พิมพ์หน้านี้ - Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: thanatcha ที่ 23-02-2019 20:51:37

หัวข้อ: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 23-02-2019 20:51:37
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************




Hydrangea

intro

 
            สายฝนเย็นฉ่ำตกลงมาไม่ขาดสาย บริเวณสุสานกำลังมีพิธีฝังศพของประมุขแห่งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ กลุ่มชายสวมชุดดำต่างยืนสงบนิ่งกระจายกันทั่วบริเวณ บรรดาแขกที่มาร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปเป็นครั้งสุดท้ายพากันสงบนิ่งเพื่อเป็นการเคารพต่อผู้วายชนม์เป็นครั้งสุดท้าย หน้าหลุมศพชายหนุ่มสามคนยืนเคียงข้างผู้เป็นภรรยาของประธานไล
 
คริส ผู้เป็นพี่ใหญ่สุดประคองคุณนายใหญ่ผู้เป็นแม่ไว้ไม่ห่างกาย เช่นเดียวกับจอห์นนี่ ที่ยืนเคียงข้างผู้เป็นแม่ของตน มีเพียงไล่กว้านหลินบุตรชายคนเล็กที่ปล่อยให้สายฝนร่วงหล่นใส่ร่างเท่านั้นที่ยืนเพียงลำพัง อัลฟ่าโตเต็มวัยทั้งสามสง่างาม ดูทรงพลัง รายล้อมด้วยบริวารที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดี ญาติๆและหุ้นส่วนคนอื่นๆทยอยเข้าไปวางดอกไม้ให้กับผู้วายชนม์ บ้างก็มีครอบครัวติดสอยห้อยตามกันมาด้วย แต่ว่า...
 
เขาไม่มีใคร...

 
พี่ชายทั้งสองมีแม่คอยเคียงข้างแต่ไล่กว้านหลินผู้เป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลมีเพียงพ่อเท่านั้นที่คอยดูแลและมอบวิชาความรู้มอบความรักและความไว้วางใจ ดวงตาของชายหนุ่มแดงก่ำ แม่ของกว้านหลินตายตั้งแต่เขายังไม่ได้ขวบดีพ่อจึงเป็นคนเลี้ยงเขามาโดยมีแม่ใหญ่กับแม่รองช่วยดูแล แต่ใครๆก็รู้สตรีทั้งสองนั้นย่อมรักลูกในไส้มากกว่าบุตรชายนอกไส้ บ่อยครั้งที่เด็กชายอ้างว้าง มีแต่ความเหงา พ่อคือคนที่คอยเติมเต็มให้กับเขาเสมอมา แม้พี่ชายทั้งสองจะรักใคร่กลมเกลียวกับเขาดีมากแต่เมื่อเติบโตขึ้นทั้งคู่ก็ต้องแยกย้ายไปทำงานตามหน้าที่ที่ผู้เป็นพ่อมอบให้ เขาเพิ่งได้รับมอบหมายให้มาดูแลสาขาที่ไทยเมื่อสองปีที่แล้วหลังเรียนจบปริญญาโทจากสหรัฐอเมริกา หากเปรียบไล่กว้านหลินเป็นนก เขาก็คือลูกนกที่เพิ่งหัดบินพ่อยังคงไม่วางใจให้เขาดูแลธุรกิจด้วยตนเองยังคงไปๆมาๆระหว่างจีนและไทย โดยให้ความไว้วางใจภุชงค์เลขาคนสนิทให้คอยดูแลสอนงานเขาในช่วงที่พ่อกลับไปจีน นั่นจึงเป็นช่องว่างและช่องโหว่ให้คนที่คิดไม่ซื่อวางแผนจัดการกับตัวเขาเองและผู้เป็นพ่อ
 
และมันทำสำเร็จ...
 
ดังนั้นในวันนี้วันที่โลกทั้งใบของกว้านหลินหายไปหัวใจของชายหนุ่มจึงพังภินท์ เหมือนปราสาททรายที่เขากับพ่อร่วมกันสร้างมาจนสวยงามสุดท้ายคลื่นลูกใหญ่ก็มากลืนกินมันไป
 
คนทรยศคนนั้นมาพรากคนสำคัญที่สุดของเขาไป
 
คนทรยศคนนั้นมาพรากความไว้วางใจที่เคยมีไปจากเขา
 
ไล่กว้านหลินสัญญาต่อศพพ่อว่าเขา....จะไม่ปล่อยให้มันเสวยสุข
 
และเขา จะไม่ให้มันตายดี
 
ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนทรยศเอาไปจากพ่อของเขา เขาจะเอาคืน
 
เอาคืนให้สาสม
 
และเอาคืนให้มากกว่า
 
เลือดล้างด้วยเลือด และชีวิตแลกด้วยชีวิต
 
เขาไม่สนใจว่าจะต้องฆ่าใครหรือจะต้องมีใครตาย
 
แต่ภุชงค์จะต้องตายด้วยน้ำมือของเขาอย่างแน่นอน
 
ครอบครัวโอเมก้าชั้นต่ำนั้นจะได้ลิ้มรสของความขมขื่นตราบชั่วชีวิตที่เหลืออยู่นี้
 
ตระกูลภัทรเวชานนท์ต้องชดใช้!!!
 
 


......................................

หัวข้อ: Re: Hydrangea [[Omegaverse mpreg ]] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 1 "ยินดีต้อนรับสู่นรก"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 23-02-2019 21:50:49

 




Hydrangea 1




          ตระกุลไล่คือตระกุลเก่าแก่ตระกูลใหญ่ที่มีธุรกิจในมือหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือธุรกิจมืด ไล่หยวนช่างผู้สืบทอดตระกูล มีภรรยาสามคน อัลฟ่าสาวทั้งสามล้วนมาจากตระกูลผู้ดีเก่าโดยเฉพาะคุณนายใหญ่เดิมทีเป็นคุณหนูจากตระกูลอู๋อันร่ำรวย หญิงสาวถูกทาบทามสู่ขอมาแต่งกับคุณชายตระกูลไลเพราะฐานะทางสังคมที่เหมาะสมกับ อู๋อี้เฟยให้กำเนิดบุตรชายคนโตในต้นฤดูหนาว เมื่อให้กำเนิดบุตรชายฐานะคุณนายใหญ่ของหล่อนยิ่งมั่นคง  หยวนช่างให้เกียรติเธอดูแลเรื่องต่างๆภายในบ้าน และเชิดชูเธอออกหน้าออกตา บรรดาบริวารต่างให้ความเคารพคุณนายใหญ่ของบ้านรองจากนายท่าน หล่อนมีความสุขตามอัตภาพกับฐานะที่ได้
 
            ในระหว่างนั้นหยวนช่างก็แต่งภรรยาคนที่สองเข้าบ้านหวงซินหยูเป็นบุตรสาวคหบดีผู้กว้างขวางที่ถูกส่งมาจากเมืองตานตงมลฑลเหลียวหนิง ด้วยเพราะอาณาเขตของตระกูลหวงติดกับแม่น้ำยาลูซึ่งฝั่งตรงข้ามคือเกาหลีเหนือเอื้อต่อการทำการค้าอาวุธคุณนายรองจึงได้เข้ามาครอบครองเรือนปีกตะวันออก นิสัยของหวงซินหยูเป็นคนเด็ดขาด หล่อนเป็นภรรยาที่แสนโลดโผนและรักอิสระราวกันนกที่พร้อมจะโผบินไปท่องโลกได้ตลอดเวลา ทั้งคุณนายใหญ่และคุณนายรองต่างสามัคคีกันดี หนึ่งปีต่อมานางก็ให้กำเนิดลูกชาย จอห์นนี่ถือกำเนิดในฤดูหนาวเช่นเดียวกับคริส  คริสเกิดต้นเดือนพฤศจิกายนที่อากาศหนาวเริ่มมาเยือนและจอห์นนี่ก็เกิดปลายเดือนพฤศจิกายนที่หิมะเริ่มทิ้งตัวหนาเด็กทั้งคู่ถูกกำหนดบทบาทตั้งแต่เกิด แม้ว่าจอห์นนี่จะล่ำสันน่าเกรงขามเพียงใด ตำแหน่งของเขาคืออยู่หลังคริสเสมอ ด้วยหลักปฎิบัติของตระกูลอัลฟ่าที่เคร่งครัด อำนาจทุกอย่างผู้เป็นบุตรชายคนโตมักจะได้รับสิทธิ์รองจากผู้เป็นพ่อจากนั้นจึงลดหลั่นมายังลูกคนต่อๆไป จอห์นนี่ให้ความเคารพคริส ในขณะที่คริสเองก็รักน้องชายราวกับเกิดร่วมมารดาเดียวกันสายสัมพันธ์ของพี่น้องเข้มข้น มีคริสที่ไหนย่อมมีจอห์นนี่ที่นั่นเป็นดั่งเงาตามตัว
 
หากคริสเป็นแสงตะวัน จอห์นนี่ก็คือเงา
 
             สามปีหลังจากนั้น ไล่หยวนช่างก็พาคุณนายคนที่สามเข้ามาอยู่ในบ้านครองปีกด้านตะวันตก หญิงสาวเป็นอัลฟ่าตระกูลผู้ดีเก่าสืบเชื้อสายมาจากอัลฟ่าชั้นปกครองเป็นท่านหญิงจากตระกูลสูงที่เหลืออยู่ไม่มาก จางซือซือเป็นหญิงสาวที่สดสวยผุดผาดกริยามารยาทงดงามสมกับสายเลือดบริสุทธิ์ ช่างปรนนิบัติเอาใจ เอื้อเฟื้อให้กับบริวารและให้ความเคารพกับคุณนายใหญ่คุณนายรองโดยไม่สนชาติกำเนิดที่สูงส่งกว่าคนทั้งสอง  เรียกได้ว่าเป็นรักแท้และรักเดียวของไล่หยวนช่าง  ช่างโชคร้ายเมื่อสองงปีให้หลัง หลังจากกว้านหลินถือกำเนิดขึ้นมาหล่อนก็เจ็บป่วยและเสียชีวิตลงในที่สุดทิ้งบุตรชายวัยกำลังน่ารักให้หยวนช่างเลี้ยงดู ไล่กว้านหลินหรือเอ็ดเวิร์ดในวัยไม่เต็มสองขวบดีเกิดในฤดูใบไม้ร่วง  กลางดึกที่สายฝนกระหน่ำ ชื่อของเขาจึงแปลว่าฝน แม้จะเกิดห่างจากพี่ๆหลายปีแต่คริสและจอห์นนี่ก็ให้ความรักกับน้องชายคนเล็ก แม่ๆทั้งสอองช่วยผู้เป็นประมุขเลี้ยงเด็กน้อยที่ไร้แม่จนกระทั่งเข้ามัธยมต้น กว้านหลินถูกย้ายไปเรียนที่ประเทศไทย ในขณะที่คริสถูกส่งไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาและอยู่ดูแลกิจการทางนั้น หยวนช่างแบ่งงานให้ลูกๆโดยให้คริสดูแลกิจการที่ต้องติดต่อกับกลุ่มคู่ค้าทั้งอเมริกา รัสเซีย ซีเรีย ส่วนจอห์นนี่ถูกส่งไปประจำที่ปักกิ่ง ชายหนุ่มเดินทางไปตานตงบ่อยครั้งเพื่อติดต่อซื้อขายอาวุธกับเกาหลีเหนือ และกลุ่มตะวันออกกลาง  ส่วนกว้านหลินนั้นถูกมอบหมายงานที่เป็นธุรกิจถูกกฎหมายที่เป็นดังฉากหน้าของตระกูล สถานที่ๆหยวนช่างใช้ฟอกเงินจากธุรกิจผิดกฎหมายโดยมีคนสนิทเป็นเบต้าอาวุโสคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด หยวนช่างไว้ใจภุชงค์มากเพราะภุชงค์ทำงานเก่ง คล่องแคล่วละเอียดรอบคอบ งานที่เขาทำหมดจรดเรียบร้อย ชีวิตส่วนตัวของครอบครัวภุชงค์นั้นอยู่กันอย่างเรียบง่ายเพราะฐานะทางสังคม แม้ว่าชาติกำเนิดของเขาจะเป็นเบต้า เป็นกลุ่มคนที่จืดจางที่สุดในสังคมหากแต่ว่าภุชงค์แต่งงานกับโอเมก้าผู้ถือเป็นจุดต่ำสุดของสามเผ่าพันธุ์ลูกของภุชงค์ที่ถือกำเนิดมาจึงมีฐานะต่ำต้อยไปด้วย ณภัทรลูกชายคนโตถือกำเนิดมาพร้อมสายพันธุ์ที่ไม่มีใครอยากเป็น
 
ณภัทรเป็นโอเมก้า...เด็กน้อยร่างสูงโปร่งที่เคยวิ่งตามกว้านหลินที่แก่กว่า 7 ปี เป็นโอเมก้าที่น่าทะนุถนอม ภุชงค์รักและเป็นห่วงลูกคนนี้มากกว่าน้องๆอีกสองคนที่โชคดีกว่าคนพี่ ภีมและภัทรพลเป็นเบต้าเหมือนพ่อ
 
            “พี่กว้านหลิน...ภัทรเจ็บ”เด็กน้อยวัย 8 ขวบยื่นมือเล็กๆให้กว้านหลินที่นั่งอ่านหนังสือในสวนดู มือป้อมๆนั้นมีเลือดซิบรวมทั้งเข่าก็เกิดรอยแผล ดวงตากลมช้อนมองพี่กว้านหลินในวัย 15 ปีด้วยสายตาออดอ้อน
 
            “เดินยังไงให้ล้มล่ะภัทร”ทำเสียงราวกับไม่สนใจแต่ก็ยอมทิ้งหนังสือเรียนไว้กับโต๊ะแล้วลดตัวลงไปนั่งเสมอเด็กน้อยจับมือเล็กนั้นมาไว้ในมือก่อนจะเป่าลงไปเบาๆ
 
            “เพี้ยง หายเจ็บนะครับ”ลมอุ่นถูกเป่าออกจากปากก่อนจะส่งปากแผลนั้นชิดริมฝีปาก ดูดกลืนคราบโลหิตคาวคลุ้งนั้นอย่างไม่รังเกียจ
 
น้ำลายของอัลฟ่ามีสรรพคุณสมานแผล...ริมฝีปากสวยถอนออกจากปากแผล รอยแผลค่อยๆสมานติดกันจนปิดสนิท ภัทรส่งยิ้มอย่างดีใจ
 
            “หายเจ็บแล้วฮะ ภัทรหายเจ็บแล้วพี่กว้านหลินเก่งจังเลย”
 
            “คราวหลังภัทรก็ต้องเดินระวังๆนะครับ อีกหน่อยพี่ไม่อยู่ไม่มีใครมาคอยรักษาแผลให้แล้วนะ”ครั้งนั้นภัทรยังเด็กเกินไปที่จะรู้ความหมายของคำพูดนั้น
 
            “ไม่จริงหรอก พี่กว้านหลินก็มาช่วยภัทรทุกครั้งที่ภัทรมีอันตรายแหละ”เด็กน้อยเถียงพลางเอียงคออย่างน่ารัก
 
            “จริงมั้ยฮะ ถ้าภัทรมีอันตรายพี่กว้านหลินจะมาช่วยภัทรทุกครั้งใช่มั้ยฮะ”
 
            “ครับ ถ้าภัทรมีอันตรายพี่จะไปช่วย”กว้านหลินในวัย 15 ปีวางฝ่ามือลงบนกลุ่มผมนุ่มของเด็กน้อย รอยยิ้มของพี่ชายใจดีถูกมอบให้แบบที่ไม่มีใครเคยได้ โอเมก้าตัวน้อยถือว่านั่นคือคำสัญญา ไม่ว่าเขาจะล้มหรือจะเจ็บตัวอีกซักกี่รอบ ยังไงกว้านหลินก็จะเป็นคนดูแลคุ้มครองและรักษาเขาไปตลอดนั่นแหละ แล้วแบบนี้ภัทรจะต้องกลัวการล้มหรือการเจ็บตัวไปทำไม เพราะทุกครั้งที่มาคฤหาสน์ตระกูลไล่ กว้านหลินก็ยังคงเป็นเหมือนผู้พิทักษ์ให้กับเขาเสมอมา แม้ภายนอกกว้านหลินจะดูเป็นคนเฉยชา ใบหน้านิ่งเรียบนั้นดูดุและทรงอำนาจตั้งแต่อายุยังน้อยแต่สำหรับณภัทรแล้ว
 
            “พี่กว้านหลินใจดีที่สุดในโลกเลย” เด็กน้อยวัย 13 ปีกระโดดโลดเต้นยามกล่องของขวัญวันเกิดถูกยื่นให้กับเจ้าตัว  กว้านหลินไม่เคยลืมวันเกิดของเจ้าตัวเล็กเลยซักครั้ง ของขวัญเล็กๆน้อยๆที่อัลฟ่าหนุ่มวัย 20 ปีมอบให้ถูกเก็บไว้อย่างดีทุกชิ้นตั้งแต่เจ้าตัวอายุ 5 ขวบ
 
            “ตุ๊กตาหมีที่พี่กว้านหลินให้ผม ผมยังเก็บไว้อย่างดีเลยครับ”เจ้าตัวเอ่ยบอกอย่างเอาอกเอาใจกว้านหลินพยักหน้ารับร้องอืมในลำคอ บ้านของเขาคุ้นเคยกับภัทร แม้พี่กว้านหลินของภัทรจะโตขึ้น นิ่งขึ้นแต่สำหรับภัทรแล้วพี่กว้านหลินก็ยังคงใจดี สายลมเย็นพัดเอากลิ่นฝนเคล้ากลิ่นหญ้าและกลิ่นดินยามฝนตกใหม่ๆลอยมา ภัทรสูดกลิ่นนั้นเข้าปอด เด็กหนุ่มหลับตาพลางสูดกลิ่นนั้นอีกครั้ง กลิ่นหอมอ่อนๆเจือเคล้าความเย็นชุ่มฉ่ำ เด็กน้อยค่อยๆลุกขึ้นสูดกลิ่นไปตามลม ชาติพันธุ์ของพวกเขานั้นมีประสาทสัมผัสในการรับกลิ่นได้เร็ว
 
            “หอม...”เสียงเล็กๆดังขึ้นข้างหู กว้านหลินหันไปมองภัทรที่กำลังทำจมูกฟุดฟิดเข้ามาใกล้ซอกคอของเขาเรื่อยๆ พลันกลิ่นหอมจางๆของบางสิ่งบางอย่างก็ลอยมาผสมกับกลิ่นฝนจากที่ได้กลิ่นอ่อนๆ เป็นกลิ่นที่นุ่มนวลกลับเข้มขึ้นทีละนิด กลิ่นดอกไลเซนทัสค่อยๆเข้มและเย้ายวนจนปลุกสัญชาติญาณดิบตามธรรมชาติของอัลฟ่าวัยเจริญพันธุ์ ดวงตาของกว้านหลินแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มก่อนจะกลับมาเป็นปกติ ชายหนุ่มผลักภัทรให้ห่างออกจากเขา
 
เด็กคนนี้เป็นโอเมก้าและกำลังเกิดฮีทแรก ซึ่งค่อนข้างเร็วสำหรับเด็กอายุเพียงเท่านี้
 
            “โอ้ย...พี่กว้านหลิน อึก...”อยู่ๆความรู้สึกบางอย่างก็เข้าจู่โจมภายในกายของภัทร เด็กน้อยมองภาพคนตรงหน้าด้วยดวงตาพร่าเลือน เสียงของกว้านหลินร้องเรียกภุชงค์ผู้เป็นพ่อของภัทรดังลั่น เด็กน้อยตัวสั่นอย่างน่าสงสารยามที่พยายามไขว่คว้าหาคนตรงหน้า พ่อของภัทรเข้าใจเหตุการณ์ในทันทีชายวัยกลางคนรีบอุ้มลูกชายขึ้นรถแล้วขับออกไป
 
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ภัทรได้เข้ามาเล่นในบ้านหลังนี้  และเป็นครั้งสุดท้ายที่ภัทรได้เจอกับกว้านหลิน หนึ่งปีให้หลังกว้านหลินก็เดินทางไปเรียนต่อที่อเมริกาอยู่ในความดูแลของคริสพี่ชายคนโต ชายหนุ่มขาดการติดต่อกับภัทรโดยสิ้นเชิง  แม้ทั้งคู่จะพยายามหาทางติดต่อกันผ่านภุชงค์แค่ไหน แต่คนเป็นพ่อก็วางเฉยเสีย
 
            “อัลฟ่ากับโอเมก้าไม่สมควรจะอยู่ใกล้กันมันไม่ปลอดภัยสำหรับภัทร” นั่นคือเหตุผลที่ภุชงค์ให้กับกว้านหลินก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อ
 
หลังจากจบปริญญาโทกว้านหลินก็ถูกผู้เป็นพ่อเรียกตัวกลับมาไทยตามเดิมเพื่อมารับช่วงต่อ หยวนช่างอยากวางมือให้ลูกชายทั้งสามได้สานต่อกิจการต่างๆที่เขาเพียรสร้างจนมั่นคงแข็งแรงอย่างเต็มตัว ใช้เวลาไม่นานเขาก็สอนงานกว้านหลินจนหมดทุกสิ่งอย่าง ชายชราวัยใกล้ 70 ปีมีความหวังจะไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขที่บ้านเกิดโดยมีคุณนายใหญ่ละคุณนายรองเตรียมตัวจะไปดูแลรับใช้
 
แต่...
 
หยวนช่างไม่มีโอกาสนั้น
 
            “นายท่านครับ รถพร้อมแล้วครับ”หลังงานเลี้ยงเปิดบริษัทใหม่ของอัลฟ่าตระกูลใหญ่ของไทย กว้านหลินและผู้เป็นพ่อก็เตรียมตัวเดินทางกลับไปพักชายหนุ่มและบอดี้การ์ด 3 คนเดินไปส่งผู้เป็นพ่อที่รถ
 
            “เดี๋ยวพ่อกลับบ้านไปก่อนนะครับ ผมขอกลับไปเอาเอกสารที่คอนโดก่อน ผมมีบางอย่างให้พ่อดู”ชายหนุ่มบอกกับผู้เป็นพ่อ
 
            “เอกสารอะไรทำไมต้องไปเอาตอนนี้มันสำคัญมากเลยเหรอ?”
 
            “สำคัญครับ ผมกับอี้เฉินตรวจสอบพบการทุจริต แล้วคนทุจริตเป็นคนที่เราไว้ใจ”
 
            “ถ้างั้นก็รีบไปรีบมา พ่อจะไปรอที่บ้าน คืนนี้คงไม่ต้องนอนถ้าเรื่องมันสำคัญแบบนั้นหยวนช่างก้าวขึ้นรถ กว้านหลินโค้งให้กับผู้เป็นพ่อจากนั้นจึงเดินทางกลับไปที่คอนโดของตัวเอง  ชายหนุ่มไปได้เพียงครึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อี้เฉินที่นั่งด้านหน้าคู่กับบอดี้การ์ดพูดคุยกับปลายสายด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
 
            “คุณชายครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว...รถของนายท่านเกิดอุบัติเหตุครับ”
 
 
            พิธีศพของนายใหญ่ตระกูลไล่เสร็จเสิ้นไปเป็นเดือนแล้ว ไล่กว้านหลินเข้ามาบริหารงานในบริษัทอย่างเต็มตัว ชายหนุ่มจากที่เคยเคร่งขรึมบัดนี้สีหน้าไร้อารมณ์ยากที่จะเดาความรู้สึก ยามท่านประธานเข้าบริษัทเหล่าพนักงานบรรดาพนักงานต่างก็ให้ความเคารพ
 
กว้านหลินสานต่อธุรกิจของผู้เป็นพ่อได้เป็นอย่างดีโดยมีคริสและจอห์นนี่คอยเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง เมื่อพี่ชายบินกลับไปกว้านหลินก็บริหารงานด้วยตัวเอง ฝ่ายบัญชีถูกเรียกมาตรวจสอบเงินที่ถูกภุชงค์ทุจริตไปนานนับสิบปี
 
            “แปดสิบล้าน”กว้านหลินตบโต๊ะประชุมจนเกิดเสียง ตัวเลขไม่ใช่น้อยๆที่ภุชงค์ทุจริตไป เบต้าแก่ลักกินขโมยกินรายได้ของบริษัทนานนับสิบปีอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครระแคะระคายเลยซักนิด มันเกิดขึ้นได้อย่างไรที่แม้แต่พ่อของเขาก็ไม่รู้ว่าบัญชีถูกดัดแปลงและรายได้ถูกแบ่งออกไป มันเป็นการยักยอกแบบค่อยๆดึงเงินไปทีละนิดดัดแปลงตัวเลขรายจ่ายของบริษัท เป็นเพราะรายได้ธุรกิจมืดมันมหาศาลพ่อของเขาจึงไม่สังเกตเลยหนำซ้ำภุชงค์ก็ค่อยๆกว้านซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นทีละนิด หากเขาจะฮุบบริษัทนี้ ภุชงค์ต้องกำจัดคนที่ถือหุ้นใหญ่ที่สุด
 
เขาจำเป็นต้องกำจัดหยวนช่างและกว้านหลินเมื่อขาดหัวเรือหลักผู้ถือหุ้นรายอื่นก็จะเทขาย ระหว่างนั้นเบต้าเจ้าเล่ห์ก็แอบเปิดบริษัทของตัวเองและแอบดึงลูกค้ารายเล็กและลูกค้าขนาดกลางของบริษัทไปอย่างแนบเนียน เขาอดทนที่จะอาศัยอยู่ในบ้านหลังเท่ารูหนูหลังเดิมแล้วแอบไปสร้างคฤหาสน์หลังใหญ่ที่อยู่ออกไปทางชานเมืองนิดหน่อยเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ภุชงค์ส่งภัทรไปเรียนต่อที่อังกฤษโดยความดูแลของญาติที่แต่งงานกับผู้ชายที่นั่น เขาอยากมีและอยากได้ เขาทะเยอทะยานเพราะเขาไม่อยากให้ภัทรน้อยหน้าใคร ลูกที่เป็นโอเมก้าเพียงหนึ่งเดียวของเขาจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพื่อกลบปมด้อยเรื่องสายพันธุ์ของตัวเอง
 
ถ้ามีเงิน มีอำนาจ ปมด้อยก็จะถูกฝังกลบไปเอง ภัทรจะมีโอกาสได้แต่งงานกับอัลฟ่าที่มาจากชาติตระกูลดีๆซักคน
 
เดิมทีเขาหมายมั่นปั้นมือจะให้ภัทรกับกว้านหลินรักกันเขาจึงพาลูกไปเล่นที่บ้านกว้านหลินบ่อยๆเพื่อหวังให้เด็กๆสร้างสายสัมพันกันทีละนิด แต่หยวนช่างกลับบอกว่าเมื่อถึงเวลาอันควรเขาจะหาอัลฟ่าสาวจากตระกูลดีๆซักคนมาคู่กับกว้านหลินเพื่อสืบทอดสายเลือดบริสุทธิ์ต่อไป ดังนั้นภุชงค์จึงจำเป็นต้องพับแผนนั้นทิ้งและไม่ให้ภัทรติดต่อกับกว้านหลินอีก เขาคิดเพียงว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไปเด็กทั้งสองจะลืมกันไปได้เอง และในที่สุดภัทรก็ไม่ถามหากว้านหลินอีก
 
            “ภีม พล อย่าแอบหยิบอาหารในจานกินก่อนสิลูก รอพี่ภัทรลงมาก่อน”ภาวิณีเอ็ดลูกชายคนกลางและคนเล็กเมื่อเด็กหนุ่มวัย 15 ปีและ 12  ปีหยิบเอาไก่ทอดของโปรดของภัทรมากิน
 
ณภัทรวัย 18 ปี จบชั้นมัธยมปลายจากประเทศอังกฤษ โอเมก้าหนุ่มกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงปิดเทอม กลับมาครั้งนี้บ้านหลังเล็กที่เคยอยู่ไม่มีอีกต่อไปแล้ว หลังจากผู้เป็นพ่อไปรับเขากลับจากสนามบินรถยนต์คันหรูก็มุ่งหน้าออกนอกเมือง ภัทรเพิ่งรู้ว่าฐานะทางบ้านเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน เด็กหนุ่มมองบริเวณบ้านที่กว้างพอๆกับคฤหาสน์ตระกูลไล่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
 
คิดถึง...บรรยากาศของบ้านใหม่คล้ายกับสถานที่ๆเคยไปบ่อยๆ
 
แม้จะผ่านมานานถึง 5 ปีแล้วแต่ภัทรจำได้ไม่เคยลืม
 
กลิ่นฝนแรกนั้นยังคงชุ่มฉ่ำและติดตรึงคล้ายจะอวลอยู่ที่ปลายจมูกไม่เคยเลือนหายไปไหน ณภัทรในวัยนี้โตพอที่จะรู้จักป้องกันตัวเองแล้ว แม้จะเกิดอาการฮีทแต่โอเมก้าตัวน้อยก็กินยาระงับได้ทัน บางช่วงที่ต้องสอบอาจจะเผลอเรอลืมกินยาระงับเขาตัดสินใจใช้ยาฉีดที่มีประสิทธิภาพมากกว่ายากินและการสวมโชคเกอร์เป็นเครื่องป้องกันการถูกกัด  ณภัทรเดินลงมาร่วมโต๊ะอาหารกับพ่อแม่และน้องทั้งสอง คนรับใช้ที่ภุชงค์จ้างมาคอยเสิร์ฟอาหารไม่ได้ขาด สามพี่น้องแย่งกันพูดคุยหยอกเย้าบ้างก็แย่งอาหารในจานกันให้วุ่นเรียกเสียงหัวเราะจากผู้เป็นพ่อและเสียงเอ็ดจากผู้เป็นแม่ได้อย่างไม่ขาดสาย มื้ออาหารต้อนรับแสนอบอุ่นจบลงปิดท้ายคืนอันแสนเหนื่อยล้าจากการเดินทางด้วยรอยจูบบนหน้าผากที่แม่มอบให้ก่อนหลับตาลงนอน  ด้านนอกสายฝนตกลงมาไม่ขาดสาย สายฟ้าแลบแปลบปลาบที่ขอบฟ้าไกลออกไป
 
            “ฝันดีนะจ๊ะลูกรัก”ภาวิณีลูบศีรษะลูกอย่างแสนรักใคร่ ไม่ว่าภัทรจะโตมากแค่ไหนแล้วในสายตาของหล่อนลูกก็ยังคงเป็นโอเมก้าตัวน้อยที่ว่านอนสอนง่ายของเธอเสมอ ภัทรรั้งต้นคอของแม่เข้ามาหาแล้วหอมแก้มแม่คืน
 
            “ฝันดีฮะแม่”
 
            “แม่รักลูกนะ...”
 
            “ผมก็รักแม่ฮะ..แม่...”ภัทรเอ่ยเรียกแม่ อยู่ๆความรู้สึกบางอย่างก็ตีรวนเข้ามาทำให้เกิดความรู้สึกโหยหา ผู้เป็นแม่ที่กำลังจะปิดประตูห้องนอนให้ลูกหันมามองหน้าเป็นคำถาม
 
            “จ๊ะ?”ภัทรสลัดความรู้สึกแปลกนั้นทิ้งไปก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้แม่แล้วส่ายหน้า
 
            “ไม่มีอะไรฮะ แค่ไม่ได้เจอแม่นาน ผมคิดถึง”
 
            “ไปอยู่เมืองนอกนานเขาสอนวิชาปากหวานด้วยเหรอลูก?”ภัทรย่นจมูกกับประโยคหยอกเย้าของผู้เป็นแม่ ภาวิณีส่งจูบให้ลูกชายอีกครั้งก่อนจะดับไฟดวงใหญ่ ทั้งห้องคงเหลือเพียงไฟสลัวที่หัวเตียง โอเมก้าตัวน้อยล้มตัวลงนอนดังเดิม จมูกสูดกลิ่นฝนที่ลอยเข้ามาจากนอกหน้าต่างที่แง้มไว้น้อยๆ
 
หอมกลิ่นฝน หอมเหลือเกิน หอมเหมือนใครคนนั้น
 
ภัทรชอบฤดูฝน เพราะกลิ่นฝนยามที่ตกกระทบผืนดินและผืนหญ้านั้นเหมือนกลิ่นกายประจำตัวอัลฟ่าคนสุดท้องของตระกูลไล่
 
เปลือกตาค่อยๆปิดลงจากความเหนื่อยล้าของการเดินทางนานนับสิบชั่วโมง
 
            “ภัทร ตื่นลูก ตื่นเร็ว!!!”เด็กน้อยสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกถึงแรงเขย่าที่ต้นแขน ณภัทรลุกขึ้นนั่งมองแม่ที่ปลุกเขาอย่างบ้าคลั่งด้วยสายตาไม่เข้าใจ
 
            “อะไร...เกิดอะไรขึ้นฮะแม่”เขาไม่เข้าใจท่าทีร้อนรนที่แม่มี น้องชายสองคนถูกปลุกมายืนงัวเงียหน้าตาตื่นอยู่ในห้องของเขา
 
            “อย่าเพิ่งถาม หนีก่อน ใส่เสื้อคลุมซะใส่ปลอกคอด้วยแม่จะพาออกประตูหลังบ้าน ไปเร็วภีม พล”ณภัทรทำตามที่แม่สั่งอย่างงงๆแม้จะไม่เข้าใจแต่ก็หยิบโชคเกอร์ที่วางบนหัวเตียงมาใส่ ผู้เป็นแม่ดึงลูกชายทั้งสามคนเพื่อให้วิ่งตามหล่อนลงไปด้านล่างสี่แม่ลูกค่อยๆซ่อนตัวในความมืด ณภัทรและน้องๆตกตะลึงกับภาพเบื้องล่างที่ได้เห็น บรรดาบอดี้การ์ดที่ผู้เป็นพ่อจ้างมานอนตายจมกองเลือด ไม่ห่างกันนักแม่บ้านและคนรับใช้ถูกจับมัดรวมกันกอง ในบ้านไม่มีคนร้ายอยู่มันอาจจะกำลังรอเล่นงานพวกเขาจากที่ใดที่หนึ่ง คนเป็นแม่กวาดสายตาสำรวจราวกับนางสิงห์ที่พร้อมปกป้องลูกน้อย
 
            “คุณคะ”ภาวิณีหันไปหาสามีเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องนอนปิด ในมือของภุชงค์มีปืนพกที่พร้อมใช้งาน
 
            “พาลูกหนีไปทางหลังบ้าน ทางนี้ผมจะจัดการเอง นี่เป็นเอกสารทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่ผมมี เอาติดตัวไป เบอร์โทรติดต่อคนที่จะให้ความช่วยเหลืออยู่ในนี้แล้ว ถ้าภายในสองชั่วโมงผมไม่ตามไป...ดูแลลูกของเราให้ดีด้วย”
 
            “ไม่...คุณต้องตามเราไป อย่าทิ้งฉัน อย่าทิ้งลูก”ภาวิณีจับมือสามี คำพูดอ้อนวอนพรั่งพรู แม้ใจจะเป็นห่วงภุชงค์แค่ไหน แม้จะอยากอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ซักเพียงใดแต่หล่อนมีหน้าที่ต้องพาลูกๆทั้งสามคนหนี
 
หล่อนรู้ว่านี่คือการมาเอาคืนของคุณชายตระกูลไล่
 
ระยะเวลาหนึ่งเดือนไล่กว้านหลินทำเหมือนไม่สนใจจะตามพวกเขา นั่นเป็นเพียงภาพลวงตาหญิงสาวสวมกอดผู้เป็นสามี ส่งสายตาสื่อความรักความอาลัยอาวรณ์ให้แก่กันแล้วจึงหันไปดึงลูกทั้งสามให้วิ่งหนีมาพร้อมตน
 
            “อยู่นั่นเจอตัวแล้ว”เมื่อออกมายังบริเวณสวนหลังบ้านชายชุดำที่ซุ่มอยู่ก็ตะโกนบอกกับพวกที่เดินวนเวียนอยู่หน้าบ้าน เสียงปืนดังออกมาจากตัวบ้านสองนัดทุกคนสะดุ้งหากแต่สัญชาติญาณของผู้เป็นแม่ที่ต้องปกป้องลูกทำให้ภาวิณีไม่มีเวลามาลังเลใดใด ภาวิณีรีบสาวเท้าก้าวตรงไปยังประตูเล็กก่อนจะดันพลและภีมออกไปก่อน
 
            “ภัทรมาลูก ภัทร เร็วเข้า”หล่อนร้องเรียกลูกชายคนโตที่ยืนมองเข้าไปในตัวบ้าน ณภัทรหันมามองแม่ ดวงตากลมเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา
 
            “แม่ไปก่อน ผมจะเข้าไปช่วยพ่อ”ภัทรดันร่างของแม่ออกไปนอกประตูก่อนจะปิดโดยไว เด็กน้อยวิ่งกลับเข้าไปในตัวบ้านอีกครั้ง โอเมก้าตัวน้อยใจเต้นระรัวดวงตากลมกวาดตามองหาผู้เป็นพ่อก็พบว่าภุชงค์กำลังแอบอยู่ตรงมุมหนึ่งของบ้าน ภัทรค่อยๆย่องเข้าไปจนถึงตัวของภุชงค์
 
            “ภัทร กลับมาทำไม!!”ผู้เป็นพ่อกระซิบถามอย่างไม่พอใจ
 
เขายอมตายเพื่อจะรักษาชีวิตลูกและเมียแต่ทำไมณภัทรกลับมาหาเขาแบบนี้
 
ลูกน้อยของเขาช่างโง่เขลานัก การย้อนกลับมามีแต่ตายกับตายเท่านั้น
 
            “พ่อถูกยิงเหรอฮะ อดทนไว้นะเดี๋ยวผมจะพาออกไป”ภัทรจับแขนที่ชุ่มไปด้วยเลือดของพ่อให้พาดคอตนเองก่อนจะประคองออกไปเร้นกายตามเหลี่ยมมุมและเงามืด น่าแปลกที่เขาไม่พบพวกชายชุดดำพวกนั้นอีกแล้ว โอเมก้าตัวน้อยพาเบต้าผู้เป็นพ่อออกมาด้านนอกประตูรั้วได้สำเร็จ แม่และน้องๆยังคงรอพวกเขาอยู่ แต่ที่แปลกออกไปคือด้านหลัง รถยนต์สีดำสนิทปิดฟิล์มมืดจอดอยู่
 
            “แม่...ภีม พล”ภัทรร้องเรียกแม่และน้อง พลันประตูรถยนต์ก็เปิดออก หวังอี้เฉินเดินอ้อมมาด้านหลังคนขับก่อนจะเปิดให้ร่างสูงของไล่กว้านหลินได้ก้าวออกมา รองเท้าหนังเงาปลาบเหยียบย่ำลงบนพื้นคอนกรีตที่เปียกชุ่มด้วยหยาดฝน
 
กลิ่นหอมฝนแรกที่ได้กลิ่นก่อนหลับคือกลิ่นนี้ไม่ผิดแน่  ณภัทรส่งยิ้มให้กับบุคคลที่เห็นอย่างดีใจ
 
พี่กว้านหลินมาช่วยเขาใช่มั้ย...
 
ณภัทรปล่อยผู้เป็นพ่อก่อนจะออกตัววิ่งไปหาไล่กว้านหลินด้วยความดีใจ สองมือยื่นเพื่อจับแขนของอัลฟ่าที่แสนใจดีคนนั้นอย่างมีความหวัง
 
 
ปัง!!!!
 
 
ร่างบางสะดุ้งเฮือก ดวงตากลมเบิกกว้างสองขาชะงักก่อนจะหันกลับไปมองบ้านหลัง
 
ร่างของภุชงค์ค่อยๆร่วงหล่นลงไปนอนกับพื้น น้ำฝนที่ตกลงมาท่วมในแอ่งน้ำกระจายตัวยามที่ศีรษะของภุชงค์กระแทกลงไปเต็มแรง เลือดสีแดงสดค่อยๆทะลักออกมาจากปากแผลบนหน้าผากที่ทะลุเป็นรู กลิ่นดินปืนคละคลุ้งเสียงกรีดร้องของแม่และน้องๆดังเข้ามาในโสตประสาท ภัทรหันกลับมาทองด้านหลังอีกครั้ง พลันความเจ็บแปลบก็แล่นเข้ามาปะทะต้นคอแล้วโลกทั้งใบของณภัทรก็ดับลงในทันที...ก่อนที่ดวงตาพร่าเลือนจะปิดลง ใบหน้าของไล่กว้านหลินก็ปรากฏชัดในสายตา



          "สวัสดีณภัทร ยินดีต้อนรับ...สู่นรก"




TBC.

#ไฮเดรนเยีย


...................................


บางทีคนที่เป็นดังแสงสว่างตลอดมาอาจจะเป็นคนหยิบยื่นรัติกาลให้ตลอดไป...




หัวข้อ: Re: Hydrangea [[Omegaverse mpreg ]] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 1 "ยินดีต้อนรับสู่นรก"
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-02-2019 23:23:17
 :pig2:ติดตาม
หัวข้อ: Re: Hydrangea [[Omegaverse mpreg ]] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 1 "ยินดีต้อนรับสู่นรก"
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 23-02-2019 23:52:33
#อุ้มภัทรหนี
หัวข้อ: Re: Hydrangea [[Omegaverse mpreg ]] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 2 "อัศวินที่หายไป" 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 24-02-2019 11:39:17







Hydrangea 2


          เจ็บ...คือความรู้สึกแรกที่ณภัทรรู้สึกได้หลังจากได้สติ ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอก่อนที่จะถูกใครซักคนทำร้ายจนสลบ ภัทรลืมตาก็พบว่าทุกอย่างมืดสนิท เขาถูกผ้าสีดำปิดตาไว้ความเจ็บร้าวที่ต้นคอทำให้ร่างบางเลือกที่จะนอนนิ่งๆ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งพบเจอ
 
ภาพของพ่อที่ถูกยิงจนล้มทั้งยืนทั้งๆที่เขาพยายามพาหนีออกมาแทบตายยังคงติดตา
 
หัวใจของเด็กน้อยบอบช้ำเหมือนดอกไม้ช่อสวยที่ถูกบดขยี้ด้วยรองเท้าราคาแพง
 
ไล่กว้านหลินเป็นคนลั่นกระสุนนัดนั้นใส่พ่อของเขา
 
นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรอยู่ เป็นเรื่องจริงหรือว่าเขากำลังว่ายวนอยู่ในฝันร้าย
 
ถ้าอย่างนั้นรีบตื่นตอนนี้จะได้มั้ยนะ ฝันให้มันจบไปเสียทีตื่นเข้ามาภัทรจะยังคงพบกับคุณพ่อที่ใจดีกับลูกๆคุณแม่ที่ตื่นมาเตรียมอาหารแสนอร่อยให้ในมื้อเช้าและเจ้าน้องชายตัวแสบสองคนที่ชอบทะเลาะแย่งของกินกันไม่เว้นในแต่ละวัน
 
กลิ่นคาวเลือดยังเหมือนจะคละคลุ้งติดปลายจมูกมิรู้หาย
 
ไม่ใช่ความฝัน...หากไม่หลอกตัวเองแล้วอยู่กับความจริงณภัทรก็รู้ว่านั่นคือเรื่องจริง
 
ไล่กว้านหลินที่เคยบอกว่าจะคอยดูแลปกป้องเมื่อครั้งยังเยาว์วัยไม่มีอีกต่อไปแล้ว...
 
หยาดน้ำตาค่อยๆไหลออกมาทีละน้อยเมื่อได้รับรู้ความเป็นจริง เพียงแค่คืนเดียวที่เขาเดินทางกลับมาเมืองไทยเขาต้องเสียอะไรไปมากมาย
 
เสียทั้งพ่อ เสียทั้งคนที่เคยปักใจรัก ใจดวงน้อยสุดจะทานทนเมื่อนึกถึงแม่และน้องชายทั้งสอง ก้อนสะอื้นที่พยายามเก็บกักไว้ก็ทะลักออกมาเป็นทำนบน้ำตาที่พังทลาย ความโศกศัลย์อาดูรกัดกินใจดวงน้อยเหมือนมดฝูงใหญ่ที่รุมทึ้งผีเสื้อที่หลงเล่นระเริงกับแสงไฟจนเจียนขาดใจตาย
 
            “อ๊ะ!!”ร่างบางสะดุ้งเฮือกพลางยื่นมือไปจับต้นคอไว้ แรงกระตุกทำให้ร่างที่นอนอยู่กับพื้นเย็นๆถลาไปด้านหน้า เจ็บจนหายใจแทบไม่ออก ภัทรพยายามฝืนแรงรั้งที่ต้นคอไว้
 
โชคเกอร์ที่ใส่ไม่ใช่อันเดิมมันถูกเปลี่ยนไปตอนที่ภัทรสลบ ผิวสัมผัสของมันแข็งเหมือนทำจากหนังชั้นต่ำและคมจนบาดเข้าไปในผิวเนื้อจนรู้สึกเจ็บแสบ ภัทรกระชากผ้าที่ปิดตาไว้ออกดวงตากลมฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตาปิดหนีแสงสว่างจากดวงไฟกลางห้องเมื่อลืมตาอีกครั้งณภัทรก็เห็นร่างคุ้นตานั่งอยู่บนโซฟาสีแดงเลือดนกตัดกับชุดสูทหรูสีดำที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่ ไล่กว้านหลินนั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายมือข้างหนึ่งคีบบุหรี่ราคาแพงจ่อปลายมวนเข้าปากก่อนจะอัดควันขาวคลุ้งพ่นออกมาจนเหมือนม่านหมอกสีจาง มือข้างซ้ายถือโซ่เส้นยาวไล้สายตามองจุดสิ้นสุดก็พบว่ามันถูกล็อกเข้ากับปลอกคอที่เขาสวมอยู่ ภัทรมองภาพนั้นอย่างตื่นตระหนก
 
            “ฟื้นแล้วเหรอ?”น้ำเสียงทุ้มติดแหบเล็กน้อยเอ่ยถาม ไม่ใช่คำถามของความห่วงใยเลยซักนิดเมื่อดวงตาคมนั้นจ้องภัทรราวกับจะฆ่าให้ตายด้วยสายตาดุๆนั้น
 
กลัว...หัวใจของณภัทรกรีดร้องให้กับความน่ากลัวนั้น ไล่กว้านหลินในตอนนี้น่ากลัวราวกับไม่ใช่อัลฟ่าที่แสนใจดีเมื่อหลายปีก่อนเลย
 
คล้ายจะถูกซาตานกลืนกินจิตวิญญาณไปจนหมดสิ้นมือที่ถือโซ่กระชับวัตถุเส้นยาวเย็นเฉียบนั้นแน่นก่อนจะกระตุกอีกครั้งจนร่างของภัทรถลาลากมาแทบเท้า
 
            “โอ้ย...พี่ทำอะไรของพี่ ผมเจ็บนะ”ภัทรตะโกนใส่หน้าคนที่ก้มลงมาเหยียดยิ้มให้กับตน ดวงตากลมจ้องสบไม่หลบหนี ภายในใจกรุ่นโกรธราวกับลาวาร้อนแรงแดงฉานที่ใกล้จะประทุ แต่ท่าทางโกรธขึ้งนั้นไม่ได้น่ากลัวเลยซักนิดสำหรับไล่กว้านหลิน ปลายนิ้วที่คีบมวนบุหรี่ค่อยๆไล้ลงบนกรอบหน้าที่ขึ้นโครงชัดก่อนจะหลุบตามองต้นคอขาวที่บัดนี้เกิดปื้นแดงมีเลือดไหลออกมาซิบๆเพราะถูกคมของปลอกคอรั้ง
 
            “ก็เห็นว่าใส่ปลอกคอสวยดี เพิ่มโซ่ไว้จูงเล่นอีกซักเส้นจะเป็นอะไรไป”กว้านหลินจี้ปลายบุหรี่ร้อนลงบนต้นคอของภัทร ความร้อนทำให้ผิวเนื้อไหม้หนังกำพร้าด้านนอกกลายเป็นแผล เด็กน้อยผลักมือของกว้านหลินออกเจ็บจนร้องไห้ออกมาพยายามดันตัวเองหนีหากแต่ว่าโซ่เส้นยาวกลับกลายเป็นเครื่องพันธนาการชิ้นดี ณภัทรตวัดสายตามองคนใจร้าย น้ำตาหยดใสไหลร่วงจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างน่าสงสารหากแต่คนที่เพิ่งจะทำร้ายเขากลับเหยียดยิ้มอย่างเลือดเย็น
 
เจ็บเหรอ...
 
แค่นี้ยังเจ็บได้ไม่ถึงเศษหนึ่งส่วนล้านที่เขาและพ่อได้รับเลยด้วยซ้ำ
 
            “พี่ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายผมแบบนี้นะ ผม ฮึก...ผมไปทำอะไรให้...ทำไมพี่ต้องมาทำกับผมแบบนี้ด้วย”ไล่กว้านหลินเงยหน้าหัวเราะราวคนบ้า ชานหนุ่มปล่อยปลายโซ่ยาวให้ภัทรถอยหนีก่อนจะค่อยๆสาวเท้าเข้ามาใกล้ทีละนิด ทีละนิด เสียงพื้นรองเท้าหนังมันปลาบกระทบพื้นหินอ่อนราคาแพงดังใกล้เข้ามาจนทำให้หัวใจเต้นเร็วอย่างสะท้าน กว้านหลินเร่งฝีเท้าเข้ามาจนเหมือนลูกธนูที่พุ่งออกจากสายกว่าจะทันตั้งตัวชายหนุ่มก็กระชากกลุ่มผมนิ่มของโอเมก้าที่ไร้ทางสู้ทั้งพละกำลังและสถานะจนร่างบางแทบจะลอยติดมือขึ้นมา


 
            “ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์ล่ะ ฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในตัวเธอเลยล่ะณภัทร ในฐานะที่พ่อชั่วๆของเธอเป็นหมาลอบกัดฆ่าพ่อของฉัน  ฉันจะเอาคืนทุกบาททุกสตางค์ทุกความรู้สึกที่ได้รับจากคนทรยศอย่างพ่อของเธอ!!!”


 
            “หยุดว่าพ่อของผมเดี๋ยวนี้นะ พี่เป็นบ้าอะไร ใครไปทรยศอะไรพี่”ณภัทรเอ่ยเถียงทั้งๆที่น้ำตายังเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้ามือเล็กปาดเช็ดมันอย่างลวกๆ จมูกแดงๆนั้นรั้นขึ้นอย่างไม่ชอบใจ
 
ไม่มีใครบอกเล่าหรืออธิบายอะไรให้เขาฟังเลยซักนิด เขาเพิ่งบินกลับมาถึงประเทศแม่เมื่อวานตอนบ่ายๆ พอตกดึกก็เจอเหตุการณ์น่ากลัวทั้งพ่อถูกคนตรงหน้าฆ่า ใจดวงน้อยสั่นไหวทุกครั้งเมื่อนึกถึงสายตาของพ่อก่อนตายที่มองมา
 
พ่อใครๆก็รักและณภัทรก็รักและเทิดทูนผู้เป็นพ่อมาก ดวงตากลมฉายแววดื้อรั้นและไม่พอใจอย่างชัดเจน ในนั้นมีทั้งแววโกรธและขัดเคืองใจหากแต่ลึกๆก็สะท้อนชัดถึงความหวาดกลัวที่กำลังเผชิญ
 
แม่และน้องชายทั้งสองจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ ณภัทรรู้สึกเหมือนตนเองถูกทิ้งไว้กลางทะเลที่ลึกจนยากจะหยั่ง เด็กน้อยจำเป็นต้องตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดเพื่อที่จะตามหาแม่และน้องๆ หากพลาดพลั้งหมดแรงก็มีแต่ร่วงลงจมดิ่งสู่ก้นมหานที
 
            “เคารพเทิดทูนพ่อตัวเองจนหน้ามืดตามัวไม่มองถึงความเลวทรามชั่วช้าที่มันทำเลยเหรอ หรือเพราะรู้เห็นเป็นใจกันทำเรื่องชั่วถึงได้มาทำหน้าใสซื่อโกหกตอแหลกันแบบนี้”กว้านหลินใช้ปลายนิ้วบีบลงบนคางของภัทรอย่างแรงก่อนจะสะบัดทิ้งอย่างไม่ใยดีว่าภัทรจะเจ็บมากแค่ไหน เขาแค่อยากให้เด็กที่ปั้นหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวนี้ได้รู้ถึงความชั่วที่ผู้เป็นพ่อทำไว้กับครอบครัวของเขา
 
            “พี่พูดเรื่องบ้าอะไร ไม่มีใครบอกอะไรผมเลยซักคน ฮึก ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นทำไม...ทำไมต้องกลับมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ด้วย ฆ่าพ่อของผมทำไม พี่ฆ่าพ่อผมทำไม ไอ้คนใจร้าย”ภัทรตัดความกลัวทิ้งไป ความคับแค้นใจที่พยายามกักเก็บไว้กลับล้นประทุกำปั้นเล็กทุบลงบนอกของคนใจร้ายตรงหน้า น้ำตาล้นทะลักพร้อมเสียงสะอื้นไห้อย่างน่าเวทนา หากแต่ความเจ็บช้ำของณภัทรไม่ได้ส่งตรงไปถึงหัวใจอันด้านชาของกว้านหลินเลยซักนิด การทำร้ายร่างกายของภัทรไม่ได้ทำให้เขารู้สึกเจ็บ เขามองใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาด้วยดวงตาเรียบนิ่งริมฝีปากเหยียดยิ้มอย่างสมเพชก่อนจะรวบข้อมือเล็กนั้นไว้อย่างรรำคาญเต็มทน
 
            “มัวแต่เสวยสุขอยู่บนหอคอยงาช้างสินะถึงไม่รู้ว่าพ่อตัวเองทำเรื่องเลวๆไว้มากมายขนาดไหน”ไล่กว้านหลินค่อยๆโน้มตัวลงไปหาเด็กที่หยุดชะงักเพื่อฟังสิ่งที่เขาจะพูด
 
            “งั้นฉันจะแจกแจงบัญชีระหว่างเราให้เธอฟังตอนนี้เลยแล้วกัน”
 
            “โอ้ย!!!”ภัทรส่งเสียงร้องออกมาร่างบางกระเสือกกระสนเพราะถูกกว้านหลินดึงโซ่จนไหลตามแรงมหาศาลนั้นกลับไปที่โซฟาตัวเดิม
 
            “ปล่อยผมนะ ผมเจ็บ”ภัทรพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้นแต่ยิ่งเด็กน้อยดิ้นมากเท่าไหร่ไล่กว้านหลินก็ดึงรั้งโซ่เส้นนั้นมากขึ้นเท่านั้น
 
            “มาเริ่มกันเลยดีกว่า”กว้านหลินไม่สนใจต่อเสียงตะคอกของภัทรเลยด้วยซ้ำ เขากลับไปนั่งลงตามเดิมยกขาขึ้นมาไขว่ห้างทำท่าทางราวกับกำลังผ่อนคลายเสียเต็มประดา
 
 แม้เขาจะร้องไห้ด้วยความเจ็บแต่คนตรงหน้าคล้ายจะไม่หลงเหลือความรู้สึกใดใดในหัวใจเลยซักนิดเดียว กว้านหลินมองใบหน้าของเด็กตรงหน้าด้วยสายตาเรียบนิ่ง ต่างจากพี่กว้านหลินที่ภัทรรู้จักเมื่อกว่าสิบปีก่อน
 
ไม่มีอีกแล้วอัลฟ่าแสนใจดีที่ปัดเป่าความเจ็บแสบจากรอยแผลเหลือเพียงปีศาจที่พร้อมจะมอบรอยแผลเพิ่มให้กับภัทรได้ตลอดเวลา กว้านหลินกระตุกยิ้มยามเห็นโลหิตซิบอยู่บนปากแผลรอยใหม่ชายหนุ่มดึงรั้งให้ภัทรขยับเข้ามาหาตนเอง
 
น้ำเสียงเย็นเยียบดุจภูเขาน้ำแข็งลูกใหญ่เอ่ยกระซิบชิดใบหู แต่ภัทรรู้ดีว่าภายในใจของกว้านหลินตอนนี้เหมือนมีเพลิงกองใหญ่กำลังเผาทำลายอย่างช้าๆ
 
            “ภุชงค์ ไอ้สารเลวนั่นส่งคนมาตัดสายเบรกรถของฉัน มันจะฆ่าฉันกับพ่อแต่โชคไม่ดี มันทำสำเร็จครึ่งเดียว”
 
            “ไม่จริง พ่อของผมไม่ใช่คนแบบนั้น!!”ภัทรผลักอกของกว้านหลินออกอย่างโกรธเกรี้ยว คนๆนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือไง มากล่าวหาปรักปรำคุณพ่อที่แสนใจดีของเขาด้วยข้อหาร้ายแรงอย่างนั้นได้ยังไงกัน ทุเรศสิ้นดี ภัทรจ้องตาของกว้านหลินโดยไม่หลบเหมือนที่ผ่านมา
 
            “ใจดีเหรอ คนใจดีที่ไหนจะวางแผนกำจัดคนที่ให้งานให้เงินให้อาชีพตัวเองได้ คนใจดีที่ไหนจะยักยอกเงินของบริษัทมานานนับสิบปี คนใจดีที่ไหนถึงได้วางแผนกว้านซื้อหุ้นเพื่อจะตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนพ่อของฉัน คนใจดีที่ไหนเขาทำกัน รู้มั้ยก่อนพ่อของฉันจะตายท่านทรมานแค่ไหน ทั้งๆที่ท่านตั้งใจจะวางมือจากธุรกิจแล้วแท้ๆ ท่านแค่อยากไปใช้บั้นปลายชีวิตอย่างสงบที่บ้านเกิด พ่อของเธอมาพรากทุกอย่างที่ท่านหวังไปรวมทั้งพรากชีวิตของท่านไปจากพวกฉันด้วย เพราะฉะนั้นมันต้องชดใช้ด้วยชีวิตก็เหมาะสมแล้ว ไม่แปลกใจบ้างเหรอเป็นแค่เลขาโง่ๆจะเอาทรัพย์สินเงินทองมากมายมาจากไหน มากจนส่งเธอไปเรียนถึงเมืองนอกได้ มากจนสร้างบ้านหลังใหญ่ขนาดนั้นได้ มากจนส่งน้องๆของเธอเรียนโรงเรียนนานาชาติที่ค่าเทอมแพงแสนแพงได้ทั้งๆที่เมื่อก่อนบ้านเก่าที่พวกเธอใช้คุ้มกะลาหัวพ่อของฉันยังเป็นคนช่วยจ่ายให้อยู่เลย”กว้านหลินผลักอกของภัทรจนเด็กน้อยกระเด็นไปด้านหลังด้วยแรงอารมณ์ที่ประทุขึ้นมาอีกครั้ง
 
วูบหนึ่งภัทรรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงที่แสนเศร้านั้น  เขาเข้าใจดีว่าคนที่ต้องสุญเสียพ่อไปอย่างกะทันหันนั้นจะต้องรู้สึกเช่นไร เขาเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งจากการกระทำของคนตรงหน้า ภัทรปล่อยน้ำตาให้ไหลอย่างเงียบๆเพราะเมื่อคิดตามที่กว้านหลินพูดแล้ว ครอบครัวของเขาก็มีฐานะดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจจริงๆ
 
ความผิดหวังฉายชัดในแววตาของโอเมก้าตัวน้อย พ่อที่เป็นต้นแบบให้กับเขามาโดยตลอดคือคนขี้โกงที่มีจิตใจโหดร้ายถึงขั้นฆ่าคนๆหนึ่งได้ลงคอ เบต้าท่าทางงกๆเงิ่นๆหาญกล้ากำจัดอัลฟ่า นั่นเป็นความผิดมหันต์ ในห่วงโซ่นี้ตั้งแต่รู้สถานะของตัวเองชัดเจนใครๆก็รู้ว่าอัลฟ่าคือผู้อยู่บนสุดของพีรามิดนี้ เบต้าไม่มีสิทธิ์ที่จะสร้างความระคายผิวหรือทำให้ขุ่นข้องไม่ว่าจะในเหตุการณ์ใดก็ตาม แต่นี่พ่อของเขาฆ่าคนตายทั้งคน  ร่างบางกอดเข่าตัวเองราวกับจะปกป้องตัวเองจากอันตรายรอบตัว รวมทั้งหวังจะปิดกั้นตัวเองจากความจริงที่เพิ่งได้รู้
 
            “ผมขอโทษ...”เด็กน้อยส่งเสียงเบาๆ น้ำเสียงสะอึกสะอื้นปริ่มจะขาดใจนั้นหากเป็นเมื่อสิบปีก่อนกว้านหลินคงจะใจอ่อนลงไปนั่งปลอบเจ้าตัวน้อยช่างอ้อน หากแต่ในตอนนี้ ณภัทรคือโอเมก้าจอมมารยาที่กำลังใช้น้ำตาเป็นเครื่องมือให้เขาใจอ่อน
 
            “จะร้องไห้อีกนานมั้ย ฉันรำคาญ”ภัทรที่กำลังสะอื้นฮักกับความผิดหวังที่มีในตัวของบิดาเกร็งตัวยามที่ปลายนิ้วเรียวของกว้านหลินดันปลายคงของตนให้เงยขึ้นมาสบตากัน
 
            “หนี้ชีวิตฉันได้เก็บไปด้วยชีวิตพ่อของเธอแล้ว ที่เหลือคือเงินที่โกงบริษัทไปเสวยสุขเป็นเงินของตัวเอง”
 
            “ผม...ฮึ่ก...ผมจะชดใช้ให้...”ภัทรพูดประโยคที่ทำให้กว้านหลินเงยหน้าขึ้นหัวเราะจนเสียงก้องไปทั้งห้อง
 
            "น้ำหน้าอย่างเธอจะมีปัญญามาชดใช้อะไรได้เหรอ”ชายหนุ่มเหยียดยิ้มอย่างดูถูก
 
            “ผม  ผมจะทำงานชดใช้ให้คุณเอง ทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อผมเอาไปจากพวกคุณ ขอแค่คุณปล่อยผมไปหาแม่กับน้องๆ ได้มั้ยครับ”ภัทรเอ่ยปากอ้อนวอน เปลือกตาที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักช้ำจนดูน่าสงสาร แต่ไม่ใช่สำหรับกว้านหลิน ชายหนุ่มทำเสียงเหอะเบาๆในลำคอราวกับขบขันกับสิ่งที่เด็กน้อยพูด เด็กผู้ชายที่เพิ่งจะเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ท่าทางบอบบางอ่อนแอแบบนี้น่ะเหรอจะไปมีปัญญาอะไรมาหาเงินเกือบร้อยล้านบาทเพื่อชดใช้เขาได้ ให้ไปเป็นกุลีแบกหามก็คงได้ตายคาแดดเสียตั้งแต่วันแรก ร่างบางๆตัวหอมๆแบบนี้น่ะออกแรงได้อย่างมากก็คงเป็นแค่นอนดิ้นแล้วร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างใช้เรือนกายแลกเงินก็เท่านั้นแหละ...
 
อยู่ๆความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัว
 
โอเมก้าต่ำต้อยพวกนี้ก็คงมีแต่เรื่องแบบนี้แหละที่เหมาะสมคู่ควร เมื่อสองเดือนก่อนพ่อเริ่มพูดถึงเรื่องการมีคู่และมีทายาทสืบสกุลแต่กว้านหลินบ่ายเบี่ยงไปตลอดเพราะตัวเขาเองไม่พร้อมที่จะมีใคร อีกทั้งในใจของเขาแอบเก็บซ่อนความรู้สึกลึกๆกับใครบางคนมาเนิ่นนาน ถ้าการรับผิดชอบหนี้สินครั้งนี้จะต้องมีใครยอมเสียสละบ้างก็คงจะเป็นณภัทรนี่แหละที่เหมาะสมที่สุด คิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มก็ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวและดึงปลอกคอของภัทรมาใกล้ๆ

 
          “ตั้งท้องลูกให้ฉันก็แล้วกัน คงจะเป็นสิ่งเดียวที่พวกโอเมก้าชั้นต่ำอย่างเธอพอจะทำได้ มีลูกให้ฉันได้เมื่อไหร่ฉันจะปล่อยเธอ"
 
 


 
            เพียงขาดคำร่างของณภัทรก็ลอยหวือขึ้นจากพื้นแล้วถูกโยนลงบนโซฟาสีแดงเลือดนกก่อนที่ร่างสูงของกว้านหลินจะเข้ามาประกบทับ ภัทรตกใจกับพละกำลังอันมหาศาลและความเร็วที่กว้านหลินมี เด็กน้อยรีบยกมือขึ้นดันอกพยายามผลักไสคนที่ทำจาบจ้วงกับร่างกายตน ร่างบางต่อต้านคนที่เริ่มฉีกทึ้งเสื้อผ้าของตน กว้านหลินในเวลานี่เหมือนหมาป่าที่กระหายหิวกระดุมชุดนอนลายพรางสีฟ้าขาวที่เจ้าตัวใส่หลุดกระเด็นไปแบบไม่รู้ทิศรู้ทางเผยผิวเนียนละเอียดแม้จะไม่ได้ขาวเท่าคนใจร้ายหากแต่สวยเนียนตาไปทั้งตัว ยอดอกเม็ดเล็กที่ประดับอยู่บนอกไหวกระเพื่อมจากแรงหอบหายใจ ดวงตาของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงปลอกคอที่ถูกสวมใส่ถูกปลดแล้วดึงออกเรียกความเจ็บแสบให้ภัทรได้อีกครั้ง
 
            “ปล่อย!!!...ปล่อยผม ผมไม่ยินยอม ผมไม่ยอม!!!”เด็กน้อยใต้ร่างที่กำลังถูกริมฝีปากขบเม้มลงบนผิวเนื้อต้นคอร้องประท้วงลั่น สองขาดีดไปมาเพื่อหวังให้กว้านหลินหยุดการกระทำหยาบคายจาบจ้วงกับตนสองมือผลักไหล่หนาแต่กลับไม่เป็นผลอะไรเลย การกระทำนั้นกลับยิ่งยั่วยุอารมณ์ให้คนบนร่างหงุดหงิดรำคาญใจจนทุบลงบนต้นขาขาวนั้นอย่างแรง ณภัทรเจ็บจนหมดแรงจะดิ้นปล่อยสองขาให้อ่อนแรงลงไปตามเดิมก่อนจะถูกแทรกมาด้วยร่างกายหนาใหญ่จนต้องชันเข่าขึ้น สองมือแสนเกะกะถูกรวบขึ้นไปไว้ด้านบนปล่อยให้กว้านหลินได้ดอมดมกลิ่นหอมของดอกไลเซนทัสได้ง่ายขึ้น อัลฟ่าหนุ่มส่งเสียงครางต่ำอย่างพึงพอใจกับเรือนร่างของณภัทร เด็กน้อยแม้จะอายุ 18 ปีแล้ว หากแต่บนร่างกายไม่ว่าจะเป็นแขน รักแร้ หรือตรงจุดอื่นๆที่ต่ำลงไปกลับไม่มีขนให้รกตา ผิวสีน้ำผึ้งอ่อนนั้นเรียบเนียนดุจแพรไหม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกรรมพันธุ์หรือเพราะฮอร์โมนที่ทำให้เป็นแบบนี้ ภัทรนิ่งลงไปแล้วทำเพียงปล่อยเสียงร้องไห้ทุกครั้งที่กว้านหลินดูดดึงผิวเนื้อของตน
 
แรงของโอเมก้าก็เหมือนมด ต่อให้สู้แค่ไหนก็ไม่มีทางสู้ได้อยู่ดี เด็กน้อยน้ำตาไหลพราก สิ่งที่หวาดกลัวมาตลอดตั้งแต่รู้ว่าตนเองนั้นถือกำเนิดมาในสถานะของโอเมก้าคือการถูกขืนใจและกัดที่หลังคอ ณภัทรร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว เป็นความกลัวคนละแบบกับที่ถูกทำร้ายร่างกาย ความกลัวที่กำลังเกิดขึ้นนี้หมายถึงพันธะสัญญาระหว่างอัลฟ่ากับโอเมก้าที่จะถูกผูกกันไปตราบสิ้นชีวิต
 
เขาไม่อยากถูกผูกพันธะกับคนใจร้ายที่ไม่ได้รักเขาเลยซักนิด
 
กว้านหลินเหมือนจะลงโทษเด็กที่นอนตัวสั่นใต้ร่างด้วยการฝังคมเขี้ยวลงบนไหล่สวยจนร่างบางสะดุ้งเฮือก เสียงร้องไห้ยิ่งดังขึ้นมากกว่าเดิมทั้งกลัวทั้งเจ็บ หากแต่กว้านหลินกลับไม่สนใจ ชายหนุ่มฝังคมเขี้ยวไปทั่วทั้งต้นคอขาว แผงอกบาง ลาดไหล่สวย ก่อนจะจับเด็กน้อยคว่ำหน้าลงกับโซฟานุ่ม ไรผมที่ระต้นคอถูกเสยขึ้นก่อนจะใช้ปลายลิ้นเลียลงบนหลังคอราวกับกำลังชิมรสเพื่อประเมินรสชาติ ยิ่งสัมผัสต้นคอด้านหลังกลิ่นดอกไลเซนทัสที่โชยกลิ่นอ่อนกลับเข้มขึ้นจนจ้องฝังจมูกลงไปสูดดมให้เต็มปอด
 
ชอบ...กว้านหลินชอบกลิ่นนี้ ชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้กลิ่นของโอเมก้าตัวน้อยที่เกิดฮีทแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ชอบจนเก็บไปจินตนาการหลายต่อหลายครั้งเวลาเกิดอาการรัท
 
กลิ่นหอมที่ไม่เคยจางหายจากใจของเขาเลยตลอดห้าปี ยิ่งสูดดมยิ่งมัวเมา ยิ่งได้ฝังปลายจมูกลงบนต้นคอก็ยิ่งอยากจะสัมผัสให้มากขึ้น ห้วงอารมณ์ของอัลฟ่าที่โตเต็มวัยจมดิ่งลงเรื่อยๆราวกับหลุดเข้าไปกลางวังน้ำวน
 
เขาไม่แม้แต่กระทั่งจะพยายามถีบตัวขึ้นมา กลับทิ้งสติของตัวเองให้จมดิ่งจนลึกลงไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มประสานนิ้วมือกับเด็กใต้ร่างกักขังไม่ให้ดิ้นหนีไปไหนได้ เขี้ยวแหลมค่อยๆยาวขึ้นเตรียมพร้อมสำหรับกัดตรงจุดต้องห้ามที่ปล่อยกลิ่นดอกไลเซนทัสมายั่วยุอารมณ์ดิบของเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ
 
            “อย่าทำผม อย่ากัดตรงนั้น ผมไม่ยินยอม พี่กว้านหลิน อย่าทำภัทรเลยนะครับ ฮือ...”หากแต่เสียงร้องไห้ที่ดังเพราะความหวาดกลัวกลับเรียกสติของกว้านหลินกลับมา ดวงตาสีแดงกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มแบบเดิม เขี้ยวแหลมแปรเปลี่ยนกลับมาเป็นเขี้ยวแบบมนุษย์ปกติ ภัทรสะอื้นจนตัวโยนร่างกายสั่นอย่างรุนแรง เรือนกายขึ้นสีแดงจนทั่วเมื่อกวาดตามองสภาพของคนตัวเล็กก็พบว่าตอนนี้เด็กน้อยอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย เหลือเพียงกางเกงนอนที่ร่นจนเห็นเนินบั้นท้ายกลมกลึงที่ถูกสร้างมาสำหรับโอเมก้า
 
อารมณืดิบภายในไม่ลดลงเลยซักนิด ความตื่นตัวจนส่วนกลางกายรู้สึกอึดอัดยังคงอยู่
 
และเขาจะไม่ยอมช่วยตัวเองเพื่อปลดปล่อย
 
ณภัทรจะต้องรับผิดชอบหน้าที่นี้
 
            “ลุกขึ้นมา”น้ำเสียงเรียบเอ่ยสั่งเด็กที่ยังคงร้องไห้อยู่ใต้ร่างของเขา กว้านหลินขยับตัวออกไปนั่งพิงพนักโซฟา ภัทรค่อยๆขยับตัวอย่างกลัวๆกล้าๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆกว้านหลินถึงหยุดในขณะที่คมเขี้ยวเกือบจะฝังลงบนหลังคอของเขาอยู่แล้ว แต่นั่นก็ทำให้เด็กน้อยหายใจหายคอได้โล่งขึ้น กว้านหลินมองใบหน้าหวานนั้นด้วยสายตาไม่บ่งบอกความรู้สึกอะไร เขาแค่รู้สึกรำคาญน้ำมูกน้ำตาของเด็กตรงหน้าเสียเหลือเกิน
 
            “เช็ดหน้าเช็ดตาของเธอซะแล้วลงไปนั่งคุกเข่าข้างล่าง”กว้านหลินปาผ้าเช็ดหน้าของตนใส่หน้าเด็กน้อย แม้จะไม่เข้าใจนักแต่ก็ยอมเช็ดคราบน้ำตาอย่างว่าง่าย อย่างน้อยการที่กว้านหลินยอมปล่อยตนเองก็ยังดีกว่าเหตุการณ์เมื่อครู่ เด็กน้อยเช็ดหน้าตาจนสะอาด ริมฝีปากบวมเจ่อและจมูกแดงๆนั้นดูน่าสงสารหากแต่คนที่มองกลับเหยียดยิ้มเมื่อจินตนาการถึงสิ่งที่กำลังจะให้ภัทรทำสติของเขาก็เริ่มจะกระเจิง
 
            “ลงมานั่งตรงนี้”กว้านหลินแยกขาของตนเองจนเกิดช่องว่าง ณภัทรเลื่อนตัวลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้ากว้านหลินแม้จะไม่เต็มใจนัก ดวงตากลมมองมือที่เอื้อมลงมาหยิบปลอกคอและโซ่ที่ตกอยู่ใกล้ๆ กว้านหลินหยิบมันขึ้นมาและสวมให้เขาตามเดิม
 
เหมือนเจ้าของที่ใส่ปลอกคอให้สัตว์เลี้ยงเพื่อที่จะจูงให้เดินไปไหนก็ได้ตามใจผู้เป็นเจ้าของ ฟันคมขบเม้มริมฝีปากของตัวเองจนขึ้นสี หากแต่กว้านหลินกลับส่งปลายนิ้วมาเกลี่ยเบาๆจนหัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะไปครู่หนึ่ง
 
            “อย่ากัดปากของเธอสิ เพราะเดี๋ยวมันต้องใช้จ่ายดอกเบี้ยให้กับฉัน”ดวงตากลมช้อนขึ้นมองอย่างไม่เข้าใจคำพูดนั้น หากแต่ว่าคำสั่งต่อมาทให้เด็กหนุ่มหน้าแดงก่ำไม่รู้ด้วยอารมณ์โกรธหรือความกระดากอายกันแน่เมื่อกว้านหลินเบนสายตาตนเองไปที่จุดกลางกาย ความนูนหนาดุนดันเนื้อผ้ามากกว่าปกตินั้นทำให้ภัทรหน้าแทบจะไหม้ เขารู้ว่านั่นหมายถึงอะไร เด็กน้อยไม่ได้ใสซื่อจนดูโง่ เพราะถึงแม้จะเป็นโอเมก้าที่ไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศดินแดนที่ฟรีเซ็กส์เขาก็ได้รู้ได้เห็นอะไรมาพอสมควรแม้จะไม่เคยคบและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับใคร แต่เวลาเขาฮีทมันก็มีบ้างที่เคยช่วยตัวเอง
 
            “เธอทำให้มันตื่นเพราะฉะนั้นเธอต้องทำให้มันสงบด้วยตัวเธอเอง”
 
            “ไม่!!”เอ่ยปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดอะไรเลยซักนิด เขาจะไม่ยอมทำอะไรน่าอายและน่ารังเกียจแบบนั้นกับคนตรงหน้าเด็ดขาด หากแต่เมื่อสิ้นเสียงปฏิเสธปลายนิ้วที่แข็งราวคีมเหล็กก็บีบขากรรไกรของเขาจนปวดร้าวไปทั้งซีกหน้า
 
            “จะทำตัวดีๆว่าง่ายๆหรือจะต้องให้ฉันสั่งให้อี้เฉินตัดนิ้วแม่กับน้องนายทีละนิ้วให้สมกับความดื้อด้านของเธอดีนะเด็กน้อย น้องชายคนไหนก่อนดี คนเล็กดีมั้ย เพิ่งจะ 12 เองนี่นา”ภัทรตวัดสายตามองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย
 
ความรักที่ฝังอยู่ในใจมาเนิ่นนานยังไม่จางไปไหนหากแต่ความรังเกียจก็ค่อยๆคืบคลานเข้ามากัดกินใจทีละนิด ไล่กว้านหลินคนนี้เจ้าเล่ห์เพทุบายซ้ำยังใจดำสนิทหาวิธีเอาเปรียบเขาได้อย่างหน้าด้านๆเด็กน้อยเม้มปากกำมือแน่นอย่างพยายามระงับโทสะที่เข้ามาแทนที่ความกลัวอย่างรวดเร็วกว้านหลินจับตามองสีหน้าของเด็กที่ไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่ามันแสดงออกมาจนหมดสิ้นเวลาที่เจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ไหน ร่างสูงแสร้งหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ไม่ไกลมากดเบอร์ของเลขาคนสนิท รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ



 
            “อี้เฉิน เตรียมตัดนิ้วเด็กที่ชื่อพล...อ่า...”ปลายเสียงขาดหายเพราะความรู้สึกอุ่นร้อนเข้าครอบครองแกนกายอย่างเก้กัง











((อ่านต่อด้านล่าง))
หัวข้อ: Re: Hydrangea [[Omegaverse mpreg ]] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 2 "อัศวินที่หายไป" 24/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 24-02-2019 11:40:04


“อี้เฉิน เตรียมตัดนิ้วเด็กที่ชื่อพล...อ่า...”ปลายเสียงขาดหายเพราะความรู้สึกอุ่นร้อนเข้าครอบครองแกนกายอย่างเก้กัง ทันทีที่กว้านหลินกรอกเสียงลงไปในสายภัทรก็กลั้นอกกลั้นใจถอดเข็มขัดและรูดซิปดึงกางเกงชั้นในที่ถูกความเป็นชายดุนดันออกและครอบปากลงไปแม้จะขยะแขยงและฝืนใจแค่ไหน แต่เขาจะปกป้องแม่และน้องชายให้ดีที่สุด อย่างน้อยตอนนี้ขอแค่ทั้งสามคนปลอดภัยภัทรก็ดีใจมากแล้วปลายลิ้นเล็กที่ไม่ประสาแนบลงส่วนปลายที่แดงก่ำจนคนที่แนบโทรศัพท์ชิดหูเกร็งตัว กว้านหลินสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะให้ความสนใจกับปลายสายอีกครั้ง จงใจพูดดังๆให้คนที่กำลังครอบครองแกนกายของตนเองด้วยโพรงปากอุ่นได้ยิน

“ยังไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ถ้ามีอะไรตุกติกฉันจะโทรกลับไปใหม่”กว้านหลินโยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาก่อนจะสอดเรียวนิ้วเข้ากลับกลุ่มผมนุ่มที่ขยับอย่างงกๆเงิ่นๆ

“ไม่เคยทำให้ใครเลยหรือไง ไปอยู่เมืองนอกมาตั้งนานจะบอกว่าไม่เคยเลยงั้นสิ?”น้ำเสียงกึ่งเยาะพูดออกมาอย่างยั่วยุจนภัทรมองค้อนอย่างไม่พอใจ วูบหนึ่งคนตัวเล็กคิดอยากจะกัดให้ขาดคาปากออกมานักหากแต่ความคิดนั้นต้องพับลงในทันที่ที่คิดเสร็จเพราะเหมือนกว้านหลินจะอ่านใจของเขาออก

“แล้วอย่าคิดที่จะทำให้ฉันเจ็บเป็นอันขาดไม่งั้นฉันจะให้มันฮยอนยิงหัวแม่กับน้องของเธอทีละคนให้เธอดูต่อหน้า”

“สารเลว”ร่างบางเอ่ยด่าอย่างเหลืออดหากแต่คนถูกด่ากลับไม่สะทกสะท้าน

“ทำให้ฉันพอใจสิ เผื่อฉันจะลดหนี้ให้ซัก...ห้าพัน...ดีมั้ย?”

“คุณมันทุเรศที่สุด เลวที่สุด เลวแบบที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ไล่กว้านหลินที่ผมเคยรู้จักเขาหายไปไหนแล้ว?”น้ำเสียงผิดหวังถูกถามออกมา ไม่ได้ต้องการคำตอบหรอกเพราะตอนนี้ไม่ว่าคนตรงหน้าจะเป็นไล่กว้านหลินคนเดิมหรือเป็นไล่กว้านหลินคนใหม่ คำว่าเกลียดก็ค่อยๆแทรกซึมเข้ามาในหัวใจ

รักมานานหลายปีกลับไม่มีค่าเลยเมื่อความผิดหวังเข้าควบคุมความร้ายกาจของคนตรงหน้ากลับทำให้ความรู้สึกใหม่มีอิทธิพลมากกว่าความรักที่เคยมีให้

รักครั้งแรกจบลงแล้ว...

“มันตายลงไปพร้อมกับพ่อของฉันนั่นแหละ”กว้านหลินกดหัวของคนตรงหน้าให้เข้าไปชิดแกนกายที่ตึงตัว

“เลียสิ เลียให้เหมือนหมาที่เจอเนื้อชิ้นใหญ่ ทำให้ฉันพอใจแล้วแม่กับน้องของนายจะปลอดภัย”ณภัทรจำใจต้องส่งปลายลิ้นออกมาเลียแท่งเนื้อร้อนนั้นอย่างเก้กัง เขาพยายามอย่างมากที่จะไม่อาเจียนออกมา

มันน่าขยะแขยงกับการที่ผู้ชายคนหนึ่งต้องมาทำเรื่องพวกนี้ปลายหยักปรากฏน้ำใสเยิ้มออกมา

“กลืนมันเข้าไปห้ามถุยน้ำลายออกมาเด็ดขาด ถ้าเธอถุยฉันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ”

“จะบ้าหรือไงมีสิทธิ์อะไร?”หลุดปากประท้วงแต่พอเห็นสายตาที่มองมาอย่างเอาเรื่องก็จำต้องเงียบ ภัทรรู้ว่าถ้าเขาทำอะไรขัดใจมือหนาที่ลูบลงบนโทรศัพท์นั้นจะยกขึ้นมาต่อสายถึงเลขาได้ทุกเมื่อ เด็กน้อยขยับเข้าไปใกล้หน้าขามากขึ้น

แค่กลั้นใจทำไปให้มันเสร็จ...เดี๋ยวก็จบแล้วนะภัทร เด็กน้อยร้องบอกตนเองในใจยอมบอกลาศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อแม่และน้องทั้งสอง ริมฝีปากอิ่มอ้าออกเพื่อครอบครองแกนกายนั้นอีกครั้ง
“ห่อปากอย่าให้ฟันของเธอครูด ใช้ลิ้นช่วย อืม...นั่นแหละ ดี...ส่วนที่อมเข้าไปไม่หมดใช้มือช่วย”อัลฟ่าหนุ่มเอนกายสูดปากด้วยความเสียว ภัทรทำตามคำสั่งอย่างงกๆเงิ่นๆหากแต่ความไม่ประสีประสานี้เองที่ทำให้เขาพอใจมาก

ก็แค่โอเมก้าที่เพิ่งโต ทุกอย่างยังใสและบริสุทธิ์หมดจรด สะอาดจนน่าทำให้แปดเปื้อนทีละนิดๆ ดวงตาคมปิดสนิทหัวคิ้วขมวดมุ่นจากความเสียวซ่าน บางช่วงที่เขาจิกผมของเด็กตรงหน้าบังคับให้ขยับเร็วขึ้นสร้างความเสียวซ่านจนต้องครางต่ำออกมา ไม่สนใจเลยซักนิดว่าแกนกายคับแน่นเต็มโพรงปากนั้นจะดุนดันจนภัทรแทบจะสำลัก คอหอยเหมือนถูกตำให้ทะลุทะลวง อยากจะไอบางช่วงระคายคอจนแทบอาเจียนแต่ก็ต้องอดทนเพราะกว้านหลินใจร้ายจนไม่ยอมให้เขาละริมฝีปากออกเลยซักนิด กลับขยับเอวสอบขยับแกนกายเข้าออกราวกับกำลังใช้มันกับช่องทางอ่อนนุ่มอีกแบบหนึ่ง ยิ่งนานยิ่งขยับเร็ว ยิ่งนานยิ่งแทงเข้าไปลึกจนกระทั่งเอวสอบขยับถี่น้ำเสียงทุ้มครางต่ำก่อนที่สายธารแห่งอารมณ์พุ่งกระฉูดเข้าไปในโพรงปากของภัทร เด็กน้อยสะดุ้งเมื่อกว้านหลินปลดปล่อยเข้ามาจนเต็มในอุ้งปากความคาวและเฝื่อนทำเอาภัทรพะอืดพะอมจะอาเจียนหากแต่ความลินกลับกดหัวของเขาไว้แน่นบังคับให้เด็กน้อยกลืนกินน้ำเหนียวหนืดนั้นลงคอไปจนหมด

“อื้อ...”โอเมก้าตัวน้อยร้องประท้วงก่อนจะสะบัดหน้าหนีจนแกนกายหลุดออกจากปาก กว้านหลินกดยิ้มอย่างผู้ชนะไม่สนร่างบางที่ไอโขลกอย่างน่าสงสารเลยซักนิด ชายหนุ่มชัดการรูดซิปกางเกงของตนให้เข้าที่ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินข้ามภัทรที่นั่งอยู่บนพื้นไปราวกับเด็กน้อยผู้ที่เพิ่งจะปรนเปรอความต้องการให้ตนเองนั้นไร้ตัวตน

จืดจางและไร้ค่า

ประตูห้องถูกปิดลงไปแล้วพร้อมร่างของคนใจร้ายหายลับไปจากสายตา ภัทรที่กลายเป็นคนไร้ค่าค่อยๆเอนกายนอนซบพื้นห้องเย็นเฉียบก่อนจะปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่จำเป็นต้องกลั้นอีกต่อไป

ไร้ค่าเสียเหลือเกิน...ไร้ค่าจนแทบจะไม่หลงเหลือศักดิ์ศรีของความเป็นคน
ไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยงในคณะละครสัตว์ที่พอเจ้าของฝึกเสร็จก็ไม่สนใจกันอีกต่อไป

ไม่มีอีกต่อไปแล้วอัศวินผู้พิทักษ์ที่แสนใจดี

เหลือเพียงสัตว์ป่าที่แสนใจร้าย

ใจร้ายเหลือเกิน...

............................................

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 3 "สัตว์เลี้ยงของอัลฟ่า" 26/02/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 26-02-2019 11:57:53
ตอนที่สัตว์เลี้ยงของอัลฟ่า

#ไฮเดรนเยีย


          Hydrangea 3
 
 
          ตั้งแต่ตอนเช้าหลังจากกว้านหลินออกไปจนถึงตอนนี้ณภัทรก็ไม่เจอคนใจร้ายอีก ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องดี โอเมก้าตัวน้อยนอนขดตัวบนโซฟาด้วยความหนาว
 
ไล่กว้านหลินกลั่นแกล้งเขาด้วยการเปิดแอร์ไว้เสียเย็นเฉียบ เด็กน้อยมีเพียงชุดนอนลายพรางที่สวมใส่มาตั้งแต่ถูกจับ แม่บ้านสาวแวะเวียนเปิดประตูเข้ามาดูเขาพลางเอาข้าวและน้ำมาให้แต่ภัทรก็ทิฐิมากพอที่จะไม่แตะต้อง
 
ยอมหิวตายเสียยังจะดีกว่ารับน้ำใจจากศัตรู
 
ณภัทรเสียใจ เสียใจที่เคยผูกใจรักคนใจร้ายคนนั้นถ้ารู้ล่วงหน้าว่ากว้านหลินจะเป็นคนใจร้ายใจดำเด็กน้อยจะไม่ปฏิเสธคนดีๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเลย
 
โง่งมนักปักใจรักเค้าทั้งๆที่ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้กลับมาเจอกันมั้ย
 
วินาทีแรกที่เห็นกว้านหลินก้าวลงมาจากรถเด็กน้อยดีใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนว่ากว้านหลินคือคนที่จะทำให้ตนเองและครอบครัวปลอดภัย คำสัญญาที่บอกจะคอยปกป้องดูแลเป็นเหมือนพันธะที่ผูกกันไว้
 
แต่พันธะนั้นถูกทำลายเสียป่นปี้เมื่อปลายกระบอกปืนสีดำจ่อแล้วยิงพ่อของเขามาอย่างไม่ลังเล
 
กว้านหลินเจ็บปวดจาการจากไปของพ่อตัวเองเท่าไร
 
เขาเองก็ไม่ต่างกัน
 
อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะภัทรเห็นพ่อถูกฆ่าตายต่อหน้าทั้งๆที่คิดว่าครอบครัวจะรอดแล้วแท้ๆ
 
คนที่ไว้ใจที่สุด คนที่บอกว่าจะปกป้องคือคนที่พรากทุกอย่างไปเพียงชั่วข้ามคืน
 
เกลียด ณภัทรเกลียดไล่กว้านหลินที่สุด เกลียดจนอยากจะฆ่าให้ตายๆไปซะวันนี้พรุ่งนี้เลย
 
 
            “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับพี่ใหญ่ ตอนนี้ผมให้ภาวิณีเซ็นโอนหุ้นทั้งหมดมาไว้ที่ผมแล้ว ส่วนพวกผู้ถือหุ้นที่ทรยศผมจะเก็บกวาดให้เรียบร้อยไม่เกินสามวัน  ส่วนไอ้ภุชงค์ผมส่งมันไปสารภาพบาปกับพ่อแล้ว”
 
             ‘อย่างนั้นก็ดี เก็บกวาดให้เรียบร้อยอย่าให้ใครสาวมาถึงครอบครัวเราได้ แล้วเงินที่มันยักยอกบริษัทไปจะเอายังไง’
 
          “เรื่องนั้น ผมให้อี้เฉินดูแลรับรองว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ส่วนเรื่องเงินที่มันยักยอกเอาไปตัวบ้านของมันผมให้เมียมันโอนขายให้ในราคาถูกส่วนเงินที่ขาดผมจะให้พวกมันชดใช้ทุกบาททุกสตางค์ ถ้ามันไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้ผมก็จะเก็บจากอย่างอื่นของมัน”
 
            ‘จะทำอะไรก็ระวังตัวระวังใจไว้ พลาดพลั้งขึ้นมาคนที่จะเจ็บจะเป็นแกเองนะเอ็ดเวิร์ด’คริสเอ่ยเตือนน้องชายด้วยความห่วงใย ไล่กว้านหลินเหยียดยิ้มให้กับคำพูดของพี่ชาย
 
            “มันจะไม่มีวันพลาดหรอกครับขอให้พี่ใหญ่วางใจ แค่นี้ก่อนนะครับผมถึงบ้านแล้ว”กว้านหลินกดตัดสายพี่ชายก่อนจะส่งเสื้อสูทให้คนรับใช้ไปถือ ชายหนุ่มมองไปที่หน้าต่างด้านบนที่ปิดสนิทที่ใช้ขังภัทรไว้
 
            “มันเป็นยังไงบ้าง?”
 
            “ไม่ทานข้าวเลยค่ะ เอาไปให้ก็นอนมองนิ่งๆไม่ลุกไปไหนเลย”สาวใช้เบต้ารายงานความเป็นไปตามที่กว้านหลินสั่งไว้ คิ้วเรียวได้รูปของชายหนุ่มขมวดมุ่นทันที
 
ณภัทรจะลองดีกับเขาอย่างนั้นเหรอ วันทั้งวันไม่ยอมกินข้าวกินปลาหวังจะท้าทายอวดเก่งสินะ
 
ก็ดี เดี๋ยวจะได้รู้ว่าอย่ามาหาญกล้าท้าทายคนอย่างเขา
 
            “เตรียมอาหารเย็นพร้อมหรือยัง?”
 
            “พร้อมแล้วค่ะ”
 
            “งั้นตั้งโต๊ะ อีกซักพักฉันจะพาหมามากินข้าว”อัลฟ่าหนุ่มสั่งเสียงเย็นก่อนจะก้าวยาวๆขึ้นไปยังชั้นบน เมื่อเปิดเข้ามาในห้องที่เขาเอาภัทรมาขังไว้ความเย็นเฉียบจากแอร์คอนดิชั่นก็พุ่งมาปะทะหากแต่ชายหนุ่มที่ชอบอากาศเย็นกลับไม่รู้สึกอะไร ร่างบางที่นอนขดอยู่บนโซฟากลับสะดุดตามากกว่า ใบหน้าของภัทรขาวซีดลงไปจากเมื่อเช้า ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าภัทรกำลังหลับสนิท ใบหน้าที่เคยใสสะอาดบัดนี้เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบน้ำตาดูมอมแมม กายบางสั่นเป็นช่วงๆดูน่าสงสาร บอบบางจนน่าทะนุถนอมหากแต่สิ่งที่กว้านหลินทำก็คือ
 
แกร๊ง
 
            “โอ้ย!!”ภัทรรู้สึกเหมือนตัวเองล่องลอยอยู่บนฟ้าแล้วถูกดึงลงก้นเหว อาการเจ็บร้าวเล่นงานร่างกายด้านขวาจนน้ำตาเล็ด ปลอกคอที่ถูกล่ามโซ่ไว้ถูกดึงจนร่างบางครูดไปกับพื้นปาร์เก้จนเจ็บไปหมด
 
            “ปล่อย ฮึก...ปล่อยผมนะทำบ้าอะไรของคุณ”ภัทรพยายามดึงให้ปลอกคอห่างออกจากคอเพราะแรงรั้งทำให้เด็กน้อยหายใจไม่ออกซ้ำความแข็งยังบาดจนเจ็บไปหมด
 
            “นอนเป็นซากผักเน่าแบบนั้นไม่ทุเรศตัวเองบ้างหรือไง น้ำท่าทำไมไม่อาบหรือสกปรกโสโครกกันจนเป็นนิสัย ข้าวปลาไม่กินเธอกำลังท้าทายฉันอยู่เหรอภัทร คิดว่าวิเศษวิโสอะไรมาจากไหน “
 
            “ผมไม่อยากกินผมก็ไม่กินคุณจะทำไม”เด็กน้อยดิ้นพล่านยามมือแกร่งคว้าเข้าที่ลอคอขาวของเขา น้ำตาไหลเป็นสาย ทั้งเจ็บทั้งโมโหตัวเองที่สู้อะไรคนบ้าตรงหน้านี้ไม่ได้เลย
 
ไม่เคยรู้สึกโกรธชนชั้นของตนเองเท่าวันนี้มาก่อนเลย ไล่กว้านหลินลากภัทรเข้ามาในห้องน้ำ ร่างสูงกระชากเสื้อนอนของคนตัวเล็กด้วยความแรงจนกระดุมดีดตัวออกจากรังดุมกระเด็นไปคนละทิศละทาง ภัทรรีบตะครุบสาบเสื้อของตนเองไว้ได้ทันท่วงที ร่างบางส่งสีหน้าไม่ไว้วางใจไปให้ แวบหนึ่งเด็กน้อยเผลอคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนเช้า กว้านหลินมองเด็กที่ส่งตาเขียวปั๊ดมาให้อย่างโมโห
 
ท้าทายเหลือเกิน!!!
 
ชายหนุ่มเปิดน้ำใส่อ่างจนสุดไม่สนเลยด้วยซ้ำว่าจะร้อนหรือเย็นเกิน ภัทรถอยกรูดเมื่อขายาวๆของคนใจร้ายย่างสามขุมเข้ามาหาเรื่อยๆ ชายหนุ่มปลดเข็มขัดหนังออกจากเอวของตนเองก่อนจะม้วนมันกับมือ
 
            “อย่าเข้ามานะ”เด็กน้อยยกมือตั้งการ์ดราวกับจะปกป้องตัวเอง กว้านหลินเหยียดยิ้มกับท่าทางน่าสมเพชนั้น
 
อวดดีที่หนึ่ง ชายหนุ่มแกล้งหวดเข็มขัดกับอากาศจนเกิดเสียงเด็กน้อยหลับตาปี๋อย่างหวาดกลัว
 
ถ้าตีลงมาที่ตัวเขาเนื้อต้องแตกแน่ๆ หากแต่เมื่อหลับตาค้างไว้หลายวิก็ไม่รู้สึกเจ็บอะไรจึงลองหรี่ตาขึ้นมองและนั่นทำให้ภัทรเห็นว่ากว้านหลินค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนเองทีละชิ้น
 
            “ค...คุณ จะบ้าเหรอ จะถอดเสื้อผ้าทำไม?”ภัทรรีบหันหนีไปทางอื่นแต่เหมือนว่านั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดเพราะพอรู้ตัวหนังศีรษะของเด็กน้อยก็เจ็บไปหมด กว้านหลินจิกมือลงบนกลุ่มผมของโอเมก้าเด็กจากนั้นก็ลากร่างบางที่พยายามขืนตัวหนีเต็มที่เด็กน้อยร้องไห้อย่างโมโห และพอถึงอ่างน้ำที่น้ำเต็มพอดีกว้านหลินก็กดใบหน้าของคนเด็กลงไปในอ่างทันที
 
อึดอัด...อึดอัดจนเหมือนจะตาย
 
เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวเมื่อใบหน้าถูกกดลงมาจนจมเด็กน้อยก็สูดเอาน้ำเข้าจมูกและปากไปมากโข ซอนโซหอบเอาอากาศเข้าปากยามที่กว้านหลินดึงตัวเขาขึ้นและเช่นเดิมศีรษะถูกกดลงน้ำไปอีกครั้งก่อนที่จะถูกเหวี่ยงลงกับพื้นจนศีรษะโขกกับขอบอ่างอาบน้ำจนเจ็บร้าวไปทั้งหัว เลือดสีแดงค่อยๆซึมออกจากปากแผลจนแดงฉานเป็นสายหากแต่ไล่กว้านหลินกลับไม่สนใจเลยซักนิด
 
            “อย่ามาลองดีกับฉันจำไว้ ลุกขึ้นมาถูหลังให้ฉัน”ชายหนุ่มก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำที่เพิ่งจับคนตัวเล็กกดน้ำไปเมื่อครู่ น้ำค่อนข้างร้อนแต่เขากลับไม่สะทกสะท้าน ภัทรเจ็บจนน้ำตาร่วงเลือดยังคงไหลออกจากปากแผล เด็กหนุ่มนั่งนิ่งไม่ยอมขยับตามที่กว้านหลินบอก
 
ถือดีไม่เลิกสินะ...
 
            “จะทำดีๆหรือจะต้องให้ฉันสั่งฆ่าแม่กับน้องของเธอดี?”
 
            “สารเลว”โอเมก้าตัวน้อยตวัดสายตาขึ้นมองคนที่นั่งพิงขอบอ่างอาบน้ำอย่างไม่สะทกสะท้าน
 
            “ก็น้อยกว่าพ่อเธอแล้วกัน”คำตอบกลับแสนร้ายกาจทำให้ภัทรอยากจะเอาโซ่ฟาดปากนัก เด็กน้อยกัดฟันกลั้นอารมณ์ตัวเอง
 
เอาชีวิตแม่กับน้องมาขู่
 
ชั่วที่สุด
 
ร่างบางลุกขึ้นยืนก่อนจะนั่งลงบนขอบอ่างอย่างเก้ๆกังๆเมื่อปล่อยมือจากสาบเสื้อยอดอกสีน้ำตาลอ่อนนั้นก็ลอยเด่นตรงหน้าของอัลฟ่าหนุ่ม ภัทรที่จำใจต้องขัดแขนขัดตัวให้กว้านหลินไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่ามีสายตาโลมเลียตนอยู่
 
            ตูม...ณถัทรยกมือขึ้นลูบใบหน้ายามที่ถูกกว้านหลินดึงลงมาในอ่าง ร่างบางทับลงบนกายหนาพยายามจะหนีออกหากแต่แขนแกร่งกลับล็อคเอวบางไว้แน่น
 
            “ปล่อยผมนะ...อื้อ...”ภัทรผลักหัวของกว้านหลินออกหลังจากชายหนุ่มขบเม้มเข้าที่ยอดอกของเขา ความเจ็บแปลบเล่นงานยามที่ฟันคมกัดลงบนผิวเนื้อ
 
โรคจิต...ภัทรเกลียดการที่ถูกคนที่กำลังกระทำน่าเกลียดกับร่างกายของตน
 
เกลียดการคุกคามหน้าด้านๆนี้ สองมือทุบแผ่นหลังของอัลฟ่าหนุ่มแต่เขากลับไม่สะทกสะท้านเลยซักนิด กว้านหลินจับให้โอเมก้าตัวน้อยนั่งทับลงบนตักของตนเพื่อที่จะได้ลิ้มรสชิมกลิ่นกายหอมนั้นได้ง่ายขึ้น จู่ๆกลิ่นหอมเข้มของฝนแรกก็ลอยอวลขึ้นมาจนรู้สึกได้
 
แม้กลิ่นนั้นจะทำให้รู้สึกชื่นฉ่ำหากแต่การกระทำของกว้านหลินในยามนี้กลับตรงกันข้าม อัลฟ่าหนุ่มฝังคมเขี้ยวลงบนไหล่แคบจนภัทรส่งเสียงร้องอย่างขวัญเสีย
 
เขาแค่อยากจะแกล้งให้เด็กที่กร่นด่าเขาไม่ขาดปากได้รู้ว่าอย่าริขัดใจเขา และอย่ามายั่วกันต่อหน้าต่อตา ก้นกลมถูกขยำจนเด็กน้อยต้องเด้งตัวหนีหากแต่กว้านหลินกลับจับต้นคอของเด็กน้อยไว้ปลดปลอกคอและโซ่ออกเแล้วซุกไซร้ดอมดมดอกไลเซนทัสอันแสนเปราะบางนั้นอย่างแรง ริมฝีปากสวยครอบลงบนผิวเนื้อผ่องหอมกรุ่นที่ต้นคอก่อนจะดูดเม้มจนขึ้นรอยแดง
 
            “เจ็บ ผมเจ็บ”เด็กน้อยร้องไห้โฮสะอึกสะอื้นอย่างขวัญเสีย หมดแรงจะดิ้นรนปล่อยให้กว้านหลินชิมผิวผ่องและประทับตราจนทั่วลำคอและแผงอก
 
            “ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าดื้อด้านกับฉัน อย่าลืมเธอน่ะ จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ทำตามที่ฉันบอก ว่าง่ายๆไม่แน่ไม่ถึงสิบปีเธอก็คงจะใช้หนี้แทนพ่อของเธอได้หมด”
 
            “ฆ่าผมเถอะ...ฆ่าผมให้ตายตามพ่อไป ผมไม่มีอะไรจะมาจ่ายให้คุณหรอก”
 
            “อย่างนั้นก็กลายเป็นหนี้สูญสิ ฉันไม่โง่หรอกนะณภัทร ตามที่ฉันบอกเธอเมื่อเช้า มีลูกให้ฉันแล้วฉันจะลดหนี้ให้เธอ ลูก 1 คน ปลดหนี้ให้ 20 ล้าน ดีมั้ย?”ไล่กว้านหลินเหยียดยิ้มใส่เด็กที่มีน้ำตาคลอหน่วยตรงหน้าอย่างคนที่เป็นต่อ
 
ณภัทรไม่ยอม เขารู้ดี โอเมก้าตัวน้อยเม้มปากแน่น
 
ถ้าหากมีลูกให้กับกว้านหลินเพื่อไถ่หนี้เท่ากับเขาต้องใช้ชีวิตภายใต้การปกครองของกว้านหลินไปอีกไม่รู้ว่านานเท่าไหร่
 
และการจะมีลูกได้คือเขาทั้งสองคนจะต้องมีอะไรกัน
 
ไล่กว้านหลินคงจะบ้าไปแล้วสินะ
 
เกลียดเขาจนแทบจะฆ่าให้ตาย ดูถูกเหยียดหยามถึงเพียงนี้แล้วจะมาทำเรื่องแบบนั้นกับเขาได้ยังไง
 
แล้วถ้าหากยอมมีลูกให้ เมื่อคลอดลูกออกมาไม่หมายถึงการที่เขาจะต้องถูกพรากจากลูกของตนเองหรือ
 
            “ไม่...”
 
            “ฉันไม่ได้ขอความเห็นของเธอหรอกนะภัทรสิ่งที่ฉันบอกมันคือคำสั่ง และฉันเกลียดการถูกปฏิเสธที่สุดรู้ไว้ซะ”
 
            “ผมเป็นคนไม่ใช่สัตว์ที่จะมาสมสู่เพื่อผลิตลูกออกมาให้คุณ”เด็กน้อยเถียงอย่างไม่ยอมแพ้
 
ถึงเขาจะเป็นหนี้คนตรงหน้าจริง
 
แต่เขาก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง
 
            “เธอเข้าใจผิดแล้ว เพราะตั้งแต่วินาทีที่ฉันยิงหัวพ่อของเธอ ฐานะของเธอก็คือสัตว์เลี้ยงของฉัน เธอจะต้องทำตามคำสั่งฉันไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม และอย่าคิดว่าจะตายหนีหนี้เพราะถ้าเธอฆ่าตัวตายฉันก็จะฆ่าแม่กับน้องเธอ และฉันสาบานเลยว่าจะทำให้สามคนนั่นตายอย่างทรมานที่สุดชนิดว่าไปถึงนรกก็ยังจำความรู้สึกก่อนตายได้ย่างรู้ลืม  ฉันสนุกพอแล้ว รีบล้างตัวให้ฉัน เร็วๆ ฉันหิวแล้วอย่าให้ต้องโมโหจนต้อง ‘กิน’ เธอแทนในนี้แล้วเธอจะไม่ได้นอนยั้นเช้าเพราะฉันน่ะ กินจุ”





            คุณชายสามแห่งตระกูลไล่จ้องมองโอเมก้าตัวน้อยที่ไม่ยอมขึ้นจากอ่างอาบน้ำซักที สายตาคมดุจ้องเขม็งอย่างไม่ชอบใจ
 
ณภัทรเป็นเด็กดื้อด้านอย่างไม่น่าเชื่อ เขาจำได้ว่าตอนที่โอเมก้าตรงหน้านี้ยังเด็กคนตัวเล็กว่านอนสอนง่ายกว่านี้
 
            “เมื่อไหร่จะขึ้นจากน้ำจะแช่ให้ตัวเปื่อยเลยหรือไง!!”ชายหนุ่มตะคอกถามเด็กที่นั่งหันหลังให้กับเขา ผิวเนียนโผล่พ้นน้ำสะดุ้งเฮือกจนน้ำกระเพื่อม กว้านหลินที่ท่อนล่างพันผ้าขนหนูอย่างหมิ่นเหม่เพียงผืนเดียวเสยผมอย่างระบายความหงุดหงิด
 
            “จะขึ้นจากน้ำดีๆหรือจะต้องให้ฉันจับเธอกดน้ำอีกรอบดี ห๊ะ!! ณภัทร”ในที่สุดคุณชายสามแห่งตระกูลไล่ก็หมดความอดทน ชายหนุ่มกระชากแขนเล็กด้วยความโมโหหากแต่ภัทรก็เหมือนแมวจรที่ปราดเปรียว เด็กน้อยพองขนแยกเขี้ยวหันมาข่วนมือเขาจนรู้สึกเจ็บพลางตะคอกสวนกลับมาราวกับไม่เกรงกลัว
 
            “ผมจะขึ้นได้ยังไงล่ะก็ผมไม่มีเสื้อผ้าจะเปลี่ยนแล้ว!!”กว้านหลินชะงักไปครู่หนึ่ง เขากวาดตามองผิวสีขาวที่ขึ้นสีแดงจ้ำทั่วลำคอ ลาดไหล่ และแผงอก ภัทรกอดอกอย่างปกป้องตัวเองตลอดเวลา
 
            “ลุกขึ้นมา!!”
 
            “ไม่!!”ในเมื่อไล่กว้านหลินไร้เหตุผลณภัทรก็จะไม่ยอมลงให้เด็ดขาด รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวยังมากระชากเสื้อเสียกลายสภาพเป็นผ้าขี้ริ้วแล้วยังจะดึงเขาลงไปในอ่างน้ำกระทำการลามกใส่เขา กางเกงนอนตัวเดียวที่ปกปิดเรือนกายบัดนี้เปียกโชกแถมผ้าก็เนื้อบาง หากเขาลุกขึ้นตอนนี้สรีระต่างๆก็จะอวดให้คนตรงหน้าได้มองเห็น
 
อันตราย...
 
            “ฉันว่าฉันบอกกับเธอไปชัดเจนแล้วนะว่าฉันไม่ชอบถูกปฏิเสธแล้ววันนี้เธอพูดคำว่าไม่กับฉันไปกี่รอบแล้วภัทร”ไล่กว้านหลินกระชากร่างของโอเมก้าเด็กให้ลุกขึ้นก่อนจะฉุดกระชากลากถูกออกมาจากห้องน้ำ อากาศเย็นปะทะจนกายสะท้านวูบ กว้านหลินก้าวอาดๆตรงไปยังประตูบานหนึ่งที่ภัทรไม่ได้สนใจจะลองเปิดดู เมื่อเปิดเข้าไปด้านในเป็นห้องนอนใหญ่ของกว้านหลิน ชายหนุ่มเหวี่ยงตัวเจ้าเด็กดื้อลงบนกลางพื้นห้องที่ปูพรมสีแดงสดชายหนุ่มไม่สนภัทรที่ร้องโอยเพราะความเจ็บเลยซักนิดเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวแล้วดึงเอาเสื้อยืดตัวหนึ่งออกมาพร้อมกางเกงนอนขายาวออกมาปาใส่หน้าเจ้าเด็กนั่น
 
รำคาญ แค่เห็นดวงตาที่คลอหน่วยไปด้วยน้ำตาของภัทรเขาก็รำคาญแล้ว
 
            “รีบแต่งตัวซะก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน อย่าให้ฉันต้องลงไม้ลงมือกับเธออีกนะภัทรเพราะครั้งนี้คงไม่ใช่แค่หัวที่แตก”
 
            “ผม...ผมขอผ้าเช็ดตัวซักผืนได้มั้ย?...”เด็กน้อยเอ่ยถามอย่างกลัวๆ คำขู่ของกว้านหลินมีอานุภาพพอสมควรจนเด็กน้อยรู้ตัวว่าไม่ควรลองดีกับอัลฟ่าหนุ่มตอนนี้
 
ฟึ่บ!!!
 
            “เอาไปสิ”ณภัทรรีบดึงผ้าขนหนูผืนชื้นออกจากหัวพลันก็ต้องเบือนหน้าหนีไปอีกทาง แก้มใสขึ้นสีแดงจัดจนถึงใบหูเมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือไล่กว้านหลินเดินโทงๆกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกครั้ง
 
            “คุณจะบ้าหรือไงใครบอกให้คุณถอดผ้าขนหนูที่นุ่งมาให้ผมเนี่ย”
 
            “ทำเป็นไม่เคยเห็น อมก็อมมาแล้ว กินก็กินมาแล้ว อย่าพูดมากรีบแต่งตัวถ้าฉันออกมาเธอยังใส่เสื้อผ้าไม่เสร็จคืนนี้เธอคงไม่ต้องใส่ทั้งคืน”ณภัทรไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะต้องมาทนฟังคำพูดน่าเกลียดแบบนั้นจากคนๆนี้
 
หายไปไหนกันนะพี่กว้านหลินที่สุภาพและใจดี ที่เห็นตอนนี้คือหมาบ้าตัวหนึ่งที่กัดไม่เลิก แม้จะโมโหกับคำพูดของกว้านหลินแต่ภัทรก็จำต้องรีบแต่งตัวด้วยความเร็วแสง ขืนยังดื้อคงได้เจ็บตัวเพิ่มแน่ๆ เด็กน้อยสูดปากใช้ปลายนิ้วแตะลงเบาๆบนหน้าผากของตนเองที่เพิ่งจะแตกไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
 
อย่าร้องไห้นะภัทร
 
พยายามบอกตัวเองเมื่อความอ่อนแอเริ่มกลับเข้ามาเกาะกินหัวใจ กางเกงนอนขายาวถูกสวมขึ้นมาทันพอดีก่อนที่กว้านหลินจะออกมาจากห้องแต่งตัว ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดแขนยาวและกางเกงผ้าฝ้ายง่ายๆแต่กลับดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ ไล่กว้านหลินถกแขนเสื้อให้ร่นขึ้นมาอยู่ที่ข้อศอกมองเด็กน้อยที่อยู่ในเสื้อผ้าของเขาอย่างพอใจ
 
            “ตามฉันมา”ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบขายาวก้าวไปทางประตูห้องหากแต่ณภัทรกลับยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนจนกว้านหลินสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างสะกดกลั้น
 
จะต้องให้พูดย้ำซ้ำซากทุกอย่างเลยใช่มั้ยณภัทร
 
ชายหนุ่มหันไปมองเด็กที่ยืนอยู่กลางห้องไม่ยอมเดินตามเขาอย่างที่สั่ง คิ้วสวยเลิกขึ้นสูงเป็นคำถาม
 
            “คือ..ผ้าเปียกจะให้เอาไปไว้ที่ไหน?”ภัทรที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่รีบเอ่ยปากถามก่อนที่จะโดนคนใจร้ายตี กว้านหลินมีท่าทีชะงักไปนิดหน่อย เขาคิดว่าภัทรจะดื้อใส่แบบที่ผ่านมาแต่เด็กน้อยทำเพียงยืนมองกางเกงนอนที่เปียกชุ่มด้วยท่าทางคิดหนัก
 
            “กองไว้ตรงนั้นแหละ แล้วตามฉันมาเร็วๆ"ภัทรเดินตามกว้านหลินลงมายังชั้นล่าง ชายหนุ่มเดินนำเข้ามาในห้องอาหารที่คนรับใช้จัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว กลิ่นอาหารหอมๆทำเอาณภัทรเสียจริตไปนิดหน่อย พอได้มาเห็นอาหารมากมายที่เกินกว่าคนๆเดียวจะกินหมดแล้วก็ได้แต่ลอบกลืนน้ำลาย
 
วันนี้ทั้งวันนอกจากน้ำแล้วภัทรก็ไม่ได้กินอะไรอีกเลย เด็กน้อยใช้ความดื้อเงียบต่อต้านกว้านหลินจนตอนนี้ท้องของเขาเริ่มร้องประท้วงจนเกรงว่าคนใจร้ายนั้นจะได้ยิน ถ้าตอนนี้ ณ เวลานี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง ภัทรคงกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารพร้อมหน้าพร้อมตาน้องชายทั้งสองคนที่กำลังยื้อแย่งไก่ทอดชิ้นใหญ่ที่คุณแม่จะตั้งใจหมักและทอดจนกรอบพอดี พ่อจะนั่งมองพวกเราด้วยสายตารักใคร่เอ็นดูบางครั้งก็พูดคุยเล่นหัวกับลูกๆอย่างไม่ถือตัว แม่จะค่อยๆยกอาหารที่ทำแต่ละอย่างออกมาวาง ต้มจืดร้อนๆ ผักสดที่แม่บรรจงล้างจนสะอาดทีละใบนำมาปรุงอาหารแสนอร่อยให้ลูกๆและสามีกิน ข้าวเมล็ดสวยที่ถูกหุงจนสุก ไก่ทอดแสนอร่อยจะถูกรุมตักโดยผู้ชายทั้งสี่คนทันทีที่วางลง แค่คิดเด็กหนุ่มก็เผลอยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
 
คิดถึง...
 
คิดถึงพ่อแม่และน้องๆเหลือเกิน
 
อยากกลับไปหา
 
อยากกลับบ้าน
 
อยากให้แม่กอดปลอบแล้วเป่าลงบนแผลช้ำตามตัว ลูบหัวลูบหลังเขาเบาๆอย่างที่แม่ชอบทำ ให้แม่บอกกับเขาว่า ไม่เป็นไรแล้วนะลูกชาย แต่กลับทำไม่ได้
 
ภัทรในตอนนี้ทำอะไรอย่างที่ใจคิดไม่ได้เลยซักนิด
 
            “เสิร์ฟข้าวเลยมั้ยคะคุณชาย?”
 
            “ไม่ต้อง วางไว้ตรงนั้นแหละแล้วออกไปให้หมด ได้ยินอะไรก็ไม่ต้องเข้ามาถ้าฉันไม่เรียก ให้คนขึ้นไปทำความสะอาดข้างบนด้วย”สาวใช้วางโถข้าวก่อนจะค้อมตัวรับคำสั่ง กว้านหลินมองหน้าเด็กที่ยืนกัดปากกลั้นความหิวของตนเองก่อนจะออกคำสั่ง
 
            “ตักข้าวให้ฉัน”ภัทรหลุดจากภวังค์ของตัวเองพลางกระพริบตาปริบๆเพื่อไล่หยาดน้ำตา มือเรียวยกขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ ยอมเดินมาหยิบโถข้าวแต่โดยดี
 
เขาเหนื่อยเกินกว่าจะต่อต้านกว้านหลินในวันนี้แล้ว แผลที่หัวเริ่มปวดตุบๆ เด็กน้อยถือโถข้าวมาหยุดเยืนข้างๆกว้านหลิน มือข้างที่จับทัพพีสั่นจนห้ามไม่อยู่ ทั้งความเครียดและความหิวประเดประดังกันไปหมด กว้านหลินปรายตามองมือที่ตักข้าวใส่จานให้กับเขา รอยยิ้มร้ายผุดที่มุมปากก่อนจะเริ่มลงมือทานข้าว ชายหนุ่มตักอาหารบนโต๊ะกินแบบกินทิ้งกินขว้าง จานข้างตัวกลายเป็นที่วางอาหารที่เขากินเหลือกัดชิ้นละคำสองคำวางสุมไว้จนเต็มโดยมีภัทรยืนคอยรับคำสั่งอยู่ด้านหลังผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงมื้ออาหารแสนอ้อยอิ่งของไล่กว้านหลินก็จบลง ชายหนุ่มล้างปากด้วยผลไม้เพียงสองสามชิ้นแล้วก็เททั้งหมดที่เหลือลงในโถข้าว ทั้งเศษอาหารและผลไม้ถูกชายหนุ่มคนผสมกับเข้าจนเข้ากันจนคล้ายอาหารที่คลุกให้สุนัขจรจัดตามท้องถนนกิน
 
            “นั่งลง”น้ำเสียงทุ้มขรึมเอ่ยสั่งเด็กที่ยืนเงียบๆปล่อยสายตามองไปตรงอื่นให้มานั่งตรงที่ว่างด้านข้าง ภัทรมองนิ่ง สายตาเต็มไปด้วยคำถามจนกว้านหลินหงุดหงิด มือหนายื่นไปจับข้อมือเล็กแล้วกระชากจนร่างบางกระแทกนั่งลงบนเก้าอี้ โถข้าวที่คลุกเสร็จถูกวางไว้ตรงหน้าโอเมก้าตัวน้อย
 
            “ได้ข่าวว่าวันนี้แม่บ้านยกอาหารดีๆไปให้เธอกินทั้งสองมื้อ แต่เธอไม่กิน”
 
            “ผมไม่หิว”ภัทรตอบด้วยน้ำเสียงจองหองแสนระคายหู
 
             ทำไม ของแบบที่คนธรรมดากินกันเธอกินไม่ได้ใช่มั้ย? ก็ดี ในเมื่อให้กินของดีๆไม่ชอบ งั้นก็กินของเหลือๆแบบนี้ก็แล้วกัน กิน!!”กว้านหลินตบโต๊ะจนดังเปรี้ยงจานชามบนโต๊ะเกิดแรงสะเทือน ภัทรกลั้นหายใจด้วยความตกใจกลัวหากแต่ริมปากอิ่มกลับเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อกว้านหลินตักเศษอาหารจ่อแล้วบีบปากของเด็กน้อยอย่างแรง ในที่สุดภัทรก็พ่ายแพ้ เศษอาหารที่กว้านหลินกินเหลือถูกยัดเข้าปากของเด็กน้อยจนเต็ม
 
            “อย่าคิดคายออกมาเด็ดขาด เธอต้องกินจนกว่าฉันจะพอใจไม่งั้นฉันจะให้แม่ของเธอกินลูกปืนแทนข้าวมื้อเย็นแน่ๆ”คำขู่แสนน่ากลัวถูกเอ่ยออกมาอีกครั้ง
 
ณภัทรกำหมัดแน่นอย่างพยายามข่มอารมณ์ ดวงตากลมจ้องหน้าอัลฟ่าหนุ่มเขม็งส่งต่อความเกลียดชังไปให้อย่างไม่คิดจะซ่อนเร้น หยดน้ำตาเม็ดโตกลิ้งหล่นจากสองตาด้วยความคับแค้นใจ ยอมหยิบช้อนขึ้นมาตักเศษอาหารเข้าปากทีละคำ ทีละคำ
 
แต่ละคำที่จำใจเคี้ยวและกลืนลงคอตอกตรึงฝังสลักความเกลียดแค้นและชิงชังคนตรงหน้าทีละนิด
 
ความรักฝังใจตลอดหลายปีที่ผ่านมาเป็นดั่งละอองที่ล่องลอย  เพียงแค่เป่าลมลงไปเบาๆ
 
ละอองนั้นก็กระจายคลุ้งแล้วค่อยๆจางหายไป
 
เหมือนความรู้สึกของณภัทรที่มีต่อไล่กว้านหลินในตอนนี้
 
หัวใจที่เคยบันทึกแต่ความรู้สึกดีๆที่มีต่ออัลฟ่าตรงหน้าค่อยๆถูกลบแล้วบันทึกลงไปใหม่ด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิม...


#ไฮเดรนเยีย
TBC.





..........................................

กักขังฉันเถิดกักขังไป ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า เอ้วววววววววววว

อยากเสียสละตัวเองให้คุณชายสามทำโทษ อยากโดนตบจูบแบบพิศาล เลือดกลบปากฉันชอบ

เอาน้ำตาเทียนมาสะบัดใส่ก็ได้ เอิ้ววววววววววว


หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 4 "เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย" 12/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 12-03-2019 21:45:45
ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 4

เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย



          Hydrangea 4
 
 
          ไล่กว้านหลินนอนมองณภัทรที่นั่งกอดเข่าหันหลังให้เขาอยู่บนพื้นห้อง หลังมื้ออาหารอันแสนพะอืดพะอมที่เขาลงโทษโอเมก้าเด็กจบลงกว้านหลินก็สั่งให้ภัทรเดินตามเขากลับเข้ามาในห้อง
 
อาจเป็นเพราะกลัวคำขู่เรื่องแม่กับน้องหรืออาจเป็นเพราะเด็กคนนี้เหนื่อยเกินจะสู้รบปรบมือกับเขาภัทรถึงเดินตามมาอย่างว่าง่ายเด็กน้อยตาปรือปรอยอย่างน่าสงสารหากแต่ไล่กว้านหลินกลับไม่สนใจ ชายหนุ่มเหยียดขาอย่างสบายอารมณ์ในขณะที่ภัทรได้แต่ยืนละล้าละลังไม่รู้ว่าตนเองควรอยู่ตรงจุดไหนในห้องนี้ ดวงตากลมหลุบต่ำมองเท้าตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะสำรวจรายละเอียดในห้องด้วยซ้ำ
 
            “มานี่สิ”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกจนคนเด็กที่กำลังคิดอะไรอยู่เพลินๆสะดุ้ง เด็กน้อยช้อนตาขึ้นมองก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปหาอย่างว่าง่าย
 
ง่ายผิดปกติ ง่ายจนไม่น่าไว้วางใจ
 
            “ขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วนวดขาให้ฉันหน่อย วันนี้ฉันต้องวิ่งรอกตรวจงานที่พ่อของเธอทิ้งระเบิดไว้จนเมื่อยไปหมด”ณภัทรเม้มปากแน่นมองใบหน้าเรียบดุ แวบหนึ่งเขาเห็นความวูบไหวในสายตาของอัลฟ่าหนุ่มก่อนที่มันกลับมาเป็นความเรียบนิ่ง อึมครึม และนิ่งขรึมดุจดั่งฤดูฝนที่เป็นกลิ่นเฉพาะกายของเจ้าตัว ภัทรยอมที่จะก้าวขึ้นเตียงด้วยเข่าทั้งสองข้างแม้จะไม่เต็มใจแต่ก็ยอมที่จะนวดให้ตามที่กว้านหลินบอกน้ำหนักมือที่พรมลงไปไม่สม่ำเสมอกันเลยซักนิด เหมือนทำๆไปให้มันเสร็จแบบส่งๆ ไล่กว้านหลินเองก็รู้แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ขอเพียงณภัทรทำตามที่เขาสั่งแบบไม่ต้องให้โมโหหรือเหนื่อยลงไม้ลงมือนั่นก็ถือว่าเขากำราบเด็กดื้อได้พอสมควรแล้ว เขามีงานที่จะต้องสะสางอีกมาก มากเกินกว่าจะเล่นกับเหยื่อตัวน้อยนี่ ภุชงค์ปรับแต่งตัวเลขในบัญชีเสียจนมันเละเทะไปหมด
 
            “บีบให้มันแรงๆสมกับที่เพิ่งจะกินข้าวมาหน่อยได้มั้ย”เอ่ยถามเสียงเรียบกับโอเมก้าที่เหมือนแค่แตะๆลงบนขาของเขาอย่างไม่ใส่ใจ ณภัทรในตอนนี้ตาปรือปรอยคล้ายจะหลับเต็มทน หลังงองุ้มจากการที่เจ้าตัวนั่ง ปากบางขมุบขมิบจับใจความไม่ได้ยามที่เขาขยับขาวางลงบนตักแต่ความรู้สึกคือด่าเขาแน่ๆ ภัทรถอนหายใจเฮือกใหญ่ประชดเขาก่อนจะจงใจบีบแรงลงมาแบบไม่ออมมือ
 
            “อืม ดี”นอกจากไม่สะทกสะท้านแล้วยังทำหน้าพอใจมากเสียอีกด้วย นี่ขาคนหรือขาควายกันนะภัทรทั้งบีบทั้งใช้ศอกช่วยจนคนที่เป็นฝ่ายเมื่อยกลายเป็นเขาเสียเองกว้านหลินก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะให้หยุดนวดจนเวลาผ่านไปสองชั่วโมง ร่างสูงก็สะบัดขาออกจากตักของภัทรพลางใช้เท้าถีบโอเมก้าเด็กจนตกเตียงอย่างไม่ใยดี
 
            “โอ้ย!!”เด็กน้อยที่ไม่ทันตั้งตัวหล่นดังอั่กลงไปข้างเตียงดวงตากลมตวัดมองคนที่นอนไม่รู้ร้อนรู้หนาวบนเตียงอย่างโมโห
 
            “ทำบ้าอะไรของพี่..เอ่อ..คุณ ผมเจ็บนะ”ภัทรที่โมโหสุดขีดยกข้อศอกข้างที่กระแทกพื้นขึ้นมาดูแม้ว่าจะไม่เป็นแผลแต่ก็ปวดพอสมควร กว้านหลินปรายตาพลางเบัปากราวกับโอเมก้าตรงหน้าเป็นดังแมลงที่บินมากวนน่ารำคาญ
 
            “ฉันจะนอนแล้ว อย่ามานั่งเกะกะ”กว้านหลินถอดแว่นที่สวมอยู่เก็บใส่กล่องอย่างเป็นระเบียบแล้วก็เลื่อนตัวลงนอนด้วยท่าทางสบายๆ
 
            “ปิดไฟให้ฉันด้วยนะ แล้วก็ถ้าเธอง่วงก็นอนมันบนพื้นนั่นแหละ สัตว์เลี้ยงก็ต้องนอนบนพื้นเฝ้าเจ้านายนี่เนอะ”
 
            “ผมไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณนะ”ตวาดกลับเสียงดุอย่างไม่ชอบใจ มือเล็กกำแน่นอย่างโมโห ไล่กว้านหลินตวัดสายตาคมดุใส่คนเด็กกว่าที่บังอาจแหกปากใส่ตนอย่างไม่ชอบใจ
 
            “อยากเจ็บตัวก่อนนอนหรือไงถึงกล้ามาตะโกนใส่ฉัน”น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ฟังแล้วรู้สึกหนาวที่สันหลังทำให้ภัทรเม้มปากแน่น แค่นี้ก็เจ็บไปทั้งตัวแล้วถ้าไล่กว้านหลินตีเขาก่อนนอนอีกเขาต้องกระดูกหักแน่ๆ โอเมก้าตัวน้อยเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แค่เพียงเดินไปปิดไฟแล้วหาที่นั่งท่ามกลางแสงสลัวจากไฟหัวเตียง กว้านหลินเมื่อเห็นสัตว์เลี้ยงตัวใหม่สิ้นฤทธิ์หมดพยศแล้วก็ได้แต่ตวัดผ้าห่มมาคลุมกายแล้วนอนหลับอย่างสบายโดยไม่สนเลยซักนิดว่าภัทรจะหนาวจากเครื่องทำความเย็นที่ถูกปรับจนเหลือไม่ถึง 20 องศานั่นขนาดไหน
 
            “ฮึก...พ่อครับ...”ไล่กว้านหลินรู้สึกตัวตื่นเมื่อเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังขึ้นในยามดึก ร่างสูงถอนหายใจเบาๆอย่างคนหลับไม่เต็มตื่นดีนัก ความเย็นที่โอบล้อมทำให้ผิวกายนอกผ้ารู้สึกเย็น ร่างสูงขยับนั่งพิงหัวเตียงมองหาต้นเสียงที่ปลุกให้เขาตื่นจากนิทรา ณภัทรนอนอยู่ที่หน้าเตียงของเขา ร่างบางคุดคู้กอดตัวเองเพื่อคลายความหนาวขาทั้งสองข้างปัดป่ายกันร่างกายกระสับกระส่าย อยากจะหาอะไรเขวี้ยงหากแต่เมื่อเห็นใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตานั้นมือที่ถือซิปโป้อยู่ก็ลดลงและวางมันไว้กับโต๊ะข้างเตียงตามเดิม กว้านหลินขยับตัวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มย่อกายลงข้างๆเด็กน้อยใช้หลังมืออังที่ศีรษะเพียงแผ่วความร้อนจากผิวกายสั่นเทานั้นก็แล่นปะทะอย่างทันท่วงที
 
            “แม่ครับ ผมหนาว...”เด็กน้อยคว้าเอามือของอัลฟ่าหนุ่มไปแนบแก้มตัวเอง ยังคงจมอยู่กับความฝันของตัวเอง ในฝันภัทรวิ่งตามครอบครัวไปบนท้องถนนที่ปกคลุมไปด้วยน้ำฝนเฉอะแฉะ ภุชงค์ยืนมองลูกชายอยู่ที่ฝั่งหนึ่งของถนน ชายหนุ่มส่งยิ้มใจดีมาให้พลางกวักมือเรียกให้ภัทรก้าวข้ามไปหา หากแต่เมื่อเท้าเล็กกำลังจะก้าวลงไปบนถนนเสียงของแม่และน้องชายก็ร้องเรียกอยู่อีกทาง
 
ทำไมพ่อกับแม่และน้องๆไม่อยู่ด้วยกันนะ ภัทรละล้าละลังว่าตนควรจะไปหาใครก่อนดี บนถนนเงียบสงบไม่มีรถผ่านไปผ่านมาซักคัน เป็นเรื่องง่ายเสียเหลือเกินที่เขาจะก้าวข้ามไปหาทุกคน
 
            “ภัทรลูกรัก มาหาแม่กับน้องสิครับ”ภาวิณีส่งเสียงเรียกลูกชายที่ทำสีหน้าคิดไม่ตกว่าตนควรจะไปทางไหนดี มือเรียวยื่นจนสุดแขนอย่างร้องของ ภีมและพลกระโดดโลดเต้นร้องเรียกพี่ชายคนโตให้มาหาตน
 
ไม่อยากเลือกเลยซักนิด ครอบครัวเราควรไปด้วยกันสิ
 
ทำไมเขาต้องเลือกด้วย
 
เด็กน้อยหันกลับไปมองทางที่พ่อยืนก็พบว่าภุชงค์หันหลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ แม้ภัทรจะพยายามร้องเรียกแค่ไหนพ่อก็ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมา เด็กน้อยร้องเรียกจนสุดเสียงในที่สุดแผ่นหลังของพ่อก็ลับหายไปกลืนหายโดยเม็ดฝนหนาตา เด็กน้อยหันกลับไปมองที่แม่ แม่ยังคงรอเขาอยู่ ภัทรเช็ดน้ำตาแล้วเริ่มเดินมาหาแม่และน้องๆ ทันทีที่มาถึงตัวของแม่ภัทรก็คว้ามือเรียวของหญิงผู้ให้กำเนิดมาวางลงบนข้างแก้มอย่างแสนรัก
 
            “แม่ครับ ผมหนาว”ร่างบางเอ่ยบอกกับคนเป็นแม่ ร่างกายที่สั่นเทาราวกับลูกนกที่บินฝ่าพายุฝนทำให้ผู้เป็นแม่ค่อยๆดึงลูกชายคนโตเข้าไปกอด  ความอบอุ่นแผ่ซ่านเติมเต็มจนอดไม่ได้ที่จะกระชับอ้อมกอดนั้นให้มากขึ้นแม่ถอดเสื้อคลุมมาห่มกายให้กับลูกชายพลางลูบหลังของเขาเบาๆ
 
            “เจ็บไปหมดทั้งตัวเลยครับ”เด็กน้อยเอ่ยฟ้องคนเป็นแม่ ภาวิณีดันกายลูกออกห่างพลางแตะลงบนแผลที่หน้าผาก
 
            “ไม่เป็นไรนะลูกรัก อดทนไว้เดี๋ยวหนูก็หาย”หญิงสาวกดจูบลงบนแผลของลูกแผ่วเบานุ่มนวล คล้ายมีพรวิเศษเพียงแค่ริมฝีปากอุ่นของแม่ประทับลงไปความเจ็บปวดที่ได้รับพลันมลาย ภัทรสวมกอดแม่ไว้อีกครั้งอย่างโหยหา ร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับจะขาดใจ
 
          “ให้คนป่วยได้พักซัก 2-3 วันนะฉันฉีดยาให้แล้ว  อย่าเพิ่งให้อาบน้ำหรือทำอะไรหนักๆส่วนยากิน ตัวนี้เป็นยาแก้ไข้ ส่วนนี่เป็นยาแก้อักเสบให้กินจนกว่ายาจะหมด รายละเอียดฉันเขียนไว้หน้าซองยาแล้ว ให้กินอาหารอ่อนๆไปก่อนแล้วก็ ให้คนไข้ได้พักผ่อนมากๆ หมั่นเช็ดตัวลดความร้อนเดี๋ยวก็หาย”คุณหมอนนท์อธิบายยาชนิดต่างๆให้อัลฟ่าหนุ่มที่โทรตามเขาตั้งแต่รุ่งเช้าให้มาดูอาการสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ ตอนแรกเขาอยากจะด่าอัลฟ่าหนุ่มที่เรียกหมอประจำบ้านอย่างเขามารักษาสัตว์ ก็เขาเป็นหมอคนแม้อัลฟ่าจะสืบเชื้อวงศ์มาจากหมาป่าแต่ก็เป็นหมาป่าที่วิวัฒนาการมานับร้อยนับล้านปีแล้ว แต่พอมาเห็นสัตว์เลี้ยงของกว้านหลินคุณหมอหนุ่มก็อดที่จะบ่นใส่ไม่ได้
 
            “เขาเป็นคนนะครับคุณกว้านหลิน แม้จะเป็นโอเมก้าแต่คุณค่าความเป็นมนุษย์ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเรา”อดไม่ได้ที่จะบ่นใส่ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าตนหลายปี มองโอเมก้าที่นอนใบหน้าซีดเซียวบนเตียงแล้วก็ให้สงสาร รอยจ้ำเขียวๆม่วงๆตามตัวนั้นบอกให้รู้ว่ากว้านหลินฝึก “สัตว์เลี้ยง” ของเขา หนักหนาเพียงใด
 
            “ตรวจเสร็จแล้วใช่มั้ยพี่ ถ้าเสร็จแล้วก็กลับบ้านไปผมจะนอนต่อ”กว้านหลินเอ่ยไล่คุณหมอหนุ่มที่สนิทสนมนับถือกับมาหลายปีโดยไม่มีความเกรงใจ อนลส่งค้อนให้กับเจ้าของบ้านอย่างเหลืออด
 
            “นายนี่นะ”คุณหมอหนุ่มอดจะบ่นเป็นหมีกินผึ้งใส่เจ้าของบ้านในขณะที่เก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าประจำตัวไม่ได้ เมื่อสั่งให้คนรับใช้ไปส่งอนลเรียบร้อยแล้วกว้านหลินก็เดินหน้ายุ่งกลับมาที่เตียง มองร่างบางที่หลับสนิทขดตัวกับผ้าห่มของเขาจนเป็นก้อนแล้วก็ให้หงุดหงิด
 
ก็รู้อยู่หรอกว่าพวกโอเมก้าน่ะอ่อนแอ แต่ไม่คิดว่าจะอ่อนแอขนาดนี้ แค่กดน้ำนิดๆหน่อยๆ ปล่อยให้นอนหนาวนิดเดียวถึงกับเจ็บไข้ได้ป่วยเดือดร้อนเขาต้องอุ้มขึ้นมานอนบนเตียงแล้วเรียกหมอมาดูโชคดีที่เขาฉลาดพอจะไม่ให้อนลบ่นไปได้มากไปกว่านี้ด้วยการเลียแผลบนหน้าผากจนมันสมานกันไม่งั้นคุณหมอหนุ่มคงบ่นจนหูชาแน่ๆ  ชายหนุ่มที่ยังคงง่วงจากการนอนไม่เต็มอิ่มทรุดตัวลงนอนบนพื้นที่ข้างๆ เรือนผมสีบลอนด์ถูกขยี้อย่างหงุดหงิดก่อนจะแทรกกายเข้าไปไว้ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับคนป่วยที่กระจายความร้อนจนทั่ว ภัทรพลิกตัวมาสวมกอดร่างสูงไว้โดยไม่รู้ตัว เด็กน้อยเพียงแค่เข้าหาสิ่งที่จะเติมเต็มความอบอุ่นให้ตัวเองได้ หากแต่กว้านหลินกลับนอนตัวแข็งทื่อมองใบหน้าของโอเมก้าลูกหนี้ที่ขยับเข้าซุกหาไออุ่นจากร่างกายของเขาที่สุดก็จำต้องปล่อยให้ภัทรนอนหนุนแขนซุกกายกับอกของเขาไปอย่างนั้นโดยไม่ได้ผลักออก
 
ที่ยอมก็เพราะยังไม่อยากให้ลูกหนี้ของเขาชิงตายไปซะก่อนหรอกนะ รอหายป่วยเมื่อไหร่เขาจะทบต้นทบดอกให้สมกับที่ต้องเสียเวลามาดูแลเลยทีเดียว





 
 
            ณภัทรลืมตาตื่นขึ้นในตอนสาย ความหนักอึ้งที่หัวทำให้เด็กน้อยนอนนิ่งๆหากแต่บางสิ่งบางอย่างทำให้รู้สึกแปลกไป ร่างกายของเขาอุ่น ไม่ใช่เพราะผ้าห่มผืนหนาที่คลุมจนถึงหน้าอกหากแต่เป็นมือแกร่งที่โอบไหล่ของโอเมก้าตัวน้อยไว้รวมทั้งแผงอกที่แสดงความแข็งแกร่งที่ตนเองซุกซบอยู่นั้นอุ่นเสียยิ่งกว่าผ้าห่มนับร้อยผืน ดวงตากลมที่ยังคงแสดงความอิดโรยค่อยๆเงยขึ้นมอง คางขาวรับกับริมฝีปากสีแดงโดยธรรมชาติรับที่มักจะกร่นด่าและเอ่ยคำพูดร้ายๆให้ได้เจ็บใจตลอดเวลาปลายจมูกโด่งรับกันสันจมูกจรดดวงตาที่เคยจ้องมองมายังภัทรด้วยความเกลียดชังปิดสนิท
 
คิดถึง...ภัทรคิดถึงพี่กว้านหลินมาตลอด 5 ปี
 
5 ปีที่คอยถามไถ่เรื่องราวของพี่กว้านหลินเสมอมากลับถูกเหตุการณ์ร้ายๆพลิกผันเราสองคนให้ยืนอยู่คนละฝั่ง
 
ถ้าหากไม่เกิดเรื่องขึ้นเสียก่อนตอนนี้เราสองคนจะเป็นยังไงนะ
 
พี่กว้านหลินจะยังใจดีกับภัทรเหมือนเมื่อก่อนมั้ย เด็กน้อยทำใจกล้าใช้ปลายนิ้วแตะลงบนสันกรามของอัลฟ่าหนุ่ม สัมผัสเพียงแผ่วเบาเพราะกลัวว่ากว้านหลินจะตื่นขึ้นมาแล้วทำร้ายตนอีก เด็กน้อยไล้ปลายนิ้วไปตามกรอบหน้าของคนใจร้าย ใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างรุนแรง ความรักฝังใจในวัยเด็กไม่เคยจางหายไปเลยแม้สองวันมานี้จะพร่ำบอกว่าตนเองนั้นเกลียดแสนเกลียดไล่กว้านหลินจากใจ แต่เพราะความรู้สึกคนเรานั้นไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนกันได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
 
แม้จะรู้สึกเกลียดกว้านหลินแต่ความรู้สึกรักนั้นก็ยังคงอยู่ คล้ายเหล็กที่ถูกสนิมค่อยๆกัดกินทีละนิดก่อนความเกลียดชังจะถูกเติมเต็มความรักก็ยังคงมีมากกว่า
 
ณภัทรเกลียดตัวเองในตอนนี้นักอ่อนแอจนดูไร้ค่า แถมหัวใจกลับไม่รักดีแม้แต่ในฝันยังฝันว่าได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของคนที่เคยบอกว่าจะเป็นผู้คุ้มภัย ใจดวงน้อยเต้นแรงแล้วบีบรัดจนปวดหน่วงไปหมด
 
            “ย้อนเวลาได้มั้ย?...”ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะบอกพ่อว่าอย่าทำกับพี่กับคุณท่านแบบนั้น”ภัทรเอ่ยถามคนที่หลับใหลด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แพขนตาหนากระพริบเพื่อไล่หยาดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา เด็กน้อยซุกใบหน้ากับอกแกร่งสูดดมกลิ่นฝนแรกจนเต็มปอด กระชับอ้อมกอดของตนเองกับเอวสอบให้แน่นขึ้น
 
ถ้าในความฝันทำอะไรก็ได้ณภัทรก็ขอทำตามใจตัวเอง
 
            “ผมรักพี่นะ พี่กว้านหลิน รักมาตั้งแต่แรกเลย”คำสารภาพแสนซื่อตรงถูกเปล่งออกไปเพียงแผ่วเบา
 
เบาราวขนนกแต่ทว่ากลับหนักแน่นประดุจขุนเขาใหญ่สลักลึกเข้าไปในใจของคนฟัง อ้อมกอดของอัลฟ่าหนุ่มกระชับขึ้นมือหนาประคองศีรษะทุยกดน้ำหนักลงไปจนร่างเล็กจมอก
 
            “ขอโทษ...ผมขอโทษจริงๆ ผมไม่รู้ ฮึก...”เด็กน้อยซุกอกแกร่งใช้เสื้อนอนของกว้านหลินซับน้ำตาตัวเองสองมือกำเสื้อของอีกฝ่ายแน่น กอดให้เหมือนกับว่าชาตินี้หากลืมตาตื่นนอนก็คงไม่มีโอกาสนี้อีกแล้ว ร้องไห้สะอึกสะอื้นใช้อกเสื้อของอีกฝ่ายเป็นที่ซับน้ำตาจนเผลอหลับไปอีกครั้ง
 
ไล่กว้านหลินค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ ชายหนุ่มมองคนป่วยที่ซุกกายหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วยสายตานิ่งสนิท นิ่งจนเดาความรู้สึกภายในใจไม่ได้ ชายหนุ่มเหมือนห้วงมหาสมุทรที่แสนลึก ลึกจนยากคะเน หวังอี้เฉินเคยพูดกับเขาเสมอว่านายน้อยเป็นคนเข้าใจยาก แต่หากเข้าใจก็จะรู้ว่าเจ้าของกลิ่นฝนนี้อยู่ในสภาวะอารมณ์แบบไหนและต้องรับมืออย่างไร
 
 
 
            “คุณภัทรคะ”ภัทรสะดุ้งตื่นยามที่มีผ้าอุ่นๆโปะลงมาบนหน้าผากของตนเอง เด็กน้อยกระพริบตาปรับโฟกัสจนกระทั่งชัดขึ้น แม่บ้านเบต้าคนเดิมจากเมื่อวานที่ยกข้าวมาให้เขากำลังเช็ดตัวให้เขาอยู่ด้วยน้ำหนักมือที่แผ่วเบา
 
            “ลุกไหวมั้ยคะ ทานข้าวทานยาก่อนแล้วค่อยนอนต่อ”ศลัยประคองคนป่วยที่ไร้เรี่ยวแรงให้ลุกขึ้นนั่ง ภัทรกวาดตามองรอบๆก็พบว่าตนเองนอนบนฟูกที่ปูไว้ข้างเตียงของกว้านหลิน โต๊ะหัวเตียงช่วยทำหน้าที่เป็นพนักพิงให้ เด็กน้อยยิ้มโรยๆให้กับตัวเอง นึกขำความฝันที่เหมือนจริงเหมือนกระทั่งได้กลิ่นฝนชุ่มฉ่ำจากเรือนกายของอัลฟ่าหนุ่ม
 
ฝันดีจังเลยนะ
 
            “รีบทานซะตั้งแต่ยังร้อนๆนะคะ”เบต้าวัยกลางคนเป่าข้าวต้มเบาๆให้หายร้อนก่อนจะป้อนให้คนป่วย ภัทรในตอนนี้ไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้านขัดขืนใดใดทั้งนั้น เด็กน้อยยอมรับเข้าต้มเข้าปาก รสชาติเป็นยังไงเขาก็ไม่รู้รสในปากมีแต่ความขมปร่า ไอร้อนพรั่งพรูออกมาตามลมหายใจจนอึดอัดไปหมด
 
            “ตอนนี้ทานรสจืดๆไปก่อนนะคะ ดิฉันใส่เห็ดหอมที่คุณชอบมาด้วยดีมั้ยคะ”ณภัทรชะงักกับประโยคบอกเล่านั้น แม่บ้านคนนี้รู้ได้ยังไงว่าเขาชอบกินเห็ดหอมที่ใส่มาในข้าวต้มและโจ้กมากที่สุด นอกจากแม่ก็มีเพียงกว้านหลินเท่านั้นที่รู้ ภาพในวัยเยาว์ผุดขึ้นมาในหัวภัทรจำได้ดีเช้าของวันอันทึมเทาพ่อพาภัทรในวัย 8 ขวบมาทิ้งไว้ที่คฤหาสน์ตระกูลไล่เพื่อออกไปดูงานกับหยวนช่างตั้งแต่เช้า จริงๆภัทรจะอยู่บ้านก็ได้แต่เด็กน้อยกลับร้องตามพ่อมาเพราะอยากมาเล่นกับพี่กว้านหลิน เมื่อมาถึงมื้อเช้าง่ายๆของเด็กหนุ่มวัย 15 ปีและเจ้าเด็กน้อยที่เดินตามเขาต้อยๆเอาแต่ร้องหาแต่พี่กว้านหลินไม่ได้หยุดปากจนเด็กหนุ่มต้องสั่งแม่บ้านให้ยกข้าวมากิน
 
อย่างน้อยเวลากินภัทรก็จะเงียบเสียงได้ช่วงเวลาสั้นๆ
 
            “พี่กว้านหลินทำไมชามของพี่กว้านหลินมีเห็ดหอมเยอะจังเลยฮะ ของภัทรมีนิดเดียว”
 
            “อย่าโลภมากจะได้มั้ยตัวก็แค่นี้จะกินอะไรเยอะแยะ”อัลฟ่าวัยรุ่นที่ดูโตเกินวัยเอ่ยดุเจ้าตัวเล็กที่ยู่ปากอย่างขัดใจ สงสัยเขาจะตามใจเจ้าตัวน้อยนี่มากไปพอรู้ว่าจะไม่ได้ตามที่ต้องการก็ชักสีหน้าใส่ทุกที
 
            “ภัทรอยากกินเยอะๆเพราะภัทรชอบก็เหมือนที่ภัทรอยากมาหาพี่กว้านหลินเพราะภัทรชอบอยู่กับพี่กว้านหลิน ภัทรผิดตรงไหน”
 
            “ไม่ต้องมาประจบ เลื่อนชามมาสิพี่จะแบ่งให้”ในที่สุดเห็ดหอมเกือบครึ่งของกว้านหลินก็มาอยู่ในชามของคนเด็กที่ยิ้มแป้นโชว์ฟันซี่เล็กแสนน่ารัก วันนั้นกว้านหลินจึงรู้ว่านอกจากไก่ทอดแล้ว อาหารที่ใส่เห็ดหอมทุกชนิดภัทรก็โปรดปรานด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นทุกครั้งที่ภัทรมาบ้านบนโต๊ะมักจะประกอบไปด้วยอาหารที่เจ้าเด็กน่ารักคนนั้นชื่นชอบอยู่เสมอ
 
            “คุณรู้ได้ยังไงครับว่าผมชอบกินเห็ดหอม”ภัทรเอ่ยถามหลังจากกินข้าวต้มไปได้ไม่กี่คำ ลำคอตีบตันจนอยากจะอาเจียนออกมา เขาไม่สามารถฝืนกินเข้าไปอีกได้แม้แต่คำเดียวแม้ว่าจะชอบมากแค่ไหน ศลัยกลอกตาเลิ่กลั่กก่อนจะตัดบทด้วยการยื่นยาให้กับโอเมก้าหนุ่มถือไว้
 
            “ฉันไม่รู้หรอกค่ะ แค่เดาๆเอา เอ้านี่ยา คุณกินซะนะจะได้หายไวๆ”ศลัยเก็บชามข้าวแล้วรีบออกจากห้องไปทันที หล่อนตบปากตัวเองเบาๆที่เผลอหลุดปากออกไป ถ้าภัทรรู้ว่าคุณชายสามเป็นคนสั่งทำข้าวต้มโดยกำชับให้ใส่เห็ดหอมเยอะๆหล่อนอาจถูกไล่ออกไม่ถ้าคุณชายอารมณ์ไม่ดีจัดๆคงได้ส่งให้ไปนอนคุยกับรากมะม่วง ทางด้านภัทรเองเมื่อได้อยู่คนเดียวอีกครั้งเด็กหนุ่มมองยาในมือด้วยดวงตาว่างเปล่า
 
จะกินไปทำไม? หายป่วยแล้วก็ต้องถูกทำร้ายร่างกายถูกทรมานทั้งการกระทำและคำพูด บางทีป่วยคราวนี้อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่จะปล่อยให้ตนเองทรุดหนัก
 
ตายจากโลกนี้ไปโดยไม่มีความผิด กว้านหลินก็จะมาเอาผิดกับแม่และน้องๆไม่ได้เพราะเขาป่วยตายไม่ได้ฆ่าตัวตาย เด็กน้อยปล่อยให้ยาเม็ดกลิ้งหล่นก่อนจะค่อยๆพาร่างกายที่อ่อนแรงไปในห้องน้ำอย่างยากลำบาก ณภัทรในตอนนี้ช่างน่าสมเพชนัก โอเมก้าเด็กไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะเดิน แค่ไม่กี่ก้าวก็ทรุดฮวบลงไปเพราะหน้ามืดหากแต่เด็กน้อยยังคงพยายามกัดฟันสะกดกลั้นความอ่อนแอไว้ ค่อยๆคลานเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะเปิดน้ำใส่อ่าง
 
แค่รอ...
 
รอเวลาให้น้ำเต็ม...
 
ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะจบสิ้น...
 
จบสิ้นตลอดกาล...
 
            ไล่กว้านหลินเกิดอาการกระวนกระวายใจแปลกๆ ชายหนุ่มยกนาฬิกาขึ้นมามองเป็นรอบที่ร้อย เขาออกมาบริษัทในตอนบ่ายเพื่อประชุม การประชุมย่อยนี้ใช้เวลาไม่นาน ความพะวักพะวงบางอย่างทำให้อัลฟ่าหนุ่มสั่งเลขาคนสนิทให้เตรียมรถกลับบ้านโดยยกเลิกนัดที่จะทานข้าวกับเพื่อนสาวที่บินกลับมาจากสหรัฐอเมริกาไปก่อน
 
            “ขับเร็วกว่านี้หน่อย”เอ่ยเสียงเรียบสั่งคนขับรถ โดยปกติกว้านหลินมักจะเอางานขึ้นมาทำระหว่างทาง แต่ตอนนี้ใจของเขาร้อนรุ่มจนไม่สามารถโฟกัสกับอะไรได้เลย
 
เป็นห่วง?...
 
อยู่ๆความรู้สึกนี้ก็เข้ามารบกวนในจิตใจ ชายหนุ่มรู้สึกสับสน วูบหนึ่งเขารู้สึกคล้ายคนสิ้นหวังที่มีความโศกเศร้าท่วมท้นหัวใจ เหมือนมีสายสัมพันธ์บางอย่างเชื่อมโยงใจของคนทั้งสองไว้ด้วยกัน
 
ความรู้สึกเหมือนว่าพร้อมจะลาจากโลกนี้ไปอย่างไม่เสียดายเลยซักนิด อัลฟ่าหนุ่มแทบจะนับเวลาเป็นวินาที ทันทีที่รถจอดสนิทหน้าบ้านเขาก็ไม่รอช้าที่จะก้าวขายาวๆจนแทบวิ่งขึ้นไปบนห้อง ประตูถูกกระชากออกและปิดดังปังใหญ่กวาดตามองหาร่างของคนป่วยที่ควรจะนอนตรงที่ๆเขาจัดให้ก่อนออกจากบ้านหากแต่ข้างเตียงของเขากลับว่างเปล่า เม็ดยาแก้ไข้และยาแก้อักเสบหล่นอยู่บนฟูกนอนและผ้าห่มยับย่น เสียงน้ำไหลในห้องน้ำเรียกให้กว้านหลินหันความสนใจไปหา ร่างสูงก้าวยาวไปตามเสียงภาพที่เห็นทำเอาเลือดของอัลฟ่าหนุ่มเย็นเฉียบราวกับถูกแช่แข็ง
 
น้ำไหลล้นอ่างอาบน้ำจนเฉอะแฉะ จะไม่อะไรเลยซักนิดถ้าที่ก้นอ่างไม่มีร่างของคนที่ตามหานอนนิ่งอยู่ในนั้น เส้นผมนุ่มที่เขาเฝ้าลูบไล้ทั้งค่ำคืนพลิ้วไสวอยู่ใต้ผืนน้ำ เหมือนภาพถ่ายล้ำค่าแต่ตอนนี้ภาพนั้นกำลังบิดเบี้ยวและพร่ามัว ไล่กว้านหลินไม่รู้ว่าตัวเองเคยกลัวอะไรขนาดนี้มาก่อนหรือเปล่า
 
กลัวการสูญเสีย...

ชายหนุ่มก้าวยาวๆก่อนจะเอื้อมมือลงไปในน้ำกระชากคอเสื้อยืดที่เขาโยนให้ภัทรใส่เมื่อคืนอย่างแรงจนร่างอ่อนปวกเปียกโผล่พ้นผิวน้ำ ไม่สนเลยซักนิดว่าสูทตัวแพงจะเปียกภัทรที่กำลังจะหมดสติปรือตาขึ้นมองอย่างตกใจ
 
            “ค...คุณกว้านหลิน...”
 
            “ทำอะไรของเธอ ทำบ้าอะไรของเธอ ห๊ะ!!”โดยโทสะไล่กว้านหลินสะบัดผ่ามือลงไปเต็มซีกแก้มของภัทรเต็มแรง โอเมก้าอ่อนแรงทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเลือดสีแดงปริ่มออกมาจากมุมปากที่เกิดแผล ความเจ็บร้าวชาลึกจากซีกแก้มสู่หัวใจ หยาดน้ำตาใสร่วงรินราวน้ำค้างที่เกาะกลิ้งบนใบไม้ยามเช้าตรู่
 
            “ได้โปรด...ปล่อยผมไป...ให้ผมตาย...ได้โปรด”ภัทรส่งสายตาอ้อนวอนไปให้กว้านหลิน
 
หากคนตรงหน้ายังพอมีเมตตากับเขาเหมือนครั้งเยาว์วัย สิ่งสุดท้ายที่ณภัทรอยากจะร้องขอก็คือขอให้ไล่กว้านหลินปลดปล่อยตนเองไป ถ้าปล่อยแบบมีชีวิตไปหาแม่และน้องๆไม่ได้อย่างนั้นก็ปล่อยให้เขาได้ตามไปหาคุณพ่อเถอะ
 
ไล่กว้านหลินมองภาพโอเมก้าตรงหน้าที่ร้องขอความตายสองมือกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ใบหน้าของชายหนุ่มสลับสีจากซีดเป็นแดงจัด
 
            “ทำไม...อยู่กับฉันมันทรมานเธอนักใช่มั้ยณภัทร ถึงพยายามฆ่าตัวตาย ฉันไม่ใจอ่อนให้กับน้ำตาของเธอหรอกนะ อยากตายมากนักเหรอ ถ้าฉันไม่อนุญาตให้ตายใครก็ไม่มีสิทธิ์ตายทั้งนั้นจำใส่สมองโง่ๆของเธอไว้อย่าโทษฉันเลยถ้าจะโทษก็โทษความเลวของพ่อเธอเถอะณภัทร รังเกียจฉันมากใช่มั้ย ถ้ารังเกียจกันมากนักฉันจะทำให้เธอเป็นของฉันซะตอนนี้เลยจะได้รู้ว่าความทรมานของจริงน่ะมันเป็นยังไง!!!”




TBC.



....................................




หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 4 "เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย" 12/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 12-03-2019 23:19:31
 :pig4: :pig4:พระเอกโรคจิตแค้นบ้าบอลงทีลูกพ่อเขาตายแล้วจะอะไรอีกณภัทรถ้ารอดไปได้เอาคืนสาสมเลยนะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 4 "เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย" 12/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-03-2019 03:30:12
จะจบยังไงหนอ มันดูมืดครึ้มมาก // อ่านชื่อตัวละครแต่ละคนแล้ว

เอ๊ะ! ไม่ใช่หรอกมั้ง แต่ก็เอ๊ะ! เกือบทุกชื่อเลย 555
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 4 "เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย" 12/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 13-03-2019 07:55:11
จะเป็นยังไงต่อ :katai1: อิพี่ไม่อยากให้น้องตายแต่ก็ไม่ถนอมน้องเลย สงสารน้องมาก :hao5: มาต่อเร็วๆนะคะสนุกมากๆเลย ชอบมากๆพระเอกแบบนี้  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 4 "เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย" 12/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 14-03-2019 00:55:48
ตบจูบโอเมก้าเวิร์ส 555  :katai4: :katai4:

เข้าใจแหละว่ากว้านหลินแค้น แต่ก็ไม่ควรทำกับน้องแบบนี้อ่ะ
น้องไม่ได้มีส่วนร่วมโกงด้วย แต่พ่อน้องก็เลวจิงๆอ่ะ
เห้อ เคียด  :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 4 "เมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย" 12/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 14-03-2019 20:45:38
โอ้ยยย น้ำตาไหล สงสารน้อง ¥_____¥
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 5 "สูญเสีย" 14/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 14-03-2019 21:42:54






                Hydrangea 5




 
“ทำไม...อยู่กับฉันมันทรมานเธอนักใช่มั้ยณภัทรเธอ ถึงพยายามฆ่าตัวตาย ฉันไม่ใจอ่อนให้กับน้ำตาของเธอหรอกนะ อยากตายมากนักเหรอ ถ้าฉันไม่อนุญาตให้ตายใครก็ไม่มีสิทธิ์ตายทั้งนั้นจำใส่สมองโง่ๆของเธอไว้อย่าโทษฉันเลยถ้าจะโทษก็โทษความเลวของพ่อเธอเถอะณภัทร รังเกียจฉันมากใช่มั้ย ถ้ารังเกียจกันมากนักฉันจะทำให้เธอเป็นของฉันซะตอนนี้เลยจะได้รู้ว่าความทรมานของจริงน่ะมันเป็นยังไง!!!”
 
            ร่างของณภัทรลอยหวือขึ้นมายืนตรงหน้าอัลฟ่าหนุ่มความกลัวเกาะกินในหัวใจราวกับว่าเขากำลังถูกดาบที่ทำจากน้ำแข็งเย็นเฉียบแทงลงมากลางใจของเขา กว้านหลินในยามนี้โกรธเกรี้ยวและน่ากลัวดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงตัดกับผิวขาวซีดและเรือนผมสีบลอนด์ ชายหนุ่มดึงตัวโอเมก้าน้อยออกมาจากห้องน้ำด้วยพละกำลังมหาศาลในแบบที่ชีวิตนี้ณภัทรไม่เคยมี ไล่กว้านหลินโยนภัทรลงไปบนเตียงอย่างไม่ออมแรงเลยซักนิดก่อนจะตามไปคร่อมกักคนป่วยที่พยายามกระถดหนีอย่างว่องไว รวดเร็วราวหมาป่าที่ออกล่าเหยื่อตัวน้อยด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี่
 
            “ปล่อย!!! ปล่อยผม ฮึก อย่า ได้โปรดอย่าทำ!!”ภัทรพยายามอย่างมากที่จะปกป้องตัวเอง ใบหน้าซีดเซียวจากพิษไข้หันหนียามอัลฟ่าหนุ่มฝังปลายจมูกลงบนซอกคอของตัวเองอย่างกักขฬะ
 
ไร้ความนุ่นนวล ไร้ความอ่อนโยน มือหนารวบชายเสื้อชุ่มน้ำก่อนดึงออกอย่างไม่สนใจคำทัดทานและการขัดขืนใดใดของภัทรเลยซักนิด ตอนนี้ในใจของกว้านหลินมีแต่โทสะอัดแน่น เขาไม่ได้ให้หมอมารักษาคนใต้ร่างเพื่อให้ภัทรทำตัวโง่ๆด้วยการฆ่าตัวตายแบบนั้น ร่างสูงถอดสูทของตัวเองทิ้งก่อนจะกระขากกางเกงของภัทรออกจนพ้นข้อเท้าขาวแล้วเหวี่ยงมันทิ้งอย่างไม่ใยดี ภัทรร้องไห้สะอื้นฮักร้องขอความเมตตาหากแต่ตอนนี้ไล่กว้านหลินหมดสิ้นแล้วซึ่งสติ
 
เขากลัวมากแค่ไหนตอนที่เห็นภัทรจมอยู่ในอ่าง
 
ถ้ามาไม่ทันล่ะ...
 
            “พี่...อย่าทำผม ได้โปรด ฮือ...”ณภัทรยกมือไหว้อ้อนวอนขอร้องคนที่กำลังกัดลงบนไหล่ของตนเองอย่างทำโทษ แต่ไล่กว้านหลินในตอนนี้ไม่หลงเหลือสติความรู้จักผิดชอบชั่วดีอีกต่อไปแล้ว
 
ในเมื่อณภัทรรังเกียจเขานัก ทำทุกวิถีทางที่จะหนีเขาเขาก็จะสั่งสอนให้เด็กคนนี้หลาบจำว่าไม่ว่าจะเป็นใคร ต่อให้ตายตกลงไปในนรกถ้าเขาไม่ยินยอมให้ตายเขาก็จะตามไปกระชากกลับมาแล้วทรมานให้ได้รับรู้รสชาติของความทรมานและการตายทั้งเป็นว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน
 
โอเมก้าตัวน้อยเจ็บจนกลั้นเสียงร้องไม่ได้ข้อมือถูกรวบมัดด้วยเน็กไทด์เส้นหรูกว้านหลินจับข้อมือที่ถูกมัดให้คล้องลำคอของตนเองไว้ฝังรอยฟันไปบนผิวที่เต็มไปด้วยริ้วรอยเก่าอย่างโมโหเรียวขาร้อนผ่าวถูกดันขึ้นมาไว้ในข้อพับแขน
 
ไม่มีการเล้าโลมให้วาบหวาม
 
ไม่มีคำหวานปลอบประโลม
 
มีเพียงสัมผัสหยาบกร้านรุนแรง
 
ไม่ว่าจะลากลิ้นไปตรงไหนก็มีเพียงแต่การขัดขืนให้ขุ่นมัว สองมือฟอนเฟ้นไปทั่วร่างอย่างถือสิทธิ์
 
ณภัทรเป็นของเขา
 
เป็นของเขาคนเดียวและไม่มีสิทธิ์จะหนีไปไหนได้ทั้งนั้น
 
หนี้แค้นทั้งหมดที่เขามีเขาจะคิดบัญชีกับลูกของภุชงค์ให้ทุกคนได้รู้ว่าไม่ควรทรยศหักหลังตระกูลไล่ ไม่เช่นนั้นแล้วผลที่ได้รับจะทรมานเสียยิ่งกว่าตกลงไปในนรกขุมที่ลึกที่สุด
 
ไล่กว้านหลินในตอนนี้จมอยู่ในห้วงอารมณ์ของตนเอง สัญชาติญาณจ่าฝูงถูกปลดปล่อยโดยไม่คิดจะกักเก็บอีกต่อไป
 
ไล่กว้านหลินเป็นคนหวงของและอารมณ์ร้ายเรื่องนี้ใครๆต่างก็รู้ดี จริงอยู่เขาอาจจะทำร้ายภัทรแต่เขาไม่ได้อยากให้เด็กคนนี้ตาย หากเขาต้องการอย่างนั้นคืนที่ไปรอฆ่าภุชงค์คนที่จะถูกยิงเจาะกระโหลกเป็นคนแรกไม่ใช่ภุชงค์หรอกหากแต่คือณภัทรคนนี้
 
กว้านหลินจ้องตาเด็กที่พยายามใช้สองแขนที่ถูกมัดทุบเขาเพื่อให้เขาปล่อย ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา มุมปากที่โดนตบยังมีเลือดซึมให้เห็น
 
สายตาที่ภัทรมองมาที่เขานั้น...ผิดหวัง เสียใจ อ้อนวอนและเกลียดชัง...
 
ใช่ว่าเขาจะไม่รับรู้ความรู้สึกของเด็กตรงหน้า
 
เขารู้ รับรู้เต็มสองหู
 
ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับเด็กใต้ร่าง
 
เขารู้สึกมากกว่าที่ภัทรรู้เสียอีก
 
ใช่ว่ากว้านหลินจะไม่รอวันที่จะได้กลับมาเจอกัน เขารอมาตลอดห้าปี ห้าปีที่เขาพยายามทำตัวดีตั้งใจเรียนรู้งานที่พ่อต้องการจะให้สานต่อเพื่อที่วันหนึ่งวันที่เขาได้ครอบครองธุรกิจส่วนของเขาเต็มตัวเขาจะไปขอภัทรกับภุชงค์ด้วยตัวเอง เขาสืบจนรู้แล้วด้วยซ้ำว่าภัทรเรียนที่ไหน อยู่กับใคร เขาเพียงแค่รอให้ภัทรบรรลุนิติภาวะมีสิทธิ์ในตัวเองได้เต็มที่
 
แล้วยังไงล่ะ?
 
ความอดทนของเขา นอกจากจะไม่สำเร็จแล้วผลที่ได้รับคือการทรยศหักหลังและสูญเสีย
 
            “รักฉันไม่ใช่เหรอ?...”กว้านหลินสอดแขนเข้าไปใต้ร่างเด็กน้อยที่ตัวสั่นราวลูกนกปลายนิ้วจับไหล่เล็กแน่น ดวงตาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของภัทร
 
นิ่งสนิท ไม่แสดงอารมณ์ใดใด กดจูบลงบนต้นคอสูดดมกลิ่นดอกไลเซนทัสจนเต็มปอดก่อนจะดุนดันตัวตนของตนเองเข้าไปในร่างเด็กน้อยโดยไม่คิดจะเบิกทางเลยซักนิด ณภัทรดิ้นพล่าน ความเจ็บแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อนเข้าจู่โจมจนร้องไห้ดังกว่าเดิม
 
มันเจ็บ...ที่มากกว่าร่างกายคือจิตใจ
 
ใจดวงน้อยถูกเหยียบจนแหลกละเอียด ยามกว้านหลินขยับร่างกายอย่างเอาแต่ใจร่างบางก็ไถลไปตามแรงเคลื่อน อยู่ๆน้ำตาก็เหือดแห้งไปเอง คำอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจถูกกลืนลึกเข้าไปในอก หลงเหลือเพียงอาการสะอื้น สองแขนที่ถูกผูกไว้คล้องต้นคอของอัลฟ่าหนุ่ม ไร้แรงที่จะทุบตี
 
หมดแล้ว...ความผูกพันตลอดเวลานับสิบปีที่มีด้วยกันมา
 
สิ้นแล้วความรักที่สลักลึกอยู่ในใจของเด็กน้อย
 
ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้หัวใจของภัทรเจ็บ เจ็บราวกับถูกมีดกรีด
 
เลือดสีแดงสดไหลจากช่องทางที่ถูกทำร้ายขับเคลื่อนให้บทรักดำเนินได้คล่องขึ้น เสียงครางทุ้มต่ำยามห้วงแห่งปรารถนาสิ้นสุด คมเขี้ยวฝังลึกบนลาดไหล่สร้างรอยแผลและโลหิตสีแดงไหลเปรอะ หากแต่ไม่นานกว้านหลินก็เลียจนมันสมาน
 
หัวใจของภัทรเจ็บจนเกินจะทนร่างบางสั่นสะท้านกระตุกเกร็งในยามที่กว้านหลินเริ่มรังแกตนในรอบที่สอง สติสัมปัชชัญญะที่มีสูญสลายไปกว้านหลินนอกจากจะไม่สนใจแล้วชายหนุ่มยังคงตักตวงความหอมหวานจากร่างกายอันแสนเปราะบางนั้นจนค่อนคืน
 
ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
 
ครั้งแล้วครั้งเล่า
 
แสงแปลบปลาบจากสายฟ้าที่ด้านนอกบ่งบอกว่าไม่นานฝนกำลังจะตก กลิ่นฝนแรกหอมอบอวลไปทั่วห้อง เสียงครางต่ำดังไปทั้งค่ำคืน
 
พายุฝนโหมกระหน่ำเม็ดฝนร่วงโรยตกลงมารินรดทุกสรรพสิ่งบนโลกอย่างโหดร้าย ดอกไลเซนทัสที่แสนเปราะบางอ่อนหวานถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี
 
            ความร้อนระอุในอ้อมแขนปลุกให้ไล่กว้านหลินตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มมองร่างกายซีดเซียวในอ้อมกอดเกลี่ยเรือนผมที่ปรกใบหน้าซีดทัดหูให้เบาๆ ภัทรตัวร้อนราวกับนอนอยู่ในกองไฟ ร่องรอยช้ำทั่วทั้งตัว คราบที่เกิดจากตัวเขาเปรอะเปื้อนซอกขาขาว กว้านหลินตบลงบนแก้มซูบเบาๆเพื่อหวังจะให้ตื่นมากินยา หากแต่คนป่วยกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับเลยแม้แต่จะขยับตัวซักนิดก็ไม่มี ไล่กว้านหลินเพิ่มแรงเป็นเขย่ากายบางแรงๆแต่เช่นเดิม ชายหนุ่มแตะลงบนจุดชีพจร มันอ่อนจนแทบจะจับไม่ได้ ชายหนุ่มเอาผ้าห่มคลุมกายเด็กน้อยก่อนจะรวบร่างอ่อนปวกเปียกมาไว้ในอ้อมกอด
 
ใจของชายหนุ่มหล่นวูบราวกับเมื่อคืนเขาเพิ่งขึ้นไปแตะสรวงสวรรค์แล้วถูกฉุดลงสู่ขุมนรกเพียงข้ามคืน
 
ห้ามตาย...
 
ไม่ว่ายังไงก็ห้ามตายนะ
 
ถ้าภัทรตายเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง
 
            “อี้เฉิน!!! อี้เฉิน”อัลฟ่าหนุ่มร้องเรียกเลขาคนสนิทที่คงมารอเขาตั้งแต่เช้าตรู่ หวังอี้เฉินมองขึ้นมาด้านบนก็เห็นเจ้านายเปลือยแผ่นอกสวมเพียงกางเกงนอนตัวเดียวอุ้มอะไรบางอย่างที่ถูกห่อจนเป็นก้อน เสียงตะโกนเรียกคนทั้งบ้านให้มาดูเจ้านายหนุ่ม หวังอี้เฉินเคยเห็นอาการสติแตกจนลนลานของกว้านหลินมาแล้วเมื่อครั้งนายท่านประสบอุบัติเหตุ ชายหนุ่มคุมสติตัวเองไม่อยู่อ้อมแขนกระชับร่างคนป่วยแน่นอย่างหวงแหนไม่ยอมส่งมอบให้ใครอุ้มต่อทั้งนั้น อัลฟ่าหนุ่มตวาดก้องสั่งเลขาโดยไม่คิดจะออมเสียงเลยซักนิด
 
            “ไปเอารถมา ไปโรงพยาบาล เรียกหมอนนท์ด่วน”





 
 
            “คุณชายครับ”หวังอี้เฉินถอดเสื้อสูทให้กับผู้เป็นนายที่ประคองกอดคนในอ้อมแขนไว้แน่น ใบหน้าซีดเซียวของภัทรไร้สีเลือด กว้านหลินรับมาใส่ไว้ลวกๆ ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสนใจตัวเองนัก รีบร้อนจนแม้กระทั่งรองเท้าก็ไม่ได้ใส่มา กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นราวกับกลัวว่าถ้าอ้อมกอดของตนคลายลงณภัทรจะจากตนเองไปตลอดกาล
 
            “อย่าไป...อยู่กับฉัน...”ไล่กว้านหลินกระซิบชิดใบหูของโอเมก้าในอ้อมกอด
 
ใช้เวลาไม่นานรถยุโรปคันหรูที่ใช้เป็นยานพาหนะนำคนทั้งสามมาจนถึงโรงพยาบาลก็จอดด้านหน้าตึกผู้ป่วยนอก นายแพทย์อนลที่ถูกโทรตามตั้งแต่ที่กว้านหลินขึ้นรถยืนรอท่าอยู่แล้วเขาทราบอาการอย่างคร่าวๆจากกว้านหลินผ่านโทรศัพท์แล้ว ทันทีที่ประตูเปิดกว้านหลินก็อุ้มภัทรออกมา บุรุษพยาบาลรีบเข้าไปรับร่างอ่อนปวกเปียกนั้นหากแต่กว้านหลินกลับเบี่ยงแขนหลบอย่างลืมตัวจนหมอนนท์ต้องเข้ามาแตะแขนของอัลฟ่าหนุ่มเพื่อเตือนสติ
 
            “ปล่อยเขาให้หมอเถอะคุณกว้านหลิน”นั่นแหละ อัลฟ่าหนุ่มถึงได้สติยอมปล่อยร่างของภัทรให้บุรุษพยาบาลเข็นเข้าห้องฉุกเฉินไป
 
กาแฟหอมกรุ่นจากร้านสะดวกซื้อถูกยื่นให้กับผู้เป็นเจ้านายรองเท้าฟองน้ำราคาถูก ถูกสวมให้กับกว้านหลินที่นั่งปล่อยสายตาไปข้างหน้าโดยไม่โฟกัสที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งปลายนิ้วประสานเข้าหากันอย่างหลวมๆกักแก้วกาแฟอุ่นไว้ในมือ เสื้อสูทถูกกลัดกระดุมจนปกปิดร่างกายท่อนบนที่ไรอาภรณ์จากความรีบร้อน
 
ภัทรยังคงอยู่ในนั้น นานนับชั่วโมงแล้วหมอนนท์ก็ยังไม่ออกมา
 
เวลาเหมือนจะเดินไปอย่างเชื่องช้า อัลฟ่าหนุ่มขยับปลายเท้ากระทบลงพื้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอจนเกิดเสียงเพื่อลดความกังวล กาแฟในแก้วเย็นชืดไปนานแล้วในตอนที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก สีหน้าของนายแพทย์อนลบึ้งตึง
 
            “พี่...”กว้านหลินรีบลุกขึ้นไปหาแพทย์ประจำตัวหากแต่ได้รับเสียงราบเรียบกลับมา
 
            “ไปคุยกันที่ห้อง”อนลเดินนำออกมาโดยไม่พูดไม่จากับกว้านหลินอีก ชายหนุ่มหันไปยื่นแก้วกาแฟให้อี้เฉินก่อนจะสาวเท้าตามไป เมื่อเข้ามาในห้องทันทีที่ประตูปิดสนิทคุณหมอหนุ่มก็บ่นใส่ไล่กว้านหลินเสียงดังลั่น
 
            “คุณทำบ้าอะไรของคุณ ทำอะไรลงไป เมื่อวานก่อนกลับผมจำได้ว่าผมบอกให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ทำไมวันนี้สภาพถึงเป็นแบบนั้นล่ะ คุณทำอะไรเค้า ไม่ต้องบอกก็ได้ยับเยินมาขนาดนั้น ถึงเค้าจะเป็นโอเมก้าก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไปขืนใจหรือใช้กำลังบังคับเค้าได้นะ เค้าป่วยร่างกายอ่อนแออยู่ก่อนหน้านี้ สิ่งที่คุณทำมันอาจจะทำให้เค้าตายได้เลยนะคุณกว้านหลิน”
 
            “เอาล่ะผมยอมรับผิดผมโมโหไปหน่อยเลยทำอะไรไม่ทันคิด ตอนนี้อาการของเขาเป็นยังไงบ้าง?”กว้านหลินยกมือยอมแพ้ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับหมอนนท์ในตอนนี้สิ่งเดียวที่อยากรู้คืออาการของโอเมก้าในปกครองมากกว่า อนลส่งค้อนมาให้อย่างไม่พอใจ
 
เขาสงสารณภัทร สภาพที่เห็นตอนช่วยชีวิตโอเมก้าเด็กมันน่าหดหู่ ตามตัวมีแต่รอยจ้ำรอยกัดที่กว้านหลินไม่ได้สมานแผลให้บางจุดคราบเลือดเกระกรังซีกแก้มข้างหนึ่งมีรอยช้ำมุมปากแตกหนักสุดคือตามเรียวขาสวยมีคราบคาวเปรอะเปื้อนช่องทางด้านหลังฉีกขาด ถ้าสมยอมคงไม่ยับเยินขนาดนั้น
 
            “ต้องนอนที่นี่ ไข้สูงร่างกายอ่อนเพลียมาก ตรงนั้นก็ฉีกทำไมรุนแรงแท้ละคุณชาย”
 
            “ก็เขาดื้อ เขายั่วโมโหผม”
 
            “ดื้อแค่ไหนยั่วโมโหขนาดไหนแต่นั่นก็คนป่วย แถมน่าจะเป็นครั้งแรกของเขาด้วย ถ้าเป็นญาติคนไข้คนอื่นผมก็จะไม่มายุ่งด้วยหรอกแต่นี่เป็นคุณเราก็รู้จักกันมาตั้งแต่คุณเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ผมก็ขอเตือนในฐานะคนที่มีอายุรุ่นราวคราวพี่เถอะ ทำอะไรคิดให้เยอะๆ ใจคนไม่ใช่สิ่งของที่พอทำพังแล้วเอากาวมาแปะก็ใช้ได้ต่อ เขายังเด็กนะ ประสบการณ์ครั้งแรกมันก็น่าจะดีกว่านี้หน่อย ตอนนี้เนื่องจากคนป่วยมีไข้สูงทำให้ชีพจรหัวใจเต้นเร็วส่งผลให้ร่างกายเหนื่อยง่าย เพลีย หมอคิดว่าควรอยู่พักที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 1-2 คืน ทานอาหารที่โรงพยาบาลจัดให้ ให้น้ำเกลือและผสมวิตามินเข้าไป หมอจะให้กินยาลดอักเสบ ส่วนตรงนั้นหมอจะให้ครีมทาเพิ่มความชุ่มชื้นเพื่อสมานรอยแผลฉีกขาด”
 
            “อีกนานมั้ยกว่าจะฟื้น”
 
            “เค้าอ่อนเพลียมากควรปล่อยให้หลับไปก่อน ยังไงตอนนี้คุณไปจัดการเรื่องห้องให้เรียบร้อยซักพักพยาบาลจะพาออกไป”อยากจะด่าอัลฟ่าตรงหน้าอยู่หรอกแต่พอเห็นหน้าตาซีดๆแล้วก็ด่าไม่ลงอนลเลยทำได้แค่เพียงโบกมือไล่ให้กว้านหลินออกไป นี่ถ้าเป็นอัลฟ่าคนอื่นหมอนนท์ที่เป็นเบต้าคงเจ็บตัวไปตั้งแต่อ้าปากด่าแล้ว แต่พอเป็นกว้านหลินคุณหมอประจำบ้านก็กล้าที่จะพูด ชายหนุ่มเป็นคนรับฟังคนอื่น เดิมไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร หมอนนท์รู้ดีว่าภัทรเป็นใครมีปูมหลังอะไรกันมา คืนที่หยวนช่างประสบอุบัติเหตุเขาเห็นไล่กว้านหลินครองสติของตัวเองไม่อยู่เป็นครั้งแรก ชายหนุ่มอ้อนวอนขอให้เขาช่วยชีวิตผู้เป็นบิดา คุกเข่าอ้อนวอนเขาด้วยน้ำตา สองมือเปรอะเปื้อนเลือดของผู้เป็นพ่อจับมืออ้อนวอนขอร้องต่อเขาอย่างไม่อาย
 
แต่อนลรั้งชีวิตของไล่หยวนช่างไว้ไม่ได้ ประมุขแห่งอาณาจักรตระกูลไล่สิ้นลมในเวลาต่อมา อัลฟ่าหนุ่มที่สติแตกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนรับฟังการแจ้งข่าวร้ายของเขาด้วยน้ำตา หากแต่ว่าหลังจากนั้นไล่กว้านหลินผู้เป็นคนใจดีได้ปิดสวิซต์ตัวเองลง
 
อัลฟ่าหนุ่มเลิกขอร้อง เลิกคร่ำครวญ ร่างสูงยืดตัวตรงแล้วจัดการเรื่องศพของผู้เป็นพ่อด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ครั้งนี้ก็เช่นกันหลังจากออกไปด้านนอก อี้เฉินที่รอท่าอยู่แล้วเดินมาสมทบกับผู้เป็นนาย
 
            “ผมจัดการเรื่องห้องพักไว้แล้ว ตอนนี้พยาบาลเอาคุณภัทรไปแล้วคุณชายจะกลับบ้านเลยมั้ยครับ?”
 
            “วันนี้มีงานอะไรด่วนหรือเปล่า?”กว้านหลินเอ่ยถามเสียงเรียบในขณะที่ก้าวเท้าเดินคู่ไปกับอี้เฉิน
 
            “ตอน 11 โมง มีประชุมครับ เที่ยงคุณชายมีนัดกับคุณจี”
 
            “ยกเลิกให้หมด เลื่อนประชุมไปก่อน ส่วนจีเดี๋ยวฉันจัดการเอง ให้คนที่บ้านเตรียมเสื้อผ้ามาให้ฉันด้วย ฉันจะอยู่ที่โรงพยาบาลจนกว่าภัทรจะออก งานอะไรถ้าด่วนพวกเอกสารที่ต้องเซ็นส่งมาที่นี่ งานอะไรถ้าไม่ด่วนมากไม่ต้องรอให้ฉันพิจารณานายทำไปได้เลย”
 
            “ครับคุณชาย ส่วนเรื่องพยาบาลพิเศษ...”
 
            “ไม่ต้อง ฉันจะเป็นคนดูแลเค้าเองไปทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”อี้เฉินก้มหัวรับคำสั่งผู้เป็นนาย พลางหยุดยืนเพียงหน้าห้อง ไล่กว้านหลินเดินเข้าไปในห้องพิเศษเพียงลำพัง ประตูสีขาวปิดลงตัดขาดภาพระหว่างด้านนอกกับด้านใน ชายหนุ่มมองร่างซูบซีดเซียวที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมสำรวจร่างกายของโอเมก้าตัวน้อย ภาพสะท้อนวูบไหวราวกับผิวน้ำที่เกิดระลอกคลื่น ฝ่ามือหนาวางลงบนกลุ่มผมนิ่มของคนป่วย ลูบเบาๆราวกับกลัวว่าจะแตกหัก
 
ไม่เคยคิดเลยว่าณภัทรจะเปราะบางได้ถึงเพียงนี้
 
            “ฟื้นนะ...”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยบอกกับคนที่หลับใหลเบาๆ อัลฟ่าหนุ่มนั่งลงข้างๆเตียงคว้าเอามือนุ่มที่บัดนี้ร้อนผ่าวมากุมไว้ก่อนจะกดจูบลงบนหลังมือของคนป่วยเบาๆ
 
            “หายเจ็บเถอะนะ...”ไร้เสียงตอบกลับจากคนที่ร้องบอก ภายในห้องเงียบสงบมีเพียงเสียงลมหายใจของภัทรที่ดังเบาๆอย่างสม่ำเสมอ เนิ่นนานนับชั่วโมงประตูห้องก็ถูกเคาะก่อนที่หวังอี้เฉินจะขออนุญาตเข้ามา
 
แม้ไม่อยากจะปล่อยมือแต่กว้านหลินก็จำต้องทำ ร่างสูงลุกขึ้นยืนยืดกายตรงก่อนเอ่ยปากอนุญาต อี้เฉินจึงปิดประตูเข้ามาพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้าใบไม่ใหญ่มาก
 
            “ขอโทษที่มาช้าครับ ผมแวะไปเอาเอกสารที่ต้องเซ็นมาให้ รายงานการประชุมเมื่อวานอยู่ล่างสุดนะครับ ส่วนนี่เสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัว ในถุงนี้เป็นอาหารเช้านะครับ”อี้เฉินจัดวางทุกอย่างลงบนโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ
 
            “ส่วนในถุงนี้เป็นของกิน นม ผลไม้ เครื่องดื่มบำรุงกำลังนะครับผมซื้อมาให้คุณชายจะได้หยิบมาทานได้เลยแต่ถ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษโรงพยาบาลมีบริการ เมนูอยู่ในลิ้นชักโต๊ะนะครับเบอร์โทรสั่งอยู่ตรงด้านนี้ ถ้ามีอะไรโทรเรียกผมได้ตลอดนะครับ”
 
            “อืม กลับไปทำงานเถอะฉันไม่อยากได้อะไรแล้ว ขอบใจมาก”อี้เฉินโค้งให้กับผู้เป็นนาย ร่างสูงเปิดประตูเพื่อกลับไปทำงานแทนเจ้านายที่ดูท่าว่าจะปักหลักอยู่ที่รงพยาบาลกับคนป่วย
 
            “อ้อ...อย่าลืมโทรไปเลื่อนนัดกับคุณจีรนุชนะครับ เมื่อวานก็เลื่อนมาทีหนึ่งแล้ว”กว้านหลินพยักหน้ารับรู้อี้เฉินถึงลากลับไป ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาจีรนุชที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากสหรัฐอเมริกาบอกถึงความจำเป็นที่เขาไม่สามารถไปตามนัดได้
 
แน่นอน เขาโกหกหล่อนว่าติดธุระไม่ได้บอกไปตามตรงว่ามาอยู่เฝ้าโอเมก้าในปกครอง จีรนุชส่งเสียงใสตอบกลับว่าเข้าใจทำให้กว้านหลินสบายใจไปเปราะหนึ่ง ร่างสูงเดินมานั่งที่โซฟากลางห้องเพื่อทำงานที่อี้เฉินขนเอามาให้ เวลาผ่านไปเรื่อยๆจนกระทั่งเย็น เสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น พยาบาลเข็นรถที่ใส่อุปกรณ์ต่างๆมาชายหนุ่มเดินมาดูว่าเขาจะทำอะไรกับภัทรบ้างก็เห็นว่าเธอฉีดยาให้คนป่วยจากนั้นหญิงสาวก็เตรียมรูดม่าน
 
            “เดี๋ยว จะทำอะไรนะ?”
 
            “จะเช็ดตัวให้คนป่วยแล้วก็ทายาค่ะ”พยาบาลสาวตอบกลับอย่างงงๆที่อยู่ๆกว้านหลินก็มารั้งม่านไว้
 
            “ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันทำเอง”
 
            “เอ่อ...”พยาบาลสาวมีท่าทีลังเล ใครๆก็รู้ว่าพวกอัลฟ่าน่ะถือตัวเจ้ายศเจ้าอย่างจะตาย งานแบบนี้โดยเฉพาะกับโอเมก้าน่ะ พวกสูงศักดิ์ที่วันๆอยู่บนหอคอยงาช้างไม่มีทางทำแน่ๆ แล้วอัลฟ่ารูปงามตรงหน้านี่กำลังคิดจะทำอะไร
 
            “ผมจะทำเอง แค่สอนมาว่าต้องทำยังไง”น้ำเสียงเรียบปลายเสียงติดสะบัดเล็กน้อยบ่งบอกว่ากว้านหลินกำลังรำคาญใจ
 
มันจะอะไรกันนักกันหนากับอีแค่สอนเขาเช็ดตัวและทายาตรงส่วนนั้น ทำไมต้องให้พูดซ้ำ พยาบาลสาวเมื่อเห็นความตั้งใจจริงแล้วก็สอนวิธีการดูแลคนป่วยอย่างละเอียดแล้วจึงขอตัวออกไปโยบอกว่าอีกประมาณ 20 นาทีจะกลับมาใหม่ เมื่ออยู่เพียงลำพังแล้วอัลฟ่าหนุ่มก็รองน้ำใส่กะละมังใบเล็ก แกะผ้าขนหนูผืนเล็กที่อี้เฉินซื้อเตรียมมาให้ชุบลงไปในน้ำ ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อก่อนจะประคองร่างนุ่มนิ่มมาไว้ในอ้อมอกเพื่อถอดเสื้อคนป่วยออกจากตัว ณภัทรสูดลมหายใจลึกเข้าปอดแล้วซุกหน้ากับอกของเขาอย่างไม่รู้ตัว คนป่วยค่อยๆรู้สึกตัวยามความเย็นพรมไปทั่วตัว ดวงตาอิดโรยค่อยๆลืมขึ้นก็พบกับอกเสื้อสีเข้มที่ตนเองซบอยู่ พลันภาพความโหดร้ายที่ได้รับก็ฉายชัดกลับมาในมโนสำนึก ความเจ็บปวดยังคงอยู่บ่งชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง
 
เด็กน้อยไม่ได้กรีดร้อง ไม่อาละวาด ไม่ทุบตี ไม่โวยวาย ไม่กร่นด่าคนใจร้ายที่กำลังเช็ดตัวให้ตนเองอยู่
 
ณภัทรทำเพียงปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเงียบๆจนกระทั่งหลุดสะอื้นกายสั่นไหวกว้านหลินถึงรู้ว่าโอเมก้าตัวน้อยในอ้อมแขนฟื้นแล้ว มือที่กำลังเช็ดแผ่นหลังเปลือยให้หยุดชะงักก่อนจะเลื่อนมากอดร่างบางที่สะอื้นฮักจนเด็กน้อยจมเข้าไปในอกของเขา
 
            “อย่าร้อง...”น้ำเสียงทุ้มเอ่ยเรียบๆบอกคนในอ้อมกอด
 
ไล่กว้านหลินปลอบใครไม่เป็น พูดคำหวานก็ไม่เก่ง แม้ที่ผ่านมาเขาจะทำร้ายเด็กตรงหน้าไปเยอะแต่ในวันนี้เขาไม่อยากให้คนในอ้อมกอดต้องเก็บความทรงจำแย่ๆไว้เลยซักกนิด ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่ทำ
 
            “ฮึก...”ไร้เสียงตอบกลับมีเพียงรอยยับย่นบนเสื้อสูทที่เขาใส่เพราะคนเด็กกว่ากำมันไว้
 
            “ขอโทษ...”กดจูบลงบนกลุ่มผมนิ่มแผ่วเบาราวกับปลอบประโลมหากแต่คนในอ้อมกอดกลับยิ่งสะอื้นจนตัวโยน
 
อยากจะเกลียดคนใจร้ายนี่เสียเหลือเกิน แต่ภัทรเกลียดตัวเองในตอนนี้มากกว่า
 
แค่เขาทำดีด้วยนิดเดียวใจเจ้ากรรมก็อ่อนเสียแล้ว
 
            “ผมเจ็บ...ฮึก...เจ็บมาก”
 
            “ทายานะ เดี๋ยวก็หาย”กว้านหลินประคองคนป่วยให้นอนราบลงกับเตียง เกลี่ยปลายนิ้วเช็ดคราบน้ำตาที่สองข้างแก้มให้คนเด็กกว่าอย่างอ่อนโยนก่อนจะเลื่อนมือไปที่กางเกงนอนของคนป่วย ณภัทรสะดุ้งเฮือกรีบตะครุบมือของกว้านหลินด้วยสีหน้าหวาดกลัว
 
            “ไม่...”
 
            “ไม่ต้องกลัว ไม่ได้จะทำอะไรแค่จะทายาให้จะได้หายไวๆ”อัลฟ่าหนุ่มจ้องตาคนเด็กกว่านิ่งนานเพื่อยืนยันคำพูดของตนเองจนโอเมก้าเด็กต้องยอมปล่อยมือ ทันทีที่กางเกงนอนถูกเลื่อนไปไว้ที่ปลายเท้า ภัทรก็ฝังหน้าตัวเองไปกับหมอนนุ่มปิดกลั้นความกระดากอายที่ต้องมานอนเปลือยให้อีกฝ่ายดู กว้านหลินจับให้คนเด็กชันสองขาขึ้นตลับยาถูกเปิดออก สายตาคมมองช่องทางบวมแดงนั้นก่อนจะค่อยๆก้มลงไป
 
            “อ๊ะ...อึก...คุณกว้านหลิน ทำอะไรน่ะ”ร่างบางสะดุ้งเฮือก ใบหน้าแดงราวมะเขือเทศสุก แม้จะทำใจยอมรับการทายาจากกว้านหลินแล้วแต่เด็กน้อยไม่ได้เตรียมใจสำหรับปลายลิ้นร้อนเฉอะแฉะของอัลฟ่าหนุ่มที่กำลังกวาดไปทั่วช่องทางบวมช้ำนั่นซักหน่อย แม้จะพยายามหุบขาเข้าแต่ก็ติดไหล่หนาที่แทรกอยู่ตรงกลาง
 
ไล่กว้านหลินเคลื่อนไหวรวดเร็วจนน่าตกใจ ไม่ทันรู้ตัวก็ขึ้นมานั่งบนเตียงที่กลางหว่างขาเขาเสียแล้ว นานนับนาที ใบหน้าหล่อถึงละออกมาจากจุดนั้น ณภัทรแทบลืมวิธีการหายใจของตนเองเมื่อไล่กว้านหลินช้อนสายตาขึ้นมามอง
 
            “จะใช้ยาไปทำไม น้ำลายของฉันสรรพคุณดีกว่าตั้งเยอะ เธอว่าจริงมั้ย?"

ณภัทรในตอนนี้สูญเสียการควบคุมตัวไปชั่วขณะ...



#ไฮเดรนเยีย
TBC.



.......................................................

ชายสามคนผีทะเล ใครเขาทายากันอย่างนั้นล่ะคะ

อยากโดนทายาแบบนี้บ้างคงจั๊กกะเดี่ยมน่าดู


 

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 5 "สูญเสีย" 14/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 14-03-2019 22:10:02
คุณชายสามทั้งห่วงทังหวงน้องขนาดนั้น ก็เบาๆกับน้องหน่อยนะคะ ฉากทายาคือกร๊าวใจมาก :pighaun: สนุกมากๆเลยรอตอนต่อไปนะคะ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 5 "สูญเสีย" 14/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 14-03-2019 22:22:55
กว้านหลินกินยาบ้างเถอะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายรักเขาก็อย่าทำร้ายซิ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 5 "สูญเสีย" 14/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 15-03-2019 00:38:53
ตบหัวแล้วลูบหลัง

เตรียมรอเปลือกทุเรียนได้เลย

ไล่กว้านหลิน  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 5 "สูญเสีย" 14/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 15-03-2019 02:00:23
ชอบแบบตบจูบ แต่ขาดสติไปข่มขืนน้องเค้านี่ แม่ไม่ปลื้มเลยนะคะเจ้าคะะะ  :z6:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 5 "สูญเสีย" 14/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 15-03-2019 19:10:26
 o13 :really2:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 6 "ตายใจ" 15/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 15-03-2019 19:59:55



          Hydrangea 6

 
          ณภัทรนอนมองร่างสูงที่นั่งทำงานนิ่งหลังจากการทายาที่เรียกเลือดลมให้กับคนป่วยจบลงกว้านหลินก็บังคับให้เขากินข้าว โจ๊กจืดๆถูกป้อนด้วยมือของอัลฟ่าหนุ่ม แม้จะเจ็บคอแค่ไหนภัทรก็จำใจต้องฝืนกินจนหมดเพราะสายตาดุๆนั้นจ้องกดดันเขาตลอดเวลา พยาบาลเข้ามาวัดไข้และความดันก่อนจะกลับออกไปในที่สุดเมื่ออยู่ในห้องเงียบๆบวกกับอาการป่วยยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ภัทรก็ผล็อยหลับไป
 
ภัทรสะดุ้งตื่นเอาในตอนดึกเด็กน้อยลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงสนทนาที่ใกล้เสียเหลือเกิน เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบว่าตนเองนอนอยู่ในอ้อมกอดของไล่กว้านหลิน ชายหนุ่มนั่งพิงหัวเตียงและกำลังเถียงกับพยาบาลสาวอย่างเอาเป็นเอาตาย
 
            “เตียงคนไข้ไม่อนุญาตให้ญาติขึ้นไปนอนนะคะ”
 
            “ทำไมจะนอนไม่ได้ ก็คนป่วยเพ้อว่าหนาว หรือกลัวว่าเตียงจะพัง  ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมเซ็นเช็คซื้อให้ซักร้อยเตียงเลยก็ได้ ถ้าไม่พอบริจาคให้ครบทุกชั้นก็ได้”
 
            “มันไม่เกี่ยวกันค่ะคุณกว้านหลิน เตียงนอนผู้ป่วยมีไว้ให้คนไข้ได้นอนพักผ่อนแล้วมันทำไว้สำหรับนอนคนเดียวค่ะ เตียงเดี่ยวคุณขึ้นไปนอนแบบนั้นมันรบกวนคนป่วยนะคะ”ไล่กว้านหลินถอนหายใจจนเกิดเสียงดังแสดงให้รู้ว่าเขากำลังไม่พอใจ และความไม่พอใจกำลังไล่ระดับเข้าสู่ขีดแดงเขาไม่เคยต้องมาเถียงกับอะไรไร้สาระแบบนี้เลย มันจะอะไรกันนักหนากับอีแค่เขาขึ้นมานอนเตียงคนไข้เพื่อที่จะกอดภัทรไว้หลังจากโอเมก้าเด็กนี่นอนเพ้อว่าหนาว ณภัทรที่แกล้งหลับทำเพียงซุกกายเข้าหาอ้อมกอดคนที่กำลังหงุดหงิดลูบอกของอัลฟ่าหนุ่มเบาๆ
 
ไม่อยากให้กว้านหลินโกรธ เด็กน้อยไม่รู้ว่าควรทำยังไงดีกว้านหลินถึงจะใจเย็นลง หากแต่เพียงแค่เด็กน้อยลูบอกเบาๆกว้านหลินที่ตั้งท่าจะฉุนเฉียวใส่เบต้าสาวที่ก็ไม่ยอมลดละการทำหน้าที่ของตัวเองก็นิ่งลง น้ำเสียงที่ใช้พูดจากที่วางอำนาจก็เบาลงอย่างเห็นได้ชัด
 
            “ขอผมนอนกับเขาบนนี้เถอะ เขาหนาวผ้าห่มผืนบางไป”
 
            “จริงๆคุณแค่หรี่แอร์...เห้อ...ตามใจคุณก็แล้วกัน ถ้าหมอนนท์มาเห็นก็แก้ตัวเองเองนะคะ” ที่สุดพยาบาลสาวก็ยอมแพ้ หล่อนเหนื่อยใจที่จะพูดยามเห็นคนป่วยซุกกายเบียดอัลฟ่าบนเตียง ประตูห้องถูกปิดไปแล้วหลังสงครามเล็กๆระหว่างกว้านหลินกับพยาบาลจบลง ชายหนุ่มลูบผมของภัทรเบาๆราวกับกำลังกล่อมให้คนป่วยหลับสนิทอีกครั้ง
 
เขาไม่รู้หรอกว่าเมื่อครู่ที่ภัทรลูบอกเพื่อให้เขาคลายความหัวร้อนจากการรักษากฏระเบียบของโรงพยาบาลหรือภัทรแค่ละเมอ ตอนนี้เขาสนใจแค่ให้โอเมก้าอ่อนแรงคนนี้หายดีโดยเร็วก็เท่านั้น เนิ่มนานไปจนเกือบเช้าที่ไล่กว้านหลินเอาแต่นอนมองใบหน้าที่หลับสนิทของภัทรในที่สุดชายหนุ่มก็ผล็อยหลับไปตอนเกือบรุ่งสาง
 
            “นี่!!! คุณไล่กว้านหลิน ที่นี่โรงพยาบาลนะครับ ไม่ใช่โรงแรมห้าดาวสิบดาวที่คุณเคยไปใช้บริการจะมาเอาแต่ใจตัวเองขึ้นไปนอนกับคนป่วยไม่ได้”อัลฟ่าหนุ่มถึงขั้นสะดุ้งตื่น ข้างกายไม่มีคนป่วยนอนให้กอดแบบตอนกลางคืนแล้ว เมื่อกวาดตามองก็เห็นภัทรนั่งทานอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะริมหน้าต่าง ริมฝีปากของโอเมก้าตัวน้อยยกมุมเพราะกลั้นขำ
 
            “พี่จะเสียงดังทำไมเนี่ย ง่วง จะนอน”เมื่อเห็นว่าภัทรอยู่ไหนกว้านหลินก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอีกหนหากแต่คุณหมอนนท์ที่ทำหน้าเหนื่อยหน่ายรีบมาดึงออกทันที
 
            “ลุกเดี๋ยวนี้เลย  ยังอีก ว่าแล้วยังจะมานอนต่ออีก ถ้าไม่ลุกลงมาจากเตียงผมจะไม่อนุญาตให้คุณมานอนเฝ้าคนไข้แล้วนะ”ไล่กว้านหลินเกาหัวจนผมยุ่งเมื่อได้ยินคำขู่ของหมอรุ่นพี่ ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งมองหน้าอนลด้วยสีหน้าบึ้งตึงหัวคิ้วทั้งสองข้างแทบจะผูกกัน
 
ไม่พอใจ...
 
แต่ทำอะไรไม่ได้...
 
อัลฟ่าหนุ่มเหวี่ยงขาลงจากเตียง สองเท้าก้าวเข้าไปหาโอเมก้าตัวน้อยที่นั่งกินข้าวต้มก่อนจะเชยคางมนให้แหงนขึ้นรับรสจูบแสนเอาแต่ใจ ภัทรที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับหน้าร้อนฉ่า เด็กน้อยนั่งตัวแข็งทื่อปล่อยให้คนโตกว่ากดจูบแรงๆไปหนึ่งที
 
และเช่นเคย บุคคลที่สามที่ยืนหัวโด่อยู่กลางห้องแทบจะเต้นผาง พยาบาลสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังถึงกับยกแฟ้มขึ้นปิดหน้ากลั้นยิ้มสุดความสามารถ
 
            “ไอ้คุณช๊าย!!! ถ้ายังไม่เลิกทำประเจิดประเจ้อในโรงพยาบาลผมจะให้ยามมาลากคุณแล้วนะครับ นี่โรงพยาบาลนะไม่ใช่บ้าน เราก็ไม่ขัดขืนเสียบ้างเลย เฮ้อ!!”หมอนนท์ดึงแขนกว้านหลินให้แยกจากภัทรที่หน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย กว้านหลินยักไหล่แล้วเดินแยกเข้าห้องน้ำไปจัดการล้างหน้าแปรงฟัง ภัทรอาการดีขึ้นกว่าเมื่อวานมากจนวันนี้หน้าตาที่เคยซีดเซียวไร้สีเลือดกลับมาดูมีชีวิตชีวามากขึ้น เด็กน้อยกินข้าวต้มรสอ่อนได้จนหมดชามกินยาหลังอาหารตามที่หมอสั่งแล้วก็นั่งฟังผลตรวจนู่นนี่นั่นที่คุณหมอนนท์บอก ไม่นานกว้านหลินก็ออกมานั่งฟัง ชายหนุ่มพยักหน้ารับเป็นครั้งคราวยามฟังสิ่งที่หมอพูด
 
            “ถ้าอาการดีขึ้นเรื่อยๆแบบนี้วันสองวันนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว”อนลจดบันทึกอาการของภัทรอย่างละเอียดพลางบอกกับคนเด็กด้วยสีหน้าใจดี
 
ภัทรมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ไม่พูดอะไรอนลก็รู้ดีว่าเด็กตรงหน้ามีเรื่องกังวลในใจ
 
แต่เขาคือคนนอก การเอ่ยปากอะไรออกไปโดยที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองคือการเสียมารยาท เขาเองก็ทำเกินหน้าที่หมอทั่วๆไปมากไปแล้วด้วยซ้ำ แม้จะเห็นใจแต่หมอหนุ่มก็รู้ดีว่า เราไม่ควรพูดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในใจ ยิ่งมีกว้านหลินนั่งอยู่ไม่ไกลด้วยเราอนลยิ่งต้องคิดหนักว่าสิ่งที่พูดออกไปนั้นมีผลเสียกับใครหรือไม่ ที่สุดหลังตรวจเสร็จก็ต้องออกจากห้องมาโดยไม่ลืมหันไปกำชับกับกว้านหลินว่าห้ามขึ้นไปนอนกับคนป่วยบนเตียงอีก
 
            “รู้แล้วน่า รู้แล้ว”อัลฟ่าหนุ่มรับคำแกนๆพลางใช้มือโบกเบาๆเป็นเชิงไล่
 
            “คุณนี่มันจริงๆเลยนะ”ในที่สุดหมอนนท์ก็จำต้องถอยทัพกลับไปเพราะตนยังมีคนป่วยคนอื่นรออยู่ ทั้งห้องจึงกลับมาสงบเงียบอีกครั้ง ภัทรลุกขึ้นยืนลากเสาน้ำเกลือกลับมานอนที่เตียงตามเดิม เด็กน้อยเผลอสบตากับอัลฟ่าหนุ่มที่นั่งมองมาที่ตนอยู่ก่อนแล้ว ใจดวงน้อยนั้นเกิดความสับสนว่าตอนนี้กว้านหลินอยู่ในอารมณ์แบบไหน ทำไมอยู่ๆก็มาทำดีด้วย
 
หรือว่ากว้านหลินจะรู้สึกผิด?
 
            “มองหน้าฉันทำไม?”ภัทรหลุดจากภวังค์เมื่อคนที่ตนเองกำลังนึกถึงเอ่ยปากถามออกมาตรงๆ เด็กน้อยเสมองไปทางอื่น
 
            “เปล่าครับไม่มีอะไร”แม้ในใจจะสับสนกับการกระทำของกว้านหลินแต่ภัทรเองก็เลือกที่จะไม่ถามกับการกระทำที่เปลี่ยนไปนี้ แบบไหนกันแน่ที่เป็นไล่กว้านหลินในตอนนี้ ใจดีหรือว่าใจร้าย
 
            “นอนพักเถอะจะได้หายไวๆ”ความรู้สึกอึมครึมปกคลุมไปทั่วห้อง  ภัทรขยับกายลงนอนตามคำสั่งของชายหนุ่มอย่างว่าง่ายแม้ว่าจะไม่ง่วงก็ตามที ดวงตากลมใสราวลูกแก้วนอนมองคนตัวสูงทำงานอย่างเงียบๆ
 
คุณกว้านหลินในยามนี้ดูจริงจังเสียเหลือเกิน และงานในมือคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาการตรวจสอบตัวเลขในบัญชีที่พ่อของตนโกงไป แม้ในใจจะเจ็บปวดกับสิ่งที่ได้รับรู้สิ่งที่ถูกกระทำแต่ภัทรก็เลือกที่จะเงียบเด็กน้อยอ่อนล้าเกินกว่าจะสู้รบตบมืออะไรในตอนนี้ เปลือกตาค่อยๆปิดลงหลังจากนอนมองกว้านหลินทำงานไปซักพัก และตัดขาดกับทุกสิ่งอย่างกดตัวเองในจมดิ่งเพราะฤทธิ์ยา
 
            “จัดการเรียบร้อยหมดแล้วใช่มั้ย”
 
            “เรียบร้อยแล้วครับหุ้นทั้งหมดที่ถูกซื้อไปภาวิณีเซ็นคืนเรามาหมดแล้ว ส่วนเจ้าของเดิมผมให้คนไปจัดการแล้วตั้งแต่เมื่อคืน”ภัทรรู้สึกตัวตื่นเมื่อได้ยินเสียงสนทนากันเบาๆในห้อง ร่างบางลืมตาขึ้นก็เห็นว่าภายในห้องไม่ได้มีแค่ไล่กว้านหลินคนเดียวแล้ว ชายผิวขาวร่างสูงใหญ่ไม่ต่างกันนั่งอยู่บนโซฟาอีกตัวหนึ่ง
 
ภาวิณี...ชื่อของแม่...คนๆนี้เป็นลูกน้องคนสนิทของคุณกว้านหลินเหรอ เด็กน้อยรีบพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งจนคนที่คุยกันเรื่องงานทั้งสองหันมามอง
 
            “แม่ผม...แม่ของผมเป็นยังไงมั่งครับ?”  หวังอี้เฉินหันไปมองหน้าเจ้านายทันทีที่ได้รับประโยคคำถามนั้น กว้านหลินพยักหน้าให้ อย่างน้อยเขาควรให้รางวัลเด็กที่ทำตัวดีมาตลอดทั้งวันซักหน่อย
 
            “แม่กับน้องๆของคุณสบายดีครับ”รอยยิ้มดีใจเผยออกมาอย่างปิดไม่มิด
 
มีทั้งความดีใจและความโล่งใจแต่ทว่าน้ำตากลับไหลออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
 
คิดถึง…
 
            “ผมคิดถึงแม่...”กว้านหลินวางงานในมือลงก่อนจะเดินมาหาคนป่วยที่เตียง มือหนากดศีรษะของคนเด็กให้ซบกับอกตน น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยเรียบๆหากแต่ทำให้คนเด็กพยักหน้ารับอย่างเชื่อฟัง
 
            “อย่าร้อง อย่าดื้อกับฉันแล้วจะให้เจอแม่“
 
ภัทรใช้ชีวิตคนป่วยตามปกติหลังจากนั้น นอนดูทีวีซึ่งส่วนมากคนเด็กกว่าจะเลือกดูพวกการ์ตูนหรือไม่ก็สารคดีเกี่ยวกับสัตว์ บางครั้งก็หลุดเสียงหัวเราะเบาๆออกมายามที่การ์ตูนสนุก อัลฟ่าหนุ่มที่ทำงานอยู่กับอี้เฉินเหลือบตามองร่างที่ดูนุ่มนิ่มนั้นเป็นระยะ   
 
เวลาไม่ดื้อ ไม่ต่อต้านเขาก็ดูน่ารักดีหรอก
 
ในที่สุดอี้เฉินก็ขอตัวกลับบริษัทไปในตอนสี่โมงเย็น กว้านหลินจัดการดูให้คนป่วยกินข้าวเย็นให้เสร็จเรียบร้อย เช็ดตัวให้ทั้งๆที่ภัทรบอกว่าตนเองอาบน้ำเองได้แล้วเพราะไข้ลดแล้วหากแต่กลับโดนดุกลับมา
 
            “เธอจะอาบได้ยังไงยังไม่หายดี”สุดท้ายร่างบางก็โดนลอกคราบจนล่อนจ้อนเซ็ดเนื้อเช็ดตัวให้จนสะอาดทุกซอกทุกมุมแล้วก็ถูกแต่งตัวกลับตามเดิมราวกับเล่นแต่งตัวตุ๊กตา กว้านหลินจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อยก็เข้าไปอาบน้ำเมื่อออกมาเด็กน้อยก็มองอย่างแปลกใจเมื่ออัลฟ่าหนุ่มแต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอก      และเหมือนไล่กว้านหลินจะเดาได้จากสายตาของเด็กบนเตียงชายหนุ่มติดกระดุมที่ข้อมือเป็นเม็ดสุดท้ายหยิบกระเป๋าเงินแลกุญแจรถก็หันมาบอกกับภัทร
 
            “ฉันจะไปธุระข้างนอก เธอนอนไปเลยนะ อาจจะกลับมาดึก”อัลฟ่าหนุ่มออกจากห้องไปแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้อยากจะรอแต่ในที่สุดภัทรก็ไม่สามารถฝืนร่างกายที่ยังไม่หายป่วยได้ โอเมก้าเด็กหลับไปในตอนตีสามโดยไร้เงาของกว้านหลิน
 
อัลฟ่าหนุ่มที่เคยให้ความอบอุ่นเมื่อคืนก่อนไม่กลับมา....             



 
 
แกร่ก...
 
เสียงประตูที่เปิดออกแผ่วเบาไม่ได้ทำให้คนป่วยที่หลับสนิทตื่นขึ้น กว้านหลินปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกสองเม็ดเผยให้เห็นแผงอกครัดแน่น เขาเดินไปดูคนป่วยที่เตียงใช้หลังมืออังลงบนหน้าผากของคนหลับอย่างแผ่วเบา สังเกตดูแล้วสายน้ำเกลือที่เคยมีถูกถอดออกไปแล้วบนหลังมือเหลือเพียงผ้าก็อซแผ่นเล็กปิดไว้เท่านั้นพยาบาลน่าจะมาเอาออกไปเมื่อไม่นานมานี้เอง
 
ตัวไม่ร้อนแล้ว

ชายหนุ่มโน้มตัวลงกดจูบลงบนหน้าผากและริมฝีปากนุ่มนั้นแผ่วเบาแช่ค้างเพื่อซึมซับความอบอุ่นหอมหวานแล้วจึงละจาก ช้อนร่างบางมาไว้ในอ้อมแขนแล้วอุ้มมาวางบนโซฟาอย่างแผ่วเบา



 
            “โว้ย!!!”ณภัทรสะดุ้งเฮือกกับเสียงที่ดังให้ได้ยิน เด็กน้อยงัวเงียขยับตัวหากแต่ตั้งหยุดอยู่นิ่งๆเมื่อตนเองไม่ได้นอนบนเตียงแบบตอนที่หลับหากแต่กำลังนอนอยู่มุมในสุดชิดกำแพงบนโซฟาตัวแคบ ร่างเล็กกระดุกกระดิกแทบไม่ได้ศีรษะหนุนอยู่บนลำแขนแกร่งร่างกายถูกกักกอดจนอากาศแทบจะแทรกผ่านไม่ได้ เมื่อลืมตามองก็พบใบหน้าบูดบึ้งของอัลฟ่าหนุ่มกำลังทำปากชู่วๆให้ตนเองเงียบ กว้านหลินขยับปากพูดโดยไม่มีเสียงให้ภัทรอ่าน
 
            “แกล้งหลับ ไม่ต้องสนใจ”โอเมก้าตัวน้อยทำตามอย่างว่าง่ายขยับกายซุกเข้าหากายแกร่งแสนอบอุ่นแอบสูดดมกลิ่นฝนแรกเข้าไปเต็มปอด กว้านหลินยิ้มให้กับอากัปกริยาแสนน่ารักนั้น กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมกรุ่นกระจายไปทั่วทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายได้ไม่น้อย
 
            “มันใช้ได้ที่ไหนเนี่ยห้ามไม่ให้นอนบนเตียงคนไข้แต่เอาคนไข้มานอนเบียดบนโซฟาคนเฝ้า ผมจะบ้าตาย อยากกอดกันนักก็กลับไปกอดกันที่บ้านให้หนำใจไปเลย จริงๆนะคนเรา”เบต้าหนุ่มส่ายหน้าอย่างระอาใจ แต่ไหนแต่ไรมาคุณชายสามตระกูลไล่นั้นภายนอกใครๆก็เห็นว่าเป็นคนว่านอนสอนง่ายตาจริงๆแล้วใครจะรู้ว่าไล่กว้านหลินน่ะ ทั้งดื้อเงียบและเอาแต่ใจเป็นที่สุด อาจจะด้วยการเป็นลูกคนเล็ก ต่อหน้าผู้ใหญ่คุณชายสามคือเด็กสุภาพและโตเกินอายุ แต่สำหรับอนลแล้วล่ะก็
 
            “เหอะ”หมอหนุ่มทำเสียงราวกับกำลังขำอะไรซักอย่างเมื่อนึกถึงวีรกรรมมากมายที่ตนเองเจอเข้ากับฤทธิ์เดชของไล่กว้านหลิน เพราะอายุห่างกันไม่มากเพื่อนคนแรกๆของคุณชายสามที่เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองไทยจะเป็นใครไปไม่ได้ ก็เขาเองนี่แหละ คุณชายสามตระกูลไล่น่ะดื้อตาใสอย่างกับอะไรดี ก็มีแค่เขานี่แหละที่รู้ทัน เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งเบ๊ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วเหลือแค่เป็นเมียที่คงไม่มีวันนั้น แค่คิดก็ขนลุกซู่ไปทั้งตัวแล้วให้เป็นเมียไล่กว้านหลินเขายอมโสดไปชั่วชีวิตดีกว่า
 
            “ยังไงถ้ากอดกันจนพอใจแล้วก็เตรียมเก็บของกลับบ้านด้วยนะครับคุณชายคนไข้อาการดีแล้วกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว จะให้โทรเรียกเลขาของคุณเลยมั้ยครับ”
 
            “ค่อยเรียก ขอผมนอนก่อน”อัลฟ่าหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ความคับแคบของโซฟาทำให้นอนไม่สบายตัวนักหากแต่กลับไม่ยอมขยับกาย ผิวขาวแทบจะสะท้อนแสงตัดกับผิวสีน้ำผึ้งอ่อนของภัทรอย่างกลมกลืน
 
ยังกับสัญลักษณ์หยินหยาง คุณหมอหนุ่มนึกขำในใจ
 
            “งั้นก็ได้ให้เวลาอีกชั่วโมงแล้วกัน”อนลกลับออกไปแล้วเพื่อไปตรวจอาการคนไข้ห้องอื่นต่อไป กว้านหลินขยับกายขับไล่ความเมื่อยขบเล็กน้อยหากแต่โอเมก้าในอ้อมกอดกลับรู้สึกว่าตนเองเป็นฝ่ายสร้างความลำบากให้กับอัลฟ่าหนุ่ม
 
            “ปล่อยให้ผมกลับไปนอนที่เตียงดีมั้ยครับคุณจะได้นอนได้สบายๆ”
 
            “ฉันบอกเหรอว่าลำบาก?”เด็กน้อยหุบปากลงไปทันทีที่อัลฟ่าหนุ่มสวนกลับ แม้ว่าอยากจะต่อล้อต่อเถียงแต่ณภัทรในตอนนี้จำต้องสงบปากสงบคำไว้ เขาจะไม่ดื้อกับกว้านหลินอีกแล้วเพราะถ้าดื้อเดี๋ยวคนที่นอนกอดตนเองจะไม่ยอมให้เจอแม่กับน้อง เด็กน้อยซุกเข้าหาอกแกร่งอีกครั้งสูดดมกลิ่นฝนจนเต็มปอดแล้วก็ทำหน้ามุ่ย
 
กลิ่น...
 
มันมีบางกลิ่นผสมปนเปมากับกลิ่นฝนของกว้านหลิน ภัทรขยับเปลี่ยนจุดแล้วสูดลมหายใจอีกครั้ง
 
กลิ่นกุหลาบหอมจางๆติดอยู่กับตัวของกว้านหลิน...
 
นี่สินะสาเหตุที่ทำให้กว้านหลินกลับมาเกือบเช้า
 
เพียงแค่คิดว่าเขาไปนอนกับใครมาใจดวงน้อยก็เต้นรัว ความเจ็บปวดในหัวใจเกิดขึ้นอบ่างช้าๆพาเอาความสดใสของเช้าวันใหม่ในอ้อมกอดของกว้านหลินหดหู่ไปด้วย เด็กน้อยขยับตัวจะนอนหันหลังหากแต่ความคับแคบของโซฟาทำให้ไม่ถนัดนัก
 
ขัดใจไปหมด
 
            “เป็นอะไร?”เสียงทุ้มติดแหบเพราะพักผ่อนไม่พอเอ่ยถามเด็กที่นอนยุกยิกในอ้อมกอด อยู่ๆอัลฟ่าหนุ่มก็รู้สึกถึงความขุ่นมัวจนทนนอนต่อไม่ไหว เหมือนกับว่าถ้าภัทรรู้สึกอะไรเขาก็รู้สึกด้วย
 
            “เปล่าครับ”
 
            “อย่าโกหก เธออารมณ์ไม่ดีฉันรู้สึกได้”
 
            “ผมแค่ไม่ชอบกลิ่นกุหลาบที่ติดมากับตัวคุณ”อัลฟ่าหนุ่มขำกับคำตอบของเด็กน้อย ณภัทรที่กำลังไม่พอใจมากๆเผลอตัวทุบลงบนแผ่นหลังของกว้านหลิน
 
            “เดี๋ยวนี้กล้าทำร้ายฉันเหรอ?”ภัทรเมื่อได้ยินคำถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นก็หยุดการกระทำลงทันที หัวกลมส่ายไปมา
 
            “ผมขอโทษครับ”สุดท้ายภัทรก็เป็นฝ่ายที่ต้องนิ่งเงียบไปเอง ปล่อยความคิดไหลไปกับเวลาจนกระทั่งกว้านหลินตื่นในอีกชั่วโมงถัดไป อี้เฉินมาพร้อมกับศลัยเพื่อช่วยเก็บของให้กับคนป่วย อัลฟ่าหนุ่มนั่งอ่านข่าวจากแลปท็อปไปเรื่อยๆเพื่อรอยาที่ภัทรจะต้องเอากลับไปกินที่บ้าน อี้เฉินไปจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาลส่วนภัทรได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่อี้เฉินซื้อมาให้เรียบร้อยแล้ว เด็กน้อยนั่งๆนอนๆรออย่างไม่รู้จะทำอะไร กลิ่นกุหลาบหายไปแล้วเพราะกว้านหลินอาบน้ำชำระร่างกายจนหลงเหลือเพียงกลิ่นฝนจางๆทำให้อารมณ์ของโอเมก้าเด็กกลับมาดีขึ้นเล็กน้อย แม้ความสงสัยจะคงอยู่ในใจแต่ณภัทรก็รู้ตัวดีว่าตนเองนั้นไม่มีสิทธิ์อะไรที่จะไปหึงหวง เด็กน้อยนั่งรอจนกระทั่งอี้เฉินจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็พากันเดินกลับมาที่รถ ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนก็กลับถึงบ้าน
 
            “ตามฉันมา”กว้านหลินหันไปบอกเด็กในปกครองก่อนจะก้าวยาวๆมุ่งตรงไปที่ห้องทำงาน ภัทรเดินตามไปอย่างว่าง่ายแม้ใจจะมีคำถามแต่ก็เก็บปากเงียบสนิท
 
            “นั่งสิ”ชายหนุ่มสั่งเมือเห็นว่าภัทรเอาแต่ยืนเก้ๆกังๆอยู่กลางห้อง เมื่อนั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วแฟ้มหนาสีดำถูกยื่นตรงหน้าเด็กน้อย ภัทรไม่เข้าใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจนอัลฟ่าหนุ่มต้องสั่งให้เปิดออกดู ฝ่ามือที่เคยอุ่นพลันรู้สึกเย็นเพราะความชื้นจากเหงื่อ
 
            “สัญญากู้ยืมเงิน”
 
            “ใช่ สัญญากู้ยืมเงิน จริงๆถ้าเธอไม่ป่วยซะก่อนก็จะให้เธอดูตั้งแต่แรก เรามาทำให้มันเป็นกิจจะลักษณะเถอะจะได้ไม่เอาเปรียบกัน ในนั้นฉันร่างข้อตกลงไว้แล้วว่าเธอจะต้องผ่อนชำระยังไง”ณภัทรรู้สึกหูอื้อ เด็กน้อยมองอัลฟ่าตรงหน้าด้วยสายตาสื่อถึงความผิดหวังชัดเจน
 
คิดว่าหลายวันที่ผ่านมาในโรงพยาบาลกว้านหลินจะใจดีกับเขาจริงๆ
 
คิดว่าการกระทำแสนอ่อนโยนที่แสดงออกมานั้นมาจากใจจริงจากจิตใต้สำนึกจากความรู้สึกที่ไล่กว้านหลินมี
 
คิดว่าอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่มอบให้ทุกค่ำคืนนั้นจะคงอบอุ่นตลอดไป
 
บัดนี้ณภัทรรู้แล้วว่าความคิดอะไรก็ไม่น่าผิดหวังเท่าคิดไปเองฝ่ายเดียว เด็กน้อยเม้มปากเป็นเส้นตรงข่มความรู้สึกผิดหวังกวาดตามองรายละเอียดข้างในแฟ้ม ในนั้นลงรายละเอียดไว้ทั้งหมดว่าพ่อของตนโกงเงินไปเท่าไหร่ จากที่รู้คร่าวๆคือ 80 ล้านบาท หากแต่หลังจากตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วยอดเงินที่ถูกยักยอกมีมากกว่านั้น
 
            “อ่อ แล้วนี่ ค่ารักษาพยาบาลของเธอ”แผ่นกระดาษที่ได้จากโรงพยาบาลถูกยื่นมาให้ ณภัทรตวัดตามองอย่างไม่พอใจทันที
 
            “ห้องพิเศษค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ห้าหมื่นสาม ฉันไม่คิดค่าเฝ้าค่าดูและเธอเพราะสาเหตุที่ทำให้เธอต้องป่วยก็มาจากฉันด้วยส่วนหนึ่ง”อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยบอกราวกับคุยเรื่องดินฟ้าอากาศแต่โอเมก้าตรงหน้านั่งนิ่งราวถูกแช่แข็งไปแล้ว
 
            “ส่วนใบนี้เป็นรวมค่าเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ฉันให้อี้เฉินไปซื้อมาไว้ให้เธอ ฉันเก็บไว้ให้ทุกใบจะได้รู้ว่าฉันไม่โกงเธอแบบที่พ่อเธอทำหรอก”กว้านหลินเปิดลิ้นชักหยิบใบเสร็จนับสิบใบที่ยาวเป็นหางว่าวมาวางไว้ให้ภัทร เด็กน้อยเห็นยอดรวมแล้วลมแทบจับ เสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงเกือบ 50 ชุด เครื่องประดับข้าวของเครื่องใช้ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็นถูกซื้อมารวมแล้วเป็นราคาหลายล้าน
 
            “อันนี้เป็นสมุดจดบัญชีหากเธอมีการผ่อนชำระมาฉันก็จะจดไว้ในนี้แล้วปั๊มตราประจำตัวพร้อมลายเซ็นกำกับไว้ เช่นคืนนั้นฉันมีเซ็กส์กับเธอไป 5 ครั้ง ตามข้อตกลงคือครั้งสองหมื่นเพราะฉะนั้นหนี้ของเธอถูกหักไปแล้วแสนหนึ่ง”ภัทรหูอื้อตาลายไปหมด ดวงตากลมมีม่านน้ำตาเคลือบอยู่ เด็กน้อยรับสมุดบันทึกความอัปยศในคืนนั้นไว้ รายละเอียดการกระทำชำเราถูกเขียนด้วยลายมือของกว้านหลินชัดเจนมีตราประทับและลายเซ็นกำกับตามที่เจ้าตัวบอกครบถ้วน
 
            “อยู่ที่นี่ถ้าเธออยากได้เงินเธอต้องทำงานเพราะถ้าจะอยู่โดยไม่ทำอะไรฉันจะคิดเงินเธอเหมือนเวลาเธอไปพักที่โรงแรม อันนี้คือสัญญาจ้างงาน ฉันจะให้เธอเดือนละสองหมื่นถือว่าเป็นเงินพิเศษนอกเหนือจากงานบนเตียง หน้าที่ของเธอคือดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับตัวฉันทั้งอาหารเสื้อผ้าทำความสะอาดห้องของฉัน แล้วก็ช่วยคนในบ้านทำงานตามแต่ที่พวกเขาบอก ถ้าเธออยากปลดหนี้ให้เร็วจะเอาเงินเดือนมาจ่ายทบต้นไปก็ได้ ฉันไม่ใช่เจ้าหนี้ใจร้ายจะไม่คิดดอกเบี้ยก็แล้วกัน หรือไม่ก็ทำตามข้อเสนอของฉันมีลูกให้ฉัน นี่คือสัญญาตกลงยกลูกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของฉันผู้เดียว”ไล่กว้านหลินหยิบสัญญาอีกฉบับขึ้นมาวางตรงหน้าโอเมก้าเด็กอีกใบ
 
            “คุณมันทุเรศ”ณภัทรที่โกรธจนตัวสั่นตะโกนด่าใส่หน้าอัลฟ่าหนุ่มอย่างไม่เกรงกลัว
 
            “มันเป็นเรื่องของธุรกิจ เธอในฐานะลูกคนโตก็ต้องรับมรดกหนี้ส่วนนี้ไป ถ้าพ่อของเธอไม่ทำตั้งแต่แรกเรื่องแบบนี้มันไม่มีทางเกิดขึ้นเลย และเราสองคนก็ไม่ต้องมาอยู่ในภาวะกระอักกระอ่วนเช่นนี้ ฉันก็จะยังเป็นพี่กว้านหลินของเธอต่อไป แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วทำตามข้อเสนอของฉันซะแล้วเธอจะได้กลับไปเจอแม่และน้องของเธอเร็วๆ แล้วอย่าคิดดื้อกับฉัน เธอรู้มั้ยข้างนอกนั่นน่ะ มีอะไรบ้าง”ไล่กว้านหลินหยุดเว้นจังหวะการพูดก่อนกดยิ้มร้ายกาจใส่ ร่างสูงเดินมาจับพนักพิงเก้าอี้ที่ภัทรนั่งก่อนโน้มใบหน้ามาจนริมฝีปากชิดใบหู
 
            “พวกคนงานที่ไปกับเรือสินค้าน่ะ นานๆจะได้เข้าฝั่งเธอรู้มั้ยว่าพวกมันต้องอดเรื่องแบบนั้นนานกี่เดือน แม่ของเธอถึงจะแก่ไปหน่อย แต่ถ้าฉันขายให้ไปเป็นนางบำเรอในเรือก็คงได้เงินนิดหน่อย แล้วก็เดี๋ยวนี้ตามสถานบริการน่ะนิยมเด็ก ยิ่งอายุน้อยยิ่งดี น้องของเธอสองคนนั่นถ้าเอาไปขาย...”
 
            “ตกลง ผมจะทำ จะทำตามที่คุณบอก!!”ณภัทรตะโกนใส่หน้าอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะคว้าปากกาที่อยู่บนโต๊ะมาเซ็นชื่อลงไปบนแผ่นกระดาษ น้ำตาไหลพราก ทั้งแค้น ทั้งผิดหวัง ทั้งเสียใจที่มารักคนใจร้ายแบบนี้
 
เลว...ไล่กว้านหลินเป็นผู้ชายที่สารเลวที่สุดเท่าที่ภัทรเคยพบเจอมา
 
ใช้ความนุ่มนวลอ่อนโยนมาหลอกล่อให้ตายใจ ให้รู้สึกได้รับความรักจากเศษเสี้ยวหัวใจที่ด้านชาดวงนั้น ทำให้รู้สึกลอยเหมือนขึ้นไปชมสรวงสรรค์แล้วก็ดึงรั้งให้ตกลงสู่ห้วงเหวของนรกตลอดกาล
 
เด็กน้อยปล่อยปากกาลงอย่างอ่อนแรง ร่างบางสั่นสะท้านก่อนยกฝ่ามือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้โฮอย่างกักเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ กว้านหลินมองภาพตรงหน้าด้วยความเฉยชา ฝ่ามือหนาวางลงบนกลุ่มผมเบาๆ รอยยิ้มผุดขึ้นมาบนใบหน้าเมื่อภัทรปัดมือของเขาออกอย่างไม่ใยดี
 
            “เอามือสกปรกของคุณออกไป อย่ามาแตะต้องตัวผมอีก”เด็กน้อยหันมาตวาดแว้ด ใบหน้าบึ้งตึงเหมือนลูกแมวกำลังขู่ราชสีห์ กว้านหลินหัวเราะขำกับคำสั่งนั้นก่อนจะเอื้อนเอ่ยประโยคที่ทำให้ภัทรรู้สึกอยากจะกลั้นใจตายไปซะเดี๋ยวนั้นเลย
 
            “คงทำให้ไม่ได้ เพราะเธอเซ็นสัญญาขายร่างกายของเธอให้ฉันแล้ว ฉันจะจับ จะลูบจะทำอะไรก็ได้”
 
            “ผมก็จะคิดเงินทุกบาททุกสตางค์ไม่ให้ขาดเลยเหมือนกัน”
 
            “ก็เอาสิ ขนาดพ่อเธอโกงฉันไปเกือบร้อยล้านฉันยังไม่สะดุ้งสะเทือนเลย คิดดูแล้วกันว่าที่เธอต้องจ่ายมาทีละนิดทีละหน่อยน่ะมันคือเศษเงินขนาดไหน”รอยยิ้มเยาะเย้ยถูกส่งให้คนเด็กกว่าอีกครั้งก่อนจับจับกรอบหน้าของคนเด็กกว่าล็อคให้หนีไปไหนไม่ได้ ริมฝีปากเราะร้ายกดจูบบดขยี้ลงมาอย่างไม่ออมแรงแม้ภัทรจะดิ้นหนีแค่ไหนก็ไม่หลุดเลยซักนิด กว้านหลินจูบจนพอใจแล้วก็ผลักคนเด็กออก หัวเราะกับท่าทางพยศของภัทรแล้วเดินจากไปทิ้งเด็กน้อยให้ทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างอ่อนแรง
 
นี่สินะที่ใครหลายคนบอกว่าการเป็นเด็กนั้นหลอกง่าย
 
ณภัทรเข้าใจความหมายที่พ่อแม่เคยบอกแล้ว
 
เข้าใจแล้วจริงๆ       


#ไฮเดรนเยีย

TBC. 


................................................

ชายสามเธอเป็นคนละเอียด ทุกอย่างจดเรียบร้อยตรวจสอบได้ สิ่งที่ทำก็ได้มาจากประสบการณ์ที่โดนพ่อของภัทรโกงไปนั่นแหละ

เนี่ย เป็นคนดี

5555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 6 "ตายใจ" 15/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 15-03-2019 22:29:15
 :3123:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 6 "ตายใจ" 15/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 15-03-2019 23:49:37
 :m16: :m16: :m16:
เซ็นเช็คไถ่ตัวน้องภัทรได้ที่ไหนคะ

เดี๋ยวจะให้น้องพาผช.คนใหม่มาเย้ย
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 6 "ตายใจ" 15/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: เข็มวินาที ที่ 16-03-2019 04:24:55
ได้คะแนนไปเพราะตอนที่ดูแลน้อง แต่ติดลบเป็นพันเพราะไอ้สัญญาบ้าๆนั่นของนาย กว้านหลิน!!! น้องเพิ่งจะฆ่าตัวตายนะ เรารู้สึกว่าความสมเหตุสมผลยังแปลกๆอยู่นะคะ การจะผ่านเรื่องฆ่าตัวตายไม่น่าจะเข้มแข็งได้เร็วขนาดนี้. หรือน้องมีเรื่องใหม่มาให้คิดเลยไม่ได้รู้สึกถึงตรงนั้นคะ หรือทุนเดิมน้องเป็นคนเข้มแข็งกว่าที่เราคาดไว้้ เราสงสัยค่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 24-03-2019 14:48:08
 


Hydrangea 7

 
            “สัญญานี้ไม่เป็นธรรม”ณภัทรปาดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าทิ้งก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับกองกระดาษเกือบสิบใบบนโต๊ะ เด็กน้อยหยิบขึ้นมาพิจารณาทีละใบ
 
            “ค่ารักษาพยาบาลคุณไม่มีสิทธิ์มาเก็บเอากับผมโดยเฉพาะค่าห้องพิเศษ ผมไม่ได้ร้องขอที่จะรับการรักษา”
 
            “แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ”
 
            “แต่ตอนนั้นผมไม่มีรู้สึกตัวคุณคิดเองเออเองตัดสินใจเออง จริงๆไม่ได้อยากจะเอื้อประโยชน์ให้กับผมคุณแค่เอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองเพราะฉะนั้นค่าห้องพิเศษคุณไม่ควรมาเก็บเอากับผม อีกอย่างคนที่ทำให้ผมไม่สบายไม่ใช่คุณหรอกเหรอ เพราะฉะนั้นค่ารักษานี้คุณต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบถึงจะถูก”ไล่กว้านหลินมองเด็กที่เถียงเขาฉอดๆต่างไปจากเมื่อครู่ที่ร้องไห้จะเป็นจะตายด้วยสายตาคาดไม่ถึง
 
น่าสนุก
 
ยามเห็นลูกแมวขู่ฟ่อๆ น่าสนุก น่าไล่ต้อนให้เหนื่อยแล้วค่อยจับกินทีหลัง
 
            “งั้นก็ได้ ค่าห้องพิเศษฉันจะเป็นคนจ่ายเองแต่ค่ายาค่ารักษาพยาบาลส่วนนั้นเธอจะต้องเป็นคนจ่ายเดี๋ยวฉันจะหักยอดออกให้พอใจยัง?”
 
            “ยัง”ภัทรตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบเลียนแบบเหมือนที่ไล่กว้านหลินชอบทำ
 
            “ว่ามาสิ ฉันรอฟังอยู่”
 
            “คุณขืนใจผม ผมไม่ได้ยินยอม”
 
            “ฉันไม่ได้ขอให้เธอยินยอมยังไงเธอก็ต้องทำอยู่ดี”
 
            “แต่นั่นต้องมาจากความเต็มใจ คุณเอาครั้งแรกที่มีค่าของผมไปผมขอเรียกร้องค่าเสียหาย”เด็กน้อยเถียงอย่างไม่ลดละ
 
            “เรียกค่าเสียหาย? เท่าไหร่ล่ะถ้าฉันจ่ายได้ฉันก็จะจ่าย”ณภัทรนิ่งไปนิดหนึ่งเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมานั่งต่อรองราคาค่าตัวกับอัลฟ่าตรงหน้านี้เลยซักนิด
 
ทำตัวไม่ต่างกับโอเมก้าที่ขายตัวไม่มีผิด...กักเก็บความอัปยศอดสูเข้าไปจนลึกสู่ก้นบึ้งของหัวใจ ตอนนี้ทำอะไรได้ก็ทำไปก่อนจะได้ออกไปให้พ้นๆจากขุมนรกนี่เสียที
 
            “ห้าสิบล้าน”เอ่ยตอบออกไปเรียกหัวคิ้วยับย่นให้คนฟังทันที
 
            “ไม่แพงไปหน่อยเร้อไปซื้อกินข้างนอกยังไม่ต้องจ่ายขนาดนี้”คำพูดแสนดูถูกตอบกลับมา กว้านหลินใช้ปลายนิ้วเคาะลงบนโต๊ะแสร้งทำหน้าครุ่นคิด
 
            “ฉันให้ได้ 10 ล้าน สำหรับครั้งแรกของเธอ แล้วอย่าคิดต่อรองอีกเพราะถ้าเธอจะเรียกราคาสิบล้านเธอก็จะไม่ได้”กว้านหลินรีบพูดดักคนเด็กกว่าที่ทำท่าจะเรียกค่าตัวเพิ่ม
 
มันใช้ได้ที่ไหน ไม่เหลือศํกดิ์ศรีของตัวเองแล้วเหรอ
 
โอเมก้าจอมเย่อหยิ่งเมื่อหลายวันก่อนที่ยอมตายคนนั้นหายไปไหนมาทำตัวต่อรองราคาค่าตัวราวพวกชั้นต่ำริมถนนไปได้
 
            “ก็ได้”ในที่สุดภัทรก็ยอมจำนน มันก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย กว้านหลินหยิบสมุดบัญชีมาปรับแก้ตัวเลขให้แล้วยื่นคืนกลับมาให้คนเด็กตรวจตราอีกครั้ง
 
            “หมดปัญหาแล้วก็ออกไปได้”ชายหนุ่มเอ่ยปากไล่ภัทรทันที ตอนนี้เขาเริ่มจะหงุดหงิดนิดหน่อย ภัทรควรรีบไปให้พ้นจากเขาเสีย เขาๆไม่อยากใช้อารมณ์จนทำร้ายร่างกายคนที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลนี่หรอกนะ
 
            “ยัง”
 
            “อะไรอีกล่ะ ทำไมเธอเรื่องเยอะขนาดนี้ณภัทร หรือว่าที่โรงพยาบาลฉันใจดีกับเธอมากไปเธอถึงได้กล้าต่อรองกับฉัน”
 
            “ไหนๆผมก็ไม่เหลืออะไรแล้ว ค่าตัวแต่ละครั้งที่คุณให้มาไม่น้อยไปหน่อยเหรอครับ ผมถูกผูกขาดกับคุณคนเดียวไปรับเพิ่มที่ไหนก็ไม่ได้มันควรได้เยอะกว่านี้มั้ย”ไล่กว้านหลินรู้สึกหนังหัวตึงขึ้นมาทันที ณภัทรในตอนนี้ดื้อดึงอวดดีอย่างไม่คาดคิด เด็กน้อยตรงหน้าแม้ในดวงตามีน้ำตาคลออยู่เกือบตลอดเวลาหากแต่กลับมีทีท่าทีอวดดีไปในตัว
 
          “เธอจะเอาเท่าไหร่”เค้นเสียงถามอย่างสะกดอารมณ์สุดๆ
 
            “หนึ่งล้านต่อครั้ง”
 
            “ไม่มากไปหน่อยเหรอ ปกติกับพวกโอเมก้าฉันไม่ต้องเสียเงินซักแดงยังได้ ไปหิ้วเอาข้างนอกก็แค่หลักหมื่นหลักพัน”
 
            “สำหรับคุณมันก็แค่เศษเงินไม่ใช่เหรอครับ แต่สำหรับผมน่ะแต่ละบาทมีค่ามาก ผมไม่รู้ต้องอยู่กับคุณอีกกี่ปี อนาคตของผมอาจจะจบลงแค่ที่นี่ ไม่ได้เรียนต่อ ไม่ได้อยู่กับครอบครัว ไม่มีความรู้เพื่อเอาไปใช้ในอนาคตเพิ่ม  ไม่ใช่แค่คุณที่สูญเสียผมเองก็สูญเสียเหมือนกันแต่คุณมีพร้อมทุกอย่างในขณะที่ผมไม่มี”
 
            “ก็มีลูกให้ฉันสิเธอจะได้ปลดหนี้เร็วๆ”กว้านหลินพูดแทรกออกมาทันที
 
            “มีลูกทั้งๆที่ไม่ได้รักกันคุณคิดว่าคุณจะเลี้ยงแกได้ดีให้ความรักได้เท่ากับพ่อแม่ที่รักและพร้อมจะมีลูกเขาทำกันเหรอครับ ลำพังแค่มีเงินให้ลูกใช้ไม่ได้หมายความว่านั่นคือความรักที่ลูกรับรู้ได้หรอกนะครับ”
 
            “ความรักมันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นหรอกณภัทร ฉันแค่อยากมีทายาทเอาไว้สืบสกุล”
 
            “แล้วทำไมไม่ไปมีกับคนอื่นล่ะทำไมต้องเป็นผม”โอเมก้าเด็กเริ่มตะโกนใส่กว้านหลินเมื่อคนแก่กว่าดื้อดึงจะให้เขามีลูกด้วยให้ได้
 
            “เพราะฉันยังหาคนที่คบกับฉันโดยไม่หวังผลประโยชน์ไม่ได้ยังไงล่ะ เธอน่าจะรู้ดีชนชั้นอย่างพวกฉันน่ะถูกจับตามองตลอดเวลา มีใครบ้างทีเห็นคนรวยแล้วจะไม่อยากจับ กลั้นอกกลั้นใจเบ่งๆออกมาซักสองสามคนแล้วจะไปไหนก็ไป ถึงเวลานั้นฉันจะปล่อยเธอกับครอบครัวของเธอไป แต่ถ้าเธอยังหาเรื่องตุกติกกับฉันอีกล่ะก็ฉันอาจจะสั่งฆ่าแม่กับน้องเธอเมื่อไหร่ก็ได้”
 
            “คุณมันไร้หัวใจที่สุด”
 
            “แล้วมันเพราะใครล่ะที่ทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้”ไล่กว้านหลินยกความผิดทั้งหมดกลับไปให้กับณภัทร เด็กน้อยกำหมัดแน่นหลับตาถอนหายในระงับความคุกรุ่นที่กำลังปะทุในอกก่อนจะลุกขึ้นยืน
 
เขาหมดพลังในการต่อสู้นี้แล้ว ขาเรียวก้าวไปจนถึงหน้าประตูก่อนจะหันกลับมาพูดกับคนที่นั่งอยู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
 
            "ผมจะรีบมีลูกให้คุณก็แล้วกัน แล้วก็เรื่องแม่กับน้องของผมน่ะ ไม่ต้องยกมาขู่บ่อยนัก หมาเวลามันจนตรอกน่ะ มันก็ไม่กลัวอะไรแล้ว บางทีความตายก็อาจจะเป็นหนทางเดียวทำให้พวกผมหลุดพ้นเร็วขึ้นก็ได้”
 
ปัง!!!
 
เสียงกระแทกประตูห้องทำงานของเขาให้ปิดลง ไล่กว้านหลินเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง
 
ทำไมหัวใจของเขามันบีบรัดจนปวดไปหมด
 
เพียงแค่สายตาตัดพ้อเกลียดชังก่อนจากไปของภัทรส่งมอบให้มาความลำพองหยิ่งผยองของเขาก็กระเด็นหายไปในทันที
 
ความตายช่วยให้หลุดพ้นอย่างนั้นเหรอ
 
เธอเลือกที่จะตายมากกว่าอยู่กับฉันเหรอภัทร...
 
            ไล่กว้านหลินออกจากบ้านไปเย็นวันนั้นแล้วไม่กลับเข้ามาอีก เป็นเวลาอาทิตย์หนึ่งแล้วที่ภัทรไม่ต้องเจอกับอัลฟ่าหนุ่ม เด็กน้อยยังคงต้องนอนบนพื้นในห้องของกว้านหลินโดยที่ศลัยบอกว่าคุณชายสามสั่งไว้ โชคดีหน่อยที่ไม่ต้องทนเห็นหน้ากันแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ อ้อมกอดที่เคยอบอุ่นและกลิ่นฝนอันฉ่ำเย็นหายไปไม่กลับมา ตอนเช้าภัทรจะตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อลงมาในครัวเรียนรู้งานว่าต้องทำอะไรบ้าง บรรดาคนรับใช้แม้จะไม่ได้ให้ความเคารพแต่ก็ไม่ได้เล่นหัวกับภัทรแบบคนชั้นเดียวกัน แม้จะมีฐานะคนรับใช้แต่ได้นอนในห้องกับคุณชายของบ้านก็แปลว่าคนๆนี้พิเศษกว่าใคร
 
            “ตอนเช้าคุณชายเธอไม่ค่อยทานมื้อหนักหรอกค่ะ เธอจะทานพวกกาแฟกับขนมปังสองแผ่นมีน้ำผลไม้ให้เธอล้างปากหน่อยแค่นั้นแต่ก็ต้องมีพวกโจ๊กหรือข้าวต้มเตรียมไว้เผื่อเธอจะรับส่วนมื้อกลางวันถ้าวันทำงานก็ตัดทิ้งไปได้เลยส่วนมื้อเย็นเป็นอะไรก็ได้สองสามอย่างพอ”ศลัยเอ่ยสอนโอเมก้าเด็กที่ผันตัวมาเป็นผู้ช่วย งานทุกอย่างเกี่ยวกับคุณชายสามของตระกูลไล่ถูกถ่ายทอดให้ภัทรเรียนรู้อย่างเป็นระเบียบขั้นตอน ทั้งการจัดเสื้อผ้า การเก็บกวาดทำความสะอาดห้องทำงานและห้องนอนของกว้านหลิน
 
            “เวลาทำความสะอาดต้องระวังอย่าขยับข้าวของของคุณชายโดยไม่จำเป็น พวกเอกสารถ้าคุณชายวางทิ้งไว้ไม่ต้องเก็บเพราะถ้าเธอจะใช้แล้วมันไม่อยู่ที่เดิมเธอจะโมโหมาก แล้วก็ทำความสะอาดให้ดีคุณชายเธอเจ้าระเบียบมาก”
 
ภัทรเริ่มลงมือทำงานตามที่ศลัยสอนเพราะเรียนที่อังกฤษมาหลายปีเรื่องการทำความสะอาดจึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก ไม่นานห้องที่เป็นระเบียบอยู่แล้วก็เสร็จเรียบร้อยโดยที่คนเด็กกว่าเก็บกวาดเพิ่มเพียงนิดเดียว ภัทรออกมาเดินสำรวจงานรอบๆบ้านว่ามีอะไรให้ตนเองทำบ้าง
 
บ้านของกว้านหลินหลังใหญ่ก็จริงหากแต่กลับไร้สีสัน
 
เหมือนมีไว้เพียงแค่ให้ผู้เป็นนายกลับมานอนแล้วจากไปในตอนเช้า เสียงรถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเรียกความสนใจจากโอเมก้าเด็กได้เป็นอย่างดี วูบหนึ่งคือความดีใจเพราะคิดว่าคนที่หายหน้าหายตาไปทั้งสัปดาห์จะกลับมาหากแต่คนที่ลงจากรถคือเลขาคนสนิทของกว้านหลิน หวังอี้เฉินส่งยิ้มใจดีให้โอเมก้าเด็กที่โค้งทักทายเขาอยู่ที่มุมสนาม ร่างสูงก้าวเข้าไปหา
 
            “หายดีแล้วเหรอครับ?”
 
            “หายแล้วครับ ขอบคุณที่เป็นธุระจัดการให้ทุกอย่างนะครับเสื้อผ้าที่คุณซื้อมาให้ใส่ได้ยั้นชาติหน้าเลยครับ”ณภัทรเอ่ยขอบคุณคนที่เป็นธุระทั้งเรื่องที่โรงพยาบาลและเรื่องของใช้เสื้อผ้าที่เล่นซื้อมาให้มากมายโดยไม่จำเป็น อี้เฉินหัวเราะให้กับคำพูดที่เหมือนจะเจือไปด้วยแววประชดประชันนั้น
 
            “แล้วนี่คุณภัทรจะทำอะไรครับ เพิ่งหายป่วยไม่น่าออกมาโดนแดดโดนลม”
 
            “งานในบ้านผมทำเสร็จหมดแล้วครับเลยว่าจะออกมาหาอะไรด้านนอกทำ อยู่แต่ในบ้านผมเบื่อ”
 
            “จริงสินะ ไม่ได้ออกไปไหนมาไหนเลยนี่นา เพื่อนก็ไม่มีให้คุย เอาเป็นว่าคุณภัทรอยากได้อะไรก็บอกนะครับผมจะจัดการให้ จดใส่กระดาษมาพรุ่งนี้บ่ายๆผมจะกลับเข้ามาอีกที”
 
            “เอ่อ แล้ว...เค้าไปไหนเหรอครับ ทำไมไม่กลับมาบ้าน”แม้จะบอกใจตัวเองว่าให้เกลียดกว้านหลิน แต่สุดท้ายภัทรก็ทำไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะผูกพันกันมาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัยความรู้สึกรักจึงยังคงมีหลงเหลืออยู่
 
            “คุณชายอยู่ในช่วงรัทครับ เลยไปนอนที่เซฟเฮ้าส์ อีก 2-3 วันก็คงกลับไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เธอฝากมาบอกว่าอยากได้อะไรให้สั่งมาได้เลย”
 
            “อ่า...อย่างนี้นี่เอง คือ ผมไม่ได้เป็นห่วงนะครับ บอกเขาไม่ต้องกลับก็ได้อยู่ไปนานๆเลย ส่วนของที่อยากได้ถ้าเป็นเกี่ยวกับของเขาคงไม่ทบเข้าไปในบัญชีหนี้ใช่มั้ยครับแค่ที่มีอยู่ก็ไม่รู้ชาติหน้าจะใช้หมดมั้ยเลย”อี้เฉินหัวเราะก๊ากออกมาทันทีที่โอเมก้าเด็กพูดจบ
 
น่ารักดี...โอเมก้าของคุณชายถ้าไม่ติดว่าต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้คงเป็นคู่ที่น่ารักไม่น้อย เจ้านายของเขาแม้ภายนอกจะดูเป็นคนเย็นชาแต่ก็ใจดี ส่วนคนตรงหน้าแม้แววตาจะเจือความทุกข์ตรมในใจหากแต่เขาเชื่อว่าพื้นฐานเดิมคงเป็นคนร่าเริงสดใสอยู่พอประมาณ มิน่าล่ะ คุณชายสามถึงพูดถึงบ่อยๆ กำชับนักกำชับหนาว่าให้ศลัยดูแลภัทรให้ดีๆ
 
            “เดี๋ยวผมจะขึ้นไปเอาเอกสารกับของใช้ส่วนตัวของคุณชายซักหน่อย คุณภัทรอยากได้อะไรก็จดมานะครับ พรุ่งนี้ผมจะเอามาให้”อี้เฉินเดินจากเข้าไปในบ้านแล้ว ภัทรมองรอบๆบ้านแล้วก็คิดว่าตนเองอยากปลูกอะไรซักอย่างให้บ้านดูเจริญหูเจริญตาขึ้นเด็กน้อยวาดภาพสวนเล็กๆในหัว รอยยิ้มพึงพอใจผุดออกมา ในเมื่อบอกว่าอยากทำอะไรก็ทำงั้นภัทรก็จะใช้เวลาว่างจัดสวนเล่นล่ะนะ โอเมก้าเด็กเดินกลับเข้าไปในบ้านร้องขอกระดาษกับปากกาจากพี่เลี้ยงสาว เด็กน้อยจดรายชื่อต้นไม้ที่อยากได้แล้วนั่งรออี้เฉินอยู่เงียบๆ ราวสิบนาทีเลขาคนสนิทของคุณชายสามก็ลงมาพร้อมซองเอกสารที่ต้องการ มืออีกข้างมีกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ ภัทรรีบเดินเข้าไปหาพลางยื่นกระดาษที่จดสิ่งที่อยากได้ให้อี้เฉินทันที หวังอี้เฉินกวาดตาอ่านก่อนจะเหลือบตามองหน้าเด็กตรงหน้านิดๆ
 
            “ไฮเดรนเยีย 20 กระถาง เอามาทำอะไรครับ ยังมีต้นไม้อื่นๆอีก ปุ๋ย ดินปลูก”
 
            “ผมอยากปลูกต้นไม้น่ะครับ สวนด้านนอกมันแห้งแล้งเกินไปแทนที่บ้านจะสวยกลับเหมือนกล่องมากกว่าแล้วก็รั้วข้างบ้านมันโปร่งเลยกะว่าจะปลูกไฮเดรนเยียพอโตกิ่งจะได้บังสายตาจากคนนอกได้ด้วย”
 
            “อืม ก็จริงนะครับ โอเค เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะจัดการให้แต่คงไม่ได้กลับเข้ามาเองคนภัทรจัดการเองได้ใช่มั้ยครับ”
 
            “ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับที่คุณอี้เฉินช่วยเป็นธุระให้”
 
            “ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้ เรียกผมว่าพี่จะดีกว่า ยังต้องเจอกันอีกนานสนิทๆกันไว้น่าจะดีกว่า”อี้เฉินเอ่ยบอกกับภัทรอย่างเป็นกันเอง เขารู้สึกถูกชะตากับเด็กตรงหน้านี่เหลือเกิน อาจเพราะน้ำเสียงและรอยยิ้มสดใสกอรปกับดวงตาใส่ซื่อนั้นน่าเอ็นดูเสียเหลือเกินในความรู้สึก ภัทรยิ้มกว้างให้กับคำอนุญาตนั้น

 
            “งั้นก็รบกวนด้วยนะครับพี่อี้เฉิน”





 
           
 
            คุณชายสามตระกูลไลก้าวขาลงจากรถ ใบหน้าเรียบนิ่งติดจะตึงยังคงเป็นเอกลักษณ์ชินตาสำหรับผู้ที่พบเห็น สายตาคมดุกวาดตามองหาคนที่ควรจะมาทำหน้าที่รับเสื้อนอกหรือกระเป๋าเอกสารของเขาหากแต่กลับไร้เงาของณภัทร
 
            “ภัทรไปไหน?”เอ่ยถามคนรับใช้ที่มาทำหน้าที่นั้นแทน
 
            “อยู่ในสวนค่ะ คุณชายจะให้ตั้งโต๊ะเลยมั้ยคะ?”
 
            “รอก่อน ทุ่มหนึ่งค่อยตั้ง วันนี้เพิ่มอาหารอีกซัก 2-3 อย่างนะ จัดจานให้ภัทรกับอี้เฉินด้วย”
 
            “ค่ะ”ไล่กว้านหลินไม่ใส่ใจคนรับใช้สาวอีก จากเดิมที่ตั้งใจจะขึ้นไปอาบน้ำสองเท้าก็เปลี่ยนทิศทางไปทางสวนข้างบ้าน กวาดสายตามองหาไม่นานก็พบภัทรในเสื้อเชิ๊ตสีขาวใส่หมวกสานปีกกว้างใบใหญ่กำลังก้มๆเงยๆอยู่ท่ามกลางถุงบรรจุต้นไม้ เสื้อผ้ามอมแมมจากขี้เถ้าแกลบและดิน รองเท้าบูทสูงถึงเข่าเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลนที่โอเมก้าเด็กเหยียบย่ำขณะรดน้ำต้นไม้
 
            “ค่าต้นไม้ ค่าปุ๋ย ค่าอุปกรณ์ลงบัญชีเธอไว้แล้วนะ”ภัทรสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงที่กระซิบใกล้ๆในขณะที่ตัวเองกำลังง่วนอยู่กับการเก็บถุงขยะ ภัทรหันกลับไปหาเสียงที่ประชิดตัวความใกล้ทำให้ปลายจมูกของกว้านหลินเฉียดผิวแก้มนุ่มเบาๆ กว้านหลินกระตุกยิ้มให้กับใบหน้าเหรอหรานั้น ดวงตากลมเบิกกว้างก่อนจะผลักคนที่โน้มตัวเข้าหามากขึ้นเรื่อยๆ
 
            “อะไร จะมาเก็บอะไรจากผม ผมซื้อมาจัดให้บ้านคุณเองนะคุณกว้านหลิน”
 
            “แล้วฉันขอให้เธอมาทำเหรอ?”
 
            “คุณนี่มันทุเรศจริงๆ”คนเด็กว่าก่อนจะลุกขึ้นเดินหนีอย่างไม่อยากจะเสวนาด้วย ไล่กว้านหลินตอนนี้อารมณ์ดีที่ได้แกล้งให้ภัทรโมโหได้ เด็กน้อยเก็บถุงขยะไปใส่ในถุงดำใบใหญ่ ปากบ่นขมุบขมิบให้กับความเค็มเป็นเกลือของคุณชายอัลฟ่าที่เดินตามประกบหลังต้อยๆ
 
            “จะมาเดินตามทำไม รำคาญ”โอเมก้าเด็กหันไปตวาดแว้ดให้อย่างอารมณ์เสีย
 
คนอะไรหน้าด้านหน้าทน คนเขาปลูกต้นไม้ให้จะได้สวยๆยังจะหน้าด้านมาเก็บเงินจากเขา
 
เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่เพิ่งเคยพบเคยเห็น คำตวาดของคนเด็กกว่าไม่ได้ทำให้กว้านหลินรู้สึกโกรธอะไรยิ่งในตอนนี้ภัทรเหมือนลูกหมาตัวเล็กๆที่หัดขู่แทนที่เสียงขู่จะน่าเกรงขามกลับเหมือนลูกหมายังไม่ได้เดือนที่เอาแต่ร้องอิ๋งๆน่ารักน่าเอ็นดูเสียมากกว่า
 
ไม่เจอกันอาทิตย์กว่าๆทำไมดูมีน้ำมีนวลได้ขนาดนี้ สงสัยไม่เจอเขาเลยกินอิ่มนอนหลับได้พักผ่อนเต็มที่สินะ
 
            “เลิกทำได้แล้วฉันเหนียวตัวอยากอาบน้ำไปเตรียมน้ำให้ฉันหน่อย”
 
            “ผมอยากทำให้เสร็จก่อน จะทิ้งไว้แบบนี้ได้ยังไง”
 
            “เดี๋ยวให้คนสวนทำต่อถ้าเขาทำต่อไม่ได้จะได้ไล่ออกไปเลย จ้างไปก็เปลืองเงิน”ภัทรหันมามองคนที่เอ่ยปากจะไล่คนงานชราที่ทำงานมานานปีออกด้วยท่าทางสบายๆแล้วให้นึกโมโห
 
            “หายใจเข้าหายใจออกเป็นเงินเลยหรือไงคุณกว้านหลิน เวลาเดินน่ะเดินช้าๆ เดินเบาๆนะ เดี๋ยวเกลือที่เกาะบนตัวจะร่วง”
 
            “ปากเก่งให้ตลอดนะ ด่าเก่งแล้วใช้ทำอย่างอื่นก็ให้เก่งได้แบบนี้ด้วยล่ะ”ภัทรชะงักให้กับคำพูดนั้นของกว้านหลิน ใบหน้าเกิดอาการเห่อร้อนเมื่อนึกถึงวันแรกที่ถูกจับมา ทั้งอายทั้งโกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ร่างบางกระทืบเท้าลงพื้นก่อนจะเดินหนีไปทิ้งคนกวนประสาทไว้เบื้องหลัง อัลฟ่าหนุ่มมองต้นไม้ที่ภัทรปลูกอย่างไม่ใส่ใจนัก เขาไม่ใช่คนที่จะมาละเอียดอ่อนรักธรรมชาติ แต่มองไปมองมาก็สวยดีเจ้าตัวคงดูแบบมาจากในหนังสือจัดสวนที่พ่อของเขาเคยซื้อมาอ่านล่ะมั้ง ชายหนุ่มเดินตรวจตราบริเวณบ้านอีกซักพักก็เดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน บรรดาคนรับใช้ยังง่วงอยู่ในครัวร่างสูงสาวเท้าเข้าไปในห้องนอน กลิ่นหอมของดอกไลเซนทัสเตะจมูกอย่างแรงจนเผลอสูดหายใจเข้าไปเต็มปอด ไร้เงาของภัทร กว้านหลินสูดกลิ่นที่แรงขึ้นเรื่อยๆก่อนจะก้าวเท้าตามหาอย่างใจเย็น รอยยิ้มร้ายปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลานั้น
 
ไม่คิดเลยว่าเขาอุตส่าห์หนีไปนอนที่เซฟเฮ้าส์หลีกเลี่ยงช่วงรัทเพื่อไม่ให้ทำอะไรลูกหนี้บรรดาศักดิ์นี้แต่กลับมาเจอโอเมก้าฮีทซะเอง
 
            “ภัทร...”แกล้งลากเสียงเรียก ดวงตาคมดุของนักล่าก็สอดส่ายสายตาหาไปทั่วห้อง
 
กำลังต่อต้านร่างกายตัวเองอยู่สินะ กว้านหลินปล่อยฟีโรโมนของตัวเองให้แรงขึ้นเพื่อกระตุ้นโอเมก้าจอมดื้อดึงที่คงกำลังแอบซ่อนตัวเองจากเขา เสียงน้ำในห้องน้ำยังคงไหลแปลว่าเจ้าตัวคงขึ้นมาเตรียมน้ำตามที่สั่งจริงๆ
 
สองเท้าก้าวเข้ามาในห้องน้ำกว้าง มีเพียงน้ำที่ล้นอยู่ในอ่างฟองสบู่ฟูฟ่อง กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมเข้มมากขึ้นทุกขณะดวงตานักล่าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเรือนผมสีบลอนด์ที่อ่อนอยู่แล้วกลับยิ่งอ่อนมากขึ้น อารมณ์บางอย่างถูกจุดเพราะฟีโรโมนของคนเด็กกว่าแรงขึ้นทุกขณะ
 
ถึงเขาจะควบคุมตัวเองได้แต่ให้ตายเถอะเขาเองก็เพิ่งผ่านช่วงรัทพอมาเจอกลิ่นที่กระตุ้นสัญชาติญาณภายในอารมณ์ก็ประทุได้ง่ายๆสูดลมหายใจเข้าไปจนลึกเต็มปอด
 
            “ฮึก...บ้าจริง”ภัทรสบถออกมาเมื่อกว้านหลินก้าวเท้าเข้ามาในห้องน้ำกลิ่นฝนที่เคยชุ่มฉ่ำกลับทำให้ภายในกายร้อนรุ่มไปหมด เขาลืมเสียสนิทเลยว่าช่วงนี้จะฮีท มันน่าโมโหตรงที่ว่าโอเมก้าเด็กไม่มียาระงับฮีทยิ่งกว้านหลินเดินไปเดินมาในห้องน้ำกลิ่นฟีโรโมนก็คละคลุ้งไปทั่ว หอมจนอยากจะกระโจนเข้าหาหากแต่เด็กน้อยก็ห้ามตัวเองไว้ แต่ร่างกายมักจะทรยศจิตใจเสมอ
 
            “ออกมาเถอะ ฉันรู้ว่าเธอกำลังทรมาน ฉันช่วยเธอได้นะ”ภัทรกอดเข่าปกป้องเก็บกักร่างกายของตัวเองให้แน่นขึ้นเด็กน้อยยอมทนขดตัวนั่งซ่อนในตู้ใต้อ่างล้างหน้าอย่างเงียบเชียบ กว้านหลินแกล้งเดินไปเดินมาตรงอ่างล้างหน้า ยิ่งอยู่ใกล้ขนบนกายยิ่งลุกซู่อย่างน่ากลัวเด็กน้อยนั่งขยับต้นขาตนเองเบาๆร่างกายสั่นราวกับหนาวสั่น หากแต่ณภัทรรู้ดีว่ามันไม่ใช่ ไม่ใช่เลยซักนิด ธรรมชาติกำลังเรียกร้องและต้องการการปลดปล่อย ชายหนุ่มทิ้งสะโพกพิงกับเค้าท์เตอร์อ่างล้างหน้าถอดเสื้อสูทออกอย่างเชื่องช้าเหลือเพียงกางเกงแสลค นิ้วเรียวค่อยๆเลื่อนเพลย์ลิสต์เพลงเมื่อเจอเพลงที่ต้องการก็กดเล่นด้วยท่าทางสบายๆ ล้วงเข้าไปหยิบบุหรี่รสมิ้นท์ราคาแพงมาจุดสูบ ปล่อยอารมณ์ไปตามเพลง บางท่อนก็ฮัมตามเบาๆ
 
Baby I’m preying on you tonight
Hunt you down eat you alive
Just like animals
Animals
Like animals

 
เขาไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเลย แค่ยืนกักร่างกายที่คงใกล้หมดความอดทนเต็มที่แล้วเรื่อยๆ

 
เดี๋ยวเหยื่อก็ออกมาเองโดยไม่จำเป็นต้องออกล่าให้เหนื่อยแรง


Maybe you think that you can hide
I can smell your scent for miles
Just like animals
Animals
Like animals
Baby I’m


            “ช่วย...ช่วยด้วย”กว้านหลินกระตุกยิ้มเมื่อเสียงเล็กเล็ดลอดออกมาจากในตู้ ชายหนุ่มไม่ได้ขยับลงไปช่วยใช้ริมฝีปากคีบมวนบุหรี่ไว้ก่อนจะถอดกางเกงและชั้นในทิ้งเดินลงไปแช่น้ในอ่างอย่างสบายๆ ที่สุดประตูตู้ก็ขยับออกภัทรอ่อนแรงจนแทบจะพยุงตัวไม่อยู่ เรือนกายแดงก่ำด้วยแรงอารมณ์ที่เล่นงานเสียหนักหน่วง ลมหายใจติดขัดทุ้มหนักเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพรายเต็มดวงหน้าเส้นผมนุ่มเปียกลู่ริมฝีปากแดงสูดอากาศอย่างน่าสงสาร
 
            “มาหาฉันสิ แล้วฉันจะช่วย”กว้านหลินอัดควันสีเทาเข้าปากก่อนจะพ่นมันออกด้วยท่าทางสบาย ภัทรในยามนี้เหมือนคนที่กำลังตบตีกับจิตใต้สำนึกของตัวเอง ร่างกายเต็มใจจะมาหาอัลฟ่าหนุ่มหากแต่จิตใจต่อต้านตัวเองไว้ สีหน้าทรมานนั้นทำให้กว้านหลินอยากจะหัวเราะเยาะ
 
ร่างกายต้องการแทบตายแต่จิตใจกลับดื้อดึงด้วยความหยิ่ง
 
ก็อยากจะรู้ว่าจะทนได้ซักกี่น้ำกว้านหลินสลัดมวนบุหรี่ทิ้งลงไปกับพื้นปล่อยให้ความเปียกชื้นดับก้นกรองลงไปอย่างช้าๆ ปลายนิ้วกระดิกเรียกร่างบางที่น้ำตาปริ่ม
 
            “ขอยา...ขอยาให้ผม ฮึก...”
 
            “เธอลืมไปหรือเปล่า บ้านนี้มีฉันเป็นอัลฟ่า คนอื่นๆเป็นเบต้า จะไปเอายาระงับฮีทที่ไหนมาให้เธอ?”
 
            “ฮื่อ...”เด็กน้อยทรุดตัวลงนอนกับพื้น ระบายลมหายใจออกอย่างหนักหน่วงขดร่างกายบดเบียดหน้าขาเข้าหากันราวกับว่าจะช่วยลดความต้องการได้หากแต่กลับยิ่งรู้สึกมากกว่าเดิม
 
เกลียดเพศสภาพของตัวเองนัก ช่องทางด้านหลังเริ่มชื้นแฉะจากสารคัดหลั่งกลางกายเริ่มปริ่มน้ำอารมณ์ปรารถนาทั้งหมดไปอยู่ตรงส่วนนั้นอยากปลดปล่อยแต่ทำอะไรไม่ได้เลย
 

((ต่อข้างล่าง))
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 24-03-2019 14:49:21

            “อึดอัดนักก็ถอดเสื้อผ้าออกสิ ช่วยตัวเองน่าจะพอบรรเทาความอยากได้”แสร้งแนะนำราวกับหวังดีหากแต่ดวงตากลับทอแววสนุกภัทรลูบไล้ร่างกายตัวเองผ่านเนื้อผ้า



“สอดมือเข้าไปในเสื้อสิ เล่นกับหน้าอกตัวเอง”เด็กน้อยสอดมืออันสั่นเทาเข้าไปในเสื้อ สมองเบลอไปหมดภาพตรงหน้าพร่าเลือนสิ่งที่เห็นชัดที่สุดคือร่างของอัลฟ่าหนุ่มที่นอนแช่อยู่ในอ่าง กว้านหลินเสยผมที่เริ่มชื้น ยามที่เรือนผมสีบลอนด์เปียกน้ำยิ่งขับให้ใบหน้านั้นหล่อเหลามากยิ่งขึ้น ปลายนิ้วเกลี่ยยอดอกของตัวเองตามคำแนะนำ ความเสียวซ่านแล่นพล่านความต้องการยิ่งมากขึ้นมากกว่าเดิม

“อื้อ..”เสียงครางเบาๆเรียกความตื่นตัวให้กับอัลฟ่าหนุ่มจนอดไม่ได้ที่จะส่งมือลงไปเคล้นคลึงแกนกายในน้ำ

“ถอดเสื้อผ้าออก”ภัทรทำตามอย่างว่าง่าย ตอนนี้ขอแค่ได้ปลดปล่อยความอึดอัดออกมาไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็จะทำ หากเป็นปกติร่างบางคงจะดื้อดึงไม่ยอมทำตามที่อัลฟ่าหนุ่มบอกได้ง่ายๆ หากในตอนนี้ตอนที่สัญชาติญาณดิบเข้าเล่นงานความยับยั้งชั่งใจก็ค่อยๆน้อยลงไปทุกทีไม่นานเสื้อผ้าก็ลงไปกองอยู่ข้างๆ แกนกายแดงจนน่าสงสารส่วนปลายปริ่มน้า ภัทรค่อยๆจับแล้วรูดรั้งเบาๆ กว้านหลินมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกาย เรือนร่างบอบบาง เสียงร้องครางหวานหู ท่าทางล่อแหลมนั้นราวรูปศิลปะข้อมือแกร่งขยับตามจังหวะที่คนเด็กทำอยู่

ใช่ว่าเขาจะไม่เคยช่วยตัวเอง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะมีอารมณ์ร่วมขนาดนี้ ณภัทรมองคนที่กำลังทำแบบเดียวกับตนด้วยใบหน้าเห่อร้อน ความรู้สึกในตอนนี้เหมือนกับว่ามือที่กำลังรูดรั้งส่วนไวต่อความรู้สึกนั้นไม่ใช่มือของตนเองหากเป็นของกว้านหลินที่จ้องมาที่ตนด้วยดวงตาแสดงความปรารถนาอย่างชัดเจน ยิ่งสายตาดุนั้นโลมไล้ไปทั่วร่างกายก็ยิ่งสั่น

“อ๊ะ...อา....”เด็กน้อยส่งเสียงครางยามเพิ่มความเร็วในการขยับข้อมือความเสียวแล่นวาบจนชาไปทั่วร่างก่อนที่ความอัดอั้นทั้งหมดจะถูกปลดปล่อยออกมา ภัทรหายใจแรงจนแผ่นอกบางกระเพื่อม

ไม่ดีขึ้นเลย...

แม้จะปลดปล่อยออกไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยทำให้ดีขึ้นมาเลยซักนิด กลับกัน ความต้องการกลับยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ช่องทางด้านหลังเต้นตุบราวกับประท้วงร้องขอสิ่งที่ต้องการมากกว่าการช่วยตัวเอง

ภัทรในตอนนี้นอนสิ้นท่ากว้านหลินหยุดมือที่เค้นคลึงแกนกายของตัวเองก่อนจะลุกก้าวออกมาหาร่างที่นอนขดตัวแดงเป็นกุ้งต้ม

“มาอาบน้ำกับฉันเถอะเด็กน้อย ฉันจะอาบให้จนเธอสะอาดไปทั้งตัวเลย”กว้านหลินช้อนร่างของโอเมก้าขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนก่อนจะพาไปที่อ่างตามเดิม ร่างสูงวางภัทรให้ลงยืนข้างอ่างก่อนที่ตัวเองจะก้าวเข้าไปนอนรอดึงข้อมือของคนที่แทบจะควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ให้ก้าวตามลงมา สะโพกเล็กบดเบียดหาแกนกายใหญ่ใต้น้ำแสดงความต้องการออกมาอย่างไม่ปิดบัง ยิ่งไออุ่นจากผิวกายรวมทั้งกลิ่นประจำตัวอยู่ใกล้ๆภัทรยิ่งสติเตลิด ตอนนี้ผิดชอบชั่วดีในใจไม่หลงเหลืออยู่มีเพียงความต้องการที่กระตุ้นให้ต้องทำอะไรซักอย่าง

ภัทรชอบกลิ่นฝนของกว้านหลิน เด็กน้อยคล้องแขนกับลำคอของอัลฟ่าหนุ่มที่โตเต็มวัยก่อนจะฝังจมูกลงบนต้นคอหอมนั้น ปลายลิ้นเล็กเลียชิมผิวเนื้อของกว้านหลินอย่างเอาแต่ใจ สะโพกบดเบียดกับความครัดแน่นใต้น้ำในขณะที่กว้านหลินก็เล็มชิมผิวใต้ร่มผ้านั้น วักน้ำถูตัวล้างทำความสะอาดเหยื่อของเขาอย่างใจเย็นจนหอมกรุ่นไปทั่วร่าง แต่ไม่ว่าครีมอาบน้ำจะหอมขนาดไหนก็ไม่สามารถกลบกลิ่นกายประจำตัวของภัทรได้ฝ่ามือหนาเริ่มลูบไล้สร้างความเสียวสะท้านไปทั่วสรรพางค์กายของณภัทร เด็กน้อยเชิดหน้าแอ่นอกรับปลายลิ้นร้อนที่ไล่ชิมมาจนถึงยอกอกชูชัน ครั้งนี้ชายหนุ่มไม่ได้กัดหรือทำให้รู้สึกเจ็บเหมือนคราวก่อนหากแต่ค่อยๆดูดเม้มบดคลึงสร้างความเสียวซ่านให้กับคนเด็กจนนั่งแทบไม่ติด สะโพกกลมยิ่งขยับบดแกนกายของกว้านหลินมากขึ้นแสดงความต้องการโดยไม่ปิดบัง

“ช่วยผม...ฮึก...ช่วยด้วย”ริมฝีปากแดงจัดเพราะเจ้าตัวเม้มไว้จนเจ่อร้องขอใบหน้าหวานส่ายไปมาเพราะทนอดกลั้นไว้ไม่ไหวแล้ว

“จูบฉันสิ แสดงให้ฉันเห็นว่าเธอต้องการมากขนาดไหน”ไม่ต้องให้สั่งซำภัทรก็แนบริมฝีปากนุ่มหยุ่นของตัวเองลงบนกลีบปากของกว้านหลิน

รู้สึกดีเป็นบ้า...อัลฟ่าหนุ่มดูดดึงกลีบปากของภัทรอย่างพึงพอใจตักตวงความหอมหวานหยอกล้อกับลิ้นเล็กที่ไม่ค่อยประสีประสากับเรื่องแบบนี้นัก

ภัทรสั่นไปทั้งตัว เด็กน้อยจูบตอบอย่างเงอะงะแต่ทว่าแฝงความเร่าร้อนไปในตัว

“อื้อ...”ร่างบางสะดุ้งโหยงยามที่กว้านหลินยกสะโพกของตนแล้วกดลงไปบนแกนกายที่ค่อยๆถูกดูดกลืนเข้าไปจนสุดโดยไม่เบิกทางเลยซักนิด โชคดีที่เป็นช่วงฮีทจึงมีสารคัดหลังช่วยหล่อลื่น เด็กน้อยกอดอัลฟ่าหนุ่มแน่นจิกลงไปแผ่นหลังระบายความเจ็บหากแต่รู้สึกดีนั้น

So what you trying to do to me
It’s like we can’t stop we’re enemies
But we get along when I’m inside you
You’re like a drug that’s killing me
I cut you out entirely
But I get so high when I’m inside you

กว้านหลินค่อยๆขยับกายเมื่อภัทรมีท่าทางผ่อนคลายลง แรงตอดรัดทำเอาอัลฟ่าหนุ่มแทบคลั่ง มันทั้งอุ่นร้อนและเสียวซ่าน ยิ่งในตอนนี้ตอนที่ภัทรฮีทความต้องการของโอเมก้าเด็กล้นทะลักทำให้การขยับกายสอดประสานกันเป็นไปอย่างเข้าขา ภัทรที่จับจังหวะได้เริ่มเป็นฝ่ายคุมเกมนี้เองซึ่งกว้านหลินก็ไม่ได้ขัด ชายหนุ่มปรนเปรอรสจูบแสนร้อนเร่าให้กับคนเด็กที่เรียกร้องซุกซน เด็กน้อยยกสะโพกสูงจนส่วนนั้นเกือบหลุดออกจากกันก่อนบดกดจนสุดความยาว ความเสียวซ่านถูกกระแทกเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนพายุที่ค่อยๆก่อตัวด้วยเมฆทะมึนแล้วสาดซัดด้วยห่าฝนน้ำในอ่างกระเพื่อมไหลออกไปตามแรงขยับ ฟองขาวฟูฟ่องค่อยๆล้นไหลออกไปจนเหลือเพียงน้ำสีขุ่นบั้นท้ายสวยโผล่ขึ้นลงเป็นจังหวะ เสียงครางประสานกันราวกับวงดนตรีก้องโลก

“เร็ว..เร็วกว่านี้หน่อย” เด็กน้อยเอ่ยขอกับกว้านหลินที่เริ่มกลับมาคุมเกมเองโดยการจับเอวเล็กไว้แล้วกำหนดจังหวะด้วยตัวเอง กว้านหลินกดจูบลงบนกลีบปากช้ำนั้นแรงๆอย่างมันเขี้ยว

หากเป็นเวลาปกติคงไม่กล้าพูดแบบนี้หรอกชายหนุ่มรั้งเอวบางให้ขยับเร็วขึ้นแม้สายน้จะเย็นชุ่มฉ่ำหากแต่ตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มกับโอเมก้าที่กำลังฮีทกลับร้อนไปหมดทั้งร่าง ยิ่งส่วนที่เชื่อมต่อกันขยับเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ภัทรยิ่งกรีดร้องราวกับทรมานหากแต่นั่นคือเสียงของความสุขสมจนกระทั่งร่างเล็กกระตุกธารน้ำสีขาวในร่างกายพุ่งกระฉูดพอๆกับกว้านหลินที่รั้งร่างเล็กมาไว้ในอ้อมกอดรัดร่างนั้นแน่นราวกับงูเหลือมรัดเหยื่อเอวสอบขยับเข้าออกรัวเร็วก่อนจะอัดกลับเข้าไปค้างไว้แน่นฉีดน้ำรักของตนเข้าไปจนเต็มล้นสองร่างหอบสะท้านกว้านหลินกดจูบแลกลิ้นกับโอเมก้าที่ยังคงไม่สิ้นฤทธิ์เขาค่อยๆถอนแกนกายออกช้าๆของเหลวไหลตามออกมาไม่น้อยเลย ณภัทรเริ่มบดเบียดร่างกายเข้าหาอัลฟ่าหนุ่มอีกครั้ง ความต้องการยังคงสูงอยู่ เป็นที่รู้ๆกันว่าเวลาที่อัลฟ่ารัทหรือโอเมก้าฮีทความต้องการจะมากจนควบคุมไม่ได้หากไม่กินยาระงับเป็นช่วงที่ต้องการเซ็กส์อย่างไร้ขีดจำกัด

นี่เป็นครั้งแรกที่ภัทรขาดยา เด็กน้อยต้องการมากขึ้นเรื่อยๆแม้ว่าในใจจะร้องประท้วงแต่กลับถูกอารมณ์ขึ้นมามีบทบาทนำความผิดชอบชั่วดีที่กรีดร้อง

แม้จะสุขสมแต่ทว่าในใจกลับร่ำไห้คร่ำครวญ

“ไปล้างตัวเถอะ ถ้าเธอยังไม่อิ่มฉันป้อนเธอได้จนกว่าเธอจะร้องขอให้พอ”กว้านหลินเปิดฝักบัวให้สายน้ำเย็นรินรดล้างฟองลื่นออกจากตัวเขาทั้งคู่

“ปกติเธอฮีทกี่วัน?”
“ส...สี่หรือห้าวัน...”

“สงสัยฉันต้องหยุดงานเพิ่มเพื่ออยู่กับเธออีกอาทิตย์แล้วมั้งเด็กน้อย”ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ

จะปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไงล่ะ ช่วงเวลาเชื่องๆแบบนี้คงมีแค่เดือนละครั้งต้องเอาให้คุ้ม จะต้องหมดกี่ล้านก็ยอมล่ะ

ไม่มีสติแบบนี้โกงซัก 4-5 รอบก็คงไม่รู้หรอก

ได้กำไรเห็นๆ









#ไฮเดรนเยีย

TBC.


...........................................



มีคนขีัโกง 1 อัตราจ้าาาาาาาาาาา

ด่านัก โกงซะเลย เอิ้วววววววววววววววว

งกมางกกลับไม่โกง



 
     
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 24-03-2019 16:28:45
คุนตำหนวดดด ตรงนี้มีคนโกงค่าา

สบายเลยสิกว้านหลิน  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: sweetie ที่ 24-03-2019 23:13:57
ใจร้ายกับน้องจริงๆ :m16:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-03-2019 00:15:18
อย่าใจร้ายกับน้องนักเลย :sad4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 25-03-2019 07:00:27
งกจริงๆหรืออยากให้เขาอยู่ด้วยนานๆจ๊ะ :-[ สนุกมากๆมาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 25-03-2019 08:07:54
น้องเสียเปรียบหมดประตูแน่เลย :hao5:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 7 "ข้อต่อรอง" 24/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-03-2019 21:03:43
โอ้โหววว ไม่ค่อยเลยนะคุณชาย
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 8 "รางวัลของเด็กดี" 23/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 31-03-2019 09:53:59



 

 

 

 

 

 

Hydrangea 8


 

          โอเมก้าเวลาฮีทน่ะไม่ต่างกับลูกแมวเชื่องๆเลยซักนิด เอาแต่เฝ้าคลอเคลียเขาทั้งวันไม่ดื้อแต่ซนแถมข่วนเก่งอีกต่างหาก

 

ไม่ต่างกับตอนนี้ซักนิดเดียว

 

            “อื้อ...”เสียงครางแหบพร่ายามร่างกายแนบสนิทเป็นครั้งสุดท้าย ร่างบางผวาเฮือกกอดคนบนร่างไว้แน่น สองขาที่เกี่ยวเอวของกว้านหลินไว้หนีบแน่นเก็บกักทุกหยาดหยดที่ถูกส่งเข้าไปในตัวตน แผ่นหลังขาวของกว้านหลินปรากฏรอยเล็บจนแทบไม่มีพื้นที่ว่าง

 

กว้านหลินไม่ได้เอาเปรียบร่างกายของภัทรมากอย่างที่ใจคิดไว้เมื่อตอนแรกด้วยเพราะภัทรเองยังเด็กนักสำหรับที่ต้องมารองรับอารมณ์ใคร่ หลังจากเมื่อคืนโอเมก้าเด็กหมดแรงหลับไปตอนสี่ทุ่มเขาก็ให้ศลัยขึ้นมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับภัทรป้อนยาแก้ไข้ดักไว้ เช้าก็เรียกให้เด็กน้อยตื่นมากินข้าว แม้อาการฮีทจะลดน้อยลงแต่ภัทรก็ยังคงคลอเคลียใกล้เขาไม่ห่าง ไม่ว่าจะเรียกให้ทำอะไรให้ก็ไม่มีดื้อดึงอิดออด กลายเป็นลูกแมวที่แสนเชื่องไปได้เสียสนิท

 

อดจะยอมรับไม่ได้ว่าภัทรโหมดนี้ถูกอกถูกใจเขาไม่น้อย

 

ตั้งแต่เกิดอาการฮีทกว้านหลินก็ไม่ปล่อยให้ภัทรออกจากห้องเลย แม้ว่าในบ้านจะมีเพียงเบต้าแต่เขาก็ไม่ไว้วางใจดังนั้นภัทรจึงทำเพียงกินๆนอนๆอยู่บนเตียงนอนหลังใหญ่อย่างเช่นบ่ายนี้หลังจากอี้เฉินหอบงานมาให้ถึงห้องนอนเจ้าโอเมก้าตัวน้อยก็นอนกลางวันภายใต้เสื้อเชิ๊ตสีฟ้าอ่อนของเขากับกางเกงขาสั้นของเจ้าตัวดูน่ารักน่าเอ็นดู กว้านหลินปล่อยให้ภัทรได้พักผ่อนอย่างเต็มที่โดยที่ตัวเองหอบเอางานมาทำอีกห้องหนึ่งเพราะมีหลายเรื่องต้องปรึกษากับอี้เฉิน

 

          “เรื่องที่ให้จัดการเป็นยังไงบ้าง?”

 

            “เรียบร้อยดีครับ “

 

            “อีก 3 วัน พี่ใหญ่กับพี่รองจะมา เตรียมรถไปรับด้วย แล้วก็เอาบัญชีเตรียมไว้พี่ใหญ่กับพี่รองตรวจสอบอีกที”

 

            “ไม่ทราบว่าคุณชายทั้งสองจะมาลำพังหรือพาภรรยามาด้วยครับ”

 

            “คงมากันหมด เตรียมพาเด็กๆไปเที่ยวด้วยล่ะ หาวหาวกับเหมียวเหมียวกำลังซนพาไปสวนสนุกน่าจะชอบ”

 

            “พรุ่งนี้ตอนบ่ายมีประชุมงบประมาณไตรมาสที่สามนะครับ”

 

            “เลื่อนไม่ได้สินะ”อัลฟ่าหนุ่มเปรยออกมาเบาๆ

 

            “อยู่ที่บ้านยังไงก็ปลอดภัยครับ”และเหมือนอี้เฉินเองก็รู้ถึงความกังวลใจของผู้เป็นเจ้านายดีเช่นกัน เขารู้ดีว่าภายใต้ใบหน้าเฉยชาราวกับไม่แยแสอะไรนั้นจริงๆแล้วซ่อนความห่วงใยไว้มากแค่ไหน หลังพ่อตายกว้านหลินก็เจ้าอารมณ์ขึ้นจากที่ปกติดูเหมือนคนใจเย็นก็กลายเป็นคนใจร้อน วันที่ภัทรเข้าโรงพยาบาลนั่นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเจ้านายของเขารักเด็กคนนั้นมากเพียงใด ยังไม่รวมความใส่ใจสั่งให้เขาไปซื้อเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ให้ภัทร  เมื่อ 2-3 วันก่อนก็ให้เขาไปจัดการซื้อต้นไม้ตามที่ภัทรสั่ง วันนี้ก็เพิ่งจะสั่งให้เขาไปหาพวกหนังสือเรียนหนังสือนิยายรวมทั้งการ์ตูนมาใส่ไว้ในห้องทำงานอีก 1 ชั้นใหญ่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซื้อมาให้ใคร อย่างคุณกว้านหลินน่ะไม่มีทางอ่านอะไรพวกนั้นหรอก

 

            “คุณกว้านหลิน”ประตูห้องทำงานเปิดออกพร้อมกับภัทรที่เดินงัวเงียมาหา กว้านหลินหยุดความสนใจกับงานตรงหน้าทันที เด็กน้อยของเขาขยี้ตาเพราะเพิ่งตื่น ภัทรไม่ได้สังเกตร่างกายตนเองเลยด้วยซ้ำว่าตามไหล่ตามต้นขามีรอยแดงจ้ำจากฝีมือของเขามากมายขนาดไหน

 

            “ออกมาจากห้องทำไม ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าให้อยู่แต่ในห้อง หืม เด็กดื้อ”กว้านหลินเอ่ยดุคนเด็กกว่าหากแต่ภัทรกลับเบนความสนใจไปหาอี้เฉินทันทีที่เห็น

 

            “พี่อี้เฉิน สวัสดีครับ”โอเมก้าเด็กโค้งให้กับเบต้าหนุ่มผู้เป็นเลขาคนสนิทของกว้านหลิน อี้เฉินยิ้มรับคำทักทายจนตาหยี รอยยิ้มที่ภัทรเคยบอกว่าสดใสกว่าพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน

 

            “ไงดีขึ้นหรือยังเราน่ะ”เพราะช่วงที่กว้านหลินรัททำให้อี้เฉินต้องเป็นคนมาจัดการเรื่องทุกอย่างแทนทุกวันทำให้ได้เจอภัทรและพูดคุยบ่อยๆบางครั้งก็ซื้อขนมมาฝากทำให้สนิทกันอย่างรวดเร็วเบต้าหนุ่มเอ่ยถามด้วยภาษาที่ไม่ทางการนักหากแต่บุคคลมีอำนาจสูงสุดในบ้านกำลังจับตามองอย่าไม่ชอบใจ กว้านหลินเริ่มปล่อยฟีโรโมนของตัวเองอย่างช้าๆ ภัทรหันกลับมาให้ความสนใจคนที่ตั้งใจมาหาทันที

 

            “คุณกว้านหลินทำอะไรอยู่ครับ”เด็กน้อยทิ้งสะโพกนั่งลงบนต้นขาแข็งแกร่งของอัลฟ่าหนุ่มคล้องแขนกับต้นคอของกว้านหลินเอียงคอถามด้วยหน้าตาน่ารัก อี้เฉินหลุดยิ้มให้กับท่าทางน่าเอ็นดูนั้น เขารู้แล้วว่าทำไมเจ้านายถึงยอมทิ้งงานทิ้งการมาคอยเฝ้า

 

            “ไม่มีอะไรแล้วผมกลับก่อนดีกว่านะครับคุณชาย”กว้านหลินไม่ได้ตอบอะไรมือหนาลูบสะโพกภัทรเบาๆ อี้เฉินรีบเก็บแฟ้มเอกสารแล้วเดินออกไปจากห้อง

 

            “ว่าไง ออกมาจากห้องทำไม?”กว้านหลินหันไปสนใจกับภัทรอีกครั้ง โอเมก้าเด็กซบลงไปกับไหล่ของอัลฟ่าหนุ่มส่งปลายลิ้นไปชิมต้นคออย่างเว้าวอน

 

            “ไม่ พอก่อน เดี๋ยวร่างกายเธอจะแย่”

 

            “แต่อยู่ในห้องผมเบื่อ”ณภัทรเริ่มงอแงฝังปลายจมูกถูไถกับต้นคอจุดปล่อยกลิ่นของกว้านหลินไปมา

 

            “ดูหนังกันมั้ย ฉันให้อี้เฉินเอาแผ่นหนังใหม่ๆมาให้”

 

            “ผมเกลียดตัวเองตอนนี้จัง ทำไมผมควบคุมความต้องการของตัวเองไม่ได้เลย”น้ำเสียงหงุงหงิงดังอยู่ใกล้ๆหู กว้านหลินหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆดันร่างที่แทบจะเลื้อยไปมาให้นั่งตรงๆ

 

            “เธอจะบอกว่าใจเธอไม่ได้อยากมาอยู่ใกล้ฉันแต่ร่างกายมันไม่ยอมฟังใช่มั้ย เสียใจจัง ฉันอุตส่าห์จะให้รางวัลที่ทำตัวน่ารักซักหน่อยแบบนี้ไม่ให้แล้วดีมั้ย?”

 

            “รางวัล? รางวัลอะไรครับ?”

 

            “ถ้าเธอหายฮีท ฉันจะให้เธอโทรคุยกับแม่และน้องๆของเธอ ดีมั้ย?”

 

 

 

 

            ในที่สุดช่วงเวลาฮีทของภัทรก็สิ้นสุดลง เด็กน้อยลืมตาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของอัลฟ่าหนุ่มที่จัดการส่งท้ายไปสองรอบก่อนหลับไปด้วยกัน ภัทรขยับตัวแผ่วเบาเพื่อไปอาบน้ำหากแต่พอลูกแมวน้อยที่ทำตัวเชื่องมาหลายวันหยิบแขนแกร่งออกจากเอว กว้านหลินก็รั้งร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้งใบหน้าคมซุกไซร้ที่ต้นคอของเด็กน้อยอย่างเอาแต่ใจ

 

            “ค....คุณกว้านหลิน ปล่อยผม นี่มันเช้าแล้วนะครับ”ภัทรพยายามดันตัวออกหากแต่กว้านหลินนอกจากไม่ยอมปล่อยยังเอาขามาก่ายจนคนเด็กกว่าแทบจะขยับไม่ได้

 

            “ขออีก 5 นาที”น้ำเสียงแหบพร่างัวเงีย ในขณะที่ภัทรยังคงพยายามดึงตัวออกอย่างไม่ลดละ

 

            “ถ้าขืนเธอยังไม่หยุดกระดุกกระดิกเธออาจจะได้เจ็บตัวตอนเช้าอีกรอบก็ได้นะ”กว้านหลินเอ่ยขู่คนเด็กที่พอหายฮีทก็เริ่มดื้อใส่เขา ร่างกายที่ไร้อาภรณ์ปกปิดแนบสนิทกันจนอากาศแทบจะแทรกผ่านไม่ได้ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย ภัทรหยุดขยับตัวทันที ใบหน้าแดงก่ำลามไปจนถึงใบหู ถึงจะควบคุมสติและความต้องการของตนเองไม่ได้แต่ภัทรก็จำได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะสามวันหลังตนเองทำอะไรลงไปบ้าง

 

ทั้งเรียกร้อง ออดอ้อน และยั่วยวนอัลฟ่าตรงหน้านี้ขนาดไหน

 

น่าอายชะมัดเลย...

 

            “คิดเรื่องลามกอยู่สินะ แดงไปทั้งตัวแล้ว”กว้านหลินที่ไม่ได้หลับตามที่ขอกลับลอบสังเกตท่าทางน่ารักๆของภัทรตลอดเวลา จริงๆเขาตื่นนานแล้ว ตื่นขึ้นมามองร่างบางในอ้อมกอด กว้านหลินชอบเวลาที่ภัทรหลับ ปากที่คอยเถียงเขาตลอดเวลานั้นดูเหมือนลูกแมวเอ็กโซติกทั้งแดงทั้งรั้นอย่างหาใครเหมือน

 

            “ภัทรเงยหน้าขึ้นมามองเขาอย่างตกใจ ดวงตากลมโตรับกับแพขนตาหนานั้นใสราวลูกแก้ว จมูกโด่งได้รูปนั้นที่เฝ้าคลอเคลียเขาไม่ห่างตลอดห้าวันนั้นน่ากัด กว้านหลินอดใจไม่ไหวกดจูบลงบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นราวกับเยลลี่นั้น ดึงตัวเด็กน้อยให้ขึ้นมานอนคร่อมบนตัวมอบจูบแสนหวานทว่าแฝงความเร่าร้อนให้กับโอเมก้าเด็กที่เริ่มจะจูบตอบเก่งขึ้นจากบทเรียนที่ผ่านมา ร่างกายที่ไร้เสื้อผ้าเสียดสีกันจนรู้สึกอุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กว้านหลินพลิกกายให้ภัทรลงไปนอนบนเตียงส่วนตัวเองแทรกกายเข้ากลางหว่างขาของภัทรตักตวงรสจูบแสนหวานอย่างไม่ผลีผลาม ลูบไล้เรือนกายลื่นมืออย่างมิรู้เบื่อ ริมฝีปากหยักค่อยๆละเลียดชิมความหวานราวกับกำลังตักเค้กเนื้อนุ่มเข้าปาก ความนุ่มหยุ่นเหมือนท็อปปิ้งที่ประดับหน้าเค้ก ปลายลิ้นร้อนเหมือนตัวชิฟฟ่อนที่เคลือบแยมรสหวานซ่อนเปรี้ยวไว้อีกชั้น บดจูบและดูดกลืนราวกับคนที่กำลังกระหายอยากและละโมบอยากกลืนกินชิ้นเค้กตรงหน้าทั้งก้อน

 

            “พอ...พอก่อน ผมไม่ไหวแล้ว”ภัทรรีบผละริมฝีปากออกเมื่อรู้สึกถึงอะไรๆที่ดุนดันหน้าขาของตัวเองอยู่หากไม่รีบหยุดกว้านหลินในตอนนี้ก็ดูท่าคนที่จะลำบากก็คือตัวเอง กว้านหลินหลับตานิ่งก่อนจะถอนลมหายใจออกมาหนักหน่วงสะกดกลั้นอารมณ์ที่ค่อยๆประทุเหมือนไม้ที่กำลังเกิดควันแล้วเจ้าลูกแมวดันเอาน้ำมาราดเสียดื้อๆ

 

            “ให้ผมไปอาบน้ำเถอะนะครับ ผมเหนียวตัวจะแย่แล้ว”เด็กน้อยเริ่มจับทางได้ว่าถ้าพูดกับกว้านหลินดีๆ ใส่ลูกอ้อนเข้าไปหน่อยกว้านหลินจะยอมลงให้กับตนได้อย่างง่ายๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นโอเมก้าเด็กที่เริ่มเรียนรู้ข้อดีของการมีจริตก็ช้อนตาขึ้นสบทำสีหน้าอ้อนพลางกระพริบตาปริบๆใส่อัลฟ่าหนุ่ม

 

และนั่นได้ผลเมื่อไล่กว้านหลินยอมขยับกายไปนั่งชันขาขึ้นมาข้างหนึ่งข้างๆแต่โดยดี ร่างสูงเสยเรือนผมสีบลอนด์ของตัวเองอย่างดับความหงุดหงิดผ้าห่มผืนหนาปิดเรือนกายช่วงกลางอย่างหมิ่นเหม่แต่ภาพที่เห็นกลับทำให้คนเด็กกว่าที่ลุกขึ้นนั่งก้มหน้างุด

 

            “เธอนี่นะ...ตัวดี”เอ่ยว่าพลางกดจูบลงบนหน้าผากมนอย่างคาดโทษ ภัทรค่อยๆขยับตัวเพื่อหาเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกกว้านหลินจับถอดและเขวี้ยงไปทางไหนก็ไม่รู้ เด็กน้อยกัดปากมีท่าทางลังเลเมื่อซากเสื้อผ้ากองอยู่เกือบหน้าห้องน้ำ

 

            “ไปมันทั้งอย่างนั้นแหละ มีอะไรน่าอาย”

 

            “คุณไม่อายแต่ผมอายนี่”คนเด็กหันไปเอ็ดอัลฟ่าหนุ่มอย่างลืมตัว

 

            “น่า ทำให้ชิน”กว้านหลินนอกจากไม่โกรธแบบทุกทียังล้มตัวลงนอนตะแคงท้าวแขนรองหัวตัวเองพลางเอ่ยบอกอย่างหยอกล้อ เรียกสีเลือดฝาดมาประดับสองข้างแก้มของคนเด็กได้อย่างไม่ยาก

 

            “ฉันชอบรอยบนตัวเธอ เซ็กซี่เป็นบ้า ถ้าไม่รีบลุกไปฉันว่าจะทำเพิ่มอีกซักสิบยี่สิบรอย ดีมั้ย?”โดยไม่ต้องพูดซ้ำภัทรรีบลุกจากเตียงเดินตัวเปลือยเปล่าก้าวลิ่วๆเข้าไปในห้องน้ำทันที กว้านหลินขำจนตาหยีกับภาพไร้เดียงสานั้น ใช้เวลาราวยี่สิบนาทีภัทรก็ออกมาตัวหอมฟุ้งอัลฟ่าหนุ่มหลับไปอีกรอบแล้ว ใบหน้าที่มักเรียบตึงเสมอบัดนี้ดูผ่อนคลาย

 

ยามหลับดูไม่มีพิษมีภัยไม่เหมือนเวลาตื่นที่ดูผีเข้าผีออกเลยซักนิด โอเมก้าเด็กเข้าไปแต่งตัวในห้องที่ถูกจัดเป็นสัดส่วน ตู้หลังใหญ่สีดำที่ยาวติดกำแพงกินพื้นที่ฝั่งหนึ่งทั้งหมดเป็นของกว้านหลิน ตรงกลางเป็นตู้กระจกที่ใส่เครื่องประดับของอัลฟ่าหนุ่ม มีทั้งนาฬิกา สร้อยข้อมือ สร้อยคอ แหวน รวมทั้งเข็มกลัดชนิดต่างๆอัญมณีหลากชนิดอวดตัวล้อกับแสงไฟ ภัทรมองผ่านอย่างไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยซักนิด ส่วนของภัทรเป็นตู้ไม้สีขาวอีกฝั่งด้านในถูกจัดวางแขวนเสื้อผ้าอย่างเป็นระเบียบ เด็กน้อยเลือกเสื้อยืดสีเบจและกางเกงยีนส์สีซีดมาใส่ ถ้าจำไม่ผิดวันนี้กว้านหลินจะยังคงอยู่บ้านอีก 1 วัน เด็กหนุ่มจึงหยิบชุดลำลองรวมทั้งชั้นในมาเตรียมไว้ให้อัลฟ่าหนุ่มนำไปวางไว้ให้บนเตียงอย่างเรียบร้อย จากนั้นร่างบางจึงลงไปด้านล่างบรรดาแม่บ้านต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขัน

 

            “อ้าวคุณภัทร หายแล้วเหรอคะ?”ศลัยที่สังเกตเห็นเด็กน้อยก่อนใครเพื่อนเอ่ยทัก แม้จะกระดากอายอยู่บ้างหากแต่ภัทรก็ยิ้มรับพลางโค้งให้กับแม่บ้านที่อาวุโสกว่าตนทุกคน

 

            “หายแล้วครับ มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ?”

 

            “พวกข้าวต้มกับน้ำผลไม้เตรียมเสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวซักพักคุณภัทรก็ปิ้งขนมปัง ทอดไข่ดาว เบค่อน ไส้กรอกง่ายๆให้คุณชายก็แล้วกันค่ะ แล้วก็กาแฟดำ”

 

            “โอเคครับ”ภัทรรับคำอย่างว่าง่าย เด็กน้อยช่วยหยิบจับงานในครัวโดยไม่ต้องร้องขอ พอเจ็ดโมงกว่าๆภัทรก็เริ่มลงมือทำอาหารเช้าให้กับกว้านหลิน เด็กน้อยง่วนกับการทอดไข่ดาวโดยไม่ได้รู้สึกตัวเลยซักนิดว่าคุณชายสามที่ควรจะยังนอนอยู่ในห้องมากอดอกพิงประตูมองคนเด็กหยิบจับนู่นนี่นั่นในครัวอย่างคล่องแคล่วอยู่ซักพักแล้ว กว้านหลินค่อยๆย่องเข้าไปหาก่อนจะสอดแขนไปสวมกอดเด็กน้อยของเขาจากด้านหลัง ใช้ไหล่ของภัทรเป็นที่พักคางก่อนกดจูบลงบนแก้มใสอย่างรวดเร็ว

           

            “คุณกว้านหลิน!! ผมตกใจหมด แล้วนี่มากอดทำไมเดี๋ยวใครเห็นปล่อยผมเลยนะครับ”

 

            “เห็นก็ช่างปะไร ฉันจะกอดจะหอมเมียฉันมันไปหนักหัวใคร? ลองมามีปัญหาสิจะไล่ออกให้หมด”อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยบอกอย่างไม่ใส่ใจนักหากแต่คนฟังกลับใจเต้นโครมครามกับคำพูดที่คนพูดอาจจะพูดไปแบบส่งๆ เด็กน้อยบอกกับตัวเองว่าอย่าไปหลงดีใจกับคำพูดหวานๆของคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายนักหากแต่ปากกลับกลั้นยิ้มไม่ได้เลยซักนิด

 

            “คุณกว้านหลินไปนั่งรอที่โต๊ะนะครับเดี๋ยวเสร็จแล้วผมเอาไปเสิร์ฟ”กว้านหลินยอมผละไปอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มไปนั่งอ่านข่าวจากแลปท็อปรอตามที่บอกปล่อยให้คนเด็กกว่าได้ทำอาหารจนเสร็จ จานอาหารเช้าน่าทานถูกวางลงตรงหน้าอัลฟ่าหนุ่ม กาแฟดำชงมาเสิร์ฟหอมกรุ่น ภัทรรับแก้วน้ำเย็นและน้ำผลไม้จากศลัยมาวางไว้ตรงตามตำแหน่งที่ศลัยสอนทุกอย่างจากนั้นจึงถอยไปยืนด้านข้างเพื่อรอรับคำสั่งจากกว้านหลิน

 

            “มานั่งสิจะไปยืนทำไม? ศลัยไปตักข้าวต้มมาให้คุณภัทร”ชายหนุ่มหันไปสั่งสาวใช้ที่กลายเป็นพี่เลี้ยงประจำตัวของโอเมก้าในปกครอง หญิงสาวโค้งรับคำสั่งก่อนเดินจากไป ภัทรยังคงยืนนิ่งที่เดิมไม่ได้มานั่งตามที่สั่งจนกว้านหลินต้องดึงข้อมือให้มานั่งบนตัก

 

            “คุณกว้านหลินปล่อย...”

 

            “เลือกเอาจะมานั่งกินข้าวบนเก้าอี้หรือจะนั่งบนตักฉัน ทำตัวดีๆวันนี้จะให้คุยกับแม่”

 

 

 

 

 

            หลังจากมื้อเช้าผ่านไปอย่างสงบสุขไม่มีการเถียงหรือทะเลาะกันภัทรก็ทำตัวติดกับกว้านหลินราวกับเงา ยามชายหนุ่มเจ้าของบ้านเข้าไปดูต้นไม้ในเรือนกระจกภัทรก็ตามไปด้วย แม้ว่าตนเองจะเข้ามาดูแลต้นไม้ทุกวันแต่วันนี้ไม่ว่าต้นไหนที่กว้านหลินแกล้งจับดูภัทรก็เห็นว่าสวยไปหมด

 

            เด็กน้อยรอเวลาที่กว้านหลินจะโทรหาแม่ให้แต่ผ่านไปจนถึงค่ำก็ยังไม่มีวี่แววว่ากว้านหลินจะทำตามสัญญา ภัทรวางจานอาหารมื้อเย็นให้กว้านหลินโดยไม่พูดจาอะไรไปยืนข้างๆไม่ยอมมาร่วมโต๊ะทั้งๆที่กว้านหลินบอกไปสองรอบแล้ว ชายหนุ่มหันไม่มองเด็กน้อยที่ทำหน้าบึ้งตึงอย่างเด็กเอาแต่ใจที่ไม่ได้ของเล่นที่ต้องการแล้วให้นึกหงุดหงิด

 

เป็นลูกแมวเชื่องๆก็น่ารักอยู่แล้วเชียวทำไมกลายเป็นแมวป่าเร็วจัง

 

            “จะมานั่งกินข้าวดีๆหรือจะให้จับยัด?”

 

            “ผมไม่หิว”

 

            “ไม่หิวก็ต้องกินนี่มันเย็นแล้ว”กว้านหลินมองเด็กที่ยืนเชิดหน้า ดวงตากลมมีน้ำตาคลอแต่ก็ถูกกระพริบให้มันหายไป

 

            “อย่าให้ฉันต้องโมโหจนตีเธอนะภัทร มากินข้าว”

 

            “ผมกินไม่ลง”ภัทรตอบเสียงตึงจนกว้านหลินตบโต๊ะดังปังใหญ่ ศลัยที่ยืนอยู่ใกล้ๆสะดุ้งโหยง

 

            “บอกให้มานั่งกินข้าวไง ทำตัวดีมาทั้งวันแล้วแท้ๆทำไมกลับมาดื้อล่ะ”กว้านหลินตวาดใส่คนเด็กอย่างโมโห

 

ดื้อ...ณภัทรจะทำตัวน่ารักกับเขาไปตลอดรอดฝั่งเลยไม่ได้หรือไง

 

ทั้งดื้อ ทั้งหยิ่ง เถียงก็เก่ง ทั้งที่ตอนเด็กๆไม่ว่าจะพูดจะบอกอะไรก็เชื่อฟังมาโดยตลอดแท้ๆ

 

            “ก็คุณโกหกผมคุณบอกว่าถ้าผมไม่ดื้อคุณจะให้คุยกับแม่ แต่คุณก็ไม่ทำตามสัญญา”คนเด็กกว่าเมื่อโดนตวาดอารมณ์ที่คุกรุ่นมาตั้งแต่บ่ายก็ระเบิด เด็กน้อยตะโกนใส่หน้าของกว้านหลินใช้เท้าถีบเก้าอี้ที่ชายหนุ่มเลื่อนให้อย่างโมโหแล้วเดินปึงๆขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจว่ากว้านหลินจะโมโหตนมากแค่ไหน

 

ตอนนี้เขาโกรธ โกรธมากยิ่งกว่าที่กว้านหลินโกรธเสียอีก

 

รู้ทั้งรู้ว่าเขาอยากคุยกับแม่มากแค่ไหนแต่ก็แกล้งเอาข้อนี้มาเอาเปรียบเขา

 

คนนิสัยไม่ดี!!!

 

แม้จะอยากหนีกว้านหลินมากมายขนาดไหนแต่ก็ไปไหนไม่พ้นเพราะเด็กน้อยถูกกำหนดให้นอนกับกว้านหลินในห้อง ร่างบางหยิบฟูกนอนออกจากตู้แล้วปูลงพื้นอย่างหงุดหงิดเด็กน้อยล้มตัวลงนอนโดยไม่ลืมที่จะตลบผ้าห่มมาคลุมโปง ปล่อยน้ำตาของความผิดหวังให้ไหลลงมาอย่างไม่เก็บหากแต่ว่าไม่นานร่างก็ถูกสวมกอดผ่านผ้าห่มด้านนอก

 

            “ร้องไห้ทำไม หืม บอกฉันซิ”เสียงทุ้มเอ่ยถาม น้ำเสียงไม่ได้โกรธเกรี้ยวแบบเมื่อครู่แล้วหากแต่กลับอ่อนโยนอย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือ หากแต่ภัทรในตอนนี้โกรธแสนโกรธเด็กน้อยพยายามสะบัดตัวออกให้หลุดจากอ้อมแขนแข็งแกร่งนั้น

 

            “อย่ามาแตะตัวผม คนนิสัยไม่ดี”

 

            “ฉันนิสัยไม่ดีตรงไหน ไหนบอกซิ”

 

            “คุณหลอกผม”น้ำเสียงอู้อี้ดังลอดออกมาจากผ้าห่ม กว้านหลินหัวเราะขำเบาๆ

 

            “ฉันไปหลอกเธอตรงไหน ฉันบอกวันนี้จะให้คุยกับแม่ แล้วนี่มันเลยเที่ยงคืนหรือยัง?”เด็กน้อยที่นอนม้วนอยู่ในผ้าห่มหยุดต่อต้านเขาทันที ร่างบางที่นิ่งลงทำให้กว้านหลินค่อยๆพูดอย่างใจเย็น

 

            “ฉันรู้ว่าเธออยากคุยกับแม่เร็วๆ แต่การจะคุยกันได้ก็ต้องรอให้อี้เฉินเลิกงานก่อนแล้วถึงจะไปหาแม่กับน้องของเธอ ถ้าเมื่อกี๊เธอยอมนั่งกินข้าวดีๆเธอก็จะได้คุยกับแม่ของเธอที่โต๊ะอาหารเพราะอี้เฉินไปถึงแม่เธอแล้ว”ภัทรเมื่อได้ยินดังนั้นก็ตะเกียกตะกายจะออกมานอกผ้าห่มแต่กว้านหลินตอนนี้นึกสนุกอยากจะแกล้งเจ้าแมวดื้อชายหนุ่มจึงกักตะเข็บผ้าไว้ทำให้เจ้าเด็กดิ้นขลุกขลักร้องท้วงให้ปล่อย เมื่อหนำใจจึงยอมคลายการกักตัวคนเด็กออก ภัทรหัวหัวฟูกระเจิงหันมามองตาใส

 

            “จริง...จริงเหรอ?”

 

            “จริงสิ คราวนี้จะลงไปกินข้าวดีๆได้หรือยัง กินอิ่มแล้วจะให้คุยกับแม่ ฉันไม่อยากนั่งกินข้าวคนเดียวไม่อร่อย”กว้านหลินจับเด็กดื้อให้ลุกขึ้นยืนภัทรในตอนนี้กลับมาว่าง่ายอีกครั้ง ร่างบางเดินตามคุณชายของบ้านลงมาที่โต๊ะอาหาร ศลัยยังคงยืนรออยู่หญิงสาวอมยิ้มให้กับท่าทางเหมือนลูกแมวดื้อที่กำลังถูกเจ้าของฝึกให้เชื่อง

 

            “ตักข้าวให้คุณภัทร”ชายหนุ่มหันไปสั่งสาวใช้เสียงเรียบ อาหารมื้อเย็นที่โอเมก้าเด็กกินอย่างเร่งรีบจนติดคอไปหลายรอบทำให้กว้านหลินดุไปหลายหนจบลงในเวลาเกือบสองทุ่ม เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วกว้านหลินก็เดินนำภัทรไปห้องทำงาน

 

            “ก่อนให้คุยกับแม่เรามาคิดบัญชีกันดีกว่า”สีหน้าของเด็กน้อยเจื่อนลงทันที

 

ไม่ชอบความรู้สึกนี้เลยซักนิด ความรู้สึกที่โดนลดศักดิ์ศรีเหมือนกำลังขายตัวแลกเงินนี้

 

            “5 วันนี้ เรามีเซ็กส์กันไป 8 ครั้ง ครั้งละ 1 ล้าน ก็เป็น 8 ล้าน แต่จริงๆฉันควรได้รับส่วนลดนะเพราะครั้งนี้เธอเป็นคนร้องขอเอง”ภัทรอยากจะอ้าปากด่าคนที่หายใจเข้าหายใจออกเป็นเงินนัก แต่เพราะมีจุดมุ่งหมายหลังจากนี้จึงจำเป็นต้องหุบปากตัวเองลง กว้านหลินเซ็นชื่อกำกับด้านท้ายของบัญชีแล้วเลื่อนให้ภัทรดู เด็กน้อยกวาดตาดูรายละเอียดแล้วเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ

 

            “ทำไมเป็นสิบล้านล่ะครับ?”

 

            “เธอทำตัวดีฉันให้รางวัล”

 

            “แล้วค่าต้นไม้?”

 

            “เธอคิดว่าฉันจะเก็บเงินจากเธอจริงๆเหรอ ฉันก็แค่ล้อเธอเล่น”

 

            “คุณนี่มันจริงๆเลย”คนเด็กกว่าซ่อนรอยยิ้มไม่อยู่วางสมุดบัญชีคืนคนตรงหน้า กว้านหลินหยิบโทรศัพท์มือถือมากดหาเลขาคนสนิท รอสายเพียงไม่นานก็ยื่นโทรศัพท์ให้ภัทร

 

            “วีดีโอคอล?”เด็กน้อยเอ่ยถามอย่างตื้นตันใจ เขาคิดว่าจะได้ยินเพียงเสียงของแม่หากแต่กว้านหลินกลับใจดีกว่าที่คิดไม่นานอี้เฉินก็กดรับ

 

            “โอ๊ะ ภัทร...ไม่นึกว่าจะได้เห็นเธอก่อนคุณชาย”อี้เฉินมีสีหน้าประหลาดใจเอ่ยทักเด็กน้อยในปกครองของกว้านหลินย่างเป็นกันเอง ชายหนุ่มโบกมือทักทายคนปลายสายจนภัทรยิ้มรับ

 

            “สวัสดีครับพี่อี้เฉิน แม่มายังครับ?”

 

            “อยู่ใกล้ๆฉันนี่แหละ คุยกันเองนะ”อี้เฉินยื่นโทรศัพท์ให้กับภาวิณี ทันทีที่ทั้งสองคนเห็นหน้ากันคนเป็นแม่ก็ร้องไห้ออกมาทันที

 

            “ภัทร ภัทรลูกจริงๆใช่มั้ย ลูกเป็นยังไงบ้าง แม่เป็นห่วงลูกเหลือเกิน”

 

ณภัทรส่งยิ้มสดใสให้คนเป็นแม่ เด็กน้อยกลั้นก้อนสะอื้นและพยายามห้ามน้ำตาไว้

 

ไม่อยากให้แม่เป็นห่วง...

 

            “ผมสบายดีครับแม่ ว่าแต่ทำไมแม่ผอมลงอย่างนี้ล่ะครับแม่กินข้าวบ้างหรือเปล่า แม่ต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ แล้วน้องๆเป็นยังไงบ้างครับ”

 

            “แม่คิดถึงลูกจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ กลัวเขาทำร้ายลูกสารพัด เห็นลูกสบายดีแม่ก็วางใจ เขาดีกับลูกมากมั้ยเขาทำอะไรลูกหรือเปล่า?”

 

            “คุณกว้านหลินไม่ได้ทำอะไรผมเลยครับแม่ คุณกว้านหลินเอาผมมาทำงานที่บ้านใช้หนี้ แต่ว่างานไม่หนักเลยผมแค่หยิบๆจับๆนู่นนี่นิดหน่อยเองแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมคิดถึงแม่มากๆ คิดถึงที่สุดเลย แม่ต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ รอวันที่ผมใช้หนี้หมดแล้วเรากลับไปอยู่ด้วยกันนะครับ”

 

            “แม่ขอโทษนะลูก ที่ทำให้ลูกต้องลำบาก แม่น่าจะห้ามพ่อไม่ให้ทำแบบนั้น แต่แม่ไม่รู้เลยว่าพ่อจะทำเรื่องใหญ่โตขนาดนั้น ฮึก...ขอโทษที่ทำให้ลูกต้องเดือดร้อนนะลูกนะ”

 

            “ไม่เป็นไรแม่อย่าโทษตัวเองเลยนะ ขอแค่แม่กับน้องๆสบายดีผมทนได้ แม่ต้องคิดถึงผมมากๆนะ ผมคิดถึงแม่ทุกวันเลย อยากกินแกงส้มชะอมไข่ฝีมือแม่มากๆเลย...”

 

            “แม่ก็อยากกอดลูกอยากเจอลูก ลูกไม่ต้องห่วงนะคุณอี้เฉินดีกับแม่และน้องๆมากๆรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี แม่ต้องวางแล้ว แม่รักลูกนะลูกรัก รักมากๆ”

 

            “ผมก็รัก...รักแม่นะครับ รักแม่มากๆ”ภาพสัญญาณถูกตัดไปโดยไม่บอกไม่กล่าวภัทรร้องเรียกแม่เสียงดังลั่นก่อนจะวางมือถือลงและซบหน้าร้องไห้กับพื้นโต๊ะ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังก้อง กว้านหลินมองร่างที่สั่นเทาของภัทรโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา มือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มแล้วลูบเบาๆปล่อยให้โอเมก้าเด็กร้องไห้ไปเงียบๆโดยไม่ลุกหนีไปไหน

 

ชีวิตมันก็แบบนี้แหละ

 

บางครั้งต่อให้เราอยากอยู่กับคนที่รักมากแค่ไหนแต่เราอาจจะไม่สามารถทำได้ตามที่ใจหวังด้วยภาระหน้าที่หรือเหตุผลต่างๆกัน

 

ณภัทรจำเป็นต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบนี้ด้วยตัวเอง

 

 

 

 

#ไฮเดรนเยีย

TBC.

 

 

 

.............................................

 

ใครบอกว่าคุณชายเธอเค็ม จริงๆเธอใจดีจะตายแค่อย่าดื้อ!!!

 

 

ก็บอกแล้ว คุณชายเธอแพ้ทางคนอ้อนๆ ถ้าไม่ดื้อเธอก็ใจดีอยู่ มาเคิงมาเค็มอาร๊ายยยยย

 

เอาไปเล็กๆน้อยๆพอกรุบกริบก่อนนะจ๊ะ อุ๊อิ๊

 

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 8 "รางวัลของเด็กดี" 23/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 02-04-2019 08:26:19
คุณชายมีความหลงน้องหนัก :hao7: มีการเรียกน้องว่าเมียด้วย :-[ ชอบมาก สนุกมากๆ :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 8 "รางวัลของเด็กดี" 23/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 03-04-2019 14:09:48
คุณชายสามทั้งรักทั้งหลงแบบนี้ ก็เลิกร้ายเนาะ น้อจะได้กลับมารักแบบสนิทใจ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 8 "รางวัลของเด็กดี" 23/03/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 18-05-2019 08:07:14



Hydrangea 9

       วันนี้ภัทรวิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าเริ่มจากปลุกกว้านหลินที่แสนจะอิดออดทั้งๆที่ปกติเป็นคนเรียกก็ลุกปลุกก็ตื่นง่ายอยู่ๆแท้ๆแต่วันนี้อัลฟ่าหนุ่มเอาแต่บิดไปบิดมาแถมดึงเขาลงไปนอนฟัดอีกครึ่งค่อนชั่วโมงถึงจะยอมลุกไปอาบน้ำ ภัทรใช้เวลาในการเลือกเสื้อผ้าให้กว้านหลินซักพักไม่นานอัลฟ่าหนุ่มก็ออกมาจากห้องน้ำกลิ่นฝนผสมกลิ่นสบู่เหลวหอมฟุ้งไปทั่วห้อง เด็กน้อยเข้าไปช่วยเช็ดและเป่าผมสีบลอนด์ให้แห้งคอยดูแลจนถึงกระทั่งติดกระดุมเสื้อและผูกเน็กไทด์ให้จนเสร็จ กว้านหลินนั่งลงบนเก้าอี้มองโอเมก้าเด็กที่ทำตัวน่ารักนับตั้งแต่ฮีทจนกระทั่งได้รับรางวัลที่ทำให้ยิ้มไปหลายวันกำลังสวมถุงเท้าสีดำให้กับเขาด้วยสายตาที่บ่งบอกความรู้สึกหลากหลาย
 
ใจหนึ่งก็อยากเกลียด เกลียดให้สมกับที่เป็นลูกของภุชงค์
 
แต่ใจหนึ่งก็ตบตีกับตัวเองว่าภัทรไม่น่าจะรู้เห็นเป็นใจกับคนเป็นพ่อ
 
แต่จะให้เขาถอยกลับไปก็ไม่ได้แล้ว เส้นทางของเขาถ้าใจอ่อนหรือละเว้นใครซักคนไปความน่าเชื่อถือรวมทั้งบารมีก็จะลดลง
 
เส้นทางเดินของอัลฟ่าหนุ่มไม่ได้ราบเรียบเหมือนมีคนปูพรมให้เดินแบบพี่ๆทั้งสอง แม้ว่าเขาจะอายุ 25 ปีแล้วก็ตามที แต่ในแวดวงเดียวกันกว้านหลินยังเหมือนไก่อ่อนในสายตาแร้งเฒ่าที่จ้องจะดึงเขาลงสู่ที่ต่ำ ข่าวการสังหารภุชงค์ด้วยมือตัวเองแพร่สะบัดไปในแวดวงเดียวกันรวมทั้งการจัดการกับผู้ถือหุ้นที่ทรยศอย่างหมดจรดภายในเวลาไม่กี่วันหลังจากนั้นสร้างบารมีให้อัลฟ่าหนุ่มได้ไม่น้อย
 
แม้จะไร้ร่มเงาของพ่อแต่กว้านหลินเองกำลังเติบโตแผ่ขยายกิ่งก้านอย่างก้าวกระโดด อัลฟ่าหนุ่มเด็ดขาดและตัดสินใจเร็วโดยมีพี่ๆอีกสองคนให้คำปรึกษา
 
            “เสร็จแล้วครับ คุณกว้านหลินจะทานอะไรรองท้องก่อนมั้ยครับ?”ภัทรดึงขากางเกงของกว้านหลินลงเป็นอันดับสุดท้าย
 
            “ขอกาแฟให้ฉันก็พอ เดี๋ยวพี่มาก็ต้องกินพร้อมกันอยู่ดีมานี่สิ”ชายหนุ่มดึงโอเมก้าเด็กให้มานั่งบนตักแล้วกดจูบลงไปบนกลีบปากนุ่มแรงๆราวกับมันเขี้ยวแทรกปลายลิ้นไปตักตวงความหวานอย่างไม่รู้เบื่อ กระชับร่างนุ่มนุ่มให้แนบชิดมากยิ่งขึ้นเมื่อพอใจแล้วจึงยอมปล่อยคนเด็กที่พยายามประท้วงด้วยน้ำเสียงอื้ออึง
 
            “อยากกินเธอมากกว่า”
 
            “ชุดยับหมดแล้ว”ภัทรทำเป็นหูทวนลมกับประโยคนั้นเมินการลูบบั้นท้ายของตนเองแสร้งทำเป็นลูบตัวเสื้อที่ยับนิดเดียวราวกับตัวเองเป็นเตารีด
 
            “ลงไปข้างล่างเถอะครับผมจะชงกาแฟให้”โอเมก้าเด็กใช้ความเร็วตอนที่กว้านหลินเผลอดีดตัวออกจากตักอัลฟ่าหนุ่ม นานวันลูกเล่นยิ่งแพรวพราว เมื่อลงมาด้านล่างก็พบว่าอี้เฉินมารออยู่ก่อนแล้ว เบต้าหนุ่มทำความเคารพผู้เป็นนาย กว้านหลินเรียกให้เข้าไปคุยกันในห้องอาหาร
 
            “รถเตรียมพร้อมหรือยัง?”
 
            “เรียบร้อยแล้วครับ”
 
            “ดี ทางนี้ก็เตรียมห้องเรียบร้อยแล้ว จัดบอดี้การ์ดไว้คอยตามตอนพาเด็กๆไปสวนสนุกด้วยแต่อย่าให้ใส่ชุดดำทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป เดี๋ยวเด็กๆจะอึดอัดเสี่ยวหาวกับเหมียวเหมียวยังเล็กเห็นคนท่าทางดุๆเดี๋ยวจะกลัว”
 
            “ครับ”อี้เฉินรับคำสั่งของผู้เป็นนายก่อนจะหันไปยิ้มให้กับภัทรที่โค้งให้เขาอย่างมีมารยาท
 
            “กาแฟครับ”เด็กหนุ่มนำกาแฟมาเสิร์ฟให้กับกว้านหลินตามด้วยขนมปังสองแผ่น
 
            “พี่อี้เฉินจะรับกาแฟหรือโจ๊กดีครับ?”
 
            “ขอกาแฟดีกว่า น้ำตาล 1 ครีม 2”
 
            “ให้ศลัยไปจัดการเถอะ เธอก็มานั่งกินข้าวได้แล้ว”กว้านหลินร้องบอกยามคนเด็กจะเดินไปจัดการชงกาแฟให้อี้เฉิน สาวใช้พี่เลี้ยงประจำตัวภัทรเดินกลับเข้าไปในครัวโดยไม่ต้องให้สั่งซ้ำ โอเมก้าเด็กนั่งทานข้าวพร้อมกับฟังอี้เฉินรายงานการทำงานในบริษัทไปเงียบๆ อยู่ๆก็รู้สึกกว้านหลินจะหน้าตึงขึ้นเล็กน้อย
 
            “เดี๋ยวตอนเด็กๆมาเธออาจจะต้องเหนื่อยหน่อยนะสองแสบซนมากแล้วก็ชอบเล่นน้ำเธอต้องคอยระวังให้ดี ช่วยพี่ซ่งเชียนดูแลเท่านั้นแหละ เดี๋ยวฉันไปรับพี่ๆที่สนามบินก่อน”ชายหนุ่มหันไปบอกกับภัทรที่เดินตามมาส่งที่รถโดยมีอี้เฉินเดินปิดท้าย
 
            “ได้ครับ”โอเมก้าเด็กรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะถูกดึงเข้าไปจูบต่อหน้าต่อตาอี้เฉินและศลัย สาวใช้สาวก้มหน้ากลั้นยิ้มอย่างเต็มความสามารถส่วนอี้เฉินทำเป็นมองเมินไปทางอื่นแต่ใบหนูและหน้าแดงจัด
 
คุณชายกำลังแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของโอเมก้าตรงหน้านี้
 
ภัทรผละออกจากกว้านหลินเมื่ออัลฟ่าหนุ่มยอมปล่อย ริมฝีปากนุ่มนิ่มเม้มจนเป็นเส้นตรง แก้มนุ่มที่กว้านหลินชอบฟัดในตอนเช้าขึ้นสีจัด ใบหน้าร้อนราวกับจะไหม้
 
ในใจนึกกร่นด่าคนที่รังแกเขาไม่ดูสถานที่ไม่สนผู้คน
 
หน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าถนนเสียอีก กว้านหลินกดยิ้มก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ ตัวรถแล่นออกจากบ้านไปแล้วแต่เด็กน้อยยังไม่หายเขินอายเลยซักนิด ยิ่งหัวมาเจอศลัยที่ทำสีหน้าล้อๆยิ่งทำให้ประหม่าจนเดินขาแทบจะขวิดกัน
 
            “ถึงว่า คุณชายกินกาแฟไม่ใส่น้ำตาลก็เล่นของหวานทุกเช้าแบบนี้นี่เอง เนี่ยเบาหวานจะขึ้นตาพี่มั้ยน้า”เบต้าสาวเอ่ยเย้าอย่างเอ็นดูคนเด็กกว่าจนภัทรต้องหันมาร้องท้วง
 
            “โธ่ พี่ อย่าแซวผมสิครับ ใครจะไปรู้ว่าคุณชายแกจะทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นกันเล่า ผมอายแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว ไม่คุยกับพี่แล้วผมไปดูความเรียบร้อยบนห้องเด็กๆดีกว่า อยากเห็นแล้วสิว่าจะน่ารักขนาดไหน”ภัทรเดินหนีสถานการณ์ที่ทำให้ตนเองตัวแทบจะระเบิดได้อย่างชาญฉลาดเด็กน้อยวิ่งปรู้ดขึ้นมายังชั้นบนห้องนอนด้านทิศตะวันตกถูกจัดเตรียมตั้งแต่เมื่อวาน ส่วนห้องนอนเด็กๆแยกต่างหากจากห้องของจอห์นนี่และวิคตอเรียผู้เป็นภรรยา มีเตียงนอนเดี่ยวสองเตียงสีฟ้าและสีชมพู ตุ๊กตาและของเล่นเด็กถูกสั่งซื้อมาไว้จนเต็มภัทรชอบห้องนี้มากเพราะกว้านหลินสั่งช่างให้ตกแต่งไว้เตรียมรับหลานได้อย่างลงตัวน่ารัก หาวหาววัยสามขวบและเหมียวเหมียวสี่ขวบเกิดแบบหัวปีท้ายปี น่าจะแสบซนและน่ารักน่าเอ็นพูดเก่งทั้งคู่แน่ๆ และความคิดของภัทรก็ไม่ผิดซักนิดเดียว ทันทีทีประตูรถเปิดออกร่างเล็กๆกลมๆเหมือนขนมถ้วยฟูก็วิ่งดุ๊กๆลงมาจากรถส่งเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวทันที
 
            “หาวหาว เหมียวเหมียวแม่บอกว่าอย่าวิ่งยังไงล่ะ”เสียงของสตรีร่างเล็กที่ก้าวลงจากรถตามลูกๆเข้ามาด้านในร้องดุลูกน้อยทั้งสอง ภัทรตะลึงให้กับความสวยนั้นกลิ่นหอมอ่อนหวานโชยออกมาจากตัว
 
วิคตอเรีย ซ่ง เป็นอัลฟ่าแน่ๆอย่างไม่มีข้อกังขา เด็กหนุ่มโค้งให้กับหญิงสาวที่ทำสีหน้าแปลกใจ
 
            “คนของเจ้าสามมัน”บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ ดูแล้วสูงกว่ากว้านหลินราวๆ 2-3 ซ.ม. แต่ลำตัวหนาในชุดสูทดูน่าเกรงขามก้าวมากอดไหล่ภรรยาสาวไว้ วิคตอเรียส่งยิ้มหวานให้ภัทรทันที โอเมก้าเด็กกล่าวทักทายเป็นภาษาไทยอย่างลืมตัวเรียกเสียงหัวเราะใสให้กับพี่สะใภ้รองของตระกูลไล่ได้อย่างไม่ยาก
 
            “เธอน่ารักจัง พูดอังกฤษได้ใช่มั้ยจ๊ะ”คำทักทายด้วยประโยคภาษาอังกฤษเรียกรอยยิ้มกว้างให้กับภัทรได้เป็นอย่างดี เด็กน้อยพยักหน้ารับ ในขณะที่รถยนต์อีกหลายคันก็เข้ามาจอดในตัวบ้าน ผู้ชายคนหนึ่งก้าวลงจากรถใบหน้าเรียบตึงคล้ายคุณชายสาม เรือนผมสีบลอนด์เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ส่วนคนที่ก้าวตามลงมาเดินเยื้องอยู่ด้านหลังสูงน้อยกว่าภัทรใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราแม้จะเป็นผู้ชาย คริสเดินเข้ามาสมทบกับน้องชายคนรองพร้อมภรรยาที่เพิ่งแต่งกันไปเมื่อเดือนก่อน ลีโอสวยจนภัทรตะลึง
 
ผู้ชายคนหนึ่งจะน่ารักได้ขนาดนี้เลยเหรอ ดอกไม้ที่ประดับในบ้านดูหมองไปถนัดตา
 
            “นี่คงเป็นณภัทรสินะ”คริสเอ่ยทักโอเมก้าเด็กที่ยืนทำสีหน้าหลุกหลิกอยู่หน้าบ้านกว้านหลินที่เพิ่งมาถึงเดินมาสมทบโอบไหล่เด็กน้อยที่ดูประหม่าไว้หลวมๆ
 
            “สวัสดีครับผมชื่อณภัทรครับ”
 
            “พวกฉันรู้จักเธอดีเลยล่ะภัทรลูกชายคนโตของภุชงค์”คุณชายใหญ่กล่าวทักทายเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงทุ้มหากแต่คนฟังกลับรู้สึกเย็นราวกับถูกน้ำแข็งราดลงบนหัว
 
ณภัทรเคยคิดว่ากว้านหลินน่ากลัวแล้ว
 
หากแต่ตอนนี้คนที่น่ากลัวยิ่งกว่า น่ากลัวโดยที่ยังไม่ทันทำอะไรเลยคนๆนั้นคือลูกชายคนโตของตระกูลไล่คนนี้ต่างหาก
 
สมกับเป็นทายาทอันดับหนึ่ง
 
คริสกดยิ้ม เป็นรอยยิ้มเหมือนกับที่กว้านหลินทำเวลาที่กำลังประเมินอะไรซักอย่างก่อนที่ชายหนุ่มจะก้าวเข้าไปในตัวบ้านอย่างคุ้นเคย บรรดาคนรับใช้ต่างทำความเคารพคุณชายใหญ่ คุณชายรองและภรรยาอย่างคุ้นชิน
 
            “กลัวเหรอ?”กว้านหลินก้มลงไปถามเด็กน้อยที่ยืนก้มหน้างุด
 
            “กลัวครับ เขาดูมีอำนาจมากๆเลย”
 
            “ทำเก๊กข่มไปอย่างนั้นแหละ กลัวเมียจะตายชัก”คำบอกเล่าประโยคสั้นๆของกว้านหลินทำเอาภัทรหัวเราะพรืดออกมาทันที เด็กน้อยเดินตามคุณชายสามที่กุมมือตนเองก้าวไปด้วยกันอย่างสบายใจขึ้น
 
แม้จะเกร็งไปบ้างแต่พอมีกว้านหลินอยู่ข้างๆกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศภายในบ้านรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ภัทรช่วยบรรดาแม่บ้านยกอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ หาวหาวเป็นเด็กผู้ชายใบหน้าอ้วนกลมเรือนผมหยักศกและมีคำถามตลอดเวลา ส่วนเหมียวเหมียวคนพี่กลมไม่แพ้น้องแต่ชอบที่จะเล่นและทำอะไรด้วยตัวเองคนเดียวมากกว่า งานหลักของภัทรจึงเป็นการหลอกล่อคุณชายตัวน้อยให้กินข้าวกินผักเสียมากกว่า โชคดีที่เด็กทั้งสองคนสื่อสารภาษาอังกฤษได้เพราะวิคตอเรียใช้การสื่อสารกับลูกทั้งสองภาษาคืออังกฤษและจีน โอเมก้าของไล่กว้านหลินเข้ากับเด็กได้ดีในเวลาอันสั้นโดยมีกว้านหลินคอยแปลภาษาจีนเวลาที่เด็กๆเถียงกันหรือตั้งคำถามกับพี่ที่เพิ่งเจอกันแต่ใจดีนี้ท่ามกลางการจับตามองของพี่ใหญ่พี่รอง สองพี่น้องที่สนิทราวกับเกิดจากท้องแม่เดียวกันมองตาอย่างสื่อความหมาย
 
นี่น่ะเหรอ คนที่กว้านหลินบอกว่าจับมาทำงานใช้หนี้
 
ทำไมมันให้ความรู้สึกเหมือนพวกข้าวใหม่ปลามันเพิ่งแต่งงานกันอย่างนี้วะ
 
มันให้เด็กนี่ทำงานอะไรของมัน



 
 
            วิคตอเรียยืนมองภัทรที่นั่งชันเข่าปล่อยให้ลูกๆชายหญิงวัยกำลังซนของเธอปีนป่ายบนตัวอย่างไม่มีความหงุดหงิดเจืออยู่ในสีหน้าเลยซักนิด เด็กสองคนเข้ากับภัทรได้อย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะเจ้าก้อนหาวจอมดื้อที่ปกติให้ทำอะไรก็มักจะโยเยเกี่ยงงอนอยู่ตลอดเวลากลับทำตามภัทรบอกอย่างว่าง่าย เหมียวเหมียวเองจากที่ชอบเล่นคนเดียวก็ยังเข้ามาเล่นกับภัทร เสียงหัวเราะคิกคักดังไปทั่วห้องนั่งเล่นยามที่ภัทรชูเจ้าเด็กก้อนขึ้นบนอากาศ
 
            “หาวหาวบินนนนน”เสียงโอเมก้าที่เพิ่งพ้นวัยเด็กได้ไม่กี่ปีบอกกับลูกก้อนคนน้องหาวหาวชูกำปั้นน้อยๆไปข้างหน้าราวซุปเปอร์แมนตัวป้อม
 
            “เด็กๆดูจะชอบคนของแกนะกว้านหลิน”คริสพูดกับน้องคนเล็กที่นั่งคุยกันอยู่ไม่ไกลกันนัก กว้านหลินที่เหลือบตาแอบมองคนของตัวเองกำลังเล่นกับเด็กๆอยู่เรื่อยๆทำทีเป็นไม่สนใจหากแต่ลักยิ้มบนแก้มซ้ายกลับบุ๋มราวกับจะฟ้องให้พี่ใหญ่และพี่รองรู้ว่าจริงๆแล้วเขากลั้นยิ้มแทบแย่
 
กว้านหลินไม่ใช่คนละเอียดอ่อนจนถึงขนาดว่ารักเด็กตรงกันข้ามชายหนุ่มคิดว่าเด็กๆเป็นวัยที่น่ารำคาญทั้งร้องไห้โยเยทั้งเอาแต่ใจแต่กับหลานๆถือเป็นข้อยกเว้น
 
สกุลไล่ให้ความสำคัญกับการมีทายาทสืบสกุลเป็นอย่างมากพี่รองของเขาเป็นแฟมิลี่แมนเป็นลูกชายคนแรกของพ่อที่มีครอบครัวและมีทายาทไว หาวหาวและเหมียวเหมียวร่าเริงแข็งแรงและเกิดมามีรากฐานของทั้งพ่อและแม่ที่มั่นคง ซ่งเชียนเป็นลูกสาวเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสภา หญิงสาวและพี่รองของเขาแม้จะเป็นอัลฟ่าเหมือนกันแต่ซ่งเชียนก็ยอมที่จะเป็นช้างเท้าหลังแม้นิสัยของอัลฟ่าจะชอบเป็นผู้ชนะเสมอก็ตาม
 
และอีกไม่นานคริสและลีโอก็คงมีลูกเล็กๆออกมาดูโลกเช่นกัน พี่ชายใหญ่ของเขาแต่งงานช้าด้วยเพราะลีโอใจแข็งมาก อดีตบอดี้การ์ดที่เอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องพี่ชายของเขาเป็นโอเมก้าที่ดูจะนอกคอกไปซักหน่อยเพราะทั้งดื้อรั้นและแข็งแรง แถมแข็งแกร่งราวกับเป็นอัลฟ่า
 
เทียบกับภัทรของเขาแล้วเจ้าเด็กที่เหมือนลดวัยไปซักสิบปีนั่นน่ะ
 
ลีโอเปรียบดังกวางป่าปราดเปรียว ส่วนภัทรคือลูกเจี๊ยบที่ยังอ่อนต่อโลกทำได้อย่างมากก็แค่จิกให้จั๊กจี้เล่น เขาไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะมีลูกให้เขาเมื่อไหร่ เอาเข้าจริงๆแล้วก็อยากให้ผ่านไปซัก 4-5 ปีก่อนค่อยมี
 
ขอแค่ยืดเวลาไปอีกหน่อยแล้วเขาจะค่อยๆปล่อยให้ภัทรเป็นอิสระ
 
ไม่แน่พอถึงวันนั้นอะไรๆอาจจะดีขึ้น เขาเชื่อว่าความสัมพันธ์ในวัยเยาว์ของเขาและภัทรยังคงอยู่  ตอนนี้เขาแค่ทำตามหัวใจตัวเอง ตักตวงและเรียกร้องให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
 
            “มอง มองอยู่นั่นแหละ จะมองให้เด็กมันทะลุไปเลยเหรอวะไอ้สาม”คราวนี้เป็นพี่รองที่เอ่ยแซะน้องชาย
 
ตอนเด็กๆก็ดูเป็นคนว่านอนสอนง่ายขนาดพี่ๆแกล้งให้ปีนขึ้นไปดูรังนกร้างยังทำตามอย่างว่าง่ายแท้ๆทำไมโตมาถึงได้ปากแข็งใจแข็งนักวะ
 
            “ถามจริงๆเถอะแกจะเอายังไงต่อไปกับเด็กนั่น คนเราต้องโตเอาเขามากักไว้แบบนี้วันหนึ่งที่เขาใช้หนี้หมดแกจะเอาเหตุผลอะไรรั้งเขาไว้ เขาจะออกไปใช้ชีวิตยังไงเคยคิดบ้างมั้ย ความรู้ก็แค่มัธยม อายุก็เพิ่มขึ้นคงไม่พ้นเป็นลูกจ้างเค้า คนทำมันก็ได้รับผลกรรมไปแล้ว จริงๆที่แม่เด็กนั่นโอนคืนมาก็ถือว่าเยอะแล้วปล่อยเด็กมันไปเถอะ สงสารมัน”จอห์นนี่ที่มีลูกมองโลกในมุมมองของคนที่มีจิตใจละเอียดอ่อน แม้ว่าในแวดวงธุรกิจมืดเขาสามารถฆ่าคนได้โดยไม่รู้สึกผิดอะไรเลยซักนิด แต่หากเป็นเรื่องทั่วไปอัลฟ่าหนุ่มมีหัวใจที่ละเอียดอ่อนที่สุดในบรรดาสามพี่น้อง
 
            “ฆ่าทิ้งเลยมั้ยสิ้นเรื่องสิ้นราวไป”คราวนี้เป็นพี่ชายคนโตที่นั่งประสานมือวางคางลงบนปลายนิ้วทั้งสิบของตัวเอ่ยเอ่ยถามราวกับคุยเรื่องฆ่าไก่ซักตัวมาทำกับข้าวกว้านหลินเหลือบตามองพี่ชายใหญ่ดวงตาคมทอแสงบางอย่าง
 
แววของความไม่พอใจ
 
            “ไหนพี่ทั้งสองคนเป็นคนบอกให้ผมจัดการเรื่องนี้เองยังไง แล้วนี่มาจู้จี้วุ่นวายอะไรกับผมเนี่ย ผมตัดสินใจแบบนี้ก็คือแบบนี้ จะยอมเสียเงินฟรีแล้วไม่ได้อะไรกลับมาได้ยังไง”
 
            “แกก็เลยล่อลูกเค้าซะคุ้มเลยสิท่า ดูรอยในร่มผ้าเด็กนั่นก็รู้ว่าโดนมาหนักใช่ย่อย”คริสยักคิ้วแล้วส่งสายตาไปที่ภัทร ภาพโอเมก้าในปกครองที่ใช้ขายกทั้งลูกชายหญิงของจอห์นนี่หัวเราะอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้ระวังตัวเลยซักนิดว่าชายเสื้อเลิกขึ้นจนเห็นผิวเนื้อด้านในที่มีรอยแดงจ้ำเกือบทั่วตัวโผล่ออกมาฟ้องสายตาหลายคู่ขนาดไหน กว้านหลินลุกพรวดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยร่างสูงก้าวสวบๆเข้าไปหาเด็กในปกครองก่อนจะหยิกลงไปบนเอวคอดไม่แรงแต่ก็ไม่เบาภัทรสะดุ้งจนเกือบทำเด็กๆตก เด็กน้อยตวัดค้อนส่งสายตาไม่พอใจตาเขียวปั้ด
 
            “เธอโป๊”
 
            “ก็บอกกันดีๆได้นี่ครับทำไมต้องหยิกถ้าเด็กๆตกไปจะทำยังไง”
 
            “ก็เจ็บ”กว้านหลินบอกอย่างไม่ถือเป็นเรื่องทุกข์ร้อน
 
            “คุณนี่มันจริงๆเลย”ภัทรทำท่าจะต่อว่ากว้านหลินต่อแต่เหมือนพี่สะใภ้คนรองจะเป็นคนมาช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อหญิงสาวบอกกับลูกๆให้ไปอาบน้ำเพื่อเตรียมเข้านอน
 
            “ผมยังไม่ง่วงเลยหม่าม้า”เจ้าก้อนคนน้องร้องประท้วง แม้ปากจะบอกว่าไม่ง่วงหากแต่ดวงตากลมกลับปรือปรอย ในขณะที่เหมียวเหมียวแม้จะอิดออดแต่ก็ยอมลงจากตัวภัทรแต่โดยดี
 
            “ไม่ง่วงอะไรกัน...เจ้าตัวแสบ”ซ่งเชียนหยิกแก้มย้วยๆของลูกชายเบาๆ
 
            “หนูไม่ได้ไม่ง่วงหนูแค่ติดเล่นกับพี่ภัทร เอาอย่างนี้เดี๋ยวแม่นอนกับเหมียวเหมียวส่วนลูกนอนกับพี่ภัทร ให้พี่ภัทรเล่านิทานให้ฟังโอเคมั้ยคะ?”คนเป็นแม่หลอกล่อเจ้าก้อนน้อยอย่างรู้ใจ กว้านหลินอยากจะท้วงหากแต่หาวหาวก็กระโดดเกาะภัทรแน่นอย่างกับลูกลิง ในที่สุดอัลฟ่าหนุ่มก็ถูกทิ้งไว้กับพี่ชายสองคนและพี่สะใภ้ใหญ่ ลีโอทำหน้าที่คอยชงเหล้าให้กับสามพี่น้องที่นั่งคุยเรื่องงานจนในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนกว่า
 
ประตูห้องนอนเด็กฝั่งตะวันตกถูกเปิดช้าๆ บนเตียงสีชมพูเหมียวเหมียวนอนหลับอย่างสบายส่วนเตียงสีฟ้ามีเจ้าก้อนคนเล็กนอนซุกอกเด็กในปกครองของเขาที่หลับสนิทเช่นเดียวกัน อัลฟ่าหนุ่มยืนมองภาพนั้นริมฝีปากประดับรอยยิ้มเล็กๆ
 
ภัทรรักเด็ก นี่คือสิ่งที่เขาสัมผัสได้ในวันนี้
 
โอเมก้าตัวน้อยของเขาสามารถหาเรื่องมาหลอกล่อเจ้าก้อนตัวดื้อได้อย่างไม่ยากเย็น ทั้งเรื่องการหลอกล่อให้หาวหาวกินผัก รวมทั้งการกอดยามที่เอ็ดเหมียวเหมียวที่ชอบปีนป่ายขึ้นไปเล่นน้ำที่อ่างล้างจาน หลายสิ่งหลายอย่างที่ภัทรทำในวันนี้ถูกใจพี่รองและพี่สะใภ้ของเขามากจนเอ่ยปากอยากได้ภัทรไปอยู่ด้วยที่จีนหากแต่เขาเอ่ยขัดเสียก่อน
 
ถ้าหากภัทรมีลูก เด็กคนนี้จะเป็นแม่ที่ดีได้ขนาดไหนกันนะ
 
กว้านหลินเดินไปหยุดที่เตียงสีฟ้าค่อยๆดึงหลานให้ออกจากอ้อมอกของภัทรจัดการห่มผ้าให้หลาน จากนั้นจึงช้อนร่างนุ่มนิ่มของภัทรขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วพากลับห้อง
 
ขอโทษนะหาวหาว
 
อาก็ต้องมีพี่ภัทรไว้กอดก่อนนอนเหมือนกัน
 


            ณภัทรขยับตัวตื่นในตอนเช้ามืดเด็กน้อยซุกใบหน้ากับอ้อมอกแกร่งอย่างคุ้นชินถูไถใบหน้าไปมาราวลูกแมวอ้อน สูดกลิ่นไอของฝนเข้าไปจนเต็มปอดก่อนจะสะดุ้งเฮือกเงยหน้าขึ้นมองคนที่ตื่นมานอนมองเขาได้ซักพักแล้ว
 
            “คุณกว้านหลิน...ผมกลับมานอนที่ห้องได้ยังไงครับ ก็เมื่อคืนผมนอนกับหาวหาวนี่นา”
 
            “ฉันอุ้มเธอมาเองแหละ ไปนอนเบียดหลานฉันทำไม คิดค่าอุ้มดีมั้ย? หนักจะแย่”ท้ายประโยกแกล้งตบลงบนสะโพกนิ่มเบาๆ แต่คนโดนอุ้มกลับส่งค้อนให้วงใหญ่ขยับตัวหันหลังหนีคนที่ทำสีหน้าเยาะๆอย่างหงุดหงิด
 
            “เอะอะคิดเงิน งั้นผมคิดว่ากอดค่าหอมค่าจูบเป็นครั้งๆ ครั้งละแสนดีมั้ยครับ จะได้เสมอกัน”
 
            “เดี๋ยวนี้เก่งถึงขนาดกล้าต่อรองธุรกิจเลยเหรอคุณณภัทร ผมให้โบนัสคุณใปตั้งสองล้านน่าจะหยวนๆให้ผมหน่อยนะ”ปลายจมูกแกล้งถูไถตรงสันกรามไล่เล็มลงมาจนถึงต้นคอหอมลมหายใจอุ่นเป่ารดต้นคอจนคนเด็กกว่าหดคอหนี
 
            “อ...อย่าครับ”ร้องห้ามเสียงพร่ายามปลายนิ้วซุกซนสะกิดยอดอกของตนเอง ปลายลิ้นร้อนก็ไล่ชิมผิวเนื้อตรงต้นคอไม่หยุด
 
            “ฉันจะสอนเธอไว้อย่างนะภัทร”กว้านหลินดูดเม้มผิวเนื้อหลังคอจุดไวต่อความรู้สึกของโอเมก้าเด็ก ความรู้สึกหวามหวิวเข้าจู่โจมจนอ่อนปวกเปียกไปทั้งร่างเปิดโอกาสให้อัลฟ่าหนุ่มพลิกกายบางให้นอนราบกับที่นอนแล้วขยับกายขึ้นมานั่งคร่อมร่างบางได้อย่างง่ายดายมือแกร่งกักข้อมือเล็กทั้งสองข้างของภัทรไว้เหนือศีรษะอย่างชำนาญ
 
            “เวลาจะปฏิเสธอะไรน่ะ ใช้น้ำเสียงให้มันหนักแน่นหน่อย ไม่งั้นจะเสียเปรียบได้ง่ายๆ”
 
            “อ่ะ...อื้อ..คุณกว้านหลิน....”
 
 
            “ผมฝากภัทรด้วยนะพี่ลีโอ ถ้าไม่ติดว่าต้องไปประชุมใหญ่ที่บริษัทกับพี่ใหญ่พี่รองก็ว่าจะตามไปด้วย”กว้านหลินเอ่ยบอกกับพี่สะใภ้คนโตที่ปิดประตูรถหลังจากต้อนเด็กๆขึ้นไปจนหมดรวมทั้งภัทรด้วย ลีโอที่วันนี้ใส่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์พยักหน้ารับด้วยท่าทางสบายๆ
 
            “ไม่ต้องห่วงครับคุณกว้านหลินผมจะดูแลหลานๆแล้วก็คนของคุณอย่างดี
 
            “เหนื่อยหน่อยนะครับวันนี้ต้องเลี้ยงเด็กสามคน”
 
            “คุณก็ว่าไป เด็กคนโตนั่นน่าจะดูแลตัวเองได้อยู่นะ แต่เอ๊ะหรือจะไม่ เพราะถ้าดูและตัวเองได้คงไม่มีรอยใหม่ๆที่ต้นคอ”ลีโอเอ่ยแซวน้องสามีซึ่งกว้านหลินก็ยิ้มรับอย่างไม่สะทกสะท้าน ในที่สุดรถยนต์ของลีโอที่มีศลัยนั่งคู่ด้านหน้าเพราะถูกมอบหมายให้มาช่วยดูแลเด็กๆโดยเฉพาะเด็กในปกครองของกว้านหลินก็มาจอดที่สวนสนุก ลีโอเดินลงจากรถเป็นคนแรก อดีตบอดี้การ์ดของคริสกวาดตามองบริเวณโดยรอบก็เห็นคนที่กว้านหลินส่งมาให้ช่วยอารักขานับสิบกระจายอยู่โดยรอบ โอเมก้าหนุ่มพยักหน้ารับอย่างพอใจก่อนจะอุ้มเด็กๆลงจากรถพากันเข้าไปในสวนสนุก
 
ภัทรมีความสุขมากในวันนี้เขาตามเด็กๆไปเล่นพวกเครื่องเล่นง่ายๆที่เด็กๆเล่นได้ การได้ออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกหลังจากถูกจับเข้าบ้านสกุลไล่ในรอบเดือนทำให้เด็กน้อยร่าเริงมากยิ่งขึ้น แม้ว่าโชคเกอร์หนังเส้นแพงที่คอจะทำให้คันเล็กๆเวลาโดนเหงื่อก็ไม่ทำให้ความสนุกลดลงไปได้เลย
 
            “เด็กๆ กินคนละนิดพอเนอะเดี๋ยวฟันผุ”ร่างบางซื้อสายไหมอันใหญ่มาแบ่งกันกิน ลีโอดูท่าจะชอบของหวานพอสมควรดูได้จากปริมาณการกิน หลังจากกินสายไหมและหาข้าวกลางวันรับประทานเสร็จศลัยก็พาเหมียวเหมียวและหาวหาวไปเปลี่ยนผ้าอ้อมภัทรจึงได้นั่งอยู่กับลีโอเพียงลำพัง
 
            “คุณลีโอเก่งจังเลยนะครับ คุณกว้านหลินบอกว่าเมื่อก่อนคุณเป็นบอดี้การ์ดของคุณชายใหญ่ ผมอยากเข้มแข็งให้ได้อย่างคุณจัง”
 
            “เป็นแบบคุณภัทรน่ะดีแล้วครับ น่ารักสมวัย เป็นแบบผมเหนื่อยจะตาย ไปทำงานกับคริสแต่ละทีก็เหมือนต้องจองโลงไว้ใส่ศพตัวเอง”ลีโอเอ่ยอย่างสบายๆขัดกับประโยคที่ออกมาจากปาก
 
            “อันตรายมากเลยเหรอครับ?”
 
            “มากครับ คุณก็รู้เราทำธุรกิจที่ไม่สะอาด ที่อยู่รอดปลอดภัยได้ทุกวันนี้ก็เพราะมีคอนแทคกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสภา เงินที่เราสนับสนุนสภาแต่ละปีไม่ใช่น้อยๆ พวกรายเล็กๆกว่าเราอยากจะแย่งลูกค้าของเราจะแย่ พวกลูกค้าบางประเทศก็ขี้โกงอยากได้ของดีแต่ก็อยากได้ฟรีก็ลอบฆ่าเรา”
 
            “หือ...ถึงขนาดจะฆ่ากันเลยเหรอครับ”
 
            “บ่อยไปครับ”
 
            “แล้วคุณลีโอเจอกับคุณชายใหญ่ได้ยังไง”
 
            “เราเจอกันตอนผมกำลังฮีทครับ เจอในไนต์คลับ ผมถูกพวกอัลฟ่าที่ได้กลิ่นไล่ล่าเขาผ่านมาพอดีจัดการไอ้สามคนนั่นซะหมอบแล้วก็ช่วยผมไว้ ช่วงแรกๆเกลียดกันจะตายเขาคิดว่าผมเป็นเด็กใจแตกไปเที่ยวไนท์คลับตั้งแต่อายุ 16 จริงๆผมแค่ไปทำงาน พอรู้ว่าผมกำพร้าเขาก็เลยให้อยู่กับเขาส่งเรียนหนังสือแล้วก็ให้เรียนศิลปะองกันตัวกับคนสนิทแล้วก็ได้เลื่อนมาเป็นบอดี้การ์ดเต็มตัว”
 
            “น่ารักจัง ไม่เหมือนผมกับคุณกว้านหลินเลย”ภัทรเอ่ยชมอย่างจริงใจ
 
            “คุณภัทรก็น่ารัก เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ดีแล้วรู้มั้ยครับ อัลฟ่าสกุลไล่อาจจะดูดุก็จริง แต่เขาเป็นคนดี ใช้ความน่ารักจริงใจของคุณทลายกำแพงที่ยังกั้นระหว่างคุณกับคุณชายสามนะครับ อาจจะช้าหน่อยเพราะกำแพงที่พ่อของคุณสร้างไว้มันหนาเหลือเกินแต่อย่าเหนื่อยอย่าท้อผมเชื่อว่าซักวันกว้านหลินจะยอมละทิ้งความโกรธ ผมขอโทษที่ต้องพูดถึงพ่อของคุณ แต่เมื่อเราเป็นผู้ใหญ่สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือยอมรับความจริง สกุลไล่โดยเฉพาะนายท่านไว้วางใจพ่อของคุณมากจริงๆ พอเจอแบบนั้นเขาก็เลยเจ็บหนัก แค้นหนัก คนจีนถือความกตัญญูเป็นที่ตั้งบุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ ผมอยากให้คุณอดทน เดี๋ยวทุกอย่างมันก็ดีขึ้นเอง”ลีโอตบลงบนหลังมือคนเด็กกว่าเบาๆราวพี่ชายกำลังปลอบโยนน้อง
 
            “ตอนที่เขาจับผมมาแรกๆ ผมอยากจะเกลียดเขา เกลียดให้สมกับที่เขาฆ่าพ่อของผม เกลียดที่เขาข่มขืนผม แต่พอเขาทำดีด้วยผมก็ใจอ่อน ผมไม่เข้าใจตัวเองเลยครับว่าทำไมถึงอ่อนข้อให้เขาได้ง่ายๆแบบนี้”
 
            “เพราะคุณรักเขาไง ความรักของคุณคือการให้อภัย เชื่อผม กว้านหลินเองก็รักคุณเหมือนกัน เขาไม่เคยมองใครด้วยสายตาแบบที่ใช้กับคุณเลย”
 
            “จริง...จริงเหรอครับ”ภัทรเอ่ยถามทวนคำพูดของลีโอซึ่งโอเมก้ารุ่นพี่ก็พยักหน้ารับ
 
คุณกว้านหลินก็รักเราเหมือนกัน....
 
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวก็ทำเอาโอเมก้าเด็กยิ้มแป้นไปตลอดวัน
 
ความสุขมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

สุขจนลืมนึกไปเลยว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในฐานะอะไรของกว้านหลิน



#ไฮเดรนเยีย

TBC.



.....................................................

ตอนนี้เป็นตอนที่น้องน่าจะมีความสุขทั้งตอนอย่างเต็มรูปแบบเนอะ

ให้รางวัลเด็กดีอย่างต่อเนื่อง ขนาดฤดูยังมีตั้งหลายฤดูในหนึ่งปี ความรู้สึกคนเราก็หลากหลายเช่นกัน ท้องฟ้าหน้าร้อนสดใสเสมอก่อนหน้าฝนและหน้าหนาวอันมืดครึ้มจะมาก็เก็บเกี่ยวแสงสว่างไว้ให้มากๆ


ทำหน้าที่เมียค่าาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 9 "อยู่ในฐานะอะไร" 18/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 18-05-2019 11:41:42
จะท้องตั้งแต่ฮีทแรกเลยไหมมมม ลุ้นมากกกก :katai1:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 9 "อยู่ในฐานะอะไร" 18/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 19-05-2019 01:57:52
ตอนนี้น่ารักมากกก ชอบๆที่พี่ใหญ่กลัวเมีย ฮะฮ่า!!
 
ครอบครัวตระกูลไล่น่ารักจังเลยน้าา

ส่วนพี่กว้านหลิน รีบๆปลดล็อคตัวเองแล้วรั้งน้องด้วยหัวใจได้แล้ว!!

รอๆตอนต่อไปนะคะ  :katai5: :katai4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 10 "จิรนุช" 25/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 25-05-2019 10:24:55

ตอนที่ 10

"จิรนุช"




    “พี่ภัทรไม่ไปเที่ยวบ้านหนูจริงๆเหรอ”เสียงเล็กเอ่ยถามเจื้อยแจ้ว ใกล้วันที่ต้องเดินทางกลับจีนเต็มที หาวหาวติดใจพี่ชายใจดีคนนี้มากจนพยายามอ้อนให้ภัทรไปอยู่กับตัวเองที่จีน
 
พี่ภัทรใจดี เล่านิทานเก่งและเล่นสนุกกับหาวหาวได้ทั้งวัน เด็กชายวัยสามขวบชอบพี่ภัทรมากจนถึงขนาดที่พ่อกับแม่ออกไปนอกบ้านก็ไม่ร้องตามเหมือนเช่นทุกครั้ง
 
            “พี่ภัทรก็อยากไปครับ อยากไปเห็นห้องของเล่นของหาวหาวแต่พี่ภัทรไปไม่ได้”
 
            “ทำไมถึงไปไม่ได้  เดี๋ยวให้ปาป๊าพาไปนั่งเครื่องบินไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว”เด็กน้อยบอกอย่าดื้อดึง ภัทรย่อตัวลงนั่งให้เสมอกับหาวหาว รอยยิ้มอ่อนโยนถูกมอบให้เด็กน้อยแสนน่ารักที่ตั้งคำถามได้ทั้งวันฝ่ามือนุ่มลูบผิวแก้มใสของหาวหาวอย่างเอ็นดู ดวงตากลมมีแววเศร้าฉายชัด
 
            “พี่ไปเองไม่ได้หรอกครับถ้าจะไปไหนต้องให้อาสามอนุญาตก่อนถึงจะไปได้ครับ”
 
            “งั้นหนูจะไปขออาหลิน”
 
            “หาวหาวจ๊ะ อย่าทำให้พี่ภัทรลำบากใจสิจ๊ะ เดี๋ยวอาหลินว่างเค้าก็พาพี่ภัทรไปหาเราเองแหละ มาหาแม่มาปล่อยให้พี่ภัทรได้พักบ้าง”วิคตอเรียที่เห็นสีหน้าลำบากใจของภัทรเอ่ยบอกกับลูกชายอย่างใจเย็น
 
ใช่ว่าภัทรจะไม่อยากออกไปไหนมาไหนเสียเมื่อไหร่ล่ะ ถึงไม่มีโซ่ล่ามหากแต่บริเวณบ้านก็ไม่ต่างจากกรงที่กักขังเด็กคนนี้ไว้เลยซักนิด
 
วัยอย่างภัทรเป็นวัยที่กำลังผลิบาน เป็นวัยที่กำลังอยากรู้อยากเห็นโลกกว้างแต่เด็กตรงหน้าที่พยายามแสร้งทำเป็นว่าสดใสร่าเริงนี้กลับต้องมาถูกกักขังไว้ด้วยพันธนาการของไล่กว้านหลิน มันไม่ยุติธรรมเลยซักนิด
 
ใช่ว่าหล่อนจะไม่สังเกต สองอาทิตย์ที่ผ่านมาบ่อยครั้งภัทรมีอาการเหม่อลอยมองออกไปหน้าบ้านดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกายเสมอยามที่เห็นรถผ่านไปมานอกบ้าน ยิ่งเป็นรถของกว้านหลินหรืออี้เฉินภัทรจะแสดงออกทางแววตาเลยว่าดีใจแค่ไหนที่บุคคลทั้งสองกลับมา ขนาดหล่อนพาลูกๆไปเที่ยวห้างสรรพสินค้ากว้านหลินยังไม่อนุญาตให้พาณภัทรไปด้วยเลย เมื่อถามหาเหตุผลกว้านหลินก็อ้างว่า
 
            “ถ้าเขาหนีไปจะทำยังไง หนี้สินยังใช้คืนให้ไม่หมด”
 
นกน้อยในกรงทองของแท้
 
            “ภัทรจ๊ะ ถ้าเหนื่อยก็ไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวตอนเย็นฉันกับบรรดาคุณชายต้องไปงานเลี้ยงฉลองเปิดบริษัทของพ่อคุณจี”
 
ภัทรขึ้นมาเตรียมชุดสูทสำหรับไปงานเลี้ยงคืนนี้ให้กว้านหลินตั้งแต่ห้าโมงเย็น เด็กน้อยเลือกสูทไว้รอราวหกโมงเย็นกว้านหลินก็กลับมาถึงบ้านพร้อมกับอี้เฉิน อัลฟ่าหนุ่มตรงเข้าไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวเพื่อออกไปงานเลี้ยงคืนนี้เลย ภัทรเข้ามาปรนนิบัติเหมือนเช่นทุกวัน
 
            “คืนนี้ถ้าเธอง่วงก็นอนได้เลยนะไม่ต้องรอ”กว้านหลินบอกกับเด็กในปกครองที่กำลังนำสูทมาสวมให้กับเขา
 
            “คุณจะกลับดึกเหรอครับ?”
 
            “ไม่ต้องถาม ฉันบอกยังไงก็ทำตามนั้น”กว้านหลินเบี่ยงตัวหลบเมื่อภัทรจะติดกระดุมหน้าให้ อัลฟ่าหนุ่มเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ภัทรยืนอยู่คนเดียวในห้อง
 
            “เด็กๆอยู่กับพี่ภัทรอย่าซนนะคะแล้วก็อย่านอนดึกเข้าใจมั้ย?”วิคตอเรียในชุดราตรีแบรนด์หรูก้มลงจูบแก้มลูกทั้งสอง เด็กน้อยรับคำอย่างว่าง่าย จอห์นนี่เดินออกมาสมทบตามด้วยกว้านหลิน คริสและลีโอที่อยู่ในชุดสูทดูดี เด็กๆวิ่งมาหาภัทรยามที่โอเมก้าเด็กเอ่ยเรียกอย่างเชื่อฟัง คนเป็นแม่ฝากฝังลูกของตนเองกับพี่เลี้ยงจำเป็นก่อนจะแยกกันไปขึ้นรถที่ถูกขับมารออยู่หน้าบ้านโดยแยกกันไป
 
เป็นข้อตกลงหลังจากไล่หยวนช่างเสียชีวิตสามพี่น้องตกลงกันว่าถ้าจะออกไปไหนจะไม่เดินทางไปด้วยกันทั้งหมดเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ใช้เวลาเดินทางเกือบหนึ่งชั่วโมงในที่สุดครอบครัวสกุลไล่ก็มาถึงโรงแรมที่จัดงาน กว้านหลินเดินนำพี่ๆขึ้นมาบนชั้นที่จัดงาน ผู้คนในแวดลงไฮโซและนักธุรกิจชั้นนำต่างเดินมาทักทายคุณชายสกุลไล่กันอย่างไม่ขาดสาย หญิงสาวเจ้าของงานในชุดราตรีผ่าอกและด้านข้างเผยเรียวขาสวยก้าวเดินมาหาพวกเขาอย่างดีใจ หญิงสาวเอ่ยทักทายคุณชายใหญ่คุณชายรองและคู่สมรสอย่างคุ้ยเคย ติดจะไว้ตัวนิดๆยามทักทายลีโอ หล่อนคุ้นเคยกับครอบครัวของกว้านหลินดีเพราะรู้จักกันตั้งแต่เด็กๆแถมยังไปเรียนที่อเมริกาพร้อมกันกับกว้านหลินด้วย แม้ใจจริงจะไม่ได้อยากเรียนขนาดนั้นก็ตามที เพียงเพราะกว้านหลินไปจิรนุชก็ร้องงอแงขอให้พ่อส่งเธอไปเรียนด้วย เด็กสาวในตอนนั้นตกหลุมรักอัลฟ่าจากแดนไกลอย่างถอนตัวไม่ขึ้นและตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าคู่ของเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไล่กว้านหลินเท่านั้น
 
ตลอดระยะเวลาที่อยู่อเมริกาจากความใกล้ชิดความสัมพันธ์ของหล่อนและกว้านหลินก้าวหน้าไปเรื่อยๆ
 
อาจจะเพราะความเหงา
 
หรืออาจจะเป็นเพราะสัญชาติญาณดิบลึกๆในใจของคนเป็นอัลฟ่าหล่อนและกว้านหลินจึงมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดกันมาเรื่อยๆ
 
แต่ยิ่งนานวันหล่อนก็อยากจะมัดกว้านหลินไว้กับตัว เพราะไม่ใช่คนเรียนเก่งมากมายนักหล่อนจึงเรียนจบหลังกว้านหลินถึงหนึ่งปี จากเดิมที่คิดจะกลับมาพร้อมกันกลายเป็นว่าหล่อนต้องอยู่เรียนต่อให้จบ
 
จิรนุชคาดหวังความยินดีจากไล่กว้านหลินหลังจากหล่อนเดินทางกลับถึงแผ่นดินเกิด
 
หากแต่ผลตอบรับกลับไม่ใช่ แม้จะนัดกันไว้ดิบดีสุดท้ายกว้านหลินก็เลื่อนนัดหล่อนครั้งแล้วครั้งเล่าจนกระทั่งหล่อนต้องแสร้งร้องไห้ตัดพ้อกว้านหลินถึงมาหาหล่อนในคืนวันหนึ่ง
 
หล่อนมีความสุขที่ได้ครอบครองร่างกายของกว้านหลิน หากแต่หล่อนเกลียดกลิ่นหอมอ่อนๆที่ติดตัวไล่กว้านหลินมา
 
กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมกรุ่นปะปนกับกลิ่นฝนของกว้านหลินหล่อนจงใจปล่อยกลิ่นกุหลาบที่หอมเข้มกว่าตลอดทั้งคืนที่นอนกับกว้านหลิน
 
ความรู้สึกหึงหวงของจิรนุชชัดเจนขึ้นเมื่อกว้านหลินโทรตามหล่อนมาในช่วงรัท ตลอดเวลาที่มีเซ็กส์กันกว้านหลินผู้ที่ไม่เคยเรียกชื่อหล่อนเลยซักครั้งกลับหลุดเรียกชื่อใครบางคน
 
ภัทร...
 
น่าจะเป็นเจ้าของกลิ่นที่ติดตัวกว้านหลินมา
 
หล่อนไม่รู้หรอกว่าโอเมก้าคนนั้นเป็นใคร หล่อนรู้แค่ว่าอะไรที่จิรนุชต้องการ ต่อให้โอเมก้าคนนั้นจะเป็นคู่แห่งโชคชะตา จะเป็นคนที่กว้านหลินรักหรือจะเป็นอะไรก็ตามแต่ หล่อนจะเขี่ยให้พ้นทางเอง
 
 
ตำแหน่งสะใภ้เล็กของตระกูลไล่หล่อนจับจองมาหลายปีแล้ว ใครหน้าไหนก็มาแย่งมันไปจากหล่อนไม่ได้ทั้งนั้น
 
            “ทานอะไรกันมาหรือยังคะ นุชจัดที่ให้นั่งโต๊ะเดียวกับนุชนะคะจะได้นั่งคุยกัน คุณพ่อกับคุณแม่ก็นั่งด้วย”
 
            “ดีเลยอยากคุยกับคุณอาอยู่พอดี”คริสและครอบครัวตามหญิงสาวเข้าไปนั่งที่โต๊ะ บรรยากาศรอบข้างเป็นกันเองเสียงพูดคุยที่แฝงไปด้วยผลประโยชน์ดังขึ้นตลอดงานไม่แพ้เสียงซุบซิบและแสงแฟลซยามที่หญิงสาวเจ้าของงานออกไปเปิดฟลอร์เต้นรำกับอัลฟ่าหนุ่มคุณชายคนที่สามแห่งตระกูลไลj
 
            “อ๊ะ...กว้านหลินคะ ไม่รู้อะไรเข้าตานุชช่วยดูให้หน่อยสิคะ”หญิงสาวหยุดชะงักพลางใช้มือขยี้ตาของตนเองเบาๆ
 
            “อย่าขยี้แบบนั้นสินุช เดี๋ยวตาอักเสบกันพอดี”กว้านหลินเอ็ดเบาๆก่อนจะประคองใบหน้าของหญิงสาวไว้อัลฟ่าหนุ่มช่วยดูดวงตาของหญิงสาวหากแต่ก็ไม่พบอะไร
 
            “ผมว่าคุณไปล้างในห้องน้ำดีกว่าปล่อยไว้เดี๋ยวตาเจ็บไปมากกว่านี้”
 
            “งั้นก็ได้ค่ะ คุณรอนุชด้วยนะคะ คืนนี้นุชอยากอยู่กับคุณ”หญิงสาวคล้องแขนกับลำคอของชายหนุ่มกว้านหลินชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ
 
 
          ณภัทรพับหนังสือพิมพ์วางลงบนโต๊ะ คิ้วสวยขมวดจนแทบจะผูกเป็นปม ความรู้สึกบางอย่างค่อยๆคืบคลานเข้ามารบกวนในจิตใจจนว้าวุ่นไปหมด
 
หงุดหงิด  และไม่พอใจ
 
ภาพของกว้านหลินในชุดสูทที่โอเมก้าเด็กเป็นคนเตรียมให้เมื่อวานกำลังลูบแก้มผู้หญิงคนหนึ่งเด่นหราในหน้าสังคม ข้อความข้างใต้นั้นหยอกเย้าราวกับว่าทั้งคู่เป็นคู่รักกัน
 
ไล่กว้านหลินและจิรนุชสองอัลฟ่าที่แวดวงสังคมชั้นสูงกำลังจับตามอง
 
ตระกูลใหญ่สองตระกูลอาจจะมีโอกาสได้เกี่ยวดองกันในอนาคต...
 
กว้านหลินและพี่ๆไปงานเลี้ยงเมื่อคืนกว่าจะกลับมาเด็กน้อยก็หลับไปแล้ว เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาตอนเช้าภัทรยังนอนอยู่บนเตียงของหาวหาวไม่ได้นอนในห้องแบบทุกครั้งเหมือนตลอดระยะเวลาอาทิตย์กว่าแบบที่เคยเป็นมา เมื่อจัดการอาบน้ำให้เด็กๆเสร็จตอนแปดโมงเช้าลงมากว้านหลินก็ไม่อยู่แล้วเมื่อสอบถามสาวใช้ในบ้านก็ได้รับคำตอบแค่ว่าเจ้านายหนุ่มออกไปทำงานแล้วเท่านั้น เมื่อกลับเข้าไปเก็บเตียงภัทรก็ได้กลิ่น
 
กลิ่นกุหลาบหอมหวานและเย้ายวน
 
เด็กน้อยจำได้ในทันที
 
กลิ่นนี้ติดตัวกว้านหลินมาเมื่อตอนที่ภัทรพักที่โรงพยาบาล
 
ภัทรมองที่นอนที่ยับย่นก่อนจะหยิบหมอนที่หล่นระเกะระกะบนเตียงขึ้นมาดม
 
ไม่ผิดแน่ๆ เศษเส้นผมยาวหล่นอยู่บนที่นอน คลื่นความรู้สึกเสียใจถาโถมเข้ามาในใจราวกับพายุร้ายที่ค่อยๆก่อตัวแล้วกระหน่ำเป็นพายุฝน ณภัทรกำหมอนใบนั้นจนยับลงไปตามแรงบีบ เด็กน้อยกัดฟันข่มก้อนสะอื้นกลับเข้าไปในอก
 
อย่าร้อง...อย่าทำให้ตัวเองน่าสมเพชเพียงเพราะคนที่ไม่จริงจังและไม่รู้สึกกับความสัมพันธ์ที่มีให้
 
ก็แค่คนที่ยอมมีเซ็กส์แลกกับหนี้สินที่จะลดลง
 
ที่ผ่านมาภัทรคิดว่าตนเองทำดีที่สุดแล้ว พยายามไม่ดื้อและเชื่อฟังกว้านหลินมาตลอดเพราะคิดว่าความดีจะเอาชนะใจกว้านหลินได้
 
ภัทรก็ยังคงเป็นแค่เด็กที่มองโลกในแง่ดีว่าความรักจะเอาชนะทุกสิ่ง
 
คิดว่าการที่ยอมกว้านหลินในทุกครั้งที่อัลฟ่าหนุ่มต้องการจะเติมเต็มสัญชาติญาณดิบของอัลฟ่าได้
 
แต่ไม่เลย
 
อัลฟ่าหนุ่มกลับไม่รู้จักพอ
 
ปกติภัทรจะใช้เวลาทำความสะอาดห้องนอนครั้งละไม่เกินหนึ่งชั่วโมงแต่วันนี้จนเกือบเที่ยงภัทรก็ยังไม่ลงมาจนศลัยอดเป็นห่วงไม่ได้ สาวใช้ประจำตัวเดินไปหยุดยืนหน้าห้อง หล่อนลังเลว่าควรเข้าไปดีมั้ยในที่สุดความเป็นห่วงทำให้ตัดสินใจเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป
 
ภายในห้องเงียบสงัด ห้องถูกจัดใหม่สะอาดและเรียบร้อยผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนถูกเปลี่ยนใหม่ยกชุด ร่างบางของโอเมก้าเด็กนั่งอบู่บนโต๊ะไม้ริมหน้าต่างเด็กน้อยนั่งกอดเข่าเอนศีรษะลงบนท่อนแขนของตัวเองมองเหม่อออกไปด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย
 
ภาพที่เห็นทำให้อดที่จะสงสารไม่ได้
 
ณภัทรในตอนนี้ดูเปราะบางและว้าเหว่เสียเหลือเกิน
 
ภายในใจของเจ้านายเด็กกำลังคิดอะไรอยู่หล่อนไม่อาจรู้ได้เลยซักนิด บางครั้งภัทรก็ดูร่าเริงบางทีก็ดูเศร้าจนน่าสงสาร แม้เด็กตรงหน้าจะไม่เคยปริปากพูดหรือเล่าอะไรออกมาแต่หล่อนก็รับรู้ได้ว่าภัทรไม่ได้ร่าเริงเหมือนภาพที่แสดงให้คนภายนอกเห็นเลยซักนิด
 
            “คุณภัทรคะ ลงไปทานข้าวหน่อยมั้ยคะ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้ทานอะไรเลยใช่มั้ยคะ?”หญิงสาวตัดสินใจเดินไปแตะแขนของโอเมก้าเด็กเบาๆ ภัทรสะดุ้งอย่างตกใจก่อนจะหันมามองหล่อนอย่างงงๆ
 
            “อ่ะ...เอ่อพี่ศลัยผมตกใจหมดเลย กี่โมงแล้วครับผมนั่งเพลินเลย”
 
            “จะเที่ยงแล้วค่ะ ไปค่ะ ลงไปข้างล่างไปกินข้าวด้วยกันดีกว่า นั่งอุดอู้อยู่ในห้องเบื่อแย่เลยนะคะ”
 
            “ผมไม่หิว...”
 
            “ไม่หิวก็ต้องทานค่ะถ้าป่วยไปอีกจะแย่นะคะ เดี๋ยวเด็กๆกลับมายังต้องใช้แรงอีกเยอะ”เบต้าสาวดึงร่างบางให้ลงมาจากบนโต๊ะ ภัทรไม่อยากขัดใจคนแก่กว่าจึงเดินตามออกมากินข้าวแต่โดยดี กับข้าวหลายอย่างถูกยกมาวางบนโต๊ะในครัวแต่ภัทรกลับไม่รู้สึกอยากอาหารเลยซํกนิดเด็กน้อยกินเพียงไม่กี่คำก็บอกว่าอิ่มก่อนจะนำชามไปล้างแล้วขอตัวออกไปดูแลต้นไม้ที่หมั่นรดน้ำพรวนดินจนตอนนี้เริ่มงอกงามขึ้นมา ต้นไฮเดรนเยียที่ให้อี้เฉินซื้อมาเริ่มแทงช่อดอกให้เห็นอีกไม่นานดอกไม้ช่อสวยก็จะอวดโฉมให้ได้ชื่นใจ
 
หากเปรียบคุณชายสามตระกูลไล่เป็นดอกไม้ ภัทรก็จะเปรียบให้กว้านหลินเป็นดั่งดอกไฮเดรนเยีย
 
ใช้สีสันสวยงามหลอกล่อให้ตายใจ ณภัทรก็เหมือนหนอนโง่ๆที่ตะกละตะกรามเข้ามากินไม้ดอกสวยแสนเย่อหยิ่งสุดท้ายก็โดนพิษของไฮเดรนเยียเล่นงานจนค่อยๆตายอย่างช้าๆ
 
เหมือนตอนนี้ไม่มีผิด
 
พิษรักกำลังกัดกร่อนใจโอเมก้าตัวน้อยจนแทบกระอัก
 
ความรู้สึกทั้งเสียใจและไม่พอใจนี้คืออะไรกันนะ อยากจะตัดพ้อแต่ก็ไม่มีสิทธิ์อยากจะทุบตีก็ทำไม่ได้แต่แต่กดไว้ภายในใจให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้
 
เจ็บไปหมดแล้ว...


((ต่อด้านล่าง))
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 10 "จิรนุช" 25/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 25-05-2019 10:25:34



          กว้านหลินก้าวลงจากรถหลังจากต้องติดแหงกอยู่กับการจราจรอันหนาแน่นในตอนเย็น ชายหนุ่มขยับเนคไทด์ที่คอให้คลายออกเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดอย่างไม่ชอบใจใบหน้าที่ติดจะบึ้งตึงยิ่งบึ้งเข้าไปใหญ่
 
ภัทรไม่ออกมารับเขาอย่างเช่นทุกวัน
 
            “ภัทรไปไหน”เอ่ยถามศลัยเสียงตึงในขณะที่สาวใช้เป็นคนมารับเสื้อสูทไปถือ
 
            “คุณภัทรบอกว่าเวียนหัวเลยขึ้นไปพักเมื่อเย็นค่ะ”
 
            “ไม่สบาย เป็นอะไร?”ปากเอ่ยถามแต่สองเท้ากลับไม่รอคำตอบร่างสูงก้าวยาวๆทิ้งพี่ๆและคนอื่นไว้เบื้องหลังมุ่งหน้าไปที่ห้องนอนหากแต่โอเมก้าของเขาไม่ได้อยู่ในนั้น
 
            “ศลัยคุณภัทรนอนที่ห้องไหน?”กว้านหลินชะโงกหน้าลงมาตะโกนถามสาวใช้
 
            “อยู่ในห้องเด็กค่ะ”เมื่อได้คำตอบอัลฟ่าหนุ่มก็เบนเท้าไปยังห้องนอนของหลานๆชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าภัทรหลับอยู่บนเตียงของหลานชาย ใบหน้าหวานซีดเซียวราวกับไร้สีเลือดเหงื่อซึมตามไรผมแม้แอร์ในห้องจะเย็นเฉียบ กว้านหลินใช้หลังมือแตะลงบนหน้าผากของภัทรเบาๆ หากแต่แพขนตาที่ปิดสนิทกลับค่อยๆขยับก่อนที่เจ้าของจะลืมตาตื่นขึ้น
 
ทันทีที่เห็นใบหน้าของกว้านหลิน ภัทรก็ปิดเปลือกตาลงอีกครั้งก่อนจะหันหลังให้กับชายหนุ่ม กว้านหลินมองกริยาไม่น่ารักนั้นด้วยสีหน้าแสดงออกถึงความไม่เข้าใจชายหนุ่มนั่งลงบนพื้นที่ข้างๆก่อนจะดึงร่างบางของภัทรให้หันกลับมาหาตนหากแต่โอเมก้าเด็กขืนตัวไว้ไม่ยินยอมเหมือนที่ผ่านมา
 
ทำไมกลับมาดื้ออีกแล้วล่ะ?
 
            “เป็นอะไร? ศลัยบอกว่าเธอไม่สบาย”สะกดใจไม่ให้เผลอดุหรือตวาดเพราะอยากคุยด้วยดีๆ หากแต่ภัทรยังสะบัดตัวเองเบาๆเพื่อหนีการแตะต้องกายจากตัวเขา
 
            “ผมแค่เหนื่อยแล้วก็เวียนหัวหน้ามืดนิดหน่อยไม่ได้เป็นอะไรมากครับ”
 
            “เล่นกับเด็กๆมากไปสินะ พรุ่งนี้เขาก็กลับกันแล้ว ยังไงคืนนี้ก็ไม่ต้องมานอนเป็นเพื่อนเด็กๆหรอกกลับไปนอนที่ห้องเถอะฉันอยากนอนกอดเธอ”
 
            “ผมอยากนอนที่นี่”โอเมก้าเด็กเอ่ยบอกอย่างดื้อดึง ความอดทนของกว้านหลินเริ่มลดลงเรื่อยๆ
 
            “ฉันบอกให้เธอกลับไปนอนที่ห้อง อย่าให้ต้องพูดซ้ำ”น้ำเสียงใจดีเมื่อครู่หายไปแล้วตอนนี้กลายเป็นเสียงดุและตึงขั้นสุด ภัทรหันมามองหน้าอัลฟ่าหนุ่มดวงตาเขียวปั้ดราวกับแมวป่าที่พร้อมจะตบทุกคนที่เข้ามาใกล้
 
            “ผมไม่ไป ผมเหม็น แค่เข้าไปเก็บห้องได้กลิ่นกุหลาบตลบอบอวนก็แทบอ้วกแล้ว ขอล่ะอย่ามาบังคับอะไรผมตอนนี้เลย ถ้าอยากนักก็เอาเขามานอนอีกสิไม่เห็นจะต้องเรียกให้ผมเข้าไปรับใช้เลย”กว้านหลินกระชากภัทรให้ลุกขึ้นนั่งทันทีที่เด็กหนุ่มพูดจบประโยค ความไม่พอใจตีรื้นขึ้นมาจนชายหนุ่มอยากจะตบปากสั่งสอนเด็กที่กำลังดื้อรั้นกับเขาอีกครั้งในรอบเดือน
 
            “อย่ามาประชดฉันนะณภัทร นี่เธอกำลังไม่พอใจที่ฉันพาคนอื่นเข้ามานอนด้วยงั้นเหรอ ฉันจะบอกให้นะว่าฉันจะพาใครมานอนด้วยอีกซักกี่คนก็ได้ เธอไม่มีสิทธิ์มาหึงหวงหรือไม่พอใจไม่มีสิทธิ์มาประชดประชันฉันเลยซักนิด อย่าลืมฐานะตัวเองว่าเธอเป็นใครและฉันเป็นใครที่ฉันดีกับเธอตลอดสองอาทิตย์นี่ก็เพราะพี่ๆฉันอยู่ ฉันไม่อยากให้เขาไม่สบายใจถ้าต้องมาเห็นเราทะเลาะกันทุกวัน อย่าสำคัญตัวผิดไปนัก สงสัยฉันจะใจดีเกินไปเธอเลยลืมสินะ”กว้านหลินบีบข้อมือของคนเด็กกว่าที่ตวัดสายตามองเขาอย่างไม่ออมแรง
 
            “ผมไม่ไป!! และไม่ต้องมาย้ำหรอกว่าผมอยู่ในฐานะอะไร ผมแค่มาขายตัวใช้หนี้จำได้ขึ้นใจจำได้ไม่เคยลืมจำใส่สมองโง่ๆไว้ตั้งนานแล้วว่าแค่มาขายตัว!!”
 
            “ดี ถ้าจำได้ก็ต้องทำตามที่ฉันบอก หน้าที่ของเธอหลักๆก็แค่นอนอ้าขาแล้วครางดังๆให้ฉันก็พอ กลับไปนอนที่ห้อง”ภัทรเม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดมือออกจากการเกาะกุม ร่างบางลุกขึ้นยืนแต่กลับหน้ามืดจนต้องทรุดลงไปนั่งกับเตียงอีกครั้งในใจหวิวๆไปหมดรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลยซักนิด
 
            “พรุ่งนี้ฉันจะบินไปจีนกับพี่รองเตรียมกระเป๋าให้ฉันด้วย”กว้านหลินมองอาการของภัทรด้วยดวงตาว่างเปล่าเอ่ยสั่งงานแล้วเดินจากไป ภัทรนั่งสูดลมหายใจลึกๆเข้าปอดอีกซักพักจึงจำใจเดินกลับมาในห้อง
 
กลิ่นกุหลาบหายไปแล้วหรืออาจจะเจือจางลงไปมากจนตอนนี้ในห้องมีแต่กลิ่นฝนชุ่มฉ่ำของไล่กว้านหลินค่อยทำให้ภัทรหายใจได้โล่งขึ้นมาหน่อย อัลฟ่าหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานเตรียมตัวจะอาบน้ำ
 
            “คุณจะไปกี่วัน?”
 
            “2-3อาทิตย์ ฉันต้องไปจีนก่อนแล้วไปอเมริกา ไม่ต้องเตรียมอะไรมากที่นู่นมีชุดลำลองอยู่เตรียมแค่สี่ห้าชุดก็พอ”หลังจากได้คำตอบจากกว้านหลินภัทรก็หายเข้าไปในห้องแต่งตัวโอเมก้าเด็กจัดกระเป๋าเตรียมของให้กว้านหลินอย่างพิถีพิถัน กว้านหลินเข้าไปอาบน้ำเรียบร้อยแต่งตัวด้วยเสื้อยืดและกางเกงขายาวแบบที่ใส่ประจำก็เดินนำลงไปข้างล่าง เด็กๆร้องเรียกพี่ภัทรกันเสียงแจ้วโต๊ะอาหารถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วพี่ๆนั่งกันอยู่พร้อมหน้าโดยมีคริสนั่งอยู่หัวโต๊ะเป็นเหมือนตัวแทนพ่อส่วนลีโอนั่งข้างๆถัดไปเป็นวิคตอเรียและลูกๆตรงข้ามกันเป็นจอห์นนี่ที่นั่งคุยกันอย่างออกรสกับพี่ชายคนโต กว้านหลินมานั่งเป็นคนสุดท้ายโดยมีภัทรยืนคอยรับใช้อยู่ด้านหลัง
 
            “ภัทรจ๊ะมาทานข้าวด้วยกันเถอะ พรุ่งนี้ฉันกับเด็กๆก็จะกลับแล้วคงคิดถึงแย่”ภัทรส่งยิ้มบางๆให้กับซ่งเชียนแต่ไม่ได้เข้ามานั่งที่โต๊ะตามที่บอกจนหญิงสาวต้องจ้องหน้ากว้านหลิน
 
            “นั่งลงสิ ศลัยเตรียมจานให้คุณภัทร”อัลฟ่าหนุ่มดึงข้อมือเล็กให้คนเด็กกว่ามานั่งข้างๆ วิคตอเรียและลีโอมองความมึนตึงหมางเมินของคนทั้งคู่ก็ได้แต่เงียบ เหมือนรอบข้างท้องฟ้าปลอดโปร่งหากแต่พื้นที่ของคนสองคนนั้นเต็มไปด้วยเมฆฝนมืดครึ้ม ภัทรไม่ร่าเริงเหมือนทุกวันเด็กน้อยเขี่ยข้าวไปมาเมื่อเอ่ยถามก็บอกว่าตนเองไม่ค่อยหิว สีหน้ามีแววครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลา
 
            “วันมะรืนแกกับเจ้าสามก็จัดการเรื่องอาวุธที่จะส่งไปเกาหลีเหนือให้เรียบร้อยนะ ส่วนที่รัสเซียเดี๋ยวให้เจ้าสามไปกับฉันก็พอแกอยู่ดูแลที่จีนให้เรียบร้อย โชคดีที่มาครั้งนี้ได้ลูกค้าใหม่ๆอีกหลายรายถือว่ามาไม่เสียเที่ยว กลับไปคงต้องสะสางงานกันบานอี้ชิงโทรมาจิกซะจนฉันสับสนแล้วว่าใครเป็นนายใครเป็นเลขา”คริสบ่นเลขามือหนึ่งที่จัดการงานแทนเขาในช่วงสองอาทิตย์นี้ด้วยน้ำเสียงติดตลกมื้ออาหารเย็นจบลงอย่างเรียบง่ายเด็กๆงอแงนิดหน่อยที่วันนี้ต้องนอนเร็วแถมภัทรยังไม่ได้มานอนด้วยเหมือนทุกคืนอีก กว่าจะกล่อมให้หลับได้ก็เกือบสามทุ่ม ภัทรเดินกลับเข้ามาในห้องกว้านหลินนั่งพิงหัวเตียงเหลือบตามองเด็กน้อยที่สงบปากสงบคำอย่างไม่วางตา
 
ภัทรเข้าไปหยิบที่นอนมาปูตรงข้างเตียงจนเสร็จแล้วจึงเข้าไปอาบน้ำ เด็กน้อยไม่พูดไม่จาแต่งตัวทาครีมที่เจียดเงินเดือนฝากอี้เฉินซื้อมาให้เสร็จก็ล้มตัวลงนอนทันที
 
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่เพราะความอ่อนเพลียอย่างไม่ทราบสาเหตุทำให้ภัทรหลับไปแบบไม่รู้ตัว เด็กน้อยรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่มีใครบางคนกำลังสวมกอดตนเองจากทางด้านหลังแล้วรั้งเอวของตนให้แนบกับแผงอก ต้นคอถูกปลายจมูกกดลงมาก่อนแทนที่ด้วยริมฝีปากอุ่น ความเจ็บจี๊ดที่ต้นคอยามถูกขบเม้มทำให้หลุดเสียงร้องอย่างไม่ตั้งใจ
 
            “อ๊ะ...”หันกลับไปผลักอกแกร่งยามที่กว้านหลินใช้ปลายลิ้นเลียที่หลังคอตรงจุดต้องห้าม กว้านหลินจ้องใบหน้าตื่นตระหนกของภัทรกดยิ้มจนเห็นเขี้ยวแหลมเล็กที่มุมปาก
 
            “จะทำอะไร?”ภัทรใช้มือปิดต้นคอของตนเองไว้น้ำเสียงที่ถามบ่งบอกว่าทั้งตกใจและไม่พอใจในเวลาเดียวกัน ถ้าหากไม่ห้ามไว้กว้านหลินอาจจะกัดคอของเขา นั่นจะเป็นการผูกมัดภัทรไว้กับกว้านหลินตลอดไป
 
            “ผมไม่ยินยอมให้คุณกัดคอผมนะคุณกว้านหลิน”
 
            “ทำไม ทำไมฉันจะผูกพันธะกับเธอไม่ได้ ในเมื่อเธอเป็นของฉัน”น้ำเสียงไม่พอใจกดถามรั้งต้นคอเด็กน้อยให้เข้ามาใกล้จนริมฝีปากแตะกัน
 
ไม่ใช่ความหวานเลยซักนิดกับสิ่งที่คุณชายตระกูลไล่ทำ มันคือการข่มขู่ละคุกคามการแสดงความเหนือกว่าของอัลฟ่าที่ใช้ข่มโอเมก้าให้อยู่ใต้อำนาจของตน
 
            “ผมจะยอมถูกกัดก็ต่อเมื่อคนๆนั้นจะมีเพียงแค่ผมคนเดียว”ร่างบางเอ่ยตอบอย่างไม่เกรงกลัวใดใดทั้งสิ้น
 
เป็นเรื่องเดียวที่เขาตั้งใจไว้แล้ว ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเพราะกฎของพันธะโง่ๆเอื้อประโยชน์ให้พวกอัลฟ่าที่มักมากในกามารมณ์แต่กลับเอาเปรียบโอเมก้าผู้น่าสงสาร
 
โอเมก้าคือกลุ่มคนที่น่าสงสารที่สุดในความคิดของภัทร ถูกกดขี่ข่มเหงทั้งเรื่องของชนชั้นทางสังคม ฐานะ รวมทั้งการไม่มีสิทธิ์เริ่มต้นกับใครใหม่หลังจากถูกอัลฟ่าคนใดคนหนึ่งกัด
 
            “เธอจะมากำหนดกฎเกณฑ์เปลี่ยนกฎที่มีมานับพันๆปีได้ยังไงกัน เธอก็รู้ดีณภัทร...ว่าอัลฟ่าจะมีโอเมก้าหรือคู่ครองกี่คนก็ได้”ชายหนุ่มกดคลึงจุดหลังคอของภัทรเบาๆ เชื่องช้าหากแต่ว่าเว้าวอน ยั่วยวนให้หลงใหล
 
            “แต่ถ้าฉันกัดที่หลังคอของเธอ เธอจะเป็นของฉันแค่เพียงคนเดียว”
 
            “มันจะไม่มีวันนั้น ผมสาบาน”ภัทรจ้องตาอัลฟ่าหนุ่มกลับอย่างไม่กลัวเกรง กว้านหลินเกลียดสายตาอวดดีนั่นนัก ชายหนุ่มผลักร่างบางให้นอนราบลงกับพื้นก่อนจะขึ้นคร่อมกักร่างของภัทรไว้
 
โอเมก้าทำได้ก็แค่ปากเก่งเท่านั้นแหละ ให้สู้กันจริงๆจะมาสู้อะไรอัลฟ่าอย่างเขาได้ ชายหนุ่มย่ำยีร่างกายของภัทรอย่างเอาแต่ใจโดยที่โอเมก้าเด็กไม่ได้ตอบสนองไม่ได้ขัดขืน ณภัทรในตอนนี้เปรียบเหมือนท่อนไม้ท่อนหนึ่งทำเพียงนอนนิ่งปล่อยสายตาให้เหม่อมองเพดานห้องกัดฟันข่มเสียงน่าอายในบางช่วง กว้านหลินเองก็รู้ดีว่าภัทรกำลังต่อต้านเขาอยู่อัลฟ่าหนุ่มแกล้งกัดตามร่างกายของคนเด็กเพื่อให้ภัทรส่งเสียงร้องหากแต่สิ่งที่ได้รับคือเด็กน้อยหลับตาใบหน้าแสดงความทรมานหากแต่ไม่ยอมร้องหรืออ้อนวอนให้เขาหยุดในที่สุดก็ผละออกอย่างอารมณ์เสียชายหนุ่มยีผมตัวเองอย่างหงุดหงิดกับอารมณ์ที่คั่งค้าง
 
            “เธอมันน่ารำคาญรู้ไว้ซะ”ผลักร่างที่นอนนิ่งสองมือกำผ้าปูที่นอนก่อนจะก้าวกลับขึ้นไปนอนบนเตียงนอนหลังใหญ่ของตัวเองอย่างอารมณ์เสีย
 
น่ารำคาญ ณภัทรตอนดื้อด้านช่างน่ารำคาญที่สุด
 
ไล่กว้านหลินรู้สึกตัวตื่นในตอนรุ่งเช้าเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างในห้องน้ำ ภัทรไม่ได้อยู่บนที่นอนประตูห้องน้ำแง้มอยู่เสียงอาเจียนดังออมาจากในนั้นอัลฟ่าหนุ่มลุกขึ้นเดินไปตามเสียงอย่างหงุดหงิด ในห้องน้ำภัทรกำลังล้างปากที่อ่างล้างหน้าโดยไม่รู้ตัวเลยซักนิดว่ามีคนมายืนประชิดอยู่ด้านหลัง ความรู้สึกพะอืดพะอมตีรื้นขึ้นมาจ่อในลำคออีกครั้ง
 
            “เป็นอะไร?”ภัทรสะดุ้งเฮือกในขณะที่กำลังจะหันหลังกลับไปอาเจียนที่ชักโครกกลิ่นฝนที่เคยหอมทุกครั้งที่อยู่ใกล้บัดนี้กลับเหม็นราวกับน้ำเน่าในสลัม ภัทรกลั้นไม่อยู่อาเจียนที่จ่ออยู่ในคอพุ่งพรวดออกมา โชคร้ายที่มันพุ่งใส่กว้านหลินเต็มๆ เปื้อนกระจายเต็มใบหน้าหล่อรวมทั้งอกเสื้อกลิ่นเหม็นเปรี้ยวคละคลุ้งจนกว้านหลินกำหมัดจนมือหงิก
 
            “ผ...ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ”ภัทรลนลานเอาผ้าเช็ดมือในห้องน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาให้กว้านหลิน ชายหนุ่มปัดมืออันสั่นเทาของเด็กน้อยออกอย่างโมโห
 
            “พอเลย เลิกเช็ดซักที สกปรก”อัลฟ่าหนุ่มถอดเสื้อออกเขวี้ยงใส่หน้าเด็กน้อยตามด้วยกางเกงก่อนจะเปิดน้ำชะระตัวอย่างหงุดหงิด ทิ้งให้ภัทรยืนน้ำตาไหลอยู่ที่เดิม
 
 
            “พี่ภัทรจะคิดถึงหาวหาวมั้ยอ่า”เด็กน้อยวันสามขวบกอดพี่ชายใจดีไว้ใบหน้าน่ารักนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ภัทรใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อย”
 
            “คิดถึงสิครับใครจะไม่คิดถึงเด็กน่ารักๆแบบหาวหาวได้ล่ะครับ”
 
            “หาวหาวก็คิดถึงพี่ภัทรหนูอยากให้พี่ภัทรไปด้วย”
 
            “พี่ไปไม่ได้หรอกครับ ถ้าหาวหาวคิดถึงก็โทรมาสิครับพี่ภัทรอยู่บ้านทุกวัน สัญญาว่าจะรับสายทุกครั้งเลย”
 
            “งั้นเดี๋ยวถ้าหนูถึงบ้านหนูจะโทรหาพี่ภัทรนะ”
 
            “ได้เลย หาวหาวต้องเป็นเด็กดีนะครับ”
 
            “อื้อ หนูจะเป็นเด็กดี ไว้หนูจะมาหาพี่ภัทรใหม่นะ”เด็กน้อยสวมกอดโอเมก้าไว้จนเต็มสองแขนป้อมๆ ภัทรกอดตอบหาวหาว เด็กที่ทำให้ชีวิตในบ้านหลังนี้ของภัทรไม่เงียบเหงามาตลอดครึ่งเดือนร่างบางโยกเด็กน้อยไปมาเบาๆกดจูบที่แก้มใสอย่างแสนรัก
 
แม้จะไม่อยากจากลาหากแต่ในที่สุดก็ได้เวลาเดินทาง วิคตอเรียคว้าร่างของโอเมก้าเด็กไปกอดพลางลูบหลังบอบบางนั้นเบาๆ
 
ให้ความรู้สึกของพี่สาวกอดปลอบน้องชาย
 
            “รักษาเนื้อรักษาตัวดีๆนะภัทร นี่เป็นเบอร์โทรของฉันถ้ามีปัญหาอะไรอยากขอความช่วยเหลือหรืออยากปรึกษาอยากระบายอะไรเธอก็โทรหาฉันได้ตลอดนะ กลับไปแล้วฉันคงคิดถึงเธอมากๆ”
 
            “ขอบคุณฮะ ผมก็จะคิดถึงพวกคุณเหมือนกันเดินทางปลอดภัยนะครับ ขอโทษที่ส่งได้แค่นี้”
 
            “ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ไปก่อนนะจ๊ะ”วิคตอเรียผละออกจากภัทรก่อนจะโบกมือลา กว้านหลินปรายตามองโอเมก้าเด็กที่หันหน้าหนีเขาเล็กน้อยก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งบนรถ ภัทรไม่แม้จะหันไปมองอัลฟ่าหนุ่มเลยซักนิดจนกระทั่งรถของสามพี่น้องเคลื่อนออกไปจากตัวบ้านเด็กน้อยเม้มปากแน่นก่อนจะปล่อยให้น้ำตาค่อยๆไหลออกมา
 
น้อยใจ...
 
แม้จะอยากปัดความรู้สึกนั้นออกหากแต่กลับสลัดออกไม่พ้นคล้ายบ่วงที่คล้องคออยู่กลับดึงรั้งมัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ภัทรใช้เวลาในช่วงเช้าเดินเก็บใบแห้งของต้นไม้ รดน้ำพรวนดินจนเหงื่อไหลโทรมเต็มกาย ความอ่อนเพลียตั้งแต่เมื่อวานทำให้เหนื่อยง่าย ภัทรกลับเข้าบ้านในตอนสิบโมงกว่าเสียงรถยนต์แล่นมาจอดหน้าบ้านเด็กน้อยหันกลับไปมองอย่างสงสัย สตรีรูปร่างสูงโปร่งในชุดเดรสเกาะอกสีแดงสดก้าวลงจากรถด้วยท่วงท่าสง่างาม หญิงสาวเดินมาหยุดตรงหน้าเด็กน้อยพลางสูดกลิ่นหอมที่ออกจากตัวของภัทรอย่างถือวิสาสะ ภัทรขมวดคิ้วกับการกระทำไร้มารยาทนั้นพลันกลิ่นกุหลาบหอมเย้ายวนก็เข้มข้นขึ้นในอากาศเป็นการประกาศอาณาเขตและกดคนที่ด้อยกว่าอย่างจงใจ
 


            “เธอคงเป็นภัทรสินะ ฉันจิรนุช เป็นว่าที่คู่หมั้นของกว้านหลิน”




#ไฮเดรนเยีย

TBC.

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 10 "จิรนุช" 25/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 25-05-2019 13:30:50
น้องท้องใช่มั้ย อยากให้น้องหนีไปเลยจ้าา เบื่อพระเอกแล้วมีแต่ทำน้องร้องไห้ :serius2:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 10 "จิรนุช" 25/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 26-05-2019 00:45:52
ยัยคุณจี เจ้าของบ้านเขาไม่อยู่มาทำตัววางก้ามได้ยังไง!!
เนี่ยย สามวันดีสี่วันร้าย คุณชายสามแย่ที่สุด  :beat: :beat:
ดูอาการแล้วน่าจะท้อง แง  :katai1:
โทรไปบอกคุณวิคตอเรียให้พาหนีได้ไหมนะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 10 "จิรนุช" 25/05/2019
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-05-2019 00:42:12
ภัทรท้องแล้วใช่ไหม หลินก็จะใจร้ายกับภัทรเกินไปแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 11 "มีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในนั้น"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 28-05-2019 19:49:00


          Hydrangea 11
 
 
          บรรยากาศภายในห้องรับแขกอึดอัดจนภัทรอยากจะอาเจียน เด็กหนุ่มนำน้ำส้มและน้ำเปล่ามาวางไว้ให้กับนุช ไหล่เล็กห่อลงอย่างน่าสงสาร
 
ลำพังมาแค่กลิ่นเขาก็แพ้จนไม่รู้จะแพ้ยังไงแล้วนี่เจ้าของกลิ่นกลับมานั่งไขว่ห้างเคาะนิ้วลงบนโต๊ะจนเกิดเสียงเป็นจังหวะ ริมฝีปากสวยแต้มสีด้วยลิปติคแดงสดเยื้อนยิ้มราวกับนางฟ้าผู้ใจดี
 
            “ว่ายังไงเธอเป็นอะไรกับกว้านหลิน”จิรนุชเอ่ยคำถามเดิมอีกครั้งหลังจากได้ถามเด็กตรงหน้านี้ไปแล้วเมื่อไม่กี่นาทีก่อน
 
            “ผมเป็นแค่คนรับใช้ของคุณกว้านหลินครับ”
 
            “เหรอ รับใช้ยังไงล่ะ ในบ้านหรือบนเตียง”ภัทรเม้มปากข่มอารมณ์ไม่ให้ตอบโต้หญิงสาวที่นั่งเหยียดยิ้มส่งมาให้ ฝ่ามือจิกลงไปบนถาดที่ถือราวกับอยากจะทำให้มันแหลกคามือ
 
อดทน...
 
ภัทรบอกกับตัวเองในใจนับร้อยนับพันครั้ง เดี๋ยวเบื่อหล่อนก็คงจะกลับไปเอง ภัทรทำเพียงยืนเงียบไม่ว่าจิรนุชจะพูดอะไรก็ทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่สนใจฟังแม้กระทั่งสิ่งที่หญิงสาวพร่ำพูดเรื่องหล่อนกับกว้านหลิน อาการอ่อนเพลียและเวียนหัวยังคงเล่นงานเด็กน้อยอย่างต่อเนื่อง
 
ภัทรอยากไปเอนหลังนอนพักซักหน่อยแต่ตอนนี้เขายืนฟังอัลฟ่าสาวพูดพล่ามมาเกือบชั่วโมงแล้วโดยที่ศลัยก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย เบต้าสาวใช้ถูกสั่งให้ไปทำงานในส่วนของตัวเอง ทุกคนคุ้นชินกับนุชดี
 
คุณหนูแสนเย่อหยิ่งที่ดูท่าทางจะไม่ยอมปล่อยคุณชายสามของพวกหล่อนให้อยู่อย่างสงบแบบที่เป็นมาแน่ๆ
 
            “คุณจิรนุชครับ”ในที่สุดหลังจากทนมาพักใหญ่ภัทรก็รู้สึกว่าตนเองทนไม่ไหวอีกต่อไป
 
            “ผมเหนื่อย อยากพักแล้ว นี่มันจะบ่ายแล้วนะครับมันเลยเวลาพักของผมไปเกือบชั่วโมงแล้ว”จิรนุชกดยิ้มที่มุมปาก เก่ง...โอเมก้าคนนี้กำลังอวดเก่งกับอัลฟ่าอย่างเธอหญิงสาวเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำส้มมาคลึงเล่น สายตาคมจ้องหน้าภัทรไม่ละไปไหน เด็กน้อยขยับตัวอย่างระวัง นุชหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะจรดปากลงบนปากแก้วดื่มน้ำส้มคั้นสดจนเกือบหมดแล้ววางแก้วลงที่เดิม หญิงสาวหยิบกระเป๋าถือแล้วลุกขึ้นยืน
 
            “ขอโทษด้วยแล้วกันที่มารบกวนเวลาพักของเธอ เอาไว้กว้านหลินกลับมาฉันจะให้เค้าจ่ายค่าล่วงเวลาให้เธอเพิ่มก็แล้วกัน ฉันกลับก่อนนะจ๊ะ แล้วจะมาคุยด้วยใหม่”นุชเดินออกมากลับขึ้นรถของตัวเอง หล่อนยิ้มกับตัวเองอย่างพอใจ หมดยุคที่จะมากรี้ดกร้าดเป็นนางร้ายในละครแล้ว หล่อนจะไม่โวยวายหรืออาละวาดใส่เด็กคนนั้นหรอก หล่อนจะพูดให้ภัทรรู้ว่าระหว่างอัลฟ่าที่เพียบพร้อมกับโอเมก้าแสนต่ำต้อยนั้นน่ะใครมันเหมาะสมคู่ควรที่จะได้รับการยกย่องเชิดชูจากกว้านหลิน  หล่อนเข้าใจธรรมชาติของอัลฟ่าดี การที่จะมีเล็กมีน้อยบ้างนั่นก็เพื่อจะสร้างบารมีให้ตัวเอง กว้านหลินอยากจะมีใครก็มีไปเดี๋ยวหล่อนจะค่อยๆกำจัดออกไปเอง  ศลัยที่ยืนแอบมองอยู่นานแล้วรีบเข้ามาประคองภัทรที่เกือบจะล้มลงไปกับพื้นอยู่แล้ว
 
            “เป็นอะไรมากมั้ยคะคุณภัทร”หญิงสาวกระพือลมให้กับเด็กทีนั่งหน้าซีดเช็ดเหงื่อที่ผุดซึมตามไรผมให้อย่างเป็นห่วง เด็กน้อยส่ายหน้าเป็นคำตอบ
 
            “ทานข้าวเลยมั้ยคะพักนี้หน้าคุณซี๊ดซีด ทานก็น้อยเดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะนะคะ”ไม่รอให้ภัทรปฏิเสธศลัยก็เข้าไปเตรียมอาหารให้ภัทร หญิงสาวร้องห้ามยามที่โอเมก้าในปกครองของกว้านหลินทำท่าจะเดินมาช่วยภัทรจึงจำต้องนั่งรอเงียบๆฟุบหน้าลงกับโต๊ะ
 
เหนื่อย...
 
เหนื่อยเกินกว่าจะเอาคำพูดของจิรนุชมาคิด แต่ถามว่ามันวนเวียนรบกวนจิตใจมั้ย แน่นอนทุกคำพูดที่แสร้งทำหูทวนลมนั้นอัดแน่นแจ่มชัดในสมอง  เหมือนคราบโสโครกตามผนังห้องน้ำที่แม้จะขัดก็ยังหลงเหลือรอยให้หงุดหงิดใจ
 
เจ้าของตัวจริงเขามาประกาศตัวแล้ว ตัวปลอมอย่างเขาก็ยิ่งเจือจางมากเข้าไปทุกที
 
ภัทรนั่งกินข้าวกลางวันอย่างเงียบๆไม่พูดไม่คุยเหมือนทุกวัน กินเสร็จร่างบางก็ยึดโซฟาหลังใหญ่ในห้องรับแขกภัทรสร้างรังนอนยึดเป็นของตัวเองก่อนจะปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนล้า 2-3 วันมานี้รู้สึกเพลียจนอยากหลับทั้งวัน ศลัยขึ้นไปหยิบผ้าห่มผืนบางมาห่มให้โดยที่ภัทรไม่ได้รู้สึกตัวตื่น เด็กน้อยหลับสนิทโดยที่ไม่มีใครมากวนอีก
 
หวังอี้เฉินขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านสกุลไล่ชายหนุ่มวางสายจากเจ้านายที่อยู่เมืองจีนก่อนจะก้าวยาวๆเข้ามาในตัวบ้าน ร่างสูงเตรียมขึ้นไปยังห้องทำงานของกว้านหลินแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นภัทรนอนหลับอยู่บนโซฟา ปกติถ้าไม่เห็นช่วยงานในบ้านโอเมก้าเด็กก็มักจะง่วนอยู่กับสวนรอบๆบ้าน ภาพที่มานอนหลับในห้องรับแขกนี่ถือเป็นความแปลกใหม่ ใบหน้าที่มักจะฉายแววเศร้าอยู่เสมอนั้นซีดเซียวจนอดห่วงไม่ได้ อี้เฉินเอื้อมมือไปแตะข้างแก้มของคนเด็กกว่าก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง
 
ตัวของภัทรไม่ร้อนแปลว่าไม่มีไข้เด็กน้อยเอียงแก้มรับสัมผัสข้างแก้มอย่างเคยชิน
 
กว้านหลินชอบลูบแก้มภัทรในยามเช้า อี้เฉินชะงักมือนิ่งไม่กล้าที่จะขยับตัวเพราะกลัวคนหลับจะตื่น เมื่อภัทรนิ่งลงอี้เฉินจึงค่อยๆชักมือกลับวูบหนึ่งดวงตาของเบต้าหนุ่มฉายแววบางอย่างแต่เขาก็ปัดมันทิ้งไป
 
ไม่มีทางเป็นไปได้...
 
อี้เฉินเบนกายหันหลังเดินกลับขึ้นไปยังห้องทำงานของกว้านหลิน หยิบเอกสารที่เจ้านายบอกใส่ซองเพื่อเอากลับไปจัดการต่อที่บริษัท เมื่อลงมาร่างบางทีหลับอยู่ก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
 
            “พี่อี้เฉินมาเอาของเหรอครับ”
 
            “ใช่พอดีคุณชายอยากได้เอกสารบางตัวพี่เลยจะเอาไปแฟ็กซ์ให้ เราน่ะเป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดๆ”
 
            “ไม่รู้ครับ คงจะเครียดแล้วก็เหนื่อยกับเด็กๆมาหลายวันเลยเพลียๆครับ พักแล้วเดี๋ยวคงหาย”ภัทรส่งยิ้มเนือยๆไปให้อี้เฉิน เบต้าหนุ่มเห็นดังนั้นก็อดเอ็นดูไม่ได้ เขารู้ปูมหลังที่ภัทรต้องมาอยู่ที่นี่ดี แม้ตอนแรกเขาจะโกรธที่พ่อของภัทรทำให้ท่านประธานที่เปรียบเหมือนพ่อคนหนึ่งของเขาต้องจากโลกนี้ไป แต่เมื่อได้รู้จักพูดคุยเขาก็รับรู้ได้ว่าเด็กคนนี้ไร้พิษสงไม่มีพิษภัยกับใครเลย
 
ณภัทรคือเหยื่อของเรื่องนี้ เบต้าหนุ่มวางมือลงบนกลุ่มผมของเด็กตรงหน้าอย่างสงสารโยกไปมาเบาๆอย่างเอ็นดู
 
            “ยังไงเราน่ะก็ดูแลตัวเองดีๆรู้มั้ย อยากได้อะไรหรือเปล่าพรุ่งนี้เช้าๆพี่จะได้แวะเอามาให้”
 
            “คิดถึงแม่ อยากเจอแม่”เสียงใสนั้นสั่นจนคนฟังใจหาย
 
เด็กคนนี้ต้องว้าเหว่มากขนาดไหนนะ
 
ตอนเขาอายุเท่าภัทรเวลาไม่สบายแม่มักจะเป็นคนแรกที่รู้เสมอ คอยถามว่าเป็นยังไงบ้างหิวข้าวมั้ย
 
แล้วตอนนี้ภัทรมีใคร บ้านหลังใหญ่แต่กลับปกคลุมไปด้วยละอองแห่งความว้าเหว่
 
เขาสงสารโอเมก้าตรงหน้า
 
สงสารจับใจ
 
แต่การที่จะให้ภัทรคุยกับแม่ได้ต้องได้รับการอนุมัติจากคุณชาย
 
เขาไม่มีสิทธิ์กระทำอะไรได้โดยพละการ เพราะหากคุณชายรู้คนที่จะเดือดร้อนคนแรกไม่ใช่เขา กว้านหลินยังคงมีความเกรงใจเขาอยู่บ้างด้วยอายุที่มากกว่าและเขาสามารถตัดสินใจหรือแนะนำในเรื่องการงานของชายหนุ่มได้หากแต่กลับภัทร เด็กตรงหน้าไม่มีสิทธิ์อะไรเลยกว้านหลินจะต้องหาวิธีลงโทษภัทรแน่ๆ
 
            “ขอโทษนะ พี่คงให้ไม่ได้”เบต้าหนุ่มขอโทษอย่างจริงใจ ภัทรส่ายหน้ารอยยิ้มอย่างเด็กที่เข้าใจสถานการณ์ต่างๆเป็นอย่างดีถูกมอบกลับมาให้
 
            “ไม่เป็นไรครับผมเข้าใจดี ถ้าอย่างนั้นผมขอหนังสือนิยายหรือพวกวรรณกรรมแปลซักสองสามเล่มก็ได้ครับ”
 
            “โอเค อันนี้ได้ ยังไงพี่ไปก่อนนะคุณชายรอเอกสารอยู่ แล้วก็ถ้าไม่สบายมากๆโทรหาพี่ได้เดี๋ยวพาไปหาหมอ อย่าปล่อยให้ตัวเองป่วยหนัก ร่างกายน่าจะอ่อนแอตั้งแต่ป่วยคราวก่อน ดูแลตัวเองดีๆมีอะไรเรียกศลัยนะ”
 
            “ครับ ขอบคุณนะครับ เอ้อ พี่อี้เฉินครับ ถ้าเจอแม่ ฝากบอกแม่ด้วยนะครับว่าผมคิดถึงแล้วก็ผมสบายดี สบายดีมากๆเลยไม่ได้ลำบากอะไร นะครับ”
 
            “ได้...เอางี้สิ”อี้เฉินมองซ้ายขวาก่อนจะเดินมาใกล้ภัทรอีกนิด ชายหนุ่มกระซิบเบาๆแต่เป็นประโยคที่ทำให้ภัทรพยักหน้ารับอย่างดีใจ
 
            “เขียนจดหมายหาแม่สิ พรุ่งนี้พี่จะแวะมาเอาไปส่งให้”



 
ไล่กว้านหลินไปนานกว่าที่คิดไว้ ปัญหาทางรัสเซียที่เกิดขึ้นทำให้กำหนดกลับของชายหนุ่มเลื่อนไปอีกสองวัน อัลฟ่าหนุ่มหงุดหงิดที่ทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจ เช้านี้เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเวียนหัวแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อความวิงเวียนเข้าเล่นงาน
 
เขาคงเครียดและพักผ่อนน้อยเกินไป กว่าอาการนั้นจะหายไปก็ในช่วงสาย ยังไม่รวมกับอาการอยากอาหารแต่กลับกินไม่ลง หงุดหงิดแทบบ้าอยากจะกลับไทยใจจะขาด
 
ป่านนี้โอเมก้าของเขาจะเป็นยังไงบ้าง คงสบายใจสินะที่ไม่มีเขาคอยไปกวนใจ
 
ไล่กว้านหลินไม่รู้เลยว่าตลอดเวลาสองอาทิตย์ จิรนุชกลายเป็นแขกประจำ หญิงสาวแวะเวียนมาที่บ้าน 2-3 วันครั้งและเรียกใช้เพียงแค่ภัทร เช่นวันนี้เมื่อถึงกำหนดที่กว้านหลินบอกว่าจะกลับมาหญิงสาวก็มาพร้อมกับรถที่ขนดอกไม้มาเต็มคันรถ จัดแจงให้ภัทรจัดแจกันด้วยดอกกุหลาบหลากสี
 
            “เธอว่าดอกกุหลาบสวยมั้ยณภัทร”นุชยื่นกุหลาบดอกใหญ่มีราคาให้ภัทรที่นั่งตัดใบออกดู ภัทรชะงักก่อนจะถอยหน้าออกห่างเมื่อกลิ่นกุหลาบฉุนเข้มทำให้รู้สึกพะอืดผะอม
 
            “ส..สวยครับ”กลั้นอกกลั้นใจตอบให้มันจบๆไปแต่ก็เรียกรอยยิ้มพึงพอใจจากหญิงสาวได้
 
            “ใช่มั้ยล่ะ เวลาคนเอาดอกไม้ไปจัดแจกันเค้าก็มักจะเลือกดอกกุหลาบก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนนี่ ไลเซนทัส แม้จะคล้ายกุหลาบแค่ไหน สุดท้ายก็เป็นได้แค่ตัวประกอบ เหมือนเธอไม่มีผิด”ภัทรสะดุ้งสุดตัวปล่อยดอกกุหลาบในมือทิ้งปลายนิ้วมีเลือดซึมเพราะถูกหนามกุหลาบตำ นุชแสร้งทำเป็นร้องอย่างตกใจคว้ามือของภัทรไปจับไว้แน่นก่อนจะออกแรงบีบนิ้วจนเลือดไหลมากกว่าเดิม
 
            “คุณนุชกรุณาปล่อยผมเถอะครับ”ภัทรกัดฟันกลั้นความเจ็บชักมือออกอย่างสุภาพหากแต่หญิงสาวกลับรั้งไว้ด้วยท่าทางสบายๆ”ความสามารถพิเศษของอัลฟ่าสินะ ต่อให้เขาเป็นผู้ชายยังไงเสียก็ไม่สามารถสู้อัลฟ่าได้เลยซักนิด
 
น่าสมเพชตัวเองจัง
 
            “ต่อให้พยายามเอาไลเซนทัสมาจัดช่อยังไง สุดท้ายกุหลาบก็จะเด่นกว่าอยู่ดี เพราะฉะนั้นอย่าเผลอคิดว่าจะโดดเด่นขึ้นมาได้ โอเมก้าก็แค่เครื่องบำบัดความใคร่ของอัลฟ่าแค่นั้นแหละจำไว้นะณภัทร”จิรนุชผลักมือของภัทรออกจนฟาดกับโต๊ะอย่างแรง เจ็บจนน้ำตาแทบจะไหลแต่เด็กน้อยก็กัดฟันกลั้นมันเอาไว้
เขาจะไม่ยอมอ่อนแอให้นุชเห็นเด็ดขาด
 
ยิ่งหญิงสาวพยายามข่มเขาเท่าไหร่ ภัทรก็จะแสดงความเข้มแข็งออกมามากขึ้นเท่านั้น
 
เขาจะไม่สู้หรอกเพราะมันก็จริงอย่างที่นุชพูด แต่เขาก็จะไม่ยอมอ่อนแอให้หญิงสาวได้ใจ จิรนุชลงไปนั่งบนเก้าอี้ตามเดิมหล่อนหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาจัดใส่แจกันใบใหญ่ก่อนจะเลื่อนไปให้ภัทร
 
            “เอาใบนี้ไปใส่ไว้ในห้องนอนของกว้านหลินเขากลับมาเห็นจะได้สดชื่น กว้านหลินน่าจะใกล้ถึงแล้วเครื่องลงตั้งนานแล้ว เสร็จแล้วเธอก็ลงมาเก็บกวาดให้เรียบร้อยเดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูบนห้องอีกที”ภัทรทำตามที่หญิงสาวสั่งอย่างเงียบๆ โอเมก้าเด็กประคองแจกันใบใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงไปไว้ในห้องนอนไม่นานนุชก็เข้ามามองนู่นมองนี่ขยับมุมจนได้ตามต้องการ ภัทรลงมาเก็บของจนเสร็จ เด็กน้อยได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาในบ้านใจดวงน้อยเต้นโครมครามแม้จะบอกตัวเองว่าไม่ได้คิดถึงคนใจร้ายเลยซักนิดหากแต่หัวใจกับไม่เป็นไปในทางเดียวกันเลย ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเมื่อเห็นอี้เฉินเดินลงมาเปิดประตูรถด้านเบาะหลัง ร่างสูงของกว้านหลินก้าวลงมา
 
สง่างามเช่นเดิมไม่มีผิดเพี้ยน


((ต่อด้านล่าง))
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 11 "มีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในนั้น"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 28-05-2019 19:49:37
 
คิ้วสวยได้รูปของอัลฟ่าหนุ่มยังคงขมวดมุ่นจนหน้าหล่อๆนั้นดุขึ้นเช่นทุกครั้งที่ไม่สบอารมณ์ ภัทรเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว อยากออกไปหาใจจะขาดหากแต่ภัทรกลับช้ากว่าใครอีกคน
 
จิรนุชก้าวยาวๆออกจากบ้านสวมกอดเอวสอบไว้ก่อนจะกดจูบลงบนปลายคางของอัลฟ่าหนุ่ม กว้านหลินเชยปลายคางมนให้เชิดขึ้นก่อนจะประกบจูบเนิ่นนาน
 
นานมากพอที่จะทำให้โอเมก้าที่แอบดูร้องไห้
 
หัวใจที่ลิงโลดเมื่อครู่กลับห่อเหี่ยวลงทันตาเห็น ภัทรค่อยๆถอยออกจากบริเวณนั้นเดินลัดครัวออกไปที่สวนหลังบ้านทรุดตัวลงนั่งที่แปลงไฮเดรนเยียปล่อยให้น้ำตาไหลอย่างเงียบๆ

ไม่ฟูมฟาย
 
ไม่ตัดพ้อ
 
ก็แค่ตัวจริงเขามา แค่คนขัดดอกอย่างเขาไม่มีสิทธิ์ไปรู้สึกอะไรด้วยซ้ำ
 
ไม่รู้จักหลาบจักจำจริงๆเลยภัทรคนโง่
 
            “มานั่งทำอะไรตรงนี้ภัทร”ณภัทรรีบปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะหันไปหาเจ้าของเสียง อี้เฉินย่อตัวลงนั่งข้างหน้าเด็กน้อย รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้ทำให้ภัทรอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้
 
            “ลำบากมากเลยสินะช่วงนี้”แม้เด็กตรงหน้าจะไม่เคยเล่าเรื่องของนุชให้ฟังเลยแต่ศลัยก็รายงานเขาตลอดว่าภัทรเจออะไรบ้างเวลาที่อัลฟ่าสาวมาบ้าน
 
สงสารและเห็นใจแต่ถ้ากว้านหลินและนุชแต่งงานกันตราบใดที่ภัทรยังอยู่ในบ้านหลังนี้ภัทรก็ยังต้องเจอเหตุการณ์แบบเมื่อครู่อยู่ดี
 
            “ฮะ...ผมเหนื่อยมากๆเลย”
 
            “อดทนนะ ผ่านช่วงแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของก็คงเลิกมาวุ่นวายไปเอง”
 
            “ก็คงต้องอย่างนั้นแหละครับ ผมจะไปทำอะไรได้”เด็กน้อยกดคางลงกับเข่าพูดอย่างปลงๆ
 
เขาทำอะไรไม่ได้เลยซักนิด แสดงท่าทางไม่พอใจยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
 
            “เข้าบ้านเถอะ พี่ซื้อหนังสือมาให้อีกสามเล่มน่าจะช่วยให้หายเหงาได้สามวันมั้ง เราเล่นอ่านหนังสือเร็วพี่จะซื้อให้ไม่ทันอยู่แล้ว คุณชายมองหาอยู่เมื่อกี๊”
 
            “พี่อี้เฉินเข้าไปก่อนเลยครับผมขอรดน้ำต้นไม้แป๊บหนึ่งเดี๋ยวตามไป”เด็กน้อยบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อจะไปหยิบสายยาง แต่พอลุกขึ้นดวงตาก็พร่าเลือนอาการเวียนหัวเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็วแล้วสติสัมปชัญญะของภัทรก็ดับลง หวังอี้เฉินรีบถลามารับร่างของภัทรได้ทันก่อนที่ศีรษะของเด็กน้อยในอ้อมแขนจะฟาดลงกับพื้น ชายหนุ่มช้อนร่างบางปวกเปียกนั้นขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนในท่าเจ้าสาว เดินกึ่งวิ่งเข้ามาในบ้านเพื่อมาหากว้านหลินก็ไม่พบร่างของเจ้านายหนุ่มและนุชแล้ว อารมณ์เป็นห่วงเบต้าหนุ่มจึงพาร่างไร้สติของภัทรขึ้นรถไปทันที
 
            “ฮัลโหลหมออนลครับอยู่ที่โรงพยาบาลมั้ยครับภัทรไม่สบายผมกำลังพาไปโรงพยาบาล ครับ ได้ครับ จะรีบไปครับ”
 
อนลมองผลตรวจเลือดในจอคอมพ์ ชายหนุ่มขยับแว่นมองหน้าโอเมก้าที่ฟื้นตั้งแต่อยู่บนรถกับอี้เฉินแล้ว สีหน้าคุณหมอหนุ่มดูลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด เขาสอบถามเรื่องอาการอ่อนเพลียและอาเจียนตอนเช้าของภัทร รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์กับกว้านหลิน ระยะการฮีทของโอเมก้าเด็ก ภัทรตอบด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้มด้วยความกระดากอายจนในที่สุด
 
            “สิ่งที่หมอกำลังจะพูดคุณอาจจะรู้สึกตกใจหรือคิดว่ามันอาจจะเร็วไป แต่จากผลตรวจเลือดออกมาแล้วคุณตั้งครรภ์ได้ 7 สัปดาห์แล้ว”ภัทรเงยหน้าขึ้นมองคุณหมอหนุ่มด้วยดวงตาตื่นตระหนก มือเรียวลูบลงบนหน้าท้องของตนเองทันที
 
ตั้งครรภ์...ลูกงั้นเหรอ  เขากำลังจะมีลูก...
 
เด็กน้อยร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ความรู้สึกตื้อในหัวอกตีรื้นออกมา อนลหยิบกระดาษทิชชู่ยื่นให้ภัทร
 
            ภัทรไม่คิดว่าลูกมามาเกิดเร็วขนาดนี้ มาในตอนที่พ่อของเขามีคนอื่นอยู่ข้างกาย
 
            “ผม...ผมไม่รู้ต้องทำอะไรต่อครับหมอ ผมงง ผมไม่รู้อะไรเลย”
 
            “อย่าเครียดเดี๋ยวหมอจะสอนการดูแลตัวเองให้นะ ตอนเช้าๆเวลาตื่นนอนถ้าลุกเลยจะเวียนหัวภัทรต้องค่อยๆลุก แล้วก็หาแครกเกอร์เค็มๆติดห้องไว้ อย่ายกของหนักทำอะไรต้องระวังหน่อยช่วงนี้เด็กยังเป็นตัวอ่อนเค้ายังไม่แข็งแรงถ้ายกของหนักหรือทำอะไรกระทบกระเทือนเค้าอาจจะหลุดได้ สำคัญพยายามอย่าเครียดเพราะมันส่งผลต่อมดลูกเหมือนกัน เดี๋ยวหมอให้ยาแก้แพ้ท้องกับพวกโฟเลทไปมันเป็นยาบำรุงเลือดนะ แล้วหมอนัดตรวจอีกที จะให้หมอบอกคุณชายเลยมั้ย”
 
            “อย่า...อย่าเพิ่งบอกครับ ผมอยากเป็นคนบอกเขาด้วยตัวเอง รอให้เขาว่างก่อนดีกว่าเขาเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ”
 
            “เอางั้นก็ได้ นี่ใบสั่งยาเอาไปยื่นที่ห้องยาก็กลับบ้านได้”
 
            “ผมขอบคุณหมอมากนะครับ”ภัทรยกมือไหว้หมอนนก่อนจะรับใบสั่งยามาถือไว้ สมองของเขาว่างเปล่า เด็กน้อยนั่งลูบท้องของตัวเองมาตลอดทางที่กลับบ้าน เมื่อถึงบ้านแล้วภัทรก็เดินอย่างล่องลอยไปที่สวนหลังบ้านมือเรียวละไปกับใบไฮเดรนเยีย อี้เฉินที่เดินตามมาเงียบๆตลอดทางโอบไหล่เด็กน้อยไว้หลวมๆ
 
เขาอยากให้เด็กคนนี้รู้ว่าภัทรไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว บนโลกอันอ้างว้างนี้อย่างน้อยยังมีเขาอยู่ข้างๆอีกหนึ่งคน ภัทรโยนความเข้มแข็งทั้งหมดที่มีทิ้งลงก่อนจะโผเข้ากอดอี้เฉินไว้ซุกหน้ากับไหล่กว้างร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่อาย
 
เหมือนโลกของภัทรถูกถล่มด้วยหยาดน้ำฝน
 
ความกังวลทุกอย่างประเดประดังสาดซัดเข้ามาใส่ใจดวงน้อยนี้จนเขาอ่อนแอพ่ายแพ้เกินกว่าจะสู้
 
เพียงแค่คิดว่าสุดท้ายแล้วลูกก็จะถูกพรากออกจากอก อาจจะถูกจดทะเบียนให้เป็นลูกของกว้านหลินและจิรนุชในอนาคตภัทรก็รู้สึกเหมือนตัวเองว่ายน้ำในมหาสมุทรที่เกิดคลื่นยักษ์ เขามองไม่เห็นฝั่งและสุดท้ายก็อ่อนแรงและทิ้งร่างให้จมหายไปในทะเลน้ำตานี้
 
ณภัทรเกิดความรู้สึกหวงแหนเลือดเนื้อเชื้อไขของตน
 
ไม่อยากเสียไปให้ใคร
 
ไม่อยากยกเค้าให้ใครทั้งนั้น
 
            “ไม่ร้อง...ไม่ร้องนะเด็กดี”อี้เฉินลูบผมของโอเมก้าเด็กเบาๆก่อนจะประคองใบหน้าแสนเศร้านั้นเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา
 
สงสาร...สงสารเหลือเกิน
 
อยากจะช่วยแต่ทำอะไรไม่ได้เลยซักนิด
 
ภัทรยังคงใช้ไหล่และอกเสื้อของอี้เฉินเป็นที่ซับน้ำตา สวมกอดเอวของเบต้าหนุ่มไว้อย่างเด็กน้อยหาที่พึ่งพิงโดยไม่รู้เลยว่ากว้านหลินกำลังยืนมองภาพคนสองคนกอดกันด้วยดวงตาที่แทบจะกลายเป็นกองเพลิงอยู่แล้ว





 
 
 
 
            ภัทรนั่งคุยกับอี้เฉินที่ชิงช้าในสวนอีกซักพักเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยดูสบายใจขึ้นเบต้าหนุ่มจึงขอตัวกลับบ้าน ภัทรก้าวขึ้นบันไดแต่ละขั้นอย่างช้าๆ เด็กน้อยไปหยุดยืนที่หน้าห้องนอน
 
ไล่กว้านหลินกับจิรนุชอยู่ในนั้น...
 
ห้องที่เคยนอนอยู่ทุกคืนบัดนี้เจ้าของเขายึดคืนไปแล้ว เขาไม่มีสิทธิ์ก้าวเข้าไปในอาณาเขตของอัลฟ่าทั้งสองเลยซักนิด แตะฝ่ามือลงบนประตูไม้บานใหญ่พลันต้องถอยออกเมื่อมีแรงสะเทือนที่ประตูบานนั้น เสียงครวญครางลอดออกมาแว่วๆยิ่งทำให้ใจดวงน้อยเจ็บมากขึ้นกว่าเดิม ภัทรปล่อยถุงยาทิ้งกับพื้นก่อนจะทรุดนั่งกอดเข่าที่ที่หน้าห้อง เด็กน้อยหลับตาฟังเสียงที่ลอดออกมาอย่างคนบ้า
 
ฟังให้มันสลักลึกลงไปในใจ มือเรียวลูบหน้าท้องของตัวเอง เอ่ยกระซิบเสียงแผ่วคุยกับชีวิตน้อยๆในครรภ์ราวกลับจะปลอบใจลูกน้อย
 
            “ลูกจ๋า คืนนี้เราไปนอนห้องเด็กกันนะครับ พ่อเค้าไม่ว่างมานอนกับเราแล้ว” ภัทรค่อนๆประคองตัวเองให้ลุกขึ้นยืน เก็บถุงยาแล้วเดินราวคนไร้เรี่ยวแรงไปยังห้องนอนเด็กที่เคยนอนกับหาวหาว โอเมก้าที่เพิ่งตั้งครรภ์อ่อนๆเปิดเพียงไฟหัวเตียง ดวงดาวเรืองแสงบนผนังส่องแสงหลากสี ณภัทรหัวเราะให้กับตัวเอง
 
มีดาวใกล้เพียงเอื้อมแต่เขายังไม่มีปัญญาครอบครองดาวพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ
 
เพราะไม่รู้จะไปอ้างสิทธิ์ข้อไหนถือเอาดาวพวกนั้นมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง
 
เปรียบเหมือนกว้านหลินไม่มีผิด
 
แม้จะอยู่แค่เอื้อมแต่กลับรู้สึกไม่ควรคู่ ภัทรรู้สึกเหนื่อยกับการพยายามทำให้กว้านหลินหายโกรธกับเรื่องที่พ่อของตนเองได้ทำลงไป เด็กน้อยคิดแบบเด็กๆว่าวันหนึ่งที่กว้านหลินเห็นถึงความรักที่ตนเองมีให้หัวใจของอัลฟ่าหนุ่มก็จะค่อยๆอ่อนลงจนในที่สุดเราก็จะเข้าใจกัน
 
เพราะเพิ่งผ่านพ้นวัยเด็กมาได้ไม่นาน ยังอ่อนเดียงสาและอ่อนต่อโลกจึงคิดว่าการใช้ชีวิตบนโลกไม่ได้ยากเย็น
 
เพราะเคยอ่านนิยายประโลมโลกประเภทความรักจะเอาชนะทุกสิ่งเลยทำให้ณภัทรให้อภัยในเรื่องที่กว้านหลินฆ่าพ่อตน ยอมเป็นลูกอกตัญญูที่ปล่อยผ่านการตายของพ่อเพียงเพราะคิดว่าวันหนึ่งไล่กว้านหลินจะแยกแยะได้
 
แต่ความจริงที่ต้องเผชิญ ทั้งการทำร้ายร่างกาย รวมทั้งการทำร้ายจิตใจด้วยคำพูดและการกระทำมันทำให้หัวใจของโอเมก้าเด็กห่อเหี่ยวลงไปทุกทีๆ
 
ไม่จริงเลยซักนิด...นิยายประโลมโลกพวกนั้นมันก็เป็นแค่เพียงจินตนาการของผู้เขียน พอเอามาใช้กับชีวิตคนจริงๆมันไม่ได้ผล
 
เหมือนโลกที่เคยสดใสของภัทรถูกม่านหมอกสีเทาค่อยๆกลืนกินไปทีละนิด กว่าจะรู้ตัวความหนาวเหน็บก็เข้ามาเยือนความชุ่มชื่นของไอฝนกลายเป็นความเหน็บหนาวราวกับกำลังนั่งอยู่บนเทือกเขาหิมาลัย
 
ณภัทรในยามนี้เคว้งคว้างและอ้างว้างเหลือเกิน เด็กน้อยกอดเข่าตัวเองไว้ด้วยสองแขนแสนเปราะบางโยกตัวเองไปมาช้าๆ ริมฝีปากซีดค่อยๆร้องเพลงกล่อมเด็กออกมาเบาๆ
 
ณภัทรในตอนนี้ไม่รู้หรอกว่าตนเองกำลังกล่อมชีวิตน้อยๆในท้องหรือกำลังกล่อมตัวเองให้ข่มตาหลับในค่ำคืนนี้
 
Twinkle, twinkle, little star,
How I wonder what you are;
Up above the world so high
Like a diamond in the sky!
Twinkle, twinkle, little star,
How I wonder what you are.
 
When the blazing sun is gone,
When he nothing shines upon,
 
 
Then you show your little light,
Twinkle, twinkle all the night
Twinkle, twinkle, little star,
How I wonder what you are.
 

ดวงดาวในห้องดูพร่างพราว หากแต่หาใช่ความระยิบระยับจากแสงของดวงดาวเหมือนดังเพลงที่ร้องจบ เป็นเพียงแสงระยิบระยับผ่านม่านน้ำตาของภัทรเอง...

 
            ไล่กว้านหลินไปส่งนุชตอนเกือบสี่ทุ่ม หญิงสาวงอแงรบเร้าอยากจะค้างกับเขาหากแต่ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะให้อัลฟ่าสาวมาวุ่นวายกับอาณาเขตส่วนตัวของตนเองในเวลานี้ ชายหนุ่มขับรถมาจอดที่ริมแม่น้ำ มือเรียวหยิบบุหรี่ออกมาจุดสูบ ดวงตาคมที่ฉายแววดุอยู่ตลอดเวลามองก้านบุหรี่ในมือก่อนจะยกมันขึ้นจ่อปากอัดควันฉุนเย็นเข้าเต็มปอดแล้วพ่นมันออกมาอย่างหัวเสียภาพที่ภัทรสวมกอดอี้เฉินตามมาหลอกหลอนเขาจนต้องเอาความโกรธไประบายใส่จิรนุช หญิงสาวถูกส่งกลับบ้านทั้งๆที่กิจกรรมดุดันดำเนินไปได้ครึ่งทาง กว้านหลินหยุดมันกะทันหันในขณะที่อารมณ์ของอัลฟ่าสาวกำลังทะยาน ชายหนุ่มสั่งให้หล่อนใส่เสื้อผ้าด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดจนหล่อนที่คบหากับกว้านหลินมาหลายปีต้องทำตาม กว้านหลินไปส่งนุชที่บ้านโดยที่ไม่ลงไปทักทายพ่อแม่ของหล่อนแบบที่ผ่านมา ในหัวของเขามีเพียงภาพที่เห็นเมื่อเย็นคอยวนเวียนย้ำเตือนว่าสิ่งที่เห็นคือเรื่องจริง ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ชายหนุ่มเตะก้อนหินที่ปลายเท้าจนมันกระเด็นกระจัดกระจายแล้วโยนก้นบุหรี่ที่เพิ่งสูบไปเพียงครึ่งทิ้งลงพื้นใช้ปลายเท้าขยี้จนดับสนิทแหลกแทบจะละเอียดผสมเป็นเนื้อเดียวกับพื้นดินใต้ฝ่าเท้า
 
            “ร่าน!!!”สบถออกมาอย่างหัวเสียก่นจะกลับขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างเร็ว กว้านหลินกลับเข้าบ้านอีกครั้งตอนเกือบตีสาม ร่างสูงเดินเซไม่เป็นทางเมื่อเข้ามาในบ้านก็ตะโกนร้องเรียกภัทรให้ลั่นจนคนรับใช้ต้องรีบเปิดไฟเพื่อมาดูเจ้านายหนุ่ม ศลัยรีบเข้าไปประคองกว้านหลินที่ยกเท้าถีบเก้าอี้แต่กลับเสียหลักจะล้มซะเอง อัลฟ่าหนุ่มผลักสาวใช้ออกตวาดลั่นจนคนในบ้านพากันสะดุ้งจนตัวโยน
 
            “ไม่ต้องสาระแน ฉันเรียกพวกแกเหรอ ภัทรไปไหนหน้าที่รับใช้ฉันคือภัทร ถ้ามันไม่ลงมาฉันจะไล่พวกแกออกให้หมด!!”
 
            “ผมอยู่นี่”กว้านหลินเงยขึ้นไปมองร่างบางที่ยืนอยู่ขั้นบนสุดของบันได ด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อชายหนุ่มก้าวพรวดๆเพียงไม่นานก็ขึ้นไปกระชากแขนโอเมก้าเด็กแล้วกระชากให้มาหาตน ภัทรใจหายวูบเมื่อเท้าแตะขอบบันไดขั้นบนสุดอย่างหมิ่นเหม่ เด็กน้อยรีบคว้าราวบันไดเป็นหลักยึด
 
ไม่ได้ห่วงตัวเองเลยซักนิด
 
ห่วงอีกหนึ่งชีวิตในท้องมากกว่า
 
            “คุณกว้านหลิน อย่าทำผมแรงผมขอร้อง”เด็กน้อยส่งเสียงอ้อนวอนเมื่อร่างสูงกดนิ้วลงบนต้นแขน ดวงตาดุจ้องมองอย่างไม่ลดละ
 
            “กล้าดียังไงวันนี้ถึงเมินฉันไม่ออกมารับฉันทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าฉันกลับมาแล้ว”อัลฟ่าหนุ่มเขย่าร่างในกำมือจนภัทรหัวสั่นหัวคลอน เด็กน้อยพยายามดึงตัวเองออกจากคนเมา แต่กว้านหลินกลับคิดว่าภัทรรังเกียจตน อารมณ์ทั้งน้อยใจทั้งหงุดหงิดตีรวนในสมองจนโมโห
 
            “ทีกับฉันทำสะดีดสะดิ้งแตะนิดแตะหน่อยทำเหมือนจะตาย แต่กับคนอื่นไปยืนกอดกันตัวกลม กับผัวนี่ทำเป็นรังเกียจเหรอวะ ตอบมาสิ ยืนเงียบทำไม ปากอมอะไรอยู่ทำไมไม่พูดวะ พูดให้เยอะๆเหมือนตอนประจบประแจงตอแหลกับไอ้อี้เฉินสิ!!!”
 
            “คุณกว้านหลินปล่อย ปล่อยผมนะ ผมเจ็บ”ภัทรดึงแขนตัวเองเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุมของกว้านหลิน ใบหน้าขาวซีดเริ่มขึ้นสีแดงทั้งกลัว ทั้งโมโห
 
ทำไมกว้านหลินไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
 
            “ก็ตอบฉันมาสิ เธอมีสิทธิ์อะไรไปกอดไอ้อี้เฉิน หรือระหว่างที่ฉันไม่อยู่แอบเล่นชู้กันมาสินะถึงได้ดูอ้อนมันซะเหลือเกิน เป็นชู้กับมันใช่มั้ย ห๊ะ ใช่มั้ย!!”ไล่กว้านหลินตวาดใส่หน้าโอเมก้าเด็กที่กัดปากตัวเองพยายามเก็บกักความรู้สึกกลั้นก้อนสะอื้นที่ทำท่าจะตีรื้นออกมาจากอก ภัทรสะบัดตัวออกจนหลุดจากการเกาะกุมของกว้านหลิน ความหึงหวง ความโกรธความเสียใจที่อัดแน่นในอกระเบิดเป็นแรงอารมณ์ทำให้โอเมก้าเด็กบันดาลโทสะ เด็กน้อยตบลงบนซีกแก้มของอัลฟ่าหนุ่มเต็มแรงจนชายหนุ่มหน้าหัน เสียงแม่บ้านที่ยืนดูเหตุการณ์ด้านบนส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจไม่ได้ทำให้พายุอารมณ์ของคนทั้งสองเบาลงได้เลยซักนิด
 
            “แล้วทีคุณล่ะ กลับมายังไม่ทันเข้าบ้านก็จูบกับคุณจิรนุชน่ะ ดีนักเหรอ ตัวเองทำได้แต่คนอื่นทำไมไม่ได้งั้นสิ ในขณะที่ผมอ่อนแอไม่สบายจะเป็นจะตายคุณไปอยู่ไหน นู่น กกกับคนอื่นอยู่ในห้องของเรา แต่คนที่คอยช่วยเหลือผมทุกอย่างกลับเป็นพี่อี้เฉิน มีแค่เขา แล้วแบบนี้คุณยังมีหน้ามาบอกว่าผมมีชู้อีกเหรอในเมื่อคุณเองไม่เคยให้สถานะอะไรในบ้านนี้กับผมเลยนอกจากลูกหนี้ คนหน้าด้าน”
 
            “คิดว่าตัวเองเป็นใคร!!! กล้าดียังไงมาตบฉัน?!!”ไล่กว้านหลินตะคอกถามเสียงกร้าวก่อนจะผลักอกโอเมก้าเด็กอย่างลืมยั้งแรง เพราะความเมาและความโกรธ ภัทรที่ถูกผลักโดยไม่ทันตั้งตัวซวนเซไปด้านหลังทันที เด็กน้อยผวาคว้ามือของกว้านหลินไว้ร้องขอให้กว้านหลินช่วยดึงตนเองกลับขึ้นไป อัลฟ่าหนุ่มเองก็ตกใจไม่น้อย ชายหนุ่มดึงร่างที่กำลังจะร่วงหล่นลงไปด้านล่างก่อนดวงตาตื่นตระหนกจะเปลี่ยนมาเป็นเกรี้ยวกราดอีกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดของภัทรเมื่อครู่
 
            “ไปให้ไอ้อี้เฉินมันช่วยก็แล้วกัน ฉันมันเป็นคนไม่ดีนี่!!”กว้านหลินค่อยๆแกะมือเด็กน้อยออกทีละนิด
 
            “อย่า!!”ภัทรพยายามกุมมือนั้นไว้อีกครั้ง หัวใจของเด็กน้อยเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำตาไหลพรากเมื่อปลายนิ้วของตนค่อยๆเลื่อนหลุดจนในที่สุด....
 
            “ผมท้องลูกของคุณอยู่นะ!!!”หากแต่ประโยคสุดท้ายเด็กน้อยเอ่ยช้าจนเกินไป เพราะเมื่อกว้านหลินได้ยินเขาก็คว้าร่างบอบบางนั้นไม่ทันอีกแล้ว ภัทรกลิ้งหล่นลงจากบันไดขั้นบนสุดจนลงไปกองอยู่ที่ด้านล่าง เด็กน้อยจุกจนลุกไม่ขึ้น มือเรียวรีบจับประคองท้องของตนเองไว้อย่างหวงแหน น้ำตาไหลพรากเมื่อช่องท้องเกิดอาการปวดจนตัวบิด เด็กน้อยนอนขดตัวร่างกายเกร็งเสียงร้องวี๊ดว้ายของสาวใช้ดังขึ้นเมื่อโลหิตสีแดงสดค่อยๆซึมเปรอะกางเกงนอนของโอเมก้าเด็ก
 
            “ลูก...อยู่กับแม่ ฮึก...อยู่กับแม่นะครับ”เสียงแผ่วเบาของภัทรเอ่ยร้องขอกับชีวิตน้อยๆในท้องก่อนที่เปลือกตาจะค่อยๆปิดสนิทลงพร้อมๆกับใบหน้าของกว้านหลินที่เข้ามาถึงตัว


#ไฮเดรนเยีย

TBC.



..................................


ปล่อยมือฉันแล้วจากไปซะเถอะ เข้าใจแล้วว่าเราไม่รักกัน


หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 11 "มีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในนั้น"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 28-05-2019 22:46:47
 :m31: :m31: กว้านหลินน!!!!!

ทำอะไรลงไป ถึงน้องไม่ได้ท้องก็ทำแบบนั้นไม่ได้

ขอให้น้องเหม็นหน้าไปตลอดเลยจนกว่าจะคลอด!

ให้บทเรียนกับคนที่เอาแต่ใจไม่เห็นใจคนอื่นซะบ้าง แย่มาก!  :fire: :angry2:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 11 "มีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในนั้น"
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 29-05-2019 10:22:39
 :z3: :z3: ทำไมทำแบบนี้กับน้อง เจ้าตัวเล็กจะรอดมั้ย :katai1:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 11 "มีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในนั้น"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-05-2019 10:23:28
ขอให้น้องปลอดภัยนะ กว้านหลินก็ทำเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 11 "มีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในนั้น"
เริ่มหัวข้อโดย: mrmdnkj ที่ 29-05-2019 22:15:54
คุ้นๆ นะเหมือนเคยอ่านที่ไหนมาก่อนเลยอะ mpreg เหมือนกันเหมือนพอร์ตเรื่องเดียวกันแต่เปลี่ยนชื่อตัวละคร  :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 11 "มีหัวใจอีกดวงเต้นอยู่ในนั้น"
เริ่มหัวข้อโดย: nonlapan ที่ 29-05-2019 23:50:55
ต้อง Bad end แล้วแหละขนาดนี้แล้ว  :o12:  :sad4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 12 "หักลบกลบหนี้"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 30-05-2019 11:28:15
Hydrangea 12

 
            นายแพทย์อนลก้าวเท้าเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยสีหน้าบึ้งตึงหนัก เส้นผมที่เคยถูกหวีจนเรียบแปล้เนี้ยบสมกับเป็นนายแพทย์ที่น่าเชื่อถือบัดนี้ยุ่งเหยิง
 
เขาเพิ่งออกเวรได้กลับไปนอนเมื่อไม่ถึงสามชั่วโมงที่แล้วก็ต้องถูกโทรปลุกกลางดึกด้วยคนๆเดิม
 
ไล่กว้านหลินไอ้อัลฟ่าปีศาจนั่นก่อเรื่องอีกแล้ว และครั้งนี้หนักข้อขึ้นมากกว่าเดิม เมื่อหมอหนุ่มมาถึงหน้าห้องฉุกเฉินกว้านหลินรีบพุ่งมาหาเขา อนลยกมือขึ้นห้ามไม่ให้กว้านหลินพูดอะไรเขารีบเข้าไปด้านในทันที
 
กลัวว่าถ้าปริปากพูดอะไรออกไปร้อยคำอาจเป็นคำด่าไปแล้ว 99 คำแน่ๆ
 
กว้านหลินนั่งไม่ติดที่อัลฟ่าหนุ่มผุดลุกผุดนั่งตั้งแต่ที่บุรุษพยาบาลเข็นเอาภัทรเข้าไปด้านใน แม้ปากจะบอกว่าเขาเกลียดภัทรแต่ใจกลับร้อนรนจนนั่งไม่ติด แขนเสื้อยังเปรอะเปื้อนคราบเลือดของเด็กน้อย
 
            “ผมท้องลูกของคุณอยู่นะ!!”ประโยคบีบหัวใจวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมจางหายไปไหน กว้านหลินจัดการกับความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ไม่ได้เลย ร่างสูงเดินไปเดินมาราวเสือติดจั่นจนกระทั่งในที่สุดขาที่เคยคิดว่ามันแข็งแรง แข็งแรงมากพอที่จะแบกทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไว้ทั้งหมดก็อ่อนแรงลง ชายหนุ่มทรุดตัวคุกเข่าลงบนพื้น
 
ไม่สนใจความสกปรกหรือเชื้อโรค มือเรียวสวยประสานกันอยู่ที่อก
 
เขาไม่เคยเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์
 
เขาไม่เคยเชื่อเรื่องเทพเจ้า
 
เขาไม่เคยเชื่อเรื่องการภาวนาหรืออ้อนวอนร้องขอต่อเทพเจ้าเหมือนที่พวกอาม่าแก่ๆชอบทำกัน แต่ตอนนี้เขาขอ
 
            “ได้โปรดคุ้มครองเมียและลูกของผมด้วย...”
 
            หากแต่เสียงภาวนาของไล่กว้านหลินอาจจะเบาเกินจนเทพเจ้าไม่รับรู้ เข็มนาฬิกาทำหน้าที่อย่างเชื่องช้าแสนน่ารำคาญผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าในที่สุดภัทรก็ถูกเข็นไปไว้ในห้องที่จองไว้ คุณหมอหนุ่มท่าทางอิดโรยหากแต่พอเห็นกว้านหลินที่เดินตามเข้ามาใบหน้าที่เคยประดับรอยยิ้มใจดีอยู่เสมอมาก็บึ้งตึงขึ้นมาอีกครั้ง
 
            “พี่ ลูกผมเป็นยังไงบ้าง?”
 
            “ทำไม จะเป็นยังไงแล้วทำไม ตอนนี้คนที่คุณควรห่วงคือเด็กนั่น ผมไม่รู้หรอกนะว่าผีห่าซาตานตัวไหนมันสิงใจคุณอยู่ ไล่กว้านหลินที่เคยเป็นคนดีหายไปไหน นับวันผมก็เหมือนจะรู้จักคุณน้อยลงไปทุกที หรืออันที่จริงแล้วผมไม่ได้รู้จักคุณกันแน่ สิ่งที่คุณทำในวันนี้มันคือการพยายามฆ่าเลยนะกว้านหลิน”อนลหันกลับไปมองคนไข้ที่หลับอยู่บนเตียงหมอหนุ่มชี้ไปที่ร่างบอบบางบนเตียงคนไข้
 
            “เค้าน่าสงสารขนาดไหนหัวใจคุณรู้ดี เรื่องที่พ่อของเค้าทำเด็กนั่นไม่รู้เรื่องเลยด้วยซ้ำคุณอาศัยความผิดของพ่อเขาเอาเด็กนี่มาขังมาปรนเปรอความใคร่ของคุณไม่พอ ครั้งที่แล้วผมขอร้องคุณแล้วว่าให้คุณถนอมเขาหน่อย เขายังเด็กนะ นับตามเวลาเกิดจริงๆเพิ่งจะ 17 เองนะ เด็กอายุแค่นี้จำเป็นมั้ยที่ต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายจากคนที่รักได้ถึงขนาดนี้”ยิ่งพูดยิ่งมีอารมณ์ คุณหมอหนุ่มแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อนึกถึงดวงตาที่ทั้งสับสน ทั้งยินดีของภัทรตอนที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้อง
 
            “คุณรู้มั้ย ผมเพิ่งบอกข่าวดีกับเขาไปเมื่อเย็นว่าเขากำลังจะได้เป็นแม่คน เด็กนั่นน่ะดูก็รู้เลยว่าเขารักลูกของเขาแค่ไหน ถ้าลูกคุณยังอยู่เขาจะเป็นเด็กที่โชคดีแค่ไหนที่มีแม่ที่รักเขามากแบบนั้น ถ้าคุณรักเขาจริงอย่างที่เคยบอกกับผมก็ช่วยทำให้เห็นทีเถอะ คนรักกันที่ไหนกล้าทำให้คนที่ตัวเองรักเจ็บปางตายขนาดนั้น อย่าให้ผมหมดศรัทธาในตัวคุณ อย่าทำให้ผมมองเห็นแต่ความชั่วร้ายของคุณเลยนะคุณกว้านหลิน ให้การสังเวยชีวิตกับอารมณ์ร้ายโง่ๆของลูกคุณครั้งนี้ช่วยเตือนสติคุณทีเถอะว่าพอซักที”ไล่กว้านหลินที่ยืนเงียบมาตลอดหันมาสบตาหมอรุ่นพี่ทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
 
            “ถ้าลูกผมยังอยู่? หมายความว่ายังไง?”
 
            “ถามเพราะไม่รู้จริงๆ หรือแค่อยากได้คำปลอบใจ? ต่อให้เป็นเจ้าแม่หวังหมู่ตั้งท้องตกจากบันไดขนาดนั้นก็แท้ง”ไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมาจากปากของอัลฟ่าหนุ่ม หากแต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้คำด่าที่จะเปล่งออกมาของอนลจบลง
 
ไล่กว้านหลินกำลังร่ำไห้...อัลฟ่าหนุ่มที่เคยเข้มแข็งมาตลอดปล่อยหยดน้ำตาให้รินไหล สองขาราวกับคนที่กำลังไร้เรี่ยวแรง ชายหนุ่มก้าวไปหาร่างที่นอนนิ่งอย่างช้าๆก่อนจะทรุดกายนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง ฝ่ามือหนาสั่นเทาราวกับถูกพิษไข้เล่นงานค่อยๆจับลงบนมือนุ่มจรดริมฝีปากลงบนหลังมือนั้นอย่างแสนรัก
 
เขารักภัทร
 
รักมากพอๆกับที่เกลียดมาก
 
ณภัทรไม่รู้เลยซักนิดว่าเขาต้องข่มกลั้นความรู้สึกที่เก็บกักมาหลายปีไว้มากแค่ไหน
 
อยากจะรักแต่สิ่งที่พ่อของภัทรทำนั้นเหมือนฉีกเขาสองคนให้ออกห่างจากกัน
 
อยากจะรักแต่กลับรักไม่ได้ อยากจะเกลียดแต่ก็เกลียดได้ไม่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างค้างคาประดักประเดิดไปเสียหมด เขามันก็คนที่เห็นแก่ตัวและไม่แยกแยะผิดถูกจริงๆอย่างที่อนลพูดนั่นแหละ เขาใช้โอกาสในคืนนั้นจับตัวภัทรมากักขังไว้ข้างตัวเพื่อที่เด็กน้อยที่เขาตามหาจะได้ไม่หนีหายไปไหน หากแต่พอได้มาวามโกรธแค้นกลับทำให้เขาทำลายเด็กคนนี้ และเพราะเขาเดินมาเส้นทางนี้แล้วการเดินกลับหลังหรือบอกว่ารักเด็กคนนี้ยกย่องเชิดชูออกนอกหน้านอกตาก็ยิ่งทำไมได้ ความเครียดความหงุดหงิดจึงแสดงออกด้วยการทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของภัทร ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทำลงไปแล้วก็ได้แต่รู้สึกผิดแต่ก็บอกกับใครไม่ได้ ได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจเพียงคนเดียว
 
เขาอยากให้ภัทรอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างเขาบ้าง
 
ความรู้สึกที่ทั้งรักทั้งเกลียดมันทรมานมากแค่ไหน
 
และในวันนี้...เขาทำเกินไปจริงๆ เขาไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไมถึงแกะมือภัทรออกอาจจะเป็นเพราะเขาเคยเป็นอัศวินของภัทรมาโดยตลอด วันนี้อัศวินของภัทรถูกเปลี่ยนตัวกลายเป็นหวังอี้เฉินมันทำให้ชายหนุ่มทั้งอิจฉาทั้งโกรธมันทำให้เขาทำเรื่องโง่ๆ
 
เขาฆ่าลูกของตัวเอง...ความรู้สึกผิดกัดกินจิตใจของอัลฟ่าหนุ่มเหมือนสนิมที่ค่อยๆกินผิวเหล็กเนื้อดี

เขาฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองกับมือ  แม้จะไม่ได้ตั้งใจแต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะโยนความผิดบาปนี้ออกไปจากใจเลยซักนิด

หากลูกไม่จากเขาไป  อีกไม่กี่เดือนก็จะมีสมาชิกตัวน้อยๆออกมาสร้างสีสันให้กับสกุลไล่  เขาก็จะมีทายาทสืบสกุลจากคนที่เขารัก

หากแต่ในตอนนี้ ลูกได้จากเขาไปแล้ว
 
            “พ่อขอโทษ...พ่อขอโทษจริงๆ พ่อไม่ได้ตั้งใจ”
 
อนลปิดประตูห้องพักของภัทรอย่างเหนื่อยล้า มองภาพอัลฟ่าหนุ่มที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นในห้องด้วยสายตาที่ทั้งสงสารและสมเพชในคราวเดียวกัน เขาหวังเหลือเกินว่าเหตุการณ์ในคืนนี้กว้านหลินจะได้รับบทเรียนและปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น
 
            “รีบรู้ใจตัวเองแล้วทำให้มันถูกต้องซักทีเถอะคุณชาย”
 
ณภัทรตื่นขึ้นในตอนสาย เด็กน้อยเห็นกว้านหลินกำลังยืนคุยกับหมอนนอยู่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด มือเรียวลูบหน้าท้องของตัวเองภาพเหตุการณ์เมื่อคืนย้อนเข้ามาในหัว
 
ลูก...ถึงแม้จะอยากหลอกตัวเองว่าลูกยังอยู่หากแต่ภัทรก็ไม่ได้โง่พอที่จะบอกว่าลูกยังอยู่กับตัว และคำพูดที่หมอบอกกับกว้านหลินก็ตอกย้ำว่าสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นนั้นคือความจริง
 
            “ผมจะให้คนไข้พักฟืนที่โรงพยาบาลซัก 2-3 วันนะเนื่องจากต้องดูภาวะแทรกซ้อนจากการแท้ง ตรวจค่าการแข็งตัวของเลือด และที่สำคัญคือต้องประเมินสภาพจิตใจของแม่หลังแท้งบุตร ถ้าเป็นปกติดีไม่มีอะไรน่าห่วงก็กลับบ้านได้”
 
            “แล้วหลังจากนี้จะยังตั้งท้องได้ปกติมั้ย?”
 
            “ก็ถ้าเขาแข็งแรงสมบูรณ์ดีก็ไม่มีปัญหา หลังจากนี้ก็ให้ดูแลให้ดีจะมีจนตั้งทีมฟุตบอลก็ยังได้ ยังไงเดี๋ยวจะให้พยาบาลมาช่วยดูแล ผมขอไปดูคนไข้คนอื่นต่อก่อนนะ หวังว่าหลังจากนี้คงไม่ต้องรับสายด่วนอีกนะ”
 
            “ขอบคุณครับ”กว้านหลินขอบคุณคุณหมอที่วิ่งวุ่นกับเขาตั้งแต่เมื่อคืน เมื่อหันกลับมาก็พบว่าภัทรนอนมองเขาอยู่
 
ออกจะแปลกใจนิดหน่อยที่ภัทรไม่ได้ร้องไห้หรือคร่ำครวญที่ต้องเสียลูกในท้องไป ใบหน้าเด็กน้อยเรียบนิ่งท่าทีที่สงบนั้นพาให้หัวใจของเขารู้สึกปวด
 
            “ฉัน...”
 
            “เอาสมุดบัญชีมาหรือเปล่าครับ?”ภัทรเอ่ยสวนในขณะที่กว้านหลินอึกอักทำท่าจะพูดอะไรซักอย่าง เมื่อถูกคำถามไม่คาดฝันก็ทำเอาอัลฟ่าหนุ่มยืนงงไปชั่วขณะ
 
            “อะไรนะ?”
 
            “ผมถามคุณว่าได้เอาสมุดบัญชีมามั้ย ถ้าเอามาก็ช่วยลดหนี้ให้ผม 20 ล้านบาทด้วยนะครับ เพราะผมตั้งท้องลูกให้คุณแล้ว แล้วก็ห้ามคิดค่ารักษาพยาบาลด้วยเพราะมันเกิดจากฝีมือของคุณ”




 
 
            อัลฟ่าสกุลไล่เหมือนถูกค้อนทุบหัว นอกจากภัทรจะไม่ร้องไห้คร่ำครวญถึงลูกในท้องที่เพิ่งเสียไปแล้ว เด็กตรงหน้ายังพูดถึงเรื่องเงินด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไร กลับกลายเป็นเขาเสียอีกที่เสียใจจะเป็นจะตาย กว้านหลินรู้สึกเหมือนถูกภัทรตีแสกหน้าเมื่อคนเด็กกว่าทวงถามถึงสมุดบัญชีอีกครั้ง
 
            “ว่าไงครับ ได้เอามาหรือเปล่า?”
 
            “เป็นบ้าเหรอ?”กว้านหลินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความผิดหวังอย่างชัดเจน เขาคิดว่าคนเป็นแม่ที่ต้องสูญเสียลูกไปจะเศร้าเสียใจร้องไห้จนน้ำตาท่วมโลกหากแต่ภัทรในตอนนี้ไม่ใช่เลย
 
            “ผมแค่ร้องขอสิ่งที่ผมจะต้องได้ ผมทำอะไรให้คุณไม่พอใจอีกเหรอครับ?”
 
            “สิ่งที่เธอควรทำตอนนี้คือเสียใจกับการสูญเสียลูกไม่ใช่มาพูดเรื่องราคาค่าตัวลูก เธอไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยเหรอที่ลูกตาย”กว้านหลินเขย่าร่างของเด็กที่กดยิ้มเยาะเขา ดวงตาของภัทรไม่ได้อ่อนโยนและอ่อนแอแบบวันวานเลยซักนิด มันจ้องตรงมาที่เขา ไม่ได้ร้องขอให้เขาปล่อยเพราะความเจ็บแบบทุกครั้ง โอเมก้าในกำมือตอนนี้มีเพียงความสงบนิ่ง ราวกับน้ำในสระที่ไม่รู้จะไหลไปทางไหน
 
            “ผมต้องรู้สึกอะไรเหรอครับ? แค่เลือดก้อนเดียว ผมควรดีใจสิ ไม่ต้องอุ้มท้องนานก็ปลดหนี้ได้ตั้ง 20 ล้าน คนที่ต้องเสียใจคือตัวคุณเอง คุณเป็นคนฆ่าเค้ากับมือแล้วจะมาโยนความผิดให้ผมได้ยังไงกันคุณไล่กว้านหลิน คิดดูดีๆสิครับ คุณเป็นคนฆ่าลูกของเราทั้งๆที่แกยังไม่ทันมีโอกาสออกมาลืมตาดูโลกเลยด้วยซ้ำ สะใจคุณหรือยัง ต้องทำร้ายผมอีกกี่ครั้งคุณถึงจะพอใจ!!”ณภัทรจ้องหน้าไล่กว้านหลินนิ่ง อัลฟ่าหนุ่มเจ็บราวกับเด็กตรงหน้าใช้มีดจ้วงแทงเข้ามาตรงหัวใจซ้ำๆ
 
ความจริงเป็นสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดแก่เขาเสมอ ยิ่งความจริงที่ว่าเขาเป็นคนฆ่าลูกด้วยน้ำมือตัวเองยิ่งสร้างบาดแผลร้าวลึกเข้าสู่จิตใจจนแทบกระอัก ชายหนุ่มค่อยๆปล่อยมือที่จับต้นแขนทั้งสองข้างของภัทรออก อัลฟ่าหนุ่มหันหลังเดินออกไปจากห้องโดยไม่พูดไม่จาอะไรกับภัทรอีก
 
เขาไม่เคยคิดเลยว่าเด็กคนนั้นจะใจจืดใจดำได้ถึงขนาดนี้
 
เลือดก้อนเดียวเหรอ...
 
นั่นชีวิตลูกทั้งชีวิตนะ...เธอกล้าพูดคำนั้นออกมาอย่างหน้าตาเฉยได้ยังไง
 
 
            ณภัทรนั่งฟังเสียงฝีเท้าของไล่กว้านหลินที่เดินจากไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยจนกระทั่งฝีเท้านั้นห่างออกไปเรื่อยๆจนเงียบหายไป เด็กน้อยกำมือกับผ้าห่มจนยับย่นก่อนที่เสียงสะอื้นจะหลุดออกมา ร่างบางกอดเข่าคู้ตัวราวกับจะปกป้องตัวเองจากโลกอันแสนโหดร้ายภายนอก ริมฝีปากพร่ำเรียกหาลูก ความอาลัยอาวรณ์ท่วมท้นในจิตใจสะอึกสะอื้นเสียจนหายใจไม่ทัน
 
สงสารลูก...
 
สงสารชีวิตน้อยๆที่ต้องมาสังเวยกับความโมโหร้ายของคนเป็นพ่อ ณภัทรคลายอ้อมกอดของตัวเองลง หยุดร้องไห้คร่ำครวญราวกับกดปิดสวิซต์ลูบหน้าท้องตัวเองช้าๆปล่อยให้น้ำตาไหลลงมานิ่งๆพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
 
            “หนูเจ็บมากมั้ยครับ...แม่ขอโทษนะลูกที่ปกป้องหนูไม่ได้เลย แม่มันอ่อนแอเกินไป แม่ขอโทษ...หนูนอนหลับให้สบายนะครับ ถ้ามีวาสนาต่อกันจริงหนูค่อยกลับมาหาแม่ในวันที่พร้อมกว่านี้ ดีกว่านี้นะลูกนะ นอนหลับซะนะลูกเดี๋ยวแม่จะกล่อม”ดวงตากลมที่พราวไปด้วยหยาดน้ำตามองเหม่อออกไปยังท้องฟ้ามืดครึ้มด้านนอก ก่อนจะโยกตัวช้าๆเสียงเพลงกล่อมเด็กถูกเปล่งออกมาราวกับกำลังกักขังตัวเองไว้ในเขาวงกตวนเวียนและหาทางออกไม่เจอ
 
Twinkle, twinkle, little star,
How I wonder what you are;
 
วนๆ ซ้ำๆ จมอยู่ในจินตนาการภาพของตัวเอง
 
วนๆซ้ำๆจมอยู่ในทะเลน้ำตาที่ไม่มีจุดสิ้นสุด

เจ้าดาวดวงน้อยของแม่ร่วงหายไปแล้ว ตามเก็บกลับมาไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...
 
จิตใจของณภัทรในตอนนี้แหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี ราวกับกระจกที่ถูกรถบรรทุกหนักซักสิบตันบนขยี้ มันแตกจนเก็บมาต่อไม่ไหว มันพังจนนำมาประกอบใหม่ไม่ได้
 
            ไล่กว้านหลินไม่ได้กลับไปที่โรงพยาบาลอีกนับตั้งแต่วันนั้น เขากลับมาถึงบริษัทก็กระชากคอเสื้อของอี้เฉินเข้าไปในห้องทำงาน หมัดลุ่นๆกระแทกใส่ใบหน้าซีกซ้ายของเลขาหนุ่มเต็มแรงจนอี้เฉินกระเด็นลงพื้น เลขาหนุ่มไม่ได้ลุกขึ้นมาตอบโต้ทำเพียงใช้หลังมือเช็ดเลือดที่ไหลซึมตรงมุมปาก สีหน้าที่แสดงความไม่เข้าใจฉายชัด
 
            “เพราะแก แกคนเดียวทำให้ฉันต้องเสียลูกไป”กว้านหลินก้มลงไปกระชากอี้เฉินขึ้นมาอีกครั้ง ร่างสูงจะต่อยคนแก่กว่าอีกหนแต่ครั้งนี้หวังอี้เฉินตอบโต้ด้วยการจับหมัดนั้นไว้ สีหน้าที่เคยเรียบนิ่งมาตลอดบัดนี้ขึ้นสี
 
            “คุณชายพูดว่าอะไรนะครับ เสียลูก? ลูกของภัทร”
 
            “ใช่!! ลูกของฉันกับภัทร พอใจแกหรือยัง? ภัทรท้องทำไมแกไม่รีบบอกฉัน ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไว้ใจให้แกช่วยเป็นหูเป็นตาดูและเด็กนั่นแทนฉัน แล้วสิ่งที่ฉันได้รับคืออะไร แกแอบตีท้ายครัวฉันยังงั้นเหรอ?”
 
            “ผมไปทำแบบนั้นตอนไหน”อี้เฉินถามเจ้านายหนุ่มกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาซื่อสัตย์ภักดีกับสกุลไล่มาตลอด คำกล่าวหาของกว้านหลินทำให้เขาโกรธ เพราะนั่นแสดงว่ากว้านหลินไม่ได้เชื่อใจเขาเหมือนที่ปากพูดเลยซักนิด ความตัดพ้อแสดงออกทางสีหน้าและแววตาชัดเจนจนกว้านหลินชะงักไป
 
แต่ความโกรธกับภาพที่เห็นตำตาเมื่อเย็นวานก็ทำให้อัลฟ่าหนุ่มมั่นใจว่าเขาไม่ได้คิดผิดไปแน่ๆ
 
            “เมื่อวานเย็นฉันเห็นแกยืนกอดกับภัทรที่หลังบ้าน ปฏิเสธสิว่ามันไม่จริง”หวังอี้เฉินอยากจะกรอกตาเป็นเลขแปด หากเป็นในภาวะปกติเขาคงจะทำไปแล้ว แต่ในเวลานี้เบต้าหนุ่มโกรธ ชายหนุ่มแกะมือเจ้านายหนุ่มออกจากคอเสื้อ
 
            “แล้วไม่คิดบ้างเหรอครับว่าทำไมผมถึงไปยืนกอดภัทรอย่างนั้น เห็นท่าทางเห็นสีหน้าเด็กคนนั้นตอนกอดผมอยู่หรือเปล่า ถ้าเมื่อวานคุณชายไม่มัวยุ่งวุ่นวายกับคุณจิรนุช คนที่พาภัทรไปโรงพยาบาลคงไม่ใช่ผม ตอนที่เขาเจอช่วงเวลาที่แย่ที่สุดคุณทำอะไรอยู่คุณชาย ที่ผมกอดเขาก็เพราะตอนนั้นจิตใจภัทรแย่มาก เขาอยากได้อ้อมกอดของคุณไม่ใช่ของผม เด็กนั่นรักคุณชายมาก คุณเองก็รักเขาเหมือนกันแล้วทำไมไม่ทำดีๆให้กัน คุณมันแยกแยะถูกผิดไม่เป็นจนตอนนี้ผมไม่แน่ใจแล้วว่าระหว่างคุณกับภัทรใครมันเด็กกว่ากัน”หวังอี้เฉินจ้องหน้าเจ้านายหนุ่มที่ยืนนิ่งปล่อยสองแขนตกข้างลำตัวอย่างอ่อนแรง
 
            “ตอนมีอยู่ไม่รักษา ระวังไว้ให้ดีนะครับ วันหนึ่งเสียเขาไปคนที่เสียใจมากที่สุดน่าจะเป็นคุณ ภัทรเขาเปราะบางมากนะครับ คุณรู้มั้ยว่าตอนนี้คุณเหมือนอะไร”เลขาหนุ่มหยุดเว้นวรรคมองหน้าเจ้านาย รอยยิ้มใจดีผุดจางๆที่มุมปากช้ำ
 
            “คุณเหมือนเด็กที่ได้ตุ๊กตาตัวโปรดมาแล้วเล่นไม่รักษาจับหักแขนหักขาสุดท้ายมันก็พัง ขอร้องล่ะครับ แทนที่จะเอาเวลามาจับผิดผมช่วยเอาเวลาไปใส่ใจเด็กคนนั้นให้มากขึ้นเถอะ ผมจะไม่ถามว่าทำไมภัทรถึงแท้ง เพราะก็คงเดาไม่ยาก แต่ผมขอให้เหตุการณ์ครั้งนี้ช่วยเตือนสติคุณทีเถอะว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ อย่าเอาแต่หวงจนขาดสติ ผมกับภัทรไม่มีอะไรเกินเลยเราเป็นแค่พี่น้องกันจริงๆ ผมขอตัวก่อนนะครับ อ่อ บ่ายสามมีประชุมผมเตรียมเอกสารไว้เรียบร้อยแล้วใกล้ถึงเวลาจะเข้ามาเตือนอีกที”ชายหนุ่มโค้งให้ผู้เป็นนายแล้วหมุนตัวกลับออกไปทิ้งไว้เพียงร่างของอัลฟ่าที่หมดแรง
 
พัง...
 
เขาทำทุกอย่างพังด้วยมือตัวเอง
 
ไล่กว้านหลินไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะดูเหมือนคนโง่และงี่เง่าได้มากมายขนาดนี้
 
โง่อย่างบัดซบที่สุด
 
 
            ศลัยพยุงภัทรลงจากรถหลังจากหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ ไล่กว้านหลินโทรสั่งให้หล่อนไปจัดการเรื่องต่างๆที่โรงพยาบาลเอง ชายหนุ่มไม่กลับมาที่บ้านตลอดเวลาสามวันมีเพียงศลัยที่ไปดูแลภัทรที่โรงพยาบาล เด็กหนุ่มไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญมีเพียงสายตาเท่านั้นที่ฉายชัดเสมอว่าทุกข์ตรมจากการสูญเสียลูกไปในครั้งนี้  หญิงสาวพาเด็กหนุ่มเข้ามาในบ้านจัดหมอนหนุนหลังให้อย่างดี
 
            “เดี๋ยวคุณภัทรนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ ฉันเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บก่อนเดี๋ยวจะออกมาหาข้าวให้ทานนะคะ”ภัทรพยักหน้ารับ หากแต่พอศลัยเดินขึ้นไปข้างบนโอเมก้าเด็กก็ลุกเดินไปหลังบ้าน ต้นไฮเดรนเยียยังคงเขียวชอุ่มอยู่เช่นเดิมดินเปียกบ่งบอกว่าลุงคนสวนคงช่วยดูแลให้เป็นอย่างดี พอฤดูฝนปีหน้าเขาคงได้เห็นดอกของมันออกช่อบานไสวถึงตอนนั้นคงจะสวยไม่น้อย
 
ถ้าไม่มีเขาซักคนไฮเดรนเยียที่ปลูกก็จะยังเจริญเติบโตอยู่ได้อย่างสบาย เด็กน้อยใช้ปลายนิ้วแตะลงบนใบแล้วเดินละไปจนสุดแนวรั้ว ก้าวเท้าเดินไปเรื่อยๆจนถึงสระน้ำกว้างที่กว้านหลินมักมาว่ายในวันหยุด ดวงตากลมมองลงไปยังด้นสระที่ดูสงบ
 
คงจะดีไม่น้อยหากได้ทิ้งร่างลงไปพักอยู่ในนั้นตราบชั่วนิรันดร์
 
เด็กหนุ่มก้าวเท้าออกไปยืนตรงขอบสระอย่างช้าๆ
 
เขาเหนื่อยเต็มทนกับการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้
 
เหนื่อยเหลือเกิน...



#ไฮเดรนเยีย

TBC


....................................................

น้องอยากว่ายน้ำคลายร้อน...

ลาก่อนเบบี๋ ค่อยมาเกิดใหม่ตอนที่พ่อแม่พร้อมนะลูกนะ

เตือนความจำอีกที...ชายเป็นพระเอกจริงๆนะคะ



สำหรับคนที่บอกว่าคุ้นๆเคยอ่านที่ไหน เราเคยลงในเด็กดีจนจบแล้วค่ะแต่เป็นเวอร์ชั่นฟิคชั่นค่ะ

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 12 "หักลบกลบหนี้"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 30-05-2019 21:56:52
ปล่อยน้องไปเถอะะ สงสารภัทรมาก กว้านหลินทำเกินไปแล้ว

ต่อจากนี้ต่อให้ทำดียังไงมันก็ลบล้างความผิดไม่ได้แล้วอ่ะ
ปล่อยน้องไปเถอะนะ เดี๋ยวเราหาเงินใช้คืนให้  :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 12 "หักลบกลบหนี้"
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-05-2019 23:48:38
สงสารน้อนนนนนน :ling3:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 12 "หักลบกลบหนี้"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 31-05-2019 10:00:36
สงสารน้องมากๆ ความผิดที่กว้านหลินทำมันทำร้ายจิตใจน้องมากเลย
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 13 "จุดเปลี่ยน"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 31-05-2019 16:16:54
 

 

   
Hydrangea 13


 

 

 

     ณภัทรมองภาพสะท้อนเลือนลางของตัวเองบนผิวน้ำ

 

หายไปไหนกันนะณภัทรที่เคยร่าเริงสดใส ณภัทรที่เคยเป็นเด็กที่มีความสุขที่สุดในโลก

 

หายไปไหนหนอ พ่อแม่และน้องๆที่คอยสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้อยู่เสมอ

 

ณภัทรตรงหน้านี้คือใครกัน ใบหน้าซีดเซียว ดวงตาเศร้าสร้อยมีหยาดน้ำคลออยู่แทบตลอดเวลา

 

รอยยิ้มที่เคยสดใสบัดนี้คือการฝืนยิ้มแสร้งทำเป็นตัวเองไม่เป็นอะไรไปวันๆ

 

เหนื่อยเหลือเกินแล้ว ร่างบางค่อยๆหลับตาลง สูดลมหายใจสุดท้ายที่จะได้ใช้มันบนโลกนี้จนเต็มปอดก่อนจะทิ้งกระโดดลงไปในสระ

 

ฟองอากาศพร่างพรูตามขนาดตัว ณภัทรทิ้งตัวลงดิ่งลึกลงไปไม่ขยับแขนขาเพื่อเอาชีวิตรอด ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มอย่างพอใจกับการตัดสินใจสุดท้ายของตัวเอง

 

ลาก่อนคนใจร้าย ลาก่อนชั่วนิรันดร์...

 

 

 

 

 

            “ณภัทร!!!” หวังอี้เฉินรู้สึกเหมือนเลือดในกายเย็นเฉียบ เขาเห็นร่างบางของโอเมก้าเด็กที่เพิ่งกลับจากโรงพยาบาลทิ้งตัวลงไปในสระอย่างตั้งใจ กว้านหลินที่เป็นคนบอกให้อี้เฉินแยกกันตามหาณภัทรเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของคนที่ตามหาก็รีบวิ่งออกมาจากตัวบ้านตามเสียงของเบต้าคนสนิททันที ร่างสูงของเบต้าหนุ่มพุ่งหลาวลงไปในสระว่ายตรงเข้าหาร่างที่ไม่ขยับเขยื้อนนั้นก่อนจะสวมกอดจากด้านหลัง ณภัทรตกใจที่มีคนมาจับตัวเด็กน้อยดึงดันและขัดขืน

 

 

 

อย่ามาช่วย!!

 

 

 

ไม่ต้องการ ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่บนโลกบิดเบี้ยวนี้ต่อไปแล้วหากแต่อี้เฉินไม่ยอมปล่อยเขาพาเด็กน้อยทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำ ณภัทรร้องตะโกนโวยวายเสียงดังแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

ผิดไปหมด ผิดจากที่ต้องการไปหมดทุกอย่าง กว้านหลินยื่นมือไปเพื่อดึงณภัทรขึ้นมาจากน้ำเมื่อมือของคนทั้งคู่แตะกันณภัทรก็หยุดร้อง

 

            “ขึ้นมา”เสียงทุ้มไม่ได้เกรี้ยวกราดหรือบีบบังคับดั่งเช่นทุกครั้งที่เป็นมา น้ำเสียงเจือแววขอร้องเสียมากกว่าทำให้ณภัทรน้ำตาร่วง เด็กน้อยถูกอี้เฉินยกตัวขึ้นมาไว้บนขอบสระก่อนที่กว้านหลินจะช้อนตัวขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน  อี้เฉินมองร่างของคนทั้งคู่ที่เดินหายเข้าไปในบ้านแล้วก็ได้แต่ทำใจ

 

 

ต่อให้ชอบแค่ไหนสุดท้ายเขาก็ครอบครองไม่ได้

 

 

 

 

กว้านหลินค่อยๆวางร่างของณภัทรลงบนพื้นในห้องน้ำเด็กน้อยยืนนิ่งไม่ไหวติงดวงตาเหม่อลอยไม่ได้มองมาที่เขาเลยซักนิด

 

            “เธอหนาวหรือเปล่า อาบน้ำนะ เดี๋ยวฉันช่วย”อัลฟ่าหนุ่มถอดเสื้อผ้าเปียกน้ำของณภัทรออกจนร่างกายเปลือยเปล่า น้ำอุ่นถูกเปิดรินรดร่างกายของเด็กหนุ่ม ณภัทรหลุดจากภวังค์เบนสายตามองกว้านหลินที่สาละวนกับการลูบครีมอาบน้ำลงบนร่างกายของตนโดยไม่สนใจว่าสูทราคาแพงที่สวมใส่อยู่จะเปียก

 

ไล่กว้านหลินในตอนนี้อ่อนโยนเหลือเกิน

 

ชายหนุ่มกล้ำกลืนความรู้สึกช้ำในหัวอกอย่างยากลำบาก เขารู้ว่าณภัทรมองเขาอยู่แต่ก็เลือกที่จะไม่เงยหน้าขึ้นสบตากับเด็กตรงหน้า

 

กว้านหลินไม่เคยเชื่อเรื่องคู่แห่งโชคชะตา แต่วันนี้เขาเชื่อแล้วเพราะระหว่างทางกลับบ้านอยู่ๆเขาก็รู้สึกสิ้นหวังและอยากจบชีวิตตัวเองลง ในตอนที่เขาหลับตาลงกลับเห็นน้ำมากมายแต่เขาคิดว่าตัวเองแค่ฝันไป แต่ความรู้สึกมันเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆจนเขาต้องเร่งอี้เฉินให้รีบขับรถกลับมาที่บ้าน สังหรณ์ใจของเขาพุ่งตรงมาที่ณภัทร

 

แล้วก็ไม่ผิดจริงๆ

 

ทั้งที่เคยบอกแล้วแท้ๆว่าห้ามตายแต่ณภัทรก็ยังเลือกเส้นทางนี้ เส้นทางที่จะหนีเขาไปตลอดกาล

 

มันทำให้ใจของเขาเจ็บ

 

            “อย่าทำแบบนี้อีกได้มั้ย?”ในที่สุดหลังปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมมานานจนรู้สึกอึดอัดกว้านหลินก็บอกเด็กตรงหน้า ณภัทรไม่ตอบสนองเขาเลย เด็กน้อยยังคงจ้องมาที่ตัวเขาหากแต่ริมฝีปากกลับปิดสนิท

 

            “มันไม่ใช่คำสั่ง ไม่ใช่เลยซักนิด คราวนี้เป็นคำขอ ขอร้อง อย่าคิดฆ่าตัวตายอีก อย่าทำมันอีก”

 

            “ถ้าทำตามแล้วผมจะได้อะไร ในเมื่อคุณไม่เคยเห็นใจผมเลยซักครั้ง”

 

            “....”

 

           "ถ้าทำตามแล้วคุณจะปล่อยผมไปมั้ย?"

 

            "...."

 

เด็กน้อยปล่อยให้คลื่นอารมณ์เข้าครอบงำจิตใจยามนึกถึงสิ่งร้ายๆที่ผ่านมาที่กว้านหลินเคยทำกับตน

 

ยังจดจำทุกความรู้สึก

 

ยังจดจำทุกสัมผัสแสนกักขฬะ

 

ยังจดจำได้ถึงทุกหยาดน้ำตาที่เสียไป

 

ยังจดจำได้ทุกคำร้องขอที่เอื้อนเอ่ย

 

แล้วเขาได้อะไรกลับมา?

 

กว้านหลินก็ยังคงทำร้ายร่างกายเขาอย่างต่อเนื่อง

 

กว้านหลินก็ยังใช้ถ้อยวาจากรีดแทงซ้ำๆลงในหัวใจของเขา

 

ครั้งแล้วครั้งเล่า...

 

 

            “กี่ครั้งแล้วที่คุณทำร้ายผมอย่างไม่มีเหตุผล ไปโกรธใครมาก็มาลงที่ผม ไปโมโหอะไรมาก็มาลงที่ผม ไปอยากไปค้างกับใครมาก็มาลงที่ผม คุณเห็นผมเป็นตัวอะไร กระสอบทรายหรืออีตัวที่แค่เอาเงินฟาดแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ ผมก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผมเหมือนกัน คิดว่าผมเคยรักคุณแล้วจะทำตัวงี่เง่ายังไงก็ได้เหรอคุณกว้านหลิน ผมก็มีจุดที่ทนไม่ไหวเหมือนกัน”ณภัทรทุบลงบนอกแกร่งของกว้านหลิน น้ำตาที่พยายามเก็บกลั้นมาตลอดล้นทะลัก ร่างบางสั่นอย่างน่ากลัวจนอัลฟ่าหนุ่มต้องรวบเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก เด็กน้อยในอ้อมแขนร้องไห้โฮอย่างสุดกลั้นสองมือไม่ได้หยุดทุบตีเลยซักนิด

 

            “คุณพูดมาได้ยังไงว่าผมใจจืดใจดำ คุณพูดมาได้ยังไงว่าผมไม่รักลูก ตอนที่ผมกับลูกต้องการคุณที่สุดคุณอยู่ที่ไหน คุณอยู่กับใคร คุณทำอะไรกันอยู่คุณรู้ดีแก่ใจ คุณทำลงได้ยังไงในเมื่อคุณปล่อยมือผมเองมันก็เท่ากับคุณหยิบยื่นความตายให้ผมแล้ว แบบนี้คุณจะยื้อผมไว้ทำไม เอาไว้ทรมานหรือเอาไว้ประดับบารมีว่าคุณมีโอเมก้าโง่ๆคนหนึ่งไว้ในครอบครองเหรอ ผมไม่ไหวแล้ว ฮึก...ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมเจ็บ ผมเหนื่อย ผมไม่สู้แล้ว”

 

            “ขอโทษ...”กว้านหลินกดศีรษะเด็กน้อยที่ตัดพ้อต่อว่าไว้แนบร่างตัวเอง น้ำเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินถูกเปล่งออกไป

 

ใช่ว่าเขาจะไม่เจ็บ ใช่ว่าเขาจะไม่ร้าวราน

 

แต่เมื่อพลั้งมือทำลงไปแล้วเขาไม่สามารถเรียกเวลาให้ย้อนกลับมาได้ ณภัทรจิกปลายเล็บลงบนแผ่นหลังของกว้านหลินราวกับจะลงโทษให้เขารับรู้ถึงความเจ็บบ้าง แม้ซักนิดก็ยังดี

 

            “ขอโทษจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ต่อไปจะไม่ตีเธอ จะไม่ทำร้ายเธออีกแล้วดีมั้ย? เพราะฉะนั้นเธออย่าฆ่าตัวตายอีกนะ ได้มั้ย? ได้โปรดมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่ต้องเพื่อใครแต่เพื่อตัวเอง”

 

            “ผมเจ็บ...ลูกก็คงจะเจ็บ...”

 

            “ฉันรู้แล้ว ฉันเองก็เจ็บเหมือนกัน ฉันเจ็บใจตัวเองที่ทำแบบนั้นกับเธอ ออกไปแต่งตัวเถอะนะเดี่ยวเธอจะไม่สบาย เธออยากใส่ชุดไหนเดี๋ยวฉันหยิบให้ ดีมั้ย อยากกินอะไรมั้ยจะให้ศลัยทำให้”กว้านหลินช้อนร่างเปลือยเปล่าของณภัทรมาวางลงบนเตียงนอนก่อนจะหยิบผ้าขนหนูมาซับน้ำบนร่างกายให้ชายหนุ่มจัดการแต่งตัวให้โอเมก้าเด็กจนเสร็จเรียบร้อย ออกไปสั่งศลัยให้เตรียมอาหารขึ้นมาบนห้อง ณภัทรยอมกินโจ๊กที่กว้านหลินเป่าและป้อนให้แต่โดยดี

 

เด็กน้อยกำลังสับสนว่าความอ่อนโยนที่ควานลิมอบให้ในตอนนี้เป็นความจริงหรือภาพลวงตา อัลฟ่าหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มาล้มตัวลงนอนข้างๆณภัทร ไล้หลังมือกับต้นแขนของณภัทรไปมาเบาๆอย่างใช้ความคิดก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอดกดจูบลงบนหลังคอซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ทุกครั้งที่ออกแรงกดริมฝีปากลงมาหัวใจของณภัทรที่พยายามสร้างกำแพงขึ้นต่อต้านก็อ่อนยวบลงเรื่อยๆ เด็กน้อยพลิกตัวเข้าหาสวมกอดเอวสอบไว้ ซุกใบหน้ากับแผงอกที่เคยให้ความอบอุ่นยามนอน

 

            “คุณกว้านหลินครับ”

 

            “หืม?”กว้านหลินขานรับคำร้องเรียกของณภัทร

 

            “เราสองคน...มาเริ่มต้นใหม่ได้มั้ยครับ เริ่มต้นแบบที่ไม่เอาอดีตเข้ามาเกี่ยว ได้มั้ยครับ?”อัลฟ่าหนุ่มชะงักไปกับคำถามนั้น เขาสบตากับดวงตากลมที่รอคำตอบนั้น

 

            “แล้วชีวิตพ่อของฉันที่เสียไปล่ะท่านจะกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ตอนไหน?”

 

ณภัทรคลายอ้อมแขนจากเอวของกว้านหลินออกในทันที

 

ไล่กว้านหลินก็ยังคงเป็นไล่กว้านหลินไม่เปลี่ยนแปลง

 

ไม่ว่าจะทำยังไงความคิดแค้นก็ไม่จางหายเลยซักนิด

 

กว้านหลินเอาแต่ทวงสิทธิ์อันชอบธรรมให้พ่อของตัวเอง

 

แล้วพ่อของเขาล่ะ? แล้วชีวิตลูกที่เพิ่งเสียไปล่ะ เขาสองคนนั้นก็กลับมาเริ่มใหม่ไม่ได้เช่นกัน

 

 

ยอมแพ้แล้ว...

 

 

            “ถ้าอย่างนั้น ต่อไปนี้เราก็อย่าเอาความรู้สึกมาเกี่ยวข้องอีกเลยนะครับ ต่อไปนี้เรื่องระหว่างเราคือธุรกิจ พรุ่งนี้ช่วยลงตัวเลขในบัญชีให้ผมด้วยแล้วกัน ค้างคาไว้นานเดี๋ยวคุณจะลืม”ณภัทรพลิกตัวหันหลังให้กว้านหลินทันที อัลฟ่าหนุ่มรีบคว้าเอวบางมากอดตามเดิมหากแต่ณภัทรกลับแกะมือเขาออกอย่างไม่ใยดี น้ำเสียงที่พูดออกมาทำเอากว้านหลินหน้าชาราวกับถูกตบ

 

            “อย่ามากอด ผมอึดอัด”

 

 

 

 

 

 

            บรรยากาศในบ้านจากที่อึมครึมอยู่แล้ว บัดนี้กลับยิ่งมืดมนไปกันใหญ่ ณภัทรและกว้านหลินต่างมีท่าทีหมางเมินใส่กันอย่างเห็นได้ชัด แม้จะอยู่รับใช้ปรนนิบัติเหมือนเดิมหากแต่สิ่งที่ทำคือการทำตามหน้าที่ ไม่มีการพูดคุย เกือบจะไม่มองหน้ากันเลยด้วยซ้ำ บรรดาคนรับใช้ต่างเข้าหน้าเจ้านายหนุ่มไม่ติด ยิ่งวันไหนที่จิรนุชแวะมาทานข้าวที่บ้านโดยมีณภัทรคอยรับใช้ก็เหมือนมีไอเย็นเกาะกุมครอบคลุมไปจนทั่ว ในที่สุดณภัทรก็ยอมเสียค่าเช่าห้องด้วยการขอย้ายไปนอนในห้องเด็ก แม้กว้านหลินจะไม่พอใจแต่ในเมื่อณภัทรต้องการอย่างนั้นเขาก็ขัดไม่ได้

 

ห้องที่ไม่มีร่างบอบบางของโอเมก้าอยู่ดูกว้างไปถนัดตา

 

กลิ่นดอกไลเซนทัสที่เคยได้ดอมดมก่อนหลับตานอนจางหายจนสุดท้ายก็ไม่เหลือกลิ่น

 

จากความผูกพันเมื่อครั้งเยาว์วัยกลายเป็นความเฉยชา จากความห่วงใยกลายเป็นความเมินเฉย

 

ณภัทรมักใช้เวลาขลุกอยู่ในสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่อี้เฉินสรรหามาให้ปลูก เบต้าหนุ่มไม่ได้มาหาเขาบ่อยเหมือนเช่นแรกๆแล้ว อี้เฉินบอกว่ากว้านหลินจะอนุญาตให้เขาเข้ามาที่บ้านได้เฉพาะตอนที่เข้ามาเอาเอกสารหรือเอาของเท่านั้น หลายครั้งเขาก็แอบฝ่าฝืนคำสั่งนั้นถ้าหากมาธุระแถวนี้เจอขนมหรือหนังสือที่คิดว่าณภัทรชอบก็อดซื้อติดไม้ติดมือแวะมาฝากไม่ได้ บ่อยครั้งก็แอบส่งข่าวเรื่องแม่กับน้องๆของณภัทรให้เด็กน้อยได้รู้ ณภัทรวางใจเรื่องแม่กับน้องไปได้เปราะหนึ่งเมื่ออี้เฉินบอกว่ากว้านหลินไม่ได้ทำร้ายหรือบีบบังคับอะไรแม่กับน้องๆของตนเอง ความใกล้ชิดยิ่งทำให้คนทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อยๆจนณภัทรยกให้อี้เฉินเป็นพี่ชายคนหนึ่งของตน

 

             ฤดูฝนผ่านไปอย่างเชื่องช้า ในที่สุดฤดูหนาวที่ณภัทรชื่นชอบก็มาเยือนแม้อากาศจะร้อนไม่สมกับชื่อฤดูแต่ช่วงเช้ามืดก็ยังพอมีลมเย็นให้พอตึงผิว ร่างกายที่อ่อนแอจากการถูกกระทำต่างๆนานาฟื้นตัวขึ้นจนตอนนี้ณภัทรแข็งแรงจนเป็นปกติ

 

กว้านหลินไม่ได้เรียกให้ณภัทรไปทำหน้าที่บนเตียงเลยนับจากออกจากโรงพยาบาล โอเมก้าเด็กได้รับยาระงับฮีทจากคุณหมออนล ช่วงแรกเขาไปรับการประเมินสภาพจิตมาเป็นระยะๆ

 

ณภัทรมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้า หมอประจำตระกูลไล่บอกกับอัลฟ่าหนุ่มให้รับรู้ถึงปัญหาข้อนี้

 

การสูญเสียลูกคนแรกทำให้ณภัทรมักขังตัวเองไว้ในโลกของจินตนาการ บ่อยครั้งที่โอเมก้าเด็กมักจะนั่งกอดเข่าแล้วโยกตัวไปมา บทเพลงกล่อมเด็กมักถูกเอื้อนเอ่ยออกมายามที่คนตัวเล็กเผลอหรือติดอยู่ในภวังค์ของตัวเอง

 

กว้านหลินรู้ว่าสาเหตุนั้นเป็นเพราะเขาเอง อัลฟ่าหนุ่มเลือกที่จะถอยห่างจากณภัทรหนึ่งก้าว และเด็กน้อยนั้นเลือกที่จะหันหลังวิ่งหนีเขาไปเลย

 

ฝนหลงฤดูเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ณภัทรเปิดหน้าต่างในยามเช้าก่อนจะยื่นมือไปรับหยาดน้ำฝนนั้น

 

ฉ่ำเย็นและสลายในทันทีที่สัมผัส

 

ไม่ต่างกับความสัมพันธ์ของณภัทรและกว้านหลินเลยซักนิด

 

            “ทำอะไรอยู่คะ ฉันเห็นคุณยังไม่ลงไปเลยขึ้นมาดู ไม่สบายหรือเปล่าคะ?”ศลัยเปิดประตูมาเห็นเด็กน้อยนั่งจุ่มปุกอยู่ริมหน้าต่างณภัทรส่ายหน้าเป็นคำตอบ รอยยิ้มเนือยๆถูกมอบให้พี่เลี้ยงสาว ศลัยเป็นคนเดียวที่ณภัทรจะสามารถปรับทุกข์ด้วยได้ ร่างบางขยับแขนยืดขาบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบ วันนี้เขาไม่ต้องเข้าไปแต่งตัวและไม่ต้องลงไปเตรียมอาหารให้กว้านหลินเพราะชายหนุ่มพาจิรนุชมานอนด้วยตั้งแต่เมื่อคืน

 

กว้านหลินกำลังรัท

 

กลิ่นฝนของเขาคละคลุ้งเต็มบ้านและณภัทรหลบเลี่ยงไม่เผชิญหน้ากับอัลฟ่าหนุ่ม โชคดีที่เด็กหนุ่มกินยาระงับฮีทและขังตัวเองไว้ในห้องเด็กตลอดเวลา เมื่อเดือนที่แล้วณภัทรก็ฮีท เด็กน้อยเห็นความร้อนรุ่มของกว้านหลินยามที่กลิ่นประจำกายของตนหอมฟุ้งไปทั้งบ้าน กว้านหลินสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองแล้วเดินปึงปังขึ้นห้องไปทันที

 

ต่างคนต่างหลบเลี่ยงซึ่งกันและกัน

 

            “ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ พอดีวันนี้ว่างก็เลยนั่งดูนู่นดูนี่เล่นอีกอย่างคนห้องนู้นเขากำลังรัทเลี่ยงได้ก็เลี่ยงก่อนดีกว่า”

 

            “ถ้าอย่างนั้นคุณภัทรลงไปเตรียมข้าวต้มให้คุณชายดีมั้ยคะ เธอลงไปจะได้ทานเลยแล้วคุณค่อยกลับมาพักในห้องต่อ จะได้ลงไปรับอาหารเช้าด้วย”

 

            “เอางั้นก็ได้ครับ”ณภัทรขยับตัวลุกขึ้นยืนอย่างว่าง่าย

 

            “แล้วจะทำข้าวต้มอะไรดีคะ?”

 

            “กุ้งก็แล้วกันครับคุณกว้านหลินชอบกินกุ้ง”เด็กน้อยตอบโดยไม่คิดหากแต่พอพูดจบประโยคก็ต้องกัดปากตัวเองไว้

 

บ้าจริง...จะไปจำทำไมว่าคนๆนั้นชอบกินอะไรหรือไม่ชอบอะไร

 

ศลัยเมื่อเห็นสีหน้าของณภัทรก็รู้สึกลำบากใจ มองจากนอกโลกก็รู้ว่าคนทั้งคู่น่ะรักกันแต่คุณชายสามของหล่อนน่ะถ้าให้พูดแบบชาวบ้านก็คือคนที่โง่แสนโง่เหยียบย่ำความรักที่เด็กคนนี้มีให้แถมเตะทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งสองคนเดินลงมาชั้นล่างเงียบๆ เมื่อจะก้าวเข้าไปในครัวพลันต้องชะงักเท้า เลือดในกายเย็นเฉียบ

 

เสียงพูดคุยของเหล่าแม่บ้านในครัวดังออกมาให้ได้ยิน แม้จะไม่ดังแต่กลับแจ่มชัดเสียยิ่งกว่าพูดผ่านเครื่องขยายเสียง

 

            “นังศลัยน่ะตามติดเด็กนั่นแจประคบประหงมราวกับลูก โง่สุดๆไปเลย เด็กนั่นคุณชายแค่เอามาบำเรอหักหนี้ที่พ่อโกงไปไม่มีทางได้เผยอขึ้นมาเป็นนายพวกเราได้ ถือหางไปก็ไม่มีทางเจริญขึ้นหรอก นู่นอยากจะประจบต้องไปประจบคุณนุชนู่นถึงจะเหมาะ”

 

            “นั่นสิป้า เมื่อวานแค่ฉันชมว่าเธอสวยเธอก็ให้เงินฉันไว้ซื้อขนมกินแล้ว ทั้งสวยทั้งรวยคู่ควรกับคุณชายมากกว่าเห็นๆคุณภัทรน่ะพอเบื่อใช้จนช้ำเดี๋ยวก็ถูกคุณชายเขี่ยทิ้ง”

 

            “แกก็พูดไป คุณณภัทรเธอก็นิสัยน่ารักดีนะ ฉันว่าคุณนุชเธอดูดุๆ”

 

            “น่ารักยังไงแต่ถ้าไม่มีอำนาจไม่มีบารมีก็ไม่ต่างจากไปหิ้วจากข้างนอกมากินหรอกย่ะ”ณภัทรจับต้นแขนของศลัยที่ทำท่าจะก้าวอาดๆเข้าไปในครัว เด็กน้อยส่ายหน้าเป็นการห้ามคนสนิท ดวงตากลมฉายแววรวดร้าวกับสิ่งที่ได้ยิน

 

            “ทำไมล่ะคะ?”

 

           “ไม่เป็นไรหรอกพี่ ช่างเขาเถอะ พูดไปได้อะไรดีละครับ ผมก็เป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ”

 

            “โธ่...ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะคะ?”ศลัยร้องท้วงเมื่อได้ยินประโยคตัดพ้อตัวเองของณภัทร เด็กน้อยสูดลมหายใจก่อนจะแกล้งทำเสียงดังราวกับเพิ่งจะเดินมาถึง

 

            “เดี๋ยวเราทำข้าวต้มกันเนอะครับ อ้าว สวัสดีครับทุกคน”แสร้งกล่าวทักทายกับบรรดาแม่บ้านด้วยเสียงสดใสใบหน้าระบายรอยยิ้มแสนน่ารักให้กับทุกคนในขณะที่ศลัยหน้าตึงจัดอย่างคนที่ฝืนยิ้มไม่ได้

 

            “คุณภัทรจะทำอาหารให้คุณชายเหรอคะ”หญิงที่อาวุโสที่สุดในที่นี้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานขัดกับน้ำสียงตอนนินทาเด็กน้อยราวฟ้ากับเหว

 

ตอแหล...ศลัยแอบด่าในใจกับการตีสองหน้าแสนปลิ้นปล้อนนั้น

 

            “ครับ ผมจะทำข้าวต้มกุ้งให้คุณกว้านหลิน พี่ศลัยช่วยเอากุ้งออกจากตู้เย็นให้หน่อยครับ”

 

            “เดี๋ยวฉันหยิบให้ค่ะ”สาวใช้อีกคนรีบขันอาสา

 

            “ไม่ต้องหรอกครับ มีอะไรก็ไปทำเถอะครับผมมีพี่ศลัยช่วยคนเดียวก็พอ ขอบคุณมากครับ”ณภัทรพูดจบก็หันไปสนใจกับวัตถุดิบที่หยิบออกมาเตรียมอย่างคล่องแคล่วทันที

 

จากวันแรกที่ศลัยต้องสอนทุกอย่างเดี๋ยวนี้ณภัทรทำอาหารง่ายๆได้อย่างคล่องแคล่วและหลายครั้งณภัทรก็ทำอาหารตามสูตรในหนังสือที่อี้เฉินซื้อมาฝากได้แล้ว

 

กว้านหลินไม่เคยเอ่ยปากชมสิ่งที่คนเด็กว่าทำให้ซักครั้ง หากแต่ในจานกลับว่างเปล่าทุกหนที่กินเสร็จ ใช้เวลาไม่นานข้าวต้มกุ้งก็ส่งกลิ่นหอมฉุย ณภัทรดูนาฬิกาเกือบแปดโมงเช้าแล้วเป็นเวลาที่กว้านหลินจะลงมารับอาหารเช้า

 

            “พี่ศลัยครับ ผมฝากพี่ดูแลคุณกว้านหลินด้วยนะครับ”

 

            “อ่อ...ได้ค่ะ ขึ้นไปรอบนห้องนะคะเดี๋ยวพี่ยกข้าวขึ้นไปให้นะคะ”ศลัยรับผ้ากันเปื้อนที่ณภัทรยื่นให้ โอเมก้าเด็กสาวเท้าขึ้นชั้นบนด้วยความรวดเร็วหากแต่ก็ยังเร็วไม่พอเพราะเมื่อก้าวถึงชั้นบนสุดประตูห้องนอนของกว้านหลินก็เปิดออกพร้อมกลิ่นฝนชุ่มฉ่ำคละเคล้ากับกลิ่นกุหลาบเข้มข้น

 

สายตาของคนทั้งคู่ประสานกันก่อนที่ต่างคนจะต่างเมินมองไปทางอื่น จิรนุชรีบกระชับมือของตนเองกับเรียวแขนของกว้านหลิน ริมฝีปากเคลือบสีแดงสดคลี่ยิ้มอย่างเสแสร้ง

 

            “สวัสดีจ้าณภัทร ขึ้นมาทำอะไรแต่เช้าเหรอจ๊ะ ทำความสะอาดเหรอ”ณภัทรจำใจต้องหันกลับมาหาคนทั้งคู่อีกครั้ง กว้านหลินกัดกรามแน่น

 

กลิ่นดอกไลเซนทัสที่โหยหาลอยยั่วอยู่แค่เอื้อมแต่เขากลับคว้าไม่ได้ ยิ่งยามฮีทกลิ่นของโอเมก้ากลับหอมเข้มจนกลบกลิ่นกุหลาบของนุชจนสิ้น สัญชาติญาณดิบในร่างกายร่ำร้องต้องการเด็กตรงหน้าเสียเหลือเกินแต่สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้มีเพียงข่มใจตัวเองเอาไว้

 

            “ครับ...”เขามองหน้าณภัทรที่ตอบรับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

 

            “งั้นดีเลยจ้า ยังไงก็ช่วยทำเตียงให้หน่อยนะจ๊ะ ยับเยินไปหน่อยก็กว้านหลินน่ะไม่ออมแรงเลยนุชช้ำไปหมดแล...”จิรนุชยังพูดไม่ทันจบกว้านหลินก็กระชากแขนของตนเองออก

 

            “ผมลงไปรอข้างล่างนะ หิว”นุชอ้าปากค้างเมื่อร่างสูงเดินสวนณภัทรเดินลิ่วๆลงไปด้านล่างโดยไม่รอ ณภัทรยืนนิ่งราวถูกตรึงปลายนิ้วกำเข้าหากัน

 

ความอุ่นเพียงชั่ววูบที่หลังมือของทั้งคู่แตะสัมผัสกันทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวราวกับผิวน้ำที่ราบเรียบถูกหินก้อนใหญ่หล่นใส่จนเกิดแรงกระเพื่อม

 

เกลียดหัวใจตนเองเหลือเกิน

 

เกลียดที่มันหวั่นไหวทุกครั้งที่อยู่ใกล้หรือได้สัมผัสกับไล่กว้านหลิน

 

ไม่รักดีและไม่รู้จักหลาบจำ

 

ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองถึงจุดที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่สุดท้ายก็ไม่เลย ไม่ใช่เลยซักนิด

 

ณภัทรก็ยังคงรักไล่กว้านหลินสุดหัวใจอยู่ดี

 

 

 

#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

 

...............................................

 

ความเอย...ความรัก

 

สมหวังก็มีความสุข ไม่สมหวังแต่ไปไหนไม่ได้ก็กล้ำกลืนฝืนทนกันไปนะจ๊ะ

 

ปล.มีคนเงิบ สมน้ำหน้า 5555555555555

 

 

หวังอี้เฉินควรร้องเพลงของรูม 39

 

เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ยกเว้นเป็นผัว เพราะหน้าที่นั้นเป็นของชายสาม

 

ลงไปดำน้ำดูปะการังเฉยๆ

 
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 13 "จุดเปลี่ยน"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 31-05-2019 16:32:55
โอยยย อยากเป็นศลัยไปอยู่เคียงข้างน้องภัทรเลย

พวกคนใช้มีตาหามีแววไม่ คนที่เค้ารักคือน้องโอเมก้าย่ะ! ไม่ใช่ชะนีขี้กร่าง

กว้านหลินช่วยตั้งสติแล้วพูดดีๆกับน้องซักที น้องอุตส่าห์ให้เริ่มใหม่
ทิ้งเค้าไว้เฉยๆ ระวังน้องจะหาทางหนีอีก คราวนี้ก็เจ็บใจตัวเองไปคนเดียวเลยค่ะ :amen: o8
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 13 "จุดเปลี่ยน"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-06-2019 02:19:53
กว้านหลินทำท่าเหมือนจะดีขึ้น น้องอุตส่าห์ให้โอกาสเริ่มต้นใหม่แล้วแท้ๆ แต่ก็ยังจมอยู่กับอดีตเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 13 "จุดเปลี่ยน"
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 01-06-2019 04:07:36
อึดอัดดดด สงสารน้อง :hao5:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 14 "ทั้งรักทั้งเกลียด"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 01-06-2019 21:09:03
         Hydrangea 14



           “ภัทร ของที่ฝากซื้อได้แล้วนะ”อี้เฉินยื่นถุงกระดาษใบใหญ่ให้กับภัทร ในนั้นมีไหมพรมหลากสีกับหนังสือแพทเทิร์นรวมทั้งไม้นิตติ้งทั้งแบบคู่และแบบห่วง ภัทรตรวจดูของในถุงก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ
 
            “ซื้อมาเยอะกว่าที่บอกอีกนะครับ”
 
            “ก็เผื่อเราอยากทำหลายๆแบบ ว่าแต่ถักนิตติ้งเป็นด้วยเหรอเรา?”
 
            “เป็นสิครับตอนอยู่อังกฤษมัมเคยสอนผม ผมถักเป็นตั้งหลายอย่างนะครับ ทั้งถุงมือ ถุงเท้า ผ้าพันคอ หมวก เสื้อ แต่ทำได้แค่ลายง่ายๆ ไว้ว่างๆเดี๋ยวผมถักผ้าพันคอให้พี่บ้างดีกว่า”เด็กน้อยคุยจ้อเอ่ยเล่าเรื่องราวสมัยเรียนไฮสคูล ดวงตากลมเป็นประกายปากเล็กขยับเจื้อยแจ้วจนคนมองอดยิ้มไม่ได้
 
ยามไม่ทำสีหน้าอมทุกข์ภัทรช่างดูน่ารักสมวัย อี้เฉินมองเด็กที่โตขึ้นมากจากครั้งแรกที่เห็นในคืนที่กว้านหลินไปจัดการกับพ่อของเด็กคนนี้
 
โตขึ้นมาก ไม่ใช่แค่ทางร่างกายแต่จิตใจของภัทรนั้นก็โตไปด้วย เด็กน้อยดูเป็นคนเก็บตัวมากขึ้นและพูดน้อยลง
 
หวังอี้เฉินเสียดายรอยยิ้มใสซื่อที่ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มฝืนๆ
 
            “เดี๋ยวพี่ต้องไปก่อน เย็นนี้ภัทรไม่ต้องเตรียมอาหารให้คุณชายหรอกนะคงกลับดึกวันนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดรัฐมนตรีสุชาติอีกซักพักคงกลับมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมภัทรชุดไว้รอก็พอ ”
 
            “อ่อ อย่างนั้นเหรอครับ ดีเลย ผมจะได้ขึ้นไปนอนเร็วหน่อย”ภัทรวางถุงของไว้ก่อนจะเดินไปส่งอี้เฉินที่รถ เด็กน้อยโบกมือลาเบต้าหนุ่มก่อนจะกลับมาหยิบถุงไหมพรมกลับขึ้นไปเก็บบนห้อง ภัทรเข้าไปตรวจความเรียบร้อยในห้องนอนของกว้านหลิน มือเรียวลูบลงบนผ้าปูที่นอนเบาๆ
 
กี่ครั้งแล้วที่ต้องถอนหายใจทิ้งอย่างเหนื่อยหน่าย อดคิดถึงวันที่ได้นอนอยู่ภายในอ้อมกอดแข็งแกร่งของกว้านหลินไม่ได้
 
มันมีทั้งความเหน็บหนาวจากความเย็นชาแต่บ่อยครั้งความอบอุ่นจากทุกสัมผัสก็แผ่ซ่าน เหมือนถูกทิ้งให้ค้างคาอยู่ตรงเส้นแบ่งระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาว ทำให้สะบัดร้อนสะบัดหนาวเรื่อยไป ภัทรสะบัดความคิดฟุ้งซ่านเมื่อเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่บนผนัง เกือบจะหกโมงเย็นแล้วใกล้ได้เวลาที่กว้านหลินจะกลับมาเตรียมตัวไปงานเลี้ยง ภัทรเข้าไปเลือกเสื้อผ้ารวมทั้งเครื่องประดับที่จะให้กว้านหลินใส่ในวันนี้ เด็กน้อยเลือกชุดที่เรียบและสุภาพไม่มีลวดลายหรือเครื่องประดับที่ดูหรูหราจนเกินไปนัก เพราะเจ้าของงานวันเกิดเป็นนักการเมืองน่าจะต้องการเป็นตัวเด่นที่สุดในงานอยู่แล้ว เด็กน้อยเลือกนาฬิกามาวางคู่กันกับชุดสูท เมื่อเตรียมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปเตรียมน้ำในห้องน้ำ กว้านหลินชอบแช่น้ำอุ่นตอนเย็น แต่วันนี้เขาไม่รู้ว่ากว้านหลินจะรีบมากหรือเปล่า แต่โอเมก้าเด็กคิดว่าเตรียมไว้ให้ก็ดีกว่าให้ชายหนุ่มหงุดหงิดถ้ากว้านหลินไม่แช่เดี๋ยวเขาก็มาแช่เองหลังกว้านหลินออกไปก็ได้ ภัทรนั่งคิดนู่นคิดนี่ไปเพลินๆปากก็ฮัมเพลงกล่อมลูกที่มักจะร้องจนติดไปด้วย พลันก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเอวถูกสวมกอดจากด้านหลังแล้วดึงรั้งไปจนชิดอก
 
กลิ่นฝนหอมชัดเจนไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร
 
กว้านหลินยังไม่หมดช่วงรัท.แต่ความต้องการก็เบาบางลงจนสามารถควบคุมตัวเองได้
 
            “ปล่อยครับ”เอ่ยบอกกับอัลฟ่าที่จงใจหายใจรดต้นคอของตนเองแกะมือชายหนุ่มออกปั้นหน้าตึงใส่ หากแต่กว้านหลินในวันนี้กลับลืมการทำท่าทางเมินเฉยแบบเช่นทุกวัน
 
            “ทำไมเธอหอมมากขนาดนี้...ลืมกินยาเหรอ?” นอกจากไม่ปล่อยง่ายๆกว้านหลินยังซุกไซร้ย้ำๆลงบนซอกคอหอมแม้ภัทรจะเบี่ยงตัวหลบยังไงก็ไม่สามารถหลบพ้น
 
            “รีบอาบน้ำเถอะครับ คุณต้องไปงานเลี้ยงนะคุณกว้านหลิน”ภัทรพยายามหาข้ออ้างเพื่อจะให้กว้านหลินเลิกยุ่งกับตนเอง  เหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนยังคงทำให้โอเมก้าเด็กหงุดหงิดทุกครั้งที่นึกถึง กว้านหลินขมวดคิ้วมุ่นยามที่ภัทรบ่ายเบี่ยงตน ความรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการทำให้อัลฟ่าหนุ่มเสียหน้า
 
ทั้งๆที่เริ่มฮีทแล้วแท้ๆแต่ทำไมภัทรถึงคุมตัวเองได้ ปกติแล้วต้องเรียกร้องการเติมเต็มจากอัลฟ่าตามสัญชาติญาณแล้วแท้ๆ
 
หรือเป็นเพราะฤทธิ์ยาระงับที่กินมื้อกลางวันกัน กว้านหลินไม่ปล่อยให้ภัทรได้หนีตนเองออกไปด้านนอกแขนแกร่งคว้าเอาข้อมือบางของคนเด็กกว่าไว้แน่น
 
            “คุณกว้านหลิน!!”ภัทรตวาดใส่อย่างหงุดหงิดเมื่อกว้านหลินกระชากมือของตนเองเข้าหาตัว เด็กน้อยดิ้นขลุกขลักอย่างไม่ชอบใจ
 
            “ฉันจะอาบได้ยังไงในเมื่อเธอยังไม่ได้ถอดเสื้อผ้าให้ฉัน?”
 
            “มีมือก็ถอดเองสิครับ ผมขอตัว”ภัทรผลักอกกว้านหลินออกจากตัวอีกครั้ง
 
            “ทำไม??  จะหนีหน้ากันไปอีกนานแค่ไหน ฉันใจดีให้เธอมาสองเดือนกว่าแล้วนะ เจอหน้าฉันทำหน้าเหมือนเห็นผี ทีกับไอ้อี้เฉินหัวร่อต่อกระซิกเล่นหูเล่นตากัน เธออย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่ามันแอบมาหาเธออยู่บ่อยๆ”
 
            “มาหาแล้วจะทำไม? ผมคุยกับเขาแล้วจะทำไม? สบายใจที่จะคุยกับใครผมก็จะคุยกับคนนั้น ถ้าไม่อยากให้ผมคุยกับคนอื่นก็ตัดลิ้นผมไปเลยสิ “เด็กน้อยเชิดหน้าอย่างท้าทาย ดวงตาแข็งกร้าวอย่างไม่ยอม ไล่กว้านหลินบีบกรามของภัทรอย่างแรงก่อนจะประกบจูบลงไปอย่างดุดัน ปลายลิ้นกวาดต้อนลิ้นเล็กดูดดึงอย่างเอาแต่ใจ ภัทรพยายามดิ้นหนีก่อนจะร้องอื้ออึงออกมาเมื่อกว้านหลินกัดปากล่างตนอย่างแรงจนได้กลิ่นคาวเลือด
 
เพี๊ยะ!!
 
อัลฟ่าหนุ่มหน้าสะบัดไปตามแรงตบของภัทร
 
            “คุณมันก็ดีแต่ใช้กำลังรังแกคนไม่มีทางสู้ไปวันๆ  สารเลว!!”ไม่รอให้กว้านหลินได้จับตัวได้อีกครั้งร่างบางแทบจะวิ่งออกจากห้องน้ำไป กว้านหลินมองตามหลังภัทรไปด้วยความหงุดหงิด
 
เขาอุตส่าห์เริ่มต้นพูดด้วยก่อนแท้ๆ แต่ภัทรกลับทำตัวดื้อด้านกับเขา มันน่าโมโห น่าโมโหสุดๆ ชายหนุ่มคว้าขวดครีมโกนหนวดปาเข้าไปในกระจกตรงอ่างล้างหน้าเพื่อระบายความหงุดหงิด เสียงกระจกแตกดังลั่นตามหลังโอเมก้าเด็กจนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก
 
ก็ยังคงชอบใช้กำลังเหมือนเดิมไม่มีผิด
 
แค่นยิ้มอย่างสมเพชตัวเอง แตะปลายนิ้วลงบนริมฝีปากที่เจ่อเพราะถูกกัดมีเลือดจางๆติดปลายนิ้วมาให้รู้สึกโมโห
 
นี่เหรอที่เคยบอกว่าจะไม่ทำร้ายกันอีก
 
สุดท้ายไล่กว้านหลินก็แค่คนที่กลืนน้ำลายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างหน้าไม่อาย
 
 
            อัลฟ่าหนุ่มแสดงสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างชัดเจน ชายหนุ่มไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครเลยด้วยซ้ำ ความครุกรุ่นในใจไม่ได้ลดลงเลยซักนิด แม้ว่างานนี้จะสำคัญเพราะมันเกี่ยวพันกับธุรกิจของตนแต่กว้านหลินอยากจะกลับบ้านทุกสองนาที อัลฟ่าหนุ่มยกเหล้าชั้นดีราคาแพงที่เจ้าภาพสั่งมาเลี้ยงแขกราวกับน้ำเปล่า  ไม่สนใจแม้แต่จิรนุชที่เกาะแขนไม่ห่างราวกับปลิง แม้หญิงสาวจะพยายามชวนคุยหรือชวนออกไปเต้นรำชายหนุ่มก็ปฏิเสธ เขาต้องการเพียงนั่งดื่มเงียบๆจนในที่สุดนุชก็จำต้องนั่งเงียบๆและหันไปคุยกับคนอื่นแทน
 
ไม่พอใจ แต่หล่อนก็ทำอะไรมากไม่ได้
 
หล่อนกลัวกว้านหลินโกรธจะพาลทำให้ความสัมพันธ์ของหล่อนกับเขาสั่นคลอน
 
แม้จะเป็นอัลฟ่าเหมือนกัน แต่เพราะความรักที่จิรนุชมีให้กว้านหลินฝ่ายเดียวทำให้หญิงสาวไม่กล้าที่จะขัดใจเขา
 
ไล่กว้านหลินพูดคุยกับคนที่แวะเวียนมาคุยด้วยบ้างตามมารยาท แม้จะอยากจะไล่ไปแค่ไหนแต่เปลือกนอกคือทักทายและยิ้มแย้มอย่างสุภาพ
 
            “ว่าไงกว้านหลิน ช่วงนี้ขาขึ้นน่าดูเลยนะ เห็นว่ากำลังจะได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นใช่มั้ย? เก่งจริงๆ เพิ่งขึ้นรับตำแหน่งแทนพ่อได้ไม่เท่าไหร่ก็เติบโตรุ่งเรืองได้ถึงขนาดนี้ ยินดีด้วยนะ”
 
            “ขอบคุณครับ”กว้านหลินก้มหัวรับการชนแก้วของชายชราเจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของของไทย
 
            “เอ้อ แล้วนี่กับหนูนุชเห็นคบกันมาตั้งนานแล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดีล่ะ?”จิรนุชหูผึ่งทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น หญิงสาวแสร้งทำท่าเหนียมอายจนผู้ใหญ่บนโต๊ะส่งเสียงหัวเราะด้วยความเอ็นดู หากแต่กว้านหลินกลับชะงักไปกับคำถามนั้น
 
            “เรื่องนั้นผมยังไม่ได้คิดครับ”คำตอบของกว้านหลินเล่นเอาจิรนุชแทบจะเก็บสีหน้าไว้ไม่มิด ความผิดหวังแล่นเข้าเกาะกุมหัวใจราวเชื้อโรคร้าย หล่อนมองหน้าชายหนุ่ม วูบหนึ่งกว้านหลินเห็นแววตัดพ้อในนั้นก่อนที่หล่อนจะสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างแง่งอน
 
            “อะไรกัน คบกันมาตั้งแต่อยู่เมืองนอกยังไม่คิดลงหลักปักฐานกันอีกเหรอ นี่ถ้าเธอสองคนแต่งงานกันรับรองธุรกิจของเธอคงใหญ่ที่สุดในไทยแน่ๆ พี่ๆของเธอก็แต่งงานมีครอบครัวกันหมดแล้วยังจะหวงชีวิตโสดไปทำไม”
 
            “จริงๆผมกับนุชเป็นแค่เพื่อนกันครับ ส่วนเรื่องแต่งงาน อายุผมยังไม่เยอะมากรออีกซัก 5-6 ปีก็ยังไม่แก่ไปนี่ครับ”กว้านหลินตอบอย่างไม่ยี่หระ จิรนุชเม้มปากแน่น หญิงสาวลุกขึ้นยืนหันไปมองชายหนุ่มอย่างโกรธๆ
 
            “ขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”หญิงสาวก้าวฉับๆออกไปทันที ชายชรารู้สึกว่าคำถามของตัวเองทำเอาบรรยากาศกร่อยจึงขอตัวกลับไปนั่งที่โต๊ะอย่างเนียนๆ อัลฟ่าหนุ่มถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เห็นจิรนุชเดินปาดน้ำตาไปทางด้านหลังก็ยกเหล้าที่เหลือกรอกเข้าปากจนหมดแล้วเดินตามหล่อนไป
 
ยังไงเสียก็คงต้องรักษาน้ำใจกันไว้บ้าง
 
            “นุช”กว้านหลินดึงแขนของหญิงสาวที่แสร้งทำเป็นเดินหนีอย่างแง่งอน
 
            “ปล่อย นุชจะกลับบ้าน”หญิงสาวบิดข้อมือของตนเองออกอย่างใส่จริต กว้านหลินถอนหายใจเฮือกเขาปล่อยมือหญิงสาวอย่างว่าง่ายจนนุชหน้าม้าน
 
            “คุยกันก่อน  อย่าเป็นแบบนี้”ชายหนุ่มพยายามคุมน้ำเสียงให้ไม่มึนตึง จิรนุชตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ
 
            “เป็นแบบนี้ แบบไหนคะ แบบที่คุณบอกใครต่อใครว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งๆที่คุณก็เพิ่งนอนกับนุชเมื่อไม่กี่วันก่อนน่ะเหรอคะ?”
 
            “เรื่องนี้ผมว่าเราคุยกันชัดเจนแล้วนะ”
 
            “แต่นุชเป็นผู้หญิงนะคะ นุชเสียหาย”
 
            “คุณเป็นคนเข้าหาผมเอง และคุณก็พูดเองว่าเราจะไม่ผูกมัดซึ่งกันและกัน”
 
            “ก็นั่นมันเมื่อก่อน นุชเป็นคนนะคะมีหัวใจมีความรู้สึก ตลอดหลายปีที่ผ่านมานุชมีแค่คุณคนเดียว รักและเทิดทูนคุณเสมอมา ทำไมล่ะคะ ทำไมคุณไม่ขอนุชแต่งงานซักที”หญิงสาวเอาคลัชใบเล็กราคาแพงที่ถือฟาดลงบนอกของชายหนุ่มอย่างเกรี้ยวกราด กว้านหลินสูดลมหายใจลึกอย่างสะกดกลั้นอารมณ์
 
            “ฉันรักคุณ รักมาตลอด แล้วทำไมคุณถึงไม่รักตอบฉันบ้าง ฉันก็เหนื่อยก็อายเป็นนะ”
 
            “เหนื่อยก็พอสิ เหนื่อยก็ไม่ต้องทน”ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ใส่ใจ เพราะอารมณ์ไม่ดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้ตอนนี้เขาไม่จำเป็นต้องสนใจหรือต้องมารับผิดชอบความรู้สึกต่อใครทั้งนั้น แต่นุชที่กำลังโวยวายหยุดชะงักทันที
 
หล่อนคาดหวัง
 
หวังว่ากว้านหลินจะเกรงใจพ่อของหล่อน
 
หวังว่าลึกๆแล้วในใจของกว้านหลินจะชอบหล่อนบ้างซักนิดก็ดี
 
แต่ท่าทางของกว้านหลินในตอนนี้
 
ไม่มีแม้แต่เยื่อใย
 
            “ทำไมคุณใจร้ายอย่างนี้คะกว้านหลิน  ฉันรักคุณมากนะคะ ไม่ใช่คุณฉันก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับใคร ทำไมคุณไม่เห็นใจฉันบ้าง”
 
            “ผมไม่ได้ขอร้องให้คุณมารักมาชอบผมนี่ คุณชอบของคุณเอง ถ้าผมทำให้คุณเข้าใจผิดหรือทำอะไรให้คุณเข้าใจผิดว่าผมให้ความหวังผมก็ขอโทษด้วยแล้วกัน กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวผมไปส่งที่รถ”กว้านหลินแตะแขนหญิงสาวที่เริ่มจะร้องไห้ จิรนุชโกรธจนอยากจะตบกว้านหลินให้หน้าหัน หล่อนเม้มปากแน่นพลางเบี่ยงตัวหลบปลายนิ้วที่แตะลงบนข้อศอกของหล่อนอย่างโกรธๆ
 
            “ไม่ต้อง ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้ คอยดูเถอะ เรื่องนี้ต้องถึงหูคุณพ่อแน่ๆ”หญิงสาวตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มอย่างโกรธๆ กว้านหลินถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
 
            “ก็ตามใจคุณ”อัลฟ่าหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหมุนตัวกลับเข้ามาในงานอีกครั้ง ทิ้งหญิงสาวให้ทำอะไรไม่ถูกอยู่ตรงนั้น
 
จะกรี๊ดก็กรี๊ดไม่ได้ ได้แต่ปึงปังก้าวฉับกลับไปที่รถของตัวเอง
 
หล่อนจะฟ้องพ่อของหล่อนแน่ๆ ไล่กว้านหลินจะต้องมาขอหล่อนแต่งงานในเร็ววันนี้แน่นอน
 
ถ้าไม่ยอมแต่งงานกับหล่อนพ่อของหล่อนก็จะบีบให้ธุรกิจของกว้านหลินดำเนินไปได้ลำบากมากขึ้น
 
หล่อนเสียทั้งตัวเสียทั้งเวลาไปหลายปี ไม่มีทางที่จะยอมแพ้หรอก


 
            ณภัทรสะดุ้งตื่นกลางดึกเมื่อประตูห้องนอนของตนเองถูกถีบจนตัวล็อกหลุด กว้านหลินเดินโซซัดโซเซเข้ามา ไม่ทันที่ภัทรจะตั้งตัวได้ร่างหนาและหนักก็กระโจนเข้าคร่อมเขาทันที เด็กน้อยตื่นกลัวพยายามผลักไสกว้านหลินที่ซุกปลายจมูกมาที่ซอกคอเขาอย่างเอาแต่ใจ กลิ่นเหล้าคละคลุ้งจนคนเด็กกว่ารู้สึกมึน
 
            “คุณกว้านหลิน ปล่อยผมนะ ทำบ้าอะไรของคุณ”ภัทรทุบลงบนไหล่กว้านหลินอย่างไม่ออมแรงเมื่อมือหนาเลิกชายเสื้อของเขาขึ้นอย่างถือสิทธิ์ ณภัทรจับมือที่พยายามล่วงล้ำเข้ามาในเสื้อแน่น ความง่วงถูกปัดหายไปในชั่วพริบตา หากแต่ไล่กว้านหลินในตอนนี้ที่สติไม่เต็มร้อยแสนเอาแต่ใจ ชายหนุ่มใช้กำลังกระชากจนกระดุมเสื้อนอนของภัทรหลุดกระเด็นไม่ฟังคำร้องห้ามหรือทัดทานเลยซักนิด
 
กลิ่นหอมของไลเซนทัสหอมฟุ้งจนอดไม่ได้ที่จะสูดดมเข้าไปจนเต็มปอด
 
กลิ่นที่โหยหา กลิ่นที่คิดถึง ฟอนเฟ้นดอมดมจนทั่วร่าง เสื้อผ้าถูกถอดออกทีละชิ้นจนหมด พอๆกับแรงต่อต้านของโอเมก้าที่เริ่มปล่อยใจไปกับสัมผัสหยาบกร้านนั้น
 
            “ฉันคิดถึงเธอ...”น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยชิดริมหู ใจดวงน้อยกระตุกวูบราวกับจะหยุดเต้นเพียงแค่คำสั้นๆก็ทำให้แรงที่จะต่อต้านหายไปจนหมดสิ้น
 
ว่ากันว่าคนเมามักจะพูดความในใจออกมา ภัทรมองคนที่กำลังล่วงเกินร่างกายตนเองด้วยดวงใจที่สับสน
 
ทุกสัมผัสนั้นหยาบคายรุนแรง หากแค่ประโยคที่เพิ่งเปล่งออกมานุ่มเบาราวกับขนนักที่โอบล้อมร่างกายของตนเองไว้
 
ใจดวงน้อยอุ่นวาบราวกับลงแช่ในบ่อน้ำร้อน ความเหน็บหนาวที่เกาะกินหัวใจมาตลอดเกือบสามเดือนค่อยๆละลายลงราวกับต้องมนตร์
 
ณภัทรเกลียดตัวเองในตอนนี้นัก เกลียดหัวใจตัวเองที่ทั้งอยากผลักไสแต่ก็ไม่อยากให้ไป
 
เกลียดอารมณ์ปนเปกันระหว่างความรักกับความเกลียดชังที่มีให้กับกว้านหลิน
 
อยากจะปฏิเสธให้หนักแน่นกว่านี้หากแต่จิตใต้สำนึกกลับโหยหาเสียเหลือเกิน ขอบตาร้อนผ่าวและพร่าเลือนยามใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนเข้ามาใกล้ริมฝีปากตอบรับแรงกดจูบและดูดดึงอย่างเชื่องช้าอ้อยอิ่ง ไล่กว้านหลินก็เหมือนคนที่ละโมบ เมื่อได้แล้วก็อยากจะได้เรื่อยๆ จากจูบบางเบาก็เพิ่มน้ำหนักและความเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ดูดกลืนเรียวลิ้นและน้ำหวานสีใสของอีกฝ่ายอย่างหิวกระหาย ตีตราแสดงความเป็นเจ้าของจนทั่วร่าง ดูดดึงขบเม้มซอกคอหอมอย่างถือสิทธิ์ สร้างความรู้สึกปั่นป่วนให้กับภัทรจนสติกระเจิง มือที่เคยผลักดันร่างหนาออกแปรเปลี่ยนเป็นคล้องคอและเหนี่ยวรั้งไว้กับตัว
 
ณภัทรเกลียดตัวเองที่ไม่เข้มแข็งพอที่จะปฏิเสธคนบนร่าง เรียวขาสั่นระริกยามที่ฝ่ามือหนาเข้ากอบกุมรูดรั้งตัวตนราวกับว่าอัลฟ่าหนุ่มนั้นรู้จักร่างกายของภัทรมากกว่าที่เจ้าตัวรู้จักเสียอีก เสียงร้องดังอื้ออึงในลำคอเพราะริมฝีปากถูกครอบครองไม่ได้ผละออกแม้แต่น้อย
 
ราวกับกำลังต่อสู้และว่ายวนในมหาสมุทรที่มีคลื่นลมรุนแรงจากพายุร้าย เรียวลิ้นถูกตวัดต้อนดูดดึงจนสมองพร่าเบลอ ณภัทรไม่รู้ว่าความรู้สึกมึนเมาที่กำลังมอมเมาตนเองนี้เกิดจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังหลงเหลือในโพรงปากของกว้านหลินหรือว่าเป็นหัวใจไม่รักดีของตนเอง ร่างบางผวาเฮือกยามความอุ่นร้อนแข็งขืนเข้าล่วงล้ำ ปลายเล็บจิกลงบนไหล่หนาขยับกายตอบรับสัมผัสหวามอย่างเต็มใจ บทรักเร่าร้อนเร่งเร้าให้พากันทะยานสู่ห้วงฝัน ราวนาวาลำน้อยที่ล่องลอยฝ่าคลื่นลมท่ามกลางมรสุมที่รุมเร้า สุดท้ายก็มิอาจต้านทานแตกกระจายไม่มีชิ้นดี
 
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนว่ายวนจนหมดแรงตอนเกือบรุ่งสาง
 
 
            ไล่กว้านหลินลืมตาตื่นในตอนสายกวาดมือควานหาร่างนุ่มนิ่มของภัทรที่นอนร้องใต้ร่างของเขาเมื่อคืนก็พบกับความว่างเปล่า พื้นที่ข้างๆเย็นชืดบ่งบอกว่าเจ้าตัวลุกไปนานแล้ว บนเก้าอี้มีชุดลำลองวางเตรียมไว้ให้อยู่ เสื้อผ้าชุดเมื่อคืนไม่หลงเหลือไว้ในห้องนอนเด็กแล้วคาดว่าภัทรคงเก็บไปส่งซักเรียบร้อยแล้ว กวาดตามองรอบๆห้องแม้ว่าเขาจะสั่งทำให้หลานๆแต่ก็ไม่เคยมาดูอย่างจริงๆจังๆซักที ผ้าม่านสีฟ้าสะอาดตาพลิ้วไหวตามแรงลม นกตัวเล็กๆมาเกาะตรงขอบหน้าต่างที่มีโต๊ะไม้สีขาวสไตล์วินเทจวางอยู่ข้างๆ บนโต๊ะมีแจกันใบเล็กปักดอกไม้ดอกเล็กๆอยู่กำมือหนึ่งได้
 
ต่างกับห้องของเขาราวฟ้ากับเหว ห้องนี้สว่างสดใสสมกับเป็นภัทร ชายหนุ่มลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะหยิบผ้าขนหนูที่พับเรียบร้อยวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆกับเสื้อผ้า จัดการอาบน้ำชำระร่างกายจนรู้สึกสดชื่นใส่เสื้อผ้าที่ภัทรเตรียมไว้ให้ก่อนจะลงมาด้านล่าง บรรดาสาวใช้ต่างทำงานของตนเองอย่างขะมักเขม้น ศลัยกำลังวางจานชามลงบนโต๊ะอาหาร
 
            “คุณภัทรล่ะ?”เอ่ยถามศลัย หญิงสาวรีบตอบผู้เป็นนายทันทีว่าภัทรเตรียมอาหารเช้าค่อนไปทางเที่ยงให้กว้านหลินอยู่ในครัว เมื่อเข้าไปในครัวก็เห็นร่างบางที่กำลังสาละวนกับการทอดสเต็กเนื้อในกระทะด้วยท่าทางคล่องแคล่ว กว้านหลินเข้าไปสวมกอดจากทางด้านหลังก่อนกดจูบลงบนแก้มที่เคยฟูแต่บัดนี้ตอบลงอย่างเห็นได้ชัด
 
            “อ๊ะ..”โอเมก้าเด็กสะดุ้งอย่างตกใจก่อนจะเม้มปากก้มหน้าทำเป็นสนใจกับเนื้อในกระทะมากกว่าอัลฟ่าจอมฉวยโอกาส ยิ่งเห็นท่าทางน่ารักนั้นกว้านหลินก็อยากจะแกล้ง เขากดปลายจมูกลงบนแก้มที่เริ่มจะฟูขึ้นมานิดหน่อยเพราะเจ้าของกำลังกลั้นยิ้มด้วยความเขิน ใบหูและลำคอค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง
 
            “หอมจัง”เอ่ยชมพลางกดจูบลงไปย้ำอีกที
 
            “อ่ะ...เอ่อ..คุณหิวแล้วเหรอครับ ไปรอที่โต๊ะก่อนนะครับอีกนิดก็จะเสร็จแล้ว”
 
            “หิว...เมื่อคืนกินยังไม่อิ่มเธอชิงหลับก่อน อยากกินอีกได้มั้ย?”คำพูดสื่อไปในทางลามกทำให้หน้าของภัทรร้อนราวกับถูกน้ำเดือดสาดใส่ เด็กน้อยรีบหันไปมองรอบๆกลัวใครจะมาได้ยิน เปิดช่องให้กว้านหลินที่รอโอกาสอยู่แล้วแตะริมฝีปากของตัวเองกับริมฝีปากนุ่มของภัทรและไม่ปล่อยโอกาสให้คนเด็กกว่าปฏิเสธชายหนุ่มกดศีรษะของภัทรไว้เป็นการล็อกก่อนจะละเลียดชิมความหวานสีสดนั้นราวกับกำลังเอร็ดอร่อยกับวิปครีมที่โปะมาบนไอศกรีมรสนุ่มช่วงชิงลมหายในชั่วครู่ก่อนคนเด็กจะผลักเขาออกเบาๆ
 
            “เดี๋ยวเนื้อไหม้...”ภัทรหันไปให้ความสนใจเนื้อบนเตาอีกครั้งก่อนจะตักออกจากกระทะแล้วเอาเข้าเตาอบ ร่างบางพยายามรวบรวมสมาธิย่างมะเขือเทศรวมทั้งผักต่างๆจัดจานรอ กว้านหลินก็ให้ความร่วมมือด้วยดีโดยการไปนั่งท้าวคางมองคนเด็กกว่าเตรียมอาหารให้เขา
 
ไม่มีคำพูดร้ายๆกรีดแทงจิตใจ บรรยากาศในบ้านที่เคยอึมครึมมานานบัดนี้เหมือนมีลมมาหอบเอาเมฆฝนออกไปจนพระอาทิตย์สามารถส่องแสงได้อย่างเต็มที่ ในที่สุดสเต็กชิ้นสวยน่ากินก็ถูกวางลงบนจานภัทรบอกให้กว้านหลินไปรอด้านนอกเดี๋ยวตนจะยกไปเสิร์ฟ
 
            “กินด้วยกัน ทำของเธอด้วยแล้วไปนั่งกินกับฉัน”อัลฟ่าหนุ่มออกคำสั่งก่อนออกไปนั่งรอที่โต๊ะ ภัทรจำใจต้องจัดจานในส่วนของตนเพิ่ม แอบดีใจอยู่ลึกๆที่วันนี้เราสองคนไม่ต้องทะเลาะกัน ภัทรเหนื่อยเกินกว่าจะสู้รบปรบมือกับกว้านหลิน ศลัยมองภาพเจ้านายทั้งสองของตนเองนั่งทานอาหารด้วยกันอย่างเงียบๆ หญิงสาวเอ็นดูภัทรและหล่อนดีใจที่วันนี้ทั้งคู่มีท่าทางที่อ่อนให้กันอย่างชัดเจน
 
            “อร่อยมั้ยคะคุณชาย”หล่อนแสร้งร้องถามถึงรสชาติอาหารหลังจากอัลฟ่าหนุ่มวางมีดกับส้อมหลังจัดการกับอาหารในจานจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่เศษผัก ภัทรที่นั่งทานอยู่เงียบๆรู้สึกใจเต้นแรงขึ้นมาทันที
 
เขาคาดหวัง
 
เพราะตลอดเวลาที่รับผิดชอบเรื่องอาหารการกินให้กับกว้านหลิน ชายหนุ่มเจ้าของบ้านไม่เคยเอ่ยชมเลยซักครั้ง ร้ายสุดคือเมื่อครั้งแรกๆที่ภัทรทำอาหารให้ทานแล้วอัลฟ่าหนุ่มไม่ถูกปากชายหนุ่มเททิ้งต่อหน้าต่อตาก็มี
 
ไล่กว้านหลินตวัดสายตามองคนเด็กที่ทำเหมือนไม่สนใจฟังบนสนทนาของเขากับสาวใช้แต่ใจเต้นแรงเสียจนได้ยินออกมาข้างนอกนั้นด้วยสีหน้ายิ้มๆ
 
ร่างบางหน้าแดงจัดยามอัลฟ่าหนุ่มตอบประโยคคำถามของพี่เลี้ยงสาวโดยที่จับจ้องสายตามาที่ตนเองเพียงคนเดียว
 
            “ก็อร่อยดี วันหลังทำให้กินอีกนะ”
 
            เป็นคำตอบแสนเรียบง่ายแต่ทำให้ภัทรอารมณ์ดีมากที่สุดในรอบเกือบสามเดือน อารมณ์ดีถึงขั้นฮัมเพลงในลำคอเบาๆได้ทั้งวัน




#ไฮเดรนเยีย

TBC.



...........................

เจ็บแล้วจำคือคนเจ็บแล้วทนคือณภัทร ขอบคุณค่าาาาาาา

ผู้ชายเขาไม่รักก็พอเถอะเถอะชะนี รำคาญ!!!

 

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 14 "ทั้งรักทั้งเกลียด"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 01-06-2019 21:55:35
ในที่สุดดดด กว้านหลินก็ทำในสิ่งที่ควรทำซักที

โอ๊ยย เป็นแบบนี้นานๆนะพ่อคุณ อย่าผีเข้าผีออกอีกเลย

ตอนนี้ทำให้รู้จักว่าคุณชายไล่นี่ จริงๆแล้วไม่สนใจใคร สนใจแต่ตัวเองจริงๆเลย

ดีที่ตอนนี้เริ่มเห็นหัวเมียตัวเองขึ้นบ้างแล้ว

ถ้ากลับไปเป็นตาบ้าคนเก่าอีกนะ เราจะฟ้องพี่พี่ให้มาเอาน้องภัทรไปซ่อน !!
 :z4: :pigangry2: :ซูโม่: o8
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 14 "ทั้งรักทั้งเกลียด"
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 01-06-2019 21:57:31
เห็นด้วยยย เขาไม่เอาก้อควรหยุดส่ะ!!!!! :katai4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 14 "ทั้งรักทั้งเกลียด"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-06-2019 00:33:03
ขอให้ดีแบบนี้ไปตลอดนะ อย่าเป็นผีบ้าไร้สตินะคุณชาย
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 15 "ตามใจ"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 04-06-2019 08:01:28
            Hydrangea 15

 

 

            ไล่กว้านหลินนั่งมองภัทรจัดนู่นเรียงนี่ในห้องของเขา เด็กน้อยรับเสื้อผ้าที่ซักและรีดอย่างเรียบร้อยแล้วจากศลัยมาจัดเรียงตามสีและประเภทของเสื้อผ้าเข้าตู้อย่างเงียบๆ แม้จะไม่ได้พูดคุยอะไรกันเท่าไหร่แต่บรรยากาศก็ไม่อึดอัดเท่าเมื่อก่อน ภัทรเป็นเด็กที่ทำงานละเอียดรอบคอบอย่างน่าทึ่ง ณภัทรจัดแยกเสื้อผ้าแต่ละประเภท ชุดชั้นในของกว้านหลินถูกพับเก็บอย่างเป็นระเบียบ แยกกับบ๊อกเซอร์ ทำความสะอาดห้องในขณะที่เจ้าของห้องนอนอ่านข่าวในแลปท็อปอย่างเงียบๆ ราวสองชั่วโมงทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย

 

            “เบื่อมั้ย?”เอ่ยถามเมื่อภัทรเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

 

            “ก็นิดหน่อยครับ”ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสร้งพูดว่าไม่เบื่อ การอยู่แค่ในบ้านมีเพียงทีวีเอาไว้ดูรายการต่างๆซึ่งภัทรไม่ใช่คนติดทีวีขนาดนั้นมันก็ออกจะน่าเบื่อ กว้านหลินเก็บแลปท็อปไว้ที่หัวเตียงก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง

 

            “ไปอาบน้ำแต่งตัวสิ”

 

            “เดี๋ยวผมค่อยอาบก็ได้ครับ ยังไม่ได้ทำอาหารกลางวันเลยครับ”ภัทรปฏิเสธด้วยน้ำเสียงซื่อๆ กว้านหลินส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะลุกเดินมาหาเด็กในปกครอง ยื่นมือไปบนศีรษะของภัทร เด็กน้อยสะดุ้งเฮือกหลับตาปี๋เพราะคิดว่ากว้านหลินจะตบตน หากแต่สัมผัสแผ่วเบาบนศีรษะที่กำลังจับตนเองโยกหัวไปมานั้นกลับทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างน่ากลัว

 

            “ไม่ต้องทำ วันนี้จะพาไปเที่ยวห้าง อยากกินอะไรคิดไว้ด้วยนะ อยากทำอะไรก็นึกไว้เลย วันนี้จะตามใจทุกอย่าง”น้ำเสียงอบอุ่นที่ส่งมาให้ทำเอาภัทรกลั้นยิ้มสุดความสามารถ

 

ชอบ...ชอบที่กว้านหลินดีแบบนี้ เหมือนกว้านหลินเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิดเลย

 

ชอบมากๆ อยากให้เป็นแบบนี้ตลอดไป

 

            ณภัทรในตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับเด็กวัยรุ่นนับร้อยนับพันคนในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เลยซักนิด เด็กน้อยใส่เสื้อตัวหลวมสีเหลืองอ่อนกับกางเกงยีนส์สีซีด ในขณะที่เขาแต่งตัวเต็มยศราวกับเพิ่งหลุดมาจากแมกกาซีนแฟชั่นเล่มแพงสำหรับอัพเดทเทรนด์การแต่งตัวของผู้ชาย ภัทรเดินดูร้านนั้นทีร้านนี้ทีอย่างตื่นตาตื่นใจ การที่ต้องอุดอู้อยู่แค่ในบ้านทำให้โอเมก้าตัวน้อยตื่นเต้นไปเสียทุกสิ่ง

 

            “มานี่”กว้านหลินคว้ามือภัทรที่ทำท่าจะเดินตามใครซักคนไปเข้าร้านไอศกรีม

 

            “แต่ผมอยากกินไอติมนี่ครับ”ภัทรทำเสียงเหมือนลูกแมวตัวน้อยที่ร้องท้วงยามเจ้านายหนุ่มยึดชามนมไว้

 

            “เธอต้องกินข้าวก่อนสิ นี่มันจะเย็นแล้วนะไม่หิวเหรอ?”กว้านหลินดึงมือเด็กที่ทำท่าจะดื้อเล็กน้อยให้ตามมา เลือกร้านอาหารญี่ปุ่นเลือกโต๊ะในสุดเพื่อความเป็นส่วนตัว เมนูถูกยื่นให้กับภัทร เด็กน้อยมองราคาอาหารแล้วก็ได้แต่นั่งนิ่ง

 

แพงทุกอย่างเลย

 

กว้านหลินมองท่าทางอึกอักลังเลของภัทรแล้วได้แต่กระตุกยิ้ม ดวงตากลมที่มองภาพประกอบเป็นประกายหากแต่ก็สะกดจิตสะกดใจไว้

 

ถ้าเลือกตามใจตัวเองหนี้สินที่กัดฟันทำงานคงไม่แคล้วจะงอกเป็นดินพอกหางหมูแน่ๆ

 

            “เลือกสิ ฉันเลี้ยงเอง”กว้านหลินที่นั่งดูเมนูอยู่บอกด้วยท่าทางสบายๆ บรรยากาศโดยรอบทำให้ภัทรผ่อนคลายขึ้น ตากลมกวาดมองเมนูที่อยากกินก่อนจะสั่งเบนโตะเซ็ตแค่อย่างเดียว

 

ถึงแม้กว้านหลินจะออกปากว่าเลี้ยงแต่ภัทรก็ไม่ใช่เด็กที่จะถือโอกาสสั่งอะไรเยอะแยะ เบนโตะเซ็ตเองก็รวมทุกอย่างที่อยากกินไว้แล้วดังนั้นภัทรจึงสั่งเมนูง่ายๆนี้ไป อัลฟ่าหนุ่มเห็นดังนั้นจึงสั่งอาหารไปอีก 3-4 อย่าง

 

            “สั่งมาเยอะจะทานหมดเหรอครับ”เมื่อพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟเด็กน้อยก็อดไม่ได้ที่จะถาม

 

มันค่อนข้างเยอะจนเกือบเต็มโต๊ะ

 

            “สั่งมาให้เธอกิน กินเยอะๆตัวเธอผอมมากเลย ผอมมากกว่าครั้งก่อนที่ฉันจับเอวเธอ”กว้านหลินคีบซูชิใส่จานให้กับภัทร เด็กน้อยแก้มแดงเรื่อด้วยเลือดฝาดที่แล่นขึ้นมาหล่อเลี้ยงยามใบหน้าร้อนผ่าว เอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงแสนเบา ภัทรคีบแซลม่อนย่างใส่จานให้กว้านหลินอย่างกล้าๆกลัวๆ กลัวว่ากว้านหลินจะรังเกียจอาหารที่ตนคีบให้ ดวงตากลมหลุบต่ำหลบยามที่กว้านหลินเหลือบมอง

 

            “คือ มันอร่อยครับผมเลยอยากให้คุณลองชิม”กว้านหลินไม่ได้ว่าอะไรชายหนุ่มคีบปลาชิ้นนั้นเข้าปากหากแต่สายตายังไม่ยอมละจากใบหน้าที่แดงเรื่อชวนมองแม้แต่น้อย

 

            “คราวหลังถ้าอยากให้ฉันลองชิมอะไรก็ป้อนมาสิ...”คราวนี้ไม่ใช่แค่หลุบตาต่ำหากแต่ภัทรก้มหน้างุดจนแทบจะมุดลงไปใต้โต๊ะเลยทีเดียว อาหารกลางวันจบลงอย่างเรียบง่ายกว้านหลินจ่ายเงินแล้วจูงมือเด็กในปกครองออกมา พาเดินกลับไปยังร้านไอศกรีมที่ภัทรอยากกินในตอนแรกเด็กน้อยยิ้มกว้างอย่างดีใจร่างบางเกาะแขนอัลฟ่าหนุ่มอย่างลืมตัวกว้านหลินสั่งเพียงกาแฟร้อนมากินรอในขณะที่ภัทรหลับตาพริ้มยามส่งไอศกรีมเนื้อเย็นเข้าปากสีหน้าบ่งบอกว่าตนเองมีความสุขมากแค่ไหน วิปครีมสีขาวละเอียดถูกละเลียดทีละนิดอย่างกลัวมันจะหมดริมฝีปากเปื้อนเพราะไม่ทันระวังหากแต่กว้านหลินก็เอื้อมมือไปเช็ดให้ก่อนจะส่งเศษวิปครีมที่ปลายนิ้วเข้าปากตัวเองสายตาที่มองมานั้นเหมือนมีเปลวไฟกองใหญ่โลดแล่นอยู่ในนั้นจนเด็กน้อยแทบจะละลาย

 

            “อยากดูหนังเรื่องอะไรมั้ย เห็นว่ามีหนังใหม่น่าดูเข้าหลายเรื่องเลย”

 

            “คุณกว้านหลินจะพาผมไปดูหนังด้วยเหรอครับ”ภัทรถามด้วยความดีใจ ปกติเด็กน้อยชอบดูหนังมากๆแต่ตั้งแต่ถูกกว้านหลินจับไปเขาก็ได้ดูหนังจากแผ่นแค่ไม่กี่ครั้งส่วนมากเป็นหนังเก่าที่เขาเคยดูแล้ว คุณชายสามพยักหน้าพลางจิบกาแฟรอเด็กที่เร่งความเร็วในการกินไอศกรีมมากขึ้น ที่สุดทั้งคู่ก็มาหยุดยืนหน้าโปรแกรมหนัง ภัทรเลือกหนังแอคชั่นสงครามที่ตัวเองอยากดูและคิดว่ากว้านหลินจะไม่เบื่อโดยกว้านหลินทำหน้าที่เลือกที่นั่งโชคดีที่รอบที่จะดูนั้นอีกไม่นานกว้านหลินจึงพาเด็กน้อยไปซื้อของกินแล้วเข้ามาในโรงภาพยนตร์ ที่นั่งของทั้งคู่เป็นแบบโซฟามีหมอนและผ้าห่มไว้ให้ กว้านหลินคลี่ผ้าห่มคลุมร่างของเขาและภัทรไว้ร่างบางถูกดึงให้มานอนในอ้อมแขนแข็งแรงนั่น โชคดีที่หนังเป็นหนังที่ใกล้ออกจากโปรแกรมแล้วจำนวนคนดูในโรงมีไม่เยอะและนั่งกระจายลงไปด้านล่างๆทำให้ตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มครองที่นั่งสุดพิเศษนี้แต่เพียงผู้เดียว แอบมองเจ้าตัวเล็กที่ซุกกายในอ้อมแขนของเขาดวงตากลมสนใจที่ตัวละครในหนังแล้วก็นึกเอ็นดู เหมือนตอนภัทร 7-8 ขวบไม่มีผิด ยามเปิดการ์ตูนให้ดูก็จะตั้งอกตั้งใจดูเสียเหลือเกินไม่ว่าจะแกล้งหรือทำอะไรก็ไม่ได้สนใจเลยซักนิด ความคิดซุกซนผุดเข้ามาในหัวก่อนจะค่อยๆล้วงมือเข้าไปในเสื้อของเด็กน้อยแล้วแตะลงบนยอดอกเม็ดเล็กบีบบี้เบาๆจนร่างในอ้อมกอดสะดุ้งโหยง

 

            “อ๊ะ!!”

 

            “ชู่ว...เดี๋ยวคนอื่นได้ยินเสียงร้องแล้วเปลี่ยนมาดูเราแทนนะ”แกล้งเอ่ยกระซิบชิดหูยามที่ภัทรตะครุบมือของเขาให้หยุดการกระทำแสนน่าอายนั้นฉวยจูบอย่างรวดเร็วก่อนผละออก ร่างบางห่อตัวเข้าหากันอย่างปกป้องตนเองแต่มีหรือที่คนอย่างไล่กว้านหลินจะยอมเขาดึงมือของเด็กน้อยออก

 

            “เธอดูหนังไปสิ ส่วนฉันจะดูเธอ เก็บเสียงร้องให้ดีๆนะคนอื่นได้ยินไม่รู้ด้วย”ภัทรกัดปากแน่นเมื่อกว้านหลินเริ่มกระทำการเอาแต่ใจอีกครั้งยอดอกเริ่มทำปฏิกริยาสู้มือของอัลฟ่าหนุ่มที่บางครั้งก็แค่ลูบเบาๆสบัลกับบีบบี้จนรู้สึกซ่านเสียว โอเมก้าเด็กหลุดเสียงร้องสั้นๆเมื่อกว้านหลินเปลี่ยนเป้าหมายจากหน้าอกมาเป็นการสอดมือเข้ามาในกางเกงของเขา

 

น่าอาย น่าอายเหลือเกิน ภัทรกลัวว่าพนักงานหรือใครซักคนจะรู้ว่าตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มกำลังทำอะไรตนอยู่ ปลายผ้าห่มถูกดึงขึ้นมากัดกลั้นเสียงยามกว้านหลินใช้หลังมือลูบไล้ลงบนกลางกายของเขาผ่านเนื้อผ้าของกางเกงชั้นในสลับกับรูดรั้งตามความยาวจนอะไรๆที่เคยสงบเริ่มตื่นตัว เหมือนกว้านหลินอยากจะแกล้งให้เด็กน้อยมาสนใจตัวเองมากกว่าหนังที่กำลังระเบิดกันตูมตามจนหูแทบจะแตกภัทรกอดเอวของเขาแน่นกระตุกกายเข้าหายามความเสียวแล่นวูบแม้จะไม่ได้ถูกสัมผัสโดยตรงหากแต่ความรู้สึกที่ได้แสนจะจริง สมองพร่าเบลอไปหมดจนดูหนังไม่รู้เรื่อง เสียงครางดังเบาๆยามใบหน้าหวานซุกลงบนอกของกว้านหลินเด็กน้อยกัดลงบนอกของอัลฟ่าหนุ่มอย่างทำโทษที่กลั่นแกล้งจนไม่สามารถดูหนังได้รู้เรื่อง กว้านหลินเพิ่มจังหวะในการลูบไล้มากขึ้นเร็วขึ้นเรื่อยๆจนจุดกลางกายแข็งตัวเต็มที่

 

            “หึหึ”ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะดึงมือออกแล้วทำท่าสนใจกับหนังตรงหน้าเสียเต็มประดาทิ้งให้ภัทรค้างเติ่งกลางทาง เด็กน้อยรีบลุกขึ้นนั่งพยายามจัดการกับอารมณ์ที่ถูกปลุกปั่นจากคนนิสัยเสีย แต่อย่างว่าเมื่ออารมณ์มันขึ้นมาแล้วถ้าไม่จัดการก็จะค้างคาอยู่เช่นนั้น

 

                        “ผ...ผมไปห้องน้ำก่อนนะครับ”ลุกขึ้นโดยไม่รอคำอนุญาตเลยซักนิดหากแต่ข้อมือสวยกลับถูกดึงรั้งไว้

 

            “ให้ไปช่วยมั้ย?”คำถามแสนหน้าด้านถูกเปล่งออกไป ภัทรไม่เคยรู้สึกอยากทุบกว้านหลินให้ตายเหมือนเช่นตอนนี้มาก่อนเลยซักนิด

 

ก็เพราะเขารู้ความหมายของคำว่าช่วยดีน่ะสิ

 

ถ้าให้กว้านหลินไปด้วยหนังที่เพิ่งดำเนินได้ครึ่งเรื่องคงไม่ได้กลับมาดูอีกแน่ๆ เด็กน้อยจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะดึงมือตัวเองออกผลุนผลันตรงไปยังห้องน้ำภัทรเลือกห้องในสุดโชคดีเหลือเกินที่มันว่างทุกห้องจัดการปลดกางเกงและชั้นในลงก่อนจะจัดการกับความค้างคาที่กว้านหลินจุดไว้ให้ ลมหายใจหอบกระชั้นยามความรู้สึกทั้งหมดถูกปลดปล่อยเด็กน้อยนั่งควบคุมลมหายใจและสติของตัวเองอีกหลายนาทีถึงจะแต่งตัวให้เรียบร้อยออกไปล้างมือล้างหน้าแล้วจึงเดินกลับไปหากว้านหลินในโรงหนัง หากแต่ตอนนี้อัลฟ่าหนุ่มกลับไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

 

หายไปไหน?...

 

 

 

 

            ณภัทรหันมองรอบๆภายในโรงหนังแต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของไล่กว้านหลิน ตัดสินใจกลับมานั่งรอเพราะคิดว่าอาจจะสวนกันตอนไปเข้าห้องน้ำ แต่รออยู่อีกหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววที่กว้านหลินจะกลับมา ใจของเด็กน้อยเริ่มเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ

 

หรือกว้านหลินแกล้งเขาโดยเอาเขามาทิ้งไว้ทั้งๆที่ก็รู้ว่าภัทรนั้นไม่มีเงินติดตัวและไม่รู้เรื่องถนนหนทางในกรุงเทพมากนักเนื่องจากถูกพ่อส่งไปเรียนที่อังกฤษเสียหลายปี เด็กน้อยเริ่มผุดลุกผุดนั่งอย่างร้อนรนจนในที่สุดก็ตัดสินใจออกมาด้านนอก ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆพร้อมๆกับใจที่เสียไปเรื่อยๆ

 

จะทิ้งกันจริงๆเหรอ

 

คุณจะใจร้ายทิ้งผมแบบนี้จริงๆเหรอครับ

 

ณภัทรเดินไปหาในห้องน้ำรอจนคนหมดก็ไม่พบ

 

เขาควรจะไปยืนรอหน้าโรงหนังอีกครั้งหรือจะหนีดี ยังไงตอนนี้กว้านหลินก็ไม่ได้อยู่กับเขาเป็นโอกาสที่จะได้หนีไปจากกรงขังที่กว้านหลินสร้างมาพันธนาการเขาเสียที เด็กน้อยเดินออกจากห้องน้ำอย่างลังเลก่อนจะตัดสินใจสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วก้าวเดินออกจากตรงนั้นทันที

 

 

 

            ไล่กว้านหลินกลับมาที่โรงหนังอีกครั้งหลังจากที่ออกไปหามุมสงบคุยกับคริสที่โทรมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของจิรนุช

 

จิรนุชไปฟ้องพ่อของเธอจริงๆและพ่อของเจ้าหล่อนก็โทรไปโวยวายกับแม่ใหญ่ของเขา ทางนั้นจึงโทรมาเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กว้านหลินถูกพี่ชายด่าเรื่องความโลเลและให้ความหวังจิรนุชมาตั้งหลายปีเสียยกใหญ่สองพี่น้องหาทางแก้ไขปัญหาที่จะตามมาไม่ช้านี้อยู่เป็นนานสองนานถึงจะได้วางสายกันได้

 

และเมื่อกลับมาที่โรงหนังก็ได้พบว่าหนังจบไปได้ซักพักแล้ว รอบๆบริเวณนั้นไม่ปรากฏร่างของโอเมก้าเด็กของเขาเลย กว้านหลินรีบสาวเท้าไปสอบถามพนักงานบอกถึงรูปร่างหน้าตารวมทั้งลักษณะปลอกคอที่ภัทรสวมใส่อยู่

 

ไม่มีใครสังเกตเห็นภัทรเลยซักนิด และเพราะเป็นวันหยุดผู้คนจึงมากมายไม่ว่าจะกวาดตามองไปทางไหน

 

ไม่มี

 

ไม่เจอ

 

ใจของอัลฟ่าหนุ่มราวกับถูกเตะกระเด็นกระดอนไป

 

เขาคิดว่ายังไงเสียถ้าไม่เจอภัทรก็ยังจะยืนรอเขาที่หน้าโรงหนัง

 

กว้านหลินลืมไปเสียสนิทว่าเชลยของเขาอาจจะถือโอกาสนี้ที่ไม่ได้อยู่ใต้การปกครองของเขาหนีไป

 

ความกรุ่นโกรธเริ่มครอบงำจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆเหมือนก้อนเมฆดำที่ค่อยๆบดบังกลืนกินดวงอาทิตย์ในยามหน้าฝนทีละนิดๆ เมื่อเดินตามหาทั้งนอกและในห้องน้ำก็ไม่เจอ

 

ณภัทรกล้าหนีเขาอย่างนั้นเหรอ ทั้งๆที่เขาตั้งใจว่าจะทำดีกับเด็กนั่นให้มากกว่าเดิมแล้วแท้ๆ แต่ณภัทรกลับทรยศความเมตตาของเขา สาบานเลยว่าถ้าเขาตามล่าหาเด็กนั่นเจอเมื่อไหร่เขาจะตีให้เจ็บให้จำว่าอย่าบังอาจคิดหนีเขาอีก ใบหน้าขาวจัดของกว้านหลินค่อยๆแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆเพราะความโกรธ โกรธจนเหมือนมีกองไฟสุมเร้าอยู่ภายในกายที่พร้อมเผาไหม้และระเบิดได้ทุกเวลา

 

ไล่กว้านหลินโกรธจนควันออกหู อัลฟ่าหนุ่มยกโทรศัพท์จะกดโทรหาอี้เฉินให้เรียกการ์ดมาช่วยตามหาภัทรหากแต่ต้องชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงประกาศของทางห้างสรรพสินค้าดังขึ้น

 

            “ขออภัยคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ ขอความกรุณาคุณไล่กว้านหลินมารับน้องชายที่พลัดหลงกันที่ประชาสัมพันธ์บริเวณชั้นหนึ่งค่ะ น้องชายรออยู่ ขอบคุณค่ะ”มือที่กำลังจะกดโทรหาเลขาคนสนิทชะงักลงทันที หัวใจที่เต้นแรงด้วยความโกรธเหมือนจะสงบลงได้ อัลฟ่าหนุ่มยังคงปรับสีหน้าบึ้งตึงไม่ได้หัวคิ้วขมวดเข้าหากันบ่งบอกว่าตนเองนั้นอารมณ์ไม่ดีขั้นสุด ขายาวก้าวเร็วๆลงบันไดเลื่อนเพื่อนตรงไปยังชั้นหนึ่งแล้วเดินตรงไปยังส่วนประชาสัมพันธ์ ร่างสูงก้าวแทบจะวิ่งไปหาภัทรที่ชะเง้อมองหาเขา ทันทีที่เห็นกว้านหลินเด็กน้อยก็ยิ้มร่าอย่างดีใจ สีหน้ากังวลเมื่อครู่หายไปในทันทีหากแต่ข้อมือบางกลับถูกดึงอย่างแรงจนเจ็บ

 

            “โอ้ย!!”

 

            “ทำไมไม่รอหน้าโรงหนัง รู้มั้ยฉันตามหาเธอจนแทบบ้า ฉันนึกว่าเธอหนีไปแล้ว”กว้านหลินกระซิบเสียงเบาแต่น้ำเสียงดุจนภัทรต้องย่นคอหนี เด็กน้อยลูบมือลงบนอกเสื้อของกว้านหลินเบาๆช้าๆราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังกล่อมเด็กโกรธให้ใจเย็นลง

 

            “อย่าโมโหเลยนะครับ ผมไปรอคุณกว้านหลินแล้วแต่รอตั้งนานคุณไม่กลับมา ผมคิดว่าคุณทิ้งผมไปแล้วด้วยซ้ำ ผมกลัวแทบแย่ กลัวว่าคุณจะแกล้งพาผมมาปล่อยทิ้งไว้จริงๆ อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมไม่รู้จะหาคุณที่ไหนเลยลงมาให้พี่ประชาสัมพันธ์ประกาศให้ อายจะแย่อยู่แล้วนะ”เด็กน้อยก้มหน้างุดหลบสายตาสอดรู้ของพนักงานตรงจุดประชาสัมพันธ์ กว้านหลินหันไปก้มหัวเป็นเชิงขอบคุณก่อนจะจูงมือภัทรเดินออกมาจากจุดนั้น อัลฟ่าหนุ่มเดินดุ่มๆตั้งใจจะพาภัทรกลับบ้าน ความกลัวเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาทำให้เขาไม่มีอารมณ์จะเที่ยวเล่นอีกต่อไปหากแต่เด็กน้อยในปกครองกลับรั้งข้อมือของเขาไว้แน่น

 

            “ทำไม?”ถามเสียงเขียวอย่างหงุดหงิด

 

            “ยังไม่อยากกลับนี่ครับ อยากเล่นเกม”เด็กน้อยชี้มือไปทางโซนเครื่องเล่นต่างๆ มีทั้งตู้เกมและตู้คีบตุ๊กตารวมทั้งโซนขายอาหารขนมหลากหลายชนิด

 

            “ไม่เอา กลับได้แล้ว”หากแต่กว้านหลินกลับปฏิเสธอย่างไม่ใยดี

 

            “ไหนว่าวันนี้อยากทำอะไรจะตามใจผมไงครับ”เด็กน้อยช้อนตาขึ้นสบอย่างตัดพ้อ

 

คุณกว้านหลินโกหกอยู่เรื่อยเลย พูดอะไรไม่เคยทำได้ตามที่พูดเลยซักครั้ง

 

อัลฟ่าหนุ่มเห็นสายตาตัดพ้อนั้นก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เล่นมองแบบนั้นใครจะไปปฏิเสธได้ แถมเขาเป็นคนออกปากเองว่าจะตามใจภัทรเองดังนั้นร่างสูงจึงพยักหน้าอย่างขอไปที ภัทรราวกลับกลายเป็นคนละคนเด็กน้อยร้องเย้กระโดดโหยงแหยงแล้วกดปลายจมูกลงบนซีกแก้มซ้ายของกว้านหลินอย่างดีใจก่อนจะหันหลังวิ่งไปยังตู้เกมทันที

 

            “ผมอยากเล่นอันนี้ครับ”ชี้ไปที่เกม danz base กว้านหลินหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาก่อนจะหยิบธนบัตรภายในออกมาจำนวนหนึ่งยื่นให้เด็กน้อย

 

            “ไปแลกเงินมาเล่นสิฉันจะยืนรอตรงนี้”ภัทรรับเงินมาถือก่อนจะวิ่งปร๋อไปที่จุดแลกเหรียญเมื่อได้ก็รีบกลับมาอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยเลือกเพลงแล้วหยอดเหรียญก่อนจะเริ่มออกลีลาตามเกมอย่างสนุกสนาน กว้านหลินมองเด็กในปกครองของเขาที่มีสีหน้ามีความสุขแล้วก็อดที่จะยิ้มขำไม่ได้ ภัทรเต้นตรงบ้างพลาดบ้างแต่ท่าทางในยามนี้ดูผ่อนคลายสดใสสมวัย

 

            “คุณกว้านหลินมาเล่นด้วยกันสิครับ”เมื่อจบเพลงเด็กน้อยที่ดูท่าจะไฟติดก็มาลากกว้านหลินหวังจะให้ชายหนุ่มเล่นเกมด้วยกัน แต่กว้านหลินปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

 

            “ไม่เอา”

 

            “โธ่ นะๆ แข่งกันๆ”

 

            “ไม่เอา”

 

            “ไหนบอกว่าจะตามใจผมไงครับ”

 

            “...”

 

ในที่สุดกว้านหลินก็มาเต้นแร้งเต้นกาด้วยท่าทางเก้กังข้างๆภัทร เขารู้สึกเหมือนแขนขาของตัวเองมันยึดมันติดไปเสียหมดในขณะที่ภัทรเต้นได้อย่างสบายๆ กว้านหลินอยากกระชากเจ้าเด็กที่ดื้อตาใสมาฟาดลงบนก้นให้สมกับที่มาทำให้เขาอับอายจากสายตาผู้คนนัก เวลาแค่ไม่กี่นาทีเหมือนเดินไปซักสิบปีกว่าจะจบเพลงก็เล่นเอาอัลฟ่าหนุ่มเหงื่อหยด

 

            “อีกเพลงมั้ยครับ”ภัทรหันมาถามอย่างมีความหวังแต่ครั้งนี้กว้านหลินไม่ยอมโอนอ่อนตามอัลฟ่าหนุ่มยื่นคำขาดให้เลิกเล่นเกมบ้านี่ซักทีไม่งั้นจะพากลับบ้าน ภัทรยู่ปากอย่างไม่ชอบใจแต่ก็ยอมละออกจากเกมเต้นก่อนเบนความสนใจไปที่เกมชู้ตบาส และแน่นอนเขาท้ากว้านหลินแข่งอีกครั้ง เกมนี้ทั้งคู่ฝีมือสูสีกันแต่ในที่สุดกว้านหลินก็ชนะไป ภัทรเบะปากทำหน้าเซ็งแล้วท้ากว้านหลินเล่นเกมต่อยและแน่นอนโอเมก้าไม่สามารถเอาชนะพละกำลังอันมหาศาลของอัลฟ่าได้ กว้านหลินต่อยเบาๆตัวรับหมัดก็แทบจะพัง ทั้งคู่เปลี่ยนไปเล่นเกมแข่งรถ และเช่นเดิมไล่กว้านหลินที่มีงานอดิเรกคือขับรถแข่งสมัยอยาอเมริกาแทบจะหลับตาขับได้ ส่วนภัทรชนนู่นชนนี่หลุดโค้งเกือบทั้งเกม

 

            “ฉันจะไม่มีวันนั่งรถที่เธอขับเด็ดขาด ยังไม่อยากตายก่อนที่จะแก่”กว้านหลินยิ้มเยาะเด็กที่เล่นเกมแพ้เขาอีกครั้ง ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูตัดสินใจว่าควรจะกลับซักที

 

            “คุณกว้านหลินครับ ผมอยากได้ตุ๊กตา”ภัทรดึงชายเสื้อของอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะชี้ให้ดูตุ๊กตาหมาตัวเล็กๆในตู้คีบ

 

            “ไม่เห็นจะสวยเลย”ย่นจมูกทำสายตาดูถูกกับตุ๊กตาราคาถูกที่น่าจะเหมามาจากโรงงาน

 

            “แต่ผมอยากได้ครับ”

 

            “งั้นก็ไปคีบเองสิฉันจะรอ”กว้านหลินตัดรำคาญด้วยการบอกให้ภัทรเป็นคนไปคีบเอาเองแต่โอเมก้าในปกครองกลับส่ายหน้าพลางชี้มาที่เขา

 

            “ผมอยากให้คุณกว้านหลินคีบให้ครับ”

 

            “ไร้สาระจริงเชียว”บ่นด้วยสีหน้าบึ้งตึงแต่ก็ยอมเดินตามแรงลากของภัทร กว้านหลินรอให้ภัทรหยอดเหรียญลงไปก่อนจะค่อยๆขยับคันบังคับไปให้ตรงกับจุดที่ตุ๊กตาอยู่

 

วืด...ครั้งแรกพลาดไปอย่างไม่เห็นวี่แววว่าจะได้ ภัทรตวัดสายตามองหน้าเขาอย่างผิดหวังทันที

 

            “อันนี้ลองมือเฉยๆ”เอ่ยแก้ตัวยามเห็นสายตาผิดหวังฉายชัด ภัทรหยอดเหรียญลงไปอีกครั้ง ตากลมจ้องอย่างลุ้นๆเมื่อกว้านหลินเริ่มขยับคันโยกอีกครั้ง

 

            “โอ้ย!!!”ร้องออกมาอย่างผิดหวังเมื่อตุ๊กตาที่กว้านหลินคีบร่วงหล่นก่อนถึงจุดปล่อย

 

            “หยอดใหม่”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเริ่มมีน้ำโหจนในที่สุดหลังจากผ่านการหยอดแล้วหยอดเล่าหมดไปหลายร้อยบาทณภัทรก็ได้ตุ๊กตาหมาชิบะตัวเล็กเท่าฝ่ามือมาครอบครอง กว้านหลินแย่งมาส่องหน้าตาของมันแล้วก็บ่นว่าจริงๆไปซื้อเอาตามตลาดขายของข้างทางก็ได้ไม่เห็นจะต้องให้เขาลำบากลำบนและเสียเงินมากมายเพื่อให้ได้มันมาเลยซักนิดแถมทำท่าจะโยนทิ้งลงถังขยะจนภัทรต้องแย่งคืนมาด้วยท่าทางงอนๆ

 

ถึงจะเป็นแค่เพียงตุ๊กตาหน้าตาโง่ๆตัวหนึ่งแต่ณภัทรก็หวงเสียเหลือเกิน เพียงเพราะไล่กว้านหลินเป็นคนคีบให้

 

 

#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

...................................................

 

คูมตำหนวดคะมีคนเล่นกันในโรงหนังค่ะมาจับมันเยย

 

ขอบอกว่าครั้งนี้ชายไม่เค็มนะจ๊ะ อิอิ

 
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 15 "ตามใจ"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 04-06-2019 15:21:47
โอ๊ยยย จะดีทั้งตอนไม่ได้สินะคุณชายไล่
ในโรงหนังนี่น้องอายจะแย่อยู่แล้ววว
แล้วน้องหายไปก็คิดเป็นตุเป็นตะว่าเค้าจะหนี
เด็กมันถวายให้ทั้งตัวทั้งใจแล้วพ่ออ ทำดีกับน้องมันเยอะๆ
เผื่อกุศลจะทำให้มีลูกอีกคนได้นะ  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 16 "ความลังเล"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 09-06-2019 14:01:32
 



            Hydrangea 16


 

 

           “ดูมีความสุขกันดีนะคะ”กว้านหลินและภัทรที่กำลังเดินกลับไปที่รถชะงักกับเสียงทักทายนั้น กลิ่นดอกกุหลาบหอมเข้มขึ้นมากกว่าทุกครั้งเป็นเพราะเจ้าของกลิ่นตั้งใจที่จะแผ่อำนาจกดโอเมก้าตรงหน้า ภัทรถอยไปหลบข้างหลังกว้านหลินโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกับที่กว้านหลินใช้ร่างกายกำยำของตนเองปกป้องร่างบางด้านหลังไว้โดยสัญชาติญาณ จิรนุชแค่นยิ้มให้กับท่าทางนั้นของผู้ชายที่หล่อนหมายมั่น

 

รู้จักกันมาหลายปีไม่เคยมีซักครั้งที่กว้านหลินจะทำแบบนี้กับหล่อน  อันที่จริงหญิงสาวไม่คิดว่าจะมาเจอคนทั้งคู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ หล่อนแค่มาเพื่อระบายความเครียดด้วยการใช้เงินซื้อทุกอย่างที่อยากจะซื้อ มาทำผมทำเล็บแต่พอเดินผ่านโซนเครื่องเล่น จิรนุชก็เห็นภาพที่ชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้เห็น ไล่กว้านหลินกำลังคีบตุ๊กตากระจอกๆให้กับภัทร ในอกของหล่อนร้อนราวกับถูกเหล็กที่เผาไฟจนกลายเป็นสีแดงฉานนาบลงมา

 

อิจฉา ทั้งๆที่ตามระบบชนชั้นแล้วหล่อนคือคนที่ควรถูกโอเมก้าอิจฉาแต่ในตอนนี้กลายเป็นว่าคนที่อยู่บนยอดสุดของชนชั้นเช่นหล่อนต้องมาอิจฉาชนชั้นต่ำสุดเพราะคนที่หมายปองเทใจไปให้

 

เกลียดที่จะต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่กว้านหลินมองไปที่ภัทรสายตาของอัลฟ่าหนุ่มนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ารักเด็กคนนั้นมากแค่ไหน

 

ยอมละทิ้งภาพลักษณ์เพื่อตั้งใจคีบตุ๊กตาปัญญาอ่อนนั่นโดยไม่สนสายตาใคร

 

เกลียดเวลาที่กว้านหลินเอาแต่จ้องหน้าของภัทรที่ยิ้มกว้างอย่างดีใจยามที่ตุ๊กตาตัวนั้นหล่นลงมาในช่องรับ

 

คบกันมาตั้งหลายปีกว้านหลินไม่เคยให้อะไรหล่อนเลย

 

กุหลาบดอกเดียวก็ไม่เคยได้

 

            “ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะนุช”กว้านหลินยกมือขึ้นเสยผมอย่างคนที่อารมณ์ไม่ดีเต็มขั้นแขนข้างหนึ่งถูกภัทรจับไว้ โอเมก้าเด็กบีบแขนของเขาเบาๆ

 

            “รู้เรื่อง? รู้เรื่องอะไรคะ? คุณพูดอยู่ฝ่ายเดียวเข้าใจอยู่คนเดียวรู้เรื่องอยู่คนเดียวฉันไม่ได้ตกลงด้วยซักหน่อยนะกว้านหลิน”

 

            “คุณก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผมไม่ได้ชอบคุณ ผมก็บอกไปแล้วคุณยังจะเอาอะไรอีกจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากทำไม?”

 

            “คุณเลือกทิ้งฉันเพื่อมากินของต่ำๆแบบนี้น่ะเหรอกว้านหลิน คิดดูอีกครั้งให้ดีๆนะคะ ระหว่างมันกับฉันใครที่จะทำให้ชีวิตคุณมั่นคงกว่ากัน”หญิงสาวปรายตามองภัทรที่ก้มหน้าไม่ยอมมองมาที่หล่อน

 

พวกชั้นต่ำก็คือชั้นต่ำอยู่วันยันค่ำ เอาหน้าที่ไหนมาเผยอเหนือกว่าหล่อน ประโยชน์อะไรไม่มีเลยซักนิดทำได้เพียงบำบัดความใคร่ให้กับอัลฟ่าอย่างพวกหล่อนเท่านั้นแหละ

 

             

            “อย่างเธอน่ะก็แค่ของเล่นแก้ขัดแก้อยากไปวันๆเท่านั้นแหละ คิดดูให้ดีๆนะ เขาน่ะมีแต่ได้กับได้ ส่วนเธอน่ะมีแต่เสียกับเสีย คิดว่าคนแบบเขาจะรักเธอจริงเหรอ? คนที่กล้าฆ่าพ่อเธอต่อหน้าต่อตาเธอน่ะ แบบนั้นน่ะเหรอคือคนที่เธอจะฝากชีวิตด้วย”หญิงสาวยิ้มเยาะให้กับโอเมก้าเด็กที่ตวัดสายตาขึ้นมองจ้องหล่อนทันที่ที่ประโยคบาดหัวใจนั้นหลุดออกมาจากปากของหล่อน มือที่เกาะเกี่ยวต้นแขนของกว้านหลินถูกคลายออกในทันทีเช่นเดียวกับที่กว้านหลินก็คว้ามือนั้นมากุมไว้แน่นอย่างหวงแหน หญิงสาวเบะปากให้กับภาพนั้น

 

              "ถึงไลเซนทัสจะคล้ายดอกกุหลาบมากแค่ไหนแต่มันก็แทนกันไม่ได้หรอกนะคะ"

 

            “หยุดพล่ามซักทีก่อนที่ผมจะหมดความอดทน"น้ำเสียงทุ้มที่กดต่ำบ่งบอกว่าไล่กว้านหลินในตอนนี้จะไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนอีก ชายหนุ่มก้าวเข้าไปยืนประชิดหญิงสาวส่งสายตากดดันและปล่อยกลิ่นฝนของตนเองเพื่อเปิดสงครามกับเจ้าหล่อน

 

เขาเกลียดคนพูดมาก พูดยกตนข่มท่านแบบจิรนุชที่สุด

 

“คุณเอาอะไรมาวัดว่าใครสูงใครต่ำ ถ้าเอาศักดิ์ศรีความเป็นคนมาวัดกันแล้วล่ะก็พวกเขามีค่าเท่ากับเรา เลิกเอาความคร่ำครึมาพูดอวดเบ่งข่มคนอื่นซักทีจิรนุช พอซักทีอย่าให้ผมต้องรู้สึกแย่กับคุณมากไปกว่านี้เลย เลิกให้พ่อของคุณโทรไปข่มขู่แม่ใหญ่ของผมด้วย คุณคิดว่าจะทำอะไรผมได้เหรอ? พ่อของคุณกำลังจะเล่นการเมืองต้องการเงินสนับสนุนจำนวนมาก ถ้าผมเปลี่ยนใจไม่ช่วยขึ้นมาคิดดูเอาเองก็แล้วกันว่าใครกันแน่ที่จะเดือดร้อน”ชายหนุ่มก้าวเข้าหาหญิงสาวอีกก้าวอย่างคุกคาม ดวงตาที่เคยราบเรียบดุจผิวน้ำบัดนี้วาวโรจน์

 

หากไล่กว้านหลินโกรธแล้วล่ะก็อะไรก็มาดึงรั้งไว้ไม่อยู่

 

            “ผมจะบอกอะไรคุณไว้อีกอย่างนะ”ชายหนุ่มส่งยิ้มเย็นให้กับหญิงสาวพลางดึงมือภัทรให้ขึ้นมายืนเคียงข้าง ภัทรพยายามรั้งตัวเองไว้หากแต่สุดท้ายก็สู้ไม่ได้อยู่ดี

 

            “บางครั้งผมอาจจะเอาดอกกุหลาบมาเป็นตัวแทนไลเซนทัสก็ได้เพราะว่าลักษณะมันใกล้เคียงกัน บอกตามตรงผมเกลียดกลิ่นฉุนของดอกกุหลาบที่สุด”จิรนุชหน้าชาราวกับถูกตบ พอๆกับที่ภัทรเงยหน้าขึ้นมองอัลฟ่าหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ หัวใจเต้นรัวราวกับจะทุลุออกจากอก

 

คุณกว้านหลินหมายความว่ายังไง

 

เอากุหลาบมาแทนไลเซนทัสงั้นเหรอ? เด็กน้อยยกมือข้างที่เป็นอิสระมากุมอกตัวเองกว้านหลินมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดูก่อนจะสวมกอดเอวของภัทรให้มาแนบกายมากขึ้น จิรนุชกำลังโกรธ กลิ่นดอกกุหลาบหอมจนฉุนฟุ้งกระจาย

 

ตั้งแต่เกิดมาหล่อนไม่เคยเสียหน้าขนาดนี้มาก่อน มีอัลฟ่ามากมายพยายามสร้างสัมพันธ์กับหล่อน แต่หล่อนก็เลือกที่จะเขี่ยทุกคนออกให้พ้นทาง

 

ไล่กว้านหลินสำหรับหล่อนแล้วมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งเงินทอง หน้าตา การศึกษา รวมทั้งชื่อเสียง เป็นคนที่หล่อนเลือกแล้วว่าจะสามารถเชิดชูหล่อนให้ดูสูงส่งและมีค่ามากกว่าผู้หญิงทุกคน

 

แล้วนี่อะไร?

 

ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองคือตัวจริงมาตลอด อยู่เหนือใครๆ แต่ชายหนุ่มกลับบอกว่าคบกับหล่อนเพื่อหวังให้มาแทนใครอีกคน คนที่ชั้นต่ำกว่าและไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรสู้หล่อนได้ซักนิด ทั้งฐานะ การศึกษาแถมยังมีชนักติดหลังเรื่องที่พ่อเป็นคนขี้โกงอีกด้วย

 

            “หึ...คุณจะบอกว่าคุณเลือกไอ้เด็กที่คุณเพิ่งจะเป่าหัวพ่อของมันตายไปต่อหน้าต่อตางั้นเหรอคะ?”หล่อนปรายตามองภัทรที่หน้าซีดเผือดไปทันตาอย่างสะใจ

 

            “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเธอทนอยู่กับคนที่ฆ่าพ่อเธอได้ยังไงณภัทรต้องเป็นลูกอกตัญญูขนาดไหนนะถึงอยู่ด้วยกันได้อย่างไม่รู้สึกรู้สา ถ้าเป็นฉันนะคงรู้สึกอยากกลั้นใจตายทุกสามนาทีแน่ๆ เธอคิดว่าเขารักเธอจริงๆงั้นเหรอ ถามจริงๆเถอะทุกวันนี้เธอทนนอนหลับลงได้ยังไงโดยไม่ฝันร้าย ไม่มีใครทนใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ฆ่าพ่อตัวเองโดยไม่ฝันร้ายได้หรอก”

 

            “ผมบอกให้คุณหุบปากไง!!”จิรนุชกระเด็นล้มลงกับพื้นทันทีที่กว้านหลินพูดจบ ใบหน้าสวยเหยเกพอๆกับใบหน้าของไล่กว้านหลินที่บึ้งตึงบ่งบอกว่าเขาโกรธขั้นสุด อัลฟ่าหนุ่มทำท่าราวกับจะกระโจนเข้าใส่หญิงสาวที่ล้มลุกคลุกคลานถดตัวหนีด้วยความตกใจ

 

ต่อให้โกรธมากขนาดไหนกว้านหลินก็ไม่เคยทำร้ายหล่อนซักครั้ง รังสีคุกคามแผ่ซ่านจนหญิงสาวนึกกลัว หล่อนเคยเชื่อมั่นมาเสมอว่าต่อให้ไม่พอใจหรือหล่อนจะทำให้เขาโกรธขนาดไหนกว้านหลินก็จะมีความเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่ทำร้ายกัน

 

แต่ตอนนี้หล่อนคิดว่าตัวหล่อนนั้นน่าจะคิดผิด

 

            “คุณกว้านหลิน  พอเถอะครับ ผมอยากกลับบ้าน”ภัทรรั้งต้นแขนของกว้านหลินไว้อีกครั้ง น้ำเสียงแสนเศร้าเอ่ยปากร้องขอกับอัลฟ่าหนุ่ม ขอบตาร้อนผ่าวเพราะหยาดน้ำใสเริ่มเข้ามาเติมเต็มจนใกล้จะล้นเต็มที กว้านหลินฮึดฮัดแต่เมื่อเห็นน้ำใสที่กลิ้งหล่นจากขอบตาของภัทรก็จำต้องหยุดตัวเองไว้

 

            “ผมจะให้โอกาสสุดท้ายกับคุณนะจิรนุช ไปป่าวประกาศกับใครต่อใครได้เลยว่าคุณเป็นคนทิ้งผมเอง คุณจะได้ไม่เสียหน้า จากนั้นเราก็เล่นละครซักครั้งสองครั้งประกาศเหลือความสัมพันธ์ไว้แค่เพื่อน แต่ถ้าคุณยังไม่หยุดก็ไปบอกพ่อของคุณว่าให้หาคนสนับสนุนใหม่ก็แล้วกัน ส่วนเรื่องธุรกิจอย่าหวังว่าผมจะแคร์ขาดพ่อคุณไปผมก็แค่ลงทุนในส่วนนั้นเอง เราต่างคนต่างไม่ใสสะอาดทั้งคู่ผมไม่มีอะไรจะเสียหรอกคุณก็น่าจะรู้ดีนี่ คุณเปิดโปงผม ผมก็เปิดโปงพ่อของคุณ ผมแค่ค้าอาวุธแต่พ่อคุณน่ะค้ามนุษย์อะไรมันจะเลวไปกว่ากัน”ไล่กว้านหลินเดินผ่านจิรนุชไปราวกับหล่อนเป็นอากาศธาตุไม่สนใจเสียงเรียกชื่อเขาของหญิงสาว ขาวยาวก้าวเร็วจนคนเด็กกว่าต้องเร่งฝีเท้าตามให้เร็วขึ้น

 

บรรยากาศในรถต่างจากตอนมาอย่างเห็นได้ชัด ณภัทรกอดตุ๊กตาไว้ในอกสายตามองไปด้านนอกอย่างเลื่อนลอยไร้จุดหมาย ในขณะที่กว้านหลินเองก็เงียบจนน่าอึดอัด

 

ความสัมพันธ์ของเขากับจิรนุชยากที่จะกลับมาต่อกันจนติดอีกต่อไปแล้ว

 

และความสัมพันธ์ของเขากับภัทรก็ดูจะมีอุปสรรคเสียเหลือเกิน

 

ชายหนุ่มรู้ตัวดีว่าอุปสรรคนั้นเกิดจากตัวของเขาเอง

 

เขาใจร้อนเองที่เอาความแค้นไปสะสางต่อหน้าภัทร

 

หลายครั้งที่รู้ตัวว่าเราต่างรักกันแต่ก็ไม่สามารถจูงมือกันเดินไปให้ถึงปลายทางได้ เพราะทางข้างหน้ามืดมนจนมองไม่เห็นอะไรเลย

 

ถ้าฝืนเดินต่อไปเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเจออุปสรรคอะไรบ้าง

 

ทางข้างหน้าอาจเป็นทุ่งหญ้าสวยงามหรือถ้าโชคร้ายอาจจะเป็นหุบเหวลึกที่หยั่งไม่ถึงก้นเหว

 

และกว้านหลินก็กลัว กลัวว่ามันจะเป็นอย่างหลัง

 

และเหวนั้นก็คือเหวที่เขาขุดไว้เองตั้งแต่ต้น

 

 

 

 

            ภัทรก้าวเท้าลงจากรถปิดประตูแล้วเดินนำกว้านหลินเข้ามาในบ้านโดยไม่ได้หยุดรอ ชายหนุ่มสาวเท้าตามมาติดๆ ในใจมีความคิดต่างๆมากมายตีรวนอยู่เต็มไปหมด

 

ทั้งๆที่บรรยากาศระหว่างเขากับภัทรดีขึ้นแล้วแท้ๆเชียว แต่พอจิรนุชเข้ามาหล่อนเหมือนพาเมฆก้อนใหญ่ดำทะมึนให้เข้ามากล้ำกรายพื้นที่ของเขาทั้งสองคน

 

            “เดี๋ยวสิ...”กว้านหลินคว้าต้นแขนของภัทรไว้ ตุ๊กตาตัวน้อยที่ถืออยู่หลุดมือร่วงลงกับพื้น ภัทรสูดลมหายใจลึกเข้าปอด กล้ำกลืนความรู้สึกเจ็บปวดในอกไว้อย่างเชื่องช้า

 

จิรนุชพูดถูก ไม่มีใครนอนหลับสนิทได้โดยไม่ฝันร้ายหรอกถ้าต้องเห็นพ่อตัวเองถูกยิงหัวต่อหน้าต่อตาด้วยน้ำมือคนที่ตนเองปักใจรัก

 

ไม่มีคืนไหนหลับได้อย่างสนิทโดยไม่ต้องสะดุ้งหรือผวาตื่นหรอก

 

ทุกสัมผัส ทุกความรู้สึกยังคงฝังตรึงอยู่ในใจเสมอไม่เคยลืมเลือน หากแต่ภัทรคิดเพียงว่าคนเราควรมีโอกาสรับการให้อภัย

 

และเขาให้อภัยกว้านหลินซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

            “เป็นอะไร? อย่าบอกนะว่าเธอยังเก็บเอาคำพูดผู้หญิงคนนั้นมาคิดอยู่”กว้านหลินเอ่ยถามเด็กน้อยที่กระพริบตาไล่หยาดน้ำที่ทำท่าจะเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง

 

            “คุณกว้านหลินครับ...”เด็กน้อยตัดสินใจที่จะเอ่ยถึงเรื่องของพ่ออีกครั้ง

 

            “เรื่องพ่อของเรา...”

 

            “ขึ้นไปอาบน้ำเถอะ ฉันเหนียวตัวแล้ว เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีก ฉันไม่อยากฟัง”อัลฟ่าหนุ่มเอ่ยตัดบททันทีก่อนจะเดินมาก้มลงเก็บตุ๊กตายื่นให้กับภัทรแล้วเดินนำเข้าบ้านไป ภัทรมองตามร่างสูงเดินหายขึ้นไปด้านบนด้วยหัวใจที่เจ็บร้าว

 

จริงสินะ แล้วเราจะรักกันได้ยังไงในเมื่อภายในใจของเราทั้งสองคนไม่ได้ลืมเลือนเรื่องที่แล้วมาเลยซักนิด

 

คล้ายแผลที่เริ่มตกสะเก็ดและทิ้งร่องรอยไว้เพื่อเตือนความทรงจำอันเลวร้ายให้ฝังตรึงตราบชั่วชีวิต

 

การพยายามทำอะไรซักอย่างอยู่ฝ่ายเดียวแล้วผลที่ได้รับมันไม่ตรงตามที่ต้องการนั้นเหนื่อยแสนเหนื่อย เหนื่อยจนแทบขาดใจจริงๆ เหมือนภัทรมีชีวิตแค่ปัจจุบันและอดีตแต่ไม่มีอนาคตรออยู่เลย เด็กน้อยไม่รู้ว่าวันข้างหน้าตนเองจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ขาเรียวก้าวขึ้นบันไดแต่ละขั้นอย่างไตร่ตรองทบทวน

 

หรือที่พยายามมาเป็นสิ่งที่ผิดกันนะ

 

ผิดทั้งกับบิดาผู้ล่วงลับและผิดกับหัวใจตนเอง

 

ผิดที่ใช้ชีวิตไปวันๆโดยทิ้งแม่และน้องๆไว้เบื้องหลัง

 

การมีชีวิตอยู่ของภัทรในตอนนี้คืออะไรกันนะ?

 

เราต่างคนต่างเงียบใส่กัน แยกกันไปอยู่ในที่ของตน ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างช้าๆ ล้มตัวลงนอนตอนที่พระจันทร์ใกล้จะลับขอบฟ้า

 

และทุกอย่างก็ยังคงวนๆซ้ำๆย่ำอยู่ที่เดิม ราวกับดักที่เผลอพลั้งพลาดท่าเหยียบลงไปติดอยู่อย่างนั้น อ้อนวอนร้องขอความเห็นใจแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความว่างเปล่า

 

            อากาศในยามเช้าตรู่หนาวนิดๆ บรรดาคนงานต่างช่วยกันกวาดเศษใบไม้แห้งที่ร่วงลงมาจนเกลื่อนพื้น กว้านหลินออกไปทำงานหลังจากกินกาแฟที่ภัทรเตรียมไว้ให้ ต่างคนต่างลอบมองหน้ากันยามที่อีกฝ่ายเผลอ คำพูดมากมายที่เคยคิดจะหยิบยกมาพูดกันถูกพับไปโดยไม่มีใครเอ่ยปาก

 

ทุกอย่างยังคงเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนเวียนราวม้าหมุนที่ไม่มีวันหยุด ภัทรใช้ชีวิตอย่างน่าเบื่อหน่ายเหมือนเช่นทุกวัน

 

คิดถึงแม่ คิดถึงน้อง คิดถึงโรงเรียนแต่สุดท้ายสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือเดินขึ้นไปบนห้องแล้วหยิบถุงไหมพรมออกมาเลือกไหมสีเทาเข้มม้วนใหญ่และไม้นิตติ้งเดินลงแล้วตรงไปยังห้องสวนกระจก ภายในอบอุ่นเพราะปรับอุณหภูมิให้พอดีเพื่อที่ต้นไม้เขตร้อนต่างๆที่เลี้ยงไว้จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ความเขียวขจีทำให้ภัทรมีรอยยิ้มแรกของวัน เด็กน้อยตรงไปนั่งที่เก้าอี้โยกตัวโปรดที่ขอให้คนงานยกมาตั้งให้เมื่อสองเดือนก่อน เริ่มลงมือถักสเวตเตอร์อย่างช้าๆ เด็กน้อยไม่ยินดียินร้ายกับเข็มนาฬิกาที่ล่วงเลย ไม่สนใจมื้ออาหารยามเที่ยงที่ศลัยพร่ำเรียกให้วางมือจากไหมพรมก่อน ภัทรเริ่มขังตัวเองอยู่ในโลกส่วนตัวที่ไม่เคยมีใครรู้ว่าเจ้าตัวเก็บอะไรไว้ในนั้นบ้าง จากไหมพรมแถวเล็กๆเริ่มทยอยสูงชั้นขึ้นเรื่อยๆทีละนิดทีละน้อยพร้อมกับสิ่งที่สุมแน่นในใจที่เริ่มถูกนำมาทบทวน

 

น้ำตาค่อยๆไหลรินออกจากขอบตาทีละนิดจนกระทั่งเหมือนทำนบแตก ก่อนจะกลายเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างคนร้าวระทมในหัวอก

 

ไม่มีทางเลย

 

ไม่มีทางที่ตราบาปของเราทั้งสองคนจะจางหายไปได้ กายบางสั่นราวกับกำลังนั่งอยู่ท่ามกลางหุบเขาน้ำแข็ง ความเย็นยะเยือกเหมือนเกล็ดน้ำแข็งค่อยๆเกาะกุมหัวใจทำให้ฝืนทนเข้มแข็งต่อไปไม่ไหว มือเล็กวางกลุ่มไหมพรมลงกับตักก่อนจะก้มหน้าร้องไห้กับอุ้งมือของตัวเอง

 

สะอึกสะอื้นให้กับหนทางมืดมนในวันข้างหน้า

 

เจ็บปวดกับสิ่งที่แสร้งทำเป็นลืม ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าตนเองนั้นย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าใครคือคนที่พรากลมหายใจของผู้เป็นพ่อไป

 

ครอบครัวที่ต้องแตกสลายเพียงเพราะน้ำมือของคนที่ไม่เคยคิดจะปล่อยวางความแค้นนี้ลงไปเลยซักนิด

 

เจ็บจนร้าวไปทั้งอก...

 

พลันร่างบางต้องสะดุ้งเฮือกยามที่มือฝ่ามืออุ่นวางลงบนกลุ่มผมของตนอง ภัทรเงยหน้ามองอย่างตกใจหากแต่เด็กน้อยก็ค่อยโล่งอกเมื่อคนที่แตะต้องตนอย่างเงียบเชียบนั้นไม่ใช่ไล่กว้านหลิน

 

                “พี่อี้เฉิน...”

 

                “ร้องไห้อีกแล้วนะเรา เด็กขี้แย”อี้เฉินย่อตัวลงมาจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับภัทรก่อนจะค่อยๆไล้ปลายนิ้วเช็ดคราบน้ำตาให้เด็กน้อยแสนน่าสงสารตรงหน้าอย่างอ่อนโยน

 

                “มาได้ยังไงครับ?”ภัทรถามอย่างสงสัยเพราะนี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเลย

 

                “คุณกว้านหลินแวะมาเอาของน่ะ เดี๋ยวก็จะออกไปต่อวันนี้มีนัดคุยกับลูกค้าพี่เลยกะจะแวะมาทักทายเราแต่ก็เห็นเด็กขี้แยร้องไห้ซะก่อน”จบประโยคคำตอบของอี้เฉินภัทรก็ลุกขึ้นยืนทันทีเพื่อที่จะไปปรนนิบัติกว้านหลินหากแต่อี้เฉินกลับจับแขนของภัทรไว้ เบต้าหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ

 

                “ไม่ต้องไปหรอกคุณชายบอกขอเวลางีบซักแป๊บวันนี้ดูเหนื่อยๆ อยู่คุยกับพี่ที่นี่แหละ เราเองหน้าตาก็ดูล้าๆได้นอนหลับพักผ่อนมั่งหรือเปล่า?”

 

                “ผมนอนไม่หลับครับ”ภัทรตอบตามตรงก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาแสดงความเป็นห่วงของอี้เฉิน

 

                “ไม่เหนื่อยเหรอ? ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เหนื่อยมากมั้ยภัทร ถ้าเหนื่อยมากๆบอกพี่ก็ได้นะพี่จะได้หาทางช่วย”โอเมก้าเด็กหันกลับมามองอี้เฉินอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดนั้น

 

                “เจอเรากี่ครั้งสีหน้าก็อมทุกข์ตลอด ร้องไห้ตลอด  มีความสุขบ้างมั้ย ที่ผ่านมาน่ะ พี่เห็นเราทุกข์เห็นเราร้องไห้ไม่ได้รู้สึกดีเลย”

 

                “ขอโทษครับที่ทำให้เป็นห่วง”ภัทรโค้งให้กับเบต้าตรงหน้าจนอี้เฉินต้องรั้งร่างบางมากอดไว้ ภัทรตกใจกับการกระทำนั้น ร่างบางดิ้นขลุกขลักเพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดนั้นหากแต่กลับต้องนิ่งลงเมื่ออี้เฉินเอ่ยคำพูดที่ให้ให้ใจดวงน้อยรู้สึกอุ่นขึ้น

 

                “ภัทรอาจคิดว่าภัทรไม่มีใครแต่เรายังมีพี่นะ  เวลามีความทุกข์ที่ไม่สามารถบอกกับใครได้แต่ภัทรบอกกับพี่ได้นะ”อี้เฉินกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

 

เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงการมีตัวตนทั้งของตัวเองและของภัทร

 

แม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่สมควรแต่เขาก็อยากให้ภัทรรับรู้ความรู้สึกของเขาบ้าง แม้หลังจากนี้ภัทรจะหมดความไว้เนื้อเชื่อใจตนก็ตาม

 

                “พี่รักภัทรนะ พี่รู้ดีว่ามันไม่เหมาะและเป็นไปไม่ได้ แต่พี่ก็อยากให้ภัทรรับรู้ไว้ ไม่ว่าภัทรจะรู้สึกกับพี่แบบไหนพี่ก็พร้อมยอมรับได้ เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าภัทรไม่มีใคร ภัทรยังมีพี่ ภัทรมีอะไรไม่สบายใจก็บอกกับพี่ระบายกับพี่ได้ อย่าแอบมาร้องไห้คนเดียวรู้มั้ย  พี่อยากเป็นคนดูแลภัทรนะ ไม่อยากให้ภัทรเศร้าอีกแล้ว”

 

                “ไม่จำเป็นมั้งหวังอี้เฉิน คนของฉัน ฉันดูแลเองได้”

 

“!!!”

 

“คุณกว้านหลิน!!!”

 

 

 

 

 

#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.


 

............................................

 

ผ่ามมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!

 

ชิบหายแน่นอนนนนนนนน

 

ขออัญเชิญผีกลับเข้าร่างชายสามเจ้าค่ะ

 

เตรงเตร๊งเตรงเตรงเตรงเตร๊งเตร่งเตร๊ง...

 

ฉันไม่ได้คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะได้คุณไปครอง!!

 

วางระเบิดเก่ง

 

เสี้ยมเก่ง

 

 
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 16 "ความลังเล"
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 09-06-2019 23:18:14
จ้าาา หวงเก่งหึงเก่งทำลายเก่งทำร้ายเก่ง แต่แสดงความรักคือศูนย์เลย เชียร์คุณเลขาค่า :3123:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 16 "ความลังเล"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 10-06-2019 00:57:36
อืมครึมฝนตกมาทั้งตอน ฟ้ามาผ่าเอาตอนสุดท้ายจ้ะ  :a5: :a5:
ผีอย่าเพิ่งเข้าแรงนะคะ //สาดน้ำมนต์  :z6:

มีแว๊บนึงที่คิดว่ากว้านหลินควรปล่อยน้องไปอ่ะ

ถ้าจะปล่อยเบลอเรื่องพ่อขนาดนี้ เดี๋ยวพี่ก็ไปตามกลับมาได้อยู่ดีแหละค่ะ
ใช้เวลาช่วยหน่อยย  :amen: :amen:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 17 "ลูกชู้"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 11-06-2019 01:29:01
 

 

 

Hydrangea 17

 

 

 

            หวังอี้เฉินและณภัทรผละกายออกจากกันทันทีราวกับแม่เหล็กคนละขั้วที่ผลักกันไปคนละทิศคนละทาง

 

ใบหน้าของไล่กว้านหลินในตอนนี้ราวกับมีเมฆสีคล้ำคร้ามบดบังกลืนกินจนมองไม่เห็นความขาวที่เคยมี มือที่ประกอบด้วยนิ้วเรียวสวยกำเข้าหากันแน่น สายตาที่มองมายังคนทั้งคู่แดงฉานด้วยความกรุ่นโกรธ อัลฟ่าหนุ่มขบฟันจนกรามขึ้นสันชัดเสียงบดเบียดของฟันกรามดังออกมาให้ได้ยินชัดเจน

 

            “แอบมาเจอกันโดยที่ฉันไม่รู้กี่ครั้งแล้ว? ที่ขอแยกห้องนอนเพราะจะได้สะดวกกับการเอาชู้มานอนด้วยสินะ”

 

            “มันไม่ใช่แบบที่คุณชายคิดนะครับ เราสองคนไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น”

 

            “แต่แกเพิ่งบอกรักเด็กนี่ไป คิดว่าฉันโง่นักเหรอ จ้องจะแย่งเด็กนี่ไปอยู่ตลอดเวลานี่นะ ถ้าไม่ได้คิดอะไรคงไม่กล้ามากอดกันตัวกลมดิกแบบนี้ในบ้านฉันหรอก พวกกินบนเรือนขี้บนหลังคา”

 

 

กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เคยบอกกับอี้เฉินว่าอย่ามายุ่งกับภัทร ห้ามกระทั่งห้ามไม่ให้อี้เฉินมาที่บ้านโดยไม่ได้สั่ง อี้เฉินเคยรับปากเขาอย่างดี และหลายวันมานี้ความสัมพันธ์ของเขากับภัทรก็ดีขึ้น

 

แล้วนี่อะไร

 

            “คุณชายครับผมอธิบายได้”เบต้าหนุ่มรีบเอาตัวเข้ามาขวางทันที่ที่กว้านหลินพุ่งเข้าหาภัทร อารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่แล้วกับยิ่งเหมือนมีน้ำมันราดลงมาบนไฟกองใหญ่จนระเบิด หมัดซ้ายลุ่นๆกระแทกมุมปากของอี้เฉินอย่างพอดิบพอดี กลิ่นคาวเหมือนกลิ่นสนิทคลุ้งอบอวลในมุมปาก ความเจ็บจากรอยแผลปริร้าวทำให้โลหิตสีแดงไหลซึม ภัทรรีบเข้าไปประคองอี้เฉินด้วยความห่วงใยทันที แต่ภาพนั้นกลับทำให้พายุอารมณ์ของอัลฟ่าหนุ่มกระพือโหมชายหนุ่มง้างเท้าเตะลงไปที่ร่างของอี้เฉินด้วยโทสะทันที

 

            “อั่ก!!!”

 

หากแต่คนที่ลงไปนอนกุมท้องกองกับพื้นกลับกลายเป็นภัทรที่เอาตัวเข้ามาขวางไว้ ความเจ็บและจุกส่งผลให้คนตัวเล็กหมดแรงปล่อยน้ำตาไหลออกมาอย่างสุดกลั้น อัลฟ่าหนุ่มหน้าถอดสีผลักอี้เฉินที่ประคองภัทรไว้ด้วยความตกใจออกก่อนจะช้อนร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน

 

            “ไสหัวออกไปจากบ้านฉันซะก่อนที่ฉันจะฆ่าแกอี้เฉิน”กว้านหลินอุ้มภัทรเข้าไปในตัวบ้านทิ้งหวังอี้เฉินไว้เบื้องหลัง ร่างสูงเปิดประตูห้องก่อนจะใช้เท้าปิดจนเกิดเสียงดังปังใหญ่ก้าวยาวๆมาที่เตียงแล้วโยนร่างที่ยังคงงอตัวด้วยความเจ็บลงบนเตียงอย่างไม่ใยดีก่อนจะตามลงไปคร่อมกักไม่ให้ภัทรคิดหนี มือแกร่งกระชากเสื้อของภัทรโดยไม่ออมแรง

 

            “อย่า คุณกว้านหลิน อย่าทำแบบนี้!!”โอเมก้าเด็กรั้งเสื้อของตนไว้ส่งเสียงร้องห้ามอย่างอ้อนวอนร้องขอความปราณี แต่ไล่กว้านหลินในตอนนี้ไม่อยู่ในจุดที่จะรับฟังอะไรอีกแล้ว

 

            “เห็นฉันเป็นตัวอะไร เป็นควายเหรอถึงสวมเขาให้ฉันน่ะ ร่านนักใช่มั้ย มีฉันคนเดียวไม่พอต้องเที่ยวเร่ไปอ่อยไอ้กระจอกนั่น ที่ทำให้เมื่อคืนก่อนไม่พอ? อยากได้วันละกี่รอบก็บอกมาสิจะเอาซักสิบรอบฉันก็ทำให้ได้”

 

เพี๊ยะ!!

 

กว้านหลินหยุดคำพูดนั้นไว้ทันที่ที่ซีกหน้าถูกฝ่ามือนุ่มของคนเด็กกว่าฟาดมากระทบเต็มๆอัลฟ่าหนุ่มผ่อนลมหายใจออกทางปากอย่างระงับอารมณ์ของตนเองเต็มที่ ใช้ปลายลิ้นแตะลงบนมุมปากที่มีคราบเลือดติด เมื่อหันกลับมาก็พบว่าโอเมก้าเด็กจ้องหน้าของเขาด้วยดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อล้น

 

            “ในหัวของคุณ มีแค่เรื่องพวกนี้เหรอ? เคยคิดจะรับฟังคนอื่นบ้างมั้ย? ผมกับพี่อี้เฉินไม่ได้เป็นอะไรกัน เลิกยัดเยียดให้เราสองคนเป็นคนเลวซักที”

 

            “ทำไม เธอจะบอกว่ามันเป็นคนดี อย่างงั้นคนที่เลวก็คือฉันสินะ ก็ดี...ฉันมันก็เลวมาตลอดไม่เคยจะเป็นคนดีในสายตาเธออยู่แล้วนี่ ต่อให้ฉันจะทำดีกับเธอเท่าไหร่มันก็ไม่มีประโยชน์ ต่อไปนี้ก็ทำหน้าที่ของเธอให้ดีๆจะได้หมดหนี้เร็วๆแล้วจะไปไหนก็ไป ส่วนเรื่องไอ้อี้เฉินฉันจะเลวเพิ่มอีกหน่อยคงไม่เป็นอะไรหรอก ขอโทษด้วยนะเธอคงไม่มีโอกาสได้บอกลามันหรอก ฉันจะส่งมันไปอยู่ในที่ๆเหมาะกับมันก็แล้วกันจะได้รู้ว่าคนอย่างไล่กว้านหลินไม่ยอมให้ใครมาหยามได้ง่ายๆ”กว้านหลินลุกขึ้นยืนข้างเตียงด้วยความโมโห ภัทรรีบลุกขึ้นมาจับข้อมือของเขาไว้ ดวงตากลมฉายชัดถึงความตื่นตระหนก

 

            “คุณ...คุณจะทำอะไรเขา อย่านะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดคุณไม่มีสิทธิ์จะฆ่าใครทั้งนั้น”

 

            “ทำไม? รักมันมาก ห่วงมันมากเลยเหรอ รู้ไว้เถอะที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ ถ้ามันต้องตายก็เพราะเธอ”ไล่กว้านหลินสะบัดข้อมือที่ถูกเกาะกุมอยู่ออกหากแต่ปลายนิ้วกลับตวัดโดนใบหน้าของภัทรเต็มแรงจนเด็กน้อยฟุบลงกับพื้นเตียงด้วยความเจ็บ แม้จะอยากเข้าไปดูหากแต่ความน้อยใจที่เขามีก็ทำให้เขายิ้มเยาะใส่ให้ภัทรเสียใจก่อนจะหันหลังออกไปจากห้องไม่เหลียวกลับมามองภัทรที่พยายามร้องเรียกอ้อนวอนไม่ให้เขาทำร้ายอี้เฉินเลยซักนิด ขายาวก้าวเข้าห้องทำงานก่อนจะหยิบโทรศัพท์ต่อสายตรงหาพี่ชายคนโตทันที

 

            “พี่ใหญ่ ส่งเสี่ยวป๋ายมาเป็นเลขาของผมแล้วพี่เอาไอ้อี้เฉินไปทำงานกับพี่ที”

 

            “เกิดอะไรขึ้นวะไอ้สาม”

 

            “มันจะมาเป็นชู้กับเมียผม ถ้าไม่ติดว่าพ่อเคยบอกให้เลี้ยงมันไว้ผมฆ่ามันตายไปแล้ว”

 

            “อี้เฉินเนี่ยนะ เป็นไปได้เหรอวะ รายนั้นซื่อสัตย์จะตายไป”

 

            “มันเป็นไปแล้ว มันมาบอกรักมากอดเมียผมถึงในบ้าน ถ้าพี่ไม่เอามันไปผมไม่รับรองว่ามันจะมีชีวิตเกินสามวันมั้ย แค่พูดชื่อมันผมก็อยากจะฆ่ามันแล้ว”กว้านหลินกัดฟันอย่างข่มโมโห ยิ่งคิดถึงภาพที่คนทั้งคู่กอดกันในสวนกระจกก็ยิ่งโกรธ

 

            “เออๆ แกใจเย็นๆเดี๋ยวฉันให้ลีโอจัดการให้ แกนี่หาเรื่องให้ฉันปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน”คริสบ่นน้องคนเล็กด้วยน้ำเสียงไม่จริงไม่จังนัก สองพี่น้องคุยกันอีกไม่กี่คำก็วางสาย ชายหนุ่มถอนหายใจแรงๆหันรีหันขวางอย่างคนหาที่ระบายอารมณ์จนในที่สุดสองมือก็กวาดของบนโต๊ะลงกับพื้น ที่เขี่ยบุหรี่เนื้อดีตกแตกกระจาย แผ่นกระดาษแฟ้มเอกสารหล่นเกลื่อน

 

เขาเหนื่อย

 

เหนื่อยกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

 

เหนื่อยกับสิ่งที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้นภัทรจึงเป็นเหมือนแหล่งพลังงานของเขาที่จะกลับมาเจอในทุกวัน แค่เห็นหน้าของเด็กนั่นเขาก็หายเหนื่อยแล้ว

 

แต่พอมีคนอื่นมายุ่งกับเด็กนั่นก็ไม่ต่างกับเขากำลังจะโดนแย่งความสุขเล็กๆน้อยๆที่มีไป

 

อัลฟ่าหนุ่มนั่งสงบสติอารมณ์ของตนเองในห้องทำงานราวหนึ่งชั่วโมงจนกระทั่งโทรศัพท์ส่งเสียงแจ้งเตือนว่ามีคนเรียกเข้า แค่เห็นว่าเป็นใครส่งมาความโกรธก็เหมือนจะกลับมาอีกหนแต่ก็จำเป็นต้องระงับไว้ ตัดสินใจกดรับโดยไม่ได้พูดอะไรออกไป อี้เฉินเห็นว่าเจ้านายรับแล้วก็ส่งเสียงกลับมา

 

            “ใกล้ได้เวลานัดแล้วเตรียมตัวแล้วออกมาได้แล้วครับ ข้อมูลต่างๆผมเตรียมไว้ให้ในกระเป๋าเอกสารแล้ว แล้วก็เรื่องนั้น ผมแค่รักข้างเดียวครับ ภัทรไม่ได้ชอบผมเขาคิดกับผมแค่พี่ชายคุณชายอย่าไปโกรธเด็กนั่นเลยนะครับ ถ้าจะโกรธผมก็ขอรับไว้คนเดียว”

 

            “พล่ามเสร็จแล้วใช่มั้ย เตรียมตัวย้ายไปทำงานกับพี่ใหญ่ที่อเมริกา ฉันให้เวลานายเตรียมตัวสามวัน”

 

            “แต่คุณชายครับ...”กว้านหลินกดตัดสายโดยที่อี้เฉินยังไม่ทันจะพูดจบ รอยยิ้มเย็นปรากฏที่มุมปาก

 

ในเมื่อเขาห้ามดีๆหวังอี้เฉินไม่ฟังกันแถมยังคิดไม่ซื่อกับภัทร เขาก็จะส่งเสี้ยนหนามหัวใจให้ไปไกลจนไม่สามารถมาวอแวกับเมียของเขาได้

 

อย่าโทษใคร โทษตัวเองที่คิดไม่ซื่อก็แล้วกัน

 

ของๆใคร ใครก็หวง และเขายอมรับว่าเขาหวงภัทรมากและจะไม่ยอมเสียภัทรให้ใคร

 

ถ้าอยู่กันดีๆไม่ได้ก็กล้ำกลืนฝืนทนอยู่กันไปจนกว่าจะหมดหนี้แล้วกัน

 

 

 

 

 

 

            หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ของภัทรและกว้านหลินก็ลดระดับกลับไปอยู่ในจุดที่ไม่พูดคุยกันอีกครั้งกว้านหลินไม่ได้ตบตีภัทรอีกหากแต่ชายหนุ่มใช้วิธีทรมานเด็กน้อยด้วยเซ็กส์ที่รุนแรง ยาระงับฮีทของภัทรหมดไปนานแล้วและช่วงเวลาที่โอเมก้าเด็กฮีทและช่วงที่กว้านหลินรัทถือเป็นช่วงที่ทรมานที่สุด

 

กว้านหลินไม่อ่อนโยนกับภัทรเลยซักนิด

 

ในระหว่างนั้นตามข่าวหน้าสังคมมีข่าวจิรนุชสะบั้นรักลดระดับความสัมพันธ์กับอัลฟ่าหนุ่มตระกูลไล่แพร่สะพัดออกไปจนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปนานหลายสัปดาห์ ไม่มีใครไม่พูดถึงเรื่องนี้ จิรนุชให้สัมภาษณ์ตามนิตยสารและรายการทีวีว่าทัศนคติของหล่อนและกว้านหลินไม่ตรงกัน หล่อนจึงตัดสินใจขอลดความสัมพันธ์เหลือแค่เพียงเพื่อนแม้ว่ากว้านหลินจะไม่ยอมในตอนแรกก็ตามที

 

อี้เฉินถูกส่งตัวไปสหรัฐอเมริกาได้เกือบสามเดือนแล้ว เสื้อสเวตเตอร์สีเทาที่ตั้งใจถักให้กว้านหลินเอาไว้ใส่ยามเดินทางกลับไปที่จีนเสร็จนานแล้ว หากแต่ภัทรก็ไม่มีโอกาสได้มอบให้ มันถูกเก็บไว้มุมในสุดของตู้เสื้อผ้าและไม่ถูกนำออกมาดูอีกเลย

           

            “สวัสดีครับคุณภัทร”เฉินเสี่ยวป๋ายเอ่ยทักทายเด็กที่ช่วยสาวใช้ทำความสะอาดห้องรับแขกภัทรส่งยิ้มให้กับเลขาคนใหม่ของกว้านหลิน เสี่ยวป๋ายเป็นเบต้าที่มีใบหน้าเรียบนิ่งแล้วจะออกแนวดุ ครั้งแรกที่เจอโอเมก้าเด็กรู้สึกถึงความน่าเกรงขามราวกับว่าเสี่ยวป๋ายนั้นมีรังสีของอัลฟ่าหลังจากรู้จักกันได้ซักพักจึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วเสี่ยวป๋ายเป็นคนซุ่มซ่ามและมีนิสัยน่ารักคนหนึ่ง แต่ภัทรก็ไม่ได้ให้ความสนิทสนมมากเท่าอี้เฉินไม่ใช่ว่าไม่อยากสนิทแต่เด็กน้อยกลัวว่าถ้าสนิทกันมากเกินไปแล้วจะซ้ำรอยเดิม ภัทรกลัวว่าตนเองจะทำให้เสี่ยวป๋ายเดือดร้อน

 

            “วันนี้มาเอาอะไรครับ?”

 

            “พอดีคุณชายสามให้เอาของมาเก็บครับ เดี๋ยวอีกซักพักคุณชายจะตามมา”

 

            “งั้นวันนี้รับข้าวเย็นที่นี่เลยมั้ยครับ?”ภัทรเอ่ยถามพลางรับกระเป๋าเอกสารจากเสี่ยวป๋ายมาถือเอง

 

            “ก็ดีครับ ขี้เกียจกลับไปทำกินเองที่คอนโด เอ้อ ผมเห็นไฮเดรนเยียเริ่มออกดอกแล้วนี่ครับ”เสี่ยวป๋ายถอดสูทออกมาพาดไว้กับท่อนแขนตัวเอง ภัทรยิ้มรับ ไฮเดรนเยียที่ปลูกไว้เริ่มออกตุ่มดอก บางต้นดอกเริ่มบานแล้วรั้วบ้านเริ่มมีสีสันน่าดู เสี่ยวป๋ายไม่ได้วอแวหรือเซ้าซี้ที่จะชวนคุย เขารู้ดีว่าคนเป็นนายน่ะหวงเด็กในปกครองของตัวเองมากขนาดไหน ไม่นานหลังจากนั้นกว้านหลินก็กลับมาถึงบ้าน ภัทรออกมารับเสื้อสูทที่กว้านหลินโยนให้ ทั้งสองคนไม่มองหน้าไม่พูดคุยกันแต่ทุกอย่างที่ทำให้กันนั้นสมบูรณ์แบบ อาจจะเป็นเพราะความเคยชิน เฉินเสี่ยวป๋ายชินกับท่าทางหมางเมินของคนทั้งคู่บ่อยครั้งที่เลขาคนใหม่รู้สึกสนุกกับละครชีวิตของคนทั้งคู่ เบต้าหนุ่มไม่แปลกใจนักที่หวังอี้เฉินจะชอบเด็กคนนี้ ก็ภัทรน่ะน่ารักและน่าสงสารแถมเป็นเด็กที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นไปทั่วทั้งที่ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดแท้ๆ ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งรอในห้องทำงานของกว้านหลินในขณะที่ภัทรกลับลงไปด้านล่างเพื่อเตรียมอาหารค่ำสำหรับวันนี้ เสี่ยวป๋ายหยิบเอกสารการประชุมของวันนี้มาวางไว้บนโต๊ะก็เห็นสมุดปกสีแดงเลือกนกวางอยู่บนโต๊ะ อดไม่ได้ที่จะเปิดดูแล้วก็ขำพรืดออกมา ด้านในจดรายละเอียดการใช้หนี้ของภัทร ส่วนมากหนี้ที่ลดเกิดจากการนอนด้วยกัน รายละเอียดต่างๆถูกจดไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์และมีลายเซ็นกำกับไว้อย่างแน่นหนา

 

            “ฉลาดแกมโกงจริงๆ”ส่ายหน้าให้กับบัญชีของเจ้านาย ดูตัวเลขก็รู้แล้วว่าเจ้านายคนเล็กของเขาน่ะเอารัดเอาเปรียบโอเมก้ายิ่งกว่าแรงงานทาสเสียอีก

 

            “อะไรน่ะ? ตั้งท้องลูกคนแรก(แท้ง) นี่ทั้งสองคนเคยมีลูกด้วยกันมาแล้วด้วยเหรอ?”เสี่ยวป๋ายพึมพำออกมาเบาๆอย่างคาดไม่ถึง ถ้าป่านนี้ไม่แท้งตอนนี้คงมีคุณหนูตัวน้อยออกมาลืมตาดูโลกแล้วสินะ  ช่างน่าเสียดาย ดูจากหน้าตาพ่อแม่แล้วลูกของทั้งคู่ต้องได้ยีนส์ดีๆจากพ่อแม่ไปอย่างครบถ้วนแน่ๆ ชายหนุ่มวางสมุดบัญชีไว้ที่เดิมก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาเปิดดื่มเองอย่างถือวิสาสะ จริงๆเขาสนิทกับกว้านหลินมากกว่าอี้เฉินเพราะรู้จักกันมาหลายปีถ้านอกเวลางานเขาก็สลัดคราบลูกจ้างออกและกลายเป็นเพื่อนรุ่นพี่โดยที่กว้านหลินไม่ถือสา ต่างกับอี้เฉิน รายนั้นน่ะทำตัวเป็นลูกจ้างตลอด 24 ชั่วโมง มือเรียวคลายเน็คไทด์ให้หลวมขึ้นรอไม่นานกว้านหลินก็กลับมาถึงบ้าน ทั้งสองคนนั่งคุยเรื่องงานจนเกือบหนึ่งทุ่มอาหารเย็นก็เสร็จเรียบร้อย ภัทรเดินมาตามกว้านหลินให้ไปอาบน้ำแล้วออกไปโดยไม่พูดอะไรอื่น บรรยากาศมึนตึงยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม หลังจากกว้านหลินอาบน้ำเสร็จก็ลงมาข้างล่างเพื่อกินข้าวแต่ที่โต๊ะเหลือเพียงเสี่ยวป๋ายโดยมีศลัยทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารอยู่ใกล้ๆ

 

            “ภัทรไปไหน?”

 

            “คุณภัทรไม่ค่อยสบายค่ะเลยขอขึ้นไปพักก่อน”

 

            “เป็นอะไรมากหรือเปล่า แล้วกินข้าวแล้วหรือยัง”

 

            “เวียนหัวไม่ค่อยมีแรงค่ะ ทานข้าวไปแล้วค่ะ”ศลัยรายงานก่อนจะถอยออกไปยืนรอเงียบๆ

 

            “ผมว่าพาแกไปหาหมอหน่อยก็ดีนะครับ”

 

            “ไม่เป็นอะไรมากหรอกมั้งเค้าชอบออกไปเดินชมนกชมไม้โดนลมโดนน้ำค้างอากาศเปลี่ยนเลยป่วยง่าย กินเถอะเดี๋ยวอาหารจะเย็น”แม้ปากจจะพูดไปแบบนั้นแต่สีหน้าและสายตานั้นบ่งบอกถึงความเป็นห่วงอยู่ลึกๆ เสี่ยวป๋ายลอบยิ้มกับท่าทางนั้น ชายหนุ่มแกล้งละเลียดกินอาหารอย่างช้าๆเพราะรู้ว่าคนเป็นนายตอนนี้ร้อนรนขนาดไหน

 

ใจคงขึ้นไปอยู่กับคนป่วยแล้วมั้ง

 

            ประตูห้องนอนเด็กเปิดออกอย่างช้าๆ ภายในห้องมีเพียงแสงสลัวจากโคมไฟดวงน้อย ภัทรยังคงอยู่ในชุดเดิมบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังไม่ได้อาบน้ำแต่คงผล็อยหลับไปก่อน กว้านหลินนั่งลงบนขอบเตียงเบาๆก่อนจะยื่นหลังมือไปเพื่อแตะหน้าผาก หากแต่ภัทรกลับสะดุ้งตื่นเสียก่อนและรีบถอยหนีเขา

 

            “จะทำอะไรครับ วันนี้ผมไม่ไหวหรอกนะ”ภัทรรีบเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดตัวเองอย่างร้อนรน กว้านหลินมองคนตรงหน้าด้วยสายตาตัดพ้อวูบหนึ่งก่อนจะเปลี่ยนเป็นแข็งกระด้างตามเดิม

 

            “เห็นศลัยบอกว่าไม่สบายเลยขึ้นมาดูว่าตายหรือยัง ดูท่าทางน่าจะสำออยมากกว่า อย่าเพิ่งรีบตายล่ะ หนี้ยังใช้ไม่หมด”พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากห้องอย่างไม่ใยดี ภัทรถอนหายใจอย่างโล่งอกเขาเหนื่อยเกินกว่าจะมาทะเลาะเบาะแว้งกับกว้านหลิน

 

รุ่งเช้าณภัทรก็ยังไม่มาดูแลกว้านหลิน อัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มอาบน้ำและแต่งตัวเตรียมออกไปทำงานด้วยตัวเองหากแต่ประตูห้องกลับถูกเคาะอย่างแรง

 

            “คุณชายคะ คุณชาย”กว้านหลินเดินไปเปิดประตูห้องอย่างไม่สบอารมณ์นัก

 

            “มีอะไร?”

 

            “คุณภัทรค่ะ คุณภัทรเป็นลมอยู่ในครัว”กว้านหลินแทบจะวิ่งลงมาจากบนห้องเมื่อเข้าไปในครัวบรรดาสาวใช้ต่างพากันประคองและพัดให้ภัทรด้วยสีหน้าตื่นๆ

 

            “ศลัยเอากุญแจรถมา”เขาหันไปสั่งศลัยก่อนจะอุ้มร่วงปวกเปียกของภัทรขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เด็กน้อยหายใจหอบใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ เหงื่อชื้นเปียกชุ่มตามไรผม ศลัยเปิดประตูรถรออย่างรู้งานก่อนจะเข้าไปนั่งเพื่อให้ภัทรนั่งพิงไหล่ตน กว้านหลินขึ้นไปนั่งประจำที่คนขับแล้วออกรถไปอย่างรวดเร็ว

 

            “โทรหาหมอนนท์”เขาโยนมือถือให้ศลัย สาวใช้คนสนิทของภัทรเลื่อนหารายชื่อของหมอนนท์อย่างรวดเร็วรายละเอียดคร่าวๆถูกส่งมอบกับคุณหมอหนุ่มใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงกว้านหลินก็พาภัทรมาถึงโรงพยาบาล เด็กน้อยอาการดีขึ้นแล้วขั้นตอนการตรวจร่างกายของภัทรดำเนินไปเรื่อยๆโดยที่กว้านหลินนั่งรออยู่ด้านนอกจนกระทั่งห้องตรวจเปิดออกกว้านหลินจึงผุดลุกขึ้นยืน ภัทรเดินออกมาตามหลังด้วยหมอนนท์

 

            “เป็นอะไร?”น้ำเสียงห้วนเอ่ยถามพลางทำเสียงราวกับเยาะ

 

            “เป็นมะเร็ง เป็นโรคหัวใจ ไตหรือแค่กระเพาะ?”

           

            “ผมท้อง”ภัทรสวนกลับด้วยน้ำเสียงเรียบตึงหากแต่คำตอบนั้นกลับทำให้หัวใจอัลฟ่าหนุ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ หากแต่สายตาว่างเปล่าที่ภัทรส่งมาให้ทำให้ทิฐิในใจตีรวนกลับขึ้นมาอีกครั้ง คำถามแสนร้ายกาจเชือดเฉือนจึงถูกตอกกลับไปอย่างไม่ไว้หน้า

 

            “กับใครล่ะ?”

 

ภัทรเม้มปากให้กับคำถามนั้น เขาไม่เคยคิดว่ากว้านหลินจะมีหัวใจที่ด้านชาและใจร้ายมากถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่เคยมั่นใจว่ากว้านหลินจะเป็นคนที่รู้จักตนเองมากที่สุดแท้ๆ

 

แต่เหมือนเวลาที่ผ่านมาเป็นเพียงเรื่องโกหก เด็กน้อยปรายตาเมินแล้วเดินผ่านกว้านหลินไปราวกับชายหนุ่มเป็นอากาศธาตุ หมออนลเห็นการกระทำของคนทั้งคู่แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

 

            “ดูแลเขาให้ดีๆหน่อยเดี๋ยวก็ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรอกคุณชาย”อดไม่ได้ที่จะบอกกับกว้านหลิน หากแต่อัลฟ่าหนุ่มกลับกระตุกยิ้มอย่างประชด

 

            “รอเด็กคลอดแล้วตรวจดีเอ็นเอแล้วกันเพราะผมไม่มั่นใจว่าเด็กนั่นมันเป็นลูกผมหรือลูกชู้กันแน่”

 

คุณหมอหนุ่มอยากจะทุบกว้านหลินให้กระอักเลือดกับคำพูดแสนดูถูกนั้น ถ้าต่างคนต่างแบกต่างคนต่างไม่ปล่อยวาง เขาไม่ต้องไปพนันกับใครก็พอเดาได้ว่าครอบครัวนี้คงจะมีแต่พังกับพังเท่านั้น

 

และคนที่ทำพังก็ไม่ใช่ใครเลย

 

ไอ้คุณชายสามหน้าโง่นี่แหละ

 

            “ปากดีแบบนี้เมียหอบลูกหนีจะไม่ปลอบเลยซักคำ”

 

 

 

 

 

#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

........................................

 

ของๆใครของใครก็ห่วง ของใครๆก็ต้องหวง ห่วงใยรักใครถนอม

 

ชายไม่ได้เป็นไบโพล่าร์จ้า ชายเป็นบ้า

 

จางหลง เจ้าหู่ หวังเฉา หม่าฮั่น ถอดเกือกมาตบปากมันตามจำนวนส่วนสูง!!!!!

 

 
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 17 "ลูกชู้"
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-06-2019 11:40:15
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 17 "ลูกชู้"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 11-06-2019 19:29:01
ปากดีแบบนี้ขอให้ภัทรหนีไปเลย
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 17 "ลูกชู้"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 12-06-2019 00:58:14
ช่วยด้วยจ้าา พระเอกเป็นบ้าา  :beat: :beat: :beat:
ใครก็ได้ตบเรียกสตินางที
ขอเชิญพี่ใหญ่พี่รอง มาเทศนาน้องสามทีจ้า
 :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 17 "ลูกชู้"
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 12-06-2019 22:43:04
บวกคุณหมอจ้า ปากดีปากเก่งจริงๆเลย :angry2: อยากให้น้องหนีไปจริงๆ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 17 "ลูกชู้"
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 12-06-2019 23:17:09
……


โอ้ยยยย.  คนปากไม่ตรงกับใจ ตากว้านหลินเอ้ยยยยย

ทั้งรัก ทั้งหวง ทั้งห่วง ทั้งหึง.  แต่ไม่ยอมรับความรู้สึกตัวเอง

แล้วภัทรจะทนไปได้อีกนานแค่ไหนนะ


 :z3:  :z10:  :z13:  :z3:  :z10:  :z13:


…………
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 18 "ลูกของผมคนเดียว"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 15-06-2019 18:28:28
            Hydrangea 18

 

            ณภัทรเผชิญช่วงเวลาของการแพ้ท้องอย่างยากลำบากเพียงลำพัง ทุกเช้าเด็กน้อยแทบจะหมดแรงอยู่หน้าโถส้วมโดยไร้การเหลียวแลจากกว้านหลิน

 

เมื่อครั้งเริ่มโตและเรียนรู้ในอนาคตตนเองจะต้องมีคู่ครองซักคนและคนที่ต้องรับหน้าที่อุ้มท้องก็คือโอเมก้าอย่างตนภัทรก็วาดฝันไว้อย่างสวยงามว่ายามแพ้ท้องอาเจียนตนจะมีสามีที่อบอุ่นคอยลูบหลัง ยามอ่อนเรี่ยวสิ้นแรงสามีของตนจะโอบอุ้มประคับประคองด้วยความห่วงใย ยามแพ้หนักเหม็นกลิ่นอาหารสามีจะคอยเอาอกเอาใจคอยสรรหาอาหารที่ดีมีประโยชน์มาบำรุงตนและเจ้าตัวน้อยในท้อง

 

หากแต่ณภัทรในตอนนี้แสนโดดเดี่ยว  ไม่เคยมีซักครั้งที่กว้านหลินจะเข้ามาเหลียวแล ภัทรทำทุกอย่างด้วยตัวเองโดยมีศลัยคอยช่วย

 

            “คุณกว้านหลินครับ”เย็นวันหนึ่งภัทรก็ทำใจกล้าเดินเข้าไปหากว้านหลินในห้อง อัลฟ่าหนุ่มมองร่างซูบเซียวนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่ง เขาไม่แม้แต่จะขานรับยังคงนอนสูบบุหรี่บนเตียงนิ่ง ภัทรเดินมาชิดขอบเตียงมือทั้งสองข้างกำชายเสื้อตัวเองไว้แน่นอย่างประหม่า

 

หลังจากกลับจากโรงพยาบาลในตอนนั้นเขาไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีกเลย ต่างคนต่างหันหลังให้กัน หากแต่ในวันนี้ภัทรจำเป็นต้องเข้าหากว้านหลินก่อน

 

อัลฟ่าหนุ่มมองโอเมก้าที่ยืนกดคางจนแทบจะชิดอกก็ให้รำคาญใจ

 

           “ มีอะไรก็รีบๆพูดมา มายืนอ้ำอึ้งอยู่ทำไมน่ารำคาญว่ะ”ณภัทรช้อนสายตาขึ้นมองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกอย่างตัดพ้อ ก้อนความน้อยใจแสนน่ารำคาญที่มีความรุนแรงมากขึ้นทุกวันหล่นทับจนเจ็บจุกไปหมด

 

อดทน เพื่อลูก ยังไงเสียช่วงนี้ภัทรก็ต้องพึ่งพิงอัลฟ่าหนุ่ม การที่ลูกมีพ่อที่ร่ำรวยนั่นก็การันตีได้อย่างหนึ่งว่าลูกน้อยของตนจะไม่ลำบาก

 

            “วันมะรืนผมต้องไปฝากท้องนะครับ หมอนนท์บอกว่าให้คุณไปด้ว...”

 

            “เดี๋ยวฉันจะให้เสี่ยวป๋ายมารับ”กว้านหลินพูดขัดขึ้นมาอย่างไม่แยแสจนเด็กน้อยใจกระตุก

 

            “แต่หมอนนท์...”

 

            “หมดธุระแล้วก็ออกไปได้แล้วฉันจะนอน”กว้านหลินล้มตัวลงนอนโดยหันหลังให้กับภัทรไม่สนใจขอขอร้องของคนเด็กกว่าเลยซักนิด ภัทรมองแผ่นหลังกว้างด้วยสายตาตัดพ้อผิดหวัง

 

ทั้งๆที่ทำใจไว้แล้วว่าอาจจะเจอเหตุการณ์นี้หากแต่เมื่อต้องเจอจริงๆหัวใจกลับเจ็บปวดราวกับไม่ได้เตรียมใจมา

 

พังหมดแล้ว ใจของเขาพังจนไม่เหลือชิ้นดี

 

กว้านหลินลืมตาขึ้นหลังจากเสียงประตูห้องถูกเปิดและปิดลงเบาๆ ในดวงตาฉายแววอ่อนล้าเจ็บปวดชัดเจน

 

            “เด็กแข็งแรงดีนะครับ ไม่มีอะไรน่าห่วงคุณแม่พักผ่อนเยอะๆอย่ายกของหนักอย่าทำอะไรที่เร็วเกินไป ทานยาที่หมอจ่ายให้ครบก็พอ อาการแพ้ดีขึ้นมั้ยครับ?”

 

            “ก็ยังมีเวียนๆหัวตอนเช้ากับอาเจียนอยู่บ้างครับ”

 

            “เดี๋ยวก็หายครับ แล้วทานอะไรได้บ้างครับเนี่ย?”

 

            “ปกติทานข้าวได้นิดหน่อย เวลาคลื่นไส้ก็ฝานมะนาวจิ้มเกลือกินครับ ไม่ก็กินแตงกวาดองกับพวกผลไม้เปรี้ยวๆที่พี่ศลัยซื้อมาให้จากตลาดครับ”

 

            “อย่ากินเกลือมากนะครับมันเค็ม แล้วนี่เค้าไม่ยอมมาด้วยเหรอครับ”ภัทรหน้าเศร้าลงทันทีที่หมอนนท์ถามคำถามนั้น อนลอยากจะตบปากตัวเองนักที่เผลอถามคำถามโง่ๆออกไป

 

            “ผมขอโทษ”

 

            “ไม่เป็นไรครับ คุณกว้านหลินน่าจะติดงานที่บริษัทเลยมาไม่ได้ แต่ก็ให้คุณเสี่ยวป๋ายมาแทน”

 

            “โอเคครับ เดี๋ยวไปรับยาแล้วก็กลับบ้านได้นะครับ”อนลเดินออกมาส่งภัทรที่หน้าห้องก็พอดีกับที่เสี่ยวป๋ายเดินถือแก้วกาแฟร้อนกรุ่นส่งกลิ่นหอมฉุยกลับมาถึงพอดี

 

            “ขอบคุณสำหรับกาแฟนะครับแหมรู้ใจจริง”อนลคว้าหมับเข้ากับแก้วกาแฟที่เสี่ยวป๋ายไม่ทันได้ตั้งตัว เลขาหนุ่มของกว้านหลินยืนอึ้งกว่าจะรู้ตัวอนลก็ปิดห้องตรวจโดยจิบกาแฟที่เขาซื้อมากินเอง

 

            “อ...ไอ้บ้านี่ ใครซื้อมาให้อ่ะ นี่เป็นหมอจริงเหรอหน้าด้าน!!”ภัทรเข้ามาจับแขนเสี่ยวป๋ายพลางลูบหลังให้คุณเลขาใจเย็นๆด้วยสีหน้าขบขัน แทบจะเป็นยิ้มแรกของวันเลยก็ว่าได้

 

            “ให้เขาไปเถอะครับ เรากลับบ้านกันเถอะผมอยากพักแล้ว”

 

            “แวะห้างมั้ยครับ?”หลังจากรับยาเรียบร้อยเสี่ยวป๋ายก็ขับรถออกมาจากตัวโรงพยาบาล เลขาหนุ่มเอ่ยถามว่าที่คุณแม่ที่หลับตานั่งเงียบๆ ภัทรส่ายหน้าปฏิเสธ

 

            “ผมไม่มีเงินหรอกครับ”

 

            “เรื่องเงินไม่ต้องห่วงครับ เมื่อวานคุณชายใหญ่กับคุณชายรองส่งเงินมาให้บอกว่าให้พาคุณไปซื้อของให้ คุณหนูคุณวิคตอเรียก็บอกว่าถ้าไม่พอให้โทรไปบอกเดี๋ยวเธอจะโอนมาเพิ่มให้ทันที คุณชายสามเองเธอก็ให้เงินไว้ส่วนหนึ่งเหมือนกันเพราะฉะนั้นอยากได้อะไรซื้อเลยครับ”

 

            “ผมไม่รู้เลยครับว่าต้องซื้ออะไรบ้าง”ภัทรตอบอย่างคนจนปัญญา ใจดวงน้อยอุ่นขึ้นมาบ้างจากน้ำใจพี่ๆของกว้านหลิน เด็กน้อยมองข้ามประโยคที่บอกว่ากว้านหลินก็ให้เงินมาก้อนหนึ่ง

 

เดี๋ยวก็คงหักกับเงินเดือนของเขานั่นแหละ วิคตอเรียเองยังคงเป็นพี่สาวที่ใจดีเสมอ หลังจากรู้ว่าตนเองท้องภัทรโทรทางไกลไปหาวิคตอเรีย หญิงสาวดีใจมากที่ภัทรจะมีลูกให้กว้านหลิน ข้อแนะนำต่างๆถูกถ่ายทอดให้ภัทร ทั้งสองคนสนิทกันจนนับเป็นพี่เป็นน้อง เด็กน้อยรักวิคตอเรียมาก เพราะในการใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในบ้านหลังนี้ภัทรไม่มีใครเลยนอกจากศลัย แต่หญิงสาวเองก็ไม่เคยมีลูกดังนั้นยามมีปัญหาอะไรภัทรจึงเลือกที่จะปรึกษาวิคตอเรียเป็นคนแรก

 

            “เดี๋ยวผมช่วยเลือก พวกเตียงเด็กของใช้เด็กซื้อเข้าไปเลยมั้ยครับ”

 

            “ใกล้คลอดค่อยซื้อก็ได้ครับ ไปเดินเล่นก็ได้ ผมไม่ได้ออกมาข้างนอกนานแล้วคุณเสี่ยวป๋ายรีบกลับบริษัทมั้ยครับ”

 

            “ไม่รีบครับวันนี้ผมมีเวลาให้คุณภัทรทั้งวันเลย”

 

            หลังจากวันนั้นข้าวของในห้องของภัทรก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งเข้าสู่เดือนที่ 8 ที่ภัทรตั้งท้อง เปลเด็กก็ถูกยกเข้ามาไว้ในห้องนอนเด็กโดยที่เสี่ยวป๋ายเป็นคนควบคุมการประกอบด้วยตัวเอง เลขาหนุ่มกลายเป็นเพื่อนสนิทกับภัทรไปอีกคนเพราะทุกครั้งที่มีนัดที่โรงพยาบาลคนที่พาภัทรไปหาหมอทุกครั้งก็คือเสี่ยวป๋าย เลขาหนุ่มกับคุณหมอนนท์ลับฝีปากกันทุกครั้งที่เจอกันจนภัทรหน่ายใจกับความปากร้ายสูสีกันของคนทั้งคู่ โมบายอันเล็กๆน่ารักจากฝีมือของภัทรถูกนำมาแขวนไว้ โอเมก้าท้องแก่ยิ้มให้กับความน่ารักนั้นอย่างถูกใจ ตู้เสื้อผ้าไม้อัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าและของใช้เด็กที่วิคตอเรียสั่งให้เสี่ยวป๋ายไปซื้อมาเตรียมไว้ ศลัยจัดของลงตะกร้าตามคำสั่งเผื่อว่าภัทรจะเจ็บท้องกะทันหัน

 

            “คุณภัทรไปเอนหลังก่อนเถอะค่ะ พักนี้ขยันเดินจริง ท้องก็ใหญ่ขึ้นทุกวันไหนเค้าบอกท้องแรกจะไม่ใหญ่มาก”

 

            “สงสัยลูกจะอ้วนน่ะครับ เด็กผู้ชายก็แบบนี้ตัวใหญ่แถมท่าจะแสบใช่เล่นเวลาได้ยินเสียงคุณกว้านหลินน่ะถีบแรงมากเลย”ภัทรลูบท้องเบาๆน้ำเสียงเอ่ยถึงลูกชายในท้องอย่างเอ็นดูจนศลัยอดขำไปด้วยไม่ได้ ภัทรละมือจากเปลเด็กทำท่าจะเดินออกไปนอกห้อง

 

            “จะไปไหนคะ?”

 

            “ไปตัดดอกไฮเดรนเยียมาปักแจกันให้คุณกว้านหลินครับ”

 

            “ท้องแก่อุ้ยอ้ายแล้วงดๆไปบ้างก็ได้ค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวพี่ไปตัดให้ดีมั้ยคะ?”ศลัยเสนอด้วยความเป็นห่วง เพราะหล่อนรู้ดีว่าการตัดดอกไฮเดรนเยียมาปักแจกันให้กว้านหลินนั้นกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว และกว้านหลินก็ไม่ได้ปาทิ้งเหมือนตอนปักด้วยดอกกุหลาบ

 

            “ไม่เป็นไรครับ ผมอยากทำให้เขาด้วยตัวเอง”ภัทรว่าก่อนจะหยิบกรรไกรตัดกิ่งที่มักพกติดมือกลับมาเก็บไว้ในห้องด้วยความเคยชิน ตะกร้าหวายใบเล็กถูกคล้องใส่มือ บรรดาแม่บ้านทักทายคนท้องด้วยสีหน้ายิ้มๆ อคติที่เคยมีต่อภัทรบัดนี้จางหายไปแล้ว ที่มีในตอนนี้คือความเอ็นดูและเห็นใจ ภัทรทักทายกลับก่อนจะเดินไปยังริมรั้วที่มีดอกไฮเดรนเยียออกดอกสดใสสวยงามหลากสีสัน โอเมก้าท้องแก่บรรจงตัดช่อที่สวยที่สุดอย่างใส่ใจ

 

ว่ากันว่าไฮเดรนเยียเป็นดอกไม้แห่งหัวใจที่ด้านชาแทนคำตัดพ้อถึงความใจร้ายของผู้รับ ซึ่งตลอดเวลาหลายเดือนมานี้ภัทรใช้ดอกไม้ชนิดนี้สื่อสารความในใจให้กับกว้านหลินเสมอมา

 

ใจร้ายใจดำเสียเหลือเกิน แต่กว้านหลินก็ยังคงเป็นกว้านหลิน  ชายหนุ่มไม่รับรู้อะไรยังคงเมินเฉยกับเขาเสมอ พูดจานับคำได้ ถ้ากว้านหลินคิดได้ซักนิดหรือมีความเชื่อใจกันซักหน่อยกว้านหลินคงไม่ใจร้ายปรักปรำและยัดเยียดข้อกล่าวหาแสนน่าอายนั้นให้กับตน โอเมก้าเด็กนิ่วหน้าเมื่อเจ้าตัวน้อยในท้องถีบจนรู้สึกจุก

 

            “ทำไมครับ เตะแม่ทำไมลูก ไม่อยากให้แม่คิดถึงพ่อเหรอครับ อย่าเกลียดพ่อเลยนะเค้าแค่เข้าใจแม่ผิด ลึกๆแม่เชื่อว่าพ่อเค้าก็รักหนูนะครับ เป็นเด็กดีกับคุณพ่อนะลูกนะ”ภัทรส่งเสียงพูดคุยกับลูกเบาๆไม่นานแรงถีบนั้นก็หยุดลงเจ้าตัวน้อยพลิกตัวในท้องจนรู้สึกภัทรยิ้มเอ็นดูกับลูกแม้ไม่รู้ว่าลูกจะเข้าใจที่ตัวเองพูดด้วยมั้ยแต่ก็มีความสุข

 

เด็กน้อยรู้ว่าลูกคนนี้จะไม่ดื้อกับตนเองแน่ๆเพราะเวลาคุยด้วยลูกจะสงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ ภัทรจัดแจกันดอกไม้ไปวางบนโต๊ะอาหาร ในห้องรับแขกรวมทั้งห้องนอนของกว้านหลิน ความอ่อนเพลียทำให้ภัทรถือวิสาสะนั่งลงบนเตียงนอนของกว้านหลินเอาหมอนมาหนุนหลังแล้วผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

 

            “พรุ่งนี้อย่าลืมเตรียมสัญญาให้พร้อมนะเสี่ยวป๋าย งานครั้งนี้พลาดไม่ได้แม้แต่จุดเดียว”ไล่กว้านหลินยื่นเสื้อตัวนอกให้สาวใช้ในขณะที่คุยโทรศัพท์ไปด้วย ร่างสูงกวาดตามองหาภัทรแต่ไม่พบจึงก้าวยาวๆขึ้นไปบนห้อง ความเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศรวมทั้งร่างบวมๆของคนท้องที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงทำให้หัวใจของอัลฟ่าหนุ่มกระตุกวูบไปชั่วขณะ

 

            แค่นี้ล่ะ”ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ก่อนจะเก็บเครื่องมือสื่อสารนั้นใส่กระเป๋า กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมกรุ่นฟุ้งอยู่ในห้องของเขา ร่างสูงก้มลงไปมองใบหน้าอวบอิ่มของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ของลูก แพขนตายาวนั้นนิ่งสนิทบ่งบอกว่าภัทรนั้นหลับลึก เรือนผมสีน้ำตาลเข้มดูน่าลูบไล้จนอดใจไม่ไหวต้องวางมือลงบนกลุ่มผมนิ่มนั้น แก้มที่เคยตอบเมื่อตอนแพ้ท้องบัดนี้ดูนุ่มฟูไปหมด

 

ภัทรในตอนนี้เหมือนมาชเมโล่ขาวๆฟูๆไม่มีผิด ไล้มือลงบนผิวแก้มเนียนลื่นก่อนจะค่อยๆยื่นปลายจมูกไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หากแต่ก่อนที่ปลายจมูกจะฝังลงบนผิวแก้ม กลิ่นฝนที่เข้มข้นก็ทำให้เปลือกตาของภัทรค่อยๆเปิดขึ้น

 

ไล่กว้านหลินชะงักตัวยามที่สายตาประสานกัน

 

ราวโลกหยุดหมุน

 

เกิดความเงียบครอบคลุมคนทั้งคู่ไว้ ลมหายใจของทั้งสองรินรดซึ่งกันและกัน ภัทรทำใจกล้าคล้องคอของกว้านหลินไว้ก่อนจะยื่นหน้าขึ้นไปกดจูบกับริมฝีปากอุ่นของอัลฟ่าเจ้าชีวิตแล้วผละออก กว้านหลินมองโอเมก้าที่ส่งยิ้มหวานมาให้ตนด้วยความสับสน

 

ปกติภัทรจะต้องหลบหน้าหลบตาเขาสิ

 

แต่ทำไมวันนี้กลับต่างออกไป

 

            “กลับมาแล้วเหรอครับ”แทนคำตอบกว้านหลินก็คร่อมร่างอุ้ยอ้ายนั้นอย่างอดใจไม่ไหว

 

เพราะตั้งแต่ภัทรตั้งท้องกิจกรรมบนเตียงก็งดไปโดยปริยายดังนั้นเมื่อมาเจอภัทรในตอนที่นุ่มนิ่มไปหมดทั้งตัวชายหนุ่มจึงไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป

 

จมูกโด่งสูดดมทุกกลิ่นหอมหวานทุกพื้นที่บนร่างกายของภัทร

 

เป็นครั้งแรกที่ภัทรได้รับความทะนุถนอมและอ่อนโยนจากกว้านหลิน ความหอมหวานมอมเมาจนเผลอคิดว่านี่คือความสุขที่แท้จริงจนกระทั่งทุกอย่างจบลงกว้านหลินก็นอนหันหลังให้ตนทันที

 

นั่นแหละภัทรจึงรู้ว่าความฝัน ต่อให้สวยงามมีความสุขแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องตื่นอยู่ดี เด็กน้อยแต่งตัวแล้วเดินกลับไปนอนร้องไห้ในห้องนอนของตัวเองเงียบๆ

 

            “ขาบวมแล้วนะคะ น่าจะใกล้คลอดเต็มที”ศลัยกดนิ้วลงบนขาของภัทรที่บวมมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิตย์หน้าก็ได้กำหนดคลอดแล้ว ร่างที่อุ้ยอ้ายก็ยิ่งบวมหนักเข้าไปใหญ่จนทำอะไรแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว

 

            “หมอนัดคลอดอาทิตย์หน้าครับคงไม่มีอะไรหรอก”ภัทรวางหมวกไหมพรมใบเล็กที่เพิ่งถักให้ลูกเสร็จลงในตะกร้า ศลัยรับมาเก็บใส่ชั้นก่อนจะช่วยประคองให้เด็กน้อยนั่งได้ถนัดขึ้น

 

            “พี่ว่าพี่ขึ้นมานอนเฝ้าคุณภัทรดีมั้ยคะ เผื่อเจ็บท้องจะได้รู้”

 

            “เอางั้นก็ได้ครับก็ดีเหมือนกันจะได้นอนคุยกันด้วย”ภัทรตกลงอย่างว่าง่าย เขาเองก็กลัวเหมือนกันว่าจะเกิดเจ็บท้องขึ้นมากะทันหัน

 

            “แล้วนี่ตั้งชื่อให้คุณหนูหรือยังคะ?”ศลัยเอ่ยถามเพราะหล่อนไม่เห็นว่าภัทรจะเรียกชื่อลูกเลยซักครั้ง เด็กน้อยยู่ปากส่ายหน้า

 

            “อยากให้พ่อเค้าตั้งมากกว่าครับ โอ๊ะ!!”ภัทรกุมท้องเมื่อความเจ็บเข้าจู่โจม ใบหน้าหวานซีดจนเห็นได้ชัด

 

           " ลูก ทำไมวันนี้เตะแม่แรงแบบนี้ล่ะครับ?”เอ่ยถามเจ้าลูกชายในท้องอย่างตัดพ้อแต่คราวนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนๆคือความเจ็บบีบรัดมากขึ้นจนต้องงอท้อง

 

            “โอ้ย...เจ็บ”

 

            “ว้ายตายแล้ว คุณภัทรคะ”หญิงสาวรีบประคองโอเมก้าเด็กที่มีสีหน้าเจ็บปวด ที่กางเกงตัวหลวมมีคราบน้ำเปียกจนชุ่ม ทั้งสองคนเงยหน้ามองกันด้วยความตกใจ

 

            “เจ็บท้องจะคลอดหรือเปล่าคะ??”

 

            “ผม...ผมไม่รู้”ภัทรตอบด้วยความไม่รู้จริงๆ เขาไม่เคยคลอดลูกไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ แต่ความเจ็บที่บีบในท้องเรื่อยๆนั่นก็อาจจะเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวน้อยอยากจะออกมาลืมตาดูโลกเต็มที ศลัยคว้าโทรศัพท์มากดหาเจ้านายหนุ่มทันที

 

            “คุณชายคะคุณภัทรเจ็บท้องค่ะ”หญิงสาวกรอกเสียงลงไปทันทีที่กว้านหลินรับสาย

 

            “ออกไปเรียกแท็กซี่มารับไปโรงพยาบาลแล้วกันฉันติดงานอยู่”เสียงตอบกลับของกว้านหลินทำเอาศลัยหมดแรงจะถือโทรศัพท์ทันที หล่อนปล่อยมันตกลงข้างตัวก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆแล้ววิ่งออกไปตามคนให้ขึ้นมาดูแลภัทรส่วนตัวหล่อนเองวิ่งออกไปด้านนอกเพื่อเรียกแท็กซี่มารับคนเจ็บท้องไปโรงพยาบาล อนลพาภัทรเข้าไปห้องคลอดทันทีหลังตรวจอาการเด็กน้อยที่นอนหน้าซีดเหงื่อซึมเต็มดวงหน้า อดจะก่นด่าและสาปแช่งคนเป็นพ่อถึงความใจจืดใจดำไม่ได้

 

            “เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นพ่อที่ไหนใจร้ายได้ขนาดนี้ ขอให้ลูกไม่รักคนบ้าเอ้ย”

 

 

 

 

 

          ณภัทรถูกย้ายมานอนในห้องพักฟื้นที่เสี่ยวป๋ายตามมาจัดการให้หลังเลิกประชุมผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พยาบาลพิเศษถูกจ้างเพื่อให้มาดูแลภัทรและลูกตลอด 24 ชั่วโมงนั่งเฝ้าอยู่มุมห้อง ศลัยกลับมาจากดูหน้าคุณหนูด้วยดวงตาเป็นประกาย คุณหนูของหล่อนผิวขาวตัวใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆน้ำหนักแรกคลอด 3800 กรัม ไม่แปลกใจเลยซักนิดว่าทำไมถึงเตะคนเป็นแม่แรงนัก ภัทรไม่ได้หลับอย่างที่หล่อนคิดโอเมก้าแม่ลูกอ่อนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเพื่อรอเวลาที่พยาบาลจะเอาลูกมาเข้าเต้า

 

            “ไม่นอนพักก่อนล่ะคะ? หรือว่าหิว?”

 

            “เปล่าฮะ ผมตื่นเต้นอยากกอดลูกแล้ว พี่เห็นแกแล้วใช่มั้ยครับ ตอนหมอเอาออกมาแกร้องเสียงดังลั่นเลย คุณหมอนนท์แกล้งตบก้นแกเสียหลายทีตลกมากๆเลย”ภัทรคุยอวดถึงความน่ารักของลูกชายให้พี่เลี้ยงสาวฟังอย่างมีความสุข ลืมความน้อยอกน้อยใจที่กว้านหลินไม่มาดูดำดูดีตนเลยซักนิดไปเสียสนิท เหมือนที่คนแก่เคยบอกไว้ว่าคนเรายามแต่งงานมีครอบครัวเมื่อแรกความสำคัญจะถูกมอบให้กับคู่ของตนแต่พอมีลูกด้วยกันแล้วความสำคัญจะถูกส่งมอบให้กับลูกจนเกือบหมด

 

            “เห็นแล้วค่ะเห็นแล้ว ตัวแกอ้วนจ้ำม่ำกว่าใครหน้าบวมยังกับนกฮูกเลยค่ะ จมูกโด๊งโด่ง เวลาร้องก็เสียงดั๊งดังนะคะ”ศลัยเอ่ยถึงคุณหนูตัวน้อยด้วยน้ำเสียงเอ็นดู ทั้งสองคุยกันอีกซักพักเสี่ยวป๋ายก็กลับมาอีกหนพร้อมตะกร้าเสื้อผ้าเด็กที่พอถึงเวลาคลอดจริงๆทั้งแม่ทั้งพี่เลี้ยงก็ลืมหิ้วมาจนเลขาหนุ่มต้องขับกลับไปเอาให้

 

            “ผมขอไปดูคุณหนูก่อนนะครับอยากเห็นใจจะขาดแล้ว”

 

            “แล้ว...”

 

            “คุณชายอยู่ที่ห้องเด็กครับ”เสี่ยวป๋ายยิ้มอ่อนๆให้กับภัทรที่มีท่าทางอึ้งๆไป

 

ณภัทรยกมือขึ้นมากุมอกของตัวเอง

 

มันเต้นเร็วและแรงมากจนได้ยินเสียงบางๆมาด้านนอก

 

ความปลิ้มปิติเกิดขึ้นในใจ

 

อย่างน้อยกว้านหลินก็ยังมาดูลูกที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง

 

ความผูกพันระหว่างพ่อกับลูกยังคงมีอยู่ใช่มั้ยนะ?

 

หรือจริงๆแล้วลึกๆในใจของกว้านหลินเองก็ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์อะไรลูกหรอก

 

คุณชายสามแค่เพียงปากร้ายไปเอง...

 

            “น่ารักดีนะครับ”เสี่ยวป๋ายเดินมาหยุดยืนข้างเจ้านายหนุ่มที่ยืนเอามือไพล่หลังมองทารกน้อยตัวอ้วนในห้องเด็กที่มีกระจกบานใหญ่ล้อมรอบ กว้านหลินไม่ได้พูดอะไรดวงตาคมยังคงจับจ้องไปที่ลูกชายตัวน้อยที่เริ่มจะส่งเสียงร้องไห้อีกครั้งพาให้เด็กเตียงอื่นๆส่งเสียงร้องตามอีกหลายเตียง

 

            “โตไปคงเป็นหัวโจก ขอให้เป็นอัลฟ่าทีเถอะ”คุณหมอนนท์ที่ออกเวรแล้วเดินมาหยุดยืนข้างๆเลขาหนุ่ม

 

            “ตอนคุณภัทรเจ็บท้อง แกร้องเรียกคุณด้วยนะคุณกว้านหลิน น่าจะมาอยู่ใกล้ๆแกหน่อย”คุณหมอหนุ่มส่งสายตาต่อว่าไปที่อัลฟ่าหนุ่มอย่างไม่ปิดบัง

 

            “ผมติดประชุมผู้ถือหุ้นจะให้เสี่ยวป๋ายมาก็ไม่ได้นี่ก็รีบมาที่สุดแล้ว”

 

            “คุณเหมือนคนที่จัดระบบความสำคัญไม่เป็นนะคุณกว้านหลิน วันที่เมียคลอดลูกน่ะเขาต้องการกำลังใจจากสามีที่สุดแต่ภัทรมีแค่สาวใช้ แกน่าสงสารนะ”

 

            “พี่ ผมต้องรับผิดชอบงาน ถ้าแม้แต่เรื่องงานยังดูแลให้เรียบร้อยไม่ได้แล้วผมจะดูแลครอบครัวได้ยังไง ผมก็...เป็นห่วงเขาเหมือนกัน”

 

            “แล้วเคยแสดงให้เขาเห็นบ้างมั้ยว่าคุณก็เป็นห่วง แค่ออกเงินค่ารักษา ซื้อของให้โดยผ่านเลขามันไม่พอหรอกนะ แล้วหลังคลอดเขาอาจจะเกิดภาวะ Postpartum blue ใครจะดูแลเขา ผมเชื่อว่าจริงๆในใจของคุณก็รู้ว่าแกเป็นลูกคุณ ภัทรไม่เคยมีชู้ หัวใจคนมันอาจจะห้ามไม่ได้ที่จะรักใครชอบใครแต่คุณควรมีความมั่นใจว่าเขาเป็นภรรยาเป็นแม่ของลูกคุณ เด็กนั่นน่ะซื่อสัตย์กับคุณยิ่งกว่าหมาที่รักเจ้าของเสียอีก แค่ให้ข้าวให้น้ำมันไม่พอหรอกนะคุณต้องให้ความรักกับเขาด้วย อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยวางซะบ้าง ผมมองในฐานะคนนอกนะ พ่อคุณกับพ่อเขาต่างจากไปแล้วทั้งคู่คนที่อยู่ก็ไม่ควรต้องมารับกรรมจากคนที่ตายไปแล้ว”

 

            “พูดมากจังน่ารำคาญว่ะ”กว้านหลินหันมาทำหน้าอึนใส่หมอนนท์ก่อนจะเดินไปทางห้องพักของภัทร เสียงเลขาหนุ่มหัวเราะในลำคอข้างๆเรียกความสนใจจากหมอนนท์ให้กลับมามอง

 

            “ขำ...ขำมากมั้ยครับ”

 

            “ก็ตลกดี ทำคลอดดีๆไม่ชอบริอาจจะทำตัวเป็นบาทหลวง”

 

            “อยากลองมีลูกมั้ยล่ะครับ? นอกจากผมจะทำคลอดเป็นผมก็ทำลูกเป็นเหมือนกันนะครับคุณเลขา”อนลแกล้งยื่นหน้าเข้าไปทำตาแป๋วใกล้ๆใบหน้าของเสี่ยวป๋ายจนคุณเลขาถึงกับกลั้นใจ

 

            “ไปเล่นตรงนู้นครับ ผมไม่ตลกด้วย”

 

            “ไม่ไปครับอยากเล่นตรงนี้ ตรงไหนมีคุณอยู่ผมจะตามไปเล่นด้วย”

 

            “คนเขาไล่ยังจะหน้าด้าน”เสี่ยวป๋ายด่าใส่หน้าคุณหมอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

            “สนใจมาช่วยทาครีมมาร์กหน้าให้ตอนว่างๆมั้ยล่ะครับ”

 

            “เฮ้อ พูดกับหมาๆเลียปากจริงๆ”เสี่ยวป๋ายแสร้งทำเสียงเหนื่อยหน่ายใจก่อนจะทำท่าเดินตามพยาบาลที่เข็นลูกของภัทรออกมาหากแต่อนลจับข้อมือไว้ทันที

 

            “จะตามไปทำไมปล่อยให้พ่อแม่ลูกเขาอยู่ด้วยกัน พยาบาลจะเอาเด็กไปกินนมคุณจะไปนั่งดูนมคุณภัทรเหรอ ทะลึ่งนะเราน่ะ”

 

            “จะบ้าเหรอ ผมไม่รู้นี่!!”เสี่ยวป๋ายตวาดใส่หมอนนท์กลบความเขินอายทันที

 

            “ไปๆ ไปหาข้าวกินกับผมดีกว่า หิวจนจะกินคุณเข้าไปได้ทั้งตัวแล้ว”อนลเนียนโอบไหล่ของเสี่ยวป๋ายพารั้งเดินตามตนไปทันทีแม้เสี่ยวป๋ายจะร้องปฏิเสธยังไงก็ตามที

 

           

            ประตูห้องพักของภัทรเปิดขึ้น กลิ่นฝนหอมชื่นใจกระจายทำให้ภัทรที่เพิ่งล้มตัวลงนอนลืมตาขึ้นมอง

 

ไร้เสียงทักทายหรือพูดคุย กว้านหลินมองเมินก่อนจะไปนั่งบนโซฟา แสร้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข่าวผ่านเว็บไซด์ ภัทรเองก็เมินมองไปอีกทาง บรรยากาศอึมครึมจนพยาบาลสาวที่ถูกจ้างมาเฝ้ารู้สึกได้

 

            “อ๊ะคุณหนูมาแล้ว”ศลัยที่กำลังหาทางเลี่ยงร้องออกมาเสียงดังเมื่อพยาบาลเข็นเตียงเด็กเข้ามา ภัทรผุดลุกขึ้นมาทันทีโดยลืมไปว่าแผลผ่าตัดยังใหม่อยู่นิ่วหน้าร้องออกมาด้วยความเจ็บ

 

            “จะรีบทำไมยังไงก็ได้อุ้มอยู่ดี โง่จริงๆ”ภัทรเหลือบตามองคนที่ยังคงนั่งจ้องโทรศัพท์แต่ส่งเสียงด่าตนด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะละความสนใจไปที่เจ้าตัวกลมที่พยาบาลอุ้มมาให้ ลูกชายของเขาบิดตัวส่งเสียงเบาๆในลำคอภัทรยิ้มให้กับท่าบิดขี้เกียจนั้นเจ้าตัวน้อยตัวแดงเป็นจ้ำตัวล่ำจ้ำม่ำจมูกโด่งริมฝีปากอิ่มหนา

 

            “หล่อจัง ลูกใครเนี่ย ลูกแม่เนอะ”ภัทรพูดหยอกกับลูก กว้านหลินเหลือบตามองอย่างหมั่นไส้

 

โอเมก้าแม่ลูกอ่อนฟังคำแนะนำของพยาบาลที่สอนวิธีเข้าเต้าให้อย่างตั้งใจ วินาทีที่ลูกดูดนมจากอกน้ำใสก็กลิ้งหล่นลงบนผิวแก้มเต่งขอลูกจนภัทรต้องรีบเช็ดออกอย่างแผ่วเบา

 

ลูกของเขาไม่ควรต้องแปดเปื้อนกับน้ำตา ทารกน้อยกินเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออิ่มแล้วก็ตบหลังเบาๆจนกระทั่งทารกน้อยเรอเอาลมออกมา ศลัยรับคุณหนูไปอุ้มอย่างรักใคร่ก่อนจะเดินมาหยุดที่เจ้านายหนุ่ม

 

            “ไม่ลองอุ้มคุณหนูหน่อยเหรอคะ ดูสิแกน่าเกลียดน่าชังมากๆเลยนะคะ”ศลัยมองคุณหนูตัวน้อยด้วยความรักใคร่เอ็นดู

 

            “ไม่ล่ะ ฉันกลัวจะอดใจไม่ไหวทุ่มมันทิ้งลงพื้นเดี๋ยวจะมาหาว่าฉันใจร้าย”ภัทรได้ยินคำตอบนั้นก็ให้นึกโมโห ความไม่พอใจตีรื้นขึ้นมาทันที

 

            “เขาไม่อุ้มก็เอามาให้ผมครับ ลูกของผมๆอุ้มเองได้”ศลัยรีบอุ้มทารกน้อยไปคืนคนแม่ที่ตาเขียวปั้ดราวเสือที่หวงลูกและพร้อมจะตะปบทุกคนที่บังอาจมาคิดร้ายกับลูกของตน ศลัยเห็นบรรยากาศมาคุก็รีบขอตัวออกไปหาอะไรกิน ทารกน้อยส่งเสียงร้องไห้ขึ้นมาทันทีจนคนเป็นแม่ต้องอุ้มมากอดแนบอก กว้านหลินวางโทรศัพท์ลงก่อนจะก้าวมาหาภัทรช้าๆ

 

          “ฉันถามอีกครั้งว่าเด็กนี่ลูกใคร?”

 

            “ลูกของผม ของผมคนเดียว!!”ณภัทรสุดที่จะทนกับกว้านหลินร่างบางตะโกนใส่หน้าอัลฟ่าหนุ่มก่อนจะโอ๋ลูกน้อยในอ้อมอกที่แผดเสียงร้องอย่างตกใจ

 

            “เสียงดังทำไมลูกตกใจแล้วเนี่ย”กว้านหลินทำเสียงดุใส่ก่อนจะลูบลงบนศีรษะเล็กของทารกน้อย

 

            “อย่ามาจับ ไม่เห็นเป็นลูกก็อย่ามาจับ”ภัทรปัดมือของกว้านหลินออกอย่างโมโหหากแต่กว้านหลินทำเป็นไม่สนใจ

 

            “ตั้งชื่อแล้วหรือยัง?”เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ภัทรเมินหน้าไปอีกทางด้วยความน้อยใจ

 

            “ยัง รอพ่อเค้ามาตั้งแต่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นลูกก็จะตั้งเอง”

 

            “ซวี่ซี”ณภัทรหันมามองกว้านหลินอย่างไม่เชื่อหู

 

            “อะไรนะครับ?”

 

 

            “ลูกของฉันต้องมีชื่อจีน ให้ชื่อว่าซวี่ซี ชื่อกลาง ลูคัส”

 

           

 

 

 
#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

 

..............................................

 

เออ ไม่ใช่ลูกแกแล้วไอ้สาม กินฟางมากขาดโปรตีนไปเลี้ยงสมองเรอะถึงได้โง่ถึงเพียงนี้!!

 
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 18 "ลูกของผมคนเดียว"
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 15-06-2019 21:36:31
เป็นไบโพล่าร์รึเปล่าวะเนี่ยยยยยยยยยยยยย :ling1:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 18 "ลูกของผมคนเดียว"
เริ่มหัวข้อโดย: nikpook ที่ 15-06-2019 22:28:44
เหนื่อยใจกับพระเอก :katai1: :m31:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 18 "ลูกของผมคนเดียว"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-06-2019 10:53:58
พระเอกเรื่องนี้ผีเข้าผีออกจริงๆ ควรไปให้หมอรักษานะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 18 "ลูกของผมคนเดียว"
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-06-2019 11:39:44
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: เฮ้ออออออ เมื่อไหร่จะโตซะทีพระเอกของเราเนี่ย
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 18 "ลูกของผมคนเดียว"
เริ่มหัวข้อโดย: fahdekkom ที่ 16-06-2019 16:42:07
หมั่นไส้พระเอกเหลือเกิน อยากตบปากวันละสิบรอบ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 19 "ลูกของเรา"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 16-06-2019 17:51:51
 

Hydrangea 19

 

 

     

 

            ภัทรพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลอีกไม่กี่วันเรียนรู้การอุ้มลูกการอาบน้ำให้ลูกและร่างกายฟื้นตัวดีก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ กว้านหลินเป็นคนขับรถมารับด้วยตัวเองในตอนบ่ายแก่ๆ ชายหนุ่มถอดเสื้อสูทโยนไว้ที่เบาะหลังถกแขนเสื้อเชิ้ตเพื่อความทะมัดทะแมงโดยมีภัทรอุ้มลูกนั่งเคียงข้างอยู่ ส่วนศลัยขอกลับพร้อมรถของเสี่ยวป๋ายและพยาบาลพิเศษที่กว้านหลินจ้างมาช่วยดูแลลูคัส ทารกน้อยในอ้อมแขนของผู้เป็นแม่หลับสนิทราวกับตุ๊กตาตัวเล็กๆมือเล็กที่ภัทรถอดถุงมือให้กำนิ้วคนเป็นแม่แน่น ภัทรไม่ได้ให้ความสนใจกว้านหลินหากแต่เอาแต่จ้องหน้าลูกน้อยด้วยความรักที่ล้นอก เลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อยช่างน่ารักน่าชังนัก ลูคัสเป็นเด็กเลี้ยงง่ายเสียเหลือเกิน ยามหิวก็จะร้องให้รู้ว่าหิวแล้วนะ เมื่ออิ่มก็เพียงแค่ตบหลังให้เรอแล้วเจ้าตัวน้อยก็จะใช้เวลาส่วนมากในการหลับ หากอึดอัดยามขับถ่ายก็จะร้องงอแงบ้าง บางครั้งหลับๆอยู่ก็ส่งยิ้มเอาดื้อๆก็มี

 

            “กลัวจำหน้ามันไม่ได้หรือไงมองอยู่นั่นแหละ”ทันทีที่ได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อลูคัสน้อยที่หลับอยู่ดีๆก็สะดุ้งก่อนจะบิดตัวแล้วส่งเสียงร้องจ้าขึ้นมาทันที ภัทรหันมามองผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกด้วยดวงตาเขียวปั้ด

 

            “ถ้าพูดแล้วไม่มีประโยชน์ไม่ต้องพูดก็ได้นะครับ ดูสิลูกตกใจเสียงคุณร้องไห้แล้วเห็นมั้ยครับ”กว้านหลินถึงกับสตั๊นท์ไปชั่วขณะด้วยไม่คิดว่าโอเมก้าที่เคยยอมลงให้กับเขาทุกเรื่องจะกล้าว่าเขาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดขนาดนั้น อัลฟ่าหนุ่มพรูลมหายใจออกจากปากอย่างระงับสติอารมณ์ เสียงทารกน้อยร้องลั่นรถจนปวดหูไปหมด

 

            “เอานมยัดปากมันไปสิจะได้หยุดร้อง”

 

            “คุณเงียบๆไปเถอะครับลูกร้องก็เพราะได้ยินเสียงคุณนั่นแหละ”ภัทรหันไปเถียงแบบลืมไปเลยว่าเคยกลัวคนข้างๆมากแค่ไหน กว้านหลินจับพวงมาลัยแน่น นี่ถ้าไม่ติดว่าอุ้มลูกอยู่เขาจะทำโทษเสียให้เข็ดที่กล้ามาปากดีใส่เขา

 

            “แล้วก็ขับให้มันช้าลงกว่านี้ด้วยครับกระแทกมากเดี๋ยวลูกไม่นอน” ถึงแม้จะไม่พอใจแต่กว้านหลินก็ลดความเร็วของรถลงอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มขับรถเงียบๆจนกระทั่งถึงบ้านเมื่อจอดรถเสร็จก็เดินอ้อมมาเปิดประตูรถฝั่งที่ภัทรนั่งให้ด้วยสีหน้านิ่งๆ แม่ลูกอ่อนค่อยๆก้าวลงรถทารกน้อยหลับไปแล้วหลังจากได้ดื่มนมจนเต็มอิ่ม กว้านหลินมองภาพของภัทรที่อุ้มลูกเดินขึ้นไปด้านบนแล้วจึงเปิดท้ายรถหยิบตะกร้าของใช้หิ้วตามขึ้นไป ภัทรพาลูกเข้ามาในห้องนอนเล็กของตัวเองวางทารกน้อยในอ้อมอกลงในเปลที่ตกแต่งอย่างน่ารัก ลูคัสบิดตัวเล็กน้อยส่งเสียงร้องชั่วอึดใจยามที่ห่างจากอกแม่ภัทรรีบตบเบาๆที่หน้าอกลูกไม่นานเด็กน้อยก็สงบตามเดิม กว้านหลินเดินเข้ามาในห้องก่อนจะวางตะกร้าของลูกลงบนเตียงนอนหลังเล็กแล้วก็ถือวิสาสะนั่งปักหลักอยู่อย่างนั้น

 

            “ชื่นชมอะไรนักหนาตัวเหี่ยวยังกับหนอน”อดไม่ได้ที่จะแขวะภัทรที่มีรอยยิ้มประดับมุมปากอยู่เสมอยามมองลูกน้อยของตัวเอง อารมณ์ที่ยังไม่คงที่ดีของภัทรเริ่มประทุราวกับกระแสไฟฟ้าที่มีประกายจากประจุไฟฟ้า โอเมก้าแม่ลูกอ่อนหันมามองกว้านหลินด้วยดวงตาแข็งกร้าวต่างจากภัทรคนก่อนอย่างเห็นได้ชัด

 

            “ลูกเพิ่งจะคลอดไม่กี่วันคุณจะให้แกอ้วนจ้ำม่ำอะไรขนาดไหนครับ แล้วมาว่าลูกเป็นหนอน คุณนี่มันจริงๆเลย”ภัทรอยากจะคว้าขวดนมของลูกเขวี้ยงกว้านหลินนัก

 

ลูกออกจะน่ารักน่าชังดันมาว่าลูกเหี่ยวเหมือนหนอน คนอะไรปากเปราะยิ่งกว่าหมาที่เห่าพร่ำเพรื่อ

 

            “ก็มันน่าเกลียดจริงๆนี่”ยังไม่วายจะเถียงกลับอย่างเอาชนะ กว้านหลินไม่รู้ว่าตัวเองนึกสนุกอะไรถึงได้มานั่งต่อล้อต่อเถียงภัทรแบบนี้ บรรยากาศระหว่างเขากับภัทรไม่ได้อึมครึมแบบหลายเดือนที่ผ่านมา เขารู้สึกผ่อนคลายจนกระทั่งล้มตัวลงนอนเอกเขนกบนเตียงของภัทรอย่างถือวิสาสะ หยิบของเล่นชิ้นเล็กที่ภัทรซื้อมาไว้ให้ลูกขึ้นมาบีบเล่นจนเกิดเสียงดัง

 

อัลฟ่าหนุ่มใจหายวูบยามที่ลูคัสเริ่มส่งเสียงอี๊ดอ๊าดในลำคอจนภัทรต้องตบลงบนหน้าอกลูกอีกรอบ

 

            “ถ้าพูดแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็เงียบๆครับ กลับห้องคุณไปเลยก็ได้ลูกจะนอน”โอเมก้าที่เคยหงอให้มาตลอดหันไปพูดเสียงเขียวใส่

 

            “ไม่ไป จะนอนที่นี่ ขี้เกียจเดิน”

 

            “ถ้างั้นก็เงียบๆครับ”ภัทรไม่ได้สนใจกว้านหลินอีก ความสนใจทั้งหมดเพ่งไปที่ลูกชายตัวน้อยเพียงคนเดียว กว้านหลินนอนดูภัทรร้องเพลงกล่อมลูกเบาๆจนในที่สุดตัวเองก็เผลอหลับไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

 

ไล่กว้านหลินสะดุ้งตื่นตอนที่ได้ยินเสียงเด็กร้อง หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากันในขณะที่ตายังไม่ลืมขึ้นเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งเสียงร้องชัดเจนขึ้นอัลฟ่าหนุ่มถึงได้เด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างมึนงง

 

            “แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”เจ้าหนอนน้อยลูคัสดิ้นกระแด่วอยู่ในเปลไร้เงาของภัทรและพี่เลี้ยง กว้านหลินเลิกลั่กทำตัวไม่ถูก ชายหนุ่มเดินไปยืนหันรีหันขวางที่หน้าเปลลูก เจ้าตัวน้อยเริ่มส่งเสียงร้องพลางดีดขาไปมาอย่างเอาแต่ใจจนผ้าอ้อมที่พันท่อนล่างไว้หลุดลุ่ยเห็นพวงจำปีดอกน้อยและสายสะดือที่ยังไม่แห้งดี ลิ้นเล็กแดงก่ำ แดงไปทั้งตัว  เสียงอุแว้ถี่ขึ้นราวกับว่ากำลังโกรธกับอะไรเสียเต็มประดา

 

 

            “เฮ้ย...ร้องทำไมอ่ะ?”ทำใจดีสู้เสือตบลงบนอกลูกเบาๆเลียนแบบภัทรหากแต่กลับไม่ได้ผล

 

            “หิวหรือไง นี่ลูกคนหรือลูกปอบก่อนแกหลับฉันเห็นแกกินนมแม่แกจนแห้งแล้วนี่”กว้านหลินมองหาขวดนมก็ไม่มีลูคัสร้องหนักขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดกว้านหลินก็ตัดสินใจช้อนร่างจ้อยร่อยของลูกชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ

 

ตัวเบาจัง...สิ่งแรกที่รับรู้หลังจากได้อุ้มลูกเป็นครั้งแรกคือลูคัสตัวเบากว่าที่คิดไว้

 

ไหนหมอนนท์บอกว่าเด็กหนักตั้งสามโลแปดไงวะ

 

นี่เบายังกับนุ่น แต่เสียงร้องไม่เบาแบบตัวเลย กว้านหลินเริ่มเหวี่ยงลูกไปมาเบาๆก่อนจะนึกเพลงที่ภัทรชอบร้อง

 

            “เดี๋ยวก่อนสิ เงียบก่อน นึกอยู่ว่าร้องยังไง”กว้านหลินดุลูกเมื่อเจ้าเด็กน้อยดิ้นขลุกขลักยามเขาหยุดร้อง เด็กน้อยดูดหมัดตัวเองดังจ๊วบๆตาก็มองพ่อไปด้วยพอเพลงหยุดก็เบะปากทำท่าจะร้องขึ้นมาอีก กว้านหลินเลยดำน้ำมั่งร้องมั่งจนลูคัสเงียบเสียงลง

 

            “ไม่มีอะไรที่คนอย่างฉันทำไม่ได้”ออกจะภูมิใจตัวเองนิดหน่อยที่ปลอบเจ้าเด็กย่นนี่ให้หยุดร้องได้ ไล่กว้านหลินยิ้มให้กับความเก่งกาจของตัวเองพลันใบหน้าหล่อก็หุบลงราวต้นไมยราพที่ถูกเขี่ย

 

ความอุ่นวาบพุ่งใส่ใบหน้าบริเวณคางของเขาพร้อมเจ้าลูคัสน้อยในอ้อมกอดขยับตัวดุ๊กดิ๊กอีกครั้ง น้ำใสอุ่นเปียกแฉะไหลหยดลงบนอกเสื้อรวมทั้งกระเด็นใส่หน้าเจ้าตัวที่หัวสั่นหัวคลอนยามฉี่เสร็จ

 

ไล่กว้านหลินกลั้นใจอย่างสะกดกลั้นตัวเอง มองหน้าเด็กน้อยที่จ้องหน้าเขาตาแป๋วแถมแลบลิ้นออกมาราวกับกำลังเยาะเย้ยคนเป็นพ่อ ศลัยที่ลงไปล้างขวดนมหิ้วตะกร้าใส่ขวดพร้อมเครื่องนึ่งขึ้นมาชะงักค้างกับภาพที่เห็นทันที หญิงสาวหันไปหาภัทรที่เดินตามมารายงานด้วยน้ำเสียงตื่นๆ

 

            “ตายแล้ว คุณหนูลูคัสฉี่ใส่หน้าคุณพ่อค่ะคุณภัทร”

 

            ไล่กว้านหลินรู้สึกว่าชีวิตหลังจากภัทรคลอดลูกของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทุกวันพอใกล้เวลาเลิกงานเขาจะเอาแต่จดจ้องนาฬิกา พอถึงเวลาเลิกงานก็แทบจะถลากลับบ้าน แม้ว่าไม่รู้จะรีบกลับไปทำไมแต่พอเห็นภัทรเอาลูกลงมานั่งเลี้ยงข้างล่างก็พาลให้เขาอยากดูทีวีในห้องรับแขกตรงจุดที่ภัทรเล่นกับลูกเสียอย่างนั้น ทารกน้อยลูคัสค่อยๆเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งผิวหนังที่เหี่ยวย่นราวคนแก่อวบตึงขึ้นด้วยเจ้าตัวกินเก่ง ภัทรเลี้ยงด้วยนมแม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ยามลูกหลับกว้านหลินมักจะเห็นโอเมก้าแม่ลูกอ่อนนั่งปั๊มนมใส่ถุงแล้วจดรายละเอียดของแต่ละถุงแช่ช่องฟรีซไว้ คุณแม่ลูกอ่อนในตอนนี้ตัวอวบขึ้นเพราะเจ้าตัวกินทุกอย่างที่คิดว่ามีประโยชน์กับลูก งานที่ต้องคอยดูแลเขานั้นภัทรแทบจะไม่มีเวลามาทำให้ เขาได้ยินลูคัสร้องกลางดึกอยู่บ่อยๆนั่นแปลว่าคนเป็นแม่ต้องตื่นมาให้นมลูก ภัทรเลี้ยงลูกเองตลอด 24 ชั่วโมงในเดือนที่ 2 หลังจากเริ่มเลี้ยงลูกได้คล่องขึ้นทำให้ไม่จำเป็นต้องจ้างพยาบาลมาช่วยดูแล

 

อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่ายามที่ภัทรนั่งชันเข่าแล้วเอาลูกวางไว้ส่งเสียงพูดคุยกับลูกที่เอาแต่บิดไปมาทำเสียงเอ๊าะแอ๊ะราวกับคุยกันรู้เรื่องนั้นก็น่าบันเทิงดี หากแต่ลูคัสยังคงมักจะแผดเสียงร้องยามเขาเข้ามาใกล้ภัทรและเจ้าตัวเสมอ คนเป็นแม่ต้องปลอบกันพักใหญ่เด็กน้อยถึงจะหยุด

 

            “คุณกว้านหลินครับ ผมฝากคุณดูลูกแป๊บหนึ่งได้มั้ยครับผมอยากอาบน้ำ”ภัทรหันไปถามคนที่นั่งดูข่าวด้วยท่าทางเรียบขรึมเบาๆ กว้านหลินปรายตามองแม่กับลูกก่อนจะเบือนหน้ากลับไปจ้องทีวีอีกครั้งราวกับสนใจภาพในจอเสียเต็มประดาทั้งๆที่มันก็เป็นเพียงโฆษณาร้านขายไก่ทอดชื่อดัง

 

            “จะไปก็ไปสิ มันคงไม่แหกปากร้องหรอกมั้ง”ภัทรถอนหายใจเบาๆกับสรรพนามที่กว้านหลินใช้เรียกลูก หากแต่ในยามที่ลูคัสนอนเล่นโมบายเล็กๆแบบนี้แหละเป็นโอกาสอันดีที่คนเป็นแม่จะได้ปลีกตัวไปอาบน้ำกินข้าวเติมพลังเพื่อรับมือกับลูกในยามค่ำคืน ภัทรบอกกับลูกว่าตนจะไปอาบน้ำทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าลูกจะฟังรู้เรื่องมั้ย เด็กน้อยส่งเสียงอื้ออึงในลำคอบ้างก็มีเสียงกลั้วน้ำลายเอิ๊กอ๊ากคุยกับโมบายจนกระทั่งเริ่มเบื่อและไม่มีคนสนใจก็เริ่มส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง กว้านหลินถอนหายใจพรืดก่อนจะจำต้องย้ายสารร่างตัวเองมาหยุดตรงเบาะนอนลูก

 

            “อะไรอีกล่ะ เอะอะร้องเดี๋ยวก็ทุบเข้าให้”ปากข่มขู่ลูกวัยสามเดือนแต่มือทั้งสองข้างก็อุ้มลูกเข้ามาไว้ในแขนก่อนจะหยิบขวดนมในตะกร้าเปิดฝาจุกยัดใส่ปากแล้วเดินไปเอนตัวนั่งบนเก้าอี้โยกที่ภัทรมักจะใช้นั่งให้นมลูกอย่างเคยชิน

 

จะไม่ชินได้อย่างไรก็ในเมื่อทุกครั้งที่ภัทรขึ้นมาดูลูกไม่ทันน่ะ เขาก็เป็นคนป้อนนมลูคัสเองจนชำนาญ

 

ไม่ได้รักได้ใคร่อะไรเด็กคนนี้หรอก แค่รำคาญเสียงร้อง หนวกหู เลยช่วยป้อนนมให้เด็กเวรนี่จะได้เลิกร้องซักที

 

 

 

            กว้านหลินกลับมาถึงบ้านในตอนเย็น เสียงหัวเราะดังออกมาจากตัวบ้านมีทั้งเสียงของภัทรและเจ้าลูคัสน้อยรวมทั้งเสียงศลัยที่กำลังส่งเสียงดังราวกับเชียร์กีฬาระดับโลก ขาเรียวยาวก้าวเข้าไปในตัวบ้านก็พบว่าคุณแม่กับลูกชายวัยห้าเดือนกำลังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากโดยที่เจ้าลูคัสเด็กยักษ์ขาล่ำเป็นปล้องๆกำลังพยายามสุดแรงที่จะคืบมาหาคนเป็นแม่โดยมีกองเชียร์คือบรรดาสาวใช้ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ลูคัสที่ดูตัวใหญ่กว่าเด็กทั่วไปในยามนี้เหมือนกำลังเลียนแบบพวกฮีโร่ที่บินได้ แขนปล้องเหยียดตรงไปด้านหลังในขณะที่ขาก็ออกแรงถีบเบาะด้วยพลังที่มีจนสุดแรงทำให้ร่างกลมๆนั้นเคลื่อนไปไปข้างหน้าระยะประมาณ...ครึ่งคืบ...

 

            “อุ้ย คุณผู้ชายมาแล้ว”แม่บ้านคนที่อยู่ด้านหน้าภัทรสังเกตเห็นถึงการมาของเจ้าของบ้าน  บรรดาสาวใช้เห็นดังนั้นก็สลายร่างเข้าไปจัดเตรียมอาหารในครัวรวมทั้งศลัย ภัทรเหลือบตามองกว้านหลินเพียงเล็กน้อยก่อนจะหันไปตบมือเรียกชื่อลูกชายให้ลูกคืบมาหาตนอีกครั้ง

 

            “ไงไอ้หนอนอ้วน”กว้านหลินเดินไปหยุดอยู่ข้างๆภัทรแล้วเอ่ยทักเด็กที่กำลังพยายามคืบเข้าหาแม่ ลูคัสเมื่อได้ยินเสียงพ่อก็หยุดการดีดขาของตัวเองก่อนจะค่อยๆกระเสือกกระสนดุ๊กดิ๊กและหันหนีไปอีกทางได้สำเร็จ

 

            “ขึ้นไปอาบน้ำเถอะครับ ลูกคงไม่อยากเล่นกับคุณ”

 

            “จองหองจริงๆนะ เวลาหิวแล้วไม่มีคนอยู่ยัดนมให้ก็อย่ามาร้องให้ฉันป้อนให้ก็แล้วกัน น่ารำคาญทั้งแม่ทั้งลูกเลย”

 

            “ถ้ามันลำบากนักคุณก็บอกผมดีๆก็ได้ครับไม่เห็นต้องว่าลูกเลย แกยังเด็กจะไปรู้ประสาอะไรคุณไม่ได้เล่นกับแกคุยกับแกดีๆแกอาจจะกลัวคุณมันก็เรื่องธรรมดามั้ยล่ะครับ”ภัทรในยามนี้เหมือนแม่ไก่ที่กางปีกปกป้องลูกอย่างเต็มที่ โอเมก้าแม่ลูกหนึ่งไม่ชอบใจเลยซักนิดที่กว้านหลินชอบพูดจาไม่ค่อยดีใส่ลูก

 

ลูคัสยังเด็กและบริสุทธิ์นัก เขาไม่รู้หรอกว่าลูกจะรู้ถึงสิ่งที่พ่อพูดมั้ยแต่ภัทรก็อยากให้ลูกได้ฟังแต่เรื่องดีๆ

 

            “แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยเหรอ ตกลงแกหรือฉันกันแน่ที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้”เมื่อโดนคนเด็กกว่าด่าก็ทำให้คนที่ทิฐิเยอะเริ่มพาล โดยสนามอารมณ์ของเขาก็คือเจ้าเด็กที่กำลังกัดของเล่นยางจนหัวสั่นหัวคลอนอดจะหมั่นไส้ไม่ได้จึงนั่งลงแล้วใช้ปลายนิ้วดันศีรษะลูกจนลูคัสกลิ้งหงายหลัง เด็กน้อยที่กำลังเล่นเพลินถึงกับตกใจส่งเสียงร้องไห้จ้าทันที ภัทรรีบเข้าไปคว้าลูกมากอดแนบอกพร้อมๆกับลูบหลังลูกเบาๆ ดวงตากลมโตวาวโรจน์ราวนางเสือในขณะที่กว้านหลินเองก็ตกใจไม่แพ้กันที่ตัวเองทำกับลูกแรงไปชายหนุ่มรีบเข้ามาดูลูกมือหนาลูบหัวลูกเบาๆอย่างรู้สึกผิด

 

            “มีซักครั้งมั้ยครับที่คุณจะแทนตัวเองกับลูกว่าพ่อ”ภัทรเบี่ยงตัวพาลูกหลบจากสัมผัสของกว้านหลิน น้ำเสียงของความน้อยใจล้นปริ่มอยู่เต็มอก

 

                         “ถ้ามันฝืนใจก็ไม่ต้องทำก็ได้ครับ ลูกมีผมคนเดียวก็พอ”ชายหนุ่มชะงักกับคำพูดนั้นก่อนจะสะบัดมือออกมาอย่างโมโห น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยประโยคที่ทำให้หัวใจของภัทรเจ็บเหมือนถูกบีบ

 

            “อย่าติดกันให้มากนักเลย วันหนึ่งหมดหนี้เธอก็ต้องไปอยู่ดี ยังไงเธอก็ต้องทิ้งลูกไว้ให้ฉันลืมแล้วหรือไง?”ภัทรสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้วยรู้สึกถึงความโหวงๆในช่องอก

 

จำได้สิ

 

เขาจำได้ตลอดเวลานั่นแหละ ย้ำกับตัวองทุกวันว่าจะสามารถเลี้ยงดูอุ้มชูลูกได้ก็เฉพาะตอนนี้ ตอนที่ยังชำระหนี้ให้กว้านหลินไม่หมด

 

            “ผมจำได้ จำได้ทุกขณะจิตเลยไม่ต้องมาย้ำ”

 

            “ก็ดี จำได้ก็ดี เพราะฉะนั้นอย่าเป่าหูลูกให้เกลียดพ่อ บอกกับมันบ้างว่าใครเป็นพ่อมัน ไม่ใช่เจอหน้าก็เอาแต่กลิ้งหนี ฉันไม่ชอบ”

 

            “แน่ใจแล้วเหรอครับว่าเป็นพ่อ? ไม่คิดว่าเป็นลูกชู้แล้วเหรอครับ?”ภัทรเลิกคิ้วสูงอย่างเยาะเย้ยจนกว้านหลินได้แต่ยืนอึ้ง

 

            “ยัดเยียดตำแหน่งลูกชู้ให้แกมาตลอดตั้งแต่อยู่ในท้อง ด่ากรอกหูอยู่ทุกวันลูกถึงได้กลัวคุณแล้วทีนี้จะมาบ่นว่าลูกไม่รัก คุณก็คิดดูเอาแล้วกันว่าผมเป่าหูลูกหรือคุณแสดงออกให้แกเห็นเองว่าคุณไม่รักลูกกันแน่”

 

            “ฉันก็มีวิธีแสดงออกของฉัน นี่มันลูกชายจะให้เอาอกเอาใจแบบเด็กผู้หญิงได้ยังไง”

 

            “แต่ตอนนี้แกยังเด็กแกต้องการความรักการดูแลการเอาใจใส่ไม่ใช่คำพูดแย่ๆหรือการกระทำที่ทำให้แกรู้สึกไม่ปลอดภัยแบบที่คุณทำนะครับ”ภัทรไม่ลดละที่จะปกป้องลูก อัลฟ่าหนุ่มสูดหายในแรงๆอีกครั้งมองภัทรที่พาลูกหนีขึ้นห้องไปด้วยดวงตาร้าวราน

 

ทุกคำพูดของเขาภัทรที่ทำท่าทางนิ่งเฉยตลอดจดจำไว้ในใจตลอดมา แม้จะไม่แสดงออกหากแต่ความโกรธความเสียใจคงค้างคามาตลอดสินะ อัลฟ่าหนุ่มไม่มีอารมณ์แม้แต่จะกินข้าวซักคำชายหนุ่มกลับขึ้นห้องปิดประตูเงียบก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายถึงพี่ชายคนรอง

 

            “พี่รอง ผมจะทำยังไงดีวะ”

 

            “เรื่อง?”

 

            “เดิมๆ”

 

            “พวกฉันเคยเตือนแกแล้วมั้ยล่ะไอ้สามว่าอย่าร้ายใส่เค้าให้มากนัก แล้วเป็นไงมาบ่นอยู่ได้ทุกวันว่าลูกไม่รัก”

 
((ต่อด้านล่าง))
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 19 "ลูกของเรา"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 16-06-2019 17:52:27



            “โธ่ เฮีย แล้วจะให้ผมทำยังไง ถ้าไม่ร้ายใส่เค้าแม่ใหญ่ก็เพ่งเล็งผมอีกว่าจัดการเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้”

 

            “ฉันก็บอกแกแล้วว่าเรื่องที่แม่ใหญ่กดดันแกให้แกจัดการกับบ้านของณภัทรน่ะพี่ใหญ่จะช่วยพูดให้ แกก็ไม่ฟังแล้วยังไงพอทุกอย่างพังก็มาขอคำปรึกษา ตอนนี้แม่ใหญ่ก็ไม่ได้อะไรด้วยแล้วพอเถอะ รีบทำดีกับเขาก่อนที่เขาจะหมดใจให้แก”

 

            “แต่พี่รอง ตอนนี้เขาคงจะเกลียดผมแล้วแหละ ตั้งแต่คลอดลูกมาภัทรกล้าด่าผมกล้าสู้ผมมากขึ้นจนเห็นได้ชัดเลย”

 

            “ก็เพราะเขาเป็นแม่คนแล้วไง คนเป็นแม่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือลูก แกชอบพูดจาไม่ดีใส่ลูกเขาก็ต้องไม่พอใจเป็นธรรมดา คำก็ลูกชู้สองคำก็ลูกชู้ถ้าฉันเป็นซวี่ซีฉันก็เกลียดอกเหมือนกัน เรื่องอื่นแกทำได้ดีมากเลยนะกว้านหลิน เรื่องงานแกทำได้ละเอียดรอบคอบแต่ดันมาสอบตกเรื่องครอบครัวซะอย่างงั้น”จอห์นนี่บ่นน้องชายที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของเขากับคริสตั้งแต่แรกเรื่องที่ให้ทำตัวดีๆกับภัทร น้องคนเล็กของเขาอยากได้รับความไว้วางใจจากแม่ใหญ่จนลืมคิดถึงผลที่จะตามมา จริงอยู่ว่าตอนเกิดเรื่องใหม่ๆทุกคนต่างช็อกและเสียใจ รวมทั้งโยนความโกรธแค้นทั้งหมดไปให้คนบ้านณภัทร แม่ใหญ่ลั่นวาจาให้กว้านหลินจัดการเรื่องนี้ให้ได้ซึ่งตอนนั้นคริสและเขาเองก็ไม่ได้เอ่ยทักท้วงกว้านหลินเองก็ทะเยอทะยานอยากได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบข้างจนลืมไปว่าณภัทรก็มีหัวใจ ลืมไปว่าตัวเองก็มีความรู้สึกเช่นกัน

 

เมื่อวันเวลาผ่านไปความแค้นเคืองเริ่มจางหายความรู้สึกรักเข้ามาแทนที่กว้านหลินจึงตกอยู่ในอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกราวกับอมของร้อนไว้ในปาก ถ้าคายก็กลัวแม่ใหญ่จะโกรธ ถ้ากลืนก็กลัวว่าสิ่งที่กลืนจะเข้าไปทำลายหัวใจ

 

พอถึงวันนี้วันที่อยากได้รับความรักจากลูกเมียบ้างเมียก็หน่ายลูกก็หนีต้องโทรมาปรับทุกข์กับเขาด้วยน้ำเสียงเหมือนหมาหงอยแบบนี้

 

            “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องระหว่างแกกับภัทรมันถึงทางตันแล้วหรือยัง”

 

            “ผมก็ไม่ได้อยากให้มันเลวร้ายไปกว่านี้แล้วเหมือนกันนะพี่ ผมก็อยากกลับบ้านมาเจอลูกเมียรออยู่ แต่ทุกวันนี้ผมกลับบ้านมาลูกเมียพากันหนีหน้าหมดเลยแล้วจะให้ผมทำยังไง”

 

            “เรื่องนี้มันอยู่ที่ใจของแกแล้วว่ะไอ้สาม เรื่องพ่อน่าจะเป็นประเด็นใหญ่ ปล่อยวางได้มั้ยล่ะ ปล่อยวางเรื่องของพ่อเราไป”

 

            “..............”

 

 

            ประตูของห้องนอนเล็กถูกเปิดออกอย่างแผ่วเบา ก่อนที่นอนข้างตัวของภัทรที่นอนให้นมลูกอยู่จะยุบฮวบลงไปเบาๆโอเมก้าแม่ลูกอ่อนหันไปมองคนที่มานั่งด้านหลังก่อนจะละความสนใจหันกลับมามองลูกอีกครั้ง

 

ความกรุ่นโกรธยังคงอยู่ในใจไม่จางหายแต่กลับถูกความรู้สึกแปลกใจเข้ามาแทนที่เมื่ออัลฟ่าหนุ่มกดจูบลงบนต้นแขนก่อนจะไล่ขึ้นไปตามแนวไหล่ช้าๆ

 

            “อย่ากวนครับลูกกินนมอยู่”ภัทรส่งน้ำเสียงหมางเมินให้กับคนที่ฝังปลายจมูกลงบนซอกคอของตน ขยับคอหนีเล็กน้อยจนกว้านหลินต้องตามมากดจูบที่ต้นคอเบาๆ

 

            “ยังโกรธอยู่เหรอ?”น้ำเสียงที่ถามออกมาไม่มีความกระโชกโฮกฮากหากแต่กลับแผ่วเบาราวกับลอยมากจากที่ไกลแสนไกล พวงแก้มถูกกดจูบลงไปก่อนที่ปลายจมูกโด่งจะคลอเคลียที่ข้างหู

 

            “ขอโทษนะ...”ภัทรชะงักกับคำขอโทษนั้น ใจดวงน้อยเต้นรัวหากแต่คำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว

 

ไล่กว้านหลินจะมาไม้ไหน?

 

เพราะความผีเข้าผีออกหลายครั้งที่ผ่านมาทำให้ภัทรไม่กล้าที่จะเชื่อใจอะไรอีก เด็กน้อยสงบจิตสงบใจของตัวเองไม่ได้เอ่ยคำพูดอะไรออกไป

 

เขาไม่มีความมั่นใจในอารมณ์และคำพูดของกว้านหลินเลย

 

หลายครั้งที่อัลฟ่าหนุ่มทำดีด้วยแต่สุดท้ายไม่เคยข้ามวันเลยซักครั้งเขาสองคนกกลับมาทะเลาะกันเหมือนเดิมด้วยเรื่องเดิมๆ

 

            “มะรืนหมอนัดฉีดวัคซีนให้ลูก ผมอยากให้คุณไปด้วยจะได้ตรวจดีเอ็นเอให้รู้กันไป ถึงวันที่ผลออกถ้าเป็นลูกคุณก็ขอร้องให้ช่วยทำดีกับแกหน่อย”

 

            “ได้..ฉันจะไปด้วย แต่ไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ”

 

            “ทำไมล่ะครับ? ในเมื่อคุณกลัวว่าลูคัสจะไม่ใช่ลูกคุณก็มาตรวจให้มันจบๆไปคุณจะได้เลิกแคลงใจซักที”

 

            “เธอมั่นใจมั้ยล่ะว่าเขาเป็นลูกฉัน?”

 

            “เขาเป็นลูกของคุณ...ผมกับพี่อี้เฉินเราไม่เคยเกินเลยต่อกัน วันนั้นคุณเข้าใจเราผิด”

 

            “ฉันรู้...รู้มาตลอดว่าเธอซื่อสัตย์ แต่ตอนนั้นฉันโกรธ จะให้กลับคำมันก็เสียหน้า เลยปล่อยเลยตามเลยมาเรื่อยๆ คิดแค่ว่าพูดยังไงก็ได้ให้เธอเสียใจ แต่พอมาถึงวันนี้ฉันไม่มีความสุขเลย ยิ่งลูกหนีฉันไม่เล่นไม่หัวเราะให้ฉันทั้งๆที่ฉันเป็นพ่อฉันก็เจ็บ ยกโทษให้ฉันนะภัทร ต่อไปจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว”กว้านหลินล้มตัวลงนอนซ้อนกอดภัทรจากด้านหลัง

 

            “ผมจะเชื่อคุณได้ยังไง ผมไม่อยากเสียใจซ้ำๆอีกแล้วนะครับ”

 

            “เชื่อได้สิ ฉันสามารถกลับไปเป็นพี่กว้านหลินเมื่อสิบปีก่อนให้เธอได้นะภัทร ขอแค่เธอให้โอกาสฉันอีกครั้ง”

 

            “มันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ ในเมื่อเดี๋ยวพอเราหมดหนี้หมดสินกันผมก็ต้องไปอยู่ดี”ภัทรกลั้นก้อนสะอื้นที่เริ่มตีรื้นขึ้นมาจุกอยู่ในลำคอ ขอบตาร้อนผ่าวมองลูกน้อยที่หลับสนิทอยู่ในอ้อมอก

 

ความจริงอันร้าวรันทดบั่นทอนจิตใจของเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

 

            “ไม่ไปได้มั้ย?...ไม่เก็บหนี้แล้ว แต่อย่าไปได้มั้ย? อยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวกันพ่อแม่ลูกจะได้มั้ย?”น้ำเสียงเว้าวอนร้องขอทำให้ภัทรปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ กว้านหลินซุกปลายจมูกกับต้นคอหอมพลางกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

 

            “สัญญา ต่อไป ถ้าเธอจะร้องไห้ เธอต้องร้องไห้เพราะมีความสุขเท่านั้น ต่อไปฉันจะเป็นพ่อที่ดีของลูก เป็นสามีที่ดีของเธอ ดีมั้ย ฉันจะช่วยเธอเลี้ยงลูก จะพูดดีๆกับลูก เธอว่าดีมั้ย?”

 

หมดแล้ว...กำแพงที่สร้างขึ้นมาทีละช้าๆของภัทรพังหมดแล้ว โอเมก้าเด็กพยักหน้าอย่างดีใจ

 

ยอม ยอมทุกอย่างจริงๆ

 

เหมือนเขาวิ่งตามหาตุ๊กตาตัวโปรดที่หายไปมาเนิ่นนาน

 

สุดท้ายเขาพบแล้ว

 

เป็นคืนแรกที่ภัทร กว้านหลินและลูคัสได้นอนหลับไปด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก

 

ความสัมพันธ์ของกว้านหลินและภัทรดีขึ้นหลังจากที่เปิดใจคุยกัน ชายหนุ่มเอาสมุดบัญชีโยนทิ้งถังขยะอย่างไม่ใยดี ประกาศต่อหน้าสาวใช้ว่าภัทรคือนายอีกคนของบ้าน ยามที่ลูกมีนัดไปหาหมอกว้านหลินจะให้เสี่ยวป๋ายจัดตารางงานไม่ให้ชนกันเพื่อที่จะไปกับลูกด้วยชายหนุ่มขอร้องให้ณภัทรกลับมานอนที่ห้องใหญ่กับเขาแต่ภัทรปฏิเสธ

 

            “ห้องของคุณสีมันทึมเกินไปเดี๋ยวลูกไม่สดใส”

 

            “ลูคัสโตพอที่จะหัดนอนคนเดียวได้แล้ว”

 

            “ไม่ได้ ลูกยังเล็กจะทิ้งแกนอนคนเดียวได้ยังไงกันครับ ถ้าแกตื่นกลางดึกแล้วร้องล่ะ?”ภัทรค้านหัวชนฝาทันทียังไงเสียเขาก็ไม่ยอมให้ลูกต้องตื่นมากลางดึกอย่างโดดเดี่ยวหรอก

 

            “เท่าที่สังเกตลูคัสเวลาหลับก็จะหลับยาวนะ อีกอย่างเราก็ตั้งกล้องไว้ในห้องลูกสิ มันมีอุปกรณ์นะเวลาลูกร้องเราก็ได้ยินก็เดินมาหาลูกได้”

 

            “แต่ผมก็ยังห่วงอยู่ดีตั้งแต่แกเกิดมาไม่เคยห่างกันเลย เอาไว้ก่อนแล้วกันนะครับรอแกโตกว่านี้ก่อน”

 

ไล่กว้านหลินรอลูคัสโตกว่านี้ก่อนเดือนแล้วเดือนเล่าผ่านไป จนเข้าเดินที่ 10 ลูคัสเริ่มพูดได้เป็นคำสั้นๆ เช่นเรียกแม่ได้ หม่ำๆได้ยามหิว หรือคำว่าไปเวลาชี้ชวนให้เขาอุ้มออกไปดูปลาหน้าบ้าน

 

            “ไหนเรียกพ่อซิ๊”ชายหนุ่มพยายามสอนให้ลูกเรียกตนเองว่าพ่อตอนที่กำลังป้อนข้าวลูก ลูคัสเบือนหน้าหนีพลางยกมือป้อมๆอุดหูตัวเองจนกว้านหลินต้องจ่อช้อนไปล่อที่ปากลูก เจ้าเด็กล่ำงับอาหารเข้าปากเคี้ยวจนแก้มพอง

 

            “พ่อออออออออ...ไหนเรียกพ่อสิลูก”

 

พรู๊ดดดดดดดดดดด....นอกจากจะไม่ยอมทำตามที่คนเป็นพ่อบอกแล้วเจ้าเด็กอ้วนยังพ่นข้าวใส่หน้ากว้านหลินอีกต่างหาก มือป้อมตบเข้าหากันพลางหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ

 

ลูกเวรลูกกรรมจริงๆ

 

 

 

            “แอ๊ะๆ”ลูคัสวัยขวบครึ่งกำลังออกฤทธิ์ด้วยการโน้มตัวออกจากอ้อมอกของคุณเลขาหนุ่มที่รับอาสาอุ้มเด็กน้อย แผนกของเล่นเด็กช่างน่าตื่นตาตื่นใจเสียเหลือเกินสำหรับเด็กเล็กๆอย่างเขา วันนี้กว้านหลินติดงานต้องพาลูกค้าไปเลี้ยงดังนั้นเจ้านายหนุ่มจึงให้เขามาทำหน้าที่พาลูกเมียมาช็อปปิ้งแทน

 

และแน่นอน ภัทรก็ยังคงเป็นภัทรโอเมก้าผู้แสนจะเจียมตัว เด็กน้อยวัย 19 ปีที่พ่วงตำแหน่งภรรยาของกว้านหลินยังคงไม่อยากได้ใคร่ดีกับของแพงๆ ภัทรให้ความสำคัญกับลูกมากกว่า และตอนนี้เจ้าตัวดีกำลังดีดดิ้นขอลงกับพื้นเมื่อเจอรถคันที่ถูกใจ

 

ลูคัสเดินเตาะแตะไปหามอเตอร์ไซค์ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยแบตเตอรี่คันสีแดงสดรูปทรงเฟี้ยวฟ้าวก่อนจะพยายามใช้ขาสั้นๆป้อมๆยกขึ้นเพื่อนคร่อมตัวรถ เป็นภาพที่น่าขบขันสำหรับคนเป็นแม่และคนเป็นเลขาจนอดจะหัวเราะออกมาไม่ได้

 

            "ไม่เอาลูก เอารถยนต์ดีกว่านะครับ นี่มีแบตมีเพลงมีไฟหนูจะได้นั่งได้สบายๆดีมั้ยลูก”ภัทรเข้าไปดึงลูกออกจากรถมอเตอร์ไซค์หากแต่ลูคัสกลับจับแฮนด์รถไว้แน่นไม่ยอมปล่อยพร้อมทำหน้ามุ่ยร้องอืออาเสียงดังอย่างประท้วงคนแม่จนภัทรเหนื่อยใจ

 

                        "ทำยังไงดีล่ะครับพี่เสี่ยวป๋าย ตาหนูจะเอามอเตอร์ไซค์อย่างเดียวเลย นั่งยังไม่แข็งเลยด้วยซ้ำ”

 

            “ก็คงต้องซื้อให้แกแหละครับ ล็อกเป้าซะขนาดนั้นแล้วนี่”

 

สุดท้ายลูคัสก็ได้มอเตอร์ไซค์ไปเล่นที่บ้านสมใจ เด็กน้อยเมินไม่มองรถยนต์แบตที่แม่พยายามโน้มน้าวเลยด้วยซ้ำ

 

 



#ไฮเดรนเยีย

 

TBC.

 

..................................

 

 

ไม่ได้รักได้ใคร่อะไรลูกชู้หรอกแค่รำคาญเฉยๆ จริงจริ๊งงงงงง

 

 
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 19 "ลูกของเรา"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 16-06-2019 20:12:05
ถ้าจะให้คุณชายสามเป็นแบบนี้นานๆต้องไปบนที่ไหนคะ

โอยย ไม่ไว้ใจพระเอกผีเข้าผีออกเลย

ส่วนลูคัสทำดีมากลูก หนูคือตัวแทนของคนอ่านในการเอาคืนคุณพ่อ
เมินต่อไปนานๆ ฮ่าๆๆ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 19 "ลูกของเรา"
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 16-06-2019 21:43:34
ตาหนูนี่น่าจะเกิดมาเพื่อฆ่าพ่อ :hao7:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 19 "ลูกของเรา"
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-06-2019 23:04:57
จะดีไปได้นานแค่ไหนนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 19 "ลูกของเรา"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 17-06-2019 02:44:27
ลูคัสสู้ๆนะลูก ช่วยแม่ดัดนิสัยพ่อให้เข็ดไปเลย
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 18-06-2019 09:28:16

 
Hydrangea 20

 
                 
 
            ภัทรมองสองพ่อลูกที่หลับสนิทอยู่ในคอกเด็กโดยที่เท้าเล็กๆของลูคัสพาดอยู่บนหน้าผู้เป็นพ่อแล้วส่ายหน้าอย่างขำๆ
 
คงจะเล่นหรือจะเรียกให้ถูกคือทะเลาะกันจนเหนื่อยหลับไปนั่นแหละโอเมก้าแม่ลูกหนึ่งวางช่อดอกไฮเดรนเยียที่ออกไปตัดมาลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปล้างมือแล้วกลับมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆสามีและลูกชาย กลิ่นหอมประจำกายทำให้กว้านหลินสูดหายใจเข้าปอดแล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้นในเวลาต่อมา ชายหนุ่มหยิบเท้าลูกออกจากสันจมูกของตนเองแล้วขยับตัวขึ้นมานอนบนตักภรรยากอดเอวบางแล้วกดจูบลงบนหน้าท้อง
 
          “ไปอาบน้ำสิครับจะได้สบายตัว”ภัทรลูบกลุ่มผมสีซีดของผู้ที่ได้ชื่อเป็นสามีเบาๆกว้านหลินฉวยเอามือนุ่มมากดจูบลงบนหลังมือและก้านนิ้วทีละนิ้ว ดวงตาพราวระยิบจนคนถูกกระทำเริ่มรู้สึกแปลกๆ
           
            “ภัทร ขอลูกให้ฉันอีกคนจะได้มั้ย?”นั่นปะไรล่ะคิดอะไรไว้ไม่มีผิดเลยซักนิด
 
            “แต่ลูคัสยังเล็กอยู่เลยนะครับ”หาทางบ่ายเบี่ยงเพราะตนเองกับกว้านหลินก็ห่างหายจากการมีเซ็กส์กันมานานตั้งแต่ลูคัสคลอด เวลาทั้งหมดของภัทรทุ่มให้กับลูกชายไปจนหมดสิ้น แค่เลี้ยงลูกที่ยิ่งโตยิ่งซนภัทรก็เหนื่อยจนหมดพลังแล้ว กว้านหลินเองก็รู้ดีเพราะเลิกงานหรือวันหยุดอัลฟ่าหนุ่มก็ช่วยเลี้ยงลูกอยู่ตลอด
 
            “จะสองขวบแล้ว มีอีกคนจะได้เป็นเพื่อนเล่นกันนะ นะที่รัก ขอลูกให้พี่อีกคนจะได้มั้ยครับ”
 
            “ก...ก็ได้ครับ”ภัทรเอียงหน้าหลบสายตาอันพราวระยิบของกว้านหลิน ความเห่อร้อนแล่นริ้วขึ้นสองพวงแก้มจนน่าเอ็นดูไปหมด กว้านหลินยืดตัวขึ้นก่อนจะฝังปลายจมูกโด่งลงบนสองแก้มฟูนั้นจนดังฟอดใหญ่ ภัทรรีบใช้มือทั้งสองข้างดันอกกว้านหลินไว้
 
            “เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนครับ”
 
            “ทำไม?”
 
            “เดี๋ยวลูคัสตื่นมาเห็น มันไม่ดี...”ภัทรมองไปยังเจ้าตัวกลมที่หลับสนิทจนแก้มยู่ไปกับพื้น
 
            “งั้นเดี๋ยวพี่เอาลูกไปนอนที่เตียงก่อนแล้วเราไปนอนห้องใหญ่กันดีมั้ย?”
 
            “ถ้าลูกตื่นล่ะครับ”
 
            “ไม่ตื่นหรอกลูคัสหลับนาน แต่ถ้าเป็นห่วงเดี๋ยวเรียกศลัยขึ้นมานอนเฝ้า”กว้านหลินเสนอทางแก้ปัญหาห่วงลูกของภัทรได้อย่างรวดเร็วจนคนเด็กกว่าอดทึ่งไม่ได้ เมื่อคนเป็นภรรยาไม่มีข้อทักท้วงอะไรแล้วอัลฟ่าหนุ่มก็อุ้มลูกชายตัวน้อยขึ้นไปนอนบนเตียงสำหรับเด็กห่มผ้าเสร็จสรรพ ลูคัสไม่ได้มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมาตามที่กว้านหลินบอกภัทรก็วางใจ เมื่ออุ้มลูกนอนเรียบร้อยแล้วกว้านหลินก็หันกลับมาอุ้มคนแม่ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนด้วยท่าเจ้าสาว ภัทรคล้องคอกว้านหลินไว้สายตาที่แสดงความรักใคร่ฉายชัดโดยไม่ปิดบังจนอดไม่ได้ที่จะกดจูบลงไปบนกลีบปากอิ่มนั้นและเป็นครั้งแรกตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาที่ภัทรจูบสู้กับเขา
 
มันทั้งละมุนราวกับกำลังละเลียดไอศกรีมรสอร่อย มอมเมาคล้ายกับว่าในไอศกรีมนั้นผสมเหล้ารัม กว้านหลินถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งก้าวเท้าพาภรรยาของเขาออกจากห้องนอนเล็กโดยที่ภัทรช่วยปิดประตูให้อย่างแผ่วเบา
 
กว้านหลินวางร่างบอบบางของภรรยาลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล ลูบเรือนผมนิ่มอย่างทะนุถนอม
 
ถนอมแบบที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำกับภัทรเลยนับจากจับตัวมา
 
ในใจของอัลฟ่าหนุ่มเจ็บปวดเสมอยามที่ทำร้ายร่างกายของภัทร เขาไม่รู้ว่าเขาทำลงไปได้อย่างไง หลายๆครั้งที่ทุกอย่างมันเริ่มจะดีแต่กลับเป็นเขาเองที่ทำมันพังลงไปหมด เหมือนภัทรสร้างปราสาททรายทีละเล็กทีละน้อยแล้วขายื่นมาเข้ามาช่วยสร้างแต่สุดท้ายเขาทั้งคู่เถียงกันด้วยเรื่องเล็กน้อยและเป็นกว้านหลินเองที่ไม่ทน ชายหนุ่มเลือกที่จะกระทืบปราสาททรายหลังนั้นทิ้งแล้วทำร้ายภัทร
 
ครั้งแล้วครั้งเล่า
 
และก็เป็นภัทรที่ให้อภัยเขาครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน
 
            “ภัทร...”กว้านหลินเอ่ยเรียกคนใต้ร่างที่ยังคงมองเขาด้วยความรักที่ไม่เสื่อมคลาย แม้ว่าเขาจะทำร้ายจนเกือบตายมาหลายครั้งแล้ว เด็กน้อยของเขายังคงขานรับเหมือนเช่นที่ผ่านมา
 
            “ครับ?”
 
            “ที่ผ่านมา ขอโทษนะ”กุมมือที่เล็กกว่ามือของตนเองไว้พลางพรมจูบทีละนิ้ว ภัทรส่งยิ้มมาให้ส่ายหน้าให้กับความผิดทั้งหมดทั้งมวลที่กว้านหลินเคยทำ
 
ไม่เป็นไร
 
ไม่เป็นไรเลยซักนิด แม้ตอนนั้นจะเสียใจ น้อยใจ ร้องไห้เพราะความเจ็บปวด
 
แต่ในยามนี้ ตอนที่เห็นไล่กว้านหลินเป็นคนที่ดีขึ้น
 
เป็นพ่อที่ดีและเป็นสามีที่น่ารักแค่นี้ณภัทรก็ดีใจแล้ว
 
สำหรับโอเมก้าอย่างเขาการมีครอบครัวที่อบอุ่นถือเป็นความสุขสูงสุดในชีวิตแล้ว ภัทรลูบใบหน้าของกว้านหลินอย่างแผ่วเบาก่อนจะยืดตัวขึ้นไปจูบอย่างเชิญชวน ไร้ซึ่งคำพูดมีเพียงร่างกายของกว้านหลินที่ทาบทับลงมา เสื้อผ้าที่เคยติดเรือนกายถูกปลดเปลื้องไปจนหมดสิ้น ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำเอาขนบนร่างกายลุกซู่ก่อนจะถูกความอบอุ่นจากฝ่ามือหนาเข้ามาแทบที่ไปทุกส่วนของร่างกาย
 
            “จะเอาลูกสาวต้องทำท่าไหนนะ...”คำถามกลั้วเสียงหัวเราะดังขึ้นขัดกับความเงียบที่เริ่มโอบรัดจนภัทรหลุดหัวเราะ
 
            “ทำไมอยากได้ลูกสาวล่ะครับ”
 
            “เด็กผู้หญิงว่านอนสอนง่ายดี เอาไว้ดูแลเรายามแก่เฒ่า นะขอลูกสาวให้พี่ซักคน”
 
            “อันนี้ไม่ได้อยู่ที่ผมแล้วล่ะครับ อยู่ที่คุณกว้านหลินแล้วล่ะว่าจะมีฝีมือแค่ไหน”คนเด็กกว่าที่นอนอยู่ใต้ร่างต่อล้อต่อเถียงจนอดที่จะหมั่นเขี้ยวไม่ได้
 
            “เดี๋ยวนี้เถียงเก่ง”เขี่ยปลายนิ้วกับริมฝีปากนิ่มเบาๆจนคนโดนแกล้งยู่ปาก
 
            “อย่างอื่นก็เก่งแล้วนะครับ”เอ่ยตอบอย่างท้าทาย รอยยิ้มซุกซนที่เพิ่งเคยได้เห็นอดทำให้ใจสั่นไม่ได้
 
เป็นเด็กร้ายๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ  กว้านหลินไม่ปล่อยเวลาไว้เนิ่นนานอะไรนักชายหนุ่มค่อยๆโน้มใบหน้าลงไปหาคนใต้ร่างใกล้ขึ้นเรื่อยๆ จนท้ายที่สุดเปลือกตาของภัทรก็ปิดลง ยามที่ริมฝีปากของเขาถูกแนบทับลงมาอีกหน
 
เราจูบกันครั้งแล้วครั้งเล่า
 
เราต่างช่วงชิงลมหายใจของกันและกันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
 
เราสร้างท่วงทำนองของบทรักที่เป็นของเราสองคนโดยเฉพาะ
 
สอดประสานอย่างเข้าอกเข้าใจ นุ่มนวลแต่ทว่าซ่านเสียว ทุกตารางนิ้วของร่างกายถูกตีตราจนแทบไม่เหลือผิวขาวๆแบบที่เคย จนในที่สุดเส้นทางสายดอกไม้ที่พาทั้งคู่ก้าวเดินสู่สรวงสรรค์ก็สิ้นสุดลงหลังจากพากันทะยานสู่ฝืนฟ้ากว้าง กลิ่นฝนและไลเซนทัสผสมผสานกันอย่างน่าเหลือเชื่อ กว้านหลินทิ้งตัวลงนอนข้างๆภัทรที่พวงแก้มและริมฝีปากแดงระเรื่อ วาดแขนกอดเอวคอดแล้วรั้งมาชิดตัว
 
หัวใจของโอเมก้าที่เพิ่งเข้าสู่วัยหนุ่มได้ไม่นานเต้นรัวราวกับมีกลองนับร้อยใบดังรัวอยู่ในอก
 
น้ำตาไหลอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อกว้านหลินพูดประโยคหนึ่งออกมา
 
            “พี่รักภัทรนะ แต่งงานกันเถอะ มาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์จริงๆซักที”
 
            ณภัทรรู้สึกหูอื้อไปหมดกับสิ่งที่ได้ยิน เด็กน้อยได้แต่พยักหน้าและสวมกอดกว้านหลินไว้ ปล่อยน้ำตาแห่งความดีใจให้ไหลอย่างไม่อาย กว้านหลินยิ้มให้กับท่าทางน่ารักนั้น
 
อำนาจหรือเงินทองที่มีอย่างมากมายไม่ได้ช่วยให้เขามีความสุขได้เท่ากับการกลับบ้านมาเจอลูกกับเมียรออยู่เลยซักนิด
 
เขาเพิ่งรู้ว่าเขาโง่ปล่อยให้รอยยิ้มนี้หายไปเสียเกือบสามปี
 
กว่าจะตามหาเจอก็เกือบจะเสียภัทรไปหลายหน
 
ความโง่ของเขาสังเวยด้วยชีวิตลูกคนโตไป
 
นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกผิดในใจเสมอมา
 
อยากชดเชยกับสิ่งร้ายๆที่เคยทำลงไป
 
 
            ลูกคนที่สองของกว้านหลินมาเร็วกว่าที่คิดไว้ เมื่อฝนแรกของปีร่วงหล่นณภัทรก็ถูกพาไปโรงพยาบาลอีกหนเมื่อโอเมก้าตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วหน้ามืด คราวนี้กว้านหลินเป็นคนพาภัทรมาหาหมอด้วยตัวเอง
 
ผลตรวจเลือดที่ออกมาทำให้หมอนนท์ยิ้มให้กับสองสามีภรรยาด้วยความยินดี
 
            “คุณกว้านหลิน สงสัยงานแต่งต้องเลื่อนไปก่อนนะ”
 
            “ทำไมล่ะพี่ หรือภัทรป่วย? ร้ายแรงมั้ยอ่ะ ต้องรักษาที่ไหนถึงจะหาย บอกผมมาเลยผมจะพาไปรักษา”อัลฟ่าหนุ่มที่กำลังมึนงงสับสนกับอาการป่วยของภัทรรัวคำถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
 
            “ใจเย็นๆก่อน เรื่องนี้ผมว่าภัทรน่าจะเดาได้นะว่าตัวเองเป็นอะไร”กว้านหลินรีบหันไปหาภรรยาตัวน้อยของตนเองทันที ณภัทรมองหน้าหมอนนท์ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาในทันทีที่อนลพยักหน้าให้ มือเรียวถูกจับแล้วบีบราวกับกำลังปลอบประโลมตน
 
            “เป็นอะไร ทำไมไม่บอกกัน?”น้ำเสียงห่วงใยไถ่ถามจนต้องหันกลับไปหาผู้เป็นสามีพลางส่ายหน้า
 
            “ไม่ได้เป็นอะไรครับ เพียงแต่ต่อไปนี้ ซัก 6-7 เดือน เราสองคนคงได้แค่นอนจับมือกันเฉยๆไปก่อนนะครับ”
 
            “ทำไมล่ะ...หรือว่า”กว้านหลินจ้องตาภัทรที่ตอนนี้ยิ้มจนตาจะกลายเป็นรูปสระอิอยู่แล้ว และภัทรพยักหน้ารับ
 
กว้านหลินไม่รู้หรอกว่าเขาเคยดีใจกับอะไรมากๆมั้ย แต่ในตอนนี้เอาส่งเสียงดังด้วยความดีใจพลางลุกขึ้นยืนรวบร่างภัทรมากอดแล้วจับหมุนไปหมุนมาจนคุณหมอหนุ่มต้องส่งเสียงดุ ว่าที่คุณพ่อลูกสองถึงจะสงบลงได้
 
            “เตรียมตั้งชื่อไว้ด้วยนะครับว่าถ้าเป็นลูกสาวจะให้ชื่ออะไร ถ้าเป็นลูกชายจะให้ชื่ออะไร”
 
            “ตั้งไว้แล้ว ถ้าเป็นผู้หญิงจะให้ชื่อลิซ่า ถ้าผู้ชายจะให้ชื่อโลแกน แต่ขอลิซ่าเถอะนะอยากได้ลูกสาว”
 
            “ทำยังกับเลือกได้ อันนี้มันก็อยู่ที่น้ำยาของคุณแล้วล่ะคุณกว้านหลิน เอ้านี่ ใบสั่งยา แล้วเดี๋ยวหมอนัดคราวหน้าอีกทีเนอะ หลังจากนี้อะไรที่กระทบกระเทือนก็เลี่ยงๆไปก่อนนะครับ แล้วก็เหมือนเดิมอย่ายกของหนักอย่าเคลื่อนไหวเร็วไป เลี่ยงได้ก็อย่าอุ้มลูคัสหรืออย่าให้แกพุ่งเข้าใส่ท้อง คุณกว้านหลินช่วยดูแลภรรยาด้วยนะครับ”
 
            “ได้เลยพี่ คราวนี้ผมจะดูแลแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยขึ้นห้องก็จะอุ้มขึ้นไปเลยด้วย”
 
            “สรุปตกบันไดตายทั้งผัวทั้งเมีย”หมอนนท์ค่อนขอดด้วยความหมั่นไส้แต่ก็อดดีใจไปกับภัทรด้วยไม่ได้
 
ท้องครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆมาก เด็กตรงหน้านี้ยิ้มเยอะขึ้นดูมีความสุขมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีเสียเหลือเกินสำหรับคนท้อง ตอนนี้ครอบครัวของคุณชายสามดูเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมและอบอุ่นเสียเหลือเกิน
 
อบอุ่นราวกับที่ผ่านมาเป็นแค่ภาพลวงตา ราวกับว่าเหตุการณ์ร้ายๆนั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลยซักนิด
 
และหมอนนท์หวังว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ตลอดไป
 
           
 
 
                        ในที่สุดเพราะแพ้ท้องหนักมากภัทรก็ต้องย้ายมานอนห้องใหญ่กับกว้านหลินโดยลูคัสถูกฝึกให้นอนคนเดียว ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เด็กน้อยจะตื่นกลางดึกเป็นครั้งคราวหากอึออกมากลางดึกซึ่งก็เป็นกว้านหลินที่วิ่งจากห้องใหญ่ข้ามฝั่งมาหาลูกด้วยความเร็วแสงจนตอนนี้ชายหนุ่มเลี้ยงลูกได้คล่องแคล่วต่างจากตอนลูคัสยังแบเบาะ อย่างเช่นตอนนี้กว้านหลินอุ้มเด็กยักษ์เหวี่ยงตัวไปมาเบาๆ บนไหล่พาดผ้าอ้อมในปากของลูกชายมีขวดนมคาอยู่ เสียงเพลงกล่อมเด็กดังท่ามกลางแสงสลัวเบาๆจนเจ้าลูกชายหลับสนิทคุณพ่อมือใหม่ก็เอาลูกลงนอนตามเดิมก่อนจะเดินออกจากห้องนอนลูกหากแต่กว้านหลินกลับไม่ได้เดินเข้าห้องนอนของตัวเอง ชายหนุ่มตรงไปยังห้องทำงาน นั่งสะสางงานจนเข็มนาฬิกาเลยเลขสามของเช้าวันใหม่ไปเกือบครึ่งชั่วโมง
 
กริ๊ก...อัลฟ่าหนุ่มเงยหน้ามองก็พบว่าภัทรในชุดนอนตัวหลวมโครกยืนมองเขาด้วยสายตางัวเงีย ชายหนุ่มรีบเดินไปประคองหลังภรรยาที่ตั้งท้องได้ห้าเดือนแล้วให้มานั่งที่โซฟา
 
            “เดินมาทำไม เดี๋ยวลื่นล้มไปทำยังไง?”
 
            “จะตีสี่แล้วนะครับ ทำไมไม่นอน ผมตื่นมาไม่เจอคุณกว้านหลินเดินไปดูที่ห้องลูกก็ไม่มีเลยคิดว่าคงอยู่ห้องทำงาน”
 
          “มีงานต้องเคลียร์นิดหน่อยน่ะเพราะเดี๋ยวแม่ใหญ่จะเรียกตรวจสอบบัญชีอาทิตย์หน้าต้องจัดการให้เรียบร้อย”กว้านหลินจับภัทรให้นั่งลงบนตักของตนเอง โอเมก้าแม่ลูกอ่อนคล้องแขนกับลำคอของผู้เป็นสามี
 
            “ไม่เห็นต้องหักโหมเลยครับ ไปนอนก่อนนะครับ”
 
            “อยากทำให้มันเสร็จ อีกนิดเดียวเอง”
 
            “แต่ผมอยากให้คุณกว้านหลินไปพักนี่ครับ นอนคนเดียวผมหลับไม่สนิทเลย”ภัทรเอียงคอซบศีรษะลงบนไหล่ของสามีอย่างอ้อนๆจนกว้านหลินอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
           
            “รู้ตัวมั้ยว่าตั้งแต่ท้องอ้อนเก่งขึ้นเยอะเลย โอเคครับไปนอนแล้ว”กว้านหลินปิดคอมพ์แล้วโอบประคองภรรยากลับไปนอนที่ห้อง
 
การมีกว้านหลินนอนเคียงข้างโอบกอดกันด้วยความรักเป็นเหมือนยานอนหลับชั้นดีของภัทรเลยแหละ กลายเป็นว่าคืนไหนที่กว้านหลินกลับดึกภัทรจะหลับไม่สนิทจนกว่าผู้เป็นสามีจะกลับมานอนกอดไว้แนบอก
 
            “ครั้งนี้ท้องใหญ่กว่าครั้งที่แล้วนะคะ”ศลัยเอ่ยทักคนเป็นนายที่เดินตัดแต่งกิ่งไฮเดรนเยียอย่างคนที่ไม่ชอบอยู่นิ่งๆ ช่อดอกสวยๆถูกเลือกไว้เพื่อเอาไปจัดแจกันในบ้านส่วนที่ไม่ค่อยสวยก็ทิ้งไป ใครๆต่างก็ว่าภัทรเป็นคนมือเย็นปลูกอะไรก็งามไฮเดรนเยียกองามอวดโฉมออกไปนอกรั้วเหล็ก  บ้านที่เคยดูทื่อๆสวยขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ภัทรลูบหน้าท้องนูนยื่นอายุครรภ์ห้าเดือนกว่าเบาๆ
 
            “น่าจะเพราะกินเก่งครับ”
 
            “ดิฉันว่าคุณเดินให้น้อยลงทำงานบ้านให้น้อยลงเถอะค่ะ พักผ่อนบ้าง”ศลัยเอ่ยด้วยความห่วงใยเพราะภัทรนั้นไม่ได้อยู่นิ่งเลยเจ้าตัวมักจะหานู่นหานี่มาทำแทนที่จะนั่งๆนอนๆพักผ่อนเหมือนคนท้องทั่วไป
 
            “ผมพักจนเบื่อแล้วล่ะครับ อ๊ะ!!”ภัทรส่งเสียงร้องเมื่อตนเองเหยียบลงบนหญ้าที่เปียกน้ำค้างจนลื่นโชคดีที่เจ้าตัวประคองตัวได้จึงไม่ล้ม ศลัยร้องว้ายออกมาอย่างตกใจก่อนจะวิ่งมาประคองผู้เป็นเจ้านายไว้
 
            “พอเลยค่ะ เข้าบ้านเถอะที่เหลือเดี๋ยวให้คนสวนมาทำต่อ”หญิงสาวเอ่ยอย่างดุๆให้กับคนที่ดื้อ ภัทรรู้สึกหน่วงๆในท้องจึงพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย โอเมก้าท้องโตย้ายตัวเองไปนั่งในบ้าน ลูคัสที่อยู่กับพี่เลี้ยงกำลังเล่นรถมอเตอร์ไซค์ไปกินข้าวตุ๋นที่พี่เลี้ยงป้อนไปรีบปีนลงจากรถมาหาผู้เป็นแม่
 
            “ม่ะม๊า..”เสียงเรียกแม่สั้นๆตามที่เคยสอนทำให้ภัทรยิ้มอย่างเอ็นดู เด็กน้อยสมบูรณ์แข็งแรงและตัวโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ที่สำคัญยังคงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับกว้านหลินอย่างแก้ไม่หาย ภัทรรับถ้วยข้าวของลูกชายมาป้อนด้วยตัวเอง ภัทรยังคงดำเนินชีวิตไปตามปกติจนกระทั่งกว้านหลินกลับมาถึงบ้าน อัลฟ่าหนุ่มกดจูบลงบนกลีบปากอิ่มของภรรยาและทะเลาะตบตีกับลูคัสก่อนจะกินข้าวแล้วพาลูกเข้านอน กว้านหลินกลับมาที่ห้องอาบน้ำแล้วเดินขึ้นเตียงมานอนกอดภัทรจากทางด้านหลังมือหนาลูบท้องภรรยาก่อนจะขมวดคิ้วอย่างสงสัย ปกติท้องของภัทรจะนิ่มกว่านี้หากแต่วันนี้ท้องของภัทรกลับแข็งกว่าปกติ แข็งจนรู้สึกได้
 
            “ภัทร ทำไมวันนี้ท้องแข็งจัง”
 
            “ไม่รู้เหมือนกันครับ”ภัทรที่ไม่ได้สังเกตท้องตัวเองเริ่มลูบบ้างแล้วก็พบว่ามันจริงอย่างที่กว้านหลินบอก หน้าท้องนูนของเขาแข็งมาก
 
            “มันแข็งเหมือนวันที่คลอดลูคัสเลยครับ”ไล่กว้านหลินไม่ปล่อยให้ความผิดปกติผ่านไป ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาหมอนนท์เล่าอาการของภัทรอย่างคร่าวๆให้หมอประจำบ้านฟัง
 
            “พาคุณภัทรมาโรงพยาบาลด่วนเลยคุณชาย”
 
ไล่กว้านหลินกำลังรอผลการตรวจด้วยใจจดจ่อ ภัทรถูกนำเข้าไปตรวจในที่สุดพยาบาลก็เรียกให้กว้านหลินเข้าไปฟังผลการตรวจของภัทร ด้านในคุณหมอนนท์กับภัทรที่นอนอยู่บนเตียงตรวจมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
 
            “ว่าไงพี่ ภัทรเป็นอะไรมากหรือเปล่า?”กว้านหลินจับมือภรรยาไว้ สีหน้าที่แสดงออกตอนนี้มีแต่ความห่วงใยและกังวล
 
          “คุณภัทรมีภาวะแท้งคุกคามครับ ต่อไปนี้ถ้าอดทนไหวทำตามที่หมอบอกประคับประคองให้มีอายุครรภ์ได้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้โอกาสรอดของเด็กก็จะมีมากขึ้น”
 
          “อะไรนะ? คือพี่ช่วยอธิบายหน่อยผมไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะผมก็ดูแลดีทุกอย่างทำไมถึงมีภาวะแท้งคุกคามอีกล่ะ?”
 
            “อาการแท้งคุกคาม ท้องแข็งแบบนี้หมายความว่าร่างกายเตรียมที่จะคลอด หมอจะทำการตรวจร่างกาย และการรักษาของเด็กที่จะคลอดก่อนกำหนดคือคุณแม่ต้อง Absolute bed rest หมายถึงการนอนราบ ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณภัทรต้องนอนราบอยู่บนเตียงนิ่งๆ โดยงดกิจกรรมทุกอย่าง สิ่งที่ทำได้คือนอนอย่างเดียวกินนอนขับถ่ายบนเตียง ต้องมีการเจาะเลือดไปตรวจทุกวันและให้ยาระงับคลอดเข้าเส้นเลือดตลอดเวลาร่วมกับ Dexamethasone ทุกสี่ชั่วโมง ยาตัวนี้ช่วยเรื่องการทำงานของปอดเด็กในท้อง เราต้องดึงเด็กไว้ไว้ให้ได้นานที่สุดเพราะถ้าต่ำกว่า 28 สัปดาห์นั่นหมายความว่าแท้ง ต่ำกว่า 7 เดือนโอกาสรอดแค่ 20% และมีโอกาสพิการ อาจจะตาบอด ปอดอาจจะไม่ครบ หรืออาจจะพิการทางสมองได้ เข้าใจมั้ยครับ”อนลอธิบายอย่างง่ายๆให้กว้านหลินและภัทรฟัง สองสามีภรรยาบีบมือกันโดยอัตโนมัติ ภัทรร้องไห้ออกมาเงียบๆในขณะที่กว้านหลินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเคว้งคว้างอยู่ในทะเลที่พายุกำลังโหมใส่
 
ทำไมต้องเป็นแบบนี้
 
หรือเพราะนี่คือบทลงโทษจากพระเจ้าจากการที่เขาทำเรื่องแย่ๆมาตลอด แต่มันก็ไม่ยุติธรรมกับภัทรเลยซักนิด กว้านหลินไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาของเขาไหลออกมาตอนไหนรู้ตัวอีกทีคือภัทรยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้เขา รอยยิ้มอบอุ่นจากคนที่ควรจะอ่อนแอมากกว่าเขาถูกส่งมาให้อย่างแสนซื่อ
 
            “ไม่เป็นไรนะครับ ไม่ต้องร้อง เราต้องผ่านมันไปได้สิ หนักกว่านี้ก็ผมก็เคยผ่านมาแล้ว”กว้านหลินฝืนยิ้มให้กับภัทรก่อนจะรวบร่างบางมากอดไว้ ในที่สุดภัทรก็ถูกนำมาพักที่ห้องพักฟื้นและเริ่มต้นกระบวนการรักษาตั้งแต่คืนนั้น เด็กหนุ่มถูกเจาะเลือดรวมทั้งให้ยาระงับคลอดผ่านเส้นเลือด แม้ตอนเด็กๆสมัยที่แม่ปลุกให้ไปเรียนในตอนเช้าณภัทรเคยฝันว่าอยากจะนอนโง่ๆอยู่บนเตียงแต่ว่าตอนนี้หลังจากผ่านไปห้าวันภัทรก็รู้ล้วว่ามันไม่ได้สบายอย่างที่คิดเลย กว้านหลินปักหลักนอนที่โรงพยาบาลกับเขาโดยกลางวันศลัยพาลูคัสมาหาคุณแม่ตอนเย็นเสี่ยวป๋ายมารับกลับ ลูคัสงอแงจนน่าสงสารเพราะตั้งแต่เกิดมาเด็กน้อยก็อยู่กับแม่ตลอด ภัทรสงสารลูกจนร้องไห้ตามไปหลายหนจนในที่สุดกว้านหลินเลยตัดสินใจไม่ให้พาลูคัสมาที่โรงพยาบาลอีกแม้ตอนแรกภัทรจะท้วงเต็มที่เพราะตนเองคิดถึงลูก
 
            “โรงพยาบาลมีแต่เชื้อโรคลูคัสอาจจะป่วยได้ อีกอย่างลูกมาก็กอดไม่ได้อุ้มไม่ได้สุขภาพจิตจะเสียซะเปล่าๆ”กว้านหลินบิดผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้ภัทรเบาๆ กลายเป็นงานประจำที่อัลฟ่าหนุ่มทำจนเริ่มคล่องเนื่องจากภัทรไม่สามารถลุกขึ้นไปอาบน้ำหรือขับถ่ายได้ตามปกติดังนั้นหน้าที่นี้เขาจึงเป็นคนทำเองโดยไม่รังเกียจเลยซักนิด เมื่อวันที่สองภัทรลองทำใจกล้าลุกไปเข้าห้องน้ำเองปรากฏว่ามีเลือดออกมาทำให้เป็นที่ตกอกตกใจของกว้านหลินและหมอนนท์มากคนป่วยถูกดุไปจนหูชา แต่อะไรก็ไม่น่าอายเท่ากับเวลาที่เขาปวดหนักกว้านหลินเป็นคนเอากระโถนมาให้เขา รอเช็ดทำความสะอาดแล้วเอาไปทิ้งไปล้าง
 
สงสาร...ในชีวิตของโอเมก้าชั้นต่ำต้อยอย่างเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนระดับอัลฟ่าจะมาปรนนิบัติเขาอย่างนี้ ทั้งๆที่กว้านหลินมีเงินมากมายมากพอที่จะจ้างพยาบาลดูแลเขาได้ทั้งวันทั้งคืนแท้ๆหากแต่กว้านหลินกลับเลือกที่จะจ้างแต่ช่วงเช้าถึงเย็นและมาเฝ้าเขาเองในช่วงหัวค่ำจนถึงเช้า หลายต่อหลายครั้งที่กว้านหลินหอบงานกลับมาทำที่โรงพยาบาลบางคืนแทบจะไม่ได้นอนหลับพักผ่อน
 
กว้านหลินแสดงให้เห็นถึงความรักอันเหลือล้นในหัวอกที่มีต่อลูกเมีย กลางคืนยามจะนอนอัลฟ่าหนุ่มจะขึ้นมานอนกอดและกล่อมเขาบนเตียงแคบๆ พูดให้กำลังใจอย่างไม่รู้เบื่อเลยซักนิด
 
            “อดทนนะ”
 
            “ครับ ผมจะอดทน”
 
แต่เหมือนเบื้องบนยังคงสร้างบททดสอบมาให้กับสองสามีภรรยาเรื่อยๆ เมื่ออยู่ๆภัทรที่นอนดูทีวีอยู่รู้สึกหายใจไม่ออกเหมือนกำลังจมน้ำ เด็กหนุ่มควานหาออดก่อนจะกดเรียกพยาบาล
 
            “ช่วยด้วยครับ ผมหายใจไม่ออก”
 
ไล่กว้านหลินเดินเร็วจนแทบจะวิ่งกลับมาที่ห้องพักของภัทร อนลโทรไปแจ้งเรื่องที่ภัทรหัวใจวายเมื่อตอนบ่ายทำให้อัลฟ่าหนุ่มทิ้งงานออกมาทันที เมื่อเปิดห้องพักเข้าไปก็เห็นหมอนนท์ยืนคุยกับภัทรอยู่ ชานหนุ่มรีบเข้าไปดูภรรยาที่ส่งยิ้มมาให้ทันที
 
            “เป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง”
 
            “ไม่เป็นไรแล้วครับ ไม่ต้องตกใจไปนะ”
 
            “พี่ทำไมภัทรถึงหัวใจวายได้?”กว้านหลินหันไปถามหมอนนท์ทันที
 
            “คือยาระงับคลอดมันมีผลข้างเคียงทำให้หัวใจเต้นเร็ว”
 
            “แล้วแบบนี้กว่าลูกจะคลอดไม่ต้องหัวใจวายซ้ำๆเหรอ?”
 
            “มันก็มีความเสี่ยง แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้หรอกนะคุณกว้านหลิน”
 
ไล่กว้านหลินไม่เคยรู้สึกถึงความท้อแท้ขนาดนี้มาก่อนเลย เขาสงสารภัทร เด็กคนนี้ยังต้องอดทนกับความทุกข์ทรมานและความเป็นความตายอีกซักกี่ครั้ง
 
ยิ่งคิดหัวใจของเขาก็ยิ่งเจ็บปวด
 
เพราะความเป็นความตายทุกครั้งที่ภัทรต้องเผชิญนั้น ต้นเหตุก็คือเขาเองทั้งสิ้น มองหน้าภัทรแล้วก็ยิ่งสงสาร ชายหนุ่มจรดริมฝีปากลงบนหลังมือของภัทรอย่างแสนรัก
 
            “ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเราจะอยู่ด้วยกัน เราจะผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากไปด้วยกันพี่จะไม่ทิ้งให้ภัทรต้องเผชิญมันแค่เพียงลำพังเด็ดขาด เชื่อใจพี่นะ”
 
          “ครับ ผมเชื่อใจคุณกว้านหลินครับ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ลูกเราจะต้องรอด”ณภัทรส่งยิ้มให้สามีอย่างให้กำลังใจ เป็นรอยยิ้มที่แสนเศร้า เศร้าจนน่าสงสาร เขาเองก็รู้ดีว่าภัทรก็สู้ที่สุดแล้ว
 
ในตอนนี้ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าลูกของพวกเขาจะรอด แล้วถ้ายิ่งดึงไว้แล้วภัทรต้องหัวใจวายอีกเขาเองก็รับไม่ไหวเหมือนกัน ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกอย่างตัดสินใจ
 
            “ภัทร ถ้าถึงที่สุดแล้วไม่ไหว เราก็ปล่อยเค้าไปเถอะนะ”
 
            “ไม่ครับ จะไม่มีใครตายทั้งนั้น ทั้งลูก ทั้งผม คุณกว้านหลินบอกให้ผมเชื่อใจผมก็เชื่อใจคุณกว้านหลิน ต่อจากนี้ขอให้คุณกว้านหลินเชื่อมั่นในตัวผมนะครับ ผมจะสู้ให้ถึงที่สุด จะเอาลูกสาวมาให้คุณกว้านหลินให้ได้ อย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งถอดใจนะครับ ผมจะสู้เพราะฉะนั้นคุณกว้านหลินต้องเป็นกำลังใจให้ผมนะครับ”อนลมองภาพสองสามีภรรยาที่พูดเติมกำลังใจให้กันด้วยหัวใจที่ตื้นตัน
 
ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอแม้ว่าจะเจออุปสรรคไปบ้าง
 
เขาก็อยากให้คนไข้ของเขาเชื่อมั่นในการรักษาของเขาเช่นกัน
 
ไม่ว่ายังไงเด็กน้อยในครรภ์ที่ก็คงกำลังสู้ไปกับพ่อแม่ต้องได้ออกมาลืมตาดูโลกที่เต็มไปด้วยความรักนี้ให้ได้
 
เขาขอสัญญาด้วยหน้าที่แพทย์ที่มี
       


#ไฮเดรนเยีย

TBC.


.....................................


สู้ๆนะภัทร กว้านหลิน




หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 18-06-2019 11:52:21
สู้ๆนะภัทร โห้ยยสงสารเลย ทุกอย่างกำลังจะดี คิดว่าจะราบรื่น ต้องผ่านมันไปให้ได้นะภัทร สนุกกกดีอ่ะ อ่านรวดเดียวแบบวางไม่ลงเลย จะเป็นบ้ากับกว้านหลินผีเข้าผีออกมาก ประสาทแดกแทน กว่าจะคิดได้คิดเป็นคือเกือบจะสายไปแล้ว โคตรโมโหให้เลย ไอ้คุณพี่กว้านหลิน ไอ้เวรเอ๊ยยย!! อยากด่ามาหลายตอน 555 ดีนะที่ภัทรให้อภัยได้ซ้ำๆก็เพราะว่ารักมาก ถ้ายังทำผิดอีกคือ.... ต่อจากนี้ก็ดูแลภัทรดีๆละ ขอให้คลอดออกมาปลอดภัยทีเถอะ -/\-

สนุกกกกมากค่ะ ชอบบบ ขอบคุณนะคะที่แต่งและมาอัพในนี้ให้ได้อ่านกัน รอตอนต่อไปเลยค่ะ สนุกๆ

ปล.อัพตอนแล้วลงวันที่อัพด้วยจะดีมากเลยค่ะ เพราะบางทีจำชื่อจำนวนตอนไม่ได้ จะดูวันที่อัพเอาและจะได้รู้ว่าปัจจุบันยังอัพอยู่
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 18-06-2019 14:54:19
ลุ้นว่าเด็กน้อยในท้องจะปลอดภัยไหม
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 18-06-2019 20:28:04
เจ้าตัวเล็กหนูต้องสู้นะลูกกกก :hao5:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 18-06-2019 23:19:25
เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนนะ ขอให้ภัทรและเจ้าตัวเล็กคลอดออกมาอย่างปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 19-06-2019 08:31:43
แงง อุปสรรคพิสูจน์ใจมากๆ

เชื่อว่าน้องภัทรต้องผ่านไปได้

ส่วนลูคัส ทำดีที่สุดแล้วคับบ ทะเลาะกับคุณพ่อไปเรื่อยๆ 555
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 19-06-2019 11:24:31
สู้ๆนะทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 20 "เราจะผ่านความยากลำบากไปด้วยกัน"
เริ่มหัวข้อโดย: Kanni ที่ 19-06-2019 13:40:46
รอเจ้าตัวเล็กอยู่นะ สู้ๆทั้งสองคน
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 21 "เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 24-06-2019 18:33:02



Hydrangea 21


                       ไล่กว้านหลินหอบถุงอาหารเข้ามาในห้องพักที่ภัทรนอนอยู่ รอยยิ้มเนือยๆถูกส่งมาให้ ภัทรในตอนนี้ไร้ความสดใสดูไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน การนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งเดือนทำให้ความสดใสที่เคยมีหายไป ไหนจะเป็นห่วงและคิดถึงลูคัส อยากเจอลูกใจจะขาดก็ทำไม่ได้เพราะทุกครั้งที่ลูคัสมาเด็กน้อยก็จะร้องให้แม่อุ้ม แต่ณภัทรในตอนนี้ทำไม่ได้ สงสารลูกจนน้ำตาร่วง ไหนจะต้องกินอาหารให้ได้มากๆเรียกว่ากินเกือบทั้งวันเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับเจ้าตัวน้อยในท้อง

ณภัทรรู้สึกขอโทษลูกในท้อง อาจจะเป็นเพราะตนเองสุขภาพไม่แข็งแรงพอที่จะอุ้มท้องแบบคนปกติได้ หรืออาจจะเป็นเพราะตนไม่เชื่อฟังคำเตือนของศลัยเอาแต่เดินทำนู่นทำนี่ทุกวันจนทำให้ลูกต้องมาลำบากตั้งแต่อยู่ในท้อง ภัทรหลับตาลงยามกว้านหลินเดินมากดจูบลงบนหน้าผากของตน

            “วันนี้เป็นยังไงบ้าง? เบื่อมากมั้ย?”กว้านหลินเอ่ยถามภรรยาพลางหยิบเอาโจ๊กเจ้าดังที่ตนเองลงทุนไปต่อแถวซื้อมาให้เพราะภัทรบ่นอยากกินใส่ชามทั้งสองถุงแล้วเลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างเตียง เป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วที่เขาจะกลับมากินข้าวพร้อมภัทรโดยการกินในชามเดียวกัน ป้อนภัทรคำหนึ่งตัวเขากินคำหนึ่ง

            “เบื่อมากครับ”

            “ขอโทษนะที่ทำให้ต้องลำบาก”อีกครั้งที่กว้านหลินพร่ำขอโทษเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกวันทุกคืน

            “ไม่อยากฟังคำขอโทษแล้วครับ อยากฟังเรื่องของลูคัสมากกว่า”

            “ไอ้ตัวแสบนั่นเหรอ เมื่อกลางวันแวะเข้าไปดูกำลังเล่นรถมอเตอร์ไซค์ แทบจะนอนขับอยู่แล้ว ที่ตลกก็คือพี่แกล้งเอาขนมลูกมากินลูคัสมันแหวใส่เลย รีบปีนลงจากรถจะมาแย่งขนมคืน ขาสั้นไง อ้วนด้วย สะดุดล้มหน้าทิ่ม”กว้านหลินส่งเสียงหัวเราะเมื่อนึกถึงเจ้าลูกชายที่ส่งเสียงดุเขาแบบไม่เป็นภาษาแต่ดันสะดุดขาตัวเองล้มกลิ้งราวลูกบอล ภัทรมีสีหน้าตกอกตกใจด้วยความเป็นห่วงลูก


            “ยังจะมาขำลูกอีกครับ แกเจ็บหรือเปล่า?”

            “ไม่เจ็บหรอกจับทันหน้ายังไม่ทันทิ่ม เด็กคนนี้แปลกจริงๆเวลาป้อนนมป้อนข้าวก็เชื่องดีพออิ่มปุ๊บทรยศปั๊บ”

          “คุณก็ไปว่าลูก แกยังเล็กยังคิดอะไรไม่เป็นหรอกครับ”

            “เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องพาแกมาฉีดวัคซีนจะพามาหานะ”

            “กลัวลูกร้องไห้”ภัทรพูดเสียงแผ่ว สูดน้ำมูกเบาๆ ใจคนเป็นแม่แสนอยากจะเจอลูกหากแต่ยามลูกทิ้งตัวลงไปร้องไห้เพราะแม่ไม่อุ้มนั้นก็แสนจะน่าสงสาร

            “เดี๋ยวจัดการเอง กินเยอะๆนะ”กว้านหลินป้อนโจ๋กให้ภัทร
            “ผมกินจนอ้วนเป็นตุ่มแล้วครับ รูปร่างน่าเกลียดจะแย่แล้ว”

            “ไม่เห็นน่าเกลียดเลย นุ่มๆนิ่มๆดีออก”กว้านหลินแกล้งจิ้มลงบนหน้าท้องนูนของภัทรอย่างหยอกล้อ เขารู้ดีว่าภัทรค่อนข้างเป็นกังวลกับรูปร่างที่ขยายใหญ่ของตัวเองมากเพราะต้องกินเยอะๆเพื่อให้ลูกในท้องตัวโตและไม่สามารถลุกขึ้นมาทำนู่นทำนี่ได้เหมือนเมื่อก่อนทำให้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าเรียวที่เคยเห็นสันกรามเด่นชัดกลายเป็นหน้ากลม แก้มที่เคยฟูหน้ารักบัดนี้กลมคล้ายซาลาเปาสองลูกเขื่องๆ

สรีระของภัทรเปลี่ยนแปลงจนเห็นได้ชัด

ใครจะว่าน่าเกลียดขึ้นเขาไม่สนใจ สำหรับเขาไม่ว่าจะอ้วนหรือจะผอมภัทรก็ยังคงน่ารักเสมอ

            “กินไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก จะเป็นแบบไหนก็รัก”     

            “เดี๋ยวนี้ปากหวานเก่งนะครับ”ภัทรอดไม่ได้ที่จะแซวคนเป็นสามีด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทั้งสองคนนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระจนกระทั่งกินอิ่ม กว้านหลินก็จัดแจงรูดม่านปิดเพื่อเช็ดตัวให้ภัทร จากนั้นจึงไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวก่อนจะออกมาหยิบแวนตาและกรรไกรตัดเล็บมานั่งบนเตียง

            “เล็บยาวแล้ว ตัดหน่อยนะ”กว้านหลินไม่รอให้ภัทรอนุญาตชายหนุ่มขยับแว่นให้เข้าที่ก่อนจะค่อยๆตัดเล็บให้ภัทรทีละนิ้วจนกระทั่งครบหมดทั้งสิบนิ้ว จากนั้นก็เปลี่ยนมานั่งที่ปลายเตียง
           
    “คุณกว้านหลิน ไม่ต้อง...”ภัทรร้องท้วงเมื่อกว้านหลินจับเท้าของตัวเองหากแต่อัลฟ่าหนุ่มก็ทำหูทวนลม ปล่อยให้ภัทรมองการกระทำของเขาอย่างตื้นตัน

กว้านหลินในตอนนี้ไม่ต่างจากพี่กว้านหลินตอนอายุ 15 เลยซักนิด

 ทั้งใจดีและอ่อนโยน

 

            ไล่กว้านหลินและเฉินเสี่ยวป๋ายก้าวเท้าเร็วอย่างรีบเร่งเข้าไปในห้องทำงานใหญ่ของผู้เป็นพ่อ ด้านหน้าห้องบอดี้การ์ดหลายคนยืนอารักขาบุคคลด้านในที่ตั้งแต่ไล่หยวนช่างสิ้นลม สตรีหมายเลขหนึ่งของตระกูลไล่ก็ขึ้นแท่นผู้บริหารที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุด กว้านหลินทำความเคารพผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ใหญ่ สตรีวัยหกสิบปีกำลังยืนมองรูปถ่ายบานใหญ่ที่ติดไว้ด้านขวาของห้องด้วยสีหน้าราบเรียบเดาความคิดในใจของนางไม่ได้เลยซักนิด อู๋อี้เฟยยังคงความสง่างามไม่ต่างจากวันวานเลยซักนิด หญิงวัยหกสิบปีส่งยิ้มอ่อนหวานมาให้

            “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะกว้านหลิน ดูโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวต่างจากตอนไปอเมริกาครั้งก่อนจนแม่จำเธอแทบไม่ได้”หญิงชราลูบใบหน้าลูกชายคนเล็กอย่างแผ่วเบารอยยิ้มเยือกเย็นอันเป็นบุคลิกประจำตัวส่งมาให้เช่นทุกครั้ง

            “แต่แม่ใหญ่ยังสวยเหมือนเดิมนะครับ”ชายหนุ่มประคองสตรีชราไปนั่งที่เก้าอี้ของพ่อก่อนจะย้ายตัวเองมานั่งด้านตรงข้าม

            “เห็นว่าช่วงนี้มีปัญหาส่วนตัว”นางรับแฟ้มเอกสารที่กว้านหลินส่งไปให้เปิดดู ปากก็เอ่ยถามราวกับคุยเรื่องสัพเพเหระ แต่กว้านหลินรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องคุยเล่น

อู๋อี้เฟยกำลังสอบสวนเขาอยู่

            “ก็นิดหน่อยครับ”

            “อัลฟ่าดีๆมีอีกเยอะนะ ถ้าจะต้องสละชีวิตใครไปอีกซักคนแม่ไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญให้เธอต้องลดเกียรติไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า โดยเฉพาะพวกสายเลือดชั้นต่ำที่ทำให้พ่อเธอตาย”

            “แต่ในท้องนั่นมีเลือดเนื้อเชื้อไขของผมอยู่นะครับแม่ใหญ่ อีกอย่างเรื่องที่ผ่านมาภัทรได้ชดใช้อย่างสาสมแล้ว”

            “ถ้าเธอบอกว่ามันชดใช้อย่างสาสมแล้วทำไมไม่ปล่อยมันไปล่ะ ยังจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้เป็นหอกข้างแคร่ทำไม เธอรู้หรือเปล่าว่าการยกลูกของคนทรยศขึ้นมาอยู่ในฐานะภรรยามันจะทำให้ความน่าเชื่อถือของเธอลดลง”

            “แต่แม่ใหญ่ครับ เรื่องนี้ผมว่ามันไม่ควรเอามาเกี่ยวกัน ภัทรเองก็ไม่ได้รู้ได้เห็นในสิ่งที่ชานซองทำ”

            “แล้วใครจะสนใจเหตุผลข้อนั้นล่ะ ไล่กว้านหลินเธออายุจะสามสิบแล้วนะ บางสิ่งบางอย่างต่อให้รักมากแค่ไหนเธอก็ต้องเสียสละทิ้งมันไปบ้าง ตระกูลของเราขึ้นมาได้ถึงขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะกินบุญเก่าไปวันๆนะ มันเป็นเพราะผู้สืบสกุลที่ผ่านมาเด็ดขาดกับทุกเรื่อง แม่ไม่เห็นด้วยที่จะยกเด็กคนนั้นขึ้นมาเป็นเมียอย่างออกหน้าออกตา ยิ่งลูกของมันแล้วแค่รับรองบุตรก็พอ ถ้าเธอหาคู่ไม่ได้แม่จะหาให้ จะเอาแบบไหนเรียบร้อยเพียบพร้อมหัวอ่อนเชื่อฟังหรือแบบที่มั่นใจในตัวเอง คุณหนูสกุลหวังดีมั้ยเธอก็เคยเจอแล้วนี่”

            “แม่ใหญ่ครับ เรื่องงานถ้าผมทำผิดพลาดแม่ใหญ่ตำหนิหรือลงโทษผมได้เต็มที่นะครับ แต่เรื่องครอบครัวของผม ผมขอ ผมอยากให้แม่ใหญ่เปิดใจให้คนของผมบ้างภัทรเป็นเด็กดีและอดทนมากคนหนึ่งทั้งๆที่ผมทำร้ายๆกับเขาไปตั้งเยอะแต่เด็กนั่นมีแต่คำว่าให้อภัยเสมอและตอนนี้เขาก็กำลังอดทนเพื่อลูกของเราอยู่”กว้านหลินพยายามอธิบายให้แม่ใหญ่ฟังหากแต่อู๋อี้เฟยผิดแฟ้มเสียงดังปึง รอยยิ้มใจดีจางหายไปจากใบหน้าแล้ว

            “เธอคิดว่าเด็กนั่นจะรักเธอจริงๆได้เหรอกว้านหลิน เธอกำลังเผยจุดอ่อนให้มันเล่นงานเธอต่างหากเล่า คิดดูเถอะมันจะมีใครที่ไหนรักคนที่ฆ่าพ่อตัวเองต่อหน้าต่อตาได้ เหมือนที่เธอก็ทำใจยอมรับพ่อของเด็กนั่นให้อยู่ในฐานะพ่อตาไม่ได้นั่นแหละ ตอนนี้กำลังรักกำลังหลงกันเธออาจจะมองข้ามจุดนี้ไป แต่พอวันหนึ่งที่ความสดใหม่มันเจือจางความรักความหลงเริ่มคงที่ไม่มากขึ้นเธอจะเห็นความจริงข้อนี้ ขอเถอะนะ เธอเองก็ไม่ใช่วัยรุ่นที่จะมาหลงลมกับความรักฉาบฉวยแล้ว ทำอะไรคิดให้เยอะๆ แม่เลี้ยงเธอมาเพื่อให้โตมารับใช้วงศ์ตระกูล อย่าเอาเลือดชั่วเข้ามาแปดเปื้อนสายเลือดอันบริสุทธิ์ของเราเลย เธอเองถ้ายศฐาบรรดาศักดิ์ยังเป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตาในปัจจุบันก็ถือว่าได้เลือดสีน้ำเงินมาครึ่งตัว ท่านหญิงคงไม่ดีใจนักถ้าลูกชายคนเดียวใฝ่ต่ำของเลือดชั่วมาร่วมสกุล แม่เองก็รักเธอไม่น้อยไปกว่าคริสและจอห์นนี่ก็อยากจะขอให้เธอเอาคำพูดแม่ไปคิดให้มากๆ ส่วนเรื่องงาน เธอทำดีมากไม่มีที่ติ เลขาเฉิน เดี๋ยวส่งแฟ้มกลับไปที่โรงแรม ก่อนบินคืนนี้ฉันจะตรวจอีกทีแล้วจะให้เลขาหม่าส่งคืนมาให้”หล่อนหันไปสั่งเสี่ยวป๋ายที่ยืนรอคำสั่งอยู่มุมห้อง เสี่ยวป๋ายรีบเดินมารวบรวมแฟ้มตามคำสั่ง ผู้เป็นประมุขใหญ่ของบ้านลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวกลับโรงแรมที่พัก กว้านหลินจะเข้าไปประคองหากแต่เธอยกมือขึ้นห้าม

            “ไม่ต้องไปส่งแม่หรอก ตั้งใจทำงานเถอะ”

            “ครับ”กว้านหลินก้มหัวรับคำ

            “อ่อ แล้วก็ เก้าอี้ตัวนี้ของพ่อเธอ อาจจะนั่งสบายก็จริง แต่ถ้านั่งไม่ดีวันหนึ่งอาจจะตกได้ เข้าใจแล้วใช่มั้ย?”


            “ครับ”อู๋อี้เฟยยิ้มเมื่อลูกชายคนเล็กรับคำ หล่อนประคองใบหน้าของลูกก่อนจะจูบลงบนแก้มของกว้านหลินเบาๆ

            “แม่กลับก่อน หวังว่าเย็นนี้เธอคงมีเวลาว่างมากพอจะไปกินมื้อเย็นกับแม่นะ”

            “ได้ครับ ผมจองร้านอาหารไว้แล้วเดี๋ยวตอนเย็นจะไปรับแม่นะครับ”อี้เฟยยิ้มรับ หล่อนจากไปพร้อมบอดี้การ์ดที่คริสให้ลีโอคัดเลือกมาเพื่อดูแลมารดาของตน ทิ้งระเบิดเวลาไว้ในใจของกว้านหลิน อัลฟ่าหนุ่มทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง ปัญหาของเขากับภัทรไม่ได้เบาลงเลยซักนิด การที่แม่ใหญ่มาพูดกับเขาด้วยตัวเองทั้งที่ก็นิ่งไปหลายเดือนแสดงว่าพี่ใหญ่โน้มน้าวไม่สำเร็จ การที่เขาจะแต่งภัทรเข้าบ้านก็เป็นเรื่องยากเหลือเกิน

ในใจของอัลฟ่าหนุ่มทั้งหนักและหน่วงคล้ายมีเหล็กเผาไฟนับพันดันทาบทับ ชายหนุ่มปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนล้า

ต้องหาทาง

จะทำยังไงดี...ทำยังไงดีกับเส้นทางของพวกเรา

พี่มองไม่เห็นทางเลยภัทร

          บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นไม่ดีเลยซักนิด หัวข้อที่แม่ใหญ่หยิบยกขึ้นมาพูดยังไม่พ้นเรื่องครอบครัวของเขา ชายหนุ่มฝืนตักอาหารใส่ปากโดยไม่ได้รู้รสชาติของอาหารที่ใครหลายๆคนต่างรีวิวกันในโซเชียลว่ามันแสนจะเลิศรสเลยซักนิด

เพราะไม่ว่าจะกินคำไหนก็มีเพียงความขมปร่าที่แผ่ซ่านจากปลายลิ้นถึงหัวใจ

          "ความน่าเชื่อถือของเธอลดลงตั้งแต่เปลี่ยนตัวเลขาจากอี้เฉินนมาเป็นเสี่ยวป๋ายเพียงเพราะเรื่องหึงหวงและไม่ได้เกี่ยวกับงานเลยหากเธอยังยกเด็กนั่นมาแต่งงานด้วยยกให้ออกหน้าออกตาบรรดาพนักงานบริษัทรวมทั้งผู้ถือหุ้นจะมองเธอยังไงรู้บ้างมั้ยเธอจะได้ชื่อว่าสมรู้ร่วมคิดกับคนทรยศฆ่าพ่อตัวเองเพื่อฮุบบริษัท ถึงวันนั้นต่อให้แม่อยากช่วยเธอแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้แล้ว"นั่นคือประโยคทิ้งท้ายที่อู๋อี้เฟยพูดกับเขาก่อนจะแยกจากกัน


          "เป็นอะไรครับทำไมหน้าเครียดจังเลย?"ภัทรที่สังเกตเห็นถึงใบหน้าเคร่งเครียดของกว้านหลินหลังจากกลับมาถึงโรงพยาบาลเอ่ยถามอย่างห่วงใย

นานแล้วที่กว้านหลินไม่ได้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนี้  ไล่กว้านหลินยามที่กำลังมีเรื่องไม่สบายใจหรือไม่พอใจอะไรน่ะดูออกง่ายจะตายไป หากแต่เจ้าตัวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

          "ไม่มีอะไรหรอกภัทรนอนเถอะ  ดึกแล้วนะเดี๋ยวลูกง่วง"ณภัทรหัวเราให้กับคำพูดนั้นของผู้เป็นสามี

ช่างเป็นมุกที่ตลกร้ายเสียเหลือเกินสำหรับโอเมก้าที่ต้องนอนติดเตียงอยู่อย่างนี้

      "ผมนอนมาจะสองเดือนแล้วนะครับ มีอะไรไม่สบายใจทำไมไม่บอกกันล่ะครับ คุณกว้านหลินชอบเก็บทุกอย่างไว้คนเดียว"น้ำเสียงราวกับกำลังตัดพ้อเอ่ยกับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี กว้านหลินกดจููบลงบนหน้าผากของภัทร รอยยิ้มอ่อนโยนมอบให้กับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ชีวิตคู่แห่งโชคชะตา

เขาไม่มีทางให้ภัทรรับรู้สิ่งที่แม่ใหญ่พูดเด็ดขาด เด็กคนนี้อดทนและเจ็บปวดมามากเกินพอแล้ว

          "คุณกว้านหลินครับ ถ้ามีอะไรที่ไม่สบายใจ หรือมีปัญหาอะไรที่แก้ไขไม่ได้ก็บอกให้ผมรับรู้บ้างนะครับ ผมอยากแชร์ทุกอย่างจริงๆ ทั้งความทุกข์และความสุข ผมเชื่อนะครับว่าคงไม่มีปัญหาอะไรจะยิ่งใหญ่และยากลำบากไปกว่าเรื่องลูกที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้แล้ว"

          "รู้แล้วๆ มันไม่มีอะไรใหญ่หรอก แค่กำไรบริษัทไตรมาสนี้ลดลงนิดหน่อยเลยโดนแม่ใหญ่บ่นน่ะ ไตรมาสหลังนี้ไตรมาสหลังนี้คงต้องขยันมากขึ้นกว่าเดิม"กว้านหลินบีบจมูกคนที่ส่งสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างหมั่นเขี้ยว เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดเลยว่าการมีครอบครัวจะช่วยให้หัวใจหายเหน็ดเหนื่อยได้ ยามที่พี่ๆทั้งสองคุยฟุ้งเรื่องเมียตัวเองให้ฟังกว้านหลินได้แต่เบะปากใส่และแอบคิดว่าพี่ชายทั้งสองคนของตนนั้นเพ้อเจ้อ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าการที่มีใครซักคนพยายามปลอบเรายามท้อแท้ หรือแสดงความห่วงใยใส่ใจกันนั้นมันมีความสุขมากเพียงใดชายหนุ่มไม่ปล่อยให้ปัญหานี้ค้างคาอยู่ในใจนานนัก  รุ่งขึ้นเมื่อเดินทางมางบริษัทกว้านหลินไม่สนใจว่าตอนนี้ที่อเมริกาจะเป็นเวลาเท่าไหร่ ทายาทคนเล็กของตระกูลไล่ต่อสายตรงถึงพี่ชายคนโตทันที  รอสายเพียงไม่นานคริสก็รับสายพร้อมน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที่

         "ไอ้สาม แกจะโทรมาทำไมตอนนี้ กว่าลีโอจะกล่อมลูกหลับได้ฉันสองคนแทบหมดพลัง"คริสค่อยๆปิดประตูห้องอย่างแผ่วเบาแล้วเดินออกมาคุยด้านนอกปล่อยให้ลีโอที่เพิ่งคลอดลูกได้เดือนเศษนอนกับลูกชายตัวน้อย

          "พี่ใหญ่ไหนพี่บอกว่าจะคุยกับแม่ใหญ่ให้ไงเรื่องผมกับภัทร ทำไมแม่ใหญ่ถึงได้มาบังคับให้ผมกับภัทรเลิกกันล่ะ"

          "ฉันก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะไอ้สาม แต่กับแม่ใหญ่น่ะท่านเป็นคนระเบียบจัดอยู่ๆจะไปบอกให้เข้าใจอะไรแบบปุบปับน่ะเป็นไปไม่ได้ แกต้องใจเย็นๆ ฉันรับปากแกไว้แล้วยังไงก็จะช่วยเต็มที่แน่ๆ ตอนนี้แกดูแลภัทรให้ดีเถอะ อย่าให้หลานของฉันตายไปอีกคน แกโตเป็นพ่อคนแล้วเรื่องบางอย่างแกก็ต้องเด็ดขาดที่สำคัญ อย่าวู่วาม รู้จักที่จะรอบ้าง ฉันกับไอ้รองคอยช่วยแกอยู่เสมอ แต่เรื่องของแกกับภัทรมันใหญ่และต้องใช้เวลา ฉันก็อยากให้แกเข้าใจพวกฉันบ้างเข้าใจมั้ย?"

           "ไอ้เข้าใจมันก็เข้าใจแหละพี่ แต่แม่ใหญ่ท่านรบเร้าจะให้ผมไล่ภัทรไปแล้วทิ้งลูกไว้ ถ้าไม่ยอมเลิกกันลูกของผมจะไม่มีสิทธิ์ในหุ้นทั้งหมดที่เป็นของผม แม่ใหญ่ขู่จะถอดชื่อผมออกจากผู้ถือหุ้น พี่ต้องเห็นแก่หลานนะ"

          "เออๆ วางใจเถอะลูกแกก็หลานฉัน พวกฉันไม่ทิ้งแกหรอกยังไงซะตอนนี้ไม่ว่าแม่ใหญ่จะพูดอะไรแกก็เออออไปด้วยก่อนที่เหลือเดี๋ยวฉันจัดการเอง  โอเคมั้ย?"

          "ครับ  เอาตามนั้นก็ได้"


ในที่สุดภัทรก็ประวิงเวลาได้จนผ่าน 28 สัปดาห์ของการตั้งท้อง แต่ระหว่างนั้นเด็กน้อยเกิดอาการหัวใจวายอีกหนจนหมอนนท์ตัดสินใจให้ย้ายไปนอนที่ห้องเตรียมคลอด  กว้านหลินคอยติดตามอาการของภรรยาอย่างเคร่งเครียด เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่พยายามกันมาตลอดสองเดือนนี้จะเป็นผลมั้ย เหมือนภัทรและลูกพร้อมจะทิ้งกันได้ตลอดเวลา  แม้ว่ายามอยู่ด้วยกันกว้านหลินจะยิ้มแย้มแจ่มใสเล่าเรื่องลูคัสให้ฟังราวกับตลกเสียเต็มประดาหากความจริงแล้วยามที่ไปทำงานได้อยู่คนเดียวในห้องทำงานอัลฟ่าหนุ่มต้องเสียน้ำตาไปแล้วตั้งหลายครั้งหลายหน

เขาไม่ได้เข้มแข็งเหมือนเปลือกนอกมีแสดงเลยซักนิด...

อันที่จริงแล้วไล่กว้านหลินคนนี้อ่อนแอยิ่งกว่าโอเมก้าที่กำลังเผชิญหน้าอยู่ระหว่างเส้นแบ่งระหว่างความเป็นกับความตายอย่างณภัทรเสียอีก

ไล่กว้านหลินไม่รู้เลยว่าเด็กคนนั้นไปเอาความเข้มแข็งและอดทนขนาดนั้นมาจากไหน  อาจเป็นพลังความรักของคนเป็นแม่ที่พร้อมจะสู้ทุกอย่างเพื่อสายเลือดในครรภ์  เขาอยากแบ่งเบาความยากลำบากของภัทรบ้าง แต่สิ่งที่ทำได้คือคอยโอบกอดและบอกว่าเขารักภัทรในทุกค่ำคืน

สัปดาห์ที่ 30 ผ่านไปอย่างเชื่องช้ากำลังเข้าสู่สัปดาห์ที่ 31 ในอีก 2 วันข้างหน้า  ระหว่างที่กว้านหลินกำลังนั่งดูวงจรปิดที่ติดเอาไว้ที่บ้านเพื่อดูลูคัส อยู่ๆเสี่ยวป๋ายก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาโดยไม่เคาะประตูเหมือนเช่นทุกครั้ง

          "คุณกว้านหลินครับหมอนนท์โทรมาแจ้งว่าคุณภัทรหัวใจวายอีกรอบ คราวนี้หมอนนท์จะทำคลอดเลยให้คุณกว้านหลินรีบไปครับ"


          คุณชายสามตระกูลไล่ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถขับรถได้เร็วขนาดนี้ชายหนุ่มก้าวยาวๆผ่านทางเดินแคบๆผ่านบรรดาญาติคนไข้ที่เดินดันขวักไขว่ในยามบ่ายแก่ๆได้โดยไม่สนใจใคร เสี่ยวป๋ายพยายามวิ่งตามเจ้านายหนุ่มที่ก้าวพรวดๆทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่น

ในใจของกว้านหลินมันเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมานอกอก

          "ไปจัดกาจัดการตัวเองก่อน"หมอนนท์บอกกับชากับชายหนุ่มที่ทำท่าจะเข้าไปในห้องรอคลอด กว้านหลินจัดการทำความสะอาดตัวเอตัวเองและสวมชุดที่พยาบาลนำมาให้ ภัทรถูกยัายเข้าไปในห้องคลอด ใบหน้าของเด็กน้อยของเขาช่างซีดเซียวจนน่าสงสาร  กว้านหลินยกมือของภัทรมากุมไว้ บีบมือนุ่มนั้นราวกับจะส่งผ่านกำลังใจจากเขาไปให้

         "เป็นยังไงบ้าง?"

          "เหนื่อยครับ กลัวด้วย"

           "ไม่เป็นไรนะพี่จะอยู่กับเธอ เราจะรอลูกออกมาพร้อมกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะอยู่ข้างๆภัทรนะ"อัลฟ่าหนุ่มยิ้มให้กับภัทรที่มีใบหน้าซีดเซียว  แม้หลังจากนั้นทั้งคู่จะไม่ได้พูดอะไรกันอีกแต่ทั้งกว้านหลินและภัทรก็รู้ดีว่าเขาทั้งคู่จะเป็นกำลังใจเพื่อกันและกัน  ณภัทรไม่รู้ว่าหลังจากการคลอดครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ลูกจะยังอยู่กับตนหรืออาจจะเป็นตัวของเขาเองที่ต้องจากไปโดยทิ้งกว้านหลินไว้เบื้องหลัง

ดังนั้น

ในตอนนี้

เวลานี้

ณภัทรก็อยากจะเก็บเกี่ยวช่วงเวลานี้กับกว้านหลินให้มากที่สุด  เพราะถ้าหากตนเองต้องเป็นฝ่ายจากไปจริงๆชีวิตนี้ก็คุ้มค่าแล้วที่สามารถได้รับความรักจากไล่กว้านหลิน

โชคดีเหลือเกิน...

        "คุณภัทรจะใช้ยาสลบหรือบล็อกหลังครับ?"

          "ผมขอบล็อกหลังครับ"

          "ยาสลบดีกว่ามั้ยภัทร"กว้านหลินเอ่ยท้วงกับการตัดสินใจของซอนของภัทรด้วยความเป็นห่วง



ไม่ยินยอม  เขาไม่พร้อมจะเสียใครไปซักคน  ไล่กว้านหลินในยามนี้เหมือนคนละโมบหากภัทรและลูกในท้องเป็นปลาเขาก็เป็นคนโลภที่จะคว้าเอาไว้ทั้งสองมือ ภัทรยังคงยืนยันความตั้งใจเดิมคือการบล็อกหลัง

          "ผมอยากเห็นลูกพร้อมคุณกว้านหลินนะครับ"ภัทรบีบมือกว้านหลินเบาๆเมื่อเป็นเช่นนั้นชายหนุ่มก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ อนลเริ่มกาเริ่มการทำคลอดด้วยการฉีดยาชาเข้ากระดูกสันหลัง ภัทรกัดริมฝีปากจนรู้สึกชาไปหมด ทีมแพทย์ต่างทำหน้าที่ของตนเอง กว้านหลินหลับตาลงยามคมมีดกรีดลงบนผิวเนื้อของภัทร

          "เจ็บมั้ย?"ถามคนที่ถามคนที่นอนมองขั้นตอนการทำคลอดตนอยู่อย่างสนอกสนใจ ภัทรส่ายหน้า

          "เลือดออกเยอะจังเลย"อัลฟ่าหนุ่มปรารภออกมาเบาๆ อัลฟ่าหนุ่มตาโตยามเห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่หมอนนท์นำออกมาจากท้องของภรรยา

          "เด็กผู้หญิงครับ"หมอนนท์หันมาบอกก่อนที่พยาบาลจะนำไปดูดน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกของเด็ก การดูแลเด็กทำไปด้วยความเร่งรีบ

ลูกสาวของเขาต้องถูกนำใส่ตู้อบทันที

เด็กน้อยตัวเล็กมากน้ำหนักเพียงแค่ 1250 กรัม เท่านั้นช่างต่างจากลูคัสคนพี่ลิบลับ

อย่างน้อยก็มีเรื่องน่ายินดีคือเด็กน้อยยังมีชีวิตอยู่

          "คุณหมอคะ คนไข้มีมีอาการตกเลือดค่ะ"พยาบาลที่ดูอาการของภัทรอยู่ร้องบอกกับนายแพทย์หนุ่ม กว้านหลินถูกเชิญให้ออกไปรอด้านนอกทันที แม้ชายหนุ่มจะอยากอยู่เป็นกำลังใจให้กับภัทรซักแค่ไหนแต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงมายืนภาวนาอยู่ด้านนอก

          "พอได้แล้ว...หยุดลงโทษผม หยุดทดสอบผมซักที"ชายหนุ่มเงยหน้ามองฟ้าเก็บกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลกลับไปตามเดิม  เขาเชื่อว่าภัทรจะสู้เด็กคนนั้นน่ะใจสู้ที่สุดเท่าที่กว้านหลินเคยเห็นมา


และครั้งนี้ก็เช่นกัน


ไล่กว้านหลินรีบลุกขึ้นทันทีที่หมอนนท์เปิดประตูออกมา

          "พี่ ภัทรเป็นยังไงบ้าง?"น้ำเสียงร้อนรนรบเร้าจะเอาคำตอบทันที อนลถอนหายใจขับไล่ความเหนื่อยล้าสีหน้าเศร้าจนกว้านหลินใจกระตุก

          "ปลอดภัยแล้ว"เบต้าหนุ่มที่แสร้งทำหน้าเศร้าแจ้งผลการรักษา กว้านหลินถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะทิ้งตัวลงคุกเข่าลงพื้นอย่างอ่อนแรง ชายหนุ่มยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

          "พี่มึงแม่ง...ฮึก..."กว้านหลินสบถออกมาเบาๆ ทั้งดีใจทั้งโล่งใจแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  อนลย่อตัวลงไปจับไหล่กว้านหลินก่อนจะตบลงเบาๆ

          "จำความรู้สึกนี้ไว้ให้ดีนะคุณชาย ถ้ารู้ว่าเขาสำคัญมากก็อย่าทำให้เขาเสียใจอีกล่ะ เด็กคนนั้นน่ะสมควรได้รับสิ่งดีๆได้แล้ว"

          "รู้แล้วน่า แล้วลูกของผมล่ะ?"

          "เด็กคลอดก่อนกำหนดและตัวเล็กมาต้องให้อยู่ในตู้อบไปก่อน ต้องเช็คพวกระบบทางเดินหายใจ ปอดกับหัวใจอีก ระหว่างนี้ก็อยู่โรงพยาบาลกันไปอีกซักพักนะ"

          "แล้วผมจะได้เข้าไปหาภัทรเมื่อไหร่?"

          "ก็เดี๋ยวรอย้ายเข้าไปห้องพักก็เฝ้าได้แล้วล่ะ ระหว่างนี้ก็อย่าเพิ่งไปกวนแกเลยให้คนไข้พักผ่อนไปก่อน"กว้านหลินพยักหน้ารับทราบ

          "อ่อ"อนลที่เดินไปได้ 2-3 ก้าวหันหันกลับมาหากว้านหลินอีกครั้ง

          "ตอนที่คุณไม่อยู่ผมแวะไปคุยกับคุณภัทรทุกวัน แกบ่นคิดถึงแม่กับน้องๆตลอดเลยนะ"

#ไฮเดรนเยีย



TBC.


















............................................



ใครจะไปใจร้ายได้ลง แหมพวกเธพวกเธอก้อออออออ...





แม่ใหญ่มาแล้วววววววววววว



ความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คนสองคนหรอก ยิ่งเป็นคนเอเซียด้วยแล้วความรักจะประกอบด้วยพ่อแม่พี่น้องโคตรเหง้าศักราชต่างๆ บางครั้งต่อให้เรารักกันมากแค่ไหนพ่อแม่ไม่เอาก็ต้องเลือกว่าจะไปต่อหรือจะปล่อยมือกัน



ถ้าจับไม่แน่นพอหันมาอีกทีอาจมีแต่ทางที่ว่างเปล่า


หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 21 "เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 24-06-2019 22:16:31
 :pig4:
 :L2:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 21 "เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-06-2019 22:49:07
สงสารกว้านหลินกับภัทรจัง
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 21 "เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 24-06-2019 23:27:03
 ไรท์อย่าใจร้ายกับน้องเลย เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่นะขอให้ผ่านด่านแม่ใหญ่ไปให้ได้
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 21 "เส้นแบ่งระหว่างความเป็นและความตาย"
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 25-06-2019 16:41:10
 :sad4:   :sad4:   :sad4:      มันจะไม่ม่าใช่ไหมคะคนเขียนขา
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 22 แต่งงานกันนะ"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 26-06-2019 10:03:48
   Hydrangea 22

 
 
 
            ณภัทรใช้เวลาในการอยู่ดูลูกน้อยในตู้อบอีกนานนับเดือน โชคดีที่เด็กหญิงลิซ่า ไล่ สุขภาพดีขึ้นตามลำดับ ตอนนี้โอเมก้าแม่ลูกสองสามารถเล่นกับลูคัสได้แล้วดังนั้นในตอนกลางวันลูกชายวัยสองขวบเศษจึงสามารถมาอยู่กับแม่ได้
 
            "ไม่เอาครับ"ภัทรปฏิเสธลูกยามที่เจ้าเด็กตัวล่ำพยายามถกชายเสื้อของผู้เป็นแม่พลางเอาศีรษะชนหน้าอก บ่งบอกว่าเจ้าตัวต้องการดื่มนมจากอกแม่มากกว่า ในหัวของเด็กน้อยยามนี้มีแต่ความสงสัย
 
ทำไมถึงกินไม่ได้?
 
ก็เมื่อก่อนพอส่งเสียงว่าหม่ำๆแม่ก็ยอมให้เข้าเต้าทุกที
 
หากแต่ในตอนนี้ต่อให้พูดหม่ำๆจนคอแทบแตกแม่ก็ไม่ให้แถมเอาแต่ยื่นขวดนมที่จุกนมไม่นิ่มเหมือนนมแม่เลยซักนิดมาให้
 
เคร้ง
 
ลูคัสเขวี้ยงขวดนมที่แม่ยื่นใส่ปากให้ อย่างหงุดหงิด เด็กน้อยทิ้งตัวลงกับพื้นเตียงอย่างงอแงเต็มที่ มือป้อมขยี้หูขยี้ตาอย่างน่าสงสาร
 
            “โอ๋ลูก ไม่ร้องนะครับ"ภัทรคว้าร่างป้อมของลูกมาอุ้มหากแต่เด็กน้อยก็ขืนตัวไว้ทำตัวอ่อนราวไร้กระดูก
 
กว้านหลินมองเจ้าลูกชายออกฤทธิ์ออกเดชแล้วได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
 
มารยาล่ะที่หนึ่ง ร้องไห้อะไรกันน้ำตาซักหยดก็ไม่มี
 
เสียงร้องเหมือนจะเป็นจะตาย
 
น้ำตาจระเข้ล่ะสิไม่ว่า
 
กว้านหลินเดินไปอุ้มเจ้าตัวป้อมที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาร้องมาไว้ในอ้อมกอดแล้วก้มหยิบขวดนมอีกขวดในตะกร้ายัดใส่ปากลูกชาย ลูคัสทำท่าจะไม่ยอมหากแต่เสียงทุ้มเอ่ยดุกับลูกชาย
 
            "กิน ถ้าไม่กินจะโยนขวดนมทิ้งให้หมดแล้วไม่ต้องกินอะไรแล้ว"ที่สุดแล้วแม้จะไม่อยากจะยอมแต่ความหิวก็มีอิทธิพลกับเจ้าตัวจ้อยเสียเหลือเกิน ลูคัสค่อยๆสงบก่อนจะปิดเปลือกตาลงเพราะง่วงเต็มทน
 
            “แกคงแปลกใจทำไมกินนมแม่ไม่ได้น่ะ”กว้านหลินบอกก่อนจะหันหลังเตรียมวางลูคัสลงนอนบนโซฟาตัวใหญ่
 
            “เอาแกมานอนบนเตียงกับผมก็ได้ครับ สงสารเหลือเกิน”ภัทรเปิดผ้าห่มให้กว้านหลินเอาลูกมานอนข้างๆ อัลฟ่าหนุ่มทำตามโดยไม่อิดออดเมื่อวางลูกลงแล้วภัทรก็ห่มผ้าให้ลูกมือป้อมถูกคนเป็นแม่ยกขึ้นมาก่อนจะจรดริมฝีปากลงไปจูบหลังมืออูมๆของลูกรัก น้ำตาพาลจะร่วงเมื่อสังเกตแล้วลูคัสผอมลงไปถนัดตา
 
            “เป็นอะไร ทำไมทำหน้าเศร้า?”
 
            “ลูกผอมลงครับ”กว้านหลินหัวเราะเบาๆก่อนจะลูบเรือนผมดำสนิทของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา
 
            “ไม่ได้ผอมหรอก แกยืดตัวน่ะ ดูสิ ตัวแกยาวขึ้น แขนขาก็ยาวขึ้น เห็นมั้ย?”กว้านหลินดึงแขนลูกให้ภัทรดู  แขนของลูคัสยาวขึ้นจริงอย่างที่กว้านหลินว่านั่นแหละ ที่เคยเป็นปล้องๆก็เริ่มบางลง สองสามีภรรยานั่งคุยกันถึงเรื่องลูกจนกระทั่งได้เวลาให้นมลิซ่า พยาบาลเข็นทารกน้อยเข้ามาในห้องตามมาด้วยคุณหมออนล
 
            “ไงคุณแม่คนเก่ง เบื่อโรงพยาบาลแล้วหรือยัง?”คุณหมอนนท์ทักคนไข้ด้วยน้ำเสียงสดใส แม้จะเป็นเพียงเสียงกระซิบเพราะเห็นว่าลูคัสหลับอยู่แต่ก็เหมือนมีพระอาทิตย์สว่างจ้าอยู่ในห้องพัก ภัทรยู่ปากด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายขั้นสุดจริงๆ
 
            “ผมเบื่อจะแย่แล้วครับ อยากกลับบ้าน อยู่นี่นอกจากยายหนูก็ไม่มีอะไรน่าดูแล้ว”
 
            “พูดแบบนี้หมอน้อยใจนะเนี่ย ออกจะหล่อขนาดนี้ยังดึงดูดให้คุณภัทรอยากอยู่ต่ออีกเหรอครับ”อนลพูดสรรพยอกโอเมก้าที่อยู่ในการดูแลอย่างอารมณ์ดี แต่พอหันไปเจอสีหน้าถมึงทึงของกว้านหลินก็ถึงกับสะดุ้ง
 
            “อุ่ย...เจ้าที่แรงจริงจริ๊ง”หมอนนท์แกล้งส่งเสียงล้อคนที่ทำหน้าบึ้งอยู่ข้างเตียงแล้วจึงหันมาให้ความสนใจกับแม่ลูก กว้านหลินไปนั่งรอที่โซฟาเพราะไม่อยากจะยืนเกะกะหากแต่ดวงตาไม่ได้ละไปจากภาพอันแสนงดงามยามที่ภัทรให้นมลูกแม้แต่วินาทีเดียว บนเตียงแคบๆนั้นมีสามชีวิตที่เขารักและหวงแหนที่สุดรวมกันอยู่ตรงนั้น ยามที่ภัทรส่งเสียงคุยกับลูกสาวตัวน้อยเหมือนโลกทั้งใบถูกปกคลุมด้วยลมอุ่นๆ ลิซ่าอาการดีขึ้นตามลำดับแม้จะตัวเล็กเมื่อครั้งแรกคลอดแต่ตอนนี้น้ำหนักเริ่มเพิ่มมากขึ้นจนเกือบเท่าเด็กปกติ เด็กน้อยมีอาการหัวใจรั่วแต่อนลบอกว่าเขารักษาได้กว้านหลินก็วางใจไปเปราะหนึ่ง
 
            “อาทิตย์หน้าหมอว่าคุณกลับบ้านได้แล้วนะครับ อาการยายหนูไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว คุณกับคุณชายจะได้ไม่ต้องมาอุดอู้อยู่ที่นี่ บอกตามตรงผมเบื่อหน้าคุณชายเต็มที”
 
            “อ้าว ทำไมพูดแมวๆแบบนั้นล่ะพี่”กว้านหลินแกล้งทำเสียงขรึมใส่อนล คุณหมอหนุ่มยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ต่อให้ใครจะกลัวกว้านหลินจนหัวหดแต่ไม่ใช่เขาแน่นอน  หลังให้นมลูกเสร็จพยาบาลก็เข็นเด็กหญิงตัวน้อยกลับไปยังห้องเด็ก กว้านหลินพาลูคัสกลับไปส่งบ้านให้กับศลัย  ภัทรที่ไม่มีอะไรทำก็ถือโอกาสนี้เอนหลังพักผ่อน ห้องทั้งห้องเงียบเมื่อโอเมก้าแม่ลูกอ่อนหลับลง บานประตูห้องที่ภัทรพักค่อยๆเปิดออกอย่างเงียบเชียบ ใครบางคนเร้นกายเข้ามาราวกับเงา สองตาจ้องมองร่างบอบบางที่นอนหลับสนิทบนเตียงอย่างแสนรักและแสนคิดถึง ภัทรดูโตขึ้นมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นเมื่อสามปีก่อน แก้มยุ้ยๆที่พ่อแม่ชอบล้อเลียนหายไปแล้วเหลือเพียงใบหน้าคมแบบฉบับเด็กผู้ชายที่โตเต็มวัย สันกรามคมได้รูปส่งให้ใบหน้าของภัทรดูน่าหลงใหลหากแต่ความคมแบบผู้ชายกลับถูกกลบลบด้วยขนตายาวเป็นแพ ร่างกายสูงโปร่งหากแต่กลับดูเปราะบางเหมือนแก้วที่ถูกเป่าจนบางเฉียบหากจับต้องก็คงต้องประคับประคองสุดความสามารถ ภาวิณีไม่สามารถสะกดกลั้นความรู้สึกคิดถึงและดีใจที่ท่วมท้นขึ้นมาในอกได้
 
ลูกชายคนโตที่ถูกพรากไปถึงสามปี หลังจากมินฮยอนหายไปจากชีวิตหล่อนและลูกชายอีกสองคน  คนเป็นแม่ก็ถูกตัดขาดจากลูกคนโต หล่อนไม่ได้รับอนุญาตให้ไปหาภัทรเพราะกว้านหลินขู่ไว้ว่าถ้าหากภาวิณีเข้าไปยุ่มย่ามวุ่นวายที่บ้านเขาจะไม่รับประกันความปลอดภัยของภัทร
 
ทั้งๆที่อยู่ใกล้กันไม่กี่กิโลเมตรแต่กลับเหมือนไกลคนละซีกโลก ดวงตาพราวไปด้วยหยดน้ำหล่อนยกมือตั้งใจจะเช็ดน้ำตาแห่งความคิดถึงนั้นออกหากแต่ช้าไป น้ำตาหยดอุ่นตกกระทบผิวแก้มของลูกชาย ภาวิณีรีบลูบมันทิ้งหากแต่แพขนตาที่ปิดสนิทกลับค่อยๆลืมขึ้นเผยให้เห็นดวงตากลมที่กระพริบตาหลายๆครั้ง ก่อนที่ลูกแก้ววาวใสนั้นจะถูกบดบังด้วยหยาดน้ำใส
 
            “แม่?...”
 
ภัทรหลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมองอีกครั้ง
 
แม่ยังคงอยู่ตรงหน้าไม่ได้เลือนหายไปเหมือนในความฝัน  โอเมก้าที่พลัดพรากจากครอบครัวค่อยๆยื่นมือไปลูบใบหน้าอาบน้ำตาของแม่อย่างแผ่วเบา
 
ใบหน้าของแม่อุ่นเหลือเกิน...
 
เหมือนเป็นเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน
 
อุ้งมือของแม่ยังอบอุ่นเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยลูบศีรษะเขา
 
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยซักนิด
 
            “ถ้านี่เป็นความฝัน ผมคงฝันดีที่สุดในรอบหลายๆปี...ฮึก...”ภัทรพูดกับความฝันตรงหน้า หากแค่ภาวิณีกลับส่ายหน้า
 
            “มันไม่ใช่ความฝันเลยลูกรัก นี่คือความจริง แม่มาหาลูกแล้ว ภัทร แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน”เกิดเสียงร้องไห้โฮของสองแม่ลูกที่โผเข้ากอดกันทันที ภัทรผวาขึ้นมาสวมกอดผู้เป็นแม่อย่างแสนรักแสนคิดถึง
            “แม่ครับ แม่จริงๆใช่มั้ยครับ ผมคิดถึง...ฮือ....คิดถึงจริงๆ”สองแขนกอดรัดร่างซูบผอมของผู้เป็นแม่ ปล่อยเสียงร้องไห้อย่างไม่อายใคร ตลอดระยะเวลาสามปีกว่าที่ต้องจากกัน แม้นไม่ได้ตายจากแต่ก็ไม่เคยได้ติดต่อกันสิ่งที่รู้สึกผิดและติดค้างมาโดยตลอดคือการที่ไม่ได้อยู่ดูแลผู้เป็นมารดาแทนบิดาผู้ล่วงลับ
 
แม่ซูบผอมลงจากเมื่อก่อนจนเห็นได้ชัด
 
จากสตรีผู้มีน้ำมีนวลยามกอดก็เต็มอ้อมแขน บัดนี้ร่างกายของแม่กลับบางลงอย่างเห็นได้ชัด
 
            “หลายปีมานี้ลำบากมากมั้ยลูก...แม่ขอโทษนะที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย”ยองแลลูบผมลูกชายคนโตเบาๆ น้ำตาไหลไม่ขาดสาย ร่างกายของลูกชายสั่นเทาราวลูกนกที่พยายามซุกกับอกแม่เพื่อหาไออุ่น ภัทรส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
 
            “ผมไม่ลำบากเลยครับแม่ คุณกว้านหลินดีกับผมมากๆหลังจากปรับความเข้าใจกัน แล้วแม่ล่ะครับลำบากมากมั้ย น้องๆเป็นยังไงบ้าง ไปอยู่ที่ไหนกัน ทำไมไม่เคยมาหาผมเลย”ท้ายน้ำเสียงคล้ายตัดพ้อ
 
            “แม่กับน้องๆกลับไปอยู่บ้านหลังเดิมที่เราเคยอยู่”
 
            “หืม?..”
 
            “ก็หลังจากพ่อเสียคุณกว้านหลินก็เรียกแม่ไปคุยให้แม่โอนหุ้นขงบริษัทกับขายบ้านหลังใหม่เพื่อใช้หนี้แต่ก็ชดใช้ได้แค่ส่วนหนึ่งเธอให้เงินแม่กับน้องไว้ก้อนหนึ่งเพื่อเป็นทุนตั้งตัวแล้วก็บอกให้แม่พาน้องๆกลับไปอยู่บ้านหลังเก่า สั่งห้ามไม่ให้มายุ่งย่ามวุ่นวายกับลูกจนกว่าลูกจะทำงานใช้หนี้ให้เธอหมด แรกๆก็มีเลขาอี้เฉินมาคอยดูแล แต่อยู่ๆก็หายไป”ภัทรฟังสิ่งที่แม่เล่าด้วยความแปลกใจ  กว้านหลินไม่ได้จับตัวแม่และน้องๆของตนไปขังไว้ให้อยู่อย่างยากลำบากเลยซักนิด ผู้เป็นมารดาเล่าเรื่องราวต่างๆตลอดสามปีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ น้องชายทั้งสองย้ายจากโรงเรียนนานาชาติราคาแพงกลับไปเรียนโรงเรียนรัฐ ทั้งสองใช้เวลาในการปรับตัวกับสังคมใหม่ๆนานเกือบปีแต่สุดท้ายเด็กทั้งสองก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น
 
            “ภีมจบ ม.ปลาย แล้วนะ กำลังตั้งใจอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย พลเองก็กำลังจะขึ้น ม.4 ตัวโตขึ้นเยอะเลย”
 
            “แล้วแม่ล่ะครับ ทำอะไรอยู่ที่ไหน”
 
            “ตอนแรกแม่ก็ไปหางานทำ อย่างน้อยสมัยก่อนก็เคยทำบัญชี แต่ไม่นึกเลยว่าไม่ว่าจะไปสมัครที่บริษัทไหนก็มีประวัติไปแล้วว่าเป็นคนขี้โกง พอทำอะไรไม่ได้แม่เลยเอาทุนที่คุณกว้านหลินให้ไปเปิดร้านขายอาหารเล็กๆ ขายดีใช้ได้เลยล่ะเลยมีเงินพอส่งน้องๆเรียน”
 
            “ไม่ได้ลำบากกันใช่มั้ยครับ”
 
            “มันก็มีบ้างในช่วงแรกๆ แต่ตอนนี้ไม่ลำบากแล้วล่ะ แล้วลูกล่ะ”ภาวิณีลูบแก้มที่ตอบลงไปจากสมัยก่อนของลูกอย่างแผ่วเบา
 
ภัทรน่ะ เรื่องจะพูดให้ใครเป็นห่วง ไม่มีเสียหรอก
 
ลำบากมากสินะ
 
            “ผมมีหลานให้แม่แล้วนะครับ...”เด็กน้อยในกาลก่อนของหล่อนเอ่ยบอกด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข แม้ดวงใจของคนเป็นแม่จะกระตุกวูบหากแต่รอยยิ้มดีใจก็ฉายชัดออกมา
 
            “แม่ไปดูยายหนูมาแล้ว ตัวเล็กนิดเดียว”
 
            “แกน่ารักนะครับ เลี้ยงง่าย ลูคัสเองก็เลี้ยงง่ายแต่รายนั้นไม่ค่อยถูกกับพ่อทะเลาะกันทุกวันเลยครับ เสียดายคนโตแท้งไปก่อนไม่งั้นก็มีสามคน”น้ำเสียงที่สลดลงของลูกชายทำเอาใจของคนเป็นแม่ร้าวราน
 
หล่อนเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขไปเป็นอย่างดี รวบร่างของลูกมากอดปลอบอย่างแสนสงสาร
 
            “ผมสงสารลูก สงสารแกมากๆ เสียใจจนอยากจะตายตามไป”
 
            “แม่รู้ลูกแม่รู้ ความสูญเสียเป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครจะเกิดซักกี่ครั้งเราก็ไม่มีทางชินหรอก แต่ลูกจะจมอยู่กับความเศร้าไม่ได้ ถือซะว่าแกไม่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรมบนโลกนี้นะลูกนะ แล้วตอนนี้มีลูกด้วยกันสองคนแล้ว หนี้สินเค้าก็ยกให้หมดแล้วลูกจะเอายังไงต่อ?”ภาวิณีถามถึงการดำเนินชีวิตหลังจากนี้ของลูกชาย ภัทรเงียบไปจนหล่อนใจหาย
 
คนเป็นแม่ลูกอยู่ที่ไหนแม่ก็อยากจะอยู่ที่นั่นหล่อนรู้ดี ภัทรในตอนนี้ไม่ใช่โอเมก้าตัวน้อยของหล่อนอีกต่อไปแล้ว
 
ตอนนี้ณภัทรของหล่อนโตจนมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว
 
            “ถ้าลูกจะกลับมาอยู่กับแม่...”
 
            “คุณกว้านหลินคงไม่ยอมให้ลูกมากับผมหรอกครับแม่ ยายหนูเองก็สุขภาพไม่แข็งแรง”น้ำเสียงของคนเป็นลูกแผ่วจนภาวิณีต้องสูดลมหายใจเข้าปอด หล่อนเอ่ยขัดลูกชายทั้งที่ภัทรยังพูดไม่จบเลยด้วยซ้ำ
 
            “ลูกรักเขาใช่มั้ย? อยากอยู่กับเขาหรือเปล่า?”
 
ภัทรจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของผู้เป็นแม่ ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างกดดัน มือเย็นจนคนเป็นแม่ต้องบีบเบาๆ
 
ภัทรของหล่อนพยักหน้าพร้อมน้ำตาที่รินหล่น
 
            “รักครับ รักมาตั้งแต่แรก รักมาตลอด”ลูกน้อยของหล่อนร้องไห้โฮเมื่อพูดจบประโยค หล่อนรู้ว่าในใจของภัทรนั้นกดดันเพียงไหน รักแรกและรักแท้รักเดียวที่ไม่เคยลบเลือนไปจากใจนั้นมาอานุภาพร้ายแรงคล้ายเนื้อร้ายที่เกาะกินใจมานานหลายปี หล่อนกอดลูกลูบหลังอย่างแม่ที่เข้าใจ
 
            “ถ้าลูกรักเขา แม่ก็จะไม่ขัด ต่อจากนี้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขนะลูก แม่จะเป็นกำลังใจให้ลูกอยู่เสมอ หลังจากนี้เขาคงไม่ใจร้ายแยกเราแม่ลูกอีก ไว้มีโอกาสแม่จะไปเยี่ยมลูกกับหลานๆนะ เดี๋ยวอีกพักแม่ต้องไปแล้วคุณเสี่ยวป๋ายบอกว่าจะมารับตอนทุ่มหนึ่งก่อนคุณกว้านหลินจะกลับมา แม่รักลูกนะ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีๆ”
 
            “ครับ แม่เองก็เหมือนกันนะครับ ขอเบอร์พี่เสี่ยวป๋ายไว้ถ้ามีอะไรแม่โทรหาพี่เขาได้เลยนะครับ ผมรักแม่รักน้องๆนะครับ”
 
 
ภาวิณีไปแล้ว...
 
ณภัทรนั่งกอดเข่าร้องไห้เงียบๆอยู่บนเตียงจนกระทั่งประตูห้องเปิดออก กว้านหลินรีบสาวเท้ามาดึงร่างบางที่สะอื้นจนตัวโยนขึ้นมากอด ภัทรซุกหน้ากับอกผู้เป็นสามีสวมกอดเอวสอบแน่น
 
            “ได้เจอแม่แล้วใช่มั้ย?”ร่างบางในอ้อมกอดพยักหน้าเบาๆ
 
            “แล้วร้องไห้ทำไม? ต้องดีใจไม่ใช่เหรอ?”
 
            “ผมดีใจ ดีใจที่อย่างน้อยคุณกว้านหลินไม่ได้ใจร้ายอย่างที่ขู่ ผมเสียใจที่ไม่เลือกแม่แต่เลือกลูกของเรา แม่ถามว่าอยากกลับไปอยู่กับแม่มั้ย ผมป็นลูกที่แย่มากเลยใช่มั้ยครับ”
 
            “ไม่เลย เธอโตแล้ว เธอมีชีวิตเป้นของตัวเองแล้ว มีครอบครัวที่ต้องดูแล หลังจากนี้ถ้าเธออยากไปหาแม่ฉันจะไม่ห้ามแต่ต้องกลับมานอนบ้านห้ามค้าง โอเคมั้ย?”
 
            “จริงเหรอครับ ยอมให้ผมไปเยี่ยมแม่กับน้องๆจริงมั้ยครับ?”ภัทรยืดตัวขึ้นมามองผู้เป็นสามีด้วยดวงตาเป็นประกาย กว้านหลินส่งยิ้มให้กับเด็กน้อยของเขา
 
ณภัทรในวันนี้ไม่ต่างกับเด็กชายภัทรวัยแปดขวบในตอนนั้นเลยซักนิด
 
ยังคงใสบริสุทธิ์น่าปกป้องยังไง
 
วันนี้ก็ยังคงเป็นเช่านั้น
 
            “จริงสิ ฉันจะโกหกทำไม แต่ต้องให้คนขับรถพาไปนะ อยากจะไปไหนก็บอกเขา ดูสิ ร้องไห้งอแงเป็นเด็กๆไปได้เธอมีลูกสองแล้วนะ”ร่างสูงค่อยๆเช็ดคราบน้ำตาให้กับภรรยาด้วยความแผ่วเบา
 
ชายหนุ่มมองร่างบอบบางตรงหน้าด้วยความรู้สึกรักและหวงแหน
 
รักมากก็ย่อมหวงมาก
 
หวงมากก็ห่วงมาก
 
เมื่อพายุร้ายพัดผ่านภัทรก็ควรได้เที่ยวชมกับโลกอันสดใสเสียที
 
เขาควรทำอะไรๆให้มันถูกต้อง
 
ไม่ต้องสนใจชื่อเสียง ไม่ต้องสนใจแวดวงธุรกิจ ไม่ต้องสนใจเหล่าหุ้นส่วนว่าจะเห็นด้วยกับสิ่งที่เขากำลังจะทำหรือไม่
 
สิ่งที่เขาสนใจในตอนนี้คือลูกและเมียที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาอยากจะเป็นคนที่ดีมากขึ้นในทุกๆวัน กว้านหลินเชยปลายคางของภัทรขึ้นก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ใจดวงน้อยเต้นรัวสั่นไหวอย่างรุนแรง
 
            “ณภัทร เธอจะให้เกียรติพี่เป็นคนดูแลเธอและลูกๆตลอดชีวิตได้หรือไม่”กว้านหลินค่อยๆนั่งลงคุกเข่าต่อหน้าของภัทร ถอดแหวนประจำตระกูลที่นิ้วของตนเองออกมาถือไว้ตรงหน้าของโอเมก้าของเขา
 
            “แต่งงานกับพี่นะครับ...ได้มั้ย?”ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจ้องดวงตากลมที่เอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำ ภัทรพยักหน้ารัวๆ
 
            “แต่งครับ ผมจะแต่งงานกับคุณกว้านหลิน”ทันทีที่ได้รับคำตกลงแหวนประจำตระกูลของกว้านหลินก็ถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของภัทรความเย็นจากโลหะถูกทาบทับด้วยความอุ่นของริมฝีปากของอัลฟ่าหนุ่ม ภัทรถลาลงไปสวมกอดชายหนุ่มเอาไว้อย่างมีความสุข ริมฝีปากอุ่นถูกทาบทับลงมาเนิ่นนานไร้การรุกล้ำ เป็นดังคำมั่นสัญญาว่าไล่กว้านหลินจะดูแลและทะนุถนอมณภัทรอย่างดีที่สุดเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
 
หัวใจของภัทรในตอนนี้มีความสุขเหลือเกิน มีความสุขจนล้นออกมาจากอก
 
ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ ภัทรเลิกเชื่อคำๆนี้ไปนานแล้ว แต่วันนี้ ณ ขณะนี้ เด็กหนุ่มกลับมาเชื่อถือคำๆนั้นอีกครั้งด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นประสานไปกับไล่กว้านหลิน
 
หัวใจที่จะเต้นไปพร้อมกันในทุกๆวันหลังจากนี้




 
 ((ต่อด้านล่าง))
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 22 แต่งงานกันนะ"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 26-06-2019 10:04:23

            ภัทรพาลูกกลับมาอยู่บ้านได้เกือบหนึ่งเดือนแล้ว เด็กหญิงลิซ่ายังต้องไปหาหมออยู่เรื่อยๆในขณะที่คนเป็นพ่อกับแม่ก็เริ่มวางรูปแบบงานแต่งกันไปบ้างแล้ว ภัทรรับหน้าที่เลือกแบบการ์ดแต่งงาน แม้จะอยากจัดงานแบบเงียบๆภายในมีแค่คนสนิท แต่พอเอาเข้าจริงแล้วภัทรก็รู้สึกว่ากว้านหลินจะมีเพื่อนเป็นประชากรประเทศเกาหลีใต้ทั้งประเทศ เพราะพอลิสต์รายชื่อแขกออกมาก็มีเยอะจนตาลาย แม้จะเคยทักท้วงไปแล้วว่าไม่อยากให้งานเอิกเกริกแต่กว้านหลินก็มีข้อโต้แย้งให้เจ้าตัวจำต้องเงียบไปโดยปริยาย
 
            “ก็สนิททุกคน นั่นก็หุ้นส่วน นี่ก็เพื่อน พนักงานก็อยากมาร่วมแสดงความยินดี”
 
            “แต่มันเยอะไปนี่ครับ ผมอยากจัดแบบภายในครอบครัวมากกว่า”
 
            “แต่ฉันอยากให้ทุกคนรู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน”
 
 
            อากาศด้านนอกร้อนอบอ้าวมาหลายวันแล้วลูคัสที่ชอบให้พาออกไปเดินเล่นด้านนอกร้องงอแงยามแม่และพี่เลี้ยงไม่ตามใจอย่างที่ใจนึก เด็กน้อยชอบที่จะเดินเล่นบนสนามหญ้าเก็บดอกไม้ใบหญ้าที่แม่เป็นคนปลูกรดน้ำพรวนดินตั้งแต่เด็กน้อยยังไม่ลืมตาดูโลก คล้อยหลังไม่กี่วันฝนก็โรยตัวพร้อมลมแรงเป็นสัญญาณว่าฤดูฝนกำลังย่างกรายมาอีกครั้ง ภัทรนั่งอยู่ริมหน้าต่างท้าวคางกับมือตัวเองเหม่อมองไปยังด้านนอกด้วยดวงตาเหม่อลอย ลูคัสกับลิซ่านั้นหลับไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหลังกินนมและกินข้าวกลางวันเสร็จ เม็ดฝนสาดกระเซ็นมาที่กระจกจนเกิดภาพสวยงามคล้ายภาพลวงตา
 
ความสุขในตอนนี้มันคือเรื่องจริงที่ภัทรสามารถจับต้องได้ตลอดไปใช่มั้ย เด็กน้อยในวันก่อนยกแก้วนมขึ้นมาจิบพลางปล่อยสายตาไปด้านนอกก่อนจะถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายออกมา
 
มันเหมือนชีวิตในช่วงนี้มีความสุขแต่มันก็เหมือนมีบางอย่างติดอยู่ในใจ ภัทรตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ บิดตัวขับไล่ความเมื่อยขบแล้วก้าวเท้าเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นไว้รอกว้านหลิน
 
            “คุณภัทรจะทำอาหารเย็นเลยเหรอคะ”แม่บ้านชราเข้ามาเห็นภัทรกำลังเลือกวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารมื้อเย็นเอ่ยถาม ภัทรพยักหน้ารับก่อนจะจัดการกับของตรงหน้าเงียบๆ ในหัวนึกถึงเมนูที่จะทำให้ลูกและสามีกินโดยมีแม่บ้านเข้ามาช่วยเป็นลูกมือ ภัทรหยิบหอมหัวใหญ่มาปอกเด็กหนุ่มกะว่าจะทำซุปไว้ให้สามีและลูกได้ทานในมื้อเย็น ใบหน้าติดไปทางหวานมีรอยยิ้มประดับอยู่เกือบจะตลอดเวลา
 
มีความสุข
 
นี่คือครอบครัวในฝันของภัทร
 
เหมือนที่แม่เคยทำให้พ่อกับตนเองและน้องๆ
 
ผักหลากหลายชนิดถูกหั่นและวางเรียงกันทีละอย่างๆจนเต็มจาน แม่บ้านชราลอบมองว่าที่นายอีกคนของบ้าน ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยต้องเกรงใจเลยแท้ๆ แต่มาวันนี้ทุกคนต่างเอาอกเอาใจอดีตเชลยคนนี้ หล่อนนั้นเห็นคุณชายสามมาตั้งแต่เพิ่งมาอยู่ไทยใหม่ๆ เด็กคนนี้ก็เคยเห็นเข้านอกออกในไม่ได้ขาด ดูก็รู้ว่าคนพ่อหมายมั่นปั้นมือจะให้จับคุณชายบ้านนี้แน่ๆ
 
คุณชายสามของหล่อนช่างสูงส่งและควรคู่กับอัลฟ่าสาวซักคนที่สามารถให้กำเนิดลูกที่เป็นอัลฟ่า 100% ได้ ไม่ใช่ครึ่งอัลฟ่าครึ่งโอเมก้าที่ไม่รู้ว่าโตไปจะได้อยู่ในชนชั้นไหน
 
            “เตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้วล่ะคะ”หล่อนแสร้งถามราวกับสนใจใคร่รู้เสียเต็มประดา
 
            “ก็เริ่มลิสต์รายชื่อแขกกับเตรียมหาสถานที่แล้วครับ”ภัทรตอบกลับประสาซื่อ ด้วยพื้นฐานเป็นคนมองโลกในแง่ดีเป็นทุนเดิมจึงไม่รู้ว่านั่นไม่ใช่คำถามของความใส่ใจใดใด
 
            “งานคงใหญ่น่าดูสิคะ แบบนี้เรื่องอาหารเลี้ยงแขกคงต้องจ้างโรงแรมทำ”
 
            “ผมอยากได้งานเล็กๆภายในมีเฉพาะญาติๆมากกว่าแต่แขกคุณกว้านหลินเธอเยอะน่ะครับเลยบานปลาย ก็คงต้องจ้างข้างนอกอย่างที่ป้าว่า”
 
            “แล้วนี่คุณๆจะบินมาร่วมงานเหรอคะ”
 
            “เมื่อวันก่อนพี่วิคตอเรียโทรมาบอกจะมากับคุณชายรองแล้วก็ลูกๆก่อนงานอาทิตย์หนึ่ง คุณชายใหญ่จะตามมาทีหลังครับ”
 
            “แล้วคุณนายทั้งสองล่ะคะ”ภัทรชะงักมือที่กำลังหั่นมันฝรั่งลงทันที ริมฝีปากอิ่มเม้มจนเป็นเส้นตรง ตัวเขาเองไม่เคยเอ่ยถามถึงสตรีผู้กุมอำนาจของตระกูลทั้งสองคนนี้เลยเพราะไม่กล้าและกว้านหลินก็ใม่เคยจะเอ่ยถึง
 
            “ท่านอาจจะมาหรืออาจจะไม่มาก็ได้นะคะยังไงดิฉันก็อยากให้เตรียมใจรับเรื่องหลังจากนี้ไว้”
 
            “เตรียมใจ? เรื่องงอะไรเหรอครับ?”ภัทรวางมือจากสิ่งที่ทำลงหันไปมองแม่บ้านชราที่ทำทีเป็นสาละวนคนช้อนฟองในน้ำซุปทิ้ง
 
            “นี่คุณภัทรยังไม่ทราบเหรอคะ?”หล่อนแสร้งเลิกคิ้วสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหลมทำทีเป็นเว้นระยะราวกับไม่อยากจะพูดถึงสิ่งที่ตนเองรู้มา
 
            “ก็คุณนายใหญ่ยื่นคำขาดกับคุณชายว่าถ้ายังดึงดันจะแต่งงานกับคุณ คุณนายใหญ่จะตัดคุณชายสามออกจากกองมรดก ทีนี้ไม่ใช่แค่คุณชายสามที่จะลำบาก คุณกับคุณหนูเล็กๆทั้งสองก็จะลำบากไปด้วย คุณก็น่าจะทราบดีว่าตอนนี้คุณนายใหญ่มีอำนาจมากที่สุดในตระกูลอะไรที่เธอยื่นคำไปแล้วถือเป็นเด็ดขาด คุณนายใหญ่บอกกับคุณชายว่าเอาลูกไว้ก็ได้แต่ไม่อยากได้แม่ที่เป็นลูกของคนทรยศ ถึงคุณจะพากันหอบลูกหอบเต้าไปอยู่เมืองนอกคุณนายใหญ่ก็มีวิธีบีบให้คุณชายสามหางานหาการทำต่อไปไม่ได้ แล้วที่ผ่านมาคุณชายสามก็กินแค่เงินเดือนเท่านั้นคงไม่มีเงินเก็บเหลือพอจะเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้สบายจนแก่เฒ่าหรอกค่ะ ขี้คร้านไม่เกินสองปีคงกลับมาขอขมาคุณนายใหญ่ถึงวันนั้นดิฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...อ่ะ...อ้าว คุณภัทร ไม่ทำกับข้าวแล้วเหรอคะ?”หล่อนร้องเรียกเมื่อภัทรวางของในมือลงแล้วเดินออกจากครัวไปทันที ภัทรไม่ได้หันกลับมาร่างบางสั่นจนแทบจะบังคับตัวเองให้เดินไปแต่ละก้าวไม่ออก
 
            “ได้เวลายายหนูกินนมแล้ว ป้าช่วยทำต่อทีนะครับ”ภัทรไม่รอฟังคำตอบ ร่างบางพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นทันที ในหัวมีแต่ประโยคยืดยาวนั้นเล่นวนซ้ำๆ น่าแปลกที่ภัทรจำได้ทุกคำ
 
ไม่เคยคิดเลยว่ากว้านหลินจะเก็บงำอุปสรรคที่จะต้องเจอไว้ได้มิดขนาดนี้
 
มีปัญหาอะไรทำไมไม่บอกกัน เผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในการตัดสินใจแบบนั้นคนเดียวทำไม ภัทรขังตัวเองไว้กับลูกๆโดยให้ศลัยลงไปพัก ทารกตัวน้อยกับเจ้าลูกชายจอมซนหลับสนิท
 
ถ้าการแต่งงานของตนเองทำให้ทั้งกว้านหลินและลูกลำบาก งานแต่งนั้นก็ไม่ควรเกิดขึ้น  ภัทรปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความคิดต่างๆวนเวียนอยู่ในหัวยากจะสลัดทิ้งไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ากว้านหลินกลับมาแล้ว ชายหนุ่มยืนมองร่างบางที่นอนหันหลังให้กับประตูก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงโน้มตัวลงไปกดจูบที่แก้มของภัทรเต็มรัก
 
            “กลับมานานยังครับ หิวหรือเปล่า?”
 
            “ไม่หิว แต่คิดถึงลูกกับเมียมากกว่า”ชายหนุ่มว่าพลางทิ้งตัวลงนอนหนุนตักยามที่ภัทรลุกขึ้นนั่ง คว้ามือเรียวมากดจูบซ้ำแล้วซ้ำอีก
 
            “เหนื่อยมั้ยครับ?”ภัทรลูบลงบนเรือนผมของผู้เป็นสามี ส่งยิ้มอ่อนโยนไปให้อย่างแสนรัก
 
เหนื่อยมั้ยที่ต้องแบกรับภาระไว้เพียงคนเดียว
 
เหนื่อยมั้ยที่ต้องสู้กับคุณนายใหญ่เพียงเพื่อครองคู่กับโอเมก้าชั้นต่ำอย่างเขา
 
            “เหนื่อยสิ งานเยอะมาก แต่พอกลับมาเจอเธอกับลูกพักซักแป๊บก็หายแล้ว”
 
            “ขอโทษนะครับ”กว้านหลินมองหน้าภัทรที่พูดคำขอโทษออกมาด้วยน้ำเสียงเจือรอยแห่งความเศร้า จิตใจของอัลฟ่าหนุ่มรู้สึกหมองลงอย่างไม่รู้ตัว
 
อยู่ๆก็เหมือนในอกมันหนักอึ้งไปหมด
 
            “ขอโทษทำไม ขอโทษเรื่องอะไร?”ฝ่ามืออุ่นลูบลงบนผิวหน้าที่มีหยาดน้ำตาเบาๆ
 
            “ขอโทษที่ช่วยอะไรคุณกว้านหลินไม่ได้เลย”กว้านหลินหัวเราะกับคำตอบนั้นอย่างเอ็นดู
 
            “จะไปช่วยอะไรได้ล่ะ ก็นั่นมันงานของฉัน ถ้าอยากช่วยน่ะ ช่วยอยู่เป็นกำลังใจให้ฉันตลอดไปก็พอ”
 
            “ไปอาบน้ำเถอะครับเดี๋ยวผมจะให้คนตั้งโต๊ะ อีกเดี๋ยวลูกก็ตื่นแล้ว วันนี้นอนเย็นคืนนี้สงสัยจะไม่หลับง่ายๆแน่ๆ”
 
            “ถ้างั้นรอแป๊บนะจะรีบอาบ เธอคงหิวแล้วสิ รีบกินก่อนลูกๆตื่นมากวนดีกว่าเธอจะได้กินได้เยอะๆ”กว้านหลินลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับภัทรที่เดินไปหยิบผ้าขนหนูและเสื้อคลุมมายื่นให้
 
            “ถ้าอย่างนั้นผมลงไปข้างล่างก่อนนะครับ”
 
            “อืม ไปเถอะ”กว้านหลินรับผ้าที่ภรรยายื่นให้ ภัทรจับมือกว้านหลินรั้งไว้เบาๆจนชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เด็กน้อยในอดีตยืดตัวกดจูบลงบนแก้มซ้ายของผู้เป็นสามี
 
            “ผมรักคุณกว้านหลินนะครับ”กว้านหลินยิ้มกว้างให้กับถ้อยคำแสนน่ารักนั้นก่อนจะรวบร่างบอบบางมาไว้ในอ้อมแขน กดจูบลงบนกลีบปากอิ่มนั้นเนิ่นนาน
 
            “ฉันก็รักเธอเหมือนกัน”ทั้งสองคนส่งยิ้มให้แก่กัน แต่ในรอยยิ้มนั้นกลับมีความรู้สึกที่ต่างกัน
 
คนหนึ่งยิ้มอย่างมีความสุข
 
คนหนึ่งยิ้มเพื่อกลบเกลื่อนความทุกข์ในใจ
 
ทุกข์ที่ไม่สามารถบอกกับใครได้ คล้ายเชื้อไฟที่ค่อยๆลามกองใบไม้ทีละนิดโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นควันอันจางบางเบานั้นเลย


..............................................

ไม่มีอะไรจะทอล์ค 5555555555555555555555555555

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 22 แต่งงานกันนะ"
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-06-2019 11:07:37
ยายแก่แม่บ้านเอ้ย มันไม่ใช่เรื่องที่แกจะมาสอดเลยนะ มันเป็นเรื่องของเจ้านายเขาก็ต้องให้เขาตัดสินใจกันเองซิ จะไปยุ่งให้มันเสียเรื่องทำไมกัน
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 22 แต่งงานกันนะ"
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 26-06-2019 12:12:42
 :m31: :m31: :m31:   เอาป้าแม่บ้านไปเผาแส่ดีนัก
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 22 แต่งงานกันนะ"
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 26-06-2019 12:15:23
ทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น เพียงแต่...... ยังไงก็เอาใจช่วยทั้งสองคนนะ //กว้านลินก็ไม่ใช่คนใจร้ายมากไปนี่นาา เบื้องหลังก็แอบช่วยแม่และน้องของภัทรอยู่นี้เอง //สนุกกกกก รอตอนต่อไปเลย ขอบคุณนะคะที่แต่งและขอบคุณในความพยายามที่จะแปลงจากฟิคเกามาเป็นนิยายวายไทยให้ได้อ่านกัน แอบรู้สึกว่ามีชื่อเกาหลุดมาเนืองๆ 55 ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งเพราะงั้นคงไม่ได้อ่านนิยายสนุกๆเรื่องนี้ในที่นี่  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 22 แต่งงานกันนะ"
เริ่มหัวข้อโดย: nofsnof ที่ 27-06-2019 11:25:10
ง่า อะไรอ่ะป้าา เรื่องของเจ้านายเด้อ เหอะๆๆ

งงไปหมดใครเป็นเจ้าของบ้านกันแน่

น้องภัทรอย่าเพิ่งเสียใจน้าา ฮึบๆไว้

// ยังมีบางคำที่ยังไม่ได้ปรับจากแฟนฟิคนะคะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 23 "คำสาบาน"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 10-07-2019 18:04:55
Hydrangea 23 
 


                ไต้หวัน...
 
          ไล่กว้านหลินยืนสงบนิ่งหน้าหลุมฝังศพของผู้เป็นพ่อ เยื้องไปด้านหลังมีณภัทรที่อุ้มลูคัสข้างกันคือศลัยที่อุ้มลิซาไว้ในอ้อมอก ชายหนุ่มคุกเข่านั่งลงก่อนจะรินเหล้าใส่แก้วเล็กๆให้กับวิญญาณของไล่หยวนช่าง
 
            “พ่อครับ ผมมาขออนุญาตพ่อให้ผมได้แต่งงานอยู่กินกับภัทรอย่างถูกต้อง ถึงแม้พ่อจะจากไปหลายปีแล้วแต่ผมก็อยากจะบอกกับพ่อด้วยตัวเอง วันนี้จึงพาภัทรกับลูกมาทำความเคารพพ่อด้วย ผมหวังว่าพ่อจะอวยพรให้พวกเราสี่คนอยู่อย่างสงบสุขนะครับ พ่อดูสิครับผมมีทายาทสืบสกุลไล่ของเราแล้วนะครับ ซวี่ซีเป็นเด็กแข็งแรงเหมือนอย่างที่พ่อเคยหวัง ดังนั้นพ่อช่วยคุ้มครองหลานๆด้วยนะครับ”
 
            “คุณท่านครับ ผมภัทรเองนะครับ ขอโทษที่เวลาผ่านไปหลายปีแล้วเพิ่งมีโอกาสได้มาเคารพท่าน ผมมาขออนุญาตใช้ชีวิตคู่กับคุณกว้านหลิน แล้วก็...ผมอยากจะขอโทษแทนพ่อกับสิ่งที่พ่อได้ทำไป ผมสัญญาว่าจะดูแลลูกของผมกับคุณกว้านหลินอย่างดีที่สุดท่านไม่ต้องห่วงหรือกังวลใจไปนะครับ”
 
จะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่แม่และเมียคนหนึ่งจะทำให้กับสามีและลูกได้
 
ภัทรวางลูกน้อยลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาลิซ่าหลับสนิทพอๆกับลูคัสที่ตระเวนเที่ยวทั่วไต้หวัน หลังจากมื้อเย็นแสนอร่อยจบลงกว้านหลินก็ให้คนของจอห์นนี่ที่ส่งมาอำนวยความสะดวกให้น้องชายและน้องสะใภ้ขับรถพาสามแม่ลูกและศลัยกลับมาส่งที่คอนโดส่วนตัวของกว้านหลินโดยไม่ลืมสั่งบอดี้การ์ดให้คอยดูแลอย่างดีที่สุด แล้วก็ต้องกลับเข้าไปในบ้านใหญ่เพื่อนอยู่คุยกับพี่ชายและพี่สะใภ้ต่อเรื่องกำหนดการณ์ของงานแต่งโดยบอกกับภัทรว่าอาจจะกลับมาดึกหน่อยไม่ต้องรอถ้าเหนื่อยหรือง่วงก็ให้เด็กน้อยของเขานอนหลับไปได้เลย
 
            “พี่ศลัยก็ไปพักเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”ภัทรหันไปยิ้มกับพี่เลี้ยงสาว เห็นใจหล่อนอยู่ไม่น้อย อยู่ไทยก็คอยดูแลตัวเขาและลูกพอมาไต้หวันแทนที่จะได้เที่ยวเล่นพักผ่อนให้สบายกลับทำงานหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก หญิงสาวส่งยิ้มให้กับเจ้านายที่หล่อนมอบกายถวายชีวิตดูแลจากความสงสารจนตอนนี้เป็นความรักและปรารถนาดีเท่าที่เพื่อนมนุษย์คนหนึ่งจะมีให้กันได้
 
            “ถ้ามีอะไรก็เรียกนะคะ เดี๋ยวพี่เตรียมน้ำร้อนใส่กระติกไว้เผื่อคุณหนูตื่นจะได้ชงนมให้เธอทานได้เลย”
 
            “ขอบคุณครับ”หลังจากศลัยออกไปแล้ว ภัทรจึงได้มีเวลาอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน โอเมก้าแม่ลูกอ่อนหยิบหนังสือนิยายที่พกติดตัวมาด้วยขึ้นมานั่งอ่านหากแต่กลับต้องวางลงบนโต๊ะหัวเตียงเมื่ออ่านไปได้ไม่กี่หน้า เสียงโทรศัพท์ดังจนต้องรีบตะครุบขึ้นมาแนบหูเพราะกลัวลูกทั้งสองจะตื่น ลิซ่าสะดุ้งและขยับตัวเล็กน้อยจนภัทรต้องตบลงบนอกเล็กเบาๆอย่างปลอบโยน
 
            “สวัสดีครับ...”
 
            “ณภัทรใช่มั้ย? ฉันคุณนายตระกูลไล่”น้ำเสียงทรงอำนาจของสตรีที่ภัทรไม่มีโอกาสได้พบเลยซักครั้งดังออกมาจากโทรศัพท์ แม้ไม่ได้นั่งฟังคนๆนี้พูดตรงหน้าแต่น้ำเสียงที่ส่งผ่านมากลับทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ
 
คุณนายใหญ่สกุลไล่
 
คนที่คัดค้านการแต่งงานของตนและกว้านหลิน
 
            “ครับ...สวัสดีครับคุณนายใหญ่”
 
            “หึ...”เสียงหัวเราะในลำคอสั้นๆที่ส่งกลับมายามเอ่ยทักทายไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยซักนิด กลับกัน เสียงหัวเราะนั้นกลับยิ่งทำให้หน้าผาสูงใหญ่ในมโนภาพของภัทรชัดเจนขึ้น มันสูงเสียจนต่อให้แหงนหน้าขึ้นมองจนคอตั้งฉากก็มองไม่เห็นยอดเขาสูงเสียดฟ้านั้นได้เลย
 
            “เรียกฉันถูกคนก็แสดงว่าพอจะรู้อะไรมาบ้างแล้วสินะ”ไล่อี้เฟยเหยียดยิ้มใส่เครื่องมือสื่อสารอย่างพอใจ
 
ก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรเยอะแยะน่ารำคาญ
 
            “ออกไปจากชีวิตลูกชายของฉันได้มั้ย? ถือว่าฉันขอร้อง กว้านหลินไม่ควรต้องมีประวัติด่างพร้อยเพราะคนชั้นต่ำอย่างเธอ”
         
ไม่ผิดจากที่คิดเลยซักนิด...ณภัทรกำโทรศัพท์แน่น ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างคนที่ขลาดกลัว
 
กลืนก้อนสะอื้นที่รื้นขึ้นมาอยู่ที่ลำคออย่างยากลำบาก
 
            “แต่เรารักกันนะครับ...ผมขออยู่กับคุณกว้านหลินไม่ได้เหรอครับ ผมสัญญาว่าจะอยู่อย่างเจียมตัว”
 
            “ลูกชายของฉันไม่ได้ถูกเลี้ยงดูให้โตมาเพื่อเอาลูกคนทรยศมาเป็นเมียออกนอกหน้านอกตาหรอกนะ เธอใช้สมองโง่ๆของเธอคิดดูว่าเหล่าผู้ถือหุ้นจะยอมรับเธอและกว้านหลินได้มั้ย ลูกชายของฉันอาจถูกสงสัยได้ว่าสมรู้ร่วมคิดกับพ่อของเธอวางแผนฆ่าพ่อตัวเองเพื่อขึ้นมาเป็นประธานบริษัท หรือแม้แต่ตัวของเธอเองก็เถอะ จะเชื่อได้เหรอว่าไม่รู้เห็นกับสิ่งที่พ่อของตัวเองทำ พ่อเธอฆ่าสามีของฉัน ฆ่าพ่อของกว้านหลิน ส่วนกว้านหลินเองก็ฆ่าพ่อของเธอ ทุกวันนี้เธอกินข้าวได้คล่องคอคล่องปากงั้นรึ? คนจีนเราถือเรื่องความกตัญญูเป็นที่ตั้ง แต่ดูสิ่งที่เธอสองคนทำสิ น่าขำเหลือเกิน เธอคิดว่าความรักของเธอสองคนมันยิ่งใหญ่พอที่จะทำให้คนอื่นมาชื่นชมเหรอ?”
 
            “ผม...”
 
            “หรือเรื่องแค่นี้เธอก็คิดไม่ได้ ขอร้องล่ะ ฉันพูดในวันนี้ก็พูดด้วยเพราะอยู่ในฐานะแม่ ถึงกว้านหลินจะไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่ฉันก็เลี้ยงเค้ามาตั้งแต่ท่านหญิงเสีย กว้านหลินสูงส่งทั้งชาติกำเนิดและสถานะ อย่าให้การแต่งงานกับเธอต้องมาดึงชีวิตของเขาลงที่ต่ำเลย ถ้าเธอยังดึงดันที่จะแต่งงานกับเขาฉันก็คงต้องบอกเธอตรงนี้ว่ากว้านหลินคงจะต้องถูกปลดจากตำแหน่งในบริษัท รวมทั้งปลดออกจากสกุลไล่ด้วย เธอไม่เห็นแก่กว้านหลินก็เห็นแก่ลูกๆของเธอเถอะหากกว้านหลินโดนปลดคนที่ลำบากก็คือลูกๆของเธอ หรือเธอจะเห็นแค่ความสุขส่วนตัวโดยไม่สนใจอนาคตของลูกๆ ว่ากันว่าคนเป็นแม่น่ะ ยอมเสียสละได้ทุกอย่างเพื่ออนาคตที่ดีของลูก หรือเธอไม่ใช่แม่ประเภทนั้น เธอจะเห็นแค่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราวพอแก่เฒ่าความรักก็จะค่อยๆลดลงไปเธอจะยอมให้ความรู้สึกประเดี๋ยวประด๋าวมาทำลายอนาคตที่ดีของลูกเชียวเหรอ”
 
            “ไม่...ผมไม่.. มันไม่ใช่อย่างนั้น”ภัทรลำล่ำละลักตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ โอเมก้าต้อยต่ำยกมือขึ้นปิดปากมองลูกน้อยของตัวเองที่นอนหลับบนเตียงด้วยสายตาทั้งรักทั้งห่วง
 
เขาไม่มีทางยอมให้ลูกๆต้องลำบากและกว้านหลินก็คงไม่ยอมเช่นกัน ภัทรสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะกรอกเสียงลงไปในสาย
 
            “ผมรักคุณกว้านหลิน และคุณกว้านหลินก็รักผม ความรักของเราไม่ใช่เด็กเล่นขายของไม่ว่าจะยังไงผมกับคุณกว้านหลินก็จะแต่งงานกัน ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้ ผมต้องขอโทษที่ขัดใจท่านนะครับ  ได้โปรดอนุญาตให้เราสองคนแต่งงานกันเถอะครับ”
 
            “ดี!! เธอจะเอาอย่างนี้ใช่มั้ย ได้ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”ณภัทรปล่อยโทรศัพท์ร่วงลงบนเตียงอย่างหมดแรง ความเข้มแข็งที่พยายามแสร้งทำทลายลงทันที
 
หนักหนาเหลือเกิน ทำไมเส้นทางความรักของตนกับกว้านหลินช่างยากลำบากนัก
 
เหมือนทุกก้าวที่ย่างเท้าโรยด้วยหนามกุหลาบ เด็กน้อยยกมือขึ้นมากุมหน้าร้องไห้สะอื้นฮัก หากแต่ต้องชะงักเมื่อมือป้อมๆของลูกชายที่ตื่นเพราะเสียงร้องไห้ของแม่แตะลงลนท่อนแขน ลูคัสเบะปากดวงตาฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำมองมารดาอย่างใจเสีย
 
            “หม่าม้า หม่าม้า”เสียงเล็กของลูกที่ยังพูดไม่ชัดร้องเรียกพลางทิ้งศีรษะลงบนตักของแม่ยิ่งทำให้ภัทรร้องไห้หนักขึ้น  คนเป็นแม่ยกมือป้อมๆของลูกชายขึ้นมาจูบก่อนจะรวบร่างน้อยมากอดแนบอก
 
            “แม่รักลูกมากๆนะ รักที่สุดในชีวิตเลย”
 
รักยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองเสียอีก...




 
 
            การเตรียมงานแต่งงานเหนื่อยกว่าที่คิด ทั้งกว้านหลินและภัทรต่างวิ่งวุ่นกับการวัดตัวตัดชุดและสารพัดงานจิปาถะที่ต้องแก้ปัญหา มีทั้งปัญหาเล็กๆที่แก้ไขได้ง่ายรวมทั้งปัญหาใหญ่เช่นการจัดแนวดอกไม้ที่ต้องสั่งดอกไม้บางชนิดนำเข้ามา  แต่ปัญหาที่ทำให้ภัทรงอนกว้านหลินไปเสียสามวันก็คือ
 
            “ใส่สีดำเถอะ”
 
ไล่กว้านหลินอยากใส่สูทสีดำในการเข้าพิธี ซึ่งภัทรอยากให้ธีมเป็นขาวและเทาอมฟ้า
 
            “งานแต่งนะครับไม่ใช่งานศพ”ในที่สุดหลังจากโดนงอนไปสามวันกว้านหลินก็ได้สูทตัวเสื้อสีขาวมีเสื้อกั๊กสีเทาอมฟ้ารวมทั้งกางเกงที่เป็นสีเดียวกัน ส่วนพิธีในโบสถ์เป็นสูทขาว ดูสว่างราวเทวดาตกจากสวรรค์ เรือนผมสีบลอนด์ยิ่งเปล่งประกายทำให้อัลฟ่าหนุ่มดูดีจนละสายตาไม่ได้ระยะเวลาการเตรียมงานกระชั้นเข้ามาเรื่อยๆ ภัทรรู้สึกเหมือนตัวเองร้อนรนไปหมด หนึ่งอาทิตย์ก่อนงานแต่งจะเกิดขึ้นจอห์นนี่กับวิคตอเรียและลูกๆเดินทางมาถึง สองวันให้หลังคริสและลีโอรวมทั้งหวังอี้เฉินก็ตามมาสมทบ เบต้าหนุ่มมีท่าทีสำรวมต่อภัทรมากขึ้น แม้จะไม่ได้พูดคุยกันมากนักแต่สายตาที่อี้เฉินมองมาที่ภัทรนั้นยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
 
สายตาของความปรารถนาดี ภัทรโค้งให้กับเบต้าหนุ่ม รอยยิ้มจางๆส่งมาให้ ต่างคนต่างเอาประสบการณ์ที่ผ่านมามาใช้เตือนตัวเองว่า สถานะของเราต่างกันและบทเรียนเก่าๆนั้นบอกได้เป็นอย่างดีว่าการทำอะไรโดยไม่คิดมีผลเสียมากเพียงไหน
 
เป็นเพียงคนรู้จักกันก็พอ  อย่าสนิทไปมากกว่านี้เลยไม่อย่างนั้นคนที่เดือดร้อนก็คงไม่พ้นอี้เฉินเอง
 
อี้เฉินเองก็เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาตลอดสองปีกว่าว่าบางครั้งการที่เรารักใครซักคน เราแค่หวังให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เลือก
 
ความรักบางครั้งก็ไม่ใช่การได้ครอบครองซึ่งกันและกันหากแต่กลับเป็นเพียงการเห็นคนที่เรารักใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสิ่งที่เขาเลือกนั่นเอง
 
และในวันนี้ภัทรมีใบหน้าฉาบด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา
 
แค่นี้เขาก็วางใจกับอนาคตของเด็กน้อยน่าสงสารในอดีตคนนั้นแล้ว
 
 
 
            ภัทรดีใจมากที่ได้เจอวิคตอเรีย อย่างไรเสียวิคตอเรียคือพี่สาวที่แสนดีสำหรับภัทรเสมอ เธอเข้ามาช่วยจัดการเรื่องต่างๆที่ภัทรหัวหมุนได้อย่างเป็นระบบระเบียบรวมทั้งช่วยดูแลเด็กๆ หาวหาวเข้ากันได้ดีกับลูคัสถึงแม้จะห่างกันถึงห้าปี เด็กชายโตจากครั้งก่อนมากเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้วแต่ความแสบซ่านั้นกลับไม่ได้ลดลงเลยซักนิด ส่วนเหมียวเหมียววัยเก้าขวบดูจะชอบน้องน้อยวัยเกือบสี่เดือนมากกว่า
 
            “น้องน่ารักนุ่มนิ่มหนูอยากอุ้มน้อง”
 
            “น้องยังเล็กเกินหนูอุ้มน้องเดินไม่ได้ แต่ถ้าอุ้มวางบนตักได้เอามั้ยคะ?”ภัทรบอกกับหลานสาวคนโตอย่างใจดี เด็กหญิงเหมียวเหมียวพยักหน้าอย่างดีใจ เธอกลายเป็นผู้ช่วยในการเลี้ยงน้องไปโดยปริยาย ส่วนหาวหาวก็ฉัดกระชากลากถูกับลูคัสน้อยทั้งวัน เสียงเด็กๆเจี๊ยวจ๊าวน่าปวดหัวแต่สำหรับคนเป็นแม่แล้วการได้เห็นลูกหัวเราะนั่นคือความสุข
 
ก่อนวันงานหนึ่งวันคุณนายรองตระกูลไล่ก็เดินทางมาถึง สตรีหมายเลขสองเลือกที่จะพักในโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่จัดงานมากกว่าพักที่บ้าน
 
            “เขียนคำสาบานแล้วหรือยัง?”วิคตอเรียที่เดินมาวางแก้วนมให้กับว่าที่เจ้าสาวในวันพรุ่งนี้เอ่ยถาม ภัทรยิ้มรับพลางส่ายหน้า
 
            “ผมยังนึกไม่ออกเลยครับว่าจะเขียนอะไร”
 
            “โธ่เอ้ย เด็กน้อยของฉัน เธอก็แค่เขียนความในใจลงไป จิตใจของเธอบริสุทธิ์เพราะฉะนั้นฉันเชื่อว่าไม่ว่าเธอจะเขียนอะไรลงไปมันก็ดีทั้งนั้น ตอนฉันเขียนให้จอห์นนี่ก็ยากอย่างนี้แหละ แต่พอนึกถึงช่วงเวลาที่เรียนรู้ซึ่งกันละกันมันก็เขียนได้เอง”
 
            “ผมกลัวจะทำได้ไม่ดีพอ”ภัทรก้มหน้าบีบมือตัวเอง
 
เป็นท่าทางของความขลาดกลัวจนวิคตอเรียอดที่จะรู้สึกสงสารไม่ได้ หญิงสาวกุมมือเด็กที่หล่อนให้ใจรักเหมือนเป็นพี่น้องร่วมท้องกันมา
 
            “ภัทร อย่าเอาแต่ก้มหน้าหนีปัญหาหรือความกลัว เธอเก่งและเธอเข้มแข็งกว่าที่เธอรู้ อยากเขียนอะไร หรืออยากทำอะไรก็ทำเลย ฉันเชื่อว่าไม่ว่าเธอจะทำอะไรสิ่งๆนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด เชื่อใจตัวเองสิ ถ้าเธอมีปัญหาอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ พี่จะช่วยเธอทุกอย่าง เพราะฉะนั้นคืนนี้พี่จะเอาเด็กๆเข้านอนเอง เธอเขียนคำสาบานไปนะ”ภัทรส่งยิ้มตอบให้กับอัลฟ่าสาวที่มีแต่ความใจดีให้เขาเสมอมา วิคตอเรียอยู่คุยกับภัทรอีกพักใหญ่จึงลงไปต้อนเด็กๆให้เข้านอน พรุ่งนี้ทั้งหมดจะไปพักที่โรงแรมสถานที่จัดงาน กว้านหลินและพี่ชายทั้งสองล่วงหน้าไปก่อนแล้วเมื่อตอนเย็นเพื่อควบคุมงานขั้นตอนสุดท้ายโดยไม่อนุญาตให้ภัทรติดตามไปด้วยยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องจัดเตรียมให้เสร็จ บรรดาภรรยาทั้งสามจึงปักหลังอยู่ที่บ้าน ลีโอพาซื่อชุนลูกชายคนแรกวัยหกเดือยของตนกับอี้ฟานมาเล่นกับลูคัสและลิซ่าก่อนจะพากลับห้องในตอนสามทุ่ม
 
ยามเช้าบ้านทั้งหลังเข้าสู่ความวุ่นวายอีกครั้งเมื่อต้องต้อนเด็กๆให้ทานอาหารเช้ารวมทั้งจัดเตรียมข้าวของเพื่อไปพักที่โรงแรม บรรดาแม่บ้านวิ่งวุ่นเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ ที่เหนื่อยสุดเห็นจะเป็นศลัย ทั้งอุ้มทั้งดึงลูคัสที่ติดหาวหาวจนแทบจะกลิ้งลงบันไดมา ขบวนแม่ลูกและผู้ติดตามมาถึงโรงแรมในตอนบ่าย วิคตอเรียพาภัทรไปสปาเพื่อนวดตัวโดยทิ้งเด็กๆให้ศลัยและพี่เลี้ยง ลีโอขอตัวไปอยู่กับคริสเพราะไม่ชอบนวดซักเท่าไหร่
 
            “ตื่นเต้นมั้ย?”หลังจากสปาเสร็จทั้งคู่ก็แวะมากินขนมหวานที่ห้องอาหารของโรงแรม ภัทรวางแก้วชาที่จิบไปอึกใหญ่ลงบนจานรองพลางพยักหน้า
 
            “ตื่นเต้นมากครับ ผมอยากไปดูที่โบสถ์แต่คุณกว้านหลินห้าม”
 
            “คงอยากเซอร์ไพร์ส แล้วนี่ใครเป็นคนจูงมือเข้าโบสถ์ล่ะ?”
 
            “คุณหมอนนท์ครับ”ภัทรตอบด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ก็ในเมื่อเขาไม่มีพ่อแล้ว อนลคือคนรู้จักคนเดียวที่พอจะทำหน้าที่นั้นได้ และที่ผ่านมาหมอนนท์ก็ดูแลปกป้องเขาไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อเลยซักนิด เมื่อโอเมก้าแม่ลูกอ่อนไปขอให้คุณหมอหนุ่มมาทำหน้าที่นี้ก็อดไม่ได้ที่จะบ่นนิดหน่อยแต่ก็ยอมตกลงแต่โดยดี
 
            “ผมเขียนคำสาบานเสร็จแล้วนะครับ”
 
            “ฉันจะรอฟังพรุ่งนี้พร้อมทุกคน ชายสามอาจจะหลั่งน้ำตาด้วยความซึ้งก็ได้”
 
           
ณภัทรถูกปลุกขึ้นมาแต่งหน้าแต่งตัวตั้งแต่ตีสี่ โอเมก้าแม่ลูก่อนที่นอนหลับๆตื่นๆมาค่อนคืนบิดขี้เกียจอย่างเหนื่อยล้า วิคตอเรียเป็นคนติดต่อช่างแต่งหน้าคนนี้มาเอง หญิงสาวบอกสิ่งที่ต้องการให้กับช่างโดยที่ภัทรมีหน้าที่นั่งหาวหวอดๆไปเรื่อยๆ
 
ง่วงจนแทบจะหลับกลางอากาศก็หลายครั้ง ไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ตนเองเป็นผู้ชายคิดว่าไม่ต้องแต่งอะไรมาก สุดท้ายก็ยังต้องแต่งนานเป็นชั่วโมง วิคตอเรียบอกว่าให้แต่งเป็นธรรมชาติที่สุดแต่ให้ดูอ่อนหวานน่าทะนุถนอมเมื่อตื่นเต็มตาก็พบว่าคนในกระจกดูดีกว่าทุกวัน แก้มถูกปัดคล้ายบ่มแดดดูน่าค้นหา ริมฝีปากถูกแต่งแต้มจนเป็นสีระเรื่อยิ่งพอเจ้าตัวสวมชุดแต่งงานที่เสื้อตัวในคอและปลายแขนเป็นลูกไม้เล็กๆที่คอเสื้อผูกด้วยโบว์เส้นเล็กๆสีเทาอมฟ้าอ่อนๆแล้วยิ่งดูอ่อนหวานเข้าไปใหญ่ ภัทรถูกพาไปที่โบสถ์เมื่อใกล้ถึงพิธีทางศาสนา อนลมาพร้อมคนขับรถเพื่อมารับเจ้าสาวที่ตนจะพาไปส่งให้กว้านหลิน ช่อบูเก้ที่ประกอบด้วยดอกไลเซนทัสถูกยื่นมาให้กับภัทร
 
ดอกไม้ประจำตัวของเขาเอง
 
สวยและดูอ่อนโยนไม่ผิดจากเจ้าตัวเลยซักนิด
 
ความรู้สึกของเจ้าสาวยามที่เห็นทางเดินรวมทั้งรอบโบสถ์ประดับประดาไปด้วยดอกไลเซนทัสและไฮเดรนเยียหลากสีแซมด้วยดอกยิปโซเล็กๆรวมทั้งดอกสุ่ยยิ่งทำให้หัวใจของภัทรเต็มตื้น โบสถ์ถูกตกแต่งงดงามราวปราสาทในเทพนิยาย
 
แขกในงานคนอื่นๆไม่อยู่ในสายตาอีกต่อไปเมื่อพบว่าที่นั่งแถวแรกของงานถัดจากพี่ชายทั้งสองของกว้านหลินก็คือแม่และน้องๆของตน ลูคัสถูกอุ้มนั่งอยู่บนตักของคุณนายรองตระกูลไล่ส่วนลิซ่านั้นภาวิณีเป็นคนอุ้ม ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวคือเบต้าหนุ่มเฉินเสี่ยวป่าย ภัทรเดินเข้ามาหากว้านหลินเรื่อยๆ
 
ชายหนุ่มในวันนี้แปลกตาไป
 
เรือนผมสีบลอนด์ถูกย้อมจนดำสนิทเปิดหน้าผากส่งให้ใบหน้ายิ่งคมเข้ม กว้านหลินส่งยิ้มให้กับว่าที่ภรรยาที่กำลังจะถูกต้องตามกฎหมายก่อนจะยื่นมือไปรับมือเล็กๆของภัทรไว้
 
ยามเมื่อฝ่ามือนุ่มวางทับลงมานั่นเป็นสัญญาณว่าต่อไปนี้เขาจะรักและดูแลภัทรให้ดีที่สุด พิธีการดำเนินไปจนถึงช่วงแลกคำสาบาน กว้านหลินรับไมค์มาถือไว้ก่อนจะคลี่แผ่นกระดาษที่ตนเองเขียนและลบไปเสียหลายครั้ง น้ำเสียงของชายหนุ่มสั่นเล็กน้อยด้วยความประหม่าหากแต่ภัทรก็กระชับมือเป็นกำลังใจให้กับผู้เป็นสามี น้ำเสียงทุ้มก้องกังวานยามเอ่ยขานคำสาบานของตน ตรึงคนฟังราวต้องมนตร์สะกด
 
          “ณภัทร ก่อนอื่นฉันอยากจะขอโทษกับทุกเรื่องที่ผ่านมา ขอโทษที่เคยทำร้ายๆกับเธอ แม้ว่าฉันจะพูดจาหรือทำร้ายร่างกายเธอทั้งที่มีสติและขาดสติ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอมีให้กับฉันเสมอมาคือการให้อภัย เพราะความรักและความดีที่เธอมีให้ค่อยๆทลายกำแพงที่ฉันสร้างขึ้นมาทีละนิดจนกระทั่งเราสามารถมาใช้ชีวิตร่วมกันในวันนี้ได้ ดังนั้นวันนี้ฉันขอสัญญา ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข คนที่ฉันจะนึกถึงและปกป้องเป็นคนแรกคือเธอ ไม่ว่าจะมีเรื่องร้ายหรือดีคนที่ฉันจะคอยยืนเคียงข้างกุมมือเผชิญปัญหาไปด้วยกันก็คือเธอ ทุกครั้งที่มีความสุขคนๆแรกที่ฉันอยากให้ร่วมชื่นชมและรับผลด้วยกันก็คือเธอ ขอบคุณที่ให้กำเนิดลูกๆแสนน่ารักให้กับฉันถึงสองคน ฉันขอสัญญาว่าจากนี้ไป จะรักและให้เกียรติเธอและลูกๆของเราจะดูแลคุ้มภัยตราบสิ้นลมหายใจ จะซื่อสัตย์ละมีเธอเป็นภรรยาเพียงคนเดียวจนกว่าชีวิตจะหาไม่”ณภัทรยิ้มออกมาอย่างตื้นตันใจ น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ โอเมก้าขี้แยยิ้มกว้างกับคำสาบานนั้น หัวใจพองฟูราวลูกโป่งอัดก๊าซ กว้านหลินไม่ได้พูดอะไรเกินจริงเลยหากแต่ทุกคำที่กล่าวมาฝังสลักลงในใจของภัทรทุกถ้อยคำ เด็กน้อยรับไมโครโฟนมาถือไว้แล้วเริ่มอ่านคำสาบานของตนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือไม่แพ้กัน
 
ภาพทุกภาพที่เคยทำร่วมกันมาค่อยๆผุดขึ้นมาในความทรงจำ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกว้านหลิน
 
วันที่ต้องพรากจาก
 
วันที่กลับมาพบกันอีกครั้งด้วยเหตุการณ์ไม่คาดคิด
 
วันที่ทำร้ายกัน
 
วันที่รักและปกป้องซึ่งกันและกัน
 
ราวหนังที่ฉายซ้ำแล้วซ้ำอีก
 
มีทั้งความทุกข์และความสุขที่ปะปน
 
จนสุดท้ายภาพที่เห็นคือกว้านหลินและลูกน้อยทั้งสองคน
 
นี่คือสุดรักสุดดวงใจของภัทร
 
            “เมื่อคืนผมนอนไม่หลับ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะเริ่มเขียนคำสาบานของผมยังไง ดังนั้นก่อนอื่นผมขอขอบคุณคุณกว้านหลินที่ยังคงเป็นอัศวินของผมเสมอมา ตั้งแต่เล็กจนโต คนที่คอยปกป้องผมก็คือคุณกว้านหลิน แม้มีช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เราต้องแยกจากกันแต่ผมไม่เคยลืมคุณกว้านหลินเลยซักวัน ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ขอบคุณที่คอยกอดและหอมแก้มผมที่ตอนนั้นน้ำก็ไม่ได้อาบแถมยังอ้วแเผละเป็นภาระให้คุณต้องคอยดูแล ไม่ว่าผมจะเป็นเพียงเด็กชายณภัทรวัย 8 ขวบ หรือณภัทรวัย 22 ปีคนนี้ คุณก็ยังคงเป็นอัศวินผู้พิทักษ์ของผม ผมขอสัญญาว่าต่อจากนี้จะรักและซื่อสัตย์ต่อคุณคนเดียว คุณจะเป็นรักแรกรักเดียวและรักสุดท้ายที่ผมจะมีในชีวิต ณภัทรคนนี้จะมีไล่กว้านหลินเป็นสามีคนเดียวตลอดไป ผมรักคุณ”เมื่อคำสาบานสิ้นสุดกว้านหลินก็ใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้กับภรรยาของตนก่อนจะประทับริมฝีปากมอบจูบแสนหวาน ผู้ร่วมงานต่างพากันปรบมือดังกึกก้องก่อนที่บ่าวสาวจะเดินออกมาที่หน้าโบสถ์ ภัทรหันมาโบกมือให้กับทุกคนแล้วจึงหันหลังโยนช่อดอกไม้ไปให้กับผู้ร่วมงานที่ยังโสด
 
            “อ๊ะ...ปล่อยนะคุณ ผมคว้าได้ก่อน”เฉินเสี่ยวป่ายพยายามยื้อแย่งช่อดอกไม้ออกจากมือของอนลที่กุมมือเขาไว้แน่น ทั้งสองยื้อยุดกันไปมาจนหมอนนท์กระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคน
 
            “อยากได้ก็เอาไปแต่เดี๋ยวตอนงานแต่งของเราผมจะสั่งช่อใหม่ให้”
 
            “จ...จะบ้าเหรอ ใครจะไปแต่งกับคุณล่ะ เพ้อเจ้อ”

TBC.

#ไฮเดรนเยีย


......................................

จะจบแล้วววววววว


หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 23 "คำสาบาน"
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 10-07-2019 20:38:24
 :pig4:
 :3123: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 23 "คำสาบาน"
เริ่มหัวข้อโดย: Chakaimook ที่ 12-07-2019 00:25:24
อยากให้ทั้งคู่ผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้และอยู่กันอย่างมีความสุขซ้ากกกกที~
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 23 "คำสาบาน"
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 12-07-2019 01:35:58
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่เลยนะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 23 "คำสาบาน"
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 19-07-2019 23:27:28
แอบรอเธออยู่นะจ้ะ  :z13:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 23 "คำสาบาน"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 05-01-2020 20:02:36
 ณภัทรกวาดตามองไปจนทั่วงาน บรรดาแขกเหรื่อที่ส่งเสียงแสดงความยินดีแก่คู่แต่งงานในวันนี้นั้น
 
จะมีซักกี่คนที่ยินดีกับพวกเขาทั้งสองคนจริงๆ
 
ถ้าจะให้นับแล้ว คงมีเพียงสมาชิกในครอบครัวของกว้านหลินนั่นแหละที่ยินดีไปกับเขาทั้งสองคนด้วย
 
แม้แต่แม่และน้องชายทั้งสองคนที่ถูกจัดให้นั่งร่วมโต๊ะกับคริส ลีโอ จอห์นนี่ และวิคตอเรียก็นั่งก้มหน้านิ่ง แม่ไม่ได้ยินดีกับการแต่งงานของภัทร น้องทั้งสองคนก็แทบจะไม่มองหน้ากว้านหลินและคนอื่นๆบนโต๊ะเลย  หากแต่ทั้งสามจำต้องทนฝืนนั่งร่วมโต๊ะกับตระกูลอัลฟ่า
 
ถึงแม้ปากจะบอกว่าความบาดหมางที่ผ่านมาขอให้มันเป็นอดีตแต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่มีใครลืมได้หรอก มีเพียงความกระอักกระอ่วนใจ คุณนายรองเมินไม่มองครอบครัวของภัทรเลยด้วยซ้ำ
 
เสียงเพลงจากนักดนตรีฝีมือดีช่วยขับกล่อมแขกในงาน  ภัทรและกว้านหลินหลังเสร็จสิ้นพิธีการต่างๆและการพูดคุยกับแขกก็กลับมานั่งที่โต๊ะ โอเมก้าแม่ลูกสองกุมมือนุ่มของแม่ไว้ใต้โต๊ะแล้วบีบเบาๆ  สองแม่ลูกสบตาแล้วยิ้มให้แก่กัน
 
แม้จะรู้สึกแย่แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกัน
 
ในที่สุดงานเลี้ยงก็สิ้นสุด คุณนายรองกลับขึ้นไปพักในห้องด้านบนสุดที่จองไว้ คู่บ่าวสาวกลับมาถึงบ้านหลังเข็มนาฬิกาบอกเวลาตีหนึ่งครึ่ง บรรดาพี่ๆแยกย้ายกันไปพักผ่อน  ความเหนื่อยล้าทำให้สีหน้าอิดโรย  ดวงตาของภัทรแดงๆเพราะก่อนกลับกอดลากับแม่ แม่อวยพรให้ภัทรมีความสุขกับชีวิตคู่ เริ่มต้นใหม่และโตเป็นผู้ใหญ่จริงๆเสียที
 
ภัทรเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วจัดชุดนอนมายื่นให้กว้านหลิน
 
                “คุณกว้านหลินไปอาบน้ำก่อนเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”สองมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้กับผู้ที่เป็นสามีอย่างถูกต้องตามกฎหมายอย่างคุ้นชิน
 
                “ไม่อาบด้วยกันเหรอ แช่อ่างสบายๆ”กว้านหลินรั้งเอวบางไว้ก่อนจะฝังจมูกกับซอกคอผู้เป็นภรรยา ภัทรผลักอกของเขาออกเบาๆใบหน้าหวานฉาบด้วยรอยยิ้มละมุน
 
                “ไม่เอาครับ คุณกว้านหลินไปอาบน้ำให้สบายเนื้อสบายตัวก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมแวะไปดูลูกๆแล้วจะกลับมา”ประคองใบหน้าหล่อที่ถูกล้อมกรอบด้วยเรือนผมสีดำสนิทแล้วกดจูบแผ่วเบา กว้านหลินยิ้มให้กับความอ่อนหวานน่ารักนั้นของภรรยา
 
                “ไม่ดื้อนะครับ เดี๋ยวจะให้รางวัล”พูดจบก็ดึงตัวออกจากอ้อมกอดของกว้านหลิน แม้ชายหนุ่มจะเอื้อมมือเพื่อคว้าร่างนุ่มนิ่มนั้นหากแต่ภัทรกลับไวกว่า โอเมก้าเด็กของเขาหัวเราะเสียงใสก่อนจะเร้นกายหายออกไปจากห้อง กว้านหลินจัดการอาบน้ำนานราวๆ 15 นาที เมื่อออกมาก็พบภัทรนั่งรออยู่แล้วพร้อมชุดนอนของตัวเองที่วางไว้บนตัก
 
                “ใส่แค่ผ้าขนหนูออกมาก็ได้มั้ง เพราะเดี๋ยวก็ต้องถอดอยู่ดี”แกล้งก้มไปกระซิบชิดริมหูเรียกสีแดงซ่านให้มาประดับบนสองแก้มปลั่งได้ในทันที ปลายจมูกโด่งคลอเคลียที่ผิวแก้มจนใบหน้าร้อนผ่าว หากแต่ภัทรในวันนี้ไม่ใช่โอเมก้าขี้ขลาดไร้เดียงสาอย่างเมื่อหลายปีก่อนแล้ว พอตั้งสติได้ก็ช้อนตาขึ้นสบกับสามี รอยยิ้มน้อยๆนั้นช่างน่าดู ยื่นหน้าเข้าไปใกล้มากกว่าเดิมจนริมฝีปากแตะกันผะแผ่ว
 
                “ใส่เพื่อให้คุณกว้านหลินช่วยถอดให้มันดีกว่าแก้ผ้าออกมาตั้งเยอะนี่ครับ”
 
ไล่กว้านหลินไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอดทนรออะไรได้นานขนาดนี้ เข็มนาฬิกาเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้าในความรู้สึก ปกติภัทรจะใช้เวลาในการอาบน้ำพอๆกับเขาคือ 15-20 นาที แต่วันนี้ต่างไปจากเดิม 20 นาทีผ่านไป ภัทรก็ยังอาบน้ำไม่เสร็จ อัลฟ่าหนุ่มจ้องไปยังประตูห้องน้ำราวกับจะกดดันคนด้านในให้ออกมาซักทีจนกระทั่งประตูห้องน้ำเปิดออกมาไล่กว้านหลินกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
 
ภัทรในวันนี้ดูร้อนแรงเสียเหลือเกิน ชุดนอนผ้าลื่นๆลีขาวของเจ้าตัวประดับบนเรือนกายหากแต่ภัทรใส่ออกมาแค่เพียงเสื้อ ส่วนปลายเสื้อยาวพอที่จะปิดอะไรๆที่เจ้าตัวดึงปิดไว้ กลิ่นดอกไลเซนทัสหอมกรุ่นผสมเคล้ากลิ่นฝนแรกแสนชุ่มฉ่ำ บรรยากาศในห้องดูจะเย็นชื้นอย่างไม่น่าเชื่อ ภัทรยิ้มให้กับกว้านหลินที่ยังคงกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงก่อนจะค่อยๆเดินไปหา
 
เรียวขาขาวคืบคลานขึ้นไปแล้วนั่งคร่อมลงบนร่างกายของกว้านหลิน ชายหนุ่มจ้องตาภรรยาที่กลายร่างจากแมวเหมียวตัวน้อยมาเป็นเสือแสนปราดเปรียวแล้วพลิกร่างขึ้นมาเป็นฝ่ายคร่อมก่อนจะเปลี่ยนเป็นแทรกกายอยู่ตรงกลางหว่างขาของภัทร เรียวขายาวถูกดันขึ้นแล้วสูดดมกดริมฝีปากลงบนต้นขาจนภัทรรู้สึกถึงความวาบหวามที่ประทับลงมา ปลายจมูกกดไล่ตามความยาวขึ้นมาเรื่อยๆเหมือนจะชื่นชมกลิ่นประจำตัวของคนใต้ร่างให้ทั่วทุกซอกมุม
 
                “หอมไปหมดทั้งตัวเลยนะ..."
 
                “มันจะหอมกับแค่คุณคนเดียว...”โอเมก้าแม่ลูกอ่อนคล้องแขนกับลำคอแกร่งก่อนจะยืดตัวขึ้นมาเรียกร้องรสจูบแสนหวาน กว้านหลินไม่ได้ตะกรุมตะกรามหรือรีบร้อนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เขาค่อยๆบดเบียดร่างกาย ฟอนเฟ้นไปทั่วร่างกดจูบอย่างเว้าวอนอ้อยอิ่งจนคนที่ทนไม่ได้ต้องเริ่มเพิ่มความร้อนแรงวาบหวามกลายเป็นภัทรเสียเอง
 
กว้านหลินยิ้มที่มุมปากเมื่อภัทรเริ่มเอาแต่ใจมากขึ้น เสื้อนอนแสนเกะกะถูกถอดจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า ภัทรเองก็ไม่ยินยอมที่จะถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียว เสื้อยืดสีขาวของกว้านหลินถูกถอดจนพ้นกายตามด้วยกางเกงนอนเนื้อนิ่ม เรือนกายของคนทั้งคู่ร้อนผ่าว ยิ่งจับต้องยิ่งเพิ่มอุณหภูมิให้ยิ่งรุ่มร้อน ดวงตาลุ่มหลงซึ่งกันและกันสื่อความนัยว่าเราทั้งสองต่างเป็นคู่แห่งโชคชะตาที่จะไม่มีวันพรากจากกัน
 
แผ่นหลังค่อยๆเอนลงจนแตะกับที่นอนนุ่มตามด้วยร่างหนาที่ทาบทับ
 
เหมือนสายลมอุ่นในเดือนเมษายน ทุกครั้งที่ร่างกายถูกสัมผัสความต้องการก็เรียกร้องเร่งเร้าจน แทบทนไม่ไหว
 
ณภัทรชอบทุกสัมผัสที่กว้านหลินแตะต้องลงบนร่างของตนเอง
 
ณภัทรชอบปลายลิ้นเฉอะแฉะที่กวาดต้อนเสียจนตนเองจนมุมไร้แรงต้านทาน
 
ณภัทรชอบความรู้สึกยามที่ใกล้จะหมดลมหายใจจนต้องจิกลงไปที่กลางแผ่นหลัง
 
ณภัทรชอบยามที่ร่างกายของตนเองตอบรับการรุกรานอย่างอ่อนโยนของกว้านหลิน
 
ชอบตอนที่เราทั้งสองต่างหลอมรวมเชื่อมต่อจนเป็นหนึ่งเดียวกัน
 
ชอบทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่กว้านหลินทำให้
 
ชอบแม้กระทั่งเสียงหอบกระเส่ายามที่ตนเองบีบรัดจนความรู้สึกซ่านเสียวแล่นไปทั่วร่าง
 
ชอบหยาดเหงื่อที่ผสมรวมกันเป็นหนึ่ง
 
ชอบยามเรียวนิ้วของเราประสานกัน
 
ชอบ...ชอบทุกอย่างที่เป็นไล่กว้านหลิน
 
พายุอารมณ์โถมใส่เหมือนคลื่นในฤดูมรสุมที่สาดซัดเข้าฝั่ง ภัทรส่งเสียงร้องครางยามความลินกระทั้นกายแรงขึ้นเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงจุดหมาย อัลฟ่าหนุ่มจับภรรยาหันหลังทั้งๆที่ยังเชื่อมต่อกันอยู่ดูดดึงผิวเนื้อตรงต้นคอที่ส่งกลิ่นหอมแสนเย้ายวนอย่างมัวเมา ภัทรกระชับฝ่ามือของตนเองที่มีปลายนิ้วของกว้านหลินเกาะกุมอยู่ยามความรู้สึกกำลังจะพุ่งถึงขีดสุด
 
น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นตามความโยกคลอนของร่างกายเปล่งออกมาแทบจะไม่เป็นคำ หาแต่กว้านหลินกลับได้ยินอย่างแจ่มชัด
 
                “คุณกว้านหลิน...กัด...กัดหลังคอผมได้มั้ยครับ ผมอยากเป็นของคุณกว้านหลินตลอดไป”
 
ณภัทรเชิดหน้าขึ้นยามคลื่นอารมณ์ของตนถึงจุดสูงสุด ร่างบางเกร็งกระตุกปลดปล่อยทุกหยาดหยดพร้อมน้ำเสียงชวนฟัง ไล่กว้านหลินมองคนใต้ร่างในขณะที่ส่งตัวตนของตนเองย้ำหนักราวกับจะตอกย้ำว่าณภัทรเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ทั้งกายและใจ
 
ภัทรที่หลีกเลี่ยงการผูกพันธะระหว่างเรามาตลอดเอ่ยปากร้องขออย่างเว้าวอนด้วยตนเอง
 
หมายถึงโอเมก้าใต้ร่างพร้อมที่จะผูกชะตากับเขาไปชั่วชีวิต ยามตัวตนเน้นหนัก คมเขี้ยวขาวซี่ไม่ใหญ่อย่างที่ใครจินตนาการก็งอกออกมา ภัทรหลับตายามความเจ็บแล่นเข้าจู่โจมที่หลังคอพร้อมกับธารอุ่นที่ถูกส่งเข้ามาเต็มช่องทางด้านหลัง กว้านหลินครางต่ำย้ำรอยเขี้ยว
 
พันธะระหว่างอัลฟ่าและโอเมก้าผูกกันอย่างสมบูรณ์รอยเขี้ยวเล็กๆมีโลหิตสีแดงฉานซึมที่ปากแผลก่อนที่จะหายไปเหลือเพียงจุดเล็กๆคล้ายแผลเป็นยามที่ปลายลิ้นร้อยเลียจนแผลปิดสนิท ยามกว้านหลินถอดตัวตนของตนเองออกภัทรก็พลิกกายกลับมาสวมกอดเอวสอบไว้ ซุกใบหน้ากับอกแกร่งของสามีอย่างออดอ้อน
 
                “ผมจะเป็นของคุณคนเดียวตลอดไปชั่วชีวิต
 
                “ฉันก็จะมีเธอคนเดียวชั่วชีวิตเหมือนกัน”
 
                “คุณกว้านหลินไม่ต้องสัญญากับผมหรอกครับ อัลฟ่าจะมีโอเมก้ากี่คนก็ได้ ถ้าหากวันหนึ่งคุณกว้านหลินไปถูกใจใคร คุณก็พาเขามาก็ได้นะครับ”ภัทรเงยหน้าพูดกับกว้านหลินด้วยดวงตาที่บ่งบอกว่าตนคิดตามที่พูดจริงๆ
 
มันคือวัฏจักรของเผ่าพันธุ์เขาเข้าใจดี
 
หากแต่กว้านหลินกลับเชยคางของภรรยาขึ้นมาแล้วกดจูบลงบนหน้าผากสวย
 
                “ฉันจะมีเธอเพียงคนเดียว”น้ำคำแน่นหนักทำให้ใจดวงน้อยอุ่นวาบอย่างไม่รู้ตัว ขอบตาร้อนผ่าวยามเสียงนุ่มทุ้มของสามีเอื้อนเอ่ยประโยคถัดไป
 
                “อยู่ด้วยกันจนผมหงอกขาวนะภัทร”โอเมก้าขี้แยปล่อยน้ำตาให้รินไหลด้วยความปลื้มใจ
 
                “อยู่ด้วยกันให้เหมือนนกเงือกที่มีผัวเดียวเมียเดียวจนชั่วชีวิตนะ”
 
                “ครับ ผมจะอยู่กับคุณชั่วชีวิต ฮึก...ผมรักคุณกว้านหลินนะครับ รักมากๆ และจะรักตลอดไป”น้ำเสียงเจือสะอื้นบอกกับผู้เป็นสามีกว้านหลินหัวเราะเบาๆกับท่าทางเหมือนเด็กช่างอ้อนนั้น อ้อมแขนแกร่งรัดร่างบางไว้อย่างหวงแหน
 
อยู่ด้วยกันจนกว่าจะตายจากไม่ใช่คำพูดพล่อยๆ
 
แต่กว้านหลินตั้งใจเช่นนั้นจริงๆ
 
เขาเคยทำผิดพลาดทำร้ายหัวใจอันเปราะบางของภัทรมานับครั้งไม่ถ้วน
 
หลังจากนี้เขาจะดูแลภัทรอย่างดีที่สุด
 
จะทำให้ภัทรสามารถเชิดหน้าได้อย่างไม่อายใครที่เป็นสะใภ้สกุลไล่
 
จะเป็นสามีที่ภัทรไม่รู้สึกเสียใจว่าตนเองเลือกคู่ครองผิด
 
จะไม่ทำให้คนในอ้อมกอดเสียใจอีกเป็นอันขาด



 
          กว่าสองอาทิตย์แล้วที่แต่งงานกันมา  ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมในบ้านหลังนี้  สัปดาห์หน้าลิซ่าต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจแล้ว แม้จะรู้สึกกังวลนิดหน่อยแต่หมอนนท์บอกว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้โอเมก้าแม่ลูกอ่อนวางใจไปได้เขายังคงดูแลลูกสาวด้วยความเอาใจใส่และไม่ละเลยลูกชายที่เริ่มเรียกร้องความสนใจจากแม่เพราะอิจฉาเวลาแม่อุ้มน้อง
 
เด็กต่างวัยต่างก็อยากได้รับความรักความเอาใจใส่ที่แตกต่างกัน งานในแต่ละวันของภัทรหมดไปกับการดูแลลูกและบ้าน ไฮเดรนเยียที่ปลูกมานานหลายปีบัดนี้สวยงามชูช่อประดับรั้วรอบบ้าน จากบ้านที่ไร้ชีวิตชีวากลายเป็นบ้านที่ใครหลายๆคนเดินผ่านต้องหยุดชื่นชมกับดอกไม้สวยหวานหลากสีนั้น บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีทั้งเสียงหัวเราะเล็กๆของเจ้าตัวน้อย มีกลิ่นอาหารหอมกรุ่นทั้งเช้าและเย็น มีความสุขอบอวลแผ่ซ่านทั่วทุกมุมบ้าน  เป็นชีวิตครอบครัวแสนอบอุ่นที่ภัทรใฝ่ฝันมาตลอด กว้านหลินกับลูกๆเองก็มีความสุขกับความเป็นอยู่ของครอบครัวแบบนี้
 
เหมือนเรื่องเลวร้ายต่างๆผ่านพ้นไปแล้ว
 
จนกระทั่ง...
 
            “ติดต่อทางอเมริกากับจีนหรือยัง ทำไมแม่ใหญ่ถึงมีคำสั่งจะปลดฉันออกจากบอร์ดบริหาร”ภัทรวางมือจากโต๊ะอาหารที่กำลังจัด เสียงกว้านหลินที่เดินนำเสี่ยวป๋ายขึ้นไปบนห้องทำงานทำให้โอเมก้าตัวน้อยไม่กล้าที่จะตามขึ้นไป
 
แต่แค่ประโยคเดียวประโยคนั้นภัทรก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
 
คุณนายใหญ่เริ่มกดดันกว้านหลินและภัทรแล้ว  กว้านหลินและเสี่ยวป๋ายหายเข้าไปในห้องทำงานตั้งแต่เย็นจนทุ่มกว่าเสี่ยวป๋ายถึงได้เปิดประตูออกมา สีหน้าของเลขาหนุ่มเคร่งเครียด คำสั่งการของคุณนายใหญ่นั้นมาอย่างไม่มีวี่แววและกว้านหลินไม่ได้ทำหน้าที่ของตนบกพร่องแต่ประการใด การวีดีโอคอลคุยกันของสามพี่น้องเกิดขึ้นอย่างเคร่งเครียดนานนับชั่วโมง คริสรับปากน้องชายว่าจะช่วยพูดให้
 
แต่ครั้งที่แล้วเขาเองก็คว้าน้ำเหลว
 
แม่ใหญ่ให้เหตุผลที่ไม่อาจคัดค้านได้คือกว้านหลินลดความน่าเชื่อถือของตนเองต่อผู้ถือหุ้นคนอื่นๆด้วยการเอาลูกของคนทรยศมาเป็นเมีย
 
ผิดที่ใคร
 
ผิดที่ภุชงค์โลภมากหรือผิดที่ภัทรโชคร้ายเกิดมาเป็นลูกของคนทรยศ
 
ไม่เลย เรื่องนี้ภัทรไม่ได้มีความผิดเลยซักนิด แต่ทุกคนโยนความผิดทุกอย่างมาให้เด็กคนนั้นแบกรับมันมาตลอดสี่ปี
 
            “ไอ้สาม แกใจเย็นก่อน ปล่อยให้พี่ใหญ่ไปพูดกับแม่ใหญ่ก่อน ยังไงเขาก็แม่ลูกกัน ต่อให้โกรธหรือไม่พอใจแค่ไหนแม่ใหญ่ก็ทำรุนแรงกับแกไม่ได้หรอก”จอห์นนี่ปลอบใจน้องชายที่เครียดจนดวงตาแดงก่ำ
 
กว้านหลินฝังตัวเองให้จมมลงกับเก้าอี้ในห้องทำงาน ไฟทุกดวงปิดสนิทเหลือเพียงแสงจากหน้าจอคอมพ์
 
ภัทรมาตามให้เขาออกไปกินข้าวหลายครั้งแล้วแต่เขาขอเวลาอยู่เงียบๆคนเดียว จนตอนนี้เกือบสี่ทุ่ม ภัทรเอาลูกๆเข้านอนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้ามาหาสามีอีกครั้ง
 
กลิ่นฝนแสนอึมครึมปกคลุมทั่วทั้งห้องบ่งบอกว่าเจ้าของกลิ่นกำลังเครียดมาก ภัทรไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงเดินไปหยุดอยู่ข้างๆแล้วดึงร่างของสามีเข้ามากอด
 
กว้านหลินไม่ได้ปฏิเสธกอดนั้น อัลฟ่าหนุ่มรัดเอวบางไว้อย่างหวงแหน
 
หากเป็นเมื่อก่อนที่เขายังไม่มีภาระ
 
หากเขามีเพียงแค่ภัทรคนเดียวเขาจะไม่สนใจเลยซักนิดว่าแม่ใหญ่จะไล่เขาออกจากบริษัทหรือไล่เขาออกจากตระกูล เขาสามารถไปเริ่มต้นชีวิตแบบเรียบง่ายที่ไหนซักแห่งที่ไม่มีใครมายุ่งมาบงการชีวิตครอบครัวของเขาได้
 
แต่นี่
 
เขายังมีชีวิตน้อยๆอีกสองชีวิตที่ต้องดูแล ลำพังลูคัสน่ะไม่เท่าไหร่หรอก ลูกชายของเขาสุขภาพแข็งแรง
 
แต่ยายหนูคนเล็กนี่สิที่ยังต้องรักษาโรคหัวใจอีกนาน ลิซ่าสุขภาพไม่แข็งแรงนักเขาไม่รู้ว่าในอนาคตต้องใช้เงินเท่าไหร่ ลำพังเงินเก็บที่เป็นเงินเดือนของเขาจะดูแลลูกได้ซักกี่ปี ทุกวันนี้ที่มีเงินใช้สอยอย่างสบายเป็นเพราะเบิกกงสีส่วนหนึ่งถ้าเขาถูกตัดชื่อออกจากเงินส่วนนี้แม้จะไม่ลำบากแต่ก็ไม่ใช่หลักประกันที่ดีสำหรับลูกๆ
 
กว้านหลินวางแผนอนาคตของเด็กๆไว้หมดแล้ว เขาอยากให้ลูกได้รับการศึกษาจากโรงเรียนที่ดีมีคุณภาพโดยเฉพาะลิซ่าที่อาจจะเป็นอัลฟ่าหรือโอเมก้าก็ได้นั้นน่าห่วงที่สุดและโรงเรียนสำหรับโอเมก้าชนชั้นสูงนั้นแพงแสนแพง ถ้าเขาถูกตัดออกจากตระกูลนั่นหมายถึงคุณภาพชีวิตของลูกๆจะถูกลดระดับลงทันที
 
            “ให้ผมไป...”หลังจากปล่อยความเงียบให้บีบคั้นความรู้สึกมานานภัทรก็เปิดปากพูด หากแต่กว้านหลินตวาดกลับทันที
 
            “ไม่!! อย่าพูดแบบนี้อีก ฉันจะหาทางแก้ไขเอง”
 
            “ถ้าอย่างนั้นออกไปทานข้าวนะครับ ผมหิวแล้ว”ณภัทรดึงสามีให้ลุกขึ้น เขารู้ดีว่าไม่ควรเถียงกว้านหลินในตอนนี้ หากสามีอารมณ์ไม่ดีเขาจะหยุดจะไม่เซ้าซี้รบเร้าอีก กว้านหลินยอมลุกขึ้นเดินตามภรรยาลงมาทานข้าวแต่โดยดี หากแต่อาหารมื้อนี้กลับฝืดคอเหลือทน
 
อัลฟ่าหนุ่มแทบไม่รู้รสของอาหาร กินไปได้ไม่กี่คำก็รวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม
 
            “อิ่มแล้วเหรอครับ?”ภัทรมองอย่างเป็นห่วง กว้านหลินทำเพียงพยักหน้ารับ จิตใจของเขาเอาแต่คิดหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
 
            “ขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะครับ เผื่อจะช่วยให้สมองโล่งขึ้น เดี๋ยวผมอุ่นนมขึ้นไปให้ คุณกว้านหลินทานข้าวน้อยเกินไปเดี๋ยวจะไม่อยู่ท้อง”กว้านหลินยอมลุกเดินขึ้นไปบนห้องตามที่ภัทรบอก
 
คืนนั้นเขาหลับไม่เต็มตาเลยซักนิด
 
ต่างคนต่างนอนลืมตาในความมืดคิดหาทางออกให้กับปัญหาใหญ่นี้
 
ต่างคนต่างคิดถึงวิธีที่จะดูแลอีกคนจนกระทั่งเช้า ภัทรก็ยังคงลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองไม่ขาดตกบกพร่องแต่ประการใด เตรียมอาหารเช้าเสร็จก็ขึ้นมาปลุกสามีให้อาบน้ำช่วยแต่งตัวให้กว้านหลินแล้วพากันลงมากินอาหารเช้า กว้านหลินอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อยหลังลูคัสตื่นแล้วเดินป่วนพ่อทีแม่ที หลังจากอิ่มแล้วกว้านหลินก็ออกไปทำงานตามปกติ
 
หากแต่ช่วงสายของวัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ศลัยที่อยู่ในครัวกำลังจะวิ่งมารับให้แต่ภัทรโบกมือห้ามไว้
 
            “ไม่เป็นไรครับพี่ศลัยเดี๋ยวผมรับเอง”โอเมก้าแม่ลูกอ่อนลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ หากแต่เมื่อกล่าวสวัสดีเสียงที่ตอบกลับมาทำเอาเลือดในกายแทบจะกลายเป็นน้ำแข็ง
 
 
            “สวัสดีณภัทร จำฉันได้มั้ย?”
 
            “คุณนายใหญ่...”
 
            “ขอบใจที่ความจำยังดีอยู่ งานแต่งงานราบรื่นดีใช่มั้ยจ๊ะ ขอโทษด้วยที่ฉันไม่ได้ไปร่วมงาน มีแพลนฮันนีมูนกันหรือยังจ๊ะ  ถ้ายังไม่มีก็รีบหาเลยแล้วกันเพราะฉันหาเวลาว่างให้กว้านหลินได้แล้ว ตอนนี้ฉันจะออกคำสั่งให้เขาออกจากตำแหน่งทุกตำแหน่งมีผลบังคับใช้สิ้นเดือนนี้”
 
            “คุณนายใหญ่ครับ ผมขอร้อง อย่าบีบคุณกว้านหลินด้วยวิธีนี้เลยนะครับ”ภัทรละล่ำละลักอ้อนวอนขอความเมตตาจากผู้อาวุโสของบ้าน หากแต่กลับได้รับเสียงหัวเราะเสแสร้งกลับมา
 
            “เธอรู้ดีว่าควรทำยังไง แต่เธอก็ไม่ทำ แล้วตอนนี้เธอจะมาขอร้องอะไรฉัน ฉันไม่มีวันยอมให้สายเลือดบริสุทธิ์ของตระกูลถูกโอเมก้าชั้นต่ำอย่างเธอมาทำให้แปดเปื้อนหรอกนะ ในเมื่อรักกันมากก็เชิญไปรักกันให้พอ ฉันจะดูว่าน้ำหน้าอย่างกว้านหลินน่ะ ถ้าไม่มีงาน เงินหมดจะดูแลเลี้ยงดูเธอและลูกให้สุขสบายไปได้ซักกี่ปี แล้วยายหนูน่ะไม่รู้ต้องผ่าตัดต้องรักษาอีกกี่ครั้งถึงจะหาย ถ้าเงินหมดจะทำยังไง ปล่อยให้ลูกตายเหรอ?ถึงเวลานั้นถ้ากว้านหลินทนความลำบากไม่ไหว เขาก็จะคิดได้ว่าที่ชีวิตของเขาพังก็เพราะพ่อเลวๆของเธอ ลองถามเขาดูสิจ๊ะว่าทุกวันนี้เขาให้อภัยพ่อเธอจริงๆหรือเขาทำเป็นแกล้งลืม ที่ควรพูดฉันก็พูดจนหมดแล้ว ถ้าเธอไม่รักลูกรักผัวก็เตรียมตัวกัดก้อนเกลือกินแล้วก็หาเงินทำศพลูกคนเล็กของเธอได้เลย”ภัทรถือสายโทรศัพท์ค้าง สัญญาณถูกตัดไปแล้ว โอเมก้าแม่ลูกอ่อนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง น้ำตาหยดใสกลิ้งหล่นยามหันไปมองลิซ่าน้อย
 
แค่คิดถึงวันที่ลูกอาจจะตายเพราะไม่ได้รับการรักษาที่ดีภัทรก็เจ็บปวดหัวใจจนต้องกุมอกตัวเอง ปล่อยเสียงร้องไห้ที่พยายามกลั้นออกมาอย่างเต็มฝืน ศลัยที่เพิ่งล้างขวดนมเสร็จเดินเข้ามาเห็นผู้เป็นนายร้องไห้ก็รีบเข้ามาหาอย่างตกใจ
 
            “เป็นอะไรคะคุณภัทร ร้องไห้ทำไม”
 
            “ผมผิดเอง...ฮึก...ผมเป็นคนผิด ผิดทั้งหมดเลย เป็นเพราะผมเรื่องทุกอย่างถึงได้แย่ลงแบบนี้ เพราะผมคนเดียว”
 
 
            ภัทรพลิกตัวมองหน้าสามีที่ยังคงลืมตามองเพดานอยู่เงียบๆอย่างใช้ความคิด ร่างบางขยับเข้าไปกอดเอวสอบไว้ซบหน้าลงกับแผงอกที่ขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ กว้านหลินยิ้มให้กับภรรยาพลางกระชับกอดตอบ
 
โอเมก้าตัวน้อยแนบใบหูตรงกับหัวใจของกว้านหลิน
 
เพราะจัง...เสียงหัวใจของคุณกว้านหลินเพราะจังเลยครับ  เด็กหนุ่มหลับตาลงฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะของสามีราวกับจะซึมซับมันไว้ในความทรงจำคลี่ยิ้มบางๆให้กับความสุขเล็กๆน้อยๆนี้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับผู้เป็นสามีที่ยังคงมองตนเองอยู่
     
     "คุณกว้านหลินครับ เราไปไหว้อัฐิพ่อของผมกันมั้ยครับ?"ตัดสินใจพูดประโยคนั้นออกไป กว้านหลินมีท่าทางที่นิ่งไป วูบหนึ่งภัทรรู้สึกว่าหัวใจของกว้านหลินเต้นผิดจังหวะ
 
     
     "เธอไปเถอะ ฉันไม่ว่าง ถ้าจะไปวันไหนก็บอกเดี๋ยวให้คนที่บริษัทขับรถพาไป”ความรู้สึกของภัทรในตอนนี้เหมือนลูกโป่งที่ถูกอัดแก๊สไว้จนเต็มหากแต่กว้านหลินกลับเอาเข็มแหลมมาทิ่มแทงจนมันแตกกระจาย
 
กว้านหลินยังคงไม่ให้อภัยพ่อของตนจริงๆอย่างที่คุณนายใหญ่บอกนั่นแหละ
 
 
ภัทรรอจนกระทั่งกว้านหลินหลับจึงพลิกกายนอนหันหลังให้กับสามี ดวงตาคลอหน่วยไปด้วยหยาดน้ำ
 
ต่อให้เขาทำเป็นลืมว่ากว้านหลินเป็นคนลงมือสังหารพ่อของเขาเองต่อหน้าต่อตา แต่กว้านหลินกลับไม่เคยลืมเลยว่าพ่อของเขาเป็นคนจ้างวานฆ่าพ่อของกว้านหลิน
 
แผลเหมือนจะหายดีหากแต่ฝากรอยแผลเป็นไว้ไม่มีใครลืมเลือน
 
     เราอาจจะเกิดมาเพื่อรักกัน แต่เราอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อเคียงคู่อยู่ด้วยกัน
 
 
((ต่อด้านล่าง))
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนที่ 23 "คำสาบาน"
เริ่มหัวข้อโดย: thanatcha ที่ 05-01-2020 20:03:06

   
 
            ชีวิตประจำวันของภัทรและกว้านหลินยังคงดำเนินไปเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน จนกระทั่งก่อนที่ลิซ่าจะต้องเข้ารับการผ่าตัดภัทรต้องพาลูกสาวไปตรวจร่างกายอีกครั้งแต่กว้านหลินติดประชุม เขายังคงตั้งใจทำงานแม้คำสั่งจากเบื้องบนจะปลดเขาภายในสิ้นเดือนนี้แล้วก็ตาม เช้าวันนี้ทุกอย่างจึงเร่งรีบไปหมดภัทรลุกขึ้นมาเตรียมเสื้อผ้าวางไว้ให้กว้านหลิน จากนั้นจึงลงมาเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ ดอกไฮเดรนเยียด้านนอกชูช่อดอกไสวตามแรงลม ภัทรหยิบกรรไกรตัดกิ่งเดินออกไปตรงริมรั้ว กวาดตามองหาดอกที่สวยที่สุดแล้วจึงตัดออกมาหนึ่งช่อใหญ่ จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในบ้านกว้านหลินถือกระเป๋าเอกสารลงมาแล้ว ทั้งสองยิ้มให้กันและกันก่อนที่ภัทรจะเดินเข้าไปซุกกายในอ้อมกอด กระชับกอดร่างสูงโปร่งของสามีไว้แล้วสูดกลิ่นฝนชุ่มฉ่ำจนเต็มปอด
 
            “อ้อนจังเลย อยากได้อะไรครับ”กว้านหลินเอ่ยถามภรรยาอย่างเอ็นดู หากแต่ภัทรกลับส่ายหน้าไปมา
 
            ไม่ได้อยากได้อะไรครับ แค่อยากให้คุณกว้านหลินกับลูกๆมีความสุข”
 
            “ทุกวันนี้ก็มีความสุขดีครับแค่มีเธอกับลูกอยู่ฉันก็มีความสุขจนล้นออกมานอกอกแล้ว”ภัทรหัวเราะให้กับคำพูดนั้น
 
บ้าจริง ทั้งๆที่มีความสุขกับคำพูดนั้นแท้ๆแต่ทำไมกลับอยากจะร้องไห้ขึ้นมาเสียดื้อๆอย่างนี้ล่ะ
 
อ่อนแอจริง ณภัทรกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลออกมาก่อนจะทำเสียงร่าเริงดันกายตนเองออกจากอ้อมกอดของสามี
 
            “ผมตัดดอกไฮเดรนเยียมาให้คุณกว้านหลินครับ”ยื่นไฮเดรนเยียช่องามสีชมพูหวานให้กับกว้านหลิน ชายหนุ่มรับมาถือไว้
 
            “คราวก่อนเธอให้สีม่วงคราวนี้ทำไมให้สีชมพูล่ะ”
 
            “ก็เพราะคราวก่อนผมตัดพ้อคุณกว้านหลินว่าคุณกว้านหลินน่ะช่างมีจิตใจที่ด้านชาเย็นชาเสียเหลือเกิน แต่คราวนี้ผมให้เพราะผมอยากจะขอบคุณที่คุณกว้านหลินรักและเข้าใจในตัวผมมาตลอด แล้วสีชมพูมันก็เป็นสีแทนความรักไงครับ”
 
            น่ารักจริง เมียใครเนี่ย”กว้านหลินรวบร่างบางมากอดแล้วกดจูบลงบนผิวแก้มผ่องของภรรยาแสร้งไถจมูกจนภัทรหัวเราะคิกก่อนจะผลักอกของสามีให้ห่างออกจากตัว
 
            “ไปทานข้าวได้แล้วครับ เดี๋ยวก็ไปประชุมไม่ทันหรอก ดุสิเสื้อยับหมดแล้ว”ภัทรปัดๆลูบๆตรงอกเสื้อที่เกิดรอยยับของสามีก่อนจะพากันไปทานข้าว
 
            “เสียดายวันนี้ติดประชุม ไม่งั้นก็อยากจะไปด้วย”
 
            “คุณกว้านหลินไปประชุมเถอะครับ มีพี่ศลัยไปด้วยทั้งคนไม่น่าห่วงอะไร”ภัทรวางจานอาหารให้กว้านหลิน ก่อนจะรับเอาลูคัสมานั่งลงบนตัก เด็กน้อยเริ่มทำตัวอ่อนดิ้นรนจะลงจากตักแม่เพื่อไปหาพ่อ น้ำเสียงเล็กที่ยังพูดไม่ชัดร้องงอแงเรียกพ่อไม่ยอมหยุด
 
            “ป้อๆๆ..ป่าป๊าๆๆๆ”กว้านหลินวางช้อนส้อมลงบนจานก่อนจะรับร่างจ้อยร่อยของลูกชายมานั่งตัก เจ้าลูคัสน้อยออเซาะซบอกพ่อทันที
 
            “ทำไมหืม? เจ้าแสบ วันนี้นึกพิศวาสอะไรป๊าเนี่ย อ้อนเชียว”กว้านหลินแกล้งบีบแก้มยุ้ยๆของลูกชายก่อนจะหนั่นไส้กรอกเป็นชิ้นเล็กๆป้อนให้ลูคัส ตลอดมื้ออาหารลูคัสไม่ยอมลงจากตักของพ่อเลยซักนิด แม้กระทั่งตอนที่กว้านหลินจะขึ้นรถไปทำงานเจ้าตัวน้อยก็แผลงฤทธิ์ลงไปนอนชักดิ้นชักงอเอาแต่ใจกับพื้นจนภัทรต้องรวบร่างลูกขึ้นมากอด กว้านหลินจูบลงบนหน้าผากของลูกทั้งสองรวมทั้งภัทรด้วย
 
บางอย่างรบกวนจิตใจ มันเกิดความรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากออกจากบ้านไปเลยซักนิด เขาหันกลับมามองลูกเมียก่อนจะเดินกลับมาสวมกอดอีกครั้ง
 
            “เลิกงานแล้วพี่จะรีบกลับมานะครับ”ภัทรยิ้มให้กับสามี ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่อกพยักหน้ารับโดยไม่ได้พูดอะไร ลูคัสยังคงร่ำร้องจะไปหาพ่อ กว้านหลินจำใจต้องให้คนรถออกรถไม่อย่างนั้นวันนี้ตนคงไม่ได้ไปทำงานแน่ๆ เมื่อกว้านหลินออกจากบ้านภัทรก็ขึ้นไปเตรียมเอกสารของลูก ศลัยจัดตะกร้าของสำหรับลิซ่าและลูคัสเสร็จก็ตามลงมาสมทบข้างล่าง ช่วงสายทั้งหมดจึงเดินทางไปโรงพยาบาล หมอนนท์อนลทักทายและเอาของเล่นมาให้ลูคัสเล่นระหว่างรอตรวจร่างกายของลิซ่า
 
            “แข็งแรงดีไม่น่าห่วงพรุ่งนี้ก็มาแอดมิทรอได้เลยนะครับ”อนลบอกกับภัทร โอเมก้าแม่ลูกอ่อนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะคว้ามือของอนลมากุมไว้
 
            “พี่หมอครับ ช่วยดูแลลูกของผมด้วยนะครับ รักษาแกให้หายขาดให้แกได้เติบโตมีชีวิตยืนยาวรักแกให้เหมือนกับลูกของพี่หมอได้มั้ยครับ”อนลมาองหน้าภัทรด้วยความรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากคิดว่าภัทรคงฝากฝังลูกเหมือนที่คนเป็นแม่ทุกคนทำยามที่ลูกเจ็บไข้ได้ป่วย คุณหมอหนุ่มตบลงบนหลังมือของภัทรเบาๆ
 
            “ผมรับปากครับผมจะดูแลยายหนูให้เหมือนแกเป็นลูกผมเลย คุณภัทรไม่ต้องกังวลไปครับ ยายหนูจะปลอดภัยแล้วเติบโตเป็นหญิงสาวที่งดงามได้แน่ๆ เชื่อใจผม”ภัทรสูดลมหายใจเข้าปอดกลั้นน้ำตาที่ทำท่าจะไหลอย่างพอใจ
 
            “ได้ยินแบบนี้ผมก็เบาใจจริงๆครับ ดีมากๆเลย แบบนี้ผมก็หมดห่วงแล้ว งั้นผมกลับก่อนนะครับ”
 
            “พรุ่งนี้เจอกันครับ”อนลเดินมาเปิดประตูห้องตรวจให้กับภัทร โอเมก้าแม่ลูกอ่อนไม่ได้ตอบกลับทำเพียงยิ้มและโค้งให้อย่างนอบน้อม
 
            “ลาก่อนครับ”คนเด็กกว่าเดินกลับไปหาพี่เลี้ยงของลูกก่อนจะส่งยายหนูลิซ่าให้กับศลัย
 
            “พี่ศลัยครับ ฝากลูกด้วยนะครับ”ภัทรส่งลูกทั้งสองคนให้กับพี่เลี้ยงสาวที่ไว้ใจที่สุด
 
            “คุณภัทรจะไปไหนคะ”
 
            “เอ่อ...ผม...ผมจะไปห้องน้ำครับ”ณภัทรคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพาย
 
            “เดี๋ยวพี่ดูกระเป๋าให้ก็ได้ค่ะคุณภัทรไปเข้าห้องน้ำเถอะ”
 
            “ไม่เป็นไรครับเอาไปเผื่อแวะซื้อขนมในซุปเปอร์”ภัทรหันหลังเตรียมเดินออกมา เป็นอีกครั้งที่ร่างบางชะงักเพราะร่างเล็กของลูคัสเดินมาเกาะขา
 
            “หม่าม๊า ด้วยๆ คัสไปด้วย”เด็กน้อยเกาะขาแม่ไม่ยอมปล่อย เริ่มกระทืบเท้าจนรองเท้าที่มีเสียงดังระงมทั่ววอร์ด
 
            “ลูคัสอยู่กับป้าศลัยนะครับไปกับแม่ไม่ได้”ภัทรพยายามแกะมือลูกน้อยออกศลัยก็เข้ามาช่วยด้วยแต่วันนี้ลูคัสแรงเยอะเหลือเกิน เด็กน้อยทิ้งตัวลงนั่งส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นยังไงก็ไม่ยอมปล่อยจนภัทรเกือบจะร้องไห้ตามลูก จนในที่สุดโอเมก้าแม่ลูกอ่อนก็ตัดสินใจ
 
            “โอเค ลูคัสไปกับแม่ก็ได้ลูก พี่ศลัยครับ ผมฝากยายหนูด้วยนะครับ ลิซ่า แม่ไปก่อนนะลูก แม่รักลูกมากๆนะครับ”ศลัยหัวเราะให้กับภัทรที่ก้มลงจรดริมฝีปากของตนเองกับเท้าน้อยๆของลูกสาว
 
            “ดูแม่ลูกพวกนี้สิ แค่ไปห้องน้ำทำยังกับจะจากกันตลอดชีวิต รีบไปเถอะค่ะจะได้กลับบ้านกัน”หล่อนเอ่ยปากบอกกับผู้เป็นเจ้านาย ภัทรลูบศีรษะเล็กของลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะย่อตัวอุ้มลูกชายคนโตมาไว้แนบอก
 
            “งั้นผมไปก่อนนะครับ”
 
            “ค่า พี่จะนั่งรออยู่ตรงนี้แหละค่ะ รีบไปรีบมานะคะ”ณภัทรตัดสินใจหันหลังให้กับศลัยและลิซ่า น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป ทุกย่างก้าวเจ็บเหมือนจะขาดใจ
 
เขารู้ว่าชีวิตคนเราต้องมีการตัดสินใจครั้งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
 
และครั้งนี้ภัทรเลือกทางเลือกที่จะดีกับทุกคน
 
แม้หัวใจในตอนนี้มันปวดราวกับถูกขยี้จนแหลกแต่เขาก็คิดดีแล้ว ร่างบางหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกหาใครบางคน รอสายไม่นานคนทางนั้นก็รับสาย
 
            “ครับ  ออกมารอตรงที่นัดได้เลยครับ กำลังไปครับ”
 
 
 
            ศลัยชะเง้อมองไปตรงทางเดินที่ภัทรเดินจากไปพร้อมลูคัส เวลาล่วงเลยมานานจนพี่เลี้ยงสาวร้อนใจ
 
            “ไปเข้าห้องน้ำทำไมนานจัง เป็นชั่วโมงแล้วทำไมยังไม่กลับมากันอีกนะ”หล่อนอุ้มเด็กหญิงลิซ่าที่หลับไปได้ซักพักแล้ว ชะเง้อมองพลางผุดลุกผุดนั่งจนกระทั่งอนลที่ออกเวรเปิดห้องตรวจมาเจอ คุณหมอหนุ่มมองพี่เลี้ยงสาวและลิซ่าด้วยความแปลกใจ
 
            “อ้าว ศลัย ทำไมยังไม่กลับกันอีกล่ะ ตรวจเสร็จนานแล้ว”
 
            “ก็คุณภัทรน่ะสิคะ บอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลยค่ะ ดิฉันลืมเอาโทรศัพท์มาจะโทรตามก็ไม่ได้”ศลัยรีบเข้ามาคุยกับคุณหมอหนุ่มด้วยน้ำเสียงร้อนใจ อนลล้วงโทรศัพท์ของตนเองมาโทรหาภัทรทันที
 
            “ปิดเครื่อง”คุณหมอหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัย พลันภาพตอนภัทรเอ่ยฝากฝังลูกก็ผุดขึ้นมาในหัว  เขาสังหรณ์ใจบางอย่าง เมื่อไม่กี่วันที่ไปกินข้าวกับเสี่ยวป๋าย เลขาหนุ่มเล่าถึงปัญหาของกว้านหลินให้ฟังอย่างไม่สบายใจ
 
และภัทรก็คงรับรู้ถึงปัญหานั้นดี
 
            “เสียสละตัวเองเหรอ คิดอะไรอยู่เด็กคนนี้นี่ ศลัย คนที่มาด้วยอยู่ไหนพาฉันไปหาหน่อย ฉันคิดว่าเกิดเรื่องแล้ว”
 
 
 
            กว้านหลินนั่งประชุมด้วยความเบื่อหน่าย แผนการตลาดเดิมๆของธุรกิจสีขาว ซำซากและจำเจ มองเวลาเกือบห้าโมงเย็นแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ เสี่ยวป๋ายลุกขึ้นขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ซักครู่ก็กลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
 
เลขาหนุ่มเข้ามากระซิบเบาๆให้ผู้เป็นนายฟัง
 
หากแต่ประโยคที่พูดออกมานั้นเหมือนระเบิดลูกใหญ่ที่ระเบิดใส่หัวสมองของกว้านหลิน อัลฟ่าหนุ่มผุดลุกแล้วสั่งเลิกประชุมทันที
 
     "แย่แล้วครับคุณกว้านหลิน  คนของเราที่ไปกับคุณภัทรโทรมาบอกว่าคุณภัทรกับคุณลูคัสหายไป"
 
 
ร่างสูงก้าวยาวไปที่ลานจอดรถมือก็กดโทรศัพท์หาภัทร
 
 
ไม่มีสัญญาณตอบรับ เขาเปิดแอพที่ใช้ติดตามโทรศัพท์ที่โหลดใส่มือถือของภัทรไว้ หากแต่มันกลับนิ่งสนิทอยู่ที่โรงพยาบาลนั่นเอง
 
 
คำสั่งถึงบริวารที่ตามรายล้อมรอบตัวตวาดก้อง
 
 
 
     "ตามหาเมียกับลูกของฉันให้เจอ ถ้าไม่เจออย่าเสนอหน้ากลับมา!!"
 
 
หายไปไหน...ทำไมไม่กลับมา
 
เป็นคำถามที่กว้านหลินเอ่ยถามซ้ำๆราวกับจะสื่อไปถึงภัทร
 
ในหัวอกร้าวยอกราวกับถูกทุบ มันทั้งเศร้าและโหยหา
 
ในใจร่ำร้องราวกับจะให้คนทั้งโลกได้ยินคำอ้อนวอนถึงภรรยาและลูกชาย
 
กลับมาเถอะนะ กลับมาอยู่เป็นครอบครัวเหมือนเดิม
 
ได้โปรด
 
อย่าทิ้งพี่ไป
 
ภัทร กลับมา…
 
เขามั่นใจว่าภัทรหนีเขาไป  เขาไม่รับรู้ถึงอันตรายแต่ในใจของเขารับรู้ถึงความอาลัยอาวรณ์ของภัทร ความเจ็บปวดของการพลัดพราก
 
หากคู่แห่งโชคชะตาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของกันและกันได้จริง
 
ได้โปรดรับรู้ว่า พี่ต้องการเธอกับลูกกลับมา
 
 
            ณภัทรอุ้มลูกลงจากรถ สายตากวาดมองไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า ลูคัสหลับสนิทในอ้อมอกหลังจากกินนมจนอิ่มไปแล้ว อากาศเย็นทำให้ต้องกระชับร่างกายของลูกให้มากขึ้น ภัทรมองไปยังด้านหลังที่ไม่มีแม้แต่บ้านคน
 
มาไกลเกินจะย้อนกลับไปแล้ว
 
และถึงอยากจะกลับ ก็กลับไม่ได้แล้วเพราะตัดสินใจลงไปแล้ว ตัดสินใจหันหลังก้าวลงไปในเรือที่ถูกเตรียมไว้รอโดยไม่หันกลับไปมองด้านหลังอีก
 
จบสิ้นวาสนากันแต่เพียงเท่านี้แล้ว เมื่อเรือเริ่มเดินเครื่องออกจากฝั่ง คำร่ำลาก็ถูกเอื้อนเอ่ยไปตามสายลม
 
 
        "ลาก่อนนะครับคุณกว้านหลิน ลาก่อนนะยายหนูของแม่..."
 
 
 
 
 
 
          3 เดือน ผ่านไป
 
การค้นหาณภัทรและลูคัสล้มเหลว แม้จะพลิกแผ่นดินหา ไปตามหาที่บ้านเก่าของภัทรก็ไม่พบ หนำซ้ำแม่และน้องของภัทรก็ไม่รู้ว่าโอเมก้าของเขาหายไปไหน แม้จะทุกข์จนแทบจะขาดใจแต่กว้านหลินก็ต้องดูแลลิซ่า การผ่าตัดยังคงกำหนดเดิมในอีกสองวันให้หลัง โชคดีเหลือเกินที่มันผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้จากเด็กทารกที่น้ำหนักตกเกณฑ์ ลิซ่าในวัย 6 เดือนเติบโตแข็งแรงเทียบเท่ากับเด็กคนอื่นๆ  อาการหัวใจรั่วถูกรักษาจนในที่สุดก็หายขาด ลิซ่ากลายเป็นคนที่ทำให้กว้านหลินดึงตัวเองขึ้นมาจากความทุกข์ตรมที่กัดกร่อนหัวใจ
 
เขาต้องเข้มแข็งและมีชีวิตอยู่เพื่อลูกสาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว
 
ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่คิดถึงภัทรและลูคัส
 
เขารู้ดีว่าเขาต้องมีชีวิตอยู่ต่ออย่างเข้มแข็งแต่นั่นมันช่างยากเหลือเกิน
 
พินัยกรรมของไล่หยวนช่างถูกเปิดหลังจากภัทรพาลูกหนีไปในอีก 1 เดือนถัดมาซึ่งตรงกับวันเกิดของผู้เป็นบิดาของเขา สมบัติต่างๆถูกแบ่งให้ลูกทั้งสามคนอย่างเท่าเทียมกัน เครื่องเพชรและเงินถูกแบ่งออกเป็นสามกองให้กับภรรยา ท่านหญิงแม่ของกว้านหลินก็ได้รับด้วยแม้ว่าจะเสียชีวิตไปนานแล้ว กว้านหลินจึงยกส่วนนั้นให้กับลิซ่าทั้งหมด เขาจัดทำพินัยกรรมของตนเองขึ้นมาหนึ่งฉบับโดยยกทรัพย์สินทั้งหมดของตนเองแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งให้กับลิซ่า อีกส่วนหนึ่งเขาให้กับไล่ซวี่ซีลูกชายคนโตโดยมีหมอนนท์และเสี่ยวป๋ายเป็นพยาน

แม้จะไม่รู้ว่าจะตามหาภัทรและลูกเจอมั้ยก็ตาม
 
ตอนนี้เขามีสิทธิ์เต็มกับกิจการทั้งหมดในไทย มีสิทธิ์โดยชอบธรรมโดยที่แม่ใหญ่ก็ไม่สามารถมาบีบให้เขาต้องออกจากตำแหน่งได้อีก
 
แม่ใหญ่รู้อยู่แล้วว่าผู้เป็นพ่อจะแบ่งอะไรให้กับใครบ้างแต่ก็ยังเอามาบีบภัทร
 
ผู้หญิงคนนั้นจิตใจโสโครกอย่างไม่น่าให้อภัย  กว้านหลินสิ้นความเคารพหล่อนนับจากวันนั้นเป็นต้นมา แต่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่น้องยังคงอยู่เหมือนเกลียวเชือกที่พันกันจนแน่นหนา แม้จะไปทำงานตามปกติแต่กว้านหลินก็ปล่อยตัวจนโทรม บ่อยครั้งที่แก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับด้วยการดื่มเหล้าเพื่อที่ตัวเองจะได้เมาแล้วหลับไป บุหรี่ที่เลิกมานานก็ถูกเอากลับมาสูบอีกครั้งเพื่อคลายเครียดยามที่ลิซ่าหลับแล้ว แม้ว่าพี่ๆจะออกปากเตือนเท่าไหร่กว้านหลินก็ทำราวกับว่านั่นเป็นเพียงเสียงลมเสียงฝนไม่ได้ให้ความใส่ใจ
 
จนกระทั่งในยามสายของวันหนึ่งศลัยก็ถือซองจดหมายมาให้ ใบหน้าของหญิงสาวมีคราบน้ำตาเปรอะเปื้อน
 
            “คุณกว้านหลินคะ จดหมายค่ะ จ่าหน้าซองว่าจากคุณภัทร”ชายหนุ่มรีบคว้ามาดูด้วยมืออันสั่นเทา ชายหนุ่มเปิดซองหยิบกระดาษด้านในออกมากวาดสายตาอ่านด้วยดวงใจที่พองฟู
 
 
 
            “ถึงคุณกว้านหลินที่รักยิ่ง
 
กว่าจดหมายฉบับนี้จะถึงคุณกว้านหลิน ผมกับลูกคงจากไปนานแล้ว เลิกตามหาผมกับลูกนะครับ ผมขอโทษที่ต้องพาลูคัสมาด้วยทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะยกลูกให้คุณกว้านหลินไว้ทั้งสองคน แต่ลูคัสร้องตามจนผมตัดใจทิ้งลูกไว้ไม่ลง คุณกว้านหลินต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ ทานข้าวให้ตรงเวลาครบทั้งสามมื้อ ต้องออกกำลังกาย อย่ากินเหล้าแล้วก็อย่าสูบบุหรี่อีกนะครับมันไม่ดีต่อสุขภาพ คุณกว้านหลินต้องมีอายุยืนยาว อยู่เพื่อเป็นหลักให้ยายหนู เพราะถ้าหากว่าคุณกว้านหลินเป็นอะไรไปซักคน คนที่จะลำบากคือลูกของเรา ผมอยากให้ยายหนูมีพ่อที่ควงไปออกงานที่ไหนใครๆก็พากันอิจฉาว่าพ่อของแกช่างหล่อเหลือเกิน ที่จากมาไม่ใช่ว่าผมไม่รัก แต่เพราะว่ารักมาก มากยิ่งกว่ารักชีวิตของตัวเองผมจึงตัดสินใจแบบนี้ จะโกรธผมก็ได้แต่ได้โปรดอย่าเกลียดผม ผมสัญญาว่าผมจะเลี้ยงลูคัสให้ดี ดีที่สุดเท่าที่ผมจะมีกำลัง ไม่ต้องตามหาผมแล้ว ปล่อยให้เรื่องของเราหลงเหลือเพียงความทรงจำ ยายหนูยังเด็กยังต้องมีคนดูแล คุณกว้านหลินควรจะหาคู่ซักคน คนที่เขาจะรักและเอ็นดูลูกของเราด้วยใจจริง ส่วนผมเป็นของคุณกว้านหลินแล้ว ก็จะยังคงเป็นของคุณกว้านหลินคนเดียวตลอดไป ผมหวังว่าคุณกว้านหลินจะทำตามที่ผมขอได้นะครับ
 
ผมรักคุณกว้านหลิน ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต คนที่ผมรักก็จะยังเป็นคุณ
 
จดหมายฉบับนี้จะเป็นฉบับแรกและฉบับสุดท้าย ได้โปรดอย่ารอคอย ขอให้คุณใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันดูแลลูกของเราให้ดี
 
ฝากบอกกับลูกด้วยว่าแม่คนนี้รักลูกสุดหัวใจ บอกแกว่าแม่และพี่ชายได้ตายไปแล้ว
 
ลาก่อนชั่วนิรันดร์
 
รักคุณเสมอและจะรักตลอดไป
ภัทร
 
            เป็นครั้งแรกที่ศลัยเห็นกว้านหลินร้องไห้หนักขนาดนั้น อัลฟ่าหนุ่มประคองจดหมายแนบอกแล้วทรุดตัวลงร้องไห้สะอึกสะอื้นราวเด็กน้อยที่สูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไป
 
วันแล้ววันเล่าผ่านไป กว้านหลินรอคอยจดหมายฉบับถัดไป หากแต่นั่นคือจดหมายฉบับเดียวที่ภัทรเขียนมาหา กว้านหลินให้คนไปตามหาภัทรยังจังหวัดที่ประทับตราไปรษณีย์ เป็นจังหวัดที่ติดกับทะเลหากแต่ก็ไม่พบ
 
กว้านหลินปรับปรุงตัวเอง เขากินข้าวครบสามมื้อและเริ่มกลับมาดูแลตัวเองอีกครั้งจนร่างกายที่ซูบผอมกลับมามีกล้ามเนื้อเหมือนเดิม
 
และกลายเป็นภาพชินตาของพนักงานในบริษัทไปเสียแล้วที่จะเห็นท่านประธานอุ้มลูกพลางป้อนนมไปด้วย ที่บ่ามีผ้าอ้อมผืนใหญ่พาดอยู่ กว้านหลินเอาลิซ่ามาเลี้ยงที่ทำงาน อยู่กับลูกตลอดเวลาไม่ยอมให้ลูกสาวคลาดสายตาไหนเลย เด็กหญิงตัวน้อยเองก็ติดผู้เป็นพ่อมากหากกว้านหลินหายไปนานจะส่งเสียงร้องทันที
 
สองพ่อลูกใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันโดยปราศจากผู้เป็นภรรยาและแม่ รวมทั้งลูกชายคนโต
 
และเขาเองก็จะยึดมั่นตามคำสัญญาที่ว่าจะรักและเชิดชูภัทร จะมีชีวิตแบบนกเงือกคือถือผัวเดียวเมียเดียวจนวันตาย
 
เขาไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามาอีกเลย
 
ณภัทรจะเป็นภรรยาที่เขารักและซื้อสัตย์ตลอดไป
 


The end.



..................................

สารภาพ ว่าลืมอัพเรื่องนี้ ขอประทานโทษด้วยค่ะ555555555555555

หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 05-01-2020 22:11:05
 :กอด1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 06-01-2020 01:16:38
ร้องไห้ทุกตอนเลยค่ะ สงสารทั้งคู่เลย
คนที่หลุดพ้นได้ก่อนคือภัทรกับแม่
มีแต่กว้านลินที่ไม่ปล่อยวาง จนทำให้ภัทรตัดสินใจเด็ดขาด
และเสียดายที่พินัยกรรมเปิดช้าไป
ทำให้แม่ลูก พ่อลูก และคนรัก จากกันไปตลอด

มีตอนพิเศษที่เจอกันโดยบังเอิญบ้างก็ได้
ได้ตกลง ได้คุยกันใหม่ กับมาเป็นครอบครัวกันเหมือนเดิม

แม่ใหญ่คือคนน่าชังแห่งชาติค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ อ่านแล้วอินทุกตอน อ่านยาวๆ จนจบเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-01-2020 11:08:39
ก็เข้าใจว่าผัวโดนฆ่าแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้แก้แค้นคืนนี่ เรื่องของลูก ๆ ก็ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวซิ
เป็นคนที่น่ารังเกียจจริง ๆ แม่ใหญ่
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 14:31:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: yochiki1404 ที่ 27-04-2020 00:03:29
เป็นนิยายที่เรียบเรียงได้ดีมากค่ะ ทำให้เวลาอ่านเราสามารถจินตนาการเรื่องราวตามไปได้เวลาที่ถึงบทเศร้าน้ำตาก็มาเต็มเลยค่
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 28-04-2020 21:45:40
ไม่มีใครปล่อยวาง..สุดท้ายก็ต้องแยกจากกัน  :mew4:
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 28-04-2020 23:46:48
นึกว่าตอนจบจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันสะอีก
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 29-04-2020 22:56:55
จบเศร้ามากกก ฮือ
หัวข้อ: Re: Hydrangea [Omegaverse] #ไฮเดรนเยีย ตอนจบ "พลัดพรากชั่วนิรันดร์"
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 01-05-2020 07:24:04
เศร้า.. ทำมัยใจร้าย ให้ต้องแยกกัน
ร้องไห้หนักมาก.. ให้หากันจนเจอแต่และเข้าใจกันไม่ได้หรือ
 :sad4: :sad4: :sad4:
ขอบคุณนักเขียน กับเรื่องราวดีๆแต่เศร้าใจ
 :pig4: :pig4: :pig4: