พิมพ์หน้านี้ - ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Dezair ที่ 15-03-2017 20:36:25

หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 15-03-2017 20:36:25
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 15-03-2017 20:37:08
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 1

   12.35 น.


   กรุงเทพมหานคร อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส


   ความร้อนระอุแผดเผาไปทั่วทุกหย่อมหญ้า แม้กระทั่งที่ป้ายรถประจำทางใจกลางเมือง ผู้คนที่ยืนคอยรถต่างพากันหลบเข้าในที่ร่ม แต่...ใครบางคนกลับดูไม่ค่อยทุกข์ร้อนกับอากาศเลยแม้แต่น้อย


   ชายหนุ่มร่างโปร่งบางผิวขาวจัดในชุดนิสิตถูกระเบียบยืนคอยรถรับส่งของมหาวิทยาลัยอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ที่แสงแดดส่องถึง อากาศร้อนทำให้ใบหน้าขาวขึ้นสีน้อยๆ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจนักเพราะเอาแต่ก้มหน้าอ่านข้อความที่เพื่อนส่งคุยกันในแอพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือ พวกนั้นคุยกันอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับสาวน้อยปีหนึ่งประจำคณะ ตามประสา ‘พี่ๆปีสี่’ ที่ขยันเอ็นดูน้องหน้าตาน่ารักเป็นพิเศษ


   ‘น้องมี่ยังไม่มีแฟน’ ข้อความจากเพื่อนซี้ร่างใหญ่นามว่า ‘กต’ ปรากฏขึ้นมา


   ‘มึงรู้ได้ไง กูเห็นตอนงานเฟรชชี่มีผู้ชายตามรับส่ง’ รายนี้เป็นจอมเจ้าชู้และทะเล้นของกลุ่ม เรื่องน้องหน้าตาน่ารักในมหาวิทยาลัย ต้องยกให้ ‘ไอ้แพท’ เพราะมันหูไวตาไวกับเรื่องพวกนี้ยิ่งกว่าเรื่องเรียน


   ‘ไม่พ่อก็พี่ชาย เชื่อกู’

   ‘รับความจริงหน่อยครับไอ้คุณกต สวยแบบนั้นจะเหลือเหรอ’

   ‘งั้นกูถามน้องมี่ให้เดี๋ยวนี้เลย’


   เพื่อนสองคนโต้ตอบกันไปมา ในขณะที่คนอ่านอีกรายอย่าง...เขา...ยังคงอ่านอย่างเงียบๆ


   ‘น้องมี่บอกว่ายังไม่มีแฟน’

   ‘เชี่ยกต นี่มึงถามจริง?’

   ‘จริงสิ น้องมี่เป็นหลานรหัสกู กูก็ต้องถามจริง’

   ‘อวดอีกนะไอ้หอกว่ามีหลานเป็นดาวคณะ แล้วมึงว่าไงครับ ไอ้คุณสิตางศุ์ อ่านเงียบ กะซุ่มเหรอ’


ข้อความปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เจาะจงถามคนที่กำลังอ่านอย่างเงียบๆโดยเฉพาะ


   คนชื่อสิตางศุ์ เลิกคิ้วน้อยๆเพราะไม่คิดว่าอยู่ดีๆจะถูกตั้งคำถาม ปลายนิ้วขาวพิมพ์ข้อความส่งกลับไป


   ‘เกี่ยวอะไรกับกูล่ะ’


   ข้อความจากเพื่อนไม่ทันส่งกลับมา เสียงรถวิ่งใกล้เข้ามาก็ดังขึ้น ใบหน้าขาวที่แดงเรื่อเพราะอากาศร้อนจัดเงยหน้าจากโทรศัพท์ในมือ พอเพ่งมองฝ่าเปลวแดดออกไปก็เห็นรถของมหาวิทยาลัยที่ออกมารับส่งนิสิตตามป้ายรถสาธารณะกำลังวิ่งตรงมาพอดี


   สิตางศุ์เก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกง รถวิ่งเข้ามาจอดสนิทที่ป้าย เขาก้าวเท้าขึ้นรถที่ค่อนข้างแน่น และหนึ่งในความแน่นเหล่านั้นคือใครบางคนที่เขาคุ้นตา


   ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านในสุดเป็นเพื่อนร่วมคณะของเขาเอง ถึงแม้จะเป็นคณะเล็กๆ แต่เพราะมีถึง 4 ภาควิชา ก็เลยทำให้พวกเขาเห็นหน้ากันบ่อยๆแต่แทบไม่เคยคุยกันเลย


   ร่างโปร่งผิวขาวจัดผงกศีรษะเป็นเชิงทักทายเพื่อนร่วมคณะที่ยืนอยู่ท้ายสุดของรถเล็กน้อยเมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นกัน แต่เพราะมีคนยืนขวางอยู่อีกมากและไม่ได้สนิทกันมากพอที่เขาจะเดินเข้าไปหา จึงได้แต่ปักหลักยืนอยู่ใกล้ประตูรถ จนกระทั่ง...รถวิ่งออกจากป้าย


   ทว่า...สิตางศุ์ไม่รู้แม้แต่น้อย ว่าหลังจากผงกศีรษะทักทายไปแล้ว และเขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความที่เพื่อนคุยกันต่อ เขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนที่ยืนอยู่ท้ายรถ...ตลอดทาง

................................

   “พี่โซ่ หวัดดีคร้าบ”

   “หวัดดีคร่า พี่ซอโซ่ อะฮ้ายยยยย...สว่างกว่าแดดตอนเที่ยงก็ตัวพี่นี่แหละคร่า เห็นทีไรร้อนกระเส่าไปทั้งตัวเลยยย...”

   “หวัดดีค่ะ พี่โซ่”


   สิตางศุ์เดินจากป้ายรถรวมของมหาวิทยาลัยมายังคณะของตนเอง และเพราะว่าเรียนที่นี่มาเข้าปีที่ 4 แล้ว มีน้องๆอีก 3 ชั้นปีตามหลัง เดินไปมุมไหนของคณะก็มีแต่น้องทักทายยกมือไหว้ เขาก็ได้แต่ยิ้มจางๆเหมือนทุกทีขณะที่ก้าวขาตรงไปยังโต๊ะม้าหินหน้าอาคารเรียนที่นัดเพื่อนเอาไว้


   “หน้าแดงมาเชียวไอ้โซ่ ร้อนหรือเขินวะ?” อลงกตหรือเจ้าของชื่อ ‘กต’ ที่อยู่ในกรุ๊ปพูดคุยในโทรศัพท์เมื่อครู่ออกปากทัก รายนี้เป็นสมาชิกชมรมฟุตบอลของคณะ เจ้าตัวเลยมีผิวเข้มร่างสูงใหญ่ ชนิดที่พอเทียบกับผิวขาวจัดของสิตางศุ์แล้วก็ไม่ต่างอะไรกับกาแฟดำและนมจืดเลยแม้แต่นิดเดียว


   “เขินเรื่องอะไร” คนที่ทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งว่างๆย้อนถามด้วยความงุนงง


   อลงกตหัวเราะเบาๆ เหลือบตาไปสบตากับเพื่อนซี้หน้าทะเล้นอย่างพฤกษาหรือไอ้แพทผู้หูตาว่องไวกับเรื่องสาวๆทั้งในและนอกคณะ


   “ก็เรื่องน้องมี่ไง สรุปว่าไง เมื่อกี้น้องเขาก็ทักมึงด้วย” สิตางศุ์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายพูดถึง ‘น้องมี่’ อีกแล้ว แต่ถึงจะพูดซ้ำๆ เขาก็ยังนึกหน้าน้องไม่ออกอยู่ดี อาจจะเคยเจอกันอยู่บ้าง แต่เขาอยู่ปีสี่แล้ว เลยไม่ค่อยเข้าคณะเท่าไรนัก ถ้าไม่มีเรียนหรือมาห้องสมุดก็ไม่แวะเข้ามา แล้วเขาจะนึกหน้าน้องออกได้ยังไงกัน?


   “อ้าว บื้ออีกมึง ก็น้องผู้หญิงที่ไหว้มึงเมื่อกี้ตรงนู้นไง หลานรหัสไอ้กตนะนั่น เป็นดาวคณะด้วย” พฤกษาชี้นิ้วไปยังทางที่เขาเดินผ่านมา สิตางศุ์หันกลับไปมอง แล้วก็ถึงเพิ่งนึกออกว่าเมื่อครู่นี้นอกจากน้องผู้ชายปีสามภาควิชาการปกครอง ก็มีติซซี่กะเทยปีสองจากภาคสังคมฯ แล้วก็...รายสุดท้ายคือน้องผู้หญิงที่เขาไม่คุ้นเท่าไรนัก


   “อ้อ...”


   “เชี่ยนี่ไม่สนใจใครเลย นอกจากนิตาแล้ว มึงไม่มีใครเป็นแรงบันดาลใจสำหรับวาเลนไทน์เลยเหรอวะ” พฤกษาบ่น


   “เลิกพูดถึงนิตาได้แล้ว...” สิตางศุ์ปรามเรียบๆ ‘นิตา’ เป็นเพื่อนในรุ่นของเขาแต่เรียนคนละภาคฯ เจอกันตอนช่วงปี 1 บ่อยๆเพราะมีวิชาเรียนรวม และเพราะเจอกันบ่อยๆ...เขาก็เลยแอบชอบ แต่ก็เท่านั้น คนอย่างสิตางศุ์เป็นคนเงียบๆ ก็เลยได้แต่แอบชอบเงียบๆ และสุดท้าย... ‘นิตา’ ก็เป็นแฟนกับเพื่อนอีกคนในคณะเดียวกับเขาไปแล้ว


   “กูถามจริง มึงยังชอบนิตาอยู่เปล่า” อลงกตตั้งคำถาม ทำเอาดวงตาคู่สวยของร่างโปร่งเหลือบมามอง


   “นิตามีแฟนแล้ว” เขาย้ำสถานะของหญิงสาว


   “แต่กูได้ยินมาว่านิตากับไอ้โจ๊กทะเลาะกันนะ” พฤกษาแทรก และนั่นทำเอาสิตางศุ์นิ่งไป


   ...อ่า...ใช่... ‘ไอ้โจ๊ก’ หมอนี่ล่ะ เพื่อนร่วมคณะแต่ต่างภาคฯ และเป็นแฟนของ ‘นิตา’ ...


   “...ไอ้กลองภาคสังคมฯบอกว่ามันได้ยินเสียงคนทะเลาะกันในห้องสมุดที่เก็บพวกวิทยานิพนธ์พี่ป.โทเลยเข้าไปส่อง ก็เลยเห็นสองคนนี่ทะเลาะกัน นิตาตบหน้าไอ้โจ๊กด้วย” พฤกษาเล่าต่อ


   “ต้นเหตุต้องมาจากไอ้โจ๊กแน่ๆ กูเห็นแม่งตั้งแต่ปีหนึ่ง ก็เปลี่ยนแฟนเป็นสิบแล้วมั้ง” อลงกตพูดแล้วเหลือบมองสิตางศุ์ที่นั่งเงียบ ก่อนจะยิ้มแฉ่ง “...ไม่เหมือนไอ้คุณโซ่เพื่อนเรา หน้าตาก็ดี แต่ไม่มีแฟนซ้ากกกกกกคน”


   คนถูกแซะเรื่องไม่มีแฟนจนเรียนปี 4 ถอนหายใจเบาๆ


   “กูบอกว่าให้เลิกพูดได้แล้วไง”


   “เฮ้ย เลิกพูดน่ะได้ แต่ถ้านิตากับไอ้โจ๊กเลิกกันจริง กูว่านี่เป็นโอกาสของมึงแล้วนะ” สิตางศุ์หันมามองเพื่อนหน้าทะเล้นอย่างพฤกษา


   “โอกาสยังไง”


   “ก็โอกาสจีบนิตาไง!” เป็นอีกครั้งที่คนตัวขาวจัดนิ่งไป ก่อนจะส่ายหน้าไปมา


   “แพท เป็นเพื่อนกันน่ะดี...” ยังพูดไม่ทันจบ สายตาซอกแซกของพฤกษาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงมาที่ตึกคณะเข้า เลยรีบหันไปตะโกนโหวกเหวกร้องเรียก


   “ไอ้โจ๊ก! ไอ้โจ๊ก แวะหน่อย!” แล้วไอ้คนทะเล้นก็ถึงได้หันมาขยิบตาและกระซิบกับเพื่อนผิวขาวจัดที่นั่งนิ่ง


   “โอกาสทองมาแล้วมึง เดี๋ยวกูถามให้เองว่ามันเลิกกับนิตารึยัง!”


แน่นอนว่าสิตางศุ์คนบื้อไม่มีโอกาสห้าม เพราะก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไร ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เขาบังเอิญเจอบนรถของมหาวิทยาลัยเมื่อครู่นี้ก็เดินแวะมาที่โต๊ะ


   ...ใช่...หมอนี่แหละ ‘ไอ้โจ๊ก’ แฟนของ ‘นิตา’ ผู้หญิงที่เขาแอบชอบมาหลายปี...


...............................


   ‘ไอ้โจ๊ก’ เป็นผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแบบลูกคนจีน โครงหน้าชัด โหนกแก้มสูงรับกับสันกราม ตาเรียวชั้นเดียวแต่คมกริบเหมือนตาเหยี่ยว นอกจากนั้นยังร่างกายสูงใหญ่ หน้าตาแบบนี้ หุ่นแบบนี้ สมควรจะถูกเชิญให้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้คณะหรือมหาวิทยาลัย แต่...ไม่เคยมีใครลากมันไปทำกิจกรรมแบบนั้นได้สำเร็จเลย กระทั่งสมัยปีหนึ่งมีประกวดดาวเดือน มันก็แหกกฎ ถูกส่งชื่อแต่ไม่ขึ้นเวที แถมมีเรื่องกับรุ่นพี่อีก เรียกง่ายๆว่าคนอย่าง ‘ไอ้โจ๊ก’ ถ้าโลกหมุนไปทางซ้าย มันก็พร้อมจะหมุนไปทางขวา ไม่ง้อโลก และไม่สนว่าจะมีใครหมุนขวาไปกับมันด้วย


   “ไม่เจอกันนานเลยนะมึง” พฤกษาซึ่งเรียกให้อีกฝ่ายแวะมาที่โต๊ะเป็นคนเอ่ยปาก ‘ไอ้โจ๊ก’ หรือชื่อเต็มๆตามประสาลูกชายร้านขายทองขายเพชรว่า ‘เจียระไน’ เดินมาหยุดอยู่ข้างร่างสูงโปร่งของสิตางศุ์ที่นั่งอยู่


   “อือ มีไรล่ะ”


   “นั่งก่อนมั้ยครับ นั่งๆ ไอ้โซ่ ขยับสิวะ ให้มันนั่งด้วย” พฤกษาสั่งเพื่อนซี้ สิตางศุ์เหลือบมองเพื่อนจอมบงการเล็กน้อย แต่ก็ยอมขยับให้มีที่ว่างบนม้านั่งพอที่ร่างสูงใหญ่จะทรุดตัวลงนั่งร่วมกัน


แต่...ม้านั่งของโต๊ะม้าหินไม่ได้ออกแบบมาสำหรับผู้ชายสองคน ยิ่งผู้ชายตัวใหญ่ไหล่กว้างอย่างคนมาทีหลังด้วยแล้ว เลยพลอยให้แขนของร่างสูงไปชิดกับแขนของสิตางศุ์จนคนถูกเบียดต้องขยับออกห่างอีกหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นอุณหภูมิของอีกฝ่ายก็เหมือนจะทำให้เขารู้สึกร้อนไปด้วย


   “กูได้ยินมาว่ามึงกับนิตาเลิกกันแล้ว จริงเปล่าวะโจ๊ก”


   “เฮ้ย! เชี่ยแพท เข้าประเด็นไวไปเปล่าเนี่ย” อลงกตหันไปด่าเพื่อนที่ยิงคำถามเดียวเข้าถึงประเด็นอย่างว่องไว เจียระไนเลิกคิ้วน้อยๆแต่รอยยิ้มยังไม่จากมุมปาก


   “พวกมึงอยากรู้ไปทำไม” คนมาใหม่ตั้งคำถาม ทำเอาสามเพื่อนซี้มองหน้ากัน ก่อนที่พฤกษาจะอาศัยความกะล่อนชิงตอบขึ้นมาก่อน


“ก็แหม ทั้งมึงทั้งนิตาก็เพื่อนพวกกูนี่หว่า พวกกูก็อยากรู้เป็นธรรมดา” คนถูกถามกระตุกยิ้มที่มุมปาก ดูแล้วก็ไม่ได้จะเสียใจเท่าไรกับความสัมพันธ์ที่เลิกรากันไป


“อือ เลิกกันแล้ว” แถมยังตอบง่ายๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยอีกด้วย สิตางศุ์รู้สึกเหมือนลำคอของตัวเองแข็งเกร็งขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุกับน้ำเสียงที่คนข้างกายพูดเหมือนเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ


... ‘เลิกกันแล้ว’ …ประโยคแบบนี้ พูดกันได้ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือ...


“ทำไมเลิกกันวะ” พฤกษาถามอีก


“ก็เข้ากันไม่ได้” สาเหตุฟังไม่ขึ้นดังมาจากร่างสูง เป็นอีกครั้งที่สิตางศุ์ไม่พอใจกับคำพูดแบบนี้


“เฮ้ย คบกันตั้งแต่ปีสองไม่ใช่เหรอ”


เจียระไนหัวเราะน้อยๆไม่บอกอารมณ์ แต่กวาดตามองทั้งพฤกษาและอลงกตก่อนจะย้อนถาม


“มีอะไรจะถามกูอีกมั้ย เดี๋ยวกูต้องไปเรียนแล้ว”


“มีๆ ไอ้โซ่อยากรู้ว่าทำยังไงถึงจะจีบนิตาติด” แล้วไอ้คนทะเล้นก็รีบพูดอย่างรวดเร็ว สิตางศุ์ตาเหลือกโตด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบหันมองคนที่นั่งอยู่ข้างกาย เจียระไนเลิกคิ้วทีหนึ่ง แล้วยกยิ้มที่มุมปากเมื่อสบตากับเขา


“มึงจะจีบนิตาเหรอ” สิตางศุ์ไม่ตอบ แต่เหลือบตาไปจ้องเพื่อนซี้ปากไวทีหนึ่งเป็นการดุ


“กูสอนให้ก็ได้นะ”


ดวงตาคู่สวยหันกลับมามอง เจียระไนยังจับจ้องมาที่เขา ทว่าตาเรียวคมกริบคู่นั้นกลับมีแววประหลาดที่ทำเอาสิตางศุ์รู้สึกไม่ชอบมาพากล แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไร ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ก็ลุกจากเก้าอี้ที่นั่งร่วมกัน


“ถ้าอยากให้กูสอนวิธีจีบนิตาล่ะก็ เลิกเรียนแล้วมารอกูตรงนี้แล้วกัน” แล้วคนพูดก็หมุนตัวเดินเข้าตึกเรียนไป เมื่อเหลือเพียงเพื่อนสนิท สิตางศุ์เลยหันมาจ้องพฤกษา


“มึงไปบอกมันแบบนั้นทำไม ไอ้แพท”


“เฮ้ย นี่โอกาสทองเลยนะเว้ย ไอ้โจ๊กมันเลิกกับนิตาแล้ว ถ้ามึงไม่เสียบตอนนี้จะเสียบตอนไหน เราน่ะปีสี่กันแล้ว จะรอรับปริญญา แยกย้ายกันไปทางใครทางมันก่อนจะเริ่มลงมือรึไง?! แล้วมึงก็ได้ยิน เมื่อกี้มันบอกเองว่าจะช่วยมึงจีบ รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง!!!”


“แต่กูไม่ได้จะไปรบ”


“ก็เพราะมึงคิดว่ามันไม่ใช่การรบน่ะสิ ถึงได้โสดมาสี่ปีเนี่ย!”


“กูจะโสดหรือไม่โสดก็เรื่องของกูมั้ย”


“เอ้า! กูเพื่อนมึง กูก็อยากช่วยอยากเสือกนี่ครับ”


“พอๆ พวกมึงจะทะเลาะกันทำไม ไอ้โซ่ ถ้ามึงไม่สนใจ เลิกเรียนแล้วก็กลับบ้านไป ไม่ต้องเจอไอ้โจ๊ก แค่นั้นเอง”


อลงกตแทรก ทำเอาสิตางศุ์เงียบกริบ


จะว่าไม่อยากก็ไม่ใช่ เพราะอย่างไรเสียผู้หญิงที่อยู่ในใจของเขาเสมอมาก็คือนิตา และวันนี้ที่ได้รู้ว่าหญิงสาวเลิกกับคนรักแล้ว อะไรบางอย่างก็เหมือนจะวิ่งวนอยู่ในหัวใจ จะว่าดีใจก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะการเลิกกันของสองคนนั้น คงทำให้นิตาเสียใจไม่มากก็น้อย แต่จะว่าเสียใจก็ไม่ใช่ เพราะเขารู้ว่านี่คือโอกาสสุดท้าย...หากอยากให้ความรักที่เก็บเอาไว้มาตั้งแต่ปีหนึ่ง ‘สมหวัง’ ก็ต้องคว้าเอาไว้


...ใช่ ถ้าอยากสมหวังก็ต้องมาเจอ ‘ไอ้โจ๊ก’ ...

แต่…ให้ตายเถอะ! เขาไม่ชอบสายตาของมันเลย

..................................
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 15-03-2017 20:37:32

สี่โมงสิบห้า วันนี้วิชาที่เรียนเลิกเลทไปสิบห้านาที สิตางศุ์ค่อนข้างร้อนใจเพราะเกรงว่าคนที่เสนอว่าจะแนะนำวิธีจีบนิตาจะไม่อยู่รอ เขารีบก้าวเท้าไวๆไปที่โต๊ะม้าหินที่นั่งเมื่อตอนกลางวัน ตอนแรกพฤกษาจะมาด้วย แต่ติดธุระด่วน ส่วนอลงกตถูกเรียกตัวไปชมรมฟุตบอล สิตางศุ์เลยต้องมาคนเดียว


…ทว่า ตอนที่ก้าวเท้าเลี้ยวมายังลานที่ตั้งโต๊ะม้าหิน ร่างผอมบางของหญิงสาวที่อยู่ในชุดนิสิตก็ทำเอาเขาชะงัก…


… ‘นิตา’ …


…ใช่ นิตาอยู่กับไอ้โจ๊กที่โต๊ะม้าหิน…


“มาพอดี”


คนที่หันมาเห็นสิตางศุ์คือเจียระไน และนั่นทำเอานิตาหันมองตาม ก่อนจะส่งรอยยิ้มสดใสแล้วเอ่ยเสียงหวาน


“โซ่ หวัดดี”


จะหลบก็หลบไม่ทันแล้ว สิตางศุ์เลยต้องเดินเข้าไปทักทายตามมารยาท


“อือ หวัดดี วันนี้มีเรียนเหรอนิตา” 


“จ้ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ เจียระไนลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และมันสูงกว่าสิตางศุ์ที่สูง 170 กว่าๆ ไปอีกราว 10 เซ็นต์


“ไอ้โซ่มาแล้ว ไปก่อนนะ” แล้วร่างสูงก็บอกลาหญิงสาวก่อนจะหันไปส่งสายตาให้สิตางศุ์เดินตาม อันที่จริงเขาไม่ได้อยากเดินตาม แต่เพราะดวงตาคมกริบของคนที่เดินนำออกไปทำให้ร่างโปร่งจำต้องก้าวเท้าตามอย่างไม่อาจคัดค้าน


เจียระไนเดินมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถรับส่งของมหาวิทยาลัย สิตางศุ์ถึงได้มีโอกาสเดินไปดักหน้า


“มีอะไร” ร่างสูงกว่าตั้งคำถามแล้วเลิกคิ้ว


“ไหนมึงว่า...จะคุยกัน” คำว่า ‘คุยกัน’ นั้นเบาหวิว เพราะคนพูดไม่อยากให้ใครได้ยิน


“ก็คุย แต่ตอนนี้กูหิว อยากหาอะไรกิน”


“งั้นก็ไปกินที่โรงอาหาร”


ถึงแม้จะมีร้านที่ยังเปิดอีกไม่มาก แต่มันก็พอจะประทังความหิวได้ ทว่าเจียระไนกลับหัวเราะหึ


“ไม่ล่ะ กูไม่อยากกินที่นี่ มึงจะกลับบ้านไปเลยก็ได้นะ ถ้าไม่อยากคุยแล้ว” สิตางศุ์พูดไม่ออก แม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นแง่ แต่เพราะประโยคที่เพื่อนสนิทย้ำว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้ทำให้ความรู้สึกในใจเป็นจริง ก็ได้แต่พูดไม่ออก


ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าขาวที่เต็มไปด้วยความอึดอัด ก่อนจะเหลือบตาไปเห็นรถรับส่งของมหาวิทยาลัยวิ่งเข้ามาจอดที่ป้าย นิสิตที่ยืนรออยู่แถวนั้นเดินขึ้นรถไปทีละคนสองคน ชายหนุ่มก็เลยหันมาที่คนตรงหน้า


“กูไปก่อนนะ”


ตัวช่วยสำหรับโอกาสสุดท้ายในชีวิตรักของนิสิตปีสี่อย่างสิตางศุ์เบี่ยงปลายเท้าเดินขึ้นรถไปแล้ว ในขณะที่ร่างโปร่งยังยืนนิ่งอยู่กับที่ ริมฝีปากสีจัดขบเม้มเข้าด้วยกันราวกับกำลังตัดสินใจ ก่อนที่...ร่างขาวในชุดนิสิตถูกระเบียบจะก้าวเท้าขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย


เจียระไนยกยิ้มกับตัวเอง เมื่อเพื่อนร่วมคณะเดินมาหยุดยืนข้างกายด้วยใบหน้าไม่เต็มใจนัก ดวงตาคู่สวยจับจ้องมาที่เขา


“กินข้าวเสร็จ เราต้องคุยกัน” ไม่มีคำตอบจากคนตัวสูงกว่า นอกเสียจากไหล่กว้างที่ยกขึ้นหนึ่งที


รถรับส่งเคลื่อนตัวออกจากป้ายรถในมหาวิทยาลัยแล้ว คนที่เอาแต่ครุ่นคิดกับความรู้สึกและโอกาสสุดท้ายของชีวิตนิสิตไม่ทันตั้งตัวเลยเซไปชนไหล่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ สิตางศุ์เหลือบตาไปมอง แต่ดูเหมือนเจียระไนจะไม่ได้ใส่ใจที่เขาชนนักเพราะเอาแต่กดโทรศัพท์มือถือยุกยิก


“โทษที” เขาเอ่ยเบาๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะได้ยินหรือไม่แต่ก็ไม่คิดจะพูดซ้ำให้ดังกว่านี้ ก่อนจะขยับถอยออกมาแล้วเบี่ยงสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถแทน


และเมื่อนั้น ดวงตาคมที่จดจ้องอยู่แต่กับโทรศัพท์มือถือในมือก็เหลือบมามองร่างขาวข้างกาย รอยยิ้มที่มุมปากปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่ปลายนิ้วกดส่งข้อความให้เพื่อนแล้วเก็บโทรศัพท์ลงกับกระเป๋ากางเกงทันที

..................................

ร้านที่เจียระไนถึงกับต้องออกมากินนอกมหาวิทยาลัยเป็นร้านข้าวราดแกงในซอกของแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงเทพฯ ทั้งอับ ร้อน คับแคบ และเต็มไปด้วยผู้คน สิตางศุ์เหลือบมองไปรอบตัว เขาเคยมากับพฤกษาและอลงกต ในวันที่หิวจัด ต้องการความเร็ว และความง่าย จริงอยู่ว่าตอนนี้ เขาก็อยากรีบคุยให้เสร็จไป แต่รอบตัวเสียงดังเซ็งแซ่แบบนี้ จะคุยกันรู้เรื่องได้ไง


“ไม่กินอะไรเหรอ” เจียระไนเดินกลับมาที่โต๊ะซึ่งเป็นโต๊ะยาวนั่งรวมๆกัน เขาตั้งคำถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ลุกไปสั่งอะไรเลย แต่คนถามก็ดูไม่ได้สนใจจะเอาคำตอบเท่าไร เพราะหันไปตะโกนสั่งน้ำกระเจี๊ยบแก้วใหญ่จากร้านขายน้ำแล้ว


สิตางศุ์พยายามระงับอารมณ์ขุ่นๆในใจ เขารู้ดีว่ากำลังถูกเพื่อนร่วมคณะกวนโมโห หมอนี่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เข้าปี 1 ไม่แปลกใจเลยที่เคยมีเรื่องกับรุ่นพี่ในคณะจนกลายเป็นเรื่องเล่าปากต่อปากจากรุ่นสู่รุ่นแบบนี้


ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งเมื่อลูกจ้างของร้านถือน้ำกระเจี๊ยบมาให้สองแก้ว และวินาทีต่อมาข้าวมันไก่ทอดก็ถูกยกมาวางตรงหน้า เขาหันไปจ่ายเงิน ยกน้ำกระเจี๊ยบแก้วนึงไปวางลงตรงหน้าสิตางศุ์ ก่อนจะตักเข้าปากอย่างไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม


“ถ้ามึงไม่แดกอะไร เดี๋ยวได้โดนไล่ที่” อยู่ดีๆ คนที่สั่งน้ำกระเจี๊ยบมาเผื่อก็เอ่ยปากขึ้นมา สิตางศุ์มองไปรอบตัวก็ถึงได้สังเกตว่ามีลูกค้ายืนรอที่นั่งอีกหลายคน เขายอมหยิบแก้วน้ำที่อีกฝ่ายวางให้ขึ้นมาดูดอึกเดียวก็วางลง ทำเอาดวงตาคมเหลือบขึ้นมอง สีหน้าเหยเกของร่างโปร่งบอกให้รู้ว่าคงไม่ชอบรสชาติของน้ำกระเจี๊ยบนัก


“ไม่ชอบเหรอ”


“อือ กูไม่ชอบกินของเปรี้ยวน่ะ”


“ก็หัดแดกสิ เดี๋ยวก็ชอบเอง” เขาพูดแล้วก็ไม่ได้สนใจว่าสิตางศุ์จะหยิบน้ำกระเจี๊ยบขึ้นมาดูดอีกหรือไม่ ก้มหน้าก้มตาจัดการข้าวมันไก่ทอดในเวลาเพียง 5 นาทีก็เกลี้ยง คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเห็นแบบนั้นเลยรีบพูด


“เรื่องนิตา...” ทว่าไม่ทันได้พูดอะไร ร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน


“เดินไปคุยไป” เขาสั่งแล้วก้าวเท้าออกจากตรอกเล็กๆนั่น สิตางศุ์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ก็ทำได้เพียงลุกขึ้นเดินตาม

..............................

   “โจ๊ก...” เสียงของคนที่เดินตามหลังไม่ได้ทำให้ร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าช้าลง ขายาวก้าวไปเรื่อยๆในแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยผู้คนและร้านค้า สิตางศุ์ต้องก้าวเท้าให้ไวขึ้นจนทันเดินข้างกัน


   “ไหนมึงว่าจะคุยไง”


   “ก็คุยสิ มึงมีอะไรก็ถามมา”


   “ถาม?” ดวงตาคมกริบเหลือบมามองคนข้างกายที่ย้อนเขาเสียงสูง


   “ใช่ มึงอยากรู้อะไรก็ถามมา จะให้อยู่ดีๆกูเล่าทุกอย่าง กูก็ไม่บ้าขนาดนั้น” ว่าแล้วร่างสูงก็ก้าวเท้าเดินต่อ


   “ที่มึงบอกว่ามึงกับนิตาเข้ากันไม่ได้ เข้ากันไม่ได้เรื่องไหน” คำถามของคนที่เดินตามหลัง ทำเอาเจียระไนหยุดเดินทันทีก่อนจะหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย


   “เท่าที่กูจำได้ เราตกลงกันว่ากูจะบอกวิธีจีบ ไม่ใช่บอกสาเหตุที่เลิก”   


   “ก็กูอยากรู้ว่าทำไมถึงเลิกกัน” และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น สิตางศุ์อยากรู้ว่านิตารู้สึกอย่างไร เสียใจมากแค่ไหน และอยากจะกลับมาคบกับมันอีกรึเปล่า


   “นิตาไม่ยอมนอนกับกู” คำตอบสั้นๆ แต่ได้ใจความทำเอาคนถามนิ่งอึ้ง ดวงตาคู่สวยเหลือกโตด้วยความตกตะลึง


   “แล้วมึงก็เลิกเพราะเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ?!” เจียระไนเลิ่กคิ้วเหมือนเป็นเชิงถามว่าแล้วจะทำไม สีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนไม่มีสำนึกใดๆยิ่งทำให้ร่างโปร่งอยากชกหน้าสักที


   “กูไม่ได้เป็นคนขอเลิก นิตาต่างหากที่ขอ”


   “มึงนี่มัน...”


   “มาแลกเปลี่ยนกันดีกว่า มึงถามไปแล้ว งั้นตากูถามมึงบ้าง” เจียระไนพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมจ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก


   “มึงชอบมาตั้งแต่เมื่อไร” ร่างโปร่งเหลือบมองคนถาม เขากับหมอนี่ไม่ได้สนิทกัน จะให้เล่าเรื่องส่วนตัวก็รู้สึกแปลกๆ แต่...ถ้าไม่เล่า เกิดมันโมเมสร้างเงื่อนไขอย่างอื่นขึ้นมาอีก คราวนี้คงคุยกันไม่รู้เรื่องพอดี


   “ปี 1...เทอม 2...”


   “งั้นตอนปี 2 ที่กูกับนิตาคบกัน มึงก็มองตามตาละห้อยเลยสิ”


   “กูไม่ได้ตาละห้อย!” คนตัวขาวจัดข่มเสียงพูดลอดไรฟัน แต่ไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิดในสายตาคนสูงกว่าหนำซ้ำยังตัวใหญ่กว่าอย่างเจียระไน เขาก้มลงมองด้วยสายตากวนประสาท


   “แล้วตั้งแต่ปี 1 เทอม 2 จนถึงตอนนี้มึงเคยมีแฟนรึเปล่า”


   “มีหรือไม่มีก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมึง”


   “มึงแน่ใจเหรอว่ากูไม่เกี่ยว?” เจียระไนย้อนถาม ดวงตาคมดุสีดำสนิทนั้นมีแววดุดันและทรงพลังจนสิตางศุ์รู้สึกเหมือนมือตัวเองเย็นเฉียบท่ามกลางอากาศร้อนระอุของกรุงเทพฯ


   “แน่ใจใช่มั้ยว่ามึงจีบเองแล้วจะจีบติด? ตอนนี้มันเดือนอะไรเข้าไปแล้ว อีกไม่นานก็จะหมดเทอม 1 แล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะเรียนจบ มึงคิดว่ามึงตัวคนเดียว ไม่มีกูช่วย มึงจะได้นิตามาเป็นแฟนเหรอ? เหอะ! กูไม่ได้ดูถูกมึงนะโซ่ แต่ตัวเลือกที่ดีกว่ามึงน่ะมีอีกมาก นิตาไม่จำเป็นต้องหันมาเลือกมึง”


เหมือนเอามีดมากรีดหัวใจคนฟังให้เห็นว่าไร้ความสามารถแค่ไหนในการจีบผู้หญิงสักคน หนำซ้ำแม้แต่เจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหากจะจีบผู้หญิงสักคน เขาควรเริ่มต้นจากตรงไหน 


   สิตางศุ์ได้แต่เบือนสายตาหนีไปทางอื่นแล้วเม้มริมฝีปากแน่น เขารู้...รู้แก่ใจว่าตัวเองไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะจีบผู้หญิงดีๆอย่างนิตามาเป็นแฟน แต่...เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไง


   “ว่าไง? อยากจีบติดรึเปล่า” เสียงทุ้มถามย้ำ ราวกับขอนไม้ที่ลอยมากลางลำน้ำที่สิตางศุ์ได้แต่ลอยคอ หากไม่คว้าเอาไว้...เขาก็คงไม่มีโอกาสอีก


   “อยาก...” คำตอบสั้นๆนั้นเปลี่ยนสายตาร่างสูงให้กลายเป็นแข็งกร้าวเหมือนโกรธขึงในชั่ววูบหนึ่ง แต่วินาทีต่อมามันก็จางหายไปจนสิตางศุ์ไม่ทันเห็น


   เจียระไนข่มกรามตัวเองแน่น ยามมองร่างขาวตรงหน้า สิตางศุ์ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าอยากจีบแฟนเก่าของเขา ในฐานะเพื่อนร่วมคณะ เขาควรให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่


   ...แต่...คนอย่างเขา ถ้าจะช่วยแบบไม่เต็มที่ ก็ไม่เห็นจะผิดห่าอะไรเลย!...


   “มึงนอนกับกูสิ แล้วกูจะบอกเรื่องอื่นอีก”


   เสียงทุ้มยื่นข้อเสนอใหม่ล่าสุดและสัปดนที่สุด ทำเอาสิตางศุ์ชะงักกึกเงยหน้ามองคนพูดแทบไม่ทัน สายตากวนประสาทและสีหน้ายียวนของเจียระไนทำเอาเขาได้แต่อ้าปากค้าง และก่อนที่จะมีเงื่อนไขอื่นเพิ่มขึ้นมาอีก คนเงียบๆที่ไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใครก็ผลักอกคนตัวใหญ่กว่าด้วยความโมโห


   “มึงนี่มัน!!!...” เพราะไม่เคยมีเรื่องกับใคร สิตางศุ์เลยไม่รู้ว่าเวลาที่โมโหที่สุดควรจะสบถด่าว่าอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็โกรธจนปากสั่นตัวสั่นไปหมด ดวงตาคมจับจ้องใบหน้าขาวที่ขึ้นสีก่ำเพราะแรงอารมณ์ แต่ก็ยังยกยิ้มเหมือนไม่มีสำนึก


   “ยื่นหมูยื่นแมวหน่า...”


   “มึงไปยื่นกับคนอื่นก็แล้วกัน!!!” แล้วร่างโปร่งก็หมุนตัวผลุนผันจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย สายตากวนประสาทของเจียระไนที่มองตามเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่ออีกฝ่ายเดินจากเขาไปแล้ว


   แผ่นหลังบางๆใต้เสื้อนิสิตพอดีตัวนั่นสะท้อนอยู่บนนัยน์ตาสีดำสนิทจนหายลับไปทางมุมตึกที่อยู่ไกลที่สุด


   ...แกล้งไปแล้ว...เขาแกล้ง ‘ไอ้โซ่’ ไปแล้ว...


   มือใหญ่ข้างหนึ่งยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเพื่อซ่อนรอยยิ้มจากคนที่เดินผ่านไปผ่านมา เขายังไม่อยากถูกหาว่าบ้าที่ยืนยิ้มอยู่คนเดียวกลางย่านช้อปปิ้งที่อากาศร้อนระอุแบบนี้ แต่...ทำไงได้...มันหยุดยิ้มไม่ได้นี่หว่า...



   เขาตัดสินใจหยิบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดส่งข้อความหาเพื่อน ในขณะที่ก้าวเท้าเดินไปยังสถานีรถไฟเพื่อกลับคอนโดตัวเอง

   ‘กูแกล้งมันไปแล้วว่ะ’

   ‘ไอ้สัด!’ ข้อความจากคู่สนทนาตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว ดูก็รู้ว่ามันรอเขารายงานอยู่

   ‘อ้อ แต่กูเลี้ยงน้ำกระเจี๊ยบมันนะ’

   ‘สันขวาน! น้ำกระเจี๊ยบชดใช้ได้รึไง’

   ‘ไม่รู้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่’

   ‘ยังจะคิดถึงวันพรุ่งนี้อีกนะไอ้หอก’

   ‘พรุ่งนี้มันมีเรียนมั้ย’

   ‘มึงแกล้งมันวันนี้ แล้วยังจะมีหน้ามาเจอมันพรุ่งนี้อีกรึไง’

   ‘ก็มันน่าแกล้ง เอาหน่า กูทำไปแล้ว อย่าด่าเยอะ พรุ่งนี้มันมีเรียนมั้ย’
 

ถามซ้ำครั้งที่สอง เจียระไนหงุดหงิดนิดหน่อยที่เขาต้องพึ่งพาไอ้ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์รายนี้ แต่ก็อย่างที่เขาพูดกับสิตางศุ์...ปี 4 แล้ว เทอมหนึ่งก็จะหมดแล้ว ถ้าไม่อยากเรียนจบไปพร้อมกับความรู้สึกค้างคาในใจ ก็ต้องลงมือ...ซึ่งคนอย่างเขา ไม่มีทางที่จะลงมือเพียงเพื่อที่จะได้ไม่ติดค้าง แต่คนอย่างเขา...ทุกอย่างที่ลงมือ ต้องประสบความสำเร็จ


   ‘กูไม่ช่วย ไอ้สัด’


นั่นไง ไอ้ที่ปรึกษากิตติศักดิ์ลอยแพเขาซะแล้ว แต่คนอย่างเจียระไนไม่ใช่คนง้อใคร ในเมื่อไอ้หมอนี่ไม่ช่วย เขาก็มีทางเลือกอื่น


   ‘กูสืบเองก็ได้ แล้วอย่าหวังว่าเพื่อนมึงจะรอด’

   ‘เชี่ย ขอให้แม่งอด’

   ‘โทษว่ะ คนระดับกู สะกดเป็นแต่คำว่าสำเร็จ’


   เจียระไนเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋ากางเกง ในขณะที่มุมปากยังประดับด้วยรอยยิ้มจางๆ คนอย่างเขาไม่เคยมีคำว่าไม่สมหวัง คนอย่างเขาถ้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน ไม่ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานเท่าไร


...ขอเพียงแค่ได้มา...

…ขอเพียงแค่ใครคนนั้นคือสิตางศุ์…

…ผู้ชายคนนี้พร้อมจะทำทุกอย่าง…

…เพื่อครอบครองทั้งตัว...และหัวใจ!...


ติดตามตอนต่อไป (วันพุธหน้าค่ะ)

กลับมาแล้วววววว กลับมาพร้อมกับนิยายมหาลัยและจุฬาเอ็กโป
(อันหลังนี่ไม่เกี่ยว แต่ในฐานะศิษย์เก่าก็โฆษณาซะหน่อย 15-19 มีนานี้นะคะ แวะไปเที่ยวมหา’ลัยเล็กๆแถวสยาม สามย่าน พญาไท อังรี กันค่ะ...คอนเฟิร์มว่าเป็นมหา’ลัยเล็กๆค่ะ เดินวันเดียวทั่ว :katai1:)


หลังจากหายไปสามเดือนครึ่ง ก็กลับมาพร้อมนิยายมหา’ลัย เรื่องนี้ตามที่สัญญาว่านายเอกดี(และซื่อมากกกกก เรื่องก่อนปวดหัวเพราะความเหวี่ยงของวิน เรื่องนี้จะปวดหัวเพราะความซื่อของโซ่นี่แหละค่ะ)


และรอบนี้เป็นนิยายมหา’ลัยแบบที่ไม่ได้เขียนมานานมากกกก แถมยังเป็นแบบที่ไม่ได้เล่าจากตัวเอกอย่างที่เคยเขียนบ่อยๆด้วย (ทั้งถ้วยฟู และฟิคอาคาเมะที่เคยเขียน บัวก็มักจะเขียนแนวมหาลัยเป็นแบบเล่าจากตัวเอกเนอะ) เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ


ขอบคุณคนอ่าน คนคิดถึง คนเม้นท์และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ
เจอกันวันพุธหน้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 15-03-2017 20:59:08
นายเอกนิสัยดี เรามาตามอ่าน ว่าแต่ไอ้ความซื่อนี่แหล่ะที่จะมีปัญหา 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 15-03-2017 21:00:49
อ่านจบแล้วเขินเลยค่ะเขินอะไรก็ไม่รู้ พี่โจ๊กแกล้งโซ่ทำไม สมควรโดนโซ่โกรธ เลาจะรอดูวิธีจีบโซ่ เอ้ย วิธีสอนโซ่จีบนิตาจากพี่โจ๊ก โจ๊กต้องแอบมองโซ่อยู่นานแล้วแน่ๆ  :-[ ขอจองตัวโจ๊กล่วงหน้าเลยได้มั้ยคะ เขิน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: HuskyLover ที่ 15-03-2017 21:08:07
ขอมาติดตามด้วยคนนะครับ ไม่ได้อ่านงานของคุณนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คุรเจียระไนยื่นข้อเสนอแบบนี้ เป็นผมก็ไม่กล้ารับหรอก อิๆ
จะรอดูครับว่าก่อนเรียนจบ ใครจะพิชิตใจใคร
แต่ดูท่าคุณเจียระไนน่าจะช่วยให้โซ่จีบสาวไม่สำเร็จแน่ๆ :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-03-2017 21:10:32
 :L2: :L1: :pig4:

มาแล้วววววววว
ดีใจ มาอ่านกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-03-2017 21:25:38
นายเอกดี แต่พระเอกเลวแทนสินะคะ ฮา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 15-03-2017 21:51:24



ชอบความแบ๊ดของพี่โจ๊กจังเลยฮะ
อยากรู้ว่าคนร้าย ๆ จะชนะใจโซ่ได้ยังไงน้อ
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^  :L2:



หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 15-03-2017 21:58:11
ติดตาม :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 15-03-2017 22:27:12
เข้ามาหวีดร้อง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 15-03-2017 22:46:33
อ่านจบแล้วตกหลุมรักโซ่เลยค่ะ ลุ้นให้น้องไม่ยอมคุณเจียระไนง่ายๆ แหม...ถ้ายอมง่ายก็ไม่มันสิใช่ไหมคะ?
เจียระไนนี่เป็นพวกปากร้ายแต่รักจริงใช่มั้ยคะ? เรื่องต่างๆ ที่ยกมาพูดทั้งหมดนั้นคือเป็นเพียงหนึ่งในการ 'น้องโซ่' เท่านั้นสินะคะ
อยากอ่านต่อมากๆ เลยค่ะคุณบัว

ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องใหม่นี้นะคะ

ป.ล. เดี๋ยวจะรออุดหนุนพินัยกรรมกามเทพและจันทร์จ้าวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: uxij ที่ 15-03-2017 23:00:53
ก่อนอื่นขอกรี้ดก่อนนน ฮรือออ ตั่ยแหล่ว
อ่านละนึกถึงหน้านุ้งพอร์ชเป็นโซ่ เขิงเลยเขิง
ภาษาดีมากๆค่ะ อ่านเพลินมาก นอนยิ้มเป็นบ้าเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 15-03-2017 23:01:08
โจ๊กจัดๆๆๆ อย่าช้า เดี๋ยวแม่นางโซ่จะลอยหายไป  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 15-03-2017 23:04:35
งุยยยย คิดถึง
เห็นชื่อปุ๊บ มาตามปั๊บ อิอิ

คนดีถูกแกล้งซะแล้ว...สาวก็ไม่ได้ แถมจะโดนผู้ชายจีบอีกงี้ ^^"

เอาใจช่วยน้องโซ่คนดีกันดีกว่า จะรอดไปได้แค่ไหนหนอ ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Mitra ที่ 15-03-2017 23:09:26
โซ่น่าร้ากกก
ไม่น่าพูดคำหยาบน้า ไม่เข้ากะหน้าเลย
อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 15-03-2017 23:14:57
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: LALYNN ที่ 15-03-2017 23:49:46
รู้สึกเหมือนว่าไอ้เจ้ากตเจ้าแพทนี่แหละตัวขายเพื่อน ฮ่าา
น้องโซ่ซื่อแบบนี้พี่ชอบ และพี่อยู่ #ทีมโจ๊ก ด้วย อยากแกล้งโซ่บ้าง
ว่ากันว่าเด็กผู้ชายชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบ ว้ายตั่ยแล้ววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 15-03-2017 23:56:35
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-03-2017 23:57:34
เรื่องใหม่ไฉไลมาก เห็นความกวนของนายโจ๊กแล้วปวดหัวแทนโซ่เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-03-2017 00:02:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: karamailpraleen ที่ 16-03-2017 00:26:05
รอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: I C H A ที่ 16-03-2017 00:46:28
กรี๊ดมาแล้ว ชอบผลงานคุณบัวทุกเรื่องเลยค่ะ
เรื่องนี้น้องโซ่น่ารักมาก เราชอบพี่โจ๊กมากด้วยเช่นกัน งู้ย ติดตามรอต่อไปเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 16-03-2017 01:54:04
งู้ยเรื่องใหม่ของคุณบัว ดูรอมคอมแบบเต็มที่เลยด้วย  :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-03-2017 02:04:03
โซ่ดูไม่น่าจะทันคนนะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 16-03-2017 02:24:26
มาแล้วนายเอกแนวใหม่ของคุณบัว ผ่านๆมาเหมือนจะมีแต่แสบๆทั้งนั้น
ว่าแล้วคนที่โจ๊กคุยด้วยต้องเป็นเพื่อนโซ่ แอบคิดว่าเป็นแพทนะ 555
รอติดตามตอนต่อๆไปนะคับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: MooMiew ที่ 16-03-2017 02:48:43
ผู้ช่วยนี่ใช่ กตเพื่อนโซ่ ป่ะ 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 16-03-2017 04:07:08
สนุกกกกก โจ๊กมีความกวนติงสูงมากกกก ท่าทางโซ่ต้องทนไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: akumapuyy ที่ 16-03-2017 04:16:26
เรื่องใหม่น่าติดตามอีหเช่นเคย รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 16-03-2017 05:31:30
โซ่น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 16-03-2017 06:10:52
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 16-03-2017 07:11:39
โจ๊กไม่แกล้งน้องโซ่สิครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: usguinus ที่ 16-03-2017 07:47:06
รออออออ :katai5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 16-03-2017 09:26:54
โซ่อย่ายอมง่ายๆนะขอร้อง หมั่นไส้โจ๊กอ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: beautypd ที่ 16-03-2017 10:11:23
 o18 ดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 16-03-2017 11:21:02
พี่โจ๊กจะกินโซ่นี่เอง555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-03-2017 11:30:25
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 16-03-2017 12:15:38
ไม่นะไอ้โจ้กโซ่เป็นของฉัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 16-03-2017 12:51:47
โซ่น่ารักดูซึนๆ ส่วนโจ๊กนี่คงจะจริงที่บอกว่าผชจะชอบแกล้งคนที่ตัวเองชอบ ขอให้จีบติดนะ 55
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 16-03-2017 15:12:14
ซอโซ่ จะรู้ตัวไหม ว่าเพื่อนโจ้กแอบมีใจมานานแล้ววง อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 16-03-2017 15:53:40
ได้อ่านเรื่องสนุกๆอีกแล้ว ขอบคุณคุณบัวฮะ
รู้สึกสงสารโซ่เลยอ่ะ โจ๊กน่ากลัวจัง โซ่จะรับมือไหวไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-03-2017 21:27:29
มาตามเรื่องนี้ด้ววคนนะคะ5555
หูย เห็นแววความฟินมาแต่ไกล
น้องโซ่น่ารัก อิพี่โจ๊กก็กวนเหลือเกิน
งานนี้ต้องมีหนอนบ่อนไส้แน่ๆ

ขอบคุณพี่บัวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 16-03-2017 23:40:14
น้องโซ่จะทันโลกกับใครเค้ามั้ยเนี่ย

ตอนนี้ก็เจอโจ๊กปันหัวอยู่เนี่ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Preenp ที่ 16-03-2017 23:41:09
เราชอบพระเอกแบดๆแบบนี้จังเลยค่ะ ติดตามม o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 17-03-2017 10:59:29
ต้อนรับน้องซอโซ่ คนซื่อ น้าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 18-03-2017 15:36:41
 :hao7: :hao7: :hao7: สิตางคุ์น่ารักกกกกกกก
อยากรู้ว่าโจ๊กชอบโซ่มานานแล้วใช่ไหมม  มันต้องมีเหตุสิใช่ไหม อยู่ดีๆทำไมถึงมาแกล้ง
หรือคบกับสิตาเพราะรู้ว่าโซ่ชอบ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-03-2017 22:55:48
ชอบเขาแล้วแกล้งเขาทำไมคะเนี่ย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 19-03-2017 21:45:52
โจ๊กนี่แอบชอบโซ่มาตั้งแต่เมื่อไหร่น้าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: nonnn ที่ 19-03-2017 21:51:11
โจ๊กดูไม่น่าไว้ใจเลย เหมือนเฝ้าเล็งน้องซอโซ่ของเรามานานแล้ว
ดูมีซัมติงแปลกๆ แบบสาเหตุที่โจ๊กต้องเลิกกับนิตามันไม่น่าจะใช่แค่ผญไม่ยอมนอนด้วยอ่ะ
เท่าที่อ่านลักษณะนิสัยคร่าวๆของโจ๊กมา ดูเป็นคนเลือกได้ ไม่น่าเป็นฝ่ายถูกบอกเลิก??
ถ้าเพราะแค่เรื่องแนวนี้จริง ก็น่าจะจบไปตั้งนานแล้วป่ะ ไม่น่าปล่อยปัญหายืดเยื้อยาวนานขนาดนั้น
นี่ก็ไม่อยากจะคิดไปในแนวพระเอกแอบหลงรักนายเอกก่อน แบบคอยเฝ้ามองเขาห่างๆไรงี้
พอสบโอกาสก็วิ่งเข้าใส่เลย โจ๊กน่าจะเป็นกรณีอย่างหลังนี่มากกว่าาาาาาาาาาาาาาาาา

ประเด็นคือใครเป็นที่ปรึกษาให้โจ๊ก รู้สึกว่าจะเป็นเพื่อนแก๊งเดียวกันกับหนูโซ่ด้วยใช่ไหม
คือนี่ไม่อยากเดาจากตัวเลือกสองตัวแรก ระหว่างกตกะแพท เหยยยยย ไม่ใช่หรอกม้างงง อย่าเลยยย
เราแอบสงสารน้องโซ่ ดูจากท่าทางแล้วคงตามพวกแบดๆนี่ไม่ทัน....
ถ้าน้องโซ่อยากจีบนิตาติดขนาดนั้น ก็อย่าเผลอไปหลงกลตอบตกลงเอาตัวเข้าแลกล่ะลูก
ขุ่นแม่เกรงว่าโจ๊กมันจะไม่ถนอม ดูวาดหวังว่าจะต้องได้ตัวหนูมานานแล้ว
นี่ก็ไม่อยากคิดไปในทางที่ไม่ดี เพราะตอนท้ายโจ๊กนางย้ำนักย้ำหนาว่าต้องได้ทั้งกายและใจน้องโซ่ไป
ย้ำว่ามีใจเข้ามาเกี่ยวด้วยแบบนี้ งี้ก็คงไม่คิดจะเล่นๆกับหนูโซ่หรอกมั้งงงง

คือนางก็ตรงไปตรงมาดี อยากได้ตัวเขาก็บอกเขาไปตรงๆ หมูไปไก่มาแบบนี้ก็ได้หราาา
คิดว่าหนูโซ่ไม่น่ารอดพ้นเงื้อมมือคนที่(คาดว่าจะ)เลวแบบเน้ได้
เปล่าหลอกด่านะ นี่ด่าตรงๆเลย55555
ปล.ยังไงก็แล้วแต่ เปิดเรื่องใหม่มาน่าติดตามมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่นะคะคุณบัว +เป็ดให้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-03-2017 22:45:20
มีความขายเพื่อน

คนอ่านก็รอฟินไปสิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 19-03-2017 23:07:03
ใครขายเพื่อนคะ? แพท หรือ กต
ซอโซ่จะรอดไม๊น๊าาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: lightseeker ที่ 19-03-2017 23:08:38
ชอบค่ะ ชอบบบบบ ชอบแนวนี้มากๆเลยง่ะ เราชอบพระออกแนวเจ้าเล่ห์เพทุบาย :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 19-03-2017 23:37:23
พระเอกเรืองนี้นิสัยเด็กเพราะชอบแกล้งคนที่ชอบ 5555 ติดตามค่ะะะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: ZilCh ที่ 19-03-2017 23:47:21
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 19-03-2017 23:50:30
โจ้กเหมือนมีแผนร้าย
แถมยังมีไส้ศึกแอบช่วย
โซ่เสร็จแน่ๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 20-03-2017 00:00:29
โซ่เอ๋ย ระวังตัวดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 20-03-2017 00:24:28
คิดถึงค่ะ
มีเรื่องใหม่มาให้ก๊าวใจแล้วววววว
ไอ้โจ๊ก กวนตี-มาก บอกเลย
ถ้าไม่ใช่พระเอกนะจะให้น้องโซ่เหยียบหน้า 5555

รอติดตามค๊าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-03-2017 00:28:30
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 20-03-2017 07:13:14
เพื่อนรู้เห็นเป็นใจ น้องโซ่เสร็จแหงมๆ
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-03-2017 20:47:01
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 2

   เพราะเมื่อวานมีคนก่อความหงุดหงิดก่อนจะกลับบ้าน แม้วันต่อมาจะมีเรียนคาบเช้า แต่สิตางศุ์ก็มาสายกว่าเคย และพอมาแล้ว เขาก็ยังไม่อยากเข้าเรียน เลยแวะเข้าโรงอาหารหาอะไรทานก่อน


ร่างโปร่งได้มักกะโรนีกุ้งหนึ่งจานกับน้ำเก๊กฮวยหนึ่งแก้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนโต๊ะว่าง โรงอาหารเวลานี้มีนิสิตไม่กี่โต๊ะ และมีโต๊ะว่างอีกมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนถือวิสาสะทรุดตัวลงนั่งร่วมโต๊ะกับเขาโดยไม่ขออนุญาต


มือขาวที่กำลังตักมักกะโรนีเข้าปากชะงักไปทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาพบว่าคนที่จู่ๆก็มาร่วมโต๊ะกับเขาคือต้นเหตุของความหงุดหงิดเมื่อวานนี้ สิตางศุ์ไม่ได้ออกปากไล่หรือลุกหนีไปนั่งที่อื่น เขาก้มหน้าก้มตาตักมักกะโรนีเข้าปากทำเป็นไม่สนใจว่ามีใครร่วมโต๊ะด้วย


“โซ่...” ชื่อถูกเรียกโดยคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่สิตางศุ์ไม่คิดจะเงยหน้ามอง

   “...เมื่อวานกูล้อเล่น” 


เจียระไนพูดต่อท่ามกลางความเงียบ แต่อีกฝ่ายยังคงทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน ร่างสูงเลยเลื่อนถุงกระดาษที่ซ้อนด้วยถุงพลาสติกใสเข้าไปใกล้จานมักกะโรนีของสิตางศุ์ คราวนี้ได้ผล เพราะดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมาสบตากับเขา


   “กล้วยแขก” ไม่มีคำถาม แต่คนซื้อมาอยากบอก

   “ซื้อมาฝาก” คิ้วที่พาดอยู่เหนือดวงตาของสิตางศุ์ขมวดเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจ แต่ดูเหมือนเจียระไนไม่คิดจะอธิบายอะไรเพิ่มเติม เพราะเขาลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วหมุนตัวจะเดินจากไป และเป็นอีกครั้งที่คนที่ทนไม่ไหวคือสิตางศุ์


   “กูไม่ได้อยากได้ ซื้อมาให้ทำไม”

ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์หันกลับมามอง

   “ของซื้อมาฝาก ไม่จำเป็นต้องถามนี่หว่าว่าอยากได้รึเปล่า”

สิตางศุ์ถอนหายใจพรูอย่างระอาใจ ในขณะที่ยังสบตากับคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ

   “เรื่องเมื่อวานน่ะ กูไม่ได้อะไรแล้ว” 


เดิมทีเขาก็ไม่ใช่คนโกรธใครนาน ติดจะไม่ค่อยโกรธใครด้วยซ้ำ แล้วนิสัยของหมอนี่ก็รู้ๆกันดีว่ากวนประสาทขนาดไหน เมื่อวานมันก็คงล้อเล่นไปเรื่อยเปื่อยนั่นล่ะ


   “กินอะไรรึยังล่ะ ไปซื้อมานั่งด้วยกันก็ได้” เจ้าของผิวขาวจัดเอ่ยปากชวน อย่างน้อยก็รู้จักกันมาตั้ง 4 ปี ถึงแม้จะไม่ค่อยได้คุยกันนัก แต่ก็เห็นหน้ากันอยู่บ่อยๆ จะให้เขาใจร้ายใจดำไม่ถามไถ่ชักชวน ก็ไม่ใช่นิสัย


   ดวงตาคมที่มักจะมีแววตาอ่านไม่ออกเปลี่ยนไปวูบหนึ่ง มันทอดมองคนที่ก้มลงทานมักกะโรนีกุ้งด้วยแววอ่อนโยน รอยยิ้มจางปรากฏที่มุมปาก แต่เมื่อคนที่ถูกเขาจ้องเงยหน้าขึ้นมา เจียระไนก็รีบซ่อนรอยยิ้มและสายตาก่อนจะหมุนตัวเดินไปสั่งข้าวจากร้านที่อยู่ใกล้ที่สุด


   พวกเขานั่งทานข้าวด้วยกันเงียบๆที่โต๊ะ และถึงแม้จะมีนิสัยไม่ค่อยพูดกับคนที่ไม่ค่อยสนิท แต่ไหนๆก็นั่งตรงข้ามกันทั้งที จะให้ทำเหมือนอีกฝ่ายไม่ได้นั่งด้วยกันก็คงจะแปลก สิตางศุ์คิดอยู่นานก่อนจะตัดสินใจชวนคุย


   “มีเรียนที่คณะเหรอ?” เพราะเห็นอีกฝ่ายแต่งไปรเวท และคณะของเขาก็อนุญาตให้แต่งอะไรมาเรียนก็ได้ สิตางศุ์เลยเดาเอาว่าที่เจียระไนมามหาวิทยาลัยในชุดนี้ ก็คงมีเรียนที่คณะ


   “เปล่า”

   “แล้ว...มาเรียนของคณะไหนล่ะ”

   “วันนี้ไม่มีเรียน” คำตอบของร่างสูงชวนให้สงสัย แต่ไม่ทันได้ถามอะไรอีกฝ่ายก็ตักข้าวเข้าปากคำสุดท้ายแล้วลุกไปซื้อน้ำดื่ม เป็นอีกครั้งที่น้ำในมือใหญ่ที่มีเส้นเลือดโปนยังคงเป็นน้ำกระเจี๊ยบสีแดงอมม่วง


   ข้าวก็หมดแล้ว แต่เจียระไนก็ยังกลับมานั่งที่เก่า สิตางศุ์เลยชวนคุยอีกหน

   “ชอบกินน้ำกระเจี๊ยบเหรอ”

   “อือ” คำตอบสั้นทำเอาคนคุยไม่ค่อยเก่งชักไม่รู้ว่าจะถามอะไรต่อ ความเงียบปกคลุมพวกเขาอยู่อึดใจเดียว คนที่ดูดน้ำกระเจี๊ยบจนหมดแก้วก็เป็นฝ่ายตั้งคำถามบ้าง


   “มึงมีเรียนบ่ายมั้ย”

“ไม่มี” คำตอบของคนตัวขาว ทำเอาเจียระไนเลิกคิ้วเล็กน้อย

“มีเรียนแค่คาบเช้า?” เขาถามอีก คนที่กำลังนั่งทานมักกะโรนีกุ้งตอนสิบโมงตรงพยักหน้ารับ

“เดี๋ยวค่อยเข้าตอนพักเบรก” เป็นอันว่าสิตางศุ์จะเข้าห้องตอนสิบโมงครึ่ง

“งั้นกูรอที่ห้องสมุด ตอนเที่ยงจะพาไปเลี้ยงข้าว มึงเลิกเรียนแล้วก็มาที่ห้องสมุดแล้วกัน”

“หือ? เลี้ยงกูทำไมอ่ะ?”


ร่างสูงนิ่งไปเล็กน้อยกับคำถามนั้น ก่อนจะลุกขึ้นยืน


“เจอกัน” เขาพูดแค่นั้นก็หมุนตัวจะเดินออกจากโต๊ะไป ทำเอาคนที่ยังทานมักกะโรนีไม่หมดต้องร้องเรียกเอาไว้ เมื่อเหลือบตาลงมาเห็นถุงกล้วยแขกยังวางอยู่ตรงหน้าเขา


“โจ๊ก...แล้ว...” ดวงตาคู่สวยเหลือบลงมองที่ถุงกระดาษ เจียระไนมองตาม


“กูบอกแล้วว่าซื้อมาฝาก ถ้าไม่แดกก็ทิ้งไป”


เขาพูดแค่นั้นก็เดินออกจากโรงอาหารไป ทิ้งสิตางศุ์เอาไว้กับสิ่งของต้องสงสัย...กล้วยแขกของฝาก...

.......................................


อลงกตและพฤกษาเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนรักที่ค่อนข้างจะรักการเรียนมาเข้าเรียนตอนช่วงหลังพัก แถมเจ้าตัวมาพร้อมกับกล้วยแขกหนึ่งถุงที่ส่งให้พวกเขา


“มึงเนี่ยนะ?! ซื้อกล้วยแขก ไม่ชอบกินของทอดไม่ใช่เรอะ?!” อลงกตตั้งคำถามแล้วหยิบกล้วยแขกสีน้ำตาลทองขึ้นมาหนึ่งชิ้น ก่อนจะส่งถุงให้พฤกษาที่น้ำลายสอมุมปาก เพื่อนทะเล้นรีบหยิบไปอีกชิ้น แล้วคราวนี้ถุงกล้วยแขกก็ถูกเวียนไปทั้งห้องเรียน


“กูไม่ได้ซื้อ...” สิตางศุ์ตอบ แล้วทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างที่เพื่อนจองเอาไว้ให้


“...ไอ้โจ๊กซื้อมา” กล้วยแขกที่กำลังถูกกัดเข้าปากถึงกับค้างอยู่กับที่ อลงกตและพฤกษาหันมองหน้ากัน ก่อนจะหันมองเพื่อนสนิทที่เพิ่งมาเรียน


“ไหนเมื่อวาน มึงว่ามันทำมึงโกรธไม่ใช่เหรอ”


เมื่อวาน หลังจากแยกกับเจียระไน เขาก็เล่าให้เพื่อนสองคนฟังว่าหมอนั่นจงใจแกล้งเขาให้เสียเวลา แน่นอนว่าปกติเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยบ่น พอบ่นออกมาทีหนึ่ง เพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยก็พอจะรู้ว่าคราวนี้ ‘ไอ้โซ่’ หัวเสียขนาดไหน


“เมื่อกี้เจอมันที่โรงอาหาร แล้วมันก็ให้นี่มา” แล้วคนที่เพื่อนเดาว่าหัวเสียเมื่อวานก็เล่าที่มาที่ไปของกล้วยแขกพลางถอนหายใจเบาๆ ราวกับไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด


“มันซื้อมาขอโทษมึงแน่เลย” พฤกษาเสนอ แต่ทำเอาดวงตาคู่สวยต้องเหลือบมอง


“ซื้อของที่กูไม่กินมาขอโทษกูเนี่ยนะ”


“มันอาจจะไม่รู้ก็ได้นี่หว่า หน้าตามึงดูแดกอะไรก็ได้ ทั้งๆที่ความจริงแล้ว แดกยากฉิบหายเลย” พฤกษาพูดตามประสาคนสนิท และแน่นอนว่าเพราะสนิทกัน สิตางศุ์จึงไม่หือไม่อือกับการกัดการแซะของเพื่อนเท่าไร เพราะเขาเองก็รู้ตัวว่าตนเองเป็นคนกินยาก


อลงกตหันไปหยิบกล้วยแขกมาเข้าปากอีกชิ้น แล้วถามถึงเจ้าของกล้วยแขกถุงนี้


“แล้วที่ไปกับมันเมื่อวาน มันบอกอะไรอีกมั่ง”


...บอก...อย่างนั้นหรือ...


สิตางศุ์คิดไปถึงเหตุผลเพียงข้อเดียวที่อีกฝ่าย ‘บอก’ เมื่อวานนี้ และเป็นเรื่องที่ ‘บอก’ ถึงสาเหตุการเลิกราของ



เจียระไนและนิตา


...นิตาไม่ยอมนอนกับมัน...


เรื่องแบบนี้ไม่ควรออกจากปากใครไปถึงหูใครอีก ถึงแม้ฝ่ายหญิงจะไม่ ‘ยินยอม’ ก็เถอะ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูด


“ไม่ได้บอกอะไร” เขาจงใจปิดบัง ก่อนจะพูดเรื่องตอนเที่ยงวันนี้ที่ฝ่ายนั้นนัดเขาแทน


“...แต่มันบอกว่าตอนเที่ยงให้ไปหามันที่ห้องสมุด มันจะรอเจอกู”


“แล้วมึงจะไปรึเปล่า” อลงกตถามเรียบๆ สิตางศุ์หันมอง ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ


“ไปก็ไม่เสียหายนะ กูว่า” พฤกษาแนะ ทำเอาคนตัวขาวจัดได้แต่นิ่งเงียบ


...ไปก็ไม่เสียหายอย่างนั้นหรือ?...


...ใช่...อย่างน้อยๆเมื่อวานก็ได้รู้ว่าโจ๊กและนิตาเลิกกันเพราะอะไร...


……………………….

เที่ยงนิดๆ หลังเลิกเรียนคาบเช้า ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดในชุดนิสิตเรียบร้อยก้าวเท้าเข้ามาในห้องสมุดที่แอร์เย็นฉ่ำราวกับอยู่คนละโลกกับอากาศข้างนอกที่ร้อนระอุ เขากวาดตามองไปรอบๆซึ่งเต็มไปด้วยเหล่านิสิตที่เข้ามาหลบร้อน เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ เพราะที่นี่คือห้องสมุดของคณะที่เน้นการวิพากษ์วิจารณ์เป็นที่สุด


“พี่โซ่ สวัสดีค่ะ”

“หวัดดีครับ พี่โซ่”

“พี่ซอโซ่แห่งพรหมลิขิตของน้องงงงงง...”


เสียงทักทายดังมาจากกลุ่มน้องผู้หญิงปีหนึ่ง น้องผู้ชายปีสาม และแก๊งค์น้องเพศทางเลือกปีสอง สิตางศุ์ไม่ได้รู้จักชื่อทุกคนที่ทักเขา จำได้แต่หน้าว่าเป็นรุ่นน้องในคณะ แต่น้องพวกนี้สิ ทำไมจำชื่อเขาได้ก็ไม่รู้


“ไอ้โซ่แม่งป็อปทุกชั้นปี ทุกเพศ ทุกวัย สเป็คสาธารณะสมกับเป็นของดีแห่งไออาร์ปีสี่จริงๆ” พฤกษาหยอก


ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือเรียกสั้นๆว่า ‘IR’ นั้น มีสาวๆเยอะก็จริง แถมมีแต่สวยๆก็ใช่ แต่ถ้าจะยกให้ใครสักคนเป็น ‘ของดี’ ก็ต้องสิตางศุ์เท่านั้น เพราะรายนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสเป็คของสาธารณชนโดยแท้จริง ชายแท้ชายเทียมหญิงแท้หญิงเทียม เจอมันยิ้มให้หน่อย เป็นได้ละลายลงไปกองกับพื้นกันหมด


อลงกตเหลือบตามามองเพื่อนหน้าทะเล้นเลยเหลือบไปเห็นสายตาของสาวน้อยจากกลุ่มโต๊ะปีหนึ่ง


“น้องมี่มองไอ้โซ่อีกแล้ว สงสัยจะชอบจริง” หนุ่มชมรมฟุตบอลว่าอย่างนั้นหลังจากสบตากับ ‘น้องมี่’ ที่มองตรงมาที่พวกเขาจนน้องปีหนึ่งเป็นฝ่ายหลบสายตาไป


...ไม่สิ น้องมี่ไม่ได้มองมาที่พวกเขา แต่มองมาที่ ‘ไอ้โซ่’ คนเดียวต่างหาก...


“นู่น ไอ้โจ๊กก็มอง” พฤกษาโบ้ยไปที่โต๊ะใกล้ๆซึ่งมีผู้ชายรวมกลุ่มกัน 4-5 คน พวกนั้นล้วนเป็นเพื่อนร่วมคณะแต่มาจากภาควิชาการปกครองซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นภาคฯที่อุดมไปด้วยผู้ชายมากกว่าภาควิชาไหนๆ และหนึ่งในผู้ชายของภาคฯนั้น และเป็นผู้ชายในกลุ่มนั้นก็คือ...เจียระไน...


หมอนั้นมองตรงมาที่พวกเขา...ไม่สิ รายนี้ก็มองแต่ ‘ไอ้โซ่’ เช่นเดียวกัน...


คนถูกมองหันไปเห็นเข้า เลยเดินตรงเข้าไปหา ตามหลังด้วยสองเพื่อนซี้ที่วันนี้ตามติดมาสังเกตการณ์


“ไงครับ ไอ้คุณโจ๊ก ได้ข่าวว่าเมื่อวานแกล้งเพื่อนกูเหรอ” พฤกษาออกหน้าเป็นคนแรกตามประสาคนพูดเก่ง เจียระไนหันไปมองสิตางศุ์ที่ยืนเงียบๆ “ขี้ฟ้องเหรอมึง”


“กูไม่ได้ฟ้อง พวกมันถาม กูก็เลยบอก”


“อ้อ แล้วบอกอะไรมั่ง” พอถูกย้อนแบบนั้น คนที่อยู่ในเหตุการณ์เงื่อนไขสัปดนของเจียระไนก็ได้แต่เม้มปากเงียบ ร่างสูงใหญ่เลยไม่ซักไซ้อะไรอีก เขายกยิ้มที่มุมปากแล้วหันมามองพฤกษากับอลงกต


“กูจะพาไอ้โซ่ไปกินข้าว”


“อันนี้ชวนพวกกูมั้ย” พฤกษาย้อนถาม


“เปล่า กูบอกเฉยๆ” เจียระไนพูดแล้วหันมาทางร่างโปร่งผิวขาวจัดที่ยืนเงียบ


“จะไปกันรึยัง โซ่” สิตางศุ์มองคนถาม ก่อนจะหันมามองเพื่อนสนิททั้งสองคน เขาไม่รู้ว่าการไปกับเจียระไนอีกครั้งจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่ รายนั้นอาจจะหาเรื่องแกล้งเขาอีกก็ได้ แต่...ก็อย่างที่พฤกษาพูด


‘ไปก็ไม่เสียหาย…’


“กูไปนะ” ริมฝีปากสีจัดเอ่ยเบาๆกับเพื่อนสนิทสองคน ก่อนจะเดินตามเจียระไนไป ทว่าไม่ทันจะพ้นประตู น้องปีสองในชุดนิสิตชายแต่ตุ้งติ้งเกินกว่าหญิงก็พุ่งถลามาขวางหน้าพวกเขาเอาไว้


“พี่โจ๊กขาจะพาพี่ซอโซ่ของติซซี่ไปไหนคร้าาา”


“พาไปกินข้าว”  คนตอบคือเจียระไน น้องติซซี่ปีสองทำตาเหลือกโตแล้วกรีดร้องเบาๆ


“พี่ซอโซ่ก็จะไปกับพี่โจ๊กขาเหรอคะ”


“อือ” สิตางศุ์ตอบสั้นเพราะเขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองนัก อยู่ดีๆ ก็ออกไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมคณะที่แทบจะไม่เคยคุยกันเลยมาตลอดสี่ปี ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายคือแฟนเก่าของนิตา และพฤกษาสนับสนุนว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้พยายามกับความรักของตัวเองก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเมื่อเรียนจบ เขาก็คง...ไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้...


“ไม่จริ๊งงงงงงง พี่ซอโซ่เสร็จพี่โจ๊กขาแล้วแน่เลย”


“เอ้ยๆ ไม่ใช่ครับไม่ใช่ แค่ไปกินข้าวกัน” ริมฝีปากสีแดงจัดรีบแย้งลิ้นแทบพันกัน แต่เจียระไนกลับยิ้มมุมปากไม่พูดอะไรแล้วเดินเลี่ยงออกไป ในขณะที่กะเทยน้อยนามว่าติซซี่จับจ้องคนพูดเหมือนจับผิด


“เมื่อวานก็ไป ’กินกัน’ มาแล้วไม่ใช่เหรอคะ เมื่อเช้าก็ด้วย ติซซี่รู้ ติซซี่เห็น ติซซี่ได้ยินนะคะ” สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆ ไม่คิดว่าเรื่องของตัวเองจะเป็นที่สนใจของคนอื่น


“น้องติซซี่รู้ได้ไง”


“ก็เขาพูดกันคร่า พูดกันจากคณะนู้น มาคณะนี้ แล้วเมื่อเช้าติซซี่ก็พูดจากคณะนี้ ไปคณะโน้นค่ะ”


“พูดอะไร”


“ก็พูดว่าเมื่อวาน ‘พี่โจ๊ก ปกครอง ปีสี่’ ไปกินข้าวกับ ‘พี่โซ่ ไออาร์ ปีสี่’ อีร้านในตรอกนั้นร้อนตับแล่บก็ยังนั่งมองตากันตั้งนาน! แล้วก็กินน้ำกระเจี๊ยบแก้วเดียวกันด้วย! สายข่าวยังบอกด้วยนะคะว่ากินข้าวช้อนเดียวกัน! แล้วยัง...”


“เดี๋ยวๆ เมื่อวานพี่กับมันไม่ได้กินน้ำแก้วเดียวกัน แล้วก็ไม่ได้กินข้าวช้อนเดียวกันครับ”


“แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่าไปด้วยกันมา เนี่ย พี่ซอโซ่ของติซซี่จะต้องเสร็จพี่โจ๊กขาแน่ๆเลย ตอนนี้ไม่เสร็จ อีกหน่อยก็เสร็จ ถ้านับตั้งแต่เมื่อวาน นี่มื้อที่สามแล้วนะคะ กับติซซี่ยังไม่เคยเลยสักมื้อ” แล้วกะเทยน้อยก็เอานิ้วเขี่ยอกเสื้อรุ่นพี่หนุ่ม สิตางศุ์ถอยเล็กน้อยด้วยความตกใจ ทำเอารุ่นน้องถึงกับทำตาคว่ำ


“ใช่ซี่ กับติซซี่ไม่ได้ แต่กับพี่โจ๊กขาคงได้ หึ เศร้าค่ะ เศร้า...ฮือออออออ”


“น้องติซซี่เบาหน่อยค่ะ ที่นี่ห้องสมุดนะคะ” บรรณารักษ์ผู้อยู่คู่ห้องสมุดนี้มานาน และนานๆจะลุกขึ้นปรามสักทีรีบตะโกนบอก แน่นอนว่าติซซี่ซึ่งสถิตอยู่ที่นี่มากกว่าห้องเรียนก็รีบถลาเข้าไปหาเพื่อขอคำปลอบโยน


“อยากเบาค่ะ แต่พี่ซอโซ่ทิ้งน้องไปกับพี่โจ๊กขาค่ะคุณแม่!!!”


สิตางศุ์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย มองออกไปนอกประตูกระจกของห้องสมุดก็เห็นเจียระไนยืนสูบบุหรี่อย่างไม่ได้สนใจกับสิ่งๆใด แล้วก็ได้แต่กรอกตามองเพดานห้องสมุด


...ถ้าไม่ใช่เพราะนิตาและโอกาสสุดท้ายของชีวิตนิสิต ให้ตายยังไงเขาก็ไม่ไปกับหมอนี่เป็นอันขาด...


……………………..

>หน้าถัดไปค่ะ>>
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-03-2017 20:47:24


เพราะเมื่อวานถูกพาไปนั่งในตรอกแคบๆที่ทั้งอับ ทั้งร้อนและหนวกหู วันนี้สิตางศุ์ก็ไม่อยากคาดหวังมากนักว่าอีกฝ่ายจะหาร้านไหนเข้าไปผจญภัยอีก ทว่าเมื่อลงรถรับส่งของมหาวิทยาลัยที่ย่านช้อปปิ้ง แล้วหมอนั่นเดินนำลัดเลาะตรอกซอกซอยแถวนั้นไปจนถึงร้านบนชั้นสองของอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ร่างโปร่งผิวขาวจัดก็ถึงกับกะพริบตาปริบๆอย่างคาดไม่ถึง


“แดกเป็นมั้ย” ร่างสูงถามตอนที่พวกเขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในร้านห้องแอร์เย็นฉ่ำ นัยว่าต่อให้กินไม่เป็น แต่ในเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องกินให้เป็นอยู่ดี


สิตางศุ์มองไปรอบๆร้านที่ถูกตกแต่งในโทนสีขาวสบายตา มีลูกค้าอยู่ไม่กี่โต๊ะยิ่งทำให้เป็นส่วนตัว เพลงคลอเบาๆเป็นภาษาที่ไม่คุ้นหูนัก หากได้ยินเพลงนี้ที่อื่น ก็คงไม่รู้ว่าเป็นเพลงของประเทศอะไร แต่ในเมื่อเมนูในมือเขียนว่า ‘อาหารเวียดนาม’ เลยพอจะเดาเอาว่าเพลงที่เปิดก็คงเป็นเพลงเวียดนามเช่นกัน


“เอาแหนมเนือง กุ้งพันอ้อย หมูยอหนัง กระยอทอด ขนมจีนจานนึง ข้าวเกรียบปากหม้อญวน แล้วก็ต้มเส้นถ้วยนึงแล้วกัน อ้อ...น้ำเปล่าด้วย” ในขณะที่คนเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกเอาแต่สนใจรอบตัว เสียงสั่งอาหารก็ดังขึ้น เจียระไนสั่งรวดเดียวจบไม่ถามผู้ร่วมโต๊ะใดๆทั้งสิ้น ทำเอาร่างโปร่งต้องวางเมนูในมือลง เพราะถือต่อไปก็เท่านั้น ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะสั่งเผื่อเขาด้วยแล้ว


พนักงานจดรายการอาหารเรียบร้อยก็เก็บเมนูจากไป ทิ้งนิสิตหนุ่มสองคนเอาไว้ที่โต๊ะ ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เอนหลังพิงพนักอย่างสบายๆ ในขณะที่คนที่เขาพามาดูจะเกร็งๆกับการร่วมโต๊ะในวันนี้ ทั้งๆที่เมื่อวานยังจดๆจ้องๆเขาตอนกินข้าวในตรอกนั่นอยู่เลย


“ร้านนี้ เจ้าของเป็นคนญวนแท้ๆ รับรองว่าอร่อย” คนพามาเอ่ยปาก ทำเอาดวงตาคู่สวยละจากบรรยากาศรอบตัวมามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม


“มึงมากินบ่อยเหรอ”


“อือ บ้านกูเป็นญวนอพยพน่ะ แอบหนีเข้ามา เวลาคิดถึงบ้านเกิดก็ต้องมาหากินอะไรแบบนี้ จะทำกินที่บ้านเองก็ไม่ได้ เดี๋ยวข้างบ้านรู้ เอาไปฟ้องตำรวจ มีหวังถูกส่งกลับประเทศแน่เลย” คนพูดพูดด้วยหน้าตาจริงจัง สิตางศุ์ถึงกับตาโตในวินาทีนั้น และปฏิกิริยาแบบนั้นก็ทำเอาคนที่ทำหน้าจริงจังถึงกับหัวเราะออกมา


“มึงทำหน้าตลกว่ะโซ่ ไม่เห็นเหมือนที่กูได้ยินมาเลยว่ามึงเข้าถึงยาก”


“กูไม่ได้เข้าถึงยาก” ร่างโปร่งแย้ง รู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่ถูกหลอกเพราะหน้าตาจริงจังของคนเล่า


“แต่ก็ไม่มีใครเข้าถึงมึงไม่ใช่เหรอ ทั้งๆที่พวกมันอยากเข้าหาจะตาย”


“พูดอะไรน่ะ ไม่เห็นเข้าใจ” เจียระไนยักไหล่ทีนึง หน้าตาเหมือนเป็นเรื่องไม่น่าสนใจ


“มึงไม่ต้องรู้หรอก”


เป็นอันว่าคุยกับหมอนี่ต้องทำใจเอาไว้หนึ่งอย่างว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่อง สิตางศุ์ถอนหายใจเบาๆ แล้วตั้งคำถามใหม่


“แล้ววันนี้...ทำไมอยู่ดีๆถึงพามา”


ดวงตาคมกริบเหลือบมาสบกับดวงตาคู่สวยของเจ้าของคำถาม ใครๆก็พูดว่าสิตางศุ์หน้าตาดี และที่ดีที่สุดของใบหน้านี้คือดวงตาคู่นี้ รูปตายาวแต่ไม่เรียวนัก ล้อมกรอบด้วยขนตาเป็นแพ ตรงกลางคือนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่ทอประกายใสเหมือนเครื่องประดับที่มีค่า เจือด้วยแววซื่อบริสุทธิ์


“เมื่อวานกูแกล้งมึงมากไปหน่อย...”


“ก็เลยจะขอโทษเหรอ?”


“เปล่า” ร่างสูงตอบไว ไม่แม้แต่จะคิดสักนิด แถมยังทำสีหน้าเหมือนไม่ทุกข์ร้อนกับสิ่งที่ตัวเองทำเมื่อวานด้วยซ้ำ


“...แค่จะให้เวลามึงได้ถามต่อ อยากรู้ไม่ใช่เหรอ เรื่องนิตาน่ะ” พอวกกลับมาที่เรื่องของหญิงสาวเพียงคนเดียวที่อยู่ในใจของสิตางศุ์มาเนิ่นนาน ร่างโปร่งก็นิ่งไปเล็กน้อย


“มึงอยากถามอะไรก็ถามมา สลับกัน มึงถามกู กูตอบ แล้วกูก็เป็นฝ่ายถามมึงบ้าง ให้มึงตอบ แฟร์ๆ”


ดวงตาคู่สวยมีแววงุนงงแล้วย้อนถาม “ถามกู? ถามอะไรวะ”


“ถามเรื่องของมึงไง”


“เรื่องของกู? แล้วเรื่องของกูมันเกี่ยวกับเรื่องนิตายังไงอ่ะ”


“ก็ไม่เกี่ยว”


ยิ่งคุยยิ่งงง สิตางศุ์งงจนเกาหัวตัวเอง “อ้าว แล้วจะอยากรู้เรื่องของกูไปทำไมล่ะ”


ดวงตาคมเหลือบมองไปทางอื่น กวาดมองไปรอบๆร้าน แล้วกลับมาจ้องคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอีกครั้ง ก่อนจะขยับตัวขึ้นมาเท้าแขนลงกับโต๊ะ


“มีคนจะจีบมึง เลยฝากกูมาถาม”


คนฟังได้แต่กะพริบตาปริบๆเพราะคาดไม่ถึง เรียนมาจนถึงปี 4 แต่เขาไม่เคยถูกใครจีบมาก่อน ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่ามีคนสนใจ ยิ่งไปกว่านั้นคือชีวิตเรียบง่ายวนเวียนอยู่แค่ห้องพัก คณะ มหาวิทยาลัยและห้างใกล้ๆ แล้ว...จะมีใครมาชอบเขาได้ยังไง...


“เอาล่ะ เมื่อกี้มึงถามกูแล้ว และกูก็ตอบมึงแล้ว คราวนี้ตากูถามมึงบ้าง” เจียระไนตัดบท ทำเอาคนที่นั่งตะลึงรู้สติในวินาทีนั้น


“เดี๋ยวสิ...” สิตางศุ์กำลังจะค้าน แต่ร่างสูงไม่สนใจเพราะยิงคำถามแรกอย่างรวดเร็ว


“มึงชอบอาหารเวียดนามรึเปล่า” คนถูกถามอ้าปากค้าง ก่อนจะสบถดังลั่นในใจ


...ถามอะไรของมึงเนี่ย?!!!!!...

...............................


‘มึงชอบอาหารเวียดนามรึเปล่า’

‘กล้วยแขกเมื่อเช้าเป็นไง’

‘พรุ่งนี้มีเรียนมั้ย’

‘ห้ามโกหก ถ้ากูรู้ว่ามึงโกหกเรื่องไหน กูเอาเรื่องมึงแน่’ เป็นอันว่าเจียระไนถามแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วยังมีหน้ามาขู่ตอนท้ายอีกต่างหากว่าห้ามโกหก สิตางศุ์ต้องตอบความจริงทุกอย่าง

‘ก็ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ มันก็อร่อยดี แต่ก็ไม่ค่อยได้กิน’

‘ไม่ชอบกินของทอด กล้วยแขกก็ด้วย’

‘พรุ่งนี้ไม่มีเรียน’


“กูไม่ได้โกหกเลยสักข้อ แต่กูถามได้มั้ยว่าคนที่ให้มึงมาถามกูเขาเป็นใคร”


แล้วสุดท้าย คำถามที่คิดจะว่าจะถามเรื่องของนิตาก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่องของบุคคลปริศนาแทน


เจียระไนยกยิ้มที่มุมปากแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เหลือบตาลงมองอาหารหลายอย่างที่พร่องไปมากแล้ว ก่อนจะชี้นิ้ววนๆรอบอาหาร


“มึงชอบอันไหนที่สุด” สิตางศุ์มองคนจงใจเปลี่ยนเรื่องแล้วถอนหายใจ


“มึงยังไม่ตอบคำถาม”


“เพราะกูคิดว่าไม่จำเป็นน่ะสิ มึงชอบนิตา มึงก็ควรสนใจแต่เรื่องนิตา ส่วนที่ว่าใครจะมาชอบมึง อันนั้นก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับมึงตรงไหน”


“จะไม่เกี่ยวกับกูได้ไงล่ะ เขามาชอบกู อย่างน้อยเขาก็ควรได้รู้ว่า...ว่ากูชอบคนอื่นอยู่...”


ประโยคหลังนั้นเสียงเบาแผ่ว สิตางศุ์สงสารคนที่มาชอบเขา การแอบชอบใครสักคน โดยที่ไม่มีโอกาสจะทำให้มันกลายเป็นความจริง คงทั้งสุขทั้งเศร้าในคราวเดียวกัน


ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าขาวของคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม แล้วรอยยิ้มน้อยๆก็ปรากฏขึ้นมา


“ยิ้มอะไร” เพราะอยู่ดีๆเจียระไนก็มองเขาแล้วยิ้ม สิตางศุ์จะปล่อยผ่านเหมือนอีกฝ่ายไม่ได้ยิ้มก็ไม่ใช่ หมอนี่เป็นมนุษย์กวนประสาท มักจะชอบยิ้มมุมปาก ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ แต่เวลานี้...ใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงไม่ได้มีวี่แววเหนือกว่าแต่อย่างใด สายตาที่มองมา รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้า เป็นสองอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน


ทว่า...พอทักออกไปแล้วก็เหมือนเจ้าของสายตาอ่อนโยนและรอยยิ้มจางจะรู้สึกตัว ทั้งสองอย่างหายวับราวกับสั่งได้ ก่อนที่เจียระไนจะเอื้อมมือไปหยิบกุ้งพันอ้อยมากินโดยไม่ตอบอะไร


“ทำไมไม่ชอบตอบคำถามกู”


คนถามแล้วไม่ได้คำตอบชักจะหงุดหงิด ดวงตาคมเหลือบมองคนบ่น ดวงหน้าขาวมีแววไม่ถูกใจเท่าไรนักกับการที่เขาทำเมินไม่ยอมตอบ สีหน้าแบบนี้มีให้เห็นน้อยนับครั้งได้ เพราะสิตางศุ์ที่ใครต่อใครรู้จักคือคนใจดี ใจเย็น และมักจะยิ้มให้คนรอบข้างเสมอ


"มึงสนใจแต่เรื่องนิตาก็พอ ไหน ทวนซิ วันนี้รู้อะไรเกี่ยวกับนิตาบ้าง” ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองคนแซวเสียงสดใส แล้วทำเมินไม่ตอบบ้าง ก้มหน้าก้มตาทานอาหารราวกับจะไม่พูดด้วยอีก


“อ่ะ ไม่พูดก็ไม่เป็นไร งั้นกูทวนให้ มึงอยากรู้ว่าตอนกูเลิกกับนิตา นิตาร้องไห้รึเปล่า นิตาเสียใจมั้ย กูได้โทร.ไปถามเพื่อนของนิตาบ้างรึเปล่า ซึ่งกูก็ตอบทุกข้อรวมกันว่ากูไม่รู้ กูเลิกก็คือกูเลิก ไม่รื้อฟื้น”


“มึงมันใจดำ” ทั้งสีหน้า ทั้งน้ำเสียงบอกให้รู้ว่าสิตางศุ์ไม่พอใจกับคำตอบของเขาเลย ทว่าเจียระไนกลับยกยิ้มที่มุมปาก


“แล้วจะให้กูโทร.ไปถามเพื่ออะไร? ดีไม่ดีตัดกันไม่ลง ยื้อต่อไปก็มีแต่เสียเวลา” ท่าทางไม่ได้สนใจกับความรู้สึกของผู้หญิงที่เคยคบหากันฉันคนรักยิ่งทำให้ร่างโปร่งอัดอั้น


“มึงรักนิตาจริงๆรึเปล่า” ดวงตาคมกริบเหลือบขึ้นจ้องเจ้าของคำถาม นัยน์ตาสีดำสนิทนั้นนิ่งราวกับคลื่นในทะเลที่กำลังสงบ ทว่าไม่รู้ว่าเบื้องหลังความสงบนั้นจะมีพายุใดๆก่อตัวหรือไม่


“มึงต่างหาก โซ่”


“...มึงต่างหากที่รักนิตาจริงๆรึเปล่า”


“...ถ้ามึงอยากจะเป็นแฟนนิตา มึงต้องยอมรับหัวใจมึงก่อน ว่ามึงรักเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่สงสารหรือเอ็นดู”


และประโยคนั้น ก็ทำเอาคนฟังนิ่งงัน


...ยอมรับ...อย่างนั้นหรือ...


...รักจริงๆ...อย่างนั้นหรือ...


น่าแปลก ที่คำถามพวกนี้ดังก้องอยู่ในหัวของเขา แต่กลับไม่มีคำตอบจากหัวใจดังกลับมาเลย

.........................................

ร่างสูงโปร่งก้าวเท้าตามหลังเจียระไนลงมาจากร้านอาหารเวียดนามบนชั้นสอง และยังคงเป็นผู้ชายร่างสูงตัวใหญ่ผิวขาวเหลืองที่เดินนำอยู่ข้างหน้า สิตางศุ์เหลือบสายตาขึ้นมองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินนำ คำพูดของเจ้าของแผ่นหลังนี้ยังคงดังอยู่ในสมองของเขา


‘...ถ้ามึงอยากจะเป็นแฟนนิตา มึงต้องยอมรับหัวใจมึงก่อน ว่ามึงรักเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่สงสารหรือเอ็นดู’


แล้วคนที่ไม่เคยคบหากับผู้หญิงอย่างคนรักจะรู้ได้อย่างไรว่าจะต้องถามหัวใจตัวเองแบบไหน สิตางศุ์ไม่รู้ ทั้งยังมืดแปดด้าน ตอนนี้นิตาโสด ส่วนเขาก็เชื่อมาตลอดว่าตัวเอง ‘รัก’ หญิงสาว แต่...จู่ๆก็เกิดไม่มั่นใจขึ้นมา


“โจ๊ก...” เขาเรียกคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าเอาไว้ เจ้าของชื่อหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง ร่างโปร่งเลยก้าวเท้าเข้าไปยืนใกล้


“ที่มึงพูด...เอ่อ...ที่ว่าให้ยอมรับหัวใจ...เอ่อ...ทำยังไงวะ” สีหน้าคิดไม่ตก และเต็มไปด้วยความประหม่าทำเอามุมปากของคนมองยกขึ้นเล็กน้อยอย่างอดไม่ไหว แต่ก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะเจือจางมันให้หายไปจากหน้าเขาให้เร็วที่สุด


...ยิ้มไม่ได้ ไอ้โจ๊ก ยิ้มไม่ได้...


...แต่...หน้ามันน่ารักฉิบหาย!!...


“มึง...สอนกูได้รึเปล่า” คนขอความช่วยเหลือไม่เพียงแค่ขอด้วยคำพูด นัยน์ตาสีน้ำตาลใสแจ๋วคู่นั้นก็กำลังจ้องมองมาที่เขาราวกับขอร้อง เจียระไนต้องเบี่ยงสายตามองไปทางอื่น ก่อนจะตอบสั้นๆในคอ


“อือ”


“แล้ว...เอ่อ...ต้องทำยังไง”


“ไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้กูมีนัดน่ะ” แล้วร่างสูงก็ทำเป็นยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาเหมือนรีบมาก ทั้งที่จริงๆแล้ว เขาไม่มีธุระต้องไปไหน แต่...เรื่องอะไรจะช่วยมันง่ายๆล่ะ


...อ้อนกูอีกนิดสิโซ่ อ้อนกูอีก...


ทว่าสิตางศุ์กลับรู้สึกเหมือนตัวเองเสียมารยาทรบกวนเวลาอีกฝ่าย แม้จะเสียดายแต่ก็ตัดใจได้อย่างรวดเร็ว


“งั้นเหรอ งั้นไม่เป็นไร...ไว้วันอื่นก็ได้”


คนกำลังรอให้อ้อนถึงกับชะงักกึก รู้สึกเหมือนลูกแกะลอดออกจากอุ้งมือหมาป่าไปได้ง่ายๆเพราะความซื่อของมันเอง แต่ระดับหมาป่าเจียระไน...ยังไงก็ต้องกระชากหูแกะกลับมาอยู่ในอุ้งมือตามเดิม!!


“มึงเอาเบอร์มาแล้วกัน! ว่างเมื่อไรจะได้นัด” ลูกแกะซื่อๆเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำตาลมองคนขอเบอร์ ก่อนจะตัดสินใจล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ดวงตาคมเหลือบมองเลยทันเห็นภาพที่ถูกตั้งเป็นภาพพื้นหลังของหน้าจอโทรศัพท์


“ที่ไหนน่ะ” เขาถาม ทำเอาเจ้าของโทรศัพท์ต้องเงยหน้ามอง


“หมู่บ้านมรดกโลก อยากไป ก็เลยตั้งรูปเอาไว้ จะได้เป็นแรงบันดาลใจ” คนถามพยักหน้ารับรู้สั้นๆ ก่อนจะบอกเบอร์ตัวเองให้อีกฝ่ายโทร.หา เขาหยิบขึ้นมาดูแค่วูบเดียวก็ตัดสายไปโดยไม่ให้อีกฝ่ายเห็นหน้าจอของเขาแม้แต่นิดเดียว แล้วถึงปล่อยให้สิตางศุ์เดินจากไป


ดวงตาคมทอดมองแผ่นหลังของร่างโปร่งบางที่เดินหายลับไปกับฝูงชนแล้ว วันนี้เป็นวันที่สอง ที่เขาได้มองตามแผ่นหลังของคนคนนี้ ปลายนิ้วพิมพ์ข้อความส่งหาที่ปรึกษากิตติมศักดิ์อย่างรวดเร็ว


‘วันนี้กูเลี้ยงอาหารญวน‘

‘มึงถามความสมัครใจก่อนเลี้ยงมั้ย’

‘ไม่ถาม แดกได้ก็แดก แดกไม่ได้ก็ต้องแดกให้ได้’

‘โรแมนติกมากเลยนะครับ แหมมมมมม’

‘อ้อ กูได้เบอร์มาแล้วนะ’

‘เช็ดดดดดด มึงบังคับบีบคอแล้วเอามีดจ่อใช่มั้ย บอกมา’

‘ขอดีๆเหอะ’

‘มึงขอดีๆเป็นด้วยเหรอ ที่กูรู้มาเนี่ย มึงกวนตีนเพื่อนกูมากนะ’

‘งั้นมึงก็รู้เอาไว้ ว่ากูไม่ได้กวนตีนทุกคน เพื่อนมึงเป็นคนพิเศษ ให้มันระลึกความพิเศษเอาไว้ด้วย’


เจียระไนกดส่งข้อความสุดท้ายแล้วปิดแอพลิเคชั่นลงเพราะคาดได้ว่าอีกฝ่ายคงส่งข้อความมาด่าอีกหลายประโยค แต่เวลานี้เขาอารมณ์ดีเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงกับมัน ภาพพื้นหลังของหน้าจอปรากฏขึ้นแทนเมื่อไม่มีการเปิดแอพลิเคชั่นใดๆแล้ว ภาพนั้นไม่ใช่ทะเล น้ำตก หมา แมว แสงเหนือแสงใต้ แต่เป็นตึกคณะและต้นไม้ใหญ่ ใต้ต้นไม้มีโต๊ะม้าหิน และที่โต๊ะม้าหินนั้น...มีใครบางคนนั่งหันหลังอยู่เพียงลำพัง


ใครบางคน...ที่เขาทำได้เพียงอยู่ห่างๆมาตลอดเกือบ 2 ปี

ใครบางคน...ที่เขาทำได้แค่มองและแอบถ่ายรูปมาเก็บเอาไว้

ใครบางคน...ที่เขายอมลงทุนด้วยความอดทนทั้งหมดที่มี

เพียงเพื่อวันนี้...วันที่เขาจะได้เข้าไปอยู่ใกล้สิตางศุ์ และทำให้อีกฝ่ายได้รับรู้เรื่องราวของเขา ตัวตนของเขา และความรู้สึกนึกคิดของเขา


...ถึงเวลาแล้ว โซ่...ถึงเวลาแล้ว...ที่มึงจะได้รู้สักทีว่าโลกของกูเป็นยังไง...


ติดตามตอนต่อไป (พุธหน้าค่ะ)


โจ๊กน่าสงส้ารรรรรรร แค่ตอนแรกตอนเดียวก็ถูกตราหน้าไปแล้วว่าจะต้องมาสายแบดบอย บัวไม่อยากสปอย แต่ก็อยากให้ทุกคนเป็นกลาง(?)กับโจ๊กบ้าง เอาเป็นว่าโจ๊กน่าสงสารค่ะ (ซื้อของกินมาง้อเขาครั้งแรก ก็เฟลเพราะเขาไม่กิน น่าสงสารมั้ย น่าสงสารนะ กร๊ากกกก)


ส่วนใครที่ว่างานนี้มีขายเพื่อน บอกเลยว่าถ้าขายคนดีๆ(และซื่อบื้อ)แบบโซ่ได้ ก็ไม่รู้จะได้สักกี่บาทนะคะ บัวให้สองร้อยขาดตัว (ความหล่อเต็มสิบ ความเรียนเก่งเต็มสิบ ความบื้อติดลบร้อยค่ะ บวกลบคูณหารแล้วจ่ายสองร้อยพอสำหรับโซ่ ฮา)


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ กำลังใจและพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ


เจอกันตอนหน้า (สปอย: เตรียมผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาโจ๊กด้วยนะคะ ตอนหน้าโจ๊กน่าสงสารมากค่ะ บอกเลยยยยยยย)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-03-2017 21:28:07
หูย พ่อทูนหัววววววว
ไม่รู้ว่าจะสงสารหรืออะไรดี
รอดูความน่าสงสารของโจ๊กตอนหน้านะคะ 555

ขอบคุณพี่บัวนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 22-03-2017 21:45:57
ความซืีอนี่แหล่ะฮา กว่าจะทำให้รู้ตัวได้คงเหนื่อยหอบ แต่อดทนวางแผนมาตั้งสองปี แค่นี้เล็กน้อย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 22-03-2017 21:47:47
ชอบพระเอกแนวนี้มากกกก
แข็งนอก กวนโอ๊ย แต่จิงๆ อ่อนโยน

วุ้ยยยย สู้ๆ เค้านะอินุ้งโจ๊กกกก พี่เป็นกำลังใจให้ฮ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-03-2017 21:48:31
นี่จีบติดได้เรียกว่าปาฎิหารย์นะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 22-03-2017 22:09:24
โจ๊กกกกก ทำแกมีความละมุ่น(?)อยู่ด้วย  ฮือออออออ สองปีกับการทำตัวเป็นคนแอบดู  :hao6: :hao6: :katai4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: moonjelee ที่ 22-03-2017 22:20:43
นอนยิ้มคนเดียวในเวลาสี่ทุ่มครึ่งไม่ผิดใช่มั้ยคะ
เขินม้ากมากกกกกก น้องโซ่คนซื่อ พี่โจ๊กขี้ซึน
กลั้นยิ้มกลั้นฟินจนจะบ้าแล้ว น้องซื่อมาก ฮือ
พี่โจ๊กนี่มันเจ้าคิดเจ้าแผนการจริงๆ รอดูฮาวทู
ที่จะสอนน้องนะคะ แอร่ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 22-03-2017 22:24:33
โอย...โซ่ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย ไม่ได้ระแคะระคายเลยว่าเจ้าหมาป่าชื่อว่าโจ๊กมันกำลังวางแผนจะเคลมเราอยู่นะ? แต่จะว่าไปก็สงสารโจ๊กนะคะ การจะทำให้โซ่รู้ตัวนี่ก็น่าจะยากมากๆ ลองว่าบอกออกไปตรงๆ ว่าชอบก็ไม่รู้ฮีจะเชื่อหรือเปล่า เผลอๆ จะมาคิดว่าล้อเล่นอีก

ขอบคุณมากๆ ค่ะคุณบัว รอตอนต่อไปเช่นเคยค่า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: HuskyLover ที่ 22-03-2017 22:30:06
โห...นี่แอบซุ่มมา 2 ปีเลยเหรอเนี่ย แสดงว่าไม่ได้รักนิตาหรอก
เดาว่าความสัมพันธ์ของโจ๊กกับนิตาน่าจะมีบางอย่างเกี่ยวกับโซ่
รอลุ้นตอนต่อไปครับ

อ้อ มีคำแนะนำนิดหน่อย พอดีเห็นมีประโยคยาวๆ หลายประโยค
อยากเสนอให้ย่อยประโยคสั้นลง น่าจะช่วยให้คนอ่านอ่านง่ายขึ้นครับ เช่น

มือขาวที่กำลังตักมักกะโรนีเข้าปากชะงักไปทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาพบว่าคนที่จู่ๆก็มาร่วมโต๊ะกับเขาคือต้นเหตุของความหงุดหงิดเมื่อวานนี้
-> มือขาวที่กำลังตักมักกะโรนีเข้าปากชะงัก ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาก็พบผู้ร่วมโต๊ะใหม่ เขาผู้นี้คือต้นเหตุของความหงุดหงิดเมื่อวานนี้

อลงกตและพฤกษาเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนรักที่ค่อนข้างจะรักการเรียนมาเข้าเรียนตอนช่วงหลังพัก
-> อลงกตและพฤษาเลิกคิ้วเล็กน้อย คงแปลกใจที่เห็นเพื่อนรักเข้าเรียนตอนช่วงหลังพัก ทั้งที่จริงค่อนข้างจะรักการเรียน

เผื่อจะเป็นประโยชน์ครับ :)

HuskyLover
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 22-03-2017 22:36:59
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-03-2017 22:52:28
พ่อยอดขมองอิ่มของเจ้ แอบมองเค้ามา 2 ปี

แถมยังใช้ของกินง้อไม่สำเร็จอีก 5555

สู้ ๆ นะน้องนะ ดูท่าทางแล้วอีกนานกว่าจะได้โซ่มาคล้องคอ

ซื่อไปอีกกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 22-03-2017 22:54:09
โซ่น่ารักดี
แต่โจ๊กก็ท่าทางน่ารักหลบในเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 22-03-2017 23:01:50
โจ๊กกกกกกกกกกกกก ชอบโจ๊กค่ะ งุ้ย
ไหนๆ คุณบัวสปอยล์ขนาดนี้ เรารอดูโจ๊กที่น่าสงสารเลยค่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-03-2017 23:07:16
โจ๊กแอบมองโซ่มา 2 ปีเลยหรอ
แบบนี้ก็ต้องรู้มาก่อนแล้วสิว่าโซ่ชอบนิตาอ่ะเลยไปคบกะนิตาใช่มะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 22-03-2017 23:41:56
ละมุนมากกกก :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-03-2017 00:50:00
ถึงโซ่จะเป็นลูกแกะซื่อ ๆ แต่คงไม่บื้อเหมือนหมาป่ามังคะ
แอบชอบเขามาสองปี คงคอยกีดกันคนอื่นสิท่าไม่ว่าหญิงว่าชาย
ถ้าโซ่กล้ากว่านี้เดินเข้าไปหานิตาเองเลย อิโจ๊กคงดิ้นพล่าน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: i c u ที่ 23-03-2017 00:53:40
หลังจากนายเอกแสนดีมาทุกเรื่องแล้ว ในที่สุดก็มีพระเอกที่เสนดีมาจนได้ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-03-2017 01:52:45
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: saccarrum ที่ 23-03-2017 08:21:15
ฮือออออ ชอบมาก ชอบทั้งคู่เลย โซ่น่ารัก โจ๊กถึงจะกวนๆหน่อยแต่ก็น่ารัก
อยากอ่านต่อแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 23-03-2017 09:46:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 23-03-2017 10:35:36
ตลกเข้าสู้สินะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 23-03-2017 12:18:02
อื้อหือ...นี่ยอมตามเลย
รู้สึกได้ว่าพระเอกมากมาเลย
แอบคิดถึงพระเอกทุกคนที่ผ่านมา...ท่าทางคนนี้ก็ไม่หนีกันเท่าไหร่หรอกเนาะ^^
ยอมได้ก็ยอม มีเอ็ดบ้างนิดหน่อย โดนอ้อนเล็กๆ น้อยๆ ก็ใจอ่อนแล้ว อิอิ

อยากรู้จังน้า...จะเก็กสอนให้รักไปได้อีกนานแค่ไหน ฮิ้วววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-03-2017 15:02:27
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 23-03-2017 19:38:30
นี่โจ๊กวางแผนนานยังคะ ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-03-2017 23:59:33
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 24-03-2017 02:23:01
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 24-03-2017 07:03:53
เราว่าที่โจ๊กนัดในที่ต่างๆมันต้องเป็นแผนให้โลกรู้แน่ๆเลย 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 24-03-2017 08:08:57
เราว่านิตาคงไม่ใช่คนเรียบร้อยน่ารัก นิสัยดีหรอก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 24-03-2017 20:26:32
โจ๊กแอบน่ากลัวนะ 555 สตอกเกอร์ชัดๆ
ซอโซ่ช่างน่ารักตะมุตะมิจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-03-2017 03:15:38
จะสงสารใครดี
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 25-03-2017 08:32:07
รอติดตามมมม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 25-03-2017 09:01:11
แอบมองยังไงไม่รู้ว่าเค้าไม่กินของทอดนิห่ะโจ๊ก
แต่เรื่องคนละภาคอะเนอะ
เราจะสงสารนายตอนหน้าแล้วกันนะ
ตอนนี้ขอบอกว่าน่ากวนตี-อีกครั้ง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-03-2017 21:30:33
โถววววววว โจ๊กเอ๊ยยยย ทำเป็นเด็กน้อยริรัก แกล้งดึงผมคนที่ชอบ เพราะไม่รู้จะแสดงออกอย่างไร

โซ่ก็อาการหนักยิ่งกว่า เด็กน้อยไร้เดียงสาของแท้

มันจะรักกันได้ใช่ไหม?
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-03-2017 21:29:00
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 3


เจียระไนเหลือบตามองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางอยู่ข้างกายอย่างหงุดหงิด ในขณะที่เสียงอาจารย์จากหน้าห้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ทว่าเขาไม่มีกระจิตกระใจจะฟังเลยสักนิด ในหัวคิดแต่หาเหตุผลว่าทำไมคนที่ได้เบอร์เขาไปหลายวัน ถึงยังเงียบเป็นเป่าสากแบบนี้?


...เอาเบอร์กูไปบูชารึไงวะ?!! ทำไมไม่โทร.มาสักที!!!!...


“ทักไปก่อนสิมึง” เสียงกระซิบของเพื่อนซี้นามว่าปราการดังขึ้น ชายหนุ่มเหลือบตาไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้หมอนี่ตอนแรกมันก็ตั้งใจเรียนหรอก แต่ช่วงสิบนาทีให้หลัง รู้สึกมันจะเสนอหน้ามาสอดส่องเรื่องของเขาตลอด


“ไม่”


“เอ้า! แล้วมึงจะรอให้มันโทร.หามึงก่อนเนี่ยนะ?!”


“ใช่”


“เอาความมั่นใจมาจากไหนว่ามันจะโทร.หามึงก่อนวะ ไอ้โจ๊ก”


“ถ้ามันไม่โทรมาหากูก่อน กูก็ไม่โทรไป”


“เชี่ย! เล่นตัว!!” ปราการด่าเพื่อนไปที แล้วหันไปสนใจอาจารย์ที่สอนต่อ ปล่อยให้เจียระไนนั่งมองโทรศัพท์มือถือต่อไป ทว่าก็ยังไร้วี่แววใดๆจากคนที่เขารอ


คาบเช้าของภาควิชาการปกครองเลิกตอนเที่ยง และแน่นอนว่าไม่มีการติดต่อใดๆจากคนที่ร่างสูงรอ ใบหน้าหล่อเหลามีแววหงุดหงิด หัวคิ้วขมวดมุ่น ในขณะที่ดวงตาคมเรียวสะท้อนความไม่พอใจเมื่อตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ที่จ้องมาตั้งแต่เข้าเรียนลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินตามเพื่อนสนิทออกจากห้อง


...เรื่องอะไรจะโทรไปก่อน...


... ‘ไอ้โซ่’ ต่างหากที่ต้องโทรมา!...


“เฮ้ย กูว่าไม่ต้องรอโทรศัพท์แล้วว่ะ” เสียงของปราการดังขึ้น ทำเอาเจียระไนต้องหันไปมอง เพื่อนซี้เลยโบ้ยไปที่ชายหนุ่มร่างผอมโปร่งที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองของอาคารเรียน


...อ้อ...วันนี้มันก็มีเรียนคาบเช้านี่เอง แถมเรียนตึกเดียวกันด้วย แต่มันอยู่ชั้นบน ส่วนเขาเรียนชั้นล่าง...


เจียระไนจับจ้องไปที่ร่างขาวในชุดนิสิตเรียบร้อย ผิวขาวๆของมันขาวจัดชนิดที่แทบจะกลืนไปกับสีเสื้อด้วยซ้ำ แล้วไหนจะผมสีน้ำตาลที่ตัดละต้นคอและพลิ้วไปมายามก้าวลงบันไดนั่นอีก แค่เห็นก็อยากยื่นมือไปจับผมมันดูสักที


...ผมมันจะนิ่มมั้ยนะ? ถ้าเอามาพันนิ้วเล่นจะสนุกรึเปล่า? แล้วถ้าไล้นิ้วมาที่แก้มมันล่ะ จากแก้มขาวๆ มาที่ริมฝีปากแดงๆนั่น...กดนิ้วลงบนกลีบปากเบาๆให้เผยอออก จากนั้นก็...ค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปในโพรงปาก...


“หน้ามึงหื่นมากอ่ะไอ้โจ๊ก” เสียงของเพื่อนซี้ ทำเอาคนที่เอาแต่จับจ้องดวงหน้าขาวๆของคนที่กำลังลงบันไดต้องหันมามองเพื่อน แล้วกดเสียงต่ำ


“เสือก”


“อ้อ ไม่ให้กูเสือก งั้นกูไม่ช่วยมึงปิดล่ะ เดินไปบอกมันเลยดีกว่า”


“เสือกมาก” มือใหญ่คว้าคอเสื้อเพื่อนเอาไว้ แม้พวกเขาจะยุกยิกอยู่ไม่สุข แต่แถวนี้เต็มไปด้วยนิสิตที่เพิ่งออกจากห้องเรียน จ้อกแจ้กจอแจและเซ็งเเซ่จนแทบไม่มีใครสนใจคนอื่นเสียเท่าไหร่ รวมถึงคนที่เดินลงมาจากชั้นสองก็คงไม่ทันสังเกตเจียระไนและปราการด้วย ทว่า...ใครบางคนเห็น...


“ไอ้โจ๊กนี่หว่า” พฤกษาเพื่อนสนิทของสิตางศุ์ชี้นิ้วมาที่พวกเขาแล้วโบกมือทักทาย สิตางศุ์เลยพลอยหันมามองด้วย และได้สบตากับดวงตาคมกริบคู่นั้นพอดี


“หมู่นี้เจอมันบ่อยแหะ” แม้จะพูดแบบนั้น แต่พฤกษาก็เดินนำฝ่าฝูงชนเข้าไปหา


สามนิสิตแห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศซึ่งมีเรียนคาบเช้าที่ชั้นสองเดินแหวกฝูงชนมาหาสองเพื่อนร่วมรุ่นแห่งภาควิชาการปกครองซึ่งเรียนคาบเช้าที่ชั้นหนึ่ง


“ไง เชี่ยปาร์ค ตั้งแต่น้องเบลล์ไม่ได้เป็นผู้จัดการชมรมกู มึงก็หายหัวไปจากสนามเลยนะ” อลงกตซึ่งเป็นสมาชิกชมรมฟุตบอลหันมาทักทายปราการอย่างสนิทสนม แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้อยู่ชมรมเดียวกับเขา แต่สามารถพบหน้าค่าตามันได้บ่อยๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้น้องเบลล์ปีสามซึ่งเมื่อปีที่แล้วอยู่ปีสองมาเป็นผู้จัดการชมรมให้ มันก็เลยถลามาเฝ้าข้างสนามดูหน้าน้องเบลล์บ่อยๆ แต่ปีนี้น้องเบลล์ขึ้นปีสามแล้ว ก็เลยขอถอนตัวเพราะเรียนหนัก ปราการก็ขอถอนตัวจากข้างสนามเช่นกัน


“ที่ไหนไม่มีผู้หญิงสวย ที่นั่นไม่ต้องถามถึงกู”


“แล้วเสือกเรียนปกครอง อยากเจอของสวยๆงามๆมึงต้องมาภาคฯกูครับ ไออาร์ปีหนึ่งแจ่มทุกคน!!” พฤกษาหนึ่งในสมาชิกเพื่อนร่วมอุดมการณ์ชอบสาวสวยรีบออกตัวอวดภาควิชาตัวเอง ปราการหัวเราะเบาๆ เหลือบมองเพื่อนสนิทที่ยืนเงียบๆ แต่เหมือนจะเห็นมุมปากมันยกยิ้มเล็กน้อย


“กูก็ว่างั้นล่ะ ไออาร์มีแต่ของสวยๆงามๆ จริงมั้ยไอ้โจ๊ก”


“กูหิวข้าว” เจียระไนไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนแต่พูดเรื่องอื่นแทน ไม่ได้สนใจว่าก่อนหน้านี้ใครจะคุยประเด็นอะไรกับใคร วงสนทนาเกิดเดธแอร์ชั่ววูบ ก่อนที่อลงกตจะพูดขึ้นมา


“เออ พวกกูก็กำลังจะไปโรงอาหาร ไอ้แพทบ่นหิวตั้งแต่สิบโมงครึ่ง” แล้วสามเพื่อนซี้แห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ก้าวเท้าเดินนำออกจากตึกไปยังโรงอาหาร พฤกษาเดินเถียงคอเป็นเอ็นว่าเมื่อเช้ากินน้อยเลยหิวไว ส่วนสิตางศุ์เดินเงียบๆตามหลัง เจียระไนปล่อยให้พวกนั้นเดินนำ ก่อนจะหันมาทางปราการแล้วขู่เรียบๆแต่เสียงจริงจัง


“ถ้ามึงเสือกมากแบบเมื่อกี้นี้ล่ะก็...” คนเป็นเพื่อนสนิทที่รู้หัวรู้หางกันดียกยิ้มกวนประสาทแล้วยักไหล่ให้ดูทีหนึ่ง


“กูไม่อยากจะบอกมึงเลย โจ๊ก ว่ากูทำตัวเสือกได้มากกว่านี้อีก” แล้วมันก็หันไปตะโกนเรียกเพื่อนร่วมคณะสามคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้า “...ไอ้กต ไอ้แพท ไอ้โซ่ กูไปด้วยดิ!” จากนั้นก็ถลาไปกับเพื่อนต่างภาควิชาให้ดูเป็นขวัญตา เจียระไนนึกเข่นเขี้ยว แต่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าก้าวเท้าเดินตามไปแล้วคำรามในใจ


...ถ้าความแตกเพราะมึงนะไอ้ปาร์ค กูตัดลิ้นมึงแน่!!...

..........................

ภายในโรงอาหารตอนเที่ยงเต็มไปด้วยนิสิตจำนวนมาก ไม่ว่าจะร้านไหนๆก็มีแต่คนเต็มไปหมด สิตางศุ์เดินดูแต่ละร้านเพื่อตัดสินใจ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านอาหารตามสั่ง


...จะกินตามสั่ง หรือข้าวราดแกงดีล่ะ...ราดแกงก็ไวดี ง่ายด้วย แต่ตอนบ่ายไม่มีเรียน ไม่ต้องรีบก็ได้ ถ้าต้องรอตามสั่งก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง...


“แดกไร” เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆ ทำเอาดวงตาคู่สวยต้องหันมอง แล้วก็ถึงได้เห็นว่าเจียระไนมายืนอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มือหนึ่งถือปากกา อีกมือถือเศษกระดาษเตรียมจดอาหารที่จะสั่งเพื่อส่งให้แม่ครัว


“เอ่อ...เอา...ข้าวผัด” พอดีหันไปเห็นข้าวผัดของใครสักคนที่สั่งเอาไว้ และวางรอให้คนสั่งมารับ ก็เลยตัดสินใจขึ้นมาเดี๋ยวนั้น ดวงตาคมมองตาม แล้วก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายตัดสินใจสั่งแบบง่ายไว้ก่อน


“ร้านนี้ข้าวเป็นก้อน ผัดข้าวไม่อร่อยหรอก มักกะโรนีมั้ย”


“เพิ่งกินไปอ่ะ”


เจียระไนทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้เลยเสนอขึ้นมาใหม่


“สปาเก็ตตี้ผัดปลาหมึกไข่เค็มล่ะ”


“ทำได้ด้วยเหรอ ปกติมีแต่ผัดปลาหมึกไข่เค็มราดข้าว”


“ทำได้ มึงเอามั้ย กูจะสั่งสอง”


“อือ”


“เดี๋ยวกูสั่งให้ มึงไปซื้อน้ำให้กูที เอา...” กำลังจะเอ่ยปากบอกเมนูน้ำที่อยากได้ แต่เสียงของสิตางศุ์ดังขึ้นมาก่อน


“น้ำกระเจี๊ยบ” ดวงตาคมเหลือบมอง พวกเขาสบตากัน และนั่นทำเอาคนพูดแทรกนึกเขิน


“เอ่อ...ก็...คราวก่อนมึงบอกกูว่ามึงชอบ...” เหมือนจะเห็นแววยิ้มในดวงตาคมที่มองมา สิตางศุ์รู้สึกแปลกๆ จนต้องมองเมินไปทางอื่น


“อือ เอาน้ำกระเจี๊ยบ” หูได้ยินแต่เสียงเพราะไม่ยอมหันกลับไปสบตาอีก แต่ทั้งอย่างนั้นใบหน้าขาวก็พยักหน้าสั้นๆเป็นอันว่ารับรู้ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปร้านขายน้ำ


เจียระไนมองตามแผ่นหลังของร่างสูงโปร่งนั้น รอยยิ้มที่มุมปากปรากฏขึ้น แม้จะรู้ตัวว่าตัวเองกำลังยิ้ม แต่คราวนี้ยากกว่าเดิมหลายเท่าที่จะเก็บมันลงไป จะยกมือขึ้นมาปิดก็ไม่ทัน ได้แต่ปล่อยเลยตามเลยยืนยิ้มกลางโรงอาหารที่เต็มไปด้วยผู้คน ทว่า...สายตาคมกลับจับจ้องไปที่คนเพียงคนเดียว


...ไอ้ฉิบหาย น่ารักเหี้...เอ้ย...มากๆเลย!!...

......................

เจียระไนส่งออเดอร์ให้แม่ครัว ก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะที่อลงกตและพฤกษานั่งทานข้าวอยู่ สองคนนั้นเลือกข้าวราดแกงเลยได้เร็ว เขาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ม้านั่งยาว จงใจเว้นที่ว่างริมสุดข้างกายตัวเองเอาไว้


อึดใจต่อมา ร่างโปร่งบางของสิตางศุ์ก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ในมือมีน้ำเก็กฮวยแก้วนึง น้ำกระเจี๊ยบแก้วนึง เขาวางลงตรงหน้าเจียระไนที่ขยับตัวให้เห็นที่ว่างริมสุดข้างกาย


ไม่มีการชี้ชวนหรือสั่งให้นั่ง แต่เหมือนเป็นการบอกกลายๆว่าให้อีกฝ่ายนั่งลงข้างเขา สิตางศุ์เหลือบตาไปมองเพื่อนสนิทสองคนของตัวเอง แต่สองคนนั้นเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่ทันได้สนใจอะไร แถมฝั่งพวกมันก็ไม่มีที่นั่งแล้วด้วย เลยตัดสินใจนั่งลงข้างเจียระไน


ร่างสูงล้วงเอาเศษเหรียญมาส่งให้เป็นค่าน้ำ แต่คนที่เดินไปซื้อมาให้กลับส่ายหน้าเล็กน้อย


“ไม่เป็นไร มึงเลี้ยงกูหลายครั้งแล้ว” คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่ค้านอะไร เก็บเศษเหรียญใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมแล้วยกน้ำกระเจี๊ยบขึ้นดูดก่อนที่จะกลั้นยิ้มไม่ไหว


...ปกติก็เปรี้ยวดีนี่หว่า ทำไมวันนี้น้ำกระเจี๊ยบแม่งโคตรหวานเลยวะ...


พอคนข้างกายไม่พูดอะไรอีก สิตางศุ์เลยไม่รู้จะพูดอะไรเช่นกัน ได้แต่หยิบน้ำเก็กฮวยของตัวเองมาดูด ดวงตาคมเหลือบมองตามมือขาว


“มึงชอบน้ำเก็กฮวยเหรอ” เจียระไนถาม แต่เพราะในโรงอาหารเสียงดังเกินไป คนที่นั่งข้างๆเลยได้ยินไม่ชัดจนต้องเอียงหน้ามาใกล้ การเข้าใกล้อย่างกะทันหันทำเอาร่างสูงชะงัก กลิ่นหอมอ่อนๆจากคนที่ขยับเข้ามาทำเอาต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่


“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” สิตางศุ์หันมาถามซ้ำ คนตั้งคำถามเมื่อครู่เริ่มอึกอัก กลิ่นอ่อนๆจากกายคนที่นั่งข้างๆทำเอาลืมไปชั่วขณะว่าเขาถามอะไรไป เลยต้องคิดคำถามขึ้นใหม่


“เอ่อ...ถามว่า...คอมึงไปโดนอะไรมา เป็นรอยแดงๆ” แล้วนิ้วแข็งๆก็จิ้มลงที่ลำคอขาวที่อยู่เหนือปกเสื้อขึ้นมาเล็กน้อย แน่นอนว่านอกจากความขาวแล้ว ไม่มีรอยแดงใดๆทั้งสิ้น


มือขาวๆของสิตางศุ์ลูบที่คอตัวเอง ก่อนจะส่ายหน้า


“เป็นรอยเหรอ ไม่รู้สิ แต่ไม่คันนะ”


“คันบ่อย?”


“อืม บางทีเจอฝุ่นก็จะคันน่ะ อย่างตึกกิจฯ เข้าไม่ได้เลย” ตึกกิจฯที่ว่าคือตึกกิจการนิสิตคณะรัฐศาสตร์ ฟังจากชื่อแล้วน่าจะเป็นแหล่งอุดมสมองของคณะ แต่เปล่าเลย ในความเป็นจริงแล้วมันคือห้องเก็บของจำนวนมากที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆจนเป็นแหล่งซ่องสุมของฝุ่นมากมาย


“แล้วมึงจะเข้าไปทำไมล่ะ”


“ก็แต่ก่อน เคยช่วยเขาแบกของเข้าไปเก็บ แต่เข้าไปทีเดียวแล้วต้องออกมากินยาแก้แพ้” สิตางศุ์เล่าความหลังสมัยเรียนปี 2 อาศัยว่าตัวเองอยู่ในภาควิชาที่มีผู้ชายน้อยเท่าหยิบมือ เลยอาสาช่วยขนของชิ้นใหญ่ๆ แต่...ก็อย่างที่บอกว่าเขาแพ้ฝุ่น พอขนของเข้าไปเก็บครั้งที่ 1 ก็ต้องให้คนช่วยกันวิ่งหายาแก้แพ้จ้าละหวั่นเพราะทั้งจาม ทั้งคัน นอกร่มผ้ามีแต่ผื่นแพ้ขึ้นจนแดงไปหมด


“โชคดีว่ามีคนพกยาแก้แพ้มา...”


“...กู...ไปซื้อ...” เจียระไนพึมพำเบาๆ แต่เพราะเสียงเซ็งแซ่ในโรงอาหารกลบจนฟังไม่รู้เรื่อง คนข้างกายเลยทำคิ้วขมวดหันไปถามซ้ำ


“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ”


“เปล่า” ร่างสูงบอกปัดอย่างรวดเร็ว เสียงเรียกของแม่ครัวร้านที่เขาสั่งอาหารดังขึ้น พาให้บทสนทนาจบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเขาลุกจากโต๊ะ ทว่าเมื่อสิตางศุ์จะลุกตาม เขากลับหันมาสั่ง

“มึงนั่งจองที่ไป”


“งั้นเอาเงิน...” มือขาวกำลังจะหยิบเงินค่าอาหารของตัวเองให้ แต่ไม่ทันจะส่งให้ มือใหญ่ๆก็วางลงบนศีรษะของเขา


“มึงเลี้ยงน้ำกูแล้วไง” แล้วมือนั้นก็ผละจากไปเมื่อเจ้าของเดินไปรับอาหารพร้อมกับจ่ายเงิน ดวงตาคู่สวยได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของเพื่อนร่วมคณะแต่ต่างภาควิชา


...แปลก...จากเพื่อนที่แค่เห็นหน้าค่าตาแต่คุยกันนับครั้งได้มาตั้งแต่ปี 1 แต่จู่ๆ...ก็กลายเป็นเพื่อนที่นั่งกินข้าวด้วยกัน...ทำไมอยู่ดีๆ หมอนี่ก็มาวนเวียนรอบตัวเขาแบบนี้...


“โซ่” เสียงของอลงกตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามดังขึ้น ปลุกคนที่ตกอยู่ในภวังค์ให้เงยหน้ามอง


“มึงถามไอ้โจ๊กได้เรื่องรึยัง ที่จะจีบนิตาน่ะ” ประโยคหลังมาแบบเบาลงเล็กน้อย ให้พอได้ยินกันแค่ในกลุ่มพวกเขา


ใช่...ที่หมอนั่นเข้ามาวนเวียนรอบตัวเขา เพราะเขาต้องการถามเรื่องของนิตา...


สิตางศุ์ไม่ทันได้พูดอะไร ร่างสูงใหญ่ที่เดินไปรับอาหารก็เดินกลับมาที่โต๊ะแล้ววางจานสปาเก็ตตี้ผัดปลาหมึกไข่เค็มลงตรงหน้า ร่างโปร่งไม่ได้พูดอะไรอีก หยิบช้อนส้อมมาลองตักเข้าปาก


“อร่อยมั้ย” คำถามของคนที่ทรุดนั่งลงข้างๆและเป็นคนแนะนำเมนูนี้ดังขึ้น ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มเหลือบไปมอง


“อื้ม...” คำตอบเป็นที่น่าพอใจของคนแนะนำ เจียระไนเลยก้มลงตักเข้าปากตัวเองบ้าง ทว่าประโยคเบาๆถัดมาของคนที่นั่งข้างๆกลับทำให้เขาชะงัก


“โจ๊ก...นิตาชอบทานอะไร”


วูบหนึ่งดวงตาคมกริบมีแววบางอย่าง แต่เพราะยังก้มหน้าอยู่กับจานของตนเองจึงไม่มีใครเห็น และเขาก็เจือจางมันให้หายไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของคำถาม แล้วปรายตามองไปยังสปาเก็ตตี้ผัดปลาหมึกไข่เค็ม


“ไม่ใช่ของที่มึงแดกก็แล้วกัน!”


น้ำเสียงแข็งกร้าวบอกให้รู้ว่าหงุดหงิด สิตางศุ์เลยไม่กล้าถามอะไรอีกได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายหันไปจัดการอาหารกลางวันอย่างรวดเร็ว และพอปราการกลับมาพร้อมอาหาร มันก็ถูกเพื่อนสนิทบังคับให้กินเร็วๆ ไม่ถึงสิบนาทีหลังจากนั้น สองเพื่อนซี้แห่งภาควิชาการปกครองก็ขอตัว คว้ากระเป๋าออกจากโรงอาหารไปอย่างรวดเร็ว


“เชี่ยโจ๊กแดกไวฉิบหายเลย แม่งเคี้ยวก่อนกลืน หรือกลืนก่อนค่อยเอากลับมาเคี้ยวใหม่วะ” พ้นหลังสองคนนั้นแล้ว พฤกษาก็ถึงกับพูดออกมาอย่างอดไม่ไหว สิตางศุ์ไม่พูดอะไร  ก้มหน้ากินอาหารของตัวเองจนเพื่อนหน้าทะเล้นต้องเหลือบตามามอง


“มึงก็แปลกไปนะไอ้โซ่ ปกติแดกอะไรที่ไม่คุ้นแบบนี้ซะที่ไหน ไอ้โจ๊กสั่งให้ล่ะสิ ถึงเหมือนของมันเปี๊ยบ”


“ก็...สปาเก็ตตี้ผัดปลาหมึกไข่เค็มธรรมดา”


“ธรรมดาตายห่าล่ะ กูไม่เห็นเคยมีใครสั่ง” ...ใช่...สิตางศุ์ก็ไม่เคยเห็นใครสั่งเหมือนกัน แถมคนอย่างเขาซึ่งมีเมนูประทังชีวิตไม่กี่อย่าง ก็ดันตามน้ำกินอาหารแปลกๆที่ไม่เคยเห็นใครสั่งแบบนี้ได้เสียด้วย...


แต่...จะว่าไปแล้วมันก็เริ่มมาจาก...


...น้ำกระเจี๊ยบที่เขาแทบไม่ทานเพราะมันเปรี้ยว พอลองวันนั้นก็พบว่ามันยังเปรี้ยวจนไม่น่าลองเหมือนเดิม...


...อาหารเวียดนามนั่นก็ด้วย...ก็อร่อยดี ทั้งๆที่ไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนั้น...


แล้ววันนี้ก็อีก...สปาเก็ตตี้ผัดปลาหมึกไข่เค็ม...เมนูแปลกๆที่ไม่เคยเห็นใครสั่ง ก็ถูกปากมากเช่นกัน...


อย่าว่าแต่พฤกษาว่าเขาแปลกเลย เขาเองก็คิดว่าตัวเองแปลก...เพราะเจียระไน


“แล้วเมื่อกี้มึงถามอะไรมัน ทำไมอยู่ดีๆมันรีบแดกรีบไป” พฤกษาถามต่อ


“ถามว่านิตาชอบทานอะไร” สองเพื่อนซี้นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนที่อลงกตจะยักไหล่


“มันคงไม่รู้มั้ง เรื่องทำมึนหนีไปนี่ก็ทางมันอยู่”


สิตางศุ์ได้แต่เงียบ ก้มหน้าก้มตาตักสปาเก็ตตี้ผัดปลาหมึกไข่เค็มในจานเข้าปากตัวเอง แล้วก็พบว่าผัดปลาหมึกไข่เค็มที่ปกติร้านนี้มักจะใส่ต้นหอม กลับไม่มีต้นหอมเลยสักต้น


ร่างโปร่งหวนนึกถึงตอนที่ไปทานอาหารเวียดนามด้วยกัน และเขาไม่ยอมใส่ใบสะระแหน่ตามที่อีกฝ่ายแนะนำ


‘กูไม่ชอบผักที่มีกลิ่น’ เขาท้วง ตอนที่คนพามาทานเด็ดใบสะระแหน่ใส่จานเขา


‘ผักไหนมันก็เหมือนกันแหละ’


‘ไม่เหมือน สะระแหน่ โหระพา กระเพรา มีกลิ่น ต้นหอมด้วย’


‘ที่มึงพูดมานี่คือไม่กินเลยสักอย่างใช่มั้ย แล้วเวลาสั่งผัดกระเพราะทำไง อย่าบอกนะว่าสั่งผัดกระเพราไม่ใส่ใบกระเพรา?’


‘กูไม่เคยสั่งผัดกระเพรา มีอาหารตั้งหลายอย่างที่ไม่ต้องใช้ผักมีกลิ่นนี่นา’


และสปาเก็ตตี้ผัดปลาหมึกไข่เค็มจานนี้ก็ไม่มีผักที่มีกลิ่นเลยแม้แต่นิดเดียว


สิตางศุ์เม้มปากกับตัวเอง เจียระไนไม่ใช่คนที่ไม่สนใจใครหรอก มันรู้ว่านิตาชอบทานอะไร ไม่ชอบทานอะไร...พอๆกับที่มันจำได้ว่าเขาไม่ทานต้นหอม


...มันจำ...เรื่องของเขาได้...


ร่างโปร่งรู้สึกไหววูบอย่างประหลาด เหมือนมีอะไรบางอย่างก่อตัว ทว่า...มันยังเบาบางเกินไปที่จะรู้ว่าคืออะไร

........................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-03-2017 21:29:22


“จะรีบไปไหนของมึงวะไอ้โจ๊ก กูยังเคี้ยวไม่หมดเลย” คนถูกเร่งให้กินข้าวไวๆ เดินบ่นกระปอดกระแปดตามหลังทั้งๆที่ข้าวยังเต็มปาก ร่างสูงที่เป็นคนพาเขาออกมาจากโรงอาหารตวัดสายตามามอง


“กูหงุดหงิด!”


“เอ้า! มึงหงุดหงิดใครมึงก็ลงกับคนนั้นสิ! ไม่ใช่มาเร่งกู!” บ่นไปก็เท่านั้น เพราะยังไงก็ออกมาแล้ว ปราการยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา “...อื้อหือ กูแดกข้าวแค่ห้านาที กูเป็นคนหรือควาย กลืนๆไปก่อนแล้วค่อยขย่อนมาเคี้ยวใหม่วะเนี่ย นี่ถ้าแม่กูรู้ว่ากูแดกข้าวแบบนี้ กูโดนด่าแน่”


“แม่มึงด่าก็เรื่องของมึงสิ!” เจียระไนไม่ได้สนใจ เขาหมุนตัวจะเดินต่อเพราะไม่อยากปรายสายตาไปเห็นโรงอาหารให้หงุดหงิดคนที่ยังอยู่ข้างใน


...บรรยากาศกำลังดีๆ ไอ้ฉิบหาย!! เสือกพูดถึงคนอื่นให้อารมณ์เสีย!!...


“เดี๋ยวววว” ปราการรีบวิ่งไปดักหน้าเอาไว้


“มึงเป็นอะไรของมึงวะโจ๊ก อุตส่าห์ได้นั่งกินข้าวด้วยกัน จะรีบออกมาทำไม”


“ก็กูบอกแล้วว่ากูหงุดหงิด”


“แล้วมึงหงุดหงิดเรื่องอะไร” คนหงุดหงิดถอนหายใจแรงๆทีนึงแทนคำตอบ ก่อนจะพูดประเด็นที่ทำให้อารมณ์ของเขาดิ่งฮวบจากดินแดนแห่งความสุข


“มันถามกูว่านิตาชอบกินอะไร”


“ก็ถูกแล้วนี่ ก็มึงบอกมันเองว่าจะช่วยมันจีบนิตาไม่ใช่เหรอ ไม่ให้มันถามเรื่องนิตาแล้วให้ถามเรื่องมึงรึไง” คนถูกย้อนเอาลิ้นดุนข้างแก้มอย่างไม่สบอารมณ์ ก็รู้อยู่หรอกว่าเขาเป็นคนสร้างเงื่อนไขนี้ขึ้นมาเอง แต่...ไอ้โซ่ก็ควรรู้เวล่ำเวลา รู้จักกาลเทศะ ไม่ใช่อยู่ๆก็โพล่งพรวดถามถึงผู้หญิงที่มันชอบขึ้นมาแบบนี้


...เห็นใจกันบ้างสิวะ กูตามไม่ทัน!...


“นั่น พวกนั้นออกมาแล้ว มึงเข้าไปคุย...เฮ้ย!” ปราการชี้ไปที่โรงอาหารซึ่งอลงกต พฤกษาเดินคุยกันออกมา ตามหลังด้วยสิตางศุ์ เจียระไนเหลือบมองวูบเดียวก็รีบกระชากร่างเพื่อนสนิทหลบไปทางมุมตึก


“ทำเชี่ยอะไรของมึงอีกเนี่ย?!” คนถูกดึงมาหลบร้องถามด้วยความไม่เข้าใจ


“กูไม่อยากเจอมัน”


“วุ้ย! มึงนี่แม่งเอาใจยาก!! เมื่อเช้าก็อยากให้มันโทร.มาจนหงุดหงิด ตอนนี้เสือกจะมาหลบหน้าทั้งๆที่ได้เจอกัน กูว่าก่อนที่มึงจะได้มันนะ ประสาทคงแดกก่อน!” เจียระไนทำเสียงฮึดฮัดในลำคอ แต่แล้วจู่ๆโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็สั่น ชายหนุ่มยิ่งหงุดหงิดหนักกว่าเดิมที่ใครสักคนโทร.มากวนใจเวลานี้ ทว่าเมื่อหยิบขึ้นมาดู ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอก็ทำเอาชะงัก


“อะไรวะ ใครโทร.มา ทำไมทำหน้างั้น” เพื่อนขาเผือกอย่างปราการเห็นอีกฝ่ายจ้องมือถือที่กำลังสั่นตาค้างก็เลยต้องชะโงกหน้าเข้าไปดูสักหน่อย แต่บนหน้าจอไม่ปรากฏชื่อ มีแต่ ‘…’ ขึ้นแทน


“ห๊ะ...มึงเซฟชื่ออะไรของมึง จุดจุดจุด”


ดวงตาคมมีแววพออกพอใจเมื่อเหลือบมองเพื่อนสนิท มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ดูก็รู้ว่าอารมณ์หงุดหงิดเมื่อครู่นี้ของมันหายวับไปแล้วเรียบร้อย


“คนที่กูรู้ว่าใคร” มีเพื่อนกวนส้น ปราการก็ย่อมต้องมีเลเวลในการเข้าถึงตรรกะของเพื่อน เขาชะโงกหน้าพ้นมุมตึก กวาดสายตาหาเพื่อนร่วมคณะสามคนที่เมื่อครู่นี้ร่วมโต๊ะกันในโรงอาหาร และนั่น...คนที่เดินรั้งท้ายกำลังเอาโทรศัพท์แนบหู แสดงว่า...คนที่ถูกไอ้โจ๊กเซฟเป็นชื่อ ‘…’ คือคนผิวขาวร่างโปร่งนั่นเอง


ปราการไม่ทันได้หันกลับมาล้อ เพราะเจียระไนกดรับสายแล้ว


“อือ...” เขาส่งเสียงสั้นๆเข้าไปในโทรศัพท์ พยายามทำน้ำเสียงให้ราบเรียบที่สุด ทั้งๆที่ในใจเต้นเร็วและแรงจนแทบจะกระโจนออกมาจากอกอยู่แล้ว


...ไอ้โซ่โทร.มา ไอ้โซ่โทร.มาจริงๆ...


‘เอ่อ...โจ๊กใช่มั้ย...’


“อือ มีไร”


‘อ่า...วันนี้มีเรียนอีกมั้ย’


“ไม่มี”


‘…เอ่อ...งั้น...ว่างรึเปล่า’


“มีอะไร”


‘ก็...ก็...ก็ที่มึงบอกว่าจะสอนวิธีจีบนิตา...’ ประโยคจากปลายสายทำเอาชายหนุ่มดุนลิ้นกับข้างแก้มทันที อารมณ์กำลังจะดีตกฮวบลงเหวจนกลายเป็นเริ่มอารมณ์เสียอีกแล้ว


...ไบโพลาร์แล้ว ไบโพลาร์อีกก็คือเจียระไนคนนี้นี่แหละ!!!...


“มึงรอได้มั้ยล่ะ! กูมีธุระ!”


...ธุระห่าธุระเหวอะไรที่ไหน ไม่มีสักอย่าง จริงๆแล้วตอนบ่ายว่างสุดๆ แต่เพราะไอ้โซ่แม่งไม่รู้จักกาลเทศะ คนหงุดหงิดฉิบหายยังจะเสือกโทร.มาเรื่องเดิมๆอีก!!...


‘ได้ๆ มึงเสร็จกี่โมง โทร.มาแล้วกัน เดี๋ยวกูรอห้องสมุด จะได้ช่วยน้องที่ภาคฯติวหนังสือ’


...อ้าวเชี่ย!!...มีกิจกรรมทำรอกูด้วย?!!!...


“เฮ้ยๆ!! ธุระกูทำทางมือถือได้!” เขารีบแทรก ถึงจะหงุดหงิดยังไงก็อยากให้มันอยู่ในสายตาไว้ก่อน ไอ้นี่มันไม่น่าไว้ใจ ป็อปปูลาร์ตลอดเวลาแถมปล่อยเคมีเรี่ยราด มันเดินไปทางไหน รุ่นน้องในคณะมองตามเหมือนจะสูบเข้าปากกลืนลงกระเพาะทุกวินาที!


“เอางี้! อีกสิบห้านาทีเจอกันที่ห้องสมุด เดี๋ยวกูจะไปนั่งทำธุระที่ร้านกาแฟ มึงก็รอกูที่ร้านด้วยเลย”


‘โอเค งั้นกูไปรอที่ห้องสมุดนะ’ แล้วปลายสายก็ตัดไป เจียระไนสูดลมหายใจลึกก่อนจะถอนหายใจยาวๆเพื่อระงับอารมณ์ ปราการมองหน้าเพื่อนด้วยสายตารู้เช่นเห็นชาติ


“ช่วยบอกกูหน่อยซิ ธุระอะไรของมึงทำทางมือถือได้?”


“เสือก”


“แล้วสรุปคือบ่ายนี้มึงกับมันจะออกไปนั่งดูดกาแฟกัน? แล้วหายอารมณ์เสียแล้ว?”


“ถ้ากูหายแล้ว กูจะให้มันรอสิบห้านาทีทำไม?” แล้วเจียระไนก็หมุนตัวเดินไปอีกทาง


“อ้าว แล้วมึงจะไปไหน นั่นไม่ใช่ทางไปห้องสมุดนะเว้ย” ปราการตะโกนถาม


“ดูดบุหรี่!!!” คำตอบแข็งโป้กบอกอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ คนเป็นเพื่อนได้แต่โคลงศีรษะไปมาอย่างนึกระอาใจ


“ทีข้อสอบยากๆเสือกทำได้ ทีเรื่องง่ายๆเสือกทำให้ยาก ขอกูสมน้ำหน้ามึงสักสามทีเถอะ...สมน้ำหน้า! สมน้ำหน้า! สมน้ำหน้า!!” 

...............................

หลังจาก ‘ดูดบุหรี่’ ดับอารมณ์ร้อนรุ่ม เจียระไนก็พาคนผิวขาวจัดมานั่งทำธุระที่ร้านกาแฟ


ร่างสูงสั่งเอสเปรสโซ่ตั้งใจเอาความขมกดเส้นประสาทตัวเอง ส่วนสิตางศุ์สั่งลาเต้เย็นตามประสาคนไม่ชอบทานขม พอได้เครื่องดื่มแล้ว คนพามาก็ทำ ‘ธุระ’ ทางโทรศัพท์ของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง ในขณะที่คนที่มาด้วยกัน ได้แต่นั่งดูดลาเต้ของตนเองอย่างเงียบๆ


‘เชี่ย ทำหน้าสำนึกผิดตลอดเวลา แต่แม่งไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าทำผิดอะไร’


เจียระไนพิมพ์ข้อความอย่างรวดเร็วลงในหน้าแชทบนมือถือของตนเอง ตาเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นระยะ ใบหน้าขาวๆ ดวงตาคู่สวยที่หลุบต่ำจนเห็นขนตาเป็นแพ ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหนเลยด้วยซ้ำ


...ยิ่งมอง...ก็ยิ่งอยากเก็บเอาไว้คนเดียว ไม่ให้ใครหน้าไหนได้เห็นอีก...


‘มึงก็บอกมันสิ ว่ามันทำอะไรผิด’ อีกฝ่ายพิมพ์ตอบกลับมา


‘ไม่’


‘งั้นอย่าโวยครับมึง’ ร่างสูงจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด และเสียงแห่งความหงุดหงิดนั้นก็ดังพอที่จะทำให้คนที่นั่งใกล้ๆได้ยินแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลที่มีประกายซื่อบริสุทธิ์นั้นทำเอาเจียระไนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโกรธคนไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว โกรธคนแบบนี้ก็เหมือนโกรธคนเมา เพราะมันไม่มีทางรู้ตัวแน่นอน เขาถอนหายใจอีกทีก่อนจะเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง


“อ่ะ ว่ามาสิ เรื่องของมึงน่ะ” หมดใจจะหงุดหงิดมันต่อไป แถมหมดความอดทนจะยื้อเวลาให้อีกฝ่ายมานั่งรอแบบนี้ เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้เหมือนเหนื่อยหน่าย ซึ่งสิตางศุ์ไม่รู้ว่าท่าทางแบบนั้นเป็นความเหนื่อยที่เกิดจากเขาหรือเกิดจากเรื่องอื่น


“เอ่อ...ถ้ามึง...ไม่สบายใจจะพูดถึง...กูไม่ถามก็ได้นะ” เพราะสถานะแฟนเก่า ก็พอจะเข้าใจอยู่หากว่าร่างสูงไม่อยากพูดเรื่องนิตาขึ้นมา


“มึงไม่ถามกูแล้วมึงจะไปถามใคร”


“ก็...” สีหน้าของใบหน้าขาวมีแววคิดไม่ตก เท่าที่รู้ นิตามีแฟนแค่คนเดียวคือเจียระไนซึ่งในเวลานี้เป็นแฟนเก่า ส่วนเพื่อน...นิตาก็มีแต่เพื่อนผู้หญิง จะให้เขาเข้าไปถามพวกนั้น...ก็ไม่กล้า


“จีบก็จีบไม่เป็น ชอบจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ โซ่ มึงน่ะทั้งใจดีทั้งใจอ่อน ใครเข้ามาพึ่งมึงหน่อย มึงก็เอ็นดูเขาไปหมด กับนิตาก็เหมือนกัน มึงเคยช่วยนิตาทำกีฬาเฟรชชี่ตอนปี 1 มึงจะชอบก็ไม่แปลก แต่จะคบใครสักคนเป็นแฟนมันไม่ใช่แค่นั้น ไม่อย่างนั้นสามวันก็เลิกกัน” คนถูกตราหน้านิ่งงันพูดไม่ออก สีหน้าตะลึงงันเหมือนถูกตีแสกหน้าทำเอาคนพูดต้องพ่นลมหายใจแรงๆดับอารมณ์คุกรุ่นในใจ


“เอาเถอะ กูพูดไปก็เท่านั้น...”


“งั้นมึงก็สอนสิ...ทำยังไง ให้กูรู้ว่ากูคิดกับนิตาแบบไหน” ดวงตาคมกริบเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม


“แน่ใจเหรอว่ามึงจะทำตาม”


“อือ กูจะพยายาม”


“แน่ใจนะ?”


“อือ!”


“งั้น...หัดคิดว่ามึงไม่ได้ชอบนิตาสิ”


ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบๆด้วยความงุนงง แล้วความเงียบก็โรยตัวระหว่างพวกเขาทั้งๆที่ภายในร้านเต็มไปด้วยเสียงผู้คนมากมาย ทว่าภายใต้ความเงียบของพวกเขาคือการเดิมพันของเจียระไน


...เป็นการเดิมพัน...ที่ความสำเร็จและความเจ็บปวดมีสิทธิ์พลิกผันทุกวินาที!!...

............................

“ไม่มีทาง กูทำไม่ได้หรอก กูคิดมาตลอดว่ากูชอบนิตา”


แล้วการเดิมพันของร่างสูงก็พลิกคว่ำในวินาทีนั้นเอง สิตางศุ์ปฏิเสธทั้งคำพูดทั้งการกระทำ ไอ้อาการสั่นหน้าไปมาแรงๆนั่นบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวปักใจอย่างหนักว่าไม่มีทางทำข้อแรกของเจียระไนได้


   ร่างสูงรู้สึกเหมือนอารมณ์จะเสียขึ้นมาอีก


   ...ไอ้ฉิบหาย!!...แม่งไม่เคยรู้จักกาลเทศะจริงๆ!!!...


   “มึงไม่มีวิธีอื่นเหรอ”


...ยังมีหน้ามาขอวิธีอื่นอีก?!!...ร่างสูงยอมรับตรงๆว่าถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่สิตางศุ์แล้วล่ะก็ เขาลุกขึ้นชกปากแตกตั้งแต่มันปฏิเสธแล้ว!! ไม่ปล่อยให้ลอยนวลหน้าใสมาเรียกร้องหาช้อยส์อื่นหรอก!!


   “ไม่มี! ถ้ามึงไม่ทำกูก็ไม่ช่วยอะไรทั้งนั้น!”


   “อ้าว ไม่เอาอย่างงี้สิ”


   “ก็กูบอกให้มึงทำตามที่กูพูด! เสือกมาบอกว่าทำไม่ได้หรอก! แล้วจะให้กูพูดอะไรอีก?!!”


   “ก็วิธีมึงมันทำไม่ได้จริงๆนี่นา” สิตางศุ์เถียง แม้สุ้มเสียงจะไม่แข็งกร้าวเหมือนร่างสูง แต่แววตาของนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั่นบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวดื้อแพ่งใช่ย่อย


   เจียระไนเริ่มหมดอารมณ์ อยากจะลุกหนีออกจากร้านแล้วทิ้งคนตรงหน้าเอาไว้ตรงนี้ ทว่าอยู่ดีๆ ดวงตาคู่สวยของสิตางศุ์ก็เบิกโต ร่างสูงชะงัก รีบหันมองตามสายตาของคนตัวขาว


   ...นิตา!!...


   …มาที่นี่ทำไมวะเนี่ย?!!!...


   “โซ่!” เขารีบหันกลับมาที่คนที่นั่งร่วมโต๊ะ สิตางศุ์สะดุ้งจนทำให้สายตาเหลือบกลับมาสบกับตาคนกริบของเจียระไน


   “ถ้าเมื่อกี้มึงทำไม่ได้ งั้นมึงก็มองกู!” ร่างสูงสั่งเสียงเข้ม


   “หะ!”


   “กูบอกให้มองกู! มองกูคนเดียว!!” ทั้งน้ำเสียงเข้มงวด ทั้งดวงตาคมกริบที่จ้องมองมาในระยะใกล้ ก็ทำเอาสิตางศุ์เลี่ยงไปไหนไม่ได้


   “มองกู...ไม่ต้องมองใครทั้งนั้น...ทำเป็นไม่เห็น...” ต่อให้ไม่บอก แต่สิตางศุ์ก็ไม่อาจละสายตาไปจากดวงตาของคนสั่งได้เลย ดวงตาคมกริบคู่นี้ นัยน์ตาสีดำสนิท ทรงพลัง ลึกลับเหมือนถูกดูดให้จมดิ่งเข้าไปภายในลึกขึ้นเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...


   “มองกู...คนเดียว...” เสียงทุ้มดังแผ่ว ทว่าน่าแปลกที่ได้ยินชัดเหมือนดังอยู่ในหัว ร่างโปร่งรู้สึกเหมือนหมดสิ้นการควบคุมใดๆ ราวกับตกอยู่ภายในภวังค์ ภวังค์ที่มีเพียงเขา...และ ‘โจ๊ก’...


   “โซ่ โจ๊ก” เสียงหวานของหญิงสาวดังขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลมีแววไหววูบ เจียระไนใจหาย รู้ตัวว่าเขากำลังจะเสียสิตางศุ์ไปจากสายตาแน่แล้ว ชายหนุ่มเอื้อมมือมาจับหน้าขาวเอาไว้ บังคับไม่ให้หันไปมองใครทั้งสิ้น ดวงตายังมองสบกัน แต่ร่างสูงเอี้ยวหน้าเล็กน้อยไปพูดกับหญิงสาวที่หยุดอยู่ข้างๆ


   “อย่าเพิ่งยุ่ง!” นิตาชะงัก หล่อนมองเพื่อนผู้ชายร่วมคณะสองคนที่ไม่รู้เล่นเกมอะไรกัน เพราะเจียระไนจับหน้าสิตางศุ์ไม่ให้หันมองใคร และพวกเขายังคงมองตากันอยู่อย่างนั้นชนิดที่หล่อนไม่กล้ารบกวนอีก แม้จะงุนงง แต่หญิงสาวก็ยอมเดินเลี่ยงไปมุมอื่นของร้านแทน


   เมื่อคาดว่าอดีตคนรักเดินพ้นไปแล้ว เจียระไนถึงได้ยอมปล่อยมือตัวเองออกจากใบหน้าของร่างโปร่ง แล้วเป็นฝ่ายถอนสายตาหนีไปทางอื่นก่อน นัยน์ตาสีดำที่ดึงดูดให้ด่ำดิ่งจากไปแล้ว เหมือนปลดปล่อยให้สิตางศุ์หลุดจากการพันธนาการนั้น


   ริมฝีปากสีแดงจัดเม้มเข้าหากันอย่างตกประหม่า ได้แต่กะพริบตาถี่ๆเพื่อเรียกสติให้กลับมา


   ...เมื่อกี้เขาเป็นอะไรไป...เขาตกเข้าไปในความดำมืดนั่น เสียงรอบตัวกลายเป็นเสียงแว่ว แต่พอเป็นเสียงของเจียระไน ต่อให้เบาแค่ไหนกลับได้ยินชัด...


   ...ทำไม...


   ...เพราะอะไร...


   สิตางศุ์รู้สึกว่าร่างของตัวเองสั่นไหวเหมือนมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในใจ แต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร...ไม่รู้...จนเกิดเป็นความกลัว...


   “ก...กู...กูกลับก่อนแล้วกัน” เพราะยิ่งไม่รู้ก็ยิ่งกลัว ร่างโปร่งคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดคือถอยออกไปจากตรงนี้ เขาลุกขึ้นคว้ากระเป๋าตัวเองแต่ยังไม่ทันจะเดินออกจากโต๊ะ แขนกลับถูกรั้งเอาไว้ สิตางศุ์ชะงักเหลือบตาลงมองมือใหญ่ที่จับแขนเขาอยู่ ไอร้อนผ่าวจากฝ่ามือนี้จู่โจมไปทั้งร่างจนเหมือนชาดิกไปหมด


   เจียระไนลุกขึ้นยืนแล้วปล่อยมือจากท่อนแขนขาวจัด


   “ไปดูหนังกัน” เขาชวนทั้งๆที่ไม่ยอมมองหน้า ร่างโปร่งได้แต่อ้าปากค้าง จะค้านก็ไม่รู้จะค้านยังไง ที่สำคัญคือค้านไม่ทันเพราะเจียระไนก้าวเท้าเดินนำออกจากร้านแล้ว ดวงตาคู่สวยมองตามแต่ยังยืนอยู่กับที่ ทว่าเมื่อคนที่เดินนำออกไปไม่เห็นว่าเขาเดินตาม ดวงตาคมคู่นั้นก็หันกลับมามอง และเป็นอีกครั้ง...ที่สิตางศุ์หมดแรงต้านทาน


   ปลายเท้าก้าวออกจากโต๊ะช้าๆไปยังร่างสูงที่ยืนรออยู่ ก่อนที่พวกเขาจะเดินเคียงกันหายลับไปจากหน้าร้านกาแฟ


   ‘ไปดูหนังกัน’


   ตัวเลือกที่เจียระไนมอบให้ ยื้อเวลาให้สิตางศุ์ยังอยู่กับเขา แม้จะอยู่ในที่มืด แม้จะมองไม่เห็นกัน แม้จะไม่ได้พูดคุยกัน แต่แค่เพียงเขายังได้รู้ว่าอีกฝ่ายยังอยู่ข้างๆ ยังไม่ไปไหน...ก็พอ...


...พอเชี่ยอะไรล่ะ! วันนี้แม่งทำหงุดหงิดตั้งหลายรอบ!! ปล่อยกลับง่ายๆก็อย่าเรียกกูว่าเจียระไนอีกเลย!!...


ติดตามตอนต่อไป (วันพฤหัสค่ะ)
โจ๊กน่าสงสารรรรรรรร (จะย้ำจนกว่าทุกคนจะสงสารโจ๊กเหมือนที่บัวสงสาร) ตอนนี้โจ๊กแทบจะเป็นไบโพลาร์แล้วนะคะ ส่วนแสนซื่อและบื้ออย่างโซ่ก็ยังคงซื่อและบื้อต่อไป ถ้าถามว่ามันจะรักกันได้ใช่มั้ย ก็คิดว่ารักกันได้...มั้งคะ ฮา (ถ้าโจ๊กไม่บ้าไปซะก่อนนะ)

ตอนที่แล้วมีคนคอมเม้นท์เรื่องภาษาด้วย ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ในช่วงที่บัวพิมพ์เรื่องนี้อยู่ บัวก็พิมพ์อีกเรื่องไปด้วย บางทีมันทับกันไปมา แบ่งสมองไม่ทัน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ บัวจะนำมาปรับปรุงต่อไปค่ะ

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ
เจอกันพฤหัสหน้านะคะ วันพุธบัวกลับมาไม่ทันอ่า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 29-03-2017 21:58:52
ผีบ้าที่แท้จริง โจ๊กเอ๊ยยย
อารมณ์เจ้านี่ต้องปรับโหมดหน่อยละ
อ่านยังตามไม่ทัน
ถามว่าคนซื่ออย่างโซ่นี่จะรอดมั้ย  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 29-03-2017 22:03:01
โซ่ คนซื่อ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-03-2017 22:11:53
โจ๊กผู้น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 29-03-2017 22:14:14
เริ่มเห็นใจโจ๊กขึ้นมาเบาๆแล้วคับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 29-03-2017 22:17:05
 :angry2: :angry2: อิโจ๊ก ไอ่บ้าา ไบโพลาร์จริงๆเลย  อย่ามาทำงี้กับโซ่นะ

เราหวง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ โซ่น้อยของเราเองง  น่ารักอะไรอย่างนี้ :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-03-2017 22:36:29
โจ๊กร้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 29-03-2017 22:37:00
ชอบประโยคนี้   :katai2-1:
" ...พอเชี่ยอะไรล่ะ! วันนี้แม่งทำหงุดหงิดตั้งหลายรอบ!! ปล่อยกลับง่ายๆก็อย่าเรียกกูว่าเจียระไนอีกเลย!!... "
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 29-03-2017 22:37:25
55555 เราสงสาร และ ก็ขำด้วย ผิดมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-03-2017 23:05:28
อิโจ๊กนี่เล่นสะกดจิตน้องโซ่เลยเหรอ น้องยิ่งเป็นคนใสซื่อบริสุทธิ์ จะทันเกมไหมนี่
สงสารนิตา บางตอนก็มาแต่ชื่อ พอวันนี้มีบทก็ถูกอิโจ๊กไล่ไปอี๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 29-03-2017 23:12:40
ชอบบบบ หลงรักพี่โซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 29-03-2017 23:28:17
เอิ่ม โจ๊กทำไรให้ยากไปนะ แผนซ้อนแผน จนตัวเองหงุดหงิด โซ่ซื้อขนาดนั้น ทำใจหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: moonjelee ที่ 29-03-2017 23:31:10
ผีเข้าผีออกที่แท้จริง แต่ก็อยู่ในระดับน่าเอ็นดูอะ
คุณโจ๊ก (เปลี่ยนสรรพนามทันที) หงุดหงิดอะเนอะ!
ชอบเค้าแต่เป็นคนซึนๆคูลๆอะ คีพลุคต่อไป555555
ไม่นกเถ้อะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 29-03-2017 23:51:10
คุณโจ๊กจะเกรี้ยวกราดอะไรเบอร์นั้น!!!!!!!!!
ยิ่งกว่าผู้หญิงเป็นประจำเดือนอีก!!!! อารมณ์ขึ้นลงเป็นหุ้นเลยค่ะ!!!!
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 30-03-2017 00:03:10
นิตงนิตาอะไร ผู้ชายเขาจะจีบกันค่า

ตอนนี้อ่านแล้วหลุดขำหลายรอบนะคะ คิดว่าโจ๊กน่ารักน่าเอ็นดู(อย่าสลับตำแหน่งคำ)จริงๆ ดิฉันรู้สึกว่าเขาตรงข้ามกับบุคลิกในช่วงตอนแรกๆ ที่ออกมา ตอนนั้นเขาดูขรึม...ลึกลับ...น่าค้นหา...ดูน่าเกรงขาม...อะไรประมาณนั้น แต่ตอนนี้ตบมุกเอย หักมุกตัวเองเอย แหม...พ่อคุณ...กลายเป็นน่ารักไปซะงั้น น่าเห็นใจกับความพยายามอยากอยู่กับโซ่ให้มากกว่านี้

แอบเอาใจช่วยโจ๊กค่ะ ขอบคุณสำหรับตอนนี้นะคะ รอตอนหน้าเช่นเดิมค่ะคุณบัว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 30-03-2017 00:32:53
อืมมมมมมม โจ๊ก สู้ๆนะ  :oo1: :oo1: :oo1: ต้องเข้าใจว่า คนเค้าสอบมาตั้งนาน จะให้เปลี่ยนใจง่ายๆคงไม่ได้หรอก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 30-03-2017 00:48:45
โซ่น่ารักมากกกกกก
รอดูต่อไปว่าโจ๊กจะทำยังไงต่อ ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 30-03-2017 00:53:15
โจ้กตอนนี้ไบโพลาร์กพเริบบบต้องไปหาหมอออด่วนจ้าาา ว่าแต้น้ำกระเจี๊ยบนี่หวานจริงๆเนาะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 30-03-2017 01:19:59
บ้าไปอีกก5555 สงสารโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 30-03-2017 05:44:05
โจ๊ก5555555555555น่าสงสารเด้อ
โซ่นี่ใจร้ายกับโจ๊กมากจริงๆ *กัดฟันพูด*
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 30-03-2017 06:40:20
งานยาก งานหนัก โกรธเองก็ต้องหายเองอีก 5555
สู้ ๆ นะโจ๊กถ้าไม่ประสาทกินไปซะก่อน โซ่คนซื่อก็ยังคิดว่าตัวเองชอบนิตาต่อไป
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: saccarrum ที่ 30-03-2017 08:06:26
โจ๊กตล๊กกกกกกกก สงสารโจ๊กนะ แต่ก็สงสารโซ่อ่ะ เหมือนถูกหลอก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 30-03-2017 08:35:37
ซ โซ่ ซื่อซื่อ จโจ๊ก น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-03-2017 09:04:27
แหมๆ........โจ๊ก หงุดหงิดโซ่ ที่ถามแต่เรื่องนิตา
ก็โจ๊กตั้งเงี่ยน เอ๊ย...เงื่อนไขเองนี่นา
ว่าจะช่วยสอนโซ่ จีบนิตา
โจ๊ก จะหงุดหงิดทำไม ก็โซ่ ไม่รู้นี่ว่าโจ๊กชอบโซ่
เอาแต่ใจตัวเองปะโจ๊ก อยากจะเก็บโซ่ ไม่ให้ใครมอง
อูยย.....เป็นเอามากนะ โจ๊กเป็นโซ่ลิสสึม แล้ว
โทษโซ่เรื่องทำให้ตัวเองหงุดหงิดเฉยเลย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
'...พอเชี่ยอะไรล่ะ! วันนี้แม่งทำหงุดหงิดตั้งหลายรอบ!!
ปล่อยกลับง่ายๆก็อย่าเรียกกูว่าเจียระไนอีกเลย!!...'
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 30-03-2017 09:31:15
โจ๊กผีเข้าผีออกมาก สงสารเบาๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-03-2017 09:45:23
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: therappizdrum ที่ 30-03-2017 11:11:48
โจ๊กไม่น่าเป็นไบโพล่าร์นะคะ แบบนี้ไตรโพล่าร์ไปเลยยยยย

อารมณ์นางเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาสุดๆ

มาคิดย้อนไป แท้จริงแล้วโจ๊ะคบกับนิตาเพื่อกันโซ่ออกจากนิตาป่าววว


55555 ขอตั้งสติอ่านทวนใหม่อีกครั้งก่อนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 30-03-2017 12:23:31
ไม่น่าสงสารเลยซักนิดเดียวค่ะ แต่น่ารักมากกกก555
น่ารักน่าหมั่นเขี้ยวทั้งคู่เลยค่ะ
เอ็นดูคนแสนซื่อไม่เคยรู้จักความรัก
เอาใจช่วยคนกวนๆที่แอบมีแผนมาจีบ
ขอความกวนแต่จริงใจจีบกับความงงแต่มีหวั่นไหวอีกเยอะๆนะคะ
อย่าเพิ่งรีบให้จีบติดอย่าเพิ่งให้เลิกงง
ชอบโมเม้นท์แอบยิ้มเอ็นดูและอ่อนโยนแต่รีบไปหวีดกับผู้สมรู้ร่วมคิด
ชอบโมเม้นท์เดินตามเขาต้อยๆไปอ้อนให้เขาสอนจีบหญิงแต่กลับได้รู้จักรักที่แท้มาแทน
น่ารักจริงๆค่ะ หลงรักตั้งแต่อ่านตอนแรกเลย
รอติดตามอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 30-03-2017 12:42:53
เปลี่ยนเป็นจีบแบบธรรมดาไม่ต้องมีเรืาองนิตามาเกี่ยวอาจจะเวิร์คกว่สนะโจ๊ก 5555 จะได้ไม่ต้องอามรมณ์เสีย

 ขอบคุณพี่บัวมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: HuskyLover ที่ 30-03-2017 12:52:39
มีการบังคับไม่ให้มองคนอื่นด้วยเว้ย 555 น่ารักจังเลยโจ๊ก
แอบคิดเหมือนกันว่าที่โจ๊กไปจีบนิตา น่าจะเป็นเพราะอยากกันนิตาออกมามากกว่า
ทุ่มเทขนาดนี้เชียวหรือนี่

เรื่องภาษา พอดีผมก็เป็นนักเขียนเหมือนกัน แต่ไม่มีคนอ่านเยอะเท่าของคุณหรอก
มีนักเขียนซีไรท์ท่านหนึ่งแนะนำว่า อย่าเขียนประโยคยาว อย่าเชื่อมประโยคหลายๆ ประโยคเข้าด้วยกัน
โดยเฉพาะการใช้ "ที่" หรือ "ซึ่ง" เชื่อมหลายประโยค
ให้แยกประโยคกันไปเลย ภาษาจะได้กระชับและอ่านง่ายขึ้น
ผมก็ลองมาวิเคราะห์และทำตามดู ก็ปรากฎว่ามันทำให้อ่านง่ายขึ้น คนเขียนก็ไม่งงด้วย
เพราะเวลาเขียนประโยคยาวๆ เราจะงงได้ว่ากำลังจะสื่ออะไร ใช่ไหมครับ :)

เช่น นางสาวกอไก่ซึ่งเมื่อเมื่อปีที่แล้วอยู่ปีสองมาเป็นผู้จัดการให้ชมรม
ผมก็จะแก้ใหม่เป็น
นางสาวกอไก่มาเป็นผู้จัดการให้ชมรม เมื่อปีที่แล้วเธออยู่ปีสอง

ประโยคก็จะสั้นลงเพราะไม่ต้องเชื่อมกัน ประมาณนี้ครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ :)
วันพฤหัสหน้าจะมาติดตามใหม่ ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 30-03-2017 18:00:56
โจ๊กที่น่าสงสาร 5555555555555555
โกรธไปเค้าก็ไม่รู้เรื่องหรอก ขำมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Preenp ที่ 30-03-2017 18:26:13
ชอบโจ๊กงะ น่ารักมาก :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 30-03-2017 20:33:31
มอบเพลง รู้ยัง ไว้ให้ไอ้โจ๊กกับโซ่น่าาาา
ไบโพลาร์โจ๊กเอ๊ยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 31-03-2017 11:20:37
สนุก^^ รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 31-03-2017 11:59:00
ทั้งสงสาร ทั้งขำ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 31-03-2017 13:17:40
อิพี่โจ๊กเกรี้ยวกราดจังเลย 55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: FHUNWHAN ที่ 31-03-2017 21:54:28
เรารู้สึกว่านี่เป็นสงคราม (ที่ดูเหมือนจะเป็นของโจ๊กคนเดียว) แต่ละฝ่ายสุดโต่งทั้งคู่และสุดโต่งกันคนละด้าน 555555
สงสารทั้งคู่ สงสารโซ่ที่ต้องรับมือกับคนเกรี้ยวกราด สงสารโจ๊กที่ต้องรับมือกับแมวผู้อ่อนต่อโลก
แต่เราชอบความแตกต่างที่ลงตัวนี้นะ น่ารัก จะรอดูว่าเขาจะค่อยๆปรับตัวมาอยู่ตรงกลางกันยังไง
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: sosobo21 ที่ 01-04-2017 01:41:14
ถ้าเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ พระเอกของเราจะกลายเป็นไบโพลาร์จริงๆแน่เลยค่ะ 555

สงสารโจ๊ก แต่ก็เอ็นดูหนูโซ่ด้วย งึยยยยย คนอะไรทำไมบริสุทธิ์เป็นผ้าขาวอย่างนี้คะลูก

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 01-04-2017 21:42:22
โถพ่อคุณ โกรธแล้วไม่มีคนง้อ  :m20:
สะกดจิตนังน้องโซ่ไปเรื่อยๆโจ๊ก :oni3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-04-2017 22:43:48
เป็นพระเอกที่อารมณ์แปรปรวนแรงมาก 55555555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 02-04-2017 00:53:11
กว่าจะได้โซ่ โจ๊กต้องพบจิตแพทย์ก่อนไม๊? 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 02-04-2017 01:57:33
ชอบพิโจ๊กมากขะ เชียร์อยู่นะคะพี่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 02-04-2017 02:35:29
เรื่องนี้พระเอกเป็นผีบ้า 55
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 02-04-2017 17:44:43
โจ๊กน่ารักม้ากกก ชอบพระเอกแบบนี้ค่ะ 555555  ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 02-04-2017 21:55:48
วงวารพี่โจ๊กกกกก
น้องก็ดีใจหาย
พี่โจ๊กเอาแต่ใจ เปลี่ยนอารมณ์วันละสามเวลาน้องยังตามใจ

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 03-04-2017 18:01:18
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-04-2017 21:07:36
ไบโพลาร์คงไม่พอแล้ว
โจ๊กช่างน่าอนาถ

 :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 05-04-2017 16:35:48


สงสารพระเอกของเรื่องนี้ที่สุด
แต่ก็มั่นใจมากว่าเมื่อพ่อคุณสมหวัง
โจ๊กจะแฮปปี้ที่อุตส่าห์ลงทุนเป็นบ้าในช่วงแรกจีบโซ่
โธ่! พ่อคุณพ่อขนุนหนังของป้า ฮ่า ๆๆๆๆ  :laugh3:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 3 (29/03/2017) หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-04-2017 21:58:14
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 06-04-2017 21:22:45
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 4

…เป็นการดูหนังที่โคตรสนุก ไอ้ฉิบหาย!!…


เจียระไนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในคอนโดสุดหรูของตนเอง หลังจากแยกย้ายกับสิตางศุ์เมื่อดูหนังจบ ไอ้คนที่ดูจบน่ะมีแค่เขาคนเดียว ส่วนคนที่ไม่ได้ดูเลยทั้งเรื่องคือคนที่เขาพาเข้าโรงไปด้วย เพราะมันหลับตลอดทั้งเรื่อง!


...ฉิบหายมั้ย อุตส่าห์พาดูหนังระเบิดตูมตามก็ยังหลับได้! เอากับมันสิ!!...


`กูนอนน้อยน่ะ ช่วงนี้ปั่นเปเปอร์’ เหตุผลง่ายๆของคนหลับคาโรงทำเอาเจียระไนยิ่งปึ้ดหนัก


…เรื่องทำเปเปอร์นั่นกูรู้! แต่มันใช่เรื่องมั้ยที่ปีสี่แล้วแต่ยังโหมเรียน โหมเปเปอร์แบบนี้!!…


พอไอ้คนตัวบางผิวขาวจัดออกปากว่านอนน้อย แถมยังหลับคาโรงให้ดูเป็นขวัญตา เจียระไนก็เลยไม่กล้าชวนไปไหนต่อ แยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันเอาน่าจะทำให้สบายใจมากกว่า


แต่...พอแยกกันแล้ว ร่างสูงก็เพิ่งรู้ตัวว่าในหัวเขามีแต่เรื่องของมันเต็มไปหมด


ตอนที่อยู่ด้วยกันโรงอาหาร ตอนที่ตาจ้องตาในร้านกาแฟ ตอนที่เหลือบไปมองคนข้างๆที่นั่งหลับเอนศีรษะมาทางเขาในโรงหนัง ตอนที่งัวเงียตื่นขึ้นมาเมื่อหนังจบ ตอนที่พูดซื่อๆถึงสาเหตุที่หลับคาโรง สิตางศุ์อยู่ในทุกความทรงจำของวันนี้่


พอคิดแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มจางๆอย่างเอ็นดู เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดไล่ดูเบอร์โทรศัพท์ที่เซฟเอาไว้ด้วยจุดสามจุด ถึงมันจะขยันทำให้เขาหงุดหงิด ถึงมันจะชอบถามเรื่องนิตาอย่างไม่รู้กาลเทศะ แต่...เขาก็ยังอยากได้ยินเสียงมันอีกสักครั้ง...ในวันนี้...


‘กูจะทักไปหามันก่อน มึงว่ากูจะทักยังไงดี’


เขาตัดสินใจเรียกใช้ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทางแอพลิเคชั่นแชท อีกฝ่ายตอบกลับมาอย่างรวดเร็วราวกับรอการรายงานของเขาอยู่แล้ว


‘ทักว่านอนรึยังครับมึง’


‘นอนห่านอนเหวอะไรอีก เมื่อกี้กูปล่อยมันหลับคาโรงตลอดทั้งเรื่อง’


‘แต่นี่มันสี่ทุ่มกว่าแล้วนะโว้ย ช่วยสะกดคำว่าเกรงใจให้กูดูด้วยครับ’


‘เสียใจ’


‘สัดนี่ กูจะแช่งให้ไม่สำเร็จ’ เจียระไนกำลังจะพิมพ์คำด่าอีกสักประโยค แต่บนหน้าจอกลับปรากฏว่ามีสายเรียกเข้าแทรกเข้ามา ชื่อที่ปรากฏคือ ‘…’ แน่นอนว่ามีแค่คนเดียวเท่านั้น ที่เขาเซฟแบบนี้


‘เสียใจจริงๆ ที่มึงแช่งยังไงก็ไม่สำเร็จ มันโทร.มาหากู’


แล้วเขาก็กดรับสายอย่างรวดเร็ว


“มีอะไร” เสียงแข็งแต่หน้ายิ้ม ความสามารถระดับนี้ต้องเจียระไนเท่านั้น


‘อ่า...มึงยังไม่นอนใช่มั้ย’


“ยัง กูนอนดึก” และไม่ควรมีมนุษย์ปีสี่คนไหนที่ได้นอนตอนสี่ทุ่ม...ยกเว้นมนุษย์สิตางศุ์


‘เอ่อ...แล้วพรุ่งนี้...มึงมีเรียนรึเปล่า’ คิ้วของร่างสูงกระตุก เมื่อถูกถามถึงโปรแกรมวันพรุ่งนี้...หรือว่า...มันจะชวนไปไหน?


“ไม่มี มีอะไร”


‘อ่า...ก็...ก็วันนี้มึงเลี้ยงกูตั้งหลายรอบ ทั้งข้าวกลางวัน ทั้งลาเต้ ทั้งหนัง...กู...ก็เลยอยากจะตอบแทนมึงบ้าง’ ประโยคหลังที่แสดงเจตจำนงนั้นฟังยังไงก็มีแต่คำว่าน่ารักกระแทกเข้ามาในใจร่างสูง เจียระไนแทบกลั้นยิ้มกับตัวเองไม่อยู่ แต่ก็จำเป็นต้องทำเสียงเข้มๆกลับไปเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรเลย


“พรุ่งนี้กูว่าจะทำความสะอาดห้องน่ะ” ทำตัวให้ยากนิดหน่อย จะได้ดูน่าตื้อบ้าง แต่...เขาลืมอะไรไปหนึ่งอย่าง คนอย่างสิตางศุ์ตื้อใครไม่ค่อยเป็น และเป็นมนุษย์ประเภทตัดใจง่ายมากกกกก...


‘อ้าวเหรอ งั้นไม่เป็นไร กูไม่รบกวนแล้วกัน’


...ไอ้ฉิบหาย! เกิดเป็นคน ไม่ควรตัดใจง่ายแบบนี้มั้ย?!...


“มึงมาช่วยกูทำความสะอาดสิ” เป็นอีกครั้งที่คนท่ามากต้องรีบยื่นข้อเสนอให้ก่อนที่ลาภลอยจะลอยหนีไป


‘หืม?’


“ก็มึงจะตอบแทนกูไม่ใช่รึไงล่ะ มาช่วยกูทำความสะอาดห้องแล้วกัน”


‘จะดีเหรอ กูว่าให้กูเลี้ยงข้าวน่าจะ...’


“เออ มึงซื้อข้าวมาด้วยเลย พรุ่งนี้มาหากูที่ห้องนะ เดี๋ยวกูส่งโลเกชั่นให้” เจียระไนตัดสินใจเสร็จสรรพก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบด้วยซ้ำ เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้มันอยู่สบายเป็นคุณชายสิตางศุ์แล้วปล่อยเคมีเรี่ยราดให้คนนั้นคนนี้มอง เรียกมันมาช่วยทำความสะอาดห้องดีกว่า ได้อยู่ด้วยกันสองคน ไม่ต้องแบ่งมันให้ใครเห็นด้วย


‘แล้วจะให้กูไปหากี่โมงอ่ะ’


“เก้าโมง มึงตื่นรึยัง”


‘ตื่นแล้ว งั้น...พรุ่งนี้กูแวะซื้อข้าวไปให้แล้วก็ช่วยมึงทำความสะอาดห้องนะ เอ่อ...จะพอรึเปล่า คือ...วันนี้มึงเลี้ยงกูตั้งหลายอย่างแหน่ะ’


“พอ มึงมาให้ตรงเวลาแล้วกัน” พอปลายสายรับคำ เขาก็ตัดสายแล้วจัดแจงส่งตำแหน่งที่อยู่ของตัวเอง บอกพิกัดเลขห้องและชั้นให้สิตางศุ์เรียบร้อยก็เหลือบมองไปรอบคอนโดของตัวเอง คอนโดหรูใจกลางกรุงเทพฯที่ถูกตกแต่งและดูแลอย่างดีเพราะบิดามารดาส่งคนมาทำความสะอาดให้ทุกสัปดาห์ มองยังไงก็ไม่เห็นว่าจะมีส่วนไหนที่ต้องทำความสะอาด


แต่ไม่เป็นไร...ถึงจะสะอาด เขาก็สร้างความสกปรกได้


ร่างสูงลุกขึ้นเดินเข้าไปถล่มห้องนอนเป็นที่แรก ตามมาด้วยห้องนั่งเล่นและห้องครัว ชั่วโมงต่อมา คอนโดที่เคยเรียบร้อยเป็นระเบียบก็ระเกะระกะไปด้วยข้าวของมากมายที่ถูกเขารื้อออกมา เจียระไนยกยิ้มกับตัวเอง ยืนมองผลงานอย่างภาคภูมิใจ


...พรุ่งนี้มึงไม่ได้กลับไวแน่นอน...ไอ้โซ่...

........................

สิตางศุ์ตื่นแต่เช้าตามประสาคนนอนเร็ว พอตื่นมาแล้วถึงได้เห็นข้อความจากเพื่อนสนิทสองคนที่ถามไถ่เรื่องเมื่อวาน พวกนั้นมักจะถามเขาว่าได้อะไรจากเจียระไนบ้าง แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไม่แน่ใจนักว่าวิธีเรียนจากแฟนเก่าของนิตาจะทำให้เขาสามารถจีบหญิงสาวได้จริงๆ


...แต่...เอาเถอะ อยู่กับหมอนั่นก็สนุกดีเหมือนกัน...


ร่างโปร่งลุกจากเตียงอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกจากห้องหาซื้อน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋และโจ๊กติดมือไปเป็นข้าวเช้าให้เจ้าของคอนโดที่เขาจะไปช่วยทำความสะอาดในวันนี้


อีกสิบนาทีจะก้าวโมง ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ก็มาถึงคอนโดของเจียระไน


ทว่า...เจ้าของคอนโดลงมารอที่ล็อบบี้อยู่ก่อนแล้ว ดวงตาคมกริบกวาดมองตั้งแต่เสื้อลงมาที่กางเกงไปที่รองเท้าผ้าใบแล้วก็วกกลับมาที่เสื้อใหม่


“คิดอะไร ใส่เสื้อขาวมาช่วยกูทำความสะอาด” ปากถามแต่ตาคมกริบมีประกายบางอย่าง ทว่าสิตางศุ์ไม่ทันได้สังเกต เพราะก้มลงมองเสื้อผ้าตัวเอง


“ก็ถ้ามีอะไรเลอะเสื้อ จะได้เห็นไง”


“แล้วมึงไม่คิดรึไงว่ามันจะซักไม่ออก”


“ซักไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอก ตัวนี้เก่าแล้ว” เจียระไนเอาลิ้นดุนข้างแก้มเพื่ออุดปากตัวเองจะได้ไม่ต้องพูด


...เสื้อเก่าห่าอะไร! ใส่ยังไงก็ยังน่ารักอยู่ดี!...


“แล้วนั่นมึงซื้ออะไรมา” เขาถามแล้วเอื้อมไปดึงถุงจากมือขาวมาถือเอง และก็พบว่ามันหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะมีทั้งน้ำเต้าหู้ ทั้งโจ๊ก ไหนจะปาท่องโก๋อีก อย่างหลังไม่หนักเท่าไร แต่สองอย่างแรกนั่นสิ มีตั้งหลายถุง


“กูไม่รู้ว่ามึงกินน้ำเต้าหู้แบบใส่เครื่องรึเปล่าเลยซื้อมาสองแบบ โจ๊กก็มีแบบใส่เครื่องในกับไม่ใส่ คือ...กูไม่รู้จะซื้ออะไร ก็เลย...ซื้อแบบนี้มา” คนซื้อมาหลายอย่างอธิบายเป็นฉากๆด้วยหน้าซื่อๆ ตาใสๆ ชนิดที่เจียระไนไม่กล้าดุ


“แล้วมีของมึงรึเปล่า” ใบหน้าขาวพยักหน้ารับ ร่างสูงไม่พูดอะไรต่อ หยิบปาท่องโก๋สีเหลืองกรอบเข้าปากขณะเบี่ยงปลายเท้าเดินนำไปที่โถงลิฟต์ มีคนร่างโปร่งตัวขาวจัดเดินตามหลัง


“ปาท่องโก๋อร่อยดี แล้วซื้อมาทำไมเยอะ ไหนมึงว่าไม่กินของทอด” เขาหันกลับไปพูดกับคนซื้อ ริมฝีปากสีสดแย้มยิ้มกว้างตอบกลับมา


“ก็ไม่กินน่ะสิ แต่เจ้านี้ขายหน้าคอนโดกู เจ้าเดียวกับน้ำเต้าหู้นั่นแหละ ป้าคนขายใจดี วันนี้เห็นกูซื้อเยอะ เลยแถมมาให้อีก อุตส่าห์บอกแล้วว่าซื้อมาให้เพื่อนคนเดียว แกก็ยังให้มาตั้งเยอะ” สมกับที่ถูกแซวว่าเป็นสเป็คสาธารณะ สิตางศุ์มีหน้าใสๆ ดวงตาซื่อๆ และรอยยิ้มสวยๆเป็นอาวุธ ฆ่าทุกคนตายเรียบทั้งในคณะ นอกคณะ ตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสี่ กระทั่งคนขายน้ำเต้าหู้แถวคอนโดก็ยังโดนเคมีเรี่ยราดของมันไปด้วย


สิตางศุ์เห็นร่างสูงเงียบไปตั้งแต่เดินเข้าลิฟต์ก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากทานของที่เขาซื้อมา ในฐานะที่ตนเองเป็นคนกินยาก เขาก็พอจะเข้าใจว่าการกินอะไรไม่ได้ หรือกินของที่ไม่ถูกปาก ความรู้สึกมันแย่แค่ไหน ริมฝีปากสีสดเสนอทางเลือกขึ้นมาใหม่


“...อ่า...กูเห็นมีข้าวมันไก่ขายอยู่ใกล้ๆ เอามั้ย เดี๋ยวกูไปซื้อใ...”


“มึงแดกไหวเหรอ? นี่ก็โจ๊กกับน้ำเต้าหู้ ยังจะไปซื้อข้าวมันไก่อีก


“อ้าว...ก็เห็นมึงเงียบ เลยนึกว่ามึงไม่อยากทานของที่กูซื้อมา...” ร่างสูงปรายสายตามามองแล้วกัดปาท่องโก๋อีกคำต่อหน้าต่อตา


“กูเงียบเพราะกูแดกอยู่ มึงมีปัญหาอะไรอีกมั้ย”


ปิดประเด็นที่สิตางศุ์เป็นห่วง สรุปว่าที่เจ้าของสถานที่เงียบเป็นเพราะ ‘แดกอยู่’ นั่นเอง


ในลิฟต์เงียบกริบไม่มีคำพูดอะไรอีก ร่างโปร่งได้แต่ยืนเงียบๆอยู่มุมหนึ่งของลิฟต์ ปล่อยให้คนที่ยัง ‘แดกอยู่’ เคี้ยวปาท่องโก๋หงับๆจนกระทั่งลิฟต์เปิดอีกครั้งหนึ่ง


ร่างสูงก้าวเท้าเดินนำ มีคนร่างโปร่งผิวขาวจัดเดินตามหลังอย่างเงียบๆเช่นเดิม คอนโดแห่งนี้ นอกจากพิกัดจะอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกแล้ว ยังตกแต่งหรูหราแม้กระทั่งส่วนกลางอย่างโถงทางเดิน ยิ่งพอสิตางศุ์ได้เห็นห้องของเจียระไน เขาก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าเพื่อนบางคนที่ทำตัวติดดินมากๆ พอถึงเวลาจริงๆ มันก็รวยมากเช่นกัน


แถมยัง...สกปรกมากๆอีกด้วย


ดวงตาคู่สวยมองเลยไปยังห้องนั่งเล่นที่อิเหละเขละขละไปด้วยข้าวของกระจัดกระจายไม่เป็นที่เป็นทาง คอนโดหรูแค่ไหนก็ไม่อาจดูดีได้เลย ถ้าสภาพห้องจะเละเทะแบบนี้


เจียระไนเห็นสายตาของคนที่เขาพามามองผ่านไปยังห้องนั่งเล่นทางด้านหลัง แต่เขาไม่พูดอะไร วางถุงอาหารเช้าลงบนโต๊ะอาหารขนาด 8 ที่นั่ง ซึ่ง...ก็ระเกะระกะไปด้วยเอกสาร หนังสือ ถุงขนมที่ยังไม่ได้แกะและกระป๋องเครื่องดื่มที่หมดแล้ว...ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่เขาเพิ่งดื่มเมื่อตอนก่อนจะลงไปรอสิตางศุ์นั่นแหละ


“วันนี้จะทำเสร็จมั้ยเนี่ย” ร่างโปร่งเห็นสภาพห้องแล้วได้แต่บ่นกับตัวเอง เขาไม่นึกว่าคอนโดของเจียระไนจะใหญ่ขนาดนี้ ขนาดส่วนนั่งเล่นยังใหญ่กว่าคอนโดของเขาทั้งห้องเลย โต๊ะอาหารยาวถึง 8 ที่นั่ง บ้านเดี่ยวบางหลังก็ยังวางโต๊ะแบบนี้ไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงห้องครัว ห้องนอนและห้องน้ำ เพราะขนาดคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเท่าไร


“ไม่เสร็จไม่เป็นไร เตียงกูกว้าง นอนที่นี่ได้เลย เดี๋ยวกูหาเสื้อผ้าให้” เจ้าของห้องพูดเรียบๆ ไม่บ่งอารมณ์ว่าพูดเล่นหรือพูดจริง แต่ต่อให้พูดจริง สิตางศุ์ก็ไม่นอนด้วยเด็ดขาด


...ห้องนั่งเล่นยังรกขนาดนั้น ห้องนอนคงสภาพแย่ไม่ต่างกัน เขากลับไปนอนห้องตัวเองน่าจะดีกว่า...

...................................

หลังอาหารเช้าเป็นโจ๊ก น้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ พวกเขาก็เริ่มจัดเก็บคอนโดของเจียระไน น่าประหลาดที่แม้ข้าวของจะอยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง แต่กลับไม่มีฝุ่นเลยสักนิด มนุษย์แพ้ฝุ่นที่เคยถึงขั้นต้องกินยาแก้แพ้ออกจะสงสัยอยู่ไม่น้อย แต่เพราะเกรงว่าถ้าทำไม่เสร็จจะถูกเจ้าของห้องบังคับให้นอนที่นี่ เขาก็เลยไม่ได้ฉุกใจใดๆอีก


เสียงสัญญาณจากเครื่องซักผ้าดังเบาๆบอกให้รู้ว่าผ้าปูที่นอนถูกซักเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิตางศุ์เดินไปจัดการเอาออกมาตากที่ระเบียงกว้าง แม้จะเป็นช่วงใกล้เที่ยงแต่เพราะห้องนี้อยู่ชั้นเกือบบนสุด เลยทำให้มีลมเย็นพัดผ่าน แถมมองเห็นวิวเมืองหลวงจนสุดสายตาก็ยิ่งทำเอาสิตางศุ์ยืนมองเพลิน


“ทำไร” เสียงทุ้มดังขึ้นปลุกสติร่างโปร่งให้หันกลับไปมอง ใบหน้าคมดุจับจ้องมาที่เขาแต่ไม่บ่งอารมณ์ใดก็ทำเอาสิตางศุ์รู้สึกผิดเล็กน้อยเหมือนตัวเองแอบอู้งานมายืนที่ระเบียง


“วิวสวยดีก็เลยมองเพลินไปหน่อย เอ่อ...ในห้องนอนเก็บถึงไหนแล้วล่ะ เดี๋ยวกูเข้าไปช่วย” ร่างขาวจัดกำลังจะเดินสวนกลับเข้าไปข้างใน แต่แขนใหญ่ยกขึ้นขวางแล้วจับไหล่หมุนตัวให้สิตางศุ์หันกลับไปมองวิวกรุงเทพฯอีกครั้ง


“วิวสวยก็ดูต่อ”


“แต่...ห้องมึงจะไม่เสร็จ...”


“ไม่เป็นไร กูไม่รีบ” เจ้าของห้องว่าอย่างนั้นแล้วชี้นิ้วไปที่ไกลๆ “ตอนกลางคืน ตึกนั้นจะเปิดไฟสวยมาก”


สิตางศุ์มองตาม อาคารสูงรูปทรงแปลกตา แม้แต่ตอนกลางวันก็ยังดูโดดเด่นท่ามกลางตึกสูงมากมาย หากตอนกลางคืนมีแสงไฟจากห้องต่างๆ ก็คงน่ามองไม่ต่างกัน


“คืนนี้มึงอยู่ดูสิ”


“หืม?” คนถูกชวนชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลหันมามองคนพูดที่เหลือบตามามองเขา


“เดี๋ยวดึกๆกูไปส่งที่ห้อง”


“ไม่เป็นไรหรอก กูเกรงใจ...”


“กูเต็มใจ” ร่างสูงชิงพูดอย่างที่ทำเอาริมฝีปากสีสดพูดต่อไม่ออก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องใบหน้าของคนที่หันมาพูดแทรกเขา เป็นอีกครั้งที่นัยน์ตาสีดำสนิทที่แสนลึกลับนั้นมีประกายบางอย่างที่อ่านไม่ออก สิตางศุ์ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายนึกคิดอะไร แต่ที่รู้...เหมือนดวงตาคู่นี้ดึงดูดให้เขาไม่อาจขัดขืนได้


“อย่ามองกูอย่างนั้น” แล้วก็เป็นฝ่ายเจียระไนที่เบี่ยงสายตาหนีไปทางอื่นก่อน สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆเพื่อเรียกสติกลับมา แม้จะยังงุนงงกับคำพูดของเจ้าของคอนโด แต่ร่างสูงไม่เปิดโอกาสให้เขาถามอะไร ชี้นิ้วไปที่โซฟาเบดที่ระเบียงแล้วสั่ง


“มึงนั่งเล่นตรงนี้ไปก่อน ไว้กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วค่อยทำต่อ จะแดกอะไร กูจะโทร.สั่ง”


“โจ๊ก...”


“กูไม่แดกโจ๊กสองมื้อหรอกนะ”


“ไม่ๆ กูเรียกมึง” เจ้าของชื่อ ‘โจ๊ก’ หันมามอง


“มีอะไร”


“มึงก็ทำมาตั้งแต่เช้าแล้ว...” ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันเหมือนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะพูดต่อดีมั้ย แต่สุดท้ายก็เอ่ยออกมา


“...เอ่อ...กูยังไม่หิวหรอก ยังไม่ต้องสั่งอะไรก็ได้ อ่า...มึง...มานั่งด้วยกันก่อนสิ... ”


...นั่งด้วยกันก่อนสิ...นั่งด้วยกันก่อนสิ...นั่งด้วยกันก่อนสิ...
เหมือนในหัวคนฟังมีแต่ประโยคนี้ดังซ้ำๆ ร่างเย็นเฉียบทว่าหัวใจกลับเต้นแรงจนต้องยกมือขึ้นแตะหน้าอกตัวเองแล้วถูไปมาแรงๆราวกับจะปลอบให้มันเต้นช้าลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเลื้อยขึ้นไปเกาศีรษะตัวเองอย่างเก้อๆ เจียระไนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องโดยไม่พูดอะไร


สิตางศุ์ชะงักไปเล็กน้อยที่คำชวนของเขาถูกเมิน แต่ไม่ทันจะตั้งคำถามกับตัวเองว่าทำไม เจ้าของห้องก็เดินกลับมาที่ระเบียงอีกครั้งพร้อมด้วยกีต้าร์โปร่ง


“กูไม่ชอบนั่งเงียบๆ...” เจียระไนว่าอย่างนั้น ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาเบดแล้วตั้งกีต้าร์บนตัก


“...อยากฟังเพลงอะไรล่ะ” คนถือกีต้าร์ถามพร้อมรอยยิ้มจางๆ ในขณะที่สายตาทอดมองคนที่เดินมานั่งข้างๆ เป็นคำถามที่อ่อนโยนเหมือนจะเอาใจ และเป็นสายตากับรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกแปลกประหลาดจนคนถูกมองรู้สึกราวกับตัวเองเป็นคนสำคัญ


...อยากฟังเพลงอะไรอย่างนั้นหรือ?...ถ้าอยากฟังเพลงอะไร ก็จะเล่นให้ฟังทุกเพลงอย่างนั้นใช่มั้ย...


“งั้น...เอาเพลง Zombie”


รอยยิ้มของเจียระไนเหือดในวินาทีนั้น


“หะ? มึงจะเอาเพลงอะไรนะ”


“Zombie ของ The Cranberries” คนอุตส่าห์ไปหยิบกีต้าร์ออกมากะสร้างบรรยากาศโรแมนติกถึงกับถอนหายใจเฮือก แล้วยื่นโอกาสครั้งใหม่


“กูให้ขออีกที” สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆ ที่คนถือกีต้าร์บอกให้เขาขอเพลงอื่น เดาเอาว่าหมอนี่อาจจะเล่นคอร์ดเพลงนี้ไม่ได้

“อ่า...ซอมบี้ยากไปเหรอ งั้น...เพลง imagine ของจอห์น เลนนอนก็ได้” ครั้งที่สองสำหรับการถอนหายใจ แถมเจียระไนกรอกตามองบนอีกสามทีด้วยความเซ็ง


...ไอ้ฉิบหายเอ๊ย!!! แต่ละเพลงที่เลือกมา ไม่สงครามก็สันติภาพ!!!...


“ไม่ต้องขอแล้ว มึงนั่งฟังเฉยๆไปเลย” แล้วนิ้วยาวก็เริ่มดีดสายให้เกิดเป็นเสียงดังแผ่ว คนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะตั้งคำถามด้วยความสงสัย


“เพลงอะไรน่ะ”


“Wherever you are”


แล้วหลังจากนั้น เสียงเกลากีต้าร์เบาๆก็ดังขึ้น คนเล่นกีต้าร์ไม่ยอมร้อง บทเพลงนี้จึงมีแค่เสียงดนตรี ทว่า...สิตางศุ์กลับรู้สึกสงบอย่างน่าประหลาด เขาทอดสายตามองไปยังเมืองหลวงที่มีตึกสูงต่ำไกลสุดลูกหูลูกตา กรุงเทพมหานครที่คึกคักและจอแจ แต่ที่ระเบียงคอนโดแห่งนี้กลับมีเพียงคนสองคนและกีต้าร์หนึ่งตัว ท่วงทำนองหวานหูดังเบาๆอยู่ข้างกาย ทว่าน่าเสียดายที่สิตางศุ์ไม่รู้เนื้อเพลง


“โจ๊ก...เพลงนี้ไม่มีเนื้อเหรอ” เพราะมีแต่เสียงดีดกีต้าร์ ไม่มีเสียงร้อง คนฟังเลยตั้งคำถาม


“มี แต่กูไม่ร้อง” คนที่ยังก้มหน้าก้มตาอยู่กับกีต้าร์โปร่งตอบกลับมาโดยไม่สนใจจะร้อง เป็นอันว่าเพลงนั้นดำเนินต่อไปโดยที่มีแค่เสียงกีต้าร์อย่างเดียว


สิตางศุ์ไม่ได้เรียกร้องอะไรอีกเพราะคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงร้องเพลงไม่เป็นเลยไม่กล้าร้อง ทว่าเหตุผลที่แท้จริง คือเจียระไนไม่อยากให้คนฟังรู้ความหมายของเพลงนี้


เพราะหากเมื่อไรที่รู้ เมื่อนั้น...ประกายประหลาดในดวงตาและรอยยิ้มของเขาก็คงไม่เป็นความลับอีกต่อไป...

..........................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 06-04-2017 21:23:11


สี่ทุ่มกว่า รถหรูของคนที่ขันอาสาว่าจะมาส่งก็เลี้ยวมาจอดที่หน้าตึกขนาดย่อมสูงราวๆสิบชั้น สิตางศุ์ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันมาหาคนขับที่กำลังสอดส่องมองไปรอบๆ แม้ที่นี่จะเป็นอาคารเก่า แต่ก็ยังได้รับการดูแลอย่างดี ไฟสว่างสอดส่องทั่วถึง ไม่เปลี่ยววิเวกวังเวงแต่อย่างใด


“ขอบใจนะ” เสียงของคนข้างกายดังขึ้น ทำเอาคนที่กำลังมองออกไปนอกหน้ากระจกรถต้องหันมองต้นเสียง เขาพยักหน้ารับรู้แล้วก็หันไปมองทางอื่นอีก ร่างโปร่งเห็นอีกฝ่ายไม่ได้สนใจตนเท่าไรนักเลยหันไปเปิดประตู ทว่าคนที่เหมือนจะไม่ได้สนใจเขาในทีแรกกลับพูดขึ้นมา


“พรุ่งนี้มีเรียนเช้าใช่มั้ย” ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลที่แม้จะอยู่ในความมืดสลัวก็ยังมีแววซื่อบริสุทธิ์นั้นหันกลับมามอง


“อื้อ”


“งั้นกูมารับ”


“มารับทำไม กูไปเองได้”


“กูรู้ว่าไปเองได้ แต่กูจะมารับ” สิตางศุ์ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ แต่เจียระไนกลับไม่สนใจความไม่เข้าใจนั้นเลย เขาโบ้ยไปที่ประตู


“ลงไปได้แล้ว สี่ทุ่มกว่าแล้ว มึงนอนเร็วไม่ใช่เหรอ”


“เอ่อ...แต่...เรื่องพรุ่งนี้ที่มึงจะมารับ...”


“เรื่องพรุ่งนี้ก็เอาไว้พรุ่งนี้ วันนี้และตอนนี้คือมึงควรจะขึ้นไปนอนได้แล้ว แล้วห้องอยู่ชั้นไหน”


“ชั้นห้า”


“เข้าห้องปิดประตูแล้วโทร.บอกกูด้วย ไป ลงไปได้แล้ว กูจะได้กลับ” ถูกไล่ลงแบบเรียบๆ สิตางศุ์ก็ถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่เปิดประตูรถลงไปยืนอย่างงงๆ และก่อนที่รถหรูจะเคลื่อนตัวออกจากหน้าตึกไป กระจกฝั่งข้างคนขับก็ถูกกดลง แล้วเสียงทุ้มของเจียระไนก็ดังออกมาให้คนที่ยืนกะพริบตาปริบๆได้ยิน


“ถึงห้องแล้วโทร.บอกกู แล้วพรุ่งนี้เช้ากูจะมารับ”


แล้วรถหรูก็แล่นออกไปโดยไม่รอฟังคำพูดของคนถูกสั่งเลยแม้แต่นิดเดียว สิตางศุ์เกาศีรษะด้วยความงุนงง ก่อนจะถอนหายใจเฮือก เพราะรู้ดีว่าคนอย่างเจียระไน เป็นมนุษย์ที่เข้าใจยากที่สุดในโลก

....................

ไม่ใช่แค่ ‘เรื่องของวันพรุ่งนี้ที่เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้’ เพราะหลังจากนั้น ก็มีคนในคณะอีกหลายคนที่เห็นสิตางศุ์ลงจากรถหรูของหนุ่มปีสี่แห่งภาควิชาการปกครอง ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นว่ารถคันนี้เป็นของเจียระไน และกลายเป็นข้อสงสัยว่าเหตุใด มนุษย์สเป็คสาธารณะแห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถึงลงจากรถเพื่อนร่วมคณะแต่ต่างภาคฯได้


“หมู่นี้น้องติซซี่บ่นมาเข้าหูกูนะ ว่ามึงไม่ค่อยเดินไปไหนเลย มีรถขับมาส่งถึงหน้าตึกตลอดดดด” พฤกษาทรุดตัวลงนั่งบนโต๊ะม้าหินตัวเดิมหน้าตึกเรียนใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่นแม้จะเป็นเวลาบ่ายแล้วก็ตาม คนมาถึงก่อนจะเป็นใครไปไม่ได้ สเป็คสาธารณะอย่างสิตางศุ์นั่นเอง


ใบหน้าขาวหันมามองคนแซว คิ้วขมวดมุ่น


“กูก็งงเหมือนกัน ทำไมอยู่ดีๆไอ้โจ๊กถึงใจดีไปรับกูทุกวัน วันนี้กูไม่มีเรียน จะมาคณะ มันก็ยังไปรับมาส่ง...แล้วไอ้กตล่ะ” เห็นเพื่อนซี้เพียงหนึ่งเดียว สิตางศุ์ก็ถามถึงเพื่อนร่างใหญ่ผิวเข้มจากชมรมฟุตบอลของคณะที่ไม่ได้โผล่มาด้วย


“ทำภารกิจ” คนทะเล้นตอบแบบไม่น่าจะฟังแล้วเข้าใจ แต่เพราะพฤกษาเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร คนถามเลยไม่คิดจะซักไซ้อะไรอีก


“ถ้าเสร็จแล้ว ให้มันซื้อน้ำมาให้หน่อย มันอยู่ใกล้โรงอาหารมั้ย”


“แหมมมมม...แล้วทำไมไม่ใช้บอดี้การ์ดล่ะครับคุณโซ่” พฤกษาหยอก แน่นอนว่าคนถูกหยอกไม่เข้าใจ


“ใครเป็นบอดี้การ์ด?”


“เออ ช่างเหอะ เดี๋ยวกูบอกไอ้กตให้ ให้มันแวะร้านพม่าซื้อเฟรนซ์ฟรายให้ด้วยดีกว่า” แล้วเพื่อนทะเล้นก็พิมพ์ข้อความรัวๆส่งไปหาเพื่อนอีกรายที่ยังมาไม่ถึงโต๊ะม้าหิน ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองคนที่นั่งร่วมโต๊ะ สิตางศุ์กำลังอ่านหนังสือ หมอนี่เป็นพวกขยันเรียน จบไปคงสอบเข้ารับราชการ ทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับที่มันเรียนมา แนวรักสันติอย่างมัน คงทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ ถ้า...ไม่ถูกพวกไม่รักสันติอื่นๆฆ่าตายไปซะก่อน


...แต่...คงจะตายยาก เพราะคนดีผีคุ้ม เทพเจ้าคุ้มอย่างมัน ไม่มีใครปล่อยให้ตายง่ายๆหรอก...


“เรื่องนิตาเป็นไงมั่ง” แล้วจู่ๆ พฤกษาก็ตั้งคำถามขึ้นมา ทำเอาคนที่กำลังอ่านหนังสือตรงหน้าถึงกับชะงัก ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมองคนถาม แต่พฤกษาดูจะไม่ได้ใส่ใจนักเพราะก้มหน้าเล่นมือถือตัวเอง


“ก็...กูก็ไม่รู้ว่ะ บางทีกูไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากูรู้สึกยังไง” คิ้วคนฟังกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองคนพูด สิตางศุ์มองเขาวูบหนึ่ง แล้วก็เบือนสายตาลงจ้องตัวอักษรบนหนังสือ


“ไอ้โจ๊กถามมึงมาเหรอ”


“หืม? ทำไมถึงคิดว่าไอ้โจ๊กถามกู” คราวนี้คนที่เบนสายตาลงมองหนังสือถึงกับต้องเงยหน้ากลับขึ้นมาย้อนถาม


“ก็มึงไม่น่าจะคิดเองได้ มึงคิดมาตลอดตั้งแต่ปีหนึ่งว่าชอบนิตา พวกกูชี้ให้ดูน้องคนนั้น น้องคนนี้ ไอ้กตถึงขนาดพาเพื่อนมันมาให้มึงรู้จัก มึงก็ยังไม่สน คนอย่างมึงไม่น่าจะมาตั้งคำถามกับตัวเองได้หรอก ถ้าไม่ใช่ว่ามีใครถามมาให้มึงสะกิดใจ” สิตางศุ์ถอนหายใจเฮือก


“ไอ้โจ๊กคุยอะไรกับมึงบ้างล่ะ” พฤกษาโหมดถามคำถามจริงจังแบบนี้เห็นไม่บ่อยนัก นับตั้งแต่ลงเรียนวิชากฎหมายตอนปีหนึ่งที่มันท่องเอาเป็นเอาตายจนได้เอมาประดับบนทรานสคริปต์ ก็แทบไม่เคยเห็นมันทำหน้าแบบนี้อีกเลย


และเพราะเป็นสีหน้าแบบนี้ของเพื่อนซึ่งรู้จักกันมาสี่ปี สิตางศุ์ก็รู้ดีว่าต้องตอบความจริงเท่านั้น


“ก็...คุยเรื่องทั่วๆไป”


“มีเรื่องนิตามั้ย”


“แทบจะไม่มี”


“อยู่กับมันแล้วรู้สึกยังไงล่ะ”


“ก็...ดี...”


“ดีแบบไหน?” คราวนี้คนถูกถามเริ่มคิดหนัก เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าดีที่ว่าคือดีแบบไหน แต่แค่อยู่กับหมอนั่นแล้วสบายใจ ถึงจะถูกกวนประสาทบ้าง หรือหมอนั่นพูดไม่รู้เรื่องบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็สนุกดี สงบด้วย สบายด้วย


“อืม...มันมีอะไรแปลกๆเยอะมั้ง แล้ว...บางทีมันก็ใจดี บางทีมันก็ดุๆ แต่โดยรวมแล้วก็ดี”


“สรุปว่ามึงอยู่กับมันแล้วรู้สึกดีอย่างนั้นใช่มั้ย?”


“อืม...คิดว่านะ” สิตางศุ์เหลือบตามาเห็นสายตาของเพื่อนรักจอมทะเล้นที่มองมาที่เขาพลางยิ้มน้อยๆแล้วก็รู้สึกแปลกๆ แต่พอมันเห็นเขาทำหน้าสงสัย พฤกษาก็เบี่ยงสายตาไปทางอื่นแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“แพท...มึงมีอะไรที่อยากบอกกูรึเปล่า” คนก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์เหลือบสายตาขึ้นมองเจ้าของคำถาม


“ไม่ใช่กูที่ต้องบอก”


“หมายความว่าไง”


“ก็หมายความไม่ใช่กูที่ต้องพูด...นั่นไง ไอ้โจ๊กมา...” แล้วพฤกษาก็ชี้ไปด้านหลังของเพื่อนรัก สิตางศุ์หันไปมอง เจียระไนกำลังเดินตรงเข้ามาหาพวกเขา ในมือมีน้ำเปล่าหนึ่งขวดและถุงขนมจีบซาลาเปายี่ห้อดัง ร่างสูงใหญ่เดินตรงมาที่โต๊ะม้าหินที่สองเพื่อนซี้แห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั่งอยู่ ก่อนจะวางของที่ถือมาลงบนโต๊ะ


“ไอ้กตฝากน้ำมาให้” สิตางศุ์กำลังจะล้วงเหรียญจากกระเป๋ากางเกงมาส่งเป็นค่าน้ำ แต่ร่างสูงรีบพูด


“เอาตังค์ให้มัน ไม่ต้องให้กู” ใบหน้าขาวพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหยิบขวดน้ำมาเปิด


“อ้าว! แล้วเฟรนซ์ฟรายร้านพม่าของกูล่ะครับ” พฤกษารีบถาม เจียระไนเลยเหลือบสายตาไปมอง


“ยังไม่สุก เดี๋ยวตามมาทีหลัง” ตอบเสร็จ มันก็ก้มลงมองร่างโปร่งผิวขาวจัดที่กำลังดูดน้ำ


“กินขนมจีบกับซาลาเปาด้วย” ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ปกติเจียระไนก็นับว่าเป็นผู้ชายตัวสูงมากอยู่แล้ว ยิ่งพอมายืนในขณะที่เขายังนั่งอยู่ ยิ่งต้องแหงนหน้าคุย


“แล้วมึงไม่เอาไว้กินล่ะ”


“เอาไว้ทำไม กูกินแล้ว นี่ซื้อมาฝาก” สิตางศุ์ลองเปิดถุงดู มีซาลาเปาสี่ลูก ขนมจีบฮะเก๋าอีกอย่างละกล่อง


“เท่าไร”


“กูบอกว่าซื้อ-มา-ฝาก” คนถูกบังคับให้รับของฝากนิ่งไปเล็กน้อย


“แต่...เยอะขนาดนี้กูกินไม่หมดหรอก”


“แบ่งไอ้แพทสิ รอแดกน้ำลายยืดอยู่น่ะ” แล้วเจียระไนก็โบ้ยไปที่มนุษย์ผู้ถูกลืมที่นั่งร่วมโต๊ะด้วย สิตางศุ์หันไปมองเพื่อนรัก เลยเป็นโอกาสให้ร่างสูงรวบรัดอีกหน


“มึงจะกลับแล้วโทร.บอกกูละกัน กูอยู่ห้องคอมฯ” แล้วเจียระไนก็เดินจากไป คนถูกรวบรัดพากลับโดยรถหรูคันเดิมจะร้องห้ามก็ไม่ทันแล้ว เพราะผู้ชายตัวสูงใหญ่เดินไวข้ามถนนหน้าคณะไปยังตึกเรียนอีกฝั่งซึ่งมีห้องคอมพิวเตอร์แล้วเรียบร้อย


สิตางศุ์ถอนหายใจเบาๆ พอดีกับที่อลงกตเดินเลี้ยวพ้นมุมตึกมาจากโรงอาหาร ในมือมีถาดกระดาษใส่เฟรนซ์ฟรายจากร้านซึ่งคนขายเป็นพม่ามาด้วย พฤกษารีบควักเงินส่งให้เพื่อนซี้แลกกับเฟรนซ์ฟรายที่ตัวเองสั่ง ร่างโปร่งเลยล้วงเอาเศษเงินขึ้นมาส่งเป็นค่าน้ำเปล่าบ้าง


ทว่าอลงกตกลับหันมาถาม “ค่าอะไร”


“อ้าว ก็น้ำที่มึงฝากไอ้โจ๊กถือมา...” เท่านั้นล่ะ เพื่อนผิวเข้มจากชมรมฟุตบอลถึงกับส่ายหน้าหวือ


“กูไม่ได้ซื้อแล้วฝากมา แต่กูฝากไอ้โจ๊กซื้อแล้วให้มันถือมา” เพียงเท่านั้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มก็เหลือบลงมองขวดน้ำและขนมจีบซาลาเปาที่วางอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกแปลกๆที่ตีรวนในหัวใจ ก่อนจะบ่นให้เพื่อนสองคนได้ยิน


“ทำไมไอ้โจ๊กชอบเลี้ยงกูวะ”


ดวงตาคู่สวยเหลือบมองอลงกตและพฤกษา ทว่าไม่มีคำตอบจากพวกมันสองคน


“หรือมันเห็นว่ากูจนกว่ามัน?”


“หืม?! มึงว่าอะไรนะ” พฤกษาร้องถามเสียงหลง เฟรนซ์ฟรายที่กำลังเคี้ยวแทบติดคอ


“ก็...ไอ้โจ๊กมันรวย มันคงคิดว่ากูไม่มีเงิน ก็เลยซื้อนั่นซื้อนี่มาฝากกูบ่อยๆ ก็จริง...ที่บ้านกูไม่ได้รวยเท่ามัน แต่กูก็อยู่ได้ไม่เดือดร้อนให้มันต้องมาคอยเลี้ยง” พอได้ระบาย ก็เหมือนสิตางศุ์จะปล่อยความอัดอั้นในใจออกมา หลายครั้งที่รู้สึกไม่ดีเวลาที่เจียระไนแย่งจ่ายค่าอาหาร พอเขาจะช่วยออก หมอนั่นก็ชอบทำหน้าดุ ทำหน้าหงุดหงิด คนไม่ชอบการปะทะอย่างเขา ก็เลยพลอยเป็นไม่ขัดใจไปด้วย


“มันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอก โซ่” อลงกตเอ่ยปากแล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งที่ม้านั่งตัวข้างๆ


“มึงรู้ได้ไงว่ามันไม่คิด” อลงกตและพฤกษาหันมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร สิตางศุ์รู้ในทันทีว่าพวกมันมีเรื่องที่รู้กันเพียงลำพัง โดยที่เขาไม่รู้


“พวกมึงรู้อะไรมา เมื่อกี้ไอ้แพทก็พูดแปลกๆ” เขาถามซ้ำ ทำเอาเพื่อนผิวเข้มจากชมรมฟุตบอลตวัดสายตาไปมองพฤกษา


“มึงพูดอะไร แพท”


“ก็มันถามว่ากูมีอะไรจะบอกมันมั้ย กูเลยบอกว่ากูไม่ใช่คนที่ต้องบอก ก็แค่เนี้ย” อลงกตถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเหลือบตากลับมามองสิตางศุ์ที่จ้องเขาอย่างคาดหวัง และเพราะรู้จักนิสัยของเพื่อนดี การถูกจ้องแบบนี้ย่อมหมายความว่าอลงกตต้องพูดเท่านั้น เฉไฉไม่ได้เป็นอันขาด


“โซ่...” เขาเริ่มต้นเรียกชื่อเพื่อนสนิทเบาๆ ทว่าน้ำเสียงมั่นคง


“...มึงไม่ต้องมองอะไรกว้างๆหรอก เรื่องนี้มันเล็กนิดเดียว แค่มึงมองรอบตัวมึงดีๆ แล้วก้มลงมองใจมึงดีๆ แค่นั้นแหละ มึงจะรู้ทุกอย่าง” สิตางศุ์นิ่งชะงัก ดวงตาคู่สวยหลุบต่ำลงมองถุงขนมจีบซาลาเปาและน้ำเปล่าหนึ่งขวดที่วางอยู่ตรงหน้า


“กูไม่รู้ว่ะกต...” ร่างโปร่งตอบเสียงแผ่ว


“...ไอ้โจ๊กก็บอกให้กูคิดให้ดีว่าชอบนิตาจริงๆรึเปล่า แต่...กูไม่รู้...”


อลงกตยิ้มจาง เอื้อมมือไปบีบไหล่เพื่อนสนิทเป็นการให้กำลังใจ


“งั้นก็ไม่เป็นไร ค่อยๆคิดก็ได้ ไม่ต้องรีบ”


“เอ่อออออ...ขอกูขัดนิดนึง คือแบบ...ตอนนี้เราก็ปีสี่กันแล้ว มึงไม่รีบ มันก็จะไม่ทันอ่ะนะครับ” พฤกษารีบแทรก


“ไม่ทันก็ไม่ต้องทัน ไม่ทันก็ไม่ต้องมีแฟน ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ไม่มีแฟนสักคน ก็เรียนจบ รับปริญญา ทำงานได้ ไว้เกษียณแล้วค่อยหาแฟนก็ยังได้” อลงกตย้อน เล่นเอาคนสนับสนุนให้รีบมีแฟนก่อนเรียนจบถึงกับทิ้งแท่งเฟรนซ์ฟรายในมือลงกับถาด


“อ๊ะหือ!! ไว้เกษียณแล้วค่อยหาแฟน?! กว่าเพื่อนกูจะได้แต่งงาน มันคงได้ลอยอังคารแฟนมันก่อน!”


“ถ้าแฟนไอ้โซ่รีบตายก่อนก็ช่วยไม่ได้!”


“เห็นมั้ย โซ่ ไอ้เชี่ยกตมันไม่ช่วยอะไรมึงหรอกนะ ถ้ามึงมีแฟนตอนเกษียณแล้วไม่ทันได้แต่งงาน แต่ได้จัดงานศพให้แฟนมึงแทนน่ะ!”


“แล้วมันความผิดกูรึไงที่แฟนไอ้โซ่จะชิงตายห่าไปก่อน?!”


“พวกมึงจะเถียงกันทำไมเนี่ย” คนกลางผู้กลายเป็นประเด็นให้เพื่อนสนิทสองคนเถียงกันรีบออกปากห้าม


“ก็กูอยากให้มึงมีแฟนสักที” ฝ่ายเชียร์ให้เพื่อนมีแฟนก่อนเรียนจบอย่างพฤกษาออกตัว


“ไม่มีก็ไม่เห็นเป็นห่าอะไร” ส่วนอลงกต ฝ่ายนี้ชูประเด็นไม่มีก็ได้ ไว้มีตอนเกษียณก็ได้ ง่ายๆว่าอาวุโสก็โอ.เคนั่นแหละ


“มึงน่ะมันพ่อหวงลูกสาว!!” พฤกษาชี้หน้าเพื่อนซี้


“ก็ดีกว่ามึงที่ขายเพื่อน!!” อลงกตชี้หน้ากลับ


“แหมมมมม ทีมึงพาเพื่อนผู้หญิงของมึงมาแนะนำให้ไอ้โซ่รู้จักนี่ไม่ขายเพื่อนเลยนะไอ้หอก!”


“ของกูมันไว้ใจได้”


“แล้วของกูมันไว้ใจไม่ได้ตรงไหน”


สิตางศุ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยิบหูฟังมาเสียบหูเปิดเพลงเพื่อตัดเสียงของเพื่อนสนิทสองคนที่เถียงกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตาเหลือบไปเห็นถุงขนมจีบซาลาเปาที่วางอยู่ตรงหน้า แล้วเสียงของอลงกตที่พูดเมื่อครู่นี้ก็ดังขึ้นในหัว


‘…เรื่องนี้มันเล็กนิดเดียว แค่มึงมองรอบตัวมึงดีๆ…’


…มองรอบตัวดีๆอย่างนั้นหรือ...


มือขาวหยิบถุงขนมจีบมาเปิดดู ก่อนจะลองหยิบไม้มาจิ้มเข้าปากไปหนึ่งลูก แล้วก็พบว่ามันอร่อยมากกว่าขนมจีบสำเร็จรูปอุ่นไมโครเวฟ จะว่าไปแล้วของฝากแทบทุกอย่างที่เจียระไนซื้อมาให้เขาก็อร่อยทั้งนั้น ยกเว้นกล้วยแขกของฝากชิ้นแรกที่เขาไม่ทาน แต่ถึงอย่างนั้น เพื่อนๆที่ได้ทานก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยมาก


...หรือบางที... ‘ไอ้โจ๊ก’ ไม่ได้ซื้อมาฝากเพราะเห็นว่าเขาจนกว่ามัน แต่มันแค่อยากให้เขาได้ทานของอร่อยๆเท่านั้นเอง...


พอคิดถึงเจ้าของขนมจีบซาลาเปาแล้ว สิตางศุ์ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แอพลิเคชั่นแชทในหน้าของเขากับเจียระไนแทบไม่ค่อยคุยกันเลย หมอนั่นบอกว่าไม่ชอบพิมพ์ ตัวอักษรเล็ก ขี้เกียจเพ่ง แป้นก็เล็ก จิ้มไม่ถูก ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆคนอย่างเจียระไนก็บ่นได้ทั้งนั้น แต่...ถ้าให้อ่านที่เขาพิมพ์ไป ก็คงไม่บ่นอะไรนัก


‘ขนมจีบอร่อย ขอบใจนะ’


นิ้วขาวพิมพ์ข้อความสั้นๆแล้วส่งไปหาร่างสูง ชั่วอึดใจเดียวข้อความของเขาก็ถูกอ่าน แล้วปลายทางก็เงียบไป...จนกระทั่งมีข้อความถูกส่งกลับมา


‘กูซื้อให้สามอย่าง บอกอร่อยอย่างเดียว แล้วอีกสองอย่างคือแดกไม่ลงรึไง’


เป็นมนุษย์ที่หาเรื่องเก่งที่สุดในโลก สิตางศุ์หัวเราะเบาๆก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป


‘มึงหาเรื่องอ่ะ’


‘แล้วใครหาเรื่องกูก่อน รีบแดกให้หมดสามอย่าง แล้วบอกกูด้วย’


‘เออ แต่ยังไงก็ขอบใจ กูกำลังหิวเลย’


ข้อความนี้ถูกอ่านแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับมาอย่างรวดเร็วอีก สิตางศุ์รอจนคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่ตอบแล้วเลยจะเก็บมือถือลงแล้วหยิบซาลาเปามาลองชิม ทว่าข้อความจากเจียระไนกลับปรากฏขึ้นก่อน


‘ไม่เป็นไร’


เขากะพริบตาเล็กน้อย แล้วอีกประโยคก็ปรากฏตามมา


‘กูเต็มใจ’


รอยยิ้มจางปรากฏบนริมฝีปากสีจัด สิตางศุ์ไม่รู้ว่ารอยยิ้มนี้ออกมาจากความรู้สึกแบบไหน ไม่เข้าใจว่าหัวใจของตัวเองรู้สึกอะไร แต่...มันรู้สึกดี...มันดีชะมัด...ที่มีใครสักคน ‘เต็มใจ’ ทำอะไรสักอย่างให้เขา


   พฤกษาและอลงกตเลิกทะเลาะกันนานแล้ว นับตั้งแต่เพื่อนสนิทอีกหนึ่งเอาหูฟังขึ้นมาเสียบตัดรำคาญ และนับตั้งแต่ที่มันพิมพ์ยุกยิกลงในโทรศัพท์มือถือโดยที่ไม่มีข้อความใดส่งมาที่เครื่องของพวกเขาสองคนก็พอจะบอกให้รู้ว่า บุคคลสเป็คสาธารณะแห่งคณะรัฐศาสตร์ มีเพื่อนคุยคนใหม่นอกจากพวกเขา


   หนุ่มหน้าทะเล้นเหลือบมองเพื่อนผิวเข้มแล้วยักคิ้วอย่างเหนือกว่า ในขณะที่คนถูกยักใส่คิ้วใส่ก็ได้แต่ชี้หน้าด้วยสีหน้าไม่ยอมแพ้


   แต่ไม่ว่ายังไง ต่อให้อลงกตจะไม่ยอมแพ้ หรือพฤกษาจะสนับสนุนแค่ไหน แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาต้องตัดสินใจ


...เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ...


...เป็นแค่เรื่องของคนสองคน...


และเป็นแค่เรื่องที่...ต้องให้ ‘คนที่ควรพูด’ ได้เป็นคนพูด...เมื่อถึงเวลาเท่านั้นเอง...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสฯหน้าค่ะ)
มีคนแซวว่าพระเอกเป็นผีบ้า ฮา มันก็บ้าจริงๆนั่นแหละค่ะ นอกจากจะน่าสงสารแล้วยังบ้าด้วย เป็นพระเอกที่ไม่คีพลุคพระเอกของบัวเลยยยยย แต่ก็อย่างเคยค่ะ เดี๋ยวบัวคืนกำไรพระเอกทีหลังได้ ช้าๆได้พร้าเล่มงาม พระเอกของบัวทุกคนยืนยันมาแล้ว กร๊ากกก

อ้อ...แล้วก็มีคนถมเรื่องชื่อของโซ่ 'สิตางศุ์' แปลว่าแสงสีขาว แสงพระจันทร์ อันนี้ตั้งให้โซ่เพราะว่าโซ่ผิวขาวมากๆค่ะ โซ่ไม่เกี่ยวกับจันทร์จ้าวนะคะ รายนั้นให้เขาไปเกี่ยวกับจอมขวัญก็ปวดหัวแล้วววว

ส่วนใครสงสัยว่าเพลง wherever you are ที่โจ๊กเล่นแต่กีต้าร์แต่ไม่ยอมร้องให้โซ่ฟัง เป็นเพลงของใคร อันนี้ก็บอกเลยว่าบอกไม่ได้ เพราะว่าเรื่องนี้ชื่อวาระซ่อนเร้นไง ต้องซ่อนมั่ง อะไรมั่งนะ ฮาๆ
เจอกันใหม่ พฤหัสฯหน้า (จากนี้จะมาทุกพฤหัสฯนะคะ ถ้าไม่มีอะไรมาทำให้ต้องเลื่อน)
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 06-04-2017 21:40:40
มาอย่างไว แป๊บ ๆ วันพฤหัส วนมาอีกแล้ว โซ่เหมือนจะมองอะไรกว้างมากขึ้น ขำโจ๊กมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-04-2017 22:22:00
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 06-04-2017 22:22:52
ไอ้พี่โจ๊กคนเลววววว
แต่ตอนนางถล่มห้องตัวเองนี่เราอมยิ้มเลย
ทำไมดูงอแงและขยันหาเรื่องวอแวน้องขนาดนี้
เป็นพระเอกน่ารักๆ ได้อยู่นะ
แต่น่ารักสู้น้องโซ่ไม่ได้ น้องใสๆ จริงๆ
เราก็หลงไปสิคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 06-04-2017 22:33:18
รอบนี้ค่อยยังชั่ว
โจ๊กอารมณ์ไม่ค่อยสวิงเหมือนตอนที่แล้ว
ไม่งั้นโซ่คงได้มึนๆอึนๆ เดินเตาะแตะๆตามเรื่องตามราว
รอบนี้เว้นให้คิดหน่อย ค่อยยังชั่ว 5555555555  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-04-2017 22:43:08
เอ้าาาาา จะมองเห็นไหมนะโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 06-04-2017 22:53:19
ถ้าเจอแบบโซ่ ถึงจะเป็นบ้าก็ยอมเนอะโจ๊กเนอะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 06-04-2017 22:54:36
ตอนนีโจ๊กดูพัฒนามากกกกก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดูพัฒนาขึ้นด้วย โง้ยยย :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 06-04-2017 22:55:09
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-04-2017 23:08:33
รอบนี้ได้พักอาการผีบ้าเข้าสิงมั่งนะโจ๊ก ดีใจด้วย

โซ่น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-04-2017 23:10:16
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-04-2017 23:14:58
เอาใจช่วยพระเอกค่ะ พยายามเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 06-04-2017 23:55:13
แปลว่ากตกับแพทก็รู้ตั้งแต่แรกแล้วสินะว่าโจ๊กแอบชอบโซ่
โจ๊กนี่ก็เอาแต่ใจตลอดไม่เคยถามโซ่เลย 555555

ขอบคุณมากนะคะะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Kaavvee ที่ 07-04-2017 00:10:22
เพลงของ one ok rock หรือเปล่านะ 5555
เอาใจช่วยโจ๊ะพิชิตใจคนซื่อ สู้!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 07-04-2017 00:17:13
โดนจีบอยู่อะโซ่ ไม่รู้ตัวเลยหราาาาาาาาาาาาา  :katai2-1:
อยากเป็นโซ่!!!!!!!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 07-04-2017 01:17:18
ชอบตอนนี้ 
ถึงกับยอมทำห้องรกเลยนะโจ๊ก
อ้อ ชอบเพื่อนสองคนด้วย  มีความฮา
โซ่คนซื่อของเราโชคดีมากมีเพื่อนดีๆแบบนี้  55555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 07-04-2017 01:30:23
ชอบโจ๊กอะ
ชอบแบบบอกไม่ถูก
โอ๊ยย ปาหัวใจ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 07-04-2017 02:00:03
งือ ข้ามไปพฤหัสหน้าเลยได้ไหม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-04-2017 07:22:19
โซ่ซื่อเกินไป หรือ โจ๊กซ่อนเกินไปกันแน่ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 07-04-2017 08:46:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-04-2017 08:57:50
สู้ต่อไปนะโจ๊ก เดี๋ยวได้กำไรคืนแน่นวล

แต่ !!!! รอนานนิดสสสสส นึง นะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-04-2017 09:54:17
กต แนะนำโซ่ ดี
‘…เรื่องนี้มันเล็กนิดเดียว แค่มึงมองรอบตัวมึงดีๆ…’
โซ่ มองเห็นใกล้เข้ามานิดหนึ่ง
'แต่...มันรู้สึกดี...มันดีชะมัด...
ที่มีใครสักคน ‘เต็มใจ’ ทำอะไรสักอย่างให้เขา'

โซ่ รู้สึกแล้วว่าโจ๊ก ทำให้ตัวเองรู้สึกดี
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 07-04-2017 17:39:43
มีความละมุนละไมมมมม อยากกินขนมจีบเลยทีเดียวว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 07-04-2017 20:02:33
ฮ่า โจ๊กตลอดเลย
นี่ขนาดไม่บอกเค้านะ อาการหนักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 07-04-2017 20:06:01
หมั่นอินังโจ๊กนะตอนนี้

ฟินลื๊มมมเลยเซ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 07-04-2017 20:33:15
ช่างหาเรื่องให้ได้ใกล้นะพ่อพระเอก สายเปย์เสียด้วย
โซ่ไม่ซื่อบื่อหรอก ใครจะคิดว่าจะมีผู้ชายตัวควายๆมาจีบละ
แต่เราทีมพฤกษานะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 07-04-2017 21:33:59
ชอบโจ๊กเวลาชมนุ้งโซ่บับเกรี้ยวกราด 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-04-2017 21:41:09
จะสงสารหรืออะไรโจ๊กดี ขนาดนี้ยังไม่รู้
ตลกความเกรี้ยวกราดของโจ๊กแต่ในใจหวีดโซ่แรง เหมือนคนเป็นไบโพล่า 5555555555  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: MimoreQ ที่ 07-04-2017 21:47:00
รอค่า ชอบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 07-04-2017 23:24:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 08-04-2017 01:51:32
จอมวางแผน พ่อบุญทุ่ม นี่เขาเรียกน้ำหยดลงหินทุกวันหินย่อมกร่อน...กระไรเลยสิตางคุ์จะไม่สั่นคลอนกับความตื๊อนี้ของโจ๊ก ดูอย่างตอนล่าสุดนี่ก็เห็นแล้วว่าโซ่เริ่มลังเล ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้กับสิ่งที่โจ๊กหวังทีละหน่อยๆ แล้วละค่ะ

ชอบโมเมนต์นั่งตรงระเบียงเล่นกีต้าร์มากค่ะ ดูสบายๆ และสองคนเข้ากันดีมาก เหมือนโซ่จะยังไม่รู้ตัว แต่การที่เรานั่งอยู่กับใครสักคนเงียบๆ และฟังเพลงที่เขาเล่นโดยรู้สึกคล้อยตามกับมันไปด้วยนี่...ก็ถือว่าเราเข้ากับเขาได้นะคะ

ดังนั้นจึงจะขอเชียร์โจ๊กไม่ให้ลดความพยายาม จงสู้ต่อไปจ้า

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: therappizdrum ที่ 08-04-2017 07:13:08
กรี๊ดดดด โจ๊กนี่มันนนน ก๊าวววว

โซีไม่รู้สึกดีก็แปลกแล้วววววว

เรามีเดาๆเจ้าของเพลงไว้แล้วค่ะ แต่ไม่รู้ควรบอกมั้ย 55555

คิดว่าอาจจะใช้เพราะชอบฟังเพลงนี้มากแลัะ ความหมายดีกินใจ

ตรงกับโจ๊กเลยค่ะ อยากอ่านต่อแต่ต้องรออาทิตย์หน้าสะแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: rcha ที่ 08-04-2017 07:46:39
ขำความผีบ้าของโจ๊กค่ะ 5555555555555555
โซ่ก็ซื่อจ๊น....แต่โซ่น่ารักเราจึงให้อภัย (แบบโจ๊ก)
สงสารโจ๊กเหมือนกันที่โดนความซื่อของโซ่ทำร้าย
แต่ในขณะเดียวกันก็โดนความซื่อนั้นฮีลไปด้วย
ไม่แปลกใจถ้านางจะเป็นบ้าอะ  :hao7:
แต่ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ พัฒนาของทั้งคู่น่ารักมากก
ชอบความใส่ใจและความอ่อนโยนที่โจ๊กมีให้โซ่ มันละมุนจนแอบเขินตามเลยค่ะ
อยากรู้วันที่โซ่รู้ใจตัวเองจะเป็นยังไง  :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 08-04-2017 17:11:11
ขนาดนี้แล้ว โจ๊กน่าจะรุกให้ชัดๆ แสดงตัวไปเลย ตีเนียนแบบนี้โซ่ก็มึนอยู่ตลอด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: HuskyLover ที่ 08-04-2017 21:14:52
ตอนนี้โจ๊กเป็นพ่อบุญทุ่มไปแล้ว
ขุนเยอะขนาดนี้ ระวังโซ่อ้วนเอานะ ต้องพาไปออกกำลังกายบ่อยๆ ด้วย
ตอนนี้ก็ปล่อยให้โซ่คนเซ่อถามใจตัวเองไปก่อน
อีกไม่นานก็จะเข้าใจทุกอย่างกระจ่างชัด
ที่จริงแค่นี้ก็ถือว่าชัดแล้วนะ อิๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-04-2017 19:26:00
โจ๊กตั้งชื่อให้โซ่ซะเพราะนะ ไอ้ฉิบหาย 5555
โจ๊กคงหลุดเร็วๆนี้ จะทนได้อีกนานหรอ หวงก็เท่านั้น ห่วงก็ปากแข็ง จะชวนไปไหน ชวนทำไร ก็มีข้ออ้าง

โซ่ หนูเป็นคนใสๆเนาะ เค้าเรียกน่ารัก สดใส สมวัย ซาบซ่า 5555
เหมือนจะตามทัน แต่ก็มีความไม่ทันมากกว่า

แพทเชียร์ถูกคนแล้ว ดูสะใจไปนะ ข่มกตใหญ่เลย
ตลกปราการ เผือกทุกสถานการณ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 10-04-2017 09:05:14
โฮะโฮะโฮะ ขนมจีบหวานมาก  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 10-04-2017 11:06:37
 :katai2-1: :katai2-1:

รอคุณบัวววว น่ารักทั้งเรื่องเลยยยยยย ฮาสุดอะไรสุด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 10-04-2017 12:29:45
สู้ๆ นะโจ๊ก  o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 4 (06/04/2017) หน้า 5
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 10-04-2017 15:13:41
 o13 :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 13-04-2017 20:22:43
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 5

   ความเคยชินกำลังเข้าครอบงำสิตางศุ์ทีละน้อย การไปรับไปส่งไม่เพียงแต่เป็นเรื่องคุ้นตาของคนพบเห็น แต่กระทั่งเจ้าตัวก็ลืมที่จะตั้งคำถามไปแล้วว่าเพราะอะไร อยู่ดีๆเจียระไนถึงกลายมาเป็นสารถีประจำตัวแบบนี้


   ร่างโปร่งผิวขาวจัดนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียนในยามบ่าย เพราะต้นไม้ใหญ่ทำให้แดดส่องลงมาเพียงรำไรเท่านั้น ตอนนี้เกือบบ่ายโมงแล้ว และเขาก็ไม่เรียน แต่...คนที่จะไปส่งต้องแวะไปพบอาจารย์ที่ปรึกษาก่อน เลยบอกให้เขารอ สิตางศุ์ก็เลยรอ

   ฝ่ามือใหญ่ๆตบปั่กลงบนบ่าทำเอาคนกำลังนั่งอ่านหนังสือรอถึงกับสะดุ้ง ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองเพราะความเจ็บ กำลังจะดุที่มีคนแกล้งเขาแรงๆ แต่ชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนยิ้มเผล่อยู่ข้างหลังและเป็นเจ้าของฝ่ามือใหญ่ๆเมื่อครู่นี้กลับทำให้สิตางศุ์ชะงัก


“พี่เวฟ!”

“เออ กูเอง”

“มาได้ไง ไม่ทำงานเหรอ”

ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแล็คคนนี้คือ อรรณพ  หรือ ‘พี่เวฟ’ เป็นพี่รหัสของสิตางศุ์ซึ่งเรียนจบไปเมื่อปีที่แล้ว


“มาประชุมแถวนี้ เลยแวะมา กะว่าถ้าไม่เจอใครก็จะกลับ ไม่คิดว่าจะเจอมึง”


“แล้วไม่ต้องกลับไปทำงานเหรอ”


“ดูด้วยกูเป็นใคร เจ้าของกิจการนะครับ” ชายหนุ่มตอบพร้อมยิ้มกว้าง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ยาวตัวเดียวกับน้องรหัส เห็นหน้าใสๆแล้วอดไม่ได้จนต้องเอื้อมมือไปหยิกแก้มขาวๆด้วยความหมั่นเขี้ยว


“แล้วมึงมีเรียนอีกรึเปล่า”


“ไม่มีแล้ว พี่เวฟมาอย่างงี้ต้องเลี้ยงสายนะ” ชายหนุ่มยกยิ้มแล้วยักไหล่อย่างใจกว้าง


“เรียกมาให้หมด ไอ้ฟาง ไอ้ปก แล้วก็ไอ้ปีหนึ่ง ชื่ออะไรนะ”


“นอร์ธ”


“เออ ไอ้นั่นน่ะ กูเจอมันคราวก่อนที่สยามเห็นเดินกับไอ้ปก ท่าทางมันใช้ได้ เป็นตัวแทนกูได้” สิตางศุ์มองพี่รหัสรูปหล่อตาปริบๆ ในขณะที่มือกดข้อความส่งหาน้องรหัสทั้งสามชั้นปีของตนเอง


“ตัวแทนเรื่องอะไร”


“ตัวแทนดูแลสายไงครับคุณสิตางศุ์”


“แล้วทำไมเป็นไอ้นอร์ธล่ะ ผมปีสี่นะ พี่เวฟต้องฝากผมสิ” อรรณพกวาดตามองน้องรหัสหน้าซื่อตาใสแถมขาวจั๊วะ แล้วก็ต้องเหลือบตามองไปทางอื่น


...อย่าว่าแต่จะฝากให้มันดูแลสายรหัสเลย ขนาดตัวมันเอง ถ้าไม่ได้บารมีเขาและพี่คนอื่นๆในสาย ก็ไม่รู้จะรอดมาจนถึงปีสี่รึเปล่า...


“โซ่!” เสียงเรียกดังขึ้น ทำเอาสิตางศุ์ที่กำลังอ่านข้อความของน้องรหัสที่ตอบกลับมาต้องหันมอง รวมถึงอรรณพก็ด้วย


ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้เป็นเจ้าของเสียงเรียกชะงักไปเล็กน้อยที่เห็นว่าผู้ชายที่นั่งข้างๆสิตางศุ์คือใคร ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ภาคฯเดียวกัน แต่ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ แม้จะเรียนจบไปแล้ว แต่ฝ่ายนั้นก็ถือสถานะรุ่นพี่ เขาเลยยกมือไหว้ แต่ไม่พูดอะไร


“หน้าตาคุ้นๆ...” อรรณพรับไหว้แล้วเปรยเบาๆ


“ไอ้โจ๊ก อยู่ปกครอง” สิตางศุ์แนะนำ


“อ้อ น้องรหัสไอ้ตฤณใช่มั้ย”


“ครับ” เจียระไนตอบสั้น เดินเข้ามาที่โต๊ะแต่ไม่ยอมทรุดตัวลงนั่งด้วย เขายืนอยู่อย่างนั้น ทำเอารุ่นพี่หนุ่มต้องเลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วเหลือบมองน้องรหัสข้างกายที่ยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านข้อความในโทรศัพท์


“ไอ้นอร์ธมีเรียนแต่มันจะโดดออกมา ส่วนปกก็อยู่แถวนี้ แต่ฟางโดดไม่ได้”


“ไม่เป็นไร ก็ไปกันแค่นี้” อรรณพสรุปและแทบจะในทันทีที่เจียระไนพูดขึ้นมา


“จะไปไหน?!” เสียงแข็งแถมสายตาดุๆจับจ้องไปที่สิตางศุ์เพียงคนเดียว ร่างโปร่งเหมือนจะรู้ตัวเลยเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาคมที่มองมานั้นบอกให้รู้ว่าเจียระไนไม่พอใจ


“อ่า…พี่เวฟจะพาไปเลี้ยง” เขาตอบ แล้วก็หันไปทางพี่รหัสของตัวเอง


“พี่เวฟ ให้ไอ้โจ๊กไปด้วยได้เปล่า”


ไม่ต้องรอคำอนุญาตจากอรรณพ เสียงของเจียระไนก็ดังแทรกทันที


“กูไม่ไป” สิตางศุ์หันมอง ตาใสๆที่เต็มไปด้วยคำถามดูเหมือนจะดึงสติของคนหงุดหงิดให้กลับมาได้บ้าง แต่ก็ได้กลับมาเพียงนิดเดียวเท่านั้น เพราะเจียระไนยังคงอารมณ์ไม่ดี


“มึงไปกับสายมึงเถอะ กูกลับก่อนล่ะ!” แล้วคนพูดก็หันไปยกมือไหว้รุ่นพี่ต่างภาควิชาที่นั่งกระดิกเท้ายิกๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากตรงนั้นทันที สิตางศุ์อ้าปากจะร้องเรียก แต่อีกฝ่ายก็เดินไวเกินกว่าที่เขาจะเรียกทัน สุดท้ายเลยได้แค่มองตามแต่ไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว อรรณพมองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น


“มึงกับไอ้โจ๊ก...” เขากำลังจะถามแต่เสียงตะโกนดังขึ้นเสียก่อน


“พี่เวฟสวัสดีคร้าบบบบ” เด็กหนุ่มผูกไทต์บอกให้รู้ว่าเป็นปีหนึ่งโผล่พรวดเข้ามา อรรณพและสิตางศุ์หันไปมอง แล้วหลังจากนั้นอีกอึดใจหนึ่งนิสิตชายร่างโปร่งอีกคนซึ่งเป็นรุ่นน้องปีสองของสายก็เดินเข้ามา เมื่อนั้น...สายรหัสที่มีแต่ผู้ชายก็ยกโขยงออกจากคณะไป โดยที่รุ่นพี่โตสุดอย่างอรรณพได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้เพียงลำพัง

.....................


ร้านอาหารที่อรรณพพามาเลี้ยงเป็นร้านอาหารไทย มีครบทั้งของคาวของหวาน โดยเฉพาะของหวานจำพวกเค้กนั้นอร่อยเป็นพิเศษ สิตางศุ์ซื้อเค้กใส่กล่องสองชิ้น โดยให้พนักงานเลือกเค้กรสเปรี้ยวให้


“มึงกินของเปรี้ยวเป็นตั้งแต่เมื่อไร” พี่รหัสผู้ดูแลน้องรหัสอย่างสิตางศุ์มาตั้งแต่ปีหนึ่งและรู้จักนิสัยกินยากของน้องคนนี้ดี ถึงกับตั้งคำถามเมื่ออีกฝ่ายสั่งเค้กกับพนักงานที่หน้าตู้


“ไม่ได้กินเอง ซื้อไปฝากไอ้โจ๊ก”


“หืม? ซื้อฝากมันทำไม”


คนถูกถามนิ่งไปเล็กน้อย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องเจาะจงซื้อฝากแต่เจียระไน อาจจะเพราะเมื่อตอนบ่าย ฝ่ายนั้นทำหน้าตาเหมือนโกรธเขาล่ะมั้ง...ก็เลย...นึกอยากจะง้อขึ้นมา


“ก็...กวนมันหลายเรื่อง เลยว่าจะซื้อของไปฝากมันบ้างน่ะ”


อรรณพไม่ถามอะไรอีก แต่สายตาที่จับจ้องน้องรหัสนั้นกลับพยายามประเมินสถานการณ์


“...มีหลายอย่าง...พี่อยากกินอะไร” เสียงของน้องรหัสอีกคนที่ดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้เขาต้องละสายตาจากสิตางศุ์ไปมอง รุ่นน้องปีสองอย่างปกฉัตรซึ่งกำลังยืนอยู่หน้าตู้แช่เค้ก รายนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับการเลือกเค้ก มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหู


“เค้กมะพร้าวอ่อนหมดแล้ว เอาอย่างอื่นได้มั้ย”


ปลายสายตอบอะไรไม่รู้ จู่ๆใบหน้าขาวๆของปกฉัตรก็แดงขึ้นมา


“ม...ไม่...ไม่ต้องเลย เดี๋ยวซื้ออย่างอื่นไปให้ พี่รอที่คณะเหรอ อืม...งั้นเดี๋ยวกลับเข้าไป” แล้วเจ้าตัวก็หันไปสั่งเค้กกับพนักงาน ก่อนจะเหลือบมาเห็นสายตาของอรรณพเข้า


“มีอะไรเหรอครับ พี่เวฟ”

“มึงกลับยังไง กลับพร้อมกูก็ได้นะ เดี๋ยวกูแวะไปส่ง บ้านมึงไปทางเดียวกับออฟฟิศกูเลย”

“ไม่เป็นไรครับ จะกลับเข้ามหา’ลัยก่อน”

“กลับเข้าไปทำไม”

“อ่า…พี่รออยู่”

“มึงมีพี่ด้วยเหรอ”

“เอ่อ…ก็…พี่ที่รู้จักกันน่ะครับ” ตอบแล้วหลบสายตา รายนี้ก็มีความลับซุกซ่อนอยู่แน่นอน


อรรณพปรายตามองน้องรหัสสองคนทั้งไอ้เจ้าปีสี่และไอ้เจ้าปีสอง สรุปได้ว่าพอเขาเรียนจบไป น้องรหัสสองคนในสายก็เปลี่ยนไป รายหนึ่งคือสิตางศุ์ที่เดี๋ยวนี้ดูเหมือนจะสนิทกับ ‘เพื่อน’ ต่างภาคฯเป็นพิเศษ ส่วนอีกรายคือปกฉัตรที่อยู่ดีๆก็มี ‘พี่’ โผล่ขึ้นมา ทั้งๆที่เป็นลูกคนเดียว


ชายหนุ่มไม่พูดอะไรอีก แต่ก็อาสาพาน้องรหัสแต่ละคนไปส่งตามที่ที่พวกมันต้องการ น้องปีหนึ่งจะกลับหอ ปกฉัตรจะกลับเข้ามหาวิทยาลัยและขอลงที่คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีซึ่งไม่ควรจะเป็นที่ที่เด็กรัฐศาสตร์จะต้องไป และท้ายสุดคือสิตางศุ์


ที่ที่เขาพาไปส่งไม่ใช่คอนโดของมัน แต่เป็นคอนโดหรูใจกลางเมืองที่ราคาเริ่มต้นของห้องที่ถูกที่สุดก็ยังแพงลิบลิ่ว


...คอนโดไอ้โจ๊ก...


อรรณพรู้ได้ยังไงน่ะเหรอ เพราะพี่รหัสไอ้โจ๊กเป็นเพื่อนสนิทของเขาน่ะสิ! และพอเขาส่งข้อความไปถามเพื่อน มันก็บอกว่าน้องรหัสของมันอยู่ที่นี่


ชายหนุ่มเหลือบตามองเข้าไปในอาคารสูงที่สิตางศุ์เดินลับเข้าไปในนั้นนานแล้ว ก่อนจะตัดสินใจกดโทร.ออกหาคนที่จะเฉลยความข้องใจของเขาได้


‘ครับ? พี่เวฟ ผมเรียนอยู่’ ปลายสายทำเสียงกระซิบกระซาบ แต่การปฏิเสธไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ


“งั้นมึงออกไปนอกห้อง กูมีเรื่องจะคุย”


‘อ๊ะหือ เอาแต่ใจเหมือนสมัยยังเรียนไม่มีผิด เดี๋ยวนะพี่’ เสียงกุกกักดังขึ้น ดูท่าปลายสายคงยอมลุกจากโต๊ะเดินออกจากห้องเรียนจริง เขารอจนเดาว่ามันคงออกจากห้องเรียนแล้ว เลยยิงคำถามต่อ


“กูจะถามเรื่องไอ้โซ่กับไอ้โจ๊ก ปกครอง” ปลายสายเงียบกริบ อย่างนี้แสดงว่ามีความลับที่เขาไม่รู้ อรรณพถามรัวอย่างรวดเร็ว


“...พวกมันสองคนเป็นอะไรกัน แล้วสนิทกันได้ไง ไอ้โซ่ดูท่าทางจะแคร์ไอ้โจ๊กด้วย แล้วไอ้โจ๊กอะไรนี่ไม่มีเพื่อนในภาคฯรึไง ทำไมต้องถ่อมาคบน้องกู อ้อ กูจะถามเรื่องไอ้ปก ปีสองด้วย เดี๋ยวนี้มันมีพี่เรียนอยู่บัญชีฯตั้งแต่เมื่อไร เท่าที่กูจำได้คือมันเป็นลูกคนเดียว มึงรู้อะไร คายออกมาให้หมด ก่อนที่กูจะบุกไปบีบคอมึงถึงหน้าห้องเรียน ไอ้แพท”

............................

   เสียงเพลงเบาๆในห้างสรรพสินค้าไม่ได้ทำให้คนหงุดหงิดอารมณ์ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย เจียระไนหน้านิ่วคิ้วขมวดไม่สมกับคนมาเดินห้างฯ แต่...ยิ่งกลับไปอยู่ที่ห้อง เขาก็คงเป็นบ้าแน่ๆ เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะใครบางคนที่มันไม่รู้จักกาลเทศะ ไม่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำน่ะสิ!


   ...ไอ้มนุษย์สเป็คสาธารณะ! ไอ้คนเพียบพร้อม ไอ้คนที่มีแต่คนรัก!!...

   …แม่งเอ๊ย!!!...


   ยิ่งเดินยิ่งหงุดหงิด ขนาดผู้หญิงสวยๆเดินผ่านยังไม่มีอารมณ์จะมอง เจียระไนเลี้ยวเข้าร้านกาแฟสั่งเอสเปรสโซ่เย็นมาดื่ม เอาความขมดับความโกรธ


   ‘หงุดหงิดฉิบหาย พอพี่มันมา มันทิ้งกูเฉยเลย’ ตัวช่วยรอฟังการระบายอารมณ์มีเพียงหนึ่งเดียวคือที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทางแอพลิเคชั่นในมือถือ ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่อ่านก็ตาม


   ‘กูควรจะทำยังไงกับมันดี ปล่อยไว้แบบนี้ ชาติหน้ามันคงไม่รู้ตัวแน่ๆ’


แม้จะถามเป็นนัยว่าเขาควรจะรุกไปข้างหน้ามากกว่านี้หรือไม่ แต่ใจจริงแล้วเจียระไนก็ยังกลัว หากก้าวพลาดแม้แต่ก้าวเดียว การรอคอยมาตลอดเกือบสองปีจะกลายเป็นอากาศ ดีไม่ดี พาซวยให้มันมองหน้าเขาไม่ติดอีกต่างหาก


   ผู้ช่วยกิตติมศักดิ์ไม่อ่าน และไม่ตอบอะไรกลับมา ชายหนุ่มเลยโยนมือถือลงกับโต๊ะอย่างหงุดหงิดแล้วคว้าเอสเปรสโซ่มาดูดปรื้ดใหญ่ แต่แล้วเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น เขาหยิบมาดูเพราะคิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนสักคนที่โทร.หา แต่ชื่อที่ปรากฏทำให้เขาชะงัก


   ‘…’


   …จุดสามจุดแบบนี้มีคนเดียว ‘ไอ้โซ่’ !!!...


   ร่างสูงใหญ่กระเด้งขึ้นนั่งหลังตรงทันทีเพราะไม่คาดคิดว่าสิตางศุ์จะโทร.หาเขา ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะกดรับสาย แต่ไม่กรอกเสียงลงไป


   ‘ฮัลโล โจ๊ก อยู่ที่ห้องรึเปล่า’ ตอนแรกก็ไม่อยากจะตอบหรอก แต่พอได้ยินเสียงจากปลายสาย กำแพงหัวใจชั้นนอกสุดก็พังถล่ม


“มีอะไร” ตอบไปแล้วด้วยน้ำเสียงแข็งๆ ใจคนเรามีกำแพงหลายชั้น ชั้นแรกถล่มได้ ก็ยังเหลือชั้นถัดๆไป ยิ่งนึกภาพว่าตอนนี้สิตางศุ์คงกำลังสนุกสนานอยู่กับสายรหัสที่แสนสนิทสนม เขาก็นึกอยากจะก่อกำแพงขึ้นมาใหม่


‘กูซื้อเค้กมาฝากน่ะ จะให้ลงมารับของ แต่ถ้ามึงไม่อยู่ เดี๋ยว…’


...อะไรนะ?!! ซื้อเค้กมาฝาก?!!!...


กำแพงชั้นที่สองและสามพังยวบอย่างรวดเร็ว ตอนแรกว่าจะไม่คุยกับมันแล้ว ตอนนี้กลายเป็นไม่คุยไม่ได้แล้ว!!


“เฮ้ยๆ มึงอยู่ที่ไหนน่ะ ไม่ได้กินข้าวกับสายรหัสมึงรึไง” เจียระไนพูดแทรกอย่างรวดเร็ว กับคนแบบสิตางศุ์ ต้องเจอคนไร้มารยาทถามแทรกแบบนี่แหละ ถึงจะรอด


‘กินเสร็จแล้ว เลยซื้อเค้กมาฝากมึงด้วย แต่ถ้ามึงไม่อยู่ห้อง เดี๋ยวกูฝากไว้กับ...’


“ไม่ต้องๆ” ร่างสูงรีบพูด กำแพงในใจไม่ว่าจะมีกี่ชั้น ถล่มมันลงมาให้หมด!


...ไอ้โซ่ซื้อเค้กมาฝาก!! ไอ้โซ่ซื้อเค้กมาฝาก!!!...


‘ไม่ต้องคือไม่เอาเหรอ อ่า...ร้านนี้อร่อยนะ’


...ไอ้ฉิบหาย!!! ไม่ใช่กูจะไม่เอา แต่กูจะไปเอาเอง ไม่ต้องฝากไว้กับใครทั้งนั้น!!...



“ไม่ใช่! กูไม่ได้จะไม่เอา! มึงรอที่ล็อบบี้ก่อน เดี๋ยวกูไป” เขาพูดแล้วลุกพรวดทิ้งเอสเปรสโซ่ที่ดูดไปไม่ถึงครึ่งเอาไว้บนโต๊ะก่อนจะวิ่งออกจากร้านอย่างไม่คิดชีวิต


...ไอ้โซ่มาหา! ไอ้โซ่ซื้อของมาฝาก!! และไอ้โซ่รออยู่!!!...


…วิ่งอย่างเดียว ไอ้โจ๊ก!!!! วิ่งเท่านั้น!! ไอ้โซ่รอ!!!!!...

……………………………….


   ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ออกจากห้างฯมาขึ้นรถไฟฟ้านั่งไปลงที่สถานีซึ่งอยู่ใกล้กับคอนโดของเขา แล้ววิ่งต่อ งานนี้นึกโกรธตัวเองสุดๆเพราะเอารถกลับไปเก็บที่คอนโดมาแล้วรอบนึงแล้วก็ออกไปเดินห้างฯ ถ้ารู้ว่าจะมีคนมาหาแบบนี้ เขาไม่โง่ออกมาจากห้องหรอก หรือถึงจะออก ก็จะเอารถออกมาเอง จะได้ไม่ต้องวิ่งให้เหนื่อยแบบนี้!


   “โอ้โฮ วิ่งมาเลยเหรอ” ตัวต้นเหตุให้เจียระไนแทบเหาะกลับมาจากห้างสรรพสินค้ายังมีหน้ามาถามซื่อๆ ตอนที่เขาวิ่งไปหยุดหอบแฮ่กอยู่ตรงหน้ามัน


   “พูดมาก” แม้จะหอบก็ยังดุได้อยู่ สิตางศุ์ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะส่งถุงกล่องเค้กให้


   “อ่ะ กูซื้อมาฝาก” เจียระไนไม่แม้แต่จะปรายตาไปมองกล่องเค้กที่ถูกยื่นมาตรงหน้าเลยแม้แต่นิด แถมยังดุอีกต่างหาก


   “กูวิ่งมา! กูหอบ! และกูเหนื่อย! มึงไม่เห็นรึไง?! ยังจะให้กูถืออีก!! ตามกูมานี่!!” เรื่องอะไรลูกแกะมาถึงถิ่นแล้วเจียระไนจะปล่อยให้กลับไว เขาหมุนตัวเดินนำไปที่โถงลิฟต์ มีลูกแกะตัวขาวจั๊วะเดินถือกล่องเค้กตามต้อยๆ


   แต่...ลูกแกะซื่อๆตัวนี้ ไม่ใช่ไม่มีอาวุธ เพราะความซื่อของมันคืออาวุธที่ร้ายกาจที่สุด


   พอเข้ามาในคอนโดปุ๊บ สิตางศุ์ก็วางกล่องเค้กลงที่โต๊ะ แล้วสั่งลาปั๊บ


“กูแวะเอาเค้กมาให้แค่นี้แหละ ถ้าไม่กินก็เอาเข้าตู้เย็นนะ เดี๋ยวเสีย”  เจ้าถิ่นที่อุตส่าห์หลอกล่อลูกแกะมาเข้าถ้ำถึงกับหันขวับไปมอง


   “มึงจะรีบไปไหน?!”


   “เปล่า แต่กูแค่เอาเค้กมาให้ ไม่ได้มีธุระอะไร” พูดซื่อๆตรงๆ ทำเอาเจ้าของห้องถึงกับอ้าปากค้าง


   ...ไงล่ะ ห้องหรูใจกลางเมือง แต่เสือกไม่มีธุระให้ไอ้โซ่ทำ ฟังแล้วเจ็บฉิบหาย!!...


   เจียระไนมองซ้ายสิบที มองขวาอีกสิบที แต่ห้องที่ไม่มีธุระอะไรให้ทำก็คือไม่มีอะไรให้ทำนั่นแหละ สุดท้ายเขาก็เลยตาตกลงมามองกล่องเค้ก


“งั้นมึงมาช่วยกูกินสิ” เจ้าของห้องหาเรื่องมาล่อตาล่อใจ แต่แทบจะในทันทีที่ใบหน้าขาวส่ายไปมา


   “มันมีแต่เค้กเปรี้ยวๆ” คิ้วเข้มเหนือดวงตาเรียวเหมือนตาเหยี่ยวเลิกขึ้นเล็กน้อย สิตางศุ์เลยหยิบกล่องเค้กมาเปิดแล้วก้มลงมองเค้กสีสดใส


   “เนี่ย พนักงานที่ร้านเลือกมาให้ มีเค้กเสาวรสกับเค้กเบอร์รี่อะไรสักอย่าง กูเห็นมึงชอบกินน้ำกระเจี๊ยบ เลยเดาว่าน่าจะชอบกินเค้กเปรี้ยวๆ ก็เลย...โอ๊ย!” เพราะเอาแต่ก้มลงมองเค้กที่ตัวเองยกขึ้นมา จู่ๆอะไรแข็งๆก็เขกลงมาที่หน้าผากเขา สิตางศุ์ยกมือขึ้นลูบตรงที่เจ็บยิบๆแล้วเงยหน้ามอง ถึงได้รู้ว่าเจียระไนยืนอยู่ใกล้มาก


   ดวงตาคมกดต่ำลงมองคนที่กำลังลูบหน้าผาก ท่าทางจะเจ็บอยู่หรอก เพราะเขาเอาหน้าผากตัวเองไปโขกกับหน้าผากของสิตางศุ์เต็มๆ ช่วยไม่ได้ที่มันทำตัวน่าหมั่นไส้ ทำเขาหงุดหงิดแล้วก็มาแก้ความหงุดหงิดของเขาด้วยการซื้อเค้กมาให้ด้วยตาใสๆ แถมพอมาแล้วก็ทำท่ารีบกลับเหมือนไม่อยากอยู่ด้วยกันอีก แล้วจากนั้นก็มาแจกแจงเค้กให้ดูด้วยท่าทางซื่อๆ


   ...กูจะไบโพลาร์ก็เพราะมึง ไอ้ฉิบหาย!!!...


   “กูเจ็บนะโจ๊ก” คนถูกโขกหน้าผากประท้วงเบาๆ ดวงตาคู่สวยช้อนมองแบบที่ทำเอาคนแกล้งเขกหน้าผากให้เจ็บ อยากจะจูบประโลมความเจ็บสักร้อยที


   ...ยั้งปากไว้ไอ้โจ๊ก ยั้งปากไว้...


...จูบมันตอนนี้ไม่ได้ แต่ด่ามันได้...


   “โง่ๆอย่างมึงน่ะโดนซะมั่งก็ดี”


   คนถูกด่าทำปากยู่เล็กน้อย ในขณะที่มือยังลูบหน้าผากที่เจ็บ ดูท่าแล้วมันคงจะเจ็บจริงจนคนแกล้งชักรู้สึกผิด เจียระไนเอาลิ้นดุนข้างแก้มเหมือนตัดสินใจ


“รออยู่ตรงนี้ ไม่ต้องเสือกรีบกลับ” แล้วเขาก็หมุนตัวเดินหายเข้าไปในครัว ก่อนจะออกมาอีกทีพร้อมกับแก้วใบใหญ่ที่มีน้ำสีเหลืองทองเกือบเต็มมายื่นให้ตรงหน้าคนที่ยังลูบหน้าผาก


   “น้ำเก็กฮวย ม้ากูต้มเอง”


   “ขอบใจนะ” มือหนึ่งยังลูบ แต่อีกมือยื่นออกไปรับแก้วน้ำเก็กฮวยมาจากเจ้าของห้อง เจียระไนส่งน้ำให้แล้วก็ดึงมือขาวที่กำลังลูบหน้าผากมนออก รอยแดงที่ยังหลงเหลือทำเอาหัวใจคนแกล้งไหวยวบ มือใหญ่อีกข้างที่ถือแผ่นประคบเย็นมาด้วยแตะที่รอยแดงนั่นเบาๆ ความเย็นเฉียบของแผ่นเจลที่ประคบลงบนรอยแดงทำเอาสิตางศุ์สะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่ทันได้เบี่ยงตัวออก เจียระไนก็ชวนคุยเรื่องอื่นแล้ว


   “กูให้ม้าต้มมาเผื่อมึงด้วย ตอนจะกลับอย่าลืมเตือนให้กูหยิบให้มึงล่ะ”


   “ฝากขอบคุณแม่ของมึงด้วยนะ” สิตางศุ์จิบน้ำเก็กฮวยหอมๆที่มีรสหวานน้อยๆในขณะที่ยืนนิ่งๆให้คนตัวสูงกว่าประคบหน้าผากเขาเบาๆ ไม่รู้ว่าเพราะความเย็นที่ประคบหรืออะไร ความเจ็บถึงจางลงอย่างรวดเร็ว


   “เรียกม้าสิ บ้านกูคนจีน ไม่มีใครเรียกแม่หรอก”


   “อืม...” พอพูดถึงคนจีน สิตางศุ์ก็นึกถึงเพื่อนสนิทอย่างพฤกษา “...ไอ้แพทก็เรียกแม่ว่าหม่าม้านะ แต่เคยได้ยินมันเรียกย่าว่าอาผ่อ”


   “อ้อ มันเป็นจีนแคะล่ะสิ” ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนที่ยังประคบเจลเย็นให้


   “แล้วมึงอ่ะ”


   “แต้จิ๋ว”


   “อ้อ...” สิตางศุ์รับคำเบาๆ ก่อนจะท้วงเล็กๆ “โจ๊ก...กูหายเจ็บแล้วล่ะ” เจียระไนยอมผละมือจากไปแล้วเสนอเรื่องเค้กขึ้นมาอีกหน


   “เดี๋ยวกูไปเอาช้อนมากินเค้กก่อน” แล้วร่างสูงก็หายเข้าไปในห้องครัวอีกหน ก่อนจะกลับออกมาพร้อมช้อนส้อมสองคู่ แน่นอน คนไม่ชอบกินของเปรี้ยวอย่างสิตางศุ์โดนบังคับให้ชิมเค้กเปรี้ยวๆไปตามระเบียบ แต่ก็ได้น้ำเก็กฮวยแก้วใหญ่ดับความเปรี้ยวนั้น


เป็นอันว่าลูกแกะที่เกือบจะออกจากห้องหมาป่าอย่างรวดเร็วถูกรั้งให้นั่งต่อไปจนกว่าน้ำเก็กฮวยแก้วใหญ่ๆจะหมดนั่นแหละ


   “พรุ่งนี้มีเรียนเช้าใช่มั้ย เดี๋ยวกูไปรับเวลาเดิม” เจียระไนที่กำลังนั่งกินเค้กเหลือบตามองคนที่นั่งจิบน้ำเก็กฮวยอยู่ข้างๆแล้วก็หาเรื่องล็อกเวลาของตัวเองและล็อกตำแหน่งสารถีซะ


   “อืม เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะยกหนังสือไปให้ไอ้ปกด้วย”

   “ปก?”

   “น้องรหัสกูไง ที่เรียนปีสอง มันจะเรียนเอเชียตะวันออก กูก็เลยจะขนหนังสือไปให้มัน”

   “เยอะมั้ยล่ะ เดี๋ยวกูไปช่วยยกที่ห้อง”


โอกาสมาเห็นๆ ร่างสูงจินตนาการไปถึงคอนโดของคนตรงหน้าแล้วเรียบร้อย เพราะนับตั้งแต่รับส่งมาพักใหญ่ เขาก็ยังไม่เคยได้ขึ้นไปถึงห้องของอีกฝ่ายเลย แต่ตอนนี้สิ!!...จากเพื่อนต่างภาควิชา กลายเป็นคนมารับมาส่ง และมันก็สมควรแก่เวลาแล้ว...ที่จะได้ขึ้นคอนโดของอีกฝ่ายสักที!!


   “ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวกูให้คุณพัฒน์ช่วย” วูบแรกของความคิดของเจียระไนคือ…ใครวะคุณพัฒน์?!!...


คิ้วเข้มเหนือดวงตาคมเรียวขมวดฉับ ตาจ้องคนที่นั่งจิบน้ำเก็กฮวยเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าคำพูดของตนเองกำลังสร้างความหงุดหงิดให้เจ้าของสายตามากแค่ไหน


   “ใคร?”


   “เจ้าของเดิมห้องกูเอง เขาแต่งงานก็เลยขายห้องนี้ให้กูแล้วไปซื้อห้องแบบสองห้องนอนชั้นบนอยู่กับแฟนเขา ตอนนี้มีลูกสาวคนนึงชื่อน้องเชอร์รี่ ปกติเขาต้องไปส่งน้องเชอร์รี่ตอนเจ็ดโมงครึ่ง เดี๋ยวกูให้เขาแวะที่ห้องกูช่วยขนลงไปก็ได้” สิตางศุ์อธิบายประวัติความเป็นมาของ ‘คุณพัฒน์’ พอสังเขป และเป็นความสังเขปที่ทำเอาเจียระไนรู้สึกเก้อไปเล็กน้อย แต่...ก็แค่เล็กน้อยเท่านั้นล่ะ! เพราะต่อให้มีครอบครัวแล้วก็ไว้ใจไม่ได้ โดยเฉพาะกับมนุษย์ที่เป็นสเป็คของสาธารณชนอย่างสิตางศุ์ 


   “ไม่ต้องเลย เขามีลูกมีครอบครัวแล้ว มึงยิ่งไม่ควรไปรบกวนเขาใหญ่ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูขึ้นไปช่วยมึงขนเอง”

   “จะดีเหรอ”

   “ดี! ห้องมึงเลขอะไร”

   “504”

   “พรุ่งนี้กูจะขึ้นไปหา แล้วไม่ต้องให้ใครมาช่วยล่ะ!”


   “อืม ขอบใจนะ มึงใจดีว่ะ” สิตางศุ์ชมแล้วส่งยิ้มให้คนที่นั่งกินเค้กอยู่ใกล้ๆ เจียระไนแทบกลั้นรอยยิ้มเขินของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ แค่คำชมสั้นๆ แค่รอยยิ้มสวยๆ สิตางศุ์ก็ทำให้เขาแทบเป็นบ้า ร่างสูงดุนลิ้นกับข้างแก้มแล้วรีบตักเค้กเสาวรสยัดใส่ปากร่างโปร่ง


   “ใจดีห่าอะไร! ช่วยกูแดกเลย!!”


   “อื้ม! โจ๊ก! มันเปรี้ยว” เสียงประท้วงของสิตางศุ์ไม่มีความหมาย เพราะเจียระไนตักยัดเข้าปากคนไม่กินเปรี้ยวไปอีกสองคำ ทำเอาร่างขาวหมดแรงประท้วงได้อีก เพราะเอาแต่ตัวสั่นห่อไหล่แล้วทำตาหยี ซึ่ง...ก็ยังน่ารักอยู่ดีในสายตาคนมอง


   ...พอไม่แดกก็ทำกูละลาย พอแดกแล้วตัวสั่นกูก็ยิ่งละลาย!!! เลิกน่ารักสักที!! กูกุมหัวใจตัวเองไม่ไหวแล้ว ไอ้หอก!!...

..................................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 13-04-2017 20:23:05


ห้อง 504 เลขนี้จะอยู่ในระบบความทรงจำของเจียระไนตราบนานเท่านาน


   คอนโดของสิตางศุ์ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมากนัก แค่มีบัตรสแกนที่ประตูหน้าก็เข้าออกได้แล้ว ซึ่งเจ้าถิ่นให้เขาถือเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนที่มาส่ง เพื่อที่เช้านี้ พอเขามาถึงจะได้ขึ้นไปหาที่ห้องได้เลย


   และนี่...จะเป็นครั้งแรกที่เจียระไนได้เข้าห้องที่เขาอยากเห็นมาตลอด


   เสียงกุกกักดังมาจากหลังประตู แล้วบานประตูห้อง 504 ก็เปิดออก พร้อมด้วยใบหน้าขาวของเจ้าของห้องที่ส่งยิ้มให้เขา


   “ตรงเวลาจัง กูยังหาของไม่เสร็จเลยอ่ะ” คนพูดส่งยิ้มแก้ตัวขณะเปิดประตูให้ผู้มาเยือนเดินเข้ามา หนุ่มเชื้อสายจีนพาร่างสูงใหญ่ของตนเองเข้ามาในคอนโดขนาดเล็ก หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ มีครัวแยกเป็นสัดส่วนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกใส กะทัดรัดสำหรับอยู่คนเดียว แต่ก็สะอาดและเป็นระเบียบสมกับเป็นห้องของสิตางศุ์นั่นล่ะ


   “นั่งรอแปบนึง ขอกูหาหนังสือที่จะเอาไปคืนห้องสมุดก่อน” เจ้าของห้องชี้ไปที่โซฟายาว แล้วก็หันไปวุ่นวายกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆโซฟา มีหนังสือเล่มหนาวางซ้อนกันเป็นตั้ง


เจียระไนทำตามอย่างว่าง่าย อารมณ์ดีๆเพราะได้มายืนสูดอากาศอยู่ในห้องของคนที่เขาไม่คิดว่าจะได้มาทำเอาแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่อีกแล้ว ยิ่งพอได้ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา...ที่ที่สิตางศุ์คงจะนั่งบ่อยๆในทุกๆวัน ได้เหลือบตามองไปรอบๆห้อง ได้มารับรู้ชีวิตส่วนตัวของคนที่อยู่ในใจมาตลอด ก็ยิ่งรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งอก


มือใหญ่คว้าหมอนอิงมากอดหมายจะให้มันมาบดบังความอบอวลในใจ ทว่า...สายตากลับเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ซุกอยู่ข้างใต้


เขาคว้าซองขึ้นมาดู ก่อนจะตวัดสายตาไปยังคนที่หยิบหนังสือออกมาจากกอง


“นี่ของมึงเหรอโซ่?!” คนถูกถามหันมามอง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยเพ่งซองบุหรี่ในมือของเจียระไนเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกออก


“สงสัยของพวกไอ้แฮ็ก”


“ไอ้แฮ็กไหน”


“แฮ็กภาคฯกู เมื่อตอนเช้ามืดมันแวะมาที่นี่” ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมีนิสิตหญิงมากกว่าชาย นอกจากกลุ่มของสิตางศุ์แล้ว ก็มีกลุ่มผู้ชายแท้ๆอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่ง ‘ไอ้แฮ็ก’ ที่ว่า อยู่ในกลุ่มนั้น


“มันมาทำไม” เจียระไนถามเสียงแข็งโป้ก หน้าตาหงุดหงิดขึ้นมาอีก แต่สิตางศุ์เอาแต่เปิดหนังสือในมือดูเลยไม่ทันสังเกตอากัปกิริยาของคนถาม


“มันเที่ยวแถวนี้ แล้วดื่มไปเยอะ ไม่อยากโดนจับเลยมาแวะนอนน่ะ“


“มาคนเดียว?” ตั้งคำถามอย่างใจเย็น แต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้มีกองไฟกองย่อมๆลุกพรึ่บอยู่ในใจของเจียระไน


“เปล่า มีไอ้โอมกับไอ้บูมด้วย” รายชื่อที่พูดมาล้วนเป็นเพื่อนผู้ชายในภาคฯของสิตางศุ์ทั้งสิ้น แต่สำหรับคนฟังแล้ว แค่ได้ยินชื่อก็เห็นหน้าไอ้พวกผู้ชายที่อุดมไปด้วยสัญชาตญาณดิบลอยวนอยู่เต็มหัว!


“แล้วมึงให้พวกมันขึ้นมานอนได้ไง?!!!” ร่างสูงลุกพรวดตะคอกเสียงลั่น ทำเอาสิตางศุ์ชะงักเงยหน้ามอง


“ก็บอกแล้วว่าพวกมันเมา ไม่อยากโดนจับ”


“แล้วมันหน้าที่มึงต้องรับผิดชอบพวกมันรึไง?! ตอนมันแดก มันก็แดกของมันเอง! มึงเอาเหล้ายัดปากมันเหรอ?! เวลามันเมา มึงถึงต้องให้มันมานอน!! ห้องมึงไม่ใช่โรงแรม! ถึงได้ปล่อยให้ใครเข้ามาก็ได้!!”


“ก็ไม่ใช่ใครก็ได้ พวกนั้นก็เพื่อนกู” สิตางศุ์งุนงงที่อยู่ดีๆอีกฝ่ายก็โวยวายอย่างไม่พอใจ แต่เขาก็ใจเย็นพอที่จะอธิบายด้วยเหตุผล


“แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่มึงที่ต้องช่วยพวกมัน! คราวหลังอย่าให้ใครเข้าห้อง!!” เจียระไนสั่งอย่างหงุดหงิด แต่พอเห็นสายตางงๆของคนตรงหน้า เขาก็ถึงได้รู้ตัวว่าพูดเกินสถานะความเป็นเพื่อนมากเกินไป ยิ่งกว่านั้น เขาเองก็ยืนอยู่ในห้องของสิตางศุ์ด้วย


“เอ่อ...กู...กูแค่เห็นว่าห้องมึงแคบ! ให้คนนั้นคนนี้เข้ามานอน อีกหน่อยมันยกโขยงกันมาเป็นสิบ มึงไม่ต้องลงไปนอนที่ล็อบบี้รึไง?!” เจียระไนยกเหตุผลขาดๆเกินๆขึ้นมาบังหน้า เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะระแคะระคายความรู้สึกที่เขามีอยู่ตอนนี้


“ไม่ขนาดนั้นหรอก กูก็ให้แต่พวกที่สนิทเท่านั้นเอง”


คำพูดของเจ้าของห้องก็พอจะทำให้อารมณ์เย็นได้หรอก โดยเฉพาะวิธีการทอดเสียงอ่อนอย่างใจเย็นนั่นเหมือนหิมะมาถมใจร้อนๆของคนฟังได้ดี แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็ยังนึกหวง แม้จะรู้แก่ใจว่าสิตางศุ์เป็นคนใจดี หมูหมากาไก่ตกทุกข์ได้ยากเป็นต้องเห็นใจให้ความช่วยเหลือไปหมด แต่เรื่องให้คนอื่นขึ้นมาค้างที่ห้องด้วยมันก็เกินไปจริงๆ


“อ้อ งั้นถ้าวันนึงกูขอมานอนบ้าง มึงก็ให้เหมือนกันงั้นสิ?” เขาตีรวนอย่างหงุดหงิดหน่อยๆ จะว่าหาเรื่องก็ได้ ก็ใครใช้ให้มันกวนอารมณ์เขาด้วยการใจดีไม่เข้าท่ากับคนอื่นอย่างนี้ล่ะ!


“อืม” คำตอบสั้นๆ แม้คนตอบจะไม่คิดอะไร แต่คนฟังถึงกับชะงัก และในวินาทีต่อมาหัวใจก็ฟูฟ่องเหมือนถูกเป่าลมอย่างรวดเร็ว เจียระไนแทบลืมหายใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตอบไวขนาดนี้ มันเป็นการตอบโดยไม่ต้องคิด ตอบโดยไม่ต้องตัดสินใจ หากว่าเขามาขออาศัย สิตางศุ์ก็จะให้เขาเหมือนกัน


...เพราะสนิทแล้ว...


...จากเพื่อนร่วมคณะ จากเพื่อนต่างภาคฯ กลายร่างมาเป็นสารถีรับส่ง และวันนี้...กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันแล้ว...


ริมฝีปากเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นรอยยิ้มที่อาจหยุดไม่ได้ ก่อนที่ดวงตาคมจะเหลือบมองไปรอบกายหาประเด็นอื่นมากลบประเด็นนี้แทน 


“นั่นหนังสือที่มึงจะให้น้องรหัสใช่มั้ย?! กูยกลงไปเลยแล้วกัน!!”


แล้วเขาก็ไม่รออะไรอีก อุ้มลังหนังสือใบใหญ่ออกจากห้องของสิตางศุ์อย่างรวดเร็ว


...ไอ้ฉิบหาย!! เข้าห้องครั้งแรก โดนเจ้าของห้องแอ็ทแท็ก หนีหางจุกตูดออกมาแทบไม่ทัน!!...

..............................

หลังจากกลับมาขึ้นยกลังหนังสืออีกลังหนึ่ง เจียระไนก็พาคนข้างกายมาที่คณะ วันนี้ต่างคนต่างมีเรียนตอนเก้าโมง พอทานข้าวเช้าด้วยกันที่โรงอาหารเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าเรียน แล้วนัดเจอกันอีกทีตอนเที่ยงที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียน เพราะสิตางศุ์นัดน้องรหัสปีสองเอาไว้ 


“พี่โซ่ หวัดดีครับ” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง ทำเอาทั้งเจ้าของชื่อและคนที่นั่งอยู่ด้วยกันอย่างเจียระไนต้องหันมอง


น้องรหัสปีสองของสิตางศุ์ชื่อปกฉัตร รายนี้ก็ขึ้นชื่อลือชาด้านหน้าตาดีเหมือนกัน หน้าซื่อๆตาใสๆ สมกับเป็นพี่น้องสายรหัสที่ได้มาด้วยการจับฉลากจริงๆ


ปกฉัตรยกมือไหว้ทั้งพี่รหัสตัวเองและเจียระไน คณะรัฐศาสตร์มีประเพณีที่ถือกันมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ คือรุ่นน้องไหว้รุ่นพี่ แม้จะอยู่ต่างภาคฯ หรือไม่เคยคุยกันเลยก็ตามที


“รอนานรึเปล่าครับ ขอโทษที อาจารย์เพิ่งปล่อย” สิตางศุ์ส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นยืนเมื่อน้องรหัสเดินมาถึง เจียระไนมองสองพี่น้องร่วมสายรหัสที่สมเป็นสายรหัสกันที่สุด เพราะนอกจากจะหน้าตาคล้ายกันแล้ว รูปร่างสูงโปร่งแต่ตัวบางๆก็เหมือนกันอีกต่างหาก เพียงแต่คนพี่ขาวกว่าเท่านั้น


“ไปเอาเลยมั้ย แล้วปกเอารถมารึเปล่า จะขนหนังสือกลับยังไง”


“เอ่อ...พี่ผมเอารถมา เดี๋ยวเอาใส่รถพี่”


“พี่? ปกมีพี่น้องด้วยเหรอ?” เพราะค่อนข้างเป็นสายรหัสที่สนิทกัน สิตางศุ์จึงพอรู้ว่าน้องรหัสปีสองของตนเองเป็นลูกคนเดียวที่บิดามารดาย้ายไปทำงานต่างประเทศ เหลือเพียงเจ้าตัวอยู่ที่เมืองไทย


“พี่...พี่ที่สนิทน่ะครับ” คนน้องว่าอย่างนั้น สิตางศุ์เลยหันไปพยักหน้ากับเจียระไนซึ่งเป็นเจ้าของรถที่เขาฝากลังหนังสือเอาไว้ สองหนุ่มรุ่นพี่ปีสี่พาน้องปีสองเดินไปยังลานจอดรถใกล้ๆตึกเรียนของคณะ

ทว่าแม้ที่นี่จะเป็นลานจอดรถในอาณาเขตคณะรัฐศาสตร์ แต่กลับมีนิสิตต่างคณะมาป้วนเปี้ยนยืนพิงรถหรูที่จอดอยู่ เจียระไนขมวดคิ้วเพ่งมองป้ายทะเบียนรถแล้ววกกลับไปมองใบหน้าด้านข้างของคนที่ยืนพิงรถรอ


...หน้าอย่างนี้ ป้ายทะเบียนนี้...


“ไอ้เจ๋ง” เขาร้องทัก ทำเอาคนที่กำลังยืนพิงรถหรูต้องหันมอง


“เฮียโจ๊ก!”


“มึงมาที่นี่ทำไม” เฮียโจ๊กของ ‘ไอ้เจ๋ง’ ตั้งคำถามอีกครั้ง และคราวนี้คนถูกถามชี้นิ้วข้ามไหล่เจียระไนไปที่รุ่นน้องของสิตางศุ์


“มากับมัน”


สองคนพี่น้องสายรหัสมองชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ทั้งคู่ตรงหน้า ทั้งเจียระไนและ ‘ไอ้เจ๋ง’ สูงใหญ่พอๆกัน ตาเรียวชั้นเดียวแบบเดียวกัน แถมหน้าตายังพิมพ์เดียวกันด้วย


“นี่ไอ้เจ๋ง ลูกพี่ลูกน้องกูเอง อยู่บัญชีฯ ปีสาม” พอเห็นสายตางุนงงของสิตางศุ์และปกฉัตร เจียระไนเลยแนะนำคนที่หน้าตาคล้ายตนเองให้รู้จัก ก่อนจะหันมาทางญาติผู้น้อง


“ไอ้เจ๋ง นี่โซ่” เว้นวรรคเอาไว้ไม่บอกสถานะ คนเป็นน้องกำลังจะหันไปผงกหัวเป็นการทักทาย แต่เจียระไนพูดเสียงเฉียบ


“ไหว้ด้วย” คราวนี้ดวงตาเรียวของคนมีศักดิ์เป็นน้องเหลือบมองคนสั่งทันที เจียระไนไม่พูดอะไร แต่ยักคิ้วหนึ่งทีเป็นอันว่าต้องทำตาม หนุ่มปีสามจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีเลยต้องยกมือไหว้


“หน้าตาเหมือนกันเลยนะ ถ้าบอกว่าเป็นพี่น้องแท้ๆก็เชื่อ” สิตางศุ์ทักแล้วส่งยิ้มจางให้น้องของเพื่อนร่วมคณะ หนุ่มปีสามจากต่างถิ่นเหลือบมองพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของตนเองทีหนึ่ง ก่อนจะแสยะยิ้มเมื่อเหลือบมามองคนผิวขาวจัดเจ้าของรอยยิ้มสวย


“นอกจากจะหน้าเหมือนกันแล้ว ผมกับเฮียโจ๊กยังชอบอะไรเหมือนๆกันด้วย ตอนเด็กๆก็แย่งของเล่นกันบ่อย จริงมั้ยเฮีย” สองพี่น้องร่วมสายเลือดครึ่งนึงสบตากันราวกับรู้ทัน แต่ก่อนที่ใครจะพูดอะไรขึ้นมาอีก เสียงของปกฉัตรก็ดังขึ้น


“เอ่อ...เอาหนังสือเลยดีมั้ยครับ”


แล้วหลังจากนั้น กระบวนการขนย้ายหนังสือเลยเริ่มต้นขึ้น เจียระไนเปิดหลังรถของตนเองให้เห็นลังหนังสือสองลังใหญ่ๆที่วางอยู่ท้ายรถ แต่พอน้องรหัสของสิตางศุ์จะเดินเข้าไปยก น้องชายของเขากลับดึงแขนไว้


“กูยกเอง มึงยืนเฉยๆ” ปกฉัตรไม่พูดอะไร ขยับถอยห่างมายืนข้างสิตางศุ์แล้วปล่อยให้คนตัวใหญ่กว่ายกลังหนังสือไปเก็บใส่รถอีกคัน


“แล้วหนังสือพวกนี้ พี่โซ่ไม่เก็บไว้อ่านเหรอ” คนรับช่วงต่อหนังสือหันมาถามเจ้าของตัวจริง


“ไม่ล่ะ ตอนแรกยังคิดอยู่เลยว่าจะให้ใครดี เพราะฟางมันเรียนยุโรป ดีว่าปกจะเรียน ก็เลยมีคนรับช่วงต่อ ไม่งั้นคงชั่งกิโลขาย เสียดายเหมือนกัน” สิตางศุ์หันมาตอบ ในสายรหัสของเขา น้องรหัสปีสามเลือกเรียนด้านยุโรปก็เลยไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารและหนังสือที่เขามี โชคดีว่าปกฉัตรคิดจะเรียนฝั่งเอเชียตะวันออกแบบที่เขาเรียน เลยมีคนรับช่วงต่อ


คนพี่กำลังจะชวนคุยต่อเกี่ยวกับเรื่องเรียน ทว่ารอยบางอย่างที่คอขาวๆของน้องรหัสทำเอาชะงัก


“รอยอะไรน่ะปก แพ้อากาศเหรอ ตรงคอเป็นรอยแดงๆเต็มเลย” พอทักว่ามีรอยแดงๆเต็มคอ ปกฉัตรก็ถึงกับยกมือขึ้นปิดคอทันควัน ในขณะที่หนุ่มจากคณะบัญชีฯปีสามที่กำลังยกลังหนังสือลังที่สองไปเก็บที่รถของตนเองก็ถึงกับชะงักไปเช่นเดียวกัน


“เอ่อ...ค...ครับ” คนถูกทักว่ามีรอยแดงๆเต็มคอได้แต่รับคำสั้นๆ ทว่าไม่กล้าสบตาใคร แต่สิตางศุ์ไม่ได้สังเกตปฏิกิริยาของรุ่นน้องนัก


“พักนี้อากาศร้อนขึ้นนะ อย่าเกาล่ะ เดี๋ยวถลอก”


“ค...ครับ...” เสียงรับคำของน้องรหัสดังแผ่ว เป็นจังหวะเดียวกับที่น้องชายของเจียระไนพูดแทรก


“เสร็จแล้ว” ปกฉัตรหันไปมองคนที่ปิดฝากระโปรงรถ แล้วก็รีบหันมาบอกพี่รหัสปีสี่ของตนเอง


“ง...งั้นผมไปก่อนนะพี่โซ่” เขายกมือไหว้รุ่นพี่ทั้งสองคนแล้วรีบเดินไปขึ้นรถหรูของญาติผู้น้องของเจียระไน


พอรถคันนั้นเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถไปแล้ว ร่างสูงที่ยืนเงียบๆมานานก็หันมาเคาะหน้าผากสิตางศุ์ทีหนึ่งถือเป็นบทลงโทษของความบื้อ


“คราวหลังอย่าทักสุ่มสี่สุ่มห้า”


“ทักอะไร” คนถูกเขกหน้าผากย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ มือลูบตรงที่โดนมะเหงกเขกเพราะมันเจ็บยิบๆ

“ก็รอยแดงนั่น”

”อ้าว ทำไมล่ะ ก็ผดไม่ใช่เหรอ”

”ผดห่าอะไร นั่นมันรอยดูด”

“รอยดูด? ดูดคอเนี่ยนะ? ใครจะมาดูด แล้วดูดทำไมอ่ะ”


เจียระไนหันมองคนถามซื่อๆด้วยความรู้สึกอยากจะเขกหัวมันเพิ่มอีกสักที


“เวลาเอากันไม่ให้ดูดคอแล้วให้ดูดอะไรล่ะ” พอโดนเพื่อนร่วมคณะพูดตรงๆ คนกำลังงงก็ถึงกับชะงักตาเหลือกโต อ้าปากพะงาบๆพูดไม่เป็นประโยค


“ม...หมาย...หมายความว่า...ไอ้ปก...” ร่างสูงเอาลิ้นดุนข้างแก้มไม่ชี้โพรงอะไรเพิ่มเติม ของแบบนี้มันดูกันง่าย ยิ่ง ‘ไอ้เจ๋ง’ เป็นญาติยิ่งแล้วใหญ่ เพราะรู้จักมันมาตั้งแต่จำความได้ แต่...อะไรก็ไม่สำคัญเท่า...โดน ‘ไอ้เจ๋ง’ แซงหน้าได้ไงวะ!!...


“ไปหาอะไรแดกดีกว่า ขึ้นรถ” เจียระไนเซ็งในอารมณ์ที่ตนเองยังไปไม่ถึงไหน ในขณะที่น้องชายลูกพี่ลูกน้องถึงขั้นได้ดูดคอแฟนมันเป็นรอยแดงเถือก เขาเปิดประตูขึ้นนั่ง อึดใจต่อมาสิตางศุ์ที่ยังตะลึงกับความรู้ใหม่เกี่ยวกับน้องรหัสปีสองของตนเองก็เปิดประตูขึ้นนั่งด้วยสภาพหัวใจที่หายไปมากกว่าครึ่ง


“ไม่ต้องคิดมากหรอกหน่า น้องมึงเป็นผู้ชายยังไงก็ไม่ท้อง น้องกูก็ไม่ใช่พวกมั่วไม่เลือก มันคบใครคบทีละคน”


“ม...ไม่ใช่...เอ่อ...กู...กูไม่คิดว่า...ไอ้ปกจะ...จะชอบผู้ชาย...” คนกำลังหมุนพวงมาลัยออกจากลานจอดรถถึงกับชะงัก เจียระไนรู้สึกเหมือนใจหายวาบที่เรื่องของปกฉัตรและน้องชายของเขาพาไปสู่ประเด็นความสัมพันธ์ของผู้ชายสองคนในสายตาของสิตางศุ์


“มึงรังเกียจเหรอ” เขาถามเสียงแปร่ง พยายามบังคับสติให้อยู่กับการขับรถ แต่ถึงอย่างนั้นสัมปชัญญะมากกว่าครึ่งก็เฝ้าจดจ่ออยู่กับคำตอบที่จะออกมาจากริมฝีปากแดงจัด


“ก็...ไม่ได้รังเกียจ...แต่...คิดไม่ถึง...”


เพราะสิตางศุ์เห็นปกฉัตรมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ไม่คิดว่าน้องในสายรหัสของตนเองจะมีแฟนเป็นผู้ชาย หนำซ้ำ...ยังมีรอยดูดที่คอเป็นแถบเลยด้วย


“แล้วมึงล่ะ...น้องมึงเป็นผู้ชาย...ไอ้ปกก็ผู้ชาย...มึง...คิดยังไง” ร่างโปร่งหันไปถามคนที่กำลังพาพวกเขาออกสู่ถนนใหญ่ เจียระไนเหลือบมามองวูบหนึ่ง ทว่าวูบเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้สิตางศุ์นิ่งงันกับพลังบางอย่างที่อยู่ในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น


“เพศมันก็เหมือนหน้าตานั่นแหละ เป็นแค่รสนิยมให้อีกคนนึงเข้าหา แต่ความรักมันไม่ได้เลือกว่าจะเกิดกับเพศอะไรหรือหน้าตาแบบไหน ถ้ามันจะเกิด...มันก็เกิด ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”


อะไรบางอย่างที่แฝงมากับคำพูดของเจียระไนทำให้คนฟังได้แต่เงียบและครุ่นคิดกับตัวเอง


สิตางศุ์ไม่เคยมีคนรัก และไม่รู้จักความรักในรูปแบบของคนรัก แต่...เจียระไนคงรู้จักดี เพราะไม่อย่างนั้นคงพูดประโยคเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข้งและจริงจังอย่างนั้นไม่ได้หรอก


“โจ๊ก...ตอนที่มึงรักใครสักคน มึงรู้สึกยังไงเหรอ”


คำถามที่ร่างสูงไม่คิดจะได้ยินทำเอาดวงตาคมต้องเหลือบมามอง เขามองสบเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยใสแจ๋วที่มองมาที่เขาอย่างอยากรู้


...ตอนที่รักใครสักคน รู้สึกอย่างไรน่ะหรือ?...


“รู้สึกอยากอยู่กับเขา”


“แค่อยากอยู่กับเขาเองเหรอ”


“อยากอยู่กับเขา อยากเป็นที่พึ่งให้เขา อยากอยู่ในสายตาเขา อยากเป็นทุกๆอย่างของเขา คนที่เป็นความรักของกู เขาก็จะเป็นทุกๆอย่างในชีวิตกูเหมือนกัน” ดวงตาสีดำสนิททอดมองเข้าไปในดวงตาของสิตางศุ์ราวกับจะสื่ออะไรบางอย่าง แต่เพราะรถคันหน้าเคลื่อนตัว เจียระไนเลยต้องหันกลับไปสนใจถนนตรงหน้าต่อ แล้วทิ้งสิตางศุ์เอาไว้กับภวังค์


...‘คนที่เป็นความรักของกู เขาก็จะเป็นทุกๆอย่างในชีวิตกูเหมือนกัน’...


ร่างโปร่งก้มลงมองมือตัวเองแล้วทบทวนความรู้สึกในใจ


แล้วตัวเขาเองล่ะ ใครกันที่จะเป็นทุกๆอย่างในชีวิตของเขา?


ชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองคนข้างกาย คำถามยังดังอยู่ในสมอง ทว่าคำตอบจากหัวใจ กลับบางเบาเกินไปที่สิตางศุ์จะได้ยิน



ติดตามตอนต่อไป (วันพุธนะคะ)

หลังจากตอนที่แล้ว ปล่อยให้โจ๊กพักผ่อน ดีดกีต้าร์ชิวๆให้โซ่ฟัง ตอนนี้โจ๊กก็กลับมา(เกือบจะ)เป็นไบโพลาร์อีกครั้งค่ะ กร๊ากกกก
โซ่มันซื่อไม่พอ แต่มันไม่รู้จักความรักแบบคู่รักด้วยค่ะ (งานเข้าโจ๊กจริงๆ บอกแล้วว่าพระเอกเรื่องนี้น่าสงสารรรรร)

ส่วนเพลงจากตอนที่แล้ว คาดว่าหลายคนน่าจะเดาถูก เพลงนี้เนื้อร้องออกจะหวาน แต่บางท่อนนักร้องก็ร้องอย่างเกรี้ยวกราด (ช่างเหมาะกับอารมณ์และความรู้สึกของโจ๊กจริงๆ ฮ่าๆ)

สำหรับตอนนี้ ยาวนิดนึงนะคะ และตอนหน้าจะมาวันพุธแทน เพราะว่าวันพฤหัสฯ บัวติดธุระแหละ T.T (ความแน่นอนของชีวิต คือความไม่แน่นอนจริงๆเลย)

เจอกันวันพุธหน้า ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ

ป.ล. สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 13-04-2017 21:07:23
อ่าว โจ๊กโดนน้องแซงแล้ว5555555555555555555

จู่ๆก็มีคู่ใหม่อ่ะ แล้วไปกันไวกว่าด้วย กรี้ดเลยค่ะ55555555
อุ๊ย คุณพัฒน์กับน้องเชอร์รี่นี่ที่โผล่ในตอนพิเศษของถ้วยฟูหรือเปล่าคะตอนไปญี่ปุ่น ที่ชอบทานหอมหัวใหญ่ ใช่มั้ยคะเนี่ย ฮือ ทดสอบความทรงจำเว่อร์ ครอบจักรวาลสุด มาเวลเว่อร์ /สรุปจำผิด อ่าวๆๆ แฮ่ๆ

ชอบโจ๊กจริงๆค่ะ ดูไร้สติดีอ่ะ(คำชม) สู้ๆนะเว้ยโจ๊ก หนทางนี้ดูท่าจะยาว เหมือนฝึกเด็กวัยหัดเดินเลย ไม่เป็นไร อย่างงี้แหละเลี้ยงง่าย (ถ้าแกไม่เป็นไบโพล่าร์ไปซะก่อนนะ555555)

 :กอด1:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-04-2017 21:10:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-04-2017 21:11:53
คู่น้องนี่น่าติดตามไม่แพ้กันเลย มีนำหน้าไปด้วย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-04-2017 21:12:38
ฮาาาา พี่โจ๊ก ไบโพล่าห์
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: HuskyLover ที่ 13-04-2017 21:15:08
มาแล้วๆ คราวนี้มาตรงเวลา แต่ผมยังไม่มีเวลาอ่านเลยช่วงนี้
เห็นคอมเมนต์แล้วน่าสนใจ จะรีบเคลียร์งานอย่างไว :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 13-04-2017 21:19:17
ขอบคุณค่ะ
น่ารักมากกกก
พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นไปอีกขั้นแล้ว
รออ่านวันพุธนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 13-04-2017 21:31:05
โจ๊กแน่ในนะว่าแค่เกือบเป็นไบโพลาร์ นี่นึกว่าเป็นแล้ว ก๊ากกกกกก :m20: :m20:

ความสัมพันธ์เหมือนจะคืบหน้า รึป่าว?5555 ยอมโซ่ล้าววว น่ารักเกิน ฮืออ  :haun5: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-04-2017 21:34:42
โจ๊กต้องสู้นะ555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 13-04-2017 21:35:23
พี่โจ๊กหัวร้อนง่ายมากอะ ฮ่าๆๆ แต่เจอความเย็นของสิตางค์เข้าไปเลยฮีลขึ้นอย่างไว
แต่กลัวใจความหัวร้อนง่ายแบบนี้มากเลย ถ้าคบกันแล้วมีปัญหาแน่นอนเลย :m15:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 13-04-2017 21:42:04
น่าสงสารเฮียโจ๊กตรงโดนน้องแซงหน้า 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-04-2017 21:51:05
สนุกมากกกกก  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เข้าใจอารมณ์โจ๊กเลย น่าสงสาร / คนอ่านไม่ไบโพลาร์นะ
แต่ความสัมพันธ์ของโจ๊ก สิตางศ์ุ เข้าใกล้กันดีมาก
สิตางศ์ุ ก็ยังซื่อ ไร้เดียงสา อย่างเดิม
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 13-04-2017 22:02:27
ปกติก็สงสารพี่โจ๊กอยู่แล้ว
มาตอนนี้ที่ได้รู้จักน้องเจ๋งแล้ว
วงวารมากไปอีก
แต่เราคงไม่เชียร์อะไรมากไปกว่านี้
เพราะเราชอบโซ่มากกว่า อยากให้โซ่ใสๆ แบบนี้ต่อไปอีกนานๆ
โจ๊กอดทนนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 13-04-2017 22:07:15
เกลียดดดดดดความซื่อของโซ่  :laugh: เข้าใจแล้วทำไมคุณบัวบอกโจ๊กน่าสงสาร  :laugh:  :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 13-04-2017 22:13:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: masochism2018 ที่ 13-04-2017 22:20:09
ว๊ายยยพี่โจ๊ก ไม่เป็นไรน้าอย่างน้อยก็ได้ขึ้นห้องโซ่แล้ว
สู้ๆต่อไปนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 13-04-2017 23:02:37
เอาน่าโจ๊ก
ใจเย็นๆน่ะดีแล้ว  แค่ตอนนี้โซ่ก็ยอมมากแล้วนะ
โซ่เองยังต้องการเวลา ให้รู้ตัวชัดกว่านี้
เชียร์มากกกกกก
ตลกโจ๊ก ขี้หึงขี้หวงสุดๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-04-2017 23:07:54
โจ๊กเป็นไบโพลาร์ ส่วนโซ่ซื่อจนเซ่อ

แหม่ เหมาะกันประหนึ่งหมอจิตเวชกะคนไข้ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: wiseducky ที่ 13-04-2017 23:13:16
โจ๊กดูท่าแล้วถ้าเป็นแฟนกันต้องขี้หึงและขี้หวงมากแน่55555555 หมดกันความหล่อ
โซ่ก็รีบๆเก็ทสักที สงสารโจ๊ก  เฝ้ามองมานาน5555


หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-04-2017 23:26:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-04-2017 23:36:06
ถึงจะต้องเหนื่อยกับความซื่อของโซ่ แต่นับว่าความสัมพันธ์ก้าวหน้าไปมาก
แถมยังมีคู่น้อง ๆ มาเป็นตัวเร่งอีก
ว่าแต่อิสองปีที่แอบรักนี่ คบหญิงบังหน้าหรอกรึ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 13-04-2017 23:36:30
คู่ใหม่เปิดตัวได้น่าสนใจม้ากกก โซ่ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยน้า ส่วนโจ็กเป็นไบโพล่า 55555545
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 13-04-2017 23:56:45
คู่รองนี่มาเหนือแซงไปแล้ว 555
โจ๊กจะเป็นไพโบลาร์ก่อนได้เมียไม๊เนี่ย? โซ่ก็ซื่อได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 14-04-2017 00:32:47
ไม่ชอบเพื่อนนิสัยแบบนี้เลยเสือกจัง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 14-04-2017 01:10:17
น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 14-04-2017 02:24:25
โซ่คนซื่อ น่ารักเกิน โจ๊กคงจะเป็นไบโพราก่อนจีบติด555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 14-04-2017 03:18:01
โจ๊กมีความหลงโซ่หนักมาก ขี้หึงสุดๆ
น่ารักกกกกกกกกกกกก

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-04-2017 07:07:33
เพื่อนก็เป็นผู้ช่วย แต่พี่ก็ป้องกันสุดๆ แพทตอบให้เคลียร์นะ

55555 โซ่คะ ไม่ซื่อธรรมดานะ นอกจากเรียนแล้ว กินข้าวก็คิดนาน เรื่องอื่นๆนี่สอบตกมากอะ
แต่ไม่เป็นไรนะ มีคนอยากสอน อยากบอกจะแย่แล้ว อัดอั้นจะระเบิดหลายรอบละ ขนาดโดนง้อ ยังมีสิบสองอารมณ์
กว่าจะได้คบกัน โจ๊กคงเละ

สมชื่อเลยค่ะ เจ๋ง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 14-04-2017 10:07:52
น้องนำว่ะพี่โจ๊ก แบบมีรอยที่คอแล้วอ่าาาา
ของพี่เนี่ย นอกจากจะยังไม่ได้แสดงตัวว่าจีบแล้ว
โซ่ยังไม่เจ้าใจคู่รักด้วย
จะสงสารหรือขำดีเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: rcha ที่ 14-04-2017 14:30:53
ช่วงแรกขำกับความไบโพลาร์ของโจ๊ก
ช่วงหลังหน่วงเบาๆ ตอนที่ถามความรู้สึกโซ่เกี่ยวกับเรื่องปก
เมื่อไหร่โซ่จะรู้ใจตัวเองล่ะเนี่ย  :hao5:
กลัวดราม่าจังเลยค่ะ 5555555
พี่โจ๊กสู้ๆ นะ เอาชนะใจโซ่ให้ได้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 14-04-2017 19:07:59
ชอบเรื่องนี้  น่ารักมากกกก

โซ่น่ารักมาก ซื่อๆ

โจ๊กนี่แบบน่ารัก ทั้งรักทั้งหลงเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 14-04-2017 19:14:54
หมั่นไส้พระเอกแบบโจ๊ก โอ้ยยยยย จะดุเค้าแต่พอเจอเค้าอ้อนหน่อยก็ไปไม่เป็นเอง

ส่วนน้องโซ่ก็ หนูลู้กกกกกก เอ็นดู
จะรอน้องโซ่คิดได้พี่ว่าคงจะไม่ทันการ โจ๊กปล้ำจูบไปเลยลูก ค่อยง้อตอนนั้นคงไม่สาย5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 14-04-2017 20:30:43
โจ๊กชอบเพราะโซ่เป็นแบบเนี้ย ต้องเข้าใจนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 14-04-2017 21:09:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 14-04-2017 22:11:30
คู่ของเจ๋งกับปกฉัตรนี่คือโผล่มาเพื่อเป็นยากระตุ้นให้โจ๊กดับเครื่องชนใช่ไหมคะ งานนี้จะให้น้อยหน้าน้องได้ไงโจ๊ก จัดการสร้างรอยดูดให้กับโซ่เลยสิจ๊ะ หึๆ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ สำหรับตอนใหม่นี้ และสวัสดีปีใหม่ไทยค่า ขอให้เที่ยวสงกรานต์อย่างมีความสุขนะคะ ^______^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-04-2017 23:24:52
ไม่รู้จะขำหรือจะสงสารโจ๊กดี ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-04-2017 00:07:41
ความรักของพี่โจ๊กเหมือนหอยทากค่อยๆกระตึ๊บไป
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: xหยกน้อยx ที่ 15-04-2017 00:10:22
ชอบจังน่ารักดี มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 15-04-2017 01:06:34
สายรหัสนี้เขาดีจริงครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-04-2017 08:41:58
55555 โจ๊กค่ะรับยาช่องถัดไปด้วยค่ะ ยาน่าจะหมด ไบโพล่าจะกำเริบบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-04-2017 20:28:32
 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 15-04-2017 21:42:25
โงยยยยยยย น่ารักอ่ะ ขอบคุณคุณบัว เรื่องนี้น่ารักจัง ชอบอ่ะ อิโซ่มันทั้งซื่อทั้งบื้อ ใสๆ งงๆ นางวิ่งเล่นทุ่งลาเวนเดอร์มาก แอบสงสัย? มันรอดมาจนถึงปี 4 นี่ได้ยังไง? ได้ข่าวมีแค่โดนแทะโลมด้วยวาจาและสายตา 55555  สงสัยคุณพ่อแพทกับพ่อกตคงทำงานหนักน่าดู

มาถึงอิพระเอกไบโพล่าร์ของเรา สงสารนางงงงงง #ทีมเดียวกับบัว  นางใกล้จะเป็นบ้าละ เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวดุเสียงแข็ง 55555 โจ๊กเอ้ยยย เจ่ขอแนะนำ สถานะการณ์แบบอิโซ่นี้ ปล้ำก่อนเคลียร์ทีหลัง จบทุกประเด็นค่ะ!  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 16-04-2017 00:39:07
ชอบมากค่ะ นานๆ ทีจะได้เห็นตัวเอกเรียนรัฐศาสตร์
คณะที่ไปกินบะหมี่เกี๋ยวหมูแดงบ่อย 5555555555

ณ ตอนนี้สนุกมากกก ขออย่าให้มีดราม่าแสนสาหัสอะไรเลยนะคะ
มันไม่ใช่แนวทางเราเลยจริงๆ ㅠㅠㅠㅠㅠㅠㅠㅠㅠ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: HuskyLover ที่ 16-04-2017 07:42:45
ดีนะที่น้องโซ่ไม่โดนเพื่อนเมาจับปล้ำซะก่อน รอดมาได้ไงเนี่ย
ส่วนน้องโจ๊กไทรโพลาร์ (รัก เฉย บ้า) ต้องรีบทำให้น้องโซ่รู้ตัวเร็วๆ นะ เดี๋ยวไม่ทันลูกพี่ลูกน้อง
แต่อย่าดูดแรงนักล่ะ น้องยิ่งขาวๆ อยู่ เห็นง่าย 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Preenp ที่ 17-04-2017 02:00:13
โจ๊กอย่าไปยอมเจ๋ง
 :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 17-04-2017 05:34:58
น้องโซ่คนซื่อ น่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Rebtur ที่ 19-04-2017 15:40:14
โอ๊ยต่ายแหล่ววววว น่ารักอ่ะพี่โจ๊กกก
รีบทำให้โซ่ได้ยินเสียงในหัวใจเร็วๆนะคะะะะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 19-04-2017 21:13:27
กรี๊ดด ขอมาติดขอบ ติดตามโจ๊กไบโพลาร์ด้วยคนค่ะ
น่ารักมาก 55555  เดี๋ยวผีเข้าผีออกแบบนี้
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 19-04-2017 22:28:44
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 6

ความรักในแบบคู่รักเป็นเรื่องยิ่งใหญ่เกินกว่าที่สิตางศุ์จะเข้าใจ


คนที่มีพร้อมทั้งครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย ต่อให้จะมาเรียนที่กรุงเทพฯเพียงลำพังตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย แต่ทุกๆวันจะต้องโทร.คุยกับพ่อแม่ ทุกๆเดือนจะมีญาติหมุนเวียนกันแวะมาเยี่ยมเยียน ไหนจะเพื่อนสนิทอีก คนที่มีคนรอบข้างรักใคร่เอ็นดูแบบนี้เลยไม่มีที่เหลือเพียงพอสำหรับคนที่จะเข้ามาเป็นคนรักเลยสักนิด


...แล้วแบบนี้จะเข้าใจได้ยังไง ว่ารู้สึกกับคนอื่นๆแบบไหน...


...รู้สึกแบบไหนกับนิตา รู้สึกแบบไหนกับ...


ชื่อใครบางคนวูบขึ้นมาในใจพอดีกับที่สิตางศุ์หันไปวางนมขวดใหญ่ลงในรถเข็นของซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วก็พบว่ามีของบางอย่างที่เขาไม่ได้หยิบ


...อ้อ โจ๊ก...


...จริงด้วย ของไอ้โจ๊ก...


...ไอ้โจ๊กมาซื้อของด้วย เพราะมันบอกว่ามันมีรถ ถ้าซื้อของเยอะจะได้ไม่ลำบาก แล้วพอเข้ามาในซุปเปอร์ มันก็บอกว่าให้ใช้รถเข็นคันเดียวกัน จะได้ไม่เกะกะ แล้วค่อยแยกของตอนจ่ายเงิน...



มือใหญ่ๆวางขนมปังโฮลวีทลงในรถเข็นท่ามกลางสายตาของสิตางศุ์ ทำเอาดวงตาคู่สวยต้องเหลือบขึ้นมองคนที่มาซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์ด้วยกัน


...ไม่สิ ไม่ได้มาด้วยกัน แต่โจ๊กอาสามาเป็นเพื่อน แล้ว...พอเข้าซุปเปอร์ มันก็เลยจะซื้อของด้วย...


“ของกูครบแล้ว มึงจะซื้ออะไรอีก” เจียระไนถาม สีหน้าเรียบเฉย อันที่จริง สีหน้าแบบนี้ก็เป็นสีหน้าที่สิตางศุ์เห็นบ่อยพอๆกับเวลามันยิ้มมุมปาก ตาเป็นประกายนั่นแหละ


“เหลือเบียร์อีกอย่างนึง” คราวนี้คนถามเลิ่กคิ้ว ก่อนจะแทรกตัวมาเข็นรถ ปล่อยให้สิตางศุ์เดินตามหลัง

“มึงกินเองเหรอ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เจ้าของดวงตาเรียวยาวตั้งคำถาม แต่ไม่ได้หันมอง

“อืม”

“ไม่น่าเชื่อ”

“ไม่น่าเชื่อยังไง กูอายุเลย 18 แล้วนะ กูกินได้”

“ก็เห็นซื่...เอ่อ...เซ่อๆ...ไม่คิดว่าจะกินเป็น” จะบอกว่าซื่อก็ดูน่ารักเกินไป เลยต้องเปลี่ยนเป็นคำว่าเซ่อแทน

เสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ ทำเอาเจียระไนต้องหันมอง คนผิวขาวจัดกำลังยิ้มกว้าง ดวงตาใสๆที่แสนซื่อนั้นมีแววซุกซนเจืออยู่ด้วย


“กูไม่ได้เซ่อซะหน่อย” พวกเขาไม่ทันได้พูดอะไรต่อ ก็เดินมาถึงชั้นวางขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เจียระไนเห็นแล้วก็นึกอยากซื้อตุนไว้ที่คอนโดบ้าง เขาทิ้งรถเข็นให้ร่างโปร่งบางที่กำลังก้มหน้าก้มตาเลือกเบียร์กระป๋อง ส่วนตนเองแยกไปดูชั้นวางใกล้ๆกัน


พอสิตางศุ์เหลือตัวคนเดียว เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น


“โซ่...รึเปล่า” คนกำลังก้มๆเงยๆเลือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หันมองตามเสียงเรียกนั้น เจ้าของเสียงคือชายหนุ่มหน้าคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ดูรู้ว่ามีเชื้อสายทางอเมริกาใต้ แล้วหน้าแบบนี้ เสียงแบบนี้ สิตางศุ์มีหรือจะจำไม่ได้ว่าเป็นรุ่นพี่ในคณะที่เรียนจบไปแล้ว


...แต่...แย่ล่ะสิ...จำชื่อไม่ได้...

“อ่า...หวัดดีครับ” จำชื่อไม่ได้ แต่ยกมือไหว้ไปก่อนเพราะความคุ้นเคย ทำเอาอีกฝ่ายยกยิ้มแล้วรับไหว้

“จำพี่ได้มั้ย”

“ได้ครับ...เอ่อ...มาซื้อของเหรอครับ”

“อืม โซ่ล่ะ มาคนเดียวเหรอ หรือมากับแฟน?” ดวงตาที่ล้อมกรอบด้วยขนตาเป็นแพจับจ้องมาที่ใบหน้าขาวจัดของรุ่นน้องร่วมภาคฯ ร่วมคณะและร่วมสถาบัน

“มากับเพื่อน อ่า...พี่เป็นยังไงบ้าง สบายดีมั้ยครับ”


คนคุยไม่เก่ง ไม่รู้จะชวนคุยอะไร ทำได้แค่ชวนคุยประโยคพื้นๆ ก่อนที่ความอึดอัดจะก่อตัว เขาจะขอตัวไปก็ไม่ได้เพราะยังเลือกเบียร์ไม่เสร็จ จะหันไปเลือกเบียร์ต่อก็ดูไม่มีมารยาท เพราะรุ่นพี่คนนี้อุตส่าห์มาทัก พอไม่รู้จะทำยังไง สิตางศุ์เลยต้องชวนคุยเท่าที่จะทำได้


รุ่นพี่หนุ่มที่จบไปแล้วหัวเราะเบาๆ เห็นสีหน้าคิดไม่ตกของคนตรงหน้าก็พอจะเดาได้ ว่าอีกฝ่ายคงจำได้แค่หน้าเขา


“พี่รอนสบายดี” ชายหนุ่มลูกครึ่งสเปนเอ่ยชื่อตัวเองออกมา สีหน้าของสิตางศุ์คลายลงเล็กน้อยแต่ก็เหมือนจะเครียดขึ้นมาอีก หนุ่มรุ่นพี่อมยิ้มแล้วเอ่ยปากเล่าเรื่องของตัวเองแทนที่จะรอให้อีกฝ่ายถาม


“ตอนนี้พี่ทำงานกับบริษัทที่บ้าน ก็ไปๆมาๆ แต่โชคดีว่าวันนี้อยู่กรุงเทพฯ แล้วของในบ้านหมด ก็เลยออกมาซื้อ...”


...เลยโชคดีได้เจอโซ่...


ความคิดนี้ ชายหนุ่มผิวเข้มไม่ได้เอ่ยปากออกไป และเขาก็แน่ใจว่ามีรุ่นพี่รุ่นน้องทั้งหญิงและชายอีกมากที่พร้อมใจกันเก็บความรู้สึกที่มีต่อคนตรงหน้าเอาไว้โดยไม่แพร่งพรายให้เจ้าตัวรู้ สิตางศุ์แสนซื่อมีคนรุมล้อมมากมายก็จริง แต่ไม่มีใครคนไหนกล้าเข้าไปเหยียบยืนในสถานะพิเศษของเจ้าตัวได้เลย


“บ้านพี่อยู่แถวนี้เหรอครับ” ริมฝีปากสีสดตั้งคำถาม สิตางศุ์อยู่คอนโดแถวนี้มานาน นับตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย แต่น่าแปลกที่ไม่เคยเจอรุ่นพี่คนนี้แถวนี้เลย


“มึงจะเสือกถามไปทำไม?!!” คำตอบจากหนุ่มรุ่นพี่ยังไม่ทันดังขึ้น คำถามหนึ่งก็ดังแทรกจากทางด้านหลังของร่างโปร่ง


สิตางศุ์หันไปมองด้วยความตกใจ พร้อมๆกับที่รุ่นพี่ลูกครึ่งก็เหลือบตามองเช่นกัน พอเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างหลังรุ่นน้องร่วมภาควิชา เขาก็ถึงกับขมวดคิ้วมุ่น


เจียระไนสบตารุ่นพี่ที่จบไปแล้ว เขาไม่พูดอะไร แต่ก็ยังมีมารยาทยกมือไหว้


“ไม่ได้อยู่ภาคฯเราใช่มั้ย โซ่” คนเป็นรุ่นพี่หันมาถามสิตางศุ์ มนุษย์คนกลางที่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในสถานะคนกลางไปแล้วเรียบร้อย


“โจ๊กอยู่ปกครองครับ” พอบอกชื่อตามด้วยภาควิชา หนุ่มลูกครึ่งก็ถึงกับร้องในใจ


...อ๋ออออออ...ไอ้โจ๊ก ปกครอง!...


“มึงซื้อของเสร็จรึยัง” เจียระไนถือคติไม่พูดกับคนแปลกหน้า แต่หันมาคุยกับคนสนิทเป็นการส่วนตัว แถมเรียกแบบสนิทสนมให้รู้กันไป ว่าสิตางศุ์กับเขา ‘ขึ้นมึงขึ้นกู’ กันแล้ว!


คนซื่อบื้ออึกอัก ร่างสูงเลยดุอีกหน


“เร็วๆ จะได้ไปกินข้าว!”


สิตางศุ์หันไปสบตาแล้วค้อมศีรษะให้รุ่นพี่หนุ่มเพื่อขอตัวเลือกของ ก่อนจะเดินไปดูเบียร์กระป๋องในชั้นวางใกล้ๆ ทิ้งเจียระไนเอาไว้เป็นไม้กันลูกครึ่งอยู่ตรงนี้


คนเป็นรุ่นพี่กระตุกยิ้ม มองเจียระไนที มองสิตางศุ์ที


“ไม่น่าเชื่อ...สำเร็จเหรอเนี่ย”


ไม่มีคำตอบ นอกจากตาเรียวตวัดมาจ้องเขม็ง แต่คนเป็นรุ่นพี่ยังดูอารมณ์ดีเกินกว่าจะเอาเรื่อง เขาขยับเข้าไปใกล้เจียระไนแล้วพูดเบาๆให้ได้ยินเพียงสองคน


“สำนึกในบุญคุณของกูด้วย อุตส่าห์เคยให้ยืมมอ’ไซค์ไปซื้อยาแก้แพ้...” มอเตอร์ไซค์คันที่ว่า คือบิ๊กไบค์ราคาพอๆกับรถยนต์หนึ่งคัน แต่ ณ วินาทีนั้น มันก็เป็นเพียงแค่พาหนะให้ใช้ไปซื้อยาที่ร้านขายยาที่ใกล้ที่สุดเท่านั้น


“หุบปาก!” กับรุ่นพี่ เจียระไนก็ไม่เว้น แต่อีกฝ่ายไม่ถือสา ยังหัวเราะอย่างนึกสนุก พอดีกับที่สิตางศุ์เดินกลับมาพร้อมกับเบียร์กระป๋องหนึ่งแพ็ค


“ครบแล้วใช่มั้ย จะได้ออก” เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มเชื้อสายจีนพูดกับสิตางศุ์โดยทำเป็นไม่สนใจคนอื่นอีก ร่างโปร่งพยักหน้าก่อนจะหันไปขอตัวกับรุ่นพี่แล้วเดินตามเจียระไนออกมา


พ้นมุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาได้ คนผิวขาวจัดก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่


“ดีนะ ที่มึงกลับไปพอดี กูกำลังเครียดเลย ไม่รู้จะชวนพี่เขาคุยอะไร” เจียระไนตวัดสายตามามองคนพูด


“เครียดแล้วไปคุยกับมันทำไม?!”


“ก็พี่เขามาทัก จำได้ว่าเป็นรุ่นพี่ในภาคฯ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว ตอนเราเข้าปีหนึ่ง พี่เขาเคยเป็นพี่วินัยด้วยไง”


คณะอื่นเรียกพี่ว้าก แต่คณะรัฐศาสตร์เรียกพี่วินัย มีหน้าที่สำคัญคือการกดดันและไซโคน้องๆปีหนึ่งให้รู้รักสามัคคี...ซึ่งเจียระไนที่ไม่เคยคิดจะสามัคคีกับใคร ก็เลยไม่เคยเข้าห้องเชียร์ไปเจอหน้าพี่วินัยเลยสักครั้ง


“ไม่เคยเข้าห้องเชียร์ล่ะสิ...” สิตางศุ์ย้อนถามหน้าตาเหมือนจะหยอกล้อ จนร่างสูงต้องเหลือบตามองไปทางอื่น


“ยุ่ง!” นอกจากจะไม่คิดสามัคคีกับใครแล้ว ตอนนั้นรู้สึกว่ากำลังจีบน้องม.5 โรงเรียนหญิงล้วนอยู่ เลิกเรียนสี่โมงต้องรีบเผ่นไปตามที่โรงเรียนกวดวิชา จะมีเวลามาเข้าห้องเชียร์ได้ยังไง


“ตอนปีสอง เทอมสอง ที่ทำโครงภาคฯ พี่เขามาช่วยทำนะ...อ่า มึงอยู่ปกครอง คงไม่เคยเจอ...”


เจียระไนอยากเถียงว่าทำไมจะไม่เคยเจอ ก็ในเมื่อตอนนั้นสิตางศุ์แพ้ฝุ่นในตึกกิจฯจนจามไม่หยุด น้ำหูน้ำตาไหล แถมเป็นผื่น คนขี่มอเตอร์ไซค์ไปซื้อยาแก้แพ้มาให้ก็คือเขา


...ส่วนเจ้าของมอเตอร์ไซค์น่ะหรือ? ก็ไอ้เชี่ยพี่รอนเมื่อกี้นี้ไง!!...


“ถึงคิวแล้ว เลิกพูดๆ” เขารีบไล่ เมื่อคนก่อนหน้าคิดเงินเสร็จเรียบร้อย สิตางศุ์เลยหันไปหยิบของของตนเองจากในรถเข็นวางบนแท่นแคชเชียร์เพื่อจ่ายเงิน พอเขาจ่ายของตนเองเรียบร้อยก็เป็นคิวของร่างสูง ระหว่างพวกเขามีแต่เสียงจ้อกแจ้กจอแจของรอบด้าน เสียงประกาศของห้างสรรพสินค้า เสียงดนตรีจากบู้ทขายสินค้าไม่ไกล แต่...ตรงที่พวกเขายืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ กลับมีแต่ความเงียบ


...ไม่ต้องชวนคุย ไม่ต้องคิดเรื่องคุย ไม่ต้องเครียด...


...อยู่กับโจ๊ก...อยู่เงียบๆ...อยู่เฉยๆ...ก็อยู่ได้...


“เสร็จแล้ว ไปเอาของแถมก่อน แล้วค่อยไปหาอะไรกิน มึงอยากกินอะไร”


เจียระไนเข็นรถเข็นที่มีทั้งของของเขาและของของสิตางศุ์รวมกันออกมาจากช่องจ่ายเงิน คำพูดของเขาทำเอาดวงตาคู่สวยหันมาสบ แล้วพอสบตา ความรู้สึกเย็นปลาบก็ลุกลามไปทั้งร่างของสิตางศุ์อย่างรวดเร็ว


ร่างโปร่งกะพริบตาถี่ๆเพื่อตั้งสติ ความหนาวเย็นที่จู่ๆก็ลามไปทั้งตัวทำให้เขาต้องห่อไหล่

“อยาก...อยากกินอะไรร้อนๆ”

...เพราะตอนนี้หนาว...อยู่ดีๆก็หนาว...อยู่ดีๆ พอสบตาโจ๊กก็รู้สึกหนาว...

“มึงไม่สบายเหรอ”

“เปล่า แค่...หนาวๆน่ะ...”

   ...หนาว...จนไม่กล้ามองโจ๊กอีก...


มือใหญ่เอื้อมมาแตะแขนขาวเบาๆเพื่อวัดอุณหภูมิ แต่ก็พบว่ามันยังปกติ เขาขยับรถเข็นไปหลบมุมเสาแล้วดึงคนผิวขาวจัดให้มายืนใกล้รถ


“มึงรอตรงนี้ แล้วเอาใบเสร็จมา กูจะไปแลกของแถมให้” สิตางศุ์ไม่ปฏิเสธ เขายื่นใบเสร็จค่าสินค้าที่ซื้อมาทั้งหมดส่งให้คนตัวใหญ่กว่า แล้วปล่อยให้เจียระไนเดินจากไป ในขณะที่เขา...บีบมือเข้าหากันเพื่อสร้างความอบอุ่นแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆราวกับว่ามันจะช่วยลดความรู้สึกที่แล่นพล่านไปทั้งร่างในขณะนี้


แล้วตอนนั้น...สายตาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มวัยกลางคนคู่หนึ่งกำลังยืนจ่ายเงินในช่องแคชเชียร์ที่พวกเขาเพิ่งออกมา สองคนนั้นคุยอะไรกันเบาๆสักอย่าง น่าจะเกี่ยวกับบัตรสมาชิกของห้างฯ ก่อนที่ชายคนหนึ่งที่หล่อเหมือนนายแบบจะส่งบัตรให้พนักงาน ในระหว่างรอพนักงานคิดราคาสินค้าทั้งหมด สองคนนั้นยืนกันเงียบๆ ก่อนที่ชายอีกคนซึ่งผิวคล้ำกว่าจะส่งบัตรเครดิตให้ โดยไม่ต้องมีใครพูดอะไร


...มันดู...รู้ใจ...


เหมือนทุกอย่างคือความปกติ การซื้อของด้วยกัน การยืนอยู่ด้วยกันเงียบๆ การรู้หน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอะไรในเวลานี้ ไม่ต้องมีคำพูด ไม่ต้องมีการบอกกล่าว


...ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ...


“เสร็จแล้ว ไป เอาของไปเก็บ จะได้ไปกินข้าว สุกี้มั้ย มึงอยากกินของร้อนนี่” เสียงของเจียระไนดังขึ้น ทำเอาสิตางศุ์ต้องละสายตาจากชายหนุ่มทั้งสองคนที่เขาเฝ้ามองมาตั้งแต่เมื่อครู่


“อืม...” เป็นอีกครั้งที่รถเข็นถูกแย่งไปเข็น ร่างสูงใหญ่ไม่พูดอะไร เขาเข็นรถออกนำ แต่ยังปรายสายตามามองเพื่อความแน่ใจว่าสิตางศุ์กำลังเดินตามเขามา


“เดินไหวรึเปล่า” เจียระไนตั้งคำถาม ยอมชะลอฝีเท้าเพื่อให้อีกฝ่ายเดินมาทัน

“ไหว”


แล้วหลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก แต่สิ่งที่สิตางศุ์รับรู้คือร่างสูงมักจะเหลือบมามองเขาเสมอ ดวงตาเรียวที่มีนัยน์ตาสีดำสนิทนั้นทอแววห่วงใยอย่างปิดไม่มิด ทว่า...แม้จะรู้สึกตัวว่าถูกมองอยู่บ่อยๆ เขากลับไม่อึดอัดเลยสักนิด


อยู่ด้วยกันแล้วสบาย อยู่ด้วยกันแล้วผ่อนคลาย อยู่ด้วยกันแล้วไม่ต้องคิดมาก ถ้าวันนี้มีคนตั้งคำถามกับสิตางศุ์ว่าอยากอยู่กับเจียระไนมั้ย แน่นอน...คำตอบคืออยาก


...อยากอยู่กับโจ๊ก เพราะอยู่กับโจ๊กแล้วสบายใจ...


....อยู่กับโจ๊กแล้ว...เป็นธรรมชาติ...

..........................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 19-04-2017 22:29:10


...หืม?...


…อยากอยู่กับโจ๊กอย่างนั้นหรือ?!...


สิตางศุ์ขมวดคิ้วฉับกับความคิดนี้ที่อยู่ๆก็เหมือนจะดังขึ้นมาในหัว เขาเม้มปากเพื่อตัดสินใจกับความคิดชั่ววูบที่ดูเหมือนจะไปตรงกับคำพูดของเจียระไน


‘อยากอยู่กับเขา อยากเป็นที่พึ่งให้เขา อยากอยู่ในสายตาเขา อยากเป็นทุกๆอย่างของเขา คนที่เป็นความรักของกู เขาก็จะเป็นทุกๆอย่างในชีวิตกูเหมือนกัน’


ตอนนั้น เขาตั้งคำถามกับเจียระไนเรื่องความรัก ถ้ารัก...จะรู้สึกเช่นไร คำตอบของเจียระไนคือ ‘อยากอยู่กับคนที่รัก’ ถ้าอย่างนั้น...แล้วเขาที่อยากอยู่กับเจียระไนล่ะ? เพราะรักหรือ?


...แล้วกับนิตาล่ะ?...เคยมีความรู้สึกว่าอยากอยู่กับนิตามั้ย?...


คิ้วเหนือดวงตาคู่สวยที่ขมวดเข้าหากันดูเหมือนจะยิ่งชิดกันหนักกว่าเดิม เมื่อเจ้าของคิดไม่ตกกับความคิดที่ดังวนไปวนมาอยู่ในสมอง ความรู้สึกของตนเองในเวลานี้ที่มีต่อนิตาเป็นความรักไหม หรือเป็นเพียงแค่ความเอ็นดู ความชอบ ไม่ใช่ความรัก


...แล้วกับโจ๊กล่ะ?...


...ทำไมอยู่ดีๆถึงคิดว่าอยากอยู่กับโจ๊กขึ้นมา? กับไอ้แพท ไอ้กต เคยคิดว่าอยากอยู่กับพวกมันมั้ย?...


“เป็นอะไรไปอีก แดกไปถอนหายใจไป” เสียงทุ้มจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเอาดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่จมจ่อมอยู่กับหม้อสุกี้ซึ่งเดือดปุดๆและเต็มไปด้วยผัก ลูกชิ้นและเนื้อสัตว์ที่สุกแล้วต้องเหลือบมอง


“เปล่า”

“หรือว่าป่วย? ที่มึงบอกว่าหนาวๆน่ะ ตอนนี้หายรึยัง”

“หายแล้ว”

“แล้วเป็นอะไร” ถูกถามย้ำ พร้อมกับสายตาจับจ้องก็ทำเอาสิตางศุ์จำเป็นต้องเอ่ยปากสิ่งที่อยู่ในหัว

“...อ่า...กูแค่...กูแค่คิดเรื่องที่มึงพูดคราวก่อนน่ะ ที่มึงบอกว่าเวลารักใครจะอยากอยู่กับคนนั้น”

“แล้วยังไง?” ดวงตาคมเหลือบมอง ขณะที่คีบเส้นหมี่สีเขียวเข้าปาก

“ก็...กูมาคิดดูแล้ว กูไม่รู้ด้วยซ้ำ...ว่าอยากจะอยู่กับนิตามั้ย”

“ก็เพราะมึงไม่ได้รักนิตามาตั้งแต่แรกไง กูเคยบอกแล้วไม่ใช่เหรอ”

 “แล้วถ้ากูสนิทกับนิตามากขึ้น กูจะอยากอยู่กับนิตามากกว่านี้มั้ยล่ะ” เจียระไนชะงักกึก

...เนี่ย! ไอ้ฉิบหาย!! กูกำลังอารมณ์ดีๆ เสือกพูดจาไม่เข้าหูอีกแล้ว!!!...

“จะไปรู้มึงเหรอ!!”

 “อ้าว...”

“แดกๆ! จะได้กลับ!!” ร่างสูงเบี่ยงประเด็นด้วยการตักทั้งลูกชิ้นและผักที่ลอยเต็มหม้อใส่ในชามของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เรื่องอะไรเขาจะสนับสนุนให้สิตางศุ์เข้าไปใกล้ชิดนิตา เกิดไปๆมาๆมันดันหลงรักนิตาจริงๆ การที่เขาอดทนมาตลอดก็ไม่มีประโยชน์เลยน่ะสิ


“พอแล้ว โจ๊ก เยอะไป กูกินไม่หมด”

“แดกเข้าไปเถอะหน่า!”

“กูกินไม่หมด มึงช่วยกูกินลูกชิ้นด้วยสิ ไหนว่าถ้าสั่งมา จะช่วยไง” มือขาวคีบลูกชิ้นที่ถูกอีกฝ่ายตักใส่ชามตัวเองไปใส่ในชามของเจียระไนแทน

“ก็ตอนกูไปรับ มึงบอกว่าหิวมาก”

“เมื่อเช้ากูตื่นมาแล้วหิวมากจริงๆ สงสัยเพราะเมื่อคืนนอนดึก” คำว่านอนดึก ทำเอาร่างสูงยิ้ม

“นอนดึกของมึงน่ะกี่ทุ่ม”

“เที่ยงคืนเหอะ”

“เคยนอนดึกสุดกี่โมง”

“ก็...น่าจะเที่ยงคืนกว่านี่แหละ”

“มึงผ่านมาจนถึงปีสี่ได้ไง”

“ก็ผ่านมาได้แล้วกันหน่า” สิตางศุ์ย้อน ไม่ใช่ไม่รู้ว่าคนอื่นๆนอนกันกี่โมงกี่ยาม เพราะทั้งอลงกตทั้งพฤกษาต่างก็บอกว่าเขาเป็นเด็กอนามัย แล้วพวกนั้นก็เคยโต้รุ่งทำเปเปอร์กันมาแล้ว ส่วนเขา...ขอเลือกนอนไวแล้วตื่นเช้ามานั่งทำดีกว่า

“แล้วมึงล่ะ” ร่างโปร่งถามบ้าง ดวงตาคมเรียวเหลือบมองคนถามอย่างมีเล่ห์นัย

“ไม่นอนเลย”

เจ้าของดวงตาคู่สวยทำตาเหลือกโตอย่างคาดไม่ถึง

“จริงน่ะ?! ไม่ได้นอนเลยเหรอ ทำไมไม่นอนอ่ะ ทำเปเปอร์?”

“เปล่า คนที่อยู่ด้วยกวนน่ะ”

“หะ?”

“ก็แบบ...มีอะไรกันถึงเช้า...”


จากที่ตอนแรกตาโตเพราะอีกฝ่ายไม่นอน ตอนนี้กลายเป็นตาโตเพราะเหตุผลของการไม่ได้นอนแทน อากัปกริยาของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเอาเจียระไนหัวเราะเบาๆ


“มึงเชื่อเหรอ?” พอถูกถามแบบนี้ ด้วยน้ำเสียงหยอกเอิน คนที่อุตส่าห์ตกตะลึงก็ถึงกับต้องเรียกสติกลับมาในวินาทีนั้น

“อ้าว”

“กูเป็นคนไม่ใช่เครื่องจักร ใครจะบ้าทำจนเช้า” เจียระไนหัวเราะแล้วส่ายหน้ากับความซื่อของร่างโปร่ง

“ก็กูจะไปรู้เหรอ...”

“...หัวเราะอยู่ได้ ก็มึงพูดหน้าตาจริงจังอ่ะ!” สิตางศุ์ทำหน้ามุ่ยที่ถูกอีกฝ่ายแกล้งหลอกแล้วมาหัวเราะแบบนี้ แต่เพราะเจียระไนเอาแต่หัวเราะ สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะให้กับความบื้อของตัวเองด้วยคน


เสียงหัวเราะดังอยู่ที่โต๊ะของพวกเขาอยู่นาน ก่อนที่บทสนทนาจะเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นซึ่งก็ล้วนเป็นเรื่องที่เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของสิตางศุ์ได้อย่างดี


...ตอนที่อยู่ด้วยกันเงียบๆก็ไม่อึดอัด ตอนที่คุยกันก็สนุก อยู่กับโจ๊กแล้วสบาย อยู่กับโจ๊กแล้วไม่ต้องกังวลอะไร...

...อยู่กับโจ๊กแล้ว...มีความสุข...


“โจ๊ก...” เสียงเรียกของคนผิวขาวจัดทำเอาเจ้าของชื่อต้องเหลือบตามองทั้งๆที่รอยยิ้มยังคงติดอยู่บนใบหน้า นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่ทอดมองมานั้นซื่อและบริสุทธิ์ยามที่พวกเขาสบตากัน


“กูว่า...กูอยากอยู่กับมึงมากกว่านิตาอีก...”


เจียระไนนิ่งงันเพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำนี้ ดวงตาสองคู่ทอดมองกันและกัน ฝ่ายหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยความจริงใจในสิ่งที่ตนพูด ส่วนอีกฝ่าย...อยากบอกความรู้สึกที่เก็บซ่อนเอาไว้ในใจให้ได้รู้


...ถ้าอยากอยู่...ก็อยู่สิ...

...ที่ยืนข้างๆกู เป็นของมึงนานแล้ว...


ร่างสูงอยากเอ่ยในสิ่งที่คิด แต่เสียงโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายดังขึ้นเสียก่อน ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยละจากเขาไปมองต้นเสียงซึ่งวางอยู่ข้างกาย ก่อนที่มือขาวจะวางตะเกียบลงแล้วหยิบขึ้นมากดรับสาย


   “ว่าไง ทัศน์”


บรรยากาศที่อบอวลเมื่อครู่หายวับเมื่อชื่อใครสักคนที่เจียระไนไม่รู้จักดังออกมาจากริมฝีปากสีจัด คิ้วเข้มของร่างสูงขมวดฉับเข้าหากัน


   ...ทัศน์ไหนอีกวะแม่ง?!!...


   “มาวันศุกร์เหรอ กี่โมงนะ ไฟลท์อะไร”


ปลายสายตอบว่าอะไรไม่รู้ เพราะในร้านเสียงดังเกินไปที่จะได้ยินเสียงของปลายสายที่อาจจะลอดออกมาจากโทรศัพท์ แต่ที่รู้ๆคือตอนนี้เขาอยากรู้มากว่าไอ้คนที่ชื่อทัศน์คือใคร และมันจะมาที่ไหน มาทำไม


   “ถ้าของเยอะงั้นนั่งแท็กซี่จากสนามบินมาได้มั้ยล่ะ พี่ไม่มีรถนี่นา...” สิตางศุ์แทนตัวเองว่าพี่ แสดงว่าอีกฝ่ายเป็นน้อง แต่...หมอนี่เป็นลูกคนเดียว ไม่มีทั้งพี่ไม่มีทั้งน้อง


   “ถ้างั้นไม่ต้องขนมาได้มั้ย บอกพวกน้าๆหน่อยสิว่าไม่ต้องเอามาฝากหรอก” สีหน้าคนคุยโทรศัพท์ดูลำบากใจกับสิ่งที่ปลายสายบอก ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลมีแววคิดไม่ตก ก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งจ้องเขาเขม็งมาจากฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ


   “ทัศน์รอแป๊บนะ...” แล้วสิตางศุ์ก็ลดโทรศัพท์ลงจากหู ก่อนจะสบตากับดวงตาเอาเรื่องของคนที่กำลังจ้องเขาอยู่


   “ศุกร์หน้าตอนสายๆมึงว่างมั้ย”


   “มีอะไร” ถามเรียบๆ แต่ใจอยากรู้ไปหมดซะทุกเรื่อง เจียระไนพยายามควบคุมความรู้สึกนึกคิดไม่ให้แสดงออกมากเกินไปนักว่าเขากำลังอยากรู้เรื่องที่สิตางศุ์คุยโทรศัพท์ที่สุด


   “จะรบกวนให้มึงไปกับกูหน่อย กูจะไปรับน้องที่สนามบิน”


   “น้องที่ไหน มึงลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ”


   “น้องกูคนนี้เป็นลูกของน้า” อ้อ...ลูกพี่ลูกน้องนั่นเอง


   “ได้” เจียระไนรับปากสั้นๆ แต่ไม่ถามอะไรเพิ่มเติม ปล่อยให้สิตางศุ์หันไปนัดแนะกับปลายสายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อทัศน์ พักใหญ่ๆมันก็วางสายแล้วหันมายิ้มให้เขา


   “ขอบใจนะ กูจะให้มันนั่งแท็กซี่มาเอง มันก็บอกว่าของเยอะ ทั้งของที่ฝากมาให้กูแล้วก็ให้พี่กูด้วย”

   “พี่มึง? พี่คนไหนอีกล่ะ”

   “ลูกของลุงกับป้า อยู่อุดรฯน่ะ”

   “แล้วฝากมาให้มึงเนี่ยนะ”

   “อืม ก็น้องกูมาวันศุกร์ แล้ววันเสาร์ พวกกูจะไปเชียงคานกัน พี่ที่อยู่ที่อุดรฯจะรับที่สนามบินแล้วพาไป” เจียระไนชะงักกึก หันมองคนพูดแทบไม่ทัน

   “เอาใหม่ซิ เมื่อกี้มึงบอกว่าจะไปไหนนะ?”

   “ไปเชียงคาน”

   “เชียงคาน?! เชียงคานคือที่ไหน?!”

   “อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย”

   “จังหวัดเลย?!!! หมายความว่าไง มึงจะไปเชียงคาน แต่กูไม่รู้?!” ร่างสูงร้องลั่นในวินาทีนั้นอย่างไม่เข้าใจผสมกับอารมณ์หงุดหงิดที่เขาเพิ่งมารู้ทั้งๆที่ตามรับตามส่งทุกวัน กระทั่งวันนี้ที่เป็นวันเสาร์ เขาก็ยังตามติดเป็นเงาตามตัว แต่ไม่มีวันเวลาไหนเลยที่สิตางศุ์จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา


   “อ้าว” สีหน้าของร่างโปร่งดูงุนงงราวกับจะถามว่าทำไมเขาต้องบอก และนั่นทำให้เจียระไนนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรถามคำถามนี้ แต่ถึงอย่างนั้นอารมณ์หงุดหงิดในใจก็ยังก่อตัวอย่างรวดเร็วเพราะคนข้างกายไม่คิดจะบอกเขาแม้แต่นิดเดียวเรื่องไปเชียงคาน


ดวงตาคมเหลือบมองไปทางอื่นเพื่อระงับอารมณ์ แล้วพูดขึ้นมาใหม่


“ลงเครื่องที่ไหน?!”

“สนามบินเลย”

“งั้นกูไปด้วย!”

“หา” ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มกะพริบปริบๆด้วยความงุนงงที่จู่ๆร่างสูงก็ขอร่วมทริปไปกับเขา

“กูไม่เคยไปเชียงคาน! กูจะไปด้วย!!”


ไม่มีการขออนุญาต ที่รู้ๆคือไม่ว่ายังไง เขาก็ไม่มีวันปล่อยให้สิตางศุ์ไปโดยไม่มีเขาแน่ ท่าทางนิ่งงันและตกตะลึงของใบหน้าขาว ทำเอาคนขี้หงุดหงิด ชักจะไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอีก


“หรือไง?! หรือกูไปไม่ได้?!”

“ก็...ไปได้...”

“งั้นบอกไฟลท์บินมึงมา!”


ต่อให้เป็นสิตางศุ์ แต่เรื่องกรรโชกข้อมูลขอให้บอกเจียระไน เพราะทั้งน้ำเสียงและสีหน้า แม้จะใจกล้าท้าตายแค่ไหน ก็ไม่ควรขัดใจคนอารมณ์ร้อนอย่างเจียระไนในตอนนี้


ท้ายที่สุด มื้อสุกี้วันนี้ ก็จบลงที่ร่างสูงจองตั๋วเครื่องบินด่วน เดินทางวันเสาร์หน้า เพื่อไปอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย


ส่วนความหงุดหงิดที่เพาะสุมอยู่ในอกนั้น คนขี้หงุดหงิดได้แต่เก็บกักมันโดยไม่ระเบิดออกมา แล้ววันหนึ่งข้างหน้า เขาจะให้สิตางศุ์ใช้คืนทั้งต้นทั้งดอกที่ริอ่านมาทำให้ผู้ชายคนนี้หงุดหงิดได้มากขนาดนี้!!


...ไอ้ฉิบหาย!! ไหนเมื่อกี้บอกว่าอยากอยู่กับกู แต่เสือกจะไปเชียงคานโดยไม่บอกกูแบบนี้ได้ยังไง!!!...

................................

สนามบินดอนเมือง คลาคล่ำไปด้วยผู้คน และหนึ่งในผู้คนเหล่านั้นก็คือเจียระไน สิตางศุ์และน้องชายลูกพี่ลูกน้องที่ชื่อทัศน์ ญาติทางฝั่งแม่ซึ่งหน้าตา รูปร่างและนิสัยไม่ได้ใกล้เคียงกับสิตางศุ์เลยแม้แต่นิดเดียว แต่โดยรวมแล้วก็คุยกับเจียระไนถูกคอดี เพราะเป็นเด็กเฮ้วๆ สนุกสนาน คุยเก่ง และเพราะความคุยเก่งของมัน ร่างสูงเลยได้รู้ว่าทริปไปเชียงคานนี้ คนต้นคิดก็คือไอ้คนตัวขาวที่นั่งรอเรียกขึ้นเครื่องอยู่ข้างๆเขาเนี่ยแหละ


“พี่โซ่โทร.ไปบอกลุงว่าอยากไปเชียงคาน ผมอยากไปถ่ายรูปพอดี เลยรับอาสามารับพี่โซ่ที่กรุงเทพฯ แล้วพี่ชายอีกคนที่อุดรฯรู้เข้า ก็เลยจะขับรถไปรอรับที่เลย แล้วพาไปน่ะพี่”


ความญาติเยอะของสิตางศุ์ทำเอาเจียระไนนึกหงุดหงิดขึ้นมาอีก มันโทรศัพท์ไปบอกทางบ้านว่าอยากไปเชียงคาน ในขณะที่เขารับส่งมันทุกวัน แต่กลับไม่เคยพูดให้ได้ยินเลยสักแอะ


ดวงตาเรียวเหลือบมองคนข้างกายที่เอาแต่โทรศัพท์คุยกับญาติ ไม่รู้ญาติฝั่งไหนเป็นฝั่งไหน แต่ที่รู้ๆคือไม่ว่าจะฝั่งไหนสิตางศุ์ก็มีเยอะไปหมด อย่างทัศน์เองก็เป็นลูกชายของน้องสาวของแม่ของสิตางศุ์ ในขณะที่พี่ชายที่อยู่จังหวัดอุดรธานีและจะเป็นคนรับพาไปเชียงคานเป็นลูกของพี่ชายของพ่อ


...ไอ้มนุษย์สเป็คสาธารณะ!! นอกจากจะมีคนชอบมากมายแล้ว ยังมีญาติเยอะอีกต่างหาก! ช่วยเหลือที่ยืนข้างๆมึงไว้ให้กูด้วยได้มั้ย?!!!!...


“แล้วพี่โจ๊กเป็นเพื่อนที่ภาคฯพี่โซ่เหรอ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกทีเจอแต่พี่กตกับพี่แพท” ทัศน์ตั้งคำถาม

“เปล่า พี่อยู่ปกครอง”

“อ้อ แต่เพิ่งมาสนิทกันงี้เหรอ”

“ก็ประมาณนั้น”

“แล้วพี่โซ่มีแฟนป่ะพี่ เนี่ย ญาติๆทุกคนฝากมาถาม” น้องชายลูกพี่ลูกน้องของสิตางศุ์เริ่มซอกแซก เจียระไนนิ่งไปเล็กน้อย

“ไม่มีหรอก ไอ้โซ่มันจีบใครไม่เป็น”


อย่าว่าแต่จีบใครไม่เป็นเลย ขนาดถูกตามรับตามส่งทุกวัน ซื้อของอร่อยๆมาให้กินบ่อยๆ มันยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขาทำไปเพื่ออะไร ยกให้มันเป็นมาตรฐานต่ำที่สุดของความบื้อก็แล้วกัน


“จีบใครไม่เป็นไม่พอ เวลาถูกจีบยังไม่รู้ตัวอีกต่างหาก สมัยก่อนเพื่อนผมที่อยู่บ้านติดกันเอาดอกไม้มาให้ พี่โซ่ยังคิดว่าฝากดอกไม้ไปถวายพระ ไอ้นั่นก็โคตรงี่เง่า เสือกเอาให้ตอนเช้าวันปีใหม่ก่อนพี่โซ่จะออกไปทำบุญกับที่บ้าน” คนฟังคิ้วกระตุกเล็กน้อย เหลือบตาไปมองร่างโปร่งผิวขาวจัดที่นั่งอยู่ตรงกลางระหว่างเขากับทัศน์ แต่ดูเหมือนหมอนั่นจะไม่ได้ฟังว่ากำลังถูกเผาระยะประชิดเพราะเอาแต่คุยโทรศัพท์


“เพื่อนที่ว่าน่ะผู้หญิงหรือผู้ชาย” เขาชะโงกหน้าไปถามหนุ่มรุ่นน้องร่างบึ้ก ทัศน์ยิ้มกว้าง ทำตาหลิ่วตาเหล่มองพี่ชายตัวเองแล้วหันมามองคนถาม


“ผู้หญิง แต่พอมันรู้ว่าพี่โซ่เอาดอกไม้ไปถวายพระ มันก็กลายเป็นทอมไปเลย” เจียระไนรู้สึกโล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย ที่อดีตคนมาจีบสิตางศุ์เป็นผู้หญิง แต่ความสบายใจมีไม่นาน เพราะทัศน์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบเสียงเบา


“แต่เพื่อนผมที่เป็นผู้ชายมันก็ชอบพี่โซ่นะพี่ มันบอกว่าสเป็คเลย”


...สเป็คเลย สเป็คสาธารณะ สเป็คของมนุษย์ทุกคน...


เจียระไนฟังแล้วหงุดหงิด อยากจะเขกหัวไอ้คนที่นั่งตรงกลางระหว่างเขาและทัศน์สักที หน้าตาแบบมัน นิสัยแบบมัน ยังริอ่านไปไหนโดยไม่มีเขาไปด้วยอีกต่างหาก มันน่าสักทีจริงๆ


“โอ๊ย” ความคิดไวเท่ากับมือ เพราะพอคิดว่าอยากจะเขกหัวสิตางศุ์ดูสักที กำปั้นของเจียระไนก็เคาะลงที่หน้าผากขาวๆนั่น


สิตางศุ์คุยโทรศัพท์เสร็จพอดีเลยหันมามองคนเขกหัวเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“อะไรของมึงเนี่ย อยู่ดีๆเขกหัวกูทำไม”

“หมั่นไส้”

...ใช่ หมั่นไส้ คนอะไรแค่นั่งเฉยๆ ไอ้ผู้ชายที่มากับเมียตรงนั้นยังแอบมองจนตาแฉะ ไหนจะผู้หญิงตรงมุมเสานั่นอีก สเป็คสาธารณะฉิบหาย...


“ใกล้เรียกขึ้นเครื่องแล้ว เดี๋ยวผมไปห้องน้ำก่อนนะพี่” ทัศน์ก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะลุกขึ้นปลดกระเป๋ากล้องฝากสิตางศุ์เอาไว้แล้วเดินออกจากเก้าอี้ไป เมื่อเหลือกันเพียงแค่สองคน เจียระไนเลยหันมามองคนข้างกายเต็มตา


“อ...อะไร” คนถูกจ้องเริ่มเสียวสันหลังเล็กน้อย ถูกจ้องด้วยตาคมๆนี่ทีไร เขารู้สึกแปลกๆทุกที

“คราวหลังมึงจะไปไหน บอกกูด้วย”

“อ่า...ก็...กูไม่รู้ว่ามึงอยากไป”

“กูอยากไปทั้งนั้นแหละ”

...ถ้าที่ไหนที่มึงอยากไป กูก็อยากไปทั้งนั้น...


ใบหน้าขาวพยักหน้ารับสั้นๆ เส้นผมสีน้ำตาลที่พลิ้วไปมายามเจ้าของขยับศีรษะนั้นดูนิ่มนวลจนมือใหญ่อดไม่ไหวต้องแตะปลายนิ้วเบาๆ ความรู้สึกแปลกๆแล่นวูบขึ้นมาในใจสิตางศุ์ แต่อะไรบางอย่างกลับตรึงเขาเอาไว้อย่างนั้น แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายไล้นิ้วกับเส้นผมของเขาแผ่วเบา


“คราวหน้าจะไปไหนอีก” เสียงทุ้มดังขึ้นเบาๆ น่าแปลกที่มันออกมาจากปากของคนนิสัยใจร้อนขี้หงุดหงิด แต่กลับฟังแล้วลื่นหูดี ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองเจ้าของเสียงที่กำลังไล้ปลายนิ้วกับผมของเขา


“กลับมาจากเชียงคานก่อนได้มั้ย กูคิดไม่ทัน”


“แล้วหมู่บ้านมรดกโลกนั่นล่ะ” เจียระไนหมายถึงภาพที่ถูกตั้งเป็นภาพพื้นหลังของโทรศัพท์มือถือของสิตางศุ์ ร่างโปร่งเลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจำได้ แต่ก็ส่งยิ้มตอบกลับไป


“ยังไม่รู้เลย แต่พ่อแม่แล้วก็ญาติๆอยากไปเหมือนกัน”


“มึงญาติเยอะเหรอ” ร่างสูงชวนคุย ในขณะที่ปลายนิ้วยังเกี่ยวพันปอยผมเล่น ดวงตาคมเหลือบมองไปยังไอ้หนุ่มมีเมียที่มองสิตางศุ์ตาเป็นมันเมื่อครู่นี้ แต่พอมันเห็นสายตาเขาและการกระทำอย่างถึงเนื้อ ถึงตัว ถึงผมของเขา มันก็หลบสายตาหนีไปทางอื่น คราวนี้เจียระไนเลยมองไปทางหญิงสาวที่มุมเสา รายนั้นพอเห็นเขามองตอบพร้อมกับพันผมสิตางศุ์เล่นกับปลายนิ้ว หล่อนก็รีบเบือนสายตาหนีไป


...ให้รู้ซะมั่ง ว่าของใครเป็นของใคร...


คำตอบของสิตางศุ์ลอยเข้าหู แต่เจียระไนเอาแต่แสดงความเป็นเจ้าของผ่านทางสายตาและการกระทำเลยไม่ได้ตั้งใจฟังนัก แต่พออีกฝ่ายตั้งคำถามกลับมา ดวงตาเรียวยาวเลยต้องเหลือบลงมองสบกับเจ้าของคำถาม


“โจ๊ก แล้วมึงอ่ะ ญาติเยอะมั้ย”

“เยอะมั้ง กูมีพี่น้องสามคน ป๊ากูก็มีพี่น้องเจ็ดคน อาม่ากูคลอดลูกเก่งน่ะ”

“อาม่านี่คือแม่ของพ่อ หรือ แม่ของแม่?”

“แม่ของใครก็ได้ เรียกอาม่าได้หมด แต่อาม่าคนนี้เป็นแม่ของป๊ากู” คนหน้าจีนๆ ตาชั้นเดียวรูปทรงเรียวยาว แถมผิวขาวเหลือง เวลาเรียกพ่อแม่ว่าป๊าม้าแล้วก็เข้ากันดี สิตางศุ์ยิ้มน้อยๆ

“กูเคยอยากเรียกพ่อว่าป๊าเหมือนกันนะ แต่...จำความได้ก็เรียกพ่อว่าพ่อแล้ว แล้วญาติกูก็ไม่มีคนไหนเรียกพ่อตัวเองด้วยคำอื่นนอกจากคำว่าพ่อเลย ก็เลย...ไม่มีแนวร่วม”


“ที่บ้านมึงเป็นคนไทยแท้เหรอ”


ขาวจัดขนาดนี้ไม่น่าจะเป็นคนไทยแท้ได้เลย แต่หน้าตาของสิตางศุ์ก็ไม่ได้ดูเป็นลูกคนจีนนัก ดวงตารูปทรงสวยไม่ได้ยาวเรียวแบบเจียระไนแต่มีเสน่ห์น่ามอง จมูกโด่งเป็นสัน ปลายจมูกเล็ก และริมฝีปากสีจัดตัดกับผิว


...ไม่รู้ว่าไทยแท้ จีนผสมหรือมีเชื้อชาติอื่นมั้ย แต่ที่แน่ๆ ไม่อยากปล่อยให้ออกไปเพ่นพ่านที่ไหนเลย...


“คิดว่าอย่างงั้น ตอนเด็กๆ เพื่อนไหว้เจ้ากัน กูก็อยากไหว้อย่างเขา แต่ที่บ้านไม่ไหว้” คนไม่มีเชื้อจีนพูดแล้วยิ้มซนน่าเอ็นดู

“งั้นไว้ปีหน้า กูจะพามึงไปไหว้เจ้าบ้านกูก็แล้วกัน” มนุษย์จีนแท้ทั้งตระกูลชวนแบบรวบรัด เจียระไนหมายมั่นปั้นมือจะพาคนข้างกายไปไหว้เจ้าด้วยกันให้ได้ แถมพาไปไหว้เช้งเม้ง ไหว้พระจันทร์ ไหว้ราหูด้วย! ที่บ้านเขาไหว้อะไร จะพามันไปร่วมให้หมด!

“ใครก็ไหว้เจ้าได้เหรอ กูไม่มีเชื้อจีนเลยนะ”

“ก็เอาเชื้อกูไปสิ”

สิตางศุ์หัวเราะอย่างไม่จริงจังนัก แต่อีกฝ่ายน่ะแทบอยากจะโทร.บอกที่บ้านให้รู้แล้วรู้รอดไปว่าไหว้เจ้าปีหน้ามีสมาชิกเพิ่ม!!

“...แล้วกูจะให้มึงเรียกป๊ากูว่าป๊าด้วย” คนจริงต้องแบบนี้ นอกจากจะให้ไหว้เจ้าไหว้บรรพบุรุษร่วมกันแล้ว ยังให้เรียกป๊าเหมือนกันอีกด้วย

“หืม? ป๊ามึงจะยอมเหรอ”

“ทำไมจะไม่ยอม” เจียระไนย้อน ดวงตาคมจับจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้นอย่างจริงจัง สิตางศุ์พูดไม่ออก เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมบางครั้งถึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังส่งความรู้สึกบางอย่างมาให้ ความรู้สึกที่...จริงจัง หนักแน่น และมั่นคง


ทว่า...ไม่รู้ว่ามันคืออะไร...


เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องดังมาจากสายการบิน ปลุกสติของสิตางศุ์ออกมาจากดวงตาคมกริบสีดำสนิทคู่นั้น เขาเลี่ยงสายตาไปทางอื่นแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่อย่างประหม่า รู้สึกถึงปลายนิ้วที่พันผมเขาเมื่อครู่นี้ผละจากไปแล้ว แล้วจู่ๆก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา


...เสียดายอะไร ไม่เข้าใจเหมือนกัน...


ไม่มีคำพูดระหว่างคนสองคน พอดีกับที่ทัศน์เดินกลับมา แล้วพวกเขาก็ไม่ได้พูดคุยกันอีก จนกระทั่งออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปยังสนามบินจังหวัดเลย...


ติดตามตอนต่อไป (วันพฤหัสฯหน้าค่ะ)

เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องไปต่างจังหวัด กว่าจะกลับ กลัวจะทำตอนต่อไปไม่ทัน เพราะงั้น ตอนหน้าขอเป็นวันพฤหัสฯนะคะ

สำหรับตอนนี้ เริ่มมีนิมิตหมายอันดี โซ่เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้วววว แต่จะได้คำตอบมั้ยนี่ก็...ขึ้นกับบุญกรรมของโจ๊กค่ะ ฮาฮา

ส่วนเม้นท์จากตอนที่แล้ว มีคนจับได้ด้วย ว่าบัวสร้างจักรวาลมาเวล กรี๊ดดดดด...จำคุณพัฒน์ พ่อน้องเชอร์รี่ได้ยังไง????? ถามจริงงงงง อ่านถฟ.กี่รอบเนี่ยยยยย (สารภาพตรงนี้ ว่าบัวเป็นพวกชอบใช้คาแรกเตอร์ให้คุ้ม ชอบให้พวกเขาเกี่ยวข้องกันไม่ทางใดทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น...อาจจะมีมาอีกเรื่อย เช็กตัวประกอบดีๆ กร๊ากกกกก)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ ทุกกำลังใจและพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ

ไปเก็บกระเป๋าก่อน แล้วเจอกันตอนหน้ากับทริป ‘เชียงคานชั่ววูบ’ ของโจ๊กนะคะ (แกล้งพระเอกให้ไบโพลาร์นี่มันสนุกอย่างงี้นี่เองงงง)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-04-2017 23:02:22
โซ่นี่สุดยอดจริงๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับใครเค้าเล้ยยยยยย น่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 19-04-2017 23:15:02
โซ่ก่ซึ้นน โจ้กก้ไบโพล่า บางทีคนอ่านก่อยากกกรี้ดดดด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 19-04-2017 23:20:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-04-2017 23:44:50
สงสารอิโจ๊กผีเข้าผีออกวันละกี่รอบเพราะความบื้อของโซ่
แต่โจ๊กก็เหนียวแน่นเนาะเกาะติดเป็นเหาฉลามเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-04-2017 23:56:59
ถ้าเราเป็นเทวดาประจำตัวโจ๊ก เราคงพกยาดมกับยาแก้ไมเกรนเป็นไอเทมฮีลพลัง

ฉากสารภาพหน้าหม้อสุกี้เหมือนวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์แล้วพลาดตกหน้าผา
 ฮ่า ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: idoloveyou555 ที่ 20-04-2017 00:05:24
น้องตางค์คนซื่อ(บื้อ)  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 20-04-2017 00:12:33
ตอนพันปลายผมโซ่ อิโจ๊กดูละมุนแมนขึ้นมาทันใด
พระเอกคาแรคเหวี่ยง เดี๋ยวดี เดี๋ยวบ้า

ชอบมันอะ ชอบอิโจ๊ก ไบโพล่าร์แมน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 20-04-2017 00:19:10
ขอให้โจ๊กสมหวังเร็วๆ
เชียร์โจ๊กก  :mc4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-04-2017 00:19:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 20-04-2017 00:38:44
น้องโซ่หวั่นไหวหนักมากค่ะ แต่อึนมาก ยังดีนะที่หนูยังรู้ตัวว่าอยากอยู่กับเขาน่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 20-04-2017 00:42:56
น่ารักอ่ะ โจ๊กจีบได้ละมุน 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 20-04-2017 00:48:07
โซ่ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม เอ็นดูมากกก
ตัวติดกันขนาดนี้สงสัยคงไม่ได้จีบนิตาแล้วมั้งงง

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 20-04-2017 01:39:19
รักอีโจ๊กมากเป็นพระเอกที่อ้อนตีนมาก โอ้ยยยยยยยน้องโซ่ของพี่ทำไมหนูน่ารักอย่างงี้ลูกน่ารักเหลือเกิน :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: NooooDee ที่ 20-04-2017 01:44:01
โอ๊ยยยย น้องโซ่ลูกกกก น่ารักมากๆ และสงสารนังโจ๊กมากๆเช่นกัน
แข็งใจไว้โจ๊ก5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Lukaka ที่ 20-04-2017 01:54:11
รุ่นพี่รู้หมดว่าโจ๊กหมายตาโซ่  มีคนเดียวที่ไม่รู้ือเจ้าตัว ฮ่าๆ

ปล.ตัวประกอบรับเชิญตอนนี้(ตอนจ่ายเงินที่ซุปเปอร์มา์เก็ต) คือพี่โตกับของขวัญป่ะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 20-04-2017 02:08:41
เม้นแล้วเม้นอีก คือเป็นนิยายที่สุดติ่งมากรักคาแรคเตอตัวเอกมาก ชอบมากกกกก อ่านซ้ำอ่ะโอ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 20-04-2017 03:27:01
โถ่น้องโซ่ หนูแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจใช่มั้ยยย
นี่จีบแบบโจ่งแจ้งมากเลยนะ จะพาไปแนะนำกับที่บ้านแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 20-04-2017 03:39:48
โจ๊กนี่รุกแบบเนียนๆนะ หรือจริงๆแล้วโซ่ไม่รู้ตัวเอง..  :ruready
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 20-04-2017 04:50:14
ช่วงคืนความสุขให้โจ๊กสินะ
น่ารักกกกกก จริงๆสิตางคุ์นี่เหมือนเด็กเลย
คิดอะไรก็พูด ดูง่วงๆงงๆ 555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 20-04-2017 05:16:40
โจ๊กน่ารักอ่ะ เชียร์ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-04-2017 05:37:31
โซ่ มีพัฒนาแล้ว  :hao5:  :katai2-1:
อยู่กับโจ๊ก แล้วสบายใจ ไม่ต้องคุย อยู่เงียบๆก็ได้ ไม่อึดอัด
รู้สึกอยากอยู่กับโจ๊ก  มากกว่าอยากอยู่กับนิดา  :ling1:
ถูกโจ๊ก ลูบผม ก็ไม่รังเกียจ แถมชอบอีก
แล้วพอโจ๊ก ถอนมืออกไป ก็รู้สึกเสียดาย อัดช่าาาาาา  :hao5:
ด้านโจ๊ก ควบคุมอาณาบริเวณทุกด้าน ของบุคคลสเป็คสาธารณะ
ใครหน้าไหนอย่าได้แหยมมาเข้าใกล้  :m16: :m16: :m16:
โอ๊ยๆ.......โจ๊ก ขี้หวงมากกก นะเรา  :hao3:
เข้าใจอารมณ์โจ๊ก เลย อยู่ด้วยกันแต่โซ่ ไม่แอะ สักนิดว่าจะไปไหน  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
โจ๊ก ยอดมาก จัดให้ตัวเองผูกติดกับโซ่ ได้สำเร็จ
ไหนจะไปเชียงคานด้วย ไหนจะชักชวนไปไหว้เจ้า
แล้วจะให้โซ่ ได้เรียกป๊า ว่า "ป๊า" ของตัวเองอีก สุดยอดดดด
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 20-04-2017 07:10:39
อย่างน้อยโซ่ก็เริ่มคิดอะไรบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ช่วยให้โจ๊กสมหวัง 555 หนทางยังอีกยาวไกล ไบโพล่าร์คงกำเริบอีกหลายรอบ เอาใจช่วยโจ๊กกว่าคนซื่อจะรู้ตัว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 20-04-2017 07:26:28
สิตางคุ์เริ่มมีคำถามมากขึ้นทุกวัน แต่หาคำตอบไม่ได้เลย บุญมีแต่กรรมบังไปก่อนนะอิโจ๊ก 55555
อิโจ๊กนี่ก็ไบโพล่าร์มาก เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง แต่ก็ขำดี เหตุผลนั้นคือสิตางคุ์คนเดียว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-04-2017 07:50:56
โจ๊กรุกหนักขนาดนี้!!! โซ่นี่ยังไม่รู้ตัวบ้างเลยเหรอออออ สงสารอิโจ๊กเลย กว่าจะเป็นแฟนกัน คงได้เป็นไบโพล่าห์ขั้นสุดท้ายก่อน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 20-04-2017 09:48:03
โอยยยย บัวจ๋า สงสารพระเอกจริงๆ ด้วย
ต้องแสดงความรู้สึกขนาดไหนโซ่ถึงจะรู้ตัวเนี่ย

สารภาพว่าเกือบอ่านไม่จบตอนแล้วมาเม้นท์ก่อน หมั่นเขี้ยวโซ่และสงสารโจ๊กไปพร้อมๆ กัน 55

ฝากบอกโซ่ว่า ระวังเครื่องจักรมันทบต้นทบดอกด้วยความหมั่นเขี้ยวนะ 55
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 20-04-2017 09:56:44
โจ๊กไม่นกแล้วววว  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 20-04-2017 10:00:21
น้องโซ่น้อย โถวววววววววววววว o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 20-04-2017 10:47:53
ตายๆๆๆๆๆ อิโจ๊ก นุ้งโซ่ปล่อยพลังเสน่ห์มาเรื่อยๆเลย จะอดใจรอจนโซ่เข้าใจความรู้สึกเองไหวไหมเนี่ย??? บอกแล้ว แบบโซ่อ่ะ ต้องปล้ำก่อน เคลียร์ทีหลัง 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 20-04-2017 12:31:40
สงสารโจ๊ก ขอโทษนะโจ๊กแต่คนอ่านขำหนักมาก 5555555555 
คนนึงก็ซื่อตาใส ทำเอาคนนึงก็ผีเข้าผีออก ฮ่าาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: plafishy ที่ 20-04-2017 12:39:36
ชอบมากกก เป็นคาแรคเตอร์ที่เข้ากันแบบบอกไม่ถูก
อยากให้ถึงพฤหัสหน้าเร็วๆ อยากอ่านโจ๊กไบโพล่าร์ 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 20-04-2017 13:55:57
จะรอดไหม555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 20-04-2017 14:05:45
อดใจไม่ไหว กะว่าจะให้คุณบัวอัพไปเอยอะกว่านี้แล้วค่อยมาอ่าน แต่เผลอมาอ่านเล่น ๆ กลายเป็นหมดสต็อคเลย 555

รักพระเอกจัง 5555 ดูติ๊งต๊องประหลาด ๆ ดี
กลัวไบโพลาร์จะจับก่อนได้น้องโซ่มาเป็นแฟน
คาแรกเตอร์นายเอกซื่อ ๆ เจอบ่อย แต่คนอย่างโจ๊กนี่ไม่ค่อยเห็นเนอะ
เอาใจช่วยนะพ่อคู้ณ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 20-04-2017 15:27:53
ชอบโซ่เส้นนี้จัง ใส ซื่อ
อยากอยู่กับโจ๊ก ตรงๆดี  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 20-04-2017 15:53:30
น่ารักก  รอวันที่เป้นแฟนกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: rcha ที่ 20-04-2017 16:19:18
โซ่เริ่มรู้ตัวแล้วสินะเนี่ย
ขำความจะพาเขาไปไหว้เจ้าที่บ้าน
แถมมีการบอกจะให้เรียกพ่อตัวเองว่าป๊าอีก
แน้.. ร้ายกาจนะพี่โจ๊ก 555555555555
แต่โซ่ก็ยังคงทำให้พี่โจ๊กผีเข้าผีออกอยู่ดี  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 20-04-2017 17:59:42
น้องโซ่่่่ โอ้ยลูกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก55555555

โจ๊กพาโซ่เข้าบ้านแล้วก็จัดพิธียกน้ำชาคำบับฟ้าดินไปเลยนะ เอาให้หนีไปไหนไม่ได้ เอาใหม่ไม่ต้องมีใครมายุ่งได้เลย
เคมีสาธารณะดีนัก ต้องรีบตีตราจองแล้วนะ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 20-04-2017 18:26:31
ตัลลั๊ค ชอบฟีลแบบนี้ ขอให้โซ่บื้อไปนานๆนะจ้าา 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 20-04-2017 19:08:15
กลัวโจ๊กเป็นลมตายจังเลยค่ะ นวดๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 20-04-2017 21:30:57
โอ้ยยยยย...เราว่าโซ่ไม่ได้บื้อคนเดียวแล้วละ
โจ๊กนี้อะโคตรบื้อเลย จะรุกก้รุกไปสุด
ขนาดโซ่บอกว่าอยากอยุ่ด้วย
คุณพี่โจ๊กยังไม่เดินหน้าต่ออีก
 :katai1: :katai1:

หวังว่าเชียงคานจะเปนทริปเผยความในใจนะโจ๊ก
เอาใจช่วยๆ ชอบพระเอกไบโพลาร์เหมือนกัน ตลกดี
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 20-04-2017 21:56:27
แสดงว่าการเอาตัวเองเข้ามาอยู่ใกล้ๆ โซ่ของโจ๊กนั้น...ไม่ไร้ผลเสียทีเดียว เพราะตอนนี้โซ่ได้เริ่มเอนเอียงและเริ่มเคยคุ้นกับความมีอยู่ของโจ๊กแล้วด้วย ดิฉันลุ้นจนจิกแทบฉีก...นี่วันไหนสองคนนี้สมหวังกัน จะกรี๊ดลั่นบ้านทีเดียว

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ ^____^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 21-04-2017 00:35:00
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 21-04-2017 01:29:53
เขินๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 21-04-2017 07:28:56
โซ่น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: FHUNWHAN ที่ 21-04-2017 08:35:12
สงสารโจ๊ก 5555555555555555555555
อยากจะส่งยาพาราไม่ก็ยาไบโพล่าร์ไปให้เลย
โซ่จะซื้อไปไหน ซื่อจนเหนื่อยใจแทนคนจีบ 5555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 21-04-2017 11:06:59
เนี่ยก็อยากอ่านทุกวันเลยร้อรออออ เหมือนตอนอ่านbustop กับยากนักรักนี้เลยทั้งที่รู้ว่าจะอัพวันไหนแต่ก็ยังมารอทู้กวันนนนนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 21-04-2017 12:01:15
สุดยอดความซื่อ ความบื้อ รวมไว้ในตัวโซ่เลย
สงสารโจ๊ก อารมณ์เหวี่ยงขึ้น-ลงเพราะน้องโซ่นี่เอง
ว่างๆ คงต้องให้โจ๊กไปรับยาช่อง 2  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 21-04-2017 13:24:14
มีแววว่าจะไม่นกแล้วนะโจ๊ก  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-04-2017 10:43:20
ไอ้ฉิบหายเป็นตัววุ่นวายในใจโจ๊กจริงๆ โจ๊กถึงขั้นเพ้อ มโนหนักมาก อารมณ์สวิงเป็นมนุษย์เมนเลย 55555

โซ่คนซื่อก็ยังงงกับโลก และใจคนเรา ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมอยากอยู่ด้วย ทำไมอยู่แล้วสุข
ต้องให้ใครเทรนด์ดี แต่มีหรือโจ๊กจะปล่อย

ตลกโจ๊ก จะบ้าหรอ หึงไม่เลือก หวงไปหมด 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 22-04-2017 15:41:20
เอาใจช่วยให้โซ่รู้ใจตัวเองไวๆ เพราะถ้านานเกินไปอาจได้สามีเป็นบ้านะคะ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: HuskyLover ที่ 23-04-2017 09:08:40
พยายามนึกว่าเคยเจอคนซื่อขนาดไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจีบขนาดนี้ที่ไหน แต่ก็นึกไม่ออกนะ
ผมที่ว่าซื่อๆ ก็ยังพอรู้สึกได้ถ้าเกิดมีใครเข้ามาทำอะไรแบบนี้ด้วย
น่าจะเป็นเพราะโจ๊กเองก็รุกไม่หนักมาก
การมารับส่ง ซื้อของให้กิน ฯลฯ แต่ไม่พูดตรงๆ ปล่อยให้เดา บางทีก็เดายาก หรืออาจไม่ใช่ก็ได้
เป้าหมายของโจ๊กต่อไปคือต้องส่งสัญญาณที่จริงจังกว่านี้ เช่น จูบ อิๆ ถ้าจะไม่พูดตรงๆ นะ
ไปเที่ยวเชียงคานแล้วก็อย่าลืมหาโอกาสเหมาะๆ ล่ะ :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 23-04-2017 19:59:18
สนุกมากๆๆๆ เอาใจช่วยโจ๊กจ้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 24-04-2017 08:26:29
โจ๊กเอ้ยย นี่ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนนะ
ยังขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นแฟนแล้วคงได้มัดโซ่ในอยู่แต่ห้องแน่ๆ
เนียนๆเข้าไว้ๆ อย่าเพิ่งกระโตกกระตากนะโจ๊ก
เหมือนเค้าจะเริ่มมีใจว่ะ ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 25-04-2017 01:40:44
โจ๊กนี่น่าสงสารจริงๆนะ
บุญมีแต่กรรมบังแท้ๆเลยอะ555555
ได้อยู่ใกล้ ได้ใกล้ชิด แต่ก้ได้แค่นั้นนน5555
เหมือนเทวดาช่วงแค่ครึ่งทางแล้วแต้มบุญหมดอะไรแบบนี้
555555555555555
น่าวงวารรรรจริงๆ
ส่วนโซ่นี่ก้ซื้อ อึน มึนไปอีกกกก
ซื่อจนสงสารคนรอบข้างเลยอะ
รอค่าาาา สนุกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 25-04-2017 02:05:12
น่ารักไปแล้วววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 25-04-2017 17:56:47
 :hao7:  สนุกมากกกก อยากบีบ ๆๆๆๆ โซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 26-04-2017 00:39:02
โจ๊กเป็นพระเอกที่อ่านแล้วรู้สึกว่านางคือโคตรของโคตรไบโพล่า :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: nongyo ที่ 26-04-2017 12:20:25
ตามมาจากนาบูแชร์ :hao7:  :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 27-04-2017 09:51:59
มาปูเสื่อรอพี่โจ๊กไบโพลาร์ค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 6 (19/04/2017) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 27-04-2017 18:59:37
จะมาตอนไหนน้อ
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 27-04-2017 20:20:31
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 7


   พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของสิตางศุ์ที่มารับพวกเขาที่สนามบินประจำจังหวัดเลยเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง มนุษยสัมพันธ์ดี ยิ้มง่ายเหมือนกัน และติดสำเนียงการพูดแบบภาษาอีสานอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่เคอะเขินที่จะพูดกับหนุ่มภาคกลางหน้าตาจีนแท้ๆซึ่งเพิ่งเจอกันครั้งแรกอย่างเจียระไนเลย ซ้ำยังชวนคุยสนิทสนมอย่างรวดเร็ว


   “ชื่อโจ๊กเรอะ ไม่เคยได้ยินไอ้โซ่พูดถึง แล้วไอ้สองคนนั้นล่ะ พวกมันเลิกคบมึงไปแล้วเหรอโซ่ ชื่ออะไรนะ ที่เคยมาเที่ยวบ้านกู” พี่อาร์ตหรือชื่อเต็มๆว่าอาติยะชวนคุยขณะเดินนำไปที่รถยนต์ของตนเองซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากอาคารผู้โดยสาร


   “กตกับแพท”


   “เออๆ นั่นแหละ ไอ้สองคนนั่นเคยมาเที่ยวที่อุดรฯ ทะเล่อทะล่ามาเล่นไพ่กับพวกกู หมดตูดกลับกรุงเทพฯกันแทบไม่ทัน” อาติยะหัวเราะดังๆ แต่ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถือสาความทะเล่อทะล่าใดๆของเพื่อนสนิทน้องชาย ก่อนจะหันมาหลิ่วตาให้เจียระไน


   “คราวหน้า มึงมาอุดรฯด้วยล่ะ เดี๋ยวกูพาเข้าวง รับรองถูกแดกเรียบ”


   “พี่อาร์ตอย่าขู่พี่โจ๊ก เดี๋ยวอดแดกกันหมด” ทัศน์พูดแล้วหัวเราะ เป็นอันว่าตระกูลฝั่งนี้นิยมเล่นไพ่ เจียระไนเหลือบมองคนผิวขาวจัดหน้าตาซื่อๆที่ไม่น่าจะเล่นไพ่เป็น อาติยะเห็นสายตานั้นพอดีถึงกับหัวเราะอีกรอบ


   “อย่าเชื่อหน้าซื่อๆของไอ้โซ่ล่ะ ไอ้นี่น่ะ ตั้งตัวได้เพราะวงไพ่มาตั้งแต่สามขวบ” หนุ่มรุ่นพี่พูดแล้วชวนทุกคนขึ้นรถ เขาประจำตำแหน่งคนขับ ส่วนทัศน์กระโดดขึ้นนั่งหน้าคู่ ในขณะที่เบาะหลังตกเป็นของเจียระไนและสิตางศุ์ แล้วหลังจากนั้นรถยนต์ของอาติยะก็เคลื่อนตัวออกจากสนามบิน


จุดหมายต่อไปของทริปนี้คืออำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย


...ริมฝั่งโขง ตรงข้ามฝั่งลาว...

..........................

ถนนขนาดสี่เลน บางช่วงเป็นสองเลน มีเนินสลับกับทางโค้ง แต่ก็นับว่าเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างดี ไม่มีหลุมบ่อหรือจุดทำถนน เพื่อนร่วมทางมีไม่มากนัก และมีรถบรรทุกอยู่บ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าสะดวกสบาย ใช้เวลาเพียงชั่วโมงนิดๆพวกเขาก็มาถึงปลายทาง


คนทำหน้าที่จองห้องพักคืออาติยะผู้ถือตัวว่าเป็นเจ้าถิ่น แถวนี้ไม่มีโรงแรมหรูหราห้าดาวอย่างที่เจียระไนคุ้นเคย มีแต่บ้านที่ปลูกติดๆกันริมแม่น้ำโขง บางหลังสองชั้นบ้าง สามชั้นบ้าง บางหลังเปิดเป็นที่พักของนักท่องเที่ยว บางหลังก็เป็นบ้านของคนในพื้นที่จริงๆ ระหว่างบ้านกับริมโขงกั้นด้วยระเบียงทางเดินที่ถูกสร้างยาวเลาะไปตามแม่น้ำ มองเห็นอีกฟากฝั่งเป็นสปป.ลาว


อาติยะคนรับหน้าที่จัดการที่พักจัดแจงแบ่งห้องให้สิตางศุ์และเจียระไนพักด้วยกัน ส่วนเขานอนกับทัศน์ ห้องพักของพวกเขาอยู่ชั้นบนของตัวบ้าน มีระเบียงหันหน้าออกสู่แม่น้ำโขง


“สวยเนอะ” คนต้นคิดอยากจะมาเดินไปเปิดประตูระเบียงมองวิวทิวทัศน์ เจียระไนเดินตามออกไปดู แม่น้ำโขงกว้างขวาง น้ำสีขุ่นไหลเอื่อย ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่เขียวขจีของอีกประเทศหนึ่ง


...ภาพที่คิดว่าสวยกว่านี้ก็เคยเห็นมาแล้ว...แต่...พอได้มายืนดูอะไรสักอย่างกับคนข้างกาย กลับมีความหมายมากกว่า...


“น่าจะเอากีต้าร์มา จะได้เล่นไปด้วย ดูวิวไปด้วย” เจ้าของผิวขาวจัดพูดแล้วหันมายิ้มให้ เจียระไนเกือบจะเคลิ้มไปกับรอยยิ้มหวานๆนั่นแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคว้าสติเอาไว้ทัน


“มึงพูดอย่างกับเล่นเป็น” เขามองเมินไปทางอื่นแล้วพูดชวนหาเรื่องเพราะกลัวจะเคลิ้มไปกับความโรแมนติกของบรรยากาศและรอยยิ้มของคนตรงหน้า


“ก็มึงไงเล่นเป็น เพลงที่เล่นให้ฟังคราวก่อนชื่อเพลงอะไรนะ กูว่าจะลองหาดู เพราะดีอ่ะ”


“ลืมไปแล้ว” ปากว่าอย่างนั้น แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เพลงนั้นซ้อมเล่นตั้งนานกว่าจะเอามาเล่นให้มันฟังได้ ใครจะไปลืมลง


“งั้น...เนื้อหาเป็นไง ประมาณเอาก็ได้” คนอยากรู้ยังพยายามหาตัวช่วยอื่น ในเมื่อชื่อเพลงไม่ได้ เนื้อเพลงก็ยังดี แต่เรื่องอะไรเจียระไนจะบอก


“ไม่รู้!”


สิตางศุ์ทำหน้าหงอยลงเล็กน้อย


“เสียดาย กูว่าดนตรีเพราะดี จะหามาฟังซะหน่อย”


แล้วร่างโปร่งก็ทำหน้านิ่งคิด “...อืม...คุ้นๆว่าตอนนั้นมึงบอกว่าชื่อเพลง Wherever you are หรืออะไรทำนองนี้มั้ยอ่ะ” แล้วนิสิตหัวแถวของคณะเกิดความจำดีขึ้นมาเดี๋ยวนั้น


“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูลืมไปแล้ว!” คนเคยเล่นกีต้าร์ให้ฟังบอกปัดพร้อมหน้าตาเหมือนจะอารมณ์เสีย ทั้งที่...ในใจน่ะหรือ?...


...ไอ้ฉิบหาย! มันบอกว่าเพลงที่กูเล่นให้ฟังเพราะเว้ย!!...


“งั้นเดี๋ยวกูลองหาเองก็ได้” เจ้าตัวล้มเลิกที่จะถามเอากับอีกฝ่าย ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือขึ้นมาอีกต่างหาก ทว่ามือใหญ่คว้าเอามาไว้ก่อน


“อยู่กับกูไม่เล่นมือถือ!” ดุด้วยน้ำเสียงและดวงตาเรียวคมกริบที่จ้องเขม็ง แต่สิตางศุ์ไม่ได้กลัวจนหงอ เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนจะปลอบความขึงขังของอีกฝ่าย


“กูแค่จะหาชื่อเพลงเอง”


“แล้วมันต้องทำเดี๋ยวนี้รึไง?!” ร่างสูงดุอีกหน แล้วถือวิสาสะยัดโทรศัพท์มือถือลงในกระเป๋ากางเกงคืน พร้อมกับชี้หน้า


“อย่าให้กูเห็นหยิบขึ้นมาเล่นนะ! นู่นดูวิว!” แล้วนิ้วชี้ยาวๆของเจียระไนก็กวาดไปที่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขง สิตางศุ์มองคนสั่ง เห็นร่างสูงดูท่าจะดุจริงเลยยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะหาเพลง ร่างโปร่งทอดสายตามองธรรมชาติตรงหน้า ความเขียวขจีของป่าจากแผ่นดินอีกฝั่งโขงทำให้เขาปล่อยตัวตามสบายให้กับลมเย็นๆ อากาศบริสุทธิ์ และความเงียบสงบ


เจียระไนเหลือบมองคนข้างกายที่ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับธรรมชาติไปแล้วก็ถอนหายใจเบาที่เรื่องเพลงนั้นไม่กลายมาเป็นประเด็นอีก สิตางศุ์เวลานี้กำลังดื่มด่ำกับธรรมชาติจนไม่ได้สนใจอย่างอื่น และปล่อยให้เขาแอบมอบได้ตามสบาย


ร่างสูงอดยิ้มออกมาไม่ได้ คนตรงหน้าเขาเป็นคนเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด ไม่ได้ดูสนุกสนาน ไม่ขี้เล่น เป็นคนกลางๆ ติดไปทางเงียบๆ ใจดีและยิ้มง่าย แต่ก็ไม่ใช่คนที่สร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่นตลอดเวลา ทว่า...น่าแปลกที่เวลาอยู่ใกล้ๆ กลับให้ความรู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดี...ดีจน...อยากเก็บเอาไว้ข้างกายอย่างนี้ตลอดไป


“โซ่...” เสียงทุ้มดังเบาๆ ทำเอาดวงหน้าขาวต้องหันมามอง เจียระไนหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา


“...ถ่ายรูปกัน”


“เดี๋ยวไปตามทัศน์มาถ่ายให้ มันถ่ายสวย” ร่างโปร่งจะเดินไปตามน้องชายลูกมือลูกน้องที่ขนกล้องตัวใหญ่มาด้วย ทว่ามือใหญ่กลับดึงแขนเขาไว้เสียก่อน


“กูอยากถ่ายกับมึงสองคน”


คำพูดเรียบๆของชายหนุ่มลูกคนจีนหน้าดุทำเอาอีกฝ่ายนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะถูกดึงให้ยืนชิดเพื่อให้เข้ามาอยู่ในเฟรมเดียวกันโดยมีฉากหลังเป็นแม่น้ำโขง


แผ่นหลังของสิตางศุ์แนบกับอกหนาของคนที่ยืนซ้อนหลัง มันร้อนผะผ่าวจนรู้สึกเหมือนความร้อนจะลุกลามขึ้นมาที่ใบหู


“โซ่ เป็นอะไร” เพราะใบหน้าขาวที่ปรากฏบนโทรศัพท์นั้นไม่มีรอยยิ้มแม้แต่นิด ร่างสูงเลยก้มลงถาม ยิ่งทำให้คนถูกถามในระยะประชิดรู้สึกเหมือนหัวใจสั่นยิ่งกว่าอยู่ในเครื่องปั่นเสียอีก


“ป...เปล่า”

“ถ้างั้นก็มองกูสิ”


ไม่ใช่ให้มองกล้อง แต่ให้มองคนพูด สิตางศุ์พาซื่อหันมองตามคำร้องขอนั้น และนั่นทำให้เขารู้ตัวว่าไม่ควรทำตามคำขอของเจ้าของดวงตาคมกริบคู่นี้เลย


...นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นี้ บางครั้งก็ให้ความรู้สึกอบอุ่น บางครั้งก็ให้ความรู้สึกสงบ แต่บางครั้ง...มันก็ดึงดูดให้ดำดิ่งลงไปในนั้น ยิ่งมอง...ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างที่ทำให้หัวใจหวิวไหว...

...คนคนนี้ทำให้รู้สึกแปลกไป...


“สองคนนั้นน่ะ ลงมาได้แล้ว ไปถ่ายรูปกัน”


เสียงตะโกนจากข้างล่าง ทำเอาคนสองคนที่ตกอยู่ในภวังค์ของความรู้สึกถูกฉุดกระชากออกมาจากโลกที่มีเเค่พวกเขา


เจียระไนหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อระงับอารมณ์บางอย่างในอก ส่วนสิตางศุ์ชะโงกหน้ามองลงไปใต้ระเบียงซึ่งเป็นทางเดินเลาะริมฝั่งโขง ทัศน์กับอาติยะยืนรออยู่แล้ว โดยเฉพาะน้องชายลูกพี่ลูกน้องของเขานั้นมีกล้องตัวใหญ่ห้อยคออยู่ด้วย


“เดี๋ยวลงไป” ร่างโปร่งตะโกนบอก ก่อนจะหันมาทางคนที่ยืนอยู่ข้างเขา


“ไปเดินเล่นกัน” เจียระไนโบ้ยหน้าให้คนชวนเดินนำออกไปก่อน เขามองตามแผ่นหลังของคนที่เดินนำออกจากห้อง ก่อนจะเหลือบตาลงมองที่ชั้นล่างใต้ระเบียง ทัศน์กำลังยืนคุยกับอาติยะอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าทำให้เขาพลาดโอกาสสำคัญไป


...ถ้ายังขัดคอกูอีกล่ะก็...กูจะจับพี่มึงทำเมียคืนนี้เลย ไอ้หอก!!!...

............................


เส้นทางเลาะริมโขงเป็นทางยาว อากาศยามบ่ายแก่ๆไม่ร้อนมากนัก ลมเย็นๆพัดมาจากแม่น้ำพอจะทำให้เดินได้เรื่อยๆโดยไม่เหนื่อย นอกจากนั้นยังมีคนสร้างบรรยากาศสนุกสนานอย่างอาติยะและทัศน์ที่แม้จะเป็นเพียงญาติที่ดองกัน แต่ก็สนิทสนมกันดี ไม่แปลกใจเลยที่เจียระไนเคยถูกขู่ว่าคนอย่างสิตางศุ์นั้นเป็นคนที่เพียบพร้อม


...เพียบพร้อมเพราะมีครอบครัวอบอุ่น เพียบพร้อมเพราะมีญาติที่สนิทสนม เพียบพร้อมเพราะมีเพื่อนที่ดี...


คนแบบนี้ หากเขาแทรกตัวเองเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไม่ได้ ก็จะเป็นได้เพียงส่วนเกินไปตลอดทั้งชาติ


มือใหญ่ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมา ในขณะที่ดวงตาคมกริบยังจับจ้องแผ่นหลังบางของคนที่เดินอยู่ข้างหน้า เสื้อแขนยาวสีขาวที่ถกแขนเสื้อขึ้นมาถึงข้อศอกกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ สิตางศุ์เป็นคนแต่งตัวง่ายๆแต่น่ามอง...น่ามองจนอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพแบบนี้เอาไว้


ปลายนิ้วกดถ่ายรูปแผ่นหลังของคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้า เป็นภาพแผ่นหลังของคนที่เขาเฝ้ามองมาเกือบสองปี ภาพแบบนี้เขามีเป็นร้อยรูป แต่...ภาพนี้เป็นภาพแผ่นหลังของสิตางศุ์ที่ถ่ายใกล้ที่สุด


‘ถึงไหนแล้วครับมึง ถึงสวรรค์รึยังเอ่ย’


ข้อความจากแอพลิเคชั่นทางมือถือปรากฏบนหน้าจอในขณะที่เจียระไนกำลังเลื่อนดูรูปที่เขาแอบถ่าย ปลายนิ้วกดเข้าไปอ่านข้อความนั้นอย่างรวดเร็ว


‘ใกล้แล้ว ถ้ามันยอม’ อวดอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอะไรคืบหน้า ได้มโนเอาเองก็ยังดี


‘เชี่ยยยยยย ไอ้โซ่ไม่มีทางยอมง่ายๆ’


‘ยอมง่ายไม่ง่าย กูก็ได้มากับมันแล้วกัน’


‘แล้วมันรู้มั้ยว่ามึงไปกับมันเพราะอะไร’


คำถามจากคู่สนทนาทำเอาเจียระไนชะงักกึก เขาเหลือบตามองคนที่หยุดยืนถ่ายรูปกับญาติผู้พี่แล้วก็ถึงกับพิมพ์โต้ตอบอะไรไม่ออกอีก


...มันไม่รู้...


ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามันไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว เขามาอยู่ตรงนี้เพราะอะไร เพราะอยากมาเชียงคานอย่างนั้นหรือ? เปล่าเลย ไม่ได้อยากมา ไม่มีความคิดจะมาแม้แต่นิดเดียว แต่พอได้ยินว่ามันจะมา ใจก็สั่งว่าต้องมากับมัน


‘เมื่อไรจะบอก’


คำถามตอบยากมาอีกระลอก เจียระไนได้แต่ขบริมฝีปากตัวเอง เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกสิตางศุ์เมื่อไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะบอกอย่างไร


‘มึงว่าไงล่ะ’ เขาถามกลับไป

‘กูว่าควรรีบบอก แต่ก็ต้องดูสถานการณ์ด้วย’

‘สรุปว่าควรรีบบอกหรือควรดูสถานการณ์?’

‘แล้วแต่มึงสิ’

‘เชี่ย ช่วยเหลืออะไรไม่เคยได้’

‘แหมมมมม ถ้ากูไม่ช่วยมึงนะครับ ป่านนี้มึงไม่ได้แม้แต่จะคุยกับมันด้วยซ้ำ สำเหนียกในบุญคุณกูด้วย’

‘เออๆ กูจะซื้อของไปฝากแล้วกัน’

‘มะพร้าวแก้วเกรด A สองถุง’


เจียระไนกำลังจะพิมพ์ด่ากลับไป แต่เสียงของทัศน์ตะโกนขึ้นเสียก่อน


“พี่โจ๊ก เลี้ยวทางนี้พี่” เขาเดินตามสามพี่น้องนั่น ทะลุจากเส้นทางเดินริมฝั่งโขงมายังถนนคนเดินซึ่งเริ่มมีร้านรวงขายของทั้งของกินและของที่ระลึก ผู้คนเริ่มหนาตาเพราะเริ่มเย็นมากแล้ว


เจียระไนก้มลงมองโทรศัพท์ในมือ คิดไม่ตกว่าควรจะถามอะไรดี และเขาควรจะขอความช่วยเหลืออย่างไรดี อันที่จริงแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองควรจะทำอะไรต่อไป ควรให้สิตางศุ์รู้ไปเลยดีไหม หรือควรแค่ให้ระแคะระคายดี หรือจะใช้วิธีตีเนียนแบบนี้ไปก่อน


‘มึงอยากบอกมันรึยังล่ะ’ คำถามปรากฏขึ้นบนหน้าจอที่เขาไม่ได้พิมพ์อะไรตอบกลับไป ร่างสูงขบริมฝีปากคิดหนัก

‘ก็อยาก แต่กูกลัวมันไม่เข้าใจ’

‘กลัวมันไม่ยอมรับมากกว่าม้างงงงง’

‘มึงว่ามันจะรับได้มั้ย’


สิ่งที่กลัวยิ่งกว่าอะไรคือถ้าสิตางศุ์รู้ แล้วไม่ยอมรับ ทุกอย่างจะพังลงจนแทบไม่เหลือแม้แต่เศษซาก แย่ยิ่งกว่าให้มันไม่รู้อะไรเลยเสียอีก


‘ไอ้โซ่ใจกว้างอยู่นะ’ เจียระไนกำลังจะพิมพ์ตอบกลับไป แต่อีกฝ่ายกลับส่งข้อความกลับมาอย่างรวดเร็ว

‘แต่ไม่รับประกันว่าถ้าเป็นเรื่องของมันเอง มันจะใจกว้างมั้ย’

‘ไอ้หอก แล้วมึงจะบอกให้กูมีความหวังทำไม’

ร่างสูงพิมพ์ด่ากลับไปอย่างรวดเร็ว และคงจะด่าตามไปอีกสักสองประโยค ถ้าไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆเสียงอาติยะก็ดังขึ้นมา


“เฮ้ย! ไอ้โซ่หายไปไหนวะ”


เจียระไนเงยหน้าจากมือถือของตัวเองทันที แล้วก็ถึงได้รู้ตัวว่าเขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่แต่กับโทรศัพท์จนสิตางศุ์พลัดหลงไปจากกลุ่ม


ดวงตาคมกวาดมองไปรอบตัวที่มีผู้คนมากมายแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนร่างโปร่งผิวขาวจัด แล้ววินาทีนั้น...ร่างสูงก็ได้รู้ว่าการที่หัวใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม แท้จริงแล้วมันตกลงกับพื้น แล้วหายไปเลย หาไม่เจอด้วยซ้ำ!

...................................

เขาว่ากันว่ามาเชียงคาน จะได้ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ตอนนี้เจียระไนอยู่ที่เชียงคาน แต่ชีวิตไม่มีความสโลว์เลยแม้แต่นิดเดียว!!


…ไอ้โซ่มันหายไปไหนวะเนี่ย!!...


หลังจากสั่งให้อาติยะและทัศน์รออยู่กับที่ เขาก็วิ่งล่กหาคนที่หายไป ถนนคนเดินของเชียงคานเป็นถนนยาวๆเส้นเดียว แต่มีซอกซอยเยอะแยะ และตอนเริ่มค่ำแบบนี้ มองเข้าไปซอกไหนซอยไหนก็เห็นแต่ความสลัวของไฟไม่กี่ดวง ตามตรอกเหล่านี้แทบไม่มีคนเดิน แตกต่างจากเส้นหลักที่คนพลุ่กพล่านอย่างเห็นได้ชัด


เจียระไนใจคอไม่ดี  เขาพยายามกวาดสายตามองเร็วๆในทุกๆจุดที่ผ่าน และใช้สติทั้งหมดในการตามหาคนหายท่ามกลางฝูงคนมากมายที่รายล้อม ในขณะที่มือใหญ่ถือโทรศัพท์แนบหู แต่ไม่ว่าจะโทรหาสิตางศุ์สักกี่ครั้ง ก็ไม่มีแม้แต่สัญญาณ คนไม่เคยกลัวอะไร มาตอนนี้ความกลัวจากที่ไหนก็ไม่รู้ไหลบ่าท่วมหัวใจจนแทบคลั่ง



“โจ๊ก” เสียงคุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง เจ้าของชื่อหันขวับไปมองทันที


“โซ่!!” เขาเรียกชื่อเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่หน้าร้านขายเสื้อร้านหนึ่งที่เพิ่งเดินผ่านเมื่อครู่นี้ ร่างสูงก้าวเท้าไวๆเข้าไปหาแล้วเอื้อมมือไปคว้าแขนขาวมาจับหมับอย่างรวดเร็ว


...ไม่ได้ตาฝาด เขาจับแขนมันได้จริงๆ!!...


ความโล่งอกทะลักเข้ามาในใจแทนที่ความกังวลอย่างรวดเร็วจนต้องพรั่งพรูลมหายใจออกมา


“มีอะไรเหรอ” คนพลัดหลงแต่ไม่รู้ตัวว่าหลง ตั้งคำถามอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เจียระไนเลยเคาะมะเหงกลงกับหน้าผากขาวๆทีหนึ่งโทษฐานที่ทำให้เขาต้องตามหาจ้าละหวั่น


“โอ๊ย!”


“มึงหลงกับคนอื่น!! รู้ตัวรึเปล่า?!! แล้วทำไมกูโทรหามึงไม่ติด?!!!”


สิตางศุ์ยิ้มแหยแล้วชี้เข้าไปในร้านขายเสื้อที่ตัวเองเพิ่งออกมา


“กูซื้อเสื้ออ่ะ แล้วมือถือก็แบทฯหมด…” เพราะเมื่อคืนโทร.คุยกับทางบ้านแล้วหลับไปโดยไม่ได้ชาร์จแบทฯ เมื่อเช้าตอนก่อนขึ้นเครื่องมาก็ต้องรับสายจากญาติๆอีก แบทฯที่ไม่ได้ชาร์จมาตั้งแต่เมื่อคืนก็เลยหมดเอาตอนนี้


เจียระไนรู้สึกเหมือนตัวเองมาเที่ยวกับเด็กอายุสามขวบ ดูแลตัวเองไม่ได้ไม่ว่า แต่นี่อะไร ไม่รู้จักเตรียมพร้อมอะไรเลยสักนิด! คนประเภทนี้มีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ได้ยังไง เขาอยากจะรู้!


“แล้วพี่อาร์ตกับทัศน์ล่ะ” เจ้าตัวถามเมื่อมองซ้ายขวาแล้วเห็นแค่เจียระไนเพียงคนเดียว ร่างสูงเหลือบตามองเจ้าของคำถามแล้วพยายามระงับอารมณ์


“กูให้รอที่ร้านขายขนมครก แล้วมึงซื้อเสร็จรึยัง”


“เสร็จแล้ว”


ร่างสูงไม่พูดอะไรอีก เขาเลื่อนมือที่จับแขนขาวลงไปจับมือสิตางศุ์เอาไว้


“จับมือกูด้วย จะได้ไม่หลงอีก” เจ้าของดวงตาเรียวที่ฉายแววดุสั่งเสียงเรียบก่อนจะก้าวเดินนำ แต่มือที่ถูกเขาจับกลับไม่ยอมจับมือเขาตอบ ดวงตาเรียวแบบลูกคนจีนเลยต้องตวัดมามอง สิตางศุ์มองรอบตัวที่มีผู้คนมากมาย และเพราะรอบกายมีแต่คน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆถ้าผู้ชายอย่างพวกเขาจะมาเดินจับมือกัน


“เอ่อ...คนจะมองนะโจ๊ก…” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองไปมาแล้วกระตุกแขนตัวเองเบาๆเป็นเชิงให้อีกฝ่ายปล่อยมือ ทว่าคนอย่างเจียระไน ลองว่าพลัดหลงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง ย่อมไม่มีครั้งที่สอง


มือใหญ่กระชับมือขาวแน่นกว่าเดิม


“ตอนมึงหาย ไม่มีคนไหนจะช่วยกูหา แล้วตอนนี้ที่กูเจอมึงแล้ว ทำไมกูต้องสนใจว่าใครจะมองด้วย?! จับมือกู! แล้วเดินตามมา!” หรือต่อให้สิตางศุ์ไม่จับ เจียระไนก็จับมือขาวไว้แน่นอยู่แล้ว เขาก้าวเท้าเดินจับจูงร่างโปร่งไปตามทางโดยไม่สนใจเสียงประท้วงใดๆอีก


ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยมองแผ่นหลังกว้างของคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าก่อนจะลดสายตาลงมองมือใหญ่ที่จับมือของเขาอยู่ ความอบอุ่นระหว่างสองมือนั้นไม่ใช่แค่ความรู้สึกดีๆที่ค่อยๆแผ่ซ่านเข้ามาที่หัวใจ แต่มันให้ความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย...ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน แต่ถ้ามือของเจียระไนจับมือเขาอยู่อย่างนี้ สิตางศุ์รู้สึกว่าอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เขาคลาดสายตาอีก


มือขาวที่เดิมทีถูกจับแน่นด้วยมือใหญ่ สุดท้ายแล้วปลายนิ้วทั้งสี่ก็ค่อยๆกระชับเข้าหาฝ่ามือของเจียระไน ดวงตาคมกริบเหลือบมามองเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่อีกฝ่ายจับมือเขาตอบ ก่อนจะดึงมือคนที่เดินตามหลังให้ขึ้นมาเดินเคียงกัน ร่างสูงปล่อยให้คนข้างกายทอดสายตามองสองข้างทางได้ตามสบาย เพราะแน่ใจแล้วว่าสิตางศุ์จะไม่พลัดหลงจากเขาอีก


   ...และจากนี้ จะไม่มีวันที่เขาจะปล่อยมือนี้อีกต่อไป...

...................................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 27-04-2017 20:20:53


สองหนุ่มมาสมทบกับทัศน์และอาติยะที่ร้านขายขนมครก ร่างโปร่งถูกญาติผู้พี่บ่นเล็กน้อยเรื่องที่แวะร้านไหนโดยไม่บอกกล่าว แถมยังติดต่อไม่ได้


“ไม่หลงแล้ว ไอ้โจ๊กไม่ปล่อยไปไหนเลย ดูสิ” สิตางศุ์พูดแล้วก้มลงมองมือตัวเองที่ถูกเจียระไนจับอยู่ ทำเอาญาติทั้งสองคนของเขาต้องมองตาม


งานนี้เจียระไนทำหน้าไม่ถูก เพราะเขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเปิดเผยความรู้สึกของตนเองให้อีกฝ่ายรับรู้ดีไหม แต่ไอ้คนบื้อมันโชว์ให้โลกเห็นเรียบร้อยว่าเขาจับมือมันอยู่ ตัวมันไม่รู้ ไม่คิด ไม่เข้าใจอะไรก็จริงอยู่หรอก แต่ญาติมันอีกสองคนท่าจะคิดมาก แล้วถ้าคิดมาก อาจจะพูดอะไรให้สิตางศุ์คิดไปด้วย ไอ้ที่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจจะกลายเป็นความแตกดังโพละก็ตอนนี้


...แต่...บางที...ญาติมันก็อาจจะไม่คิดอะไรมากเหมือนมันนั่นแหละ...


“ดีๆ จะได้ไม่หายอีก ถ้ามึงหายอีกนะไอ้โซ่ กูโดนด่าเช็ดแน่” อาติยะสนับสนุนอย่างขันแข็ง


“จริงงงงง ดีไม่ดี ผมโดนหางเลขไปด้วย ญาติๆอุตส่าห์ไว้วางใจให้ผมมาเป็นเพื่อนพี่โซ่ ดันทำพี่โซ่หาย เดี๋ยวคราวหน้าถ้าจะไปไหนกัน ผมเอาเชือกจูงเด็กมาด้วยดีกว่า จะได้สบายใจกันทุกภาคส่วน” ทัศน์ก็อีกคน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย ชนิดที่เจียระไนถึงกับถอนหายใจแรงๆ ไม่รู้จะโล่งอกหรือเซ็งกับสมาชิกตระกูลนี้ดี


...สรุปว่าไม่มีใครคิดมากทั้งนั้น...


แล้วหลังจากนั้น พวกเขาก็เดินเล่นที่ถนนคนเดินกันต่อ ยิ่งค่ำก็ยิ่งดูเหมือนคนจะเยอะขึ้นเรื่อยๆ ร้านค้าริมสองข้างทางของถนนมีทั้งของทำมือ เสื้อที่ระลึก โปสการ์ด ที่มีมากหน่อยคืออาหารการกินที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นอาหารท้องถิ่นอย่างกุ้งแม่น้ำโขงตัวเล็กๆเสียบไม้ย่าง ปาท่องโก๋สอดไส้มีทั้งไส้หวานอย่างกล้วยและสังขยา หรือไส้เค็มอย่างหมูแดง แล้วก็มีข้าวจี่ซึ่งเป็นข้าวเหนียวทาไข่แล้วนำไปปิ้ง


สิตางศุ์ผู้ซึ่งไม่กินของทอดเลยได้ข้าวจี่มาหนึ่งไม้ ทานง่ายด้วยมือเดียวเพราะอีกมือถูกจับจองโดยคนที่เดินข้างกาย


“อร่อยนะ ชิมมั้ย” กัดไปหนึ่งคำร้อนๆ ร่างโปร่งก็หันมาถามคนที่เดินข้างกัน ก่อนจะยื่นให้เจียระไนรับไปถือ ทว่าใบหน้าหล่อเหลาที่มีโครงหน้าชัดกลับก้มลงมาหา


“ยกขึ้นสูงหน่อยสิ” สิตางศุ์ได้แต่ทำตาปริบๆ เพราะไม่ได้คิดจะป้อน แต่เมื่อถูกสั่งให้ยกขึ้นสูงพอดีกับปาก เขาก็ยอมยกขึ้นอีกหน่อย คราวนี้เจียระไนก้มลงมากัดไปหนึ่งคำ การก้มลงมาใกล้ เป็นอีกครั้งที่ดวงตาของพวกเขาสบกัน และเป็นฝ่ายสิตางศุ์ที่รีบหลบสายตาก่อน


“หลบตากูทำไม” เสียงทุ้มตั้งคำถาม แต่คนถูกถามกลับส่ายหน้าไม่ยอมตอบอะไร


“โซ่...” เจียระไนเรียกอีก แต่เจ้าของชื่อก็ยังไม่กล้าหันมอง สิตางศุ์ไม่รู้ว่าเสียงทุ้มๆแบบนี้ทำไมถึงทำปฏิกิริยากับหัวใจของเขามากนัก ใจมันสั่น แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากหันไปมอง อยาก...แต่...ไม่ว่ายังไงก็ไม่กล้าหันไปมองเด็ดขาด ไม่มองเด็ดขาด...


“ไม่มองกู แล้วจะป้อนกูถูกมั้ย” เสียงนั้นดังขึ้นอีก คราวนี้ไม่ได้สร้างความไหวหวิวให้หัวใจแล้ว มันฟังดูเหมือนหยอกเอินจนตอนแรกคนที่ตั้งใจจะไม่ยอมหันไปมอง ต้องยอมเหลือบสายตากลับไป และพอเหลือบกลับไปสบตากับดวงตาสีดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน สิตางศุ์ก็รีบหลบสายตากลับไปทางเดิมอีกหน


“เนี่ย...มึงแกล้งกูอ่ะ” คนหลบสายตาบ่นหน้ามุ่ย ทำเอาร่างสูงหัวเราะในคอ มุมปากยกขึ้นจนพานให้เห็นโหนกแก้มชัด ในขณะที่ดวงตาเรียวมีประกายระยิบ


“แกล้งตรงไหน”


“ก็มึงมอง...” มองอะไรไม่รู้ มองแบบไหนก็บอกไม่ได้ แต่ที่บอกได้คือมองแบบนี้แล้วทำให้รู้สึกใจไม่อยู่กับตัวยังไงไม่รู้


“ไม่มองก็ได้ แต่เอามากินอีกที” คนถือข้าวจี่ยื่นให้โดยไม่หันมอง และเพราะไม่หันมอง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มือข้างที่ถือไม้เสียบข้าวจี่นั้นถูกกุมเอาไว้ด้วยฝ่ามือร้อน


คนถูกกุมมือหันมองทันที ภาพที่เห็นคือมือของเขาถูกมือของเจียระไนกุมเอาไว้แล้วบังคับให้ป้อนข้าวจี่เข้าปาก ในขณะที่มืออีกข้างก็ถูกมือของเจียระไนอีกนั่นแหละที่จับเอาไว้ไม่ปล่อย


ไม่รู้ว่ามือข้างไหนร้อนกว่ากัน แต่ที่รู้ๆคือมือของเขาทั้งสองข้างถูกครอบครองโดยมือของเจียระไนเพียงคนเดียว


ร่างสูงเห็นสีหน้าตกตะลึงของคนข้างกายก็ได้แต่หัวเราะในคอเบาๆขณะที่เคี้ยวข้าวจี่ในปากอย่างมีความสุข และยิ่งมีความสุขมากขึ้นไปอีกเมื่อคนที่ถูกเขากุมมือทั้งสองข้างด้วยสองมือของเขารีบหันหน้าหนีไปทางอื่นแล้วสบถด่าเบาๆ


“เชี่ยโจ๊ก”


“ด่ากู กูไม่ปล่อยมือมึงนะ” เขาหยอก แต่พอมือขาวข้างที่ถือข้าวจี่พยายามดึงให้หลุดจากการกอบกุมของเขา เจียระไนก็ยอมปล่อยมือนั้นให้เป็นอิสระแต่โดยดี แต่...ก็เพียงแค่ข้างเดียวเท่านั้น เพราะมืออีกข้างของเขายังคงจับมือของอีกฝ่ายไม่ปล่อย


“ข้างนี้กูไม่ปล่อย...” เขาพูดดักไว้ก่อน ก่อนที่เจ้าของมือขาวที่จับกับมือของเขาจะพยายามดิ้นรนให้หลุด


“...และจากนี้กูจะไม่ปล่อยมึงไปไหนอีก” น้ำเสียงนั้นจริงจัง และที่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือการที่มือของเขากระชับมือของสิตางศุ์แน่นกว่าเดิม ราวกับเป็นสัญญาว่าจากนี้ไป เขาจะไม่ปล่อยมือนี้อีกแล้ว จะไม่ปล่อย...ให้หายไปจากสายตาอีก


ร่างโปร่งก้มลงมองมือของพวกเขาที่ยังจับอยู่ด้วยกัน ความรู้สึกบางอย่างพอกพูนขึ้นในอก


แต่...ก็ยังไม่รู้เสียที...ว่าความรู้สึกนี้เรียกว่าอะไร

...........................

หลังจากเดินกลับจากถนนคนเดินก็ถึงเวลาพักผ่อน แต่ก่อนจะแยกย้ายเข้าห้อง พวกเขาตกลงกันว่าพรุ่งนี้จะตื่นก่อนอาทิตย์ขึ้น ไปภูทอกซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเพื่อดูทะเลหมอก แล้วกลับมาทานอาหารเช้าและเช็คเอ้าท์ ให้อาติยะไปส่งที่สนามบินเพื่อกลับกรุงเทพฯ


สองวันหนึ่งคืนของทริป ‘เชียงคานชั่ววูบ’ ของเจียระไนกำลังจะหมดลง แต่...นี่จะเป็นคืนแรกที่เขาได้นอนห้องเดียวกับสิตางศุ์


ร่างสูงเนื้อเต้น รู้สึกว่าตัวเองควรจะทำอะไรสักอย่าง ทว่า...สิ่งหนึ่งที่เจียระไนลืมคือคนอย่างสิตางศุ์นั้น...นอนไวมาก...


“โซ่ ทำไมหน้ามึงเป็นยังงั้น” ร่างสูงใหญ่ตั้งคำถามเมื่อปิดประตูลงกลอนแล้วเรียบร้อย และหันมาพบว่าผู้ที่จะต้องร่วมห้องกับเขาในคืนนี้ ตาปรือคล้ายง่วงนอนเต็มแก่


“กูง่วงแล้วอ่ะ” เจียระไนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแทบไม่ทัน


...สองทุ่มครึ่ง!!...เด็กปีสี่ไม่ควรง่วงนอนตอนสองทุ่มครึ่ง!!!...


“มึงไปอาบน้ำไป”


“นอนสักงีบก่อนได้มั้ย” คนง่วงหันมาต่อรอง ตาจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่อยู่แล้ว ช่วงนี้เขานอนดึกเพราะอ่านหนังสือเตรียมทำเปเปอร์ แล้ววันนี้ก็เดินทางไกล ทั้งนั่งเครื่องบิน ทั้งนั่งรถยนต์ ไหนจะเดินที่ถนนคนเดินตั้งหลายกิโลฯอีก คนง่วงง่าย นอนง่ายอย่างสิตางศุ์เลยชักจะเปิดตาต่อไปไม่ไหว


“ไม่ได้ ไปอาบน้ำ” เจียระไนไม่ได้คิดจะให้อีกฝ่ายอาบน้ำแล้วมานอนสบายๆหรอก เขาอยากให้มันได้น้ำเย็นๆแล้วสติสตังกลับมามากกว่า


...คืนแรกของเรา มึงจะมาหลับไวหลับเร็วใช้ชีวิตเหมือนปกติแบบนี้ไม่ได้!!...


คนอยากนอนแต่ไม่ได้รับอนุญาตให้นอนทำหน้ามุ่ยเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองคนตรงหน้า


“มึงไม่ใจดีเลยว่ะ”


“ไป-อาบ-น้ำ” เจียระไนย้ำอีกครั้ง ร่างโปร่งเลยได้แต่เดินไปเปิดกระเป๋าเป้หยิบเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำไป พอประตูห้องน้ำปิดเรียบร้อย ชายหนุ่มก็ถึงกับทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างคิดไม่ตก เขาเหลือบมองเตียงเดี่ยวที่ตั้งคู่กัน เตียงหนึ่งเป็นของเขา อีกเตียงเป็นของสิตางศุ์ โอกาสแรกที่พวกเขาได้ร่วมห้องเดียวกัน แต่...ไม่มีโอกาสได้นอนเตียงเดียวกัน


...แล้วโอกาสจะมาอีกเมื่อไร?...

เวลาของชีวิตนิสิตปีสี่น้อยลงทุกที อีกไม่นานจะจบเทอมหนึ่งแล้ว และอีกไม่กี่เดือนพวกเขาก็จะเรียนจบ ต่างคนต่างต้องแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง โอกาสที่พวกเขาจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ได้ร่วมห้องเดียวกันอีกครั้ง อาจจะไม่มีอีกเลย...


...กูควรจะทำยังไงดี?...


‘กูถามอีกครั้ง มึงว่ากูควรบอกไอ้โซ่ได้รึยัง’


ตัวช่วยเพียงหนึ่งเดียวคือที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ทางแอพลิเคชั่นในโทรศัพท์ เจียระไนพิมพ์ส่งข้อความอย่างรวดเร็ว และเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมา แต่...ข้อความของเขาไม่ถูกอ่านด้วยซ้ำ


‘เฮ้ย ตอบเร็วๆหน่อย กูรออยู่’


ส่งไปกระทุ้งอีกรอบก็ยังเงียบ คนขี้หงุดหงิดเริ่มจะไม่สบอารมณ์


‘ไอ้เชี่ย มึงหลับรึไง ตอบกู’


ครั้งที่สาม เลขสวยสำหรับความอดทนที่มี เจียระไนกดออกจากหน้าแชทอย่างรวดเร็ว แล้วกดโทร.ออกหาปลายสาย เขารอจนสัญญาณตัด ถึงได้รู้ตัวว่าตอนนี้ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์รับสายเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ


...ไอ้หอกเอ๊ย!! เวลาแบบนี้เสือกไม่อยู่ใกล้โทรศัพท์!!!...


เมื่อหมดตัวช่วย ทางเดียวที่เหลือคือช่วยเหลือตัวเอง เจียระไนหงายหลังผึ่งลงกับเตียง ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรกับชีวิตดี จะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไปก่อน หรือทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงดี


เสียงกลอนประตูห้องน้ำถูกปลด ตามมาด้วยเสียงประตูถูกเปิด แล้วร่างโปร่งผิวขาวจัดในชุดเสื้อยืดเก่าๆกับกางเกงเลก็ก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำ เจียระไนผงกศีรษะขึ้นมามองตาแทบค้าง


ค้างแรก เพราะชุดนอนง่ายๆ เก่าๆของไอ้โซ่ ไม่อยู่ในหมวดหมู่ชุดนอนแสนเซ็กซี่เลย แต่พอชุดแบบนี้มาอยู่บนตัวมัน กลับทำให้เขาต้องกวาดตามองตั้งแต่คอขาวๆลงมาที่เสื้อยืดเนื้อบาง กางเกงเลที่ยาวเลยเข่ามานิดหน่อย และลงมาที่ปลีน่องขาว ขาวซะจนตาตุ่มยังเป็นสีชมพู แล้วถ้าตาตุ่มยังสีชมพู หัวนมมันจะสีอะไร


เจียระไนกลืนน้ำลายเอื้อกแล้วตั้งสติ เพราะสิ่งที่ทำให้เขาตาค้างไม่ได้มีแค่เรื่องชุดนอนของมัน แต่เป็นการที่มันอาบน้ำเร็วฉิบหาย!


“มึงอาบเสร็จแล้วเหรอ”


“ก็กูบอกแล้วไงว่ากูง่วง” คนง่วงตอบเสียงเอื่อยๆ ก่อนจะเดินไปพาดผ้าขนหนูกับราวแขวน ตามด้วยการเก็บเสื้อผ้าเก่าลงกระเป๋าเป้ เจียระไนมองร่างโปร่งบางจากทางด้านหลัง


ภาพแบบนี้ไม่รู้เมื่อไรจะได้เห็นอีก หรือบางทีอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นอีกเลย ถ้าหาก...เขายังคงสถานะเดิมต่อไป...


“โซ่...” ไวเท่าความคิด เสียงทุ้มก็ดังขึ้น


“หืม?” คนถูกเรียกเพียงขานรับ ไม่ได้หันไปมอง เพราะกำลังพยายามยัดกางเกงยีนส์ลงในกระเป๋าเป้ใบเล็กของตัวเอง แต่พอง่วง เรื่องง่ายๆอย่างการเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าก็ยากไปหมด ยัดตั้งนานก็ยังไม่ได้สักที


“ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน มึงคิดถึงคนอื่นบ้างรึเปล่า” คำถามของเจียระไนทำเอาอีกฝ่ายหันมามองด้วยความงุนงงผสมความง่วง


“คิดถึงคนอื่น? หมายถึงใครเหรอ”


“นิตา...” สิตางศุ์ถึงกับนิ่งงันกับคำตอบของร่างสูง


“มึง...ถามทำไม...” ริมฝีปากสีจัดบนใบหน้าขาวย้อนถาม ความง่วงที่แม้แต่น้ำเย็นยังสลัดออกจากหัวไม่ได้ แต่พอชื่อของนิตาโผล่เข้ามาในบทสนทนา ก็ดูเหมือนสมองจะตื่นในพริบตา


“กูอยากรู้ว่าตอนที่กูอยู่กับมึง มึงคิดถึงนิตามั้ย”


ไม่มีคำตอบจากสิตางศุ์ เพราะร่างโปร่งเองก็ไม่รู้ว่าเขาควรจะคิดถึงนิตาหรือไม่ยามที่อยู่กับเจียระไน เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกอย่างไรกับหญิงสาวคนนั้น ไม่รู้แม้แต่นิดเดียว


เพราะความเงียบระหว่างพวกเขา และสีหน้าครุ่นคิดของคนตรงหน้า ทำเอาเจียระไนใจไม่ดี เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วตัดสินใจวัดดวงอีกครั้ง


“กูถามใหม่”


นี่จะเป็นการวัดดวงครั้งสุดท้าย ว่าเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป ระหว่างคงสถานะเดิมเอาไว้ก่อน หรือทำให้มันพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ


“ตอนที่มึงอยู่กับกู มึงรู้สึกยังไง” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองคนถาม แววใสซื่อและบริสุทธิ์ที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นี้บอกความจริงข้อหนึ่งคือหากสิ่งใดที่สิตางศุ์พูดต่อจากนี้ มันล้วนออกมาจากใจจริง


“ก็...สนุก”


“แล้วมีความสุขมั้ย”


“อืม”


“เวลากูพูดไม่ดีกับมึงล่ะ”


“มึงพูดไม่ดีตอนไหน” เจียระไนดุนลิ้นกับกระพุงแก้มเพราะนึกไม่ออกเหมือนกันว่าตัวเองพูดจาไม่ดีกับอีกฝ่ายบ้างหรือไม่ แต่โดยพื้นฐานก็พอรู้ตัวว่าตนเองไม่ใช่คนสุภาพนักและในหลายๆครั้งก็ปากไม่ดีด้วย


“เปลี่ยนคำถาม แล้วถ้าไม่มีกูล่ะ มึงรู้สึกยังไง”


สิตางศุ์นิ่งไป พักหลังมานี้ เขาพบหน้าเจียระไนแทบทุกวัน พูดคุยกันทุกวันทั้งแบบเห็นหน้าและทางโทรศัพท์ ห้านาทีบ้าง สิบนาทีบ้างแล้วแต่วัน บางทีก็กินข้าวด้วยกัน บางครั้งวันเสาร์อาทิตย์ ก็ไปเดินซื้อของด้วยกัน รู้สึกเหมือนได้ใครสักคนเข้ามาในชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งคน ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองมีคนรอบข้างครบถ้วนแล้วแท้ๆ


“อืม?...ไม่รู้สิ คงจะ...เหมือนขาดอะไรไป...”


คำตอบของร่างโปร่งผิวขาวจัดเหมือนระดมกำลังใจคนฟังให้ลุกฮือ เจียระไนสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วตัดสินใจเด็ดขาด เขาก้าวเข้าไปหาสิตางศุ์ ดวงตาคมกริบจับจ้องคนที่ยังเอาแต่ก้มหน้า


“ถ้างั้นมึงก็ไม่ต้องคิดเรื่องจีบนิตาแล้ว...”


ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองคนพูดด้วยความไม่เข้าใจ


“จากนี้ไป กูจะจีบมึงเอง”


ประโยคต่อมาของร่างสูงทำเอาคนกำลังงุนงงถึงกับชะงัก ดวงตาคู่สวยเหลือกโตด้วยความตกตะลึงพอๆกับที่อ้าปากค้าง


ท่าทีทั้งตกใจทั้งตื่นตระหนกของคนตรงหน้าบอกให้รู้ว่าเจียระไนไม่ควรรุกไล่มากไปกว่านี้ เขาเบนสายตามองไปทางอื่น เพราะขืนมองหน้าขาวๆปากแดงๆระยะใกล้ๆแบบนี้อีกสักหนึ่งนาที ตบะอาจจะแตกได้ง่าย


“กูไปอาบน้ำก่อน มึงก็นอนซะ แล้วอย่าลืมชาร์จแบทฯด้วย เดี๋ยวก็โทร.หาไม่ได้อีก”


แล้วร่างสูงใหญ่ก็หันไปคว้าเสื้อผ้าเดินหนีเข้าห้องน้ำไปดื้อๆ ทิ้งให้คนกำลังใจตกใจได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับเสียงทุ้มๆที่มั่นคงและแน่วแน่ยังคงดังก้องอยู่ในหัว


‘จากนี้ไป กูจะจีบมึงเอง’


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


เชียงคานชั่ววูบ แต่โจ๊กไม่วูบนะคะ ที่ทำนี่ทำตามหัวใจด้วยสติครบถ้วนล้วนๆค่ะ (เน่ามากกกกก...) ใครว่าเรื่องนี้พระเอกกาก มันกากจริงก็ยอมรับอยู่ แต่เวลามันจะกลายร่างเป็นคนจริงขึ้นมา เอาแรดมาฉุดก็เอาไม่อยู่นะคะ กร๊ากกกกก


มีหลายคนถาม(และห่วงใย) ว่าซื่อ(บื้อ)อย่างโซ่ มีชีวิตอยู่ได้ยังไง จริงๆแล้วโซ่ไม่ได้ซื่อมาก แต่เป็นลักษณะแบบคนที่ไม่รู้และไม่คิดเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว แล้วก็เลยมองข้าม(อย่าบอกโจ๊กว่าโซ่มองข้ามโจ๊ก เดี๋ยวมันไบโพลาร์อีก กร๊ากกกก) เพราะงั้นพอโจ๊กเข้ามา ก็เห็นเป็นเพื่อนอย่างเดียวเลยค่ะ ซึ่ง...อีเพื่อนโจ๊กก็ทำตัวสมเพื่อนมากกกกก ฮาฮา


แต่ยังไงก็ตาม สรุปว่าตอนนี้โจ๊กเดินหน้าแล้วนะคะ ใครที่สงสารโจ๊กมาตั้งแต่ตอนที่แล้ว ก็...สงสารโจ๊กกันต่อไปค่ะ กร๊ากกกกกก


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ พื้นที่บอร์ดและทุกกำลังใจเช่นเคย
เจอกันพฤหัสหน้า

ป.ล. เขียนถึง wherever you are เพราะมือกีต้าร์เท่ล้วนๆเลยค่ะ เอ้ยๆ เพราะเนื้อเพลงสิ เพราะเนื้อเพลงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-04-2017 20:55:03
เหนื่อยแทนโจ๊ก

อารมณ์เหวี่ยงประหนึ่งขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา

โซ่คนซื่อ อย่าฉลาดเร็วนักนะ ฉันชอบที่เขาจีบกันมึน ๆ ฮ่า ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-04-2017 21:00:15
ดีมากโจ๊ก บอกไปเลย ลุยเต็มที่ สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 27-04-2017 21:04:51
กรี๊ดดดดดดด ต้องแบบนี้สินังโจ๊ก เยี่ยมๆๆๆ

บางทีโจ๊กก็อาจจะต้องปล่อยให้โซ่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน อย่าลืมว่าโซ่ไม่เคยรักใครจริงจัง แต่อยู่ด้วยกันทัเงคืนนี้ขนาดนี้จะเป็นไงมั่งน้อ55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 27-04-2017 21:15:43
โจ๊กไม่กากแล้ว โจ๊กคนจริง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 27-04-2017 21:42:01
หวานละมุน^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 27-04-2017 21:50:44
ในที่สุดวันนี้ก้มาถึง!!!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 27-04-2017 21:54:14
รุกไปเลยจ้าโจ๊กกก ไหนๆก็เปิดแล้วว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 27-04-2017 22:02:15
โจ๊ก o13 o13 o13 เดินหน้าจัดเต็มเลย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 27-04-2017 22:02:42
 :z3: :z3: :z3: พี่โจ๊กไม่ป๊อดแล้ววว  o13 o13
น้องโซ่ น้องน้อยของพี่โจ๊กอย่าช็อกแรงน้าาา เดี๋ยวพี่โจ๊กใจแฟบบ :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2017 22:24:49
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 27-04-2017 23:00:34
ในที่สุดดดดด โจ๊กก็หายกากแล้ว
ขอให้โซ่ใจกว้างรับโจ๊กเข้ามาในอ้อมใจด้วยเถิด เพี้ยง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: saccarrum ที่ 27-04-2017 23:11:38
ชอบอันนี้ 'รู้สึกเหมือนได้ใครสักคนเข้ามาในชีวิตเพิ่มอีกหนึ่งคน ทั้งๆที่คิดว่าตัวเองมีคนรอบข้างครบถ้วนแล้วแท้ๆ'
เป็นการเติมเต็มชีวิตที่แท้จริง โจ๊กต้องสู้นะ!!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-04-2017 23:15:25
โอ้......โจ๊ก บอกโซ่ แล้ว
บอกตรงๆ เลย
โซ่ ต้องรู้ เข้าใจแน่ๆ
“ถ้างั้นมึงก็ไม่ต้องคิดเรื่องจีบนิตาแล้ว...”
“จากนี้ไป กูจะจีบมึงเอง”
ลุ้นไปกับโจ๊ก  :ling1: :ling1: :ling1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 27-04-2017 23:27:36
แล้วโซ่มันก็จะถามว่า มาจีบกูทำไมวะ 5555 พี่โจ๊กก็ไบโพล่าต่อไป หนทางยังอีกยาวไกล
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 27-04-2017 23:34:09
ลุยเลยลูกพี่โจ๊กกกกกกกกกก  :a9:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 27-04-2017 23:35:01
โจ๊กสู้ๆ  o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 27-04-2017 23:35:47
เดินหน้าเต็มพิกัดเลยนะโจ๊ก
เอาใจช่วยๆ

แต่ดูท่าทางแล้วค้องค่อยเปนค่อยไปหย่อยนะ
เพราะโซ่อาจจะตามไม่ทัน อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-04-2017 00:02:40
ซะที ๆ
โจ๊กขอจีบแล้วโซ่จะว่ายังไง ไม่ใช่หนีหน้ากันนะ แบบนั้นอิพระเอกเป็นบ้าของจริงเลยทีนี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 28-04-2017 00:24:23
คนจริงวะ แต่ค้างมากกกอ่ะตอนนี้ ฮือออ จะร้องง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: chandelierrrrrrr ที่ 28-04-2017 01:18:04
โซ่น่ารักอะ เอ็นดูความซื่อของโซ่มากๆ  :impress2:
โจ๊กเลิกป๊อดซะทีต่อไปนี้ก็เดินเครื่องรุกหนักๆไปเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 28-04-2017 01:26:23
ค้างหนักมากก
โซ่ว่าไงดีลูก โจ๊กจะจีบหนูแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 28-04-2017 02:12:45
บอกไปแล้ว ดีใจด้วยนะโจ๊กๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 28-04-2017 05:32:58
ออกจากห้องน้ำมาจะเป็นไบโพล่าห์อีกมั้ย ในพี่สุดพี่โจ๊กก็ได้จีบแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 28-04-2017 12:22:04
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 28-04-2017 15:10:17
หวานมาก น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 28-04-2017 15:57:29
เอาจริงแล้วๆ555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 28-04-2017 16:45:14
กว่าจะถึงวันนี้ สู้ๆนะโจ๊ก แบบโซ่นี่หายากกกก
ตอนนี้ตั้งตารอวันพฤหัสเลยฮะ เพราะจะได้อ่าน โจ๊ก โซ่ ชอบมาก  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 28-04-2017 19:17:21
ไม่เป็นวาระซ่อนเร้นละ โจ๊กเราดับเครื่องชนแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 28-04-2017 20:51:09
ปรบมือให้โจ๊กอย่างชื่นชม นอกจากจะมีพัฒนาการแล้วจินตนาการของเขายังไปไกลอีก แค่เห็นปลีน่องผ่องขาวและตาตุ่มสีชมพู...ก็ไพล่นึกไปถึงอย่างอื่น ขนาดยังไม่เป็นอะไรกันยังเตลิดเท่านี้ ถ้าโซ่ตกลงเป็นแฟนล่ะจะขนาดไหน คิดไปก่อนเลยว่าคงไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน โฮะๆๆ

ตอนนี้โจ๊กได้ใจป้าไปเต็มๆ ในที่สุดพ่อคุณก็รุกเสียที ขึ้นอยู่กับโซ่แล้วละว่าจะเข้าใจสิ่งที่โจ๊กบอกหรือไม่ คนตัวขาวอาจจะเข้าใจผิดไปว่าโจ๊กล้อเล่นก็ได้ แต่ว่าก็ว่าเถอะ คนเราหลอกอะไรก็หลอกได้ แต่อย่าหลอกใจตัวเองดีกว่า เดี๋ยวจะไม่สบายใจนะจ๊ะ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ สำหรับตอนนี้ ชอบมากๆ เลยค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: farhhhh ที่ 28-04-2017 21:30:03
โจ๊กก็ไม่ได้กากมากนะ รู้คิวอ่ะ อาจเพราะมีพ่อสื่อที่ดีเป็นตัวช่วยให้คำแนะนำ การที่เข้ามาวนเวียนในชีวิต จนโซ่เริ่มชินมันก็ดีกว่าการรุกแรงๆ อ่ะ อันนั้นโซ่อาจกลัว555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 28-04-2017 23:42:00
ปรบมือให้โจ๊ก  เลิกป๊อดสักที  ลุยได้แล้ว 
รอตอนต่อไป  ขอบคุณค่ะ 
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 29-04-2017 08:00:36
อ่านรวดเดียวเพราะหยุดอ่านไม่ได้ และอยากจะอ่านต่อไปเรื่อยๆ

โซ่น่ารักกกกกก งือออ รอดปลอดภัยมาตลอดได้ยังไงหนอ
ส่วนโจ๊ก เราเทียบภาพในหัวกับนักแสดงคนไหนไม่ได้ แต่ภาพโจ๊กก็ชัดเจนนะ ตี๋ตาคมแมนๆเข้มๆ แอร๊ย ชอบๆ

โจ๊กเหมือนคนที่เด็ดขาดมาก มาเอง ทำเอง คิดเอง ลุยเอง แต่น่ารักตรงแอบลังเล ปรึกษาที่ปรึกษาบ่อย แถมมีความลับเก็บงำมาหลายปี ที่ผู้แต่งค่อยๆ คลายออกมา คือรู้สึกเหมือนถูกค่อยๆ เติมให้เต็มไปช้าๆ อย่างมีจังหวะ ชอบมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-04-2017 13:46:57
โจ๊กดีมากบอกไปซักที
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-04-2017 15:20:19
ดีแล้วล่ะ ที่ที่ปรึกษากิติมาศักด์ไม่ว่างมาตอบ
เพราะถ้าว่าง โจ๊กก็อาจไม่ตัดสินใจพูดไปสักที
‘จากนี้ไป กูจะจีบมึงเอง’ เจอคำนี้ไปโซ่คงหายง่วงอ่ะ
แต่คงจะงงแทนล่ะมั้งนี้ กร๊ากกกกกก

อ่านทันแล้ว จะตามอ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 29-04-2017 22:06:30
เอาแล้วเหวยยย เดินหน้าแล้วเหวยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-04-2017 22:55:14
คืบหน้ามาก ดีขึ้นมาก อย่างน้อยโซ่ก็ยังรู้สึกแปลก รู้สึกดีที่มีโจ๊ก

โจ๊กช่างกล้า ถูกแล้ว ต้องลุยค่ะ ไม่งั้นคนซื่อก็คิดไม่ทันสักที
โจ๊กพูดแล้วหนี ก็ดีนะ ให้เวลาโซ่ตั้งตัวสักนิด 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 30-04-2017 00:16:05
โจ๊กรุกแล้วต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่งั้นโซ่มันจะคิดว่าพูดเล่นแกล้งกันอีก จะพาลอดนะ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-04-2017 10:25:07
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-05-2017 05:07:40
ในที่สุด !! โจ๊กของเราก็รวบรวมความกล้าได้!!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 7 (27/04/2017) หน้า 10
เริ่มหัวข้อโดย: Carrot_t ที่ 04-05-2017 15:22:14
 o13 o13 o13
โจ๊กแม่งคนจริงว่ะๆ
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 04-05-2017 19:53:31
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 8

ทะเลหมอก ณ ภูทอก สวยสะพรึงแค่ไหนบรรยายไม่ได้แม้แต่นิดเดียว เพราะสิตางศุ์ไม่มีสติรับรู้อะไรอีกแล้ว


เรื่องเกิดตั้งแต่เมื่อคืน จนเช้านี้ ก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเจียระไน สถานการณ์ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ในเมื่อมากันแค่สี่คน ไม่มองหน้ากันจะมองหน้าใคร แถมพวกเขายังมีสถานะเป็นเพื่อนร่วมคณะกันอีกต่างหาก ทั้งพี่และน้องของเขาก็เลยโยนให้เขาและเจียระไนดูแลกันและกันไปในตัว


ลงจากภูทอก หลังจากถ่ายรูปแบบไม่มีสติไปไม่รู้กี่รูป พวกเขาทั้งสี่คนก็กลับมาทานอาหารเช้าที่ที่พักซึ่งมีบริการโจ๊ก ไข่กระทะ ขนมปังปิ้งและเครื่องดื่มร้อนเย็น


   และเป็นอีกครั้งที่อาติยะและทัศน์ไปเตร่ที่ไลน์อาหาร ทิ้งสิตางศุ์กับเจียระไนเฝ้าโต๊ะ


   ความเงียบมาเยือนโดยไม่ต้องเชิญ หนำซ้ำร่างโปร่งยังมองไปทางอื่นด้วย


   “โซ่...” เสียงทุ้มของคนที่นั่งร่วมโต๊ะดังขึ้น แต่คนถูกเรียกไม่ยอมหันมอง เลยได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่จากร่างสูง


   “นั่งเกร็งขนาดนี้ไม่เมื่อยรึไง นั่งดีๆ” แล้วมือใหญ่ก็ดันหลังคนที่นั่งข้างๆให้พิงไปกับพนักเก้าอี้ สิตางศุ์สะดุ้งโหยงหันมามองคนแกล้งเขาแรงๆ


   “เป็นอะไร ทำหน้าอย่างงั้น? กูไม่ได้จะฆ่ามึง กูแค่จะจีบมึง”


คำพูดตรงๆ ทำเอาคนฟังถึงกับตาเหลือกโตอีกหน เจียระไนถอนหายใจยาว


   “มึงช่วยทำตัวเป็นปกติได้มั้ย คือกูจะจีบมึงที่เป็นคน ไม่ได้จะจีบมึงที่เป็นหุ่นยนต์ นั่งตัวแข็ง เดินตัวแข็ง กูหลอน!”


   “ก...ก็...ก็อยู่ดีๆมึงจะจีบกูทำไมล่ะ...”


   “ไม่ได้อยู่ดีๆก็จีบ โซ่ กูจีบมึงมาพักนึงแล้ว แต่มึงไม่รู้”


   “ไม่จริง” คนถูกจีบแต่ไม่รู้ตัวรีบปฏิเสธ เล่นเอาคนตามจีบแบบอีกฝ่ายไม่รู้ถึงกับกรอกตา


   ...เอ้า! ไอ้หอก!! กูเป็นคนจีบก็สารภาพแล้วว่าจีบ เสือกมาตราหน้าว่ากูไม่ได้จีบจริงอีก!!...


   “ดูปากกูนะ กูจีบมึงมาพักนึงแล้ว”


   “กูไม่เห็นรู้”


   “ก็ใช่ไง เพราะมึงไม่รู้สักทีกูเลยต้องพูดตรงๆ แต่ถ้าการที่กูพูดตรงๆแล้วทำให้มึงเป็นแบบนี้ มึงก็คิดซะว่าไม่รู้ก็แล้วกัน”


   “อ้าว…” สิตางศุ์ถึงกับร้องด้วยความงุนงง เพราะอยู่ดีๆเจียระไนก็มาบอกเขาให้รู้ แล้วต่อมาก็บอกให้เขาคิดซะว่าไม่รู้


   “อ้าวอะไรของมึง กูให้มึงเลือกไง มึงจะรู้หรือจะทำเป็นไม่รู้ก็ได้ ตามใจมึงเลย แต่กูจะจีบมึงเนี่ยแหละ” เจียระไนคนเอาแต่ใจ เรื่องทำอะไรตามใจตัวเองเป็นเรื่องถนัดที่สุดอยู่แล้ว


   ร่างโปร่งได้แต่เม้มปากแน่น รู้สึกเหมือนความร้อนผ่าววิ่งพล่านไปทั้งตัว ความรู้สึกในใจตอนนี้ตีกันยุ่งเหยิงไปหมด และที่ยุ่งที่สุดคือไม่รู้ว่าความรู้สึกที่กำลังตีกันนั้นคืออะไร


   “ท...ทำไมถึงจะ...จะจีบกูล่ะ...” คำถามเบาหวิวของคนไม่สันทัดเรื่องรักๆใคร่ๆดังขึ้น เจียระไนแทบจะกรอกตามองแปดทิศ เพราะคนที่ขึ้นชื่อว่าเรียนเก่งระดับหัวแถวคณะ ดันถามคำถามไม่ประสีประสาชนิดที่น่าเขกหัวมันสักร้อยที


   ...ไอ้ฉิบหาย! กูจีบมึงเพราะเกลียดมั้ง?!!...


   “ไปตักอาหารได้ล่ะ” อาติยะและทัศน์เดินกลับมาที่โต๊ะก่อนที่คำถามของสิตางศุ์จะถูกตอบ ร่างสูงใหญ่ของเจียระไนลุกขึ้น แต่ร่างโปร่งบางที่ยังหน้าหูแดงกลับนั่งนิ่งไปขยับ


   “โซ่ ไปตักข้าว” เจียระไนย้ำ ทำเอาดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองเหมือนจะไม่ยอมลุก ร่างสูงเลยต้องย้ำอีกครั้ง


   “ไป-ตัก-ข้าว” เสียงทุ้มเข้ม ตามด้วยมือใหญ่ที่ดึงแขนขาวเบาๆ สุดท้ายคนที่ยังเขินจนไม่อยากจะลุกไปด้วยกันก็จำต้องลุกตามไป


   อาติยะเหลือบตาขึ้นจากชามข้าวต้ม แล้วมองตามแผ่นหลังของญาติผู้น้องและเพื่อน


   “กูว่าไอ้โซ่มันแปลกๆนะ” เขาเปรยกับทัศน์ แต่รายนั้นไม่แม้แต่จะเงยหน้าจากไข่กระทะของตนเองจนคนพูดต้องหันมามอง


   “ไอ้ทัศน์ มึงอย่าเพิ่งห่วงเรื่องแดกได้มั้ย” คราวนี้ทัศน์ยอมเงยหน้าขึ้นมอง แล้วเหลือบตามองไปที่ไลน์อาหาร สิตางศุ์และเจียระไนตัวติดกันเช่นเคย


   ...ไม่สิ...ที่ติดน่ะ ‘พี่โจ๊ก’ ต่างหาก...


   “ไม่ต้องห่วงสองคนนั้นหรอกหน่า”


   “ไม่ห่วงได้ไง กูว่าไอ้โจ๊กมันแปลกๆตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” 


ไม่ใช่อาติยะไม่รู้สึก เขาจับพิรุธของเพื่อนน้องชายรายนี้ได้ตั้งแต่ตอนที่สิตางศุ์หายไปจากกลุ่ม แล้วมันตาลีตาเหลือกตามหาแทบพลิกแผ่นดินเชียงคาน ยิ่งพอมันพาสิตางศุ์กลับมาได้แล้วไม่ยอมปล่อยมืออีกเลย นั่นก็ยิ่งทำให้เขาฉุกใจ


   ...แต่...ก็ต้องทำเป็นไม่ฉุกใจไปก่อน เพราะกลัวว่าไก่จะตื่นซะหมด...


   “โธ่ พี่อาร์ต ถ้าจะว่าแปลกก็แปลกตั้งแต่ญาติเรานี่ล่ะ ผมถามมาแล้ว พี่โจ๊กไม่ได้อยู่ภาคฯเดียวกับพี่โซ่ แล้วก็เพิ่งมาสนิทกัน คิดดูสิ พี่โซ่เคยพาคนที่เพิ่งสนิทมาเที่ยวกับพวกเราเหรอ ขนาดพี่แพทกับพี่กต ยังตั้งสามปีเลย กว่าเราจะได้รู้จักสองคนนั่น”


   “นี่มึงหมายความว่า...” อาติยะพึมพำเสียงเบาแบบไม่จบประโยคด้วยซ้ำเพราะรู้สึกใจหายโหวงเหวงไปหมด แต่ทัศน์ไม่ได้สนใจความใจหายของญาติที่เกี่ยวดองกันห่างๆแต่อย่างใด เพราะยังพูดเสียงเรียบเรื่อยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตนัก


   “ยิ่งถ้าพี่เห็นตอนสองคนนั่นนั่งด้วยกันที่ดอนเมือง พี่จะพูดได้คำเดียวเหมือนผม”


   “พูดไรวะ” คนพี่ถาม ทัศน์หันมามองด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะเหลือบตากลับไปมองชายหนุ่มสองคนที่ยังยืนตักอาหารอยู่ด้วยกัน 


อาหารมีไม่กี่อย่าง แต่ไอ้คนตัวใหญ่นั่นน่ะ เดี๋ยวชี้ให้ดูอันนั้น ดูอันนี้ สิตางศุ์ก็พาซื่อสนใจตามที่อีกฝ่ายชี้ไปซะหมด แล้วแบบนี้จะไม่ให้คิดได้ยังไงกัน


   “สองคนนั้นน่ะ...ผัวเมียกันแน่นอน” 


สิ้นเสียงของทัศน์ สติของอาติยะก็หลุดลอย

......................

    หลังอาหารเช้าอย่างง่ายๆ ทัศน์ก็ต้องรับหน้าที่ขับรถจากเชียงคานมาที่สนามบินเพราะพี่ชายเจ้าถิ่นอย่างอาติยะสติสตังไม่อยู่กับตัว ยิ่งตอนพวกเขาสามคนจะเข้าไปด้านในสนามบิน รายนั้นก็หันไปกอดสิตางศุ์แถมย้ำแล้วย้ำอีก


‘รักษาตัวนะ ดูแลตัวเองดีๆนะ’


ยิ่งกว่าส่งทหารไปรบในสงคราม ก็อาติยะส่งสิตางศุ์กลับกรุงเทพฯพร้อมเจียระไนนี่แหละ!


เครื่องบินลำเล็กพาทั้งสามมาถึงดอนเมืองอย่างปลอดภัย ทัศน์ก็ไปเช็คอินต่อเครื่องกลับต่างจังหวัด คราวนี้เลยถึงเวลาที่เจียระไนและสิตางศุ์ได้อยู่เพียงสองคนโดยแท้จริง


ร่างสูงพาคนข้างกายขึ้นรถที่จอดทิ้งเอาไว้ที่สนามบิน กลับมาส่งที่คอนโด สิตางศุ์นั่งเงียบมาตั้งแต่ออกจากเชียงคานแล้ว อันที่จริงมันก็เงียบไปตั้งแต่ที่เขาบอกมันตรงๆว่าจะจีบมันนั่นแหละ แต่…ก็ไม่น่าใจหายเท่าไร เพราะมันเงียบไปอย่างเดียว ไม่มีทีท่าจะตีตัวออกห่างแต่อย่างใด


“ขอบใจนะ” พอรถจอดที่หน้าตึกสูงสิบชั้น คนผิวขาวจัดก็ได้แต่พูดเบาๆขณะที่มือปลดเข็มขัดนิรภัย


“ขอบใจกูเรื่องอะไร เรื่องที่กูไปกับมึง หรือขับรถมาส่งมึง หรือเรื่องที่กูจีบมึง”


ย้ำเข้าไป ย้ำเข้าไปอีก ย้ำให้มันรู้ว่าวินาทีนี้ เขาคิดจะทำอะไร


ร่างโปร่งนิ่งชะงัก เอาแต่ก้มหน้างุดจนคางแทบชิดอก เมื่อไม่มีคำตอบ เจียระไนก็เลยเปลี่ยนเรื่องพูด


“แล้วพรุ่งนี้เข้าคณะมั้ย”


เงียบ แต่ส่ายหน้าจนผมกระจาย


“แล้วจะไปไหน” แน่นอน สารถีคนเดียวคนเดิมที่ชื่อเจียระไน ผูกขาดการรับส่งทั่วจักรวาล ต่อให้จะไปดาวอังคาร เขาก็ต้องเป็นคนพาไป!


“ไม่ไป จะทำเปเปอร์”


“เปเปอร์วิชาไหนของมึง ส่งเมื่อไร”


“ส่งไฟนอลของอ.พุธ”


...อ้อ ‘อ.พุธ’ รายนี้ขึ้นชื่อว่าโหดหินที่สุดของอาจารย์ในภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แถมเป็นมือโปรด้านการไซโคนิสิต ถ้าจิตไม่แข็งจริง ไม่เก่งจริง ไม่ควรแหยมไปลงวิชาของอาจารย์คนนี้เป็นอันขาด...


แต่...ขึ้นชื่อเรื่องความเก่งแล้ว สิตางศุ์ก็นับว่าเป็นมืออันดับต้นๆของรุ่น แถมยังขยันอีกต่างหาก พ้นมิดเทอมมายังไม่ทันไร มันทำเปเปอร์สำหรับส่งไฟนอลแล้ว


“งั้นมึงขึ้นไปพักได้แล้ว เข้าห้องปิดประตูแล้วโทร.บอกกูด้วย” คนถูกสั่งพยักหน้ารับสั้นๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเปิดประตูลงจากรถพร้อมกับกระเป๋าเป้และถุงของฝาก ทว่าก่อนที่จะปิดประตู มือขาวกลับวางถุงพลาสติกลงบนเบาะของตัวเอง


“ก...กูเห็นมันน่ารักดี ก็เลย...ซื้อมาเผื่อ” แล้วก็หมุนตัวเดินเข้าตึกไปทันที


เจียระไนหยิบถุงมาเปิดดู ถึงได้รู้ว่าของที่ว่าซื้อมาเผื่อคือเสื้อยืดเพ้นท์คำว่าเชียงคานพร้อมกับตัวการ์ตูนหัวโตๆ ตาเฉียงๆ เห็นได้ดาษดื่นที่ถนนคนเดิน แต่...มันก็ยังอุตส่าห์เลือกตัวที่หน้าตาเหมือนเขามาให้ ชายหนุ่มยิ้มออกมาอย่างอดไม่อยู่ เหลือบตามองเข้าไปในตึกแต่ไม่เห็นแผ่นหลังบางของสิตางศุ์แล้ว


...เชี่ย...น่ารักกว่าการ์ตูนบนเสื้อก็คนให้นี่แหละวะ ไอ้ฉิบหาย!…

.............................

หลังกลับจากเชียงคาน พวกเขาก็ไม่ได้พบหน้ากันอีก แลดูเหมือนจะถูกหลบหน้า แต่ในความจริงคือเจียระไนแชทไปหาแทบทุกวันเพื่อถามว่าจะมาเรียนไหม แต่คำตอบคือ


‘ไม่อ่ะ จะทำเปเปอร์’


สามวันเข้าไปแล้วที่มันไม่มาคณะเพราะจะทำรายงานอยู่ที่ห้อง


ชายหนุ่มเคาะนิ้วลงกับโต๊ะอย่างนึกหงุดหงิด ตามองโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่วางอยู่ข้างๆ แต่ไม่มีการติดต่อใดๆจากสิตางศุ์ จะให้เขาเป็นฝ่ายติดต่อไปก่อนก็ไม่กล้า เป็นที่รู้กันดีว่าถ้านิสิตคณะนี้กำลังทำเปเปอร์ สิ่งที่ไม่ควรทำที่สุดคือเข้าไปแหยม ไม่อย่างนั้นโดนเชือดแน่นอน


...ไม่อยากถูกมันโกรธก็จริง แต่จะปล่อยให้มันเงียบเหมือนตายไปอย่างงี้ ก็ยิ่งเป็นห่วง...


“เป็นอะไรน่ะ โจ๊ก เคาะโต๊ะอยู่ได้ หม่าม้าปวดหัว” มารดาที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ใกล้ๆหันมาถาม ชายหนุ่มผู้เป็นลูกหยุดปลายนิ้วของตัวเองทันที


วันนี้เขากลับมากินข้าวที่บ้านใหญ่ ซึ่งไม่ควรเรียกว่าบ้าน เพราะเป็นตึกสูงไม่ต่างจากคอนโดย่อมๆ แต่ทั้งตึกมีแต่ตระกูลของเขาเท่านั้น สองชั้นล่างเป็นโรงจอดรถ ชั้นที่ถัดขึ้นมาเป็นส่วนกลาง ส่วนชั้นบนๆเป็นที่พักอาศัยของอาม่าและครอบครัวลูกๆของอาม่า ครอบครัวของเจียระไนก็เป็นหนึ่งในครอบครัวเหล่านั้น และอาศัยอยู่ที่ชั้น 8 เดิมทีเขาก็อยู่ที่นี่ แต่เมื่อเริ่มโต ก็ถูกส่งไปอยู่ข้างนอกเหมือนหลานคนอื่นๆในตระกูล จะกลับมาที่นี่ก็สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง


“ผมไม่รู้จะทำไงดี” เจียระไนตอบแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่


“งั้นต้องท้องอิ่มก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง โจ๊กอยากกินอะไร หม่าม้าจะไปทำให้กิน” สายใจผู้เป็นสะใภ้คนที่ 5 ของอาม่าเจ้าของตึกและเป็นหม่าม้าของเจียระไนเสนอตัวอย่างที่ทำเอาลูกชายร่างสูงใหญ่เหมือนจะนึกอะไรออก


...ใช่!! กองทัพต้องเดินด้วยท้อง!!...


“ม้า เก็กฮวยที่ม้าต้มยังเหลือมั้ย” คนเป็นแม่มองลูกชายคนกลางที่ร้อยวันพันปีไม่เคยชอบน้ำเก็กฮวย แต่ก่อนหน้านี้ก็บอกให้หล่อนต้มหม้อใหญ่ แถมแบ่งใส่กระติกไปตั้งหลายขวด แล้วมาวันนี้ก็ถามถึงอีกอย่างนั้นหรือ?


“ผมอยากเอาไปให้เพื่อน”

“เพื่อนคนไหน”

“คนไหนก็คนนั้นแหละม้า อยากได้ข้าวกล่องด้วย” ได้คืบก็จะเอาศอก สายใจหันมองลูกชายคนกลางอย่างพินิจพิเคราะห์

“ข้าวกล่องก็จะเอาให้เพื่อนคนไหนก็คนนั้นอีกรึเปล่า” ลูกชายตัวสูงใหญ่ยิ้มเผล่แทนคำตอบ คนเป็นแม่เลยชี้หน้าทำท่าจริงจัง

“บอกหม่าม้าเดี๋ยวนี้ เพื่อนที่ว่านี่เป็นใคร”

“บอกไม่ได้ ยังจีบไม่เสร็จ”

“ไม่เสร็จหรือไม่สำเร็จ?”

“ลูกชายม้ามีคำว่าไม่สำเร็จด้วยเหรอ” หญิงร่างอวบผิวขาวเหลืองผู้มีดวงตาเรียวไม่ต่างจากบุตรชายหัวเราะหึ

“ก็ไม่แน่หรอก ถ้าหม่าม้าไม่ช่วย โจ๊กต้องดูพี่จ่างกับก๋วยจั๊บเป็นตัวอย่าง สองคนนั้นมีแฟนทุกวันนี้ก็เพราะหม่าม้าช่วยทั้งนั้น”


‘บะจ่าง’ กับ ‘ก๋วยจั๊บ’ พี่ชายและน้องชายของเจียระไน สถานะไม่โสดมาจนทุกวันนี้ เพราะสปอนเซอร์อย่างเป็นทางการนามว่าคุณสายใจ รายนี้ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ จะเหลือก็แต่...ลูกชายคนกลางที่ชื่อ ‘โจ๊ก’ นี่แหละ ที่คุณสายใจยังไม่มีโอกาสได้หนุนหลังสักที!


“นี่ไง ก็เลยให้ม้าใช้เสน่ห์ปลายจวักช่วยหน่อย”


“แต่พี่จ่างกับก๋วยจั๊บเอารูปมาให้หม่าม้าดูก่อน แล้วโจ๊กล่ะ” ตะล่อมขอดูคนในใจของลูกชายอย่างตรงไปตรงมา เจียระไนหัวเราะเบาๆแล้วส่ายหน้า

“งั้นไม่ให้ม้าช่วย ให้ซีอึ้มช่วยก็ได้”


ร่างสูงผู้มีญาติมากมายไม่แพ้สิตางศุ์พูดถึงป้าสะใภ้คนที่สี่ รายนี้แต่งงานเข้าตระกูลของเขาไม่นาน สามีก็ตาย ลูกก็ไม่มี เลยเอ็นดูหลานทุกคน แล้วไม่รู้จะด้วยบุญกรรมอะไร ป้าสะใภ้คนนี้รักเจียระไนมากกว่าหลานคนไหนๆ


“เดี๋ยวก่อนๆ” สายใจรีบดึงแขนลูกชายคนกลางเอาไว้ “ก็ได้ๆ...หม่าม้าช่วยก่อนเห็นหน้าก็ได้ นี่หม่าม้าเชื่อใจโจ๊กนะ ว่าสะใภ้คนนี้ต้องถูกใจหม่าม้าแน่นอน”


เจียระไนยิ้มกว้าง โอบเอวมารดาพาไปห้องครัว แล้วย้ำให้มั่นใจ

“ถูกใจผม จะไม่ถูกใจม้าได้ยังไง ม้าก็รู้ ผมตาถึงขนาดไหน”

..................................

บัตรผ่านประตูไปยังโถงลิฟต์ของอาคารสูงสิบชั้นอันเป็นที่พักที่อีกฝ่ายเคยให้ไว้ยังอยู่กับเขา เจียระไนอาศัยมันจนมาถึงหน้าห้องหมายเลข 504 ได้ เขาเคาะประตูอยู่อึดใจหนึ่ง บานประตูถึงได้เปิดออก


“อ้าว โจ๊ก” คนเปิดประตูคือหน้าขาวๆ หัวฟูๆ สวมแว่นสายตากรอบใส หน้าตาดูอ่อนล้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังน่ารักอยู่ดีในสายตาคนมอง


“กูแวะมาหา เอาของกินมาให้ด้วย” เจียระไนชูถุงในมือให้ดู อาศัยตอนที่สิตางศุ์ไม่ทันคิดอะไร เขาก็พาร่างสูงใหญ่ของตัวเองเข้ามายืนในห้องได้สำเร็จ


คอนโดขนาดเล็กที่สะอาดและเป็นระเบียบ มีส่วนที่ยุ่งเหยิงที่สุดคือโต๊ะคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหนังสือหลายเล่มเปิดคาเอาไว้ ชายหนุ่มกวาดตามองมาที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟา ก่อนจะหยิบถุงพลาสติกที่มีโลโก้ร้านสะดวกซื้อชื่อดังขึ้นมาเปิดดู ในนั้นมีอาหารแช่แข็งที่ถูกอุ่นแล้วเพราะพลาสติกที่เคลือบอยู่หน้ากล่องถูกเจาะ แต่เพราะคนซื้อมาไม่ยอมกินเสียที มันก็เลยกลับมาเย็นชืดอีก


“มึงยังไม่กินข้าวเหรอ” เขาถามคนที่เดินกลับไปที่โต๊ะคอมอีกครั้ง


“อืม” คนตอบไม่หันมามอง เพราะเริ่มเพ่งมองจอคอมอีกครั้ง สลับกับหันมองหนังสือที่เปิดอ้าอยู่


“กินครั้งล่าสุดเมื่อไร” ไม่มีคำตอบมาอีก เพราะร่างโปร่งใส่สติทั้งหมดลงกับรายงานที่กำลังพิมพ์ เจียระไนรู้สึกเหมือนตัวเองมีลูกเล็กที่กำลังจดจ่อกับของเล่นจนไม่สนใจอย่างอื่น


“ไอ้โซ่!” เขาขึ้นเสียง ต่อให้สติสมาธิจะดีแค่ไหน แต่ถ้ามีเสียงดุๆดังลั่นห้องแบบนี้ เจ้าของชื่อเป็นต้องหันมามองกันบ้าง

“กูถามว่ากินข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อไร?!”

“อืมมมม…จำไม่ได้...” สีหน้าใสซื่อเหมือนจำไม่ได้จริง แถมยังดูเบลอและตาลอยอีกต่างหาก

“นี่มึงได้นอนบ้างรึยัง”

“อ่า...” ร่างโปร่งนิ่งคิด แต่ไม่ทันจะได้ตอบ เจียระไนก็หมดความอดทน เขาวางอาหารสำเร็จรูปที่อุ่นไมโครเวฟลงกับโต๊ะ แล้วสั่ง

“มึงมากินข้าวเดี๋ยวนี้!”

“แต่ว่า…”

“กูสั่งให้มากินข้าว! จะให้กูเดินไปชักปลั๊กคอมออกมั้ย?!”


ใบหน้าขาวมีแววบูดบึ้งเมื่อถูกบังคับ แต่หน้าตาและท่าทางของร่างสูงก็บอกให้รู้ว่าเอาจริงแน่ ถ้าเขายังไม่ลุกไปจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ ร่างโปร่งในชุดเสื้อยืดตัวบางและกางเกงขาสั้นยอมลุกมาที่โซฟา มองถุงพลาสติกที่มีอาหารสำเร็จรูป แล้วก็ได้แต่หงุดหงิด


“ข้าวอุ่นเวฟมันไม่อร่อยนี่นา...”


ประเด็นแรกคือรายงานยังไม่เสร็จ ย่อมไม่อยากกินอะไร ประเด็นที่สองคืออาหารแช่แข็งมันไม่ค่อยถูกปาก เลยพาลเป็นไม่อยากกิน แต่ตอนที่ซื้อก็คิดแค่ว่าซื้อมาไว้ก่อน ถ้าหิวแล้วค่อยกิน แต่ก็อย่างที่บอก เพราะงานไม่เสร็จและพอปรายตามาเห็นเป็นอาหารแช่แข็ง ก็เลยไม่หิวขึ้นมาดื้อๆ


“ดูก่อนมั้ยแล้วค่อยบ่น กูไม่ได้จะให้มึงกินไอ้นี่ เอ้า!” แล้วเจียระไนก็เปิดถุงพลาสติกที่ตัวเองถือมาออก ในนั้นมีกล่องทัปเปอร์แวร์หลายกล่อง ซึ่งล้วนเป็นอาหารฝีมือมารดาของเขา


“มึงกินเป็นมั้ย โกยซีหมี่”


“หึ” ส่งเสียงแล้วส่ายหน้าเป็นสัญญานบอกว่าอาหารชื่อจีนๆแบบนี้ ไม่ใช่ของคุ้นเคย


“งั้นมาลอง มันก็เหมือนราดหน้านั่นแหละ” สิตางศุ์ยอมลุกมาส่อง ‘โกยซีหมี่’ แล้วก็พบว่ามันหน้าตาคล้ายราดหน้าจริงอย่างที่ว่า ทว่าไม่ทันได้พูดอะไร ไหล่ก็ถูกกดให้ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาแล้ว


“แดกซะ มีขนมกับผลไม้ด้วย เดี๋ยวกูเอาไปแช่ตู้เย็นไว้ก่อน ไว้มึงจะกินค่อยไปหยิบออกมา นี่น้ำเก็กฮวย เดี๋ยวกูเทใส่แก้วให้” เจียระไนเดินเข้าไปในครัวเพื่อเก็บผลไม้และขนมที่เขานำมาจากที่บ้าน แล้วจัดแจงเทน้ำเก็กฮวยใส่แก้ว พอเดินออกมาอีกทีก็พบว่าคนที่โดนบังคับให้กินข้าวที่เขาหิ้วมานั้น กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารฝีมือมารดาของเขา


“อร่อยรึเปล่า” ถามไปอย่างนั้นเอง เพราะภาพที่เห็นคือสิตางศุ์กำลังตักโกยซีหมี่เข้าปากไม่หยุด ดวงตาคู่สวยใต้แว่นสายตาเหลือบขึ้นมอง แต่เพราะอาหารยังเต็มปากเลยทำได้เพียงพยักหน้าแทนคำตอบ ร่างสูงอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะถือวิสาสะเอื้อมมือไปถอดแว่นออกจากดวงหน้าขาวให้


การกระทำที่แสนอ่อนโยนและสายตาจากดวงตาเรียวคมนั้น ทำเอาสิตางศุ์รู้สึกแปลกๆจนต้องก้มหน้าลงมองอาหารในทัปเปอร์แวร์ตามเดิม ระหว่างนั้นไม่มีเสียงคุยอะไรอีก เจียระไนเอาแต่นั่งที่โซฟาเฉยๆ ไม่ชวนคุยหรือหาเรื่องแกล้ง ปล่อยให้ร่างโปร่งนั่งทานโกยซีหมี่จนหมดกล่อง แล้วตามด้วยน้ำเก็กฮวยอีกหนึ่งแก้ว


“เดี๋ยวกูเอาไปล้างให้” พอเห็นว่าอาหารฝีมือมารดาของตนเองหมดเกลี้ยง เจียระไนก็รวบรวมเตรียมไปล้าง ซึ่งแน่นอนว่าสิตางศุ์รีบยื้อเอาไว้


“เฮ้ย ไม่เป็นไร กูล้างเอง” ดวงตาคมตวัดมามองคนพูด ทำเอาร่างโปร่งพูดไม่ออกอีก


“มึงนั่งเฉยๆ แล้วไม่ต้องลุกไปใกล้คอมพ์เลยนะ ตาโรยขนาดนี้ ถ้าไม่ไปอาบน้ำ ก็ไปนอนซะ”


“นอนได้ไง กินมาอิ่มๆเดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อน”


“งั้นมึงก็นั่งหลับสิ!” เจียระไนสั่งเสร็จก็ยกกล่องอาหารเข้าไปในครัว สิตางศุ์มองตามหลังร่างสูงแล้วพอเหลือบไปเห็นหมอนอิงที่วางอยู่ก็รู้สึกเหมือนถูกกวักมือเรียกขึ้นไปนอนยังไงอย่างงั้น


ร่างโปร่งขยับไปนั่งใกล้หมอนอิง เอนหลังพิงพนักแล้วเอาหมอนอิงมารองคอ หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนขึ้นมาง่ายๆ ถ้าพักสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพราะรายงานก็คืบหน้าไปมากแล้ว ใช่...แค่พักสักหน่อย หลับตาลงสักสิบนาทีก็...น่าจะพอ...

...........................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 04-05-2017 19:53:54


ไอเย็นชื้นแนบไปตามผิวปลุกสติคนที่นั่งหลับอยู่บนโซฟาตัวยาวให้ค่อยๆปรือตาขึ้นมอง สิตางศุ์ชะงักไปเล็กน้อยที่ภาพพร่าเลือนยามตื่นคือใครบางคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆกำลังลูบผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดไปตามแขนของเขา ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะรู้แล้วว่าเขารู้ตัว เสียงทุ้มจึงดังขึ้น


“จะได้สบายตัว” เสียงแบบนี้ โครงหน้าแบบนี้ สิตางศุ์รู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร


“โจ๊ก...” ริมฝีปากสีจัดบนใบหน้าขาวดังแผ่ว เปลือกตาบางปิดลงอีกครั้งแต่ไม่ขยับไปไหน ยอมนั่งเอนนิ่งๆให้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดไล้ไปตามท่อนแขน

“อะไร”

“มึงใจดีจัง...” สติสัมปชัญญะยามเพิ่งตื่นนั้น ไม่ว่าจะรู้สึกนึกคิดอะไรก็พูดออกมาได้หมด

ดูเหมือนผ้าเช็ดตัวจะหยุดอยู่กับที่ชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนที่ร่างสูงจะตอบกลับมา

“กูจีบมึงอยู่ กูก็ต้องใจดีสิ”


เป็นฝ่ายสิตางศุ์ที่ชะงักไป เปลือกตาบางเปิดขึ้นให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวย ภาพตรงหน้าไม่พร่าเลือนเหมือนเมื่อตอนเพิ่งตื่นอีกแล้ว มันมองเห็นใบหน้าหล่อเหลาแบบลูกหลานคนจีนของเจียระไนอย่างชัดเจน


“ช่วงโปรโมชั่นอย่างงี้เหรอ” ร่างสูงยกยิ้มที่มุมปากแล้วเหลือบตาสบกับคนถาม

“รู้จักด้วยเหรอ มึงน่ะ”

“รู้จักสิ ไอ้แพทชอบพูดบ่อยๆ”


เจียระไนไม่พูดอะไร เขาตั้งหน้าตั้งตาเช็ดแขนเช็ดหน้าเช็ดคอให้เจ้าของห้องเรียบร้อยก็เตรียมจะเอาผ้าไปซักตาก แต่เสียงของสิตางศุ์ดังขึ้นเสียก่อน


“โจ๊ก...” เจ้าของชื่อหันกลับมามอง

“...ถ้ามึงจีบติด มึงจะใจดีแบบนี้อีกมั้ย”


“กูจะใจร้ายจนกว่ามึงจะร้องไห้เลย”


คำตอบนั้นสมเป็นเจียระไนคนปากร้าย ร่างสูงเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ออกมาอีกทีก็พบว่าเจ้าของห้องหลับไปอีกหนแล้ว ในสภาพที่ยังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่โซฟาตัวเดิม


ชายหนุ่มสั่นศีรษะน้อยๆก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ห้องที่เขาเคยอยากเข้ามาดูมากที่สุด แต่เพราะสภาพอิดโรยของสิตางศุ์ที่หลับคอพับคออ่อน กลับทำให้เขาลืมความตื่นเต้นที่ได้เข้าห้องนอนของมันไปเลย เจียระไนหอบเอาผ้านวมจากบนเตียงเดินออกมาคลุมร่างคนหลับ ที่พอได้ผ้าห่ม มันก็ปรือตาขึ้นมาอีกที


“มึงนอนซะ เดี๋ยวกูจะแวะมาหาตอนเย็นๆอีกรอบ”


อย่างน้อยๆ ปล่อยให้มันได้นอนเงียบๆ ส่วนเขากลับไปหาซื้อข้าวของมาทำข้าวเย็นให้ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในยามนี้ เพราะขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้ ก่อนที่สิตางศุ์จะทำรายงานเสร็จ อาจได้จบชีวิตตัวเองเสียก่อน


ร่างสูงกำลังจะเดินไปที่ประตู แต่เสียงงัวเงียของคนที่นั่งเอนอยู่ที่โซฟาดังเรียกเอาไว้


“โจ๊ก...”


“กุญแจห้องอยู่ตรงนั้น มึงเอาไปด้วยสิ...” เจียระไนชะงักหันกลับมามองคนพูด


“...ฝากล็อกห้องด้วยนะ”


สั่งเสียงงัวเงียแล้วมันก็หลับต่ออย่างง่ายดาย ทิ้งเอาไว้เพียงความอึ้งของร่างสูง เจียระไนค่อยๆหันไปมองที่ตะขอแขวนกุญแจข้างประตู พวงกุญแจที่ห้อยอยู่นั้นทำเอาหัวใจเต้นตึกตักจนหนวกหู เขาค่อยๆเอื้อมไปหยิบมันมา ความเย็นชืดของโลหะที่อยู่ในมือทำเอากลืนน้ำลายเอื้อก


...กุญแจห้อง...กุญแจห้องของไอ้โซ่...


เขาสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยไม่คิดว่าของแบบนี้จะได้มาอยู่ในมือ แล้วทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้นมาในหัว


...ปั๊มเก็บไว้สิไอ้หอก!! รอเชี่ยอะไร!!!!...

....................................


เจียระไนกลายเป็นแขกประจำของคอนโดหมายเลข 504 ไปแล้วเรียบร้อย เขาแวะเวียนมาทุกวันในช่วงที่สิตางศุ์โดดเรียนเพื่อทำรายงาน บางวันก็เอาอาหารมาให้ บางวันก็ซื้อของสดมาทำให้ทานที่ห้อง ไม่มีวันไหนเลยที่เจ้าของห้องจะได้ทานอาหารเย็นชืดแช่แข็งที่เอามาอุ่นไมโครเวฟเหมือนแต่ก่อน


แต่...ยกเว้นวันนี้


“กูโทร.หา ทำไมไม่รับ?!!” 


ประตูห้องหมายเลข 504 ถูกเปิดออกโดยเจ้าของห้องปุ๊บ แขกผู้มาเยือนก็ตั้งคำถามเสียงแข็ง เกือบจะทำหน้าเครียดด้วยแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าสังเกตเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของคนที่เปิดประตูให้


เจียระไนดันประตูให้เปิดออกกว้างกว่าเดิมแล้วพาตัวเองเข้ามายืนในห้อง ในขณะที่เจ้าของห้องเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะคอมพิวเตอร์เงียบๆโดยไม่มีคำตอบให้ มือขาววางพาดอยู่บนคีย์บอร์ด แต่เจ้าตัวไม่พิมพ์อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว อึดใจต่อมา สิตางศุ์ก็ถอนหายใจแล้วเอนหลังพิงพนักแรงๆ


“กูเขียนต่อไม่ออก...” ประโยคนั้นพึมพำเสียงเบา ฟังดูน่าสงสารจนคนที่หงุดหงิดเพราะโทร.หาแล้วมันไม่ยอมรับสายถึงกับทิ้งความหงุดหงิดทั้งหมดไว้กับพื้น ก่อนจะเดินเข้าไปหา


“แล้วมึงกินอะไรรึยัง”


เมื่อเช้าเขาไม่ได้แวะมาหา เพราะมีเรียน พอเลิกเรียนก็ตั้งใจจะโทร.ถามว่าอยากทานอะไร แต่อีกฝ่ายไม่รับ เป็นเหตุให้เจียระไนต้องรีบมาที่นี่เพราะกลัวใจคนเอาจริงเอาจังกับการเรียนจะโดนความเครียดเล่นงานซะก่อน แล้วก็จริงอย่างที่กลัว...สิตางศุ์ตอนนี้เครียดจนเขียนรายงานต่อไม่ได้แล้ว


“ยัง...”

“ลุกไปอาบน้ำไป เดี๋ยวกูพาไปกินข้าว” ดวงตาคู่สวยที่มีแต่แววกังวลเหลือบมามอง

“แต่เปเปอร์กู...” เจียระไนค้ำสองแขนลงกับพนักเก้าอี้และโต๊ะคอมพิวเตอร์ แล้วก้มหน้าลงหาคนที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับรายงาน

“ยิ่งมึงเครียด มึงยิ่งเขียนไม่ได้ เชื่อกู...ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูจะพาไปกินข้าวข้างนอก”

“แล้วถ้าไปกลับมาแล้ว แล้วยังเขียนไม่ได้ล่ะ” สิตางศุ์เป็นกังวล


รายงานวิชานี้ยากที่สุดเท่าที่เขาเคยเขียนมา ยิ่งยากก็ยิ่งใช้ข้อมูลอ้างอิงเยอะ ยิ่งใช้เยอะก็ยิ่งต้องอ่านหนังสือมาก ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งต้องใช้เวลามาก เขาไม่อยากเสียเวลาไปกับอย่างอื่นอีกแล้ว


“เดี๋ยวกูเขียนแทนเอง” คำตอบของเจียระไนฟังดูจริงจังทั้งๆที่เป็นไปไม่ได้ ทำเอาเจ้าของเปเปอร์ตัวจริงที่มีคนออกตัวจะเขียนแทนถึงกับส่ายหน้า


“มึงเรียนปกครอง จะเขียนแทนกูได้ยังไง”


“ก็ใส่ประเด็นระหว่างประเทศลงไปเยอะๆ แม่งก็ดูเป็นไออาร์เอง” สิตางศุ์หัวเราะเบาๆ ทั้งๆที่ในใจไม่ขำเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามทำให้เขาคลายกังวล แต่พอเหลือบตาไปมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ตำแหน่งเคอเซอร์ยังคงกะพริบอยู่ที่คำสุดท้ายของประโยคเช่นเดิม ความเครียดก็กลับมาอีก


“โซ่...” เสียงทุ้มเรียกเบาๆ ก่อนที่มือใหญ่จะจับปลายคางของคนที่หันไปมองจอคอมฯให้หันกลับมามองเขา ดวงตาคู่สวยละจากตำแหน่งของเคอเซอร์ที่กะพริบมาที่ดวงตาเรียวสีดำสนิทนั่นแล้ว


ราวกับความเครียดที่สุมอยู่ในสมองจะถูกเจือจางไปในขณะที่เขาดำดิ่งเข้าไปในดวงตาคู่นี้


“เชื่อใจกูมั้ย...” คำถามจากเจ้าของดวงตาที่ชวนให้ตกอยู่ในภวังค์นั้นดังขึ้นอีก


สิตางศุ์รู้สึกว่าแว่นสายตาที่ตัวเองสวมอยู่ถูกดึงออกไปช้าๆ มือใหญ่เกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าผากเขาเบาๆ ก่อนที่สัมผัสบางอย่างจะแตะลงมา เขานิ่งไปเล็กน้อย รับรู้ว่ากำลังถูกริมฝีปากอุ่นๆของอีกฝ่ายบดคลึงอยู่ที่หน้าผากอย่างเชื่องช้า หากเป็นเวลาที่มีสติครบถ้วน เขาคงผลักไสอีกฝ่ายออกห่าง แต่เวลานี้...เวลาที่ความอ่อนล้าจากการไม่ได้พักผ่อน ผสานไปกับความกังวล ทำให้เขาได้แต่อยู่เฉยๆ แล้วหลับตาลง


หลับตาลง...เพื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่จูบซับหน้าผากเขาเบาๆ หลับตาลง...เพื่อลืมเลือนความเครียดและความกังวลทั้งหมด คนตรงหน้านำพาเขาสู่ความอบอุ่น...อ่อนโยน...ราวกับปลอบประโลมจิตใจ


“ไปอาบน้ำนะ...”


ดวงตาคู่สวยลืมขึ้นช้าๆ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกดึงให้ลุกจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ ทิ้งความเครียดและความกังวลเอาไว้บนเก้าอี้ที่ว่างเปล่า

....................................

ดวงตาเรียวใต้แว่นกันแดดสีดำเหลือบมองคนข้างกายที่หลับไปแล้วหลังจากขึ้นรถมาได้แค่ 10 นาที เห็นสภาพเครียดจัดแบบนั้นเขาก็นึกเป็นห่วง ไม่รู้ว่าสิตางศุ์มีชีวิตอยู่มาจนถึงปีสี่ได้อย่างไร ทั้งๆที่เป็นคนเอาจริงเอาจังขนาดนี้


รถยนต์หรูจอดติดไฟแดง มีเวลามากพอให้เขาหันไปปรับเบาะเอนให้คนหลับได้นอนสบาย ชายหนุ่มกวาดตามองไปรอบรถของตัวเองที่ไม่มีอะไรเลย คิดในใจว่าอีกหน่อยคงต้องซื้อหมอน ซื้อผ้าห่มติดรถเอาไว้บ้างแล้ว   


ดวงตาที่ปิดสนิทเมื่อครู่ปรือขึ้นช้าๆ ทำเอาเจียระไนชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็ยังจัดเข็มขัดนิรภัยของคนที่เขาปรับเบาะให้ เพื่อไม่ให้มันบาดตามเนื้อตัว


“นอนไปก่อน ถึงแล้วจะปลุก” เขาพูดอย่างนั้น ก่อนจะหันกลับไปสนใจสัญญาณไฟจราจรที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว ดวงตาคู่สวยที่มีแววอ่อนล้าเพราะไม่ได้พักผ่อนหนำซ้ำยังเครียดจัดทอดมองคนที่กำลังขับรถ


“ไปไหนเหรอ”


“ถึงแล้วก็รู้เอง”


“บอกกูก่อนไม่ได้เหรอ” สิตางศุ์ถามไปอย่างนั้นเอง พอเครียดมากๆแล้วมีคนอยู่ข้างๆ ก็เลยอยากหาเรื่องชวนคุยเพื่อที่ตัวเองจะได้ลืมความเครียดบ้าง


“ถ้าบอกแล้วเดี๋ยวมึงไม่ไป”


“ขึ้นรถมาด้วยแล้วนะ จะไม่ไปได้ไง”


“เกิดมึงเปิดประตูกระโดดลงไปล่ะ” ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆไม่ตอบอะไร ช่วงที่เครียดมากๆ บางทีก็อยากหายไปจากโลก แต่จะทำอะไรก็กลัวเจ็บ กลัวคนรอบข้างเสียใจ สุดท้ายก็เลยได้แต่อยู่กับความเครียด หากว่าอีกฝ่ายไม่พาเขาออกมา สิตางศุ์ก็คิดว่าตัวเองก็คงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วเอาแต่จ้องเคอเซอร์ต่อไป


“ไม่ง่วงแล้วรึไง ชวนกูคุย” คนขับรถเหลือบตามามองเล็กน้อย สิตางศุ์ส่ายหน้าไปมาพลิกตัวตะแคงหันมองคนขับ


“ก็...อยากคุยกับมึง” หัวใจคนฟังพองฟูแทบล้นอก รอยยิ้มจางๆจุดที่มุมปากอย่างห้ามไม่อยู่ ตบไฟขวาขอเปลี่ยนเลนไปอยู่เลนขวาสุดเพื่อจะได้มีสมาธิอยู่กับการขับรถ จะได้ไม่ยิ้มง่ายๆอีก


“ก็คุยสิ”


“เปเปอร์ภาคฯมึงยากมั้ย”


“ไม่คุยเรื่องเปเปอร์” เจียระไนตัดบท ไม่ได้คิดจะแกล้ง แต่เรื่องอะไรที่เขาจะยอมให้เกิดบรรยากาศเครียดๆขึ้นมาอีก


“งั้น...วิชา...”


“ไม่คุยเรื่องเรียน”


“อ้าว” มือใหญ่ละจากพวงมาลัยมาตบเบาๆที่ศีรษะคนนอนอยู่ข้างๆ


“มึงน่ะเครียดจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว ยังจะมาชวนคุยเรื่องเครียดๆอีก”


“ก็...กูไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร...” สิตางศุ์พูดแล้วเหลือบตาขึ้นมองฝ่ามือใหญ่ที่ลูบศีรษะเขาเบาๆเหมือนจะปลอบ มือใหญ่ที่หยาบและร้อน ไม่น่าเชื่อว่าจะให้ความรู้สึกอ่อนโยนได้มากขนาดนี้เลย มือนั้นกลับไปจับที่พวงมาลัยตามเดิมแล้ว ดวงตาคู่สวยเลยทอดมองใบหน้าด้านข้างของเจ้าของมือแทน


มองจากมุมนี้ยังรู้สึกเลยว่าเจียระไนเป็นคนหน้าตาดี ไม่แปลกใจว่าทำไมตอนเข้าปีหนึ่ง ถึงถูกเสนอชื่อให้เป็นเดือนคณะ


“โจ๊ก...กูถามได้มั้ย ทำไมตอนปีหนึ่งมึงถึงไม่ประกวดเดือนคณะ”


“แล้วทำไมกูต้องประกวด”


“ก็มึงหล่อ...” เจียระไนแทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่อีกหน เมื่อกี้ที่เปลี่ยนเลนไปอยู่ขวาสุด ต้องเปลี่ยนเลนลงซ้ายอีกรอบเพื่อสร้างสมาธิดับรอยยิ้มของตัวเอง


...ไอ้ฉิบหาย!!!...อยู่ดีๆก็มาชมกูหล่อแบบไม่ให้เวลาตั้งตัวกูเลย!!...


“คนอื่นๆก็หล่อ แล้วไง สรุปตอนนั้นใครได้เป็นเดือนคณะ...” เจียระไนพยายามทำจิตใจให้เป็นปกติ


“กู” ดวงตาเรียวหันขวับมามองคนพูดแทบไม่ทัน เขาไม่รู้มาก่อนว่าวันนั้นที่เขาหนีเวทีประกวด ตำแหน่งเดือนคณะตกเป็นของสิตางศุ์


“มึงเป็นเดือนคณะเหรอ?!”


“อื้ม จริงๆตอนนั้นไออาร์ส่งคนอื่นขึ้นเวที แต่พอมึงไม่ขึ้น ก็เลยต้องหาคนขึ้นไปอีกคน”


“แล้วทำไมไม่เอาปกครอง?” เจียระไนถาม ในเมื่อเขาเป็นตัวแทนภาควิชาการปกครอง และเขาโดด ก็สมควรเอาคนภาคฯเดียวกับเขาขึ้นไปเป็นตัวแทน ไม่ใช่จับคนจากภาควิชาอื่นอย่างสิตางศุ์ไปเป็นตัวแทนเขา


“ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ” ก็เพราะไอ้นิสัยงงๆ ไม่ค่อยรู้อะไรเนี่ยสิท่า ไอ้พวกเวรปกครองเลยส่งมันขึ้น


“แล้ว...ต้องไปเป็นเดือนมหา’ลัยด้วยมั้ย”


“ไปแข่ง แต่ไม่ได้หรอก กูตื่นเวทีน่ะ”


“อ้อ...” เจียระไนเห็นภาพเป็นฉากๆ


เพราะเขาหนีเวทีประกวดเดือนคณะ ไอ้เวรตัวไหนสักตัวของภาควิชาการปกครองก็เลยมัดมือชกสิตางศุ์ให้ขึ้นประกวด แล้วก็ดันได้ตำแหน่งด้วย พอมีตำแหน่งเดือนคณะรั้งท้าย เลยได้ไปขึ้นเวทีประกวดเดือนมหาวิทยาลัยอีก คราวนี้ไอ้คนเงียบๆที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครเลยเป็นที่ต้องตาต้องใจของคนทุกชั้นปี ทุกคณะไปโดยปริยาย


...สรุปที่ไอ้โซ่ป๊อปปูลาร์ แถมกลายเป็นสเป็คสาธารณะมาจนทุกวันนี้ก็เพราะกูนี่เอง!!...


...กูผิดล้วนๆ! ไอ้สัด!!!...


“โจ๊ก จะไปทะเลเหรอ” คำถามดังมาจากคนที่นอนเอนแต่ตามองเห็นป้ายบอกทางสีเขียวๆที่รถขับผ่าน


“อือ”


“ไปทะเลเลยเหรอ” จากกรุงเทพฯก็ไม่ใช่ใกล้ๆซะหน่อย


“อือ” สิตางศุ์มองใบหน้าด้านข้างของคนที่กำลังใช้สมาธิในการขับรถ แม้อีกฝ่ายจะไม่พูดไม่บอก แต่เขาก็พอเข้าใจว่าทำไมถึงพาไปถึงทะเล


...คงอยากให้หายเครียด คงอยากให้หายกังวล...พาไปเปิดหูเปิดตา พาไปเที่ยว พาไปพักสมอง...


“มึงใจดีอีกแล้ว...”


“ก็กูจีบมึงอยู่” คำว่าจีบที่ตอนแรกหวั่นใจและตกใจ มาเวลานี้สิตางศุ์กลับรู้สึกดีจนใจสั่น ริมฝีปากสีสดคลี่ยิ้มจาง เป็นรอยยิ้มแห่งความสบายใจที่ไม่มีติดหน้าเลยตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา


...แต่เพราะโจ๊ก...


ความเครียดและความกังวลที่อัดแน่นอยู่ในสมองถึงได้ถูกเจือจาง


“ขอบใจนะ...” ร่างโปร่งเอ่ยเบาๆ


มือใหญ่ละมาขยี้ผมคนพูดเบาๆ สิตางศุ์หลับตาลง ปลดปล่อยความรู้สึกที่รุมเร้าทั้งหมดออกไป

..........................................

   ตอนที่พวกเขามาถึงบางแสนก็บ่ายแก่ๆเข้าไปแล้ว เจียระไนพาแวะทานข้าวที่ร้านอาหารทะเลขนาดใหญ่ ก่อนจะพามาเดินเล่นริมทะเล


ทะเลยามเย็นในวันธรรมดานั้นมีผู้คนค่อนข้างบางตา แต่ก็พอจะมีคนในพื้นที่ที่พาครอบครัวมาเล่นน้ำทะเลอยู่บ้าง กลิ่นเค็มและลมพัดโกรกช่วยให้สบายใจ ยิ่งพอทอดสายตามองไปรอบๆแล้วเห็นผู้คนกำลังสนุกกับการพักผ่อน ก็พลอยให้สบายใจไปด้วย


   ...มันดีกว่าการอุดอู้อยู่ในห้องเยอะเลย...


   “เล่นทะเลมั้ย” คนที่เดินอยู่ข้างกายตั้งคำถาม ทำเอาดวงตาคู่สวยต้องเหลือบมอง


   “ไม่ได้เอาชุดมา” จริงๆก็น่าเล่นอยู่หรอก ถึงแม้น้ำทะเลจะไม่ใสแจ๋ว แต่คลื่นที่ซัดซาดก็ชวนให้น่าลงเล่นไม่น้อย แต่...ถ้าเปียกแล้วจะกลับยังไงล่ะ


   เจียระไนไม่พูดอะไร แต่จับแขนขาวลากลงทะเลเดี๋ยวนั้น


   “โจ๊ก! เดี๋ยวเปียก!”


   “ก็เปียกไง” ไม่พูดเปล่า แต่ร่างสูงเหวี่ยงร่างโปร่งเข้าใส่คลื่นที่ซัดเข้าหาด


   ตู้ม


   เปียกทั้งตัว ร่างขาวลงไปนั่งอยู่กับพื้นทราย คลื่นลูกแล้วลูกเล่าซัดใส่หลังเขาไม่หยุด ดวงตาคู่สวยเหลือกโตมองคนเหวี่ยงเขาลงทะเลที่ยืนหัวเราะลั่นอย่างพูดไม่ออก


   “เย็นมั้ย” เจ้าของเสียงหัวเราะยังมีหน้ามาถาม สิตางศุ์ไม่พูดอะไรแต่ลุกขึ้นจะคว้าแขนร่างสูงให้ลงทะเลด้วยกัน แต่อีกฝ่ายไวกว่าเพราะวิ่งหนีส่งเสียงหัวเราะลั่น


ชายหนุ่มสองคนกลายร่างเป็นเด็กๆวิ่งไล่กันลงทะเล บางทีก็พากันลงไปลอยคอกันที่ลึกๆ มองจากฝั่งเห็นแค่หัวลิบๆ บางทีก็ว่ายกลับขึ้นมาที่หาด แล้วก็ลากกันลงไปเล่นทะเลใหม่


   ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำจนท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสี ทั้งสิตางศุ์และเจียระไนถึงได้กลับขึ้นมานั่งบนหาด เนื้อตัวเปียกมะลอกมะแลก


   “ทีนี้จะกลับยังไงล่ะเนี่ย” ร่างโปร่งหันมาถามเจ้าของรถ แต่อีกฝ่ายดูจะไม่ได้สนใจเพราะหงายหลังนอนราบบนพื้นทรายไปแล้ว


   “นั่นสิ เอาไงดี” ย้อนถามแล้วยิ้มเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว จนคนถามกำทรายมาปาใส่อก


   “ยังจะมาถามกูอีก มึงน่ะ อยู่ดีๆก็ผลักกูลงทะเลเฉยเลย”


   “ก็กูพามาทะเล เสือกไม่เล่นทะเลแล้วกูจะพามาทำไม” แล้วพอได้เล่นทะเล ได้หัวเราะ ได้ยิ้ม ความเครียดที่คิดว่าเจือจางก็หายไปหมด ถึงจะเหมือนโทษคนเจ้าแผนการพามาเที่ยว แต่สิตางศุ์ก็นึกขอบคุณที่อีกฝ่ายทำเพื่อเขาขนาดนี้


   “ขอบใจนะ”


   “ขอบใจอะไรหลายรอบ ในรถก็ขอบใจกูแล้วไง”


   “นั่นขอบใจที่ใจดีกับกู...”


   “แล้วเมื่อกี้ล่ะ” ใบหน้าขาวขึ้นสีน้อยๆ ก่อนที่เจ้าของจะยกขาขึ้นชันเข่าแล้วซุกหน้าลงไป


   “...ขอบใจ...ที่จีบกู...”


   แล้วรอบกายก็เหลือเพียงเสียงคลื่นที่ซัดซาด เสียงผู้คนที่คุยกันจ้อกแจ้ก เสียงนกร้อง เสียงรถยนต์ ในขณะที่คนสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกันถูกความเขินจู่โจมไปแล้ว คนหนึ่งเขินจนซุกหน้าอยู่กับหัวเข่า ในขณะที่อีกคนหันมองไปทางอื่นแล้วยิ้มกับตัวเองอย่างอดไม่อยู่


   “กูเคยบอกมึงแล้ว แต่กูจะพูดอีกครั้ง...”


   “...กูเต็มใจ...”


   นั่นคือประโยคสุดท้าย ที่เจียระไนพูดกับทะเลในวันนี้ และแน่นอน...ไม่ได้มีแต่ทะเลที่รับรู้ แต่คนที่ยังเอาแต่ซุกหน้ากับหัวเข่าย่อมได้ยิน สิตางศุ์ครางงึมงำในลำคอ


   ...ขอบใจจริงๆ...ที่จีบกูนะโจ๊ก...   


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

ฮั่นแน่...ยิ้มล่ะสิ ยิ้ม...

คาดว่าตอนนี้ ไม่น่าจะมีใครสงสารโจ๊กนะคะ สถานการณ์ใดๆล้วนเป็นใจกับพระเอกทั้งสิ้นค่ะ กร๊ากกกก (ส่วนความสงสารและผ้าเช็ดหน้า เก็บไว้ก่อนค่ะ พระเอกแบบนี้ยังต้องน่าสงสารอีกหลายตอน ฮา)

ส่วนตอนที่แล้ว ทิศทางของคอมเม้นท์คือทุกคนจุดพลุให้โจ๊ก เนื่องจากพระเอกเรื่องนี้ใช้เวลา 2 เดือนกับความยาว 7 ตอน กว่าจะทิ้งความกากมาสวมบทคนจริง ถ้าให้ไปจีบแข่งกับหมอภวัต อิพี่โจ๊กสู้รุ่นนั้นไม่ได้เลยค่ะ กร๊ากกกก

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ กำลังใจ และพื้นที่บอร์ดเช่นเคย

เจอกันตอนหน้า พฤหัสหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-05-2017 20:02:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 04-05-2017 20:37:30
โจ๊กน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 04-05-2017 20:40:02
อยากได้แบบโจ้กสักคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 04-05-2017 20:41:50
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-05-2017 20:42:57
ในที่สุดดดด #ทีมพี่โจ้กไบโพล่าห์ค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 04-05-2017 20:47:23
ขอบคุณค่ะ  อ่านแล้วยิ้มตลอด  อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 04-05-2017 20:50:28
ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 04-05-2017 21:00:28
น่ารักกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 04-05-2017 21:03:51
เขินมากๆๆๆ อ่านไปม้วนไป โซ่น่ารักไปอีก โจ๊กละมุนเกิน เขินๆๆๆๆ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 04-05-2017 21:06:33
ขอบคุณค่ะ เรารักคู่นี้มาก
ชอบทั้งความจริงจัง จริงใจของโจ๊ก และน่ารักใสซื่อของโซ่
และความยาวของตอนของคนเขียนด้วยค่ะ ยาวมาก ประทับใจมากค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 04-05-2017 21:11:45
ชอบ. น่ารักจัง. จีบแบบมุ้งมิ้ง :3123:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-05-2017 21:20:17
ว้าว.....ยาวจุใจ ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

โจ๊ก สิตางศ์ุ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โจ๊ก ย้ำคำว่าจีบหลายๆหน น่ะ ถูกต้อง
เพราะสิตางศ์ุ  เอ๋อ ซึน จะได้ซึมซับ
ขนาดบอกว่าจีบ ยังเถียงอีกว่าไม่ใช่  :katai1: :katai1: :katai1:
ผลเลย สิตางศ์ุ ตัวแข็งกลายเป็นหุ่นยนต์
โจ๊ก มีความสุขได้และ เพราะการเอาใจดูแล
ทำให้สิตางศ์ุ รับรู้ตัวตนของโจ๊ก
แม้จะบอกว่าหลังโปรโมชั่นจะจะใจร้ายใส่จนร้องไห้
แถมให้ถือกุญแจห้อง ก็เข้าทางโจ๊กที่จะปั๊มลูกกุญแจซะเลย

โจ๊ก ก้าวหน้าถึงเนื้อถึงตัวสิตางศ์ุ แบบนิ่มนวล
ช่วยสิตางศ์ุคลายเครียด พาไปทะเลผ่อนคลายความเครียด
พูดคุยกันดีขึ้น มีชมโจ๊กว่าหล่อซะด้วย
เล่นเอาโจ๊ก ยิ้มแก้มปริ ขับรถไม่ถนัดไปเลย
มีขอบคุณโจ๊ก ทีมาจีบตัวเองซะด้วย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-05-2017 21:45:24
ไม่ยิ้มได้ยังไงรอมาหลายตอนแล้ว โจ๊กทำดีมาก ให้เต็มสิบ
ส่วนอิพี่อาร์ตใจหายไปถึงไหนแล้ว แค่ญาติมีแฟนต้องออกอาการขนาดนั้นเลยเหรอ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: jingyo88 ที่ 04-05-2017 21:52:24
เอาแบบละมุนๆสไตล์โจ๊ก-โซ่แบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะจนจบเลยนะคะ...ดราม่าไม่เอานะคะ~~ได้โปรด...
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 04-05-2017 22:17:44
เวลาจีบเขามีแต่หยอด แต่คำหวาน มีอิโจ๊กเนี่ยแหละปากร้ายมากกกกแต่ใจดีสุดๆเลย สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ เดินหน้าทำคะแนนต่อเลยโจ๊กกก สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 04-05-2017 22:24:08
หูยยยยย พี่โจ๊กอ่ะ
หูยยยย หวานเวอร์ ชอบคนแบบนี้อ่ะ ปากแข็งปากร้ายแต่ใจดีสุด ๆ
นี่อ่านอยู่นานมากกว่าจะจบตอน มัวแต่เขินแทนโซ
อยากให้พรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสเลยอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 04-05-2017 22:35:00
โถ่ววววว น้องโซ่ หนูจะใจง่ายให้กุญแจไปแบบนี้ไม่ได้นะลูก อิโจ๊กยิ่งคิดไม่ค่อยดีอยู่ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 04-05-2017 22:37:27
มันกร๊าวใจสุดๆๆๆ เคมีมันได้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-05-2017 22:48:20
โจ๊กมาเต็มสุดๆ อ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 04-05-2017 23:08:33
โจ๊กน่ารักอะเป็นกำลังใจให้จีบติดเร็วๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 04-05-2017 23:11:05
ฮามากบอกเลย
สงอิโจ๊กมาก จีบคนใสซื่อ แต่ตัวเองจะเป็นบ้า
แต่สุดท้ายมาน้ำทะเลท่าจะหวานนะ

ตัวช่วยโจ๊กต้องเป็นแพทแน่ๆๆๆ จบงานนี้คงได้ของกำนัลอย่างงาม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 04-05-2017 23:30:03
สักทีนะโจ๊ก จะจีบโซ่ต้องใจเย็นๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 04-05-2017 23:32:38
ช่วงคืนความสุขให้โจ๊ก  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-05-2017 23:45:51
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 04-05-2017 23:53:23
เป้นตอนที่อ่านไปอมยิ้มไปแทบจะทุกประโยคที่ทั้ง2คนคุยกัน
มันน่ารัก อบอุ่น จริงใจ ชอบบบบบบบบบ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-05-2017 00:14:19
โอยยย มีความน่ารัก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 05-05-2017 01:08:22
คำว่ากร๊าวใจนี่เป็นอย่างนี้เองใช่ไหมคะ อ่านไปเขินแทนโซ่ไป บทจะจริงจังโจ๊กก็เล่นซะโซ่ทำตัวไม่ถูกเลยนะคะ นี่ยอมใจกับบทบาทพ่อบุญทุ่มมากๆ เอากับข้าวมาฝาก ดูแลเอาใจทุกอย่าง โจ๊กดีอย่างนี้ก็อย่าปล่อยให้หลุดมือเสียล่ะ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 05-05-2017 01:15:30
น้องสิตางศุ์นี่น่ารักจัง อ่านแล้วเอ็นดู๊
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 05-05-2017 01:17:56
งืออออ ละมุนนน
โจ๊กตอนนี้แบบบน่ารักอบอุ่นมากก
ละมุนนนสุดดดไรสุดด
โซ่นี่ก้หวั่นไหวหนักมากก
เผลอๆคือชอบเค้าไปแล้วนะจ๊ะเธออ
รอค่าาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 05-05-2017 01:24:18
โจ๊กดูแลโซ่ดีมาก เป็นที่พึ่งให้โซ่ได้จริงๆ
น่ารักกกกกกกกก   :-[

 :pig4:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 05-05-2017 02:12:54
โอ๊ยยยย น่ารักอ่าาาาาาาาา :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 05-05-2017 03:00:46
ดีต่อใจ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 05-05-2017 03:24:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 05-05-2017 06:21:44
กูจีบมึงอยู่ ขอบใจนะ กูจีบมึงอยู่ ขอบใจนะ   กูจีบมึงอยู่ ขอบใจนะ   กูจีบมึงอยู่  ขอบใจนะ  กูจีบมึงอยู่ ขอบใจนะ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: VanillaLatte ที่ 05-05-2017 08:05:19
ว้ายตายแลเวโจ๊กไม่กากแล้วโซ่ก็รู้แล้วด้วยนอกจากจุดพลุขอปรบมือรัวๆให้กับโจ๊กที่ทิ้งความกากไป555555
 :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 05-05-2017 09:13:46
อย่ารังแกโจ๊กมากซิ
ต่อไปไม่รู้จะเจออะไรอีกบ้างเป็นพระเอกของน้องโซ่คนซื่อต้องอดทนนะ
เพราะแกล้วน ๆ เลยโจ๊กที่ทำให้โซ่กลายเป็นคนสเปคสาธารณะ เปลี่ยนชีวิตโซ่เลย 55+

#ใต้ความกลั่นแกล้งตัวละครในนิยาย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-05-2017 10:36:35
 o13 o13 o13 o13 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Nnjjntx ที่ 05-05-2017 11:17:05
 :-[ อบอุ่น ดีงามมากเลยค่า  ติดตามมม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 05-05-2017 12:20:33
ทำไมมีความรู้สึกว่าต้องเข้าครัวไปต้มน้ำรอมาม่าก็ไม่รู้  :z13:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 05-05-2017 12:23:54
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 05-05-2017 13:53:02
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 05-05-2017 17:48:22
ละมุนตุ้นไปอีก ใช้เวลาจีบสองเดือนว่านายแล้ว เวลาที่คอยแอบชอบเค้ายิ่งนานกว่า ความป๊อดสูงมากจริงๆ โชคดีที่โจ๊กไม่ใช่ลูกคนเดียว หม่าม้าเลยเปิดไฟเขียวเต็มที่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-05-2017 18:25:52
รู้สึกเหมือนโจ๊กมีสองหน้า
1. หน้าเท่ เวลาทำหล่อใส่โซ่
2. หน้าหลุดความในใจ เช่น จีบเพราะเกลียดมึงมั้ง

5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 05-05-2017 18:36:57
เริ่ดเลออออ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 05-05-2017 20:05:28
ทะเลบางแสนหวานไปเลยยย :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 05-05-2017 20:47:52
จงแก้ไขความผิดพลาดที่ทำให้โซ่เป็นสเปคสาธารณะโดยการใจดีกับโซ่ต่อไปเรื่อยๆ นะโจ๊ก
โอ๊ยยย~~ ละมุน โจ๊กร่างสองมาบ่อยๆ น๊า คนอ่านจะละลาย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-05-2017 21:21:05
มีความฟินระดับล้านค่ะ อะไรจะตอกย้ำให้ใจละลายได้ขนาดนี้
แบบโซ่ต้องย้ำตลอดเวลาใช่ไหม 5555

โจ๊กมาเต็มมากค่ะ ดูแลดีเวอร์ เป็นห่วงทุกอย่าง ทำตัวสมกับที่รอมานาน
เข้าออกห้องสบายเลยนะโจ๊ก

โซ่น่ารัก มีเขิน มีสนใจ แต่ยังไม่เข้าใจ ค่อยๆคิด ค่อยๆรู้นะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Kaikaaa ที่ 05-05-2017 21:30:40
ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้  :katai1: :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 05-05-2017 21:43:44
ช่วงทำคะแนนของโจ๊กจริงๆ o18
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 06-05-2017 11:22:02
บึนปากใส่ให้กับคนมีความรักกกก โอ๊ยยยย
กว่าโซ่จะหายมึน เหนื่อยมั้ยโจ๊ก  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 06-05-2017 15:05:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 06-05-2017 22:14:41
โจ๊กบอกจีบติดเมื่อไรไม่รู้
แค่กล้าบอกแล้วอีกฝ่าย
ยังอยู่ที่เดิม เพิ่มเติมไกล้ชิดกว่าเดิม
แค่นี้โจ๊กก็สู้สุดใจขาดดิ้นแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 06-05-2017 22:56:01
ฮ่าๆ นี่นั่งอ่านแล้วก็ยิ้มอยู่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-05-2017 00:41:39
โจ๊กจะต้องตายกับความใสซื่อนี้ไปอีกหลายรอบ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 11-05-2017 12:14:27
มาปูเสื่อรอโจ๊กกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 11-05-2017 20:05:17
เราถือพู่เชียร์รอโจ๊กอยู่นะคะ :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 8 (04/05/2017) หน้า 12
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 11-05-2017 20:09:29
น้องโซ่เป็นไงบ้างน้ออ
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 11-05-2017 21:12:24
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 9


    สิตางศุ์หายหน้าไปจากคณะร่วมสัปดาห์เพื่อทำรายงาน โผล่มาอีกที ก็ยังเป็นรถยนต์หรูคันเดิมของเพื่อนร่วมคณะภาควิชาการปกครองที่พามาส่ง


   พฤกษาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกคณะเห็นตั้งแต่รถของเจียระไนขับเลยไปยังลานจอดรถแล้ว และครู่ใหญ่ๆต่อมา เพื่อนสนิทของเขาก็เดินเคียงมากับเจ้าของรถ คุยกระหนุงกระหนิงประหนึ่งโลกนี้มีแค่เราสองคน


   “มึงว่าเพื่อนเราเสร็จไอ้โจ๊กยังวะ” เขาถามอลงกตที่นั่งอยู่ด้วยกัน แต่ตาไม่ละไปจากภาพของสองคนนั้นเลย


   “ถ้าเสร็จจริง กูจะยำตีนไอ้โจ๊กคนแรก...” หนุ่มเข้มร่างใหญ่ตอบ แล้วปรายตามามองเพื่อนซี้ข้างๆ “...และมึงจะโดนเป็นคนที่สอง” พฤกษาอ้าปากหวอ ไม่ทันได้แย้งอะไร สิตางศุ์และเจียระไนก็เดินมาถึงโต๊ะของพวกเขาพอดี คนผิวขาวจัดเห็นเพื่อนหนึ่งในสองทำหน้าเหวอก็เลยตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วง


   “แพทเป็นไร”


   “กลัวรองเท้าสตั๊ดกู” คนตอบคืออลงกต ทำเอาไอ้คนที่อ้าปากค้างเมื่อครู่นี้ถึงกับหันขวับมองแล้วร้องลั่น


   “นี่มึงจะใช้สตั๊ดเหยียบกูเลยเหรอ?!!”


“กระทืบ ไม่ใช่แค่เหยียบ” ยิ่งสองคนนี้คุยกัน สิตางศุ์ก็ยิ่งไม่เข้าใจ เขาหันมองเจียระไนเหมือนจะถามแต่รายนั้นยักไหล่แล้วตัดช่องน้อยแต่พอตัวด้วยการเปลี่ยนเรื่อง


   “เลิกเรียน โทร.หาแล้วกัน แล้วอย่าไปหลับในห้องล่ะ”


   “จะหลับได้ไง โดนบังคับให้นอนวันละตั้ง 8 ชั่วโมง”


ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่เขาโดดเรียนแล้วทำรายงานอยู่ที่ห้อง เจียระไนแวะมาหาทุกวัน วันละหลายครั้ง เอาอาหารมาให้บ้าง มาสอดส่องสภาพของเขาบ้าง บางทีก็ไล่ให้ไปนอนหรืออาบน้ำ แต่โดยรวมแล้วอีกฝ่ายก็ยุ่มย่ามเพียงเท่านั้น ถ้าเห็นว่าเขายังไหว ก็จะปล่อยให้นั่งทำต่อโดยไม่รบกวนอะไร


   “เด็กอนามัยอย่างมึง ควร 12 ชั่วโมงด้วยซ้ำ” ร่างสูงพูดแล้วหัวเราะ แล้วเดินหนีไปที่ตึกเรียนใกล้ๆ คราวนี้เลยเหลือเพียงสามเพื่อนซี้แห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


   “เปเปอร์เสร็จมั้ย” อลงกตหันไปถามคนที่โดดเรียนไปหลายวัน


   “เหลือตรวจแก้อีกนิดหน่อย อ่า...อาจมีปรับตอนท้ายด้วย กูว่ามันยังไม่ตรงจุดพอ” 


   “งั้นเย็นนี้มึงพาน้องในสายไปเลี้ยงกับสายกูแล้วกัน คลายเครียด” เพื่อนซี้จากชมรมฟุตบอลชวน ทำเอาพฤกษาและสิตางศุ์นิ่งไปเล็กน้อย 


โดยปกติ พวกเขามักจะนัดสายรหัสกินข้าวกันเอง แต่ก็มีบางสายที่รุ่นพี่นัดเพื่อนๆของตัวเองให้พาสายรหัสไปกินเลี้ยงพร้อมกัน นัยว่าน้องๆในสายจะได้ไม่เขินเพราะอย่างน้อยก็มีเพื่อนในชั้นปีซึ่งเป็นสายรหัสอื่นมาร่วมด้วย ซึ่ง...น้องปีหนึ่งที่อยู่ในสายรหัสของอลงกตก็คือ... ‘น้องมี่’...


พฤกษาตาเหลือก หยิบเศษใบไม้แห้งแถวนั้นปาคนชวนทันที


   “เชี่ยกต! มึงหาเรื่องรึไง?!!”


   “กูไม่ได้หาเรื่อง กูแค่อยากชวนมันไปเลี้ยงสายพร้อมกัน น้องกูจะได้มีเพื่อนไง” อลงกตหันไปตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนไม่ได้มีเรื่องอะไรซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังการชวนนี้ แต่คนอย่างพฤกษารู้ดี


   ...ระหว่าง ‘น้องมี่’ กับ ‘ไอ้โจ๊ก’ ไอ้กตเห็นน้องมี่ดีกว่าล้านเปอร์เซ็นต์ อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะเอา ‘ไอ้โจ๊ก’ ไปเทียบกับใคร ไอ้กตก็เห็นคนอื่นดีกว่าทั้งนั้น!!


...โธ่!! ไอ้หอก!!!! ถ้า ‘ไอ้โจ๊ก’ ไม่ดีพอ มันจะรอมาตั้งเกือบสองปีอย่างงี้เหรอ?!!!...


   พฤกษาอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะม้าหินสักหนึ่งที แล้วอีก 99 ทีที่เหลือคือจับหัวไอ้คนต้นคิดสร้างเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างอลงกตโขกบ้าง


   ...พา ‘น้องมี่’ มาเจอกับ ‘ไอ้โซ่’ กลัวฝ่ายผู้หญิงนี่แหละ ที่ไม่จบ!!!...


   “มึงกำลังสร้างปัญหา...” เขาได้แต่เค้นเสียงลอดไรฟัน


   “แล้วมึงไม่สร้างรึไง?!” อลงกตเถียง สองเพื่อนซี้เข่นเขี้ยวกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทว่าคนกลางที่มักจะไม่เคยรับรู้ปัญหาอยู่เสมอก็คือสิตางศุ์


   “อ่า...กูต้องบอกไอ้โจ๊กก่อนอ่ะ” ดวงตาสองคู่หันขวับมามองคนพูด ร่างโปร่งเกาต้นคอเล็กน้อยเหมือนจะเขินๆ


   “คราวก่อน...ไปกินข้าวกับสาย มันก็โกรธไปทีนึงแล้ว” 


ไม่รู้โกรธจริงมั้ย แต่สิตางศุ์คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะโกรธอยู่หรอก เพราะปกติหมอนั่นตามรับตามส่งเขาทุกวัน หากมีวันไหนจะนอกเส้นทาง ก็ควรจะบอกมันก่อน


   “มึงแคร์ไอ้โจ๊กเหรอ” อลงกตถามเรียบๆ สายตาจับจ้องเพื่อนรักที่ยังยืนอยู่ ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มหลบไปทางอื่น ในขณะที่ริมฝีปากเม้มเข้าหากันอย่างไม่รู้ว่าควรจะพูดดีมั้ย พฤกษาเลยดึงให้ทรุดตัวลงนั่งบนโต๊ะม้าหิน จะได้ถามได้อย่างสะดวก


   “หนึ่งสัปดาห์ที่หยุดเรียนไปเนี่ย เกิดไรขึ้นมั่ง...ไม่เอาๆ มึงเล่าตั้งแต่ตอนไปเชียงคานกับมันเลยแล้วกัน” คราวนี้สิตางศุ์ชะงัก เหลือบตาขึ้นมองคนพูดทันที


   “มึงรู้ได้ไงว่ามันไปเชียงคานกับกู” เพื่อนทะเล้นนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่ทำเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่


   “สายกูเยอะ พูดมา สรุปว่าช่วงที่ผ่านมานี่เกิดอะไรขึ้นบ้าง”


   “ก็...”


   “หรือมึงเห็นว่าพวกกูไม่ใช่เพื่อน เลยไม่อยากบอก” พฤกษาย้ำอีก ทำเอาสิตางศุ์ต้องรีบปฏิเสธ


   “ไม่ใช่ พวกมึงเป็นเพื่อนกู ถ้ามีอะไรกูก็อยากบอกพวกมึงเป็นคนแรกๆ แต่ว่า...แต่ว่ากูยังไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไง กู...กูกลัวมันเสียหาย...” ประโยคหลังนั้นเบาหวิว แต่กระแทกหัวใจคนฟังอย่างแรง อลงกตและพฤกษาแทบทรุดโดยพร้อมเพรียง


   ...แทนที่จะกลัวอย่างอื่น ดันกลัวไอ้โจ๊กเสียหาย!!! โธ่!! ไอ้โซ่!!! คนอย่างไอ้โจ๊ก ต่อให้ภัยธรรมชาติก็ทำอะไรมันไม่ได้หรอกโว้ย!!!...


   “...เอ่อ...โซ่ ไม่มีอะไรเสียหายหรอก เชื่อกูเถอะ อย่างไอ้โจ๊กน่ะ แกร่งกว่านี้อีกนิดก็กำแพงเมืองจีนแล้วมึง” พฤกษาพยายามจูนสติเพื่อน แต่สิตางศุ์ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เห็นด้วย


   “แต่กูเป็นผู้ชาย มันก็ผู้ชาย มึงก็รู้ สังคมเราไม่ได้ยอมรับเรื่องพวกนี้ได้มากขนาดนั้น ต่อให้จะทำเหมือนรับได้ก็เถอะ ไหนจะพ่อแม่มันอีก ที่บ้านมันเป็นคนจีน ไม่รู้ว่าหัวโบราณมั้ย แต่ถึงพ่อกับแม่ของมันจะรับได้ แล้วญาติมันล่ะ มันเคยบอกว่าอาม่าของมันมีลูก 7 คน ญาติเยอะแบบนั้น ถ้า...กูไม่ชัดเจน มันจะเสียหาย” 


อลงกตมองเพื่อนรักผิวขาวจัดที่พูดออกมาแต่ละคำล้วนทำให้เขาใจหาย หนุ่มจากชมรมฟุตบอลเบือนสายตาหนีไปทางอื่น เพราะยิ่งเห็นสีหน้า เขาก็ยิ่งอ่านใจมันออก


   ...ต่อให้ไอ้โซ่จะบอกว่ายังไม่รู้ ยังไม่แน่ใจ แต่ความรู้สึกที่มันมีให้ ‘ไอ้ภาคปกครอง’ นั่น ก็มากกว่าเพื่อนไปแล้ว เพราะไม่อย่างนั้น ก็ไม่เห็นจะมีความจำเป็นอะไรที่จะต้องห่วงใยความรู้สึกของไอ้โจ๊กเลย หนำซ้ำยังคิดไปถึงครอบครัวของไอ้โจ๊กอีกต่างหาก...


   ...ชัดซะยิ่งกว่าชัด...


   ร่างสูงๆของอลงกตลุกจากเก้าอี้โต๊ะม้าหิน


   “มึงโทร.บอกไอ้โจ๊กแล้วกันว่าเย็นนี้จะเลี้ยงสาย ไม่ต้องรอ เดี๋ยวขากลับกูพาไปส่งเอง” เขาพูดแค่นั้นแล้วก็เดินเข้าตึกเรียนไปทันที สิตางศุ์มองตามหลังเพื่อนซี้ที่เดินจากไปเงียบๆ ก่อนจะหันกลับมามองพฤกษาที่ทำหน้าบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์


   “เชี่ยเอ้ย หลอกตัวเองอยู่ได้! เพื่อนมึงนี่มันน่าเบื่อจริงๆ!!” แล้วไอ้คนทะเล้นที่วันนี้อารมณ์เสียก็ลุกพรวดเดินเข้าตึกเรียนไปอีกคน ทิ้งร่างโปร่งผิวขาวจัดให้นั่งเพียงลำพังกับความงุนงง

...............................

   เพราะเป็นการนัดกินเลี้ยงถึง 3 สาย อันได้แก่สายของสิตางศุ์ที่มาครบทีมทั้ง 4 ชั้นปี สายของอลงกตที่ก็ครบทีมเช่นเดียวกัน และสายของพฤกษาที่ขาดไปหนึ่งคน นับรวมแล้วได้ถึง 11 คน ดังนั้นเลยต้องหาร้านที่รองรับทั้งจำนวนคนและความเสียงดังของพวกเขาได้มากหน่อย ซึ่งก็ไม่พ้นร้านหมูกระทะ


   และไม่ว่าจะด้วยการจัดที่นั่งแบบใดก็ตาม ‘น้องมี่’ น้องรหัสปีหนึ่งของอลงกตเลยถูกขนาบข้างด้วยฝั่งซ้ายคือสิตางศุ์ ส่วนฝั่งขวาคือปู่รหัสของตนเอง


   “มี่คิดรึยังว่าอยากเรียนด้านไหน”


พ้นมิดเทอมมาได้ไม่นาน อลงกตก็ถามถึงจุดหมายปลายทางของน้องปีหนึ่งในสายเขา พฤกษาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทำเสียงหึ


   “กูว่ามึงควรจะถามว่าน้องมี่อยากจะซิ่วรึเปล่า” มนทิชาหรือน้องมี่ของอลงกต เด็กสาวหน้าใสวัยสิบแปด เฟรชชี่แห่งคณะรัฐศาสตร์ ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแถมพ่วงด้วยตำแหน่งดาวคณะส่ายหน้าหวือ


   “ไม่หรอกค่ะพี่แพท มี่อยากเรียนที่นี่” หล่อนพูดแล้วเหลือบตามองรุ่นพี่หนุ่มร่างขาวจัดที่นั่งอยู่ทางซ้าย สิตางศุ์ดูไม่ได้สนใจหล่อนนัก เพราะอีกฝั่งของเขาคือปกฉัตร น้องรหัสปีสองของเขาเอง


   “มี่...อยากเรียนด้านเอเชียตะวันออก...” หล่อนพูดเสียงดังขึ้นมานิดหน่อยเพื่อให้ใครบางคนที่หล่อนรู้มาว่าเขาเน้นเรียนเกี่ยวกับเอเชียตะวันออกสนใจหล่อนขึ้นมาบ้าง และก็ได้ผล เพราะดวงตาคู่สวยของคนที่นั่งข้างๆหันมามอง เด็กสาวรู้สึกร้อนวาบกับสายตาของเขา สายตาซื่อๆที่แสนสุภาพ สายตาที่มาจากนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น


   “อยากเรียนเอเชียตะวันออกเหรอ” น้ำเสียงอ่อนโยน ทำเอาคนถูกถามรู้สึกใจเต้นรัว ใบหน้าหวานของเด็กสาวก้มต่ำเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ


   “พ...พี่โซ่ก็เรียนใช่มั้ยคะ”


   “ครับ”


   “เอ่อ...ถ้า...ถ้ามี่จะ...”


...จะขอเบอร์...


   “จะอะไรเหรอ?” สิตางศุ์ย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ มนทิชาสบตารุ่นพี่หนุ่ม หัวใจเต้นดังจนแทบระเบิด ความอายแล่นพล่านไปทั้งร่าง แต่...ถ้าหล่อนปล่อยให้ความอายครอบงำ หล่อนจะไม่มีวันได้ใกล้ชิดกับเขา...กับรุ่นพี่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เข้าเรียนที่นี่...


   “มี่...มี่จะขอเบอร์พี่ได้มั้ยคะ” 


รุ่นพี่หนุ่มปีสี่นิ่งไปเล็กน้อย มนทิชารับรู้ถึงความเงียบของเขาแล้วก็รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาตรงนั้น หล่อนขอเบอร์เขาไปแล้ว และเขาชะงักเหมือนไม่อยากให้ หรืออาจคิดไม่ถึงที่จู่ๆรุ่นน้องร่วมภาคฯที่ไม่ได้สนิทกันมาก่อนดันมาขอเบอร์ตรงๆแบบนี้ มนทิชาเม้มปากแน่น โทษตัวเองว่าไม่ควรใจเร็วพูดออกไปเลย


   “ถ...ถ้าพี่โซ่ไม่...” หล่อนละล่ำละลักไม่ทันจบ เสียงของคนข้างกายก็ดังขึ้น


   “ได้สิ”


   คำตอบไม่เพียงแต่เป็นการตกลง แต่คนพูดยังส่งยิ้มจางให้อีกทีหนึ่งแล้วหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองมา


   “น้องมี่บอกเบอร์มา เดี๋ยวพี่ยิงไป”


   จบประโยคนั้นเด็กสาวก็รีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาแลกเบอร์กับหนุ่มรุ่นพี่อย่างรวดเร็ว พฤกษาเห็นสิ่งที่เพื่อนผู้แสนบื้อและใสซื่อทำแล้วก็อยากจะเอาหัวโม่งโลกสักที ที่สำคัญที่สุดคือจับหัว ‘ไอ้กต’ ซึ่งกำลังนั่งยิ้มกวนประสาทโม่งโลกไปพร้อมๆกัน


   ...ไอ้เชี่ยโซ่!! ปัญหาจะตามมาเพราะความซื่อบื้อของมึงในวันนี้ รู้ตัวบ้างม้ายยยยย!!!...

..............................

   ไม่ใช่แค่พฤกษาและอลงกตที่รู้เห็นการแลกเบอร์ระหว่างหนุ่มปีสี่และสาวปีหนึ่ง แต่ปกฉัตรที่นั่งใกล้ๆสิตางศุ์ก็เห็นเหตุการณ์นั้นด้วย และเขาคงจะไม่คิดอะไร หากไม่ได้รับรู้เรื่องราวมาจาก ‘พี่เจ๋ง’ น้องชายลูกพี่ลูกน้องของเจียระไน


   ‘พี่รหัสมึงโดนเฮียกูจีบอยู่ ไม่รู้รึไง’ 


ตอนนั้นเขาตอบว่าไม่รู้ เลยโดนด่าไปหนึ่งดอกว่าโง่สมกับเป็นสายรหัสกัน แต่เขาก็ยังยืนยันหนักแน่นว่ารุ่นพี่ปีสี่จากภาควิชาการปกครองไม่น่าจะมาจีบพี่รหัสเขาหรอก คงสนิทเพราะเป็นเพื่อนกันมากกว่า


   ทว่า...ข่าวลือตามลมที่ว่าเจียระไนตามรับส่งสิตางศุ์นั่นไม่ใช่แค่ข่าวลือ เพราะกระทั่งมาร้านหมูกระทะ เจียระไนก็เป็นคนพาสิตางศุ์มาส่ง แถมย้ำหนักแน่นว่าขากลับให้โทร.เรียก จะเป็นคนมารับเอง


   ‘บ้านกูไม่เคยทำอะไรให้ใครแบบไม่หวังผล’ นั่นคือคำพูดของพี่เจ๋งที่ย้ำหนักแน่นว่าการรับส่งของญาติผู้พี่ของตนเองนั้น มีเหตุผลมากกว่าแค่ทำไปเพราะมิตรไมตรีแห่งความเป็นเพื่อนแน่นอน


   “พี่โซ่...” ปกฉัตรเรียกเอาไว้ เมื่อพี่รหัสของตนเองเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเดินตามมาดักรอที่นี่ตั้งแต่สิตางศุ์ลุกจากโต๊ะมา


   “ออกไปคุยกันข้างนอกได้มั้ย” เขาพูดแล้วเดินนำไปนอกร้านซึ่งเป็นลานจอดรถ สิตางศุ์ก้าวเท้าตามน้องรหัสด้วยความสงสัย พอเห็นว่าไกลจากผู้คนแล้ว ปกฉัตรเลยหันมามองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ นับตั้งแต่เป็นสายรหัสกันมา เขาก็พอจะรู้ว่าพี่รหัสคนนี้ไม่ค่อยจะคิดอะไรเท่าไรนัก กระทั่งรุ่นพี่คนอื่นๆในสายยังฝากฝังเขาให้ช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย


   “พี่ให้เบอร์น้องมี่ไปจะดีเหรอ”


   “ทำไมไม่ดีล่ะ น้องอยากเรียนเอเชียตะวันออกนะ เออ! จริงๆพี่น่าจะให้น้องเขาปรึกษาปกว่ะ รุ่นใกล้ๆกัน เผื่อหลักสูตรมันเปลี่ยน” สิตางศุ์พูดซื่อๆ ทำเอารุ่นน้องรีบปฏิเสธ


   “อ่า...ผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น...” ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากให้ความช่วยเหลือน้องในภาควิชา แต่ดูท่าแล้วน้องมี่คนนั้นก็ไม่ได้อยากจะปรึกษาเรื่องเรียนเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้น เกิด ‘พี่เจ๋ง’ รู้ว่าเขาแจกเบอร์ให้น้องผู้หญิงที่คิดจะมาจีบคนคนเดียวกับที่เจียระไนจีบอยู่ มีหวังเขาถูกด่าเละแน่นอน


   “คือ...พี่ให้เบอร์น้องเขาไปแบบนี้ ไม่กลัวพี่โจ๊กโกรธเหรอ”


   “มันจะโกรธทำไมล่ะ”


   “ก็...พี่โจ๊กจีบพี่อยู่” สิตางศุ์ตาโตด้วยความคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าปกฉัตรจะรู้เรื่องนี้


   “ปกรู้ได้ไง?!”


   “พี่เจ๋งบอก...” คนฟังถึงกับถอนหายใจพรูออกมาที่ปิดไม่มิด โลกกลมแบบนี้ ต่อให้ปิดคนอื่นได้ แต่น้องรหัสก็รู้อยู่ดี


   “นั่นสินะ น้องไอ้โจ๊กเป็นแฟนปกนี่นา...” เขาพึมพำ ก่อนจะฉุกใจขึ้นมา


   “...เดี๋ยวสิ...เรื่อง...เรื่องที่ไอ้โจ๊กจีบพี่ กับเรื่องน้องมี่กับพี่แลกเบอร์กัน มันเกี่ยวกันยังไงล่ะ” สิตางศุ์ย้อนถามด้วยความสงสัย คนเป็นน้องรหัสพลอยพูดไม่ออก พี่รหัสของเขาเป็นคนฉลาด อาจารย์คนไหนๆในภาคฯก็พูดกันทั้งนั้นว่าสิตางศุ์เป็นคนเก่ง แต่...คนเก่งๆแบบนี้ มักจะมีช่องโหว่อยู่หนึ่งอย่าง และหนึ่งอย่างของสิตางศุ์ก็คือมองคนอื่นไม่ค่อยออก...


   “เอ่อ...ผมว่าน้องมี่...จะจีบพี่...” คนถูกจีบถึงกับตาโตด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบโบกมือไปมาเร็วๆ


   “ไม่มีทางหรอก พี่ปีสี่แล้ว น้องเขาเพิ่งปีหนึ่ง เขาจะมาจีบพี่ทำไม จีบน้องๆผู้ชายในรุ่นเดียวกันไม่ดีกว่าเหรอ” ปกฉัตรมองคนที่ยกข้ออ้างว่าตัวเองอยู่ปีสี่ขึ้นมาเป็นเหตุผลที่น้องจะไม่จีบแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเบา


   “ถือว่าผมเตือนแล้วกัน ถ้าน้องมี่จีบพี่จริงๆ พี่จะได้รู้ตัวว่าต้องทำยังไง จะชอบเขาตอบหรือไม่ชอบ ก็บอกเขาไป กับพี่โจ๊กก็ด้วย เรื่องแบบนี้ปล่อยไว้ไม่ดีหรอก” คนเป็นน้องเตือนด้วยความหวังดี สิตางศุ์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจห่อไหล่


   “แล้วถ้าพี่ไม่รู้ว่าพี่รู้สึกยังไงกับไอ้โจ๊กล่ะ...”


คำถามนี้ของคนมีศักดิ์เป็นรุ่นพี่ไม่มีคำตอบกลับมา นอกจากฝ่ามือของปกฉัตรที่เอื้อมมาบีบไหล่เบาๆเป็นกำลังใจให้คนจนปัญญาหาคำตอบของความรู้สึกได้เร็ววัน

..................................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 11-05-2017 21:13:11


‘เอ่อ...ผมว่าน้องมี่...จะจีบพี่…’


   คำพูดของน้องรหัสปีสองอย่างปกฉัตรยังคงดังอยู่ในสมองของสิตางศุ์ เขาพยายามคิดว่าบางทีปกฉัตรอาจจะคิดไปเอง อย่างที่บอกว่าเขาอยู่ปีสี่แล้ว อีกไม่นานก็เรียนจบ ในขณะที่มนทิชาเพิ่งเข้าปีหนึ่ง แล้วทำไมถึงคิดจะจีบรุ่นพี่อย่างเขา?


   ‘พี่โซ่ ยังอยู่คณะมั้ยคะ’


ข้อความที่ปรากฏบนโทรศัพท์ทำเอาสิตางศุ์ขมวดคิ้วมุ่น นับตั้งแต่วันที่แลกเบอร์โทรศัพท์กัน อีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาหาเขาบ่อยๆ ส่วนใหญ่คุยเรื่องจิปาถะและเรื่องเรียน


   ...รวมถึงการถามเรื่องอยู่คณะ หรือไม่อยู่ ออกจากคอนโดหรือยัง นอนหรือยังก็อยู่ในหมวดการคุยที่ว่านั่นด้วย...


   บางทีก็รู้สึกอึดอัด เหมือนถูกตามหาทุกฝีก้าว แต่ถึงอย่างนั้นสิตางศุ์ก็ยังตอบกลับไปอย่างสุภาพ


   ‘ออกมาแล้วครับ’


   “โซ่” เสียงทุ้มทำเอาเจ้าของชื่อเงยหน้ามอง


   “เก็บโทรศัพท์ แล้วแดกข้าว” เจียระไนสั่งแล้วถลึงตาเรียวๆลงมองอาหารตรงหน้า


   วันนี้พวกเขามาทานข้าวที่คอนโดหรูของเจียระไน พ่อครัวไม่ใครที่ไหน เจ้าของคอนโดที่รับอาสาทำอาหารง่ายๆให้ทาน


   บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดขี้เมารวมมิตร...รวมมิตรที่ว่าคือมีทั้งปลาหมึกชิ้นใหญ่ กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ และผักสารพัดชนิด


   “เป็นไรของมึง หรือแดกไม่เป็นอีก”


   “เป็นสิ ผัดขี้เมาไง แล้วทำไมเส้นถึงน้อยกว่าผักกับเนื้อล่ะ”


คนทำถึงกับกรอกตามองบนอีกหนึ่งที


   ...ช่วยดูด้วยว่าผักกูแต่ล่ะอย่างน่ะ ออแกนิกจนแทบจะปลูกด้วยระบบสุญญากาศอยู่แล้ว!!! แล้วไอ้ที่มึงกำลังเขี่ยไปไว้ข้างๆเพื่อจ้วงเส้นก่อนน่ะ กุ้งแม่น้ำโลละพัน! ไอ้เชี่ย!! เขี่ยอย่างกับเป็นกุ้งแห้ง!!...


   “แดกเนื้อสัตว์เยอะๆจะได้ฉลาด” คำว่าฉลาดทำเอามือขาวที่กำลังพันเส้นกับส้อมถึงกับชะงัก ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมอง


   “กู...โง่มากเหรอ”


   ดวงตาเรียวจับจ้องคนถาม ก่อนจะวางส้อมลงกับจาน


   “ไม่โง่ แต่เซ่อ มีตาแต่ไม่มอง เรื่องไหนที่สนใจก็สนใจฉิบหาย เรื่องไหนไม่สนใจ ต่อให้มาเกิดตรงหน้าก็ไม่คิดอยากจะรู้อะไรเลย กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามึงมีชีวิตอยู่มาจนถึงตอนนี้ได้ไง”


ถูกด่ากันตรงๆ ก็ทำเอาเจ้าของคำถามถึงกับอ้าปากค้าง แต่เจียระไนไม่ได้สนใจจะปลอบเท่าไร เขาหยิบส้อมขึ้นมาจิ้มปลาหมึกชิ้นใหญ่เตรียมเข้าปาก แต่นึกขึ้นได้ว่ากำลังจีบอีกฝ่ายอยู่ เพราะฉะนั้น ด่าแล้วก็...น่าจะลูบหลังสักหน่อย


   “...จิตตกอะไรมาอีกล่ะ กูพาไปทะเลอีกรอบมั้ย”


   “ไม่ต้องหาเรื่องพากูหนีเที่ยวเลย” ทะเลคลายเครียดคราวก่อน สิตางศุ์คิดว่าเกลือน่าจะขึ้นเบาะรถของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ เพราะพวกเขากลับมาทั้งชุดที่ใส่ลงทะเลนั่นแหละ ถึงแม้ชุดจะแห้งแล้ว แต่ตามเนื้อตัวก็เหนียวไปหมด ตอนลงจากรถที่หน้าคอนโดเขา ยังมีเศษทรายติดตัวมาด้วยซ้ำ


   เจียระไนยักไหล่ไม่พูดอะไรก้มหน้าม้วนเส้นเข้าปาก แต่ไม่วายชี้ไปที่กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ที่วางอยู่ข้างจานของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม


   “แดกๆ กุ้งนั่นอร่อย”


…โฆษณาซะหน่อย เดี๋ยวแม่งมีตาแต่ไม่มอง เสียของกูอีก!...


มือขาวใช้ส้อมจิ้มเอาเนื้อกุ้งที่ถูกผ่าครึ่งซีกออกมา แต่ความกังวลใจก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวจนอดใจไม่ไหวต้องตั้งคำถามอีกหน


   “โจ๊ก...เวลามีคนเข้ามาจีบมึง มึงรู้ตัวมั้ย”


   “หะ? ใครจีบกู?”


   “เอ่อ...กู...กูถามเฉยๆ แบบ...แบบ...คนปกติ เขารู้ตัวกันมั้ยว่าถูกจีบอยู่...” สิตางศุ์เป็นพวกโกหกไม่แนบเนียน ตั้งตัวละครสมมติก็ไม่แนบเนียน คำถามแบบนี้ชี้เป้าไปที่เจ้าตัวนั่นแหละว่ากำลังถูกจีบอยู่...และน่าจะถูกคนอื่นที่ไม่ใช่เจียระไนจีบด้วย!


   “มีใครจีบมึงนอกจากกู”


   “ท...ทำไม...ทำไมถามงี้ล่ะ”


   คำตอบไม่ยากเลย เพราะมีคนอีกมากที่หมายตาสิตางศุ์อยู่ เพียงแต่พวกนั้นไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้ามาหา จะมีก็แต่ผู้ชายที่ชื่อเจียระไนนี่แหละที่ก้าวเท้าจากวงนอกสุดเข้ามานั่งกินข้าวด้วยกันมื้อที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้


   “บอกไอ้คนที่จะจีบมึงด้วย ว่ากูก็จีบอยู่ จีบมาพักนึงแล้ว มึงเพิ่งรู้ตัวก็ตอนกูบอกด้วยซ้ำ”


   “อ้าว...ก็กูไม่รู้นี่นา ก็มึงเป็นเพื่อนอ่ะ...”


   “แล้วคนอื่นที่จีบมึงล่ะ?” คนโกหกไม่เก่งปิดปากเงียบ


   “รุ่นน้อง?” คำถามมาอีก ดวงตาคู่สวยเบิกขึ้นเล็กน้อยแทนคำตอบทั้งหมด


   “พวกไอ้กอล์ฟปี 3 เปล่าวะ สัด! กูอุตส่าห์บอกแล้วนะว่ากูจีบมึงอยู่ อย่าเสือก”


   “กอล์ฟไหน”


   “กอล์ฟปกครองไง พวกที่มันชอบทักมึงบ่อยๆ จำไม่ได้ล่ะสิ” สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆ คิดไม่ถึงว่านอกจากเจียระไนแล้ว มนทิชาแล้ว ยังมีคนอื่นที่คิดจะจีบเขาด้วย


   ...คนพวกนี้จีบเขาเพราะอะไรนะ?...


   “ไหน...มึงบอกว่ากูเซ่อ มีตาแต่ไม่มอง เรื่องไหนที่ไม่สนใจก็ไม่สนใจเลย กูนิสัยแบบนี้ ทำไมถึงจะจีบกูกันล่ะ”


   “จีบเพราะชอบ จีบเพราะรัก ไม่ได้จีบเพราะข้อดีข้อเสียนี่หว่า” เจียระไนย้อน ตาเหลือบไปเห็นพวงพริกไทยอ่อนสีเขียวๆในจานอีกฝ่าย เลยชี้


“นั่นมึงแดกมั้ย พริกไทยอ่อน”


   “มันมีกลิ่นรึเปล่า”


   “กูว่ามี” ใบหน้าขาวส่ายไปมาแทนคำตอบ เจียระไนเลยตักออกมาใส่จานเขาแทน พอเริ่มทานกันต่อ คำถามจากคนไม่รู้ก็มาอีกระลอก


   “โจ๊ก...กูมีข้อเสีย แล้ว...แล้วมึงก็ยังจะจีบต่อเหรอ”


   “มีใครไม่มีข้อเสียบ้าง มึงเรียกมันมาให้กูดูหน้าหน่อย”   


   “มันก็ใช่ ทุกคนมีข้อเสีย แต่...ทุกคนก็ไม่ได้มีข้อเสียเท่าๆกัน อย่างมึงงี้ ถึงจะมีข้อเสียแต่...ก็ใจดี...” ริมฝีปากคนฟังกระตุก เจียระไนพยายามกลั้นยิ้มกับคำชม เขากระแอมเบาๆแล้วโยนคำถามกลับไป


   “ข้อเสียกูมีอะไรบ้าง ไหนพูดมาซิ”


   “อ่า...มึงเอาแต่ใจ ชอบบังคับ ข่มขู่นิดหน่อย เอ่อ...อารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย...”


   “เดี๋ยวๆ เมื่อกี้กูพูดข้อเสียมึงไม่กี่ข้อเองนะ แล้วทำไมทีข้อเสียกู มึงพูดเยอะ?” คนถูกห้ามไม่ให้พูดต่อหัวเราะเบาๆ รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวลืมเรื่องที่กังวลเมื่อครู่นี้ไปแล้ว


   “ข้อดีมึงก็เยอะ...มึงใจดี มึงเอาใจใส่ เอ่อ...แล้ว...แล้วก็...” ใบหน้าขาวขึ้นสีเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยก้มต่ำมองจานอาหารของตัวเอง “...เวลาถูกมึงจีบ กู...รู้สึกดี...”


   หัวใจคนฟังถูกล้วงออกมาจากอกแล้วอยู่ในมือขาวที่ถือส้อมหลวมๆนั่นเรียบร้อย ไม่ว่าสิตางศุ์จะบีบจะคลาย มันก็ไม่ดิ้นหนีไปไหนอีกแล้ว ใจของเจียระไนเป็นของคนตรงหน้าโดยสมบูรณ์!


...ถูกจีบ...รู้สึกดี...


   ...ถูกจีบ...รู้สึกดี...


   ...ถูกจีบ...รู้สึกดี...


   ...ไอ้เชี่ย!! กูเอาลิ้นกระทุ้งกระพุงแก้มซ้ายทีขวาทีจนแทบพรุนไปหมดแล้วแต่กูก็ยังกลั้นยิ้มไม่ได้!!!...


   “ยิ้มทำไมอ่ะ โจ๊ก”


   “เสือก” ด่าคนที่ตัวเองกำลังจีบอยู่ก็นับเป็นข้อเสียหนึ่งของเจียระไนคนนี้เช่นกัน


   “ก็มึงยิ้มจริงๆอ่ะ” ดวงตาเรียวๆถลึงใส่อีกรอบ และคาดว่าน่าจะถูกซักเรื่องยิ้มอีกแน่ เจียระไนเลยรีบถามแทรก


“...มึงบอกว่าเวลาถูกกูจีบแล้วรู้สึกดี มึงรู้เหรอว่าเวลาไหนที่กูจีบมึง” คราวนี้สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆกับคำถามของคนที่กำลังพยายามลดรอยยิ้มของตัวเองอย่างเร่งด่วน


   “อ่า...ตอนไหนที่มึงจีบเหรอ” คนถูกจีบแต่ไม่เคยรู้ว่าถูกจีบนึกย้อนไปในช่วงเวลาที่เจียระไนเข้ามาในชีวิต ตอนไหนบ้างนะ ที่เขากำลังถูกจีบ?...


   “เอ่อ...ตอน...ตอนที่มึงใจดีกับกู...” คิดว่าน่าจะใช่ เพราะเจียระไนเคยบอกว่าถ้ากำลังจีบ จะใจดีด้วย 


   คนรอฟังคำตอบถึงกับถอนหายใจเฮือก


...ให้ตายเถอะวะ! กูทำแทบตาย ทำทุกอย่างตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ แต่แม่งเสือกนิยามการจีบของกูว่า ’ตอนที่ใจดี’ ...หมดใจจะด่าจริงๆ!...


   “ฟังนะ...กูไม่เคยทำอาหารให้คนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวกูกิน ไม่เคยเล่นกีต้าร์ให้ใครฟัง ไม่เคยอยู่ดีๆก็จองตั๋วไปเที่ยวเพราะเขาจะไป ไม่เคยบอกให้ม้าต้มเก็กฮวย ไม่เคยแวะไปหาวันละหลายๆครั้งเพราะเขาเอาแต่หมกตัวทำงานอยู่ในห้อง ไม่เคยพาใครไปทะเลเพราะเห็นว่าเขากำลังเครียด และกูก็ไม่เคยพูดกับใครยาวๆแบบนี้เพื่อให้เขารู้ว่ากูกำลังจีบเขาอยู่”


   บรรยากาศบนโต๊ะอาหารยาว 8 ที่นั่งแต่มีคนนั่งอยู่ 2 คนกลายเป็นเงียบกริบ หลังจากคำพูดยาวๆชุดใหญ่ของเจ้าของคอนโดหรู ที่สร้างความเขินแปลกๆในใจคนฟัง สิตางศุ์ก้มหน้านิ่งจนกระทั่งเสียงทุ้มๆดังขึ้นอีกหน


   “อ้าว ยังมีกระเพราเหลืออยู่ในจานมึงอยู่เลย กูนึกว่าเอาออกหมดแล้วซะอีก เอามาใส่ในจานกูนี่มา” ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมอง ก่อนจะคุ้ยหาใบกระเพราที่ว่า และเจอมันซ่อนอยู่ข้างใต้ผักอื่นจริงๆ มือขาวตักไปใส่ในจานอีกฝ่าย บรรยากาศเมื่อครู่จางหายไปแล้ว เป็นอีกครั้งที่เจียระไนเปลี่ยนเรื่องเพื่อทำให้เขาสบายใจ

   ...โจ๊กเป็นคนใจดีและเอาใจใส่...


   สิตางศุ์ยิ้มน้อยๆ เขาเองก็อยากใจดีและเอาใจใส่อีกฝ่ายบ้าง เพราะฉะนั้น...หาเรื่องหยอกเจียระไนหน่อยดีกว่า


   “รู้ว่ากูไม่กินผักมีกลิ่น ก็ยังทำผัดขี้เมาอีก จะแกล้งกูเหรอ”


   “เปล่า แต่กูแค่อยากให้มึงรู้ว่ากูทำอะไรอร่อย อร่อยมั้ยล่ะ”


   “อื้ม”


   “รู้ไว้ด้วยว่ากูชอบกิน แล้วนั่นน่ะ มึงจะแดกมั้ยกุ้ง ปล่อยเอาไว้มันเย็น เนื้อจะแข็ง รีบๆแดกสักที มา กูเลาะให้” แล้วมือใหญ่ก็เอื้อมมาตักกุ้งตัวใหญ่ไปใส่จานตัวเอง เลาะเนื้อออกจากเปลือกเสร็จสรรพแล้วถึงตักกลับมาใส่ในจานสิตางศุ์อีกหน


   ...โจ๊กเป็นคนเอาแต่ใจ ชอบบังคับ ข่มขู่นิดหน่อย อารมณ์ร้อน แล้วก็หงุดหงิดง่าย...


   ...แต่...โจ๊กก็มักจะใจดีและเอาใจใส่กันจริงๆนะ...


   สิตางศุ์ยิ้มอีกหน


   “บ่นกู แต่ก็จีบกู...” ริมฝีปากสีสดพึมพำให้ได้ยินกันแค่สองคน


   “เออ รู้ตัวซะบ้างว่าถูกกูจีบ ถ้ากูถามว่ากูจีบมึงตอนไหนบ้าง แล้วมึงยังตอบกว้างๆว่าตอนที่กูใจดีอีกล่ะก็ กูจะตบปากมึง” คนจริงพูดด้วยท่าทางจริงจังแต่ใจจริงขู่ไปอย่างนั้นเอง และดูเหมือนคนที่เริ่มสนิทกันอย่างสิตางศุ์จะรู้ไต๋แล้วว่าเรื่องตบปากอะไรนั่นเป็นแค่เรื่องขู่เล่นเท่านั้น หน้าขาวๆไม่ได้มีวี่แววสลดเลยแม้แต่น้อย คนจริงถนัดแต่ขู่อย่างเจียระไนเลยต้องเพิ่มดีกรีความเกรี้ยวกราดอีกสักหน่อย


   “รีบแดกได้แล้ว! จะให้กูสอนเล่นกีต้าร์มั้ย?!!”


   “สอนๆ ไปเล่นตรงระเบียงนะ กูอยากดูไฟตึกนั้นด้วยอ่ะ” ตึกคราวก่อน ที่เจ้าของคอนโดใช้เป็นข้ออ้างให้อีกฝ่ายอยู่ที่นี่นานๆนั่นล่ะ ดูเหมือนแขกจะติดใจ ทั้งๆที่เขาก็ว่าไม่เห็นมันจะต่างจากตึกอื่นเท่าไร แต่...ในเมื่อมันอยากดู ก็...


   “มึงจะทำอะไรก็ทำเหอะ! แต่ตอนนี้แดกให้เสร็จ! เส้นแข็งหมดแล้วมั้ง เอาแต่พูดอยู่นั่น” สิตางศุ์ยิ้มน้อยๆ แต่ก็ไม่ชวนคุยอะไรอีก เขาม้วนเส้นกับส้อมแล้วเข้าปาก แม้จะต่างคนต่างทานจานของตัวเอง แต่สายตาจากดวงตาเรียวๆก็คอยสอดส่องมาที่จานเขาเสมอ ดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายลุ้นว่าเขาจะทานหมดมั้ย และจะทานได้รึเปล่า หากนี่จะนับเป็นเรื่องหนึ่งของการจีบ ก็คงเป็นการจีบที่เอาใจใส่ที่สุด อ่อนโยนที่สุดและเงียบเชียบที่สุด    


...การถูกโจ๊กจีบ เป็นเรื่องที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตเลย...

.................................

   เพราะการถูกเจียระไนจีบ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ตอนที่ยังไม่รู้ตัว แล้วพอรู้ตัว การกระทำเหล่านั้นก็กลายเป็นความคุ้นชินของสิตางศุ์ เจียระไนอยู่ข้างๆเหมือนเพื่อน บางครั้งก็ดุเหมือนพี่ แต่การกระทำทุกอย่างแฝงนัยของคนที่เอาใจใส่และพร้อมเรียนรู้เรื่องของกันและกัน ไม่เหมือนกับ...การถูกจีบจากอีกคน...


   ‘พี่โซ่ อรุณสวัสดิ์ค่ะ’


   ‘ตอนปีหนึ่ง พี่โซ่เรียนอะไรบ้างคะ ลงเลือกเสรีเลยมั้ย’


   ‘พี่โซ่เรียนภาษาอะไรเป็นภาษาที่สามเหรอคะ เขาบอกกันว่าภาษามาเลย์ อาจารย์ให้เอง่าย’


   ‘มี่อยากเข้าชมรม พี่โซ่ว่ามี่เข้าชมรมไหนดีคะ’


   และอีกสารพัดข้อความที่มนทิชาส่งมาหาเขา นับตั้งแต่การแลกเบอร์ในร้านหมูกระทะวันนั้น สิตางศุ์ไม่รู้ว่าเพราะคำเตือนจากน้องรหัสรึเปล่า เขาถึงรู้สึกอึดอัดกับการเข้าหาของรุ่นน้องคนนี้


   ...แต่...แต่...น้องมี่ก็ไม่ได้ถามอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเท่าไร ยกเว้นเรื่องกลับรึยัง มาเรียนรึยังอะไรนั่น ส่วนใหญ่เน้นขอคำปรึกษามากกว่า...


...บางที...ปกอาจจะคิดมากไปเอง...น้องมี่อาจจะไม่ได้คิดจะจีบก็ได้...


   “ตรงนี้ว่างมั้ยคะ” เสียงใสๆดังขึ้นข้างๆ ทำเอาสิตางศุ์ที่กำลังไล่ดูข้อความที่เขาส่งโต้ตอบกับน้องรหัสของเพื่อนสนิทถึงกับสะดุ้งเฮือก รีบคว่ำโทรศัพท์ลงกับโต๊ะแล้วเงยหน้ามอง


   ...น้องมี่...


   เด็กสาวเจ้าของเสียงส่งยิ้มหวานๆมาให้ แล้วส่งสายตาไปที่ม้านั่งฝั่งตรงข้ามซึ่งไม่มีใครนั่ง


   ...ใช่...โรงอาหารตอนสายๆแบบนี้ แทบไม่มีคน ไม่ใช่แค่ที่โต๊ะของเขาที่นั่งเพียงลำพัง แต่ไม่ว่าจะมุมไหนๆของโรงอาหารก็ว่างแทบทั้งนั้น


   แต่...น้องมี่ก็ยังขอนั่งกับเขา สิตางศุ์พยายามคิดในแง่ดีว่าน้องไม่อยากนั่งคนเดียว เลยหาคนรู้จักนั่งด้วย


   “ว่างครับ”


   “มี่ขอนั่งด้วยนะคะ” แล้วหล่อนก็เดินไปทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม หนุ่มรุ่นพี่ปีสี่ถึงกับขยับตัวอย่างอึดอัด สายตาที่หล่อนจ้องเขาให้ความรู้สึกแปลกๆ


   “วันนี้พี่โซ่ไม่มีเรียนเหรอคะ”


   “ครับ แวะมาห้องสมุดน่ะ” เจียระไนมีเรียนเช้า เขาก็เลยมานั่งเล่นห้องสมุด พอเริ่มหิวก็เลยมานั่งทานข้าวที่นี่ ส่วนเพื่อนซี้อีกสองคนมีเรียน เวลานี้สิตางศุ์ก็เลยหัวเดียวกระเทียมลีบ


   “แล้ว...น้องมี่ล่ะ” ถูกถามอยู่ฝ่ายเดียวก็ดูไม่มีมารยาท ร่างโปร่งเลยตั้งคำถามกลับไป


   “มีค่ะ แต่...มี่หิว...ก็เลยแวบออกมา”


   “อ้อ...แล้วสั่งอะไรรึยังล่ะ”


   “สั่งแล้วค่ะ...เอ่อ...พี่โซ่ทานเสร็จแล้วเหรอ”


   “ครับ...” เขากำลังจะขอตัว แต่เด็กสาวรีบพูดอย่างรวดเร็ว


   “นั่งเป็นเพื่อนมี่ก่อนได้มั้ยคะ”


คำพูดของหล่อนทำเอาหนุ่มรุ่นพี่ไม่กล้าลุกจากโต๊ะ นิสัยเห็นอกเห็นใจและมีน้ำใจกับคนอื่นกำลังแสดงปาฏิหาริย์ ยิ่งเห็นสีหน้าเหงาๆของเด็กสาวปีหนึ่ง เขาก็ยิ่งลุกไม่ขึ้น


   “อ่า...ได้ครับ...” เสียงเรียกจากร้านข้าว ทำให้มนทิชาลุกจากโต๊ะไปรับอาหาร ก่อนจะกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งและนั่งฝั่งตรงข้ามกับรุ่นพี่ปีสี่อย่างสิตางศุ์


   โรงอาหารยามสายนั้นค่อนข้างเงียบ แต่ที่เงียบยิ่งกว่าคือที่โต๊ะของรุ่นพี่หนุ่มและรุ่นน้องสาว มันเงียบ...เพราะสิตางศุ์ไม่ใช่คนช่างคุย ในขณะที่มนทิชาก็ไม่พูดอะไร หล่อนละเลียดข้าวช้าๆ บางทีก็เงยหน้าขึ้นมามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาที่ทำเอาคนถูกมองรู้สึกหายใจไม่สะดวก


   “มี่มีเรื่องอยากจะปรึกษาพี่โซ่เยอะเลย ก็เลยถามบ่อยๆ ถ้าพี่โซ่ไม่ว่างตอบ ก็...ไม่ต้องรีบตอบก็ได้นะคะ มี่รอได้” หล่อนออกตัว ข้อความที่ส่งไปถามเขานั้นได้รับคำตอบทุกครั้ง แต่...ไม่ใช่การตอบอย่างรวดเร็ว บางทีทิ้งเอาไว้เป็นวัน กว่าจะตอบกลับมา มนทิชาคิดเอาว่าอีกฝ่ายปีสี่แล้ว อาจจะยุ่งทั้งเรื่องเรียนจบ เรื่องงาน เรื่องอนาคต แต่...ถึงอย่างนั้นหล่อนก็อยากคุยกับเขา


   “เอ่อ...พี่...ขอโทษจริงๆที่ตอบช้า...” สิตางศุ์รู้สึกผิด ที่ดูเหมือนเขาไม่ใส่ใจรุ่นน้องคนนี้เท่าที่ควร ทั้งๆที่มนทิชามาปรึกษาเขา แม้ว่าการปรึกษาของหล่อนจะถี่ยิบก็ตามที


   “ไม่เป็นไรค่ะ มี่...อยากคุยกับพี่โซ่...ไม่รบกวนเกินไปใช่มั้ยคะ” คนเป็นรุ่นพี่ถึงกับชะงักกึก สายตาที่อีกฝ่ายจ้องมองมานั้นคาดหวังคำตอบเดียว และมันก็ทำให้เขาพูดคำตอบอื่นไม่ได้


   “ม...ไม่...”


   “ถ้างั้น...มี่จะขอโทร.หาพี่บ้างนะคะ...”


   “ด...ได้...”


สิตางศุ์รู้ตัวดีว่าเขาใจอ่อนเสมอ โดยเฉพาะกับเด็ก กับคนแก่ กับผู้หญิง แล้วยิ่งมาพร้อมสายตาเว้าวอน ถ้าแถมน้ำตาด้วยล่ะก็ ร้อยละร้อย ใจเป็นต้องอ่อนยวบ


   “พี่โซ่ใจดีจัง งั้น...มี่...ไปเรียนก่อนนะคะ” มือเล็กรวบช้อนส้อมเข้าด้วยกันทั้งๆที่ยังทานไม่ถึงครึ่ง แล้วส่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้าอีกทีก่อนจะลุกออกจากโต๊ะไป


สิตางศุ์รอจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายพ้นโรงอาหารไปแล้ว เขาถึงได้ไถตัวลงหมอบกับโต๊ะแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความกลัดกลุ้ม


   ...แย่แล้ว โซ่...แย่แล้ว...ทำไมไม่รู้จักปฏิเสธ!...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

อย่าโกรธโซ่นะคะ อย่าโกรธธธธธธ  :ling3:

โซ่อยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ก็ต้องงุนงง ไม่เข้าใจ ระบุความรู้สึกไม่ได้เป็นธรรมดา รักโซ่ต้องให้เวลาโซ่ (เข้าใจมั้ยโจ๊กกกก)

ส่วนพระเอกโจ๊ก พาร์ทนี้มาน้อยๆ เพราะไม่ใช่เวลาของมัน หวังว่าทีมโจ๊กทุกคนจะเข้าใจและคอยสนับสนุนโจ๊กต่อไป เพราะโจ๊กยังคงต้องการกำลังใจและความสงสารจากทุกๆคนค่ะ ฮ่าฮ่า (เวลามีคนหวีดโจ๊ก ออกตัวว่าเป็นทีมโจ๊ก จะรู้สึกดีใจมาก ที่ทำให้ผู้ชายสองหน้าคนหนึ่งเป็นที่รักใคร่เอ็นดู กร๊ากกกกก)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและกำลังใจเช่นเคยค่ะ
เจอกันพฤหัสหน้า อ่า...พร้อมผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืน (ผืนเล็กๆก็พอ)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 11-05-2017 21:39:14
ยัยน้องโซ่ ชั้นจะฟ้องอิโจ๊กโดนดุแน่ๆ
นังน้องมี่หนีไปค่ะ ชิ่วๆหล่อนนกรู้ตัวไว้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: followme ที่ 11-05-2017 21:41:32
ตอนนี้โครตรำคาญโซ่
มีปากก้อไม่พูดไป อ้ำอึ้งอยู่ได้ รำคาญ
สงสารโจ๊ก ที่มารักมาชอบคนโง่เซ่อซ่าแบบนี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 11-05-2017 21:44:56
โอ้ยยยย โซ๋เลยโซ๋
จะหาบ่วงมาแขวนคอตัวเองแล้วไหมนั่น
ใจดีอะไรเบอร์นั้นฮะ
ถ้าโจ๊กรู้มีหวังโดนดุชุดใหญ่แน่

เอาใจช่วยโจ๊กด้วยนะ
พ่อพระเอกสุดหล่อในสามโลก
ขอให้ได้ให้โดน ให้โซ่รักโซ่หลงไวๆ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: kung ที่ 11-05-2017 21:49:38
โอ๊ยยยย รำคาญมี่ อลงกต ที่สุดคือรำคาญโซ่ เอาจริงคนอะไรจะโง่จนเซ่อขนาดนี้ มีปากไว้กินอย่างเดวเหรอ เกรงใจอะไรนักหนา นังมี่ทำดีอะไรให้โซ่เหรอ หึ้ยยย ขัดใจเจงๆ :katai4: :z6:  สงสารโจ๊กคนดีของเรามากอะ มารักคนที่ดีกับคนอื่นแบบโซ่แล้วไม่แคร์โจ๊กเลย เซ็งแทนเอาจริงดิ :ling1: #ทีมโจ๊ก o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 11-05-2017 21:51:15
เอาคืนหนักๆเลยโจ๊ก :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 11-05-2017 22:07:56
โซ่เอ๋ย  โจ๊กดูแลน้องโซ่ด่วนจ้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 11-05-2017 22:10:38
#ทีมโจ๊ก เท่านั่น!!!!!
นังมี่ นังชะนีผีส่งมาเกิด ต้องรอให้เฮียโจ๊กมาจัดการใช่มั้ย
แล้วกตอ่ะ ทำไมไม่ดูว่าตอนนี้เพื่อนตัวเองมีความสุขแค่ไหน ยัดเยียดมี่มาให้ออึดอัดกันเปล่า ๆ


อยากได้โจ๊ก คนแบบนี้แหละที่นี่ต้องการ
เถื่อน ๆ แต่ใจดี อร้ายยยยย

รออาทิตย์หน้าน้าาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 11-05-2017 22:16:08
โอ้ยอึดอัด โซ่ไม่ไหวเลย คงต้องต้องถึงมือโจ๊ก
กตคิดว่าคงหวังดี แต่จะทำอะไรถามความเห็นก่อนเพื่อนดีกว่ายัดเยียดให้แบบนี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 11-05-2017 22:19:03
ระวังความเคยชินหายไป แล้วจะมานั่งเสียใจเพราะความซื่อของตัวเอง
โจ๊กน่าจะเป็นคนที่โกรธแล้วง้อยาก ดูจากปากพี่แกแล้ว คงได้ด่าเปิดเปิงให้โซ่ร้องไห้น้ำตาแตก
#ใต้ความรำคาญ #ใต้ความนิสัยดี #ใต้ความอดทน

ไม่ใช่แค่แกนะโจ๊กที่ต้องอดทน คนอ่านก็ต้องทนเหมือนกัน เราจะทนไปด้วยกัน 
สู้ สู้ นะโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-05-2017 22:19:37
คนนี้โจ๊กจะให้กี่วัน 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: silverrain ที่ 11-05-2017 22:40:52
จากใจตอนนี้เรารำคาญโซ่มากเกรี้ยวกราด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 11-05-2017 22:43:06
รอโจ๊กมาจัดการน้องมี่5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 11-05-2017 22:44:21
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 11-05-2017 22:45:07
โจ๊กควรงอนโซ่ เอาให้โซ่รู้สึกตัวไปเล้ยยยยย 5
ว่าใครสำคัญ!!!!! 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 11-05-2017 22:47:22
คนซื่อๆ เซ่อๆ อย่างโซ่ เหมาะสมกับคนอย่างโจ๊กที่สุดค่ะ

น้องโซ่คบกับมี่ไม่รุ่งหรอกค่ะ เห็นแววพากันลงเหวมาแต่ไกล  :m16:

ไม่ได้แช่งนะคะ นี่พูดจริง อินมาก หงิด :m31:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 11-05-2017 23:01:34
อื้อหือ~~~ อ่านจบต้องรีบยกมือ
นี่ #ทีมโจ๊ก แถม #ทีมแพท ให้ด้วย!!
แอบลำไยตากต คือเห็นเพื่อนเป็นแบบนั้น แล้วยังคิดจะเชียร์น้องมี่อีก สำหรับเรามันแย่อ่ะ แทนที่จะให้โซ่แยกความรู้สึกให้ชัดได้ก่อน กลายเป็นให้ความหวังน้องไปอีก...ไม่ดีเลยอ่ะ

นอกจากจะให้โซ่รู้ใจตัวเองไวๆ แล้ว อยากให้ตากตนี่แหละ ควรได้รับบทเรียนของการทดสอบครั้งนี้ด้วยค่ะ #ป้าโมโห << อินไปม้ายยยย 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 11-05-2017 23:16:40
เอาชัลนีออกไปต้องทำยังงัย   :z6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-05-2017 23:27:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:   น้องโซ่เอ๊ยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 11-05-2017 23:47:35
คนมึนแห่งปีงานเข้าแน่
โดนขังลืมแน่ :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 11-05-2017 23:50:18
 :m31: อิโจ๊กรีบมาเก็บนังน้องมี่อย่างไวเลย อย่าให้รอ เก็บอิกตไปด้วยอีกคน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-05-2017 23:53:46
ระวังตัวไว้นะน้องมี่ บังอาจไปยุ่งกับของรักของหวงของอิโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 12-05-2017 00:12:41
ขอทวนประโยคสุดท้าย
แย่แล้วโซ่ ทำไมไม่รู้จักปฏิเสธธธธ

ฮือ ก็คนมันน่ารักอ่ะเนาะะ ถ้าโจ๊กรู้ทำไงเนี๊ยะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 12-05-2017 00:18:39
ถ้ามีแฟนสักคน
ขอเป็นแบบโจ๊กเถอะ ดีมากกกกกก
ปากร้ายใจดี ฉากบนโต๊ะอาหารน่ารักละเกิน
ส่วนโซ่ หนูลูกกก เดี๋ยวโดนโจ๊กตีจริงๆเถอะ ทำไมไม่ปฏิเสธ
ด่าก็ด่าไม่ลง เนื้อเรื่องปูมาน่าเอ็นดูเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 12-05-2017 00:20:35
วันนี้โจ๊กมาน้อยแต่โจ๊กมีคุณภาพมากเลยค่ะะะะ (ยกป้ายไฟ)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 12-05-2017 01:15:21
ฮืออออเป็นขนาดนี้เเล้วยังไม่รู้ใจตัวเองอีกหรอโซ่ววววววววววว สมควรเเล้วที่โดนโจ๊กเหวี่ยงบ่อยๆ แหมๆๆๆ ปล่ยให้ไกลหูไกลตาไม่ได้เลยนะโซ่ ต้องให้โจ๊กมันตามคุมตลอดไหม โอ้ยๆๆๆๆ จอยืมคำพูดอิโจ๊กแปบ อยู่มาได้ไงขนาดเนี่ย  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 12-05-2017 02:13:21
ต้องรออาทิตย์หน้าหรอคะ ต้องรออาทิตย์หน้ากับความรู้สึกนี้จริงๆหรอคะ พระเจ้า  :ling1: :katai4: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 12-05-2017 03:57:03
โซ่นะโซ่ ตอนหน้าโจ๊กอาละวาดแน่

ไม่อยากเสียน้ำตาเลยแต่ถ้าทำให้มันชัดขึ้นก็คงโอเค พร้อม!

โซ่เอ่ยเจ้าจงกลายเป็นมนุษย์บัดเดี๋ยวนี้!!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 12-05-2017 04:52:13
อยากเห็นคุณโซ่ปฏิเสธด้วยตัวเอง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-05-2017 06:28:39
ให้โจ้กจับได้ แล้วจับปล้ำเลย 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-05-2017 07:12:31
เห็นภาพเลย ถ้าโ๊กรู้จะเกิดอะไรขึ้น  :fire: :m31: :m16:
โซ่ ใจอ่อน ใจดี ปฏิเสธไม่เป็น มี่เธอจับนิสัยโซ่ได้

เอาไว้โจ๊กงอน หายไป โซ่ คงรู้ใจตัวเองคราวนี้แหละ
รอวันโจ๊ก โซ่ หวานๆกัน  :กอด1:  :o8: :-[

คนที่น่ารำคาญคือ กต อะไรของนาย
นายไม่ชอบโซ่ แต่นายเห็นเวลาโจ๊กดูแลโซ่หรือเปล่า
นายมันอคติ ไม่พอ ยังทำให้เพื่อนลำบากใจเพิ่มขึ้นอีก
หงุดหงิด งุ่นง่าน ทั้งแพท ทั้งโซ่
ตัวเองก่อเรื่องแล้วไม่สนใจ
น่าจะให้กต เจอความลำบากใจมั่ง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-05-2017 07:20:03
โจ๊กมันแนวตบจูบมาก

ข่มเหงทุกอย่าง บังคับทุกทาง .....อย่างใส่ใจ ฮ่า ๆ ๆ

โซ่เอ๊ย! ดูเหมือนตอนนี้จะลดความเซ่อลงไปได้บ้างแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 12-05-2017 07:52:27
บร๊ะเจ้าโจ๊ก มานิดเดียว ค่าตัวตอนนี้คงน้อย 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Banarot ที่ 12-05-2017 08:25:22
 :fire:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 12-05-2017 09:05:29
โจ๊กองค์ลงแน่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 12-05-2017 09:12:19
โอ๊ยยยยยยย รำโซ่โว้ยยยยย จะซื่อบื้อไปไหนนนนนเนี่ยยยยย.  :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-05-2017 09:17:02
โซ่ อยู่กะโจ๊กบ่อย ทำไมไม่ซึมซับ มาบ้างงง

หงุดหงิดอยากฟาดก้นแกมากกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 12-05-2017 09:34:10
เกิดเรื่องนี้ก็อาจจะดีนะ โซ่จะได้คิดออกสักทีว่ารู้สึกยังไงกับโจ๊กถ้าโจ๊กโกรธอะไรแบบนี้...รึเปล่า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 12-05-2017 09:37:26
โซ่รัวังจะโดนโจ๊กตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้น 555 :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 12-05-2017 10:11:51
อิน้องมี่รุกหนักขนาดนี้ไม่ขอพี่โซ่คบเลยล่ะคะ
แนะนำให้โซ่รีบบอกโจ๊กเลยค่ะคนดี
ขอคนขี้วีนอย่างโจ๊กจะได้ไม่ทะเลาะกับหนูนะน้องโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 12-05-2017 10:16:33
โจ๊กหึงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 12-05-2017 11:03:54
สงสัยผ้าเช็ดหน้านั่นสำหรับน้องมี่แน่ๆ เฮียโจ๊กคงไม่ปล่อยไว้นานหรอก 5555+
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 12-05-2017 11:29:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-05-2017 11:46:04
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 12-05-2017 13:37:54
ระวังงานเข้าเพราะชะนีนะหนูโซ่ :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 12-05-2017 13:43:47
จะเชียร์น้องมี่เพราะรำอีโจ๊ก ไม่งั้นก็เอากตก็ได้ชั้นชอบกตมากดดดกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 12-05-2017 14:19:12
อยากได้ผช แบบโจ๊กสักคน

โซ่ก็ซื่อบื้อจริงแหล่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 12-05-2017 14:28:56
รอโจ๊กมาช่วยจัดการ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-05-2017 15:24:29
ถ้าโซ่ปฏิเสธซิแปลกโซ่
รอให้มีที่พูดบอกว่าจีบก่อนเถอะ
อยากรู้ว่าโซ่จะซื่อตรงเหมือนเดิมมั้ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 12-05-2017 15:53:10
อ่านทันแล้ว  :hao5:
โซ่นี่น่าตีมากเลย ทำไมไม่ปฏิเสธไป หื้มมม
โจ๊กรู้นี่คงเป็นเรื่องนะ เดี๋ยวไบโพลาร์ก็ขึ้นอีก 555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 12-05-2017 16:49:44
งานปฏิเสธน้องมี่ต้องถึงมือโจ๊กกกกกกกกก !
งานนี้มีไบโพลาร์กำเริบแน่นวลล
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 12-05-2017 17:41:57
โซ่ ถ้าโจ๊กรู้มีเละแน่เลยงานนี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-05-2017 17:46:26
เรื่องนี้จะต้องถึงมือโจ๊ก :katai4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 12-05-2017 17:52:42
น้องมีนี่หนูไม่ใสๆเลยนะคะ
เป็นงานอะไรขนาดนี้อะ
โซ่นี่ก้ใตอ่อนมากกก
ต้องหัดใจแข็งๆบ้างเนอะ
นึกหน้าโจ๊กไว้ จะเอ็นดูเขาเอ็นเราขาดงี้ไม่ได้นะ
ใจอ่อนแต่ละทีตัวเองเดือดร้อนตลอดเลย
ทีมโจ๊กกค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 12-05-2017 18:41:38
ทีมโจ๊กฮะ 100% เต็ม
 
พี่โซ่นิสัยแบบเนี๊ยะ น่าตีมากๆเลย
 
สงสารแต่คนอื่น แต่ไม่เคยคิดสงสารคนใกล้ตัว
 
ถ้าโจ๊กรู้เข้า เดี๋ยวก็ได้เป็นไบโพล่าอีก ผีเข้าผีออก ฮา 555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 12-05-2017 20:40:05
รู้ตัวก็ช้า ทำไรก็ขัดใจโจ๊กไปหมด แถมยังปล่อยให้คนอื่นมาเนียนจีบอีก
โจ๊กน่าสงสารสุด 555555

โซ่อยู่มาได้ไง เพื่อนๆมาตอบหน่อยว่าต้องดูแลขนาดไหน  :mew2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 12-05-2017 23:01:05
โอย...โจ๊กกับการดูแลที่โต๊ะอาหาร เป็นอะไรที่ดีต่อใจจริง ๆ ค่ะ อยากมีคนมาดูแลแบบนี้บ้าง ไม่ต้องพูดจาเสนาะหูตลอดก็ได้ แต่แสดงออกที่การกระทำแบบนี้แหละที่เราจะฝากอนาคตไว้ด้วยได้ เฮ้อ...อิป้าอิจฉาน้องโซ่จังเลยค่า

...น้องมี่ แรก ๆ ก็ดูหนูจะใส ๆ นะคะ แต่ไป ๆ มา ๆ น้องออกจะรุกหนักเกินไปแล้วนะ ไม่รู้หรือไงว่าฝ่ายชายเขาอึดอัด

ขอบคุณคุณบัวมาก ๆ ค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 13-05-2017 04:32:21
โอ้ย นายเอกใช้ชีวิตมายังไงเนี่ย เห็นใจพระเอก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 13-05-2017 04:38:31
ไม่อะไรกับน้องมี่ เข้าใจว่าคนมันชอบก็คงอยากหาทางจีบ

แต่รำคาญ หงุดหงิดกตมากๆ เพื่อนบ้าอะไรวะ จะมาอ้างว่าห่วงเพื่อนหวังดีกับเพื่อนก็ฟังไม่ขึ้นแล้ว ถ้าอยากเชียร์น้องมี่ทำไมไม่รีบทำก่อนหน้านั้น แต่ที่มาเชียร์ตอนนี้เพราะเห็นว่าโซ่เริ่มชอบโจ๊กแล้ว คือไม่เห็นแกความสุขเพื่อนเลย? ไม่เห็นว่าเพื่อนอึดอัดเลย? และดูอยากเอาชนะโจ๊กกับแพทมากกว่า คิดถึงแต่ตัวเอง มันไม่ใช่ความห่วงโซ่แล้ว

ขอให้กตโดนอะไรบ้างนะ หมายถึงให้มันรู้สึกผิดบ้างที่ทำแบบนี้อะ อยากให้รู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้นเลย หวังว่าไม่ใช่แค่เห็นเห็นว่าแผนไม่สำเร็จ เออๆ แค่นั้นจบนะ อยากให้รู้สึกแย่กับที่นำความอึดอัดใจมาให้เพื่อนบ้าง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 13-05-2017 06:50:54
เขินฉากกินข้าวอ่ะ นี่อ่านแล้วอมยิ้มตลอด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 13-05-2017 07:51:45
ผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยนี่เอามาเช็ดน้ำตาน้องโซ่ไหม
อิโจ๊กของขึ้นแน่นอนนนน :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: phrase ที่ 13-05-2017 08:58:51
โธ่โซ่ ถ้าจะซื่อขนาดนั้น โจ๊กรีบมาคุมความประพฤติด่วน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-05-2017 10:38:57
ในที่สุดก็ได้ฤกษ์มาตามอ่านเรื่องนี้ของคุณบัวซะที เรียกว่าเป็นเรื่องที่ฉีกแนวพระนายของคุณบัวมาก แต่ก็สนุกดีฮาอิพี่โจ๊กมีความเกรี้ยวกราดทุกตอน จะจีบเขาก็ยังมาเกรี้ยวกราดใส่อีก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไบโพล่ามากอะ ฮ่าๆ ส่วนพี่โซ่ก็ซื่อเกิ๊นนี่ถ้าโจ๊กไม่ยอกว่าจีบก็คงยังไม่รู้ตัวสินะ แต่แอบขัดใจนิสัยใจอ่อนปฏิเสธไม่เป็นนี่แหละ เอาเบอร์ให้ผู้หญิงไปแบบนี้เดี๋ยวก็งานเข้าแน่ๆ อิพี่โจ๊กได้เกรี้ยวกราดอีก ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-05-2017 12:04:33
ยังไงน้องมี่ก็นกอะ555555 น่าสงสาร

ทีมโซ่ค่ะ หลงรักนางไม่ให้อิโจ๊กได้มั้ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำตาลไงจะใครล่ะ ที่ 13-05-2017 16:13:26
โว้ยยย อิฉันรู้สึกขัดใจ  :ling1: จากนี้ไปต้องเป็นนายเอกที่
สตรองให้ได้นะหนูโซ่ อิฉันเอาใจช่วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 13-05-2017 17:46:11
โซ่เป็นคนที่ไม่ควรปล่อยให้อยู่ลำพังโดยเด็ดขาด งานเข้าเลย  :hao4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 13-05-2017 22:34:41
เอาผืนเล็กก็พอนะคะ น้องโซ่เขาขี้ใจอ่อน โจ๊กแกต้องเข้าใจจจ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: snoopy ที่ 15-05-2017 17:33:22
โซ่เอ๊ยโซ่ มึนได้ตลอดจริงๆ เดี๋ยวโจ๊กก็ได้โมโหเอาหรอก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 15-05-2017 17:47:10
อ่านแล้วเข้าใจโซ่นะ คนมันไม่รู้ว่าตัวเองถูกจีบก็เงี้ย
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปฏิเสธคนไม่เป็น

ก็อย่างว่ายังไม่มีแฟน ไม่มีสถานะนี่ ถ้าคิดทำตัวแบบนี้ต่อไป
รับรองมีคนเสียใจมากกว่าหนึ่งแน่นอน

บางที่ซื่อก็ซื่อแต่พอดีนะ :m16:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 15-05-2017 19:59:14
โจ๊กกับโซ่อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักอ่ะ ดุบ้างใจดีบ้าง แต่ทำให้บรรยากาศมันละมุนดี
แต่โซ่นี่ก็แอบอ้อยไม่รุ้ตัวเหมือนกันนะ แบบนี้โจ๊กจะไปไหนรอด

แต่น้องมี่คะน้องออกตัวแรงละเกิน เดวตัวจริงเค้ามาเจอจะเดือดร้อนนะคะ อย่าไปหลงคนมีเจ้าของเลยค่ะ ปล่อยโซ่ให้พี่โจ๊กเค้าปายเถอะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: ijuney ที่ 15-05-2017 22:24:59
สนุกมากๆ รีบมาต่อนะคะ พลีสสส
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 17-05-2017 00:02:47
น้องมี่ก็มาแล้ว ต่อไปนิตาจะมาอีกมั้ยยย
โจ๊กก็แสนดีแสนเอาใจใส่ ละมุนน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 17-05-2017 17:15:24
โอ๊ยยยคุณกต ขาาาา ไม่เห็นดีเห็นงามไม่ว่าอย่าหาเหาให้คนอื่นสิคะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: BlueHoney ที่ 17-05-2017 20:55:56
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 18-05-2017 21:23:07
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
……………..
   ตอนที่ 10


อรรณพว่าจะอยู่เฉยๆ


สาบานในฐานะพี่รหัสของสิตางศุ์ที่ดูแลน้องรหัสโคตรซื่อและบื้อมาตั้งแต่รายนั้นอยู่ปี 1 ว่าไม่ได้คิดจะเข้าไปวุ่นวายเรื่องของ ‘ไอ้โซ่’ เลยแม้แต่นิด!


ย้ำอีกครั้งว่า...ไม่เลยแม้แต่นิด!


 ‘ไอ้โซ่มันก็แคร์ทุกคนแหละพี่ แต่ไอ้โจ๊กนี่...เอ่อ...เพิ่งเพิ่มเข้ามาในลิสต์ไง แล้ว...แล้วพี่ก็ต้องเข้าใจว่าคณะเรามันเล็ก เดินเฉียดไปเฉียดมาก็หันมาสนิทกันเฉ้ย!’ นั่นคือคำอธิบายของพฤกษาเพื่อนสนิทของสิตางศุ์ที่เขาเคยโทร.ไปบังคับขู่เข็นเอาข้อมูล แต่ดูเหมือนรายนั้นจะแถสีข้างเข้าถู ว่าไม่มีอะไรในกอไผ่กอหญ้าใดๆทั้งสิ้น


...โอ.เค. ใจเย็นไว้ อาจไม่มีอะไรในกอไผ่ ไม่ต้องเผือก ไม่ต้องอยากรู้อะไรอีก...


ใจเย็นได้พักหนึ่ง จู่ๆก็มีข้อความจากรุ่นพี่คนหนึ่งในภาควิชาฯที่เคยเจอหน้ากันบ่อยๆ แต่ไม่ได้สนิทสนมเป็นพิเศษ แต่รายนั้นก็ยังหาทางส่งข่าวมาทางเบอร์ส่วนตัวของเขาจนได้


‘กูเจอน้องโซ่มากับไอ้โจ๊ก ปกครอง’


‘น้องมึงเสร็จแน่ๆงานนี้’


อรรณพโทร.กลับไปถามเดี๋ยวนั้น ได้ความว่ารุ่นพี่รายนี้ไปซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต เจอสิตางศุ์มากับ ‘ไอ้โจ๊ก ปกครอง’ แถมไอ้ปกครองนั่นมาด้วยไม่ว่า ยังทำตัวเป็นจงอางหวงไข่อีกต่างหาก!


...โอ้โฮ! ไอ้เวฟคนนี้อยากกลับคณะขึ้นมาทันที!!...แต่งานก็ต้องทำ เงินก็ต้องหา ห่วงน้องรหัสก็ห่วง แต่นายอรรณพมีสองมือสองขา ก็เลย...เอางานกับเงินก่อน เดี๋ยวเรื่องน้องรหัสค่อยใช้เงินแก้ปัญหาก็ได้วะ!...


แต่...สวรรค์ก็ยังไม่เป็นใจให้ ‘คอนเซนเทรท’ กับเงินและงาน เพราะล่าสุดได้รับข้อความจากน้องในสายรหัสที่อยู่ปีสอง


‘ผมว่า...พักนี้พี่โซ่ไม่ค่อยดีนะพี่...’


‘คะแนนมันตกรึไง’


‘เปล่า พี่โซ่ไม่รู้ใจตัวเอง’


‘หมายถึงเรื่องไหน’


‘เรื่องที่มีคนมาจีบพี่โซ่’ อรรณพตาแทบถลนใส่โทรศัพท์มือถือ


... กลับคณะสิครับ!! น้องกูถูกจีบของจริง!!...

........................................

และด้วยเหตุผลข้างต้น นายอรรณพ พี่บัณฑิตแห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ทิ้งงานทิ้งเงินมานั่งหัวโด่หัวเด่อยู่ที่โรงอาหารคณะ มีน้องรหัสผิวขาวจัดเจ้าของดวงตาคู่สวยใสแจ๋วนั่งดูดน้ำเก็กฮวยอยู่ฝั่งตรงข้าม


“ทำงานบริษัทตัวเองแบบพี่เวฟก็ดีนะ โดดงานเวลาไหนก็ได้” สิตางศุ์ทักพร้อมรอยยิ้มซื่อๆเหมือนเคย เจ้าตัวอยู่ในชุดนิสิตถูกระเบียบ บอกให้รู้ว่าวันนี้มาเรียน แต่ไม่ได้เข้าเรียนเพราะถูกตามตัวออกมาระหว่างคาบ


“นี่มึงชมหรือด่ากูอยู่”


“ผมไม่เคยด่าพี่เวฟสักที โอย...” มือของพี่รหัสเอื้อมมาดึงแก้มขาวๆนั่นอย่างหมั่นเขี้ยวไปที ก่อนจะยอมปล่อยออกให้เจ้าของแก้มขาวได้ถามต่อ


“แล้ว...พี่เวฟมาทำธุระแถวนี้เหรอ ทำไมเดี๋ยวนี้มาบ่อย สมัยเรียนไม่เห็นเข้าคณะบ่อยแบบนี้เลย”


“สมัยเรียน กูก็มาบ่อยเหอะ!”


...ยิ่งเวลามีคนจะเคลมมึงเนี่ย กูวิ่งสี่คูณร้อยมาเป็นไม้กันหมาทุกที...


อรรณพไม่อยากพูดไป เพราะพูดแล้วน้องรหัสรายนี้ก็ไม่เข้าใจ คงจะเป็นความผิดของเขาเองที่ไม่เคยให้มันรับรู้เรื่องที่มีผู้คนมากมายพร้อมจะเข้ามาจีบมัน ปัญหาก็เลยมาเกิดตอนเขาเรียนจบไปแล้วอย่างนี้ไง


...พอไม่มีกูคุ้มกะลาหัวเข้าหน่อย...ไอ้นั่นก็จ้องจะงาบ ไอ้โน่นก็พร้อมจะเอา กูเห็นนะนั่น ไอ้ที่ทำเป็นนั่งหลบมุมเสาต้นโน้นน่ะ มองน้องกูจนจะแดกเข้าไปทั้งตัวอยู่แล้ว! เดี๋ยวก่อนเหอะมึง! พวกนี้ไม่รู้จักไอ้เวฟพี่วินัยระดับพรีเมี่ยม! ฉายานี้ไม่ได้ได้มาเพราะจับฉลากนะโว้ย!...


“พี่เวฟ มีอะไรเหรอ เจอคนรู้จักเหรอ” สิตางศุ์หันมองซ้ายขวาเพราะเห็นสายตาพี่รหัสแปลกๆ แต่คนเป็นพี่จับหัวที่หันซ้ายทีขวาทีให้อยู่นิ่งแล้วมองตรงมาสบตาเขา


“มึงไม่ต้องเสือกเรื่องอื่น ตอบกูมาตามตรง มีปัญหาอะไรรึเปล่า”


“ปัญหา?” สิตางศุ์ย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ แต่พอสบตากับสายตาของรุ่นพี่หนุ่ม เขาก็ถึงกับชะงัก


...หรือพี่เวฟจะรู้เรื่องน้องมี่?...จะรู้ได้ยังไง ในเมื่อพี่เวฟเรียนจบไปแล้ว...


“กูเคยบอกมึงตั้งแต่ตอนรับมึงเข้าสาย ถ้ามึงมีปัญหาอะไร ให้บอกกู กูเป็นพี่มึง ต่อให้กูช่วยมึงไม่ได้ กูก็พร้อมจะอยู่ข้างๆมึง”


“ผมรู้...ว่าพี่ไม่เคยทิ้งผม...แต่...เรื่องนี้มันพูดยาก...” ร่างโปร่งเปรยแล้วถอนหายใจยาว


“งั้นมึงก็สมมติสิ สมมติเป็นประเทศก็ได้ ประเทศเอเป็นพันธมิตรกับกบฏในประเทศบี ประเทศซีดันสนับสนุนรัฐบาลประเทศบี แล้วประเทศเอกับซีก็รบกันในประเทศบี เอ้ย! โทษๆ ช่วงนี้กูอินเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 อยู่”


สิตางศุ์หัวเราะเบาๆ แต่เพียงแค่วินาทีต่อมาเสียงหัวเราะก็หายไปพร้อมๆกับรอยยิ้มที่เหือดแห้ง ความลำบากใจ กังวลใจยังลอยเคว้งคว้างอยู่ในหัวใจของเขา


“ผม...ไม่รู้ว่าอยู่ดีๆมันเกิดอะไรขึ้น ทำไม...จู่ๆก็มีคนเข้ามาจีบ เอ่อ...ตั้ง 2 คนแหน่ะ...คนที่หนึ่งมันมาบอกผมเองว่าจีบผม ส่วน...คนที่สองนี่...มีคนอื่นมาบอกอีกทีว่าท่าทางจะจีบ...” อรรณพรับฟังอย่างตั้งใจ ลางสังหรณ์บอกตัวเองว่า ‘ไอ้คนที่หนึ่ง’ ในคำพูดของน้องรหัสต้องเป็น ‘ไอ้โจ๊ก ปกครอง’ แน่ๆ


“กับคนที่หนึ่ง ผม...อยากอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่กับคนที่สอง...เอ่อ...บางทีก็อึดอัด”


“งั้นแสดงว่ามึงเลือกไอ้โจ๊...อ่า...เลือกไอ้คนที่หนึ่ง”


สิตางศุ์ส่ายหน้าไปมา


“ผมไม่เคยให้มันเป็นตัวเลือก ผมแค่อยากอยู่กับมัน ส่วนคนที่สองน่ะ...ยังไงก็เป็นน้อง แต่...แต่ผมไม่รู้จะปฏิเสธยังไง น้องเป็นผู้หญิง...เอ่อ ผมเข้าใจ เรื่องเพศมันไม่เกี่ยว แต่...แต่ยังไงน้องก็เป็นผู้หญิง...”


“ย้อนแย้งว่ะ” พี่รหัสด่า สิตางศุ์ก็ได้แต่ก้มหน้ารับคำอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง


“แล้วไอ้คนที่หนึ่งรู้มั้ย เรื่องมีไอ้คนที่สองมาจีบมึง”


“ไม่รู้ ผมไม่กล้าบอก ผมกลัวมันโกรธ”


“แล้วถ้ามันมารู้ทีหลัง มันจะไม่โกรธรึไง”


“ผมพยายามจะเคลียร์ให้ได้ ก่อนที่มันจะรู้ แต่...ผมสงสารน้องผู้หญิง...”


“มึงจะเอายังไงกันแน่ ไอ้โซ่ ตอนแรกมึงบอกอยากอยู่กับคนที่หนึ่ง ไม่อยากถูกคนที่หนึ่งโกรธ แต่เมื่อกี้เสือกบอกว่าสงสารคนที่สอง มึงสงสารคนที่สองเพราะคนที่สองเป็นผู้หญิงแล้วมึงไม่สงสารไอ้คนที่หนึ่งรึไง ถ้ามันรู้ว่ามึงไม่กล้าปฏิเสธเพราะเหตุผลโง่ๆแบบนี้ ไอ้คนที่หนึ่งมันจะรู้สึกยังไง”


“ผมรู้...ผมผิดเอง ผมไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง...”


“โซ่ ถ้ามึงเคลียร์ให้คนที่สองนั่นเลิกจีบมึงไม่ได้ แล้วเรื่องแดงขึ้นมา คนที่เจ็บที่สุดไม่ใช่มีแค่ไอ้คนที่หนึ่ง แต่มึงก็จะเจ็บด้วย”


“ผมเข้าใจ...” สิตางศุ์ได้แต่ก้มหน้าอย่างยอมจำนน เขารู้ว่าทางออกของปัญหานี้คือการปฏิเสธมนทิชา แต่เพราะไม่รู้จะปฏิเสธแบบไหน เขาก็เลยเครียดอยู่แบบนี้ และที่สำคัญ...มีอีกปัญหาที่รุมเร้าอยู่ในใจของเขา


“เอ่อ...พี่เวฟ ผมอยากปรึกษาอีกเรื่อง”


“ว่ามา มึงมีกี่ปัญหาเล่ามาให้หมด กูอุทิศเวลาวันนี้ให้มึงเลยหนึ่งวัน”


...งานเงินไม่ต้องเอา เคลียร์ปัญหาให้น้องรหัสหัวกะทิแต่โง่บรมเรื่องการใช้ชีวิตก่อน...


“ผม...ไม่รู้ว่าที่ผมอยากอยู่กับคนที่หนึ่ง เป็นเพราะรู้สึกดีเฉยๆ หรือว่าชอบมันด้วย?”


“เอ้า! แล้วใจมึงบอกว่าไงล่ะ”


“ผมไม่รู้...”


“...พี่เวฟบอกผมหน่อยสิ ทำยังไงผมถึงจะรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับคนที่หนึ่ง ผมไม่อยากให้มันรอผมอีกแล้ว มันเป็นคนดี มันไม่ควรต้องมาเสียเวลารอคนโง่ๆอย่างผมเลย” อรรณพอ้าปากค้าง เรื่องน้องรหัสโง่ยังพอเข้าใจ แต่ที่ยกย่อง ‘ไอ้คนที่หนึ่ง’ ว่าดีนี่คืออะไร?!


...เชี่ยโจ๊ก มึงลงสาลิกาลิ้นทองมาเป่ากะหม่อมน้องกูใช่มั้ย บอกมา!!!!...

............................................


‘ไอ้คนที่หนึ่งแสนดีอะไรของมึงเนี่ย มีนิสัยเสียมั้ย’


‘มีสิ ใครๆก็มีทั้งนั้นแหละ อย่าง...มันก็เป็นอารมณ์ร้อน เอาแต่ใจ ชอบขู่ ชอบบังคับ แต่ว่า...ผมก็เฉยๆนะ’


‘มึงมองข้ามไอ้ข้อเสียพวกนั้นได้ ว่าอย่างงั้นเถอะ’


‘ก็...ไม่ได้เลวร้ายอะไร...จริงๆมันก็เป็นคนใจดี ชอบดูแล เวลาอยู่กับมันแล้วสบายใจ เวลาเห็นมันยิ้ม...ก็อยากยิ้มไปกับมันด้วย ตั้งแต่รู้จักมันก็ไม่ค่อยเห็นมันทุกข์ แต่...ถ้าวันหนึ่งมันมีปัญหาอะไร ก็...อยากอยู่ข้างๆมันนะ ตั้งใจเอาไว้ว่าจะตอบแทนมันบ้าง เหมือนที่มันทำให้มาตลอด’


‘ก็ชัดแล้วนะ โซ่’


‘ชัด? พี่เวฟหมายความว่ายังไง?’ ไม่มีคำตอบจากพี่รหัส อรรณพแค่มองมาที่เขา แล้วเงียบ ปล่อยสิตางศุ์เอาไว้กับคำถามหัวข้อใหญ่ในสมอง


… ‘ชัด’ คืออะไร? ...
...........
.....
..

ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างหนักอก


ทำไมอรรณพถึงบอกว่า ‘ชัด’ จะชัดได้ยังไง ในเมื่อตัวเขาเองยังมองไม่ออกเลยว่าความรู้สึกที่มีคืออะไร


รัก? ชอบ? หรือแค่รู้สึกดี?


เสียงถอนหายใจจากคนข้างกาย ทำเอาร่างสูงที่กำลังขับรถต้องเหลือบตามอง พักนี้สิตางศุ์ดูไม่สดใสเหมือนแต่ก่อน  และมักจะทำคิ้วขมวดเสมอๆ เจียระไนสังเกตมาหลายวันแล้ว แต่ถ้าเขาชวนคุยชวนเล่น เจ้าตัวก็ดูเหมือนจะลืมเรื่องที่กำลังคิดหนักออกไป


เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจ มือใหญ่ละจากพวงมาลัยไปกดเปิดเพลงจากเครื่องเล่นเพลงของรถหรู ความเงียบภายในรถถูกแทนที่ด้วยเสียงเพลงร็อกหนักๆที่เจ้าของรถชอบ และมันดึงความสนใจของคนที่กำลังจมจ่อมกับความเครียดได้เป็นอย่างดี


“เพลงดังไปอ่ะโจ๊ก เบาเสียงหน่อย”


“มึงจะได้หายเครียดไง” ปากว่าอย่างนั้น แต่เจ้าของรถก็ยอมลดระดับเสียงให้เบาลงเล็กน้อย


“กูเครียดเหรอ?” คนทำคิ้วขมวดแต่ไม่รู้ตัวย้อนถาม เลยโดนร่างสูงเอื้อมมือมาเคาะหน้าผากไปที


“ย่นหมดแล้วเนี่ย เป็นอะไร”  ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันเหมือนไม่รู้ว่าควรพูดดีมั้ย สิตางศุ์อยากเล่าปัญหาสองเรื่องใหญ่ๆในชีวิตขณะนี้ให้อีกฝ่ายฟัง เรื่องแรกคือเรื่อง ‘น้องมี่’


...แต่...ถ้าโจ๊กรู้ว่าไม่กล้าปฏิเสธเพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงล่ะ โจ๊กจะโกรธรึเปล่า...


ส่วนเรื่องที่สองคือเรื่องความรู้สึกที่มีต่อเจียระไน


...แต่...ถ้าความรู้สึกที่มี ความรู้สึกที่พี่เวฟบอกว่า ‘ชัด’ ไม่ใช่สิ่งที่โจ๊กต้องการล่ะ โจ๊กจะเสียใจรึเปล่า...


...มีแต่เรื่องที่กังวลว่าโจ๊กจะโกรธ โจ๊กจะเสียใจ โจ๊กจะคิดมากทั้งนั้นเลย...


“ไม่มีอะไรหรอก”


…ไม่พูดไปดีกว่า ถ้าพูดแล้วโจ๊กโกรธ โจ๊กเสียใจ จะทำยังไงล่ะ…


ร่างสูงมองคนที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง สิตางศุ์ไม่ใช่คนโกหกเก่ง ไม่ใช่คนปกปิดเก่ง เขารู้ว่ามันมีเรื่องในใจ เพียงแต่ไม่กล้าบอกเขา เจียระไนอยากรู้ แต่ก็ต้องทำเป็นไม่อยากรู้ไปซะ


“ถ้าจะให้กูช่วยอะไรก็บอกแล้วกัน”


“เออ...วันนี้พี่รหัสกูมาหาด้วยล่ะ มึงจำพี่เวฟได้ใช่มั้ย” สิตางศุ์เปลี่ยนเรื่องคุยเพราะไม่อยากให้คนข้างกายจับได้ว่าเขากำลังกังวลเรื่องอะไร


“จำได้ พี่มึงสนิทกับพี่รหัสกู แล้วมาทำไม ไม่ทำงานรึไง” พอถูกถามแบบนี้ คนที่อุตส่าห์หาทางเปลี่ยนเรื่องคุย แต่เรื่องดันย้อนเข้าหาตัวเองก็ชะงักไปอีกรอบ ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ


“เอ่อ...ก็...ก็แวะมาเฉยๆ...อ่า...แล้วพี่รหัสมึงเป็นยังไงบ้างอ่ะ” คราวนี้ร่างโปร่งเปลี่ยนเป็นคุยเรื่องพี่รหัสของเจียระไนแทน จะได้ไกลตัวออกไปอีกหน่อย


“ก็สบายดีล่ะมั้ง มึงจะอยากรู้ไปทำไม” ใบหน้าแบบลูกคนจีนเอี้ยวมามองเล็กน้อย ขนาดใส่แว่นตากันแดด คนผิวขาวจัดยังรู้สึกว่าตัวเองถูกดวงตาเรียวๆนั่นจ้องดุๆเลย


“กูก็ถามดู ก็เห็นมึงไม่ค่อยพูดถึงพี่รหัสมึง”


“แล้วทำไมกูต้องพูดถึงผู้ชายคนอื่นให้มึงฟัง”


“อ้าว...” เจอรวนมาแบบนี้ สิตางศุ์ก็ไปต่อไม่เป็นเหมือนกัน เจียระไนทำปากกระตุกเล็กน้อยที่ตัวเองชักจะแสดงนิสัยขี้หวงมากเกินไปหน่อย


“มึงไม่รู้หรอกว่าแต่ก่อนมันก็เล็งมึง แต่พี่รหัสมึงเป็นเพื่อนมัน มันก็เลยพับโครงการไป” ร่างสูงพูด ทำเอาคนฟังถึงกับกะพริบตาปริบๆ ชี้นิ้วเข้าหน้าตัวเอง


“เล็ง?...หมายถึงพี่รหัสมึง...เล็งกูเหรอ...”


“คนที่เล็งมึงน่ะมีอีกเยอะ แต่พี่รหัสมึงมันตัวพ่อ ที่มึงรอดมาได้จนทุกวันนี้ กูว่านอกจากมึงจะดวงดีแล้ว ก็บารมีพี่มึงนี่แหละ” โชคดีที่อรรณพยอมเรียนจบ 4 ปี เกิดรายนั้นบ้าดีเดือดยอมจบ 5 ปี พร้อมสิตางศุ์ เจียระไนคงไม่ได้เชิดหน้าชูคอมาเป็นสารถีอย่างทุกวันนี้


“กูไม่เห็นรู้มาก่อน...”


“คนที่คิดจะจีบมึง ไม่ได้มีแค่กูหรอก โซ่” พอพูดถึงเรื่องจีบ ก็เหมือนเป็นวัวสันหลังหวะ สิตางศุ์นึกไปถึงมนทิชาขึ้นมา และดูเหมือนสวรรค์จะกลั่นแกล้งคนมีชนักปักหลัง เพราะจู่ๆ โทรศัพท์ในมือขาวก็สั่นน้อยๆให้รู้ว่ามีข้อความเข้า และข้อความนั้นมาจาก... ‘น้องมี่’ ...


   ‘พี่โซ่กลับรึยังคะ’
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 18-05-2017 21:23:33


ข้อความที่ปรากฏขึ้น ทำเอาร่างโปร่งกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เหลือบมองคนข้างกายอย่างรวดเร็ว แล้วขยับตัวเอียงไปทางฝั่งประตูรถเล็กน้อยเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะแอบเห็นสิ่งที่ปรากฏในโทรศัพท์ของเขา


   ...ต้องรีบหาทางปฏิเสธ...ต้องรีบหาทางปฏิเสธน้องมี่...


   มือขาวพิมพ์ข้อความตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว ท่องในใจตลอดเวลาว่าต้องปฏิเสธเท่านั้น


   ‘กลับแล้วครับ’


   ‘มี่มีเรื่องอยากจะปรึกษา ถ้าโทร.หาตอนนี้จะสะดวกมั้ยคะ’


   ...น้องมีเรื่องอยากจะปรึกษา ทำยังไงดีล่ะ...


   สิตางศุ์ได้แต่จ้องข้อความจากรุ่นน้องสาว รู้สึกแย่ที่อยากปฏิเสธคำขอของอีกฝ่าย แต่...แต่เขาต้องปฏิเสธ...ต้องปฏิเสธอย่างละมุนละม่อมที่สุด น้องจะได้ไม่เสียใจ...


   ปลายนิ้วพิมพ์คำว่า ‘ไม่’ แต่แล้วใบหน้าของรุ่นน้องก็ลอยขึ้นมาในความคิดให้เขาหายใจไม่สะดวกอีกหน


...ถ้าน้องมี่เสียใจมากๆล่ะ ถ้าปัญหาที่น้องอยากปรึกษาเป็นเรื่องใหญ่มากๆสำหรับคนสักคนล่ะ...


‘...มึงสงสารคนที่สองเพราะคนที่สองเป็นผู้หญิงแล้วมึงไม่สงสารไอ้คนที่หนึ่งรึไง ถ้ามันรู้ว่ามึงไม่กล้าปฏิเสธเพราะเหตุผลโง่ๆแบบนี้ ไอ้คนที่หนึ่งมันจะรู้สึกยังไง’ คำพูดของอรรณพดังขึ้นมาในหู สิตางศุ์หันมองคนที่กำลังขับรถพาเขากลับคอนโด


...ใช่...ไม่ควรให้โจ๊กต้องรู้เรื่องนี้แล้วกลายเป็นคนที่เสียใจ...


   สิตางศุ์ตัดสินใจพิมพ์ข้อความไปหามนทิชาในอึดใจเดียว


   ‘พี่ขอโทษนะครับ ไม่สะดวกคุยตอนนี้’


แล้วเขาก็เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงโดยไม่รอข้อความตอบกลับใดๆจากรุ่นน้อง เวลานี้ที่เจียระไนอยู่ข้างๆเขา เขาก็ควรจะใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด จะได้รู้ว่าความรู้สึกที่อรรณพบอกว่า ‘ชัด’ มันหมายความว่ายังไง


   “โจ๊ก...” เจ้าของชื่อหันมามองเป็นเชิงถาม


   “มึงว่างใช่มั้ย? ไปกินข้าวแล้วก็...ไปดูหนังกับกูก่อนได้รึเปล่า” ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยที่วันนี้สิตางศุ์มาแปลก เพราะชวนเขาออกนอกเส้นทาง ปกติแล้วถ้าไม่แวะหาอะไรทาน ก็มักจะให้เขาไปส่งที่ห้องเลย ไม่เคยแวะรายทางแบบนี้ แต่ในเมื่อขอมา ต่อให้อยากไปดาวอังคาร คนอย่างเจียระไนก็จะหาทุกวิถีทางพาไปนั่นแหละ


   “ได้” 


   “แล้ว...หลังจากดูหนังแล้ว...มึงมีอะไรต้องทำรึเปล่า”


“ไม่มี ทำไม มึงจะเอาอะไร”


“ค...ค้างคอนโดกูได้มั้ย” ประโยคถัดมาไม่ใช่คำตอบแต่เป็นการย้อนถามที่ทำเอาคนฟังแทบตาเหลือก


   “มึงว่าไงนะ?!” สิตางศุ์หันมองด้วยดวงตาใสสีน้ำตาลเข้มที่ดูจะเต็มไปด้วยความคาดหวัง เจ้าตัวสูดลมหายใจลึกก่อนจะพูดอีกครั้ง


   “คืนนี้...มึงค้างกับกูได้มั้ย กูอยากคุยกับมึง อยากรู้จักมึงให้มากกว่านี้”


   และที่สำคัญที่สุด...อยากรู้ความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกที่แม้แต่อรรณพยังบอกว่า ‘ชัด’ สิตางศุ์ก็อยากจะมองเห็นความ ‘ชัด’ ด้วยสายตาของตัวเองสักที จะได้รู้ว่าความรู้สึกที่มีให้เจียระไนคืออะไร


...ความรัก? ความชอบ? หรือแค่รู้สึกดี?...


   มันถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะเรียนรู้ความรู้สึกของตัวเอง เพื่อให้ผู้ชายที่อยู่ข้างๆเขา...ได้ก้าวเดินต่อไป

............................

   เจียระไนแทบอยากจะลงไปดิ้นกับพื้นเหมือนเด็กห้าขวบที่ได้ของเล่นที่อยากได้ที่สุดในวันที่คาดไม่ถึงที่สุด!!


   …ไอ้ฉิบหาย!!! ใครสั่งใครสอนให้ชวนกูนอนกับมึงด้วยหน้าตาเคร่งเครียดแต่โคตรน่ารักแบบนั้นวะ?!!!...


   ไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องใช้สติ สมาธิ หิริโอตัปปะและอุเบกขามากแค่ไหนในการขับรถจากมหาวิทยาลัยพาคนข้างกายมากินข้าว จากนั้นสิตางศุ์ก็ยังให้เขาเลือกภาพยนตร์ที่อยากดูรอบหัวค่ำ แล้วก็เข้าไปนั่งในโรงอย่างมึนๆงงๆ


...ครั้งแรกในชีวิตที่ดูหนังไม่รู้เรื่องเลย! เพราะในสมองคิดเรื่องเดียวคือเรื่องถัดจากหนังจบ...


...ไอ้โซ่ชวนค้าง! ไอ้โซ่ชวนนอนด้วยกัน!...


ออกจากโรงภาพยนตร์แบบที่เจียระไนแทบจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเข้าไปดูอะไร ขับรถกลับมาเอาเสื้อผ้าที่คอนโดชนิดที่เห็นไฟแดงมีรูปหัวใจ เห็นไฟเขียวมีดอกไม้ใบหญ้าประดับ เห็นรถคันไหนก็เหมือนรถคันนั้นยิ้มให้ไปหมด คนข้างกายชวนคุยอะไรก็ยิ้ม ยิ้มเหมือนไม่เคยยิ้มมาทั้งชีวิต


...โลกใบนี้แม่งน่าอยู่จริงๆ!...


“โจ๊ก อาบน้ำก่อนเลยนะ เดี๋ยวกูเปลี่ยนผ้าปูที่นอนก่อน” เจียระไนไม่รอช้า เวลาเป็นเงินเป็นทองเป็นโอกาสระดับแพตตินั่มขนาดนี้ จะมัวยึกยักทำไม เขาพุ่งตัวเข้าห้องน้ำ จัดการล้างหน้าแปรงฟันอาบน้ำถูสบู่ ฟอกจนสะอาด กลิ่นหอมชวนดม แล้วก็นุ่งกางเกงขายาวใส่นอนตัวเดียว


แน่นอน...แอบปั๊มกล้ามหน้าท้องให้ขึ้นลอนเล็กน้อย กะอวดสายตาเจ้าของคอนโดเต็มที่ว่า ‘ไอ้โจ๊ก’ คนนี้ก็มีของดีเหมือนกัน!!


ประตูห้องน้ำเปิดออก สิตางศุ์ที่กำลังเดินไปเดินมา เพื่อดึงผ้าปูที่นอนให้เข้ามุมก็หันมายิ้มแหยๆให้


“โจ๊ก มึงช่วยกูดึงหน่อยได้มั้ยอ่ะ เมื่อกี้กูดึงมุมนี้ มุมนั้นก็หลุด พอกูไปดึงมุมนั้น มุมนี้ก็หลุด สงสัยมันพอดีกับฟูกเกิน” กล้ามหน้าท้องแทบเหี่ยวแฟ้บในวินาทีนั้น เพราะอีกฝ่ายดูไม่ได้สนใจอะไรใดๆ นอกจากการพยายามปูเตียง แล้วเจียระไนจะพูดอะไรได้ นอกจากเอาผ้าเช็ดตัวไปพาด แล้วกลับมาช่วยเจ้าของห้องดึงผ้าปูที่นอนตามคำขอ


“สงสัยกูต้องไปซื้อใหม่” ต้องมีคนช่วยดึงอีกมุม ถึงจะปูได้ ถึงแม้ปูแล้วจะรีบตึงและสวยน่านอน แต่ถ้าต้องปูผืนนี้คนเดียว ก็คงไม่รอด


“พรุ่งนี้ หลังเลิกเรียนเดี๋ยวกูพาไป” สิตางศุ์ยิ้มขำ


“แค่ผ้าปูที่นอนเอง กูไปซื้อเองได้”


“กูอยากไปด้วย”


...แล้วกูจะถืออภิสิทธิ์เลือกสีที่กูชอบให้มึงเอามาใช้นอนทุกคืน! แม่ง...ฟีลลิ่งโคตรผัวเมีย...


“ก็ได้ๆ มึงดูโทรทัศน์ไปก่อน เดี๋ยวกูออกมาคุยด้วย” แล้วร่างขาวจัดก็เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ เจียระไนพยายามสงบสติอารมณ์ หลับตาท่องนะโมในใจเป็นร้อยจบเพื่อให้ทุกอย่างที่พองหนอ จงยุบหนอ


...ไอ้โซ่มันก็บอกแต่แรกแล้วว่าอยากคุยด้วย อยากเรียนรู้ อย่าเพิ่งหื่นสิโจ๊ก...


...ท่องไว้...ไม่หื่น...


...ท่องไว้...คิดถึงความรู้สึกของโซ่...


   ...ท่องไว้...ความรู้สึกของโซ่บอบบาง...


   ...ท่องไว้...กูต้องอ่อนโยน...


   ...อ่อนโยน...


   ...ฟู่...อ่อนโยน โจ๊ก...คาล์ม ดาวน์...
   ………………….
   ……………..
   ………
   …
   ไม่รู้หลับตาท่องทุกอย่างที่ท่องได้ไปนานเท่าไรเพื่อตั้งจิตและสมาธิให้อยู่ในเกณฑ์คนดี เสียงฝีเท้าในห้องนอนก็ดังขึ้น ดวงตาเรียวที่ตอนแรกปิดสนิทก็เลยเปิดพรึ่บ ก่อนจะค้างอยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นเจ้าของห้องที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังเดินไปเดินมา


ร่างขาวๆในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเดินเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ไปผึ่งที่ราว ก่อนจะหันไปก้มเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาเช็ดผมที่ยังเปียกหมาดเพราะเพิ่งสระ แล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะกระจก เอาหวีมาสาง ตามด้วยการเหลือบตามาสบกับเขาผ่านทางภาพสะท้อนของกระจก


    ... อ๊ะหือ!!! ไอ้ฉิบหาย!! ยิ้มให้กูทั้งๆที่กำลังขยี้ผมนี่คือยั่วให้กูขยี้ความรู้สึกมึงใช่มั้ย?!!...


   “ไม่เอาเสื้อมาเหรอ กูเปิดแอร์หนาวนะ” เจ้าของห้องหันมาถามโดยไม่ต้องสบตากันผ่านกระจกเหมือนเมื่อครู่ สะโพกพิงโต๊ะกระจก มือสองข้างยกขึ้นเช็ดผม ทำเอาเสื้อยืดลอยขึ้นเล็กน้อย เห็นเอวขาวๆรำไร


...ช....เชี่ย...


“โจ๊ก...กูเปิดแอร์หนาวจริงๆนะ” สิตางศุ์พูดซ้ำ เมื่ออีกฝ่ายมองเขาตาค้าง ไม่ตอบคำถาม เจียระไนต้องกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก่อนจะรีบกระโดดขึ้นเตียงตวัดผ้าห่มคลุมตัวเองเอาไว้


“กูนอนได้!” ...เพราะตอนนี้กูชักจะรู้สึกร้อนรุ่มซะแล้ว...


เจ้าของคอนโดมองคนที่ปากว่านอนได้แต่เอาผ้าห่มคลุมทั้งตัวก็เข้าใจว่าเจียระไนคงเกรงใจ เลยเดินไปปรับรีโมทแอร์ให้ ปากก็พูดไปด้วย


“23 องศาละกันนะ มึงจะได้ไม่หนาวมาก”


“ปกติมึงนอนกี่องศา”


“ถ้าหน้าร้อนก็ 20 องศา”


“มึงบ้าเหรอโซ่ นอนอะไร 20 องศา”


“ก็ชอบหนาวๆแล้วห่มผ้าหนาๆอ่ะ” ปากก็พูด มือก็ขยี้ผมจนแห้ง เจียระไนเห็นเอวขาวโผล่ไปโผล่มาอยู่หลายที จนต้องนอนตะแคงเอา เพราะ...นอนหงายไม่ได้ เดี๋ยวไอ้โซ่สงสัยว่าทำไมมีส่วนพอง ส่วนนูน...


สิตางศุ์พาดผ้าเช็ดผมผืนเล็กกับพนักเก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอีกฝั่งที่ว่างอยู่ เที่ยงคืนแล้ว...แต่วันนี้ยังไม่ง่วงเลยสักนิด


“มึง...คิดว่ากูแปลกมั้ยที่อยู่ดีๆก็ชวนมึงมานอนด้วย” ร่างโปร่งหันมาถามคนที่นอนตะแคงมาทางเขา


“ก็มึงบอกเองว่าอยากคุยกับกู”


“อืม...กู...อยากรู้จักมึงมากกว่านี้...”


“อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ” สิตางศุ์ไถตัวลงนอนบนเตียง ดวงตาคู่สวยมองเพดานเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่างจากบนนั้น ระหว่างพวกเขามีที่ว่างคั่นกลาง เจียระไนอยากทำลายพื้นที่ตรงนี้ แต่...ก็กลัวอีกคนจะตกใจ มือที่อยากจะยื่นออกไปเลยทำได้เพียงวางเอาไว้ตรงที่ว่างนั้น แล้ว...หวังว่าอีกฝ่ายจะยื่นมือมาจับเขาบ้าง แต่ก็ดูเหมือนสิตางศุ์จะไม่รู้ตัว เพราะกำลังไตร่ตรองว่าตัวเองอยากรู้อะไรจากผู้ชายที่นอนอยู่ข้างๆในเวลานี้


“กู...ไม่รู้จะถามอะไร”


“งั้นแสดงว่ามึงไม่ได้อยากรู้”


“กูอยากรู้จริงๆนะ แต่มันเยอะไปหมด จนไม่รู้จะถามอะไรก่อน” ดวงตาคู่สวยเหลือบมามองคนที่นอนอยู่ข้างๆ ดวงตาเรียว นัยน์ตาสีดำสนิทที่บางครั้งมันก็เหมือนดึงดูดให้เขาด่ำดิ่งอย่างไม่รู้ตัว บางครั้งมันก็อบอุ่นและอ่อนโยน บางครั้งมันก็น่าค้นหาและลึกลับ เป็นดวงตาที่...อยากจะมองอย่างนี้เรื่อยๆ...


   “ถ้าเรียนจบแล้ว มึงจะไปทำอะไรเหรอ” คำถามแรก หลังจากที่จับจ้องดวงตาคู่นี้อยู่นาน คำถามที่ถามถึงอนาคตของเจียระไน อนาคต...ที่สิตางศุ์ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงไหนในชีวิตของอีกฝ่าย แต่...ก็อยากให้ยังเป็นแบบนี้ เจอหน้ากันแบบนี้ ได้คุยกันแบบนี้...


   “แล้วมึงล่ะ เรียนไออาร์ อยากเป็นทูตมั้ย” เจียระไนไม่ตอบ แต่ย้อนถามในสิ่งที่เขาก็อยากรู้เช่นกัน


   “อืม...” คนฟังใจหาย หากสิตางศุ์เป็นทูต ภารกิจหนึ่งอย่างคือการออกไปประจำต่างประเทศ


   ...ที่ไหนล่ะ? มันจะไปอยู่ที่ไหน...


   “ไม่กลัวเหรอ เขาจะรบกันอยู่เนี่ย” ใจไม่อยากให้เป็น ใจไม่อยากให้ไป แต่...ไม่กล้ารั้งเอาไว้ด้วยคำพูดเห็นแก่ตัวพวกนั้น สิตางศุ์ทุ่มเทกับสิ่งนี้มาตลอดสี่ปี มาวันนี้ จะให้เขาฉุดรั้งเอาไว้เพราะไม่อยากให้มันไปไหนไกลตา เจียระไนก็ไม่กล้าพอ


   ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ


   “พูดเหมือนพ่อกูเลย กูเลยถามกลับไปว่าใครจะรบกับใคร พ่อกูเลยพูดต่อไม่ออก”


   “มึงแม่งยอกย้อน” คนไม่อยากให้ไปไหนไกลตาบ่นหน้านิ่วคิ้วขมวด ขนาดกับพ่อของมันเอง มันยังกล้าย้อน แล้วเขา...ที่...ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน จะกล้าพูดอะไรต่อได้ยังไง


   “แต่จริงๆกูก็ไม่อยากไปไหนไกลหรอก กูญาติเยอะ อีกหน่อยเขาก็แก่กันหมด กูกลัวไปทำงานที่ไกลๆแล้วกลับมาดูใจใครไม่ทัน แบบนั้น...กูคงเสียใจแย่เลย” นัยน์ตาสีดำสนิทที่ทอดมองมาที่คนพูดนั้นเจือแววอ่อนโยน เกือบสองปีที่ผ่านมา ที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกที่มีต่อคนที่นอนอยู่ข้างกายในเวลานี้ เจียระไนไม่ผิดหวังหรือเสียใจเลย


   ...การได้รักคนแบบโซ่คือเรื่องที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิต...


   “อ่ะ!...จริงๆแล้วกูถามมึงก่อนไม่ใช่เหรอว่าจบไปแล้วจะทำงานอะไร ทำไมกลายเป็นกูเล่าเรื่องของกูก่อนล่ะ” ร่างสูงหัวเราะอย่างอารมณ์ดีกับคำพูดของสิตางศุ์ที่เหมือนจะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าถูกเขาข้ามคำถามอีกแล้ว


   “เล่าเรื่องของมึงบ้างเลย สรุปว่าจบไปจะไปทำอะไร สอบปลัดมั้ย?” อาชีพยอดฮิตของนิสิตภาควิชาการปกครองอย่างเจียระไนก็คงไม่พ้นนักปกครองอย่างปลัด แต่...ถ้าคนขวางโลกแบบนี้สอบได้เป็นปลัดที่ไหน ที่นั่นอาจปั่นป่วนชุดใหญ่


   “ไม่ กูจะเข้าไปช่วยงานที่บ้าน”


   “กูถามได้รึเปล่า ที่บ้านมึงทำงานอะไร”


   “ดูนามสกุลกูแล้วไม่รู้รึไง” ดวงตาคู่สวยมองคนพูดอย่างงุนงง


   “กูไม่รู้นามสกุลมึงนี่นา”


   ...ไงล่ะ ไอ้โจ๊ก...โดนความซื่อทำร้ายตลอดเวลา!...


   “ตั้งกาญจนพาณิชย์” เชื้อสายจีนโดยแท้จริง คำนำหน้ามาจากแซ่ที่ผันเสียงเป็นภาษาไทย แถมนามสกุลยาวจนคนไทยแท้หลายคนยังมองค้อน


   สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆราวกับกำลังประมวลผล


   “อ่า...ขายทองเหรอ?”


   “อืม จำไว้ด้วย” ...ถ้ามึงถามซ้ำเมื่อไหร่ มึงโดน!!...


   “อ๋อ! มึงก็เลยชื่อเจียระไนสินะ อ้าว แต่ว่าเจียระไนมันใช้กับเพชรไม่ใช่เหรอ”


   “อาม่ากูขายทอง แต่พวกรุ่นพ่อกูก็ทำอย่างอื่น ของพ่อกูส่งออกเครื่องประดับ กูเลยชื่อเจียระไน พี่ชายชื่อบริสุทธิ์มาจากความบริสุทธิ์ของเพชร ส่วนน้องชายชื่อกะรัต” ดวงตาคนฟังมีประกายวิบวับที่ได้รู้จักเรื่องของเจียระไนอย่างเอ็กคลูซีฟขนาดนี้


   “แล้ว...ชื่อเล่นอ่ะ”


   “พี่ชื่อบะจ่าง น้องชื่อก๋วยจั๊บ” คราวนี้สิตางศุ์ยิ้มกว้างอย่างนึกเอ็นดู


   “ชื่อน่ารักว่ะ”


   “อยากรู้จักมั้ย” คำถามของเจียระไนสื่อความหมายอย่างตรงไปตรงมา ร่างสูงอยากพาคนที่ครอบครองหัวใจของเขาไปรู้จักกับครอบครัว มือใหญ่ที่วางอยู่บนที่ว่างคั่นกลางระหว่างพวกเขากำผ้าปูที่นอนแน่นอย่างคาดหวัง...เขาหวัง...หวังว่าคำตอบของอีกฝ่าย จะพอเป็นน้ำชโลมใจเขาบ้าง


“อยาก...” สิตางศุ์ตอบเสียงเบา “...กูอยากรู้จัก...กูอยากรู้เรื่องของมึง...”


หัวใจคนฟังพองฟู เจียระไนไม่รอให้อีกฝ่ายยื่นมือมาหาอีกแล้ว แต่เป็นเขาเองที่เอื้อมมือออกไปคว้าร่างขาวจัดของคนที่นอนอยู่ข้างๆเข้ามากอดแนบอก ทำลายพื้นที่ว่างระหว่างกลางของพวกเขาด้วยมือของตัวเอง


   “โจ๊ก...” เสียงของคนถูกกอดดังขึ้นอย่างตะกุกตะกัก


   “กูแค่กอด ไม่ทำอะไรหรอก...” เขาปลอบ ดูเหมือนร่างในอ้อมแขนจะเกร็งเล็กน้อย แต่เมื่อเขายังกอดอยู่อย่างนั้น ก็ดูเหมือนสิตางศุ์จะเริ่มคลายความกังวลว่าเขาจะทำอะไรมากกว่านี้ลง


   จากหนึ่งวินาที กลายเป็นนาที...จากหนึ่งนาที กลายเป็นหลายนาที คนถูกกอดเริ่มชินทีละน้อย ในที่สุดก็ยอมผ่อนคลายพิงหน้าผากลงกับลาดไหล่ของเจียระไน


   “ไม่ถามอะไรแล้วเหรอ” ร่างสูงถามเบาๆ เมื่อคนที่ถูกเขากอดดูจะไม่ถามอะไรขึ้นมาอีก ใบหน้าที่ซุกอยู่กับไหล่เขาส่ายไปมาเล็กน้อย เส้นผมที่แห้งแล้วพลิ้วไปมาจนอดใจไม่ไหวต้องจับมาพันนิ้วเล่นเหมือนที่เคยทำ


   “คิดไม่ออก ไว้กูคิดออก กูค่อยถามได้มั้ย”


   “อืม”


...อยากถามอะไร อยากถามเมื่อไร ถามได้เลย กูพร้อมตอบมึงเสมอ...


“นอนซะ ดึกแล้ว พรุ่งนี้มึงมีเรียนเช้าใช่มั้ย” มือใหญ่ข้างหนึ่งลูบแผ่นหลังของคนที่นอนซุกไหล่ของเขาเบาๆราวกับจะเป็นการกล่อม


“ใช่ เออ...กูยังไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกเลย”


“นอนกับกู เดี๋ยวกูปลุกเอง” คนในอ้อมแขนหัวเราะเบาๆ แล้วเงยหน้ามองด้วยสายตาระยิบหยอกล้อ


“ขอกูฟังเสียงปลุกของมึงก่อนได้มั้ย กูกลัวไม่ตื่น”


“ถ้ามึงไม่ตื่น กูด่า” เจียระไนคนปากร้าย แม้จะเที่ยงคืนกว่าแล้ว ฝีปากก็ยังดีไม่มีตก สิตางศุ์หัวเราะแต่ไม่หาเรื่องต่อ ก้มหน้าลงซุกกับไหล่ของอีกฝ่ายตามเดิม แขนแกร่งข้างหนึ่งวางพาดบนเอวของเขา น้ำหนักมันไม่น้อย แต่ก็ให้ความรู้สึกอุ่นดี


ค่ำคืนนี้ กำลังจะผ่านพ้นไป แต่...เจียระไนบอกตัวเองว่าคืนนี้ จะไม่ใช่แค่คืนหนึ่งเหมือนทุกๆคืนที่ผ่านมา แต่คืนนี้จะเป็นความทรงจำของเขา...และของสิตางศุ์


“โซ่...” เสียงทุ้มเรียกเบาๆ


เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนที่วินาทีต่อมา ริมฝีปากร้อนของร่างสูงจะบดเบียดลงมาแนบสนิท ดวงตาคู่สวยเหลือกโตขึ้นเล็กน้อยกับสัมผัสที่ไม่เคยรู้จัก แต่เมื่อถูกละเลียดอย่างอ่อนโยน ความตระหนกก็ถูกแทนที่ด้วยความเผลอไผล เปลือกตาบางค่อยๆปิดลง แล้วรับรู้ความรู้สึกที่อีกฝ่ายมอบให้กับริมฝีปากของเขา สัมผัสที่ทำให้หัวใจสั่น สัมผัสที่ทำให้ร่างทั้งร่างสะท้านไหว สัมผัส...ที่แค่ครู่เดียว ก็ถอยห่างออกไปอย่างเชื่องช้า


“กู้ดไนท์...” เจียระไนกระซิบเบาๆที่ริมฝีปากชื้นฉ่ำ สิตางศุ์ลืมตาขึ้นมอง พวกเขาสบตากันอีกครั้ง ราวกับมีแรงดึงดูดหลงเหลือจากจูบเมื่อครู่ นำพา...ให้โหยหาสัมผัสนั้นอีกหน


คราวนี้ร่างโปร่งไม่เกร็งขึงอีกแล้ว ยินดีให้อีกฝ่ายแนบสัมผัสลงมากับริมฝีปาก ดูดดึงที่กลีบปากล่างอย่างดูดดื่ม บดเบียดเรียกร้องอย่างอ่อนหวาน ความรู้สึกในหัวใจโลดแล่นไปกับความร้อนผ่าวแสนาบซ่านที่อีกฝ่ายมอบให้ เนิ่นนาน...ก่อนที่ริมฝีปากของร่างสูงจะผละจากไป


ที่มุมปากสีสดของสิตางศุ์มีรอยยิ้มจาง ก่อนที่จะเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา


“กู้ดไนท์เหมือนกัน”


คนฟังยิ้ม ยอมปล่อยให้เจ้าของเสียงซุกหน้าลงกับอกของเขาโดยไม่รั้งเอาไว้อีก ต่างคนต่างหลับตาลงให้รสจูบทั้งสองครั้งตรึงอยู่ในความทรงจำ


   ...จูบแรกสองครั้ง...


...จูบแรกของพวกเขา...เป็น กู้ดไนท์ คิส...


ค่ำคืนนี้...ทั้งสองคนนอนหลับฝันดี ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)


ผ้าเช็ดหน้าที่ให้เตรียม คือให้เตรียมมากัดค่ะ กันเสียงกรีดร้อง กร๊ากกกกก

สำหรับตอนนี้ โซ่ทำรถอ้อยคว่ำ เทอ้อยเข้าปากโจ๊กทั้งตอน ถือว่าพอจะชดเชยกับการที่โซ่แจกเบอร์ให้น้องมี่อย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้มั้ยคะ (ขอความเห็นใจล้วนๆ ฮ่าฮ่า) ตอนที่แล้วนี่ทีมโจ๊กกันพรึ่บพรั่บ พระเอกเรื่องนี้ทำบุญมาด้วยอะไรคะ เกรี้ยวกราดทุกตอน แต่แม่ยกก็เชียร์ทุกตอนนนนน

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกๆกำลังใจเช่นเคย ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันตอนหน้า กำผ้าเช็ดหน้าแน่นๆ (เอาผืนเดิมกับที่กัดวันนี้ก็ได้ค่ะ ฮ่าฮ่า)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 18-05-2017 21:38:32
เกือบจะงอนโซ่หล่ะ พออภัยได้ สรุปที่โจ๊กต้องรอโซ่มาสองปีเพราะพี่รหัสโซ่หวงมากนี่เอง 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 9 (11/05/2017) หน้า 14
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 18-05-2017 21:40:30
เพิ่งอ่านค่ะ กะอ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดแล้วค่อยคอมเมนท์แต่อ่านถึงตอนที่4แล้วอดใจไม่ด๊ายยยยยยย

Wherever You Are อ่ะ ของ ONE OK ROCK ใช่ม๊าาาา ไอเป็นแฟนวงนี้ค่ะ ตอนแรกไม่สะกิดใจหรอก แต่พอโจ๊กบอกว่าไม่ร้อง(เพลง)หรอก "เพราะหากเมื่อไรที่รู้ เมื่อนั้นประกายประหลาดในดวงตาและรอยยิ้มของเขาก็คงไม่เป็นความลับอีกต่อไป" ไอสะกิดใจมากเลย 555+ เพลงนี้หวานมากจริงๆน๊าาาา หึๆๆๆ

โซ่นี่น่ารักมากเลย น่าหมั่นเขี้ยวจับกอดรัดฟัดเหวี่ยงเนอะ!
โจ๊ก(ชอบชื่อเจียระไนมากกว่านะ งงที่มาชื่อเล่นอ่ะ) ขี้โวยวายจริงๆ แต่แอบสงสารปนๆหมั่นไส้อ่ะ 555+
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Starry[Blue] ที่ 18-05-2017 21:44:00
พ่อหมอสิตางศุ์ผู้ไล่ผีออกจากโจ๊กได้

ฮืออออออ นี่มันตอนคืนกำไรให้โจ๊กและคนอ่านจริงๆค่ะ ส่วนผ้าเช็ดหน้าอาทิตย์หน้าคงใช้ผืนเดิมไม่ได้แล้วเพราะกัดจนขาดไปแล้วววว เขินมากกกกก และตลกมากๆค่ะ ฮือ โจ๊ก55555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-05-2017 21:50:38
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-05-2017 21:56:24
จุดพลุให้พี่โจ้กค่าาา โอ้ยยย เหมือนส่งลูกเข้าหอจนได้ 55555 ลำเค็ญมากมั้ยกว่าจะมาถึงจุดนี้ สู้ต่อไป ทาเคโจ้ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-05-2017 22:06:56
 :L1: หวานไปอีกกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Kaavvee ที่ 18-05-2017 22:16:33
ุหุบยิ้มกับความโจ๊กโซ่ไม่ได้เลย  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
ตอนนี้ดีต่อใจมากกกก ฮือออ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 18-05-2017 22:17:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 18-05-2017 22:17:52
อื้อหืออออออออิพี่โจ๊กในที่าุดก็ได้เฟิร์สคิสมาครอบครอง ดีใจจนน้ำตาจิไหลแทน ตอนนี้มีแต่ความละมุนแต่ก็ยังขัดใจพี่โซ่เรื่องใจอ่อนอยู่นี่ไอ่นิสัยลังเลกลัวโน่นนี่นี่มันน่ารำคาญมากนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 18-05-2017 22:19:24
ผ้าเช็ดหน้าไม่พอ นาทีนี้ต้องผ้านวมจ้า
เขินแทนน้องโซ่ พี่โจ๊ก (จะเรียกพี่ จะให้โจ๊กเป็นพี่ 555) ทำไมอบอุ่นแบบนี้
อยากได้บ้างอ่ะ ปากร้าย ดุดัน แต่ใจดีกับเราคนเดียว
ชาติก่อนน้องโซ่ทำบุญด้วยเจดีย์เหรอลูก

พี่เวฟ พี่เวฟต้องปล่อยวางนะ พี่รหัสไม่ใช่พ่อนะ 555 แต่เอาเถอะ ถือว่าเก็บโซ่ไว้ให้โจ๊กละกัน

ชะนีมี่ หล่อนมาแค่ข้อความชั้นก็ไม่โอเคกับหล่อน ทางที่ดีหล่อนควรออกไปได้แล้ว

สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกก รอวันพฤหัสไม่ไหวแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 18-05-2017 22:36:45
กรี้ดดดดดด ฟินเวอร์ ขออีกๆๆ โจ๊กโซ่ น่ารักสุดๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 18-05-2017 22:39:44
jฮรือออ หวานละมุนมาก  :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-05-2017 22:43:40
ตอนนี้กัดผ้าเช็ดหน้าตอนหน้าผ้าเช็ดหน้าคงเอาไว้ซับน้ำตา
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 18-05-2017 22:58:21
 :heaven :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 18-05-2017 23:01:48
ผ้าปูเตียงยับและกัดขาดไปหมดละค่าาาา
รถอ้อยคว่ำแล้วลากยาวเป็นกิโลลลลลลล
ให้อภัยนุ้งโซ่ตอนที่แล้ว และขอยินดีกับพี่โจ๊กไบโพล่าด้วยค่ะ คุณได้ลูกแฝด ถุ้ย ไม่ใช่ !
ส่วนพี่เวฟก็ยินดีด้วยค่ะคุณได้น้องเขย คุ้คิ้

รอตอนต่อไปจ้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 18-05-2017 23:05:54
โอ้ยยย เค้าจูบกันแล้วค่าา
โซ่รู้ใจตัวเองได้แล้วน้าาา
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 18-05-2017 23:36:38
ถึงกับต้องสมัครมาตอบเลยค่ะ 5555
 หลังจากที่ซุ่มตามอ่านอยู่ ชอบมากเลยค่ะ ชอบทั้งโซ่และโจ๊ก โดยเฉพาะโจ๊ก หลงรักเลยค่ะ  :o8: หลงตั้งแต่เล่นกีต้าร์ยิ่งเป็นเพลงโปรดด้วยยิ่งคลั่งเลยค่ะคราวนี้  แอบเมมเรื่องนี้ไว้ในลิส รอทุกๆวันพฤหัสมาเฝ้าบอร์ด  :impress2:

อ่านแล้วแอบรู้สึกเหมือนโจ๊กหรือคนแต่งจะเป็นชาวร็อคหรือชอบฟังเพลงร็อคนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 18-05-2017 23:38:26
รอจ้าา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-05-2017 23:42:52
โอย.......ดีงามตอใจ  แต๊ๆ :hao5: :sad4: :heaven
ตอนนี้ไรท์ คืนความสุขให้คนอ่าน ชอบบบบบ :katai2-1:
รถอ้อยคว่ำที่วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 ชัดๆ

อ่านไป ขำไป ยิ้มหน้าบาน ตอนพี่เวฟ ระร้าระรัง
จะทำอะไรก่อนดี ระหว่างงาน เงิน กับน้องรหัส
แต่พอฟังความแล้ว  ต้องรีบทิ้งงาน เงิน มาหาสิตางศ์ุ
โซ่ ก็พูดหมดเปลือกดีมาก แล้วอย่างที่พี่เวฟว่า

โซ่ กลัวโจ๊กโกรธ ระวังความรู้สึกโจ๊กซะขนาดนี้
แต่อึดอัด รำคาญมี่ โซ่ บอกๆมี่ไปเถ้อ
ว่าไม่ชอบ รุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากเกินไป

ชอบ โซ่ ชวนโจ๊กนอนด้วย  :ling1: :ling1: :ling1:
โจ๊ก ทำตัวดีมาก อ่อนโยน
แค่กอด....จูบ ...จูบแรกสองครั้ง...
...จูบแรกของพวกเขา...เป็น กู้ดไนท์ คิส..
แต่ทำให้โซ่โหยหาสัมผัส  สุดยอดดดด
โซ่ ไม่เกร็ง แถมซุกหน้ากับอกโจ๊ก โอ๊ย.....ฟินนนนนนน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 19-05-2017 00:20:20
กรี๊ดดด โดนหลอกก นี่ช่วงฉากโซ่จะปฎิเสธไม่ปฎิเสธมี่นะ อื้อฮืออออ ใจนี่ก็คิดถึงสปอยด์ตอนที่แล้ว 
:katai1:  คุณหลอกดาววว พออ่านจบยังไม่อ่านทอร์ค อ้อ ตอนหน้าแน่ๆ (เป็นคนเชื่อคนง่าย)
แต่...หักมุมตอนเจ๊สารภาพเนี่ยแหล่ะ  :z3: โอ๊สสสสสส (เตรียมผ้าเช็ดหน้าไม่ทัน ได้แต่บิดตัวแทน 555)
...รถอ้อยคว่ำของแท้เลยอ่ะ จะบร้าาา ใจนี่พองแทนโจ๊กเลย #ทีมโจ๊กได้โซ่เป็นเมีย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 19-05-2017 01:00:40
โหย พี่เวฟโคตรเท่ ถ้าไม่มีพี่โซ่นี่คงจัดการไม่ได้อีกนาน
โซ่ใจอ่อนเกินไปอะ ต้องคิดถึงความรู้สึกของโจ๊กให้มากๆนะ
ดีใจกับโจ๊กมากเลยอะ ที่มาถึงจุดนี้
แอบรักแอบชอบมาตั้งสองปี 
หวังว่าจูบสองครั้งจะทำให้โซ่รู้ความรู้สึกตัวเองได้บ้างนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 19-05-2017 01:10:12
อยากเห็นหน้าของโซ่ที่ทำหน้าตาเคร่งเครียดแต่โคตรน่ารัก  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 19-05-2017 02:00:03
กัดจนผ้าเช็ดหน้ายืดหมดแล้วว
 
มันละมุน มันกลมกล่อม
 
บรรยายความคิดของตัวละครแต่ละตัวได้น่ารักอะไรขนาดนี้   
โซ่น่ากอดดดดดดด
 โจ๊กก็น่ากัด ( อยาก ลูบไล้  ยากกัดหงับบ เข้าที่ซิกแพคแน่นๆ > < )
 
ตอนนี้พี่รหัสถึงกับบุกมาคณะ ขำแรงมาก
 แต่เฮียแกดูพึ่งพาได้จริงๆนะ สายฮาด้วย ชอบๆๆ 5555555
 
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 19-05-2017 02:18:38
ตอนแรกนึกว่าพี่เวฟจะมากีดขวาง กลับเป็นตัวช่วยซะอย่างงั้น
ส่วนน้องมี่..หนูไม่ได้ตระหนักถึงความสนิทสนมเกินเหตุของรุ่นพี่ร่วมคณะบ้างเหรอ? หืมมม

ตอนนี้โซ่ทำดีมาก มอบมง..
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 19-05-2017 02:29:18
โซ่มีความรถอ้อยคว่ำมากกอะ
ยิ้มปากฉีกตามโจ๊กทั้งตอนเลยค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 19-05-2017 02:38:48
วินาทีที่โซ่ชวนโจ๊กขึ้นห้อง แทบกรี้ดแตกแทนโจ๊กอะ
โอ้ยยยยย น่ารักกก ฮื้อออออ
><
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 19-05-2017 02:56:04
กรี๊ดดดด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 19-05-2017 04:16:52
 :z3: :z3: :z3: กัดวันนี้ อาทิตย์หน้าต้องเอามาเช็ดไหม ฮือออออ กลัวใจละเกิน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 19-05-2017 04:35:09
 :impress2:  น่ารักกันมาก ชอบผชแบบโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 19-05-2017 04:48:38
เราเกรี้ยวกราดเบอร์เดียวกับโจ๊กเลย เราเลยชอบโจ๊กมากๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 19-05-2017 05:11:35
ดีใจด้วยโจ๊ก 555+
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 19-05-2017 06:47:17
โจ๊กยังฮาได้เหมือนเดิม 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-05-2017 07:45:42
โจ๊กกกก โซ่มันทำขนาดนี้ ถ้ารู้เรื่องของมี่ อย่าปรี๊ดดดดด

ท่องไว้ ใจร่ม ๆ โซ่มันเอ๋อออออ มันไม่ได้ตั้งใจน้าา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 19-05-2017 10:47:28
ชัดขึ้นอีกนิดแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 19-05-2017 10:56:55
โครงการส่งโจ๊กออกจากการเป็นนกสำเร็จแล้ว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 19-05-2017 11:23:07
อิพี่เวฟไหนๆ ก็มาบอกแล้วน่าจะบอกให้สุดนะคะ โว้ยยยยย
คือกลัวใจโจ๊กถ้าจับได้ว่ามี่มาเต๊าะโซ่อ่า  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 19-05-2017 12:09:31
ฟินค่าาาา ในที่สุดโจ๊กก็ได้เฟิร์สคิส เดี๋ยวอีกหน่อยก็ได้ใจ สู้ๆ
ตอนหน้าส่อเค้าจะมีมาม่า ทิชชู่คงไม่พอ ขอเป็นผ้าผืนใหญ่ๆ ละกันค่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 19-05-2017 13:32:37
ฟินก็ฟินนะ แต่เหมือนไม่สุด
โซ่ยังมีคดีติดตัวอยู่เลย
กลัวโจ๊กโมโหแล้วว้ากใส่ มีหวังร้องไห้แหงม  :ling3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 19-05-2017 13:57:21
โซ่เทอ้อย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-05-2017 19:56:10
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: fsbeentaken ที่ 19-05-2017 20:09:19
โซ่ทำไมไม่เด็ดขาดเลยลูกกกกก ตอนหน้านี่จะเตรียมผ้าเช็ดหน้าเพราะอะไรละคะเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 19-05-2017 20:19:51
ถือว่าเด็ด :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 19-05-2017 20:50:50
ตอนแรกแอบเคืองโซ่เล็ก ๆ อะไรจะซื่อ(บื่อ) ได้ขนาดเน้
แต่หลังๆมานี่ความซื่อก็ช่างน่ารักน่าชังเหลือเกิน
โจ๊กคงจะสำลักความสุขตายไปเลย อะไรจะหวานกันขนาดนี้
เค้าจูบกันแล้ว จุดพลุ   :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 19-05-2017 21:54:14
โซ่ใสใสมาก น้องน่ารัก อ้อนแบบไม่รู้ตัวด้วย  :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-05-2017 22:22:41
หวานจนใจสั่น
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 20-05-2017 00:20:08
สรุปว่าเรื่องน้องมี่ก็ยังไม่เคลียร์นะ สงสัยจะได้ใช้ผ้าเช็ดหน้าจริงๆละนังโซ่  :katai5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 20-05-2017 01:43:24
หวานมากเลย รอโซ่เคลียร์น้องมี่ออกไป
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-05-2017 02:39:59
 :L2: โปรยเลยๆ เอาดอกไม้มาให้ล่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 20-05-2017 03:03:06
แม่น้องโซ่เลี้ยงด้วยอ้อยควั่นหรือป้อนน้ำอ้อยตั้งแต่เด็กหรือไงลูก  ขยันอ้อยมากกกกก เป็นพี่พี่จะจับขังในห้องไม่ต้องให้คนอื่นเห็นเลย หวง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 20-05-2017 06:47:25
โซ่น่าร้ากกกกกกกกกก อยากจับมาบีบๆขย่ำๆ นี่ไม่ทีมโจ๊ก นี่ทีมตัวเอง อยากได้โซ่มาเป็นของตัวเอง  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 20-05-2017 11:29:13
กรี๊ดจูบแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 20-05-2017 12:11:17
อดทนไว้โจ๊ก  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 20-05-2017 18:09:07
นอนค้างห้องหวานใจ ได้จูบกู้ดไนต์คิส ได้นอนกอดทั้งคืน ช่างดีอย่างไม่มีอะไรเปรียบ ทั้งสองพัฒนาไปอีกขั้นแล้วนะเนี่ย ดีใจแทนโจ๊กด้วย...ไม่ใช่อะไรหรอก ฮีแอบรักมานาน เหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เอาใจช่วยทั้งสองคนนะคะ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 20-05-2017 18:14:58
ผฌอ๊ยยยย โซ่ยอมให้จูบให้กอด ยังไม่รู้ใจตัวเองอีกเหรอออ หรือต้องให้โจ๊กลองปล้ำดูก่อนดีเนี่ยยย 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 21-05-2017 02:40:10
รัก รัก รักทั้งสองคนเลยยยยย
หลงทั้งคู่ มีอะไรมาชุ่มช่ำหัวใจตลอด :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-05-2017 08:03:40
โอ๊ยยยย โซ่ทำไมร้าย ทำไมซื่อแบบนี้ มาขนาดนี้แล้ว รู้เหอะว่าจะรัก จะชอบ หรือแค่รู้สึกดี
เวฟบอกว่าชัด แต่ไม่ชัดเจน โซ่เลยไม่เคลียร์ เป็นปัญหาให้โซ่อีก รถอ้อยเทกระจาดเต็มลานยังไม่พอกับสิ่งที่โซ่ทำเลย
โซ่น่ารัก คนน่ารักคิดมาก จนใจโจ๊กจะพังให้ได้

โจ๊กปีนขึ้นไม่ไหวแล้ว หลุมนี้ลึกมาก ไอ้ฉิบหายก็เปิดทางยาวมาก จะไปไหนรอด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 22-05-2017 00:20:19
รุกจูบได้หวานมาก ฟินสุดๆ
แต่รีบเคลียร์เรื่องน้องมี่ด้วย
ความแตกขึ้นมา โจ๊กโมโหแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 22-05-2017 02:15:50
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 10 (18/05/2017) หน้า 16
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 23-05-2017 06:25:55
โจ๊กกกกกกกกทำไมสงสารนาย555555 ทำใจนะโอ๊ยยยน้องโซ่น่ารักเกินไป อ้อยคว่ำทั้งไร
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 25-05-2017 21:16:10
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
……………..
   ตอนที่ 11


   เจียระไนไม่คิดว่าตัวเองจะหยุดความต้องการได้ขนาดนั้นเลย แต่...พอจูบมัน จูบเพื่อราตรีสวัสดิ์ จูบเพื่อสอนให้มันรู้จักผู้ชายคนนี้ทีละน้อย และมันยินยอมพร้อมใจกับจูบทั้งสองครั้ง เขากลับอิ่มใจอย่างคาดไม่ถึง


   ...แค่นี้ก็พอแล้ว...


   ...วันนี้...ได้ใกล้ชิดมากขนาดนี้ ก็มาไกลเกินกว่าที่ฝันมากแล้ว...


   …แหมะ! ดูเป็นผู้ชายพอเพียง!...


   …ไหนๆ ก็อุตส่าห์พอเพียง ขอกูอวดสักหน่อยเหอะวะ!!!...


   ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ขาดๆหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดเข้าไปในหน้าแอพลิเคชั่นแชท แล้วส่งข้อความหาที่ปรึกษากิตติมศักดิ์


   ‘อรุณสวัสดิ์ กูอยู่ห้องไอ้โซ่’


คาดว่าไอ้ที่ปรึกษาน่าจะยังไม่ตื่น แต่เขาส่งข้อความไปทิ้งไว้ก่อน ให้มันตื่นมาเห็นแล้วอกแตกตายไปเลย เหมือนที่เมื่อคืนเขาเกือบอกแตกตายเพราะคำชวนซื่อๆของเพื่อนมันนั่นแหละ


   ‘ไม่ได้มารับ แต่กูมาค้าง ไม่เชื่อมึงถามเพื่อนมึงได้เลย’ 


เขายกยิ้มกับตัวเอง ก่อนจะเหลือบมองคนที่ยังหลับสนิทอยู่บนเตียง ผ้าห่มเนื้อหนาที่คลุมถึงคอ มีเพียงใบหน้าขาวและกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มที่ซุกอยู่กับหมอน เส้นผมที่ตกเคลียแก้มทำให้เขาอดไม่ไหวต้องก้มลงใกล้ ลมหายใจเป่ารดแก้มขาวในขณะที่ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมออกอย่างอ้อยอิ่ง


...กูทำตามสัญญานะโซ่...


...ปลุกมึงตามสัญญา...


   เจียระไนก้มหน้าลงหาแก้มขาวเย็นๆนั่น ริมฝีปากและปลายจมูกบดเบียดลงกับผิวนิ่ม กลิ่นผิวเนื้อชวนให้เผลอไผลไล้ริมฝีปากร้อนๆไปเรื่อย...เรื่อยจนเกือบจะถึงที่หมายอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าคนถูกรุกรานปรือตาขึ้นมาเสียก่อน


   สิตางศุ์ชะงักกึก ก่อนจะยกสองมือดันหน้าอีกฝ่ายออกห่างทันควัน


   “ท...ทำไรอ่ะ?!...” ร้องถามตาเหลือกโต ในขณะที่เจียระไนทำหน้าเฉยเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่ตามีประกายเซ็งเล็กน้อย


   “หอมแก้ม”


   ...และเกือบจะได้จูบอยู่แล้ว ถ้ามึงไม่ตื่นขึ้นมาซะก่อน เสียดายสัด!...


“ไปอาบน้ำ เจ็ดโมงแล้ว เดี๋ยวกูไปส่ง” คนยังตะลึงรีบพยักหน้ารัวๆ สะบัดผ้าห่มลุกไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว 


เจียระไนมองร่างขาวที่หายเข้าห้องน้ำไปแล้วต้องเอาลิ้นดุนกระพุงแก้มเพราะกลัวจะยิ้ม แม้จะพลาดที่ไม่ได้มอร์นิ่งคิส แต่ได้หอมแก้มก็นับว่าคุ้มใช้ได้อยู่ เขาลุกจากเตียงกำลังจะเดินออกไปรอนอกห้องนอน ข้อความที่ส่งไปอวดยังไม่มีอะไรตอบกลับมา ไม่รู้ไอ้ที่ปรึกษาของเขามันตื่นรึยัง หรือบางที...มันอาจต้องเช็คข้อมูลก่อน...


   ไวเท่าความคิด หน้าจอโทรศัพท์มือถือของสิตางศุ์ที่ชาร์จแบทฯอยู่ที่บนโต๊ะข้างเตียงก็เกิดแสงสว่างวาบ ดวงตาเรียวเหลือบไปมอง คิดเอาเองว่าไอ้ที่ปรึกษาของเขาคงจะส่งข้อความมาเช็คว่าที่เขาส่งไปอวดจริงเท็จมากน้อยแค่ไหน ทว่า...แสงที่สว่างบนหน้าจอไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มันยังคงสว่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นการรับข้อความแล้ว


แต่...มันมีสายเข้า


   ...สายเข้าตอนเจ็ดโมง?...


   ...ใคร?...


   ร่างสูงไม่ได้อยากจะรุกล้ำความเป็นส่วนตัว แต่การโทร.หาแต่เช้าแบบนี้ ทำให้เขาสงสัย ชายหนุ่มชะโงกหน้าไปดูที่หน้าจอ ชื่อที่ปรากฏทำให้เขาชะงัก


   ... ’Mie IR’ …


   คำว่า IR ข้างหลังนั่นชื่อภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแน่นอน แสดงว่าเป็นคนในภาคฯเดียวกับสิตางศุ์ แต่ตัวอักษรสามตัวข้างหน้าล่ะ อ่านว่าอะไร


   ...มี หมี่ มี่ มี้ หมี...


   ...อย่าบอกนะว่า ‘น้องมี่’ ?...

   
ไวเท่าความสงสัย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายทันที


   “ฮัลโล” พอกรอกเสียงแข็งๆลงไป ปลายสายก็นิ่งไปชั่วขณะ


   ‘เอ่อ...พี่โซ่?...’


   “ไม่ใช่ นั่นใคร”


   ‘มี่ค่ะ เอ่อ...พี่โซ่ตื่นแล้วใช่มั้ยคะ’


   ...น้องมี่จริงๆด้วย!!!...


   “ใช่ มีอะไร” เจียระไนกลั้นลมหายใจถามให้ตอบ ทั้งๆที่ในใจตอนนี้มีมีแต่ความหงุดหงิดงุ่นง่าน


   ...ไอ้โซ่กับน้องมี่มีเบอร์กันได้ยังไง?! สองคนนี้คุยกันมานานแค่ไหนแล้ว?! แล้วทำไมน้องมี่ต้องโทร.มา?!!...


   ‘ห...เห็นวันนี้พี่โซ่มีเรียนเช้า เลยโทร.มา กลัวว่าพี่โซ่จะตื่นไม่ทัน’ หมดความอดทนสำหรับเจียระไน มนุษย์ซึ่งมีเลขสามเป็นสรณะ สามประโยคของเด็กสาวก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา


   “ไม่ต้องห่วง ถ้ามันไม่ตื่น พี่ปลุกของพี่เองได้!! แค่นี้นะ!!!” แล้วเขาก็ตัดสายอย่างรวดเร็ว จากที่เคยคิดว่าจะไม่รุกล้ำความเป็นส่วนตัวใดๆ วินาทีนี้เจียระไนไม่สนใจอีกแล้ว เขาเข้าไปดูในแอพลิเคชั่นแชทของโทรศัพท์ของสิตางศุ์ ห้องแชทที่สะดุดตาที่สุดคือการพูดคุยกับน้องมี่


   ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนเลือดในร่างกายร้อนจนเดือดพล่าน เขาเลื่อนอ่านข้อความเก่าๆ ถึงแม้ข้อความพวกนั้นจะเป็นการให้คำแนะนำของสิตางศุ์ แต่ข้อความจากเด็กสาว ดูก็รู้ว่าหล่อนต้องการเข้าหา


   ไม่ว่า ‘ไอ้โซ่’ จะรู้หรือไม่ว่ามันกำลังถูกน้องปีหนึ่งจีบ แต่คนที่รู้ดีกว่าใครคือเขา!


   เจียระไนกลืนน้ำลายลงคอเพื่อระงับอารมณ์ ก่อนจะก้าวเท้าออกจากห้องนอน ในมือกำโทรศัพท์เจ้าปัญหาแน่นจนแทบแหลก


   ...เรื่องนี้ต้องมีคนอธิบาย!!!!...

………………………

   สิบห้านาที...สำหรับการอาบน้ำแต่งตัวของสิตางศุ์ และสำหรับการระงับจิตใจของเจียระไน


   ร่างโปร่งผิวขาวจัดออกจากห้องนอนในชุดนิสิตเรียบร้อย แล้วก็ส่งยิ้มให้คนที่นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟาในห้องอเนกประสงค์


   “โจ๊กเห็นโทรศัพท์กูเปล่า แล้วกินไรยัง? ในตู้เย็นมีนมกล่องอยู่นะ” เจ้าของคอนโดที่หาโทรศัพท์ไม่เจอเดินไปสอดส่องที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ แม้จะยังเขินๆอยู่บ้างกับสัมผัสที่อีกฝ่ายมอบให้ทั้งเมื่อคืนและเมื่อเช้า แต่ก็ยังตั้งคำถามตามประสาเจ้าบ้านที่ดี


   ร่างสูงไม่ตอบคำถาม แต่ลุกขึ้นยืนแล้วส่งโทรศัพท์มือถือให้คนที่กำลังหา


   “อ้าว อยู่ที่มึงเหรอ” 


มือขาวจัดกำลังยื่นมารับ แต่เสียงเรียบๆของเจียระไนดังขึ้นเสียก่อน


   “น้องมี่โทร.มา” สิตางศุ์ชะงักกึก ดวงตาคมกริบเหมือตาเหยี่ยวนั่นเรียบเฉยไม่บอกอารมณ์ ทว่าน้ำเสียงที่พูดแต่ละคำล้วนเค้นออกมาจนฟังแล้วสะท้านเฮือกไปทั้งใจ


   “น้องมี่...ปีหนึ่งภาคฯมึงใช่มั้ย” เจียระไนถามซ้ำ สิตางศุ์ได้แต่พยักหน้ารับช้าๆ ร่างสูงเบือนสายตาหนีไปทางอื่น รู้สึกเหมือนน้ำลายเหนียวหนืดไปทั้งคอ เขารู้ดี ว่าคนตรงหน้าเป็นที่ถูกใจของใครหลายคน และใครอีกหลายคนพร้อมจะเข้ามายืนในตำแหน่งที่เขายืนอยู่ เพียงแต่...พวกนั้นไม่มีโอกาสเท่าเขา


   “น้องเขาชอบมึงมานานแล้วนี่”


   “ก...กู...กูไม่รู้หรอก...” สิตางศุ์ตอบเบาๆ ได้ยินเสียงหัวเราะขื่นๆในคอของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า


   “มึงก็ไม่เคยรู้อะไรอยู่แล้ว กูจะบอกให้ น้องมี่คนนี้เคยมางานโอเพ่นเฮ้าส์ปีที่แล้ว และน้องก็ชอบมึงมาตั้งแต่ตอนนั้น”


   “มึง...รู้ได้ยังไง”


   “มันไม่สำคัญหรอกว่ากูรู้ได้ไง มันสำคัญที่ว่ามึงจะเลือกอะไร”


ดวงตาคมจับจ้องมาที่ใบหน้าขาว แล้วถามซ้ำด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด


   “ผู้หญิงอย่างน้องมี่? ผู้ชายอย่างกู? หรือไม่เอาใครเลย!”


   สิตางศุ์เงยหน้ามองคนพูด แล้วได้แต่เม้มปากแน่น ดวงตาเรียวของร่างสูงเต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่แค่เห็นยังสะท้อนไปทั้งใจ อรรณพพูดถูก หากเรื่องมนทิชารู้ถึงหูเจียระไน คนที่เจ็บไม่ได้มีแค่ ‘โจ๊ก’ แต่...เขาก็เจ็บด้วย


   ...เจ็บ...เพราะทำให้คนข้างๆเสียใจ...


   ...เจ็บ...เพราะทำให้คนใกล้ตัวผิดหวัง...


   ...เจ็บ...เจ็บทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารู้สึกยังไงกับผู้ชายคนนี้...

………………………..


   ดวงตาคู่สวยที่เศร้าสร้อยเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ตำแหน่งคนขับ วันนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่เขาขึ้นรถคันนี้ ทุกครั้ง...ที่คนขับมักจะชวนคุยเรื่องจิปาถะตั้งแต่ดินฟ้าอากาศไปจนถึงการวิพากษ์เรื่องใหญ่ๆอย่างการเมืองระหว่างประเทศ หลายครั้งที่พวกเขาทุ่มเถียงกัน หลายครั้งที่เห็นพ้องไปด้วยกัน หลายครั้งที่ต่างฝ่ายต่างให้แนวคิดใหม่ๆแก่กัน ได้เรียนรู้กัน ได้ศึกษากัน ด้วยสายตา ด้วยเสียงพูดคุย ด้วยรอยยิ้ม ด้วยเสียงหัวเราะ ทว่าวันนี้...มีเพียงความเงียบ


   รถจอดสนิทที่ลานจอดรถของคณะ คนขับหนุ่มรูปหล่อที่ไม่พูดอะไรเลยนับตั้งแต่ออกจากคอนโดห้อง 504 ก็เอ่ยขึ้นมาโดยไม่หันมองคนข้างกายแม้แต่นิดเดียว


   “กูถามจริงๆ ที่เมื่อวานมึงให้กูไปนอนกับมึง เพราะมึงจะได้รู้ใช่มั้ยว่ามึงอยากเลือกใคร”


   “ไม่ใช่นะโจ๊ก กูไม่ได้คิดแบบนั้น”


   “แต่มึงก็ให้ความหวังทั้งกูทั้งน้องคนนั้นไม่ใช่รึไง!”


   “กูไม่ได้ให้ความหวังน้องมี่”


   “อ้อ มึงให้กูคนเดียวงั้นสิ! แล้วทำไมน้องนั่นถึงได้คุยกับมึงทุกวันแบบนั้น!!”


   “โจ๊ก...กูยอมรับว่ากูสงสารน้อง แต่กูไม่เคยคิดจะให้ความหวังน้องเขาเลย กูกำลังหาทางปฏิเสธน้องเขา”


   “แล้วกูล่ะ?! มึงกำลังหาทางปฏิเสธกูด้วยมั้ย?!!”


   “ไม่ใช่...” เขาไม่เคยคิดจะปฏิเสธเจียระไน แต่...ที่ยังพูดอะไรไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองรู้สึกยังไงต่างหาก


   …รัก? ชอบ? หรือแค่รู้สึกดี...


   ...จะยื้อให้โจ๊กอยู่ข้างๆต่อไป ทั้งๆที่ไม่รู้ความรู้สึกตัวเองได้ยังไง...


   สิตางศุ์เอาแต่ครุ่นคิด อยากได้คำตอบจากหัวใจว่ารู้สึกอย่างไรกับคนข้างกาย แต่ความเงียบของเขากลับทำให้เจียระไนรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า ถึงจะยอมรับว่ายังไม่ได้คบหากันถึงขั้นที่อีกฝ่ายจะสวมเขาให้ แต่...แต่ ‘ ไอ้โซ่’ ก็คบเผื่อเลือก!


   …ความรู้สึกของกู! การกระทำของกู! ทั้งหมดมันควรเอาไปเป็นช้อยส์ให้เลือกรึไง!!!...


   “กูจะให้เวลามึงเลือก!” ในเมื่อเทไปหมดแล้วทั้งหัวใจ ต่อให้ถูกทำให้กลายเป็นตัวเลือกหนึ่ง เจียระไนก็จะใจกว้าง


   “กูให้เวลา 3 วัน ต้องบอกกูให้ได้ว่ามึงเลือกอะไร!!” ดวงตาเรียวจ้องเขม็งมองตรงไปข้างหน้า ไม่ยอมหันกลับมาสบตาคนข้างกายอีก


ร่างโปร่งได้แต่เม้มปากแน่น ความรู้สึกที่ในอกคืออะไรไม่รู้ แต่ที่รู้...เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย มันอึดอัด ทรมาน เขาไม่อยาก...ไม่อยากถูกเมินหนีแบบนี้


   “โจ๊ก...” ริมฝีปากสีสดที่ถูกเม้มจนขึ้นสีจัดเผยอเรียกชื่อเบาๆ แต่เจ้าของชื่อยังทำใจแข็งไม่ยอมหันมอง


   “ลงไปซะ จะแปดโมงครึ่งแล้ว ก่อนเข้าเรียนก็กินข้าวด้วย แล้วถ้าจะกลับก็โทร.บอก” แม้จะทำใจแข็งไม่หันมอง แถมยังออกปากไล่ แต่เพราะอีกฝ่ายเป็นสิตางศุ์ คนอย่างเจียระไนเลยต้องมีคำสั่งรั้งท้ายตามไปด้วยนิดหน่อย


   ไม่มีเสียงพูดอะไรจากคนผิวขาวจัดในชุดนิสิตถูกระเบียบนั่นอีก นอกจากการเปิดประตูลงจากรถอย่างเงียบๆ แล้วพอปิดประตูเดินจากไปแล้ว เจียระไนก็ยังมองกระจกส่องหลังตามส่งแผ่นหลังบางๆนั่นจนหายลับไปทางตึกเรียน เขากระแทกหลังกับเบาะนั่ง พรูลมหายใจออกมาอย่างหมดแรง


   ...หมดจริงๆ หมดทั้งใจหมดทั้งแรง...หมดเพราะไอ้โซ่คนเดียว...


   ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา มีข้อความจากที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หลายข้อความ ทั้งหมดล้วนแสดงความห่วงใยสิตางศุ์อย่างรุนแรง


   ‘มึงทำอะไรเพื่อนกูรึเปล่า’

   ‘มึงอย่าทำอะไรมันนะเว้ย’

   ‘ถ้ามึงทำอะไรมัน กูจะโทร.ไปฟ้องพ่อแม่พี่น้องมัน ฟ้องพี่รหัสมัน เอาให้มึงอยู่ไม่สุข’

   ‘มึงตอบกูสิไอ้สัด อย่าเงียบ’

   ‘บอกกู มึงทำอะไรมันรึยัง’


   และอีกมากมาย นับรวมๆแล้วได้เป็นสิบ ก็ไม่แปลกหรอกที่ฝ่ายนั้นจะห่วงใยขนาดนี้ ในเมื่อเขาอวดไปตั้งแต่ก่อนจะเกิดเรื่องว่าได้นอนห้องสิตางศุ์


...แต่แล้วยังไง? ก็แค่นอน แค่จูบกันสองที แต่น้องมี่มาจากไหนไม่รู้ มีเบอร์มันแถมรู้ตารางเรียนมัน แล้วยังโทร.มาปลุกอีกต่างหาก...


   ‘กูต่างหาก โดนเพื่อนมึงทำ’


ข้อความที่เจียระไนส่งกลับไปถูกอ่านอย่างรวดเร็ว แสดงว่าทางนั้นคงเปิดรออยู่แล้ว


   ‘อ้าว สรุปเพื่อนกูฟันมึงเหรอ หรือยังไง’

   ‘เพื่อนมึงมีชู้’

   ‘พูดให้ดีครับ เขาเรียกว่ามีทางเลือก ไม่ใช่มีชู้’

   ‘กูดีขนาดนี้ ยังจะหาตัวเลือกอื่นไปทำไม’

   ‘ดีแต่ไม่ถูกใจ กับถูกใจแต่ไม่ดี’

   ‘สัด ไม่ต้องมาคำคม’

   ‘ใจเย็นสิวะ แต้มต่อมึงเยอะอยู่’

   ‘กูเย็นได้สามวัน นานกว่านั้นกูจะจับปล้ำแม่ง’ เจียระไนพิมพ์ตอบอย่างหงุดหงิดก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าแล้วเปิดประตูลงจากรถ


…สามวัน...กับอีกเกือบสองปีที่ผ่านมา...ถ้ามันจะพัง ก็ต้องพังด้วยตัวกูเอง!...

..................................

   “เชี่ย สามวัน!!” พฤกษาร้องลั่นเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือในมือ ทำเอาอลงกตที่นั่งใกล้ๆและกำลังเล่นโทรศัพท์เช่นเดียวกันต้องเงยหน้ามองบ้าง พอดีกับที่สิตางศุ์เดินมาถึงโต๊ะ


   “สามวันอะไรของมึง ไอ้แพท” เพื่อนสนิทจากชมรมฟุตบอลตั้งคำถาม ทำเอาคนถูกถามยิ้มเก้อแล้วหันมองเพื่อนอีกคนที่ทรุดตัวลงนั่งร่วมโต๊ะอย่างเงียบๆ


   “ส...สามวัน...สามวันอะไรดีวะโซ่” 


คำว่าสามวัน ราวกับฉุดหัวใจสิตางศุ์ให้ดำดิ่งลงมากกว่าเดิม


   ...สามวัน...โจ๊กให้เวลาสามวัน...สามวันสำหรับการตัดสินใจ...


   คนถูกถามส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ แล้วฟุบหน้าลงกับหนังสือที่วางบนโต๊ะ อลงกตและพฤกษาหันมองหน้ากันอย่างไม่ต้องนัดเมื่อเห็นท่าทีเซื่องซึมของเพื่อนสนิท


   “โซ่ เป็นไรไปวะ” พฤกษาถามคำถามแล้วขยับไปนั่งใกล้ๆ โอบไหล่เพื่อให้เงยหน้าขึ้นมาคุย แต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาคือกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเส้นเล็กพลิ้วไปมาเมื่อเจ้าของส่ายศีรษะทั้งๆที่ยังฟุบอยู่


   “กูไม่ขึ้นเรียนนะ”คำพูดอู้อี้จากคนรักการเรียนทำเอาเพื่อนสนิทสองคนถึงกับชะงัก  รู้แน่แล้วว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่นอน และแน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องที่มาจากใครบางคนด้วย


   “ไอ้เชี่ยโจ๊กใช่มั้ย? มันทำอะไรมึง?!” อลงกตถามเสียงแข็ง คนที่นอนฟุบต้องยอมเงยหน้าขึ้นมามองอย่างคาดไม่ถึงว่าคำถามจะชี้ตัวผู้ต้องสงสัยตรงเป๊ะขนาดนี้


   “มันทำอะไรมึง?!” คนผิวเข้มถามย้ำอีกครั้งด้วยสีหน้าหงุดหงิดไม่พอใจมากกว่าเดิม


   “เปล่า...” ไม่ใช่เจียระไนที่ทำอะไรเขา แต่เป็นเขาต่างหากที่ทำให้เจียระไนเป็นแบบนี้ ทว่าไม่ใช่แค่เจียระไนที่หงุดหงิดงุ่นง่าน เพราะอลงกตก็หงุดหงิดหัวเสียไม่ต่างกันเมื่อได้ยินคำปฏิเสธจากเพื่อนสนิทที่หน้าตาดูไม่ดีเอาเสียเลย


   “อย่ามาบอกว่าเปล่า! เมื่อคืนมันไปนอนกับมึง มันทำอะไรมึงใช่มั้ย?!” คำถามที่สามของอลงกตทำเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบ ก่อนที่พฤกษาจะรู้สึกตัวเป็นคนแรกแล้วก็ถึงกับตบหน้าผากตัวเองแรงๆ ในขณะที่สิตางศุ์อ้าปากค้างย้อนถามละล่ำละลัก


   “ม...มึงรู้ได้ไง...” 


เพื่อนสนิทสองคนเงียบ อลงกตเงียบเพราะกำลังฉุนจัด ส่วนพฤกษาเงียบแบบก้มหน้าก้มตา


   “แพท มึงก็รู้เหรอ เรื่องที่ไอ้โจ๊กไปค้างกับกู” คนถูกถามหันมามอง ก่อนจะเหลือบไปมองอลงกตอีกที แต่รายนั้นหงุดหงิดเกินกว่าจะให้เขาปรึกษาว่าควรจะพูดความจริงไหม เวลานี้นายพฤกษาเลยเหลือหัวเดียวกระเทียมลีบ


...ทีเรื่องดีๆ ไม่เคยมาถามกูหรอก ทีเรื่องพากันฉิบหาย นี่มาถามกูจัง!...


“แพท...บอกกูมา มึงรู้อะไรอีก”


“กูเคยบอกแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกู กูไม่ควรพูด”


…รู้ว่าต้องพูด แต่...ก็ต้องมีเกริ่นว่าไม่อยากพูดไว้ด้วย เกิดไอ้โจ๊กกระทืบโทษฐานเปิดโปงมัน จะได้แค่เจ็บแต่ไม่ตาย...


เจ้าของผิวขาวจัดสูดลมหายใจลึกแล้วตัดสินใจพูดเสียงเรียบ


“แพท...บอกกู” สั้นๆ ได้ใจความ สิตางศุ์ใจดีก็จริง แต่เวลาเข้มงวดแบบนี้ก็ลืมความใจดีของมันไปได้เลย พฤกษาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะเปิดปากพูด


“มึง...อ่า...รู้มั้ยว่าพักนี้...ไอ้โจ๊กมัน...จีบใครบางคนอยู่...”


“จีบกู” เพื่อนซี้หน้าทะเล้นที่วันนี้ทะเล้นไม่ออกถึงกับชะงักอีกหน


“มันบอกมึงเหรอ?!” สิตางศุ์พยักหน้ารับ


“เมื่อไร?!”


“ตอนไปเชียงคาน”


...สัดโจ๊ก! แล้วทีกูถามว่าเกิดไรขึ้นมั่ง เสือกบอกแค่เที่ยวเฉยๆ...


พฤกษามองหน้าเพื่อนที่ยังจับจ้องมาที่เขาก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในเมื่อความรู้สึกของเจียระไนไม่ใช่ความลับอีกต่อไป ‘ไอ้โซ่’ ก็ควรได้รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 25-05-2017 21:16:40


เขากดมือถือตัวเอง 2-3 ทีแล้ววางลงตรงหน้าสิตางศุ์ จากนั้นก็หันไปดึงมือถือจากมืออลงกตมา แน่นอนว่าตอนแรกหนุ่มเข้มหน้าหงิกยื้อเอาไว้ เลยถูกตบหัวไปทีหนึ่งแล้วโดนกระชากมือถือมากดเปิดแอพลิเคชั่นเดียวกัน ก่อนจะวางลงข้างๆ


   “พวกกู...คุยกับไอ้โจ๊กบ่อย” 


สิตางศุ์เห็นหน้าแชทของสองเครื่องซึ่งเป็นห้องแชทส่วนตัว มีการโต้ตอบระหว่างเจ้าของเครื่องและ ‘โจ๊ก’ ทั้งสองเครื่อง เขากวาดนิ้วขึ้นไปดูบทสนทนาเก่าๆซึ่งล้วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับเขา ต่างกันนิดหน่อยตรงที่ห้องแชทของเจียระไนและอลงกตเป็นการด่ากันเสียส่วนใหญ่ ในขณะที่ของเจียระไนและพฤกษาเป็นการสนับสนุนส่งเสริม


   “ไอ้โจ๊กมันชอบมึง ก็เลยให้พวกกูช่วย”


   “แล้วพวกมึงก็ช่วย?” สิตางศุ์ย้อนถามอย่างคาดไม่ถึง กำลังจะคิดว่าตัวเองโดนเพื่อนสนิทหลอก แต่พฤกษาตอบอย่างรวดเร็ว


   “ก็ไม่ได้ช่วยปุบปับหรอก จริงๆ มันชอบมึงมานานแล้ว แต่ไอ้กตบอกว่าถ้ามันรอจนปีสี่ไม่ได้ ก็อย่าหวัง แถมไม่ให้มันบอกใครด้วย ไอ้กตขู่มันว่าถ้ามึงรู้ก่อนจะปีสี่ มึงกับมันจะมองหน้ากันไม่ติด”


   “แล้วทำไมถึงให้รอจนปีสี่?” คนอธิบายชี้หน้าอลงกตตัวต้นเหตุ


   “ไอ้เชี่ยกตถ่วงเวลาน่ะสิ”


   “กูไม่ได้ถ่วงเวลา แค่อยากรู้ว่ามันจริงจังแค่ไหน! ตอนนั้นมันเลิกกับนิตาได้แป๊บเดียวก็มาบอกว่าชอบไอ้โซ่ มึงเชื่อใจมันได้ไง?!” ท้ายประโยค คนถ่วงเวลาหันมาถามพฤกษาที่เปิดโปงเรื่องทั้งหมดออกมา


   “แป๊บเดียวห่าอะไร มันเลิกกับนิตาตอนปี 2 เทอม 1 แล้วพอเทอม 2 มันถึงได้มาบอกว่าชอบไอ้โซ่” สองเพื่อนซี้เถียงกันเรื่องลำดับเวลาจนสิตางศุ์ชักจะงงไปด้วย


   “แพท มึงบอกว่าโจ๊กกับนิตาเลิกกันตั้งแต่เมื่อไรนะ...”


“ปี 2 เทอม 1 สองคนนั้นคบกันแค่ 2-3 เดือนเองมั้ง”


“อ้าว แต่...แต่ตอนนั้นมึงบอกว่าเพิ่งเลิกกัน...”


พฤกษาถอนหายใจเบาๆ คราวนี้อลงกตชี้หน้าเพื่อนหน้าทะเล้นบ้าง


“มันหาเรื่องพาไอ้โจ๊กเข้ามาในชีวิตมึงไง!”


“กูแค่อยากให้ไอ้โซ่ได้รู้จักไอ้โจ๊กบ้าง แล้วมึงไม่ใช่รึไงที่รับปากไอ้โจ๊กว่าถ้ามันรอจนปีสี่ มึงจะช่วยมัน”


   “กูก็แค่รับปากกันท่ามันเท่านั้นแหละ!”


   “แล้วเป็นไง! มึงเห็นมันรอไอ้โซ่มั้ยล่ะ สองปีไอ้เชี่ยโจ๊กไม่มีแฟนเลย วันๆมองแต่ไอ้โซ่ ถามแต่เรื่องไอ้โซ่ มึงให้มันรอ แต่พอถึงเวลา เสือกไม่ช่วยเนี่ยนะ!”


   “กูไม่สน! กูช่วยแค่เพื่อนกู!!”


   “มึงไม่ได้ช่วยเพราะไอ้โซ่เป็นเพื่อนมึง! แต่เพราะมึงเห็นว่าไอ้โจ๊กเป็นผู้ชาย มึงก็เลยไม่คิดจะช่วยไอ้โจ๊กต่างหาก!!”


   “เออ! แล้วความผิดกูรึไง ที่ไอ้โจ๊กเป็นผู้ชาย! ถ้ามันเป็นผู้หญิง กูจะไม่ว่า! ถ้าพวกมันคบกันแล้วเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมา อนาคตเพื่อนกูจะเป็นยังไง!! เพื่อนกูต้องทำงานทำการ มีหน้ามีตาในสังคม! กูไม่ยอมให้อนาคตเพื่อนกูมาเสียเพราะมัน!!!”


   “มึงห่วงอนาคตไอ้โซ่ แล้วมึงห่วงปัจจุบันของไอ้โซ่บ้างมั้ย?! แค่นี้มึงดูเพื่อนมึงไม่ออกรึไงว่ามันอยากได้อะไร!”


   “มันจะไม่เป็นแบบนี้ถ้ามึงไม่ลากไอ้โจ๊กเข้ามา!!”


   “ต่อให้กูไม่ลากมันเข้ามา มึงคิดว่ามันจะอยู่เฉยๆรึไง!”“


   “พอๆ มึงสองคนทะเลาะเรื่องของกูอีกแล้ว” สิตางศุ์เจ้าของเรื่องต้องรีบห้าม เพราะไม่อย่างนั้นสองคนนี้อาจลุกขึ้นต่อยกันในวินาทีถัดไป


   “ก็มึงดูมันสิโซ่! มันบอกไอ้โจ๊กให้รอจนปีสี่แล้วมันจะช่วยเปิดทางให้ ที่ไหนได้ เสือกลากน้องมี่เข้ามาอีก! ไอ้เชี่ยกตนกสิบแปดหัว!!”


   “กูจะกี่หัวมันก็เรื่องของกู!!”


   “พอแล้ว! เลิกทะเลาะกันได้แล้ว! ช่วยกูคิดก่อนแล้วค่อยทะเลาะกัน” สิตางศุ์โวยขึ้นมาอย่างเหลืออด ทำเอาคนกำลังทะเลาะต้องหันมอง


   “คิดอะไร?” อลงกตถาม ในขณะที่พฤกษาทำตาโต


   “อย่าบอกนะว่า...เมื่อคืนไอ้โจ๊กไปค้างกับมึง แล้วมัน...”


   “ไอ้เชี่ยแพท!!!” และก่อนที่ความคิดบรรลัยจะออกจากปากเพื่อนสนิท อลงกตก็รีบด่าขึ้นมาก่อน


   “โจ๊กมันให้เวลากูสามวัน กู...ต้องบอกมันให้ได้ว่ากูรู้สึกกับใคร…มัน...น้องมี่...นิตา...”


   “แล้วมึงเลือกได้รึยัง” พฤกษาตั้งคำถาม ใบหน้าขาวก้มต่ำแล้วส่ายไปมา


   “กูไม่ได้คิดจะเลือก กับน้องมี่...น้องเขาก็เป็นแค่น้อง”


   “แล้วนิตาล่ะ...”


   “กูไม่รู้หรอก...” สิตางศุ์ยอมรับตามตรง เขาไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงกับนิตา เดิมทีก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชอบนิตาจริงมั้ย


   “งั้นตัดนิตาทิ้งได้เลย วันๆมึงมองอย่างเดียว ไม่ได้สนใจอยากจะรู้จักอะไรมากกว่านั้น ขนาดนิตาเลิกกับไอ้โจ๊กมาตั้งแต่ปี 2 มึงยังไม่รู้เรื่องเลย” ร่างโปร่งเถียงไม่ออก เขาไม่รู้เลยจริงๆว่านิตาเลิกกับเจียระไนตั้งแต่เมื่อไร อาจจะเป็นความผิดที่เขาเอง ที่วันๆเอาแต่เรียน ไม่ได้คบค้าสมาคมกับใคร


   “...ทีนี้ ก็เหลือแต่ไอ้โจ๊ก” คนใช้ชีวิตง่ายๆอย่างพฤกษาย่อมตัดสินใจทุกอย่างอย่างง่ายและรวดเร็ว เป็นอีกครั้งที่ใบหน้าอมทุกข์ของคนผิวขาวจัดส่ายหน้าไปมา


   “แต่กับโจ๊ก กูก็ไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกับมัน...กูรักมันมั้ย กูชอบมันมั้ย หรือว่า...กูแค่รู้สึกดี...”


   พฤกษาถอนหายใจ เขารู้แล้วว่าเพราะอะไร สิตางศุ์ถึงยังวนไปเวียนมาเหมือนหาทางออกไม่เจอทั้งๆที่การกระทำ คำพูดหรือความรู้สึกของมันที่มีให้เจียระไนชัดเจนจนแม้แต่คนนอกยังสัมผัสได้


   “โซ่ มึงฟังกูนะ มึงจะนิยามทุกอย่างในโลกนี้ไม่ได้ กูว่าไอ้โจ๊กก็ไม่ได้อยากฟังว่ามึงรักมันรึเปล่า ชอบมันรึเปล่า หรือแค่รู้สึกดีกับมัน กูว่าอย่างเดียวที่มันอยากได้ คือมันอยากให้มึงอยู่กับมัน เหมือนที่มันอยู่กับมึง คำถามเดียวตอนนี้ที่มึงต้องตอบให้ได้ คือมึงอยากอยู่กับมันรึเปล่า”


   “อยาก...”


   “ก็แค่นั้นแหละ มึงอยากอยู่กับมัน มันอยากอยู่กับมึง ปิดจ๊อบครับ” พฤกษาปิดจ๊อบ แต่อลงกตกลับรีบร้องลั่น


   “ปิดจ๊อบพ่อง!!”


   “พ่องเชี่ยอะไร?!” ด่ามาด่ากลับ ถึงจะตัวเล็กกว่าเพื่อนจากชมรมฟุตบอลแต่พฤกษาก็ใช่จะยอมกันง่ายๆ


   “ไอ้โซ่อยู่กับไอ้โจ๊กบ่อยกว่าอยู่กับน้องมี่! มันก็พูดได้สิว่ามันอยากอยู่กับไอ้โจ๊ก!!” อลงกตพูดก่อนจะหันมาทางเพื่อนรักที่ดูเหมือนจะงุนงงไปหมดแล้ว


   “โซ่ มึงบอกว่ามึงอยากอยู่กับไอ้โจ๊ก เพราะมึงอยู่กับมันบ่อย มึงไม่ลองถอยออกมาจากมันล่ะ จะได้รู้ว่าถ้ามึงอยู่แบบที่ไม่มีมัน มึงจะรู้สึกยังไง น้องมี่เป็นตัวเลือกที่ดีนะเว้ย น้องกูชอบมึง น้องกูอาจจะทำให้มึงรู้สึก เหมือนที่ไอ้โจ๊กทำก็ได้” 


   พฤกษาเห็นอาการนิ่งงันของสิตางศุ์แล้วก็ถึงกับขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด


   ...ไอ้เชี่ยกต!!! เสนอหนทางหอยหลอดทำเรื่องไม่จบอีกแล้ว ไอ้เวรตะไล!!!!...

........................................

   เรื่องของหัวใจมักจะส่งผลถึงความขยันและขี้เกียจเสมอ


   ตั้งแต่เมื่อเช้าที่รู้ความจริงจากปากเพื่อนสนิทเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อเจียระไน สิตางศุ์ก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเข้าเรียน เขาปล่อยให้อลงกตและพฤกษาเข้าเรียนแทน ส่วนตัวเองเอาแต่นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ที่โต๊ะม้าหินตัวเดิมหน้าตึกเรียน


   ดวงตาคู่สวยมองใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นจากต้นลงมาบนโต๊ะม้าหินที่เขานั่งอยู่ มันแห้งกรอบและมีร่องรอยเป็นรูโหว่จากแมลง สภาพของมันตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหัวใจของเขาเลย มันเว้าแหว่ง...ราวกับมีอะไรบางอย่างกัดกิน แห้ง...จนไม่รับรู้ถึงเลือดเนื้อ


   มีเวลาแค่สามวัน...สามวันที่เจียระไนให้...เพื่อให้เขาตัดสินใจเด็ดขาด


   ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบลงมองโทรศัพท์มือถือในมือ ที่หน้าจอยังมีเบอร์ของใครบางคนค้างอยู่ หลังจากที่เมื่อกี้เขาโทรศัพท์ไปหา

   ...น้องมี่...


   ตอนที่รับโทรศัพท์จากเขา เสียงของหล่อนร่าเริง ยิ่งพอเขาชวนไปกินข้าววันพรุ่งนี้ หล่อนก็ถึงกับถามย้ำซ้ำๆหลายรอบว่าจริงไหม ร่างโปร่งฟุบหน้าลงกับหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังใช้ประโยชน์จากความสุขของผู้หญิงคนหนึ่ง


   “อะฮ้าย พี่ซอโซ่ มานั่งทำอะไรตรงนี้คร้า” เสียงทักดังลั่น ทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้งเงยหน้าขึ้นมอง น้องติซซี่ปีสองที่แสนสดใสของคณะพุ่งถลาเข้ามาที่โต๊ะ


   “เมื่อกี้ติซซี่เห็นพี่กตกับพี่แพทเดินขึ้นตึกไปนะคะ แต่เห็นเดินกันไปด่ากันไป ติซซี่ไม่กล้าทักเลยค่ะ ไม่เหมือนพี่ซอโซ่...นั่งคนเดียว ท่าทางเปลี่ยวเหงาอย่างเงี้ย รอติซซี่ทักใช่ม้า” แล้วหนุ่มตุ้งติ้งก็สไลด์ตัวลงนั่งบนเก้าอี้ว่างๆร่วมโต๊ะ สิตางศุ์ยิ้มจางแล้วส่ายหน้า


   “เปล่า พี่...แค่รู้สึกไม่มีสมาธิ เลยไม่อยากขึ้นเรียนน่ะ”


   ติซซี่ทำหน้าตกใจยกมือแตะอก


   “สมาธิ? อุ้ยต๊าย นี่เหมือนไล่ติซซี่ทางอ้อมเลยนะคะ” ร่างโปร่งชะงักไปกับคำพูดรุ่นน้อง เขากำลังจะปฏิเสธเพราะไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น ทว่าคนอารมณ์ดีเจ้าของเสียงแปดหลอดดันเหลือบตาไปเห็นหนุ่มร่วมคณะที่เดินอยู่ไม่ไกลเลยเบนความสนใจไปทางนั้นเสียก่อน


   “อุ้ยๆ นั่นพี่แกรนด์ รปศ. หล่ออลัง งานดี เตะบอลพลิ้ว เซย์ไฮคร่า ทางนี้คร่า” ติซซี่โหวกเหวกโบกไม้โบกมือจนถูกทักหันมาส่งยิ้มให้


   สิตางศุ์มองรุ่นน้องที่ทักทายทั้งเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ ทั้งรุ่นน้องซึ่งล้วนเป็นผู้ชายที่เดินผ่านแล้วก็นึกเอ็นดู ติซซี่เป็นคนแสดงออกเก่ง พูดคำว่าชอบกับคนนั้นที คนนี้ทีได้อย่างไม่ขัดเขิน


   ...แล้วติซซี่รู้ได้ยังไง ว่าความชอบคืออะไร...


   “ติซซี่” เขาเรียกเบาๆ ทำเอาคนที่กำลังส่งจูบให้หนุ่มรุ่นน้องที่เดินผ่านไปต้องหันมามอง


   “อุ๊ย สมาธิสินะคะ ติซซี่ลืมเลยคร่า ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” ทว่าหนุ่มรุ่นน้องยังไม่ทันได้ลุก มือขาวก็เอื้อมไปดึงแขนเอาไว้ ดวงตาของคนถูกคว้าแขนถึงกับเบิกโตด้วยคาดไม่ถึงว่ารุ่นพี่ที่เจ้าตัวตามเทียวไล้เทียวขื่อมานาน จู่ๆจะมาแตะเนื้อต้องตัวกันแบบนี้


   “อ่า...ขอโทษที” พอเห็นท่าทางแข็งเกร็งและสายตาตกใจของหนุ่มหน้ามนปีสอง สิตางศุ์ก็รีบปล่อยมือ


   “...คือ...พี่มีเรื่องอยากจะถามน่ะ...” จากคนพูดเก่งช่างฉอเลาะ ติซซี่เงียบเป็นก็วันนี้ ใบหน้าของรุ่นน้องปีสองเป็นสีชมพูในขณะที่พยักพเยิดให้รุ่นพี่พูดต่อ


   “เอ่อ...เวลา...ติซซี่ชอบใคร ติซซี่รู้สึกยังไงเหรอ”


   “ก็...เวลาชอบก็อยากมองอ่ะค่ะ...” สายตาของติซซี่มองตรงไปที่สิตางศุ์ ก่อนจะยกนิ้วขึ้นมากัดอย่างทนไม่ไหวเพราะสายตาของรุ่นพี่ผิวขาวจัดทำให้หัวใจพองโตทุกครั้งที่สบตา


ทว่า...คนเป็นพี่กลับตั้งคำถามต่อโดยไม่รับรู้ถึงกระแสจิตใดๆที่รุ่นน้องร่วมคณะส่งมาให้


   “แต่ติซซี่ก็ชอบหลายคนใช่มั้ย ไม่ได้ชอบคนเดียว?” ติซซี่ชะงักกึก สายตาที่หวานยิ่งกว่าน้ำเชื่อมเมื่อครู่นี้หายวับไปในทันที


   ...มันก็จริงอ่ะค่ะที่ติซซี่ไม่ได้ชอบคนเดียว แต่ติซซี่กำลังสารภาพความในใจกับ ‘หนึ่งในหมู่ชาย’ ที่ติซซี่ชอบไงคะ?!!...


   ...ซื่อบื้อขนาดนี้ พี่โจ๊กทนเก่งฉิบหายเลยคร่ะ!!!...


   “คือ...ก็เหมือนเราชอบอาหารค่ะพี่ซอโซ่ เราไม่ได้ชอบแค่ข้าวไข่ดาวอย่างเดียว เล็กแห้งต้มยำก็ชอบ ข้าวต้มกุ๊ยก็ชอบ พิซซ่าก็ชอบ ถ้าวันนี้ไม่มีข้าวไข่ดาว ก็กินเล็กแห้งต้มยำได้ เพราะชีวิตนึงชอบอะไรได้หลายอย่าง แต่ถ้ารักเนี่ย...อะไรก็แทนไม่ได้”


   “รักเหรอ...” แค่คำว่าชอบ สิตางศุ์ยังไม่รู้เลยว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไร หากเพิ่มคำว่ารักเข้าไปอีก เขาคงไม่มีอันทำอย่างอื่นนอกจากวันๆเอาแต่นั่งคิดเรื่องนี้ “...แล้วติซซี่รักใครล่ะ”


   “บอกไม่ได้คร่า แต่ไม่ได้รักพี่ซอโซ่ก็แล้วกัน ติซซี่กลัวโดนทายาทร้านทองฆ่าหมกบ่อทองไปซะก่อน ตายรวยๆก็ฟังดูดีนะคะ แต่อยากรวยก่อนตายมากกว่า” สิตางศุ์ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ เป็นอีกหนที่หนุ่มรุ่นน้องถอนหายใจ


   “ฮ้าย!! ทายาทร้านทองก็พี่โจ๊กขาของติซซี่ไงคะ! ใครๆเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่ารายนั้นเล็งพี่โซ่อยู่”


   ร่างโปร่งชะงักไปอย่างคาดไม่ถึง


   “ท...ทำไมถึง...ถึงคิดแบบนั้นล่ะ...”


   “โถ่ววววว...ก็พี่โจ๊กขาเล่นตามรับตามส่งเช้าเย็น ไม่ให้คนอื่นเสนอหน้ามาใกล้พี่ซอโซ่เลยนี่คะ ไหนจะลากไปนั่นมานี่ แถมแต่ละที่ที่ไปก็ถิ่นเด็กมหา’ลัยเรากันทั้งนั้น ใส่อะโฟสโตฟี่เอสขนาดนี้ ใครไม่รู้ก็ควักลูกกะตาเก็บเอาไว้ที่บ้านเถอะค่ะ!!”


   “หมายความว่า...เรื่องพี่กับโจ๊ก...มีคนรู้เยอะเหรอ”


   “โอยยยยยย...อย่าพูดว่าเยอะเลยค่ะ พูดว่าทั้งมหาลัยน่าจะง่ายกว่า! ยิ่งพี่โจ๊กขาไม่มีข่าวกับใครเลยตั้งแต่เลิกกับพี่นิตาภาคสังคมฯ แล้วจู่ๆปีเนี้ย! ก็ดันมาติดหนึบกับพี่ซอโซ่ เรื่องก็เลยยิ่งดังน่ะสิคะ! อุ้ย จริงๆติซซี่ก็ไม่ทันนะคะตอนพี่โจ๊กขากับพี่นิตาคบกัน แต่พวกรุ่นพี่นี่แหละมาเล่าให้ฟัง ว่าคบกันแป๊บๆก็เลิก” คนฟังชะงักอีกหน กระทั่งติซซี่ที่เข้ามาเรียนไม่ทันช่วงที่เจียระไนและนิตาคบและเลิกกัน ก็ยังรู้เรื่องนี้ ในขณะที่เขา...ไม่เคยรู้อะไรเลย


   “ติซซี่...ก็รู้เหรอ...ที่โจ๊กกับนิตาเลิกกันนานแล้ว?...”


   “รู้สิคะ! เรื่องนี้ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นแหละค่ะ! แต่ไม่มีใครกล้าพูดเสียงดัง เขาว่ากันว่าพี่โจ๊กเฮิร์ทมากตอนเลิกกับพี่นิตา ไม่ยอมมีแฟนใหม่อีกเลย!” หนุ่มรุ่นพี่เงียบไป ทำเอาติซซี่ผู้แสนประสาทรับรู้ไวชะงักไปนิด


   “เอ?...อย่าบอกนะคะ...ว่าพี่โซ่ไม่รู้?”


   สิตางศุ์พยายามจะยิ้มแทนคำตอบ แต่มันก็ยากเต็มทน มารู้ตัวก็วันนี้เอง ที่ใครๆก็บอกว่าเขาซื่อบื้อ ความจริงแล้วไม่ใช่แค่ซื่อบื้อแต่ยังโง่ด้วย


   “พี่โซ่ไม่รู้จริงน่ะ?!”


   “อืม...เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้...” ...แถมยังรู้ผิดๆว่าเพิ่งเลิกกันอีกต่างหาก...


   ติซซี่ยกมือข้างนึงแตะอกด้วยความคาดไม่ถึง


   “แล้วพี่ไม่สงสัยบ้างเหรอ อยู่ดีๆพี่โจ๊กมายุ่งกับพี่ทำไม?!”


   “ก็...เห็นว่าเป็นเพื่อนกัน...”


   “นี่หมายความว่าไม่รู้ว่าถูกจีบด้วย?!”


   “อืม” คราวนี้รุ่นน้องปีสองถึงกับยกมือทั้งสองข้างแตะอก


   ...โง้วโง่!!!... คำนี้ติซซี่คิดในใจ แต่ไม่กล้าเอ่ยปากให้รุ่นพี่อย่างสิตางศุ์ได้ยิน เพราะแค่นี้สีหน้าของเขาหมองหม่นและน่าสงสารพออยู่แล้ว


   “ไม่เป็นไรค่ะ พี่โซ่ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่...ตอนนี้รู้แล้วว่าพี่โจ๊กจีบ พี่โซ่จะทำยังไงต่อไปคะ”


   สิตางศุ์ส่ายหน้าแทนคำตอบ เพราะไม่รู้อะไรเลย


   ติซซี่เห็นสีหน้าแล้วก็ยิ่งสงสาร รู้สึกอยากปลอบประโลมขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เหลือบซ้ายมองขวาไม่เห็นเงาหัวรุ่นพี่จากภาควิชาการปกครองที่ใครๆก็ว่า ‘หวงพี่โซ่อย่างกับจงอางหวงไข่’ แล้วก็เลยตัดสินใจเอื้อมมือไปกุมมือขาวๆนั่นเอาไว้


   “ถูกเขาจีบแล้วรู้สึกดีรึเปล่า อยากให้เขาจีบต่อมั้ย ถ้าใช่ก็เซย์เยสไป สู้ๆค่ะ ติซซี่เป็นกำลังใจให้”


   ติซซี่เป็นกำลังใจให้ ติซซี่ให้กำลังใจกัน ติซซี่ให้กำลังใจจริงๆ


   ...อ๊ะหือ! มือพี่โซ่โคตรนิ่มอย่างกับมาชเมลโล่เลยค่ะ น่าเอาไปเผาไฟแล้วก็อมเข้าปากไปทั้งแขนยิ่งนัก!!!...

....................................
   
วันนี้ของสิตางศุ์ผ่านไปอย่างเชื่องช้า เขาไม่เข้าเรียนทั้งคาบ เอาแต่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหิน ซึ่งนอกจากติซซี่จะแวะมาทักแล้ว ก็มีเพื่อนร่วมคณะอีก 2-3 คนเท่านั้นที่เข้ามาชวนคุย แต่เขาก็ไม่มีกระจิตกระใจจะคุยกับใคร สุดท้ายก็ได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้นเพียงลำพังจนเพื่อนๆเลิกเรียน อลงกตและพฤกษาออกมาตามเขาไปกินข้าวที่โรงอาหาร ที่นั่น...เขาได้พบกับเจียระไน


ดวงตาสองคู่มองสบกัน ในดวงตาเรียวที่มองมานั้นเรียบเฉยจนทำเอาสิตางศุ์ใจไม่ดี


“แดกไร กูจะไปซื้อให้” เสียงเรียบพอๆกับสายตา ยิ่งทำเอาคนใจไม่ดีอยู่แล้ว ใจฝ่อหนักกว่าเดิม ร่างโปร่งได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วตอบเบาๆ


“ไม่หิว”


“มึงไม่หิวได้ยังไง เที่ยงแล้ว เอามักกะโรนีกุ้งแล้วกัน” เจียระไนกำลังจะก้าวเดิน แต่อีกฝ่ายกลับคว้าแขนเอาไว้ คนถูกรั้งไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกดึงออกมาทางด้านหลังโรงอาหารที่แทบไม่มีผู้คน


ยิ่งร้างผู้คน ก็ยิ่งเงียบ ยิ่งเงียบ ก็ยิ่งทำให้กดดัน สิตางศุ์รู้สึกเหมือนอากาศรอบกายหนักจนกดทับไหล่ทั้งสองข้างของเขาจนยกแทบไม่ขึ้น มันอึดอัดจนหายใจไม่ออก ไม่มีแรงแม้แต่จะเปล่งเสียง


...แต่...แต่ยังไงก็ต้องพูด...


...ยังไงก็ต้องบอก...ต้องบอกโจ๊ก...


   “โจ๊ก...” เจ้าของชื่อยังยืนเงียบ สีหน้าเรียบเฉยแต่เหงื่อกาฬซึมเต็มแผ่นหลังกว้าง บรรยากาศรอบตัวของคนผิวขาวจัดที่เอาแต่ก้มหน้าบอกเขาว่าเรื่องที่อีกฝ่ายจะพูด ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน


   ...อย่าเลย...อย่าพูดอะไรที่ทำร้ายหัวใจผู้ชายคนนี้เลย...


   “กู...กูขอโทษนะ...แต่...สามวันนี้...เราอย่าเจอกันเลย”

 
ร่างสูงแทบหยุดหายใจเมื่อประโยคสุดท้ายหลุดออกมาจากปากของคนตรงหน้า เขาได้ยินชัดเต็มสองหู แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถามซ้ำ


   “มึงหมายความว่ายังไง”


   ดวงตาคู่สวยเหลือบมอง มันล้นเอ่อไปด้วยความเศร้าและอึดอัด ก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะเผยอตอบ


   “สามวัน...ที่มึงให้ กูจะขอ...ว่าเราอย่าเจอกันเลย”


   เป็นการตอบซ้ำที่ย้ำชัด...


ย้ำ...จนเหมือนกระทืบลงบนหัวใจของผู้ชายที่ชื่อเจียระไน!


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

   อุ้มโซ่หลบแม่ยกโจ๊กแป๊บนึงนะคะ

   แฮ่...รู้ว่าทุกคนจะต้องกรีดร้องด้วยความโกรธโซ่และสงสารโจ๊ก รู้ว่าทุกคนจะต้องเสียใจที่โซ่ตัดสินใจแบบนี้ แต่...ขอให้ทุกคนเชื่อใจโจ๊กค่ะ มาถึงตอนนี้แล้ว อิโจ๊กไม่เดินถอยหลังแน่นอน

ส่วนโซ่ ให้เวลาเขาหน่อย...โซ่จะเติบโตอย่างช้าๆและมั่นคงค่ะ กร๊ากกกกก

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม กำลังใจและพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ

เจอกันพฤหัสฯหน้า   

ป.ล. ส่วนผ้าเช็ดหน้า...กำกันต่อไปค่ะ พระเอกเรื่องนี้น่าสงสารไง บอกแล้วๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-05-2017 21:48:38
ตีโซ่ให้ตูดลาย แค่ตอบใช่ มันยากตรงไหนเนี่ยยยย โอ้ยยย ยังจะขอ 3 วันอีก เดี๋ยวโจ๊กก็ไบโพล่าห์กำเริบหรอก 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 25-05-2017 21:56:20
โอ๊ยยยยยย โซ่~~~ จะทำอารายยยยย หัวใจโจ๊กพังพอดี แง้ๆๆๆๆ สามวันจะลองใจไปอยู่กับน้องมี่เหรอย่ะ อึ๋ยยยยย โจ๊กมาเห็นใจแหกแน่ทรู 

ฝากบอกคุณอลงกตด้วยนะค่ะ หึ ไอ้ดำ!! อิใจดำ

และค้างมากค่ะ ค้างงง  โอ๊ย โจ๊กกกเอ็งใจสลายข้าก็แทบจะแดดิ้นรอไปอีก #ทีมโจ๊ก

ปอลิง น้ำตาซึมเลยง่า ใจกระตุกแทนโจ๊ก แง้  :hao5:
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-05-2017 21:57:15
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

:ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 25-05-2017 22:06:37
จับปล้ำเมื่อคืนก็จบแล้วโจ๊กเอ้ยยยยย
ดูดิ๊ อดคิสไปอีกสามวันแหนะ
โจ๊กต้องอดทน ไม่ไบโพลาร์กำเริบนะลูกกกก


 :m15:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-05-2017 22:10:47
ทนไปโจ๊ก สามวันแป๊บเดียว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 25-05-2017 22:12:52
สามวันนี่เดี๋ยวนังโจ๊กคิดอะไรไปเองอีกแน่เลย โซ่ลูกกก บอกไปเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 25-05-2017 22:14:49
อุ้มโซ่หนีไปเลยค่ะ เบี่ย
ไปเอากับน้องมี่ให้รู้เรื่องเลยไป๊ปปปป
โฮยลำไย อึดอัดแทนโจ๊ก คือถ้าเป็นเรา เจองี้จะให้ทำไงต่อวะ บอกไม่ยอมแล้วทำไรได้หรอ ไม่อยากเจอก็พูดออกมาง่ายๆละเนาะ
คนรู้สึกมากกว่าแพ้เสมอแหละ อืม
ตอนแรกๆหมั่นไส้แพทนะ แต่ตอนนี้ชอบละ ละก็ไม่ชอบกตด้วย เยอะ กันซีนสุด

เมื่อไหร่ที่โซ่รู้ใจตัวเอง วันนั้นแหละ เราขอให้โซ่ต้องมาตามง้อโจ๊ก เอาหนักๆเลย  :mew5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 25-05-2017 22:17:06
พฤหัสหน้าเลยหรอออ  T T
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 25-05-2017 22:17:27
บอกได้อย่างเดียวว่า สงสารโจ๊กมากๆๆๆๆ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 25-05-2017 22:18:35
โว้ยยยยยย

น้องโซ่จะตาสว่าง เลิกเซ่อได้รึยังลูกกกกกกกก
ทำร้ายจิตใจพี่โจ๊กมาก ๆ พี่เขารอหนูมากี่ปี ระวังใจพี่เขาฝ่อหมด

สาธุเถอะ สามวันนี้ให้โซ่ได้รู้อะไรบ้างเถอะนะ
ขอเอาคืน เอาให้โซ่รู้สึกอะไรบ้าง เจ็บบ้างไรบ้างมันจะได้รู้สึก

รอพฤหัสหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-05-2017 22:27:10
ติชชี่แทนใจทุกคนมากตอนนี้

โง้วโง่!

เอ๊ย! หมายถึงตอนมือนุ่มเป็นมาชแมลโล่ แหะ ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-05-2017 22:29:06
มันจะต้องทนหน่อยนะโจ๊ก 3 วันเอง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-05-2017 22:40:33
นี่ขนาดยังไม่ห่างกัน โจ๊กคิดไกลไปหลายไมล์แล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 25-05-2017 22:44:08
ใกล้แล้วโจ๊ก อดทนอีกหน่อยนะ เราเป็นกำลังใจให้ 5555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 25-05-2017 22:48:06
ไม่ได้รำคาญโซ่ แต่รำคาญเพื่อนโซ่ จะจูงจมูกเพื่อนไปหาชะนีทำไม รำคาญ~!!!!  :z6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 25-05-2017 22:49:18
วันนี้โซ่ไม่เยียวยาเราเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 25-05-2017 22:54:15
รอต่อไปจ้าน้องโซ่  รู้ใจตัวเองในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 25-05-2017 22:56:02
ตอนที่แล้วยังหวานกันอยู่เลย ไมมากินมาม่ากันแล้วล่ะ
ไม่รุ้จะสงสารใครดี โจ๊กก็น่าสงสารแต่อารม ณ์รุนแรงไปหน่อยนะ โซ่เสียขวัญหมด
โซ่ก็นะซื่อจนบื้อ น่าสงสารนิดนึง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 25-05-2017 23:02:27
เราไม่โกรธโซ่อ่ะ. โซ่ไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ไม่รู้ใจตัวเอง. คนไม่เคยมีแฟนไม่เคยมีความรัก. สับสนก็ไม่แปลก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 25-05-2017 23:07:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-05-2017 23:14:43
งานหนักแล้ว สามวันนี้ลงแดงกันยกกลุ่มแน่ๆ โจ้กนี่น้ำตาไหลรึยังนี่
ชอบติชชี่จัง นางเป็นแสงสว่างเลยนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 25-05-2017 23:27:55
เกลียดที่สุดในตอนนี้ก็อลงกตนี่แหละ ไม่ชอบความอคติอะ นอกจากไม่ช่วยแล้วยังกีดกันอีกเป็นคนสับปลับมาก ขอตบได้มั้ย  :beat:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 25-05-2017 23:35:29
โซ่ววววววววววววววววววววววววววว พึงจะทำให้อิโจ๊กมันดีใจไปแหมบๆ แต่ทำไมถึงได้เหยีบใจโจ๊กให้แหลกแบบนี้!!!!!!  ก็เข้าใจว่าไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ เดี๋ยวได้มีคนน้ำตาตกในเด้องานนี้ สงสารโจ๊ก ทนมาได้ไงตั้งขนาดนี้ แม่เจ้าโว้ยยยยยยยยยยย ขอให้โซ่วใช้เวลสสามวันพิสูจน์ความรู้สึกกับน้องมี่ให้พอนะคะ แต่อย่าไปสะดุดอีกล่ะ เดี๋ยวอิโจ๊กมันจะตามไปฆ่าน้องเค้าหมกส้วม ไม่อยากด่าไม่อยากว่าโซ่อะไรทั้งนั้น แต่มันอดไม่ได้จริง อีเ_ย แม่งโง่ชิบหาย ใช้ชีวิตอยู่มาได้ไงขนาดนี้คะ ตายแล้ว ตายๆๆๆๆๆ  :a6: :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 25-05-2017 23:35:42
ขอวาปไปพฤหัสหน้าเลยได้ไหมมมมม
มันค้างมากกกกก อยากกระโดดเข้าไปซับน้ำตาให้โจ๊ก
โซ่จ๋ารู้ใจตัวเองเร็วๆนะลูก
ผู้ชายแถวนี้ใกล้นะหมดแรงแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 25-05-2017 23:40:32
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 25-05-2017 23:41:10
อ่อค่ะ เป็นทางออกที่ดีมากค่ะ เดี๋ยวก็ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง อยากเบ้ปากใส่โซ่มากอะ ไม่น่ารักเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 25-05-2017 23:49:31
ติชชี่ด่าแทนหมดแล้ว ไม่ต้องด่าให้เมื่อย 555
พี่โจ๊กเก็บรักษาใจดีดีนะจ๊ะ อย่าเฮิร์ทมากหล่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-05-2017 00:06:44
ใครจะตายก่อน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 26-05-2017 00:15:14
โซ่จ้า เมื่อไรจะรู้ใจตัวเองอ่ะ สงสารโจ๊กจังเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: kung ที่ 26-05-2017 00:41:44
ขอมอบรางวัล นายเอกโง้วโง่แห่งปีให้โซ่ค่ะ ทั้งโง่ทั้งน่ารำคาญ เห็นโจ๊กรักมากเลยต้องทำตัวโง่มากเหรอโซ่  :z3: :z6: สงสารโจ๊กที่มารอความรักจากคนแบบโซ่ว่ะ #อินมากค่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 26-05-2017 00:50:44
หนูจะเปรียบเทียบความแตกต่างใช่ไหมลูก แต่บางทีหนูต้องหยุดซึนก่อนนะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 26-05-2017 01:15:07
ฮือ แหวกกระแสสงสารโซ่แทนได้มั้ย55555
อยากกอดโอ๋ๆ จัง ;-;
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 26-05-2017 01:23:41
ส่วนตัวรู้นะว่าอลงกตอะหวังดี แต่วิธีการมันแย่อะ
การจะปกป้องใครซักคนไม่ใช่เหตุผลที่จะเอาความรู้สึกอีกคนมาล้อเล่นได้นะ
ให้ความหวังโซ่ ว่าสุดท้ายจะมีโอกาสถ้าอดทนรอ
แต่สุดท้ายคือรับปากส่งๆ จะไม่ช่วยแต่แรกอยู่แล้วงี้
โซ่สับสนเราเข้าใจ ถึงการนิยามมันจะไม่จำเป็น
แต่ในระยะยาวเราก้ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าความชัดเจนอะสำคัญ
สงสารก้แต่โจ๊ก ใจพังไปอีก ตามสเตปอะ คนนี้จริงจังใจพังก้ยอม
พังจริงๆจนได้ มารอลุ้นค่ะ ว่าคนทำพังเนี่ยเค้าจะกลับมารักษามั้ย
หรือจะขยี้ให้มันแหลกไปอีก...โดยไม่รุ้ตัวเหมือนเดิม

ปล. ตอนนี้ช้อคสุดตรงคำว่า พฤหัสหน้า นี่แหละค่ะ ยาวนานยิ่งนัก...
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 26-05-2017 02:00:18
โง้ยยยยยย ไอโจ๊กก สู้เค้าาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 26-05-2017 02:09:13
ม่ายยย เราทีมโซ่ เราเข้าใจโซ่ เราก็ทนโซ่ได้ โซ่เป็นของเราเถอะนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Kaikaaa ที่ 26-05-2017 02:20:26
ฟังแล้วเจ็บแทนโจ๊ก แต่ก็ทีมโซ่อยู่ดี  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 26-05-2017 04:02:12
ไม่รู้จะสงสารโจ๊กหรืจะสงสารโซ่ดี อึดอัด :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-05-2017 04:51:04
โซ่ ขอเวลาสามวัน ที่จะห่าง ไม่เจอโจ๊ก

โจ๊ก อาจรู้สึกปวดร้าว เจ็บที่ใจ แต่ทนให้ได้นะสามวัน

แต่สามวันนี้จะทำให้โซ่รู้สึกตัว เข้าใจตัวเอง
ว่าตัวเองเป็นอย่างไร มีความสุข หรือความทุกข์ รู้ใจตัวเองแน่
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-05-2017 07:23:40
อตากได้เมียต้องอดทนสามวันแป๊บเดียว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 26-05-2017 12:48:29
ทดสอบความอดทนโจ๊กเบาๆ รักซอโซ่ต้องอดทน 5555+
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 26-05-2017 13:10:55
แก้มโซ่หอมไหมอ่ะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 26-05-2017 15:24:13
เรื่องนี้มีแต่คนน่ารำคาญนะคับว่าไหม? ถ้าพระเอกยังตื้อต่อไปเราคงเลิกอ่าน เพราะเราไม่เห็นเสน่ห์ในตัวนายเอกที่ทำให้น่าตื้อเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Rungsai ที่ 26-05-2017 15:55:37
ห่างกันสักพัก ห่างกันพัก
เพื่อนจะไปรักคนอื่นมากกว่า.....

โจ๊กเดี๋ยวเราซื้อน้ำใบบัวบกให้
โป้งโซ่เเล้ว คนใจร้าย
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 26-05-2017 16:34:02
เป็นกำลังใจให้เฮียโจ๊กค่ะ เฮียต้องใจเย็นและอดทนน้าา
ส่วนโซ่ใช้เวลา3วันให้คุ้มนะลูก จะได้รู้ใจตัวเอง
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 26-05-2017 17:56:43
โจ๊กกกกกก สงสารโจ๊กมากกกกกก กตนี่เข้าใจว่ารักเพื่อนห่วงเพื่อน โอเค๊ แต่ที่นายทำก็เหมือนเห็นแก่ตัวนะ เอาความคิดตัวเองมาเป็นบรรทัดฐาน แต่คนที่ทำให้ทึ้งหัวที่สุดตอนนี้ นุงโซ่!!!!!!!!!!!!!  โอ๊ยยยยนุงโซ่  :katai1: :katai1:  ไม่มีอะไรจะพูด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 26-05-2017 18:52:35
งานนี้ถ้าปฏิเสธโจ๊กต้องให้ไม้แข็ง เอากำลังเข้าข่มแหง 555

โซ่ชักไม่บื้อแต่ออกแนวโง่นะแบบนี้ข
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 26-05-2017 19:14:06
บีบหัวใจโจ๊กมากจริงๆ
คนรอกับคนไม่รู้ตัวนี่มันเจ็บจริงๆ

โซ่ไม่ผิดหรอกที่ไม่รู้ ไม่สนใจ เพราะไม่จริงจัง แถมเป็นคนโลกสวย ถูกปิดกั้นหลายอย่าง
โจ๊กเฮิร์ทหนักแน่ แต่ก็ต้องให้เวลากันนะ ตอนนี้โซ่ยังไม่เข้าใจ

แพทกับกตจะทำยังไงต่อล่ะทีนี้ งานงอกนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 26-05-2017 22:14:14
รอมาตั้งนาน รออีกแค่สามวันจะเป็นไรไป โจ๊กเข้มแข็งอยู่แล้วเนาะ ทำใจร่มๆ ไว้ โซ่มันขอไม่เจอกันก็เพราะอยากจะลองใจตัวเองเท่านั้นแหละ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-05-2017 23:07:07
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 27-05-2017 00:13:44
พัง ค่ะ อิโจ๊กใจพังไปแล้วค่ะ

รีบอุ้มโซ่ไปให้ไวค่ะ ไม่งั้นแม่จะฟาดให้หายบื้อเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 27-05-2017 00:21:18
จริงๆปล่อยโซ่ไปเลยก็ได้ค่ะ เอาโจ๊กมาให้เรา เราอยากได้ ไม่รู้โจ๊กทนมาได้ยังไงตั้งสองปี เราอ่านมาสิบเอ็ดตอนเรายังเบื่อเลย  :katai5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 27-05-2017 02:39:13
กตนี่แอบรักเพื่อนปะเนี้ย  หวงเวอร์

สงสารโจ๊ก  เริ่มเซ็งความซื่อบื้อของโซ่ละนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 27-05-2017 03:53:50
โจ๊กใจเย็นๆอย่าพึ่งเอาด้านมืดออกมานะเดี๋ยวจะแย่ไปใหญ่
กับโซ่ต้องใจเย็นๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 27-05-2017 12:00:13
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-05-2017 15:03:10
ซึมกันไป
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 27-05-2017 16:08:39
เวรกรรมแท้ๆพระเอกเราเนี่ย
เอาเวลาไปใช้กับน้องมี่ให้พอค่ะโซ่ แล้วค่อยกลับมาหาโจ๊ก  :m16:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 27-05-2017 17:56:53
เซ็งโซ่ เกิดเป็นโจ๊กนี่เหนื่อยจริงๆ เหนื่อยแทนเลยย  :hao4: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ิbbeer.r ที่ 30-05-2017 09:51:54
รอตอนต่อไปค่า :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 30-05-2017 12:16:32
อัพเลยได้มั้ย รอวันพฤหัสไม่ไหวแล้ว ฮื่ออออ T________T
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 01-06-2017 19:59:03
รอค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 11 (25/05/2017) หน้า 18
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 01-06-2017 20:13:21
นี่นั่งต้มน้ำรอเส้นมาม่าแล้วนะ
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 01-06-2017 20:38:37
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………..
ตอนที่ 12

   
“ไม่มีทาง! กูให้เวลามึงสามวัน!! หมายถึงให้มึงคิด! ไม่ใช่ให้มึงทิ้งกูไป!!!”


   เสียงอาละวาดดังลั่นด้านหลังโรงอาหารที่เคยเงียบสงบ คนผิวขาวจัดสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็พยายามตั้งสติใช้น้ำเสียงอ่อนๆตอบกลับไป


   “โจ๊ก...กูไม่ได้ทิ้งมึง กูแค่ขอใช้เวลาสามวันที่มึงให้ แบบที่ไม่มีมึง แล้ว...พรุ่งนี้กูนัดน้องมี่กินข้าว กูจะได้รู้ว่าถ้าไม่มีมึงเหมือนแต่ก่อน กูจะเป็นยังไง เวลากูอยู่กับคนอื่น กูจะรู้สึกเหมือนอยู่กับมึงมั้ย คนโง่ๆอย่างกู คงต้องใช้วิธีแบบนี้ ไม่อย่างนั้นกูก็ไม่รู้สักที”


ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและเป็นการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของสิตางศุ์เลยทีเดียว เพราะถึงแม้เจ้าตัวจะดูเด็ดเดี่ยวแต่ดวงตาคู่สวยก็เศร้าสร้อยเหมือนต้องผ่านการไตร่ตรองมาอย่างหนักเพื่อยอมรับกับวิธีการนี้


...แต่...ให้ตายเถอะวะ!! คนอย่างไอ้โจ๊กไม่ชอบวิธีแบบนี้เว้ย!!...


“กูนับวันนี้วันที่หนึ่ง! มึงเหลือแค่สองวันคือพรุ่งนี้กับมะรืน! แล้วมึงต้องให้คำตอบกูภายในวันมะรืน!!” เจียระไนตะคอกดังลั่น เรื่องอะไรจะปล่อยให้มันห่างสายตาไปนานๆ แถมมันยังไปอยู่ใกล้ชิดผู้หญิงอีก เกิดอยู่ได้แล้วชอบขึ้นมา ที่เขารอมาตลอดก็เสียเปล่าน่ะสิ


…ไม่มีทาง!! ยังไงๆก็ไม่มีทางโว้ย!!...


สิตางศุ์เอียงคอเล็กน้อยในขณะที่ไตร่ตรองจำนวนวันที่อีกฝ่ายรวบรัด


“เดี๋ยวสิ…กูนึกว่ามึงนับวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกซะอีก แล้วก็นึกว่าสามวันที่มึงบอกคือนับจากวันพรุ่งนี้ไปสามวัน แล้วมึงเอาคำตอบวันที่สี่งี้”


“วันที่สี่ห่าอะไร?!! กูต้องได้คำตอบวันมะรืน!!!”


“อ้าว…แบบนี้กูก็ห่างกับมึงแค่วันเดียวน่ะสิ”


…จะพอหรือ? แค่วันเดียวกับคนโง่ๆที่กำลังหาคำตอบของความรู้สึกที่มี...


“วันเดียวก็พอแล้ว!! มึงจะห่างกับกูไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นทำไมนานๆ?!!” ยิ่งอยู่นานยิ่งไม่ดี ยิ่งอยู่นานเจียระไนยิ่งใจหาย ทางฝั่งผู้หญิงชอบสิตางศุ์ก็พอเข้าใจเพราะรายนั้นก็ชอบมาตั้งแต่ปีก่อนที่มางานโอเพ่นเฮ้าส์แล้ว แต่ถ้าเกิดสิตางศุ์ไปชอบทางนั้นเข้าด้วยจะทำยังไง?!


“แบบนี้กูจะหาคำตอบได้ยังไง...”


“มึงจะหาคำตอบอะไรมาหาที่กู! มึงอยากรู้อะไรมาถามที่กู! ไม่ต้องสะเหล่อหาคำตอบเอง!!”


“โจ๊ก กูแค่อยากรู้ว่าถ้ากูไม่มีมึง กูจะอยู่ยังไง...” การทอดเสียงอ่อนเพื่อปรามอารมณ์คนใจร้อนที่เคยใช้ได้ผลเสมอมา มาวันนี้ดูเหมือนจะกลายเป็นเชื้อไฟในใจเจียระไนให้โหมกระหน่ำ


“แล้วก่อนหน้านี้ที่กูไม่ได้เข้ามาอยู่ในชีวิตมึง มึงรู้ไม่พอรึไง?! ถึงจะอยากมารู้เอาตอนนี้!! กูไม่มีมึงมาตลอดสองปี!! พอมาวันนี้กูได้มึงมาแล้ว!! แต่มึงมาเขี่ยกูออกไปสามวันเพราะอยากรู้ความรู้สึกเวลาไม่มีกู!! ไอ้สัด!! เหตุผลเชี่ยอะไรของมึง!!”


สิตางศุ์พูดไม่ออก เขาเองก็รู้ตัวว่าคนที่เห็นแก่ตัวที่สุดก็คือเขา คนที่โง่ที่สุดก็คือเขา คนที่ทำร้ายคนอื่นมากที่สุดก็คือเขา และคนที่รับเคราะห์จากการกระทำของเขาก็คือเจียระไน


“ไม่ต้องมาทำหน้าเศร้า! กูให้เวลาถึงเที่ยงวันมะรืน มึงต้องบอกกูให้ได้ว่ามึงเลือกใคร!! แล้วพรุ่งนี้...”


พอพูดถึงเรื่องพรุ่งนี้ที่อีกฝ่ายขอให้เขาออกไปจากชีวิต เจียระไนก็รู้สึกจุกขึ้นมาเล็กน้อย แต่เรื่องอะไรจะปล่อยให้ไอ้คนข้างกายไปไหนมาไหนโดยไม่มีเขาเอี่ยววะ?!


“…พรุ่งนี้ มึงจะออกจากคอนโดก็โทร.บอกกูด้วย! ถึงคณะแล้วก็บอกอีกรอบ! แล้วไปกินข้าวที่ไหนก็บอกด้วย! ตอนจะกลับก็บอกอีกที! กลับถึงห้องแล้ว ปิดประตูล็อกแล้วโทร.หากูด้วย! เข้าใจมั้ย?!” ดวงตาคู่สวยกะพริบตาปริบๆ กับคำสั่งยาวเป็นชุดของคนตรงหน้า แถมฟังๆดูแล้ว ไม่เหมือนเขาใช้ชีวิตโดยไม่มีเจียระไนเลยสักนิด เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็ต้องรายงานหมด


“แล้วแบบนี้ จะเหมือนกูใช้ชีวิตแบบไม่มีมึงได้ไงล่ะ” เขาท้วง แต่คนถูกท้วงไม่สนใจ ย้ำเสียงหนักแน่น


“กูไม่สน! ก่อนเที่ยงวันมะรืน กูจะเอาคำตอบ!”


“เดี๋ยวนะโจ๊ก เมื่อกี้มึงบอกว่าเที่ยงวันมะรืน แล้วทำไมตอนนี้กลายเป็นก่อนเที่ยงแล้วอ่ะ” เห็นบื้อๆซื่อๆแต่เรื่องหัวไว สิตางศุ์ก็พอจะมีอยู่บ้าง แต่...คนฉลาดไม่สู้คนเฉลียว เพราะเจียระไนคนเฉลียวเถียงขวับ


“ถ้ายังถามกูอีกล่ะก็ กูจะเอาตีห้าวันมะรืนด้วย!! มึงเอามั้ยล่ะ?!”


เสียงตะโกนของเจียระไนค่อนข้างดังจนทำให้มีนิสิตหลายคนเริ่มชะโงกหน้ามามอง สิตางศุ์เลยไม่พูดอะไรอีกได้แต่พยักหน้ายอมรับเงื่อนไข พวกเขายืนกันอยู่อย่างนั้นเงียบๆ แต่ยิ่งเงียบ เจียระไนก็ยิ่งหวั่นไหว


...จะได้เห็นหน้ามันแค่วันนี้...แล้วพรุ่งนี้...มันจะไปกับน้องมี่ ในขณะที่ไอ้โจ๊กคนนี้...ทำได้เพียงนั่งรอ และภาวนาขอให้มันเลือกผู้ชายคนนี้ คนที่รอมันมาเกือบสองปี...


ร่างสูงไม่คิดอะไรอีกแล้ว เขาเอื้อมมือไปคว้าแขนขาว ดวงตาเรียวทอดมองด้วยความรู้สึกลึกล้ำ ริมฝีปากเผยอค้าง
อยากจะเอ่ยคำบางคำที่พุ่งพล่านอยู่ในใจ


“โซ่...กู...”


คำที่อยากจะบอก ความรู้สึกที่อยากจะเอ่ย แต่...ไม่ทันได้พูดอะไร เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น


“นิสิตตรงนั้น มีอะไรกันรึเปล่า” อาจารย์คนหนึ่งเดินมาถาม เสียงตะคอกของเจียระไนเมื่อครู่ คงทำให้มีคนไปตามมาดู


“เปล่าครับ” เจียระไนเป็นคนตอบ สิตางศุ์หันมามองเขา และเป็นอีกครั้งที่ร่างสูง ‘ยอม’


เขายอมปล่อยมือที่จับแขนขาวโดยไม่พูดอะไรอีกแล้ว ก่อนจะเป็นฝ่ายหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในโรงอาหาร


ร่างโปร่งมองตามแผ่นหลังกว้างแล้วก้มลงมองแขนตัวเอง ไออุ่นที่ยังอยู่บนผิวทำให้เผลอยกมือขึ้นลูบเบาๆ สายตาที่เจียระไนมองเมื่อครู่นี้ ยังติดอยู่ในใจ และมันทำให้สั่นสะท้านไปทั้งร่าง


แม้ไม่พูดอะไร ไม่ร้องขออะไร แต่...สายตาคู่นั้นบอกทุกอย่าง


สายตาที่บอกว่าเจียระไนไม่อยากปล่อยเขาไป สายตาที่บอกว่าอยากอยู่กับเขา สายตา...ที่ผสมปนเปไปด้วยความลึกล้ำ ห่วงหา และกังวล...


...เป็นสายตาที่...ทำให้คำหนึ่งคำผุดขึ้นมาในใจ...


... ‘ชัด’ ...


…ความรู้สึกทั้งหมดของ ‘โจ๊ก’ ชัดเจนและสัมผัสได้...


สิตางศุ์รู้สึกเหมือนถูกถาโถมด้วยความชัดเจนจากดวงตาเรียวคู่นั้นจนร่างทั้งร่างสั่นเทิ้ม ยืนแทบไม่อยู่


... ไม่ว่าความชัดเจนของโจ๊กจะคือความรัก ความชอบ หรือความรู้สึกดี...


หัวใจ...ก็บอกว่าไม่อยากให้สายตาคู่นี้เมินหนีไปจากเขาอีกแล้ว

.........................


   เจียระไนกลับเข้ามาในโรงอาหารเพื่อคว้ากระเป๋าแล้วลากคอเสื้อเพื่อนสนิทอย่างปราการออกไปโดยไม่ทานข้าวเที่ยง คล้อยหลังร่างสูงใหญ่ของหนุ่มภาควิชาการปกครอง สิตางศุ์ก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี พฤกษาต้องเป็นคนไปซื้อนมกล่องมาให้ แต่ก็เหมือนร่างโปร่งจะดูดไม่หมดด้วยซ้ำ และก็ต้องเป็นพฤกษาที่พาสิตางศุ์ไปส่งที่คอนโด 


   ‘ไงล่ะ มึงเห็นรึยังว่าเพื่อนมึงเป็นยังไง’


   ในหัวของอลงกตมีแต่เสียงของพฤกษาดังซ้ำๆมาตั้งแต่เที่ยงจนตอนนี้ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงอมดำแล้ว แต่เขาก็ยังสลัดสีหน้าท่าทางเซื่องซึมของ ‘เพื่อน’ ออกจากหัวไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว


   หนุ่มนักฟุตบอลประจำคณะเตะฟุตบอลอัดเข้าโกลจนตุงตาข่ายเป็นครั้งที่เท่าไรก็สุดจะนับ ฟุตบอลเคยช่วยให้เขาสงบจิตสงบใจได้ดี แต่วันนี้...มันทำหน้าที่ของมันได้ไม่ดีเหมือนเคย


   ลูกกลมๆไหลลงมานอนสงบที่พื้นหญ้า ในขณะที่คนเตะทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง แล้วปล่อยให้ความเงียบในตอนค่ำของสนามฟุตบอลอยู่เป็นเพื่อน


   ‘มึงเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว ไอ้โจ๊กทำสำเร็จ มึงต้องยอมรับ’ คำพูดของพฤกษายังคงดังเข้าหูซ้ายที หูขวาที ไอ้หมอนี่ไม่ใช่คนเก่ง เรื่องเรียนของมันแย่กว่าเขาที่มุ่งเอาดีด้านกีฬาเสียอีก แต่...ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องรักๆใคร่ๆของมัน โดดเด่นจริงๆ


   ‘เราทุกคนเห็นว่าไอ้โซ่รู้สึกยังไงกับไอ้โจ๊ก อย่าว่าแต่กูกับมึงเลย ขนาดพี่เวฟเรียนจบไปแล้ว ไม่ได้เจอไอ้โซ่บ่อยๆ ยังเคยโทร.มาถามกูเรื่องนี้’


   ‘…ยอมรับเถอะ ไอ้โซ่ไม่ได้แค่อยากอยู่กับไอ้โจ๊ก...แต่มันรักไอ้โจ๊ก...’


   อลงกตหงายหลังผึ่งลงนอนกับพื้นหญ้าอย่างไม่สนใจว่าจะสกปรกหรือไม่ ใจหนึ่งก็ยอมรับคำพูดของพฤกษา เขาเองก็สนิทกับสิตางศุ์ ทำไมจะดูไม่ออกว่าเพื่อนสนิทรายนั้นรู้สึกยังไง แต่อีกใจ...อลงกตไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย


   ...เพราะไอ้โจ๊กเป็นผู้ชาย...


   โลกข้างนอกไม่เหมือนโลกในมหาวิทยาลัย โลกข้างนอกมีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ โลกข้างนอกมีทั้งคนพร้อมจะสนับสนุนและพร้อมจะทำลายคนอื่นด้วยวิธีที่สกปรกที่สุด


   ...ไอ้โซ่จะเป็นยังไง ถ้าเรื่องนี้กลายเป็นหอกทิ่มแทงอนาคตของมัน...


   “มองไกลๆ กูนึกว่าศพ” เพื่อนซี้หน้าทะเล้นชะโงกหน้ามาเหนือร่างของอลงกต ก่อนจะโยนขวดน้ำเย็นเฉียบใส่อกหนา


   “เชี่ย เจ็บ” แค่ปล่อยให้ตกตามแรงโน้มถ่วงของโลกยังเจ็บเลย แต่นี่ดันโยนลงมาใส่


   พฤกษายักไหล่ไม่ยี่หระ มองเพื่อนสนิทลุกขึ้นนั่งเปิดขวดน้ำที่ซื้อมาให้ แล้วกรอกปากจนน้ำกระฉอกเลอะเทอะ


   ...สารรูปดูไม่ได้จริงๆ...


   “ไอ้โซ่เป็นไงบ้าง” คนที่นั่งอยู่บนพื้นหญ้าเอ่ยปากโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนค้ำหัว


   “กูบอกให้มันแก้เปเปอร์ ’จารย์พุธซะ จะได้ไม่ต้องคิดมากเรื่องอื่น แต่กูว่าไม่มีเรื่องไหนในโลกที่น่าคิดมากเท่าเปเปอร์ ’จารย์พุธอีกแล้วว่ะ ดีนะกูไม่ลงวิชานี้ แค่หัวข้อกูยังแปลไม่ออกเลย”


   “สัด แล้วนี่มึงกลับมาทำไม ลืมของเหรอ”


   “อือ” 


   อลงกตเงยหน้ามองอย่างสงสัย เพราะคนที่รับคำว่าลืมของกลับไม่มีอะไรติดไม้ติดมือเลย นอกจากขวดน้ำเมื่อครู่ที่ให้เขา


   “กูทิ้งเพื่อนที่กำลังจะเป็นบ้าไว้ที่นี่อีกหนึ่งคน” ไม่มีคำพูดอะไรอีก นอกจากหนุ่มนักฟุตบอลจะกระตุกแขนคนที่ยืนให้ทรุดตัวลงนั่งข้างกัน สนามฟุตบอลยามพลบค่ำค่อนข้างสว่างเพราะไฟจากสปอร์ตไลท์ที่มุมสนามสาดลงมา ที่หน้าโกลมีชายหนุ่มปีสี่สองคนนั่งอยู่ด้วยกันเงียบๆ


   “มึงว่าไวมั้ย ปีสี่แล้ว” อยู่ๆ อลงกตก็ตั้งคำถาม


   “อือ กูยังไล่จีบสาวไม่ครบทุกคณะเลย ขาดทันตะกับวิศวะฯ พวกนี้แม่งเอาแต่เข้าแล็ป แล้วกูตามเข้าไปได้ซะที่ไหน”


   “มึงก็คิดเป็นแต่เรื่องแบบนี้”


   “แล้วมึงล่ะ มีอะไรยังไม่ได้ทำ?” พฤกษาหันมาถาม


   “คิดว่าไม่มีแล้วมั้ง คณะนี้ให้กูมาทุกอย่างแล้ว” นอกจากความรู้ นอกจากประสบการณ์ คณะเล็กๆแห่งนี้มอบความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างเพื่อน ระหว่างรุ่นพี่ ระหว่างรุ่นน้อง มาให้เขา


   โดยเฉพาะเพื่อน...เพื่อนที่มารู้จักกันที่นี่ เพื่อนที่มาเจอกันที่นี่ เพื่อนที่มาสนิทกันที่นี่


   “แพท เรื่องไอ้โซ่...กูรู้ว่าบางทีกูก็งี่เง่า...”


   “กูก็ว่ามึงรู้ว่ามึงงี่เง่า แต่รู้แล้วทำไมถึงยังทำ?”


   “เพราะกูรู้ว่าถ้ากูทำ มึงก็ขัดกูอยู่ดี”


   “อ้อ กูจะได้มีหน้าที่งี้?” อลงกตยกยิ้มจางๆที่มุมปากแล้วเหลือบมามองเพื่อนสนิท


   “ขอบใจที่เป็นเพื่อนกูมาตั้ง 4 ปี”


   4 ปี ที่เรียนรู้ที่จะอดทนซึ่งกันและกัน อลงกตรู้ดีว่าทั้งเขาและพฤกษามีเรื่องไม่ถูกใจกันหลายเรื่อง มีเรื่องชวนให้หัวเสียในนิสัยของกันและกันก็หลายครั้ง แต่...วันนี้ มันก็ยังนั่งอยู่ข้างๆเขา


   “มึงจะตายวันพรุ่งนี้รึไง รีบขอบใจกูจัง”


   หนุ่มนักฟุตบอลหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทของพวกเขาอีกคน


   “จบไป ไอ้โซ่จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ มันซื่อบื้อแบบนั้น มึงว่ามันจะอยู่รอดมั้ยวะ”


   “มีไอ้โจ๊กดูแล ถ้ายังไม่รอด กูว่าโลกนี้แม่งอย่ามีมนุษย์อยู่เลย” พอพฤกษาพูดถึงบุคคลที่สี่ คนฟังก็ได้แต่ถอนหายใจ


   “ไอ้โจ๊กอีกแล้ว สรุปกูต้องยอมรับเรื่องไอ้โจ๊กใช่มั้ย”


   “ก็ถ้ามึงนับตัวมึงเป็นเพื่อนไอ้โซ่ มึงก็ต้องยอมรับ เราเป็นเพื่อนมันนะเว้ย เป็นห่วงได้ แต่อย่าบงการ...โอ.เค. กูก็แอบบงการแหละที่พาไอ้โจ๊กเข้ามาในชีวิตมัน แต่...คนที่เลือกจะให้ไอ้โจ๊กอยู่ในชีวิตต่อไปก็คือไอ้โซ่ ไม่ใช่กูหรือมึง” คนผิวเข้มได้แต่ก้มหน้านิ่ง พฤกษาเห็นโอกาสที่เขาจะพูดจูงใจมัน


   “กต กูรู้ว่าที่มึงให้ไอ้โจ๊กรอ ใจนึงมึงก็กะกันท่านั่นแหละ แต่อีกใจมึงก็อยากให้มันตัดสินใจเรื่องไอ้โซ่ให้ดีก่อนที่จะจีบ แล้วนี่ก็จะสองปีแล้วนะเว้ย...”


   สิตางศุ์ที่ใจดี สุภาพ อะไรก็ได้ แท้จริงแล้วตัดสินใจยาก คิดช้า ทำอะไรก็แคร์คนนั้นทีคนนี้ที อลงกตกลัวเจียระไนจะเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชมภาพลักษณ์ภายนอก แต่พอเอาเข้าจริงก็เบื่อหน่ายกับความเฉื่อยชาของสิตางศุ์แบบนี้


   “...ไอ้โจ๊กมันพิสูจน์ตัวเองไม่พอเหรอวะ”


   ไม่รู้ที่พฤกษาพูดไปจะเข้าหูเข้าหัวบ้างไหม แต่มือใหญ่สีคล้ำชี้ไปที่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างโกลแล้วสั่งเรียบๆ


   “มึงเอามือถือกูให้ที” คนหน้าทะเล้นที่วันนี้อุตส่าห์อยู่ในโหมดจริงจังยอมลุกไปหยิบมาให้ แต่พอเดินกลับมายื่นให้แล้ว คนที่ยังนั่งอยู่บนพื้นหญ้ากลับสั่งอีกรอบ


   “นั่งลงสิ”


   “อะไรของมึงวะ วันนี้แม่งสั่งจังเว้ย” แม้จะบ่นแต่ก็ทรุดตัวลงนั่งข้างๆเหมือนเมื่อครู่ อลงกตมองโทรศัพท์มือถือในมือตัวเองอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมา


   “กูจะโทร.หาน้องมี่...” ดวงตาของพฤกษาเหลือบมามองคนพูด หนุ่มนักฟุตบอลจึงเอ่ยต่อเสียงพร่า


   “...มึงนั่งอยู่กับกูก่อนนะ”


   เพราะคบกันมาถึง 4 ปี ทำไมจะไม่รู้ว่าเวลานี้อลงกตรู้สึกยังไง มันเสียใจแค่ไหนที่ดึงเอารุ่นน้องในสายรหัสเข้ามาอยู่ในสถานะแบบนี้ มันเสียใจแค่ไหนที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างสิตางศุ์และเจียระไน ทั้งๆที่ไม่หวังเลยแม้แต่นิดเดียว และมันเสียใจที่สุด...ที่ใช้ ‘น้องมี่’ เป็นเครื่องมือผลักเจียระไนออกไป


   พฤกษาไม่พูดอะไร นอกจากนั่งอยู่ข้างๆอย่างนั้น...และเขาตั้งใจจะนั่งอยู่ตรงนี้ จนกว่าเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆจะลุกขึ้นยืนไหวอีกครั้ง

...................................

มนทิชายืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้านานมากแล้ว พรุ่งนี้หล่อนมีนัดกับรุ่นพี่หนุ่มที่เป็นแรงบันดาลใจให้หล่อนเลือกเรียนคณะรัฐศาสตร์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ปัจจุบันนี้เขาเรียนอยู่ปีสี่แล้ว ในขณะที่หล่อนเพิ่งเข้าปีหนึ่ง รู้ทั้งรู้ว่ายังไงก็ได้เจอกันแค่ปีเดียว และอาจจะไม่มีโอกาสได้รู้จักกันเลย แต่…หล่อนก็ยังเชื่อในโอกาส


เพราะคำว่าโอกาส…มันเปิดโอกาสให้หล่อนได้รู้จักเขาจริงๆ ในฐานะรุ่นน้องร่วมภาควิชา และโชคชะตาพาให้หล่อนกลายเป็นหลานรหัสของเพื่อนสนิทของเขา จนกระทั่ง...เขานัดไปกินข้าวในวันพรุ่งนี้


เด็กสาวมองตัวเองในกระจกแล้วยิ้ม หันซ้ายแล้วลองยิ้มอีกที จากนั้นก็หันขวาแล้วลองยิ้มอีกรอบ ยิ้มแบบไหนที่ ‘พี่โซ่’ จะชอบ หล่อนก็ไม่รู้ ที่รู้ๆคือพรุ่งนี้หล่อนจะต้องยิ้มให้เขามากๆ เขาจะได้ยิ้มตอบหล่อนกลับมา


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำเอาเด็กสาวร่างผอมบางหันไปมอง ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ามาดู ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอทำให้หล่อนยิ้ม ก่อนจะรับสาย


“ค่ะ พี่กต”


‘น้องมี่ ไอ้โซ่โทร.มาบอกแล้วใช่มั้ยว่าจะพาไปกินข้าว’


“ค่ะ พี่โซ่ก็บอกพี่กตเหรอ” ออกจะประหลาดใจนิดหน่อยที่สิตางศุ์บอกเรื่องนี้กับพี่รหัสปีสี่ของหล่อน แต่พอคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน หล่อนก็พอจะเข้าใจว่าเขาคงคุยกัน


‘อือ พี่ก็เลย...อยากโทร.มาบอก...’


“พี่โซ่บอกแล้วล่ะ ยังบอกให้มี่เลือกร้านเอาไว้เลย มี่ไม่รู้จะเลือกร้านอะไรดี พี่โซ่ชอบกินอะไรเหรอคะ”


‘กินอะไรก็ได้ น้องมี่อยากกินอะไรก็บอกมันแล้วกัน’ แล้วเสียงของปลายสายก็หายไปเหลือเพียงความเงียบ เด็กสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยกับความเงียบของรุ่นพี่ในสายรหัส ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่


'น้องมี่...พี่ขอโทษนะ' ประโยคต่อมาของอลงกตทำเอาเด็กสาวนิ่ง รู้สึกมีอะไรบางอย่างทำให้ความสุขของหล่อนค่อยๆแห้งทีละน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังบอกตัวเองว่าไม่ใช่ มันคงไม่เกี่ยวอะไรกับความสุขที่หล่อนเฝ้ารอและจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้


“พี่กตขอโทษมี่เรื่องอะไร”


‘พี่ไม่น่าให้มี่ได้เจอกับไอ้โซ่เลย’


“พี่กตหมายความว่ายังไง”


‘ไอ้โซ่น่ะ...มันไม่รู้ใจตัวเอง ที่มันนัดมี่กินข้าวพรุ่งนี้ เพราะพี่...เป็นคนแนะนำมัน...ทั้งๆที่พี่ไม่น่าทำแบบนี้’


“พี่กตจะพูดอะไร”


‘มันอยากรู้...ว่าที่รู้สึกกับอีกคนหนึ่ง...คืออะไร...’


มนทิชานิ่งไป คำว่า ‘อีกคนหนึ่ง’ ทำให้หล่อนหวนนึกถึงคำพูดของเพื่อนร่วมรุ่นหลายคนที่พากันเล่าต่อกันมา


‘พี่โซ่ ไออาร์ ปีสี่’ มีคนจับจองแล้ว ไม่ว่าเจ้าตัวจะรู้หรือไม่ก็ตาม แต่คนทั้งคณะก็รู้กันทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้น...หล่อนก็ยังหวัง


“อีกคนที่ว่าหมายถึงเรื่องพี่โจ๊กใช่มั้ยคะ”


ความเงียบคือคำตอบเป็นอย่างดี เด็กสาวถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง หล่อนน่าจะรู้ดีว่าโอกาสที่หล่อนมีก็มีแค่โอกาสของรุ่นพี่รุ่นน้องเท่านั้น หล่อนเกิดช้าเกินไป มาช้าเกินไป เป็นได้แค่รุ่นน้องของเขาเท่านั้นเอง


“...มี่ไม่อยากยอมรับเลย” หล่อนเอ่ยแล้วกัดริมฝีปากอย่างอัดอั้น


...ไม่อยากยอมรับ...ไม่อยากรับรู้...


“...แต่...ถ้าไม่ใช่พี่โจ๊กแล้วจะใคร...” เด็กสาวพึมพำ


หล่อนรู้แก่ใจ รู้...ว่าคนที่ควรได้อยู่ข้างๆสิตางศุ์คือเจียระไน คนที่หล่อนเองก็ไม่รู้ว่ามีดีอะไร แต่...ทุกครั้งที่หล่อนเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน สิตางศุ์ยิ้ม...ยิ้มทั้งตา ยิ้มทั้งปาก ยิ้มแบบที่...ไม่เคยมอบรอยยิ้มแบบนี้ให้ใคร


‘พี่ขอโทษ พี่ไม่ควรดึงมี่เข้ามา ถ้าจะโกรธ ก็โกรธพี่ แต่อย่าโกรธไอ้โซ่ มันทำเพราะมันบื้อ’


“อย่าว่าพี่โซ่สิ” แม้จะเจ็บ แต่พอคนอื่นมากล่าวหาสิตางศุ์ มนทิชาก็ต้องปกป้องกันบ้าง


“จริงๆแล้ว มี่...ก็พอจะได้ยินมาบ้าง พอพี่กตมาพูดแบบนี้ มี่ก็..เข้าใจ ไม่ต้องห่วงนะ มี่ไม่กล้าไปแย่งพี่โจ๊กหรอก”


‘พี่ไม่ได้กลัวว่ามี่จะไปแย่งไอ้โจ๊ก แต่…พี่ไม่อยากให้มี่คาดหวังมากกว่าความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง’


แม้จะเพิ่งรู้จักกัน แต่คำว่าสายรหัสกลับผูกพัน มนทิชาซาบซึ้งในความปรารถนาดีของรุ่นพี่หนุ่มรายนี้ เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็ถึงขั้นโทร.มาเตือนสติของหล่อนด้วยตัวเขาเอง


“ขอบคุณค่ะพี่กต แต่ถ้า...พรุ่งนี้ มี่โทร.ไปหา รับสายมี่ด้วยนะ เผื่อมี่ร้องไห้อ่ะ”


ปลายสายเงียบไปอีกหน ก่อนจะตอบกลับมาแผ่วเบาอย่างเห็นใจ


‘ร้องตอนนี้เลยก็ได้นะ พี่ฟังได้’


แล้วหลังจากนั้น ระหว่างคนทั้งคู่ก็มีแค่เสียงสะอื้นเบาๆของเด็กสาววัยสิบแปดปี

...............................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 01-06-2017 20:39:01


สิตางศุ์รู้ดีว่าการกระทำของเขาไม่ต่างอะไรกับการหลอกใช้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเครื่องมือช่วยเขาพิสูจน์ความรู้สึกที่เขามีต่อเจียระไน มนทิชาไม่ควรต้องมาเป็นเหยื่อของเรื่องนี้เลย ไม่ควรเอาความชื่นชมที่มีต่อเขามาสังเวยให้กับความโง่เง่าของเขา


“พี่โซ่อยากทานอะไรคะ” เสียงใสๆของเด็กสาวที่เดินอยู่ข้างๆ ทำเอารุ่นพี่หนุ่มต้องหันมอง ข้างกายของเขาคือมนทิชาที่อยู่ในชุดนิสิตเรียบร้อยแบบเด็กปีหนึ่ง รอยยิ้มของหล่อนยังคงสดใส ติดที่ดวงตาบวมตุ่ย ซึ่งเมื่อเขาถามถึงสาเหตุ หล่อนก็อ้อมแอ้มบอกว่านอนไม่พอเท่านั้น


“พี่ให้น้องมี่เลือก อยากทานอะไร”


“อ่า...ร้านนั้นมั้ยคะ” หล่อนชี้ไปที่ร้านอาหารฝรั่งร้านหนึ่ง สิตางศุ์พยักหน้าตกลงแล้วให้หล่อนเดินนำเข้าร้าน เด็กสาวเป็นคนสดใสร่าเริง อยู่กับหล่อนแล้วก็สบายใจดี


...แต่...ไม่ใช่...ยังไงก็ไม่ใช่...ความสบายใจแบบนี้ไม่เหมือนเวลาอยู่กับโจ๊ก...


เสียงสั่งอาหารจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่ได้ปลุกสติของสิตางศุ์ให้รับรู้อะไรเลย ใจพะวงคิดถึงแต่เรื่องของเจียระไน


“พี่โซ่ ทานอะไรดีคะ มี่สั่งสเต็กปลา แล้วก็มีจานกลางเป็นซีซาร์สลัด” ร่างโปร่งเงยหน้าจากเมนูในมือที่ถือเอาไว้อยู่นาน แต่ไม่ได้สนใจเลย เขามองบริกรทีหนึ่งแล้วมองสาวน้อยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทีนึง ก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มจางๆ


“คาโบนาร่าแล้วกันครับ”


บริกรรับเมนูแล้วจากไป ทั้งโต๊ะจึงเหลือเพียงรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมคณะ ก่อนที่ความเงียบจะกลับมาอย่างเก่า มนทิชามองสีหน้าของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วก็นึกถึงเรื่องที่คุยกับอลงกตทางโทรศัพท์เมื่อคืน วันนี้ สิตางศุ์นัดหล่อนมาทานข้าว เพื่อที่เขาจะได้รู้ความรู้สึกของเขาเอง รู้ทั้งรู้ว่ากำลังถูกหลอกใช้ แต่หล่อนก็ยังนั่งอยู่ตรงนี้


“น้องมี่” เสียงนุ่มของคนผิวขาวจัดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามดังขึ้น สีหน้าเศร้าสร้อยของเด็กสาวหายวับเมื่อสบตากับเขา หล่อนแย้มยิ้มหวานให้เหมือนอย่างเคย ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น


“พี่ขอโทษนะ” คำว่าขอโทษจากริมฝีปากสีสดทำเอามนทิชาชะงัก แต่ก็ยังใจกล้าย้อนถาม


“พี่โซ่ขอโทษมี่ทำไม”


“พี่...ชวนน้องมี่มาวันนี้ เพราะว่า...พี่...เอ่อ...พี่ไม่รู้จะพูดยังไงดี คือ...อ่า...พี่...พี่อยากรู้ว่าเวลาพี่อยู่กับคนอื่น พี่จะรู้สึกยังไง...เอ่อ...จะ...จะรู้สึกเหมือนตอนอยู่กับ...เอ่อ...” สิตางศุ์ตัดสินใจสารภาพ แต่ไม่กล้าเอ่ยชื่อเจียระไนออกมา เขากลัวว่าเรื่องนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของเพื่อนร่วมรุ่นเสียหาย


ทว่าแม้ไม่พูดชื่อ คนฟังก็ใจหายไปวูบหนึ่งที่รุ่นพี่หนุ่มพูดตรงๆแบบนี้


“...เหมือนตอนอยู่กับพี่โจ๊ก...” ดวงตาคู่สวยของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเบิกโตขึ้นเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าชื่อนี้จะออกมาจากปากของเด็กสาวตรงหน้า


“มี่รู้แต่แรกแล้วค่ะ” คราวนี้ดวงตาที่เบิกโตอยู่แล้ว โตขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่าด้วยความคาดไม่ถึง


“พี่โซ่อยากรู้ว่าระหว่างอยู่กับพี่โจ๊ก กับ อยู่กับคนอื่น จะเหมือนกันมั้ย อย่างนั้นใช่มั้ยคะ” สิตางศุ์ได้แต่ก้มหน้าต่ำ พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่าขอโทษ


“เอ่อ...พี่...พี่ขอโทษนะ...”


“มี่จะบอกให้...คำตอบของพี่โซ่น่ะ ไม่ว่ายังไงก็คือพี่โจ๊ก...” เด็กสาวเอ่ย สองมือที่วางอยู่บนตักกำเข้าหากันด้วยความอัดอั้น หากเมื่อวานหล่อนไม่ได้ร้องไห้ทางโทรศัพท์กับอลงกต วันนี้อาจมีเสียน้ำตากันบ้าง


“...พี่เอาพี่โจ๊กเป็นตัวตั้ง พี่เลือกพี่โจ๊กตั้งแต่แรก เพราะฉะนั้น...ไม่ว่ากับใคร...ก็ทำให้พี่รู้สึกเหมือนเวลาพี่อยู่กับพี่โจ๊กไม่ได้หรอกค่ะ”


สิตางศุ์พูดไม่ออก มนทิชาอายุน้อยกว่าเขา แถมยังเป็นรุ่นน้องสามปี แต่กลับมองออกทะลุปรุโปร่ง ในขณะที่เขา...อยู่ปีสี่ก็แล้ว...บรรลุนิติภาวะก็แล้ว แต่ก็ยัง...โง่เง่าและซื่อบื้อ


“พี่ขอโทษนะ” เขาได้แต่พูดเบา ก้มหน้าสำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่


“รู้มั้ยคะ ทำไมมี่ถึงชอบพี่โซ่ เพราะพี่โซ่เป็นแบบนี้ไง ตรงๆซื่อๆ แล้วก็...บื้อนิดๆ น่ารักดี” ท้ายประโยค หล่อนส่งยิ้มให้เขา เป็นรอยยิ้มที่มาจากใจจริง ไม่ว่ายังไงหล่อนก็ยังมองว่าความบื้อนิดๆของเขาเป็นเรื่องน่ารัก


“แต่...พี่ทำให้น้องมี่เสียใจ...ใช่มั้ย”


“มี่เสียใจที่เกิดช้าไปหน่อย ถ้าเกิดพร้อมพี่โซ่กับพี่โจ๊ก เข้าเรียนพร้อมพวกพี่ มี่ว่ามี่คงสู้กับพี่โจ๊กสักตั้ง แล้วค่อยมาดูผลอีกที” สิตางศุ์รู้สึกว่าเขาสู้มนทิชาไม่ได้เลย หล่อนทั้งใจแข็ง เข้มแข็งและมุ่งมั่นกับความรู้สึกและความคิดของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็แพ้เป็นและยอมรับอย่างเด็ดเดี่ยว


“พี่โซ่เลิกทำหน้าสำนึกผิดได้แล้ว เดี๋ยวมี่ตัดใจไม่ได้นะ เห็นพี่ทำหน้าแบบนี้ มี่ยิ่งอยากปลอบ” รุ่นพี่หนุ่มเหมือนถูกหยอก เขาหน้าแดงเล็กน้อยแต่ก็พยายามเจือความรู้สึกผิดให้รีบจางอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวเด็กสาวจะมาปลอบจริงอย่างที่พูด


มนทิชาหัวเราะเบาๆกับท่าทางเด๋อด๋าของเขา ถึงจะเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นทุกสีหน้าของเขาเหมือนใครบางคนที่เขาเลือกแล้ว แต่...อย่างน้อยหล่อนก็ยังมีโอกาสได้นั่งอยู่ตรงนี้ และ...น่าจะยื่นข้อเสนอสักหน่อย


“อ่า...จริงๆวันนี้มี่ต้องเสียใจมากถูกมั้ยคะ ที่พี่โซ่ไม่เลือกมี่ งั้นวันนี้พี่โซ่เลี้ยงข้าวมี่นะคะ” สิตางศุ์ยิ้มรับ


“อืม เลี้ยงหนังด้วยก็ได้นะ อยากดูมั้ย”


“จริงเหรอ?! สองเรื่องนะคะ” หนุ่มรุ่นพี่หัวเราะหน้าตาสดใส เห็นหล่อนต่อปากต่อคำด้วยรอยยิ้มแล้วก็พอจะคลายความรู้สึกผิดในใจอยู่บ้าง


“งั้นพี่ดูเรื่องนึง มี่ดูเรื่องนึงแล้วกัน จะได้สองเรื่องพอดี”


“พี่โซ่! นี่บื้อจริงหรือแกล้งบื้อเนี่ย?!!” สิตางศุ์หัวเราะเมื่อถูกรุ่นน้องหยอก เด็กสาวถึงกับพ่นลมหายใจ เพราะบทเขาจะบื้อ เขาก็บื้อจนหล่อนเสียน้ำตา แต่พอเขาจะยิงมุกมา หล่อนก็อยากจะหลั่งน้ำตาอีกรอบ เพราะไม่รู้ว่าเขาแกล้งหรือเขาบื้อจริงกันแน่!


“ล้อเล่นๆ น้องมี่อยากดูสองเรื่อง พี่ก็จะพาไปดูสองเรื่อง” เด็กสาวทำหน้าบูดที่เขาหยอก คนเป็นรุ่นพี่เลยส่งยิ้มแล้วยื่นนิ้วก้อยไปตรงหน้า


“ดีกันนะ พี่ไม่ล้อเล่นแล้ว” ดูเอาเถอะ ปากว่าเขาไม่เลือกหล่อน แต่มายิ้มให้ ยื่นนิ้วก้อยให้แบบนี้ จะตัดใจลงได้ยังไง!


มนทิชาถอนหายใจเบา รู้ทั้งรู้ว่าต้องตัดใจจากผู้ชายตรงหน้า รู้ทั้งรู้ว่าคนที่เป็นคู่แข่งกับหล่อนไม่ใช่คนทั่วๆไป คนอย่างเจียระไนไม่มีทางปล่อยให้หล่อนตามจีบสิตางศุ์แน่ๆ แต่...ทั้งๆที่รู้แบบนั้น รุ่นพี่หนุ่มคนนี้ก็จะยังอยู่ในใจของหล่อนเสมอ


“ดีกันนะ” เสียงทุ้มดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มจาง รอยยิ้ม...ที่เด็กสาวบอกตัวเองว่าแม้จะไม่ได้ครอบครอง แต่ก็จะทำทุกอย่างเพื่อรักษารอยยิ้มนี้เอาไว้...ตลอดไป


“ค่ะ” นิ้วก้อยเล็กๆของหล่อนยื่นออกไปเกี่ยวนิ้วก้อของชายหนุ่มรุ่นพี่ พวกเขายิ้มให้กัน


มิตรภาพ สายสัมพันธ์และความบริสุทธิ์ใจนี้เข้าตาใครบางคนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารเดียวกันและเฝ้ามองมาตั้งแต่ต้น!

..................................

เจียระไนบอกตัวเองว่าต้องอดทน ไหนๆก็ทนมาตั้งเกือบสองปีแล้ว เขาจะทนอีกสักสามวันก็คงไม่เป็นไร แต่ฟ้าดินไม่เป็นใจกับการอดทนรอบนี้ของเขาเลย


‘เฮีย ไหนว่าจีบพี่รหัสไอ้ปกไง แล้วทำไมปล่อยให้นั่งกินข้าวกับผู้หญิงสองต่อสอง’


โทรศัพท์จากญาติผู้น้องอย่าง ‘ไอ้เจ๋ง’ หรือเจตน์ดังขึ้นตอนบ่ายๆ ตามมาด้วยประโยคที่ทำเอาเจียระไนแทบนั่งไม่ติด รายนั้นรายงานสดว่านั่งอยู่ในร้านอาหารเดียวกับสิตางศุ์ที่ควงผู้หญิงมากินข้าวต่อหน้าประชาชี แถมบรรยายเสร็จสรรพว่าฝ่ายหญิงเป็นเด็กปีหนึ่งร่วมมหา’ลัย หน้าตาน่ารักสดใส เหมาะกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก


ฟังๆแล้ว ทำเอาคนที่รู้เต็มอกว่าสิตางศุ์ไปกับ ‘น้องมี่’ แถมไปกันแบบสองต่อสอง เริ่มจะหายใจไม่สะดวกปอด


...ไอ้โซ่คงจะทั้งยิ้ม ทั้งหัวเราะ สายตาซื่อๆของมัน รอยยิ้มหวานๆของมัน หน้าตาดีๆของมัน มารยาทสุภาพบุรุษของมัน ทุกอย่างของมัน คงยิ่งทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งหลงหัวปักหัวปำ แค่นั้นก็ไม่อยากจะคิดแล้ว ถ้าหากผู้หญิงไม่ปล่อยมือ แล้วไอ้โซ่เอื้อมมือไปหาผู้หญิงตอบ ไอ้โจ๊กคนนี้จะเป็นยังไง!!...


‘ให้ผมจัดการให้มั้ยเฮีย’


‘อย่านะพี่! อย่าไปยุ่งกับพี่โซ่!’ เสียงแทรกดังเข้ามาในโทรศัพท์ บอกให้รู้ว่าเจตน์ไม่ได้ไปที่ร้านนั้นเพียงลำพัง แต่หนีบแฟนของมัน ซึ่งเป็นน้องรหัสของสิตางศุ์ไปด้วย


‘แล้วมึงจะปล่อยให้พี่กูถูกพี่มึงสวมเขางี้เหรอ?!’


…โอ้โฮ! ฟังแล้วเจ็บจี้ด กูกำลังถูกไอ้โซ่สวมเขาอยู่เหรอเนี่ย!!...


“มันไม่ได้สวมเขากู” เจียระไนเถียงลงไปในโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าน้องชายลูกพี่ลูกน้องยังฟังอยู่รึเปล่า แต่อย่างน้อยขอให้เขาได้ปกป้องตัวเองบ้าง


...กูไม่ได้ถูกสวมเขา มันบอกกูทุกอย่าง เรื่องที่มันไปกับน้องมี่ปีหนึ่ง กูรู้ กูเห็น ถึงกูจะไม่เต็มใจอนุญาตก็ตาม!!...


‘อ้าว แล้วเฮียยอมได้ไง?! เป็นผม ผมไม่ยอมนะ เมียเราจะไปเป็นผัวคนอื่นไม่ได้ โอ๊ย! ปก ตีกูทำไม?!‘


เจียระไนเห็นพ้องกับน้องชายเป๊ะๆ ติดที่ว่าเขาไม่มีคนมาตีแบบมัน ยิ่งคิดก็ยิ่งหมั่นไส้ คนอย่าง ‘ไอ้เจ๋ง’ ไม่ได้ดีเด่นไปกว่าเขาเลย แต่โอกาสเข้ามือ เลยคว้าคนที่มันรักมาอยู่ข้างกายในเวลาไม่นาน ในขณะที่เขา...


...รอไปสิไอ้หอก! รอมาเกือบ 2 ปี!! จะมาล่มเอาก็วันนี้!!!...


“ไอ้โซ่มันอยากรู้ว่าเวลามันอยู่กับคนอื่นมันจะเป็นยังไง กู...กูก็เลยให้เวลามันหนึ่งวัน...”


‘ไม่น่าเชื่อว่าเฮียจะใจกว้างกว่าแปซิฟิกอีก’


“แล้ว...ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน ร้านอะไร” ประเด็นคือถึงจะใจกว้าง ก็ขอรู้เห็นอีกนิดว่าสิตางศุ์พาผู้หญิงไปกินข้าวร้านไหน ร้านเดียวกับที่เขาเคยพามันไปกินมั้ย? มันพาใครไปทับรอยเขารึเปล่า?


‘ร้านอาหารฝรั่ง ผู้หญิงกินสเต็กปลา มีสลัดอีกจาน แล้วก็พี่ไอ้ปกกิน...กินไรวะ ปก มึงดูซิ คาโบนาร่าเปล่าวะ มีตักแบ่งให้ผู้หญิงด้วย’


เจียระไนสูดลมหายใจลึกๆ อีกรอบ อย่างน้อยมันก็ไม่พาผู้หญิงไปร้านอาหารที่เขาเคยพามันไป อย่างน้อย...ก็ไม่มีใครทับรอยเขา...


...แต่...ทำไมไอ้โซ่ต้องตักแบ่งให้น้องมี่ด้วยวะ?!! สุภาพบุรุษนักนะไอ้ฉิบหาย!!!...


‘เฮียอย่าปล่อยถึงวันเลย ครึ่งวันก็เอากันได้แล้วนะ ถ้ามองตากันเยิ้มขนาดนี้ โอ๊ย! ไอ้ปก! ตีกูทำไม!! กูพูดความจริง!!มึงไม่เห็นเหรอ ถ้าพี่มึงเป็นปลากัด ป่านนี้ท้องออกมาสามครอกแล้วมั้ง?!’ เสียงโวยวายของน้องชายลูกพี่ลูกน้องดังมาอีกชุด ซึ่งเป็นการโวยวายที่มันโวยกับคนข้างกายมัน ในขณะที่เจียระไน...ผู้ชายที่ต้องอยู่กับการรอคอย ทำได้เพียงเฝ้านับเวลาให้ไปถึงพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงไวๆ


ส่วนคนที่เขารอน่ะหรือ...ตอนนี้แม่งกำลังนั่งกินข้าวกับผู้หญิง แถมมองกันตาเยิ้มอีกต่างหากไงล่ะ!!


“ขอบใจที่โทร.มาบอก” เสียงเขาแข็ง แต่มือสั่น ไม่อยากคิดเลยว่าสิตางศุ์จะเลือกใคร หากวันนี้มันตัดสินใจเลือกผู้หญิง แล้วเขาจะเป็นยังไง


‘เฮีย ผมไม่ได้จะยุให้บ้านแตกหรอกนะ แต่คนของเรานะเฮีย จริงอยู่ว่ายังไงมันก็ต้องเป็นของเรา แต่ถามใจเฮียเหอะ ก่อนที่คนของเฮียจะกลับมาเป็นของเฮียจริงๆอ่ะ จะยอมให้เป็นของคนอื่นก่อนมั้ย ถ้าเป็นผมนะ ของของผมเป็นของผมคนเดียว ไม่ได้มีจิตสาธารณะแบ่งให้ใครใช้ร่วมกันหรือใช้ก่อนผม ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้หญิงก็เหอะ ผมก็ไม่ยอมว่ะ’


คำว่า ‘ไม่ยอม’ ของน้องชายจากปลายสายเหมือนค้อนปอนด์ทุบกำแพงความอดทนของเจียระไน


...ใช่! ถ้าความอดทนทำให้เสียไอ้โซ่ไป ก็ไม่จำเป็นต้องยอมอีกแล้ว! ต่อให้จะยอมรอคำตอบจากมัน แต่มันก็ต้องระลึกทุกขณะจิตว่ากูยังอยู่ตรงนี้! ยังมีลมหายใจ! ยังมีหัวใจ! ยังมีร่างกาย! และยังรอ ‘คำตอบที่ถูกใจ’ จากมัน!!...


“กูก็จะไม่ยอมนี่ไง!!” เขาตอบเสียงเข้มแล้วกดตัดสาย ก่อนจะลุกจากโซฟา หันไปหยิบกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถ ในขณะที่มือกดโทรศัพท์ส่งข้อความหาใครบางคนที่ส่งข้อความมาหาเขาเมื่อตอนเที่ยงว่ากำลังจะไปกินข้าวกับน้องมี่


‘โซ่ กูรอคำตอบของมึงอยู่นะ’


…บอกให้มันรู้ บอกให้มันจำ ว่ายังมีใครบางคนรออยู่ตรงนี้...


‘กูจะรอที่หน้าห้องมึง’


และต่อให้รอ คนอย่างเจียระไนก็จะบุกไปรอให้ถึงถิ่น!!


…ให้มันรู้กันไปว่าไอ้โซ่จะใจร้ายใจดำทำกับคนที่รอหน้าห้องมันยังไง!!...

..........................................

เสียงฝีเท้าก้าวเร็วๆมาตามโถงทางเดินจากหน้าลิฟต์ทำเอาคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องหมายเลข 504 เงยหน้ามอง ใบหน้าที่เคยขาวจัดขึ้นสีเรื่อๆเมื่อเจ้าตัวเดินไวๆตรงมาที่เขา ด้วยสีหน้าตื่นๆ


“โจ๊ก! ไหนว่าจะเอาคำตอบพรุ่งนี้ไง”


เจ้าของห้องหมายเลข 504 เดินไวจนหอบมาหยุดอยู่ตรงหน้าร่างสูงที่ส่งข้อความไปบอกเขาว่าจะมารอที่หน้าห้อง สิตางศุ์มาเห็นข้อความก็ตอนที่ออกจากโรงภาพยนตร์แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่ากว่าเขาจะรู้ตัวว่ามีคนมารอ เจียระไนต้องรอที่หน้าห้องไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมง


“ก็เผื่อมึงลืม” คนรอตอบด้วยสีหน้ารีบเฉยเหมือนไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับการยืนรอหลายชั่วโมงเลย


“จะลืมได้ยังไง แล้วกินอะไรรึยัง เข้ามาก่อน” เจ้าของห้องเปิดประตูแล้วเดินนำเข้าห้อง แต่เมื่อรับรู้ว่าไม่มีอีกคนตามเข้ามาเลยต้องหันกลับไปมอง เจียระไนยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องด้านนอก ไม่แม้แต่จะขยับสักนิด


“ถ้ากูเข้า กูต้องได้คำตอบที่กูถูกใจ” คนพูดยืนปักหลักราวกับจะบอกว่าถ้าไม่ได้อย่างที่ต้องการ ก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น


“แล้วกูจะรู้ได้ไง ว่าคำตอบของกูจะใช่ที่มึงถูกใจรึเปล่า” เจียระไนนิ่งไป รู้สึกเหมือนใจหายไปมากกว่าครึ่ง แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว จะให้เขาขี้ขลาดวิ่งหางจุกตูดไปหลบมุมก่อนเพื่อทำใจก็เสียเวลา


“ไม่เป็นไร ถ้าไม่ถูกใจ เดี๋ยวกูให้มึงตอบใหม่”


“มึงอ่า..” ร่างโปร่งถึงกับพูดไม่ออก นอกจากสายตาจากดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นจะมุ่งมั่นแล้ว คำพูดคำจาก็ไม่ต่างกัน เจียระไนมาที่นี่ เวลานี้เพื่อขอคำตอบ และต้องเป็นคำตอบที่ถูกใจเท่านั้น


สิตางศุ์ได้แต่เงียบ แม้เวลานี้จะยังไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ตนเองมีต่ออีกฝ่ายคืออะไร แต่...สิ่งหนึ่งคืออยาก...คืออยากอยู่กับผู้ชายคนนี้


‘…กูว่าไอ้โจ๊กก็ไม่ได้อยากฟังว่ามึงรักมันรึเปล่า ชอบมันรึเปล่า หรือแค่รู้สึกดีกับมันเฉยๆ กูว่าอย่างเดียวที่มันต้องการ คือมันอยากให้มึงอยู่กับมัน เหมือนที่มันอยู่กับมึง…’


…แค่อยากอยู่กับโจ๊ก ก็พอแล้วจริงๆหรือ? โจ๊กจะไม่อยากได้อะไรมากกว่านี้หรือ?...


“โซ่ มึงอย่าใจร้ายกับกูเลย กูรอมึงมาจะสองปี สองปีของกูไม่มีวันไหนที่กูเตรียมใจสำหรับความผิดหวัง” เสียงทุ้มดังขึ้นอีกหน ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองคนที่ยืนอยู่อีกฟากของประตู


เจ้าของห้องถอยเข้าไปในห้องอีกก้าวหนึ่งแล้วเปิดประตูให้มากขึ้น


“เข้ามาก่อนแล้วกัน...”


ดวงตาคู่สวยเบือนมองไปที่พื้นเหมือนตกประหม่าเล็กน้อย มือขาวเอื้อมไปจับเข้าที่ข้อมือที่มีเส้นเลือดปูดโปนของเจียระไนช้าๆ ริมฝีปากสีสดเม้มเข้าหากันก่อนจะเผยอเปล่งเสียงออกมาแผ่วเบา


“...บางที คำตอบของกูอาจจะถูกใจมึงก็ได้นะ”


แล้วหลังจากประโยคนั้น มือของสิตางศุ์ที่ก็กระตุกเบาๆเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้อง


ร่างสูงใหญ่ของเจียระไนหายลับเข้าไปในห้องหมายเลข 504 ก่อนที่บานประตูจะปิดลง


ที่หน้าห้อง...ปราศจากคนรอคอยอีกแล้ว...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

ฮู้ยยยยยย ตอนที่แล้ววววว...โซ่กับกตโดนยับ เพราะฉะนั้น ขอเป็นกระบอกเสียงให้โซ่กับกตนิดนึง (ฮ่าฮ่า)

โซ่เป็นคนที่ซื่อบื้อมากๆค่ะ อย่างที่บอกมาตลอดว่าโซ่ตัดสินใจไม่เป็น คิดช้า ขนาดซื้อข้าว ยังต้องใช้เหตุผลมากมายในการจะสั่งข้าวสักจาน พอมาถึงเรื่องใหญ่ๆอย่างการก้าวออกจากเฟรนด์โซนที่มีกับโจ๊ก โซ่เลยทำออกมาได้แย่มากๆ คือจะก้าวไปทางไหนก็ไม่รู้ จะก้าวท่าไหนก็ไม่รู้

ส่วนกต รายนี้ค่อนข้างชัดเจนว่ามีความเป็นผู้ปกครอง ผู้ปกป้องค่อนข้างสูง เหตุผลหลักๆเลยคือเพราะมีเพื่อนที่เหมือนจะดูแลตัวเองไม่ค่อยได้อย่างโซ่ พอโจ๊กเข้ามาใกล้โซ่มากขึ้นเรื่อยๆ กตเลยรู้สึกเหมือนตัวเองถูกล้ำเขตแดนค่ะ ทั้งๆที่มันก็รักโซ่แบบเพื่อนนี่แหละ

เอาล่ะ ทีนี้มาสู่ตอนนี้

ใครว่าจะมาม่า...กร๊ากกกกก บอกแล้วว่าฟีลกู้ดไง ฟีลกู้ด จะมาม่าได้ไง

โซ่มาสายซื่อแต่ชอบเทอ้อยขนาดนี้ ก็ซื่อไป บื้อไป เทอ้อยไปด้วย บันเทิงจะตายยยยยยย เป็นพระเอกเรื่องนี้ต้องสตรอง ต้องแข็งแกร่ง ต้องมีคุณสมบัติในการถูกทำร้ายและถูกฮีลในเวลาเดียวกันได้ค่ะ ฮ่าฮ่า

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกๆกำลังใจเช่นเคย ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า โปรดอย่าถาม โซ่จะเทอ้อยอีกมั้ย แต่ให้ถามว่าโจ๊กจะเบาหวานขึ้นมั้ย น่าจะดีกว่า กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ์ำNeFuji ที่ 01-06-2017 21:12:36
 :z13: :z13: :z13:

จิ้มก่อนแล้วกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-06-2017 21:15:17
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 01-06-2017 21:15:57
:pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: noteno ที่ 01-06-2017 21:16:28
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

รอไปอีกอาทิตย์
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 01-06-2017 21:17:11
แพทกตปะคะ อิอิ
โซ่ทำนี่หัวร้อนตอนที่แล้ว ตอนนี้ให้อภัยกะด้าย
ยินดีกับโจ๊ก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 01-06-2017 21:29:26
ตอนแรกอ่านเพราะความซื่อของโซ่กับความไบโพลาร์ของโจ๊ก น่ารักมาก

แต่จนถึงตอนนี้เพราะความจริงใจ มั่นคงของโจ๊กเท่านั้นเลย
บางทีโซ่ก็ซื่อจนแอบน่าเบื่อ แรก ๆ ก็น่าเอ็นดูหลัง ๆ มันไม่ใช่อ่ะ
เฟรนโซนไม่จูบกันหรอกค่ะ  บางทีมันน่าจะฉุกคิดอะไรได้เองบ้าง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 01-06-2017 21:32:13
ดีใจกับโจ๊กด้วย รอคำตอบอาทิตย์หน้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-06-2017 21:34:49
ซื่อแบบนี้ ถูกจับกินจะรู้ตัวมั้ยยยย โอ้ยยย กว่าจะรู้ตัว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 01-06-2017 21:35:49
ใจหายใจคว่ำ
ตอนโจ๊กพูดเรื่องงสองปี บอกเลยว่าอินมากกกก
คนมันรอมานานอ่ะเนอะ เข้าใจเลย
อยู่ดีๆจะหลุดมือไป  อ้าว เฉยก็ไม่ได้ดิ ของแบบนี้ ไม่ยอม
โซ่วันหลังไม่เอาแบบนี้แล้วเด้อ จิเป็นลม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-06-2017 21:36:56
บันเทิง
มีการจูงมือผู้ชายเข้าห้องแบบเนียนๆคืนนี้ต้องได้มากกว่าจูบนะโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 01-06-2017 21:51:51
ขำโจ๊กตอนไม่ยอมสามวันมาก บ่ายเบี่ยงไปอีก
โซ่นะโซ่บื้อที่ซู้ดดดดด บื้อจนโจ๊กเบาหวานขึ้นเลยนะ 5555
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 01-06-2017 22:01:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-06-2017 22:02:13
บางทีความรักมันก็ไม่ได้ชัดเจนขนาดจะบอกได้เลยว่า เออ รักคนนี้

แต่มันคือการที่ฉันอยากอยู่กับคนนี้ ศึกษากันไป แล้ววันหนึ่งมันก็ชัดขึ้นมา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 01-06-2017 22:12:39
โซ่โชคดีตรงที่คนรอบตัวรักหมด และโชคดีที่โจ๊กมันรักของมันมั่นคงมาก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-06-2017 22:20:00
กลับมานี่รู้ยังคะโซ่  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 01-06-2017 22:24:10
โซ่โดนแน่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-06-2017 22:25:04
เข้าใจหัวอกของโจ๊กเลย  :ling1: :ling1: :ling1:
สิตางศุ์  น่ารัก น่ากอด จริงๆ

รอมาสองปี แต่ไม่มีคำว่าผิดหวังในการรอ
แล้วคำตอบก็ น่าจะถูกใจโจ๊กนะ    :z3: :z3: :z3:
โจ๊ก โซ่  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-06-2017 22:34:43
โจ๊ก ไม่ปล่อยโซ่เลย 55555

กอดปลอดน้องมี่นะคะลูก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 01-06-2017 22:45:38
โอยยยย อาทิตย์หน้าเลยได้มั้ยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 01-06-2017 23:03:46
โอ้ยยยยย ค้างกว่านี้ได้อีกไหมมมม
หลังประตูบานนั้นจะมีอะไรรอโจ๊กอยุ่
ต้องพระหัสหน้าสินะถึงจะรู้
 :katai1: :katai1:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-06-2017 23:18:35
คึคึ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: dear77 ที่ 01-06-2017 23:25:23
 :-[   อยากกินอ้อย อยากอ่านอดีตตอนที่โจ๊กพบหน้าโซ่ครั้งแรกจัง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 01-06-2017 23:31:31
เห้อออ ก็ลุ้นซะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 01-06-2017 23:54:38
ก็รู้ระว่ากตรักเพื่อนแต่รักเพื่อนก็ไม่ได้หมายความว่าต้องไปก้าวก่ายกะเกณฑ์นี่ ปล่อยให้เพื่อนได้เจอปัญหา ได้คิดเองบ้าง ถ้าเพื่อนพลาดมาเราก็แค่ปลอบใจและอยู่ข้างๆเท่านั้นเอง

ป.ล.ตลกในความเกรี้ยวกราดของอิพี่โจ๊กมากนับวันยิ่งไบโพล่าร์ สงสาร
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 02-06-2017 00:48:17
เป็นกำลังใจให้โจ๊กค่ะ 55555555
โซ่ก็น่าเอ็นดูเหมือนเดิม งื้ออออ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 02-06-2017 02:03:13
เจ็บปวดสุดตรงพฤหัสหน้านี่แหละค่ะ
โจ๊กนี่โดนขนาดนี้ยังไม่สาหัสต้องถือว่าอึดถึกทนยิ่งกว่าแมลงสาบอีกอะ
โซ่ตอบดีๆนะะ เทอ้อยไปด้วนเลยก้ดี5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 02-06-2017 02:17:35
 :hao7:
อาทิตย์นึงนานไป   :katai4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-06-2017 02:32:54
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-06-2017 02:57:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 02-06-2017 03:39:31
ชอบความเกรี้ยวกราดของโจ๊ก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 02-06-2017 05:44:05
 :z3: :z3: :z3: รอให้ถึงพฤหัสหน้าแทบไม่ไหว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 02-06-2017 07:59:31
โห น้องมี รู้สึกผิดเลยที่เคยด่านาง 555+
นางคือเหยื่อที่แท้จริง นางดีแต่ที่ตรงนี้มีเจ้าของแล้วนะลูก
พี่กตมั้ยล่ะ ก็ดูเหมาะสมดีนะ อิอิ

ตลกอีโจ๊ก กระวนกระวายใหญ่เลย
แต่เอาเถอะ ตอนหน้าแกคงฟินล่ะนะ
ใช่ไหมจ๊ะคนแต่งจ๋าาาาา :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 02-06-2017 08:46:27
ตอนต่อไปเป็นฉากในห้องง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 02-06-2017 08:54:35
รออีกตั้ง 7 วัน คนอ่านใจจิขาด :katai5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 02-06-2017 10:06:10
โซ่รู้ตัวแล้ว หวังว่าโจ๊กจะได้ไม่กระวนกระวายใจอีกแหละ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 02-06-2017 10:32:18
ชอบเจ๋งอ่ะ คนมันแรง 555+
นี่ถ้าเป็นเจ๋งคาดว่าคงฉุดโซ่ทำเมียก่อนแล้วค่อยถามความสมัครใจแน่ ๆ หรือว่าเจ๋งฉุดน้องปกทำเมียก่อนแล้วค่อยถามหว่า
ขำโจ๊กนาทีเดียวที่ห่างจากโซ่ก็จะตายแล้วมา 3 วง 3 วัน ขึ้นอืดพอดี สมกับเป็นโจ๊ก ใจร้อนและต้องถูกใจเท่านั้น โซ่นี่เงิบไปหลายรอบ
ตัวประกอบอย่างน้องมี่เลยน่าสงสารเลย ผู้หญิงเรื่องนี้ก็ต้องสตรองเช่นกัน ยังไงก็หันมาจีบพี่กตแทนซิน้องมี่ กตจะได้ไม่เก็บกด
เกือบลืมแพท นึกว่าจะฟาดปากกดซะแล้ว เพื่อนแท้ก็ต้องแบบนี้ให้อภัยเพื่อน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 02-06-2017 11:13:59
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 02-06-2017 11:38:44
 :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 02-06-2017 11:51:55
โอยยยย เลิกเอ๋อไปนิดนึงแล้วค่ะ น้องโซ่ของเจ้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 02-06-2017 11:55:17
 :katai4:
รอวนไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 02-06-2017 14:56:31
 :sad4:  กำลังลุ้นเลย มาไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 02-06-2017 21:50:50
โจ๊กอยู่กับโซ่คงเหมือนกำลังขึ้นรถไฟเหาะ

หัวใจโจ๊กโดนโซ่เหวี่ยงไปมาจนบางไปหมดแล้ว  :m20:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 02-06-2017 23:17:44
แค่ยอมให้อยู่ข้างๆก้อฟินแล้วสำหรับคนอย่างโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 02-06-2017 23:22:04
โจ๊กยังกะหมาบ้า 555 เข้าใจว่าเครียดว่ากังวลแต่แกจะโหดกะโซ่ทำไมนักกก
สุดท้ายพอได้คำตอบที่ถุกใจ โซ่โดนขย้ำแหงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 02-06-2017 23:34:07
พออ่านตอนนี้ก็อยากให้มีตอนของคู่น้องบ้าง
คงจะแสบพอกันๆ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 03-06-2017 12:41:03
สงสารมี่ กับกตนะ มันไม่ง่ายเลยจะทำใจปล่อย

โซ่คนขายอ้อย ขนาดจะบอกน้องว่า ไม่ได้ ยังไม่อ้อยเค้าอีก

โจ๊กก็เข้มไปอีกสิ ทำให้โซ่ติดหนักเลยทีนี้

คำตอบที่ถูกใจ โซ่ก็อย่าซื่อว่า อยู่ด้วยแล้วสบายใจนะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 04-06-2017 18:45:02
ยกนิ้วให้น้องมี่เลยค่ะ การจะตัดใจจากใครสักคนนั้นยากจริงๆ นะคะ แต่น้องก็พยายามเข้าใจและตัดสินใจถอยห่างออกมา โดยไม่ดึงดันจะแย่งโซ่มาเป็นตัวเอง น่านับถือจริงๆ ค่ะน้องมี่ขา

คู่เจ๋งกับปกนี่น่ารักนะคะ ไม่ทราบคุณบัวมีเรื่องแยกให้อ่านหรือเปล่าเอ่ย?

คราวนี้หลังบานประตูที่ปิดลงไปจะเกิดอะไรขึ้น? หวังว่าจะหวานจนน้ำตาลเรียกพี่นะคะ ขอให้โซ่ให้คำตอบอย่างที่โจ๊กต้องการก็แล้วกัน สงสารพ่อคุณเขา รอมาตั้งนานแล้ว คนลุ้นก็ลุ้นจนอึดอัด ฮ่าๆ

ขอบคุณคุณบัวมากๆ ค่ะสำหรับตอนนี้ รอตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 04-06-2017 22:33:45
รอๆๆๆๆๆๆความหวานๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 05-06-2017 07:14:11
โจ๊กเข้าไปแล้ว ถ้าได้คำตอบที่ถูกใจ โซ่จะรอดปลอดภัยออกมาไม๊ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 05-06-2017 15:34:42
หายจากเรื่องนี้ไปเดือนนึง ตั้งแต่เชียงคาน
เฮียโจ๊กนางพัฒนานิ
เอาละคำตอบของคนซื่อๆที่เทอ้ยมาหลายรอบแล้ว
น่าจะถูกใจพี่โจ๊กเรานะ

เอาละมาครั้งก่อนได้จูบสองครั้ง หอมหนึ่ง
มาเอาคำตอบครั้งนี้ นอกจากคำตอบแล้วจะได้อะไรมั้ยน่าา

อิน้องเจ๋งก็ยุเหลือเกิน มี สปินออฟพวกนางมั้ยคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-06-2017 10:32:34
ตามทันแล้ว~ลุ้นคำตอบของโซ่!
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 08-06-2017 20:30:13
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
……………………..
ตอนที่ 13   


ภายในห้องเงียบกริบ


คอนโดขนาดย่อมที่ถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบนั้นมีที่ทางให้เดินไม่มากนัก สิตางศุ์นั่งอยู่บนโซฟา ส่วนแขกกิตติมศักดิ์อย่างเจียระไนอันเชิญตัวเองยืนเด่นค้ำหัวคนนั่ง แถมจ้องตาไม่กระพริบจนเจ้าของห้องชักจะเกร็งขึ้นทุกที


   “เอ่อ...ม...มึงนั่งก่อนมั้ยอ่ะ...อ่า...กินน้ำมั้ย เดี๋ยวกูเอาน้ำให้นะ” สิตางศุ์ลุกจากโซฟาเพื่อเดินเลี่ยงไปหาน้ำในครัว ทว่าแขนกลับถูกคว้าหมับ


   “น้ำน่ะ กูหาแดกเองได้ ที่กูอยากได้จากมึงตอนนี้คือคำตอบ” ยอดคนต้องตรงไปตรงมา เจียระไนกล่าวไว้


   ดวงตาคู่สวยเหลือบมาสบกับดวงตาเรียวเหมือนตาเหยี่ยวที่จ้องมองมา หัวใจบีบรัดอย่างรุนแรงจนต้องหลบสายตาหนีไปอีก


   “...ก...กูคุยกับน้องมี่แล้ว ตกลงว่าจะเป็นพี่น้องกัน...อ...อ่า...ส...ส่วนเรื่องกูกับมึง...”


   “เรื่องของเราก็ได้ จะแยกกูแยกมึงไปทำไม” เจียระไนแทรก


   “อย่าเพิ่งขัดกูสิ กูกำลังพยายามเรียบเรียงอยู่” ร่างโปร่งดุเบาๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดเพื่อกลั่นกรองคำพูดที่น่าจะเข้าใจง่ายที่สุด


   “...เอ่อ...กู...กูก็ไม่รู้ ว่าความรู้สึกของกูมันเรียกว่าอะไร กูพยายามหาคำตอบแล้วนะโจ๊ก แต่...กูไม่รู้จริงๆว่ามันคือความรัก ความชอบ หรือว่าแค่รู้สึกดี แต่...แต่กูอยากอยู่กับมึงนะ อยากมีมึงอยู่ข้างๆแบบนี้ อยากเจอมึงทุกวัน อยากคุยกับมึง อยากหัวเราะกับมึง อยากทะเลาะกับมึง อยากให้เราเป็นแบบนี้...”


   เจียระไนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ เกือบสองปีแห่งการรอคอย เกือบสองปีที่อยู่กับความฝันลมๆแล้งๆ


   “ถ...ถ้า...ถ้ามึงไม่ว่าอะไร กูขอศึกษามึงก่อนได้มั้ยล่ะ”


   “ได้!” ผู้ชายใจกว้างยิ่งกว่าแปซิฟิกรีบตอบ แต่ก็รีบปิดประตูหนีตายของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน


   “…ก็ลองเป็นแฟนดูก่อน ค่อยๆดูกันไป!”


   สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆ เหมือนกำลังประมวลผล ก่อนจะรีบส่ายหน้า


   “ไม่ๆ กูไม่ได้หมายถึงให้เราเป็นแฟนกัน”


   “อ้าว!” คิ้วเข้มเหนือดวงตาเรียวกระตุกเข้าหากันทันควัน เหมือนเมื่อกี้วิ่งเล่นอยู่กับม้ายูนิคอร์นแล้วถูกกระชากกลับมาเจอผีเปรต


   “หมายความว่าไง?!”


   “คือ...กูว่า กูยังไม่รู้จักมึงเท่าไรเลย...เอ่อ...กู...อยากให้เราศึกษากันแบบนี้ไปก่อน...”


   ...ศึกษากันไปก่อน?...ศึกษาหอกอะไรอีก?!...


   “เงยหน้ามองกูซิ แล้วบอกชื่อจริงนามสกุลจริงของกูมา” คำสั่งของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำเอาดวงตาใสแจ๋วแสนซื่อมีแววงุนงง แต่เจ้าตัวก็ยอมทำตาม


   “...ชื่อ...เจียระไน  ตั้งกาญจนพาณิชย์”


   “กูชอบกินอะไร” คนถูกถามกะพริบตาปริบๆ


   “น้ำกระเจี๊ยบ...เอ่อ...ส่วนพวกอาหารคาว มึงเคยบอกว่าชอบกินผัดขี้เมา แต่กูเห็นมึงก็กินได้ทุกอย่าง ชอบกินของเผ็ด ไม่ค่อยชอบกินพวกน้ำต้มๆที่ร้อน ก๊วยเตี๋ยวก็เห็นกินแต่แห้ง ถ้าเป็นก๊วยเตี๋ยวน้ำต้องรอให้เย็นก่อน มึงกินขนมได้นิดหน่อย แต่ไม่ค่อยชอบ ถ้าเข้าร้านกาแฟจะสั่งเอสเพรสโซ่”


   เจียระไนแทบกลั้นรอยยิ้มไม่อยู่ ดุนลิ้นกับข้างแก้มก็แล้ว ทำหน้าตอบก็แล้ว สุดท้ายเลยตัดสินใจหันหลังให้อีกฝ่ายเสียเลย!


   “โจ๊ก กูพูดอะไรผิดเหรอ” เสียงจากคนข้างหลังยิ่งทำร้ายหัวใจคนฟังหนักมาก


   ...ไม่ไหวแล้วจริงๆ...กับไอ้โซ่ กูไม่ไหวแล้วจริงๆ...


   ร่างสูงทำกระแอมไอเสียงดังแล้วหันกลับมาด้วยสีหน้าจริงจัง เรียบเฉย ทว่าในดวงตาเรียวคู่นั้นวิบวับเกินกว่าจะควบคุม


   “มึงรู้จักกูดีแล้ว”


   “แต่...กูว่ามันยังไม่พอ...ถ้าเราจะคบกัน เราน่าจะเรียนรู้กันมากกว่านี้ มึงเป็นผู้ชาย กูก็เป็นผู้ชาย กูไม่อยากให้มึงเสียหาย”


เจียระไนถึงขั้นยกมือสองข้างขึ้นเท้าเอว รู้สึกถูกพลิกบทแบบแปลกๆ แถมตอนแรกใจจะแป๊วเพราะฟังดูแล้วเหมือนถูกปฏิเสธ แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายนั่นสิ


   ‘...ไม่อยากให้เสียหาย’


   ...มันใช่เหรอวะ โซ่?!...


   “มึงจะกลัวกูเสียหายเรื่องอะไร” ผู้ชายตัวใหญ่ ร่างสูงหนา บึกบึน หน้าตาหล่อเหลาแต่มีทัศนคติในการแอนตี้โลกทั้งใบตั้งคำถามด้วยความไม่เข้าใจ


   “ก็...เดี๋ยวใครๆจะหาว่ามึงคบผู้ชายนะ”


คนฟังรู้สึกจั๊กกะจี้ไปทั้งหัวใจ


   ...ไอ้ฉิบหาย!!! เรื่องแค่นั้นจะสร้างความเสียหายให้กูได้ยังไง?!!...


   “โจ๊ก...” สิตางศุ์เห็นสีหน้าแปลกๆของคนตรงหน้าเลยใช้เสียงอ่อนๆเหมือนจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบให้อีกฝ่ายฟังเหตุผล


   “ครอบครัวมึงเป็นคนจีน เรื่องสืบสกุลสำคัญมากไม่ใช่เหรอ พวกเขาจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่ามึงมีแฟนเป็นผู้ชาย อ่า...มึงอย่าโกรธนะ กู...เคยแอบเอานามสกุลมึงไปเซิร์จในเน็ต ครอบครัวมึงเป็นไฮโซนี่นา...”


สถานะทางสังคมของตระกูลตั้งกาญจนพาณิชย์นั้นอยู่ท่ามกลางแสงแฟลชและสายตาของผู้คน ขนาดว่าร่างสูงเป็นคนไม่ค่อยสนใจจะออกสื่อ ข่าวในอินเตอร์เน็ตยังเคยมีเขียนถึง ‘เจียระไน  ตั้งกาญจนพาณิชย์’ เลย


   “ไฮโซพ่อง ก็แค่รวย” คนไม่สนใจก็คือไม่สนใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังยอมรับว่าครอบครัวของตัวเองออกจะมีกิจการมั่นคงและฐานะการเงินที่อยู่ในเกณฑ์ดีมาก


   “นั่นแหละ กูเห็นมีงานการกุศลที่อาม่าของมึงเป็นประธานเปิดงาน มีรูปมึงถ่ายกับอาม่าของมึงด้วย อาม่าของมึง...ท่านอายุมากแล้ว ไม่รู้จะเข้าใจเรื่องแบบนี้มากแค่ไหน ตอนนี้...เราคบกันแบบนี้ไปก่อน ให้เราได้เรียนรู้กันก่อน ให้ครอบครัวเราค่อยๆรู้เรื่องของเรา แล้วถ้าถึงวันที่พวกเขาเข้าใจ แล้วเรายังเรียนรู้กันอยู่แบบนี้ มึงอยากให้กูเป็นอะไร กูก็จะเป็น...”


   นอกจากคำพูดที่ใช้น้ำเสียงปลอบประโลมให้ใจเย็นแล้ว สายตาจากดวงตาคู่สวยที่ทอดมองมา รวมไปถึงฝ่ามือขาวที่แตะลงกับไหล่เขาอย่างแผ่วเบานั้น ทำเอาหัวใจคนฟังอ่อนยวบยาบ


   แต่...นิสัยมุทะลุจะเอาแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการก็ยังไม่วายตั้งคำถามขึ้นมา


   “แล้วสรุปกูกับมึงจะได้เป็นแฟนกันมั้ย”


   เป็นอันว่าที่สิตางศุ์พูดยาวๆ ไม่มีความหมาย ร่างโปร่งถอนหายใจเบา แล้วย้ำคำเดิม


   “ยังไม่เป็นตอนนี้ ขอศึกษากันก่อน”


   “แต่ถัดจากไอ้สถานะศึกษานี่คือสถานะแฟน ถูกมั้ย” เจียระไนก็ยังวกกลับมาที่เรื่องแฟนเหมือนเดิม


   ...ทำงาน แม่งยังต้องมี Career Path แล้วคบกับกู มึงจะไม่ให้มีการพัฒนาสถานะได้ยังไง!!...


   “ก็...จะว่าอย่างงั้นก็ได้”


   “นอกจากกู มีใครที่มึงศึกษาอีกมั่ง”


   “ไม่มีแล้ว...” คำตอบดังงุบงิบ สิตางศุ์ไม่อยากจะบอกเลย แค่ศึกษาเจียระไนคนเดียว ก็ทำให้เขาปั่นป่วนไปหมดทั้งหัวใจแล้ว


   “โอ.เค. กูยอมอยู่ในสถานะศึกษาอะไรนี่ก็ได้ แต่กูต้องเป็นคนเดียวที่ได้ศึกษามึง ถ้ามีใครมาจีบมึง มึงต้องบอกมันว่ามึงมีแฟ...เอ่อ บอกมันว่ามึงมีคนศึกษาด้วยแล้ว ไม่งั้นก็บอกกูก็ได้ เดี๋ยวกูเคลียร์ให้เอง ไม่ต้องสะเหล่อหาคำตอบห่าเหวอะไรนั่นเองเหมือนตอนน้องมี่อีก แล้วมึงก็ห้ามไปศึกษาคนอื่นด้วย! สถานะนี้มีแค่กูคนเดียว และกูก็จะยกสถานะนี้ให้มึงคนเดียวเหมือนกัน ตกลงมั้ย”


   ฟังๆดูแล้ว ก็ไม่ได้ต่างจากการเป็นแฟนกันแม้แต่นิด แต่ในเมื่อสถานะที่ว่าคือการศึกษา ก็ดีกว่าการระบุว่าเป็นแฟนกัน...ล่ะมั้ง


   “ก็ได้” สิตางศุ์รับคำ เจียระไนแทบอยากจะชูมือในอากาศเพื่อบอกให้โลกรู้ว่าสิ่งที่เขารอคอยและคาดหวังมาเกือบสองปี ประสบความสำเร็จแล้ว


...แต่...ทำในใจพอ เดี๋ยวไอ้โซ่ตกใจ...


   “งั้นมึงไปอาบน้ำไป อาบดึกๆเดี๋ยวไม่สบาย” แฟนหมาดๆ เอ๊ย คนศึกษา(ดูใจ)หมาดๆแสดงความห่วงใยด้วยสีหน้าที่ติดจะยิ้มนิดๆที่มุมปาก


   “อืม มึงก็กลับไปเถอะ”


   “หืม?” คนเพิ่งอัพเกรดสถานะใหม่แต่ถูกไล่ซึ่งหน้าถึงกับหุบรอยยิ้มมุมปากแทบไม่ทัน


   “ก็...มึงจะได้กลับไปพักผ่อน”


   “เราเพิ่งเป็นแฟนกันนะโซ่” คนเป็นแฟนกันมันก็ต้องอยากอยู่ด้วยกัน ยิ่งอยู่ในที่รโหฐานสองต่อสองแบบนี้ ก็ต้องยิ่งอยากใกล้ชิดกัน! ไม่ใช่มาไล่กลับซึ่งๆหน้าหลังจากเพิ่งเปลี่ยนสถานะกันแบบนี้!


   “ไม่ได้เป็นแฟน ศึกษากันก่อน” สิตางศุ์ย้ำคำเดิม แต่เจียระไนโบกมืออย่างไม่ไยดี


   “นั่นแหละๆ แล้วมึงจะให้กูกลับเนี่ยนะ?!”


   “แล้วมึงจะอยู่ทำไมล่ะ กูง่วงแล้ว มีอะไรไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ เออ...พรุ่งนี้กูจะเข้าไปพบอาจารย์ตอนเช้า แล้วก็เข้าห้องสมุด มึงจะมารับกูมั้ย หรือจะไปเจอกันที่คณะ”


   “ให้รับกี่โมง”


   “เวลาเดิมก็ได้ จะได้ไปกินข้าวด้วย มึงมีเรียนใช่มั้ย กินด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปเรียนนะ”


   ...กินด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปเรียนนะ...

...กินด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปเรียนนะ...

...กินด้วยกันก่อนแล้วค่อยไปเรียนนะ...


...ลงท้ายประโยคว่า ‘นะ’ นี่แม่งอ้อนกันชัดๆ!!!..


   เหมือนถูกมนต์สะกด เจียระไนแทบไม่รู้สึกตัว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ตัวเองยอมเดินออกจากห้องหมายเลข 504 อย่างว่าง่าย แล้วมีเจ้าของห้องยิ้มซื่อๆใส่พร้อมกับเอ่ยประโยคสุดท้าย


   “กู้ดไนท์ เจอกันพรุ่งนี้นะ โจ๊ก”


   แล้วประตูห้องก็ปิดลง ทิ้งเจียระไนเอาไว้กับความงง


   ...เป็นคนที่ศึกษากันแล้ว แล้วจากนั้นก็ถูกดันออกจากห้องในเวลาอันรวดเร็ว ตบท้ายด้วยคำพูดที่เหมือนจะลูบหลังอย่างอ่อนโยนว่าเจอกันพรุ่งนี้...


   ...อ๊ะหือ ไอ้กากโจ๊ก!!! ลูกแกะหลุดมือ ขนแกะสักเส้นก็ไม่ได้ดม!!!!...

   .............................


   ...กาก...กากมาก...กากมากที่สุด!!!!...


   เจียระไนรู้ว่าตัวเองควรได้รับรางวัลมนุษย์กากแห่งคณะรัฐศาสตร์ และควรได้มาแบบไร้คู่แข่งด้วยซ้ำ


   ...กากแรกคือสถานะกระดิก แต่สกินชิพเท่าเดิม เมื่อเช้าไปรับมันที่ห้อง ตั้งใจว่าเช้านี้แม่งต้องได้มอร์นิ่งคิสทันทีที่เปิดประตูมาเจอหน้ากัน ปรากฏมันตื่นสาย วิ่งหูตูบ เพราะนัดอาจารย์เอาไว้ตอนแปดโมง สรุปคือไม่ได้แตะแม้แต่ปลายเล็บ และจำนวนจูบยังคงที่แค่ 2 ครั้งเท่าเดิม...


   ...กากสองคือพอมันขึ้นรถปุ๊บ แม่งชวนคุยเรื่องมิซไซล์ที่พุ่งไปลงทะเลที่ไหนสักที่บนโลก แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่า อยากจะเข้าไปเที่ยวประเทศเจ้าของมิซไซล์นั่นสักครั้ง...สักครั้งพ่อมึงสิ! เดทกับกูยังไม่เคยไป เสือกจะหาเรื่องเอาตีนไปเหยียบนรกก่อน!!...


   ...และกากสาม...คือทั้งหมดที่เล่ามา ไอ้โจ๊กคนนี้ได้แต่อาละวาดอยู่ในใจ แล้วปล่อยให้ไอ้โซ่ยิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิต!!!...


   ...กากเอ๊ย!! กากเชี่ยๆ!!!...


   หงุดหงิดงุ่นง่านแล้วก็ได้แต่อัดบุหรี่เข้าปอดอีกหนึ่งอึกใหญ่ๆ พอดีกับที่ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดเดินลงบันไดตึกมาหลังจากพบอาจารย์แล้วเรียบร้อย


   “หิวมากมั้ย ขอโทษที่ช้า” สิตางศุ์ก้าวเท้าไวๆตรงมาหาคนรอขณะที่ยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา เขาขึ้นไปพบอาจารย์ตั้ง 15 นาทีแหน่ะ


   “ไม่หรอก” เจียระไนตอบแล้วปรายตาลงมองหนังสือเต็มอ้อมแขนของคนข้างกายก่อนจะดึงมาช่วยถือ สิตางศุ์ค้อมศีรษะเล็กน้อยแทนคำขอบคุณ


   “มึงเอามาทำไมเยอะแยะวะ” ปากบ่น แต่มือก็คว้าไปช่วยถือ กลายเป็นว่าที่มือขาวมีหอบแค่สองเล่มบางๆ ส่วนที่เจียระไนมีสามเล่มหนาๆ


   “อาจารย์พุธให้ยืมมา”


   “หะ! ‘จารย์พุธ? นี่อย่าบอกนะว่าเปเปอร์ที่มึงจะส่ง ‘จารย์พุธยังไม่เสร็จ” ร่างสูงตั้งคำถามแล้วก้าวเท้าออกเดินไปยังโรงอาหาร มีคนผิวขาวจัดเดินตาม


   “วันนี้จะกลับไปแก้ให้เสร็จจริงๆแล้วอ่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่ได้อ่านหนังสือสอบ จะไฟนอลแล้วด้วย วันนี้เลิกเรียนแล้ว กินข้าวเที่ยงที่คณะแล้วกันนะ กูจะได้กลับไปแก้เปเปอร์ไวๆ”


   “อือ” สารถีรับคำ ก่อนจะตั้งคำถามต่ออย่างไม่จริงจังเท่าไรนัก


   “แล้วมึงมีเปเปอร์กี่ชิ้น” ปีสี่กันแล้ว ก็คงไม่มีเปเปอร์มากนัก


   “เปเปอร์ 2 เอง สอบอีก 5” ดวงตาเรียวตวัดฉับมามองอย่างตกตะลึง


“อะไรนะ?! เปเปอร์ 2 สอบ 5 ?!! นี่มึงลง 7 ตัวเหรอ?!”


“อื้ม”


   “มึงปีสี่นะโซ่ ลงเชี่ยอะไรตั้ง 7 ตัว?!!” เจียระไนโวยดังลั่นเพราะมนุษย์ปีสี่ที่ชื่อสิตางศุ์ ทำตัวเหมือนไม่ได้เรียนปีสุดท้ายแต่ประการใด ลงเรียนคุ้มกับค่าเทอมระบบเหมาจ่ายซะจนมหาวิทยาลัยน่าจะขาดทุน


“ก็...มีแต่วิชาน่าเรียนทั้งนั้นเลยนี่นา...”


“แล้วมึงเริ่มสอบเมื่อไร”


“อาทิตย์หน้า” เจียระไนกรอกตามองแทบจะเป็นวงกลม


…จะมีใครลักกี้อินเลิฟเท่ากูอีกมั้ย?! เป็นแฟนกันปุ๊บ ไฟนอลมาปั๊บ!...


   “วันนี้กูจะกลับไปแก้เปเปอร์ให้เสร็จ แล้วก็จะเริ่มอ่านหนังสือแล้ว กูเถลไถลไม่ได้แล้วนะ ถ้าจะเจอกัน ก็...เจอกันตอนเช้ากับเย็น หรือไม่ก็กินข้าวด้วยกันที่คณะ งดเที่ยว งดดูหนัง เดี๋ยวอ่านหนังสือไม่ทัน...” ดวงตาเรียวแทบเบิกโตกับคำพูดซื่อๆของคนรักการเรียน กำลังจะอ้าปากค้านว่าไม่ยอม แต่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเสียก่อน สิตางศุ์หยิบขึ้นมาดู บนหน้าจอปรากฏว่าสายเรียกเข้ามาจากมารดา ดวงหน้าสวยยิ้มก่อนจะหันมองคนที่ยืนข้างๆ


   “แม่โทร.มา โจ๊กไปสั่งข้าวก่อนก็ได้” แล้วร่างโปร่งก็ทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะว่างในโรงอาหารก่อนจะกดรับสาย


   “ฮัลโล แม่ เปล่าๆ ไม่มีเรียน แต่ตอนนี้อยู่คณะ มาหาอาจารย์กับมาห้องสมุด จะไฟนอลแล้ว เปเปอร์ยังไม่เสร็จเลย หนังสือก็ยังไม่ได้อ่าน”

“อื้ม สอบไฟนอลเสร็จจะกลับบ้าน แต่ว่ายังไม่รู้ว่าจะกลับวันไหน เดี๋ยวดูก่อนว่าจะส่งเปเปอร์ได้วันไหน”


เจียระไนที่ยังยืนอยู่ใกล้ๆถึงกับชะงักกึก


...นอกจากไฟนอล สอบ 5 วิชา เปเปอร์อีก 2 ของไอ้โซ่ที่พรากเวลากูไปแล้ว ยังมีโปรแกรมกลับบ้านหลังไฟนอลอีกเหรอวะ?!...


...แล้วเวลาของเราล่ะโซ่! เวลาที่ให้เราได้ศึกษากัน เวลาตรงนั้น กูจะขอได้จากที่ไหน?!!!...


“อยากได้อะไรจากกรุงเทพฯมั้ยล่ะ เดี๋ยวซื้อไปให้...” สิตางศุ์ส่งเสียงสดใสลงในโทรศัพท์ ก่อนจะรู้สึกว่ากำลังถูกจ้องเลยละสายตาขึ้นมองคนที่ยังยืนอยู่ใกล้ๆ เจียระไนยืนจ้องหน้าบึ้งตึงดูไม่สบอารมณ์จนเขาต้องกรอกเสียงบอกปลายสายเบาๆ


“อ่า...แม่...แป๊บนะ เดี๋ยวโทร.กลับ...” มือขาวกดตัดสายอย่างรวดเร็วแล้วเงยหน้ามองร่างสูงที่ยืนกอดอกแต่ยังจ้องมองไม่กะพริบ


“มึงจะกลับต่างจังหวัดเหรอ?!”


“อื้ม กลับหลังส่งเปเปอร์” คนตอบ ตอบซื่อๆอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำเอาเจียระไนที่หงุดหงิดงุ่นง่านทำได้แค่หันมองไปทางอื่นแล้วถอนหายใจแรงๆ


...แม่งเอ๊ย! เห็นกูเป็นตัวเชี่ยอะไรวะ?!! ไม่เคยจะบอกห่าอะไรกูก่อนเลย!!...


“โจ๊ก เป็นไรเหรอ” สิตางศุ์ถาม


“เปล่า!” ปากว่าเปล่า แต่ไม่ยอมหันกลับมามองหน้า แต่ดูจากใบหน้าด้านข้างก็พอรู้ว่าคนพูดกำลังหงุดหงิดแค่ไหน 


“ไม่เป็นไรได้ไง มึงขมวดคิ้วอ่ะ”


“กูก็ขมวดของกูอยู่แล้ว!”


“อ่า...ก็ใช่ แต่...ไม่เหมือนทุกที มีอะไรบอกกูได้นะ เรากำลังศึกษากัน กูก็อยากรู้จักมึงให้มากกว่านี้”


คนกำลังหงุดหงิดมีอันต้องอ่อนยวบเหมือนพื้นปูนที่ยืนอยู่กลายเป็นโคลน


...ให้ตายเถอะวะ! ชีวิตนี้เพิ่งเห็นคุณค่าของคำว่าการศึกษาก็ตรงที่ไอ้โซ่พูดว่าเรากำลังศึกษากันเนี่ยแหละ!!...


…จะยิ้มแล้ว ไอ้หอก จะยิ้มแล้ว เอาไงดี…


“กู...แค่รู้สึกว่าเราไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน” กลั้นยิ้มด้วยการตีหน้านิ่ง พูดประโยคดราม่าเล็กน้อย ชวนให้น่าสงสาร แต่...สิตางศุ์คือมือวางอันดับต้นๆด้านความซื่อบื้อ


“ก็นี่ไง เราก็อยู่ด้วยกันตอนนี้อยู่นี่นา”


“ไม่ใช่หมายถึงตอนนี้! กูหมายถึงเดี๋ยวมึงก็จะอ่านหนังสือสอบ! ทำเปเปอร์!”


“มึงก็ต้องอ่านสอบกับทำเปเปอร์เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”


“แต่พอปิดเทอมมึงก็ต้องกลับต่างจังหวัด!”


“ก็กูกลับทุกปิดเทอมอยู่แล้วอ่ะ”


“แล้วเมื่อไรเราจะได้อยู่ด้วยกันสักที?!”


“ก็ตอนนี้”


“ไอ้โซ่!” อารมณ์ดีๆสวิงกลับมาเป็นอารมณ์เสียอีกหน ‘โจ๊กไบโพลาร์’ เจ้าเก่าคนเดิมกลับมาแล้ว


“กูไม่ได้กวนนะ แต่ทุกวันนี้เราก็ยังได้เจอกันนี่นา มึงก็ยังมารับกูได้ เรากินข้าวด้วยกันได้ ตอนกลางคืนโทร.คุยกันก็ได้”


“แล้วมึงคิดว่ามันพอเหรอ?!” ถามประชด แต่อีกฝ่ายตอบเสียงดังฟังชัด


“กูว่าพอนะ”


จบ...ปิดเกม เจียระไนถอนหายใจเฮือกโยนหนังสือหนาๆสามเล่มในมือลงกับโต๊ะโครมใหญ่แล้วตวัดสายตามามองร่างโปร่ง


“มึงแดกข้าวแล้วไปรอกูที่ห้องสมุด! กูเลิกเรียนแล้วจะไปหา!!” สั่งเสียงห้วนก่อนจะเดินหนีออกจากโรงอาหารไปโดยไม่กินอะไรแม้แต่นิดเดียว


...มึงพอ! แต่กูไม่พอ! เข้าใจมั้ยไอ้สัด!!!...


.................................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 08-06-2017 20:30:39


ปราการก้าวเท้าเร็วๆลงจากตึกเรียน หลังจากเมื่อกี้อุตส่าห์วิ่งถลาไปเข้าห้องเรียนก่อนเวลาตั้ง 15 นาทีเพื่อที่จะพบว่าเพื่อนซี้นิสัยขี้อวดคนหนึ่งที่เมื่อคืนโทร.มาแถลงเรื่องความสัมพันธ์ของมันกับ ‘โซ่ ไออาร์’ ดันโดดเรียนโดยไม่บอกกล่าวกันซะงั้น


‘กูเห็นไอ้โจ๊กที่โรงอาหาร’ เพื่อนคนหนึ่งในห้องบอก หลังจากปราการตะโกนถามว่าใครเห็นหัวเพื่อนซี้รายนี้ของเขาบ้าง


‘มันทะเลาะกับโซ่ ไออาร์ เห็นโยนหนังสือตึงตังแล้วบอกให้โซ่รอที่ห้องสมุด’


พยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ณ โรงอาหารเมื่อเช้าเล่า แน่นอนว่าปราการไม่เชื่อ แต่พอรวมเข้ากับการที่เจียระไนโดดเรียนทั้งๆที่ควรจะเข้าเรียนด้วยความแจ่มใส เขาก็ชักจะอดเป็นห่วงไม่ได้


‘เมื่อกี้กูเห็นมันนั่งสูบบุหรี่อยู่ที่สนามบอล’ เพื่อนอีกคนชูบอก คราวนี้ชัดเจนหนัก เพราะการปลีกวิเวกไปที่ริมสนามบอลในช่วงคาบเรียนแถมด้วยบุหรี่ บอกอารมณ์เจียระไนได้เป็นอย่างดี ว่าอารมณ์มันไม่ดีแน่นอน!


ชายหนุ่มจากภาคปกครอง เลี้ยวออกจากตึกตรงดิ่งไปยังสนามฟุตบอลของคณะ ตอนเก้าโมงแบบนี้ ไม่มีใครใช้ แต่ถึงอย่างนั้นที่โต๊ะม้าหินริมสนามกลับมีใครบางคนนั่งอยู่ เห็นไกลๆก็จำได้แม่นว่าที่นั่งนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งนั่นไม่ใช่ใครที่ไหน ‘ไอ้โจ๊ก’ เพื่อนยากนั่นเอง


“โจ๊ก...” เขาตะโกนเรียก ดวงตาเรียวๆตวัดฉับไปมองรอบเดียว เจ้าของเสียงก็ถึงกับจิกปลายเท้ากับพื้นแทบไม่ทัน


   “อะไรวะนั่น...รังสีอำมหิตขนาดนั้น”


   “ถ้ามึงรู้ตัวว่ามาแล้วไม่เงียบ มึงเข้าเรียนไปเลย!” เจียระไนไล่กันโต้งๆถือเป็นการเตือนกันเอาไว้ก่อน ปราการอยากจะบอกจริงๆว่าถ้าจะให้เขาเงียบ ก็เอากรรไกรมาตัดลิ้นเขาเถอะ ยิ่งให้เข้าเรียนทั้งๆที่เพื่อนสนิทนั่งหน้าเป็นตูดดูดบุหรี่ปลีกวิเวกอยู่ข้างสนามบอลแบบนี้ ก็อย่าเรียกเขาว่าขาเผือกอีกเลย!


   เพื่อนสนิทร่วมภาควิชาที่สนับสนุนเกื้อกูลกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งเดินเข้ามานั่งข้างๆ


   “เป็นไรวะ ไหนเมื่อคืนยังดี๊ด๊าโทร.มาอวดกูอยู่เลย” เจียระไนถอนหายใจ รู้แน่แล้วว่าที่ขู่เมื่อกี้ไม่มีความหมาย เพราะพอปราการหย่อนตัวลงนั่งข้างๆปุ๊บ มันก็ถามปั๊บ


   ...เอาวะ! ได้ระบายกับมันก็ยังดี!!...


   “กูกับไอ้โซ่คุยกันแล้ว...”


   “อาฮะ มึงบอกกูเมื่อคืน ว่าไอ้โซ่เลือกมึง ไม่เลือกน้องปีหนึ่ง” ใช่...เมื่อคืนเจียระไนอวดว่าตัวเองถูกเลือก แต่...ไม่ได้บอกว่าถูกเลือกมาอยู่สถานะอะไร


…ก็ตอนนั้นคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรต้องมารังควานใจอีกแล้วนี่หว่า! แล้วการบอกว่าไอ้โซ่เลือกกู แทนที่จะเลือกผู้หญิง มันก็ฟังดูดีกว่าสถานะศึกษาๆอะไรนั่นฉิบหาย!...


   “มันจะให้กูกับมันศึกษากันไปก่อน”


   “หะ?! ศึกษา? ศึกษาอะไร”


   “ศึกษาดูใจไงสัด”


   “เชี่ยยยยยย ศึกษาอะไรอี๊ก?!!!”


   “กูจะไปรู้แม่งเหรอ?! ก็มันบอกแบบนี้! กูก็ถามมันแล้วว่ากูจะได้เป็นแฟนมันมั้ย มันบอกว่าให้ศึกษาไปก่อน ไว้ชัวร์แล้วจะเป็นแฟน”


“แล้วมึงก็ยอม?”


“กูทำอะไรได้ล่ะวะ?!” ปราการฟังแล้วก็ได้แต่ส่ายหัว ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนสนิทจะยอมตามใจสิตางศุ์ขนาดนี้


“เสียศักดิ์ศรีปกครองฉิบหาย ลงทุนตั้งเยอะ โดนไออาร์ซื่อๆอย่างไอ้โซ่ขยับตำแหน่งให้กระจึ๋งนึง” ปราการเน้นคำว่า
‘กระจึ๋งนึง’ จนคนฟังรู้สึกเสียหน้าอย่างบอกไม่ถูก


   “แล้วมึงเอาไงต่อเนี่ย”


   “มีอะไรให้กูเอาล่ะ...” พูดแล้วก็หงุดหงิด ที่หงุดหงิดที่สุดคือหน้าซื่อๆ ตาใสๆของสิตางศุ์เมื่อเช้านี้


   เจียระไนไม่อยากปากโป้งเล่าให้ใครฟังเลย แต่...จะว่าคับแค้นก็ใช่ จะว่าหน้า ‘ไอ้ปาร์ค’ กำลังอยากรู้อยากเห็นสุดๆก็ใช่ รวมๆแล้วเลยต้องเล่า


   “แล้วเมื่อเช้า...” เขาเปิดปาก สูดลมหายใจเข้าลึก


   “...ไอ้โซ่บอกกูว่า ใกล้ไฟนอลแล้ว ต้องอ่านหนังสือสอบกับทำเปเปอร์ให้เสร็จ”


   “แล้ว?” ปราการยังหาความเชื่อมโยงไม่เจอ จนดวงตาเรียวๆของเพื่อนสนิทต้องเหลือบมาจ้อง


   “กูจะได้เจอมันแค่เช้ากับเย็นที่มารับมาส่ง กินข้าวที่คณะ ไม่กินที่อื่น งดเที่ยว งดเจอกันมากกว่านั้นทุกรูปแบบ”


   “เชี่ย!!! นี่สรุปกำลังศึกษาหรือถีบมึงออกจากชีวิตวะ?!!” เจียระไนอยากจะด่าที่เพื่อนรักพูดซะเห็นภาพ แต่ก็ด่าไม่ออก เวลานี้สิ่งที่น่าเซ็งที่สุดในโลกไม่ใช่สถานะศึกษาดูใจอะไรนี่ แต่เป็นไฟนอล


   ...ไฟนอลโคตรพ่องโคตรแม่ง!...


 “เอาหน่าๆ ใจเย็นมึง สอบไฟนอลเสร็จ มึงก็พาไอ้โซ่ไปเที่ยวไง ปิดเทอมแล้วมีเวลาอยู่ด้วยกันเยอะแยะ” ปราการพยายามขายฝันโลกสวย ทำนองว่าปิดเทอมแล้วจะทำอะไรก็ได้ แต่เจียระไนส่ายหน้า


“มันต้องกลับบ้านต่างจังหวัด”


หลังจากอีเว้นท์ไฟนอล ก็มีอีเว้นท์กลับบ้านตามมารังควานหัวใจคนเพิ่งขยับฐานะหมาดๆอย่างเจียระไนอีก


“อ้าวเหรอ...อ่า มันอยู่จังหวัดอะไรนะ” คุ้นว่าอยู่ทางภาคใต้ เพราะปราการเคยแซวในใจว่าคนขาวจัดขนาดนั้น ไม่น่าจะอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร


“กระบี่” คนฟังพยักหน้ารับหงึกๆ


...ก็ไม่ได้อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรเท่าไร แต่เดี๋ยว!...โซ่เป็นคนกระบี่ แล้วที่ไอ้โจ๊กเคยพาเที่ยวบางแสนล่ะ?!!!...


“มึงพาเด็กจากทะเลฝั่งอันดามันเที่ยวทะเลอ่าวไทยเหรอวะ?” ดวงตาเรียวของหนุ่มเชื้อสายจีนเหลือบมองเหมือนจะ
ถามว่าเป็นปัญหาตรงไหน


“ใช่ แล้วยังไง”


“จะแล้วยังไง?! อันดามันสวยกว่าฝั่งอ่าวไทยเว้ย!”


“กูไม่เน้นความสวย กูเน้นฟังชั่น อ่าวไทยกับอันดามันก็ทะเลเหมือนกัน!”


“คราวหลังมึงก็พาไปสวนสยามสิไอ้หอก นั่นก็ทะเลเหมือนกัน!” ปราการแซะ แต่เจียระไนไม่ตอบโต้ ดูจากสีหน้าก็รู้ว่า
ค่อนข้างเครียดกับเรื่องที่เกี่ยวกับสิตางศุ์พอสมควร


   …แหงล่ะ! อุตส่าห์ขยับสถานะขึ้นมาหน่อย ดันมาเจอ ‘ไฟนอล’ กับ ‘ปิดเทอมแล้วกลับบ้าน’ มาสกัดดาวรุ่งจนกลายเป็นดาวร่วงเฉยเลย!...


   “แล้วโซ่จะกลับจากกระบี่เมื่อไร”


   “ไม่รู้! กูไม่มีอารมณ์คุยกับมัน!”


   “ตอแหล ปากว่าไม่มีอารมณ์คุยกับมัน เดี๋ยวพอมันโทร.มา มึงก็กระดิกหางวิ่งไปหา” เจียระไนถอนหายใจเฮือก กระแทกหลังพิงกับพนักเก้าอี้อย่างหมดหนทาง เวลาที่เขามีในคณะนี้ ในมหาวิทยาลัยนี้เหลือน้อยลงทุกทีแล้ว มันร่อยหรอลงเรื่อยๆจนชักหวั่นใจ


   “จะหมดเทอม 1 แล้วนะมึง เทอมหน้าก็เทอมสุดท้าย ถ้ากูยังทำให้ทุกอย่างของมันเป็นของกูไม่ได้ กูกลัวมันเปลี่ยนใจ...” เป็นครั้งแรกที่คนอย่างเขาเอ่ยปากว่ากลัวอย่างตรงไปตรงมา หัวใจเหมือนมืดแปดด้านไปหมด


ถ้าหาก...หัวใจของสิตางศุ์ยังเป็นของเขาไม่ได้ พอพ้นรั้วมหาวิทยาลัยไปแล้ว เขาจะเหลือโอกาสอะไรอีก


   “กูกลัวจริงๆ...” 

……………………..


   ความกังวลของเจียระไนแสดงออกทางสีหน้านิ่งๆ แต่คิ้วมักจะขมวดอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่วันนั้นที่ร่างสูงโยนหนังสือตึงตังในโรงอาหาร พวกเขาก็แทบไม่ได้คุยกันอีก แม้จะยังคงไปไหนมาไหนด้วยกันก็ตามที สิตางศุ์รับรู้ความผิดปกตินี้ แต่พอเขาลองถาม คำตอบที่ได้กลับมาคือ


   ‘เปล่า’


   ‘ไม่ได้เป็นอะไร’


   ‘กูเครียดเปเปอร์’


   ‘กูบอกว่าเปล่าไง!’


‘มึงห่วงตัวเองเถอะ! ไม่ต้องมาห่วงกู!!’


ร่างโปร่งถอนหายใจเบาๆ เหลือบตาไปมองคนที่มาห้องสมุดด้วยกันในวันเสาร์ก่อนที่สัปดาห์หน้าจะเริ่มสอบ เจียระไนยืนอยู่ที่ซอกระหว่างชั้นวางหนังสือที่สูงจรดเพดาน เอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่หยิบออกมา แต่อ่านได้ไม่เกินหนึ่งนาทีก็จับยัดเข้าไปใหม่แล้วหยิบอีกเล่มออกมาอ่านแทน


...ขนาดอ่านหนังสือ ยังดูอารมณ์ไม่ดีเลย...


สิตางศุ์เหลือบสายตากลับมาที่โต๊ะ ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเพื่อนสนิทร่วมภาคฯอีกสองคนที่นั่งอยู่ด้วยกำลังมองมาที่เขา พฤกษากับอลงกตสะดุ้งเล็กน้อยที่ถูกจับได้ ก่อนที่คนทะเล้นจะทำเป็นยิ้มแหะๆแล้วแก้ตัว


“กูเห็นมึงมองไอ้โจ๊กตลอดเลย ก็เลย...”


“มันอารมณ์ไม่ค่อยดี”


“เอ่อ...แบบนั้นเหรอ อารมณ์ไม่ดี กูว่ามันก็หน้าตาเหมือนเดิมทุกวัน”


“ไม่เหมือนเดิมหรอก แบบนี้คือมันอารมณ์ไม่ดี กูถามมันแล้วว่าหงุดหงิดอะไร แต่มันบอกว่าเปล่า พอกูถามอีก มันก็ว่ามันเครียดเปเปอร์ พวกปกครอง เปเปอร์ยากเหรอ มึงสนิทกับปกครองคนไหนมั่ง ถามให้กูหน่อยสิ”


“เปเปอร์มันยาก แล้วมึงจะไปช่วยมันทำรึไงล่ะ ช่วงนี้ใครก็เครียดกันทั้งนั้น ไหนจะสอบ ไหนจะเปเปอร์” อลงกตที่แม้จะยอมเปิดทาง แต่ก็ยังขัดขวางในทุกๆจังหวะที่เอื้ออำนวย


“กูรู้ว่าใครๆก็เครียด แต่...ตอนกูเครียด มันยังช่วยกูเลย ตอนมันเครียด กูก็อยากช่วยมันบ้าง”


“มึงจะช่วยมันทำไม ถ้าแค่นี้แม่งยังผ่านไปไม่ได้ อีกหน่อยมันจะเป็นที่พึ่งให้มึงเหรอ อื้อ! ไอ่เอี้ยแอ้ด” กำลังจะยุแยง แต่พฤกษาที่นั่งข้างๆเอื้อมมือมาปิดปากซะก่อน แล้วหันมาเสนอกับสิตางศุ์


“ปิดเทอม มึงก็ชวนมันไปเที่ยวสิ”


“ไม่ได้หรอก กูต้องกลับบ้าน”


“แล้วไอ้โจ๊กล่ะ”


“อยู่กรุงเทพฯล่ะมั้ง”


“หมายความว่าปิดเทอมนี้ พวกมึงตัวใครตัวมัน คนนึงอยู่นี่ คนนึงอยู่กระบี่งี้”


“อื้ม ก็ต้องเป็นอย่างงั้นเเหละ”


“กูว่ากูรู้แล้วว่าทำไมไอ้โจ๊กเครียด” แล้วพฤกษาก็ปล่อยมือจากปากเพื่อนสนิทอย่างอลงกตมากุมหัวตัวเองแทน จะสงสารเจียระไนดีไหม ที่มันกำลังประสบความสำเร็จบนเส้นทางความรักที่ยากที่สุด


รักคนที่เขาไม่รักเรา อาจจะง่ายกกว่ารักคนซื่อบื้อไม่เคยเป็นแฟนใครแบบสิตางศุ์


“มึงรู้เหรอ แพท บอกกูหน่อยสิ เผื่อกูช่วยมันได้” ร่างโปร่งรีบร้องถามด้วยสีหน้าจริงจัง มุ่งมั่นอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของเจียระไน พฤกษามองคนถามด้วยสายตาตรงไปตรงมา


“โซ่ มึงกับไอ้โจ๊กคบกันถูกมั้ย”


“เรียกว่าศึกษากันก่อน อย่าเพิ่งพูดว่าคบสิ คนอื่นๆรู้เข้า ไอ้โจ๊กจะลำบากนะ”  พฤกษาไม่อยากจะบอกเลย ว่าคนทั้งมหาวิทยาลัยรู้กันหมดแล้วว่าสองคนนี้เป็นแฟนกัน คนปล่อยข่าวจะใครที่ไหน ถ้าไม่ใช่น้องติซซี่ปีสอง


“เออๆ มึงกับไอ้โจ๊กศึกษากันอยู่ แล้วคนที่ศึกษากัน มันก็ต้องอยากอยู่ด้วยกันไง”


“แต่ทุกวันนี้ กูก็ไปกลับพร้อมมันนะ นี่วันนี้ก็ชวนมันมาคณะด้วย”


“คบกันมันก็ต้องอยากมากกว่าไปกลับพร้อมกันเปล่าวะ”


“หมายความว่ามันอยากอยู่กับกูทั้งวันอย่างงี้เหรอ”


“ก็ประมาณนั้น” พฤกษาไม่อยากจะลงรายละเอียดไปมากกว่านี้ เอาเป็นว่าตอนนี้หาทางให้ได้อยู่ด้วยกันก่อน ที่เหลือนอกจากนี้ให้ขึ้นกับความสามารถของ ‘ไอ้โจ๊ก’ ก็แล้วกัน


“อ่า…” สิตางศุ์ได้แต่ครางเสียงแผ่ว เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการแบบนี้ เจียระไนไม่ค่อยพูดอะไร ไม่ค่อยบอกความต้องการให้เขารับรู้ แล้วเขาก็เห็นว่าพบหน้ากันทุกวัน คุยกันทุกวัน ก็คงพอแล้ว แต่...สำหรับอีกฝ่ายคงไม่พอ


“แล้วมึงว่ากูควรทำไง” อลงกตอ้าปากจะพูด พฤกษาเล็งอยู่แล้วเลยหยิบกระดาษอัดเข้าปากเพื่อนซี้แล้วชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ก่อนมึงกลับต่างจังหวัด มึงให้เวลามันสักวันสิวะ”

.................................

   ออกจากห้องสมุด เจียระไนก็ขับรถมาส่งสิตางศุ์ที่คอนโด ต่างคนต่างได้หนังสืออีกหลายเล่มมาทำรายงาน หลังจากวันนี้พวกเขาคงต้องมุ่งมั่นอยู่กับการสอบไฟนอล จะพบหน้ากันทุกวันไม่ได้อีกแล้ว


   รถจอดสนิทที่ลานจอดรถหน้าคอนโด มือขาวปลดเข็มขัดนิรภัย ในขณะที่ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนที่ยังนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา เรียกได้ว่าพักนี้แทบไม่คุยอะไรกับเขาเลย


   “โจ๊ก...อาทิตย์หน้า มึงไม่ต้องไปรับไปส่งกูนะ กูไปสอบเองได้”


   “แต่วันที่กูมีสอบตรงกับมึง...” ยังพูดไม่ทันจบ สิตางศุ์ก็ส่ายหน้าไปมา


   “ไม่ต้องหรอก มึงไปเลย กูไปเองได้ ตอนจะกลับก็ไม่ต้องรอ มึงสอบเสร็จจะได้กลับไปพักผ่อน”


   “กูไม่ได้ต้องการการพักผ่อน!!” เจียระไนเถียงขวับหน้าหงิกงอไม่สบอารมณ์ คนข้างกายถอนหายใจเบา แตะมือเข้ากับแขนใหญ่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


   “ช่วงนี้มึงเครียดมากเลย รู้ตัวรึเปล่า”


“กูก็เป็นเหมือนทุกที!”


“กูเป็นห่วงมึงนะ โจ๊ก” คนกำลังจะหงุดหงิดถึงกับชะงักกึก ดวงตาเรียวเหลือบมามองอย่างคาดไม่ถึง สิตางศุ์ดูจะเขินเล็กน้อยที่เอ่ยปากตรงๆแบบนี้


   “จริงเหรอ” เสียงทุ้มถามเบา


   “อื้อ” ดวงตาคู่สวยไม่กล้ามองสบตรงๆ ได้แต่มองไปทางอื่น แต่มือใหญ่หยาบแตะประคองแก้มให้หันมาสบตากัน


   “โซ่...ห่วงกูเหรอ”


“อืม...” แค่รับคำสั้นๆ แต่หัวใจของเจียระไนกลับเต้นแรง ดวงตาเรียวกวาดมองใบหน้าขาวที่อยู่ใกล้ ใบหน้านี้...ดวงตาใสคู่นี้ ริมฝีปากสีสดนี้...ทั้งหมดนี้...อยากให้เป็นของเขาแค่คนเดียว


“กูจูบได้มั้ย”


   “แต่...” สิตางศุ์กำลังจะค้าน แต่อีกฝ่ายไวกว่า


   “รถกูติดฟิล์มทึบ”


   “งั้นก็...ได้” เสียงอนุญาตดังแผ่วเบา ก่อนที่สัมผัสร้อนจะแตะเบาๆที่ริมฝีปากสีสด สิตางศุ์เกร็งเล็กน้อยในวินาทีแรก แต่ก็ผ่อนคลายอย่างรวดเร็วเมื่อคุ้นเคยกับความรู้สึกที่อีกฝ่ายมอบให้


   ...ครั้งที่สามแล้ว...สำหรับจูบจากโจ๊ก...


   ครั้งนี้ รสจูบของร่างสูงเชื่องช้าและอ้อยอิ่ง ราวกับอยากให้ทุกสัมผัสติดตรึงเข้าไปในใจจนไม่มีวันลืมเลือนได้อีก ก่อนจะผละจากอย่างแผ่วเบา


   สิตางศุ์ลืมตาขึ้นมอง ดวงตาเรียวยังจับจ้องมาที่เขา แววตาคู่นี้ยังคงให้ลึกล้ำและอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกเช่นเคย


   “โจ๊ก อย่าเครียดมากนะ แล้วก็ตั้งใจสอบล่ะ“ เจียระไนไม่อยากรับปาก แต่สายตาคนพูดเหมือนจะอ้อนวอนให้เขารับคำ เลยต้องยอมพยักหน้า เพียงเท่านั้นริมฝีปากสีสดฉ่ำชื้นที่เขาลิ้มลองเมื่อครู่ก็เผยรอยยิ้มหวานสดใส


   “แล้วไว้สอบเสร็จ ส่งเปเปอร์แล้ว เราค่อยเจอกัน”


   “เจอกัน? หมายความว่าไง?  มึงไม่ต้องกลับบ้านเหรอ?”


   “กลับสิ แต่ก่อนกลับ จะอยู่กับมึงก่อนหนึ่งวัน” เหมือนหัวใจที่แห้งเหี่ยวได้รับสารอาหารเร่งโต เจียระไนกำลังจะอ้าปากถามซ้ำ แต่ร่างโปร่งเปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วไปยืนยิ้มกว้าง


   “ตั้งใจสอบ ตั้งใจทำเปเปอร์ล่ะ อย่าให้เกรดตกเพราะมัวแต่คิดเรื่องจะได้เจอกูนะ”


   “แล้วถ้าเกรดกูขึ้น กูจะได้อะไร?!” คนหัวไวที่ชื่อเจียระไนยิงคำถามอย่างรวดเร็ว ดวงตาเรียวมองใบหน้าขาวอย่างคาดหวัง


   “ไม่รู้ คิดดูก่อน” เจ้าตัวตอบแล้วยิ้มซนก่อนจะปิดประตูรถวิ่งเข้าตึกไป ทิ้งเจียระไนเอาไว้กับรอยยิ้มบนใบหน้าที่ดูท่าจะหุบไม่ลงซะแล้ว


   ...เทอมนี้เกรดกูต้องขึ้น!! กูพูดเลยว่าต้องขึ้นเท่านั้น!!...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

อย่างที่โจ๊กบอกค่ะ ถ้าคำตอบไม่พอใจ มันจะให้ตอบใหม่ กร๊ากกกกก ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันจะพอใจมากแค่ไหนกับสถานะ ‘ศึกษาดูใจแต่ไม่ใช่แฟน’ เห็นโซ่ใสๆ เบลอๆ งงๆ แต่เขาก็มีอาวุธของเขา จะดูถูกเขาไม่ได้นะ ไอ้เรื่องจะได้ขย้ำอะไรนี่ ก็...รอกันไป ฮ่าฮ่า

ป.ล.1 ตอนที่แล้ว โจ๊กโกงวันนะคะ ไม่ถึง 3 วัน ขอความเป็นธรรมด้วยยยย (จริงๆแล้ว บัวเอาใจช่วยโซ่มากๆเลยล่ะค่ะ โซ่เหมือนเด็กถูกสปอยที่อยู่ในโลกที่ตัวเองอยู่สบายมาทั้งชีวิต แล้วอยู่ๆก็ถูกดึงให้มาอยู่ในโลกใหม่ที่มีโจ๊ก แล้วโจ๊กก็รุก&คุกคามหนักมากขนาดนี้ ถ้าโซ่ไม่บ้าไปก่อนก็น่าจะเกลียดโจ๊กแล้ววววว)

ป.ล.2 บัวเขียนเจ๋งกับปกไว้อยู่นิดหน่อยค่ะ กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาลงเป็นตอนพิเศษสั้นๆ หรือจะเอาลงเป็นเรื่องยาวแบบโจ๊กโซ่ดี แต่ยังไงก็ต้องเอาเรื่องนี้ให้จบก่อนค่ะ ลงสองเรื่องพร้อมกันไม่ไหววววว

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและพื้นที่บอร์ดค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-06-2017 21:04:43
สนุกกกกก ยิ่งอ่านยิ่งชอบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
โจ๊ก โซ่  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

โจ๊ก คงเบื่อคำว่าศึกษา น่าดู  :z3: :z3: :z3:
ทั้งเห็นใจ ทั้งขำโจ๊กจริงๆ ไม่ต่างจากตอนไม่ศีกษาเลย

ดีนะแพท ช่วยพูด เลยได้มีเวลาอยู่ด้วยกันหนึ่งวัน  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-06-2017 21:18:49
วิ่งเล่นกับยูนิคอร์นแล้วก็ถูกฉุดมาพบผีเปรต

ตอนนี้โจ๊กคงกลับมาอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์

อาการเกินไบโพลาร์ เข้าขั้นผีบ้าไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-06-2017 21:26:50
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 08-06-2017 21:35:55
โอ้ยยน ชอบโจ้กมากกกกกก  :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 08-06-2017 21:40:28
โจ๊กลูก รักเขามากเลยอ่ะ สงสาร
โซ่มันซื่อ จะบอกอะไรก็บอกไปเลย
ทำเหมือนเคยทำน่ะดีแล้ว อันไหนไม่ชอบก็ให้พูดไปเริ่อย ๆ 5555

ตลกโซ่อ่ะ คือสมองไม่มีอย่างอื่นนอกจากสิ่งที่ตัวเองวางไว้
เลยนากแหละถ้าต้องเอาเรื่องคนอื่นมาปน
แต่มันต้แงลแงนะลูกเพื่แความรักที่สดใส

ลงเป็นแยกดีกว่าค่ะ
อยากอ่านเรื่องยาวคุณบัว
เราชอบ :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 08-06-2017 21:48:51
รักในความซื่ออออออ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 08-06-2017 22:04:38
เห็นซื่อๆแบบนี้น้องโซ่ก็ร้ายไม่เบานะ ทำนังโจ๊กจะเป็นไบโพล่าอีกรอบ55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 08-06-2017 22:13:27
มันจะมีวันไหนที่โจ้กหมดความอดทนมั้ย ไม่มีหรอ  :z3: เอ็นดู
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 08-06-2017 22:17:49
Joke bipolar comeback again!!! :hao7: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-06-2017 22:33:31
มักน้อยเหลือเกิน. วันเดียวเองนิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 08-06-2017 22:35:23
โอ๊ยยยยย เอาโซ่ ไปปรับทัศนะคติด่วนนนนน

อิโจ๊ก แก กินยาแก้เครียดมะ เผื่อช่วยได้ ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 08-06-2017 22:39:47
แอบสงสารอิโจ๊ก ถึงจะเป็นคนที่ดูไม่น่าสงสารก็เถอะ
แต่ก็สงสารนาง มาชอบน้องโซ่ผู้ใสซื่อบื้อบริสุทธิ์
เอาใจช่วยนางเต็มที่เลยนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 08-06-2017 22:40:35
รอออนาจา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: brenda ที่ 08-06-2017 22:41:53
สงสาร โจ๊ก.....  :sad11: :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 08-06-2017 22:44:37
สงโจ๊กมากกกกก
บุญมีแต่กรรมบัง ทำบุญมั่งนะ
ได้เลื่อนสถานะกระจึ๋งนึง ดีใจได้กระจี้ดนึง กลับมาโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง เข้าใจความกลัวของโจ๊กนะ
เฝ้าห่างๆมาตั้งนาน กว่าจะได้ใกล้กันเวลาก็เหลือน้อย สถานะก็ไม่ขัดเจนอีก
 :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-06-2017 22:46:03
โอ้ยยยยยย สงสารโจ๊ก5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 08-06-2017 22:49:02
โซ่ใจร้ายยยย ฮือ ไม่รักโซ่แล้ว
สงสารโจ๊กมากๆ ทำเป็นดุไปงั้นอะ
แต่จริงๆแล้วยอมโซ่โคตรๆ
รู้สึกเหมือนโจ๊กรักโซ่มากๆอยู่ฝ่ายเดียวอะ
เราของอนโซ่ไปก่อน  รอดูว่าจะทำไรเพื่อโจ๊กบ้าง
ทำไมนะ รู้สึกเหมือนโจ๊กเป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียว
ส่วนโซ่ก็เอาแต่ลังเล เอาแต่อ่อนไหวไปมา
เอาแต่คิดแค่เรื่องตัวเองอยากจะทำอะไร
แคร์โจ๊กนะ แต่ก็น้อยอะ ฮือ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 08-06-2017 22:51:03
ฮ่าๆๆๆสงสารจริงๆ พี่โจ๊กคนกาก2017 กว่าจะได้เป็นแฟนนี่ไม่ใช่ไบโพล่าร์กินประสาทไปก่อนหรอกนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 08-06-2017 22:56:03
คนอ่านนี่ก็ไบโพล่าร์ตามโจ๊กไปละ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 08-06-2017 22:56:19
จะสงสารหรือฮ่าโจ๊กดี  :laugh: :m20: ความสัมพันธ์ขยับขึ้นนิดหนิดหนึ่งหล่ะน่ะ o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: dereel_nx ที่ 08-06-2017 23:06:04
โจ๊กไบโพล่ากลับมาแล้วครับท่าน5555555555555 ไม่มีใครเป็นบ้าแล้ววน่าเอ็นดูขนาดนี้นะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-06-2017 23:15:19
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 09-06-2017 00:07:49
น้องโซ่คนซื่อ ลูกเอ๊ยยยยยยย
ความเกรี้ยวกราดของโจ๊กไม่มีผลอะไรกับโซ่แม้แต่นิดเดียว
ชาวบ้านเค้ารู้กันหมด มีแต่โซ่นี่แหละ ประทับใจความรักคู่นี้มาก 555555555555  :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 09-06-2017 00:35:15
อดทนนะโจ๊ก รักโซ่ต้องรอโซ่
เดี๋ยวก็ได้เป็นแฟนน้าาา
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 09-06-2017 00:41:32
กลับมาอีกครั้งแล้วนะคะ กับโจ๊กเดอะไบโพลาร์แมนคนเดิมของเรา
หลังจากที่คลุ้มคลั่งเป็นหมาหงอยโดนเจ้าของทิ้งแยู่หลายตอน
โซ่คนซื่อก้ยังคง...ซื่อ(บื้อ)อยู่เหมือนเดิม สงสารโจ๊กเลย
รอค่าาา บางทีก้อยากมีแรงจูงใจทำเกรดแบบนี้บ้าง5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 09-06-2017 02:52:59
โอ้ยยย สงสารโจ๊กชิบหาย แต่ก็ขำอ่ะ
ถ้าเจอแบบนี้กับตัวพูดเลยต้องปรึกษาจิตแพทย์ในการรับมือคนอย่างนายสิตางค์ เห่อๆๆ

โจ๊กจะพาโซ่เข้าบ้านเมื่อไหร่เนี่ยคงบันเทิงน่าดู 555
 :ped149: :duck1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2017 03:07:02
อาการหนักเหลือเกินโจ๊กเอ้ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-06-2017 06:20:16
โซ่ คือ ซื่อหรืออะไร โอ้ยยย พี่โจ้กไบโพล่าห์ เอายาไมเกรนซักเม็ดมั้ย ฮาแต้ก็น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 09-06-2017 07:03:43
ขอมอบรางวัลคนกากและไพโบลาร์แห่งปีให้แก่นายเจียระไน เย่ๆๆๆ 555
จะบ้าก่อนหรือป่าวว่ะโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 09-06-2017 07:25:48
นี่ชอบความโซ่มากเลย น่าร้ากกกกด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-06-2017 07:55:55
ขยับสถานะ"กระจึ๋งนึง" ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 09-06-2017 08:12:09
โจ๊กเข้าใจหน่อย โซ่คิดเยอะ พอคิดเยอะ ก็คิดไม่ค่อยทัน  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 09-06-2017 08:29:00
โจ๊กกกกกกกกกก สงสารเลย
อยากได้เรื่องยาวของน้องปกค่ะ :call:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 09-06-2017 09:31:17
โจ๊กเอ้ยพูดบอกไปตรงๆก็ไม่เครียดแล้ว
หรืออาจจะเครียดกว่าเดิมกันแน่หว่า
โจ๊กต้องเอาของไปสมนาคุณแพทหนักๆเลยนะนี่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-06-2017 10:33:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 09-06-2017 10:35:19
เริ่มเป็นห่วงว่าโจ๊กจะเป็นความดันสูงตั้งแต่ยังหนุ่ม 5555+
รอตอนต่อไป (เสมอ)  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 09-06-2017 10:37:14
 :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 09-06-2017 14:36:18
เข้าใจโซ่นะ แต่บางทีก็อดรำคาญความซื่อบื้อไม่ได้

สงสารโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 09-06-2017 15:43:38
อ่านแล้วก็สวิงอารมณ์ไปตามโจ๊กและโซ่  ทางโน้นเค้าใส ๆ ทางนี้ก็บ้าบิ่นมากแต่เราเอาใจช่วยโจ๊กมากกว่าโซ่นะ
กลัวโจ๊กจะเป็นบ้าไปซะก่อนแถมยังมีเรื่องของเวลาที่บีบคั้นให้โจ๊กต้องรีบเดินเกมส์รุกคืบเผื่อให้ได้โซ่มาเป็นแฟนก่อนจบอีก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 10-06-2017 02:34:23
555555 โซ่ เรียนความสัมพันธ์มา แต่ดูแล้วไม่รอดนะ พัฒนาความสัมพันธ์กับใครไม่ได้เลย
ทำไมโซ่ซื่อแบบนี้ ถูกปิดกั้นก็ไม่ใช่ ใช้ชีวิตปกติด้วยซ้ำไป
แต่ดูออกว่าโจ๊กเครียด แหมมม โยนหนังสือคงไม่เครียดมั้ง
โซ่มีความหลอกล่อละนะ แต่ได้รับการเทรนมาดี 5555 ถึงทำได้

โจ๊กก็เป็นคนที่กำลังศึกษานะ คิดซะว่าโซ่กำลังเรียนอยู่ เหนื่อยใจแทนโจ๊กจริง
ขนาดชิงเอาวันมาก่อน ยังได้คำตอบแบบว่า 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 10-06-2017 12:30:57
ตอนนี้โจ๊กอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ มากกกก นี่คือโดนโซ่คนซื่อปล่อยหมัดความซื่อใส่ใช่ไหมคะ? ถึงกับหงุดหงิดงุ่นง่านเลยทีเดียว เจ๊จะบอกอะไรให้ ใช้ความสงบเยือกเย็นจัดการค่ะ รับรองอยู่หมัด

ขอบคุณคุณบัวสำหรับตอนนี้มากๆ เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: jittrawa ที่ 10-06-2017 17:28:41
จะคบกันรอดเหรอ ต้องปรับเข้าหากันอย่างเยอะอ่ะ คนนึงโคตรเรียกร้อง ทุ่มเท คนนึงอะไรๆ ก็ไม่เอา เกรงใจ ไม่ต้อง ตายยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 10-06-2017 20:00:13
โซ่หนักแน่นมากกับประโยคที่ย้ำว่า ไม่ใช่แฟนๆ ศึกษากันก่อน
พระเอกเรารักแล้วรอนานนนหน่อยน๊า  อิอิ




 
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 10-06-2017 21:38:24
รักโจ๊กเวลาไบโพลากำเริบ
 
นางเป็นพระเอกที่น่าสงสารที่สุดแล้วในเล้า 5555555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 11-06-2017 09:05:45
แฟนคลับเพ่โจ๊กอีกคนค่าาาาาาา พระเอกเอาแต่ใจอีก โซ่ก็ซึนเกิ๊นนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 11-06-2017 12:22:45
โจ๊กสู้เค้า อย่ายอมเปงเบี้ยล่าง เราน้องเปงคนเหนือเมีย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 11-06-2017 18:48:42
ตอนนี้น่าร้ากกก ความน่ารักชนะทุกอย่างจริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 13 (08/06/2017) หน้า 22
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-06-2017 09:34:56
โถ่ โจ๊กไบโพล่าร์นี่น่าสงสารจริงๆ 555555
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 15-06-2017 20:39:42
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
……………………..
ตอนที่ 14


     ไฟนอลไครซิสคือวิบากกรรมของนิสิตมหาวิทยาลัยที่แท้จริง


เจียระไนไม่ได้ไปหาสิตางศุ์อีกตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก แถมต้องทุ่มเวลาทั้งหมดกับเปเปอร์ที่ต้องส่ง และหนังสือที่ต้องอ่าน ดีว่าปีสี่คณะนี้ไม่มีธีซิสอีก ไม่อย่างนั้นสองขาคงเข้าไปเหยียบนรกอย่างไม่ต้องสงสัย


   ‘แดกข้าวกับอะไร’


แต่ถึงจะไม่ได้เจอกัน ก็ส่งข้อความหากันทุกวัน อันที่จริงร่างสูงอยากโทร.หามากกว่า แต่ก็กลัวจะรบกวนเวลาอ่านหนังสือทำรายงานของอีกฝ่าย การสอบถามความเป็นไปในแต่ละวันด้วยข้อความ ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด


   ‘เมื่อเช้าขนมปัง เมื่อตอนกลางวันก๋วยเตี๋ยว ตอนเย็นยัง’


คำว่ายังจากคู่สนทนาทำเอาเจียระไนหันมองนาฬิกาแทบไม่ทัน


   ...ทุ่มกว่า แต่ข้าวเย็นยังไม่แดก มึงรอกูไปทำให้แดกรึไง?!!...


   ร่างสูงเปลี่ยนวิธีการคุยเดี๋ยวนั้น เขากดโทรศัพท์หาสิตางศุ์ทันที ปลายสายรับ แต่เขาไม่ทันพูดอะไร เสียงหัวเราะจากฝั่งนั้นก็ดังมาก่อน


   ‘กะแล้วว่าโทร.มาแน่ๆ’ เสียงสดใสแบบนี้แสดงว่าเจ้าตัวไม่เครียด


   “เปเปอร์เสร็จแล้วเหรอ ถึงกวนตีนกู”


   ‘อีกนิดเดียว เลยพักมาทำกับข้าวก่อน’ เสียงโคร้งเคร้งดังขึ้นเล็กน้อย บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังอยู่ในครัว


   ‘โจ๊ก...วิดีโอคอลมั้ย’ คำถามจากปลายสายทำเอาเจียระไนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง เขากดตัดสาย แล้วเป็นฝ่ายกดหา อึดใจต่อมา หน้าขาวๆ ตาใสๆที่สวมแว่นกรอบบางและรอยยิ้มสวยๆก็ปรากฏบนหน้าจอ เจียระไนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว หลายวันแล้วที่ไม่ได้เจอกัน


ถ้าถามว่าคิดถึงมั้ย...บอกเลยว่าคิดถึงมาก แต่พอได้เห็นหน้ากันแบบนี้ คำว่าคิดถึงมากกลับน้อยจนอธิบายความรู้สึกทั้งหมดไม่ได้


   ...ไม่ใช่แค่คิดถึงมาก แต่รักมาก...


   ‘โจ๊กกินข้าวแล้วเหรอ ทำไมตาโรยๆ นอนไม่พอเหรอ’ คนที่กำลังวุ่นวายเดินไปเดินมาในครัว บางทีก็หลุดไปจากเฟรม บางทีก็มาแค่แขน แต่เสียงของสิตางศุ์ก็ยังชัดเจน


   เจียระไนลูบหน้าตัวเองเล็กน้อย รู้สึกคันคอจนต้องกระแอมเบาๆ ช่วงสอบก็แบบนี้ ทั้งรายงาน ทั้งอ่านหนังสือ จะให้นอนพอได้ยังไง


   “มึงทำอะไรกิน” เขาเปลี่ยนคำถาม เพราะไม่อยากพูดให้อีกฝ่ายเป็นห่วง


   ‘ผัดขี้เมา’ นอกจากคำตอบแล้ว เจ้าตัวยังยื่นหน้าเข้ามายิ้มเผล่ใส่ด้วย


   “มึงเนี่ยนะ กินผัดขี้เมา?”


   ‘อืม แต่ไม่ใส่ใบกะเพรา ไม่ใส่พริกไทยอ่อน ไม่ใส่โหระพา ขิง ข่า อะไรพวกนั้น’


   “แล้วมันจะเป็นผัดขี้เมาได้ไงวะ”


   ‘ก็เผ็ดไง’ เจียระไนหัวเราะเสียงดังเข้าไปในโทรศัพท์


   ‘กูอยากกินอ่ะ จะสั่งร้านตามสั่งก็กลัวแม่ค้าจะดุ เลยต้องมาทำกินเอง’


   “แล้วนึกยังไง อยากกิน” เสียงจากอีกฝั่งเงียบไป แต่สิตางศุ์ยังคงอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ ดวงตาคู่สวยจับจ้องผ่านกล้องมาสบตากับเจียระไน


   ‘กู...คิดถึงมึง...’ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผัดขี้เมาที่ร่างสูงเคยทำให้กิน นอกจากจะอร่อยแล้ว สิตางศุ์ยังจำได้ว่าเป็นอาหารที่รายนั้นชอบ พอคิดถึง ‘โจ๊ก’ ขึ้นมา ก็เลยอยาก...


   ระหว่างพวกเขามีเพียงการจับจ้องกันและกันผ่านทางโทรศัพท์อย่างเงียบๆ ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเจียระไนพูดขึ้นมา


   “กูก็เหมือนกัน” รู้ว่าเรายังเจอกันตอนนี้ไม่ได้ รู้ว่ายังมีเรื่องที่เราต้องทำ รู้ว่ายังมีเรื่องที่ทำให้ต้องวางเรื่องของเราเอาไว้ข้างๆ เพราะฉะนั้น...เวลานี้...เรื่องของเราคือกำลังใจที่จะทำให้ทุกอย่างผ่านพ้น


   “มึงรีบทำได้แล้ว จะแดกกี่โมง ไอ้ที่เดินไปเดินมาเมื่อกี้นั่นหาของไม่เจอรึไง”


   ‘หาเจอสิ เออ มึงจะส่งเปเปอร์เมื่อไร’ เจียระไนปรายตาไปมองกองหนังสือและโน้ตบุ้คที่เกิดค้างอยู่บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาที่เขานั่งอยู่ รายงานเสร็จไปเยอะแล้ว สัปดาห์หน้าก็น่าจะเข้าไปส่งได้


   “อาทิตย์หน้า น่าจะวันจันทร์”


   ‘เหมือนกันเลย ว่าจะส่งวันจันทร์ ส่งเปเปอร์แล้ว ไปหาอะไรกินกันมั้ย’


   “มึงอยากกินอะไรล่ะ”


   ‘ตอนนี้อยากผัดขี้เมา’ แล้วเสียงหัวเราะของคนซื่อๆที่ชักจะเริ่มกวนขึ้นทุกทีก็ดังขึ้น ก่อนที่หน้าใสๆพร้อมรอยยิ้มสวยจะโผล่มาที่หน้าจอให้เจียระไนตีหน้าดุ


   “กูหมายถึงวันจันทร์หน้า”


   ‘อยากกินอาหารเวียดนามร้านนั้น’ ไม่ต้องระบุชื่อร้าน เพราะร้านอาหารเวียดนามในความทรงจำของพวกเขามีร้านเดียว ร้านเล็กๆบนชั้นสองของอาคารพาณิชย์ ในย่านช้อปปิ้งใกล้มหาวิทยาลัย


   ‘มึงอยากกินเปล่า ถ้ามึงไม่อยาก จะกินร้านอื่นก็ได้นะ’


   ...อยากสิ ถ้าร้านไหนที่มึงอยาก กูก็อยากทั้งนั้น...


   “กินร้านนั้นแหละ แล้วเมื่อไรมึงจะทำสักที วันนี้จะเสร็จมั้ย ผัดขี้เมาไม่ใส่อะไรเลยของมึงน่ะ” คนถูกแซวเรื่องผัดขี้เมาหัวเราะสดใส


   ‘มึงพูดซะผัดขี้เมากูโป๊เลย’


   สิตางศุ์หายไปจากกล้อง ได้ยินแต่เสียงโคร้งเคร้งหยิบจับเครื่องครัว เดาเอาว่าคงกำลังทำอาหารต่อ แต่เจ้าตัวก็ยังขยันส่งเสียงมาชวนคุยโต้ตอบอยู่เรื่อย ร่างสูงเอนตัวลงนอนตามความยาวของโซฟา แล้ววางโทรศัพท์พิงกับพนัก เสียงพูดคุยของพวกเขายังคงดังต่อเนื่อง ก่อนที่เสียงของเจียระไนจะเงียบไป


   ใบหน้าขาวโผล่มาที่หน้าจอโทรศัพท์เหมือนสงสัย แล้วก็พบว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว ดวงตาคู่สวยมองผ่านกล้องด้วยแววอ่อนโยน รอยยิ้มน้อยๆจุดที่ริมฝีปากสีสด ก่อนจะพึมพำเสียงเบาให้คนที่หลับไปแล้ว


   ‘กู้ดไนท์นะโจ๊ก...’


   ค่ำนี้ เจียระไนหลับฝันดี

................................................

   ...อาการไม่ค่อยดีว่ะ...


   ร่างสูงสะบัดศีรษะ 2-3 ที เพื่อไล่ความมึนออกไป ตั้งแต่ตอนที่วิดีโอคอลคุยกับสิตางศุ์คราวก่อน พวกเขาก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีก แต่ก็ยังส่งข้อความคุยกันทุกวัน เจียระไนเร่งทำรายงานหามรุ่งหามค่ำ บางวันแทบไม่ได้พักผ่อน จนเหมือนหวัดจะกิน


   ...แค่หวัดพอ อย่าเป็นไข้เลย วันนี้นัดกินข้าวกับไอ้โซ่ด้วย...


   “โจ๊ก เสร็จแล้ว พอดีเจออาจารย์พุธ เลยคุยกับแกนานไปหน่อย” ร่างสูงโปร่งวิ่งลงจากตึก วันนี้สิตางศุ์ไม่ได้สวมชุดนิสิตถูกระเบียบเพราะแค่เอารายงานมาส่ง แต่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนกับกางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบก็เรียกสายตาคนรอบข้างได้แล้ว โดยเฉพาะสายตาของเจียระไน


   “คุยไร” ร่างสูงถาม แล้วออกเดินช้าๆไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่ คำตอบของคนข้างกายดังเข้าหู แต่เขาแทบจับประเด็นไม่ได้ ลมหายใจร้อนผ่าวทุกครั้งที่หายใจออกมา มือใหญ่ข้างหนึ่งยกขึ้นแตะที่ซอกคอของตนเองแล้วก็รับรู้ว่าอุณหภูมิของร่างกายชักจะสูงมากขึ้นทุกที


   “เป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าไม่อยากกิน” สิตางศุ์เห็นอีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบก็ชักเป็นห่วง แต่หนุ่มเชื้อสายจีนโบกมือไปมา


   “เปล่า ขึ้นรถเถอะ” แล้วเจียระไนก็ขึ้นประจำตำแหน่งคนขับ คนผิวขาวจัดเดินไปนั่งที่เบาะข้างๆ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองอย่างนึกห่วง แต่ไม่ทันได้ถามอะไร โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น สิตางศุ์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดู บนหน้าจอขึ้นเป็นสายเรียกเข้าจากมารดา


   “ฮัลโล แม่ สอบเสร็จแล้ว ส่งเปเปอร์แล้ว กำลังจะไปกินข้าว...กับเพื่อน”


คำหลังนั้นแอบมองคนข้างกายเล็กน้อย เขาหวังว่าเจียระไนจะเข้าใจ ว่าสถานะของพวกเขาต่อคนในครอบครัว ยังไงก็ยังเป็นเพื่อน


   “ไม่ๆ ไม่ใช่กตกับแพทหรอก เพื่อนสนิทอีกคนนึง”


ถึงแม้เพื่อนสนิทคนนี้จะไม่เหมือนเพื่อนสนิทคนไหนก็ตามที


   “กลับพรุ่งนี้ ตอนเช้าเลย เดี๋ยวส่งไฟลท์ให้นะ” ปลายสายถามไถ่อีกไม่กี่ประโยค ก็เกือบจะวางสายอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่สิตางศุ์รั้งเอาไว้


   “เดี๋ยวแม่...เอ่อ...” ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนข้างกายอีกครั้ง เจียระไนยังคงตั้งหน้าตั้งตาขับรถ แต่...ไม่รู้จะคิดมากรึเปล่า เรื่องที่เขาบอกว่าเป็นเพื่อน


   ...แต่...เพื่อนคนนี้เป็นคนพิเศษ ไม่เหมือนเพื่อนคนไหนในชีวิต...


   “แม่...คุยกับโจ๊กมั้ย เพื่อนที่โซ่จะไปกินข้าวด้วยน่ะ...” คราวนี้คนที่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถหันมามองอย่างคาดไม่ถึง สิตางศุ์กดเปิดสปีกเกอร์แล้วยื่นมาใกล้ๆร่างสูง


   “สวัสดีครับ...” เจียระไนอยู่ในภาวะสมองคิดไม่ทัน เลยส่งคำแรกไปก่อนคือทักทาย


   ‘จ้า ชื่อโจ๊กหรือโจ๊ะนะ’


“โจ๊กครับ”


‘แล้วโจ๊กกับโซ่จะไปกินอะไรกันล่ะ’


   “อาหารเวียดนามครับ”


   ‘โอ้โฮ โซ่กินเป็นด้วยเหรอ’


   “กินเป็นสิแม่ โจ๊กพากิน”


   ‘แสดงว่าโจ๊กเก่งนะเนี่ย แต่ก่อนโซ่กินเป็นซะที่ไหน’


   “คนเรามันก็หัดกันได้นะ” คนเป็นลูกแท้ๆรีบแย้ง เกรงจะโดนมารดาเผากันออกสปีกเกอร์ เสียงหัวเราะสดใสถอดพิมพ์เดียวกันมาดังมาจากปลายสายที่กระบี่


   ‘แม่ถึงชมว่าโจ๊กเก่งที่หัดโซ่ได้ โจ๊กอยากได้อะไรจากกระบี่มั้ย เดี๋ยวแม่จะเตรียมไว้ให้โซ่ถือกลับไปตอนเปิดเทอม’ เจียระไนคันปาก อยากบอกว่าอยากได้เมียจากที่นั่น แต่เกรงแม่ยายจะไม่เข้าใจ เดี๋ยวไว้รอเจอเลยดีกว่า จะได้ขอได้ถนัด


   “ตอนนี้ยังไม่อยากครับ…คุณแม่”


...เน้นเสียงหนักๆที่คำว่าตอนนี้ และเบานิดหน่อยตรงคำว่าคุณแม่ เดี๋ยวไก่ เอ๊ย แม่ยายตื่น...


   ‘งั้นไว้ตอนไหนอยากได้อะไรก็บอกนะ แม่ไม่กวนล่ะ กินกันให้อร่อย แล้วโซ่อย่าลืมส่งไฟลท์มาด้วยล่ะ’


   “รู้แล้ว” ลูกชายแท้ๆดึงโทรศัพท์กลับไปแล้ว แต่ยังกดยุกยิกอยู่ คาดว่าเจ้าตัวคงกำลังส่งข้อความเป็นรายละเอียดการเดินทางกลับบ้านเกิดในวันพรุ่งนี้


   ...ใช่...พรุ่งนี้โซ่จะกลับแล้ว และกว่าจะได้มากรุงเทพฯอีกก็ตอนเปิดเทอม...ไม่นานหรอกสำหรับบางคน แต่สำหรับเจียระไนคนนี้ นานจนแทบจะขาดใจ...


   “พรุ่งนี้...กูไปรับพาไปสนามบินนะ” สารถีขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แม้จะเป็นการไปส่งก็ตามที สิตางศุ์หันมายิ้ม


   “ขอบใจ แล้ว...ไม่อยากได้อะไรจากกระบี่จริงๆเหรอ เค้กตรังมั้ย อร่อยนะ”


   “มึงควรจะพรีเซ้นต์โอท็อปกระบี่มั้ย ไม่ใช่แนะนำเค้กตรังให้กู” คนกระบี่แต่แนะนำของดีจังหวัดตรังหัวเราะสดใส


   “ก็เค้กตรังอร่อยจริงๆนี่นา โอ๊ย” มือใหญ่ๆเคาะมะเหงกลงกับหน้าผากขาวไปที โทษฐานชักจะกวนกันมากขึ้นทุกวัน แถมกวนไม่พอ ยังหัวเราะหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสอีกต่างหาก แล้วแบบนี้จะปล่อยมันกลับกระบี่ได้ยังไง


   “โจ๊ก...ทำไมมือมึงร้อนๆอ่ะ” คนถูกเคาะหน้าผากรู้สึกแปลกๆกับอุณหภูมิของอีกฝ่าย พอลองเอื้อมมือไปแตะแขนใหญ่ก็ถึงกับตาโต


   “แขนมึงร้อน!” เจียระไนชะงัก รีบชักแขนออกจากมือขาวๆนั่น พอดีกับที่เขาเลี้ยวขึ้นลานจอดรถแล้วมีที่จอดว่าง เลยรีบจอดอย่างรวดเร็ว


   “โจ๊ก มึงไม่สบายเหรอ กลับบ้านมั้ย”


   ...เรื่องสิ กูกำลังจะได้กินข้าวกับมึงเป็นมื้อสุดท้ายก่อนที่มึงจะกลับกระบี่ ใครจะโง่กลับบ้านวะ...


   “กินก่อน ค่อยกลับ”


   “แต่มึงตัวร้อน...”


   “กูไม่ได้ขี้”


   “หะ?”


   “เออหน่า ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้ขี้มันก็ตัวร้อนแบบนี้แหละ ไป เดี๋ยวช้า ของหมด มึงไม่ได้แดกที่อยากแดก กูไม่รู้ด้วย!” แล้วร่างสูงก็เปิดประตูลงจากรถอย่างรวดเร็ว


ทว่า...พอลงไปยืนก็เหมือนพื้นจะโคลงขึ้นมากะทันหัน มือเอื้อมไปคว้าประตูรถเพื่อพยุงตัว แต่อาการมึนศีรษะทำให้เขาคว้าพลาดได้แต่จับอากาศแทน พอคว้าอะไรไม่ได้ คราวนี้ร่างสูงใหญ่เลยล้มตึงลงกับพื้น


“โจ๊ก!!!” เสียงของสิตางศุ์ดังลั่นลานจอดรถ แต่แทบไม่เข้ามาในสติของเจียระไนเลย

........................................

   สายใจ สะใภ้คนที่ 5 ของตระกูลตั้งกาญจนพาณิชย์กำลังนั่งดูละครรีรันตอนบ่ายอยู่ภายในห้องทำงานของสามี วันนี้หล่อนมีนัดกับคู่ชีวิตต้องไปออกงานด้วยกันตอนเย็น แต่เนื่องจากทำผมเสร็จเร็ว ก็เลยมานั่งรอที่ออฟฟิศ ชีวิตของผู้หญิงที่ลูกๆเติบโตจนพึ่งพาตัวเองได้แล้ว ก็ไม่ค่อยจะมีอะไรให้กังวลเสียเท่าไร ยกเว้น...ตอนที่มีเบอร์แปลกๆโทร.เข้ามาทางโทรศัพท์


   หญิงร่างอวบเชื้อสายจีนเพ่งมองเบอร์เล็กน้อย แต่ก็ตัดสินใจกดรับสาย


   “ฮัลโล”


   ‘สวัสดีครับ คุณแม่ของโจ๊กรึเปล่าครับ’ ชื่อเล่นของลูกชายคนกลางทำเอา นิ้วอวบที่สวมแหวนเพชรเม็ดโตต้องเอื้อมไปกดปิดเสียงละครรีรัน


   “ใช่จ้ะ”


   ‘ผมชื่อโซ่เป็นเพื่อนที่คณะของโจ๊กครับ ตอนนี้โจ๊กไม่สบาย ไข้สูงมาก...’


   “แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน?!” สายใจไม่รอให้อีกฝ่ายบรรยายอาการจนจบ หล่อนก็รีบพูดแทรก


   ‘คอนโดของโจ๊กครับ’


   “ป้าจะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ!” แล้วหล่อนก็รีบลุกจากโซฟาเดินไปสั่งสามีที่นั่งทำงานอยู่ ก่อนจะรีบกดโทรศัพท์หาน้องชายคนเล็กของสามีซึ่งเป็นหมอให้รีบตามไปที่คอนโดของลูกชายคนกลางเป็นการด่วน


   ...โจ๊กไม่สบาย!...


…ให้อาม่าโล้สำเภากลับไปเมืองจีนตอนอายุเท่านี้ยังง่ายกว่าลูกชายของหล่อนคนนี้ป่วยซะอีก!!!..

......................................

   ถึงมือหมอ หรือถ้าจะพูดให้ถูกคือหมอมาถึงมือคนไข้แล้ว สายใจยืนกอดอกเงียบๆ มองน้องชายคนที่ 7 ของสามีตรวจอยู่พักใหญ่ แม้จะคันปากมากๆก็ตาม


พอ ‘โซ้ยเจ็ก’ หรืออาคนที่ 7 ของเจียระไนปลดสเตโทสโคปลงจากหู ความเงียบที่ถือมานานก็ถูกโยนทิ้ง


“เป็นไงบ้างล่ะโซ้ยเจ็ก ต้องพาไปโรง’บาลมั้ย” ประชาลูกชายคนเล็กของอาม่าแห่งตระกูลตั้งกาญจนพาณิชย์ และเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ทำธุรกิจแต่เลือกประกอบอาชีพในสายแพทย์หันมามองพี่สะใภ้


“ไม่ต้องหรอก เป็นไข้ พักผ่อนไม่พอ ดูใต้ตามันสิ” แล้วคนเป็นอาก็ตบหัวหลานชายที่ยังถูกพิษไข้รุมเร้าไปหนึ่งทีด้วยความรักและเอ็นดู


“งั้นพามันกลับบ้านใหญ่ จะได้มีคนดูแล” สายใจกำลังจะกดโทรศัพท์ตามคนมาช่วยพาลูกชายตัวใหญ่กลับไปนอนที่บ้านตระกูลตั้ง แต่ก็เหมือนจะนึกขึ้นได้


“เออ! อาม่าไม่สบาย...ถ้าเห็นโจ๊กป่วย แกจะยิ่งเป็นห่วง...”


“ให้โจ๊กอยู่ที่นี่ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมดูแลให้” เสียงของบุคคลที่สี่ที่ยืนอยู่มุมห้องดังขึ้นมา ทำเอาทั้งสายใจและประชาหันมอง


เพื่อนของเจียระไน เพื่อนคนนี้ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่...ท่าทางน่าจะสนิทกันพอดู


“เราเป็นเพื่อนไอ้โจ๊กเหรอ” ประชาย้อนถาม


“ครับ เป็นเพื่อนที่คณะ”


“อยู่ภาคฯเดียวกัน?”


“เปล่าครับ แต่วันนี้นัดกันไปส่งเปเปอร์ แล้วไปกินอาหารเวียดนามด้วยกันต่อ แต่โจ๊ก...เอ่อ...โจ๊กเป็นลม ผมก็เลยพากลับ” สิตางศุ์เล่า เขาเป็นคนพยุงเจียระไนกลับขึ้นรถโดยให้นอนยาวที่เบาะหลัง แล้วตนเองเป็นคนขับรถกลับมาที่นี่ ก็เลยมาถึงได้อย่างปลอดภัย


“อาหารเวียดนาม?” สายใจและประชามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย ก่อนจะหันไปทางเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้มป่วยของเจียระไนอีกหน


“เรากับโจ๊กรู้จักกันมานานแล้วเหรอ”


“ก็...รู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่งครับ แต่เพิ่งมาสนิทกัน”


...เพิ่งมาสนิทกันอีกต่างหาก...


สายใจกวาดตามองเพื่อนของลูกชายคนนี้ ก่อนจะตัดสินใจหันไปมองน้องชายของสามี


“ให้โซ้ยเจ็กเขาจัดการโจ๊กไปแล้วกัน เรามากับป้าหน่อยสิ”

..................................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 15-06-2017 20:40:09


สิตางศุ์เดินตามหลังสตรีร่างอวบผิวขาวเหลือง ผมของหล่อนถูกจัดแต่งจนฟูเป็นแผง แถมเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่อยู่บนตัวก็พอจะบอกให้รู้ว่ามารดาของเจียระไนคงจะกำลังไปงานที่ไหนสักที่ ถ้าไม่ใช่ว่าเขาโทรศัพท์ไปแจ้งข่าวเสียก่อน


   แต่...คนแต่งตัวสวยหรูที่ดูแล้วเหมือนกำลังจะไปงานเลี้ยง กลับเดินตรงดิ่งเข้าครัว เปิดตู้นั้น ปิดตู้นี้ หยิบอุปกรณ์ทั้งหม้อ ทัพพี โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป และไข่ ไม่เหมาะกับชุดสวยๆระยิบระยับนั่นเลย


   “จะทำโจ๊กเหรอครับ ผมทำให้มั้ยครับ เดี๋ยวชุดคุณป้าจะเปื้อน” ร่างโปร่งออกตัว ดวงตาเรียวของหญิงวัยกลางคนเหลือบมามองก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ แล้วถอยออกมายืนห่างๆ


   “เมื่อกี้เห็นบอกว่าไปกินอาหารญวนกับโจ๊กเหรอ”


   “ครับ เรานัดส่งเปเปอร์พร้อมกันวันนี้ ก็เลยจะไปกินด้วยกัน”


   “ร้านไหน”


   “แถวๆมหาลัยครับ ร้านเล็กๆ แต่อร่อยทุกอย่างเลย คงเป็นเพราะโจ๊กสั่งเป็น ถ้าเป็นผมไปคนเดียวก็คงสั่งแบบเขาไม่ได้”


   “แสดงว่าร้านนี้โจ๊กพาไป”


   “ครับ” สิตางศุ์ยิ้มรับ แล้วหันไปฉีกซองโจ๊กสำเร็จรูปออกมาเทลงหม้อ ตวงน้ำสะอาดใส่ตามลงไป สายใจกวาดตามองการหยิบจับอุปกรณ์ในครัวของชายหนุ่มรุ่นลูกตรงหน้าแล้วก็บอกตัวเองว่า ‘โซ่’ ไม่ใช่แค่เคยมาที่นี่ แต่เคยมาใช้ครัวที่นี่ด้วยซ้ำ


   ...แล้วยังเรื่องไปทานอาหารเวียดนามด้วยกันอีก...


   ...ไม่ธรรมดาแน่นอน...


   “ป้าถามได้มั้ย เรากับโจ๊กทำไมสนิทกันล่ะ” สิตางศุ์ชะงักไปเล็กน้อย ไม่กล้าหันมองคนถามแม้แต่นิดเดียว เขาควรจะตอบยังไงดี ที่จะไม่ทำให้เรื่องมันบานปลาย


   “เอ่อ...เพราะว่า...เพราะว่าผมคิดจะจีบแฟนเก่าของโจ๊ก ก็เลยอยากให้โจ๊กช่วยสอน...” สายใจพยักหน้ารับรู้


   “แล้วจีบติดมั้ยล่ะ” เสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากคนถูกถาม ทว่าตามมาด้วยการส่ายศีรษะน้อยๆ


   “ผมไม่เก่งเรื่องความรู้สึก พอรู้ตัวอีกที ก็...รู้ว่าไม่ได้คิดจะจีบแฟนเก่าของโจ๊กแล้ว แต่...ตอนนั้นก็กลายเป็นสนิทกับโจ๊กไปแล้วล่ะครับ”


   “เราน่ะ...ชอบกินน้ำเก็กฮวยรึเปล่า” คำถามที่ไม่เข้ากับคำถามอื่นๆข้างต้น ทำเอาสิตางศุ์ต้องหันมามอง


   “ครับ...เอ่อ...ขอบคุณนะครับ โจ๊กเอาเก็กฮวยของคุณป้ามาฝากผมบ่อยๆ” คนฟังยกมือขึ้นแตะอกแทบไม่ทัน


   คนนี้นี่เอง ‘เพื่อนคนไหนก็คนนั้น’ ที่หล่อนต้มเก็กฮวยให้กิน


   ...ผู้ชายเหรอเนี่ย? ‘เพื่อนคนไหนก็คนนั้น’ ของโจ๊กเป็นผู้ชายเหรอเนี่ย?! ไม่อยากจะเชื่อ!!...


   “คุณป้าเป็นอะไรไปรึเปล่าครับ ในครัวมันอบ ออกไปนั่งรอที่โซฟามั้ยครับ” คนใจหายกับลางสังหรณ์และการเชื่อมโยงของตัวเองโบกมือไปมา ก่อนจะปีนขึ้นนั่งบนสตูลบาร์


   ...ใจหายนั่นล่ะ แต่ก็อยากจะซักต่ออีกหน่อย ผู้ชายแบบนี้มีอะไรดีให้ลูกชายของหล่อนหลงหัวปักหัวปำ...


   “เราชื่ออะไรนะ”


   “โซ่ครับ”


   “เป็นคนกรุงเทพฯ?”


   “เปล่าครับ มาจากกระบี่”


   “เรียนอยู่ภาคฯอะไร”


   “ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครับ”


   “อ้อ...จบไปจะเป็นทูตรึเปล่าล่ะ” ดวงตาคู่สวยหันมามอง ใบหน้าขาวจัดมีรอยยิ้มจาง


   “เป็นความฝันของผมเลยครับ แต่ว่า...ผมมีคนสำคัญที่นี่ ไม่อยากไปไหนไกลๆ”


   “คนสำคัญ? หมายถึงแฟนเหรอ”


   “เอ่อ...หมายถึงพ่อกับแม่ ญาติๆ แล้วก็...เพื่อนคนสำคัญครับ” ประโยคหลังนั้นดูเหมือนจะทำให้ใบหน้าขาวแดงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ เพราะสายใจยิงคำถามต่อ


   “เพื่อนคนสำคัญนี่สำคัญมากเหรอ”


   “ครับ สำคัญมาก เป็นคนสำคัญที่...ไม่ว่ายังไงก็อยากอยู่ด้วย”


   “เทียบกับพ่อแม่ล่ะ” สิตางศุ์เอียงคอเล็กน้อย


   “เทียบกันไม่ได้หรอกครับ รู้สึกคนละอย่าง”


   “ถ้าต้องเลือก?”


   “พ่อแม่ก็รักแบบหนึ่ง กับเพื่อนคนนี้...ก็รู้สึกอีกแบบ เลือกไม่ได้ ให้ใครแทนใครก็ไม่ได้”


“แล้วพ่อกับแม่จะยอมเหรอ”


“ผมเชื่อใจพ่อกับแม่ครับ ถ้าผมบอกเขาว่าผมรู้สึกยังไงกับเพื่อนคนนี้ ผมเชื่อว่าเขาจะเข้าใจผม แล้ว...ผมก็เชื่อใจเพื่อนคนนี้ของผม ผมเชื่อว่าเขาจะเดินไปกับผม” แล้วดวงหน้าขาวก็หันกลับไปสนใจการเคี่ยวโจ๊กที่ข้นได้ที่แล้ว ก่อนจะตอกไข่ใส่ลงไป


   สายใจมองใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่มผิวขาวจัด ชวนคุยไม่กี่ประโยค...หล่อนก็พอรู้ว่าอะไรในตัวชายหนุ่มคนนี้ที่ตรึงใจลูกชายของหล่อนไว้


   ...ความซื่อ ความบริสุทธิ์ ความจริงใจ...


   แน่นอน อีกหลายล้านคนบนโลกใบนี้ก็มีคุณสมบัติข้างต้น แต่...คนตรงหน้าให้ความรู้สึกต่างออกไป บรรยากาศรอบตัวที่ดูอบอุ่นและสบาย น่าคบหา น่าเข้าใกล้ ติดอย่างเดียว...เป็นผู้ชาย


   ...อาม่าจะว่าอะไรมั้ยน้อ ป๊าล่ะจะเข้าใจรึเปล่า...


   ...ช่างเถอะ ไว้ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที...


   “โซ่... ถ้าเสร็จแล้ว ยกตามเข้าไปในห้องนอนนะ ป้า...หม่าม้าจะไปดูโซ้ยเจ็กกับโจ๊กก่อน”


   “ครับ” สายใจลงจากสตูลบาร์กำลังจะเดินออกจากห้องครัว แต่อะไรบางอย่างดลใจให้หล่อนหันกลับมามองชายหนุ่มผิวขาวจัดที่กำลังตักโจ๊กร้อนๆใส่ชามอย่างตั้งอกตั้งใจ


   ...ดูสิ...ดูความตั้งใจนั้น...เริ่มจะกระแทกใจหม่าม้าแล้วนะ...


   “โซ่...” เจ้าของชื่อเงยหน้ามองอีกหน


   “รู้มั้ยว่าทำไมโจ๊กพาไปกินอาหารญวน”


   “ไม่ทราบครับ โจ๊กคงชอบ?”


   “ไปถามโจ๊กเองแล้วกัน แล้วต่อแต่นี้เรียกหม่าม้าว่าหม่าม้านะ แล้วก็...หม่าม้าดีใจที่ได้เจอคนกินน้ำเก็กฮวยของหม่าม้าสักที” ดูเหมือนคนถูกสั่งจะงุนงง แต่สายใจไม่รอการรับคำใดๆ ก็หมุนตัวเดินจากไปแล้ว


   ...ตาใสๆนั่นน่ะ...ของดีชัดๆ!...

..........................................

   ‘หม่าม้า’ และ ‘โซ้ยเจ็ก’ ของเจียระไนกลับไปแล้ว หลังจากที่สิตางศุ์กลับเข้ามาที่คอนโดอีกทีหลังจากไปเอาเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับมาเฝ้าไข้ ตอนนี้ภายในคอนโดหรูของคนป่วยก็เลยเหลือแค่ร่างโปร่งกับคนที่ยังนอนซมไม่ได้สติอยู่บนเตียง


   ...โซ้ยเจ็กบอกว่า ให้โจ๊กนอนพักมากๆ กินน้ำเยอะๆ กินยาให้ครบ เดี๋ยวก็หาย...


   คนผิวขาวจัดทรุดตัวลงนั่งบนพื้นข้างเตียงอย่างช้าๆเพราะกลัวว่าจะทำให้คนที่ต้องการการพักผ่อนจะตื่น ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของร่างสูงเบาๆ ตัวยังร้อน ใบหน้าของคนหลับสนิทมีแววอ่อนล้า ริมฝีปากแห้งผาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหล่อ


   ...หล่อ...ทั้งหล่อทั้งใจดี แล้วยังชอบตามใจเสมอ...


   มือขาวไล้ลงมาที่ข้างแก้มที่ยังร้อนผะผ่าว เจียระไนไม่ใช่ผู้หญิง ไม่ได้มีผิวแก้มเนียน ไม่ได้มีโครงหน้านุ่มนวล แต่...ก็เป็นผู้ชายที่หน้าตาดี ทว่าคนบนโลกอีกมากก็หน้าตาดีแบบนี้ และมากกว่านี้ แต่...กลับไม่มีใครทำให้สิตางศุ์จับจ้องได้นานเท่านี้เลย


   ร่างโปร่งชะโงกตัวเข้าไปหาช้าๆ รู้แก่ใจว่าอาจติดไข้ รู้แก่ใจว่าอีกฝ่ายยังป่วยและยังไม่ได้สติ แต่...เขาอยาก...


   ริมฝีปากสีสดประทับลงที่หน้าผากร้อนของเจียระไนช้าๆ ก่อนจะเลื่อนลงมาจูบเบาๆที่ปลายจมูก และ...แนบแผ่วเบาลงกับริมฝีปากแห้งระแหงนั้น อธิษฐานในใจของร่างสูงหายป่วย ก่อนจะถอยออกมา


   คนหลับยังคงไม่รู้สึกตัว แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากที่เมื่อครู่ฝากรอยจูบเอาไว้กับคนป่วยกลับมีรอยยิ้มจางๆ


   “หายไวๆนะโจ๊ก”   

............................................

   ‘โจ๊ก!!!’...ร้องเชี่ยอะไรของมึงเนี่ย...


   ‘ขึ้นรถนะ เดี๋ยวกูพากลับ’...ไม่สิ มึงจะไปกินอาหารญวนไม่ใช่เหรอ จะกลับทำไม...


   ‘เอากุญแจรถมา กุญแจรถมึงอยู่ไหน ในกระเป๋ากางเกงเหรอ’...ไอ้ฉิบหาย อย่าล้วงลึก เดี๋ยวได้อย่างอื่นที่ไม่ใช่กุญแจ...


   ‘เบอร์พ่อแม่มึงคือเบอร์ไหนอ่ะ โจ๊ก ลืมตามาบอกกูก่อน’...อืม...อันไหนก็ได้แหละ โทร.ออกได้เหมือนกัน...


   ‘โจ๊ก หนาวมากมั้ย ไหวรึเปล่า’...หนาว มึงเปิดแอร์แรงแน่ๆ...


   ‘กินข้าวนะ จะได้กินยา’...กูไม่หิว ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น...


   ‘หายไวๆนะโจ๊ก’...พูดอีกสิ เสียงแม่งโคตรเพราะเลย...


   ‘กูนอนตรงนี้นะ อยากได้อะไร เรียกกูนะ’...นอนตรงไหน แล้วมึงจะนอนสบายเหรอ...


   ‘ขอบใจที่มาส่ง’...มึงจะไปแล้วเหรอ...


   ‘ไปแล้วนะ’...ไม่ไปได้มั้ย...


   ‘เจอกันอีกทีเปิดเทอมนะ’...กูอยากเจอมึงทุกวัน ไม่ได้อยากเจอตอนเปิดเทอม...


   ดวงตาเรียวที่ปิดสนิทเปิดพรึ่บขึ้นมาในวินาทีนั้น ก่อนจะหลับลงอีกหนเมื่อแสงสว่างภายในห้องทำให้รู้สึกแสบตา มือใหญ่ถูกยกขึ้นมานวดขมับเบาๆเพราะยังมึนไปหมด


   “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำเอาเจียระไนต้องลืมตาขึ้นมาอีกทีแล้วหันมองไปยังต้นเสียง เจ้าของเสียงคุ้นหูไม่ใช่ใครที่ไหน สิตางศุ์นั่นเอง


   ร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้นเลยเข่าเดินเข้ามาในห้องพร้อมด้วยถาดอาหารที่มีควันฉุย


   “กำลังจะเข้ามาปลุกให้กินข้าวพอดี” สิตางศุ์ว่าอย่างนั้นแล้ววางถาดอาหารลงกับโต๊ะข้างเตียง เจียระไนยังงุนงง แต่ก็ถูกพยุงให้ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงแล้ว มือขาวแนบลงกับซอกคอของเขาอย่างแผ่วเบา


   “ไข้ลดลงแล้ว แต่ต้องกินยาให้หมดนะ โซ้ยเจ็กสั่งไว้”


   “โซ้ยเจ็ก?” ร่างสูงทวนคำ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าโซ้ยเจ็กคือใคร แต่...ที่กำลังสงสัยคือทำไมคำว่า โซ้ยเจ็กถึงออกจากปากของสิตางศุ์


   “จำอะไรได้มั่งเนี่ย อ่ะ กินก่อนหนึ่งคำ” ข้าวต้มหมูถูกตักป้อนถึงปากพร้อมกับคำถามที่ทำเอาเจียระไนกะพริบตาปริบๆ


   ...จำอะไรได้มั่ง? จำได้ว่าจะไปกินอาหารเวียดนามด้วยกัน แล้ว...แล้วก็...นั่นสิ แล้วอะไรต่อวะ?!...


   สิตางศุ์เห็นสีหน้าครุ่นคิดของคนป่วยเลยตัดสินใจเฉลยให้ฟัง


   “เรากำลังจะไปกินอาหารเวียดนามด้วยกัน แต่มึงไม่สบายมาก เป็นลมที่ลานจอดรถ กูก็เลยยึดกุญแจรถมา อ่า...ขอโทษที่ขับรถของมึงนะ กูพามึงกลับมานี่ มาถึงก็นอนอยู่ที่โซฟา ลุกไม่ขึ้น กูก็เลยไล่หาเบอร์โทร.ที่บ้านมึง แต่มึงดันเซฟเบอร์ญาติๆมึงเป็นภาษาจีนหมดเลย กูก็เลยโทร.หาปก ให้ขอเบอร์พ่อแม่มึงจากแฟนมัน แล้ว...กูก็เลยโทร.ไปหาหม่าม้าของมึง...” ประโยคสุดท้ายทำเอาเจียระไนไอโขลก สำลักข้าวต้มในปาก


   “ม...มึงว่าไงนะ?!”


   “กูบอกว่าโทร.หาหม่าม้าของมึง แล้วหม่าม้าก็เลยมาพร้อมโซ้ยเจ็กที่เป็นหมอ เมื่อเช้า หม่าม้าก็มาอีกรอบนึง แต่มึงยังไม่ตื่น ก็เลยฝากข้าวต้มไว้นี่ไง”


   “เมื่อเช้า?”


   “อื้ม” เจียระไนหันมองนาฬิกาที่โต๊ะข้างเตียง ซึ่งนอกจากจะบอกเวลาแล้ว มันยังบอกวันประจำสัปดาห์ วันที่ เดือน ปี


   ...วันอังคาร...


   ...เฮ้ย! วันอังคาร!!!...


   “มึงกลับกระบี่วันนี้ไม่ใช่เหรอ?!” ใบหน้าหล่อเหลาแต่ซีดเผือดเพราะพิษไข้หันกลับมาถามด้วยความตกใจ สิตางศุ์ยิ้มจางแล้วตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าอีกคำ


   “กูจะกลับได้ไง มึงป่วยขนาดนี้ ไม่ต้องห่วงหรอก กูบอกพ่อกับแม่แล้วว่าจะกลับช้าหน่อย เดี๋ยวค่อยซื้อตั๋วใหม่ อ่ะ กินอีกคำ” เจียระไนทั้งมึนทั้งเบลอไปหมด ทั้งพิษไข้ ทั้งคำพูดของคนตรงหน้า สิตางศุ์เป็นห่วงเขาถึงขนาดพยายามติดต่อทางบ้านของเขา สิตางศุ์เป็นห่วงเขาถึงขนาดเลื่อนตั๋วกลับต่างจังหวัด 


   “แล้ว...มึงกินอะไรรึยัง” เขาเองก็ห่วงมันไม่ต่างกันเลย


   “กินแล้ว ตอนหม่าม้ามาเยี่ยม ทำข้าวต้มมาเผื่อกูด้วย”


   “ม้าทำมาเผื่อ?”


   “อื้ม แล้ว...กูขอบคุณไปแล้วด้วยที่หม่าม้าต้มเก็กฮวยมาให้บ่อยๆ” เจียระไนตาเหลือกอีกรอบ


   “แล้วม้าว่าไง?!”


   “ก็ไม่ว่าไงนะ บอกแต่ว่าได้เจอคนชอบกินเก็กฮวยสักที”


   ...ฉิบหายแล้วไง ม้ากูได้ gat เชื่อมโยงเต็ม!!...


   “อิ่มแล้วเหรอ กินอีกคำสิ แล้วเดี๋ยวจะได้กินยา มึงต้องนอนมากๆ โซ้ยเจ็กบอกว่ามึงน่าจะนอนไม่พอด้วย น่าจะบอกกู กูจะได้ไม่ชวนไปกินต่อ” ดวงตาเรียวมองใบหน้าขาวของคนที่กำลังพยาบาล


   “ก็มึงอยากกิน”


   “ไว้กูกลับมา ค่อยไปกินกันก็ได้นี่นา”


   “กูไม่อยากรอ...” ดวงตาเรียวที่ยังพร่าด้วยพิษไข้แต่กลับส่งความรู้สึกมากมายที่พุ่งพล่านอยู่ในอก


...เหลือเวลาของเราอีกไม่มากแล้ว หมดเทอม 1 แล้ว อีกไม่ช้าก็เข้าเทอม 2 ...


...แล้ว...แล้วถ้า...ถ้าจบเทอม 2...กูทำให้มึงอยู่กับกูไม่ได้ กูจะทำยังไง...


สีหน้าของคนที่กำลังอ่อนแอเพราะพิษไข้ทำเอาสิตางศุ์ใจหาย เขาไม่เคยเห็นเจียระไนเป็นแบบนี้มาก่อน นัยน์ตาสีดำสนิทมีแต่ความกังวล


“มึงกลัวอะไร โจ๊ก...”


“กู...เมื่อกี้กูฝัน ฝันว่ากูไปส่งมึงที่สนามบิน มึงบอกว่าจะไปแล้ว จะเจอกันอีกทีก็เปิดเทอม แล้วกูก็ตื่น แค่ฝัน กูยังไม่อยากฝันเลย กูไม่อยากเห็นมึงเดินไปจากกู...” มือใหญ่แตะเข้าที่แก้มขาวเบาๆ มือหยาบที่ร้อนผ่าว ทว่าสิตางศุ์กลับแนบหน้าลงกับมือนั้น


   “กูไม่ไปไหนซะหน่อย แค่กลับบ้านเอง เดี๋ยวก็มา...”


   “กูรู้”


...รู้...แต่ไม่อยาก...


   “แต่ยังไงกูก็ต้องกลับ”


...เรื่องนี้กูก็รู้ แต่...กูแค่...กูแค่อยากใช้เวลาที่ยังพอมีกับมึงก็เท่านั้นเอง...


   “กินยาเถอะ จะได้หายไวๆ” สายตาที่มองกัน ยิ่งทำให้สิตางศุ์ไหวหวั่น ใจหนึ่งก็อยากกลับไปพบหน้าครอบครัว แต่อีกใจ...ก็รู้สึกไม่ต่างจากเจียระไนเลย


   “ถ้ากูหาย มึงก็จะกลับใช่มั้ย” คนป่วยเริ่มกลายร่างเป็นเด็กเล็ก


   “ยังไงกูก็ต้องกลับ ถ้ามึงหาย กูจะได้กลับอย่างไม่ต้องเป็นห่วง แล้ว...ไว้...เรียนจบ มึงไปเที่ยวบ้านกูนะ...” ประโยคหลังทำเอาคนงอแงชะงักกึก


   “ไปบ้านมึง? ที่กระบี่น่ะเหรอ”


   “อื้ม ตอนแรกกูก็ว่าจะชวนมึงไปด้วยกันรอบนี้ แต่กูไม่เคยพาเพื่อนไปบ้าน กลัวพ่อแม่ตกใจ ก็เลยกะว่า...กลับบ้านรอบนี้ จะเอาเรื่องมึงไปเล่าให้พ่อแม่ฟังก่อน พวกเขาได้รู้จักมึง...แต่...กูจะบอกเขาว่ามึงเป็นเพื่อนนะ ไม่โกรธกูใช่มั้ย”


ความกลัว ความกังวล ความสงสัยในความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้เหมือนถูกทำลายลงจนไม่เหลือแม้แต่ฝุ่น จริงอยู่ว่าสิตางศุ์ไม่ยอมเปิดเผยสถานะที่แท้จริงของพวกเขาให้ทางบ้านรับรู้ แต่การกระทำทั้งหมดบอกให้รู้ว่าเขาคือคนพิเศษ


   เวลา...ไม่ได้น้อยลงเพราะพวกเขาใกล้จะเรียนจบ แต่มันน้อยลงเพราะเขาเอาแต่ใช้มันให้หมดไปกับความลังเลและเป็นกังวลต่างหาก


   ...ต่อให้โซ่ไม่บอกว่ารักหรือชอบ ต่อให้ระหว่างเราจะทำได้แค่กอดหรือจูบ แต่ความรู้สึกที่มันมีให้...ก็ชัดเจนที่สุดแล้วว่า ‘พิเศษ’ แค่ไหน...


   มือใหญ่กวาดไปโอบร่างผอมโปร่งเข้ามากอดแน่นจมอก สิตางศุ์ชะงักไปเล็กน้อยแต่ก็ผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว ในเมื่อสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะศึกษาผู้ชายคนนี้ เขาก็พร้อมจะเรียนรู้การกระทำอย่างถึงเนื้อถึงตัวแต่แฝงความรู้สึกมากมายของเจียระไน


   “ขอบใจนะโซ่”


   “ขอบใจกูเรื่องอะไร”


   “ขอบใจที่มึงยอมรับกูขนาดนี้” สิตางศุ์พิงใบหน้าลงกับลาดไหล่แข็งแรงของคนป่วย เนื้อตัวของร่างสูงยังร้อนผะผ่าวแต่มันก็ทำให้รู้ว่าคนแข็งแกร่งอย่างเจียระไนก็อ่อนแอเป็น และในเมื่อตั้งใจว่าจะศึกษาอีกฝ่ายแล้ว ก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนเข้มแข้งที่อ่อนแอได้คนนี้ด้วย


   “อยู่กับกูนะโซ่...”


มือขาวลูบแผ่นหลังกว้างเบาๆ


   “อืม...”


   ...สัญญา...


...จะอยู่ด้วยกัน...

ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

   คาดว่าภายในเดือนหน้า เรื่องนี้น่าจะจบ ส่วนพระเอกจะผีบ้าไปจนจบมั้ย อันนี้ไม่บอก กร๊ากกกกก

   ส่วนตอนนี้ โซ่แบบว่าพระเอกมากกกกก พระเอกจนบัวรู้สึกว่าโจ๊กบอบบางไปเลยค่ะ ฮ่าฮ่า

จริงๆแล้วโจ๊กเป็นคนค่อนข้างอ่อนไหว (ไม่รู้จะมีใครสังเกตเห็นความอ่อนไหวของโจ๊กมั้ย) เซนซิทีฟกับเรื่องของโซ่ กลัวโซ่ไม่เลือกตัวเอง ทั้งๆที่โซ่แสดงออกหลายครั้งว่าเป็นห่วง สังเกต และสนอกสนใจโจ๊ก

ส่วนโซ่ รายนี้ถึงจะบื้อแต่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากเลยล่ะค่ะ ถ้าบอกไม่ก็คือไม่ ถ้าบอกว่าศึกษาดูใจก็คือศึกษา(คือไม่ใช่แฟนนั่นแหละ ฮ่าฮ่า)  แต่ก็เพราะโซ่เป็นแบบนี้ ถึงได้โสดมาจนปีสี่ให้โจ๊กจีบได้นะคะ ฮ่าฮ่า

   ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ ทุกกำลังใจ พื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ

เจอกันตอนต่อไป พฤหัสหน้า (ยังไม่ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้า จะให้เตรียมเมื่อไร เดี๋ยวบอกกกก...เรารู้ว่าใครรอคอยอะไร เรารู้ววว)

ป.ล. วันนี้ผลสอบแอดมิดชั่นออกแล้ว ก็มีทั้งคนดีใจและเสียใจเนาะ ยินดีด้วยสำหรับคนที่สมหวัง ส่วนคนที่พลาดไป ก็ร้องไห้วันนี้ แล้วพรุ่งนี้เริ่มต้นใหม่ค่ะ ชีวิตเริ่มใหม่ได้ทุกๆวันถ้าใจสู้

ส่วนบัว หลังจากนี้จะคอยลุ้นน้องรหัสในสาย ขอให้ได้น้องรหัสคิ้วท์ๆกะเขาสักที รอมาหลายปี สวรรค์ก็ปามาให้แต่อินดี้ทั้งน้านนนนนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-06-2017 20:58:05
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-06-2017 21:11:44
น่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 15-06-2017 21:15:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 15-06-2017 21:25:52
โอ้ยยยย น่ารักอ่าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 15-06-2017 21:33:39
เป็นเข้มแข็งได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องโซ่

กรี๊ดดดดดดดด พี่โจ๊กขาาาาาา น้องรักพี่โจ๊กอ่ะ
ทำไมพระเอกได้ขนาดนี้ อ่านนานมากกว่าจะจบ มัวแต่กรี๊ด

รู้สึกเหมือนกันว่าโซ่ไม่ได้บื้อนะ แค่คิดยังไงก็จะทำอย่างนั้น เป็นคนมีแผนแน่นอน
อะไรอยู่นอกแผนนี่ไม่สนใจเลย แต่ก็นะ เรื่องหัวใจใครวางแผนได้ล่ะยู

หม่าม้าน่ารัก ดีใจที่ยังเอ็นดูโซ่
ว่าแต่รวามลับอาหารเวียดนามนี้ยังไงน้อออ

รอพฤหัสหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-06-2017 21:35:27
ม๊าน่ารัก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 15-06-2017 21:40:32
ดีใจกะบพี่โจ๊กที่ตอนนี้ก้าวหน้าขึ้นมาหน่อยแล้ว ดูๆไปหม่าม้าเหมือนจะยอมรับแล้วนะ ก็หวังว่าดราม่าจะไม่หนักมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 15-06-2017 22:07:54
ท่าทางหม่าม้า จะชอบลูกสะใภ้นะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 15-06-2017 22:18:10
ชอบบบบ โจ๊กของเราาาา ป่วยเลยยย
โซ่ดูแลอ่ะ ฉากจู๋จุ๊บละมุนอ่ะ งู้ยยยย เขิน

รอพฤหัสหน้าไม่ไหวแล้วววว
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 15-06-2017 22:43:34
เป็นตอนที่อบอุ่น อ่อนหวาน ดีต่อใจ :กอด1:
 :L2: :pig4:
 
 
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 15-06-2017 23:01:49
ชอบผู้ชายแบบโจ๊กกกจังง โซ่ดูแลโจ๊กดีๆน้า  :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-06-2017 23:07:09
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-06-2017 23:35:35
เป็นเข้มแข็งได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องโซ่

กรี๊ดดดดดดดด พี่โจ๊กขาาาาาา น้องรักพี่โจ๊กอ่ะ
ทำไมพระเอกได้ขนาดนี้ อ่านนานมากกว่าจะจบ มัวแต่กรี๊ด

รู้สึกเหมือนกันว่าโซ่ไม่ได้บื้อนะ แค่คิดยังไงก็จะทำอย่างนั้น เป็นคนมีแผนแน่นอน
อะไรอยู่นอกแผนนี่ไม่สนใจเลย แต่ก็นะ เรื่องหัวใจใครวางแผนได้ล่ะยู

หม่าม้าน่ารัก ดีใจที่ยังเอ็นดูโซ่
ว่าแต่ความลับอาหารเวียดนามนี้ยังไงน้อออ

รอพฤหัสหน้าจ้า

อยากรู้ความลับของอาหารเวียดนาม
แม่โจ๊ก ได้รู้จักคนชอบน้ำเก๊กฮวย ที่โจ๊กเอาไปฝากแล้ว
โจ๊ก โซ่  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 15-06-2017 23:43:59
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 15-06-2017 23:56:35
โซ่น่ารักขนาดนี้ที่บ้านโจ๊กต้องเห็นความน่ารักอยู่แล้วแหละ
แต่ว่ายังไม่อยากให้จบเลยย
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 16-06-2017 00:28:27
หม่าม๊าน่ารักอ่ะ โจ๊กอ่อนไหวในเรื่องของโซ่มาก น่ารักจริงๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 16-06-2017 00:56:45
หม่าม้าได้เจอลูกสะใภ้แล้ว แถมยังถูกใจหม่าม้าอีก ว่าแต่ว่า อยากรู้จังเลยว่าทำไมโจ๊กถึงพาไปกินอาหารเวียดนาม มันพิเศษยังไงน้าาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Eangoey ที่ 16-06-2017 01:11:25
โซ่น่ารักมาก พิชิตใจม่าม้าได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 16-06-2017 01:17:00
 :impress2: น่ารักกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-06-2017 01:18:02
 :-[
 :กอด1:
รวดเดียวจบ ชอบมาเลยค้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-06-2017 01:21:21
ไม่ว่าใครเจอโซ่เข้าไปเป็นต้องหลงรักล่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 16-06-2017 01:40:15
อาหารเวียดนามคือรัยอ่ะโจ้ก  ต้องเกี่ยวกะการเป็นแฟนกันมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 16-06-2017 01:41:40
ชอบตอนหมาม้าถาม อีกนิดเดียวก็บอกม้าหมดเปลือกแล้วนะโซ่  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-06-2017 07:11:18
เค้าว่า คนบ้าจะไม่เป็นหวัด พี่โจ้กเป็นหวัด แปลว่า พี่โจ้กไม่บ้าน้าา 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-06-2017 07:34:09
หม่าม๊าน่ารัก เชื่อมจุดเก่งมาก 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-06-2017 08:20:50
โซ่ พุ่งพลังซื่อใส่หม่าม๊า ฮ่า ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-06-2017 08:36:58
ฟินนนนน~
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Tyche ที่ 16-06-2017 09:18:17
โจ๊กสู้ๆนะ โซ่เปิดรับให้ใกล้ขึ้นอีกขั้นแล้วว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 16-06-2017 10:59:42
 :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 16-06-2017 12:38:19
โซ่น่ารัก หม่าม้าน่ารัก
โจ๊กคงอยากแกล้งป่วยไปตลอด โซ่จะได้ไม่กลับบ้าน 55555
ชอบความรู้สึกของทั้งคู่จัง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 16-06-2017 14:24:11
น่ารักกกก  :mew1: :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 16-06-2017 21:23:43
หม่าม้าน่ารักมากกกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 16-06-2017 21:43:49
หม่าม้ารู้แล้ว ตอนหน้าทำไงต่อโจ๊ก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 17-06-2017 00:12:19
เรื่องความผีบ้านั้นนน ขอเดาว่าเป็นไปจนจบค่ะ 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 17-06-2017 01:02:13
ชอบโจ๊กเวอชั่นบอบบาง 55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 17-06-2017 10:24:23
โซ่ทะเล้นนะ จริงๆแล้ว น่ารักด้วย เป็นคนไม่ใสมาก แต่ซื่อเวอร์มาก 55555
โจ๊กก็เวิ่นเยอะไป เป็นไปล่ะ เจอน็อคเลยจ้า

ในที่สุดคนไหนก็คนนั้นก็เข้ามาในกรอบของแม่โจ๊กแล้ว เจอกันแบบไม่ได้ตั้งตัว แล้วโจ๊กเสียเปรียบ
แต่หายห่วงนะ เพราะโซ่ไม่เข้าใจ 5555

โซ่น่ารักอะ ชอบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 17-06-2017 11:18:42
ใกล้จบแล้ว ใจหายจัง อยากให้เรื่องยาวกว่านี้ ยังอยากอยู่กับโซ่และโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 17-06-2017 17:27:23
โซ่น่ารักนะเนี่ย
ถึงโจ๊กจะไบโพลาร์ไปหน่อย
แต่ก็เป็นแค่กับเรื่องโซ่ละนะ
รอทั้งคู่เป็นแฟนกัน อยากรู้โจ๊กจะปิดซอยเลี้ยงมั้ย
หม่าม้่น่ารัก fc หม่าม้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 17-06-2017 18:28:55
หม่าม๊าต้องหลงตาใสๆ ของโซ่แน่ๆ 55 ของเค้าดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: brenda ที่ 17-06-2017 20:37:29
เอาใจช่วย โจ๊ก   :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 17-06-2017 22:33:19
ตอนนี้น่ารักมากเลย ดูอบอุ่น
หม่าม๊าก็น่ารักท่าทางจะรักลูกสะใภ้
แต่ความลับเรื่องอาหารเวียดนามคือไร อยากรู้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 18-06-2017 22:05:22
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 18-06-2017 22:06:24
ละมุนแบบค่อยเป็นค่อยไปดี  :mew1:
อยากกินเก๊กฮวยขึ้นมาเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 19-06-2017 00:43:34
คิดถึงโซ่ทุกลมหายใจจริงๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-06-2017 06:37:53
โจ๊กสู้ๆๆๆๆ ติดตามจร้าาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 19-06-2017 08:55:46
รอลุ้นความลับที่ซ่อนอยู่ในอาหารเวียดนาม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊วนอ้วน ที่ 19-06-2017 20:48:20
สนุกกรี๊ดกร๊าดกะตู้วู้มากค่ะคุณบัว พระเอกไพโบล่ากะนายเอกขาซึน โอ๊ยยยอ่านไปขำไป กลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมดแล้ว55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: อ๊วนอ้วน ที่ 19-06-2017 21:20:35
เหมือนในร่างโจ๊กมี2วิญญาณแล้ว2วิญญาณนั้นก็ไฝว้กันตลอดเวลาที่เป็นเรื่องของโซ่555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 20-06-2017 11:45:45
อบอุ่นมากกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 21-06-2017 01:47:43
ชอบนิสัยโซ่มากๆเลย ฮืื้ออออออ
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-06-2017 21:01:28
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
……………………..
ตอนที่ 15


   เจียระไนนั่งอยู่ที่ระเบียงคอนโดเพียงลำพัง ไกลลิบๆคือตึกหน้าตาประหลาดที่ครั้งหนึ่ง เคยมีคนนั่งดูตึกนั้นเคียงข้างกัน แต่วันนี้...ใครคนนั้นไม่อยู่ตรงนี้แล้ว


   ...ไอ้โซ่ไปแล้ว...


   ...กลับกระบี่ไปแล้ว...


   ...ถึงมันสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกัน แต่...มันก็มีหน้าที่ที่จะต้องกลับบ้าน พ่อแม่มันรออยู่ทางนั้น และมันขอ...ขอให้รอมันกลับมา...


   “ถ้าโดด ขออนุญาตไม่คว้านะเฮีย” ดวงตาเรียวตวัดมองตามเสียง คนพูดยืนพิงประตูระเบียงแสยะยิ้มกวนประสาทส่งมาให้


   “กูจะโดดไม่โดดมันก็เรื่องของกูมั้ย?!” ตั้งแต่สิตางศุ์กลับกระบี่ ดูเหมือนมารดาของเจียระไนจะขยันส่งญาติพี่น้องมาดูใจเขาเหลือเกิน หมุนเวียนสับเปลี่ยนราวกับมาเข้าเวร อย่างวันนี้ก็ส่งเจตน์มา


...แล้วไอ้เวรนี่มันมาอยู่สงบๆซะที่ไหน นู่น...มันพาเมียมันมาด้วย มาถึงมันก็พากันเข้าครัว สงสัยได้กันในครัวกูเสร็จแล้ว ถึงได้เสนอหน้ามายุ่งกับกูที่นี่...


“อ้อ สรุปจะโดด? แล้วจะโดดวันนี้เลยมั้ย พรุ่งนี้พี่โซ่กลับมา ทันงานศพเฮียพอดี”


“เชี่ยเจ๋ง! มึงจะไปไหนก็ไป! กวนตีนกูอยู่ได้!” คนยิ่งหงุดหงิด สวรรค์ก็ยังใจดำส่งคนแบบนี้มาอยู่ใกล้มือใกล้เท้า เจตน์แสยะยิ้มแล้วยักไหล่ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ ที่หน้าจอมีใบหน้าของใครบางคนปรากฏอยู่ บอกให้รู้ว่ากำลังทำการวิดีโอคอลอย่างต่อเนื่อง


“โซ่!” เจียระไนร้องแล้วรีบคว้ามือถือมาใกล้ สิตางศุ์ยิ้มแย้มแจ่มใสเหมือนเคยแล้วส่งเสียงมาจากกระบี่


‘โดดอะไร โดดเรียนเหรอ?’


...โดดเรียนพ่องมึงสิ ยังไม่เปิดเทอม...


“ไม่มีอะไร แล้วนี่มึงทำอะไร ว่างเหรอ”


‘อืม พ่อแม่แล้วก็ญาติๆกำลังช่วยกันแพ็คของให้ นี่ๆ...ทัศน์ไง จำได้มั้ย’ โทรศัพท์มือถือถูกหันไปทางชายหนุ่มที่คุ้นหน้า ทัศน์เพื่อนร่วมทริปที่ไปเชียงคานเมื่อคราวก่อน


‘หวัดดีครับ พี่โจ๊ก สบายดีเปล่าพี่ แต่งงานยัง’ ทัศน์ยกมือไหว้ผ่านมาทางวิดีโอคอล แถมพ่วงด้วยคำถามที่เจียระไนอยากจะตะโกนตอบกลับไปจริงๆ ว่าคนที่กูจะแต่งด้วยก็พี่มึงไง!


‘ถามไรเนี่ย ทัศน์ ไอ้โจ๊กยังเรียนไม่จบเลย’ เจ้าของโทรศัพท์ย้อนถามเองแต่ผสมมาด้วยเสียงหัวเราะ ดูจะไม่คิดอะไรเท่าไรกับคำถามมีเล่ห์นัยของน้องชายลูกพี่ลูกน้อง


‘เดี๋ยวกูให้มึงเจอแม่กูนะโจ๊ก...นี่ๆ นี่แม่กู...’ แล้วมือถือก็ถูกหันไปทางผู้หญิงวัยกลางคนที่ส่งยิ้มพร้อมกับโบกมือมาให้ รอยยิ้มแบบนี้แบบเดียวกับสิตางศุ์เลย เจียระไนทำหน้าไม่ถูกที่จู่ๆก็ได้เจอหน้าแม่ยาย แต่ก็ยังยกมือข้างหนึ่งไหว้ เพราะอีกมือติดที่ถือโทรศัพท์อยู่


‘นี่โจ๊กเหรอ...โอ้โฮ หล่อกว่าในรูปที่ทัศน์ให้ดูตั้งเยอะ’


“ขอบคุณครับ” ถูกแม่ยายชม คิดร้ายปากร้ายไม่ออกเลย


‘โจ๊กคนนี้เหรอ ที่ทัศน์มันบอกว่าไปเที่ยวเชียงคานด้วยกัน’ เสียงผู้ชายดังเข้ามาในโทรศัพท์ไม่รู้ว่าเป็นเสียงใคร ทำเอาคนขี้หวงที่ตัวอยู่กรุงเทพฯขมวดคิ้วมุ่น


‘ใช่ พ่อ’


คิ้วที่ขมวดคลายออกอย่างรวดเร็ว หน้าตาขึงขังเปลี่ยนเป็นสงบเสงี่ยม...อ่า เมื่อกี้นี้เสียงพ่อตาว่ะ...


‘พ่ออยากเจอตัวจริงซะหน่อย’ คราวนี้เสียงเริ่มจะแข็งขึ้นเล็กน้อย เจียระไนชักใจคอไม่สู้ดี


‘ตัวจริงท่าจะหล่อกว่าพ่อเยอะนะ ตอนดูในรูปของทัศน์ก็ว่าหล่อแล้ว ในโทรศัพท์ยิ่งหล่อใหญ่เลย’ แต่แม่ยายยังยกหาง ถือว่าสถานการณ์พอหายใจได้!


โทรศัพท์ถูกหันกลับไปทางสิตางศุ์แล้ว


‘แม่ชมว่าโจ๊กหล่อตลอดเลย’


...ถ้าคนอื่นชมจะด่าว่ามายุ่งอะไรกับหน้ากู แต่นี่แม่แฟนไง แม่ยายไง นอกจากจะด่าไม่ได้แล้ว ยังยิ้มจนแก้มหุบไม่ได้อีกต่างหาก...


“แม่มึงก็สวย” รู้เลยว่าโครงหน้าสเป็คของสาธารณชนแบบสิตางศุ์ได้มาจากใคร


‘จีบไม่ได้นะ พ่อกูหวงแม่กูมาก’ ใบหน้าขาวรีบบอกผสานมากับเสียงหัวเราะ ดูเหมือนเจ้าตัวจะเดินเลี่ยงขึ้นบันไดไปชั้นบนของตัวบ้านแล้ว


ตั้งแต่สิตางศุ์กลับบ้าน พวกเขาก็โทรศัพท์คุยกันทุกวัน และหลายครั้งเป็นการคุยกันผ่านทางวิดีโอคอล  คนผิวขาวจัดเปิดเผยครอบครัว ที่อยู่และบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รู้จัก และเวลานี้ เจ้าตัวก็กำลังพาคนปลายสายที่อยู่กรุงเทพฯเข้ามาในห้องนอนส่วนตัวด้วย


...ที่หน้าต่างนั่น มองเห็นลิบๆเป็นอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าที่กระบี่...


...สาบาน...ว่ากำลังใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าต่าง ไม่ได้สนใจเตียงนอนที่มีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่นั่นเลย...เตียงนี้โซ่นอนทุกคืนสินะ ตุ๊กตานั่น แม่งก็คงนอนกอดทุกคืนเหมือนกัน อยากกลายร่างเป็นตุ๊กตาดูสักทีเว้ยเฮ้ย!...


‘โจ๊ก...พรุ่งนี้กูจะกลับกรุงเทพฯแล้วนะ’ เสียงจากคนที่กระบี่ดังปลุกสติ


“อือ มึงส่งไฟลท์บินมาแล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวกูไปรอรับ แล้วมึงเข้าคณะเลยมั้ย” พรุ่งนี้เปิดเทอมวันแรก แต่ไม่รู้ว่าวันแรกของสิตางศุ์จะมีเรียนรึเปล่า


‘เข้าสิ กูมีเรียนวันนั้นเลย แต่ไอ้กตกับไอ้แพทไม่มี ของฝากพวกมันไว้เอาไปให้วันอื่น’


“แล้วของกู?” คนสำคัญที่สถาปนาตัวเองว่าสำคัญมากๆรีบร้องหาส่วนแบ่ง สิตางศุ์ยิ้มกว้าง


‘ของมึงก็มี เค้กตรังนะ’


“เออๆ เดี๋ยวไว้กูไปกระบี่ กูค่อยหาโอท็อปกระบี่เองก็ได้!”


‘กูบอกพ่อกับแม่แล้วแหละ ว่าเรียนจบ จะชวนมึงมาเที่ยวบ้านกู...’


“แล้วพ่อแม่มึงว่าไง” เจียระไนถามด้วยใจสั่นเล็กน้อย


‘บอกว่าดี เดี๋ยวจะพาเที่ยว’ แค่นี้คนฟังก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก จะมีอะไรดีเท่ากับการที่คนสำคัญของคนที่เขารักก็รักและเอ็นดูเขา


เสียงตะโกนโหวกเหวกดังเข้ามาในโทรศัพท์ สิตางศุ์หายหน้าไปชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกลับมาที่หน้าจอใหม่


‘ป้ากับลุงกูแวะมา เดี๋ยวกูลงไปหาเขาก่อนนะ’


“อืม ไปเถอะ”


รอยยิ้มสวยๆปรากฏบนหน้าจอ ก่อนที่สัญญาณจะถูกตัดไป เจียระไนกำลังจะวางโทรศัพท์ลงข้างกาย แต่มันสั่นเพราะมีข้อความเข้าเสียก่อน เขาเปิดขึ้นมาดู แล้วก็ต้องเลิกคิ้วเล็กน้อยที่เป็นข้อความจากสิตางศุ์


‘เจอกันพรุ่งนี้นะโจ๊ก’


เจียระไนยิ้มอย่างอิ่มใจ แล้วพิมพ์ตอบกลับไปด้วยความรู้สึกดีใจไม่ต่างกัน


‘เจอกันพรุ่งนี้’

........................................

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารภายในประเทศ


ไฟลท์บินเที่ยวเช้าสุดมีผู้คนค่อนข้างมาก เจียระไนยืนรออยู่ที่หน้าประตูทางออกหลังจากเมื่อครู่นี้ มีประกาศว่าเที่ยวบินจากกระบี่มาถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพแล้ว


ยืนรออยู่อึดใจใหญ่ๆ ร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแล็กสีดำก็เดินออกมา มือซ้ายลากกระเป๋า มือขวาหิ้วกล่องมาด้วย ที่หลังมีเป้สะพาย และแน่นอน พอดวงตาคู่สวยสบเข้ากับดวงตาเรียวๆของเขา คนผิวขาวจัดก็ฉีกยิ้มกว้าง สาวเท้าเข้ามาหาเร็วๆ


“มึงขนอะไรมาเยอะแยะ” เหมือนจะบ่น แต่มือใหญ่ดึงกล่องกระดาษที่มัดอย่างดีมาถือเอาไว้


“ของฝากไง” สิตางศุ์พูดแล้วยิ้ม มือล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดเครื่อง ก่อนจะพบว่ามีสายเรียกเข้าทันทีที่เครื่องของเขามีสัญญาณ


“ฮัลโล แม่ เพิ่งถึงเอง แต่เจอโจ๊กแล้ว” เจียระไนไม่ได้ยินว่าปลายสายคุยอะไรกับลูกชาย เพราะเสียงในสนามบินค่อนข้างดัง แต่เขาก็เห็นคนข้างกายเปิดกระเป๋าเป้หาของจ้าละหวั่น


“เออ ไม่มีจริงด้วยอ่ะ!” ดวงตาคู่สวยเหลือกโต ท่าทางตกใจจริงจนร่างสูงชักเป็นห่วง


“อะไร?” เขาถาม ทั้งๆที่อีกฝ่ายยังมีโทรศัพท์แนบข้างหู สิตางศุ์หันมองด้วยท่าทางตื่นตระหนก


“กุญแจห้อง! กูลืมไว้ที่บ้านที่กระบี่!!”


“กุญแจห้องมึงน่ะเหรอ?”


“อืม! ทั้งคีย์การ์ด! ทั้งกุญแจเลยอ่ะ! ทำไงดี?!”


“ไม่เป็นไร กูมี…อ่า… “ เจียระไนปากไวอย่างลืมตัว เพราะเขามีทั้งคีย์การ์ดและกุญแจที่แอบปั๊มเก็บเอาไว้


“จริงด้วย! มึงมีคีย์การ์ด!” สิตางศุ์เหมือนเห็นแสงสว่างในปัญหาที่เกิดขึ้น ทว่าวินาทีต่อมา แสงนั้นก็ดับลงอย่างรวดเร็ว


“แต่กูมีแค่คีย์การ์ด ไม่มีกุญเเจห้องมึง เข้าไม่ได้อยู่ดี” คนไม่เคยรับศีลข้อมุสารีบโกหกอย่างรวดเร็ว ทั้งๆที่กุญแจห้องของสิตางศุ์อยู่ที่ลิ้นชักในโต๊ะคอมพิวเตอร์ของเขา


“เออว่ะ ทำไงดีล่ะ” คนลืมกุญแจเอาไว้ที่บ้านต่างจังหวัดถึงกับทำหน้าหงอยอีกหน ประโยคหลังเหมือนถามทั้งตัวเอง ถามทั้งมารดาที่ยังอยู่ในสาย และถามทั้งคนที่ยืนอยู่ข้างๆ


“มึงนอนห้องกูก็ได้” เจียระไนเสนอหนทางอย่างใจกว้าง


“นอนห้องมึง?”


“อือ แล้วก็ให้ที่บ้านมึงส่งกุญแจมา ไม่ยากหรอก”


“แต่ว่า...รบกวนมึงน่ะสิ”


“รบกวนเชี่ยอะไร ไหน ขอกูคุยกับแม่มึงหน่อย” สิตางศุ์ส่งโทรศัพท์มือถือให้ร่างสูงอย่างว่าง่าย เจียระไนทำกระแอมเล็กน้อย ปรับน้ำเสียงให้ฟังดูเป็นสุภาพชนที่บุพการีของสิตางศุ์จะวางใจฝากลูกชายเอาไว้กับเสือตัวนี้


“สวัสดีครับ ผมโจ๊กนะครับ”


‘จ้า โจ๊กบอกโซ่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวแม่จะหาคนขึ้นกรุงเทพ นั่งเครื่องแป๊บเดียวก็ถึง จะเอากุญแจห้องไปให้’


…โอ้โฮ แม่ยายโคตรเปย์ แต่ไม่เปิดโอกาสให้ลูกเขยคนนี้เลยสักนิด!...


“ไม่ต้องครับไม่ต้อง! ให้โซ่ค้างกับผมก็ได้ แล้วกุญแจค่อยส่งมาทางไปรษณีย์” ไม่เปิดโอกาสไม่ใช่เรื่องใหญ่ คนอย่างเจียระไน หาทางเปิดเองได้


‘จะดีเหรอ โจ๊ก’


“ดีครับ ห้องผมใหญ่ ผมนอนคนเดียวด้วย ให้โซ่มาค้างกับผมได้ ไม่ลำบาก แล้วกุญแจก็ส่งไปรษณีย์มาที่ห้องผมก็ได้ครับ”


‘งั้นแม่ฝากด้วยแล้วกันนะ เดี๋ยวแม่จะให้คนไปส่งไปรษณีย์ เอาแบบด่วนพิเศษเลย’


ใจคนฟังอยากจะแนะนำให้ส่งแบบช้าพิเศษก็ได้ ไม่รีบ


ปลายสายขอคุยกับลูกชายอีกที เจียระไนเลยส่งให้คุยกับคนผิวขาวจัดที่ทำหน้าสลดเพราะลืมของสำคัญ ดูท่าสิตางศุ์คงถูกดุเล็กน้อย เพราะเห็นทำหน้ายู่ ก่อนจะยอมเก็บโทรศัพท์มือถือแล้วเหลือบตามามองเขาแล้วเอ่ยเสียงอ่อนอย่างสำนึกผิด


“ลำบากมึงเลย”


“กูพูดสักคำรึยังว่าลำบาก”


“แต่ไม่รู้กุญแจจะมาถึงเมื่อไหร่นะ หรือให้กูลองถามคุณพัฒน์ดูดีมั้ย เผื่อเขาจะมีกุญแจสำรองห้องกู”


“คนที่ขายห้องให้มึงน่ะเหรอ ถ้าเขามี กูจะแจ้งความ ขายห้องแล้วเสือกเก็บกุญแจห้องเอาไว้ คิดไม่ดีชัดๆ”


…ไม่เหมือนไอ้โจ๊กคนนี้ มีกุญแจห้องชัดๆ แต่บอกว่าไม่มี โคตรอภิมหาคนดีเลย!...


“ไม่นะ คุณพัฒน์เป็นคนดี” สิตางศุ์รีบปฏิเสธ ทั้งน้ำเสียง ทั้งคำพูด ไหนจะไอ้การสั่นหน้าสั่นมือนั่นอีก ร่างสูงชักเคืองสายตาที่เห็นคนตรงหน้าชมผู้ชายอื่นออกหน้าออกตาขนาดนี้


“เออ! กูก็คนดีเหมือนกัน เพราะงั้นมึงนอนห้องกูจนกว่ากุญแจจะมา” เจอไม้นี้ สุดท้ายก็เถียงไม่ออก ได้แต่พยักหน้ารับอย่างยอมจำนน


เจียระไนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่ เปิดเทอมวันแรกของเทอมสอง ก็เหมือนเทวดาจะรู้เห็นเป็นใจ ให้ค่าชดเชยช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา


...แต่จริงๆแล้ว กูควรให้ค่าชดเชยตลอดสองปีที่ผ่านมาด้วยเปล่าวะ?...


“โจ๊ก ยิ้มไร เยาะเย้ยกูเหรอ ที่กูลืมของ” คนลืมกุญแจทำหน้ามุ่ย ถูกแม่ดุในสายก็พอแล้ว ยังถูกคนตรงหน้ายิ้มใส่อีกด้วย ปกติไม่เห็นจะเคยยิ้ม ทีพอเขาทำเรื่องล่ะยิ้มอยู่ได้


“เยาะเย้ยพ่อมึงสิ ไปๆ เดี๋ยวรถติด” แล้วร่างสูงก็เดินนำออกจากอาคารผู้โดยสาร รอยยิ้มยังคงประดับอยู่ที่แก้มของคนเดินนำ แน่นอนว่าคนผิวขาวจัดที่เดินตามย่อมมองไม่เห็น

.............................


‘เลิกเรียนแล้วกลับบ้านเลย’


ประโยคนี้ไม่เคยอยู่ในใจของเจียระไนมาก่อนนับตั้งแต่เข้าอนุบาลจนกกระทั่งเทอมสุดท้ายในรั้วมหาวิทยาลัย แต่...นี่คือครั้งแรกที่พอเลิกเรียนคาบเช้าปุ๊บ ก็ลากคนที่เลิกเรียนพร้อมกันกลับปั๊บ!


“วันนี้ห้องโจ๊กสะอาดแหะ แต่ก่อนนู้น ที่เคยมาช่วยทำความสะอาดน่ะ ห้องเละอย่างกับเกิดสงคราม”


แขกผู้มีเกียรติที่จะมาอาศัยอยู่ด้วยกันในวันนี้เดินตามเจ้าของห้องเข้ามาในคอนโดที่สะอาดเอี่ยมอ่อง เจียระไนชะงักไปเล็กน้อย ไม่อยากบอกเลยว่าไม่ใช่ครั้งนี้ที่ห้องเขาสะอาดเป็นพิเศษ แต่เพราะครั้งนู้น เขาทำให้มันสกปรกเป็นพิเศษต่างหาก


“มึงอยากให้เละเหมือนคราวก่อนที่มึงมามั้ยล่ะ” สิตางศุ์ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม


“ไม่เอา เดี๋ยวนอนไม่ได้”


“เอากระเป๋าเข้าไปเก็บในห้องนอนไป แล้วกล่องนี่ไว้ตรงนี้ได้มั้ย” เจียระไนสั่ง ก่อนจะถามถึงกล่องในมือตัวเองที่ร่างโปร่งหิ้วมาจากกระบี่


“อื้อ เดี๋ยวกูต้องแยกอีกทีว่าอันไหนของใคร...” คนผิวขาวจัดตอบแล้วก็ยืนนิ่งอยู่กลางห้อง ไม่ยอมเอากระเป๋าเดินทางเข้าไปในห้องนอนตามที่เจ้าของห้องสั่ง เจียระไนหันมามองด้วยความสงสัย


“เอ่อ...ให้กูนอนในห้องนอนมึงจะดีเหรอ...”


“ดี” เจ้าของห้องตอบเสียงห้วนแล้วดึงกระเป๋าเดินทางลากเข้าห้องนอนทันที สิตางศุ์รีบก้าวเท้าตามเพราะกลัวอีกฝ่ายจะโกรธ


“โจ๊ก กูไม่ได้...”


“กูคิดถึงมึงจะตายห่าอยู่แล้ว อุตส่าห์ได้มึงมานอนด้วย ยังจะเสือกขอนอนนอกห้องกูอีกเหรอ?!” เสียงทุ้มของคนที่ลากกระเป๋าเข้ามาในห้องนอนบอกให้รู้ว่าเจียระไนกำลังหงุดหงิด แม้สิตางศุ์จะเห็นเพียงแผ่นหลังของคนพูดก็ตาม


ร่างโปร่งรู้ตัวว่าความขี้เกรงใจของเขากำลังทำให้อีกฝ่ายหัวเสีย และเผลอๆ...อาจทำให้เจียระไนโกรธ


...ไม่เอาหรอก...ไม่ให้โกรธกันอีกแล้ว...


สิตางศุ์ก้าวเท้าเข้าไปหาคนที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ และนี่คงเป็นการตัดสินใจที่เร็วที่สุดในชีวิตของเขาแล้ว เพราะแขนขาวสอดเข้าไปตรงช่วงเอวของร่างสูงแล้วโอบรัดเอาไว้


“กูก็คิดถึง...”


เจียระไนชะงักกึก ทั้งอารมณ์หงุดหงิด ทั้งคำพูดที่กำลังอยากจะด่าหายวับเหมือนถูกโยนทิ้งภายในเสี้ยววินาที เขาก้มลงมองแขนที่โอบเอวเขาเอาไว้ ก่อนจะเอี้ยวหน้าไปมองที่ไหล่ แต่ก็เห็นแค่กลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มซุกอยู่


“ไม่ได้เจอกันแค่แป๊บเดียว แต่กูว่ามันนานมากเลย...ทั้งๆที่เราก็คุยกันทุกวัน แต่ว่า...แต่ว่ากูก็อยากเจอมึงแบบนี้มากกว่า...”


หัวใจเจียระไนแทบละลายลงไปกองเป็นน้ำ ไม่รู้ว่าคำพูดของคนที่เอาแต่ซุกอยู่กับหลังของเขาผสมอะไรมา แต่...แต่มันมีฤทธิ์ต่อหัวใจมากเกินไป


...แย่แล้ว...จะยิ้ม..ทำไงดี กูจะยิ้ม!...


“แต่มึงไม่อยากนอนกับกู” คนพยายามกลั้นยิ้มทำเสียงห้วน เกร็งคอ ทำแก้มตอบ ทำอะไรก็ได้ที่ทำได้ เพื่อไม่ให้แสดงออกถึงความปลื้มปริ่มในอกเวลานี้


“เปล่า..แต่กูกลัวมึงไม่ชิน ถ้ามีคนมานอนด้วย...” คนตอบยังคงเอาหน้าซุกแผ่นหลัง เจียระไนชักอยากเห็นว่าอีกฝ่ายทำสีหน้าแบบไหนอยู่ แต่...สิตางศุ์กอดเขาแน่นจนกระดิกตัวไม่ได้ ได้แต่ยืนให้อีกฝ่ายกอดหลัง ซุกหลังอยู่แบบนั้น


...แล้วหน้ากูก็เอี้ยวได้แค่นี้ซะด้วย มองจนตาจะเหล่ก็เห็นแค่ผมไอ้โซ่ สัดเอ๊ย! ทำไมคอกูไม่หมุนได้สัก 360 องศาวะ...


“เราก็เคยนอนด้วยกันมาแล้ว ตอนที่กูไปค้างห้องมึง”


“ก็ตอนนั้นยัง...ยังไม่ได้เป็นแบบนี้...”


“เป็นยังไง”


“ก็...เป็นคนศึกษากัน...อ่า...มันไม่เหมือนเดิมเปล่าวะ ตอนนั้นเป็นเพื่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ เอ่อ...กู...กูกลัวมึงไม่ชิน...”


“แล้วมึงชิน?”


“อื้อ ตอนกลับกระบี่ กูไปซื้อตุ๊กตาตัวใหญ่มากมานอนด้วย ตอนเช้าตื่นมา ตุ๊กตาตกเตียงทุกทีเลย ทำไมอยู่ดีๆกูนอนดิ้นก็ไม่รู้...” อ้อ...ตุ๊กตาหมีที่เจียระไนแอบเห็นบนเตียงตอนสิตางศุ์วิดิโอคอลนั่นเอง


“มึงกลัวนอนดิ้นถีบกูตกเตียงเหมือนตุ๊กตามึงรึไง”


“เปล่า...กูกลัวมึงถีบกลับ” เจียระไนกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป เขาหัวเราะออกมาดังลั่นกับคำพูดซื่อๆของคนที่ยังกอดซ้อนหลังเอาหน้าซุกเขาอยู่


ร่างสูงปลดแขนขาวที่กอดเอวเขา แล้วหันกลับไปหาคนที่เปลี่ยนจากซุกหน้ากับหลังเขาเป็นก้มหน้าคางชิดอกตัวเอง เขาประคองใบหน้าที่เคยขาวจัดแต่ตอนนี้มันขึ้นสีเรื่อจนน่าแกล้ง ดวงตาคู่สวยมองมาที่เขาอย่างกล้าๆกลัวๆ


...แบบนี้ยิ่งต้องพูดให้มั่นใจ ผู้ชายที่ชื่อเจียระไนคนนี้จะไม่มีวันถีบคนที่ชื่อสิตางศุ์แน่นอน...


“กูไม่ถีบมึงหรอก”


“แล้วถ้ากูนอนดิ้นแล้วถีบมึงล่ะ...”


“กูจะจูบมึงน่ะสิ”


สิ้นประโยคนั้น ริมฝีปากสีสดก็ไม่อาจเอื้อนเอ่ยอะไรได้อีกแล้ว เจียระไนบดเบียดความคิดถึงทั้งหมดที่มีลงกับความนิ่มหยุ่นนั้น เขาดูดดึง ขบย้ำเหมือนหิวโหย มันร้อนแรงจนคนถูกฝากฝังความรู้สึกแทบยืนไม่อยู่ สองมือต้องจับแขนใหญ่ของร่างสูงเอาไว้เพื่อพยุงตัว


นาน...จนแทบลืมหายใจ ก่อนที่ริมฝีปากของเจียระไนจะถอยห่างอย่างช้าๆ ฝ่ามือที่เคยประคองแก้มเรื่อๆนั่น ค่อยๆเลื่อนลงมาแตะที่เอว แล้วรั้งอีกฝ่ายให้เข้ามาแนบชิด ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยคู่นั้น พาสิตางศุ์ดำดิ่งเข้าสู่ภวังค์ในขณะที่ค่อยๆดึงชายเสื้อออกมาจากกางเกง แล้วสอดฝ่ามือเข้าไปไล้บั้นเอวเบาๆ ริมฝีปากเบียดชิดเล็มไล้กลีบปากของสิตางศุ์อีกหน


และคราวนี้...ไม่ใช่แค่รสจูบอย่างเดียวอีกแล้ว แต่แทรกสอดปลายลิ้นเข้าสู่โพรงปากของอีกฝ่ายด้วย


เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของร่างโปร่งดังขึ้น ทั้งเสียงและแรงสั่นทำเอาคนที่กำลังถูกชักนำลงไปในห้วงอารมณ์ถึงกับสะดุ้งรู้ตัวในทันที


ร่างขาวขยับตัวออกห่างแล้วล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นว่าเป็นมารดาโทร.มา


“ฮัลโล แม่” ริมฝีปากส่งเสียง แต่ดวงตาคู่สวยเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เจียระไนหันมองไปทางอื่น ดูเหมือนกำลังพยายามยับยั้งอารมณ์ตัวเองอยู่


“อ๋อ...ที่อยู่ที่จะให้ส่งกุญแจมาเหรอ อ่า...แม่คุยกับโจ๊กละกันนะ” แล้วมือขาวก็ยื่นโทรศัพท์ให้ร่างสูง


“แม่น่ะ จะถามที่อยู่ มึงคุยไปนะ กูจะออกไปแยกของฝากก่อน” พอเจียระไนรับโทรศัพท์ไป คนผิวขาวจัดก็รีบเผ่นออกจากห้องทันที ดวงตาเรียวมองตาม ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูอย่างหมดซึ่งความพยายามจะทำตัวเป็นสุภาพชนแบบก่อนหน้านี้


“ครับ แม่...”   


...ชวดเมียเพราะแม่ยาย...ด่าไม่ออกเลยกู!!!...

.....................................

>>ต่อหน้าถัดไปค่ะ >>
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 22-06-2017 21:01:49


เจียระไนบอกที่อยู่สำหรับส่งไปรษณีย์ให้มารดาของสิตางศุ์เรียบร้อยก็เดินตามออกมาจากห้องนอน กวาดตามองทั่วคอนโดก็เห็นร่างผอมโปร่งนั่งบนพื้นอยู่หน้าโทรทัศน์ กำลังแยกของฝากออกมาจากกล่อง มีทั้งของฝากให้เพื่อนสนิทอย่างพฤกษาและอลงกต ของฝากให้เจียระไน และของฝากให้ที่บ้านของเจียระไน


ดวงตาคู่สวยเหลือบมาเห็นเจ้าของคอนโดแล้ว แล้วเจ้าตัวก็หลบตาหนีไปที่ของฝาก ดูก็รู้ว่าคงจะเขินกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ ซึ่งจริงๆแล้วเจียระไนก็เขินนั่นแหละ แต่...เรื่องให้หลบไปอยู่ไกลๆก็ไม่ใช่ทางเขาเสียด้วย


“ไหนของฝาก” ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหา ยืนค้ำหัวคนที่นั่งอยู่กับพื้น


“อ่า...ของมึงเป็นอินทผาลัม กินเป็นมั้ย แล้วก็...กูซื้อชาฝากที่บ้านมึงด้วย ไม่รู้จะซื้ออะไรดี ถามหม่าม้าของมึงแล้ว บ้านมึงไม่กินพวกกะปิ เคย ก็เลยซื้อชามาแทน” คนพูดนั่งอยู่บนพื้น ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาตอบ แต่เอี้ยวตัวไปหยิบอันนั้นทีอันนี้ที และ...มันทำให้ชายเสื้อที่อยู่นอกชายกางเกง เปิดล่กจนเห็นผิวขาวๆช่วงบั้นเอว


ดวงตาเรียวจ้องไม่กะพริบ สาบานสามนิ้วว่าอยากละสายตาไปทางอื่นมากๆ ไม่ได้อยากแอบดูเอวของสิตางศุ์เลยแม้แต่นิด แต่...สายตามัน...ไม่ทำตามคำสั่งเลยว่ะ


“โจ๊ก...ขยับออกไปหน่อยสิ จะหยิบของ” สิตางศุ์เห็นอีกยังยืนนิ่งขวางตัวเขาและถุงที่ใช้สำหรับแยกของฝากก็เลยต้องเงยหน้าบอก คนกำลังจ้องผิวขาวๆที่ผลุบๆโผล่ๆเมื่อครู่ถึงกับชะงัก รีบเบือนสายตาหนีไปทางอื่น


“เอ่อ...โทษที” เจียระไนก้าวเท้าเบี่ยงไปนั่งที่โซฟาด้านหลังร่างโปร่งแทน และ...ตอนที่สิตางศุ์เอื้อมไปหยิบถุงพลาสติกที่อยู่ไม่ไกล ผิวขาวๆก็โผล่ออกมาให้เขาเห็นอีก


...สัด! กูอย่างกับโรคจิต ทำยังไงดีวะเนี่ย!...


“มึงคุยกับม้ากูบ่อยเหรอ” ร่างสูงพยายามบรรเทาความหื่นในใจตัวเองด้วยการชวนคุยเรื่องบุพการีอันเป็นที่เคารพ


“ไม่บ่อยหรอก แต่พอดีหม่าม้าของมึงโทร.มาตอนกูอยู่ที่นู่น กูก็เลยถามน่ะ...อ่า...มึงโกรธรึเปล่าที่กูคุยกับหม่าม้า แต่มึงไม่รู้”


“จะโกรธทำไม ว่างๆ มึงก็โทร.หาม้าก็ได้”


“เดี๋ยวจะโดนสงสัยน่ะสิ”


“ไม่สงสัยแล้วมั้ง ป่านนี้น่าจะเดาได้แล้ว” ดวงตาคู่สวยเบิกโต


“จริงเหรอ?! แล้วมึงโดนว่ารึเปล่า?!” สิตางศุ์หันกลับมาถามเต็มตัวด้วยความเป็นห่วง ถึงเขาจะให้พ่อแม่ได้รู้จักหน้าค่าตาของเจียระไน แต่ก็ยังไม่ได้บอกเรื่องสถานะศึกษาดูใจให้รับทราบ เรื่องแบบนี้น่าจะให้เวลาทำให้คุ้นเคย มากกว่าบอกกันโต้งๆ


“จะโดนว่าเรื่องอะไรล่ะ กูกับมึงคบกัน ไม่ได้ทำใครเดือดร้อน” พอได้ยินแบบนี้ คนที่ตกใจในทีแรกก็สบายใจ ริมฝีปากสีสดแย้มยิ้มอย่างโล่งอก เจียระไนเองก็อยากจะยิ้มไปด้วยหรอก ถ้าไม่ใช่ว่าพอลดสายตาลงมองใบหน้าขาวของคนที่นั่งต่ำกว่าแล้วสายตาหื่นๆของเขาก็ดันมองลึกลงไปในคอเสื้อเชิ้ตที่เปิดอยู่


...ขาวจั๊วะ!...แล้วนั่น!...เม็ดสีชมพูนั่น!...


เจียระไนกลืนน้ำลายเอื้อก รู้สึกคอแห้งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ถ้า...ถ้าได้ดูดไอ้สีชมพูบนอกขาวๆนั่น...ถ้า...ถ้าได้บีบเล่นด้วยนิ้ว...ถ้า...


...ฉิบหายไอ้โจ๊ก!!!!...


ร่างสูงลุกพรวดทันควัน ทำเอาสิตางศุ์ถึงกับชะงักที่อีกฝ่ายทำอะไรปุบปับ


“ก...กู...กูไปเยี่ยว! มึงจัดของให้เสร็จ จะได้ไปกินข้าว!” แล้วเจียระไนก็รีบหมุนตัวเดินตรงดิ่งไปเข้าห้องน้ำโดยไม่หันกลับมามองคนข้างหลังอีกเลย

............................................

เป็นวันที่ใช้ชีวิตผ่านไปอย่างทุลักทุเล


หลังจากเจอพิษสายตาล้วงคอเสื้อไปเห็นอกขาวๆ เขาก็รีบพาสิตางศุ์ออกไปกินข้าวข้างนอก ใช้ชีวิตสองคนในที่ที่มีผู้คนพลุ่กพล่านจะได้ไม่สร้างบรรยากาศชวนให้ปล้ำมากเกินไป แต่สุดท้าย อีกฝ่ายก็ต้องนอนห้องเขา แล้วนอนกันยังไงน่ะหรือ? เจียระไนเลือกที่จะนอนหันหลัง แถมไม่ได้หลับทั้งคืนเพราะเกร็งไปทั้งตัว กลัวว่าขืนหลับแล้วหันไปหาไอ้คนที่นอนข้างๆอย่างไม่รู้ตัว เกิดไปคว้ามันมากอด ทำเรื่องบางเรื่องจากจิตใต้สำนึก คราวนี้ล่ะจะพากันฉิบหายหมด


...มันดูไม่รังเกียจก็จริง แต่...มันพร้อมเปล่าวะ?...


...เกิดกูทำไปครึ่งทาง แล้วมันผลักกูออก กูไม่ตายห่ารึไง?!!!...


แล้วพอเช้า เขาก็รีบพาสิตางศุ์มาคณะ โชคดีว่าวันนี้รายนั้นมีเรียนเช้า ส่วนเขามีเรียนบ่าย เลยเจอกันแค่ตอนเที่ยง...แต่...หลังเลิกเรียน มันก็ต้องกลับไปนอนคอนโดของเขาอยู่ดี


เจียระไนพ่นลมหายใจเป็นครั้งที่ร้อย


...อุตส่าห์ได้นอนด้วยกัน แต่เสือกไม่กล้าพามันก้าวข้ามไปจนสุดทาง ไอ้กากโจ๊กเอ๊ย!!!!...


“กูว่าแล้วเชียว ว่ามึงหลบอยู่นี่แน่”


เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำเอาหนุ่มตาเรียวชั้นเดียวที่กำลังหงุดหงิดต้องละสายตาจากสนามฟุตบอลของคณะหันไปมอง เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าคนที่กำลังเดินตรงมาหาเขาคือเพื่อนร่วมคณะแต่ต่างภาควิชาอย่างพฤกษา


“มึงไม่ได้เรียนวิชาเดียวกับไอ้โซ่เหรอ” เขาถาม เมื่อคนมาใหม่ทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะม้าหินตัวเดียวกัน


“กูปีสี่นะครับ ขอเรียนง่ายๆ เรียนน้อยๆ เถอะ”


“เพื่อนมึงที่อยู่ปีสี่เหมือนกันลง 7 ตัว” เจียระไนย้อน พฤกษาหัวเราะเบาๆ


“คนที่ทำให้มหาลัยขาดทุนก็ไอ้โซ่นี่แหละ แต่วันนี้ผิดปกตินิดหน่อย แม่งไม่ตั้งใจเรียน เอาแต่แชทกับกู” คนฟังชะงักไปเล็กน้อย หันมองพฤกษาที่ยังเอาแต่ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ เขาแอบเหล่มอง เห็นว่ากำลังเปิดแอพลิเคชั่นแชทอยู่จริง แถมที่มุมหน้าต่างก็เป็นชื่อโซ่ด้วย


ไม่ทันได้ถามอะไร คนที่กำลังกดข้อความตอบโต้กับ ‘โซ่’ ก็เหลือบตามามอง


“ไอ้โซ่มันถามกูว่าถ้าคืนนี้มันไปนอนห้องกู กูจะโอ.เคมั้ย”


“ทำไมมันต้องไปนอนห้องมึง?!”


ไม่มีคำตอบเป็นคำพูด แต่พฤกษายื่นโทรศัพท์มือถือให้ดูแทน ข้อความที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอเป็นข้อความปรับทุกข์ที่ถูกส่งมาจากสิตางศุ์ทั้งสิ้น


‘กูไม่รู้ไอ้โจ๊กเป็นอะไร มันไม่คุยกับกูเลย’


‘สงสัยมันอึดอัดว่ะ กูว่าแล้ว มันไม่ชินแน่เลย ที่อยู่ดีๆ กูก็ต้องไปอาศัยมัน’


‘คืนนี้กูไปนอนบ้านมึงได้เปล่า’


เจียระไนอ่านได้ไม่กี่ประโยค โทรศัพท์ก็ถูกดึงกลับไป


“เกิดไรขึ้น ทำไมมึงไม่คุยกับมัน”


คำถามจากเพื่อนสนิทของสิตางศุ์ทำเอาต้องหันมอง พฤกษาเป็นคนทะเล้น รักสนุก แต่วันนี้กลับมีสีหน้าจริงจังบอกให้รู้ว่าถ้าหากเขาให้คำตอบที่ไม่พอใจ มันคงลุกขึ้นเตะเขาเดี๋ยวนี้


“กู...เกือบปล้ำเพื่อนมึงแล้ว” จริงๆจะเรียกว่าปล้ำก็ไม่ถูก เพราะตอนที่ล้วงมือเข้าไปลูบเอวมัน ตอนที่แหย่ลิ้นไปในปากมัน สิตางศุ์ก็ไม่ได้ดิ้นหนี แถมไม่ได้มีท่าทีรังเกียจด้วย


...แต่...ถ้าทำมากกว่านั้นอีกนิด มันจะยอมมั้ยวะ? มันจะกลัวรึเปล่า? มันจะคิดว่ากูหื่นมั้ย?...


“หะ?! แล้วไอ้โซ่ทำไง?!”


“ก็...ยังไม่ทันทำอะไร...พอดีแม่มันโทร.มาซะก่อน”


“สรุปว่ามึงกับมันยังไม่ได้กัน อ้าว...แล้วมึงจะไม่คุยกับเพื่อนกูทำไม ตอนแรกกูก็นึกว่ามึงฟันแล้วทิ้งซะอีก” ท่าทีข่มขวัญที่พฤกษาทำเมื่อครู่สลายลงอย่างรวดเร็ว


เจียระไนค้ำศอกลงกับหัวเข่าแล้วก้มหน้าลงกุมขมับ


“กูกลัวหยุดตัวเองไม่ได้”


“ไอ้โซ่ให้มึงหยุดเหรอ”


“เปล่า ก็ตอนนั้นยังไม่ถึงไหน แค่แตะนิดๆหน่อยๆ มันไม่ห้ามก็ไม่แปลกหรอก แต่...แต่ถ้ามากกว่านั้นแล้วมันกลัวขึ้นมา เกิดมันบอกให้กูหยุด แล้วกูไม่หยุดล่ะ?...”


เจียระไนกลัว...กลัวว่าอารมณ์ทั้งหมดของเขาจะทำร้ายคนที่เขารัก สิตางศุ์คือคนที่เขาเฝ้ารอ คือคนที่เขาตั้งใจว่าจะทำทุกอย่างให้อีกฝ่ายมีแต่รอยยิ้ม แต่...แต่ถ้าหาก...ถ้าหากวันหนึ่งมันเสียน้ำตาเพราะเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ขึ้นมา ถ้าคนที่ทำให้มันเสียใจคือเจียระไนคนนี้ เขาจะให้อภัยตัวเองได้ยังไง


“กูว่ามึงควรคุยกับไอ้โซ่เรื่องนี้” พฤกษาแนะนำ ทำเอาคนกำลังกลุ้มต้องหันมอง


“มึงรู้มั้ยว่าทำไมมันเรียนเก่ง มันเรียนเก่งเพราะมันใส่ใจ มันอยากรู้เรื่องไหน แม่งเอาแต่สนใจแต่เรื่องนั้น แล้วตอนนี้...เรื่องที่มันสนใจที่สุดก็คือเรื่องของมึง ไม่งั้นแม่งไม่เอาแต่แชทกับกูในเวลาเรียนหรอก บอกมันเถอะ ว่ามึงอยากได้อะไร มันอาจจะให้ทั้งหมดไม่ได้ แต่กูกล้าพนันว่ามันจะพยายามเท่าที่มันทำได้เพื่อทำให้มึงมีความสุข...”


“...เพื่อนกูคนนี้น่ะ...รู้สึกกับมึงมากกว่าที่มึงคิดนะเว้ย” พฤกษาตบไหล่เบาๆอย่างให้กำลังใจ ก่อนจะก้มลงมองโทรศัพท์มือถือตัวเองที่ดูเหมือนสิตางศุ์จะคงยังรอคำตอบ


“เอาไง คืนนี้มึงจะให้เพื่อนกูไปนอนด้วยอีกคืนมั้ย” เขาหันไปถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆซึ่งเป็นเจ้าของคอนโดหรูที่ร่างโปร่งไปขออาศัยเมื่อวาน เจียระไนสูดหายใจเข้าลึกราวกับตัดใจแล้ว


“ถ้าเพื่อนมึงไม่รอด อย่ามาบ่นกูนะ”


“แหมมมมม...ถ้าเพื่อนกูไม่รอด บ้านมึงก็เตรียมของหมั้นได้เลย จะมาเป็นเขยไออาร์ สินสอดไม่ถูกนะครับ!” พฤกษาพูดแล้วยิ้มก่อนจะก้มหน้าลงกดข้อความเพื่อตอบสิตางศุ์ โดยไม่ลืมให้ว่าที่เขยไออาร์ได้อ่านด้วย


‘มึงไปขออนุญาตย้ายที่นอนกับไอ้โจ๊กก่อน แล้วค่อยมาขอนอนห้องกู’


งานนี้พฤกษาก็รับประกัน ว่าเพื่อนสนิทของเขาไม่มีทางได้ย้ายที่แน่นอน!

......................................

สิตางศุ์ออกจะอึดอัดใจ ตั้งแต่เมื่อวานที่เขาต้องอาศัยนอนห้องเจียระไนแล้วอีกฝ่ายเอาแต่ถอนหายใจโดยไม่อธิบายอะไร เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง หรือจะเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเจียระไนในห้องนอนนั่น


...หรือเก่งไม่พอ? หรือโจ๊กไม่ชอบ?...


...หรือจะเพราะอยู่ดีๆก็มีคนมานอนในห้องด้วย? โจ๊กก็เลยอึดอัด...


จะขอย้ายไปนอนห้องของเพื่อนสนิทอย่างพฤกษาในช่วงที่กุญแจห้องยังมาไม่ถึงก็ไม่กล้า กลัวว่าเจียระไนจะโกรธอีก โชคดีว่าวันนี้อีกฝ่ายมีเรียนบ่าย กว่าจะได้กลับก็เย็นมากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ยังต้องอยู่ด้วยกันในคอนโดหรูห้องนั้นอยู่ดี


แล้ว...เจ้าของห้องก็ยังเอาแต่เงียบ


ร่างโปร่งทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว และเจ้าของห้องใช้ห้องน้ำต่อจากเขา ตอนที่เดินสวนกัน เจียระไนไม่มองเขาด้วยซ้ำ สิตางศุ์รู้สึกเหมือนตัวเองสร้างความลำบากใจให้อีกฝ่าย


มือขาวที่กำลังเช็ดผมตกลงอยู่ข้างลำตัวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี แล้วปล่อยให้เส้นผมที่เพิ่งสระยังคงชื้นอยู่แบบนั้น


...อุตส่าห์ได้อยู่ด้วยกัน ก็นึกว่าจะเหมือนคืนนั้นที่โจ๊กไปค้างที่ห้องซะอีก...


...ทั้งๆที่มีเรื่องอยากจะคุยด้วยเยอะแยะไปหมด แต่...พอโจ๊กเอาแต่ถอนหายใจ ก็...ไม่รู้จะชวนคุยอะไรเลย...


...ทำยังไงดีล่ะ...ทำยังไงดี...


สิตางศุ์ไหลตัวลงนอนราบไปกับโซฟาแล้วหลับตาลง พอได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจบ่อยๆแบบนั้นก็เลยไม่รู้ว่าจะเข้าไปนอนร่วมเตียงด้วยดีรึเปล่า บางทีเจียระไนอาจจะเริ่มอยากได้ความเป็นส่วนตัวคืนแล้วก็ได้


...ไม่น่าเลย...ไม่น่าลืมกุญแจเลย...


“เฮ้ย! หัวมึงยังไม่แห้ง! แล้วทำไมมานอนตรงนี้!” เสียงทุ้มดุดังปลุกคนที่กำลังจะหลับอยู่แล้ว สิตางศุ์ลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย คิดอะไรเพลินๆแปบเดียวก็เผลอหลับจนคนที่เข้าไปอาบน้ำต่อจากเขาอาบเสร็จแล้ว


“อ่า...เผลอหลับน่ะ...” คนที่นอนราบกับโซฟาลุกขึ้นมานั่งขยี้ตา แต่ถูกคว้ามือเอาไว้


“ถ้าจะนอนก็เข้าไปนอนในห้อง แต่ก่อนนอนมึงเป่าผมให้แห้งด้วย กูมีไดร์เออร์ เดี๋ยวเอาให้” เจ้าของห้องสั่ง กำลังจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอน แต่สิตางศุ์รั้งมือเอาไว้


“โจ๊ก...กูนอนตรงนี้ก็ได้นะ...” พูดเรื่องเดิมๆซ้ำสอง ทำเอาดวงตาเรียวตวัดฉับมามอง


“กูคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้ว”


“รู้เรื่องแล้ว แต่...กูไม่อยากให้มึงไม่สบายใจ...ถ้า...เป็นเพราะกูมาค้างกับมึง แล้วทำให้อึดอัด กูนอนตรงนี้ได้ แล้วถ้าพรุ่งนี้กุญแจยังไม่มา เดี๋ยวกูไปนอนห้องไอ้แพท...”


“มึงเป็นแฟนมันเหรอ จะไปนอนห้องมัน”


“ไม่ใช่ แต่กูแค่ไม่อยากให้มึงอึดอัด...ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มึงไม่สบายใจใช่มั้ยที่กูมานอนด้วย กูกะไว้แล้ว มึงเคยอยู่คนเดียว อยู่ดีๆกูก็ต้องมาอยู่ด้วย มึงคงไม่...” ยังพูดไม่ทันจบ ร่างสูงใหญ่ของหนุ่มตาเรียวก็ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันแล้วถามแทรก


“ตอนกูจูบมึง มึงรู้สึกยังไง”


“ก็...ดี...” คำตอบเบาหวิวเพราะคนถูกถามชักจะเขิน


“แล้วตอนกูดึงเสื้อมึงออกจากกางเกงล่ะ” คราวนี้สิตางศุ์ชะงัก ดวงตาคู่สวยหลบวูบมองไปทางอื่น


“เอ่อ...ถ...ถามอะไรน่ะ...”


“กูอยากรู้ว่ามึงพร้อมรึเปล่า” คำถามมีความหมายแฝงอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งพอร่างโปร่งเหลือบตามาสบกับดวงตาเรียวที่มีนัยน์ตาสีดำสนิทนั่น ต่อให้ซื่อบื้อขนาดไหน ก็เข้าใจคำว่า ‘พร้อม’ ที่อีกฝ่ายพูดมา


“กูพูดตรงๆนะโซ่ ที่เมื่อคืนกูถอนหายใจบ่อยๆเพราะกูกลัวว่ากูจะปล้ำมึง” สิตางศุ์เบิกตาโพลงกับคำพูดตรงไปตรงมา แต่พอจะหลบตามองไปทางอื่น มือใหญ่ก็บังคับให้ใบหน้าเอี้ยวหนีไปทางอื่นไม่ได้


“กูอยากจูบมึง อยากกอดมึง อยากจับทุกส่วนของมึง อยากเข้าไปอยู่ในตัวมึง อยากทำให้มึงเป็นของกู อยากอวดให้คนอื่นรู้ว่ากูกับมึงได้กันแล้ว...มึงพร้อมมั้ย?” ร่างโปร่งเหมือนเป็นใบ้ไปชั่วขณะ อ้าปากพะงาบๆพูดไม่ออก ไม่ใช่แค่คำพูดตรงไปตรงมาของเจียระไนที่ซัดเข้ามา แต่รวมถึงความจริงจังและอารมณ์ที่สื่ออยู่ในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นด้วย


“ถ้ามึงพร้อม คืนนี้เราจะเข้าไปนอนด้วยกัน แต่ถ้ามึงไม่พร้อม กูจะไม่ถามอีก แล้วกูจะออกมานอนที่โซฟาเอง”


เจ้าของห้องวางเดิมพัน แต่...สิตางศุ์ยังได้แต่หน้าแดงก่ำ ริมฝีปากเผยอออกแล้วก็หุบเข้าไปใหม่เหมือนเจ้าตัวจะมีคำตอบ แต่ก็ไม่กล้าพูด เจียระไนชักใจแป้ว รอหนึ่งนาทีก็แล้ว สองนาทีก็แล้ว เข้านาทีที่สาม คนผิวขาวจัดแต่หน้าแดงเถือกก็ยังได้แต่สบตาเขาตื่นๆแต่ไม่เปล่งเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียว


...หรือว่าแม่งยังไม่พร้อมจริงๆวะ...


...ฉิบหายแล้วไง...กูว่าแล้วเชียว! เชี่ยแพทบิ้วท์จนกูเทหมดหน้าตัก แต่ผลตอบแทนเป็นศูนย์!!...


“โอ.เค. กูเข้าใจแล้ว เดี๋ยวกูไปเอาหมอนกับผ้าห่มของกูออกมา” เจียระไนลุกจากโซฟาอย่างรวดเร็ว หน้าแตกเป็นเสี่ยงเพราะยื่นข้อเสนอไป แต่อีกฝ่ายไม่สนอง ทว่า...ก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอน เสียงของคนที่นั่งเงียบอยู่ 3 นาทีกลับดังขึ้น


“โจ๊ก...” เจ้าของชื่อหันกลับมามอง สิตางศุ์สบตาแค่แวบเดียว ก่อนจะก้มหน้าลงเอ่ยปากเบาๆ


“...ตอนที่กลับบ้าน กูเห็นพ่อกับแม่อยู่ด้วยกัน แล้ว...แล้วกูก็คิดถึงเรื่องของมึงกับกูขึ้นมา กูอยากอยู่กับมึงแบบที่พ่ออยู่กับแม่ รู้ใจกัน แต่ก็ทะเลาะกันบ้าง มีเรื่องที่ไม่เข้าใจกันบ้าง แต่ก็เรียนรู้กันไปเรื่อยๆแล้วผ่านมันไปด้วยกัน กู...อยากเป็นแบบพ่อกับแม่ กูอยากรู้ใจมึง อยากรู้จักตัวตนของมึง อยากรู้...ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม...”


“มึงจะพูดอะไร” เจียระไนย้อนถามอย่างไม่เข้าใจ


“กู...พร้อมนะ” ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบขึ้นมองอีกหน ใบหน้าขาวแดงซ่านยิ่งกว่าครั้งไหนๆ


“กู...พร้อม...ถ...ถ้ามึงจะ...อยากให้กูได้รู้จักมึงมากกว่านี้”


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)
โจ๊กคือคันเร่ง ส่วนโซ่คือเบรก พระเอกเหยียบคันเร่งฝ่าตะลุยในทุกด่าน ส่วนนายเอก...เหยียบเบรกมันทุกด่านเลยค่ะ กร๊ากกกก ตอนหน้าจะมีเบรกอีกมั้ย เอาไว้เจอกันอาทิตย์หน้าเนาะ (ขอกันง่ายๆอย่างงี้ล่ะ...)

ไม่ว่าจะมีเบรกหรือไม่ แต่ก็กำผ้าเช็ดหน้ากันมาหน่อยเนาะ เผื่อๆไว้ก่อน ฮ่าฮ่า

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามและทุกกำลังใจ (ตอนที่แล้วมีแต่คนเอ็นดูโจ๊กเนาะ พระเอกเรื่องนี้มันน่าสงสารจนมีแต่คนเอ็นดูจริงจริ๊งงงงง) ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-06-2017 21:23:28
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-06-2017 21:30:04
เพ่โจ้กลุยเลยยย ทะลุเบรคเลยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 22-06-2017 21:30:14
วงวารพี่โจ๊กเขานะคะ
ปล.ส่วนน้องโซ่เขินได้น่ากระทำชำเรา​มากค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 22-06-2017 21:34:10
รู้จักกันไปเลยจ๊ะ :impress3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: dear77 ที่ 22-06-2017 21:44:36
 :ling1:

    อยากกกกอ่านต่อ เอาอีก เอาอีก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 22-06-2017 22:06:52
 :laugh: :laugh :laugh:  โซ่เสร็จโจ๊กแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 22-06-2017 22:08:47
โจ๊กลุยยยยยย  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-06-2017 22:10:44
ว๊ายยยยยย. อีโจ๊กกล้าขอโซ่ก็กล้าให้ ฟินไปสิ รอไรละ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 22-06-2017 22:26:55
รู้สึกสงสารโจ๊กและเอ็นดูโซ่ไปพร้อมๆกัน

ฮาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 22-06-2017 22:27:34
อารมณ์กำลังได้ที่กำลังฟินๆเหมือนรถที่มาด้วยความเร็วสูง แต่เจอคนเขียนตัดฉับ เบรกอารมณ์เกือบไม่ทัน ถ้าเป็นรถก็คงพลิกคว่ำค่ะงานนี้55555  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 22-06-2017 22:36:44
น้องโซ่ของพี่จะมีสามีซะล้าววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 22-06-2017 22:38:48
ผ้าเช็ดหน้าซับเลือดใช่ไหมจ๊ะ :z1: :z1:

ลุยเลยโจ๊กกกก โจ๊กสู้เว้ยยยย
แต่ก็ค่อยๆทำความรู้จักกันแล้วกันนะ ไม่ต้องรุนแรง 55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: brenda ที่ 22-06-2017 22:39:50
 :-[ :-[ :-[ ลุ้นๆ ขอให้สมหวังนะ โจ๊ก  รอมาตั้งสองปีแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 22-06-2017 22:40:51
รักพี่โจ๊กอ่าาาาา
ชอบคนแบบนี้จริง ๆ เลย เหมือนจะโหด โคตรน่ารัก
ตอนทำหน้ากลั้นยิ้มน่ารักมากกกกกก

น้องโซ่ลูก หนูรักเขามากเลยรู้ตัวไหม
มีอะไรก็คุยกันนะลูก

ตอนหน้านี่ถึงเวลาแล้วใช่ไหม 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-06-2017 23:08:28
ขอให้โจ๊กเหยีบบคันเร่งผ่านฉลุยที่เถ๊อะๆๆๆๆๆๆๆรอมานานแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 22-06-2017 23:15:37
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 22-06-2017 23:49:14
การตอบคำถามของโซ่นี่ชอบมากกก
มีวาทะที่ดีเหลือเกินค่ะ

รอตอนหน้านะคะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 22-06-2017 23:53:09
ตัดตอนได้ค้างคามาก ฮืออยากอ่านตอนต่อไปแล้ว

โจ๊กขอแล้วโซ่ก็ตอบตกลง แต่จะจบแบบไหนน้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 22-06-2017 23:55:02
คนศึกษากกัน เค้าต้องได้กันด้วยหลอคะ สงสัยจัง :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-06-2017 23:55:48
คนพร้อมแล้วอุปกรณ์ล่ะ
ทางนี้ผ้าพร้อมหมอนพร้อมมค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 23-06-2017 00:05:25
เอาจริงนี้สงสารโจ๊กนิดๆ
คือแบบดูทุ่มหมดใจ เทหมดหน้าตักมากอะ
แล้วโซ่คือมือใหม่เรื่องรักงัย
อาจจะมีตามไม่ทันบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง
เลยอดสงสารโจ๊กไม่ได้ 5555

เตรียมผ้าเช็ดหน้ารอตอนหน้าแล้วค่ะ
หวังว่าจะได้เอามาเช็ดกำเดานะคะ
ไม่ใช่เอามาเช็ดน้ำตาเน้อ
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 23-06-2017 00:10:54
โอ้ยยยยยย รอเลยข่ะะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 23-06-2017 00:15:34
โอ้โหห กำผ้าแน่น เค้าพร้อมทั้งคู่เลยค่ะ รอๆๆๆ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 23-06-2017 00:47:06
เบรคแตกแน่  o18
ชอบผู้ชายแบบโจ๊กจัง เป็นพระเอกนิยายไม่กี่เรื่องที่อยากได้มากจริงๆอะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 23-06-2017 00:53:26
เบรกเหอะ
ทรมานโจ๊กต่อไปอีกนิด (หัวเราะ)
ไม่ใช่ๆ คืออยากให้โจ๊กได้ค่อยๆ ละเลียดมากกว่า
ค่อยๆ ตอดไป มันก๊าวหัวใจนะเฟ้ยยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 23-06-2017 01:11:26
เอาตรงๆนะ อ่านตอนนี้แอบรำคาญทั้งคู่

รำคาญโจ๊กที่มีไรไม่พูด  รำคาญความบื้อของโซ่

ถ้าเป็นชีวิตจริงสองคนนี้จะคบกันไม่รอดเพราะมีไรไม่เคยพูดกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-06-2017 02:26:39
ตัดได้ใจร้ายมากค่ะ กำลังค้างเลย 555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 23-06-2017 02:39:03
เง้ออออออออออออ คนกันเอง ลดเป็นซักวันจันทร์ไม่ได้หรอ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-06-2017 03:21:27
ได้แต่หวังว่าโซ่จะไม่ทำให้โจ๊กกลายเป็นพระเอกแบบกากๆไปมากกว่านี้นะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2017 04:22:22
สถานการณ์ชักนำให้โซ่ มาพักห้องโจ๊ก  :ling1: :ling1: :ling1:
ได้ใกล้ชิดกันเพิ่มกว่าเดิม
กลัวโซ่เจอกุญแจห้องที่โจ๊กแอบทำไว้น่ะสิ

โซ่ ได้รับกอดจากโจ๊กครั้งแรก  :mew1:
และโจ๊ก ก็จูบดีพคิสครั้งแรกซะด้วย  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 23-06-2017 06:28:29
ตอนนี้โจ๊กก็เป็นคนกากที่ใจกล้าขึ้นอีก
สู้ๆ55555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 23-06-2017 08:27:41
โจ๊ก ต้องทะนุถนอมน้องโซ่นะ  :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 23-06-2017 09:09:48
แอร๊ยยยยยยย สวรรค์เปิดประตูแล้วพี่โจ๊กกกกกก เขินแทนพี่โซ่เลย พี่โจ๊กพูดขอตรงๆแบบนี้  :-[  อยากรู้ว่าพอพี่โจ๊กเจอประโยคแสดงความต้องการของโซ่ออกไปแบบนี้ พี่โจ๊กจะยังเก็กไม่ยิ้มได้อยู่ไหม? น่ารักเนอะ ดี๊ดี  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 23-06-2017 09:24:03
มีอะไรก้คุยกันงี้อะถูกแล้วว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-06-2017 09:31:22
ได้ยินได้รับรู้ว่าโซ่คิดอะไรแบบนี้ โจ๊กไม่ช็อคไปเลยเหรอ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 23-06-2017 09:35:30
วันที่โจ๊กรอคอย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 23-06-2017 09:38:53
อหหหหหหหหหห กอดโจ้ก หนูไม่ควรคาดหวังนะลูก เดี๋ยวเราจะเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ถถถถถถถถถ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 23-06-2017 09:42:28
ใจเย็น ๆ โจ๊ก 55+ คนบื้อบทจะตรงก็ตรงมาก หลายดอกจนโจ๊กไม่รู้จะเละยังไงแล้ว
หวังว่าคืนที่สองของสองคนจะผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 23-06-2017 09:48:38
โอ้ยยย อยากให้ถึงพฤหัสหน้าไวๆค่ะ
โจ๊กมันจะเหยีบมิดคันเร่งเลยมั้ย
โฮกกก ขอให้เป็นแบบที่หวังนะเคอะ ขอให้พี่โจ๊กได้สมหวังไวๆ  :haun4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 23-06-2017 09:52:15
เพิ่งได้อ่าน.... สนุกมาก ลุ้นว่าเมื่อไหรโจ๊กจะเลิกกาก 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 23-06-2017 11:34:11
กับโซ่ ต้องตรง ๆ เท่านั้น ฮ่า ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 23-06-2017 12:09:56
เตรียมทิชชู่รอ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 23-06-2017 12:55:48
คนอ่านพร้อมนานแล้ว  :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 23-06-2017 13:07:43
อ้าว ซะงั้นเหมือนพามาให้อยากแล้วให้รออีก 1 อาทิตย์ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 23-06-2017 15:59:39
รอตอนต่อไปค่ะ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: 1andonly ที่ 23-06-2017 16:54:06
A lovely story with reasonable contents. Good job.
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: CattyMeawMeaw ที่ 23-06-2017 19:10:38
หวังว่าโจ๊กเราจะไม่ล่มปากอ่าวนะ เอาใจช่วยยยย
กัดผ้าเช็ดหน้ารอ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 23-06-2017 19:14:52
ผ้าเช็ดหน้านี่เอาไว้ซับเลือดหรือซับน้ำตาคะ ฮ่าๆ ตลกอิโจ๊กตรงหมุนคอ ถ้าแกหมุนได้ก็บ้าแล้ว อิผีบ้า นี่คนอ่านจะเป็นไบโพล่าร์ตามโจ๊กรึเปล่าเนี่ย แต่ว่านะโจ๊กบรรยายโซ่ซะเห็นภาพเลย กลืนน้ำลาย  :z1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 23-06-2017 19:15:49
โอ้ยยย ดิ้นนนนน ๆๆ
อยากหลับตาแล้วตื่นมาเป็นวันพฤหัสหน้าเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 23-06-2017 20:08:18
พี่โจ๊กทำให้เบรคแตกไปเลยลูกพี่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-06-2017 20:21:38
ลุยเลยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 23-06-2017 22:18:13
ขอฟันธง ว่าล่มแน่นอน 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 24-06-2017 00:09:25
โซ่ ๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมเป็นคนแบบนี้ ไหนว่าเป็นคนที่ศึกษาล่ะ เรียนรู้วิธีก็ได้หรอ 55555
โซ่เอ้ยยย รักเค้าแล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว

ตลกโจ๊ก จะเวิ่นอะไรขนาดนั้น แถมอาการหนัก ยิ่งกว่าคนเก็บกด
โจ๊กแย่แน่ ถ้าโซ่พร้อมแล้ว หลังจากนั้นโจ๊กจะยิ่งเป็นหนัก 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 24-06-2017 06:37:13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 24-06-2017 08:44:21
โอ้ยยยชอบบบบบบบ อยากได้โซ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะอาววววววว  เกรงว่าโจ๊กจะชวดอีกเนื่องจากโซ่แสนดีเกินไป55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 24-06-2017 20:37:11
อย่าทำให้โจ๊กกากไปมากกว่านี้เลยค่ะ โดนเบรกตลอด ให้โจ๊กได้พุ่งชนซะบ้าง 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 24-06-2017 22:13:26
ขืนตอนหน้ามีเบรค คงมีบางคนตายคาที่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-06-2017 00:29:38
อิโจ๊กอะไรจะไฟแรงสูงขนาดนั้น!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Aomoto ที่ 25-06-2017 10:30:58
อ้ากกกกก....อยากจะกรี๊ด ทำมายยยมาตัดจบตอนนี้ ลุ้นตอนต่อไปคะ ตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 25-06-2017 21:22:24
เง้ออออ~~ โซ่สนองแล้ว รีบคว้าล่ะ อย่ามัวแต่พระเอก ไม่งั้นจะต้องพึ่งเมียทั้ง 5 อีกนาน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 27-06-2017 09:59:53
ตามทันแล้วจ้าาาา โจ๊กเข้ากียร์ใส่คันเร่งให้เต็มที่อย่าให้โซ่เบรกได้เลยนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 27-06-2017 23:36:28
ตอนที่15แล้ว โจ๊กจะไม่นก 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 29-06-2017 18:43:37
 :katai4:
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-06-2017 21:09:00
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
……………………..
ตอนที่ 16

   สิตางศุ์เกร็งไปทั้งตัว อ้อมแขนร้อนผ่าวโอบกอดเขาเอาไว้ทั้งร่าง ริมฝีปากตะโปมจูบทั่วทั้งหน้า เจียระไนกำลังทำตามที่พูดทั้งหมด


...ครอบครองทั้งตัว สัมผัสทั้งตัว เป็นเจ้าของทั้งตัว...


แม้จะพร้อมอย่างที่เอ่ยปาก แต่ความหวาดหวั่นกลับโหมเข้ามาในใจไม่หยุด สองมือขยุ้มเสื้อของร่างสูงแน่น พยายามตอบรับรสจูบร้อนแรงนั่น ยอมเปิดปากรับการแทรกสอดด้วยปลายลิ้น ทว่าพอถูกรุกล้ำแล้ว รสจูบก็ยิ่งดุเดือดแตกต่างจากที่เคยมา


“อื้อ...” ร่างโปร่งได้แต่ข่มตาลงหลับ พยายามเรียนรู้สัมผัสหนักหน่วงที่บดขยี้ลงมา แต่...มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป จากความอ่อนโยนที่เคยได้รับ กลับกลายเป็นจาบจ้วงรุนแรงราวกับโหยอยาก ยิ่งพอฝ่ามือร้อนล้วงเข้ามาในเสื้อนอน ร่างทั้งร่างก็สะท้านเฮือกด้วยความขลาด


ทว่า...จู่ๆ มือที่สอดเข้ามาในเสื้อก็ถูกดึงออกไปพร้อมๆกับจูบที่หยุดลง


“โจ๊ก?...” สิตางศุ์ลืมตาขึ้น เอ่ยเสียงเบาอย่างงุนงง พายุโหมกระหน่ำเมื่อครู่นี้กลายเป็นความนิ่งสงบในชั่ววินาที ดวงตาเรียวที่จับจ้องมาที่เขาแม้จะยังเต็มไปด้วยความต้องการแต่มีสติเต็มร้อย


“มึงแน่ใจเหรอว่าพร้อม”


“...น...แน่”


“แล้วทำไมถึงสั่นขนาดนี้”


“อ่า...ก็...ก็...” สิตางศุ์ไม่กล้ายอมรับว่าเพราะเขาไม่เคย แม้กระทั่งกับผู้หญิง เขาก็ไม่เคยมาไกลถึงขั้นนี้ด้วยซ้ำ กับเจียระไนเป็นคนแรก...คนแรกที่สัมผัสเขาถึงเพียงนี้


“มึงยังไม่พร้อมหรอกโซ่”


“แต่...”


“มึงอย่าพูดว่าพร้อมเพราะกลัวกูโกรธ อย่าดูถูกกูแบบนั้น”


“อ่า...ขอโทษ...”


เจียระไนสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่มองคนผิวขาวจัดที่ใบหน้าแดงก่ำ แถมปากช้ำเจ่อ แต่...ลูกตาไม่รักดีก็เอาแต่จะเหลือบกลับมามองอยู่นั่น


...ดูยังไงก็น่าเอา แต่ถ้าสั่นเป็นลูกหมาแบบนี้ กูจะทำลงได้ยังไง...แล้วถ้ามันสั่นไปทั้งชาติ กูไม่อดแดกไปทั้งชาติรึไง?! ต้องทำอะไรสักอย่าง! กูต้องทำสักอย่าง!...


“มึงช่วยตัวเองเป็นมั้ย”


“หา?” จากตื่นตระหนกกลายเป็นเบิกโต


“กูถาม ตอบมา”


“ก็...ก็เคยทำเอง...” คนตอบยอมตอบเสียงเบา แต่ใบหน้าก้มต่ำเพราะไม่กล้าสบตา เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องส่วนตัว จะให้มาถามตอบกันตรงหน้า สิตางศุ์คนขี้อายก็รู้สึกแปลกๆ


“งั้นมาช่วยกู” ความรู้สึกที่พุ่งพล่าน ยังไงก็ต้องมีทางออก แต่ถ้าขืนจบคืนนี้ด้วยการแยกย้ายทางใครทางมันไปทำกันเอง นอกจากจะไม่สมเป็นผู้ชายที่ชื่อเจียระไนคนนี้แล้ว มีหวังชาตินี้ทั้งชาติสิตางศุ์ก็คงสั่นทุกครั้งที่เขาแตะต้อง


...เพราะฉะนั้น...คืนนี้ ‘มือ’ ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่มือกูอย่างเดียว!...

.........................................

ร่างโปร่งที่ยังอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นถูกเบียดแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างร่างสูงใหญ่ของเจียระไนและผนังกระเบื้องห้องน้ำ กระเบื้องที่ว่าเย็น กลับไม่อาจทำให้หัวใจสงบลงได้เลย มันร้อนวูบวาบพอๆกับผิวแก้มที่ถูกจูบไซ้ด้วยริมฝีปากและไรหนวดแข็งๆ ในขณะที่เสียงทุ้มยังคงครางต่ำอยู่ข้างหู


“ขยับอีก...อื้ม...ดี...” มือขาวที่กอบกุมความแข็งแกร่งเบื้องล่างของเจียระไนนั้นถูกจับซ้อนด้วยมือใหญ่อีกที และถูกชักนำให้ขยับรูดรั้งไปตามแรงอารมณ์ของคนตัวสูงกว่า แม้จะเคยมีประสบการณ์ทำให้ตัวเองมาบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้แตะต้องของคนอื่น


มือขาวเงอะงะงุ่มง่ามอย่างกล้าๆกลัวๆ เหมือนกำลังจับต้องกับอะไรสักอย่างที่ไม่รู้จักมาก่อน มันร้อนผ่าว แข็งขืน และใหญ่โต


สิตางศุ์ทั้งเขินทั้งอาย ไม่กล้าก้มหน้าลงมองว่ามือตนเองกำลังทำอะไร ได้แต่ซุกหน้าอยู่กับลาดไหล่กว้าง กัดริมฝีปากกลั้นความรู้สึก


“โซ่ กูทำให้มึงมั้ย” เสียงทุ้มถามเบาที่ข้างหู ดวงตาคู่สวยหันไปมองอย่างตื่นตระหนก พยายามดันตัวออกห่างจากอีกฝ่ายเมื่อรู้ว่าเขาเองก็เริ่มมีอารมณ์เช่นกัน


...ก็...ใครให้มาครางเบาๆอยู่ข้างหูแบบนี้ล่ะ อย่างกับดูหนังโป๊แล้วมีอารมณ์เพราะเสียงเลย...


“กูทำให้” ในเมื่อไม่คำตอบ เจียระไนก็ไม่ถามซ้ำแต่ปลดกางเกงเอวยางยืดของอีกฝ่ายลง อารมณ์ที่หลั่งไหลลงไปวิ่งวนที่กลางหว่างขาทำให้สิตางศุ์เองก็ร้อนรุ่มเช่นกัน


“อ่ะ...โจ๊ก...ยะ...อ๊ะ...ไม่...อื้อ...”


ใจจริงอยากปฏิเสธ แต่พอถูกมือใหญ่กอบรวบเข้าไปหาความแข็งขืนของเจียระไน เขาก็ทำได้เพียงครางฮืออย่างอับอาย


“แบบนี้ดีมั้ย” แบบนี้ที่ว่าคืออารมณ์กำหนัดที่แนบสัมผัสกัน แล้วถูกชักรูดด้วยมือใหญ่ สิตางศุ์ไม่กล้าตอบ ได้แต่ครางแผ่วในคอแล้วฝังหน้าลงกับไหล่ จนคนถามต้องใช้มืออีกข้างบังคับใบหน้าแดงก่ำให้เงยขึ้นมาสบตากัน


“ดีมั้ย...หื้ม?” ดวงตาคู่สวยหวานฉ่ำคลอด้วยน้ำใส ผิวแก้มแดงเรื่อ ส่วนริมฝีปากนั้นได้แต่ขบเม้มเข้าหากัน ทว่าพอมือของเจียระไนขยับแรงๆ การกลั้นเสียงของสิตางศุ์ก็ไร้ความหมายอีกต่อไป


“อ๊ะ...โจ๊ก...อื้อ...เจ็บ...”


“ถ้าทำช้าๆ มันจะไม่เสร็จ”


“อื้อ...แต่...แต่มันเจ็บ...อ๊ะ...”


“ทนหน่อย”


“อือ...อ๊ะ...ก...ก็ได้”


“ก็ได้คืออะไร”


“ทำแรงๆก็ได้...อ๊ะ...อ๊า...”


ทันทีที่ได้คำอนุญาต มือใหญ่ก็เริ่มขยับรูดรั้งรุนแรงให้สองแท่งร้อนเสียดสีกันใต้การกอบกุม เสียงครางดังอื้ออึงก่อนจะจางหายเมื่อริมฝีปากเลื่อนเข้าบดเบียดกันและกัน


รสจูบหนักหน่วง แทรกสอดด้วยปลายลิ้น ยิ่งอารมณ์จากเบื้องล่างถูกกระตุ้นมากเท่าไร จูบของพวกเขาก็ยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเท่านั้น ฝ่ามือใหญ่นำพาอารมณ์พุ่งทะยานขึ้นไปถึงขีดสุด ก่อนจะทะลักหยาดหยดออกมาเปรอะเปื้อนจนเหนียวเหนอะ


“อ่า...อ๊ะ...” สิตางศุ์อ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว แทบไม่มีแรงแม้แต่จะยืนด้วยซ้ำ ต้องพิงร่างลงกับคนตัวใหญ่กว่า แผ่นอกหนาที่เขาแพะพิงยังขยับขึ้นลงเพราะอาการหอบกระชั้น ทว่า...มือของเจียระไนกลับยังคงไม่ปลดปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระจากกันเลย มันลูบไล้แผ่วเบาจนร่างโปร่งต้องประท้วง


“โจ๊ก...มันเลอะ...อื้อ...ไม่จับแล้ว”


“ครั้งเดียวพอเหรอ”


“แล้ว...แล้วมึงจะเอาอีกเหรอ?” ดวงตาคู่สวยเบิกโตแล้วร้องถามอีกหน


“มึงบอกว่าจะศึกษากู แต่เมื่อกี้ มีแต่กูที่จับของมึง”


“ก็...ก็...ตอนแรก...กู...กูก็จับแล้วไง”


“แต่ไม่ได้ชัก”


“ง่า...”


“อีกรอบ แต่คราวนี้มึงทำ”


“แต่กูเหนื่อยแล้ว...”


“มึงอายุเท่าไร ครั้งเดียวเหนื่อยเนี่ยนะ กูพาไปวิ่งสายพานมั้ย เป็นโรคหัวใจรึเปล่า” ปากล่อหลอกถามไปเรื่องโรคหัวใจ แต่มือบังคับอีกฝ่ายให้จับต้องกันและกันอีกหนแล้ว


“กูเหนื่อยจริงๆอ่ะ...อ๊ะ...อื้อ...ม...ไม่เอามาถูกันแล้วได้มั้ย มันแบบ...อ๊ะ...อื้อ”


สิตางศุ์พูดไม่เป็นประโยคอีกแล้ว แม้ปากจะว่าเหนื่อย แต่พอถูกบังคับให้ลองจับรวบแก่นกายทั้งสองเข้าด้วยกัน อารมณ์หวามจากการเสียดสีก็ไหลพล่านไปทั้งร่างอีกหน


เสียงครางดังก้องในห้องน้ำอีกพักใหญ่ ก่อนที่การเรียนรู้กันและกันในค่ำคืนนี้จะจบลง

.........................

พฤกษาเดินเตร่จากป้ายรถรับส่งของมหาวิทยาลัยมาที่คณะ แวะทักทายน้องๆปีหนึ่งตามประสาพี่ปีสี่ที่มีมนุษยสัมพันธ์อันดี แล้วค่อยเดินตรงไปยังตึกเรียน วันนี้เขามีเรียนคาบบ่าย วิชานี้ลงเรียนพร้อมกับอลงกตและสิตางศุ์ แต่รายแรกไปเที่ยวกับทางบ้าน กลับมาไม่ทันเปิดเทอม ส่วนรายที่สอง...ก็น่าจะไม่มาเช่นเดียวกัน


เผลอๆ อาจจะต้องไปเยี่ยมหลังเลิกเรียนด้วยซ้ำ เพราะนอนซมลุกไม่ขึ้น อันเนื่องมาจากอาการเคล็ดขัดยอกหลัง ‘ออกกำลังกาย’


คิดสัปดนตามประสานายพฤกษาแสนทะเล้นได้ไม่เกินหนึ่งนาที สายตาก็เหลือบไปเห็นโต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกเรียน ปกติแล้ว โต๊ะม้าหินพวกนี้ไม่มีการระบุเจ้าของชัดเจน ใครผ่านไปผ่านมาก็นั่งได้ แต่...กลุ่มพวกเขาสามคนเป็นขาประจำที่มักจะแวะไปนั่งตรงนั้นบ่อยที่สุด


และตอนนี้หนึ่งในกลุ่มของพฤกษาก็กำลังนั่งอยู่ตรงนั้น


...ไอ้โซ่!...มาเรียนได้ไงวะ?!!...


“โซ่” พฤกษาก้าวเท้าไวๆตรงเข้าไปหาด้วยความงุนงงผสมตกใจ ยิ่งหันไปเห็นคนที่นั่งร่วมโต๊ะกับสิตางศุ์เป็นเจียระไน ก็ยิ่งงงหนัก


... พวกมันควรจะปรับความเข้าใจกันแล้ว แล้วก็ได้กันเปล่าวะ?! แล้วถ้ามันได้กัน ก็ควรจะขาดเรียนเพราะไอ้โซ่ลุกไม่ไหวงี้สิ?!!...


“อ้าว แพท นั่งดิ” คนผิวขาวจัดเงยหน้าจากหนังสือที่เปิดกางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาส่งยิ้มให้อย่างสดใส ไร้ซึ่งความอ่อนล้าโรยแรงใดๆ


...อะไรวะ?! นี่ยังไม่ได้กันเรอะ?!...


พฤกษาทรุดตัวลงนั่งอย่างงงๆ แต่ไม่วายหันไปมองเจียระไน ไอ้หนุ่มปกครองตาเรียวมองกลับ แต่ไม่พูดอะไร


“กูเอาของมาฝากด้วย” สิตางศุ์ส่งถุงของฝากจากบ้านเกิดให้ แต่เวลานี้พฤกษาไม่ได้คิดถึงของฝากเลยแม้แต่นิด สิ่งเดียวที่อยากรู้คือ...ได้กันรึยัง?


“อ่า...ขอบใจ...เอ่อ...กู...นึกว่าวันนี้มึงจะไม่มาซะอีก”


“ทำไมถึงคิดว่ากูจะไม่มาล่ะ วันนี้มีเรียนนะ” คนซื่อย้อนถามอย่างงุนงง ทำเอาคนคิดสัปดนมาตั้งแต่แรกรู้สึกบาปขึ้นมาทันที ทว่าเขาไม่ทันตอบอะไร เสียงหนึ่งที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้น


“พี่ซอโซ่แห่งพรหมลิขิตของน้องงงงงง” ติซซี่ ปีสองผู้ตั้งตนเป็นเอฟซีสิตางศุ์พุ่งถลาเข้ามาที่โต๊ะที่นั่งกันอยู่สามคน แต่เจ้าตัวส่งสายตาให้รุ่นพี่ในดวงใจเพียงคนเดียว


“ติซซี่คิดถึ้งคิดถึงค่ะ! กลับจากกระบี่ ทำไมไม่ดำขึ้นเลยล่ะคะ” ปากถาม มือคว้าแขนขาวๆของสิตางศุ์มาพลิกซ้ายพลิกขวา ทำเป็นส่องหาความคล้ำ


...อ๊ะหือออออ...ขาวอย่างกะเอาโอโม่มาถูทุกวันอย่างงั้นแหละ!!! เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวๆๆๆๆ...


“รู้ได้ยังไงว่าพี่กลับกระบี่?” ติซซี่มองข้ามศีรษะรุ่นพี่ผิวขาวจัดไปยังคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์เงียบๆ แน่นอนว่าการมองของรุ่นน้องปีสองย่อมเป็นการมองอย่างโจ่งแจ้งด้วยการย้ายสายตาไปทางเจียระไนให้เห็นโต้งๆ


“ก็พี่โจ๊กขาขี้อวด!”


“โจ๊กอวด? อวดอะไร” สิตางศุ์ถามทั้งคนพูด ทั้งเจ้าของชื่อในคราวเดียวกัน ติซซี่ไม่รอให้ใครหน้าไหนตอบทั้งนั้น เพราะเจ้าตัวกระแซะลงนั่งร่วมเก้าอี้เดียวกับ ‘พี่โซ่’ แล้วกดโทรศัพท์อย่างรวดเร็วก่อนจะส่งให้ดูเวปไซต์สังคมออนไลน์ชื่อดัง โพสต์หนึ่งที่ปรากฏนั้น มีรูปเค้กชื่อดังของจังหวัดตรัง พร้อมข้อความกำกับจากเจ้าของโพสต์ว่า


‘เค้กตรังจากคนกระบี่’


สั้นๆ ง่ายๆ แต่ไม่มีคำเฉลยว่าคนกระบี่ที่ว่าคือใคร แต่ทั้งอย่างนั้นก็มีคอมเม้นท์จากเหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่เข้ามาส่งคำใบ้ คำตอบเรื่องคนกระบี่กันเป็นร้อย


“ดูรูปที่พี่โจ๊กขาเอาลงสิคะ! ต่อให้เอาสมองออกไปจากกะโหลกติซซี่ตอนนี้ ติซซี่ก็รู้ค่ะ ว่าคนกระบี่เจ้าของเค้กตรังน่ะใคร?!” ทั้งน้ำเสียงทั้งสีหน้า บอกให้รู้ว่าติซซี่อิจฉาคนขี้อวดแค่ไหน ทว่าสิตางศุ์กลับหัวเราะเบาๆแล้วหันไปมองเจ้าของโพสต์ตัวจริงที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้น


“ขี้อวดว่ะโจ๊ก”


“ใช่ค่ะ พี่โจ๊กขาขี้อวด พี่ซอโซ่ไม่คิดจะกลับมาออนไลน์บ้างเหรอคะ ทุกๆคนเขารอพี่กันอยู่นะ ติซซี่ด้วยคนนึง”


“พี่จำรหัสผ่านไม่ได้แล้ว” สิตางศุ์ตอบเสียงอ่อย ไม่แน่ใจนักว่าตนเองเลิกเล่นก่อนที่จะจำรหัสไม่ได้ หรือจำรหัสไม่ได้ก็เลยเลิกเล่นด้วยซ้ำ


“ก็ขอใหม่สิคะ ติซซี่ขอให้ ง่ายจะตาย เอารหัสเป็นเบอร์โทร.ของติซซี่แมะ?!”


“พี่จำเมลไม่ได้ด้วยน่ะสิ”


“งั้นสมัครใหม่แม่งให้หมดเลยคร่ะ! ติซซี่สมัครให้!”


“ไม่ต้องสมัคร” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียบๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะส่งโทรศัพท์ตัวเองให้


“อยากเล่นมาเล่นของกู”


“ขอติซซี่แหมดังๆได้มั้ยคะ แหมมมมมมมมม!!!!...” จริตจะก้านของหนุ่มรุ่นน้องทำเอาสิตางศุ์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะถูกติซซี่ชวนคุยต่อ เขาไม่ได้หันไปสนใจทั้งพฤกษาและเจียระไนอีก เลยเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่อุตส่าห์เชียร์สุดลิ่มทิ่มประตูตั้งแต่เมื่อวาน ขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ไอ้หนุ่มปกครองมากขึ้นแล้วกระซิบถามเบาๆ


“โจ๊ก...สรุปว่าไงวะ มึงยังไม่ได้กับเพื่อนกูเหรอ” ดวงตาเรียวตวัดมามองคนถาม เย็นชาและเรียบเฉยแตกต่างจากที่ใช้มองสิตางศุ์ลิบลับ


“เสือก”


“เออ กูยอมรับก็ได้ว่ากูเสือก กูอยากรู้”


“มึงอยากรู้ก็เรื่องของมึง ไม่เกี่ยวกับกู”


“เอ้า! ไอ้สัด! ก็นี่เรื่องของมึง กูก็ต้องมาถามมึงสิวะ”


“มึงก็รู้ว่าเรื่องของกู แล้วมึงจะเสือกอีกทำไม” พฤกษาคันปากยิบ อยากรู้ว่าสรุปแล้วเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยอมรับว่าสอดรู้สอดเห็นมาก แต่...แต่ก็สอดรู้สอดเห็นมาตั้งแต่แรกนี่หว่า! จะให้มาหยุดเอาตอนนี้ได้ยังไงล่ะ?!!...


“ก็...” ยังไม่ทันจะหาเหตุผลมาโน้มน้าวให้เจียระไนยอมพูด ติซซี่ก็ลุกขึ้นโบกมือลาเพื่อขอตัวไปเรียน สิตางศุ์เลยหันมาทางสองหนุ่มที่กำลังโต้ตอบกันเบาๆแทน


“คุยไรกันอ่ะ”


“เปล่า” พฤกษารีบตอบ ซึ่งก็สมเป็นสิตางศุ์ เพราะพอเพื่อนบอกว่าเปล่า เจ้าตัวก็ไม่ซักไซ้อะไรอีก


“เข้าเรียนกันมั้ย อีกสิบนาทีจะบ่ายโมงแล้ว” คำชวนของร่างโปร่งผิวขาวจัดเป็นการปิดวงจรของคนขาเผือกอย่างพฤกษาอย่างทันที หนุ่มทะเล้นแสนอยากรู้ได้แต่รับคำอย่างเซ็งๆแล้วลุกจากโต๊ะม้าหินเดินเข้าตึกเรียน


คาบบ่ายวันนี้ สิตางศุ์ลงเรียนวิชาเดียวกับอลงกตและพฤกษา ส่วนเจียระไนก็มีเรียนเช่นเดียวกัน แม้จะเรียนคนละวิชา คนละห้อง คนละชั้น แต่ก็เรียนตึกเดียวกัน ทว่าตอนที่กำลังจะแยกกันที่บันไดซึ่งหนุ่มปกครองต้องขึ้นไปเรียนที่ชั้นสองนั้น หญิงสาวร่างผอมบางกลับวิ่งตึงตังลงมา


นิตา...วิ่งผ่านพวกเขาสามคนออกไปนอกตึกเรียน หล่อนวิ่งชนสิตางศุ์ด้วยซ้ำ คนผิวขาวจัดหันมองด้วยความตกใจและนั่นทำให้เขาเห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างของหญิงสาวเพื่อนร่วมรุ่น


“มีไรวะ โซ่” พฤกษาถามที่เพราะเห็นเพื่อนสนิทมองตามหลังนิตาตาไม่กะพริบ


“กูว่า...กูเห็นนิตาร้องไห้...” คำพูดของสิตางศุ์ทำเอาเจียระไนชะงักต้องหันไปถาม


“ร้องไห้?”


“อืม...คิดว่าเห็นน้ำตานะ เป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้...” คนใจดีที่มักจะเป็นห่วงคนรอบข้างอยู่เสมอก้าวเท้าจะเดินตามออกไปดู แต่ถูกคว้าแขนเอาไว้อย่างรวดเร็ว


“มึงจะไปไหน” คนคว้าไม่ใช่ใครที่ไหน เจียระไนนั่นเอง


“ออกไปดูไง ไม่รู้เป็นอะไรรึเปล่า” ร่างสูงชะงักกึก หัวสมองประมวลผลอย่างรวดเร็ว ถ้านิตาร้องไห้จริงแล้วสิตางศุ์ตามไปเห็นน้ำตาจริง งานนี้มีหวังได้ซับน้ำตากันตำตาไอ้โจ๊กคนนี้แน่


“มึงไม่ต้องไป”


“แต่ว่านิตา...”


“เดี๋ยวกูไปดูให้เอง เข้าเรียนได้แล้ว แล้วเจอกันตอนเย็น” เจียระไนว่าอย่างนั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากตึกเรียนตามหลังอดีตคนรักอย่างนิตาไป


“มึงนี่สมเป็นมึงจริงๆว่ะ” เสียงของพฤกษาดังขึ้น ทำเอาสิตางศุ์ที่กำลังมองตามหลังเจียระไนที่หายลับออกไปจากตึกด้วยความเป็นห่วงเพื่อนร่วมรุ่นอย่างนิตาต้องหันมอง


“หืม? สมเป็นกูคืออะไร?”


“ใจกว้างเหมือนเอาแปซิฟิกมารวมกับแอตแลนติก”


“ใจกว้าง?...หมายถึงกูใจกว้างเหรอ? เรื่องไหน”


“วุ้ย! ก็ใจกว้างให้แฟนเก่าเขาตามไปเช็ดน้ำตากันไงล่ะ! เออๆ...แต่มึงก็ไม่ต้องห่วงหรอก ไอ้เชี่ยโจ๊กเช็ดน้ำตาใครเป็นที่ไหน เผลอๆเห็นใครร้องไห้ แม่งด่าอีก ไป ไปเรียน กูไม่อยากโดนเช็คชื่อสายคาบแรก” แล้วพฤกษาก็หมุนตัวเดินนำไปห้องเรียน สิตางศุ์มองตามหลังเพื่อน ก่อนจะหันไปมองที่หน้าตึกเรียนอีกครั้ง แต่เขาไม่เห็นทั้งเจียระไนและนิตาแล้ว


...แต่...ไม่มีอะไรหรอก...แฟนเก่าก็เป็นเพื่อนกันได้ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย...

...............................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 29-06-2017 21:09:20



เลิกเรียนแล้ว แต่วันนี้ก็ยังคงเป็นอีกวันที่สิตางศุ์ต้องมาค้างที่คอนโดของคนที่กำลังศึกษาดูใจกัน


ตั้งแต่เมื่อคืนที่ได้เรียนรู้กันและกันไปอีกขั้น ก็พลอยทำให้การใกล้ชิดกันของพวกเขาเริ่มขยับเข้าใกล้กันมากกว่าแต่ก่อน อย่างเช่น...การนั่งดูโทรทัศน์ด้วยกันบนโซฟาตอนหัวค่ำ โดยที่แขนข้างหนึ่งของเจียระไนวางพาดไปบนพนักด้านหลังของสิตางศุ์ แล้วใช้ปลายนิ้วพันปลายผมที่ละต้นคอขาวเล่น


   “วันไหนมึงไม่เรียนมั่ง” พันนิ้วเล่นกับปลายผมไป ปากก็ถาม แม้ตาจะดูโทรทัศน์ก็ตาม


   “วันศุกร์ตอนบ่ายไม่มีเรียน ทำไมเหรอ” ส่วนคนตอบ ละสายตาจากโทรทัศน์มามอง ปากเคี้ยวผลไม้ตุ้ยๆ


   “จะพามึงไปหาม้า จะได้เอาของฝากไปให้ เดี๋ยวกูถามม้าก่อนว่าว่างศุกร์ไหนบ้าง ชวนม้ากินแหนมเนืองด้วย” แล้วคนพูดก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดส่งข้อความด้วยมือเพียงข้างเดียว


   “ไหนแต่ก่อนเคยบ่นว่าไม่ชอบพิมพ์เมสเซจไง ทำไมพิมพ์คล่องงี้” สิตางศุ์หันไปถาม เขายังจำได้ว่าช่วงแรกๆที่สนิทกับเจียระไน ฝ่ายนั้นตอบเมสเซจเขานับครั้งได้ ส่วนใหญ่โทร.คุยกันมากกว่า


   “ก็ตอนนั้นอยากได้ยินเสียงมึง...” คำตอบเรียบๆ แต่ทำเอาคนฟังเขินแปลกๆ เลยต้องหาทางแก้เขินด้วยการหยอกแทน


   “แล้วตอนนี้ไม่อยากได้ยินเสียงหม่าม้าเหรอ”


   “ไม่อยาก ม้าชอบพูดถึงมึง กูรู้สึกเหมือนตัวเองตกกระป๋อง” สิตางศุ์หัวเราะร่วนกับคำพูดของคนหน้านิ่ง ไม่อยากจะบอกเลยว่าเวลาหม่าม้าของเจียระไนโทร.มาคุยกับเขา ก็เห็นพูดถึงแต่ลูกชายคนกลางคนนี้ทุกที แล้วแบบนี้จะตกกระป๋องได้ยังไง


   “เออ...หม่าม้าเคยถามด้วย ว่ากูรู้รึเปล่า ทำไมมึงถึงพาไปกินอาหารเวียดนาม” คนกำลังพิมพ์ข้อความส่งให้มารดาชะงักไปเล็กน้อย เหลือบตามามองคนถามเจ้าของดวงตาสวยๆที่จับจ้องเขาด้วยความอยากรู้คำตอบ


   “แล้วมึงตอบม้าว่าไง”


   “บอกว่าไม่รู้ หม่าม้าเลยบอกให้มาถามมึง”


   “ดี งั้นกูไม่บอก”


   “อ้าว...”


   “มึงอยากรู้ มึงก็ศึกษากูเองสิ กูกับมึงกำลังศึกษากันไม่ใช่รึไง” แล้วคนพูดก็หันมายักคิ้วให้ทีเป็นเชิงท้าทาย พวกเขาไม่ทันคุยอะไรต่อ เสียงโทรศัพท์ในมือใหญ่ดังขึ้น สิตางศุ์ไม่ได้คิดจะอยากรู้อยากเห็น แต่สายตาเหลือบไปเห็นบนหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังดังนั่นพอดี


   ‘นิตา’


   หัวคิ้วเจ้าของโทรศัพท์ขมวดชิดชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนจะกดรับสายแล้วลุกจากโซฟาเดินออกไปนอกระเบียง


   ร่างโปร่งยังคงนั่งอยู่ที่เดิม แต่อุณหภูมิข้างกายกลับไม่เหมือนเดิม ไอร้อนจากคนตัวใหญ่เหลือเพียงไอจางๆบนโซฟาที่ว่างเปล่า ดวงตาคู่สวยมองตามออกไปที่นอกระเบียง เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างของคนที่นั่งตัวตรงอยู่บนโซฟาเบด


เจียระไนหันหลังให้ประตูกระจก...มองไม่เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกเหมือนอีกฝ่ายห่างไกลออกไป ไกล...จนเอื้อมไม่ถึง


มือขาวยกขึ้นแตะที่อกตัวเองแผ่วเบา หัวใจที่บีบรัดเหมือนกำลังปริร้าวเป็นโพรงลึก         


   ...ลึก...จนกลัวว่าหากตกลงไปในโพรงนั้น คงไม่มีวันกลับขึ้นมาได้อีก...

..........................................

   ...นอนไม่หลับเลย...


   แม้จะนอนนิ่งทั้งคืน แต่ก็ไม่ได้หลับสักงีบ มีคำถามมากมายที่ดังอยู่ในใจ วิ่งวนไปวนมาเหมือนไม่มีทางออก อยากถามว่าเจียระไนคุยอะไรกับนิตา อยากรู้ว่าเกี่ยวกับที่นิตาร้องไห้เมื่อตอนกลางวันหรือไม่ อยาก...แต่...พอเจียระไนไม่พูดขึ้นมาก่อน ไม่แม้แต่จะเกริ่นถึงนิตา เขาก็ไม่กล้าละลาบละล้วง


   ...เรื่องส่วนตัวของโจ๊กกับนิตารึเปล่า?...


   ...หรือเป็นเรื่องส่วนตัวของนิตาคนเดียว?...


   ...หรือจะเป็นเรื่องส่วนตัวของโจ๊กคนเดียว?...


   ...อยากรู้ แต่ไม่กล้าถาม ถ้าโจ๊กส่งสัญญาณสักนิดว่าถามได้ ก็คงจะกล้าถามในสิ่งที่คิด แต่นี่...โจ๊กไม่พูดอะไรเลย ไม่ทำอะไรที่บอกให้รู้ว่าอนุญาตให้ถาม...


     สิตางศุ์เริ่มรู้สึกถึงคำว่าดาบสองคมของสถานะที่เขาเลือกหยิบยื่นให้เจียระไน ‘สถานะศึกษา’ มากกว่าความเป็นเพื่อน แต่ยังไปไม่ถึงคนรัก ยิ่งคลุ่มเครือเท่าไรก็ยิ่งต้องระมัดระวังเท่านั้น และเรื่องบางเรื่องอาจเปราะบางเกินกว่าที่สถานะนี้จะเข้าไปแตะต้อง


   ร่างโปร่งถอนหายใจเบาๆอย่างไม่รู้ตัว เพราะเอาแต่คิดสะระตะจนไม่ได้นอนทั้งคืน เช้านี้จึงไม่สดใสเลยสำหรับเขา


   “หน้าอย่างกับคนไม่ได้นอน เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ” เจียระไนตั้งคำถามตอนที่พวกเขามาถึงคณะ ระหว่างทางที่ขับรถมา คนที่นั่งข้างๆเอาแต่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ไหนจะหน้าซีด ดูอิดโรยนั่นอีก สภาพดูแล้วไม่น่ามาเรียนด้วยซ้ำ


คนถูกถามหันไปส่งยิ้มจางให้แล้วส่ายหน้าไปมาเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วง


   “ไม่มีไรหรอก...สงสัยแปลกที่..”


   “แปลกที่อะไรของมึง นอนห้องกูมากี่คืนแล้ว หรือต้องทำแบบตอนนั้น มึงถึงจะนอนหลับ?” แม้จะไม่ได้นอนมาทั้งคืน แต่สมองของสิตางศุ์ก็ขยายความคำว่า ‘ตอนนั้น’ ของเจียระไนเป็นภาพของพวกเขาที่กำลัง...ช่วยกันและกัน...


   ...เป็นภาพที่ชัดเจน ชวนให้เขินอายและหวามไหว...


   “ม...ไม่ต้องเลย...” ยิ่งพูดยิ่งเขิน สิตางศุ์ก้มหน้าจนคางแทบชิดอกแล้วก้าวเท้าเร็วๆตรงไปที่โรงอาหาร แต่คนที่อดนอนมาทั้งคืน ต่อให้จะก้าวเร็วแค่ไหน ร่างสูงก็ก้าวทันอยู่ดี


   “ไม่ต้องอะไร จะเรียนรู้กูไม่ใช่เหรอ เรื่องพวกนี้ก็ต้องเรียนบ่อยๆจะได้ชิน มึงรับปากกูแล้วว่าพร้อม” เหมือนเป็นการทวงกลายๆ แล้วทวงเรื่องพวกนี้กลางโรงอาหาร แม้จะไม่ใช้เสียงดัง หรือไม่พูดโต้งๆ แต่สิตางศุ์ก็เขินเหมือนคนทั้งโรงอาหารซึ่งมีน้อยนิดจะร่วมรับรู้อยู่ดี


“อ่า...มึงไปซื้อข้าวให้หน่อย...” ทางที่ดีต้องหาทางดันเจียระไนไปทางอื่น ร่างสูงยกยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดูคนเขินที่พยายามพาเขาเปลี่ยนเรื่อง


“แดกไร” เปลี่ยนเรื่องก็ได้ คนอย่างเจียระไนใจดีจะตาย


“เอามักกะโรนีกุ้ง เดี๋ยวกูไปซื้อน้ำให้นะ”


“ไม่ต้อง สภาพสะโหลสะเหลแบบนี้ไม่ต้องเดินไปไหนเลย นั่งรอ เดี๋ยวกูไปซื้อมาให้” แล้วร่างสูงก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านตามสั่งทันที สิตางศุ์มองตามแผ่นหลังของคนตัวสูงใหญ่ที่เดินไปสั่งข้าวเสร็จก็เดินต่อไปที่ร้านขายน้ำ


...ทำไมคนอื่นถึงบอกว่าโจ๊กไม่สนใจใคร ทั้งๆที่โจ๊กใจดีขนาดนี้...


...ยิ่งรู้จัก ยิ่งเรียนรู้ ก็ยิ่ง...ไม่อยากปล่อยมือจากโจ๊กอีกแล้ว...


   “โซ่...” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมองตามเสียง ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำเอาหัวใจของคนผิวขาวจัดเหมือนจะบีบตัวรุนแรงขึ้นมาทันที


   “นิตา...” เขาครางแผ่วเบา แต่ดูเหมือนเจ้าของชื่อจะไม่ได้สนใจเสียงของเขานัก หญิงสาวเพื่อนร่วมรุ่นแต่ต่างภาควิชากวาดตามองไปรอบๆโรงอาหาร


   “โจ๊กล่ะ เมื่อกี้เราเห็นเดินเข้ามาพร้อมโซ่”


   “เอ่อ...อยู่ตรง...” ร่างโปร่งกำลังจะบอก แต่เจียระไนเดินกลับมาที่โต๊ะพอดี มือใหญ่วางแก้วน้ำเก็กฮวยและมักกะโรนีลงตรงหน้าสิตางศุ์ก่อนจะหันมองนิตา


   “ขอคุยด้วยหน่อย” นิตาเอ่ยเรียบๆ สิตางศุ์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่กล้ามองหน้าคนสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆเขา วูบหนึ่งรู้สึกกลัวคำพูดประโยคต่อไปของเจียระไนขึ้นมา


   “โซ่...” ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมองคนเรียก ร่างสูงก้มลงมองเขาวูบเดียวแล้วสั่ง


   “มึงแดกไปก่อน เดี๋ยวกูมา” แล้วคนพูดก็เดินนำออกไปนอกโรงอาหาร มีหญิงสาวต่างภาควิชาเดินตาม สิตางศุ์มองตาม หัวใจไหววูบอย่างไม่มีสาเหตุ

....................................

   เจียระไนเดินกลับเข้ามาในโรงอาหารอีกทีก็พบว่าคนที่เขาสั่งให้กินไปก่อน กลับยังกินไม่เสร็จ ชายหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก็พบว่าอีกห้านาทีจะเก้าโมงแล้ว


   “ทำไมมึงยังแดกไม่หมดอีก” ร่างโปร่งที่ดูเหมือนจะเขี่ยมากกว่าตักเงยหน้าขึ้นมอง


   “อ่า...ก็...ก็รู้สึกไม่ค่อยหิว...” สิตางศุ์ตอบได้เพียงเท่านั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นนิตาเดินตามเข้ามาด้วย คำถามมากมายดังขึ้นในใจอีกแล้ว แต่...ไม่รู้จะเริ่มถามอย่างไรดี


   “งั้นก็ไม่ต้องกิน ลุก เดี๋ยวกูพาไปส่งที่ห้อง มึงเรียนห้องไหน” เจียระไนถาม แต่ไม่ทันจะรอฟังคำตอบเขาก็หันไปทางหญิงสาวที่เดินตามเช้ามาในโรงอาหาร


   “เธอไปรอที่รถ เดี๋ยวเราพาโซ่ไปส่งที่ห้องเรียน แล้วจะตามไป” คำว่ารอที่รถ ทำเอาสิตางศุ์ชะงัก แต่พอเจียระไนหันกลับมา ก็เป็นอีกครั้งที่พูดอะไรไม่ออก


   ...รอที่รถ...หมายความว่าโจ๊กจะพานิตาไปไหนอย่างนั้นหรือ...


   “มึงเดินไหวรึเปล่า” เพราะสิตางศุ์เอาแต่ยืนนิ่ง เจียระไนเลยชักเป็นห่วง เขาดึงกระเป๋าเป้ของอีกฝ่ายมาสะพายไหล่ มือข้างหนึ่งหยิบจานอาหารที่ทานไม่หมดมาถือเพื่อนำไปเก็บ ในขณะที่อีกมือจับแขนขาวของร่างโปร่งเอาไว้เพราะกลัวว่าคนสภาพสะโหลสะเหลจะล้ม


   “ค่อยๆเดิน วิชานี้ไอ้กตกับไอ้แพทลงเรียนด้วยมั้ย” เจียระไนก้าวช้าๆ ปากก็ถามไปด้วย


   “เปล่า” 


   “เลิกเที่ยงใช่มั้ย”


   “อืม”


   “งั้นมึงเลิกแล้วโทร.มา เดี๋ยวกูจะไปรับที่ห้อง”


   “แต่...มึง...จะไปไหนกับนิตาไม่ใช่เหรอ” สุดท้ายก็อดไม่ไหวต้องเอ่ยปากถึงเรื่องนิตาขึ้นมา


   “พานิตาไปทำธุระ แต่ไม่นานหรอก มึงรอกูที่ห้องแล้วกัน” ทำธุระ แต่ไม่บอกว่าทำอะไร สิตางศุ์ไม่อยากคิดมากเลย แต่...เจียระไนกับนิตาเคยเป็นแฟนกัน แม้จะเลิกกันไปนานแล้ว แต่...ก็เคยคบหากัน และเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทั้งสองคนเลิกกันเพราะอะไร


   ร่างสูงพาคนผิวขาวจัดมาถึงห้องเรียนแล้วพาไปนั่งที่โต๊ะ กวาดตามองไปรอบห้องก็เห็นแต่พวกเด็กไออาร์ มีทั้งรุ่นเดียวกับเขา และรุ่นน้อง ซึ่งเขาไม่สนิทสนมพอจะฝากฝังสิตางศุ์กับใครเลย


   “โจ๊ก ไปเถอะ...เดี๋ยว...นิตาคอย” ร่างโปร่งเงยหน้ามองคนที่ยังยืนค้ำศีรษะเขาอยู่ เสียงแกว่งเล็กน้อย แต่อีกฝ่ายคงไม่ทันสังเกต


   “อืม เลิกเรียนแล้วโทร.มาแล้วกัน” แล้วเจียระไนก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป ทิ้งเจ้าของดวงตาคู่สวยให้มองตามก่อนที่ใบหน้าขาวจะฟุบลงกับโต๊ะ ริมฝากสีสดเม้มเข้าหากัน เป็นอีกครั้งที่ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของเขาและเจียระไน


   ...ความรู้สึกที่มากกว่าเพื่อน แต่สถานะยังไปไม่ถึงคนรัก แม้จะหวงแหนแค่ไหน แต่ก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้...


   ...ศึกษาดูใจ...


   ...สถานะนี้...ไม่ดีเลย...


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสฯหน้าค่ะ)

เป็นไงล่า อยากจะสมน้ำหน้าโซ่แรงๆสักหนึ่งที แต่เพราะเป็นโซ่ จะสมน้ำหน้าเบาๆแล้วกัน โทษฐานให้โจ๊กเป็นแค่คนศึกษาดูใจ โจ๊กเขาก็มีทางเลือกนะ ถึงจะเป็นผู้ชายกากๆและไบโพลาร์ก็เถอะ กร๊ากกกก

ส่วนโจ๊ก... แม่ยกคนไหนทุ่มสุดตัวว่าโซ่เสร็จโจ๊กแน่ ก็...เจ็บ(นิดๆ)กันไปตามระเบียบ เชียร์คนกากก็ต้องทำใจนิดนึง ฮ่าฮ่า

ขอบคุณคนอ่านคนเม้นท์ คนติดตามและทุกกำลังใจนะคะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า
ป.ล.1 ผ้าเช็ดหน้าได้ใช้อีก ผืนที่กำมาวันนี้อย่าเพิ่งปาทิ้งนะคะ ฮ่าฮ่า
ป.ล.2 อย่าด่าโซ่แรงนะ โซ่ทำตัวเองที่ให้โจ๊กเป็นคนแค่คนศึกษาดูใจ โซ่รู้ตัวแล้วว่าสถานะนี้ไม่มั่นคง โซ่จะปรับปรุง // โถวววว ลูบหัวน้อง
ป.ล.3 อิโจ๊กกากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (ก.ไก่ยาวๆทะลุออกนอกสุริยะจักรวาล)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: continued ที่ 29-06-2017 21:18:25
โอ๊ยน้ออออออออ
โจ๊ก มีไรไม่บอกโซ่ตรงๆล่ะ
แล้วโซ่นี่ก็ไม่คิดจะถามอะไรเลย จะเก็บไว้ทำไม เก็บไปก็คิดมากคนเดียว

อินนนนนน
อุตส่าตามรอวีคนี้มาด้วยการคิดว่าเขาต้องปั่มปั๊มกัน 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 29-06-2017 21:21:41
หน่วง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-06-2017 21:31:35
โซ่คะ!! หึงเป็นมั้ยคะ!! ขัดใจๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-06-2017 21:32:22
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 29-06-2017 21:39:51
โจ๊กระวังภัยจะมานะ โดน โซ่เทป่าว 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 29-06-2017 21:52:09
เราขอสะใจแรงๆได้ไหมคะ ดูใจร้ายมาก5555
ฮือ เอ็นดูโซ่นะ แต่ก็อยากให้โซ่ได้บทเรียนบ้าง
อยากให้โซ่ลองมาอยู่ในมุมของโจ๊กบ้าง
ได้รู้สึกเหมือนโจ๊กบ้าง
เป็นไงล่ะ ความไม่แน่นอนของสถานะ
มันยากนะโซ่ กลัวเขาไม่รัก กลัวเขาไปเลือกคนอื่น
โจ๊กน่ะ  มันเป็นตลอดเลยนะ
เพราะงั้น เอาใจโจ๊กมาใส่ใจเราบ้างนะ
อยากให้มีคนมาทำชี้จุดให้น้องว่าควรทำไง
แต่ก็นะ บางทีโซ่ก็ควรเรียนรู้ด้วยตัวเองบ้าง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 29-06-2017 21:56:50
ว่าทั้งคู่เลยค่ะ โซ่สงสัยแต่ไม่ถาม อิพี่โจ๊กถึงจะไม่เห็นว่าเรื่องนิตาสำคัญอะไรแต่ก็ควรบอกโซ่นะ ศึกษาดูใจกันถึงจะยังไม่ใช่แฟนแต่ก็ควรเคลียร์กันไม่งั้นมันจะพังเอานะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 29-06-2017 22:12:09
โอ๊ยยยยยยยย นังโจ๊กกกก พ่อคนกากกกกกกก
ช่างเป็นพระเอกที่กากที่สุดคนนึงเท่าที่เคยอ่านนิยายมาเลย
แต่เราก็ชอบโจ๊กนะ มีมิติหลากอารมณ์ ดูฮาดี
วันนึงมันต้องเป็นวันของโจ๊กบ้างล่ะ สู้ต่อไป ฮ่าาาา
ส่วนโซ่ นี่ก็ใจกว้างมากกกกก คิดน้อยมากกกกลูก
ต้องเจอกับตัวแบบนี้ ต้องได้รู้สึกแบบนี้ล่ะ ถึงจะรู้เรื่อง
เห็นผีบ้าผีบอแบบนั้น โจ๊กมันก็ฮอต น่าหวง น่าจับจองเป็นเจ้าของนะคะ
โซ่จะมามัวช้า มัวแต่ศึกษาดูใจแต่ไร้สถานะที่มั่นคงไม่ได้นะลูก
ต้องคิดได้แล้วนะ ถ้าไม่อยากมาหึงหวงแต่บอกไม่ได้แบบนี้อะ

ปล.ถ้าโจ๊กรู้ว่าโซ่หึงโซ่หวง คงมีความสุขเป็นผีบ้าแน่ๆค่ะ
นี่เรานึกหน้านางออกเลย 555 ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะคุณบัว

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 29-06-2017 22:12:46
ว่าแล้วเชียวว่าผ้าเช็ดต้องเอามาซับน้ำตาแน่ๆ
โจ๊กคนนกแห่งปี ตำแหน่งนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ

แอบสงสารโซ่อะตอนนี้ คือนางยังใหม่ๆมากๆในเรื่องความรัก
เลยทำให้ตัวเองต้องมาเสียใจอยู่แบบนี้
ตอนแรกงอนนางนะ แต่พอเหนนางเศน้าละอยากกอดปลอบ
โอ๋เอ๋นะโซ่ กอดๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: 1andonly ที่ 29-06-2017 22:21:17
I wish tomorrow were next Thursday. Sigh. Going to keep waiting. Good story indeed.
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 29-06-2017 22:21:31
อย่าว่าโจ๊กกกกกกก

แม้โจ๊กจะกาก แต่ก็หล่อมากในสายตาเรา 555555

ละอีโจ๊กนะ ไม่รู้รึไงว่าโซ่คิดมาก ทั้ง ๆ ที่ก็น่ารู้ดีกว่าใครเหอะ
ไม่ ยังไงเราก็ทีมกาก เอ๊ย ทีมโจ๊ก 555

โซ่ ถือว่าได้รับผลกรรมจากความซื่อบื้อละกัน อิอิ

ฉากห้องน้ำ..... โจ๊กกากว่ะ 55555

เจอกันพฤหัสหน้าค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-06-2017 22:25:37
นิตา จะไปฝากครรภ์เหรอ  เดาน่ะ
ส่วนโจ้กก้อเป็นคนดีมากพระเอกที่แท้ทรู แต่กรุณาอย่ามองข้ามเรื่องเล็กน้อยนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 29-06-2017 22:31:39
มันก็จะหน่วงๆ หน่อย แต่สะใจเป็นบ้า
ทีนี้ยังจะชอบนิตาอีกไหม...
 

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 29-06-2017 22:40:26
อิโจ๊กกกกกกกกก  :angry2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 29-06-2017 22:57:48
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-06-2017 23:00:50
หน่วงมากเลยอ่ะ อยากวาร์ปไปวันพฤหัสหน้าเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 29-06-2017 23:13:38
สงสาร :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 29-06-2017 23:15:46
หน่วงหน่อยๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-06-2017 23:17:59
โจ๊ก ไม่ยอมให้โซ่ไปหานิตา
เพราะกลัวโซ่ใจอ่อน แล้วดีกับนิตา

โจ๊กอาสาไปดูแทน แต่ไม่พูดอะไรให้โซ่รู้
เพราะจะให้บทเรียนโซ่หรือเปล่า
ว่าสถานะที่คบกันมันไม่ชัดเจนเอาซะเลย
โซ่ คิดได้เร็วๆนะ
ถ้าโจ๊ก รู้ว่าโซ่หวง หึง คงยิ้มหน้าบานมีความสุขสุดๆไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 29-06-2017 23:44:28
แงงงงง นิตามีปัญหาอะไรอ่ะ โซ่เศร้าเลย อย่างนี้ต้องรีบขยัยสถานะเป็นคนรักกันได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 29-06-2017 23:56:01
สงสารน้องโซ่ววว อิตาโจ๊กนี่ก็ปากหนักไม่ยอมเล่าให้ละเอียด น้องคิดมากเลยเห็นไหมมม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-06-2017 00:01:52
สภาพการณ์แปรปรวนสมเป็นโจ๊กดี

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Tyche ที่ 30-06-2017 00:06:11
โอ๊ยน้องโซ่ มีอะไรพูดไปตรงๆเลยเถอะ ขี้คร้านอิโจ๊กมันจะดีใจจนเนื้อเต้นที่โซ่หึงมันนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 30-06-2017 00:13:50
โซ่นี่มัน น่าเอ็นดู  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 30-06-2017 00:56:13
โซ่ต้องรีบเลื่อนสถานะให้โจ๊กได้แล้ว

จะได้มีสิทธิหึงได้ตามใจชอบ

โจ๊กคงไม่คิดอะไรกับนิตาหรอก

แค่อยากจะกันๆโซ่ออกจากนิตา

FC โจ๊ก

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-06-2017 01:34:17
 :z6:ทำคนดีศสังคมคิดหนักแล้วไง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 30-06-2017 03:31:42
โซ่ได้เรียนรู้แล้ววว สงสารก้สงสารนางนะ แต่ก้อยากให้โตขึ้นอะ
จะว่าโจ๊กผิดมั้ยที่ไม่บอกมาให้หมด ก้ไม่อะ เพราะโซ่ไม่ได้ถาม แถมก้เลิกกันไปนานมากแล้ว
โซ่ก้รู้อยู่แล้วว่าเลิกกันนานแล้วแถมโจ๊กยังรักและอดทนรอโซ่มาตลอด
ถ้าชัดเจนขนาดโจ๊ก เป็นเราก้คงคิดว่าเรื่องไม่สำคัญไม่ต้องบอกก้ได้มั้งอะแหละ
แต่ดูไม่มีอะไรในกอไผ่มากๆอะสำหรับโจ๊กและนิตา
น่าจะเป็นปัญหาส่วนตัวของนิตาคนเดียวอะแหละ
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-06-2017 08:04:23
นิตากลับมาทำไม!?
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-06-2017 10:11:01
คนสวยไม่เหมาะกับน้ำตานะคะ อิโจ๊กทำให้โซ่คิดมาก อิคนใจบาปหยาบช้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 30-06-2017 10:17:32
โถถถถ ลูกกกก สงสารโซ่นะเนี่ย แต่ถือว่าเรียนรู้เนอะ

รีบๆเลื่อนสถานะได้แล้วเนอะ

แต่เอาจริงๆ สำหรับโซ่คนมึน ได้ขนาดนี้ก็เก่งแล้วนะเนี่ย ฮาาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 30-06-2017 11:17:56
โจ๊กก้อจัดการนิตาตามสไตล์โจ๊กๆนั่นเอง
ดี พี่ซอโซ่จะได้เปิดใจให้โจ๊กซะที สงสาร เฮียโจ๊กเริ่มเป็นหลายโรคแล้ว 5555+
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-06-2017 12:15:20
โซ่ ไอ่เด็กบ้า หึง ก็บอกหึงเส้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 30-06-2017 12:51:29
ถึงจะหน่วงๆ แต่โซ่ก็ยังน่าเอ็นดู
ดีแล้วที่โซ่ได้เรียนรู้ความรู้สึกอื่นๆบ้าง
โซ่จะได้มั่นใจว่าไม่ใช่แค่รู้สึกดีกับโจ๊ก
แต่เป็นความรู้สึกหวงเพราะรักโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: abbaba ที่ 30-06-2017 20:18:13
อ่านรวดเดียวน่ารักมากกกกก แงงงงงงง
แต่ตอนล่าสุดสงสารโซ่ มาหาเรามาาา มาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 30-06-2017 21:18:29
 :katai2-1: รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-06-2017 21:32:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 30-06-2017 22:16:28
น้องโซ่ต้องแสดงความรู้สึกให้อิโจ๊กมันรู้เลยนะว่าน้องไม่พอใจ น้องไม่โอเค  :angry2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 30-06-2017 22:44:17
เพิ่งจะวาบหวาม ก็ต้องมาหวั่นไหวซะแหล่ะ จะโทษใครดี อิโจ๊กก็คงรอให้ถาม โซ่ก็รอให้บอก อีมครึมกันไปอี๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 30-06-2017 23:25:11
โถววววว สงสารหนูโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 01-07-2017 00:32:21
นี่เดาว่านิตาท้องแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 01-07-2017 07:53:35
อาการแบบโซ่เค้าเรียกอะไรดีน้า :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: ichnuan ที่ 01-07-2017 10:21:23
นุ้งโซ่ ต้องแสดงออกถึงความไม่พอใจบ้างค่ะ
นังโจ๊กไม่บอกก็ต้องถาม
มาครึ่ง ๆ กลาง ๆ ยังงี้ไม่ด้ายยยยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 01-07-2017 17:11:56
โซ่ไม่คิดมากน้าา มันคงไม่มีอะไรหรอก  :hao5:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 01-07-2017 18:43:20
หน่วงเบาๆ เอาไงดีโซ่ จะเลื่อนขั้นให้โจ๊กได้ยัง สถานะศึกษาดูใจนี่มันไม่มั่นคงจริงๆนะ เป็นแฟนไปเลย หึงได้

แต่ถ้าโซ่จะหึงนี่โจ๊กก็ไม่ว่าหรอก ดูจะดีใจด้วยซ้ำมั้ย กำผ้าเช็ดหน้าเผื่อตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Rywzaki ที่ 01-07-2017 20:44:44
เพิ่งอ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุด
โอ้ยยย โจ๊กกกกก พ่อไบโพลาร์ของพี่ 555666 เป็นพระเอกที่กร๊าวใจแรง
ส่วน น้องโซ่ ลูกกก ความซึนความมึนมาเต็ม ขั้นนี้แล้วยังศึกษากันอีกเหรอค้าาาา

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 01-07-2017 21:16:31
เป็นไงล่ะ เป็นแฟนก็ศึกษากันได้  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Elektra ที่ 02-07-2017 05:36:08
กี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เป็นเรื่องที่ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ไงนะ เราเปิดนิยายหน้าแรกหลังจากที่ไม่เข้ามาหลายเดือน เห็นชื่อคนแต่งปุ๊บ
เราคลิ๊กเข้ามาทันที โอยยยยย ไม่เคยทำให้ผิดหวังซักเรื่อง เรายังตามอ่านไม่ทันนะ แต่เข้ามาคอมเม้นต์ก่อน
ชอบอิโจ๊กมากกกก ชอบผู้ชายแบบนี้เลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-07-2017 12:58:18
โซ่เอ้ยยย ใจอะไปแล้ว แต่ยังปากแข็งโจ๊กต้องขอบใจนิตานะ มาทำคนซื่อเจ็บหัวใจ กระตุ้นได้ดีเลย

โจ๊กน่าจะดูออกนะว่า โซ่ไม่ปกติ ปกติเป็นไรนิดหน่อยก็รู้หมด
แต่คงมีเหตุจริงๆ หรือเป็นแผนโจ๊ก

สงสารแพท งานนี้อดเผือก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 02-07-2017 17:18:50
โซ่ถามเลยยย มีเรื่องอะไรหรือเปล่่าาคิดเองเออเอง เดี๋ยวโจ๊กไบโพล่ากลับมาอีก 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-07-2017 11:56:10
สถานะนี้มันทำอะไรไม่ได้นะโซ่ คิดได้แล้วก็ขยับมาเป็นคนรักเถอะะะะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: Elektra ที่ 04-07-2017 15:22:48
อิโซ่เป็นคนไร้เสน่ห์ หน้าตาดีแต่มาโง่ในเรื่องใกล้ตัว โง่ไม่พอยังสับสนอีก
เรียนเก่งแต่โง่แบบนี้อิโจ๊กไปหลงรักได้ไง งงค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 04-07-2017 15:48:26
เพิ่งได้มาตามอ่านรวดเดียว
สนุกมากก กรี๊ดดดด
นี่ทีมโจ๊กมากๆ ก๊ากก โซ่น่าเอ็นดูมากๆ อ่ะ 555
งั้นตอนบทแรก ผู้ชายที่เจอในรถมหา'ลัยก็คือโจ๊กใช่มะ แต่สิตางศุ์น่าจะจำไม่ได้
เราชอบผู้ชายที่แอบกลั้นยิ้มไว้จังเลย :-[
ตอนล่าสุดนี่โซ่ต้องรีบเคลียร์กะโจ๊กนะะ  :hao5:
ตอนหน้ามีลุ้นให้สถานะระหว่างโจ๊กกะโซ่เขยิบเลื่อนเป็นแฟนได้มั้ยน้อ :hao3:
เราจะรอคอยฉากนั้นต่อไปป  :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 05-07-2017 06:24:01
ลองคิดดูนะโซ่ ถึงจะเชียร์โจ๊กแค่ไหน แต่เราก็อยู่ข้างโซ่นะ
เอ๊ะ ยังไง 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 16 (29/06/2017) หน้า 28
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 06-07-2017 20:10:10
ปกติดราม่านี่เราเข้าข้างนายเอกตลอดเลย
แต่เรื่องนี้เราเชียร์โจ๊กสุดพลัง
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 06-07-2017 20:29:49
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………………..
ตอนที่ 17


เจียระไนเหลือบตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถด้วยกัน


นิตาเป็นอดีตคนรักของเขา เคยคบกันช่วงปี 2 อยู่สามเดือน ก่อนจะเลิกรากันไป จะเรียกว่าจบกันด้วยดีก็ได้ ถึงตอนนั้นเขาจะเจ็บใจและเซ็งนิดหน่อยก็เถอะ แต่ผู้ชายอย่างเจียระไนใจกว้างพอที่จะเหลือสถานะเพื่อนร่วมคณะเอาไว้ให้ ตอนนี้...ก็เลยเหมือนโดนบ่วงสถานะนั้นแว้งมารัดคออยู่นี่


“เขาไม่พยายามเพื่อเราเลยอ่ะ โจ๊ก ฮือ…” เสียงร้องไห้คร่ำครวญยังคงดังมาตลอดทาง ตั้งแต่ออกจากมหาวิทยาลัยไปจัดการธุระ จนกระทั่งขากลับ


รถก็ติด เสียงคร่ำครวญร้องไห้จากคนข้างๆก็ดังอยู่นั่น เจียระไนอยากพ้นไปจากดงจราจรตอนนี้มากๆ แต่...ไม่รู้วันนี้มันเป็นวันโลกาวินาศรึไง ถึงได้ติดฉิบหายวายวอดขนาดนี้!


“เลิกกับมันแม่งเลย” นิตาชะงักกึก หันขวับมองคนแนะนำตาเบิกโพลง


“เลิกได้ไง?! เรารักเขานะโจ๊ก!!”


“งั้นก็รอว่าแฟนเธอจะทำตามที่เราแนะนำมั้ย” หญิงสาวชะงักอีกรอบ


“ที่ให้หนีตามกันน่ะเหรอ? บ้าเหรอ! เราเรียนปีสี่แล้วนะ หนีตอนนี้ได้ผัวได้ลูก แต่เรียนไม่จบจะทำมาหากินอะไร?!” เจียระไนเหลือบตามองหญิงสาวที่ทำตาเหลือกแต่หน้าตาเปรอะเลอะไปด้วยน้ำตา


ประเด็นที่ทำให้หล่อนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่สองวันติดและวันนี้ก็ยังบังคับให้เขามาช่วยจัดการธุระคือ พ่อแม่ของนิตาจัดการให้หล่อนแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่ง ในขณะที่หล่อนมีแฟนอยู่แล้ว แถมแฟนก็ยังยินยอมจะเลิกราให้หล่อนไปแต่งงานอีกต่างหาก


“งั้นก็รอเรียนเทอมสุดท้าย สอบเสร็จแล้วไปเลย”


“แฟนเราจะเอาด้วยเหรอ เมื่อกี้ตอนนายพูด แฟนเรายังยึกยักเลย...” เจียระไนถอนหายใจอีกเฮือก เรื่องผัวเมียของคนอื่นนี่เป็นเรื่องสุดท้ายในโลกนี้ที่เขาอยากจะรับรู้


“ก็ไปตกลงกันเอง” นิตาพ่นลมหายใจแรงๆอย่างหงุดหงิด เหลือบตามองคนข้างกายที่ช่วยอะไรหล่อนแทบไม่ได้


“ถ้าเป็นโซ่นะ ต้องช่วยเรามากกว่านี้แน่ อย่างน้อยๆโซ่ก็ต้องปลอบใจเรา” หล่อนพึมพำ เมื่อวานนี้พลาดเองที่รับปากกับเจียระไนว่าจะไม่ขอความช่วยเหลือจากสิตางศุ์ ถ้าหากเขาให้ความช่วยเหลือ แต่ดูความช่วยเหลือของเขาสิ!...แนะนำมาแต่ละอย่าง แถมโยนให้ตัดสินใจเอง ตกลงกันเองอย่างงี้...มันเรียกว่าช่วยเหลือยังไง?!


“อย่าไปยุ่งกับไอ้โซ่”


“โอ้ยยยย กล้ายุ่งซะที่ไหนล่ะ! เจ้าที่ออกตัวแรงขนาดนี้!” นิตาแหววใส่คนข้างกาย ดึงกระดาษเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาของตัวเอง


“ถามจริง เมื่อวานนี้เพราะโซ่ให้ตามมาใช่มั้ย”


“เปล่า เราไม่อยากให้ไอ้โซ่มาเจอเธอ เราเลยมาเอง” สุภาพบุรุษลูกผู้ชายยิ่งกว่าเจียระไนนั้นไม่มีอีกแล้ว เรื่องอะไรจะปล่อยให้หนึ่งชายหนึ่งหญิงใกล้กัน ยิ่งชายหญิงที่ว่าคือสิตางศุ์กับนิตาด้วยแล้ว เขาก็อยากจะจับแยกให้คนนึงอยู่ขั้วโลกเหนืออีกคนอยู่ขั้วโลกใต้ซะด้วยซ้ำ


“แล้วที่ยอมช่วยเรา ก็เพราะกลัวว่าเราจะไปขอให้โซ่ช่วยใช่มั้ย” เจียระไนกระตุกยิ้มที่มุมปาก


“ฉลาดมาก นิตา” หญิงสาวส่ายหน้าอย่างนึกระอา ไม่ทันได้พูดอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ของเจียระไนก็ดังขึ้น หล่อนรีบหยิบมาดูก็ถึงได้เห็นว่าบนหน้าจอไม่ปรากฏชื่อ แต่ปรากฏแค่จุด 3 จุด


“จุดสามจุดคืออะไร?”


“เบอร์ไอ้โซ่”


“แล้วทำไมต้องเป็นจุดสามจุด?”


“เว้นไว้ให้โซ่มาพิมพ์ชื่อมันด้วยตัวเอง” นิตาทำตาโตอย่างคาดไม่ถึงว่าผู้ชายที่หล่อนเคยคบหาในช่วงสั้นๆ แถมเขายังเป็นคนใจร้อนดูไม่ค่อยมีเหตุผล แต่กลับทำเรื่องโรแมนติกขนาดนี้


“รับได้แล้ว เดี๋ยวไอ้โซ่รอนาน” เจียระไนสั่ง หล่อนก็เลยกดรับสายให้


“ฮัลโล โซ่ โจ๊กขับรถอยู่ รถติดมากเลย” ปลายสายเงียบกริบ อาจจะตกใจที่ได้ยินเสียงหล่อน


   ‘อ่า...งั้น...งั้นฝากบอกทีว่าเดี๋ยวเรากลับเอง’


   “โจ๊ก โซ่บอกว่าจะกลับเอง” นิตาหันมาบอกคนขับรถ เจียระไนขมวดคิ้วฉับ


   “บอกมันให้รอ”


   “จะรอไหวเหรอ นี่ยังไม่ถึงไหนเลยนะโจ๊ก” หญิงสาวเหลือบตามองไปบนถนนเบื้องหน้า รถติดยาวเป็นหางว่าว จากนี่กว่าจะไปถึงมหาวิทยาลัย อย่างต่ำน่าจะเกินครึ่งชั่วโมง


“หลุดตรงนี้ก็ขึ้นทางด่วนแล้ว” คนขับยังเถียง


“บนทางด่วนรถติดกว่าข้างล่างอีก” เป็นการตอบโต้ของหญิงชายในรถแม้นิตาจะยังคงถือโทรศัพท์แนบหู หล่อนได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆในโทรศัพท์ ก่อนจะเป็นเสียงของสิตางศุ์


‘เรากลับเองได้ ไม่ต้องมารับหรอก’


“โจ๊ก โซ่บอกว่าไม่ต้องไปรับ...อ้าว วางสายไปแล้ว” นิตาพูดกับเจียระไนจบประโยค ปลายสายก็ตัดไป


“โทร.กลับไปใหม่” ร่างสูงสั่ง ทว่าพอหล่อนกดโทร.กลับไปหาสายที่เพิ่งรับ ก็กลับไม่มีคนรับสาย แล้วจากนั้นก็กลายเป็นไม่มีสัญญาณตอบรับ หญิงสาวชะงัก สัญชาตญาณผู้หญิงบอกให้รู้ว่ามีเรื่องไม่ปกติเกิดขึ้นแน่นอน


“โจ๊ก...เราว่า...นายน่าจะมีปัญหาเพราะเราแล้วอ่ะ”

....................................

กว่าจะฝ่าดงรถติดกลับมาถึงคณะก็บ่ายโมงเข้าไปแล้ว เจียระไนแทบบ้าที่ต้องอยู่บนถนนทั้งๆที่ติดต่อสิตางศุ์ซึ่งสภาพร่างกายย่ำแย่ขนาดนั้นไม่ได้ ในหัวมีแต่คำถามว่ามันจะเป็นอะไรรึเปล่า มันจะกลับยังไง เขาวิ่งขึ้นไปที่ห้องเรียนที่พาสิตางศุ์ไปส่งเมื่อเช้า และก็พบว่านอกจากคนที่เขาสั่งให้รอจะไม่รอแล้ว ห้องเรียนยังถูกใช้สำหรับคาบต่อไปแล้วด้วย


ร่างสูงตัดสินใจโทร.หาเพื่อนสนิทของคนผิวขาวจัดรายนั้นแทน แน่นอนว่าต้องเลือกโทร.หาพฤกษาก่อน


“แพท! ไอ้โซ่อยู่กับมึงมั้ย”


‘กูนึกว่ามึงจะโทร.มาถามกูชาติหน้า’


“เชี่ยแพท อย่ากวนตีน!”


‘อยู่ นอนอยู่ มึงไม่ต้องมาหรอก เดี๋ยวเย็นนี้ไอ้แฮ็กจะพามันไปส่งที่คอนโดเอง อ้อ มันได้กุญแจห้องมันแล้วนะ ไม่ต้องกลับไปนอนห้องมึงแล้ว’


“ไอ้แฮ็กไหน?!” เจียระไนถามแล้วก้าวเร็วๆลงจากตึกเรียนไปยังลานจอดรถ พิกัดต่อไปคือบ้านของพฤกษาแม้ตอนนี้จะยังไม่รู้ก็ตามว่าบ้านมันอยู่ที่ไหน


“แฮ็กภาคฯกู แค่นี้นะ ไอ้โซ่หลับอยู่ คุยนานเดี๋ยวมันตื่น” แล้วสายก็ตัดไปในทันที เจียระไนแทบผีเข้า แต่เวลานี้เขาต้องไปให้ถึงบ้านของพฤกษาให้ได้ก่อน แต่...จะไปได้ยังไงในเมื่อเจ้าของบ้านตัดสายไปแล้ว แถมดูเหมือนมันจะโกรธเขาด้วย


‘…เย็นนี้ไอ้แฮ็กจะพามันไปส่งที่คอนโดเอง…’


คำพูดของพฤกษาทำให้ร่างสูงตัดสินใจเปลี่ยนแผนในวินาทีนั้น ในเมื่อไปบ้านของเพื่อนสิตางศุ์ไม่ได้เพราะไม่รู้ที่อยู่ แต่คอนโดของใครบางคนเขารู้! และเขามีทั้งคีย์การ์ดและกุญแจด้วย!!


เจียระไนเปิดประตูขึ้นรถแล้วหมุนพวงมาลัยออกจากลานจอดของคณะทันที


...เดี๋ยวมึงเจอกูไอ้โซ่ เดี๋ยวมึงเจอกู!!...

..........................

พฤกษาโยนโทรศัพท์ลงกับโซฟาที่เพื่อนสนิทนั่งอยู่ ‘ไอ้โซ่’ ไม่ได้หลับอย่างที่เขาบอกใครบางคนที่ปลายสาย แถมเวลานี้ยังนั่งนิ่งหน้าตาซีดเซียวหม่นหมองเอาแต่นั่งก้มหน้า เขาไม่ได้ซักไซ้ว่าทำไมวันนี้ดูป่วย เพราะเห็นว่ามีบุคคลที่สามอย่าง ’ไอ้แฮ็ก’ อยู่ด้วย


“กูว่ามึงไม่ต้องกลับหรอก ป่านนี้ไอ้โจ๊กไปดักมึงที่คอนโดแล้วมั้ง คืนนี้นอนบ้านกูนี่แหละ” เจ้าของบ้านแนะนำ 


“ขอบใจ” สิตางศุ์ตอบเสียงแผ่ว ก่อนจะหันไปทางเพื่อนร่วมภาควิชาอีกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านพฤกษาด้วยกัน


“ขอบใจมึงด้วยนะแฮ็ก ที่อุตส่าห์พากูไปเอากุญแจแล้วมาส่งที่นี่” กุญแจมาถึงที่ล็อบบี้ของคอนโดเจียระไนเมื่อตอนสาย เห็นว่าทางคอนโดโทร.หาเจียระไนแล้วไม่รับ โชคดีว่าเขาให้เบอร์ทิ้งไว้ด้วย ก็เลยติดต่อมาทางเขา


“ไม่เป็นไร มึงจะให้กูช่วยอะไรอีกก็บอก โดยเฉพาะเรื่องไอ้โจ๊ก ปกครอง”


เพื่อนร่วมภาคฯเสนอตัวเองอย่างมุ่งมั่น เขาเคยได้รับน้ำใจและความเอื้อเฟื้อของสิตางศุ์ แม้จะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของเรื่องนี้ แต่ถ้าเพื่อนนิสัยดีคนนี้ทำหน้าเศร้า เขาก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ถึงอีกฝ่ายจะเป็น ‘ไอ้โจ๊ก ปกครอง’ ก็เถอะ


ร่างโปร่งพูดไม่ออก จะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจียระไนก็เป็นการโกหก แต่จะว่าเป็นความผิดของเจียระไนก็ไม่ใช่ จริงๆแล้วความผิดมันเป็นของเขาเอง


เขาผิดเองที่อยู่ดีๆก็รู้สึกอิจฉา...อิจฉานิตาที่ได้รู้เรื่องบางเรื่องกับเจียระไนเพียงสองคน


“ไม่รบกวนมึงแล้วล่ะ แฮ็ก” พฤกษาเห็นเพื่อนสนิทไม่อยากพูด เขาก็หาทางไล่บุคคลที่สามกลับ ดูเหมือนคนนอกจะรู้ตัวดีจึงยอมกลับไปโดยไม่อิดออด แต่ไม่วายกำชับว่าพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกเมื่อ


คล้อยหลังไปแล้ว สิตางศุ์ก็เอนตัวลงนอนกับโซฟาแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ที่เหนื่อยตอนนี้ไม่ใช่ร่างกายแต่เป็นที่หัวใจ


“ไหวมั้ยมึง” เจ้าของบ้านถามอย่างนึกห่วง


“อืม”


“จะหลับก่อน หรือเล่าให้กูฟังก่อน” พฤกษายื่นข้อเสนอ แต่ไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสิตางศุ์และเจียระไน นี่โชคดีที่อลงกตยังไม่กลับจากไปเที่ยว ถ้าหากรายนั้นมารู้เข้าว่าลูกของมันโดนว่าที่ลูกเขยทำร้ายหัวจิตหัวใจ มีหวังผีเข้าแน่นอน


ดวงตาคู่สวยหมองเศร้า มือขาวขยับผ้าห่มที่เพื่อนให้ยืมมาคลุมถึงคอ รู้สึกหนาวขึ้นมาถึงกระดูก ทั้งๆที่มีแค่พัดลมเปิดส่ายไปมา


“กูอิจฉา...”


“...กูไม่ได้ใจกว้างอย่างที่มึงบอกเลยแพท เมื่อวาน...ตอนกลางคืน นิตาก็โทร.มาหาโจ๊กอีก มันออกไปคุยที่ระเบียง กูไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แล้ววันนี้...นิตากับโจ๊กคุยอะไรกันก็ไม่รู้ แล้วก็ออกไปด้วยกัน พอเลิกเรียน กูโทร.ไปหา ก็เหมือนเขาคุยกันรู้เรื่องอยู่สองคน กูก็ยิ่ง...ยิ่งอิจฉานิตา...มันไม่ดีเลย”


คนฟังทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาใกล้ๆ


“แล้วไอ้โจ๊กไม่บอกมึงเหรอว่ามันคุยอะไรกัน”


“ไม่ได้บอก แล้ว...แล้วกูกับมันก็แค่...ก็แค่ศึกษากัน...กูทำอะไรไม่ได้...” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองไม่น่ายื่นข้อเสนอนี้เลย เพราะเขาเองแท้ๆ เจียระไนอุตส่าห์หยิบยื่นโอกาสให้เขา แต่เพราะเขาเองที่เลือกจะวางโอกาสนั้นลงข้างตัว เวลานี้...หากเจียระไนจะหยิบโอกาสนั้นไปให้คนอื่น ก็...ไม่ใช่ความผิดของเจียระไนเลย


“งั้นมึงก็ขอมันเป็นแฟนซะสิ” ดวงตาคู่สวยเหลือบขึ้นมองอย่างเศร้าสร้อย


“ไม่ทันแล้วมั้ง...”


“พูดอะไรอย่างงั้นวะ ไอ้โจ๊กมันรักมึงจะตาย” แต่เวลานี้มีผู้หญิงอีกคนเข้ามา เป็นผู้หญิงที่เคยเป็นแฟนกันมาก่อน เป็นผู้หญิงอีกคนที่รู้จักรู้ใจเจียระไนดี เป็นผู้หญิงที่...เจียระไนยอมให้ความช่วยเหลือทั้งๆที่ไม่ใช่คนสนใจใครด้วยซ้ำ


“...แพท...ทำไมสองคนนั้นเลิกกัน” คำถามที่ค้างคาในใจ วุบหนึ่งสิตางศุ์อยากให้ทั้งเจียระไนและนิตาเลิกกันอย่างเลวร้าย ผิดใจ นอกใจ หรืออะไรก็ตามแต่ที่จะทำให้ทั้งสองคนเข็ดขยาดที่จะไม่กลับมาคบกันอีก แต่...แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้น การมองคนอื่นในแง่ร้าย สาปแช่งคนอื่นให้พบเจอความพินาศ ไม่ใช่นิสัยของเขาเลย


“ไม่รู้ ไม่มีใครพูด รู้กันเงียบๆว่าเลิก แต่นิตามีแฟนใหม่นานแล้วนะ ไม่ใช่เด็กในมหา’ลัยเราหรอก” สิตางศุ์ซุกตัวลงกับโซฟามากกว่าเดิม นอกจากความอิจฉาที่มี ยังมีความกลัวผสมเข้ามาด้วย


“ถ้าสองคนนั้นกลับมาคบกันใหม่ล่ะ”


คำถามนั้นไม่มีคำตอบ หรือต่อให้มีคำตอบก็คงเป็นคำตอบที่คนถามไม่อยากได้ยินที่สุด ใบหน้าขาวหม่นหมอง แค่คิดว่าต้องเสียเจียระไนไป อะไรบางอย่างในใจก็สั่นไหวอย่างรุนแรงจนต้องหลับตาลงเพราะไม่อยากรับรู้อีกแล้ว


พฤกษามองเพื่อนสนิทแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ก้มลงมองโทรศัพท์ในมือ เบอร์ที่ รับสายล่าสุดคือเบอร์ของเจียระไน เขาควรโทร.ไปหาอีกครั้งดีไหม บอกมันให้รู้ว่าเพื่อนของเขากำลังขาดความมั่นใจในตัวเองอย่างรุนแรง และคนที่จะแก้ไขความเศร้าของสิตางศุ์ได้ก็มีแค่เจียระไนเท่านั้น แต่...ถ้าหากตอนนี้สิตางศุ์ยังไม่พร้อมจะเจอเจียระไนล่ะ?...หากว่าการเจอกัน จะยิ่งทำให้อารมณ์ของคนสองคนจูนกันไม่ติดล่ะ?


หนุ่มทะเล้นมาถึงคราวเครียดจนถอนหายใจอีกครั้ง


...เรื่องง่ายๆล่ะไม่เคยมาถึงมือกูเลย ทีเรื่องยากๆ เจอทางสองแพร่งสามแพร่งนี่มาให้กูจัดการตลอดดดดดด...

.................................

หน้าประตูห้องหมายเลข 504 ผู้ชายคนหนึ่งยืนรออย่างหงุดหงิดงุ่นง่าน เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูทุกสองนาที หันมองไปที่ลิฟต์ทุกๆห้านาที แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูความเคลื่อนไหวทุกๆเจ็ดนาที


...แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบ...


...สี่โมงกว่าแล้วนะโว้ย! ไอ้โซ่แม่งทำไมยังไม่กลับมาซะที!!...


ความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดทำให้ใกล้บ้าขึ้นทุกที เจียระไนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทร.ออกหาญาติผู้น้องที่คบหากับคนใกล้ตัวของสิตางศุ์


“ไอ้เจ๋ง มึงถามแฟนมึงให้หน่อย รู้จักบ้านเพื่อนของโซ่ที่ชื่อแพทมั้ย”


‘ปก เฮียกูถามว่ามึงรู้จักบ้านเพื่อนพี่รหัสมึงที่ชื่อแพทมั้ย’ เจตน์ตะโกนถามให้เดี๋ยวนั้น บอกให้รู้ว่าเย็นๆแบบนี้มันก็ยังคงตัวติดหนึบกับแฟนของมัน


‘ไม่รู้’


‘มึงนี่ช่วยอะไรพี่ผัวมึงไม่เคยได้เลยนะ เฮีย ไอ้ปกบอกไม่รู้จัก แต่ถ้ามันบอกรู้จัก แม่งคงต้องเคลียร์กับผมอีกยาวว่าเสือกรู้จักที่อยู่เพศผู้ตัวอื่นได้ยังไง โอ๊ย! เชี่ย ไอ้ปก! เดี๋ยวนี้ทำร้ายร่างกายกูเรอะ?!’ แล้วหลังจากนั้นก็มีเสียงโหวกเหวกของเจตน์และแฟนของมันดังเข้ามาในโทรศัพท์ เจียระไนไม่อยากตาร้อนมากไปกว่านี้ก็เลยตัดสายแล้วหาหนทางใหม่ด้วยการกดโทรศัพท์หาพี่รหัสของตัวเองแทน รายนี้เป็นเพื่อนสนิทกับพี่รหัสของสิตางศุ์ น่าจะมีหนทางในการสืบหาที่อยู่ของพฤกษาได้บ้าง


“เฮียตฤณ ผมเอง”


‘โอ้โฮ น้ำตากูจะไหล น้องรหัสกูมีเบอร์โทร.กูด้วย?!’


“ผมอยากให้เฮียช่วย”


‘น้ำตากูจะไหลอีกแล้ว โทร.มาไม่ถามสุขภาพกูสักคำ ขอความช่วยเหลือกูก่อนเลยนะไอ้สัด’


“เฮียจะช่วยมั้ย ถ้าไม่ ผมจะได้วาง เสียเวลา”


‘ช่วยๆ ก่อนกูจะช่วย ขอความกรุณามึงบรีฟให้กูฟังก่อนได้มั้ยว่าเรื่องห่าอะไร’


“เฮียรู้จักไอ้โซ่ไออาร์ น้องรหัสพี่เวฟใช่มั้ย ผมกับมันคบกัน แล้วมันหนีผมไปอยู่บ้านไอ้แพทเพื่อนมัน ผมอยากได้ที่อยู่”


‘โซ่ไออาร์? น้องรหัสไอ้เวฟ? เชี่ย!!!! นี่มึงจีบติดเหรอ?!!!’


“เออ! แล้วตอนนี้ผมจะเอาที่อยู่ไอ้แพท เฮียจะช่วยมั้ย” เจียระไนถามย้ำอีกครั้งตามประสาคนไม่ค่อยจะอดทน


‘ช่วยสิวะ ขอเวลากูสามนาที’


“ผมให้หนึ่ง เร็ว!”


‘เออๆ เดี๋ยวกูส่งข้อความไปบอก’ แล้วพี่รหัสก็วางสายจากไป เจียระไนคาดว่ารายนั้นคงไปสืบที่อยู่เอากับพี่รหัสของสิตางศุ์ ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะไม่ได้ เขาควรจะหาทางอื่นเผื่อเอาไว้ด้วย แต่อึดใจต่อมา ข้อความจากพี่รหัสก็ปรากฏขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์เขา


‘กูได้มาจากพี่รอนไออาร์ จัดการให้อยู่หมัดแล้วถ่ายรูปส่งมาให้กูดูด้วยว่าง้อสำเร็จ กูจะไปไถตังค์ที่พนันไว้กับไอ้เวฟ’


เจียระไนอยากถามว่าพนันอะไรกัน แต่ช่างมันเถอะ เวลานี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเขาต้องบุกไปเจอสิตางศุ์ให้ได้ก่อน


...แล้วถ้าได้เจอตัวเมื่อไร จะจับหมั้นจับแต่งให้รู้แล้วรู้รอด จะไม่ให้แม่งหนีไปไหนได้อีกเลย!...

...................................

พฤกษานั่งเล่นโทรศัพท์เงียบๆในห้องนั่งเล่นที่เปิดแอร์อุณหภูมิปกติของสากลโลกนั่นคือ 25 องศา แน่นอนว่าเป็นทุกที สิตางศุ์คงไม่นอนนิ่งแบบนี้หรอก แต่เพราะวันนี้มันไม่ค่อยปกติเท่าไร ขนาดเปิดพัดลมมันยังห่มผ้าคลุมถึงคอเลย


เขาเหลือบตาขึ้นมองเพื่อนสนิทที่เอาแต่นอนซม เมื่อกี้ลองจับตัวมันดูแล้วเหมือนจะเป็นไข้รุมๆ เดี๋ยวรอให้ตื่นมาอีกรอบ จะให้กินข้าวแล้วกินยาดักสักหน่อยแล้วค่อยให้นอนต่อ


เสียงแจ้งเตือนของเวปไซต์สังคมออนไลน์ดังขึ้นรัวๆ เขารีบปิดเสียงเพราะกลัวว่าจะปลุกให้คนหลับต้องตื่น และนั่นทำให้เห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวในหน้าจอ


‘เชียร์โจ๊กๆ’


‘ที่เขาลือกันนี่เรื่องจริงเหรอวะ’


‘ไอ้โจ๊กโคตรเจ๋ง เชี่ยเวฟเสียน้องรหัสให้ไอ้ตีนจริงด้วย’


‘กูชื่อตฤณครับ บิดามารดรเรียกตินติน ตีนน่ะเอาไว้ตั้งชื่อลูกมึงเถอะ’


‘ใครบอกกูเสียน้องกู มาไฝว้กะกูมั้ย’


‘มึงไปไฝว้กับน้องไอ้ตินตินไป เสียแน่น้องมึงอ่ะ เสียแน่’


ข้อความไหลเร็วอย่างกับน้ำป่า พฤกษากดเข้าไปอ่านต้นเรื่องก็ถึงกับตาเหลือก คนโพสต์คือพี่รหัสของเจียระไน เขียนยาวๆแต่ได้ใจความว่า


‘โครงการหาแฟนให้น้องรหัส: ไอ้โจ๊กตามหาโซ่ไออาร์ พิกัดล่าสุดคือบ้านไอ้แพทไออาร์ ใครรู้โลเกชั่น ส่งมาทีครับ’


‘ป.ล.ช่วยโจ๊กหนึ่งครั้ง ได้บุญมากนะครับ เพราะชีวิตแม่งไม่เคยขอความช่วยเหลือใครเลยครับ’


ไม่รู้จะด้วยงานขายอย่างฮาร์ดเซลของพี่รหัสของเจียระไนรึเปล่า ถึงได้มีแต่คนเชียร์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู ไม่ว่าจะพวกรุ่นพี่ที่เรียนจบไปแล้ว รุ่นเพื่อนที่รู้จักกัน หรือแม้แต่รุ่นน้อง แต่ถึงอย่างนั้น หลายคนที่เข้ามาคอมเม้นท์ที่เขารู้จักและสนิทสนมด้วย ก็ไม่มีใครแพร่งพรายบอกที่อยู่ของเขาใต้การขอความช่วยเหลือนั้นเลย พฤกษาถอนหายใจ เหลือบตามองคนที่ยังนอนซม


...บางที นี่ก็อาจไม่ใช่การช่วยไอ้โจ๊ก แต่เป็นการช่วยไอ้โซ่...


เจ้าของบ้านกดเข้าไปที่ข้อความส่วนตัว เขากำลังจะส่งที่อยู่ของตนเองไปให้เจียระไน แต่เสียงรถแล่นมาจอดที่หน้าบ้านดังขึ้นเสียก่อนเลยต้องลุกออกไปดู และแทบจะในทันทีที่พฤกษาเห็นว่าใครลงจากรถ เขาก็ถึงกับตาเหลือกด้วยความตกใจ รีบก้มลงมองโทรศัพท์ในมือก็เห็นว่าตัวเองยังไม่ทันจะกดอะไรด้วยซ้ำ!


แต่...เจียระไนมาเหยียบอยู่หน้าประตูรั้วแล้ว แถมแผดเสียงดังลั่น!


“ไอ้โซ่อยู่ไหน?! มันหนีกูทำไม?!!”

....................................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 06-07-2017 20:30:18


...เหมือนโลกจะแตก...


   หมายถึงวินาทีแรกที่เจียระไนเห็นหน้าเจ้าของบ้าน แต่พอมันเดินตึงตังเข้ามาในห้องนั่งเล่นแล้วพบว่าคนที่ต้องการเจอหน้ากำลังนอนซมอยู่บนโซฟา ไอ้ท่าทีขึงขังดุอย่างกับเสือก็กลายเป็นเชื่องอย่างแมว


   พฤกษาเหลือบตามองเข้าไปในห้องนั่งเล่น เวลานี้เจียระไนนั่งสงบอยู่บนโซฟา เรียบร้อยยิ่งกว่าผ้าพับไว้ แทบไม่ทำเสียงดังรบกวนคนหลับเลยแม้แต่นิดเดียว


   ...ถึงได้บอก...มาอย่างเสือ แต่เชื่องอย่างแมวของจริง!...


   เจ้าของบ้านเปิดประตูเลื่อนกระจกเช้าไปในห้องนั่งเล่นพร้อมกับข้าวต้มที่เขาอุ่นมาให้ ตอนปิดประตู เผลอทำเสียงดังไปนิด ไอ้คนที่เชื่องอย่างแมวก็ตวัดสายตาแบบเสือขึ้นมาดุเขาที่ทำเสียงดังรบกวนคนหลับ


   ...ปกป้องประดุจไข่ในหิน ยังจะกลัวมันกลับไปหาแฟนเก่าอีกเหรอวะ ไอ้โซ่เอ๊ย!...


   “มึงปลุกมันมากินข้าวได้ล่ะ จะได้กินยา เมื่อกี้ไอ้กตโทร.มา มันถามว่ามีเรื่องอะไร สงสัยเห็นที่พี่มึงไปโพสต์ มันว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ถ้ามันมาแล้วเห็นไอ้โซ่ยังไม่เป็นปกติ ทั้งกูทั้งมึงโดนไอ้กตเชือดแน่” คนถือถาดข้าวต้มสั่ง ก่อนจะวางลงบนโต๊ะเล็กใกล้ๆ แล้วปล่อยให้เจียระไนเดินไปปลุกคนหลับเอง เขาเหลือบตาไปมอง เห็นสิตางศุ์เริ่มขยับตัวก็เลยเดินหนีออกจากห้องนั่งเล่น เวลานี้ควรให้สองคนได้คุยกันอย่างเป็นส่วนตัว แม้เขาจะอยากรู้มากแค่ไหนก็เถอะ


   ในห้องนั่งเล่นเหลือกันอยู่แค่สองคน และคนที่ถูกสะกิดที่แขนซ้ำๆก็เริ่มรู้สึกตัว    สิตางศุ์ลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นเพียงภาพเบลอของใครสักคนที่นั่งอยู่ที่พื้นและกำลังมองมา เลยหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมขึ้นใหม่ คราวนี้ภาพตรงหน้าไม่พร่าเลือนอีกแล้ว...มันชัดพอที่จะทำให้เขารู้ว่าคนตรงหน้าคือใคร


...โจ๊ก...


...โจ๊กเองเหรอ...


...หะ?! โจ๊ก!!...


คนเพิ่งตื่นถึงกับลุกพรวดเดี๋ยวนั้นด้วยความตกใจ


“กูเป็นคน ไม่ใช่ผี ทำไมต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้น” คำพูดเรียบๆของคนที่ตีหน้าเรียบเฉย ทำเอาสิตางศุ์ต้องกวาดตามองไปรอบๆ ตอนนี้เขายังคงอยู่ในบ้านของพฤกษา แต่ไม่เห็นเจ้าของบ้านเลย


“ไอ้แพทยกข้าวต้มมาให้ มึงกินข้าวซะ” ร่างสูงหันไปขยับถาดข้าวต้มมาใกล้ๆ ในถาดมีแผงยาแก้ปวด ลดไข้วางอยู่พร้อมน้ำเปล่าด้วย เลยต้องเงยหน้ามอง


“มึงไม่สบายเหรอ”


ไม่ถามอย่างเดียวแต่แนบหลังมือลงกับซอกคอเพื่อวัดอุณหภูมิ แล้วขยับขึ้นไปที่แก้มขาว และหน้าผาก


สิตางศุ์มองคนตรงหน้าที่ยังคงเป็น ‘โจ๊ก’ คนเดิมที่เขารู้จัก แล้วก็สั่นไปหมดทั้งหัวใจ ความหวาดหวั่นที่จะเสียคนตรงหน้าให้ใครไปทำให้เขายิ่งได้แต่ก้มหน้านิ่ง


“อ่ะ ช้อน หรือต้องให้กูป้อน” มือใหญ่ยัดช้อนใส่มือขาว ตามด้วยถ้วยข้าวต้มเล็กๆที่โรยด้วยหมูหยอง


“กูกินได้” เสียงที่ตอบกลับมานั้นแหบแผ่ว จนเจียระไนรู้สึกผิด เมื่อกี้พฤกษาบอกเขาแล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงหลบหน้ามาอยู่ที่นี่


‘ไม่ใช่ไอ้โซ่ไม่มั่นใจในตัวมึงนะเว้ย แต่มันไม่มั่นใจในตัวเอง มันถึงกลัวว่ามันจะเสียมึงไป’


“มีอะไรอยากจะถามกูรึเปล่า” เจียระไนที่นั่งอยู่บนพื้นหน้าโซฟาตั้งคำถาม ทำเอาคนที่ก้มหน้าตักข้าวต้มเข้าปากเงียบๆต้องเหลือบตามอง เพราะสิตางศุ์นั่งอยู่บนโซฟา แม้จะงุ้มตัวเพราะรู้สึกอ่อนล้า แต่ระดับสายตาก็สูงกว่าคนที่นั่งอยู่บนพื้นนิดหน่อย


“เราตกลงจะศึกษากัน ถ้ามึงมีอะไรอยากถามก็ถาม อย่าเก็บไว้คนเดียว แต่ถ้ามึงไม่ถาม เดี๋ยวกูถามมึงเอง”


“มึงจะถามอะไร” สิตางศุ์ย้อนถามอย่างงุนงง


“ทำไมไม่รอกูไปรับ”


“อ่า...ก็เห็นว่ามึงรถติด”


“แล้วทำไมถึงวางสาย”


“ก็...มึงขับรถอยู่”


“แต่กูให้นิตาถือโทรศัพท์ กูไม่ได้ถือเอง” ชื่อของผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสาเหตุให้สิตางศุ์พาตัวเองเข้าไปใกล้เจียระไน มาในวันนี้ เขากลับไม่อยากได้ยินชื่อนี้จากปากคนตรงหน้าเลยสักนิด


“โซ่ มึงคิดมากเรื่องกูกับนิตาเหรอ”


“ก็...กู...กูไม่อยากให้นิตาอยู่ใกล้มึง กูไม่อยากให้มึงกับนิตาคุยกันรู้เรื่องแค่สองคน กูไม่เคยอยากเป็นเหมือนใคร ไม่เคยอยากได้อย่างใคร แต่ว่า...พอเป็นเรื่องของมึง กู...กูก็...อิจฉาคนที่ได้อยู่ใกล้มึงไปหมด กูไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย” มันอึดอัด มันทรมาน เหมือนไม่ใช่สิตางศุ์คนเดิมที่เคยเป็นมา


“พูดใหม่ มึงไม่ได้อิจฉาแต่มึงหึง” เป็นประโยคคำสั่งผสมประโยคบอกเล่า ทำเอาดวงตาคู่สวยที่มีแววไม่สบายใจต้องเหลือบขึ้นมองอีกหน


“เรียกว่าหึงเหรอ” คนไม่เคยมีความรัก ไม่เคยอิจฉาใคร ไม่เคยอยากมีอยากได้แบบใคร มาวันนี้เพิ่งเข้าใจว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่คือ การหึง


เจียระไนยิ้มจาง ยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบเส้นผมสีน้ำตาลนิ่มนั่นแผ่วเบา


“วันที่มึงเห็นนิตาร้องไห้น่ะ เพราะนิตาทะเลาะกับแฟน พ่อแม่นิตาจะให้แต่งงานกับผู้ชายอีกคน แล้วแฟนนิตาก็ยอมเลิก...”


“อ่า...นิตาน่าสงสาร” สิตางศุ์ผู้แสนใจดีถึงกับครวญอย่างรู้สึกผิด เขาไม่น่าคิดในแง่ลบเลย ทั้งๆที่นิตากำลังมีปัญหาอยู่แท้ๆ


“นี่ไง เพราะมึงสงสารง่ายๆอย่างงี้ไง กูเลยไม่อยากเล่า” เจียระไนแทรก คิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าถ้าคนตรงหน้ารู้เรื่อง สโลแกนเมตตาธรรมค้ำจุนโลกต้องปรากฏ แล้วยิ่งถ้าเขาทำเมินไม่ให้ความช่วยเหลือนิตา เกิดนิตามาขอความช่วยเหลือผ่านทางสิตางศุ์ งานนี้หญิงชายก็ใกล้กันอีก งานเอาตัวเองเข้าแลกเลยต้องมา สุภาพบุรุษลูกผู้ชายมากๆ!


“แล้ว...แล้วตอนนี้นิตากับแฟนดีกันรึยัง”


“ยังไม่รู้ นิตาให้กูไปช่วยพูดให้ แล้วบ้านแฟนนิตาแม่งโคตรไกล เกือบออกนครปฐมอยู่แล้ว”


“มึงไปพูดอะไรกับแฟนของนิตา?” สิตางศุ์ถามด้วยความอยากรู้ เพราะเท่าที่สนิทสนมกันมา อีกฝ่ายไม่ค่อยจะมองโลกอย่างสวยสดงดงามเท่าไร และไม่น่าจะให้กำลังใจสร้างความฮึกเหิมให้ใครได้


“กูบอกให้พานิตาหนีแม่งเลย รอสอบตัวสุดท้ายให้เสร็จ แล้วหนีซะ กลับมาอีกทีค่อยจูงหลานมาไหว้” คนฟังถึงกับตาเหลือก


“แบบนั้นจะดีเหรอ?!” คนนิยมวิธีเจรจาอย่างละมุนละม่อมย่อมไม่คิดว่าการพาหนีจะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด


“แล้วมึงจะให้ทำไงล่ะ”


“ลองให้นิตาพาแฟนไปเจอพ่อแม่ดูก่อนมั้ยอ่ะ ค่อยๆคุยกัน แบบที่กูทำ”


“มึงทำตอนไหน?!” เจียระไนถามเสียงห้วน จิกทั้งตา จิกทั้งเสียง


...ตอบให้ดี ว่ามึงทำแบบนี้กับแฟนคนไหนของมึง...


“ก็ตอนกลับไปกระบี่ไง...เอ่อ...กูบอกทัศน์ด้วยแหละเรื่องกูกับมึง ทัศน์ก็บอกว่ามันจะช่วยพูดให้เรื่อยๆ ให้พ่อกับแม่กูรู้เรื่องของเราบ่อยๆ เขาจะได้ชิน อ่า...แล้ว....แล้วตอนที่หม่าม้าของมึงโทร.หากู กูก็ให้แม่กูได้คุยกับหม่าม้าด้วย คนที่แนะนำให้ซื้อชามาฝากบ้านมึงก็แม่กูนี่แหละ”


ร่างสูงที่นั่งอยู่บนพื้นถึงกับชะงัก ไม่รู้มาก่อนว่าอีกฝ่ายกลับไปกระบี่แล้วอัพเกรดตัวเองขนาดนี้ ถึงขั้นวางหมากให้ลูกพี่ลูกน้องช่วยพูด ไหนจะชักนำให้มารดาของเขาและของสิตางศุ์รู้จักกันด้วย


...ตอนที่กูกำลังทำหน้าเศร้าให้คนที่บ้านต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาดูใจ ไอ้โซ่กลับกำลังวางแผนทำให้เรื่องของเรากลายเป็นเรื่องธรรมดาในความคิดของพ่อแม่มัน...


...ไอ้ฉิบหาย ทำอะไรไม่ปรึกษากู แต่แม่งโคตรเอาใจกูเลย!!...


“วิธีนี้ดีอยู่นะโจ๊ก แม่กูดูชอบมึงมากเลย แต่พ่อ...อ่า...สงสัยเพราะแม่ชมว่ามึงหล่อ พ่อก็เลยไม่ค่อยแฮปปี้”


“พูดแล้วก็กินด้วย ข้าวต้มมึงหายร้อนหมดแล้วมั้ง” เจียระไนหันไปหยิบกระปุกหมูหยองมาโรยลงไปให้อีก


“โจ๊ก กูไม่เห็นด้วยนะ เรื่องพาหนีน่ะ”


“เออๆ กูจะบอกนิตาให้” พอชื่อของผู้หญิงหลุดออกมา สิตางศุ์ก็ชะงักไปอีกหน ร่างสูงเหลือบตาสบกับคนที่ไม่ยอมตักข้าวต้มเข้าปากอีก แล้วก็ถึงกับหัวเราะเบาๆ


“กูเริ่มชอบเวลามึงหึงแล้วว่ะ เอาเป็นว่าถ้ากูจะคุยกับนิตาอีก จะให้มึงอยู่ด้วยเลย”


“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ กูไว้ใจมึง”


“ถ้างั้นมึงก็ควรไว้ใจตัวเองด้วย ว่าดีพอสำหรับกู” เป็นการพูดจาห้วนๆที่ทำให้คนฟังรู้สึกเหมือนได้รับดอกไม้ช่อใหญ่ในวันที่อ่อนแอ มือใหญ่ใช้ช้อนในกระปุกตักหมูหยองโรยให้อีก


“กินเร็วๆ กินเสร็จจะได้กินยา แล้วเดี๋ยวกูพากลับไปนอนที่คอนโด ไม่ต้องมองหน้ากูเหมือนจะถามว่าคอนโดใคร คอนโดกูสิ! มึงไม่ต้องกลับไปนอนคนเดียวเลย ถ้ายังไม่หายดี”


“กูไม่ได้ป่วย...แค่...นอนไม่พอเท่านั้นแหละ...”


“แล้วมึงนอนไม่พอเพราะอะไร อย่าบอกนะว่าคิดเรื่องกูกับนิตาจนนอนไม่หลับ” หน้าเจื่อนๆของคนนอนไม่พอเป็นคำตอบได้อย่างดี เจียระไนเลยดีดหน้าผากเข้าให้ที


“คราวหลังสงสัยอะไรก็ถาม ไม่ต้องเก็บไปคิดมากคนเดียว”


“อื้ม คราวหลังจะไม่ทำแบบนี้แล้ว” สิตางศุ์รับปากแล้วตักข้าวต้มเข้าปากอีกคำ ไม่รู้เพราะหมูหยองมันหวานๆเค็มๆรึเปล่า ถึงได้ทานจนหมดถ้วย หรือบางที...อาจจะเป็นเพราะมีใครบางคนนั่งจ้องอยู่ตรงหน้าก็ได้


   “แล้วมึงกินอะไรรึยัง” ร่างโปร่งผิวขาวจัดถามเมื่ออีกฝ่ายรับถ้วยข้าวต้มที่หมดแล้วไปวางในถาดตามเดิม ก่อนจะฉีกซองยาแก้ปวดลดไข้มาส่งให้ถือ


   “ยัง เดี๋ยวค่อยกลับไปทำไรกินที่คอนโด มึงกินยาซะ ไอ้แพทได้ปล่อยกลับ”


   “เออ แพทไปไหนแล้วก็ไม่รู้ จริงด้วย...แล้วมึงรู้จักที่นี่ได้ไง” เจียระไนหยิบโทรศัพท์มาเปิดให้ดู โพสต์ขอความช่วยเหลือของพี่รหัสของเขายังคงมีคนเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างถล่มทลาย แต่ที่ดูเหมือนจะตีกันในหน้าโพสต์ไปแล้วก็พี่รหัสของเขาและพี่รหัสของสิตางศุ์นั่นแหละ


   “โอ้โฮ มึงทำขนาดนี้เลยเหรอ”


   “ก็กูบอกแล้วว่ากูจริงจัง”


   “กู...ขอโทษนะ กูน่าจะรอมึงที่คณะ เลยทำให้ทั้งมึงทั้งพี่ตฤณลำบากไปด้วยเลย”


   “แต่กว่ากูจะไปถึงก็ช้าจริงๆนั่นแหละ มึงกลับมาที่นี่ก็ดีแล้ว อย่างน้อยจะได้นอนพัก” เจียระไนที่ตอนแรกทั้งหงุดหงิด ทั้งโมโห แต่พอมาเห็นสภาพอีกฝ่ายนอนซมหน้าซีดตัวรุมๆอยู่บนโซฟาแล้วก็ยิ่งนึกโกรธตัวเองขนาดหนัก แถมพานไปโกรธนิตาด้วยที่ดันมาขอความช่วยเหลือจากเขาวันนี้


   “อ่า...จริงๆแล้ว...ถ้าให้รอ ก็รอได้ แต่...แต่กู...หึงนั่นแหละ...มึงกับนิตาเคยเป็นแฟนกันมาก่อน กู...กลัวมึงจะกลับไปหานิตาอีก เอ่อ...อย่าเข้าใจกูผิดนะ กูไม่ได้คิดว่ามึงโลเล แต่ว่า...กูไม่รู้ว่ากูจะสู้นิตาตรงไหนได้บ้าง กูก็เลย...ไม่มั่นใจว่ากูมีดีพอสำหรับมึงมั้ย”


มือใหญ่เอื้อมไปแตะที่แก้มขาว ปลายนิ้วโป้งลูบไล้เบาๆที่ผิวเนื้อใต้ดวงตา


   “มึงรู้มั้ย ทำไมกูกับนิตาเลิกกัน...”


สิตางศุ์ส่ายหน้าช้าๆ ทว่าดวงตายังสอดประสานกัน ระหว่างพวกเขาเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนที่เจียระไนจะพูดต่อเบาๆ


   “พวกกูเลิกกันเพราะมึง”

.....................................

   “ตอนกูเป็นแฟนกับนิตา กูเห็นมึงมองนิตาบ่อยๆ”


คำสารภาพจากผู้ชายที่ชื่อเจียระไน ทำเอาสิตางศุ์ต้องคิดตาม เพื่อนของเขาเคยบอกว่าสองคนนี้คบกันตอนปี 2 เทอม 1 ช่วงนั้นเขาชอบมองหญิงสาวจากภาคสังคมวิทยาและมานุษยวิทยาคนนี้ หล่อนไม่ได้สวยจัด ไม่ได้ใช้ของหรูแบรนด์เนมทั้งตัว หล่อนน่ารักและสดใส มองแล้วสบายตา


   “กูมันคนขี้หงุดหงิด กูไม่ชอบ เคยไปบอกไอ้แพทให้มันบอกมึงว่าเลิกมองนิตาซะที แต่แม่งบอกว่าอย่าไปสนสายตามึงเลย เพราะมึงมองเป็นอย่างเดียว”


   “อ่า...ก็...กูทำอย่างอื่นไม่เป็นนี่นา...”


   “ใช่ แล้วมึงก็บ้าเรียนมากด้วย” เจียระไนแทรก ก่อนจะยอมกลับไปเล่าต่อ


   “ทุกครั้งที่กูอยู่กับนิตา จะรู้สึกว่าถูกมอง พอมองหาก็เห็นมึงมองนิตาเสมอ กูเคยจะเข้าไปคุยกับมึงตัวต่อตัวหลายรอบ แต่มึงแม่งบารมีคุ้มหัวมาก กูเข้าไม่ถึงสักครั้ง แล้วกูก็เป็นคนแบบนี้ หงุดหงิดบ่อยๆ สุดท้ายก็เลยเลิกกับนิตา”


   “อ้าว...สรุปมึงกับนิตาเลิกกันก็ไม่ใช่เพราะกูน่ะสิ โอ๊ย” คนถูกโทษให้เป็นสาเหตุของการเลิกราในครั้งนั้นเถียงขึ้นมาเบาๆ ทำเอาโดนดีดหน้าผากไปหนึ่งทีโทษฐานแก้ต่าง


   “เพราะมึงสิ มึงน่ะจุดเริ่มต้นเลย...”


   “...พอเลิกกับนิตา กูอยากรู้ว่ามึงจะทำยังไงต่อ ถ้านิตาโสด มึงน่าจะทำอะไรสักอย่าง กูมองหามึงบ่อยๆ จนรู้ว่าจะหามึงเจอได้ที่ไหน...ห้องสมุดคณะ...โรงอาหาร...โต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียน...กับป้ายรถรับส่งของมหา’ลัย...กูรู้ตัวอีกที แม้แต่วันที่กูไม่มีเรียน กูก็มาคณะเพราะอยากเห็นมึงแล้ว แต่กูเข้าไปหามึงตรงๆไม่ได้ พี่รหัสมึงหวงอย่างกับหมาบ้า กูก็เลยไปบอกไอ้แพทว่ากูจะจีบมึง แต่ไอ้กตไม่ยอม มันบอกให้กูรอจนปีสี่ ต้องพิสูจน์ให้มันเห็นว่ากูสนใจมึงจริงๆ”


ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าความรู้สึกของเจียระไนยิ่งใหญ่ คนที่เฝ้ามองห่างๆมาตลอดเกือบ 2 ปี คนที่อยู่กับความรู้สึกแบบนี้มาตลอดโดยแสดงตัวไม่ได้เลย นอกจากจะต้องใจใหญ่แล้ว ยังต้องมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าด้วย


   “ความรู้สึกของกู...คงสู้มึงไม่ได้เลย” สิตางศุ์พูดแผ่วอย่างรู้สึกผิด แต่เจียระไนยักไหล่เหมือนไม่สนใจ


   “ก็แน่อยู่แล้ว กูรักมึงมา 2 ปีนะโซ่ ส่วนมึงเพิ่งจะรู้สึกกับกูเมื่อเทอมที่แล้ว มึงจะสู้กูได้ยังไง”


   “แต่มันไม่แฟร์กับมึง...”


   “กูไม่ได้อยากได้ความแฟร์” ใบหน้าขาวเงยขึ้นสบตาคนที่พูดจาอย่างเด็ดเดี่ยว เจียระไนเป็นเช่นนี้เสมอ ตรงไปตรงมากับความรู้สึก มุ่งมั่นกับความต้องการ


   “สิ่งที่กูอยากได้คือการที่มึงรักกู” คนตรงหน้าเงียบไป ทว่าร่างสูงไม่ได้ใส่ใจนัก เขายักไหล่เหมือนไม่สนใจ คำว่ารักจากปากคนที่ไม่รู้จักความรู้สึกแบบนี้คงเป็นเรื่องยาก แต่ไม่เป็นไร...มองที่การกระทำเอาก็ได้


“ถึงตอนนี้มึงจะยังบอกกูไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แค่มึงอยู่กับกู มึงหึงกู หวงกู กูว่ากูรู้แล้วว่ามึงรู้สึกยังไง” คนพูดคว้าเอามือขาวมากอบกุม ก่อนจะสอดนิ้วประสานกันเอาไว้ ความร้อนผ่าวของมือใหญ่นั้น ทำเอาสิตางศุ์อุ่นวาบขึ้นมาในอก รอยยิ้มจางจุดที่ใบหน้าขาวจัดยามที่สบตากัน


“กลับห้องกัน” ร่างสูงชวน ก่อนจะดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน สิตางศุ์ลุกตามแต่ไม่ทันจะก้าวเดิน คนที่ชวนให้กลับก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ ล้วงเอาโทรศัพท์มืถือขึ้นมากดถ่ายรูปมือของพวกเขาที่ยังจับกันอยู่


“ทำอะไรน่ะโจ๊ก” ร่างโปร่งหันไปถาม หนุ่มตาเรียวทำหน้านิ่ง ตาดวงตาเป็นประกายวาววับ


   “รายงานพวกขี้เสือก” เขาตอบแล้วก้มหน้าก้มตากดยุกยิก แม้สายตาและมืออีกข้างจะกำลังจดจ่ออยู่กับการกดโทรศัพท์ แต่ก็ยังจูงร่างโปร่งให้เดินตามออกมาจากห้องนั่งเล่น


   “แพท กูกลับก่อนนะ” เจียระไนที่เอาแต่กดโทรศัพท์ได้ยินเสียงลาของคนที่เขาจับจูง ดังมาจากเบื้องหลัง แต่ก็ไม่ได้หันไปมอง ตาและนิ้วยังคงมีสมาธิอยู่กับโทรศัพท์


   “เออ เจอกันที่คณะพรุ่งนี้” พฤกษาบอกลา เขาสบตากับเพื่อนสนิทที่ถูกจูงออกไปที่ประตู ก่อนจะชี้หน้า


“อยากทำอะไรก็ทำซะล่ะ อยากบอกอะไรก็พูดซะ จะได้ไม่ต้องเสียใจอีก” เป็นประโยคส่งท้ายก่อนที่คนทั้งสองจะออกจากบ้าน เขาทันเห็นสิตางศุ์ส่งยิ้มมาให้ก่อนที่ประตูจะปิดลง


คนเป็นเพื่อนถอนหายใจเบาๆอย่างโล่งอกที่พายุผ่านพ้นไปได้เสียที พฤกษาคงจะกลับเข้าครัวไปหาอะไรกินต่อ ถ้าไม่ใช่เพราะโทรศัพท์ของเขาสั่นรัวๆ หนุ่มทะเล้นแห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดู เป็นอีกครั้งที่มีข้อความหลั่งไหลเหมือนน้ำป่า


   ‘ตามตัวเจอด้วยเว้ยเฮ้ย’


   ‘จับมือกันด้วยยยยยย ฟหดกดกแกเกเดแดเดเดดเกเ’


   ‘ติซซี่จะทำโครงการขอพี่โซ่คืนจากพี่โจ๊ก มีใครจะร่วมมือกับติซซี่บ้าง’


   ‘ขอความร่วมมือที่ชาติหน้าค่ะ ชาตินี้พี่เชียร์อิโจ๊ก’


   ‘พี่ไม่อยากฮุบพี่โจ๊กไว้เองเหรอคะ เราร่วมมือกันชาตินี้ วินวินนะคะ’


   ‘เชี่ยเวฟเงียบกริ้บ สงสัยแม่งยุ่งกับการนับทอง’


   ‘เจอทองของจริง ไอ้โจ๊กนี่เจ็กร้านทองเลย’


   และพอเขากดเข้าไปดูในหน้าโพสต์ของเจียระไน ภาพมือสองมือที่จับกันเอาไว้ก็ปรากฏ มือหนึ่งน่าจะเป็นของเจ้าของโพสต์ ส่วนอีกมือที่จับประสานกันอยู่นั้นขาวจัดจนน่าจะทายไม่ยากว่าเจ้าของเป็นใคร


   เขาเลื่อนลงมาที่ใต้รูป คอมเม้นท์แรกมาจากเจ้าของโพสต์นั่นแหละ ดูเหมือนตอนมันลงรูปนี้คงรีบร้อนจะอวดชาวบ้านมากจริงๆ ถึงได้ลืมใส่ข้อความกำกับ เลยต้องมาใส่ที่ข้อความแรกสุดแทน และข้อความนั้นเป็นข้อความสั้นๆที่เฉลยให้ใครก็ตามที่สงสัยเกี่ยวกับมือในรูปนี้


 ‘มือไอ้โซ่’


สั้นๆได้ใจความ แต่บอกสถานะหัวใจของทั้งเจียระไนและ ‘ไอ้โซ่’ ได้เป็นอย่างดี


ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า)

เดี๋ยวๆ ใครทายว่านิตาท้อง กลับมาก่อนค่ะ กลับมาก่อนนนนน ประเภทนางร้ายสายท้อง มัดมือชกพระเอกให้รับเป็นพ่อของลูก พระเอกก็แสนดีเห็นแก่เด็กและสตรีมีครรภ์ ลืมนายเอกไปชั่วขณะ อะไรอย่างนั้น เรื่องนี้ไม่มีค่ะ (ที่สำคัญคือมัดมือชกพระเอกอย่างโจ๊กปกครองนี่...ไม่น่าจะได้ แหะๆ)

ส่วนใครทายว่าโจ๊กทำเพื่อโซ่ เปล่าเลยยยยย โจ๊กชายชาตรีทำเพื่อตัวเองล้วนๆค่ะ หนึ่งหญิงหนึ่งชายใกล้กันไม่ได้ โจ๊กปกครองกล่าวไว้ กร๊ากกกก

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และกำลังใจเช่นเคยค่ะ

เจอกันพฤหัสหน้า (โซ่จะลงมือบ้างแล้ววววว)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-07-2017 21:03:47
โจ๊กปกครองระบอบเผด็จการแน่นอน

จัดการทุกอย่างแบบเฉียบขาด ไม่เหลือทางให้ใครฝ่าชายแดนได้เลย ฮ่า ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 06-07-2017 21:12:40
เอ็นดูโซ่  โซ่พัฒนาไปเยอะมากกกกก ดีต่อใจสุดๆ
 เมื่อไรจะถึงฉากกิ้กิ้ววว><  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-07-2017 21:14:03
โซ่รู้ตัวบ้างงลูกกกกก โอ้ยยยย มึนไม่หายเนี่ยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 06-07-2017 21:19:56
โจ๊กกกก อิสุภาพบุรุษ ตอนนี้โจ๊กอย่างเท่ ตามว่าที่เมียกลับบ้านไปอย่างเฉียบขาด  :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 06-07-2017 21:21:29
ชอบโจ๊ก-โซ่ มากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 06-07-2017 21:29:01
โอ๊ยยยย พนันขันต่อเรื่องนี้จัดว่าเด็ด ^^
พี่รหัสแต่ละฝ่ายดี๊ดี...ช่วยน้องกันสุดฤทธิ์ 555

เคลียร์ๆ กันชัดแจ๋ว...โจ๊กจัดการด้วยวิธีโจ๊ก โซ่จัดการด้วยวิธีโซ่...หมายถึงจัดการความสัมพันธ์คนรอบข้างน่ะนะ ^^

เอาใจช่วยพระเอกกันต่อปายยยย ให้โซ่บอกรักสักที อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 06-07-2017 21:32:16
โจ๊กนี่แบบ อนาคตรักเมียยิ่วชีพอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 06-07-2017 21:36:12
แหมมมมมมมมมมมมมมมมม อิพี่โจ๊กไม่ค่อยจะอวดเลยนะคะ หมั่นไส้จริงๆ นี่ขนาดยังแค่คบนะถ้าเป็นแฟนกันจริงๆนี่ไม่อวดยิ่งกว่านี้เหรอ อยากจะแหมยาวๆจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 06-07-2017 21:38:35
ดีมากกกกก ดีมากกกกก โซ่คิดได้ซัก
นิตาเป็นเหมือนตัวกระตุ้น รู้สึกว่านิตาดูตลกๆดีแฮะ
5555555555
เคลียร์กันได้แบบโคตรรรเคลียร์ ชัดแจ่มแจ้ง
ก็นะ โจ๊กชัด้จนในความรู้สึกตัวเองอยู่แล้วอะเนาะ
รอเขาสองคนอย่างเป็นทางการค่าาา
อิอิ รออ่านตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 06-07-2017 21:40:56
ชอบโจ๊กอะะะะ เป็นผู้ชายที่โคตรคนจริงเลย
ทั้งเรื่องความรู้สึก การแสดงออก ความชัดเจน
คือมีหมด ครบเครื่อง โซ่อย่าคิดช้า รีบรวบไว้ให้ไว
ชอบมาก ที่บอกว่าไม่ได้อยากได้ความแฟร์
แต่อยากให้โซ่รัก ซึ่งมันจริงนะ
เวลาเรารักใครซักคน รักมานานเท่าไหร่ไม่สำคัญหรอก
สำคัญอยู่ที่ว่าคนที่รักนั่นอะ จะรักเรารึเปล่า
ตอนนี้ละมุนใจมากกกก เชียร์โจ๊ก รักโจ๊ก
อยากให้โจ๊กสมหวัง ให้ได้โซ่สมใจนางซักที

ปล.ชอบเหตุผลตรงๆในการช่วยนิตามาก
คนจริงที่สุด สุดๆต้องยกให้โจ๊ก ฮ่าๆ
ขอบคุณคุณบัวสำหรับนิยายค่ะ รอตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 06-07-2017 21:42:18
โอ้ยยย น่ารักกกก  :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 06-07-2017 21:50:08
_โซ่น่ารักโว้ยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 06-07-2017 21:54:56
เอาจริง เรื่องนี้มีแต่คนน่ารัก
นิตานี่ไม่แปลกใจเลยแฮะว่าทำไมถึงคนชอบ
น่ารักจริงๆด้วย แต่ยังสู้โซ่ไม่ได้นาจา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 06-07-2017 21:57:17
มันฮาตรงมาอย่างเสือ แล้วกลายเป็นเหมียวนั่งเฝ้านี่ล่ะ 55555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 06-07-2017 22:00:02
ยิ่งอ่านยิ่งรักโจ๊ก
คนบ้าอะไรโคตรน่ารักเลยอ่ะ แม้จะดูบ้าบอมุทะลุไปบ้าง
แต่ทุกอย่างที่โจ๊กทำก็เพื่อเอาโซ่มาเป็นของตัวเองให้ได้

โจ๊ก แกรีบยกระดับความสัมพันธ์ได้แล้ว
หรือตอนหน้าโซ่จะยกเอง

รอนะค้าบบบบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 06-07-2017 22:10:59
 :z3: :z3: :z3: โซ่น่ารักกกกกกกก  อิจฉาน่ารักจริงๆเลยย อยากจะเก็บเธอไว้ไม่ให้ออกไปไหนนน
จากตอนนี้คิดว่าโซ่น่าจะเริ่มคิดตามที่แพทพูดละ
แต่ชอบที่แม่กับหม่าม้าเขาคุยกันแล้ว อิอิ

แต่แอบหมั่นไส้อิโจ๊ก รอบนี้มีคนเชียร์เยอะเหลือเกิน
รวมถึงเราด้วย 55555555555 ย้อนแย้งสุดๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 06-07-2017 22:30:44
ฮ่อลลลลลลล >\\\<
โซ่หึงได้มุ้งมิ้งมาก 5555555555
โจ๊ก แมวเหมียวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-07-2017 22:53:55
โถ ๆ น้องโซ่ไออาร์ แม้แต่หึงยังไม่รู้ว่าหึง น่าเอ็นดูแรง
ชอบความเผือกของเพื่อนพ้องน้องพี่ ประสานงานกันดีจริง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-07-2017 23:16:30
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2017 23:21:04
อนาคตกลัวเมียแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 06-07-2017 23:26:45
พี่โซ่ของน้องงงงงงงง
ไม่น่าหลงผิดเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Tyche ที่ 06-07-2017 23:37:51
โจ๊กก็คือโจ๊กอ่ะเนอะ5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 06-07-2017 23:42:29
ช่วยขบวนการอยากรู้เรื่องชาวบ้านมากเลย 5555

โซ่ซื่อบื้อเรื่องความรักอย่างแรง แม้แต่คำว่าหึงยังไม่รู้ มุมิจริงๆ

โจ๊กดีแล้วที่ชอบพูดอะไรชัดเจน โซ่จะได้มั่นใจในตัวเอง และจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายรุกบ้างแล้ว

รออ่านตอนต่อไปค่ะ อยากวาร์ปไปพฤหัสหน้าเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 06-07-2017 23:54:45
น่ารักมาก หวานมากกกกก เข้าใจกันสักที
ตอนหน้าโซ่จะขอโจ๊กเป็นแฟนใช่มั้ยลูกก รอๆๆๆ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 07-07-2017 00:18:34
โจ๊กนี่เค้าเน้นปลอดภัยอะ55555
หลีกเลี่ยงทุกจุดเสี่ยงจริงๆ
โซ่ควรวางใจได้แล้ว โจ๊กนี่ไปไหนไม่รอดแล้วจริงๆอะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 07-07-2017 00:22:21
ความขี้หึงของคนเพิ่งม่ความรักนี่มันรุนแรงจริงๆ
 :pigha2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 07-07-2017 00:22:51
โจ๊กโคตรชัดเจน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 07-07-2017 00:26:11
เปลี่ยนชื่อความสัมพันธ์ซะทีนะโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 07-07-2017 00:40:49
เชียร์โซ่นะ เชียร์คนเขียนด้วย สู้ๆ นะ
ขอให้ไอเดียไหลมาเทมา ❤
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-07-2017 01:13:34
นั่นไงโซ่มีการหึงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง

โจ๊กแนะนำนิตาได้สุดโต่งมาก 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-07-2017 01:54:27
เกลียดความอวด มือไอ้โซ่เนี่ย เป็นคนไม่มีความลับอะไรเลยยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Fate ที่ 07-07-2017 02:49:12
โจ๊กว้อยยย5555555555555
หนึ่งหญิงหนึ่งชายใกล้กันไม่ได้แต่ก็เกือบเป็นเรื่องแล้วมั้ยล่ะ
ชอบการตื่นตัวของทุกคนในเฟสบุ้คจังค่ะ แสดงว่าเบื้องหลังนี่คนรู้กันทั้งคณะทุกชั้นปีว่าโจ๊ะชอบโซ่
แต่โซ่ไม่รู้อะไรกับเขาเลย เอ็นดูมาก คราวนี้ก็ได้รู้แล้วนะ แถมรู้จักตัวเองมากขึ้นด้วย
โซ่หัวไวเรื่องความรักบ้างได้แล้วววว โอ้ยยย แววมาม่ามาทีคนอ่านหัวใจจะวายเนี่ย55555
ตลกโจ๊กค่ะ ขำนางอะ ถ่ายรูปอวดกองเชียร์ยังขำเลย โจ๊กว้อย55555
รอตอนต่อไปเลยค่ะ ฮือออ55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 07-07-2017 04:53:00
ฮาแก๊งช่วยเหลือผ่านเฟซ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-07-2017 05:34:29
โอ๊ย........ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
โจ๊ก โซ่   :กอด1: :กอด1: :กอด1:

โซ่ รู้จักหึงแล้ว พัฒนาการดีมากกกกก
เพราะรัก ถึงหึง  :o8:
โจ๊ก รักโซ่ แบบทะลุปรอทแล้ว  :z3: :z3: :z3:

มีอะไร สงสัย ก็พูดกัน ถามกัน ถูกต้องเลย
อย่างโจ๊กเรอะ จะเห็นใครดีไปกว่าโซ่  :z3: :z3: :z3:

แถมโซ่วางเครือข่ายให้แม่พ่อวางใจเรื่องโจ๊ก เรียบร้อยแล้ว โซ่ก๊อด..... มันยอดมาก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-07-2017 07:36:40
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 07-07-2017 08:45:41
 หนูสิตางศุ์ ไวมาก ทำเป็นขั้นตอน โจ๊กคิดให้ไว ขืนช้าเดี๋ยวหนูสิตางค์เค้าให้แม่ขอนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 07-07-2017 09:50:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-07-2017 09:59:40
อยากร่วมโครงการกับติดซี่นะแต่กลัวอิโจ๊กกินหัว!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 07-07-2017 11:30:51
ขอโจ๊กแบบนี้อีกที่ ด่วนๆฮะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 07-07-2017 11:48:06
รอนาจา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 07-07-2017 16:22:12
หวายยยยแบบนี้เป็นแฟนกันยังนะะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 07-07-2017 22:36:25
ทำโล่ ให้โจ๊กค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 07-07-2017 22:48:10
โซ่คนจริง  :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 07-07-2017 23:51:28
 :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-07-2017 10:12:51
โซ่น่าสงสาร โถถ ถึงขั้นคิดมาก นอนไม่หลับ นอยด์หนักไปอีก

โจ๊กก็คิดแค่ไม่อยากให้ได้ใกล้กัน แล้วเป็นไง โซ่หลบไปพักใจเลย

แต่โซ่น่ารัก พอถามอย่างน้อยก็บอกว่าเป็นอะไร หึงนะ แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร
โจ๊กก็ฟินไปเหอะ โลกจะแตกก็ตอนโซ่หึงนี่แหละ

โอ๊ยยยย ทำไมทีมโจ๊กเยอะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-07-2017 10:54:56
โซ่น่ารักมากอ่ะ ขนาดหึงยังน่ารักเลย เอ็นดู  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 08-07-2017 13:18:55
โจ๊กชัดเจนได้ใจพี่มากๆ ถึงแม้จะแอบหมั่นไส้ตอนแอบไปนิตาก็เหอะ แต่บทพระเอกมาเต็มมาก
เป็นแฟนกันได้แล้วม้างงงง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 08-07-2017 23:58:48
ชัดเจนกว่าโจ๊กนี่ไม่มีแล้วค่ะ ว่าแต่โซ่จะขยับสถานะความสัมพันธ์ให้โจ๊กได้หรือยังคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-07-2017 15:37:49
อิโจ๊กไม่ได้อยากความแฟร์ แต่อยากได้แฟนจ้าโซ่ เปลี่ยนสถานะให้เค้าหน่อยนะ o18 ตามอ่านทันแล้ว ชอบตอนโจ๊กคุยกับตัวเองอ่ะ เดี๋ยวไอ้ชิบหาย เดี๋ยวไอ้หอก5555 ฮาดี
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 17 (06/07/2017) หน้า 30
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 11-07-2017 15:18:10
โซ่ลู๊กกกกกกกกกก เหมือนแบไต๋ให้เขาหมดเลยอ่ะลูกกกกกกก เล่นตัวหน่อยสิ เล่นตัวเย๊อะๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 13-07-2017 20:51:02
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 18


   อลงกตกลับมาเรียนหลังจากเปิดเทอมไปแล้ว อันที่จริงก็กะจะมาช้ากว่านี้อีกหน่อย ถ้าไม่ใช่เพราะสังคมโซเชียลช่วงที่ผ่านมารุมเร้าเหมือนไฟลนก้นให้รีบกลับกรุงเทพฯโดยด่วน


   “กต...เป็นไง ไปเที่ยวมาสนุกเปล่า” ส่วนรายนี้คือคนที่ทำให้เกิดประเด็นทางในสังคมออนไลน์แบบไม่ค่อยรู้ตัว สิตางศุ์ยังคงทักทายเพื่อนรักอย่างสดใสในคาบเช้าของวันทันทีที่เจอกันในห้องเรียน


   หนุ่มนักฟุตบอลประจำคณะเหลือบตามองนาฬิกาข้อมือ


   ...แปดโมงห้าสิบ มีเวลาสิบนาทีก่อนเริ่มเรียน...


   “นั่งสิ” เขาเอ่ยปากแล้วหยิบกระเป๋าตัวเองที่จองที่ไว้ให้เพื่อนไปวางอีกฝั่งซึ่งพฤกษานั่งอยู่


   “เป็นยังไงมั่ง” พอสิตางศุ์ทรุดตัวลงนั่ง อลงกตก็ตั้งคำถามทันควัน คำถามนั้นฟังดูกว้าง แต่พอมองเข้าไปในดวงตาของคนถาม สิตางศุ์ก็พอจะรู้ว่าเรื่องไหนที่อลงกตอยากรู้ที่สุด เขายิ้มจางๆก่อนจะตอบ


   “ก็...ทุกอย่างโอ.เค” คนฟังเงียบ บอกให้รู้ว่าสิตางศุ์จะพูดแค่นี้ไม่ได้ ร่างโปร่งประสานมือวางบนโต๊ะ ปลายนิ้วขาวลูบกันไปมาเหมือนเจ้าตัวกำลังกลั่นกรองความรู้สึกในใจออกมาเป็นคำ


“...กูคิดว่าตัวเองโตขึ้นเยอะเลย แต่ก่อนเคยคิดว่าโลกของกูเล็กนิดเดียวแล้วก็มีพร้อมทุกอย่างแล้ว จนไอ้โจ๊กเข้ามา กูเหมือนเพิ่งรู้ว่ากูเหลือที่ที่หนึ่งเอาไว้ และกูก็มองข้ามที่ตรงนั้นมาตลอด ไม่รู้มาก่อนเลยว่าโลกของกูใหญ่ได้มากกว่าที่กูรู้สึกอีก อ่า...มึงเข้าใจที่กูพูดมั้ย กูไม่เก่งเรื่องอธิบายความรู้สึก” ประโยคหลังนั้นเหมือนเจ้าตัวจะบ่นกับตัวเอง


   “กูเข้าใจ มึงอธิบายดีขึ้นเยอะแล้ว แล้ว...มึงกับมัน ไปกันได้ดี?”


“คิดว่านะ...เราตกลงกันแล้วว่าถ้ามีอะไรจะคุยกันตอนนั้นเลย” อลงกตพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะถามอีกคำถามที่คาใจ


“เป็นแฟนกับมันรึยัง” ใบหน้าขาวขึ้นสีเล็กน้อย ก่นจะส่ายไปมา


   “ยัง...ยังไม่ได้ขอ”


   “แล้วมึงจะรออะไรวะ?!” พฤกษาที่นั่งถัดจากอลงกตเสนอหน้าขึ้นมาถาม วันนั้นที่เกิดเรื่องจนเจียระไนไปตามสิตางศุ์กลับมาจากบ้านเขา ก็อุตส่าห์สนับสนุนส่งเสริมให้รีบพูด รีบบอก คนอย่างเจียระไน ถึงจะปากไม่ดี หน้าตาดูหงุดหงิดตลอดเวลา แต่มันก็แรร์ไอเทมไม่ใช่น้อย แล้วยังคิดจะเอ้อระเหยอยู่อีก?!


   “ง่า...กูไม่ได้รอ...แต่...แต่กู...กูอยากบอกความรู้สึกของกูให้มันรู้ด้วย เอ่อ...แต่...แต่กูยังไม่รู้ว่าความรู้สึกของกูเรียกว่าอะไร พวกมึงว่า...รักมั้ย? หรือว่าชอบ?”


   “รัก ถึงขั้นรักมาก”


   “ไม่รัก ติดไปทางเฉยๆ”


คำตอบของเพื่อนสนิทสองคนนั้นแตกต่างกันสุดกู่ สิตางศุ์มองพฤกษาที มองอลงกตทีอย่างไม่รู้จะเชื่อใครดี


   “กูว่ามึงควรถามตัวเอง ตอนที่มึงเข้าใจผิดเรื่องนิตาน่ะ มึงรู้สึกยังไง” พฤกษาผู้อยู่ในเหตุการณ์เอ่ยปาก


   “กูว่าถามตัวเองไม่พอ ต้องถามพ่อแม่มึงด้วยสิ ถ้ามึงคบกับไอ้โจ๊ก พ่อแม่มึงจะโอ.เค.มั้ย” ในขณะที่อลงกตเสนอแนะไปอีกทาง ซึ่งดูแล้วเป็นหนทางที่จะพาไปสู่ความวิบัติฉิบหายมากกว่าจะประสบความสำเร็จ


   “พ่อแม่กูรู้จักโจ๊กอยู่นะ กูเคยวิดีโอคอลให้ได้เจอกัน กูขอพ่อกับแม่แล้วว่าเรียนจบ จะพาโจ๊กไปเที่ยวที่บ้าน” คนเสนอให้บอกพ่อแม่ชะงักไปเล็กน้อย ด้วยไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะเตรียมการเอาไว้แล้ว


   “แล้วพ่อแม่ไอ้โจ๊กล่ะ”


   “หม่าม้ารู้แล้ว ญาติบางคนของโจ๊กก็รู้แล้ว ทุกคนโอ.เค.”


   “แล้วคนที่ยังไม่รู้?” สิตางศุ์ชะงัก ความรู้สึกของคนในครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนี้คนที่รู้เรื่องนี้และยอมรับได้ไม่ใช่ทุกคน ยังเหลือคนที่ยังไม่รู้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะรับได้หรือไม่ เขาไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นชนวนเหตุของความบาดหมาง เพราะฉะนั้น...ทุกอย่างต้องรอบคอบและค่อยเป็นค่อยไป


   “กูรู้...ว่าเรื่องของกูกับไอ้โจ๊กไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เราไม่ใช่ผู้ชายกับผู้หญิง มันมีปัจจัยหลายอย่างที่จะทำให้กูกับมันอาจจะไปกันไม่รอดในวันหนึ่ง แต่...กูจะพยายามให้ดีที่สุด กูจะทำให้คนรอบข้างมันยอมรับให้ได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ให้ใครเอาเรื่องนี้มาสร้างความลำบากใจให้มัน เรื่องของกูต้องไม่ทำให้มันเสียใจอีก”


ท่าทางมุ่งมั่นจริงจังทำเอาอลงกตได้แต่เงียบ พฤกษาเลยขยับเข้าใกล้เพื่อนซี้จากชมรมฟุตบอลแล้วให้ข้อมูลเพิ่มเติม


   “ไอ้โซ่ลงเรียนภาษาจีนด้วย...” พูดกับอลงกตแล้วก็เหลือบตาไปมองคนที่ดั้นด้นไปหาคอร์สลงเรียนภาษาจีน



   “...ตอนลงเรียนนโยฯจีน ไม่เห็นจะกระตือรือร้นอยากรู้ภาษาจีนเลย เหมาเจ๋อตุงกับเติ้งเสี่ยวผิงต้องร้องไห้”


   “ก็ตอนเรียนมันมีเท็กซ์ภาษาอังกฤษ” คนเคยลงเรียนวิชานโยบายต่างประเทศจีนแต่ไม่เคยเรียนภาษาจีนแย้งเบาๆ


   “มึงเรียนภาษาจีนเพราะไอ้โจ๊กเหรอ” อลงกตถาม และคำตอบที่ได้คือการพยักหน้ารับ


   “โจ๊กเข้ามาอยู่ในโลกของกูเยอะแล้ว กูอยากเข้าไปอยู่ในโลกมันบ้าง”


ไม่มีคำพูดอะไรจากอลงกตอีก เพื่อนที่เขาดูแลมาตลอด เพื่อนที่เขาเคยคิดว่ามันเหมือนเด็ก มาวันนี้...สิตางศุ์เติบโต และค่อยๆก้าวไปในจุดที่อยากจะปกป้องใครสักคน อยากจะทำให้ใครสักคนไม่เจ็บปวดหรือเสียใจ และอยากจะมีส่วนร่วมกับโลกของใครสักคน


   ...ไอ้โซ่โตขึ้นจริงๆ...


   ...ไอ้โซ่...รักไอ้โจ๊กจริงๆ...


   “ความรู้สึกของมึงน่ะ...กูเห็นด้วยกับไอ้แพท มึงต้องหาเอง...”


   อลงกตพูดแล้วก็ถอนหายใจทีหนึ่งเหมือนเป็นสัญญาณของการปล่อยวาง ก่อนจะพูดต่อสั้นๆ


“...พยายามเข้าล่ะ”


   “...กู...เป็นกำลังใจให้”


   สิตางศุ์ยิ้มกว้าง ยิ่งกว่าการยอมรับคือความจริงใจ เป็นความจริงใจจากเพื่อนคนหนึ่งที่เขารักมาก


   “อื้อ...ขอบใจนะ กต”

..........................................

เรื่องของความรู้สึก เป็นเรื่องที่ต้องหาเอง แต่สิตางศุ์ยังไม่รู้แน่ชัดว่าความรู้สึกที่มีคืออะไร พฤกษาและอลงกตก็ตัดหางปล่อยวัดไม่ช่วยเขาแล้ว จะให้ไปปรึกษากับเจียระไนก็ไม่ได้ วิธีที่ดีสำหรับคนรักการเรียนอย่างสิตางศุ์คือถามผู้รู้ และผู้รู้ของเขาในเวลานี้ก็คือบุพการีที่โทรศัพท์คุยกันทุกเย็น


“ขอคุยกับพ่อ”


 ‘พ่อ ลูกจะคุยด้วย’ ตอนแรกคนที่อยู่ในสายคือมารดา แต่พอลูกชายที่กรุงเทพฯขอสายบิดา โทรศัพท์ก็ถูกเปลี่ยนมือ


“พ่อหลบมาจากแม่แป๊บนึงสิ จะถามเรื่องสำคัญ เดี๋ยวแม่ได้ยินแล้วพ่อจะเขิน”


‘อะไร จะเขินได้ยังไง’


“เอาหน่า” มีเสียงเดินอยู่อึดใจหนึ่ง ตามมาด้วยเสียงปิดประตู สิตางศุ์ก็เดาว่าบิดาคงหาที่คุยมิดชิดแล้ว


“จะถามพ่อหน่อย ตอนพ่อรู้ตัวว่ารักแม่ พ่อรู้สึกยังไงเหรอ”


‘ก็รู้สึกว่ารัก’


“แล้วพ่อรู้ได้ไงว่าที่รู้สึกเรียกว่ารักอ่ะ”


‘ไม่ยาก ทุกอย่างในร่างกายมันจะบอกให้รู้เองว่าคนนี้พิเศษ’


“ยกตัวอย่างหน่อยสิ”


‘ก็...อย่างเวลาแม่ยืนอยู่กับคนอื่นๆ ถึงมีคนเยอะแค่ไหน พ่อก็เห็นแม่เสมอ’


สิตางศุ์นิ่งงันกับคำพูดของบิดา อยู่ดีๆเขาก็นึกถึงเรื่องที่เชียงคานขึ้นมา ตอนที่ออกจากร้านขายเสื้อ ตอนที่คนในถนนเยอะแยะมากมาย แต่...เขากลับมองเห็นหลังของเจียระไน และไม่ต้องมองซ้ำ ปากก็เรียกชื่ออีกฝ่ายออกไปแล้ว


...ไม่ว่าจะมีคนเยอะแค่ไหน ก็มองเห็นโจ๊กเสมอ...


‘หรือว่า...อาจจะเพราะแม่รักพ่อก็ไม่รู้นะ คนเยอะแค่ไหน ก็ยังเอาตัวเองมาอยู่ในสายตาพ่ออยู่ดี’ เสียงของบิดาดังขึ้นมาอีก ทำเอาคนเป็นลูกหัวเราะเบาๆ


“โอ้โฮ ถ้าแม่ได้ยิน แม่ต้องบิดหูพ่อแน่เลย ไปหาว่าแม่รักพ่อมาก” ปลายสายหัวเราะกลับมา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าอ่อนโยน


‘โซ่ ความรักน่ะมันพิเศษ มันทำให้เราเห็นคนธรรมดาคนนึงเป็นนางฟ้า แต่อีกแว่บนึงก็เห็นนางฟ้าคนนั้นเป็นคนธรรมดาที่เราอยากอยู่ด้วย’


“พ่อรู้สึกตอนไหนว่าอยากอยู่กับแม่”


‘ตอนแรกๆ’


“อ้าว แล้วตอนนี้ล่ะ”


‘คิดว่าทำยังไงถึงจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่’


“พ่อไม่มั่นใจเหรอ”


'เปล่า แต่คิดถึงอนาคต โซ่ เมื่อไรที่ถามตัวเองว่าจะอยู่กับคนคนนั้นไปจนแก่ได้มั้ย ความรู้สึกของโซ่ก็ไม่ได้มีแค่ความอยากอีกแล้ว แต่มันจะมีเหตุผล มันจะมีความพยายาม และมันจะทำให้เราอยู่ในโลกของความเป็นจริงได้ ถ้าโซ่ตั้งคำถามแบบนี้กับใคร แสดงว่าโซ่คิดถึงอนาคตของตัวเองที่มีคนคนนั้นอยู่ด้วย พ่อว่านั่นคือความรัก’


สิตางศุ์รับฟังอย่างสงบ ทว่าหัวใจนั้นไหวหวิวยามคิดถึงสิ่งที่เขากำลังทำอยู่


...ทำให้พ่อแม่คุ้นเคยกับโจ๊ก ทำให้พ่อแม่รับรู้การมีอยู่ของโจ๊ก...เพราะหวังว่าวันหนึ่งข้างหน้าพ่อกับแม่จะรักโจ๊กและยินดีกับเรื่องของเรา...


...วันหนึ่งข้างหน้า อนาคตที่ไม่รู้จะมาถึงเมื่อไร แต่...ก็ยังอยากเห็นใครบางคนยืนอยู่ด้วยกันไปจนถึงวันนั้นอยู่ดี...


โปร่งยิ้มน้อยๆ รู้สึกเหมือนประตูในใจถูกเปิดออกกว้าง...กว้างจนเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาแต่ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ยืนอยู่ในนั้น


...โจ๊กอยู่ในนั้น...ไม่รู้ว่าอยู่มานานหรือยัง แต่...ยังยืนอยู่ในนั้น ราวกับรอคอย...


“พ่อว่า...คำว่ารักสำคัญมั้ย”


‘ไม่สำคัญหรอก’ คนเป็นพ่อตอบไว ก่อนจะอุบอิบต่อมาในตอนท้าย ‘แต่ไม่รู้ทำไม ผู้หญิงชอบฟัง ไอ้ที่ทำๆอยู่ทุกวันนี้ก็รักทั้งนั้น ไม่เห็นจะสนใจ ต้องให้พูดเป็นคำ’


สิตางศุ์หัวเราะสดใส นึกถึงผู้ชายที่อยู่หลังบานประตูหัวใจที่ถูกเปิดออกนั้นก็กำลังรอคอยคำบางคำจากเขา เช่นเดียวกับที่มารดาเรียกร้องจากบิดา


“คงเข้าใจง่ายกว่าการกระทำมั้งพ่อ”


‘โซ่ก็หัดพูดไว้ซะล่ะ จะได้ไม่ลำบาก พ่อเนี่ยพูดไม่เป็น กว่าจะพูดแต่ละทีต้องฝึกหน้ากระจกก่อน โอย...ฝึกเป็นชั่วโมง ไม่รู้ทำไมมันพูดยาก’ เสียงหัวเราะสดใสของคนเป็นลูกดังขึ้นอีก พ่อของเขาเป็นคนจริงจัง เรื่องให้พูดคำว่ารักคำว่าชอบนั้นดูจะเป็นเรื่องยาก แต่ฟังดูแล้วก็พยายามจะพูดให้ได้ สมกับพยายามจะอยู่กับแม่ของเขาไปจนแก่


สองพ่อลูกคุยกันอีกไม่กี่ประโยค ก็วางสายจากกัน พอนั่งเงียบๆเพียงลำพังในห้องของตัวเองแล้ว เรื่องที่พูดคุยกับบิดาก็เหมือนค่อยๆตกผลึกในใจ ร่างโปร่งลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปหากระจก จับจ้องมองตัวเองในกระจกบานนั้น


…ความรัก ทำให้ร่างกายของเราเปลี่ยนไป ประสาทรับรู้ของเราจะทำให้คนธรรมดาคนหนึ่งกลายเป็นคนพิเศษ…


…เพราะว่าความรักอย่างนั้นหรือ ผู้ชายธรรมดาๆอย่างโจ๊ก...ถึงได้ดูเป็นคนพิเศษทุกทีเลย...


“รัก...” คำเดียวสั้นๆ พูดง่าย แต่เมื่อลองทบทวนหัวใจเพื่อพูดเป็นประโยคที่ยาวขึ้น ใบหน้าขาวที่สะท้อนอยู่บนกระจกกลับขึ้นสีเรื่อน้อยๆ ทว่าดวงตาคู่สวยคู่นั้นยังคงแน่วแน่ แม้จะพูดยากอยู่สักหน่อย แต่...ถ้าลองดูหน้ากระจกก่อน ก็คง...ไม่ยากมากนัก


“กู...รักมึงนะ...โจ๊ก”


แล้วกระจกบานนั้นก็สะท้อนใบหน้าแดงเรื่อของสิตางศุ์ที่กำลังยิ้ม


…พูดยาก แต่...พูดแล้วรู้สึกดีจริงๆ…

........................

เจียระไนเหลือบตามองคนข้างกายที่เมื่อเช้าเขาไปรับมาจากห้องพักหมายเลข 504 วันนี้สิตางศุ์ดูอารมณ์ดีมากถึงมากที่สุด ไม่รู้เรื่องอะไร แต่มันยิ้มให้เขาตั้งแต่เช้า แถมชวนแวะวัดตักบาตรก่อนจะมาคณะอีก


“มึงเป็นห่าอะไร” นั่งกินข้าวด้วยกันสองคนในโรงอาหารยามเช้า คนหนึ่งกินหมดภายในห้านาที ในขณะที่อีกคนยังทานไม่ถึงครึ่งจาน


“ไม่ได้เป็นอะไร เอ่อ...โจ๊ก....วันนี้ตอนเย็นว่างมั้ย”


“จะว่างได้ไง มึงนัดม้ากูกินแหนมเนืองไม่ใช่เหรอ”


“เออ จริงด้วย” ศุกร์บ่ายที่ไม่มีเรียน สิตางศุ์ขอให้เจียระไนช่วยนัดคุณสายใจมาทานข้าวเพื่อที่เขาจะได้นำของฝากจากกระบี่มาให้ เปิดเทอมมาพักหนึ่งแล้ว แต่ของฝากจากกระบี่ยังไปไม่ถึงทางบ้านของเจียระไนเลย


“กูเอาชาของมึงมาแล้ว อยู่หลังรถ”


“อืม” ใบหน้าขาวดูเสียดายเล็กน้อย


“ทำไม มึงมีธุระเหรอ ให้กูเลื่อนนัดมั้ย”


“ไม่ต้องหรอก ไว้วันอื่นก็ได้” สิตางศุ์คนใจเย็น ไม่สู้เจียระไนคนใจร้อน คิ้วเหนือดวงตาเรียวขมวดฉับ


“เรื่องห่าอะไร รอวันอื่นได้” คนถูกถามเม้มปากเล็กน้อย ดวงตาคู่สวยจับจ้องคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม อยากเอื้อนเอ่ยสิ่งที่ฝึกซ้อมมา แต่...พอเสียงตะโกนจากป้าร้านข้าวดังขึ้น ก็เหมือนปลุกสติสิตางศุ์ว่าเวลานี้ เขาและเจียระไนกำลังอยู่ในโรงอาหาร ไม่ใช่ที่ที่น่าจะบอกความรู้สึกเลยสักนิด


...ต้องหาที่ที่พิเศษหน่อย โจ๊กจะได้ประทับใจ...


“ไว้วันอื่นก็รู้เองแหละ รีบไปกันเถอะ จะเก้าโมงแล้ว” แม้ใจจะอยากรู้ แต่เจียระไนก็ให้พื้นที่อีกฝ่ายเสมอ ในเมื่อไม่อยากพูด เขาก็ไม่คาดคั้น


พวกเขาสองคนเดินออกจากโรงอาหารมาที่ตึกเรียนด้วยกัน เจียระไนไม่ได้ไปส่งอีกฝ่ายที่ห้อง เพราะสิตางศุ์เจอเพื่อนร่วมภาคฯพอดี แต่ดวงตาเรียวก็ยังตามมองส่งจนร่างสูงโปร่งหายลับไปกับทางเดิน


“มองขนาดนั้น มึงตามเข้าไปเรียนด้วยเลยมั้ย” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง ร่างสูงหันไปมองก็เห็นเพื่อนซี้ยืนยิ้มแฉ่งหน้าตามีเล่ห์นัย



“เออ กูกำลังคิดจะทำยังงั้นพอดี” คนพูดไม่พูดอย่างเดียว แต่หมุนตัวจะเดินตามสิตางศุ์ไปอีกต่างหาก ต้องเป็นปราการที่ถลาเข้าไปคว้าคอเสื้อเอาไว้


“ใจเย็นครับเพื่อนครับ ใจเย็น ปล่อยไอ้โซ่ห่างสายตามึงบ้างเถอะ” เจียระไนทำหน้าตาหงุดหงิดเล็กน้อย


“วันนี้มันแปลกๆ มีเรื่องห่าในใจไม่บอกกูอีกแล้ว”


“แล้วจะให้มันบอกทุกเรื่องรึไง” เพื่อนร่วมภาคฯลากคอเสื้อเจียระไนที่พร้อมพุ่งตัวเข้าไปเรียนวิชาของภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง


“คราวก่อนเรื่องนิตา แม่งก็ไม่พูด หนีกูไปถึงบ้านไอ้แพท” เรื่องนิตาจบลงด้วยดีหรือไม่ เจียระไนไม่รู้และไม่สน เพราะนับตั้งแต่วันที่เขาปรับความเข้าใจกับสิตางศุ์ สุภาพบุรุษแห่งคณะรัฐศาสตร์คนนี้ก็ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแคนเซิลทุกความช่วยเหลือ ให้นิตากับแฟนไปเคลียร์กันเอง


“อ้อ กูเห็นล่ะ ที่พี่ตฤณตามหาที่อยู่บ้านไอ้แพท สรุปได้จากใคร”


“ไอ้รอน ไออาร์” ปราการทำหน้างุนงงเล็กน้อย ก่อนจะนึกออก


“อ๋อ! พี่รอนที่เคยเป็นพี่วินัยปีเราน่ะเรอะ?! รายนั้นเคยเล็งไอ้โซ่นี่หว่า”


“ตอนนี้ก็ยังเล็ง กูเคยเจอมันตอนไปซื้อของกับโซ่ แล้วแม่งรู้จักบ้านไอ้แพทด้วย พี่ตฤณบอกว่ามันเป็นลุงรหัสไอ้แพท” สถานะของหนุ่มลูกครึ่งที่เคยบังเอิญเจอกันในซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้นออกจะใกล้ชิดกับสิตางศุ์ไม่น้อยเพราะเป็นลุงรหัสของเพื่อนสนิท แต่กลับเข้าไม่ถึงสักนิด สิตางศุ์จำชื่อไม่ได้ด้วยซ้ำ



...ไม่เพราะบารมีพี่รหัสไอ้โซ่ ก็เพื่อนสนิทสองตัวนั่นแหละที่ขวางเอาไว้ ไอ้โซ่เลยตกมาถึงมือกูได้!...


“เอาหน่า ยังไงเขาก็เป็นแค่รุ่นพี่ มึงกับไอ้โซ่เป็นแฟนกันแล้ว จะกลัวอะไร” พอพูดเรื่องแฟน เจียระไนก็เหมือนถูกสะกิดที่แผลลึกๆในใจ


“กูกับมันยังไม่เป็นแฟนกัน” เสียงแผ่วๆของคนถูกลากตอบกลับมา ทำเอาปราการหันขวับไปมอง


“อ้าววววว?!!”


เจียระไนถอนหายใจเฮือกแล้วดึงเสื้อตัวเองออกมาจากมือเพื่อน ก่อนจะเดินไปยืนพิงระเบียงทางเดิน


“ไอ้โซ่เคยขอ ถ้าครอบครัวกูกับมันยอมรับได้ มันถึงจะยอมให้กูเลื่อนสถานะ”


“ก็สมเป็นไอ้โซ่นะ แคร์เอฟเวอรี่บอดี้อินเดอะเวิร์ล”


“เออ แม่งแคร์ไปหมดทุกอย่าง เดี๋ยวนี้มันไปลงคอร์สเรียนภาษาจีนด้วย มันบอกอยากคุยกับม้ากูเป็นภาษาจีนบ้าง” เจียระไนเล่าความคิดบรรเจิดของ ‘คนศึกษาดูใจ’ ที่ดูจะแล้วคุณสายใจจะยิ่งถูกใจหนักกว่าเดิม ส่วนเขา...จะว่าเอ็นดูมั้ย ก็เอ็นดูนั่นล่ะ สิตางศุ์ทำขนาดนี้ ยกให้ทั้งใจยังน้อยไปเลย


“ม้ามึงรู้เรื่องไอ้โซ่เหรอ”


“รู้ ม้ากูชอบมันด้วย วันนี้ก็นัดกินข้าวกัน”


   “อ้าว ม้ามึงรู้ ม้ามึงยอมรับ เงื่อนไขมึงผ่านนี่หว่า!”


เจียระไนกะพริบตาปริบๆ เหมือนถูกปลุกให้ตื่นจากเขาวงกต นอกจากมารดาของเขาจะรู้เรื่องนี้แล้ว น้องชายลูกพี่ลูกน้อง หรือแม้แต่โซ้ยเจ๊กที่เป็นอา ก็รู้ และทุกคนก็ดูจะไม่ขัดขวางอะไรเลย หนำซ้ำมารดายังดูท่าจะชอบสิตางศุ์ด้วย!


   “เออว่ะ! ทำไมกูคิดไม่ถึงวะ!! แล้วไอ้โซ่...มันเคยบอกกว่าญาติมันคนนึงรู้แล้ว แล้วคนนั้นก็กำลังช่วยพูดให้ด้วย”


   “บราโว่ครับเพื่อนรัก มึงผ่านทุกเงื่อนไข! แล้วนั่นมึงจะทำอะไรวะ” ปราการยังไม่ทันจะแสดงความยินดีอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เจียระไนก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.ออก ระหว่างที่รอให้ปลายสายรับ เขาก็หันกลับมามองเพื่อนสนิทด้วยดวงตาวาวโรจน์เหมือนมีเปลวไฟแห่งความหวังสักร้อยกอง


   “วันนี้กูต้องทำให้ไอ้โซ่เป็นแฟนกูให้ได้!” คนฟังอ้าปากค้าง ไม่กล้าคิดว่าคนเด็ดเดี่ยวอย่างเจียระไนจะทำยังไง จนกระทั่งปลายสายรับโทรศัพท์


   “ฮัลโล ม้า” เจียระไนกรอกเสียงลงในโทรศัพท์


   “ที่เรานัดกินข้าวกันวันนี้ ผมมีเรื่องขอให้ม้าช่วย”


   ทั้งสายตา ทั้งน้ำเสียง และคำพูด บอกได้เป็นอย่างดีว่าวันนี้...สิตางศุ์ไม่โสดแน่นอน!

..........................................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 13-07-2017 20:51:30


สายใจเพิ่งวางสายจากลูกชายคนกลางที่โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ รายนั้นบอกว่าต้องการผูกมัดสิตางศุ์ให้เป็นเรื่องเป็นราวไป โดยมีหล่อนเป็นพยาน อย่างน้อยๆมีผู้ใหญ่รับรู้ คนอย่างสิตางศุ์ย่อมไม่มีทางปฏิเสธ


   ...โจ๊กบอกว่าจะขอโซ่เป็นแฟน แต่ยังไงๆในฐานะหม่าม้าของโจ๊กมีดีกรีเป็นถึงลูกสะใภ้ร้านทอง แถมเป็น ‘ซ้อ’ แห่งบริษัทส่งออกเครื่องประดับ จะปล่อยให้ลูกชายผูกมัดแฟนด้วยลมปากก็ดูจะไม่สมฐานะเอาซะเลย!...


   หล่อนกางนิ้วมือทั้งสิบออกดูแหวน แต่ทุกวงล้วนเพชรเม็ดใหญ่เม็ดโต สมฐานะรับสิตางศุ์มาเป็นลูกอีกคนอยู่หรอก แต่ไม่เหมาะกับหนุ่มๆแบบนั้นเลย สงสัยต้องไปเปิดเซฟขุดกรุเครื่องประดับออกมาเลือก


   ตัดสินใจวินาทีนั้น สายใจก็หมุนตัวจะตรงดิ่งไปเปิดเซฟเครื่องประดับของตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักกึกเมื่อพบว่ามีใครบางคนยืนอยู่ข้างหลังหล่อน


   “อาม่า!”


   หญิงชราผู้อาวุโสที่สุดในตระกูลตั้งกาญจนพาณิชย์ซึ่งปกติจะพักอาศัยที่ 7 ยืนยิ้มอยู่บนชั้น 8 ของสายใจ


   “อ...อาม่า...อาม่าขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร” สายใจถามตะกุกตะกัก มองซ้ายขวาไม่เห็นพี่สะใภ้คนที่สี่ที่มักจะคอยตามดูแลอาม่าก็อุ่นใจเล็กน้อย ว่าถ้าอาม่าจะได้ยินอะไร ก็จะมีแค่อาม่าคนเดียว


   หญิงชราผู้มีดวงตาหยี ส่งยิ้มที่ทำเอาดวงตาหยีนั้นแทบจะปิดมิดมากกว่าเดิม


   “เมื่อกี้นี้เอง”


เหมือนยกภูเขาออกจากอก อาม่าเพิ่งขึ้นมาเมื่อกี้ แสดงว่าก็คงไม่ได้ยินที่หล่อนคุยโทรศัพท์กับลูกชายคนกลาง


   “อ๋อ...งั้นเหรอ แล้วอาม่าขึ้นมาทำไม อยากได้อะไรเหรอ” อาม่าส่งยิ้มกว้างกว่าเดิม


   “อยากไปหาโจ๊กด้วยคน อยากเห็นหน้าคนชื่อโซ่”


แล้วภูเขาที่คิดว่ายกออกไปแล้ว ก็โดนอาม่าทุ่มใส่อกของสายใจตามเดิม!!   

.................................

ภูเขาไม่ใช่แค่ทุ่มใส่อกสายใจเท่านั้น แต่เจียระไนก็แทบช็อกเช่นเดียวกันเมื่อเลิกเรียนตอนเที่ยงแล้วพบว่ามารดาไม่ได้มาหาเขาที่คณะเพียงลำพัง แต่มาพร้อมกับอาม่า


   “สายใจบอกว่าโจ๊กจะพาไปกินแหนมเนือง โจ๊กก็รู้ว่าม่าชอบ ม่าก็เลยขอมาด้วย” อาม่าพูดภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ ในขณะที่คนเป็นหลานน้ำท่วมปากพูดไม่ออก เพราะนอกจากแผนขยับสถานะศึกษาดูใจให้กลายเป็นแฟนจะล่มไม่เป็นท่าแล้ว อาม่ายังได้เจอสิตางศุ์ด้วย


   ...นี่มันเวรกรรมอะไรของกูวะเนี่ย!!!...


   “แล้วนั่นเพื่อนโจ๊กเหรอ” อาม่าเหลือบสายตาไปที่คนผิวขาวจัดที่ยืนข้างหลานชาย สิตางศุ์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะรับคำเบาๆ


   “ค...ครับ”


   “ชื่อโซ่ใช่มั้ย อาม่ามีเรื่องอยากรู้เกี่ยวกับโซ่เยอะเลย” ปากพูดแล้วยิ้ม แต่ตาหยีๆที่เหี่ยวย่นนั้นจ้องจนเจียระไนต้องขยับตัวมายืนขวางกลางเอาไว้


   “ผมสนิทกับไอ้โซ่ เรื่องของมัน ม่าถามผมได้” สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ปกป้องสิตางศุ์จากผู้ชายทั้งโลกได้ ก็ต้องปกป้องจากอาม่าของตัวเองได้เช่นกัน


   “โจ๊ก...” สายใจที่ยืนเงียบๆต้องรีบปราม เพราะเกรงว่าลูกชายคนกลางจะพูดอะไรที่ทำให้เรื่องเลวร้ายลง ในขณะที่คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเจียระไนก็กระตุกแขนร่างสูงยิกๆเป็นเชิงไม่ให้พูด


   โดนห้ามทั้งจากมารดา ทั้งคนสนิท เจียระไนคนใจร้อนก็พ่นลมหายใจอย่างอึดอัด


   “ม่ามาอย่างงี้ยังไงก็ปิดไม่มิดนะม้า” เขาบอกคนเป็นแม่ ก่อนจะหันไปด้านหลัง


   “มึงก็ด้วย กูรู้ว่ามึงอยากให้ค่อยเป็นค่อยไป แต่ม่ากูรอความค่อยเป็นค่อยไปของมึงไม่ไหวหรอก บุกมาหาถึงที่ขนาดนี้” เขาบอกสิตางศุ์ ก่อนจะหันกลับไปหาหญิงชราผู้มีบารมีสูงที่สุดในตระกูล


   “ม่าอยากรู้อะไร ม่าถามมาเลย” คนถามไม่ได้ดูสถานที่สักนิดว่าตอนนี้พวกเขายืนกันอยู่ใจกลางโถงตึกเรียนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน สิตางศุ์มองรอบกายแล้วเป็นอีกรอบที่กระตุกแขนคนพูดยิกๆ


   “อะไรของมึงอีกวะ กูจะเคลียร์กับอาม่า” เจียระไนหันมาดุ


   “ไปคุยกันที่อื่นเถอะ ตรงนี้คนเยอะ”


   “คุยตรงไหนก็เหมือนกัน!”


   “ไม่เหมือนหรอก ไปคุยที่เงียบๆ จะได้ไม่ต้องตะโกนคุยกัน...นะ...ตรงโต๊ะม้าหินก็ได้ ตอนเที่ยงแบบนี้ไม่มีคนหรอก” ที่สำคัญคือสิตางศุ์กลัวใจคนขี้หงุดหงิดอย่างเจียระไน อยู่ท่ามกลางคนหมู่มากแถมจ้อกแจ้กจอแจแบบนี้ จะพานให้ขุ่นเคืองง่ายกว่าเดิม


   “เออๆ! มึงนี่แม่งขัดกูตลอดเลย! ไปม่า เดี๋ยวพาไปนั่งคุยเงียบๆ” คนเป็นหลาน แม้จะใจร้อนขี้หงุดหงิดแค่ไหน แต่กับอาม่า เขากลับทำตัวสุภาพอย่างไม่น่าเชื่อด้วยการส่งแขนให้อีกฝ่ายจับเพื่อพยุงเดิน


   “ก็ดีแล้ว มีคนขัดโจ๊กซะบ้าง จะได้ไม่ใจร้อน” เจียระไนทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย


   “เออ มันใจเย็น...” เขาพูดแล้วเหลือบตามองไปด้านหลัง สิตางศุ์เดินข้างสายใจ และมารดาของเขากำลังแตะมือลงกับไหล่เหมือนจะปลอบประโลมคนผิวขาวจัดให้ไม่ต้องคิดมาก


   ...แต่ไอ้โซ่คิดมากแล้วแน่เลย...เผลอๆ นิสัยเห็นแก่เด็ก สตรี และคนชราของมันจะทำให้มันถอยให้อาม่าอีก!...


   เหมือนเห็นภาพตอนที่ตนเองไปช่วยนิตาเจรจาเรื่องแฟน ถ้าเขาต้องเจอเรื่องแบบเดียวกับที่นิตาเจอ ถูกบังคับให้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ทั้งๆที่มีคนที่รักอยู่แล้ว วิธีแก้ปัญหาเดียวคือพาหนีเท่านั้น!


   …แต่...ไอ้โซ่เคยบอกเอาไว้ว่าไม่เห็นด้วยให้หนี ควรเจรจาก่อน...


   “ม่าว่าไอ้โซ่เป็นคนยังไง” ระหว่างทางเดินจากโถงตึกเรียนไปจนถึงโต๊ะม้าหินนั้นไม่ไกล แต่อาศัยว่าเดินช้า เจียระไนเลยต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์


   อาม่าเหลือบตาไปมองข้างหลัง แล้วหันมาสบตาหลานชาย


   “ไม่เหมือนโจ๊กสักอย่าง”


   “เหมือนผมก็บ้านแตกสิม่า”


   “แต่คนที่ไม่เหมือนกับโจ๊ก ก็มีอีกตั้งหลายคน ม่าหาให้ได้ ขาวกว่านี่หายากหน่อย แต่หน้าตาดีกว่านี้ ม่าฟันธงว่ามี”


   “ผมชอบหาเอง”


   “งั้นบ้านช่อง รถรา เงินทอง อันไหนที่ป๊าม้าของโจ๊กหามา โจ๊กคืนเขาให้หมด แล้วโจ๊กหาเอง” เจียระไนถอนหายใจเบาก่อนจะหยุดเดินแล้วหันไปด้านหลัง


   “โซ่ ม่าจะตัดกูออกจากกองมรดก มึงโอ.เค.มั้ย ถ้ากูจน” สิตางศุ์ชะงัก หันมองมารดาของเจียระไนที่ตาเหลือกไปแล้ว


   “ตัดออกจากกองมรดก? มันไม่ใช่แค่เรื่องความจนนะโจ๊ก แต่ครอบครัวของมึง ญาติๆของมึง...มึงจะอยู่ได้เหรอถ้าไม่มีพวกเขา” ในฐานะที่ญาติเยอะ สิตางศุ์มองเรื่องความสัมพันธ์ที่สนิทสนมของเจียระไนและญาติพี่น้องมากกว่าอย่างอื่น


   “เงินทองน่ะหาใหม่ได้ แต่ญาติ...ถ้ามึงตัดเขาออกจากชีวิตมึง มึงจะหาไม่ได้อีกนะ”


   ร่างสูงหันกลับไปมองอาม่าแล้วฟ้อง


   “ม่าเห็นมั้ย แม่งมีข้อแม้ตลอดเวลา” อาม่ายิ้ม


   “ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ โจ๊กจะได้คิดเยอะๆบ้าง ไม่ใช่อะไรก็มุ่งจะเอาให้ได้อย่างเดียว” หญิงชราได้โอกาสสอนหลานชายทันที ก่อนจะหันไปมองคนผิวขาวจัดที่ดูเหมือนจะยังตามบทสนทนาของสองย่าหลานไม่ทัน


   “ดีมาก ต้องรู้จักขัดโจ๊กเยอะๆ...ฮ้า! ม่าหิวแล้ว จะคุยอะไรค่อยไปคุยกันที่ร้านแล้วกันนะ”


   “อ้าว แล้วเรื่องผมกับไอ้โซ่...” หญิงชราทอดสายตาเอ็นดูยามมองหลานชาย


   “ม่าแก่แล้วนะโจ๊ก ถึงจะไม่ได้ตายวันนี้พรุ่งนี้ แต่ม่าก็อยู่อีกไม่นานหรอก เพราะงั้นอะไรๆม่าก็โอ.เค. แต่หลายผัวหลายเมียกับตบตีทะเลาะกันนี่ม่าไม่โอ.เค.” สมกับเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของตระกูล มองโลกในแง่ดี ใจกว้าง ยอมรับในตัวตนของลูกหลาน โดยเฉพาะคำว่า ‘อะไรๆม่าก็โอ.เค.’ นั้น ทำเอาคนเป็นหลานยิ้มออก


   “ไม่ต้องมายิ้ม โจ๊กมีความผิดที่ปิดบังม่า วันนี้โจ๊กต้องเลี้ยง”


   “ได้เลยม่า จะสั่งแหนมเนืองสักสามชุดมาให้ม่ากินคนเดียว อ้อ...ไอ้โซ่ก็กินอาหารญวนเป็นนะ” เจียระไนรีบบอก อุตส่าห์เทรนจนสิตางศุ์กินเป็นแทบทุกอย่าง ก็ถึงเวลาที่ต้องเอามาโฆษณาสักหน่อย


   อาม่าหันไปมองคนผิวขาวจัด ดวงตาคู่สวยมองตรงมาที่หล่อน มันใสซื่อและเป็นประกาย ดูสดใสและน่าเอ็นดู


   “โซ่กินเป็นเหรอ”


   “ครับ โจ๊กพาไปทานบ่อยๆ”


   “แล้วชอบกินมั้ย” สิตางศุ์นิ่งไปเล็กน้อย แต่เพราะสำรวจหัวใจมาถ้วนถี่แล้ว เขามั่นใจว่าตอนนี้ความรู้สึกที่มีต่อเรื่องรอบๆตัวคืออะไร และรู้สึกอย่างไรกับสิ่งใดบ้าง


   “ชอบครับ” เป็นคำตอบสั้นๆที่แน่วแน่ไม่มีหวั่นไหวแม้แต่น้อย เจียระไนเองยังคาดไม่ถึง ทว่าเขาไม่ทันถามอะไร อาม่าก็พูดขึ้นมาก่อน


   “ดีๆ วันหลังไปกินกับม่าที่บ้านใหญ่บ้างนะ ม่าสั่งมากินบ่อยๆ แต่ไม่ค่อยมีคนกินด้วย”


   สิตางศุ์ยิ้มรับ


   ...รู้แล้วว่าทำไมโจ๊กถึงชอบพาไปทานอาหารเวียดนาม...

.............................

   หลังทานอาหาร เจียระไนพามารดาและอาม่าไปส่งที่บ้านใหญ่ ตอนแรกอาม่าจะรั้งให้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันอีก แต่สิตางศุ์อิ่มตื้อจนทานไม่ไหวอีกแล้ว เจียระไนเลยพากลับ แต่...การพากลับห้องง่ายๆ ย่อมไม่ใช่ผู้ชายที่ถนัดเรื่องการสร้างโอกาส


   “ลงไปเดินเล่นก่อน จะได้ย่อย มึงบอกว่าอิ่มมากไม่ใช่เหรอ” ร่างสูงพาแวะเดินเล่นแถวย่านริมแม่น้ำที่ลมพัดเย็นสบาย มีผู้คนบางตาพอจะให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว


   ชายหนุ่มสองคนเดินเคียงกันอยู่ที่ริมแม่น้ำ ลมเย็นยิ่งทำให้ปลอดโปร่ง เจียระไนไม่คิดว่าจะมีเวลาไหนที่จะเหมาะเท่าตอนนี้อีกแล้ว


   ...ต้องขอโซ่เป็นแฟนให้ได้!...


   ทว่า...ไม่ทันจะได้อ้าปาก คนข้างกายก็ก้าวนำขึ้นไปหยุดอยู่ข้างหน้าแล้วหันกลับมามอง ระหว่างพวกเขามีช่องว่างห่างกันหนึ่งช่วงแขน เป็นระยะห่างที่ทำให้มองหน้ากันได้ถนัด ใบหน้าขาวของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเจียระไนกำลังส่งยิ้มมาให้


   “อะไรของมึง” ร่างสูงถามอย่างสงสัย แม้รอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้จะอ่อนโยนและสดใสเหมือนเคย แต่หัวใจของผู้ชายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ากำแพงเมืองจีนคนนี้ก็ชักหวั่นไหว


   “กู...มีเรื่องจะบอกมึง” น้ำเสียงนั้นอ่อนโยน แต่ประโยคจริงจัง จนเจียระไนหายใจไม่ทั่วท้อง


   “มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูไม่เคยมีแฟนมาก่อน กูไม่รู้ว่าความรักแบบแฟนคืออะไร กูก็เลย...โทร.ถามพ่อ...”


   เจียระไนตาเหลือก


   ...ถามพ่อ?! ไอ้ฉิบหาย!!!...


   แต่สิตางศุ์กลับยิ้มน้อยๆ หวนคิดถึงตอนที่ตนเองถามบิดา


“...กูถามพ่อ ว่าตอนที่พ่อรู้ตัวว่ารักแม่ พ่อรู้สึกยังไง พ่อบอกว่า...ร่างกายมันจะบอกให้รู้ว่าคนคนนี้คือคนพิเศษ อย่างสายตา...ไม่ว่าตรงนั้นจะมีคนยืนอยู่สักกี่คน พ่อจะเห็นแม่เสมอ ต่อให้แม่ยืนหันหลัง เดินผ่านแค่แวบเดียว พ่อก็จำได้”


   เจียระไนเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางตีรวนขึ้นมาในอก แต่จะเดินหนีก็ไม่ได้ จะหลบสายตาหนีไปทางอื่นก็ไม่ได้ เหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาจับจ้องอยู่แต่กับสิตางศุ์ที่กำลังส่งยิ้มมาให้


   “ตอนพ่อบอก อยู่ดีๆกูก็คิดถึงตอนที่เราไปเชียงคานด้วยกัน ตอนกูออกจากร้านเสื้อ แล้วเห็นคนเต็มไปหมด แต่พอหันไปเห็นหลังมึงแค่นิดเดียว กูก็เรียกชื่อมึงออกไปแล้ว...”


   “เพราะว่ากูสูงไง” ร่างสูงเถียง แม้หัวใจจะกำลังเต้นแรงแค่ไหนก็ตาม


   “อืม กูก็คิดอย่างงั้น แต่พ่อบอกว่า ความรักน่ะทำให้เรามองคนธรรมดาเป็นนางฟ้า แล้วก็มองนางฟ้าเป็นคนธรรมดาที่เราอยากอยู่ด้วย...”


   “...พอพ่อพูดแบบนั้น กูคิดถึงมึงขึ้นมา มึงเป็นคนธรรมดา ที่กูมองยังไงก็ว่าพิเศษ เป็นคนพิเศษที่พอมองอีกทีกูก็อยากให้มึงเป็นคนธรรมดา กูอยากอยู่ด้วย...อยากอยู่ด้วยไปจนแก่...” สิตางศุ์บอกเล่าความรู้สึกที่มี คนฟังชักจะใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กลืนน้ำลายจนลูกกระเดือกวิ่งขึ้นวิ่งลงแล้วตัดสินใจตัดบท


   “มึงอยากได้อะไร บอกมา” คำพูดห้วนๆแถมท่าทีแข็งกร้าวเหมือนจะหาเรื่องของคนไม่มีที่พึ่งให้หลบเลี่ยงใดๆ ทำเอาร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้ว่าผู้ชายแข็งๆคนนี้กำลังเขิน


   มือขาวยื่นไปจับมือใหญ่ แม้มือของเขาจะกุมทั้งมือของเจียระไนไม่ได้ แต่ก็ทำเอาร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อย ทว่า...ก็สะดุ้งเฉยๆ แล้ว...ปล่อยให้จับได้ตามสบายแบบเลยตามเลย ไม่มีหือมีอือ ไม่มีเล่นตัวสักนิด


   “บอกมา อยากได้อะไร” เขาทำเป็นถามย้ำชวนหาเรื่อง ทว่าดวงตาคู่สวยกลับเหลือบขึ้นมองอย่างแสนซน สิตางศุ์เป็นคนซื่อบื้อก็จริง แต่เจ้าตัวก็มีความเป็นเด็กในบางมุม รักสนุกบ้างแม้จะไม่โลดโผน แต่ก็ชอบหยอกชอบแหย่คนสนิท ซึ่ง...คนสนิทที่ว่าก็คือเจียระไนคนนี้


   “ไม่อยากได้อะไรจากโจ๊ก”


   “...แต่ที่กูถามพ่อ เพราะกูอยากรู้ว่ากูรักมึงรึยัง”


เจียระไนชะงัก หันมองคนพูดแทบไม่ทัน สิตางศุ์กำลังมองมาที่เขา ดวงตาคู่สวยไม่ได้ว่างเปล่า ไม่รู้เรื่องรู้ราวอีกแล้ว เจ้าของดวงตาคู่นี้รับรู้ความรู้สึกของเจียระไนและบัดนี้มันกำลังเปิดเผยความรู้สึกบางอย่างกลับมา


   “ก่อนหน้านี้กูเคยถามตัวเองว่ากูอยากอยู่กับมึงมั้ย...”


   “มึงเคยบอกว่ามึงอยากอยู่กับกูมากกว่านิตา” เจียระไนแทรกทันควันตามประสาคนใจร้อน รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาว ก่อนที่สิตางศุ์จะพยักหน้ารับน้อยๆ


“อืม...แล้วตอนนี้กูก็มีอีกคำถาม...” ดวงตาเรียวจับจ้องอย่างคาดหวัง


“กูถามตัวเองว่ากูจะอยู่กับมึงไปตลอดชีวิตได้มั้ย” สิตางศุ์ยิ้มจางอย่างสบายใจ อารมณ์ของเขาในเวลานี้ไม่ใช่ความกดดัน ความบีบคั้น หรือถูกบังคับอะไรอีกแล้ว มันปลดปล่อย มันปลอดโปร่งและมันสบาย


“พ่อกูบอกว่าถ้ากูถามคำถามแบบนี้กับใคร แสดงว่ากูอยากใช้อนาคตกับคนคนนั้น และกูคงจะไม่ใช่อนาคตกับใคร ถ้ากูไม่ได้รักเขา...”


“...กูว่า...กูรักมึงแล้วล่ะ”


เจียระไนไม่เคยคิดว่าชั่วชีวิตนี้จะถูกสิตางศุ์สารภาพรักเลย แล้วก็ไม่เคยคิดว่าประโยคสั้นๆแบบนี้จะทำให้หัวใจสั่นไหวได้ขนาดนี้ และที่สำคัญ...เขาไม่เคยคิดว่าระหว่างพวกเขา คนที่สารภาพรักอย่างจริงจังเป็นคนแรกจะเป็นสิตางศุ์


“มึงแม่ง...พูดอะไรไม่ปรึกษากูก่อนเลย” ร่างสูงบ่น รู้สึกเสียเซลฟ์เล็กน้อย ที่ตัวเองตามรักตามชอบอีกฝ่ายมานานกว่า แต่กลับไม่เคยสร้างบรรยากาศเหมาะๆแล้วบอกรักแบบที่สิตางศุ์ทำ


คนถูกบ่นหัวเราะเบา แต่หน้าตาสดใส


“ปรึกษาได้ไง เดี๋ยวไม่เซอร์ไพรส์สิ”


   “เออ เซอร์ไพรส์มาก! แล้วแย่งซีนกูด้วย!!”


คนตั้งใจจะพามาขอเป็นแฟนบ่นต่อ ทำเอาสิตางศุ์เอียงคอมองด้วยความสงสัย


   “แย่งซีนอะไร” เจียระไนจับจ้องคนถาม มือขาวที่กุมมือเขาอยู่ถูกเปลี่ยนเป็นมือเขาจับมืออีกฝ่ายแน่นแทน


   “กูจะขอมึงเป็นแฟน” สิตางศุ์ชะงัก ดวงตาคู่สวยประสานกับดวงตาเรียวที่มองตรงมา


   “อาม่ากูรู้แล้ว ม้ากูก็รู้แล้ว มึงเองก็บอกว่าทัศน์รู้ แล้วก็กำลังช่วยพูดให้พ่อแม่มึงยอมรับเรื่องของเรา ถึงจะไม่ใช่ทุกคนในครอบครัวที่รู้เรื่องนี้ แต่ก็มีคนที่ยอมรับ ในเมื่อคนอื่นยังยอมรับ มึง...”


“...ยอมเป็นแฟนกับกูได้มั้ย”


เป็นการขอเป็นแฟนที่เหมือนชักแม่น้ำทั้งห้า สิตางศุ์จำได้ว่าเขาเคยวางเงื่อนไขอะไรเอาไว้ และรู้ว่าเงื่อนไขที่ว่าเป็นจริงได้ยาก แต่...ถ้าหากจะลดเงื่อนไขลงมาหน่อย เพื่อให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้า ยอม...ที่จะลดความยึดมั่นถือมั่นของตัวเองลง เพื่อให้พวกเขาอยู่ด้วยกันได้


...มันก็...ดีต่อทุกฝ่าย...


   “อืม...”


เป็นคำตอบสั้นๆ ที่ทั้งคนฟังและคนพูดมีรอยยิ้มมอบให้กัน เจียระไนดึงมืออีกฝ่ายเข้ามาใกล้ จากระยะห่างหนึ่งช่วงแขนก็เหลือเพียงห่างกันแค่เสื้อผ้ากั้น และก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นเสียก่อน สิตางศุ์ก็หันหน้าหนีไปทางอื่นทั้งๆที่กำลังยิ้มเขิน


   “ที่นี่ไม่ได้...” คนขัดจังหวะพูดแต่อมยิ้มน้อยๆ ดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุมแล้วหนีไปยืนเกาะขอบรั้วกั้นระหว่างทางเดินกับแม่น้ำแทน เจียระไนถอนหายใจเฮือก แล้วตามไปยืนข้างๆด้วยสีหน้าบูดบึ้ง


   “หนีกูได้แค่วันนี้แหละ ไปค้างห้องกูเมื่อไหร่ มึงโดนแน่”


ใบหน้าขาวที่กำลังอมยิ้มขึ้นสีเรื่อน้อยๆ “กูไม่ได้หนี แค่บอกว่าที่นี่ไม่ได้...”


   “หมายความว่าถ้าเป็นที่อื่นมึงจะยอม?”


   “ก็...กูเคยบอกมึงแล้วว่ากูพร้อม...” สิตางศุ์เอ่ยปากเสียงแผ่ว ใบหน้าขึ้นสีจัดก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนข้างๆและดูเหมือนจะตกตะลึงไปแล้ว


   “กูพร้อมจริงๆนะโจ๊ก...อ่ะ! จะไปไหน” ยังพูดไม่ทันจบ คนที่เหมือนจะตกตะลึงเมื่อครู่ก็ไม่รู้ไปคว้าสติมาจากไหนถึงได้ดึงแขนขาวให้ออกเดินตามอย่างรวดเร็ว


   “โจ๊ก จะไปไหนเหรอ” คนถูกดึงให้เดินตาม แม้จะยอมตามแต่ก็ตั้งคำถามไล่หลังด้วยความสงสัย ใบหน้าหล่อเหลาของเจียระไนหันกลับมามองแล้วตอบเสียงดังฟังชัด


   “ไปพิสูจน์ความพร้อมของมึงไง! ถ้ามึงสั่นเหมือนคราวก่อน กูจะเขกหัวมึง!”

ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)

พฤหัสฯหน้า จะเป็นตอนจบของเรื่องนี้นะคะ ก็...สำหรับคนที่เลือดลมไหลง่าย เตรียมผ้าเช็ดหน้ามาด้วยเนาะ โจ๊กเอาจริงค่ะ บอกเลย กร๊ากกกกก

ส่วนตอนนี้ ในที่สุด...โซ่ก็พูดออกมาแล้วค่ะ (น้ำตาจะไหล/ ถ้าเป็นแพท จะจุดพลุทุกน่านฟ้า กร๊ากกกก)

ตัวบัวเองลุ้นกับโซ่มากจริงๆค่ะ เขียนไปลุ้นไป เขียนโจ๊กยังไม่ลุ้นเท่าโซ่เลยค่ะ รายนั้นเขามีเส้นทางชัดเจน ส่วนโซ่นี่เหมือนเด็กเล่นน้ำในอ่าง วนอยู่ในนั้น ฮ่าฮ่า

เอาล่ะ เจอกันพฤหัสหน้าฯ ตอนสุดท้ายของเรื่องหลัก หลังจากนั้นจะเป็นตอนพิเศษค่ะ ส่วนเจ๋งกับปก...คิดว่าเป็นเรื่องต่อไป

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกกำลังใจเช่นเคยค่ะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-07-2017 21:09:26
ไปค่ะ ไปจุดพลุ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-07-2017 21:14:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 13-07-2017 21:34:00
โจ๊กกรีบบเลยนะพอโซ่พร้อม 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 13-07-2017 21:38:28
โซ่น่ารักกกกกกกกกก งืิอออ โจ๊กจะกินโซ่แล้ววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 13-07-2017 21:39:49
โจ๊กคนจริง ตอนนี้โซ่เท่มาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 13-07-2017 21:41:21
โอ๊ยโซ่ น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 13-07-2017 21:56:56
ตอนหน้าโซ่เสร็จโจ๊กแน่ๆเลย เหมือนปล่อยลูกสาวให้ออกเรือน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  แต่ตินหน้าก็เป็นตอนจบอีกเหมือนกัน  :ling1: :ling1: :ling1: รูกสึกใจหายที่จะไม่ได้อ่านอิโจ๊กไบโพล่าอีก เสียจายยยยย  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 13-07-2017 22:00:43
เฮ้อออออออออออออออออออออออออ
ฉลองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
พร้อมแล้ว
ไม่ต้องรีบ
แต่จัดให้รัวๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 13-07-2017 22:04:03
อ่านแล้วอมยิ้มจนปวดแก้ม  :oo1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 13-07-2017 22:04:38
กรี๊ดดดดดด ตอนนี้เขียนได้ฟินมากเลยค่ะ
ชอบมาก โซ่จ๋าโจ๊กจ๋า บรรลุแล้วจ้าาาเค้าจะได้กันแล้วค่า รักอาม่าที่ซู้ดดดด
ตอนหน้าจบแล้วง่ะ ขอบคุณมากนะคะ เขียนสนุกมากเลย ลื่นปรื้ดๆๆ ฮ่าๆๆๆ

รอตามเรื่องเจ๋งปกน้า ❤ ไอ้ตายสิตอนโซ่คุยกับพ่อน่ารักมาก จุ๊บคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-07-2017 22:18:21
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 13-07-2017 22:25:59
ม่าน่ารักอ่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 13-07-2017 22:26:26
ไปค่ะ ขอวาร์ปไปพฤหัสหน้า ขอโผล่หน้าเตียงเลยแล้วกัน ^^ แฮ่.....

นุ้งโซ่...รู้ตัวชัดเจนปุ๊บนี่รถอ้อยคว่ำเลยนะคะ คู้ณณณณ ถึงคอนโดอย่าโดนมะเหงกนะตัว 55

ชอบความพยายามที่ทั้งคู่ทำเพื่อจะได้มีกัน...มันดีอ่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 13-07-2017 22:27:04
ปิดซอยเลี้ยงเจ็ดวันเจ็ดคืนเลยนะโจ๊ก
เอาให้สมกับ2ปีที่เฝ้าคอยมา

ลุ้นมากกกกกก
ลุ้นแทนโจ๊กสุดๆไปเลยค่ะ
ว่าสุดท้ายโซ่จะรู้ใจตัวเองตอนไหน
แทบอยากจะกรี๊ดตอนโซ่พูดว่ารัก

ตอนหน้าจะจบแล้ว
ขอแบบจัดหนักให้สมกับที่โจ๊กรอคอยมานานนะคะ
หวานหนักๆ รักหนักๆ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 13-07-2017 22:31:16
โซ่ ร้องดังมาก
โหย ทำไมน่ารักกันได้ขนาดนี้ เขินตั้งแต่ไปถามพ่อแล้วมั้ย
ขอเป็นแฟนนี่แย่งซีนหมดเลย น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 13-07-2017 22:39:41
อยากจะจุดพลุ ในที่สุดความฝันของโจ๊กก็เป็นจริง ลำไยโซ่มาทั้งเรื่องดีงามพระรามแปดก็ตอนนี้ เป็นพระเอกต้องอดทนจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-07-2017 22:40:11
โซ่ ช้า ทุกอย่างคิดช้า เรียนเก่งอย่างเดียว
แต่โจ๊ก ได้โซ่เป็นคนรัก ที่ทั้งน่ารัก ทั้งจิตใจงดงาม

โซ่ เข้าใจความรักแล้ว รู้ว่าตัวเองรักโจ๊ก อยากอยู่กับโจ๊กไปจนแก่

โจ๊ก ก็ขอโซ่เป็นแฟน ยอดเยี่ยมไปเลย
โจ๊ก โซ่   :กอด1: :กอด1: :กอด1:

บางทีไม่เข้าใจกต ทั้งปกป้อง ทั้งกีดกันโจ๊ก
แล้วเมื่อจบไปแล้ว กต ตามไปปกป้อง กีดกันโซ่ จากคนอื่นได้หรือ
โซ่ ก็ผจญเสือ สิงห์ กระทิง หมาป่า คนเดียว
ชีวิตโซ่ไม่ยิ่งแย่หรือ  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-07-2017 22:47:50
ตายล่ะหุบยิ้มไม่ได้ อยากจะกรีดร้อง
น้องโซ่ทำดีมาก นอกจากอิโจ๊กจะหลงโงหัวไม่ขึ้น
ผู้ใหญ่ฝ่ายชายก็เอ็นดูไม่น้อยด้วย
ส่วนเรื่องพร้อมไม่พร้อมอะไรนั่น ไม่ได้ลุ้นนะ ไม่ได้ลุ้นจริงจริ๊ง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-07-2017 22:54:24
โจ๊กแพ้โซ่ราบคาบเลยยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 13-07-2017 22:56:56
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 13-07-2017 23:01:52
หวานกัน?จริงๆเลย แล้วดูโซ่อ้อยเค้าอีก อิโจ๊กทบต้นทบดอกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 13-07-2017 23:06:27
ชอบบบบบบบบสุดดดด
อยากมีโซ่เป็นของตัวเอง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-07-2017 23:10:05
 :-[ :mew1: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: 1andonly ที่ 13-07-2017 23:11:26
Very touching. I do like both of them.
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 13-07-2017 23:13:07
น่ารักไม่ไหวแล้วววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-07-2017 23:17:36
โซ่คนจริง ทำเอาโจ๊กเงิบไปเลย ฮ่า ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 13-07-2017 23:18:49
ยอมใจโซ่เลย โซ่คนจริง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 13-07-2017 23:31:09
เอ้า ปิดซอยยยย :mc4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 13-07-2017 23:44:14
ฮูเล่!! ดัใจกับพี่โจ๊กด้วยนะคะน้ำตาจิไหล
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 13-07-2017 23:45:18
น้องโซ่สารภาพรักได้น่ารักมาก พี่เขินแทนอิโจ๊กเลย 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-07-2017 23:49:50
อิแม่เอ้ย อกจะแตกปากจะฉีกด้วยความเขิน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 13-07-2017 23:56:07
ในที่สุดเค้าก็เป็นแฟนกันจนได้ ดีใจกับโจ๊กด้วย 55555555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 14-07-2017 00:07:27
โง้ยยยย น่ารักกก :-[

โจ๊ก ใจเย็นนะแก ไม่ต้องรีบได้แน่นอน  :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 14-07-2017 00:12:48
รอจุดพลุฉลองในอาทิตย์หน้าเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-07-2017 00:20:58
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 14-07-2017 01:14:20
ชีวิตนี้จะหาผู้ชายแบบโซ่ได้ที่ไหนคะ
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 14-07-2017 04:52:13
แงง สนุกมาก และค้างมากด้วย 5555  :ling1:
ฉลองให้โจ๊กหน่อยยย  :mc4:
ตอนนี้น่ารักมากๆ เลยค่ะ ชอบบบ
เขินแทนโจ๊กเลบ โง้ยย
เขาเป็นแฟนกันแล้ว เย่ๆ
รอตอนหน้าค่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 14-07-2017 05:19:40
แก้มแตกแทนโจ๊กแล้วเรา
โซ่น่ารักมาก พอมั่นใจก็ลุยเลย
จากใจเย็นก็ไม่อยากรอที่จะบอก
ส่วนโจ๊กจากใจร้อนๆ พอเป็นเรื่องโซ่
ก็ใจเย็น อดทนรอมาหลายปี
เขาเป็นแฟนกันแล้วนะ
เป็นแฟนปุ๊บโจ๊กก็เลื่อนให้สถานะสมบูรณ์ขึ้นปั๊บ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 14-07-2017 06:05:27
กง่าจะพูดออกมาได้ โอ้ยยยยย ลุ้นมาก
ชอบอาม่าอ่าา น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 14-07-2017 07:07:37
อยากจัดโต๊ะจีนฉลองให้โจ๊กสักร้อยโต๊ะ555555555555
ดีใจด้วยพ่อพระเอก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: abbaba ที่ 14-07-2017 07:25:23
โซ่น่ารักมากกกกก
ส่วนอิโจ๊ก ดีใจด้วยนะคะ 55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 14-07-2017 07:41:35
 :hao7: :hao7: :hao3: :hao5: จุดพลุเลย จุดพลุ!!!!!!!!!!
นังโจ๊กเขินสมกับเป็นตัวนังจริงๆ5555555
อยากได้โซ่~~~~~ แต่นังโจ๊กคงมาทุบหัวเอา ฮ่าๆๆๆ
โซ่น่าร้ากกกกกกก
ขอบคุณที่ไม่มีเรื่องดราม่าครอบครัวค่าา
เตรียมผ้ารอไว้ทุกพฤหัสเลยจ้าา อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 14-07-2017 07:52:18
งานนี้นายเอกเราแมนมาก o13

เอ้า ฉลองหน่อย :mc4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-07-2017 08:49:07
ยินดีกับโจ๊กด้วยน้า~
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 14-07-2017 09:09:23
วรั๊ยยยยยยย โจ๊กใจเย็นๆนะ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 14-07-2017 10:29:49
โจ๊ก อย่าเชื่อโซ่ง่ายๆนะ
ต้องเช็คความพร้อมของโซ่ยันสว่างเลยนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 14-07-2017 11:07:22
โซ่อน่ารักกกก ในที่สุดก้รู้ใจตัวเองซะที
โจ้กสมหวังซะทีอะ คอมพลีทเกือบทุกสิ่ง
รอตอนหน้าก้จะคอลพลีททุกสิ่งแล้วนะโจ้กนะ55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-07-2017 11:39:24
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 14-07-2017 11:42:42
ขอบคุณคุณบัวฮะ ได้มาเติมพลังทุกครั้งที่อ่านเรื่องที่คุณบัวแต่ง
โซ่มาช้าๆ แต่ชัวร์นะฮะ 5555+
ลุ้นไปกับโจ๊กด้วย....  :mew3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 14-07-2017 12:02:51
โซ่แน่ใจว่าพร้อม อิโจ๊กจับกินแน่ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 14-07-2017 12:54:49
ตัดจบแบบนี้ได้ไงงงง
วิ่งตามไปที่ห้องโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 14-07-2017 14:30:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 14-07-2017 14:50:33
โซ่น่ารัก โจ๊กก็ด้วย มีวางแผนอนาคตไว้ด้วย
ให้อาม่าชอบโซ่ใช่มั้ย :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 14-07-2017 15:19:38
โซ่หล่อแย่งซีน 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 14-07-2017 16:34:43
ชอบบุคลิกของโซ่มาก  o13 อาม่าก็เปิดทางให้แล้ว อิอิ  :z1:
+1 ให้นะคะ  อ่านมาสักพักแล้วแต่ลอกอินไม่ได้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Tyche ที่ 14-07-2017 21:11:43
น้องโซ่ของคุมแม่จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว /กุมใจ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 14-07-2017 21:42:37
โซ่นี่รวดเร็วตลอดดดดดอ่ะ โจ๊กไม่ได้เรื่องเลยยยยย

ตอนหน้าจบแล้วหรอออออ ไม่น้าาาาาา ฮื่ออออออ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-07-2017 22:48:40
เย้ บอกรักกันซะที เป็นกันแล้ว รอตอนหน้า :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 15-07-2017 09:56:10
รอนะค้าบบ แต่ยังไม่อยากให้จบเบยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-07-2017 12:40:42
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: CattyMeawMeaw ที่ 15-07-2017 22:15:04
ขอตอนพิเศษเยอะๆๆๆๆนะคะ ยังไม่อยากให้จบเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 15-07-2017 23:07:32
น้ำตาจิไหลลลล สารภาพปุ๊บ จะพิสูจน์แั๊บเลยหรอโจ๊ก 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 15-07-2017 23:48:21
นั่งอ่านมาทั้งวันและเมื่อตามทันพบว่า! ตอนหน้าจบอยากจิกรี๊ดดด :z3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 16-07-2017 01:23:37
ดีใจด้วยนะโจ๊ก

ในที่สุดก็เป็นแฟนกันแล้ว

จุดพลุฉลอง ฮิ้ววววววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-07-2017 02:19:28
รวดเดียวจบ ทำเอากรี้ดตอนล่าสุด ดีต่อใจมากกก
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 20-07-2017 21:42:54
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนที่ 19


คอนโดหรูของเจียระไนวันนี้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนเดิมกับครั้งก่อนๆที่เคยมาอีกแล้ว ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าพวกเขามาที่นี่วันนี้เพราะอะไร จุดประสงค์ของการก้าวเท้าผ่านบานประตูหนาหนักนั่นเพื่ออยู่ด้วยกันในคอนโดนี้คืออะไร


   ...พร้อมแล้ว...


…เป็นแฟนกันแล้ว...


   ...จากนี้...จะไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว...


   มือใหญ่ค่อยๆจับมือขาวของคนที่ยืนอยู่ข้างกันเบาๆ ดวงตาคู่สวยหันมามอง มันตื่นกลัวเล็กน้อย เขินอายมากหน่อย แต่ก็...หวานฉ่ำ...


   เจียระไนรั้งร่างโปร่งเข้ามาใกล้ ก้มหน้าลงหาให้ปลายจมูกแตะกันแผ่วเบา แต่...ยังไม่ทันได้แตะต้องกันมากกว่านั้น ใบหน้าขาวก็ก้มหลบลงซุกกับอกกว้างแทน หัวใจเจ้าของอกหล่นตุ้บลงไปกองกับพื้น


   ...อย่าเชียวนะมึง อย่าเสือกบอกว่าไม่พร้อมแล้ว...


“โจ๊ก...ขออาบน้ำก่อนได้มั้ย อยู่ข้างนอกมาทั้งวัน” เสียงอู้อี้จากคนที่เอาหน้าฝังลงกับอกของเขาดังขึ้นมา


...อ้อ...แค่ขอเวลานอก...


   “อาบด้วยกัน” ผู้ชายใจกว้างต่อรอง ของแบบนี้ต้องยื่นหมูยื่นแมว ให้เวลานอกได้แต่ต้องใช้เวลานอกด้วยกันสิ


   “ไม่เอา...ต่างคนต่างอาบ...นะ...” หัวใจคนจะยื่นหมูยื่นแมว อ่อนยวบอีกหน เขายอมปล่อยคนผิวขาวจัดออกจากอ้อมกอด แต่ก็ยังเดินตามไปส่งที่ประตูห้องน้ำ


   “ไม่ให้กูอาบด้วยจริงเหรอ” ถามย้ำอีกครั้ง ดวงตาเรียวฉ่ำด้วยความต้องการ ถ้าแค่สิตางศุ์พยักหน้าสั้นๆล่ะก็ คนขอคงกระโดดเข้าไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่า...วันนี้ร่างโปร่งเตรียมตัวมาดี เจ้าตัวยังคงส่ายหน้าอย่างมุ่งมั่น


   “งั้นรีบอาบ...”


   “อื้อ ออกไปได้แล้ว” มือขาวจะดึงประตูมาปิด แต่ร่างสูงวางมือทับลงบนมือนั้น


   “กูรอนะโซ่...” เป็นการพูดคำว่ารอที่มีความหมาย สิตางศุ์ทั้งเขิน ทั้งหวามไหว พยักหน้ารับรู้อย่างเขินอายก่อนจะปิดประตูลง

....................................

   เจียระไนขอบใจอะไรก็ตามที่ตอนซื้อคอนโด เขาเลือกห้องใหญ่ สองห้องนอนสองห้องน้ำ ห้องนอนหนึ่งถูกแปลงเป็นห้องทำงาน ห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องทำงานไม่ค่อยได้ใช้ แต่ก็มีของใช้เพียงพอที่เขาจะเผ่นไปอาบน้ำที่ห้องนั้น แล้วกลับมารอที่ห้องนอน ตอนกลับเข้ามา เขาได้ยินเสียงน้ำฝักบัวยังเปิดอยู่ แล้วครู่หนึ่งมันก็เงียบไป ยิ่งเสียงฝักบัวเงียบ เสียงหัวใจของคนรอก็ยิ่งดังกว่าเดิม


   ...วันนี้แล้ว...วันนี้...


   เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออก ทำเอาหัวใจเจียระไนรัวเหมือนกลองที่ถูกตี เขาหันไปมองที่ประตูห้องน้ำ คนผิวขาวจัดอยู่ในชุดเสื้อยืดเนื้อบางและกางเกงขาสั้นของเจ้าตัวที่มาทิ้งไว้ที่นี่เวลามานอนค้าง เป็นชุดที่ไม่มีความเซ็กซี่ตรงไหนเลย แต่...พอมาอยู่บนเนื้อตัวของคนที่กำลังก้มหน้างุดๆ แล้วเหลือบมองเขาเป็นระยะ เจียระไนก็ถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่


   คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เดินเลี่ยงเอาผ้าเช็ดตัวไปผึ่ง แต่ไม่ทันจะหันกลับ ร่างทั้งร่างก็ถูกสวมกอดจากด้านหลัง สิตางศุ์สะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ยอมอยู่ในอ้อมกอดร้อนนั้นแต่โดยดี


   “อาบ...อาบน้ำแล้วเหรอ” คนถูกกอดถาม ทั้งๆที่ไม่หันไปมอง


   “อาบแล้ว...” ริมฝีปากที่ตอบคำถามนั้น แนบลงกับลำคอขาวผ่องเบาๆแล้วลากไล้จนเสียววาบ


   “จ...โจ๊ก...”


   “ตรงนี้นะ...” แม้แต่เตียงก็ยังไกลเกินไปสำหรับความต้องการในตอนนี้ เจียระไนหมุนร่างผอมให้หันกลับมาหาเขา แล้วดันร่างอีกฝ่ายให้ชิดไปกับกระจกบานใหญ่ติดผนังที่อยู่ด้านหลัง บดเบียดจูบร้อนๆกับริมฝีปากสีสดนั้น ในขณะที่ฝ่ามือลูบไล้เข้าไปใต้เสื้อยืดเนื้อบาง


   “ใส่ทำไม หื้ม?” จูบไป ถามไป ดูดดึงริมฝีปากไป   มือที่ล้วงเข้าไปใต้เสื้อเปลี่ยนเป็นจับสิ่งกีดขวางแล้วดึงออกไปทางศีรษะ เผยให้เห็นแผ่นอกขาวจัดที่ประดับด้วยยอดอกสีชมพูสองข้าง เจียระไนจ้องตาไม่กะพริบ ลูบไล้ฝ่ามือจากบั้นเอวขาวขึ้นมาที่อกอย่างเชื่องช้า ทิ้งอุณหภูมิร้อนผ่าวเอาไว้บนผิวเนื้อของสิตางศุ์จนร่างโปร่งสะท้านได้แต่หลับตาปี๋ เม้มปากแน่น


   “ลืมตาสิ จะได้เห็นว่ากูทำอะไร” เสียงทุ้มดังใกล้ พร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดบนผิวแก้ม ดวงตาคู่สวยยอมเปิดออก เป็นอีกครั้งที่สบตากับดวงตาเรียวคู่นี้แล้วความรู้สึกนึกคิดก็ดำดิ่งเข้าไปในความดำมืดของดวงตาของเจียระไน


   ใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนลงไปที่หน้าอก ในขณะที่ตายังสบตา เขาแนบริมฝีปากลงตรงกลางระหว่างอก ร่างขาวจัดสะดุ้งเฮือกอีกรอบ และยิ่งต้องสะท้านมากกว่าเดิม เมื่อมือใหญ่ที่ร้อนผ่าวลูบลงไปยังขอบกางเกงนอนแล้วปลดมันลงอย่างเชื่องช้า


   “จ...โจ๊ก...อ่ะ!” สิตางศุ์ไม่ทันได้พูดอะไรก็เป็นอันต้องครางแผ่วเมื่อเจียระไนหันไปครอบครองยอดอกข้างซ้ายด้วยริมฝีปากร้อน ความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนแผ่ซ่านไหลลามไปทั่วร่างอย่างรวดเร็วจนแทบยืนไม่อยู่ ยิ่งพอมือร้อนๆที่หยาบกระด้างลงไปถึงส่วนที่อ่อนไหวที่สุด ดวงตาคู่สวยก็ยิ่งเบิกโพลง มือขาวรีบตามลงไปยั้งเอาไว้ แต่...เจียระไนไม่ปล่อยอีกแล้ว พอเขาจับได้ถนัดก็เริ่มชักนำอารมณ์พุ่งทะยานขึ้นไปมากกว่าเดิม


   ถูกรังแกทั้งยอดอกและเบื้องล่าง คนผิวขาวจัดก็แทบจะแดงเห่อไปทั้งตัว ได้แต่สะบัดหน้าร้องครางไปมาอย่างทนไม่ไหว มือใหญ่ขยับถี่จนเปียกแฉะ ก่อนจะทรุดตัวลงครอบครองด้วยโพรงปากร้อนแทน


   “อ๊า!” ร่างโปร่งสะดุ้งครางด้วยความตกใจผสมกับอารมณ์หวามที่ดูเหมือนจะถูกกระชากขึ้นไปอีก พยายามกระถดตัวหนีความร้อนและชื้นที่เจียระไนมอบให้ แต่มือใหญ่ตรึงสะโพกเขาเอาไว้แน่น เร่งความเร็วในการดูดดึงและไล้เลียจนในที่สุด คนที่เคยขยับหนีก็ตอบสนองจังหวะของเขาด้วยการเอื้อมมือลงมากดศีรษะเขาเอาไว้แทน


   ดวงตาเรียวเหลือบขึ้นมองสบกับดวงตาคู่สวยที่ไปด้วยความต้องการ สิตางศุ์กัดปากตัวเองกลั้นเสียงคราง หน้าตาแดงก่ำและเหมือนจะร้องไห้ ดูน่าสงสารแต่...เขาไม่หยุดอีกแล้ว ตายังสบตา แต่เจียระไนก็ยังขยับริมฝีปากไม่หยุด ยิ่งจ้องมองดวงตาคู่นั้นแล้วลงลิ้นแรงๆ คนที่เคยผิวขาวจัดแต่บัดนี้แดงก่ำไปทั้งตัวก็ถึงกับสะบัดหน้าแหงนหงายไปด้านหลัง สะโพกกระตุกเฮือกๆ


   “อ่ะ...อ่ะ...ไม่...ไม่ไหวแล้ว...อื้อ...อื้อ!” ไอร้อนผ่าวทะลักทลายในโพรงปากของเจียระไนในวินาทีต่อมา เขาดูดรีดจนคนปลดปล่อยที่นิ่งสงบไปแล้วเริ่มดิ้นพล่านอีกรอบ


   “พ...อก่อน...อ๊ะ...อย่าเพิ่ง...มัน...มันเสียว...อื้อ...” คนซื่อพูดตรงๆได้ถูกใจคนฟังมาก ร่างสูงถอนริมฝีปากออกมาก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วพยุงคนที่ยังระทดระทวยให้เข้ามาแนบชิด



   “จ...จะ...จะทำอะไร...” สิตางศุ์ถามทั้งที่ยังหอบ เพิ่งเสียพลังงานไปเมื่อกี้ก็ถูกกอดอีกแล้ว เขารู้สึกเหมือนพื้นที่ยืนไม่มั่นคงเลย ถ้าอีกฝ่ายไม่โอบเขาเอาไว้ทั้งตัวก็คงลงไปนั่งกองกับพื้นแล้ว


   “เปลี่ยนที่” คำตอบของเจียระไนทำเอาคนถามถึงกับตาเบิกโพลง แต่ไม่ทันแย้งอะไร ร่างทั้งร่างก็ถูกอุ้มจนเท้าลอยจากพื้นพาเดินไปที่เตียงแล้ว


   จากหน้ากระจกไปจนถึงเตียงไม่ไกลเลยแม้แต่นิด แต่สำหรับคนที่อารมณ์ยังคุกรุ่นอย่างสิตางศุ์ การถูกอุ้มจนความอ่อนไหวเสียดสีไปกับหน้าท้องเปล่าเปลือยของร่างสูงไม่ใช่เรื่องดีเลย พอเขาถูกปล่อยลงบนเตียง ความต้องการก็ยืดติดเป็นสาย


   สิตางศุ์ได้แต่ก้มหน้า อับอาย รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ ไม่เพียงเขาปลดปล่อยในปากของอีกฝ่าย แต่...แต่แค่ถูกถูไถกับหน้าท้องของเจียระไน ก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว สองมือขาวพยายามปกปิดส่วนที่กำลังขยับขยาย ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมีความต้องการมากขนาดนี้


   “โซ่...” เสียงทุ้มดังที่ข้างหู ตอนนั้นเองที่ร่างโปร่งเพิ่งรู้ตัวว่าเจียระไนตามขึ้นเตียงมาด้วยกันแล้ว ร่างของเขาถูกโน้มลงนอนช้าๆ สองขาถูกแยกออกกว้างแล้วแทรกกลางด้วยร่างสูงที่เปล่าเปลือย ความร้อนผ่าวแข็งขืนที่แนบชิด ทำเอาสิตางศุ์สะท้านจนต้องโอบร่างสูงใหญ่แน่น


   “ชู่...ไม่เป็นไร...” ริมฝีปากร้อนที่ประทับจูบตามผิวแก้มครั้งแล้วครั้งเล่ากระซิบปลอบ ในขณะที่เบื้องล่างถูไถ เสียดสีจนร้อนฉ่า ปลุกปั่นอารมณ์ให้โหมกระพือ ก่อนที่สิตางศุ์จะถูกรุกรานด้วยปลายนิ้วที่ชโลมชุ่มด้วยเจลลื่น


   “อ๊ะ” เหมือนกระชากคนที่ตกอยู่ในห้วงกฤษณาให้ออกมารับรู้ความจริง สิ่งแปลกปลอมที่กดแทรกเข้ามาในร่างกายทำเอาเกร็งเฮือก


   “ไหวมั้ย โซ่...ผ่อนลมหายใจช้าๆ” เจียระไนปลอบ ปลายนิ้วที่กำลังเดินทางเข้าสู่ร่างกายของอีกฝ่ายหยุดอยู่กับที่ เขามองสบเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่ฉายแววหวาดหวั่นแล้วก็ใจอ่อน


   ...ไม่ไหวมั้งเนี่ย...ไม่ไหว...


   ...กูเนี่ยบังคับมันไม่ไหวแน่ๆ...


สิตางศุ์เม้มปากแน่น ทั้งหวาดทั้งหวั่น ความจริงข้อหนึ่งที่เขารู้มาจากปกฉัตรคือเจ็บมาก แต่...แต่เพื่อเจียระไน


   “โจ๊ก...”   


   “ท...ทำเถอะ...กู..กู...กูไหว...”


“แน่ใจนะ”


“อื้อ...” หลังเสียงอนุญาต ปลายนิ้วยาวก็ถูกแทรกเพิ่มเข้าไปเป็นสอง ร่างโปร่งสั่นเป็นลูกนก เจียระไนหยุดอีกหน เขากำลังจะตัดสินใจล้มเลิกความตั้งใจของตัวเองที่จะได้เมียวันนี้ แต่เป็นฝ่ายสิตางศุ์ที่ยื่นหน้าขึ้นมาจูบเขา


ราวกับปลดล็อกความกังวลทั้งหมด เจียระไนรู้ว่านี่คือการอนุญาตที่ยินยอมพร้อมใจที่สุด คนใต้ร่างของเขาไม่เพียงแค่เตรียมใจมาแล้ว แต่มันพร้อมที่จะเรียนรู้เขาจริงๆ และในเมื่อ...เปิดใจให้เขาขนาดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วที่จะโยนโอกาสทิ้งไป


   ปลายนิ้วที่สามถูกกดแทรกเข้ามาเพื่อขยับขยายช่องทาง เสียงครางหวานหูดังมาจากคนที่กำลังถูกเขารุกราน เจียระไนแทบอดใจไม่อยู่ อยากพาความบวมเป่งของตัวเองเข้าไปอยู่ในร่างขาวเดี๋ยวนี้ แต่...เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเจ็บมากกว่าที่ควรจะเป็น อดใจอีกหน่อย สร้างความคุ้นเคยและปลุกเร้าอารมณ์ให้มากกว่านี้อีกนิด แล้ว...ค่อยแทรกสอดเข้าไป


   “อ๊ะ!” ความแข็งแกร่งของร่างสูงใหญ่โตกว่านิ้วสามนิ้ว สิตางศุ์ถึงกับสะดุ้ง ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากัน ปลายนิ้วจิกเกร็งเตียงแน่น เจียระไนพาร่างกายดำดิ่งเข้าไปในความร้อนผ่าวที่คับแคบนั่นอย่างช้าๆ


เรียนรู้ที่จะหยุดรอเมื่อมือขาวละจากเตียงมาแตะที่หน้าท้องของเขาเป็นเชิงขอเวลา เรียนรู้ที่จะสื่อสารกันด้วยสายตาเมื่อดวงตาคู่สวยหวานฉ่ำเรียกร้องให้เขาขยับเข้ามามากขึ้นอีกนิด


   “อื้อ...” นานแทบขาดใจ ต่างคนต่างหอบฮัก กล้ามเนื้อเกร็งเปรี๊ยะไปแทบทุกส่วนกับการเดินทางที่ยาวนาน เจียระไนค้ำสองแขนลงเหนือร่างของสิตางศุ์ ริมฝีปากสีสดบัดนี้ถูกเม้มจนห้อเลือด ทว่าไม่ได้ยินคำปฏิเสธใดๆจากเจ้าของริมฝีปากนี้เลย


   ...โซ่อดทน...โซ่พยายาม...


   เขาก้มลงมอบจูบอ่อนหวานแทนคำปลอบใจและขอบคุณ ละเลียดมันช้าๆปล่อยให้ร่างกายของอีกฝ่ายคุ้นเคยกับการมีอยู่ของร่างกายของเขา รอ...จนฝ่ามือขาวส่งสัญญาณด้วยการลูบไล้แผ่นหลังของเขาเบาๆ


   ...เชื่องช้า วาบหวามและเสียวซ่าน...


   ตั้งแต่เข้าสู่วัยหนุ่ม เจียระไนไม่เคยร่วมรักกับใครด้วยความรู้สึกแบบนี้เลย หลายครั้งที่เขาทำไปเพื่อระบายสัญชาตญาณดิบ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาทำเพื่อจะได้เรียนรู้อีกฝ่ายแบบนี้เลย


   ...เซ็กซ์ไม่ใช่แค่การปลดปล่อย แต่ครั้งนี้มันคือการเปิดเผยให้เราได้เรียนรู้กัน...


   “อ่า...” เส้นผมสีน้ำตาลพลิ้วไหวไปมาบนหมอนสีขาว ร่างกายถูกพัดพาไปตามอารมณ์รักที่อีกฝ่ายมอบให้ ทุกอารมณ์เหมือนถูกตอกฝังเข้ามาในร่างกายราวกับถูกถาโถมด้วยคลื่นของความรู้สึกครั้งแล้วครั้งเล่า ฝ่ามือขาวลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังกว้าง เมื่อไหร่ที่อัดอั้นจนทนแทบไม่ไหวก็จิกเล็บแน่นบอกให้คนข้างบนได้รับรู้ เมื่อไหร่ที่ต้องการสัมผัสมากกว่านี้ก็ลูบขึ้นไปที่ท้ายทอยช้าๆ จังหวะรักจึงไม่เพียงแค่โหมกระพือตามความพึงใจของเจียระไนเท่านั้น แต่มันตอบสนองความรู้สึกของสิตางศุ์ด้วยเช่นกัน


   “อื้อ...โจ๊ก...อื้ม...” เสียงครางผะแผ่วของคนข้างใต้บอกให้รู้ถึงความพึงใจ เจียระไนกดแทรกลึกเร่งอารมณ์พาไปสู่ฝั่งฝันด้วยกัน สิตางศุ์สะท้านเฮือกตอดรัดคนที่กระแทกกระทั้นถี่ยิบ ก่อนจะปลดปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน


   ยาวนาน...เป็นการละเลียดความสุขที่ยาวนาน


   ใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงฟุบลงกับซอกคอขาวแล้วหอบฮัก ปล่อยให้ร่างกายของตนยังแช่ค้างอยู่ในกายของอีกฝ่าย ในขณะที่ประสาททุกส่วนยังตึงเขม็ง เจียระไนรู้...เขายังไม่พอ


   “โซ่...” ปรับลมหายใจจนเกือบเป็นปกติได้แล้ว ร่างสูงก็เอ่ยขึ้นมาเบาๆทั้งๆที่หน้ายังซุกอยู่กับซอกคอที่ชื้นเหงื่อ


   “หือ?” แผ่นอกที่เขานอนทับดูเหมือนจะขยับขึ้นลงเป็นปกติแล้ว บอกให้รู้ว่าสิตางศุ์เองก็หายใจเป็นปกติแล้วเช่นกัน


   “เอาอีกได้มั้ย” เจียระไนผงกศีรษะขึ้นมาถาม ตาประสานตา บอกความรู้สึกตรงไปตรงมา


   “หา?!” ไม่รอคำอนุญาต ร่างสูงถอนกายออกแล้วรูดถุงยางอนามัยทิ้ง ก่อนจะหยิบมาอันใหม่มาฉีกซอง ทั้งๆที่ยังสบตากับดวงตาคู่สวยที่เบิกโพลงคู่นั้น


   สิตางศุ์กลืนน้ำลายเอื้อก รีบกระถดตัวลุกขึ้นนั่งแม้ว่าจะอ่อนเปลี้ยเพียงใดก็ตาม แต่...นอนอยู่แบบเดิม เห็นทีจะไม่รอดแน่ๆ...


   “เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน...ไม่เหนื่อยเหรอ” เจียระไนคว้าข้อเท้าคนที่พยายามถอยแล้วดึงทีเดียว คนที่อุตส่าห์ลุกขึ้นนั่งได้แล้วก็ไถลลงมานอนที่เดิมอีก เขาตามขึ้นคร่อม แล้วตอบเรียบๆ


   “กูทำได้ถึงเช้า”   


   สิตางศุ์หน้าแดงซ่าน เม้มปากแน่นแล้วเผยอออกบ่นเบาๆ


   “ไหน...ไหนแต่ก่อนว่าไม่ใช่หุ่นยนต์ไง...”


   “กูกลายพันธุ์ตอนได้มึงนี่แหละ”


แล้วหลังจากนั้น...คนที่ทำให้เจียระไนกลายพันธุ์ก็ไม่ได้ท้วงอะไรอีกเลย

....................................

   ผู้ชายสองคนที่ชื่อเจียระไนและสิตางศุ์นั้นไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง


   เจียระไนเป็นคนคิดเร็ว พูดเร็ว ตัดสินใจเร็ว ชอบกินอาหารรสจัด ชอบน้ำกระเจี๊ยบ จริงๆแล้วขี้หนาวนิดหน่อยและนอนยากมากๆ


   สิตางศุ์เป็นคนคิดช้า พูดช้า ตัดสินใจก็ช้า กินอาหารได้แค่ไม่กี่อย่าง และไม่กินผักที่มีกลิ่น ชอบน้ำเก็กฮวย ชอบเปิดแอร์หนาวๆ หัวถึงหมอนก็หลับ


   แม้จะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย แต่ผู้ชายสองคนนี้กำลังเรียนรู้กันและกันอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเวลาที่เหลืออยู่อีกแล้ว ในเมื่อสถานะของพวกเขาในวันนี้ มันชัดเจนและพร้อมจะเป็นรากฐานที่มั่นคงในชีวิตที่จะดำเนินไปด้วยกัน


   …แฟน...


...จากเพื่อนร่วมคณะ มาเป็นเพื่อนต่างภาควิชา แล้วก็ข้ามมาเป็นสารถี จากนั้นก็กลายเป็นเพื่อนสนิท และ...สถานะคลุมเครือแบบคนศึกษาดูใจ...มาวันนี้...กลายเป็นแฟนกันแล้ว...


เจียระไนก้าวเท้าพ้นมุมตึกก็เห็นใครบางคนนั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกเรียน โต๊ะม้าหินโต๊ะนี้คือโต๊ะเดียวกับที่เขาเคยเห็นสิตางศุ์นั่งบ่อยๆ และเป็นโต๊ะม้าหินโต๊ะเดียวกับภาพพื้นหลังโทรศัพท์ของเขา ที่ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นรูปเดิม


รูปที่เขาถ่ายจากด้านหลัง เห็นแค่แผ่นหลังของคนสูงโปร่งนั่งอยู่เพียงลำพังที่โต๊ะนั้น รูปที่เขาเคยมีส่วนร่วมแค่จากวงนอกสุด และทำได้แค่แอบเก็บเอาไว้ดูเพียงลำพัง แต่มาวันนี้...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร เขาไม่จำเป็นต้องยืนมองสิตางศุ์จากตรงนี้อีกแล้ว


ร่างสูงเดินตรงไปที่โต๊ะ ก่อนจะวางน้ำเก็กฮวยแก้วใหญ่ลงตรงหน้าคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุด สิตางศุ์เงยหน้าขึ้นมามองแล้วยิ้ม


   “ขอบใจนะโจ๊ก” เจียระไนพยักหน้ารับสั้นๆก่อนจะทรุดตัวลงนั่งร่วมโต๊ะด้วย


ไม่ต้องให้ใครเชิญชวนให้นั่ง ไม่ต้องทำเป็นนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันเหมือนครั้งแรก ไม่ต้องทำเป็นบังเอิญว่าแขนไปชน เวลานี้...นั่งเก้าอี้คนละตัวก็ได้ เพราะยังไง...สิตางศุ์ก็รับรู้การมีตัวตนของเขาแล้ว


   มือขาววางดินสอลงกับหนังสือและกระดาษที่กำลังโน้ตย่อ ก่อนจะหันไปหยิบแก้วน้ำเก็กฮวยมาดูด แต่ดวงตาคู่สวยก็ยังจับจ้องไปที่คนที่ใช้เวลาว่างในตอนบ่ายที่ไม่มีเรียนอยู่ด้วยกันที่โต๊ะม้าหินเงียบๆ


   “มองไร” คำถามห้วนๆดังปลุกสติคนที่กำลังจับจ้อง สิตางศุ์ไม่ได้สะดุ้งอีกแล้ว เสียงห้วนๆแบบนี้เขาคุ้นเคยแล้ว พอฟังดูดีๆ มันก็ไม่ได้ห้วนสักเท่าไรหรอก


   “กำลังคิดว่า จะให้มึงไปเจอพ่อแม่กูยังไงดี ตอนแรกกะว่าสอบเสร็จจะชวนมึงไปกระบี่ด้วยกัน แต่...ทั้งกูทั้งมึงจะเริ่มทำงานเลย ก็คงไม่มีเวลาไป งั้นไว้เจอวันรับปริญญาดีมั้ย”


อีกไม่กี่สัปดาห์จะสอบไฟนอลของเทอมสุดท้ายในชีวิตนิสิตแล้ว สิตางศุ์ได้งานแล้ว และตั้งใจจะสอบเข้ารับราชการในตำแหน่งที่อยากเป็น ส่วนเจียระไนจะเข้าไปช่วยงานบริษัทที่บ้าน โปรแกรมไปกระบี่ที่ตั้งใจเอาไว้เลยต้องพับไปก่อน


   “เอาสิ กูก็กะให้มึงเจอป๊ากูวันรับปริญญาเหมือนกัน”

   
   “ป๊ามึง...จะโกรธมั้ย” ไม่ต้องบอกเรื่องที่โกรธ ต่างคนต่างก็รู้ดีว่าบิดาของเจียระไนจะโกรธเรื่องไหน ลูกชายคบหากับผู้ชาย ไม่ใช่เรื่องที่ยอมรับได้ง่ายนัก


   “แล้วพ่อแม่มึงล่ะ” เจียระไนไม่ตอบแต่ย้อนถามอีกฝ่ายก่อน


   “ก็...อาจจะตกใจ กูลูกชายคนเดียวนี่นา แต่ว่า...กูก็ทำให้เขาคุ้นเคยเรื่องของมึงมากแล้วนะ”


   “ป๊ากูก็คงโกรธนิดหน่อย”


   “อ่า...นิดหน่อยนี่...น่ากลัวมากมั้ย”


   “มึงกลัวเหรอ”


ดวงตาเรียวเหลือบมาจ้อง สิตางศุ์มองสบเข้าไปในดวงตาคู่นั้น แล้วพยักหน้ารับช้าๆ


   “งั้นถอยมั้ย”


   “ถอยแบบไหน?” สิตางศุ์ย้อนถามอย่างงุนงง


   “ก็ยังไม่ต้องบอก มึงก็ยังไม่ต้องบอกพ่อแม่มึงด้วย” เป็นข้อเสนอที่ฟังดูเข้าท่า สำหรับคนที่ยังกลัวอยู่ แต่...แม้จะกลัว สิตางศุ์ก็พร้อมจะเผชิญหน้า


   “แต่กูอยากบอกนะ กูอยากให้พ่อแม่กูรับรู้ แล้วก็อยากให้ป๊าของมึงยอมรับด้วย”


   “แต่มึงกลัว?”


   “ก็ใช่...” ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แล้วตั้งคำถามเบาๆ


   “มึง...จะสู้ไปกับกูมั้ย”


   เป็นคำถามที่ไม่อ่อนหวาน อ่อนโยนเลย ไม่มีคำบอกรักหรือบอกความรู้สึกใดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นคำถามที่ทำให้หัวใจของเจียระไนเต้นรัวจนต้องยกแก้วน้ำกระเจี๊ยบที่เหลือแต่น้ำแข็งมาโกยเข้าปาก


   ...จะสู้ไปด้วยกันมั้ย...


   ...จะสู้มั้ย ถ้าคนข้างกายคือ ‘โซ่’...


   ...จะสู้มั้ย ถ้าเพื่อให้ได้ ‘โซ่’...


   ...คำตอบก็เป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว...


   “อือ” เจียระไนรับคำ รู้สึกเขินประหลาดกับแค่คำถามสั้นๆของคนผิวขาวจัด และคำตอบในคอของตัวเอง


   ดวงหน้าขาวแย้มยิ้มสดใส แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก หัวใจยังกลัวแต่ความกล้าก็กำลังแตกหน่อแผ่ขยาย


   “ถ้างั้น...เดี๋ยวกูกลับไปนอนคิดว่าวันรับปริญญาจะแนะนำตัวเองกับป๊ามึงยังไงดี”


   “เออๆ เรื่องของมึงเถอะ พูดอะไรก็ได้...ยังไงซะ...ต่อให้ป๊าโกรธหรือไม่โกรธ ต่อให้พ่อแม่มึงยอมรับหรือไม่ยอมรับ กูกับมึง...ก็จะสู้ไปด้วยกันอยู่ดี”


เจียระไนรวบรัดอย่างรวดเร็ว กลัวหัวใจตัวเองจะยิ่งเต้นดังกว่านี้ ไม่รู้สิตางศุ์ใส่อะไรมากับคำพูดไม่กี่คำพวกนั้น ถึงทำให้ใจของเขาไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทั้งๆที่เป็นประโยคที่ไม่หรูหราอะไรเลย
   

“...แดกน้ำให้หมดได้แล้ว เดี๋ยวกูพาไปกินอาหารญวนเจ้าเก่าที่อาม่าชอบ” แล้วร่างสูงก็หาทางทำลายบรรยากาศที่ทำให้ตัวเองเขินด้วยการชวนออกจากคณะ เขาช่วยอีกฝ่ายเก็บข้าวของ ในขณะที่สิตางศุ์รีบดูดน้ำในแก้วจนหมด จากนั้นชายหนุ่มสองคนก็ลุกจากโต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียน เดินเคียงกันหายลับไปทางลานจอดรถ


   แล้วหลังจากนั้นเพียงเล็กน้อย ในสังคมออนไลน์ชื่อดังก็ปรากฏรูปภาพของชายหนุ่มสองคนนั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกเรียนคณะ รูปนั้นเห็นเพียงแผ่นหลังของสิตางศุ์และใบหน้าด้านข้างของเจียระไนที่ยกแก้วชิดปาก ส่วนคนโพสต์รูปไม่ใช่ใครที่ไหน น้องติซซี่คนดังแห่งคณะรัฐศาสตร์นั่นเอง


‘เป็นเรื่องราวดีๆของคณะในวันนี้คร่ะ’


แน่นอนว่ามีคอมเม้นท์มากมายไหลทะลักอีกครั้ง ก่อนจะมีคอมเม้นท์จากผู้ใช้ที่ชื่อว่า ‘Jiaranai’ ปรากฏขึ้นมา


‘ขอรูปไซส์จริงด้วย’


‘พี่โจ๊กจะเอาไปทำไมคระ ขอคำตอบที่ติซซี่ถูกใจ’


‘รูปนี้ไอ้โซ่ชวนสู้ไปกับมัน’


‘สู้? สู้กะใครคระ? สู้เพื่ออะไร? สู้แล้วได้อะไร?????????’


‘ไม่เสือก แล้วส่งรูปมา’


สั้นๆได้ใจความ ทั้งด่าและสั่งในทีเดียว แน่นอนว่าตามหลังคอมเม้นท์นี้ มีคอมเม้นท์ยุแยงไม่ให้ติซซี่ส่งรูปให้เจียระไนอีกมากมาย ทว่า...อึดใจต่อมา ‘รูปนั้น’ แต่ความละเอียดมากกว่าเดิมก็ถูกส่งมาให้ทางการติดต่อสื่อสารแบบส่วนตัว


ปลายนิ้วยาวกดตั้งค่ารูปที่ได้รับเป็นภาพพื้นหลังในโทรศัพท์แทนรูปเดิมซึ่งเป็นรูปของสิตางศุ์ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินนี้เพียงลำพัง ดวงตาเรียวจับจ้องรูปที่ปรากฏแทนรูปเดิม แล้วรอยยิ้มจางก็จุดที่มุมปาก


...จากนี้...จะไม่มีโซ่ที่นั่งคนเดียวอีกแล้ว...


...จากนี้...จะไม่มีโจ๊กที่อยู่ห่างๆอีกแล้ว...


...จากนี้...จะมีเราอยู่ด้วยกัน...จะมีเราอยู่ข้างๆกัน...จะมีเราสู้ไปด้วยกัน...


...จากนี้...ตลอดไป...

..................................

>หน้าถัดไปค่ะ>
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 20-07-2017 21:43:18


ไม่มีช่วงไหนในมหาวิทยาลัยที่คนจะเยอะได้เท่าช่วงรับปริญญาอีกแล้ว ทั้งบัณฑิตและญาติสนิทมิตรสหายของบัณฑิตที่แห่แหนกันมา สร้างความชุลมุนได้อย่างดี


ที่หน้าตึกเรียนของคณะรัฐศาสตร์ หลายคนกำลังชะเง้อมองหาคนดังของคณะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของดีของภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่น่าจะออกจากหอประชุมแล้ว และกำลังเดินกลับมาที่คณะ


“นั่นไง...พี่โซ่...”


“โอยยยยย ฉันรักผู้ชายในชุดครุย!!”


“หล่อมาก...หล่อได้อีก จำเป็นมั้ยที่ต้องใส่ชุดรับปริญญาแล้วหล่อขนาดนี้”


“ได้ข่าวว่าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งด้วยนะ ทั้งหล่อทั้งเก่ง ดูรอยยิ้มนั่นสิ จะละลายยยย”


ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งผิวขาวจัดในชุดรับปริญญาสีขาว ชายเสื้อครุยยาวสะบัดตามการก้าวเดิน ยิ่งทำให้เจ้าตัวดูดีและโดดเด่น รอยยิ้มสดใสที่แสนสุภาพประดับอยู่บนใบหน้าเสมอยิ่งทำให้มีแต่คนอยากจะเข้าหา ตั้งแต่เดินออกจากหอประชุมจนมาถึงคณะ สิตางศุ์ถูกขอถ่ายรูปไปแล้วนับสิบครั้ง ทั้งจากเพื่อนที่รู้จัก และคนที่ไม่รู้จัก และอาจจะถูกขอถ่ายรูปมากกว่านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะชายหนุ่มในชุดรับปริญญาอีกคนที่เดินตามหลัง


ร่างสูงใหญ่ในชุดรับปริญญาสีขาวเช่นเดียวกัน หน้าตาดีแต่มักจะขมวดคิ้วอยู่เสมอ ตาเรียวเฉียงกวาดมองอย่างหงุดหงิดหน่อยๆ แต่พอคนที่เดินนำหน้าหันมาชวนคุยด้วย สายตาที่เมื่อครู่ดูหงุดหงิดก็จางหายไปอย่างรวดเร็ว


“โจ๊ก ที่บ้านมึงรออยู่ตรงไหน”


เพราะพวกเขาเข้าหอประชุมในช่วงเช้า ทั้งเจียระไนและสิตางศุ์เลยมากันก่อน แล้วให้ครอบครัวตามมาทีหลัง โดยนัดแนะสถานที่กันเอาไว้


“สนามบอล พ่อแม่มึงรอที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกคณะใช่มั้ย” เจียระไนพูด พยายามมองไปที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกคณะ แต่ความสูงของเขาในเวลานี้แทบไม่มีประโยชน์ เพราะคนเยอะเกินไป


“อืม นั่นไอ้แพทกับไอ้กต” สิตางศุ์เห็นเพื่อนสนิทสองคนที่คลาดกับเขาเมื่อตอนออกจากหอประชุมแล้ว สองคนนั้นเองก็เห็นเขาเช่นกัน ถึงได้รีบก้าวเท้าตรงมา


“เห็นมั้ย กูว่าแล้วว่ามันสองคนอยู่ด้วยกัน มึงน่ะห่วงไม่เข้าเรื่อง” พฤกษาหันไปพูดกับเพื่อนซี้


“ห่วงอะไร” สิตางศุ์ถามงงๆ


“ไอ้กตน่ะสิ มันไม่เห็นมึงตอนออกจากหอประชุม ตอนแรกแม่งจะขอเข้าไปดูข้างในอีกรอบ เจ้าหน้าที่ต้องบอกว่าคนออกมาหมดแล้ว มันถึงได้ยอมกลับคณะ” อลงกตทำหน้าตาหงุดหงิดที่ถูกเพื่อนสนิทเผา สิตางศุ์ยิ้มน้อยๆ


“กูเห็นคนเยอะ ก็เลยเดินกลับมาก่อน พวกมึงเจอที่บ้านกันรึยัง”


“เจอแล้ว กูเห็นพ่อแม่มึงอยู่ที่โต๊ะม้าหินแหน่ะ มีไอ้ทัศน์กับพี่อาร์ตด้วย มาสิ เดี๋ยวกูพาไป” อลงกตเอ่ยปาก สิตางศุ์หันมองคนข้างกายเหมือนจะขอความเห็น เจียระไนพยักหน้ารับสั้นๆเป็นเชิงตกลง


“อะไร คุยกันด้วยสายตาหมายความว่ายังไง” พฤกษาถามแทรกตามประสาคนชอบเผือก


“ก็...กูตกลงกับโจ๊กว่าจะให้มันเจอพ่อแม่กูวันนี้ แล้วมัน...ก็จะให้กูไปเจอป๊ามัน”


เป็นอันว่านอกจากวันนี้จะเป็นวันรับปริญญาแล้ว ยังเป็นวันเจอวงศาคณาญาติครบชุดด้วย


“อ้อ...งั้นไอ้กต มึงไม่ต้องพาไอ้โซ่ไปหาพ่อแม่มันแล้ว ให้มันสองคนไปกันเอง เขาจะไปไหว้ฟ้าดินบุพการี บุคคลที่สามอย่างมึงไม่เกี่ยว” พฤกษาหันไปพูดกับเพื่อนซี้ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ต้นไม้สูงใหญ่หน้าตึกเรียน


“นู่น พ่อแม่มึงอยู่ตรงนั้น” ทั้งสิตางศุ์และเจียระไนไม่ทันจะออกเดิน เสียงสิบแปดหลอดที่แสนคุ้นเคยก็ดังขึ้น


“พี่ซอโซ่แห่งพรหมลิขิตของน้องงงงง” ติซซี่ผู้กว้างขวาง ปัจจุบันอยู่ปีสามแหวกฝูงชนเข้ามาหาพร้อมด้วยรอยยิ้มและสายตาแพรวพราว


“ไม่เจอกันนานเลยนะ ติซซี่” สิตางศุ์ทักแล้วยิ้มให้อย่างสุภาพ


“ก็มีแต่พี่ซอโซ่แหละค่ะ ไม่เจอติซซี่ แต่ติซซี่เจอพี่ซอโซ่บ่อยๆนะคะ เพราะพี่โจ๊กลงรูปพี่ซอโซ่เรื่อยเลย ถึงทุกรูปที่พี่โจ๊กลงจะมาเป็นชิ้นส่วนก็เถอะค่ะ รูปล่าสุดงี้ มาแต่ข้อศอกพี่ซอโซ่ คืออะไรคระ?!” สิตางศุ์หัวเราะเบาๆ หันมองคนข้างกายที่ยังทำหน้านิ่ง


“มึงลงรูปข้อศอกกูจริงเหรอ” เจียระไนยักไหล่แทนคำตอบ ร่างโปร่งหัวเราะสดใส เขาเองก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายมักจะลงรูปเขาในเวปไซต์สังคมออนไลน์บ่อยๆ ถึงจะไม่เคยเข้าไปดู แต่ก็พอจะได้ยินจากเพื่อนและสายรหัสมาบ้างว่าเจียระไนลงแต่รูปแปลกๆ ที่ถ้าไม่บอกว่าเป็นเขา ก็คงไม่มีใครรู้ 


“ช่างเถอะค่ะ ติซซี่ใจกว้าง ติซซี่ให้อภัย ตราบใดที่พี่โจ๊กขายังคงลงชิ้นส่วนพี่ซอโซ่พร้อมแท็กสถานที่” แล้วหนุ่มร่างสะโอดสะองก็หันไปส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เจียระไนตามประสาคนรู้กันดี


...รูปข้อศอกนั่นก็แท็กสถานที่เป็นโรงแรม....แหมมมมมม ติซซี่คิดดีไม่ได้เลยคร่ะ!...


“แท็กสถานที่อะไรเหรอ โจ๊ก” ในขณะที่คนที่ไม่รู้เรื่องอย่างสิตางศุ์ยังงุนงง ต้องหันไปถามคนข้างกาย ทว่าเจียระไนไม่คิดจะบอกให้รู้อยู่แล้ว เขาโบกมือไปมาเหมือนไม่อยากให้ใส่ใจ


“ค่อยไปถามไถ่คิดบัญชีกันที่บ้านค่ะ เวลานี้ถ่ายรูปกับติซซี่ก่อนนะคะ” หนุ่มรุ่นน้องหันไปยัดโทรศัพท์มือถือของตนเองใส่มือรุ่นพี่บัณฑิตในชุดรับปริญญาอย่างพฤกษา ก่อนจะกระโจนทีเดียวไปกอดสิตางศุ์ ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ ในขณะที่พฤกษาแม้จะเข่นเขี้ยวแต่ก็ยอมกดถ่ายรูปให้


“ติซซี่ยินดีด้วยนะคะ อันนี้เป็นของขวัญของติซซี่”


“ขอบใจนะ” คนขาวจัดรับช่อดอกไม้เล็กไปแล้วส่งยิ้มให้


“โอ้โห น้องติซซี่ครับ นอกจากจะใช้พี่ถ่ายรูปให้แล้ว ยังมีดอกไม้ให้ไอ้โซ่คนเดียวด้วยเหรอครับ” พฤกษาร้องอย่างอดไม่ไหว แต่ติซซี่ผู้มั่นอกมั่นใจกลับเชิดหน้า


“ใช่ค่ะ ก็ติซซี่ตั้งใจมาถ่ายรูปกับพี่ซอโซ่คนเดียวนี่คะ ขอบพระคุณพี่แพทมากค่ะที่เป็นตากล้องให้” แล้วหนุ่มรุ่นน้องก็ยกมือไหว้อย่างอ่อนช้อยก่อนจะดึงโทรศัพท์ตัวเองกลับมาดูรูป ทว่าพอใช้นิ้วขยายรูปดูแล้ว ติซซี่ก็ถึงกับทำตาโตกับใครบางคนที่ติดเข้ามาในรูปด้วย แม้จะเสี้ยวเดียวแต่ก็จำได้แม่น


“มีอะไรเหรอ ติซซี่” สิตางศุ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆทักเมื่อเห็นอีกฝ่ายชะงักไป ติซซี่เงยหน้ามองคนถาม


“มือที่สามในตำนานค่ะ” ตอบได้เพียงเท่านั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น


“พี่โซ่” คนทั้งกลุ่มหันมองตามเสียงนั้น เจ้าของเสียงคือรุ่นน้องสาวที่ตอนนี้ขึ้นปีสองแล้วกำลังก้าวเท้าเดินเข้ามาหา


“น้องมี่...” สิตางศุ์ทักแล้วส่งยิ้มให้ หญิงสาวที่เดินเข้ามาหาเขาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานก็ยังคงเป็นรุ่นน้องของเขาเสมอ...ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงวันนี้


“สวัสดีค่ะ” หล่อนยกมือไหว้ กวาดสายตาและส่งยิ้มให้ทุกคน ก่อนจะมาหยุดสายตาที่สิตางศุ์เป็นคนสุดท้าย รุ่นพี่ผิวขาวจัดคนนี้ยังคงยิ้มให้หล่อนเหมือนเคย มนทิชามองรอยยิ้มนั้น อยากจะถอนหายใจที่ตัวเองไม่อาจลบความรู้สึกดีๆที่มีให้เขาได้ แต่ก็ทำได้เพียงยิ้มให้เพราะอยากให้เขาสบายใจ


“มี่ไม่มีของขวัญให้ แต่ก็ยินดีด้วยนะคะ ได้ยินว่าได้เกียรตินิยมด้วย”


“ขอบคุณครับ อ่า...ถ่ายรูปกันมั้ย” มนทิชานิ่งไปเล็กน้อย หล่อนเหลือบไปมองเจียระไน แต่ฝ่ายนั้นกำลังคุยกับเพื่อนบัณฑิตที่เข้ามาทัก ดูไม่ได้สนใจตรงนี้นัก เลยพยักหน้าตกลง สิตางศุ์หันไปขอความช่วยเหลือจากติซซี่ที่มีกล้องโทรศัพท์


“ติซซี่ถ่ายให้พี่กับน้องมี่หน่อยนะ” หนุ่มรุ่นน้องคันปากยิบๆ อยากจะบอกว่าไม่ช่วย แต่...ออกตัวแรงไม่ดี เพราะคนที่ควรออกตัวแรงอย่างเจียระไนยังทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเลย


“ก็ได้คร่ะ!” รับคำเสียงกระแทกกระทั้นแล้วยกโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมา


รุ่นพี่หนุ่มกับรุ่นน้องสาวยืนถ่ายรูปข้างกันโดยเว้นระยะห่างเล็กน้อย มนทิชาไม่ได้ยืนชิดเพราะรู้ดีว่าสถานะของหล่อนคืออะไร เขามีใครอีกคนแล้ว และคนของเขาก็ดูแลและรักษารอยยิ้มของเขาได้เป็นอย่างดี


“เสร็จคร่ะ!” ไม่มีการนับ ไม่มีการบอกว่าเมื่อไรจะกด ติซซี่บอกอย่างเดียวคือตอนกดถ่ายไปแล้ว ไม่รู้ว่ารูปจะออกมาสวยมั้ย


...แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องสวยเลย! ยังไงซะ ถ้าไม่ใช่พี่โจ๊กขา คนที่ควรจะได้เคียงข้างพี่ซอโซ่ก็คือติซซี่ ไม่ใช่คนอื่น!...


“เดี๋ยวถ้าพี่ได้รูปจากติซซี่ พี่จะส่งรูปให้นะ” สิตางศุ์หันมาพูดกับรุ่นน้อง มนทิชามองใบหน้าขาวจัดที่ยังคงมีรอยยิ้มสุภาพให้หล่อน ไม่ได้เจอเขานานนับตั้งแต่เขาเรียนจบ แต่...จนตอนนี้ก็ยังตัดใจไม่ได้เสียที


“...มี่...ดีใจที่เห็นพี่โซ่มีความสุขนะคะ มี่ยินดีด้วยจริงๆ” ยินดีทั้งเรื่องที่เขาเรียนจบ และยินดีที่เขามีความสุขกับคนข้างกาย แม้ใครคนนั้นจะไม่ใช่หล่อน แม้หล่อนเองจะยังตัดใจจากเขาไม่ได้ทั้งหมด แต่...รอยยิ้มของสิตางศุ์ในวันนี้บอกให้หล่อนรู้ว่าดีแล้ว ที่วันนั้นยอมปล่อยมือจากเขามา


มนทิชาเพียงยิ้ม ก่อนจะหันไปทางรุ่นพี่ในสายรหัสของหล่อนอย่างอลงกต


“เดี๋ยวรอน้องปีหนึ่งมาก่อนนะคะพี่กต มี่จะได้ตามทุกคนมาถ่ายรูปกับพี่ทีเดียว” อลงกตพยักหน้ารับสั้นๆ หล่อนก็ไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป สิตางศุ์ไม่ได้รั้งเอาไว้ เขาเพียงแค่มองตาม รับรู้ความเศร้าหมองของรุ่นน้อง แต่...เขามีใครอีกคนที่ต้องดูแลความรู้สึกเช่นเดียวกัน และจะไม่ทำให้ใครคนนั้นต้องเสียใจอีกแล้ว


ร่างโปร่งละสายตาจากแผ่นหลังของรุ่นน้อง หันกลับมาหาเจียระไนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้


“น้องมี่บอกว่ายินดีด้วย แล้วก็บอกว่าดีใจที่เห็นกูมีความสุข”


“มึงไม่บอกไปล่ะว่ามีความสุขเพราะใคร” เจียระไนย้อน หน้าตานิ่งเรียบ แต่แววตาในดวงตาเรียวก็ดูพอใจไม่น้อย สิตางศุ์หัวเราะเบาๆ ไม่ต่อล้อต่อเถียงแต่ชวนเรื่องอื่นแทน


“ไปเถอะ ไปหาพ่อแม่กัน”


“อืม ไหว้พ่อแม่มึงแล้ว กูจะได้พามึงไปไหว้ป๊ากูด้วย” ร่างโปร่งยิ้ม เป็นรอยยิ้มกว้างที่ดูอบอุ่นแต่สว่างไสว ก่อนจะหันมาหาติซซี่ พฤกษาและอลงกต


“พวกกูไปหาพ่อกับแม่ก่อนนะ แล้วค่อยมาถ่ายรูปด้วยกัน”


“เออ ไปเหอะ” พฤกษาเอ่ยปาก ในขณะที่อลงกตยังยืนเงียบจนถูกเพื่อนสนิทกระทุ้งสีข้าง หนุ่มนักฟุตบอลถอนหายใจเบาแล้วโบกมือไล่


“ไปซะไป...กูเป็นกำลังใจให้” สิตางศุ์ยิ้มรับอย่างยินดี ก่อนจะหันไปโบกมือลาติซซี่แล้วเดินจากมา


 ระหว่างทางถูกขอถ่ายรูปจากรุ่นพี่บ้าง รุ่นเพื่อนบ้าง รุ่นน้องบ้าง ต้องฝ่าฝูงชนแออัดบ้าง เสียงดังหนวกหูบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นพอมองดูข้างกาย ใครอีกคนก็ยังอยู่ด้วยกันเสมอ


“นั่นไง กูเห็นพ่อกับแม่กูแล้ว” สิตางศุ์หันมาพูดกับร่างสูงที่เดินอยู่ข้างๆ


ท่ามกลางผู้คนมากมาย ที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าตึกเรียน มีครอบครัวหนึ่งนั่งอยู่ มีทั้งคนแก่ ผู้ใหญ่ วัยรุ่นและเด็ก เจียระไนสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยจนต้องคว้าแขนคนที่กำลังจะสาวเท้าตรงไปที่โต๊ะนั้นให้หยุดก่อน


“โซ่...” ดวงตาคู่สวยหันมามอง สายตาสบกัน ในดวงตาเรียวมีแววตื่นเต้นและกังวลนิดหน่อย


ใบหน้าขาวแย้มยิ้มส่งให้ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่มีค่าและกำลังใจ


“ไปกับกูนะ ไปหาพ่อแม่กูกัน”


เจียระไนมองสบเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ก่อนจะพยักหน้ารับ เขาก้าวเท้าเดินเคียงกับสิตางศุ์เข้าไปที่โต๊ะม้าหินตัวนั้น แล้วแนะนำตัวเพื่อทำความรู้จักกับครอบครัวหนึ่งที่สร้างใครคนหนึ่งมาอยู่ข้างกายเขาในเวลานี้


“สวัสดีครับ ผมชื่อโจ๊ก...”


หลังจากนี้...จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวต่อไป เรื่องราวหลังรั้วมหาวิทยาลัย เรื่องราวของผู้ชายสองคนที่ชื่อเจียระไนและสิตางศุ์…


…กับความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ชัดเจน…


FIN

สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่น ขอบอกว่า...เร็วมากกกกก เหมือนเพิ่งลงไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนนี้เอง แล้ววันนี้ก็มาลงตอนจบซะแล้ว แต่จริงๆแล้วมันก็ 4 เดือนแล้ว ยังไงก็ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามมาจนถึงตอนนี้นะคะ

วาระซ่อนเร้น เป็นเรื่องที่บัวตั้งใจเขียนถึงคณะที่เรียนจบมาค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโลเกชั่น ไอเดียบางอย่าง หรือแม้แต่คาแรกเตอร์ของโจ๊กกับโซ่ก็มาจากทฤษฎีที่เรียนกันในคณะด้วย โจ๊กเป็นคาแรกเตอร์แบบสัจนิยม (Realism) ส่วนโซ่เป็นอุดมคตินิยม (Idealism)

คาแรกเตอร์ของโจ๊กกับโซ่เป็นสองอย่างที่เขียนยากมากๆ เพราะนอกจากจะต้องคุมโทนให้เป็นตามทฤษฎีสัจนิยมและอุดมคตินิยมแล้ว บัวยังตั้งใจจะใข้คาแรกเตอร์ของโจ๊กกับโซ่ให้เป็นปัญหาของเรื่องด้วยค่ะ

โซ่มีความเป็นรุ่นพี่ที่ป็อปปูลาร์สูงเพราะความใจดีและสุภาพ ในขณะเดียวกันเพราะนิสัยแบบนี้ก็เลยสร้างปัญหาอยู่เรื่อยๆให้ตัวของโซ่เอง คนนอกที่รู้จักโซ่ผิวเผินจะชอบโซ่มากๆ แต่ถ้าคบหากันเข้าไปเรื่อยๆจะคบยาก เพราะโซ่คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองค่ะ

ส่วนโจ๊กซึ่งตรงข้ามกับโซ่ทุกประการ เป็นคนที่ไม่ป็อปปูลาร์ แถมมีชื่อเสียเยอะ เพราะคนคิดว่าเข้าหายาก ทั้งที่จริงๆแล้ว เป็นคนไม่มีลับลมคมนัย ไม่ซับซ้อน เพราะเอาตัวเองเป็นหลัก

ไม่คิดมาก่อนว่านิยายรอมคอมจะเขียนยากจนกระทั่งวันนี้เลยค่ะ ฮ่าฮ่า

ถึงแม้วันนี้จะจบแล้ว แต่พฤหัสหน้ามีตอนพิเศษ (สรุปว่าจบจริงค่ะ แต่สัปดาห์หน้ามีตอนพิเศษต่อ ฮ่าฮ่า)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม พื้นที่บอร์ดค่ะ เจอกันใหม่พฤหัสหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 20-07-2017 22:06:47
โอ๊ย กริ๊ด คือโซ่ คือโจ๊ก ดีใจกับโจ๊กที่อดทนมาก ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Khanomni ที่ 20-07-2017 22:22:53
กรี๊ดดดดดจบแล้ววว ชอบมากๆเลยค่ะ รู้สึกว่าตามอ่านมาแปปเดียว แต่มันก็4เดือนเลยหรอเนี่ยยย ตั้งแต่ที่ลงตอนแรกๆก็ชอบเลยจริงๆ ชอบความไบโพลาร์ของโจ๊ก ชอบความเป็นอุดมคติของโซ่ ชอบสไตล์การเขียนของพี่บัว และรักนิยายพี่บัวที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  อ่านแล้วเหมือนได้ฮีตตัวเองไปด้วยเลยค่ะ รออ่านตอนพิเศษอาทิตย์หน้าค่าา^ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 20-07-2017 22:24:06
 :serius2: :serius2:
จบแล้ววววววว

 :กอด1:
 :L2:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 20-07-2017 22:25:47
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-07-2017 22:26:30
ดีต่อใจ โอ้ยยย ในที่สุด ก็ลงเอยกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: jannie ที่ 20-07-2017 22:32:53
คิดถึงซะแล้ว ยังไม่อยากให้จบเลยค่า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 20-07-2017 22:41:57
จบซะแล้ว สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: 1andonly ที่ 20-07-2017 22:43:39
Thank you. Your fiction always makes me happy everytime I read.
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 20-07-2017 22:47:33
เป็นนิยายที่...กว่าจะได้กันนี่ลุ้นยันตอนสุดท้ายจริงๆ ค่ะ

ขอบคุณที่มีตัวละครมาให้ได้มองความพยายามเพื่อคนรักของเขานะคะ มันดีย์~~~ ><

รักคนต่างขั้วที่หาจุดลงตัวจังค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 20-07-2017 22:49:41
แอบใจหายเบาๆค่า ที่จบแล้ว
เวลาผ่านไปเร็วจริงๆด้วย
ในที่สุดโจ๊กก็ประสบความสำเร็จสักที ฮืออออ จุดพลุฉลองให้โจ๊กค่ะ  :haun4:
รอตอนพิเศษนะคะ  :heaven
ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆแบบนี้ให้ได้อ่านกันค่าา  :L2:  :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 20-07-2017 22:51:25
จบแล้ว ส่งท้ายได้ฟินมาก 5555 ตอนจบ จบแบบปลายเปิดดีค่ะ ให้เอาไปจิ้นต่อกันเอง อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 20-07-2017 22:58:15
 :ling1:  จบแล้วววววว ยังรู้สึกว่าไม่พออยู่เลย   :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 20-07-2017 23:06:56
ผ่านด่านพ่อตากะแม่ยายไปให้ได้นะโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 20-07-2017 23:11:10
 :haun4: :haun4:

จบซะแล้ว จบได้อบอุ่นมากๆ
แอบตลกตอนรุปข้อศอกแต่แท็กสถานที่เป๋นรรนี่ล่ะ โจ๊กนี่มันคนจริง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: tkaekaa ที่ 20-07-2017 23:11:20
 :pig4: ชอบเรื่องนี้มากๆ รักโซ่มากด้วย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 20-07-2017 23:12:18
รักคู่นี้จัง  :กอด1: ชอบความมึนความน่รักของโซ่ 
แต่แอบชอบคาร์แบบอิโจ๊กมากกว่านิดนึง 555  ชอบความมุ่งมั่น รุกหนักของนาง ชอบตอนคิดในใจฮามากก แอบขำทุกที เข้าใจฟิลคนแอบรัก  จริงๆหลงรักโจ๊กตั้งแต่ wherever you are แล้วอ่ะ  :-[
 โซ่กับโจ๊กเป็นความต่างที่ลงตัว เป็นความต่างที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน  :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 20-07-2017 23:21:07
ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ
จุ๊บคนเขียน~
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-07-2017 23:22:16
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 20-07-2017 23:24:56
ขอบคุณค่ะ สนุกมาก เขียนเรื่องน่าติดตามดี :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 20-07-2017 23:27:53
ปกติเป็นพวกสายดาร์ก แต่อ่านเรื่องรี้แล้วชอบมากครับ

มาต่อ ทำภาค2  นะครับ ชีวิตนอกรั้วมหาลัย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: maplub_oyaya ที่ 20-07-2017 23:32:33
น่ารักมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-07-2017 23:44:31
เป็นตอนที่รอคอย กรี๊ดดดดด  :ling1: :ling1: :ling1:
คอยให้โจ๊ก โซ่ สมหวัง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โซ่ เมื่อรู้จักรักแล้ว สมเอาจริงเอาจัง ร่วมสู้ไปพร้อมๆกับโจ๊ก
โจ๊ก ก็ฮึกเหิม มีพลังที่จะสู้ไปพร้อมกับโซ่ สุดยอดดดดด

อลงกต เหมือน เป็นพ่อโซ่เลย
คอยดูแลแม้โซ่ออกจากห้องประชุม ก็ยังห่วง

โซ่ โชคดีได้ความรักจากเพื่อนๆพี่ๆ และคนรอบข้าง
ด้วยรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ต้องตา และจิตใจที่ดีงาม

โจ๊ก อดทนมายาวนานในการรอที่จะรักโซ่ และให้โซ่รักตอบ
โจ๊ก เป็นหนุ่มรูปหล่อที่รู้ความต้องการของตัวเอง ไม่ว่อกแว่ก
และทำให้ได้ดังที่มุ่งหวังจริงๆ นับถือเลย

ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขกับคนอ่านมาตลอด
แถมยังมีตอนพิเศษ ให้สุขใจอีก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: abbaba ที่ 20-07-2017 23:53:45
แหมโจ๊กแหมมม คอนแกรตตูเลชั่นนะฮ้าาาาา
เรื่องนี้จบแล้วจริงๆหรอคะ ฮือออออ
ชอบมากๆ ชอบความรุกแรงของโจ๊ก ความน่ารักของโซ่
อยากจะได้โซ่มาเป็นของตัวเองงงง
แอบสงสารมี่
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้ขึ้นมานะคะ <3
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 20-07-2017 23:57:10
โจ๊กเป็นคนหนักแน่น และ มั่นคง มากกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-07-2017 23:57:16
ตอนพิเศษษษษษ!!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 21-07-2017 00:00:48
ชอบทั้งคู่เลย (แต่อาจจะแอบรักน้องซอโซ่มากกว่าอยู่นิดหน่อย 5555)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-07-2017 00:42:28
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 21-07-2017 01:18:17
พูดเลยว่าเกียดการอัพรูปแล้วใส่โลเคชั่นของโจ๊กมาก
โอ๊ย 55555555555555555555
ประกาศตัวไปถึงไหนจ๊ะ
รวมเล่มต้องเจอเราแน่นอนค่ะ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 21-07-2017 01:57:58
ขอบคุณมากนะคะะ ติดตามตั้งแต่ตอนแรกจนจบ ใจหายเหมือนกัน
คงจะคิดถึงโซ่กับโจ๊กแน่ๆ รอตอนพิเศษนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 21-07-2017 03:08:50
จบแล้ว ติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ตอนแรก ชอบบุคคิลแบบโซ่มาก รักโจ๊ก  :-[
ขอบคุณคนแต่งมากๆนะคเ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 21-07-2017 03:33:53
จบแล้ววววว
โจ๊กกับโซ่ถือเป็นความต่างที่ลงตัวนะคะ
เหมือนจิ๊กซอที่ประกอบเข้ากับพอดี
นับถือความอดทนและความมั่นคงของโจ๊กมาก
มั่นคงในความรักกับคนๆเดียวมาเกือบ4ปี
อดทนกับระยะเวลาที่ต้องรอ อดทนกับความไม่ชัดเจนของโซ่
อดทนรอให้โซ่พร้อมในแต่ละครั้งที่จะขยับความสัมพันธ์
เป็นคนแบบที่ว่าถึงจะมีข้อเสียซักเท่าไหร่ เราก้คงพร้อมจะยอมมองข้ามอะ
ส่วนโซ่คนที่เหมือนจะเพอร์เฟค แต่ความเพอร์เฟคก้สร้างปัญหาไว้มากมายเลย
เป็นคนในแบบที่ถ้าเป็นเพื่อน เวลาเรามีปัญหาคนไม่กล้าเล่าให้ฟังอะ กลัวคิดมาก
ถ้าเป็นคนรัก อาจจะไม่รอด เพราะโซ่แคร์คนอื่นมากไป จนอาจจะทำให้ตัวเองอึดอัด
ชอบเรื่องนี้มาก เป็นเรื่องที่อ่านได้เรื่อยๆ เพลินๆ มีปมให้ลุ้น แต่ไม่มีดราม่าหนักๆให้ปวดใจ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ รอตอนพิเศษค่ะ รอเรื่องต่อไปด้วยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 21-07-2017 06:33:56
จะรออ่านตอนพิเศษนะคะ โจ๊กโซ่สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 21-07-2017 08:00:03
ขอบคุณคนแต่งมากค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-07-2017 09:39:50
ตอนพิเศษเฉลยเรื่องข้อศอกโซ่ไหมคะ อยากรู้โจ๊กอินดี้อะไรรรรร  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 21-07-2017 09:55:01
ตอนจบคือพี่โซ่พระเอกมากกกกกก ฮ่าๆๆ อิพี่โจ๊กแลดูเป็นสาวน้อยไปเลย อ้อ เว้นเรื่องบนเตียงไว้นะอันนั้นพี่โจ๊กมันช่ำชองจริง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: palm-metto ที่ 21-07-2017 09:56:21
มันดีมากกกก
ชอบตัวละครทั้งคู่เลย อยากให้มีเนื้อเรื่องต่อๆไปเรื่อย ๆเลย
อยากเห็นตอนอยู่กับครอบครัวของทั้งคู่ ชีวิตทำงานงี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-07-2017 10:02:04
ชอบมากค่ะ   :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 21-07-2017 10:15:25
อิโจ๊กนางได้เมียแล้วเหวย 5555555  :hao6:
เขินมากกก งื้ออ คู่นี้น่ารักจริงๆ ชอบมากๆ ค่ะ
รอตอนพิเศษนะคะ รออุดหนุนรูปเล่มด้วย
อ่านแล้วยิ้มทุกบรรทัดเลย ชอบบบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine538 ที่ 21-07-2017 10:22:30
ติดตามกันมาถึงตอนจบจนได้ ในที่สุดโจ๊กไบโพล่าร์ก็สุขสมหวังสักที 555

ส่วนโซ่นี่ถือว่าเติบโตขึ้นมากเลยนะคะ บางช่วงแอบขัดใจในตัวโซ่อยู่บ้าง แต่ 2 ตอนสุดท้ายนี่เทคะแนนให้โซ่ไปเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ  :L2:

รออ่านตอนพิเศษค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 21-07-2017 11:14:05
ขอบคุณ คุณบัวฮะ แต่งนิยายสนุกๆให้ได้อ่านเสมอ
ไม่ว่าจะแต่งเรื่องอะไร ก็มีเสน่ห์ น่าติดตามทุกเรื่องเลย
ขอปรบมือให้คุณบัวสำหรับความตรงเวลาในการลงนิยาย
ถึงแม้เราจะได้อ่านแค่อาทิตย์ล่ะตอน แต่ที่ดีต่อใจคือ ทุกพฤหัสจะได้อ่านเสมอ เป็นการรอที่คุ้มค่าฮะ
ขอบคุณจากใจ และจะติดตามผลงานตลอดไป  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-07-2017 11:22:49
ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นอย่างถูกต้อง ค่อยๆซึมซับกันและกัน
เชื่อว่าทั้งคู่ผ่านอุปสรรคทั้งหลายแหล่ไปได้แน่นอน

ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆน่ารักๆ อ่านไปยิ้มไปด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 21-07-2017 11:55:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-07-2017 12:25:27
เป็นความสัมพันธ์ที่ละมุนมาก
และฮาเพราะความโซ่ที่ทำเอาโจ๊กผีเข้าผีออก

ขอบคุณสำหรับนิยายที่ทำให้ใจอบอุ่นค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 21-07-2017 13:14:54
จบแล้ว อยากอ่านตอนพิเศษตอนที่เจอพ่อแม่แต่ละฝ่ายจัง จะมีมาลงให้อ่านไหมค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 21-07-2017 13:17:59
ทุกอย่างยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความรัก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 21-07-2017 15:31:49
รัก รัก รักกกกกกกเรื่องนี้
ยินดีด้วยน้าาาาาาาาาาา

ถ้าแต่งเรื่องใหม่อีกก็จะตามอ่าน ถ้ามีตอนพิเศษเยอะๆก็จะตามอ่าน
เราชอบเรื่องนี้มากจริงๆ5555555 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: dereel_nx ที่ 21-07-2017 15:52:52
ฮืออออ จะจบแล้ว TT เหมือนเพิ่งอ่านเองอ่ะ รู้สึกผูกพันกับตัวละครเหมือนเขามีชีวิตอยู่จริงๆ อ่านทีไรก็ยิ้ม เรื่องนี้ก็คงจะเข้าลิตย์นิยายที่ชอบของเราอีกตามเคย ชอบนะคะ ติดตามและเป็นกำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 21-07-2017 19:52:46
 :pig4: :pig4: :pig4: ขอบคุณค่า ชอบมาก จบแล้วจริงๆอ่ะ โซ่ยังไม่แนะนำตัวเลย :mew2: :mew2:
รอตอนพิเศษนะคะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 21-07-2017 23:46:43
หมั่นไส้อิโจ๊กกกก!!! หวงแต่ก็อยากอวด แถมย้งแอบประกาศความเป็นเจ้าของโซ่ตลอดเวลา 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 21-07-2017 23:57:26
อ่านจบแล้ว ประทับใจมากค่ะ

หลังจากที่ได้รู้ถึงที่มาของตัวละครอย่างโจ๊กและโซ่แล้วก็ทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้นค่ะ

ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องหลักรัฐศาสตร์แต่คุณบัวก็สื่อออกมาได้ดีมากเลย

ช่วงนี้รู้สึกไม่ค่อยมีความอดทนเวลาที่ต้องตามอ่านนิยายที่มีเนื้อหายาวๆ

จำนวนตอนของเรื่องนี้ถือว่าเหมาะสมมากเลยค่ะ

ซึ่งสาเหตุสำคัญก็ต้องยกให้ความดีงามของเนื้อเรื่องและตัวละครที่ทำให้ติดตามอ่านได้ไม่น่าเบื่อค่ะ  o13



หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 22-07-2017 00:26:53
เป็นพระเอกที่โดยนักเขียนแกล้งตลอดเวลาจริงๆ
นอกจากจะให้โจ๊กต้องอดทนกับความมึนของโซ่ยังต้องมาเจอด่านพ่อแม่อีก ถถถถถถ ขอมอบ #พระเอกอาภัพ2017 ให้เธอเลย 5555  คาดว่าถ้ามีต่อโจ๊กยังต้องเจอกับอะไรอีกเยอะจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 22-07-2017 02:49:39
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-07-2017 08:32:05
ยินดีกับโจ๊กและโซ่ด้วย ฟินมากกก~ รอตอนพิเศษนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 22-07-2017 09:00:32
จบแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 22-07-2017 11:35:56
รักพี่โซ่ตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้ายเลยค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-07-2017 16:40:52
ดีต่อใจมากค่ะ เค้าเป็นของกันและกันแล้ว

โซ่ทำเพื่อให้โจ๊กอยู่ด้วยกันไปจนแก่
โจ๊กก็ทำให้โซ่ได้รู้จักรักกันไปจนแก่

ถึงโซ่จะซื่อ จะบื้อยังไง แต่โซ่ก็แคร์โจ๊กเสมอ
ถึงโจ๊กจะโวยวาย ป่าเถื่อนยังไง โจ๊กก็ไปไหนไกลไม่ได้เสมอ

พอทุกอย่างลงตัว ความสัมพันธ์เข้าที่เข้าทาง
โจ๊กโซ่ก็มีความหวาน ประสานสายตา จนพาคนนอกอิจฉา

ตลกแพทกต คนหนึ่งก็เชียร์ อีกคนก็อยากขวาง แต่ทำไงได้ เพื่อนเรารักเค้าไปแล้ว

โซ่น่ารักมาก โจ๊กก็ยอมเยอะมากถ้าเป็นเรื่องโซ่ ผูกมัดกันไปทุกทางแล้ว

ตอนนี้เหลือแค่ป๊าโจ๊ก กับพ่อแม่โซ่เนาะ ลุ้นค่ะ แล้วหลังจบ เค้าอยู่ด้วยกันไหม อยากรู้ 5555

ขอบคุณคุณบัวมากนะคะ เรื่องราวสนุก น่าติดตาม
แล้วก็แอบเซ็งกับความซื่อของโซ่ ความโมโหง่ายของโจ๊กเหลือเกิน

รอติดตามตอนพิเศษนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 22-07-2017 20:35:16
ดีใจที่ได้อ่านนิยายดีๆ ภาษางาม
ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิยายที่อ่านอล้วสนุกมากกก
ขอบคุณความตั้งใจนี้นะคะ
เค้ารู้ได้จากการอ่านว่าคนแต่งตั้งใจมาก
สู้ต่อไปค่ะ จะรออ่านเรื่องต่อๆไปนะคะ
รอตอนพิเศษด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 22-07-2017 21:17:06

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 23-07-2017 15:52:33
จบได้น่ารักเหมือนทุกตอนเลยค่ะ รอติดตามตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 23-07-2017 16:58:31
จบค้างหน่อยๆ แต่ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 23-07-2017 17:14:58
สนุกมากๆค่ะ เนื้อหาดี สงสัยมากว่าคนแบบโซ่มีจริงหรอ ดีมากไป ส่วนโจ๊กไม่น่าเชื่อว่าจากนิสัยจะยอมรอ2ปีอ่ะ

แต่ชอบเรื่องนี้นะคะ คุณบัวแต่งออกมาดีมากเลย ไม่ใช่แค่นิยายมหาลัยทั่วไป มันรับรู้ถึงความจริงใจในจิตใจของตัวละครเลยค่ะ ภาษดีมากเลย

รอเรื่องต่อๆไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 23-07-2017 18:55:21
โจ๊กนายแน่มาก
อดทนรอโซ่โคตรนาน สมหวังแล้ว
ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 24-07-2017 00:09:27
อบอุ่น อบอุ่น ความสัมพันธ์แบบก้าวช้าๆแต่มั่นคง (แหงล่ะ โจ๊กรอเป็นปี 555)
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 26-07-2017 05:16:14
แค่เห็นชื่อคนเขียนก็รู้แล้วครับว่าต้องดีมาก

เห็นตั้งแต่ตอนแรก ๆ แต่มาอ่านเอาเสียตอนที้ลงจบแล้ว

แฮะ ๆ ขอโทษนะครับ และขอบคุณมาก ๆ จริง ๆ  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: ZeeKiN ที่ 26-07-2017 06:16:34
อ่านจบวนไปค่ะ  รอสเป  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: Kangkoa1 ที่ 26-07-2017 06:58:25
มีภาคต่อมั้ยอ่ะคะยังค้างคาอยากรูเจอพ่อแม่กันแล้วจะเป็นยังไงหรือจะลงในเล่มคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 19 (จบ) (20/07/2017) หน้า 33-34
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 27-07-2017 02:19:35
อ่านจบแล้ววววววววว ชอบความไบโพลาร์ของโจ๊กนะคะ ตลกดี555555 แต่บางเวลาเราขัดใจความซื่อ(บื้อ)ของโซ่จริงๆ แต่สนุกมากกก ขอบคุณมากนะคะที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้อ่านกัน รอตอนพิเศษนะคะ :3123:
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 27-07-2017 20:52:41
NOV: วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอนพิเศษ งานบายเนียร์


‘บายเนียร์’ คืองานอำลารุ่นพี่ปี 4 ที่กำลังจะจบ ฟังดูแล้วเป็นงานที่เหมาะสำหรับคนที่รักใคร่กลมเกลียวกับรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะยิ่ง แต่...เจียระไนเป็นหนึ่งในมนุษย์ประเภทไม่สนใจใคร ไม่สนอีเว้นท์ไหน งานแบบนี้เขาย่อมมองผ่านแน่นอนอยู่แล้ว


ทว่า...น่าเสียดายที่ ‘พี่รหัสของเขา’ ไม่ใช่คนที่จะยอมปล่อยให้ทำอะไรตามใจ


‘พรุ่งนี้ บายเนียร์ มึงไปด้วย’ นั่นคือคำพูดของพี่รหัสอย่างตฤณ ซึ่งบ้าอำนาจชอบชี้นิ้วสั่งมนุษย์ผู้เดินสวนทางกับโลกตลอดเวลาแบบน้องรหัสอย่างเจียระไน


‘ไม่ไปหรอก ไม่เห็นน่าสนุก’ ส่วนนี่คือคำพูดของหนุ่มไม่น้อยที่เข้าปีหนึ่งมาด้วยคะแนนสูงสุดของภาควิชาการปกครอง แต่...แล้วยังไง? เรียนเก่งแต่เกลียดการเข้าสังคม ก็เป็นได้แค่ตำนานให้รุ่นพี่รุ่นเพื่อนกล่าวขานว่าคนหล่อๆ หัวดีๆ แต่แอนตี้โลกมีอยู่จริง


‘กูไม่ได้ให้มึงไปสนุก กูให้มึงไปโบกมือลาป้ารหัสกู’


และนั่นคือประโยคสุดท้ายของตฤณ พี่รหัสปีสอง


แน่นอน งานบายเนียร์ปีนั้น เจียระไนโผล่หัวไปร่วมงานครึ่งชั่วโมงแล้วหายต๋อม ไม่มีใครเห็นหัวมันอีก

……………………..

‘มะรืนนี้ บายเนียร์ กระดิกตีนไปเหยียบด้วย’


พอตฤณขึ้นปีสาม เจียระไนขึ้นปีสอง พี่รหัสที่่โอบอุ้มน้องรหัสซึ่งสร้างตำนานการหนีเวทีประกวดดาวเดือนคณะ ก็ยังคงวางก้ามใหญ่โตสั่งเจียระไนในไปร่วมงานอีกให้ได้


‘ไม่ไป ปีที่แล้วก็ไปให้แล้วไง’ ปีนี้โตขึ้นมาหน่อย พูดจากับรุ่นพี่ห้วนขึ้นอีกนิด แต่คอนเซ็ปต์เดิมคือไม่ร่วมชุมนุมใดๆทั้งสิ้น


‘ปีที่แล้วป้ารหัสกูจบ ปีนี้พี่รหัสกูจบ มันคนเดียวกันรึไง’ ส่วนตฤณก็ยังคงคอนเซ็ปต์ในการบังคับน้องรหัสเช่นเดิม


งานบายเนียร์ปีนั้น เจียระไนโผล่หัวไปร่วมงานครึ่งชั่วโมงเช่นเคย แล้วก็ไม่มีใครเห็นเงามันอีก

……………………..

ตฤณเล็งหลังน้องรหัสที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียน สัปดาห์หน้ามีงานบายเนียร์ และปีนี้เขาปี 4 แล้ว งานบายเนียร์ที่จะจัดก็คืองานที่จัดเพื่อเขา ส่วนไอ้น้องรหัสปี 3 ที่ไม่ค่อยสนใจโลก มีสิทธิ์สูงมากกกก...ที่มันจะไปร่วมงานครึ่งชั่วโมงแล้วกลับเหมือน 2 ปีที่ผ่านมา


...ไม่ได้การ เพื่อนคนอื่นมีน้องรหัสทั้งสายไปให้กำลังใจ แล้วจะเป็นกูคนเดียวที่เสียหน้ารึไง?!!...


“โจ๊ก” เขาเดินดุ่มๆเข้าไปหาน้องรหัสนอกคอกที่นั่งอยู่คนเดียว มันชะงักไปนิด เก็บโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าเสื้อแล้วเงยหน้ามอง ก่อนจะยกมือไหว้


“นั่งคนเดียวเหรอมึง” ไหนๆก็ปีสุดท้ายแล้ว พูดจาเป็นผู้เป็นคนกับน้องมันซะหน่อย มันจะได้เอาไปบวกลบคูณหารสร้างแรงจูงใจในการไปงานบายเนียร์


เจียระไนหันมองซ้ายขวา ก่อนจะหันมาทางพี่รหัสตัวเอง


“เฮียเห็นใครนั่งกับผมเหรอ”


...กวนส้นตีน!...


หน้าตาคนมีศักดิ์เป็นพี่รหัสดูเหมือนอยากจะกินหัว แต่เจียระไนยักไหล่เหมือนจะไม่ใส่ใจเช่นเคย


“มีไรล่ะ ถ้าจะถามถึงไอ้ฟ้า วันนี้มันไม่มาหรอก หนีไปเที่ยวเมืองนอกนู่น” จากหน้าตาคล้ายจะอยากกินหัว ตฤณเปลี่ยนเป็นเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงเพื่อนสนิทต่างคณะของมัน


...ระฟ้า ชื่อสูงส่ง ทำตัวสูงส่ง ดูแล้วไม่น่าจะเอื้อมไม่ถึง แต่คนอย่างตฤณก็เอาไม้สอยจนร่วงลงมาได้แล้วกัน!...


“อย่าบอกนะว่าไอ้ฟ้าไม่บอก แฟนคลับมันยังรู้เลย ถ้าเฮียไม่รู้ สงสัยสถานะท่าจะไม่มั่นคงแล้วมั้ง”


…กวนส้นตีนรอบที่สอง…


ตฤณพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจ ควบคุมอารมณ์เอาไว้ อย่างน้อยๆต้องให้มันไปงานบายเนียร์ให้ได้


“กูจะมาคุยเรื่องงานสัปดาห์หน้า”


“งานไร”


...ไอ้หอกกกกก งานบายเนียร์กูไง!!...


“บายเนียร์”


“อ้อ ไม่…”


“อย่าเสือกพูดว่าไม่ไป! บายเนียร์กู! มึงไม่โผล่หัวไปไม่ได้! แล้วอยู่ให้จบงานด้วย!!”


“ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ไป แต่จะบอกว่าไม่มี…” เจียระไนพูดไม่ทันจบ สายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงมาที่โต๊ะม้าหินหน้าตึกเรียน ใครบางคนที่ผิวขาวจัด ใครบางคนที่มีรอยยิ้มสวยๆ ใครบางคนที่…เอาหัวใจของเขาไป


“เฮีย! นั่งลง!!”


“อะไร ชวนกูนั่งทำไม”


“บอกว่าให้นั่งลงไงเล่า!!” ตฤณยอมทำตามที่น้องรหัสพูด แล้วพอเขานั่งลงแล้ว มันก็ทำเป็นยกหนังสือขึ้นตั้ง แล้วค้อมตัวลงเหมือนหมอบกับโต๊ะอ่านหนังสือ


…ทำเชี่ยอะไรของมึงเนี่ย…


“ไม่ต้องถามเฮีย นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไม่ไปนะ”


…นี่มึงหลอกล่อกูซึ่งกำลังจะเรียนจบด้วยการขู่ว่าจะไม่ไปงานบายเนียร์เหรอวะ?!!...


ตฤณไม่ทันได้ถามอะไร รุ่นน้องร่วมคณะแต่ต่างภาควิชาที่เดินผ่านก็หันมายกมือไหว้ เขาหันไปรับไหว้เพราะคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่ ก่อนจะหันกลับมาหาน้องรหัสตัวเองที่ทำตัวไม่สมประกอบ เป็นจังหวะเดียวกับรุ่นน้องสองคนเดินผ่านโต๊ะพวกเขาไป แล้ว พูดคุยกันเรื่องงานบายเนียร์พอดี


“งั้นมึงกลับไปดูหมามึงเถอะ เดี๋ยวกูไปเอง”


“ไปเองแล้วมึงจะได้ของเหรอ โซ่...หน้าอย่างมึงตัดสินใจเร็วที่ไหน...สัปดาห์หน้าเเล้วนะเว้ย”


“เชื่อใจกูหน่อย กูไปเองได้จริงๆ แค่จะหาแจ็กเก็ตสักตัวเท่านั้นแหละ เชิ้ตมีแล้ว กางเกงก็มี รองเท้าก็ผ้าใบ”


“ถ้าหน้าตาไม่ดี กูอยากจะบอกว่ารสนิยมมึงห่วยมากนะ”


“เชี่ยแพท ด่ากู” ประโยคเหมือนต่อว่าเพื่อน แต่ผสมมาด้วยเสียงหัวเราะที่ดูแล้วเจ้าตัวก็ยอมรับกับคำด่านั้นจริงๆ


“เอาเถอะๆ งั้นถ้ามึงหาไม่ได้ก็บอกกูแล้วกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเย็นกูจะไปเป็นเพื่อนอีกรอบ ไป มึงไปได้แล้ว จะได้มีเวลาตัดสินใจมากๆ”


บทสนทนาของรุ่นน้องสองคนจบลงแล้ว พร้อมกับที่คนผิวขาวจัดเดินแยกออกไปยังป้ายรถรับส่งของมหาวิทยาลัย เพียงเท่านั้น...ไอ้น้องรหัสของตฤณก็วางหนังสือลงทันทีแล้วลุกขึ้น


“อ้าว เป็นไรของมึง”


“ไปแล้วเฮีย”


“ไปไหนวะ”


“ไปซื้อของเตรียมตัวไปงานบายเนียร์เฮียไง” แล้วเจียระไนก็คว้ากระเป๋าเดินจากไปทันที ท่ามกลางสายตางุนงงของคนเป็นพี่รหัส


...แม่ง กูมีน้องรหัสที่หล่อ ฉลาด แต่ไม่ปกติจริงๆว่ะ...

……………………….

รถรับส่งของมหาวิทยาลัยจอดในบริเวณช้อปปิ้ง นิสิตจำนวนมากพากันแห่ลงจากรถ และหนึ่งในนั้นก็คือสิตางศุ์ ดวงตาเรียวเหมือนตาเหยี่ยวจับจ้องร่างผอมโปร่งผิวขาวจัดที่โดดเด่นที่สุดซึ่งเดินลงจากรถพร้อมคนอื่นๆ ก่อนที่เจียระไนจะขยับตัวลงตาม


...ใช่ ลงตาม เพราะที่ขึ้นรถมานี่ ก็ขึ้นตามมาเหมือนกัน...


ร่างสูงใหญ่ของคนแอบตามยังคงยืนอยู่ห่างๆ ในขณะที่สิตางศุ์ดูจะคิดไม่ตกว่าจะไปทางไหนต่อดี ฝั่งตรงข้ามเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ ถ้าจะหาแจ็กเก็ตใส่ไปงานบายเนียร์อย่างที่ว่าจริง การเดินฝั่งนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลาที่อากาศร้อนแบบนี้ แต่...สิตางศุ์เดินเลี้ยวไปอีกทางแทน


ไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับเจียระไน เขาจำต้องเดินตามทั้งๆที่อากาศร้อนจัดและดวงอาทิตย์ยังตรงหัว


ร้านแรกที่เจ้าของผิวขาวจัดเดินเข้า เจียระไนยืนหลบรออยู่อีกสามร้านถัดไป รายนั้นเข้าไปได้แปบเดียวก็ออกมา ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือออกมาด้วย


ร้านที่สอง เจียระไนทำเป็นเลือกเสื้ออยู่ร้านข้างๆ แต่ตาเหลือบมองไปเข้าไปเห็นสิตางศุ์หยิบๆจับๆเสื้อเเจ็กเก็ตตัวหนึ่ง แล้วสุดท้ายมันก็เดินออก


ร้านที่สาม คราวนี้เจียระไนทำเป็นเดินตามเข้าไปด้วย แต่สิตางศุ์ไม่ทันสังเกตเขา เพราะมันเดินสวนเขาออกไปหน้าตาเฉย ร้านนี้มันก็ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือเช่นกัน


...ไอ้ฉิบหาย!! เลือกของยากไปมั้ย?!! เสื้อแจ็กเก็ตตัวที่มึงจับเมื่อกี้ก็ดีแล้ว จะเลือกร้านอื่นไปทำไม?!!...


คราวนี้มาถึงร้านที่สี่ แน่นอน ร้านนี้เจียระไนไม่ซ่อนตัวอีกต่อไป เขาเดินตามสิตางศุ์เข้าไปติดๆ แล้วพอมันจับเสื้อแจ็กเก็ตตัวหนึ่ง เขาก็เอื้อมมือไปจับด้วย


“อ้าว โจ๊ก”


วันนี้ที่รอคอย ดวงตาคู่สวยหันมาเห็นเขา แถมเรียกชื่ออีกต่างหาก


“อือ” ไม่ว่าในใจจะโหยหวนแค่ไหน แต่สีหน้าของร่างสูงกลับยังนิ่งเรียบ ไม่เปลี่ยนไปเลย ที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาคือแววระยิบระยับในดวงตาเรียว ทว่า...อีกฝ่ายไม่ทันสังเกตแน่นอน


“ซื้อเสื้อเหรอ” เจียระไนถาม แต่ไม่ได้สนใจเเจ็กเก็ตตัวเดิมที่ทำเป็นจับพร้อมกับสิตางศุ์อีกแล้ว เขากวาดตาสอดส่องมองไปรอบๆร้าน


…อืม…ตัวโน้นก็เหมาะกับโซ่ แต่ตัวสีขาวนั่นก็ดูดี โซ่มันขาว ยิ่งใส่สีขาวยิ่งโคตรออร่าเลย...


“อืม จะใส่ไปงานบายเนียร์ไง ไปมั้ย”


ไม่สนิทกันเท่าไร แต่ก็เห็นหน้าค่าตากันอยู่ แถมเป็นผู้ชายทั้งคู่ สิตางศุ์ไม่รู้ว่าจะเรียกแทนอีกฝ่ายว่ายังไงดี เลยเว้นเอาไว้แบบนั้น


“พี่กูมันยอมให้กูไม่ไปซะที่ไหนล่ะ”


ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ พี่รหัสของเจียระไนเป็นเพื่อนสนิทต่างภาควิชาของพี่รหัสของเขา แน่นอนว่าเรื่องของคนโดดอีเว้นท์เป็นนิจอย่างเจียระไนย่อมรู้มาถึงหู


“ก็เห็นไปทุกปีไม่ใช่เหรอ” ดวงตาคู่สวยมีแววระยิบและซุกซน ก่อนจะพูดต่อ “...แต่เห็นหนีกลับก่อนทุกที”


เจียระไนชะงัก คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะจำเรื่องของเขาได้ แต่ก่อนที่จะเผลอยิ้ม เขารีบเอาลิ้นดุนข้างแก้มไว้ก่อน


สิตางศุ์หันไปเลือกเสื้อต่อ แต่ก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะหยิบตัวไหนมาลอง มือใหญ่เลยชี้นิ้วไปที่เสื้อแจ็กเก็ตสีขาว


“ตัวนั้นเหมาะกับมึง” ร่างโปร่งหันมองตามเสียง ก่อนจะเหลือบสายตามามองเจ้าของนิ้ว


“ขอลองตัวนั้นได้มั้ยครับ” เจียระไนไม่มองหน้าคนข้างกาย แต่หันไปพูดกับพนักงานขายประจำร้าน


“สีขาวเหรอ แล้วกูจะใส่กับกางเกงสีอะไรล่ะ” สิตางศุ์รับเสื้อมา แต่ก็ยังมีคำถาม


“ลองดูก่อน เดี๋ยวก็นึกออกเอง” พออีกฝ่ายสนับสนุนแบบนั้น เจ้าตัวก็เลยลองสวมทับเสื้อนิสิตของตัวเองแล้วเดินไปดูที่หน้ากระจก มีเจียระไนเดินตามหลังไปยืนดูด้วย


“รองเท้าด้วย ตอนแรกว่าจะใส่ผ้าใบ แต่ถ้าใส่แจ็กเก็ตสีขาว จะใส่ผ้าใบดีเหรอ” คนไม่ค่อยแต่งตัว หรืออีกนัยหนึ่งคือมักจะแต่งตัวง่ายๆ เสื้อยืด เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ไม่มีไอเดียในการแต่งตัวเนี้ยบออกงานเลย 


“รองเท้านิสิตไง”


“แล้วกางเกงล่ะ?” สิตางศุ์ถามอีก จินตนาการไม่ออกว่าแจ็กเก็ตสีขาวจะใส่กับกางเกงสีอะไรดี


“สีขาว” ในขณะที่เจียระไนนั้นวาดภาพในหัวตัวเองเสร็จสรรพ เห็นกระทั่งคนข้างกายใส่เสื้อผ้าครบชุดหันมายิ้มหวานๆให้อีกต่างหาก


ใบหน้าขาวจัดมีแววนึกคิด ก่อนจะเอ่ยเบาๆอย่างไม่มั่นใจนัก


“จะมีมั้ยนะ?...อ่า...น่าจะมี...”


“นั่นแหละ ใส่กับตัวนั้น” ตัวไหนไม่รู้...เพราะตอนนี้ภาพในหัวของเจียระไนกลายเป็นสิตางศุ์ที่กำลังถอดที่ละชิ้นแล้ว


“แล้วเสื้อข้างในล่ะ” คำถามจากคนข้างกายดังขึ้นอีก ฉุดกระชากร่างสูงออกมาจากความคิดบาปๆเหล่านั้น


“เอ่อ...สีขาว”


คราวนี้ดวงตาคู่สวยเหลือกโต


“หา? ขาวทั้งชุดเลยเหรอ”


“เออสิ” สิตางศุ์คิดถึงภาพที่ตัวเองใส่แจ็กเก็ตขาว กางเกงขาว เสื้อตัวในก็ขาว ขาวไปหมดทั้งตัวแบบนี้ จะดูประหลาดรึเปล่า ไหนจะธีมของงานอีกล่ะ ไม่ใช่จะใส่อะไรก็ได้ตามใจคิดเสียหน่อย


“แต่ธีมงานมัน...ดาร์คเอจไม่ใช่เหรอ”


“แล้วไง? มึงแหกธีมสักคน คนอื่นจะไม่สนุกรึไง”


“ไม่ใช่เแบบนั้น แต่...มันจะแปลกๆน่ะสิ คนอื่นใส่ดำกัน แล้วกูใส่ขาวงี้” พออีกฝ่ายใช้สรรพนามแทนตัวว่ากูมึงมา ผู้ชายด้วยกันอย่างสิตางศุ์เลยตอบกลับด้วยสรรพนามเดียวกัน แน่นอน...เป็นอีกครั้งที่คนฟังแอบชมในใจ


...ขนาดพูดกูมึงยังน่ารักสัดๆเลย...


“เดี๋ยวกูใส่เป็นเพื่อน” คำพูดเรียบๆของเจียระไนดังขึ้นหลังจากการเอาลิ้นดุนแก้มตัวเองขนาดหนัก สิตางศุ์หัวเราะเบาๆหน้าตาสดใส


“แล้วเพื่อนอย่างมึงก็หนีกลับก่อนตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรกน่ะสิ”


“กูจะอยู่กับมึงจนจบงาน” ดวงตาเรียวจับจ้องมาที่กระจก และมันสบตากับดวงตาของสิตางศุ์ผ่านทางเงาสะท้อนนั้น ทว่า...แม้จะมองกันด้วยวิธีนี้ แต่อะไรบางอย่างที่ทรงพลังและหนักแน่นก็ยังถูกถ่ายทอดมาถึงจนได้แต่นิ่งงัน


“ตกลงมั้ย มึงใส่ขาว กูก็ใส่ขาว” คำถามนั้นจริงจัง...จริงจังพอๆกับอะไรบางอย่างที่ฉายชัดอยู่ในดวงตาเรียว


“แล้วถ้ามึงหนีกลับก่อนล่ะ”


“กูจะพามึงหนีด้วยไง” สิตางศุ์หัวเราะ ก่อนจะยอมจำนนซื้อเสื้อแจ็กเก็ตสีขาวตัวนี้เพื่อใส่ไปงานบายเนียร์ในสัปดาห์หน้า แล้วจากนั้นก็แยกกับเจียระไนเมื่อออกจากร้าน


โบกมือลากันแล้ว สิตางศุ์เลี้ยวไปทางซ้าย ส่วนเจียระไนเลี้ยวไปทางขวา ทว่าก่อนที่จะก้าวเท้าเดิน อะไรบางอย่างก็ดลใจให้ร่างโปร่งหันไปมองคนที่ ‘บังเอิญ’ เข้าไปเจอกันในร้านเมื่อครู่นี้


ร่างสูงใหญ่เดินดุ่มๆอยู่ไกลๆ ก่อนจะพ้นออกไปจากโซนช้อปปิ้งโดนไม่แวะดูร้านไหนอีก ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบๆ แล้วคำถามหนึ่งก็ดังขึ้นในหัว


...โจ๊ก...ไม่ซื้ออะไรเลยเหรอ?...

.................................

งานบายเนียร์ปีนี้ถูกจัดขึ้นในธีมงาน Dark Ages ทุกอย่างในงานจึงเป็นสีโทนมืดและดำทั้งหมด รวมไปถึงคนที่มางานซึ่งล้วนแต่งชุดสีเข้มทั้งสิ้น ยกเว้นก็แต่...ใครบางคนที่สวมชุดขาวมาทั้งตัว


“อ๊ะหือ! นี่มึงเดินออกมาจากบ้านทรายทองเหรอวะ ชายกลาง”


พฤกษาอดปากไม่อยู่ เมื่อเพื่อนรักอย่างสิตางศุ์เดินเข้ามาในงานด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีขาว กางเกงขาว เชิ้ตก็ขาว รองเท้าหนังขัดมันเงาวับ แถมเซ็ตผมเนี้ยบ หล่อจนที่เคยด่าว่ามันรสนิยมแย่ถึงกับอยากจะคายประโยคนั้นทิ้ง


“อ่า...อย่าเเซวสิ” แต่สิตางศุ์ก็ยังเป็นสิตางศุ์ เจ้าตัวยิ้มซื่อๆ ดูออกจะเขินด้วยซ้ำ


“พ่อเจ้าประคุณรุนช่อง แค่นี้แถวคนจองมึงก็ยาวไปถึงยะลาแล้วนะ ถ้าเห็นมึงเวอร์ชั่นชายกลางอย่างงี้ รับรองมีคนสมัครตำแหน่งพจมานอีกเป็นหมื่น” พฤกษาชมไม่หยุด เดินวนสามรอบดูเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า และเท้าจรดหัวก็พูดได้คำเดียว ว่าเพื่อนเขามีดีจริงๆ


“พูดอะไรของมึงเนี่ย” คนถูกชมหัวเราะด้วยความไม่เข้าใจตามประสาคนไม่ค่อยรู้อะไร


“เสื้อนี่…ที่ไปซื้อวันนั้นใช่มั้ย”


“อื้อ”


“รสนิยมใช้ได้นี่หว่า”


“กูไม่ใช่คนเลือกหรอก”


“คนขายเชียร์ล่ะสิ ดีๆ ร้านไหนบอกกูที กูจะไปตบรางวัลให้อย่างงาม” สิตางศุ์หัวเราะอีก


“โจ๊กมันเชียร์” พฤกษาชะงักกึก หันมองคนพูดแทบไม่ทัน


“มึงว่าไงนะ”


“โจ๊ก ปกครองไง วันนั้นกูเจอมันที่ร้านพอดี มันก็เลยช่วยกูเลือก ตอนแรกกูก็จะไม่เอา แต่มันบอกว่าตัวนี้สวย แล้วก็บอกให้กูใส่กับกางเกงขาว เสื้อขาว”


“มึงไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับไอ้กตนะ”


“ทำไมล่ะ”


“ก็...เดี๋ยวมันมาด่ากู วันนั้นมันให้กูไปเป็นเพื่อนมึง แต่กูเทมึงนี่หว่า แล้วมันก็ไม่ค่อยชอบไอ้โจ๊กด้วย”


“อ้าว จริงเหรอ กูไม่เห็นรู้มาก่อนว่ามันไม่ถูกกัน”


“นั่นแหละๆ ไม่ต้องพูดมาก” สิตางศุ์ไม่ซักไซ้อะไรอีก ในเมื่อพฤกษาบอกว่าอลงกตไม่ถูกกับเจียระไน เขาก็จะไม่พูดถึงอีก เพื่อนซี้สองหน่อแห่งภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังจะเดินเข้าห้องจัดเลี้ยงด้านใน ทว่าใครบางเดินพ้นประตูใหญ่มาที่โต๊ะลงทะเบียนเสียก่อน


ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ สวมแจ็กเก็ตสีขาว  เชิ้ตดำ  ไม่ติดกระดุมสองเม็ดบน กางเกงดำ  รองเท้าหนังมันวาว และผมเซ็ตลวกๆ หล่อเซอร์ลุคแบดบอยชนิดที่แม้แต่เพื่อนร่วมรุ่นที่เห็นหน้าค่าตากันมานาน ก็ยังพากันมองตาค้าง


“เชี่ยโจ๊ก!!! ถ้ามึงจะมาหล่อขนาดนี้ คราวหลังปรึกษากูด้วย!! สัด! นี่งานบายเนียนร์กู เสือกหล่อไม่เกรงใจกูได้ไง!!!” พี่รหัสอย่างตฤณที่ยืนรอน้องรหัสนอกคอกด้วยความลุ้นสุดหัวใจว่ามันจะไม่มา ถึงกับร้องดังลั่น


...เพราะนอกจากมันจะมาแล้ว ยังมาอย่างหล่อ! หล่อคำเดียวไม่พอ พี่รหัสคนนี้ขอใส่ไม้ยมกเยอะๆว่ามันหล่อมากๆๆๆๆๆ!...


“แล้วสูทขาวนี่อะไร?! มึงไม่ได้ดูธีมงานเหรอ ดาร์คเอจโว้ย!!!” แต่เนื่องจากวันนี้น้องรหัสหล่อเกินหน้าเกินตา พี่รหัสที่ดีก็ต้องขอแซวสักหน่อย แต่คนอย่างเจียระไนไม่มีสะทกสะท้าน หนำซ้ำยังแสยะยิ้มอีกต่างหาก


“สันดานอย่างเดียวดาร์คไม่พอรึไง”


เขาไม่ได้พูดว่ามีใครอีกคนที่แต่งขาวมาเหมือนเขา แถมรายนั้นยังแต่งขาวทั้งชุดอีกด้วย เจียระไนไม่ได้ทัก ฝ่ายนั้นเองก็ไม่ได้ทักเขา แต่ชั่ววูบหนึ่ง ดวงตาสองคู่มองสบกัน ต่างคนต่างมองกัน และเจียระไนเห็นริมฝีปากสีสดคลี่ยิ้มให้เขาน้อยๆ ราวกับจะขอบคุณที่เขาใส่สีขาวตามสัญญา ก่อนที่ร่างสูงโปร่งในชุดขาวทั้งชุดจะถูกเพื่อนคนอื่นๆดึงเข้างานไป แล้วทิ้งเจียระไนเอาไว้ที่เดิม


“มึงยิ้มไรวะ โจ๊ก” ปราการเพื่อนซี้ที่ยืนอยู่ใกล้ๆถาม


“เสือก” คนถูกทักว่ายิ้มกลางอากาศหันไปด่าทั้งๆที่รอยยิ้มยังติดอยู่ที่มุมปาก ก่อนจะเดินเข้างานไปอีกคน


งานบายเนียร์ปีนี้ เจียระไนสัญญาว่าจะอยู่จนจบงาน ทว่า...พอทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะของปีสาม ภาควิชาการปกครอง เขาก็รู้ตัวว่าการอยู่ในงานนี้จนจบเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง!


...ไอ้สัด!! ใครจัดโต๊ะให้ปกครองปีสามติดกับโต๊ะไออาร์ปีสามวะ?!! แล้วนั่น!...เชี่ยเอ๊ย! ไอ้โซ่นั่งตรงข้ามกูอีก!!...


…ไม่ต้องเลย! ไม่ต้องมองมาที่กูแล้วยิ้มขอบคุณ!! แม่งเอ๊ย!!!...อยากให้กูยิ้มตอบใช่มั้ย!! กูจะยิ้มตอบก็ได้!!!...


“โจ๊ก มึงยิ้มอะไรอีกแล้ววะ” ปราการทักเหมือนอยากได้คำตอบ ทั้งๆที่เห็นกับตาว่าพอเจียระไนเห็นโต๊ะข้างๆเป็นโต๊ะของใครบางคน มันก็ยิ้มเหมือนโลกนี้อุดมไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง


“มึงคิดว่ากูอยากยิ้มรึไง?!” คนโดนทักพยายามเอาลิ้นดุนข้างแก้ม แต่ไม่ไหว...ยังไงๆก็หุบยิ้มไม่ได้ เพราะปากมันยิ้มไปแล้ว เอาลิ้นดุนแก้มก็ไม่ช่วยอะไร!


“เหงือกแห้งแน่เพื่อนกู ย้ายโต๊ะมั้ย ไปนั่งโต๊ะอื่น” เสนอทางออกเหมือนจะช่วยเหลือ แต่ใครจะรู้ ปราการนี้ล่ะตัวตั้งตัวตีให้ปกครองปีสามนั่งโต๊ะติดกับไออาร์ปีสาม


“ย้ายพ่อง!” ปากด่าแต่หน้ายังยิ้ม และคาดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มของหนุ่มปกครองตาเรียวไปตลอดค่ำคืนนี้ของงานบายเนียร์


...หนีกลับก่อนก็ไม่ได้ แถมต้องนั่งเห็นหน้า ‘โซ่ ไออาร์’ ไปตลอดทั้งงาน คราวนี้ล่ะ ‘โจ๊ก ปกครอง’ คงได้ไบโพลาร์กำเริบตลอดทั้งคืน!!...


FIN

มีคนบอกว่า โจ๊กโดนบัวแกล้งจนกระทั่งจบเรื่อง ก็อยากจะบอกว่าตอนพิเศษมันก็โดนบัวแกล้งค่ะ กร๊ากกกก เป็นพระเอกที่น่าเอ็นดูมากนะคะ ทั้งๆที่ใจร้อน มุทะลุ แต่ประสบความสำเร็จช้า ฮ่าฮ่า (ผายมือให้ดูพี่โตเป็นตัวอย่าง รายนั้นนิ่ง สงบ แต่ฟาดเรียบ)

ส่วนโซ่ก็...ซื่อและบื้อมากกกกกกกกก (ตามคอนเซ็ปต์) โดนเขาตามก็ไม่รู้ตัว โดนเขาตะล่อมให้ใส่ขาวคู่กันก็ไม่รู้ตัว อะไรใดๆก็ไม่รู้ตัว สมควรให้กตห่วงจริงๆแหละค่ะ ฮ่าฮ่า

มีตอนพิเศษเหลืออยู่อีก เดี๋ยวพฤหัสฯหน้าเอามาลงให้อ่านกันค่ะ
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกกำลังใจเช่นเคย ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

เจอกันพฤหัสฯหน้า (ขอจับสลากก่อนว่าเอาตอนไหนลงดี...ความอวดนี้ ฮ่าฮ่า)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-07-2017 21:24:40
ถถถถถถ โจ๊กเอ๊ยย หนีกลับไม่ได้ ได้แต่นั่ยิ้ม พอคนแซวก็เขิลแรงเบอร์นี้ 555%
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: tkaekaa ที่ 27-07-2017 21:26:41
 :mew1:น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 27-07-2017 21:32:41
น่าร๊ากกกกกกก
ถึงคนจะต่อแถวถึงยะลา แต่ก็สู้คนแหกโค้งมาอย่างโจ๊กไม่ได้ o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 27-07-2017 21:33:38
ความน่าวงวารนี้ของโจ๊กกกก
เกรี๊ยวกราดก็แล้ว กลั้นยิ้มก็แล้ว ไบโพล่าร์ จิๆ

รอผลจับฉลากค๊าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 27-07-2017 21:47:45
โอ๊ยยย แอบรักแอบตามมานาน โจ๊กเอ้ยยยย ไม่ไบโพลาร์ธรรมดานะ อีกนิดอาจจะแดดิ้นได้

โซ่น่ารักมาก ทะเล้น ขี้เล่น แล้วยังซื่อไม่สร่าง

ตลกแพทกับตฤณ เป็นเอามากนะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-07-2017 21:59:52
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 27-07-2017 22:03:36
โจ๊กเอ้ยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 27-07-2017 22:08:37
5555555 โจ๊กไบโพลาร์แบบสุด
น้องโซ่น่ารักกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-07-2017 22:12:49
ขอบคุณค่า เล่าย้อนอดีตแบบนี้ทำให้เห็นว่าอิโจ๊กแอบไปวอแวหนูโซ่ของเจ้มาเป็นปี ๆ แล้วนิ
ว่าแต่พี่ตฤณกับระฟ้านี่อะไร ยังไง เรื่องใหม่เหรอคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 27-07-2017 22:42:14
ขำพี่ตฤณ กลัวไม่มีน้องรหัสมาบายเนียร์
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 27-07-2017 22:53:06
โจ๊กคือน่ารักมากกกอะ
ตามสต้อกเกอร์โซ่มาเป็นปีๆ
วอแวมากค่ะลูกกกก
ขำความอาการออกของนาง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 27-07-2017 22:54:29
ฮ่าๆๆๆ สงสารอิพี่โจ๊ก นี่สินะที่มาของอาการไบโพล่าร์  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 27-07-2017 22:58:56
โจ๊ก อีตัวกาก 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 27-07-2017 23:16:45
มีตอนโจ๊กอวดเมียไหมคะ อยากอ่านความอวดของอิโจ๊กมัน ฮ่าาาาาา :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 27-07-2017 23:22:37
โจ๊กเปงบ้าหรอออ :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 27-07-2017 23:22:43
อ่านตอนนี้แล้วหัวใจพองโตต
จริงๆแล้วโจ๊กก็มีตัวตนสำหรับโซ่มานานแล้ว
เพียงแต่โซ่ซื่อไปนิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :really2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 27-07-2017 23:30:35
โจ๊กน่ารักกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-07-2017 23:38:41
ยิ้มได้ตลอด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 27-07-2017 23:42:25
อิโจ๊ก 55555555 โอ้ยย จินตนาการถึงความหล่อของทั้งคู่แล้วเลือดแทบพุ่ง ชุดขาวคู่นี่มันเหมือนงานแต่งเลยแฮะ  :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 27-07-2017 23:43:09
น่ารักจัง  ว่าแต่ตฤณ นะฟ้า จากเรื่องไหนครับ?

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-07-2017 00:01:46
 :katai2-1:


 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 28-07-2017 00:09:58
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก

งื้อออ ก ไก่ล้านตัว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 28-07-2017 00:18:46
โจ๊กน่าร้ากกก ทำเป็นแอบตามเค้าไปเนียนๆ
แต่นางมีความอดทนนะรอมาได้2ปีเลย นับถือๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 28-07-2017 00:22:26
อ่านเรื่องนี้แล้วยิ้มตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ พี่โจ๊กน่ารักมากๆ เป็นคนที่ชอบทะเลาะกับตัวเองในใจ เป็นไบโพล่าร์กำเริบตลอดเวลา น่าเอ็นดูเหลือเกิน ละชอบเนียนจีบโซ่แต่โซ่ก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี น่าสงสารเขานะคะ ถึงแม้พี่โจ๊กจะกากยังไงก็รักนะคะ รอติดตามเรื่องใหม่และรอรวมเล่มนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-07-2017 00:44:43
โอ๊ย.......อ่าน แล้วมีความสุขมากกกกกก
อ่านไปยิ้มไป พี่รหัสตฤณ กับน้องรหัสโจ๊ก   :laugh: 
พี่ก็บังคับจัง น้องก็หนี หลีกลี้สังคมตลอด
จนดังไปทั่ว ว่าไปแป๊บเดียวแล้วหายหัว  :hao3:

แต่พอแอบฟังโซ่คุยเสร็จ
รับปากพี่รหัสว่าไปงานบายเนียร์เฉยเลย
แอบตามโซ่ตลอดทาง โซ่ก็ไม่รู้
โจ๊กจอมวางแผน แผนก็สำเร็จ
ได้ทั้งคุย  ได้ทั้งใส่ชุดที่ตัวเองกำกับ
จนหล่อโคตรๆ ทั้งคู่ แอบนอกตีมสีซะด้วย YES !!!!!!  :katai3: :katai3: :katai3:

ขำปราการ พูดอะไรออกมา โดนโจ๊ก ด่าทุกที   :m20:
ขอบคุณไรท์ สนุกมากกกก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 28-07-2017 01:00:37
โจ๊กเอ๊ยยยยยยย :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-07-2017 01:50:44
ยอมพ่อคุณจิงๆ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 28-07-2017 02:09:29
โอยยยยยยยย อิโจ๊กเอ๊ยยยยยยย 55555555
ไม่รู้จะพูดยังไง ตอนนี้ขำทุกคน บ้าบอตั้งแต่พี่รหัส
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 28-07-2017 02:25:47
หนุกหนาน ๆ ชอบคู่นี้จังเลย รักนะ หลานโซ่ หลานโจ้ก  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 28-07-2017 03:43:35
ชอบมากเลย เหมือนเห็นลูกน้อยทั้งคู่เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว คุณแม่ก็โล่งอก(?)
เอ็นดูลูกโจ๊กมาก เป็นพระเอกที่เหมือนจะคีพลุค แต่ไม่เลย มีหลายมิติมาก 5555555
น้องโซ่น่าเอ็นดูจริง ๆ แหละ ในชีวิตจริง ๆ เราก็รู้จักคนแบบนี้นะ
 เค้าก็พอรู้ว่าตัวเองป็อบแต่ว่าไม่ได้สนใจความป็อบของตัวเอง ก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไร ใส ๆ ซื่อ ๆ แบบน้องโซ่เลย
พอจะนึกภาพออกอยู่ว่าทำไมเพื่อน ๆ ถึงเป็นห่วงขนาดนั้น  :laugh:

รอตอนพิเศษตอนต่อไปนะคะ ❤️
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 28-07-2017 06:04:21
งือออ~~ฉันคิดถึงเขา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-07-2017 07:21:51
โจ๊กนี่มันโจ๊กจริงๆ 555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 28-07-2017 08:11:53
ความไบโพร่านี้555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 28-07-2017 09:09:13
แหม ใส่สีขาวคู่กันอีก~
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 28-07-2017 09:34:56
โจ๊กน่ารักมากกกกกกก ฮือออออ
เป็นอีก1พระเอกที่ชอบมากกกกกของคุณบัวเลยค่ะ
ผ่าเหล่าผ่ากอเป็นที่สุด แต่กลับน่าเอ็นดูมากๆ 555
รอตอนพิเศษตอนหน้านะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-07-2017 12:29:53
โจ๊กกลับบ้านแบบกล้ามเนื้อบนหน้าเป็นตะคริวแน่นอน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-07-2017 12:48:14
น่ารักกันจริงๆคู่นี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 28-07-2017 14:46:17
นั้ลลล้ากกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 28-07-2017 17:16:15
เอ็นดูโจ๊กเหลือเกินนนน ทำไมน่ารักกกก แต่งตัวแบบนี้เทวดากับซาตานชัดๆ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: white shark ที่ 28-07-2017 18:16:31
ชอบอีโจ๊กจริงๆค่ะ
สนุกมาก เราเข้ามาอ่านรวดเดียวจบแล้วก็ติดพระเอกหนึบเลย
พี่โจ๊กไบโพล่าร์ คนน่าสงสาร 2017 จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 28-07-2017 19:33:19
ไม่แกล้งโจ๊ก ไปแกล้งโซ่ไม่ยอมนะคะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 28-07-2017 19:43:59
ขำโจ๊ก  แม่งใช้ชีวิตไบโพลาร์มายังไงว่ะเป็นปีๆ  ฮ่าๆๆๆ แต่เอ็นดูโซ่ แอร๊ยยยย อยากเลี้ยงดู
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 28-07-2017 23:25:25
 :m20: อยากตบรางวัลให้ปราการ โจ๊กนี่บ้าจริงสินะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 28-07-2017 23:42:11
น่าเอ็นดูกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 30-07-2017 00:11:49
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 30-07-2017 00:56:38
โจ๊กนี่มันโจ๊กจริงๆ โจ๊กมีโซ่ในสายตามาตลอด อดทนรอมาตลอด แถมเหวี่ยงได้ตลอดด้วย แม้กับโซ่เอง 55555
โซ่น่ารัก มีความใสซื่อมานาน พาไปทางไหนก็ได้ คิดช้าตลอด แต่โซ่คือที่สุดแล้วนะ น่ารัก

ตฤณต้องทำใจนะ ต้องขอบคุณโซ่ที่มางาน ไม่งั้นตฤณคงชีช้ำยิ่งกว่านี้

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ สำหรับตอนพิเศษ มีอีกนะ อยากอ่านค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ 30-07-2017 08:15:01
ชั้นรักเรื่องนี้~~~~~~~~ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 30-07-2017 21:30:10
น่ารักมากเลยค่ะ ชอบพระเอกอย่างโจ๊กจัง โอกาสมาถึงต้องไม่ปล่อยให้หลุดมือ
ถ้าตอบไม่ถูกใจก็จะให้ตอบใหม่ ขำตอนข้อตกลง 3 วันมาก ร่นขึ้นมาๆ เอาตามใจตัวเองนั่นล่ะ
แต่โจ๊กน่ารักมาก ใจดีมากโดยเฉพาะกับโซ่ ส่วนกับคนอื่นนั้น ในตอนพิเศษก็ได้กล่าวไว้
แค่สันดานยังไม่ดาร์คพอเหรอ กร้ากกกก จริวค่ะ พระเอกเราไบโพล่าร์ว้าวุ่นตลอดเรื่อง
เอ็นดูนางมาก ตอนตามหาโซ่ก็ตลก ที่พี่รหัสช่วยหา ประกาศซะ คนอย่างโจ๊กไม่เคยขอให้ใครช่วย
ดีใจที่รักของโจ๊กสมหวังเนอะ มีความสุขจนล้นเลย
ซอโซ่บ้าง แรกๆ ทำความเข้าใจโซ่อยู่ คือน้องความรู้สึกช้ามากจริงๆ ช้าแบบช้า หอยทากเรียกพี่
คือน้องเป็นคนที่พร้อมไปหมดจริงๆ ไม่ขาด และไม่หาอะไรเพิ่มแล้ว ความรู้สึกด้านนี้เลยไม่เคยเกิด
โซ่คิดเยอะ คิดช้า คิดแบบทีเหตุผล เป็นผู้ใหญ่มาก อย่างตอนที่เริ่มเกริ่นๆ กับที่บ้าน คือในหัวคิดไว้หมดแล้ว
มีความเซอร์ไพร์สให้เราตลอดเหมือนกัน คนที่โซ่รักก็เป็นคนที่โชคดี แล้วก็อ้อนได้อย่างน่าขยำขยี้มาก
พระเอกมาได้ขยี้ตอนเกือบสุดท้าย น้องโซ่น่าทนุถนอมเกินไป รักน้องโซ่เช่นกัน

นิยายสนุกมาก ขอบคุณคุณบัวค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 30-07-2017 23:37:44
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 31-07-2017 08:53:43
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 31-07-2017 12:48:52
ดีต่อใจ อิอิ
ขอบคุณฮะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: sasithornae ที่ 31-07-2017 21:02:45
ฮื่อออ อ่านจบแล้ว มีคนแนะนำเรื่องี้เยอะมากๆ และเข้ามาอ่านก็ชอบมาก ชอบความไบโพล่าของโจ๊ก ชอบความซื่อๆของโซ่ มาเม้นรวดเดียวเลย เพิ่งอ่านจบ เพลินมาก สนุกมาก นี่แม่ยกโซ่เอง 55555 ชอบคนน่ารักซื่อๆบับเน้มากค่ะ จบแล้วใจจริงยังไม่อยากจบ อารมณ์ยังไม่จบเช่นกัน ขอบคุณที่เขียนนิยายน่ารักๆแบบนี้ออกมานะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: akumapuyy ที่ 01-08-2017 09:56:09
แค่ตอนแรกก็สนุกแล้วค่ะเห็นเรื่องนี้มานานแต่เพิ่งมีโอกาศเข้ามาอ่าน สนุกตั้งแต่ตอนแรกเลย จะตามอ่านจนจบเลยค่ะ

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 01-08-2017 23:07:02
ตอนนี้คือโจ๊กมีความน่าร้ากกกก แม้ว่าจะยังเอ็นดูน้องโซ่มากกว่าก็ตาม 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: plugie ที่ 02-08-2017 02:28:51
ชอบเรื่องนี้น่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: philalai ที่ 02-08-2017 08:55:17
ดีต่อใจจจจ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Haruya ที่ 02-08-2017 14:20:14
โอยยย ตัดจบฉับ
ประหนึ่งหนังในโรง อิอิ
อ่านแล้วชอบอะ ซอโซ่ คือดีงาม บุคคลสาธารณะ
อ่านแล้ว ไปชอบอีตาไบโพลาร์ได้ไงเนี่ย
แต่โจ๊ก เค้าก็รักของเค้าเนอะ
อ่านแล้ว ฟิน
ช่วงนี้ เราอ่านอะไรก็ไม่สนุก มาเจอเรื่องนี้ฟินไปเลย
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 02-08-2017 21:57:46
ยิ่งอ่านยิ่งหลงรักโจ๊กอ่าาา เป็นพระเอกที่มีเสน่ห์ขึ้นเรื่อยๆทุกตอนเลยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: mirin ที่ 03-08-2017 11:48:50
เรื่องนี้น่ารักมาก อ่านแล้วความเขินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลย :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 03-08-2017 13:26:29
อยากได้พี่โซ่จัง :กอด1:
แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทำใจยกให้พี่โจ๊กก่อนก็ได้
แต่พี่จะอยู่ในใจหนูนะคะ :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ งานบายเนียร์ (27/07/2017) หน้า 36
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 03-08-2017 16:41:57
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย
ชอบมาก สนุกมาก น่ารักมาก
 :-[ :-[
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 03-08-2017 21:36:40
วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………..
ตอน คนขี้หึง


งานสำคัญประจำปีงานหนึ่งของคณะรัฐศาสตร์คือ งานสองสิงห์ เป็นการแข่งขันฟุตบอลเพื่อกระชับมิตรระหว่างคณะรัฐศาสตร์จากสองมหาวิทยาลัย


เจียระไนอยู่คณะนี้มาสี่ปี และเป็นสี่ปีที่มีคุณภาพยิ่งเพราะแทบจะไม่เคยร่วมกิจกรรมใดๆเลย แน่นอนว่างานสิงห์ๆอะไรนี่ก็เช่นกัน...แต่...ปีสุดท้ายของชีวิตนิสิตจะเป็นปีแรกที่เจียระไนมองผ่านไม่ได้


“วันเสาร์นี้มึงมาคณะกี่โมงอ่ะ โจ๊ก”


นั่งกินข้าวด้วยกันอยู่ในโรงอาหาร สิตางศุ์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็วางช้อนหันไปหยิบเก็กฮวยมาดูดแล้วตั้งคำถามกับคนที่กินข้าวเสร็จไปเมื่อ 5 นาทีก่อน แต่ยังนั่งแช่รอคนกินช้า


“วันเสาร์? มาทำไม มึงจะมาห้องสมุดเหรอ” หนุ่มตาเรียวย้อนถาม


“ไม่ใช่สิ วันเสาร์นี้มีบอลไง”


“บอล? บอลไรวะ”


“ก็ฟุตบอลสองสิงห์ อ่า...จริงด้วย มึงไม่เคยมาเลยสิ อ๊ะ...แต่ว่าแต่ก่อนพี่ตฤณก็อยู่ชมรมฟุตบอลไม่ใช่เหรอ” ตฤณคือพี่รหัสของเจียระไน แต่ก็เป็นเรื่องที่แน่นอนเช่นเคยว่าน้องรหัสเกรดเอพรีเมียมย่อมไม่สนใจจะรู้ว่าพี่ตัวเองอยู่ชมรมไหน


“กูจะไปรู้เหรอ แล้ววันเสาร์นี้มึงจะมาทำไม เขาเตะบอลกัน มึงจะลงไปเตะกับเขารึไง”


“ก็ไอ้กตลงให้คณะ กูก็ต้องมาเชียร์มันสิ” คำพูดประโยคสั้นๆ แต่กระตุกหัวใจคนฟังจนหน้าชักจะหงิก


...เนี่ย เวลาเชียร์ผู้ชายคนอื่นแม่งพูดด้วยหน้าตาซื่อๆใสๆไม่เห็นใจกูบ้างเลยนะ...


“โจ๊กมาด้วยกันนะ ปีสุดท้ายแล้ว”


...อ่า...กูจะอภัยที่มึงเชียร์ไอ้เชี่ยกตก็ตอนมึงชวนกูเนี่ยแหละ...


“มาดูบอลแป๊บเดียว ไม่ต้องดูน้องเชียร์โต้ก็ได้”


...คือจริงๆก็ใจไปกับไอ้โซ่เกินร้อยแหละ แต่แบบ...ตื้อกูอีกนิดสิวะ อ้อนกูอีกหน่อย...


ร่างสูงทำตัวยากเหมือนกำลังตัดสินใจ หันไปหยิบน้ำกระเจี๊ยบมาดูด ทั้งๆที่เหลือแต่น้ำแข็ง


“ถ้ามาด้วยกัน เดี๋ยววันนี้เลี้ยงน้ำกระเจี๊ยบอีกแก้ว แล้ววันนั้นไปหาข้าวกินกันต่อ” สิตางศุ์ชวนด้วยรอยยิ้มหวาน เห็นคนตรงหน้าตั้งหน้าตั้งตาดูดอากาศแทนน้ำแล้วก็ยิ่งเอ็นดู เจียระไนเหมือนจะตรงไปตรงมา แต่บางทีก็ชอบทำตัวให้ง้อเรื่อยเลย


...อย่างกับเด็กๆ...


หนุ่มปกครองไม่พูดอะไร แต่ชี้นิ้วไปที่ร้านขายน้ำ


“ไปซื้อสิ”


ถูกจ้างด้วยน้ำกระเจี๊ยบแก้วเดียวและกินข้าวด้วยกันอีกมื้อ หัวใจที่แข็งแกร่งประดุจกำแพงเมืองจีนก็ไม่ต่างอะไรกับเทียนไขโดนไฟลน


...หลอมเหลว...ไหลเป็นน้ำ...อาเมน...

............................


เสียงเชียร์ดังกระหึ่มจากสองฝั่งของสนามฟุตบอลที่มีนิสิตนักศึกษาเท่าหยิบมือ ตามประสาคณะอินดี้ๆที่มีทรัพยากรไม่ถึงหมื่นคน แต่ที่ดูจะดังกว่าเสียงเชียร์คือเสียงพากย์จากสองซี้ต่างมหาวิทยาลัยที่โลกเหวี่ยงมาเจอกันด้วยเพราะต่างรักและชื่นชมผู้ชายหน้าตาดีเป็นอุปนิสัย


“อร๊ายยยยย พี่ลิลลี่ขา ติซซี่ขอพูดเลยนะคะ ถ้าเปลี่ยนสนามบอลเป็นแคทวอร์ค ผู้ชายเหล่านั้นของพวกเราก็นายแบบดีๆนี่แหละคร่าาาา ดูเบอร์สิบค่ะ เบอร์สิบ เบอร์สิบเสื้อเหลือง เอ้า! เสื้อเหลืองแรงฤทธิ์ แรงฤทธิ์ เสื้อเหลือง วู้วววว” ติซซี่ปีสองจากคณะรัฐศาสตร์ซึ่งทีมตัวเองใส่เสื้อขาวออกอาการอย่างไม่ภักดีในฝั่งของตนอีกต่อไป ในเมื่อเบอร์สิบเสื้อเหลืองหล่อกรุบกริบแถมกำลังได้ลูกบุกไปถึงหน้าประตู


“ติซซี่ เสื้อเหลืองนั่นทีมพี่ค่ะ ทีมหนูเสื้อขาว“


“แหม เรากรรมการก็ต้องเป็นกลางเชียร์ทีมไหนก็ได้สิคะ อร๊าย ยิงแล้วค่ะ! ยิงแล้ว! เบอร์สิบมารับรางวัลจากน้องค่ะ!!”


“เอ้า! งั้นหนูเชียร์เสื้อเหลือง พี่จะเชียร์เสื้อขาวนะคะ เฮียกตเบอร์สี่หล่อเสมอต้นเสมอ...อ๊ะ! ตายห่านค่ะติซซี่! ที่ขาวๆเดินอยู่นั่นใช่พี่โซ่ไออาร์ในตำนานของหนูรึเปล่าคะ” จากกรรมการพากย์ในสนาม กลายเป็นสายตาไถลออกนอกสนามไปแล้วเมื่อเห็นใครบางคนในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์กำลังเดินเลาะริมสนามตรงมายังโต๊ะนักพากย์ริมสนามฟุตบอล


ในสนามเองก็ดูเหมือนจะหยุดเกมไปชั่วอึดใจ โดยเฉพาะทีมเสื้อเหลืองจากต่างถิ่นที่ไม่ค่อยจะได้เจอของดีในตำนานของคณะคู่แข่งตัวเองมากนัก เลยพากันมองความขาวกันตาไม่กะพริบ


แต่...งานนี้ ‘โซ่ ไออาร์’ ของดีปีสี่ไม่ได้โสดเหมือนที่แล้วๆมา เพราะเจ้าตัวพก ‘เจ้าที่’ มาด้วย


“เฮ้ย! มองเชี่ยอะไร?!” และเจ้าที่รายนี้ก็ดุมาก ตะโกนทีเดียวดังลั่นไปทั้งสนาม


ทีมเสื้อเหลืองสะดุ้งกันเป็นทิวแถว รีบพากันหันกลับไปจดจ่อกับเกมในสนามแทบไม่ทัน แต่...ก็ช้าเกินไปเสียแล้ว เพราะฝั่งทีมเสื้อขาวลากบอลไปถึงหน้าประตู แล้วซัดตุงตาข่ายตามตีเสมอก่อนกรรมการเป่าหมดเวลาครึ่งแรกแค่ไม่กี่วินาที


จบครึ่งแรก เสมอกัน 1-1

...............................

“โทษทีที่มาช้า กูมัวแต่แวะซื้อของ อ่ะ...มีขนมมาให้น้องๆที่ขึ้นสแตนด์ด้วย เอาไปแจกทีนะ” คนผิวขาวจัดเอ่ยปากตอนพักครึ่งที่ได้พบหนึ่งในเพื่อนซี้ที่ลงเเข่งในนามคณะ อลงกตคือคนที่ยิงตีเสมอในขณะที่คนทั้งสนามทั้งใจทั้งตาลอยไปอยู่กับสิตางศุ์


“มาช้า แต่มาแล้วชัวร์ว่ะ มึงมาปุ๊บ พวกนั้นเป๋ปั๊บ” เพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ฝ่ายสวัสดิการโผล่มารับขนมแถมชมอีกหนึ่งยก เพราะสิตางศุ์โผล่มาแท้ๆ พวกนั้นเลยหลงความขาวจนตาพร่า สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว


“เป๋อะไร กูก็เห็นเขาเล่นกันดี อ่ะ...นั่นไอ้นิกก็มา เดี๋ยวกูไปทักก่อน” คนผิวขาวจัดมองไปอีกฝั่งสนาม เห็นหนึ่งในหมู่นักเตะเสื้อสีเหลืองมีคนที่ตนรู้จักพอดี เขากำลังจะเดินตัดสนามช่วงพักครึ่งไปทักทาย แต่ถูกคว้าแขนไว้ก่อน



“เฮ้ย! มึงจะไปไหน” คนคว้าไม่ใช่ใครที่ไหน เจียระไนที่ยังตาขวางนั่นเอง


“ไปหาเพื่อนแป๊บนึง มึงรออยู่กับพวกนี้ก่อนนะ” แล้วร่างโปร่งก็วิ่งเหยาะตัดสนามไปอีกฝั่ง เจียระไนยังมัวแต่งงที่คนรักวิ่งไปหาฝั่งตรงข้าม มาได้สติก็ตอนที่กองเชียร์ฝั่งนั้นส่งเสียงกันยกใหญ่ที่ของดีในตำนานไออาร์ฝั่งนี้ ข้ามถิ่นไปหา


“นั่นไอ้นิกเพื่อนมัน เบอร์สิบ” พฤกษาเอ่ยปากตามประสาคนรู้เช่นเห็นชาติความรู้สึกของเจียระไนดี


“รู้จักกันในงานสองสิงห์ตอนปีหนึ่ง ไอ้นิกเคยเตะบอลโดนแขนไอ้โซ่จนช้ำ หลังจากนั้นแม่งก็มาหาที่คณะบ่อยๆ พี่เวฟก็รู้จัก” อลงกตพูดลอยๆ และคำพูดของเขาก็ทำเอาเจียระไนทิ้งทุกอย่างที่ตรงนี้แล้วแทบจะลอยลิ่วไปสถิตอยู่ข้างสิตางศุ์ในวินาทีนั้น! 


พฤกษามองตามแผ่นหลังเพื่อนร่วมรุ่นแต่ต่างภาคฯที่เหาะไปยืนข้างสิตางศุ์แล้วส่ายหัว


“โจ๊กแม่งขี้หึงฉิบหาย” เขาบ่น ก่อนจะเหล่มองเพื่อนซี้ชมรมฟุตบอลที่เทน้ำกรอกปากเหมือนไม่สนใจแล้วก็ชักหมั่นไส้ที่รายนี้ขยันสร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวครัวคนอื่นนัก


...ตบหัวแม่งสักทีเถอะวะ!...


“โอ้ย! เชี่ยแพท! ตบหัวกูทำไม!!”


“มึงก็ขาเสี้ยม” ไม่ทันได้ด่าอะไรมากกว่านั้น เสียงเป่านกหวีดเพื่อเรียกรวมตัวนักฟุตบอลก็ดังขึ้น สิตางศุ์และเจียระไนวิ่งตัดสนามกลับมาที่ฝั่งตนเอง ได้ยินเสียงแว่วๆที่คนผิวขาวจัดหันไปพูดกับคนข้างกายที่ทำหน้าบูด


“นิกเตะบอลอัดแขน? โอ้โฮ เรื่องตั้งแต่ตอนปีหนึ่ง กูลืมไปแล้วนะเนี่ย”


“ลืมแล้วทำไมยังคบกับมัน”


“อ้าว ก็มันนิสัยดี หลังจากนั้นก็มาหาที่คณะเลยอ่ะ แวะมาแทบทุกวันจนแขนกูหายช้ำเลย” คนหน้าบูดกลายเป็นหงิกกว่าเดิม


“มันเป็นยาแก้ฟกช้ำรึไง! มาทุกวันแล้วมึงหาย!?!”


“เปล่า แต่มันเอายามาทาให้เฉยๆ...” ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าหู จากอารมณ์เต็มร้อย กลายเป็นอารมณ์ชักจะล้นปรี่ เจียระไนเริ่มหายใจฟืดฟาด


“แล้วพี่รหัสมึงยอมได้ไง?!” สิตางศุ์เอียงคออย่างงุนงงกับคำถามที่เหมือนจะเต็มไปด้วยอารมณ์ของคนข้างกายที่เดินข้างกันจนพ้นเขตสนาม


“ทำไมจะไม่ยอมล่ะ พี่เวฟก็ยังบอกว่าไอ้นิกนิสัยดีเลย”


“แล้วกูกับมันใครดีกว่ากัน?!” คราวนี้ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบๆที่จู่ๆคำถามประหลาดๆก็ดังมาจากคนตาเรียว


“เอามาเทียบกันทำไม”


“กูถามให้มึงตอบ! ไม่ใช่ให้มึงย้อนถาม!!”


“นิกก็ดี มึงก็ดี”


“เหอะ!!” สั้นๆ ไม่มีความหมาย แต่ได้ใจความ เพราะหลังจากนั้นเจียระไนก็หมุนตัวเดินไปนั่งกับปราการเพื่อนสนิทแล้วเมินใส่สิตางศุ์ทันที!


…ไอ้โจ๊กของอนสักทีเถอะวะ อะไรคือคำว่า ‘นิกก็ดี มึงก็ดี’ คนอย่างกูต้องดีเหนือกว่าคนอื่นโว้ยยยยย!!...

.............................

ปราการเหลือบตามองคนหน้าหงิก ปกติเจียระไนก็ไม่ใช่คนยิ้มแย้มอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้นอกจากจะไม่ยิ้มยังคิ้วขมวดปล่อยพลังอำมหิตตลอดเวลาอีกต่างหาก ส่วนคนที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ ก็นู่น...ตัวขาวๆที่กำลังส่งขนมแจกน้องๆที่ขึ้นสแตนด์นั่นล่ะ เด็กๆปีหนึ่งร้องเพลงกันลืมตายไปแล้วมั้ง มีพี่สวัสดิการเฉพาะกิจหน้าตาดี แถมยิ้มสวยมาให้กำลังใจแบบนั้น


“เบอร์สิบนั่นเพื่อนไอ้โซ่เหรอวะ” สาบานว่าไม่ได้อยากแซะแผลในใจเพื่อนสนิท แต่ปราการก็ขอถามเอาไว้ประดับความรู้สักหน่อย


“ถามทำเชี่ยอะไร!!” …อู้ฮู ถามประโยคแรกก็โดนด่าประโยคแรกกันเลยทีเดียว…


คนถามหัวเราะอย่างไม่ถือสา เขาเห็นตั้งแต่ตอนที่เจียระไนตามไปเป็นเจ้าที่ให้สิตางศุ์ถึงฝั่งนู้นแล้ว ยิ่งพอกลับมา ไม่รู้เดินคุยอะไรกัน ‘ไอ้โจ๊ก’ ยิ่งหน้าหงิกขนาดหนักจนหนีมานั่งข้างเขา แทนที่จะตามเป็นเงา ‘แฟนมัน’ เหมือนทุกที


“อ้าว ก็กูอยากรู้ เมื่อกี้เห็นโซ่ไปทัก”


“เออ! เพื่อนมัน! เพื่อนนิสัยดี! เพื่อนโคตรดี! ไม่รู้แม่งจะดีอะไรนักหนา?!!”


“เพื่อนดีมึงก็ด่า อยากให้โซ่คบเพื่อนเชี่ย บอกมันให้มาคบกู” ดวงตาเรียวตวัดจึ้กมามอง


“มึงอยากตายตอนนี้มั้ย?!”


“คบแบบเพื่อนครับ คบเเบบเพื่อน หึงไม่เข้าเรื่องเลยมึงเนี่ย” ปราการพูดแล้วเหลือบตามองไปที่สิตางศุ์ รายนั้นแอบมองมาที่พวกเขาบ่อยๆ ดูก็รู้ว่าคนซื่อๆที่ไม่ค่อยสังเกตสังกาอะไร ก็คงจะพอมองออกว่าเจียระไนกำลังงอนขนาดหนัก


“โจ๊ก ไอ้โซ่แอบมองมึง” เขากระซิบบอกเพื่อนเสียงเบา ท่าทีมันชะงักไปนิดหน่อย หัวคิ้วคลายออกนิดนึง แต่ก็ยังทำนิ่ง


…ดูรู้เลยว่าแม่งกำลังเล่นตัว…


“ท่าทางมันจะอยากง้อ...” เขาหยอดไปอีกหน่อย แต่เพื่อนสนิททำตัวน่าเตะมากด้วยการทำเป็นมองเมินไปทางอื่นแล้วพูดกระแทกกระทั้น


“แล้วไง?! อยากง้อกูแต่ไปยืนแจกของบนสแตนด์ กูจะได้รับผลบุญด้วยมั้ยล่ะ?!!”


จริตยิ่งกว่าติซซี่ ปราการถึงกับส่ายหัว


“ไอ้ห่า ทำตัวยากอีก เดี๋ยวมันก็ไม่ง้อหรอก”


แล้วจากนั้น เขาก็เลิกสนใจเพื่อนซี้แล้วหันไปดูเกมในสนามต่อ


 เสียงเชียร์ยังคงดังกระหึ่ม เสียงพากย์ของลิลลี่และติซซี่ยังคงดังต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีใครยิงประตูเพิ่มอีก


จบเกม เสมอกันเช่นเดิม 1-1


พิธีกรรมหลังเกมจบคือการจับไม้จับมือตามประสานักกีฬาที่ดี ทั้งนักบอลในสนาม ข้างสนาม กรรมการหรือแม้แต่คนพากย์ก็วิ่งลงไปจับมือด้วย และมันคงจะดีกว่านี้ ถ้าการจับมือจะหยุดอยู่แค่ในสนาม...ไม่ได้ลุกลามมาที่สแตนด์


“เฮ้ยๆ! เบอร์สิบๆ!” ปราการร้อง เสียงโห่ดังกระหึ่มเมื่อหนุ่มเบอร์สิบเสื้อสีเหลืองเดินฉีกตัวจากคนอื่นๆออกมาที่ข้างสนาม ตรงดิ่งมาหาใครบางคนที่ยืนอยู่ใกล้สแตนด์เชียร์ และใครคนนั้นคือ…สิตางศุ์…


เจียระไนหันขวับไปมองแล้วลุกขึ้นยืนทันควัน


เบอร์สิบเสื้อเหลืองถึงตัวสิตางศุ์แล้ว…จากนั้นก็…ถลาเข้าไปกอด!


จากตาเรียวๆตามแบบลูกหลานคนจีนเบิกโตยิ่งกว่าไข่ห่านในวินาทีนั้น ฝั่งคณะต้นสังกัดของสิตางศุ์เงียบกริบเป็นป่าช้า มีแค่ฝั่งตรงข้ามที่โห่ไม่หยุด แต่สุดท้ายก็พากันเงียบหมดเมื่อถูกสะกิดให้หันไปดู ‘เจ้าที่ตัวจริง’ ที่ยืนจ้องเขม็ง 


“เกิดไรขึ้น” ไอ้หนุ่มเบอร์สิบปล่อยกอดเพื่อนต่างมหาวิทยาลัยแล้วถามงงๆ มองไปมองมาก็เห็นสายตาของใครบางคนจ้องมาที่เขาเหมือนจะฆ่าให้ตายตรงนี้ และใครคนนั้นก็คือคนที่ตามสิตางศุ์ไปถึงฝั่งของพวกเขาเมื่อตอนพักครึ่ง


“อ้อ…ที่เขาลือไปกันว่ามึงมีแฟนแล้วนี่เรื่องจริงเหรอ” เขาหันไปถามเพื่อนผิวขาวจัดที่แม้จะอยู่คนละมหาวิทยาลัยแต่ก็รู้จักกันเพราะงานนี้เมื่อสามปีก่อน


“ก็...อืม”


“ไอ้นั่นใช่มั้ย ที่จ้องกูน่ะ”


“อ่า...อืม...”


“เสียดาย กูจีบมึงซะตั้งแต่เมื่อตอนปีหนึ่งก็ดีล่ะ”


“หา?!” สิตางศุ์ร้องหันมองอย่างไม่เชื่อหู ทว่าคนพูดกลับหัวเราะเหมือนไม่ใช่เรื่องจริง


“มาๆ มาแนะนำให้กูรู้จักหน่อย” แล้วไอ้หนุ่มเบอร์สิบก็ทำตัวกล้าหาญ คว้าแขนขาวจูงสิตางศุ์ที่กำลังหน้าเสียตรงไปหาเจียระไนที่ยืนทำหน้าถมึงทึง


…โกรธแน่ๆ โจ๊กโกรธแน่ๆ…


“แนะนำสิโซ่ แฟนมึงเนี่ย กูอยากรู้จัก” 


“เอ่อ นิก...นี่โจ๊ก โจ๊ก...นี่นิก” ไม่รู้จะแนะนำยังไง สิตางศุ์ก็เลยพูดแต่ชื่อ เจียระไนตวัดสายตาไปมองคนพูด


“กูจำเป็นต้องรู้จักมันมั้ย”


“อ่า...นิกมันเพื่อนกูอ่ะ” ร่างสูงเหลือบตาไปมองหนุ่มนักฟุตบอลเสื้อเหลือง รายนั้นพยักหน้าหงึกหงักสนับสนุนคำพูดของคนผิวขาวจัด


“มึงเป็นเพื่อนไอ้โซ่?” เขาถามเสียงห้วน แน่นอนว่าไม่ยินดีกับการรู้จักครั้งนี้แต่อย่างใด


“ช่าย ต้องให้กูเล่ามั้ยว่ารู้จักกันยังไง โรแมนติกสัดๆเลย”



“กูไม่ได้อยากรู้! แล้วไม่ต้องมาจับแขนแฟนกู!” เจียระไนกระชากแขนอีกข้างของสิตางศุ์ให้มายืนข้างเขา ก่อนจะตวัดสายตามาที่คนผิวขาวจัด


“จะกลับกันได้รึยัง?!”


“อื้อ” 


แล้วคนขี้หึงก็ไม่รอให้ใครบอกลาใครอีก เขาดึงแขนสิตางศุ์ให้เดินออกมาจากหน้าสแตนด์ทันที


“โจ๊ก ไม่หงุดหงิดสิ” เสียงคนถูกดึงแขนดังเบาๆให้ได้ยิน


“แล้วให้กูมีความสุขรึไงที่เห็นคนอื่นมากอดแฟนกู?!”


“อ่า...กอดแบบเพื่อนเอง...” สิตางศุ์เจรจาในขณะที่ยังก้าวเท้าเดินตามแรงจูง


“โซ่” เสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง คนสองคนที่กำลังเดินต้องหันไปมอง เจ้าของเสียงยังคงเป็นไอ้หนุ่มเบอร์สิบเสื้อสีเหลืองที่ดูแล้วไม่น่าจะกลัวตายเท่าไร รายนั้นส่งยิ้มกว้างเห็นฟันขาว แล้วตามด้วยการโบกมือ


“แล้วไว้เจอกันใหม่นะ เดี๋ยวกูแวะไปหาที่คณะ” แถมด้วยประโยคบอกลาที่บอกให้รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเร็วๆนี้


เจียระไนอ้าปากจะด่า แต่ไอ้คนข้างกายดันยกมือโบกกลับ คราวนี้หนุ่มตาเรียวเลยตวัดสายตามาที่คนของตัวเองทันที


“มึงไปโบกมือให้มันทำไม?!” สิตางศุ์ไม่ทันได้ตอบอะไรก็ถูกคนถามดึงออกจากสนามไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งสายตาของหนุ่มต่างมหาวิทยาลัยให้มองตามแล้วถึงกับส่ายหัว ก่อนจะหันไปทางเพื่อนสนิทของสิตางศุ์แทน


“กูถามจริง แฟนคนนี้ของไอ้โซ่ ผ่าน QC พี่เวฟได้ไง” พฤกษายิ้มเจื่อนแล้วตอบแบบเจื่อนๆ


“มึงเคยได้ยินคำว่าของหลุด QC มั้ยล่ะ”

.............................

หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 03-08-2017 21:38:02


สิตางศุ์ลอบมองคนขับรถที่ตั้งแต่ออกมาจากสนามฟุตบอลก็ไม่หือไม่อืออะไรเลยสักนิด ดูก็รู้ว่าคนรักของตนเองหงุดหงิด และต่อให้บื้อสักแค่ไหน เขาก็พอจะรู้ว่าเจียระไนหงุดหงิดเรื่องอะไร


แต่...เขาเป็นผู้ชาย การมีเพื่อนผู้ชายเป็นเรื่องธรรมดา และการกอดเพื่อนผู้ชายสักคนก็เป็นเรื่องธรรมดามากๆ


“โจ๊ก...มึงเห็นกูเป็นผู้หญิงเหรอ” ร่างโปร่งตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน คนขี้โมโหสะดุดไปอึดใจหนึ่ง แต่ก็ยังคงตีสีหน้าหงุดหงิดเหมือนเดิม


“เปล่า!”


“งั้นเห็นไอ้นิกเป็นผู้หญิงเหรอ?”


...นิก? นิกไหน?...อ้อ! ไอ้เพื่อนแสนดีแต่โคตรเวรตะไลในสายตากูนั่นเอง!...


“ตัวใหญ่หัวล้านอย่างงั้นกูจะเห็นมันเป็นผู้หญิงได้ไง!”


“นิกไม่ได้หัวล้าน มันตัดสกินเฮด”


“เลิกพูดถึงไอ้เชี่ยนั่นสักทีได้มั้ย?!”


เวลาแบบนี้ เจียระไนได้ยินได้เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด แค่ได้ยินว่าคนข้างกายแก้ตัวแทนให้คนอื่น เขาก็หงุดหงิดจนแทบอยากจะบีบแตรยาวๆให้มันดังลั่นไปทั่วถนนกรุงเทพฯอยู่แล้ว


แต่...อะไรบางอย่างกลับแตะลงที่แขนของเขา ดวงตาเรียวตวัดลงมอง เห็นเป็นมือขาวๆของสิตางศุ์จับแขนเขาอยู่ อารมณ์โมโหที่กำลังพลุ่งพล่านก็เหมือนจะถูกตีกรอบไม่ให้ทะลักทลายมากกว่านี้


ภายในรถเงียบกริบ คนที่ยังโมโหไม่ยอมหันไปมองคนข้างกาย ส่วนคนที่ยังแตะมือก็ยังแตะอยู่อย่างนั้นแล้วค่อยๆตบเบาๆเป็นจังหวะราวกับกล่อมเด็ก ในที่สุด...ลมหายใจฟืดฟาดเพราะความหงุดหงิดก็กลายเป็นสม่ำเสมอเหมือนกับจังหวะที่มือขาวนั่นตบลงบนแขนของเจียระไน


พอรถเลี้ยวเข้าจอดในอาคารจอดรถของคอนโดหรู คนที่มุ่งมั่นขับรถโดยไม่พูดอะไรก็ถึงได้ยอมเหลือบตามามองคนที่นั่งอยู่ข้างกายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ออกจากสนามฟุตบอล


แล้วพอตาสบตา ร่างสูงก็ได้แต่ถอนหายใจเบา


...หมด...ไอ้ที่โกรธๆเมื่อกี้หายไปหมด...


“หาอะไรแดกที่ห้องกูแล้วกัน! หรือมึงอยากสั่งอะไรมากิน?” แต่ถึงจะหายโกรธ ก็ยังมีอารมณ์เคืองๆอยู่นิดหน่อย น้ำเสียงก็เลยยังห้วนเสมอต้นเสมอปลาย


ใบหน้าขาวส่ายไปมา


“ไม่อยากหรอก มึงล่ะ”


“มีอะไรในตู้เย็นก็กินอันนั้น”


“กูทอดไข่ดาวให้กินมั้ย” คนไม่กินของทอดเสนอเมนูเอาใจ ดวงตาเรียวเหลือบมามองอีกหน


“แล้วมึงจะแดกอะไร”


“เดี๋ยวกูต้มไข่เอา” เจียระไนพยักหน้ารับแกนๆ ก่อนจะหมุนตัวลงจากรถ สิตางศุ์ลงตามอย่างเงียบๆ หน้าตาซื่อๆใสๆนั่น มองทีไรก็พานให้ใจอ่อนทุกที


...แต่...จะให้มันรู้ไม่ได้ว่ากูใจอ่อนง่ายขนาดไหน! ใจแข็งไว้โจ๊ก ทำหน้าบูดเข้าไว้...


นอกจากนั่งรถเงียบๆมาด้วยกันแล้ว ตอนขึ้นลิฟต์ก็ยังขึ้นกันอย่างเงียบๆอีกด้วย สิตางศุ์ไม่พูดอะไร พอๆกับที่อีกคนก็ไม่ยอมหันมองอีก แล้วพอเข้ามาในคอนโดหรู เจียระไนก็แยกตัวไปนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ ได้ยินเสียงโคร้งเคร้งในครัวไม่กี่นาที หางตาก็เห็นร่างสูงโปร่งเดินมาหา


...แต่...กูจะไม่หันมอง ไม่มองสิโจ๊ก ไม่ทำตาเหล่...


“โจ๊ก...” เสียงเรียกดังแค่คำเดียว หน้าของหนุ่มปกครองก็หันอัตโนมัติตามประสาคนใจง่ายกับทุกเรื่องของสิตางศุ์ และพอหันไปแล้ว คราวนี้จากตาเรียวๆก็กลายเป็นเบิกโต


“กูยืมผ้ากันเปื้อนนะ เดี๋ยวทอดไข่แล้วมันกระเด็น”


ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลที่ถูกสวมทับเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ ดูยังไงก็ไม่เซ็กซี่ ดูยังไงก็ไม่โป๊ แต่...แต่พอมันอยู่บนร่างของคนที่กำลังส่งยิ้มสวยๆมาให้ กลับ…กลับทำให้หัวใจของผู้ชายที่ชื่อเจียระไนเต้นไม่เป็นจังหวะ


...ย...อย่างกับ...อย่างกับ ‘ไอติมนมราดช็อกโกแลต’…น่าแทะไปทั้งตัวเลย!!!...


“ของมึงเหรอ ไม่คิดว่าจะมีผ้ากันเปื้อนด้วย” แล้วยังตาใสๆที่มองมานั่นอีก นอกจากหัวใจจะเต้นระส่ำ ลมหายใจก็ชักจะไม่คงที่


“อ...เอ่อ...ม...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมี...” ปากตอบ แต่ตาค้างไปแล้วเรียบร้อย ตาเรียวกวาดมองตั้งแต่หัวลงมาถึงเท้าแล้วก็กวาดจากเท้าขึ้นไปถึงหัวใหม่


...โซ่แม่ง...ยิ่งแต่งตัวมิดชิดยิ่งน่าเอา!...


“รอแป๊บนึงนะ เดี๋ยวกูทอดไข่ให้” สิตางศุ์พูดแล้วยิ้มก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินกลับเข้าไปในครัว ทว่ายังไม่ทันจะเดินถึงห้องครัวร่างทั้งร่างก็ถูกรั้งเอาไว้ด้วยอ้อมแขนที่โอบรัดจากด้านหลัง


เจียระไนไม่รู้สติตัวเองด้วยซ้ำตอนที่เขาลุกพรวดแล้วคว้าร่างขาวจัดเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ในหัวมีแต่ความคิดว่าจะไม่มีวันยก ‘ไอติมนมราดช็อกโกแลต’ แท่งนี้ให้ใคร!


“โจ๊ก?...” เสียงของคนในอ้อมกอดดังขึ้น เนื้อตัวอุ่นๆของสิตางศุ์นั้นไม่เหมือนไอศกรีมเย็นๆเลยแม้แต่นิด แต่...แต่ความน่าแทะของอีกฝ่ายไม่ใช่มีเขาแค่คนเดียวที่เห็น วันนี้... ‘ไอ้นิก’ อะไรนั่นก็คงอยากแทะไม่ต่างกัน!


“ทำไมต้องมีแต่คนชอบมึงด้วย?” ยิ่งสิตางศุ์ดูดี ยิ่งสิตางศุ์ใจดี เจียระไนก็ยิ่งใจคอไม่ดี


คนผิวขาวจัดหมุนตัวหันกลับไปมองคนที่โอบร่างของเขาไว้ เวลานี้เจียระไนไม่ได้หงุดหงิดงุ่นง่านเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว หากพูดอะไรตอนนี้ คนตรงหน้าก็คงพอจะฟังกันบ้าง แต่...ถึงอย่างนั้นก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป


มือขาวค่อยๆยกมือขึ้นจับแก้มของร่างสูงเบาๆ ในขณะที่ดวงตาใสแจ๋วทอดมองด้วยแววอ่อนโยนและจริงใจ


“นิกเป็นเพื่อนกู...เป็นเพื่อนที่ดี แต่ก็เป็นอย่างอื่นไม่ได้” คำว่าเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ทำเอาหัวใจของเจียระไนสั่นไหวอย่างประหลาด ยิ่งสบตากับดวงตาคู่สวยที่ทอดมองมานั่น ก็ยิ่ง...ไหวจนเหมือนจะหลุดออกมาจากอก


“แล้วกูล่ะ...” เพราะใจสั่นเหลือเกิน สั่นจน...จนต้องขอความมั่นใจ


ใบหน้าขาวส่งยิ้มให้ เป็นรอยยิ้มจางที่อบอุ่น นิ้วโป้งลูบผิวแก้มของคนรักเบาๆ


“มึงเป็นแฟนที่ดี...” เจียระไนเสือยิ้มยากที่มักจะกลั้นยิ้มกับสิตางศุ์เสมอ มาตอนนี้ต่อให้จะเคยยิ้มยากแค่ไหน ต่อให้จะกลั้นยิ้มเก่งแค่ไหน ก็ห้ามหัวใจและปากไม่อยู่อีกแล้ว


“...แต่ขี้หึงไปหน่อย” สิตางศุ์เบรก แต่เป็นการเบรกแบบหยอกๆเพราะดวงตาคู่สวยนั้นส่อแววซุกซนจนเจียระไนต้องหุบยิ้มทันควัน


“กูหึงก็เพราะกูรักมั้ย” ร่างสูงย้อนถามหน้าตาย


 “อย่าหึงเลย...” เป็นการขอร้องที่น่ารักโดนใจเจียระไนยิ่งกว่าอะไร ยิ่งมือขาวๆนั่นลูบแก้มเขาเบาๆ ก็ไม่ต้องถามถึงอารมณ์โกรธแล้ว ถามถึงอารมณ์อย่างอื่นดีกว่า!


“...กับคนอื่นน่ะ เป็นแค่เพื่อนจริงๆ” น้ำเสียงของสิตางศุ์เหมือนน้ำเย็น มันสดชื่น มันสบาย มันซึมซาบจนเย็นใจ


“...กูมีแค่มึงนะ” ท้ายประโยคนั้น ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มปกครองถูกมือขาวที่ยังประคองแก้มอยู่จับโน้มลงมาช้าๆ ก่อนที่สิตางศุ์จะเป็นฝ่ายแตะริมฝีปากกับริมฝีปากของเจียระไน


...จูบ...


จูบนี้...สำหรับการง้องอน


จูบนี้...สำหรับการขอให้เชื่อใจ


จูบนี้...สำหรับการบอกให้มั่นใจ


สิตางศุ์มีแฟนแค่คนเดียว เป็นแฟนที่ดีแต่ขี้หึงไปหน่อย...ชื่อเจียระไน


“อื้อ...โจ๊ก...ไม่หิวเหรอ...” ริมฝีปากผละออกจากกันอย่างเชื่องช้า ก่อนที่คำถามจะดังขึ้นเบาๆเมื่อร่างโปร่งรู้สึกว่ามือร้อนๆของอีกฝ่ายเริ่มไม่อยู่สุข มันลูบไล้แผ่นหลังของเขาผ่านทางเสื้อยืด เป็นการไล้หนักที่บอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี


“หิว...”


“หิวก็ปล่อยก่อน จะไปทอดไข่ให้...” ดวงตาคู่สวยนั้นฉ่ำปรือ ยิ่งเห็นแบบนี้ เจียระไนยิ่งไม่ปล่อย เขายกยิ้มจางที่มุมปาก สอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดรั้งร่างขาวเข้ามาแนบชิดมากขึ้น ก่อนจะกระซิบเบาๆบนริมฝีปากแดงก่ำของสิตางศุ์


“กูอยากกินของสด มากกว่าของทอด”


แล้วหลังจากนั้น...สิตางศุ์ก็ไม่ได้กลับเข้าไปในห้องครัวอีกเลย
........................

สังคมออนไลน์ของหนุ่มๆสาวๆชาวรัฐศาสตร์ในวันนี้ไม่มีเรื่องไหนจะถูกพูดถึงมากไปกว่างานสองสิงห์อีกแล้ว นอกจากจะเรื่องน่ายินดีที่ผลฟุตบอลออกมาเสมอกัน 1-1 ยังมีประเด็น ‘ของดีไออาร์’ ที่เหมือนจะสร้างความร้าวฉานนิดๆให้พูดถึงกันหน่อยๆ


‘ติซซี่ห่วงใยพี่ซอโซ่เหลือเกินค่ะ ใครรู้ข่าวคราวพี่ซอโซ่บอกน้องนิดนะคะ’


สเตตัสคนอยู่ในเหตุการณ์ ‘ลมเพชรหึง’ ของหนุ่มปกครองจั่วหัวไปแบบนั้น ก็มีอีกหลายร้อยคอมเม้นท์เข้ามาแสดงความห่วงใยเช่นเดียวกัน แต่...ยังไม่มีข่าวคราวใดๆจากคนที่ลากสิตางศุ์ออกไปจากสนามฟุตบอลเมื่อตอนสายของวัน


จนกระทั่งหัวค่ำ...ผู้ใช้ที่ชื่อ ‘Jiaranai’ ก็ปรากฏตัวพร้อมด้วยการโพสต์รูปภาพผ้ากันเปื้อนวางแผ่หราอยู่บนพื้น แถมแท็กสถานที่ที่ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับผ้ากันเปื้อนแต่อย่างใด


‘addfdsgdgsdfgdlk’ แน่นอนว่าคอมเม้นท์แรกสุดคือคนที่ไวสุด และติซซี่ผู้ไวที่สุดก็ลืมเปลี่ยนภาษาด้วย


‘ก่อนกรี๊ด รบกวนเปลี่ยนภาษาด้วยค่ะ ติซซี่’


‘เปลี่ยนไม่ทันแร้วววววว ผ้ากันเปื้อนกับการแท็กห้องนอนนั่นมันอะไรคระ!’


‘สงสัยงานนี้โปเยโปโลเยกันในห้องนอนพร้อมไอเทมเสริมเป็นผ้ากันเปื้อนว่ะ’


‘เชี่ยโจ๊ก เอาทองมากองแทบเท้าไอ้เวฟเพื่อนรักของกูรึยัง มึงเอาน้องมันไปอยู่กินขนาดนี้’


‘ทองกองเดียวไม่พอโว้ย’


‘เดี๋ยวกูสมทบทุนก็ได้ เปิดรับบริจาคมะ’


‘บริจาคพ่อง’


แล้วหลังจากนั้น ในหน้าโพสต์ของเจียระไนก็กลายเป็นสงครามระหว่างพี่รหัสของเขาและสิตางศุ์ ส่วนเจ้าของโพสต์น่ะหรือ...นอนหัวเราะหึๆอยู่บนเตียง มือหนึ่ง...ม้วนผมสีน้ำตาลของคนที่นอนหลับซุกอยู่กับอก ส่วนอีกมือ...กดพิมพ์ข้อความพร้อมส่งคำขอเป็นเพื่อนให้กับผู้ใช้รายหนึ่งที่ชื่อ ‘นิก’ ซึ่งเขาได้มาจากเพื่อนของสิตางศุ์


‘สวัสดี ไอ้นิก...กูโจ๊กแฟนโซ่ รับแอดกูซะ ถ้ามึงอยากเห็นอะไรดีๆ’


เจียระไนยกยิ้มที่มุมปาก


...เสือกมาทำให้กูหึง เดี๋ยวกูจะทำให้มึงอิจฉาแบบเรียลไทม์ ไอ้นิก!...

FIN

ตอนแรกจะให้ใส่เสื้อบอลสีดำ แต่เดี๋ยวมันจะตรงเกินไป ก็เลยเอาสีที่คอนทราสก็แล้วกันนะ ส่วนอีกฝั่งก็เหลืองไปค่ะ ขาวเหลือง แถมสนามหญ้าสีเขียว บันเทิงงงง ฮ่าฮ่า

ตอนนี้น่ะ เขียนไปหมั่นไส้โจ๊กไป หมั่นมากกกกก (แต่น้อยกว่าหมั่น ถฟ. หน่อยนึง) เป็นผู้ชายที่จริตเยอะไปไหน ติซซี่ต้องยอมแพ้ค่ะงานนี้ ฮ่าฮ่า ส่วนโซ่ก็...ใสๆ เรื่อยๆ กินเรียบตอนท้ายเพราะมีโจ๊กเป็นแฟนคนเดียว โอยยยยย

ตอนพิเศษของเรื่องนี้(ที่มีในสต็อก)หมดแล้ว ไว้มีอีกจะมาลงอีก ส่วนเรื่องใหม่ คิดว่าจะมาเดือน 9 ค่ะ (แต่เดี๋ยวมาแจ้งอีกทีนะ)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตามทั้งตั้งแต่ตอนแรก หรือเพิ่งจะมาตามตอนจบ ขอบคุณทุกๆกำลังใจค่ะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วย

เจอกันใหม่ กับเรื่องใหม่ที่ยังคงวนเวียนอยู่กับคณะเล็กๆที่มีสนามบอลเป็นของตัวเองและมีชมรมบอลเป็นของตัวเอง #ฉันรักรัฐศาสตร์
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 03-08-2017 22:07:12
นางเป็นพระเอกที่ดกรี้ยวกราดเสมอต้นเสมอปลายมั่มั่ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 03-08-2017 22:11:38
ฮ่าๆๆๆโอ้ยยยย ยิ่งอ่านก็ยิ่งจะเป็นไบโพล่าร์เหมือนอิพี่โจ๊กมัน บ้าบอ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 03-08-2017 22:25:20
ขอบคุณมากค่ะ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่เราชอบมาก
เราจะรอรูปเล่มนะคะ :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-08-2017 22:34:35
โจ๊ก มีความหึงหวงไร้เทียมทานในตำนาน
โซ่ มีความใส อ่อนโยน ใจดี ซื่อๆมากที่สุดในตำนาน

โจ๊ก งอนไปสิ หึงไปสิ โกรธไปสิ ปั้นหน้าไปสิ
พอโซ่แตะแขน ก็หายและ
โซ่ มีพลังทำลายล้างโจ๊กซะละลายเละเป็นโจ๊กเลย
โจ๊ก  โซ่    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณไรท์มั่กมาก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-08-2017 22:35:29
โจ๊กก็ขี้หึงเวอร์ แต่พอโซ่ง้อนิดง้อหน่อยก็ใจอ่อนแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 03-08-2017 22:39:54
โอ๊ยยยย อยากมีเพื่อนแบบโซ่
แม้นางจะซื่อตาใสมากไปหน่อย แต่ก็ใจเย็นมากกกกก มากแบบมากกกกก เป็นเพื่อนต้องอยู่สบายแน่...มั้ง?? ^^"

เป็นน้ำเย็นดับไฟหึงโจ๊กได้เยี่ยมยอด
แค่แตะตัวเท่านั้น ก็ล้อมกรอบไฟไว้เรียบร้อย

เอ...เจ้าเล่ห์แบบโจ๊ก จะหาเรื่องหึงทุกบ่อยล่ะมั้งแบบนี้ กำไรล้วนๆ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-08-2017 22:41:05
โธ่ สงสารโจ๊กอ่ะ เป็นของหลุด QC ไปซะแล้ว แล้วนี่เป็นเด็กอ่อชอบงอนให้ง้อแล้วตบตูดให้ใจเย็น :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 03-08-2017 22:55:31
นอกจากไบโพล่าแล้ว มันยังหึงหน้ามืดตามัวแค้นฝังหุ่นอีก 5555 ของดีไออาร์กว่าจะได้มาต้องรักษายิ่งชีพ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cacao ที่ 03-08-2017 22:57:04
ชอบพระเอกแบบโจ๊ก คือพระเอกที่ไม่มีความเป็นพระเอกอย่างสิ้นเชิง
เรียกนิกว่าหัวล้าน ตลกมากอ่ะ แล้วมีความหลุด QC โอ้ย 5555
แล้วงอนเค้าเหมือนยังไม่ได้ๆกัน ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน มีความหึงแรงไปอีก
แต่พอซอโซ่ง้อก็หายงอนง่ายไปอีก ความไบโพล่าร์นี้คือนังโจ๊กปกครอง
น่ารักมากกกเลยยยย ไม่อยากให้จบเลย อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ
รอหนังสือมาครอบครอง ตอนนี้ก็อ่านวนไป ชอบเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 03-08-2017 23:02:20
จะหึงอะไรขนาดน้านนนนน แต่เจอวิธีง้อของโซ่เข้าไป ปะทุเป็นภูเขาไฟยังต้องดับอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-08-2017 23:03:32
ถึงโจ๊กจะแสบแต่ไม่กล้ากับคนตัวขาวหรอก(เกียมัว)5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-08-2017 23:03:46
อดกินทุกเมนู พี่โจ๊กฟาดเรียบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: 1andonly ที่ 03-08-2017 23:07:59
A memorable story. Thank you very much.
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 03-08-2017 23:20:05
อีพี่โจ๊กแม่งชั่วร้ายยยย :haun4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 04-08-2017 00:14:22
โซ่น่ารักกก
เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก 55555
โจ๊กนอกจากจะขี้หึงยังขี้หื่นอีกด้วยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 04-08-2017 00:31:40
ต้องจัดการ
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 04-08-2017 00:47:35
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 04-08-2017 02:36:44
 :heaven โจ๊กเป็นคนที่มี3 states เมื่ออยู่กับโซ่  1:solid 2:liquid  3:gas
ชอบมากึ่ะ...รักเรื่องนี้มากกกก.....  :katai3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-08-2017 03:24:55
น้อยๆหน่อยเถอะจ้ะพ่อคุณ อิฉันอิจฉารู้ไหมว่าพ่อมีแฟนดี
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 04-08-2017 04:21:13
5555555 พี่โจ๊กไบโพลาร์น่าหมั่นไส้สัสๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-08-2017 05:31:57
โจ๊กคนบร้าาาา นอกจากจะไบโพล่าแล้ว ยังเป็นจองหลุด qc อีก แถม เจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดดด วงวารโซ่ 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-08-2017 09:09:26
ไบโพลาร์+หึงเลยโจ๊ก ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 04-08-2017 10:58:31
โจ๊กนี่แบบ เละปากมองบน ทำตัวน่าหมั่นไส้ จิมๆ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 04-08-2017 11:36:32
โซ่น่ารักอ่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 04-08-2017 11:51:06
คิดถึงง คิดถึงงง อิโจ๊ก กับ น้องโซ่มาก
แง้งงง เมื่อวานก็กำลังนั่งคิดเลยว่าปกติทุกวันพฤหัวจะต้องมานั่งรอแล้ว :mew1:
แต่ก็ยังมาให้ ขอบคุณมากนะคะ  :mew2: :L1: :heaven
โจ๊กขี้หื่นมาก ไอ้บ้าเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย เขินค่าาาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 04-08-2017 12:46:01
มันก็จะเป็นเชินๆไม่น้อยยยยยยยยยโซ่ความใสของหนูนำพาหายนะและความฟินมากค่ะลูก 5555555555 พระเจ้าโจ๊กนี่นางไม่มีคราบพระเอกเลยจริงๆมีแต่วายร้ายหวงแฟน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Al2iskiren ที่ 04-08-2017 13:54:45
โจ๊กผู้หลุดqc
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: wichiwiwie ที่ 04-08-2017 15:34:25
หมั่นไส้ความหึง ความอวดแฟนของโจ๊กมากกกกก ><

ต้องบอกก่อนว่าเราตามมาจากรีวิวว่านิยายเรื่องนี้ดี ก็เลยลองอ่านดู รวดเดียว.. มันดีจริงๆ ด้วยง่ะ ชอบมาก เลิฟมากกกด รอติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 04-08-2017 18:13:26
ไบโพล่าโจ๊ก หึหึ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 04-08-2017 21:09:15
 o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-08-2017 21:33:42
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 05-08-2017 00:40:27
อิโจ๊กนี่ไบโพล่าร์ขั้นหนักจริงๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 05-08-2017 01:30:30
ไอ้พี่โจ๊กมันร้าย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 05-08-2017 05:56:37
้แล้วโจ๊กก็พ่ายแพ้ต่อโซ่เหมือนเดิม  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 05-08-2017 07:45:34
โจ๊กมันร้ายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 05-08-2017 07:58:35
อิโจ๊กหลงเมียมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ขี้หึงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 05-08-2017 09:46:57
ลำไยยยยย เหม็อนความรักความหึงนี้
55555555555555555555555 :katai3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 05-08-2017 10:03:12
อ่านรวดเดียวจบค่ะขออนุญาตนะคะเป็นอะไรที่เหนือความคาดหวังมากๆโดนใจตั้งแต่ชื่อเรื่องแต่ก็แอบหวั่นๆว่าจะดราม่าแต่ที่ไหนได้หัวเราะหนักมากจนน้ำตาไหลชอบคาแรกเตอร์ของพระเอกแบบโจ๊กมากแล้วก็ชอบที่เขียนถึงมุมมองของทั้งสองฝ่ายทั้งของโซ่แล้วก็ของโจ๊กชอบบรรยากาศโดยรวมของเรื่องมากๆค่ะจะรออ่านเรื่องใหม่นะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้อ่านแล้วสบายใจยิ้มได้ทั้งวันชอบคนเขียนค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 05-08-2017 14:59:24
เรื่องนี้น่ารักมากกกกกกกด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 05-08-2017 16:23:01
เจียระไนมันร้าย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 05-08-2017 16:57:47
โจ๊กแม่งเป็นมารร้ายของทุกคน ยกเว้นโซ่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 05-08-2017 17:55:55
 :haun4: โอ้ยยยยยยยย ลำไยคนขี้หวง
ชอบค่ะ จบสวย จบด้วยการเริ่มต้น ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 05-08-2017 20:14:38
โอยยย น้องโซ่ในผ้ากันเปื้อนต้องน่ารักมากแน่ๆเลยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-08-2017 20:56:52
มัวแต่หึงบ้าบอ ไม่รู้หรือไงว่าคนอื่นอิจฉาตัวเองแค่ไหนที่ได้น้องซ.โซ่มากกอยู่คนเดียว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 06-08-2017 12:26:42
โจ๊กขี้หึงแต่แพ้ทางโซ่ตลอดดด 555555555555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 06-08-2017 13:32:40
โจ๊กแม่งเหมือนคนบ้า 55555+
แกจะตามหึงทุกคนไม่ได้นะเว่ย ไม่งั้นแกจะได้เป็นไบโพลาร์จริง ๆ เข้าซักวัน

คิดถึงคณะโจ๊กกับโซ่เหมือนกันนะ ตอนเรียนวันไหนว่างมาก ๆๆๆๆๆ จะไปกินบะหมี่อดทน เดินไปใกล้ ๆ นี่แหละ ข้าง ๆ กัน :)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 06-08-2017 14:11:42
ขอบคุณมากค่า สนุกๆมากๆเลยค่า อิโจ๊กไบโพล่า กับโซ่คนซื่อ สรุปคือดีงามค่า รอออกหนังสืออย่างเดียว จะเตรียมเงินซื้อค่า หวังตอนพิเศษมากคิดว่ามีไปเยี่ยมบ้านกัน จะติดตามเรื่องต่อๆไปค่า
ป.ล.ยอมใจอิโจ๊กมันรอมา2ปี ความอดทนสุดยอดค่า ยกให้เป็นพระเอกที่น่าสงสารแห่งปี 555  :hao7: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 06-08-2017 16:32:40
คนขี้หึง2017
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Imagine_chic ที่ 06-08-2017 18:59:10
โจ๊กเป็นพระเอกที่เกรี้ยวกราดทุกตอน อ่านจบก็จะเป็นไบโพล่าตามนางละ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 06-08-2017 19:28:09
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 06-08-2017 20:30:22
ชอบโจ๊กอ่ะเป็นคนที่เกรี้ยวกราดได้น่าเอ็นดูมาก 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 06-08-2017 21:35:38
งือออออออสนุกมากกก
รักโซ่ รักโจ๊กและตัวละครทุกตัว
ถ้ารวมเล่มจะซื้อเก็บแน่นอน
เพราะถ้วยฟูก็หยิบมาอ่านบ่อยๆ เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 07-08-2017 07:04:02
ชอบมาค่าาาาา ขอบคุณนะคะ :L2: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 07-08-2017 12:32:57
เรื่องน่ารักมากค่ะ อ่านไปยิ้มไป^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 07-08-2017 21:55:28
โจ๊กเป็นพระเอกที่น่าสงสารกว่าทุกเรื่องเลย
ต้องเป็นไบโพลาร์ตลอดทั้งเรื่อง 5555
ตอนแรกนึกว่าจะไม่สนุกเหมือนเรื่องอื่นๆแล้ว
แต่อ่านไปอ่านมา ติดใจซะงั้น
ชอบความซื่อของ"โซ่ ไออาร์"กับ
ความไบโพลาร์ของ"โจ๊ก ปกครอง" 555
อยากอ่านตอนพิเศษที่แนะนำให้ทั้ง2ครอบครัวรู้จักกันจัง
จะมีลงให้อ่านไหมน้อ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 07-08-2017 23:27:57
หึงอะไรเบอร์นั้นนังโจ๊กกก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 08-08-2017 07:48:04
อิจอิโจ๊ะค่ะพูดเลยยย ตอนแรกจะรู้สึกเห็นใจหน่อยๆ พอเป็นแฟนกัน ฮึ้ยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 09-08-2017 02:07:26
ชอบความเกรี้ยวกราดไบโพลาของโจ๊กจริงๆนั่นแหละ
เป็นพระเอกที่ไม่มีใครกล้าเหมือน5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 09-08-2017 08:14:59
โจ๊กปกครอง...เจ้าเล่ห์ฝุดๆ แถมขี้หึงอีก
โซ่ของดี IR ไม่รอด  :o12:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: pummy09 ที่ 09-08-2017 15:32:08
สนุกมากเลยค่ะ เฮ้อออ สมัยนี้จะมีคนซื้อๆๆ(เรื่องความรัก)แบบโซ่อยู่อีกเหรอคะ 555+

ขอบคุณมากนะคะ พอเห็นว่าเป็นนิยายของคุณบัว รีบอ่านปั๊บเลย สนุกทุกเรื่อง555+

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 10-08-2017 07:28:34
สนุกมากเลยครับ น่ารักกันทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 10-08-2017 23:34:19
อยากอ่านต่ออะ ชอบตัวละครมากกกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 11-08-2017 09:43:57
เห็นชื่อเรื่องคิดว่าจะดราม่าที่ไหนได้อ่านไปหัวเราะไป

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: SweetyPhawin ที่ 11-08-2017 13:05:29
 :pighaun: :pighaun:ทำเล่มมั๊ยคะคนดี รอเปย์แล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 12-08-2017 02:20:24
เอาจริงๆนะ ช่วงแรกเห็นใจโจ๊กมาก อารมณ์ขึ้นๆลงๆ จนกลัวจะเป็นไบไพล่า
แต่มาตอนนี้หมั่นไส้ แล้วอยากให้โซ่เททิ้งให้รู้แล้วรู้รอด 55555

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 12-08-2017 05:53:24
อยากมีแฟนขี้หึงบ้างงงงง  :hao3:

ขอบคุณครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 13-08-2017 01:36:08
อิโจ๊กยังไบโพล่าไม่เปลี่ยน

ซอโซ่น่ารักจังเลย

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 13-08-2017 09:42:08
อ่านจบแล้ววว
ขอบคุณนะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 13-08-2017 14:17:10
โหยยยยยย เรื่องนี้้อ่านแล้วสามารถนึกภาพตามได้เป็นฉากๆ (คิดถึงสมัยเรียน)
ชอบตัวละครโจ๊กมาก ทั้งเท่ ทั้งดุดันจริงจัง และก็สุดโต่งดี 55555

ปล.ตามอ่านทุกเรื่องนะคะ อาจไม่ได้คอมเม้นบ่อยๆ แต่ก็ติดตามผลงานตลอด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 13-08-2017 21:08:58
หมั่นไส้โจ๊กมากกกกกกก ฮึ่ยยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-08-2017 23:53:15
กวนตีนตรงไปขอเขาเป็นเพื่อนนี่ล่ะ โจ๊กนี่สุด แต่ก็น่ารักนะ ได้ของพรีเมี่ยมมาก็งี้ต้องตามหวง 24 บม.
ขำคำว่าของหลุดคิวซี กร้ากกกก พระเอกชั้น ผัวแห่งชาติน้า เวลาโซ่ง้อคือโคตรน่ารัก โดนกินเลยจ้า

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 14-08-2017 22:41:11
ขำโจ้ก ซ โซ่น่ารักกกก :mew4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-08-2017 11:28:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 15-08-2017 18:51:55
สนุกมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจังไม่กินหัวหอม ที่ 16-08-2017 00:49:51
น้องโซ่น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 16-08-2017 13:29:25
เหมาะสมกันดี อีกคนเป็นฟืนเป็นไฟ อีกคนเย็นอย่างกะน้ำ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 16-08-2017 20:23:45
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Readingissexy ที่ 17-08-2017 15:07:47
ขำความไบโพลาร์ของโจ้ก555555
น้องโซ่ก็น่ารักเกินน :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: tkaekaa ที่ 18-08-2017 20:00:55
 o18 อิโจ๊กมันร้าย จริตใส่น้องโซ่ ชิชะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 18-08-2017 20:34:07
55555+ อีโจ๊กมิงไบโพลาร์มาก หึงน่ามืดตามัว
โซ่น่ารักตลอด มีตอนพิเศษให้อ่านอีกมั้ยคะ
ชอบมากกกกกก อ่านเรื่องนี้แล้วดีต่อใจ
น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 19-08-2017 02:13:15
นี่ก็จะไบโพล่าตามโจ๊กแล้ว
แค่โซ่มองนิดหน่อยจะย้วยแล้ว
จริงๆพระเอกเรื่่องนี้ก็น่าสงสารนะคะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: yeelove ที่ 19-08-2017 11:11:17
 :ling1:สนุก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-08-2017 14:37:36
55555 ยิ่งกว่าไบโพล่า ยิ่งกว่าพายุใด ๆ ลมพัดเพเหลือเกินพ่อคนเป็นเจ้าของ
โจ๊กเอ้ยยย ยอมแพ้ราบคาบตั้งแต่เห็นหน้า แล้วยังมาทำเหิมเกริมเคือง เพื่อให้ง้อ คิดการใหญ่จริงๆ

โซ่น่ารัก ถึงจะซื่อแต่ไม่บื้อ เพราะรักโจ๊กคนเดียวนะ
โซ่เลยไม่ต้องเปื้อนน้ำมันเลย อดกินไข่ดาว 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: MaYplE ที่ 21-08-2017 01:04:37
นี่ว่าที่โจ๊กไม่พูดเพราะกลัว เพราะคิดไปว่าโซ่จะหันกลับไปสนใจนิตางี้

ส่วนโซ่ รู้สึกตัวสักทีสินะ นี่แหล่ะ รัก  :o8:

นี่สิ เป็นกรณีศึกษาดูใจกันที่แท้ โจ๊กก็ได้เรียนรู้ที่จะมั่นใจในความสัมพันธ์

แล้วโซ่ ก็จะได้เรียนรู้ถึงความรู้สึกจริง ๆ ของตัวเอง ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 21-08-2017 20:40:25
งื้อๆๆๆ สนุกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Napa ที่ 22-08-2017 22:16:37
สนุกค่ะ  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 25-08-2017 01:40:38
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: toonsora ที่ 25-08-2017 09:59:26
ทำไมมาไม่ทันออนแอร์เรื่องนี้ มาอีกทีจบแล้วว ฮืออ :serius2: :serius2:

แต่ตามงานพี่บัวทุกเรื่องนะคะ ตามตั้งแต่เป็นฟิคเลย (บอกอายุมากกก) :hao3: :hao3: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 26-08-2017 03:32:56
ไม่รู้ว่าในหัวคนเขียนอิมเมจโซ่เป็นใคร
แต่ของเรานี่หน้าพี่เฟื่องลอยมาแบบชัดมาก เด็กรัฐศาสตร์ เกียรตินิยมเหรียญทอง ขาววิ้ง สเป็กสาธารณะ
แบบโซ่นี่ต้องพี่เฟื่องเลย จะบอกว่าหล่อก็ได้ น่ารักก็ได้ สวยก็ได้ ฮรือออออออ คิดถึงนางเลยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Septemberry ที่ 27-08-2017 01:38:13
โอ้ยยยยยย ยังไม่จบได้มั้ยยยยอะค๊าาา กำลังเพลิดเพลินเลยค่าาา คือชอบความเนียนของอิโจ๊กกก นอกจากมันจะชอบทำเป็นเนียนกับโซ่แล้ว มันยังมีความขี้อวดดแฟนนนนไปอีกกก แอร๊ยยยยย อยากอ่านนนนอีกกกกกจุงงงงเนยยยยย ><
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 27-08-2017 06:04:19
อยากอ่านตอนโซ่ทำงาน อิโจ๊กจะคลั่งขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: philosopher ที่ 27-08-2017 19:54:13
อย่าว่าแต่ติ๊ดซี่เลย
เราก็ฟิน จิกหมอนขาดละจ้า
555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 27-08-2017 21:47:16
ชอบเรื่องนี้มากเหลือเกิน
 :3123:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-08-2017 01:53:00
หมั่นไส้โจ๊ก แต่ก็น่ารักดี อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 02-09-2017 09:54:21
น่ารักจังเล้ยยยยยย งานน้องบัวไม่ผิดหวังเลยจริ
ง ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-09-2017 12:22:59
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 15-09-2017 23:05:03
น่ารักมากๆๆๆๆๆ รอเรื่องต่อไป ตามอ่านทุกเรื่อง ชอบมากจ้า   :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: whyrockstarx3 ที่ 18-09-2017 00:58:15
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: PingPong_Hunlay ที่ 18-09-2017 22:45:34
ไม่เข้าใจว่าทำไมพึ่งมาอ่าน มันโคตรดีเลยอะ ชอบมากกกกกกกกก
รักซอโซ่มาก เอาใจไป กรี๊ดดดดด :ling1: :ling1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 19-09-2017 00:31:43
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 20-09-2017 22:08:52
น่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาาา   โซ่น่ารักมากเลย  ขำความกวน ความไบโพลาร์ ความขี้หึง ของโจ๊กมากอ่ะ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 22-09-2017 12:15:21
 :o8: :-[ :impress2:
โง้ยยย น่ารักกกก เค้าเหมาะสมกันจริงๆค่ะคุณคะ
โจ๊กนี้ชัดเจนโซ่ก็ซื่อๆแต่ก็ชัดเจน
เหม็นความรัก
แต่ขำในความเป็นไบโพลาร์ของโจ๊ก :laugh:
เวลากลั้นยิ้มแล้วโคตรสงสารฮีนะคะ :m20:
คีบลุคเหลือเกิน
น่ารักมากๆค่ะเรื่องนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: korner ที่ 23-09-2017 11:37:03
เห็นชื่อเรื่องน่าสนใจเลยเข้ามาอ่าน คิดว่าต้องมาแนวหน่วงๆแน่ๆ สรุปมาดูความผีบ้าของโจ๊กและความคุณชายแสนดีของโซ่ ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: CChompu ที่ 24-09-2017 23:35:05
เป็นเรื่องน่ารักๆที่ชอบในช่วงนี้เลยค่ะ
คนไบโพลาร์มาจีบคนซื่อบื้อเบอร์สุด ความรักมันก็เลยค่อยเป็นค่อยไป
แต่เอาตรงๆคือหมั่นไส้นายเจียระไนมาก อะไรจะหึงเบอร์นั้น
แฟนเธอเป็นของดีของสาธารณะนะ!!!! กรุณาแบ่งให้ทุกคนชื่นชม  :angry2:

โซ่น่ารักดีค่ะ เป็นตัวละครที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกตัวเองดี
ถึงแม้จะใช้เวลานานกว่าชาวบ้านมนการรู้ใจตัวเองก็ตาม ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 11-10-2017 13:24:13
ชอบเรื่องนี้มาก รอตอนพิเศษตอนต่อไปเรื่อยๆนะคะ โซ่น่ารัก
ว่าแต่มีเรื่องของพี่รหัสให้อ่านบ้างป่าวคะ ตฤณกับระฟ้า อยากอ่านเรื่อง 2 คนนื่ไม่ทราบว่ามีหรือไม่คะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 12-10-2017 23:19:06
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ไงเนี้ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: spiral_sai ที่ 13-10-2017 14:05:10
สนุกมากกกก ชอบโจ๊กอ่า ชอบความไบโพล่าร์ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 14-10-2017 14:14:28
สนุกมาก ๆ ครับ โซ่น่ารักมาก ส่วนโจ๊กเป็นไบโพล่าร์



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-10-2017 23:37:32
หมั่นไส้ความเกรียวกราดอิโจ๊กมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: lazann ที่ 15-10-2017 22:50:00
มันก็จะละมุนตอนจบหน่อยๆนะ อ่านแล้วคิดถึงคู่รักจืดชืด มันกร้าวใจแบบมึนๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 22-10-2017 22:47:27
เดี๋ยวนะอ่าน ๆ ไปทำไมเริ่มรู้สึกว่าโซ่คล้ายคนขาดสารอาหารที่บำรุงสมองมาตั้งแต่เด็ก ๆ เนี่ยะ...คือจะเอ๋อ ๆ มึน ๆ บื้อ ๆ สงสารโจ๊กอ่ะบอกเลย.... :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 25-10-2017 05:03:40
อ่านยาวๆจนตอนนี้ตี5ก็ยังไม่นอน5555
ชอบพระเอกแบบโจ๊กมากเลย โคตรน่ารัก นี่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มจนแก้มโย้ถาวรละมั้งน่ะต้องกลั้นยิ้มเกือบทั้งเรื่องเชียว
จริงๆแอบตะลึงกับการตั้งชื่อ3พี่น้องลูกหลานร้านทองอยูาหน่อยๆ ชื่อจริงเพราะพริ้งไหงชื่อเล่นเป็นของกินซะงั้น  :m20:
ผู้ชายสเป็คสาธารณะแบบโซ่นี่ตอนอ่านสรรพคุณครั้งแรกที่ก็คิดเหมือนกันว่าหลุดโลกแบบผู้ชายในฝันที่ไม่น่ามีอยู่จริงขั้นสุด มโนภาพในหัวนี่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลยว่าโซ่จะหน้าตาเป็นไง ถถถ

ขอบคุณนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 25-10-2017 05:06:17
อ่านยาวๆจนตอนนี้ตี5ก็ยังไม่นอน5555
ชอบพระเอกแบบโจ๊กมากเลย โคตรน่ารัก นี่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มจนแก้มโย้ถาวรละมั้งน่ะต้องกลั้นยิ้มเกือบทั้งเรื่องเชียว
จริงๆแอบตะลึงกับการตั้งชื่อ3พี่น้องลูกหลานร้านทองอยูาหน่อยๆ ชื่อจริงเพราะพริ้งไหงชื่อเล่นเป็นของกินซะงั้น  :m20:
ผู้ชายสเป็คสาธารณะแบบโซ่นี่ตอนอ่านสรรพคุณครั้งแรกที่ก็คิดเหมือนกันว่าหลุดโลกแบบผู้ชายในฝันที่ไม่น่ามีอยู่จริงขั้นสุด มโนภาพในหัวนี่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดเลยว่าโซ่จะหน้าตาเป็นไง ถถถ

ขอบคุณนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 25-10-2017 11:20:33
คิดถึงแฮะ จะมีรวมเล่มมั้ยน้ออออ
ป้าอยากเก็บโจ๊กและโซ่แบบจับต้องได้จัง ^^
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: noeyzaka ที่ 10-11-2017 21:54:14
เอ็นดูโซ่ววววว แล้วคือโจ๊กไปคบนิตาทำไมตั้งนาน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 10-11-2017 22:59:45
ยัง ยังอีก ยังไม่สงสารโจ๊กกันอีก โมโหจนไมเกรนจะขึ้นอยู่แล้ว55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 10-11-2017 23:28:11
ยังคงสงสารโจ๊กต่อไป แต่เริ่มได้เรื่องละ ชอบโซ่น่าร้ากกกกยัยหนูไม่รู้อะไรเลยลูก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Somporn ที่ 10-11-2017 23:29:06
ยังคงติดตามขอรับ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 04:12:26
 เอ็นดูโซ่ น่ารักจังเลยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 04:36:23
น้ำตาจะไหลแทนโจ๊ก เป็นสารถี เป็นเพื่อนสนิท เป็นทุกอย่างให้โซ่แล้ว โซ่หนูต้องคิดอะไรบ้างนะลูก5555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 04:56:37
ขนาดแค่อ่านยังเอ็นดูจนอยากหอมหัว โจ๊กดูแลตลอดขนาดนี้เก็บความรู้สึกได้จะอดทนขนาดไหนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 05:18:25
ขำในคำสบถของโจ๊ก ยิ่งตอนได้กุญแจนี่ขำลั่น555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 05:38:26
เวลาคนแข็งๆเอาใจใส่คนที่รักนี่มันดีเหลือเกินนนนน ใจบางไปหมด แต่โซ่ทำแบบนี้ระวังเจออิทธิฤทธิ์โจ๊กนะ ปัญหาตามมาเป็นพรวนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 06:11:07
กรี๊ด เขาจูบกันนนนนนนนแล้ววววววววค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 06:37:04
ทำไมชีวิตคุณเจียระไนบัดซบแบบเน้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 06:59:27
จะถึงเวลาคิดดอกเบี้ยแล้วว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 08:24:56
อยากทำป้ายไฟมาเชียร์โจ๊ก สู้นะลูกฮือออออออ /กอดปลอบ ถ้าคบตั้งแต่ปีหนึ่งคอยมีรางวัลให้โจ๊กอาจได้เกียรตินิยมเหรียญทองไปแล้ว55555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 10:19:16
ปลาบปลื้ม โจ๊กสมหวัง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 11:33:04
ช่วงต้นคือคุณเจียระไนคนกากเลยอะ ตอนท้ายก็เกือบหายละรอลุ้น
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 11-11-2017 12:59:14
โดนสถานะเล่นงานซะแล้วว
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 11-11-2017 21:07:05
วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
*ตอนนี้เป็น side storyของเรื่อง “ผลประโยชน์ทับซ้อน ตอนที่ 1”
……………
(ปี 3)
ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์



เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวดังนานแล้ว เจียระไนปรายสายตามอง เห็นเป็นชื่อพี่รหัสปรากฏบนหน้าจอก็เบือนสายตากลับไปมองวิวเมืองหลวงเหมือนเดิม


ค่ำวันนี้ เขาไม่คิดจะออกไปไหน เพื่อนสนิทที่สุดอย่างปราการไม่ว่าง แล้วเจียระไนก็ขี้เกียจเกินกว่าจะกลับบ้าน สุดท้ายก็เลยปลีกวิเวกมานั่งจิบเบียร์ เล่นกีต้าร์คนเดียวอยู่ที่ระเบียงคอนโดของตัวเอง


ไกลลิบๆนั่นคือตึกรูปทรงประหลาดที่เปิดไฟระยิบระยับในยามค่ำคืน แต่...ก็แค่นั้น ไม่ได้จูงใจเขาเท่าไร


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก หลังจากมันเงียบไปพักนึง เจียระไนหันไปมองอีกทีก็ยังพบว่าคนโทร.มายังคงเป็นคนคนเดิม


‘เฮียตฤณ’


พี่รหัสของเขาเอง


เขาถอนหายใจ แต่ก็ยังปล่อยให้โทรศัพท์ดังอยู่อย่างนั้นจนเงียบไป วินาทีที่กำลังคิดว่าสบายหูแล้ว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกเป็นรอบที่สาม คราวนี้เจียระไนชักขมวดคิ้ว


...โทร.อะไรนักหนาวะ?!...


ชายหนุ่มที่กำลังจะขึ้นปีสามในภาคเรียนใหม่นี้ยอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายแล้วแนบหู เพียงเท่านั้นเสียงสรรเสริญก็ดังขึ้นมาทันที


‘กูนึกว่าน้องรหัสกูตายโหงไปแล้ว!!’


“จะรอเฮียตายก่อน” ถึงจะไม่ค่อยพูดกับใคร แต่ใครก็อย่าได้หยามเกียรตินิสิตคณะรัฐศาสตร์รายนี้ เพราะฝีปากไม่ได้ยิ่งหย่อนเลย


‘ไม่ต้องแช่งกูเลย กูจะตายห่าอยู่แล้ว! พรุ่งนี้มึงว่างมั้ยเนี่ย?!’


“ไม่”


ไม่เห็นต้องถาม ต่อให้ปิดเทอมและว่าง แต่เจียระไนก็สามารถตอบว่าไม่ว่างได้ในทันที


‘โอ้โห มึงคิดสักสองนาทีก่อนจะตอบกูก็ได้นะ’


“ว่างหรือไม่ว่างมันเกี่ยวกับเฮียรึไง” เจียระไนย้อนถาม กำลังจะหงุดหงิดอยู่แล้ว แต่โชคดีว่ามีเบียร์กระป๋องเย็นๆในมือให้จิบดับอารมณ์


‘เกี่ยวสิวะ พรุ่งนี้เฟิร์สเดท’ คิ้วเหนือดวงตาเรียวขมวดฉับเข้าหากันทันที


“อะไรนะ?”


‘เฟิร์สเดทไง! แรกพบคณะอ่ะมึง! ตอนมึงเข้าปีหนึ่ง มึงไม่ได้มาเหรอ ไอ้โจ๊ก’


“ไม่ แล้วมีไว้ทำไม”


‘เอ้า! ก็มีไว้ให้รุ่นพี่อย่างพวกกูได้เจอหน้าน้องปีหนึ่งน่ะสิ!’


“อ้อ...” เจียระไนขานเป็นการรับรู้ แต่ไม่คิดจะร่วมกิจกรรมใดๆ


‘มึงอ้ออย่างเดียวเองเรอะ?! นี่มึงรู้มั้ยว่าใครเป็นเฮดงานนี้?! กูครับ! กูเอง! พี่รหัสของมึง!’ คนฟังเงียบ ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรไปกับการออกตัวของพี่รหัสที่รับหน้าที่สำคัญเป็นถึงผู้ควบคุมดูแลขั้นสูงสุดของงานเฟิร์สเดทในวันพรุ่งนี้เลย


‘เงียบเลยนะมึง นี่ไม่คิดจะมาช่วยงานกูสักหน่อยเหรอ’


“ไปก็ทำอะไรไม่เป็น” คนไม่ร่วมสังคายนากิจกรรมใดๆตอบเรียบๆ


‘มึงมายืนเป็นเสาหินก็ยังดี’


“ขี้เกียจ” มาเหตุผลนี้ ปลายสายก็ไปไม่เป็นเช่นกัน เจียระไนได้ยินเสียงถอนหายใจทีหนึ่ง


‘เออๆ มึงนี่มันน้องรหัสพึ่งพาได้มากๆ! น้องรหัสของคนอื่นนะ! พี่รหัสเขาทำอะไรก็อยากจะไปช่วย มีน้องกูเนี่ยแหละ! ไม่คิดจะร่วมสร้างบุญสร้างบาปอะไรกับกูเล้ย! แม่ง! กูโทร.ไปชวนคนอื่นก็ได้วะ! นี่ดีนะว่าเมื่อกี้กูโทร.ไปขอแรงไอ้เวฟไว้แล้ว มีมันมาช่วยค่อยอุ่นใจ...’ แล้วพี่รหัสของเจียระไนก็พูดอะไรอีกไม่รู้ยืดยาว ทว่า...คนฟังกลับสตั้นไปตั้งแต่คำว่า ‘ไอ้เวฟ’ แล้ว


...เวฟ...


ชื่อนี้ในคณะรัฐศาสตร์มีคนเดียว


...เวฟ อรรณพ ไออาร์ ปี 4 บุรุษผู้มากบารมีและเป็นพี่รหัสของสิตางศุ์!!...


“เมื่อกี้เฮียว่าไงนะ พี่เวฟจะไปพรุ่งนี้เหรอ ไหนมีคนบอกว่าเขาเป็นพี่วินัย”


‘เออ มันเป็นพี่วินัย แต่กูกลัวงานจะล่ม ก็เลยขอให้มันมาช่วยพรุ่งนี้ด้วย’ เจียระไนใช้สมองอย่างรวดเร็ว


...ถ้าพี่เวฟมา แล้วน้องรหัสของพี่เวฟจะมามั้ย?...


‘ไอ้โจ๊ก? มึงเป็นไรวะ ทำไมเงียบ’


“เปล่า...เอ่อ...แล้ว...แล้วเฮียขอแรงพี่เวฟคนเดียว?”


‘เออสิ แค่มันคนเดียว กูยังอ้อนวอนตั้งนาน’


...อ้อ...พี่เวฟไปคนเดียว งั้นก็...กิจกรรมนี้ไม่น่าสนใจ...


‘แต่กูก็บอกมันนะว่าให้พาสายรหัสมันมาช่วยงานด้วย ก็ไม่รู้สิ...ว่าน้องโซ่จะมารึเปล่า????’


เจียระไนแทบลืมหายใจ กลืนน้ำลายเอื้อกกับชื่อ ‘โซ่’ จากปลายสาย


...ถ้าโซ่ไม่ไป...แล้วกูไป อย่างมากก็แค่กลับเลย...


...แต่...


...ถ้าโซ่ไป...แล้วกูไม่ไป แล้วไอ้พวกเสือ สิงห์ กระทิง แรดแม่งตะครุบโซ่ไปจะทำยังไง?!!!...


‘กูไม่กวนมึงล่ะ แค่จะโทร.มาชวนไปงานพรุ่งนี้เฉยๆ แต่ถ้ามึงไม่ว่างก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูโทร.ไปชวนคนอื่นต่อ’ ดูเหมือนตฤณกำลังจะวางสาย เจียระไนตัดสินใจร้องเรียกในวินาทีนั้น


“เฮีย!”


เขากลั้นหายใจเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจสร้างโอกาสให้ตัวเองสักหน


“...เอ่อ...พรุ่งนี้...ผมว่าง...จะไปด้วยแล้วกัน”


และนี่...คือการร่วมกิจกรรมที่ ‘โจ๊ก ปกครอง’ เต็มใจไปอย่างยิ่ง!!!


“...แต่บอกไว้ก่อน...ถ้าไอ้โซ่ไม่มา ผมกลับเลย”


แต่ก็เป็นการร่วมกิจกรรมที่มีความเป็น ‘โจ๊ก ปกครอง’ อย่างยิ่งเช่นเดียวกัน!!

…………………….
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 11-11-2017 21:07:25


งานเฟิร์สเดทคือกิจกรรมแรกพบระหว่างรุ่นพี่และปีหนึ่ง ที่ซุ้มของคณะรัฐศาสตร์ นอกจากจะมีกิจกรรมร่วมเล่นเกมตอบคำถามแล้ว ยังมีอีกกิจกรรมหนึ่งที่เหล่ารุ่นพี่ภูมิใจนำเสนอมาก!


นั่นคือกิจกรรม ‘สิงห์น้อย ออน ทัวร์’ ซึ่งเป็นการพาน้องๆปีหนึ่งเดินจากซุ้มกลับไปที่คณะเพื่ออธิบายเกี่ยวกับแลนด์มาร์คต่างๆในคณะและมหาวิทยาลัยให้รับรู้โดยทั่วกัน หรือจะเรียกง่ายๆว่าพาน้องทัวร์นั่นแหละ


เนื่องจากปีนี้มีน้องๆสายเลือดใหม่แห่งคณะรัฐศาสตร์เบ็ดเสร็จสี่ภาควิชาเกือบสองร้อยคน เหล่าพี่ๆก็เลยจำกัดจำนวนในการพาทัวร์แต่ละครั้งไม่เกินห้าสิบคน และเวลานี้คนเดินนำทัวร์ที่มีอุปกรณ์ประจำตำแหน่งอันทรงเกียรติเป็นป้ายรูปสิงห์บนพื้นหลังสีสันสดใสพาสเทลก็ยืนหน้าหงิกอยู่ที่หน้าซุ้มแล้ว


“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย ไอ้โจ๊ก กูบังคับมึงเหรอ”


รุ่นพี่ปีสี่ที่เดินตามออกมาด่ารุ่นน้องหน้าหงิก คือ นายอรรณพแห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งนอกจากจะรับหน้าที่เฮดพี่วินัยแล้ว ยังถูกเพื่อนสนิทลากมาช่วยกิจกรรมวันนี้ด้วย


แถมดูเหมือนจะทำหน้าที่ ‘คนมาช่วย’ ได้ดีมากๆ เพราะกุมอำนาจทุกฝ่ายเบ็ดเสร็จ สั่งงานแทนเพื่อนสนิทที่รับหน้าที่เฮดซุ้มเฟิร์สเดทได้อย่างน่าภาคภูมิ


เจียระไนปรายสายตาไปมอง แต่ไม่ทันได้พูดอะไร ก็เหลือบไปเห็นคนผิวขาวจัดกำลังพาน้องๆปีหนึ่งออกมาจากซุ้ม


...โอ.เค. เทพีสันติภาพของกูมาแล้ว หุบปากก็ได้...


“ถ้ามึงคิดว่ากูบังคับมึง งั้นเอาป้ายให้ไอ้กอล์ฟถือ” เจียระไนเกือบจะโยนป้ายให้รุ่นน้องร่วมภาควิชาที่ชื่อกอล์ฟไปถือแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้นมาเสียก่อน


“เดี๋ยวเราพาน้องเดินไปดูคณะด้วย” สิตางศุ์บอกกับเพื่อนสาวคนหนึ่งที่รับหน้าที่พาน้องๆปีหนึ่งไปเยี่ยมชมคณะ ต้องให้บอกไหมว่าคนอย่างเจียระไนจะโยนป้ายทิ้งให้คนอื่นถือหรือเปล่า คำตอบคือไม่แน่นอน แถมยังกุมป้ายแน่นเหมือนจะถือไปตลอดทั้งชีวิตด้วยซ้ำ!


“ว่าไง ไอ้โจ๊ก มึงจะถือหรือจะให้ไอ้กอล์ฟถือ” อรรณพถามซ้ำ


ดวงตาเรียวสีดำสนิทเหลือบมองรุ่นพี่เจ้าของคำถาม ก่อนจะตอบเรียบๆ


“ถือเอง เดี๋ยวพี่ก็หาว่ามาแล้วไม่ทำงานอีก” ประโยคหลังนั่นหาความชอบธรรมล้วนๆ


“เออ มีสำนึกบ้างก็ดี แล้วก็ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย น้องกลัวมึงกันหมดแล้ว” เจียระไนพยักหน้าส่งๆไปงั้น ไม่เห็นความจำเป็นตรงไหนที่จะต้องทำหน้าให้ดีกว่านี้ เด็กปีหนึ่งพวกนี้ไม่ใช่น้องในไส้ แค่ชื่อยังไม่รู้จักเลย แล้วจะต้องไปโอบอุ้มอะไรกันนักหนา


แต่...โลกนี้มี 2 ด้านเสมอ เหมือนที่คนก็มี 2 ประเภท


“น้องร้อนมั้ย จากนี่เดินไปคณะไม่ไกล แต่ถ้าไม่ไหวก็รีบบอกพวกพี่นะ”


ในขณะที่คนหนึ่งไม่แยแสมนุษย์หน้าไหนทั้งนั้น อีกคนก็สนใจและห่วงใยมนุษย์ทั้งโลก เจียระไนปรายตาไปมอง เห็นคนที่เป็นเป้าสายตาของเขามานานนมกำลังใช้กระดาษโบกไปมาให้น้องๆที่ยืนอยู่


...มาพัดกูบ้างสิ...


เหมือนคนพัดจะได้ยินเสียงในใจ เพราะอยู่ดีๆ ดวงตาคู่สวยใสแจ๋วก็หันมาเห็นสายตาของเขา ตาประสานตา  เจียระไนชะงัก แต่คนผิวขาวจัดส่งยิ้มให้


“โจ๊ก ร้อนมั้ย”


...จริงๆไม่ร้อน แต่อยากให้มาพัดให้บ้าง...


“ร้อน...สัด”


จะตอบสั้นๆก็กลัวคนอื่นจะจับได้ว่ากำลังคิดไม่ซื่อกับเพื่อนร่วมรุ่น เลยต้องเติมคำหยาบเข้าไปหน่อย สิตางศุ์ยิ้ม ก่อนจะฉีกกระดาษแข็งในมือตัวเองครึ่งนึงแล้วส่งให้


“อ่ะ เอาไปพัดนะ” คนหนึ่งสร้างโอกาส อีกคนก็ขยันทำลายโอกาสไม่ยั้งด้วยหน้าซื่อๆ มอบกระดาษให้ไปช่วยเหลือตัวเองเสร็จแล้ว เจ้าตัวก็หันไปชวนน้องๆปีหนึ่งคุยอย่างเป็นกันเอง ทิ้งเจียระไนเอาไว้กับกระดาษแข็งที่ถูกฉีกมา


...ถ้าไม่ได้มาจากมือมึงนะ ต่อให้เลี่ยมทองกูก็มองว่าขยะ...


...แต่...พอดีว่ามาจากมือมึงไง มาจากมือไอ้โซ่ เพราะงั้นก็เลย...


...พัดซะหน่อยแล้วกัน...


...อ่า เย็น...


“เป็นไรวะโจ๊ก ยิ้มทำไม” พี่รหัสอย่างตฤณหันมาเห็นน้องรหัสหน้าหงิกที่ตอนนี้นอกจากหน้าไม่หงิกแล้ว ยังทำตาเยิ้มกับลมจากพัดกระดาษในมืออีกต่างหาก


“เปล่า” ตีหน้าตึงเหมือนเก่า แต่ยังโบกกระดาษแข็งในมือไปมา


“เอากระดาษมายืมหน่อย กูร้อนจะเป็นลมล่ะ” ตฤณขอความอนุเคราะห์ แต่น้องรหัสแสนดีปรายสายตาจิก กำทั้งป้ายสิงห์น้อยออนทัวร์ในมือซ้าย และพัดกระดาษในมือขวา


“เฮียจะเป็นลมก็เป็นไปเลย พี่เวฟอยู่ เฮียไม่อยู่สักคนไม่เป็นไรหรอก”


คนเป็นพี่รหัสถึงกับอ้าปากค้าง แต่ไม่ทันจะได้สรรเสริญน้องรัก ก็มีคนออกมาประกาศให้เริ่มกิจกรรมออนทัวร์


เจียระไนถือป้ายเดินนำ ตามหลังด้วยน้องๆปีหนึ่งเป็นพรวนพร้อมด้วยรุ่นพี่อีกจำนวนหนึ่งที่ตามประกบ


นี่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการร่วมกิจกรรมของคณะอย่างเต็มภาคภูมิเป็นครั้งแรกในชีวิตของ ‘โจ๊ก ปกครอง’


…แต่...ไอ้โซ่แม่งหายไปไหนวะเนี่ย?...


ร่างสูงเอี้ยวไปมองด้านหลังเป็นระยะเพื่อหาคนที่ร่วมกิจกรรมด้วยกันในฐานะรุ่นพี่ แล้วก็ถึงได้เห็นคนผิวขาวจัดอยู่ท้ายแถวนู่นเลย


...ไอ้โซ่อยู่ท้ายแถว แล้วกูมาทำอะไรหัวแถว?!...


“มึง มานี่” เดินพ้นซุ้มมาได้แปบเดียว หนุ่มปกครองปีสามก็หันไปเรียกรุ่นน้องร่วมภาควิชาคนหนึ่งที่เดินคล้อยหลังไปเล็กน้อย คนถูกเรียกเดินเข้าไปหา ก่อนที่จะถูกเจียระไนยัดป้ายสิงห์น้อยออนทัวร์ใส่มืออย่างรวดเร็ว


“มึงเดินนำแล้วกัน!”


รุ่นน้องงงเป็นไก่ตาแตก แต่เจียระไนฉีกตัวออกจากแถวอย่างไว


“อ้าว...แล้ว...แล้วใครดูน้องอ่ะ พี่โจ๊ก”


“กูเอง” แล้วเจียระไนก็ขยับไปด้านหลัง ปล่อยให้คนมาสืบทอดตำแหน่งต้องรีบยกป้ายให้น้องๆได้เห็นเพราะเกรงว่ากิจกรรมจะล่มไปเสียก่อน อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนหัวแถวกะทันหัน


รุ่นน้องปีสองจากภาควิชาการปกครองหันมองรุ่นพี่ของตัวเองที่ชิ่งจากหน้าที่ไปอย่างเนียนๆ แล้วก็ได้แต่เกาหัวแกรกๆอบ่างไม่เข้าใจ เห็นหลังของเจียระไนไวๆอยู่ที่ท้ายแถวแล้ว


...พี่โจ๊กไม่ปกติอย่างที่เขาว่ากันไว้จริงๆด้วยว่ะ...

.............................

“อ้าว โจ๊ก ไม่ถือป้ายเหรอ” พอหล่นมาอยู่ท้ายแถว สิตางศุ์ที่ประกบน้องๆแถวนั้นก็หันมาถาม เจียระไนอยากจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจที่อีกฝ่ายถามไถ่ห่วงใยกันแบบนี้ แต่...ไม่ได้...ต้องเก็กหน้าเอาไว้


“ไอ้กอล์ฟมันอยากทำ” พูดเรียบๆ โยนความผิดให้รุ่นน้องปีสองในภาคฯตัวเองที่กลายมาเป็นคนถือป้ายแทน คนผิวขาวจัดยิ้มจางๆ แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะได้คุยกันมากกว่านั้น ขบวนสิงห์น้อยออนทัวร์ก็หยุดเดิน คนบรรยายชี้ชวนให้ดูอาคารเก่าแก่ทางขวามือ สิตางศุ์ที่อยู่มหาวิทยาลัยนี้มาสามปีเข้าไปแล้วก็ยังสนอกสนใจคำบรรยายเหล่านั้นเหมือนน้องๆปีหนึ่ง


ดวงตาเรียวจับจ้องใบหน้าขาวจัดที่กำลังตั้งใจฟัง บ้างก็ถูกน้องๆถามคำถามเพิ่มเติม เจ้าตัวให้คำตอบได้ดี แนะนำและเอาใจใส่อย่างกับปีหนึ่งเหล่านี้คือน้องในไส้


ตรงข้ามกับคนอย่างเจียระไนทุกอย่าง แต่...เพราะเป็นแบบนี้ ไม่ว่าเมื่อไรที่มอง ไม่ว่าเมื่อไรที่ได้เจอกัน เจียระไนก็ยิ่ง...อยากอยู่ใกล้


“โจ๊ก?...” เสียงเรียกดังปลุกสติ ดึงร่างสูงให้รู้ตัวว่าคนที่เขากำลังมอง หันมามองเขาแล้ว


ตาสองคู่สบกัน ดวงตาเรียวสีดำสนิทนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายที่บ่มเพาะ ในขณะที่ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มใสแจ๋วนั้น สะอาด บริสุทธิ์และเต็มไปด้วยความปรารถนาดีต่อคนรอบข้าง


“เป็นอะไรไป เห็นเงียบๆ” กระทั่งกับคนที่ไม่สนิทกัน ไม่ค่อยได้เรียนด้วยกัน แถมอยู่ต่างภาควิชากัน สิตางศุ์ก็ยังเอาใจใส่ ยิ่งทำแบบนี้ เจียระไนก็ยิ่ง...เลิกไม่ได้


“เปล่า...”


“ถ้าไม่ไหวก็บอกนะ เมื่อกี้หน่วยพยาบาลให้แอมโมเนียมาด้วย” แล้วคนผิวขาวจัดก็ล้วงเอาถุงใส่สำลีชุบแอมโมเนียออกมาจากกระเป๋ากางเกง หน่วยพยาบาลเตรียมเอาไว้ให้ เผื่อน้องๆปีหนึ่งคนไหนเป็นลมระหว่างทาง วันนี้อากาศร้อนอบอ้าว และระยะทางจากซุ้มมาที่คณะก็ไม่ใช่น้อยๆเลย


“กูไม่เป็นไรหรอก” ยิ่งอีกฝ่ายหวังดี เจียระไนก็ยิ่งดำดิ่งลงสู่ความรู้สึกมากมายในหัวใจ อยากอ้าปากบอกความจริง บอกความรู้สึกทั้งหมด แต่...ก็หวั่นใจว่าอีกฝ่ายจะไม่รับฟัง


สิตางศุ์กวาดตามองคนพูด อยากบอกว่าเจียระไนดูนิ่งขรึมแปลกๆ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายบอกว่าไม่เป็นไร เขาก็ไม่อยากเซ้าซี้ แต่ถึงอย่างนั้น คนมีน้ำใจกับคนอื่นเป็นนิจก็อดไม่ได้ที่จะล้วงกระเป๋ากางเกงอีกข้างแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา


“เอามั้ย มึงเหงื่อเต็มหน้าเลย” เจียระไนชะงักไปเล็กน้อย กำลังจะยกหลังมือเช็ด แต่สติทำให้เขายั้งมือไว้ทัน


...ไอ้โซ่ให้ผ้าเช็ดหน้า แล้วกูจะเอาหลังมือเช็ดทำพ่ออะไร?!!!...


“เอา” ตอบสั้นๆ แต่เสียงสั่น ก่อนจะยื่นมือไปจับผ้าเช็ดหน้าของสิตางศุ์อย่างรวดเร็ว เจ้าของผ้าเช็ดหน้าแย้มยิ้มกว้าง แต่เจียระไนไม่เห็นแล้ว เพราะก้มหน้าเอาผ้าเช็ดหน้าของอีกฝ่ายซับเหงื่อราวกับจะประกาศความเป็นเจ้าของในผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ด้วยเช่นกัน


...ผ้าเช็ดหน้าไอ้โซ่ แต่เหงื่อของกู...


 ไม่รู้เลยว่าเหงื่อออกเยอะขนาดนี้ แต่...ที่ไม่รู้ยิ่งกว่าคือผ้าเช็ดหน้าของไอ้โซ่ยับยู่ยี่ได้ใจ!


“เอ่อ...กูรีดแล้วนะ แต่พอใส่กระเป๋ากางเกงมันก็ยับเหมือนเดิม...” เจ้าของผ้าเช็ดหน้าพูดเขินๆ


...รู้แล้วว่ารีดแล้ว รู้แล้วว่าซักด้วย เพราะหอมมากกกกกก...


“ไม่เป็นไร” ย้ำคำว่าเป็นไรด้วยการกระทำ กดผ้าเช็ดหน้านั่นบนหน้าตัวเองแล้วลากไปถึงคอ


...แม่ง...เหมือนไอ้โซ่กำลังจูบจากแก้มลงไปที่คอเลย...โคตรดี...


สิตางศุ์มองใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนร่วมรุ่นเชื้อสายจีนที่ดูเหมือนจะมีเลือดฝาดขึ้นนิดหน่อยแล้วก็พอใจกับตัวเอง อย่างน้อยๆเจียระไนในตอนนี้ก็ดูดีกว่าหน้าซีดๆเมื่อกี้เยอะนั่นแหละ


พวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันต่อ เพราะขบวนสิงห์น้อยออนทัวร์เริ่มเดินแล้ว เจียระไนทำเนียนยัดผ้าเช็ดหน้าสีน้ำเงินเข้มผืนนั้นลงกระเป๋ากางเกงตัวเอง แล้วไม่ยอมพูดถึงมันอีก


...ผ้าเช็ดหน้าต้องเป็นของกู! ต่อให้ไอ้โซ่ขอคืน กูก็จะไม่คืน!!...


ทว่า...ตอนที่เดินใกล้ถึงคณะ เสียงโหวกเหวกก็ดังมาจากหัวแถว


“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ใครเป็นอะไร” สิตางศุ์รีบก้าวเท้าขึ้นไปดู เจียระไนซึ่งไม่ได้สนใจกับเสียงร้องอะไรพวกนั้นต้องก้าวตาม เพราะ...อยากอยู่ใกล้สิตางศุ์นั่นเอง


“เสี้ยนตำอ่ะ พี่โซ่” เจ้าของเสียงโวยวายอย่างเจ็บปวดคือเด็กปกครองปีสองที่ถูกเจียระไนยัดป้ายสิงห์น้อยออนทัวร์ให้ไปทำหน้าที่แทน ด้ามของป้ายที่ทำจากไม้ มีจุดที่สีร่อนออกมา ทำให้เนื้อไม้ไม่เรียบ เกิดเป็นเสี้ยนตำเข้าที่ฝ่ามือคนถือ และเสี้ยนคงใหญ่มากทีเดียว เพราะแม้จะดึงออกไปแล้วแต่เลือดยังซิบ


...น่าจะแสบไม่เบา...


สีหน้าของสิตางศุ์บ่งบอกถึงความเป็นห่วง แต่เจียระไน...มองเลือดที่ยังซึมบนมือรุ่นน้องร่วมภาคฯแล้วก็ทำหน้าเบ้ รังเกียจสารคัดหลั่งของมนุษย์อื่นๆร่วมโลก


“กอล์ฟมีผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชู่มั้ย เอามาซับเลือดก่อน ใครถือกระเป๋าพยาบาลน่ะ มาทำแผลให้น้องที” คนผิวขาวจัดสั่งเป็นระวิงด้วยความห่วงใย ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองซ้ายขวาตามความเคยชินที่มักจะพกผ้าเช็ดหน้าเสมอ แต่...ไม่เจอ


วินาทีนั้นเองที่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาพกผ้าเช็ดหน้าเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ยกให้ใครบางคนไปแล้ว ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างกาย เจียระไนสะดุ้งเล็กน้อย แต่สีหน้ายังเรียบเฉย


“ผ้าเช็ดหน้ามึงเลอะเหงื่อกูไปแล้ว” คนถูกมองรีบออกตัว กลัวใจเจ้าของผ้าเช็ดหน้าจะขอคืนเพื่อไปซับเลือดคนอื่น


...ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ ผ้ามึงน่ะซับเหงื่อกูคนเดียวก็พอ ไม่ต้องซับน้ำเลือดน้ำเหลืองใครอีก...


“เออ จริงด้วย” เจ้าของผ้าเช็ดหน้าว่าอย่างนั้น พอดีกับที่คนที่ถือกระเป๋ายาก้าวเท้ามาถึงตรงจุดที่พวกเขายืนอยู่ หนุ่มปีสองภาควิชาการปกครองที่ถูกเสี้ยนตำได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่สิตางศุ์ผู้มีเมตตาธรรมกับทุกสรรพชีวิตบนโลกยังคงขมวดคิ้วมุ่น


“พี่ถือแทนมั้ยกอล์ฟ” สิ่งที่สิตางศุ์ออกตัวว่าจะถือแทนก็คือป้ายสิงห์น้อยออนทัวร์เจ้าปัญหาที่ทำให้รุ่นน้องโดนเสี้ยนตำนั่นแหละ


“เฮ้ย! มึงจะถือทำไม?!” เจียระไนขวางทันควัน


“ก็กอล์ฟมันมือเจ็บ”


“เดี๋ยวเสี้ยนตำ!” หนุ่มตี๋ตาเรียวแห่งภาควิชาการปกครองย้ำ


“อ้าว...แล้วถ้ากอล์ฟถืออีก เสี้ยนจะไม่ตำมือมันอีกเหรอ” สิตางศุ์ย้อนถาม คนทั้งกลุ่มเหมือนจะเห็นด้วย แต่เจียระไนเถียงขวับ


“ยังไงมันก็โดนตำอยู่แล้ว! จะโดนตำอีกสักทีก็ไม่เป็นไรหรอก!”


เป็นมนุษย์ผู้ซึ่งไม่มีความเมตตาต่อใครทั้งสิ้น แถมยังตวัดตาเรียวๆไปจ้องที่คนถูกเสี้ยนตำมาแล้ว และถ้าถูกตำอีกก็ไม่น่าจะเป็นไร


“หรือมึงอยากให้ไอ้โซ่มาถือแทนมึง แล้วเสี้ยนตำมันอีกคน?” หนุ่มรุ่นน้องได้แต่กะพริบตาปริบๆ เหลือบไปมองรุ่นพี่ผิวขาวจัดอย่างสิตางศุ์ซึ่งเป็นที่รักของตนเองและคนทั้งคณะแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อก


...ถ้าพี่โซ่ถือแล้วเสี้ยนตำมือ…


...ถ้าพี่โซ่เลือดออกกลับไปที่ซุ้มคณะ...


ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่รหัสของพี่โซ่จะต้องฉีกเนื้อพวกเขาทุกคนเป็นชิ้นๆ!!


   “ม...ไม่อยากครับ” ใครหน้าไหนจะอยากให้คนจิตใจดี นิสัยดีอย่างสิตางศุ์บาดเจ็บ แถมพี่รหัสของสิตางศุ์ก็ดุอย่างกับเสือ ถ้ายังอยากมีลมหายใจไปจนถึงวันรับปริญญาของตนเอง ก็ไม่ควรก้าวเท้าเข้าไปในอาณาเขตของเสือที่ชื่ออรรณพเด็ดขาด!!


   “เออ! ดี! รู้จักเสียสละบ้าง!” เจียระไนย้ำความเสียสละ ทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยเสียสละให้ใครทั้งสิ้น คราวนี้เขาหันไปจ้องสิตางศุ์แทน


   “มึงได้ยินแล้วใช่มั้ยว่าไอ้กอล์ฟจะถือเอง กลับไปอยู่ท้ายแถวได้แล้ว! ทำหน้าที่ตัวเองสิวะ ไม่ใช่ใครเจ็บก็จะทำแทนเขามั่วไปหมด” กลายเป็นว่าคนจิตใจดีที่ชื่อสิตางศุ์โดนเจียระไนด่าไปอีก ก่อนจะถูกลากกลับไปประจำตำแหน่งที่ท้ายแถวตามเดิม


   กลุ่มปฐมพยาบาลคนถูกเสี้ยนตำสลายตัวแล้ว และขบวนสิงห์น้อย ออน ทัวร์ก็ออกเดินกันต่อ สิตางศุ์ที่ถูกพากลับไปอยู่ที่ท้ายแถวยังไม่วายคอยชะเง้อมองคนเจ็บด้วยความเป็นห่วง


   ซึ่งแน่นอนว่าเจียระไนที่เดินอยู่ข้างๆรู้สึกเหมือนถูกขโมยความสนใจไปอย่างหน้าด้านๆ ด้วยไอ้เด็กปีสองที่แม่งทะเล่อทะล่าทำเสี้ยนตำมือตัวเอง!!


   “โซ่!” เจ้าของชื่อสะดุ้งหันมามองคนเรียก เจียระไนยังหน้าตึงเหมือนเดิม


   “กูจะฟ้องพี่รหัสมึง”


   “หา! จะฟ้องเรื่องอะไร” สิตางศุ์ย้อนถามตาโตด้วยความงุนงง


   “ที่มึงหาเรื่องจะเจ็บตัวไปถือป้ายที่มีเสี้ยนนั่น”


   “อ่า...ไม่เอานะโจ๊ก เดี๋ยวพี่เวฟด่า” เจียระไนไม่พูดอะไร ตั้งหน้าตั้งตาเดิน มีเสียงคนอ้อนวอนดังแจ้วๆตามหลัง ความสนใจของสิตางศุ์กลับมาเป็นของผู้ชายที่ชื่อเจียระไนตามเดิม แถม...ยังมีของบางอย่างของสิตางศุ์ที่กลายมาเป็นของเจียระไนไปแล้วเช่นกัน!!


   มือใหญ่ที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง กำผ้าเช็ดหน้าที่ซุกไว้ในนั้น ปรายสายตาไปด้านหลัง เห็นสิตางศุ์เดินตามต้อยๆ ตาละห้อยอ้อนวอน


   ...ผ้าเช็ดหน้าของไอ้โซ่ก็กลายมาเป็นของกู ความสนใจของไอ้โซ่ก็กลับมาที่กู...


   ...ลิ้นดุนแก้ม!!! เชี่ยโจ๊ก! มึงจะยิ้มไม่ได้!!!...


FIN

เนื่องจาก 11.11 ค่ะ วันคนโสดมะ? ก็เลย...พาโจ๊ก ปกครองสมัยที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในด้านความรักกลับมาหาทุกคนอีกครั้ง ฮ่าฮ่า

จริงๆแล้ว ตอนนี้เป็นตอนที่เกี่ยวกับเรื่อง “ผลประโยชน์ทับซ้อน” อยู่นิดหน่อยค่ะ งานเฟิร์สเดทที่ปกไปเข้าร่วม ก็คืองานเดียวกับที่โจ๊กมานี่แหละ

เอาล่ะ กลับไปปั่นผลประโยชน์ทับซ้อนต่อ

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนคิดถึงโจ๊ก ปกครองกับโซ่ ไออาร์  และพื้นที่บอร์ดค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-11-2017 23:08:46
ว้อยยยยย เกลียดดดด อิพี่โจ๊กมันร้ายมากคะคุณขา ตอนวาระซ่อนเร้นฉันไปน่าสงสารแกเล้ยยยย หมั่นไส้โว้ยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 11-11-2017 23:10:11
ดีต่อใจค่ะ ที่บอกว่ามีตอนพิเศษ ถึงกับต้องมารีเฟรชหน้านี้รัวๆ เลยค่ะ

โซ่ก็ยังเป็นโซ่นะ ยังใส่ใจทุกคน โจ๊กก็คนธรรมดาไม่พิเศษอะไร 5555
โจ๊กก็เรียกร้องความสนใจ และเนียนมากได้โล่ แล้วร้อนตัวตลอดเวลา

เวฟหวงยิ่งกว่าพ่อแม่อะ บอกเลย แม้แต่เพื่อนก็แทบจะฉก
ตลกตฤณ เป็นพี่ที่น่าสงสาร น้องสนใจคนอื่นมากกว่า 5555

ขอบคุณมากนะคะ ตามมาให้กำลังใจ และคิดถึงโซ่โจ๊กมาก
แล้วมาแบบฮามากด้วย ที่โจ๊กพยายามไม่เสียเปล่านะ อย่างน้อยก็ได้ผ้าเช็ดหน้าโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-11-2017 23:16:30
อิพี่โจ๊กอย่างร้าย....ในขณะที่ซอโซ่นั้น...ใสซื่อบริสุทธิ์    o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: chnokky ที่ 11-11-2017 23:57:34
เกลียดอิโจ๊ก ทำไมร้ายขนาดนี้ 55555555 โซ่ก็ใสซื่อเหลือเกินลูก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-11-2017 00:04:59
ดีต่อใจเจงๆ
อ่านไปยิ้มไป  :mew1: :mew1: :mew1:

คิดถึง โจ๊ก โซ่  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
โจ๊ก ก็ยังเป็นโจ๊ก ที่ทุกลมหายใจเข้าออกเป็นโซ่

ขำ ที่โจ๊ก โต้ตอบพี่รหัส น่าสงสารพี่ตฤณ ท่มีน้องรหัสแบบโจ๊ก
ขำ ที่ปากต่อปาก พากันบอกว่
...พี่โจ๊กไม่ปกติอย่างที่เขาว่ากันไว้จริงๆด้วยว่ะ...กร๊ากกกก เลย
ขอบคุณไรท์
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 12-11-2017 00:20:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-11-2017 00:32:32
นี้ยังนึกเลยนะว่าทำไมแก้มโจ้กถึงยังอยู่ดีถึงปัจจุบันไม่ทะลุเพราะลิ้นดันไปก่อน 55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: wichiwiwie ที่ 12-11-2017 00:47:49
โจ๊กคือร้ายมากอะ 5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 12-11-2017 01:50:06
โจ๊กนิมันโจ๊กจริงๆ



55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: 。Atlas ที่ 12-11-2017 03:50:48
ขำมากกกก เป็นพระเอกที่บ้าบอ ฉีกทุกฎมาก 555555
เป็นพระเอกที่นิสัยเสีย นิสัยไม่ดีเลย แต่นั่นแหละคือความน่ารัก น่าถีบของโจ๊ก
อยากหาก้านมะยมมาฟาดจริง ๆ

ส่วนโซ่ ไม่ว่าจะตอนไหน โซ่ก็ยังคงเป็นโซ่คนซื่อ นุ่มนิ่ม
และตามไม่ค่อยทันเลย เอ็นดูน้อง  :-[

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 12-11-2017 05:31:17
 :จุ๊บๆ: คิดถึงหลานทั้ง 2 คนจังเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 12-11-2017 05:31:26
“ยังไงมันก็โดนตำอยู่แล้ว! จะโดนตำอีกสักทีก็ไม่เป็นไรหรอก!”
555555555555555 อิโจ๊กผู้ไร้ความปราณีใดๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-11-2017 05:48:49
โจ๊กสมัยที่ยังไม่เป็นไบโพล่าห์สินะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 12-11-2017 06:59:10
ร้ายกาจมากค่ะ 55 พี่เวฟโครตรหวงน้องเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 12-11-2017 07:23:57
โจ๊กนี่ถ้านอกจากโซ่แล้วต้องส่ายหัวจริงๆ  :mew4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 12-11-2017 07:35:56
โจ๊กอนาคตคนติดเมีย ปัจจุบันก็ติดเมียมากกว่าเดิม 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Cacao ที่ 12-11-2017 11:08:38
โจ๊กตลกมาก ตอนได้กระดาษแข็งมาพัดกับตอนฉากผ้าเช็ดหน้านี่โคตรตลก มโนฯว่าเค้าหอมตั้งแต่แก้มลงมาถึงคอ
เราขำก๊าก แบบขำค้างๆ ชอบโจ๊กกกกกกกกกกกก เวลามีความคิดหื่นๆใส่โซ๋นี่คนอ่านหยุดขำไม่ได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: FaiiDolly ที่ 12-11-2017 11:50:59
งื้อออออ ฟินนนน นหนู ล้ายตัวววววว

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 12-11-2017 11:51:35
อีโจ๊กยิ่งอ่านยิงกาก 5555+
ดูโรคจิตมากยิ้มกับกระดาษแข็ง ตลกอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 12-11-2017 12:36:30
เป็นเด็กเล็กๆกันเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-11-2017 12:37:19
สมัยยังแค่แอบมองไกล แต่ความหวงหึงนี่ก็ระดับสิบๆๆ เหมือนเดิม
ได้แค่ผ้าเช็ดหน้าก็ดีใจแล้ว

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 12-11-2017 13:19:15
 :กอด1:
คิดถึงพี่โจ๊กคนเถื่อนและเกรี้ยวกราดที่สุดดดด งื้ออออ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 12-11-2017 13:48:57
ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่มาอัพตอนพิเศษโจ๊กโซ่ โซ่นี่สเปคสาธรณะจริงๆ โจ๊กมีความอยากตามมาคุมตั้งแต่ตอนนี้ แง้งงง ชอบบ อยากอ่านตอนพิเศษอีก รักคนแต่งมากเลยค่าา  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 12-11-2017 15:14:52
สฃสารกอล์ฟ55555  :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: SweetyPhawin ที่ 12-11-2017 15:49:47
 :fire:โจ๊ก ปกครองนี่มันคือโจ๊ก ปกครอง จริงๆนะ มันร้ายมันกั๊กน้องโซ่หนักมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 12-11-2017 16:45:10
ชอบเรื่องนี้มากกก น่ารักกกกก //////
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 12-11-2017 17:00:08
อะต้องให้เขาเด้อพี่โจ๊กคนจริง5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 12-11-2017 23:24:47
ขำอีโจ๊กมากกกก แต่ทำดีค่ะชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 13-11-2017 01:05:28
จะเหม็นอิโจ๊กก็เหม็นไม่สุด แต่ก็เอาเถอะนางรักของนางมากกกกกสู้ๆนะโจ๊แล้ว้าเช็ดหน้าไม่ต้องซักนะเดียวกลิ่นโซ่จะจาง ฟินคร้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 13-11-2017 10:24:49
โจ๊กนี่้เล่นใหญ่ตลอด5555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Cuddlemoon ที่ 13-11-2017 10:45:52
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: โจ๊กนี่ร้ายติงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 13-11-2017 11:01:58
คิดถึงโซ่กับโจ๊กแบบแรง ๆ เลยอ่ะ....  :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 13-11-2017 11:32:41
อิพี่โจ๊กแม่ง 55555555
โคตรร้ายย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 13-11-2017 12:05:11
อื้อหืออออ โคตรหมั่นไส้คุณพี่โจ๊ก
เนียนซึนมาก และหลงหนักมากกกก

เป็นช่วงปีสามที่เริ่มก่อเค้าความเป็นไปได้ ><
แถมดุเป็นบ้า...น่าจะรองจากพี่เวฟล่ะมั้ง 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 14-11-2017 01:04:08
โอ๊ยยยยย  อิโจ๊กกกกิอิคนขี้หวงงงงงง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-11-2017 01:31:08
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-11-2017 10:12:26
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-11-2017 01:19:26
คิดถึงนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Arrun ที่ 15-11-2017 11:33:25
โจ้กมันร้ายยย แต่รวมๆแล้วโคตรน่ารักเลยยย โซ่ก็น่าแกล้งเหลือเกินลุกเอ้ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-11-2017 22:18:47
 :o8:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 17-11-2017 11:30:48
ชอบตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ อะ ตลกดี ขำตอนเสี้ยนตำมือ  :m20:

เป็นนิยายวายอีกเรื่องที่ชอบมากๆ ชอบคาแรคเตอร์แบบโซ่ ใสๆ จิตใจดี มีแต่คนรัก ชอบโจ๊กมันคิดบ้าบอ ร้ายแบบตลกๆ อยู่ข้างในคนเดียว ขำอะ

ว่างๆ ก็มาลงตอนพิเศษอีกนะคะ ชอบจนไม่อยากให้จบเลย รู้สึกมันสั้นไป ให้มีเรื่องสองคนนี้มาอ่านเรื่อยๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 17-11-2017 11:43:06
นังโจ๊กมันร้าย  :m12:  เข้าใจเรียกร้องความสนใจนะยะ

ถ้าน้องโซ่ไม่กล้วพี่เวฟ แผนนี้ใช้ไม่ได้นะนั่น   :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-11-2017 15:25:43
ฉันเกลียดท่าลิ้นดุนแก้ม หมั่นไส้มากกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: MacaroonCookie ที่ 18-11-2017 23:32:38
สนุกปนฮาจริงๆเรื่องนี้ เจอความเกี้ยวกราดของโจ๊กแต่ละทีอดที่จะขำไม่ได้ โซ่นี่ก็เป็นนายเอกในฝันนิ่งๆ แต่ฉลาด ใจเย็น ถึงจะซื่อ(บื้อ)ไปนีสสก็เถอะ ชอบมากๆเลยเรื่องนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-11-2017 20:41:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 21-11-2017 15:06:50
โจ๊ก...นายร้ายกว่าที่เราจินตนาการไว้เยอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: LOVEJUICE ที่ 21-11-2017 19:56:15
 :-[น่ารักมากๆเลยเอาใจช่วยโจ๊กทั้งเรื่องเลย โธ่พ่อเดินเกมส์ยากมากๆเลย
เจอคนซื่อยอมความกันง่ายๆอย่างโซ่เข้าไป เป็นเราก็ไปไม่ถูกเลยจ้า
ดีใจที่ทั้งคู่สมหวังกันด้วยดี แต่ก็นะกว่าจะรู้ใจตัวเองแน่ชัดก็เล่นเอาพี่โจ๊กเราหายใจไม่ทั่วท้องเลย
ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องสนุกๆอิ่มเอมสุดเดี๋ยวตามไปลุ้นคู่ของปกต่อ คริๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Fahsaizzz ที่ 21-11-2017 21:54:16
พี่โจ๊กมันร้ายยย 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-11-2017 00:15:31
อิโจ๊กผีบ้า ถ้าเป็นเรื่องของโซ่เล่นใหญ่ตลอด อ่านเมื่อไหร่ฮาเมื่อนั้น
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Zalzah_iP ที่ 22-11-2017 04:26:05
น่ารักกกกก ชอบคาร์แรกเตอร์ของโซ่มากๆ เลย เพราะรู้สึกว่าหายาก (มาก) ในชีวิตจริง แล้วก็กร๊าวใจในความเกรี้ยวกราดของโจ๊กเช่นกัน นิสัยโจ๊กนี่เรียกได้ว่าเป็นแฟนในแบบที่หลายๆ คนอยากได้เลยอ่ะ เอาใจใส่จนโซ่ไม่ต้องดูแลตัวเองล้าววว ให้พี่แกมาดูแทน 555555555

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ เคยอ่านจันทร์เจ้ามานานแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ภาษาสวยมาก เพราะคนเขียนเรียนรัฐศาสตร์มานี่เอง คงเขียนเปปเปอร์จนเซียนแล้วใช่มั้ยคะ คลังคำศัพท์ล้นหลามมาก5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 22-11-2017 11:16:35
 o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 22-11-2017 16:35:59
โจ๊กไบโพล่า ฮ่าาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 24-11-2017 15:52:51
น่ารัก อบอุ่น ละมุน ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 26-11-2017 02:59:41
ชอบโซ่อะไม่งี่เง่า ง้องแง้ง ดูไม่คิดอะไรซับซ้อน  :mew1: :mew1:
อิโจ๊กคนกากก็ชอบนะมีแผนตลอดแต่แป๊กทุกครั้ง555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: haangiix ที่ 26-11-2017 12:14:30
เรื่องจบได้แบบใจเต้นแรงมากกกกกก ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายแนวนี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-11-2017 16:26:49
โจ๊กเป็นเอามากตั้งแต่แอบชอบเลยนะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 26-11-2017 17:33:28
ในความคิดเรา
น้องโจ๊กน่ารักมากสำหรับฐานะคนเป็นแฟนกัน
แต่ฐานะอื่นนี่คนละเรื่องกันเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 01-12-2017 23:36:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: wichta ที่ 03-12-2017 09:38:41
โอ้ยยยยยย อ่านไปก็จะมีความเป็นไบโพล่าตลอดทั้งเรื่อง คืออมยิ้ม ยิ้มปากกว้างมาก แล้วก็ขำมากกกกกตามมา โจ๊ก..มันคือโจ๊กจริงๆ โซ่ก็น่าร๊ากกกกซึน มึน อึน เอ๋อ ได้อีก น่ารัก ชอบมาก อ่านแล้วต้องมาดันวิวอยากอ่านต่อ จะเป็นเจ๋งปกตอนพิเศษก็ได้น๊า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: NooMary ที่ 05-12-2017 03:40:13
น้องซอโซ่ซึนได้โล่เลยค๊า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: MooMiew ที่ 08-12-2017 02:03:47
รอบที่สี่แล้วที่เปิดเรื่องนี้ขึ้นมา รอบแรกปิดเพราะตัวละครชื่อเหมือนเพื่อน รับไม่ได้ที่อ่านแล้วหน้ามันลอยขึ้นมา  :laugh:
รอบสองบังเอิญกดเข้ามา แล้วอ้าวเรื่องที่ตัวละครชื่อเหมือนเพื่อนตูนี่หว่า
รอบสามคือทำใจระดับหนึ่ง ลองอ่านไปตอนนึงแล้ว เอ้อ อารมณ์ตอนนั้นยังไม่ได้เท่าไหร่ อ่านแล้วไม่เข้าหัว ไม่เข้าใจ ตัวละคร

จนรอบที่สี่ จาก ..ผลประโยชน์ทับซ้อน.. รู้จักพี่โซ่ กับโจ๊กในระดับนึงละ พออ่านอีกที มองข้ามชื่อนั้นไป ก็เอ้อ สนุกดีนะ อารมณ์อยากอ่านพระเอกนิสัยไม่ดีกำลังมา  :laugh: :laugh:

ไปอ่านต่อดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: MooMiew ที่ 09-12-2017 05:28:42
อ่านจบแล้ว

ดีมากกกกกกกกก รู้สึกพลาด เอาแต่ถามตัวเองว่าทำไมปล่อยผ่านนิยายดีๆ แบบนี้ไปได้ เพราะอคติบังหน้านิดเดียวเท่านั้นเอง

มันฟีลกู้ด เนื้อเองเรื่อยๆ ภาษาดี ดีอะชอบบบบ

พวกคนขี้อ่อย คนนึงอ่อยตั้งใจ คนนึงอ่อยไม่รู้ตัว โอ้ย ทำไมน่ารัก อ่านไปยิ้มไป ขำไป ครบรส

แอบชอบ แอบรักคนๆ นึง มาได้ตั้ง 2 ปี จะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็สั้น แต่ก็นานอยู่ดี นับถือความอดทน แต่มองดีๆ อิโจ๊กก็น่ากลัวนะ ยังกับสโตกเกอร์อะ ช่วงที่เริ่มตามตอนปีสอง ที่ไหนมีโซ่ ที่นั่นมีโจ๊ก ถึงโซ่ไม่สังเกตุ มันต้องมีคนสังเกตุ อย่างพี่เวฟเป็นต้น พี่เวฟก็น่ากลัว ตามมากั๊กน้องทันทุกสถาณการณ์อะรขนาดนั้น นับถืออีกราย

โซ่ก็น่าเอ็นดู โอ้ยยย คนอะไรซื่อขนาดนี้ ซื่อจนอ่อนใจ แต่ไม่น่ารำคาญนะ น่าเอ็นดู เหมือนผ้าขาว แต่โดนอิโจ๊กทำแปดเปื้อน คนเลว 5555555555
แต่นางก็รักของนางอะเนอะ ใส่ใจดูแลอย่างดี

ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิย่ยดีๆ ที่แบ่งปันให้อ่านกัน
 :L2: :L2: :L2: :L2:

ปล. ไปสอยรวมเล่มมาแล้วเรียบร้อย อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 10-12-2017 09:47:49
โจ๊กเอ่ยยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 11-12-2017 17:14:38
โอ๊ยยย จบแล้วววว
โซ่น่ารักมาก ตอนแรกก็งอนโซ่นะ
ที่แบบไม่อะไรกะโจ๊กเลย บื้อสุดๆ
แต่พอเห็นความใส่ใจ ความพยายามทำเพื่อโจ๊กในแบบของโซ่
มันดีมากกก เอาใจไปเลยค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:
ส่วนนังโจ๊กถึงจะปากเสียแต่รักโซ่มาก เราให้อภัย อิอิ
 ดีใจที่มีนิยายของพี่บัวให้อ่านเรื่อยๆนะคะ
นี่อ่านฟิคพี่บัวทุกเรื่องตั้งแต่อคาเมะ จะตามอ่านต่อไปเรื่อยๆน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-12-2017 10:04:32
อยากรู้เรื่องราวหลังจากเจอพ่อแม่ต่อจังเลยครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: daisyskies ที่ 17-12-2017 00:17:22
เป็นเรื่องแรกที่อยู่ข้างพระเอกมาตั้งแต่ต้น สัมผัสได้ว่าอิโจ๊กจะต้องเป็นลูกรักของเราแน่ๆแล้วมันก็เป็นจริงๆ
ประทับใจความกากเสมอต้นเสมอปลายมาก ซึนอีกต่างหาก ห้ามยิ้ม! เอาลิ้นดุนแก้มไว้อิโจ๊ก!!!
ชอบความโลกหมุนรอบโจ๊ก แต่โลกของโจ๊กหมุนรอบโซ่อีกที อ่านจบก็อารมณ์สวิงตามอิโจ๊กไปเรยคร่ะ5555555555
ตอนแรกมีขัดใจโซ่นิดหน่อย ตรงยึดติดกับนิตาแล้วก็ความไม่รู้ความรู้สึกตัวเอง แบบนะ5555
แต่พอโซ่เริ่มเรียนรู้ เราก็เริ่มตกหลุมรักโซ่แบบที่อิโจ๊กรัก แบบโฮร้ยยยย เข้าใจว่าทำไมโจ๊กมันรักของมันมาก
ชอบมากกก อ่านแล้วมีความสุขมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 29-12-2017 11:26:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: GAZESL ที่ 29-12-2017 14:36:39
ชอบน้องติชซี่จังคร่ะ 55555
โจ๊กนี่สุดยอดอ่ะ อดใจรอโซ่ได้ตั้งนาน  o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: DedduanG ที่ 01-01-2018 23:28:27
หยุดยิ้มไม่ด้ายยยยย /เอาลิ้นดุนแก้มไว้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ สิงห์น้อย ออน ทัวร์ (11/11/2017) หน้า 42
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 07-01-2018 15:57:49
ห่างหายจากบอร์ดมานาน
ได้ฤกษ์กลับมาอ่านน้องโซ่สักที555555

ขอบคุณพี่บัวเหมือนเดิมนะคะ ที่แต่งนิยายน่ารักๆมาให้อ่านกันตลอด กอดดด
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 19-01-2018 20:13:26
วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
………………….
ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ



   “ทริปภาคฯ? ทริปภาคฯคืออะไร?” เจียระไนตั้งคำถามทันทีที่สิตางศุ์ซึ่งแท็กทีมโดยสองเพื่อนซี้แห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาเอ่ยปากถึงโปรแกรมหนึ่งของนิสิตภาคฯนี้



   ‘ทริปภาคฯ’ จริงๆเจียระไนก็รู้ว่ามันคืออะไร แต่พอตระหนักถึงคำว่า ‘ภาคฯ’ แล้ว ก็เหมือนตนเองถูกแยกออกจากโลกของสิตางศุ์อย่างสิ้นเชิง!


   เขาอยู่ภาควิชาการปกครอง ส่วนสิตางศุ์อยู่ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


   ...ประเด็นคือคนละภาคฯ ประเด็นคือ ‘ทริปภาคฯ’ ย่อมไม่มีเด็กภาคฯอื่น!...


   ...หมายความว่าไอ้โซ่จะไปไหนสักที่ ที่กูไปด้วยไม่ได้! คนละโลกมั้ยล่ะทีนี้!!!!...


   “อ่า...ก็...ทริปที่คนในภาคฯจะไปเที่ยวด้วยกันน่ะ” ร่างโปร่งผิวขาวจัดอธิบายคำจำกัดความอย่างประหม่าเล็กน้อย


   “แล้วไง” แม้จะรู้แก่ใจ แต่เจียระไนยังทำเป็นถาม


   “ก็...ไออาร์จะมีทริปภาคฯ...อ่า…ส...สามวัน...ไป...ไปหัวหินน่ะ”


   “งั้นกูไปด้วย!” รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองอยู่ภาคฯอะไร และสิตางศุ์อยู่ภาคฯอะไร แต่คนอย่างเจียระไนตีมึนสม่ำเสมอ ทว่า...งานนี้ไออาร์ไม่ได้ส่งสิตางศุ์คนซื่อมาเจรจาเพียงลำพัง แต่พ่วงด้วยพฤกษาและอลงกต รายแรกไม่เท่าไร แต่รายหลังนี่สิ...ไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่เจียระไนและสิตางศุ์ยังไม่ลงเอยกันซะอีก!


   “มึงสะกดคำว่าปกครองกับไออาร์ไม่เป็นรึไง ทริปภาคฯกู ไม่มีเด็กภาคฯอื่น!” อลงกตสวน สิตางศุ์หันไปกระตุกแขนเพื่อนเป็นเชิงปรามไม่ให้พูด ก่อนจะหันมาทางเจียระไน...ผู้ซึ่ง...มีส่วนได้ส่วนเสียที่สุดในทริปนี้


   “โจ๊ก...ทริปฯนี้มีแต่ไออาร์...”


   “แต่กูจะไป!” สั้นๆ ได้ใจความและความเอาแต่ใจตัวเอง หนุ่มปกครองมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว ยังไงๆก็ไม่ปล่อยสิตางศุ์ไปทริปภาคฯเพียงลำพังแน่นอน


   ...แล้วเสือกไปหัวหินด้วยนะสัด! เดี๋ยวแม่งก็ชวนกันเล่นน้ำสระ น้ำทะเล ไอ้โซ่ได้ล่อเสือล่อตะเข้กันเพลิน!...


   “แม่งพูดไม่รู้เรื่อง! บอกว่าทริปภาคฯกู! ภาคฯอื่นไปไม่ได้! ทีภาคฯมึงไป! ภาคฯกูยังไม่มีใครไปกับภาคฯมึงเลย!” อลงกตโวย เจียระไนเหลือบตาไปมอง


   “ตอนภาคฯกูไป! กูก็ไม่เห็นต้องไป! แล้วทำไมภาคฯมึงไป ถึงต้องเอาไอ้โซ่ไปด้วย?!” เป็นคำถามจากคนไม่เอาพวกพ้องและผองเพื่อนชนิดที่ทำเอาอลงกตงงตึ้บจนอ้าปากค้าง เจียระไนยิงเงื่อนไขต่อทันที


   “ถ้าไม่ให้กูไป กูก็ไม่ให้ไอ้โซ่ไป! โซ่! มึงไม่ต้องไป แค่หัวหิน! เดี๋ยวกูพาไปเอง!”


   สิตางศุ์มีสีหน้าลำบากใจ ประเด็นไม่ใช่หัวหินหรอก แต่เป็นเพราะทริปนี้จะเป็นการเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตารุ่นพี่รุ่นน้องในภาควิชา แถมมีอาจารย์ไปด้วยอีกต่างหาก แล้วอาจารย์แต่ละคนที่ไป เขาก็ล้วนสนิทสนมด้วยทั้งสิ้น


   ...น่าไปจะตาย อยากไปมากๆเลย แต่...โจ๊ก...


   “อะไร?! ทำหน้าแบบนั้น? มึงจะไปเหรอ?!” เจียระไนเหลือบมาเห็นสายตาละห้อยแถมสีหน้าหมองหม่นของคนรักก็ใจหายวาบรีบร้องถามอย่างรวดเร็ว


   “ก็...เพื่อนกูไปกันหมดเลย แล้ว...แล้วน้องในสายรหัสก็ไปกันหมด...เอ่อ...อาจารย์ก็ไป...อ่า...”



   “แต่กูไม่ได้ไป!” หนุ่มปกครองย้ำ


   “ก็...ไว้เราไปเที่ยวกันเองอีกรอบไม่ได้เหรอ รอบนี้กูขอไปกับ...” ยังพูดไม่ทันจบ เจียระไนก็ลุกพรวดอย่างหงุดหงิด


   “ถ้ามึงจะไปก็ไปเลย! ไม่ต้องมาสนใจกู!” แล้วร่างสูงก็หุนหันจากไปอย่างรวดเร็ว


   “โจ๊ก!” สิตางศุ์ร้องเรียก แต่พอจะก้าวเท้าเดินตามไปง้อ อลงกตกลับดึงแขนไว้


   “มึงไม่ต้องไปเลยโซ่ ไอ้เชี่ยโจ๊กแม่งเอาแต่ใจตัวเอง”


   “อา...แต่ว่ามันโกรธกูนะ กต”


ดูก็รู้ว่าถูกเจียระไนโกรธ ยิ่งรู้ก็ยิ่งไม่สบายใจ


   “ก็ปล่อยมันโกรธไป มึงไม่ควรตามใจมันมาก”


   “แต่ว่า...”


   “หรือมึงจะไม่ไป? เพื่อนมึงทั้งภาคฯไปกันหมด น้องรหัสมึงก็ไปกันหมด แต่เพราะไอ้โจ๊กไปด้วยไม่ได้ แล้วแม่งงอแง มึงก็เลยจะไม่ไปเพราะมันงั้นเหรอ เพราะไอ้โจ๊ก มึงก็เลยจะไม่ไปทริปภาคฯยังงั้นใช่มั้ย” อลงกตถามจี้ให้เห็นกันชัดๆ ว่าใครกันแน่ที่ไม่มีเหตุผล ซึ่งก็ชี้ไปที่ตัวเจียระไนได้อย่างง่ายๆเลยทีเดียว


   “กู...กูอยากไปนะ แต่ว่า...ไอ้โจ๊กมันก็แฟนกูอ่ะ กูไม่อยากให้มันโกรธ”


   “สรุปมึงจะเลือกไอ้โจ๊ก?”


   “อ่า...กูไม่ได้เห็นโจ๊กดีกว่าพวกมึงนะ แต่ตอนนี้มันโกรธกู” สิตางศุ์หน้าเสีย แค่เจียระไนโกรธคนเดียว เขาก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว หากถูกอลงกตโกรธอีกคน คราวนี้คงแย่กันไปใหญ่


   “แต่ถ้ามึงไปง้อไอ้โจ๊ก...เอี้ย! ไอ้เอี้ยแอ้ด!!” อลงกตยังพูดไม่ทันจบ พฤกษาที่ยืนเงียบๆมานานก็ตะครุบปากเพื่อนสนิทเอาไว้ จากนั้นก็หันมายิ้มเผล่ให้สิตางศุ์


   “มึงไปง้อไอ้โจ๊กไป ทางนี้กูจัดการเอง”


คนผิวขาวจัดพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบหมุนตัวเดินตามเจียระไนไป ทิ้งเพื่อนสนิทสองคนเอาไว้ด้วยกัน พอพ้นหลังของสิตางศุ์แล้ว อลงกตที่พยายามงัดมือเค็มๆของเพื่อนสนิทออกจากปากตัวเองมาตั้งแรกก็ถึงได้ทำสำเร็จ


   “ไอ้เชี่ย! มือมึงป้ายกาวมารึไง! ทั้งเค็มทั้งเหนียว!”


   “ป้ายอีกสักทีมั้ย” พฤกษายกมือจะเอาป้ายปากเพื่อนรักผู้ชอบยุแยงให้ครอบครัวคนอื่นร้าวฉาน แต่อลงกตขยับตัวหนีไปซะก่อน


   “หยุดเลยมึง! แม่ง! เสือกปล่อยไอ้โซ่ไปง้อไอ้โจ๊กอีก!”


   “พวกมันเป็นแฟนกัน โกรธกันก็ต้องง้อกันสิวะ มึงน่ะเลิกทำตัวเป็นพ่อหวงลูกสาวได้แล้ว ลูกมึงออกเรือนขนาดนี้ จะหวงไว้ทำซากอะไร”


   “ไอ้โจ๊กแม่งกวนส้นตีน! กูพูดจนปากจะฉีกว่าทริปภาคฯ ก็ยังจะไปด้วยให้ได้!” 


พฤกษาถอนหายใจอย่างระอา เจียระไนไม่ฟังคำพูดของอลงกตก็ถูกแล้ว คนอย่างนั้นฟังใครที่ไหน แต่ถ้าลองเป็นสิตางศุ์ไปพูดสิ ร้อยทั้งร้อย...เสร็จ!


   “ก็มึงเป็นใคร ไปบอกมันแล้วคิดว่ามันจะทำตามรึไง มึงปล่อยให้ไอ้โซ่ไปพูด เชื่อกูมั้ยว่าไม่เกิน 5 นาที ไอ้โจ๊กก็ยอมแล้ว”


อลงกตเงียบกริบ แม้สีหน้าจะดูหงุดหงิด แต่เพราะรู้เห็นเรื่องของสองคนนั้นมาพอสมควร คนใกล้ชิดล้วนดูออกทั้งนั้นว่าเจียระไนยอมสิตางศุ์ขนาดไหน 


   ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนกยังน้อยไปเลย!


   “เอาหน่า มึงปล่อยให้พวกมันไปเคลียร์กันเอง เชื่อกูสิว่าไอ้โซ่ได้ไป”


อลงกตเหลือบตามามอง แม้จะเชื่อตามที่เพื่อนพูดว่าสิตางศุ์ได้ไปร่วมทริปครั้งนี้แน่นอน แต่เพราะฟอร์มเยอะหน่อย ก็เลยต้องขู่ตบท้ายด้วย


   “ถ้ามันไม่ได้ไป กูจะเตะมึง!”
   
……………………….

   น้ำกระเจี๊ยบแก้วใหญ่ถูกยื่นมาตรงหน้า เจียระไนที่นั่งอยู่บนโต๊ะริมสนามฟุตบอลยอมละสายตาจากหญ้าเขียวๆมาที่เจ้าน้ำสีแดงนั่น ก่อนจะมองไปที่มือขาวๆที่ถือแก้วอยู่ แล้วค่อยๆไล่สายตาขึ้นไปที่ใบหน้าของเจ้าของมือ


   สิตางศุ์ส่งยิ้มให้ ทั้งๆที่ยังยื่นแก้วน้ำให้อยู่อย่างนั้น


   “ซื้อมาฝาก”


   “คิดว่าแค่นี้จะทำให้กูยอมให้มึงไปรึไง!” หนุ่มปกครองผู้อยู่คนละภาควิชาถามกระแทกกระทั้นแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ยังไม่ยอมรับน้ำในมือของสิตางศุ์ไปดื่ม


   ร่างโปร่งทรุดตัวลงนั่งข้างๆ น้ำกระเจี๊ยบใส่น้ำแข็งเริ่มละลายแล้ว ไอน้ำเกาะตัวรอบแก้วจนมือเริ่มเปียกและเย็น


   “กูไม่ได้ซื้อมาเพื่อให้มึงยอมให้กูไปหรอก แต่ว่า...ซื้อมาเพราะเห็นว่ามึงชอบ”


   “แล้วรู้มั้ยว่าอะไรที่กูไม่ชอบ? กูไม่ชอบเวลาที่ไม่ได้อยู่กับมึง แต่มึงกำลังจะไปกับภาคฯมึง แล้วทิ้งกูไว้คนเดียวสามวัน!” เจียระไนวกเข้าเรื่องที่ก่อความหงุดหงิดในใจของเขา


   “กูขอโทษ กูเข้าใจว่ามึงรู้สึกยังไง แต่ว่า...นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่กูจะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนในภาคฯ น้องในภาคฯแล้วก็อาจารย์ในภาคฯ พวกเขา...สำคัญกับกูเหมือนกันนะโจ๊ก กูคงจะเรียนมาถึงปีสี่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเขา กูไม่ได้คิดจะละเลยมึง หรือว่าไม่เห็นความสำคัญของมึง แต่...กูอยากจะขอแค่สามวัน ให้กูได้ใช้เวลากับคนที่เขาดูแลกูมาจนถึงวันที่กูมีมึงในวันนี้”


ประโยคสุดท้ายเหมือนเป็นหมัดเด็ดที่ทำให้เจียระไนต้องยอมรับความจริง


   สิตางศุ์มีคนสำคัญมากมายในชีวิต เพราะเป็นคนจิตใจดี มองโลกในแง่ดี คนที่เข้ามารุมล้อม ไม่ใช่แค่เพียงเข้ามาเพราะอยากอยู่ใกล้คนอย่างสิตางศุ์เท่านั้น แต่พวกเขาเหล่านั้นล้วนปกป้องและดูแลจนสิตางศุ์มานั่งอยู่ข้างเจียระไนในวันนี้


   “กู...มีคนสำคัญหลายคนก็จริง แต่มึงก็สำคัญกับกูมากกว่าใครๆนะ ถ้า...สุดท้ายแล้วมึงจะไม่ให้กูไป หรือมึงไม่สบายใจที่กูจะไป กูก็จะยอมรับการตัดสินใจของมึง”


   “ถึงแม้ว่ามันจะทำให้มึงไม่ได้ไปเที่ยวครั้งสุดท้ายกับเพื่อนในภาค น้องในภาค ‘จารย์ในภาคของมึงน่ะเหรอ” เจียระไนย้อนถาม สิตางศุ์ชะงักไปนิด แต่ก็ตัดสินใจมาแล้วว่าถ้าหากเขาไปแล้วคนรักโกรธ เขาก็จะยอมทิ้งโอกาสสำคัญครั้งสุดท้ายนี้เพื่อรักษาความรู้สึกของเจียระไนเอาไว้


   …เพราะโจ๊กคือคนสำคัญ เป็นคนสำคัญที่อยากรักษาและดูแลความรู้สึก ถึงแม้การรักษาความรู้สึกของโจ๊ก จะทำให้ต้องเสียโอกาสก็ตาม...


   “ถ้า...มึงไม่สบายใจ กูก็ไม่อยากทำแล้วล่ะ”


ร่างสูงฟังแล้วหัวใจแกว่ง หากเขาไม่สบายใจ สิตางศุ์ยังไม่อยากทำ ตัวเขาเองก็เหมือนกัน หากสุดท้ายแล้วสิตางศุ์เสียใจ เสียดาย หรือพลาดโอกาสที่มันเห็นว่าสำคัญในชีวิต เขาก็ไม่อยากเป็นต้นเหตุ


...หัวหิน สามวัน...


...สามวัน ที่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง จะมีใครดูแลดีมั้ย จะมีใครทำอันตรายรึเปล่า...


...สามวัน ที่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน...


   “ห้ามเล่นน้ำสระ ห้ามใส่กางเกงว่ายน้ำ ถ้าจะเล่นน้ำทะเลต้องใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ห้ามใส่เสื้อขาว ห้ามกินเหล้าจนเมา ห้ามอยู่ห่างไอ้กตกับไอ้แพท แล้วก็ห้ามค้างห้องคนอื่น มึงต้องนอนห้องไอ้สองคนนั่นเท่านั้น” เสียงทุ้มดังขึ้นเรียบๆ เป็นเสียงเรียบๆที่ห้วนสนิท ทว่า...แม้จะห้วน แต่ก็เหมือนการอนุญาตให้สิตางศุ์ไปร่วมทริปภาคฯกลายๆ พร้อมด้วยเงื่อนไขอีกนิดหน่อย


   คนฟังชะงัก ดวงตาคู่สวยเบิกโตอย่างคาดไม่ถึง


   “ม...มึงให้กูไปเหรอ?!”


   “ถ้ากูโทร.ไปเมื่อไร มึงต้องรับสาย”


   “ด...ได้! กูสัญญา”


   “แล้วโทร.หากูบ่อยๆด้วย” เจียระไนสำทับเพิ่ม แต่ก็ยังไม่ยอมหันไปมองคนข้างกายอยู่ดี ขนาดไม่มอง ไม่สบตา แค่ฟังสิตางศุ์พูดนิดเดียว จากตอนแรกที่แข็งขืนจะไม่ยอมให้ไป ก็กลายเป็นยอมตามใจกันง่ายๆซะงั้น


   ...ใจหนอใจ ใจไอ้โจ๊ก...ทั้งอ่อนทั้งเละเป็นโจ๊กจริงๆ!!...


   “อื้ม!” เป็นการรับคำสั้นๆที่หนักแน่นด้วยน้ำเสียงในคอ เจียระไนเหล่ตาไปดูก็เห็นคนข้างกายกำลังมองตรงมาที่เขาด้วยดวงตาใสๆคู่สวยที่เหมือนจะบอกขอบคุณ แถมด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าขาวๆนั่นอีก


   ...ใจที่อ่อนและเละ เหลวเป๋ว ไหลลงไปกองกับพื้นอย่างกับน้ำแข็งเจอพิษโลกร้อนยังไงอย่างงั้น!!...


   “โจ๊กกินน้ำกระเจี๊ยบนะ กูซื้อมาให้” 


แล้วแก้วน้ำกระเจี๊ยบที่มีหยดน้ำเกาะพราวก็ถูกยื่นมาตรงหน้าอีกรอบ เจียระไนมองน้ำกระเจี๊ยบแก้วเดิมที่เขาไม่ยอมรับในทีแรก แต่กระทั่งสิตางศุ์จะแยกจากไปสามวันเขายังต้องยอม เจ้าน้ำกระเจี๊ยบแก้วนี้...สุดท้ายแล้ว เขาก็ยอมยื่นมือไปรับอยู่ดี ทว่า...ช่วงจังหวะที่แก้วน้ำกระเจี๊ยบถูกส่งต่อระหว่างมือ เจียระไนก็แตะโดนมือขาวที่เย็นและชื้นเข้าพอดี


   มือใหญ่ดึงแก้วน้ำกระเจี๊ยบออกไปแล้ว แต่พอสิตางศุ์จะชักมือตัวเองกลับ ก็ถูกมืออีกข้างของเจียระไนคว้าไปกุมเอาไว้


   “ทำไมมือมึงเย็นขนาดนี้” คนกุมมือขาวที่เย็นและเปียกชื้นหันมาดุ แต่สิตางศุ์ยังยิ้มน้อยๆให้


   “ก็น้ำกระเจี๊ยบมันเย็นนี่นา” 


เจียระไนไม่พูดอะไรอีก แต่กุมมือเย็นๆนั่นไม่ปล่อย ราวกับจะให้อุณหภูมิของเขาทำให้มือเย็นๆนี่อุ่นขึ้น มือหนึ่งของเขายังกุมมือขาวของสิตางศุ์เอาไว้ ในขณะที่มืออีกข้างยกน้ำกระเจี๊ยบขึ้นดูด ดวงตาเรียวมองออกไปที่สนามฟุตบอลตรงหน้าราวกับไม่อยากจะหันไปมองคนข้างกายให้ใจอ่อนมากไปกว่านี้อีกแล้ว


   ...เดี๋ยวแม่งขอต่อเวลาจากทริปภาคฯ 3 วัน เป็น 5 วัน 7 วัน มีหวังกูตายแน่เลย! ตายเพราะใจอ่อนกับมันนี่ล่ะ!...


   แต่...แม้จะไม่หันมองคนข้างกาย อะไรบางอย่างก็วางลงบนไหล่ของเขาเบาๆ เจียระไนไม่ทันระวังความอยากรู้อยากเห็นของตนเอง เผลอหันไปมองเข้า แล้วก็ต้องชะงักเมื่อพบว่าคนที่ทำให้เขาใจอ่อนอยู่เสมอวางศีรษะแพะพิงลงกับไหล่ของเขานั่นเอง


   ...โอ้โห ใจกู!...


   “ขอบใจนะโจ๊ก” คนพิงศีรษะลงกับไหล่ของเขาว่าอย่างนั้น เจียระไนก็ละลายไม่ต่างจากน้ำแข็งในแก้วน้ำกระเจี๊ยบเลยแม้แต่นิด และก่อนที่เขาจะทันยกน้ำกระเจี๊ยบขึ้นดูดเพื่อไม่ให้ปากว่าง ปากที่ว่างก็ดันหลุดคำพูดไปหนึ่งประโยค


   “ไม่เป็นไร”


   ...อ๊ะหือ!! แท้จริงคือไม่อยากให้ไป แต่พอมันขอบใจเข้าหน่อยก็เสือกไม่เป็นไรขึ้นมาเฉยเลย!! ไอ้กากโจ๊ก!!!!...

…………………….



   เช้าวันเสาร์ คณะรัฐศาสตร์ที่น่าจะร้างผู้คนกลับมีการชุมนุมเล็กๆของนิสิตภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วันนี้เป็นวันเดินทางของทริปภาคฯที่จะมุ่งหน้าไปหัวหิน รถบัสปรับอากาศมาจอดรออยู่แล้ว


   “เจอกันวันจันทร์ตอนเย็นนะโจ๊ก” สิตางศุ์หันมาลาสารถีผู้ขับรถมาส่งที่คณะ แม้เจียระไนจะยอมให้ไป แต่สีหน้าของหนุ่มปกครองก็ยังหงุดหงิดเสมอต้นเสมอปลาย


   “เดี๋ยวกูซื้อหม้อแกงมาฝาก” คนผิวขาวจัดเสนอของฝากเพิ่มอีกหน่อย เผื่อจะช่วยคลายสีหน้าหงุดหงิดได้ แต่...เจียระไนก็ยังขมวดคิ้วเหมือนเดิม


   “ห้ามเล่นน้ำสระ เล่นน้ำทะเลต้องใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ห้ามใส่เสื้อขาว ห้ามแดกเหล้าจนเมา ห้ามนอนห้องอื่น ต้องนอนห้องเดียวกับไอ้กตไอ้แพท แล้วก็...โทร.หากูบ่อยๆ” เหมือนตั้งโปรแกรมชุดคำสั่งเอาไว้แล้ว สิตางศุ์หัวเราะสดใสกับคำพูดและหน้าตามู่ทู่ของคนตรงหน้า เขาแกล้งทำท่าตะเบ๊ะ


   “รับทราบ จะโทร.หาสามเวลาหลังอาหาร แล้วก็อีกรอบก่อนนอนด้วย!” คนทำท่าจริงจังแต่ตาใสๆนั่นมีแววซุกซน ก็ทำเอาเจียระไนเก็กหน้าขรึมต่อไปไม่ไหว หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ


   “โจ๊กอยากได้อะไรนอกจากหม้อแกงมั้ย หม่าม้ากับอาม่าทานเป็นรึเปล่า”


   “ไม่ต้องซื้อฝากม่ากับม้าหรอก”


   “ไม่ได้หรอก ต้องซื้อฝาก คนสำคัญของมึงก็ถือเป็นคนสำคัญของกูเหมือนกันนะ”


เอาใจคนฟังไปเต็มๆ เจียระไนหมดใจจะต้านทานไม่ให้อีกฝ่ายไปได้แล้ว แต่...ก็อยากจะดึงมาจูบลาสักหน่อย มั่นใจว่ากล้าทำแน่ แต่...เสียงหนึ่งดังขัดจังหวะเสียก่อน


   “พี่โซ่...” เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง สิตางศุ์และเจียระไนหันไปมอง เจ้าของเสียงคือปกฉัตรน้องรหัสในสายของสิตางศุ์ แถมสถานะคนรักลูกพี่ลูกน้องของเจียระไนด้วย


   แน่นอน...ในเมื่อเจียระไนยังมาส่ง แล้วญาติผู้น้องที่นิสัยเหมือนกันจะไม่มาส่งแฟนมันได้ยังไง


   “หวัดดีครับ” ปกฉัตรยกมือไหว้สองรุ่นพี่ ด้านหลังของเขาคือคนรักซึ่งเป็นญาติกับเจียระไน


   “หวัดดีเฮีย หวัดดีพี่โซ่” เจตน์ยกมือไหว้เช่นกัน นอกจากหน้าตาจะเหมือนเจียระไนแล้ว สีหน้าเวลานี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไร รู้เลยว่าไม่อยากปล่อยคนข้างกายไปทริปภาคฯที่ตัวเองไปด้วยไม่ได้


   “พี่โซ่ เราไปที่รถกันได้แล้ว เขาบอกว่ารถจะออกแล้ว” รุ่นน้องปีสองที่จะไปด้วยกันชักชวนสิตางศุ์ แต่ยังไม่ทันเดิน แขนก็ถูกคว้าเอาไว้ ปกฉัตรหันไปมองก่อนจะถอนหายใจเบาๆที่เห็นสีหน้าของคนรัก


   “ห้ามใส่เสื้อขาว ห้ามเล่นน้ำสระ ห้ามเมา รู้แล้ว ย้ำมาตั้งแต่ออกจากคอนโดแล้ว ถ้าพี่พูดซ้ำอีกล่ะก็ จะปิดเครื่องตลอดสามวันนี้จริงๆ” ถึงจะอายุน้อยกว่า แต่ปกฉัตรไม่มีหงอเลยสักนิด เจ้าตัวทำหน้าจริงจังเหมือนเอาจริง เจตน์ได้แต่ทำเสียงจึ้กจั้กในคออย่างขัดใจ แต่มือยังจับแขนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย


   “เลิกทำหน้างอแงได้แล้ว ผมบอกแล้วไงว่าจะโทร.หาบ่อยๆ ไปแค่สามวันเอง เดี๋ยววันจันทร์ก็กลับแล้ว” หลังจากขู่ไปชุดหนึ่ง ก็ตามมาด้วยเสียงอ่อนอีกที เจียระไนเพิ่งเห็นญาติผู้น้องของตนเองได้แต่หุบปากเงียบแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าปกฉัตรจะเอาเจตน์อยู่หมัด


   “ไปขึ้นรถกันเถอะ พี่โซ่” แล้วหนุ่มรุ่นน้องก็หันมาชวนพี่รหัสของตนเอง สิตางศุ์พยักหน้ารับก่อนจะหันมาส่งยิ้มลาให้เจียระไนทีหนึ่ง จากนั้นก็หันไปยิ้มให้เจตน์ แล้วเดินไปขึ้นรถกับน้องรหัส


   ทิ้งผู้ชายสองคนที่นามสกุลเหมือนกันเอาไว้ที่เดิม 


ทั้งเจตน์และเจียระไนยืนอยู่ตรงนั้น มอง ‘ไออาร์’ สองคนที่เดินขึ้นรถบัสไปหาที่นั่งกันแล้ว สองคนนั้นโบกไม้โบกมือผ่านกระจกรถมาให้พวกเขา ถึงใจจะไม่อยากให้ไป แต่แฟนโบกมือมา จะยืนทื่อไม่โบกมือกลับก็ยังไงอยู่ สองหนุ่มที่หน้าตาและสีหน้าคล้ายกันยกมือเตี้ยๆโบกลากลับไป แล้วอึดใจต่อมา เมื่อเหล่านิสิตภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นรถกันครบทุกคนแล้ว รถบัสคันใหญ่ก็เคลื่อนตัวออกจากหน้าคณะ


ทิ้งเจียระไนและเจตน์เอาไว้ที่เดิม


พวกเขายืนเงียบๆ จนกระทั่งหนุ่มปีสามจากคณะบัญชีพูดขึ้นมาก่อน


   “ตั้งสามวันนะเฮีย”


“กูรู้ ไม่ต้องย้ำ”


...สามวันที่จะไม่ได้เจอหน้า ได้ยินแค่เสียง...


   ...สามวันที่ต้องอยู่คนเดียว หันข้างไปก็ไม่เห็นคนคุ้นตาที่มักจะส่งยิ้มให้มา...


   ...สามวันที่ปล่อยให้ห่างสายตาโดยไม่รู้ว่าคนที่ไปด้วยจะดูแลได้ดีแค่ไหน...


   ...สามวัน...


...นานไป๊!!!...


สองพี่น้องที่มีสายเลือดเหมือนกันครึ่งหนึ่งหันมองหน้ากัน ตาเรียวสองคู่ประสานกัน ก่อนที่เจียระไนจะเอ่ยปาก


   “รถใคร กูหรือมึง”


   “รถเฮียแล้วกัน ไอ้ปกจำรถผมได้”


   “งั้นไปเลย มึงโทร.บอกให้ใครมาเอารถมึงกลับด้วย อ้อ...โทร.บอกโซ้ยเจ๊กว่าจะยืมคอนโดที่หัวหินสามวัน”


เจตน์กดโทรศัพท์เดี๋ยวนั้น ก่อนที่สองหนุ่มแซ่ตั้งจะตรงดิ่งไปขึ้นรถของเจียระไน แล้วจากนั้น...ทริป(ตาม)ไออาร์ของสองพี่น้องก็เริ่มต้นขึ้น


   ...ทริปภาคฯก็ทริปภาคฯสิวะ! ถึงไม่ได้อยู่ไออาร์ พวกกูก็จะไป!...




FIN

ตอนแรกกะว่าจะรอลง ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ ให้จบก่อน เพราะกลัวจะงงไทม์ไลน์กัน เนื่องจากในตอนนี้ โจ๊กกับโซ่อยู่ปี 4 ส่วนเจ๋งกับปกก็คบกันแล้ว แต่เนื่องจากนกคอนฯ (เห็นว่าคอนสนุกมากด้วย เซ็ตลิสต์มีเพลงที่ชอบด้วย เสียใจ) และงานมะรุมมะตุ้มกับบัวมากเลย ก็เลย...เอาลงประชดชีวิตซะเลยค่ะ ฮ่าฮ่า


ส่วนตอนนี้...หวังว่าผู้ชายที่ซื้อได้ด้วยน้ำกระเจี๊ยบแก้วเดียวจะยังคงเป็นที่เอ็นดูของคนอ่านนะคะ ฮ่าฮ่า ไว้มีตอนพิเศษอีก จะเอามาลงให้อ่านกันอีก


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนคิดถึงพี่โจ๊ก ปกครองและโซ่ ไออาร์ เวลามีคนมาบอกว่าชอบอิโจ๊กมาก จะรู้สึกดีใจมากเลยค่ะ รู้สึกประสบความสำเร็จที่ทำให้ผู้ชายนิสัยไม่เอาคนทั้งโลกแบบนี้เป็นที่รัก ฮ่าฮ่า ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ


เจอกันใหม่ เมื่อมีตอนพิเศษอีกค่ะ

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 19-01-2018 20:50:42
ว่อยยยยยยย ว่าแล้วต้องตามไปแน่5555555555
โจ๊กก็รักของโจ๊ก เข้าใจบ้างไหมมม
เกลียดความเหมือนของสองพี่น้องนี่จริงๆ
แพ้ทางโซ่ตลอดเลยอิโจ๊กกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 19-01-2018 20:50:55
เอ็นดูสองพี่น้องโจ๊กเจ๋งจริงๆ  :mew1:

รอตอนต่อๆไปนะคะ :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 19-01-2018 20:53:50
555 คิดอยู่ว่าโจ๊กไม่น่าปล่อยซอโซ่ไปง่ายๆ ได้เพื่อนร่วมอุดมการณ์เป็นเจ๋งแล้วด้วย อยากอ่านต่อ  o13 o13 o13 
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-01-2018 20:56:28
ฮาาาา พี่น้องตัวจอ หวงแฟนจ๊นนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Numai ที่ 19-01-2018 21:02:49
โจ๊กคนจริง

 :hao3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-01-2018 21:03:18
เมื่อไรๆ อลงกตก็ไม่พอใจโจ๊กปกครอง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับโซ่

ข้อห้ามของโจ๊ก เจ๋ง คล้ายแทมจะลอกกันเลย
เล่นน้ำทะเลต้องใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น ห้ามใส่เสื้อขาว
ห้ามแดกเหล้าจนเมา ห้ามนอนห้องอื่น


สุดท้ายทั้งคู่ก็ขับรถตามสุดที่รักของตัวเองไปจนได้ :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 19-01-2018 21:12:50
ว่าแล้วเชียวเฮียๆต้องตามไปหัวหิน ใครมันจะทนได้ตั้ง3วัน :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 19-01-2018 21:28:06
ฮ่าๆๆๆๆโอ้ยยยยย เอ็นดูสองพี่น้องแซ่ตั้งจริงๆ หวงแฟนจนไม่อยากให้คลาดสายตาแต่ยังไงก็ไม่ทิ้งความกากจริงๆ เจอสายตาอ้อนเข้าหน่อยใจเหลวกันไปเลยมั้ยละ ตอนอ่านนี่ก็คิดอยู่ว่าเขาไม่ให้ไปก็ตามไปเองเซ่!! และสุดท้ายก็ตามไปจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 19-01-2018 21:30:59
พี่น้องตระกูลนี้กากมากๆ ขอขำหน่อย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 19-01-2018 21:44:47
ชอบโจ๊ก รักโจ๊ก อยากได้โจ๊ก โจ๊กตลกดี 5555555+
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Cappello ที่ 19-01-2018 21:51:22
แพ้ทุกทาง โจ๊กนี่เป็นโจ๊กเลย55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 19-01-2018 21:55:05
อิคนติดแฟน 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: MacaroonCookie ที่ 19-01-2018 23:42:12
ฮาาาาา ขำ เกรี้ยวกราดได้ไม่นานก็แพ้ทางโซ่เหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-01-2018 00:09:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 20-01-2018 01:13:08
หวงเกิ้นนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-01-2018 01:24:23
คิดอยู่ว่าคนบ้านนี้เหรอจะปล่อยคนรักจากอกไปตั้งหลายวัน มันต้องมีแผน!!!!!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 20-01-2018 04:56:41
ไม่แปลกใจเลยที่สองจอตามทริปภาคไปก็หวงและห่วงมากกกกขนาดนั้นสู้ๆนะคะสองจอ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: wichiwiwie ที่ 20-01-2018 06:22:21
ว่าแล้ว... ต้องตามไปแน่ๆ 555555 นิสัยเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้องเลยฮะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 20-01-2018 08:22:17
โจ๊กโคตรขี้หึงเลย แต่ก็น่ารัก



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-01-2018 08:32:34
ตามไปจนได้สิน่า ทั้งพี่ทั้งน้อง!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 20-01-2018 09:00:17
สมกับที่เชื้อสายเดียวกันจริงๆ  :mew4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: boboman ที่ 20-01-2018 10:04:57
เอาซะอยากรู้ต่อเลยว่าสองศรีพี่น้องตามไปแล้วจะเป็นไงต่อ 5555555
อิโจ๊กน่ารักปนน่าหมั่นไส้จริงๆ 555 ขี้ใจอ่อนให้พี่โซ่จริงๆ เลยน้าา อิอิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 20-01-2018 11:41:08
ตลกอิลูกพี่ลูกน้องคู่นี้ หวงเมียไรขนาดนั้น5555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 20-01-2018 12:35:35
เป็นความคิดที่ดี o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: pandant ที่ 20-01-2018 12:39:27
ความว่าแล้ววววว ว่าต้องตามมมม จริงๆเล้ย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-01-2018 14:00:29
55555 แพ้ทางมาก บอกเลย
โจ๊กก็โจ๊กเหอะ เจอโซ่เข้าไป ยังไงก็ยอม

โซ่น่ารักมาก โจ๊กก็ยังกากเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีคนร่วมชะตากรรม

ว่าแล้วจะต้องตามแน่ ไม่ยอมอยู่เฉยกันหรอก

คิดถึงมากค่ะ ทั้งโซ่ทั้งโจ๊ก

เป็นกำลังใจให้คุณบัวนะคะ รอตอนพิเศษต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-01-2018 07:58:05
ก็แอบคิดว่าโจ๊กจะไม่ตามเชียวเหรอ 55555
หวงสมเป็นพี่น้องกันจริงเชียวโจ๊กเจ๋ง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 21-01-2018 09:09:11
ซื้อหวยไมไม่ถูกแบบนี้บ้าง เขาห่างเมียกันได้ที่หน๊ายยยย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 21-01-2018 20:06:04
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 21-01-2018 21:07:45
ตลกอิคู่ลูกพี่ลูกน้อง 5555555 เหมือนตั้งโปรแกรมเดียวกันมาหวงเมียเว่อร์ 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 21-01-2018 21:38:20
ถึงไม่ได้อยู่ไออาร์ พวกกูก็จะไป !!!
555 มันต้องอย่างงี้ !!!
ก็คนมันรัก!!! มันหวง !!! มันคิดถึง !!!
ได้ใจมากๆ #โจ๊กเจ๋ง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 22-01-2018 01:22:34
ตลกพี่น้องคู่นี้จริงๆ จะหวงอะไรขนาดนั้น 5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: ShinsHolic ที่ 22-01-2018 08:35:31
ว่าแล้ววววว อย่างพี่โจ๊กไม่มีทางปล่อยหร๊อกก พี่เจ๋งด้วย 555555 โอ๊ยยยย เอ็นดูคนตระกูลแซ่ตั้งจังค่ะ 5555 ไออาร์เอาอยู่เว่อร์ๆๆ ขอให้ทริป(ตาม)ไออาร์ผ่านไปได้ด้วยดี พี่โซ่ไม่จับได้ น้องปกไม่ปิดมือถือหนีนะคะ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: mirin ที่ 22-01-2018 12:09:36
ว่าแล้ววว ยังไงก็ต้องตามไป555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 22-01-2018 15:37:04
สองพี่น้อง หึหึ ไม่น้อยหน้ากันเลย  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-01-2018 09:45:34
มันไม่มีทางที่จะไม่ตาม ผู้ชายบ้านนี้เหมือนกันจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 28-01-2018 13:48:21
สองพี่น้องแซ่ตั้ง กากจริงๆๆ :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 28-01-2018 15:44:31
 ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 30-01-2018 06:28:54
ดีมากเลย อ่านไปลิ้นดุนแก้มไปค่ะ แอบยิ้มตามโจ๊กไม่ได้เลย
เวลาโจ๊กฟินอะไรแล้วพยายามจะกลั้นยิ้มตัวเองนี่ดีมากเลย มันทำให้รู้สึกว่าต้องกลั้ยยิ้มตามอ่ะ 555555555

ขอบคุณมากเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-01-2018 00:15:26
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 31-01-2018 00:18:51
โง้ย น่ารักกก โซ่ผู้แสนดีและวาทศิลป์เป็นเยี่ยม โจ๊กนี่ระทวย โวยวายไปก็เท่านั้นล่ะ ฮา
อยู่ไม่ได้ ความหวงแฟนของสองพี่น้อง ตามไปด่วนนนน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 31-01-2018 03:01:15
คิดถึงโซ่และโจ๊กมากมาย  ขอบคุณตอนพิเศษที่ทำให้ยิ้มได้นะคะ
ปล. อดไปคอนเช่นเดียวกันค่ะ  เศร้าาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 03-02-2018 01:54:58
กรีดร้องหนัก ๆ ตกลงใครติดใครเนี่ยะ...พี่น้องแซ่ตั้งติดเมียทั้งคู่งั้นสินะ :mew4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: mammam ที่ 03-02-2018 14:00:20
ขอบคุณที่เอาโซ่กับโจ้กแวะมานะคะ  คิดถึงหลายยยยยยยย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 03-02-2018 14:59:32
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 03-02-2018 15:55:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: kedtawan ที่ 03-02-2018 16:12:34
กากจริงไรจริงมากอ่ะ พี่น้องแซ่ตั้ง  :katai3:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: basza2x ที่ 04-02-2018 08:13:55
สนุก โจ๊กน่ารักมากกกก มากๆๆๆ เขิลเลยอะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 06-02-2018 14:25:19
ยอมตลอดอ่ะโจ๊กใจแข็งไม่เคยได้เลย 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 08-02-2018 15:11:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
กลับมาอ่านอีกครั้ง
ก็ยังดีงามเหมือนเดิม
น้องโซ่&น้องโจ๊ก
 :mew1:
 :mew1:
 :mew1:
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: sripaerrr ที่ 08-02-2018 20:53:59
ความเหมือนนี้ 55555 ทั้งหน้าตา ทั้งนามสกุล ทั้งความเกรี้ยวกราด ทั้งความขี้หวง ทั้งคำสั่ง โอ้ยยยยย 55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 09-02-2018 18:49:05
2 พี่น้องตระกูล จ. น่ารักอะ ใจอ่อนกับเมียๆ ตลอด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 09-02-2018 20:04:37
ยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษที่แล้วก็ชิ่งมาอ่านตอนนี้ก่อนเพราะอีกเรื่องยังไม่จบ  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: taku_kimu ที่ 13-02-2018 15:45:51
ชอบโจ๊กมากๆ เลยค่ะ พระเอกในดวงใจอันดับหนึ่งตลอดกาล  :-[  ส่วนโซ่ก็นายเอกที่รักมากๆ เป็นเรื่องที่อยากให้มีภาคต่อตอนทำงานอะ ถ้าเป็นไปได้ช่วยแต่งมาให้อ่านนะคะ จะรวมเล่มเป็นภาคสองก็ได้นะ จะรอซื้อเลยค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 16-02-2018 11:41:47
ตรุษจีนแล้ว  อยากอ่านตอนโจ๊กพาโซ่ไปไหว้เจ้า    o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-02-2018 21:05:15
ว่าแล้วว่าต้องตามไป
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: 14th-friedegg ที่ 24-02-2018 23:36:31
ก็ว่าอยู่ไม่มีทางปล่อยหรอก สองคนนั้น 555
ทริปตามไอ้เราก็ตามด้วยคะ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 11-03-2018 15:40:35
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 12-03-2018 15:26:59
ขอบคุณคนแต่งนะคะ สนุกมากๆ รอตอนพิเศษค่าาา  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: BIRD ที่ 20-03-2018 13:02:55
ชอบทั้งวาซะซ่อนเร้น และผลประโยชน์ทับซ้อนเลยครีบ เดี๋ยวผมจะซื้อสองเล่มนี้เก็บไว้เป็นที่ระลึก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 06-04-2018 14:36:58
อ่านรวดเดียวจบ งานเงินไม่ต้องทำแล้ว :katai1: สนุกจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 16-04-2018 08:17:20
 :o8: ชอบบบบ ไม่เคยผิดหวังกับนิยายตุณบัวจริงๆ ชอบบบบบ :katai2-1:  ชอบความหวงของโจ๊ก ความใจ้ย็น+อ้อนของโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 20-04-2018 15:07:42
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รักน้องโซ่ น้องโจ๊ก
 :L2:
 :L2:
 :L2:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 21-04-2018 04:04:19
ทีมหลัวรีบตามทีมเมียเชียวนะ พึ่งแยกกันไม่ถึง 5 นาทีเลย  o18
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 17-05-2018 21:35:16
วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………………..
ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์


ช่วงนี้ ในมหาวิทยาลัยมีแต่คนพูดถึงคณะเล็กๆแห่งหนึ่งที่มีชมรมฟุตบอลและสนามฟุตบอลเป็นของตัวเอง เหตุผลไม่ใช่เพราะนิสิตในคณะก่อหวอดประท้วง ตั้งม็อบ หรือไฮปาร์คเสี่ยงคุก แต่เพราะมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างที่ดังไกลไปทุกหนทุกแห่ง


“นั่นน่ะ คนนั้นอ่ะแฟนพี่โซ่”


เจียระไนหูกระดิก พยายามไม่หันมองแต่ยืดตัวขึ้นเล็กน้อยให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของผู้ชายคนนี้ คนที่เป็น ‘แฟนไอ้โซ่’


“คนไหน”


“คนที่ตี๋ๆอ่ะมึง มีคนบอกว่าบ้านเขารวยมากกกก...ตอนสอบเข้า เป็นที่หนึ่งภาคฯด้วยนะเว้ย!”


“โอ้โฮ!”


“เป็นญาติพี่เจ๋งบัญชีปีสามด้วย แล้วก็พี่ระฟ้า สัตวะฯเป็นเพื่อนสนิทเขา ส่วนพี่รหัสคือพี่ตฤณ”


“คอนเนคชั่นสุด!”


...ใช่! ถูกต้อง! โปรไฟล์แซ่บ การศึกษาดี คอนเนคชั่นเยี่ยม มีใครให้มากกว่าไอ้โจ๊กคนนี้มั้ย?!...


“แต่ยังไงกูก็เสียดายพี่โซ่อยู่ดี คนดีๆแบบพี่โซ่ทำไมมาเอาพี่คนนี้ กูไม่เข้าใจ”


...เอ้า เชี่ย!...


เจียระไนหันขวับไปมอง ทำเอาเจ้าของเสียงนินทารีบมุดตัวหายออกไปจากโรงอาหารทันที 


วันนี้โรงอาหารคณะรัฐศาสตร์คนหนาตาเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะว่าพักเที่ยง แต่เป็นเพราะข่าวลือที่ว่าสิตางศุ์มีแฟนแล้ว คนทั้งมหาวิทยาลัยก็เลยแห่กันมาดูหน้าแฟนของไอ้มนุษย์สเป็คสาธารณะ


...แล้วดูอย่างเดียวไม่ว่า ดูแล้วเชิดชูไม่ว่า ดูแล้วอิจฉาไม่ว่า นี่เสือกดูแลนินทาหาว่ากูไม่คู่ควรกับไอ้โซ่! ถ้ากูไม่คู่ควร! ไอ้โซ่ก็ควรละทางโลกแล้วไม่ต้องคู่กับใครทั้งนั้น!...


“ทำหน้าตาดีๆหน่อยไอ้โจ๊ก เดี๋ยวเขาจะสงสัยว่าทำไมคนดีๆอย่างโซ่ได้แฟนบ้า” ปราการที่นั่งกินข้าวอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อนสนิทออกปาก แล้วก็โดนเจียระไนตวัดสายตามาจิกหนึ่งที


“ไอ้พวกขี้อิจฉา!!!!” หนุ่มตี๋ภาคปกครองเข่นเขี้ยวต่อคำครหาที่ว่าเขาไม่เหมาะกับสิตางศุ์


...ไม่เหมาะพ่อง!!!!...


“กูตามไอ้โซ่ดีกว่า” เห็นเพื่อนท่าจะบ้ามากกว่าเดิม ตาขวางน้ำลายเริ่มยืด ปราการเลยคิดว่าน่าจะเอาไม้กันหมาบ้าอย่างสิตางศุ์มาสถิตอยู่ข้างๆให้ไวที่สุด


เจียระไนไม่ได้สนใจว่าเพื่อนสนิทจะตามสิตางศุ์ด้วยวิธีไหน เพราะตอนนี้กำลังจำหน้าพวกขี้อิจฉาทั้งหลายที่นั่งอยู่ในโรงอาหาร เดี๋ยวสิตางศุ์เลิกเรียนก็ต้องมากินข้าวกับเขา แล้วคอยดูเถอะ! เขาจะทำให้ไอ้พวกนี้อกแตกตายที่เขาได้ครอบครองคนดีๆอย่าง ‘โซ่ ไออาร์’ !!!


“อ้าว ไอ้โจ๊ก โซ่อยู่หน้าตึก มันบอกว่ามีน้องเป็นลม”


ปราการเงยหน้าจากโทรศัพท์ที่กำลังแชทกับเพื่อนร่วมคณะ คราวนี้จากคนที่ไม่สนใจในคราวแรก ถึงกับเงยหน้าขึ้นทันที


“แล้วมันเป็นไรรึเปล่า?!”


“สัดโจ๊ก! กูบอกว่ามีน้องเป็นลม ไอ้โซ่จะเป็นอะไรได้ไง”


“แล้วมันไปเกี่ยวอะไร คนเป็นลมแล้วหน้าที่มันต้องไปดูแลรึไง?! ไหนมึงเอาโทรศัพท์มาซิ” แล้วมนุษย์ผู้ไม่สนใจโลก ไม่ใส่ใจมนุษย์หน้าไหนก็ขอโทรศัพท์จากปราการ แน่นอนว่าเพื่อนสนิทที่รู้เช่นเห็นชาติกันดีรีบยกแขนหนีเพราะเกรงว่าห้องแชทของตัวเองกับสิตางศุ์จะกลายเป็นสมรภูมิของเจียระไนไปซะก่อน


“ไม่เอา! เดี๋ยวมึงใช้ชื่อกูด่าโซ่!”


“งั้นกูโทร.หามันเอง ไอ้โซ่แม่งเอาแต่วุ่นวายคนอื่น! นี่จะเที่ยงกว่าแล้ว! มันยังไม่ได้แดกข้าวเลย!!” ท้ายประโยคนั้นเจียระไนบ่นคนรักล้วนๆ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร.ออกทันที


“โซ่! มึงอยู่ไหน?!”


ประโยคแรกแห่งการทักทายที่กรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์นั้นบาดใจปราการยิ่งนัก คนที่มันกำลังขึ้นเสียงใส่อย่างหงุดหงิดคือของดีประจำภาคไออาร์เชียวนะ!


“มึงเรียนอะไร ไออาร์หรือพยาบาล?!” พาลล้วนๆ ไม่มีสติผสมแม้แต่นิด


“แต่มึงยังไม่ได้แดกข้าว! มาแดกเดี๋ยวนี้!!”


หน้าตาของเจียระไนชักจะหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆจากการเจรจากับปลายสาย ปราการพนันกับตัวเองในใจอย่างเงียบๆ ระหว่างสิตางศุ์ศิษย์ไออาร์กับเจียระไนขบถปกครองใครจะชนะ


...วางร้อยนึงที่ฝั่งไอ้โซ่เลยอ่ะ กูว่างานนี้ไอ้โจ๊กลุกไปหา...


“กูไม่ไป! มึงสิต้องมาโรงอาหาร!!” เจียระไนเสียงแข็งโป้ก ปราการเกือบจะดึงเงินร้อยที่วางฝั่งสิตางศุ์คืนแล้วใส่แค่แปดสิบ แต่ปรากฏว่า...


“เออๆ! เดี๋ยวกูไปหา!! รอแม่งตรงนัั้นแหละ!!”


เรียบร้อยโรงเรียนสิตางศุ์ ไม่รู้เจรจากันท่าไหน เพื่อนซี้ร่วมภาควิชาของเขาก็พ่ายแพ้ให้กับเด็กไออาร์อีกแล้ว


...เสียชื่อเสียงเด็กปกครองก็เพราะไอ้โจ๊กคนเดียว!!...


“กูจะไปหาไอ้โซ่! มึงจะไปมั้ย!” คนลุกจากโต๊ะหันมาถามเพื่อนสนิทที่กินข้าวเสร็จแล้ว


“แล้วสรุปน้องที่เป็นลมว่าไง”


“ไม่รู้! กูไม่ได้ถาม!”


“ถามแต่เรื่องไอ้โซ่ว่างั้น? สรุปใครเป็นลม น้องหรือไอ้โซ่?” ปราการหยอกตามประสาเพื่อนที่รู้ใจกันดี ลองว่าถ้าสิตางศุ์เป็นลม เจียระไนไม่มีเวลามายืนจิกตาใส่เขาแบบนี้หรอก


“อ่ะๆ กูไม่ถามก็ได้ แล้วนั่นมึงจะไปไหน ประตูอยู่ทางนี้” เขารีบเรียกเอาไว้ ก่อนที่เจียระไนจะเดินตรงไปยังร้านอาหารที่เรียงราย ซึ่งสวนทางกับประตูทางออก หนุ่มตาเรียวผู้ซึ่งเมื่อกี้ประกาศกร้าวว่ายังไงก็ต้องให้สิตางศุ์มากินข้าวที่โรงอาหารหันกลับไปมองเพื่อน


“ซื้อเก็กฮวยไปให้ไอ้โซ่! แม่งยังไม่ได้แดกอะไร เดี๋ยวก็เป็นลมจนได้!”


แล้วจากนั้น ปราการก็ต้องยืนรอเพื่อนสนิทอีกห้านาที เนื่องจากตี๋ปกครองซื้อเก็กฮวยแก้วใหญ่ แถมด้วยแซนวิชสำเร็จอีกหนึ่งอัน ไม่ต้องถามว่าของสองอย่างนั้นมีให้สิตางศุ์ที่กำลังเฝ้าคนเป็นลม หรือให้คนที่เป็นลม เพราะยังไง คำตอบของเจียระไนก็มีคำตอบเดียว


‘ไอ้น้องนั่นเป็นญาติฝ่ายไหนของกู แค่ไอ้โซ่ไปนั่งเฝ้ามันก็เกินไปแล้ว ยังต้องให้กูซื้อของให้แดกด้วยรึไง’


เป็นมนุษย์ที่...นอกจากคนที่มันรักแล้ว ก็ไม่คิดจะเมตตาใครอีกเลยยยยยย

................................

เจียระไนและปราการเดินมาที่หน้าตึกเรียน โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่มีนิสิตชายสองคนกำลังนั่งอยู่ มองไกลๆก็รู้ว่าหนึ่งคนที่ขาวจัดคือสิตางศุ์ อีกหนึ่งตัวใหญ่ผิวเข้มคืออลงกต ส่วน...น้องที่เป็นลมนอนราบกับเก้าอี้โต๊ะม้าหิน มีสิตางศุ์คอยเอาหนังสือพัดให้


“โซ่!”


ที่โต๊ะม้าหินมีสามชีวิต แต่เจียระไนเรียกคนเดียว เจ้าของชื่อหันมายิ้มให้ แต่หนุ่มตี๋ปกครองยังตีหน้าหงิก ปรายสายตาไปที่อลงกต


“ไอ้กตก็อยู่ ทำไมมึงไม่ให้มันเฝ้าแล้วไปแดกข้าว”


“ก็เผื่อกตคนเดียวไม่ไหว นี่แพทไปเอากระเป๋ายาที่กิจการนิสิตยังไม่กลับมาเลย น้องเขาอยู่คนเดียวด้วย ไม่เห็นเพื่อนเขาเลย เออ...นี่ใช่น้องปกครองเปล่า” สิตางศุ์พูดแล้วขยับตัวออกห่างเล็กน้อยให้สองหนุ่มจากภาควิชาการปกครองเห็นหน้าน้องผู้ชายร่างผอมตัวเล็กที่นอนนิ่งอยู่บนเก้าอี้


“ใช่ๆ น้องใบตอง” ปราการผู้รู้จักแต่ของสวยๆงามๆย่อมรู้จักรุ่นน้องร่วมภาควิชาที่ว่ากันว่าผ่าเหล่าผ่ากอผู้ชายเหี้ยมๆของภาคฯนี้


‘น้องใบตอง’ ไม่รู้ชื่อเล่นที่แท้จริงชื่ออะไร ชื่อจริงนามสกุลจริงก็ไม่รู้จัก รู้แต่ว่าเป็นรุ่นน้องในคณะ น้องเป็นแนวชายสวย ตุ้งติ้งเล็กน้อย แม้จริตจะก้านจะไม่เท่าติซซี่คนดัง แต่ก็รู้กันดีว่าน้องเป็น ‘มาดอนน่า’ ของปกครองรุ่นนี้


ที่สำคัญ...ปราการได้ยินมาว่าน้องชอบ ‘ไอ้โจ๊ก’ ด้วย!


“รู้จักเพื่อนๆของน้องมั้ย โทร.ให้มารับหน่อยสิ น้องไม่น่าจะกลับเองไหว...” สิตางศุ์คนดีผู้มีใจเมตตาต่อทุกสรรพสิ่งในโลกเสนอ ทว่าก่อนที่จะมีใครพูดอะไรขึ้นมา รุ่นน้องปีหนึ่งก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง


“อย่าเพิ่งลุกเลย เดี๋ยวหน้ามืดนะ”


ปกติเป็นคนเอื่อยเฉื่อย แต่เรื่องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยากล่ะก็ สิตางศุ์จะว่องไวเสมอ เจ้าตัวช่วยพยุงแขน ทั้งๆที่ผู้ชายอีกสามคนซึ่งอยู่ใกล้ๆยังไม่มีใครทันขยับตัวด้วยซ้ำ อ้อ...แถมหนึ่งในสามที่หน้าตี๋ๆก็ยังไม่คิดจะกระดิกแม้แต่นิ้วก้อยด้วย


“ผมไหว...” หนุ่มรุ่นน้องตอบ ทั้งๆที่ยังเอาแต่ก้มหน้างุด


“แล้วอยู่ดีๆทำไมเป็นลมล่ะ โชคดีว่าพวกพี่เดินมาเห็นเข้า ถ้าวิ่งมาช่วยไม่ทัน เกิดล้มหัวฟาดพื้นจะทำยังไง” สิตางศุ์ถามด้วยความห่วงใย แต่ประโยคหลังนั้นทำเอาเจียระไนขมวดคิ้วฉับ


“ใครช่วย?!” เขาถามแทรก สิตางศุ์ที่นั่งอยู่กับรุ่นน้องเงยหน้ามอง


“อ่า...กูเอง...”


“ช่วยยังไง?!”


“เอ้อ...ก็...เห็นน้องเขาเซ ก็เลย...”


“มึงก็บอกมันไปสิโซ่ ว่ามึงช่วยพยุง แถมอุ้มขึ้นมานอนบนเก้าอี้ด้วย” อลงกตที่อยู่ในเหตุการณ์รีบแจง เรื่องสร้างความร้าวฉานให้เจียระไนกับสิตางศุ์ เขาถนัดอยู่แล้ว คราวนี้ตาเรียวๆของหนุ่มปกครองถึงกับวาววับเมื่อตวัดมาจ้องคนรัก ร่างโปร่งหัวเราะแห้งๆ


“ก็...น้องเป็นลมน่ะโจ๊ก เออ! แล้วน้องมีเรียนต่อตอนบ่ายมั้ยล่ะ” สิตางศุ์รีบหาทางออกก่อนที่จะโดนคนตาวาวๆนั่นหงุดหงิด เขาหันไปถามรุ่นน้องที่ยังเอาแต่นั่งก้มหน้าอยู่ข้างๆ


“ไม่มี…”


“อ้อ กลับบ้านได้เลยสินะ แล้วกลับยังไงล่ะ” คนสัมภาษณ์ยังเป็นคนเดิมคือคนผิวขาวจัดจากไออาร์


“กลับ...รถเมล์” คราวนี้ดวงตาคู่สวยเบิกโต เงยหน้าขึ้นมองเจียระไน ปราการและอลงกต แน่นอนว่าสามหนุ่มเห็นสายตาของคนที่มีเมตตาเป็นสรณะในชีวิตแล้วก็เหมือนรู้เห็นอนาคต


“เดี๋ยวกูพาน้องไปส่งเอง!” ปราการเสนอตัว จริงๆแล้วก็ไม่อยากแสดงตัวเป็นฮีโร่เท่าไร แต่เกรงใจความมีน้ำใจของสิตางศุ์จะก่อความยุ่งยากและวุ่นวายตามมา โดยเฉพาะ...น้องใบตองคนนี้ที่มีข่าวลือว่าแอบชอบเจียระไน


พอปราการเสนอตัว สิตางศุ์ก็ถึงกับยิ้มออก เขาก้มลงไปหารุ่นน้องปีหนึ่งแล้วส่งยิ้มให้


   “เดี๋ยวพี่ปาร์คไปส่งนะ จะได้ไม่ต้องกลับเอง”


   “แต่...บ้านผมใกล้คอนโดพี่โจ๊ก…” หนุ่มรุ่นน้องแย้งเสียงแข็งแล้วเงยหน้ามองรุ่นพี่ทั้งสี่คน คราวนี้ทั้งสิตางศุ์ ปราการและอลงกตหันมองไปที่ ‘พี่โจ๊ก’ ของน้องใบตองทันที


   หนุ่มตี๋ตาเรียวแห่งภาคปกครองเหลือบตาไปมองรุ่นน้องร่วมภาควิชาที่พูดจาราวกับอยากให้เขาไปส่ง


   “กูไม่ใช่แท็กซี่”


เจียระไนก็คือเจียระไน น้ำใจและเมตตาไม่ได้มีเผื่อมนุษยชาติ


   “โจ๊ก...” สิตางศุ์เรียกเสียงเบา คำพูดห้วนๆของร่างสูงทำเอาบรรยากาศรอบกายอึดอัดไปหมด


   “มันตื่นแล้วก็ให้มันช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว มึงน่ะไปแดกข้าวสักที! จะรอแดกเย็นทีเดียวรึไง!” เจียระไนไม่ได้สนใจใครอีก แต่หันมาใส่ใจปากท้องคนรักเพียงผู้เดียว


   “เอ้า! กูซื้อมาให้ ไม่น่าจะอร่อยหรอก มึงแดกครึ่งเดียวรองท้องไปก่อน โรงอาหารไม่เหลืออะไรแล้วมั้ง เดี๋ยวกูแวะร้านให้” ไม่พูดอย่างเดียว แต่ดึงคนรักให้มายืนข้างตัวเอง แถมด้วยการยัดแซนวิชใส่มือขาว


   “เอ้อ...แต่ว่าน้องเขา...” ทว่าสิตางศุ์ก็ยังห่วงรุ่นน้องที่นั่งอยู่ เจียระไนปรายตาไปมอง


   “ไอ้ปาร์คบอกแล้วว่าจะไปส่ง ถ้าไม่ให้ไอ้ปาร์คไปส่งก็กลับเอง” พูดจบก็หันมาทางคนรักแล้วกระตุ้นอีกที


   “มึงก็ไปได้แล้ว! ไป! ไปหาข้าวแดก!”


สิตางศุ์โดนดึงให้ออกเดิน ร่างโปร่งจำต้องก้าวเท้าตาม แต่ไม่วายหันมาพยักหน้าลาให้อลงกตและปราการ ทว่าพอจะลารุ่นน้องที่เพิ่งฟื้นจากการเป็นลม สายตาของน้องใบตองกลับทำให้เขาชะงัก


   “ไอ้โซ่! เดินก็ดูทางข้างหน้า! ไม่ใช่หันกลับไปดูข้างหลัง!” แล้วเสียงของเจียระไนก็ดังขึ้นอีก สิตางศุ์ยอมหันกลับไปดูทางที่ถูกดึงให้เดิน ทั้งๆที่ยังติดใจสายตาของรุ่นน้องต่างภาควิชา


   เจียระไนและสิตางศุ์เดินจากไปแล้ว ที่โต๊ะม้าหินเหลือเพียงปราการ อลงกตและรุ่นน้องปีหนึ่ง ทว่าพอปราการจะหันมาแสดงน้ำใจตามประสารุ่นพี่ที่ดี หนุ่มน้อยกลับลุกขึ้นยืนอย่างว่องไว ไม่มีอาการตกค้างจากเมื่อครู่นี้เลย


   “อ้าว...หายดีแล้วเหรอ”


   “ครับ ขอตัวก่อนแล้วกัน”


แล้วน้องใบตองก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว อลงกตกับปราการมองตามด้วยความงุนงง และคนที่งงยิ่งกว่าคือพฤกษาที่หิ้วกระเป๋าปฐมพยาบาลตรงมา แต่ไม่พบคนเป็นลมแล้ว

.........................

ห้องสมุดของคณะรัฐศาสตร์คือสถานที่แห่งการนัดพบ


แอร์เย็นฉ่ำ จ้อกแจ้กจอแจ คนที่หมายจะเข้ามาอ่านหนังสือต้องมองหาที่เงียบสงบกันเอง เพราะ ‘เสียงส่วนใหญ่’ ที่นี่เน้นวิพากษ์วิจารณ์


เจียระไนเป็นหนึ่งในคนที่เข้าห้องสมุดเพื่อนัดพบ แต่คนที่เขานัดยังไม่มาเพราะยังไม่เลิกเรียน หนุ่มปีสี่ภาคปกครองจับจองโต๊ะใหญ่ตัวหนึ่งแล้วฟุบนอน แม้รอบกายจะเสียงดังมากแค่ไหน เขาก็พร้อมจะเข้าไปอยู่ในโลกของตัวเองเสมอ


“พี่โจ๊ก...” เสียงเรียกดังขึ้นครั้งที่หนึ่ง เจียระไนที่นอนฟุบได้ยินชื่อตัวเอง แต่...เสียงใครก็ไม่รู้ ถือซะว่าเขาไม่ได้ยินก็แล้วกัน


“เอ่อ...พี่โจ๊ก” เสียงเรียกดังขึ้นครั้งที่สอง หนุ่มปกครองปีสี่นิสัยขี้หงุดหงิดเริ่มขมวดคิ้ว แต่ก็ยังฟุบหน้าอยู่อย่างนั้น


“พี่โจ๊ก...” ครั้งที่สามไม่ได้มาแค่เสียงแต่อะไรบางอย่างแตะลงบนไหล่ของเขา คราวนี้เจียระไนเงยหน้าแล้วหันมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร


“เรียกกูทำไม ไม่เห็นรึไงว่านอนอยู่!”


คนเรียกไม่ใช่ใครที่ไหน น้องใบตอง มาดอนน่าแห่งภาควิชาการปกครอง ปีหนึ่ง แต่...เจียระไนจำไม่ได้


“อ่า...ก็...ใบตองเห็นพี่โจ๊กนั่งคนเดียว...” หนุ่มรุ่นน้องเอ่ยปากตะกุกตะกัก


“กูนั่งคนเดียวเพราะไม่อยากให้ใครมายุ่ง แม่ง! เสือกมาเรียกอยู่ได้!” ร่างสูงดุเสียงห้วนหน้าตาหงุดหงิด กำลังจะฟุบหน้าลงหลับอีกที แต่น้องใบตองรั้งเอาไว้


“ใบตองนั่งด้วยได้มั้ย”


ตาเรียวๆตวัดมาจิกจึ้ก! “กูบอกว่าไม่อยากให้ใครมายุ่ง!”


และก่อนที่เจียระไนจะด่ารุ่นน้องร่วมภาควิชามากไปกว่านี้ ติซซี่ปีสองจากภาคสังคมที่เห็นเหตุการณ์ไกลลิบๆก็รีบพุ่งตัวมาขวางระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องของตนเองทันที


“พี่ติซซี่ว่าน้องใบตองได้ยินชัดแล้วนะคะ ว่าพี่โจ๊กขาไม่อยากให้ใครมาเสือก”


เจียระไนเห็นติซซี่เข้ามาเจรจา เขาก็หันกลับไปฟุบหน้าจะนอนต่อ แต่...เอฟซีของสิตางศุ์ไม่ยินยอม พอจัดการให้น้องใบตองระเห็จตัวออกไปจากโต๊ะได้แล้ว ติซซี่ก็ทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ข้างๆแล้วกระตุกแขนคนที่ฟุบหน้าอยู่ทันที


“อย่าเพิ่งแกล้งตายค่ะ ตื่นขึ้นมาคุยกับติซซี่ก่อน”


“อะไรวะ?!”


“นั่นสิคะ นี่มันอะไร?! ทำไมปล่อยยัยหนูใบตองมาแทะ! นี่จะนอกใจพี่ซอโซ่ของติซซี่เหรอคะ?!” ติซซี่คนดังผู้หูตาว่องไว แม้จะยกเรื่องผู้ชายเป็นอันดับหนึ่ง แต่เส้นสายก็มากพอตัวที่จะได้ยินข่าวลือเรื่องน้องใบตอง ที่เขาว่ากันว่า ‘มอง’ พี่โจ๊กมาตั้งแต่เทอมหนึ่ง


“นอกใจพ่อง!”


“พ่องแน่ค่ะ ก็ยัยใบตองน่ะชอบพี่โจ๊กขานะคะ”


“ชอบกู?” เจียระไนย้อนถามด้วยความงุนงง


“แล้วมันไม่รู้รึไงว่ากูมีแฟนแล้ว สัด! แสดงว่ามีอีกหลายคนไม่รู้ว่าไอ้โซ่กับกูเป็นแฟนกัน! ไหนมึงว่ามึงกระจายข่าวให้กูแล้วไง ติซซี่!” ประโยคหลังๆนั่น เจียระไนหันมาด่ารุ่นน้องต่างภาควิชาโดยตรง


“โอยยยย กระจายจนน่าจะถึงดาวพลูโตแล้วค่ะ! ยัยน้องใบตองก็รู้! แต่ทำเนียนจะเข้ามาแทะพี่โจ๊กขาไงคะ?!”


“อ้อ แล้วไป กูนึกว่ามีคนไม่รู้”


ติซซี่เบะปาก กลอกตามอง 360 องศา


“นี่ก็ห่วงอยู่เรื่องเดียว! คือกลัวประชาชีทั้งจักรวาลจะไม่รู้ว่าพี่ซอโซ่เป็นแฟนกับพี่โจ๊กขาใช่มั้ยคะ”


“เออ! เดี๋ยวมีคนมายุ่งกับมัน!”


“แล้วเรื่องน้องใบตองละคะ”


เจียระไนนิ่งไปเล็กน้อย อันที่จริง เขาก็ไม่ได้สนใจว่าจะมีใครหน้าไหนมาชอบเขา เพราะฉะนั้น ก็เลยไม่เคยเห็นสิตางศุ์หึงสักที อ้อ...ยกเว้นรอบนิตาคราวก่อนนู้น ซึ่งตอนนู้น…สิตางศุ์ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังหึงอยู่


หนุ่มปกครองตาเรียวยกยิ้มมุมปาก แน่นอนว่าติซซี่บอกตัวเองว่ามันเป็นยิ้มที่หล่อมากแต่ก็ไม่น่าวางใจเช่นกัน


“ติซซี่...ช่วยพี่สักอย่างสิ”


ปกติแทนตัวเองว่ากู มาตอนนี้แทนตัวเองว่าพี่ ติซซี่ก็ถึงกับสูดลมหายใจลึก ท่องเอาไว้ในใจว่าเพศผู้เชื่อไม่ได้ ยกเว้นพี่ซอโซ่!


“พี่อยากเห็นไอ้โซ่หึง”


“ไม่ค่ะ!” เล่นกับความรู้สึกของคน ไม่อยู่ในนโยบายของติซซี่ หนำซ้ำยังเป็นความรู้สึกของพี่ซอโซ่สุดที่รักอีกต่างหาก FC อย่างติซซี่ย่อมไม่มีวันทำตาม


เจียระไนทำหน้าตาเรียบเฉยเหมือนไม่ได้สนใจคำตอบแรกของรุ่นน้องเท่าไร เพราะเขายิงคำถามต่อไปทันที


“เคยเห็นไอ้โซ่เปลือยมั้ย”


“อะไรนะ?!” ติซซี่หูผึ่งตาโต เจียระไนยิ้มกระหยิ่ม ชูโทรศัพท์มือถือของตัวเองแล้วโบกไปมา


“กูมีรูปเยอะเลย”


“มึงคงไม่รู้หรอก ไอ้โซ่น่ะ ข้างนอกว่าขาวแล้ว ข้างในขาวกว่าข้างนอกอีก จับไปตรงไหน แม่งก็เนื้อแน่นไปหมด”


คนฟังกลืนน้ำลายเอื้อก ไม่อยากจะจินตนาการอย่างบาปหนา แต่ก็อดไม่ได้ สิตางศุ์ที่ว่าขาวจัด ขาวจนไม่รู้จะขาวยังไง แต่ก็ยังมีคนยืนยันว่าข้างในขาวกว่าข้างนอก


...แถมเนื้อแน่น...แค่ได้ยินก็อยากจะฝังเขี้ยวลงกับท่อนแขน แล้วก็เคี้ยว! เคี้ยว! เคี้ยว! หลายๆที!...


“พี่โจ๊กอยากให้ติซซี่ทำอะไร”


หมูไปไก่มา ถ้าจะได้ดูสิตางศุ์เปลือยสักครั้งในชีวิต มันก็น่าลอง


เจียระไนยกยิ้มมุมปาก ดวงตาเรียวพราวระยับ


“ทำให้มันหึงน่ะสิ!”

..............................
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 17-05-2018 21:36:31



สิตางศุ์เลิกเรียนตอนสี่โมงเย็น กว่าจะให้เพื่อนยืมเลคเชอร์ไปซีร็อก กว่าจะร่ำลากับเพื่อนๆ กว่าจะเดินมาถึงห้องสมุด ก็เกือบสี่โมงครึ่งแล้ว เขาดันประตูกระจกเข้ามา กวาดสายตามองหาคนคอย แต่ยังไม่ทันเจอตัว ร่างสะโอดสะองของรุ่นน้องร่วมคณะอย่างติซซี่ก็ถลามาดักหน้า


“สวัสดีค่ะ พี่ซอโซ่” พูดแล้วยกมือไหว้อ่อนช้อยเช่นเคย แต่ดูจะไม่เหมือนเก่าก็ตรงที่เจ้าตัวรีบคว้าแขนสิตางศุ์แล้วลากไปที่ซอกของชั้นหนังสือ


“มีอะไรเหรอติซซี่”


“ติซซี่มีเรื่องจะบอกน่ะสิคะ!”


สิตางศุ์กะพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ


“นู่นค่ะ! พี่โซ่เห็นน้องคนนั้นมั้ยคะ” ติซซี่โบ้ยให้ดูหนุ่มน้อยจากภาควิชาการปกครองที่ถูกเจียระไนไล่ไปที แต่เจ้าตัวก็ยังทนทานสมกับที่คิดจะชอบผู้ชายป่าเถื่อน เพราะยังยึดมั่นแน่วแน่อยู่ในห้องสมุด แม้จะนั่งอยู่ห่างๆก็เถอะ


“อ้อ น้องคนนั้น”


“อ้าว! พี่โซ่รู้จักเหรอ”


“อื้อ คราวก่อนน้องเป็นลม พอดีพี่ไปเจอเข้า”


“แล้ว...น้องเขาว่าไง”


“ก็ไม่ว่าอะไรนะ วันนั้นรู้สึกว่าปาร์คจะไปส่ง แต่...อ่า...เห็นน้องบอกว่าบ้านอยู่ใกล้คอนโดโจ๊ก”


 ติซซี่ทำตาโต ตวัดสายตากลับไปมองน้องปกครองปีหนึ่ง


...หน็อยแหนะ! แรงนะยะ! บังอาจเสนอหน้าบอกว่าโลเกชั่นอยู่ใกล้พี่โจ๊ก!...


…ไม่ได้การ ติซซี่จะไม่ยอมให้มีมือที่สามมาสร้างความเจ็บช้ำให้พี่ซอโซ่ของติซซี่!...


“น้องเขาชอบพี่โจ๊กค่ะ!”


“เอ?” สิตางศุ์หันมามองคนพูดอย่างนึกไม่ถึง แม้จะรู้แก่ใจว่าเจียระไนเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เพียบพร้อม หน้าตาดี เรียนเก่ง นิสัยก็ดี ก็คงไม่ผิดที่จะมีคนมาชอบ


“เขาลือกันว่าชอบมาตั้งแต่ตอนพี่โจ๊กเป็นพี่วินัยซีเนียร์ค่ะ!”


“อ่า...งั้นเหรอ” สิตางศุ์ไม่รู้จะทำหน้ายังไง หัวใจรู้สึกแปลกๆที่ได้รับรู้ว่ามีคนมาชอบเจียระไน แต่...ก็คงไม่มีอะไรหรอก


“พี่โซ่จะไม่ทำอะไรหน่อยเหรอคะ?!!”


“ก็...จะให้พี่ทำอะไรล่ะ” คนไม่เคยมีความรัก ย่อมไม่รู้ว่าจะต้องแสดงออกแบบไหน หรือทำอะไรกับเรื่องแบบนี้


“ก็ไปแสดงตัวสิคะ! แสดงตัวว่าเป็นแฟนพี่โจ๊ก!”


“เอ้อ…แสดงตัว? อ่า...ไม่ดีมั้ง โจ๊กมันก็ผู้ชายนะ คนอื่นจะเอาไปพูดถึงมันไม่ดี ถ้าพี่...เอ่อ...เข้าไปแสดงตัวว่าเป็นแฟน...” เป็นอีกครั้งที่ติซซี่กรอกตามองบนอีกรอบ


…ช่างเป็นคู่ที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว! คนหนึ่งก็อยากให้คนทั้งจักรวาลรู้ว่าเป็นแฟนกัน! อีกคนก็ไม่อยากเพราะกลัวภาพลักษณ์ของคนรักจะเสียหาย! ให้มันได้อย่างงี้สิโว้ย! ไปคุยกันมาก่อนมั้ย?! ว่าจะเอายังไงกับชีวิตคู่!!!...


“แต่ถ้าพี่โซ่ไม่แสดง เกิดว่าน้องคนนั้นเขาไม่รู้ แล้วเขาคิดว่าพี่โจ๊กโสด เขาจะยิ่งชอบพี่โจ๊กหนักกว่าเดิม คราวนี้น่าสงสารมากๆเลยนะคะ!”


เอาความรู้สึกของมนุษย์มาเป็นข้ออ้าง คนขี้สงสารผู้มีสโลแกนเมตตาธรรมค้ำจุนโลกก็ชักจะคล้อยตาม ดวงตาคู่สวยมีแววสงสารอย่างเห็นได้ชัด


“จริงด้วยสินะ แล้วพี่ควรทำยังไงดี เข้าไปบอกน้องเขาตรงๆเหรอ เขาจะยิ่งรู้สึกไม่ดีรึเปล่า”


“ไม่ต้องค่ะ! เราเป็นปัญญาชน เราต้องมีชั้นเชิงในการแสดงออก เอาเป็นว่าพี่โซ่ทำตามที่ติซซี่แนะนำนะคะ”

...........................

   เจียระไนผู้ชายหน้าเดียวยังคงนั่งเฉยๆรออยู่ที่โต๊ะในห้องสมุดที่แอร์เย็นฉ่ำ ทว่าแม้จะมีแค่หน้าตายๆแบบเดียว ผู้ชายตี๋คนนี้ก็เป็นที่ต้องตาต้องใจของคนทั้งห้องสมุด


แน่ล่ะ บางคนน่ะรู้กำพืดอยู่แล้ว แต่จะมองผ่านก็ทำได้ยาก มองแล้วมองอีก แม้จะค่อนขอดความหน้าเดียวของเจียระไนแค่ไหนก็ต้องแอบสรรเสริญกันนิดๆว่าหล่อตี๋พิมพ์นิยมเป็นบ้า!


แต่ผู้ชายที่หล่อเป็นบ้าคนนี้ ไม่เคยคิดจะสนใจสายตามนุษย์หน้าไหนทั้งนั้น เพราะตาเรียวๆกำลังจ้องเขม็งไปที่ซอกระหว่างตู้หนังสือที่เขาเห็นติซซี่ดึงสิตางศุ์เข้าไป


…ช้าฉิบหาย! เมื่อไรแม่งจะคุยกันเสร็จสักที!...


วินาทีต่อมา คนผิวขาวจัดก็เดินออกมาจากซอกระหว่างตู้ สายตาของคนทั้งห้องสมุดที่ตอนแรกมองไปที่หนุ่มหล่อหน้าเดียวจากภาควิชาการปกครองก็ย้ายไปมองของดีภาคไออาร์แทน


เจียระไนอยากจะควักลูกตาคนที่มองสิตางศุ์รายคน แต่…นิ่งไว้ก่อน เพราะมีภารกิจต้องทำ…


ท่องคำว่าภารกิจจนขึ้นใจ ถึงได้ยอมก้มหน้าลงดูหนังสือที่เปิดกางมาตั้งแต่เมื่อชั่วโมงที่แล้ว


“โจ๊ก...” เสียงมาถึงก่อนตัวเล็กน้อย เจียระไนทำเป็นเงยหน้ามองแล้วยักคิ้วให้คนรักทีหนึ่ง ก่อนจะดึงเก้าอี้ข้างตัวที่สอดชิดกับโต๊ะออกมาเป็นสัญญาณให้นั่งข้างกัน


“เอ้อ...มึงรีบกลับเปล่า” สิตางศุ์นั่งลงแล้วถามขึ้นมาอีก พยายามอย่างยิ่งที่จะทำเป็นไม่สนใจสายตาของน้องใบตองที่มองตรงมา


...น้องชอบโจ๊กจริงๆด้วย มองตลอดเลย...


...ต้องทำให้น้องเขารู้ น้องเขาจะได้ไม่ฝากความหวังไว้ที่โจ๊กอีก ไม่อย่างนั้นน้องจะเสียใจ...


“กูบอกว่าไม่รีบกลับ มึงได้ยินกูพูดมั้ย” เพราะสนใจแต่น้องใบตอง เสียงของเจียระไนเลยดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้สิตางศุ์สะดุ้ง หันกลับมามองคนรักทันที


“ถามกูแล้วไม่ฟังคำตอบ หมายความว่าไง”



“เอ่อ...ไม่ได้ไม่ฟัง อ่า...ถ...ถ้ามึงไม่รีบกลับ งั้น...งั้นสอนกูคัดตัวจีนหน่อยสิ การบ้านยังไม่ได้ทำเลย ส่งพรุ่งนี้แล้ว”


ร่างโปร่งรีบล้วงหนังสือจากเป้ขึ้นมาเปิดกางบนโต๊ะ ดวงตาเรียวจับจ้องอากัปกิริยาของคนข้างกายอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมากดส่งข้อความส่วนตัวหาผู้ร่วมขบวนการ


‘ไหนมึงบอกว่าจะทำให้มันหึง’


มือพิมพ์ข้อความส่งไปแล้ว สายตาจากดวงตาเรียวๆที่เอาเรื่องมากๆก็ตวัดไปจ้องติซซี่ที่สถิตอยู่ไม่ไกลด้วย


‘รอก่อนสิคะ กว่าจะได้พี่โซ่มายังรอมาได้ตั้งสองปี’


‘กูไม่รออีกสองปีเพื่อให้มันหึงหรอกนะ ทำให้มันหึงกูเดียวนี้’


‘งั้นก็ตะโกนใส่หูพี่โซ่แม่งเลยคร่ะ’


‘มึงจะไม่ดูรูปมันเปลือยใช่มั้ย’


‘อุ้ย เล่นแรง’


‘กูให้เวลาสามวินาที’


เจียระไนไม่ทันได้นับ เขาก็เหลือบเห็นสิตางศุ์ขยับตัวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนที่คนผิวขาวจัดจะเบี่ยงตัวทำเป็นบังสายตาเขา แต่ถึงอย่างนั้นหนุ่มตี๋ก็ยังยืดคอชะเง้อจนเห็นชื่อของคนที่ส่งข้อความหาสิตางศุ์จนได้


...ติซซี่ สังคม...


...เออ! ให้มันได้อย่างงี้สิวะ! กูอุตส่าห์จ้าง ลงมือให้คุ้มค่าจ้างกูด้วย!!...


“โจ๊ก” ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น สิตางศุ์ก็เงยหน้าจากโทรศัพท์มาหาคนข้างกาย เจียระไนกำลังทำเป็นเล่นโทรศัพท์อยู่ เลยเงยหน้ามอง


“กู…เขียนตัวนี้ไม่เป็น สอนหน่อยสิ” นิ้วขาวๆชี้ลงที่ตัวอักษรภาษาจีนที่มีเส้นเยอะแยะวุ่นวาย ไม่รู้เส้นไหนเขียนก่อนเขียนหลัง หนุ่มเชื้อสายจีนจะดึงดินสอในมือขาวมาสอนวิธี แต่มือนั้นกลับขยับหลบ


“อ่า…จ...จับมือกูเขียนได้มั้ยอ่ะ”


ร่างสูงชะงักไปอึดใจ ในดวงตาเรียวมีประกายแวววาวขึ้นมาทันที นึกรู้ว่านี่คงไม่ใช่การสอนเขียนตัวอักษรจีนแบบธรรมดา แต่มันคือการที่สิตางศุ์กำลังแสดงความเป็นเจ้าของเขาต่างหาก!


หนุ่มตาเรียวซุกซ่อนความระยิบของดวงตาและทำหน้าตอบเพื่อกลั้นรอยยิ้มรู้ทัน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของสิตางศุ์


“อ่า...ข...แขนมึงบังกูอ่ะ มองไม่เห็น”


“ถ้าไม่ให้บัง กูต้องโอบหลังมึง” เจียระไนแย้งเรียบๆ ใบหน้าขาวมีรอยแดงวาบขึ้นมาทันที ดวงตาคู่สวยมองไปรอบห้องสมุดที่มีคนมากมายและพลุกพล่าน และหนึ่งในความพลุกพล่านนั่นคือน้องใบตองที่ยังมองตรงมาที่พวกเขา


“ถ้ามึงอายสายตาคนอื่น จะกลับไปคัดที่คอนโดกูก็ได้นะ” เจียระไนทำเป็นเสนอหนทางอย่างใจดี ทั้งๆที่ความจริงเนื้อเต้นไปทุกส่วนที่จะได้โอบกอดคนรักต่อหน้าประชาชีทั้งห้องสมุด!


“ม...ไม่เป็นไร คัดที่นี่แหละ”


“หมายความว่าให้กูโอบมึง?”


“เอ้อ...ก...ก...ก็ได้ อ๊ะ!”


เจียระไนไม่ถามซ้ำ พอได้ยินคำอนุญาตเขาก็ขยับเก้าอี้เข้าชิดแล้วโอบแขนพาดไหล่คนผิวขาวจัดเพื่อจับมือหัดเขียนตัวอักษรจีน ตอนนี้สิตางศุ์เลยเหมือนจมหายเข้าไปในอกของคนโอบหลัง


อกหนาที่แนบหลังของเขาสะท้อนเสียงหัวใจดังตึกๆ แต่ที่ดังยิ่งกว่าเสียงหัวใจของเจียระไนก็คือหัวใจของสิตางศุ์เอง แม้จะคบหาดูใจกันถึงขั้นไหนต่อไหน แถมความสัมพันธ์ยังก้าวหน้าไปมากชนิดที่เนื้อแนบเนื้อกันมาก็หลายหน แต่...ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ใกล้ชิดกัน หัวใจของคนไม่เคยรู้จักความสัมพันธ์แบบนี้ก็ยังเต้นถี่ทุกทีไป


“โซ่ กูบอกว่าตัวนี้เขียนเส้นนี้ก่อน”


เสียงทุ้มดังอยู่ข้างหู ปลุกสิตางศุ์ให้รู้สึกตัว ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่อๆเมื่อรับรู้ถึงเสียงทุ้มๆ น้ำเสียงอ่อนโยนและลมหายใจอุ่นๆที่ปะทะแก้ม


...เขินก็เขิน อายก็อาย แต่ติซซี่บอกว่าต้องอดทนหน่อย ทำให้น้องใบตองรู้ว่าโจ๊กมีคนรักแล้ว น้องจะได้เลิกราไปโดยไม่เสียใจและเสียหน้ามากนัก...


...แต่...อ่า...วิธีนี้มันแปลกๆยังไงไม่รู้นะ...


“ฟังกูอยู่รึเปล่า” เสียงทุ้มดังขึ้นมาดึงสติสิตางศุ์ให้กลับมาอีกครั้ง ใบหน้าขาวเงยขึ้นเพื่อจะตอบแต่ก็ต้องชะงักเพราะนอกจากอีกฝ่ายจะโอบเขาแล้ว ใบหน้ายังใกล้มากอีกด้วย


“อ...เอ้อ...ฟ...ฟังอยู่...เอ่อ...ค...คัดแบบนี้ใช่มั้ย” ตอบแล้วก็ต้องรีบก้มหน้าลงมองกระดาษสำหรับคัดตัวอักษรจีนอีกที


“กูว่ามึงไม่สมาธิหรอก กลับไปคัดที่ห้องดีกว่า” เจียระไนที่น่าจะย้ายไปเรียนการแสดง ไม่พูดอย่างเดียว แต่ปล่อยมือขาวออก แถมทำท่าจะขยับออกห่าง ทำเอาสิตางศุ์อึกอัก เหลือบมองไปที่น้องปีหนึ่งอย่างใบตองที่กำลังมองมาที่พวกเขา แล้วก็ต้องตัดสินใจเดี๋ยวนั้น


“โจ๊ก! คือ…เอ่อ…”


เจียระไนไม่ถาม แต่สายตาจับจ้องคนพูดไม่เป็นประโยค


“ง่า…แบบ…แบบว่า…ม…มีน้องปีหนึ่งชอบมึงอ่ะ…” คนผิวขาวจัดยอมเอ่ยปากตามตรง ดวงตาคู่สวยส่งสัญญานบอกคนรักให้หันมองไปที่น้องใบตองปีหนึ่ง แต่เจียระไนไม่ยอมหันตาม ยังคงมองเขานิ่ง


“คือ…อ่า…ติซซี่บอกว่าน้องชอบมึงมาก คือ…คือกู…กู...”


“หึง?” เจียระไนเห็นคนรักไม่พูดสักที เลยสรุปใจความให้ในคำคำเดียว สีหน้าของหนุ่มตี๋แห่งภาควิชาการปกครองเกือบจะมีรอยยิ้มอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะคนรักแสนซื่อและบื้อแห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะหักมุมเสียก่อน


“เปล่า แต่ว่าไม่อยากให้น้องคิดว่ามึงยังไม่มีใครแล้วคาดหวัง กูสงสารเขา”


คำพูดของสิตางศุ์กระตุกต่อมอิจฉาไอ้เด็กปีหนึ่งในใจของเจียระไนทันที!


...ไม่รู้จักกับไอ้โซ่เลยสักนิด! แต่ไอ้โซ่เสือกสงสารมันเฉย!!!...


“ติซซี่บอกว่า…เพราะน้องไม่รู้ ความผิดกูเองแหละที่พยายามไม่บอกใครเรื่องกูกับมึง กู...แค่ไม่อยากให้มึงถูกคนอื่นมองแปลกๆเรื่องที่เป็นแฟนกับกู ง่า...แต่จากนี้ก็ต้องบอกคนอื่นบ้างสินะ” 


แล้วคนซื่อก็เริ่มเป็นกังวล บ่นหงุงหงิงโทษว่าเป็นความผิดตัวเองไปแล้วเรียบร้อย ดวงตาใสๆเหลือบไปมองคนที่ยังนั่งใกล้ชนิดที่แขนโอบไหล่กันอยู่ แต่ดูเหมือนสิตางศุ์จะลืมไปแล้วว่าตอนนี้พวกเขาใกล้ชิดกันแค่ไหน


“มึงโอเคมั้ยอ่ะ ถ้ากูจะ...จะแสดงตัวบ้าง...เอ่อ...ว่าเรา...เราเป็นอะไรกัน...”


เจียระไนอยากจะบอกว่าต่อให้ไม่แสดงตัวมากกว่านี้ เขาก็รู้กันทั้งคณะแล้ว แถมเด็กนอกคณะ ก็ได้มือดีอย่างติซซี่ไปกระจายข่าวไว้อีก


แต่...หนุ่มปกครองวิชาโทการแสดงทำเป็นพูดสั้นๆเหมือนไม่ใส่ใจ


“แล้วแต่มึงสิ”


ปากว่าอย่างนั้นแต่ในใจกรีดร้องหนักมากที่สิตางศุ์จะประกาศให้โลกรู้ว่าพวกเขาเป็นแฟนกัน


“ต...แต่...แต่จริงๆแล้ว กูไม่อยากบอกใครเลย…” สิตางศุ์ครางเสียงอ่อน ฟุบหน้าผากลงกับโต๊ะซ่อนความร้อนผ่าวบนใบหน้า แต่หูก็ยังแดงจัดอยู่ดี


“…เมื่อวันก่อน ไปกินข้าวกับพี่เวฟ เจอพวกเพื่อนพี่เวฟ เขาก็ทักกูว่า…อ่า…แฟนโจ๊กปกครอง...ก...กูอาย...”


…เพื่อนคนไหนของไอ้พี่เวฟครับ กูจะเอาทองที่ร้านอาม่าไปให้สักสิบบาท!!...


แม้ในใจจะอยากตบรางวัลให้รุ่นพี่ทั้งหลายที่พูดจาเป็นมงคลต่อหัวใจของเจียระไน แต่ผู้ชายปกครองคนนี้ก็ยังคงตีสีหน้าเรียบเฉยและตีบทแตกต่อไป


“มึงอายที่เป็นแฟนกูสินะ” ดราม่ามา สปอตไลท์ส่องมาตรงนี้เลย


“ไม่ใช่นะโจ๊ก ที่กูอายเพราะกูไม่มีอะไรที่ดีพอสำหรับมึงสักอย่าง นอกจากเรื่องเรียนแล้ว ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้อีก ทำกับข้าวก็ไม่อร่อยเท่ามึง คิดอะไรก็ไม่ค่อยทันคนอื่น ที่บ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร กูมีแต่ตัวล้วนๆเลยนะ”


…ตัวกับหัวใจดีๆของมึงก็พอแล้วไม่ใช่เหรอวะ เพราะชีวิตกูก็ไม่ได้อยากอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว…


…แต่…เมื่อกี้มันบอกว่ากูดี…


...แก้มตอบ! หุบยิ้ม!! ปฏิบัติ!!!...


“มึงมีดีทุกอย่าง น้องใบตองยังชอบมึงเลย...” สิตางศุ์เปรยเบาๆ เหลือบตาไปมองที่น้องใบตองปีหนึ่งที่ยังคงมองมาทางนี้ พอเห็นสายตาของรุ่นน้องร่วมคณะ ก็เริ่มรู้สึกหวงคนข้างกายขึ้นมานิดๆ


“แต่คนที่กูอยากให้มาชอบน่ะ มีคนเดียว” ทว่าคำพูดของเจียระไนทำให้ความหวงในใจของสิตางศุ์มลายหายไป


...คนเพียงคนเดียวที่เจียระไนอยากให้มาชอบ จะมีใคร...นอกจากคนที่ดวงตาเรียวยังจับจ้อง


ร่างโปร่งเขินวาบในอก จนต้องเบือนสายตาหนีไปทางอื่น


“ชอบกูบ้างรึเปล่า” แล้วคำถามต่อมาก็ทำเอาคนที่หลบสายตาไปทางอื่นต้องหันกลับมามอง เป็นการถามคำถามในห้องสมุดที่เสียงดังจ้อกแจ้กจอแจ แต่ก็เป็นคำถามที่ดังอยู่ในหัวใจของสิตางศุ์ซ้ำๆ


‘ชอบบ้างรึเปล่า‘


“คิดว่า...มากกว่าชอบไปเยอะแล้วนะ...” ยิ่งกว่าคำบอกรัก คือการระบุความรู้สึกเป็นคำว่า ‘มากกว่าชอบไปเยอะ’ เจียระไนกลั้นยิ้มไม่ทัน ดุนแก้มก็ไม่ทัน เลยเผยรอยยิ้มกว้างอย่างที่ทำเอาหลายคนในห้องสมุดถึงกับตาเหลือก


‘โจ๊ก ปกครอง’ กำลังยิ้ม!!!!


“โจ๊ก...คนมองกันใหญ่เลย”


สิตางศุ์กวาดตามองไปรอบห้องสมุด รับรู้สายตาจากดวงตาหลายคู่ และหนึ่งในนั้นคือดวงตาของ ‘น้องใบตอง’ ที่จ้องมองมา ก่อนที่ร่างเล็กจะหมุนตัววิ่งออกจากห้องสมุด


คนจิตใจดีที่มักจะห่วงใยคนรอบข้างอยู่เสมอถึงกับอ้าปากค้าง ใจหายวาบที่เห็นน้องปีหนึ่งวิ่งหนีออกไปต่อหน้าต่อตา


“เฮ้ย! น้องใบตอง!...โจ๊ก เดี๋ยวมานะ!” เขาหันไปบอกคนรัก แล้วรีบผุดลุกขึ้นก้าวเท้าตามออกไปทันที


คราวนี้คนตาเหลือกเลยกลายเป็นเจ้าพ่อแผนการตัวต้นเหตุอย่างเจียระไนและฝ่ายสนับสนุนอย่างติซซี่ เพราะนอกจากสิตางศุ์จะไม่แสดงความหึงหวงอย่างออกนอกหน้าแล้ว ยังรีบตามออกไปประคบประหงมไอ้เด็กปีหนึ่งนั่นอีกด้วย!


...นี่มันะไรวะเนี่ย?!!...

................................

สิตางศุ์เป็นคนผอมเพรียวแขนขายาว เทียบสรีระกับหนุ่มน้อยปีหนึ่งร่างผอมตัวเล็กอย่าง ‘น้องใบตอง’ แล้วแทบจะเรียกว่าคนละรุ่น เพราะฉะนั้น แค่เขาก้าวไวๆไม่กี่ก้าวก็ตามไปคว้าแขนรุ่นน้องต่างภาควิชาเอาไว้ทัน


“เดี๋ยวก่อน...”


เด็กหนุ่มปีหนึ่งหันกลับมามองด้วยสีหน้าเจ็บปวด ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตายามมองสิตางศุ์นั้นทั้งแค้นทั้งโกรธเคือง ทว่า...คนจิตใจดีไม่ถือสา หนำซ้ำยังสะท้อนใจวาบกับหยาดน้ำใสเหล่านั้น จนต้องล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาส่งให้


“ใช้ของพี่ก็ได้นะ...”


“ไม่ต้องมายุ่ง!” รุ่นน้องปีหนึ่งปัดมือขาวจัดนั่นอย่างแรง ไม่รับแม้แต่น้ำใจ


สิตางศุ์ได้ทุกอย่างของเจียระไน ได้ทั้งความรัก ทั้งความเอาใจใส่ จน...ไม่มีเหลือมาที่เขาบ้างเลย...


...ไม่มีเลย...


“พี่ขอโทษ...” รุ่นพี่ผิวขาวจัดเอ่ย สีหน้าสำนึกผิด แต่กลับยิ่งทำให้คนเจ็บแค้นที่ไม่ได้แม้แต่ที่นั่งข้างๆของเจียระไนยิ่งโมโห


“ขอโทษทำไม?! จะเยาะเย้ยกันล่ะสิ! พี่ได้ทุกอย่างของพี่โจ๊กไปแล้วนี่!”


สิตางศุ์ถอนหายใจเบา ความรู้สึกแรงกล้าของน้องใบตองทำไมเขาจะไม่รับรู้ และมันคงจะไม่มากมายถึงขนาดนี้ ถ้าเขา...ชัดเจนมากกว่านี้


“พี่ขอโทษที่พี่เป็นต้นเหตุ...พี่...ไม่เคยมั่นใจในตัวเองเลย โจ๊กเป็นคนดี...ดีจนพี่รู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอที่คบกับโจ๊ก พี่ก็เลย...ไม่กล้าบอกใคร พี่รู้สึกว่าถ้าพี่ยังปรับปรุงตัวเองให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ก็คงไม่คู่ควรกับคนดีๆแบบโจ๊ก แต่...การที่พี่พยายามปิดบังเรื่องนี้ มันทำให้น้องถลำลงไปในความรู้สึกของตัวเองใช่มั้ย เจ็บ...รึเปล่า”


คนกำลังโมโหฟังอารัมภบทที่ใช้น้ำเสียงอ่อนโยนและสำนึกผิดแล้วก็กลายเป็นอ้าปากค้าง


ที่ค้างที่สุดคือการที่สิตางศุ์พูดเต็มปากว่า ‘โจ๊กเป็นคนดี’


ใบตองชอบเจียระไนก็จริง แต่ไม่เคยคิดจะบอกใครว่า ‘พี่โจ๊กเป็นคนดี’ เลยน่ะสิ!


“พี่ขอโทษ ถ้าน้องรู้เรื่องของพี่กับโจ๊กแต่แรก ก็คงไม่ถลำลึกแบบนี้ ไม่เจ็บแบบนี้...พี่ขอโทษจริงๆนะ”


 สิตางศุ์คิดว่าเป็นความผิดของเขาเอง เขาพยายามไม่บอกใครเกี่ยวกับความสัมพันธ์นี้ แต่มันกลายเป็นฉนวนเหตุให้รุ่นน้องคนหนึ่งปล่อยให้ความรู้สึกในใจผลิดอกออกผลจนกลายเป็นความเจ็บปวดจากความไม่สมหวัง


“ไอ้โซ่!...” แต่ก่อนที่ใบตองจะทันได้พูดอะไร เสียงของเจียระไนก็ดังขึ้น เสียงของผู้ชายที่ใบตองแอบปลื้มแอบชอบ มันทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามอง


“โจ๊ก น้องเขา...”


“รู้แล้วใช่มั้ยว่ากูกับไอ้โซ่เป็นแฟนกัน เข้าใจด้วยล่ะ!” เจียระไนก้าวเท้าเข้ามาพูดกับรุ่นน้องร่วมภาควิชาโดยตรง แต่ใบตองยังเอาแต่ก้มหน้านิ่ง สิตางศุ์มองทั้งคนรักของตนเองและหนุ่มรุ่นน้องแล้วก็ได้แต่เม้มปากด้วยความสงสาร


เรื่องความรักไม่เข้าใครออกใครก็จริง แต่มันไม่ควรกลายมาเป็นความเจ็บปวดแบบนี้เลย


“ไป กลับเถอะ” หนุ่มปกครองปีสี่หันมาบอกคนผิวขาวจัด เห็นสีหน้าคนจิตใจดีแล้วเจียระไนก็ชักจะรู้อนาคตว่าสิตางศุ์จะต้องเป็นห่วงเป็นใยไอ้เด็กใบตองนี่แน่ๆ เผลอๆ...เดี๋ยวได้วิ่งตามไปดูแลอีก!!


...นี่กูชักจะหึงไอ้เด็กนี่กับไอ้โซ่ของกูแล้วนะ!!...


 เจียระไนฉุดแขนคนรักให้เดินกลับไปที่ห้องสมุด แต่สิตางศุ์ยื้อแขนเอาไว้ แล้วหันไปดึงมือของหนุ่มปีหนึ่ง การจับมือกันต่อหน้าต่อตาของหนุ่มปกครอง ทำเอาตาเรียวๆเบิกโตเป็นไข่ห่าน


...กูสมควรหึงไอ้เด็กนี่กับไอ้โซ่จริงๆด้วย!!...


“ถือว่าเป็นคำขอโทษของพี่นะ...” คนผิวขาวจัดพูดกับหนุ่มรุ่นน้องแล้ววางผ้าเช็ดหน้าของตนเองลงกับมือเล็ก เจียระไนอ้าปากค้าง มองผ้าเช็ดหน้าด้วยความโหยหาและอยากได้ แต่สิตางศุ์หันมาพยักหน้าชวนเขาเดินกลับ ใจนึงก็อยากคว้าผ้าเช็ดหน้าของสิตางศุ์คืน แต่อีกใจก็เป็นห่วงคนเมตตาอารีที่กำลังทำหน้าเศร้า


สุดท้ายเลยต้องปล่อยผ้าเช็ดหน้าไปก่อน เพราะตอนนี้สมควรกลับไปปลอบคนรักมากกว่า


สองรุ่นพี่ชั้นปีสี่เดินกลับไปที่ห้องสมุดแล้ว เหลือเพียงใบตองยืนอยู่ที่เดิมพร้อมกับผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือ


“ทำใจเถอะนะ” ติซซี่ไม่รู้จะปลอบความเศร้าหมองของรุ่นน้องร่วมคณะอย่างไร แต่ก็น่าเห็นใจที่คู่ต่อสู้ของใบตองคือสิตางศุ์ ซึ่งได้หัวใจของเจียระไนไปหมดแล้ว


หนุ่มปีหนึ่งหันมองรุ่นพี่ปีสองจากภาคสังคมที่เคยเห็นหน้าค่าตากันอยู่ แล้วก็พอจะรู้มาบ้างว่ารายนี้เป็น ‘FC พี่โซ่ ไออาร์’


“พี่ติซซี่...ก็ชอบพี่โซ่ใช่มั้ย” ใบตองเองก็ไม่เข้าใจ แทนที่เขาจะถามถึง ‘พี่โจ๊ก’ แต่อะไรบางอย่างกลับดลใจให้ถามถึงคนที่เขามองเป็นศัตรูหัวใจ


“อือ...” ติซซี่ตอบเรียบๆ เบือนสายตาไปมองยังห้องสมุดที่เจียระไนและสิตางศุ์หายเข้าไปในนั้น ป่านนี้เจียระไนคงกำลังทั้งปลอบทั้งขู่ให้คนรักเลิกกังวลเรื่องคนอื่น แต่...ก็น่าจะยาก เพราะคนแบบนั้น ห่วงใยคนรอบข้างอยู่เสมอ


“จริงๆพี่โซ่ไม่ใช่สเป็คพี่หรอกนะ แต่...จะว่าไงดี เป็นคนที่...เจอหน้าทีไรก็รู้สึกว่าโลกนี้น่าอยู่จังนะ มีคนดีๆที่ห่วงใยคนอื่นแบบพี่โซ่อยู่ด้วยน่ะ...”


ใบตองนิ่งงัน ภาพความทรงจำตอนที่หน้ามืดและกำลังจะเป็นลมที่ลานหน้าคณะหวนกลับเข้ามา แน่นอนว่าตอนนั้นทุกอย่างมันมืด มันเบลอ มันแทบไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาได้ยินเสียงเรียกดังเข้ามาในหู จับใจความไม่ได้ แต่...รับรู้ถึงสัมผัสที่คอยบีบมือบีบแขนเขาเพื่อเรียกสติ


ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าใคร แต่พอเริ่มรู้สึกตัว พอสติสัมปชัญญะกลับมาครบถ้วน ก็ถึงได้รู้ว่าคนคนนั้นคือสิตางศุ์...


‘พี่โซ่ ไออาร์ แฟนของพี่โจ๊ก ปกครอง’ สถานะตามหลังนั้นเสียดแทงใจของใบตอง แต่...ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าคนมีน้ำใจอย่างสิตางศุ์ เป็นคนที่ทำให้รู้สึกว่า ‘โลกนี้น่าอยู่’


“แต่มันตลกร้ายตรงที่คนดีๆอย่างพี่โซ่มองว่าพี่โจ๊กเป็นคนดีนี่สิ บรึ๋ย! ขนลุก” ติซซี่พูดแล้วถูแขนตัวเอง ถึงจะเข้าใจว่าคำนิยามของ ‘คนดี’ ของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่น่าถึงขั้นยกย่องว่า ‘โจ๊ก ปกครอง’ เป็นคนดี


ใบตองหันมองคนพูด ติซซี่เลยพลอยรู้ตัวว่าหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ก็ชื่นชอบเจียระไนและเผลอๆอาจจะมองคนแบบนั้นเป็นคนดีเช่นเดียวกับสิตางศุ์ด้วย


“เอ่อ...โทษที พี่ไม่ยุ่งเรื่องนิยามคำว่าคนดีแล้วกันนะคระ แล้ว...น้องใบตองจะรักใครชอบใครพี่ก็ห้ามไม่ได้ แต่ถ้าใบตองเกลียดพี่โซ่ ใบตองจะยังชอบพี่โจ๊กได้อยู่เหรอ ในเมื่อพี่โจ๊กรักพี่โซ่ขนาดนั้น หรือจริงๆแล้วใบตองแค่อยากเอาชนะพี่โซ่เฉยๆ ใบตองไปคิดให้ดี”


หนุ่มรุ่นน้องนิ่งงัน ติซซี่ยิ้มให้อีกครั้ง


“ชนะพี่โซ่น่ะไม่ยากหรอก แค่เราทำหน้าเศร้า คนจิตใจดีที่ไม่อยากเห็นคนอื่นเจ็บปวดก็ยอมแพ้แล้ว แต่...ระวังจะกลายเป็นโดนพี่โซ่ชนะใจล่ะ” รุ่นพี่ปีสองแห่งภาคสังคมฯเตือนตามประสาคนถูกตกเบ็ดโดยสิตางศุ์ไปตั้งแต่ปีหนึ่ง ใบตองไม่พูดอะไร ได้แต่ก้มลงมองผ้าเช็ดหน้าในมือตัวเองแล้วเม้มปากแน่น


...ระวัง...จะโดนชนะใจอย่างนั้นหรือ...

.................................

หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 17-05-2018 21:37:05

เจียระไนไม่ค่อยพอใจเท่าไร ที่เหตุการณ์กลับตาลปัตรขนาดนี้ นอกจากคนรักจะไม่หึงหวงโชว์อภินิหารตามที่คิดแล้ว ผ้าเช็ดหน้าหนึ่งผืนของสิตางศุ์ยังตกเป็นของไอ้เด็กนั่นด้วย!


...จำชื่อไม่ได้ว่าเด็กนั่นชื่ออะไร แต่ที่รู้ๆคือแรร์ไอเทมที่กูเคยได้ มาบัดนี้มีคนอื่นได้เหมือนกู!...


เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบาๆ ทำเอาคนที่หงุดหงิดงุ่นง่านเพราะแผนการไม่เป็นดังหวังต้องหันมอง นับตั้งแต่ออกจากคณะ สิตางศุ์ก็เอาแต่ทำหน้าเศร้า แค่ปรายตามองก็รู้ว่าหัวจิตหัวใจคนประเภทนี้กำลังห่วงใย ‘ไอ้เด็กนั่น’ เหลือประมาณ


“มันไม่ใช่ความผิดมึงหรอก” แถมกลายเป็นเจียระไนต้องปลอบ และเริ่มจะเคืองเด็กปีหนึ่งที่ตอนนี้ย้ายเข้ามานั่งอยู่ใจกลางความห่วงใยของสิตางศุ์ไปแล้วเรียบร้อย


...ชักหึงแล้วนะ สัด! ชักหึงแล้ว!...


“มันผิดที่กูไม่พยายามบอกใคร กูคิดแต่ว่ากูยังดีไม่พอสำหรับมึง...ไม่อยากให้มึงอายคนอื่นถ้าเขารู้ว่ากูเป็นแฟนมึง กูลืมคิดว่า...มันจะทำให้มีคนมาชอบมึงแล้ว...แล้ว...ถลำลึกแบบนี้”


ตอนที่รีบตามสิตางศุ์ออกไปนั้น ทั้งเจียระไนและติซซี่ทันได้ยินคำขอโทษของคนผิวขาวจัดเข้าพอดี แถมได้ยินคำว่า ‘โจ๊กเป็นคนดี’ ด้วย แน่นอนว่าติซซี่ขนลุก ส่วนเจียระไนเอาลิ้นดุนแก้มกลั้นยิ้มแทบตายที่ถูกคนรักเยินยอว่าเป็นคนดี


“กูไม่เคยอายที่ใครจะรู้ว่ากูกับมึงเป็นแฟนกัน” แถมยังภาคภูมิใจพร้อมอวดให้รู้กันไปทั่วทั้งจักรวาลอีกด้วย!


สิตางศุ์หันมองคนพูด แล้วถอนหายใจอีกที “เนี่ย...มึงเป็นคนดีแบบนี้ไง กูยิ่งรู้สึกว่ากูดีไม่พออ่ะ...”


ร่างสูงใช้ความคิดหนัก ถูกคนรักมองว่าเป็นคนดีมันก็ดีใจอยู่หรอก แต่ถ้ามันตาลปัตรกลายเป็นว่าสิตางศุ์ยิ่งไม่กล้าบอกคนอื่น เรื่องก็จะพลิกอีกล่ะ!

หนุ่มปกครองรู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้สติในการพูดคุยกันมากหน่อย เขาตบไฟเลี้ยวขอทางเข้าจอดริมถนน แล้วหันไปมองคนข้างกายตรงๆ


“โซ่...” เจ้าของชื่อหันมามอง ก่อนจะก้มหน้าคางชิดอกอีกครั้ง สีหน้ายังเต็มไปด้วยความกังวลและความเสียใจเพราะมองว่าตนเองเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้


...ไม่ได้การ! แบบนี้มีหวังไอ้โซ่ยิ่งไม่กล้าบอกใครมากกว่าเดิมว่าพวกกูเป็นแฟนกัน!...


“มึงฟังกูนะโซ่ กูไม่ได้เป็นคนดี มึงต่างหากที่ดี แล้วก็ดีกว่ากูมากๆด้วย”


สิตางศุ์เงยหน้ามองทันที


“ไม่จริงหรอก มึงเป็นคนดี มึงคอยสอนกู คอยเอาใจใส่ คอยดูแล กูคิดช้า ทำอะไรก็ช้า แต่มึงก็ยังอยู่ข้างๆ...”


“นั่นกูทำให้มึงคนเดียว ไม่ได้ทำให้คนอื่น”


“แล้ว...ทำไมน้องใบตองถึงชอบมึงล่ะ”


“กูจะไปรู้เหรอ สงสัยแม่งเพี้ยน” เจียระไนตอบแล้วยักไหล่ไม่ยี่ระกับความชอบของใครทั้งสิ้น


“แต่...การที่น้องชอบมึง ก็แสดงว่ามึงเป็นคนดี ต่อให้มึงจะคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนดีก็เถอะ...” สิตางศุ์พึมพำ ถึงจะรู้ว่าคำว่าคนดีของคนแต่ละคนนั้นมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน แต่การถูกรักถูกชอบก็เป็นการการันตีรูปแบบหนึ่งว่าคนคนนั้นเป็น 'คนดี' ของใครสักคน


“โจ๊ก...ถึงมึงจะคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนดี แต่จริงๆแล้วมึงเป็นคนดีนะ ทั้งกูและความรู้สึกของน้องใบตอง ยืนยันได้” จู่ๆก็ถูกชมว่าเป็นคนดีกันซึ่งๆหน้า เจียระไนก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการเอาลิ้นดุนแก้ม


...ดุนไว้ไอ้โจ๊ก ดุนไว้! ดุนไว้อย่าให้ใครรู้ว่ากำลังจะยิ้ม!!...


“ถึงกูจะบอกว่าไม่กล้าบอกใคร เพราะคิดว่าดีไม่พอที่จะเป็นแฟนมึง แต่ว่า...เวลาใครบอกว่ากูเป็นแฟนมึง ถึงกูจะอาย แต่กูภูมิใจนะ กูภูมิใจที่ได้เป็นแฟนโจ๊ก ปกครอง”


หมดกันความสามารถในการดุนแก้ม เจอประโยคสุดท้ายเข้าไป หน้าของเจียระไนก็เก็บรอยยิ้มไม่อยู่อีกแล้ว


“โจ๊ก ยิ้มเหรอ”


“ไม่ต้องมาแซวกูเลย!”


“ไม่ได้แซว แค่ถามว่ายิ้มเหรอ”


“เออ! แล้วถ้ามึงภูมิใจที่เป็นแฟนโจ๊ก ปกครอง มึงก็บอกคนอื่นๆซะทีว่าเป็นแฟนกู”


“อื้อ...ต่อไปนี้...จะค่อยๆบอกทุกๆคนนะ”


แล้วหนุ่มปกครองที่มีรอยยิ้มเต็มแก้มก็เปิดไฟเลี้ยวขอกลับเข้าสู่ถนนอีกครั้ง พร้อมกับประโยคที่ยังดังก้องหัวใจ


‘กูภูมิใจที่ได้เป็นแฟนโจ๊ก ปกครอง’


โจ๊ก ปกครองก็โคตรภูมิใจที่ได้เป็นแฟนโซ่ ไออาร์เหมือนกันว่ะ!

...........................

วิชาเรียนรวมของปีหนึ่งเลิกเรียนตอนสามโมงสี่สิบห้า แต่พอนิสิตปีหนึ่งเปิดประตูออกจากห้อง แขกปีสี่ก็เดินสวนเข้าไปทันที


ดวงตาเรียวของ ‘พี่โจ๊ก ปกครอง’ กวาดมองไปทั่ว น้องๆปีหนึ่งหลายคนซุบซิบถึงการมาเยือนของรุ่นพี่หน้าตึงคนนี้ แต่เจียระไนไม่สนใจ เขามองเห็นร่างผอมเล็กที่หมายตาก็เดินดุ่มๆเข้าไปหาทันที


ใบตองเก็บชีทเรียนลงกระเป๋าหมดแล้ว แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นหนุ่มรุ่นพี่เดินตรงดิ่งมาหาก็ถึงกับชะงัก


เจียระไนไม่พูดพร่ำทำเพลง ก้าวไปถึงตัวก็แบมือออกตรงหน้า


“กูมาเอาผ้าเช็ดหน้าไอ้โซ่” หนุ่มปกครองปีสี่ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในใจของใบตองยืนหน้าตึงตาเรียวจ้องจิกรุ่นน้องร่วมคณะชั้นปีหนึ่ง การแบมืออกมาตรงหน้าเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าจงเอาผ้าเช็ดหน้าที่ได้จากสิตางศุ์มาวางคืน...เดี๋ยวนี้!


หากเป็นก่อนหน้านี้ ใบตองคงทั้งฟินทั้งเขิน แต่...ตอนนี้เจ้าตัวกลับถอยห่าง


“พี่โซ่ให้ใบตองแล้ว”


“แต่กูบอกให้เอามาคืน!”


หนุ่มรุ่นน้องส่ายหน้ารัว ถอยหลังอีกหน่อยเหมือนถูกรุ่นพี่ไถเงิน


“มึงชอบกูไม่ใช่เหรอ กูบอกให้เอาผ้าเช็ดหน้าไอ้โซ่มา!” เจียระไนคนไม่สนใจอะไร สามารถใช้ความชอบของคนอื่นที่มีต่อตนเองมาเป็นตัวประกันได้อย่างหน้าตาเฉย ใบตองมองหนุ่มรุ่นพี่ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยชอบแล้วก็ขบปากแน่น


...พี่โซ่เอาตาข้างไหนมอง ถึงกล้าพูดว่าพี่โจ๊กเป็นคนดี...


...คนดีน่ะ...มันพี่โซ่ต่างหาก...


“แค่เคยชอบ!” ใบตองตอบเสียงดังฟังชัด แต่ทำเอาเจียระไนชะงัก


“นี่มึงอย่าบอกนะว่า...”


ใบตองเชิดหน้า คนดีๆสมควรถูกรัก และเวลานี้...เขามั่นใจว่าหัวใจของเขาพร้อมจะเปิดรับคนดีๆอย่าง ‘พี่โซ่ ไออาร์’


“ตอนนี้ใบตองชอบพี่โซ่! แล้วใบตองก็จะไม่คืนผ้าเช็ดหน้าด้วย!”


เป็นประโยคเด็ดที่ทำให้เจียระไนได้แต่อ้าปากค้าง พร้อมกับเสียงกรีดร้องดังขึ้นในใจ


...ฉิบหาย!!! ไอ้โซ่คนดีสร้างศัตรูหัวใจเพิ่มให้กูอีกคนเฉยเลย!!!!!...

FIN

คิดถึงโจ๊ก ปกครองกันม้ายยยยย...
ตอนนี้มายาวหน่อย เพราะว่าไม่ได้เขียนตอนพิเศษเรื่องนี้นาน (นี่คือเหตุผลเหรอเนี่ย ฮ่าฮ่า)
ช่วงนี้ยังไม่มีเรื่องใหม่ เลยเอาตอนพิเศษมาให้อ่านกันก่อน ไว้มีตอนพิเศษอีก จะเอามาลงให้ได้อ่านกันอีกค่ะ

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนคิดถึงและพื้นที่บอร์ดเช่นเคยค่ะ
ไว้เจอกัน ไม่รู้ว่าตอนพิเศษหรือเรื่องใหม่จะมาก่อนกันนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 17-05-2018 21:52:52
โจ๊กเว้ยยยน  เรื่องไปไกลกว่าที่คิดไว้อีกกก55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 17-05-2018 22:30:13
คือโจ๊กปกครองเก็กกว่านี้ไม่ได้ละปะ 555555555555555 อะคือพี่แกทำตัวเองตั้งแต่ที่เป็นคนทำให้โซ่ไออาร์เป็นที่รู้จักแล้วเพราะตัวเองไม่ยอมลงแข่งประกวดเดือน มาคราวนี้ก็ทำให้มีคนชอบแฟนตัวเองเพิ่ม ก็เพราะทำตัวเองอีก สงสาร 555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 17-05-2018 22:47:01
 :o12: รีบมาอ่านอย่างไวว่องงงงง555555555
รอตอนพิเศษ+เรื่องใหม่นะคะ จะรอติดตามค่า o13 :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 17-05-2018 22:55:24
อ้าวว โจ๊ก งานงอก  :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ ทริปภาคฯ (19/01/2018) หน้า 45
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 17-05-2018 23:30:03
โอ้ย โจ๊กเอ้ย
แต่โซ่หนู่โดนมนต์ดำรึเปล่าลูก ทำม๊าย ทำไทถึงเห็นว่าโจ๊กดีงามขนาดนัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 17-05-2018 23:52:23
โซ่ไออาร์สำหรับโจ๊กปกครองเท่านั้น
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 18-05-2018 00:01:04
5555555555555555 โจ้กน่ารัก แต่โซ่น่ารักกว่า :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Gokusan ที่ 18-05-2018 00:05:26
ว้อยยยย พ่อโจ๊ก...พ่อคนดีที่หนึ่งของน้องโซ่
ขำที่ใครๆ ก็ไม่เห็นด้วยว่า...โจ๊กเป็นคนดี 555
ขนาดคนที่มาชอบยังแบบ...ไม่อ่ะ นี่ไม่ใช่คนดี

มีเครดิตคนดีแค่ที่โซ่ให้อ่ะ โจ๊กกกก 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 18-05-2018 00:08:33
กะ กะ เกมส์พลิก เอ็นดูพี่ซอโซ่เหลือเกิน..แอบลุ้นตอนพิเศษครั้งหน้าขอให้เป็น
จันทร์จ้าว จันทร์จ้าว จันทร์จ้าว จันทร์จ้าว จันทร์จ้าว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 18-05-2018 00:48:41
 :m20: โอ๊ย สงสารพี่โจ๊กกก  สร้างศัตรูหัวใจเฉยเลย 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 18-05-2018 01:48:47
 ทำตัวเองแท้ ๆ พี่โจ๊กเอ้ย :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-05-2018 02:33:32
Fin ~~~~ระดับร้อย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 18-05-2018 07:41:22
สมน้ำหน้าไอ้พี่โจ๊กสุดละ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 18-05-2018 07:57:54
โซ่น่ารัก .......... ส่วนโจ๊กหาเรื่องซวยแท้ ๆ



ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: SM_day ที่ 18-05-2018 08:34:22
สมน้ำหน้าอิโจ๊กมัน!!! อยากอ่านเรื่องใหม่แล้วว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 18-05-2018 09:04:07
โซ่ทำให้ทุกคนชอบได้ไม่ยากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 18-05-2018 11:16:41
คิดถึงไบโพล่าโจ๊ก และโซ่ของดีไออาร์ ขอบคุณคนเขียนคะสำหรับตอนพิเศษอ่านไปยิ้มไป ขำตั้งแต่ตอนแรกเลย :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 18-05-2018 11:24:10
555 สงสารพี่โจ๊กแม่ง น่าวงวารที่สุดหล่ะ  ทำไมเมียพี่ดีเยี่ยงนี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-05-2018 13:56:29
ถถถถถ พี่โจ๊กกกกก ไม่สงบสุขเสียที ชีวิตรัก แบบว่าพี่โซ่มีเสน่อ่ะนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 18-05-2018 15:17:31
โอยยย...คิดถึงโจ๊กโซ่...  :impress2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 18-05-2018 19:14:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 18-05-2018 20:01:32
โอ้ยยย!!!5555555+ หัวเราะจนน้ำตาไหล
คิดถึงมากเลยโจ๊กโซ่ แล้วสรุปโจ๊กงานงอกเฉยเลย
อ่อนใจกับคนดีเว่อร์ประจำไออาร์จริงๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 18-05-2018 20:33:06
วงวารพี่โจ๊กจริงๆ มีดีแค่เป็นแฟนโซ่ก็พอละโนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 18-05-2018 21:35:18
โจ๊กเอ้ย 5555555555 :hao6:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-05-2018 21:35:37
ชอบบบบบบ ไรท์สุดยอด  :mew1: :mew1: :mew1:
เขียนได้น่ารัก แสบๆ สนุกมากๆ

โจ๊กเอ๊ย............สร้างศัตรูหัวใจเพิ่มอีกหนึ่งคนเฉยเลย  กร๊ากกกกกก   :z3: :z3: :z3:
คิดถึงโจ๊ก คนนิสัยไม่ดีกับทุกคน ยกเว้นโซ่ ไออาร์ 
โจ๊กก็น่ารักแบบโจ๊กละนะ
โซ่ ก็ซื่อ ห่วงใยคนไปหมดเหมือนเดิม  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

โจ๊ก  โซ่   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 18-05-2018 22:22:57
น้องซอโซ่ต้องโดนหมอผีเขมรทำคุณไสย ต้องโดนคุณไสยแน่ๆ คนดีๆเขาไม่เป็นแบบแฟนน้องนะคะลูก /เอาผ้าถุงครอบหัวล้างมนต์ดำ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 18-05-2018 23:30:20
สงสารโจ๊ก 5555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 19-05-2018 10:39:00
โซ่คนดีของน้อง รักโซ่สุดๆเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 19-05-2018 18:22:24
แล้วความดีก็ชนะทุกอย่าง สงสารโจ๊กปกครองจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: korner ที่ 19-05-2018 19:09:27
สงสารพี่โจ๊กเวอร์ๆๆ วางแผนให้โซ่หึงดันหึงเองแถมยังมีคนมาปลื้มแฟนตัวเองเพิ่มอีก 55555 สู้ๆนะพี่โจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 20-05-2018 01:28:01
ตอนนี้น่าร้ากกกก คิดถึงหน้าโจ๊กตอนท้ายก็ตล๊กกก 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 21-05-2018 22:20:18
จะสงส่ารรึสมน้ำหน้าโจ๊กดีล่ะ  :pigha2:
โซ่ช่างไม่รุ้อะไรบ้างเลย แต่พูดจากใจเฉยๆนี่ก็พาโจ๊กลอยถึงสวรรค์
โจํกไปคิดมุขให้โซ่หึงมาใหม่นะ

รอตอนต่อไป พลีส :call:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-05-2018 23:25:13
ขำ
จากมีแฟนคลับ กลายเป็นศัตรูหหัวใจซะงั้น
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-05-2018 20:55:44
เป็นแฟนโซ่นี่ต้องทำความเข้าใจอย่างหนักเลยนะ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 25-05-2018 00:37:47
น้องใบตองเจอพี่โซ่เข้าไป เปลี่ยน ใจจากพี่โจ๊กไบโพล่า แทบไม่ทัน 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 25-05-2018 03:18:03
ว่อยยยนย โจ๊ก  :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 25-05-2018 03:58:56
คิดถึงมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: ชายกุมภ์ ที่ 26-05-2018 11:05:55
โจ๊กกกก 555 เลวได้เด๋อมากๆ
ชอบเรื่องนี้ครับ
ขอบคุณคุณนักเขียน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: npsp2555 ที่ 26-05-2018 21:28:53
ขอบคุณค่ะ ตอนพิเศษ โซ่คนดี 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-05-2018 04:59:52
สะใจ สมน้ำหน้า โจ๊กเอ่ยโจ๊ก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 31-05-2018 23:04:56
โอ๊ยยยย ขำท้องแข็งไปหมด  :laugh:

ตอนพิเศษนี้ฮามาก ขอบคุณครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 16-06-2018 22:47:18
ตอนพิเศษอิพี่โจ๊กก็เกรี้ยวกราดเป็นพิเศษเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ ความดันจะขึ้นตาม พี่โซ่ก็นะดีจนไม่คิดอะไรเลยแบบนี้ไม่ได้นะคะ ต้องให้ติชชี่มาจับเทรนแล้วจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 24-06-2018 20:36:49
ฮื้ออออออ น่ารักมาก โซ่น่ารักมากๆ เลยค่ะ

ขำความลิ้นดุนแก้มของโจ๊กมาก ผู้ชายบ้าบออ่ะ 5555555555
ตลกมาก แล้วยิ่งเวลานางฟินเรื่องที่เกี่ยวกับโซ่ มันทำให้อินมากเลยค่ะ อ่านไปก็ฟินลิ้นดุนแก้มตามโจ๊ก บ้าบอตามพระเอกเฉยยยยย 5555555

ขอบคุณนะคะ~~~~
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-06-2018 22:52:36
 :laugh:
 :m20:
โจ๊กคนดี 555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 26-07-2018 17:51:52
แวะกลับมาอ่าน คิดถึง  :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-07-2018 01:24:52
สงสารโจ๊ก ฮ่าๆ
ต้องโซ่เท่านั้นจริงๆที่มองโจ๊กเป็นคนดี
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 30-07-2018 17:32:52
5555 และโจ๊กก็มีศัตรูเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Republic_ ที่ 04-08-2018 22:24:00
 :laugh: สงสารอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 05-08-2018 12:40:00
โอ๊ยชอบคู่นี้มากกกก
ชอบความไบโพล่าร์ของโจ๊ก
อ่านเจ๋งแล้ว ยังไม่เท่าโจ๊กเลย
ขั้นสุดของขั้นสุดจริงๆ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 08-08-2018 00:58:49
โจ๊กเป็นคนดี?! 5555555 จริงๆแล้วโจ๊กเป็นไบโพล่าต่างหากล่ะโซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-08-2018 15:40:57
คิดถึงจึ่งมาหา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: +MooN+ ที่ 09-08-2018 10:59:02
โจ๊กปกครอง ดิบ เถื่อน ไม่มีน้ำใจ ไร้ซึ่งมนุษย์สัมพันธ์ แล้วทำไมน้องโซ่คนดี คนน่ารัก ถึงได้มองว่าโจ๊กเป็นคนดีเนี่ย เสียดายน้องโซ่คนดีศรีไออาร์จริงๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Bringmelove ที่ 16-08-2018 14:54:46
นี่โซ่ไม่ต่อยก็บุญแล้วปะ มาบอกให้นอนด้วยได้ไง นี่ถ้าเป็นโซ่ฟังเหตุผลที่เลิกกันแล้วอึนๆเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Bringmelove ที่ 16-08-2018 21:06:44
ดูท่าโจ๊กจะชอบโซ่มากจริงๆ ทำไมโซ่ตอบตัวเองไม่ได้ว่ารักนิดารึเปล่า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 04-09-2018 22:39:06
 :L1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 06-09-2018 13:07:08
คิดถึงก็มา :mew1:  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 19-09-2018 18:12:24
ก๊ากกกกก...เกมส์พลิกค่ะงานนี้
น้องใบตองกลับลำไปชอบหนูโซ่เฉย
เป็นไงล่ะอิตาโจ๊กหาศัตรูหัวใจเพิ่มให้ตัวเองซะงั้น
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 08-10-2018 22:25:32
วาระซ่อนเร้น
BY: Dezair
……………………………..
ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า



ฟ้าสลัวยามเย็น ทำให้บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยที่มีต้นไม้สูงใหญ่ ดูมืดกว่าที่ควรจะเป็น


แต่…ที่ถนนเส้นหนึ่งซึ่งมุ่งตรงสู่คณะเล็กๆซึ่งมีสนามฟุตบอลเป็นของตัวเองกลับติดไฟนีออนหลากสีเรียงเป็นแนว ราวกับบอกว่าจุดหมายปลายทางของไฟนีออนเหล่านี้คือสถานที่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่คึกคักที่สุดในค่ำคืนนี้


ค่ำคืนของ...คณะรัฐศาสตร์


วันนี้เป็นวันคืนสู่เหย้า หรือเรียกกันอย่างคล่องปากว่า ‘งานคืนถ้ำ’ ถ้ำที่ว่าก็คือถ้ำสิงห์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคณะ


ศิษย์เก่ามากหน้าหลายตา มีทั้งสูงอายุ วัยกลางคน และวัยหนุ่มสาวเดินพลุกพล่านอยู่บริเวณลานคณะที่นอกจากจะมีซุ้มลงทะเบียนรับของที่ระลึกแล้ว ยังมีซุ้มโค้งและแบ็กดร็อปสำหรับถ่ายรูปด้วย เสียงพูดคุยดังจ้อกแจ้กจอแจ ผสมกับเสียงแว่วๆของดนตรีจากเวทีที่ตั้งอยู่ในสนามฟุตบอลด้านใน และเสียงเฮฮายามพบปะเพื่อนฝูงเก่าๆ ยิ่งทำให้บรรยากาศครึกครื้น รวมไปถึง...เสียงจาก ‘ปากต่อปาก’ ที่ใครได้ยินก็พลอยให้หัวใจกระชุ่มกระชวย


“นั่นน้องโซ่ไออาร์!”


“ฮุ้ย! หล่อมาก! ขาวมาก! วันเวลาไม่เคยทำอะไรพี่โซ่ได้”


“กูเข้ามาไม่ทันเจอพี่เขาตอนเรียน เคยเห็นแต่ในรูปจากพี่รหัสก็ว่างานดีแล้วนะ แต่ตัวจริงนี่ดิ! เกินเบอร์ไปอี๊ก!”

“ขาวออร่าสมกับเป็นของดีไออาร์จริงๆ...”


“ยิ้มก็สวย โลกสดใสเพราะรอยยิ้มของใครสักคนมันเป็นยังงี้เองเหรอวะ...”


“พี่โซ่…”


“น้องโซ่…”


“โซ่....”


เสียงครวญของคนรอบข้างไม่ได้เบาเลยสักนิด เจ้าของชื่อที่เพิ่งมาถึงงานหันตามเสียงเรียกชื่อตัวเองซ้ายทีขวาที แต่ไม่ว่าจะหันไปสบตากับใครก็ส่งยิ้มสวยให้เขาไปหมด เล่นเอาทั้งหญิงชาย ทั้งมีอายุทั้งยังเด็ก ยิ้มตามแถมมองตาเยิ้ม


แต่...มีใครบางคนยิ้มไม่ออก


เจียระไนหนุ่มปกครองที่ถือสิทธิ์เด็ดขาดในการอยู่ข้างกายสิตางศุ์มาตั้งแต่สมัยเรียนปีสี่ทำเสียงกระแอมไอก็แล้ว ตาขวางมองคนรอบข้างก็แล้ว แต่ก็หามีใครสนใจไม่ สิตางศุ์ถูกทักจากคนที่รู้จักและไม่รู้จักตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในงาน ชนิดที่ต่อให้ไม่ลงทะเบียน การเป็นที่รู้จักขนาดนี้ก็การันตีเป็นอย่างดีว่าเรียนคณะนี้แน่นอน


“อ่ะ! นี่รุ่นเรา” สิตางศุ์ละสายตาและรอยยิ้มจากคนรอบข้าง หันไปกวาดตามองป้ายรุ่นที่ติดเรียงรายอยู่บนเต้นท์ ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าไป แน่นอนว่ามีเจียระไนตามติดหนึบ


“พี่โซ่ใช่มั้ยครับ...โซ่ สิตางศุ์” เด็กหนุ่มในชุดนิสิตซึ่งสวมบัตรสต๊าฟเป็นคนทัก เจียระไนบวกลบจำนวนปีที่พวกเขาเรียนจบอย่างรวดเร็ว แล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วเพราะเจ้าหนุ่มวัยนิสิตคนนี้ไม่มีทางเข้าเรียนทันตอนที่พวกเขายังอยู่ในคณะ


แต่...มันรู้จักชื่อแซ่ไอ้โซ่ได้ไง?!!


คนหนึ่งขมวดคิ้วมุ่นที่มีคนรู้จักสิตางศุ์ แต่สิตางศุ์ตัวจริงยิ้มหวานแทนคำตอบ


“รู้จักพี่ด้วยเหรอ”


“รู้สิครับ...พี่โซ่ดังจะตาย...” ไม่เพียงแค่รู้จัก แต่ยังปรนนิบัติคนดังอย่างสิตางศุ์อีกระดับ คนอื่นต้องเปิดกระดาษหาชื่อลงทะเบียนกันเอง แต่สำหรับพี่สิตางศุ์คนนี้ หนุ่มรุ่นน้องหยิบกระดาษไปพลิกหาชื่อให้เรียบร้อย


“พี่เซ็นตรงนี้นะครับ” แถมหยิบปากกาเปิดฝามาส่งให้ ตามด้วยการชี้ที่ช่องลงชื่อ พอเซ็นเสร็จ เจ้าหนุ่มนั่นก็เขียนชื่อลงบนสติกเกอร์ แล้วยื่นมือมาหา


“ขออนุญาตติดกับเสื้อพี่โซ่นะครับ”


เจียระไนคนหน้านิ่ว เริ่มจะไม่พอใจกับการถึงเนื้อถึงตัวเกินไป ก่อนที่สติกเกอร์จะทันติดลงกับเสื้อเชิ้ตของสิตางศุ์ เขาก็ดึงหมับออกมาจากมือรุ่นน้องทันที!


“เดี๋ยวติดให้เอง!”


ตาเรียวจ้องจิก หนุ่มรุ่นน้องมองสบตาทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปยิ้มกว้างให้สิตางศุ์ ไม่สนใจเจียระไน


“ส่วนนี่เป็นคูปองอาหารกับของที่ระลึกนะครับ พี่โซ่เอาคูปองไปแลกอาหารที่ซุ้มได้เลยนะ...” ตามประสาสต๊าฟที่ดีก็ต้องอธิบายวิธีใช้งาน แต่ชักรู้สึกว่าถูกจ้องเลยต้องหันมอง คนจ้องไม่ใช่ใครที่ไหน ยังเป็นหนุ่มตี๋ตาเรียวหน้าตาหงุดหงิดที่มากับ ‘พี่โซ่’


...คนนี้ละมั้ง ที่เขาว่ากันว่าเป็นพี่รหัสมากบารมีของพี่โซ่...


...แต่แล้วยังไงล่ะ จบไปแล้ว บารมีก็ควรจะหมดไปด้วยสิ...


หนุ่มรุ่นน้องร่วมคณะที่เดาเอาเองว่าคนที่ติดตามสิตางศุ์มาด้วยคือพี่รหัสมากบารมี ยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจไปทีหนึ่ง ก่อนจะชี้นิ้วไปที่กองกระดาษข้างๆ


“พี่หาชื่อตัวเองแล้วเซ็นชื่อได้เลยครับ” เขาบอกเรียบๆ ก่อนจะหันกลับมาหาสิตางศุ์ ฉีกยิ้มหวานแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มนุ่มกว่าที่พูดกับคนอื่น


“...คูปองมีห้าใบ ถ้าพี่โซ่อยากทานอะไร เอาคูปองไปแลกได้เลยนะครับ หรือว่าถ้าไม่พอ จะมา...”


“เฮ้ย! นั่นพี่เวฟ!” เสียงของเจียระไนดังขัด ทำเอาสิตางศุ์หันมองทันที


พี่รหัสที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตั้งแต่สมัยเข้าเรียนปีหนึ่งกำลังเดินดุ่มๆออกมาจากในงาน ใบหน้าขาวยิ้มกว้างทันทีที่สบตากับอรรณพ


“เห็นมีคนบอกว่ามึงมาแล้ว กูเลยเดินออกมาดู มึงก็มาเหรอไอ้โจ๊ก” อรรณพก้าวมาถึงตัวสิตางศุ์แล้วออกปากทัก แถมด้วยการทักคนรักของน้องรหัสอีกทีหนึ่ง ถึงแม้จะยังเคืองสายตาอยู่บ้าง แต่หลายปีที่ผ่านมา เจียระไนก็แสดงให้เห็นแล้วว่าดูแลสิตางศุ์ได้ดีเพียงใด


“ไม่มาได้ไง! เดี๋ยวหมาคาบไปแดก!” คำตอบของหนุ่มตี๋หน้าหงิกทำเอาหลายคนแถวนี้สะดุ้งกันคนละเฮือก


อรรณพกวาดตามองรอบตัว แล้วหันมามองหน้าตาซื่อๆของน้องรหัสที่ยังยิ้มแย้มแจ่มใส ดูไม่รู้อะไรอีกตามเคย


“ไปๆ เข้าไปในงาน เพื่อนกูอยากเจอมึงกันเพียบ” อรรณพชวนน้องรัก แต่ยังไม่ทันที่สิตางศุ์จะเดิน เสียงของรุ่นน้องผู้ประจำซุ้มลงทะเบียนก็ดังขึ้น


“เอ่อ...พี่โซ่ครับ” เจ้าหนุ่มนั่นยังคงยื่นคูปองอาหารและของที่ระลึกอยู่อย่างนั้น ตั้งอกตั้งใจจะให้สิตางศุ์สมกับหน้าที่สต๊าฟฝ่ายลงทะเบียน


“ขอบใจ” แต่กลายเป็นอรรณพที่ดึงทุกอย่างไป  ตามด้วยการจิกสายตาไปที ก็ไม่มีใครกล้าหืออะไรขึ้นมาอีก เขาหันไปชวนสิตางศุ์เข้างาน เจียระไนมองตามสองพี่น้องสายรหัสแล้วก็เหลือบมามองเจ้าหนุ่มรุ่นน้องที่คงไม่ทันอยู่ในช่วงยุคเฟื่องฟูของอรรณพในรัฐศาสตร์


ผู้ชายมากบารมีคนนั้นคือคนที่ทำให้สิตางศุ์โสดมาจนปีสี่


แต่คาดว่าตอนนี้มันคงรู้แล้วว่า ตำนานก็คือตำนาน


ตำนานของผู้มากบารมีแห่งรัฐศาสตร์ที่ชื่อ ‘อรรณพ’


หนุ่มปกครองตาเรียวมองเจ้าหนุ่มรุ่นน้องแล้วยกยิ้มที่มุมปากอย่างเย้ยหยัน


“เอาคูปองกับของที่ระลึกมาได้แล้ว” เจ้าหนุ่มนั่นยอมหยิบมาส่งให้


“คนนั้นคือพี่รหัสพี่โซ่เหรอครับ” มันถาม หน้าตาดูไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก


“เออ เคยได้ยินชื่อมั้ยล่ะ”


มันพยักหน้า


“พี่เวฟ”


ดูจากสีหน้าหงุดหงิดหัวใจแล้ว เจ้าตัวก็คงไม่คิดว่าผู้ชายที่ชื่อ ‘พี่เวฟ’ ที่กลายเป็นตำนานกล่าวขานมาจนถึงนิสิตรุ่นปัจจุบันจะยังคงแผ่ออร่าสยบทุกสรรพสิ่งออกมาได้ขนาดนี้


...ได้ยินแต่ชื่อมานาน ก็นึกว่าจะเหลือแต่ชื่อซะอีก พอมาเจอตัวจริง ถึงได้รู้ว่า...คนมีบารมีก็คือคนมีบารมี...


คราวนี้ หนุ่มรุ่นน้องหันกลับมามองเจียระไน คนที่เขาเข้าใจผิดไปว่าคือ ‘พี่เวฟ’


“ตอนแรกผมนึกว่าพี่คือพี่เวฟ เห็นมากับพี่โซ่ ยังคิดอยู่เลยว่าไม่เหมือนที่เขาบอกกันมาว่าพี่รหัสพี่โซ่โหด”


เจียระไนยกยิ้มแต่ไม่พูด


พอรู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนที่ตัวเองคิด นิสิตผู้ดูแลซุ้มลงทะเบียนก็มีไมตรีจิตอันดีตามประสารุ่นพี่รุ่นน้องร่วมคณะ


“พี่ชื่ออะไรนะ เดี๋ยวผมเขียนสติกเกอร์ให้” มันถามหันไปหยิบสติกเกอร์และปากกามาเตรียมเขียน


“โจ๊ก” คำตอบของเจียระไนทำเอาคนกำลังจะจรดปลายปากกาเมจิกถึงกับชะงัก เจ้าหนุ่มรุ่นน้องเงยหน้ามองตาเหลือก


“อะไรนะ?!”


“โจ๊ก ปกครอง”


เพียงเท่านั้น เจ้าหนุ่มนั่นก็ทำได้แค่อ้าปากค้างจ้องหน้าหนุ่มตี๋ที่ออกตัวว่าคือ ‘โจ๊ก ปกครอง’ แล้วสิ่งที่ได้ยินมาจากปากต่อปาก จากรุ่นสู่รุ่นก็ดังขึ้นในหัว


‘ถ้าได้เจอพี่เวฟ จะรู้ว่าตำนานของจริงเป็นยังไง’


‘บารมีแค่ไหน คิดดูเอาแล้วกันว่าทำให้พี่โซ่โสดมาจนปีสี่ เพราะไม่มีคนกล้าจีบ’


‘แต่พี่เวฟว่าเจ๋งแล้ว คนที่เทพยิ่งกว่าคือพี่โจ๊กเว้ย’


‘พี่โจ๊ก ปกครอง แม่งมานิ่งๆ พอพี่เวฟเรียบจบปุ๊บ พี่แกสอยพี่โซ่เงียบกริ๊บ’


‘เห็นเขาว่าพี่โจ๊กเล็งพี่โซ่มานาน แต่ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม แม่งยอมใจเลย คนจริง!’


...บุคคลในตำนานของรัฐศาสตร์ยุคนั้น...


...โซ่ ไออาร์...


...เวฟ บุรุษผู้มากบารมี...


และ


...โจ๊ก ปกครอง...

................................

ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำ แต่ที่สนามฟุตบอลของคณะรัฐศาสตร์ยังคงคึกคักและสว่างไสว ซุ้มอาหารที่เรียงรายยังคงอุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยผู้คนที่นำคูปองมาแลกรับอาหาร บนเวทียังมีการแสดงของนิสิตรุ่นปัจจุบันสลับกับการให้รางวัล ทั้งรางวัลรุ่นรักคณะ ซึ่งนับยอดคนในรุ่นที่มาร่วมงานมากที่สุด รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมซึ่งมาจากการแข่งขันภายในของรุ่นต่างๆที่ลงสมัครแข่งฟุตบอล และรางวัลคนเด่นคนดังสร้างชื่อเสียงให้กับคณะ


แต่แสงสีเสียงจากเวทีไม่ได้ดึงดูดความสนใจของเจียระไนเท่าไร ตอนนี้สายตาหนุ่มปกครองกำลังจับจ้องไปที่โต๊ะของรุ่นพี่รหัสของสิตางศุ์


คนผิวขาวจัดที่กระจ่างกระทั่งในความมืดยามค่ำคืนกำลังหัวเราะสนุกสนานกับการเสวนากับรุ่นพี่เก่าๆที่เจ้าตัวคุ้นเคย นอกจากอรรณพแล้ว มีรุ่นพี่ร่วมภาคอีก 4-5 คน และหลายคนเป็นภาคอื่น เจียระไนรู้ดีว่าไอ้พวกที่ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับสิตางศุ์ตั้งแต่แรกถือโอกาสเนียนสร้างความสนิทสนมโดยการไม่ลุกจากโต๊ะไปไหนเลยสักนิด


“เย็นไว้เพื่อนโจ๊ก มึงไว้ใจพี่เวฟหน่อย เขาไม่ปล่อยให้โซ่โดนเต๊าะหรอก” ปราการพยายามปรามเพื่อนรักที่เกือบจะลุกจากโต๊ะรุ่นตัวเองไปลากคนรักออกมาจากโต๊ะของรุ่นพี่แล้ว แต่ดูเหมือนเจียระไนจะโตกว่าเดิมเยอะ เพราะนอกจากหายใจฟืดฟาด มันก็ไม่ทำอะไรมากกว่านั้น


ปราการเกือบจะสบายใจ แต่แล้วตอนที่รุ่นพี่คนหนึ่งในโต๊ะนั้นหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วสิตางศุ์ก็หยิบขึ้นมาเช่นกัน คนที่หายใจฟืดฟาดเป็นทุนเดิมถึงกับเลื่อนเก้าอี้ออกจากโต๊ะดังครืดแล้วลุกพรวด!


“โจ๊ก! มึงอย่า...” เขากำลังจะร้องห้าม แต่กลายเป็นว่าเจียระไนกลับหมุนตัวเดินออกจากโต๊ะไปที่ซุ้มอาหารด้านหลัง สิตางศุ์หันมาเห็นพอดี ปราการเลยรีบส่งภาษามือบอกอย่างรวดเร็ว


“ขอตัวแป๊บนะครับ เดี๋ยวมานะพี่เวฟ” ร่างโปร่งบอกรุ่นพี่ในโต๊ะแล้วหันมาบอกพี่รหัส ก่อนจะลุกจากโต๊ะเดินตามเจียระไน


“โจ๊ก...โจ๊ก...” หนุ่มตี๋ตาเรียวอดีตนิสิตภาคปกครองเหลือบตามอง


“ตามมาทำไม?!” เสียงยังแข็ง แต่ลูกตานี่สิ หันมองคนเดินตามเต็มสองตาไปแล้วเรียบร้อย


“โจ๊กหิวเหรอ”


“เออ!” อันที่จริงไม่หิว แม้ว่าตอนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะจะเอาแต่จ้องโต๊ะของรุ่นพี่ที่มีสิตางศุ์นั่งอยู่จนไม่ได้แตะอะไรสักอย่างก็ตาม


“กินอะไรดี ไก่ทอดมั้ย” สิตางศุ์ถาม ก้าวเท้าเดินข้างๆอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าคนจะเบียดเสียดเป็นบางจุด แต่ก็พยายามอยู่ใกล้เจียระไนเข้าไว้ เขาเองก็พอรู้ว่าคนรักเคืองพอดูที่เขาไม่ได้กลับไปที่โต๊ะเลย


...ก็พวกพี่ๆชวนคุย แล้วแต่ละคนก็แทบไม่ได้เจอกันเลยนี่นา...


“มึงอยากก็กินสิ!” หนุ่มตี๋ตาเรียวยังคงตอบ แต่สิตางศุ์ส่ายหน้า


“ไม่อยากหรอก มาเดินเป็นเพื่อนโจ๊กเฉยๆ”


คำว่า ‘มาเดินเป็นเพื่อนโจ๊กเฉยๆ’ ทำเอา ‘โจ๊ก ปกครอง’ ใจพังไปซีกหนึ่ง ต้องรีบเอาลิ้นดุนแก้มไปหนึ่งที!


ส่วนคนพูดทำลายหัวใจดวงน้อยๆที่แสนบอบบางของ ‘โจ๊ก ปกครอง’ ดูจะไม่ได้รู้ตัวสักนิดว่าตัวเองพูดอะไรออกไป เพราะตายังกวาดมองซุ้มอาหาร ป้ายเหนือซุ้มบอกให้รู้ว่าว่าซุ้มนั้นๆได้รับทุนสนับสนุนจากใครหรือรุ่นไหน รุ่นของพวกเขาเองก็รวมเงินจ้างร้านอาหารมาลงซุ้มเช่นกัน


“ซุ้มนี้ของรุ่นพี่เวฟ โฮ...บิงซู เล่นใหญ่มาก” สิตางศุ์หยอกพี่รหัสที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ช่วงที่เดินดูตามซุ้มต่างๆ บางทีก็ถูกทักทายจากคนที่เดินสวนไปมา บางคนเจ้าตัวก็รู้จัก บางคนก็ไม่ แต่สิตางศุ์ก็ยังยิ้มแย้มสดใส เป็นรอยยิ้มอย่างที่...เจียระไนหลงรัก


รอยยิ้มของคนที่ได้กลับมายังสถานที่ที่คุ้นเคย มาอยู่ในบรรยากาศเก่าๆที่อยู่ในความทรงจำ


“ไปเดินดูตึกกันไหม” อยู่ดีๆเจียระไนก็ถามขึ้นมา ทำเอาคนกำลังสนใจซุ้มอาหารต้องหันมอง


“ตึกเรียนน่ะ...” หนุ่มปกครองพูดแล้วบุ้ยหน้าไปยังตึกเรียนเก่า ที่อยู่ใกล้กับสนามฟุตบอล สิตางศุ์พยักหน้าก่อนจะเดินตามคนชวน


แม้ห้องเรียนจะถูกปิดประตูเอาไว้หมดแล้ว แต่ระเบียงทางเดินก็ยังเปิดโล่งให้พวกเขาเดินเล่น แสงไฟจากเพดานให้ความสว่างตลอดทาง พวกเขาเดินกันเงียบๆ แต่เจียระไนรู้ว่าคนข้างกายกำลังคิดถึง


คิดถึงวันเวลาเก่าๆ


คิดถึงความทรงจำเก่าๆ


สิตางศุ์เดินมาหยุดอยู่ที่ระเบียงซึ่งใกล้กับสนามฟุตบอลที่ใช้จัดงานคืนสู่เหย้า


   ดวงตาคู่สวยกวาดมองสนามฟุตบอลเบื้องหน้า


…สนามฟุตบอลที่คุ้นเคย…มันตั้งอยู่ตรงนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่เข้ามาเรียนวันแรก ก็เห็นมันอยู่ตรงนี้ บางวันมันว่างเปล่า มีเพียงหญ้าเขียวๆและโกลล์ที่ไร้ผู้คน บางวันมันมีคนเกือบสิบจากชมรมฟุตบอลของคณะมาซ้อม บางวันก็ได้ต้อนรับทีมจากคณะอื่น บางวันมีคนห้อมล้อมรอบสนามมากมาย บางวันก็ไม่มี


แต่วันนี้…สนามฟุตบอลของคณะรัฐศาสตร์ให้ภาพที่แตกต่างไปจากความทรงจำของเขา


   สนามฟุตบอลที่กลายร่างเป็นสนามจัดงาน แสงไฟจากสปอตไลท์ที่ติดตั้งตามมุมต่างๆทำให้เห็นผู้คนมากมาย บ้างนั่งตามโต๊ะ บ้างลุกขึ้นเดิน บ้างเล่นสนุกหยอกล้อ บ้างรับประทานอาหารพูดคุยถามไถ่


คนเหล่านี้ล้วนมีสิ่งหนึ่งร่วมกัน


   ...อดีต...


   อดีตที่ครั้งหนึ่งเราต่างเป็นนิสิตคณะรัฐศาสตร์


   อดีตที่ครั้งหนึ่งเราเคยเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่


   และวันนี้ที่เราจบไปแล้ว...เราก็ยังกลับมา


   กลับมาเพื่อทบทวนอดีตที่เราคุ้นเคย


   “คิดถึงคณะ...” ริมฝีปากของสิตางศุ์เอื้อนเอ่ย ดวงตากวาดมองไปรอบตัว ไม่ใช่แค่สนามฟุตบอล แต่รวมถึงอาคารเรียน โรงอาหาร ห้องสมุด บางที่เปลี่ยนแปลง บางที่ปรับปรุง บางที่เกิดขึ้นใหม่ แต่ที่นี่จะยังคงเป็นคณะรัฐศาสตร์ เป็นคณะที่หล่อหลอมเขาขึ้นมา


   ร่างสูงหันมองคนข้างกาย เขารู้ว่าสิตางศุ์รัก...ไม่ใช่รักเพราะเป็นคณะรัฐศาสตร์ แต่รักเพราะคณะนี้ให้อะไรหลายๆอย่างในชีวิต


   เขาเองก็เช่นกัน เพราะคณะนี้...เขาถึงได้พบและได้รักสิตางศุ์


   “กูก็ด้วย...” ดวงตาคู่สวยใสแจ๋วหันมองคนพูดอย่างคาดไม่ถึง เจียระไนไม่ค่อยร่วมกิจกรรมคณะ ดูแล้วไม่น่าจะมีความทรงจำให้คิดถึงเท่าไร


   “ที่นี่ทำให้กูได้เจอมึง” เป็นคำพูดตรงๆของคนหน้าตาย ที่ไม่มีอะไรสำคัญในชีวิตมากไปกว่าสิตางศุ์ คนฟังหัวเราะเบาๆ หน้าตาสดใสท่ามกลางความสลัวของระเบียงทางเดินที่มีเพียงไฟจากเพดาน


   “จะโกรธรึเปล่า ถ้ากูบอกว่าคณะนี้ทำให้กูได้เจอทั้งมึง...ทั้งคนอื่นๆ” ในขณะที่เจียระไนเป็นคนตรงๆ สิตางศุ์ก็เป็นคนซื่อๆ


   “โกรธได้ไง มึงมันสเป็คสาธารณะนี่หว่า”


หนุ่มไออาร์กะพริบตาปริบๆ เอียงคอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยแผ่วเบา


   “จนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงมีคนบอกว่ากูเป็นสเป็คสาธารณะ” สิตางศุ์ไม่คิดว่าคนทื่อๆ ที่ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการพยายามเรียนหนังสือจะเป็นสเป็คของใครเลย ยิ่งเป็นสเป็คของคนหมู่มากด้วยแล้ว ยิ่งไม่น่าจะมีทางเป็นไปได้ แต่ถึงอย่างนั้นคนรอบข้างก็พากันเรียกเขาว่าสเป็คสาธารณะ


   “ก็มึง...” เจียระไนไม่อยากสาธยาย พูดไปก็จะเจ็บกระดองใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่าในชีวิตของสิตางศุ์นั้นล้วนเป็นสเป็คของใครๆก็ได้ทั้งนั้น จิตใจดี หน้าตาดี เรียนหนังสือเก่ง มีคุณธรรม


   “...ก็!...ก็มึงเป็นแฟนกูไง มีแต่คนอยากแย่งของกูทั้งนั้นล่ะ!”


   สิตางศุ์หัวเราะเบาๆกับเหตุผลของคนข้างกาย


   “ถ้างั้น...ถ้าไม่อยากเป็นสเป็คสาธารณะก็ต้องเลิก...” คนซื่อๆแต่บทจะซนขึ้นมาก็ทำเอาหนุ่มปกครองใจหายวาบ หันขวับมามองแทบไม่ทัน แต่สิ่งที่เห็นคือดวงตาใสๆที่ตอนนี้เปล่งประกายระยิบและรอยยิ้มที่...งดงาม


   ...สัด! ใจพังด่าไม่ออก!!...


   “เลิกเชี่ยอะไร?! เลิกเพ้อเจ้อน่ะสิ! ไปๆ ไปหาไรแดก แดกเสร็จจะได้กลับ!” หนุ่มตี๋ดึงแขนคนผิวขาวจัดให้ออกเดิน ได้ยินเสียงหัวเราะสดใสตามหลังจนต้องตวัดสายตามาจ้อง แต่สิตางศุ์กลับยิ้ม แขนที่ถูกดึง กลายเป็นมือที่เลื่อนลงจับกระชับกับมือของผู้ชายคนนี้...คนที่เป็นหนึ่งในผู้คนที่สิตางศุ์ได้พบที่นี่


   …และเป็นหนึ่ง...ในคนที่มีค่าที่สุดที่คณะนี้มอบให้...


   “มึงเป็นของขวัญที่คณะให้มา ยังไงก็ไม่เลิกหรอก”


   …สุดจะกอบกู้หัวใจ…


   ลืมเรื่องลิ้นดุนแก้มไปได้เลย เพราะจุดนี้ ลิ้นน่าจะละลายลงท้องไปแล้ว


   ร่างโปร่งดึงมือคนข้างกายให้เดินกลับเข้าไปในสนามฟุตบอลที่กำลังคึกคัก มีหลายคนมองมาที่พวกเขา แล้วมองลงมาที่มือของพวกเขาที่จับกันอยู่ จากนั้นก็มองกลับขึ้นมาที่หน้าของสิตางศุ์และเจียระไน คนผิวขาวจัดยังคงยิ้มสดใสและยังจับมืออยู่อย่างนั้น ส่วนเจียระไน...นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของหลายคนในค่ำคืนนี้ที่ได้เห็น ‘โจ๊ก ปกครอง’ ยิ้ม


   ยิ้มเขิน


   ยิ้มดีใจ


   ยิ้มเพราะได้รู้ว่าตัวเองเป็น ‘ของขวัญ’ ของสิตางศุ์


   ถ้าวันนี้ ‘โจ๊ก ปกครอง’ พูดว่ารักคณะ โปรดเชื่อเถอะว่า ‘โจ๊ก ปกครอง’ รักคณะจริงๆ


   รักคณะ เพราะคณะทำให้ได้เจอคนที่รัก


   รักคณะ เพราะคณะทำให้ได้กลายเป็นของขวัญของคนที่รัก


   ‘โจ๊ก ปกครอง...รักคณะรัฐศาสตร์ครับ...’


   FIN

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ

ตอนแรกกะจะเอาลงเดือนกันยา แล้วลืม... (บัวกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาอีกครั้ง ก็เลยยุ่งจนลืมเดือนไปเลย ขอโทษนะคะ)

ที่ยุ่งจนไม่มีเวลาเอาเรื่องใหม่ลงก็เพราะการศึกษานี่ล่ะค่ะ ช่วงนี้สอบด้วย แต่ก็อยากลงนิยาย ก็เลยมาลงฮีลตัวเองค่ะ ฮ่าฮ่า

สำหรับตอนนี้ จะว่าอวยคณะตัวเองได้มั้ยนะ แต่เวลาที่กลับคณะทีไร ก็มักจะได้ความรู้สึกดีๆกลับมาเสมอเลยล่ะค่ะ เพราะงั้นก็เลยอยากให้ ‘โจ๊ก ปกครอง’ รักคณะบ้างเหมือนกัน (ขนลุกยังไงไม่รู้ค่ะ ฮ่าฮ่า)

ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนคิดถึง และทุกกำลังใจเหมือนเคย ส่วนคนที่รอเรื่องใหม่ บัวจะพยายามมาให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอโทษจริงๆที่ให้รอกันนานขนาดนี้นะคะ

ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

แล้วไว้เจอกันใหม่ (ไม่แน่ใจว่าเดือนนี้จะมีตอนพิเศษมาลงอีกมั้ย ถ้าพิมพ์ทันจะเอามาลงค่ะ)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 08-10-2018 22:40:09
ฮือ เขินเป็นบ้าเป็นบอ
ตำนานกลับมามันกระชุ่มมกระชวยแบบนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 08-10-2018 23:13:48
น่ารักกกกกกก เห็นมาอัพตอนพิเศษดีใจมากกก :mew1: รีบเข้ามาอ่านเลยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 08-10-2018 23:15:38
 :mew1: โซ่ยังซื่อไม่เปลี่ยน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-10-2018 23:21:56
ดีใจ ไรท์มา  :katai2-1:

คนดังแท้จริง  โซ่ ของดีไออาร์
 ทำให้โจ๊กปกครองยิ้มได้  :z3: o22 :serius2:
“มึงเป็นของขวัญที่คณะให้มา ยังไงก็ไม่เลิกหรอก”   :-[

โจ๊ก  โซ่   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-10-2018 00:17:30
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 09-10-2018 00:24:34
อิพี่โจ๊ก นี่ก็ยังขี้หึงหวงไม่เสื่อมคลายเนาะ 5555

คิดถึงนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 09-10-2018 01:16:28
ยังเหมือนเดิมกันทั้งคู่เลยนะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Ashita ที่ 09-10-2018 06:08:21
พี่โซ่ยังน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 09-10-2018 07:39:04
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: wichiwiwie ที่ 09-10-2018 07:59:17
งื้อออ~ น่ารักมากๆ เลยยยยยยยย
คิดถึงสองคนนี้มากกกกกก ><
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 09-10-2018 08:08:09
ดีใจและขอบคุณคุณบัวที่มาลงให้หายคิดถึง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: 15magnitude ที่ 09-10-2018 08:27:01
โจ๊กปกครองที่ไม่เคยมีแรงสู้น้องโซ่ได้เลย 5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-10-2018 09:53:12
คิดถึง~
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-10-2018 10:20:56
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: m_ilk_y ที่ 09-10-2018 10:25:37
 :กอด1:
โอ๊ยยย โซ่..มาทีไรก็ใจพัง ทั้งโจ๊กและคนอ่านจริงๆ
ขอบคุณนะคะ รอเรื่องใหม่และตอนพิเศษของทั้งเรื่องนี้และเฮียเจ๋งด้วย กิกิ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 09-10-2018 10:39:51
โธ๋โจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 09-10-2018 12:35:24
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 09-10-2018 14:06:47
หวานๆๆๆ เขิลเลยง่า เป็นของขวัญ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: arjinn ที่ 09-10-2018 15:35:04
โจ๊ก ปกครอง ก็ยังเป็นโจ๊ก ปกครอง เสมอ
โซ่ สิตางศุ์ ก็ยังคงเป็นสเป็คสาธารณะ เสมอ เช่นกัน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 09-10-2018 17:14:45
จ้ะ โจ๊กรักคณะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-10-2018 18:18:25
ลิ้นละลายลงท้องตามพี่โจ๊ก โอยยย เขิลลลล
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-10-2018 19:14:37

ใจพังกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-10-2018 22:07:28
คิดถึงมากๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 09-10-2018 22:55:28
โจ๊ก ปกครอง ผู้เหนือกว่าพี่เวฟ  รุ่นน้องเป็นที่จดจำมาก 55
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: italy18 ที่ 09-10-2018 23:22:36
คิดถึงโจ๊ก คิดถึงโซ่ คิดถึงนิยายของคุณบัวมาก ๆ

ปล.ตอนนี้อยากบอกว่า วาระซ่อนเร้น และ ผลประโยชน์ทับซ้อน มาอยู่ในครอบครองของเราแล้วนะ 555 ดีใจสุด ๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: gemgems ที่ 10-10-2018 14:15:22
น่ารักจนต้องยิ้มตามตลอดเลยค่ะคู่นี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 10-10-2018 14:59:30
 :jul3: กี่ปีๆ พี่โจ๊กก็ยังหวงแฟนเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 11-10-2018 22:56:20
เขินๆๆๆแขนจะบิด
คิดถึงโจ๊กกับโซ่มาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 11-10-2018 23:29:42
คิดถึงโจ๊ก กับโซ่ จังเลยยยยยย ดีใจที่ได้อ่านอีก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 12-10-2018 14:06:57
ปรบมือดังๆกับประโยคนี้
สุดจะกอบกู้หัวใจ
ใช่ค่ะใช่มากๆคุณมาเพื่อกอบกู้ใจเราจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 12-10-2018 19:40:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 12-10-2018 21:45:26
โจ๊ก ตำนานแห่งคนเคยกาก 5555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 13-10-2018 02:05:01
ขอบคุณค่ะ น่ารักมากๆเลยทั้งพระเอกและนายเอก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Stmmltww ที่ 13-10-2018 03:26:47
ขอบคุณค่า ดีใจมากๆที่มาเจอเรื่องนี้ อยากเจอของดีคณะบ้าง :ling1:
สนุกมากเลยค่า ชอบโซ่มากๆ555555 ความดีของโลกใบนี้ที่แท้จริง :hao5: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 13-10-2018 04:31:48
คิดถึงมาก ๆ เลย  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-10-2018 07:25:31
โจ๊กปครองที่ว่าแน่ก็แค่ลูกไก่ในกำมือของโซ่ไออาร์ดี ๆ นี่เอง
ปล.จะมีภาคพี่เวฟคนมากบารมีไหมคะ พี่เค้าเท่มาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Macha ที่ 14-10-2018 20:06:57
เขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แอบเนียนยืนเล่นผมโซ่อ่ะโจ๊ก
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 15-10-2018 00:31:53
วั้ยยยยย ยิ้มหน้าบานเกินเบอร์ไปมากนะโจ๊ก
ของขวัญที่ได้มา จ๊ะ ไม่ต้องรออะไรแล้ว
ยิ้มเรี่ยราดไปเลย ที่เคืองลุกหนีไป เป็นอันล่ม

โซ่ไม่เคยจะรู้ตัว คนซื่อก็ซื่อวันยันค่ำ
แล้วตอนไปทำงาน รอดมาได้ยังไงน่ะ

เวฟคือตำนานความเหี้ยมที่ยึดโซ่ได้นานสุด
เป็นพี่ที่รักน้องมาก ปกป้องได้ดี รอดมือมารมาตลอด
มาพลาดตอนโจ๊กปกครองนี่แหละ เหนือกว่าพี่เวฟไปอีก

เป็นกำลังใจให้นะคะ เรียนไปด้วย คิดเรื่องอื่นไปด้วย
ก็แอบยากพอสมควร ต้องใช้สมาธิมากพอ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ผ่านไปได้แน่นอน
รอตอนใหม่ รอเรื่องใหม่เสมอค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 15-10-2018 08:00:00
ผมก็รักเรื่องนี้เช่นกัน  :L2:

ขอบคุณครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: lune ที่ 15-10-2018 10:46:32
มีความสุขใจ ที่ได้อ่าน
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 16-10-2018 03:21:42
งุ้ยยยย น่ารักกันมากๆเลย คิดถึงๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 18-10-2018 18:08:14
โจ๊กรักคณะเพราะคณะให้โซ่
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 21-10-2018 13:44:16
 :o8: :-[
เขินนนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 06-11-2018 08:39:26
ยังคงเป็นสเป็คสาธารณะ เหมือนเดิม  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 06-11-2018 13:12:03
เป็นสเปคสาธารณะเพราะคนต้องดารแย่งโจ๊ก 55 5 น่าเอ็นดู หนุ่มตี๋หน้าตาย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 06-11-2018 22:31:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-11-2018 11:40:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 09-11-2018 12:35:08
คิดถึงจัง บุคคลในตำนาน และรอยยิ้มที่หาดูยากของอิโจ๊กจะเป็นตำนานในวันคืนสู่เหย้าเช่นกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 11-11-2018 23:50:29
คู่นี้ยังน่ารักเหมือนเดิม
ชอบมากๆๆๆๆๆ
อ่านเรื่องไหนพระเอกก็อารมณ์ไม่เหวี่ยงเท่าเรื่องนี้เลย
ยอมใจกับโจ๊ก ปกครองจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 12-11-2018 22:41:07
แงงง ขำอิโจ้กอ่ะ 
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 19-11-2018 07:16:32
โอ๊ยยยยย ใจพัง น่าร้ากกกกกก ขอบคุณน้องบัวจร้าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: kaibear ที่ 30-11-2018 17:54:29
ไอ้โจ๊กนี่มันไอ้โจ๊กจริงๆ ความโจ๊กมันค่อยๆชัดขึ้นเรื่อยๆ ตลกมาก555555555555 สงสารโซ่ต้องเอาน้ำแข็งเข้าลูบตลอดเลย น้ำเย็นเอาไม่อยู่555555555555555 รักความชัดเจนของโจ๊กมากๆ :heaven
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 02-12-2018 14:23:00
คิดถึงจนต้องมาอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 1 (15/03/2017)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-12-2018 04:35:19
อ้าว แสดงว่าโจ๊กต้องชอบโซ่อะดิ แล้วเพื่อนโซ่คนไหนนะที่แอบ

ช่วยโจ๊กเนี่ย เอาล่ะสิ ม่ามากไหมเนี่ย ไหนจะอาม่ากิมอีก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 2 (22/03/2017) หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-12-2018 04:56:29
อ้าว งี้คือโจ๊กแอบชอบโซ่มานานแล้วดิ แล้วที่คบผญนั่นคือกันไว้เหรอ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 5 (13/04/2017) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-12-2018 19:10:32
ใจเย็นๆ โจ๊ก ค่อยๆ คิด ค่อยๆ พูดจา ชั้นจะเป็นไบโพล่าร์ตามแกแล้วววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 12 (01/06/2017) หน้า 20
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-12-2018 22:03:33
จับเจ๋งมาตีๆ ได้ไหมเนี่ย ทำใจหายใจคว่ำหมด!
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 27-12-2018 22:13:03
  “มึงเป็นของขวัญที่คณะให้มา ยังไงก็ไม่เลิกหรอก”


   …สุดจะกอบกู้หัวใจ…

โอ้ยยย อิพี่โจ๊กยิ้มหน้าบานเป็นจานหมา 5555555555555555


หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 14 (15/06/2017) หน้า 24
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 27-12-2018 22:41:26
 :laugh: ตลกตรงให้อาม่าโล้สำเภากลับเมืองจีนนี่ล่ะค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 18 (13/07/2017) หน้า 31
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 28-12-2018 01:38:27
 :katai2-1:  :mc3: ตอนแรกคิดว่าด่านอาม่าจะยากที่สุด แง้ ดีใจ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนขี้หึง (03/08/2017) หน้า 38
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 28-12-2018 02:32:04
ฮาโปเยโปโลเย 5555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คนดีศรีไออาร์ (17/05/2018) หน้า 47
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 28-12-2018 03:15:44
 :m20: จบเลย งานเข้าเพราะแกเองไหมโจ๊ก 55555 ป.ล. ชอบติซซี่มากค่ะ ทำดีตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: junlifelove ที่ 30-12-2018 01:25:05
555555555555 พี่โจ๊กกก ยังคงหึงได้ตลกเหมือนเดิม
โซ่ก็ยังซื่อและน่ารักเหมือนเดิม

คิดถึงเรื่องนี้จังค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 30-12-2018 23:27:05
โจ๊กเอ้ยยยยย ยังไงก็แพ้ทางโซ่ตล๊อดดดดดด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 25-01-2019 21:29:01
ชอบโจ๊ก พระเอกผีบ้าในดวงใจ o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 26-01-2019 23:05:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 02-02-2019 17:22:14
อยากจะแหมมมมมโจ๊กอ่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายนะค้า สนุกมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 09-02-2019 12:18:36
น่ารักสุดไ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 01-03-2019 13:13:14
โจ๊ก ปกครอง ผู้ไม่เคยชนะโซ่ ไออาร์ ได้เลย ใจพังหมดท่าตลอด ก็เขารักของเขา  :hao7:

ขอบคุณบัวนะคะ รักเรื่องนี้มากกกก ชอบที่สุด กลับมาอ่านกี่ครั้งก็ยังสนุกและประทับใจเสมอ เป็นการฮีลตัวเองได้ดีจริงๆจนไม่รู้จะบอกยังไงเลยค่ะ
กอดดดดดดคุณบัว กอดดดดพี่โซ่ เฮียโจ๊กไม่กอด กลัวมันกัดเพราะแตะต้องของรักของหวงนาง  :hao7:
อิพระเอกผีบ้าตลอดกาลของเรา ง่อววววววว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: NYpat ที่ 02-03-2019 13:07:39
นายเอกจะซื่อบื้อไปไหม คิดได้ไงจะให้แฟนเก่าผู้หญิงสอนวิธีจีบให้ตัวเอง
ชอบดนื้อเรื้องมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 03-03-2019 21:23:49
ใจบางหมดแล้ว ดีไปหมด เขินมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: habanice ที่ 07-04-2019 13:06:17
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
สวัสดีครับผู้เขียน
พึ่งมาอ่านตอน 2562 ช่วงปิดเทอมพอดี
ชอบหลายๆอย่างนะครับ นึกถึงตอนเรียนมหาลัยเลย
วางเรื่องได้สนุกน่าติดตามมากครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-04-2019 19:50:10
 :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 30-04-2019 20:01:18
เข้ามาอ่านซ้ำรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ชอบทุกครั้งที่อ่านเลยค่ะ มีความสุขมาก เคยเม้นไปแล้ว แต่วันนี้รู้สึกอยากเม้นอีก อยากบอกคุณนักเขียนว่า ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆมานะคะ เราตามอ่านมาตั้งแต่เรียนมัธยม จนตอนนี้อีกเดือนนึงก็เรียนจบมหาลัยแล้ว อ่านตั้งแต่เรื่องของถ้วยฟู จอมขวัญ หรือเรื่องอื่นๆตามมา อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆ เรารู้สึกถึงการใส่ใจของผู้เขียน ชอบที่มีวินัยในการลงนิยายโดยบอกว่าจะลงทุกวันพฤหัสอะไรแบบนี้ เรื่องอื่นๆที่ตามมาทำให้เราวันพฤหัสของเรามีค่ามากๆเลย (อยากตอนนี้ก็ติดตามพี่ทิศกับคุณอดีดตปลัดอยู่) ระหว่างนี้มาอ่านเรื่องนี้ซ้ำ เราชอบลักษณะตัวละครที่คุณเขียนมาในแต่ละเรื่องมากค่ะ ไม่รู้จะยังไง คืออยากขอบคุณคุณนักเขียนมากๆนะคะ เอาจริงๆ อ่านนิยายวายมา 10 ปี คุณเป็นนักเขียนโปรดอันดับหนึ่งในใจเราเลยค่ะ ไม่รู้คุณจะมาอ่านคอมเม้นนี้มั้ย (ไม่กล้าคอมเม้นเวลาคุณมาอัพนิยายในเพจเท่าไหร่) ดีใจที่ได้ตามอ่านผลงานคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 01-05-2019 12:49:35
วนๆ เวียนๆ รออยู่นานนะคุณโจ๊ก กว่าจะได้รักกัน สนุกมากจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: febusapollo ที่ 02-05-2019 23:07:10
ตามเข้ามาอ่านทีหลัง หลังจากอ่านระบบอุปถัมป์
ยังไงก็ชอบผลงานนักเขียนอยู่ดี เราว่าเรื่องนี้ก็ใสๆวัยมหาลัยเนอะ
แต่น่ารักมากเลยค่ะ อ่านช่วงแรกก็แบบ โว้ย โจ๊กเป็นไบโพล่าร์ป่ะ ไรของเมิ้ง 555555
แต่พี่แกใส่ใจโซ่มากเลย ความกระด้างก็เลยลดๆมาบ้าง
ส่วนโซ่ก็ใส ใสมากกกตามสไตล์คิ้วบอย แต่เวลากวนแอบน่ารัก
เป็นกำลังใจให้นะคะ  :pig4: ขอบคุณมากที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน  :mew1:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: sugar1999 ที่ 20-08-2019 10:05:43
กูอยากมีผัวแบบโจ๊กปกครองบ้าง   5555

 :haun5: :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 29-08-2019 07:02:59
โจ๊กน่ารักมากตอนนี้
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 23-09-2019 10:47:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
เข้ามาอ่านใหม่
ก็ยิ้มได้ตลอด
กับความไบโพล่าของน้องโจ๊ก
รักในความซื่อของน้องโซ่
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 14-10-2019 06:03:19
คิดถึง อยากให้มีตอนพิเศษอีกจังเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: meawwja ที่ 27-10-2019 06:48:37
จะสงสารหรือสมน้ำหน้า โจ๊ก ดี
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: taran ที่ 14-11-2019 13:13:40
 :3123: :3123: :3123: :3123:

น่ารักที่สุด น้องโซ่คนดีศรีไออาร์ โถถถถถถ ตกหลุมนังโจ๊กซะได้
แต่คู่นี้น่ารักดีอะ บางทีคนอย่างโซ่มาเจอโจ๊กก็ดีนะ ต่างกันสุดขั้วแต่ก็เข้ากันได้อย่างลงตัวที่สุด
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ คืนสู่เหย้า (08/10/2018) หน้า 49
เริ่มหัวข้อโดย: zzz ที่ 20-12-2019 17:17:18
ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องนี้จนจบซะที  :mc4:

สนุกมากเลยจ้า o18
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆ นะคะ
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 24-12-2019 21:27:51
วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
…………………..
ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม


‘โจ๊ก ปกครอง’ ไม่ใช่เด็กกิจกรรม


   สมัยปีหนึ่ง...เนื่องจากหน้าตาดีตี๋ขาวตัวสูงใหญ่ แถมพ่วงท้ายด้วยคะแนนสอบเข้าเป็นอันดับหนึ่งของภาควิชาการปกครอง เลยถูกเสนอชื่อให้ขึ้นประกวดเวทีเดือนคณะ แต่ด้วยอุปนิสัยไม่รักการทำกิจกรรม เด็กหนุ่มปีหนึ่งสี่คนที่ขึ้นเวทีประกวดของคณะรัฐศาสตร์จึงไม่มีชื่อ ‘โจ๊ก ปกครอง’


   สมัยปีสอง...หลังจากมีสายรหัสเป็นของตนเอง ก็ถูกลากไปงานบายเนียร์อันเป็นงานเลี้ยงอำลาพี่ปีสี่ของสาย เมื่อโผล่หัวไปร่วมงาน กินข้าวกินน้ำจนอิ่มท้องแล้ว มันก็หายหัวตามประสาคนไม่ทำกิจกรรม ไม่มีใครเห็นแม้แต่เงาอีก รูปถ่ายสายรหัสจากในงานจึงเป็นการตัดแปะหน้า ‘โจ๊ก ปกครอง’ เข้าไปให้ครบสี่รุ่นเท่านั้นเอง


   สมัยปีสาม...หลังจากรู้หัวใจตัวเองเป็นที่แน่นอนแล้ว ‘โจ๊ก ปกครอง’ ผู้ไม่ทำกิจกรรม มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมคณะอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไปด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ ทำท่าเหมือนพร้อมจะกลับบ้านตลอดเวลา แต่แท้จริงแล้วกางเรดาร์รอบทิศ  ‘โซ่ ไออาร์’ ไปไหน ‘โจ๊ก ปกครอง’ ไปด้วย ถึงจะไปด้วยแบบหน้าตาเหมือนไม่อยากไปด้วยเพื่อตบตาพี่รหัสมากบารมีของ ‘โซ่ ไออาร์’ ก็ตามที      


   จวบจนปีสี่ พี่รหัสมากบารมีของ ‘โซ่ ไออาร์’ เรียนจบไปอย่างสวยงาม คนรอบข้างดีใจ ‘โจ๊ก ปกครอง’ ก็ดีใจ อยากตบมือให้กับความสามารถด้านการศึกษาที่จบๆไปได้ซะที แต่...ทั้งๆที่คิดว่าถึงเวลาที่ ‘โจ๊ก ปกครอง’ จะได้เป็นใหญ่ในโลกของ ‘โซ่ ไออาร์’ แล้วแท้ๆ สวรรค์กลับไม่บันดาล นรกก็กีดขวาง มารหัวขนไม่ต้องมาเป็นตัวคน แต่มาในนามของคำว่า ‘กิจกรรม’ !!


   ‘ไอ้โซ่ไปไหน’


ข้อความปรากฏขึ้นในห้องแชท ทำเอาพฤกษาหนุ่มทะเล้นแห่งภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเงยหน้าจากมือถือกวาดตามองรอบกาย


โรงอาหารของคณะรัฐศาสตร์นั้นเล็กๆ แต่ไม่น่ารัก เพราะคนเยอะ เสียงดัง จ้อกแจ้กจอแจ ไม่สมควรจะหาใครหน้าไหนเจอที่นี่ แต่ถึงอย่างนั้นดวงตาเรียวที่จับจ้องพร้อมกับรังสีบังคับขู่เข็ญ ก็ไม่ใช่เรื่องยากในการหา


พฤกษายักคิ้วให้เจ้าของสายตา ก่อนจะก้มหน้าลงกดคำตอบส่งกลับไป


‘ช่วยงานค่าย’


‘ค่ายไหน’ ข้อความเด้งถามกลับมาอย่างว่องไว พฤกษาเลียปากกระหยิ่มยิ้มย่องคิดหาเรื่องกวนประสาทเพื่อนร่วมรุ่นแต่ต่างภาคฯ จึงรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับไป


‘ค่ายเยาวชนอะไรสักอย่าง’


‘บอกมันเลิกช่วยคนอื่น’ ว่ากันว่าอินเนอร์คนเรามันแฝงมาตามตัวอักษรได้ พฤกษากล้าสนับสนุนแนวคิดนี้ แล้วอยากจะยกข้อความของเจียระไนมาเป็นอ้างอิงซะจริง!


‘ถ้ากูบอกแล้วได้ผล ไอ้โซ่จะเป็นยอดดวงใจคนทั้งมหาลัยรึไง’


โซ่ ไออาร์ หรือสิตางศุ์เรียกได้ว่าเป็นมนุษย์สเป็คสาธารณะ ไม่เพียงแค่เพราะจิตใจดี มีเมตตา รักสัตว์โลก แต่ยังเก่ง ฉลาด มีน้ำใจ หากใครขอความช่วยเหลือ เจ้าตัวก็พร้อมจะลงแรงกาย แรงใจ แรงสมองให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่


   ทั้งงานวิชาการของภาควิชา งานรับน้องของคณะ งานราษฎร์งานหลวงของมหาวิทยาลัย นี่ยังไม่นับงานจิปาถะจำพวก อาจารย์ฝากมา รุ่นพี่ที่จบไปแล้วเรียกร้อง รุ่นน้องขอให้ช่วย ซึ่งมาเป็นรายทางไม่จบไม่สิ้น ต่อให้เจ้าตัวจะไม่ออกตัวว่าเป็นเด็กกิจกรรม แต่กิจกรรมไหนๆก็ล้วนมีชื่อของสิตางศุ์เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งสิ้น


   ฟังแล้วน่าหมั่นไส้ เพราะไม่ว่ากิจกรรมใดๆที่มีชื่อสิตางศุ์เข้าไปร่วมด้วยก็มักจะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวและมักจะออกมาได้ผลดีชนิดที่คนทำงานหน้าชื่นตาบาน คนร่วมงานชื่นชมยินดี ในฐานะคนแอบมองอยู่ห่างๆอย่างเจียระไนก็อยากจะตบมือให้กับความสำเร็จของงานทุกชิ้นที่สิตางศุ์ร่วมมือ


   แต่...มันใช่เหรอวะ! หมดสิ้นขวากหนามอย่างพี่รหัสมารหัวขน ยังต้องมาเจอกิจกรรมแปดแสนขวางทางเจริญกูอีกเหรอ?!


   ‘มึงอาจจะไม่รู้ ไอ้โซ่ต้องไปเวียดนามสามวัน กัมพูชาอีกสองวันนะ’


เจียระไนอ่านข้อความที่พฤกษาส่งกลับมาแล้ว ตาเรียวๆก็กลายเป็นตาถลน


   ‘ไปทำไม’


   ‘ไปทำกิจกรรม’ ข้อความของพฤกษาทำเอาหนุ่มตี๋แห่งภาควิชาการปกครองถึงกับแยกเขี้ยว


   ไอ้สัด!! กิจกรรมห่าเหว กูเกลียดมึง!!

...........................

   แต่ก็นั่นล่ะ นั่นคือเรื่องราวในอดีตของมนุษย์ผู้ไม่ทำกิจกรรมอย่างเจียระไนหรือ ‘โจ๊ก ปกครอง’ ที่มาตกหลุมรักถอนตัวถอนใจไม่ขึ้นกับมนุษย์ผู้พร้อมจะทำกิจกรรมทุกอย่างบนโลกใบนี้


ช่วงเวลาแห่งความลูกผีลูกคนที่ยังไม่มีหนทางจะจีบติด กิจกรรมคือมารคอหอยตัวที่สามรองจากพี่รหัสมากบารมีของสิตางศุ์ที่ชื่ออรรณพ และเพื่อนสนิทไม้กันหมาอย่างอลงกต แต่เมื่อคบหากันแล้ว ความรักความสัมพันธ์เป็นรูปร่างชัดเจนแล้ว กระทั่งอรรณพยังต้องเปิดทาง อลงกตยังต้องถอยฉาก กิจกรรมก็เป็นแค่วาทกรรมที่ไร้ค่าไร้ราคาและคนไม่ทำกิจกรรมอย่างเจียระไนย่อมมีวิธีจัดการให้มันอยู่กับที่ไม่เข้ามาว้อกแว้กกวนใจ


   “มึงปีสี่แล้วโซ่ ปล่อยให้คนอื่น...เอ่อ...น้องปีอื่นทำ”


อย่างที่เคยบอก กับแค่เรียนคณะเดียวกัน ญาติพี่น้องไม่ใช่ อุ้มชูเลี้ยงดูมาก็ไม่เคย จะให้เรียกใครเป็นน้องเป็นนุ่ง เจียระไนไม่อิน แต่...กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น เพื่อให้ฟังแล้วลื่นหูคนรัก จากคำว่า ‘คนอื่น’ เลยต้องกลายเป็น ‘น้องปีอื่น’ แทน


   “แต่นี่งานคณะ...”


   “คณะแล้วไง ไม่มีมึงสักคน งานคณะจะล่ม...จม...เอ่อ...จะไปต่อไม่ได้เหรอ อีกหน่อยมึงเรียนจบ คณะทำไงทีนี้ มึงต้องปล่อยให้เขาดูกันเองได้แล้ว” พูดจาไม่เคยเกรงใจใคร แต่จะเกรงใจแฟนหน่อยก็ได้ เห็นแก่ว่าสิตางศุ์คลุกคลีกับงานของคณะมานาน


   “อือ...ก็จริง...”


   สิตางศุ์หายไปจัดการเรื่องงานของคณะ เจียระไนเกือบจะสบายใจ แต่วันต่อมากลับต้องมาเห็นคนรักจมอยู่กับหนังสือจำนวนมาก


   “นี่อะไร Intro Law มึงติด I ตั้งแต่ปีหนึ่งเหรอ ทำไมต้องมานั่งอ่านกฎหมาย”


สิตางศุ์หัวเราะ หน้าตาสดใสไม่ได้ถือโทษกับความปากร้ายของคนรักสักนิด


   “เปล่า แต่น้องมาขอให้ช่วยทำเลคเชอร์ให้น่ะ ไม่รู้มีใครไปบอกว่ากูได้ A วิชานี้”


   “น้องไหน



   “น้องในภาคฯนี่แหละ กูว่าเซ้นของแต่ละภาคฯมันไม่ค่อยเหมือนกันนะ เวลาเรียนวิชาของภาคฯอื่น เลยมีปัญหาประจำเลย ไออาร์รุ่นกูก็มีไม่กี่คนที่ได้ A”


   “แล้วเซ้นกูล่ะ เป็นไง” หนุ่มตี๋ถามเรียบ ดวงตาเรียวจับจ้องคนตรงหน้านิ่ง แม้จะอยู่ในห้องสมุดคณะรัฐศาสตร์ที่เสียงดังโหวกเหวกเป็นนิจแต่ประโยคนี้กลับคล้ายดึงเข้าไปอยู่ในโลกที่เงียบสงบ มีแค่สิตางศุ์และเจียระไน เป็นโลกที่ประกอบด้วยท้องฟ้าใส หญ้าเขียวชอุ่ม และลมเย็นพัดเอื่อยแสนสบาย


   เป็นโลก...ที่มีกันแค่สองคน


   เสียงกริ่งดังสนั่นมาจากเคาน์เตอร์บรรณารักษ์เมื่อเสียงจ้อกแจ้กของเหล่านิสิตชักจะดังเกินไป ฉุดเอาสิตางศุ์ออกมาจากภวังค์นั้น แล้วรีบก้มหน้าหลบสายตาของคนข้างกาย


   “ม...ไม่รู้...”


“ก็ไหนบอกว่าเซ้นของเด็กแต่ละภาคฯไม่เหมือนกันไง”


“ก...ก็ต้องอ่านเปเปอร์ มันถึงจะรู้...ม...ไม่เคยอ่านเปเปอร์ของโจ๊กนี่นา...” ไม่รู้หัวใจเป็นอะไรไปแล้ว แค่จ้องตาคนรักหน่อยเดียว ก็พูดติดๆขัดๆไปหมด


   “อยากอ่านมั้ย กูจะเขียนให้มึงอ่านคนเดียว”


สิตางศุ์เงยหน้ามอง อาการหัวใจเต้นถี่จนพูดติดอ่างหายไปในวินาทีนั้น ได้แต่กะพริบตาปริบๆ


   “โจ๊กชอบเขียนเปเปอร์เหรอ”


เจียระไนชะงักกึก


“หะ?!” ...กลายเป็นว่ากูชอบเขียนเปเปอร์ได้ยังไงวะ?...


“ก็โจ๊กบอกว่าจะเขียนให้อ่าน แสดงว่าชอบเขียนแน่เลย อ่า...ดีจัง กูไม่ค่อยชอบเท่าไร เขียนไม่ค่อยเก่ง แต่คณะเรามีแต่ให้ส่งเปเปอร์ เลยต้องพยายาม...จะว่าไงดี กูว่าเปเปอร์มันไม่เสร็จง่ายๆ ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกว่ามีจุดต้องกลับมาแก้ ถึงจะคิดเอาไว้คร่าวๆว่าจะเขียนอะไรก็เถอะ แต่...ถ้าไม่ตัดใจส่ง ก็ต้องแก้อยู่อย่างนั้น” พูดแล้วเจ้าตัวก็หัวเราะแหะๆ เกาศีรษะแก้เขิน “...ไอ้กตบอกว่ามันผิดที่กู ที่ไม่รู้จักเขียนให้จบเอง ใครๆเขาก็เขียนจบแล้วก็ส่งทั้งนั้น จะมานั่งแก้อะไรสองรอบสามรอบ แต่กูทำใจส่งทั้งๆที่ยังอยากแก้ไม่ได้นี่นา”


แล้วก็กลายเป็นสิตางศุ์ที่บ่นหงุงหงิงเรื่องตัดใจส่งรายงานไม่ได้ แต่ไม่วายเจ้าตัวยังมีกะใจเงยหน้าขึ้นมาสำทับ


“แต่ถ้าโจ๊กชอบเขียนเปเปอร์ อยากเขียนให้กูอ่าน กูอ่านให้ได้นะ กูชอบอ่าน”


บนโลกนี้มีคนชอบเขียนเปเปอร์ส่งอาจารย์ด้วยเหรอ เจียระไนอยากถาม


แต่พูดไปก็จะกลายเป็นเรื่องฉีกไปทางอื่น ขนาดประโยคจีบล้วนๆ เอาแค่คำว่าเปเปอร์บังหน้าอย่าง ‘อยากอ่านมั้ย กูจะเขียนให้มึงอ่านคนเดียว’ ยังกลายเป็นคิดว่าคนอย่างเจียระไนชอบเขียนเปเปอร์ได้เลย


ช่างเถอะ เรื่องเปเปอร์ เรื่องจีบ เรื่องรายงานใดๆก็เอาไว้ก่อน เรื่องที่ต้องจัดการคือการมานั่งหลังขดหลังแข็งสรุปเนื้อหากฎหมายตัวพื้นฐานของเด็กปีหนึ่งในขณะที่ตัวเองอยู่ปีสี่นี่มันใช่เรื่องที่ไหน


“จบชีทนี้แล้วพอนะโซ่ มึงไม่ต้องทำแล้ว”


“แต่เหลือเรื่องอำนาจอธิป...”


“มึงย่อยให้คนอื่นแดก พวกมันก็แดกแล้วกลืนอย่างเดียว จะไปเข้าใจได้ยังไง กฎหมายคณะเรามันต้องเข้าใจ ไม่ใช่มานั่งจำ” อ้างอย่างมีปรัชญาล้วนๆ แท้จริงแล้วคือเจียระไนไม่เห็นประโยชน์ใดๆที่ต้องมานั่งย่อ สรุป จับใจความให้คนอื่นเลยสักนิด


“อ่า...มันก็ใช่...”


แม้ด้วยนิสัยจะไม่ใช่คนทำอะไรครึ่งๆกลางๆ แต่ในเมื่อเจียระไนนั่งคุมเข้มอยู่ข้างๆ อีกทั้งยังย้ำให้ตระหนักอยู่เสมอว่าวิชากฎหมายของคณะต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการมากกว่าการท่องจำมาตรา สุดท้ายสิตางศุ์เลยต้องหยุดมือแต่เพียงเท่านั้น


เรื่องงานของคณะจบไป เรื่องย่อเลคเชอร์เพื่อให้น้องๆอ่านสอบก็จบไป เจียระไนควรจะสบายใจจริงไหม แต่...เด็กกิจกรรมก็ย่อมเป็นเด็กกิจกรรมวันยังค่ำ


“เย็นวันพรุ่งนี้ไปกินข้าวกับใครนะ?!!”


หนุ่มตี๋ร้องถามเสียงหลง เมื่อเรื่องเล่าประกอบมื้อเย็นแสนสุขในวันนี้ชักจะทำเอาคนฟังอยู่สุขไม่ไหว เพราะกิจกรรมในวันพรุ่งนี้ที่สิตางศุ์ไล่เรียงให้ฟัง มันฟังแล้วไม่เข้าหูยังไงชอบกล!


...พรุ่งนี้ของ ‘โซ่ ไออาร์’…เริ่มจากเรียนคาบเช้า ส่วนครึ่งบ่ายจะทำเปเปอร์ที่ห้องสมุด จากนั้นตอนเย็นต้องออกไปทานข้าวกับคณะอาจารย์ที่มาจากมหาวิทยาลัยต่างประเทศ…


คำถาม...คณะอาจารย์เกี่ยวอะไรกับนิสิตวะ?!


“อาจารย์จากมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นน่ะ”


สิตางศุ์ตอบก่อนจะก้มหน้าตักข้าวผัดทะเลที่อุดมไปด้วยกุ้งหอยปูปลาที่เจียระไนบรรจงทำ คุณค่าทางสารอาหารเต็มสิบ ราคาวัตถุดิบก็เต็มสิบ ความอร่อยก็ยิ่งเต็มสิบ เหลือแต่อารมณ์ของเจียระไนที่ไม่เต็มสิบ


“แล้วมึงรู้จัก?”


“รู้จัก ตอนทำค่ายเยาวชนที่ไปเวียดนามน่ะ ก็ได้ทุนจากญี่ปุ่นนี่แหละ ปีนี้เขามาสัมมนาวิชาการ ก็เลยนัดกินข้าวกัน”


...วิชาการดี กิจกรรมโดดเด่น สังคมก็ได้…


...คนรักของกูนี่มันท็อปฟอร์มแบบ ทรี มิราเคิลจริงๆ!...


เจียระไนวางช้อน หน้าตาหงุดหงิดขั้นสุด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าข้าวเย็นมื้อพรุ่งนี้เขาไปร่วมด้วยไม่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อสมาชิกร่วมโต๊ะก็น่าจะมีแต่คนที่เคยทำค่ายเยาวชนมาแล้วทั้งสิ้น


อันที่จริงก็ไม่อยากพาล เรื่องหวงก็ส่วนหนึ่ง แต่ก็เข้าใจว่าสิตางศุ์ย่อมมีสังคมเป็นของตนเอง แต่...ไอ้ความน่าหงุดหงิดคือการที่เขาเข้าไม่ถึงสังคมของสิตางศุ์ต่างหาก!


ทำไมกูไม่ทำกิจกรรม ทำไมกูไม่ร่วมงานค่าย ทำไมกูไม่รู้จักอาจารย์จากมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นบ้างวะ!



“เอ่อ...ขอโทษที่ไม่ได้บอกแต่เนิ่นๆ ทางนั้นเขาก็เพิ่งลงตัวว่าจะนัดกันวันไหน มีอาจารย์ญี่ปุ่นสองคน แล้วก็อาจารย์นิติ กับคนที่เคยทำงานค่ายเยาวชนด้วยกันอีกสองคน” เจียระไนประมวลผลในสมองอย่างรวดเร็ว อาจารย์นิติที่ว่าคืออาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้เด็กปกครองอย่างเจียระไนจะไม่เคยเรียนกับอาจารย์คนนี้ แต่แน่นอนว่าจำได้ทั้งชื่อทั้งหน้า ที่สำคัญคือมีเมียแล้ว ลูกยังเล็ก และเห่อลูกมาก


...โอเค อาจารย์นิติผ่าน แล้วไอ้คนที่ทำค่ายอีกสองนั่นใคร...


“สองคนที่ว่าน่ะใครบ้าง”


“อ้อ น้องแอลภาครปศ. กับ ลิลลี่ที่อยู่อักษร” ไม่รู้จักทั้งคู่ แต่ไม่เป็นไร เจียระไนคิดว่าความสามารถเขาล้นเหลือที่จะสืบหาให้ได้ว่าสองคนนั้นเป็นใครมาจากไหน และที่สำคัญคือหลงเสน่ห์สิตางศุ์หรือไม่


“แล้วไปกินที่ไหน” หนุ่มปกครองรู้ว่าตนเองตามไปอย่างเป็นทางการไม่ได้ แต่จะให้นั่งอยู่เฉยๆที่คอนโดก็ฆ่าเขาซะเถอะ!


“ก็คง...แถวๆสยาม...”


“ไปเยาวราชสิ”


สิตางศุ์ตาโตที่คนรักออกความเห็นทั้งๆที่หน้าหงิก นึกอยู่ว่าคงโกรธที่เขาเพิ่งบอก แต่เห็นทีต้องมองเจียระไนใหม่ เพราะออกตัวเสนอความเห็นแบบนี้คงเลิกโกรธแล้วแน่ๆ


“เยาวราชเหรอ”


“เออ พวกอาจารย์ญี่ปุ่นคงไม่เคยกินอะไรแถวนั้น”



“จริงด้วยนะ เดี๋ยวกูลองเสนออาจารย์นิติดู แกเป็นตัวตั้งตัวตีจะพาไปเลี้ยงนี่ล่ะ” พูดแล้วก็ยิ้มกว้างอย่างดีใจ ดวงตาใสซื่อเต็มไปด้วยประกายชื่นชมคนรักไม่ปิดบัง


...บอกแล้วว่าโจ๊กเป็นคนดี เป็นคนดีไม่พอ ยังไอเดียดีด้วย...


“ขอบคุณนะโจ๊ก ไอเดียมึงดีมากเลย” เจียระไนไม่ยิ้มตอบแม้จะได้รับคำชม ดีใจที่คนรักชมน่ะใช่ แต่ยังหงุดหงิดนิดหน่อยที่ตามไปด้วยไม่ได้ แต่...เอาเถอะ! อย่างน้อยก็ไปเยาวราช แล้วเยาวราชน่ะ มันสนามเด็กเล่นของเจียระไน  ตั้งกาญจนพาณิชย์มาตั้งแต่เด็กต่างหาก!


งานนี้มนุษย์ไม่ทำกิจกรรมเลยเริ่มจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมเข้าไปทุกขณะ เริ่มต้นด้วยขัดขวาง ลงท้ายกลายเป็นคนออกความคิดเห็น แต่ไหนๆก็ปีสี่แล้ว อีกไม่นานก็เรียนจบ งานภาควิชา งานคณะ งานมหาวิทยาลัยก็คงจะจบสิ้นเสียที


แต่...ขึ้นชื่อว่าเด็กกิจกรรม มีหรือจะนั่งเฉยๆไม่ทำกิจกรรม
.....................
.............
......
..
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 24-12-2019 21:29:02

ในวันที่อากาศดี ฝนไม่ตก แดดไม่จ้า ฝุ่นไม่มี ที่โต๊ะม้าหินใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าคณะรัฐศาสตร์นับว่าเป็นโลเกชั่นแห่งความสงบ


สิตางศ์กินขนมไปด้วย อ่านหนังสือไปด้วย ข้างกายมีเจียระไนที่นั่งกินขนมและเล่นโทรศัพท์มือถือ มันเป็นช่วงบ่ายวันธรรมดาที่พวกมีเรียนก็เข้าเรียนหมดแล้ว พวกไม่มีเรียนก็หายหัวไปกันหมด หรือถึงไม่หายหัวก็ไม่กล้าเข้ามาทักสิตางศุ์ที่มีเจ้าที่หน้าดุเป็นตี๋หล่ออย่างเจียระไนนั่งอยู่ด้วย


เรียกว่าเป็นวันสงบ เวลาสงบ เหมาะแก่การใช้เวลาอยู่ข้างๆกัน แม้ต่างคนต่างทำกิจกรรม แต่ก็มีบ้างที่เงยหน้าขึ้นมาคุยกัน สิตางศุ์ชี้ชวนให้อ่านบางประโยคของหนังสือที่น่าสนใจ เจียระไนหันโทรศัพท์มือถือให้ดูเรื่องตลกๆ มันเป็นช่วงเวลาสบายๆของนิสิตปีสี่โดยแท้


จนกระทั่ง...รถคันใหญ่แล่นมาจอดเปิดไฟกะพริบที่ริมถนน พร้อมกับที่เสียงโทรศัพท์ของสิตางศุ์ดังขึ้น คนที่นั่งอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมองรอบตัวก่อนจะยิ้มกว้างแล้วหันมาบอกคนที่นั่งร่วมโต๊ะ


“เดี๋ยวมานะโจ๊ก”


เจียระไนไม่ทันซักไซ้ คนรักก็ลุกขึ้นวิ่งไปยังรถคันที่จอดอยู่นั่นแล้ว หนุ่มตี๋ขยับตัวลุกขึ้นจะเดินตาม ทันเห็นกระจกรถเลื่อนลงพร้อมกับถุงกระดาษใบใหญ่ถูกส่งออกมาจากรถ ถนนหน้าคณะเป็นถนนขนาดสองเลน รถสวนกัน ย่อมจอดได้ไม่นาน เมื่อส่งถุงให้แล้ว รถคันนั้นจึงขับจากไป


“นั่นอะไร” ดวงตาเรียวจ้องจิกถุงกระดาษขนาดใหญ่ที่สิตางศุ์หิ้วกลับมา เจ้าตัวยิ้มกว้าง รีบก้าวเท้าไวมาอวด


“ชุด” คำตอบสั้นมาพร้อมรอยยิ้มซน


“ชุดอะไร” เจียระไนชักหน้าหงิก รู้สึกถึงลางสังหรณ์ประหลาด โดยเฉพาะรถยนต์คันเมื่อครู่นี้ เขาจำได้ดีว่าใครขับรถยี่ห้อนั้น สีนั้น


อรรณพ พี่รหัสมากบารมีของสิตางศุ์


คนเรียนจบไม่อยู่ในส่วนของคนเรียนจบ แวะเวียนมาคณะอย่างกับยังเรียนไม่จบ แม่ง!!


“พวกกลุ่มพี่เวฟมีโปรเจ็คไปเล่นดนตรีที่บ้านพักคนชราน่ะ กูเลยขอเขาไปด้วย พี่เวฟเลยเอาชุดมาให้ยืม”


“ทำไม ไปเล่นดนตรีมึงต้องแต่งตัวเป็นอะไร”


สิตางศุ์รีบหยิบชุดออกมาให้ดู หน้าตาเริงร่าอย่างนึกสนุก แตกต่างจากเจียระไนอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งพอเห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นและกางเกงสีน้ำเงินสดใสนั่นแล้ว หนุ่มตี๋ก็ถึงกับตาเหลือกร้องลั่น


“ชุดนักเรียน!”


   “ใช่ๆ ทุกคนที่ไปจะใส่ชุดนักเรียนกันหมดเลย แต่ชุดนักเรียนของกูบริจาคไปหมดแล้ว ก็เลยให้พี่เวฟเอามาให้ยืม มึงไปด้วยกันมั้ยโจ๊ก วันอาทิตย์หน้า มึงเล่นกีต้าร์เป็นนี่นา หรือจะเอาเพลงนั้นไปเล่นด้วยก็ได้นะ”


   “ไม่!”


สิตางศุ์ชะงักด้วยความตกใจกับคำปฏิเสธห้วนๆนั่น ได้แต่กะพริบตาปริบๆ ไม่รู้ว่าคนรักปฏิเสธเรื่องอะไร


อันที่จริงเจียระไนอยากจะปฏิเสธไปหมดทุกเรื่อง ทั้งเรื่องไม่ไปด้วย ไม่เอาเพลงที่เล่นให้สิตางศุ์ฟังไปเล่นให้ใครทั้งนั้นด้วย และไม่ให้สิตางศุ์ใส่ชุดนักเรียนมัธยมไปให้คนเด็กคนแก่ที่ไหนเห็นทั้งนั้นด้วย!


   แต่...คนรักของเขาเป็นเด็กกิจกรรม เรื่องนี้เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ


   และต่อให้เจียระไนจะไม่ใช่เด็กกิจกรรม แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะเอาความไม่ทำกิจกรรมของตนเองไปยัดใส่มือใคร


   ...พูดไปเหมือนเป็นคนแฟร์ จริงๆก็แฟร์ ยิ่งกับสิตางศุ์ที่ทำตาซื่อๆ มองเขาอยู่แบบนี้ ก็ยิ่งต้องแฟร์ หรืออีกนัยหนึ่งคือ...ขัดใจไม่ลง!


   “ไม่...ไม่...หมายถึง...หมายถึงไม่ใส่...น...หน้ากูแก่ขนาดนี้ จะไปใส่ชุดนักเรียนขึ้นได้ยังไง!”


   เพียงเท่านั้นคนฟังก็ขยับยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มสดใสที่ทำเอาเจียระไนอยากจะยิ้มตอบแต่ต้องเก็กหน้าขรึมทำตัวแก่เอาลิ้นดุนแก้มซ้ายทีขวาที


   “โจ๊กน่ะเหรอหน้าแก่ ไม่หรอก หล่อจะตาย” หัวใจคนฟังกระตุกวูบกับคำว่า ‘หล่อ’


   ...คำชมอะไรวะเนี่ย! ทำไมมันมีอิทธิพลกับหัวใจของเจียระไน  ตั้งกาญจนพาณิชย์เหลือเกิน!...


   …ดุนแก้มโจ๊ก! ดุนแก้ม!!!...


   “ล...หล่อ...หล่อจริงเหรอ” ดุนแก้มแล้ว กลั้นยิ้มได้แล้ว แต่...ยังอยากถาม


   สิตางศุ์พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น


   “จริงสิ โจ๊กหล่อมากๆเลยนะ”


   หัวใจคนฟังลอยฟูฟ่อง เจียระไนต้องเอาลิ้นดุนกระพุงแก้มจนแทบจะทะลุถึงจะกลั้นยิ้มได้ แต่ดูเหมือนสิตางศุ์จะไม่ได้สนใจความพยายามในการกลั้นยิ้มของคนรักเลยสักนิด เพราะเจ้าตัวถามต่อ


“แล้ววันอาทิตย์หน้าโจ๊กว่างมั้ย ไปเล่นดนตรีด้วยกันนะ” ใจอยากตอบว่าไป! แต่ตอบไวก็จะดูไม่มีมาด เจียระไนเลยต้องเก็กขรึมทำเป็นย้อนถาม


“มึงเล่นเป็นเหรอ โซ่”


“ก็เล่นได้แค่เพลงที่โจ๊กสอน เพลงอื่นเล่นไม่เป็น”


“เพลงนั้นห้ามเอาไปเล่นกับคนอื่น”


“รู้แล้วๆ กลัวเพี้ยนใช่มั้ยล่ะ”


...กลัวเพี้ยนอะไรล่ะ กลัวคนอื่นฟังแล้วยิ่งหลงเสน่ห์มึงมากกว่านี้ต่างหาก!!!…


“พี่เวฟบอกว่าให้กูเล่นแทมบูริน เพราะเพื่อนเขาเล่นครบทั้งวงอยู่แล้ว เพื่อนพี่เวฟก็พวกรุ่นพี่คณะเรานี่แหละ พวกพี่จิณ พี่เกรฟ พี่นุ่น...เออ พี่จิณก็ปกครองนะ โจ๊กรู้จักรึเปล่า”


จิณไหน จินตนาการเอาได้มั้ย ในเมื่อเจียระไนรักการไม่ทำกิจกรรมเข้าไส้ขนาดนี้ แถมเข้าคณะนับครั้งได้ มันจะไปรู้จักใครได้ยังไง


   “ไม่รู้”


   “อ้าวเหรอ งั้นไว้ไปเจอค่อยทำความรู้จักก็ได้ สรุปโจ๊กไปด้วยกันนะ หิ้วกีต้าร์ไปด้วย อยากดูโจ๊กเล่นดนตรี”


   มนุษย์ไม่ทำกิจกรรม ถูกตลบหลังด้วยคำว่า ‘อยากดูโจ๊กเล่นดนตรี’ ก็เล่นเอาอยากจะเล่นดนตรีให้ดูสัก 24 ชั่วโมง เอาให้ตาค้างหูอื้อกันไปข้าง


   แล้วในเมื่อสิตางศุ์ออกปากว่าอยากดูเจียระไนเล่นดนตรี หนุ่มตี๋จะตอบอะไรได้นอกเสียจากคำว่า


   “อือ”


วันอาทิตย์ซึ่งควรจะได้อยู่บ้านเฉยๆ แต่ในเมื่อมีคนรักชอบทำกิจกรรมเพื่อสังคม มนุษย์ไม่ทำกิจกรรมก็เลยต้องออกไปทำอะไรเพื่อสังคม


   ...เล่นดนตรีให้โซ่ดู เล่นดนตรีให้โซ่ฟัง...


 สังคมของเจียระไนชื่อสิตางศุ์ ใครมีปัญหาอะไรมั้ย?


“งั้นเดี๋ยวบอกพี่เวฟก่อน แล้วโจ๊กจะไม่ใส่ชุดนักเรียนจริงเหรอ”


ประโยคหลังนั่นคนผิวขาวจัดทำตาวิบวับซุกซน เป็นสายตาขี้เล่นที่มีให้กับคนสนิท สิตางศุ์ไม่ใช่คนเรียบร้อย พื้นฐานเป็นคนอ่อนโยนและสุภาพก็จริง แต่กับคนสนิทเขาก็เล่นสนุกและสดใสเหมือนเด็กๆ


   ซึ่ง...เป็นความสดใสแบบที่เจียระไนต้องรีบเอาลิ้นดุนแก้ม


   “ชุดนักเรียนมัธยมไม่ได้หาโอกาสได้ใส่บ่อยๆนะ” ความซุกซนของสิตางศุ์ดูได้จากเจ้าตัวพยายามเต๊าะให้คนรักใส่ชุดนักเรียนมัธยมให้ได้


   “ม...ไม่ใส่”


   ...ทำใจแข็งไว้โจ๊ก ทำใจแข็ง หายใจเข้าลึกๆ เจียระไน แล้วหายใจออก...


   “เสียดาย...อยากเห็นโจ๊กใส่บ้าง โจ๊กต้องหล่อมากแน่ๆเลย”


...โซ่ชมว่าหล่อ โซ่ชมว่าหล่อ โซ่ชมว่าหล่อ...


   เจียระไนกระแอมไอกับตัวเอง สูดลมหายใจลึกอีกครั้ง ก่อนจะพูด


   “ถ...ถ้าจะให้ใส่ก็เตรียมมาแล้วกัน!”


หมดกันความใจแข็งที่ท่องเอาไว้ จบสิ้นที่คำพยากรณ์ของสิตางศุ์ว่า ‘โจ๊กต้องหล่อมากแน่ๆเลย’


   คนผิวขาวจัดยิ้มกว้าง พยักหน้ารัวแล้วรีบกดโทรศัพท์มือถือหาพี่รหัสของตนเองทันที พอบอกปลายสายว่าโปรเจ็คเล่นดนตรีที่บ้านพักคนชราของอรรณพจะมีคนไปร่วมกิจกรรมด้วย พี่รหัสมากบารมีแถมหูตาดีก็ย้อนถามกลับมา


   ‘กูเพิ่งรู้ว่าไอ้โจ๊กมันชอบทำกิจกรรม’


   สิตางศุ์ไม่ได้เปิดสปีกเกอร์ แต่เพราะนั่งอยู่ข้างกัน มีหรือตี๋ปกครองจะไม่ได้ยิน


   เหอะ! ฟังดูก็รู้ว่าแดกดัน เจียระไนอยากจะด่ากลับไปว่าชอบหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องของคนอื่น แต่คนรักของเขากลับตอบกลับไวกว่า


   “โจ๊กก็ทำกิจกรรมบ่อยออกนะ เฟิร์สเดทปีที่แล้วก็มาช่วย แล้วรับน้องปีนี้ก็มาเป็นพี่วินัยด้วย” น้องรหัสของคนพูดไม่รู้ว่าคนรักถูกประชด จึงแย้งด้วยข้อเท็จจริงที่เคยเกิดขึ้น ทว่าข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังของการทำกิจกรรมของ ‘โจ๊ก ปกครอง’ คือการที่ ‘โซ่ ไออาร์’ ทำกิจกรรมต่างหาก!


   ‘อ๋อเหรอ เหอะ!’


เจียระไนก็อยากจะ ‘เหอะ!’ กลับไปเหมือนกัน ติดที่ว่าสิตางศุ์ที่ดูเอื่อยเฉื่อยกลับพูดไว


“แล้วโจ๊กก็อยากไปเองด้วยนะ โจ๊กอยากไปเล่นดนตรีด้วย”


‘เออๆ กูจะเอาแทมบูรินไปเผื่อแล้วกัน’


“ไม่เป็นไร โจ๊กเล่นกีต้าร์เป็น เล่นเก่งด้วย”


เจียระไนแทบตีปีก กลั้นยิ้มแทบไม่ลงกับคำชมครั้งแล้วครั้งเล่าที่ได้ยินจากคนรัก


‘หน้าอย่างมันเนี่ยนะ เล่นกีต้าร์เป็น? แล้วไหนตอนบายเนียร์รุ่นกู พวกปกครองบอกว่าไม่มีคนเล่นเป็นไง’ สิตางศุ์หันมามองคนรัก แต่เจียระไนทำหน้าเฉยเหมือนไม่ได้ยินเสียงของปลายสายที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์


“สงสัยคนอื่นไม่รู้แน่เลยว่าโจ๊กเล่นเป็น” หากใครเห็นหน้าอรรณพผู้อยู่ปลายสายในเวลานี้ คงได้เห็นพี่รหัสมากบารมีกลอกตาแล้วกลอกตาอีก เพราะน้องรหัสเข้าข้าง ‘โจ๊ก ปกครอง’ ชนิดที่เรียกว่าหูดับตาบอดยังน้อยไป!


‘เหอะ! ไม่รู้หรือไอ้โจ๊กไม่เล่น’


“เล่นนะ โจ๊กยังเล่นให้ฟังอยู่เลย อ้อ พี่เวฟหาชุดนักเรียนให้โจ๊กด้วยนะ”


‘อะไร? มันจะใส่เหรอ’


“ใส่สิ ก็ทุกคนใส่นี่นา เราไปทำกิจกรรมด้วยกัน เราก็ใส่ด้วยกัน” ปากพูดกับปลายสาย แต่ตาหันมามองคนรักแล้วยิ้มกว้างอย่างสดใส สิตางศุ์คนรักสันติ มองการอยู่ร่วมกันในสังคมคือการเป็นอันหนึ่งอันเดียว ยกการตัดสินใจของคนหมู่มากเป็นหลัก แต่ก็ไม่ทอดทิ้งความคิดเห็นของคนหมู่น้อย ต่อให้เจียระไนจะไม่อยากใส่ เขาก็ไม่บังคับ แม้จะอยากให้ใส่ก็ตาม แต่นี่เพราะเจียระไนบอกเองว่าถ้าอยากให้ใส่ก็ให้เตรียมให้ สิตางศุ์จึงยิ่งดีใจที่อีกฝ่ายอยากมีส่วนร่วมกับกิจกรรมถึงเพียงนี้


‘พอๆ ไม่ต้องยกย่องมันให้กูฟัง ถ้ามันจะมาก็มา กูจะเอาชุดไปเผื่อแล้วกัน’


นี่ก็ฟังดูก็รู้ว่าไม่อยากเถียง อรรณพเหนื่อยใจกับโลกทัศน์ของน้องรหัสที่มองคนทั้งโลกเป็นคนดีอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะไอ้คนที่ชื่อ ‘โจ๊ก ปกครอง’


...ดีเด่น เก่งที่หนึ่ง ทำได้ทุกอย่าง…


ให้ตายเถอะ! ไม่รู้ว่าระหว่างสิตางศุ์ซื่อเกินไป กับเจียระไนเล่นของ โลกนี้มันเกิดอะไรขึ้น คนดีๆอย่างสิตางศุ์ถึงได้มองคนอย่างเจียระไนว่าแสนดี!


   “ขอบคุณครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะ แล้วไว้เจอกันวันอาทิตย์หน้า”


   ‘เดี๋ยว ไอ้โจ๊กอยู่แถวนั้นรึเปล่า ขอกูคุยด้วยหน่อย’


   “นั่งอยู่ข้างๆ แปบนะ...โจ๊ก พี่เวฟจะคุยด้วย”


เจียระไนขมวดคิ้วเล็กน้อย อยากย้อนว่าเขาไม่มีเรื่องจะคุยด้วย แต่ในเมื่อสิตางศุ์ส่งโทรศัพท์มาให้ หนุ่มตี๋ก็ไม่คิดขัดใจ รับโทรศัพท์มาแนบหู


   “ฮัลโล” เขาส่งเสียงไปยังปลายสาย เพียงเท่านั้น อีกฝ่ายก็คำรามลอดไรฟันกลับมา


   ‘กูรู้นะว่าทำไมมึงถึงจะไปด้วย!’


   “หมายถึงอะไร” เจียระไนตีเนียน ใครจะรู้ไม่สำคัญ สำคัญคือสิตางศุ์ไม่รู้ก็พอ


   ‘ก็ที่มึงจะไปเล่นดนตรี!’


   “ผมแค่อยากทำกิจกรรม”


   ‘ชอบทำกิจกรรมขึ้นมาทันทีเลยนะสัด!’


   …จะชอบทันทีหรือชอบตอนไหน ก็แล้วมันเรื่องของกูมั้ย?...


   ใจอยากถาม ปากอยากถาม แต่เหลือบตาไปเห็นสิตางศุ์มองมาด้วยดวงตาแป๋วๆแสนใสซื่อก็บอกตัวเองว่าจะพูดจาเช่นนั้นไม่ได้


   มีคนรักชอบทำกิจกรรม ถึงจะไม่ชอบทำกิจกรรม แต่ชอบอยู่ในสายตาคนรัก


   “ครับ ชอบทำกิจกรรม ถ้าพี่เวฟมีอะไรให้ทำ ก็ฝากโซ่มาบอกแล้วกัน”


   ปลายสายตัดสัญญานฉับ แต่คนได้ยินยังมีอีกหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆ และกลายเป็นคนที่ยิ้มกว้างที่สุด ในดวงตาคู่สวยที่ใสแจ๋วนั้นเต็มไปด้วยแววชื่นชมเต็มเปี่ยม


เจียระไนบอกตัวเองว่าถ้าทำกิจกรรมแล้วมันจะได้ดิบได้ดี ได้ความรักความเมตตาจากคนรัก เขาก็จะร่วมทุกกิจกรรมที่มีชื่อสิตางศุ์ ส่วนกิจกรรมไหนไม่มีสิตางศุ์ก็คงไม่ต้องบอกว่าจะมีชื่อเขาหรือไม่


วาระซ่อนเร้นซุกซ่อนในทุกกิจกรรมของ ‘โจ๊ก ปกครอง’ เสมอ!

FIN

รอบนี้ไม่แกล้งโจ๊กนะ แกล้งพี่เวฟ ฮ่าฮ่า

เวลาเขียนถึงโซ่ทีไร รู้สึกว่าโลกมันสดใสมากๆ ขาวกระจ่างจากภายในสู่ภายนอก เป็นคนฉลาด เก่ง จิตใจดี ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุขแบบนั้นเลยค่ะ (แต่น่าเสียดายมีแฟนแล้ว แถมแฟนก็แบบ...กลอกตาเป็นเพื่อนพี่เวฟ)

แล้วก็...มีตัวประกอบมาแต่ชื่ออีกแล้วววว

ขอเสียงตบมือต้อนรับ จิณณะ วงศ์กีรติ บัณฑิตจากภาควิชาการปกครอง หน่อยยยย...

อย่างที่เคยบอกว่าจิณกับโจ๊ก ไม่ทันเจอกันในคณะค่ะ แต่จิณกับโจ๊กรู้จักกันและดองกันผ่านทาง พี่ชุน-ชเยนตร์ ซึ่งออกในเรื่อง ระบบอุปถัมภ์ (ชุนเป็นลูกของป้าของจิณกับลุงของโจ๊กค่ะ) แต่ที่โจ๊กตอบโซ่ว่าไม่รู้จัก ‘จิณ ปกครอง’ ก็เพราะมันขี้เกียจคิดว่ารู้จักรึเปล่า เลยตอบว่าไม่รู้จักไปเลยค่ะ ฮ่าฮ่า

   ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม คนคิดถึงโจ๊ก ปกครองและโซ่ ไออาร์ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ

   สำหรับคืนนี้ Merry X’mas ล่วงหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 24-12-2019 21:57:00
คิดถึงๆๆๆ มาทีไรเกรี้ยวกราดแต่กากเสมอเลยนะโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 24-12-2019 22:07:18
ยอมทุกอย่างแล้ว
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 24-12-2019 22:13:09
โจ๊กโดนแฟนตัวเองชมว่าหล่อก็คือเสียอาการมาก 5555555  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 24-12-2019 22:15:55
โซ่เอ้ยยยยยยเอ็งนี่มันหลงแฟนแบบหูดับตาบอดจริงแหละ
โจ๊กทำไรก็ดีไปหมดจริงๆ 55555555

/me กลอกตาไปมาไปมา  :jul1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Tonson777 ที่ 24-12-2019 22:38:16
โอ๊ย...หนูโซ่น่ารักเกิ๊นจินตนาการจริงๆ ส่วนอิโจ๊กก็เสมอต้นเสมอปลายแพ้น๊อคซอโซ่เหมือนเดิม 5555  แอบสงสารพี่เวฟเล็กๆที่เหมือนพ่อที่มีลูกสาวโดนราหูอมหัวไว้ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 24-12-2019 23:08:36
อ๋อออออออออ จิณนี่เอง โผล่มาให้กระชุ่มกระชวยนิดนนึง
อยากอ่านบทต่อไปเลยค่า อยากเห็นโจ๊กใส่ชุดนักเรียนนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-12-2019 23:10:18
บุญเดียวที่โจ๊กมีคือเกิดมาในครอบครัวดีและได้แฟนดี
ส่่่่่วนบาปที่นางทำในชาตินี้ส่งผลให้มีอุปสรรคที่เรียกว่ากิจกรรมคอยขัดขวางอยู่ร่ำไป ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 25-12-2019 01:00:45
คิดถึงมากๆเลยค่ะ นึกถึงเรื่องนี้แล้วจะยิ้มตลอดเลย ขอบคุณมากนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 25-12-2019 09:03:35
โจ๊ก เแนคนตลก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 25-12-2019 09:50:37
หมั่นไส้คนติดแฟน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 25-12-2019 13:32:42
555 เอ็นดูความซื่อของโซ่  โจ๊กมันร้าย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 25-12-2019 16:41:21
จ้าโจ๊กจ้า :mew4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 25-12-2019 17:23:43
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Khongsak ที่ 25-12-2019 17:57:33
หึหึหึ  โจ๊ก​ แกนิมันร้ายจริงๆ​  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-12-2019 22:15:33
คู่นี้มาทีไร​ นึกอยากทุบคนชื่อโจ๊ก​ทุกที​ แหมมมมมม​ พ่อคนทำกิจกรรม
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-12-2019 22:46:11
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 25-12-2019 23:15:38
รักพี่น้องตาตี 2จ. จังเลย

 :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 26-12-2019 11:29:02
ชอบความไบโพลาร์ของโจ๊ก
กับความใสๆของโซ่
คิดถึงคู่นี้มาก อยากอ่านอีกจัง
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 26-12-2019 16:19:51
ความโจ๊ก


ก็คือความโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 26-12-2019 18:59:27
โจ๊กนี่มันโจ๊กจริงๆ อยากฟังโจ๊กร้องเพลงงงงงอ่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 26-12-2019 19:26:13
อยากจะแหมไปถึงดาวอังคาร โจ๊กแพ้ทางโซ่ตลอดๆ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 26-12-2019 20:49:48
กับโซ่ โจ๊กคนกากเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 27-12-2019 16:37:05
แง๊ กอดดดดพี่โซ่ คิดถึงความน่ารักสดใสพี่โซ่ที่สุดเลย เอ็นดูความแอบซน ความไม่รู้อะไรเลย ในขณะที่นังโจ๊กเป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียว  :laugh:

นังโจ๊ก(กลอกตาใส่) แหมมมมม โดนชมว่าหล่อเข้าหน่อยถึงกับเสียอาการ กากเสมอต้นเสมอปลาย นังทาสพี่โซ  :laugh:

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ เห็นปุ๊บกรี๊ดปั๊บเลย ของขวัญวันคริสมาต์น่ารักถูกใจมากๆ

สวัสดีปีใหม่คุณบัวล่วงหน้านะคะ

 ขอให้มีสิ่งดีๆมีแต่ความสุข สุขภาพเเข็งแรง เงินทองมากมี มั่งคั่งร่ำรวยค่าา :L2:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 27-12-2019 18:13:03
เห็นด้วยกับพี่เวฟนะโซ่ โจ๊กนะคนร้าย เป็นคนรว้ายยยยย รว้ายยยยยย 555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 27-12-2019 18:33:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวยุ่ง ที่ 27-12-2019 20:47:52
เอ็นดูน้องโซ่ น่ารักตลอด อ่านตามไปก็ยิ้มไปกับความไม่รู้อะไรเลยของโซ่ คนอื่นจะเขม่นกัน โจ๊กจะนอยด์ จะหงุดหงิดขนาดไหน โซ่ก็ทำให้บรรยากาศสดใส วิ้งวั้งได้ตลอด เอ็นดูมากกก ส่วนนังโจ๊กนั้น ไม่รู้จะขำหรือสงสารก่อนดี 55555555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: thebrownbear ที่ 29-12-2019 00:59:15
นึกถึงพี่โซ่ทีไรก็นึกถึงความวิ้งเทพบุตรประจำคณะจริงๆค่ะ แต่หมั่นไส้โจ้กมาก เกลียดความบอกพี่เวฟว่ามีกิจกรรมอะไรให้ทำก็บอกนะครับ อยากจะแหมมมมมมม 55555555  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 29-12-2019 09:00:39
โจ๊กคนติดแฟนนนน มีโซ่ที่ไหนมีโจ๊กที่นั่นน  :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ๊บป่อง ที่ 01-01-2020 18:27:55
รักน้ำ รักปลา รักโซ่ไออาร์ รักซากุระ :laugh:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 05-01-2020 12:38:32
นังโจ๊ก นังคนติดแฟนนน
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-01-2020 14:18:01
มองบนแล้วมองบนอีก รำคาญโจ๊ก ปกครองมาก 5555
ที่ไหนมีโซ่ โจ๊กจะต้องเป็นเงาตลอด อย่าให้ได้พลาด
เพราะกลัวโซ่ถูกใครคาบไป แล้วงับคืนมาไม่ทัน
ไหนจะพี่รหัส ไหนจะเพื่อนรัก ไหนจะคนแสนแปดที่ปลื้มโซ่

จะว่าไม่แกล้งโจ๊กก็ไม่เชิงนะคะ หากิจกรรมให้โซ่ทำ
แล้วโจ๊กต้องตามไปคุม ก็เหมือนเบาๆ จ้า เป็นเอ็นดูโจ๊ก

พี่เวฟ โซ่ไม่ได้ซื่อ แค่มองบวกแค่นั้นเอง ทันนะ แต่ช้าหน่อย

ขอบคุณมากนะคะ ที่มาให้หายคิดถึงไปบ้าง
มาอีกนะคะ เรารออ่านเสมอ 5555

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 05-01-2020 17:11:30
 :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 12-01-2020 14:07:36
 :L1: :3123: :pig4:
หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 31-07-2020 23:04:19
วาระซ่อนเร้น
By: Dezair
……………………….
ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร


   เจียระไน เป็นลูกชายคนที่สองในบรรดาลูกชายสามคน


การเกิดเป็นลูกคนกลาง ย่อม ‘ควร’ มีบุคลิกลักษณะบางประการที่สมกับเป็นลูกคนกลาง


...เป็นคนกลางระหว่างพี่กับน้อง ก็ต้องมีทักษะประณีประนอม คอยเชื่อมสายสัมพันธ์พี่น้องเอาไว้


   แต่ลูกคนกลางที่ชื่อเจียระไนนั้นแตกต่างออกไป


   ตอนยังเล็ก ‘บริสุทธิ์ เจียระไน กะรัต’ สามพี่น้องนอนห้องเดียวกัน ก่อนนอน เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนทำการบ้านเสร็จแล้ว และกำลังหาอะไรสักอย่างเล่นด้วยกัน



พี่ชายคนโตอยากเล่นหมากล้อม แต่น้องชายคนเล็กอยากเล่นเกมส์ต่อสู้ พี่กับน้องเริ่มทะเลาะกัน คนกลางอย่างเจียระไนเลยประกาศกลางวงว่าไม่ต้องเล่นอะไรทั้งนั้น ก่อนจะพุ่งตัวไปปิดไฟนอน



คืนนั้น ไม่ว่าจะหมากล้อมหรือเกมต่อสู้ก็อดเล่นไปหมดทุกอย่าง ท้ายที่สุด เจียระไนเลยถูกย้ายไปนอนกับอาม่าอยู่พักหนึ่งเพราะนิสัยจุดศูนย์กลางของโลกเกินเหตุ


   ตอนที่โตขึ้นมาหน่อย ครอบครัวที่มีสามพี่น้องชายล้วน ให้อย่างไรก็ต้องมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง    


บริสุทธิ์ผู้เป็นพี่ชายคนโตยืนกรานว่าปิดเทอมนี้จะไปเที่ยวนิวยอร์ก ส่วนกะรัตน้องชายคนเล็กอยากไปดิสนีย์แลนด์ที่ญี่ปุ่น เจียระไนซึ่งเป็นคนกลางควรจะเป็นผู้ประนีประนอมให้ทั้งพี่ชายและน้องชายยอมกันและกัน แต่...คนกลางรายนี้ไม่ได้คิดจะอยู่ตรงกลาง


   ...อยากไปนิวยอร์ก ไม่อยากไปญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นงานเลือกข้างต้องมา!...


   “ไปนิวยอร์ก” ลูกคนกลางโพล่งขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แม้จะยังอยู่ในชั้นประถม แต่วิชาสังคมศึกษาสอนเรื่องระบอบการปกครองแล้ว เจ้าตัวเลยยกมือขึ้นข้างหนึ่ง อีกข้างจับมือพี่ชายขึ้นยกด้วย แล้วประกาศก้อง


   “เสียงข้างมากไปนิวยอร์ก” เสียงข้างมากที่ว่าคือสองในสามเสียง


น้องชายคนเล็กเบะปากทำท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ แต่พี่ชายคนกลางไม่มีอ่อนโยนสักนิด


   “ไปนิวยอร์ก เข้าใจมั้ยก๋วยจั๊บ พยักหน้าสิว่าเข้าใจ” แล้วเด็กชายเจียระไนก็หันไปกดหัวน้องชายให้ขึ้นๆลงๆ เด็กชายกะรัตร้องไห้จ้า แต่ไม่อาจเรียกความสงสารใดๆได้ เพราะสองพี่จะไปอเมริกา สุดท้ายต้องให้มารดามาช่วยเกลี้ยกล่อมน้องคนเล็ก โดยให้สัญญาว่าปิดเทอมคราวถัดไปจะไปดิสนีย์แลนด์แทน


   พอสามพี่น้องเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น บริสุทธิ์เรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ในขณะที่กะรัตกำลังฮอร์โมนพุ่งพล่าน หัวร้อนหัวแข็ง


   “เฮียบอกว่าห้ามไปค้างที่อื่น ทำไมไม่ฟังเฮีย”


   “แล้วทำไมต้องฟังด้วย! ผมแค่ไปค้างบ้านเพื่อน”


   “เพื่อนที่ไหน! เฮียตามไปเจออยู่กับผู้หญิง!”


   “เออ! อยู่กับผู้หญิง! แล้วยังไง! ผมโตแล้วนะเฮีย!”


   “ถ้าโตแล้วก็ต้องรู้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ! แล้วนอนกับเขารึยัง?!”


   “เฮีย!! นั่นแฟนผมนะ!”


   “สรุปว่าเพื่อนหรือแฟน?!”


   “เออ! แฟนก็แฟน!!”


   “เฮ้ย! หนวกหู! อ่านหนังสือสอบอยู่เว้ย!!” เจียระไนเปิดประตูออกมาจากห้องนอนแล้วตะโกนใส่สองพี่น้องที่กำลังทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดง โดยไม่มีผู้ใหญ่สักคนรับรู้


...แค่อ่านหนังสือสอบก็หงุดหงิดจนหัวจะระเบิดอยู่แล้ว! ยังจะมีคนมาทะเลาะกันให้หนวกหูอีก! อยากทะเลาะกัน ก็ทะเลาะตอนมีคนไกล่เกลี่ยสิวะ!...


   “เฮียโจ๊กดูเฮียของเฮียสิ! ผมแค่มีแฟนทำเป็นเรื่องใหญ่!”


   “ถ้าแค่มีแฟนมันไม่ใช่เรื่องใหญ่! แต่ที่เรื่องใหญ่เพราะแกไปนอนกับเขาทั้งๆที่แกยังรับผิดชอบอะไรไม่ได้สักอย่าง!”


   “ถ้าผมรับผิดชอบได้ ผมก็นอนได้ใช่มั้ย?!”


   “ใช่!” เจียระไนตอบ แล้วเดินมาคั่นระหว่างบริสุทธิ์และกะรัต คล้ายจะทำตัวเป็นคนกลาง แต่กลับแบมือออกมาตรงหน้าน้องชาย แล้วสั่ง


   “ไอ้จั๊บ เอากระเป๋าตังค์มา”


กะรัตกะพริบตาปริบๆด้วยความงุนงง แต่ก็ล้วงเอากระเป๋าสตางค์ขึ้นมาส่งให้ พี่ชายคนกลางรับไปเปิดแล้วดึงเงินพร้อมบัตรทั้งหมดออกมา เหลือแค่บัตรประชาชนและบัตรนักเรียนแล้วส่งคืน น้องชายคนเล็กก็ถึงกับอ้าปากค้าง


“ฮ...เฮียเอาตังค์ผมไปทำไมอ่ะ...”


   “ก็จะไปรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ งั้นก็ออกจากบ้านไปแต่ตัว แล้วเฮียจ่างก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีก ไอ้จั๊บมันจะไปก็ปล่อยมันไป หนวกหูฉิบหาย! ทะเลาะกันอยู่ได้!”


   “น...นี่เฮียโจ๊กไล่ผมเหรอ...” กะรัตละล่ำละลัก ถูกไล่อย่างเดียวไม่พอ ดันเอาเงินเขาไปจนหมดอีกด้วย กะรัตหันไปมองหน้าบริสุทธิ์หมายจะฟ้องว่าโดนพี่ชายคนกลางยึดเงิน แต่เจียระไนแทรกขึ้นมาก่อน


   “ไม่ได้ไล่ แค่เปิดทางให้ จะไปก็ไปได้เลย ไม่ต้องห่วงทางนี้ จะบอกทุกคนให้เอง จะไม่มีใครไปรบกวนแน่นอน เอ้า! ไปสิ จะยืนอยู่ทำไม เสียเวลา เฮียต้องไปอ่านหนังสือต่อ”


กะรัตกะพริบตาปริบๆ ไม่ทันรู้ตัวก็ถูกรุนหลังออกมายืนตากลมตากน้ำค้างอยู่นอกอาคารตั้งกาญจนพาณิชย์แล้ว


   เด็กหนุ่มวัยรุ่นเลือดร้อน มาถึงวินาทีที่ร้อนไม่ออก ได้แต่ยืนเอ๋ออยู่หน้าประตูด้วยความตกใจ


...ทะเลาะกับพี่คนโตอยู่ดีๆ แล้วก็ถูกพี่คนรองสนับสนุนให้ออกจากบ้านไปเลย แถมไม่ได้ไปแบบหรูหราฟู่ฟ่าด้วยนะ! แต่ไปแบบสิ้นเนื้อประดาตัว! มีแค่บัตรประชาชนกับบัตรนักเรียนติดตัว!!...


   ...นี่มันอะไรวะเนี่ย!!...


   “เฮ้ย! โจ๊ก ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้น...” บริสุทธิ์เห็นน้องคนเล็กถูกไล่ออกนอกบ้านก็ใจฝ่อ รีบหันไปปรามก่อนที่เจียระไนจะปิดประตู


   “เฮียจะออกไปอยู่ข้างนอกด้วยอีกคนใช่มั้ย ไปเลย ไปอยู่กับไอ้จั๊บ ไปทะเลาะกันต่อข้างนอกก็ได้ จะได้ไม่เสียงดัง” แล้วพี่คนโตก็ถูกน้องคนกลางดันออกจากบ้านไปอีกคน


   ประตูอาคารตั้งกาญจนพาณิชย์ถูกปิด ทิ้งทายาทสองคนเอาไว้ข้างนอก บริสุทธิ์และกะรัตยืนงง จากที่ทะเลาะกันในตอนแรกกลายเป็นกอดคอกันทุบประตูขอความช่วยเหลือ โชคดีที่มีคนได้ยิน และมาเปิดประตูพาพวกเขากลับเข้าไปในบ้าน แต่ตอนนั้นก็ถูกยุงกัดจนเนื้อตัวลายพร้อย พร้อมกับการหยุดทะเลาะกันไปโดยปริยาย


   นับตั้งแต่นั้น ก็ไม่เกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งระหว่างพี่คนโตและน้องคนเล็กอีกเลย ส่วนคนกลางอย่างเจียระไน ถูกพี่น้องยกให้เป็น ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ ไม่มีใครกินเขาได้ ไม่มีใครโค่นเขาลง สองพี่น้องบริสุทธิ์และกะรัตได้แต่ภาวนาทุกครั้งที่จุดธูปไหว้บรรษุบุรุษ


   ...กรรมใดที่เจียระไนก่อ ขอให้กรรมนั้นคืนสนองด้วยใครสักคนที่อยู่บนสุดของบนสุดของบนสุดของห่วงโซ่อาหารนี้ด้วยเถิด!!!...


…………..


   หลายปีผันผ่าน จุดธูปไหว้บรรพบุรุษไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบก็เหมือนจะไม่มีบรรพบุรุษคนใดได้ยินเสียงร่ำร้อง จนแล้วจนรอด เจียระไนก็ไม่มีแฟนอย่างที่เรียกว่าคบหากันยืดเลยสักคน ตอนที่พี่น้องกำลังสิ้นหวัง กะรัตก็บังเอิญตาดีไปสังเกตอะไรเข้า


   น้องชายคนเล็กอาศัยวันที่เจียระไนกลับมาอยู่ที่อาคารตั้งกาญจนพาณิชย์แล้วแวะไปหาอาม่า แอบฉกสิ่งที่หมายตาแล้ววิ่งมาหาพี่ชายคนโต


   “เฮียจ่าง! เฮียจ่าง! เกิดเรื่องใหญ่ล่ะเฮีย! เฮียดูนี่!!” กะรัตดึงพี่ชายเข้าที่ลับตาแล้วโชว์หน้าจอโทรศัพท์มือถือในมือให้ดู



ชายหนุ่มเพ่งมองภาพบนหน้าจอโทรศัพท์ที่เป็นต้นไม้ใหญ่และโต๊ะม้าหิน และ...มีใครบางคนนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินโดยหันหลังให้กล้องอยู่


   ...ใคร?...


   ...แล้ว...ยังไง?...


   ...คือมันเกี่ยวอะไรกับชีวิตเขาและทุกสรรพสิ่งในตั้งกาญจนพาณิชย์ไหม?...


   “โห เฮีย! อย่าเพิ่งทำหน้าตาเป็นน้ำเต็มแก้ว! นี่มือถือเฮียโจ๊ก!”


   “มือถือไอ้โจ๊ก?”


   “ชู่ว เบาๆ ผมแอบหยิบมา!”


   จากหน้าตาน้ำเต็มแก้ว บริสุทธิ์ถึงกับตาเบิกโพลง


   “ไอ้ก๋วยจั๊บ! ขโมยของเรอะ!”


   “ไม่ได้ขโมย! แค่ยืมมาดูเฉยๆ เห็นเฮียโจ๊กนั่งดูโทรศัพท์ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พอเดินผ่านก็ทำเป็นปิดจอ มันน่าสงสัยไม่ใช่เหรอเฮีย!”


   บริสุทธิ์ฟังแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วยว่าน่าสงสัยจริง แต่...ของส่วนตัวก็คือของส่วนตัว ถ้าเจ้าของไม่อนุญาต ถึงจะเป็นพี่น้องกัน และอาม่าสั่งสอนให้รักกัน แต่ก็ต้องเว้นวรรค


   “แต่หยิบของคนอื่นมาดูแบบนี้มันไม่ถูกต้อง” พี่ชายคนโตค้าน แต่น้องชายคนเล็กทำหน้าตาจริงจัง


   “แต่อาม่าสอนให้พวกเรารักกัน เราก็ต้องสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาแทนอาม่านะเฮีย”


   เลือดแซ่ตั้งข้นยิ่งกว่าน้ำขนาดไหน ดูได้จากความสอดรู้สอดเห็นของกะรัตในเวลานี้


   บริสุทธิ์ทำหน้าปั้นยาก เป็นห่วงน้องชายคนกลางก็ห่วง ที่กะรัตพูดมาไม่มีอะไรผิดเลยสักคำ พี่น้องต้องรักกัน ต้องสอดส่องดูแลกันอย่างที่อาม่าสั่งสอน แต่ว่า...


   “แล้วมันไม่ล็อกหน้าจอรึไง” บริสุทธิ์พยายามหาอุปสรรคในการไม่ล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลของน้องชายคนกลาง แต่น้องชายคนเล็กสั่นหน้าพรืด


   “ล็อกสิ แต่เฮียโจ๊กไม่ซับซ้อนหรอก แค่กดรหัสเอ๊ง!”


“แล้วรู้รหัสมันเหรอ”


กะรัตกระตุกยิ้มมุมปาก


“วันเกิดอาม่า”


บริสุทธิ์ทำตาโต ไม่เชื่อ แต่น้องชายกดรหัสเปิดหน้าจอให้ดูเป็นขวัญตา พอทางสะดวกแบบนั้น ต่อให้บริสุทธิ์จะไม่อยากรุกล้ำความเป็นส่วนตัวใดๆ แต่ในเมื่อสวรรค์เปิดทาง มันก็...อดไม่ได้


“ดูสิเฮีย ดูๆ” แถมน้องชายคนเล็กจอมแสบก็ยังยื่นมาให้ดูอีก บริสุทธิ์ปิดตาข้างหนึ่ง เปิดตาแค่ข้างเดียวแล้วเหล่มอง แต่ยิ่งเหล่ก็ยิ่งไม่ชัด สุดท้ายเลยถอดใจ หันไปดูตรงๆเลยแล้วกัน!


ภาพพื้นหลังเจ้าปัญหาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเจียระไนหากดูเผินๆนั้นไม่น่าแปลกใจ แต่ยิ่งมองยิ่งจ้องก็ยิ่งรู้สึกว่ามันแปลก


...ภาพคนนั่งอยู่บนโต๊ะม้าหิน หันหลังให้กล้อง...


ดูก็รู้ว่าเป็นรูปแอบถ่าย


แต่...แอบถ่ายใคร แอบถ่ายทำไม...


   “เฮียว่านี่ใคร” กะรัตถามเข้าประเด็น


   บริสุทธิ์ดึงโทรศัพท์ไปเพ่งดูอีกที เวลานี้มารยาทดีๆก็ลืมไปแล้ว เพราะสิ่งที่ปรากฏบนจอนั้นน่าสงสัยยิ่งกว่า


เจียระไนไม่ใช่คนอารมณ์สุนทรีย์ขนาดที่จะถ่ายรูปสื่อความหมาย เคยใช้กระทั่งพื้นหลังเป็นตารางสอบด้วยเหตุผลว่ากลัวไปสอบผิดวันด้วยซ้ำ แต่แล้ววันนี้...กลับใช้รูปแอบถ่ายใครสักคนจากข้างหลัง


   ...ใครคนนั้นเป็นใคร?...


   “หรือจะเป็นเพื่อนเฮียโจ๊ก?”


   “แกถ่ายรูปเพื่อนเอามาขึ้นจอมือถืองี้มั้ยล่ะ ไอ้ก๋วยจั๊บ” บริสุทธิ์อยากจะเขกกะโหลกน้องชายตัวเองนัก ขนาดทำอะไรในที่ลับและหวั่นว่าจะถูกพบได้ทุกเมื่อก็ยังไม่วายเสนอความเห็นที่ไม่น่าเป็นไปได้สักนิด


   กะรัตพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย “ก็จริง แล้วคนอย่างเฮียโจ๊กก็ไม่น่ามีเพื่อนเยอะให้ถ่ายรูปด้วยหรอก...แล้วถ้ารูปนี้ไม่ใช่เพื่อนเฮียโจ๊ก...แล้วเฮียโจ๊กจะถ่ายไว้ทำไม”


   พอคำถามหลุดออกมาจากปาก ก็คล้ายจะได้คำตอบขึ้นมาในใจทันที


   บริสุทธิ์และกะรัตเงยหน้าสบตากันด้วยดวงตาเหลือกโต แล้วร้องออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย


   “หรือว่าเป็นคนที่ชอบ!!”


   สองพี่น้องถึงกับชะงักกึกกับสิ่งที่คาดคะเนตรงกัน แล้ววินาทีต่อมากะรัตก็ถึงกับน้ำตาคลอ จับชายเสื้อพี่ชายคนโตราวกับพบที่พึ่ง


   “เฮียยยย...ในที่สุดสวรรค์ก็ไม่ทอดทิ้งมนุษย์ตาดำๆ ส่งเทพเซียนมากำราบเฮียโจ๊กแล้ว”


บริสุทธิ์โอบไหล่น้องชายด้วยความซาบซึ้ง


   “เหล่ากงเหล่าม่าคงเห็นแล้วว่าปล่อยไอ้โจ๊กไว้คนเดียวแบบนี้เราจะตายกันหมด ถึงได้ส่งบนสุดของห่วงโซ่อาหารลงมาซะที ดีจริงๆ...บรรพบุรุษก็ไม่ทิ้งเรา ในที่สุดก็จะมีน้องสะใภ้...” พอพูดคำว่าสะใภ้ขึ้นมา กะรัตก็เหมือนจะนึกอะไรออก


   “เฮ้ย...เฮีย เอาหน้าจอมาดูอีกรอบซิ”


   กะรัตดึงมือถือมาเปิดหน้าจอขึ้นมาใหม่ จ้องอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถาม


   “เฮียว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย”


   บริสุทธิ์กะพริบตาปริบๆ กับคำถาม ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปดูหน้าจออีกรอบ


   ภาพหน้าจอเป็นภาพถ่ายจากที่ไกลๆ มองเห็นแค่ข้างหลังคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหิน


   ไม่เห็นหน้า ไม่เห็นว่าสวมกระโปรงหรือกางเกง เห็นแค่เส้นผมที่ปรกต้นคอ กับท่อนบนที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว


   ...แต่...ทรงผมแบบนี้...ลาดไหล่แบบนี้...มันน่าจะเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ?!...


   น้องชายคนเล็กถึงกับตาเหลือกโต อ้าปากหวอ


   “ผ...ผู้ชายนี่หว่าเฮียจ่าง!”


   “ชู่ว! เบาๆสิวะ!”


   กะรัตรีบตะครุบมือปิดปากตัวเอง แต่ตาโตๆนั่นทำอย่างไรก็หรี่ให้เล็กเท่าเดิมไม่ได้


   สวรรค์ไม่ทิ้งมนุษย์ตาดำๆ บรรพบุรุษไม่ทิ้งลูกหลาน ส่งผู้ชายหนึ่งคนมาปราบเจียระไน!


   “ถ้าไอ้โจ๊กชอบ เราก็ต้องชอบ เข้าใจมั้ยไอ้จั๊บ”


   “เข้าใจๆ แต่แบบ...ตกใจ...” ประโยคหลัง กะรัตพูดเสียงแผ่วอย่างคาดไม่ถึง บริสุทธิ์พยักหน้าหงึกหงัก


   “อืม...ไอ้โจ๊กมีแต่แฟนผู้หญิงมาตลอดด้วย...”


   “จริงเฮีย แล้วคบไม่ยืดสักราย ไม่รู้ทำไม”


   “บางทีเป็นผู้ชายอาจจะดีก็ได้ ถ้าคนนี้ไปรอด เราจะได้มีที่พึ่งนอกจากอาม่า”


   กะรัตพยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่มีค้าน เขาไม่มีปัญหากับเรื่องเพศ ขอแค่มีประสิทธิภาพในการกำราบเจียระไนเป็นใช้ได้ ว่าแต่...คนที่จะมากำราบเจียระไนได้ จะต้องเป็นคนแบบไหนล่ะ


   “เฮียว่า...เขาเป็นคนยังไง โหดมั้ย หน้าอาจจะดุมาก แล้วก็...เฮี้ยบ?...ต้องคนแบบไหนถึงจะเอาเฮียโจ๊กอยู่อ่ะ”


   มาถึงตรงนี้ บริสุทธิ์ก็ไร้จินตนาการขึ้นมาเช่นกัน


   นั่นสิ ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ ที่จะปราบเจียระไนอยู่หมัดต้องเป็นคนแบบไหน คนที่อยู่เหนือเจียระไนขึ้นไปจะต้องมีบารมีเพียงใด คนที่จะกำเจียระไนเอาไว้ในมือจะต้องโหดเหี้ยมแค่ไหน


   “ของยังงี้ต้องไปดูให้เห็นกับตา!”


   ...................   


    ถึงจะไม่ใช่หลานที่ใกล้ชิดอาม่าเท่าเจียระไนหรือเจตน์ แต่ทั้งบริสุทธิ์และกะรัตก็ล้วนยึดคำสอนของหญิงชราเป็นสำคัญ


   พี่น้องต้องรักกัน


   พี่น้องต้องดูแลกัน


   พี่น้องต้องช่วยเหลือกัน


   วันนี้ ทั้งพี่และน้องของเจียระไนก็เลยบุกคณะรัฐศาสตร์เพื่อมาดูหน้าเจ้าของมือที่กุมลูกไก่ เอ๊ย! เจ้าของมือที่กุมหัวใจของเจียระไน


   คณะรัฐศาสตร์เป็นคณะเล็กๆ แม้จะมีสี่ภาควิชาและสี่ชั้นปี แต่นิสิตปริมาณน้อยๆ ก็ล้วนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ดังนั้นเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาด้อมๆมองๆในคณะ อีกทั้งยังเป็นคน ‘หน้าตาคล้ายๆ’ ใครสักคน การมาเงียบๆของบริสุทธิ์และกะรัตก็เลยไม่เงียบ...และมันดังไปเข้าหูเจียระไน


   หนุ่มปกครองปีสาม ยืนกอดอกมองพี่น้องของตนเองที่กำลังชะเง้อมองซ้ายทีขวาที จนกระทั่งกะรัตหันมาเห็นเขายืนจังก้า ถึงได้รีบใช้ศอกกระทุ้งเอวของพี่ชายคนโต


   แน่นอนว่าเวลานี้หนีไม่ทันแล้ว สองพี่น้องผู้ตั้งใจว่าจะแอบมาด้อมๆมองๆ ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ ก็เลยต้องกระมิดกระเมี้ยนเดินเข้าไปหาเจียระไนที่ยืนกอดอกจิกตา หน้าตาเอาเรื่อง


   “มาทำไมกัน” หนุ่มรัฐศาสตร์ ปีสาม ภาควิชาการปกครองถามเสียงเรียบ ในโถงตึกเรียนที่ทั้งเงียบและไร้ผู้คน ยิ่งทำให้เสียงของเขาเย็นแทบจะตัดขั้วหัวใจทั้งพี่ทั้งน้อง 


   “อ...เอ่อ...ผม...ผม...มา...มาดูที่ทาง...เลย...เลยชวนเฮียจ่างมาด้วย...” น้องชายคนเล็กให้เหตุผล แต่เจียระไนจิกตาหนักกว่าเดิม สองพี่น้องพากันกลืนน้ำลาย รู้แน่แล้วว่าโกหกยังไงก็ไม่รอด


   “เออๆ ยอมแล้วก็ได้...คือ...เฮียกับไอ้จั๊บ...อยากมาเห็นคนที่แกชอบ...” พี่คนโตรับสารภาพ


   เจียระไนชะงักไปเล็กน้อย มองซ้ายมองขวา ถึงจะไม่มีใคร แต่โถงตึกเรียนก็เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีใครเดินผ่านไปผ่านมาหรือไม่


   “ไปคุยกันข้างนอก” เจ้าของพื้นที่ออกปาก ก่อนจะหมุนตัวพาเดินนำออกไปนอกตึก


   ลานโต๊ะม้าหินหน้าตึกเงียบสงบและปราศจากผู้คนไม่แพ้ในโถง แต่อย่างน้อยมันก็กว้างกว่า และถ้าไม่ตะโกน คนที่เดินผ่านไปมา ก็คงไม่มีใครได้ยินเรื่องที่พวกเขากำลังคุยกัน


   บริสุทธิ์และกะรัตนั่งลงบนเก้าอี้ม้าหิน ในขณะที่เจียระไนยังยืนกอดอกตีสีหน้าเคร่งตั้งคำถาม


   “รู้เรื่องนั้นได้ไง”


   “เฮีย...เฮียขอโทษ...เฮียเห็นในโทรศัพท์...เอ่อ...มีรูปแอบถ่ายคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะม้าหินแถวนี้ใช่มั้ย เฮียจำลานนี้ได้...” แม้จะเป็นน้องชายคนเล็กที่นำเรื่องนี้มาเสนอ แต่บริสุทธิ์ในฐานะพี่ชายคนโตจะหลบอยู่หลังน้องไม่ได้ เขาจึงเป็นฝ่ายออกตัวยอมรับผิด


พอคนพี่ยอมรับผิด คราวนี้คนน้องก็ทนไม่ได้


“ผมเป็นคนเอาให้เฮียจ่างดูเอง”


“ไม่ๆ เฮียผิดเองที่ไม่ห้าม” บริสุทธิ์รีบแย้ง


“แต่ถึงเฮียห้าม ผมก็ยังดูอยู่ดี เรื่องคราวนี้ผมผิดนะ เฮียโจ๊ก ผมผิดคนเดียว ผมขอโทษ”


สองพี่น้องแซ่ตั้งแย่งกันรับผิด จนเจียระไนต้องโบกมือ


   “เออๆ ไม่ต้องพูดแล้ว เอาเป็นว่าตามนั้นแหละ รู้แล้วก็กลับไปกันได้แล้ว”


   คนอย่างเจียระไน บทจะปิดก็เก็บเงียบ บทจะเฉลยก็ยอมรับตรงไปตรงมา แถมตบท้ายด้วยการไล่กลับบ้านด้วย


“ไม่ได้สิ! เฮียมาที่นี่เพราะอยากมาเห็นหน้าคนที่แกชอบนะ!” พี่ชายคนโตร้อง


   “จริง! ผมก็อยากเห็นหน้าพี่เขย” น้องคนเล็กมีหรือจะปล่อยให้พี่คนโตออกเสียงคนเดียว ต้องรีบสนับสนุนด้วย


   “พี่เขย?” เจียระไนตวัดสายตาไปมองน้องชาย กะรัตรู้สึกว่าตนเองจะพูดมากเกินไปแล้ว แต่ไหนๆก็ไหนๆ พี่น้องกัน เปิดอกคุยกันได้ทุกเรื่องให้สมกับที่อาม่าสั่งสอนว่าต้องรักกันดูแลกันยังไงล่ะ!


   “ก็...ในมือถือเฮียโจ๊ก...เป็นผู้ชายใช่มั้ยล่ะ”


เจียระไนสูดลมหายใจเข้าลึกคล้ายจะระงับความหงุดหงิดที่พี่น้องจุ้นจ้านวุ่นวายเรื่องของเขา


   “ผมอยากเจอจริงๆนะเฮียโจ๊ก ผมกับเฮียจ่างอยากรู้ว่าคนที่เฮียชอบเป็นใคร หน้าตาเป็นไง พวกเราแค่อยากรู้จัก”


   ทั้งสีหน้าจริงจัง ทั้งการบุกมาถึงที่นี่ ก็บอกให้รู้ว่าทั้งบริสุทธิ์และกะรัตอยากรู้จริง อยากเห็นหน้าจริง ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่เป็นที่เปิดเผย หนำซ้ำเจียระไนก็ยังไม่เคยบอกเจ้าตัวด้วยซ้ำว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่...ถ้าจะให้บอกพี่น้องของตนเอง เขาก็คิดว่า...คงไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก


   “ชื่อโซ่” ลูกคนกลางยอมบอก


   “อยู่คณะนี้ใช่มั้ย” บริสุทธิ์ถาม


   “อือ เป็นเพื่อนในคณะ”


   “เรียนภาคเดียวกับเฮียมั้ย?” กะรัตถามบ้าง


   “เปล่า อยู่ไออาร์”


   “ฮู้วววว เราจะมีเขยเป็นทูต!” เจ้าน้องชายคนเล็กทำตาโตลุกวาว แต่พี่ชายคนกลางส่ายหน้าไปมาอย่างระอาใจ


   “พอๆ ไอ้จั๊บ ไม่ต้องเพ้อมาก”


   “แล้วเป็นแฟนกันรึยัง” บริสุทธิ์ถามอีก คราวนี้ เจียระไนนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า


   “มันไม่รู้” คำตอบทำเอาพี่ชายคนโตชะงัก


สำหรับบริสุทธิ์แล้ว เจียระไนคือน้องชายที่เขาไม่เคยนึกเป็นห่วงเลย เจ้าตัวดูไม่หือไม่อือ หรือถ้าเรื่องไหนจะหืออือขึ้นมาก็จะบอกกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเสมอ ดังนั้น เรื่องไหนที่เจียระไนต้องการ แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่เก็บเงียบ


   ทว่า...เรื่องนี้...


   ทั้งๆที่เป็นเรื่องของความรู้สึก เป็นเรื่องของหัวใจ แต่...เจียระไนกลับไม่บอกใคร


   ไม่บอกทั้งคนรอบข้าง ไม่บอกทั้งคนที่เจียระไนรู้สึกด้วย


   “ทำไมเฮียโจ๊กไม่บอกเขาอ่ะ!” กระทั่งกะรัตเองก็แปลกใจ


   “ยังไม่ถึงเวลา”


   “แล้วเมื่อไหร่จะถึงเวลาอ่ะเฮีย ไม่ใช่ว่ากว่าจะบอก เขามีแฟนไปแล้วเหรอ”


   “ทำไมลุ้นจังวะ ไอ้จั๊บ” เจียระไนหันมาถามน้องชาย กะรัตชะงักไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะยิ้มเผล่ ตอบเสียงอ่อยๆ


   “ก็...ก็อยากให้เฮียโจ๊กมีแฟน...” ...แท้จริงคืออยากให้มีคนมากำราบ ‘เฮียโจ๊ก’ สักที...


   เจียระไนส่ายหน้าไปมา คล้ายจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของกะรัต


   “รู้กันแล้วก็กลับไปได้แล้ว เฮียไม่ทำงานรึไง แล้วไอ้จั๊บไม่มีเรียนเหรอ พากันโดดแบบนี้ ผมฟ้องอาม่านะ”


   “แกมีเรียนต่อเหรอ”


เจียระไนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู แล้วส่ายศีรษะ


   “คงไม่เข้าแล้ว ขี้เกียจ อาจจะกลับคอนโดเลย”


บริสุทธิ์มองน้องชายคนกลาง รู้สึกอยากทำอะไรสักอย่างให้เจียระไนรับรู้ว่าถึงแม้พวกเขาจะมีเส้นทางคนละเส้น มีสังคมที่แตกต่าง มีวิถีชีวิตเป็นของตนเอง แต่...เวลาที่ไม่มีใคร เวลาที่มีเรื่องเก็บไว้ในใจ พี่น้องพร้อมจะเคียงข้างกันเสมอ


   “งั้นไปหาอะไรกินกันสามคนมั้ย เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันนานแล้ว” พี่ชายคนโตออกปากชวน ทำเอาเจียระไนขมวดคิ้วอย่างงุนงง


   “อะไรน่ะ อยู่ดีๆ...” เจียระไนพูดไม่ทันจบ ไหล่ของเขาก็ถูกพี่ชายตบเข้าไปที บริสุทธิ์ยิ้มกว้าง


   “ถือว่า...เป็นการขอบคุณที่ให้พวกเราได้รู้เรื่องของแกไง ในหมู่พวกเราก็มีแกนี่ล่ะที่ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง เฮียคนนี้ก็อยากรู้นะเว้ย”


   “ผมก็อยากรู้!” กะรัตรีบชูมือขอมีส่วนร่วม


   เจียระไนไม่รู้ว่าความรู้สึกในใจตนเองตอนนี้คืออะไร


เขาเป็นลูกคนกลาง แม้จะมีพี่น้องชายล้วน แต่ก็ไม่ได้เล่นด้วยกันมากนัก ถึงจะรู้ว่าปรึกษากันได้ทุกเรื่อง แต่ด้วยเพราะตอนที่ยังเล็ก พ่อแม่ไม่มีเวลาดูแล เขาจึงถูกส่งไปให้อาม่าเลี้ยง เจียระไนใช้ชีวิตวัยเด็กกับญาติผู้ใหญ่สูงอายุ ไม่ได้เล่นกับพี่ชาย พอมีน้องชาย เขาก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรกับน้อง เล่นด้วยกันน้อยนับครั้งได้ พอยิ่งโตยิ่งแล้วใหญ่ ต่างคนต่างมีสังคมของตนเอง แถมแซ่ตั้งยังมีกฎสำคัญคือห้ามทำให้พี่น้องเดือดร้อน ดังนั้น ยามเจอหน้ากันย่อมไม่ใช่เวลาปรับทุกข์


   แต่วันนี้...กลับรู้สึกว่าโลกของเขา กำลังเปิดประตูให้พี่น้องได้เข้ามาสอดส่องรู้เห็น แล้วพอเปิดประตู ก็เหมือนมีลมพัดผ่าน


หัวใจเบาลงส่วนหนึ่ง จนเผลอถอนหายใจยาว


   “อืม...ไปก็ไป”


   แล้วสามพี่น้องตั้งกาญจนพาณิชย์ก็ได้นั่งกินข้าวพร้อมหน้ากันในวันนั้นเอง



............................

หัวข้อ: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Dezair ที่ 31-07-2020 23:04:57


เรื่องราวของ ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ ที่ชื่อ ‘โซ่’ ยังคงไม่ค่อยออกจากปากของเจียระไนให้พี่น้องรับรู้มากนัก เรียกได้ว่าไม่ถามก็ไม่พูด แต่พอถามทีไรก็ได้ยินแต่คำตอบเดิม


‘ยัง’


กี่ครั้งๆก็ ‘ยัง’ จนบริสุทธิ์ชักจะหวั่นใจ จนหลุดปากถามออกไป


‘ยังที่ว่านี่ยังเป็นคนเดิมมั้ย’


คำตอบที่ได้คือการตวัดสายตามาจิก บริสุทธิ์ก็เลยแน่ใจว่าบนสุดของห่วงโซ่อาหารยังคงเป็น ‘โซ่’ คนเดิม และก็ ‘ยัง’ ไม่รู้ความรู้สึกของเจียระไนเหมือนเดิม


ดูๆแล้วน่าถอดใจ แต่ความรู้สึกของเจียระไนคราวนี้ไม่เหมือนครั้งไหนๆที่คบๆเลิกๆ ถึงแม้ ‘โซ่’ จะยังไม่รู้ แต่เจียระไนก็ยังยืนยันว่ายังเป็นคนนี้ บริสุทธิ์ก็ได้แต่จุดธูปภาวนาต่อบรรพบุรุษและเทพเจ้า ให้ความรักของน้องชายคนกลางสมหวังสักที


   ผ่านพ้นไปเป็นปี ข่าวดีก็มาเยือนในวันหนึ่ง


   ‘เฮีย...เที่ยงนี้ว่างรึเปล่า จะพาไอ้โซ่ไปรู้จัก’


   ‘ว่าง!! ว่างมากกกก! โทร.ตามก๋วยจั๊บก่อน’


   หลังจากนัดแนะสถานที่สำหรับมื้อกลางวันเรียบร้อย สองพี่น้องก็วางสายจากกัน


เจียระไนไม่รู้ว่าพี่น้องของเขาจะรู้สึกเช่นไรกับความสัมพันธ์ของเขาและสิตางศุ์ แม้น้ำเสียงทางโทรศัพท์จะกระตือรือร้นอยากพบคนรักของเขา แต่...ก็ยังรู้สึกกังวลไปหมดทั้งใจ


เขาไม่รู้ว่าพอพบหน้ากันแล้ว บริสุทธิ์และกะรัตจะมีท่าทีอย่างไร จริงอยู่ว่าเรื่องความรักเป็นเรื่องส่วนบุคคล และเขาก็ไม่ใช่คนสนใจว่าใครจะยอมรับในความสัมพันธ์ของเขาและสิตางศุ์หรือไม่ แต่เพราะทั้งบริสุทธิ์และกะรัตเป็นพี่น้องของเขา ต่อให้เจียระไนจะไม่สนใจโลก แต่เขาก็อยากให้ทั้งพี่และน้องยอมรับในความรัก ความสัมพันธ์ของเขาและสิตางศุ์


ท่าทางเคร่งเครียดเอาแต่นั่งคิดเงียบๆ ทำเอาคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จต้องเดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง สิตางศุ์เป็นคนซื่อๆ แต่สีหน้าของเจียระไนฉายชัดถึงความรู้สึกนึกคิด ต่อให้ซื่อแค่ไหน เขาก็อ่านอารมณ์คนรักออก


   “พี่น้องของโจ๊กไม่ว่างมาเจอเหรอ”


   “เปล่า”


   “แล้วเป็นอะไร ทำไมขมวดคิ้ว” ไม่พูดอย่างเดียว ยังเอานิ้วจิ้มลงบนหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน หนุ่มตี๋ตาเรียวถอนหายใจ แล้วดึงมือคนรักลงนั่งบนโซฟาข้างกัน


   “มึงกังวลมั้ยโซ่” เจียระไนถาม


แม้บริสุทธิ์และกะรัตจะรู้เรื่องสิตางศุ์มาตั้งแต่ตอนที่เขายังไม่คบหากับอีกฝ่ายอย่างคนรัก และทั้งสองคนไม่ได้มีท่าทีกีดกันอะไร แต่...เขาก็ไม่รู้ว่าพอถึงเวลาพบหน้าจริงๆ จะเป็นอย่างไร


   ...เขากลัว เขากังวล…


   ถ้าบริสุทธิ์และกะรัตต่อต้าน ถ้าบริสุทธิ์และกะรัตขัดขวาง ถ้าสิตางศุ์เสียใจเพราะญาติพี่น้องของเขา เขาจะทำอย่างไร


   “กังวลสิ” น้ำเสียงของสิตางศุ์ยังนุ่มนวล และรอยยิ้มของเจ้าตัวก็ยังสดใส


   “แต่พวกเขาเป็นพี่น้องของโจ๊กไม่ใช่เหรอ โจ๊กเป็นคนดี ยอมรับและเข้าใจคนอื่น พวกเขาก็คงไม่ต่างกัน หรือ...ถ้าเรื่องของเรามันยากเกินกว่าที่จะยอมรับได้ในวันนี้พรุ่งนี้ ก็ไม่เป็นไร เราไม่ได้คบกันแค่วันนี้พรุ่งนี้นี่นา ถ้าพวกเรายังยืนยันคำเดิม วันหนึ่งพวกเขาจะเข้าใจมันเอง”


   สิตางศุ์มองคนรักแล้วยิ้มให้ ก่อนจะจับมือมาบีบเบาๆ


   “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กูจะทำให้ดีที่สุด เชื่อกูนะโจ๊ก”


   เจียระไนถอนหายใจยาวก่อนจะพยักหน้ารับ แม้จะเชื่อใจในความรู้สึกของพวกเขา แต่ความกังวลไม่ใช่เรื่องที่จะหายไปได้ในเวลาสั้นๆ สิตางศุ์เองก็รู้ดี จึงดึงอีกฝ่ายลุกขึ้นยืน


   “มึงมาช่วยกูเลือกเสื้อหน่อยสิ ใส่สีไหนไปกินข้าวเที่ยงวันนี้ดี”


   หนุ่มตี๋เลิกคิ้ว ปกติสิตางศุ์ไม่ใช่คนใส่ใจกับเรื่องเสื้อผ้ามากนัก เน้นสุภาพและใส่สบายเป็นหลัก แต่วันนี้กลับเอาเรื่องเสื้อผ้ามาชวนคุย ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้เขากังวลเรื่องอื่นอีก


   “สีขาวก็เรียบๆดี แต่ก็กลัวจะเรียบเกินไป สีฟ้าดีมั้ย” เจ้าตัวถามแล้วหยิบเสื้อเชิ้ตออกมาสองตัว ในตู้เสื้อผ้าของเจียระไนมีเสื้อผ้าของสิตางศุ์อยู่ด้วย อันเนื่องมาจากข้อตกลง ‘ค้างคืนห้องของกันและกัน 1วันต่อ 1สัปดาห์’ นั่นเอง


   “เปิดตารางสีมงคลมั้ย” หนุ่มตี๋ย้อน ทำเอาคนขอความเห็นถึงกับหัวเราะร่วน ก่อนจะพยักหน้าสนับสนุน


   “เปิดๆ เสื้อสีไหน ใส่แล้วผู้ใหญ่อุปถัมภ์”


   “มึงเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ โซ่” เจียระไนถาม ใครจะเชื่อว่าท็อปภาคฯ หัวกะทิของรุ่น เปเปอร์แต่ละชิ้นอุดมด้วยหลักการและเหตุผล จะเห็นด้วยกับตารางสีเสื้อมงคล


   “วินาทีนี้แล้ว อะไรช่วยเราได้ก็ต้องใช้แล้วนะ” สิตางศุ์พูดไปหัวเราะไป



พอเห็นรอยยิ้มของคนรัก เจียระไนเลยยิ้มไปด้วย เขาเปิดตารางเสื้อสีมงคลขึ้นมาดู แล้วหลังจากนั้น สองหนุ่มก็จุ่มหัวลงช่วยกันออกความเห็นว่าควรจะใส่เสื้อสีไหนจึงจะดีที่สุด มงคลที่สุด


ตอนก่อนจะออกจากคอนโดของเจียระไน เจ้าของรอยยิ้มสดใสยังหันมายิ้มให้ แล้วดึงเสื้อที่สวมอยู่ให้คนรักดู


“วันนี้ต้องเป็นวันดีล่ะ อย่างน้อยเสื้อก็สีมงคลนะ”


เจียระไนหัวเราะอย่างเอ็นดู ถึงจะยังกังวลกับเรื่องที่จะเกิดขึ้น แต่เขาก็บอกได้ว่าคนที่ทำให้มันเจือจางลงทีละน้อยคือเจ้าของรอยยิ้มนี้...


...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขารู้ว่าสิตางศุ์จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ส่วนตัวเขาเอง...ก็จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเหมือนกัน...


   ................   


   สามพี่น้องตั้งกาญจนพาณิชย์ได้พบกันพร้อมหน้าพร้อมตาที่ร้านสุกี้เจ้าดัง พี่น้องพบหน้าไม่ใช่เรื่องตื่นเต้น แต่เรื่องตื่นเต้นคือมี ‘แขก’ หนึ่งคนจะมาร่วมมื้อกลางวันด้วย


เจียระไนเรียกแขกคนนั้นว่า ‘โซ่’


แค่ชื่อก็เป็นมงคลยิ่งแล้ว สำหรับสองพี่น้องบริสุทธิ์และกะรัตที่คาดหวังมาทั้งชีวิตว่าบรรพบุรุษและสรวงสวรรค์จะส่ง ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ ลงมาที่ตั้งกาญจนพาณิชย์


ตอนที่พบกันที่หน้าร้านอาหาร สายตาของพวกเขาจึงพุ่งตรงไปที่ชายหนุ่มผิวขาวจัดที่ยืนยิ้มสดใสอยู่ข้างเจียระไนทันที


   “อะโห...เฮียโจ๊กได้ของดีว่ะ เฮียจ่าง” เห็นหน้าวินาทีแรก กะรัตก็ถึงกับรีบกระซิบบอกพี่ชายคนโตทันที


   แม้จะยังไม่ได้คุยกันสักคำ แต่บริสุทธิ์มองแค่ปราดเดียวก็ดูออกแล้วว่า เจียระไนได้ของดีไปจริงๆ


   “สวัสดีครับ ผมชื่อโซ่” นอกจากจะหน้าตาสดใส ยิ้มสวย ดวงตาเป็นประกายวาววับแล้ว เสียงยังเพราะ ท่าทางก็แสนสุภาพอีกต่างหาก


   แต่จะให้คะแนนเต็มสิบ ทั้งๆที่ยังไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใดๆ มันก็ดูจะเข้าข้างกันมากไปหน่อย บริสุทธิ์กระแอมไอ ทำตัวขึงขังเป็นพี่ชายคนโต


   “เฮียชื่อจ่าง ส่วนนี่ก๋วยจั๊บ เราเข้าไปคุยกันในร้านเถอะ เที่ยงแล้ว ช้ากว่านี้คนจะเยอะ”


สามพี่น้องตั้งกาญจนพาณิชย์พร้อมด้วย ‘ว่าที่เขย’ ของแซ่ตั้งพากันเดินเข้าร้าน แล้วมื้อเที่ยงนั้น ก็เกิดปรากฏการณ์ ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ ให้บริสุทธิ์และกะรัตได้ดูเป็นขวัญตา!


……………….


   เริ่มต้นด้วยการสั่งอาหาร เมนูมี 2 เล่มสำหรับสี่คน บริสุทธิ์และกะรัตดูด้วยกัน ส่วนเจียระไนและ ‘โซ่’ ไม่ได้ดูด้วยกัน เพราะเจียระไนดูคนเดียว


   “มึงจะกินอะไรโซ่” คนกุมเมนูเพียงลำพังออกปาก เจ้าของชื่อเงยหน้าจากโทรศัพท์


   ”โจ๊กสั่งเลย ขอคุยกับแม่แป็บนึง” จากนั้นก็ก้มลงกดโทรศัพท์ยิกๆ เจียระไนเปิดเมนูไปมา พอบริกรเข้ามารับออเดอร์ เขาก็สั่งอาหารชุดใหญ่ชนิดไม่ต้องถามใครสักคน บริสุทธิ์กับกะรัตนั้นชินแล้ว เพราะเป็นพี่น้องกันมา รู้ดีว่าสิ่งที่เจียระไนสั่ง พวกเขาล้วนกินได้และชอบกินเหมือนๆกัน แต่... ‘ว่าที่เขยแซ่ตั้ง’ ล่ะ? กินได้ทุกอย่างเหมือนกันรึเปล่า…


   “โจ๊ก...แล้วโซ่ไม่กินอะไรเหรอ” บริสุทธิ์ถาม เจียระไนปรายสายตาไปมองคนที่นั่งกดโทรศัพท์อยู่ข้างๆเพียงวูบเดียว ก่อนจะหันมามองพี่ชาย


   “ก็กินด้วยกันนี่ไง”


   “หมายถึง...พี่โซ่ไม่มีอะไรที่อยากกินอีกเหรอ” กะรัตเสริม พอมีชื่อของตนเองผุดขึ้นมาในบทสนทนา ‘พี่โซ่’ ก็เลยเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์


   “ไม่มี” คนตอบยังคงเป็นเจียระไน ส่วน ‘พี่โซ่’ ผู้ที่บริสุทธิ์และกะรัตหมายตาว่าจะเป็น ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ กลับเพียงแค่ยิ้มหวานอย่างเดียว


   ...เหล่ากงเหล่าม่าส่งคนยิ้มอย่างเดียวมาให้จริงดิ?!...


…ไหนล่ะความเข้มงวดเด็ดขาด ไหนล่ะอำนาจบารมีในการกำราบเจียระไน ทำได้แค่ยิ้มจะไปพอยาไส้ได้ยังไง?!!...


ทั้งบริสุทธิ์และกะรัตชักจะรู้สึกผิดหวัง เพราะ ‘โซ่’ ช่างแสนสุภาพนุ่มนวล ดูแล้วไม่น่าจะเป็น ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ ได้เลย


...แต่เอาเถอะ! ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองดูสักตั้ง!...



   ระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ บริสุทธิ์ก็เริ่มกระบวนการซักถาม ‘ว่าที่น้องเขย’ ด้วยบทสนทนาทั่วๆไป จะได้ประเมินได้ว่ายังควรหวังให้อีกฝ่ายเป็น ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ หรือไม่


   “โซ่เป็นคนที่ไหนเหรอ”


   “กระบี่” คำถามถาม ‘โซ่’ แต่คนตอบคือเจียระไน ส่วน ‘โซ่’ ที่ถูกถาม ยิ้มแล้วพยักหน้าสนับสนุนคำตอบ


   “เห็นเฮียโจ๊กบอกว่าพี่โซ่เรียนไออาร์เหรอครับ” กะรัตถามบ้าง จงใจมอง ‘พี่โซ่’ เพื่อบอกให้รู้ว่าขอฟังคำตอบจากเจ้าตัว


   “เออ” แต่คนตอบก็ยังคงเป็นเจียระไน


   “พี่โซ่อยากเป็นทูตเหรอ เอ๊ะ! ไออาร์เรียนเพื่อเป็นทูตใช่มั้ยนะ” แต่กะรัตยังไม่ยอมแพ้ มุ่งถามให้ ‘พี่โซ่’ เป็นคนตอบให้ได้


   “เซิร์จกูเกิ้ลสิ จะได้รู้ว่าไออาร์เรียนอะไร” แต่เจียระไนก็ยังตอบแทนได้ คราวนี้กะรัตชักหงิกแล้ว ตวัดสายตามามองพี่ชายคนกลางอย่างขุ่นๆ


   “เฮีย ผมถามพี่โซ่ ให้พี่โซ่ตอบสิ!”


   “ก็ถามอะไรให้มันเข้าท่าหน่อยสิวะ!” เจียระไนเฉ่งกลับ แต่...ก็เฉ่งได้แค่นั้น เพราะ ‘โซ่’ แตะมือลงกับแขนของเจียระไนเบาๆ


   บริสุทธิ์เห็น กะรัตเห็น การสัมผัสนั้นนุ่มนวลและดูแล้วน่าจะเบาเยี่ยงขนนกหล่น แต่...เจียระไนหยุดและหุบปาก


   “โจ๊ก...” ตามมาด้วยการเรียกชื่อด้วยเสียงทุ้มนุ่มระรื่นหู


   ภาพตรงหน้าของบริสุทธิ์และกะรัตในเวลานี้ เหมือนไฟกำลังโหมอยู่ดีๆ แล้วก็มีผงประกายนางฟ้าจากที่ไหนไม่รู้โรยลงมาอย่างอ้อยอิ่ง ทำให้ไฟกองนั้นมอดดับ สลายไปในอากาศราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน!


   …อุว้าว!!! นี่มัน! นี่มันพลานุภาพของ ‘บนสุดแห่งห่วงโซ่อาหาร’ ชัดๆ!!...


   “ขอโทษนะ ก๋วยจั๊บ โจ๊กเขากังวลนิดหน่อย... เรื่องของพวกเรา สำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องที่จะทำความเข้าใจได้ง่ายๆเลย วันนี้ก่อนจะมาที่นี่ก็เลย...ทั้งเครียดแล้วก็กังวลกัน” คำพูดของสิตางศุ์ไม่ผิดไปจากความรู้สึกของเจียระไนเลย เพราะเขาให้ความสำคัญกับพี่น้องของเขาไม่แพ้สิตางศุ์ ในฐานะคนกลางระหว่างพี่น้องกับคนรัก คนไม่เคยกลางอย่างเจียระไนย่อมทั้งเครียดและเป็นกังวล


   กลัวพี่น้องไม่เอ็นดูสิตางศุ์ กลัวสิตางศุ์ไม่ชอบพี่น้องของเขา


   แต่...ก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันไว้ เพราะต่างก็เป็นคนสำคัญของเขา


   “ถ้ากับพวกเราที่เป็นพี่น้องยังเครียดและกังวล แล้วกับคนอื่นนอกจากคนในครอบครัวล่ะ จะทำยังไงกัน” บริสุทธิ์ตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมา สิตางศุ์หันไปมองพี่ชายคนโตของคนรัก สูดลมหายใจลึก แต่ก็ยังยิ้มจาง


   “ผมเข้าใจเรื่องการยอมรับหรือไม่ยอมรับในเรื่องนี้ เลยตั้งใจว่าจะไม่ให้ชีวิตการทำงานของโจ๊กถูกเพ่งเล็งไปที่ความสัมพันธ์ของเรามากกว่าความสามารถของเขา เรื่องของพวกเราจะเป็นไปอย่างเงียบๆ นอกจากครอบครัวแล้ว ก็จะไม่ให้เป็นประเด็นครับ”


   “แล้วตอนนี้ครอบครัวของโซ่รู้รึยัง”


   “ยังครับ ผมกับโจ๊กตั้งใจว่าจะบอกตอนเรียนจบ”


   “แล้วโซ่จะทำงานอะไร เรียนไออาร์ ก็คงอยากเป็นทูตจริงมั้ย?”


   “ครับ ผมอยากเป็นทูต แต่มันเป็นเรื่องของโอกาสและความเหมาะสมด้วย เวลานี้ ผมคิดว่าตัวผมอยากให้ความสำคัญกับคนรอบตัว ถ้ามีทางอื่นที่ผมสามารถใช้ความรู้ความถนัดของผมทำงานได้ และได้อยู่กับโจ๊กต่อไปแบบที่โจ๊กไม่ลำบาก ผมก็ไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องทำงานในตำแหน่งอะไร อาชีพอะไร”


   “แสดงว่าความเหมาะสมของโซ่คือได้ทำงานที่ชอบและได้อยู่กับโจ๊ก”


   “ครับ”


   “ไม่คิดว่าเงื่อนไขเยอะไปเหรอ”


   “ไม่นะครับ ผมคิดว่าผมทำได้”


   ทั้งๆที่ดูเป็นคนนุ่มนวลและหัวอ่อน แต่เจ้าตัวกลับแสดงความเชื่อมั่นได้อย่างเข้มแข็ง กะรัตเอนตัวหาพี่ชายแล้วกระซิบ


   “เต็มสิบไม่หักเลยสักจุดเดียวนะเฮีย”


บริสุทธิ์อยากจะบอกว่าเขาใส่คะแนนเต็มไปตั้งแต่ตอนที่เห็น ‘โซ่’ แตะแขนส่งกระแสบุญทำให้เจียระไนไฟมอดไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว พอมาเจอคำตอบแบบที่ยกเอาเรื่องของเจียระไนเป็นสำคัญแบบนี้ ก็ยิ่งไม่รู้จะหักคะแนนจากตรงไหนอีก


   พี่ชายคนโตขยับตัวผายไหล่แผ่บารมี  กระแอมไอเล็กน้อย แล้วทำตัวให้สมกับเป็นพี่ชายผู้จริงจัง


   “ในเมื่อทั้งสองคนตัดสินใจแล้ว เฮียก็เป็นกำลังใจให้ ถ้ามีปัญหาอะไร บอกเฮียได้เสมอ”


   สิตางศุ์ยิ้มกว้าง เป็นรอยยิ้มที่แสนสดใสชนิดที่ทำเอาบริสุทธิ์และกะรัตตาพร่า


“ขอบคุณครับ”


“จะเลิกคุยกันได้รึยัง หิวแล้ว” เสียงของเจียระไนดังขึ้น หลังจากนั่งเงียบปล่อยให้สิตางศุ์เป็นคนพูดอยู่ฝ่ายเดียว หน้าตาของเขาหงุดหงิดอย่างไรก็หงุดหงิดอย่างนั้น แต่ท่าทีไม่ได้เคร่งเครียดและเป็นกังวลอีกแล้ว ยิ่งสิตางศุ์หันไปยิ้มให้ ก็ยิ่งหุบปากเงียบ แล้วพอสิตางศุ์ตักอาหารในหม้อสุกี้ลงมาใส่ชามให้ คราวนี้คนหุบปากเงียบ ก็เอาลิ้นดุนข้างแก้มจนแก้มตุ่ย


บริสุทธิ์และกะรัตเข้าใจแจ่มแจ้งในวินาทีนั้นว่าบรรพบุรุษส่ง ‘บนสุดของห่วงโซ่อาหาร’ มาให้พวกเขาแล้วจริงๆ


เป็น ‘บนสุด’ ที่ไม่ต้องโค่นเจียระไนลง ไม่ต้องสยบเจียระไนราบคาบ แต่กุมเจียระไนเอาไว้ในกำมืออย่างอ่อนโยน ดูแลและเอาใจใส่เจียระไนอย่างอบอุ่นและมั่นคง



เพียงเท่านั้น...เจียระไน  ตั้งกาญจนพาณิชย์ก็ไปไหนไม่รอด ได้แต่เอาลิ้นดุนข้างแก้มเหมือนอย่างที่เห็นอยู่ตอนนี้


...เหล่ากง เหล่าม่า และสรวงสวรรค์ พวกท่านส่งลงมาถูกคนแล้วจริงๆ!!...




FIN

สวัสดีสิ้นเดือนค่ะ ฮ่าฮ่า


ทั้งตอนหลักและตอนพิเศษของวาระซ่อนเร้นส่วนใหญ่จะได้เห็นแต่ความผีบ้าของโจ๊ก ปกครอง ก็เลยอยากจะนำเสนอความเปราะบางของโจ๊กบ้างค่ะ (ใช่ค่ะ นี่คือพระเอกผู้เปราะบางที่สุดคนหนึ่งของบัวเลยค่ะ ฮ่าฮ่า)


โจ๊กเป็นคนอ่อนไหว แต่เพราะต้องเกรี้ยวกราดบังหน้าอยู่บ่อยๆ ก็เลยบดบังความอ่อนไหวของโจ๊กไปจนหมด ส่วนโซ่ จริงๆเป็นคนเข้มแข็ง แต่เพราะเป็นคนใจเย็นและสุภาพก็เลยดูเหมือนว่าเขาไม่สู้คน ทั้งๆที่จริงๆแล้ว โซ่เป็นคนแข็งคนนึงเลยค่ะ พี่น้องของโจ๊กพูดไม่ผิดเลยค่ะ ว่าโจ๊กได้ของดีไปจริงๆ ฮ่าฮ่า


ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนคิดถึงโจ๊กโซ่ นะคะ


เจอกันใหม่เดือนหน้า กับตอนพิเศษเรื่องไหนสักเรื่อง (ช่วงนี้ยังเคลียร์งานไม่เสร็จเลยค่ะ แหะๆ)

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: me12inzy ที่ 01-08-2020 00:26:26
บนสุดห่วงจริงๆค่ะ เพราะพี่เค้าคือโซ่ 55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: JUST_M ที่ 01-08-2020 07:10:14
โซ่คือที่สุดจริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ เด็กกิจกรรม (24/12/2019) หน้า 52
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 01-08-2020 13:15:31
จะมีใครดีเท่าโจ๊กอีกคงไม่มีเพราะเราเชื่อโซ่ผู้อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร 5555 /me ไขว้นิ้วประกอบ

ทำไมอ่านตอนโซ่คิด.. คิดว่าโจ๊กเป็นคนดีแล้วเราต้องขำและทำท่ามองบนทุกทีเลยนะ 5555

ขอบคุณบรรพบุรุษที่ส่งโซ่มาแค่สัมผัสเบาๆ ที่แขนก็กำหราบคนอย่างโจ๊กได้แล้ว ขอบคุณ   :katai2-1:

ปล. ขอบคุณที่พาโซ่กับโจ๊กมาให้อ่านคลายคิดถึงนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 01-08-2020 14:56:10
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-08-2020 15:35:23
แสบมาแต่เล็กแต่น้อย
อ่านแล้วยิ้มแก้มปริเลย
อย่างกับตั้งใจมีตอนนี้มาตั้งแต่ต้น บนสุดของห่วงโซ่อาหาร
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 01-08-2020 21:25:36
น้องก๋วยจั๊บน่าเอ็นดูแท้....
แตะแขนส่งกระแสบุญ...ชอบมาก 555   :m20:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: fammykiki ที่ 02-08-2020 18:19:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 02-08-2020 18:39:31
สุดของสุด ชอบมากกกกจ้า อันนี้สิของจริง อยู่บนสุด อ่านตอนนี้ยอ้มแต่แรก แล้วขำมากขึ้นเรื่อย 5555
ปล. คิดถึงคุณพ่อของขนมกับคู่ปรับของเค้า
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 02-08-2020 19:35:21
 :-[สนุกดีคับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: toonsora ที่ 03-08-2020 01:17:58
ฮืออออออ คิดถึงพี่บัวมากเลยค่าาาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Ploybudz ที่ 03-08-2020 01:39:24
โซ่น่ารักมาก  :-[
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-08-2020 10:26:45
คิดถึง~
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Khongsak ที่ 03-08-2020 18:07:29
 :katai2-1: ขอตอนพิเศษเรื่อยๆนะคะ พี่น้องของโจ๊ก น่ารักมากๆ   :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 04-08-2020 23:28:51
สนุกมาก อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 13-08-2020 19:48:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 13-08-2020 22:33:25
เอ็นดูสองพี่น้อง รอเจอคนมาปราบบนสุดของห่วงโซ่ 
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Ac118 ที่ 14-08-2020 15:50:19
โอ้ยย โจ๊กแสบแต่เล็กแต่น้อย พี่น้องถึงกับขอให้กรรมตามสนอง :laugh:
เหล่ากง เหล่าม่า ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ
พี่โซ่ บนสุดของบนสุดของห่วงโซ่อาหาร ที่แท้จริง! ลูกไก่ในกำมือจะบีบก็ตายไม่บีบก็ตาย 555555555555555555555555555
/หัวเราะประสานเสียงไปกับพี่จ่าง น้องจั๊บ!

 :pig4: ขอบคุณมากนะคะ ดีใจมากกกกก
ที่ได้เจอพี่โซ่กับนังโจ๊ก คิดถึงงงงง เจอกันกี่ทีก็ทำให้นั่งขำ จนหยุดยิ้มไม่ได้เลยย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: allmysecret ที่ 14-08-2020 19:02:14
โจ๊กซึนเก่งมาก ขี้โมโห แต่ก็ติณงต๊องปัญญาอ่อน แต่พี่โซ่ของน้องคือที่สุดจ้า สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 17-08-2020 14:12:12
 :L2: :L2: :L2:
รักโซ่
แอบอิจฉาโจ๊ก
อ่านทุกครั้งก็ยิ้มได้เพราะความน่ารักของโซ่
 :mew1:
 :mew1:
 :mew1:

หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: เก้าแต้ม ที่ 17-08-2020 19:36:37
ขอบคุณ คุณบัวมากค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: noveeo ที่ 26-08-2020 08:59:50
อ่านไปอ่านมา...กลายเป็น รักโซ่ เอ็นดูโจ๊ก

ขอบคุณคุณบัวที่เขียนเรื่องสนุกๆแบบนี้ให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Heroyj ที่ 04-09-2020 20:29:25
โจ๊กช่างเหมือนเรา ลูกคนกลางใช่จะเป็นคนประนีประนอมซะเมื่อไหร่ เรานี่ก็คล้ายๆโจ๊กพี่กับน้องอย่ามาหือกับกุถ้าอยากอยู่ดี555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 04-09-2020 20:47:04
อ่านไปยิ้มไปกับโซ่โจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 12-11-2020 19:53:41
น่ารักทุกคนเลยครับ เรื่องนี้ ชอบมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 16-11-2020 15:07:48
โซ่คือที่สุดจริง ๆ ........... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: TaddyC ที่ 16-11-2020 21:58:01
จากตอนแรก ทำไมเราอ่านแล้วรู้สึกอึดอัด    :mew5:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Mamamapp ที่ 06-01-2021 23:08:14
 :L1: o13
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 02-04-2021 18:03:46
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนที่ 15 (22/06/2017) หน้า 25-26
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 07-04-2021 04:38:45

ใจคนฟังอยากจะแนะนำให้ส่งแบบช้าพิเศษก็ได้ ไม่รีบ
 
55555
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 29-01-2023 00:42:30
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-02-2023 23:36:10
กลัมาตามอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: BM_CBC ที่ 19-04-2023 03:14:56
อ่านไปยิ้มไปอีกเรื่อง :)
ของคุณค่าาา
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 23-07-2023 22:18:31
คิดถึงโจ๊กกับโซ่มาก    :mew1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 28-07-2023 10:06:24
คิดถึงโซ่กับโจ๊ก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: D.ark ที่ 29-01-2024 23:51:02
น่ารักจัง สนุกมากกก
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: Bs_sai69 ที่ 08-02-2024 23:42:35
 :o8: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-02-2024 12:41:37
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค #โปรเสริมเน็ต
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-02-2024 12:47:45
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 01-03-2024 13:55:17
เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)
หัวข้อ: Re: ...วาระซ่อนเร้น...ตอนพิเศษ บนสุดของห่วงโซ่อาหาร (31/07/2020) หน้า 53
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 02-03-2024 14:02:35
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)

เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)