-2010 01:53:54
 :o8:อ๊างงงงงง น่ารักสุดๆๆ

เขียนสนุกทุกเรื่องเลย

อยากอ่านเรื่องต่อไปแล้วสิ เมื่อไหร่จะมาน๊า

ขอบคุณคนแต่งและคนโพสต์เรื่องสนุกๆให้อ่านกันเด้อออ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 21-03-2010 19:32:13
....หวานหยุดเลยค่ะ รอเรื่องต่อไป ..... ในซี่รี่ส์ชุดนี้แจ๊คหวานสุด ซึ้งสุดอ่ะค่ะ เสียดายไม่มีคู่ไคซัคเลยอ่ะ คิดว่าจะพิเศษไคซัคอองรีด้วย .....  :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 22-03-2010 14:49:27
ขอบคุณค่า..

คุณไนท์ :m30:

เมียแจ็คนี่แรงจนตอนสุดท้ายจริงๆ นะ :m8:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-03-2010 03:50:28
ตามอ่านทีหลังสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 24-03-2010 01:47:42
หายไปจากเล้าหลายวัน

ตามมาอ่านตอนจบของตอนพิเศษค่ะ
 :z1:

บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณคุณใบปอ และคุณเทียนมากค่ะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 24-03-2010 11:48:45
ชอบงานเขียนของคุณใบปอมากเลย มีการหาข้อมูลมดีจัง
จะตามอ่านเรื่องต่อไปตลอดแน่นอนจ้า :L1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: sand281017 ที่ 25-03-2010 12:50:48
เข้ามารอหนังสือค่ะ

อีกนานมั้ยค่ะ กว่าจะได้หนังสือ

รบกวนช่วยบอกด้วยนะค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: zatannn ที่ 25-03-2010 13:52:08
เรื่องนี้ได้อ่านฉบับรวมเล่ม  แจ่มมาก

ติดใจสุดๆ เสียดาย เริ่มอ่านจากเล่มสุดท้ายของซีรีย์ก่อน เลยรู้หมดเลยว่าคู่อื่นจบอย่างไง เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: MaeMoo ที่ 28-03-2010 17:14:03
เข้ามาอยากได้หนังสือค่ะ

ยังจองเพิ่มได้มั้ยคะ ส่ง PM ไปแล้ว แต่คุณเทียนฉินยังไม่ได้ตอบเลยค่ะ

พรีสๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 28-03-2010 23:09:57
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ

เนื้อเรื่องน่าติดตามตลอด สนุกมากๆเลย

ตอนหลังๆ แอบน้ำตาซึมนิดๆ ตอนแจ็คโดนพิษ

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ มาให้อ่านกันค่ะ รอเรื่องต่อไปอยู่เด้อค่ะ
 :L2: :jul1: :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: thaitanoi ที่ 29-03-2010 11:05:08
แจ๊คหนีไปไหนไม่รอดแล้วสิ ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: mixmix ที่ 31-03-2010 01:25:03
ชอบตอนพิเศษจริงๆ ไนท์ แรงงงงงงงงงง  o13

แหะๆ เข้ามาอ่านรวดเดียวจบเลย

ชอบผลงานของคุณใบปอมากๆเลยค่ะ  :L2:

แล้วก็ขอบคุณคุณเทียนฉินด้วยนะคะ ที่นำมาโพสให้ได้อ่านกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 31-03-2010 02:39:03
 :mc4: ยังอ่านไม่จบเดี๋ยวพรุ่งนี้เข้ามาอ่านต่อฮํบผมมม...

ชอบนิยายของพี่ทุกเรื่องเลยอะ... สนุกทุกตอนนนน.... :mc4: :mc4:
ครบทุกรสสจิงๆๆ :z1: :-[ :กอด1: :angry2:
ฮาๆๆๆๆ
แล้วก็ชอบจบแบบ happy ด้วยอะ......

แล้วสามเรื่องนี้ตัวละครเกี่ยวเนื่องกัน... ดีมากๆมายอะ...
อยากให้พ่เขียน ตอนพิเสดอีกจังเลยอะ... จะคู่ไหนก็หนุกหมดเลยอะ ฮุๆๆๆๆ.......
 :mc4:
ริช ราเชล   เท็ด กาย    ทราวิส จีนส์   แจ็ค ไนท์ แล้วก็อีกหลายๆๆคู่ๆๆ

 :pig4: สำหรับเรื่องดีๆๆๆอย่างนี้ฮับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 04-04-2010 16:27:16
 ฉันพลาดนิยายเรื่องนี้ไปได้อย่างไร  :serius2:

ตามหามานานแล้วกับนิยายแนวนี้

ทั้งเนื้อเรื่อง การดำเนินเรื่อง ภาษาการเขียน

บอกคำเดียวว่า เปะ

ขอบคุณคุณใบปอด้วยที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ ให้ได้อ่านกัน

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" ตอนพิเศษ ตอนจบคะ 19/03/2010
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 05-04-2010 20:57:38
มาแจ้งข่าวสำหรับคนที่ได้สั่งนิยายไว้นะคะ คาดว่าอาทิตย์หน้าได้ฤกษ์จัดส่งแล้วคะ เตรียมรอได้เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 06-04-2010 15:37:13
 o13
อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลย สนุกมากๆคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: sand281017 ที่ 07-04-2010 21:30:17
ขอบคุณค่ะ ที่มาแจ้งเรื่องหนังสือ

รออยู่เหมือนกันค่ะ ขอแค่ได้ก่อนวันที่ 20 ก็พอแล้ว

รออยู่นะค่ะ ขอบคุณค่ะั

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 09-04-2010 18:37:39
มาแจ้งข่าวค่ะ ได้รับหนังสือตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน แล้วนะคะ
ตอนนี้ก็กำลังตั้งใจอ่าน ยังสนุกเหมือนเดิม ทั้ง ๆ ที่อ่านในบอร์ดมาแล้ว
ขอบคุณค่ะ ........ :pig4:......
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 13-04-2010 05:57:51
สนุกมากกกกกมายก่ายกอง
อ่านทั้งสามเรื่องติดกันเลย เหอๆ
ตาดำเป็นหลินปิงเลยทีดียว
แจ็คน่ารักมากๆ เทพบุตรในฝัน 55+
ไนท์ก็ร้อนแรงเหลือเกิน ยิ่งตอนพิเศษ
อิอิ ขอบคุณไรเตอร์และก็คนโพสท์นะคะ
สำหรับนิยายดีๆ ตามอ่านต่อไป หุหุ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: tianqin ที่ 13-04-2010 21:15:50
มาแจ้งข่าวอีกทีนะคะ

สำหรับหนังสือจัดส่งให้ครบทุกท่านที่โอนเงินมาแล้วนะคะ ถ้ามีใครตกหล่นยังไม่ได้โปรดบอกด้วยนะคะ

ขอบคุณมากคะ



และสำหรับเรื่องใหม่ของ ใบปอ อีกไม่นานเกินรอคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 14-04-2010 10:32:11
น่ารักโฮกๆๆๆ

แบบว่าไม่ใช่รักแค่อย่างเดียว
ผ่านอะไรมาเยอะแยะด้วยกัน มีทั้งความผูกผัน เชื่อใจ
แต่เชื่อใจไม่แปลว่าไม่หึง หวงนะเออ 
มันก็ต้องประกาศกันบ้างว่า"ของชั้น"

อ่านรวดเดียวจบเลยค่า เดี๋ยวจะไปอ่านเรื่องอื่นต่อแล้ว  ขอบคุณมากสำหรับเรื่องสนุกแแบบนี้
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 20-04-2010 23:57:47
มาแปะโป้งช่วยดันกระทู้พี่จี้ อิๆ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: butajang ที่ 24-04-2010 11:34:48
ขอบคุณนะคะทั้งคนเเต่งเเละ คนโพสต์ จบได้นารักมาก สนุกมากเลยค่ะ ลุ้นตัวโก่ง ตัวงอ ตอนที่เครียดเเละ ซีนอารมณ์ก็สุดยอดอะ บีบหัวใจไปตามกันเลย สนุกค่ะ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: MrTeddy ที่ 25-04-2010 11:46:07
สนุกมากครับ ทุกๆเรื่องของคุณใบปอ ที่เอามาลงให้อ่าน  o13
ขอบคุณ คุณ tianqin ที่ช่วยเอามาลงให้ได้อ่านกัน
รอติดตามอ่านเรื่องต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 29-04-2010 23:08:03
สนุกมากเลย
ขอบคุณที่มีผลงานดีดีมาให้ได้อ่านนะ :bye2:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 12-05-2010 13:01:15
หนุกมากอะค่ะ  o13
อ่านแล้วแทบไม่อยากกระดิกตัวไปไหน...อยากจะอ่านต่อๆๆๆจนจบ!

ได้อ่านถนนสายหัวใจแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านเล่ห์รัก...
คุณใบปอเขียนสนุกมากค่ะ ชอบมากมาย ^^

ขอบคุณทั้งคนแต่งคนโพสต์นะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 24-06-2010 19:59:04
แบบว่า อยากได้หนังสือเรื่องนี้ บ้างคะ พอจะมีเหลือ บ้างไหม

หลงเสน่ห์ ไนท์กะแจ๊ค สุดๆ เลยนิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 24-06-2010 20:32:24
^
^
ส่ง PM ไปหาจ้า

คิดถึงพี่ใบปอจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: tonight ที่ 01-07-2010 00:58:03
ขอบคุณนะคับ มาอ่านตั้งแต่ต้นจนจบทีเดียวรวดเลยคับ

ชอบนิยายแนวอาหรับ ชีคแหง่ทะเลทรายมากๆ คุณใบปอแต่งได้เก่งจริงๆ

อ่านแล้วเห็นภาพตามทุกตอนเลยคับ จะรอติดตามผลงานใหม่นะคับ สู้ๆๆ

จะเป็นกำลังใจให้เสมอคับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 01-07-2010 15:42:47
อยากทราบว่า จะPM ไปที่เมล อะไร คะ คุณJJHJJH ถ้าจะสั่งหนังสือ เพื่อ ยังเหลือ บ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ" แจ้งข่าวเรื่องหนังสือ กำแพงใจคะ
เริ่มหัวข้อโดย: barbieBot ที่ 07-09-2010 21:41:36
จะกี่เรื่อง ก็สนุกทุกเรื่อง  o13
จะรออ่านทุกเรื่องของคุณใบปอเล้ยยยยย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 01-10-2010 22:23:42
มาดันค๊า เพราะว่าโหวตให้พี่ปอ อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 08-10-2010 22:09:42
เข้มข้นมากๆ.....สนุกทุกตอนอ่านไม่เบื่อเลย.. o13 o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 08-10-2010 22:16:31
หลังจากอ่านเรื่องนี้จบ..กลายเป็นแฟนนิยายของคุณใบปอทันที
ส่วนเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องโปรดอีกหนึ่งเรื่อง
หาอ่านมานานแล้วนิยายทะเลทราย นานๆ จะมีสักเรื่อง
และเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: bluesky ที่ 09-10-2010 11:40:57
  อ่านจนลืมเวลาเลย... แบบนี้ต้องเป็นแฟนนิยายคุณใบปออีกคนแล้ว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: MyTeaMeJive ที่ 09-10-2010 20:56:20
ผมมีความรู้สึกว่าอิ่มน่ะครับ
ครบ
แบบ บรรยายได้ยากมาก เพราะมันเกินคำว่าสนุก
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 17-10-2010 02:31:22
ชอบนิยายคุณใบปอที่สุด >_<
อ่านซ้ำหลายรอบล่ะ คึคึ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 17-10-2010 17:46:05
พี่ใบปอแต่เรื่องได้เก่งมากครับ

ผมชอบนิยายของคุณใปบอหมดทุกเรื่อง

หนุกดีครับ

แต่ตอนพิเศษ

ไนท์แอบแรงนะเนี่ย

แบบนี้แจ๊คก้อไปไหนไม่รอดแล้ว
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: som~ ที่ 19-10-2010 19:39:12
ชอบมากเลย  :impress2: :impress2:   เเต่ตอนพิเศษนี่ไนท์หื่นนะ       
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: erng ที่ 20-04-2011 22:42:11
น่ารักที่สุดเลย
ความรักของแจ็คยิ่งใหญ่จริงๆๆๆๆ
อิจฉาไนท์อ่ะ
แจ็คน่ารักที่สุดเลย
ไนท์ก็นะ ร้ายน้อยกว่านี้หน่อยก็ดีนะ
ร้ายกาจจริงๆๆๆๆ
แต่รักกันก็ดีแล้วน้า

ชอบบบบค่า


ขอบคุณนะค่า
 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: mapoon ที่ 22-04-2011 00:21:54
อ่านจบแล้วขอบอกว่าสนุกมาก

ขอบคุณคนแต่งที่แต่งเรื่องดีๆให้ได้อ่าน

และขอบคุณคนโพสที่นำเรื่องดีๆมาให้เราได้อ่านกัน

 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: jincool ที่ 25-05-2011 14:43:06
เห็นชื่อของคุณใบปอแล้วรีบคลิ๊กทันทีแบบไม่ต้องคิดมากให้เสียเวลา
เพราะถ้าได้อ่านไม่เคยมีคำว่าเสียใจ และเสียดายแน่นอน

เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สนุกมากกกกกกกกกกกก
ตัวอย่างเรื่องต่อไปก็น่าอ่านมากๆ หันมาแต่งย้อนยุคของไทยบ้าง
คงจะได้รสชาติไปอีกแบบแน่ๆ

จะติดตามผลงานของคุณใบปอต่อไปนะคะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 29-05-2011 11:06:42
สนุกมากๆไม่ผิดหวังเลย

เเจ็คเป็นคนที่มั้นคงสุดๆ ไนท์ก็ร้ายเงียบจะถึงสุดท้าย 555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 29-06-2011 19:49:12
อ่านแล้วติดจนหยุดไม่ได้จริงๆ คุณใบปอแต่งเรื่องได้สนุกมาก
ตัวละครแต่ละคนสมจริง มีเหตุมีผล การผูกเรื่องก็สนุกชวนติดตาม
จะติดตามนิยายของคุณใบปอต่อไปนะคะ
ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆมาให้ได้อ่านกัน
ที่สำคัญขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆค่ะ ได้ไม่มีคุณเราคงไม่มีโอกาสได้อย่างนิยายดีๆแบบนี้ ^^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-07-2011 00:14:55
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ไว้จะตามไปอ่านอีกสองเรื่องก่อนหน้านะคะ
สนุกมากๆ มีครบทุกรสเลย  ส่วนนายเอกนี่ออกแนวราชินีนิดๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 04-07-2011 00:04:42
สนุกมากเลยค่ะ

หลากรสหลายอารมณ์

^^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 05-07-2011 23:37:12
สนุกมากค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Ari ที่ 07-07-2011 03:04:47
ชอบอะ สนุกมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ppmayuree ที่ 07-08-2011 13:35:20
รู้สึกว่า ในบรรดาเรื่องที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมด
คนที่...น่ากลัวที่สุด... น่าจะเป็น....ไนท์
คนที่...ซื่อ จริงใจ จนน่าสงสารที่สุด... น่าจะเป็น....แจ๊ค
คนที่... น่าหมั่นไส้ที่สุด... ยังเป็น.... ริช
คนที่.... ทุ่มเทและจริงจังที่สุด....ก็คือ.... เท็ด :laugh:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: PAAPAENG~ ที่ 08-08-2011 23:13:31
ชอบมากเลยค่ะ
ติดตามมาตั้งแต่เรื่องเท็ดแล้ว
คุณใบปอแต่งได้ยอดเยี่ยมจริงๆ   o13

ขอบคุณคุณเทียนฉิน(เขียนแบบนี้รึป่าว?)มากนะคะที่เอามาลงให้อ่านกัน
รอเรื่องต่อๆไปอยู่ค่ะ   :music:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 13-08-2011 23:08:42
 o13
 :L2:
 :3123:

อ่าาาาาาา
ในที่สุด 3 คืน 2 วัน
 อ่านจบ ทั้ง สี่ เรื่องเลย
ใบปอ ไปเป็นนักเขียนอาชีพได้เลยน่ะเนี้ย (รึว่าใช่)
สำนวนดี ภาษาเยี่ยม เนื้อหาสุดยอด  o13
อ่านเล้ว ได้ครบทุกรสชาดในเรื่องเดียวกัน
 :haun4:
 :sad4:
 :jul3:
 :m31:
 :monkeysad:
 :m15:
 :angry2:
 :z1:
 :L3:
 :m25:
 :impress3:
 :z6:
 :beat:
 :mc4:
 :n1:
ลองเดาเนื้อเรื่องก่อนอ่านยังเดาไม่ค่อยจะถูก
ทิ้งปมได้เยี่ยม  o18
ตอนแรก นึกว่าแจ็คจะเป็นรับซะอีก  :laugh:
แถมนิสัยและท่าทางกลับกันเลยของรับและลุก  :-[
อ้ายยยยยยยยยย
ชอบมากกกกกกกก :bye2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: borg ที่ 09-09-2011 02:48:18
นิยายคุณใบปอยังมีอยู่ใหมคุณ PM
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 11-09-2011 03:25:13
น่ารักมากๆๆโดยเฉพาะ ตอนที่เปิดเผยความรู้สึกกันแล้ว
เหมือนมีรสหวานติดอยู่ปลายลิ้น
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 11-09-2011 07:22:38
เป็นเรื่องแนวย้อนยุคเรื่องแรกที่อ่าน (ปกติถ้าเจอแนวนี้จะกดปิดเลยครับ ไม่เคยอ่าน)
อ่านแล้วติดใจมากๆเลยอ่า อยากจะหาเรื่องอื่นมาอ่านต่อทันที 55555

ขอบคุณมากๆนะครับ สำหรับเรื่องราวดีๆ ^^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: NAS ที่ 25-10-2011 06:20:28
ไม่ทราบว่าใครมีลิ้งค์นิยายเรื่องใหม่ของคุณใบปอ รบกวนขอด้วยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: i-meud ที่ 25-10-2011 17:21:44
หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
แลดูไนท์จะยั่วมากเลยนิ =.,=

ระวังแจ็คจะขาดใจตาย
แต่ไม่หรอก คนนี้เค้าอึดทระนงจะตาย
5555+

ชอบไคซัคแหละ
เถื่อนๆ ดิบๆ
อองรี...ขอได้มั้ย?
(โดนมีดกระซวก) 55555+

ขอบคุณทั้งคนโพสและคนเขียนจ้า ^^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ISee ที่ 08-11-2011 09:15:03
อ่านเรื่องเล่ห์รักของคุณใบปอ แล้วชอบมากค่ะ พอมาเห็นเรื่องนี้ดีใจมาก
รีบเข้ามาอ่าน แต่ยังไม่ถึงไหนเลยค่ะ แต่รู้ว่าต้องสนุกแน่ ชื่อ ใบปอเป็นประกัน
รอติดตามเรื่องต่อๆ ไปนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nongbear ที่ 01-12-2011 02:02:30
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ชอบมากค่ะ ดำเนินเนื้อเรื่องได้ดี ไม่่น่าเบื่อแล้วก้อแปลกดีค่ะ จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 01-12-2011 09:33:25
สนุกเนอะเรื่องนี้   o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 01-12-2011 13:54:16
อ่านจบหมดแล้วค่ะ
เรื่องนี้ครบทุกรสจริงๆ
อ่านจบแล้วอิ่มมาก
มันเต็มทุกอารมณ์อ่ะเนาะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-12-2011 02:54:37
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านครับ

สนุกมาก ชอบมากด้วย   :impress2:

คิดว่าเป็นหนึ่งในนิยายไม่กี่เรื่องที่บรรยายฉาก NC ได้ดีมากๆ  o13

ขอบคุณทั้งคนแต่งคุณใบปอ กับคนโพสคุณเทียนฉินด้วยนะครับ  :กอด1:

ปล หนังสือยังพอจะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างอ่ะครับ?
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: BP109 ที่ 30-12-2011 11:06:37
หนังสือยังอยู่ระหว่างตรวจแก้คำอยู่เลยค่ะ ถ้ารู้กำหนดรีปริ้นเมื่อไหร่ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 23-01-2012 20:52:58
อ่านไปอ่านมา คุ้นๆ เรามีเรื่องนี้ทั้งสามภาคเป็นหนังสือเลยนี่นา อิอิ
มาเม้นให้กำลังใจคนแต่งที่นี่
เรื่องนี้เราซื้อและเก็บไว้อ่านนานมากแล้ว ว่าแล้วว่าชื่อคุ้นๆ แต่เราเพิ่งเข้ามาในเล้าได้ไม่นาน เลยไม่ทราบว่าเรื่องนี้แปะที่เล้าด้วย
ขอบอกว่าชอบมากกกกกกกกกกก ทั้งสามภาคเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 02-02-2012 16:19:18
จะมีรีปริ๊นแน่ๆใช่มั้ยอะคะ
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
อยากได้หนังสือมากๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Aini_es ที่ 05-04-2012 22:50:17
ชอบนิยายแนวนี้มาก ขอบคุณมากๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: jujill8 ที่ 04-05-2012 00:19:25
สนุกมากค่ะ ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 20-05-2012 22:23:16
อยากโพสค่า หน้า 19 เลขสวย ^^

ปล...ขุดเจอ stock หนังสือเรื่องนี้ที่บ้านตัวเองอีก 1 เล่มค่า เคยซื้อชนกันไว้ 2 เล่ม ถ้าใครต้องการ PM มาได้นะคะ ยินดีแบ่งปันความสุขค่า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 23-05-2012 15:32:46
ขอบคุณนะคะ ^ ^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 02-06-2012 20:14:02
สนุกมากอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ott1212 ที่ 04-06-2012 21:07:33
สนุกดี...คนเขียน...เขียนเรื่องนี้ไว้นานแล้วเหรอเนี่ย...

เป็นการเขียนที่แปลกไปอีกแบบ  ไม่คิดว่าจะได้อ่านเรื่องแบบนี้

ขอบคุณมากที่เขียนเรื่องสนุก ๆ ให้อ่าน

ขอบคุณ... :L2:..คุณเทียนฉินที่นำเรื่องนี้มาแบ่งปัน

ขอบคุณ..JJHJJH...         :กอด1:..........ที่นำทางมาเจอเรื่องน่าอ่าน....

และขอบคุณ..คุณใบปอ...ที่จินตนาการออกมาเป็นตัวหนังสือ... :L1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 12-08-2012 14:30:53
เป็นเรื่องแรกของใบปอที่อ่านเลย
สนุกมากก~ ติดตามเรื่องอื่นด้วย
 :impress2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: houkuto ที่ 22-12-2012 18:30:20
ก่อนอื่น ขอบคุณ คุณใบปอ ที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านกันนะคะ
และที่ขาดไม่ได้ คุณ เทียนฉิน ที่ทำการโพสต์ ด้วยค่ะ

เรื่องนี้อ่านแล้วเครียด ลุ้นมากกก อ่านแล้วหยุดไม่ได้ ( มาราธอน มาก )
กว่ากำแพงใจจะทะลายลงได้ คนอ่านแทบกระอักเหมือนกัน  :z3:
แม้ขนาดตอนพิเศษก็ยังแสบได้อีก สนุกมากๆ ค่ะ o13
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ur_my_melody ที่ 03-03-2013 07:18:27
ชอบเรื่องนี้มว๊ากกกกกกกกก :impress2:
ใช้ภาษาได้ดีมากๆเลยค่ะ อ่านพรวดเดียวจบ...แบบว่ามันอินมากๆเลยอ่าาค่ะ :man1:
ซับซ้อนซ่อนเงื่อน น่ารัก โรแมนซ์ หื่น.....โอ้ว ครบทุกรสชาติเลยล่ะค่ะ
คนแต่งสุดยอดมากๆเลยนะคะ o13 o13
คนอ่านตามลุ้นว่าพระเอกผู้น่าสงสาร(?)จะเป็นยังไง
นายเอกเราจะรอดพ้นจากเงื้อมมือของเหล่าศัตรูมั้ย.......สนุกจริงจัง!!!!
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :กอด1:
รักคนแต่ง :L2:กราบขอบพระคุณคนโพสต์เป็นอย่างสูง :o8:
ถ้าไม่เอามาลงเราคงไม่ได้อ่านนิยายที่ใช้ภาษาดีๆแบบนี้...
และสุดท้ายนี้...

เป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปค่า :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 10-03-2013 01:32:51
 o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 10-03-2013 22:40:29
สนุกมาก เนื้อเรื่องเข้มข้น
พระเอกนายเอกเก่ง ฉลาดมาก
ที่สำคัญคู่นี้เค้ารักกันมากๆ ประทับใจกับความรักที่ลึกซึ้ง มั่นคง และยอมสละแม้กระทั่งตำแหน่งรัชทายาทของไนท์และแจ็คคะ :L2:

ขอบคุณผู้เขียน และผู้โพสคะ โดยเฉพาะตอนพิเศษ  :m25:

หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-03-2013 14:50:13
เรื่องนี้ให้หลายอารมณ์มากเลย
คุณใบปอแต่งได้ดีมากกกก
ชอบมากๆ เลยค่ะ
ขอบคุณมากเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจังไม่กินหัวหอม ที่ 12-03-2013 23:58:43
ขอบคุณ คุณใบปอมากๆ ครับที่เขียนเรื่องราวดีๆ มาแบ่งปัน
ผมเข้ามาอ่านเรื่องนี้ รอบที่สองแล้ว อ่านอย่างละเอียด
ทุกคำพูดเลย ชอบตัวละครทุกตัว ชอบแนวคิดของทุกตัวละคร
จะขอติดตามผลงานอื่นๆ อีกต่อไปนะครับ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 13-03-2013 13:07:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 23-04-2013 01:27:41
สนุกมากๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 24-04-2013 21:39:59
สนุกมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลย อิ อิ   :mew1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 10-05-2013 02:46:58
ขอบคุณคุณใบปอที่เขียนเรื่องสนุกๆอย่างนี้มาให้อ่านกันนะคะ
ขอบคุณคุณtianqinที่นำเรื่องมาลงในเล้าให้อ่านกันด้วยค่ะ

อ่านไปลุ้นไปดีค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย
สนุก น่าติดตาม
แม้ว่าจะแอบใจหายตอนที่แจ็คพิษกำเริบก็ตาม
(เคยอ่านเรื่องที่ไม่แฮปปี้มา เลยต้องทำใจเผื่อไว้)
แต่ในที่สุดก็แฮปปี้สมหวัง
ชอบตอนจบของตอนพิเศษมาก ไนท์แสบสุดๆ ถูกใจค่ะ555
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 10-05-2013 07:27:01
เป็นเรื่องที่มาแหวกแนวตั้งแต่ต้น
ปกติจะเคยอ่านแต่ท่านชีคหล่อล่ำ ซาดิตส์ในบางที
พอได้มาอ่านเจอท่านชีคเรื่องนี้
บอกได้คำเดียวเลยว่า เป็นเคะราชินีที่ได้ใจเรามากๆ
ตรงสเป็กส์เราสุดๆ เรื่องนี้มีครบแทบทุกรสจริงๆ
แอบน้ำตาคลอเบาๆกับฉากแจ๊คโดนยาพิษ
สนุกมากๆ ^_^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 13-05-2013 00:01:17
สนุกมากกกกกกกก ตามอ่านมาสามวันเลยทีเดียว
ทีแรกสงสารแจ็คมากกกก ชีครามิลจะราชินีไปไหนคะ
เจ็บปวดตอนที่แจ็คโดนยาพิษ คิดว่าจะไม่รอดจริงๆซะแล้ววว

สนุกมากจริงๆค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 13-05-2013 00:39:32
 :L2:ขอบคุณค่ะ
จะรอพี่สิงห์กับอตินะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 16-06-2013 13:27:24
จะหาซื้อเรื่องนี้ได้ที่ไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: yoki ที่ 16-06-2013 16:39:49
มาแปะไว้ก่อน :L2:

ขอไปอ่านก่อนนะค่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 07-09-2013 11:37:28
 :o8: คุณไนท์แสบจัง แต่รักนะคะ แอร๊ยย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: miyuujung ที่ 12-11-2013 19:51:42
จะบอกว่า สุดยอดด มันลุ้นระทึกมากกๆๆ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายทั้งเรื่อง
พระเอกค่อดดี รักแบบสละชีวิตกันเลยทีเดียว ใจเด็ดมากอ่ะ แจ็ค รักใครแล้วทุ่มให้ทั้งชีวิตจริงๆ คราวรามอสก็เกือบฆ่าตัวตาย ทั้งเท็ดทั้งแจ็ค เป็นพระเอกที่มีรักมั่นน่านับถือมาก ส่วนริชก็ดีนะจ้ะ ติดตรงเจ้าชู้ไปหน่อย แหะๆ
แต่นายเอกเรื่องนี้อย่างโหด กายกรีดหน้ากะปาดคอว่าโหดแล้วเจอเจ้าชายไนท์เข้าไป หยึย ยังสยองตอนเฉือนเนื้อเถือกระดูก กับเจาะคอหอยไม่หาย
แต่ๆๆในที่สุด แจ็คก็มีคู่กับเค้า แต่ก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด ก็นะ ช่วยไม่ได้ ดันไปรักกับเจ้าชายรัชทายาทอ่ะ คู่ของไคซัสกะอองรีแม้จะรุนแรงกันไปหน่อยแต่ตบท้ายก็น่ารัก  สะใจลอเรนซ์มากอ่ะ ถึงกับฟันร่วงหมดปาก 555
แอบหวังอยากให้ แจ็คกับองค์ชายไนท์ ป้ะหน้ากับ รามอสจังๆซักที ยังเคืองรามอสไม่หายที่ทิ้งแจ็ค น่าให้องค์รามิลจัดการ แต่ก็เอาเหอะถ้ารามอสไม่ทิ้งแจ็ค แจ็คจะเจอคุณไนท์ได้ไง... แต่ๆๆ..ถ้ายังไงจะมีตอนพิเศษเพิ่มอีกก็ดีนะคะ อยากอ่านตอนน่ารักๆเพิ่มอีก อ่าาา ในรวมเล่มจะมีตอนพิเศษเพิ่มใช่ม้ายยย อยากได้รวมเล่ม
อ่านจบ 3 เรื่อง ทั้ง เล่ห์รัก ถนนสายหัวใจ กำแพงใจ ครบ เซทซีรีย์ชุดนี้ ชอบทุกคู่เลยยค่ะ แต่งได้ดีมาก ผูกเรื่องเก่งมาก เห็นมีข่าวเรื่องต่อไป จะตามไปอ่านนะคะ
ขอบคุณคุณ Anonymus{ใบปอ} สำหรับนิยายดีๆมากๆแบบนี้นะคะ
ขอบคุณคุณ tianqin สำหรับโพสต์ค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 17-11-2013 13:00:39
 o13 ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: PuncH ที่ 23-06-2014 15:06:25
คุณใบปอเขียนเก่งมากเลยค่ะ

มีให้ลุ้นระทึก น่าตื่นเต้นตลอด

อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ^_______^
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-09-2014 14:56:26
เรื่องนี้เข้มข้นได้ใจจริงๆ
ขอบคุณคนเขียนและคนโพสต์มากนะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 12-09-2014 11:49:21
กว่าจะลงเอยกันได้ผ่านเรื่องราวมามากมาย
สนุกมากค่ะ อ่านเพลินเลยทีเดียว
ขอบคุณมากค่ะสำหรับนิยายดีๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 15-09-2014 23:12:22
 :jul1: :pighaun: :m25: :haun4:
ไม่มีตอนพิเศษของคู่ ไคซัค กับ อองรี เหรอคะ เราเป็นแฟนคลับคู่นี้อะ! ชอบๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 23-01-2015 15:28:09
 o13 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 02-02-2015 16:57:05
สงสารฟาฮัสนะ ที่จริงแล้วที่เขาต้องการก็คือความรักจากพี่ชาย

ถ้าอำนาจอยู่ที่เขา และพี่ชายไม่เหลือใคร

เขาจะได้พี่ชายกลับมา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 10-04-2015 12:09:10
ขอบคุณนะคะ นิยายสนุกมากเลยค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 06-05-2015 00:47:18
น่ารักมากๆๆเลยค่ะ
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์สำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 03-07-2015 10:26:35
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน แต่เรื่องนี้สนุกมว้ากกก ชอบๆๆ รักแจ็คเลย
ตอนจบไนท์ยังร้ายเหมือนเดิม แถมช่างยั่วอีก หึหึ
อยากอ่านเรื่องสิงห์กะอติอ่ะ ไม่ทราบว่าชื่อเรื่องว่าอะไรเหรอคะ แล้วมีในเล้ารึเปล่า
ขอบคุณทั้งคนแต่งและคนโพสต์เลยค่า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 29-09-2015 17:05:25
ชอบแนวนี้มากกกกก หลังๆมาไนท์ยั่วเก่งมากอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-11-2015 22:38:01
เข้ามาอ่านเรื่องนี้ต่อ หลังจากที่อ่านเรื่องเล่ห์รัก กับ ถนนสายหัวใจจบแล้ว  :impress3: แค่อ่านอินโทรก้อน่าสนใจแหละ อยากรู้ว่าแจ็คกับรามินมาเจอกันได้ยังไง  :mew1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 27-11-2015 22:31:53
ชอบมาก ๆ เลยจ้ะ  :impress3: สุดยอดจริง  ๆ  o13 อ่านแล้วได้ครบรสเลยน่ะ แต่ละเรื่องมีดีต่างกันไปแล้วแต่ใครจะชอบแนวไหนมากกว่ากัน แต่แจ็คนี่มาแปลกเลยไม่คิดว่าจะมีบทบาทจนเป็นพระเอกของเรื่อง แต่เราก้ออดเสียดายตั้งแต่ตอนรามอสแหละ ยังว่าเลยว่าผู้ชายแสนดีคนนี้น่าจะมีบทบาทมากกว่านี้ แอบลุ้นว่ารามอสคงจะเปลี่ยนใจใหม่ ปรากฎว่ากลายเป็นได้คู่สุดยอดสุด ๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 28-11-2015 01:10:29
ชอบฉากร่วมรักของเรื่องนี้มาก
ดูมีอะไร แต่พูดไม่ถูก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 28-11-2015 07:08:24
 :-[
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-11-2015 23:38:35
ขอบคุณค่ะ เรืีองเข้มข้นมากกกก สนุก บีบคั้นหัวใจดีเหลือเกิน
ตอนหลังๆนี่เสียน้ำตาทุกตอนเลย ถึงขนาดคิดว่าตอนจบพระเอกตายแหงๆ 555
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-12-2015 03:16:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 26-12-2015 12:27:53
โถ่ ทำไมพึ่งมาอ่านเรื่องนี้นะให้ตาย สนุกมากกกกกกกเลยค่ะ คุณใบปอแต่งดีจัง อยากได้หนังสือไว้ครอบครองแต่ดูจากปีที่โพสต์ก็คงต้องถอดใจ....(หรือใครมีPMมาได้ค่ะ5555 ยินดีมากๆ)

ขอบคุณคนโพสต์ และนักเขียนด้วยค่ะ แบ่งปันนิยายดีๆให้อ่านกัน น่ารักมากจ้า
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 03-01-2016 22:38:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 07-01-2016 17:57:51
ชอบมากๆๆ มันดีจนอยากได้หนังสือมาครอบครอง
ชอบไนท์นะ ที่กล้าตัดสินใจสละต่ำแหน่งมาอยู่กับแจ็ค ดูเป็นรักที่เท่าเทียมดี
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 13-01-2016 10:49:14
รวมผลงานของคุณใบปอ / Anonymous / ป้ามหา..(หื่น)

ซีรี่ย์เดียวกัน โดย ใบปอ
ถนนสายหัวใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=11123)
เล่ห์รัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=11595)
กำแพงใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=12650)

เรื่องสั้น โดย ใบปอ
เรื่องเล่าของเราสองคน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=18123)

คุณใบปอมีอีกชื่อคือ Anonymous เป็นคนแต่งเรื่องริว-ไผ่ที่โด่งดัง
เธอคือ...ลมหายใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17448)
เกมรัก...หมากชะตา (ภาคต่อของริว-ไผ่) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29684)

และอีกชื่อคือป้ามหา..(หื่น)
กรงแก้ว (เรื่องสั้น) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=14371)
ภมรเริงไฟ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32530)

ตามไปอ่านกันนะ :really2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 21-05-2016 23:39:32
อ๋อยยยย เป็นคู่ที่มีครบทุกรสจิงๆ    :hao6:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 23-05-2016 21:47:59
สนุกมากๆ ขอบคุณนะคะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: akareina ที่ 22-09-2016 09:58:22
 :mew1: เพิ่งมาตาม ขอบคุณนะคะ ชอบผลงานคุณใบปอมากเคยอ่าน เท็ดกาย ริชราเชลมา ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 27-09-2016 07:37:52
ชอบผลงานคุณใบปอ ตั้งแต่เท็ดกายแล้วคะ :L2:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 01-02-2017 05:09:00
กลับมาอ่านอีกรอบ ชอบเรื่องนี้จริงๆๆ สนุก ตื่นเต้น และ nc เรียกเลือด
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 19-04-2017 20:39:07
เป็นนิยายเก่าที่สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก เราอ่านนิยายเก่าๆแล้วไม่ค่อยถูกจริตเท่าไหร่เพราะภาษา แต่ของคุณใบปอภาษาดีมาก สนุกมากค่ะ จนเราต้องตามไปอ่านเรื่องอื่นๆด้วยเลย แถมยังอ่านย้อนขึ้นอีกเพราะเพิ่งอ่านเรื่องนี้เรื่องแรก

แจ็คช่างเป็นคนดีเหลือเกิน หาดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-05-2017 11:28:28
เสียน้ำตาให้แจ๊คมากจริงๆเรืีองนี้
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 12-07-2017 23:45:01
มาอ่านซ้ำอีกรอบ
สนุกจริงๆค่ะเรื่องนี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 27-12-2017 17:06:21
มาอ่านอีกรอบแล้ว
บ่อยไปไหมนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: TongRung ที่ 27-11-2018 06:55:29
 :pig4:
สนุกมากค่ะ ขอบคุณมาก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 04-12-2018 05:58:38
สนุกมากค่ะ ตื่นเต้นและลุ้นตลอดว่าจะเจออะไรต่อไป ขอบคุณผู้แต่งที่เขียนนิยายดีๆออกมาให้อ่านกันนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: บังอร ที่ 28-03-2019 19:47:00
อ่านกี่รอบก็สนุก อยากได้หนังสือสนใจจะทำอีกไหมค่ะ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: lemonphug ที่ 23-04-2019 23:45:51
สนุกมากอ่านรวดเดียวจบเลย
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 04-10-2019 07:00:32
 :L1:ขอบคุณ​ค่ะ​ครบรส สนุกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Photis ที่ 25-11-2019 17:39:39
กลับมาอ่านอีกรอบ คนแต่งคิดเนื้อเรื่องเก่งมาก
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 06-07-2023 15:38:05
ข้าเจ้าหายไปนานดีที่ยังจำรหัสตัวเองได้ เข้าไปอ่านถนนสายหัวใจจบ รีบเข้ามาอ่านเรื่องนี้ต่อ หนูกายรอรอบถัดไป วนอ่านเพราะเรื่องดี
หัวข้อ: Re: กำแพงใจ ผู้ประพันธ์ "ใบปอ"
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 04-03-2024 19:20:56
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)

เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)