พิมพ์หน้านี้ - [fanfiction J-rock]Lavender
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: しろやま としんや ที่ 15-01-2007 16:36:26
-
นี่เป็นแฟนฟิคที่แต่งเป็นเรื่องแรกเลยในชีวิตเมื่อหลายปีก่อนโน๊นนนลองเอามาลงดูไม่รู้จะมีคนอ่านมั้ย เห่อๆ
Lavender
Part:1
By:Toshinya
คุณเชื่อมั้ย? เมื่อก่อนดอกลาเวนเดอร์มันไม่ได้เป็นสีม่วงอย่างที่ทุกคนเคยเห็นในปัจจุบันนี้หรอกนะ
ดอกลาเวนเดอร์ที่สวยงามที่เป็นสีม่วงนั้น...เมื่อก่อนมันเป็นสีขาว
แต่เป็นเพราะตำนานที่สืบเล่ากันมาเป็นระยะเวลานานมาแล้ว
ที่เขาเล่ากันถึงความรักของคนสองคนที่มาพบเจอกันด้วยความบังเอิญจนก่อตัวเป็นความรักขึ้นมา....
"คาโอรุ เจ้านี่ช่างน่ารังเกียจจริงๆ เจ้ามีผมสีม่วงไม่เหมือนกับคนอื่นเขา เจ้าเป็นปิศาจ
เป็นพวกพ่อมดหรือเปล่า?ทำไมเจ้าถึงแปลกประหลาดกว่าคนอื่นเช่นนี้ ไปให้พ้นนะ"
เสียงหญิงชาวบ้านเอ่ยขับไล่ ชายหนุ่มร่างบางเจ้าของเรือนผมสีม่วง
ซึ่งเป็นพ่อค้าขายดอกลาเวนเดอร์สีขาว ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน
"เอ่อ...ข้า..ไม่ใช่นะ...ข้าไม่ได้เป็นพ่อมด หรือปิศาจใดๆทั้งสิ้น ท่านเข้าใจผิด..ข้าไม่ใช่...."
เสียงของชายหนุ่มสั่นเครือเพราะอาการสะอื้น น้ำตาเอ่ออยู่รอบดวงตาทั้งสองข้างที่พร้อมจะไหลออกมา
"เจ้าไม่ใช่ ไยเจ้าจึงมีสีผมแตกต่างจากคนอื่นอย่างนี้กันเล่า ทุกคนที่นี่
เจ้าก็เห็นทุกคนต่างมีเรือนผมสีน้ำตาลทอง มีแต่เจ้าเท่านั้นแหละ
ที่ผิดแผกแตกต่างจากคนอื่น"ชายอีกคนพูดขึ้นมา
"ไปให้พ้น! อย่ามาใกล้พวกเราเจ้าคนน่ารังเกียจ"อีกคนพูดขึ้นมาเพื่อขับไล่เขา
ทำไมกันนะ....ทุกคนถึงได้จงเกลียดจงชังเรายิ่งนัก...เราทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือไรกัน ผิดด้วยเหรอ?
ที่เรามีสีผมไม่เหมือนคนอื่น... ผิดด้วยเหรอ? ที่เราเป็นอย่างนี้...คิดขึ้นมาทีไรน้ำตาก็พาลไหลลงมาทุกที......
เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นมาทุกวัน....เป็นอย่างนี้ทุกวัน..ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงได้รู้สึกกับเราเช่นนี้....
เราทำอะไรให้พวกเขากันหรือ?....เป็นเพราะผมสีม่วงนี้ใช่มั้ย?...ที่ทำให้เราถึงได้รู้สึกทุกข์ใจอย่างนี้....
สิ่งผิดปกติในตัวเราที่เราไม่ได้ตั้งใจทำให้มันเกิดขึ้นมาแบบนี้...ถามผู้ที่ให้กำเนิดก็ไม่ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ
เพราะพวกเขาผู้ที่ให้กำเนิดเรามาก็มิได้มีเรือนผมที่ผิดแผกแตกต่างไปจากคนอื่น..
มีแต่เราเพียงผู้เดียวที่ต่างจากคนอื่นทั่วไป...หาคำตอบไม่ได้สักที
พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ณ.ที่นี้แล้วจากโลกนี้ไปนานแล้ว...แล้วใครกันล่ะ? ที่จะให้คำตอบกับสิ่งที่ค้างคาใจมานาน
* ก๊อกๆ * เสียงประตูบ้านที่เขาอาศัยอยู่ดังขึ้น ชายหนุ่มรีบลุกไปเปิดทันใด
"คาโอรุ เป็นอะไรรึเปล่า? นี่เจ้าร้องไห้อีกแล้วเหรอ? ใครกันที่รังแกเจ้า?"เสียงของผู้มาเยือนเอ่ยถามขึ้นมา
"เปล่าหรอก ชินยะ ข้าไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าไม่ต้องห่วงข้า"เขาตอบคำถามแก่ผู้มาเยือน
"โกหก เห็นอยู่ว่าเจ้ากำลังร้องไห้ หลักฐานมันฟ้องที่หน้าเจ้าอยู่ชัดๆ"
เสียงของผู้มาเยือนอีกคนที่ตามมาด้วยดังขึ้นมา
"ข้าไม่เป็นไรจริงๆ โทชิยะขอบคุณที่เป็นห่วง"เขารีบกล่าวตัดไป
ไม่อยากให้ผู้เป็นเพื่อนทั้งสองต้องกังวลไปด้วย ชินยะกับโทชิยะทั้งสองคนเป็นเพื่อนแท้ของเขา
ที่คบกันมานาน มีเพียงแค่เพื่อนสองคนนี้เท่านั้นที่ไม่รังเกียจเขา
เหมือนกับคนอื่นๆในหมู่บ้านที่ต่างพากันขับไล่เขา
"เจ้าอย่าคิดมากนะ คาโอรุถึงแม้ว่าเจ้าไม่มีใคร...แต่เจ้าก็มีพวกเราสองคนที่เป็นเพื่อนของเจ้า
เราจะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอนะ"ชินยะพูดพลางเดินมาโอบไหล่เขาเพื่อปลอบโยน
"ข้าก็เช่นกันคาโอรุ ข้าก็จะอยู่ข้างเจ้า ยังไงเจ้าก็เป็นเพื่อนรักของข้า ทำใจให้สบายเถอะเพื่อนรักของข้า"
"ขอบคุณมากชินยะ โทชิยะ ขอบคุณจริงๆถ้าไม่มีพวกเจ้าทั้งสองคนข้าก็ไม่รู้ไปหันหน้าไปพึ่งใคร
ในเมื่อทุกคนต่างก็รังเกียจข้าเช่นนี้"เขาพูดโอบแขนกอดผู้เป็นเพื่อนทั้งสองด้วยความรัก
ความอบอุ่นระหว่างเพื่อนที่มีต่อกัน ถ่ายทอดเป็นพลัง ชโลมจิตใจที่ห่อเหี่ยวของคาโอรุชุ่มชื้นขึ้นมาบ้าง
"งั้นพวกข้าไปก่อนนะ แล้วจะมาหาใหม่"ผู้เป็นเพื่อนทั้งสองเอ่ยลา
เขามายืนส่งเพื่อนที่หน้าบ้านหลังจากที่ทั้งสองลับตาไป จึงเดินเข้าไปในบ้านแล้วปิดประตูลงกลอน
"ถ้าไม่มีพวกเจ้าทั้งสองคน ข้าคงไม่อาจมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้วอีกเป็นแน่"
เขาพึมพำไปพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาจนกระทั่งผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
@@@@@@@
to be continued
-
:o
อยู่ในโลกไหนกันเนี่ยะ
ผมสีม่วงซะด้วย เหอะๆ
:interest:
-
เย้ๆมีคาโอรุด้วย ชอบๆๆ มาต่อเร็วๆน๊า ป้าแอมคนสวย
แอบเสียดาย ลุงเรย์มาตอบก่อนเขาอ่ะ ยังว่าอ่ะเนอะ
ป้าเอามาลงลุงก้อต้องตามมาให้กำลังใจอิอิ
รักกันนานๆน๊า :yeb:
-
มาต่อเร็ว ๆน่ะคร้าบบบบ
จะมาตามอ่านเรื่อย น่ะ แอม
....................
:interest: :interest: :interest:
-
:really2: ` แอมถ้าเช้นนั้น เราก็เป็น ดัง เช่น ดอกลาเวนเดอร์ ละ
-
Lavender
Part: 2
By: Toshinya
"โทชิยะ..."เสียงหวานเอ่ยเรียกผู้ที่เดินเคียงข้างกันมา
"หือ? มีอะไรหรือชินยะ?"ผู้ที่ถูกเรียกเอ่ยถาม
"ช้าสงสารคาโอรุเหลือเกิน....ทำไมชีวิตเขาถึงได้พบเจอกับเรื่องอย่างนี้ ข้าสงสารเพื่อนของข้าเหลือเกิน"ชินยะพูดพลาง น้ำตาไหลลงมาอาบที่แก้มนวลทั้งสองข้าง
"ข้าก็เห็นใจเขาเหมือนกัน ไม่อยากให้เรื่องอย่างนี้เกิดกับเขาเลย...คาโอรุคงทุกข์มากที่คนในหมู่บ้านต่างพากันรังเกียจเขา ทำไมกันนะข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ"โทชิยะพูดพลางดึงคนข้างๆเข้ามาสวมกอดเพื่อปลอบโยน จูบซับทางน้ำตาของคนรักที่ไหลลงมา
"โทชิยะ....ข้าเคยได้ยินท่านยายของข้าพูดถึงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์"จู่ๆชินยะก็ร้องขึ้นมา
"บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์?"โทชิยะเอ่ยขึ้นมาเป็นคำถาม
"ใช่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ท่านยายเล่าให้ข้าฟังว่ามีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์น้ำในบ่อนั้นใช้รักษาได้ทุกโรค ข้าจะแนะนำให้คาโอรุไปหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่น เพื่อใช้น้ำในบ่อนั่นเปลี่ยนสีผมของเขาให้เป็นเหมือนอย่างพวกเรา ทุกคนในหมู่บ้านจะได้เลิกรังเกียจเขาซะที คาโอรุจะได้มีความสุข"ชินยะพูดด้วยน้ำเสียงสุขใจ ใช่แล้วเขาต้องการให้เพื่อนของเขาพบความสุข ความสุขที่คาโอรุไม่เคยได้พบเจอ
"ก็ดีนี่ เป็นความคิดที่ดีนะชินยะ แล้วข้าจะบอกให้คาโอรุไปเดินทางค้นหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่น"โทชิยะเห็นด้วยกับความคิดของอีกฝ่าย
"ข้าจะถามท่านยายของข้าให้"ชินยะที่ดูมีท่าทางรื่นเริงกว่าเดิม พูดด้วยน้ำเสียงที่สดใส
"ดึกแล้วเราไปกันเถอะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปหาท่านยายของเจ้า เรากลับบ้านกันเถอะ"โทชิยะว่าพลางจูงมืออีกฝ่ายเดินนำไป ชินยะที่ท่าทางดูมีความสุขยิ้มรับจากนั้นก็เดินตามร่างสูงไป
@@@@@@@
"ท่านดาย ท่านจะไปไหนครับ"ชายหนุ่มรูปร่างเล็กเอ่ยถามชายหนุ่มผู้เป็นนาย
"ข้าจะออกไปข้างนอกหน่อย เจ้าพาข้าออกไปทีเคียว"ชายผู้เป็นนายกล่าวบอกแก่คนสนิท
"ครับได้ครับ ท่านจะไปที่ไหนละครับ"ชายหนุ่มถามอีกครั้ง
"ออกไปที่สวนละกัน"
"ครับ"ชายหนุ่มร่างเล็กเข้าไปประคองผู้เป็นนายให้เดินตามเขามา ชายผู้เป็นนายของเขาดังกล่าวไม่สามารถไหนมาไหนด้วยตัวเองได้ เพราะดวงตาทั้งสองข้างของเขานั้นบอดสนิทมาตั้งแต่กำเหนิด เวลาไปไหนก็มีเคียวคอยนำทางเสมอ เคียวเป็นสนิทของเขาเป็นเปรียบเสมือนดวงตาของเขาด้วยเช่นกัน มีเขาอยู่ที่ไหนก็ย่อมมีเคียวอยู่ด้วยที่นั่นเสมอ ดายเป็นลูกชายของเศรษฐีใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเมือง เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของปราสาทแห่งนี้
"เคียวข้าอยากมองเห็นเหลือเกิน อยากเห็นโลกที่สวยงามใบนี้เหลือเกิน น่าเสียดายนะที่ข้าเกิดมาตาบอดเช่นนี้จึงไม่ได้มีโอกาสได้มองเห็นทุกสิ่ง ทุกอย่างที่ข้าอยากเห็น โลกที่ข้าจินตการเอาไว้มันจะเป็นเช่นไรกันนะ"ชายหนุ่มกล่าวพึมพำขณะเดินอยู่ที่สวนซึ่งอยู่ในอณาบริเวณบ้านของเขาเอง
"ครับ ข้าเองก็อยากให้ท่านเห็นโลกที่สวยงามอย่างที่ข้าเห็นเหลือเกินท่านดาย"ชายหนุ่มร่างเล็กที่เดินตามผู้เป็นนายเอ่ยตอบ
"ทำยังไงกันนะ ข้าถึงจะมองเห็น นี่คงเป็นกรรมของข้ากระมังที่เกิดมาเป็นเช่นนี้ ข้าไม่อยากเป็นภาระของเจ้าเลย"ชายหนุ่มเอ่ยรำพัน สีหน้าหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด
"ไม่ครับ ท่านไม่เป็นภาระของข้าแต่อย่างใดท่านดาย ท่านอย่าได้กังวลไปเลยครับ ข้าจะอยู่เคียงข้างท่านคอยรับใช้ท่านตลอดไปจนกว่าชีวิตของข้านี้จะหาไม่"เคียวกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น เขาไม่อยากให้ผู้เป็นนายของเขาต้องลำบากใจหรือว่ากังวลใจ
"ขอบใจเจ้ามากนะเคียว ขอบใจเจ้าจริงๆ ว่าแต่นาโอะคนรักของเจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ"จู่ๆผู้เป็นนายก็เปลี่ยนเรื่องคุย ถามถึงคนรักของเขาขึ้นมา
"สบายดีครับ"เคียวตอบไป
"ดีจังเลยนะ ข้าล่ะอิจฉาเจ้าจริงๆเลยเคียว เจ้ามีคนรักที่น่ารักอย่างนี้ ขอให้พวกเจ้ารักกันอย่างนี้นานๆนะ"
"ขอบคุณครับ"ชายหนุ่มตอบกลับด้วยสีหน้าที่ดูยิ้มแย้ม
"ท่านดาย เคียวคุยอะไรกันอยู่ครับ"ชายหนุ่มอีกคนที่เดินเข้ามาเอ่ยทัก
"ก็เรื่อยเปื่อยน่ะ ไม่มีอะไรหรอกนาโอะ พูดถึงก็มาเลยนะ เจ้าสองคนนี่ดูท่าจะไม่ห่างกันเลยนะ"ดายพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"ท่านดายละก็...."ชายหนุ่มพ้อเมื่อถูกแซว
"ว่าแต่เจ้ามีอะไรนาโอะถึงได้เดินมาที่นี่ล่ะ"เคียวที่เงียบไปเอ่ยถามผู้มาใหม่
"ข้ามาไม่ได้รึไงกันฮึ! ข้าคิดถึงเจ้านะเคียวเจ้าไม่อยากเจอข้ารึไง"นาโอะพูดด้วยสีหน้างอนๆ
"ข้าก็แค่ถามเท่านั้นเอง แปลกใจปกติเจ้าไม่ค่อยมาแถวนี้นี่นา"เคียวบอกกลับไป
"เอ้า พวกเจ้าถ้าจะทะเลาะกันไปทะเลาะกันที่อื่นนะ ข้าไม่อยากเห็นผัวเมียทะเลาะกัน"ดายพูดกลั้วหัวเราะ
"ใครเป็นเมียเจ้านี่กัน ไม่ใช่ซะหน่อย"นาโอะรีบตอบกลับไปทันที แต่ใบหน้านั้นกลับแดงระเรื่อ
"ฮะๆนาโอะดูหน้าเจ้าสิแดงเชียว "เคียวเดินเข้าไปโอบกอดร่างของนาโอะจากทางด้านหลัง
"นี่เคียวท่านดายยืนอยู่นี่นะเกรงใจท่านหน่อยสิ"นาโอะว่าพลางตีแขนเคียวที่โอบกอดเขาไว้
"ไม่เป็นไรหรอก ก็ข้ารักเจ้านี่ขอกอดหน่อยน่า"เคียวทำท่าไม่ยอมปล่อยร่างบาง
"อะแฮ่ม พวกเจ้าทำอะไรกัน ถึงตาข้าจะมองไม่เห็นแต่หูของข้าได้ยินชัดเชียวนะ"เสียงผู้เป็นนายขัดจังหวะการกระทำของคนทั้งสอง
"ขอโทษครับท่านดาย"ทั้งสองกล่าวด้วยน้ำเสียงหลุบต่ำ
"เจ้าสองคนนี่รักกันจริงๆนะ ข้าล่ะอยากมีคนที่รักข้าอย่างงี้บ้างจัง"ดายเอ่ยแซวคนทั้งสอง ทั้งสามคุยกันอยู่นานพอใกล้ค่ำจึงพากันเดินกลับเข้าในปราสาท
@@@@@@@
tsuzuku
ปล.แร่ดนะบาส
-
มารายงานตัวค้าบบ...จะติดตามอ่านนะคราบบแอม.. :teach:
ว่าแต่ขอฉากกุกกิ๊กๆด้วยนะ ช้อบชอบ อิอิ :haun6:
-
แฟนพันธุ์แท้ Dir en grey ขอรายงานตัว :yeb:
ในบอร์ดเรื่องแนวนี้ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
ดีใจมากที่มีคนแต่งให้อ่าน อิอิ
ปาล์มชอบโทชิยะกับชินยะมั่กๆ
(เป็นประเภทแพ้ผู้ชายหน้าหวาน 55+ :haun5:)
ดูจากชื่อuserคุณแอมแล้วคงชอบเหมือนกันแน่เลย
พล็อตเรื่องน่าสนใจ ผมสีม่วง....
ปาล์มผมไม่สีม่วงแต่ใจสีม่วงอะ หุหุ
มาต่อไวๆนะ พลีสสสส :impress:
-
อา...มารายงานตัวจ้าแอม
ไม่ได้เห็นคาโอรุผมม่วงนานมั่กแล้วเนอะ
ตะเอง..เค้าอยากอ่านคู่เคียวชินยะบ้างอ่ะ
เอาแบบหลาย p ก้ได้นะเค้าชอบบบ
:haun6:
-
พบรักกันที่บ่อศักดิ์สิทธิ์หรือ
:3059:
-
เย้ๆ โทชิยะออกมาแล้ว :impress3:
-
Laverder
Part: 3
By: Toshinya
"ท่านดาย ข้าเคยได้ยินท่านยายของข้าพูดให้ข้ากับท่านพี่ของข้าให้ฟังว่า มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้รักษาได้ทุกโรค บางทีน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่น คงจะใช้รักษาดวงตาของท่านก็เป็นได้"นาโอะบอกกับดาย ทำให้ดายหันหน้ามาฟังด้วยความสนใจ
"แล้วบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าว่านั่นอยู่ไหนกันล่ะนาโอะ"เคียวหันไปถามคนรักด้วยความสนใจเช่นกัน
"ได้ยินมาว่าอยู่ไกลพอสมควร ต้องเดินทางนานเชียวล่ะ ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าบ่อน้ำนั่นอยู่แห่งใด แต่ข้าจะลองถามท่านยายของข้าดู ท่านยายต้องรู้แน่ๆ"นาโอะกล่าวอย่างมั่นใจ
ดายทำสีหน้าครุ่นคิด"อืม....ถ้าเป็นจริงอย่างที่เจ้าว่า งั้นข้าก็มีหวังแล้วละสิ ข้าจะได้เห็นโลกที่ข้าใฝ่ฝันเสียทีสินะ"
"ข้าจะติดตามท่านไปด้วยครับ ท่านไปที่ไหนข้าก็ขอติดตามท่านไปด้วยทุกที่"ชายหนุ่มร่างเล็กบอกกับผู้เป็นนาย
"ขอบใจมากเจ้ามากเคียว" ดายพูดพลางใช้ความคิด
@@@@@@@
"ท่านยาย! ท่านยาย ท่านอยู่ข้างในรึเปล่าครับ?"เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นมาที่หน้าบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง
"ได้ยินแล้วๆ อ้าว!ชินยะมีธุระอะไรล่ะถึงได้มาหายายถึงที่นี่ได้น่ะ หือ? โทชิยะเจ้าก็มาด้วยรึ มาเข้ามาข้างในกันก่อน"เสียงหญิงชรากล่าวทักบุคคลที่มาเยือน พร้อมเชื้อเชิญเข้มาในบ้านหลังดังกล่าว
"ข้าคิดถึงท่านน่ะท่านยาย"ชายหนุ่มร่างบางถลาเข้าไปกอดหญิงชราผู้เป็นยายเอาไว้แน่น
"โอ้ย!เบาๆหน่อยเดี๋ยวยายล้ม"หญิงชราว่าพลางตีแขนผู้เป็นหลานหันไปมองหน้าเจ้าหลานตัวดียิ้มแปร้หน้าทะเล้น
"เจ้านี่ยังเหมือนเดิมนะเป็นเด็กไม่รู้จักโตซะที ไม่รู้โทชิยะทนเจ้าได้ไง"ยายว่าผู้เป็นหลานพลางทำหน้าระอา
"แหม ท่านยายก็...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เจอกันทั้งทีก็บ่นข้าซะแล้ว"ชินยะทำหน้างอนๆ โทชิยะที่นั่งเงียบอยู่เบือนหน้าไปทางอื่นแล้วแอบขำกับท่าทางของคนรัก
"เอาล่ะๆเจ้ามีเรื่องอะไรจะถามข้าก็ว่ามา"หญิงชราพูดอย่างรู้ทันว่าที่หลานมาหาตนนั้น มีธุระอะไร ทั้งสองผู้มาเยือนได้แต่ทำหน้างงๆ
"เอ่อ..ท่านยาย ท่านจำเรื่องบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้รักษาได้ทุกโรค ท่านเคยเล่าให้ข้ากับนาโอะฟังเมื่อตอนเด็กๆได้หรือเปล่าครับ?" ชินยะถามหญิงชรา ใบหน้าแฝงไปด้วยความอยากรู้ รอคำตอบจากผู้เป็นยาย
"จำได้สิ ทำไมข้าจะจำไม่ได้ เจ้าอยากรู้ไปทำไมกัน? อยากช่วยคาโอรุใช่มั้ย?"หญิงชราตอบตอบพลางหันหน้าไปมองผู้เป็นหลาน
"ครับ ข้าอยากให้คาโอรุใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์นั่น เขาจะได้มีเส้นผมสีเหมือนอย่างพวกเรา ข้าสงสารเขาครับ คาโอรุถูกคนในหมู่บ้านพากันรังเกียจเขา ข้าทนไม่ได้"ชินยะกล่าวเสียงหลุบต่ำ น้ำใสๆเอ่อคลออยู่รอบดวงตาทั้งสองข้าง โทชิยะที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆดึงร่างบางเข้ามาซบที่ไหล่ แล้วลูบหัวอย่างอ่อนโยน
"เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว ยายจะบอกเจ้าเอง บ่อน้ำที่ว่านั่นอยู่ห่างจากที่นี่ไกลมาก เดินทางก็ลำบาก ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะพบเจออะไรบ้าง ข้าบอกไม่ได้ ต้องเดินทางไปทางเหนือเท่านั้น หลงเดินไปทางอื่นไม่ได้ต้องมุ่งตรงไปทางนั้นทางเดียว ใกล้ๆบ่อน้ำนั่นจะมีทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีขาวอยู่ใกล้ๆ ข้าบอกพวกเจ้าได้เท่านั้นแหละขึ้นอยู่กับความสามารถของเพื่อนเจ้า"หญิงชราอธิบายอย่างละเอียด ทั้งสองพยักหน้าเป็นการรับรู้
"ขอบคุณครับท่านยาย ข้าจะบอกให้คาโอรุเดินทางไปให้เร็วที่สุดครับ"ชินยะว่าพลางสวมกอดผู้เป็นยายแน่น ยายมองหน้าหลานลูบหัวเบาๆอย่างเอ็นดู
"เมื่อเช้านาโอะน้องของเจ้า ก็มาหาข้ามาถามเรื่องนี้เหมือนกัน"ชินยะทำหน้าสงสัยที่น้องของเขาก็มาถามเรื่องเดียวกันกับเขาที่เพิ่งถามไปเมื่อสักครู่ แต่เขาก็ไม่ได้ถามเรื่องราวอะไรจากผู้เป็นยาย
"ท่านยายข้ากลับก่อนนะครับ ดูแลตัวเองด้วยนะแล้วข้าจะมาเยี่ยมท่านใหม่"ชินยะกอดแล้วหอมที่แก้มนั่นเบาๆก่อนจะผละออกไปหาโทชิยะที่ยืนรออยู่
"โทชิยะ ข้าฝากเจ้าตัวดีกับเจ้าด้วยนะ"หญิงชราโบกมือลาทั้งสอง
"ครับข้าจะดูแลอย่างดีเลยครับท่านยายอย่าได้เป็นห่วง"โทชิยะส่งยิ้มให้กับหญิงชรา แล้วจูงมือชินยะเดินไปที่ม้าที่ผูกไว้กับต้นไม้หน้าบ้านหลังเล็กนั่น.... ชินยะเป็นคนเดียวที่เขารักจะดูและปกป้องตลอดไป เขาจะไม่ทำให้คนๆนี้ต้องเสียใจอย่างเด็ดขาด
@@@@@@@
TSUZUKU
ปล.ฟิคส่วนใหญ่ที่แต่งจะเป็นคู่DK(ดายกะโอ้)อ่า เค้าชอบคู่นี้ถนัดแต่งคู่นี้ทอดจิกะชินยะก็แต่งนะไว้จะมาลงรอไปก่อน อิอิ :haun5:
-
ในเมื่อคนแต่งชอบคู่นี้ คนอ่านจะขัดได้อย่างไรเล่า.... :interest:
(แต่ก้อยังแอบรอนู๋ชินกะทจจี้อยู่นะ หุหุ :laugh:)
มาต่อไวๆนะ รักษาสุขภาพด้วย
สปิริตแรงกล้ามาก ไม่สบายยังอุตส่าห์แต่งฟิคให้อ่าน นับถือๆ :myeye:
-
รออ่านน๊า ป้าคนสวย หายไวๆด้วยน๊าคับ :yeb:
-
หายไวๆนะครับ พักผ่อนเยอะๆครับ
:teach:
-
Lavender
Part: 4
By: Toshinya
*ก๊อกๆๆ * เสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าบ้าน ชายหนุ่มร่างบางเจ้าของเรือนผมสีม่วงสวยที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้เดินมาเปิดรับ
"ครับ"เขาขานรับออกไปเมื่อเปิดประตูออกไปก็พบเพื่อนทั้งสองยืนอยู่ที่หน้าประตู
"อ้าว ชินยะ โทชิยะเข้ามาข้างในก่อนสิ"เขาผายมือแล้วเบี่ยงตัวไปด้านข้างเชิญผู้มาเยือนทั้งสองให้เข้ามายังข้างใน
"คาโอรุข้ามีเรื่องจะมาบอกเจ้า"ผู้ที่เอ่ยขึ้นไม่ใช่ชินยะแต่เป็นโทชิยะที่เอ่ยขึ้นแทน
"หือ?"คาโอรุทำหน้าสงสัย
"ข้ากะชินยะไปหาท่านยายมา ถามท่านเกี่ยวกับเรื่องบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ข้ากะชินยะอยากให้เจ้าเดินทางไปค้นหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ทางเหนือ เจ้าจะได้ใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนสีผมของเจ้าให้เป็นเหมือนอย่างพวกเรา ข้าจะอธิบายเรื่องราวอย่างละเอียดให้เจ้าฟัง....."โทชิยะเล่าเรื่องราวอย่างคร่าวๆให้กับเขาฟัง คาโอรุพยักหน้ารับเป็นการรับรู้ ในใจของเขานั้นเริ่มมีความหวังขึ้นมา
"ขอบใจเจ้ามากชินยะ โทชิยะ ที่เจ้าคอยให้ความช่วยเหลือข้ามาตลอด ข้าซึ้งในน้ำใจของพวกเจ้าเหลือเกินเพื่อนรักของข้า"น้ำตาแห่งความปิติเอ่อคลอเต็มนัยน์ตาสวยทั้งสองข้างของคาโอรุ ชินยะโอบกอดร่างนั้นเบาๆเพื่อปลอบโยน
"ข้าอยากให้เจ้าเดินทางโดยเร็วที่สุด เจ้ารีบเตรียมตัวเหอะเดี๋ยวข้าจะช่วยเจ้าจัดของ"ชินยะที่ผละออกมาจากร่างนั้นลุกขึ้นเดินไปช่วยคาโอรุจัดของ
"อีก 2-3 วัน ข้าจะออกเดินทาง"คาโอรุหันมายิ้มให้กับเพื่อนทั้งสอง
@@@@@@@
ท่านดายครับ ได้เรื่องแล้วครับ"นาโอะที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาบุคคลทั้งสองที่นั่งอยู่ในบริเวณภายในปราสาท
"เอ้า! รีบอะไรนักหนา พักหายใจก่อนก็ได้ใจเย็นๆ"เคียวเอ่ยขำๆกับท่าทางของคนรักตนที่กึ่งพูดกึ่งวิ่งมาพร้อมๆกันอย่างรีบร้อน
"แฮ่กๆ ท่านดายข้าไปถามท่านยายได้เรื่องมาแล้วครับ ท่านยายบอกว่า......"นาโอะเล่ารายละเอียดของเรื่องทั้งหมดให้ดายฟังอย่างคร่าวๆ เกี่ยวกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เขาได้ไปถามไถ่ผู้เป็นยายของเขามา ดายพยักหน้าฟังเรื่องราวนั้นอย่างตั้งใจ
"ขอบใจเจ้ามากนาโอะ ที่เจ้าอุตส่าห์ไปถามไถ่มาให้ข้า ข้าตั้งใจจะออกเดินทางในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้"บัดนี้ในใจของเขาเริ่มมีความหวัง
"ข้าจะขอเดินทางไปกะท่านด้วยครับท่านดาย ข้าจะคอยดูแลและอารักขาท่านครับ"ชายร่างเล็กมุ่งมั่นอย่างเต็มที่เอาเองก็หวังเอาไว้เหมือนกันว่าอยากให้นายของเขาได้มองเห็น
"งั้นเดี๋ยวข้าจะไปเตรียมของให้นะครับท่านดาย เจ้าก็เช่นกันเคียวข้าวของของเจ้าข้าก็จะจัดการให้"นาโอะลุกขึ้นเดินออกไปอีกด้านจัดการเก็บข้าวของที่จำเป็นให้แก่บุคคลทั้งสอง
@@@@@@@
"ข้าไปก่อนนะขอบใจเจ้าทั้งสองมากนะ แล้วข้าจะรีบกลับมาโดยเร็วที่สุด"เขาบอกลาเพื่อนทั้งสองที่มาส่งเขา
"ขอให้เจ้าเดินทางโดยปลอดภัย ค้นหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เจอ ข้าจะคอยเอาใจช่วยเจ้าอยู่ทางนี้ แล้วอย่าลืมเจ้าต้องมุ่งหน้าไปทางเหนือเท่านั้นคาโอรุ"ชินยะกำชับเขาอย่างหนักแน่นแล้วโอบกอดร่างนั้นด้วยความอาลัย
"ขอให้เจ้าโชคดีนะ ระวังตัวให้ดีด้วยล่ะ รีบกลับมานะพวกข้าจะรอเจ้าคาโอรุ"โทชิยะกล่าวคำลา จับมือเขาอย่างให้กำลังใจ
"ข้าจะรีบกลับมาไม่ต้องห่วงข้านะ โทชิยะเจ้าดูและชินยะให้ดีนะ "คาโอรุกระโดดขึ้นม้าตัวสวยแล้วควบออกไป หันหน้ามาโบกมือลาเพื่อนรักทั้งสองอย่างอาลัย
"ขอให้คาโอรุค้าหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ให้เจอด้วยเถอะข้าห่วงเขาเหลือเกินโทชิยะ"ชินยะซบไปที่ไหล่กว้างนั่น
"เขาต้องปลอดภัยข้าแน่ใจ"โทชิยะบีบมือร่างบางที่อยู่เคียงข้างแน่น
"เรากลับกันเถอะ"ชินยะจูงมือร่างสูงเดินออกจากบริเวณบ้านของคาโอรุ
@@@@@@@
"พวกข้าไปนะนาโอะเจ้ารอข้าอยู่ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงข้าจะรีบกลับมาหาเจ้าโดยเร็วที่สุด ข้าสัญญา"เคียวกอดร่างบางตรงหน้าด้วยความอาลัย
"ฮึก เจ้าต้องรีบกลับมานะเคียวข้าจะรอเจ้า ฮึก...เจ้าให้ข้าไปด้วยไม่ได้เหรอ? ฮึก "นาโอะพูดพลางปาดน้ำตาที่แก้มนวลของตนออก
"ไม่ได้หรอกหนทางข้างหน้ามันอันตราย จะเจออะไรบ้างก็ไม่รู้ข้าห่วงเจ้า เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่แหละนาโอะ อย่าร้องไห้สิไม่ได้จากกันตลอดกาลซะหน่อย เงียบซะนะอย่าร้อง"เคียวผละอ้อมกอดออกจากร่างนั้น แล้วจูบซับทางน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาสวยของคนรักอย่างอ่อนโยน เป็นสัมผัสที่นาโอะรู้สึกอบอุ่น
"ไปกันเถอะเคียวสายมากแล้ว"ดายร้องเรียกชายหนุ่มร่างเล็กให้รีบออกเดินทาง เคียวผละออกจากร่างบางตรงหน้าแล้วตรงไปยังม้าตัวสวยที่ผูกอยู่ติดกับต้นไม้
"กลับมาเร็วๆนะข้าจะรอ"นาโอะโบกมือลาแก่บุคคลทั้งสองที่ห่างออกไปไกลพอสมควร
"ความหวังของข้าเริ่มจะเป็นจริงแล้วสินะเคียว"ดายพูดฝ่าสายลมขณะที่ม้าวิ่งมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ เขาทั้งสองมุ่งหน้าไปทางเหนือตามที่นาโอะได้บอกไว้ ม้าของดายได้รับการฝึกมาอย่างดีถึงแม้ว่าตัวเขาจะมองไม่เห็นก็ตาม ม้าของเขาวิ่งตามม้าของเคียวในระยะไล่เลี่ยกัน เดินทางมาได้ครึ่งค่อนวันโดยไม่ได้หยุดพัก
"เราพักกันหน่อยเถอะครับท่านดายข้างหน้ามีธารน้ำตกเล็กๆด้วยครับ จะได้ล้างหน้าล้างตาแล้วค่อยออกเดินทางต่อ"เคียวหยุดชะงักแล้วลงจากหลังม้า จูงม้าทั้งสองตัวไปที่ลำธารตรงหน้าปล่อยให้พวกมันดื่มน้ำแล้วเขานำมันไปผูกกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้น เขาเดินมาหาดายที่นั่งอยู่บนโขดหินข้างลำธาร
"ข้าว่าพวกเราคืนนี้พักกันที่นี่เถอะแล้วพรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางกันต่อ เจ้าว่ายังไง"ดายหันมาถามความเห็น
"ครับ เดี๋ยวข้าจะออกไปเดินสำรวจบริเวณนี้สักหน่อย เดี๋ยวข้าจะกลับมาท่านรอข้าอยู่ที่นี่นะครับ" เคียวพูดแล้วเดินออกไปแถวบริเวณป่านั้น เขาเดินสำรวจไปเรื่อยๆ....
@@@@@@@
TSUZUKU
ปล.ขอบคุณทุกคนค๊าบสำหรับกำลังใจ เห่อๆ และแล้วก็ไปหาหมอรอบที่5มาจนได้ ฮ่ะๆอีกไม่กี่วันก็จะป่วยครบเดือนแระ เห่อๆ ก็อยากจะหายไวๆอยู่เหมือนกันแหละนะ
แล้วจะมาต่อใหม่อีกนะคับ เอารูปนายเอกมาให้ดูด้วย(เมื่อสมัยยังหัวม่วงอยู่)
(http://tinypic.com/4g8ondl.jpg)
-
Lavender
Part: 5
By: Toshinya
ทางด้านชายหนุ่มร่างบางเจ้าของเรือนผมสีม่วงสวย เขาออกมาจากหมู่บ้านได้มาระยะทางไกลพอสวมควรแล้ว ขาขี่ม้ามาเรื่อยๆโดยที่ยังไม่ได้แวะพักที่ไหนเลย จวบจนพลบค่ำชายหนุ่มจึงตัดสินใจแวะพักกลางทาง เขาลงจากหลังม้าตัวสวยแล้วนำมันไปผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่บริเวณนั้น เขาก่อกองไฟอยู่ข้างต้นไม้ต้นหนึ่งจัดการกับอาหารเย็นที่นำติดตัวมาด้วย เขานั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยตามลำพัง
"เราเดินทางมาได้ระยะทางพอสวมควรแล้วอีกไกลมั้ยนะ กว่าจะได้พบบ่อน้ำนั่น"เขานั่งพึมพำอยู่คนเดียว ซักพักเขาได้ยินฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ เขาถึงกับอุทานเบาๆด้วยความตกใจเขาไม่อาจรู้ได้เลยว่าเสียงฝีเท้าที่กำลังเข้ามาใกล้ๆนั้นเป็นใครกัน
"จะเป็นพวกโจรป่ารึเปล่าน่ะ ทำยังไงดีคาโอรุจะทำยังไงดี"เขาพึมพำก่อนจะหาที่หลบซ่อน เขาไปหลบที่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง แล้วปิดปากเงียบสนิท ชายร่างเล็กเจ้าของเรือนผมสีทองเดินมาหยุดอยู่ที่ตรงบริเวณที่เขาเคยอยู่ ชายดังกล่าวจ้องมองกองไฟด้วยความสงสัย
"แถวนี้มีคนอยู่ด้วยรึ? เอ...ก็ไม่เห็นมีใครเลยนี่"ชายร่างเล็กพึมพำพลันมองไปเห็นเจ้าม้าตัวสวยที่ผูกติดกับต้นไม้ใหญ่
"ม้าของใครกัน?"ชายร่างเล็กเดินตรงเข้าไปหาม้าตัวนั้น แล้วลูบที่แผงคอของมันเบาๆ
"ทำไมยังไม่ไปซะทีน้า"คาโอรุพูดเบาๆกับตัวเอง มือปิดปากตัวเองสนิท เขาเคลื่อนกายไปมองคนที่อยู่กับม้าของเขา ทันใดนั้น คาโอรุก้าวพลาดจนไปเหยียบเอากิ่งไม้เข้า
* กร๊อบ!! * ชายร่างเล็กหันควับไปมองหาที่มาของต้นเสียงนั้นทันที เขาตะโกนถามออกไป
"ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ? ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครจงออกมาซะดีๆอย่าให้ข้าต้องใช้กำลัง"เคียวพูดพลางกระชับดาบที่อยู่ข้างกายมองหาไปรอบๆบริเวณนั้น คาโอรุได้แต่ลนลานทำอะไรไม่ถูก
@@@@@@@
"ใครที่อยู่ตรงนั้นออกมาซะดีๆ อย่าให้ข้าต้องใช้กำลังจะดีกว่านะ"เคียวกล่าวเสียงเย็น หันหน้าไปมาเพื่อมองหาบุคคลที่หลบซ่อนอยู่ เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงาเขาชักเริ่มมีน้ำโหขึ้นมา
"จะหลบอยู่อีกนานมั้ย? ดี! ข้าจะเป็นคนลากเจ้าออกมาเอง"เคียวลากน้ำเสียงดุมุ่งตรงไปหาที่มาของเสียงที่เขาได้ยินก่อนหน้านี้ คาโอรุที่หลบอยู่ละล่ำละลักได้แต่ทำอะไรไม่ถูก ถ้าเขาถูกจับตัวได้จะทำยังไงดี สมองของเขาเริ่มสั่งการให้ขาทั้งสองข้างขยับเพื่อจะหนีทันที เมื่อกำลังจะก้าววิ่งออกไปเขาก็ถูกชายดังกล่าวเจอตัวเข้าซะแล้ว ชายคนนั้นได้ล็อคตัวเขาไว้จากด้านหลัง ถึงแม้ว่ารูปร่างจะต่างกันแต่ชายคนนั้นก็ล็อคตัวของเขาเอาไว้แน่นขยับไปไหนไม่ได้ มือก็ปิดปากของเขาเอาไว้แน่น แม้ความมืดจะครอบคลุมเอาไว้แต่สายตาที่ตื่นกลัวของเขานั้นบ่งบอกออกมาอย่างชัดเจน น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาคู่สวยทันที
"เจ้าเป็นใคร? บอกข้ามาซะดีๆ ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆด้วย"เจ้าของร่างที่ล็อคตัวเขาไว้เอ่ยถาม
"อ๊อย!!อ๊อย!!"เสียงอู้อี้ดังมาจากเรียวปากที่ถูกปิดสนิท เคียวจึงคลายมือออกจากเรียวปากนั่น แต่เขายังล็อคอีกร่างเอาไว้แน่น สายตาของเคียวเหลือบไปเห็นเส้นผมสีม่วงสวยของอีกฝ่ายถึงกับผงะทันที เพราะเขายังไม่เคยเห็นใครที่มีเรือนผมสีนี้มาก่อนจึงเกิดอาการตกใจเล็กน้อย
"ทีนี้เจ้าจะบอกข้าได้รึยัง ว่าเจ้าเป็นใคร?"เคียวถามพลางจ้องหน้าอีกฝ่าย
"ข้า...ข-ข้า เอ่อ...ข้าชื่อคาโอรุ ข้ากำลังจะมุ่งหน้าไปทางเหนือ เจ้าปล่อยข้าก่อนได้มั้ย ข้าจ-เจ็บ"เคียวคลายการล็อคอีกฝ่ายออกทันที
"เมื่อกี้ข้าเรียกทำไมเจ้าถึงไม่ออกมา แล้วเอ่อ...ผมของเจ้าทำไม? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน แปลกจริงๆ"เคียวจ้องมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจตั้งแต่เกิดมาเค้าไม่เคยเจอใครที่มีเรือนผมสีประหลาดแบบนี้มาก่อนเลย
"จ-เจ้าเป็นมนุษย์หรือเปล่า?"เคียวถามพลางจ้องหน้าของอีกฝ่าย
"ถามแปลก? ข้าเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์น่ะสิ แล้วเจ้าล่ะเจ้าเป็นใคร?เป็นโจรหรือเปล่า?"คาโอรุถามกลับไปบ้าง
"ไม่ใช่ข้าไม่ใช่โจร แล้วข้าก็ชื่อเคียว ข้าเดินเข้ามาสำรวจป่าบริเวณนี้ต่างหากล่ะ ข้าเดินทางมาพร้อมกะนายของข้ากำลังจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือเหมือนกัน ตายล่ะ!ข้าทิ้งนายของเอาไว้"เคียวทำหน้านิ่วเหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างได้ จึงโพล่งออกมา
"ข้าต้องไปแล้วล่ะ ขอโทษด้วยที่ข้าทำให้เจ้าต้องตกใจ"เคียวพลุนพลันวิ่งออกไปทันที
"แปลกคน?"เขาพึมพำแล้วนั่งลงที่เดิม เขาไม่ได้คิดอะไรมากไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำว่าจะได้จบเจอกันอีก แล้วก็ได้พบเจอกับใครอีกคนที่เขาไม่คาดคิด....
@@@@@@@
TSUZUKU
-
อย่าพึ่งน้อยใจจิ ป้าอ่ะ มาอ่านแล้วนะ จะรออ่านตอน6นะคับ :yeb:
-
Lavender
Part: 6
By: Toshinya
ชายหนุ่มร่างสูงนั่งรอคนที่ตามเขามาด้วยความกังวล เป็นเวลานานพอสมควรแล้วที่ชายหนุ่มร่างเล็กเข้าไปสำรวจในป่า เขาไปไหนไม่ได้จึงได้แต่นั่งคอยให้อีกฝ่ายกลับมาเท่านั้น..... ชายหนุ่มร่างเล็กวิ่งมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ เขาโล่งใจที่ผู้เป็นนายยังนั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ไปไหน ไม่ได้รับอันตรายอย่างทีเขาคิด
"แฮ่กๆ...ท่านดายข้าขอโทษ...ข้าปล่อยให้ท่านนั่งรอข้าเพียงตามลำพัง"เคียวพูดปนอาการหอบ
"ข้าเป็นห่วงเจ้ามากเลยรู้มั้ย? เจ้าหายไปตั้งนานสองนาน"น้ำเสียงเชิงตำหนิอย่างเห็นได้ชัดแต่เจือปนไปด้วยความห่วงไย
"ข้าขอโทษครับที่ทำให้ท่านต้องเป็นห่วง"เคียวกล่าวอย่างสำนึกผิด
"เอาล่ะๆ แล้วเข้าไปในป่าไปเจออะไรมาบ้างล่ะไหนลองเล่าให้ข้าฟังหน่อยสิ"
"ครับ ข้าไปเจอคนๆหนึ่งครับ น่าแปลกมากครับผมของคนๆนั้นเป็นสีม่วงสวยข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยน่าแปลกจริงๆ จนข้าไม่แน่ใจนักว่าเขาใช่มนุษย์หรือเปล่า?..."เคียวเล่าเรื่องทั้งหมดให้แก่ผู้เป็นนายฟัง ดายนั่งฟังเรื่องราวทั้งหมดอย่างสนใจเป็นอย่างยิ่งตอนที่เคียวเล่าว่าได้เจอกับบุรุษเจ้าของเรือนผมสีม่วง
"เอาล่ะนี่ก็ดึกมากแล้วเราพักกันก่อนเถอะพรุ่งี้จะได้ออกเดินทางกันต่อ วันนี้เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว"
"ครับ"
"อีกไกลแค่ไหนกันนะกว่าจะค้นหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นั่น นี่เราก็เดินทางมาร่วมหลายวันแล้วไม่เห็นจะมีวี่แววอะไรเลยสักนิด"ชายหนุ่มร่างบางบ่นพึมพำ นี่เขาก็เดินทางรอนแรมเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้วยังไม่ถึงจุดมุ่งหมายเลย
"ข้างหน้ามีหมู่บ้านนี่ ลองเข้าไปหน่อยดีกว่า"เขามุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านที่เขาพบอยู่ข้างหน้าไม่ห่างเท่าไร คาโอรุจึงมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านนั่น พอไปถึงหมู่บ้านผู้คนที่อาศัยกันอย่างครึกครื้นนั้นมองเขาด้วยสายตาที่แปลกแตกต่างกันออกไป จนเขารู้สึกหวาดวิตก ทุกคนต่างจ้องมองเขาในใจของเขาเริ่มรู้สึกหวาดหวั่น
"เจ้า...เจ้าเป็นมนุษย์หรือเปล่า? ทำไมสีผมของเจ้ามันถึงได้..."เสียงหนึ่งในกลุ่มคนหมู่มากถามขึ้นมา
"ปิศาจ...ต้องเป็นปิศาจแน่ๆถึงได้มีสีผมประหลาดเช่นนี้ ออกไปนะออกไปให้พ้น ออกไปจากหมู่บ้านนี้ซะออกไปนะ"ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างขว้างปาสิ่งของใส่เขาเพื่อขับไล่เขาไปจากหมู่บ้านที่เขาพึ่งจะย่างก้าวเข้ามาได้ไม่นาน สายตาที่จ้องมองราวกับเขาเป็นตัวประหลาด เหมือนกับหมู่บ้านที่เขาเคยอาศัยอยู่ไม่มีผิด นี่เป็นเพราะโชคชะตากลั่นแกล้งเขาหรือเปล่าหนียังไงก็ไม่พ้นสักที คาโอรุวิ่งหนีออกจากหมู่บ้านนั้นมาอย่างไม่คิดชีวิตหยาดน้ำตาไหลรื้นอาบที่แก้มนวลทั้งสองข้าง เขาวิ่งๆ วิ่งมาเรื่อยๆจนไปชนใครบางคนเข้า
* ปึก!! * ทั้งสองร่างกระเด็นไปคนละทางเนื่องจากแรงกระแทกที่มากพอสมควร
"อุก เจ็บ"
"วิ่งมายังไงเนี่ย ไม่รู้จักมองข้างหน้า ท่านดายเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ? เจ็บตรงไหนมั้ยครับ?อ๊ะ...เจ้านี่..."เคียวโวยวาย หันไปมองผู้เป็นนายที่ถูกชนเข้าเมื่อครู่แล้วช่วยพยุงให้ลุกขึ้น เขาชะงักทันทีเมื่อมองหน้าวิ่งฝ่ายที่วิ่งมาชนแต่ยังนั่งอยู่กับพื้น
"ข-ข้าขอโทษ"คาโอรุกล่าวด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด
"ข้าไม่เป็นไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือเปล่า? ลุกไหวมั้ย?"ดายถามอีกฝ่ายอย่างห่วงไย
"ข้าก็ไม่-โอ้ย!!"คาโอรุพยายามยันกายให้ลุกขึ้นยืน แต่ก็ไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้เนื่องจากอาการเจ็บที่ข้อเท้า
"ข้อเท้าคงแพลงเดี๋ยวข้าจะช่วยเจ้าเอง"ดายพยายามความหาอีกฝ่าย เคียวที่มัวแต่เก็บข้าวของอยู่หันมาเห็นพอดี จึงมาช่วยพยุงให้เขาลุกขึ้น คาโอรุจึงสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดวงตาทั้งสองข้างนั้นปิดสนิท 'ตาของเขาบอดนี่' คาโอรุพึมพำในใจ
"เจ้าวิ่งมาจากไหนเนี่ย?"เคียวถามด้วยความสงสัย
"ข้าวิ่งมาจากหมู่บ้านข้างหน้า"คาโอรุตอบหน้าสลด คิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสักครู่ น้ำตาเอ่อรอบดวงตาคู่งามอีกครั้ง
"เจ้าสบายดีหรือเปล่า?"เคียวถามเมื่อสังเกตอาการของอีกฝ่าย
"ข้าไม่เป็นไร ข้าต้องขอโทษพวกท่านอีกครั้งนะครับ"คาโอรุก้มหน้าก้มตาขอโทษอีกฝ่าย
"ไม่เป็นไรหรอก ข้าไม่เป็นอะไรมาก"ดายยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน คาโอรุยิ้มตอบกลับให้อีกฝ่ายเช่นกัน ถึงแม้อีกฝ่ายจะมองไม่เห็นก็ตามแต่เขาก็อยากแสดงความจริงใจออกมา
"เจ้าชื่ออะไร? ข้าชื่อดาย เดินทางมาจากอีกเมือง กำลังจะมุ่งหน้าขึ้นเหนือ แล้วเจ้าล่ะกำลังจะไปไหน?"ดายเอ่ยปากถามเขาอย่างละเอียด
"ข้าชื่อคาโอรุ กำลังจะมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือเหมือนกันครับ"คาโอรุตอบคำถามอีกฝ่าย ใบหน้าสวยจ้องใบหน้าคมอย่างไม่วางตา มีความรู้สึกแปลกๆเมื่ออยู่ใกล้คนๆนี้ บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร...
"งั้นเจ้าก็เดินทางไปพร้อมกับพวกเราเลยสิ ถ้าไม่รังเกียจ"ดายเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายให้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน เขารู้สึกพอใจกับอีกฝ่ายเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าจะเพิ่งพบกัน ถึงแม้ว่าดวงตาของเขาจะมองไม่เห็นอีกฝ่ายแต่เขาก็สามารถรับรู้ได้ความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
"ต-แต่ จะไม่รบกวนพวกท่านหรือครับ"คาโอรุมีท่าทีละล่ำละลักรู้สึกเกรงใจ
"ไม่ต้องแต่หรอกเจ้าไปกับพวกเราแหละ ดีแล้ว"เคียวพยายามเอ่ยชวนอีกคน คาโอรุทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยปากตกลง
"ครับ ข้าจะเดินทางไปพร้อมกับพวกท่าน" 'อย่างน้อยเคียวก็ไม่รังเกียจเรา แล้วเขาก็มองไม่เห็นสีผมของเราเห็นความน่ารังเกียจของเรา' คาโอรุคิดอยู่ในใจ จากนั้นทั้งสามก็ออกเดินทางไปด้วยกันโดยที่คาโอรุนั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกับดาย เพราะม้าของเขานั้นหายไปตั้งแต่ตอนที่เขาวิ่งออกมาจากหมู่บ้านนั้นแล้ว
"คาโอรุ เจ้ามุ่งหน้าไปทางเหนือทำไม?"ดายเอ่ยถามอีกฝ่ายฝ่าสายลมออกไป
"เอ่อ ข้ากำลังเดินทางไปค้นหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์น่ะท่าน แล้วท่านล่ะ"คาโอรุหันหน้าไปถามอีกฝ่าย ใบหน้าทั้งสองห่างกันเพียงคืบเดียวเท่านั้น ใจของเขากลับเต้นไม่เป็นจังหวะ เขารีบชักหน้ากลับทันทีใบหน้าขาวนวลแดงระเรื่องอย่างเห็นได้ชัด อีกฝ่ายคงไม่รู้.....
*****************
TSUZUKU
-
Lavender
Part: 7
By: Toshinya
"หือ?เจ้ากำลังจะไปหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือ?"ดายเองรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยอีกฝ่ายกำลังมุ่งหน้าไปที่ๆเดียวกับที่เขากำลังจะไป
"ข้าเองก็จะไปหาบ่อน้ำนั่นเหมือนกัน"ดายเองก็ตอบจุดประสงค์ของเขาให้อีกฝ่ายได้รู้
"ท่านเองก็ไปหาบ่อน้ำนั่นเหมือนกะข้า?"คาโอรุรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เมื่อได้รับรู้จุดประสงค์ของอีกฝ่าย ดายไม่ได้คิดอะไรมาก 'ได้เพื่อนร่วมทางเพิ่มก็ดีเหมือนกัน'เขาคิดในใจ ทุกคนต่างก็มุ่งหน้าไปที่เดียวกัน ทั้ง 3 คนขี่ม้าไปเรื่อยๆ จวบจนพลบค่ำจึงหยุดพัก
"พักซักหน่อยนะครับท่านดาย นี่ก็ค่ำมากแล้ว เดี๋ยวข้าจะเตรียมอาหารให้นะครับ คาโอรุเจ้านั่งเฉยๆก่อนดีกว่าขาของเจ้ายังไม่หายดีไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวข้าจัดการทุกอย่างเอง"เคียวว่าเดินแยกไปอีกทางเพื่อทำหน้าที่ของเขา
"ขาเจ้ายังไม่หายดีใช่มั้ย? มานั่งใกล้ๆข้าสิเดี๋ยวข้าจะช่วยนวดให้"ดายเชื้อเชิญเขาให้เข้ามานั่งด้วยกัน แต่คาโอรุก็รีบปฏิเสธ
"ไม่เป็นไรครับ ข้าไม่อยากรบกวนท่าน"คาโอรุปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างสุภาพ
"อย่าได้เกรงใจเลย ถึงแม้ว่าข้าจะมองไม่เห็น แต่ฝีมือนวดของข้ารับรอง...ขาของเจ้าหายดีแน่เชื่อข้าเถอะ มานั่งใกล้ๆข้านี่สิมานั่งตรงนี้"ท่าทีของดายทำให้เขาปฏิเสธไม่ได้เลย จึงขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้อีกฝ่าย
"เอาล่ะ ยกขาขึ้นมา...เป็นยังไงบ้างดีขึ้นมาบ้างหรือยัง?"แรงนวดของดายสัมผัสที่ขาของเขาทำให้คาโอรุรู้สึกผ่อนคลาย เขาหันหน้าไปมองอีกฝ่าย รู้สึกร้อนที่ใบหน้าอย่างบอกไม่ถูก การกระทำของดายดูอ่อนโยนเหลือเกิน เขาได้แต่หลับตาพริ้มอย่างมีความสุข รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมายังมือคู่นั้น นี่เขาเป็นอะไรกัน?.....
@@@@@@@
"โทชิยะข้าเป็นห่วงคาโอรุเหลือเกิน ไม่รู้ว่าป่านนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"ชินยะที่นั่งอยู่ศาลาริมน้ำภายในบริเวณบ้านของเขากับโทชิยะรำพันถึงเพื่อนรักที่ออกเดินทางได้ไปหลายวันแล้ว
"นั่นสินะข้าเองก็ห่วงเขาเหมือนกัน"โทชิยะเดินมานั่งข้างๆ ร่างบางที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว พลางจับที่มือของร่างบางมาวางแนบไว้ที่ตัก
"อืม....ข้าห่วงว่าคาโอรุจะได้รับอันตราย ออกเดินทางไปเพียงคนเดียวอย่างนี้"ร่างบางก็ทำท่าจะห้องไห้ หยาดน้ำตารื้นอยู่รอบดวงตาสวย ในที่สุดหยาดน้ำใสก็ไหลเรื่อยลงมาบนใบหน้าสวย
"เจ้าอย่าได้กังวลไปอย่างนั้นเลยชินยะ... ข้าว่าคาโอรุต้องปลอดภัยแน่ๆ ข้าเชื่ออย่างนั้นนะ... เจ้าอย่าคิดมากสิชินยะ ข้าเห็นน้ำตาของเจ้าแล้วข้าก็อดที่จะใจหายไม่ได้...อย่าร้องไห้เลยนะคนดีของข้า"โทชิยะพยายามปลอบใจอีกฝ่ายเรียวนิ้วสวยไล้เกลี่ยทางน้ำตาที่ไหลลงมา มืออีกข้างลูบไล้เส้นผมนุ่มสวยที่ระลงมาบนใบหน้าอีกฝ่าย
"ข้าก็ขอให้เป็นอย่างที่เจ้าพูดเถอะนะ"ชินยะโอบกอดร่างสูงที่นั่งข้างๆ แน่น โทชิยะโน้มใบหน้าลงมาให้ได้ระดับเดียวกันกับร่างบาง ริมฝีปากสวยได้รูปค่อยๆบรรจงสัมผัสที่ริมฝีปากเรียวของร่างบางอย่างแผ่วผิวก่อนจะเน้นย้ำลงไป เป็นสัมผัสที่นุ่มนวลแต่เนิ่นนานจนร่างบางถึงกับเคลิ้มได้เลยทีเดียว เป็นความอ่อนโยนที่ร่างบางได้รับจากร่างสูงเสมอจากความรักที่ทั้งคู่ได้ให้แก่ซึ่งกันและกันตลอดมา ร่างสูงค่อยๆถอนริมฝีปากออกอย่างแผ่วเบา ใบหน้าของร่างบางนั้นแดงระเรื่อ ใบหน้าสวยได้แต่ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย ถึงแม้เขาจะได้รับสัมผัสอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเขินอายอย่างนี้ทุกทีไป โทชิยะได้แต่มองความน่ารักของอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม ท่าทางอย่างนี้ของอีกฝ่ายทำให้มัดใจของเขาได้ดีเลยทีเดียว อดไม่ได้ที่จะมอบสัมผัสอย่างนี้ให้อีกครั้ง ชินยะไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เขากลับยินดีรับสัมผัสอ่อนโยนอย่างนี้ด้วยซ้ำไป....
"เย็นแล้วเข้าไปข้างในบ้านกัน อากาศหนาวอย่างนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย"โทชิยะจูงมือร่างบางแล้วเดินเคียงข้างกันกลับเข้าไปในบ้านสวยของพวกเขาทั้งคู่
"ข้าหิวแล้วล่ะชินยะ ทำอะไรให้ข้าทานหน่อยสิ ข้าหิวมากๆเลยล่ะ"เมื่อก้าวเข้าประตูบ้านโทชิยะก็ร้องขึ้นมาทันที มือกอดที่เอวจากทางด้านหลังของร่างบางแน่น ทำให้ชินยะอดอมยิ้มกับท่าทางของร่างสูงไม่ได้
"อื้อได้สิ เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าล่ะ? ข้าจะได้ทำให้"ชินยะหันมาถามร่างสูงที่ยังโอบกอดเขาอยู่
"อืม..." โทชิยะทำสีหน้าครุ่นคิด "รู้แล้วล่ะ ข้าอยากกินเจ้ามากๆเลยล่ะ ได้มั้ย? โอ้ย!!"โทชิยะทำสีหน้าทะเล้น แต่ก็ต้องนิ่วหน้าทันทีเมื่ออีกฝ่ายหยิกหมับเข้าที่แขน
"เจ็บนะ"โทชิยะโอดครวญทันที
"ทะลึ่ง!! เจ้าคิดอะไรอยู่? อย่านึกว่าข้าไม่รู้นะ"ชินยะหน้างอ แต่ใบหน้านั้นแดงระเรื่อจนถึงใบหู โทชิยะเห็นเข้าจึงอดที่จะอมยิ้มไม่ได้
"ชินยะเจ้านี่น่ารักจริงๆ อย่างนี้ไม่ให้ข้ารักเจ้าได้ไง"โทชิยะพูดพลางซุกไซ้ที่แก้มขาวนวลของอีกฝ่าย มือยังกอดร่างบางแน่นไม่ยอมปล่อย
"โทชิยะบ้า! บ้าที่สุด!!"ชินยะที่เขินจนเก็บอาการไม่อยู่แสดงออกมาให้ร่างสูงได้เห็นอย่างชัดเจน ใบหน้าหวานนั้นแดงระเรื่อไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
"ถึงข้าจะบ้าแต่ข้าก็บ้ารักเจ้านะ"โทชิยะกระซิบที่ริมหูของร่างบางในอ้อมกอด อ้อมกอดนั้นคลายออกเล็กน้อยสบโอกาสที่จะทำให้ร่างบางขืนตัวออกไป เลี่ยงหนีเพื่อจะไปทำอย่างอื่นเพื่อหลบเลี่ยงอาการเขินอายของตน ขืนอยู่อย่างนั้นนานกว่านี้คงไม่เป็นอันทำอะไรแน่ๆ โทชิยะไม่ได้ตามร่างบางไปได้แต่ยืนยิ้มกริ่มอยู่อย่างนั้น สักพักจึงเดินเข้าห้องไปเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำชำระร่างกาย
TSUZUKU................
-
เอิ้กๆ ต่อเร็วจังอ่านไม่ถึงไหนเลย เม้มไว้ก่อนล่ะกาน
จะเข้ามาอ่านเรื่อย
:myeye: :myeye: :myeye: :myeye: :myeye: :myeye:
-
Lavender
Part: 8
By: Toshinya
ร่างสูงย่างเท้าเข้ามาในครัวที่มีร่างบางคนรักของเขากำลังง่วนกับการจัดเตรียมอาหารอยู่นั้น ร่างสูงเดินเข้าไปโอบกอดเอวของร่างบางจากทางด้านหลังแน่น
"ไม่เอาน่าโทชิยะข้ากำลังยุ่งอยู่นะเจ้าไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้วล่ะ"โทชิยะทำตามที่ชินยะบอกอย่างว่าง่าย เขาเดินไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารสักพักร่างบางก็ยกอาหารมาวางบนโต๊ะ
"อื้อ น่าทานจังเลย...หอมด้วย...ว้าว!ของโปรดของข้าทั้งนั้นเลยนี่...อืออร่อย..."แล้วคำชมมากมายก็ออกมาจากปากของเขาทำให้ชินยะเขินอายจนเก็บอาการไม่อยู่จึงได้แต่ก้มหน้าลงไป โทชิยะเห็นท่าทางอย่างนั้นถึงกับยิ้มหน้าบานเลยทีเดียว เพราะท่าทางของคนตรงหน้าช่างน่ารักน่าดึงดูดเขาเหลือเกิน เขาชอบที่จะมองท่าทางอย่างนั้นมากเลยทีเดียว....
"นี่ก็ดึกมากแล้วนะเข้านอนกันเถอะ"โทชิยะร้องเรียกร่างบางที่นั่งอยู่ที่หน้าเตาผิง ดึงมือนุ่มของร่างบางให้ลุกขึ้นแล้วเดินตามมายังห้องของคนทั้งสอง
"ชินยะเจ้านอนไปหลับเหรอ?"โทชิยะเอ่ยถามชินยะอย่างสงสัยเพราะอาการพลิกตัวไปมาของคนที่นอนอยู่ข้างๆ
"อืม...ห่วงคาโอรุน่ะ"ชินยะตอบเสียงแผ่ว โทชิยะจึงขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ รั้งร่างบางเอามาในอ้อมกอด แล้วจูบที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา เขาเข้าใจความรู้สึกของคนตรงหน้านี้มาก เพราะอาการขี้ห่วงและเป็นกังวลนั้นมักจะทำให้ชินยะเป็นอย่างนี้เสมอ เขารู้เป็นอย่างดีเพราะเมื่อก่อนตอนที่เขาเข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์กับเพื่อนในหมู่บ้าน ทำให้ต้องไปค้างคืนในป่าเป็นเวลา 3 วัน พอกลับมาก็เจอชินยะที่นั่งรอเขานิ่งอยู่อย่างนั้นแทบจะไม่ขยับตัวไปไหนเลยพอพบหน้าเขาก็โผเข้ากอดเขาแน่นร้องไห้ออกมาไม่หยุด ปากก็พร่ำเพ้อไปต่างๆนาๆกว่าจะปลอบให้หายได้ก็เล่นเอาเหนื่อยไปเลยเหมือนกัน สำหรับชินยะแล้วคาโอรุเป็นเพื่อนรักเพียงคนเดียว....
@@@@@@@
ระยะเวลาผ่านมาก็หลายวันเข้าไปแล้วบุคคลทั้ง 3 ยังคงเดินทางกันต่อไป รู้สึกว่าระยะทางมันช่างแสนไกลเหลือเกินไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขากำลังตามหากันอยู่ ไม่มีวี่แววเลยซักนิด อีกนานแค่ไหนกันนะการเดินทางที่แสนยาวไกลมันช่างเหนื่อยล้าเหลือเกิน ยิ่งยังไม่มีวี่แววของจุดหมายปลายทางละก็....มันแทบจะทำให้หมดกำลังใจไปเลยทีเดียว แต่ในใจของพวกเขายังมีความหวังกันอยู่จึงไม่คิดที่จะยอมแพ้อย่างง่ายๆ มุ่งหน้ากันต่อไปเพื่อจุดหมายปลายทางที่รออยู่ข้างหน้าถึงแม้จะยากเย็นแสนเข็นกันสักเท่าไรก็จะไม่หวั่น
"ข้าว่าพวกเราหยุดพักกันก่อนเถอะเดินทางมานานแล้ว จากนั้นค่อยไปกันต่อ"ดายพูดด้วยน้ำเสียงสั่นจนคาโอรุที่นั่งมาด้วยกันรู้สึกแปลกใจ ก่อนจะหันไปมองแลเห็นใบหน้าอันซีดเซียวของร่างสูง
"ดายท่านเป็นอะไรหรือเปล่า ดูหน้าของท่านซีดเหลือเกิน"มือเรียวสัมผัสที่หน้าผากของร่างสูง แต่ก็ต้องผละออกทันทีเพราะความร้อนมีมากเกินไป
"ดายท่านไม่สบายนี่"คาโอรุร้องเสียงตระหนก เคียวจึงรีบมาดูอาการของผู้เป็นนายของเขาทันที ทั้งสองช่วยประคองร่างสูงลงมาจากม้าทันที แล้ววางให้นอนราบกับพื้นหญ้า
"ตัวร้อนมากเลยเคียว เจ้าอยู่ดูทางนี้นะเดี๋ยวข้าจะเอาผ้าไปชุบน้ำมา"คาโอรุรีบวิ่งไปยังลำธารที่อยู่ใกล้ๆทันที รีบนำผ้าที่ชุบน้ำมาเช็ดตามใบหน้า ลำคอ ไล่มาตามหน้าอก ร่างสูงรับรู้ถึงความอบอุ่นของฝ่ามือนั่นที่ค่อยๆบรรจงสัมผัสร่างกายของเขาอย่างอ่อนโยน
"อือ...."ดายครางละเมอเพราะพิษของไข้ที่รุมเร้าเขาอยู่ ดวงตานั้นปิดลงสนิท
"เหงื่อออกมากเลย มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนมั้ยเคียว?"เคียวพยักหน้าหงึกหงักนำเสื้อผ้ามายื่นให้อีกฝ่ายจัดการให้อย่างเรียบร้อย
"ข้ามียาติดตัวมาด้วย หวังว่าคงจะทำให้อาการของเขาดีขึ้นมาบ้างนะ"คาโอรุส่งยิ้มให้กับเคียวที่นั่งอยู่ข้างๆ คาโอรุพยายามที่จะป้อนยาให้กับร่างสูงที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่แต่ด้วยความยากลำบากที่จะทำให้ร่างสูงทานยาได้โดยสะดวกคาโอรุจึงตัดสินใจจัดใบหน้าของร่างสูงที่ไม่ได้สติอยู่ให้ได้ระดับ ป้อนยาให้กับอีกฝ่ายด้วยริมฝีปากของเขาเองแล้วตามด้วยน้ำ เคียวได้แต่มองการกระทำทุกอย่างของคาโอรุ ปฏิกิริยาของคาโอรุที่มีต่อเจ้านายของเขาทำให้เขาไม่สงสัยเลยสักนิดว่าคาโอรุคิดยังไงกับเจ้านายของเขา ทำให้เคียวอดอมยิ้มไม่ได้
"เอ่อ เดี๋ยวข้าจะเตรียมอาหารให้นะ"เคียวเอ่ยปากบอกกับคาโอรุหลังจากที่เงียบมานานแล้วแยกตัวเดินออกไปอีกด้าน คาโอรุเฝ้ามองอาการของร่างสูงด้วยความเป็นห่วง ในใจของเขายอมรับได้แล้วละว่าเขารู้สึกอย่างไรกับดาย และมันก็ยากที่จะปฏิเสธได้ แต่เขาก็กลัวหลายอย่าง กลัวว่าดายจะรังเกียจเขาเพราะตัวของเขาเองในสายตาของคนอื่นมันช่างน่าเกลียดเสียเหลือเกิน ไม่มีใครเลยกล้าที่จะอยู่ใกล้เขา ทุกคนต่างพากันขับไล่เขาเหมือนกับว่าตัวเขาเป็นอะไรสักอย่างที่ทุกคนคิดกัน จะมีก็แต่โทชิยะและชินยะเพื่อนรักทั้งสองคนของเขาเท่านั้น แล้วก็ยังมีเคียวอีกคนที่ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนกันได้ ที่ดายไม่ได้รังเกียจเขาอาจจะเป็นเพราะดวงตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งพวกเขาหาบ่อน้ำศักด์สิทธิ์นั้นเจอเข้าแล้วดายก็ใช้มันรักษาดวงตาจนหายแล้วมองเห็น ดายจะรังเกียจเขามั้ยนะ? คาโอรุคิดไปต่างๆนาๆ หวาดกลัวกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า
"มาทางนี้เถอะคาโอรุปล่อยให้ท่านดายนอนพักเถอะ มาทานอาหารดีกว่าข้าเตรียมไว้แล้ว วันนี้เดินทางมาทั้งวันพักบ้างเถอะ"เคียวเรียกคาโอรุ คาโอรุหันหน้ายิ้มรับให้เคียวก่อนจะลุกขึ้นเดินตามชายร่างเล็กไปอีกด้าน
"คาโอรุ ข้ารู้นะว่าเจ้ารู้สึกยังไงกับท่านดาย "จู่ๆชายร่างเล็กก็เอ่ยปากพูดออกมาทำให้เขาตกใจไม่น้อย
"จ-เจ้ารู้??"คาโอรุก้มหน้าลง ใบหน้านั้นแดงระเรื่อ
"อืม...ใช่ แต่ไม่เป็นไรหรอกนะข้าไม่คิดจะว่าอะไรเจ้าหรอก ข้าดีใจเสียอีกที่เจ้ารู้สึกอย่างนั้น"คาโอรุเงยหน้าขึ้นมามองอีกฝ่ายก็พบกับรอยยิ้มของอีกฝ่าย
"ข-ข้ากลัวว่าเขาจะรังเกียจข้าเหลือเกินเคียว เพราะข้ามันน่ารังเกียจใครๆก็กลัวข้ากันทั้งนั้น เพราะความผิดปกติที่ข้ามีเส้นผมไม่เหมือนใคร"คาโอรุก้มหน้าลงอีกครั้ง แค่คิดน้ำตาก็พาลจะไหลลงมาเสียให้ได้
"เจ้าอย่าเพิ่งคิดมากสิ ข้าเชื่อว่าท่านดายไม่ได้คิดอย่างนั้นกับเจ้าแน่ๆเชื่อข้าสิ ท่านมีเหตุผลพอขนาดข้า ข้ายังไม่รังเกียจเจ้าเลยข้ายังสามารถเป็นเพื่อนกับเจ้าได้ เจ้ารักท่านดายใช่มั้ย?เพราะงั้นเจ้าอย่าได้กังวลไปเลยนะ"เคียวพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ
"ใช่ข้ารักเขาข้ามั่นใจ แต่ข้าไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไงกับข้า"น้ำเสียงนิ่งปนสะอื้น คาโอรุพยายามสะกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ไม่ยอมปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา เขารู้ดีว่าตัวเขาเองในตอนนี้อ่อนแอมากแค่ไหน
"เจ้าอย่าคิดมากเลยนะ"เคียวเดินเข้ามาใกล้ๆพลางตบไหล่อีกฝ่ายเพื่อเป็นการปลอบใจ
TSUSUKU..........................
อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแระ
-
ต่อไวไวนะรออ่านอยู่ :yeb: :yeb: :yeb:
-
Lavender
Part: 9
By: Toshinya
- รุ่งเช้า -
“อือ...อืม...อ๊ะ!!ปวดหัว”ร่างสูงที่นอนอยู่เริ่มรู้สึกตัวพยายามที่จะลุกขึ้น แต่อาการปวดที่ตามมาทำให้เขาแทบทรุดลงไปนอนอีกครั้ง คาโอรุที่อยู่อีกด้านหันมาเห็นร่างสูงที่รู้สึกตัวแล้วและกำลังพยายามที่จะยันตัวเองให้ลุกขึ้น เขาจึงรีบเข้ามาประคองทันที จัดให้อีกฝ่ายนั่งในท่าที่สบาย
“ดายท่านเป็นยังไงบ้าง? ดีขึ้นหรือยัง?”คาโอรุถามด้วยความเป็นห่วง มือเรียวสัมผัสที่หน้าผากของอีกฝ่ายเพื่อวัดระดับความร้อน ดายรับรู้ถึงสัมผัสอุ่นที่ผ่านมาจากมือของคาโอรุ เขาจำได้ทันทีเลยว่าเป็นสัมผัสเดียวกับที่เขาได้รับเมื่อคืนไม่มีผิด คนๆนี้สินะที่ดูแลเขาเมื่อคืน รวมถึงวิธีการป้อนยาป้อนน้ำนั่นด้วยใบหน้าของเขาแดงระเรื่อและร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
"เมื่อคืนเจ้าสินะที่เป็นคนดูแลข้า"จู่ๆดายก็โพล่งถามออกไป เมื่อได้ยินอย่างนั้นคาโอรุถึงกับสะดุ้งสุดตัว ไม่คิดว่าดายจะรู้ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อขึ้นมาทันที เคียวที่นั่งอยู่ถัดไปไม่ไกลได้ยินเข้าถึงกับอมยิ้มเลยทีเดียว
"ท...ท่านรู้??"คาโอรุเอ่ยถามอย่างตะกุกตะกัก
"อืม...ขอบคุณมากนะที่เจ้าคอยดูแลข้า"ดายยิ้มหวานให้คาโอรุที่ตอนนี้หน้าแดงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
"ไม่เป็นไรมิได้ครับ"คาโอรุก้มหน้าตอบเพื่อเก็บอาการเขินอายของตน
"มาทานข้าวกันเถอะ"เคียวพูดยกอาหารมาวางไว้ต่อหน้าดายและคาโอรุ
"ทานข้าวต้มครับท่านดาย"เคียวยื่นข้าวต้มในชามให้กับคาโอรุแล้วขยิบตาให้ มองตาเคียวคาโอรุรู้ความหมายทันทีพลางทำหน้าเหรอหรามองซ้ายมองขวาหน้านั้นแดงกล่ำ เคียวเห็นท่าทางของคาโอรุแล้วถึงกับอดหัวเราะไม่ได้ จึงได้แต่หัวเราะออกมาเบาๆเพราะเกรงว่าดายจะได้ยิน คาโอรุจึงต้องป้อนข้าวต้มให้กับดายด้วยอาการขัดเขินตลอดเวลา
"ขอบใจเจ้าอีกครั้งนะคาโอรุ"ดายกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้
"เอ่อ...ไม่เป็นไร...มิได้ครับ"
"ท่านดายดีขึ้นมากแล้วข้าว่าพวกเราออกเดินทางกันเถอะนะ"เคียวเอ่ยชวน ทั้งสองเห็นด้วยจึงพากันออกเดินทางเพราะเสียเวลากันมามากแล้ว สภาพร่างกายของดายเองก็แข็งแรงดี ในใจของดายนั้นเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไปเขาเองก็เริ่มที่จะแน่ใจแล้วล่ะว่า มันแปลกไปยังไงและเพราะใครกันที่ทำให้เขารู้สึกอย่างนั้น เพียงระยะเวลาที่ไม่นานทำให้ความรู้สึกของคนทั้งสองผูกพันธ์กัน เพียงแต่ว่ายังไม่มีใครบอกใครก็เท่านั้น
@@@@@@@
"เคียวกับท่านดายออกเดินทางไปหลายแล้วป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ เฮ้อ!"ช่ายหนุ่มร่างบางยืนพึมพำอยู่คนเดียว แถมยังถอนหายใจซะยาว
"เจ้ายืนบ่นอะไรอยู่นั่นน่ะนาโอะ"ชายหนุ่มอีกคนที่เห็นท่าทางของเพื่อนอดสงสัยไม่ได้จึงเดินเข้ามาถามไถ่
"ก็ท่านดายกับเคียวน่ะสิออกเดินทางไปตั้งหลายวันแล้ว ข้าก็อดที่จะห่วงไม่ได้น่ะสิรุกะ ไม่รู้ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง ข้าเป็นห่วงจริงๆ ข้าคิดถึงเคียว"นาโอะเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น สายตาทอดมองไปข้างหน้าอย่างหาจุดหมายไม่ได้ คิดแล้วน้ำตาก็อดที่จะไหลไม่ได้ แต่เขาก็เข้มแข็งพอที่จะกลั้นมันเอาไว้
"เจ้าอย่าได้กังวลไปเลยนะ ข้าเชื่อว่าท่านดายกับท่านเคียวต้องปลอดภัยแน่ๆแล้วเขาทั้งสองต้องกลับมาในที่สุด ดวงตาของท่านดายต้องมองเห็น ข้าเชื่ออย่างนั้นนะ"รุกะตบไหล่ปลอบชายร่างบางที่ยืนอยู่ข้างๆให้คลายความเศร้าไปได้บ้าง แม้สักนิดก็ยังดี เพราะนาโอะนั้นเป็นเพื่อนรักของเขา เขาคงทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นเพื่อนของเขาต้องเศร้าหมองอย่างนี้
"ขอบใจเจ้ามากนะรุกะที่เจ้าคอยปลอบโยนข้า ข้าจะต้องเข้มแข็ง"นาโอะยิ้มให้คนข้างๆอย่างอ่อนโยน แววตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง
"ข้าว่าพวกเรามาอธิฐานขอให้พวกเขาทั้งสองกันเถอะนะ"รุกะยิ้มร่าเมื่อเห็นแววตาของนาโอะอีกครั้งที่เปลี่ยนไป
"อืม...เข้าไปข้างในกันเถอะนะ"ว่าแล้วนาโอะดันร่างของเพื่อนกลับเข้าไปยังข้างในปราสาท
@@@@@@@
"อ๊ะ! ช่วย...ช่วย..ช่วยข้าด้วย!! ข้าโดนงูกัด"เสียงคาโอรุตะโกนร่ำร้องเรียกออกไป ในระหว่างที่เขาเดินทางกันต่อหลังจากที่ดายหายป่วยก็ผ่านมาหลายวันแล้ว เขาเดินเข้าไปในป่าเพื่อหาผลไม้แยกกันเดินคนละทางกับเคียว เขาเดินเข้ามาเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าบริเวณนั้นจะมีงูอาศัยอยู่ จึงพลาดท่าโดนงูกัดที่ข้อเท้าเข้าอย่างจัง ซ้ำร้ายเจ้างูนั่นก็เป็นงูพิษเสียด้วยสิ เคียวที่อยู่อีกด้านได้ยินเสียงเรียกจึงรีบวิ่งเข้ามาดู เคียวปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้โดยนำผ้ามารัดที่เหนือแผลแล้วดูดพิษออก เขาพยายามประคองคาโอรุกลับไปอย่างทุลักทุเล
"ท่านดาย...ท่านดาย...คาโอรุโดนงูกัด"เคียวร้องเรียกดายที่นั่งรออยู่ด้วยน้ำเสียงระร่ำระรัก
"เจ้าว่าไงนะเคียว คาโอรุโดนงูกัดงั้นรึ?"น้ำเสียงของดายก็ตื่นตะหนกไม่แพ้กัน เขาพยายามควานหาร่างของคาโอรุเข้ามาประคองเอาไว้แนบอก
"ค-เคียวเอาสมุนไพรมา...เร็ว! คาโอรุทำใจดีๆไว้เจ้าอย่าเป็นอะไรไปนะ"ดายตะโกนบอกเคียวเสียงดัง มือทั้งสองข้างโอบกอดคาโอรุเอาไว้แน่น คาโอรุหอบหายใจหนักมากขึ้น จนดายนึกตกใจกลัวว่าคนในอ้อมกอดของเขาจะเป็นอะไรไป ไม่นะ...ขออย่าให้คนในอ้อมกอดของเขาต้องเป็นอะไรไปเลยนะ....
ผ่านมาสองวันแล้วชายหนุ่มผมม่วงที่หลับอยู่ก็ไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมาเลย หลังจากวันนั้นที่เขาโดนงูพิษนั่นกัด เขารอดชีวิตมาได้เพราะสมุนไพรที่เคียวพกติดตัวตอนเดินทาง ชายหนุ่มร่างสูงที่เฝ้าเขาอยู่ก็แทบจะไม่ขยับไปไหน เฝ้ารอให้คนที่หลับไหลอยู่ตรงหน้าฟื้นขึ้นมาด้วยความกระวนกระวายใจ ชายร่างเล็กไม่สามารถช่วยอะไรนายของเขาได้เลยได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ ด้วยความไม่สบายใจเช่นกัน
"ท่านดายครับ ทานอะไรสักหน่อยเถอะนะครับ"เขาสะกิดเรียกผู้เป็นนาย
"หือ...ข้าไม่หิวเคียวเจ้ากินไปเถอะ ข้าจะขอเฝ้าคาโอรุ"ดายตอบปฏิเสธกลับไป เคียวมีสีหน้าสลดลง
"ถ้าข้าทำให้เจ้าไม่สบายใจขอโทษด้วยนะเคียว ข้าไม่อยากห่างจากเขาน่ะ ผ่านมาสองวันแล้ว เขาไม่ตื่นเลยข้าห่วง ข้าไม่อยากอยู่ห่างจากเขา เข้าใจข้านะเคียว"
"แต่...ท่านควรทานอะไรสักนิดนะ ข้าเป็นห่วงท่านจะเป็นอะไรไปคงไม่ดีแน่ ถ้าท่านยังทรมานตัวเองอยู่อย่างนี้ คาโอรุรู้เข้า เขาคงต้องไม่พอใจเป็นแน่ เดี๋ยวข้าจะยกอาหารมาให้ท่าน"เคียวยังรั้นอยู่ เขาไม่ต้องการเห็นนายของเขาต้องทรมาน ดายจึงยอมแต่โดยดี ฝืนใจกลืนอาหารอย่างยากลำบาก แต่ก็ทานเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น...
"อึก...อื้อ..."ชายผมม่วงเริ่มขยับตัวเล็กน้อย ดายที่นอนเฝ้าอยู่ข้างตลอดเวลากุมมือข้างนั้นไว้เริ่มรู้สึกตัวเพราะอาการขยับของอีกฝ่ายจึงตื่นขึ้นมา
"คาโอรุเจ้าฟื้นแล้วเหรอ? เป็นยังไงบ้าง"ดายกระซิบถามเสียงแผ่ว มือยังกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
ในใจของเขาดีใจจนเนื้อเต้นเลยทีเดียว อยากจะตะโกนร้องออกมาดังๆด้วยความดีใจที่คาโอรุรู้สึกตัว แต่ทำอย่างนั้นคงไม่ดีแน่เพราะจะเป็นการรบกวนอีกฝ่าย เขาจึงทำได้แต่กระซิบถามออกไปเท่านั้น
"น..น-น้ำ...ขอน้ำ..."เสียงตอบกลับแผ่วเบายิ่งนักจนเขาต้องเอาหูแนบฟังเสียงของอีกฝ่าย
"น...น้ำเหรอ?...ได้สิรอเดี๋ยวนะ..."แม้แต่การพูดของเขาก็พลอยติดขัดตามไปด้วยเหมือนกัน ดายใช้มือควานหากระบอกน้ำลำบากยิ่งนักสำหรับคนตาบอดอย่างเขา ไม่อยากจะเรียกเคียวเพราะไม่อยากรบกวน นี่คงดึกมากแล้ว เขาจึงพยายามช่วยตัวเองเท่าที่จะทำได้ แล้วก็เพื่อคนที่อยู่ข้างๆเขาด้วยเหมือนกัน
"ค่อยๆนะ"ดูเหมือนว่าความพยายามของเขาท่าจะลำบากพอสมควรเพราะการที่เขามองไม่เห็นนั่นเองทำให้เขาต้องพลาด น้ำนั้นหกเรอะไปทั่วไปหน้าของคาโอรุไปหมด ทำให้คาโอรุต้องลำลักน้ำเป็นการใหญ่
"อ๊ะ!! ข้าขอโทษทำไงดีล่ะ?...ใช่สิต้องใช้วิธีนี้..."ฉับพลันในหัวของเขาก็คิดบางอย่างออกมา
เขาใช้วิธีเดียวกับคาโอรุป้อนน้ำให้เขาตอนที่เขาไม่สบายนั่นเอง ดายค่อยๆบรรจงทาบริมฝีปากของเขาไปที่ริมฝีปากบางเพื่อที่จะป้อนน้ำให้กับคาโอรุ ความอุ่นจากริมฝีปากบางทำให้ดายรู้สึกได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของดายเป็นสีแดงระเรื่อ เขารู้สึกดีเหลือเกินที่ได้สัมผัสริมฝีบางนั่น ทำให้เขาต้องอดใจไม่ไหวกดริมฝีบางของตัวเองแนบลงอีกครั้ง ปลายลิ้นค่อยๆแทรกควานหาความหวานภายในช่องปากของอีกฝ่าย จนกระทั่งเขาถอนริมฝีปากออกมา ทำให้คาโอรุต้องลืมตาตื่นขึ้นมามองหน้าของอีกฝ่ายอย่างชัดๆ ใบหน้าของเขาเองก็แดงเหมือนกัน ดายไม่รู้ตัวเลยว่าคาโอรุลืมตาขึ้นมาแล้วกำลังจ้องหน้าของเขาอยู่ คาโอรุรู้สึกดีกับการกระทำของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก
"เอาล่ะ...นอนต่อเถอะนะหลับฝันดีนะ"ดายพูดพลางประทับริมฝีปากไปที่แก้มนวลของคาโอรุ กระชับร่างบางเข้ามาใกล้ๆอ้อมแขนของเขาแล้วหลับตานอน
กลายเป็นว่าคาโอรุไม่สามารถหลับตาลงได้เลย นึกสงสัยในการกระทำของดายเป็นอย่างมาก มันรู้สึกถึงความอ่อนโยน ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากชายร่างสูงที่นอนอยู่ข้างๆเขา เขาไม่อยากคิดไปเองเพียงฝ่ายเดียว.....
To b con.....
-
Lavender
Part:10
By:Toshinya
เช้านี้คาโอรุลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเขายังไม่ขยับไปไหน
มองไปข้างกายเขาเห็นชายร่างสูงยังนอนอยู่ข้างๆ
เขาพยายามที่จะลุกขึ้นอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้รบกวนคนข้างๆ
จังหวะนั้นเองอาการปวดหัวก็แล่นเข้ามาทันทีจนเขาตั้งตัวแทบไม่ทัน
จนเกือบจะหงายหลังลงไปโชคดีที่เขายังสามารถประครองร่างได้อยู่จึงไม่ทรุดตัวลงไป
"เฮ้อ!...เกือบไปแล้วเชียว"ชายเจ้าของเรือนผมสีม่วงเข้มพึมพำออกมาเบาๆ
"อ้าว!คาโอรุ....เจ้าตื่นแล้วรึเป็นอย่างไรบ้าง?"
เคียวที่กำลังจัดเตรียมอาหารอยู่หน้ากองไฟหันหน้ามาถามอาการของเขา แล้วลุกเดินเข้ามาใกล้ๆ
"อย่าเสียงดังไปเคียว ท่านดายยังนอนอยู่....ข้าไม่เป็นไรแล้วขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วง"เขาหันไปยิ้มให้เคียว
"อืม...ดีแล้วล่ะ...ไข้ก็ลดลงไปมากแล้ว ยาที่นาโอะเตรียมมาให้ใช้ได้ผลดีเลยทีเดียว"
เคียวเอามือสัมผัสที่หน้าผากอีกฝ่ายเพื่อวัดระดับความร้อนของร่างกาย
"หือ...นาโอะ?ชื่อคุ้นๆ"คาโอรุทำหน้าสงสัย
"อ๋อ....คนรักของข้าเองแหละทำไมเหรอ?"เคียวอมยิ้มหน้าแดง
หลายวันมาแล้วที่เขาออกเดินทางตามผู้เป็นนายมา ทำให้อดคิดถึงคนรักที่ห่างกันขึ้นมาไม่ได้
"เปล่าหรอก ข้าแค่คุ้นกับชื่อของคนรักเจ้าก็เท่านั้น ชื่อเหมือน....น้องชายของชินยะเพื่อนรักของข้าน่ะ"
พูดถึงชินยะก็อดคิดถึงไม่ได้โทชิยะก็เหมือนกันป่านนี้จะเป็นยังไงกันบ้างนะ
ป่านนี้เจ้าจะร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่รึเปล่านะ คงไม่เป็นไรหรอกมั้งโทชิยะคงคอยปลอบอยู่เคียงข้างแน่ๆ
ค่อยหายห่วงไปอีกเปราะ เขารู้ดีว่าชินยะเป็นคนขี้กังวลขนาดไหน
โทชิยะคงเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้
"หือ? เจ้ารู้จักกับชินยะด้วยเหรอ?"เคียวมีสีหน้าแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าโลกจะกลมขนาดนี้
"ใช่...เขาเป็นเพื่อนรักของข้าเองแหละ บังเอิญจังนะ ฮะฮะ"คาโอรุหัวเราะอย่างสนุกสนาน จนเคียวแปลกใจ
"ข้าว่าเจ้าหัวเราะบ้างก็ดีนะ ตั้งแต่เจอกันมาข้าไม่เคยเห็นเจ้ายิ้ม หรือหัวเราะเลยสักครั้ง
มีแต่สีหน้าที่อมทุกข์ตลอด ถ้าท่านดายได้เห็นก็คงจะดีสินะ"จบประโยคของเคียว คาโอรุจึงยิ้มออกมาอีกครั้ง
"อืม...คาโอรุ...หืม..."ชายร่างสูงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เขาเรียกชื่อคนที่นอนอยู่ข้างๆเขาเมื่อคืน
คนที่เขาพยายามดูแลมาตลอด 3-4 วันที่ผ่านมา
"ข้าอยู่ที่นี่ท่านดาย"
"เจ้ารู้สึกตัวแล้วหรือ? เป็นอย่างไรบ้าง?"ดายยันกายเพื่อลุกขึ้นนั่ง
"ดีขึ้นแล้วครับ ปวดหัวนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไรมากครับ"คาโอรุตอบกลับด้วยสีหน้าอมยิ้ม
ได้ยินคำตอบนั่นแล้วทำให้ดายรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี
"อย่าฝืนเกินไปล่ะเจ้าเพิ่งจะฟื้นตัวยังไม่หายดี ข้าเป็นห่วง"รอยยิ้มบางๆระบายอยู่ที่ใบหน้าชายร่างสูง
ทำให้คาโอรุรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก เคียวเองก็ยังยิ้มออกมาเหมือนกัน
"ครับขอบคุณที่ท่านเป็นห่วงข้า"ใบหน้าของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขเป็นอย่างยิ่ง
อาการของคาโอรุเริ่มดีขึ้นมากพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเดินทางต่อไป
หลังจากที่เสียเวลามานาน จนในที่สุด......
~ในที่สุดการเดินทางก็ใกล้ที่จะสิ้นสุดลงแล้ว~
"เอ๊ะ!! ข้างหน้านั่นมัน..."จู่ๆเคียวก็ตะโกนขึ้นมาทำให้ทั้งสองที่ตามมารู้สึกสงสัยทันที
"อะไรน่ะเคียว เจ้าตะโกนซะเสียงดังเชียวมีอะไรงั้นเหรอ?"ดายถามขึ้น
"นั่นสิเคียว "คราวนี้คาโอรุถามบ้าง
"ข้างหน้านั่นข้าเห็น เหมือนเป็นทุ่งดอกไม้กว้างข้าสงสัยเหลือเกินว่านั่น
จะใช่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่อยู่ใกล้ๆตั้งบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า รอข้าอยู่ที่นี่นะข้าจะเข้าไปดู"
เคียวควบม้าออกไปทันที เคียวขี่ม้าเข้าไปใกล้ยังบริเวณทุ่งดอกไม้นั่นเขาพยายามสำรวจไปรอบๆบริเวณนั้น
สิ่งที่เคียวพบเจอทำให้เขารู้สึกตกใจไม่น้อย ถัดไปไม่ไกลจากทุ่งดอกไม้นั่นเขาพบกับธารน้ำเป็นน้ำตกเล็กๆ
บริเวณโดยรอบเต็มไปพรรณพืชนานาชนิดแลดูสวยงามยิ่งนัก น้ำนั่นใสสะอาดตา
มีสายรุ้งพาดผ่านน้ำตกนั้นด้วย เคียวตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้าที่เขาได้พบเห็นแทบจะหยุดหายใจไปชั่วครู่
จนเมื่อเขาเริ่มได้สติเขาจึงควบม้ากลับไปยังที่ๆบุคคลทั้งสองรอคอยเขาอยู่เบื้องหน้าทันที...
"ท่านดาย คาโอรุ ข้าพบแล้วๆ"เสียงของเคียวจะโกนเรียกทั้งสองโหวกเหวกมาแต่ไกล
"เจ้าพบอะไรเคียว?"เสียงดายตอบกลับไป เมื่อเคียวที่ควบม้ากลับมาหยุดนิ่งๆ
อยู่กับที่จึงบอกกล่าวกับคนทั้งสองอีกครั้งในสิ่งที่เขาพบเห็นกลับมา
"ข้าเห็น....แฮ่กๆ...ข้าเห็น.."เคียวพูดพลางหอบหายใจไปพลาง
ด้วยอาการเหนื่อยเนื่องจากเขาควบม้ากลับด้วยความเร็วสูง
"ใจเย็นๆเคียวพักให้หายเหนื่อยก่อนแล้วค่อยๆพูดดีกว่านะ เอ้า!สูดลหายใจเข้าไปลึกๆ"
คาโอรุเตือนด้วยความเป็นห่วง เคียวพยายามทำใจให้เย็นลง
สูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด แล้วจึงพูดออกมาอีกครั้ง
"ท่านดายข้าพบแล้ว....ข้าพบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว อยู่ตรงเบื้องหน้าโน้นเร็วเข้าเถอะรีบไปกัน"
สิ่งที่เคียวพูดออกมาทำให้คนทั้งสองตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดก็สิ้นสุดลงแล้การเดินทางที่ยาวนาน...
ในที่สุดพวกเขาก็ค้นหาบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์พบแล้ว
"อยู่ตรงไหนเคียว"ดายเร่งเร้าถามเป็นการใหญ่
"อยู่ทางด้านโน้นครับ ตามข้ามาเถอะ"เคียวชี้ไปยังทางบ่อน้ำ แล้วนำทางไปทันที
คาโอรุที่นั่งอยู่ด้านหน้าของม้าจึงควบม้าตามเคียวไป ในใจของเขาตื่นเต้นเหลือเกินแต่ลึกๆ
ภายในใจของเขาเองก็กังวลไม่น้อยเหมือนกัน เขากลัวเหลือเกินว่าหากเส้นผมของเขามันไม่เปลี่ยนไปละก็...
เขาเองก็ไม่อยากให้ดายเห็นเขาในสภาพแบบนี้ในเวลาที่ดายมองเห็น
แต่อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดเขาพยายามทำใจเอาไว้บ้างแล้ว
"ดีจังนะคาโอรุในที่สุดเราก็พบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้ว ข้าดีใจเหลือเกินที่จะได้มองเห็นแล้ว
โลกที่ข้าใฝ่ฝันเอาไว้มันคงสวยงามมากสินะ...และที่สำคัญที่สุด...ข้าอยากมองเห็นเจ้า..."
ดายคิดอย่างนั้น สิ่งที่เขาพูดออกมาทำให้คาโอรุดีใจไม่น้อย แต่...เขาก็กลัวเหลือเกินเวลาที่ดายมองเห็นเขา
ดายจะรังเกียจเขาหรือเปล่านะ...
"ข้าเองก็ดีใจเหมือนกันถ้าท่านมองเห็น"คาโอรุตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่ว
ภายในใจของเขานั้นกระวนกระวายเหลือเกิน
"ถึงแล้วล่ะ อยู่ทางนั้น"เคียวตะโกนบอกมือก็ชี้ไปยังด้านหน้า เคียวลงจากม้าแล้วนำมันไปผูกยังต้นไม้ต้นหนึ่ง
คาโอรุกับดายที่ตามมาลงจากม้าแล้วก็นำม้าไปผูกไว้ยังต้นไม้อีกต้นที่อยู่ไม่ไกลกันนัก
เขาเดินจูงมือของดายให้ก้าวเดินตามไป
"ตามข้ามาทางนี้"เคียวร้องเรียกคนทั้งสองให้เดินตามเข้าไป
จนเมื่อเดินเข้าไปใกล้บ่อน้ำ สิ่งที่คาโอรุเห็นอยู่ตรงหน้าทำให้เขาชะงักไปเลยทีเดียว
เขาตื่นตะลึงกับภาพที่เขาเห็นเบื้องหน้าจนแทบจะขยับเท้าเดินต่อไปไม่ได้
เพราะภาพที่เขาเห็นมันช่างสวยงามเหลือเกิน ราวกับภาพวาดไม่มีผิด
ดายแปลกใจทำไมคาโอรุถึงได้นิ่งไปนานเขาจึงอดที่จะถามไม่ได้
"คาโอรุ...ทำไมเจ้าถึงเงียบไปนานล่ะ คาโอรุ..."ดายถามเสียงแผ่วแต่ไม่ถึงกับเบาจนเกินไปนัก
ทำให้เรียกสติของชายผมม่วงกลับคืนมา
To b con....
-
Lavender
Part:11 END
By:Toshinya
"อ่ะ...ขออภัยท่านดาย ข้าเพียงแต่ตื่นเต้นกับสิ่งที่ข้าพบเห็นเท่านั้น เราเดินต่อไปกันเถอะ"
คาโอรุพาดายเดินมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนมาใกล้กับบ่อน้ำที่เคียวมารออยู่แล้ว
"ที่นี่สวยมากเลยนะเคียว"คาโอรุหันไปถามความเห็นกับเคียว
"อืม...ใช่ตอนที่ข้าเข้ามาตอนแรกข้าถึงกับตะลึงไปเลย จนแทบลืมหายใจไปเลยล่ะ
ตั้งแต่เกิดมาข้าเพิ่งจะเคยพบเห็นที่ๆสวยงามขนาดนี้ ด้านข้างก็เป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์บานสะพรั่งเชียว"
เคียวชี้ไปทางด้านข้าง คาโอรุหันไปมองตาม สวยงามจริงๆ
"ข้าเองก็อยากเห็นเหมือนกันนะ"ดายรำพันเขาอดไม่ได้ที่อยากจะเห็น ในสิ่งที่คาโอรุและเคียวพูดถึง
เขาจินตนาการเอาไว้ว่าที่นี่ คงสวยงามเป็นแน่ๆ ถ้าเขามองเห็นละก็...
"ข้าว่าเราใช้น้ำกันเถอะ เราจะได้เดินทางกลับกันเสียที ข้าเป็นห่วงคนที่รอพวกเราอยู่ จากบ้านกันมานานแล้ว
ข้าคิดถึง"เคียวรำพันออกมา ในหัวของเขามีแต่ภาพนาโอะคนรักของเขาอยู่เต็มไปหมด
"ข้ารู้นะว่าเจ้าคิดถึงใครเคียว"ดายพูดหยอกล้อคนสนิทของเขาพร้อมใบหน้าระรื่น
เมื่อได้ยินสิ่งที่ดายพูดออกมาอย่างรู้ทัน ใบหน้าของเคียวแดงระเรื่อถึงใบหูเชียวล่ะ
คาโอรุเองก็พลอยยิ้มตามไปด้วย
"ท่านดายนั่งตรงนี้นะ อ๊ะ!!ระวังด้วยนะครับตรงนี้มันค่อนข้างลื่น"คาโอรุพาดายมานั่งลงตรงโขดหิน
เขาค่อยๆประคองชายหนุ่มร่างสูงให้นั่งลงอย่างระมัดระวัง
"ขอบใจเจ้ามากที่เป็นห่วงข้า"ดายส่งยิ้มให้คนข้างๆ
"ไม่เป็นไรครับ"
"น้ำที่นี่ใสสะอาดจังนะเคียว"มือเรียวสวยของคาโอรุวาดไปบริเวณผิวน้ำ
"ก็นี่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่างไกลผู้คนนี่นา เจ้ามองดูบริเวณรอบๆนี่สิไม่มีผู้คนอาศัยอยู่บริเวณนี้เลย
ข้าว่าเป็นเหมือนดินแดนลี้ลับนะ"เคียวพูดชี้ไปบริเวณรอบๆ
ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลยสักนิดมีเพียงก็แต่สัตว์ป่าเท่านั้น
"อา....จริงสินะที่นี่ห่างไกลจริงๆ กว่าที่เราจะเดินทางมาเจอหนทางไม่ใช่ใกล้ๆเลยสักนิด"
"เราอย่ามัวแต่ช้าอยู่เลยนะ"ดายพูดขึ้นมาบ้าง คาโอรุจึงอธิษฐานก่อนใช้มือของเขาวักน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา
แล้วเทน้ำลงบนยังเส้นผมของเขาแต่มันไม่เป็นผล
น้ำนั่นไม่สามารถแปรเปลี่ยนเส้นผมให้เขาเป็นอย่างที่ใจต้องการได้
คาโอรุถึงกับหน้าถอดสีทันที เคียวที่นั่งอยู่บริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับพูดไม่ออกเลยเช่นกัน
นี่มันเกิดอะไรขึ้นน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่เป็นผลงั้นหรือ?.... แล้วถ้างั้นดวงตาของดายล่ะ?
ดวงตาของดายจะมองเห็นหรือเปล่า? ในเมื่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ใช้ไม่ได้ผลเช่นนี้...
"ท...ทำไมเป็นอย่างงี้ล่ะ?"คาโอรุพึมพำออกมาเบาๆเสียงของเขาเบามากจนไม่มีใครได้ยิน
แม้แต่เคียวเองที่มองอยู่ก็สามารถเข้าใจได้ว่าคาโอรุรู้สึกอย่างไรเมื่อสังเกตจากสีหน้าของอีกฝ่าย...
ปราฏิหารย์ไม่มีจริงอย่างนั้นเหรอ? นี่มันอะไรกัน?
"มีอะไรหรือเปล่า? ทำไมพวกเจ้าถึงเงียบกันไปอย่างนี้?"ดายสงสัยจึงเอ่ยปากถามออกไป
"ป...เปล่า...ไม่มีอะไรครับท่านดาย..."เคียวละล่ำละลักตอบออกไป
"ไม่มีอะไรแน่นะ...งั้นก็แล้วไป"พูดจบดายจึงใช้มือของเขาวักน้ำขึ้นมาบ้าง
แล้วใช้น้ำนั่นพรมที่ใบหน้าของตัวเอง....เกิดความผิดปกติที่บริเวณดวงตาของเขา....
ดายรู้สึกเกิดอาการเคืองที่ดวงตาทั้งสองข้างสักพักอาการนั้นก็หายไป
ดวงตาที่เคยมองไม่เห็นของเขาค่อยๆจ้องมองสิ่งต่างๆด้วยอาการเลือนลางก่อนจะมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง
มองห็นทุกสิ่งทุกอย่างอย่างชัดเจนขึ้นมาตามลำดับ ดายตะโกนร้องด้วยความดีใจ
คาโอรุจ้องมองดายทุกขณะเขารู้สึกได้ว่าดายคงจะมองเห็นได้แล้วเป็นแน่ เขาคิดในใจไม่...ไม่...
เขาไม่อยากให้ดายเห็นความอัปลักษณ์ของเขาเส้นผมที่น่ารังเกียจ
เมื่อคิดได้ดังนั้นคาโอรุจึงวิ่งหนีออกไปจากบริเวณนั้นทันที โดยที่เคียวเอ่ยห้ามเอาไว้ไม่ทัน
"ข้ามองเห็น....ข้ามองเห็นแล้ว...ข้ามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ใจของข้าปรารถนาแล้ว...
อา...ที่นี่สวยงามอย่างที่เจ้าทั้งสองพูดเอาไว้จริงๆ คาโอรุข้ามองเห็นแล้ว"
ดายมองไปรอบๆ เขาไม่เห็นกระทั่งเงาของคนที่เขาอยากจะเจอ คาโอรุหายไป คาโอรุหายไปไหน?
"เคียว!คาโอรุล่ะ!คาโอรุไปไหน? เมื่อกี้เขายังนั่งอยู่ข้างๆข้าอยู่เลย ตอนนี้คาโอรุหายไปไหน?"
ดายเขย่าร่างของเคียวแล้วถามหาคนที่เขาอยากพบมากที่สุด
"ท่านดายคาโอรุวิ่งหนีไปแล้ว คาโอรุวิ่งหนีไปทางโน้นแล้ว"
เคียวชี้ไปทางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เขาเห็นคาโอรุวิ่งไปทางนั้น
"คาโอรุกลัวว่าท่านจะรังเกียจ กลัวว่าท่านจะเห็นผมของเขา คาโอรุจึงวิ่งหนีไปครับ..."
เคียวบอกความจริงกับดาย สีหน้าท่าทางของดายครุ่นคิด
"ข้าไม่ได้รังเกียจเขา ไม่เลยสักนิดตรงกันข้ามต่างหากล่ะ ข้ารักเขาแต่เขากลับหนีข้าไป"
น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเศร้ายิ่งนักดายก้มหน้าลงนิ่ง
"ข้าว่าท่านตามเขาไปเถิดครับ ข้าคิดว่าเขาคงจะวิ่งไปได้ไม่ไกลหรอกครับ ลองตามเขาไปเถิดครับ"
เคียวแนะนำให้ดายตามคาโอรุไป
"นั่นสินะ ข้าจะไปตามหัวใจของข้ากลับคืนมา"คิดได้ดังนั้นดายจึงรีบวิ่งออกไป
ตามที่เคียวได้บอกว่าคาโอรุวิ่งหนีไปทางไหน
"คาโอรุ เจ้าทำไมต้องหนีข้าไปด้วยนะ"ดายพึมพำเสียงเบาไปตามทางที่เขาวิ่ง
เพื่อที่จะตามคนที่เป็นเจ้าของหัวใจของเขา ดายวิ่งมาเรื่อยๆจนเกือบจะถึงทุ่งดอกลาเวนเดอร์เบื้องหน้า
"ฮืฮ....ทำไม...ทำไมปราฏิหารย์ถึงไม่เป็นจริง สวรรค์กลั่นแกล้งข้าหรืออย่างไร
ทำไมน้ำศักดิ์สิทธิ์ถึงรักษาผมของข้าไม่ได้ ทำไมข้าถึงไม่ปกติเหมือนอย่างคนอื่นเขา...ทำไม"
คาโอรุร่ำไห้อยู่ท่ามกลางดอกลาเวนเดอร์ที่รายรอบตัวเขา หลังจากที่เขาวิ่งออกมาจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
เขาก็ทรุดตัวอ่อนแรงอยู่ตรงบริเวณนั้นพลางร้องไห้คร่ำครวญอยู่ตลอด
ทำไมถึงมีเขาเพียงคนเดียวที่โชคร้ายอย่างนี้...ทำไม....
คาโอรุวิ่งออกมาเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้คนที่เขารักได้เห็นความอัปลักษณ์ของเขา....
เขาผู้มีเรือนผมที่น่ารังเกียจ.... คาโอรุก้มหน้าอยู่บริเวณนั้นได้สักพัก
ก็มีมืออุ่นของใครบางคนแตะสัมผัสที่ไหล่เขาเพียงแผ่วเบา พร้อมกับคนๆนั้นเอ่ยเรียกชื่อของเขา
"คาโอรุ...."ดายเรียกชื่อชายเจ้าของเรือนผมสีม่วงเข้มอย่างแผ่วเบา
คาโอรุไม่แม้กระทั่งจะเงยหน้าขึ้นมามองผู้ที่เรียกเขาแม้แต่เพียงนิด
"คาโอรุ...."ดายเรียกอีกฝ่ายอีกครั้งพลางทรุดนั่งลงตรงข้างๆชายเจ้าของเรือนผมสีม่วง
"คาโอรุ เงยหน้าขึ้นมามองข้าสิ มองข้านะ ข้าไม่ได้รังเกียจเจ้าเลยสักนิด
ไม่ว่าเจ้าจะเป็นยังไงก็ตามข้าก็จะไม่รังเกียจเจ้า เพราะข้ารักเจ้ารักมากนะคาโอรุ ขอให้เจ้าเชื่อใจข้าก็พอ"
ดายพร่ำบอกคนที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าจะยังไงเขาไม่มีทางรังเกียจคนที่เขารักเป็นแน่
คาโอรุคือคนที่เขารักมากที่สุดไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คาโอรุค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา
มองชายร่างสูงน้ำตานองเต็มดวงหน้าของเขาไปหมด
"ข้ารักเจ้านะคาโอรุข้าไม่รังเกียจเจ้าหรอก ถึงแม้ว่าเจ้าจะเป็นอย่างไร
ข้าก็ไม่เคยรังเกียจเจ้าเลยแม้เพียงนิด"ดายจูบซับทางน้ำตาให้กับคนตรงหน้า
แล้วคว้าร่างบางเข้ามากอดเอาไว้แน่น จะไม่ยอมให้คนตรงหน้านี้หายไปอีกแล้ว
คาโอรุเองที่ได้รับรู้ความรู้สึกจากชายร่างสูงแล้วก็สวมกอดเช่นกัน
"ข้าเอง...ฮึก...ข้าก็รักท่านเหมือนกันท่านดาย"ชายผมม่วงสวมกอดชายร่างสูงแนบแน่นมากขึ้นกว่าเดิม
ไออุ่นจากร่างกายของคนทั้งคู่ส่งผ่านถึงกันและกัน เหมือนสวรรค์จะรับรู้ถึงความรักของคนทั้งคู่
ปาฏิหารย์เป็นจริงจู่ๆผมของชายร่างบางก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นเรือนผมสีทองสวย
เหมือนอย่างที่ใจของเขาได้ปรารถนาเอาไว้ แล้วบรรดาดอกลาเวนเดอร์สีขาวทั้งหมด
ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีม่วงสวยเหมือดั่งเส้นผมของคาโอรุ นี่สินะปราฏิหารย์ของความรักของคนทั้งสอง
และแล้วความรักของคนทั้งสองก็ถูกบันทึกเอาไว้เป็นตำนานที่เล่าต่อๆกันมาตราบนานเท่านาน
ไม่มีใครสามารถที่จะมาพรากความรักของคนทั้งสองลงได้ ดอกลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งอยู่ณ.ที่แห่งนี้
จงเป็นพยานให้แก่ความรักของคนทั้งสองด้วยเถิดนะ
END
-
ในที่สุดก้จบแบบแฮบปี้ :loveu:
ขอบคุณ คุณtoshinya นะคะ :yeb:
-
:กอด1:
ขอบคุณค่ะ
-
แฮปปี้เอนดิ้งค่ะ
ดีใจกับคาโอรุ ที่ปาฏิหาริย์เป็นจริง
ตอนแรกที่แอบใจเสียนิดๆ ที่น้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถทำให้ผมเป็นแบบคนธรรมดาได้
เรื่องจบแบบนี้ แสดงว่า ความรักชนะทุกสิ่ง ใช่ม๊าๆ :impress2:
ขอบคุณมากค่ะ
-
ปาฏิหาริย์แห่งรัก
ดีดีจริงที่จบแบบแฮปปี้ :bye2:
-
ลุ้นไปกับเรื่องนี้เลยนะเนี่ย
นึกว่าผมของคาโอรุจะไม่หาย แต่นี่ก็เป็นข้อพิสูจน์ของรักแท้นั่นแหละนะ
-
:mew1: