-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
[color=red]1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
[/color]
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
บทที่ 1
กรุณาเลิกกระแดะและทำตัวจั๊ดง่าว
ไม่มีอะไรที่ผมอยากจะบอกกับคุณ หรือถ้าคุณยังหวังว่าจะได้ยินอะไรจากผมก็เลิกหวังเสียทีเถอะ มันเสียเวลาเปล่า ๆ อย่างที่คุณรู้ว่าผมเป็นคนเย็นชาถึงขนาดที่ว่าคนบางคนเรียกผมว่าไอ้เซลล์ความรู้สึกตายด้าน แน่นอนว่าผมจะไม่รู้สึกรู้สมอะไรทั้งนั้นไม่ว่าคุณจะสอดรู้สอดเห็นเรื่องของผมหรือไม่
ยังไงก็ตามแต่ ถ้าคุณยังทนอ่านจนถึงบรรทัดนี้ เป็นไปได้สองอย่างว่าคุณค่อนข้างจะโง่ หรือคุณมีต่อมความอดทนผิดมนุษย์มนาเขา แต่ถ้าคุณอยากให้ผมรู้สึกนับถือคุณด้วยเหตุนี้ล่ะก็ กราบตีนผมและขอร้องให้ผมเล่าเรื่องให้คุณฟัง ผมจะรู้สึกชื่นชมคุณขึ้นมาสักนิด
เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ไม่ใช่เรื่องของความรัก หรืออาจจะใช่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะมีข้อตกลงกันอย่างไร แต่อย่างที่ผมบอกเป็นประโยคแรกว่าเลิกกระแดะกันเสียทีและหันมายอมรับข้อเท็จจริงสองประการว่า ข้อหนึ่งมนุษย์มักจะอ้างความรักเพื่อจะได้ฟัคใครสักคน และข้อสองคุณชอบอ่านเรื่องเพ้อ ๆ ฝัน ๆ เพื่อประทังจิตวิญญาณอันระทมขมขื่นทั้งยังวิปริตบิดเบี้ยวของคุณ อย่าได้อายไป ทุก ๆ คนก็วิปริตกันทั้งนั้น แล้วแต่ว่าใครจะวิปริตไปทางไหน บางคนอาจจะช่วยตัวเองไปด้วยระหว่างที่อ่านฉากวาบหวิวในนิยาย ขอบอกว่านั่นไม่สุภาพอย่างแรง ทางที่ดีคุณควรเปิดเทเลทับบี้แล้วทำการเจิร์คออฟแทนจะดีกว่า
จั๊ดง่าว; ภาษาพูด. โง่เป็นอย่างยิ่ง
jerk off; slang. masturbate
บรรณศรเป็นเด็กช่างกล เอาได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แน่นอนว่าต้องหน้าตาดีสิ หน้าเฮี่ย ๆ ผมจะเอามาเป็นพระเอกทำคยไร นิสัยของบรรณศรจัดได้ว่าดี ถ้าเทียบกับคนค้ายา หรือไอ้ขี้คุก หมอนี่ชอบตีรันฟันแทงกันไม่เว้นวัน ทั้งฟันข้างนอกและฟันข้างใน คุณก็รู้ว่าข้างในไหน อาจจะเป็นโมเต็ลกลางเมืองหรือหลังพุ่มไม้แถวบ้านคุณก็แล้วแต่นักแสดงร่วมในแต่ละฉาก ปัญหาสำหรับบรรณศรเพียงอย่างเดียวก็คือ การที่เขามีเซ็กส์ประจำวันจนเป็นเรื่องปกติเหมือนผู้ชายวัยกลัดมันชักว่าวทุกวัน มันทำให้คลายความตื่นเต้นลงไปทุกทีและเขาต้องแสวงหาความแปลกใหม่ไปเรื่อย ทั้งสวิงกิ้ง เซ็กหมู่ อัพยา ข่มขืน ถ่ายคลิป หมอนี่ลองมาหมดแล้ว
ชิตตพัณเป็นเด็กเรียนบริหารมหา’ลัยใกล้ ๆ กับวิ’ลัยช่างกลนั่นแหละ นิสัยของเขาก็อาจจะดูเงียบ ๆ ขรึม ๆ เก็บตัว ไม่ค่อยคบเพื่อนคบฝูง แต่ขอบอกว่าไอ้หมอนี่ก็วายร้าย ทุก ๆ ค่ำเขาจะถอดแว่นหนาเตอะและขยี้เยลใส่เส้นผมที่หวีไว้เรียบกริบทั้งวัน จากนั้นก็เปิดอินเตอร์เน็ตเข้าแคมฟรอกเพื่อทำงานประจำ คือเป็นแคมบอยประจำห้อง เพราะว่าเขาค้นพบการตอบสนองความพึงพอใจทางเพศอย่างถึงที่สุดของตนแล้ว คือการได้อวดเรือนร่างส่วนสัดที่กระตุ้นต่อมร่านได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ทุกครั้งที่ชิตตพัณระเบิดความใคร่ใส่หน้าจอคอมพิวเตอร์และกล้องเว็บแคม เขาจะบิดเกร็งไปทั้งตัวใบหน้าเหยเกบอกความสุขสมอย่างล้นเหลือ และนั่นเซ็กซี่มากสำหรับผู้ชมในห้อง
พอดีว่าเพื่อนซี้ที่มักจะชวนทำเรื่องระยำของบรรณศรแนะนำให้เขาเข้ามาทดลองความตื่นเต้นแบบใหม่ คือการได้สำเร็จความใคร่ผ่านสายตาผู้ชมนับร้อย เด็กหนุ่มนั่งบนเก้าอี้หน้าคอมในห้องตัวเอง เพื่อนของเขาเกาะเก้าอี้ยืนอยู่หน้าจออยู่ข้าง ๆ บรรณศรพิมพ์ลงไปในช่องสนทนา
‘มีใครอยากดูกูชักว่าวมั้ยวะ’
ไม่ถึงห้าวินาที จำนวนคนที่ส่องมองกล้องของเขาก็เพิ่มขึ้นหลายสิบคน และมีข้อความสนทนาตอบกลับมาทั้งด่าทั้งเชิญชวน เขายิ้มมุมปากด้วยความสะใจและถอดเสื้อยืดสีขาวที่รัดเรือนร่างไว้ออกช้า ๆ เพื่อนของเขาช่วยดึงเสื้อออกไปด้วย บรรณศรปรับกล้องให้เห็นหน้าของเขาชัดขึ้นและจ้องมองลงไปในเลนส์ ยักคิ้วซ้ายหนึ่งครั้ง จากนั้นถอยออกไปเอนพิงพนักเก้าอี้แล้วเริ่มลูบไล้เนื้อตัวเพื่อปลุกอารมณ์ให้กับตนเอง
“เยดแม่-งเอ๊ย” ชิตตพัณสบถลั่นเมื่อพบตัวการที่ทำให้จำนวนคนดูของเขาในค่ำนี้ลดลง ธรรมดาคนเราก็ชอบอะไรที่มันแปลกใหม่อยู่เรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ผมคิดว่าชิตตพัณเองก็หน้าตาดีพอ ๆ กับบรรณศร ถึงแม้ว่าจะดูหล่อกันไปคนละแบบซึ่งนั่นผมจะทิ้งไว้ให้เป็นจินตนาการของคุณว่าจะเอายังไง
แต่กระนั่นชิตตพัณก็พยายามโชว์ลีลาเต็มที่ ชนิดว่าถ้าเพื่อนของเขาที่รู้จักว่าหมอนี่เป็นหนุ่มขรึมมาเห็นเข้าคงอ้าปากค้างแบบที่ยัดเทียนพรรษาเข้าไปได้ทั้งดุ้น ในห้องสนทนาเกิดการเชียร์และพนันขันต่อระหว่างคู่นี้ ว่าจะโรมรันพันตูไปกันถึงไหน ชิตตพัณกดส่องกล้องของบรรณศร ฝ่ายบรรณศรเองก็สนใจในตัวชิตตพัณ ชิตตพัณมองเห็นบรรณศรเป็นศัตรูที่ต้องทำลายล้าง มือของเขากุมกำวัตถุของตนเองเหมือนว่ามันเป็นอาวุธที่จะใช้พิฆาตฆ่าบรรณศรให้พินาศสิ้น ขณะที่บรรณศรกลับมองชิตตพัณเป็นวัตถุทางเพศที่สวยงามน่ารักใคร่ เขาอยากทะลุเข้าไปในกล้องและจับชิตตพัณขึงพืดข่มขืนให้สาแก่ใจ
“ไอ้เฮี่ยนี่ลีลาเด็ดดวงชิบหายเลยว่ะ” บรรณศรพูดกับเพื่อนของเขาระหว่างที่มือก็สาวตาก็จ้องเข้าไป เพื่อนของเขาหรืออันที่จริงชื่อบรรณบถ เป็นน้องชายแท้ ๆ แต่ความที่สองพี่น้องคู่นี้อายุต่างกันแค่ปีเดียว จึงเหมือนเพื่อนกันมากกว่า สำหรับบรรณศรแล้วบรรณบถเป็นเพื่อนร่วมกิจกรรมทางเพศที่ดี เขาเคยมีเซ็กส์อย่างถึงพริกถึงขิงกับน้องชายก็ครั้งหนึ่ง แต่นั่นก็เพราะอยากลองอะไรที่มันแปลกใหม่และตื่นเต้น ผิดกับบรรณบถซึ่งหลงรักพี่ชายเข้าจริง ๆ และทุกครั้งที่เขาช่วยตัวเองจะจินตนาการว่าถูกบรรณศรกระทำทุกครั้ง
บรรณบถตอบสนองความต้องการทางเพศของเขาด้วยการจูบลงไปที่หัวไหล่ของพี่ชาย และช่วยลูบไล้ไปตามเนื้อตัว บรรณศรหลับตาครางเสียงกระเส่าจินตนาการถึงภาพของชิตตพัณในหัว และนึกไปว่ามือที่ลูบไล้อยู่นั้นเป็นของแคมบอยสุดเซ็กซี่ที่เขากำลังฝันถึง ทั้งสามคนกำลังตอบสนองความต้องการของตนเองในวิถีทางที่แตกต่างกัน แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือปลดปล่อยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ขณะเดียวกันความปรารถนาของคนสามคนก็เหนี่ยวนำความรู้สึกทางเพศของคนนับร้อยในห้องแคมฟรอก
รัก; สกรรมกริยา. ต้องการใคร่จะได้ร่างกายของอีกฝ่ายมาครอบครอง
เมื่อสิ้นสุดห้วงเวลาแห่งความใคร่ บรรณศรก็เอนไปกับเก้าอี้อย่างหมดแรง บรรณบถคุกเข่าลงตรงหว่างขาของพี่ชาย และเลียทำความสะอาดให้สัดส่วนซึ่งค่อย ๆ หดตัวลงช้า ๆ แต่ก็ยังถือว่าใหญ่มากอยู่ดี
“เฮ้ย อย่าดูดกูเสียว” บรรณศรสะดุ้งโหยงเมื่อถูกเม้มขบเข้าตรงคอหยัก และผลักหัวอีกฝ่ายออกซึ่งยอมถอนปากออกอย่างเสียดาย
เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ ถอดกางเกงออกแล้วเดินเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำทั้งที่ยังเปลือยเปล่า บรรณบถลุกขึ้นมาปิดโปรแกรมและคอมพิวเตอร์ให้ เขายังอารมณ์ค้างอยู่โดยไม่ได้ปลดปล่อย บรรณบถเดินโด่ไปที่เตียงและทิ้งตัวลงนอนหงายมองเพดาน เสียงน้ำจากฝักบัวไหลซู่จากห้องน้ำสักพักก็เงียบ บรรณศรเดินเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ และถามน้องชายที่นอนแผ่อยู่
“มึงไม่อาบน้ำเหรอวะ”
“ขี้เกียจ” มันบอกแล้วก็พลิกตัวตะแคงหันหลังให้เพื่อปิดซ่อนความตื่นตัวที่ยังคงชูชัน
บรรณศรยักไหล่แล้วหยิบกางเกงบอลที่พาดเอาไว้บนเก้าอี้ใกล้ ๆ มาใส่ซ้ำอีกหน
“มึงจะนอนแล้วใช่ป่ะ” คนเป็นพี่ถามมือก็อยู่ที่สวิตช์ไฟ
“อือ” บรรณบถตอบเบา ๆ ไฟในห้องดับ บรรณศรใช้ความชำนาญเดินมาที่เตียงและปีนขึ้นไปนอน ในไม่ช้าทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ
ชิตตพัณเฃ็ดคราบของตนเองด้วยกระดาษทิชชู่ มันกระเด็นไกลไปเปื้อนจอคอมพิวเตอร์เป็นขีดเล็ก ๆ สองสามเส้น เขาบรรจงเช็ดมันออกและส่งสายตาเข้าไปในกล้อง คนในห้องขอให้เขาโชว์อีก แต่ชิตตพัณตัดสินใจว่าคืนนี้ครั้งเดียวก็พอ เขารู้สึกเคืองใจและสงสัยว่าไอ้หนุ่มรูปหล่อใจกล้าที่มาเป็นคู่ดูโอนั่นมันเป็นใครมาจากไหน มันไม่รู้หรือไงว่าสตาร์ของห้องนี้ควรจะมีแค่คนเดียว และคนคนนั้นจะต้องเป็นชิตตพัณคนนี้เท่านั้น
เขาพูดคำว่า บาย สั้น ๆ ในห้องแล้วก็ลอกออฟออกไปจากโปรแกรมแคมฟรอก เด็กหนุ่มลุกจากหน้าคอมเข้าห้องน้ำไปล้างเยลออกจากหัว เขาเอาผ้าเช็ดตัวซับผมให้แห้ง เดินมาที่โต๊ะหยิบแว่นตาที่วางไว้มาสวม แล้วนั่งลงตรงหน้าคอมเปิดโปรแกรมเอกสารมาเพื่อทำรายงานที่จะส่งพรุ่งนี้ให้เสร็จ
หลาย ๆ คนที่มีจริยธรรมสูงส่งอาจจะถามผมว่าทำไมเรื่องระยำหมาเหล่านี้ถึงเกิดขึ้นได้ เกิดอะไรขึ้นกับระบบศีลธรรมของโลก แต่ถุยเถอะ ถ้าคุณอ่านย่อหน้าแรกของเรื่องนี้แล้วยังไม่รู้ว่ามันจะสถุลแค่ไหน ก็แปลว่าคุณเป็นคนที่มือถือสากปากถือศีลอย่างสุดโต่ง (อันที่จริงผมไม่อยากใช้คำว่าสุดโต่งเพราะมันวิชาการเกินไป แต่ถ้าจะใช้คำว่า อย่างเฮี่ย ๆ แทนก็คงจะรุนแรงไปนัก) และถ้าคุณเลิกมีความปรารถนาสำส่อนระหว่างจริยธรรมตามรูก้นกระทรวงศึกษวย กับความต้องการการตอบสนองทางเพศของคุณด้วยข้อเขียนแล้วล่ะก็ เราควรจะไปติดตามชีวิตของชิตตพัณต่อจะดีกว่า
กระทรวงศึกษวย; สนธิ. กระทรวงศึกษา และ คย
ในสถานที่ทั้งหมด นับว่ามหา’ลัยเป็นที่รวมพวกดอกทองไว้เยอะที่สุด นักศึกษาสาวใส่กระโปรงสั้นเสื้อรัดติ้ว นักศึกษาชายใส่กางเกงเดฟที่โชว์ช่วงขาแนบชิดให้นัยทางเพศที่ล่อแหลมอันตราย พวกเขาย้อมผมเพื่อตอบสนองความพึงพอใจทางเพศ มีเพื่อนของผมคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าเขาหลั่งออกมาเองทุกครั้งที่ไปใช้บริการช่างทำผม ในส่วนของคณาจารย์เองความดอกทองได้เลื่อนขึ้นไปอีกระดับ เป็นการตอบสนองความต้องการทางเพศที่ถูกเก็บกดไว้ด้วยเงินและอำนาจ หัวหน้าภาควัยดึกอาจจะรู้สึกสุขสมและเปียกชื้นตรงจุดเร้นลับทุกครั้งที่หล่อนจิกหัวใช้อาจารย์ผู้น้อยเยี่ยงทาส การเสนออำนาจออกมาอย่างโจ่งแจ้งและอุบาทว์ยิ่งกว่าพวกชอบโชว์ปรากฏอยู่ทั่วไป และชิตตพัณก็รู้สึกเหยียดหยามคนพวกนี้
เขามีความเห็นว่าการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องที่หยาบช้า ทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่ไปปลดปล่อยในสถานที่ควรใช้ปลดปล่อย การที่เห็นนักศึกษาหนุ่มสาวหรือหนุ่มหนุ่มก็เถอะจูงมือและหัวร่อต่อกระซิกด้วยกันในที่สาธารณะ ทำให้เขาโกรธเกรี้ยวเป็นฟืนเป็นไฟ ชิตตพัณสาปแช่งคนเหล่านี้ให้ถูกฟ้าผ่าตายในสักวัน
เด็กหนุ่มเดินไปที่กลุ่มเพื่อนซึ่งนั่งทานข้าวอยู่ในโรงอาหาร เขาดันแว่นหนาเตอะและใช้สายตาที่ดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีอะไรมองเพื่อนร่วมภาควิชาของตน เสื้อที่เขาใส่หลวมโพรกจนมองไม่เห็นหุ่นเข้ากับกางเกงทรงคุณลุงอันเข็มขัดได้รัดไว้จนพองข้างล่างเพราะเอวคอดสวยของชิตตพัณเอง
“เฮ้ย ชิด กินข้าวด้วยกันป่าว” ธีรเดชผู้นำของกลุ่มเพื่อนโบกมือเรียกเขา ธีรเดชเป็นคนที่เซ็กซี่โดยธรรมชาติ เขาค่อนข้างปล่อยเนื้อปล่อยตัว และไม่ตกแต่งตัวเองมาก แต่ผิวสีน้ำผึ้งสวยกับสายตาคม ๆ คิ้วเข้ม ๆ กับหุ่นดีที่เกิดจากการเตะบอลหลังเลิกเรียนก็ทำให้เขากลายเป็นหนุ่มฮอทในสายตาของสาว ๆ และเป็นไอคอนที่น่าเอาเยี่ยงอย่างสำหรับเพื่อนผู้ชายคนอื่น ชิตตพัณพิจารณาว่าถึงธีรเดชจะมีแรงดึงดูดทางเพศอย่างล้นเหลือ แต่ก็ไม่ใช่ความตั้งใจของเจ้าตัว เขาจึงรู้สึกว่าพอให้อภัยได้ แต่ก็อดตำหนิมิได้ว่าทำไมเจ้าตัวไม่รู้จักปกปิดความเป็นผู้ชายอย่างสุด ๆ แบบนี้ไว้เสียบ้าง
“ทานไปเถอะ ผมทานข้าวเช้าแล้ว”
ชิตตพัณปฏิเสธง่าย ๆ แต่อีกฝ่ายไม่ยินยอม “งั้นก็มานั่งกับเพื่อน ๆ หน่อยเถอะวะ จะมุเรียนก็พอดีหน่อย อย่าหายหน้าหายตาไปมากนัก”
เพื่อน ๆ คนอื่นร้องบอกว่าใช่ ๆ และเสริมคำพูดว่าชิตตพัณไม่ค่อยเข้ามาร่วมกลุ่มจริง ๆ ตัวเจ้าเรื่องจึงเข้ามานั่งในวงเพื่อน เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย และพบว่าไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคนข้าง ๆ ถึงแม้ว่าธีรเดชจะพยายามให้เขาได้มีส่วนร่วมในบทสนทนาบ่อย ๆ ก็ตามที กระนั้นชิตตพัณก็พึงพอใจในตนเอง เขาชอบที่จะมองคนอื่นอย่างเหยียดหยามที่ไม่สามารถมองทะลุหน้ากากของเขาได้ แรงดึงดูดทางเพศมันก็เป็นแค่เรื่องของหน้าตา เสื้อผ้า กับทรงผมเท่านั้นเอง ชิตตพัณคิดอยู่ในใจ
*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
-
ดุเดือดเผ็ดมันไม่เปลี่ยนเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
:mc4: :mc4: :mc4:
เจิมเรื่องใหม่ของพี่แทน หึหึ
+1 ด้วยความสะใจเป็นที่สุด
หายหน้าหายตาไปนานกลับมาที ตั้งประเด็นเรื่องได้เฉียบมาก
บันเทิงคดีที่แอบสอดแทรกปัญหาให้ขบ
การประจันหน้ากันผ่านการออนแคมฟรอก ดูน่าตื่นเต้น ให้ความรู้สึกโลดโผนดี
ภาษาที่ใช้ในเรื่อง หยาบกระด้างแต่มีชั้นเชิง และรสนิยมของบันเทิงคดี
ดึงดูดจินตนาการและอารมณ์ของผู้อ่านด้วยคำพูดเพียงเล็กน้อย
บอกตามตรงไม่มีคนไหนในโลกอยู่ได้โดยไม่ยอมความจริงที่พี่เขียนหรอก เพียงแต่
อาจจะมีคนบางคนไม่ยอมรับก็เท่านั้น 555+
ชอบคำว่า กระทรวงศึกษวย เป็นคำที่อธิบายได้เข้าใจทุกมุมมอง
แอบอยากพูดว่ามันมีมิติในการด่าได้หลากหลาย
ฉงนและ ใคร่อยากจอ่านต่อจะรอสารที่ผ่านการตรองมาอย่างดี
นิว(LOVEis)
-
เรื่องจิตๆ เรื่องใหม่ :z1:
-
หายไปนาน ยังมีคนจำได้แฮะ
ปีนี้งานหนักมากครับ เลยตัดสินใจเลิกเขียน
ตอนแรกกะจะเลิกถาวร แต่อดไม่ไหว มาเขียนเรื่องนี้จนได้
ขอบคุณน้องนิวสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการวิเคราะห์ที่ออกจะยกยอผมจนเกินจริงไปนิด :laugh:
ขอบคุณคุณ pongsj และคุณ mist เพื่อนตายของผมติดตามมาทุกเรื่อง เหนื่อยบ้างไหม (ซับเหงื่อให้)
:กอด1:
ขอบคุณคนแอบมาอ่านแต่หมั่นไส้คนเขียนจนไม่อยากเม้นท์
ไอ้ผมก็เข้าใจนะครับว่ากลับมารอบนี้สำนวนออกจะยวนตีนไปหน่อย
ก็ช่วยกรุณาทนด้วยก็แล้วกัน
:a5:
-
ขอบคุณน้องนิวสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น และการวิเคราะห์ที่ออกจะยกยอผมจนเกินจริงไปนิด :laugh:
จะบอกว่ามันเป็นงานถนัดน่ะ :m20:
-
ได้ครับพี่ จะเก็บไว้อ่านเล่นตอนอยากชักว่าวแล้วกัน โอเคมะ :jul3:
แล้วอยากบอกว่า สำนวนไมได้กวนตีนหรอก สำนวนเหี้ยมากเลยล่ะ อย่างที่เห็นว่ามีแต่คนที่เคยอ่านเรื่องพี่ทั้งนั้นมาคอมเมนท์ให้ คนไม่คุ้นมาอ่านคงไม่มีใครอยากจะมาเมนท์ให้หรอก (แต่แอบตามอ่าน :jul3:)
ป.ล. (อีดิตเพิ่มเป็นรอบที่สาม) เห็นเขียนเรื่องต่อ นึกว่าจะออนเอ็ม ชิชะ เรื่องเฮียไว้รอฟังวันหลังเถอะ!
-
.... รีพลายว่าอะไรดีล่ะ
ก็ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน
ได้แต่อ่านไปคิดตามไปว่าอ๋อ...เค้าทำกันแบบนี้ เพราะอย่างนี้นั่นเอง
ถือเป็นการอ่านเพื่อการศึกษาค่ะ :pig4:
-
เรื่องใหม่อีกแล้วเหรอคุณน้อง
อ่านไปก็อืมมมม.....นะ
สู้ ๆ นะ พี่จะรออ่านตอนต่อไป
-
มาทวงของเก่า ปีนี้ไม่เขียน เดี๋ยวปีหน้าจะทวงอีก ไปแระ :laugh: :fire:
-
แร๊งงงง
แต่ก็ขออีกนะ :z1:
-
โอ้ยยยยย ชอบม๊ากมาก
แรง แรงงี้มีที่ไหนฮาๆๆ
สำนวนนี่เหลือร้ายบรรยายซะเห็นภาพ
ยังกะตัวเองไปเล่นแคมฟ๊อกซะเอง เอิกๆ
เลิศ ที่สุด ยกนิ้วให้ครับ o13
-
o13
สะใจดี
รออ่านจ้ะ
-
แรงดีจังครับ ชอบแฮะ หรือเราจะเป็นแบบนั้นเนี่ย
-
รู้สึกชอบ สุนทรียภาพอย่างงี้จัง!!
:mc4: :mc4: :mc4:
-
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
เป็นการเกริ่นนำเรื่องได้ดีมาก เรยย ชอบบบ
มากมายย
o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
วุ้ย ตอนแรกกะจะเลิกถาวร แต่อดไม่ไหว มาตอบเรื่องนี้จนได้ อิอิ
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
...................
V
V
V
V
:z7: ว้าย กิตก็คิดถึงคุณสองค่ะ :z7:
-
คิดถึงคุณกิต และ จขร.
นะคะ
-
:mc4: ฉลองเรื่องใหม่ค่า
คุณ Kirimanjaro หายหน้าหายตาไปนานเลยเนอะ
กลับมาพร้อมเรื่องใหม่ที่อ่านแล้ว :m25: กันเลยที่เดียว
ให้กำลังใจค่ะ :L2:
-
เข้ามาฉลอง :mc4: เรื่องใหม่ด้วยคน
เปิดเรื่องมาก็แรงสะใจเลย เป็นแนวเรื่องแปลกใหม่ที่
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนกล้าเขียนเลย ถือเป็นความรู้ใหม่
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักรูปแบบการออนแคมฟร็อก
คำพูดที่แรง ๆ ก็เป็นไปตามสถานการณ์ เข้ากันดี
จะติดตามต่อไป :pig4:
-
บทที่ 2
บรรณบถเรียนอยู่ม.6 โรงเรียนเอกชนแถว ๆ นั้น เขาเป็นหัวโจกของเพื่อน ๆ ในการทำเรื่องร้าย ๆ เขาปกครองคนในห้องด้วยความเงียบและความกลัว บรรณบถไม่ค่อยพูด และจริงอย่างที่คำโบราณว่า คนพูดน้อยมักต่อยหนัก ตั้งแต่เข้าเรียนที่นี่ เขามีเรื่องชกต่อยแค่สองครั้ง คู่กรณีของเขาทั้งสองคนถึงแม้ว่าจะบาดเจ็บไม่สาหัสแต่ก็ปฏิเสธที่จะพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยสิ้นเชิง
ถ้ามีคนที่อ้างว่าเข้าใจบรรณบถที่สุด คนคนนั้นก็คือสกฤต สกฤตรู้จักทั้งบรรณบถและบรรณศร เขารู้เรื่องหลังฉากบางอย่างของเพื่อนที่ดูเงียบขรึมและน่ากลัวคนนี้ เขา..บางครั้ง..เป็นผู้ที่จัดหาเด็กสาวใจแตกไปให้สองพี่น้องจัดการ บางครั้งเด็กนักเรียนม.6 ก็ชอบทำตัวเหมือนแมงดา ด้วยแรงบันดาลใจที่ไม่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ก็คือเงินและอำนาจ
สำหรับสกฤต ไม่ว่าเขาจะเป็นคนเลวชาติโดยสันดานหรือไม่ แต่เรื่องที่เขาอ้างอยู่ตลอดก็คือว่าทุกสิ่งที่เขาทำนั้นเพื่อความสุขของบรรณบถ เขาบอกว่าเขาเป็นคนที่รักเพื่อนมาก แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่เขารักก็คือตนเอง และวิธีการตอบสนองความต้องการทางเพศของเขาก็ช่างวิปริต คือการสูดดมเสื้อผ้าเปื้อนเหงื่อของบรรณบถพร้อมกับช่วยตัวเองไปด้วย
บรรณบถรู้ตัวหรือเปล่า เขาอาจจะรู้ก็ในเมื่อสกฤตชอบแอบมองต้นคอ และบางครั้งก็ในอกเสื้อที่ปลดกระดุมลงมาสองเม็ด แต่คำถามก็คือเขาสนใจหรือเปล่า บรรณบถอาจจะไม่สนใจ เขาไม่เคยสนใจอะไรในชีวิต ความบ้าบิ่นที่ขับเคลื่อนให้เขามุ่งไปข้างหน้า อาจจะเป็นความปรารถนาที่จะตาย บรรณศรเป็นทั้งเครื่องเหนี่ยวรั้งและระเบิดเวลาสำหรับเขา บรรณบถไม่รู้ว่าจะเก็บอารมณ์นี้ไว้ต่อไปได้นานแค่ไหน เขาทั้งแค้นเคืองทั้งเจ็บปวดในทุกครั้งที่บรรณศรแสวงหาความแปลกใหม่ทางเพศรส เขาสามารถเสนอตัว เขาพร้อมจะทำทุกอย่างให้แก่พี่ชาย แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ไยดีเขาอีกเช่นกัน
สกฤตเองก็จมอยู่ในความมืดบอด เขาตีความการไม่ตอบสนองของบรรณบถว่าเป็นการไม่ปฏิเสธ เขาคอยแต่จ้องหาจังหวะที่จะได้เติมเต็มความปรารถนาทางกามารมณ์ให้สมบูรณ์ ด้วยการครอบครองทั้งร่างกายของบรรณบถ เขาอยากจับบรรณบถซึ่งเพิ่งเล่นบาสเสร็จใหม่ ๆ นอนคว่ำลงบนเก้าอี้ไม้ยาวในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของยิม และถกกางเกงนักเรียนสีดำลงไปที่หัวเข่า ฉีกเสื้อนักเรียนของบรรณบถให้กระดุมหลุดร่วงพราว จากนั้นสูดดมกลิ่นเหงื่อซึ่งทั้งอับทั้งเปรี้ยวในซอกขาผ่านกางเกงใน เขาจะขบฟันลงไปบนลูกบอลหนังนุ่มสองใบที่ถูกรัดจนเป็นกะเปาะนั้น จากนั้นค่อยฉีกกางเกงในของบรรณบถออกแล้วฟาดลงไปที่แก้มก้นแรง ๆ สักสิบที ให้มันเป็นแนวมือสีแดงประทับ เขาอยากฟังเสียงร้องครวญครางด้วยความสุขสมระคนเจ็บปวดของบรรณบถ จากนั้นจึงค่อยข่มขืนเพื่อนรักด้วยวิธีที่ดิบเถื่อนและเจ็บแสบที่สุด
มนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะเข้าข้างตนเอง พวกเขารวดร้าวกับความจริงของชีวิต การหลอกตัวเองทั้ง ๆ ที่รู้ดีอยู่ลึก ๆ ว่ามันไม่จริงเป็นความบันเทิงเริงรมย์ชนิดหนึ่ง ดูอย่างที่ซาร์ตพูดประไร การหลอกตัวเองเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อหลีกหนีความรับผิดชอบว่าเขามีอิสระที่จะเลือก ทั้งบรรณบถและสกฤตต่างก็มีอิสระที่จะไม่ปรารถนาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่พวกเขาต่างก็หลอกตนเองว่าถูกผูกพันและมีพันธะทางโชคชะตาต่อเรื่องที่เขาเชื่อว่าถูกกำหนดไว้แล้วเท่านั้น ดังนั้นทั้งสองคนนี้..ซึ่งในฐานะของตัวแทนมนุษย์ทั้งหมด..จึงต้องระทมทุกข์อย่างหน้าชื่นตาบานต่อไป
พูดถึงสกรรจ์ เขาเป็นหนุ่มใหญ่วัยสามสิบห้า เขามีลูกชายอายุสิบเจ็ด ซึ่งนั่นก็แปลว่าเขากลายเป็นพ่อตั้งแต่วัยสิบแปดปี แม้ว่าอายุจะขึ้นหลักสามกลาง ๆ แต่สกรรจ์ก็ยังเป็นผู้ชายเต็มชายที่เซ็กซี่มาก เขามีกล้ามอกและกล้ามท้องสวยอย่างที่หลาย ๆ คนฝันถึง ความสูงหล่อเข้มแบบผู้ใหญ่ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ในละแวกบ้านใจละลาย แต่กระนั้นพ่อหม้ายเมียหย่าวัยฉกรรจ์อย่างสกรรจ์ก็ไม่สนใจที่จะหาแม่บ้านแม่เรือนให้กับสกฤตลูกชายคนเดียวของตน
และตอนนี้เขากำลังโกรธและอับอายถึงที่สุด เมื่อพบว่าวีซีดีที่ค้างอยู่ในคอมพิวเตอร์ของลูกชายเป็นวีซีดีโป๊ระหว่างชายกับชาย เขาเหลาไม้เรียวจากไม้ไผ่ด้วยมือของตนเอง รอให้สกฤตกลับบ้านด้วยความกระเหี้ยนกระหือที่จะลงโทษให้ถึงที่สุดต่อความวิปริตนี้ มีดที่เขาเฉือนลงไปในเนื้อไม้ไผ่ ลงน้ำหนักแล้วกระชากผ่านเสี้ยนไม้ สกรรจ์เหลาไม้เรียวจนได้รูปดีแล้วเอากระดาษทรายมาขัด เขาทำมันเหมือนกับเป็นงานศิลปะชนิดหนึ่งที่ต้องอาศัยความประณีตและอดทนในการขึ้นรูป หลังจากขัดเสร็จ สกรรจ์ก็ดัดมันโค้งไปโค้งมาเพื่อดูความยืดหยุ่น เขาใช้ปลายนิ้วชี้แตะตรงหัวไม้เรียวให้โค้งเข้าหาตัวและปล่อยนิ้ว มันดีดผึงออกไปในทิศทางตรงกันข้าม สกรรจ์รู้สึกเสียววูบในท้องน้อยที่เห็นปลายไม้เรียวขยับไหว ในแวบหนึ่งเขารู้สึกเหมือนกับว่ามันคืออวัยวะเพศของเขาเอง และเขากำลังจะใช้สิ่งนั้นลงโทษลูกชาย
และในตอนนั้นสกฤตก็กลับมาพอดี เขาสีหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อกำลังดีดไม้เรียวเล่นอยู่ เมื่อเห็นลูกชายโทน สกรรจ์ก็มีสีหน้าถมึงทึง
“ไอ้กริด มึงมานี่ซิ”
สกฤตอยากจะถอย แต่เขารู้ว่าถึงหนีไปตอนนี้ยังไงก็โดนอยู่ดี และอาจจะหนักกว่าเก่าด้วย เขารู้นิสัยของพ่อว่าไม่ยอมปล่อยให้อะไรผ่านไปง่าย ๆ อยู่แล้ว เขาจึงเดินเข้าไปด้วยอาการเหมือนนักโทษเดินเข้าลานประหาร
“มึงเป็นตุ๊ดเหรอวะ ทำไมมึงถึงดูหนังระยำนี่”
เสียววาบไปถึงหนังหัว เมื่อถูกถามจี้เข้าจุด และสกรรจ์ก็ยังแสดงหลักฐานที่เขาลืมเอาไว้ให้ดูอีกด้วย สกฤตดิ้นรนเฮือกสุดท้าย
“ไม่ใช่นะพ่อ ไม่ใช่ของกริดนะ เพื่อน..เออ..เพื่อนกริดมันลืมไว้”
“โกหก! เพื่อนมึงมาที่บ้านเมื่อไหร่ กูสงสัยมึงอยู่นานแล้ว อย่าคิดว่ากูหูหนวกตาบอด” สกรรจ์ตวาดใส่ ทำให้สกฤตหุบปากเงียบ ตอนนี้ความรู้สึกกลัวเริ่มจางหายไปจากเด็กหนุ่ม แทนที่ด้วยความน้อยใจแทน เขายืนหน้าแดงก่ำ กลืนน้ำลายอยู่เบื้องหน้าทัณฑกรซึ่งมีเครื่องลงทัณฑ์ในมือ
“แล้วถ้ากริดเป็นแล้วไงล่ะ พ่อรับกริดไม่ได้เหรอครับ”
“ชะๆ มึงกล้าต่อปากต่อคำกับกูแล้วเรอะ เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งใหญ่”
“กริดไม่ได้ต่อปากต่อคำนะ แค่ถามเท่านั้นเอง ถ้าพ่ออยากตีกริด ก็เอาเลย เอาสิ”
เขายืนกอดอก เม้มปาก หันหลังให้แก่บิดา สกรรจ์ตาลุกวาวเมื่อเห็นเป้าหมายที่จะลงโทษ
“มึงอย่าท้า กูทำแน่ ระวังให้ดี ๆ ล่ะ”
เขาเงื้อไม้เรียวขึ้น มีเสียงควับเบา ๆ ในตอนนั้นเอง สกฤตซึ่งถูกกระตุ้นโดยเสียงก็ตื่นตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ เขารู้สึกอาย แต่ความโกรธก็ยังอื้ออึงเต็มหัว เขาสาบานกับตนเองว่าจะไม่ขยับไม่ร้องสักแอะสำหรับการลงโทษในครั้งนี้ สกรรจ์ขยับมือฟาดด้วยกำลังแรง เสียงไม้เรียวปะทะกับก้นผ่านเนื้อผ้าดังเควี้ยวควับอย่างน่าพรั่นใจ แรงปะทะทำเอาเด็กหนุ่มแอ่นเอวไปข้างหน้า เชิดเป้ากางเกงเต็มตุงให้เด่นขึ้นอย่างชัดเจนจนสกรรจ์สังเกตได้ หนุ่มใหญ่หุ่นเร้าใจแกล้งเดินอ้อมวนรอบตัวลูกชายเพื่อดูปฏิกิริยาแปลกประหลาดให้ชัดขึ้น ใบหน้าของสกฤตบึ้งตึงและจงใจไม่มองบิดา สกรรจ์ใช้ไม้เรียวไล้สะโพกของเด็กหนุ่มคล้ายกับหาที่เหมาะ ๆ ในการฟาดโบยครั้งต่อไป เขาแน่ใจแล้วว่าสกฤตตื่นตัวขึ้นมาจริง ๆ เขาสงสัยว่าอะไรทำให้สกฤตเกิดอารมณ์ แต่ก็ยังไม่เท่ากับความสงสัยว่าทำไมเขาก็รู้สึกร้อนวาบ ๆ ตรงท้องน้อยและมีอารมณ์แผดเผาอย่างรุนแรงตรงช่วงล่างเช่นเดียวกัน
สกรรจ์ทำหน้าที่ของเขาต่อ เขาฟาดไม้ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม และครั้งที่สี่ แต่ละครั้งหนักหน่วงขึ้น และผู้ถูกลงโทษเองก็แข็งตัวจนเห็นได้ชัดเจนแม้ว่าจะอยู่ในกางเกงนักเรียนเนื้อผ้าหนา สกรรจ์ก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาจนแทบจะทนไม่ไหว อย่างที่บอกว่ามีแวบหนึ่งที่เขานึกไปว่าไม้เรียวนั้นคืออวัยวะของเขาเอง แต่ตอนนี้เขาแน่ใจแล้วล่ะว่ามันใช่
หนุ่มใหญ่แข็งใจลงโทษลูกชายอีกครั้งเป็นครั้งที่ห้า และหยุดมือก่อนที่อารมณ์ดิบจะทำให้เขาทำเรื่องผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรงขึ้นมา เขาพูดกับสกฤตด้วยน้ำเสียงที่ปั้นให้โกรธ
“กูจะตีมึงแค่นี้ เอาแค่พอหลาบจำ มึงเอาเรื่องที่กูพูดไปคิดให้ดี ๆ” เขาพูดจบก็เดินกลับเข้าบ้าน แล้วเข้าห้องส่วนตัวล็อคจากนั้นถกกางเกงลงครึ่งหน้าขาคุกเข่ากับพื้นแล้วรูดกระตุกส่วนสัดที่ขยายตัวเต็มที่ดังพั่บๆๆๆ ไม่ถึงสิบห้าวินาทีมันก็ระเบิดออกมาเป็นของเหลวขาวขุ่นพุ่งกระจายเต็มพื้นห้อง
ฝ่ายสกฤตนั้นหลั่งออกมาเองตั้งแต่ถูกพ่อตีครั้งที่ห้า เขาเดินเข้าห้องตัวเองแล้วถอดกางเกงนักเรียนออก มันเปื้อนคราบขาว ๆ ที่ซึมออกมา เพราะส่วนนั้นของเขาแข็งตัวจนเลยพ้นกางเกงใน ความสุขสมของเขาทะลักเลยมาถึงสะดือและเปื้อนเสื้อเหนียวเหนอะหนะ
สกฤตถอดเสื้อผ้าออกหมด และใช้กางเกงในเช็ดคราบเก่า จากนั้นไปนอนหงายที่เตียง มีแก่นกายซึ่งยังคงแข็งตัวอยู่ในมือ จากนั้นพริ้มตาชักว่าวอย่างดุเดือดรุนแรงเหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่เขาเกิดอารมณ์อย่างสุด ๆ ผิดแต่เพียงว่าคราวนี้แทนที่จะจินตนาการถึงเรือนร่างของบรรณบถ เขากลับคิดถึงความโกรธเกรี้ยวของสกรรจ์แทน
ตั้งแต่วันนั้น ดูเหมือนว่าความอดทนของสกรรจ์จะต่ำลง เขามักจะเรียกตัวสกฤตไปทำโทษแม้ว่าจะเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย ตัวสกฤตเองก็ดื้อรั้นกับพ่อมากขึ้น เขาฝ่าฝืนข้อห้ามเกือบทุกข้ออย่างเปิดเผย และรับการลงโทษด้วยสีหน้าดื้อดึง
ทั้งสองฝ่ายต่างก็หลอกตัวเองว่ากำลังโกรธและไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาต่างก็ได้รับความสุขทางเพศจากกิจกรรมอันแปลกประหลาดนี้ ซิกมันด์ ฟรอยด์เชื่อว่า ความต้องการที่จะเสพสมในสายเลือดนั้นเป็นเรื่องที่อธิบายได้และแพร่หลายที่สุดในหมู่มนุษย์ เพียงแต่เราจะกดมันเอาไว้ด้วยกฎเกณฑ์ทางสังคม และสำนึกทางศีลธรรมที่ถูกปลูกฝังผ่านศาสนา เขาตั้งคำถามว่าถ้าลูกชายไม่มีความต้องการทางเพศกับแม่อยู่บ้าง ทำไมผู้หญิงที่เขาเลือกมาเป็นภรรยาจึงมักจะคล้ายกับแม่เขาไม่มากก็น้อย
ในด้านของนักจริยศาสตร์ทางเพศ กล่าวว่าการเสพสมในสายเลือดนั้นสามารถเรียกได้ว่าถูกต้องตามเกณฑ์ตัดสินทางจริยธรรมได้ในบางกรณี คำถามคือว่ากรณีใดบ้างที่ถูกต้อง ความสัมพันธ์เร้าใจระหว่างบรรณบถและบรรณศร หรือว่ากิจกรรมแปลกประหลาดของสกรรจ์กับสกฤต เราจะค้นหาคำตอบต่อไป ถ้าบันเทิงคดีเรื่องนี้ยังไม่ถูกแบนจากผู้ยึดหลักจริยธรรมเชิงคุณธรรมเสียก่อน ซึ่งประชากรไทยประมาณ 98% ยึดหลักนี้อยู่...แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ
จริยธรรมเชิงคุณธรรม; virtue ethics, เกณฑ์การตัดสินค่าการกระทำที่เชื่อว่า การทำตามหลักคุณธรรมเป็นเรื่องที่ถูกต้อง—เช่น ห้ามโกหก ห้ามลักขโมย ห้ามฆ่าคน ฯลฯ โดยไม่ตั้งคำถามหรือแสวงหาเหตุผลต่อความสมเหตุสมผลของข้อคุณธรรมที่ตั้งขึ้นมาลอย ๆ เหล่านั้น คนมักเข้าใจผิดว่าพุทธศาสนาใช้หลักจริยธรรมเชิงคุณธรรม แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่โดยสิ้นเชิง
ถ้าคุณยังไม่รู้ก็ขอให้รู้ไว้ว่าบันเทิงคดีเรื่องนี้เขียนโดยนักจริยศาสตร์ที่ไม่โปร virtue ethics เท่าใดนัก และถ้าคุณสนใจที่จะถกด้วยเหตุและผลกับผมว่าการเขียนของผมเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่ ก็ยินดี แต่ถ้าจะเข้ามาเพื่อประกาศปาว ๆ ว่าผมทำผิดศีลธรรมอย่างร้ายกาจ เป็นบาปอย่างยิ่ง พระเจ้าจะไม่มีวันให้อภัยผม และผมจะต้องตกนรกหมกไหม้ถึงโลกันตมหานรก ก็ขอเรียนให้ทราบว่ายังมีวัดและโบถส์อีกหลายแห่งที่รอสุนทรพจน์อันสะดีดสะดิ้งของคุณอยู่ แต่ไม่ใช่ที่นี่ เข้าใจไว้ด้วยนะครับ
ไม่โปร; สำนวน. โคตรเกลียด
-
ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับนะครับ
เรื่องนี้จะพยายามเขียนให้จบในทุกประเด็นครับ
ตอนแรกก็คิด ๆ ว่าแรงไปหรือเปล่า แต่เห็นนายจอม น้องชายผมคนที่เขียนเรื่อง โหด-เถื่อน-ดิบ เขาบอกว่าน่าจะพอไหว - -* ผมก็เชื่อเขาแฮะ
-
ต๊าย ชิตตพัณ คนที่ยื่นสองนิ้วเก็บดอกไม้ทุกๆ 5 นาทีนั่นรึคะ อิอิ
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
รออ่าน o13
น่าสนใจดีนะ หุหุ
-
"...ในฐานะของตัวแทนมนุษย์ทั้งหมด..จึงต้องระทมทุกข์อย่างหน้าชื่นตาบานต่อไป..."
เป็นประโยคที่มีความขัดแย้งแต่กลมกลืนมากในตัว ระทมอย่างเบิกบาน
มันคือ สิ่งที่ตัวแทนของมนุษย์กลุ่มหนึ่งออกมายืนรับสภาพว่า
คนพรรค์นี้ยังมีอยู่ในโลก กลุ่มคนที่มีความวิปริต บกพร่องในการหาความสุข
ไม่ว่าจะจากสภาพแวดล้อม หรือเหตุอื่นใด...
ตัวอย่างของ บรรณบถ และ สกฤต เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาตีแผ่
แล้วการกระทำของ สกรรจ์ ละจะเอาอะไรมาเป็นตัววัดว่า เป็นเช่นเดียวกันหรือ
ในเมื่อความใคร่ อันสุขสมระเริงไปบนความเจ็บปวดของบุตร
มันต่างกันอย่างไร นี่ก็วิปริต พอกัน
งานเขียนนี้มีคุณค่าพอจะเปิดเผยต่อสังคมภายนอกหรือ คำตอบ คือ ไม่
ไม่เป็นที่ยอมรับ แม้จะเป็นบันเทิงคดี ตามที่อ้างกล่าวไว้ก็ตาม
ด้วยเหตุผลที่ว่า เรื่องนี้ ดิบ หยาบกระด้างทั้งภาษา และเรื่องราวที่นำมาตีแผ่
เป็นกรณีศึกษาที่น่าอับอาย แต่ในความเป็นเช่นนั้น นั่นละ คือ ความสนุกของมัน
ในเล้านี้เป็นที่ระบายงานเขียนที่ไม่เหมือนใครนี้ได้อย่างลงตัว
มีคนยืนรอต่อแถวอ่านกันอยู่ ฉะนั้นอย่าช้าจงรีบ แต่อย่างเร่งเดี๋ยวไม่สุด...
แล้วจะรออ่านต่อไป งานแบบนี้หายากที่จะอ่านจากที่อื่น เว้นแต่พี่แทน
นิว(LOVEis)
ปล. อย่าไปเอางานเขียนของ คุณจอม มาเทียบเลยครับของเค้านั้นเหอะๆ
ไม่กล้าอ่าน อายุยังไม่ถึงที่จะอ่านได้มั้ง 555+
เคยไปอ่านอยู่พักนึงช่วงแรกๆ ภาษา ดิบ ดุเดือด มาก อ่านแล้วสยิวกิ้ว~ :z2: ~
เลยไม่กล้าตามอ่านต่อ มิติการเล่าแบบนั้นกับเล่าแบบนี้มันนำมาเทียบกันไม่ได้
เขียนไปเรื่อยๆเลยเฮียแทน ไม่มีใครมาแบนด้วยเหตุผล "จริยธรรมเชิงคุณธรรม"
-
ถามว่าแรงมั้ย???
บอกได้เลยครับว่า ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่เมื่อแทบกับเรื่องของพี่จอม
ยังงัยก็เขียนต่อให้จบนะครับเรื่องนี้
-
ครบรสมาก รวมเรื่องจิตๆ ไว้เต็มสตรีม
ว่าแต่จิตกว่านี้มีอีกป่ะ :z1:
-
ไม่ได้แวะเข้ามาอ่านเรื่องของคุณคีซะนาน
พอเข้ามาอ่าน ได้เรื่องเลย ฮ่าๆๆๆ
ยังกะอ่านหนังสือของคุณ อรสม
มุมมองและการใช้ภาษาช่างเป็น สารคดีทางเพศ ซะจริงๆ
ยิ่งทำให้ต้องตั้งใจอ่านกว่าปกติเป็นเท่าตัว
(ปอลอ.........เอารายงานที่จะส่งอาจารย์มาให้อ่านทำม๊าย :a5:)
รออ่านต่อนะ :กอด1:
-
ดุเด็ดเผ็ดมัน อ่านแล้วถูกใจ o13
-
ตามอ่านอยู่จ้า :3123:
-
เขียนเรื่องได้น่าติดตามมากคะ สำหรับเราไม่แรงเกินไปนะคะ
แต่อย่างว่าเราก็ชอบอ่านเรื่องแรงๆอยู่แล้วด้วย ฮ่าๆๆ
รออ่านตอนต่อไปคะ
-
โอ้วว แลดูแรง
แต่ จริง.....
เมื่อไหร่เจ้าชาย แคมฟอกซ์
จะมาเจอกันหนอ
หึๆ
-
ไม่แรงหรอก
ทุกวันนี้มีคนมากมายที่ซ่อนฉากหลังของตัวเองไว้
ฉากหลังที่ต่างจากเบื่องหน้าแบบ เทพ-มาร อิอิ
-
อ่านแล้วรู้สึก อารายบางอย่าง
รู้สึกบางอย่างจิงๆ
:a5:
-
กลับมาก็ระเบิดลงเลย คุณแทน
ยินดีต้อนรับกลับเล้าเป็ดนะครับ :mc4:
+1 และเป็นกำลังใจให้เสมอ ๆ
-
ถึงน้องนิว ชัวร์ป๊าคครับว่าเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ข้างนอกไม่ได้
แต่แค่มีคนอ่านกลุ่มนึงได้รับรู้ความดิบนี้ ผมก็สะใจแล้ว
ต้องบอกว่าประโยคแรกที่ผมเขียน
กรุณาเลิกกระแดะและทำตัวจั๊ดง่าว นี่
จริง ๆ แล้วผมหมายถึงตัวผมเอง
ผมรู้สึกว่างานเขียนผมเริ่มน่าเบื่อและดัดจริตเหลือเกิน
ตอนนี้ก็ยังดัดจริตอยู่
ไว้จะพยายามเปิดเปลือยให้มากกว่านี้ครับ
ถึงป้าขวัญ
สังคมไทยคือสังคมที่ทุกคนอยากเป็นคนดีครับ
ถึงคุณ lolojung
ครับ
ถึงน้อง blackie
รู้สึกเสียวเหรอ
ถึงคุณกิต มุกนี้งงครับ ช่วยอธิบายนิ๊ดดดนึง
ถึงคุณ Salim021
อ่าครับ
ถึงพี่วัน
Sex Bomb ใช่มะครับ 555+ ยินดีรับตำแหน่งนี้
ถึงคุณ kikisshae
อันที่จริงผมว่าเปลี่ยนเป็นหมาป่าก็ดีนะครับ
เข้ากะยุคสมัยและการใช้งานในปัจจุบัน
ถึงคุณ maruo
เป็นไปได้ว่าคนเขียนแรงกว่านิยาย
ถึงคุณ dahlia
หม้อนี้ใส่พริกขี้หนูสวน
ถึงคุณ mist
จิตกาธารไงครับ งามกว่าจิตฯธรรมดา
ถึงพี่ kimi dake!!!
โหย เอาผมไปเปรียบกับนักเขียนรางวัลศิลปาธรเลยหรือครับ
คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพราะว่ากระบวนการทำงานผมยังไม่เทียบเท่า
ผมไม่ได้ลงเก็บข้อมูลด้วยตนเองนะ ถึงแม้ว่าจะเคยเข้าแคมฟรอกบ้างก็เหอะ!!!
ปล. ผมไม่เคย incest, fetish, sex show, swinking etc.
และมีความต้องการทางเพศที่ปกติที่สุด(จริงดิ?)
คือการหลงใหลผู้ชายหน้าตาดี
ถึงคุณ Turn_righT
หัวเสรีนิยมน่าจะรับเรื่องนี้ได้ครับ (เลี้ยวขวา *-*)
ถึงคุณ kungyung
ผมก็ไม่ค่อยได้อ่านเรื่องของจอมเขาน่ะครับ
เขาหวงเรื่องไม่ยอมให้ผมก๊อปไฟล์ปอ่านสักที
ผมเองก็ขี้เกียจตามจากเล้า
แต่ที่แน่ ๆ ได้ข่าวว่า แรง!!!
-
ใช้วิธีการเล่าที่น่าสนใจ+แทรกแนวปรัชญา และใช้ภาษาได้ดีค่ะ
งามแบบดิบๆ(เอ๊ะยังไง 55+) :z2:
จิตๆ ดี +1 สำหรับตอนนี้
-
ว้ายยยยย
กรี๊ดดดด
รับไม่ได้ค้าาาาา
รับไม่ด้ายยยยยย
/ m e เอามือปิดตากด reply รอตอนต่อไป
-
เรื่อง ทาง จิต เพศ (บันเทิงคดี)
ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างเหนียวแน่นครับ อยากเปลี่ยนแนวการเขียนหรือครับ ต้องเปลี่ยน จริตเสียใหม่ แค่ดัดจริตยังใช้ไม่ได้นะ เพราะมันยังอันเดิมอยู่ อิอิอิ :L1: :กอด1:
แล้วผู้สังเกตการณ์ไม่ลงไปแสดงเองบ้างหรือ อิอิอิ o13
ปล. แวะมาทวงอีกและ :bye2:
-
:L2: ชอบจังค่ะ งานเขียน"สุดโต่ง" แฝงอะไรให้ได้คิดก่อนนอน (<<เค้าเรียกคนคิดมากรึเปล่าไม่แน่ใจ)
อ่านงานชิ้นนี้ของคุณ Kirimanjaro แล้วคิดถึงหนังสือแสนลี้ลับเล่มนึง
ปกหลังหนังสือเล่มนั้นเขียนไว้ว่า
"หนังสือเล่มนี้มิใช่หนังสือวิเศษวิโสอะไร เป็นเพียงหนังสือธรรมดาเล่มนึงเท่านั้น แต่ถ้าเรามีจริยธรรมของเราเองว่า
การประกอบกามารมณ์โดยปราศจากความรักเป็นพื้นฐานรองรับ ก็คือการกระทำลามกอนาจารดีๆ นี่เอง เราย่อมเห็นเองว่า ความลามกอนาจารนั้นมีอยู่ทั่วไปในสังคม และแม้ในตัวเราเอง
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ เขียนขึ้นมาเพื่อถากถางชีวิตกามารมณ์ของมนุษย์ผู้เสแสร้งวิจารณ์ชีวิตกามารมณ์ของผู้อื่นว่าต่ำช้า ฯลฯ แต่ถ้านำหลักการของเราไปจับพฤติกรรมของเขาบ้าง เขาก็กลายเป็นต่ำช้าได้เหมือนกัน
ปราชญ์ชาวฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้ว่า 'ลองตั้งสโมสรผู้ซื่อสัตย์ขึ้นมาดู จะมีพวกหัวขโมยไปสมัครสมาชิกกันเป็นแถว'
เช่นเดียวกัน 'ลองตั้งสโมสรผู้ปกติทางเพศขึ้นมาซิ พวกแอบวิปริตทุกรูปแบบจะไปเข้าคิวรอสมัครกันเป็นแถว'
เพื่อที่จะได้ใบรับรองเอาไว้หลอกคนซื่อบื้อหรือหลอกกันเองอย่างไรเล่า..."
ปล. รอติดตามตอนต่อไปค่ะคุณ Kirimanjaro
-
อืม..อ่านแล้วได้คิดมากขึ้นจริงๆนะ
นอกจากแค่ว่ามีเซ็กส์กันเพราะความรักหรือความใคร่
มันมีอะไรลึกๆเบื้องหลังที่บางทีคนเราทำไปก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร
รออ่านต่อค่ะ :L2:
-
:impress2: กรี๊ดดดด นุ้งแทนนนน กว่าจะได้เข้ามาเม้นท์กะปาไปหน้า 3 แล้ววุ้ยย
:mc4: ยังจุดพลุทันมั้ย
-
• ถึงคุณกิต มุกนี้งงครับ ช่วยอธิบายนิ๊ดดดนึง
.....................
๑. ปีนี้งานหนักมากครับ เลยตัดสินใจเลิกเขียน
ตอนแรกกะจะเลิกถาวร แต่อดไม่ไหว มาเขียนเรื่องนี้จนได้
๒. วุ้ย ตอนแรกกะจะเลิกถาวร แต่อดไม่ไหว มาตอบเรื่องนี้จนได้ อิอิ
๔๒๒ + ๑ = ๔๒๓
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนกำลังคุยกับเพื่อนตัวดีของผมคนนึงเลย
ดุเด็ด เผ็ดมัน ได้อีก ในหลายๆด้าน
บางครั้งคนเราก็ต้องการความสะใจแบบสุดโต่งนี่เหมือนกัน
บวกหนึ่งให้แบบสุดโต่งครับ :impress2:
-
ไม่มีใครโทษความรู้สึกของตัวเอง
มิหนำซ้ำยังยกย่องและเชิดชูสิ่งเหล่านั้นอีกต่างหาก
-
มีอะไรให้คิดมากมายก่ายกองอยู่นะ
คิดได้หลายแง่เลย
มันส์ดีฮาๆๆ
-
วันนี้ขอแบบนิ่มนวล...
บทที่ 3
ชิตตพัณนั่งนิ่งตัวตรงในชั่วโมงเรียน เขาไม่คุยเล่น ไม่หาว ไม่แม้แต่จะละสายตาไปจากผู้สอน เขาเพ่งพิศกระดานไวท์บอร์ดราวกับว่ามันจารึกข้อความศักดิ์สิทธิ์ เพื่อน ๆ และอาจารย์ต่างก็ยกย่องเขาในข้อนี้ เขาคือแบบอย่างของเพื่อน ๆ พี่ ๆ และน้อง ๆ ร่วมคณะ
อาจารย์ภานุเรียกชิตตพัณไปพบในช่วงพักเที่ยง เขาในฐานะอาจารย์ประจำวิชาหนึ่งของเด็กหนุ่มชื่นชมนักศึกษาผู้นี้ และในฐานะฝ่าย PR ของมหาวิทยาลัยเขาก็คิดได้ว่าชิตตพัณนั้นช่างเหมาะสมที่จะเป็นพรีเซ็นเตอร์การแต่งกายถูกระเบียบของมหาวิทยาลัยเหลือเกิน สายตาอันคมของอาจารย์หนุ่มมองเข้าไปเห็นว่าเด็กคนนี้หน้าตาดีทีเดียว เพียงแต่จะใส่ชุดให้พอดีตัวและเปลี่ยนแว่นกับทรงผมเสียหน่อย
“ว่าไงชิตตพัณ อยากเป็นดารามั้ย”
เมื่อได้ฟังคำถามถนัด เด็กหนุ่มย่นจมูกอย่างรังเกียจ เขาตอบอย่างรักษามารยาท
“เป็นสิ่งที่ผมอยากเป็นน้อยที่สุดในโลกครับ ผมไม่เห็นว่าการที่ไปแสดงตัวเด่นและกลายเป็นวัตถุทางเพศของคนในสังคมจะเป็นเรื่องที่ดีเลยแม้แต่น้อย”
อาจารย์ภานุหัวเราะพรืดทางจมูก เขาจะคาดหวังคำตอบอะไรจากเด็กเรียบร้อยเจ้าระเบียบอย่างชิตตพัณเล่า
“ไม่ใช่ดาราแบบนั้น แต่เคยเห็นป้ายโฆษณาให้แต่งกายถูกระเบียบของมหาวิทยาลัยไหมล่ะ”
“เคยครับ”
“นั่นแหละ ที่ผมอยากให้คุณลองทำดู ผมว่าคุณหน่วยก้านใช้ได้”
“แต่ผม..”
“อย่าเพิ่งปฏิเสธสิ คุณน่ะเป็นไอดอลอยู่แล้วนะ ในคณะของเราทั้งหมด คุณเป็นนักศึกษาที่รักษาระเบียบการแต่งกายไว้ได้ดีที่สุด มารยาทก็ถูกต้องตามกาละเทศะ มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและมีคุณสมบัติอื่น ๆ อย่างที่มหาวิทยาลัยต้องการ ทุกคนก็รู้เรื่องนี้ดีกันทั้งนั้นและเชื่อว่านายแบบโปสเตอร์นี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคุณ”
พอถูกชมแบบนี้ ชิตตพัณก็อมยิ้ม เขาชอบให้ใคร ๆ รู้สึกว่าเขาเจ้าระเบียบ และเป็นคนเรียบร้อย ไม่หยาบช้าดอกทองเหมือนคนอื่น ๆ
“แต่ผมว่าธีรเดชอาจจะเหมาะกว่าผมนะครับ” ชิตตพัณยังคงแบ่งรับแบ่งสู้
“ทำไมล่ะ”
“เขาเล่นกีฬาเก่ง แล้วก็มีความเป็นผู้นำสูง”
“นั่นก็จริง” อาจารย์ภานุยอมรับ แล้วพูดต่ออย่างรวดเร็วราวกับเพิ่งนึกขึ้นได้ “บิงโก ผมได้ไอเดียล่ะ ผมอยากได้คุณทั้งสองคนมาร่วมงานทั้งคู่เลย ผมจะให้ธีรเดชใส่ชุดพละของมหาวิทยาลัย ส่วนคุณใส่ชุดนักศึกษา”
“แล้วผู้หญิงล่ะครับ” ชิตตพัณถามอย่างกังขา
อาจารย์ภานุยิ้มกว้างอย่างนึกสนุก “ไม่เห็นเป็นไรเลย คราวนี้ลองทำอะไรให้มันแปลกไปบ้างสิ คนเขาจะได้ตื่นเต้น” ความจริงแล้วอาจารย์ภานุเองนั่นแหละที่ตื่นเต้น เขาชอบจินตนาการลามกให้หนุ่มหน้าตาดีสองคนมีสัมพันธ์ทางเพศกัน และเวลาที่เขาสอนเขาสังเกตเห็นว่าธีรเดชและชิตตพัณช่างเหมาะสมกันอย่างยิ่ง คนหนึ่งเป็นนักกีฬาเปิดเผยและมนุษยสัมพันธ์ดี ส่วนอีกคนเก็บตัวไม่ชอบออกกำลังและเงียบขรึม แต่น่าแปลกที่สองคนนี้มักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน ดังนั้นการที่อาจารย์หนุ่มจะคิดเลยเถิดไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ชิตตพัณรับปากอาจารย์ว่าจะเอากลับไปคิดดู เขากลับไปที่ห้องเรียนคาบบ่ายและพบว่าธีรเดชนั่งกลุ้มอยู่ที่ระเบียงหน้าห้อง เขาไม่ค่อยเห็นธีรเดชเป็นแบบนี้ เพราะเจ้าตัวดูจะร่าเริงแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา ฝ่ายธีรเดชเองเมื่อได้ยินเสียงคนเดินมาก็คลายสีหน้าทันทีและส่งยิ้มให้
“เฮ้ย ชิตเป็นไงวะ อาจารย์ภานุแกเรียกไปคุยเรื่องอะไร”
“ไม่มีอะไร” ชิตตพัณตอบสั้น ๆ และนั่งลงตรงที่นั่งริมระเบียงข้าง ๆ ธีรเดช
หนุ่มนักกีฬาแมนเต็มร้อยยังคงเกาะระเบียงมองออกไปข้างนอก
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ชิตตพัณถาม
“เออ รู้ได้ไงวะ”
ชิตตพัณไม่จำเป็นต้องตอบ เพราะธีรเดชเป็นคนที่เก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่อยู่แล้ว อย่างที่ว่า หนุ่มเข้มคนนี้เป็นคนที่เปิดเผยและไม่มีความลับกับเพื่อน คิดยังไงก็พูดออกมาตรง ๆ จึงมีคนชอบเขาเยอะน่าดู
“แข่งบอลเย็นนี้น่ะสิ ไอ้ต๊ะก็ไม่สบาย ไอ้ปูนก็กลับบ้านก่อน รอบแปดทีมสุดท้ายแล้วแม่งไม่รับผิดชอบกันเลย”
ถึงแม้ว่าชิตตพัณจะแอนตี้การพูดจาหยาบคาย แต่ฟังธีรเดชหลุดปากมาบ้างเขาก็รู้สึกว่ามันดูเท่ดีเหมือนกัน
“ขาดกี่คนล่ะ” หนุ่มขรึมถามไปอย่างนั้นเอง
“ถ้าเอาตัวสำรองลงด้วยก็ยังขาดอยู่คนหนึ่ง” ธีรเดชนึกขึ้นได้ มองหน้าชิตตพัณด้วยสายตาวาว “ชิตเล่นบอลเป็นมั้ยวะ”
“คือ..เอ่อ..ไม่เป็น”
“ไม่เป็นก็หัดได้ ลงให้ครบ ๆ ก่อน ผู้ชายภาคเรามีน้อย” ธีรเดชจับท้องของชิตตพัณเล่นตามประสาผู้ชายด้วยกัน “เฮ้ย ท้องแข็งเป็นไตเลย อย่างงี้วิ่งได้ทั้งเกมแน่ ๆ ไปแอบเล่นกีฬาอะไรมาวะชิต”
ชิตตพัณปัดป้องมือของธีรเดชที่เลื่อนจากจับหน้าท้องมาบีบต้นแขนตรงกล้ามสวย ๆ ของเขา “เปล่า”
ธีรเดชหลิ่วตาให้ “ความลับเยอะจังวะเพื่อน ไม่เป็นไร ไม่ถามก็ได้ สรุปเย็นนี้ลงให้ด้วยล่ะกัน”
ชิตตพัณส่ายหน้าเมื่อธีรเดชเดินจากไปอย่างเริงร่าราวกับว่าเพิ่งปลดทุกข์ออกไปได้หมาด ๆ เพื่อนของเขาก็เป็นเสียอย่างนี้ แมนเต็มร้อย เป็นผู้นำเต็มขั้น และเผด็จการเล็ก ๆ อย่างที่ทำให้รู้สึกว่าโคตรเท่เลย
ตกเย็นธีรเดชก็เอาชุดนักบอลมาให้
“นี่ของไอ้ปูนมัน มันใส่ไซส์เอ็ม นายน่าจะใส่ได้นะชิต”
ชิตตพัณรับชุดบอลมา และถาม
“บอกใครไปหรือยังว่าผมจะลง”
“ยัง เก็บไว้เซอร์ไพรซ์ว่ะ”
“งั้นไม่ต้องบอก” ชิตตพัณสรุป เขาถอดแว่นตาออก ขยี้ผมให้ยุ่งกว่าเดิม และถอดเสื้อนักศึกษาออกอย่างรวดเร็ว
ธีรเดชจ้องมองการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเพื่อนรักอย่างตกตะลึง โดยเฉพาะการปรากฏครั้งแรกของกล้ามสวย ๆ และหน้าท้องซิกแพคงาม ๆ แบบที่เขายังอาย
“ขอที่รัดหัวนั่นได้มั้ย” ชิตตพัณชี้ไปที่คาดหัวสีดำผ้ายืดของธีรเดช มันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเขานอกจากจะใส่มันเป็นประจำแล้ว สิ่งนี้ยังหมายถึงสถานะหัวหน้าทีมของธีรเดชที่ไม่มีใครโค่นล้มได้ แต่ธีรเดชกลับถอดให้ชิตตพัณง่าย ๆ
ชิตตพัณรัดหัวและจัดทรงผมให้ดูเท่ขึ้น จากนั้นถอดกางเกงนักศึกษาออก แล้วใส่กางเกงบอลแทนโดยไม่อายสายตาของอีกฝ่ายเลย ตอนนี้เขาดูเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ชนิดที่ธีรเดชคิดว่าถ้าไม่ได้เห็นกับตาคงไม่เชื่อว่าเป็นคนคนเดียวกัน
หนุ่มขรึมยิ้มร้าย ยิ้มอย่างที่ไม่เคยมีในชิตตพัณแบบที่เพื่อน ๆ รู้จัก ยิ้มราวกับว่าถูกอะไรสักอย่างสิงสู่ และทำให้เขาเปลี่ยนไปลึกถึงรากวิญญาณ เขาดึงคอเสื้อบอลของกัปตันทีมมาใกล้ ๆ แล้วพูดด้วยเสียงกวน ๆ
“ถ้าบอกใครล่ะ มีเฮแน่”
เขาพูดจบก็ผลักอกธีรเดชให้ถอย แล้วเดินอาด ๆ ออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนนี้ชิตตพัณรู้สึกว่าเขาเป็นคนของโลก เป็นหนึ่งเดียวกับเสียงเชียร์ เขาจะเป็นจุดศูนย์รวมรองรับความร่านดอกทองของทุกคน เป็นพระผู้ไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์ เสียงเชียร์กระหึ่มและเสียงกรี๊ดของผู้หญิงและไม่หญิงทำให้เขารู้ว่าเขามาถูกทาง เขาจะนำศรัทธาอันโสมมของพวกบาปหนาพวกนี้ไปพบเส้นทางแห่งความรู้แจ้ง ชิตตพัณกำมือขวาและยกขึ้น ธีรเดชและลูกทีมคนอื่น ๆ เดินตามมา และตอนนี้ ใครกันแน่ที่เป็นผู้นำที่แท้จริง?
หลังจากจบนัดนั้น เสียงลือแพร่สะพัดถึงนักบอลลึกลับที่ธีรเดชเอามาลงด้วย มีคนเอารูปที่ถ่ายตอนชิตตพัณเล่นบอลมาติดที่บอร์ดคณะ พร้อมกับแจ้งประกาศจับในข้อหาขโมยหัวใจสาว ๆ แต่วันรุ่งขึ้นที่ชิตตพัณตัวจริงเดินผ่าน เขามีสีหน้าเหยียดหยามและเดินตรงไปที่ห้องกิจการนิสิตทันที
ในห้องมีอาจารย์ภานุอยู่คนเดียว เขาตรงเข้าไปยกมือสวัสดีอาจารย์อย่างเรียบร้อยไม่มีที่ติและพูดธุระทันที
“อาจารย์ครับ ผมเห็นการใช้บอร์ดของคณะผิดวัตถุประสงค์ครับ”
ชิตตพัณลากอาจารย์ภานุออกไปดูและชี้ให้เห็น “นี่ครับ ไม่รู้ว่าใครใช้บอร์ดของคณะเราไปในเรื่องชู้สาวและส่อความไม่ดีไม่งามทางเพศ ในฐานะที่ผมเป็นนักศึกษาคนหนึ่งในคณะ ผมทนไม่ได้ และอยากให้อาจารย์จัดการอะไรสักอย่าง”
“ให้ผมทำยังไงล่ะ” อาจารย์ภานุเกาหัวงง ๆ เขาไม่อยากปิดกั้นการแสดงออกทางเพศของเด็กหนุ่มสาว และมันไม่ได้ดูร้ายแรงเกินไปด้วย แต่อีกข้างหนึ่งเขาก็อยากเอาใจชิตตพัณ ซึ่งนอกจากจะเป็นว่าที่นายแบบในงานที่เขารับผิดชอบอยู่แล้ว ก็ยังเป็นเด็กที่เขาเอ็นดูเป็นพิเศษอีกด้วย
“อาจารย์ฉีกมันออกมาเลยสิครับ แล้วก็เอาไปเผา”
อาจารย์ภานุถูกกดดัน เขาเขม้นมองเข้าไปในรูปภาพโดยไม่ได้ตั้งใจ และความคิดของเขาก็แล่น
“ก็ได้ ๆ” เขาดึงรูปออกไปจากหมุดที่ปักไว้ และดึงป้ายประกาศออกไปด้วย จากนั้นห่อเก็บใส่กระเป๋าเสื้ออย่างดี ชิตตพัณดูจะไม่พอใจ
“ทำไมอาจารย์ไม่ทำลายทิ้งล่ะครับ”
“ผมต้องเก็บไว้เป็นหลักฐานหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป เพราะมาทำอย่างนี้กับบอร์ดคณะผมก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน”
เมื่อฟังที่อาจารย์ภานุพูด ชิตตพัณก็ยิ้มกว้างอย่างอิ่มเอิบใจที่มีผู้เห็นตรงกัน เขาคิดว่าควรจะมีอาจารย์อย่างอาจารย์ภานุเยอะ ๆ ในมหาวิทยาลัย ความโสโครกโสมมในนี้จะได้ลดลงเสียบ้าง
ขณะที่อาจารย์ภานุก็รู้สึกขอบใจชิตตพัณ เพราะว่าหนุ่มนักบอลในรูปหล่อมาก ตรงสเป๊คเขาที่สุด เขาจะเอารูปนี้ไปแปะอย่างดีไว้ในห้องนอน และชักว่าวตรงหน้ารูปทุกวัน เขาจะฉีดน้ำใส่รูปให้มันแปดเปื้อน และหวังว่าสักวันหนึ่งจะจัดการให้เจ้าของรูปได้แปดเปื้อนความชั่วร้ายของเขาอย่างแท้จริง
ธีรเดชเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชิตตพัณถึงต้องปิดบังตัวเอง แต่เขาเข้าใจไปว่าชิตตพัณกำลังพยายามทำลายหลักฐานที่อาจจะทำให้คนสงสัยได้ว่าทั้งสองหน้าฉากเป็นคนเดียวกัน อย่างไรก็ตามธีรเดชมีเรื่องปวดหัวมากขึ้น เพราะไม่ว่าไปทางไหนก็มีแต่คนถามถึงหนุ่มหน้าตาดีที่เขาเอามาลงเตะด้วยในครั้งก่อน หลายครั้งที่เขาถูกถามและชิตตพัณยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยเกียรติและความเป็นชายชาตรีของเขาซึ่งรับปากไว้แล้ว ธีรเดชจึงพูดอะไรออกไปไม่ได้ถึงแม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดใจแค่ไหน
-
ถึงคุณ Ak@tsuKII
งามแบบเจ้สองหรือเปล่าครับ แอร๊ยย (ร้องเพราะเจอเจ้บีบคอ)
ถึงพี่เอก
และความจริงก็ปรากฏว่าพี่เป็นรุก
ถึงน้องกิมตี๋
เล่นคำได้ดีครับ
จิตเภท-จิต เพศ
ถึงคุณ JChloe
ชอบหนังสือเล่มนี้จัง
ชื่ออะไรครับ
เรื่องสโมสรน่ะ ตั้งที่ไทยจะได้ผลที่สุด
อย่างที่ผมเคยตอบเม้นท์ไปว่า
"สังคมไทยคือสังคมที่ทุกคนอยากเป็นคนดี"
ถึงพี่ M@nfaNG
ยินดีครับที่พี่ลองหาแง่คิดดู
ถึงแม้ว่าจริง ๆ มันจะดิบ หื่น อย่างเดียวก็ตาม 555+
ถึงพี่ jokirito
ไม่ช้าไปหรอกครับ ผมเพิ่งลงได้สามสี่วัน
ถึงคุณ kit
มุกนี้เก็ทนานแล้วครับ
ผมหมายถึงอีกมุกหนึ่ง
ถึงคุณ mantdash
เพื่อนคนไหน
ขอผมคุยด้วยสิ
ถึงคุณ Dee^daY
แต่บางคนอาจจะชอบโทษและถูกลงโทษ
ถึงน้อง crazykung
ฮา...นั่นเป็นเพราะการตีความ จริง ๆ แล้วคนเขียนอาจจะไม่มีอะไรอยู่ในหัวนอกจากความหื่น
-
:man1: น้องแทนด้วยความคิดถึง ยังคงความสวยและน่าค้นหาเช่นเคย :m3:
-
ชิตตพัณนี่มีบุคคลลึกลับ น่าค้นหา น่าติดตามจริงๆๆ
ชอบครับ ออกแนวลึกลับหน่อยๆๆอ่ะ
-
มีกลิ่น คาวๆ จาก โหด ดิบ เถื่อน อยู่หน่อยๆนะนี่ ชอบๆ :กอด1: :oo1: :L1:
แต่ลงตัวที่สุด เข้าล็อคกันแป๋ะ
วัตถุ จิตใจ
เปิดเผย ซ่อนเร้น
ผู้กระทำ ผู้ถูกกระทำ
อิอิอิ เหมือนกันแต่คนละขั้ว ลงตัวจริงๆ :oo1: :laugh:
-
หุหุ ขอบคุณสำหรับตอนที่"นิ่มนวล"ค่ะคุณ Kirimanjaro
ตอนนี้ตัวละครค่อยๆ ทยอยปรากฏกันออกมา
จะรอติดตามตอนต่อไปนะคะ :L2:
ปล. "ชีวิตรักคอลบอย" คือชื่อหนังสือเล่มนั้นค่ะ (วรรณกรรมแปล)
-
สนุกดี
ว่าแต่เรื่องนี้จะถึงตอนจบป่ะคุณน้องชาย
:L2:
-
มาแบบนิ่มนวล แต่ตัวละครอย่าง ชิตตพัณ ดูออกจะ hardcore :o9:
-
o13
:impress2:
เหอๆ ทำไมหนูชิต กล้าเปิดเผยอีกด้านให้พี่เคนธีรเดชรู้กันล่ะเนี่ย
-
นี่ซอฟต์แล้วใช่ไหมเนี่ย ถ้าไม่ซอฟต์ล่ะก็ :m25:
-
:z2: :z2: :z2:
เก็บกด จัดจ้าน หยาบคาย แต่สนุก
ตัวละครมีมาเพิ่มเรื่อยๆเลยนะ สงสัยสักวันมันต้องมี เรียงคิวจัดหมู่กันแน่ๆเรื่องนี้
จะรอคอยวันนั้น :haun4: ขอร้องเถอะเรื่องนี้มีแต่รุกหรือไงไม่มีรับโผล่เลย
ไม่กล้านึกภาพรุกโดน ไปไม่เป็นเลยทีเดียว 555+
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(LOVEis)
-
เพื่อนมันอยู่อักษรอะครับ
แบบมันชอบพูดจาโผ่งผางแล้วก็คิดในแบบที่คนอื่นไม่คิดกัน
เป็นเหมือนมุมมองของมันอะครับ ทะเลาะกับมันเรื่องบ้าๆตั้งหลายครั้ง
เหมือนเวลาอ่านนิยายเรื่องนีั้บางประโยคขัดใจแบบว่า จริงหรอวะ เราไม่ได้เป็นแบบนั้น
แต่พอคิดตามแล้วมันก็จริงอะไรอย่างงี้
งงไหมครับ 5555
บวกหนึ่งให้ครับ :o8:
:laugh: อ้ะเพิ่งบวกไปเมื่อคืนงั้นไว้พรุ่งนี้แล้วกันนะครับ
-
+1 ให้คนแต่งนะคะ แค่ชื่อเรื่องก็น่าอ่านแล้ว แต่ยิ่งเข้าไปอ่านเนื้อเรื่อง
ตัวละครแต่ละตัวล้วนแวดล้อมด้วยคนที่มีเรื่องทางเพศแบบแปลก ๆ ต่างกัน
ตั้งแต่ พ่อ+ลูก พี่+น้อง อาจารย์+ลูกศิษย์ เลยมองว่าเรื่องแบบนี้ระหว่าง
เพื่อน+เพื่อน เป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าถามว่าเรื่องแบบนี้มีจริงในโลกและสังคม
หรือไม่ คนอ่านก็ต้องยอมรับละค่ะว่ามีแต่ไม่มีใครกล้าเปิดเผยหากยังต้องการ
อยู่ในสังคมแบบสงบ ....จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ :pig4:.......
-
ขึ้นหน้าสี่ก็ขอลงตอนที่สี่...
บทที่ 4
บรรณศรออนแคมฟรอกอีกครั้ง เขาติดใจในตัวชิตตพัณอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศของความขันแข่งแต่ในขณะเดียวกันก็ผลัดกันเย้ายวนทางเพศเหมือนนกยูงตัวผู้สองตัวแพนหางใส่กัน เขาลืมมันไม่ได้ ความร้อนเร่าเผาไหม้อยู่ในอก และในส่วนที่แข็งชูชันตั้งแต่ยังไม่ได้แตะต้อง
ให้รากเลือดเถอะ แคมบอยสุดฮอตที่เขาถวิลหายังไม่ออนในวันนี้ แต่มีคนที่จำเขาได้ im เข้ามาพอดี
“ไง วันนี้นายจะโชว์อีกป่าว”
บรรณศรกากบาทปิดไปอย่างไม่สนใจ เขาเหลียวไปมองข้างหลังให้แน่ใจว่าประตูยังล็อคไว้ และไม่มีวี่แววของบรรณบถ ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่อยากให้ชิตตพัณเห็นว่าเขาอยู่กับผู้ชายอีกคน แต่ก็ดีที่คืนนี้บรรณบถไปค้างบ้านเพื่อนเพื่อทำรายงานพอดี
เด็กหนุ่มงุ่นง่านมองหาชื่อที่ชิตตพัณใช้ในโปรแกรมอยู่ตลอดเวลา แต่คนเดิมที่ทักเขาเมื่อครู่ก็ทักมาอีกรอบ
“ไม่ตอบเลย หยิ่งจัง”
บรรณศรขมวดคิ้ว
“เป็นเฮี่ยไรของมึง” เขาพิมพ์กลับไป
“หยาบคาย นึกว่าหล่อแล้วจะพูดอะไรก็ได้หรือไง”
บรรณศรไล่หาชื่อหมอนี่แล้วกดส่องดูกล้อง เป็นกะเทยสาวทาปากแดงผัดหน้าวอกสองนาง หนึ่งในนั้นทำท่าร้องวี้ดว้ายและชี้ให้เพื่อนอีกคนดูหน้าจอ
“ไปหากล้วยแดกเหอะมึง”
เขาพิมพ์ใส่แล้วกดกากบาท แต่ im จากพวกหล่อนก็เด้งกลับมาอีกครั้ง
“อยากกินกล้วยใหญ่ ๆ ใบงาม ๆ ของนาย ได้ป่ะล่ะ”
“ส้นตีนไปกินก่อนมั้ย” เขาพิมพ์ตอบแล้วกดบล็อกชื่อนังลิงจ๋อสองตัวนี่
ตอนนั้นเองที่เขารู้สึกว่าบรรยากาศในห้องเปลี่ยนไป ผู้คนเริ่มดูตื่นเต้น เขาพบว่าเป็นเพราะชิตตพัณเพิ่งลอกอินเข้ามาในห้องสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อครู่นี้เอง บรรณศรรู้ตัวว่าถูกส่องกล้องสอดแนมอยู่จากสายตาของคนหลายสิบ แต่พวกนั้นก็ไม่ได้เซ้าซี้ให้เขาโชว์ คงเพราะรู้ว่าในบัดเดี๋ยวจะได้ชมการขับเคี่ยวมันส์หยดของมวยคู่เอกเวทีนี้อีกครั้ง
“ไง” เขาพิมพ์ทักไปก่อน
เงียบไม่มีเสียงตอบกลับ เขาเลียนแบบประโยคของกะเทยน้อยหอยสังข์เมื่อครู่
“ไม่ตอบเลย หยิ่งจัง”
“เป็นเฮี่ยไรของมึง” ชิตตพัณตอบกลับมา บรรณศรอมยิ้ม ถึงจะถูกด่าแต่เขาก็รู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะได้ยั่วเพื่อแลกกับข้อความสองสามประโยค
“เป็นเฮี่ยที่หน้าตาดี เซ็กซี่กว่ามึงก็แล้วกันวะ”
“ตีนดิ หน้าเหียก ๆ อย่างมึงเนี่ยนะ” ชิตตพัณเริ่มตกหลุมพรางหลวมตัวทะเลาะด้วย
“ชักว่าวแข่งกันมั้ยล่ะ แล้วนับ view เอา ใครแพ้โดนตุ๋ย”
“อย่าท้า น้ำหน้าอย่างมึงสู้กูไม่ได้หรอก” จริง ๆ แล้วชิตตพัณก็หวั่นไหวไม่น้อย ยังดีที่บรรณศรท้าผ่าน im ถ้าหมอนั่นท้าเขาผ่านห้องสนทนาใหญ่ มันต้องกลายเป็นเรื่องครึกโครม และเป็นสิ่งที่ยอมจำนนไม่ได้โดยเด็ดขาด ชิตตพัณแน่ใจว่าตนเองมีดีกว่าอีกฝ่ายก็ตรงที่ประสบการณ์และลีลา เขารู้ว่าจะต้องแสดงออกต่อหน้าผู้คนจำนวนมากอย่างไร เขารู้วิธีที่จะนำคน แต่สิ่งที่เขากลัวคือความใหม่ ความบ้าบิ่น มันเกือบจะคล้ายสถานการณ์ที่แมคเคนต้องผวาต่อคำว่า Change ของโอบาม่าเลยทีเดียว
บรรณศรไม่พูดเปล่า เขาเอามือลูบเป้ากางเกงให้เห็นรูปว่ามันตั้งตระหง่านอยู่แล้ว ผู้ชมในห้องฮือฮา เดากันว่าบางคนหลั่งไปตั้งแต่เห็นบรรณศรเอามือแตะเป้ากางเกงตัวเอง ความเซ็กซี่ของเขาเป็นแบบดินระเบิด หยาบ ดิบ ร้อนแรง ไม่แต้มแต่ง มีแต่สัญชาติญาณเถื่อนที่พร้อมจะฉีกกระจายทุกอารมณ์ที่เข้าใกล้
ชิตตพัณเบ้หน้าอย่างดูถูก คราวนี้เขาเตรียมตัวมาดีว่าจะกระตุ้นอารมณ์ของผู้คนอย่างไร ชุดที่เขาใส่...ไม่ล่อแหลมเลยแม้แต่น้อย เสื้อยืดตัวหลวมโคร่งกับกางเกงที่ดูไม่เป็นทรง ผมก็ยุ่ง ๆ กระเซิง ไม่ค่อยมีใครได้เห็นชิตตพัณในรูปแบบนี้ในห้องแคมฟรอก และนั่นทำให้คนเหล่านั้นทึ่ง พวกเขาสนใจว่าชิตตพัณจะมาไม้ไหน
“ว่าวดิ”
บรรณศรท้าทาย
ชิตตพัณตอบสนองด้วยสีหน้าอาย ๆ เขาก้มหน้าลงต่ำ แก้มแดงเรื่อ และล้วงมือเข้าไปในขอบกางเกง ทุกคนคาดหวังว่าหนุ่มหล่อบาดใจจะดึงสัดส่วนที่ใหญ่สมชายออกมาแสดงให้ดูเหมือนทุกครั้ง แต่ชิตตพัณไม่ได้ทำเช่นนั้น เขากำกระหวัดรอบท่อนลำภายในกางเกง และรูดขึ้นรูดลงทั้งอย่างนั้น
ภาพที่ปรากฏในจอคือเด็กหนุ่มซึ่งกำลังล้วงมือไปคลำยุกยิก เหมือนยังไม่ประสาต่อโลกแห่งความหนังหนาไร้ยางอายผ่านจอ LCD ความบริสุทธิ์แบบกึ่ง ๆ ระหว่างเด็กน้อยและคนที่กำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่ปรากฏฉายชัดจนกระตุ้นให้หลาย ๆ คนเกิดความต้องการทางเพศอย่างรุนแรง
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าชิตตพัณคือแคมบอยผู้ลือชื่อในเรื่องความกล้าและลีลา แต่การแสดงของเขาได้ลบภาพเดิมออกไปจากใจของหลาย ๆ คนไปเสียสิ้น ภาพที่เห็นอยู่คือผ้าขาวซึ่งเริ่มมีหยดสีหยาดลงไปทีละน้อยทีละน้อย ชิตตพัณขยับมืออยู่ครู่หนึ่ง เขาก็บิดหน้าเหยเกและกระตุกวูบ ๆ ตรงเป้ากางเกงที่มีปลายเนื้อดุนชี้ขึ้นมาเปื้อนเป็นรอยน้ำซึ่งซึมขยายตัวทีละน้อย ชิตตพัณลนลานหากระดาษทิชชู่มาเช็ดมือของเขา และผลักกล้องให้หันไปทางอื่นทันที
บรรณศรต้องยอมรับว่าเขาพ่ายแพ้ย่อยยับเพราะมัวแต่จ้องมองความใสซื่อจนตาค้าง และปล่อยให้ร่างกายของเขาสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองในทันทีที่เห็นชิตตพัณสำเร็จ เขาถูกนำอีกแล้ว เหมือนกับควายเชื่อง ๆ ที่ถูกลากไปยังโรงฆ่าสัตว์ ชิตตพัณเป็นนักแสดงที่เก่ง หรืออีกนัยหนึ่ง เขาอาจจะเชื่อจริง ๆ ว่าเขาเป็นคนคนนั้น มิเช่นนั้นแล้วทุก ๆ คนคงไม่ถูกเขาโน้มนำไปจนหมดใจเช่นนี้
ชิตตพัณลอกออฟออกจากแคมฟรอกทันที เขาคงรู้ว่าได้ชัยชนะแล้ว หรือว่ามันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของบท บรรณศรไม่รู้ว่าควรจะคิดแบบไหน แต่ภาพเมื่อครู่ยังติดตา การขยับเคลื่อนไหวผ่านเนื้อผ้า มองไม่เห็นชัด แต่เป็นรูปร่าง ให้ต่อเสริมเติมจินตนาการเข้าไป เขาสามารถคิดว่าส่วนนั้นของชิตตพัณเป็นแบบใดก็ได้ ชั่วขณะหนึ่ง เขาจินตนาการอวัยวะเพศของชิตตพัณเป็นหนวดปลาหมึกที่มีปากดูดเหมือนโยนีจำนวนมากอยู่รอบแท่ง มันใหญ่มหึมาและยอมให้บรรณศรกระแทกความเป็นชายเข้าไปในรูโยนีรูใดก็ได้ บรรณศรหลับตาพริ้มในจินตนาการที่วิปริต ทุกคนมองกล้ามเนื้อทุกมัดที่เขาบิดเกร็ง ร่างของเด็กหนุ่มหุ่นเซ็กแอ่นเอวขึ้นจนปลายท่อนเกือบทิ่มเข้าไปในกล้อง แล้วพ่นน้ำราดรดเลนส์จนกลายเป็นสีขาวขุ่นไปทั้งหมด
อากัปกิริยาที่เหมือนกับถูกปลาหมึกรัดไว้จนเสร็จสม เป็นที่ประทับใจของทุกคนในห้องแคมฟรอกมาก ยังไม่รวมกับการที่เขาสำเร็จความใคร่สองครั้งติดกันด้วยปริมาณซีเมนเนืองนองทั้งสองครั้ง มันทำให้ชิตตพัณซึ่งรีบร้อนจากไปก่อน ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาได้พ่ายแพ้ให้แก่ความบ้าบริสุทธิ์ของบรรณศร
บรรณศรเช็ดกล้อง มีคนส่ง im มาชื่นชมเขาหลายคน เขาคลิกดูทุกอันพร้อมกับยิ้มกริ่ม เขาก็ชอบเป็นผู้แสดงแถวหน้าพอ ๆกับชิตตพัณและแอบอมยิ้มเสมอเมื่อบทบาทของเขาเป็นที่กล่าวขวัญถึง เขายังคงจับความเป็นชายซึ่งยังแข็งตัวกระดกขึ้นลงอย่างพึงพอใจต่อหน้ากล้อง มีหลายคนถึงกับเสนอตัวในห้องสนทนาว่าจะไปเป็นเครื่องบำบัดความเงี่ยนให้ แต่คนเพียงคนเดียวในที่นี้ที่บรรณศรสนใจ ก็คือเจ้าชายแห่งแคมฟรอกซึ่งเพิ่งจากไปเท่านั้น เขาสงสัยว่าต้องยั่วอีกเท่าไหร่ ชิตตพัณจึงจะมายอมหมอบแทบเท้าและครางหงิง ๆ ขอให้เขาเอาความอุ่นร้อนยัดเยียดเข้าไปในก้นสวย ๆ แน่น ๆ นั่น
จะไม่มีบทวิเคราะห์ห่าเหวทางจิตถึงความคิดของทั้งสองคนนี้ ในเมื่อคุณก็ควรจะเห็นอยู่ชัด ๆ ว่ามันเหมือนกับสัตว์ตัวผู้สองตัวที่พยายามแย่งชิงอาณาเขตของกันและกัน มันเป็นแค่เรื่องของการพิชิตและการถูกพิชิต อาณาจักรแห่งการสู้รบที่ผู้ชายวาดไว้จะเป็นเวรตะไลอะไรก็ช่างแม่งเถอะ ที่สำคัญคือผมเป็นเฟมินิสต์
เฟมินิสต์; feminist, พวกสตรีนิยมแต่ไม่นิยมสตรี
-
ถึงพี่ mma419109
ผมสวยเหมือนเดิม?
จะถือว่าเป็นคำชมล่ะกันนะคะ
ถึงคุณ lolojung
มันบ้า
ถึงคุณ kungyung
คำตอบเดียวกับข้างบน
ถึงน้องกิมตี๋หัดขับ
ผมเขียนกี่เรื่องก็คาวทุกเรื่องแหละอย่าคิดมาก
ถึงคุณ JChloe
ที่ว่านิ่มนวลเพราะไม่ค่อยจิกกัดคนอ่านครับ
ถึงพี่จิ
อาจจะไม่ถึงครับพี่
ถึงพี่ dahlia
ร็อคกันแบบนิ่ม ๆ ไงครับ
ถึงคุณ jokirito
เพราะพี่เคนหล่อ
ถึงคุณ mist
ชิตตพัณบอกว่ายังปั่นไม่แข็งเต็มที่เลย
ถึงน้อง [N]€ẃÿ{k}uñĢ
มีนิยามใหม่ ๆ ที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้มาอีกแล้ว หุหุ
และ...ความหลากหลายทางเพศอาจจะมีมากกว่ารุก รับ และโบทก็ได้นะครับ
ถึงคุณ mantdash
ผมนึกถึงน้องชายคนหนึ่ง อยู่อักษรเหมือนกัน
มีมุมมองที่แปลกดี แต่ผมไม่ค่อยทะเลาะกับเขานะ
นับถือความคิดซะมากกว่า
ถึงคุณ DEMON3132
แปลกดี ผมก็ไม่ได้ตั้งใจให้ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่พาราเรลกันขนาดนั้น
แต่ก็ดีครับ ที่บันเทิงคดีเรื่องนี้สามารถถูกมองได้หลายมุม
อย่างเช่นน้องคนหนึ่งที่ผมรู้จักบอกว่าเรื่องนี้เหมาะไว้อ่านตอนอยากชักว่าว
-
• ถึงคุณ kit
มุกนี้เก็ทนานแล้วครับ
ผมหมายถึงอีกมุกหนึ่ง
วุ้ย มีคนฝากรูปนี้มาให้ดูค่ะ
(http://image.ohozaa.com/iv/victory00005.jpg)
5555555
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
ถึงน้อง [N]€ẃÿ{k}uñĢ
มีนิยามใหม่ ๆ ที่น่าสนใจสำหรับเรื่องนี้มาอีกแล้ว หุหุ
และ...ความหลากหลายทางเพศอาจจะมีมากกว่ารุก รับ และโบทก็ได้นะครับ
ดูท่าเรื่องนี้จะมีหมดสิท่าทั้ง ไบ ไบโอวี่ หึหึ
+1 เป็นกำลังใจให้ขยันไปไหน 555+ สองตอนต่อวัน
ความเป็นไปของเรื่องดูมีกลิ่นแบบดิบๆในตอนที่แล้ว
ในขณะที่ตอนนี้มีกลิ่นของความคาว ฉาบฉวย และหื่นกระหาย
ตั้งแต่ที่กะเทยสาวส่งข้อความมาเรียกแล้วหลายครั้ง
ดูท่า ชิตตพัณ จะมีความสามารถด้านการแสดงท่าที และสภาวะอารมณ์
บางทีดูสงบนิ่งบางทีฉุนเฉียวด้วยเหตุและผลของการดูถูกดูแคลน บุรุษเพศบางกลุ่ม
ความหลากหลายในการแสดงอารมณ์ของ ชิตตพัณ ดูน่าค้นหาจัดว่าเป็นปมเลยทีเดียว
เพราะเรื่องค่อยซูมเข้าไปหาทีละน้อยๆ ตั้งแต่ที่เปิดเรื่องมา
แล้วจะรออ่านต่อน๊า
นิว(LOVEis)
-
มารอผลแพ้ชนะอยู่ครับ คุณแทน
+1 ให้เป็นการขอบคุณครับ
-
+1ให้คุณแทน เดี๋ยวจะให้ซ้อเจ็ดมาช่วยรายงานผล อิอิ
-
พี่ก็ว่าอยู่อ่ะว่าอาจจะ
เรื่องนี้ อืมมมนะ สนุกมาก ๆ
แต่อย่าว่าพี่อย่างนู้นอย่างนี้เลยนะ พี่ยังอยากอ่านเรื่องเก่าต่ออยู่เลย พี่ไม่ได้ทวงนะน้องชาย ก็เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ต่อ 555
+1 ให้น้องชาย
:L2:
-
แอบมาอ่านดึกๆ ตอน3ชิวๆ มาเจอตอน4 :m25:
รีว่าไรดีมันเขิน :laugh:
-
เผลอแป็บเดียวมาอีกสองตอนแล้วเรอะเฮ้ย... :a5:
-
อิอิ มาถึงตอนนี้ "โหมโรง"ได้ปลุกเร้าระทึกใจมากค่ะ
กระหายใคร่จะได้ชมในตอนต่อไปเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ถึงคุณ JChloe
ที่ว่านิ่มนวลเพราะไม่ค่อยจิกกัดคนอ่านครับ
จิกกัดก็ดีนะคะ
คนอ่านจะได้มีส่วนร่วม
แอบสะดุ้งบ้างอะไรกันบ้าง
หุหุ
-
แอร๊ยยยยยย
กลับมารอบนี้เอาน้องกายมาฝากรึเปล่าคะ คุณน้อง
-
เป็นมวยคู่เอกที่ต้องติดตามผลการชกกันต่อไปว่าเวทีต่อไปใครจะแพ้ใครจะชนะกันแน่ ทัวร์นาเม้นท์นี้น่าสนใจแท้ๆ :oo1:
-
ตัวผู้สองตัวแย่งอาณาเขตกัน แต่ทำไมงานนี้ตัวผู้อีกตัวมันถึงหวังมากกว่าอาณาเขตได้ล่ะนี่
-
ตอนแรกนึกว่า ชิตตพัณ ชนะขาดไปแล้ว 1 ยก แต่ บรรณศร ดันพลิกกลับได้ซะงั้น นี่ถ้าเจอกันตัวเป็นๆ ไม่ผ่านจอ LCD ใครจะพลิกใครหว่า :z1:
เฟมินิสต์; feminist, พวกสตรีนิยมแต่ไม่นิยมสตรี
:m4: เข้าใจคิด อย่างฮาเลย ชอบๆ
-
แหล่มได้จวยมากครับ o13
-
ตีนดิ่ หน้าเหียก ๆ อย่างมึง
เจ้าชินจังเป็นเด็กใต้หรือเคอะ คำว่า "เหียก" ในภาษาภูเก็ต หมายถึง เลวๆ ไม่ได้เรื่อง ใช้ไม่ได้ หรือว่า เท้อริ่เบิ่ล :fire:
คุณคีรี ใช้ศัพท์ได้หลากหลายดีแท้ ทั้งนีโย่ ก็มา ยังมี ซีเมนต์ตราช้างอีก หหิหิหิ ชอบๆ :3123: :L1: :กอด1:
ตกลงคุณคีรีเป็นดองกับคุณจอมหรือเคอะ อิอิอิ แหม เข้าทางกิมตี๋ เพราะชอบเรื่องคาวๆพอดี :laugh:
ปล. เรียกน้องกิมตี๋ อิอิอิ สาหรุบ กรูแอ็บเด็กสำมะเร็จ แล้วววว หรือว่าสาหมองกรูยังเด็กว่ะ หิหิหิ
ปล2. เรียกน้อง ต้องเรียกให้ตลอดนะ ห้ามเปลี่ยนเรียกแม่ย่าทวดทีหลังแล้วกัน
-
ตัวละครเยอะจัด
แถมชื่อก็ สวรรค์สรรสร้าง
แก่แล้วจำไม่ได้วุ๊ย เลยต้องกลับไปอ่านอีกรอบ :haun4:
...เหมือนยังไม่ประสาต่อโลกแห่งความหนังหนาไร้ยางอาย...
ชอบประโยคนี้จัง
จะลงหน้าละตอนจริงๆ หรือเปล่า o13
-
สุดๆไปเลยกับ definition ของ feminist
ชิตตพัณสุดยอดอะ พออ่านไปอ่านมาคิดถึงตัวละครตัวนึงในเรื่องเนกิมะเลย 555
อะไรแบบนี้เลย
บวกหนึ่งให้คร้าบ o13
พูดถึงก็มะค่อยได้ต่อปากต่อคำกะเพื่อนมันบ่อยๆละ
ช่วงนี้ยุ่งๆกันทั้งคู่
-
หื่นได้โล่ห์ . . .
. . . หมายถึงคนเขียนนะ
อิอิอิ
-
ถึงคุณ DEMON3132
แปลกดี ผมก็ไม่ได้ตั้งใจให้ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่พาราเรลกันขนาดนั้น
แต่ก็ดีครับ ที่บันเทิงคดีเรื่องนี้สามารถถูกมองได้หลายมุม
อย่างเช่นน้องคนหนึ่งที่ผมรู้จักบอกว่าเรื่องนี้เหมาะไว้อ่านตอนอยากชักว่าว
+1 ให้คุณ Kirimanjaro เรื่องนี้สามารถถูกมองได้หลายมุมจริง ๆ
สำหรับตัวเองมองเห็นเรื่องนี้เป็นเหมือนงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่มีหลายมิติ
อย่างที่บอกว่ามีน้องคนหนึ่งไว้อ่านตอนอยากชักว่าว (เหตุผลได้ใจสุด ๆ เลย)
แต่ผลสรุปที่ตรงกันก็คือทุกคนอ่านเพื่อสนองความต้องการของตัวเองแต่จะเป็น
การสนองความต้องการด้านใดเท่านั้นมีแต่ตัวเองที่รู้ดีกว่าใคร...... :pig4:
-
มีแบบนี้ในคณะคนนึง ข้างนอกดูเรียบร้อยมากๆ แต่...... ไม่รู้ว่าโชคดีรึป่าวที่มันยอมเปิดใจกะเรา หนุกดีคับ รออ่านตอนต่อไปนะคับ ^^
-
สุดยอดมากครับ ภาษาสวยงามดี กระตุ้นอารมย์เกินไปมั้ง
-
บทที่ 5
ความร่มรื่นแผ่ขยายจากแมกไม้เขียวครึ้มเหนืออาคารกิจกรรมนิสิต ตรงหน้าอาคารและใต้ร่มไม้นั้นปูไว้ด้วยอิฐตัวหนอนสีเทา สีแห่งความสงบ เท้าเปล่าของอิตถีเพศผู้หนึ่งค่อย ๆ เยื้องย่างลงไปบนอิฐทีละก้าว...ทีละก้าว เหนือข้อเท้าขาวนวลอย่างผู้ที่ไม่ค่อยเผชิญความยากลำบากเป็นกระโปรงนักศึกษาตัวยาวคลุมมาเกือบถึงข้อเท้าดูเรียบร้อยงามตายิ่งนัก
ใกล้ ๆ กันนั้น หนุ่มน้อยท่าทางเรียบร้อย ในชุดตัวหลวมโคร่งและแว่นตากรอบหนาเป็นเอกลักษณ์ของเขายืนประสานมือก้มหน้าน้อย ๆ รอเธออย่างสงบ
หญิงสาวค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น ถอนใจลึกอย่างปีติ และหันไปหาชิตตพัณอย่างใจเย็น รอยยิ้มนุ่มนวลประดับอยู่ที่มุมปาก เธอเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงปรานี
“ชิตมีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่าจ๊ะ”
หนุ่มน้อยช้อนสายตาขึ้นหน่อยหนึ่งก่อนจะหลุบสายตาลงต่ำเมื่อพบว่าได้สบตากับหญิงสาวไปแวบหนึ่ง ราวกับว่าการจ้องใบหน้าที่แสนสงบอย่างพิสุทธิ์นั้นจะทำให้เธอแปดเปื้อนมลทิน
“ครับ อาจารย์ภานุให้ผมมาถามพี่แพรว่า ตักบาตรครั้งหน้าจะจัดขึ้นวันไหนครับ”
เธอพยักหน้าเล็กน้อย และตอบด้วยน้ำเสียงกังวานใส
“วันพฤหัสตามปกติแหละจ้ะ”
“ครับ” ชิตตพัณรับคำแต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อน หญิงสาวเอียงคอเล็กน้อยและมองเขาอย่างสงสัย
“เอ่อ..” เขาตะกุกตะกัก หน้าแดงขึ้นเล็กน้อย “พี่แพรทานข้าวเที่ยงหรือยังครับ ไปทานกับผมมั้ยครับ”
“อ๋อ..” เธอลากเสียงเบา ๆ สีหน้ากังวลไปนิดหนึ่ง “ชิตไปทานเถอะ พี่คงไม่ทานหรอกจ้ะ ลืมไปแล้วหรือจ๊ะว่าพี่ถือศีลแปดอยู่”
“ครับ ผมขอโทษครับ” ชิตตพัณหน้าแดงด้วยความละอาย เขาอยากจะเตะตัวเองที่ไปรับปากเรื่องบ้า ๆ แบบนี้จากเพื่อน นางฟ้าผู้แสนบริสุทธิ์แบบนี้ ไม่ควรพัวพันกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เลยจริง ๆ
“ถ้าชิตไม่ว่าอะไร พี่จะขึ้นไปที่ชมรมนะ จะไปรับบุญทำความสะอาดห้องชมรมเสียหน่อย”
ชิตตพัณเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ “ไม่มีใครอยู่แล้วเหรอครับ ทำไมพี่แพรต้องทำเองล่ะ”
“ยิ่งพี่เป็นประธานชมรม พี่ยิ่งควรทำให้เป็นตัวอย่างจ้ะ พี่จะได้สอนพวกเขาด้วยการกระทำว่าบุญมีให้เราสะสมอยู่ทุกที่ พี่ทำความสะอาดห้องชมรมไป ใจพี่ก็นึกเสียว่ากำลังทำความสะอาดวิมานของตัวเอง ยิ่งทำบ่อย ๆ วิมานก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ฟังอย่างนี้แล้วชิตจะอิจฉาพี่หรือเปล่าไม่รู้”
ชิตตพัณยิ้มน้อย ๆ รู้สึกปีติกับความใฝ่บุญของเธอ เขายกมือไหว้สาธุ
“อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับพี่แพร” เขายกมือไหว้อีกครั้ง แต่คราวนี้ไหว้ประธานชมรมสาว แพรอาภรณ์รับไหว้แล้วส่งด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน ชิตตพัณเดินตัวลีบ ๆ ผ่านเธอไป
ธีรเดชยืนรอกับเพื่อนอีกสองคนอย่างใจจดใจจ่อ และรอจนกระทั่งกองหน้าของเขาเข้ามาใกล้ ธีรเดชรีบไปล็อกคอชิตตพัณหลบเข้ามาใต้ร่มอาคาร
“เป็นไงได้เรื่องมั้ยวะ แพรว่าไงบ้าง”
ชิตตพัณส่ายหน้าแทนคำตอบ ทำเอาชายหนุ่มสลดเหมือนผักตากแดด เพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยหัวเราะแล้วแซว
“เอาแม่ชีบาปนะโว้ยไอ้เดช”
ธีรเดชมองโกรธ ๆ ปล่อยมือที่ล็อคคอชิตตพัณออกและตอบกลับไป
“กูจีบเฉย ๆ กูไม่ได้บอกว่าจะเอา พวกมึงนี่พูดจาไม่ให้เกียรติผู้หญิง”
เพื่อนอีกคนของธีรเดชรีบเสริมทันที “เออ มึงด่าแม่ชีตกนรกแน่”
“แพรไม่ใช่แม่ชีโว้ย” ธีรเดชโวยวาย “เออ ๆ ช่างเหอะ ไปหาข้าวแดกดีกว่า” เขาตัดบท
“มึงเลิกเหอะวะไอ้เดช เดี๋ยวพระเจ้าลงโทษนะมึง”
ธีรเดชชกพุงเพื่อนเบา ๆ “ไอ้หมาปูน กูรู้นะเว้ยว่ามึงไม่อยากแพ้พนัน แต่คอยดูกูจะจีบพี่แพรให้ได้โว้ย”
คนที่ชื่อปูนหัวเราะร่า “ฮา ๆ กูจะคอยดู ผู้หญิงสวย ๆ ร่าน ๆ มีตั้งมากมึงไม่เอา เสือกอยากเอาแม่ชี กร๊าก”
ธีรเดชโกรธฮึดฮัด ลากเอาชิตตพัณออกมานอกวงแล้วเดินหนี เพื่อนอีกสองคนหัวเราะตามหลังมา เมื่อพ้นรัศมีการได้ยินของพวกนั้น ชิตตพัณก็ถามธีรเดชทันที
“สรุปว่านี่เป็นเรื่องพนันขันต่อหรอกหรือ”
“ก็งั้นแหละ” ธีรเดชตอบส่ง ๆ
ชิตตพัณไม่พอใจ เขาเบี่ยงไหล่ให้พ้นจากการโอบของเพื่อนทันที
“เป็นไรวะชิต” หนุ่มเข้มถามเมื่อรู้สึกได้ว่าเพื่อนของเขาไม่พอใจ
“นายเห็นพี่แพรเป็นอะไร”
“ประธานชมรมพุทธฯ” ธีรเดชตอบไวทันใจด้วยสีหน้าที่บอกว่าจงใจกวน
“นายเห็นพี่แพรเป็นแค่สิ่งของที่เอาไว้เดิมพันต่างหากล่ะ ผมจะไม่ช่วยนายอีกแล้วล่ะเดช ครั้งนี้ครั้งสุดท้าย”
“ไม่เอาน่าชิต” ธีรเดชใช้น้ำเสียงอ่อนลงแต่ก็กร้าวในที “ไม่ได้จะทวงบุญคุณนะ แต่เราเคยช่วยนายไว้บ้างไหมล่ะ อย่างน้อยก็ช่วยรักษาความลับที่นายไม่อยากบอกใคร ใช่ป่ะ”
ชิตตพัณชักสีหน้า เป็นสีหน้าแบบที่ธีรเดชชอบ ถึงแม้ว่าหนุ่มเข้มจะไม่ชอบทำให้ใครลำบากใจ แต่กับชิตตพัณเขารู้สึกว่าสนุกดี
“นั่นไม่เกี่ยวกัน”
“ยังไงก็เถอะ เรื่องพนันอะไรนั่นมันก็จริง แต่จริง ๆ แล้วเรามีเหตุผลอื่นอีกด้วย”
ชิตตพัณเลิกคิ้ว “เหตุผลอะไรอีก”
“ต้องให้บอกด้วยเหรอ”
เป็นครั้งแรกที่ชิตตพัณเห็นธีรเดชมีสีหน้าแดงเข้ม เขาไม่รู้ว่าจะพูดยังไงจึงถอนใจแล้วก็นิ่งอยู่
“ไปทานข้าวเถอะวะ หิวแล้ว”
ธีรเดชกลบเกลื่อนแล้วโอบไหล่เพื่อน ตบบ่ากระตุ้นให้ชิตตพัณเดินไปพร้อมกัน
ระหว่างทานข้าว ธีรเดชก็ชวนเพื่อนคุย
“ชิต ช่วยอะไรอีกอย่างได้ไหม”
“อะไรเหรอครับ”
“เย็นนี้มีเตะบอล นัดชิงแล้ว นายเล่นเก่งมาก อยากให้นายลงให้อีก”
“คราวนี้ไม่มีคนขาดไม่ใช่หรือ” ชิตตพัณถามน้ำเสียงเรียบ
“อืม อันที่จริงก็ไม่มี” ธีรเดชไม่ค่อยโกหก ยกเว้นเมื่อจำเป็น
“แล้ว..”
“แต่ว่าถ้านายลงทีมเราจะมีกำลังใจ ขนาดสาว ๆ คณะอื่นยังเชียร์เราเลย”
“เหรอ” ชิตตพัณใช้น้ำเสียงที่ปราศจากความประหลาดใจถามกลับไป เขารู้ว่าในวินาทีนั้นเขาเป็นผู้นำมวลชนที่กำลังบ้าคลั่งด้วยกิเลสตัณหา แต่เมื่อเขากลับมาเป็นคนเดิม เขากลับรู้สึกแย่กับช่วงเวลานั้น มันทำให้เขาขมขื่นเพราะเหมือนตัวตนถูกดึงกระชากจากทั้งสองฝั่ง เขาไม่ควรอนุญาตให้ตนเองปลดปล่อยความต้องการทางเพศไปมากกว่านี้ แต่การได้เป็นเป้าสนใจของคนมากขนาดนั้น ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย ทั้งคนที่ไม่รู้จักและคนที่เขาเจอหน้าอยู่ทุกวัน แค่คิดก็ทำให้เขาแข็งตัวขึ้นมาได้
อยู่ใต้จมูกของพวกแกแท้ ๆ ชิตตพัณคิดอยู่ในใจแต่ไม่พูดออกมา
ธีรเดชนิ่งรอ เขาก็เป็นนักคว้าจังหวะ เขารู้ ลึก ๆ แล้วเขารู้ว่าชิตตพัณต้องรับปาก บางทีอาจจะเป็นตัวชิตตพัณเองที่ปรารถนาอย่างลึกลับให้ธีรเดชออกปากชวน และใช่..เขาคิดว่าเขารู้ความคิดของตนเอง เขาอยากให้ความลับของชิตตพัณแตกเหมือนกัน เพราะเขาเบื่อที่ต้องคอยตอบคำถามคนอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกันธีรเดชกลับไม่รู้ว่าเหตุผลที่ทำให้ตนเองยับยั้งชั่งใจไม่บอกเล่าเรื่องนี้กับใคร ก็เพราะว่าเขาเองก็ต้องการความลับ แม้ว่ามันจะเป็นความลับของผู้อื่น แต่เมื่อมีเขารู้อยู่คนเดียว มันก็คือความลับของเขา
“ก็ได้” ชิตตพัณรับปากในที่สุด เขารวบช้อนส้อมไว้ข้างจานซึ่งมีอาหารที่ทานไม่หมดตะล่อมรวมไว้เป็นกอง “แล้วเจอกันตอนเย็นนะครับเดช”
ธีรเดชพยักหน้า เขาสับช้อนลงไปในเนื้อไก่แรงเกินความจำเป็น และนั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากชิตตพัณเดินจากไปจากโต๊ะอาหารแล้ว
เป็นอย่างที่คาด ชิตตพัณสะกดคนดูไว้ได้อีกครั้ง เขาลงมาในสนามพร้อมกับเสียงโห่ร้องต้อนรับจนแผ่นดินสะเทือน ชิตตพัณกำมือชูไปรอบทิศเหมือนแชมเปียน รอยยิ้มอย่างมั่นใจของเขา ทำให้คู่ต่อสู้ทั้งหมั่นไส้ทั้งหงุดหงิด ธีรเดชมองแผ่นหลังของชิตตพัณซึ่งดูเหมือนจะใหญ่กว้างขึ้นอย่างประหลาดในชุดนี้ เขามองที่คาดหัวซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของเขา ตั้งแต่ชิตตพัณยึดที่คาดหัวไปคราวนั้น ธีรเดชก็ไม่เคยใส่มันอีกเลย แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังพกติดตัวมาด้วยตลอดเวลา
ที่รัก...ผมรู้ว่าคุณพยายามจะตีความหมายของสัญลักษณ์หลากหลายอันปรากฏอยู่ต่อตาของคุณ แต่ผมแนะนำว่าเลิกเสียไม่ดีกว่าหรือ ก็ในเมื่อบางทีมันอาจจะเป็นความสะเปะสะปะอย่างจงใจของผู้สรรค์สร้าง หรือคุณไม่เคยรู้สึกถึงความกระแดะของภาพยนตร์ที่ทำให้ดูอาร์ตเกินขีดของคำว่าวิปริต และความกระแดะของตัวคุณเองที่พยายามจะมองให้มันอาร์ต ผมว่าเรามามองแบบฟรอยด์กันดีกว่าว่าโลกนี้มันไร้ซึ่งสุนทรียะ มีแต่อารมณ์ใคร่และการตอบสนองความต้องการทางเพศ สัญลักษณ์ อักษร ภาษา มีไว้เพียงเพื่อรองรับตัณหาของสิ่งมีชีวิตที่มีช่วงเวลาเงี่ยนได้ทั้งปี
และคุณบางคนอาจจะบ่นว่าทำไมถึงมีแต่ชิตตพัณเท่านั้นที่ปรากฏตัวได้ในทุกตอนของบันเทิงคดีเรื่องนี้ ผมอาจจะต้องไปขุดกระดูกเชคสเปียร์ขึ้นมาถามว่าทำไมเขาต้องเขียนแฮมเล็ทให้เด่นในเรื่องแฮมเล็ท และทำไมเขาต้องสร้างสรรค์บุคลิกของโอเทโล่ให้สอพลอและชั่วร้ายอย่างติดตาขนาดนั้น เป็นไปได้ว่าเช็คสเปียร์เป็นเกย์และเขาชอบแมงดาที่เหมือนโอเทโล่
-
ถึงป้า kit
ก็ยังไม่เก็ทอยู่ดีครับ ผมคงสติปัญญาไม่เพียงพอ
แต่ช่างเถอะครับ ผมหมดความอยากรู้อยากเห็นแล้ว
ถึงน้อง [N]€ẃÿ{k}uñĢ
ใบโอวี่นี่คล้าย ๆ ใบกล้วยตานีหรือเปล่าครับ แบบว่าสวยพริ้งแต่มีเดือย
ชิตตพัณอาจจะน่าค้นหาสำหรับนิว
แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่าเขาน่าเย-ดมากครับ
ถึงพี่ wan
หากรรมการห้ามมวยอยู่ครับ
ถึงป้า andy_kwan
ซ้อเจ็ดกำลังอ่านอยู่ด้วยหรือครับ นึกว่าซ้อเจ็ดเป็นคนเขียนซะอีก
ถึงพี่ tawada_j
เป็นกำลังใจให้อยู่ครับ
ถึงพี่ M@nfaNG
รีว่าคนเขียนหน้าตาดีมากถึงมากที่สุดล่ะกัน
ถึงน้อง mole eye man
ไปอยู่ไหนมาล่ะครับ งอนแล้วครับ
ถึงคุณ JChloe
ก็นิด ๆ ครับตามแต่มูดของคนเขียนในแต่ละตอน ดีจริง ๆ
ถึงพี่ Tifa
ผมหวงครับ ตอนนี้กำลังหวานชื่น ถึงแม้ว่าจะแม้ง ๆ กันบ้างเป็นระยะ
ส่วนมากก็ทะเลาะกันเรื่องแย่งรองเท้าครับ
น้องกายชอบใส่รองเท้าของผม ผมเผลอถอดเมื่อไหร่เขาเอาไปใส่เล่นทันที
ดูไม่จืดเลยตัวผอม ๆบาง ๆ ใส่รองเท้าโต ๆ เหมือนบิ๊กฟุต
ถึงน้อง jokirito
สนใจในเชิงไหนครับครับ กีฬาหรือว่า...
ถึงคุณ mist
นั่นก็นับเป็นอาณาจักรครับ
ถึงพี่ dahlia
อาจจะพลิกไปพลิกมาด้วยความกลุ้มเพราะดาบกะดาบเจอกันก็เป็นได้นะครับ
ถึงน้อง Hunter
ถ้าได้จวยจริงก็ส่งมาขิงนึงล่ะกัน
ถึงป้าทวดกิมตี๋หัดขับ
จำมาจากพี่ชายที่เป็นคนภูเก็ตน่ะครับ
เขามีภาษิตประจำตัวว่า
"ลืมไปเลยว่าเคยมีคราบ"
ถึงพี่ kimi dake!!!
นับดูตัวเด่นชายมีแค่เจ็ดคนเองครับ กะว่าจะเพิ่มอีกสักร้อย
ก็จะพยายามให้ได้หน้าละตอนน่ะครับ
แต่ถ้ามันจะกระทบกับคุณภาพของแต่ละตอน ผมคงต้องไต่ตรองดูอีกที
ถึงคุณ mantdash
ตัวไหนอ่ะครับ ผมนึกไม่ออก ไม่ค่อยได้อ่าน แต่รู้จักนะ
ถึงพี่ ต้นสาย
จริงทีเดียว
ถึงคุณ DEMON3132
ฉลาดมากครับ
ถึงน้อง Slithy
อยากรู้จักบุคคลที่กล่าวถึง
ถึงคุณ ~Muํ_$aฺma~
ภาษาไม่สวยหรอกครับ
คนเขียนสวยกว่า
-
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
มีปมเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ทั้งประธานชมรมพุทธศาสตร์ ที่ไม่รู้เรื่องด้วย
แล้วธีรเดชยังคิดอะไรกับชิตอีกที่ยังคิดว่ากุมความลับของเพื่อนไว้
อะไร ๆ มันจะหักมุมเข้าหาตัวหรือเปล่าน้า
คงต้องรอคำเฉลยจากคุณแทนแล้วละ ฮิ ฮิ ฮิ.....
เป็นกำลังใจให้นะครับ + ให้อีกต่างหาก ขยัน ๆ นะครับ ( ขยันอะไร คิดเอาเอง 555..... )
-
ยิ่งอ่าน ก็ยิ่งอยากรู้ครับ
-
โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยเรื่องที่น่าแปลกใจ
-
ถูกใจมากมาย พี่แทนนนน
คึิดถึง จำเค้าได้มั้ยยยย :กอด1:
ติดซะ แล้ว +1 นะ
-
ก่อนอื่น ขอบคุณที่เขียนให้อ่านครับ o13
ใครจะตีความยังไงก็คงขึ้นกับพื้นฐานของแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ "ของ" ที่แต่ละคน "ถือ" อยู่นั่นแหละครับ
ปล.
1. งานเยอะ ๆ ยุ่ง ๆ ก็แบ่งเวลามาเขียนให้อ่านกันบ้างนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ (อันนี้ก็คือ การกระทำเพื่อตัวเองที่จะทำให้ผู้เขียนมีกำลังใจ และทำให้ตัวเองได้อ่านครับ หึ หึ หึ)
2. ขอแก้คำผิด 1 คำนะครับ อิตถีเพศ แปลว่า ผู้หญิงครับ (อันนี้สนองความต้องการอยากอวดฉลาดของตัวเองกระมังครับ หึ หึ หึ)
3. รอตอนต่อไปครับ
-
ถึงน้อง [N]€ẃÿ{k}uñĢ
ใบโอวี่นี่คล้าย ๆ ใบกล้วยตานีหรือเปล่าครับ แบบว่าสวยพริ้งแต่มีเดือย
ชิตตพัณอาจจะน่าค้นหาสำหรับนิว
แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่าเขาน่าเย-ดมากครับ
ที่แท้เครื่องผ่อนคลายอารมณ์ของคุณพี่ก็คือนำตัวละครมานั่งมานั่งจินตนาการ หึึหึ
"ไบโอวี่" น.(ใช้บางกลุ่ม) ผู้ชายที่สามารถรุกชะนี และรับเก้งได้
อ่านตอนนี้ก็ยังไม่มีความต่างจากตอนก่อน แค่หื่นน้อยลง :m15: จะเฝ้ารอตอนหน้า
นิว(งามอย่างผู้ดี)
ปล. ตอนนี้มีคำผิดนิดหน่อย
เท้าเปล่าของอิสถีเพศผู้หนึ่งค่อย ๆ เยื้องย่างลงไปบนอิฐทีละก้าว...ทีละก้าว
ที่ถูกต้องเขียนว่า "อิตถีเพศ" = อิตส-(หญิง) + เพศ = เพศหญิง
“อนุโมธนาบุญด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อนนะครับพี่แพร” เป็น อนุโมทนา
ธีรเดชมองโกรธ ๆ ปล่อยมือที่ล็อคคอชิตตพัณออกและตอบกลับไป เป็น ล็อก
-
คนเรามักจะโดนเร้าด้วยสิ่งเร้าต่างๆนานา :really2:
-
มาถึงตอนที่ห้าแล้ว เรื่องก็ยิ่งไปกันใหญ่
แต่เราชอบเรื่องของอาจารย์นะ คริๆ
จะได้แอบเนียนเอาไปใช้บ้างท่าจะดี
ปล. น้องกายก็ชอบเอายกทรงดั้นไปแอบใส่เล่นเหมือนกันค่ะ แอร๊ยยยยย
-
นางฟ้าผู้แสนบริสุทธิ์ แต่ตกดึกๆ เป็นนางแมว หรือเปล่าเอ่ย :myeye:
-
แอบคิดเหมือนรีบน...
นางฟ้า.....มีแอบจำแลงบ้างมั้ยหว่า o22
รออ่านเสมอนะคุณ Kirimanjaro :L2:
-
:pig4: ค่ะพี่แทน
บวก1ให้ด้วย
----------------------
ชอบครูภานุจัง
มันเหมือนตัวเองดี
อิอิ จิตได้อีก
-
โอ้ วันนี้มี 2 จริต เลยนะคุณคีรีฯ
อ่านตอนแรกๆ เอ้ะ คุณคีรีฯ เมากล้วยป่าวนะ สำนวนเปี้ยนไป๋
แต่พออ่าน ย่อหน้าสุดท้าย ร้อง เย่ๆๆๆๆๆส หิหิหิ ยังจิตๆเหมือนเดิม อิอิอิ ชอบๆ :oo1: :-[
ปล. "ลืมไปเลยว่าเคยมีคราบ" คุ้นๆในโฆษณา อะไรนะ ต๋นช๋วยเฉ่ลยทีต่ะ
ปล. หรือว่า "เคย" ข้างบน หมายถึง หอย 2 ฝา ชนิดหนึ่ง ที่ชาวเรามินิยมบริโภค :jul3:
-
ยังอ่านไม่จบนะ แต่จะบอกว่า แรง มาก
ฮุ ฮุ :z1:
-
สุดยอดเลยคับเรื่องนี้ o13
จิตๆ และผิดศีลธรรม
ชอบมากคับ
เป็นกำลังใจให้คนแต่ง ขยันดีจัง
-
อืม...น่าสนใจ :3123:
-
ดูเหมือนว่าป้าแอบมีอารมณ์หื่นกับลูกค้าที่ร้าน ไม่รู้ติดมาจากเรื่องนี้หรือเปล่า อิอิ
-
หึหึ...
ได้เวลาสนุกเเล้วซี
-
อิอิ ตัวละครปรากฏมาอีกตัว
คราวนี้เป็นหญิงสาวผู้คร่ำครึและคร่ำเคร่งในศาสนา
-
ไม่เคยมีใครกำหนดจิตของผู้อื่นได้ นอกจากตัวของเราเอง
ฉนั้นอย่าโทษคนอื่น แต่จงยอมรับในสิ่งที่เราได้ทำไป
-
อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน
เหมือนจะโดนหลอกด่า ด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้
แต่ว่า ก็จะตามอ่าน ต่อไป
มาต่อเร็วๆ นะ :call:
-
บทที่ 6
นักปรัชญาภาษาพบว่ามีปัญหาเรื่องความลักลั่นระหว่างความหมายกับถ้อยคำ บางครั้งถ้อยคำเพียงแค่บ่งถึงสิ่งสิ่งหนึ่ง แต่ไม่ได้มีความหมายตรงไปหรือนัยประหวัดถึงสิ่งนั้นเลยแม้แต่น้อย ดอลเนลลันบอกว่าถ้อยคำไม่ได้ถูกใช้อย่างที่มันถูกกำหนดความหมายโดยชุมชนผู้ใช้ภาษา เราอาจจะเรียกดิลโด้ว่าไวเบรเตอร์และสื่อสารได้ตรงตามความต้องการของเรา ทั้ง ๆ ที่ดิลโด้กับไวเบรเตอร์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่บางครั้งถ้อยคำพุ่งตรงไปยังความรู้สึกที่สื่อไม่ได้ของเราโดยไม่ผ่านกระบวนการแปลความหมาย ความรู้สึกทางเพศเองก็ไม่จำเป็นต้องถูกกระตุ้นโดยตรงด้วยมือและปากที่อวัยวะเพศ จินตนาการที่เกิดขึ้นก็อาจจะไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์กับกระบวนทัศน์ทางเพศตามขนบ กล่าวคือผู้ที่เกิดอารมณ์ทางเพศตอนที่ดูเทเลทับบี้อาจจะไม่ได้คิดถึงหรือเปรียบเทียบตัวเทเลทับบี้กับอวัยวะเพศหรือการร่วมเพศเลยด้วยซ้ำ
นั่นยังเป็นเพียงแค่ข้อสมมุติฐานที่ออกจะดูเป็นวิชาการไปหน่อย แต่คุณควรรู้ไว้ว่าในขณะที่มนุษย์ทั่วไปปิดบังเครื่องบอกความเป็นเพศของตนด้วยเสื้อผ้า นักวิชาการก็สามารถที่จะปิดบังความร่านดอกของพวกเขาไว้ด้วยถ้อยคำที่ดูวางภูมิอย่างยโสโอหัง ถ้าหากคุณรู้ผู้ทรงปัญญาหลายคนก็เหมือนสุนัขที่ฝึกไว้ดีแล้ว เวลาที่มีสายตาจับจ้องอยู่มันจะเชิดหน้าอย่างทระนง แต่พร้อมที่จะเลียกินอุจจาระอย่างระริกระรี้เมื่อหลุดพ้นไปจากการถูกจับสังเกต คุณคิดว่าผมคิดผิด? งั้นคอยดูกันต่อไป...
ชิตตพัณเกือบจะหลั่งตอนที่เขาได้เตะลูกโทษ เป้าของเขาตุงเต็มเมื่อมันขยายตัวพาดออกไปด้านข้าง เขารู้ว่าทุกคนกำลังจับจ้องอยู่ที่เขาเป็นจุดเดียวกัน เขารู้สึกเสียวสุด ๆ เมื่อรู้ว่ามีหลายคนที่มองเป้าตุง ๆ ของเขา และรู้แน่ว่ามีอีกหลายคนที่จะจำช่วงวินาทีนี้ไปสำเร็จความใคร่ก่อนนอน
เขาง้างเท้าช้า ๆ เหมือนภาพสโลโมชั่น ช่วงเป้าถูกบิดรัดให้ปริตุงเป็นก้อนระหว่างหว่างขา ตรงน่องขาวแน่นเหยียดตึง กล้ามเนื้อเกร็งเห็นเป็นนูนเนื้อราง ๆ ขึ้นมา หลายคนกลืนน้ำลายเมื่อเห็นภาพเร้าอารมณ์ และชิตตพัณก็สับเท้าเตะด้วยความเร็วเหมือนตอนที่น้ำอสุจิของเขาพุ่งกระฉูดขึ้นไปบนอากาศตอนถึงจุดสุดยอด
‘เกม’ ของชิตตพัณจบลงเมื่อเขาถูกหามออกจากสนาม เท้าของเขาถูกกระทืบด้วยสตั๊ดของกองหลังคนหนึ่งในทีมตรงข้ามอย่างจงใจ ธีรเดชออกไปจากเกมพร้อม ๆ กันและกันทุกคนไม่ให้ยุ่งเกี่ยวเขากับชิตตพัณ หนุ่มหล่อนักกีฬายังคงทำหน้าที่ซีเคร็ทคีปเปอร์ของเขาได้ดี เขาเรียกแท๊กซี่ที่จอดดูบอลอยู่ข้างสนามของมหาวิทยาลัย และพยุงชิตตพัณเข้าไปในรถโดยไม่บอกลูกทีมคนอื่นว่าจะไปโรงพยาบาลไหน
“เจ็บไหม” ธีรเดชถามหลังจากบอกจุดหมายให้คนขับแท็กซี่แล้ว
ชิตตพัณพยักหน้าเบ้ ๆ เขาคลายเจ็บลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังปวดอยู่มาก ธีรเดชก้มลงหยิบเท้าของชิตตพัณขึ้นมาวางไว้บนเบาะ รองเท้าถูกถอดออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว เหลือแต่ถุงเท้านักบอลสีเทาสลับดำตัดกับขาขาวจั๊วะของชิตตพัณ
คนเจ็บเงยหน้ามองเพื่อนเมื่อธีรเดชลูบ ๆ คลำ ๆ ตรงข้อเท้าอย่างระมัดระวัง ธีรเดชบอกกับเขาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เงยหน้าเพราะง่วนกับการพิจารณาอาการอยู่
“เดี๋ยวจะดูให้ เราเคยเห็นคนเท้าแพลงมามาก แต่ของนายโดนกระทืบเข้าไปเต็มแรงเลยนี่”
“อืม” ชิตตพัณตอบเบา ๆ เขาเริ่มคลายเจ็บ อาจจะเพราะการบีบนวดเบา ๆ จากมือของเพื่อนรัก
“พวกนั้นไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬาเลยวะ แย่จริง ๆ” ธีรเดชบ่นและตอนนั้นแท๊กซี่ก็เคลื่อนออกมานอกมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะพบว่าถนนสายหลักในชั่วโมงเร่งด่วนนั้นไม่อนุญาตให้รถเคลื่อนที่เร็วเกินกว่าสามเมตรต่อนาที
ชิตตพัณหลับตาและถอยหลังไปเอนพิงผนังประตูรถด้านที่เขานั่ง ธีรเดชจับข้อเท้าของเพื่อนไว้ด้วยมือซ้าย และใช้มือขวาดึงขอบถุงเท้าห่างจากเนื้อขาว ๆ อย่างระมัดระวัง เขาปล่อยนิ้วที่คีบถุงเท้าออกและดึงใหม่คล้ายกับลองเชิง จากนั้นก็ถลกดึงมันให้ร่นหลุดออกมาทีละน้อย
พระเจ้า..มือของเขา เส้นเลือดที่อยู่ในมือของเขา มันฉีดพุ่งจนรู้สึกได้เหมือนกับว่าหัวใจของเขาเลื่อนไปอยู่ที่มือซึ่งกำลังล่วงเกินเท้าของชิตตพัณอยู่ ธีรเดชกลืนน้ำลายหัวใจเต้นดังตึกตัก ๆ จนเขากลัวว่าคนที่กอดอกหลับตาพริ้มยินยอมให้เขาแตะต้องจะได้ยินเสียงนั้น
ธีรเดชดึงถุงเท้าผ้ามาทีละน้อยจนถึงส้นเท้า มันกลมกลึงและเนียนเรียบอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของผู้ชาย เด็กหนุ่มมองความงามสมบูรณ์แบบที่ถูกโอบอุ้มในมือของเขาราวกับเข้าภวังค์
ปีหนึ่งของธีรเดช และเที่ยงวันหนึ่งในปีนั้น เขาเดินเตร็ดเตร่ไปอย่างไม่รู้จะไปที่ไหนดี ก่อนที่จะมองเห็นร่มไม้หน้าอาคารกับม้านั่งหินอ่อนให้ความรู้สึกสงบเย็น ธีรเดชถูกดึงดูดไปที่นั้น เขานั่งลง และสูดหายใจลึกเพื่อคลายความร้อนยามเที่ยงที่ยังตกค้างอยู่ในปอด เขามองออกไปตรงนั้น ตรงภาพที่สวยงามที่สุดในชีวิต ผู้หญิงสาวในชุดนักศึกษาเรียบร้อย กำลังเดินช้า ๆ เท้าเปลือยเปล่าค่อย ๆ เหยียบย่างลงบนพื้นอิฐตัวหนอน สายตาของเธอหลุบต่ำมองพื้น ราวกับว่าทุกย่างก้าวของเธอคือจังหวะที่สำคัญที่สุดในชีวิต ธีรเดชถูกดึงดูดด้วยข้อเท้างามระหง เนื้อกลมกลึง สัมผัสของแสงที่ไล้ผิวเท้าเปลือยก็ดูนุ่มนวลตัดกับความหยาบกระด้างไร้ชีวิตของพื้นอิฐ
เท้าเปลือยของแพรอาภรณ์กำลังซ้อนทับลงไปกับปลายเท้าเนียนขาวของชิตตพัณ ธีรเดชพบว่ามันมีวิญญาณเดียวกับ คือความีชีวิตชีวา ความสวยงาม ความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ สุนทรียธาตุอันเกือบจะถอดมาจากพิมพ์เดียวกันทำให้ธีรเดชลูบไล้และบีบรัดเท้าของชิตตพัณอย่างหลงใหล สัมผัสนวดตอดเบา ๆ ทำให้ชิตตพัณเคลิบเคลิ้ม เขาสูดหายใจลึกและหลับตาต่อไปรับการดูแลจากเพื่อน
ในกางเกงบอลของธีรเดช การหลับใหลกำลังเปลี่ยนเข้าสู่สภาวะตื่นตัว จะไม่ให้เขาตื่นตัวได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่เขาใฝ่ฝันมาตลอด คือลูบไล้เท้าสวย ๆ สักครั้ง อารมณ์ทางเพศของเขาไปไกลเกินกว่าที่จะหยุดยั้งตนเอง ธีรเดชรั้งดึงเท้าของชิตตพัณเข้ามาแนบชิดกับท้องน้อยของตน ให้ส้นเท้าของอีกฝ่ายวางอย่างเหมาะเจาะบนส่วนปลายของสิ่งที่กำลังชูชันอยู่
ชิตตพัณยังไม่ได้หลับไป เขาคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่เท้าเขาไปโดนกับอวัยวะเพศของธีรเดช และเป็นเรื่องบังเอิญที่สิ่งนั้นกำลังแข็งตัวอยู่ เขารู้สึกอายซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เข้าใจได้ และพยายามขยับเท้าถอยออกมาหน่อย แต่ธีรเดชดึงเท้าของเขาไว้ให้กดแนบกับท่อนลำของตนเต็ม ๆ และจับเท้าของเขาขยับเหยียบถูไถให้หนังหุ้มเสียดสีกับเนื้อแข็งภายใน
ชิตตพัณลืมตาขึ้นมองเพื่อน และพบว่าธีรเดชก็กำลังมองเขาอยุ่ด้วยดวงตาขุ่นมัวเลื่อนลอย เขาตกใจเกินกว่าที่จะทำอะไร หัวใจของเขาเต้นตึกตักเมื่อตระหนักว่ากำลังถูกล่วงละเมิดทางเพศในเบาะหลังรถแท็กซี่ท่ามกลางถนนที่การจราจรติดคับคั่ง
บุคลิกที่สองของหนุ่มน้อยรู้สึกตื่นเต้น เขาสงสัยว่าคนขับจะกำลังเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นผ่านกระจกหลังหรือเปล่า หรือรถคันข้าง ๆ ซึ่งอาจจะเห็นพฤติการณ์นี้อย่างไม่ตั้งใจ มันทำให้ชิตตพัณตอบสนองเพื่อน เท้าของเขาขยับเองโดยที่ธีรเดชไม่ต้องบังคับ ชิตตพัณใช้ปลายนิ้วเกี่ยวขอบกางเกงบอลของอีกฝ่ายลงไปเผยให้เห็นท่อนเนื้อที่ผงาดชูหัวบาน ๆ อยู่แล้ว อวัยวะเพศแข็งจัดร้อนฉ่าและมีขนาดค่อนข้างใหญ่ยอดเยี่ยมกว่าเครื่องนวดเท้าเครื่องไหน ๆ ทำงานของมันอย่างสุดความสามารถโดยการเกร็งตัวผงกหงึก ๆ เป็นระยะ และปลดปล่อยโลชั่นหล่อลื่นออกมาเยิ้มตรงซอกนิ้วเท้าของชิตตพัณ
ไม่นานความต้านทางของธีรเดชก็ถึงจุดสิ้นสุด กล้ามเนื้อทุกมัดของเขาเกร็งระริก อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นสูงวูบหนึ่ง ก่อนที่มัดกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาจะบีบตัดกดดันขับเคลื่อนความสุขสมทางเพศอย่างเป็นรูปธรรมออกจากท่อปัสสาวะและพวยพุ่งทิ้งความขุ่นคลั่กอุ่นร้อนลงบนหลังเท้าและง่ามนิ้วชี้กับนิ้วโป้งเท้าของชิตตพัณซึ่งคีบขอบเงี่ยงของธีรเดชอยู่
ชิตตพัณรู้สึกตกใจ จะตอแหลไปไหมถ้าจะบอกว่าเขาไม่ได้จินตนาการว่ามันจะไปไกลถึงขั้นนี้ ในความรู้สึกกึ่งสับสนกึ่งวิตก ธีรเดชรีบเยียวยามันอย่างรวดเร็วโดยใช้ชายเสื้อบอลของตนเองเช็ดเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากหลังเท้าของชิตตพัณ เขาประจงเช็ดอย่างละเอียดละออ และเก็บอวัยวะเพศของตนซึ่งถึงแม้จะปลดปล่อยความตึงเครียดไปแล้วแต่ก็ยังชูชันเอาไว้ภายในกางเกง ชิตตพัณชักเท้าออกเมื่อสิ้นสุดการทำความสะอาด เขามองหน้าธีรเดชซึ่งมองเขาอย่างกังวลและเสียใจ ธีรเดชเบือนสายตาหนีและเปลี่ยนมุมนั่งเป็นนั่งหันไปทางเบาะหน้า ชิตตพัณหยิบถุงเท้าของเขามาใส่และสอดเท้ากลับเข้าไปในรองเท้า ทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันอีกไปจนกระทั่งถึงโรงพยาบาล
มีคนเคยบอกว่าหัวแม่โป้งเท้าของผมเหมือนกับอวัยวะเพศ แต่ผมแน่ใจว่าธีรเดชไม่ได้คิดถึงเท้าของแพรอาภรณ์และชิตตพัณในฐานะตัวแทนอวัยวะเพศชายหรือหญิง การปลดปล่อยของเขาเป็นเรื่องที่สูงส่งและบริสุทธิ์ การเข้าใจความงามของเรือนร่างมนุษย์แม้เพียงส่วนเดียวเพื่อจะบรรลุจุดสุดยอดคือสิ่งที่มหัศจรรย์และยิ่งใหญ่ ธีรเดชไม่ได้ต้องการหนังสือปลุกใจหรือว่าหนังโป๊อันเสื่อมทราม เขาต้องการเพียงแค่ได้เฝ้ามองส้นเท้าเปลือยของมนุษย์ซึ่งกำลังเยื้องย่างอยู่เท่านั้น
ว่าแต่เคยมีใครบอกคุณบ้างไหม...ว่าผมคือจอมตอแหลสร้างภาพอย่างระยำ
ธีรเดชนั่งเก้าอี้เยื้องไปข้างหลังด้านซ้ายของชิตตพัณซึ่งกำลังรอถูกเรียกเข้าไปตรวจรักษาอยู่ ภายหลังจากที่เขาปลดปล่อยอย่างสุดขีด ธีรเดชก็เกิดกลุ้มใจขึ้นมา ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเขาจะรู้สึกผิด สิ่งแรกที่เขาคิดคือกลัวว่าชิตตพัณจะเอาเรื่องของเขาที่สังคมอันแสนจะวิปริตว่าเป็นเรื่องวิปริตเสื่อมทรามไปกล่าวแก่เพื่อน ๆ เขา..ในฐานะที่รักใคร่ของเพื่อน ๆ และอาจารย์ กัปตันทีมฟุตบอลของคณะผู้ห้าวหาญเปิดเผย ในตัวตนทั้งหมดที่เขาเป็น อาจจะพังทลายด้วยความลับดำมืดอันนี้ ขอพระเจ้าจงอวยพรให้แก่ความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ธีรเดชจึงไม่พูดอะไรเลยสักคำเดียวต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
จู่ ๆ ชิตตพัณก็หันกลับไป และพบว่าธีรเดชกำลังมองต้นคอของเขาอยู่ด้วยสายตาประหลาด คนที่คิดว่าตนเองทำผิดหลบสายตา ชิตตพัณเรียกชื่อเขา
“เดช”
ธีรเดชถูกบังคับให้ต้องจ้องตาอีกฝ่าย เขาพยายามอย่างเต็มความสามารถที่จะฝืนยิ้มออกมา เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมโจรข่มขืนถึงมักเลือกที่จะฆ่าเหยื่อภายหลังจากเสร็จกิจ ชิตตพัณคือความอับอายของเขาที่สะท้อนเขากลับมา ถ้าคุณอ่านเรื่อง ‘กระจกเงา’ ของซาร์ตร์ คุณจะเข้าใจความรู้สึกนี้ของธีรเดชดียิ่งขึ้น มนุษย์มักจะพยายามกลบฝังตัวตนด้านมืดและดิบเถื่อนของตนให้พ้นจากสายตาของตนเอง และมันมักจะลงเอยด้วยการทำลายมนุษย์อีกคน
กระจกเงา; No Exit, ชื่อนิยาย. ประโยคเด็ด 'นรกคือผู้อื่น' เขียนโดย ฌอง ปอล ซาร์ตร์, อันที่จริงผมไม่เคยอ่านนิยายเรื่องนี้ และผมเขียนไปมั่ว ๆ อย่างงั้นแหละ
ธีรเดชเพียงแต่ทำเสียงอยู่ในคอที่บอกให้รู้ว่าเขาทราบว่าถูกเรียก
“เมื่อกี้..” ชิตตพัณเริ่ม
“อย่าบอกใคร ได้โปรดชิต” ธีรเดชพูดอย่างร้อนรน
ชิตตพัณตระตุกมุมปากน้อย ๆ เขาไม่ได้อยากจะยิ้ม เพียงแต่เขารำคาญความเป็นมนุษย์
“..นายแสดงได้ดีมาก” ชิตตพัณต่อประโยคอย่างที่ธีรเดชเดาไม่ออก หัวของธีรเดชตื้อเกินกว่าจะตีความ เขาได้แต่รับสารอย่างตรงไปตรงมา และเข้าใจว่า ‘การแสดง’ ก็หมายถึง ‘การแสดง’ และนั่นทำให้เขางวยงง
“บนรถน่ะ..” ชิตตพัณเสริม “..มันน่าสนใจ มีพลัง” เขาเว้นจังหวะเหมือนกับตัวละครนำในนิยายอมตะ “..จะมีคนอยากดู”
ธีรเดชได้แต่งุนงง เขาตามบทละครอันลื่นไหลของชิตตพัณไม่ทัน แต่รู้สึกประทับใจในท่าทีเหล่านั้น มันตอบได้ว่าบางครั้งคุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจอะไรก่อนที่จะหลงรัก จูเลียตเองก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจว่าใครอยู่หลังหน้ากาก ก่อนที่หล่อนจะตัดสินใจปล่อยให้เขาเอาลิ้นอุ่น ๆ สอดเข้ามาในปาก และตามด้วยการสอดใส่อย่างอื่นเท่าที่ความเคร่งขรึมของสังคมที่เชคสเปียร์เผยแพร่ผลงานของเขาจะอนุญาต
“เดชช่วยอะไรผมสักอย่างได้ไหมล่ะ” ชิตตพัณกล่าวบทของเขาไปอย่างลื่นไหล ระยะที่เขาเว้นหลังจากนี้เป็นไปอย่างพอดี ทิ้งให้ฉงนสงสัย แต่ไม่นานเกินไปจนบีบให้คู่สนทนาอึดอัด
“อยากให้นายแสดงอย่างนี้อีกครั้ง” เขาบอก และด้วยคำทิ้งท้ายที่เหมือนจุดประทัดยัดเข้าไปในหูของธีรเดช “ที่ห้องของผม...”
-
อิอิ ชิตตจะชวนนายเดชไปส่องเวปแคมแข่งกับสองพี่น้องนั่น สุดยอด อิอิ
-
ถึงป้า kit
อย่าเครียดสิครับ
ผมชอบที่จะถูกจิกกัดและได้จิกกัดป้ากิตบ้างเท่านั้นเอง
(เรียกป้าเคืองไหมเนี่ย เดี๋ยวคราวหน้าจะเรียกพี่สาว)
ถึงพี่ wan
คงจะเดาได้อีกเยอะเลยนะครับจากตอนล่าสุด
คงหมายถึงว่า ขยันเขียนมาลงบ่อย ๆ
ถึงคุณ lolojung
แม่ชีอาจจะเป็นนกทุกกลับชาติมาเกิด
ถึงคุณ kungyung
ผม..ยิ่งเขียนก็ยิ่งอยาก..
ถึงคุณ mist
เช่น?
ถึงน้อง Yurameki
จำได้ครับ
ถึงคุณ aaax
ทัศนคติของคุณเป็นที่ต้อนรับที่นี่ครับ
แอบดีใจที่มีคนเอาไปประยุกต์ใช้
ถึงน้อง [N]€ẃÿ{k}uñĢ
แก้คำผิดแล้วนะครับ ขอบคุณมาก
ถึงคุณ jokirito
นั่นสิครับ
ถึงพี่ Tifa
กะนักศึกษาแพทย์เหรอครับ
ผมขอสมัครเป็น TA ได้มั้ย?
ถึงพี่ dahlia
แมวแบบไหนล่ะครับ กาฟิลด์รึ
ถึงคุณ Salim021
ผมแอบเสียดสีเธอไปแล้วครับ
ถึงน้อง a_tapha
ครูภานุ..ผมว่าบทเขาสำคัญมากเลยนะ
ถึงพี่ กิมตี๋หัดขับ
ตอนแรกเรียกน้องเพราะตี๋แปลว่าน้องชายไงครับ
แต่ตอนนี้แน่ใจว่าพี่กิมแก่กว่า หึหึ
รู้แต่ว่าชอบโฆษณานี้
ผงซักฟอก...ทำใผ้าหอมสะอาดกว่าที่เคย
ปล. เอ๊ะๆ
ถึงคุณ ever-never
จิ๊บ ๆ ครับ
ถึงคุณ gypsy
ถูกศีลธรรมแบบมือถือสากปากถือศีลผมก็ไม่เอานะ
ถึงพี่ Turn_righT
ครับ
ถึงป้า andy_kwan
ร้านป้าอยู่ตรงไหนครับ ผมจะไปปล้ำลูกค้าให้
ถึงคุณ popper
ยิ่งมีป๊อบเปอร์ยิ่งสนุก
ถึงคุณ JChloe
เดี๋ยวจะมาเรื่อย ๆ ครับ
ถึงคุณ Dee^daY
น่าจะมาเรียนซาร์ตร์กับผมนะครับ
ถึงคุณ ever-never
พอแสบ ๆ คัน ๆเหมือนล้างหน้าด้วยน้ำคลองแสนแสบน่ะครับ
ถึงป้า andy_kwan
แหม...
-
สนุก ๆๆ เก็บกดอะไรหรือเปล่าถึงเขียนเรื่องนี้อ่ะ 555+
พี่ไม่ได้ทวงนะ แค่อยากบอกว่าคิดถึงคีรีอ่ะ
-
ชวนไปแสดงต่อที่ห้องแล้ววววว นายชิตหาอะไรมาแสดงได้ตื่นตาตลอด :laugh:
-
เข้ามาเจอนิยายเรื่องใหม่ของคุณแทน
ขอบอกว่าชอบมากกกกค่ะ :o8:(จิตดีหนู๋ชอบๆ 55)
อ่านเรื่องนี้แล้วโนว์รู้สึกว่า
เป็นเรื่องที่มีจิตวิทยา ปรัชญา เพศศึกษา มารวมกันอยู่ในองค์ ตามแบบการเขียนของคุณแทนเช่นเดิมเลย
(แสดงให้เห็นว่าฝีมือไม่เคยตก)
มีแรงดึงดูดในเนื้อเรื่องโดยเรื่องเพศ แต่แอบแฝงปรัชญากับจิตวิทยาไปด้วยกัน
โนว์ชอบมุมมองของการเล่าเรื่องที่แฝงให้เห็นความปรารถนาในการครอบครอง(ความรักความใคร่)ของเรื่องนี้มากค่ะ
ตรงกับความเป็นจริงที่สุด
เหมือนที่เค้าบอกกันว่า การเห็นหญิงสาวใส่เสื้อผ้าบางๆให้ความรู้สึกเร้าใจกว่าการที่เปลือยหมด
ในเรื่องนี้เช่นกันที่มีตัวละครหลายตัว สนใจกันเพราะความลึกลับนั้น
ว่าแต่ หนู๋ชิตตพัณจะได้รุกใครบ้างมั๊ยคะ จากที่อ่านมานี่ ดูจะเป็นที่สนใจในการถูกรุกมากกว่านะ 55
เรื่องนี้อัพถี่มั๊ยคะ? จะปลีกตัวมาอ่านบ่อยๆ มันโดนใจ
-
ขอบคุณที่เอามาลงต่อครับ
อ่านแล้วนึกถึงงานพวก จัน ดารา หรืองานอีโรติค (ที่เค้าว่ากันว่าแรง) ที่จำชื่อหนังสือไม่ได้แล้ว (เพราะมันไม่ใช่เรื่องเกย์เลยจำไม่ได้) หึ หึ หึ (edit: จำได้ละครับ เอ็มมานูเอล)
นึกถึงคำพูดของฟรันซ์ คาฟคา ทำนองว่า เราต้องการวรรณกรรมที่จะมาโบยตีให้ได้คิด (จำคำเป๊ะ ๆ ไม่ได้ครับ)
แล้วก็แปลกไหม นึกถึง "โลกของโซฟี" ด้วย
รออ่านตอนต่อไปครับผม :)
-
พึ่งได้อ่าน
อยากบอกว่า
รู้สึกว่าตัวเองเป็น ชิตตพัณ จิตไม่ปกติเหมือนกัน 555+
ขอบคุณมากนะค่ะที่นำเรื่องนี้มาลงให้อ่าน
-
อ้าตอนนั้นผมมาเม้นแล้วมันไม่ติดแหงเลย
เม้นไปว่าเหมือน ชิอุ อะครับ
แต่ดูท่าจะไม่เหมือนมากขึ้นเรื่อยๆละ
ชิตตพัณนี่ต้องการความตื่นเต้นตลอดเวลาเลยนะครับ :z1:
ส่วนอาการของเดชนี่เค้าเรียกว่าอะไรหว่า อะไร part ๆ ในเรื่องไอคอล อ่าครับ เหอๆ
+1 ใ้ห้คร้าบ
-
เอาเดชมาช่วยเล่นเหรอ คริๆ
ส่องกันกระจายเลยนะ ห้องนั้นอ่ะ :m20:
-
แอร๊ยยยย
ห้องไหร use อะไร
และเวลาไหนคะ บอกด้วย
/ m e เปิดคอมรอเตรียมส่อง
-
อ่อ นี่ล่ะมนุษย์
-
• ธีรเดชดึงถุงเท้าผ้ามาทีละน้อยจนถึงส้นเท้า
มันกลมกลึงและเนียนเรียบอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของผู้ชาย
เด็กหนุ่มมองความงามสมบูรณ์แบบที่ถูกโอบอุ้มในมือของเขาราวกับเข้าภวังค์
ว้าย fetishism อิอิ
• “อยากให้นายแสดงอย่างนี้อีกครั้ง” เขาบอก
และด้วยคำทิ้งท้ายที่เหมือนจุดประทัดยัดเข้าไปในหูของธีรเดช “ที่ห้องของผม...”
วุ้ย อยากขึ้นตัวเทาละสิ นายชิด ชิส์
• ถึงป้า kit
อย่าเครียดสิครับ
ผมชอบที่จะถูกจิกกัดและได้จิกกัดป้ากิตบ้างเท่านั้นเอง
(เรียกป้าเคืองไหมเนี่ย เดี๋ยวคราวหน้าจะเรียกพี่สาว)
ต๊าย กิต.ไม่ได้เครียดนะคะ.......แค่โงงงงงงง plussss
ที่ไม่ get '2' และ 'ให้ดอกไม้'
เขา(ที่ปรึกษากิต.)ว่า รูปที่ฝากมา เป็น essentials ของ CF. เลยนะคะ ใครๆก็ดูแล้วเข้าใจ
ป.ล. แอบกระซิบถามนายชิดดูรึยัง
ป.ล.(ของป.ล.) กิต.ไม่ได้นิยม S & M นะคะ จะมาจิกมากัดกัน
แค่กิต.ชอบเห็นเลือดค่อยๆซึมออกมาจากบาดแผลอย่างช้าๆ
หยาดหยดลงไปบน bedspread สีขาว ghostwhite
กระจายออกเป็นวง กว้างขึ้นทีละน้อย
ไม่ถึงกับ pervert ค่ะ หุหุ
ป.ล.[ของป.ล.(ของป.ล.)] จะเรียกหาว่ากระไร ก็เรียกไปเถิดค่ะ
แค่ลงท้ายคำด้วย'กิต.' กิต.ก็รู้ว่าจะ communicate กับใคร อิอิ
๔๓๘ + ๑ = ๔๓๙
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
โอ้ววว น่าติดตาม และตื่นเต้นซะแล้วสิ
ส่องแคมเป็นคู่แข่งกัน นายบรรณศร จะแอบอิจฉาพี่เคนธีรเดชรึเปล่า :z1:
ผมเริ่มจินตนาการไปก่อนหน้าซะแล้วสิครับแทน
-
ที่ห้อง หรอ ?
ทำอะไรน้าาาา จะรอดู :-[
-
+1 ให้คุณ Kirimanjaro ยิ่งอ่านก็ยิ่งได้เจอความจิตของบุคคลโดยทั่วไป
เนื้อเรื่องออกแนวจิต+ปรัชญา (แล้วเราจะตะกายถึงไหมเนี่ย) แต่ก็ชอบอ่าน
เพราะดูเป็นเรื่องท้าทายและนอกกรอบดี (ในยุคนี้ถ้าใครทำงานในวงราชการ
จะรู้ซึ้งถึงคำว่า "ท้าทาย+นอกกรอบ" เป็นอย่างดี (กดดันโคตร ๆ เลย) อ่าน
เรื่องนี้ทำให้ได้รับรู้ความรู้สึกนึกคิดบางอย่างของตัวละครบางคนซึ่งอยู่ลึก
(ถ้าคนอ่านขุดเองจะเจอไหม) ขอบคุณ kirimanjaro ที่ช่วยขุดมาให้ได้
รับรู้กัน จะรออ่านตอนต่อไป ยิ่งอ่านยิ่งน่าค้นหา ........... :pig4:
-
บางครั้งคนเราก็ไม่ต้องใช้กระจกเงาส่องตัวเราหรอกคับ
แค่มองตัวเราเองแล้วเข้าใจอย่างน้อยนั่นก็คือ การส่องสันดาน
ได้ดีกว่า...
-
วันนี้เปลี่ยนอวาตาร์เป็นรูปบรูซวิลลิสครับ รู้สึกจะหน้าตาเหมือนผมที่สุดแล้ว 5555+ :laugh:
ซะที่ไหนล่ะ :z3:
-
ว้าย!!!!!!!
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
:impress2:
อ่านแล้วจะบ้าตามมัวแต่คิดไปว่าต่้างฝ่ายต่างมีความลับให้กันและกันเก็บคนละอย่าง
กลับกลายเป็นว่านี่มันมาชวนไปทำระยำบนห้องแคมต่ิออีก
ร้ายกาจนิ พูดถึงเพื่อนเดช นี่ก็สุดๆล่ะสามารถหาที่ระบายได้น่าอดสู่และแลดูโสไม่มีที่ติ 555+
แล้วจะรออ่านต่อ
นิว(งามอย่างผู้ดี)
-
แตน แต่น แต๊น สงสัยว่าวงการเวบแคมจะได้ดาวดวงใหม่ประดับฟากฟ้า :laugh: แค่เห็นเท้าขาวๆ ก็มีอารมณ์ .... แจ่ม
ปล. เป็นการ์ฟิลด์ก็ดีนะ เต็มไม้เต็มมือดีค่ะ o17
-
ศึกเว็บแคม ชิตพัณณ์กับเพื่อนเดช VS สองพี่น้องบรรณบถ บรรณศร งานนี้ใครจะชนะกันนะ
-
ยังอ่านไม่ถึงตอนล่าสุดแต่อดเมนท์ไม่ไหว
ชอบประเด็นในเรื่องมากๆ แถมภาษาที่ใช้ก็แจ่ม โอ๊ย ชอบมากๆฮับ
ปล. อ่านเรื่องนี้แล้วให้อารมณ์คล้ายๆกับตอนดูหนังที่ชอบที่สุดอย่าง the piano teacher เลย ปาบปลื้ม
ปล.2 thk for this story na kubb
-
โอ้วววว
ชิตชวนเดชไปห้องแล้ว
จะเป็นไงต่อไปเนี่ย
ยิ่งอ่านยิ่งติด อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆเลยคับ
-
คนขับแท๊กซี่ ไม่หือ ไม่อือ อะไรเลยเหรอ :z1:
-
ชอบตอนที่ 6 จัง :-[ รู้สึกว่าเดชน่ารักอ่ะ หลงรักที่ข้อเท้า
อยากอ่านตอนต่อไปละ ชวนไปห้องแล้วจะเป็นยังไงน้า....
-
อาจจะเป็นพรุ่งนี้นะครับสำหรับตอนใหม่
ช่วงนี้ผมกำลังปั่นงานวิจัยเกี่ยวกับองค์ความรู้บางอย่างในพระไตรปิฎกอยู่ครับ
(เห็นมะว่าหน้าฉากผมเนี่ยช่างน่านับถือและเปี่ยมไปด้วยศีลธรรมจรรยาเสียจริง)
:laugh:
:m20:
คืนนี้ปั่นได้ ๑ พระสูตร
ถ้าเอาเวลามาเขียนนิยายคงได้ 1 ตอนพอดี :sad4:
-
:z13: จิ้มคนขยัน "ปั่น" งานค่ะ
เจอกันที่ "ห้อง" ในตอนต่อไปนะคะ ^ ^
-
อ่านมาทั้งตอน สรุปได้ว่า...... แตกง่ายจังฟะ - -"
-
รออ่านอยู่นะคะ สนุกแปลกๆดี :really2:
แต่ทำได้ไงแต่งนิยายเรื่องนี้แล้ววิจัยเกี่ยวกับพระไตรปิฎก...ช่างสามารถ o13
-
ไม่มีคำนิยามคำไหนที่ดีกว่าว่า
"สุดยอด"
โดดเด่นมากเลยครับ
-
"ตอนแรกเรียกน้องเพราะตี๋แปลว่าน้องชายไงครับ
แต่ตอนนี้แน่ใจว่าพี่กิมแก่กว่า หึหึ"
อ้ายยยยย ไปเอาความคิดรวบยอดนี้ มาจากไหนเคอะ หึหึหึ :laugh:
"ลำดับแรก คนเขียนจิต ลำดับสอง คนอ่านจิตไม่แพ้กันจนคนเขียนอยาก..." หึหึหึ
ตกลง งูเห่าพ่นพิษหน้าประตูบอลเลยหรือ หหิหิหิ แล้วคนขับแท็กซี่ไม่กลับไป...ต่อหรือ กลิ่นน้ำหอมคละคลุ้งขนาดนั้น หึหึหึหึ
คุณคีรีเปลี่ยนดีสเพล เป็น เวตาล อิอิอิ ของเดิมเห็นแร้น....อ้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
ผมขอชมผู้แต่งนะครับ
เพราะว่า มีลีลาการแต่ง ที่ฉีกแนวกว่าคนอื่นๆๆ
ขอบคุณนะครับ
-
อร๊ายยยยยย มานอนกลิ้งรออ่านตอนใหม่
รออยู่น้าาา :impress2:
(กดดันๆ อิอิ)
-
บทที่ 7
ถ้าถามว่าทำไมผมถึงเขียนบทนี้ได้ช้านัก ผมคงจะต้องตอบว่ากำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่าจะเรียกตัวเหี้ยว่าเหรี้ยหรือเฮี่ยดี เอ้าจริง ๆ นะ เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ค่อนข้างจะสำคัญในระดับชาติและสังคมของเราที่การพูดจาหยาบคายอย่างเปิดเผยและจริงใจเป็นการกระทำที่น่าประณามและทนฟังไม่ได้จนอาจจะต้องหาส้นตีนสักอันมาอุดหู (อาจจะบางทีถ้าคุณเกลียดใครสักคนจนอยากพูดจาหยาบคายด้วยอย่างจริงใจ จะเป็นการดีกว่าถ้าคุณจะหยาบคายใส่เขาโดยอ้อมหรือลับหลังให้เจ้าตัวรู้ได้เองว่ากำลังถูกกระทำชำเราด้วยวาจา และนั่นแหละคือความหยาบคายอย่างปลิ้นปล้อนที่ยอมรับได้สำหรับสังคมไทย)
กลับมาพูดเรื่องเหรี้ยเฮี่ยอีกทีนึง หากจะว่าไปแล้วภาษาไทยก็เหมือนกับหญิงแพศยาร่านสวาทที่สมสู่กับชายชู้มากหน้าหลายตา และบ่อยครั้งมักจะยกย่องคู่ชู้มากกว่าผัวอันซื่อตรงของหล่อน อย่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยดึกดำบรรพ์ที่ภาษาเขมรได้รับการยกย่องว่าเป็นความสูงส่งราวกับลำลึงค์ที่ผงาดขึ้นไปบนท้องฟ้า และเหมาะแก่ทวยเทพผู้สมสู่ในหมู่ญาติพี่น้องของตนเอง ภาษาสันสกฤตตามเข้ามาพร้อมกับศาสนาและวรรณคดี และเพิ่มความนิยมให้แก่การควบกล้ำด้วยร.เรือให้พุ่งกระฉูด นี่แหละผมกำลังอ้างว่าคำว่าเหรี้ยอาจจะดูไพเราะเพราะพริ้งและสูงส่งกว่าเหี้ยด้วยเหตุฉะนี้
กระนั้นแล้ว ผมจำได้ว่าสมัยยังเด็ก ๆ และได้ไปเข้าค่ายลูกเสือ มีฐานหนึ่งสอนให้ร้อง “เอีย ๆ” ซึ่งว่ากันว่าบีพีพาวเวลล์กล่าวว่าเป็นเสียงร้องของเสือ และพวกเราเป็นลูกเสือจึงต้องร้องเอีย ๆ ตอนนั้นผมกำลังชื่นชมกับการเป็นลูกเสือมากโดยไม่ตระหนักเลยสักนิดว่ากำลังถูกล้างสมองตั้งแต่เด็ก แต่อย่างไรผมก็ยังไม่ยอมร้องเอีย ๆ แต่ผมจะแผลงเป็น เฮี่ย ๆ เหมือนจะด่าพวกครูฝึกหน้าส้นตีนทั้งหลายไปในตัว แต่ก็เป็นไปได้อีกนั่นแหละว่าผมอาจจะกำลังต่อต้าน เพราะว่าลึก ๆ แล้วผมอยากให้เสือร้องว่า โคร่ง ๆ หรือ โฮก ๆ มากกว่า
ยังมีอีกว่าคำว่า เฮี่ย ได้วิวัฒน์จากภาษาอังกฤษว่า Here (ราชbanditสถาน 2009) และนั่นน่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอให้มันได้รับ respect ยิ่งกว่าคำอื่น ๆ โอเคป่ะ?
และระหว่างที่ชิตตพัณกำลังชักชวนธีรเดชไปทำเรื่องเฮี่ย ๆ สกฤตก็กำลังทำเรื่องที่เรียกได้ว่าเฮี่ยหรือเปล่ากับเรือนร่างของบรรณบถ กล่าวคือเขากำลังลูบไล้แผงอกเปลือยของเพื่อน ตามมัดกล้ามอกที่พอมีของเด็กม.ปลาย บรรณบถนอนหลับตาอยู่บนเตียงในห้องที่แทบจะไม่มีเครื่องเรือน ห้องนอนของสกฤต แต่ถ้าดูใกล้ ๆ แล้วจะพบว่าบรรณบถไม่ได้หลับไปจริง ๆ เขาเพียงแค่หลับตาและปล่อยให้เพื่อนโลมลูบเนื้อตัวอย่างหื่นกระหายเท่านั้น
สกฤตเกิดอารมณ์ทางเพศรุนแรงมากจนต้องปลดกางเกงของตัวเองและใช้มือขวาจับชักอย่างรวดเร็วและรุนแรง ส่วนมืออีกข้างบดขยี้ไตนมที่เชิดสูงจากยอดของบรรณบถ เจ้าของร่างที่ถูกกระทำเบ้หน้าและปัดมือของอีกฝ่ายออก สกฤตเปลี่ยนไปลูบไล้ตรงหน้าท้องที่มีแนวกล้ามน้อย ๆ พื้นที่ตรงใต้สะดือของบรรณบถเนียนเรียบ ไม่มีริ้วรอยหรือเส้นขนสักเส้น สกฤตลูบลงไปและสอดนิ้วเข้าไปใต้ขอบกางเกงนักเรียนสีดำของเพื่อน สัมผัสกับพงไหมนุ่ม และก้อนเนื้อหยุ่นที่ยังคงหลับไหล
ด้วยจินตนาการว่าบรรณบถกำลังตอบสนองและพร้อมโจนทะยานเข้ามาร่วมรสรักกับเขา สกฤตสำเร็จความใคร่ในวินาทีที่แตะต้องความเป็นชายอันอ่อนล้าของบรรณบถนั่นเอง เขาคุกเข่าปลดปล่อยเมือกลาวาออกมาเป็นจังหวะราวกับกำลังราดรดน้ำมันหอมสู่รูปสลักของเทพเจ้าที่เขากำลังบูชาอยู่ บรรณบถถอนหายใจ และลืมตา
“เช็ดให้กูด้วย” เขาสั่ง
สกฤตซึ่งกำลังมึนเมากับแสงสีขาวถูกดึงกลับมากะทันหัน เขาสบสายตาเย็นชาของเพื่อนที่มีอำนาจเหนือเขาและรีบลุกขึ้นกุลีกุจอไปหาผ้ามาเช็ดให้อย่างหวั่นเกรง เขาตระหนักถึงข้อเท็จจริงอีกอย่างว่าบรรณบถไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ความเป็นชายของบรรณบถก็ไม่ได้ชูชันตัวขึ้นสักนิด เขาจะลองวิธีใหม่ในคราวหน้า สกฤตคิดอย่างมาดหมาย
ฝ่ายบรรณบถเขาทั้งสมเพชและชิงชังเพื่อนของเขา แต่สิ่งที่เขารู้แน่คือสกฤตมีประโยชน์ อย่างน้อยก็เป็นผู้หาเครื่องสนองความพึงพอใจให้แก่บรรณศร และความพึงพอใจของพี่ชายก็คือความพึงพอใจของเขา เขานอนเหยียดยาวบนเตียงนอนของสกฤตโดยนึกถึงการเป็นเครื่องบัตรพลีของตน เขาอุทิศร่างนี้ให้แก่บรรณศรผ่านมืออันหยาบช้าของสกฤต
อันที่จริงสกฤตมิใช่คนรูปทราม เขาสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร หุ่นดี ผิวไม่คล้ำไม่ขาว หน้าคม เหนือริมฝีปากมีไรหนวดอ่อน ๆ เป็นลักษณะของเด็กวัยรุ่นที่โตไว และมีเสน่ห์สำหรับเด็กสาว ๆ หลายคน เขายังมีดวงตาหวานเชื่อม และถ้อยคำรื่นหูเสมือนกลั่นจากน้ำผึ้ง ซึ่งแน่นอนว่าเขาใช้สำหรับทำเรื่องเฮี่ย ๆ โดยเฉพาะ
หลังจากที่สกฤตเอาผ้ากลับไปเก็บ บรรณบถก็ชันกายลุกขึ้น เขารู้สึกหนาวเยือก แต่ก็ไม่ได้คว้าเสื้อนักเรียนยับยู่ยี่มาใส่ เขาผ่อนลมหายใจช้า ๆ และมองไปเรื่อยโดยไร้จุดหมาย สกฤตเดินและเห็นหน้าท้องเปลือย ๆ ซึ่งขยับไหวเป็นลอนกล้ามของเพื่อนสนิท ก็รู้สึกร้อนวาบ ๆ ที่ท้องน้อยทั้ง ๆ ที่เพิ่งเสร็จสมไปเมื่อครู่ เขาเดินมาใกล้ และสายตาคมกริบของบรรณบถก็เปลี่ยนมาจับจ้องดวงหน้าของเขากะทะหัน
“มึงรู้มั้ย ไอ้ศรมันชอบผู้ชาย”
สกฤตนั่งลงข้าง ๆ สีหน้าเขางุนงง ถามกลับ “พี่มึงก็เอาทั้งผู้หญิงทั้งตุ๊ดไม่ใช่เหรอวะ”
“ไม่ใช่กะเทยหรือตุ๊ด กูหมายถึงผู้ชายที่แมน ๆ แบบมึงน่ะ ถึงหน้ามันจะใสเหมือนผู้หญิงก็เถอะวะ”
“อันนี้กูก็ไม่รู้ว่ะ มันอาจจะอยากลองของแปลกล่ะมั้ง” สกฤตพูดกลั้วหัวเราะเมื่อนึกว่าของแปลกบางอย่างที่สกฤตลองเขาไม่นึกอยากรู้เลยด้วยซ้ำ แต่แล้วเขาก็หยุดหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าของบรรณบถ
“แต่กูไม่ชอบ กูไม่ชอบให้มันไปชอบผู้ชาย ถ้ามันอยากเอาผู้หญิงสำส่อนหรือตุ๊ดร่าน ๆ ก็เอาไปสิ ทำไมมันต้องอยากเอาผู้ชายด้วย”
สกฤตพูดไม่ออก เขาไม่กล้าพูดอะไรตอนที่บรรณบถโกรธจนหน้าแดงก่ำ และมีสองตาแดงฉานเหมือนเทพเจ้าแห่งการแก้แค้น เขารอพักหนึ่งจึงพูดเสียงอ่อย ๆ ยืนยันความคิดเดิม
“มันอาจจะแค่อยากลองก็ได้นะ”
“ถ้ามันอยากลอง” บรรณบถพูดด้วยเสียงฟ่อ ๆ ในลำคอ “กูจะให้มันลอง” เขาหันมามองหน้าสกฤตด้วยสายตาเย็นเยือกเหมือนน้ำแข็ง “มึงไง กูกะไอ้ศรก็หน้าเหมือน ๆ กัน ถ้ามึงชอบกู มึงก็คงทนไอ้ศรได้”
เป็นอีกครั้ง ที่บรรณบถรู้ว่าอำนาจของเขาอยู่ตรงไหน หัวใจของสกฤตชาวาบเมื่อรู้ว่าถูกอ่านความรู้สึกออก และความหลงใหลในตัวเพื่อนของเขาถูกย้อนกลับมาเป็นเครื่องมือ ความรักในความหมายที่เราตกลงกัน ได้พันธนาการสกฤตไว้อย่างหนาแน่นยิ่งกว่าความเหนียวของเส้นผมสตรี เพราะนี่คือเส้นผมของบุรุษ
สิ่งแรกที่ธีรเดชเห็นเมื่อย่างเท้าเข้าไปในห้องพักของชิตตพัณคือความเป็นระเบียบ หนังสือ เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างวางไว้อย่างเป็นระเบียบ รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายในห้องที่สีสันขนาดรูปทรงถูกจัดไว้อย่างกลมกลืน ให้ความรู้สึกชัดเจน เพราะว่าความเป็นระเบียบของชิตตพัณ ไม่ได้หมายถึงการตั้งเส้นที่ไม่อาจผ่อนปรนหรือการพยายามจัดเรียงชื่อสิ่งของตามตัวอักษร แต่มันหมายถึงอำนาจของเขา อำนาจที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้โดยปราศจากความสับสน
ดังนั้นสิ่งที่ธีรเดชสัมผัสคืออำนาจ เขาถูกพาไปนั่งที่เก้าอี้ไร้พนักข้าง ๆ โต๊ะคอมพิวเตอร์ ความตื่นเต้นทางเพศที่เริ่มมาตั้งแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเริ่มถูกแทนที่ด้วยความสับสน เขาไม่ค่อยแน่ใจว่าเขามาทำอะไรกันแน่ ส่วนหนึ่งของมโนทัศน์ที่ถูกปลูกฝังบอกธีรเดชว่าคนที่เขาควรอยู่ด้วยและกำลังจะทำกิจกรรมต่อไปนี้น่าจะเป็นแพรอาภรณ์ซึ่งเป็นเพศตรงกันข้ามมากกว่าชิตตพัณซึ่งเป็นเพศเดียวกัน แต่อำนาจ..อำนาจของเพื่อนเขาที่แผ่ปกคลุมในระยะเวลาสั้น ๆ ได้บีบการตัดสินใจของหนุ่มนักบอลให้จนตรอก
ชิตตพัณวางกระเป๋าลงที่มุมห้อง และเดินมาเปิดคอมพิวเตอร์
“เรากำลังจะทำอะไร”
“โชว์นิด ๆ หน่อย ๆ”
ธีรเดชเริ่มเดาออกก็ร้อง “เฮ้ย” และทำท่าจะลุกขึ้น
แต่ชิตตพัณรีบยกขาข้างขวาที่ใกล้กับเพื่อนมาพาดบนตักของธีรเดช เขาจงใจใช้เท้าในถุงเท้าเนื้อหยาบเหยียบเสียดสีกับก้อนหยุ่น ๆ ในกางเกงบอลของอีกฝ่าย ธีรเดชเหมือนถูกจุดไฟขึ้นมากะทันหัน แค่แตะหรือสัมผัส สมองเขาก็นึกถึงภาพของปลายเท้าเนียนที่ช่วยสำเร็จความใคร่ให้เขาบนรถแท๊กซี่ เขาครางหงิงเหมือนสุนัขเชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย ทุกคนชอบเป็นนักแสดงทั้งนั้นแหละ”
ไม่มีใครรู้ว่าคำพูดของชิตตพัณกินความลึกแค่ไหน ตอนนี้คอมพิวเตอร์ได้เปิดขึ้นแล้ว ชิตตพัณเปิดโปรแกรมแคมฟรอก และระหว่างที่รอกระบวนการลอกอิน เขาก็ปลุกอารมณ์ของธีรเดชด้วยเท้า
ตอนนี้ธีรเดชอยู่ในอารมณ์คลั่งจนเกือบจะเป็นอาการซึมเซา เขาอยากจะกระทำชำเราอวัยวะที่สวยที่สุดของชิตตพัณเสียเดี๋ยวนี้ แต่คงจริงอย่างที่ชิตพัณบอก มนุษย์ทุกคนชอบเป็นนักแสดง และธีรเดชเองก็กำลังรอให้ผู้ชมพร้อม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ตัวว่ากำลังคิดเช่นนั้น
ในวินาทีที่ชิตตพัณเข้าไปในห้องแคมฟรอก บรรณศรก็ลอกอินเข้ามาพร้อม ๆ กัน บางคนอาจจะเชื่อว่าเป็นเรื่องของโชคชะตา แต่ถ้าถามชิตตพัณเขาจะบอกว่าเป็นเพียงการเขียนบทอันเยี่ยมยอดไร้ที่ติของพระเจ้า และพระเจ้าในความหมายของเขา บางครั้งก็ไม่เหมือนกับเรา แต่ผมคิดว่าเราไม่ควรถกเถียงกันในเรื่องนี้
บรรณศรล็อกห้อง แขวนป้ายห้ามรบกวนไว้ข้างหน้า ตาเขาจ้องมองหาชื่อของชิตตพัณ เมื่อพบเขาก็กดส่อง เขารู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาเมื่อพบว่าคนที่อยู่ในกล้องไม่ได้มีแต่ชิตตพัณเพียงผู้เดียว แม้ว่ากล้องจะส่องเห็นแค่ตักและหน้าอกของหนุ่มในชุดนักบอล แต่บรรณศรก็สังหรณ์ว่าหมอนี่ต้องรูปร่างหน้าตาดีมากทีเดียว
เขา, บรรณศร ไม่มีอารมณ์อยากจะโชว์ตอนนี้ เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ชมที่คอยเฝ้าดูว่าเท้าอันซุกซนของชิตตพัณกำลังจะทำอะไรกับเป้าตุงเต็มและกำลังขยายตัวของอีกหนึ่งหนุ่ม ชิตตพัณปรับกล้องให้เห็นใบหน้าของตนเอง และของเพื่อนใหม่ ซึ่งเบือนหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่าถูกสายตานับร้อยจับจ้องอยู่
ข้อความที่แสดงความหยาบคายทางเพศเข้ามาอย่างตรงไปตรงมาจากหลาย ๆ มือที่กำลังรัวบนแป้นพิมพ์ และบางมือยังติดคราบน้ำเมือกหล่อลื่นของตนเองอยู่ด้วยซ้ำ ธีรเดชหล่อเร้าอารมณ์อย่างไม่ต้องสงสัย และหลาย ๆ คนก็กำลังเสนอตัวให้เขาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นของชิตตพัณ
“อยากพิมพ์ตอบมั้ย” ชิตตพัณกระซิบถามเพื่อนซึ่งหน้าแดงก่ำเพราะความอาย ธีรเดชส่ายหน้าไม่ส่งเสียง เขาเริ่มรู้สึกอึดอัดเพราะความแข็งชูชันของตนมันล้นเต็มกางเกงใน และมันเจ็บ
ชิตพัณปรับกล้องให้เห็นส่วนกลางลำตัวของทั้งสองคน เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และถอดเสื้อบอลออกหน้ากล้อง ท่าทางการถอดของเขาช่างเย้ายวนเปี่ยมเสน่ห์ มันล่อลวงราวกับสัญญาของปีศาจที่ล่อมนุษย์ผู้หลงผิดมาเป็นทาสช่วงใช้
ช่วงที่เร้าอารมณ์ของธีรเดชก็คือตอนที่ชิตพัณณถอดกางเกงลงช้า ๆ เขายกขาข้างหนึ่งออกจากขากางเกง และปล่อยให้กองผ้านุ่มลื่นติดอยู่บนปลายเท้าอีกข้างที่เหยียบอยู่บนเก้าอี้ ในกล้องทุกคนได้เห็นอย่างชัดเจนถึงขาอ่อนสีขาวละเอียดเหมือนน้ำนมของวัวศักดิ์สิทธิ์อันราดรดลงมาบนเทวรูปหินอ่อนของเทพีแห่งพรหมจรรย์ ท่อนขาของชิตตพัณทั้งแข็งแกร่งและดูบอบบางจากสีและความเนียนไร้ที่ติของมัน เขาพยักหน้าให้แก่ธีรเดช ซึ่งช่วยปลดกางเกงจากปลายเท้าของชิตตพัณออกอย่างเต็มใจจนเกือบจะกระตือรือล้น
ธีรเดชอดใจแทบไม่ไหวเมื่อเห็นข้อเท้าขาวผ่อง เขาใช้มือสั่นระริกแตะต้องเนื้อเนียนราบเรียบนั้นและดึงร่นถุงเท้าออกไปทีละน้อย เขาคุกเข่าลงกับพื้นประคองเท้าเปลือยของชิตตพัณขึ้นมาจากเก้าอี้ และพรมจูบลงไปอย่างเสน่หา ฝีปากของธีรเดชเหมือนกับโสเภณีผู้คร่ำโลก ดูดดุนหัวแม่เท้าของชิตตพัณราวกับว่ามันคือก้อนแอมโบรเชียอันเป็นทิพย์ เขาเลื่อนมาขบเม้มตรงระหว่างง่ามนิ้วอันยังความเสียวแปลกให้ผู้ได้รับการปรนเปรอสะดุ้งเสียวและทำท่าจะชักเท้าถอย แต่มือของธีรเดชเหมือนคีมเหล็ก มันจับส่วนที่เขากระทำชำเราอยู่ขึงไว้ไม่ให้ขยับเขยื้อน ธีรเดชขบและกัดอย่างพอแรงเหมือนลูกสิงโตฟันขึ้นใหม่กำลังลับเขี้ยว บีบของเขาบีบเค้นหมายสัมผัสให้ลึกไปถึงแก่นวิญญาณผ่านทางเท้าของชิตตพัณ
ในจำนวนศาสตร์ลี้ลับของอินเดีย การกดจุดสะท้อนเท้าถือว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดศาสตร์หนึ่ง ความเชื่อของพวกเขาบอกว่าแต่ละจุดบนฝ่าเท้าและนิ้วเท้าต่างก็เชื่อมโยงกับอวัยวะต่าง ๆ ทุกส่วนในร่างกายของเจ้าของเท้า ในเมืองไทยศาสตร์นี้มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก โดยเฉพาะตามมาสสาจสปาแฝงบริการต่าง ๆ ซึ่งเด็กนวดระดับดาวประจำร้านมักจะล่วงรู้ว่าการนวดที่จุดใดในเท้าที่สามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้
และ..เราจะพูดคุยถึงเรื่องเฮี่ย ๆ กันต่อไป เร็ว ๆ นี้ ผมสัญญา
-
อ่านเรื่องนี้อะไรก็คาดเดาไม่ได้จริงๆ อ่านแล้วก็อยากรู้ต่อไปเรื่อยๆค่ะน้องแทนไอ้เรื่องเฮียๆเนี่ย :laugh:
-
ขอบคุณ "ราชbanditสถาน 2009" สำหรับคำจำกัดความของคำว่า "เฮี่ย" ค่ะ
TBC..
-
๔๔๖ + ๑ = ๔๔๗
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
ที่เขียนไว้ในย่อหน้าแรกน่ะ มันไม่ใช่แค่สังคมไทยหรอกนะ น่าจะเป็นสังคมโลกมากกว่า
รออ่านต่อไปครับ
-
อื่มมมมมมมมมมมมมมมมม นะ
มันเป็นความจริงอย่างหนึ่งของโลกใบนี้
อยากดูโชว์ต่ออ่ะ
-
ข้าพเจ้าจติดตาม เรื่องราว แลนๆ(monitorๆ) เรื่องนี้ต่อไป o13 :z2:
-
รออ่านว่าเมื่อไหร่จะจเอกัน ฮิฮิ :z1: :z1:
-
ค้างครับ อ่านแล้วเพลินจริงๆ
เห็นอัพเยอะๆ แทนที่จะขี้เกียจอ่าน
แต่กลับกระตือรือล้นยิ่งกว่าเดิม
ภาษา และการเปรียบเทียบยังสุดยอดเหมือนเดิม
รอลุ้นต่อไป ว่าจะได้เจอกับเรื่องเฮี่ยๆ อีกเมื่อไหร่
o13 o13
-
ว้าวๆๆๆ :impress2:
ชอบคอนเซปต์ส่วนตัวของเดชจริงๆ มีอารมณ์กับเท้าสวยๆ ข้อเท้าขาวๆ
ไม่รู้ว่าศรจะรู้สึกเสียดายบ้างหรือเปล่าที่ตอนนี้ตัวเองทำได้แค่ดู..อ๊ะๆๆ อยากมีส่วนร่วมล่ะสินายบรรณศร
รอลุ้นอยู่เหมือนกันว่าชิตตพัณจะเจอบรรณศรในเหตุการณ์แบบไหน
รออ่านตอนต่อไปอยู่จ้า... :pig4:
-
ก่อนหน้าตอนที่ 07
ถึงพี่ tawada_j
เรียกว่าปลดปล่อยนิด ๆ ก็คงได้ครับ
ถึงน้อง lolojung
ตื่นตาและตื่นตัว
ถึงน้อง sNow
สรุปว่าเขียนได้หื่นเหมือนเดิมล่ะสิ 5555+
นู๋ชิตบอกว่าเขาไม่ได้เป็นทั้งรุกและรับนะครับ
ไบก็ไม่ใช่ โบทก็ไม่ใช่เหมือนกัน
เอ๊ะ แล้วเขาเป็นอะไรกันนะ
ผู้หญิงปลอมตัวมา !!
ถึงคุณ aaax
ผมรู้จักเรื่องนี้ (เอ็มมานูเอล) แต่ไม่เคยอ่าน
พอดีอ่านประวัติของนักเขียนจากนิตยสารชีวจิต
ได้ข่าวว่าเขาตายด้วยวิธีการุณยฆาตนี่ครับ
คำพูดของคาฟคาก็น่าคิดนะครับ
แต่ผมว่า นักเขียนก็ต้องการผู้อ่านให้มาโบยตีเหมือนกัน
โดยเฉพาะพวก masochist writer
ถึงคุณ €H_bO[51]
ผมเพิ่งสังเกตว่าเรื่องนี้ผู้หญิงอ่านเยอะกว่าผู้ชาย
ยินดีต้อนรับครับ
ถึงคุณ mantdash
แมนจะบอกว่าตนเองเหมือนกับแพรอาภรณ์มากกว่า?
อาการของเดช ศัพท์จิตวิทยาเรียกว่า foot fetishism
ถึงน้อง Yurameki
นั่นสิครับ
ถึงพี่ Tifa
คาดว่าพี่เอกคงได้ดูไปแล้ว ได้ข่าวว่าเชี่ยวทุกห้องเลยนี่ครับ
ถึงคุณ ~Muํ_$aฺma~
หุหุ
ถึงเจ้ kit
รสนิยมเราไปกันได้นะครับ
แต่งงานกับผมเถอะ
ถึงคุณ jokirito
รอดูตอนหน้าล่ะกันนะครับ
ถึงคุณ ever-never
หุหุ เขินเหรอครับ
ถึงคุณ DEMON3132
ไม่ต้องคิดว่าจะตะกายถึงหรือเปล่าหรอกครับ
เพราะว่าเรื่องนี้เป็นอัตวิสัย ขึ้นกับการตีความของแต่ละคนไม่มีถูกหรือผิด
ถึงคุณ Dee^daY
ส่วนใหญ่เวลาเข้าห้องแคมฟรอกแล้วไม่ค่อยมีใครส่องตัวเองครับ
ถึงเจ้ kit
ตกใจกับรูปว่าที่คู่หมั้นเหรอครับ
ถึงน้อง [N]€ẃÿ{k}uñĢ
ชอบคำว่า โสไม่มีที่ติ ครับ
สะใจดี
ถึงพี่ dahlia
ผมอยากจับแมวอ้วนนั่นมาปิ้งกินแทนไส้กรอก
ถึงคุณ mist
สงสัยไม่ต้องพนันแล้วครับงานนี้
ถึงคุณ CallmeNut
อยากดูหนังเรื่องที่ว่า
จะมีการเอาสายเปียโนมาพันตัวหรือเปล่านะ
ถึงคุณ gypsy
ต้องรอนิดนึงครับ
เพราะเขียนเรื่องนี้ยากพอดูเลย
ถึงพี่ kimi dake!!!
ธีรเดชนั่งตรงเบาะหลังพนักเก้าอี้คนขับพอดีครับ เป็นมุมที่มองไม่เห็นจากกระจก ผมลองแล้ว อุ๊บส์ >x<
ถึงคุณ Turn_righT
หุหุ
งั้นก็กลายเป็นคนที่หลงรักคนที่หลงรักข้อเท้าสินะครับ
ถึงคุณ JChloe
กำลังขยันและคันคะเยอครับ
ถึงน้อง Slithy
เจอความตื่นเต้นมาก ๆ มักจะแตกง่ายครับ
ไม่เชื่อลองลักหลับเพื่อนคนที่ชอบมาก ๆ ดูสิ
ถึงพี่ M@nfaNG
ผมคงเป็นชิตตพัณน่ะครับ สามารถมีสองบุคลิกได้
ถึงน้อง MonkeYMauS
ที่พี่หายไป ก็วิ่งเล่นอยู่รอบใจมิคเท่านั้นเองครับ
ถึงเฮีย กิมตี๋หัดขับ
เอ่อ จริง ๆ ก็น่าจะได้กลิ่นนะครับ ธีรเดชเล่นกระฉูดออกปานนั้น หึหึ
ถึงคุณ ppanudet
ชื่อภานุเดชเหรอครับ เท่ดี
ถึงน้อง sNow
กลิ้งปั๊บมาปุ๊บเลยนะครับ
-
ขอบคุณฮะ
-
หลังตอน 07
ถึงพี่ M@nfaNG
แต่ทุกคนเดาได้ว่าต้องกลับไปต่อที่ห้อง อิอิ
ถึงคุณ JChloe
เพิ่งซื้อฉบับ 2009 มาเมื่อวานครับ
ถึงเจ้ kit
ผมสอนปรัชญา เจ้กิตสอนคณิตศาสตร์ ลงตัวดีเนาะ
ถึงคุณ aaax
แต่เป็นลักษณะเด่นของสังคมไทยครับ
ชนิดที่ว่าถ้ามีการแข่งขันโอลิมปิคทางด้านนี้
ไทยชนะเลิศศศศศ
ถึงคุณ kungyung
โชว์ต่อตอนหน้าครับ
พอดีช่วงนี้สอบปลายภาคและงานสุมหัว เลยช้านิดนึง
ถึงเฮีย กิมตี๋หัดขับ
มัน Local Area Network ไม่ใช่เรอะ!!!
ถึงคุณ Resonance
เจอกันตัวเป็น ๆ น่ะหรือครับ
แหมต้องกั๊กไว้บ้างเด้
ถึงคุณ gypsy
ปกติความจะจบในตอน
แต่ตอนนี้ไม่ปกติ
เรื่องเฮี่ยเหรี้ยจะถูกพูดถึงอีกแน่นอนครับ
ถึงคุณ Turn_righT
ผมว่าผมพบสมาชิกสมาคม Foot Fetishism แห่งประเทศไทยที่หายสาบสูญไปแล้วล่ะ
ถึงคุณ ppanudet
ครับ
-
ข้าพเจ้าจติดตาม เรื่องราว แลนๆ(monitorๆ) เรื่องนี้ต่อไป o13 :z2:
คุงคีรีฯ ต้องแปลคำว่า "แลน" เป็นภาษาปักษ์ใต้คับ ( มันเป็นสัตว์ที่อยู่ในรัฐสภามากที่สู๊ด) แลน = monitor
-
เปิดตัว เปิดหน้ากันเลย สงสัยรุ่งเช้า นักบอลสุดหล่อจะทำยังไง
งั้นก็มารอตอนต่อไป ไม่ต้องคิดมาก 555....
+1 ให้แทนเช่นเคย ครับ
-
โดยส่วนตัวแล้ว
ผมคิดว่า สังคมไทย (แบบที่เรา หรือใครบางคนพยายามจะปั้นกันขึ้นมา) ในปัจจุบันนี้ต่างหากที่มีปัญหา ปากไม่ตรงกับใจ (หรือว่า ยืมศัพท์มาจากนิยายเรื่องนึงที่เพิ่งอ่านเมื่อกี้ในบอร์ดนะครับ สังคมที่มีสกิลตอแหลได้โล่ห์)
ถ้าเราไปดูวรรณกรรมเก่า ๆ หลาย ๆ เรื่อง เราจะพบว่าเรื่องทางเพศเป็นที่ยอมรับกันได้ในสังคมไทย แม้จะตรงบ้างอ้อมบ้างก็ถามเถิด อย่างในขุนช้างขุนแผนเราก็จะได้รู้ว่า ไม่ใช่แค่เด็กสมัยนี้หรอกที่มันแก่แดดแก่ลม แต่คนไทยสมัยก่อนแต่งงาน (หรือได้เสีย) กันตั้งแต่อายุ 14 (หึ หึ หึ) หรือบทอัศจรรย์ที่ใช้ได้ดีกว่าการกำหนดเรตติ้งดังนี้เป็นต้น
ผมกลับมองว่าสังคมตะวันตก (โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคกลาง และยุควิคตอเรียน เป็นต้นมา) มีปัญหาเรื่องนี้มากกว่าครับ แล้วยังพาลกลายเป็นว่ากระแสนิยมตะวันตกนำไอ้แนวคิดแบบนี้มายังประเทศเรา สังคมเราครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวครับ อาจจะพลาดได้เพราะก็ลืม ๆ ไปเยอะแล้วครับ
ถ้ามีตรงไหนพลาดก็ขออภัยนะครับ และจะยินดีมาก ถ้าแก้ให้ด้วยครับ :)
-
อ้างไปน้ำขุ่น ๆ ได้เฮรี่ยมาก :jul3:
-
ข้าพเจ้าจติดตาม เรื่องราว แลนๆ(monitorๆ) เรื่องนี้ต่อไป o13 :z2:
คุงคีรีฯ ต้องแปลคำว่า "แลน" เป็นภาษาปักษ์ใต้คับ ( มันเป็นสัตว์ที่อยู่ในรัฐสภามากที่สู๊ด) แลน = monitor
555+ แอบมาฮามุขคุณ กิมตี๋หัดขับ
ได้ใจอย่างแรงค่ะ :laugh:
-
โดยส่วนตัวแล้ว
ผมคิดว่า สังคมไทย (แบบที่เรา หรือใครบางคนพยายามจะปั้นกันขึ้นมา) ในปัจจุบันนี้ต่างหากที่มีปัญหา ปากไม่ตรงกับใจ (หรือว่า ยืมศัพท์มาจากนิยายเรื่องนึงที่เพิ่งอ่านเมื่อกี้ในบอร์ดนะครับ สังคมที่มีสกิลตอแหลได้โล่ห์)
ถ้าเราไปดูวรรณกรรมเก่า ๆ หลาย ๆ เรื่อง เราจะพบว่าเรื่องทางเพศเป็นที่ยอมรับกันได้ในสังคมไทย แม้จะตรงบ้างอ้อมบ้างก็ถามเถิด อย่างในขุนช้างขุนแผนเราก็จะได้รู้ว่า ไม่ใช่แค่เด็กสมัยนี้หรอกที่มันแก่แดดแก่ลม แต่คนไทยสมัยก่อนแต่งงาน (หรือได้เสีย) กันตั้งแต่อายุ 14 (หึ หึ หึ) หรือบทอัศจรรย์ที่ใช้ได้ดีกว่าการกำหนดเรตติ้งดังนี้เป็นต้น
ผมกลับมองว่าสังคมตะวันตก (โดยเฉพาะตั้งแต่ยุคกลาง และยุควิคตอเรียน เป็นต้นมา) มีปัญหาเรื่องนี้มากกว่าครับ แล้วยังพาลกลายเป็นว่ากระแสนิยมตะวันตกนำไอ้แนวคิดแบบนี้มายังประเทศเรา สังคมเราครับ
ความคิดเห็นส่วนตัวครับ อาจจะพลาดได้เพราะก็ลืม ๆ ไปเยอะแล้วครับ
ถ้ามีตรงไหนพลาดก็ขออภัยนะครับ และจะยินดีมาก ถ้าแก้ให้ด้วยครับ :)
ขอตอบด้วยความประทับใจเป็นพิเศษ
ผมยังยืนยันว่าสังคมไทยคือสังคมที่ทุกคนอยากเป็นคนดี
ดังนั้นมันจึงบังคับให้คนตอแหลใส่กัน ๕๕๕
แต่ผมตกใจนิดนึงที่คุณ aaax อ่านขาดไปล่วงหน้าว่าผมจะเปรียบเทียบเรื่องอะไรในตอน 08
ผมเห็นด้วยว่าการปิดบังด้วยเห็นว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องไม่บริสุทธิ์มีที่มาจากกระแสความคิดของตะวันตก
โดยมีจุดเริ่มต้นจากศาสนาคริสต์
แต่ในปัจจุบันเมืองไทยเรามีปัญหาเรื่องนี้มากกว่าชาติตะวันตกที่เคยเคร่งศาสนาจัด ๆ กันเสียอีก
-
อ๊ายยย ดีใจ โนว์กลิ้งแล้วลงทันที แสดงว่า(ไขมัน)หน้าท้องโนว์ช่วยสินะ
ตอบคุณแทน
ไม่ได้เขียนได้หื่นเหมือนเดิมหรอกค่ะ ความหื่นอย่างเดียวดึงเราไว้ไม่ได้ ต้องมีจิตด้วย(ซะงั้น)
งานพี่โนว์ว่ามีคุณภาพอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่เจาะกลุ่มเป้าหมายเท่านั้นเอง
ต้องบอกว่า เป็นนักเขียนแนวไส้แห้งน่ะค่ะ (คิกๆ) ขายเนื้อเรื่องและจินตนาการในแบบของตัวเอง ไม่ตามกระแส
โนว์ชอบนะ นักเขียนที่โนว์อ่านๆอยู่ก็มีสองประเภทนี่แหล่ะ
"นักเขียนดัง" ที่เนื้อเรื่องถูกใจ ภาษาสลวย บรรยายดี
กับ
"นักเขียนเฉพาะกลุ่ม" บางคนยังภาษากลางๆ การเล่าเรื่องแบบด้านเดียว แต่การดำเนินเรื่องที่วางไม่ได้เลย
นักเขียนแบบที่สองโนว์ชอบ โอตสึ อิจิ ของญี่ปุ่นมาก ถึงแม้หลังๆอาจารย์ดูจะซอฟต์ลงเล็กน้อย(ไม่รู้แอบไปมีความรักหรือเปล่า) ไม่ค่อยโหดเท่าแต่ก่อน
ส่วนหนู๋ชิต นี่โนว์ยังไม่ได้ระบุเหมือนกันนะว่าเค้าเป็น"รับ" แค่บอกว่า เป็นที่หมายปองกับการเป็น"รับ"เหลือเกิน ฟีโรโมนมันแผ่ไปยังพวกรุกมากกว่าน่ะค่ะ
ป.ล. ใช้เหรี้ยๆก็สนุกไปอีกแบบค่ะ ดูกระแดะมีสกิลตอแหล(เหมือนหนู๋ชิตตอนนี้)ดี อิอิ
-
วุ้ย ใครๆก็จะยังคงจำน้องลูกชิดไม่ได้
นักส่องกบก็ต้องนึกว่า center ขาขาวๆคนนั้น
ที่แท้ ก็ กิ๊กพี่เคน(ถึงได้หวงนักหวงหนา) อิอิ
• รสนิยมเราไปกันได้นะครับ
แต่งงานกับผมเถอะ
วั้ย แต่ห้ามหยิบ electric shaver กับ blush on ของกิต.ไปใช้นะคะ หวงค่ะ หึหึ
• ผมสอนปรัชญา เจ้กิตสอนคณิตศาสตร์ ลงตัวดีเนาะ
ว้าย เทคโนไทยบอย . .(TBL Institute of Texnology) 5555555
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
(http://image.ohozaa.com/is/kitprunedaspbgap.jpg)
ต๊าย กิต.รู้สึกพรุนๆ เหมือนจะโดนจิ้มด้วยความคิดถึงละค่ะ
(ขอบคุณนะคะ คุณ สอง)
-
แวะเข้ามาจิ้มคุณกิตด้วยความคิดถึงก่อน
ยังไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องเลย
ช่วงนี้มีแต่เรื่องยุ่งๆ
ปวดหัวๆ
ปล. แทนย่า เจ้ขอดทษด้วยนะ ที่ยังไม่ได้เข้ามาในนี้ เพราะมัวแต่ไปตามล่า เด้ดปีก คนตอแหลในทู้อื่นอยู่
อีกอย่างก็กะว่า จะให้เรื่องเดินไปมากกว่านี้สักหน่อยจะได้อ่านมันส์ๆ อิอิ
ปลล. ขอโทษท่านผู้อ่านทุกท่านนะคะ ที่เดี้ยนเข้ามาใช้พื้นที่ผิดจุดประสงค์ แต่โปรคเมตตาเดี้ยนด้วยนะคะ
เห็นเพื่อน แล้วคิดถึง เลยแวะเข้ามาทักทาย เท่านั้นเองคะ
ขอบคุณนะคะที่เข้าใจและกรุณา
เจ้สอง :bye2:
-
ว้ายยย
เม้าท์ร้ายนะคะ ใครจะเข้าไปดูมันทุกห้องแบบนั้น
ส่องกบคืออะไรยังไม่รู้เลย
/ m e นั่งเปิดคู่มือ กด login
-
นิยายเรื่องนึ้สอนให้รู้ว่าคนมีหลายด้าน แค่ว่าคน คนนั้น จะหันด้านใหนไปหาใคร...
สังคมที่มีสกิลตอแหลได้โล่ห์---> ตรูก็เป็นนี่หว่า :laugh:
ปล.อ่านๆไปให้เรื่องนี้ให้ความรู้สึก ทึมๆ ขาวดำ หรือออกซีเปีย
เหมือนกำลังดูหนังเรื่องซิน ซิตี้ โดยมี รอร์แชค จาก Watchmen มาเป็นคนบรรยาย
-
ก็เพราะไม่ค่อยมีใครส่องดูตัวเอง
ถึงได้มีเรื่องมีราวให้ปวดหัวกันตลอด
-------------
แต่จิตใต้สำนึก ชอบโ ค ต ร ๆ
เรื่องอย่างว่า
-
:o8: อ่านแล้วสยบคาอุ้มเท้านายชิตตามนายเคนธีรเดชไปเลยทีเดียว
อยากรู้ว่านายบรรณศรดูอยู่แล้วจะรู็สึกยังไง
แล้วนายบรรณศรจะสนนายสกฤตตามที่นายบรรณบถอยากให้เป็นรึเปล่า
:impress2:
-
อ่านแล้วอยากไปนวดจัง เล่นเกมหนักจนเมื่อยไปทั้งตัว (เกี่ยวปะเนี่ย - -")
อ้างอิงจาก....
ถึงน้อง Slithy
เจอความตื่นเต้นมาก ๆ มักจะแตกง่ายครับ
ไม่เชื่อลองลักหลับเพื่อนคนที่ชอบมาก ๆ ดูสิ
เลเวลยังน้อยอยู่คับ เลยยังทำ "เควสลักหลับ" กับ npc ในกิลด์ไม่ได้ ต้องไปเก็บเลเวลอัพสกิล "Thick Face Mastery" ให้เต็มเหมือนกะคนแถวนี้ก่อน
ช่วงนี้งานเยอะอย่าเอาน้ำออกมากนะคับ เด๋วหมดแรง เป็นห่วงนะ........กัวไม่ได้อ่านตอนต่อไป แหะๆ
-
เห็นเท้าขาวๆ แล้วเกิดอารมณ์ แปลกดีไปอีกแบบ
ว่าแล้วก็มารอเรื่องเฮี่ยๆ ตอนต่อไปนะคะ :m13:
-
บทที่ 8
เธอบอกว่าเธอเป็นกะเทยสาวมีนมและเฉาะแล้ว แม้ว่าจะมีหลาย ๆ คนตั้งข้อสังเกตว่าเธอสวยเนียนเกินกว่ามีดหมอ แต่ไหมจีนก็ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในแคมฟรอกห้องเกย์ 18+ ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่เคยนัดออกไปพบกับใครข้างนอกก็ตาม
เพื่อนของไหมจีน ทั้งที่เป็นเกย์สาวและไม่สาว แนะนำว่าเธอน่าจะไปแอ๊บชะนีเนียน ๆ แล้วไปหลอกแดกผู้ชายจากห้องอื่น แต่ไหมจีนไม่สนใจที่จะทำอย่างนั้น เธอยืนยันว่าเธอเป็นกะเทยที่ชอบเกย์ และนั่นประหลาดมาก แต่คงไม่ประหลาดเท่าไหร่ถ้าผมจะบอกว่าจริง ๆ แล้วที่เธอมาที่นี่ทุกวันเพราะเธอหลงรักใครคนหนึ่งและอยากเห็นหน้าเขาอยู่ตลอดเวลา
ก็น่าแปลกที่มีต้นรักงอกเงยอยู่ในสถานที่แบบนี้ ผมไม่คิดจะเสียดสีหรือเย้ยหยัน เพราะอันที่จริงผมก็บูชาความรักอยู่เหมือนกัน และคงจะยินดีด้วยจากใจจริงหากว่าไหมจีนได้พบกับรักแท้เสียที แต่จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่าก็ยังน่าสงสัยอยู่
ในจอของไหมจีน คนที่เธอชอบกำลังแสดงบทบาทของเขา เธอรู้ว่าหลาย ๆ คนในห้องก็ชอบแคมบอยสุดฮอตคนนี้ แต่เธอเชื่อว่าความรักของเธอบริสุทธิ์ที่สุด แต่เพียงต้องการเห็นหน้าไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านี้ ความเพ้อฝันของเธอดูเหมือนจะไปไกลกว่าทุกคน เธอเคยสั่งทำตุ๊กตาที่มีหน้าตาเหมือนเขาและเธอ แล้วจัดพิธีแต่งงานให้ วันนั้นเธอสั่งเค้กมาด้วยและกำชับให้พนักงานเอามาส่งก่อนเที่ยง แต่เพราะสภาพการจราจรติดขัดทำให้เค้กมาล่าช้า ไหมจีนต้องยอมเทเค้กทิ้งทั้ง ๆ ที่เสียดายมาก
และตอนนั้น หรือก็คือตอนที่ผมกำลังกล่าวถึงอยู่นี้ และมิใช่การอารัมภบทอีกต่อไป ผมไม่คิดว่าไหมจีนจะชอบให้ผมพูดอะไรเกี่ยวกับเธอมากนัก อันที่จริงเธอเป็นคนขี้อาย และค่อนข้างจะสงบเสงี่ยม
ไหมจีนหายใจค้างเมื่อเห็นธีรเดชปรากฏบนจอชัดเจน เธอรู้จักเขา แต่เธอไม่เคยคิดฝันว่าเขาจะปรากฏตัวที่นี่ ถ้าสถานที่นี้คือราตรี ธีรเดชก็เจิดจ้าและสะอาดเหมือนทิวากร แม้ว่าจะเห็นใบหน้าคมสันนั้นเพียงครู่เดียว แต่ไหมจีนก็คิดว่าเธอจำไม่ผิด เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อเห็นธีรเดชคุกเข่าลงไปกับพื้นและจูบปลายเท้าเนียนของชิตตพัณอย่างดูดดื่ม
“ชิต” เธอส่ง IM ไป
ช้านิดหนึ่งแต่ชิตตพัณก็ตอบมา สองคนนี้คุยกันได้สักพักแล้ว ชิตตพัณรู้สึกอบอุ่นและอิ่มบุญเมื่อคุยกับเธอ ที่สำคัญคือไหมจีนยังไม่เคยแสดงท่าทีต้องการทางเพศกับเขาเลยสักครั้ง “ว่าไงไหม”
“เพื่อนของเธอเป็นใครเหรอ”
ชิตตพัณอมยิ้ม แต่ซี๊ดปากเป็นระยะเมื่อธีรเดชเปลี่ยนจากปลายเท้ามาเป็นน่องของเขาและลากลิ้นสาก ๆ ไปตามแนวขาอ่อน
“อย่ารู้เลย ถ้าไม่ว่าอะไรไว้คุยต่อวันหลังนะ”
ไหมจีนรู้ว่านั่นคือการจบสนทนา เธอถอนหายใจเศร้า ๆ และทำตัวเป็นผู้ชมที่ดี
ธีรเดชจูบดูดขบเนื้อตรงขาอ่อนของชิตตพัณอย่างเมามัน มือของเขาข้างหนึ่งจับปลายเท้าของชิตตพัณไว้และลูบไล้ไม่หยุด ทั้งคู่อยู่ในสภาพที่พร้อมแก่การผสมพันธุ์ อวัยเพศของชิตตพัณแข็งตัวพาดอยู่ในกางเกงในเห็นเป็นรูปเป็นลำชัดเจน ส่วนของธีรเดชเองก็ผงาดง้ำในกางเกงบอล เขารู้สึกอึดอัดและใช้มือข้างที่ว่างเหนี่ยวขอบกางเกงออกไปด้วยอาการแทบจะฉีกเพราะความไม่ทันใจ
และทั้ง ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยความเจ็บใจ บรรณศรก็แข็งตัวตามไปด้วย อารมณ์หงุดหงิดกับอารมณ์ทางเพศของเขาดูจะแยกส่วนกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบขี้หน้าธีรเดช แต่ก็ต้องยอมรับว่าหุ่นแน่น ๆ และของใหญ่ ๆ ของหมอนั่นเร้าอารมณ์ไม่เบา
ชิตตพัณถีบหน้าของธีรเดชให้ถอยห่างออกจากขาอ่อนของเขา ธีรเดชพยายามจูบเลียฝ่าเท้าเหมือนหมาที่กำลังเอาใจเจ้าของ ในความคิดของเขาตอนนี้ชิตตพัณก็เหมือนกับผู้นำ เป็นจ่าฝูง และจะทำอะไรกับเขาก็ได้ เขาอยากถูกทำร้าย อยากถูกเหยียบย่ำ ถูกถีบ ถูกกระทืบด้วยเท้าสวย ๆ คู่นั้น ถ้าเป็นไปได้ก็ควรยัดมันเข้าไปในรูทวารของธีรเดช และเขาจะรู้สึกมีความสุขมาก แต่ดูเหมือนว่าชิตตพัณจะสนใจกับการอวดเรือนร่างของตนผ่านกล้องมากกว่า
ชิตตพัณลุกขึ้นยืนตรงหน้ากล้อง เขาก้มลงอย่างเซ็กซี่และถอดปราการด่านสุดท้ายออกอย่างเชิญชวน ตรงที่เขาก้มให้เห็นแผ่นหลังเนียน ๆ ของเขา มีบางคนที่เลียจอคอมพิวเตอร์โดยนึกว่านั่นคือความเนียนที่พวกเขาอยากสัมผัส ชิตตพัณโยนกางเกงในให้กับธีรเดช และทิ้งตัวเปลือยเปล่าลงนั่งกับเก้าอี้ล้อเลื่อนสำหรับนั่งเล่นคอม เขาไม่ได้นั่งในท่าธรรมดา แต่เอนจนแผ่นหลังนอนลงพื้นที่แคบ ๆ ของเก้าอี้ และยกขาข้างหนึ่งขึ้นสูง อวัยวะของเขากระดกขึ้นไปในแนวราบเข้าหาสะดือ หนังหุ้มอัณฑะถูกรั้งพวงไข่สองใบเปิดให้เห็นร่องก้นและช่องทางสีแดงระเรื่อ
ธีรเดชในสภาพเปลือยเปล่าเหมือนกันยืนขึ้นเต็มความสูงจับปลายเท้าของชิตตพัณมาดูดดุนอย่างรู้งาน เขาเบียดกอดให้ตั้งแต่ปลายเท้าจรดขาอ่อนของชิตตพัณได้แนบชิดกับร่างกายของเขาตั้งแต่ช่วงอกแกร่ง กล้ามเนื้อตรงหน้าท้อง และความเป็นชายซึ่งดูเหมือนพ่อจะให้ธีรเดชมาเยอะเป็นพิเศษ เขากระเด้าขาของชิตตพัณเหมือนหมาลามกซึ่งชอบเกาะขาเจ้าของและพยายามทำให้ตนเองเสร็จสมอารมณ์หมาย ชิตตพัณซึ่งถึงแม้จะครางเป็นระยะเพราะฝีปากของธีรเดช สายตาของเขาจับจ้องไปยังหน้าจอและมองภาพของตนเองซึ่งปรากฏอยู่ในกล้อง เขารู้ดีว่าในวินาทีนี้ คนหลายสิบคนไม่สิอาจจะเป็นร้อยที่พร้อมจะยอมตายเพียงเพื่อจะได้แตะต้องชิตตพัณแม้เพียงปลายนิ้ว
ธีรเดชหลงใหลเท้าของชิตตพัณจริง ๆ แต่มันไม่ได้ทำให้เขาอิ่ม เขาจึงจับเท้าข้างที่เหลือของเพื่อนหนุ่มมารวบไว้ในข้อมือและขบเม้มสลับไปมาเหมือนกับลิ้มชิมไอศกรีมทีละสองแท่ง เขาเปลี่ยนจากการกระเด้าเนื้อขาอ่อนของชิตตพัณเป็นการเสียบความอุ่นร้อนเข้าไปในซอกขาแนบชิด ชิตตพัณไม่ชอบใจที่ธีรเดชมายืนบังหน้าจอและการแสดงของเขา แต่เมื่อเขาพยายามจะดิ้น ธีรเดชก็กดน้ำหนักตัวลงมา จับเข่าของชิตตพัณให้งอมากขึ้นอันทำให้ธีรเดชสามารถย่อตัวจนปลาชะโดของเขาสามารถดุนดันเสียดสีกับพวงไข่ของชิตตพัณได้
“เดช” ชิตตพัณร้องเรียกเพื่อน “ทำไรวะ”
ธีรเดชไม่ตอบ เขาย่อตัวลงอีกให้ปลายหัวจ่อเข้ากับร่องกลีบที่ไร้ขน และถูไถไปมาปล่อยน้ำเมือกอุ่นลื่นเปรอะเปื้อนไปทั่ว
“กูไม่เอานะเดช ปล่อยกูนะ” ชิตตพัณพยายามดิ้น แต่คำตอบของธีรเดชมีเพียงแววตาที่บ้าคลั่ง และเอวซึ่งขยับบดเบียดเข้าไปอีก ร่างล่ำกล้ามหนาของกัปตันทีมฟุตบอลกดทับชิตตพัณไว้ทั้งตัว แต่ไม่ลืมที่จะปรนเปรอปลายเท้าของเซ็นเตอร์สุดหล่อไปด้วย
ในชั่วจังหวะที่ธีรเดชหลุดเข้าไปในร่างของชิตตพัณและผู้ถูกกระทำก็กรีดร้องสุดเสียง ชิตตพัณพบว่าตนเองได้ทำผิดอย่างมหันต์ เขาคิดว่าธีรเดชเพียงแต่หลงใหลเท้าของเขา เหมือนอย่างที่เขาหลงใหลกล้องและจำนวนผู้ชม เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่ธีรเดชต้องการไม่ใช่เพียงแต่เท้าสวย ๆ สักคู่ แต่เป็นการได้หลอมรวมเป็นหนึ่งกับเจ้าของเท้าสวย ๆ นั้น แต่นั่นเป็นผลมาจากเสรีภาพในการเลือกของชิตตพัณ เขาเลือกที่จะชวนธีรเดชกลับมาและเปิดการแสดง เขาเลือกที่จะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ซึ่งเขาไม่รู้ตอนจบ
บทรักร้อนฉ่าของธีรเดชกับชิตตพัณทำเอากล้องแทบไหม้ สายตานับร้อยที่เฝ้ามองพวกเขาอยู่เป็นพยานการจ้วงแทงอย่างไม่นับของธีรเดช และพยานของท่อนขาขาวอันพาดอยู่กับบ่าของผู้กระทำซึ่งสั่นระริกอยู่อย่างนั้นไปอีกเกือบชั่วโมง
หนังซอมบี้บางเรื่องให้ทฤษฎีว่าการกัดกินของพวกมันคือการแสดงความรัก รักปานจะกลืนกินไม่ใช่คำพูดที่เอาไว้ล้อกันเล่น แต่มันหมายความอย่างนั้นจริง ๆ เมื่อเรารักใครหรืออะไรสักอย่างมาก ๆ ความคิดชั้นแรกคือการได้ติดต่อสัมพันธ์ และหากมากไปกว่านั้นก็คือการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ในเรื่องน้ำหอมมนุษย์การหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันที่ได้ผลที่สุดคือการฉีกทึ้งและกินเนื้อของคนที่ตนรักเข้าไป
การจูบ การขบทึ้ง และการร่วมเพศเป็นเพียงแค่ตัวแทนของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไปกว่านั้น ในพิธีศีลมหาสนิท สาวกทั้งหลายจะขบเคี้ยวขนมปังราวกับกำลังฉีกทึ้งเนื้ออ่อนของพระเยซู และเสพไวน์เข้าไปราวกับว่ากำลังดูดดื่มเลือดอุ่น ๆ จากซอกคอของพระองค์ และนั่นแหละความรักในฐานะของความปรารถนาอันศักดิ์สิทธิ์
ธีรเดชปิดโปรแกรมและจอคอมพิวเตอร์ ชิตตพัณนอนสลบด้วยความเหนื่อยล้าและเจ็บปวดอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม สีหน้าของธีรเดชอ่อนโยนลงเมื่อมองร่างเปลือยของเพื่อน เขาไม่คิดว่าเขาเคยรู้สึกอย่างนี้กับใครมาก่อนหรือเปล่า แต่มันรู้สึกดีจนเขาอยากจะเก็บไว้ให้นานที่สุด หนุ่มนักบอลย่อตัวลงช้อนร่างเซ็กซี่นั้นขึ้นมาอุ้มและพาไปนอนที่เตียง หะแรกเขาว่าจะอาบน้ำแต่กลับเสียดายกลิ่นของชิตตพัณที่ติดอยู่ตามตัวของเขา ธีรเดชใส่กางเกงบอลและปีนขึ้นไปนอนกอดร่างเปลือยเปล่านั้น เขาแอบหอมแก้มชิตตพัณและหลับตามไป
เสียงหายใจของธีรเดชสม่ำเสมอ ชิตตพัณจึงลุกขึ้นจากที่นอน เขาแกล้งหลับเพราะไม่ต้องการเผชิญกับความจริงที่ว่าเขาถูกฉีกกระชากอย่างไม่มีชิ้นดี เขาดึงแขนของอีกฝ่ายออกไป และเดินกระเผลกไปที่คอมพิวเตอร์เปิดจอมันขึ้นมาดู เขายิ้มขื่นทั้งที่ยังคงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นตัวเลขของจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดซึ่งถูกบันทึกเอาไว้ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของห้อง และดูท่าจะไม่มีใครโค่นล้มเขาได้ในเร็ว ๆ นี้ ชิตตพัณลูบจอคอมพิวเตอร์ แผ่นบาง ๆ ของมันที่กั้นเขาออกไปจากความหื่นกระหายของคนนับร้อย เขารู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ที่หน้าจอและเหนี่ยวนำความใคร่เหมือนวาทยากรผู้ยืนเด่นอยู่บนแท่นสูง
แต่เมื่อครู่และจนถึงบัดนี้ ไม่มีอะไรที่ทำให้เขาปลอดภัยจากธีรเดช เขาผิดเอง และช่างโง่เขลาจนน่าชัง นึกถึงตรงนี้ชิตตพัณก็กัดฟันและซบหน้าลงไปกับคีย์บอร์ด
การหยาบคายโดยอ้อมของเราอาจจะรวมถึงการหยาบคายทางเพศ ในอารมณ์ที่ละเมียดละไมอย่างตอแหล บางคนอาจจะสำเร็จความใคร่ได้เองเมื่อเห็นปลายหอกอันรูปปั้นทูตสวรรค์ถือเงื้อง่าทำท่าจะทิ่มแทงแม่ชี ดังนั้นคุณไม่ควรถามว่าทำไมผมไม่เรียกกระดอว่ากระดอ หรือเรียกเย็ดว่าเย็ด เพราะนั่นอาจจะปลุกอารมณ์หลาย ๆ คนได้ไม่เท่ากับการใช้ถ้อยคำอันเป็นปริศนาและแฝงนัยขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง (เชื่อสิว่าการใช้ศัพท์ทางแพทย์หรือการอธิบายที่ตรงไปตรงมาเกินไปอาจจะส่งผลร้ายต่ออารมณ์ทางเพศของบุคคลส่วนใหญ่ อย่างเช่นถ้าผมบรรยายว่ากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและสะโพกของธีรเดชบีบรัดให้ท่อน้ำเลี้ยงในอัณฑะขับตัวอสุจิออกมาผสมกับน้ำหล่อลื่นจากต่อมคาวเปอร์และส่งผ่านท่อปัสสาวะไปสู่ทวารหนักในช่องของลำไส้ใหญ่ตอนปลายของชิตตพัณ)
โดยสรุป ความหยาบคายโดยอ้อมก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีอย่างไม่มีที่ติ ก็คือหยาบคาย และผมคิดว่าเราคงไม่จำเป็นต้องต่อต้านความตอแหลอันสวยสดเหล่านี้ เพราะว่าคุณกับผมก็น่าจะซื่อสัตย์พอ ๆ กับอีตัวที่กำลังเงี่ยนตัวผู้นั่นแหละ เหรี้ยดีไหมครับ
ปล. ผมกำลังคิดว่าผมอาจจะใช้ idiom สวย ๆ อย่างเช่น แท่งหฤหรรษ์ (joy stick) หรือ ร่วมเรียงเคียงหมอน (fucking with a pillow) แทนในคราวหน้า
-
^
^
บางครั้งจินตนาการสามารถเปิดสมองของความเข้าใจ
ได้ดีกว่า คำพูดตรง ๆ ที่ฟังแล้วรู้สึกได้ว่า เป็นคำพูดที่แย่ที่สุด
..ในเวลาต่อมา..
-
ถึงเฮีย กิมตี๋หัดขับ
เข้าใจครับว่าแลนแปลว่าอะไร แต่มันเกี่ยวอะไรกับ monitor เนี่ย
(กิ๊กเก่าผมหลายคนเป็นเด็กใต้นะ อิอิ)
ถึงพี่ wan
คงมะต้องทำอะไรนอกจากนั่งแจกลายเซ็น
ถึงคุณ aaax
"บทอัศจรรย์ที่ใช้ได้ดีกว่าระบบเรตติ้ง"
กิ๊บเก๋ยูเรกู๊ด
รุ่นพี่ผมคนหนึ่งกำลังทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้พอดี
ถึงน้อง mole eye man
อร๊าย!!!
รู้ทันนะยะหล่อน
ถึงคุณ JChloe
อย่าคิดมากครับ มันก็หลุดมาจากเขาดินนั่นแหละ
แต่พอดีจับพลัดจับผลูได้เข้าไปนั่งเอ้เต้ใน...เท่านั้นเอง หึหึ
ถึงน้อง sNow
งานนี้ตอบสนองอารมณ์ตัวเองครับ
เอาดิบเข้าว่า ฮ่าๆๆๆ
ใช้ "เหรี้ย" ตามที่น้องโนว์แนะนำแล้ว
ถึงเจ้ kit
หึหึหึ ดีเลยครับ
ผมชอบข่าวลือ Y Y แบบนี้อ่ะ
และหมายถึง Sexology หรือเปล่าฮะ
อ้อเจ้กิต. บอร์ดปาล์มเป็นอะไรครับ
ทำไมเข้าไม่ได้ ว่าจะไปสูบคลิปซักหน่อยเซ็งเลย
ถึงเจ้ oaw_eang
คิดถึงเหมือนกันครับ
ว่าแต่มีเรื่องอะไรกันหว่า ผมเหมือนจะตกข่าวพิกล
ถึงพี่ Tifa
โฮะๆๆ ที่แท้ไหมจีนก็อยู่ที่นี่นี่เอง
ถึงคุณ Cha Ris Ma
รูปดิสเพลย์ทำผมน้ำลายหก
ผมไม่เคยดูทั้ง sin city กับ watchmen ครับ
sin city เรื่องเป็นไงอ่ะ
แต่ watchmen เพื่อนเคยเล่าให้ฟังแล้วว่าเหรี้ยได้ใจ
ถึงคุณ Dee^daY
ของผมทั้งจิตใต้สำนึก จิตมีสำนึก จิตเหนือสำนึก
ชอบเรื่องอย่างว่าหมดเลย 555+
ถึงคุณ jokirito
บรรณศรปรากฏแค่ฉากเดียวเองแฮะ
ถึงน้อง Slithy
จะไปนวดที่ไหน เดี๋ยวพาไป
นี่จะเที่ยงแล้ว ยังไม่เปิดโทรศัพท์อีกเหรอ -*-
พี่เลยหนีมาลงนิยาย ฮ่าๆๆ
ถึงพี่ dahlia
หลาย ๆ คนเห็นหน้าท้องขาว ๆ เนียน ๆ แล้วเกิดอารมณ์
ผมว่าแปลกพอกันนะ
ถึงคุณ Dee^daY
เอ่อ ได้ใครครับ
ได้คนเขียนหรือตัวละคร
-
ไหมจีนแอบหลงรักใครล่ะนั่น
ปล. รอ "idiom สวยๆ" ในตอนต่อไปค่ะ
ถึงคุณ JChloe
อย่าคิดมากครับ มันก็หลุดมาจากเขาดินนั่นแหละ
แต่พอดีจับพลัดจับผลูได้เข้าไปนั่งเอ้เต้ใน...เท่านั้นเอง หึหึ
ใน...?
อิอิ
-
โอ้ว ตอนนี้ได้แรงส์มากเคอะ o13 o13 o13
ตอร์ปิโดเข้าถ้ำคูหาสวรรค์จนได้ หิหิหิหิ :z1:
ว่าแต่ไหมจีน นั่งหน้าจอทำตา กิ้บว่กๆ (ตาปริบๆ) อย่างเดียวหรือเคอะ
ปล. มอนิเตอร์ มันก็ แลน นั่นแหละ อย่าคิดมาก (มันเป็นลิ้เซิร์ทชนิดหนึ่ง)
ปล.ตกลงตอนนี้ บทที่ 7 อยู่ใช่ไหมจ้ะ
-
ชั่งใจนานเหมือนกันว่าจะเม้นท์ดีไหม???
แอบอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกๆ เป็นเรื่องที่ตีแผ่ ด้านมืดของคนได้ดีคะ
เอ่ออออออออออ ยังไงดีอ่ะ บอกเป็นคำพูดไม่ถูก (งี้แหละถึงไม่อยากจะเม้น เม้นทีไรงงตัวเองทุกที ว่าต้องการจะสื่อสารอะไรออกไป) เอาเป็นว่าชอบคะ เรื่องนี้ ทั้งกระบวนการคิด การนำเสนอ ฯลฯ(วิชาการไปไหม แหะๆ)
"เขากระเด้าขาของชิตตพัณเหมือนหมาลามกซึ่งชอบเกาะขาเจ้าของและพยายามทำให้ตนเองเสร็จสมอารมณ์หมาย" เปรียบเทียบให้เห็นภาพดีคะ
-
• ร่วมเรียงเคียงหมอน (fucking with a pillow)
YyYyY, is that pillow a partner or a tool? 55555
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
• และหมายถึง Sexology หรือเปล่าฮะ
วั้ย Technology ออกเสียงแบบกระแสนิยมค่ะ อิอิ
• บอร์ดปาล์มเป็นอะไรครับ
ทำไมเข้าไม่ได้ ว่าจะไปสูบคลิปซักหน่อยเซ็งเลย
วั้ย เดี๋ยวกิต.กระซิบให้ฟัง(อ่าน)ค่ะ
-
คนดูฉากระหว่าง ธีรเดช กะ ชิตตพัณ เนี่ย นอกจากน้ำแตกแล้ว บางคนคงอกแตกไปด้วย
นี่ถ้าไม่เห็นคำแปลภาษาไทยก่อน รับรองว่า ได้แปลไอ้ fucking with a pillow ไปคนละทางกับคุณน้องแน่ๆ :laugh:
ปล. ตกลงว่า มันบทที่ 7 หรือ 8 กันแน่ค่ะ
-
o13 มันน่าจะบทที่ 8 นะ
(เชื่อสิว่าการใช้ศัพท์ทางแพทย์หรือการอธิบายที่ตรงไปตรงมาเกินไปอาจจะส่งผลร้ายต่ออารมณ์ทางเพศของบุคคลส่วนใหญ่ อย่างเช่นถ้าผมบรรยายว่ากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานและสะโพกของธีรเดชบีบรัดให้ท่อน้ำเลี้ยงในอัณฑะขับตัวอสุจิออกมาผสมกับน้ำหล่อลื่นจากต่อมคาวเปอร์และส่งผ่านท่อปัสสาวะไปสู่ทวารหนักในช่องของลำไส้ใหญ่ตอนปลายของชิตตพัณ)
แบบนี่พี่ก็ว่าเห็นภาพชัดเจนดีออกนะ แต่ก็นะ อ่านแล้วไม่หื่นอย่างที่ว่าแหละ
รอดูต่อไปว่านายชิตจะแก้ไขสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้อย่างไร
ป่านนี้นายเดชคงจะหลงนายชิตไปแล้วอีกคนแน่ๆ
-
แอร๊ยยยยยย ให้ดัง
กับพ่อ เคน ธีรเดช ด้วยค้าาาาา
/ m e ขึ้นรถไฟฟ้า มาหานะเธอ
-
เรื่องนี้ยังมีผู้หญิงรีพลายมั้ยเนี่ย :laugh:
อ่านไปก็...อะนะ.... :z3:
เมนต์ไม่ออก แต่เออ...มันหนุกดีอ่ะ
-
สมกะเป็นโชว์ที่รอคอย
-
ขอตอบด้วยความประทับใจเป็นพิเศษ
ผมยังยืนยันว่าสังคมไทยคือสังคมที่ทุกคนอยากเป็นคนดี
ดังนั้นมันจึงบังคับให้คนตอแหลใส่กัน ๕๕๕
แต่ผมตกใจนิดนึงที่คุณ aaax อ่านขาดไปล่วงหน้าว่าผมจะเปรียบเทียบเรื่องอะไรในตอน 08
ผมเห็นด้วยว่าการปิดบังด้วยเห็นว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องไม่บริสุทธิ์มีที่มาจากกระแสความคิดของตะวันตก
โดยมีจุดเริ่มต้นจากศาสนาคริสต์
แต่ในปัจจุบันเมืองไทยเรามีปัญหาเรื่องนี้มากกว่าชาติตะวันตกที่เคยเคร่งศาสนาจัด ๆ กันเสียอีก
อันที่จริงอยากจะตอบตั้งแต่ที่ได้อ่านตรงนี้แล้วครับ แต่กลัวจะทำกระทู้กลายพันธุ์ 555
เรื่องที่ว่าเมืองไทยมีปัญหามากกว่า ผมขอเถียงว่า มากกว่าบางประเทศครับ แต่น้อยกว่าสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในขณะที่แนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมแบบรีพับรีกันกำลังครองอำนาจ (จะผิดกฎบอร์ดไหมนี่ หึ หึ หึ)
ขออนุญาต (ใครก็ไม่รู้) ยุ่งกับเรื่องชาวบ้านหน่อยครับ google บอกว่า monitor แปลว่า ตัวเงินตัวทอง ครับ (เรียกว่า water monitor)
เข้าใจว่าเรื่องตอนนี้แอบหยิบ existentialism ของซาร์ตร์มาอธิบายด้วย ชอบครับ เพราะมนุษย์ต้องรับผลของการเลือกของตัวเอง และเข้าใจว่า หลายคนกำลัีงจะได้รับผลของการเลือกของตัวเองในไม่ช้า
ชอบมาก ที่แอบทำเนียนใ่ส่ของแปลกเข้าไป แต่ก็เดินเรื่องไปข้างหน้าด้วย เจ๋งจริงครับ
อ้อ เรื่อง "น้ำหอม" นั่นก็ชอบมากครับ วุ้ย ยิ่งอ่านยิ่งชอบนะเรื่องนี้ สงสัยผมคงป่วยอะไรสักอย่าง 555
ขอบคุณที่เขียนอย่างตั้งใจครับ รออ่านตอนต่อไปครับ :)
-
ป้าอ่านตอนนี้แล้ว ความดันกระฉูด จินตนาการเหลือล้ำคำบรรยาย อิอิ
อีกด้านของมนุษย์นี่ก็เหมือนสัตว์จริงๆนะ แต่ไม่มีใครอยากเอ่ยเท่านั้น
-
แอร๊ยยยย เพื่อนเดชกินหนู๋ชิตเข้าไปแล้ว :-[
หลังจากเพื่อนเดชได้ลิ้มรสเข้าไปก็พบว่าผมชอบกินลูกชิดฮะ
ส่วนหนู๋ชิตคราวนี้จะทำไง เมื่อเพื่อนเดชไม่เหมือนเดิมแล้ว(เข้าหุบเข้าโบรกแบร๊คเมาน์เทนแล้ว)
ชอบ"ไหมจีน"ตัวละครใหม่ น่ารักดี(ณ ตอนนี้) คนที่เธอหลงรักเป็นใครกัน นางฟ้าจะกลายร้างรึเปล่าหว่า เมื่อโดนคาบไปแดรกต่อหน้า(อุ๊ยไหนว่าไม่รู้)
โนว์กำลังรอดูการดำเนินเรื่องจากด้านบรรณศร หลังจากหนุ่มหล่อที่หมายปองถูกกินต่อหน้าต่อตา เพราะเขาเป็นบุคคลที่คาดเดาไม่ได้พอๆกับเพื่อนเดชเลย
-
ความสัมพันธ์ของเพื่อนเดชและเพื่อนชิตจะเปลี่ยนไปเพราะโชว์นี้หรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป :z2:
-
สมกับที่รอคอย จริงๆคับ
ที่จริงก็คิดเหมือนชิตเลยว่าเดชคงแค่หลงใหลเท้าของชิต
ไม่น่าจะมีฉากเสียบได้
แต่คนเขียนหักมุมจริงๆ
เสร็จจนได้
-
ไม่ได้เข้ามานานโผล่มาสองตอนเลยทีเดียว
การใช้ภาษาเร้าใจเหมือนเดิม 5555
ชอบตรง เส้นผมบุรุษ กับ ทุกคนเป็นนักแสดง จัง
จากตอนล่าสุดก็ทำให้เห็นบทบาทของนักแสดงเป็นอย่างดี :z1:
ไปๆมาๆความพึงพอใจของชิตก็มีอยู่แค่หน้าจอคอมแหละเนอะ
แต่คิดว่าต่อไปน่าจะมากกว่านี้อีก ไม่หยุดแค่หน้าจอคอม
ยังมีเรื่องของไหมจีนอีก ต้องมี"บทบาท"อีกคนแน่เลย
บวก 1 ให้ครับ
ปล. ก้อนแอมโบรเชีย คืออะไรหรอครับ ลองหาดูแล้วไม่เจออ่า
-
อยากเป็นธีรเดช....
-
ขออนุญาตหายตัวไปสักอาทิตย์นะครับ
มีสอบปลายภาค
รายงานอีกหลายเล่ม
และที่โหดที่สุดคือรายงานการวิจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เดดไลน์วันพุธนี้ -.- :z3:
ยังมีหน้าที่รับผิดชอบงานช้างบางอย่างอีก
สรุป
งานเข้า แต่เรายังสู้ :fire:
แล้วเจอกันครับ
-
^
^
รัีับทราบคร้าบบบบบบบบบบ
โชคเอในการสอบนะคร้าบบบบบบบบ
-
ตั้งใจสอบนะครับ นุ้งแทน :L2:
-
เจ๋งสุดๆคับ เรื่องนี้..
ถ้าไม่เข้ามาอ่าน"บันเทิงคดี"เรื่องนี้ ป๋มคงเสียใจ..
รู้สึกผิดคาดที่ชิตโดนกระทำ. อยากรู้ความคิดของบรรณศรตอนดูชิตโดน..
รอวัน อ. หน้าไวๆคับ :)
-
• มีสอบปลายภาค. . . . ที่จะต้องคอยควบคุม
• รายงานอีกหลายเล่ม. . . . ที่รอการตรวจให้คะแนน
• และที่โหดที่สุดคือรายงานการวิจัยเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่เดดไลน์วันพุธนี้-.-. . . . ซึ่งกำลังวางแผนจะเล่นงานนักศึกษาให้อยู่หมัด
• ยังมีหน้าที่รับผิดชอบงานช้างบางอย่างอีก. . . . 2009 Camfrog Champion Competition!!!!
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
อิอิ สู้ๆค่ะ จขกท :L2:
-
รับทราบ !!! เจอกันวันอังคาร สู้ๆนะ !!! ^o^/
ปล. เสียครั้งแรกให้กับเดชซะงั้น(ครั้งแรกจริงป่ะ) อุตส่าห์เชียรบรรณศร
แต่เสียให้เดชอาจจะดีกว่าก็ได้.....มั้ง 555
-
ขอบคุณครับ
-
โชว์ครั้งหน้า คงตั้งตารอ
ปล. รับทราบครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ +1 อีกด้วย
-
แรง!!! แต่ก็น่าติดตาม :impress2:
-
สนุกกับงานและภาระกิจทั้งหลายจ๊ะ อิอิ
-
ต้องสู้ ๆ จึงจะชนะ...
-
พี่แทนย่า
ชอบเรื่องนี้อ่า
สุดๆ
กำลังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นชิตพันธ์
ป๋อหล๋อ.
ฮิฮ้า อ่า ตอบบ้างเน้อ บอกว่า คิดถึง แต่ไม่เม้นหาเนี่ยะ ยังไง
-
งืม อังคารหน้าโนว์ไม่อยู่อ่ะ :a5: ไปต่างจังหวัดอาทิตย์นึงพอดี
เจอกันจันทร์ถัดไปอีกทีนึงนะคะ
เศร้าอย่างแรง คลาดกันๆ แต่คิดอีกที กลับมาอ่านจะได้อ่านมากกว่าตอนนึง :m13: (ใช่ม๊า)
แล้วเจอกันนะคะ
-
ธีรเดชหลงไหลไปกับบทบาทราชินีของชิตตพัณซะแล้ว :impress2:
การใช้คำที่ตรงไปตรงมา มันไม่เล้าใจ เท่ากับการคำสองแง่สองง่าม
ให้คนอ่านได้ใช้จินตนาการฟุ้งซ่านด้วยตัวเอง :haun4:
-
ตั้งวันอังคาร!!!!
อีกตั้งหลายวันแน่ะ
คิดถึงแย่
:bye2:
-
มาแจ้งข่าวว่า
ต้องขออภัยจจริง ๆ ครับที่ต้องเลื่อนไปอีกเยอะ เพราะว่ายังหนีไม่พ้นไฟนอลเดสติเนชั่นเลย
5555+
-
.
-
ชิส์
:z6:
-
+1 ให้พี่แทนย่าที่รัก
อ่านรวด 3 ตอน เกิดความรู้สึกว่า เกมเริ่มไม่ใช่เกม เพราะมันเกินที่จะควบได้
ความเขลาของคนบางคนมันก็เหมือนเครื่องปลดปล่อยกิเลสของคนหลายๆคน
จำนวนสถิติที่มากขึ้นเป็นแต่เพียงแค่ตัวเลข หรือ ความสุข ในเมื่อคนคุมกลับถูกคุม
หัวเราะทั้งน้ำตาไม่ต่างกับเหตุการณ์ ยิ้มกับตัวเลขและเอาหน้าฟุบกับแป้นพิมพ์
ภาษายังคงเชือดเฉือน หยาบโลน และ บาดใจ ไปถึงกาย เหมือนเคย
ชอบกับการตีความของคำระดับชาติอย่าง เหรี้ย เฮี่ย ที่แม้แต่คนสูงๆเขาก็แอบใช้กันในใจ
หวังว่าตอนหน้าหลังตื่นนอนจะมีการแสดงที่เพลินตาและชวนให้โหยหามาให้ยลอีก
นิว(รักภาษาแพศยา)
ปล.พิมพ์ตกใน ตอนที่7
อย่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยดึกดำบรรพ์ที่ภาษาเขมรได้รับการยกย่องว่าเป็นความสูงส่งราวกับลำลึงค์ที่ผงาดขึ้นไปบนท้องฟ้า
-
โฮ่ย !!! รับทราบ !!!
สู้ๆนะคะ ^^
-
:jul3: :jul3:
-
กดบวกให้ด้วยแรงคิดถึง
-
ยังรออ่านอยู่นะเออ... :t3:
-
จะว่าแรง ก็ แรง
แต่ตรงดีค่า o13
ชอบบบบ ชอบเรื่อง ตรงๆ จริงใจ งี้แหละ
สมาชิกใหม่ ฝากตัวด้วยนะคะ
-
คุณน้องเสร็จภารกิจแล้ว รีบมาต่อนะ แควน ๆ รออยู่อะ
สู้ ๆ
:call:
-
ชอบๆๆๆ ยิ่งอ่านยิ่งอยากติดตาม :haun4:
"เรื่องทางเพศ" แต่ แฝง ปรัชญาจังเลยเนอะ
เด็กใหม่ ฝากตัวอีกรอบค่า เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:
-
โอย,, ไม่ได้อ่านเรื่องพี่แทนมานานมาก
หายไปนานแต่ฝีมือเฉียบเหมือนเดิม
ชอบเรื่องนี้นะ,, มันเหมือนอ่านบทความ
แหม๊ ,, ก็อุส่าบอกแล้วเนอะว่าบันเทิงคดี 555
เอาเป็นว่าโชคเอในการสอบแล้วกันค่ะ : )
-
final destination เสร็จรึยังคับ ถ้ายังไม่เสร็จในเร็วๆ คนแถวนี้คงลงแดงตายอย่างน้อยก็คนหนึ่งล่ะ :z3:
กลับมาด่วน อย่าแอบไปเปิดcamfrog อยู่คนเดียวสิครับ
-
final destination เสร็จรึยังคับ ถ้ายังไม่เสร็จในเร็วๆ คนแถวนี้คงลงแดงตายอย่างน้อยก็คนหนึ่งล่ะ :z3:
กลับมาด่วน อย่าแอบไปเปิดcamfrog อยู่คนเดียวสิครับ
มีคนรู้ทัน :serius2:
-
,k9jvgiH;qot8iy[มาต่อเร็วๆนะครับ
-
final destination เสร็จรึยังคับ ถ้ายังไม่เสร็จในเร็วๆ คนแถวนี้คงลงแดงตายอย่างน้อยก็คนหนึ่งล่ะ :z3:
กลับมาด่วน อย่าแอบไปเปิดcamfrog อยู่คนเดียวสิครับ
มีคนรู้ทัน :serius2:
นึกว่าจะเข้ามาอ่าน มาเจอรีนี้ :jul3:
รู้ทันกันหรือไปเจอกันอ่ะ :laugh:
-
^
^
^
:laugh:
มาต่อเถอะค่ะ
รอนานแล้วนะ
คิดถึงๆ :กอด1:
-
อ่านแล้วเม้นไม่ถูกเลยคะ
จะว่าแรงไหม ก็แรงนะคะ
แต่มันรู้สึกว่าเป็นธรรมชาติดี
ยังไงไม่รู้สิ
โดยทั่วไปคนเราก็มีความต้องการเรื่องแบบนี้ อยู่แล้ว อยู่ที่ว่ามากหรือน้อยก็เท่านั้น
สู้ๆๆคร่า o13
-
อังคารไหนคะเจ๊ :jul3:
-
เหงือกแห้งแล้วววววว !!!
-
รออยู่นะคับ..
-
มารออะ มารอออออออออออออออ :z3:
-
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :call:
-
(http://image.ohozaa.com/iu/cf20091021dt.jpg)
-
บทที่ 9
บรรณศรอยากจะทุบหน้าจอให้แหลกคามือ เมื่อเห็นกุหลาบที่เขาหมายปองถูกขยี้อย่างไม่ปรานีปราศรัย ท่อนเนื้อขนาดเขื่องแทรกตัวเบียดฉีกช่องทางคับแคบอยู่ต่อหน้าต่อตา มันดึงเนื้อในสีแดงช้ำให้ปลิ้นตามออกมาด้วยทุกครั้งที่สาวออกและกระแทกกลับเข้าไปใหม่ ทุกอย่างสด ใหม่ และแสบร้อน แผลฉีกช้ำบีบเลือดสีแดงจางออกมากระเซ็นเป็นหยด ๆ มันคือการข่มขืนโดยแท้ และปราศจากความพึงพอใจของผู้ถูกกระทำโดยสิ้นเชิง ใครที่ว่าจะเสียวได้ตั้งแต่เจอดุ้นแรก ล้วนแต่ตอแหลทั้งเพ โดยจำเพาะเมื่อต้องเผชิญกับขนาดเกินชายของธีรเดช
บรรณศรไม่ดูจนจบ เขาคลั่งแค้นและนั่นก็ปิดสวิตช์ความพึงพอใจทางเพศของเขาโดยสิ้นเชิง ทั้งวันนั้นบรรณศรขังตัวเองอยู่ในห้องและพึมพำอย่างโมโหร้าย ฝ่ายบรรณบถซึ่งรออยู่กับเพื่อนข้างนอก เห็นว่าไม่เป็นการจึงให้สกฤตกลับไปก่อน
ชิตตพัณนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะอาหารเมื่อธีรเดชตื่นขึ้นมา เขาได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกฝ่ายตั้งแต่แรกแต่จงใจไม่รับรู้ถึงการปรากฏตัวของฝ่ายนั้น ธีรเดชเดินหัวยุ่งเข้ามาและผงะเมื่อเห็นแผ่นหลังของชิตตพัณ แม้ว่าเสื้อเชิ้ตสีแดงอ่อนที่ชิตตพัณใส่จะปกปิดเนื้อเนียนขาวไว้ส่วนใหญ่แต่ก็ยังโชว์ตรงต้นคอซึ่งมีรอยช้ำสีแดงม่วงจากความกักขฬะยามสมสู่ของธีรเดช
ไม่มีใครรู้ว่าธีรเดชคิดอะไร เขาได้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวของตัวเองจากเหงื่อที่หมักหมมตั้งแต่เมื่อวาน กลิ่นคาวของอสุจิซึ่งแปดเปื้อนเสื้อผ้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากกิจกรรมอันดำเนินไปเรื่อย ๆ ตลอดทั้งคืน เขาอยากจะกอดชิตตพัณ แต่อีกฝ่ายตัวหอมสะอาดเหมือนเพิ่งอาบน้ำชำระร่างกาย ธีรเดชเปลี่ยนใจเงยหน้าขึ้น เสยผมยุ่ง ๆ ของตนและเดินออกไปจากห้องครัว
ชิตตพัณยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ถอนหายใจอย่างโล่งอก และบังคับตนเองอย่างเต็มที่ไม่ให้เหลียวมองตามเพื่อน เขายังเจ็บแสบ และระบมไปทั้งร่าง แต่ก็อิ่มเอมจากชัยชนะ เขารู้ว่าบรรณศรต้องเฝ้าดูเขาอยู่ ทุกอย่างคือสิ่งที่เขาวางแผนไว้ เขาคือผู้ชนะ ผู้ชนะ ดาวเด่น และบอกตนเองซ้ำ ๆ อย่างนั้น
“มีวิธีการเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ที่จะทำให้คุณพังทลายได้หลายวิธี” ไหมจีนพูดเบา ๆ พลางพิมพ์ข้อความที่เธอกล่าวลงไปในไฟล์เอกสาร “วิธีที่เราใช้บ่อยที่สุดคือการโกหก ซึ่งไม่ได้หมายเฉพาะการโกหกผู้อื่น แต่รวมถึงการโกหกตนเองด้วย”
เธอขมวดคิ้ว อ่านทวนข้อความทั้งหมดอีกครั้ง และถามใครอีกคน
“แพรอาภรณ์ เธอคิดว่าอย่างไร”
คำถามที่เธอถามได้คำตอบในชั่วอึดใจ “ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะชอบความจริง ผู้เขียนไม่ได้มีหน้าที่ตีแผ่ความจริง เราเก่งในเรื่องบิดเบือนความจริงไม่ใช่หรือ”
“อาจจะบางที” ไหมจีนพึมพำเบา ๆ “ที่เราจะต้องแสดงให้เห็นความจริงบ้าง”
คำพูดของเธอได้คำตอบเป็นเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน
“ตราบใดที่เธอยังเขียนถึงมัน ไม่มีทางที่เธอจะเปิดให้เห็นความจริงหรอก”
“อย่างนั้นเธอคิดว่าพวกเขาต้องการอะไรล่ะ”
“อืม ถ้าเป็นฉัน ฉันจะเปลี่ยนคราบเลือดเป็นน้ำตา เปลี่ยนความพยาบาทบริสุทธิ์ให้เป็นความเกลียดชังที่แฝงไว้ด้วยความรัก เปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายเป็นสิเน่หา ที่สำคัญเธอต้องปิดกั้นพื้นที่ในงานของเธอ”
“หมายความว่าอย่างไร”
“พวกเขาต้องการการถูกบังคับ ให้เดินสวนสนามผ่านฉากที่กำหนด และนำพาไปสู่จุดสุดยอดโดยไม่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้สร้างพื้นที่ของตน”
“ถ้าอย่างนั้น” ไหมจีนกล่าวด้วยน้ำเสียงตัดสินใจเด็ดขาด “สิ่งที่ฉันจะเขียนต่อไป จะเป็นความจริง”
อีกเสียงหัวเราะในคอ “ใช่แล้ว ความจริง..จริงและซื่อสัตย์เหมือนประวัติศาสตร์โลกเลยทีเดียว”
ธีรเดชครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาสำนึกผิดหรือ เปล่าเลย อย่างที่บอกเขาเป็นคนรักตนเอง เขาเคยคิดจะลบชิตตพัณให้พ้นออกไปจากโลกด้วยซ้ำถ้าหากว่าทำได้ การข่มขืนของเขาเกิดด้วความเกลียดชังโดยแท้ เพราะเขารักเท้าสวยคู่นั้น เขาจึงชังชิตตพัณ เพราะเขารู้ว่าเขาไม่มีทางครอบครองคนเช่นนั้นได้ เขาจึงบดขยี้แทนที่จะถนอมรักษา เขาทำลายชิตตพัณด้วยความรู้สึกประหนึ่งการประกอบอัตกามกิริยา และมีจุดร่วมคือการปล่อยน้ำเมือกสีขาวกระเซ็นกระสาย ต่างกันก็เพียงหนึ่งสำเร็จในมือ อีกหนึ่งกิริยาฉีดพุ่งในตัวของชิตตพัณเท่านั้น
แต่ทั้งหมดนั้น ธีรเดชหาได้รู้สึกตัวไม่ สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา..มายาคติจอมปลอมอันเกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน คือเขากำลังหลงใหล ตกห้วงแห่งความหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น อวัยวะเพศของเขาแข็งตัวแม้ขณะที่ยืนอยู่ในรถเมล์ เมื่อนึกถึงเพศรสอันได้ตักตวงอย่างเต็มอิ่ม
ในฐานะของอาจารย์ผู้มีจรรยาบรรณอันดีงาม ภานุต้องคอยสะกดกลั้นอารมณ์ทางเพศที่เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ของตนเอง หรืออาจจะบิดเบือนให้กลายเป็นการใกล้ชิด พูดคุย และมีลูกศิษย์หนุ่มหน้าตาดีอยู่รอบ ๆ น้อยคนนักที่รู้ว่าภานุต้องไประบายอารมณ์กับเด็กขายข้างนอก ที่หน้าตาเหมือนกับเด็กคนที่เขาชอบ ยิ่งอายุน้อยยิ่งดี เขาเคยแม้แต่ให้หนุ่มไซด์ไลน์พวกนั้นใส่ชุดนักศึกษาระหว่างที่กระทำชำเราตัวเขาอย่างสมยอม
และตอนนี้ภานุก็กำลังดูรูปของหนุ่มนักบอลที่เขาเก็บมาจากบอร์ดคณะ เขารู้สึกว่าคนในรูปมีกลิ่นอายคล้ายชิตตพัณ เด็กท่าทางจ๋อง ๆ ใส่เสื้อผ้าเชย ๆ และดูไร้จุดเด่นโดยสิ้นเชิง แต่ภานุพนันได้ว่าภายใต้แว่นตาหนาเตอะที่เหมือนจงใจใช้ปิดบังซ่อนเร้นอะไรบางอย่าง ชิตตพัณหล่อไม่เบาเลยทีเดียว เขายังคิดอยู่ว่า ถ้าเด็กคนนี้รู้จักแต่งตัว เซ็ตผมให้ดี ๆ หน่อย พวกหล่อ ๆ เท่ ๆ แถวสยามเห็นเข้าคงชิดซ้าย
แต่ก็นั่นแหละ ความที่ภานุคุ้นชินแต่ตัวแทน ความเหมือน การไขว่หาของเลียนแบบ สิ่งที่เขาเห็นจึงเป็นคนสองคน คนหนึ่งคือลูกศิษย์ที่ถูกปิดกั้นด้วยจรรยาบรรณ ส่วนอีกคนคือวัตถุทางเพศที่เขาใช้ประกอบการช่วยตัวเองได้อย่างไม่รู้สึกผิด ล่าสุดเช้าที่ผ่านมา เพื่อนเกย์ของเขาส่งอีเมล์มาฉบับหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาถึงกับยกเลิกสอนคาบเช้าไปเพื่อค้นหาข้อมูลนี้เลยทีเดียว
ธีรเดชเดินเกร่มาแถว ๆ ที่เพื่อนเขานั่งอยู่กันริมน้ำ เพื่อนคนหนึ่งโบกมือให้และลุกเดินมาหาเขาใต้ร่มมะม่วง
“เฮ้ย มาไมวะ วันนี้อาจารย์แกไม่สอน”
“อ้าวเหรอ” ธีรเดชร้องอย่างงง ๆ “แล้วมึงรู้เมื่อไหร่”
“เมื่อเช้า แกโทรบอกไอ้กั้ง” คนพูดพูดถึงประธานเอก
ธีรเดชโคลงหัวรับคำ ทั้งคู่เดินปลีกตัวไปทางสวนที่ติดกับโรงอาหาร หนุ่มเข้มยืนเหม่อลูบใบไม้ของต้นอะไรสักอย่างที่เป็นพุ่มเตี้ย ๆ อย่างใจลอย เพื่อนของเขามองหน้า ขมวดคิ้วมุ่น แล้วคลาย แล้วขมวดใหม่
“ทานข้าวยัง”
ธีรเดชพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นและถาม “หืม..ว่าไงนะ”
“มึงเป็นไรป่ะเดช วันนี้ดูไม่ค่อยปกติ”
“เหรอวะ” คนพูดลูบหน้าตัวเอง และพยายามยิ้ม
“ถ้ากูถามอะไรมึงสักอย่าง มึงรับปากกูได้ไหมว่าจะไม่ชกกู”
ธีรเดชนิ่งไป แต่ก็พยักหน้า
“ไอ้เซ็นเตอร์คนเมื่อวาน เป็นใครวะ”
ธีรเดชสะดุ้ง ถอนใจเฮือก และตอบ “กูบอกไม่ได้”
“กูว่าหน้ามันเหมือนไอ้ชิตเลย น้องชายมันหรือเปล่า”
“เฮ้ย แล้วมึงสนใจไรมันล่ะ” น้ำเสียงคนพูดชักหงุดหงิด
อีกฝ่ายไม่สนใจ พุ่งเข้าประเด็น “เมื่อวานพอมึงพามันไปอ่ะ แล้วไปเย็ดกันต่อใช่ป่ะ”
“ไอ้เหี้ยเต็ง”
“ด่ากูได้ แต่อย่าต่อยกูก็พอ อย่างน้อยกูยังอยากมีชีวิตอยู่เพื่อตอบคำถามมึงว่ากูรู้ได้ยังไง”
ธีรเดชมึนไปหมด เขารู้สึกเข่าอ่อนกะทันหันจนต้องพิงต้นไม้ไว้ “เออ มึงรู้ได้ยังไง”
“มึงไม่รู้เลยเหรอ” เต็งหนึ่งพูดด้วยสีหน้าประหลาด “คลิปหน้าเหมือนมึงกะไอ้เซ็นเตอร์ขี้เก๊กนั่นน่ะ ว่อนไปทั้งเน็ตแล้ว” เขาเน้นคำว่าหน้าเหมือนเป็นพิเศษ ธีรเดชฟังแล้วหน้ามืด
“กูไม่..”
“แล้วมึงเสือกใส่เสื้อบอลทีมเราไปเย็ดด้วยนะ กลัวไม่มีใครรู้หรือไง” เพื่อนเขายังซ้ำเติมอีก
ธีรเดชกลืนน้ำลาย เขาพูดไม่ออก
“แต่ไม่ต้องห่วง กูบอกพวกเมีย ๆ กูไปแล้วว่าแค่หน้าเหมือนมึง แต่ไม่ใช่มึงหรอก อีกอย่างกล้องถ่ายมึงไม่ค่อยชัดด้วย แต่ไอ้ชิตดิโดนเต็ม ๆ”
“ชิต..” ธีรเดชทวนคำ
“เออ มึงคิดว่าเพื่อนมึงโง่นักหรือไง แต่ไงก็ยินดีด้วยล่ะกัน พวกกูว่าอยู่ว่ามันน่าเอาดี”
“พวกมึง..”
เต็งหนึ่งตบบ่าเพื่อน “ไม่ต้องพูดอะไรล่ะ กูรอดูหลักฐานสุดท้าย ถ้าไอ้เหี้ยชิตเดินขาถ่างมามอล่ะก็ชัวร์แล้ว โดนของมึงเข้าไปนี่คงต้องเอาพัดลมเป่าสักอาทิตย์”
เขาพูดกลั้วหัวเราะ แล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะสมทบกับเพื่อนคนอื่น ๆ ธีรเดชยืนตัวงอเกาะต้นไม้เหมือนเพิ่งโดนใครซัดเข้าที่ลิ้นปี่สักหมัด เขาบอกว่าเขาไม่ได้ห่วงตนเอง แต่เป็นห่วงชิตตพัณ ชิตตพัณไม่ควรเลือกใช้วิธีนี้แต่แรก เขาไม่จำเป็นต้องปิดซ่อน และใช้ชีวิตเหมือนคนสองโลก นอกเสียจากว่า...
-
จิ้มๆๆๆๆ :z13:
จะต่อไหมคับ รีเฟรชรอหลายรอบแล้ว
555
แล้วจะมาอีดิทคับ
Edit : ตัวเท่าบ้าน
คิดว่าเดชจะเป็นคนดีกว่านี้ซะอีก
ที่แท้ก็โครตเห็นแก่ตัว
ส่วนบรรศร ไม่คิดเลยว่าจะเล่นละครได้เก่งขนาดนี้
นึกว่าจะ sad จริงๆซะอีก
สงสารชิต กลายเป็น ดารา AV คลิปว่อนเน็ต ซะแล้ว
แล้วชิตจะรู้ไหมเนี่ย เฮ่อ
สมกับที่รอคอย มาหลายอังคารเลยคับ
มาต่อรอบนี้ สุดยอดจริง ๆ
สันดานมนุษย์ !!!!
-
เพื่อนในกลุ่มเด็กเรียนโทรมาบอกชิตตพัณว่าอาจารย์ภานุงดสอนคาบเช้า และนั่นหมายความว่าเขาไม่จำเป็นต้องไปมหาวิทยาลัยก็ในเมื่อคาบบ่ายก็ว่างยาว เขายังใส่เสื้อทีเชิร์ตสีแดงจางตัวเดิม แดงเหมือนเลือดพรหมจรรย์ เด็กหนุ่มเป่าใบชาจีนที่ลอยอยู่บนผิวน้ำควันกรุ่นให้ขยับไปมาในแก้ว บางใบซึ่งคลี่คลายและอมน้ำจนได้ที่จมลงไปเบื้องล่างถ้วยแก้วใบใหญ่ ชิตตพัณจิบทีละนิดอย่างใจเย็น สูดกลิ่นชาหอมกรุ่น ราวกับว่าในโลกนี้ไม่มีเรื่องใดต้องกังวล
แต่เขาก็มีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่ง เขามักพูดคุยกับตนเอง ทำนองบ่นเสียมากกว่า และมันมักจะเป็นภาษาอังกฤษ เขาเลือกภาษาที่เขาเองก็ไม่สามารถเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้ และมักจะเป็นประโยคที่ดูโง่เขลาและผิดไวยากรณ์จนน่าขัน แต่ใครสนใจล่ะ
“You cannot understand who I am, what I’m thinking. Son of a bitch, a bastard, or anyone from the deepest tartaras. Shall God listen to my plea; send me back to wherever I was.”
ในขณะนั้น ความสั่นเทาและความหวั่นไหวในวิญญาณของชิตตพัณก็ระงับ เขารู้สึกถึงคลื่นความร้อนที่กระจายมาจากในตัว มันทำให้เขารู้สึกเปี่ยมพลัง และเข้มแข็งอย่างประหลาด แทนที่จะเป็นเม้มเรียวปากอย่างบิดเบี้ยว มันบิดขึ้นเป็นยิ้มประหลาด ยิ้มเย้ยหยัน และสะใจต่อชีวิต เขามองเงาตนเองที่สะท้อนอยู่ในถ้วยชา เป็นยิ้มที่ดูดีเลยทีเดียว และเขาชอบมัน
บรรณศรเลิกเกรี้ยวกราด และนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงของเขา บรรณบถนอนตะแคงอยู่ข้าง ๆ และลูบแผ่นอกของพี่ชายอย่างอ้อยอิ่ง เขาไม่ได้ชอบถูกลูบไล้แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ และเขาเหนื่อยเกินที่จะห้ามบรรณบถไม่ให้ทำอะไรตามใจตนเอง นอกจากนั้น บรรณศรยังเป็นคนที่ฉลาด ถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะไม่รู้ตัวว่าฉลาดถึงปานนั้น เขารู้ ว่าตนเองแสร้งทำเป็นโกรธ จริง ๆ แล้วชิตตพัณไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับเขามากไปกว่าวัตถุทางเพศที่เคลื่อนไหวได้บนจอคอมพิวเตอร์ และการแสร้งโกรธก็คือละครบทหนึ่ง ที่บรรณศรแสดงให้ตนเองชม เพื่อชดเชยความรับรู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาแทบจะไม่แคร์เลยด้วยซ้ำว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชิตตพัณ เมื่อมานึกย้อนดูเขากลับรู้สึกสะใจเมื่อเห็นชิตตพัณถูกทำร้าย ถ้าเขาเป็นไอ้หมอนั่น คนที่อยู่กับชิตตพัณในคืนนั้น เขาคงทำแบบเดียวกัน คือข่มขืนจนไม่ให้เป็นผู้เป็นคน
แต่ช่างเถอะ เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรแบบนั้น บรรณบถ น้องชายและเพื่อนรักของเขา ได้ปรนเปรอจนเต็มอิ่ม ริมฝีปากช่ำชองนำพาเขาไปถึงจุดสุดยอดครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะตามด้วยกามกิริยาเต็มรูปแบบ ที่เขาได้ถูกสอนว่ารสสวาทกับคนที่ใกล้ชิดกับเขาอย่างสุด ๆ นั้นมันสุดยอดแค่ไหน
รสรักก็เหมือนรสเหล้า เสพแล้วมึนเมาเริงสำราญอย่างสุด ๆ แต่ไม่ได้รู้สึกดีเสมอไป มันขมและมันขื่น ทิ้งอาการปวดหัวไว้ในรุ่งขึ้น นักเลงสุราหลายคนเลือกที่จะเลี่ยงความเจ็บปวดนี้ด้วยการเมาซ้ำ และบอกลาการมีสติแจ่มใสอย่างถาวร
ก็บรรณศร ปล่อยให้คนข้าง ๆ ซึ่งเปลือยเปล่า และอุ่น เป็นเจ้านาย มือที่ลูบไล้อยู่บนยอดอกเมื่อครู่นั้นเลื่อนไปตามร่องกล้ามท้องแน่น ๆ มือนั้นยกขึ้นว้นช่องว่างระหว่างผิว มีเพียงสัมผัสเบา ๆ กับขนอ่อนบนท้องน้อยที่ทำให้เขาลุกซู่ มือนั้นเลื่อนไปคลึงและกุมกำส่วนกลางซึ่งฟื้นตัวพร้อมใช้งาน บรรณศรหลับตาซี๊ดปาก เพราะถูกแตะต้องในส่วนที่เสียดสีมามากจนไวต่อสัมผัสของเช้านี้ บรรณบถชันตัวขึ้น และขยับไปจนปากสัมผัสกับส่วนที่ผงกตัวหงึก ๆ ชูความแดงก่ำแสนแกร่งนั้น
บรรณบถเลื้อยไปเหมือนอสรพิษซึ่งค่อย ๆ รวบรัดเหยื่อ โดยที่บรรณศรจงใจไม่รู้ตัว และขณะนั้นความเป็นพี่เป็นน้องก็จางหาย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พลันถูกชำระให้บริสุทธิ์ประหนึ่งอดัมกับลูกสาวที่เกิดจากกระดูกซี่โครงของเขาเอง ความเจ็บปวดล้ำลึกถูกบิดเบือน กลายเป็นความพึงพอใจอย่างหาใดเปรียบไม่ได้ และนี่คือวิถีทางของบรรณศร
“เดช..”
ชิตตพัณเรียกด้วยคำพูดที่ขาดหาย ทิ้งช่องว่างไว้ให้ภาษาเล่นกลและทำหน้าที่อันทรงพลังของตน ธีรเดชหันหาที่มาของเสียงและพบว่าชิตตพัณคนเชยยืนอยู่ข้างหลัง กลุ่มเพื่อนของเขาทำตัวเป็นปกติได้อย่างน่าทึ่ง ถึงแม้ว่าจะรู้ความลับบางประการระหว่างเขากับชิตตพัณ แต่พวกมันรู้ไม่หมดหรอก ธีรเดชคำรามอยู่ในใจ
“วันนี้ไปที่ห้องผมไหม”
เขาเอ่ยปากชวนอย่างเคร่งขรึม เรียบง่าย ซื่อสัตย์ และบริสุทธิ์อย่างคาดไม่ถึง ถ้าใครเห็นสีหน้าของชิตตพัณคงเข้าใจว่าเขามาชวนให้ธีรเดชไปปฏิบัติธรรมเลยทีเดียว แต่ธีรเดชรู้สึกอับอายอย่างบัดซบ เพราะเขาถูกบังคับให้รู้ความจริงว่าทุกคนกำลังหลอกลวงซึ่งกันและกัน ภายใต้ใบหน้าเฉื่อยเนือยของเพื่อน ๆ มีใครบ้างที่แสยะยิ้มเพราะรู้ความนัยของวาจาชิตตพัณ เขาบอกปัดด้วยความโกรธที่กรุ่นขึ้นมา
“วันนี้ไม่ว่าง” และก็หันไปคุยกับเพื่อนคนอื่นราวกับว่าชิตตพัณคือวัชพืชที่ไม่ควรค่าแก่การใส่ใจ
ชิตตพัณแววตาเศร้าลงไป ร้องอืมในคอเบา ๆ และเดินจากไป
“กูว่าแล้วว่ามันต้องติดใจมึง”
เต็งหนึ่งระเบิดออกมาหลังจากที่อัดอั้นด้วยความคันปากยิบ ๆ
“มึงอยากเก็บปากไว้ทานข้าวมั้ย” ธีรเดชถามเสียงกร้าว
“มึงจะปกป้องมันทำไมวะเดช มันเป็นตุ๊ดนะมึง แล้วเป็นตุ๊ดที่โคตรสะตอเบอรี่ด้วย”
“ไอ้ชิตไม่ใช่ตุ๊ด มันเป็นเพื่อนกู” ธีรเดชพยายามขวางน้ำเชี่ยว เพื่อนอีกคนแซวด้วยน้ำเสียงรื่นรมย์
“อ๋อ ตอนนี้เป็นเพื่อน แต่บนเตียงมันเรียกมึง ผัวขา ๆ สินะ ฮ่า ๆๆ”
ธีรเดชลุกขึ้น ซัดจานข้าวตรงหน้าเขาใส่ไอ้หมอนั่นทันที เพื่อนทุกคนรีบกระโดดถอยห่างจากกัปตันทีมที่กำลังเดือดจัด เขายืนหอบฮั่ก ๆ และกัดฟันกรอด คนที่โดนจานข้าวซัดใส่ งงและตกใจเกินกว่าที่จะโกรธ เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนที่ใจดีและออกจะสุภาพที่สุดในกลุ่มกันแน่
“ถ้าพวกมึงยังเห็นกูเป็นเพื่อน อย่าหลุดคำพูดเหี้ย ๆ พวกนี้ให้กูฟังอีก”
“เฮ้ย ไม่เอาน่าเดช อย่าซีเรียสสิวะ เพื่อนแค่ล้อเล่น” เต็งหนึ่งแตะบ่าของเขา แต่เดชเหวี่ยงบ่าสลัดการเกาะกุม
“มึงนั่นแหละ สันดานหมาอันดับหนึ่ง” ธีรเดชพูดใส่หน้าแล้วก็เดินออกไปจากวงอย่างกราดเกรี้ยว
เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ เหวอกันเป็นแถบ เต็งหนึ่งยักไหล่ มองหน้าคนอื่น ถอนหายใจแล้วรำพึง
“งานนี้กูต้องง้อมันใช่มั้ย”
ธีรเดชไม่ได้ตามหาชิตตพัณ ถึงแม้ว่าใจหนึ่งเขาอยากจะทำเช่นนั้น แต่กระนั้นเขาก็อับอายเป็นอย่างยิ่งที่จะยอมรับว่าชิตตพัณคือความคลั่งไคล้ของเขา แม้เมื่อครู่ที่โรงอาหาร ได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาคำเดียวก็ทำให้อารมณ์กระเจิง อวัยวะเพศแข็งตัวและขับน้ำเมือกเยิ้ม เขาบอกตนเองว่าเขาอยากได้ยินเสียงเซ็กซี่นั้นเรียกชื่อเขาในห้องนอน
ความคิดเกี่ยวกับชิตตพัณค่อย ๆ ครอบคล้องเขาเหมือนบ่วงดักสัตว์ ยิ่งธีรเดชพยายามดิ้นให้หลุด บ่วงก็รัดแน่น และบาดลึกเข้าไปในเนื้อ เขาจะตายในไม่ช้า หรือไม่ก็ได้รับการปลดปล่อยจากบ่วงเพื่ออยู่ในความเมตตาของนายพรานต่อไป
และนั่นคือคำตอบว่า ทำไมธีรเดชถึงรู้สึกเสียดายเจียนคลั่ง เมื่อตระหนักว่าตนเพิ่งปฏิเสธคำเชิญชวนไป ศักดิ์ศรีของเขามีรสขม และมันทำให้เขาเกลียดชังทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ตัวของเขาเอง
-
:z13:
จิ้มไว้ก่อน เด๋วค่อยมาอ่าน อิอิ
-
อยากรู้ตอนต่อไปแล้วล่ะ :serius2:
-
สมกับที่รอคอย ว่าแต่ผู้ชายเรื่องนี้มีแต่หื่นๆทั้งนั้นเลยแฮะ ไม่เว้นแม้แต่เดช
จะว่าไป ชิตนี่เป็นBipolar ป่ะเนี่ยะ สงสัยๆ
-
สงสารชิต :seng2ped:
-
p.9
ถึงคุณ JChloe
กว่าเราจะได้เจอกันก็นานพอดูเชียวนะครับ
ถึงคุณ lolojung
พระเอกนางเอกได้กันก็ต้องจบสิครับ
ถึงเฮีย กิมตี๋หัดขับ
อ่า เขียนเลขบทผิด
ถึงคุณ sukie_moo
เม้นท์หน่อยก็ดีครับ ผมอยากรู้ว่าทุกคนคิดอย่างไร
ถึงเจ้ kit
a partner, I guess.
ขอบคุณนะครับ เข้าไปดหลดคลิปต่อได้ล่ะ
ถึงพี่ dahlia
อิอิ
หลายคนอกแตกครับ
ถึงพี่ jokirito
เพราะมันไม่หื่นไงครับ ฮ่าๆๆ
ถึงพี่ Tifa
คิคิ ไปดูมาแล้วเหรอคับ
p.10
ถึงพี่ M@nfaNG
อ่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน
ถึงคุณ kungyung
อิอิ
ถึงพี่ aaax
ไม่กลายพันธุ์หรอกครับ
แต่เราแอบไปเนียนกันต่อที่อื่นก็ดีเหมือนกัน *-*
ถึงป้า andy_kwan
ใจเย็น ๆ นะครับ หายใจลึก ๆ
แซว อิอิ
ถึงน้อง sNow
ไหมจีนยังน่ารักอยู่ไหมครับ
ส่วนเพื่อนเดช เอ่อม ไม่ขอพูดถึง
ถึงคุณ mist
นิดหน่อยครับ
ถึงคุณ gypsy
หักบ่อย ๆ ไม่ดีใช่มะครับ
ถึงคุณ mantdash
ความพึงพอใจของเขาอยู่บนเวทีครับ
แอมโบรเชีย เป็นอาหารทิพย์ของเทพกรีกอ่ะครับ คู่กับน้ำทิพย์เนคทาร์
ถึงคุณ kikisshae
อยากเป็นอาจารย์ภานุ ลูกศิษย์หล่อ ๆ เยอะดี
ถึงคุณ kungyung
หวังว่างั้นครับ
ถึงพี่ jokirito
สอบสวูน่าเบื่อมากพี่
ถึงคุณ Mushroom*TBL
ยินดีต้อนรับครับ
ถึงเจ้ kit
เอ่อม...ได้ข่าวว่าผมยังไม่จบ 555+
ถึงคุณ JChloe
ขอบคุณครับ
ถึงคุณ Resonance
ตามท้องเรื่องก็น่าจะครั้งแรกนะครับ
ถึงคุณ ppanudet
ตอนแรกจะตั้งชื่ออาจารย์ภานุว่าภานุเดชแล้วนะเนี่ย
ถึงพี่ wan
อืม เหมือนตัวเอกจะขอพักเครื่องชั่วคราวครับ
ถึงคุณ *SparklinG*
แรงพอสปาร์คมั้ยครับ
ถึงป้า andy_kwan
ไม่ค่อยสนุกเลยครับ T^T
p.11
ถึงคุณ Dee^daY
เหนื่อยเลยครับ
ถึงน้อง MonkeYMauS
จะบอกว่าตัวเองหล่อเหมือนชิตตพัณอ่ะเด้
ถึงน้อง sNow
ดูเหมือนว่าโนว์จะมีเวลาถมเถในการเตรียมตัว
เพราะว่ากว่าพี่จะลงก็อาทิตย์นี้ แหะแหะ
ถึงคุณ Cha Ris Ma
ฮ่าๆๆ ราชีนีกับทาสหนุ่มรูปงาม เอาไปเขียนเรื่องใหม่ดีกว่า
ถึงเจ้ oaw_eang
คิดถึงเจ้สองเหมือนกันครับ ช่วงนี้งานเข้าเจ้เยอะเนาะ
ถึงเจ้ kit
....
ถึงพี่ aaax
โอ๊ย ไรเดอร์คิกโหดมาก
ถึงน้อง [N]€ẃÿ{k}uñĢ
ฮ่าๆๆๆ น้องนิวมาในลุคใหม่ จันทร์แรมป่าวจ๊ะ ชิคว้าพี่เคนไปกินซะได้
ถึงคุณ Resonance
ครับ
ถึงคุณ aimaim
โอ้ เดนนิสโอรูปนี้ จะเป็นลม หล่อมาก
555+
ถึงเจ้ oaw_eang
กดบวกให้ด้วยแรงเสน่หา 555+
ถึงพี่ Turn_righT
อ่ะค้าบ
ถึงคุณ ai_no_uta
ยินดีต้อนรับและรับฝากครับ
ถึงพี่ aaax
ไหนอ่ะ
ถึงคุณ ai_no_uta
นึกเสียว่าเป็น seminar in gender study ล่ะกันครับ
ถึงน้อง cheezzie
อิอิ มันเครียดขนาดนั้นเลยเหรอนั่น
ถึงคุณ tarn-ta-wan
55555+
ถึงคุณ ppanudet
คร้าบ
p.12
ถึงพี่ M@nfaNG
ฮ่าๆ จริงด้วย
ถึงคุณ JChloe
มาแล้วครับ
ถึงคุณ EoBen
ไม่รู้ว่าธรรมชาติจริงหรือเปล่าครับ
ถึงน้อง mole eye man
พุธนี้แหละค่ะน้องธันขา
ถึงคุณ Resonance
ง่าาาา
ถึงคุณ Dee^daY
อึ้ก!!
ถึงพี่ dahlia
ชักเริ่มสำนึกผิด
ถึงคุณ na_near
แง้ว
ถึงเจ้ kit
ฮ่าๆๆ รูปในแคมยังฮา
ถึงคุณ gypsy
วันนี้แบ่งเป็นสามช่วงครับ
ถ้าผมเป็นเดช ผมก็อาจจะทำแบบเขานะ
ส่วนบรรณศร
เขาโกรธจริงหรือเปล่านะ
ถึงป้า andy_kwan
จิ้มแล้วดิ้นนะครับ
ถึงพี่ M@nfaNG
อ่ะครับ
ถึงคุณ Resonance
น่าสงสัยนะครับอาจจะเป็นทั้ง bipolar ทั้ง split
ถึงคุณ lolojung
อืมนะ
-
บทที่ 10
บรรณศรอยู่ในช่วงที่สติแจ่มใส เรื่องของชิตตพัณกับเพื่อนชายอีกคนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ในแคมฟรอกและเว็บบอร์ดบางแห่ง มีนักเขียนบางคนที่เอาพวกเขาทั้งสองคนไปจินตนาการต่อและเรียงร้อยเป็นนิยายซึ่งกำลังได้รับความสนใจอยู่ แต่ไม่ใช่เฉพาะนักเขียนที่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังมีนักสืบซึ่งตามเก็บสะเก็ดของข้อมูลที่พูดกันปากต่อปาก คัดกรองที่น่าเชื่อถือ และพยายามหาแนวโน้มของความจริง
ความจริง บรรณศรสูดลมหายใจลึก เป็นคำพูดที่ทรงพลังและทำให้ใครก็ตามพรั่นพรึงได้ไม่ยาก ข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้บ่งชี้ว่าความจริงแล้ว ไอ้หนุ่มนักบอลคนนั้นอยู่มหาวิทยาลัยนี้นี่เอง ถึงแม้ว่าการดำรงอยู่ของชิตตพัณดูเหมือนจะถูกซ่อนเงื่อนงำ และปกปิดอำพรางอย่างจงใจ แต่เขาอาจจะตามได้จากหมอนั่น คนที่ขยี้ดอกกุหลาบของเขา
บรรณศรเดินวนเวียนอยู่แถวลานใกล้ ๆ รูปหล่อสัมฤทธิ์ของบุคคลสำคัญในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเป็นช่วงเที่ยงกว่า ๆ ผู้คนไปรวบรวมกันอยู่ที่โรงอาหารและห้องสมุด น้อยรายที่จะมานั่งเล่นอยู่แถว ๆ สถานที่อันเจิดจ้าสว่างไสวและแน่นอนว่า..ร้อน อย่างแถวลานนี่
แต่ก็ยังมีหนุ่มคนหนึ่ง ท่าทางคงแก่เรียน นั่งอ่านหนังสืออยู่บนม้านั่งใต้ร่มไม้ใกล้ ๆ บรรณศรเกร่เข้าไปหาและเอ่ยปากถาม
“โทษนะครับ คณะสังคมไปทางไหน”
คนคนนั้น เงยหน้าขึ้นมองบรรณศรอย่างเกียจคร้าน ดวงตาสุกใสภายใต้แว่นดำกรอบหนาฉายแววแห่งความจำได้แวบหนึ่ง เขาบิดมุมปากน้อย ๆ เป็นรอยยิ้มต้อนรับเด็กหนุ่มในเสื้อชอป
“ไปทางนั้นครับ” ชิตตพัณชี้ไปคนละทาง เขาจงใจกลั่นแกล้ง ‘คนรู้จัก’ ผู้นี้
บรรณศรกล่าวขอบคุณแล้วเดินไปตามที่ชิตตพัณแนะนำ เมื่อครู่เขารู้สึกเหมือนถูกทำให้เบลอ ไอ้แว่นนี่มีพลังอะไรสักอย่างที่เหมือนประจุไฟ หรือว่าจะเป็นบุคลิกที่เหนือกว่าที่ทำให้เขาสยบยอม หรือว่า..เขาคิดเล่น ๆ ถ้าหากหมอนั่นเป็นชิตตพัณ ซึ่งก็ดูคล้ายกันอยู่บ้างแต่ไม่ใช่หรอกมั้ง มันคงน่าหัวเราะมาก เป็นพล็อตที่น่าขันเหมาะกับนิยาย บรรณศรหัวเราะในคอ และเดินตามหาคณะสังคมต่อไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลังจากที่ชิตตพัณจงใจนั่งรออยู่ที่เดิม บรรณศรเดินเข้าหาเขาด้วยสีหน้ากึ่งหงุดหงิด แต่ก็กึ่งพอใจ เขาอาจจะชอบที่จะถูกล้อเล่น แต่ไม่ชอบที่ต้องเดินมะงุมมะงาหราในยามเที่ยง
“คณะสังคมอยู่ที่ไหนกันแน่”
ชิตตพัณเลิกคิ้ว และชี้ไปในทางที่ไปได้จริง ๆ
“ก็เมื่อกี้นายชี้ไปทางอื่นไงวะ”
ชิตตพัณมีสีหน้าสำนึกผิด “ขอโทษล่ะกัน บางทีผมอาจจะสับสนอะไรนิดหน่อย”
“ขอโทษแล้วหายหรือไง” บรรณศรพูดอย่างพาล ๆ
“อ้าว” เจ้าถิ่นเลิกคิ้ว “แล้วคุณจะให้ผมทำยังไงล่ะ”
บรรณศรดึงแขนของเจ้าแว่นนี่ขึ้นมาอย่างเอาเรื่อง เขาประหลาดใจที่สัมผัสถึงกล้ามแขนแน่น ๆ ภายใต้เสื้อตัวพองหลวมโพรกของหมอนี่ แต่ชิตตพัณรีบสลัดให้พ้นจากการถูกจับเอาไว้
“อย่าทำอะไรผม ผมขอโทษแล้ว”
บรรณศรไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรอีกฝ่ายตั้งแต่แรกแล้ว เขาแค่หมั่นไส้ และรู้สึกเสียหน้าที่ถูกคนจ๋อง ๆ ท่าทางเซ่อ ๆ แบบนี้หลอกให้วนอ้อมโลกไปรอบหนึ่ง “นายก็ต้องรับผิดชอบ ด้วยการพาไปที่คณะสังคมด้วยตัวนายเอง โอเคมั้ย”
ชิตตพัณลังเลแต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เมื่อเขารับปาก ไม่นานหลังจากที่ทั้งคู่ร่วมทาง ชิตตพัณก็พาบรรณศรมาถึงป้ายของคณะที่อยู่ตรงหน้าตึก
“เสร็จธุระแล้วใช่มั้ย” ชิตตพัณถาม
“เออ นายชื่อไรนะ นี่ชื่อศร”
“นี่น่ะนี่ไหน” ไอ้แว่นนี่จงใจกวนเขาด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนเลย
“ก็กูไง” เขาขยี้หัว
“ก็ทำไมมึงไม่พูดล่ะว่ามึงอ่ะชื่อศร”
บรรณศรหน้าเหวอ แต่แล้วก็ระเบิดหัวเราะออกมา “ฮ่าๆๆ ก็กูเห็นมึงเป็นเด็กเรียน กูไม่นึกว่า..แต่เฮ้ย มึงยังไม่ตอบเลย”
“กูชื่อชิต” ชิตตพัณตอบนิ่ง ๆ
“เหรอวะ ชิตที่สะกดด้วย s h i t หรือเปล่าวะ” บรรณศรยียวนไปบ้าง
“มึงจะสะกดยังไงก็เรื่องของมึง ไม่ได้หนักหัวพ่อกูหรอก แล้วนี่กูไปได้หรือยังล่ะ”
ถ้าจะบอกว่าบรรณศรติดใจในลีลาและวาจากวนโอ๊ยของชิตตพัณในร่างนี้ก็คงไม่ผิดหรอก นอกจากนั้นเขายังได้กลิ่นที่คุ้นเคย กลิ่นที่ทำให้เขาฟุ้งซ่านและนึกถึงเรื่องทางเพศ
“เดี๋ยวก่อน”
“ไรอีก”
บรรณศรลังเล มือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แต่ก็พูดออกมา “มีเบอร์โทรป่ะ กูขอหน่อยดิ”
ชิตตพัณมองอีกฝ่ายเหมือนตัวประหลาด “มีเบอร์รองเท้ามึงเอาป่ะล่ะ”
“ดี ๆ อย่ากวน”
“มึงจะเอาไปทำไร จะจีบกูหรือไง”
“ถ้ากูบอกว่าจะจีบล่ะ”
อึ้งไป ชิตตพัณเสยผมด้วยบุคลิกของชิตตพัณอีกคนที่ไม่ใช่คนนี้ ความประหลาดใจที่เขาถูกมองเห็นทั้ง ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในสภาพนี้ทำให้บุคลิกเขาสับสนชั่วคราว บรรณศรเป็นบุคคลที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกปั่นป่วนได้ดีแท้ ๆ
“เออ ถ้ากล้าขอก็กล้าให้ เมมไป”
เขาบอกเบอร์โทรของตนไปโดยไม่บิดพลิ้ว
“แล้วกูจะรู้ได้ไงว่ามึงไม่โกหก” บรรณศรยังไม่หมดเรื่อง
“ก็ลองโทรมาดิไอ้ควาย”
คนฟัง ฟังแล้วฉิวแกมขำ เขารู้ดีว่าชิตตพัณจงใจกวนโทสะ แต่มันก็เหมือนกับแฝงนัยทางเพศเร้นไว้อย่างบอกไม่ถูก เขากดเบอร์โทรออกไปและแนบหูรอ พลางใช้สายตาจับผิดมองชิตตพัณ สักครู่มือถือของชิตตพัณก็ดัง เขากดรับสายและพูดลงไปในโทรศัพท์ทั้ง ๆ ที่อยู่ห่างกันไม่กี่ก้าว
“กูโกหกมึงมั้ยล่ะ”
“เออ” บรรณศรตอบอย่างไม่รู้ว่าจะตอบว่ายังไงดี ทั้งคู่มองหน้าซึ่งกันและกัน แต่ไม่มีใครวางสายก่อน
“มึงจะจีบกูเหรอ” ชิตตพัณถามลงในสาย
“เออ”
“ทำไม”
บรรณศรคิดนิดหนึ่ง แล้วหลิ่วตาทะเล้น “มึงกวนตีนดี กูชอบ”
“แค่เนี้ย?”
“แล้วก็ อืม...มึงดูน่ารักดี กูว่านะ ถ้ามึงถอดแว่นออก จะโคตรน่ารักเลย”
“เหรอ”
“ทางที่ดีถอดออกให้หมดทั้งตัว กูอยากเห็นมึงในชุดวันเกิดว่ะ”
“เลวล่ะ” ชิตตพัณ เอาโทรศัพท์ออกจากหูและกดวางสาย เขาบ่นกับตัวเองอย่างจงใจให้อีกฝ่ายได้ยิน “เฮ้อ โทรศัพท์โรคจิตอีกสาย”
บรรณศรจะยิ้มก็ไม่ออกจะร้องไห้ก็ไม่ได้ที่โดนด่าว่าโรคจิต ก็จริงว่าเขาโรคจิต และเขาจะไม่รับรองความปลอดภัยทางประตูหลังของหมอนี่หากว่ายังยั่วเขาแบบนี้อีกต่อไป
“พอใจแล้วใช่มั้ย ไปล่ะ” ชิตตพัณพูดแค่นี้แล้วเดินหนีหายไปในตึก
“เมีย..พี่มีชู้” เต็งหนึ่งร้องเพลงอย่างเริงร่าจากชั้นสองของตึกที่เขากับเพื่อน ๆ นั่งอยู่
“พอเหอะไอ้เต็ง” อีกคนปราม “ถ้าไอ้เดชได้ยินเข้า งานเข้าแน่”
“มันไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่รู้ป่านนี้ไปลับเขาที่ไหน”
“ไอ้เต็ง” เพื่อนอีกคนพูดกับเขา “กูยกนิ้วให้มึงเลย มึงนี่ปากคอเราะร้ายกว่ากะเทยอีก”
“ขอบคุณมากฮ่ะ สำหรับรางวัลที่อะฮั้นได้ในปีนี้ ขวัญใจกะเทยเหรอฮ้า ไม่ฮ่ะ อันนั้นยกให้พี่เดชของเราดีกว่า”
เต็งหนึ่งล้อเลียนอย่างสนุกไปเสียอีก
“มึงจะล้ออะไรมันนักหนาวะเต็ง ขนาดกูไม่ได้เป็นไอ้ชิต กูยังเคืองแทนมันเลย”
“กูก็ขำ ๆ เฉย ๆ อย่าคิดมากดิ” เต็งหนึ่งพูดอ่อย ๆ
“คนอื่นเขาไม่ขำเหมือนมึง”
“โดยเฉพาะไอ้เดช” อีกคนเสริม
“มันท่าจะชอบไอ้ชิตจริง ๆ วะ”
“หรือติดใจ” เต็งหนึ่งอดไม่ได้
“เออก็นั่นแหละ มึงก็ทำซะยังกะว่าไม่เคยมีเมียเป็นผู้ชายมาก่อน”
“กะเทยสาม เกย์สาวสอง” ไอ้เต็งของเพื่อน ๆ ไล่เรียงบรรดาเมีย ๆ ของมันให้ฟังด้วยสีหน้าภาคภูมิใจโดยที่ไม่มีใครร้องขอหรืออยากรู้สักนิด
“กูรู้ล่ะว่าทำไมมึงถึงเสียดสีไอ้ชิตกับไอ้เดชนัก”
“เพราะอะไรวะ” คนต้นเรื่องไม่ได้รับหรอก แต่มีลูกคู่ในกลุ่มนั่นแหละที่ช่วยกันชง
“กูว่ามันอิจฉาว่ะ บรรดาเมีย ๆ ของมันรวมกันแล้วยังหน้าตาดีไม่ได้ครึ่งของไอ้ชิตเลย”
“โหเพื่อน นี่มึงแอบเกลียดกูใช่มั้ยเนี่ย”
เต็งหนึ่งโอดครวญอย่างน่าสงสารให้เพื่อน ๆ หัวเราะฮา เสียงหัวเราะเงียบลงทันทีเมื่อเห็นไกล ๆ ว่าธีรเดชเดินกลับมาจากห้องน้ำทางสุดปีกของตึก ทุกคนพากันคุยเรื่องอื่นที่ไกลจากประเด็นเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง และถึงแม้ว่าบรรณศรจะยังคงยืนดูป้ายคณะอยู่ข้างล่าง ก็ไม่มีใครสักคนที่จะชี้ให้ธีรเดชดู หรือปริปากถึงเหตุการณ์เมื่อครู่สักแอะ
---
ลงยาว ๆ ชดเชยที่หายไปนานครับ
-
ว้าย อีตาลูกชิดของกิต.!
(http://image.ohozaa.com/if/tuatarartf.jpg)
๔๖๑ + ๑ = ๔๖๒
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
กำลังมันส์เลยอ่ะ
บรรณศรมาตามหารักแท้
รึป่าววะ??
-
ลงยาวววววววววววววววววววว อะ ต้องเมนท์ยาวตามปะ 555
ก่อนอื่นขอบอกว่าบทที่ 9 เริดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
และขอฟังธงว่า
เต็งหนึ่ง เป็นตุ๊ด แบบแอบจิต แน่นอน
คริ คริ
(เมนท์แค่เนี้ย ยาวแล้วเหรอลุง เดี๋ยวก็โดนแซวว่าัสั้นอีกอะ 555)
-
สนุกจังเลยครับ
ไม่ไหวและ เลยติดใจเสียแล้ว
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
เบี้ยวไปสองอาทิตย์ มาแค่สองตอนไม่พอหรอก เพราะงั้น เอามาอีก o11
-
ชอบพาเราเลี้ยวไปเลี้ยวมา...ทำเหมือนเดชชอบชิต พออีกตอนก็เหมือนเดชไม่แคร์ หลังๆ เหมือนว่าเดชจะกลับมาคลั่งชิตอีกละ
โอ๊ย!!! รู้สึกสับสนทางเพศ เอ๊ย!! สับสนในตัวเดช :serius2:
แต่อยากให้ศรกะชิตได้ลองศึกษากันอ่ะ ดูเป็นคู่ที่น่าตื่นเต้นดีจัง
นายเต็งหนึ่งนี่เขี้ยวคมเชียว พ่อแม่น่าจะเอาไปตะไบตั้งแต่เล็กๆ โตขึ้นจะได้ไม่เที่ยวไปกัดรองเท้าใครเขา
ปล. หายไปนานมากกกก จะมาต่อเท่านี้จริงๆ หรอ??? เอามาอีกจิ :impress2:
-
สนุกดีคับ อ่านแล้วอยากกลับไปโกหกตัวเองได้อีกครั้งนึงจัง งงป่าวเนี่ย - -" เม้นตอนมาวววค้าบ
-
ช่ายเลยครับ...สอบสวูน่าเบื่อมาก เสียเวลาเป็นที่สุด
...
ตอนนี้ยาวมากนานๆได้มาอ่านที
ก็เลยนานๆได้รีพลายทีนะครับ
-
หายไปนาน กลับมาก็ยังเขียนเรื่องได้แซ่บเหมือนเดิม :m4:
บรรณศร นี่เหมาะที่จะคู่กับ ชิตตพัณ จริงๆ เลย :laugh:
-
อยากอ่านตอนที่ ศร รุก ชิตจัง
อ๊ายยย จะเป็นไงต่อค่า
เดชชอบสันสบหรือว่าที่ทำมาไม่อยากให้ชิต ตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อน
หรือเต็งหนึ่งก็น่าเอาขี้เถ้ายัดตั้งแต่เด็กหมาจริงๆ
อิจฉาละซิ ฮิยะฮ่าๆ
พี่ค่ะหายไปนานมากกกกกกกกกกกกก
ต่อแค่ไม่ไม่พอสำหรับคนหื่นๆหรอกค่ะ ก๊ากก :haun4:
-
ค้างงง ชอบศรยังไงไม่รู้ :serius2:
-
มาต่อไวๆนะครับ รออ่านอยู่
-
ไม่รู้คิดไปเองมั้ย
แต่รู้สึกเหมือนตอนล่าสุดนี่สำนวนจีน ๆ ยังไงชอบกล ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า -*-a
-
หายไปนานนะพี่แทน,,
ศรมาตามหา หารู้ไม่ว่าเจอแล้วเนี่ย
แถมขอเบอร์แล้ว วันหลังก็ไม่ต้องแคมฟรอกแล้ว
โทรไปเลยป่ะ อิอิ*
-
o13
รอคอยตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อคับ
ตอนที่สิบโดนได้อีก ชอบฟีลแบบนี้อ่ะครับ
ตอนหน้าขอแบบจุใจเหมือนตอนเก้านะครับ
ขอบคุณครับ. (:
-
o13 สมกับที่รอคอย
การหลอกตัวเองเพื่อให้สบายใจขึ้นเกิดไปกับทุคนจริงๆ
ลูกชิต(เรียกตามพี่กิต) ทำเป็นไม่สนใจเดช แต่ชวนไปห้องอีก :confuse:
เดช ทำเป็นปฏิเสธ หมางเมิน แต่กลับหลงลูกชิตจนโงหัวไม่ขึ้น
สร โหโม แต่ปลอบใจตัวเองว่าทำไปงั้นๆแหละ สุดท้ายก็ไปตามหาลูกชิตถึงที่ :haun5:
:-[ลูกชิตอยู่กับเดชแค่คืนเดียวฟีโรโมนฟุ้งเชี่ยว ขนาดยังแต่งตัวเชยเหมือนเดิม โลกทั้งสองของลูกชิตเริ่มใกล้กันเรื่อยๆแล้ว
-
อ่านๆไปแอบลุ้น จะมี3Pมั้ยเนี่ยะ เหอๆๆ
นอกเรื่องนิดส์นึง คุณ Kirimanjaro ได้ดูโชว์บินผาดแผลงThunderbirds มั้ยอ่ะคะ ผู้ฝูงหน้าคล้ายๆ บรูซ วิลลิซ เลย
-
เมื่อคน ๆ นึงอิจฉา เรื่องราววุ่นวายต้องตามมาด้วย
และเมื่ออีกคนต้องการหาความจริง เรื่องราววุ่นวายก็จะตามมาด้วยเหมือนกัน
..แต่ความวุ่นวายจะไม่เหมือนกัน เพราะสาเหตุของมันไม่เหมือนกัน..
-
:impress2: เอาอีกๆๆๆๆ
เริ่มจะชุลมุนวุ่นวายกันแล้ว
พี่เดชแกมัวแต่สับสน
คงต้องรับประทานแห้วแน่เลยงานนี้
อุตส่าห์ได้ขยี้กุหลาบไปแล้ว
ยังมัวแต่ทึ่มอยูอีก
สุนัขคาบไปรับประทานกันพอดี
:mc4: จุใจมากๆ ควรค่าแก่การรอคอยจ้ะ นุ้งแทนนนนนนนน
-
ชิตปล่อยฟีโรโมนผ่านหน้าจอได้ด้วย
ถึงขนาดนายศรตามกลิ่นมาจนได้
นายเดชอย่าเล่นตัวมาก เด๋ว มคปด. อิอิ
-
มีความรู้สึกว่าเดี๋ยวมันต้องมีเรื่องอะไรมาให้ งง+ช๊อกอีกระลอก ยังไม่รู้...
ไม่ได้มานาน ก็มาซะยาววววววแบบนี้รออ่านได้เสมอจ้ะ เป็นกำลังใจให้นะ :L2:
-
กรี๊ดๆๆๆๆ
เรื่องราวสนุกมากๆๆๆๆขอโทษน่ะค่ะที่ไม่ได้เม้นให้
เผอิญเพิ่งเข้ามาใหม่ๆๆนี่เอง เห็นกระทู้ชื่อมันโดนจายจริงๆๆๆเลยเข้า
พี่แต่งได้แรงจริงๆๆอ่านแล้วโดนเลยอ่า
สู้ๆๆๆๆน่ะค่ะ จะเป็นกำลังใจให้
-
:haun4:
บทที่เก้า มีกลิ่น นิยายกำลังภายใน โชยมาอ่อนๆ o13
บัวชมพู รสกลิ่นช่างน่าหลงใหล :z1:
-
o13
ไอ้เต็งนี่ ปากไม่ไหวๆ เอา บัวชมพู ยัดเข้าปากดีม่ะฮ่ะ :haun4:
ความวุ่นวายกำลังเบ่งบานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :laugh:
-
ขอบคุณที่มาลงต่อครับ
ชอบทุกตอนเลย
แว้บ ไปอ่านก่อนน
-
เห่อออออออออออออออ
ชิต เจอ ศร เเว้วววว
เจอกันซะที ท่าทางจะกินกันไม่ลง
เอ๊ะ หรือไม่กินดี เปน เขมือบบ
หึหึ
อ่านไปซักพัก พบว่ายาวว
พออ่านไปอีกหน่อย ใจสั่นไม่อยากให้จบ
เห่ออออ ร้ายกาจอ๊าาา มีผลต่อจิตใจ สาวน้อยน่ะค๊าเนี่ยยยย เรื่องเนี๊ย หึหึ
เทคเเคร์ น่ะค๊ะ
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
อูยยย มาต่อสองตอนเลยเหรอคะ ดีจังๆ
ขอตัวขอใจแว้บไปอ่านก่อนค่ะ
เดี๋ยวค่อยมาเมนท์
ปล. คิดถึงมากมาย อิอิ
edit: เหอๆ ในที่สุด "คนรู้จัก" เค้าก็ได้เจอกันซักที
รอติดตามตอนต่อไปด้วยจิตจดจ่อค่ะ :กอด1:
-
เดชใจ ร้ายจังเนอะ
สงสาร ชิตจังเล้ยยยยยยยย
เฮ้อออออออ อยากรู้จัง ชิตจะเลือกใครหน๊อออ
หนูแอบเชียร์ ศร นะพี่แทน
อ่อ พี่แทนเรียกหนูว่า พิมพ์ ก็ได้นะพี่ แล้วก็ จิงๆ พิมพ์ว่า เรื่องนี้ น่าจะชื่อ "ปรัชญาทางเพศ" น่าจะเหมาะ มะพี่แทน
-
หายไปนานแต่สำนวนยังเจ๋งอยู่เหมือนเดิม อิอิ
เดชหื่นมากๆๆๆๆ คงติดใจน่าดู
ส่วนไหมจีนนี่เป็นคนเขียนนิยายหรือคอลัมอะไรซัำกอย่างรึเปล่านะ
แต่ท่าทางจะมีบทอีก
พี่แทนขยันดีจังตอบทุกเม้นเลย อิอิ
-
พออ่านไป2ช่วงแล้วมาอ่านช่วงสุดท้ายทีหลัง
กลายเป็นสั้นเลยอ่ะ
555
เจอกันแล้ว !!!~ ตื่นเต้นๆๆๆๆๆ
อู้วว ลุ้น จริงๆ ว่าจะเป็นไงต่อไป
อยากรู้จริงๆว่า ชิตคิดอะไรอยู่
เดาทางไม่ถูกเลย
-
ขอโทษค่าา ไม่ได้เข้ามาเลย มาอีกที อัพไปสองตอนเลยอ่ะ
ตอนเก้านี่ แสดงให้เห็นว่า ความรักกับความใคร่ก็แยกกันไม่ออกจริงๆเน๊อะ
ส่วนคำถามที่พี่แทนถามไว้ ไหมจีนยังน่ารักอีกมั๊ย?
เธอก็ยังน่ารักอยู่ค่ะ แต่จากมโนภาพที่คิดว่าไหมจีนเป็นเด็กสาวที่ตกหลุมรักแบบpuppy love ชอบเพียงแคมองดูมันเปลี่ยนไป
ตอนนี้อิมเมจของไหมจีนกลายเป็น นักวิทยาศาสตร์ที่เฝ้ามองสัตว์ทดลองตัวที่ชอบ เลยจับตามอง คอยหาสิ่งเร้ามากระตุ้นเป็นพิเศษ 555
ว่าแต่ ตอนนี้ไม่ค่อยมั่นใจแล้วสิว่าเพื่อนเดชจะได้เป็นพระเอก ดูบรรณศรจะมาแรงแซงกว่ายังไงชอบกล
-
อารมณ์สลับกลับไปกลับมา
เดี๋ยวโกรธเดี๋ยวไม่โกรธ
เดี๋ยวอยากเดี๋ยวไม่อยาก
อันไหนจริงอันไหนเท็จกันละนี่ o2
-
ตอนที่ 11
เมื่อห้วงสมองเป็นสีขาวโพลน และโลกทั้งโลกก็กลับกลายเป็นความว่างเปล่า นั่นมิใช่ความตายของสรรพสิ่ง แต่เป็นความตายของผม ผมตายไปแล้ว แต่ว่าผมยังอยู่ เพื่อกิน ดื่มและรื่นเริงสำราญกับความอจีรังและอสาระ ผมอยู่เพื่อเป็นร่างทรงของอะไรบางอย่างที่พูดผ่านปากผม ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านปากกา โดยที่ผมไม่สามารถต่อต้าน ไม่อาจหยุดคิดหรือยับยั้งการบงการเหล่านั้น
ถ้าคุณไม่เข้าใจที่ผมพูด..หรืออันที่จริง..เขียน คุณไม่ได้โง่ แต่คุณเป็นมนุษย์คนละประเภทกับผม คุณไม่หนาวเยือกต่อชีวิต และเหนื่อยหน่ายต่อวงจรที่ย้อนซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่รู้จบ คุณเพียงแค่ไม่ตระหนักถึงพลังที่มีอำนาจเหนือกว่าคุณ และทำให้การดำรงอยู่ของคุณกลายเป็นเรื่องที่หาสาระมิได้ ผมเหนื่อยหน่าย และหนาวเหน็บแทนทุกคนที่อยู่ในเรื่องนี้ และผมอยากจบมันลงไปเสียที แต่ถ้าคุณเชื่อจริง ๆ ว่าผมสามารถจบมันลงได้ นั่นแปลว่าคุณขี้เกียจใช้สมองของคุณอย่างน่าขัน ก็ในเมื่อผมเพิ่งแจ้งให้ทราบว่าผมตายแล้ว แล้วจะมีผมที่ไหนที่จะมาจบเรื่องนี้ลงได้
และถ้าคุณยังคิดไม่ออกอีกว่า ใครจะเป็นผู้ปิดฉากเรื่องทั้งหมด ผมขอหัวเราะเยาะคุณหนึ่งที แน่ล่ะ..เสียงหัวเราะนี้ไม่ใช่ของผม เพราะคนตายย่อมหัวเราะไม่ได้ จริงไหม?
“ฮ่าๆๆๆ”
บรรณศรหัวเราะ เขารู้สึกอารมณ์ดีเป็นพิเศษถึงแม้ว่าการมาของเขาจะไม่ประสบความสำเร็จจนถึงที่สุด แต่อย่างน้อยเขาก็ทราบว่าไอ้หมอนั่น ไอ้คนที่สอยแคมบอยสุดฮอตของเขาไป มันเป็นใคร ถึงแม้ว่าจะยังสาวไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็มีผลพลอยได้บางอย่างที่เกินคาด
บรรณศรคิดถึงไอ้แว่นหน้าเซ่อแต่ปากหมานั่น เขาคลึงมือถือในมือเล่นคล้ายกับลังเลว่าจะโทรไปหาดีหรือเปล่า แต่อีกนัยหนึ่งเด็กหนุ่มก็จินตนาการว่ากำลังคลึงเคล้นท่อนลำของตนเตรียมจ่อเข้าช่องทางอุ่นร้อนในจินตนาการ นึกแล้วก็แข็ง..บรรณศรคิดในใจ ก่อนที่เขาจะไปสอยตูดแคมบอย เอาไอ้แว่นนั่นมาเป็นอาหารว่างก่อนก็ดี
ชิตตพัณก็กำลังนึกถึงบรรณศรอยู่พอดี แต่ไม่ใช่ในด้านอารมณ์ทางเพศ แต่เป็นความครุ่นคิดสงสัย ว่าทำไมจู่ ๆ หมอนั่นถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ เขาลังเลอยู่ว่าจะถามไปเลยดีไหม แต่นั่นก็คงจะทำให้บรรณศรสงสัยเปล่า ๆ ชิตตพัณคนนี้ คนที่กำลังหมกมุ่นครุ่นคิด ยังมีเรื่องที่จะต้องช่วงใช้ชิตตพัณอีกคน ให้จัดการอะไรบางอย่างกับบรรณศร จัดการให้พ้นทางเขาได้เลยยิ่งดี ชิตตพัณหัวเราะ เมื่อรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดกำลังสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนเหมือนกับแมลงที่มาไต่อยู่บนใยแมงมุมโดยไม่รู้ตัว พวกเขาจะถูกใยรัดให้ตายช้า ๆ อย่างทรมาน รอให้แมงมุมเจ้าของรัง เสพสุนทรียรสจากการสังหารไปเรื่อย ๆ
และในเวลานั้น ชิตตพัณอีกคนก็ตั้งคำถาม
“นายคิดว่านายเป็นแมงมุมอย่างนั้นหรือ?”
แพรอาภรณ์ค่อย ๆ เงยหน้าจากพื้น เธอรู้สึกว่าใครสักคนกำลังจับจ้องเธออยู่ และจริงอย่างที่คิด ธีรเดชยืนอยู่ข้างนอกท่ามกลางแสงจ้าของตะวันยามบ่าย เขาเบือนสายตาหลบจากเธอไปทางอื่น แต่ประธานชมรมพุทธฯสาวก็รู้อยู่ดีว่าเขาไม่ได้มองใครอื่นนอกจากเธอ
แพรอาภรณ์ไม่ได้ทักเขา เธอเพียงแต่มองนิ่ง ๆ ด้วยสายตานุ่มนวลและรอให้อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ยวาจาก่อน
“แพร..”
เขาเรียกชื่อเธอแล้วก็ชะงัก
เธอพยักหน้าน้อย ๆ เป็นการตอบสนอง
“ทำอะไรอยู่หรือครับ”
รอยยิ้มเย็นใจจุดขึ้นบนดวงหน้าหมดจดของหญิงสาว “อ่านหนังสืออยู่จ้ะ”
“หนังสือธรรมะหรือครับ”
“ใช่จ้ะ สะสมมหาบุญ” เธอพูดชื่อหนังสือและยกปกเผยอขึ้นให้อีกฝ่ายพอมองเห็น
หนุ่มหล่อเข้มปรายตามองหนังสือธรรมะแล้วก็รู้สึกอึดอัด เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้สักนิด และนี่ก็เป็นกำแพงที่ทำให้เขาเข้าหาแพรอาภรณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ไม่เหมือนชิตตพัณ รายนั้นน่ะนะ... เอาอีกแล้ว ทำไมถึงต้องคิดถึงชิตตพัณด้วย ธีรเดชตั้งคำถามกับตนเอง แต่ก็ลืมเลือนคำถามนั้นไปในเสี้ยววินาที
“ผม..ไม่ค่อยได้อ่าน”
“หรือจ๊ะ”
“คงไม่มองผมเป็นคนบาปหรอกนะครับ” เขาออกตัวกลาย ๆ
“ถ้าเดชไม่เชื่อเรื่องบาปบุญ ถึงพี่บอกว่าเดชเป็นคนบาป มันก็คงไม่สำคัญอะไร”
“ผมเชื่อ แต่ว่า”
แพรอาภรณ์ถอนใจเบา ๆ “ถ้าสวรรค์มีจริง เดชไม่อยากขึ้นสวรรค์เหรอ”
“สวรรค์ของแพรเป็นยังไงล่ะครับ”
“อืม..” สายตาของเธอครุ่นคิด “มีทรัพย์สมบัติ แก้วแหวนเงินทองใช้สอยไม่หมดล่ะมั้ง”
“แล้วผมจะเอาไปซื้ออะไรล่ะ บนสวรรค์มีพารากอนเหรอครับ”
“มีความเพลิดเพลินเจริญใจอยู่ตลอดเวลา”
“เป็นโรคร่าเริงเกินเหตุพอดี”
“แล้วก็มีพระโพธิสัตว์มาโปรดเทศน์ให้ฟังอยู่เรื่อย ๆ”
“เดี๋ยวนี้คลิปธรรมะหาโหลดได้จากไอพอดแล้วครับ”
“เอ..” แพรอาภรณ์ลากเสียงยาวอย่างพินิจ ธีรเดชไม่กล้ามองตา เสหนีนิดหนึ่ง
“ผมไม่อยากไปสวรรค์” เขาบอก “ถ้ามันเป็นความสุขแบบสำเร็จรูป”
“แล้ว”
“ไม่รู้สิครับ”
หญิงสาวนิ่งไปอึดใจ “เดชชอบทรมานตัวเอง ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น”
สายตาที่หลุบตาของเขา ข้อนขึ้นมาสบตาอีกฝ่าย “อาจจะเพราะผมเป็นคนเลว ผมเหมาะที่จะลงนรกมากกว่าขึ้นสวรรค์”
มีบางเวลา ที่เราอยากให้คนอื่นเข้าใจเราครึ่ง ๆ กลาง ๆ เราอาจจะอยากสารภาพบาป แต่ละอายเกินกว่าที่จะพูดมันออกมาตรง ๆ การใช้ภาษาเป็นเครื่องมือ เพื่อบิดเบือนเรื่องราวให้เหลือเพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ อาจจะเป็นวิถีทางที่หลาย ๆ คนเลือก แต่มีไม่น้อยที่ผู้คนเลือกที่จะเดินในทางอันชัดเจน แต่คนที่มีไม่น้อยเหล่านั้น ก็มีน้อยเป็นอย่างยิ่ง
บรรณศรไม่ชอบหลบทางให้ใคร หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเขาเป็นนักเลงหัวไม้จากพฤติกรรมแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วเขาก็เพียงแค่ไม่ต้องการเดินในทางอ้อม ถ้าเขาอยู่ในทางของเขาและกำลังเดิน ผู้อื่นต้องเป็นผู้หลบให้เขา และเนื่องจากการเดินตรง ผู้ที่เดินร่วมทางเขาได้จึงมีแต่เดินนำหน้าหรือเดินตามหลังเท่านั้น
บรรณบถเดินตามหลังบรรณศรตรงแหน๋ว สองพี่น้องกำลังเดินกลับจากร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งทั้งคู่แวะทานด้วยกันก่อนกลับที่พัก บรรณบถไม่ได้คิดถึงเรื่องการเดินตรง แต่การที่เขาอยู่ข้างหลัง มันทำให้เขาได้สังเกตการณ์เคลื่อนไหวของสะบัก กล้ามเนื้อปีกหลังและไหล่ของพี่ชายอย่างชัดเจน แม้ว่าเขาจะถือโอกาสลูบมันอยู่ทุกวัน แต่การได้เห็นมันถูกซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อชอปและเสื้อยืดบาง ๆ ก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นได้
บรรณศรเดินใจลอยไปพลางครุ่นคิด เบื้องหน้าเขา ในสายตา มีเงาราง ๆ ของชิตตพัณคนที่เป็นแคมบอยเดินนำอยู่ มันเป็นการไล่ตามทางความคิด เมื่อชิตตพัณปล่อยให้บรรณศรพิศวงว่าเขาหายไปทางไหน ทำไมเขาจึงไม่กลับมายังสถานที่ที่เดียวที่เขาและบรรณศรสามารถมองกันและกันผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้
ถึงแม้ว่าจะดูไร้แก่นสาร และมีชีวิตเล่นไปวัน ๆ แต่บรรณศรก็เป็นคนช่างคิด เขารู้สึกเปล่าเปลี่ยวขึ้นมาเมื่อนึกถึงเทคโนโลยีอันย่อโลกทั้งโลกมาไว้ในกำมือของแต่ละคน ทว่าในอีกทางหนึ่งก็ทอนความสัมพันธ์ของคนแต่ละคนให้เหลือเพียงเส้นด้ายบาง ๆ ซึ่งเมื่อมันขาด ก็จะไม่มีวันตามหาเส้นด้ายนั้นได้อีก รหัสที่เราใช้ติดต่อซึ่งกันและกัน บางครั้งก็เป็นตัวอักษรไม่กี่ตัว และบางครั้งก็เป็นตัวเลขเพียงเก้าหลัก มันเปราะบางเหลือเกิน
“คิดอะไรอยู่วะ”
“เปล่า” บรรณศรปฏิเสธ เขาชอบที่ตนเองจะเป็นคนไม่มีความคิด ใช่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องคิด
“มึงดูเครียด ๆ นะ เจอใครกวนตีนมาหรือเปล่า”
“อย่ายุ่งเรื่องของกู ไอ้บถ”
“กูแค่เป็นห่วง”
บรรณศรหยุดเดินกะทันหัน ผู้ตามชะงักกึก “มึงไม่จำเป็นต้องห่วงกู” เขานิ่งอั้นไปราวกับมีเรื่องหนักอึ้งอยู่ในใจ “กูต่างหาก..” เสียงของเขาแผ่วลง “ที่ต้องห่วงมึง”
บรรณบถก้มหน้า เขาเจ็บ..เจ็บลึกเข้ามาในอก เหมือนถูกเอามีดฉาบเกลือเสียบเข้ามาตรงกลางใจ เขารู้อยู่แล้วในเรื่องนี้ แต่เขาไม่อยากถูกตอกย้ำ กลไกของเขาสั่งให้ตอบโต้ทันที และมันกลายเป็นกำแพงหนาทึบที่ปราศจากความรู้สึก และไม่อยากให้ความรู้สึกใดผ่านเข้าออก..นอกจากอารมณ์..อารมณ์ปรารถนา
บนถนน ใกล้บ้าน ริมฟุตบาท ใต้แสงไฟหมองหม่น บรรณบถอยากจูบพี่ชายของตน และกอดรัดบรรณศรไว้จนกว่าจะตายไปข้างหนึ่ง
----------
เขียนตอนง่วง โพสต์ตอนง่วง ไปนอนล่ะ คร่อก
(ซอมบี้ก็ต้องการวันพักผ่อนนะคุณ)
((สรุปคนเขียนเป็นซอมบี้ไปแล้วใช่มั้ย))
(((อยากดูหนังเรื่อง Zombie Land จังเลย)))
-
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
ใยแมงมุมที่ถักทอด้วยตัณหาและราคะ
ดูเย้ายวนชวนให้หมู่แมลงหลงมาติดกับ
แล้วถ้าที่มาติดกับไม่ใช่แมลงหน้าโง่ที่อ่อนแอไร้พิษสง
แต่เป็นตัวต่อที่มีพิษร้ายและแข็งแรงละ
ใครจะเป็นเหยื่อ
ตัวต่อ
หรือแมงมุม
งานนี้ ธีรเดช ชิตตพัณ บรรณศร บรรณบถ
ใครจะเป็นแมงมุม ใครจะเป็นตัวต่อ ต้องติดตาม
ลุ้นๆ :oni2:
-
แล้วพี่แทนอ่ะคะ
อยากขึ้นสวรรค์อ่ะป่าว :haun4: อิอิ
บอกพิมพ์มั่งนะพี่ จะได้ไปดักรอ :laugh:
อัพอีกไวๆนะคะ
-
คงจะดี...ถัาเราสามารถอ่านใจผู้อื่นออก...
รออ่านต่อจ้ะ
-
ขอบคุณค่ะน้องแทน รออ่านต่อนะคะ :pig4:
-
ท่าทางจะเครียดจากการสอบหนัก กลับมาถึงได้ปล่อยของ แรง ขนาดนี้
แอบกระซิบดังๆว่า ชอบนะครับ เอิ๊กๆๆๆ ขอแรงๆ อีก จัดมาโลดดดดดด o13
-
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรก
ติดใจภาษาและการบรรยายถึงอารมณ์ของตัวละครมากๆเลย
การดำเนินเรื่องแบบเดาไม่ได้แถมอ่านๆไปยังเจอทั้งปรัชญาและศาสนาเนี่ยชอบมาก
ไรทเตอร์แต่งออกมาได้เยี่ยมมาก o13
ติดตามเรื่องนี้ด้วยคนนะ
-
ได้กลิ่น ได้กลิ่นคุ้น ๆ
หุ หุ หุ
:pig4:
-
ขอบคุณฮ้าบบ. :pig4: o13
-
ตอน 11 มาแล้ว
ขอบคุณนะครับ
-
ขอบคุณจ้า
น้องชายเราเริ่มจะขยันอัพแระ (รึป่าว???) 5555
-
มาต่อเร็วๆนะครับ
-
พี่แทนย่า ต่อแค่นี้เองหรอ
ล้อเล่นๆ
ต่อยาวๆหน่อยดิ
สั้นมากรึไง
-
เข้ามาปลุกซอมบี้ให้เขียนตอนต่อไป -*-
-
พูดถึงใยแมงมุม ผมว่าคนที่ชักใย คงจะเป็นไหมจีนกับเจ้แพรซะละมั้งเนี่ย
ส่วนหนุ่มๆทั้งหลายก็เป็นแมลงหลงทางที่บินวนจนมาถูกเส้นใยบางเบารัดรึงจนกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ และสุดท้าย...ก็..นะ
-
เรื่องราวพันผูกไปด้วยเพศ
-
ติดตาม ติดตามอยู่น้า...
แหวกตลาดดีแท้
ชอบ..........
-
ซับซ้อนจริงๆ จิตใจของคนเรานี่ :serius2:
-
o13
มีผู้กล่าวว่า "เมื่อเราดูละคร อย่าได้จริงจัง
เมื่อเราเล่นละคร จงแสดงอย่างจริงจัง"
:laugh:
แต่ๆรู้สึกว่าหลายคน คงเอาเป็นเอาตายกับ ละครใน แคบฟ็อก คริๆ :haun4: :haun4:
-
เห็นเรื่องนี้มาซักพักแล้ว แต่ก็ผ่านไปผ่านมา ไม่ได้เข้ามาอ่านซักที จริงๆ เห็นชื่อคนเขียนก็รู้แล้วว่าต้องสนุก แต่ทีแรกกะรวมหลายๆ ตอนแล้วค่อยอ่านทีเดียว
พอดีไปเห็นว่าเรื่องนี้ ได้เข้าชิงรางวัลนิยายใช้ภาษาไทยดีเด่น เลยสงสัยว่ามันไม่น่าไปกันได้กับชื่อเรื่อง
เลยลองอ่านดู 10 ตอนรวด
โอ๊วววว์ ซึ้งแล้วครับ เป็นการใช้ภาษาที่เข้มข้นมากๆ การดำเนินเรื่องก็แหวกแนว บทหื่นก็ชวนให้จินตนาการเตลิดไปไกล
นับถือ นับถือ :call:
-
o13 มาอีกเร็วๆนะ
-
ตอนที่ 12
คืนนี้ผมรู้สึกเปล่าเปลี่ยวยิ่งนัก ผมพูดอะไรไม่ออก แม้ว่าจะถูกบังคับให้ขยับนิ้วไปตามแป้นพิมพ์ เพื่อบรรยายตัวอักษรที่ผมไม่ได้เขียน ที่ผมลบ ขีดฆ่า ที่เขียนไม่ได้ และคิดถึงไม่ได้
ลองนึกภาพว่า ผมเชื้อเชิญคุณเข้ามาในบ้าน และผมเล่าความทุกข์ใจทั้งหลายทั้งปวงให้คุณฟัง แต่ในอีกนาทีต่อมา ผมลุกขึ้นไปหยิบปืนที่แขวนไว้เหนือเตาผิง แล้วประทับจ่อหน้าอกคุณ จากนั้นคำรามอย่างดุร้าย ออกไป! ออกไปไอ้สวะ! ออกไปให้พ้นจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้! คุณจะรู้สึกยังไง รู้สึกเหมือนถูกตบหน้า ถูกหักหลัง ถูกทรยศ คุณจะทำยังไง จะกล้ำกลืนศักดิ์ศรีและเดินออกไปจากห้องรับแขกเหมือนกับที่คุณเดินเข้ามา คุณจะหยุดเช็ดเท้าบนพรมที่ผมใช้ต้อนรับคุณเมื่อครู่ไหม ก็ในเมื่อปากกระบอกปืนเย็นเฉียบดุนหลังคุณอยู่ตลอดเวลา
หรือคุณจะสู้ สู้เพื่อสิทธิและศักดิ์ศรีของคุณ คุณยอมให้ผมทำอย่างนี้กับคุณไม่ได้ ดังนั้นผมจะเหนี่ยวไก โดยปราศจากคำอุทธรณ์ คุณจะสะดุ้งเฮือก ผงะถอยไปข้างหลัง หยดเลือดกระเซ็นจากบาดแผล ความร้อนจัดที่ทะลวงร่างคุณทำให้ชาวาบไปทั้งตัว คุณจะร่วงล้มเหมือนนกปีกหัก หมุนคว้างลงกับพื้นกระเบื้องเย็นเยือก และเลือดจะค่อย ๆ แผ่จากตัวคุณช้า ๆ ราวกับหยดสีที่จิตรกรบรรจงหยาดลงไปบนถาด
เพื่อหลีกเลี่ยงตอนจบ ดังนั้นผมจึงไม่บอกกับคุณว่าผมเปล่าเปลี่ยวอย่างไร ทุกข์ใจและขมขื่นมากแค่ไหน เพราะเมื่อคุณรู้ ผมจะฆ่าคุณด้วยวิธีการที่โหดร้ายที่สุด ไม่มีใครในโลกที่ควรรู้เรื่องของผม ไม่..แม้แต่ความตาย
ไหมจีนหยุดพักจากงานที่ทำและมองนาฬิกา เวลาในนั้นบอกเธอว่าเป็นช่วงที่ชิตตพัณน่าจะเข้ามาในห้องแคมฟรอกแล้ว ถ้าเขาหายเป็นปกติ ทุกคนที่นี่เข้าใจว่าชิตตพัณจะไม่กลับมาอีกเลยด้วยซ้ำ เพราะฉากข่มขืนอันรุนแรงและโหดร้ายยังคงติดตาพวกเขาเหล่านั้นอยู่ มันยังถูกถ่ายทอดซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านเครือข่าย และกลายเป็นคลิปที่มีคนค้นหามากที่สุดคลิปหนึ่ง แต่ไหมจีนเชื่อว่าชิตตพัณจะต้องกลับมา ความศรัทธาของเธอช่างพิเศษ และทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
กะเทยสาวลอกอินเข้าไปในโปรแกรม นั่นประไร เธอไม่จำเป็นต้องไล่สายตาค้นหาชื่อของเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะหลายคนในห้องต่างก็ต้องการสื่อสารกับเขา ข้อความที่เต็มไปด้วยกิเลสหลายหลายรูปแบบของมนุษย์ ไหลพล่านไปทั่วห้อง และท่วมซัดสมองของหลาย ๆ คนให้บางอย่างหลุดออกไปจากหัว และกลายเป็นสัตว์ที่ถูกต้อนไปตามกระแสเหล่านั้น
ไหมจีนคลิกกล้องของชิตตพัณ เขาปรับกล้องไม่ให้เห็นหน้า แพนให้เห็นเฉพาะหน้าอกเนียน ๆ ยอดชูชันเหมือนติ่งบัว หน้าท้องเปลือยเห็นเรียวแพคชัดเจนเป็นรูปสวย ชิตตพัณยังคงใส่กางเกงขาสั้นอยู่ แต่มือเขาบีบจับเป้าของตนเองปลุกให้ตื่นขึ้นมากึ่งแข็งกึ่งอ่อนเห็นเป็นท่อนลำอยู่ภายในนั้นแล้ว
“ชิต” เธอพิมพ์หาเขา “ดีใจที่ได้เจอกันอีกจ้ะ”
“หวัดดีไหม แอบดูผมอีกแล้วเหรอ” เขาพูดพลางแกล้งเอามือปิดเป้าตุง ๆ ไว้
“มีคนดูเธอตั้งเป็นร้อยเป็นพัน ไหมดูอีกคนไม่สึกหรอหรอกน่า”
ชิตตพัณคลึงของเขาไปด้วยระหว่างที่อีกมือหนึ่งกดแป้นพิมพ์ เลยตอบไหมจีนได้ช้ากว่าหน่อยนึง
“ก็นะ ให้เพื่อนเห็น มันก็เขินนี่”
“แล้วหนุ่มนักบอลเมื่อวันก่อนล่ะ เขาก็เป็นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ”
เงียบไป
“คุณเป็นใครกันแน่”
ไหมจีนเพียงแค่ยิ้ม ยิ้มหวานละมุนเหมือนนางฟ้า
“เธออยากให้ฉันเป็นใครกันล่ะชิต”
ชิตตพัณนิ่ง มือของเขาไม่ขยับ แผ่นท้องที่มีกล้ามสวยวูบไหวเหมือนกับเจ้าของร่างอัดลมหายใจหนัก ๆ เข้าไปอึดหนึ่ง
“อยากให้เป็นคนดู ดูเฉย ๆ ได้ไหม”
“เธอร้องขอเกินไปนะชิต ไม่มีคนดูคนไหนหรอก ที่สามารถทนดูเฉย ๆ ได้โดยไม่ก้าวเท้าเข้าไปร่วมแสดงด้วย”
ชิตตพัณไม่ทันตอบเขากลับ เขาคิดไม่ออก และข้อความนี้ก็ทำให้เขาหัวหมุน ความรู้สึกปลอดภัย ป้อมปราการที่เขาก่อขึ้นมาคล้ายจะมีรอยร้าวซึ่งเขาไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน และในขณะนั้นก็มีข้อความเข้ามาจากอีกคนซึ่งเขาไม่สามารถเมินเฉยได้
“ไงวะ หายหัวไปนาน เบื่อโชว์แล้วเหรอวะ”
“ก็คงงั้น” เขาพิมพ์ตอบบรรณศรไปอย่างไร้อารมณ์
“เงี่ยนว่ะ”
“ก็ชักว่าวไปดิ” ชิตตพัณตอกกลับไป
“ชักเองไม่มันส์ อยากมีคนช่วย”
“แล้วเพื่อนมึงอีกคนล่ะ” ชิตตพัณหมายถึงบรรณบถที่เขาเคยเห็นเมื่อหลายวันก่อน “ไปไหนซะล่ะ”
“เบื่อแล้ว อยากลองไรแปลก ๆ อย่างเช่น อืม...มึงก็น่าจะรู้”
“รู้อะไร”
“อยากให้มือของมึงมาช่วยไง”
“ทะลึ่งแล้ว”
“กูอยากรู้ว่าถ้าปากนุ่ม ๆ ของมึงเนี่ย ค่อย ๆ เม้มไปบนหัวKของกู จะเสียวแค่ไหนวะ ซี๊ด..”
บรรณศรทำหน้าเหยเกตามที่พิมพ์ไปด้วย และมันไม่ได้ยั่วแค่ชิตตพัณเพียงผู้เดียว ผู้ชมทุกคนต่างก็เข้าใจว่าบรรณศรกำลังยั่วพวกเขาแต่ละคน
เด็กหนุ่มจับเป้าของตัวเองให้ตึงเห็นเป็นท่อน แล้วลุกจากเก้าอี้ ยืนกระเด้าเอวเข้าหากล้อง
“แล้วกูก็จะเอามึงแบบนี้แหละ”
“มึงพูดจบยัง” ชิตตพัณถามอย่างเย็นชา
“ยัง ให้กูไปหามึงได้มั้ย กูจะให้มึงลืมไปเลยว่าสวรรค์มีแค่หกชั้น”
“เหอะเหอะ”
“มึงอย่าทรมานกูดิ แค่นึกถึงหน้ามึง กูก็จะแตกล่ะ”
บรรณศรพิมพ์ไปปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของตนไป กางเกงในสีเทาที่เขาใส่อยู่แทบจะไม่ได้ช่วยอะไร เพราะท่อนเอ็นดุ้นใหญ่มันขยายตัวจนแทงขอบกางเกงทะลุขึ้นมาโชว์เงี่ยงบาน ๆ แล้ว
เขาดึงกล้องมาจ่อใกล้ ๆ ท่อนเนื้อที่ยังคงถูกรัดไว้ด้วยขอบกางเกงใน มันดิ้นรนด้วยการกระดกเป็นจังหวะพร้อมกับสำลักน้ำหล่อลื่นใสเยิ้มย้อยอาบมาตามเส้นสองสลึง
ร่างกายของชิตตพัณตอบสนองต่อภาพที่เห็น ความร้อนพุ่งวูบวาบทั่วร่างกายจนหน้าอกแดงเป็นปื้น และแก่นกลางก็ชี้ชันจนเลิกขากางเกงขาสั้นของเขาออกมาชมโลกภายนอก
“มึงเงี่ยนแล้วใช้มั้ย มึงบอกสิว่าอยากได้Kกู กูจะเอาให้มึงอม จะเสียบเข้าไปในตัวของมึง จะทำให้มึงครางเหมือนหมา และร้องเรียกแต่ชื่อกู”
ชิตตพัณโกรธ แต่เป็นความโกรธที่ผสมกับตัณหา เขาโกรธบรรณศรว่ากล้าดีอย่างไรถึงมาพูดกับเขาแบบนี้ แต่อีกทางหนึ่งเขาก็ตื่นเต้น และเพริดไปกับถ้อยคำหยาบคายเหล่านั้น
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำให้ชิตตพัณสะดุ้ง เขาย่อโปรแกรมไว้แล้วลุกขึ้นไปที่ประตู เสียงเคาะดังมาอีกสองครั้งสั้น ๆ ให้เขารู้ว่าที่ได้ยินนั้นไม่ใช่หูฝาด ชิตตพัณส่องมองตรงช่อง คนที่ยืนอยู่หน้าห้องทำให้เขาประหลาดใจ และ..บอกไม่ถูก
เขาเปิดประตู อีกฝ่ายมองร่างเปลือยครึ่งท่อนของเขาและถาม
“เล่นแคมฟรอกอยู่เหรอ”
ชิตตพัณพยักหน้าและหลบให้ผู้มาเยือนเข้ามาในห้อง คนผู้นั้นผลักประตูปิดให้ มือตะปบคว้าเอวของชิตตพัณแล้วประกบจูบลงไปอย่างดุเดือด ในกล้อง บรรณศรมองเห็นแค่ขาสองคู่ที่แนบชิดกันและเสียดสีกันไปมา แต่แค่นั้นก็ทำให้เขาแทบคลั่ง ความริษยาพลุ่งพล่านเข้ามาเต็มพิกัด อารมณ์ทางเพศของเขาถูกเก็บกดไว้แทบระเบิด เขาพร้อมจะเอากับหมาที่ไหนก็ได้ หรือแม้แต่กับน้องชายของตนเองเพื่อคลี่คลายความรู้สึกนี้ แต่เขามีตัวเลือกที่ดีกว่า
-------------------
ผมจะไปต่างจังหวัดสักสามวันนะครับ กลับถึงกทม.คงพฤหัสตอนเย็นโน่นแน่ะ
-
ง่ะ ค้างอ่ะ
:z3: :z3: :z3:
...............................................
แล้วรีบกลับมาต่อเร็วๆนะคร้าบบบบบบบบ
-
หึ หึ หึ
ลองเปรียบเทียบกันดู
เวลาที่เราอ่าน "เรื่องเล่า" ทั้งหลาย
บางครั้ง เราก็อดไม่ได้ที่อยากเป็นมากกว่าคนดูใช่ไหม
หึ หึ หึ
o13
-
อ่อยยยย
นั่นใคร๊ ~ :haun4:
-
:กอด1: ไปดีมาดีนะ :กอด1:
ตอนที่ 12
คืนนี้ผมรู้สึกเปล่าเปลี่ยวยิ่งนัก ผมพูดอะไรไม่ออก แม้ว่าจะถูกบังคับให้ขยับนิ้วไปตามแป้นพิมพ์ เพื่อบรรยายตัวอักษรที่ผมไม่ได้เขียน ที่ผมลบ ขีดฆ่า ที่เขียนไม่ได้ และคิดถึงไม่ได้
ลองนึกภาพว่า ผมเชื้อเชิญคุณเข้ามาในบ้าน และผมเล่าความทุกข์ใจทั้งหลายทั้งปวงให้คุณฟัง แต่ในอีกนาทีต่อมา ผมลุกขึ้นไปหยิบปืนที่แขวนไว้เหนือเตาผิง แล้วประทับจ่อหน้าอกคุณ จากนั้นคำรามอย่างดุร้าย ออกไป! ออกไปไอ้สวะ! ออกไปให้พ้นจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้! คุณจะรู้สึกยังไง รู้สึกเหมือนถูกตบหน้า ถูกหักหลัง ถูกทรยศ คุณจะทำยังไง จะกล้ำกลืนศักดิ์ศรีและเดินออกไปจากห้องรับแขกเหมือนกับที่คุณเดินเข้ามา คุณจะหยุดเช็ดเท้าบนพรมที่ผมใช้ต้อนรับคุณเมื่อครู่ไหม ก็ในเมื่อปากกระบอกปืนเย็นเฉียบดุนหลังคุณอยู่ตลอดเวลา
หรือคุณจะสู้ สู้เพื่อสิทธิและศักดิ์ศรีของคุณ คุณยอมให้ผมทำอย่างนี้กับคุณไม่ได้ ดังนั้นผมจะเหนี่ยวไก โดยปราศจากคำอุทธรณ์ คุณจะสะดุ้งเฮือก ผงะถอยไปข้างหลัง หยดเลือดกระเซ็นจากบาดแผล ความร้อนจัดที่ทะลวงร่างคุณทำให้ชาวาบไปทั้งตัว คุณจะร่วงล้มเหมือนนกปีกหัก หมุนคว้างลงกับพื้นกระเบื้องเย็นเยือก และเลือดจะค่อย ๆ แผ่จากตัวคุณช้า ๆ ราวกับหยดสีที่จิตรกรบรรจงหยาดลงไปบนถาด
หะหะหะ คิดผิดแล้วที่ไม่เหนี่ยวไกปืน เพราะถ้ากรูรอด มรึงจะได้ ของขวัญเป็น น้อยหน่าเหล็ก สัก 3 - 4 ลูก ไม่สิ ตายไปคงไม่สะใจ กรู เอาแค่ ลืมไม่ลงก็พอ คริๆ :fire:
-
มาได้จังหวะจริงๆ :z1:
ปล ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย :L2:
-
กลับมาต่อเร็วๆนะครับ
ตื่นเต้นจิงๆเลยนะเนี่ย
:z3: :z3:
-
แกล้งให้อยากรู้แล้วก็จากไปอย่างลอยนวล :z3:
ใจร้ายจริงๆ :serius2:
-
ชอบไหมจีนอ่า
แบบว่าคมคายจริงๆ อิอิ
ใครมาหาชิตกันนะเดชหรอ? ไม่ใช่หรอกมั้ง
บรรณศรโทรหาชิตแหงเลยท่าทางแล้ว :z1:
-
เอาเถ้าแก่น้อยให้ศรกินหน่อยจะได้ ไจ่เย็น ใจเย็นเย็น ไจ้เย่นเย็น จายยยเย็นๆ 555
คิดอยู่ว่าสาหร่ายมันเกี่ยวอะไรกับใจเย็นฟระ ถ้าเป็นเก็กฮวยจะไม่แปลกใจเลย
-
วุ้ย จะมีใคร้....ถ้ามิใช่พี่เคนนี่....ซ'มีน้องลูกชิด จะย้อนมา รี้แหมทฉ์ อิ๊อิ๊
๔๖๒ + ๑ = ๔๖๓
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
คนที่เข้ามาหาชิตน่าจะเป็น เดช ใช่ป่าว??? อิอิ
เดินทางปลอดภัยได้กินหนุ่มๆหลายๆคนนะจ๊ะ
-
ใครมาทำกับชิตน้อยของพี่ :z3:
-
ชอบตัวละคร "ไหมจีน"
ขอบคุณสำหรับตอน 12 ค่ะ
เดินทางปลอดภัยนะคะคุณ Kirimanjaro
-
อย่าเสียใจกับภาพที่เห็น
เพราะบางทีเราอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นก็ได้..สักวัน
-
วู้วววววว พี่เคนมาแว้วววววววว พี่เคน เอ้ย เจ้าเดช ใช่มั้ยเนี่ย อย่าปล่อยหนูชิดให้ว่างนาน เดี๋ยวพี่จะอด
และอย่าบอกนะว่าเจ้าบรรณศรจะโทรมาตามนายชิตแว่นหนาเพื่อจะเอาไปหมำ่ๆอ่ะ
-
กลับมาต่อก่อนได้ม้ายยยยยยยยยยย มันค้างงงงงงงงงงงง :z3:
-
ค้างได้ใจจริง ๆ
ชอบบรรณศร เถื่อนได้อีก
-
ค้าง อ่า
สองตอนสั้นกว่าตอนที่ 10 อีก
ลุ้นมากมาย คนหนึ่งก็เถื่อนได้ใจ อีกคนก็เคยๆกันมาแล้ว
3P ไปเลย :o8:
เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะ
-
สงสัยบรรณศรจะสมหวัง :z3:
-
ปี้แทนย่า เมื่อไหร่จะให้ บรรณศร สมสู่กะชิตพัณ สักที รอนานแล้วนะ รอจนจวยท้อแล้ว เด่อ :impress2:
-
พี่แทนย่า
ค้าง
รีบกลับมาเร็วๆเน้อ
-
รอมาต่อคร่าๆๆ
ส่วนตัวชอบไหมจีนจัง
:L2:
-
:serius2: ค้างๆ
เย็นพรุ่งนี้ก็กลับมาแล้ววว
อย่าปล่อยให้คอยเก้อนะค้าบบบ
ขอบคุณฮับบ. :)
-
ไหมจีนดูจะเข้าใจชิตดีจัง
ชิตมีการแสดงออกทางอารมณ์ที่ชัดเจนดีอ่ะ
ตอนนี้ก้อข้องใจนายเดชสุดแระ
จะเอาไงเนี่ย เดี๋ยวก้อไล่เดี๋ยวก้อมาหา(ช่ายเดชเปล่าอ่ะคนที่เคาะประตู)
รออ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ
-
ดันๆๆๆๆๆๆๆสุดฤทธิ์
-
เรื่องที่น่าหดหู่สำหรับหลาย ๆ ท่าน o22
ผมป่วย
และงานหนัก
และและเปิดเทอม
สงสัยคงต้องเลื่อนอัพนิยายไปสักพัก
:serius2:
ได้โปรดอย่าเพิ่งฆ่าผมทิ้ง :monkeysad:
-
เย้! ในที่สุดก็ตามอ่านทันแล้ว
แต่... o22
ไม่เป็นไรครับ รอได้ครับ รักษาสุขภาพละกันนะครับผม o18
-
รักษาสุขภาพดีๆนะ :L2:
ค่อยๆมาก็ได้ ไม่ต้องเครียด รออ่านได้เสมอ
-
ไม่เป็นไรครับ
สุขภาพต้องดูแลดีๆนะครับ
ช่วงนี้ก็ฝนตกบ้างร้อนบ้าง ก็แบบนี้แหละครับ
หายไวๆนะครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ o13
-
งืมๆ รอจ้ะ รอ ร้อ รอ นานแค่ไหนก็รอ o13
-
ไม่เป็นไรค่ะ จะรอนะคะ :o12:
รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณ Kirimanjaro :กอด1:
-
get well soon นะคะ คุณ Kirimanjaro
-
เอาน่า ๆ รักษาสุขภาพ
:)
สู้ ๆ
o13
-
จะรอเสมอ น๊า
หายป่วยไวๆ จ้า
คิดถึง ชิตจะแย่แล้ว :haun4:
-
:a5:
เลื่อนอัพไม่เป็นไรแต่อย่าทิ้งเค้าไปก็พอ. . กระซิกๆ
:m15:
ยังไงก็รักษาสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพจิตดีๆนะฮับ.
ขอให้หายโดยไวนะฮับ :L2:
(:'
-
รักษารักษาสุขถาพนะครับ
:กอด1:
รอน้องลูกชิตต่อไป
-
พักผ่อนมากๆนะจ๊ะ
ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็หาหนุ่มๆมาฉีดยาสักสองสามเข็ม อิอิ
-
ได้โปรดอย่าเพิ่งฆ่าผมทิ้ง :monkeysad:
แหม..ใครจะใจร้ายได้ลงคอล่ะ ออกตัวซะขนาดนี้แล้ว o18
ขอให้แข็งแรง หายป่วยไวๆ นะค้า :กอด1:
-
แล้ววันที่ผมกลัวก็มาถึง..
หายป่วยไว ๆ นะคับ
-
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย แถวบ้านเราลมหนาวพัดมาแล้ว หนาวโครๆอ่าาาา
ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดีๆนะ ^^
ปล. วันลอยกระทงไปลอยกะใครน้อ 555
-
พี่แทน หายไวๆนะคะ :sad4:
รักษาสุขภาพด้วยน๊า
หายแล้ว มา ชู๊ต บาส ใส่หน้า หนู ด้วยนะ ====> เ ป็ น ห่ ว ง ง่ ะ :o8:
:laugh:
-
อยากเสพย์นิยายเถื่อนๆแต่มีชั้นเชิงแบบนี้มานานมากๆ
แต่ที่เจอก็จะเจอแต่เถื่อนถ่อยและซาดิสม์สุดกู่ไปเลย
นิยายกลางระหว่างซาดิสม์และโรแมนติคแบบนี้หาไม่ค่อยจะเจอ
แต่มาวันนี้ได้อ่านก็แน่ใจได้อย่างว่า "ไม่เสียชาติเกิด"
เคยอ่านตามหารุกแท้ของคุณช่วงแรกๆและชอบมันมากๆ ก่อนที่จะรู้สึกในกลางเรื่องว่ามันไม่ใช่และเลิกอ่านไป
หวังใจว่าเรื่องนี้จะสามารถคงความรู้สึกที่สื่อมาแต่แรกประคองไปจนจบได้
นิยายเรื่องนี้ขอบอกว่าอ่านแล้วเพลินยิ่งกว่าเรื่องอื่นๆที่ว่ากันว่าดีนักดีหนา
มันมีอะไรอยากพูดอยากเขียนมากกว่านี้เยอะทีเดียวแต่บรรยายไม่ถูก มันอิ่มเอมอยู่ข้างในที่ได้พบเจอนิยายดีๆสักเรื่อง
ขอขอบคุณคุณคิริมันจาโรที่แต่งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม และจะเป็นกำลังใจให้คุณเสมอ ขอบคุณครับ
-
:monkeysad:
เศร้าจิต.....ไม่เป็นไร
ดูแลตัวเองให้ดีเน้อ รอได้จ๊ะ
-
ขอเป็นแฟนคลับด้วยคนเน้อ (เพิ่ง)ตามอ่านมาตั้งแต่เรื่องตามล่าหารุกแท้แล้ว
ชอบสไตล์การเขียนนะครับ เจ๋งมาก ๆ
-
เกืบจะหายป่วยแระฮะ
แต่รอสักพักนะ คนเขียนกำลังหาวิธี'ลง'อยู่
เอิ้ก ๆ ชีวิต
:fire:
-
รอวัน "ลง"
:oni1:
-
• แต่รอสักพักนะ คนเขียนกำลังหาวิธี'ลง'จาก....คานอยู่ อิอิ
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
ง่าหาวิธีลงซะงั้นอะ
หาให้ได้เร็วๆนะค่ะ
จะรอต่อไปคร้า :mc4:
-
มาให้กำลังใจ คนเขียนคะc4:
-
มาให้กำลังใจให้หาทางลงได้ไวๆครับ
แต่ถ้าให้รอนาน... เดี๋ยวจะเอาตะกร้อไปสอยลงมานะครับ
-
มารอนะคะ :impress2:
หายป่วยไวไวนะคะ ช่วงนี้อากาศหนาวรักษาสุขภาพด้วย
-
รีบๆ หาวิธี "ลง" ให้ได้นะจ๊ะ
:m20:
-
เข้ามาอ่าน ตามทันแร้ววววว
เมื่อไรหาวิธี "ลง" ได้น๊า....
หรือจะต้อง "ช่วย" ดี
5555+
-
แอบมาขุด จะผิดกฎบอร์ดไหมหนอ
:กอด1: ให้กำลังใจคุณน้องแทนย่า
แล้วก็ :z6: กระตุ้นให้มาลงต่อได้แล้ว
-
แบบว่า......คิดถึงอ่ะ :sad4:
-
มารึยังคะ หายเปื่อยรึยัง รออ่านอยู่นะคะ :L2:
-
คนเขียนฝากบอกว่า ยังมีชีวิตอยู่ปลอดภัยดี แต่ตอนนี้ติดภารกิจไปต่างจังหวัด (แต่ไม่ยอมฝากบอกว่าจะมาลงเมื่อไหร่
ชิส์ :z6:)
-
งั้นฝากไปบอกคนเขียนด้วยนะจ๊ะว่า..อยากอ่านแล้วววว มาต่อเถอะ :sad4:
-
ขอคำแนะนำหน่อย
ไฟล์กลายเป็นแบบนี้ ทำไงครับ?
ส฿K`แI๖Ox ฎ๑+ึ”๓ฺ–
ฺMqkึ(6Bฌฑ%บGฌํ#‘u|–าึ”๔ๅ€ฅd้iฐฒส่
พฬr'@w•kwื8;^’ผใๆใ5๕Jซๆยภป)ฉb็ซณ5ง‘—Pr9Gฦช5Zด“)ฤ
\a#Uฤ8โuฃฟT=kวRmัฃ็(ชq4fฅvlNตคTTฅ$ฝld!๎พN
เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะลองไปก๊อปปี้ไฟล์มาใหม่ ไม่เกินหัวค่ำนี้ได้อ่านตอนจบแน่ครับ
:n1:
-
ง่ะ จะจบแล้วเหรอคะ ...ใจหาย :กอด1:
ปล. ที่มันขึ้นภาษาแบบนั้น ไม่ทราบว่าคุณ Kirimanjaro เปิดอ่านไม่ได้ในไหนอ่ะคะ
ที่เคยเจอกับตัวเองคือมันขึ้นแบบนี้ในเมลที่เราส่ง คือพอส่งแล้วมันเปิดอ่านไม่รู้เรื่องอ่ะค่ะ วิธีแก้คือ ไปที่แถบเมนู view > encoding > Auto-Select (อันนิสำหรับกรณีใช้ IE เป็นบราวเซอร์อ่ะค่ะ)
แต่ถ้าเป็นกรณีอื่น อันนี้ก็จนด้วยปัญญาเหมือนกันค่ะ แหะๆๆ
-
:z3: จบได้ไงกันหายไปตั้งนานพอกลับมาบอกจะจบ มีเคืองนะคะ :serius2:
ปล.เอิ่ม อยากอ่านออกแต่ภาษานั้นจนปัญญาจริงๆค่ะน้องแทน
พยายามเข้านะคะก๊อบไปก๊อบมามันต้องได้ซิน่า :a2:
-
เอิ่ม....ภาษาต่างดาวเยี่ยงนี้ พี่ไม่สันทัดกรณีอ่ะครับ งุงิ :mc4:
-
ไม่อาจช่วยได้
แต่มาลุ้น
:impress2:
-
:serius2:
ว่าจะมาตั้งแต่เย็น ๆ แต่ติดนิยายเรื่องหนึ่ง ฮ่าๆๆ วางไม่ลงเพิ่งอ่านจบเมื่อชั่วโมงก่อน
และ...ที่มาสายป่านนี้ก็ต้องโทษรถติดครับ ติดเป็นบ้าเป็นหลัง ได้ข่าวว่าแน่นตั้งแต่อนุสาวรีย์ยันประตูน้ำ
รถเมล์ไม่มาซักคัน
:serius2:
เลิกบ่น
มาอ่านกันเถอะครับ
นี่เป็นนิยายในตำนานของผมเลยนะเนี่ย
ที่เป็นตำนานเพราะอะไรน่ะเหรอ
ให้ทาย...
ทายไม่ถูกใช่มั้ยครับ
ผมเฉลยก็ได้
เพราะว่า
เพราะว่า...
เอิ่ม
เพราะว่ามัน..
มัน...
มันจบได้ไงล่ะครับ 555555+
:laugh:
--------------------------------
ธีรเดชกอดจูบเพื่อนของตนยังไม่ทันหนำใจดี ชิตตพัณก็สะดุ้งและพยายามผลักเขาออกเมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ
“รับโทรศัพท์ก่อน”
ธีรเดชยอมปล่อยให้อีกฝ่ายมุดลอดวงแขนไปและมองตามอย่างหัวเสีย เมื่อครู่ที่กอดรัดนัวเนียกัน อวัยวะของเขาแข็งแทบจะระเบิด และพร้อมเต็มที่ที่จะรวมเป็นหนึ่งกับชิตตพัณ
ธีรเดชตามมาติด ๆ ชิตตพัณหยิบมือถือขึ้นมานิ้วเตรียมกดปุ่มวางสาย แต่แว่บเดียวก่อนที่เขาจะกดวาง ชื่อของบรรณศรที่อยู่บนนั้นทำให้เขาลังเลวูบหนึ่ง แต่ธีรเดชที่ตามมานัวเนียทำให้เขาตัดสินใจกดวางและโยนมือถือลงไปกับเตียง ธีรเดชเหนี่ยวไหล่เขากลับมาและกอดจูบซอกคอ เขาสยิวกายด้วยความรู้สึกพลุ่งพล่าน แต่มันไม่สุด
ธีรเดชผลักเขาลงไปกับเตียง จุดที่กล้องส่องเห็นได้มากที่สุด ชิตตพัณถอยตามร่างบึกบึนที่เข้ามาใกล้ สายตาเป็นประกายยั่วล้อ ทำให้หนุ่มเข้มคำรามฮึดฮัดในคอ ธีรเดชคุกเข่าลงกับเตียง ประจงยกปลายเท้าของชิตตพัณขึ้นมาและก้มหัวจูบบนหลังเท้าเนียนนั้นอย่างยอมศิโรราบ ชิตตพัณรู้สึกจั๊กจี้กับไรเคราอ่อน ๆ ของเพื่อน เขากำลังจะชักเท้าหนีก็เสียววูบเพราะถูกเลียด้วยลิ้นอุ่นร้อนของธีรเดช สายตาธีรเดชจับจ้องไปยังชิตตพัณ เหมือนจะบอกว่า ดู..ดูสิ ข้าเทิดทูนบูชาท่านเพียงใด สายตานั้นทำให้ชิตตพัณดึงตัวเอื้อมมือออกมา และลูบผมของเพื่อนรักจากด้านข้าง ธีรเดชหลับตาเมื่อต้องสัมผัส เขาเอียงหัวไปซบกับมือนั้นอย่างห้ามใจไม่อยู่
แม้ว่าโครงหน้าของธีรเดชจะดูแข็งแรงแบบนักกีฬา แต่เส้นผมเขานุ่มราวไหม ชิตตพัณรู้สึกเพลิดเพลินและวางมือตามไปด้วยเมื่อธีรเดชกดหัวของตนเองลงเพื่อขบง่ามนิ้วเท้าของชิตตพัณได้อย่างถนัดถนี่ เขาเม้มปากดูดหนั่นเนื้อเนินใต้อุ้งเท้า ลากไปจนถึงข้อเท้าซึ่งบุ่มเข้าไป ปลายลิ้นสีแดงตวัดไปตามเนื้อขาวจั๊วของน่องสวย ๆ ซึ่งแทบไม่เคยถูกแดด ชิตตพัณยอมแพ้ต่อความเสียวซ่านทิ้งตัวลงนอนยกขาให้เพื่อนเชยชม
ธีรเดชทุกอย่างอย่างคล่องแคล่วและอัดไปด้วยแรงปรารถนา ระหว่างที่เขามาหาชิตตพัณที่นี่เขาใคร่ครวญครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเหมือนสัตว์ที่ติดบ่วง แม้ว่าจะชังเหลือเกินยามที่ถูกสายตาของเพื่อนคนอื่นมองมาด้วยความขบขัน แต่เขาหยุดนึกถึงเนื้อตัวเปล่าเปลือยของชิตตพัณไม่ได้จริง ๆ เขาจึงมาด้วยพายุอารมณ์ แต่ช่วงเสี้ยววินาทีที่ธีรเดชขบคิดถึงเรื่องเหล่านี้ เขาก็โงหัวขึ้นจากขาอ่อนเนียน ๆ ของสุดหล่อซึ่งนอนครางอยู่ตรงหน้า และหันไปทางคอมพิวเตอร์
ธีรเดชลุกขึ้นอย่างตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพฤติการของเขาถูกถ่ายทอดสดอีกแล้ว เขารีบตะกายลงจากเตียงไปที่คอมพิวเตอร์ ชิตตพัณผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงตามด้วยความประหลาดใจ ก่อนที่เขาจะร้องห้ามทัน อีกฝ่ายก็กระชากสายไฟออกจากหลังเครื่องแล้ว
ชิตตพัณกรีดร้องด้วยเสียงที่เหมือนไม่ใช่มนุษย์ เขาพุ่งตัวลงจากเตียงและยื้อแย่งสายไฟจากมือของธีรเดชซึ่งไม่ยอมให้อย่างแน่นอน ธีรเดชเขวี้ยงสายไฟทิ้งไปอีกทาง จับบ่าสองข้างของชิตตพัณซึ่งทั้งร้องทั้งดิ้น เขย่าเขาและกระชากผลักกลับไปที่เตียง
“เป็นบ้าอะไรวะชิต!” เขาคำรามอย่างหงุดหงิด และเหวี้ยงร่างของชิตตพัณให้ไปกองบนเตียง คลานตามขึ้นไปกดร่างนั้นซึ่งยังคงสั่นเทาและหอบ สายตาของชิตตพัณโกรธเกรี้ยว รวดร้าว และดูเศร้าสร้อยจนธีรเดชไม่อยากมอง
“มึงไม่รู้เหรอชิต ว่าที่มึงทำอ่ะ ทำร้ายทั้งกูและมึง” ธีรเดชพูดกับคนที่เบือนหน้าหนีเขา เรือนร่างนั้นเย็นเฉียบลงและหยุดการเคลื่อนไหวเพียงหายใจรวยริน เหมือนตุ๊กตาที่ถูกทิ้งอยู่กลางถนน
“กูชอบมึงนะชิต กูชอบมึง” ธีรเดชเคลียร์แก้มของอีกฝ่ายด้วยหลังมือ น้ำตาอุ่นร้อนไหลลงกระทบ เขาอยากจะจูบชิตตพัณเหลือเกิน
ธีรเดชลุกขึ้น ถอยออกมา ชิตตพัณพลิกตัวนอนคว่ำหน้าอยู่กับเตียง แผ่นหลัง บั้นท้าย ต้นขา น่อง ส้นเท้า ทุกอย่างโค้งเว้าและรับกันอย่างลงตัว ธีรเดชเริ่มเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง เขาถอดกางเกงยีนส์อย่างเงียบเชียบ ตามด้วยกางเกงในซึ่งแทบปริ เด็กหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ทางเพศ ยกปลายเท้าออกจากกองกางเกง คุกเข่าลงบนเตียง และนอนคว่ำทาบทับร่างนั้น
-
บรรณศรไม่แน่ใจว่ารู้สึกโกรธหรือโล่งอกเมื่อจอของชิตตพัณดับและหายไปจากห้อง คนในห้องดูเหมือนจะโกรธแค้นการกระทำของธีรเดชมากทีเดียว พวกเขาด่าและขู่ว่าจะเอาคลิปไปปล่อยประจาน ด้วยหวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าใครคนหนึ่งในสองคนนั้นจะยังสอดแนมอยู่ในห้อง
บรรณศรยังมีอารมณ์อยู่ แต่เขาไม่อยากทำอะไรตอนนี้ เขายังจำหน้าของธีรเดชได้ติดตา หมอนี่ชะโงกเข้ามาที่หน้ากล้อง ดวงตาเบิกกว้าง แล้วอะไรอีก เขามองเห็นอารมณ์อะไรอยู่บนใบหน้านั้น
ก๊อก ๆๆ
เสียงประตูห้องถูกเคาะ บรรณศรถีบตัวเองบนเก้าอี้เลื่อนให้ถอยห่างจากคอม และไปเปิดประตู
บรรณบถอยู่หน้าประตูห้อง มองเขาอย่างสำรวจ และเอ่ยปากถาม “มึงเป็นไรป่าว ได้ยินเสียงร้อง”
“เปล่า มีธุระอะไร”
สายตาของบรรณบถไล่โลมเลียเนื้อตัวพี่ชายซึ่งเปลือยอกและอวัยวะเพศก็ยังแข็งโด่เด่ออกมาจากกางเกง เขาเอื้อมมือไปจับมันเล่น
“เงี่ยนเหรอ”
“เออ” บรรณศรตอบอย่างหงุดหงิด ใจหนึ่งปฏิเสธ แต่สัมผัสจากบรรณบถกระตุ้นไฟราคะของเขาได้ดีจริง ๆ “มึงจะช่วยอีกหรือไง” บรรณศรถามพลางเลิกคิ้ว
“เปล่า” ผู้อ่อนวัยกว่าตอบ และเอียงตัวให้เห็นว่ามีคนยืนอยู่ข้างหลัง “ไอ้กฤตมันเงี่ยน มันทำให้มึงได้ทุกอย่าง”
บรรณศรตกใจ แต่ก็รับได้ บรรณบถมักจะมีอะไรมาให้ประหลาดใจเสมอ สายตาของเขามองสกฤตอย่างประเมินสำรวจ และถามอย่างไม่เชื่อใจ
“ได้ทุกอย่างแน่เรอะ”
“เออะ”
“ตอบมันไปดิ”
“ดะ..ได้ครับ”
“เออ งั้นก็เข้ามาดิ” บรรณศรเรียก สกฤตเข้าไปใกล้ มองหุ่นเซ็กส์ ๆ ของบรรณศรแล้วก็กลืนน้ำลายเอื้อก บรรณศรผลักหมอนั่นเข้าไปในห้องและบอกน้องชาย
“ขอบใจมึงมาก”
บรรณบถกระตุกยิ้มนิดหนึ่ง “ไม่เป็นไร” ไม่ทันจบประโยคประตูก็ปิดตามหลัง บรรณบถรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในห้องนั้น บรรณศรมีดีมากพอที่ทุกคนจะหลงใหลหลังจากที่ผ่านค่ำคืนร่วมกัน สกฤตอาจจะกลายเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในตัวบรรณศรแทนที่จะเป็นเขา
บรรณบถถอนหายใจ เขานั่งลงกับโต๊ะอาหารและหยิบขนมปังกรอบบนโต๊ะมาละเลียดทานราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เซ็กส์ การมีเพศสัมพันธ์ การร่วมเพศ การเย็ด อะไรก็ตามแต่ที่คุณเรียก เป็นเรื่องซับซ้อนและยิบย่อยจนน่าหงุดหงิด บางคนหมดอารมณ์ทันทีที่ถูกแตะต้องในส่วนที่เขาไม่ต้องการถูกสัมผัส หรือได้ยินประโยคบางประโยค คำพูดบางคำ เสียงครางเหมือนผู้หญิง เสียงครางเหมือนสัตว์ บางคนทนได้ บางคนทนไม่ได้ และบางคนในบางคนก็แปลกไปกว่านั้น พวกเขาถูกเรียกว่า Fetishists และพวกเขาจะไม่สามารถมีอารมณ์ได้เลยหากว่าไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ถูกต้อง คำถามที่ผมจะถามก็คือ เราส่วนใหญ่มองว่าพวกเขาประหลาด วิปริต ผิดมนุษย์ แต่เราส่วนใหญ่นี้เคยตั้งคำถามหรือไม่ว่าเป็นการยุติธรรมแล้วหรือที่เราสามารถมีประสบความพึงพอใจทางเพศได้ในขณะที่บางคนไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น
คำถามนี้ เป็นคำถามเดียวกับที่เรา (queer) ใช้ถามพวกที่ต่อต้านรักร่วมเพศ พวกเขาอ้างว่ามันผิดวัฒนธรรมประเพณี และน่ารังเกียจอย่างยิ่งที่ผู้ชายจะมีอะไรกับกับผู้ชาย หรือผู้หญิงจะมีอะไรกับผู้หญิง และในขณะที่พวกเขาเหล่านั้นมีความสุขกับชีวิตทางเพศฉันชายหญิงของตนเอง เขาก็ทำทุกวิถีทางที่จะประกันได้ว่าเราไม่มีทางได้ประสบความพึงพอใจทางเพศในวิถีทางของเรา
ผมเขียนเรื่องนี้มาไกลเกินกว่าที่จะเป็นบทความหรือบันเทิงคดีเรื่องสั้น ๆ แต่ด้วยความสัตย์จริงว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะคำถามที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าผมจะช่างประชดประชันและมีนิสัยน่าหมั่นไส้หลายอย่าง แต่ผมก็เป็นคนที่น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่าคุณจะไม่ใจร้ายพอที่จะห้ามไม่ให้ผมประสบความพึงพอใจจากการจบเรื่องนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ เพราะผมคิดว่าไม่มีประเด็นอะไรจะต้องกล่าวถึงอีกต่อไป ที่เหลือก็เป็นแค่นิยายที่ทุกคนสามารถเอาไปจินตนาการตอนจบเองได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม...
อุ๊ย ผู้กำกับบอกว่ารอดูของดีหลังเครดิต :z1:
-
:z6:
ฮั่นแน่
มีหลังเครดิตอีกนะ
เดี๋ยวเหอะ ๆ ๆ ๆ
:z13:
-
ขอขอบคุณตัวผมเองที่เขียนเรื่องนี้
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อดทนอ่าน
ขอขอบคุณเล้าเป็ดสำหรับพื้นที่
(เครดิตสั้นเนาะ
แหม
ก็ผู้ชมคงไม่อยากรอหรอก)
-----------------------
อาจารย์ภานุเรียกประชุมผู้ช่วยวิจัยอีกสองคน เขาวางหนังสือพิมพ์ในมือลงเมื่อทั้งคู่เดินกลับเข้ามาในห้อง สองสาวดูเศร้าเกินกว่าที่จะเอ่ยปากว่าอะไร
“แย่จริง ๆ นะ” อาจารย์ภานุเริ่ม “คุณได้อ่านข่าววันนี้หรือยัง”
“ค่ะ” แพรอาภรณ์ตอบ สายตาของเธอหลุบต่ำมองพื้นโต๊ะ
“พ่อใจโฉด ข่มขืนลูกชายแล้วยิงตัวตายหนีความผิด” อาจารย์ภานุอ่านพาดหัวข่าวให้ทั้งคู่ฟัง เขากวาดตาดูอีกแปบแล้วก็พับหนังสือพิมพ์ “ช่างมันเถอะ”
เขาหันมาหาผู้ช่วยทั้งสองคน “พวกคุณได้ความว่าไงล่ะ”
ไหมจีนหันไปมองแพรอาภรณ์ อีกฝ่ายเพยิดหน้าให้เธอพูดก่อน
“ธีรเดชหลงรักชิตตพัณจนแทบโงหัวไม่ขึ้น” เธอเริ่มด้วยน้ำเสียงชวนฝันผิดกับบรรยากาศเมื่อครู่
“เอาความจริงได้มั้ย อย่าลืมว่าเราทำวิจัยอยู่” อาจารย์ภานุพูดเสียงขรึม
“เอ้อ..ค่ะ หนูไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้ธีรเดชไปหาชิตตพัณครั้งแล้วครั้งเล่า มันอาจจะไม่ใช่ความรักแต่เป็นเพราะชิตตพัณสามารถตอบสนองความต้องการของเขาได้มากที่สุด”
“แล้วธีรเดชล่ะ ตอบสนองความต้องการของชิตตพัณได้ไหม”
ไหมจีนส่ายหน้า “เท่าที่หนูคุยกับเขา เขาดูแย่ลงและห่อเหี่ยว แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานกว่า 1 เดือนแล้ว”
“หลังจากนั้นล่ะ” อาจารย์ภานุถามอีก
“แพร” ไหมจีนเรียก หญิงสาวจึงค่อยเงยหน้าขึ้นมาและเล่าเรื่องส่วนของเธอ
“จู่ ๆ วันหนึ่งชิตตพัณก็ไม่มามหาลัย ธีรเดชดูหงุดหงิดมาก และเขาก็มาระบายแบบไม่ให้รายอะเอียดกับแพร เขาไม่รู้ว่าแพรรู้เรื่องทั้งหมด แต่แพรก็ไม่ได้แสดงอาการกระโตกกระตาก ดูเหมือนว่าในตอนนั้น ชิตตพัณได้หายไปจากชีวิตของธีรเดชแล้ว”
“อื้ม..”
ไหมจีนรู้ว่าเป็นตาของเธอ “มีคืนหนึ่ง ที่ห้องแคมฟรอกฮือฮา เพราะว่าสุดยอดดาวประจำห้องสองคนไปนัวเนียด้วยกัน ชิตตพัณซึ่งหายไปจากห้องนานแล้วดูมีความสุขมากกับบรรณศร พวกเขาเล่นกล้องด้วยกัน และเล่นกันและกันหน้ากล้อง”
อาจารย์ภานุโบกมือให้เลิกพูดสำนวนนิยายสักที
“ค่ะ ดูเหมือนว่าชิตตพัณจะไปหาคนที่ตอบสนองความต้องการของเขาได้มากที่สุด แต่หนูก็คุยกับเขาและพบว่า ความต้องการทางเพศกับความต้องการทางใจมันไม่เกี่ยวข้องกัน”
“น่าสนใจ” ผู้ชายคนเดียวในโต๊ะพึมพำและพยักหน้าให้พูดต่อ
“หนูลองตะล่อมเขาอย่างที่อาจารย์แนะนำ ในที่สุดเขาก็หลุดปากออกมาว่า...” เธอหยุด สายตาของทั้งสองคนจับจ้องที่เธอ “..เขาบอกว่า เขาคิดถึงเดช”
“แล้วหมอนั่นน่ะคิดถึงชิตไหมล่ะ” อาจารย์ภานุถามยิ้ม ๆ
“ดูเหมือนว่าจะไม่” แพรอาภรณ์ตอบ “เขาหัวเสียได้ไม่นาน แต่ก็ตัดใจได้ แล้วก็มาป้อ ๆ หนู แต่หนูไม่เล่นด้วย เขาก็เลยไปจีบผู้หญิงในคณะ”
“เขาอาจจะทำเพื่อกลบข่าวก็ได้นะ เพื่อนเขารู้กันทั้งนั้นว่าธีรเดชมีอะไรกับชิตตพัณ” ไหมจีนแย้ง
“ก็ไม่รู้นะ” แพรอาภรณ์ตอบ “แต่เขาดูมีความสุขดีนี่”
“ไม่เป็นไร เอาเรื่องที่เรารู้ได้ก็พอ” อาจารย์ภานุหาทางออกให้
ไหมจีนพูดต่อ “เมื่อหนูรู้ว่าชิตตพัณไปอยู่กับสองพี่น้องนั่น หนูก็เลยเข้าไปคลุกคลีกับพวกเพื่อนของบรรณศร”
“แล้วไงต่อ”
“ไม่นาน จู่ ๆ บรรณบถก็มาหากลุ่มเพื่อนของพี่ชาย ซึ่งไม่แปลกเพราะเขาก็เข้ากลุ่มตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เท่าที่หนูสืบรู้ เขาจะนัดคนอื่น ๆ ไปรุมโทรมใครสักคนซึ่งว่ากันว่าน่าเอามาก”
“ให้เดานะ ชิตตพัณ” ภานุพูดออกมาพร้อมกับเสียงถอนหายใจ
“มันเลวจริง ๆ” แพรอาภรณ์ซึ่งปกติไม่พูดคำหยาบยังโกรธเคืองถึงขนาดนี้
“จริงหรือนี่ แล้วเกิดอะไรขึ้นอีก”
ไหมจีนถอนใจเฮือก “ชิตตพัณหายไป และบรรณศรก็คลั่ง ลือกันว่าเขาอัดน้องชายปางตายเลยทีเดียว”
“เบาะแสของเราขาดหายไปแค่นี้ใช่มั้ย”
“ข้อมูลพอหรือเปล่าคะ” แพรอาภรณ์ถามอย่างกังวล
“พอเสียยิ่งกว่าพอ พวกตาแก่ยายแก่ที่วช.คงช็อคไปเลยกับงานนี้” หัวหน้าโครงการพูดอย่างหมายมาด สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครห่วงชิตตพัณอย่างจริงจัง ทุกคนล้วนแต่โล่งอกที่เรื่องนี้จบลงไปซะได้ และงานก็เสร็จลงอย่างสมบูรณ์
วช. : ตัวย่อ, สภาวิจัยแห่งชาติ
ธีรเดชกลับมาที่คอนโดของตัวเอง เขาเรียนจบแล้วและได้งานค่าตอบแทนสูงพอที่จะมีชีวิตหรูหรา และพอที่จะดึงดูดสาวใจง่ายให้มาที่ห้องเขา พวกเขาจูบกันมาในตอนที่เปิดประตูห้องและเปิดไฟ เธอหัวเราะคิกคักเมื่อมือของเขาเลื่อนไปใต้ชุดแซคและลูบต้นขาขาวจั๊ว
“อย่าซนสิคะ” เธอตีมือเขา
“แหม มารยาทของผมอยู่ที่ไหนหมดเนี่ย” ธีรเดชพูดพลางหลิ่วตา “ผมต้องเลี้ยงเครื่องดื่มคุณก่อนใช่มั้ยครับคุณผู้หญิง”
เธอค้อนใส่ เขายอมปล่อยเอวเธอและเดินไปที่บาร์เครื่องดื่ม สายตาเป็นประกายมองหล่อนผ่านชั้นแก้วไวน์ที่ห้อยเป็นตับจากหิ้งวาง
“อยากดื่มอะไรสำหรับคืนนี้ครับ”
“อะไรก็ได้ค่ะ แต่อย่าแรงมากนะคะ” เธอตอบแล้วลุกนวยนาดจากเก้าอี้ สำรวจทรัพย์สินของเขาในรูปของโฮมเทียร์เตอร์ ชุดโซฟา และเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ อย่างพึงพอใจ สายตาของเธอไปหยุดที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งมีแม่กุญแจปิดล็อคเอาไว้
“ห้องนี้ห้องอะไรหรือคะ” เธอชี้นิ้วกรุยกรายไปทางนั้น
“ห้องไหนหรือครับ” ธีรเดชก้มหน้าดูเหมือนว่าง่วนกับการผสมคอกเทลอยู่จนไม่ทันเห็น
“ห้องนี้ไงคะ” เธอย้ำจนชายหนุ่มต้องเงยขึ้นมองอย่างเสียไม่ได้
“อ๋อ..” เขาลากเสียงยาว และตอบด้วยสีหน้าเรียบ “ห้องเลี้ยงแมวน่ะครับ ผมยกห้องหนึ่งให้แมวอยู่ไปเลย”
“ต๊าย รักแมวด้วยเหรอคะ น่ารักจังเลย จะว่าอะไรมั้ยคะหากว่าดาวจะเข้าไปดู”
“อย่าเลยครับ มันเหม็นฉี่แมวน่ะ คุณไม่ชอบหรอก”
เขาตัดบทแล้วสาวเท้ายาว ๆ เดินข้ามห้องมา มือหนึ่งคว้าเอวหญิงสาว อีกมือถือแก้วคอกเทล เธอรับมันไปจิบ และไม่นานก็ลืมเรื่องห้องเลี้ยงแมวนั้น...
จบ...เรื่องทางเพศ
-
กรี๊ซซซซซซซซซซซซซซซซซ
จบได้สมกับเป็นหนังโป๊เจง ๆ
มันเป็นอย่างที่เราคิด จริง ๆ รึ
T_T
-
เรื่องราวที่มี inner
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:pig2:
อืมตามชื่อเรื่องเลยเน้อะ
o13
ปล. ตกลงคิริมันจาโร เป็นหัวหน้าโครงการชิมิ อิอิอิ
ปล. แล้วมาต่อเรื่องอุทัยเทวีด้วยนะ รออยู่ๆ :call:
-
สมแล้วที่เป็นพี่แทน o13
จบแบบนี้ โดน :impress2:
-
ชอบ ชอบ ชอบ
ห้องเลี้ยงแมว :sleep2:
-
เอิ๊บ แมวที่หายไป ถูกเดชจับมาเลี้ยงไว้เหรอ
จบได้ใจหายใจคว่ำเล็กน้อย สรุปแล้ว o13 ครับ
-
แอบใจหายใจคว่ำเล็กน้อย
จบแบบโดนมากๆ อ่านแล้วได้คิดตามไปด้วยเลยอ่ะ
อึ้งตรงห้องเลี้ยงแมวเนี่ยแระ
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆออกมาให้อ่านนะ :pig4: :pig4:
-
กีสสสสสสสสสส เรื่องนี้คุณน้อง แต่งจนจบได้
o13 สนุกมาก ๆ จ้า
ขอบคุณนะจ๊ะ :L2:
-
ตกลงแล้ว แมว ที่เดชเลี้ยงไว้ ชื่ออะไรอ่ะ
-
ไอ้ชิตเป็นแมวไปแย้วว :a5:
-
ถึงพี่เอ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์หลังไมค์ครับ
ดีใจที่พี่ใส่ใจกับนิยายของผมขนาดนี้
ถึงน้อง blackie
อินเนอร์แบบไหนกันนะครับ
ถึงอาเฮียกิมตี๋
เรื่องทางเพศก็ต้องจบแบบหนังโป๊อย่างที่พี่เอว่าล่ะครับ
อุทัยเทวีอาจจะยังไม่ต่อเน้อ
ถึงน้อง cheezzie
ตอนแรกผมนึกว่าจะโดนติที่หักจบไวไป
ถึงคุณ lolojung
เมี้ยว...
ถึงพี่ jokirito
แมวตัวไหนเหรอครับ /me ทำหน้าใสซื่อ
ถึงคุณ jasmin
ขอบคุณเช่นกันครับที่เป็นส่วนหนึ่งของกำลังใจ
ถึงพี่จิ
อิอิ จุดพลุฉลอง เขียนจบแล้วเย้ ผมว่าหลังวจากนี้จะเริ่มเคลียร์เรื่องเก่า ๆ ให้จบครับพี่จิ
ถึงคุณ sasa
ผมไม่ได้ถามเดชดูซะด้วย
อาจจะชื่อการ์ฟิลด์
:z13:
-
ดีจ๊ะ พี่รออ่านอยู่หลายเรื่องเลย อิอิ
-
อยากเห็นตอนเดชให้อาหารแมว :z1:
-
วุ้ย ห้องเลี้ยงแมว หรือคะ....แมว = เคล้าแข้ง เคล้าขา หรือมิใช่คะ อิอิ
/กิต. ค้นหาตอนจบใน บิง หัวข้อ เพ้อร์เหวิร์ท + ทีซ 5555555
(bing, pervert, tease)
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
ห้องเลี้ยงแมวเหรอ? หึหึหึ
ขอบคุณสำหรับตอนจบค่ะ :L2:
-
ห้องเลี้ยงแมวต้องล็อคแน่นหนาขนาดนั้นด้วยเหรอ :z1:
ขอบคุณ คุณแทนย่า
จะติดตามผลงานอื่นๆต่อไปครับ
-
ทำไมจบไปแล้วล่ะ อยากอ่านต่ออ่า :serius2:
ขอบคุณที่มีเรื่องสนุกๆมาให้อ่านกันค่ะ :pig4:
-
ห้องเลี้ยงแมว :a5: แมวอะไร สีสวาทหรือเปล่า แอร๊ยยยยยย อยากรู้ๆๆๆ :serius2:
-
คงเข้าไปให้อาหารแมวบ่อยสิ...
ขอบคุณสำหรับงานเขียนเยี่ยมๆค่ะ :pig4:
-
ก็จบเร็วจิงๆนั่นแหล่ะพี่แทน
ต้องมีตอนเลี้ยงแมวมาให้อ่านจะดีมากๆ
อิอิ *
-
:a5:ห้องเลี้ยงแมวววววว???
อยากให้มีตอนพิเศษ ตอน"ห้องเลี้ยงแมว"จังเลยอ่ะ
ได้ไหมคร้าบบบบบบบบ..คุณแทนนนนนนน
-
สุดท้ายก็...
-
o13
เจ๋งสาดดดด
...
อยากอ่านห้องเลี้ยงแมวต่อเหมือนกันนะคับ
ไม่กดดันนะ 555
-
อ่ะแหม๊ อยากอ่านตอนเดชเล่นกับแมวซะจริ๊งงงงง
รอคุณคิริมัญจาโร มาสานฝันนะจ๊ะ 555
-
อยากอ่านตอนที่นายเดชให้อาหารแมว แมวชื่ออะไรนะ ชิต หรือเปล่า อิอิ
-
รอตอนพิเศษก่อนเนอะ
ถ้าไม่มีจะได้ย้ายไปเก็บให้นะคะ
เจ้สอง :bye2:
-
ไม่มีตอนพิเศษครับ
เจอกันใหม่ในนิยายที่ผมจะเอามาปัดฝุ่นให้จบนะครับ บางทีอาจจะจากห้องนิยายที่ยังไม่จบ อิอิ
-
เปลี่ยนใจครับ ขอเวลาคิดอีก 2 วัน
ว่าจะมีตอนพิเศษหรือเปล่า
ได้ป่ะ?
-
จะรอคนเลี้ยงแมวน่ะ :haun4: o18
-
จบแล้ว
ไม่มีบอกล่วงหน้าด้วยแหล่ะ
ชอบเรื่องนี้ที่สุด แทนย่าเขียนได้เร้าใจมาก
จิต ดี ชอบๆๆ
:L2: ขอบคุณนะจ๊ะ
-
พี่แทนเปลี่ยนใจจจจ ,,
แล้วกานต์จะรอนะคะ ><
-
เมี๊ยว...
-
กรี๊ดดดดดดดดดด :haun4:
จบแบบ น่าจิ้นนนน :pighaun:
อยากไปส่อง ห้องเลี้ยงแมว จังอ่ะ เหะๆๆๆ :o8: :o8:
-
อยากจะเลี้ยงแมวดูบ้าง..ท่าทางจะสนุก
-
ขอบคุณแทนย่าสำหรับเรื่องราวสุดโรแมนติกนี้ (ขออนุญาตเรียกแทนย่าตามท่านอื่นๆ นะจ๊ะ)
ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไง...ส่วนเราอ่านไปแล้วยิ้มไป แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าอารมณ์ไหน :laugh:
+1 ไปสำหรับแมวน้อยในห้องหอ
-
ผมว่า ผมต้องโดนสั่งฆ่าหรือรุมประชาทัณฑ์แน่ ๆ
:monkeysad:
-------------
ตอนพิเศษ...แมวเหมียว
“เชิงอรรถและข้อคิดเห็นในงานเขียนเป็นของสัตวแพทย์นพคุณ ไม่ใช่ของผู้เขียน”
กระผมชื่อนพ อายุ 28 ปี สถานภาพโสด เป็นสุภาพชนและประกอบสัมมาอาชีวะ ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการรักษาสัตว์เลี้ยง งานอดิเรกคือสัตวแพทย์อาสาในองค์กรช่วยเหลือและคุ้มครองสัตว์ในเขตกรุงเทพมหานครฯและปริมลฑล
งานของเราลดลงไปเยอะหลังจากที่พระราชบัญญัติในตำนาน1ประกาศออกมา เราก็ไม่ต้องเที่ยวไปไล่ช่วยเหลือช้างถูกแท๊กซี่ชนหรือเดินตกท่อ ทั้งประชาชนเริ่มยอมรับได้กับการที่มีตัวเหรี้ยเดินเพ่นพ่านแถวรัฐสภา เราก็ไม่ต้องไปไล่จับมันอีกนั่นแหละ งานหลักของเราก็เหลือแต่การช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทารุณกรรม
แต่ผมคงต้องยอมรับด้วยความเศร้าใจว่ามีเสี้ยนบางอันที่เราบ่งมันออกมาไม่ได้เพราะมันใหญ่เกินไป อย่างล่าสุดศูนย์สัตว์ทดลองของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งเพิ่งผลิตเครื่องตัดหัวหนูทดลองอัตโนมัติซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างสายพานกับกิโยติน ถ้าผมไม่ใช่สัตวแพทย์ผมจะกล่าวว่าไอเดียนี้ทำให้ผมทึ่งมากทีเดียว แต่สำหรับคนที่ทำงานกับสัตว์มานานอย่างผมต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายอย่างน่าเศร้าใจ ถ้าเราเก็บการตัดคอไว้สำหรับกฎหมายลงโทษร้ายแรงสมัยพระเจ้าเหา เราก็ควรให้หนูทดลองเหล่านั้นได้จากไปอย่างสะดวกสบายกว่านี้ ผมแน่ใจว่าศูนย์สัตว์ทดลองแห่งนั้นคงมีงบประมาณเพียงพอที่จะซื้อ “ยาทำให้หลับ” แต่บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยและกล่าวว่าเอางบประมาณมาทุ่มให้กับมนุษย์อย่างเดียวจะดีกว่า
ต้องขอโทษจริง ๆ ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทารุณสัตว์ผมจะของขึ้นอยู่เรื่อย และพล่ามไปโดยที่ลืมใส่ใจว่าคุณจะอยากฟังหรือเปล่า แต่โดยทั่วไปแล้วชีวิตของผมก็จะเกี่ยวกับสัตว์ และเรื่องที่ผมกำลังจะเล่าให้คุณฟังต่อไปนี้ก็เกี่ยวกับเจ้าเหมียวตัวหนึ่ง
ผมไปถึงทาวเฮ้าส์แห่งนั้นในเวลาบ่ายแก่ ๆ เจ้าหน้าที่ของเราในชุดฟอร์มยืนคุยกับชาวบ้านแถว ๆ นั้นและจดบันทึกยุกยิก ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง ส่วนมากเป็นผู้จัดการบ้าน2ที่ถูกจ้างมาให้เฝ้าบ้านในช่วงกลางวัน เกาะลูกกรงประตูรั้วสอดแนมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
ผมเดินเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุนั้น หมาอัลเซเชี่ยนบ้านข้าง ๆ กระโดดเกาะประตูรั้วและเห่าเสียงขรม มันเห่าคนอื่น ๆ ได้พักหนึ่งแล้ว และตอนนี้มันก็หันมาเห่าผมอย่างเอาเป็นเอาตาย อาแปะเจ้าของบ้านนั่งสูบบุหรี่บนเก้าอี้โยกและมองพฤติกรรมของหมาตัวเองจากใต้ชายคาอย่างพึงพอใจ ผมคิดในใจว่า ขอให้มะเร็งแดกไว ๆ นะครับลุง3
-------------------------------------------------------------------------------------------
ผมจะไม่แนะนำให้คุณเรียกส่วนนี้เป็นอย่างอื่นนอกจากเชิงอรรถ
1 ที่เรียกกันว่าพระราชบัญญัติในตำนานเพราะมันใช้เวลานานเกือบสิบปีในการผ่านร่าง ผมเดาว่านักการเมืองบางคนคงไม่ชอบใจที่ช้างจะไม่สามารถเข้ามาในเขตเมืองได้
2แต่ก่อนเราเรียกว่า คนใช้ แต่ด้วยความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมเราจึงใช้คำนี้แทน อย่างไรก็ตามผมมีข้อสังเกตส่วนตัวว่าผู้จัดการบ้านในปัจจุบันนี้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติสูงขึ้น จากแต่ก่อนที่มักจะมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพียงอย่างเดียว ก็กลายเป็นผู้จัดการบ้านอิมพอร์ตจากลาว พม่า กัมพูชา ฯลฯ นัยหนึ่งว่าเป็นนโยบายประสานความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบัน ผมเองก็ไม่แน่ใจเพราะมันก็ลือ ๆ กันมาว่าอย่างนี้อ่ะนะ
3 อย่ามาหาว่าผมแช่งประชาชนให้สุขภาพไม่ดีเชียว ผิดจรรยาบรรณตายโหง ผมกำลังอวยพรอาแปะแกด้วยมธุรสวาจาที่แกคงอยากได้ยินมากที่สุดตะหาก จะไม่ใช่ได้ยังไงก็ในเมื่อซองบุหรี่แม่งมีภาพเตือนตัวเป้งว่ามันเป็นอันตรายยังไง ก็ยังเสือกสูบเข้าไปอีก จะให้หมอหมาอย่างผมเข้าไปกระชากบุหรี่ออกจากมือแกก็จะโดนฟ้องร้องว่ายัดเยียดความคิดประชาชนอีก สรุปแล้ว...ขอให้มีความสุขกับมะเร็งนะครับลุง
-
..
เจ้าหน้าที่ภาคสนามของเราชื่อรถ มันชอบคุยอวดกับเราว่าถ้าผู้หญิงนั่งมันจะรู้สึกเหมือนขี่รถสปอร์ตเปิดประทุน เพราะทั้งตื่นเต้นและเร็วโฉบเฉี่ยวจนแทบใจหายใจคว่ำ ผมเคยย้อนไปว่าไอ้ที่เร็วคงเป็นหลั่งเร็วกระมัง และให้นามบัตรเพื่อนหมอที่รับปรึกษาปัญหานกเขาไม่ขัน ปรากฏว่าไอ้รถงอนผมไปหนึ่งวันเต็ม ๆ เออะ..หวังว่าผมคงไม่ปากหมาจนเกินไปใช่มั้ย
“อ้าว..พี่หมอเก้า มาพอดี เราเข้าไปดูแล้ว..” เขาทำท่าย่นจมูก “...แต่ไม่มีใครทนได้สักคน”
ผมพยักหน้ารับทราบ สวมถุงมือยางป้องกันเชื้อโรค และส่งกระเป๋าพยาบาลเบื้องต้นให้ไอ้รถถือ
“ขอที่ปิดจมูกได้มั้ย” เพื่อนร่วมทางร้องขอเสียงอ่อยเมื่อรู้ว่าจะต้องเข้าไปข้างในด้วย
“เหม็นขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถาม แต่ไม่ได้ให้ที่ปิดจมูก ผมก้มหัวน้อย ๆ ทักทายคนบ้านข้าง ๆ ซึ่งปีนดูระหว่างที่ผมเดินเข้าเขตประตูรั้วของทาวน์เฮ้าส์เจ้าปัญหานั้น ป้าแกหน้าแดงเถือกและรีบปีนกลับลงไปซ่อนใบหน้าร้อนผ่าว
แค่ย่างเท้าไปข้างในผมก็ได้กลิ่นของเสียของแมวและกลิ่นเนื้อเน่า ไม่เพียงเฉพาะกลิ่นของเสียของสัตว์แต่ละชนิดที่แตกต่างกัน แม้แต่กลิ่นของเนื้อสัตว์ที่กำลังเน่าก็ไม่เหมือนกันด้วย สัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถแยกกลิ่นหมาเน่ากับแมวเน่าออกจากกันได้ในพริบตา
“..ม่าววว...”
เสียงร้องอย่างอ่อนแรงดังมาจากหลังบ้านส่วนที่เป็นครัวซึ่งดูเหมือนไม่เคยถูกใช้งาน ผมตัวสั่นน้อย ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ไม่สามารถรีรอได้และจะต้องเข้าไปดูมันให้เร็วที่สุด เจ้ารถซึ่งอยู่ข้างหลัง พยายามกลั้นหายใจเดินตามมา ผมเดินผ่านประตูไปและนั่นก็คือภาพสะเทือนใจที่สุดภาพหนึ่งที่ผมเคยเห็นในชีวิต
แมวตัวนั้น เป็นแมวพันธุ์ขนยาว สกปรกและเน่าเหม็นอยู่ท่ามกลางกองขี้กองเยี่ยวของมันเอง วูบหนึ่งผมสงสัยว่าทำไมมันถึงไม่ไปให้พ้น ๆ แต่ก็ได้คำตอบเมื่อเห็นโซ่เส้นเล็ก ๆ ที่ล่ามข้อเท้าหลังของมันกับโต๊ะตัวใหญ่ สายตาของมันที่มองมาทางผม ทั้งวิงวอนและเจ็บปวด ผมไม่สามารถอ่านความคิดของมันได้ แต่ผมเดาได้ว่ามันกำลังกลัว มันคงกลัวว่าคนแปลกหน้านี้จะทำให้มันเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เจ้าของซึ่งมันไว้ใจที่สุดในชีวิตทำกับมันหรือเปล่า ผมนั่งยอง ๆ ลงช้า ๆ และมองมันใกล้ ๆ ขาของมันเป็นแผลเหวอะหวะ มีแมลงหวี่วนเวียนตอมไม่ขาด ขนของมันพันกันด้วยน้ำหนองและเลือดเหนียว ๆ และเกาะหนึบอยู่กับพื้น ผมไม่ต้องพลิกตัวมันก็รู้ว่ามันเป็นแผลกดทับ มันอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้วล่ะ สองอาทิตย์ หนึ่งเดือน สามเดือน รถบอกผมทางโทรศัพท์ว่าเจ้าของบ้านเป็นหญิงชราซึ่งค่อนข้างหลงลืมและเมื่อยังไม่หลงลืมก็ใจร้าย เธอล่ามมันไว้ด้วยเหตุว่ากลัวมันหาย แต่เธอก็มักจะลืมมาให้อาหาร และที่ร้ายแรงที่สุดคือลืมว่ามีมันอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่ของเราได้รับแจ้งเมื่อเพื่อนบ้านของเธอทนกลิ่นเหม็นที่โชยข้ามมายังครัวของพวกเขาไม่ไหว
ผมให้รถส่งกรรไกรมา และพยายามตัดขนของมันส่วนที่ติดพื้นอย่างระมัดระวังที่สุด มันร้องเสียงแผ่วและร่างสั่นระริกในทุกสัมผัสที่มันได้รับ ผมรู้สึกเกลียดผู้หญิงคนที่เป็นเจ้าของแมวอย่างจับใจ อย่าได้อ้างว่าแก่แล้วและหลงลืม ถ้าเธอรักมัน ใส่ใจมันสักนิดก็คงจะรู้ว่าแมวเป็นสัตว์ที่ชอบอิสระ การล่ามมันไว้อย่างนี้เท่ากับฆ่ามันเลยทีเดียว
มันได้แต่มอง และร้องเบา ๆ ในแววตาปราศจากความหวังความปรารถนา มันคงตายทางใจไปนานแล้วและร่างที่เน่าเปื่อยก็กำลังตายช้า ๆ ผมอยากจะลูบปลอบมันและบอกว่ามนุษย์ไม่ได้โหดเหี้ยมและน่าชิงชังไปเสียทุกคน แต่ผมไม่กล้าแตะต้อง ทุกสัมผัสของผมมีแต่จะทำร้ายมันให้เจ็บปวด ผมจึงทำสิ่งที่จำเป็น คือพลิกตัวมันดูว่ามีแผลกดทับหรือไม่
กลิ่นของเนื้อเน่ารุนแรงขึ้น แผลของมันเน่าเละจนเกินจะเยียวยา ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่น
“เราจะทำยังไงดี พี่เก้า”
เขาไม่ได้เรียกผมว่าหมอเหมือนตอนที่อยู่ข้างนอก ดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปว่าผมเป็นสัตวแพทย์ และผมอาจจะช่วยมันได้ แต่สิ่งที่เห็นทำให้ทั้งผมและเขาช็อคสนิท
ผมใคร่ครวญด้วยความยากลำบาก และพูดออกมาจนได้ “คงต้องฉีดยา”
รถหลับตาลงปากขมุบขมิบ ผมไม่รู้ว่าเขาด่าผมหรือเปล่า แต่ผมไม่มีทางเลือกอื่น ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับมันเกินจะเยียวยา มันทรมานมามากแล้ว และคงไม่ต้องการรับความทรมานเพิ่มขึ้นอีก ต่อให้มันรอด มันคงเป็นแมวที่นอนแซ่วอยู่กับพื้น เหม่อมองโลกภายนอกด้วยสายตาขุ่นมัว และปล่อยให้เวลากัดกินไปทีละน้อย
ผมขอให้รถส่งชุดยาทำให้หลับจากกระเป๋า อาจจะเป็นกระบวนการทางจิตวิทยา ถ้ารถไม่ยอมส่งให้อาจจะแปลว่าผมคิดผิด และเจ้าสิ่งที่น่าสงสารนี้อาจจะพอมีหวัง แต่ถึงแม้เจ้ารถจะลังเล เขาก็ส่งเข็มฉีดยาและขวดบรรจุให้กับผม ผมตรวจดูฉลาก จิ้มเข็มลงไปและดูดน้ำยาเข้ามาในหลอด ตลอดช่วงเวลานั้น เจ้าแมวนั่นจับจ้องมองการกระทำของผมตลอด มันเอนหัวลงนอนอย่างยอมรับเมื่อผมทำท่าจะฉีดยา ผมจิ้มเข็มลงไปที่สีข้าง มันกระตุกเล็กน้อยก่อนจะผ่อนคลายกล้ามเนื้อปล่อยให้เนื้อยาไหลเข้ามาในร่าง ตาของมันหรี่ปรือและหลับลงไป ผมถอนเข็มออก และรู้สึกปวดที่หัวตาเหลือเกิน
รถเก็บร่างของมันออกมาในถุงที่ปิดมิดชิด มันจะได้รับการเผาพร้อมกับสัตว์อื่น ๆ ที่ตายในช่วงอาทิตย์นี้ เราจะนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับพวกมันในวันนั้น ผมรู้สึกแย่เกินกว่าที่จะตอบคำถามของพวกที่อยากรู้อยากเห็นในชุมชน จึงตรงมาที่รถของตัวเอง และขับออกไปจากที่นั่นทันที
..
-
..
ไม่ทันพ้นวันนั้นผมก็มีอารมณ์ที่เป็นปกติ ผมไม่ใช่คนใจแข็ง แต่อาชีพหมอไม่ว่าหมอหมาหรือหมอคนพบกับความตายอยู่เสมอ เราไม่ได้เย็นชาต่อการตาย แต่เรายอมรับมันได้มากกว่า มุมมองของเรากับญาติของหมาหรือแมวตัวนั้น (ผมเรียกเจ้าของว่าญาติ นั่นน่าจะเหมาะกว่า) มักจะขัดแย้งกัน ในกรณีที่พวกเขารักสัตว์เลี้ยงของเขามาก เขาอาจจะร้องขอให้ผมยืดชีวิตพวกมันนานเท่าที่จะนานได้ ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะนั่นหมายถึงนาทีแห่งความเจ็บปวดทรมานที่เพิ่มขึ้นของพวกมัน อย่างไรก็ตามไม่ค่อยมีใครร้องขอผมอย่างนั้นบ่อยนัก ด้วยสภาพทางเศรษฐกิจ สิ่งที่มักจะถูกนำมาชั่งน้ำหนักก็คือค่ายาที่ฉีดให้หลับกับเงินที่พวกเขาต้องทุ่มเทเพื่อใช้ในการรักษามัน
ไม่ทันที่ผมจะได้เลี้ยวรถเข้าประตูรั้วและเข้าไปพักผ่อนในบ้าน เจ้ารถก็โทรหาผมอีก ผมคิดว่าเขาคงจะโทรมาคุยเรื่องเมื่อบ่ายนี้ แต่ไม่ใช่
“พี่หมอครับ” เขาพูดเสียงอ่อย และให้ความรู้สึกคล้ายกับว่าเขาเกรงใจผมเหลือเกิน “พี่ออกมาอีกรอบได้มั้ยครับ”
นั่นไง..
ผมถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความเหนื่อย ผมไม่อยากขับรถข้ามกรุงเทพอีกในช่วงเวลาเร่งด่วนแบบนี้ แต่เพราะเป็นเรื่องที่เจ้ารถฝืนความเกรงใจโทรมาผมจึงคิดว่าน่าจะรับฟังก่อนที่จะด่วนปฏิเสธ
“ว่าไงล่ะ”
“คือว่าที่ที่อยากให้พี่หมอไปดูอยู่ใกล้บ้านพี่หมอเลยครับ เป็นคอนโดที่ชื่อว่า..” เขาบอกรายละเอียดของคอนโด ผมพยักหน้าและส่งเสียงอืมอย่างรู้จัก ที่นั่นค่อนข้างหรูและเป็นที่ที่พวกยัปปี้ชอบไปอยู่ ที่สำคัญคืออยู่ถัดจากบ้านผมไปไม่กี่ซอยด้วย
“...คนข้างห้องต้นเหตุสาบานว่าได้ยินเสียงของแมวหรือไม่ก็หมาที่ถูกทรมาน ความจริงในคอนโดมีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์ครับ แต่เจ้าของห้องก็เคยบอกกับคนแถว ๆ นั้นว่าในห้องเขามีห้องหนึ่งเอาไว้เลี้ยงแมวโดยเฉพาะ ทีนี้ผู้ดูแลพยายามติดต่อเจ้าของห้องแต่ว่าดูเหมือนเขาจะหายตัวไปนานเกือบเดือนแล้ว เขาเลยไขประตูเข้าไปและพบว่าห้องเลี้ยงแมวถูกล็อคไว้อย่างแน่นหนามาก”
รถเล่าให้ผมอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เขาพักหายใจครู่หนึ่งและเล่าต่อ
“พอดีผู้ดูแลรู้จักหน่วยงานของเราเขาเลยโทรเรียกเราระหว่างที่ตามตัวช่างทำกุญแจมาปลดล็อคทั้งหมดออก เขาไม่อยากทำลายทรัพย์สินน่ะครับ และเขาอยากให้เราไปดูหน่อยเผื่อว่าพบสัตว์ที่กำลังบาดเจ็บจริง ๆ จะได้ช่วยเหลือได้”
เขาหยุดไปนิดหนึ่งราวกับลังเลว่าควรจะบอกผมดีไหม
“แล้วไงอีก” ผมกระตุ้นผ่านโทรศัพท์
“เอ่อ ผู้ดูแลสาบานว่าได้กลิ่นเนื้อเน่าโชยออกมาจากห้องนั้นด้วยครับ”
ผมหายใจหนักและถามกลับไป
“รู้มั้ยว่าไอ้เวรที่เป็นเจ้าของห้องมันชื่อว่าอะไร เจอหน้ากันอั๊วจะตั๊นหน้าแม่งสักหมัด”
“เอ่อะ ดูเหมือนว่า” เสียงพลิกกระดาษ “จะชื่อธีรเดชครับ”
“เออ อั๊วไปแน่ ไม่ต้องห่วง”
ผมบอกเขาก่อนจะวางสาย และกระทืบคลัชเปลี่ยนเกียร์เพื่อถอยออกมาจากซอยบ้านตนเอง
..
-
กรี๊ด กลายเป็นนิยายเรื่องใหม่ :fire:
++ คุณหมอ(ปาก)หมา และ ความต้องการทางแพทย์ ++ [บันเทิงคดี]
o18
ใครอยากอ่าน ยกมือขึ้น อิอิ
ปล. โทษทีนะครับช่วงนี้ผมเข้ามาได้แค่ระยะเวลาสั้น ๆ เพราะงานรัดตัวมาก อยากคุยกับทุกคนจริง ๆ และซาบซึ้งมากครับที่ทุกคนเข้ามาพูดคุยด้วย
:กอด1: กอดครับ :กอด1:
-
.
บันทึกข้อคิดเห็นของนพ
20/11/52
วันนี้ผมแม่งโคตรเหนื่อย เจอสองเคสที่แย่พร้อม ๆ กัน ผมจะไม่บอกตอนนี้ว่าเคสที่สองเป็นยังไง แต่ว่ามันเหมือนการตบหน้าผมเข้าไปซ้ำอีกทีหนึ่ง ไม่เพียงแต่มนุษย์จะทารุณและโหดเหี้ยมกับสัตว์ พวกเขายังมีความสามารถทำอย่างอื่นที่เลวร้ายกว่านั้น ด้วยจิตใจดำมืดอะไรที่ทำให้นาซีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ผมคงได้คำตอบแล้ว แต่น่าแปลกที่ผมไม่รังเกียจที่จะถูกตบหน้าซ้ำ เพราะมันเป็นการตบให้ผมได้คิดอะไรบางอย่าง
ผมนึกถึงคำพูดของนักเขียนนิยายที่ช่างประชดประชันที่สุดคนหนึ่ง เขาบอกว่านักอ่านส่วนใหญ่น่าจะเป็นชาวคริสต์ที่ดีได้ พวกเขาถูกตบแก้มซ้าย แล้วคาดหวังว่าเราจะตบแก้มขวาเขาซ้ำอีกที ผมมีความเห็นว่าบางทีพวกเขาอาจจะสับสนว่ากำลังถูกตบหรือกำลังถูกลูบแก้มด้วยความรัก พวกเขาอาจจะแยกไม่ออกระหว่างความทารุณโหดร้ายกับการใช้ชะตากรรมของมนุษย์สักคนเป็นเครื่องบำบัดจินตนาการของตนเอง ยังไงก็ตามถึงพวกเขาจะยังไม่รู้ แต่ผมยังมีความหวังในมนุษย์ พวกเขาจะรู้ในสักวัน
22/11/52
เรียนคุณ Kirimanjaro
ขอบคุณสำหรับจดหมายค่อนข้างยาวซึ่งคุณได้ส่งมาเมื่อวานนี้
ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวว่าผมเป็นแฟนนิยายตัวจริงของคุณ ผมอ่านทุกเรื่องที่คุณเขียนและชอบหลาย ๆ เรื่อง (คุณคงจะมองว่าผมไม่ค่อยซื่อสัตย์หากว่าผมบอกว่าผมชอบทุกเรื่องที่คุณเขียน เพราะผมโคตรยี้บางเรื่องเลย และเคยตั้งคำถามอยู่ในใจว่าน้ำหน้าอย่างคุณคิดได้แค่นี้เหรอ) และผมขอยืนยันอย่างสัตย์จริงว่าที่ผมเขียนไว้ในบันทึกวันที่ 20/11/52 ไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณเสื่อมเสียชื่อเสียงเลยแม้แต่น้อย
ผมเชื่อว่าคงจะเป็นการเข้าใจผิดกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะไม่เคืองใจกับจดหมายฉบับนี้ แน่นอนว่าคุณสามารถโพสต์ข้อความของผมประจานได้อย่างที่คุณขู่ว่าจะทำ แต่มันจะไม่กระทบต่อชื่อเสียงการงานในฐานะสัตวแพทย์มือดีของผม และผมรับรองว่ามันจะไม่กระทบกระเทือนต่อความนับถือของผมที่มีให้แก่คุณเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผมคงต้องขอปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเพื่อลงพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์และไทยรัฐเพื่อกล่าวขอโทษที่เรียกคุณว่า “นักเขียนนิยายที่ช่างประชดประชันที่สุดคนหนึ่ง” เพราะอันที่จริงแล้ว ผมยังไม่ได้ระบุชื่อนักเขียนคนนั้น
หวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าเราคงจะได้ติดต่อกันด้วยมิตรไมตรีอีก
ด้วยความนับถือ
สัตวแพทย์นพคุณ
.
-
กรี๊ดดดดดดด หล่อนทำอะไรของหล่อน ยาวแน่งานนี้ เรื่องยังไม่ทันเริ่มก็ชักจะสงสารเจ้าแมวเหมียวตัวนั้นซะแล้วซิ แล้วอะไรของเจ้าเหมียวที่เน่ากันล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่าที่เน่าน่ะไม่ใช่เจ้าเหมียวแต่ะจะเป็นคุณเจ้านาย ที่ตายคาอกเจ้าเหมียวอยู่
o22
แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
-
มายกมือขึ้นด้วยคนคร้าบบบบบบบบ
-
:a1: ยกมือ(โชว์จุกกะแร้)
รออ่านความเป็นไปของน้องเหมียวที่หน้าสงสาน
-
เรื่องนี้ "จบ" แล้วนะครับ :n1:
-
แล้วน้องเหมียวจะเป็นยังไง :z3:
-
:z13: แอร๊ยยยย มาต่อเดี๋ยวเน้ !!! เรื่องนี้จบ แต่เรื่องนั้นยังไม่จบนิ :z2:
-
เรื่องจบ
แต่ตอนพิเศษยังไม่จบใช่ปะ
จบแบบนี้มัน
โอ๊วววววโนววววววววววว :z3:
-
อ้าย อย่าให้เจอตัวน่ะ จะคั้นให้หมดตัวเลยย้า :laugh: :laugh: :laugh:
-
อะไร สรุปชิตเปงไรครับ จบค้างๆคาๆแล้วนอนไม่หลับนะเออ
สงสารคนอ่านหน่อยเถอะ ตอนพิเศษนี่จบได้ทรมานกว่าเรื่องอีกนะเนี่ย
ต่ออีกหน่อยเถอะนะ ไม่อยากจิ้นเองเลยอ่ะ
-
หึหึ o18
-
เรื่องนี้ "จบ" แล้วนะครับ :n1:
วุ้ย ดีแล้วค่ะ กิต.ไม่อยาก "รับรู้"(perceive)เรื่อง 'ห้องแมว' แล้ว
R.I.P.
๔๗๙ + ๑ = ๔๘๐(พิมพ์ผิด กลับมาแก้ค่ะ, ต๊าย อายจัง) :m23:
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
-
เรื่องนี้ "จบ" แล้วนะครับ :n1:
วุ้ย ดีแล้วค่ะ กิต.ไม่อยาก "รับรู้"(perceive)เรื่อง 'ห้องแมว' แล้ว
R.I.P.
๒๗๙ + ๑ = ๒๘๐
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
เห็นด้วยกับคุณ kit ครับ
T_T
-
ไม่ไหวอ่ะฮับ. :a5:
อยากได้ความกระจ่างเรื่องเหมียวชิตอ่ะ :z3:
-
ไมไ่ด้เข้าเล้าซะนาน
จบซะแล้วเรื่องนี้
แถมมีเรื่องใหม่อีก อิอิ
วช.นี่ใกล้ที่ที่ผมเรียนเลยแหะ
ว่าแต่เค้าวิจัยเรื่องอะไรกันเนี่ยไม่ค่อยจะเก๊ทเลย
-
น้องแมวจะเป็นไงบ้างล่ะนั่น :เฮ้อ:
-
เรื่องนี้ "จบ" แล้วนะครับ :n1:
เรื่อง "จบ" แต่คน "ไม่จบ" :m31:
-
เรื่อง "จบ" แต่คน "ไม่จบ" :m31:
อ๊าก :serius2: เรื่อง "จบ" แต่คน "ไม่จบ" ด้วยคน
ไม่ได้นา เค้าอยากรู้ชะตากรรมของน้องเหมียว :sad11:
-
:sad4: :sad4: :sad4:
ทำไม...กลายเป็นหมอหมา
เขียนไม่ดี มีเฮ o18 o18 o18
-
กรุณาต่ออีกนิด เถอะนะค่ะ : :z3:
เรื่อง "จบ" แต่คน "ไม่จบ" :m31:
อ๊าก :serius2: เรื่อง "จบ" แต่คน "ไม่จบ" ด้วยคน
ไม่ได้นา เค้าอยากรู้ชะตากรรมของน้องเหมียว :sad11:
-
อยู่ที่ว่า แต่ละคนจะอิ่มหรือยัง
ส่วนผม..ผมอิ่มแล้ว..
-
ตอนพิเศษแค่นี้ก็พอแล้วจ้ะ
ไม่อยากได้มากกว่านี้แล้ว
เดี๋ยวจะทำให้เสียจริตซะเปล่าๆ
ขอบคุณมากจ้ะ :L2:
-
จบแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ
แต่ในใจลึกๆๆเหมือนยังไม่จบ :really2:
-
เรื่องของคุณหมอหมา
ถ้าเขียนต่อก็ไม่เกี่ยวกับน้องแมวแล้วนะครับ
แต่เป็นชีวิตประจำวันของคุณหมอ ละเรื่องกุ๊กกิ๊กของแก 5555+
(ปากร้ายแบบนี้ใครจะเอาเป็นฝาละมีเนี่ย)
ไงก็ถ้าผมเขียน ฝากติดตามด้วยนะครับ เอาเรื่องสดใส ๆ มาล้างความหดหู่ :laugh:
-
^
^
เรื่องใหม่ ใสจริงป้ะ? o18
แอบจิตหน่อยๆได้มะ :o8:
-
แรง แรง แรง และแรง ชอบมากเลยคับ :sad4:
-
:pig4:
:เฮ้อ:
-
สองวันที่อ่านเรื่องนี้......
อาจเพราะชื่อเรื่องและชื่อผู้แต่ง ที่มันดึงดูด ให้ไม่อาจละสายตาตัวเองจากทุกบรรทัดและทุกตัวอักษรไปได้
สัญชาตญาณของมนุษย์คือความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งเป็นเรื่องชาวบ้านยิ่งต้องการ
มนุษย์....ไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเชี่ยเต็มลิมิต
ที่มีชีวิต ที่เดินผ่าน หรือที่เห็นและใช้ชีวิตร่วมกัน เราเองก็รู้จักแทบไม่ถึงครึ่งของเขาด้วยซ้ำ
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เต็มไปด้วยปริศนาและน่าค้นหาในด้านพฤติกรรม
ยอมรับการนำเสนอครั้งนี้ของนาย มันมีชั้นเชิงจน..... น่าหลงไหล
รู้สึกเหมือนถูกล่อลวงมาเสพสมทางวรรณกรรม
มันไม่ใช่แค่ความบันเทิง....
บอกได้เต็มปากว่าไอ้หมอนนี่ ถ้าเอาดีด้านนี้ ไปได้ไกลหลายขุม......
ซูฮกเลย ไอ้น้องแทน :L2: :L2:
:pig4:
-
มาต่อตอนพิเศษเถอะ :L2:
-
"เรืื่องบางเรื่องไม่รู้เป็นการประเสริฐ"
ขอบคุณที่ช่วยยืนยันคำนี้อย่างแน่นหนา
รอชมผลงานต่อๆไปค่ะ
-
เห็นเรื่องนี้อยู่นาน แต่ไม่กล้าเข้ามาอ่าน
แต่พอมาอ่านแล้ว สุดยอดค่ะ เดาอะไรไม่ได้เลย
ไม่เคยอ่านเรื่องแนวนี้ มาก่อน อ่านแล้วเห็นถึงความเป็นคน ดีจริง ๆ
-
เรื่องนี้มีชั้นเชิง.. มาก
อ่านแล้วอิ่มมากๆเลย น่ากลัวคนเขียนจริงๆ
สงสัยมากน้องแมวจะเป็นยังไงเหรอ :sad4:
ไม่อยากให้น้องแมวตาย แต่คนเขียนต้องไม่บอกแน่ๆเลย
-
สุดยอด
คำเดียว
จบ
-
กรี๊ดดดดด
ชอบค่า เรื่องนี้เด็ดอ่ะ
จบแบบนี้แหละดีแล้ว
ที่ชอบที่สุดคือ ตัวละครแต่ละตัวคาแรกเตอร์(ทางเพศ)จัดดีอ่ะ เจ๋งมากพี่น้อง
แล้วก็การบรรยาย เอ่อ ไม่สิ เรียกว่าอะไรนะ...พรรณนาความรู้สึก(?)ล่ะมั้ง ช่วงนั้นอ่านแล้วแอบมันส์โคด
ถ้ามีโอการก็เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่านอีกน๊า ชอบบบบบบบบบบ
-
อ่อย~ ห้องเลี้ยงแมว :z1:
บรรบถทำไมเลวแบบนี้ห่ะ :m31: :m31:
เดชทำไมแกถึงจำแมวมาขังไว้ล่ะ :o8:
-
สนุกอ่ะเรื่องของพี่แทนอ่านสนุกทุกเรื่องมีคำนึงอยากจะบอกพี่แทน"เจ๋ง"ว่ะ
อ่านแล้วได้บริหารสมองจิงๆถึงนู๋จะคิดตามไม่ทันก็เห้อ :jul3:
ตกลงชิตอยู่ดีมีความสุขไหมนู๋ก็สงสัยแค่ตรงเนี้ยอ่ะ
นิยายทุกเรื่องพอเราติดตามอ่านมันก็มีความผูกพัน
ก็แค่อยากให้เค้ามีความสุข...สงสัยจะอินไปหน่อย5555+
ก็รออ่านเรื่องต่อๆไปของพี่แทนนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้พี่แทนเสมอน๊าค่า :จุ๊บๆ:
-
จบแปลกดี แต่ชอบอ่ะทำไมไม่รู้
เรื่องห้องเลี้ยงแมวอ่ะ
อยากรู้นะ แต่ก็ไม่อยากรู้อ่ะ
มันยังไงก็ไม่รู้
งงกะตัวเอง
555+
-
เรื่องนี้โดนใจมาก แต่เรื่องแมวนี่มันหักมุมยังไงไม่รู้นะ เหมือนผมกำลังจะขึ้นสวรรค์แล้วเอาแมวมาดึงผมลงนรก
ถ้าเลือกได้ผมขอไม่อ่านเรื่องแมวแต่แรกดีกว่า เฮ่อ
-
ขอบคุณคุณคีรีมัญจาโรมากนะคะ
เป็นนิยายจบแล้วเรื่องเดียวที่ใช้เวลาอ่านนานเกินสามวัน
เพราะพอได้อ่านบทแรก ผ่านบทที่สอง ก็ตั้งใจว่าเรื่องนี้ต้องค่อยๆละเลียดอ่าน
อ่านแล้วก็คิด คิดไปสะเปะสะปะแล้วก็อ่านต่อ(บางทีก็ย้อนไปอ่านส่วนที่ผ่านมาแล้วใหม่)
แนวคิดบางอย่างของคุณ(รึอย่างน้อยก็คนที่สวมบทผู้เล่าเรื่อง)ตรงกับดิฉัน(สุภาพมากไปไหม?)จนตัวเองยังแปลกใจ
อ่านไปเรื่อยๆแล้วเหมือนดูหนังประเภทฟิล์มนัวร์ แต่แทนที่จะมีแค่สีขาวๆดำๆกลับเป็นนัวร์ที่สีจัดจ้า
ที่แน่ๆผู้อ่านคนนี้ก็เป็นเฟมินิสต้าแบบงงๆอีกคนบนโลกนี้ล่ะค่ะ
-
สนุกค่ะ ^ ^
เป็นเรื่องที่.... ไม่สามารถเดาได้เลยจริงๆ = =
หลากหลายอารมณ์เหลือเกินที่อ่าน สงสารชิต TT
เฮ้ออออออออ
อินิจจัง
เป็นกำลังใจให้ไรท์เตอร์ต่อไปนะคะ ^^
:3123:
-
:เฮ้อ:เราเป็นคนชอบแมวนะ
อ่านตอนพิเศษแล้ว
อยากตบคนจริงๆ :z6:
-
อ่านจบแล้ว
ชอบเนื้อเรื่องจังเลยค่ะ
มันชวนติดตาม มีปรัชญารวมจิตวิทยาเข้าไปด้วย
ชอบสำนวนการเขียนค่ะ
มันมองเห็นภาพเลยอ่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องๆที่เขียนให้อ่านนะคะ
:L2: :pig4:
-
สองวันที่อ่านเรื่องนี้......
อาจเพราะชื่อเรื่องและชื่อผู้แต่ง ที่มันดึงดูด ให้ไม่อาจละสายตาตัวเองจากทุกบรรทัดและทุกตัวอักษรไปได้
สัญชาตญาณของมนุษย์คือความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งเป็นเรื่องชาวบ้านยิ่งต้องการ
มนุษย์....ไม่มีใครดีร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเชี่ยเต็มลิมิต
ที่มีชีวิต ที่เดินผ่าน หรือที่เห็นและใช้ชีวิตร่วมกัน เราเองก็รู้จักแทบไม่ถึงครึ่งของเขาด้วยซ้ำ
สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์เต็มไปด้วยปริศนาและน่าค้นหาในด้านพฤติกรรม
ยอมรับการนำเสนอครั้งนี้ของนาย มันมีชั้นเชิงจน..... น่าหลงไหล
รู้สึกเหมือนถูกล่อลวงมาเสพสมทางวรรณกรรม
มันไม่ใช่แค่ความบันเทิง....
บอกได้เต็มปากว่าไอ้หมอนนี่ ถ้าเอาดีด้านนี้ ไปได้ไกลหลายขุม......
ซูฮกเลย ไอ้น้องแทน :L2: :L2:
:pig4:
เห็นด้วอย่างแรง ทุกบรรทัดมีเสน่อย่าน่าหลงใหล นิยายในเล้า หาแนวนี้มานาน อยากบอกว่า เรื่องนี้ตรงกับความคิดตัวเองมากที่สุด แหวกแนว และ สนุกสุดยอด o13 ชอบนิยายเรื่องนี้ที่สุดในเล้า แม้มันจะเป็นตอนสั้นๆ แต่ว่า ปริ้นเรื่องนี้ใส่สันใส่ปกอย่างดีเก็บไว้ สุดยอด แต่สงสารชิดว่ะค่ะ :o12:
-
มาดัน ให้อยู่หน้าแรก รับประกันความสนุก
-
ดันอีกรอบ เรื่อยๆ ดันๆ
-
ดันอีกที น่าเกลียดไปไหมเรา ฮร้า.........
-
ฮึบ...อีกสักทีน่า..กลับมาอ่านกี่ทีๆก็ชอบ อ่านหลายรอบแล้วนะเนี่ย
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมไม่ได้เข้าเล้านาน เมื่อได้รับทราบความรู้สึกของหลาย ๆ คนจากการอ่านเรื่องนี้ก็รู้สึกปลื้มมากครับ ขอบคุณจริง ๆ ที่ติดตาม
ปล. ตอนนี้ผมเขียนนิยายแนวทดลองอยู่ครับ ชื่อ The Beginning ถ้าอยากลองอะไรแปลก ๆ ก็ไปลองอ่านดูได้ครับที่หน้า Boy's love story นะครับ *0*
-
พี่เรียนจิตวิทยาหรือเปล่าคะ? หรือ ปรัชญา หนูอยากรู้มากๆ...
ความจริงตัวหนูแยกจิตวิทยากับปรัชญาด้วยเส้นกั้นบางๆ เพราะมันเป็นการตั้งคำถามถึงสิ่งที่ผู้คนมองข้าม หาคำตอบเพื่อตอบสนองอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง
ในขณะที่เพื่อนหลายคน อยากเรียนจิตวิทยา แต่กลับไม่เคยเหลียวมองปรัชญาเลย หนูว่ามันลักลั่นย้อนแย้งยังไงไม่รู้สิ หุหุ
.....
สิ่งทั้งหมดที่พี่เขียนมันยังหยาบ ตรงแต่ละเมียดละไม ตัวอักษรที่บรรยายพรรณนายกตัวอย่างเปรียบเทียบ
บางครั้งอารมณ์ที่ได้มามันกลอกกลับรวดเร็ว จนตั้งตัวไม่ติด คาดเดาไม่ได้ และ เฉกเช่นความเป็นจริง..บางอย่างมันไร้เหตุผลในแบบที่มีเหตุผลในตัวของมันเอง
อ่านสิ่งที่พี่เขียน มันให้บางสิ่งที่ไม่มีใครให้ได้ มันสะท้อนคำว่าวิปริตออกมาอย่างงดงามน่ารังเกียจ เสียดสีความบิดเบี้ยวของสังคม วรรณกรรมได้อย่างเห็นภาพ
....พี่ตีแผ่คำว่าวิปริตออกมาได้อย่างไม่วิปริต มันมีเหตุผลรองรับเสมอ และทำให้เข้าใจดีว่ามนุษย์มันเปราะบาง มีอะไรบ้างที่ปกติ ทุกอย่างล้วนวิปริตในแบบของมัน
พี่ดูเป็นนักคิด..ส่วนใหญ่นักคิดจะอธิบายสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาให้คนอื่นเข้าใจยาก แต่พี่ทำได้ดี พี่เป็นนักบรรยายและใช้ภาษาได้พอๆกับที่เป็นนักคิด
หนูไม่เคยเห็นงานเขียนชิ้นไหน แรง หยาบ ตรง ทว่าละเอียดละออละเมียดละไมแบบนี้เลย >////<
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง ^^
-
แร๊งงส์ !! :fire:
เอ่ออ..อื้มม อืออ
สนุก ! สนุกจริงๆๆๆ ปรบมือให้ ๆ 55
ไม่ค่อยได้อ่านนิยาย แบบนี้ มานานแล้ว
สำนวนดีมากเลย จริงๆ
น้องเหมียวว ~ สงสารชิตแฮะ
แค่เท้าเน่าเหมือนน้องแมวก้ดีสิ :o12:
แอบอยากให้ศรคู่ กับ ชิต ทั้งๆที่รู้ว่าย๊ากซ์ :laugh:
ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านกันจ้า
:L1: :L2: :L1:
-
:z2: โว้วววว..........ว้าววววววววววว!!!!!!!!!!!!!! สำนวนสุดยอด o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
:m15: :m15:โอ้........มายก็อด!!!!!!!!!!
:freeze: :freeze: :freeze: น้องเหมียวอ่ะ .....น้องเหมียว :m15: :m15: :m15:
:a6: :a6: :a6:เจ็บจังเลยอ่ะ ทำไมมันเจ็บอย่างนี้...........
เขียนได้ดีจังเลย โดนมาก ๆ o13 :L2: o13
-
จบสนุกมากค่ะ
เรื่องราวมีท่มาที่ไปแบบนี้นี่เอง มิน่าหล่ะ
เดชถึงได้มีความสุขดี ทั้งๆที่ชิตหายไป
แต่ที่น่าสงสารคือคู่แคมฟ๊อกอีกคน ที่ซ้อมน้องชายปางตาย
ตอนนี้ เดชคงหลงบ่วงของชิต จนไม่ปล่อยไปไหนอีกแล้ว
อืมม์ สะท้อนสังคมมากมายค่ะ อ่านไปก้เหมือนเดินตามดูกระจกที่ส่องถึงเบื้องลึกๆในใจคนแต่ละคน
สู้ๆค่ะ เยี่ยมมากๆๆๆ
-
เอ่อ อ่านแล้วบรรยายไม่ถูก
แสดงให้เห็นว่าทุกคนมีความจิตในตัว มากน้อยก็ว่ากันไป :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
:pig4: :pig4:
-
เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน
เยี่ยมมากครับ ปอกตัวตนมนุษย์ได้อย่างแสบสันต์
ขอคารวะ
-
ติดตามอย่างใกล้ชิด..ยังไม่อยากให้จบเลย ตอนของศรกับชิต กะลังน่ารักเลย...
-
สุดยอดดดดดดด!!!!!!!!
>.< แรงมากกกกกกกก!!!!!!
ได้ใจสุดๆๆ >~< :-[
นี่แหละ......
........
....
เรื่องที่ตามหามานาน
อิอิ :impress2:
-
เพิ่งมีโอกาสเข้ามาแวะอ่าน
คนแต่ง สุดยอดดด :call: :call:
-
เรื่องนี้แรงได้ใจมากค่ะ แต่เอะ!แมวนี่ใช่ชิตป่าววเนี่ย
-
กรี้ดๆๆ~ อยากอ่านจังเลย เดี๋ยวพุ่งนี้มาอ่านนร้า~
-
ตอนแรกชั่งใจอยู่ว่าจะกดเข้ามาดีมั้ย เพราะคิดว่ามันน่าจะแรง แต่ในที่สุดก็กดลงมาจนได้
อ่านไปตอนแรก ของเขาแรงจริง ๆ ทั้งคำพูดคำจา ภาษาดูรุนแรง หลายคนอ่านแล้วอาจจะรับไม่ได้
แต่!!
ใช้ภาษาได้สละสลวยมาก ไม่ต้องพิมพ์ให้ยืดยาว พิมพ์เป็นนัย ๆ แต่ก็ทำให้คนอ่านรู้ได้ไม่ยาก
เนื้อเรื่องที่แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ทำให้เป็นจุดเด่นด้วย อ่านไปอ่านมามันเหมือนจะตีแผ่สังคมอีกต่างหาก :laugh:
อยากจะเขียนให้ได้แบบนี้บ้าง สักนิดก็ยังดี อ่านแล้วให้รู้ว่าเรายังต้องไปปรับปรุงอีกเยอะ o18
อ่านจนถึงตอนจบมันตื้อมาซะอย่างงั้น อธิบายไม่ถูก เราอ่านเรื่องนี้เราไม่เคยคิดว่าต่อไปจะเป็นยังไง แต่พอมาเจอตอนจบแบบนี้.....มันก็ได้แต่ :เฮ้อ: ไม่ได้หนักใจอะไร ไม่ได้เหนื่อยอะไร แต่มันทำด้วยสัญชาตญาณ
:pig4:และ o13
-
จริงๆ แอบค้างเพราะตอนสุดท้ายนี่แหละ แต่ถ้าได้กลิ่นเนื้อเน่าจริงๆ แล้วเดชหายตัวไป ก็คงไม่ต้องคิดแล้ว o22
สำนวนสุดยอดค่ะพี่ ใช้ความดิบ เถื่อน เหนี่ยวนำความรู้สึกคนอ่านจริงๆ
ขอคารวะอ่ะ o13
-
หลังจากอ่านเรื่องนี้ บอกได้คำเดียวว่า...
พี่แทน o13 o13 o13 o13 o13
-
หนูอยากเลี้ยงแมว หนูอยากเลี้ยงแมววววว :z2:
-
เหมือนถูกตีแสกหน้าตั้งแต่อ่านบรรทัดแรกยันบรรทัดสุดท้าย
เพราะหลายครั้งตัวเองชอบทำตัวกระแดะ มองโลกผ่านความรัก
ทั้งที่ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรเลยกับหน้าตาของความรัก แต่ยังบูชามันยิ่งกว่าศาสดาใดๆ
มันเป็นความจริงในโลกและในสังคมนี้ ประโยคที่ว่ามนุษย์อ้างคำว่ารักเพื่อจะได้ฟัคใครสักคนมันโคดจริง
เห็นมานักต่อนัก พวกที่พูดว่าขอแค่ได้รัก มันไม่จริง มนุษย์มีรักเพื่อนตอบสนองความต้องการทางเพศ
ตอบสนองความอยากครอบครอง โดยใช้คำว่ารักเป็นตัวล่อ พอถึงจุดๆหนึ่ง เขาจะฟัคคนรักอย่างชอบธรรม :oo1:
ชอบผลงานเรื่องนี้มาก เพราะมันย้ำความวิปริตของมนุษย์ได้โคตรตรงจุด ...
-
แนวตลอดดดดดด
แบบว่า เคยอ่านเรื่องตามหารุกแท้แล้วชอบมาก พยายามหาเรื่องอื่นๆ แต่เรื่องนี้เพิ่งเห็นนี่ล่ะค่ะว่าคนแต่งคนเดียวกัน
เป็นเรื่องที่แนว....มากกก
อ่านเรือ่งของคุณคีรีมันตาโรทีไร มันได้คิด อะไรทุกทีแบบว่าปรัชญามากๆ จริงๆค่ะ
ปล. ได้อ่าน งานของคุณในโปรเจ็คสองของเล้าแล้วนะคะ แบบว่าอึ้งทุ่ง และชอบมาก แปลกแหวกปนวดี เลยอยากจะมาบอกไว้เพราะ มันไม่มีกระทู้จะไปบอกความใจใน อิอิ
ขอบคุณสำหรับเรื่อง บันเทิงคดีนี้นะคะ
-
เฮ้อ ทำไมถึงมีแต่คนชมหรือบอกว่าพอแล้วอิ่มแล้วกันนะ คิดว่าถ้าเป็นเรื่องอื่นจบแบบนี้ต้องถูกตำหนิแน่ๆเลย
อิชั้นค้าคงใจมาก คือส่วนตัวแล้วชอบบรรศรกับชิด ก็เลยแบบว่าอยากอ่านตอนที่เค้าจะได้เจอกัน ไดชอบกัน(หรืออาจแค่เอาเพราะอยากเอาก็แล้วแต่)
ตั้งใจอ่านเพื่อรอคอยฉากนี้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าฉากนั้นหายแล้วถูกแทนที่ด้วยคำบรรยายสั้นๆจากปากของไหมจีนและแพร อยากจะกรี๊ดดดดด!!!
เหมือนเรื่องที่บรรยายมาซะละเอียดในตอนแรกแล้วมาตายเอาโดยการเล่าแบบผ่านๆในตอนที่มันน่าจะเป็นจุดคลายแมก(สำหรับอิชั้น)ว่าเค้าได้กัน
เฮ้ออออ ว่อยยยยยยยยยยยยย><!!
เรื่องแมวก็อยากอ่านต่อด้วยค่ะ แต่เรื่องของสองคนนั้น ก่อนที่อีกคนจะมากลายเป็นแมว มันคาใจยิ่งกว่า อยากอ่านแบบละเอียด ที่มาที่ไป เจอกันได้ยังไง
รู้สึกยังไงไม่ใช่ข้ามฮวบแล้วเล่าแบบผ่านๆแบบนั้น
เคืองค่ะเคือง เชรอะ!
-
เอาชีวิตมนุษย์มาเล่าได้น่าอ่านมากค่ะ
:bye2:
-
เฮ้อ ทำไมถึงมีแต่คนชมหรือบอกว่าพอแล้วอิ่มแล้วกันนะ คิดว่าถ้าเป็นเรื่องอื่นจบแบบนี้ต้องถูกตำหนิแน่ๆเลย
อิชั้นค้าคงใจมาก คือส่วนตัวแล้วชอบบรรศรกับชิด ก็เลยแบบว่าอยากอ่านตอนที่เค้าจะได้เจอกัน ไดชอบกัน(หรืออาจแค่เอาเพราะอยากเอาก็แล้วแต่)
ตั้งใจอ่านเพื่อรอคอยฉากนี้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าฉากนั้นหายแล้วถูกแทนที่ด้วยคำบรรยายสั้นๆจากปากของไหมจีนและแพร อยากจะกรี๊ดดดดด!!!
เหมือนเรื่องที่บรรยายมาซะละเอียดในตอนแรกแล้วมาตายเอาโดยการเล่าแบบผ่านๆในตอนที่มันน่าจะเป็นจุดคลายแมก(สำหรับอิชั้น)ว่าเค้าได้กัน
เฮ้ออออ ว่อยยยยยยยยยยยยย><!!
เรื่องแมวก็อยากอ่านต่อด้วยค่ะ แต่เรื่องของสองคนนั้น ก่อนที่อีกคนจะมากลายเป็นแมว มันคาใจยิ่งกว่า อยากอ่านแบบละเอียด ที่มาที่ไป เจอกันได้ยังไง
รู้สึกยังไงไม่ใช่ข้ามฮวบแล้วเล่าแบบผ่านๆแบบนั้น
เคืองค่ะเคือง เชรอะ!
ชอบที่วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาครับ
อิอิ คือที่เขียนอย่างรวบรัดเพราะอารมณ์ติสต์มันหายน่ะครับ
ถ้าพยายามยืดเขียนฉากนั้นหรือบรรยายเรื่องราวให้ได้
ผมกลัวว่ามันจะทำลายเนื้อเรื่องที่ผ่านมาง่ะ
แต่ไงก็ต้องยอมรับผิดว่าไม่ได้ทุ่มเทแรงลงไปอย่างเต็มที่ในช่วงสุดท้ายครับ
ถ้าผมใช้เวลาคิดให้ดีกว่านี้อีกหน่อย อาจจะสามารถเขียนในส่วนที่พร่องพวกนั้นก็เป็นได้
ยังไงก็ขออภัยที่ทำให้คาใจ และขอบคุณที่ติดตามนะครับ ^o^
-
คือว่า บอกตามตรงนะ เห็นชื่อเรื่องแล้วก็เข้ามางั้นๆ
แต่พออ่านไปจริงๆ มันสามารถสะท้อนอะไรหลายๆด้าน
อารมณ์ของแต่ละตัวละคร สังคมความเป็นอยู่ของแต่ละคน ความคิด
และความแตกต่างที่ไม่แตกต่าง อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจในการที่มองในหลายแง่มุมของความคิด
ผลของการกระทำของแต่ตัวละคร
อ่านแล้ว แบบ โห คนเขียนเขาเป็นคนแบบไหนนะ ใช้ชีวิตมาแบบไหน
ผ่านเหตุการณ์อะไรบ้าง และการที่คิดได้แบบนี้มีไม่กี่คนที่ทำได้จริงๆ
แต่ว่า -0-
อยากอ่านน้องเหมียวอ่า เง้อ :z3: อยากให้พี่หมอมาดามใจน้องเหมียว :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: สงสาร T_T
-
น้องเหมียวโดนทิ้งหรือนี้
แล้วพี่หมอจะทำยังไงต่อไปล่ะ
อยากรู้ๆๆ
-
พึ่งเริ่มอ่านคร้าาา อ่านแล้วมันดุเดือดในคำพูด+การกระทำของตัวละคร มากเลย
อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะมีตอนจบ รึปล่าว?(= =;;)
-
เฮ้อ ทำไมถึงมีแต่คนชมหรือบอกว่าพอแล้วอิ่มแล้วกันนะ คิดว่าถ้าเป็นเรื่องอื่นจบแบบนี้ต้องถูกตำหนิแน่ๆเลย
อิชั้นค้าคงใจมาก คือส่วนตัวแล้วชอบบรรศรกับชิด ก็เลยแบบว่าอยากอ่านตอนที่เค้าจะได้เจอกัน ไดชอบกัน(หรืออาจแค่เอาเพราะอยากเอาก็แล้วแต่)
ตั้งใจอ่านเพื่อรอคอยฉากนี้เลย แต่กลับกลายเป็นว่าฉากนั้นหายแล้วถูกแทนที่ด้วยคำบรรยายสั้นๆจากปากของไหมจีนและแพร อยากจะกรี๊ดดดดด!!!
เหมือนเรื่องที่บรรยายมาซะละเอียดในตอนแรกแล้วมาตายเอาโดยการเล่าแบบผ่านๆในตอนที่มันน่าจะเป็นจุดคลายแมก(สำหรับอิชั้น)ว่าเค้าได้กัน
เฮ้ออออ ว่อยยยยยยยยยยยยย><!!
เรื่องแมวก็อยากอ่านต่อด้วยค่ะ แต่เรื่องของสองคนนั้น ก่อนที่อีกคนจะมากลายเป็นแมว มันคาใจยิ่งกว่า อยากอ่านแบบละเอียด ที่มาที่ไป เจอกันได้ยังไง
รู้สึกยังไงไม่ใช่ข้ามฮวบแล้วเล่าแบบผ่านๆแบบนั้น
เคืองค่ะเคือง เชรอะ!
คิดเหมือนรีนี้ค่ะ แต่ที่ไม่ได้ท้วงติงอะไรเพราะคิดว่าคุณแทนมีแนวของตัวเอง มีวิธีการเล่าเรื่องของตัวเองที่จะนำเสนอ (อ่านกี่เรื่องๆก็เป็นแบบนี้จนชินแล้ว ฮาๆๆ )
และการจบแบบให้คิดเอาเอง เดาเอาเองหรือทิ้งปริศนาไว้ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจดีเหมือนกัน แล้วตอนหลังๆ คุณแทนไม่ได้เข้าเล้ามานานแล้วก็เลยคิดว่าถึงจะโวยวายไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมา แต่พอมาอ่านคำตอบแล้วก็....
อ้าวที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง.... ฮา
จบแบบนี้ก็ศิลป์ดีแล้ว แต่ถ้าคุณแทนมีเวลาและอารมณ์ก็อยากอ่านส่วนขยาย หรือส่วนเพิ่มเติมมากกว่านี้อีกสักนิดก็ดีนะคะ.... ที่จริงมันค้างคาใจค่ะ แง่มๆ
-
ลึก
แรง
สุดยอดมากๆครับ
ไม่เคยอ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนเลยครับ
ช็อคสุดๆ
ยอมรับว่าอ่านๆไปก็งงเหมือนกัน พอดีความรู้น้อยน่ะครับ =*=
ขอบคุณมากๆครับ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย
พูดตรงๆว่าเป็น "ความจริงที่โหดร้าย" มากๆครับ
/นั่งถอนหายใจ อย่างเศร้าๆ
-
สุดประทับใจ ชื่นชอบเรื่องนี้ และชื่นชมคุณคีรี~มัญจาโรมากๆ
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วปลุกอารมณ์ขั้นลึกได้ดีอย่างยวดยิ่ง...และอย่างไม่จำแนกเพศ (เชื่อว่า)
เพราะการขุดเจาะครั้งนี้ "ผ่านการใช้ถ้อยคำอันเป็นปริศนาและแฝงนัยขึ้นไปในอีกระดับหนึ่ง" อ้างอิงจากบทที่ 8
การผสมจิตวิทยากับความเป็นนิยาย เข้มข้นขมวดใจ สนองความใคร่ในการต้องการอ่านของผู้อ่านคนนี้มากกก
ไม่มีความกระแดะปนอยู่ สัมผัสมาตรงๆ, ความหยาบคายโดยอ้อมที่สร้างขึ้น ก็ซื่อสัตย์และรู้สึกได้ถึงการให้เกียรติ
ได้เรียนรู้และคิดตามหลายเรื่อง รวมถึงได้ระลึกในบางสิ่งที่เคยรู้ แต่สาปสูญจากหัวไปนานมาก ขอบคุณนะคะ
อ่านเรื่อง "Queen^2 ตามล่าหารุกแท้" มาก่อนหน้าก็ว่าสนุกมากแล้ว แต่กับเรื่องนี้ยิ่งกว่าชอบ มันกระชากใจ!
อ่านแล้วเหมือนเสพย์สารสุข ทำเอา high ตลอด เข็มตีขึ้นๆจนจบ (ตอนพิเศษเศร้า+ฮา ประมวลผลแทบไม่ทันเลยค่ะ 555)
ในความเป็นนิยาย อยากบอกว่าเรื่องราวของชิตน่าติดตามต่อมาก จึงมีขัดใจบ้าง ตามสูตรผู้อ่านทั่วไปที่อยากรู้จนสุดทาง
แต่ถ้ามองในเชิงอาร์ทๆหน่อย จบแบบนี้คือดีแล้ว สมบูรณ์เท่ห์ๆ ...เหมือนตอนจบหนังประมาณให้ไปคิดต่อเองบ้าง
ปล. บางขณะชวนให้คิดถึงเรื่องโปรด "เงาสีขาว" โดย คุณแดนอรัญ แสงทอง
ในแง่มีการโยงปรัชญาและการแทรกตัวตนผู้เขียนลงไปผสมเนียนๆ แต่เอกลักษณ์ในการเขียนไม่เหมือนกันนะ
จะตามงานเขียนเรื่องอื่นๆของคุณคีรี~มัญจาโรต่อไปนะคะ รวบรวมได้ 9 เรื่องในเล้าฯ //ซาลูท ยู
-
แรงงงงงงงงส์ :haun4:
-
ขอบคุณค่ะ
-
:pig4: :pig4:
-
อ้าว เดชขังแมวไว้ในห้องเหรอ แล้วเดชหายไปไหนอ่ะทิ้งมันไว้ตัวเดียวได้ไง
ไอ้ที่ว่าแมวนี่ แมวจริงๆ หรือคนคะ :mew6:
อยากอ่านต่ออะคะ :ling3:
-
ชื่นชอบภาษา และกลวิธีการเขียนมากครับ แวะเข้ามาเป็นกำลังใจให้ครับ และท้ายที่สุดขอบคุณสำหรับงานเขียนครับผม
-
ตอนแรกก็ลองกดเข้าดู ไม่คิดว่าจะต้องมานั่งอ่านรวดเดียวจบแบบนี้ อ๊ากกกก
เสียดายยยยยย เลยไม่รู้เลยว่าเจ้าของแมวหายหัวไปไหน แล้วแมวเหมียวจะมีสภาพเป็นยังไง :katai1:
(ถึงจะรู้ว่าต้องโดนตบหน้า แต่ก็ยินดียื่นแก้มให้อย่างที่ว่ามาจริงๆ 5555)
-
สมัยเรียนตอนทำวิจัย เกี่ยวกับเรื่องทางเพศ ยิ่งอ่านยิ่งอยากหัวเราะกับสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ และเรื่องนี้คนเขียนเอาหลักจิตวิทยามาใช้ได้ดีคะ :mew1:
-
เพิ่งได้อ่าน ก็รู้สึกจริงๆ แหละว่าจบแบบไปกระจ่าง
ปมหลายๆ อย่างคลุมเครือมาก อย่างที่อีกคนบอก
มันเป็นฉากที่รอคอย แต่กลับไม่มี ส่วนตัวไม่มีปัญหากับการจบแบบให้คิดแล้วสร้างเสริมเติมเอาเอง แต่ถ้าอะไรๆ มันยังไม่เคลียร์แล้วปิดจบแบบนี้ก็แอบเซ็งเหมือนกัน สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่สละเวลามาแต่ให้ได้อ่านนะ :)
-
อ่านจบภายใน 2 วัน เป็นนิยายที่อ่านเเล้วรู้สึกว่าสะใจดีชิบหาย ชอบบุคคลิกลักษณะนิสัยตัวละครชิต เดช เเละบรรณศร(โดยส่วนตัวชอบมากครับดิบเถื่อนได้ใจ :z1: )มากครับ ขอบคุณมากจริงๆที่เเต่งนิยายที่ให้ทั้งความสนุก ข้อคิดเกี่ยวกับสังคนมากมายเเละที่ขาดไม่ได้ ให้ความหื่น :haun4: กระหายอยากติดตามผลงานของคุณคิริฯมากมายเช่นกัน ขอบคุณอีกครั้งครับ o13
-
อืม เป็นเรื่องที่แรงมาก แต่โคตรชอบเลยครับ
ขอบคุณครับ
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
ไม่มีต่อหรอคะ :mew2:
-
เป็นการจบที่หักมุมมากๆ ยังไม่นับตอนพิเศษนะ
ถึงจะอ่านจบแล้วก็ยังค้างคากับชะตากรรมของชิตอยู่ดี :sad11:
:pig4:
-
คุณพระ....
-
เพิ่งเคยได้มาตามอ่าน สนุกมากเลยค่า :pig4: :pig4:
-
ถึงอ่านแล้วงงๆหน่อย แต่ก็แปลกดี :katai2-1: