พิมพ์หน้านี้ - ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: BitterSweet ที่ 26-04-2012 20:45:35

หัวข้อ: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 26-04-2012 20:45:35
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)



สวัสดีค่ะ (กอดดด)  :กอด1:
สิงอยู่ในบอร์ดมาก็นาน เลยเกิดอาการคันไม้คันมือ
อยากจะลงประเดิมเรื่องแรกกับเขาบ้าง

ไป ๆ มา ๆ เลยได้กลายเป็น “ซีรีย์หวานอมขม”
ที่เล่าเรื่องความรักในหลายรสชาติ แต่ผสมผสานกันครบรสลงตัว
ซีรีย์นี้มีหลายภาค ซึ่งแต่ล่ะภาคจะมีตัวละครนำแตกต่างกันไป
ยังไงก็ขอฝากซีรีย์เรื่องนี้ไว้อ่านกันสนุก ๆ ด้วยนะคะ

*อนึ่ง นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง
ชื่อ สถานที่ และเหตุการณ์เป็นเรื่องสมมติ ไม่มีอยู่จริง
ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน*

 :L2:

ขอบคุณค่า

BitterSweet


   **  ติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ **   

BitterSweet  Fanpage (http://www.facebook.com/BittersweetBoyslove)


 
สารบัญ



ภาค  ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต

ชิ้นที่ 1  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2023905#msg2023905)       ชิ้นที่ 2  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2025286#msg2025286)        ชิ้นที่ 3  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2026671#msg2026671)       ชิ้นที่ 4  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2029132#msg2029132)      ชิ้นที่ 5  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2030403#msg2030403)
ชิ้นที่ 6  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2031671#msg2031671)        ชิ้นที่ 7  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2032967#msg2032967)        ชิ้นที่ 8  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2033760#msg2033760)        ชิ้นที่ 9  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2034846#msg2034846)     ชิ้นที่ 10  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2036945#msg2036945)
ชิ้นที่ 11  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2038816#msg2038816)       ชิ้นที่ 12  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2041048#msg2041048)      ชิ้นที่ 13  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2043828#msg2043828)      ชิ้นที่ 14  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2045355#msg2045355)     ชิ้นที่ 15  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2048143#msg2048143)
ชิ้นที่ 16  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2050056#msg2050056)      ชิ้นที่ 17  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2051982#msg2051982)       ชิ้นที่ 18  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2054056#msg2054056)      ชิ้นพิเศษ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2057833#msg2057833)


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/tb6copy.jpg)




ภาค  Sex on the beach กับ Whisky on the rocks

ช็อตที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2060254#msg2060254)      ช็อตที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2061143#msg2061143)       ช็อตที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2063954#msg2063954)      ช็อตที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2068239#msg2068239)       ช็อตที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2073105#msg2073105)
ช็อตที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2075728#msg2075728)       ช็อตที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2076773#msg2076773)       ช็อตที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2079027#msg2079027)       ช็อตที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2090170#msg2090170)      ช็อตที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2093003#msg2093003)
ช็อตที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2095664#msg2095664)      ช็อตที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2101522#msg2101522)      ช็อตที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2106269#msg2106269)     ช็อตที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2109352#msg2109352)     ช็อตที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2111966#msg2111966)
ช็อตที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2158068#msg2158068)      ช็อตที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2162629#msg2162629)      ช็อตที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2163642#msg2163642)       ช็อตพิเศษ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2164747#msg2164747)


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/tb13.jpg)




ภาค  ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม

ต้นที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2168382#msg2168382)       ต้นที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2169825#msg2169825)        ต้นที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2171031#msg2171031)          ต้นที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2183019#msg2183019)        ต้นที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2185061#msg2185061)
ต้นที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2187806#msg2187806)         ต้นที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2191553#msg2191553)         ต้นที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2193729#msg2193729)          ต้นที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2199113#msg2199113)        ต้นที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2201715#msg2201715)
ต้นที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2205180#msg2205180)       ต้นที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2206986#msg2206986)        ต้นที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2209260#msg2209260)       ต้นที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2211202#msg2211202)      ต้นที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2214879#msg2214879)
ต้นที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2221626#msg2221626)        ต้นที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2229857#msg2229857)       ต้นที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2232154#msg2232154)        ต้นที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2235939#msg2235939)      ต้นที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2240834#msg2240834)
ต้นที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2252386#msg2252386)        ต้นที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2258280#msg2258280)         ต้นที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2262637#msg2262637)       ต้นพิเศษ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2273027#msg2273027)


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/tb15.jpg)





ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต

แท่งที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2289126#msg2289126)       แท่งที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2291277#msg2291277)       แท่งที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2293886#msg2293886)       แท่งที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2297027#msg2297027)        แท่งที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2300230#msg2300230)
แท่งที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2307515#msg2307515)        แท่งที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2319411#msg2319411)       แท่งที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2330044#msg2330044)       แท่งที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2332968#msg2332968)       แท่งที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2335513#msg2335513)
แท่งที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2338775#msg2338775)       แท่งที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2341364#msg2341364)    แท่งที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2351107#msg2351107)        แท่งที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2353963#msg2353963)      แท่งที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2358355#msg2358355)
แท่งพิเศษ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2362981#msg2362981)      แท่งพิเศษ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2367752#msg2367752)


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/tb163_zps0abc42a8.jpg)




(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/E210E300E230E3006_zps0abc5de4.jpg)




ภาคพิเศษ

'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32800.msg2212905#msg2212905)



ขอฝากอีกหนึ่งผลงานรักกลมกล่อม


 :L2:     เรื่องสั้นรักหลากรส  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33869.0)    :L2:



WHO   WOULD   HAVE   KNOWN   HOW   BITTERSWEET    THIS   WOULD   TASTE  ?

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-04-2012 20:49:03
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 26-04-2012 20:53:38
 :mc4:   มาเปนกำลังใจค่ะ           ฑ       
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-04-2012 21:32:17
555 ตี๋เพลงต้องระวังหลังแล้วหล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-04-2012 21:50:54
เจ๋งอ่ะ....ชอบ...5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-04-2012 21:51:06
คุณพี่รอกินเพลงอยู่นะ 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-04-2012 22:06:27
อา....แช่น้ำร้อนรอฉาก"เอา"คืน

 o4

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-04-2012 22:32:58
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 1]
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 26-04-2012 22:51:16
 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 27-04-2012 12:13:35
^

^

รู้แล้วคงอึ้งอะคู้ณณณ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 27-04-2012 15:08:53
เรื่องน่ารักมาก ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 27-04-2012 15:18:49
เพลงน่ารักอ่ะ  กวนทีนอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 27-04-2012 16:40:50
เพลง น่ารัก กวน ๆ ดีค่ะ
รออ่านต่อนะค๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 27-04-2012 17:01:27
คิดไปได้ว่าน้องน้ำทิพย์จะแถม แหวะ ๆ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 27-04-2012 17:39:32
แก้วที่สองก็อร่อยเน๊....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 27-04-2012 18:58:06
 :กอด1:ความหมายมันมีนะน้องเพลง


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 2]
เริ่มหัวข้อโดย: NannY ที่ 27-04-2012 19:15:32
เพลงมาจีบพี่ชายดีกว่านะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-04-2012 09:24:12
ช่างเป็นพระเอกที่น่ารักจริง ๆ นึกภาพคนตัวใหญ่ ๆ เหี้ยม ๆ โหด ๆ มีความรักแล้ว  เขิน  อิ อิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: bamee_wspb ที่ 28-04-2012 10:01:15
เรื่องนี้สนุกมวาก ><

พี่แทนโหดโคตรพ่อโคตรแม่ชริงๆ 555
ต่อปากต่อคำแต่ละทีรุนแรงนะ  o18

อยากรู้ว่าจะรักกันได้ยังไง

ติดตามค่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 28-04-2012 10:19:51
แหะๆ ขออนุญาติที่ต้องบอกว่าอ่านเรื่องนี้แล้วความรู้สึกมันคล้ายๆ กำลังอ่านเรื่อง
รักเกิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยว งานของคุณ aoikyosuke เลยล่ะค่ะ
ด้วยการวางเรื่องและคาแรคเตอร์ตัวละครหลักที่คล้ายคลึงกันมากจนเราอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ
ยังไงดีล่ะ คือไม่ได้ว่านะคะ เราเข้ามาอ่านเองก็ชอบนะ โอเคดี แต่บางทีมันคล้ายเกินไปมันก็เหมือนอ่านเรื่องที่ฉายซ้ำอ่ะค่ะ
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคะ
เฮียแทนน่ารักมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 28-04-2012 10:27:51
มีคูนโผล่เป็นติ่งให้ลุ้นเป็นคู่กะใครอยู่อีกคน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 28-04-2012 10:47:51
ตี๋เพลงน่ารัก เอ๊ะ! หรือเฮียแทนน่ารัก เอ๊ะ! หรือน่ารักทั้งคู่ ><!! คิคิ
เรื่องน่ารักดีค่ะ :) สนุกดี
รอติดตามนะคะ :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 28-04-2012 11:00:54
หวานอมขมจริงๆจ้ะ
รอตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-04-2012 11:49:26
ถ้าเพลงไม่จองพี่แทนยัดเยียดเลย 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: ORANGE ที่ 28-04-2012 12:57:23
พี่แทนน่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 3] 28/04/55
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 28-04-2012 13:08:09
ตำแหน่งใกล้กันนี้ดดดดเดียวเอ๊งงงงง น้องเขยกลายเป็นเมีย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 29-04-2012 16:48:07
เข้าใจแล้วค่า ^^
เป็นกำลังใจให้คนแต่ง และเฮียแทนต่อไป ฮ่าๆ
เฮียนี่ท่าทางซึนจัดนะคะ
ไอ้นิสัยเขินแล้วโหดเนี่ยเปลี่ยนไปเขินแล้วหื่นท่าจะเข้าท่ากว่า กร๊าก
แสบๆ อย่างตี๋เพลงเนี่ยใช้ไม้โหดไม่ได้ผลร้อก
ก็ดูดิ โหดไปน้องเขาก็ตอบกลับมาได้ทุกเม็ด
เพราะงั้นแบบนี้ต้องใช้ไม้หื่นเท่านั้นกร๊ากๆ เสี่ยวไปเสี่ยวกลับ เอาแบบนั้นไปเลยเฮีย
หนูเชียร์ ฮ่าๆ  :laugh:
บวกเป็ดๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-04-2012 16:56:32
น่ารักอ่ะ  พี่แทนตี๋เพลง

ขอติดตามฝีมือการจีบของพี่แทนต่อไปค่ะ

 :L2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 29-04-2012 17:40:52
เฮียแทนน่ารัก
 :m3:
โดยส่วนตัวชอบเรื่องแนวนี้(มาก)
และผู้เขียนแต่งออกมาได้น่ารักน่าเขินเสียด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 29-04-2012 18:04:22
แล้วเมื่อไรเค้าจะรักกันล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-04-2012 18:33:07
 :กอด1:สนุกและน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 29-04-2012 20:09:04
555555...เอาปาท่องโก๋มาขายด้วยกันก็เก๋นะฮ้าว์ฟ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 29-04-2012 20:13:23
555555...เอาปาท่องโก๋มาขายด้วยกันก็เก๋นะฮ้าว์ฟ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: soda ที่ 29-04-2012 20:26:49
น่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาาา
ว่าแต่เพลงเนี่ยชอบกวนใจแทนอยู่เรื่อยเลยน้าาา
แทนก็น่าจะพูดให้เจ้าตัวได้รู้บ้างสิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 29-04-2012 21:11:09
พี่แทนน่าร๊ากที่สุด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: coon_all ที่ 29-04-2012 22:02:49
น่ารักดีค่ะ
อ่านสบายๆอมยิ้มไปกับความปากแข็งของพี่เเทน อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 4] 29/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 30-04-2012 02:58:45
เฮียแทนเขินน่ารักอ่า
เมื่อไหร่ตี๋เพลงจะรู้ตัวหนอ~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 30-04-2012 08:10:32
เฮ้อ เจ็บแทนเฮียแทนว่ะ
เฮียแทนเอ้ย ลางว่าเฮียจะแซดมีเค้ามาบางๆ แล้วว่ะ
ตอนนี้ก็รอให้เค้ามันหนาจนเทเป็นฝนลงมาแค่นั้น
หวังว่าคงไม่เศร้ามาก
แต่เศร้าปนสุขแบบนี้ก็ทำให้ยิ้มออกได้บ้างเหมือนกัน
 :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-04-2012 08:27:40
เฮียแทนปากแข็ง น้องสาวยังรู้เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-04-2012 08:28:41
 :กอด1: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 30-04-2012 08:34:16
เหอ เหอ แผนการช่างแยบยล...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 30-04-2012 08:46:05
สงบสุขจริงดิ๊!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 30-04-2012 11:02:13
ความคิดไปกันคนละทาง :pigha2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-04-2012 13:03:29
เหมือนจะมีความสุขนะตอนนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 30-04-2012 18:25:14
เริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีแล้ว

แทนรีบๆบอกเพลงล่ะ ถ้ารู้ทีหลังว่าน้ำมีแฟนแล้ว คงเสียใจหนัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-04-2012 18:57:37
หวานเชียวน้า  ลุ้นให้เฮียบอกเพลงไปเลย

ว่าน้องสาวมีแฟนแล้ว  และอาศัยจังหวะเพลงมันเศร้า

เสียบ เฮีย  จีบซะ   :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 01-05-2012 01:31:24
หวานเบาๆเจ็บเบาๆ
เฮียแทนน่าสงสารง่ะ
บวกให้เลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 5] 30/04/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-05-2012 02:34:35
เฮียแทนนนนนรักตี๋ข้างเดียวน่าสงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 01-05-2012 07:43:50
สงสารตี๋เพลง T^T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 01-05-2012 11:40:28
สงสารเฮียแทนอ่ะ รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง
เอาคนรักเขาข้างเดียวมารักกันเอง คราวนี้ก็ครบคู่แล้ว
เรื่องราวน่ารักดีค่ะ ชอบพระเอก นายเอกแบบเป็นคนธรรมดาๆ
ดูเป็นเรื่องในชีวิตจริงดี แต่กลัวใจนายเอกจะงี่เง่าจัง ดูตี๋เพลงแกเหวี่ยงได้ที่เลย
รอตอนต่อไปนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 01-05-2012 11:45:41
โธ่  ก็รักเขาข้างเดียวนี่นา  ช้ำบ้างก็เป็นเรื่องปกติ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 01-05-2012 12:19:59
สงสารตี๋เพลง :monkeysad:

มาซบอกเฮียแทน(ซะโดยดี)เหอะนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-05-2012 14:30:39
เริ่มขมแล้วสิ  เอาใจช่วยตี๋เพลงและเฮียแทน

จริงๆเพลงไม่น่าต้องเศร้ามากเลย  เพราะตัวเองก็ไม่เห็นจริงจัง

กับน้ำทิพย์เท่าไหร่  ถ้าจริงจังต้องลุกคืบกว่านี้แล้วสิ

อาจจะแค่หลงรูปสาวเท่านั้น  แต่แหมพี่ชายสาวเจ้าก็ยังมี

แถมหน้าตาดีเหมือนกันด้วยน้ามาสนคนพี่เถอะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 01-05-2012 14:48:17
สงสารตี๋เพลงจัง
แต่สงสารเฮียแทนมากกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 01-05-2012 21:51:39
โอ๊ย.....เจ๊บ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 6] 01/05/55 >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-05-2012 22:15:22
สงสารเพลงเหมือนกันนะ
แต่ก็สงสารแทนมากกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 02-05-2012 07:43:55
โฮ่ยยยย ประโยคเด็ดกระชากใจมากฮะเฮีย
สุดยอดดดดดด
บทนี้น้องคูณทำได้ดีมาก
ต้องขอบคุณออเดอร์ราดหน้าสองจานกับลูกค้าของร้านน้องคูณ
ไม่งั้นเฮียแทนคงไม่ได้โผล่ไปเฝ้าไข้ตี๋เพลง
อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-05-2012 07:53:01
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-05-2012 14:53:44
พี่แทนครับ ประโยคสุดท้ายโดนมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-05-2012 15:30:57
 :กอด1: :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-05-2012 15:41:14
จุดเริ่มต้อนแบบเจ็บๆ

ขอให้ตี๋เพลงหันมามองเฮียแทนเร็วๆเนอะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 02-05-2012 17:54:17
สนุกๆ ดราม่าจัดมาก
นึกว่าเพลงแค่เพ้อๆแซวน้องพี่แทนเล่นๆ
ที่ไหนได้คิดเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้
สงสารนะ แต่ต้องตัดใจแหละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 02-05-2012 20:01:06
พี่แทนสู้ๆ รีบๆทำคะแนนนะ
สงสารตี๋เพลงจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 02-05-2012 20:54:58
เฮียรีบๆปลอบตี๋เข้า ทำคะแนนเยอะๆ ตอนไม่สบาย นี่แหละ
แอบงงๆนิดว่า ทำไมตี๋มันถึงอกหักหนักขนาดนี้เนี่ย น้องเขายังไม่ได้ให้ความหวังอะไรเลยนะ
สงสัยเคยมีปมมาก่อน
อย่างนี้ต้องให้เฮียเป็นคนมาปลอบจายยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: spisyjames ที่ 02-05-2012 22:35:28
ดราม่า  เกิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-05-2012 23:34:46
เฮียแทนไฟท์ติ้ง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 7] 02/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: AoR-yayun ที่ 03-05-2012 00:03:27
ตอนกำลังอ่อนแอ รุกเข้าปายเฮียแทนนนนนนน o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-05-2012 12:18:18
เพลงเอ๊ยยย  แค่แอบรักแอบชอบมันต้องเมาขนาดนี้เลยวะเนี่ยะ
สงสารเฮียแทนจริง ๆ เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-05-2012 12:49:38
ตี๋เพลงหันมามองคนข้างๆบ้าง  :z3:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: spisyjames ที่ 03-05-2012 13:13:06
เมื่อไรจะรู้ตัวสะทีเพลง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 03-05-2012 13:38:43
เฮียแทนแผนสูงนะเนี่ย ใช้น้องคูนมาเป็นกามเทพให้ใช่ป่าว
ตี๋เอ๊ย เข้มแข็งไว้ แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไป เป็นแฟนน้องน้ำทิพย์ไม่ได้เป็นพี่สะใภ้แทนแล้วกันนะ
คนแต่งจ๋าน้องคูนเขาจะมีคู่ไหมอ่ะ น่ารักอย่างนี้หาคู้ให้หน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 03-05-2012 14:25:25
เรื่องเดินเร็วดี...น่ารักกันด้วยย : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-05-2012 16:33:45
 :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 03-05-2012 17:51:17
เอาใจช่วยทั้งคู่ให้รักกันเร็วๆน้า

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-05-2012 19:11:32
พี่แทนนารักจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Orange151987 ที่ 03-05-2012 20:28:43
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 03-05-2012 21:23:48
โดนจับได้ซะแล้ว :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 03-05-2012 21:29:13
กรี๊ดดด รอค่ารอ :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 03-05-2012 22:46:39
เฮียแทนน่ารักจัง
ตี๋เพลงหันมามองเฮียแทนบ้างสิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 8] 03/05/55 >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 04-05-2012 00:03:20
ตอนแรกเห็นชื่อหวานอมขมแล้วคิด(ไปเอง)ว่าเป็นรักรันทด มีดราม่าผสมๆด้วยอะไรงี้
คิดผิดอ่ะ เพราะถึงมีดราม่าก็เป็นเล็กๆไม่ได้มากมาย ที่สำคัญน่ารักตั้งแต่ตอนแรกเลยค่ะ!
ตั้งแต่ฉากที่เฮียแทนแกตัดแป้งปาท่องโก๋เบี้ยวนั่นแหละ โอ๊ย น่ารัก
เพลงหันมามองคนไม่ไกลอย่างเฮียบ้างนะ คอยห่วงคอยดูแลอยู่ห่างๆเสมอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 04-05-2012 12:18:15
อั๊ยยะ ชัดป่าววะตี๋เพลง เฮียแทนเขาจะจีบลื้อแล้วนะ
เฮีนเจ๋งอะ แมนคอดๆ o13. ชอบก็บอกว่าชอบเนอะ ไม่อ้อมค้อมดี
คราวนี้ตี๋จะว่าไงจ๊ะ เดาได้ว่าไม่มีทางเชื่อ หรือยอมกันดีแน่นอน
สู้ต่อไปนะเฮียแทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 04-05-2012 12:23:10
ตะลึงเลยดิ ตี๋เพลง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 04-05-2012 12:32:30
เป็นไงล่ะ ชัดมั้ยทีเนี้ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 04-05-2012 13:03:41
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ในที่สุดอาเฮียปากหนักของเราก็ง้างปากออกมาได้
โฮ่ย ปาดเหงื่อ ลุ้นจัด
ต่อจากนี้ก็รอดูท่าทีของตี๋เพลงว่าจะเป็นยังไง
เอาใจช่วยเฮียแทน สู้ๆ นะเฮีย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-05-2012 13:04:03
กูชอบมึง  แอร๊ยยย  ช่างเป็นการสารภาพรักที่ถ่อยได้ใจมั่ก  ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 04-05-2012 13:04:18
กรี๊ด เฮียแมนมาก น่ารักด้วย
เพลงอึ้งเลยอ่ะดิ ฮุฮุ
เฮียเดินเครื่องต่อเลยค่ะ โบกธงสนับสนุนเต็มที่ ไหนๆก็บอกไปขนาดนี้เลย รอลุ้นผลด้วยคน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-05-2012 13:16:50
ในที่สุดก็พูดจนได้ :z2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 04-05-2012 13:56:51
เหยดดดดด  :-[ เขินแทนหนุ่มตี๋ร้านกาแฟเลย
พี่เค้ามาตรงๆแล้วนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-05-2012 16:24:22
โอ๊ย...ชอบอ่ะ 

อ่านไปยิ้มไป  :-[

สู้ๆ นะพี่แทน...   o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-05-2012 17:07:30
 o13

นายแน่มากนายแทน  ดีเลยพูดตรงๆและลุยจีบไปเลย

ถูกใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-05-2012 17:15:33
 :3123:สุดยอดพี่   เอาเลยๆสู้ๆพี่แทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 04-05-2012 17:53:08
เฮียแทนนนนนน...สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 04-05-2012 19:40:02
จัดหนักเลยเพ่ /โบกธง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 04-05-2012 22:07:51
เฮียแทนจัดเต็ม!!!
สู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 04-05-2012 22:38:55
แทนมาส่งอาหารบำรุงคนอกหักแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 9] 04/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 05-05-2012 01:24:40
ป๊าดดดดดดดดดดดเอาแล้วพี่แทนบอกไปแล้ว
แล้วงี้ตี๋เพลงจะทำไงต่อไป ลุ้นๆๆๆๆ ><!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-05-2012 07:42:38
 :-[ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววพี่แทนสุดยอด o13มากพี่ถึงจะเลี่ยนไปหน่อยก็เถอะ



ไม่ต้องเติมน้ำตาลก็หวานซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ORANGE ที่ 05-05-2012 07:50:38
เฮียแทนสุดยอด
ทำเอาตี๋เพลงไปไม่เป็นเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 05-05-2012 08:48:31
อื้อหือออ มุกเฮียมาแรงแซงลงโค้งมากก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 05-05-2012 10:25:43
บวกเป็ดให้เฮียเลยอ่ะตอนนี้
เฮียสุดยอดมากเลยค่า
(ชูป้ายไฟกระพริบชื่อเฮียเลยเอ้า!)
เอาใจช่วยเฮียเต็มที่
อ่อนหัดอย่างเฮียเนี่ยล่ะ เจ๋งสุดยอดแล้ว
อย่างน้อยตอนนี้คนอ่อนหัดก็ปล่อยหมัดให้คนโชกประสบการณ์มึนกันได้ละวะ
555555555555555
เชียร์เฮียสุดกำลังเลยค่า
บวกเป็ดๆ น้า~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-05-2012 10:28:34
แอร๊ยพี่แทนรุกหนัก :z2:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 05-05-2012 11:31:52
 :laugh:

แทนสวยยอดมากกกก  เอาล่ะสิทั้งจีบทั้งหยอดแบบนี้

เพลงมันไม่อ่อนระทวยให้รู้ไป 

ชอบจัง "เอสเพรสโซ่ที่รอความรักของเรามาเติมให้หวาน" เพลงมันอึ้งไปไม่เป็นเลย

บวกเป็ด  ถูกใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 05-05-2012 11:32:55
เปลี่ยนจากไอ้โหดมาเป็นไอ้เลี่ยนในบัดดล
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: AoR-yayun ที่ 05-05-2012 13:42:29
โอยเขินนน แค่คำพูดนี้ กาแฟก็หวานเเล้วล่ะค่า พี่แทนนนนนน   :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 05-05-2012 14:16:46
เขินแทนตี๋เพลงแล้วอ่าาาา ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 05-05-2012 15:12:49
พี่แทนแบบเสี่ยวมากอ่ะ 55555555555
เอาซะตี๋เพลงไปไม่ถูกเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 05-05-2012 15:24:41
ขอยืมมุกจีบบาริสต้าหน่อยนะครับ ....55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 05-05-2012 15:49:01
แทนกล้ากว่าที่คิดนะ ตอนอ่านเกือบเงิบ -o-
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-05-2012 16:57:58
สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดจริงๆ
 

 :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-05-2012 17:41:16
เพลงถึงกับเป๋ 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 05-05-2012 18:21:41
หวานจัดขนาดนี้ มันจะเป็นเอสเปรสโซได้ไงอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-05-2012 20:48:08
พี่แทนสุดยอด ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 10] 05/05/55 >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-05-2012 21:04:28
เฮียแทนจัดหนัก อย่าปล่อยให้เพลงลอยนวล อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-05-2012 07:15:43
จัดไปหนักๆ เลยพี่แทน เยอะๆ ยิ่งดี คนแบบเพลงต้องแบบนี้แหละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-05-2012 07:42:29
 :laugh:เสร็จกัน!! เข้าตัวจนได้เพลงเอ๋ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 06-05-2012 08:37:43
ไอ้พี่โหดมันได้ทุกเม็ดเลยวุ้ย  :-[ สงสารตี๋เพลงอ่ะ :m20: รับๆรักซักทีจะได้ไม่ต้องโดนหยอดแบบนี้  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 06-05-2012 08:57:29
กร๊ากกก เฮียแม่งเจ๋งว่ะ
ทุกมุขทุกเม็ดเฮีย เฮียกวาด ฟาดเรียบไม่เหลือหลอ
แบบนี้ ไม่รอดๆ ไม่รอดหรอกเพลงเอ้ย
แล้วที่ว่าดีใจน่ะ หัวใจเกิดความรู้สึกตึกตักขึ้นมาบ้างแล้วใช่มะ
แหม่ หวั่นไหวๆ ล่ะเซ่ ก็เฮียออกจะน่ารักขนาดนี้นา
เนอะ o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 06-05-2012 09:24:17
 :impress2:

มุกเฮียเสี่ยวมาก  เล่นเอาตี๋เพลงไปไม่เป็นเลย

แถมแอบดีใจที่แทนศึกษาเรื่องกาแฟแล้วด้วย

งานนี้ความหวังอันสูงสุดที่แทนจะจีบเพลงติด

คงอีกไม่ไกล

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 06-05-2012 09:57:57
พี่เเทนรุกหนักมากกกกกกก อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-05-2012 10:04:50
พี่แทนมุขฮากระจาย
แบบนี้เพลงหนีไม่รอดแน่ๆ :z2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: august_may ที่ 06-05-2012 11:05:56
เพลงโดนเอียแทนรุกหนักซะดูเหมือนจะแอบหวั่นไหวเล็กๆแล้วนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 06-05-2012 12:47:44
หวังว่าเจ้าของร้านกาแฟจะไม่ขวัญหนีดีฝ่อจนปิดร้านหนีกลับบ้านไปนะ 555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 06-05-2012 12:54:29
อย่าบอกนะว่า อิมุขที่พี่แทนขนมาทุกวันนี้หัดจำมาจากไอ้ตี๋อ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 06-05-2012 16:41:08
ตั้งแต่พี่แทนเริ่มรุกจีบเพลง...คิดว่าตัวเองรู้สึกเหมือนเพลงอย่างนึง...

คือรู้สึกว่า 'กูโดนอีกแล้ว' กับมุกพี่แทน....ฮาน้ำพุ่งจริงๆ  :m30:

ทั้งหวานทั้งเสี่ยว  :laugh:


 ชอบครับ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 06-05-2012 19:37:40
อ๊ากกกกกกก ชอบพี่แทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 06-05-2012 20:22:35
นิยายเรื่องนี้มันอะไรเนี่ย!!!!
.


.

.

.

ทำให้เราทั้งเขินทั้งขำ

 :give2: :give2: :give2: :give2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 06-05-2012 22:25:33
>///////////<
น่ารักเกินปายยยยยยย
พี่แทนน่ารักเกินไปจริงๆ
แต่ละมุก...โอ้โห....ไม่เสี่ยวจริงทำไม่ได้ ไม่ด้านจริงไม่กล้าเล่นแน่นอน
สวดยอดเลยลวกเพี่ย~~!

ติดตามค่า~~~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 06-05-2012 23:04:21
เฮียยยจ๋าใครสอนมุกจีบหนุ่มเฮียแทนของเค้าเนี่ย ต้นตำรับอย่าเพลง ยังต้องยอมแพ้
ใจกล้า หน้าด้านเนอะเฮียเนอะ อย่างนี้ตี๋เพลงจะไปไหนด้ายยย
เห็นนะ เริ่มใจอ่อนแล้วอะดิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 11] 06/05/55 >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 06-05-2012 23:29:04
เฮียแทนสุดยอดเลยเถอะ
เขินง่าาา~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 07-05-2012 07:58:10
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 07-05-2012 09:13:45
อย่าทำใจร้าย
ปล่อยให้เฮียแทนรอนานนักล่ะ

ไอ้ตี๋เพลง

เข้าใจ๋ !!! ????  o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 07-05-2012 09:24:46
ไอ้ตี๋เพลงใจอ่อนเร็วๆน้า  สงสารเฮียแทนบ้าง

แบบนี้ต้องมีตัวเร่งปฏิกิริยา  :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-05-2012 12:56:35
เฮียน่ารักอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-05-2012 13:18:09
ตี๋เพลงรีบใจอ่อน
รับรักเฮียแทนได้แล้ว
แสนดีขนาดนี้
หาที่ไหนได้ :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 07-05-2012 14:22:44
หวังว่าอาเฮียจะไม่ถอดใจไปก่อนนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 07-05-2012 15:04:03
พีี่แทนหวานมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 07-05-2012 20:33:13
อย่าให้เฮียรอนานนะตี๋
วันใดขาดเฮียแล้วตี๋จะรู้สึก~
ชอบคนแบบตี๋เพลง แต่อย่างเฮียน้ำเต้าหู้ก็ถูกใจใช่เลย~
ทำไมเดี๋ยวนี้เค้ากลายเป็นคนหลายใจแบบนี้ ฮือออ~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 07-05-2012 23:54:50
พี่แทนน่ารักอ่ะ
แบบพยายามเข้านะพี่แทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 08-05-2012 00:55:58
ตี๋เพลงใจอ่อนเร็วๆน้า
เห็นใจเฮียแทนหน่อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-05-2012 01:03:27
เพลงอย่าใจร้ายกับพี่แทนเลยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-05-2012 04:02:10
พี่แทนสู้ๆ วู้ๆๆๆๆๆ


 :110011:  :z7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 08-05-2012 09:51:35
รอค้าปป :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 12] 07/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 08-05-2012 12:31:22
หลงกลเธอไปแล้ว ทำไงได้
จะถอนตัว แต่ใจมันไม่ยอมห่าง
หลงกลเธอแล้ว คงต้องยอมเธอทุกอย่าง
เพลงนี้ คนอ่านให้เฮียแทน สู้ๆค่าเฮีย  :L2:
ว่าแต่วันนี้ไม่มาเหรอ กำลังสนุกเลย

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ORANGE ที่ 09-05-2012 07:27:35
ตี๋เพลงน่ารัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-05-2012 07:42:54
 :3123:น้องเพลงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-05-2012 09:19:51
เอาล่ะสิๆ  งานนี้เพี้ยนกันทั้งคู่

แต่เพี้ยนเพราะรักน้า  555

ดีใจที่เพลงใจอ่อนแล้วแม้จะปากแข็งอยู่

เดี๋ยวสั่งให้แทนทำให้อ่อนซะเลยนิ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-05-2012 09:21:54
เพลงเริ่มคิดถึงพี่แทนแล้วสิ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 09-05-2012 09:28:54
น่ารักจริ๊งๆ ตี๋เอ๋ย หนีอะไรก็หนีได้นะลูก แต่หนีใจตัวเองหนียังไงก็ไม่พ้น  :laugh:
ขอลาไปทำงาน5วันนะคนเขียน ไปที่กันดารไม่มีเนต
กลับมาจะมาอ่านต่อ
กว่าจะถึงวันนั้น สงสัยเขาคงรักกันไปแล้ว  :o8:
กดเป็ดให้แล้วนะคะ ยังกดคะแนนให้ไม่ได้ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 09-05-2012 09:44:58
ไม่ได้เจอวันเดียวถึงกับออกอาการขนาดนี้เลยเหรอ ดูท่าว่าอาเฮียจะประสบความสำเร็จเร็วๆ นี้แล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 09-05-2012 09:56:40
อาเฮียคะแนนดีขึ้นทุกวันๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 09-05-2012 10:23:56
น้องเพลงน่ารักแบบนี้แหละ..เฮียแทนเลยชอบบบ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 09-05-2012 12:59:31
เพ้อแล้วอิหนู5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 09-05-2012 14:45:17
เพลง จ๋าา น่ารักจริงๆ พี่แทนหายไปแค่วันเดียวถึง...  คิดถึงเค้าละซี้ 55
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-05-2012 14:57:41
แหม่ตี๋เพลงแค่หายไปวันเดียว
ถึงกับคิดถึงเลยน๊า :z1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 11-05-2012 08:19:04
เพลงแลอึนอึนนะวันนี้ -o-"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-05-2012 22:33:36
เพลงก็คิดถึงพี่แทนเหมือนกันใช่มั๊ยล่ะ?

 :m12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 11-05-2012 23:28:19
หวานปนขมๆ ดีน่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 11-05-2012 23:39:34
อ๋าๆๆๆ รู้เขารู้เรา...ใช้ได้ดีๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 13] 09/05/55 >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 12-05-2012 00:04:40
เฮียแทนใกล้สมหวังแล้วน้าาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-05-2012 08:26:45
 :กอด1:อีกละไอ้ตี๋


หนีใจตัวเอง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-05-2012 09:59:28
เหมือนจะดีแต่ไม่น่ามาดื้อตอนนี้เลย

ไม่รู้แทนจะเป็นยังไงบ้าง  โดนว่าว่าเกลียดเต็มๆหู

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 13-05-2012 10:02:19
น่านนนนนน ตี๋!!!! :angry2:
ปากนะปาก ปากไม่ดีนะ
ถนัดนักไอ้พูดจาตรงข้ามกับความรู้สึกน่ะ
เดี๋ยวเฮียแทนแกก็หายปลิวไปกับลมหรอก
เชอะ! นิสัย
อย่างเฮียแทนหาไม่ได้ง่ายๆ นะเฟ้ย
ปล่อยไปโง่ตาย
ง้อซะ ง้อด่วนนนนนนนนน
เห็นแบบนี้เฮียแกก็ขี้น้อยใจนะ ง้อเฮียแกซ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: FlapJack ที่ 13-05-2012 10:29:20
ขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก... วะ ฮ่ะ ฮ่า

ปกติไม่ค่อยมีเวลาอ่านนิยาย แต่วันนี้เปิดมาเจอของ BitterSweet พอดีเลยเข้ามาอ่าน ปรากฎว่าซดรวดเดียว 14 แก้ว อิ่ม จุก (แต่มีความสุขมากกกกกก) ไปเลยทีเดียว  o18 (งานการไม่ได้ทำกันพอดี 5555)

น่ารักมากๆ เลย ปลื้มเฮียแทน มาดแมน ตรงๆ ซื่อๆ น่าร๊ากกกกกกก
ส่วนไอ้เจ้าเพลงนี่ก็เกรียนใช้ได้เลยนะ ปากไม่ตรงกับใจ แต่ก็เก็บอาการไม่เคยอยู่เหมือนกัน กิ๊วกิ๊ว ฮ่าๆๆๆๆ

เสี่ยวทั้งคู่ แต่ละมุขนี่ ทำเอา :o ได้ตลอดจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงหน้านิ่งๆ โหดๆ ของเฮียแทนแล้วเนี่ย ใช่เลย 555

ปกติผมชอบน้ำเต้าหู้กับกาแฟอยู่แล้ว และน้ำเต้าหู้กับกาแฟของ BitterSweet ก็ถูกปากซะด้วยสิ รอแค่ว่าเมื่อไรจะมีน้ำเต้าหู้รสกาแฟ หรือกาแฟใส่น้ำเต้าหู้มาให้ดื่ม  :haun5:
เอาเป็นว่า ผมจะรอ "แก้วต่อไป" นะคร้าบบบบ  :กอด1:

ปล. +เป็ดให้ทุกแก้ว และ +1 ให้คุณ BitterSweet คร้าบบบบ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-05-2012 16:48:02
ตี๋จะซึน*ทำไมฮ้าาาาา :o211:



*ซึนเดเระ=ปากไม่ตรงกับใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-05-2012 16:57:59
เอ๊า ไอ้ตี๋ ไหงไปเหวี่ยงพี่เค้าทำไมล่ะนั่น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-05-2012 17:03:47
ปากก็ว่าเกลียดเค้า....พอเค้าหายไปตัวเองก็คิดถึงเค้าอีก

 :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-05-2012 17:15:39
รอแก้วต่อไป :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 13-05-2012 19:51:44
รอดูพี่แทนปราบเด็กดื้อ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: AoR-yayun ที่ 13-05-2012 19:59:31
เอ้ออออ เค้าหายแล้วเจ้าจะรู้สึก ชิชิ เพลงซึนนนนนน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 13-05-2012 21:46:04
เอาแล้ว ตี๋เริ่มพาลแล้วไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 13-05-2012 21:59:57
อาตี๋เพลงหวั่นไหวละซิ :laugh:


รอตอนหน้าครับผม  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 13-05-2012 22:02:18
วันใดขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก วันไหนสำนึก..แล้วเธอจะเสียใจ~
ระวังนะตี๋ ถ้าเฮียไม่มาให้เห็นจะไม่มีกำลังใจชงกาแฟ
แล้วเวลากินกาแฟก็อย่าเผลอคิดถึงปาท๋องโก๋อร่อยๆของเฮียเค้าล่ะ
ฮิฮิ

 :man1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 13-05-2012 23:06:05
ทำไมช่วงนี้เพลงอ่อนไหว
ดูเป็นน้องน้อย ผิดลุคไอ่หนุ่มที่ตามจีบน้องสาวเขา
หรือว่าตอนนี้พี่ชายมาทำให้หวั่นไหว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: CrazierM ที่ 13-05-2012 23:23:57
ทำไมเพลงปากเสียแบบนี้ แล้วนี่เฮียแทนจะคิดยังไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 13-05-2012 23:36:12
อาเฮียอย่าไปถือเด็กมันเลยนะ
ไอ้ตี๋คงจะเหนื่อย&เขินน่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: benzbent ที่ 14-05-2012 00:44:57
เพลง~ ทำไมพูดแบบนั้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 14-05-2012 21:04:51
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 14] 13/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-05-2012 21:27:31
อ้าววววไอ้ตี๋ไหงพูดงี้หล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-05-2012 07:50:29
ดูสิใครจะเจ็บกว่าใคร!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 15-05-2012 10:17:03
คนเราถ้าไม่แม้แต่จะกล้ายอมรับความจริงที่อยู่ในใจตัวเอง
 ไม่กล้าที่จะไขว่ขว้าโอกาสที่เข้ามา
ไม่แม้แต่จะลองพยายามเปิดใจให้อีกฝ่าย
ก็จงอยู่อย่างผู้แพ้ต่อไป
เฮียแทน ไปหาคนอื่นที่เขาเห็นค่าความรักของเฮียเถอะ
อย่างเพลงยิ่งอ่านไปๆยิ่งรู้สึกว่า เออ คนๆนี้มีอะไรดี เขายังไม่เห็นค่าของตัวเองเลย ดูถูกตัวเองเป็นอาชีพ
คิดอะไรง่ายๆตลอด มีปัญหาก็พร้อมจะหนีอย่างเดียว
คนอ่านเพลียจิต
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-05-2012 12:22:04
ความรักมักมีทางออกเสมอ อดทนไว้นะแทนไท
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-05-2012 14:10:10
เพลงดื้อมาก สงสารพี่แทนจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-05-2012 14:28:01
พี่แทนเลิกเถอะ :z2:
 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-05-2012 14:29:30
อ้าว ไรอ่ะ ทำไมเพลงแบบนี้
นี่มันใจร้ายมากเลยน่ะ
รู้แล้วเขาคิดอะไรกับตัว รักตอบเขาไม่ได้เหรอ
หรือว่าเพลงเองก็ไม่รู้ตัวว่ารักแทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 15-05-2012 14:36:26
เพลงอ่ะ น่าสงสารพี่แทน คอยดูไม่มีเค้าแล้วเราจะรู้สึก ชิช๊ะ     :laugh5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-05-2012 15:09:17
อิตี๋ :beat: :beat: :beat:
ทำไมเอ็งใจร้ายอย่างนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 15-05-2012 16:00:40
It's fun. I like this story so much. มาต่อไวๆนะค่ะ สนุกดีค่ะ ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-05-2012 16:40:05
อย่าไปง้อเค้าทีหลังละกัน   

โกรธเพลงแล้ว   :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-05-2012 17:02:33
 :monkeysad:

มาม่าชามโตมาแล้ว  ดูสิใครจะเจ็บกว่ากัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 15-05-2012 20:17:02
โอ้ยย  :serius2: ไม่ได้ดั่งใจเลยไอ้ตี๋
พี่เขาแสดงออกขนาดนั้น...อย่าลังเล
ยอมรับกับตัวเอง แล้วลุยโลดดดด  :a2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: FlapJack ที่ 15-05-2012 21:51:42
 :z3: :z3: :z3:

อ๊ากกกกกกกกกกกก ไอ้ตี๋ ทำไมเอ็งทำแบบนี้กับพี่แทน  :beat:

คอยดูเหอะ น้ำตาจะตกใน ขอให้นอนไม่หลับ ไม่ขับถ่าย เอาให้ท้องอืดไปเลย  :angry2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: CrazierM ที่ 15-05-2012 22:52:41
อ๊าก! อ่านตอนนี้แล้วเกลียดเพลงจัง  :m16: งี่เง่าบ้าบอคอแตกไรไม่รู้
ยอมรับความรู้สึกตัวเองซักที ไม่มีพี่แทนแล้วแกจะหนาว!!  :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 15-05-2012 23:18:19
สงสารตัวเอง T T
ภูมิต้านทานด้านดราม่าต่ำ...ถึง.....ต่ำมาก

ถึง....ตี๋....
อย่าคิดเองเออเอง
อย่าผลักไสทั้งที่ใจอยากเก็บไว้ใกล้ตัว
...สงสารเราบ้าง เราคนกลาง เราเจ็บสุด T*T (เหรออออ?)

ถึง....เฮีย....
ทนหน่อยนะเฮีย อย่าเพิ่งท้อ
ซัดจับเลี้ยง หล่อฮั้งก้วยแกล้มปาท๋องโก๋ ยาใจ (??? จับเลี้ยง หล่อฮั้งก้วย ช่วยไรได้~~~) ไปก่อนนะเฮีย

 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-05-2012 23:31:30
ไม่ยอมรับแม้กระทั่งใจตัวเองเลยนะเพลง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 16-05-2012 06:54:19
หวังดีหรือแค่ประชด ระวังจะช้ำในตายซะก่อนนะอาตี๋
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 16-05-2012 08:52:57
รอดูว่าใครจะทนได้เก่งกว่ากัน...อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 16-05-2012 09:45:21
เพลียยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 16-05-2012 10:35:57
เราก็เข้าใจเพลงนิดๆนะ แบบว่าเป็นผู้ชายอยู่ดีๆจะให้มาตอบตกลงรักกับผู้ชายปุบปับได้ไง
ไม่ได้ชอบก็คือไม่ชอบ ต่อให้ทำดีต่อกันมากแค่ไหนก็เปลี่ยนหัวใจกันได้ยาก
พี่แทนเอาเวลาไปดูแลตัวเองซะบ้าง ดูแลคนอื่นมาตั้งนานแ้ล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 16-05-2012 14:29:59
สงสารแทนไท :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 15] 15/05/55 >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 16-05-2012 15:51:30
ยอมรับความจริง ซะก็สิ้นเรื่องน้องเพลง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 16-05-2012 21:59:55
 :o12: :o12: :o12: :o12:


ชนแทนใช่มั๊ยเนี่ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-05-2012 22:26:16
เอ๊า ใครโดนชน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 16-05-2012 22:44:32
คือเจ๊ไม่เข้าใจเพลงอ่ะ กลัวความรักแค่ตอนผิดหวังกับน้ำทิพย์เนี่ยนะ เอิ่ม เพลงคะ ได้ข่าวว่านู๋ยังไม่ได้เป็นแฟนเขาเลยนะ
ยังไม่รู้สึกว่า รักจริงๆด้วย แค่เหมือนกับเจอแล้ว เออถูกใจ เลยมาจีบ แบบไม่จริงจังอ่ะ
เจ๊ยังรู้สึกว่าเฮียมาจีบนู๋ ยังทุ่มเทกว่าเล้ยยย เอาจริงกว่าเยอะ  :เฮ้อ:
ตอนนี้อีก เอะอะหนีๆ ถ้ารถมาชนเฮียของชั้นนะ ชั้นจะขอโหวตให้คนเขียนเปลี่ยนนายเอก ชริ  :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 16-05-2012 22:49:04
ใครโดน?? อาตี๋หรืออาเฮีย อย่าเป็นอะไรมากนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 16-05-2012 23:10:33
ขอเจ็บแค่เบาะๆพอนะตะเอง :impress:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 16-05-2012 23:14:36
สุดสวยเป็นไรมากใหมเนี่ยโดนผลักซะขนาดนั้น(ผิดประเด็นแล้ว) :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 16-05-2012 23:19:27
ตัดแบบโอ๊ยยยย ใครโดนชนอ่ะ
สุดสวย เพลง พี่แทน?
ใครๆๆๆ มาอัพต่อไวๆนะ TT
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 16-05-2012 23:34:40
นี่คือจุดพีคของมาม่าชามโตใช่มั้ย  แซ่บมากกกก

โอ๊ย!  ใจสลาย  หลังจากนี้หวังว่ากราฟดราม่าจะดิ่งลง

และกราฟความหวานจะพุ่งขึ้นแทนน้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-05-2012 23:40:35
 :L2:เวรแล้วมั้ยละ!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-05-2012 23:45:09
มัวแต่หนีเกิดเรื่องเลย  :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 16-05-2012 23:51:06
โอมมมมมมเพี่ยงงง!!!!! ขอให้รถหักหลบชนเสาไฟฟ้า

;')
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-05-2012 23:51:53
พี่แทน...หรือว่า...สุดสวย?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-05-2012 00:17:13
พี่แทนแน่ๆ  :z3:


 :o12:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-05-2012 11:18:09
เซ็งเพลงมากๆ :m16:


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 16] 16/05/55 >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 17-05-2012 17:45:33
ชนใคร??? ไม่ได้ชนใครหรอก
ใช่ไหม
แบบว่าหักหลบ ไปชนเสาไฟ บลาๆ
แล้วก็ ปัง! ...กระโปรงรถบุบ
ทุกคนปลอดภัย   o18

หวังว่าหลังจากนี้ไปจะรับรู้หัวใจกันซักที
ลุ้นจนเหนื่อยแล้ว สงสารทั้งคู่
ความสับสน ลังเล มันรังแต่จะทำให้หัวใจด้านชา
ยอมรับใจตัวเองซะนะ หนูเพลง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-05-2012 21:51:22
พี่แทนจัดหนัก ฮ่าๆ เพลงเอ๊ย...ไปไม่รอดหรอก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 18-05-2012 22:18:17
คำว่า "รัก" มันคงจะเบามากเลย (http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/015-2.gif)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 18-05-2012 22:24:22
ฮิ้ววววววว.................. มุกนี้ชนะเลิศ   o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 18-05-2012 22:49:47
โหยย น้องเ่พลงมุกนี้ พี่ซื้อ
ตกลงว่าตอบรับรักเขาแล้วใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-05-2012 22:55:17
 :L1:

หวานแล้ว  เหมือนกาแฟเลย 

จิบครั้งแรกจะว่าขมและจะอมหวานที่ปลายลิ้น

 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 18-05-2012 23:01:32
อ๊ากกกกกก ฟินไปกับอาตี๋  :haun4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-05-2012 23:21:44
โดนเลยพี่แทน มุกตี๋มันแน่กว่าเว้ยเฮ้ย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-05-2012 23:49:25
มุกพี่แทนว่าแน่แล้ว แต่เจอมุกของเพลงทีโดนไปถึงใจเลย

 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 19-05-2012 00:43:41
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด :oni1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 19-05-2012 00:49:49
(เด็กหัด)เกรียน หรือจะสู้ (เมพ)เกรียน
5555
ชอบตี๋เพลงกวนๆแบบนี้ที่สุดเลยค่ะ

ดูและพี่แทนดีๆนะตี๋~


ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย คุณผู้เขียนดูแลตัวเองนะคะ : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 19-05-2012 06:55:26
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-05-2012 11:11:27
เจอมุขนี้เข้าไปพี่แทน
คงอิ่มทิพย์ :z2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-05-2012 15:08:36
 :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 19-05-2012 17:45:04
ฮิ้วววววว เขินเเทนพี่แทน ><!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 19-05-2012 22:07:32
เขินอ่ะ มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-05-2012 22:54:42
โอ๊ะ นั่นไง เจอเลยเป็นไงล่ะเฮีย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:05:08
แทนไทน่ารัก >W<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:15:53
โถ่น้่องตี๋
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:24:07
อย่าไปโกรธแทนไทนะตี๊
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:29:44
โถ่น้องตี๋ สงสารพี่แทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:33:03
แทนไทททท -W-
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:39:12
ชอบเค้าแล้วละซิน้องตี๋
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:48:50
เจ็บแปลบเลยวะ ไอ้ตี๊โคตรใจร้าย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:52:58
อ้ากกกกกกกกกกกกก >O<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 20-05-2012 00:55:55
ต้องให้แทนไทเจ็บตัวก่อนถึงจะบอกหรอตี๋
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 20-05-2012 00:57:45
สวีทหวานสมการรอคอยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 17] 18/05/55 >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 21-05-2012 21:37:38
ฮิ้วววว..ว.ว.ว.ว...!!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-05-2012 23:05:50
อร๊ายยยยยยยย
ตอนนี้หวานจริง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 21-05-2012 23:23:46
 o13

หวานมากค่ะ  เดี๋ยวนี้ไอ้ตี๋เรียก พี่แทน  แล้วเว้ย  555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: CrazierM ที่ 21-05-2012 23:30:00
ฮ้าา หวานจริงไรจริง  :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 21-05-2012 23:39:06
ฮว๊าาาาากกกก
ยิ้มทั้งตอน มีความสุขแฮ๊ปปี้ดี๊ด๊า หวานๆใสๆอย่างนี้ไปนานๆเด้อค่ะเด้อออ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-05-2012 00:24:00
หวานเกิ๊นนนน อ่านแล้วเขิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 22-05-2012 02:41:10
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-05-2012 07:18:15
 :o8: :กอด1:หวานเกิน   


ผ่าซากเหลือเกินนะพี่แทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: evilheart ที่ 22-05-2012 08:19:07
เปิดใจรับความหวานจากพี่แทน หลังจากนี้เป็นน้ำตาลในเลือดกันถ้วนหน้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 22-05-2012 11:20:48
น่ารักจังงงงงงงงงงอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 22-05-2012 12:05:00
หวานน้ำตาลเรียกทวด :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 22-05-2012 12:53:08
หวานเกินห้ามใจ
แต่ เขาสองคนก็ยังห้ามใจกันได้อยู่น๊า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-05-2012 13:00:47
หวานกันซ๊าาาา :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 22-05-2012 21:52:07
โว้ย...............หวานวุ้ย! อ่านแล้วเขินแทนจริงๆ >///<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 23-05-2012 00:26:41
น่ารักอะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 23-05-2012 10:30:01
มุขเสี่ยวมากกกกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 18] 21/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-05-2012 18:50:58
ถ้าจะหวานกันก่อนนอนขนาดนี้ พรุ่งนี้เช้าสงสัยน้ำเต้าหู้กับกาแฟคงหวานเป็นพิเศษ

 :-[

 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 23-05-2012 22:34:45
ตอนนี้ตี๋เพลงน่ารักมากมีการไปซื้อของโปรดที่แทนมาด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-05-2012 22:56:56
แหม,,ทำตัวน่ารักนะน้องเพลง จำไ้ด้ด้วยว่าเฮียอยากกินผัดไท อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-05-2012 23:07:13
นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน 



/me ย่อไปตั้งกล้อง :m32:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-05-2012 23:09:59
ฮิ้วววว  เค้าเริ่มหวานกันแล้ว

คราวนี้นอนเตียงเดียวกันจะเกิดไรขึ้นน้อ

รอนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 23-05-2012 23:13:02
นอนเตียงเดียวกัน หุุุุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 23-05-2012 23:24:31
นอนเตียงเดียวกันเอง ไม่ได้...กันซะหน่อย เขินล่ะสิไอ้ตี๋เพลง :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-05-2012 23:31:39
คืนนี้แหละสำคัญ !!!!   :oni2:


พี่แทนอย่าปล่อยให้รอดนะ ไหนๆ โอกาสก็มาแล้ว  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-05-2012 23:42:06
นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน นอนด้วยกัน 



/me ย่อไปตั้งกล้อง :m32:

ช่วยถ่ายแบบ HD นะครับ อยากได้ภาพชัดๆ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-05-2012 00:10:24
 :o8:อีกไม่นานแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 24-05-2012 00:21:38
ต่างยอมรับในความดี ความเอาใจใส่ของอีกคน
แต่ยังไม่เปิดใจกันเลยง่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 24-05-2012 01:50:13
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 24-05-2012 12:26:50
หลังจากนอนเตียงเดียวกันแล้วเกิดอะไรขึ้น เหอะ เหอะ น่าคิด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 19] 23/05/55 >> P.10
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-05-2012 12:45:51
ตี๋เริ่มจะหวานแล้ว :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 25-05-2012 23:21:43
 :กอด1:

อ๊ายยย  อีกนิดเดียวแท้ๆ  น้องเพลงไม่น่ารู้ตัวเลย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-05-2012 23:39:30
ตอนนี้หวานมาก อร๊ายยยยยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 25-05-2012 23:42:55
ไม่รักก็ใกล้รักแล้วละเฮีย

รอหน่อยนะ เพลงน้อยกำลังเตรียมใจอยู่ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 25-05-2012 23:46:34
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 26-05-2012 00:09:03
รักทั้งคู่มากเลย เพลงก็ยอมสักทีสิ เดี๋ยวเฮียเค้าเบื่อจีบก็ไปหาคนอื่น แล้วตัวเองจะเสียใจ เพราะมันนานมากแล้ว






มาต่ออีกนะค่ะ ขอบอกว่า อร่อยมากทั้งกาแฟและน้ำเต้าหู้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 26-05-2012 00:14:16
ใกล้เข้าไปอีกนิดนึง
น้องเพลงงงงง แหม หวานซ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-05-2012 00:37:00
เฮีย...ทำไรน้องเพลงอ่า อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-05-2012 02:01:57
 :m2:

จูบกันไปแล้ว

โอ๊ย............ฟินแบบเบาๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 26-05-2012 10:35:10
เฮียค่ะ เฮียจะมาซื้อบื้ออะไรตอนนี้คะ
แหม นี่ถ้าน้องไม่ยืนยันมาด้วยคำพูดเฮียก็เชื่อยากใช่ไหม
แต่ก็น่าหรอกเนอะ ตามตื้อ ตามจีบ ตามรักมาน๊านนาน
มันก็เลยทำใจเชื่อได้ยากว่าอีกฝ่ายจะยอมใจอ่อนให้
ถึงดูยังไงหนูเพลงก็รักพี่แทนเข้าไปเต็มใจแล้วก็เหอะ
ไม่งั้นจะยอมให้ขนาดนี้เหรอ ฮุๆ
เขินเนอะ >///< หว๊านหวานเลยอ่ะ
รอติดตามแก้วต่อไปนะคะ
หวังว่ากาแฟกับน้ำเต้าหู้ของสองร้านนี้จะทวีความหวานขึ้นเรื่อยๆๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-05-2012 10:44:45
เคลิ้มขนาดนี้...ไม่วันนี้ก็วันหน้าแหละว่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-05-2012 12:02:08
ใกล้เข้ามาอีกนิด
ชิดชิดเข้ามาอีกหน่อย :m1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: plbb.poy ที่ 26-05-2012 14:34:56
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
พี่แทนน่ารักมากค้าาาาาาาาาา
>////////////////////<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 26-05-2012 15:30:20
ไอ่ประโยค
อ้างถึง
“พรุ่งนี้มึงคิดว่าฝนจะตกมั้ย”
ของเฮียเนี่ย.....คิดได้ยังไงแว้!!!
สุดยอดอะเฮีย
เฮียแม่ง.....ไม่ธรรมดาจริงๆ
นอกจากทำปาท๋องโก๋อย่างเทพแล้ว คำพูดเฮียยังเทพอีกต่างหาก
......จะมีก็แต่มุกควายของเฮียนั่นแหละ ที่ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างด่วน...!
เขิลแทนจริงๆนะครับ 'น้องเพลง'~~~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 26-05-2012 16:07:38
น้องเพลงคงตาแข็ง นอนไม่หลับไปทั้งคืน
บทจะหวานก็ไม่มีเกรงใจกันเลยนะอาเฮีย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 26-05-2012 18:46:13
พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว
อดใจอีกนิดเดียวนะพี่แทนไท
น้องตี๋คงหนีหัวใจตัวเองไม่รอด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 26-05-2012 18:54:33
 โวะ! คราวหน้าเอาใหอยู่นะคับ ...อีกนิดเดียวเอง!!!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 20] 25/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 26-05-2012 20:38:30
สุภาพบุรุษ จริง จิร๊ง.....>_< อ้อนจะเข้าปากช้างแล้ว ยังคายออกมาอีก(เปรียบซะ)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-05-2012 07:52:47
 :impress2:น่ารัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-05-2012 08:42:13
55555555555
อิพี่แทนรุกหนักวุ้ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 28-05-2012 09:05:13
เป็นลมให้ปฐมพยาบาลเลยครับน้องเพลง น่ารำคาญโนะ มาทำให้เขินอยู่ได้ 5555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 28-05-2012 09:30:15
น้องเพลงน่ารักโคตรๆ เลยอ่ะ  :give2:
ตอนนี้ชักอิจฉาเอียซะละสิ
มีจูบรับอรุณกันด้วย ฮิ้ววววววววว
อยากให้ตี๋เพลงโดนทำโทษอีกเยอะๆๆๆ
เพราะเวลาตี๋เขินแล้ว..
น่ารักสุดยอดเลยอ่ะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 28-05-2012 09:35:28
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: plbb.poy ที่ 28-05-2012 09:40:02
น้องเพลงเขินพี่แทนหรอจ๊ะ
555555555555555555
เพลงเขินแล้วน่ารักมากๆ
เป็นเราเห็นก็คงอยากแกล้ง
พี่แทนเลยจัดเต็มให้แบบนี้
เขินจนเพี้ยนไปเลยนะเพลง
น่ารักจริงๆ ระวังโดนทำโทษน้าาาา
 :impress2: :man1: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 28-05-2012 10:54:47
เป็นแฟนกันมั๊ย  :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-05-2012 11:01:19
พี่แทนเข้าข้าง
ตัวเองได้เต็มที :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 28-05-2012 12:17:17
 :-[

น่ารัก  แทนไทหยอดเยอะๆ เอาอีกๆ ให้น้องเพลงเขินกว่านี้อีก

 :กอด1: บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-05-2012 12:38:51
แทนเปลี่ยนไปแล้ว :laugh3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 28-05-2012 13:59:43
น้องเพลงน่ารักมากๆอ่ะ...เด๋วต้องโดนพี่แทนทำโทษอีกแน่เลยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 28-05-2012 14:20:30
อ่านมาตั้ง.   21 แก้วพึ่งจะเม้นท์ :z6: คือแบบว่าเค้าอ่านมือถือจะเม้นท์ก็ลำบาก :m17:แต่โดยรวม. เค้าชอบนะตัวเอง. อ่านแล้วยิ้มเขินอยู่คนเดียว.   บ้าาาาาาาา :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 28-05-2012 15:40:30
อาเฮียลงโทษอาตี๋แรงๆ เลย คนอ่านชอบ หุหุ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 28-05-2012 19:46:35
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! เขินนนนนนนนนแทนตี๋เพลง!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 28-05-2012 23:08:40
ป่านนี้ยังไม่เสร็จ  ..ยังนวดแป้งไม่เสร็จอ่ะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-05-2012 23:41:04
พี่แทนรุกคืบอีกแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 29-05-2012 11:33:03
จะถูกทำโทษยังงัยอ่ะ  :man1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-05-2012 19:44:41
อยากเห็นเพลงถูกพี่แทนทำโทษบ่อยๆ จัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 21] 28/05/55 >> P.11
เริ่มหัวข้อโดย: A_ay ที่ 30-05-2012 02:18:59
น้องเพลงงงงง
น่ารักไปมั้ยยย :man1: :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: zaabbo ที่ 30-05-2012 20:43:45
ฮ่าๆๆๆ โดนแน่ไอ้ตี๋  :m20: :m20: :m20:

พี่แทนนี่ก็แอบหื่นได้อีก  o18 เอิ๊กๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 30-05-2012 21:20:58
เย้ เย้ เชียร์ให้คุณหมาป่าขย้ำลูกแกะน้อยเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-05-2012 21:40:29
ตอนนี้หวานซ้า  ใจละลาย

 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 30-05-2012 21:46:59
เราจะถ่างตารอ 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-05-2012 23:26:56
กรี๊ดดดดดดด พี่แทน ทำน้องเพลงไปไม่เป็นเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-05-2012 23:35:11
รออ่านตอนโดนขย้ำนี่แหละ :laugh: :oo1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 31-05-2012 01:10:02
น่ารักที่สุด ให้ได้อย่างนี้สิเฮียแทน
รักต้องลุย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 31-05-2012 01:48:09
อ่านไปก็เขินไป  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 31-05-2012 08:06:34
 :กอด1:น่ารักมาก :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 31-05-2012 13:33:08
น่ารักมากเลย ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ






รอลุ้นว่า น้องเพลงจะโดนพี่แทนจับกินรึเปล่า อิอิ เตรียมเลือด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 31-05-2012 14:08:18
 :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 31-05-2012 16:25:06
เพลงตอนนี้
น่ารักมากมาย :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >> P.12
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 31-05-2012 18:47:56
ตัดฉับมาที่คืนนี้โดยด่วน ด่วนๆ
อยากอ่านวิธีทำโทษของพี่แทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 22] 30/05/55 >;>; P.12
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-06-2012 00:45:53
โดน ไม่โดน โดน ไม่โดน  ขอให้โดน ขอให้แดน   คิกคิก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-06-2012 08:06:57
หวานยันตอนสุดท้ายเลยนะ  :-[


พี่แทนหายไวๆ นะ รออยู่  :z1:


รอภาคต่อไปนะครับ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-06-2012 08:19:30
 :กอด1:ง่ะ!จบซะแล้วเสียดาย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-06-2012 08:46:02
ตอนนี้แหละ...หวานที่สุดในเรื่องแล้ว
ขอบคุณมากๆ ครับสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ
ป.ล.รอตอนพิเศษนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 01-06-2012 09:29:24
อ๊า....จบแล้ว.... เรื่องดี น่ารัก กลมกล่อม...ขอได้รับความขอบคุณที่แต่งขึ้นมาและโพสให้ได้อ่านคับพ้ม... อ่าแล้วอยากกินน้ำเต้าหู้ทู้กที!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-06-2012 09:56:54
หวานอมขมเหมือนน้ำเต้าหู้ผสมกาแฟจริงๆ

 :pig4:

สำหรับเรื่องนิยายเรื่องนี้ที่ส่งตี๋เพลงและเฮียแทนมาเขย่าหัวใจน้า

อ๊ากกกกก  พูดอะไรออกไปเน่าที่สุด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >;>; P.13
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-06-2012 10:05:34
ง่ะ จบซะแล้ว  รอภาคใหม่  รอแขนพี่แทนหายด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 01-06-2012 10:51:25

จบแล้ววววววว

น้องเพลงกับพี่แทนน่ารักอ่ะ ตีกันจนรักกัน อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 01-06-2012 10:57:02
เป็นผีบอร์ดอ่านเรื่องนี้มาตั้งกะช่วงต้นๆ  แหะๆ  ขอโทษค่าา   :-[

ไหนๆ เรื่องนี้ก็จบไปซีรีย์นึงแล้ว เลยอยากปรากฏตัวให้เห็นบ้างว่าเก๊าอ่านอยู่น๊าาา!    :impress2:


ไม่เคยลองกินน้ำเต้าหู้กับกาแฟเลยค่ะ  เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบกินกาแฟ(กินแต่ชา)  และชอบกินน้ำเต้าหู้แต่ก็ไม่ได้กินบ่อยนัก  จะให้เอาชาผสมกับน้ำเต้าหู้คงได้ท้องเสียกันพอดี  แต่ว่า... จะกลับไปลองกาแฟกับน้ำเต้าหู้ดูสักครั้ง  เผื่อจะติดใจเป็นเมนูใหม่  ถ้าเราท้องเสียก็จะมาเอาความผิดกะคุณคนแต่งนะคะ 
 :laugh:

ชอบเรื่องนี้เพราะว่าภาษาเรียบง่าย  ทำให้อ่านได้เรื่อยๆ  โดยไม่มีเบื่อและเลิกอ่านไปกลางคันค่ะ  ชอบพี่แทน... และชอบเพลง  แต่ชอบพี่แทนมากกว่าเพราะเรานิยมเมะมากกว่าเคะ  กร๊ากกก  พี่แทนใจดี...  บางครั้งอ่านไปก็แอบคิดว่าถ้ามีผู้ชายแบบพี่แทน ร้อยทั้งร้อยเราก็ไม่ปล่อยให้หลุดมือหรอก (แต่ผู้ชายดีๆ มักมีแต่ในฟิควาย~)  ว่าแต่... แอบอยากรู้ว่าถ้าทางบ้างพี่แทนกะเพลงรู้จะเกิดอะไรขึ้น  ไม่อยากคิดถึงแต่ก้อยากรู้อะว่าทางบ้านจะรับได้มั้ย  เง้อออออออ   :call:  ก็ภาวนาให้ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นเลยนะคะ

เอาใจช่วยคนเขียนในซีรีย์หน้านะจ๊ะ  เราจะยังติดตามต่อไป   o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 01-06-2012 11:42:44
จบแล้วหรอออ...ยังหวานกันได้น่ารักอยู่เลยอ่ะ....

ขอบคุณนะค้าบบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: plbb.poy ที่ 01-06-2012 11:58:00
น่ารักยันแก้วสุดท้าย >////////////////<
พี่แทนกับไอตี๋เป็นความรักที่กลมกล่อมและอบอุ่นที่สุด
ยิ่งอ่านก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ขอบคุณนะค่ะ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องน่ารักๆมาให้พวกเราอ่าน
อย่าลืมตอนพิเศษน้าาาา 55555555555  :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 01-06-2012 12:14:42
จบแบบหวานได้อีก น่ารักมากเลย รอซีรีย์ภาคต่อไปคะ ถ้าได้ตอนพิเศษจะดีมาก o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 01-06-2012 12:21:53
 :laugh:เล่นได้ไม่กี่ท่า.  อั๊ยยะ. จะเอากี่ท่าล่ะพ่อคู๊นนนนนนนนน.   คริคริ. ขอบคุณที่เขียนเรื่องน่ารักๆ. มาให้อ่านกันค่ะ (สุดท้าย.   รอแขนพี่แทนหายอย่าง. ใจจดใจจ่อ :z1:)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 01-06-2012 12:34:30
คู่รักคู่เลี่ยน  :o8:
ขยันปล่อยมุกจีบกันให้สาววายหวั่นไหว 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 01-06-2012 12:59:01
จบได้ไง  เค้าไม่ยอมๆๆ   o9 o9 o9 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 01-06-2012 15:27:41
ภาคต่อไปจะเป็นเมนูไหนนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: zaabbo ที่ 01-06-2012 16:45:45
ไอรักลอยตลบอบอวล หวานจนเขิน  :o8: แต่ไม่น่ารีบจบเลยอ่ะ  :z3:  :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-06-2012 17:35:28
หวานจนหยดสุดท้าย :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-06-2012 19:33:17
ว้าวๆๆๆ น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-06-2012 01:03:50
สนุกดีค่ะ เพิ่งตามอ่านจนจบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-06-2012 11:54:23
รอตอนต่อไปจ้า :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 02-06-2012 12:54:09
 :a5: จบแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย รีบจบจัง มาต่อตอนพิเศษบ่อยๆนะ ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 02-06-2012 13:32:25
จบเสียแล้ว :เฮ้อ:

แต่สนุกมากครับ o13 ขอบคุณผู้แต่ง :pig4:

รอ ตอนพิเศษ และ เรื่องอื่นๆนะครับ

 :bye2:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วที่ 23] 01/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 03-06-2012 00:28:26
อร่อยมากค่ะ
สงสัยต้องลองชงดูแล้ว
น้ำเต้าหู้ใส่กาแฟ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-06-2012 00:06:47
แก้วพิเศษทำให้เลือดกำเดาไหล :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 04-06-2012 00:07:02
อ๊ายอ่านแล้วฟินเลย :-[ :o8: เขินสุดๆอ่ะ เป็นรักที่เรื่อยๆ ไม่รุนแรง แต่ก็น่ารักดีนะ ชอบบบบบบบบบบบบบบ






จะรอภาคใหม่นะ ดูว่าจะน่ากินเหมือนเรื่องนี้ไม๊ เป็นกำลังใจให้จ้าาาาาาาาาาาาาาา :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-06-2012 00:40:03
อร๊าย...น่ารักจริงๆ แอบอิจฉา อยากมีแบบพี่แทนสักคน อิอิ
รออ่านเรื่องใหม่นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: thejaoil ที่ 04-06-2012 00:46:56
ขอบคุณมากๆๆ ทีมีเรื่องสนุกๆให้อ่าน

จะรออ่านภาคใหม่นะ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 04-06-2012 01:50:55
เค้าหวานกัน
เราก็บริจาคเลือดกันไป5555
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-06-2012 02:27:37
ในที่สุดก็สมใจ.....ยินดีกับพี่แทนด้วยนะ  :a2:

ชอบเรื่องนี้จริงๆ  o13

จะติดตามตอนต่อไปครับ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: ทิวลิปสีส้ม ที่ 04-06-2012 08:44:16
อ๊าก กรี๊ดเลย เขินแทน หวานๆ น่ารักมากๆ
ปลื้มสุดอ่ะคู่นี้  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >;>; P.13
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-06-2012 08:49:30
รอภาคใหม่  มาเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-06-2012 09:09:56
 :m25:

เลือดพุ่ง  เป็นฉาก NC ที่หวานกำลังดีร้อนแรงแบบพอดีๆค่ะ

รอขนมปังสังขยากับลาวาช็อคโกแล็ตอยู่นะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 04-06-2012 09:48:20
แอร๊ย เพลงเสร็จพี่แทนเรียบร้อยโรงเรียนลิง -...-
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-06-2012 10:38:55
รอจ้ารอๆ :D :D :D
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 04-06-2012 11:25:22
น่ารักได้ิีอีกสินะน้องแทน......
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 04-06-2012 11:26:32
แก้วพิเศษ พิเศษมาก พิเศษที่รอคอย 55
เรื่องใหม่จัดมาเร็วๆนะ ถ้าจะอร่อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-06-2012 11:27:12
หวานกันซ๊าาาาาาาาา :jul1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 05-06-2012 21:33:50
กรี้ดดดดดดดด มันเป็นอะไรอะไรที่แซ่บเว่อร์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-06-2012 07:24:02
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: plbb.poy ที่ 06-06-2012 13:30:05
 :-[ :o8: :-[
น่ารักจัง คู่นี้น่ารักมากๆ
โอ๊ยยย เขินอ่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 06-06-2012 14:53:23
น่ารักมากกกก   หวานเจี๊ยบเลยยยยยย


 :o8: :o8: :o8: :o8: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-06-2012 11:17:56
รอภาคใหม่อยู่น๊า :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน [แก้วพิเศษ] 03/06/55 >> P.13
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 10-06-2012 14:02:48
ชอบอ่ะเรื่องนี้น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 11-06-2012 18:59:56
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต



ชิ้นที่ 1



“เชิญเลยคร้าบบบ......
ไม่ซื้อไม่ว่า.....แวะชิมก่อนได้....
ขนมไทยอร่อย ๆ หนึ่งเดียวในโลก
ต้องที่ ‘ร้านหวานละไม ขนมไทยแม่พลอย’ เท่านั้น!!”


“ทางนี้ดีกว่าคร้าบบบบ.....
ขนมปังอบเสร็จใหม่ ๆ มีให้เลือกหลายชนิด
ชิมครั้งเดียวรับรองจะติดใจ
‘ร้านบ้านขนมเดือนใจ’ ขอรับประกัน!!!”


“อูยยย.....อย่าไปเชื่อมันคร้าบบบ!!!
เราคนไทยต้องอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
ขนมไทยสูตรชาววังต้นตำรับโบราณของแท้
หวาน มัน เข้มข้น ถึงใจ อร๊อยอร่อยกว่าขนมต่างชาติตั้งเย๊อะ!!!”


“โอ้ยยยย!! มันโม้คร้าบพี่น้องงงง!!!!
เดี๋ยวนี้โลกมันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว
เราต้องปรับตัวให้ทันตามกระแส
หันมาลองรสชาติแปลกใหม่ของครัวซอง แยมโรลอร่อย ๆ ดีกว่า!!!”


“ไม่ต้องไปสนใจเสียงนกเสียงกาครับ ตอนนี้ช่วงนาทีทอง!!
ซื้อหม้อแกงหนึ่งถาดแถมหนึ่งถาดฟรี ๆ คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว!!!”


“เอ๊า!!! เร่เข้ามา โปรโมชั่นฉลอง ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งร้านเลยจ้า!!!!!”



“โว้ยยยยยยย!!! อะไรกันหนาวะ!!!!   

เฮ้ย!! จะเอายังไงห่ะ!!

ว่ามาเลยดีกว่า จะเอายังไง!!!”



จากเสียงตะโกนเร่ขายของกลับกลายเป็นเสียงตะคอกอย่างหาเรื่อง
เมื่อเจ้าของร้านขายขนมไทยที่ตั้งแผงอยู่บนถนนคนเดิน
หมดความอดทนระเบิดอารมณ์ใส่แผงขายเบเกอรี่คู่ตรงข้าม


“อะไร... ผมก็แค่ร้องขายของธรรมดา”


อีกฝ่ายเพียงแค่ยักไหล่ตอบกลับ
ทำลอยหน้าลอยตาเหมือนเห็นว่าตนเองไม่ได้ทำผิดอะไร
ยิ่งเป็นตัวเร่งความเดือดดาลให้กับคู่กรณี
ซึ่งกำหมัดแน่นแทบอยากจะกระโดดข้ามฝากไปซัดหน้ามันให้คว่ำ


หนอยย!! กล้าพูดเนอะ ร้องขายของธรรมดา
ธรรมดาบ้านพ่องสิ!!
ถึงมีเหน็บ มีแขวะร้านกูทุกคำ
แบบนี้แถวบ้านเขาเรียก


“กวนตีน!!”


ถ้อยคำสบถด่าพึมพำออกมาอย่างคนหงุดหงิด
ในใจนึกพาลโมโหเลยเถิดไปจนถึงไอ้คนจัดแผงผังตลาด
ที่เสือกให้ร้านขายขนมไทยของเขามาอยู่คู่กับไอ้เวรปากหมานี่

คนอุตส่าห์ดีใจที่เทศบาลจัดถนนคนเดินติดริมน้ำตอนเย็นศุกร์ เสาร์ อาทิตย์
จะได้เพิ่มช่องทางกระจายสินค้าให้คนรู้จัก
เปิดขายวันแรกกะเรียกลูกค้าให้เข้ามาซื้อเยอะ ๆ
แต่ไอ้ห่าแผงตรงข้ามเสือกทำลายฤกษ์งามอย่างดีของกูซะงั้น

โคตรไม่ถูกชะตาตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้ว
หน้าตาก็คมเข้มดีอยู่หรอก แต่ดันปล่อยผมเผ้าให้ยาวรุงรัง
หูก็เจาะระเบิดจิวสีดำเม็ดเบ้อเร่อ 
ใส่เสื้อยืดสีขาวสกรีนโลโก้กระทิงแดงเด่นหรา
กางเกงยีนส์ขาด ๆ เซอร์ ๆ เหมือนไม่โดนแฟ้บมาสามชาติ
นี่ถ้ามีหนวดเพิ่มอีกหน่อยนะ
มึงไปนั่งรวมกลุ่มกับศิลปินรับจ๊อบวาดภาพเหมือนหน้าตลาดได้เลย

บุคลิกแบบนี้มันเหมาะจะมาเป็นพ่อค้าขายเบเกอรี่ได้ยังไง
ติสต์แตกอย่างมึงคงขวางโลกหน้าดู 
แล้วเป็นไง...


โป๊ะเช๊ะ!!

ผิดจากที่เดาไว้ซะที่ไหน
เริ่มตั้งแผงขายยังไม่ทันถึงสิบห้านาที
ไอ้เวรนั้นก็กวนตีนกูเข้าให้แล้ว
คิดจะมาเป็นคู่แข่งกูหรอ
น้อย ๆ หน่อยไอ้น้อง ฝีมือมันคนละชั้น


ดูนี่สักก่อน ร้านกูมีแมวกวักรุ่นพิเศษอิมพอร์ตจากญี่ปุ่นโว้ยยย!!
เจอแบบนี้เขาไปรับรองมึงต้องหงายเงิบ
ว่าแล้วก็ซัดพวงมาลัยไหว้ไปก่อนเลยหนึ่งพวง


โอม...สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายโปรดช่วยลูกช้าง
ดลบันดาลให้ร้านไอ้ปากหมานั้นมันเจ๊งวันเจ๊งคืนด้วยเถิด


สาธุ๊!!!!!!!


ชายหนุ่มยกมือท่วมหัวไหว้ตุ๊กตารูปแมวกวักขนาดย่อมสีทองอร่าม
พลางหลับตาอธิษฐานในใจอย่างมุ่งมั่นแน่วแน่
โดยปล่อยให้ใครบางคนส่งสายตามองข้ามฝากมาอย่างงง ๆ



...อ้าว ไอ้ร้านขายขนมไทยทำอะไรวะ
มีเอาพวงมาลัยไหว้ตุ๊กตาแมวกวักด้วย
เออ ไอ้หมอนี่ท่าจะบ้า

เห็นทำหน้าเป็นตูดตั้งแต่มากางโต๊ะแล้ว
ยิ้มด้วยก็ทำเป็นเมิน
คนอะไรไม่มีมนุษย์สัมพันธ์
แทนที่เป็นพ่อค้าขายขนมเหมือนกันน่าจะช่วยเหลือกันไว้
อายุน่าจะสักยี่สิบต้น ๆ พอ ๆ กันด้วย
คิดอยากจะผูกมิตรสักหน่อย
ยังไม่ทันไร แม่งแยกเขี้ยวจะกัดกูล่ะ

...แต่ดูไปดูมาก็ฮาดีเหมือนกัน
ตัวซีด ๆ ใส่แว่นหนา ๆ อย่างกับเด็กเนิร์ด
เหมาะเป็นพวกหมอมากกว่าจะมาขายขนม
แต่พอพ่นออกมาแต่ล่ะคำนี่
อื้อหือ...อย่างกับพวกนักเลง


...กลัวตายล่ะ ตัวแค่นี่ทำปากเก่ง
แถมเมื่อกี๊ได้ยินนะที่แอบด่าว่า ‘กวนตีน’


...ก็ใครใช้ให้น่าแกล้งแบบนั้นล่ะ
เห็นแล้วมันอดไม่ได้เลยต้องขอสักหน่อย
เป็นเกมแก้เหงาระหว่างรอลูกค้าไปพลาง ๆ
บริหารสมองคิดคำด่าไปจะได้ไม่เมื่อย


...ไม่อยากเป็นคู่ค้า
ก็เป็นคู่แข่งกันเนี่ยแหละ
ตีกันไปขายกันไป


...สนุกสะใจกว่ากันเย๊อะ!!!!



เจ้าของร้านขายเบเกอรี่อมยิ้มนิด ๆ
พลางขยับปากตะโกนเรียกคนซึ่งก้มหน้าก้มตาจัดเรียงขนมที่ร้านตรงข้าม


“เฮ้ย! 

เฮ้ยคุณ!


คุณ!!


หูตึงหรอ
ผมเรียกเนี่ย!!


เฮ้ย!! ได้ยินมั้ยวะ!!”



เสียงเรียกเริ่มเปลี่ยนเป็นตะโกนดังขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่ออีกฝ่ายยังคงทำทีเป็นไม่สนใจ
ตอนแรกเขานึกว่ามันจะรำคาญ
แต่ท้ายที่สุดไอ้เด็กเนิร์ดก็เงยหน้าขึ้นมาทำทีเหมือนเพิ่งรู้สึกตัว
พร้อมกับขยับปากตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน


“อ๋อเหรอ ผมนึกว่าเสียงหมาเห่า!!
มาเรียกคุณ ๆ ไม่ระบุชื่อแล้วจะรู้มั้ย”


...แสบ...แสบดีจริงๆ...
เห็นอย่างนี้แล้วมันน่านัก....


หนุ่มเซอร์คิ้วกระตุกให้กับคำแอบกัด
ทว่าก็ยังตะโกนถามกลับ


“แล้วคุณชื่ออะไร”


“เรื่องไรผมจะบอก”



...แหนะ ไอ้นี่! มีเล่นตัวอย่างกับผู้หญิง


ดวงตาคมฉายแววหงุดหงิด มองคนตรงข้ามที่ยังคงทำเมิน
ก่อนเหลือบตาเห็นป้ายชื่อร้าน
‘หวานละไม ขนมไทยแม่พลอย’

ชั่วขณะนั้นความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัว


...ไม่อยากบอกใช่มั้ย


ได้....



“งั้นผมเรียกคุณว่า ‘ลูกแม่พลอย’ โอเคยัง?”


คนที่แสร้งทำเป็นไม่สนใจหันขวับกลับมาทันที
ดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นเบิกกว้างเพราะไม่คิดว่าอีกคนจะกล้าพูด


....เมื่อกี๊...มันเรียกว่าอะไรนะ



‘ลูกแม่พลอย’



...ไอ้ห่า!! ไอ้เวรตะไล!! 

นี่เล่นถึงแม่เลยเหรอ!!

แล้วมันดันไปรู้จักแม่เขาได้ไงวะเนี่ย

เออใช่...ป้ายชื่อร้านก็บอกอยู่ทนโท่นี่หว่า


...บังอาจ


มึงบังอาจมาก...


...วอนโดนตีนกูซะแล้ว!!



คนโดนหยามกัดฟันกรอด
ถลกแขนเสื้อ มือกำหมัดแน่น เตรียมพร้อมจะหาเรื่องเต็มที่
แต่ทว่าสติเล็ก ๆ ที่เหลืออยู่กลับดึงรั้งเอาไว้


เอ๊ะ....เดี๋ยว...
ถ้ามีเรื่องตอนนี้คณะกรรมการได้สั่งห้ามไม่ให้มาตั้งแผงขายขนมอีกแน่
อุตส่าห์หาช่องทางดี ๆ ได้แล้ว
ขืนปล่อยให้ชวดมือไปง่าย ๆ เพราะแค่ต้องการซัดหน้าไอ้เวรนี่
มีหวังแม่พลอยตัวจริงที่รออยู่บ้านอาจโมโหสั่งประหารเข้า


...ใจเย็นไว้ก่อน

เย็นไว้...


มันล้อกูได้...

...กูก็เล่นมันกลับได้เหมือนกัน!!



คนที่พยายามระงับอารมณ์สูดลมหายใจลึกช้า ๆ
เหลือบมองป้ายชื่อร้านของอีกฝ่าย ก่อนพูดเสียงแข็ง


“แล้ว ‘บ้านขนมเดือนใจ’ นี่แม่คุณเหมือนกันใช่มั้ย
งั้นผมจะเรียกคุณบ้างว่า ‘ลูกแม่เดือน’”


ทว่าคนโดนด่าก็ยังคงตีสีหน้าระรื่น
ร้องบอกกลับอย่างไม่ทุกข์ร้อน


“เรียกไปเหอะ แม่ผมจะได้ภูมิใจที่มีลูกแบบผม”



ถุย!!  ไอ้หลงตัวเอง
เสียใจล่ะสิไม่ว่าที่ไม่เอาขี้เถ้ายัดปากมึงตั้งแต่แรก


เขากำลังจะอ้าปากโต้กลับ
ทว่าตอนนี้จำนวนคนที่ไปออในส่วนของศาลาหน้าตลาด
ซึ่งเพิ่งเสร็จพิธีเปิดถนนคนเดินติดริมน้ำอย่างเป็นทางการ
กำลังค่อย ๆ ทยอยออกมาจับจ่ายดูสินค้าเพิ่มมากขึ้น
ทำให้บทสนทนาที่ตะโกนโต้กันไปมาถูกยั้งไว้
เพราะอาจเป็นการทำลายภาพพจน์ร้านค้าของตัวเองลงไป
แถมที่สำคัญเริ่มมีลูกค้าเข้ามาเมียงมองหน้าร้านเขาแล้วด้วย


“อุ๊ย นี่ขนมจ่ามงกุฎใช่มั้ยพ่อหนุ่ม
ป้าไม่ค่อยได้เห็นนานแล้ว ทำได้น่าทานจริง ๆ”

หญิงวัยกลางคนร่างท้วมซึ่งแต่งตัวคล้ายข้าราชการ
เดินเข้ามาหยุดพินิจขนมทรงกลมคล้ายผลมะยมสีเหลืองทำจากแป้งและไข่
ตกแต่งโดยรอบด้วยเมล็ดแตงโมเคลือบน้ำตาลอย่างประดิดประดอย
ดูสวยงามสลับซับซ้อนมากกว่าของที่ไว้สำหรับทานเล่น


“ใช่แล้วครับ เมื่อก่อนคุณยายผมท่านเคยเป็นต้นเครื่องในวัง
แล้วก็ถ่ายทอดสูตรทำขนมมาให้คุณแม่
เพราะฉะนั้น ขนมจ่ามงกุฎ นี้ของแท้จากตำรับชาววัง
รับรองอร่อยไม่แพ้ใคร
คุณป้าลองชิมดูก่อนได้นะครับ”


เจ้าของร้านรีบพรีเซ้นต์เล่าประวัติความเป็นมาอย่างสุภาพอ่อนน้อม
พร้อมกับใช้ช้อนพลาสติกคันเล็กตักขนมขึ้นให้ลูกค้าได้ชิมแบบไม่หวง
ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและภาคภูมิใจกับขนมของร้านตนเอง


พฤติกรรมที่แสดงออกตรงข้ามกับอารมณ์เมื่อสองนาทีที่แล้วอย่างลิบลับ
จนคนลอบสังเกตการณ์อยู่อีกฝั่งยังต้องทึ่ง
 

...โอ้โห...ไวจริงเว้ย
จากหน้าหงิก ๆ พอมีลูกค้าเข้ามาล่ะทำเป็นยิ้มหวาน
คนอะไรสองหน้าได้ขนาดนั้น 
ขนาดจิ้งจกเปลี่ยนสียังต้องอาย

แต่ก็อย่างว่า ทำการค้าจะให้หน้าบึ้งรับแขกได้ยังไง
ไม่เหมือนเถียงกับเขา ปากแดง ๆ งี้เชิดจนจะถึงจมูกอยู่แล้ว
เห็นแล้วหมั้นเขี้ยวชะมัด น่าจับมาหอมแก้มขาว ๆ เสียให้เข็ด


...อ้าว...เอ๊ะ...?


แล้วนี่เขาจะไปหอมแก้มมันทำไมวะ
จะมองซ้ายมองขวานั้นก็ผู้ชายนะโว้ยยย

ผู้ชายทั้งแท่งที่มีไอ้นั้นเหมือนกับเขา
อยากจะกอดอยากจะหอมมัน
คิดเข้าไปได้ยังไง


...โอยย...ขนลุกฉิบหาย!!




“พี่ค่ะ เค้กส้มนี่ขายยังไงคะ”


เสียงเรียกของสาวน้อยวัยทีนตาหวานที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ทำให้สติของคนคิดไกลกลับเข้าสู่ร่างทันที
เขาสลัดความสับสนทิ้งจากสมองแล้วรีบเปิดฉากการขายอย่างมืออาชีพ
ทว่าดวงตาคมก็ยังคงเผลอเหลือบมองร่างของคนที่อยู่อีกฝาก


...หึ ทั้งหมดก็แค่หมั่นไส้ไอ้หน้าไม่รับแขกของมันเท่านั้นแหละ
เลยกวนตีนมันไปเล่น ๆ

ตอนนี้ปล่อยให้มันขายของไปก่อน
เขาเองก็มีลูกค้าเหมือนกัน

ไว้ว่างกันแล้วค่อยกลับมารบกันใหม่


ค่ำคืนที่เหลือยังอีกยาวไกล



...เนอะ


....คุณลูกแม่พลอย




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ   :a9:

 

ว่าแล้วแปะรูปขนมจ่ามงกุฎของ 'ร้านหวานละไม ขนมไทยแม่พลอย' สักนิด


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/579f239c.jpg)



ทานให้อร่อยนะคะ   :bye2:


BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 11-06-2012 19:20:14
 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 11-06-2012 19:34:17
กร๊ากกกกกกกส์ ท่าจะหวานมันส์ดี  รอกินหนมชิ้นที่สอง :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-06-2012 19:46:49
เรื่องถ้าจะ........
หวานมันส์ฉันคือเธอ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 11-06-2012 19:50:29
ถ้าจะมันส์นะคู่นี้ เปิดตัวก็แรงมาเชียว
นิสัยขัดกับขนมที่ขายทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >;>; P.14
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-06-2012 19:51:20
ลูกแม่พลอย ปะทะ ลูกแม่เดือน  น่าติดตาม     รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 11-06-2012 19:54:13
โอ๊ะ โอ!  กัดกันตั้งแต่แรก แต่เริ่มหวั่นไหวกันบ้างแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 11-06-2012 20:10:36
เอาขนมมายั่วหรอ :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 11-06-2012 22:33:53
มาแล้ววววววววว คู่ใหม่
กัดกันตลอดดดด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 11-06-2012 23:17:16
ลูกแม่พลอยลูกแม่เตือนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-06-2012 05:20:30
ลูกแม่เดือนจะไปหอมแก้มเค้าแล้วหรอ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 12-06-2012 09:21:13
อยากกินจ่ามงกุฎขึ้นมาทั้นที!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 12-06-2012 11:52:04
คู่ใหม่มาแล้วววว. น่ารักดี อ่านไปหิวขนมไปแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 12-06-2012 12:17:41
อยากกินทั้งขนมและคนขายเลย
โดยเฉพาะลาวาเค้กเยิ้มๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 1] 11/06/55 >> P.14
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-06-2012 12:26:14
โอ้...ดุเดือดตั้งแต่ต้นเรื่องเลย ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 12-06-2012 21:19:04
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต



ชิ้นที่ 2



...หงุดหงิดโว้ยยย!!

...หงุดหงิด!!


เจ้าของร้านขายขนมไทยหน้าบึ้งบอกบุญไม่รับ
ขณะใช้ดวงตากลมภายใต้กรอบแว่นสีดำจ้องมองร้านเบเกอรี่คู่แข่งฝั่งตรงข้าม
ซึ่งมีหนุ่มมาดเซอร์กำลังนำของมาจัดวางเปลี่ยนโฉมหน้าร้านใหม่ซะใหญ่โต



...โห ดูมันทำสิ....

โคตรเวอร์......

...เวอร์สุด ๆ


..นี่มึงเปิดร้านตั้งแผงขายขนมเฉย ๆ นะ
ไม่ได้ไปออกบู๊ตงานกาชาด
เล่นขนพร็อพอุปกรณ์ไฟประดับมาซะเต็มที่
แถมเอารูปถ่ายขนมเค้กชิ้นสวย ๆ หนีบตกแต่งไว้ทั่ว
เรียงรายตั้งแต่บนยันล่าง เหลือที่วางถาดขนมไว้แค่นั้น
มองเผิน ๆ นึกว่าร้านขายโปสการ์ดของที่ระลึก
มันนึกอยากจะเปลี่ยนอาชีพทำมาหากินขึ้นมากะทันหันรึไงวะ

...บ้าเปล่า ท่าจะประสาท!!



แค่นึกในใจก็รู้สึกคันปากยิบ ๆ
อดไม่ได้ที่จะแขวะออกมาสักนิด



“เฮ้อ...คนบางคนนี่มันสงสัยจะว่างมาเนอะ
อยู่ ๆ ก็สรรหาอะไรไม่เข้าท่ามาทำ”


ร่างสูงชะงักมือที่กำลังหยิบคลิปไม้มาหนีบรูปกับแนวลวด
หันกลับมามองเจ้าของคำพูดลอย ๆ ที่แสร้งทำทีเป็นมองนู้นนี้เรื่อยเปื่อยอย่างไม่สนใจ

เห็นแบบนั้นแล้วก็นึกขำ
เลยขยับปากแกล้งแหย่ด้วยคำพูดตอบกลับ



“พอดีผมเน้นอินดี้ ไม่เน้นขาย”



คนได้ยินหันขวับกลับมาทันที


...พูดเหี้ยอะไรวะ
มีที่ไหนเน้นอินดี้ ไม่เน้นขาย
เออ อินดี้ให้ตลอดเถอะมึง ไอ้ติสต์แตก!!
ร้านมึงจะได้เจ๊ง ๆ
แล้วก็จะได้ไปพ้นหน้าพ้นตากูซะที!!



ทว่า เมื่อหนุ่มเซอร์จัดโปสการ์ดและประดับลูกบอลไฟเล็กๆ เสร็จเรียบร้อย
ทันทีที่เปิดสวิสต์ แสงสีสวยโทนอบอุ่นก็สว่างไสวไปโดยรอบ
ส่องให้ขนมปังอบเสร็จใหม่ ๆ บนถาดดูน่าลิ้มลองชวนยั่วน้ำลาย
ชั่วพริบตาแผงขายเบเกอรี่ธรรมดาก็ถูกเนรมิตให้ออกมาดูดีอินเตอร์อย่างไม่น่าเชื่อ
มิหนำซ้ำยังกลบรัศมีร้านในละแวกใกล้เคียงซะจนหมดสิ้น


...เฮ้ย! สร้างจุดเด่นแบบนี้มันตัดหน้าลูกค้ากันชัด ๆ เลยนี่หว่า!!

อ้าว...เวรแล้วไง ยังไม่ทันขาดคำ
ลูกค้าสาว ๆ ไปรุมตอบกันให้เพียบ

...โว้ยยยย  มันอะไรกันวะเนี่ยยยย!!!



คนลอบมองอยู่นานนึกคับแค้นใจ
เมื่อเห็นลูกค้าสาววัยรุ่นยืนหยุดชี้ชวนมายังร้านซึ่งตกแต่งใหม่
เขาพยายามทำทีเป็นไม่สน
แต่หูก็ยังคงได้ยินบทสนทนาจากหนึ่งในสี่สาว
ที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงแสดงความชื่นชม


“สวยจังเลยค่ะ โปสการ์ดพวกนี้พี่ไปเอามาจากไหนค่ะ”


“อ๋อ พี่ถ่ายเองครับ บังเอิญพี่ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว
ขนมที่ถ่ายพวกนี้ก็มาจากร้านพี่ทั้งนั้น ถ้าน้องชอบพี่ก็จะให้นะ
แต่ขอค่าปรินต์นิดหนึ่ง ใบล่ะแค่ห้าบาทเองครับ”



...โอ้โห...มาครบเลย
ครบวงจรกะเหมาเองคนเดียวหมดทั้งขึ้นทั้งล่อง


ไหนบอกว่าเน้นอินดี้ไม่เน้นขายไงวะ


...แม่ง ไอ้ตอแหลเอ้ยยย!!



ยิ่งเห็นสาว ๆ กรี๊ดกร๊าดอย่างถูกใจก็ยิ่งหงุดหงิด
แต่เมื่อก้มลงมองสำรวจร้านขายขนมไทยของตัวเองก็ต้องถอนใจ
เพราะสภาพที่เห็นมีแค่โคมไฟสีเหลืองนวลส่องขนมใส่แพ็คพลาสติก
กับแมวกวักสีทองอร่ามตั้งข้าง ๆ ไว้เป็นสิริมงคลหนึ่งตัวเท่านั้น


...เฮ้อ...ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าขนมไทยมันไม่ค่อยนิยม
ทั้งรูปร่างหน้าตาและก็รสชาติหวาน ๆ เลี่ยน ๆ
มันคงไม่โดนใจวัยรุ่นอินเตอร์เท่ากับพวกขนมเค้กช็อคโกแล็ต สตอเบอรี่ อะไรเทือกนั้น

เมื่อวานขายหมดเกลี้ยงไปได้ก็เพราะคนกำลังเห่อ
แต่ถ้านาน ๆ ไปขายไม่ออกมันจะแย่เอา
เพราะของพวกนี้มีต้นทุนทั้งนั้น
แถมพวกขนมไทย ๆ ที่ทำจากกะทิก็เสียได้ง่ายอีกด้วย

ถึงแม้เขาจะสำรวจมาแล้วว่าร้านตัวเองเป็นร้านที่ขายขนมไทยอยู่เจ้าเดียว
และยังมั่นใจในฝีมือสูตรต้นตำรับจากชาววัง
แต่แผงขายอาหารบนถนนคนเดินมีให้เลือกตั้งเยอะ
ร้านไหนที่ดึงลูกค้าไปได้มากกว่าก็จะได้รับความสนใจ
เผลอ ๆ ลูกค้าชิมแล้วอาจจะติดใจจนแวะเวียนไปถึงร้านใหญ่เลยก็ได้
ดังนั้น ถ้าไม่วางแผนโปรโมทให้ดีในระยะยาวล่ะก็
เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าร้านหวานละไมจะอยู่รอดไปได้นานแค่ไหน

โดยเฉพาะยิ่งมีไอ้หัวฟูขายเบเกอรี่ข้าง ๆ มาดึงลูกค้าไปแบบนี้
เห็นมันติสต์ ๆ แต่เสือกมีหัวการตลาดกับเขาซะด้วย
แถมฝีมือไม่ธรรมดาอีกต่างหาก

โอยยย.....เห็นอย่างนี้แล้วมันน่าโมโหเว้ยยย!!!



คนที่เผลอจ้องมองร้านค้าฝั่งตรงข้ามอยู่นาน
จนเจ้าของร้านซึ่งกำลังตกอยู่ในวงล้อมของสาว ๆ รู้สึกตัว
จึงหันมายิ้มเยาะ ๆ ที่มุมปากแบบคนเหนือกว่า


...อ๊ากกกกกกกกกก!!!

ไอ้เวรนั้นยิ้มแบบนี้หมายความไงห่ะ!!

มึงอยากประกาศสงครามกับกูอย่างเป็นทางการใช่มั้ย


ได้...กูขอรับคำท้า!!


มึงดึงลูกค้ามาหามึงได้ กูก็ไล่ลูกค้าออกไปจากมึงได้เหมือนกัน!!


เดี๋ยวเถอะมึง...

...รู้จัก ‘ลูกแม่พลอย’ น้อยเกินไปซะแล้ว!!




“พี่แป๋ม ฝากร้านแป๊บนะ”


คนที่เก็บความคับแค้นในอกเอ่ยปากบอกกับหญิงสาวเจ้าของร้านข้าง ๆ ซึ่งเป็นแผงขายน้ำปั่น
ก่อนจะสาวเท้าอ้อมออกไปยังฝั่งตรงข้าม ลัดเลาะทะลุร้านขายลูกชิ้นทอด
แล้วเดินย้อนกลับไปอีกสามแผงจนถึงด้านหลังของร้านขายเบเกอรี่
ซึ่งมีหนุ่มมาดเซอร์กำลังคีบขนมปังใส่ถุงพลางคุยเล่นกับลูกค้า
โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครอีกคนเข้ามาใกล้


“น้องเอาคุ้กกี้ผลไม้เพิ่มด้วยมั้ย อร่อยนะ แคลลอรี่ต่ำทานแล้วรับรองไม่อ้วน”



“ที่รักครับ เป็นไงบ้าง ขายไปถึงไหนแล้วครับ”


เสียงหวาน ๆ บรรจงเอ่ยถามลงไปกลางวง
มันคงไม่น่าแปลกใจเท่าไร หากเสียงนั้นเป็นของผู้หญิง
ไม่ใช่เสียงทุ้มห้าวของผู้ชายใส่แว่นหน้าตาเกลี้ยงเกลา
ซึ่งแย้มรอยยิ้มสว่างสดใสสู้สายตาของสี่สาวและหนึ่งหนุ่ม
ที่หันมองคนพูดด้วยสีหน้าเหวอสุดขีด


...อะ...ไอ้ลูกร้านแม่พลอย

ทำไมมาอยู่ที่นี่

แล้วเมื่อกี๊มันว่าพูดอะไรนะ



เจ้าของร้านทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกร้องถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ


“ห่ะ ว่าอะไรนะ”


ทว่าคนฟังกลับไม่มีท่าทีตกใจแต่อย่างใด
เพียงแค่ทำหน้าอ้อน ๆ แถมยังพูดง้อด้วยเสียงกระเซ้าเย้าแหย่


“โอ๋ ๆ ไม่ต้องงอนไปนะคนดี
ผมแค่ไปห้องน้ำแป๊บเดียวเอง กลับมาช่วยแล้วนี่ไงครับ”



คำพูดอธิบายยิ่งตอกย้ำสถานะชัดเจน
จนหนึ่งในกลุ่มลูกค้าสาวอดรนทนไม่ไหวต้องร้องถามขึ้นด้วยความสงสัย


“เออ...พี่สองคนเป็นแฟนกันเหรอคะ”


หนุ่มเซอร์สะดุ้งรีบส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน


“เฮ้ย เปล่าไม่ใช่”


“เอ๊ะ แต่...”


คำบอกปัดตรงข้ามกับครั้งแรกที่ได้ยินทำให้กลุ่มคนฟังขมวดคิ้ว
ดวงตาแปดคู่จับจ้องมายังคนต้นเรื่องซึ่งทำแค่เพียงยิ้ม ๆ
ก่อนจะปล่อยประโยคเด็ดพิฆาต



“ไม่ใช่น่ะถูกแล้ว

เพราะว่าคนเนี่ยไม่ใช่แฟน

แต่เป็น ‘ภรรยา’ พี่เองครับ”




ภรรยา = เมีย = คนรับ = เจ้าของร้านบ้านขนมเดือนใจ = หนุ่มเซอร์ติสต์แตกผู้ยืนนิ่งสติหลุดลอยไปดาวอังคาร




“เออ ถ้างั้นพวกหนูไม่รบกวนดีกว่าค่ะ”


เสียงลูกค้าร้องบอกอย่างเกรงใจพร้อมกับค่อย ๆ ทยอยถอยทัพ
หากแต่หนุ่มแว่นก็ยังคงร้องเอ่ยรั้งอย่างเป็นมารยาท


“อ้าว แล้วไม่เอาขนมเค้กแล้วเหรอครับ”


“มะ...ไม่ดีกว่า”


ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มแห้ง ๆ
ก่อนทั้งหมดจะเดินออกห่าง
ทว่าก็ยังคงได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์เบา ๆ หลุดลอยมาตามลม



“สมัยนี้เขาเปิดเผยกันน่าดูเนอะ”

“ใช่ ๆ  เห็นอาร์ต ๆ เซอร์ ๆ แบบนั้นไม่อยากจะเชื่อ
แล้วพี่เขายังสูงกว่าตั้งเยอะแกว่ามั้ย”

“ต๊ายยย!! ก็ฉันเคยบอกแกแล้วไงย่ะ
ว่าความสูงไม่มีผลต่อแนวราบน่ะ คิคิ”



คนที่เพิ่งประสบผลสำเร็จตามแผนแทบจะกลั้นรอยยิ้มขำของตัวเองไว้ไม่อยู่
ยอมรับว่าเปลืองตัวไปหน่อย
แต่เขาไม่ได้เสียหายอะไร
เพราะเป็นคนเสียบไม่ได้เป็นคนอยู่ข้างล่างนี่หว่า
แบบนี้เครดิตมันดีกว่าจมหู
แถมยังสะใจที่ไล่ลูกค้าสาว ๆ ไปได้ด้วย


ขอแค่ชนะและหักหน้าไอ้เวรนี้ได้ก็ถือว่าโอเคแล้ว!!!



คนที่พอใจกับผลงานกำลังจะหันหลังเดินกลับ
แต่ทว่าเสียงเรียกของคนอีกคนดังขึ้นรั้งไว้


“เดี๋ยว  ทำแบบนี้ทำไม”


คนถูกถามชะงักหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า
ยักไหล่ด้วยท่าทีแบบไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่
ก่อนบอกตอบย้ำชัด ๆ


“เอ๊า ก็ผมมาช่วยไง
คุณเน้นอินดี้ไม่ได้เน้นขายไม่ใช่เหรอ

ผมก็เลยมาช่วยทำให้มัน  ‘อินดี้’ มากขึ้น

แบบนี้พอจะใช้ได้รึเปล่าครับ คุณลูกแม่เดือน”



ถ้อยคำจงใจเน้นเสียงแบบที่ฟังก็รู้ว่าตัวเองโดนอีกฝ่ายเล่นงานเข้าเต็มประตู
แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากโต้กลับ
เจ้าตัวก่อเรื่องก็เผ่นแน่บกลับไปร้านฝั่งตรงข้าม
ทิ้งให้คนชวดรายได้ต้องตะโกนด่าไล่หลัง


“ไอ้ลูกแม่พลอย แสบนักน่ะ!!”


หนุ่มมาดเซอร์สบถคำอย่างหงุดหงิด


คนอะไร ตีสองหน้าได้แนบเนียนจริง ๆ
ทำหน้าแบบนั้นได้ด้วยหรอ
หน้ายิ้ม ๆ เสียงหวาน ๆ เรียกว่า ‘ที่รัก’

ชักจะร้ายใหญ่แล้วนะ
สงสัยจะประเมินมันต่ำไปหน่อย

ให้เขาเป็น ‘ภรรยา’ งั้นหรอ
ของแบบนี้มันไม่มีผลในแนวราบก็จริง

แต่เอาคำพูดลอย ๆ มาอ้างได้ที่ไหน

มันต้องวัดกันด้วย ‘ฝีมือ’ ล้วน ๆ

ระวังตัวไว้ให้ให้ดีเถอะ
เขาถือคติแก้แค้นสิบปีก็ยังไม่สาย

แล้วถึงวันนั้นจะได้รู้ว่าใครเป็นตำแหน่ง ‘ภรรยา’ ใครกันแน่


ระหว่าง ‘ลูกแม่พลอย’ หรือว่า ‘ลูกแม่เดือน’



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 12-06-2012 21:35:03
ตีกันมันส์เลยอ่ะ "ลูกเเม่เดือน" "ลูกเเม่พลอย"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-06-2012 21:52:44
น่าจะเรียกเขาว่า "สามี" น่าจะดูดีกว่านะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-06-2012 22:10:03
น่ารักน่าชังจริงๆ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >;>; P.15
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 12-06-2012 22:22:45
ศึกนี้ช่างใหญ่หลวงนัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 12-06-2012 22:57:11
ลูกแม่พลอยเอางี้เลยอ่อ? 5555555555
โอ๊ยขำอ่ะ ระวังลูกแม่เดือนจะเอาคืนนะ 5555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-06-2012 23:35:31
ไปพูดอะไรไว้ เข้าตัวแน่ๆ

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-06-2012 00:04:24
ภรรยาจริงอ่ะ คึคึ o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-06-2012 09:48:08
รอจ้ารอๆ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-06-2012 13:05:04
ศึกยกที่1เริ่มแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 2] 12/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 13-06-2012 13:40:53
 :-[ศึกร้านขนมนี้ใหญ่หลวงนัก แต่คนอ่านอย่างเรา"อ้วน"แน่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 13-06-2012 23:04:29
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 3


เอาอีกแล้ว...


ไอ้ลูกร้านแม่เดือนมันเอาอีกแล้ว....


คราวนี้จัดหนักจัดชุดใหญ่
เล่นยกเตาอบขนมขนาดย่อมๆ เท่าเตาไมโครเวฟมาตั้งไว้ด้วย
อยู่ตรงนี้ยังได้กลิ่นขนมปังอบเสร็จใหม่ ๆ หอมลอยเตะจมูกไปทั่ว


แหม....ถึงขั้นยกเอาเตาอบขนมมาแล้ว
ทำไมไม่ยกเอาอิฐ เก้าอี้ โต๊ะ มาก่อตั้งร้านตรงนี้เลยล่ะ
เอาเลยม่ะ กูจะได้ช่วยลงเสาเอกไปด้วยเลยไง
มันจะทำเด่นเกินหน้าเกินตาไปถึงไหน


...แม่งงงง น่าหมั่นไส้จริงโว้ยยยยยยย!!!!



หนุ่มแว่นเจ้าของร้านขนมไทยหน้าหงิก
จ้องมองร้านฝั่งตรงข้ามตาขวางด้วยความโมโห

เขารึอุตส่าห์นั่งคิดหาวิธีเรียกลูกค้าจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน 
เพราะหลังจากแผนการป่วนร้านครั้งนั้นจะประสบผลในคราวแรก
แต่ลงท้ายตลอดทั้งคืนที่ขาย ปริมาณลูกค้าที่แวะเวียนร้านบ้านขนมเดือนใจ
ก็ยังเยอะมากกว่าร้านหวานละไมขนมไทยแม่พลอยอยู่ดี


...แต่ใครกันจะยอมแพ้!!!


หลังจากเค้นสมองคิดแผนการกระตุ้นยอดขายจนหัวหมุน
เขาก็สรุปได้ว่าจะจัดขนมให้มากขึ้น
อ้อนแม่ให้ทำวุ้นสีรุ้ง ลงทุนปั้นลูกชุบสีสวย ๆ เป็นผลไม้หลากหลาย
จัดวางสลับคู่กับขนมชั้นดอกกุหลาบสีชมพูอ่อน
ประดับประดารายล้อมด้วยขนมจ่ามงกุฎชูโรง
พร้อมด้วยฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด ทองเอก ทองพลุ  วางบนใบตองสีเขียวสด
เรียงดีเทลสวยงามตระการตาอย่างกับจัดประกวดเอารางวัล

เขากะจะใช้สีสันของขนมไทยเนี่ยแหละเป็นตัวโปรโมท
แถมยังมีพวกขนมอื่น ๆ ที่ห่อใส่ถุงใสติดชื้อร้านเก๋ไก๋ดูดีมีราคาแบบสุด ๆ
ตั้งใจจะดึงดูดลูกค้าหักหน้าไอ้ร้านตรงข้าม

แต่พอเจอมันวันนี้ ถึงได้รู้ว่า....


...‘สี’ หรือจะสู้ ‘กลิ่น’


มันเล่นดักทาง ยกเตาอบมาเพื่อใช้กลิ่นหอม ๆ หลอกล่อลูกค้า
เพราะอานุภาพของกลิ่นขนมอบมันขจรขจายไปได้ไกลแถมเห็นผลเร็วมากกว่า
การที่ลูกค้าจะเดินเข้ามาดูปะติมากรรมขนมไทยอันสวยงามของเขาหลายเท่า


...สิ่งที่ทุ่มเทคิดมาตลอดทั้งคืนหมดความหมาย

นี่เขาถูกมันนำหน้าไปก่อนก้าวหนึ่งอีกแล้ว


...โธ่เว้ยยย!!  มันน่าเจ็บใจนัก!!!



“อ่ะ เอามาฝาก”

เสียงทุ้ม ๆ ที่ดังขึ้นทำให้คนโวยวายด้วยความแค้นในใจหยุดชะงัก
นัยน์ตากลมมองผ่านเลนส์แว่นสำรวจคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า


...ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร

ไอ้หัวฟู ๆ
ใส่เสื้อยืดโลโก้เบียร์ช้าง
กางเกงยีนส์ไม่เคยโดนแฟ้บ
แถมลากแตะหนีบช้างดาวมาแบบนี้

...ให้ตายก็มีอยู่แค่คนเดียว



“เห็นจ้องอยู่นานก็เลยนึกว่าอยากจะกิน”


เจ้าของร้านขายเบเกอรี่ยื่นถ้วยกระเบื้องสีขาวที่ห่อผ้ากันร้อนมาวางไว้บนโต๊ะ
กลิ่นหอม ๆ ของขนมกรุ่นไอเตาเสร็จใหม่ ๆ ลอยฟุ้ง
แทบจะกลบกลิ่นขนมไทยอบควันเทียนของเขา
ยิ่งเพิ่มความน่าหงุดหงิดหมั้นไส้ให้มากขึ้นเป็นทวีคูณ


...บ้าเปล่าวะ!
ไอ้เวรนี่อ่านสายตากูไม่ออกรึไง
กูจ้องมึงด้วยความแค้นโว้ยยย!!
ถ้าตากูมีเลเซอร์ปล่อยแสงได้ร้านมึงเป็นจุลไปแล้ว
ยังเสือกมีหน้าเอาขนมมาให้อีก


“ไม่ได้อยากกิน ดูก็รู้ว่ารสชาติคงห่วยแตก”

ตอบไปด้วยคำเหน็บอย่างรุนแรง
ประกาศเป็นศัตรูกันโต้ง ๆ ขนาดนี้ไม่ต้องมารักษามารยาทกันแล้ว

ทว่า อีกฝ่ายก็ยังคงแย้งกลับมาด้วยรอยยิ้มเรื่อย ๆ


“ไว้กินก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ”



...กูไม่กิน

จ้างให้ก็ไม่กิน

กูไม่อยากเสียปากให้กับของที่มึงทำ
อยู่ ๆ ก็เอาขนมมาให้แบบนี้
แอบใส่อะไรลงไปบ้างก็ไม่รู้
คิดจะมาแก้แค้นคืนด้วยวิธีนี้รึไง

...กูไม่โง่หรอกโว้ยยยยย!!!


แล้วมึงจะยืนอยู่อีกนานมั้ยห่ะ
เกะกะคนจะขายของ
สารรูปอย่างมึงมายืนหน้าร้านนาน ๆ
เดี๋ยวภาพพจน์ร้านกูเสียหายหมดเข้าพอดี


เจ้าของร้านขายขนมไทยกำลังจะขยับปากเอ่ยไล่
แต่คนซึ่งกำลังสนอกสนใจกับขนมไทยที่ตกแต่งเสียอลังการกลับพูดสวนขึ้นมาเสียก่อน


“จัดเองหรอ สวยดีนี่”


คำชมที่ไม่คาดฝันว่าจะได้รับ
ทำให้คนที่ลงทุนใช้เวลาประดิดประดอยอยู่นานเบรกประโยคด่า
เปลี่ยนเป็นคุยโว้อวดโชว์พาวทันที


“แน่อยู่แล้วก็คนมันมีฝีมือ
ไม่เหมือนใครแถวนี้ที่ต้องใช้ลูกเล่นขี้โกงเข้าล่อให้ได้ลูกค้า”


ทว่าตอนท้ายก็ยังคงมิวายแอบกัดเป็นครั้งที่สอง
แต่หนุ่มมาดเซอร์กลับไม่ได้สะทกสะท้าน
ตาคมละจากขนมไทยหันมามองคนบ่นประชด


“ไม่ได้ขี้โกงครับ บังเอิญของแบบนี้ มันอยู่ที่ตรงนี้”


เจ้าของคำพูดหยุดประโยคพลางใช้นิ้วชี้เคาะข้าง ๆ ศีรษะ
ก่อนเชือดด้วยวาจานิ่ม ๆ แต่บาดลึก


“แย่หน่อยนะ ที่ดูเหมือนผมจะมีมากกว่าคุณน่ะ
...คุณลูกแม่พลอย”


พูดจบก็หมุนตัวกลับไปที่ร้านของตัวเอง
โดยทิ้งของฝากไว้ให้กับคนที่กำลังแปรคำซึ่งได้ยินผ่านหู


อะไร.....
มันหมายกว่าอะไรที่มันดูเหมือนจะมีมากกว่า
แล้วใช้นิ้วเคาะไปที่หัวแบบนั้น


อย่าบอกนะว่า....


อย่าบอกนะว่ามันจะหมายถึง....


ไอ้เชี่ยยยย!!!!! 
นี่มันด่ากูโง่ใช่มั้ยเนี่ย!!!!!


อ๊ากกกกกก!!!!

...แค้นโว้ยยยยย


....แค้นนนนนน!!!!


...สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดก็คือ  ‘ความพ่ายแพ้’


ยิ่งมาตอกย้ำข่มกันแบบนี้แล้ว
ก็เหมือนกับโดนเอาน้ำลายมาถุยใส่หน้า


...หาว่ากูไม่มีสมอง
ไม่มีไอเดียความคิดสร้างสรรค์เท่ามึงหรอ
คอยดูเถอะ...คอยดู...
สักวันกูจะต้องขายดีกว่ามึง
เอาให้รวยล้นฟ้าจนมึงคลานมากราบตีนกูให้ได้


...มึงจำเอาไว้!!




“สวยจริง ๆ เลย ดูสิยัยแก้ม
นี่ขนมไทยโบราณทั้งนั้น เดี๋ยวนี้หาไม่ค่อยได้แล้วนะ”


น้ำเสียงตื้นเต้นที่ดังขึ้นส่งผลให้คนที่อยู่ในอารมณ์โมโหหยุดอาการของตัวเองทันที
แม้ใจจะเต็มไปด้วยความเดือดดาลสุด ๆ
แต่ก็ต้องรีบกดความรู้สึกเอาไว้
แล้วเปลี่ยนเป็นสวมหน้ากากแย้มยิ้มบริการขายให้กับลูกค้าหน้าใหม่
ซึ่งเป็นคุณแม่พร้อมกับลูกวัยมัธยมที่พยายามเดินออกห่างพลางบ่นบอกปัด
 

“ไม่เอาอ่ะคะ หนูไม่ชอบขนมไทยมันหวานแสบคอจะตาย”


“ขนมหลายอย่างก็ไม่ได้หวานมากหรอกครับ
อย่างวุ้นนี่ไง....
วุ้นพี่เป็นวุ้นสมุนไพร ก่อนทานแช่ตู้เย็นไว้
วันไหนอากาศร้อน ๆ ก็หยิบมากินจะได้เย็นสดชื่นดีแถมดีต่อร่างกายด้วยนะครับ”


เจ้าของร้านรีบพรีเซนต์โฆษณาขนมของตัวเองเต็มที่
พลางหยิบตัวอย่างวุ้นสมุนไพรสารพัดสีจากธรรมชาติออกมาให้อีกฝ่ายได้ยล
ซึ่งก็เรียกความสนใจของคนทั้งสองได้เป็นอย่างดี


“ต๊ายย น่าทานจัง นั้นนะสิค่ะ ช่วงนี้อากาศร้อนด้วย
เออ...แล้วขนมไทยทำมาก ๆ แบบนี้ไม่กลัวเสียเหรอคะ”


“ไม่หรอกครับ เพราะเราใช้ของสดใหม่ทำทุกครั้ง
ถ้าไม่ได้วางในที่อากาศร้อน  ๆ ชื้น ๆ ก็เก็บไว้ได้นานสามสี่วัน
ส่วนพวกขนมอบจะเก็บใส่ถุงไว้ได้เดือนหนึ่งเต็ม ๆ เลยครับ”


“จริงเหรอคะ ดีจัง เพราะว่าขนมไทยบางอย่างเก็บไว้ในตู้เย็นก็ไม่อร่อยแล้ว”


ผู้เป็นแม่บอกอย่างยินดีพลางเอื้อมมือหยิบขนมไทยกล่องนู้นกล่องนี้
แถมด้วยบรรดาขนมอบพวกทองม้วน ปั้นสิบ อีกสารพัด
จนลูกสาวต้องเอ่ยยั้งเมื่อเห็นปริมาณถุงที่มากขึ้นเรื่อย ๆ


“โห แม่ เอามาเยอะจัง”


“แม่จะซื้อไปให้พ่อด้วย
พ่อเค้านะกินแป๊ป ๆ ไม่ทันไรก็หมดแล้วกล่องเดียวพออยู่ท้องซะที่ไหนล่ะ”


ชายหนุ่มรับเงินค่าขนมพร้อมเอ่ยขอบคุณลูกค้าอย่างเสร็จสรรพ
ทว่าภายในหัวกำลังทบทวนฟังบทสนทนาจับเอาข้อมูลที่ได้ยินมาเรียงต่อกัน


...นั้นสินะ ขนมไทยน่ะกินเท่าไรก็ไม่ค่อยอยู่ท้อง
ยกเว้นแต่พวกขนมที่มีแป้งผสมอยู่เยอะ ๆ
อย่างสาลี่ หรือไม่ก็ข้าวต้มมัด
ส่วนไอ้ที่มีไข่ผสมน้ำตาลปึกแบบนี้ก็เป็นได้แค่ของทานเล่นเท่านั้น
แล้วก็จริงอย่างว่า จะให้เก็บไว้ในตู้เย็นนาน ๆ ก็คงไม่อร่อย
 
แต่ถ้าเขาทำขนมไทยที่เก็บไว้ได้นาน แล้วยังคงความอร่อยไว้อยู่ล่ะ
และยังต้องหนักท้องพอ ไม่หวานเลี่ยนมาก
แถมคนต้องรู้จักกันพอสมควรด้วย จะได้เจาะตลาดวัยรุ่นได้ไม่ยาก
เพราะว่าคนลูกค้าประจำที่คอยแวะเวียนมาร้านเขาก็มีแต่รุ่นสามสิบสี่สิบอัพทั้งนั้น
ถึงจะเป็นกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อเยอะ
แต่จะให้ละเลยเด็กรุ่นใหม่ซึ่งมีจำนวนไม่น้อยบนถนนคนเดินนี้ไม่ได้เหมือนกัน


“เอ๊ะ ขนมไทยนี่นา แกซื้อกินกันมั้ย”

คิดยังไม่ทันไรก็มีนักศึกษาสาวสองคนเดินขยับเข้ามาใกล้
พร้อมกับเมียงมองร้านอย่างสนอกสนใจ
เขากำลังจะอ้าปากโฆษณาแนะนำ
แต่หนึ่งในนั้นกลับชิงพูดขึ้นมาก่อน


“ไม่เอาอ่ะ ฉันกลัวอ้วน ไปดูเค้กตรงร้านนู้นดีกว่า คนมุงกันเยอะเลย”



...น้องครับ
พี่ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าขนมไทยมันมีแต่แป้ง ไข่ น้ำตาลของที่ทำให้แคลอรี่สูงทั้งนั้น


แต่เดี๋ยว....


...ไอ้ร้านขายเบเกอรี่มันก็ต้องใช้แป้ง ไข่ น้ำตาล เหมือนกัน

แล้วทำไมสาว ๆ ถึงกระจุกอยู่ที่ร้านมันร้านเดียววะ

ก็แค่ทำเป็นตกแต่งร้านเด่นกว่า
ส่วนขนมมันน่ะเหรอ...


...โธ่เอ้ยยย....จะแน่สักแค่ไหนกันเชียว



ตากลม ๆ เหลือบมองขนมในถ้วยกระเบื้องที่ใครบางคนเอามาเป็นของฝาก
ลังเลอยู่เล็กน้อยแต่ก็ตัดสินใจหยิบถ้วยที่ยังคงอุ่น ๆ  ขึ้นมาพิจารณา

ขนมเค้กสีน้ำตาลเข้มนอนสงบนิ่งอยู่ข้างในท่าทางนุ่มนวลชวนกิน
กลิ่นหอมของช็อคโกแล็ตอ่อน ๆ ลอยฟุ้งแตะจมูก
เขาก้มลงคุ้ยหาช้อนพลาสติกคันเล็กเตรียมพร้อม

และเพียงแค่สัมผัสแรกที่ตักลงไปในใจกลาง
ช็อคโกแล็ตเหลวข้นก็ทะลักขึ้นมามันที


...เฮ้ย! ทำไมมันเป็นอย่างนี้ล่ะ
สุกจริง ๆ รึเปล่าวะเนี่ย


เอ๊ะ..หรือว่ามันเป็นลักษณะของขนมแบบนี้วะ
ไอ้เขาก็ไม่ค่อยสันทัดพวกขนมฝรั่งเท่าไรด้วย


เอาวะ...ถ้าไม่อร่อยก็แค่คายทิ้ง
แล้วก็ไปด่าเปิงไอ้คนที่เอาของหมาไม่แดกมาให้แค่นั้นพอ



เขาขยับช้อนขึ้นตักขนมเค้กใส่ปาก
หลับตาเคี้ยวไปส่ง ๆ



นะ...นี่มัน


อะ....



อะ...



อร่อย....!!



ความขมนี่ผสมกับความหวานนิด ๆ อย่างลงตัว
รสชาตินุ่มนวลจนแทบละลายหายไปในปาก
กลิ่นหอมฟุ้งของช็อกโกแล็ตเข้มข้นกระจายทั่ว
สัมผัสเยิ้ม ๆ มัน ๆ แบบนี้ให้ความรู้สึกคุ้น ๆ เหมือนเคยกินที่ไหนมาก่อน


เหมือนกับ...


...สังขยา


เออ...ใช่...



สังขยา!



ขนมที่ใครก็รู้จัก ไม่หวานแสบคอ
ทำก็ง่าย ขายก็คล่อง
และยังเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานด้วย
แต่ว่ากินสังขยาอย่างเดียวคงไม่อยู่ท้อง
จะให้ทำเป็นสังขยาฟักทองก็กลัวจะเลี่ยน


งั้นต้องขายคู่กับขนมปัง
ทำเป็น ‘ขนมปังสังขยา’  เมนูใหม่
รับรองคราวนี้เรียกลูกค้าเพิ่มขึ้นได้แน่ ๆ


โอ้ว....กูนี่มันช่างอัจฉริยะจริง ๆ หนอ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


เออ...


ว่าแต่...


...แล้วจะไปซื้อขนมปังจากร้านไหนดีวะ



เจ้าของร้านขนมไทยขมวดคิ้วมุ่น
ครุ่นคิดถึงแผนการบรรเจิดซึ่งค้นพบสด ๆ ร้อน ๆ
มือก็ยังคงเผลอจ้วงขนมในมือเข้าปากอย่างลืมตัว


ร้านขายขนมปังที่ต้องเนื้อนุ่มไม่แข็งมาก
รสชาติเข้ากันกับสังขยา
ที่สำคัญต้องราคาถูก


แล้วก็....



เคร้ง!



อ้าว...ฉิบหาย


เสือกแดกเพลินจนหมดเลยกู


...ทำไงดีว่ะเนี่ย?


ดวงตาภายใต้กรอบแว่นมองซ้ายขวาเลิกลั่กเหมือนคนทำผิด
มือพยายามซ่อนของกลางที่หมดเกลี้ยงของตัวเองเอาไว้
ในหัวคิดหาหนทางทำลายหลักฐาน
ก่อนจะร้องบอกเจ้าของร้านขายน้ำปั่นข้าง ๆ


“พี่แป๋ม ผมฝากร้านหน่อยนะครับ เดี๋ยวมา”


....


..


.


เกือบห้าทุ่ม คนในตลาดเริ่มเบาบางลงแล้ว
หนุ่มมาดเซอร์เจ้าของร้านขนมเดือนใจ
เตรียมไล่เก็บโปสการ์ดพร้อมข้าวของเพื่อปิดร้าน


...ดีจริง วันนี้ก็ยังขายดีเหมือนเดิม
กลยุทธ์ที่คิดไว้เห็นผลเกินคาด
ถ้าเป็นแบบนี้ไปได้ตลอดล่ะก็
ความฝันที่จะเปิดร้านขายเบเกอรี่อย่างเต็มรูปแบบก็คงใกล้จะเป็นจริง


เขานึกอย่างยินดี แต่เมื่อหันหลังเตรียมยกอุปกรณ์เก็บลงกล่อง
ก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่ามีถ้วยกระเบื้องสีขาวปริศนาวางทิ้งไว้นอกแถว
และเป็นถ้วยที่ถูกล้างมาเสียสะอาดเป็นอย่างดีแตกต่างจากถ้วยที่ยังเลอะเศษขนมอื่นๆ


เขาหยิบมันขึ้นมาพิจารณา
ความจริงมันก็เป็นแค่ถ้วยธรรมดา ๆ ใบหนึ่ง


แค่ถ้วยธรรมดา....


แต่ไม่รู้ทำไม...


...เขาถึงได้เผลอ ‘ยิ้ม’ ให้กับถ้วยใบนี้อยู่ได้ตั้งนาน



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-06-2012 23:37:46
ฮ่าๆๆๆๆเผลอกินหมดถ้วยเลยหรอ :pigha2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >;>; P.15
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-06-2012 23:57:29
รอขนมปังสังขยาลูกแม่พลอย คิกคิก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-06-2012 00:44:40
เค้าจีบกันอย่างนี้นี่เอง  :m1:



 :laugh3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-06-2012 01:10:04
มันมีที่มาที่ไปแบบนี้นี่เอง  เข้าใจคิดจังเลยค่ะ

 :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-06-2012 07:50:23
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-06-2012 08:46:29
จีบกันแปลกๆ เนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 14-06-2012 10:02:17
เง้ออออออออออออออออออ หนมปังสังขยา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 14-06-2012 11:53:01
คุณลูกแม่พลอยครับ เจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้ระวังเสียสุขภาพจิตนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-06-2012 12:10:24
เค้าจีบกันใช่มั้ย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 14-06-2012 12:45:47
อีกหน่อยก็คงหุ้นกันทั้งร้านทั้งตัวและหัวใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 14-06-2012 13:02:51
ว้าวน่าอ่านสุดๆ เรื่องใหม่ก็น่ารักดีนะ มาต่ออีกเถอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 14-06-2012 13:45:21
ก็รวมร่างรวมร้านซะเลยสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 14-06-2012 19:46:58
จะขายขนมปังสังขยาเหรอ  แล้วขนมปังก็ต้องไปซื้อที่ร้านหนุ่มอินดี้ใช้ม่ะๆ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 3] 13/06/55 >> P.15
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 15-06-2012 10:52:47
อ่านจบทีไร หิวได้ตลอดเลยอ่ะ 55
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 16-06-2012 06:55:02

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 4



“ซื้อขนมปังหน่อยจ้า”


“อ้าว พี่แป๋มเอาอะไรดีครับวันนี้”


เจ้าของร้านบ้านขนมเดือนใจร้องทักทาย
สาวเจ้าเนื้อท่าทางใจดีผู้ขายน้ำปั่นอยู่ตรงข้ามเยื้อง ๆ ร้านเขา


แม้จะเข้าสู่สัปดาห์ที่สองแล้ว
แต่ถนนคนเดินติดริมน้ำเย็นย่ำวันศุกร์นี้
ก็ยังคงมีผู้คนเดินจับจ่ายซื้อของอย่างคึกคัก
ทำให้มีลูกค้าทั้งหน้าใหม่และคนคุ้นเคยแวะเวียนอยู่หน้าร้านเบเกอรี่ไม่ได้ขาด


“ขอขนมปังหัวกะโหลกแถวหนึ่งล่ะกันจ๊ะ”

หนุ่มมาดเซอร์พยักหน้า หยิบถุงบรรจุขนมปังเนื้อหนานุ่ม
แลกกับแบงค์ที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มขอบคุณ
ก่อนหญิงสาวจะหันหลังเดินกลับไปยังฝั่งตรงข้าม


ทว่า แทนที่ขนมปังถุงนั้นจะถูกวางลง ณ ร้านขายน้ำปั่น

แต่คนถือกลับยื่นส่งให้ใครบางคนที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ 
คอยแอบลุ้นสอดส่องพฤติกรรมเมื่อครู่จนแทบไม่วางตา



“เอ้า ซื้อมาให้แล้วนะ
ว่าแต่ทำไมเราไม่ไปเลือกซื้อเองล่ะ
ร้านอยู่ตรงข้ามแค่เนี่ย”


ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนุ่มแว่นเจ้าของร้านขนมไทย
ที่พอรับถุงขนมปังมาได้ก็รีบซ่อนไว้ประหนึ่งเป็นของผิดกฎหมาย
พลางส่งเสียงจุ๊ปากให้อีกฝ่ายพูดเบา ๆ

“ชู่ววว อย่าเสียงดังสิครับพี่
ที่ผมไม่ไปซื้อเองก็เพราะ.....
เออ.....ก็เพราะ.....
เพราะอยากให้พี่แป๋มลองไปเปิดหูเปิดตาบ้างไงครับ”

“แหม....ดูอ้างเหตุผลเข้า
ไม่ถูกกับเขาก็พูดมาเถอะจ๊ะ
ทะเลาะกันเป็นเด็ก ๆ ไปได้นะเรา”


หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่ายใจให้กับคำแถสีข้างถลอก

เธอรู้เรื่องสงครามปะทะคารมของคนทั้งคู่เป็นอย่างดีตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน
ขายขนมเหมือนกันแท้ ๆ ทำไมไม่ผูกมิตรกันไว้ก็ไม่รู้
คนหนึ่งก็ช่างแหย่ อีกคนหนึ่งก็ยุขึ้นง่ายเหลือเกิน
แล้วเมื่อไรจะหันมาดีกันได้สักที

เฮ้อ....

เธอล่ะไม่เข้าใจเหตุผลเรื่องศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายเลยจริง ๆ


ทว่า คนที่รักศักดิ์ศรีลูกผู้ชายยิ่งชีพกลับไม่ได้รับรู้สิ่งที่อีกฝ่ายคิดเลยแม้แต่น้อย
เพราะตอนนี้ใจของเขากำลังจดจ่ออยู่กับของที่ได้มาไว้ในมือ
ซึ่งเป็นของสิ่งเดียวกับที่ตามหา

นั้นก็คือ ‘ขนมปัง’ ที่จะมาเป็นเมนูคู่บุญกับ ‘สังขยาใบเตย’ ขั้นเทพของร้านหวานละไม
 
เขาใช้เวลาตลอดทั้งอาทิตย์ตระเวนหาแต่ก็ยังไม่เจอที่ถูกใจสักที
บางร้านขนมปังก็แข็งเกินไป
บางร้านก็นิ่มซะจนดูเหี่ยวไม่น่ากิน
บางร้านดูท่าทางใช้ได้ แต่รสชาติดันไม่ละมุนพอที่จะเข้ากับสังขยาที่ทำ

หาอยู่นานจนแทบจะถอดใจ
ไอ้ครั้นอยากจะทำเอง แต่ความรู้ก็ไม่ถึง
มันจะมีมั้ยนะ ขนมปังหัวกะโหลกที่หนานุ่มแบบพอดี ๆ
สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่แข็ง
และยังคงกลิ่นหอมเหมือนเพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ

เขาคิดวนเวียนถึงเรื่องนี้อยู่นานกระทั้งถึงวันที่ต้องมาเปิดร้านบนถนนคนเดินนี้อีกครั้ง
แล้วตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็นไอ้ร้านเบเกอรี่ฝั่งตรงข้าม
แน่นอนว่าร้านนั้นยังไงก็ต้องมีขนมปังขายอยู่แล้ว
แต่จะให้ไปซื้อของร้านศัตรูมากินงั้นเหรอ
ใครจะไปทำลง!


เอ๊า แต่คราวที่แล้วใครกันที่ดันกินขนมที่มันให้ซะหมดถ้วย


เออ  ก็กูเองนี่ไง...


ไม่อยากยอมรับเท่าไรหรอกว่ามันอาจจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง
แต่คราวที่แล้วอาจแค่ฟลุ๊กเฉย ๆ ก็ได้
ครั้งนี้เลยต้องพิสูจน์ให้แน่ใจว่าของจริงจะเป็นยังไง

ดูๆ ไปไอ้ขนมปังนี้เท่าที่เห็นภายนอกก็ใช้ได้
ราคาแค่ 20 บาท แต่ให้มา 6 แผ่นหนา ๆ
ถูกเหมือนกันแหะ


หนุ่มแว่นหยิบขนมปังแผ่นสี่เหลี่ยมขึ้นมาหนึ่งชิ้น
ทดลองฉีกเพื่อดูความเหนียวของเนื้อแป้ง
แรงต้านไม่หนืดมากกำลังดี บ่งบอกถึงการนวดที่ทำมาอย่างพอเหมาะ

แต่สิ่งสำคัญจริง ๆ คือเรื่องของรสชาติต่างหาก

เขาตัดสินใจส่งขนมปังเข้าปากก่อนบรรจงเคี้ยวช้า ๆ
สัมผัสแรกคือความนุ่มละมุนพิเศษเฉพาะแตกต่างจากร้านไหน ๆ
กลิ่นหอมของเนยลอยมาจาง ๆ ผสมผสานกับรสเค็มปะแล่มนิด ๆ
ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งให้ความรู้สึกเบาและนุ่มฟู
แต่ก็ยังคงความเหนียวของเนื้อแป้งอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมปังเอาไว้


ให้ตายเหอะ....

อร่อยเป็นบ้า!!


แต่เดี๋ยวก่อน...
ยังมีด่านสำคัญที่ตัดสินผลชี้ชะตา
คือต้องลองกับสังขยาใบเตยของร้านเขาต่างหาก

ชายหนุ่มเอื้อมหยิบกระปุกที่บรรจุสังขยาซึ่งเตรียมทำมาด้วย
ก่อนจะบิขนมปังอีกหนึ่งชิ้น
จุ่มลงในสังขยาเนื้อนวลแล้วส่งเข้าปากตามไปทันที


อืม....

....กลิ่นแบบนี้

....สัมผัสแบบนี้

....รสชาติแบบนี้

....ความกลมกล่อมแบบนี้


ใช่....

ใช่เลย

ในที่สุดก็เจอ

สิ่งที่เขาตามหามาเนิ่นนาน

ขนมปังที่จะมาเข้าคู่กับ ‘สังขยา’


นั้นก็คือ ‘ขนมปังหัวกะโหลก’ แผ่นนี้นี่เองงงงงง!!!!!



แม้หัวใจเต็มตื้นน้ำตาแทบไหลพรากเมื่อพบเจอสิ่งที่ต้องการ
แต่ลึก ๆ แล้วเขาก็ยังไม่ลืมว่า ไอ้ขนมปังชิ้นนี้มันมาจากร้านของใคร

หึ อย่าฝันว่าคนอย่างลูกแม่พลอยจะลดศักดิ์ศรีไปก้มหัวขอซื้อขนมปังจากร้านมัน
ระดับเขาแล้วต้องทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่และทรงคุณค่ามากกว่านั้น


นั้นก็คือ....
ต้องหาทางขโมยสูตรขนมปังหัวกะโหลกมาจากมันให้ได้!!


แล้วทีนี้หนทางที่ร้านหวานละไมจะขึ้นทะยานเป็นร้านยอดนิยมอันดับหนึ่ง
เบียดไอ้ร้านบ้านขนมเดือนใจตกกระเด็นไปก็จะสำเร็จ


ฮ่า ๆๆๆๆ คิดแล้วมันสะใจจริง ๆ โว้ยยยย!!!




“น้องจ๊ะ ปั้นสิบมีไส้ปลาบ้างรึเปล่า”

ภาพในฝันถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกของลูกค้า
เจ้าของร้านรีบปรับโหมดเปลี่ยนสีหน้าเป็นรอยยิ้มบริการทันที


แผนการที่จะขโมยสูตรค่อยกลับไปคิดทีหลัง
แล้วความลับเรื่องขนมปังของมันก็จะถูกเปิดเผย

คราวนี้แหละ....
ร้านของมันก็จะไม่ต่างอะไรไปจากลูกไก่ในกำมือเขาเท่านั้น

คอยดูไว้ให้ดีเถอะ!!

....

..

.


อีกสิบห้านาทีจะห้าทุ่ม

ร้านรวงต่าง ๆ เริ่มทยอยกันเก็บแผง
วันนี้ขนมไทยยังเหลืออยู่นิดหน่อย
แต่ไม่เป็นไรขนมพวกนี้เพิ่งทำเมื่อเช้า
พรุ่งนี้ก็ยังเก็บขายต่อได้อีกวัน

หนุ่มแว่นยกกล่องใบใหญ่ขึ้นมาเตรียมนำขนมที่เหลือใส่ลงไป
ทว่า ยังไม่ทันจะได้หยิบแพ็คขนมใด ๆ
เสียงปริศนาก็ดังขึ้น


“ขอซื้อขนมหน่อยสิ”


ลองทายดูสิครับว่าใคร

ก. ไอ้เวรกวนตีนหัวฟูติสต์แตกปากหมา

ข. ไอ้เด็กอาร์ตอินดี้ชอบใส่เสื้อยืดลายโลโก้ที่คิดว่าตัวเองเซอร์แล้วเท่

ค. ไอ้คนขายเบเกอรี่ที่เขาแช่งให้ร้านมันเจ๊งทุก ๆ สองนาที

ง. ไอ้ลูกร้านแม่เดือนที่ดันเดินมายืนยิ้มทำสีหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนอยู่หน้าร้านเขาอย่างโคตรน่าหมั่นไส้


คำตอบ ข้อ จ. ถูกทุกข้อ


ดวงตาโตภายใต้กรอบแว่นจ้องอีกฝ่ายตาขวาง
ถึงจะเป็นลูกค้าแต่กับคนคนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่า
ไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงบริการยิ้มให้เมื่อยปากเลยสักนิด

ทว่า ผู้มาเยือนดูเหมือนจะไม่รับรู้ถึงรังสีอาฆาตใด ๆ
เพราะเจ้าตัวยังคงสำรวจดูขนมไทยที่เหลือไม่มากบนแผงอย่างสนอกสนใจ
ก่อนจะเอ่ยคำเมื่อตัดสินใจได้


“เอาตะโก้ก็แล้วกัน เหลืออยู่สามกล่องนี่ของเหมาหมดเลยนะ”


เอ๊ะ...คราวนี้มาแปลกวะ
นึกว่ามันจะมาหาเรื่องพูดกวนอะไรซะอีก
แต่แค่กลับมาซื้อขนมเฉย ๆ หรอ

เออ ดีเหมือนกัน
ตราบใดที่มันมีเงินมาแลก
ยังไงเขาก็ยอมขาย


เขาหยิบตะโก้สามกล่องใส่ถุง
ก่อนจะรับแบงค์ร้อยมาพลางคุ้ยหาเหรียญทอนให้ไป 10 บาท
แต่พอยื่นเงินให้เท่านั้น อีกฝ่ายก็ถามสวนกลับมา


“แล้วอร่อยมั้ย”


นั้นไง นึกว่าไม่กวน
สุดท้ายมันก็เอาจนได้
คิดว่าฝีมือขนมร้านหวานละไมระดับไหนกันวะ
ชิชะ แม่งกล้าดูถูกหรอ พูดออกมาได้ยังไง


“เอ้า ก็ต้องอร่อยอยู่แล้ว
ของแท้จากสูตรชาววังดั้งเดิม
คนมีบุญเท่านั้นนะโว้ยถึงจะได้กิน”

เชิดหน้าตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจเต็มที่
ทว่าอีกฝ่ายกลับส่ายศีรษะช้า ๆ
พร้อมกับเอ่ยอธิบายประโยคให้ชัดเจน


“ไม่ใช่

ขนมปังที่คุณฝากพี่แป๋มซื้อน่ะ

อร่อยมั้ย....

คุณลูกแม่พลอย”



ชิบหาย....


อะ...

อะ...ไอ้....

ไอ้ลูกแม่เดือน....


มัน......

มันดันเห็น....


จากสีหน้ามั่นใจเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นซีดลง
และเริ่มหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อโดนใครบางคนตอกย้ำซ้ำเติมเข้าไปอีก


“อยากกินก็บอกไม่ต้องฝากคนอื่นซื้อ
เดี๋ยวจะเอามาให้เอง
จะกินอะไรล่ะ
ช็อคโกแล็ตลาวาเหมือนคราวที่แล้วมั้ย
เห็นกินซะเกลี้ยงเลยนี่”


ถูกด่าอย่างอื่นยังไม่เจ็บเท่าถูกเห็นตอนตัวเองเสียศักดิ์ศรี
แถมยังโดนรื้อฟื้นเรื่องเก่ามาให้ช้ำกว่าเดิมซ้ำสอง

แต่ไม่ได้....
ถึงจะเป็นเรื่องจริง
เขาก็จะไม่ยอมปล่อยให้มันมาหักหน้าง่าย ๆ แบบนี้

คนถูกต้อนจึงรีบพูดปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก

“ตะ...ตาฝาดเปล๊า
ใครกินกัน....
ไม่เห็นจะอร่อยเลย”

พูดออกไปโดยไม่ทันได้คิด
และก็เพราะไม่ได้คิด
จึงทำให้ประโยคออกมาแสนจะขัดกันเองแบบสุด ๆ
จนคนฟังต้องพยายามกลั้นเสียงหัวเราะไว้

ถามมาได้ว่าใคร กินเข้าไปแล้วยังจะทำไม่รู้เรื่องอีก
ไอ้เนิร์ดลูกแม่พลอยมันฮาจริง ๆ วะ
แกล้งมันคลายเครียดยังงี้ก็สนุกไปอีกแบบ
แต่จุดประสงค์ที่เขามาจริง ๆ
นอกจากจะมาแหย่มันแล้ว
ยังมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้นอีกเรื่อง


“นี่คุณลูกแม่พลอย ผมจะมาขอถ่ายรูปร้านคุณได้มั้ย
คือว่า คณะกรรมการจะจัดโปรโมทถนนคนเดิน
ก็เลยวานให้ผมมาถ่ายรูปทำโฆษณาแต่ละร้าน”

พูดจบก็ยกกล้อง DSLR ระดับโปรตัวโปรดขึ้นมาประกอบคำพูด

ฝ่ายคนฟังซึ่งแอบโล่งอกที่คู่สนทนาเปลี่ยนประเด็นนึกทบทวนสิ่งที่ได้ยิน
ก็พอคุ้น ๆ อยู่บ้างแหละว่าทางเทศบาลจะหาทางโปรโมทตลาดให้มากขึ้น
มันอยากถ่ายก็ถ่ายไปเถอะ
จะได้มีช่องทางเรียกลูกค้าจากต่างจังหวัดได้บ้าง


แต่เอ๊ะ...


“แล้วมาถ่ายตอนขนมผมจะหมดร้านแล้วเนี่ยนะ”

“เอ๊า แล้วไม่ดีเหรอ
คนอื่นจะได้เห็นว่าขนมร้านคุณอร่อย
ถึงได้ขายจนเกือบหมดเกลี้ยงไง”

หนุ่มติสต์ยักไหล่ตอบอย่างไม่ยี่หระ
ทำให้คนที่ได้ฟังเหตุผลทวีความโมโหกระแทกเสียงตอกกลับ

“จะบ้าเหรอวะ!! ใครจะไปคิดยังงั้นได้
อ๋อ หรือนี่เป็นแผนของคุณ
ตั้งใจจะถ่ายรูปร้านเบเกอรี่ของตัวเองสวย ๆ
แล้วถ่ายร้านอื่นให้ห่วย จะได้แกล้งทำให้ขายไม่ได้ใช่มั้ย
คนอะไรโคตรเห็นแก่ตัว!! ขี้โกงหาทางทำทุกรูปแบบจริง ๆ”

คำสันนิษฐานพร้อมกับการแอบกัดท้ายประโยค
ส่งผลให้คนโดนเหน็บระอาใจกับจินตนาการสุดล่ำเลิศที่ไปไกลคนละทิศ

“อะไรกันคุ๊ณณณ
คุณนั้นแหละที่บ้า คิดไปถึงไหนกัน
งั้นพรุ่งนี้ผมจะมาถ่ายใหม่ก็ได้
จัดให้สวย ๆ เหมือนวันนั้นเลยนะ
จะได้ไม่ต้องมาหาว่าใครเอาเปรียบกันอีก”

แม้ข้อเสนอจะเป็นที่น่าพอใจ
แต่ด้วยอารมณ์ที่ยังคุกกรุ่น
สุดท้ายก็ไม่วายที่จะบ่นประชดไปอย่างไม่ยอมแพ้ตามนิสัย

“เออ ไม่ต้องมาสั่งหรอกน่า
คุณเองนั้นแหละ แน่ใจนะว่าถ่ายรูปได้ดีจริง”

ทว่า คราวนี้คนถูกถามไม่ได้มีอาการหงุดหงิดใด ๆ
กลับเพียงแค่เผยรอยยิ้มเรื่อย ๆ กวน ๆ อย่างที่เคยทำ
ก่อนจะตอบคำด้วยประโยคเด็ดเหมือนหมัดหนักที่ทำให้ใครบางคนแทบหน้าหงาย


“ฝีมือถ่ายรูปผมก็ดีพอ ๆ กับทำขนมนั้นแหละ

ไม่งั้นจะมีคนติดใจกินซะหมด

แถมยังไปซื้อเพิ่มเองอีกหนด้วยหรอ”



“ไอ้...!!!!”


หนุ่มมาดเซอร์ไม่รู้แล้วว่าอีกฝ่ายตะโกนอะไรไล่หลังมา
เพราะเขาวิ่งข้ามฝากกลับมายังร้านตัวเองเรียบร้อยแล้ว

นึกถึงตอนที่เผลอเห็นมันกินขนมปังแล้วก็ตลกทุกที
ทำเป็นฝากคนอื่นมาซื้อ แถมยังหลบลงไปหลังโต๊ะแอบกินด้วย
ไม่รู้รึไงว่าไอ้ท่าทีแบบนั้นมันน่าสงสัยขนาดไหน
และพอเห็นถุงขนมปังร้านตัวเองติดมือมันขึ้นมาก็พอจะเข้าใจ

คนอะไรกันไม่ยอมรับความจริง
ขนาดกินขนมของเขาตั้งสองครั้งแต่ก็ยังแกล้งไม่รู้เรื่อง

แค่อร่อยก็บอกมาเถอะ
มันจะยากสักแค่ไหนกันเชียว

คิดพลางยกกล่องกระดาษที่เพิ่งซื้อออกมาเปิด
ขนมเนื้อสีขาวนวลห่อด้วยใบตองสีเขียวสดทรงสี่เหลี่ยมหกอันนอนนิ่งอยู่ในนั้น
เขาจัดการหยิบมันเข้าปากไปหนึ่งชิ้น

รสเข้มข้นหวานมันของกะทิผสมกับรสหวานนิด ๆ ของข้าวโพด
ละมุนลงตัวพอดิบพอดีไม่เลี่ยนจนเกินไป


“อร่อย”


พึมพำกับตัวเองพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ

เห็นมั้ยพูดแค่นี้ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย
ถ้ายังพูดไม่เป็น
สงสัยคราวหน้าคงต้องสอนให้พูดด้วยตัวเองซะแล้ว

แล้วอย่ามาหาว่าเอาเปรียบอีกไม่ได้นะ
เล่นกันแฟร์ขนาดนี้แท้ ๆ

ใช่มั้ยครับ

...คุณลูกแม่พลอย



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-06-2012 07:12:01
 :m20:เล่นเป็นเด็กๆไอ้คู่นี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-06-2012 08:13:41
คู่นี้อายุเท่าไรกันแล้ว? เล่นเป็นเด็ก ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 16-06-2012 08:45:44
เมื่อไหร่จะสะดุดรักกันน้อ

รอค่ะ

บวกเป็ด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-06-2012 09:20:12
ก็ขอหนุ่มติสเป็นแฟนเลย แล้วก็mergeร้านรวมกัน เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน  :interest:

รวยเห็นๆ   :laugh3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 16-06-2012 09:49:08
บ๊ะ... 

คู่นี้มันน่ารักฟ่ะ  แหย่กันไปแหย่กันมา
อีกฝ่ายชอบแหย่  อีกฝ่ายก็ของขึ้นง๊ายง่าย

อ่านแล้วฮา  น่ารักๆ  เอิ๊ก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >;>; P.16
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-06-2012 09:55:29
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 16-06-2012 10:23:52
ร้านขนมนี่ หวานกันจังนะ อยากกินอีกหลายๆๆชิ้น รีบมาต่อนะคะ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-06-2012 10:28:08
แล้วจะรักกัน
ตอนไหนเนี่ย  :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-06-2012 10:32:39
น่าร๊ากกกก พ่อค้าขนมหวานทั้ง 2   :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 16-06-2012 10:46:27
แหย่กันเป็นเด็กน้อยเชียว :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 16-06-2012 12:50:19
ปากแข็งแบบนี้ต้องจับมานวดด้วยจูบบ่อยๆ จะได้อ่อนระทวยลงบ้าง เอิ๊กกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 16-06-2012 13:38:09
ชอบแนวนี้จัง น่ารัก หนุ่มขนมไทยนิสัยเคะมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 16-06-2012 16:53:00
 :กอด1:อยากกินขนมปังสังขยากับน้ำเต้าหู้รสกาแฟจังเลย o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 16-06-2012 19:41:20
ผ่านไป 4 ชิ้นก็ยังไม่เห็นแววว่าจะรักกัน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 4] 16/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 17-06-2012 11:15:46
กัดกันตล๊อดตล๊อด 5555"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 17-06-2012 12:18:05

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 5


“เสร็จรึยังครับ”


โอยยยย....อย่าเร่งได้มั้ยวะ!!
ไม่เข้าใจรึไงว่าศิลปะมันต้องใช้เวลา
เร่งมาก ๆ เดี๋ยวหงส์ของกูคอหักขึ้นมาทำไง
อุตส่าห์เสียเวลานั่งจัดตั้งนาน
ถ้าพังแล้วมึงจะรับผิดชอบมั้ยห่ะ
จะรับผิดชอบมั้ย....!!

หนุ่มแว่นเจ้าของร้านหวานละไมบ่นในใจอย่างหงุดหงิด
แต่ก็ยังไม่วางมือจากการบรรจงจัดวางขนมไทยอย่างอลังการ
โดยใช้โครงต้นกล้วยและลวดดัดเป็นรูปหงส์เสริมด้วยบรรดาขนมโบราณมากมาย
ไม่ว่าจะเป็น จ่ามงกุฎ ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมชั้นดอกกุหลาบ
เรียงต่อกันเป็นชั้น ๆ สลับสีสันแซมด้วยใบเตย
ทั้งดูน่าทานและสวยงามในเวลาเดียวกัน


“โอเค เรียบร้อยล่ะ”

คนพูดปาดเหงื่อหลังจากทุ่มเทเวลาร่วมสองชั่วโมงให้กับงานศิลปะจากขนมไทยชิ้นนี้
แม้จะเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก แต่ผลงานที่ออกมานั้นดูดีเป็นที่น่าพอใจ
แถมยังแฝงกลิ่นอายเอกลักษณ์ความเป็นไทย ๆ ได้อย่างพอเหมาะตรงคอนเซปต์
จนเรียกความสนใจจากลูกค้าที่ผ่านไปมาบนถนนคนเดินได้ไม่น้อย

และยิ่งถ้าเกิดเอาปะติมากรรมหงส์ลงในโฆษณาโปรโมตตลาดจนโด่งดังล่ะก็
คิดดูสิว่า ลูกค้าจะไหลมาเทมาได้มากขนาดไหน

โอ้ว...แค่นึกภาพก็เห็นหนทางกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าอยู่ตรงหน้ารำไรแล้ว


“ถ่ายให้สวย ๆ ล่ะ คุณลูกแม่เดือน”

เจ้าของร้านขายขนมร้องบอกหนุ่มมาดเซอร์ซึ่งไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับ
ทำแค่เพียงถือกล้องเดินเข้าไปสำรวจน้องหงส์ขนมไทยด้วยสีหน้าแววตาเคร่งเครียด


หึ เป็นไงล่ะ
เห็นฝีมือกูแล้วอึ้งไปเลยอ่ะดิ
กูก็มีสมองมีไอเดียเหมือนกันโว้ยยย
คิดว่ามึงทำได้คนเดียวหรือไง
บอกแล้วว่าอย่าให้ถึงทีกูบ้าง
เจอเข้าไปแล้วจะหนาว หึๆๆๆ

เสียงถ่ายรูปยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องอีกหลายสิบภาพ
โดยมีตากล้องจำเป็นขยับเปลี่ยนมุมนู้นมุมนี้จนทั่ว
กระทั่งหนุ่มเซอร์ลดมือลงแล้วหันมาร้องบอกคนที่มองอยู่ห่าง ๆ

“ร้านคุณมีขนมอะไรแนะนำเป็นพิเศษมั้ย
ผมอยากจะถ่ายเดี่ยว ๆ
ช่วยจัดมาให้หน่อย”

ได้คร้าบบบ........
ทียังงี้ล่ะทำเป็นสั่งเสียงจริงจัง
แต่เพื่ออนาคตอันรุ่งเรื่องของร้าน
เขายินดีจัดให้อยู่แล้ว

เจ้าของร้านขนมไทยเดินกลับเข้าไปที่ร้าน
หยิบเอาขนมชั้นดอกกุหลาบสินค้าขายดี
รองลงมาก็เป็นลูกชุบ แล้วก็พวกตะโก้ กับขนมอบทั้งหลาย
มาวางเรียงจัดคอมโพสิชั่นให้อย่างเรียบร้อย
ซึ่งตากล้องก็ทำหน้าที่กดชัตเตอร์อย่างนิ่งเงียบ
โดยไม่ปริปากพูดใด ๆ ผิดวิสัยคนช่างกวนแบบที่ทำเป็นประจำ

ใช้เวลาเพียงไม่นาน
กระบวนการถ่ายรูปสินค้าต่าง ๆ ก็จบลง
แต่ทว่า ช่างกล้องก็ยังคงไม่ยอมหยุดทำหน้าที่กลับเอ่ยคำสั่งขึ้นมาอีกครั้ง

“ไหนคุณลองเข้าไปยืนขายอยู่หน้าร้านสิ”

คนได้ยินสะดุ้ง ร้องถามขึ้นอย่างงง ๆ

“ห่ะ ผมต้องถ่ายด้วยหรอ”

“แล้วจะให้ร้านมันตั้งอยู่เฉย ๆ โดยไม่มีคนขายรึไง”

คำอธิบายกึ่งประชดทำให้คนฟังอารมณ์ขุ่น
มันก็จริงอยู่หรอก
จะปล่อยให้ร้านโล่ง ๆ ว่าง ๆ มันก็ดูใช่ที
เอาวะ เข้าไปก็ได้ ตั้งท่าถ่ายแป๊บ ๆ ก็เสร็จแล้ว

หนุ่มแว่นเดินฉับ ๆ กลับไปยืนอยู่หลังแผง
หน้านิ่งมองกล้องอย่างเกร็ง ๆ จนคนที่ตั้งท่าถ่ายต้องเอ่ยสั่งอีกรอบ

“ยิ้มหน่อยสิ”

โว๊ะ เรื่องมากจริง
นึกบ่นหงุดหงิดในใจ แต่ปากก็บรรจงฉีกยิ้มกว้าง
ด้วยรอยยิ้มการค้าอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
ทว่าดูเหมือนการกระทำเช่นนี้จะยังคงไม่เป็นที่น่าพอใจของใครบางคน
เพราะเขายังได้ยินเสียงพูดย้ำ

“ผมบอกให้ยิ้มไง ไม่ได้ยินเหรอ”

เอ้า คิดว่ากูร้องไห้อยู่รึไงวะ
ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว
ยังเสือกบอกให้ยิ้มอีก
อะไรของมัน จะกวนกันอีกแล้วใช่มั้ย

“ก็ยิ้มอยู่นี่ไง ตาบอดเหรอวะ”

“ยิ้มตรงไหน
แค่ยิ้มที่ปาก แต่ตาไม่ยิ้มด้วยน่ะ
เขาไม่เรียกว่า ‘ยิ้ม’ จริง ๆ หรอก”

เอ๊ะ ไอ้นี่ เสือกมียอกย้อน
ถ้าปากฉีกยิ้มจะมองยังไงมันก็คือยิ้มอยู่ดี
มึงดูออกด้วยเหรอว่าตากูรู้สึกยังไง
มึงมีพลังจิตเห็นในใจกูด้วยว่างั้น

“อะไร คุณรู้ได้ไงว่าตาผมไม่ยิ้ม”

คำถามน้ำเสียงหงุดหงิดที่ได้ยิน
ทำให้หนุ่มติสต์ละสายตาออกจากช่องมองภาพ
เงยหน้าขึ้นตอบคนช่างสงสัย

“ทำไมผมจะไม่รู้
กล้องมันไม่เคยโกหกหรอกนะคุณ
ยิ้มที่ไม่ได้ออกมาจากใจแป๊บเดียวก็ดูออกแล้ว
หรือว่าคุณยิ้มไม่เป็นรึไง”

ถ้อยคำดูถูกปนถากถางเรียกความโมโหของคนไม่ยอมแพ้ให้พุ่งปรี๊ด

“ทำไมจะยิ้มไม่ได้
นี่ไง ยิ้มแล้วเห็นมั้ย”

กระแทกเสียงตอบกลับไปพลางยิ้มกว้างไปพลาง
ท่าทีแบบนั้นยิ่งทำให้ภาพออกมาดูตลกกว่าเดิมเสียอีก
จนทำให้ช่างกล้องอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ

“เฮ้อ....เอางี้.....
คุณลองนึกถึงเรื่องสนุก ๆ อะไรก็ได้
เรื่องที่ทำให้มีความสุข เรื่องที่ทำให้คุณหัวเราะพอมีบ้างมั้ย”

คนฟังชะงักกึก
ในหัวทบทวนถึงคำแนะนำ


เรื่องสนุก ๆ ที่ทำให้หัวเราะ
เรื่องที่มีความสุข


เรื่อง....

เรื่องไหน...


เรื่องอะไรล่ะ...


...นึกไม่ออก


มันเคยมีอยู่ด้วยเหรอ.......



เจ้าของร้านขนมไทยนิ่งเงียบอยู่เป็นนาน
กระทั่งคนที่รออยู่มองด้วยความรำคาญใจ

เออ ไอ้ลูกแม่พลอยนี่ยังไง
บอกให้ยิ้มแต่ทำไมดันทำหน้าซีเรียสขนาดนั้น
เข้าใจคำสั่งรึเปล่าเนี่ย
เรื่องอื่นน่ะเขาทำเป็นเล่นได้
ยกเว้นเรื่องงานที่ได้รับมา
เขาจะไม่มีวันทำส่ง ๆ ไปเด็ดขาด
ถึงได้ตั้งสมาธิถ่ายรูปออกมาอย่างเต็มที่
ตั้งใจให้ออกมาดีแท้ ๆ แต่พ่อค้าดันมาทำหน้าเศร้าแบบนี้
ยังไงเขาก็ปล่อยให้ผ่านไปไม่ได้หรอก


“งั้นไม่ต้องยิ้มแล้ว
หน้าเฉย ๆ นั้นแหละ
ผมจะไม่โฟกัสไปที่คุณล่ะกัน”

ประโยคตัดสินใจที่ได้ยินทำเอาคนจมดิ่งในห้วงความคิดได้สติ
รีบร้องโวยวายท้วงสิทธิ์เสียงดังลั่น

“เฮ้ย!! ทำแบบนี้ได้ไงวะ”


แชะ


“พอทีหน้าบึ้งล่ะก็ทำได้เร็วเชียว
ออกมาจากข้างในจริง ๆ แบบไม่ฝืนเลยนะ”

เสียงลั่นชัตเตอร์พร้อมกับคำเอ่ยแซวยิ่งทำให้คนฟังหน้าหงิกเข้าไปอีก
แต่ร่างสูงกลับไม่สนใจทำแค่เพียงกดปิดสวิสต์แล้วหยิบกระเป๋ากล้องสะพายพาดบ่า

“งั้นวันนี้พอแค่นี้”

ท่าทีเก็บของเหมือนเตรียมตัวจะกลับ
ทำให้เจ้าของร้านขนมไทยต้องร้องโวยวายออกมาอีกรอบ

“อะไรวะ นึกจะทิ้งก็ทิ้งง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรอ
อุตส่าห์เสียเวลาจัดตั้งนาน
แล้วรูปที่ถ่ายไปจะใช้ได้จริง ๆ รึเปล่าก็ไม่รู้”

“ไม่ต้องห่วงหรอก
ผมรับประกันงานของผมทุกชิ้น
ไว้เดี๋ยวคุณก็รู้เอง”

หนุ่มมาดเซอร์ขยับยิ้มเรื่อย ๆ ตามสไตล์
ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปที่แผงขายเบเกอรี่ของตน
ปล่อยให้คนอารมณ์ขุ่นนึกคับแค้นในใจอย่างหงุดหงิด


แม่ง มันตั้งใจจะหาเรื่องชัด ๆ
พูดมาได้ยังไงว่ายิ้มไม่เป็น
ก็ยิ้มแบบนี้ตั้งนานแล้ว
ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร
ทั้งเพื่อน ทั้งครอบครัว....


....ครอบครัว?


จะเรียกแบบนั้นได้รึเปล่านะ

ไอ้ครอบครัวที่อยู่กันเป็นตระกูลใหญ่
กับบรรดาลุง ๆ แล้วก็อาสะใภ้อีกสี่คน
ยังไม่นับลูกพี่ลูกน้องมากมายอีกตั้งแปดหนอ

แม่เขาเป็นสะใภ้คนสุดท้าย
แต่งเข้ามาก็ต้องมาคอยรับใช้บรรดาญาติ ๆ ฝ่ายพ่อ
เริ่มแรกก็พอจะอยู่กันได้อย่างดิบดี
แต่พอพ่อที่เป็นลูกชายคนสุดท้องของตระกูลต้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
โดยทิ้งเขาที่อายุแค่สิบขวบกับแม่เอาไว้
ทุกสิ่งทุกอย่างหลังจากนั้นก็เปลี่ยนไป

ตระกูลใหญ่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลดัง ๆ สามสี่แห่งแล้วไง
มีเงินร่ำรวยมหาศาล พออยู่สบายไปทั้งชาติแล้วจะช่วยอะไร
ในเมื่อญาติพี่น้องทั้งตระกูลคอยเอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นขัดแข้งขัดขากันเอง
มิหนำซ้ำยังถ่ายทอดให้ลูกหลานจ้องแต่จะเอาชนะกันด้วย

แข่งกันเรียนเพื่อให้เป็นที่หนึ่ง
แต่ละคนจบหมอจากมหาลัยชั้นนำของประเทศ
เพื่อประโยชน์ของวงศ์ตระกูลให้สมกับเป็นเจ้าของโรงพยาบาล
เขาเองก็จบหมอเหมือนกัน
แต่เป็นหมอรักษา ‘โลก’ ไม่ใช่ ‘โรค’

เรียนคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์มันผิดตรงไหน
ไม่รู้หรือไงว่าโลกกำลังร้อนขึ้น รูโอโซนกำลังขยายกว้าง
ธรรมชาติก็สำคัญไม่แพ้ชีวิตมนุษย์เหมือนกัน
ทำไมถึงไม่เห็นคุณค่าของมันบ้าง

แต่ถึงจะเรียนเก่งจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งได้คะแนนสูงเท่าไร
ทำตัวดี พูดจาสุภาพ เป็นเด็กเรียบร้อยอ้อนน้อมมากแค่ไหน
ก็ดูเหมือนไม่เคยจะพอ
แม้แม่จะคอยช่วยเป็นกำลังใจและสนับสนุนอยู่ไม่ขาด
แต่คนคนเดียวหรือจะสู้แรงกดดันจากคนอีกนับสิบที่คอยดูถูกถากถาง

ท้ายที่สุด ทุกสิ่งก็ระเบิดออก
เขาทนเสแสร้งเหมือนว่าตัวเองมีความสุขไม่ไหวอีกต่อไป

พอร่ำเรียนจบเขาก็รีบเก็บข้าวของพาแม่ออกมาจากบ้าน
ไม่อยากอยู่เป็นภาระให้ใครมาดูถูกอีก
แต่เขารู้ดีว่าสายที่ตัวเองเรียนจบมาหางานทำยากมากแค่ไหน
ลงท้ายก็เลยกลับมาบ้านเกิดแม่
ตั้งร้านเล็ก ๆ คูหาเดียวทำขนมไทยรสมือแม่ออกขาย
พออยู่พอกินมาได้ปีหนึ่งแล้ว

จนเทศบาลจัดถนนคนเดินขึ้นมานั้นแหละ
เขาเลยเห็นลู่ทางตั้งใจกอบโกยเงินเยอะ ๆ เพื่อเลี้ยงดูแม่ให้สุขสบาย
แต่ก็เหมือนมีมารมาผจญ
ปกติเขาเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศ
ไม่เคยหาเรื่องทะเลาะกับใครก่อน
ยกเว้นแต่กับคนที่ไม่ถูกชะตาจริง ๆ เท่านั้นซึ่งนาน ๆ ทีจะเจอสักหน

ก็มีมันเนี่ยแหละ
เขม่นหน้ากันตั้งแต่วันแรก
กวนมาก็กวนตอบ
แสดงอารมณ์ตรง ๆ ออกมาในแบบที่ใจคิด

น่าแปลกเหมือนกัน
ทั้ง ๆ ที่เกลียดขี้หน้ามันขนาดนั้นแท้ ๆ
แต่มันเป็นคนแรกที่เขาไม่เคยปิดบังความรู้สึกใด ๆ ไว้ได้เลย
โกรธก็คือโกรธ
โมโห หงุดหงิด โวยวาย แสดงกันให้เห็นชัด  ๆ
โดยไม่ต้องสวมหน้ากากใด ๆ เข้าใส่
แม้ว่าจะยิ้มออกมาอย่างฝืนใจ
มันก็ยังดูออก.....

หรือมันจะเข้าใจว่าเขารู้สึกยังไง
มันมองทะลุมาถึงความคิดข้างในใจได้จริง ๆ เหรอ

แล้วที่บอกให้ยิ้มทั้งปากทั้งตา
คือยิ้มแบบไหนกัน

ก็นี่ไง แค่ยิ้มเฉย ๆ ยิ้มที่บอกว่าสบายดี
ยิ้มที่บอกกับคนอื่นว่าไม่เป็นไร


เขาไม่เป็นไร....


แต่ไม่รู้ทำไมหัวใจมันถึงว่างโหว่งขนาดนี้


ต้องทำยังไง ไอ้ลูกแม่เดือน
ถ้ารู้ก็ช่วยบอกหน่อยสิว่าต้องทำยังไง


เพราะตอนนี้ เขาทำไม่ได้....


ให้ ‘ยิ้มออกมาจากหัวใจ’

ยังไงเขาก็ทำไม่ได้เลยจริง ๆ



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC



เอาขนมมาฝากลบรอยดราม่าเล็ก ๆ ให้หัวใจมีรสขม
ฝีมือถ่ายรูปของลูกแม่เดือนจ้า
Cr. Google


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/2.jpg)

ส่วนหนึ่งของน้องหงส์ขนมไทย


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/48200682.jpg)

ลูกชุบสีสวย ๆ



แวะหยิบชิมสักคำระหว่างรอชิ้นต่อไปนะคะ

 :L2:

BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-06-2012 12:27:33
น่ากินทั้งนั้นเลย
ต้องไปหาซื้อ
มากินสักหน่อยแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-06-2012 13:00:18
โถโถโถ มามะมาให้เจ้ซับน้ำตา :monkeysad:

ลูกชุบน่ากินดีแท้ ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 17-06-2012 13:21:32
อ่านแล้วอยากกินขนมเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 17-06-2012 14:37:09
เบื้องหลังลูกแม่พลอยเศร้าจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-06-2012 15:07:11
ดรามากรุากริบนะเนี่ย

เฮ้ออออ ชีวิตเราบางทีมันก็ไม่ง่ายอาจจะยุ่งยากไปบ้าง แต่เราต้องมีความสุขกับมันให้ได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 17-06-2012 16:38:56
ลูกแม่เดือนนี่แหละที่จะทำให้ลูกแม่พลอยยิ้มทั้งตาทั้งใจ
เราก็รอวันนั้นอยู่นะ :yeb:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-06-2012 16:47:32
 :z13:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 17-06-2012 19:14:01
น่าสงสารอะ
สงสัยต้องมีความรักกับช่างภาพก่อนจะได้สอนวิธียิ้มจากใจซะแล้ว
 o13 o13 o13

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >;>; P.16
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-06-2012 19:38:42
อยากกินมั่ง?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-06-2012 20:01:06
ดราม่าเล็กๆ อย่ามากนะคะ 555

รอคำต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-06-2012 20:03:17
ลูกแม่เดือนต้องทำให้ลูกแม่พลอยยิ้มให้ได้นะ

 :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-06-2012 23:14:10
แค่นี้ก็ทะเลาะกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 17-06-2012 23:23:59
 :กอด1:ที่มาของขนมไทย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 5] 17/06/55 >> P.16
เริ่มหัวข้อโดย: RAINYDAY ที่ 17-06-2012 23:35:23
ตามอ่านทันแล้วววว
น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ หนุ่ม ๆ กับขนมเนี่ยน่าร้ากกกกกกก ชอบมาก ๆ เลย

ขำมากตอนที่นายเอกเธอแอบกินขนมปังอีกร้าน แล้วโดนจับได้ หลุดหัวเราะออกมาเลยค่ะ แหม..น่ารักจริง!
ถ้าลำบากนักก็รวมร้านกันไปเลย ช่วยกันทำมาหากินกิจการรุ่งเรือง แอร๊ยย >w<

รอติดตามนะคะ ^o^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 21-06-2012 06:23:27
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 6


ฝนตก

ซวยจริง ๆ ให้ตายเหอะ
ทำไมถึงต้องมาตกเอาตอนนี้วะ
เพิ่งจะสามทุ่มเองแท้ ๆ อุตส่าห์หอบขนมมาตั้งเยอะขายได้ไม่หมดพอดี


หนุ่มแว่นเจ้าของร้านขนมไทยรีบโกยขนมสารพัดชนิดที่วางบนโต๊ะแพ็คเก็บลงกล่อง
แน่นอนว่าน้องหงส์ขนมไทยของเขา
แปรสภาพเป็นน้องหงส์ฟ้าลอยขึ้นสวรรค์ไปตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่จัดเสร็จแล้ว
เหลือแต่เศษซากของต้นกล้วยและโครงลวดที่ทำให้เขาต้องหอบหิ้วของพลุงพลัง
เตรียมวิ่งกลับไปยังรถมอเตอร์ไซต์ของตนซึ่งจอดทิ้งไว้ในซอยหน้าตลาด

แต่อนิจจา วิ่งไปได้แค่ครึ่งทาง
ฝนห่าใหญ่ก็ทวีความหนักหน่วงซัดกระหน่ำไม่หยุด

ดวงตากลมมองผ่านเลนส์แว่นที่เริ่มมีหยดน้ำฝนเกาะจนมัว
เหลือบเห็นศาลาที่พักซึ่งมีคนยืนอออยู่จำนวนหนึ่ง
เขาจึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปหลบฝนก่อนตัวเองจะเปียกโชกไปทั้งร่าง
ทว่าทันทีเท้าเหยียบลงบนศาลา
เสียงเรียกจากทิศทางที่เพิ่งวิ่งผ่านมาก็ดังลั่นขึ้น


“เฮ้!! คุณ!

วู้ววว!!  คุณลูกแม่พลอยยยย

เดี๋ยวก่อน คุณลืมของไว้ ได้ยินม้ายยย!!!

ลูกแม่พลอยยยยย!!!!”


...เออ กูได้ยินแล้ว
คนทั้งศาลาที่อยู่นี่ก็ได้ยินด้วย
อายเลยมั้ยกู... อายเลยมั้ย...
เรียกมาได้ยังไงลูกแม่พลอย
ดูสิ คนเขายิ้มขำกันหมดแล้ว
มึงจะบ้ารึเปล่าวะ
จะตะโกนเรียกอะไรก็หัดดูกาละเทศะซะบ้างสิโว้ยยย!!


เจ้าของร้านขนมไทยมองคนเพียงคนเดียวที่กล้าเรียกชื่อของตนแบบนี้อย่างนึกเคือง
แต่หนุ่มเซอร์ที่เพิ่งวิ่งขึ้นมาบนศาลาด้วยสภาพเปียกปอน
พร้อมกับหิ้วของมาเต็มสองมือกลับยื่นสิ่ง ๆ หนึ่งมาตรงหน้า


“เอ้านี่ คุณลืมผ้าเช็ดโต๊ะไว้”


...โอ้โห แค่ผ้าเช็ดโต๊ะ
เรียกเสียงดังไปทั้งซอยอย่างกับลืมทองไว้สามบาท
แค่นี้ปล่อยมันไว้อย่างนั้นก็ได้
เดี๋ยวกูวิ่งกลับไปเอาเอง
จะมาร้องเรียกชื่อประหลาด ๆ ให้ขายขี้หน้าคนอื่นทำไม
ภาพพจน์กูเสียหายป่นปี้หมดเข้าพอดี

ทว่าคนที่ลืมของก็ยังยื่นมือออกไปรับ
แต่ยังไม่วายกระแทกเสียงกลับพร้อมคำบ่นด้วยความหงุดหงิด

“ขอบคุณ แล้วก็ช่วยเลิกเรียกผมว่าลูกแม่พลอยได้แล้ว”

“งั้นคุณชื่ออะไรล่ะ”

หนุ่มเซอร์เสยผมที่ลู่เปียกน้ำ พลางขมวดคิ้วถาม

...คราวที่แล้วถามดี ๆ ไปก็ไม่ยอมบอก
ทียังงี้มาทำหน้าบึ้งใส่
ใช่ความผิดเขารึไงกัน

ไหนชื่ออะไร
คุณลูกแม่พลอย
หวงหนักหวงหนา
ลองบอกชื่อมาชัด ๆ สิ


ร่างสูงมองหนุ่มแว่นที่ถอนหายใจเบา ๆ อย่างเสียมิได้
ก่อนอีกฝ่ายจะเอ่ยถ้อยคำผ่านริมฝีปาก


“สาลี่” 


ชื่อที่ได้ยินทำให้คนฟังต้องหันกลับไปมองพิจารณาคู่สนทนาใหม่ชัด ๆ
พลางเอ่ยถามย้ำด้วยน้ำเสียงระคนแปลกใจ

“ห่ะ อะไรนะ ‘สาลี่’ ชื่ออย่างกับผู้หญิง”

เจ้าของชื่อหันขวับจ้องคนพูดตาขวางโวยวายขึ้นทันควัน

“มันเป็นชื่อขนมต่างหากโว้ย
แม่บอกว่าตอนแพ้ท้องอยากกินมาก
ต้องให้พ่อดั้นด้นซื้อมาจากสุพรรณนู้นเพราะสมัยก่อนไม่ค่อยมีขาย
พอผมเกิด แม่ก็เลยตั้งชื่อผมว่า ‘สาลี่’
แต่คนอื่นๆ เรียกผมว่า ‘สา’ เฉยๆ”

คำอธิบายยาวเหยียดทำให้คนฟังพยักหน้าหงึก ๆ อย่างเข้าใจที่มาที่ไป
ก่อนจะได้ยินประโยคย้อนถามกลับ

“แล้วคุณล่ะ?”


“ผมชื่อ นักรบ”


คราวนี้เป็นที่ของหนุ่มแว่นที่ก้มมองเจ้าของชื่อตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาพิจารณา
ก่อนจะพูดย้ำขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจเลียนแบบเขา

“นักรบ เนี่ยนะ
ดูสภาพคุณแล้วไม่เห็นเข้ากันกับชื่อเลย”

ร่างสูงไม่ได้ร้องโวยวายเถียงกลับ
เพียงแค่ทอดสายตามองผ่านม่านน้ำฝน
พลางเล่าขยายความเป็นมาของชื่อตัวเอง

“ชื่อนี้พ่อผมเป็นคนตั้งให้ เขาเป็นทหารประจำการอยู่แถวภาคใต้
เคยหวังว่าจะให้ผมเป็นทหารเหมือนกัน
แต่ผมไม่ยอม ทะเลาะกันเกือบบ้านแตก
สุดท้ายแม่ก็เลยมาช่วยไกล่เกลี่ยให้ผมได้เรียนถ่ายรูป

ผมก็ตั้งใจเรียนให้ได้ดีน่ะ
เพราะอยากให้พ่อเห็นว่าศิลปะมันไม่ได้แย่อะไร
แต่พ่อดันมาเสียซะก่อนวันรับปริญญาผมแค่สองวันเอง
ก็โดนซุ่มวางระเบิดนั้นแหละ

แม่กับผมเลยขอกลับมาอยู่ที่นี่ ที่บ้านเกิดแม่
มาเริ่มนับหนึ่งกันใหม่
อาศัยว่าแม่เคยทำพวกเบเกอรี่ขายอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
ผมก็เป็นลูกมือช่วยทำบ้าง
นี่ก็คิดว่าจะเปิดร้านขายให้เป็นที่เป็นทางสักที
ฝากขนมให้ร้านอื่นขายบ่อย ๆ ก็เกรงใจเขา”


เรื่องราวมากมายอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินทยอยเข้าผ่านหู
และดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เจ้าของร้านขนมไทยยืนฟังนิ่ง ๆ
โดยไม่มีคำบ่นประชดหรือด่าเหน็บคืนอะไร

...ก็เล่นพูดมาซะขนาดนี้ ใครจะไปทำกันลง
เห็นมันทำตัวติสต์ ๆ เหมือนคนไม่เอาถ่าน
แต่ความจริงชีวิตของมันก็ผ่านอะไร ๆ มามากเหมือนกัน
คนเราจะตัดสินกันจากลักษณะภายนอกไม่ได้จริง ๆ ด้วย

อยากจะพูดให้กำลังใจมันไปสักคำ
แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
มันเองก็ไม่มีท่าทีเรียกร้องความสงสารหรือเห็นใจอะไรด้วย
เหมือนกับแค่เล่าประวัติชีวิตให้ฟังเรื่อย ๆ มากกว่า


เขาจึงตัดสินใจยืนเงียบ ๆ อยู่แบบนั้น
ปล่อยให้เสียงเม็ดฝนกระทบพื้นแทนคำตอบ

ทว่า แม้เวลาจะผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว
ฝนก็ยังคงตกต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีว่าจะผ่อนแรงเลยสักนิด


...ยืนตัวเปียก ๆ แบบนี้ก็ชักหนาว
แถมยังห่วงข้าวของที่โดนฝนอีกด้วย
ความจริงร้านขนมไทยของเขาอยู่ในย่านตลาดเก่า
เดินจากนี้ไปสักสิบห้านาทีก็ถึงแล้ว
ปกติเขาเอาขนมใส่กล่องแล้วก็ขับมอเตอร์ไซค์มา
เพราะว่าถ้าขับรถใหญ่มันจะยิ่งหาที่จอดรถในซอยแคบ ๆ ยาก

ใจจริงก็อยากจะทิ้งมอเตอร์ไซต์แล้วเดินเลาะกลับบ้าน
แต่ว่าวันนี้ดันมาสร้างน้องหงส์ขนมไทยเลยทำให้มีอุปกรณ์ต้องขนกลับเยอะเป็นพิเศษ
จะให้เดินหลบฝนไปแบกไป สงสัยจะไม่ไหว
คงต้องรอฝนซาลงอย่างเดียวเท่านั้นซึ่งก็ดูท่าจะอีกนาน
แบบนี้ เขาโทรไปบอกแม่ไว้ก่อนดีมั้ยนะ

คิดพลางเอื้อมมือล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์
แต่นิ้วยังไม่ทันได้กดปุ่ม เสียงจากคนข้างตัวก็ดังขึ้น

“รถผมจอดอยู่แถวนี้ ถ้าเดินเลาะไปตามตึกก็ไม่ไกลเท่าไร
คุณจะไปด้วยกันมั้ย เดี๋ยวผมขับไปส่ง”


...หืม เมื่อกี๊ไอ้ลูกแม่เดือนมันบอกว่าจะไปส่งให้เหรอ
แปลกว่ะ อยู่ดี ๆ ก็ดันมีน้ำใจขึ้นมาซะงั้น
แต่ถ้าให้รออยู่อย่างนี้ก็ไม่รู้นานแค่ไหนจะได้กลับ
สามทุ่มครึ่งแล้วเดี๋ยวต้องกลับไปเตรียมของที่จะทำขายวันพรุ่งนี้อีก
ถ้าทำไม่ทันขึ้นมาล่ะก็แย่แน่


เอาวะ!  ...ไปก็ไป


เขาพยักหน้าตอบแสดงความตกลง
ทำให้ร่างสูงเริ่มหิ้วของขึ้นมาถือไว้
ก่อนจะเดินนำหน้าลัดเลาะหลบฝนผ่านกันสาดตัวตึกไป
โดยมีหนุ่มแว่นคอยตามอยู่ห่าง ๆ
กระทั่งผ่านไปแค่เพียงสองช่วงตึก
เขาก็เห็นรถโฟล์กเต่าสีเหลืองสภาพเหมือนผ่านการใช้มานานจอดนิ่งอยู่ในความมืดสลัว

นักรบรีบไขกุญแจเปิดประตูพลางยัดข้าวของใส่เบาะหลัง
แล้วทั้งสองจึงรีบมุดตัวเองเข้าสู่รถก่อนปิดประตูลง
ไม่นานรถเต่าสีเหลืองก็ขับแล่นอ้อมออกถนนใหญ่ด้านหน้าตลาด
ก่อนจะวนเข้ามาในซอยเล็ก ๆ อีกทีตามคำบอกของคนร่วมทาง
และแล้วไฟหน้ารถก็มาหยุดลงตรงตึกแถวหลังหนึ่ง

สาลี่หอบของมากมายไว้เต็มสองมือ
โดยมีคนขับช่วยยกกล่องขนมออกมาด้วย
ก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือเคาะประตูบานพับแบบจีนพร้อมส่งเสียงเรียก

“แม่ครับ สากลับมาแล้วครับ”

เขาได้ยินเสียงกุกกักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนประตูจะเลื่อนเปิดออก
หญิงสาววัยเกือบห้าสิบ ท่าทางใจดียืนยิ้มต้อนรับ
แม้วัยจะร่วงโรยไปแต่ผมดำขลับที่มวยขึ้นเก็บไว้
ก็ยังเผยกรอบหน้าเค้าความสวยหวานอย่างเห็นได้ชัด
และนักรบก็เดาได้ไม่ยากว่า
ดวงตากลมโตของคนที่กัดกันเป็นประจำนั้นได้มาจากใคร

“กลับมาแล้วเหรอลูก
ฝนตกหนักขนาดนี้แม่นึกเป็นห่วงอยู่เชียว
อ้าว มีเพื่อนมาด้วยเหรอจ๊ะ”

เสียงอ่อนโยนเอ่ยถามอย่างห่วงใยก่อนจะเปลี่ยนเป็นแปลกใจ
เมื่อเห็นร่างสูงของใครอีกคนเดินตามเข้ามาด้วย

“ครับแม่ นี่เพื่อนสา ชื่อ นักรบ ครับ”

คนถูกเรียกชื่อรีบยกมือไหว้พร้อมเอ่ยคำแนะนำตัวอย่างนอบน้อม

“สวัสดีครับคุณแม่ เรียกผม ‘รบ’ ก็ได้ครับ
ตะโก้ฝีมือคุณแม่พลอยอร่อยมากเลยครับ
ผมชอบทาน ที่ไหนก็สู้ที่นี่ไม่ได้เลย”

เป็นความจริงที่ว่าคำชมมักได้ผลเสมอในการเริ่มต้นมิตรภาพ
เพราะเพียงแค่คนฟังได้ยินเท่านั้นเจ้าหล่อนก็ยิ้มแย้มอย่างยินดี

“จริงเหรอจ้ะ
ถ้าชอบก็เอากลับไปทานเยอะ ๆ สิลูก
แม่มีขนมอีกตั้งหลายอย่าง
นี่ก็เพิ่งอุ่นกล้วยบวชชีเสร็จ
มากินด้วยกันก่อนนะ เดี๋ยวแม่ไปตักให้”

“จะดีเหรอครับ”

นักรบพูดเลี่ยง ๆ ส่วนหนึ่งเพราะด้วยเกรงใจ
แต่อีกส่วนก็เพราะคนข้าง ๆ กำลังถลึงตามอง
ปล่อยรังสีอาฆาตเข้าทิ่มแทงเหมือนจะบอกให้รู้ว่า ‘อย่าได้คิด’

ทว่า ผู้เป็นแม่กลับไม่รับรู้ถึงสายตามาดร้ายใด ๆ ของลูกชาย
มิหนำซ้ำยังคงเร่งคำชวนยกใหญ่

“ดีสิจ้ะ น้องสาไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไร
นาน ๆ ทีมีเพื่อนมาหาบ้าง แม่เองก็ดีใจ”

แค่ได้ยินคำท้ายประโยคนักรบก็แทบจะกลั้นรอยยิ้มของตัวเองไม่อยู่

‘น้องสา ไม่ค่อยมีเพื่อน’ เหรอ

เห็นแบบนี้ก็ยิ่งน่าแกล้งเข้าไปใหญ่

ชายหนุ่มจึงขยับปากตอบตกลงโดยอัตโนมัติ

“งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ”


...อ้าวเฮ้ย!!  ได้ไงวะ!!

หนุ่มแว่นร้องโวยวายอยู่ในใจ
เมื่อศัตรูคู่แค้นเดินทอดรองเท้าเข้าบ้านไปหน้าตาเฉย
แต่จะอย่างไรเขาก็ไม่กล้าขัดใจแม่
อีกอย่างมันก็อุตส่าห์ขับรถมาส่งด้วย
หึ จะปล่อยให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็ได้
แต่คราวหน้าอย่าได้หวัง
 
สาลี่จึงเดินตามคนที่กำลังใช้สายตาสำรวจภายในร้านอย่างสนอกสนใจ
ด้านหน้าร้านหวานละไมของเขาถูกจัดให้เป็นแผงสำหรับวางขนมไทยที่ต้องทำวันต่อวัน
ส่วนด้านในจะเป็นชั้นวางขนมอบใส่ถุงต่าง ๆ ซึ่งทำเก็บไว้ได้นาน ๆ
ถัดไปจากนั้นจึงเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้เข้าชุดไว้สำหรับนั่งรอลูกค้าเวลาเฝ้าร้าน
ทั้งสองคนจึงหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้นั้น
ก่อนที่กล้วยบวชชีอุ่น ๆ หอม ๆ จะถูกจัดเสิร์ฟพร้อมกับเสียงคะยั้นคะยอของคนทำ

“ทานเยอะ ๆ นะลูก
เมื่อเช้าแม่ทำมาหม้อใหญ่ตั้งใจจะทำบุญเลี้ยงพระ
ขนาดแจกคนอื่นไปเยอะแล้วนะ แต่ก็ยังเหลือกลับมาอยู่เกือบค่อนหม้อ
กลุ้มใจอยู่เชียวเพราะแม่กับน้องสาสองคนคงทานไม่ไหว”

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมทานเก่ง
แถมอร่อยแบบนี้ รับรองไม่เหลือแน่ครับ”

นักรบรีบเอ่ยชมทันทีที่ตักคำแรกเข้าปาก

ปกติเขาเฉย ๆ กับขนมไทย ไม่ค่อยจะได้กินเสียด้วยซ้ำ
เพราะว่าบางทีมันก็หวานแสบคอจนเกินไป ไม่หอมนุ่มเหมือนพวกขนมเค้ก
แต่พอเจอรสชาติฝีมือแม่พลอยเข้าไปก็ต้องทำให้รีบเปลี่ยนความคิดใหม่

แม่พลอยทำขนมอร่อย แถมใจดีด้วย
ไม่เห็นเหมือนลูกชาย รายนั้นตั้งท่าจะกัดเขาทุกวัน

แต่เอ๊ะ...
ตั้งแต่นั่งอยู่ในร้านก็ยังไม่เห็นมันแขวะเขาสักคำ
ก้มหน้าก้มตาตักกล้วยบวชชีเข้าปากอยู่เงียบ ๆ อย่างนั้น
ปล่อยให้แม่พูดคุยกับเขาอย่างสนิทสนมอยู่ฝ่ายเดียว

“แหม ปากหวานจริง ๆ สาลี่มีเพื่อนน่ารักแบบนี้ แม่ค่อยเบาใจหน่อย
ปกติอยู่กับแม่ น้องสาเขาจะเงียบ ๆ เรียบร้อย ไม่ค่อยพูด
แม่ก็กลัวเขาจะเหงา
ถ้ายังไง แม่ฝากให้น้องรบเป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยกับสาลี่ด้วยนะลูก”

ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอาคนฟังเผลอจ้องมองเจ้าของชื่อที่นั่งอยู่ตรงข้าม
ซึ่งขยับมือคนน้ำกะทิในถ้วยไปมาแม้กล้วยจะหมดไม่เหลือแล้วก็ตาม
แต่เจ้าตัวก็ยังคงไม่ยอมละสายตาออกจากถ้วยขนมตรงหน้าเสียที


อ๋อ....

อย่างนี้นี่เองสินะ...


“ได้ครับแม่ ผมจะคอยดูแลไม่ให้คลาดสายตาเองครับ”

นักรบพูดยืนยันหนักแน่น ส่งผลให้คนแสร้งทำเป็นเมินต้องรีบเงยหน้าขึ้นมอง
ดวงตากลมภายใต้กรอบแว่นประสานสายตาเข้ากับดวงตาของเขาที่จ้องมาอยู่ก่อนแล้ว
ทำเอาคนเผลอตัวต้องรีบหลบวูบก้มลงไปให้ความสนใจกับถ้วยขนมเหมือนเดิม

“จริงสิ นี่เปียกฝนกันมาทั้งคู่ใช่มั้ยเนี่ย
แม่เองก็ลืมไปเลยมัวคุยซะเพลิน
เดี๋ยวแม่ไปเอาผ้าขนหนูมาให้เช็ดตัวก่อนนะ”

เสียงแม่พลอยร้องบอกเมื่อนึกขึ้นได้เพราะเห็นเสื้อผ้าที่ยังชื้น ๆ ของแขกผู้มาเยือน
ร่างบางกำลังจะลุกแต่ลูกชายก็เอ่ยรั้งไว้

“สาไปเองก็ได้ครับแม่”

“เราน่ะอยู่คุยกับเพื่อนไปเถอะจ๊ะ”

คำปฏิเสธที่อีกคนไม่กล้าขัดทำให้เจ้าตัวต้องนั่งลงเงียบ ๆ ตามเดิม
ปล่อยให้ผู้เป็นแม่เดินขึ้นไปเอาของชั้นบน
โดยทิ้งลูกชายไว้กับเพื่อนที่มีฐานะเดียวกับศัตรูคู่อาฆาต
ซึ่งทันทีที่เหลือกันเพียงสองคน
สุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ก็เริ่มออกลาย


“น้องสาเรียบร้อย เงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด
เอ๊ะ...ใครกันน้า~
คุณลูกแม่พลอยรู้จักบ้างมั้ย”

คนโดนแหย่ถลึงตามอง
เมื่อไร้เหงาของบุพการี
อาการต่าง ๆ ที่เก็บซ่อนไว้ก็ถูกระบายออกมาเป็นน้ำเสียงกระแทกตอบกลับ

“กินเสร็จก็รีบกลับไปได้แล้ว ความเกรงใจน่ะรู้จักบ้างมั้ย!!”
 

หึหึ นี่เลยตัวจริง
น้องแว่นตาขวาง เสียงดุ
ลูกแม่พลอยของแท้

เขาพอจะรู้ว่ามันตีสองหน้าได้แนบเนียน
แต่ก็นึกว่าเป็นเฉพาะเวลาขายของ
เพราะต้องยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับลูกค้าอยู่แล้ว
แต่กับที่บ้านก็ยังคงเป็นแบบนี้
ไม่รู้ว่าคิดยังไงของมัน


“ทำแบบนี้ไม่อึดอัดเหรอ”

“ห่ะ พูดเรื่องอะไร”

คนถูกถามขมวดคิ้วงง
ในใจยังคงนึกหงุดหงิดที่อยู่ ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยถึงสิ่งที่จับต้นชนปลายไม่ได้

ร่างสูงถอนหายใจเบา ๆ วางช้อนตักขนมลง
แล้วเปลี่ยนมาพูดขยายความด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“ขนาดอยู่บ้านก็ยังไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ไม่รู้สึกอึดอัดบ้างหรือไง”


คนฟังนิ่งอึ้งในประโยคที่ไม่เคยคิดว่าใครบางคนจะกล้าถามออกมา


....ใครบางคนที่เพิ่งเจอกันได้อาทิตย์เดียว

แต่กลับมองทะลุถึงส่วนที่ ‘อ่อนไหว’ ที่สุดของหัวใจ


...มันรู้ได้ยังไง

มันรู้ได้ยังไงว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาคือแบบไหน
ถึงได้กล้ามาพูดอะไรพล่อย ๆ แบบนี้

จะเสแสร้งทำตัวเป็นเด็กดีมันผิดตรงไหน
ปั้นหน้าหัวเราะเพื่อให้คนรอบข้างมีความสุข
ก็เป็นสิ่งที่ควรจะทำไม่ใช่หรือไง

แล้วมันอะไรกัน
อยู่ ๆ ก็มาถามว่ารู้สึกอึดอัดมั้ย

พูดออกมาได้ยังไง


มึงพูดออกมาได้ยังไง!!!



“คนอย่างคุณจะมาเข้าใจอะไรชีวิตผม!!”

คำตะคอกตอบกลับอย่างรุนแรง
ทำให้คนที่อุตส่าห์ถามด้วยความหวังดีเริ่มอารมณ์กรุ่น ๆ
โต้กลับขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้

“ผมว่าผมเข้าใจความรู้สึกของคุณดีมากกว่าตัวคุณเองซะอีกนะ
ถ้าไม่เชื่อผมจะทำให้ดู”

นักรบลุกขึ้นพรวดเดินหายออกไปข้างนอกร้าน
ทิ้งให้ใครบางคนนั่งรออย่างไม่สบอารมณ์


...ประสาทรึเปล่า
คนอื่นจะมาเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้ดีกว่าตัวเองได้ยังไง
แล้วมันคิดที่จะมาพิสูจน์ให้ดูอีก
เป็นไปได้ที่ไหนกัน

อ้าว กลับมาแล้วถือกล้องมาด้วย
แล้วเดินเข้ามาใกล้กูทำไม
เอ๊ะ...เดี๋ยว...


แชะ


“คุณทำอะไรน่ะ!!”

คนถูกถ่ายร้องโวยวายดังลั่น
แต่ฝ่ายที่ถือกล้องกลับทำแค่เพียงหมุนหน้าจอแสดงภาพให้อีกคนได้มอง

“ก็ผมเคยบอกแล้วไงว่ากล้องไม่เคยโกหก
แล้วนี่ก็หน้าของคุณตอนกำลังหงุดหงิดไม่พอใจ”

ภาพใบหน้าของเขาที่โชว์เด่นหราอยู่บนจอภาพ
ยิ่งสร้างความเดือดดาลให้ทวีเพิ่มมากขึ้น

“แค่มองผ่านกล้องมันจะไปรู้ได้ยังไง
ใครเชื่อก็บ้าแล้วโว้ยยย!!!!”


แชะ



เสียงโวยวายด้วยความโกรธถูกขัดด้วยเสียงชัตเตอร์
พร้อมกับที่ร่างสูงพูดออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อนเหมือนจงใจยั่วอารมณ์

“แล้วนี่ก็หน้าของคุณตอนกำลังโมโห”


หนอย....ไอ้เวรนี่จะไม่ฟังกันใช่มั้ย

กูทนไม่ไหวแล้วนะโว้ยยยย!!!


สาลี่ลุกขึ้นพยายามเอื้อมคว้ากล้องของอีกฝ่ายซึ่งแกล้งดึงหนี
ปากก็ยังคงส่งเสียงห้ามด้วยความโมโห

“หยุดนะ!! เลิกเล่นได้แล้ะ....เฮ้ย!!”


หนุ่มแว่นร้องเสียงหลงอย่างตกใจ
เมื่อจู่ ๆ ร่างของตนก็ถูกช่างกล้องดึงเข้ามาใกล้ ๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว
จนตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งซึ่งกอดรัดเขาไว้แน่นกระทั่งขยับไปไหนไม่ได้


แชะ



“นี่หน้าคุณตอนกำลังตกใจ”


...มันยังไม่หยุดอีก

เขากำลังจะอ้าปากโวยวายขึ้นอีกรอบ
แต่สัมผัสบางอย่างนุ่ม ๆ บนแก้มก็ทำให้ทุกสิ่งชะงัก


อ่ะ...


เมื่อกี๊...


เมื่อกี๊มันทำอะไร...



แชะ



“นี่หน้าคุณตอนกำลังงง

แล้วก็......”

น้ำเสียงท้ายประโยคถูกลากยาว
พร้อมกับที่มือแกร่งประคองใบหน้าของเขาให้เงยขึ้น
แม้จะมองผ่านเลนส์แว่น แต่เขาก็ยังเห็นประกายระยิบระยับสะท้อนอยู่ในดวงตาคมคู่นั้น

...ประกายตาที่คล้ายจะดึงดูดให้ร่างกายสิ้นไร้เรี่ยวแรง

จนต้องหลับตาลงเพราะไม่อาจทนมองได้ต่อไป
ทันใดนั้นสัมผัสบางอย่างก็บรรจงแตะบนริมฝีปาก

...นุ่มนวล

...แผ่วเบา

นิ่งค้างไว้เพียงชั่วครู่
ทว่า ยาวนานเหลือเกินในความรู้สึก
ก่อนมันจะผละออกจากไปโดยทิ้งเพียงความสับสนไว้ในใจ


แชะ


เสียงที่ดังขึ้นทำให้เขาต้องเปิดเปลือกตามองขึ้นอีกครั้ง
หนุ่มมาดเซอร์ยืนถือกล้องอยู่ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ 


“นี่หน้าของคุณหลังจากถูกจูบ”


ห่ะ..


อะ...


อะไรนะ...



“ผ้าขนหนูมาแล้วจ๊ะ”

ทั้งสองคนรีบผละตัวออกห่างจากกันทันทีที่ได้ยินเสียง
ก่อนหญิงวัยกลางคนจะเดินลงมาจากบันได
โดยไม่ได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงเสี้ยวนาที

“ขอโทษที่หายไปนานนะจ๊ะ
พอดีแม่คุยโทรศัพท์กับลูกค้าที่สั่งจองขนมวันพรุ่งนี้ก็เลยมาช้าไปหน่อย
อ้าว แล้วนี่ทานขนมกันหมดแล้วใช่มั้ย อิ่มกันรึเปล่า
น้องสาไปตักเพิ่มให้เพื่อนแล้วหรือยังลูก”

“คะ...ครับ”

คนถูกวานรับคำตะกุกตะกักก่อนคว้าถ้วยขนมสองถ้วย
แล้วรีบเดินหายเข้าไปในห้องครัว
เขาเปิดฝาหม้อที่ยังอุ่น ๆ อยู่บนเตา
มือหยิบทัพพีตักขนมกล้วยบวชชีลงใส่ถ้วย

แต่ตักเท่าไรเท่าไร
ก็ได้แต่น้ำไม่มีเนื้อ

ก็มันจะไปได้ได้ยังไง
ในเมื่อตอนนี้สติไม่ได้อยู่ที่มือ

แต่อยู่ที่หัวใจซึ่งกำลังเต้นรัวด้วยความมึนงงสับสน
กับคำถามที่ยังคงเวียนวนในห้วงความคิด

อะไร.....

มันเกิดอะไรขึ้น

ใครก็ได้ช่วยบอกเขาที

รูปที่ถ่ายใบสุดท้ายเมื่อกี๊.....


ไอ้ลูกแม่เดือน
มันถ่ายรูปสีหน้าแบบไหนของเขาลงไปกัน



------------------------------------------------------------------------------------------------------------

TBC



ชิ้นที่ 6 เอามาลงซ้ำอีกรอบค่ะ
ช่วงที่เล้ามีปัญหาข้อมูลตรงนี้หายไป  :o12:
เลยอาจยังมีใครที่ยังไม่ได้อ่าน

แล้วพรุ่งนี้จะมาเสิร์ฟชิ้นใหม่ให้อีกครั้งนะคะ


 :กอด1:

BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-06-2012 07:01:41
ตอนนี้เคยอ่านแล้วนี่น่า  :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-06-2012 11:05:59
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :impress2:  เราชอบชื่อ สาลี่ อะ  น่ารัก มากกกกกกกกกกกก :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-06-2012 11:08:17
พ่อนักรบรุกแล้วใช่มั้ย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 21-06-2012 11:38:20
ลูกแม่เดือนทำเพราะอยากแกล้ง อยากสั่งสอน หรือว่าทำออกมาจากใจจริงกันแน่นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-06-2012 12:10:55
ลูกแม่เดือนรับผิดชอบลูกแม่พลอยเลยนะ มาจูบน้องสาได้ไงเนี่ยยยย

รู้จักกันแค่อาทิตย์เดียวแต่มองทะลุถึงน้องสาได้ เก่งจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 21-06-2012 12:14:46
น่ารักทั้ง 2 คนเลยอ่ะะะ เขินนนน...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 21-06-2012 13:47:42
รู้ชื่อสักที นักรบ  สาลี่ กีสสสสสส
ได้หอมแก้มด้วยอ่าาาาา
ได้จุ๊บด้วยอ่าาาาา :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 21-06-2012 15:14:27
กินไป6ชิ้นก็ได้รู้ชื่อแล้ว
เนียนเลยนะนักรบแอบจูบเค้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 21-06-2012 19:52:23
นักรบอ่ะแกล้งน้องสา ไปจูบน้องสาอีก รับผิดชอบเลยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 21-06-2012 20:47:55


 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[    น่ารักจังค่ะ   :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 6] 21/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 21-06-2012 21:33:22
คู่นี้ไวเร็วมาก เสร็จแน่ๆเลยนะน้องสา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 22-06-2012 06:15:46
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 7


รถโฟล์กเต่าสีเหลืองจอดสนิทอยู่หน้าบ้านเช่าหลังเล็ก
นักรบก้าวลงจากรถหอบข้าวของลงมาไขประตูบ้าน
โดยพยายามทำให้เกิดเสียงเบาที่สุด

เกือบห้าทุ่มแล้ว ป่านนี้แม่คงจะเข้านอนไปเรียบร้อย
เขาทยอยเอาขนมและข้าวของเก็บเข้าที่
แม้จะมีบางส่วนที่ขายไม่หมด
แต่เมื่อดูเนื้อขนมแล้วไม่ค่อยดี
เขาก็ไม่ลังเลที่จะเก็บมันไว้

ขาดทุนเล็กน้อยดีกว่าให้ลูกค้าได้ทานของที่ไม่มีคุณภาพ
มิหนำซ้ำยังทำให้ร้านเสียชื่ออีกด้วย
ดังนั้น ถ้าทิ้งได้ก็ทิ้งไปอย่าเสียดาย
แม่สอนเขาเสมอเมื่อครั้งตั้งร้านขนมขายที่ภาคใต้
และก็เพราะยึดมั่นในจรรยาบรรณนี้
จึงทำให้ร้านบ้านขนมเดือนใจขายดิบขายดี

ทุกอย่างทำท่าจะไปได้สวย
ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุระเบิดในครั้งนั้น

เขารู้อยู่เสมอว่าแม่ทำใจเรื่องพ่อไม่ได้
จึงตัดสินใจขายบ้านที่เขาเติบโตมา
และกลับมายังบ้านเกิดของแม่
แม้ว่าจะไม่มีญาติคนไหนเหลืออยู่แล้วก็ตาม

เขาเองก็ไม่ได้พูดขัดอะไร
เพราะหากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้แม่สบายใจ
เขาก็ยินดีละทิ้งเป้าหมายที่จะเป็นช่างภาพสารคดีของตัวเอง
มาคอยเคียงข้างและให้กำลังใจคนในครอบครัวเพียงคนเดียว
โดยเจียดเวลาเพียงเล็กน้อยเพื่อยังคงทำในสิ่งที่ตนรัก

ด้วยเหตุนี้ หลังจากจัดเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อย อาบน้ำอาบท่าให้สบายตัว
นักรบจึงเดินกลับเข้ามาในห้องนอน
มือกดปุ่มเปิดโน็ตบุ๊คก่อนจะคว้ากล้อง DSLR
อุปกรณ์สองชิ้นที่เก็บเงินซื้อจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
ถอดเมมโมรี่การ์ดออก เสียบลงช่อง SD
แล้วเปิดไฟล์บรรจุรูปนับพันขึ้นมา

ดวงตาคมเลื่อนมองรูปร้านรวงภายในตลาดถนนคนเดิน
ซึ่งรวบรวมถ่ายมาทั้งเมื่อวานกับวันนี้
มีทั้งภาพแนวไลฟ์ของคนที่มาจับจ่ายซื้อของ
และภาพอาร์ตของสถานที่สิ่งของมากมาย
ซึ่งพอจัดมุมให้ดีแล้วก็คล้ายภาพเหล่านั้นจะบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองอย่างน่ามอง

กดคลิกโปรแกรมตกแต่งรูปคัดเลือกภาพบางส่วนที่โดนตา
เค้นไอเดียลองจัดเลย์เอาท์ทำแผ่นโฆษณาโปรโมทตลาด
เลื่อนไล่รูปจนมาถึงด้านล่าง ๆ
ก่อนจะสะดุดเข้ากับภาพขนมไทยที่จัดเป็นรูปหงส์
พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้งของใครบางคนปรากฏอยู่ด้านหลัง

...ใครบางคนที่ทำให้ต้องเผลอยิ้มออกมาบาง ๆ

‘สาลี่’

ลูกแม่พลอยมันชื่อสาลี่
ชื่อน่ารักน่ากิน
แต่ดูทำหน้าไม่ได้สมกับชื่อขนมสีสวยเลย

ทีกับคนอื่นทำเป็นยิ้มแย้มแจ่มใส
แต่พออยู่กับเขาทีไรเป็นต้องหน้าหงิกตลอด
กับคนนี้ทำอย่างหนึ่ง กับอีกคนก็เปลี่ยนไปอีกอย่าง
ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ ไม่อึดอัดรึไง
ถามออกไปแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจริง ๆ ก็เป็นเรื่องของมัน
แล้วพอโดนพูดกลับมาทำนองว่า ‘อย่าเสือก’
เป็นใครจะไม่อารมณ์เสีย

อยากจะรู้จริง ๆ ว่าสีหน้าของมันจะเปลี่ยนไปได้มากขนาดไหน
ก็เลยหยิบกล้องขึ้นมาตั้งใจถ่ายแกล้งเล่น ๆ
ทั้งอารมณ์หงุดหงิด โมโห แล้วก็ตกใจ
ถูกเขาบันทึกไว้ในทุกรายละเอียด
มองไปก็ขำไป
ดูหน้าตกใจของมันสิฮาชะมัด
อ้าปากหวอจนแมลงวันแทบบินเข้าไปได้อยู่แล้ว
สงสัยคงเหวอน่าดู

แล้วก็นี่...

รูปถ่ายใบสุดท้าย...

รูปที่มันกำลังหลับตาลง
ริมฝีปากแดงเรื่อเผยอน้อย ๆ จากการกระทำของบางสิ่งก่อนหน้า
ทั้ง ๆ ที่เค้าโครงหน้าคมเหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป
แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้ดูดีมีเสน่ห์จนไม่อาจห้ามใจตัวเอง

จากตอนแรกที่คิดแค่จะแกล้งเล่น
ก็เลยเผลอตัวก้มลงไปจูบ

...จูบ

ทั้งที่ก็รู้ว่าเป็นผู้ชายเหมือน ๆ กัน
รสสัมผัสใกล้เคียงกับผู้หญิง
จะต่างกันตรงก็ที่ไม่มีความเหนียวเหนอะของลิปสติก
หากแต่อ่อนนุ่มบางเบา
และไม่ได้ทำให้รู้สึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย

เขาบ้าไปแล้วรึเปล่า
จูบกับคนที่เพิ่งเจอหน้ากันแค่อาทิตย์เดียว
แถมแต่ละครั้งที่เจอก็ยังทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย
โชคดีที่มันไม่ซัดเขาหน้าคว่ำ
แค่นิ่ง ๆ ไปกระทั่งเขากินกล้วยบวชชีหมดถ้วยที่สองแล้วตั้งท่าจะกลับ
ก็ยังคงไม่มีเสียงอะไรหลุดออกมาจากมันสักคำ

ดูไม่ออกว่าโกรธหรือกำลังงง
หรือมันกำลังสับสนในใจเหมือนกับเขาตอนนี้

ก็แค่อยากแกล้งเฉย ๆ
แค่แกล้งเล่นเท่านั้น
ไม่ต้องคิดอะไรมาก

อืม...ไม่ต้องคิดอะไรมาก

แล้ว...

แล้วทำไม...

ไอ้นักรบน้อยมันถึงรู้สึกแปลก ๆ วะ
เย็นไว้ลูก ห่างมือพ่อแค่สามสี่วันชักแย่ซะแล้วเหรอ
ช่วงนี้งานยุ่ง ๆ ก็เลยไม่ค่อยได้ทำ
มันจะงอแงบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
หรือจะเพราะแบบนี้ก็เลยทำให้เขาเผลอตัวจูบลูกแม่พลอยลงไป
แล้วทำไมต้องดันมามีอารมณ์กับมันด้วยวะ
ตัวผู้เหมือนกันแท้ ๆ

แม่งงงง ไม่เข้าใจเลยเว้ยยยย!!!

นักรบขยี้ผมซึ่งไว้ยาวเพิ่มมาดเซอร์ของตนอย่างสับสน
มองรูปของใครบางคนที่หยุดค้างไว้บนหน้าจอโน๊ตบุ๊ค
ก่อนถอนหายใจซ้ำเบา ๆ

ไม่รู้ว่าไอ้ลูกแม่พลอยมันอยากจะซ่อนหรือสร้างภาพภายใต้หน้ากากนั้นเพราะอะไร
แต่เขานี่แหละจะเป็นคนเปิดเผยมันออกมาให้ทุกคนเห็นจนหมดเอง
ส่วนวิธีจะทำยังไง แบบไหนค่อยว่ากันทีหลัง

เพราะที่แน่ ๆ ตอนนี้.... 

...เขาต้องรีบไปเข้าห้องน้ำก่อนแล้ว



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



อะไรกันวะ?

สาลี่ขยับแว่นของตัวเองให้เข้าที
เพราะกลัวว่าสายตาของตัวเองจะเกิดผิดเพี้ยน
เมื่อมองเห็นของปริศนาสองสิ่งวางอยู่บนแผงขายขนมไทยของเขา

ไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียว
น้องฝอยทองงอกลูกออกมาเป็นถ้วยขนมได้ยังไงวะ

ว่าแต่ไอ้ถ้วยขนมกระเบื้องสีขาวนี่มันโคตรคุ้นเลย
แถมกลิ่นหอมเอื่อย ๆ ของช็อคโกแล็ตในถ้วยก็สุดแสนจะยั่วจมูกอย่างบอกไม่ถูก
ทว่าสิ่งที่เรียกความสนใจจากเขามากที่สุด
ก็คือกระดาษที่เหมือนกับโปสการ์ดใบหนึ่ง
ซึ่งคว่ำหน้าวางอยู่ใต้ถ้วยนั้น

เขาหยิบมันออกมาพลิกเปิด
และทันที่ได้เห็นบุคคลที่อยู่ในภาพ
ดวงตากลมก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ

หน้าตาแบบนี้
ใส่แว่นแบบนี้
แถมยังยกมือปิดปากหาวหวอดแบบนี้

ไม่ใช่ใครอื่น

สาลี่ ลูกแม่พลอย ร้านหวานละไมขนมไทยล้านเปอร์เซนต์

ยังไม่พอ
ข้างใต้รูปถ่ายยังมีลายมือหวัด ๆ เขียนไว้สั้น ๆ

‘หน้าของคุณตอนกำลังง่วง’


ไม่มีชื่อกำกับว่าถูกส่งมาจากใคร
แต่ถ้าเขาเดาไม่ออกก็คงโง่เต็มที
เพราะไอ้ลักษณะโปสการ์ดแบบเดียวกันนี้
ยังแขวนกระแทกตาอยู่ที่ร้านฝั่งตรงกันข้าม
ซึ่งมีเจ้าของสุดติสต์กำลังพูดคุยกับลูกค้าสาว ๆ กลุ่มใหญ่

และแค่พอเห็นหน้าเท่านั้น
ความทรงจำเมื่อวานก็แล่นย้อนกลับมาเป็นฉาก ๆ


ไอ้ลูกแม่เดือนมันต้องโรคจิตวิปริตแน่ ๆ
ถึงได้มาหอมแก้มแล้วก็ยังจูบเขาอีก
ผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ
แค่คิดก็ขยะแขยงจะแย่อยู่แล้ว
หลังจากนั้นเขาต้องล้างหน้าแปรงฟันบ้วนปากอยู่ต้องเกือบสิบรอบ
แต่ก็ยังลบไอ้รอยสัมผัสบ้า ๆ ของมันออกไปไม่ได้สักที
และที่สำคัญ....

มันเป็นจูบแรกของกูนะโว้ยยยย!!!

อ๊ากกกกก!!! 

เจ็บจ๊ายยยยยยย!!!

เสียให้ใครไม่เสีย แต่ดันมาเสียให้มัน
ไม่มีการขอโทษ แถมยังส่งรูปกับขนมมาเยาะเย้ยอีก
นึกแล้วก็แค้น อยากจะขย้ำฉีกให้เป็นชิ้น ๆ

แต่เอ๊ะ นี่มันก็รูปกูเองนี่หว่า
ฉีกทิ้งไปก็เท่ากับฉีกหน้าตัวเองด้วย
โอยยยยย!!!! ทำมันไม่ยุ่งยากอย่างนี้วะ

แล้วไอ้ขนมช็อกโกแล็ตนี่ก็ยังเสือกมาตั้งยั่วน้ำลายอีก
อย่าหวังว่ากูจะกิน
คราวที่แล้วกูยอมรับว่าพลาด
แต่คนอย่างไอ้สาลี่จะไม่มีประวัตศาสตร์ซ้ำรอยอีกเป็นอันขาด!!!

เขาเก็บรูปตัวเองไว้
แล้วแกล้งทำเป็นเมินไม่สนใจถ้วยขนมที่ตั้งข้าง ๆ
ไม่ได้เอาไปทิ้ง
แค่ตั้งไว้เฉย ๆ เหมือนมันเป็นอากาศธาตุ
ก็เรื่องอะไรจะต้องหยิบจับ
ไม่อยากจะแตะโดนของ ๆ มันด้วยซ้ำ

หนุ่มแว่นร้านขนมไทยจึงยืนขายของไปแบบนั้น
ทั้ง ๆ ที่มีช็อคโกแล็ตลาวาวางประดับร้าน
โดยไม่เข้าพวกกับขนมอื่น ๆ ในแผงอย่างสิ้นเชิงตลอดทั้งคืน


....

..

.

อีกครึ่งชั่วโมงจะห้าทุ่ม
แต่คนน้อยลงไปถนัดตากว่าทุกวัน
ส่วนหนึ่งเพราะวันนี้เป็นวันอาทิตย์
พรุ่งนี้เริ่มต้นทำงานวันจันทร์จึงไม่ค่อยมีใครกล้าอยู่เที่ยวดึกดื่น
และที่สำคัญ เมฆฝนก็เริ่มตั้งเค้าร้องคำรามครืน ๆ อยู่ไม่ไกล
จนทำให้ร้านรวงต่าง ๆ เริ่มทยอยเก็บข้าวของจนเกือบหมดแล้ว

ยกเว้นก็แต่ร้านหวานละไมที่ยังเปิดแผงขาย
โดยมีเจ้าของยืนละล้าละหลังด้วยความลังเล

เหลือขนมหม้อแกงอยู่แค่สี่ถาดเอง
จะยังไงเขาก็อยากขายให้มันหมด ๆ
พวกขนมอบแห้ง ๆ เหลือไว้ไม่เป็นไร
แต่กับหม้อแกงที่ทำเสร็จมาใหม่ ๆ 
เก็บไว้นานมันจะไม่อร่อยเอา
แบบนี้สงสัยต้องยอมขาดทุนนิดหน่อยซะแล้ว

คนที่คำนวณส่วนได้ส่วนเสียจึงสูดลมหายใจลึก
ก่อนจะป้องปากร้องตะโกน

“เร่เข้ามาคร้าบบบ เร่เข้ามา
ขนมหม้อแกงซื้อหนึ่งถาดแถมฟรี ๆ ไปเลยสามถาด
คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้วคร้าบพ่อแม่พี่น้องงงง
ช้าหมดอดนะครับ แล้วจะหาว่าไม่เตือนนนน!!!”

คำใด ๆ ในโลกก็คงไม่มีอานุภาพเรียกลูกค้าได้เท่ากับคำว่า ‘ฟรี’
เพราะทันทีที่สิ้นเสียงโฆษณาของเขา
แม่บ้านคนหนึ่งที่เดินผ่านก็รีบมาเหมาขนมหม้อแกงเรียบร้อย

“เอ๊ะ แล้วนี่ขายขนมฝรั่งด้วยเหรอจ้ะ”

เสียงร้องทักทำให้ใครบางคนเผลอนึกขึ้นได้ถึงของที่วางทิ้งเอาไว้
เขาเหลือบมองถ้วยกระเบื้องสีขาวอย่างชั่งใจชั่วแวบ
ก่อนจะหยิบมันลงใส่กล่องด้านหลังให้พ้นตา แล้วขยับปากตอบคำถาม

“อ๋อ เปล่าครับ คืออันนี้....เออ...ผมซื้อมาทานเอง”

โกหกออกไปส่ง ๆ แบบนั้นเพราะไม่อยากจะต่อความ
แถมอีกฝ่ายยังทำท่าจะสนใจขนมในถ้วยกระเบื้องมากกว่าหม้อแกงของเขาเสียอีก
สาลี่จึงรีบหยิบหม้อแกงใส่ถุงให้โดยเร็ว เพราะอยากจะรีบเบี่ยงประเด็น
อีกทั้งเขาก็เริ่มจะสัมผัสได้ถึงละอองของหยดฝนที่โปรยปรายลงมาแล้ว

แต่แม้ว่าจะรีบยังไง
กว่าจะเก็บของลงกล่องให้เรียบร้อย
และกว่าจะลากโต๊ะเก้าอี้ไปไว้ยังร้านก๋วยจั๊บฝั่งตรงข้ามที่อยู่ไม่ไกล
ซึ่งเจ๊ใหญ่ใจดียอมช่วยรับฝากของพวกนี้เอาไว้
แต่ก็ยังดูเหมือนจะไม่ทันการ
เพราะพอเดินออกมานอกร้านอีกที
ฝนก็เทกระหน่ำซัดจนแทบมองไม่เห็นทาง

“ให้มันได้อย่างนี่สิวะ!!”

สาลี่เผลอสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย
เดินออกไปตัวคงเปียกโชก ฉะนั้นอย่าหวังจะได้ขี่มอเตอร์ไซต์กลับไปเลย
เมื่อวานตอนเช้าอุตส่าห์เดินมาเอาฟีโน่คู่ชีพกลับบ้าน
แล้วตอนเย็นก็ขี่พ่วงของมาอีกที
สงสัยคืนนี้ต้องปล่อยให้น้องฟีโน่นอนหนาวอยู่ไกลบ้านอีกคืนแล้วล่ะมั้ง
หรือจะไม่ใช่แค่ฟีโน่แต่เป็นกูด้วยเลย
ตกหนักขนาดนี้เมื่อไรจะได้กลับกัน

โอยยย....ก็เพราะมนุษย์จ้องทำลายธรรมชาติเนี่ยแหละ
ฝนมันก็เลยตกได้ไม่เป็นเวล่ำเวลาอยู่ทุกวันแบบนี้
คิดแล้วมันเหนื่อยใจจริง ๆ เลยเว้ยยย!!


“ปี๊นนน!!”


เสียงบีบแตรขัดจังหวะอาการโวยวายกลัดกลุ้มของคนที่ยืนรอ
ดวงตากลมหรี่ลงเมื่อแสงไฟรถโฟล์กเต่าสีเหลืองสาดส่อง
ก่อนมันจะแล่นเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าร้านก๋วยจั๊บ
พร้อมกับที่กระจกรถค่อย ๆ ถูกเลื่อนลงให้เห็นคนขับซึ่งกำลังร้องเสียงดังฝ่าเสียงสายฝนสั้น ๆ

“ขึ้นมาสิ”

โห สั่งอย่างกับเป็นพ่อ
ใครจะขึ้นไปกับมึง
กูยอมรอจนข้ามไปถึงวันพรุ่งนี้ก็ได้
ฝันไปเหอะว่ากูจะให้มึงไปส่งอีก

“เร็วเข้า นี่มันดึกมากแล้วนะ เดี๋ยวแม่คุณเป็นห่วง”

เอ๊ะ อีกแล้วไอ้เวรนี่ เอะอะก็เล่นถึงแม่ตลอด
แต่มันก็จริง แม่ไม่เคยเข้านอนก่อนเลยถ้าเขายังไม่ไปถึงบ้าน
ยิ่งเห็นฝนตกหนักขนาดนี้ มีหวังต้องกระวนกระวายใจอยู่แน่ ๆ
ขืนรอต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไร
เอาไงดีวะ


สาลี่ยืนขมวดคิ้วหน้าเครียดราวกับกำลังตัดสินเรื่องคอขาดบาดตาย
วินาทีผ่านพ้นไปเรื่อย ๆ พร้อมกับฝนที่ยังตกลงกระทบพื้นไม่ขาดเม็ด

ในที่สุดหนุ่มแว่นก็ตัดสินใจเอื้อมมือเปิดประตูรถ
ชะโงกตัวข้ามไปวางข้าวของลงบนเบาะหลังของรถเต่า
แล้วจึงทรุดกายนั่งลงคู่คนขับด้านหน้าปิดประตูเสร็จสรรพ
พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยในเวลารวดเร็ว
ท่ามกลางสายตาคมที่มองอีกฝ่ายพลางยิ้มออกมาบาง ๆ
จนทำให้คนที่ทำหน้าบูดบึงต้องหงุดหงิดอารมณ์เสีย

อะไร มึงมองกูแล้วยิ้มแบบนั้นทำไมไอ้ลูกแม่เดือน
กูห่วงแม่หรอกนะ ถึงได้ขึ้นมา
จริง ๆ แล้วไม่ได้อยากไปกับมึงด้วยเล๊ยยยยย

เอ้า!! ยังมองอยู่อีก ขับไปสิมึง
ดีเหมือนกัน นั่งรถฟรีไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมัน
ช่วยชาติประหยัดพลังงาน
ลดมลภาวะโลกร้อน

อยากจะขับไปส่งกูนักก็เอาให้เต็มที
เชิญเลย ตามสบาย
พรุ่งนี้จะมารับกูด้วยเลยก็ได้
กูจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินกลับไปเอามอเตอร์ไซต์อีก
มีคนขับรถส่วนตัวคอยรับใช้ สบายกูไป

ช่วยไม่ได้
ก็มึงอยากเป็นคนบอกให้กูขึ้นมาเอง

โง่ดีนัก!
สมน้ำหน้าแล้วล่ะมึง
ไอ้ลูกแม่เดือน!


------------------------------------------------------------------------------------------------------------

TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-06-2012 07:13:02
ปกก็ว่าเกลียดแต่พฤติกรรมมันไม่ใช่น่าสาลี่

 :laugh:

บวกเป็ด

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 22-06-2012 07:21:55
ขำอิน้องสา...  เกลียดนั่นเกลียดนี่แต่ก็ทำตรงกันข้ามนะน้อง  ฮ่าๆๆๆ

ที่ยอมขึ้นรถเพราะห่วงแม่สินะ...  แต่ไอ้ที่คิดมากมายเนี่ยมันเลยคำว่าจะทำให้แม่ห่วงแล้วนะคะน้องสาลี่
ไอ้ที่คิดเนี่ย...  มันไม่ได้คิดถึงคนขับรถเต่าเหรอจ๊ะ  ฮ่า


นักรบเองก็เหมือนกัน  ไปแกล้งน้องอย่างนี้ได้ไง  มันต้องจงใจทำไปเลยเซ่... กร๊าก
น่ารักจริงๆ เลยทั้งคุณลูกแม่พลอยและคุณลูกแม่เดือน

นักรบไปบ้านสาลี่แล้ว  แล้วสาลี่จะมีโอกาสไปบ้านนักรบมั้ยอะ
ไหนๆ ทั้งสองบ้านก็ทำขนมเหมือนกันแล้วก็น่าจะเป็นทองแผ่นเดียวกันไปเลยเนาะ
จะได้มีแต่กำไรเข้าบ้านไม่ต้องขายหม้อแกงหนึ่งถาดแถมอีกสามถาดไงคะน้องสาลี่ > <

ว่าแต่... อาเฮียกะตี๋เพลงจะมาซื้อขนมไทยลูกแม่พลอยกะขนมปังลูกแม่เดือนบ้างมั้ยน๊าาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-06-2012 07:36:19
 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >;>; P.17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-06-2012 08:39:13
รอชิ้นต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-06-2012 09:17:43
หยุดทะเลาะกันได้แล้ว อยากให้รักกันๆ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 22-06-2012 12:26:52
ถ้าจะรอคำว่าขอโทษจากลูกแม่เดือนไม่ต้องรอหรอกสาลี่
เพราะนักรบเค้าจูบแล้วมีอารมณ์ขนาดนี้ เราว่ารอคำว่า”รัก”เถอะ ฮิ้วววววววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-06-2012 13:05:21
น้องสานี่ขี้โวยวายกะตัวเองจิงวุ๊ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-06-2012 13:17:27
น้องสาลี่บ่นเป็นผู้ฉิง
เชี่ยวน๊า :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 22-06-2012 15:12:17
นายนักรบเริ่มลงมือ'จีบ'น้องสาลี่รึยังนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/55 >> P.17
เริ่มหัวข้อโดย: Rina ที่ 22-06-2012 15:34:32
คู่นี้ปากแข็งทั้งคู่ กว่าจะรู้ว่ายังไงคงอีกนาน
ว่าแต่นักรบชอบสาลี่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/5
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 22-06-2012 20:11:36
ขอทักท้วงนิดนึงค่ะกระโปรงหลังรถเต่าเก็บของไม่ได้นะคะ เพราะเหตุที่ว่ารถโฟล์คเต่าเขาวางเครื่องยนต์เอาไว้ด้านหลังค่ะ เพราะฉะนั้นต้องเอาของไปเก็บไว้กระโปรงหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 7] 22/06/5
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 22-06-2012 20:36:38
ขอทักท้วงนิดนึงค่ะกระโปรงหลังรถเต่าเก็บของไม่ได้นะคะ เพราะเหตุที่ว่ารถโฟล์คเต่าเขาวางเครื่องยนต์เอาไว้ด้านหลังค่ะ เพราะฉะนั้นต้องเอาของไปเก็บไว้กระโปรงหน้าค่ะ


ขอบคุณจริง ๆ ค่ะที่ทักท้วงมา  :กอด1:
อันนี้เป็นความผิดพลาดของคนเขียนเองที่ไม่แม่นข้อมูล
ที่จริงทราบอยู่แล้วว่ารถโฟล์กเต่าจะเก็บของไว้ด้านหน้า
ตอนบรรยายก็เลยเขียนประมาณว่าให้น้องสายัดของไว้เบาะหลังแทน
ไม่ได้ให้เปิดกระโปรงหน้าเพราะรีบและฝนมันก็ตกอยู่
แต่สงสัยเขียนไม่เคลียร์ บวกกับลืมด้วยว่ารถโฟล์กเต่ามันมีอยู่แค่สองประตูไม่ใช่สี่
เบลอได้อีก    :o12:

จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมนะคะ

ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ

 :L2:

BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 23-06-2012 06:45:42
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 8


“คุณแม่ครับ ขนมนี่เรียกว่าอะไรครับ”
 
“อ้อ เขาเรียกว่า ‘ขนมเกสรลำเจียก’ จ๊ะลูก
ข้างในเป็นไส้มะพร้าวออกหวาน ๆ มัน ๆ
พอทานแล้วจะได้กลิ่นควันเทียนที่อบด้วย
ลองชิมดูสักชิ้นสิจ๊ะ”

“อืม อร่อยมากเลยครับแม่
แม่ทำขนมไทยเก่งจริง ๆ ครับ
แบบนี้จะให้ผมกินเท่าไรก็ยอม”
 

เนียน...
มึงเนียนไปแล้ว
จะมากินขนมหรือจะมาจีบแม่กูกันแน่วะ
คิดผิดจริง ๆ ที่ให้มันมาส่งที่บ้าน
กูน่าจะรู้จุดประสงค์ของมันแต่แรกแล้วว่ามันตั้งใจจะมาหลอกแดกฟรีนี่เอง
มิน่า ถึงได้คอยมาทำดีด้วย
หลงคิดว่ามันโง่ ที่ไหนได้มาเนียน ๆ เลย
หึ น้ำหน้าอย่างมึงนี่มันเชื่อใจไม่ได้จริง ๆ

“แล้วนี่ น้องรบขายพวกขนมเบเกอรี่ใช่มั้ยลูก เห็นน้องสาเขาเล่าให้แม่ฟัง”


...อะไร มองกูทำไม
ก็แม่ถามกูก็ต้องตอบ
หรือจะให้บอกให้หมดว่ามึงขายโปสการ์ดด้วย
ร้านอะไรโคตรจับฉ่ายไม่มีจุดยืนเป็นของตัวเอง
ทำไมถึงไม่เจ๊ง ๆ ไปสักทีวะ
ปล่อยให้คนขายมันลอยหน้าลอยตาฉอเลาะแม่คนอื่นอยู่ได้


“ครับแม่  ผมก็อาศัยฝากร้านคนอื่นช่วยขายนะครับ
ว่าจะหาที่ตั้งร้านเป็นของตัวเองซะที
ไอ้บ้านเช่าที่ผมอยู่มันก็แคบ ให้เปิดขายไปด้วยคงทำไม่ได้”


...โหย ไม่ต้องมาทำเสียงน่าสงสารเรียกร้องความสนใจจากแม่กูเลย
มีลูกล้อลูกชนทำคะแนนกันน่าดู
แต่เสียใจเพราะแม่กูไม่มีทางหลงกลไปช่วยมึงหรอก!!


“เอ๊ะ กำลังหาที่ตั้งร้านอยู่เหรอจ๊ะ
จริงสิ พอดีเลย ห้องที่ติดกันกับร้านแม่ตรงนี้
เขาจะย้ายออกไปตอนสิ้นเดือน
เห็นว่าจะไปอยู่กับลูกที่อเมริกาน่ะจ้ะ
แต่ไม่อยากปล่อยห้องทิ้งไว้ว่าง ๆ
น้องรบลองมาติดต่อกับเขาไว้ดีมั้ยลูก
เผื่อเขาจะให้เช่าขายขนมได้”


...อ้าวเฮ้ยยยยย!!!!
เดี๋ยวแม่ แม่ทำอย่างนี้กับสาได้ยังไงอ่ะ
แล้วทำไมสาไม่เห็นรู้เรื่องว่าป้าแต้วจะย้ายไปอยู่กับลูกสาวแกล่ะ

ที่สำคัญ...
แม่จะไปบอกเรื่องตึกเช่ากับมันทำมั้ยก๊านนน!!!!
ดูสินั้น ทำท่าระริกระรี้ตื้นเต้นดีใจใหญ่แล้ว


“จริงเหรอครับ  อย่างนี้ก็ดีเลย
แถวนี้เป็นย่านตลาดเก่า ทำเลกำลังสวยด้วย
ขอบคุณมากครับแม่ที่บอกให้ผมรู้”

“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ก็จะช่วยบอกเขาล่วงหน้าด้วย
น้องรบช่วยดูแลน้องสาแทนแม่ตั้งมาก
แค่นี้เรื่องเล็กน้อยอยู่แล้วจ้ะ”


...ไม่แล้วแม่
มันไม่เคยช่วยดูแลอะไรสาเลย
แถมนี่ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยด้วย
แต่มันเป็นเรื่อง ‘โคตรอภิมหาใหญ่มากกกก!!!!!’

เจอกันตรงข้ามแผงในถนนคนเดินไม่พอ
นี่ดันจะมาอยู่ติด ๆ กันเลยอีก
ต้องเห็นหน้ามันทุกวัน

...กูขอตายซะดีกว่า



“แล้วนี่จะเอาขนมอะไรเพิ่มอีกมั้ยจ๊ะ
แม่เพิ่งทำครองแครงเสร็จเมื่อบ่ายนี่เอง
เดี๋ยวน้องรบเอากลับไปทานนะลูก”

คนพูดลุกขึ้นออกจากวงสนทนาก่อนจะเดินหายเข้าครัวไป
ทิ้งให้ชายหนุ่มสองคนต้องมาประจันหน้ากันในสถานการณ์เดิม
และผู้ที่เริ่มก็ไม่ใช่ใครอื่น
หากแต่เป็นหนุ่มอินดี้ผมยาวซึ่งจับความรู้สึกมาคุของคนที่นั่งนิ่งเงียบมาตลอด
จนต้องพูดแกล้งแหย่ออกมาลอย ๆ


“อยากจะด่าก็ด่ามา
เก็บไว้เดี๋ยวได้จุกอกตายเข้าซะก่อนนะคุณลูกแม่พลอย””


“ไอ้...!!”


ประโยคถูกหยุดไว้แค่นั้น
ไม่ใช่เพราะด่าไม่ออก
แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากอะไรดี

...เวรกรรมอะไรของเขากันวะ
ที่ต้องให้มันมารู้ว่าเวลาอยู่บ้านเขาจะต้องทำตัวเป็นเด็กดีนิ่งเงียบเรียบร้อย
อยากจะด่าก็ด่าไม่ได้ อยากจะลุกขึ้นไปต่อยหน้ามันให้แหกก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่
เลยได้แต่พร่ำเพ้อโวยวายอยู่ในใจคนเดียวเหมือนคนบ้า
ถูกศัตรูกำจุดอ่อนเอาไว้แบบนี้


มันน่าเจ็บใจนัก!!



สาลี่กัดฟันกรอด มือกำหมัดแน่น
ทว่า ยังไม่ทันทีความเคืองแค้นจะถูกระบาย แม่พลอยก็เดินกลับเข้ามา
โดยหิ้วถุงบรรจุครองแครงและขนมอื่น ๆ มาอีกสามสี่ถุง

“อ่ะนี่จ้ะ แม่ให้ไปฝากคนที่บ้านด้วยนะลูก”

“ขอบคุณครับแม่ งั้นวันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน
ถ้ายังไงพรุ่งนี้ผมจะมาลองคุยกับคนที่อยู่ห้องข้างๆ นี่ดูนะครับ”


...เออ มึงรีบไปเลย
แล้วพรุ่งนี้ไม่ต้องมาอีกนะ
กูจะรีบไปชิงตัดหน้าบอกป้าแต้วว่าคนเช่าคนใหม่นิสัยไม่ดี
อย่าให้มันได้เช่าเด็ดขาด
กูจะคอยขัดขวางมึงทุกวิถีทางเลยคอยดูเถอะ!!


...คิดไปเถิด คิดไปในใจ
วางแผนชั่วร้ายต่าง ๆ นา ๆ
แต่ท้ายที่สุดยังไงตัวเองก็ยังคงต้องกางร่มเดินมาส่งแขก
เพื่อให้ดูเป็นเจ้าบ้านที่ดีในสายตาของแม่



เม็ดฝนเริ่มซาลงแล้ว
สาลี่มองร่างสูงขึ้นรถโฟล์กเต่าสีเหลือง
ท่ามกลางความยินดีที่มันไสหัวออกไปได้เสียที
แต่ทว่ายังไม่ทันจะเดินกลับเข้าบ้าน
เสียงจากคนที่เปิดกระจกรถก็ตะโกนร้องบอก

“เดี๋ยวคุณลูกแม่พลอย”

“อะไร”

คนถูกรั้งหันไปตอบเสียงแข็ง
ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สนใจอารมณ์ขุ่นมัวนั้น
กลับเอ่ยคำถามที่ทำให้คนฟังชะงัก

“ขนมผมน่ะกินไปแล้วหรือยัง”


ขนมของมัน
ไอ้ช็อคโกแล็ตลาวาถ้วยนั้น
ลืมไปเลย...

แต่จะให้เขาบอกว่าหยิบมันมาด้วยเนี่ยนะ
ไม่มีทาง!!


“ทิ้งไปแล้ว”

“เหรออออออ?”

สาลี่ตอบกลับไปสั้น ๆ
ทว่าคนอยู่ในรถกลับลากเสียงตอบยาวเหมือนจงใจกวน
จนเขาต้องตวาดถามซ้ำอย่างเอาเรื่อง

“ทำไม ไม่เชื่อรึไง”

“เปล๊า ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักคำ
คุณจะกินหรือไม่กินก็เรื่องของคุณ
ผมก็แค่...”

ประโยคที่ราวกับจงใจหยุดไว้
ก่อนคนพูดจะหันไปทำอะไรกุกกักอยู่ข้างเบาะ
ทำให้ความสงสัยในใจของคนฟังพุ่งสูงจนต้องเร่งถามซ้ำ

“ก็แค่อะไร”

ดูเหมือนหนุ่มมาดเซอร์จะได้ของที่ต้องการ
เพราะเจ้าตัวหันกลับมา ก่อนจะเผยรอยยิ้มเรื่อย ๆ ตามสไตล์
แล้วจึงเอ่ยคำตอบของคำถามที่ทิ้งไว้

...และเป็นคำตอบที่ทำให้หัวใจของใครบางคนแทบหยุดเต้น


“ผมก็แค่กำลังจะจีบคุณ”



ห่ะ...


เมื่อกี๊...


มะ...มันว่าอะไรนะ


ใครจะจีบใคร



แชะ



“ฮ่า ๆๆๆ หน้าคุณตอนตกใจนี่มันฮาดีจริง ๆ วะ

เสียงชัตเตอร์กล้องพร้อม ๆ กับเสียงระเบิดหัวเราะของคนที่จงใจแกล้ง
ทำให้สติทั้งหมดของคนที่นิ่งอึ้งอยู่กลับคืน

“แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ คุณลูกแม่พลอย”

ร่างสูงยักคิ้วกวน ๆ ส่งให้ ก่อนจะเหยียบคันเร่งแล่นรถหายไปในความมืด
ทิ้งให้คนที่เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้
ร้องตะโกนโวยวายในใจด้วยความคับแค้น


ไอ้เชี่ยยยยยยยยย!!!!!

นี่กูโดนมันแกล้งอีกแล้วใช่มั้ยวะเนี่ย
แม่ง พูดบ้าอะไรออกมาได้ทำเอากูเกือบหัวใจวายตาย
อย่างมึงน่ะเหรอจะจีบกู
ทุเรศฉิบหาย!

แล้วมันอยู่ไหนวะไอ้ช็อคโกแล็ตลาวา
เสือกถือติดมือกลับมาซะได้
รู้งี้เขวี้ยงทิ้งไปตั้งแต่ตอนนั้นก็หมดเรื่องแล้ว
ไม่น่าเอากลับมาบ้านให้อัปมงคลเลย


หนุ่มแว่นก้าวเท้าฉับ ๆ เข้าไปในครัวก้มลงเปิดกล่องคุ้ยหาเป็นพัลวัน
ก่อนจะเจอมันนอนนิ่งอยู่ท่ามกลางดงขนมทองม้วน


...อ่ะ เจอแล้ว อยู่นี่เอง

หึ ไอ้ของพรรณนี้ใครมันจะไปอยากกิน


....เพราะฉะนั้น มึงจงลงไปนอนในถังขยะซะ!!


“ถืออะไรอยู่น่ะลูก”

มือที่กำลังอยู่เหนือถังขยะชะงักค้างกลางอากาศ
เขารีบหมุนตัวกลับมาเผชิญคนทักที่มองอย่างสงสัย
ก่อนยิ้มแห้ง ๆ พลางเอ่ยคำตอบ

“ขนมของลูกแม่...เอ้ย ของรบน่ะครับ”

“เหรอจ๊ะ น้องรบนี่มีน้ำใจจังเลย สมเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ
เฮ้อ...เสียดายแม่ไม่ค่อยรู้เรื่องขนมฝรั่งเท่าไร
อ้าว แล้วนี่ไม่รีบทานล่ะลูก
เก็บไว้นาน ๆ เดี๋ยวหมดอร่อยเข้าพอดี
อ่ะนี่จ้ะ แม่หยิบช้อนให้”

คำเร่งที่มาพร้อมกับน้ำใจซึ่งเขาไม่ต้องการเลยแม้แต่น้อย
ทำให้คนผู้ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกต้องว้าวุ่นใจ

ไอ้ศักดิ์ศรีก็อยากรักษา
แต่เขาก็ไม่เคยขัดใจแม่เลยสักครั้ง

สุดท้าย เขาก็เลือกที่จะยังคงรักษาคอนเซปต์ของลูกที่ดี
จึงต้องจำใจหยิบช้อนตักขนมขึ้นทาน

ทันที่เนื้อช็อคโกแล็ตนุ่ม ๆ เข้าปาก
รสหวานอมขมก็กระจายไปทั่ว
ความหอมมันเข้มข้นของช็อคโกแล็ตเหลว
คล้ายเป็นครีมละลายหายไปช้า ๆ


...อร่อยจริง ๆ นั้นแหละ


ขนาดทิ้งไว้จนเย็นแล้ว
ก็ยังรสชาติดีไม่เปลี่ยน

ไม่อยากจะยอมรับ แต่ไอ้ลูกแม่เดือนมันคงทำเบเกอรี่เก่งจริง ๆ
กินแล้วก็นึกถึงขนมปังของมันในตอนนั้น
ใจอยากจะได้สูตรความลับของขนมปังเนื้อนุ่ม
แต่เกลียดขี้หน้ากันขนาดนี้ จะหาโอกาสขโมยสูตรมันได้ยังไง

สงสัยเมนูใหม่ ‘ขนมปังสังขยา’
คงต้องเป็นหมันไปซะแล้ว

เฮ้อ...เขาจะทำยังไงดีวะเนี่ย
หรือเปลี่ยนเป็นเมนูอื่น
แต่จะให้เอาเป็นอะไรล่ะ
อะไรที่พอจะทดแทนกันได้

อะไรที่....


เคร้ง!!



...อ้าวเฮ้ย!



กูเผลอกินหมดอีกแล้ว!!


ปากหนอปาก...

ไอ้สาลี่เอ้ยยยยย

เขาล่ะอยากตบปากตัวเองจริง ๆ



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



แดดเช้าของวันใหม่สาดส่องไปทั่วห้อง
ดวงตากลมรีมองสู้แสงหลังจากตื่นนอน
มือเอื้อมคว้าแว่นที่วางบนหัวเตียงมาสวมอย่างงัวเงีย
ก่อนหยิบมือถือที่วางไว้คู่กันมากดดูเวลา
และพอเห็นตัวเลขบนหน้าจอเท่านั้น
ความง่วงงุนก็แทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง


แปดโมงสามสิบสองนาที


...ตายห่า! เสือกตื่นสายได้ไงวะ
ว่าจะรีบตื่นแต่เช้าลงไปหาป้าแต้ว
คุยดักคอใส่ร้ายป้ายสีไอ้ลูกแม่เดือน
เผื่อป้าแต้วจะได้ไม่ต้องปล่อยให้มันมาเช่าห้อง
แล้วแบบนี้มันจะทันมั้ยวะเนี่ย

ถ้ามันมาก่อนล่ะก็...


คิดเพียงแค่นั้น คนที่ว้าวุ่นใจก็รีบพุ่งตัวออกไปเปิดผ้าม่าน
ชะโงกดูลาดเลาจากหน้าต่างชั้นสอง
และดูเหมือนโชคชะตาความซวยจะดลบันดาลให้สิ่งนึกไว้เป็นจริง
เพราะทันทีที่มองลงไป
รถเต่าสีเหลืองอันสุดแสนคุ้นเคยก็แล่นเข้ามาจอดเทียบฟุตบาททันที


ฉิบหาย...


หน้าเหนอไม่ต้องล้าง ฟันไม่ต้องแปรงกันแล้วนาทีนี้
เขารีบพุ่งตัววิ่งลงไปทั้ง ๆ ที่ยังใส่ชุดนอนคอย้วยกับกางเกงบอล
ทว่าก็ยังไม่ทันการกับแม่ของตนซึ่งยืนรอต้อนรับคนที่เดินลงมาจากรถ
พร้อมกับหญิงวัยกลางคนใบหน้าสวยคมอีกคนหนึ่ง

“สวัสดีครับแม่”

“ไหว้พระเถอะลูก แล้วนี่พาใครมาด้วยจ๊ะ”

“แม่ผมเองครับ ว่าจะให้มาช่วยดูห้องที่จะเช่าด้วยน่ะครับ”

ทว่า คล้ายคนฟังจะไม่ได้ยินคำบอก
เพราะทันทีที่เห็นแขกผู้มาเยือน
ดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้างขึ้น ก่อนขยับปากร้องถาม

“เดือนใจ เดือนใจใช่มั้ย”

เจ้าของชื่อหันกลับมามองคนทักทันที
และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นความตกใจเช่นเดียวกัน

“พลอย”

ชื่อของตนที่ถูกเอ่ยเรียกทำให้คนฟังแย้มรอยยิ้มกว้าง
รีบเดินเข้ามาหาพร้อมพูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจระคนยินดี

“เดือนใจจริง ๆ ด้วย
ไม่ได้เจอกันตั้งนาน
กี่ปีแล้วเนี่ย
ตั้งแต่สมัยจบมศ.7 เลยใช่มั้ย”

“ใช่ ๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้มาเจอเธอที่นี่
ฉันนึกว่าเธอย้ายไปอยู่กรุงเทพถาวรแล้วซะอีก
ตั้งแต่นั้นก็ไม่ติดต่อกันเลย
แล้วดูสิอะไรกัน เผลอแป๊ปเดียว
เธอกับฉันแก่หงอมไปขนาดนี้แล้ว”

เสียงหัวเราะพูดคุยอย่างสนุกสนานทำให้ชายหนุ่มทั้งสองต้องยืนฟังอย่างมึนงง
ก่อนผู้เป็นแม่ของทั้งคู่จะย้อนความให้ฟังว่า
เธอสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยม
แต่พอเรียนจบก็แยกย้ายกันไป
โดยแม่พลอยย้ายไปเรียนต่อในกรุงเทพ
ส่วนแม่เดือนใจเรียนคหกรรมอยู่ที่เดิม
แรก ๆ ก็ยังติดต่อสื่อสารกันผ่านจดหมาย
แต่พอแม่พลอยย้ายบ้านใหม่ ที่อยู่ก็เลยหายไป
ทำให้ทั้งสองขาดการติดต่อจากกันไปตามเวลา
จนกระทั่งถึงวันนี้ที่ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้งในรอบเกือบสามสิบปี

ไม่น่าเชื่อว่าความบังเอิญจะมีอยู่บนโลก
และไม่อยากจะเชื่อว่า...
โลกใบนี้มันแคบจนนำพาให้คนสองคนกลับมาเจอกันด้วยวิธีนี้

แถมมิหนำซ้ำเพื่อนซี้เก่ายังพากันจูงมือไปเจรจากับป้าแต้ว
เพื่อขอเช่าตึกซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย
พร้อมให้ครอบครัวใหม่เข้ามาเปิดร้านขายเบเกอรี่ในสิ้นเดือนนี้


ซึ่งหมายความว่ามันก็เหลือเวลาอีกแค่สองอาทิตย์!!



....มึนเลยครับมึน
อะไรมันจะรวดเร็วปุ๊บปั๊บขนาดนี้
ใครก็ได้ช่วยบอกซ้ำใหม่อีกครั้งได้มั้ย
เผื่อเมื่อกี๊เขาจะตามเรื่องไม่ทัน



แชะ



ไอ้เสียงคุ้นหูที่ได้ยินไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้นตอมาจากใคร
คนถูกถ่ายหันไปมองคนถือกล้องที่ยังคงยืนเช็คภาพพลางพูดอย่างสบายอารมณ์

“อืม...หน้าคุณตอนเพิ่งตื่นก็ตลกดี
เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะอัดไปให้ดูนะ
ถือเป็นของขวัญของเพื่อนบ้านใหม่เลย ดีมั้ย”


เออ... ดี... ดีเลย....
มึงนึกว่ากูเป็นเซเลปรึไง ถึงได้ถ่ายกูจริง
แต่ตอนนี้กูไม่อยากเถียงกับมึงแล้ว
กำลังเบลอ กำลังมึน
 
กูกลับไปนอนดีกว่า

...นอนอีกรอบ

เผื่อว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดมันจะเป็นความฝัน
ตื่นขึ้นมาพรุ่งนี้กูจะได้ลุกขึ้นไปห้ามป้าแต้วทัน
แล้วมันก็จะเป็นความจริงที่กูต้องการสักที


เพราะฉะนั้นทุกคน


เช้านี้...


สาลี่ขอราตรีสวัสดิ์นะครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-06-2012 06:55:05
 :really2:คนอานก็มึนกับน้องสาลี่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-06-2012 07:10:51
ฮ่าๆ รวมร้านกันเลยดีไหม?
เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-06-2012 08:39:55
 :z2:

เอาล่ะทีนี้จะรอดูว่าเมื่อทั้งคู่ว่าอยู่ใกล้กัน

รบจะรุกสาลี่แค่ไหน

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-06-2012 09:08:08
อีกหน่อยก็ทุบกำแพงขยายเป็นร้านเดียวกันไปเลย

ให้รบออกแบบร้านแนวๆ ร้านเดียวมีขนมไทยกับขนมฝรั่ง แล้วเพิ่มมุมเครื่องดื่ม มีที่ให้นั่งชิลๆ

มีมุมให้ให้ถ่ายรูป เก๋จะตายๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-06-2012 09:20:53
นี่นักรบถ้าจะจีบน้องสาก็เอาให้จริงจังอย่าแค่หยอกสิ น้องสายิ่งมึนงงกับชีวิตอยู่ เดี๋ยวจะพาลคิดในแง่ลบนะทีนี้เรื่องยาววววแน่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 23-06-2012 09:23:26
รอค่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >;>; P.18
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-06-2012 09:36:47
อ้าว แม่ดันเป็นเพื่อนสนิทกันซะงั้น  สาลี่ยอมรับเหอะยังไงก็หนีกันไม่พ้น ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 23-06-2012 10:10:15
ดีจัง....จะได้ย้ายมาเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว

แถมแม่ๆก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนอีก โลกกลมพรหมลิขิตมาก

ทีนี้ นักรบก็จีบน้องสาได้เต็มที่แล้วสิ...คิคิ  :kikkik: :kikkik: :kikkik:

ที่พูดว่าจะจีบนี่ นักรบพูดจริงๆใช่มั้ย จีบเลยๆๆๆ  :yeb: :yeb:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 23-06-2012 12:03:23
 :bye2:ขนมแม่เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/5
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 23-06-2012 12:22:29
มาอยู่ใกล้ๆสาลี่จะได้ขโมยสูตรได้ไง ไม่ดีเหรอ 55
นักรบคงไม่ได้พูดเล่นๆหรอกสาลี่เตรียมตัวโดนจีบได้เลยอีกสองอาทิตย์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-06-2012 14:08:55
โลกกลมแท้
แม่แม่เป็นเพื่อนกัน
สาลี่เอ๊ยแกเสร็จ
นักรบแน่ๆ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 23-06-2012 19:14:01
น้องรบจะจีบน้องสาลี่แล้ววววววว  วิ้ววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 23-06-2012 19:51:04
แม่เป็นเพือนซี้กัน ส่วนลุกก็รักกัน ดีจัง อ๊ายเขินแทนเลย มาต่อนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 8] 23/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 23-06-2012 22:50:40
ได้ใกล้กันมากกว่าที่คิดแฮะ
ทีนี้ลูกแม่สองร้านก็จะได้รวมร้านกันสักที
555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 24-06-2012 08:04:01
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 9


ปุจฉา : คนในรูปที่กำลังยืนขมวดคิ้วยกแว่นขึ้นส่องเหมือนสงสัยว่ามีอะไรติดอยู่คือใครกันเอ่ย?

วิสัจฉนา : กูเอง


สาลี่ถอนหายใจพลางมองโปสการ์ดทำมือซึ่งวางแหมะทิ้งไว้บนโต๊ะ
หลังจากที่เขาเดินไปขอแลกเศษเหรียญที่ร้านขายเฉาก๋วยชากังราวถัดไปอีกสองแผง
รู้ ๆ กันอยู่แล้วว่าเจ้าของโปสการ์ดมันคือใคร
แต่ที่สงสัยก็คือทำไมมันถึงต้องมาตามถ่ายรูปของเขาอยู่ได้

อันที่จริงฝีมือถ่ายรูปของมันก็ไม่ถึงขั้นเลวร้ายอะไร
ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการจัดไฟจัดฉากแท้ ๆ
อาศัยแค่แสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ที่กำลังใกล้ตก
แต่ก็ยังถ่ายออกมาได้ดูอาร์ตสวยเป็นธรรมชาติ

อ่ะ...แต่จะว่าแค่ฝีมือมันอย่างเดียวคงไม่ได้
ต้องบอกด้วยว่านายแบบมันขึ้นกล้อง
หึ คนมันหล่ออ่ะนะ
จะถ่ายมุมไหนท่าไหนยังไงก็ออกมาดูดี

เขาเองก็ไม่ค่อยมีรูปของตัวเองเก็บไว้เยอะแยะเท่าไร
ดีเหมือนกันจะได้ทำเป็นอัลบั้มด้วยเลย
มันอยากถ่ายก็ถ่ายไปเหอะ
เอาให้เต็มที...
กูจะนึกซะว่าตัวเองเป็นณเดช
ถึงได้มีปาปารัสซี่มาคอยถ่ายรูปกูอยู่ทุกวันล่ะกัน


“ดูอะไรอยู่น่ะ สา”

เสียงที่ดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อเงยหน้ามองคนทัก
และทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร ริมฝีปากก็แย้มรอยยิ้มเอ่ยคำทักทายกลับไปอย่างยินดี

“อ้าว...เฮียแทน หวัดดีครับเฮีย”

เขายกมือไหว้ลูกค้าประจำอันสุดแสนคุ้นเคย
เพราะอันที่จริงร้านหวานละไมอยู่ห่างจากร้านขายน้ำเต้าหู้ของเฮียแทนไทแค่สามช่วงตึกเท่านั้น
ถือว่าเป็นร้านในย่านตลาดเก่าเดียวกัน
แถมเฮียแทนยังวนเวียนมาซื้อขนมไทยของเขาทุกวัน
ตอนแรกเขาก็นึกว่าเฮียจะชอบกิน
ที่ไหนได้พอมองไปมองมาถึงได้รู้ว่าเฮียแกซื้อไปจีบหญิง
...น่าอิจฉาคน ๆ นั้นจริง ๆ
ถึงเฮียจะหน้านิ่งดูดุไปหน่อย
แต่ความจริงทั้งใจดี สุภาพบุรุษ แถมแมนโคตร ๆ
ใครได้ไปเป็นแฟนล่ะก็ โชคดีตายชัก

“เป็นไง ขายดีมั้ยเรา”

“ก็เรื่อย ๆ นะเฮีย
ว่าแต่วันนี้จะเอาอะไรดีครับ
วุ้นมะพร้าวมั้ยเฮีย... ร้อน ๆ แบบนี้กินวุ้นมะพร้าวกำลังอร่อย”

แทนไทมองขนมที่วางเรียงกันมากมายบนแผงอย่างชั่งใจ
ก่อนคนตัวโตจะหันหลังกลับไปเรียกใครบางคน

“เพลง... เพลงมานี่หน่อย...
ร้านนี้แหละที่พี่บอกว่าขนมเขาอร่อย 
เราอยากกินอะไรล่ะ เลือกเอาเลย”

จบคำ เจ้าของชื่อก็เดินแทรกตัวมายืนข้าง ๆ
สาลี่มองพิจารณาคนที่มาใหม่ซึ่งกำลังกวาดตาดูขนมด้วยท่าทีสนใจ

...เพื่อนเฮียเหรอ
อาตี๋เต็มขั้นเลยแฮะ ขาวโคตรผิวดียิ่งกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
อายุก็น่าจะไล่เลี่ยพอ ๆ กับเขาซะด้วย

“โอ้โห เห็นเยอะ ๆ แบบนี้แล้วเลือกไม่ถูกเลยอ่ะ
ขนมชั้นก็น่ากิน ตะโก้ก็อยากลอง
เฮ้ย มีจ่ามงกุฎด้วย เพิ่งเห็นของจริงนะเนี่ย เขาว่าทำยากจะตาย
...นี่ทำเองทั้งหมดเลยหรอครับ”

ท้ายประโยคใบหน้าตี๋เงยขึ้นถามเจ้าของร้าน
ซึ่งคนที่โดนชมไม่หยุดก็ตอบกลับไปอย่างยินดี

“ครับ ถึงจะทำยากแต่ก็ทำด้วยใจทุกชิ้น
เพราะแม่ผมชอบทำขนมไทย
แถมรู้สูตรมาจากคุณยายที่เคยเป็นต้นเครื่องในวังด้วยน่ะครับ
เพราะฉะนั้นขนมพวกนี้ต้นตำรับของแท้ดั้งเดิมแน่นอนครับ”

ยิ่งได้ยินประวัติที่มาที่ไป นัยน์ตาเรียวก็สะท้อนเป็นประกายด้วยความตื้นเต้น
รีบร้องสั่งออเดอร์ขนมล็อตใหญ่อย่างห้ามใจไม่อยู่

“งั้นเอาขนมชั้นกล่องหนึ่ง แล้วก็ตะโก้อีกกล่อง ส่วนจ่ามงกุฎมีเท่าไรผมขอเหมาหมดเลยครับ”

“โหย....เหมาขนมคนอื่นหมด แต่ไม่แวะไปร้านผมเลยนะพี่เพลง”

เสียงร้องของบุคคลที่สี่จากด้านหลังทำให้คนในวงสนทนาหันไปมองผู้มาเยือน
ก่อนเพลงจะร้องทักอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ

“เฮ้ย... รบ มาขายของที่นี่ด้วยเหรอเรา”

“ก็ต้องมาขายสิครับ จะพลาดได้ไง แผงผมอยู่ตรงข้ามนี่เอง
เออ แล้วผมจะมาบอกพี่ว่าช่วงนี้พวกเค้กสตอเบอรี่งดไปก่อนนะ
ผมหาที่ถูกใจไม่ได้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะส่งเป็นพวกเค้กใบเตยไปให้แทน”

นักรบถือโอกาสอธิบายเรื่องให้เจ้าของร้าน ‘เมโลดี้คาเฟ่’
ที่เขาได้ฝากขายเค้กโฮมเมดของตัวเองนับตั้งแต่เปิดร้าน
ซึ่งพี่เพลงที่อายุมากกว่าเขาแค่ปีเดียวก็รับเอาไว้
แถมยังช่วยเชียร์ลูกค้าในร้านกาแฟให้ซื้อขนมเพิ่มจนมีออเดอร์เข้ามาเยอะ
จึงทำให้คุ้นเคยกับคนคนนี้เป็นอย่างดีจนสามารถพูดคุยได้อย่างสนิทสนม

“ไม่เป็นไร อยากเอาขนมแบบไหนก็จัดมาเหอะ พี่เชื่อฝีมือเรา
เอ๊ะ... แล้วถืออะไรมาด้วยล่ะนั่น”

เพลงถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นอีกฝ่ายใช้ผ้ารองกันความร้อน
ถือถ้วยกระเบื้องสีขาวปริศนาที่เหมือนเพิ่งเสร็จออกจากเตา
ส่งกลิ่นหอมของขนมอบให้ลอยฉุย

“อ๋อ ช็อคโกแล็ตลาวาครับ”

“หืม...ท่าทางน่ากินดีนี่ ไม่เห็นเอาแบบนี้มาให้ร้านพี่บ้างเลย”

“ก็กินตอนร้อน ๆ อร่อยกว่าครับ อีกอย่างผมไม่ได้ตั้งใจทำขายด้วย
แค่กะทำให้ใครบางคนเป็นพิเศษน่ะครับ
เพราะอีกไม่นานเราก็จะได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันแล้ว”

ข้อความกำกวมบ่งบอกความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
ชนิดไม่ต้องให้เดาเลยว่า ‘คนพิเศษ’ คนนั้นคือใคร
เพราะหลังจากจบคำดวงตาของหนุ่มมาดเซอร์ก็จับจ้องไปที่เจ้าของร้านขนมไทย
จนคู่สนทนาที่ฟังอยู่ต้องผิวปากหวือ

“โห...ออกตัวแรงเว้ยเฮ้ย
....จริงหรือเปล่าครับเนี่ย”

เพลงไม่ได้หันไปพูดกับคนที่เปิดเผย
หากแต่หันกลับไปมองหนุ่มแว่นซึ่งสะดุ้งทันทีหลังจากได้ยินคำถาม
พลางรีบส่ายหน้าโบกมือร้องปฏิเสธเป็นพัลวันจนลิ้นแทบจะพันกัน

“อ่ะ ปะ...เปล่าครับ....คือ ผะ...ผม.... มะ...ไม่...”

“ฮ่าๆๆ ล้อเล่นน่ะครับพี่ ผมหมายถึงเดี๋ยวผมจะย้ายไปเปิดร้านข้างบ้านเขาน่ะครับ”

เสียงหัวเราะพร้อมคำอธิบายดังขึ้นขัดคำพูดตะกุกตะกักของคนที่เริ่มทำตัวไม่ถูก
ซึ่งคนฟังก็พยักหน้าหงึกหงักเมื่อได้ยินคำขยายความ

“อ๋อ ไอ้ที่รบเคยบอกพี่ว่าได้ที่ทำร้านแล้วน่ะเหรอ
ดี ๆ ไว้วันหลังพี่จะแวะไปหานะ”

เพลงพูดคุยกับคนขายเบเกอรี่อีกเล็กน้อย
ก่อนจะหันมาจ่ายเงินค่าขนมไทย
แล้วจึงขอตัวเดินกลับไปเที่ยวต่อกับแทนไท


...และเมื่อคนคุ้นเคยลับตาไป
เสียงของคนชอบแหย่ก็ดังขึ้นตามมาทันที

 
“เสียดายเมื่อกี๊ผมไม่ได้หยิบกล้องมาถ่ายรูปตอนคุณอึ้ง
พูดว่าเราจะอยู่ชายคาเดียวกันถึงกับติดอ่างเลยหรอ
...โอยยยขำวะ ฮ่าๆๆๆๆๆ

เออ... แล้วนี่ขนมของคุณ
อย่าลืมกินซะล่ะคุณลูกแม่พลอย”


จบคำ เจ้าตัวก็วางถ้วยกระเบื้องสีขาวลงบนโต๊ะ
แล้วหันหลังเดินกลับไปยังแผงของตน

ทิ้งให้ใครอีกคนที่ช้ากว่าต้องเจ็บใจเพราะอ้าปากเถียงไม่ทัน


...แม่ง! ไอ้ลูกแม่เดือน โรคจิตเปล่าวะ
ชอบแกล้งให้ตกใจแล้วมันก็มาหัวเราะเยาะทีหลังทุกที
แล้วกูเองก็ดันเผลอตกหลุมมันทุกครั้งด้วย

คิดแล้วก็อยากจะบ้า
อาทิตย์หน้ามันก็จะย้ายเข้ามาแล้ว
...ทำไงดีวะ
นี่ก็นึกแผนมาหลายวันแล้ว
แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะทำยังไงให้มันไปไกล ๆ จากร้านของเขาได้

โอยยยยย.....ปวดหัวเว้ยยยย!!!!

หึ แต่ไอ้สาลี่ขอสาบาน
ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนยังไงเขาก็จะไม่ยอมให้
‘ร้านบ้านขนมเดือนใจ’ มาอยู่ใกล้ ‘ร้านหวานละไม’

เด็ดขาด!!!



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



“โต๊ะนี้ชิ้นสุดท้ายแล้วน่ะลูก อีกนิดเดียวนะจ๊ะ น้องสาไหวมั้ย”

“ครับ สบายมากครับแม่”

คนที่อยู่ในสภาพเหงื่อท่วมแย้มยิ้มตอบกลับ
แม้ร่างกายจะเหน็ดเหนื่อยมากแค่ไหน
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ หน้ากากของลูกที่ดีก็ถูกสวมอัตโนมัติ
ทำให้เขาต้องออกแรงฮึดยกโต๊ะใบใหญ่ลากเข้ามาวางข้างในห้องเช่าข้างร้านของตน
โดยมีใครอีกคนคอยยืนบอกกำกับตำแหน่ง

“เอาวางตรงข้างหน้านี้แหละ ผมจะเอาไว้ใช้เป็นโต๊ะบัญชี”


โห...สั่งเข้าไป นี่กูเป็นทาสมึงตั้งแต่เมื่อไร
อุตส่าห์มีน้ำใจมาช่วยยกของตั้งแต่เช้า
ปวดหลัง ปวดเอวไปหมดแล้วเนี่ย
มันยังจะมายืนลอยหน้าลอยตาชี้นิ้วสั่งอยู่ได้


...คิดแล้วก็แค้น
เพราะต่อให้หาวิธีไม่ให้ร้านบ้านขนมเดือนใจมาตั้งใกล้ร้านเขาเท่าไร
ก็ดูเหมือนจะไม่มีหนทางใดๆ นอกจากปาฏิหาริย์เท่านั้น
ลงท้ายเขาก็เลยต้องจำใจยอมรับชะตากรรม
แถมยังต้องมาช่วยมันขนข้าวของแต่งร้านใหม่อีก


โธ่...ชีวิตของไอ้สาลี่

ทำไมมันถึงได้น่าอนาถแบบนี้กันวะ



หนุ่มแว่นปาดเหงื่อหลังจากวางโต๊ะตัวสุดท้ายลงบนพื้น
ก่อนเขาจะได้ยินเสียงแม่เดือนใจร้องบอกให้กำลังใจ

“เก่งมากเลยจ๊ะสาลี่ แม่ขอบใจหนูจริง ๆ
เออ เดี๋ยวเย็นนี้มากินสุกี้ด้วยกันนะพลอย
ฉันจะถือโอกาสฉลองเลี้ยงเปิดร้านใหม่ด้วยเลย”

“ดีสิ งั้นฉันจะเอาพวกหมูผักที่บ้านมาช่วยเป็นเครื่องด้วยนะ”

สองแม่เพื่อนซี้คุยกันอย่างสนุกสนานถึงแผนการที่จะเตรียมสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้น
แต่ให้เขาเริงร่าร่วมวงด้วยยังไงก็ไม่ไหวแล้ว
เหนียวตัวไปหมด ขอกลับไปอาบน้ำก่อนดีกว่า

สาลี่เดินกลับเข้าบ้านอาบน้ำเสร็จให้ชื่นใจ
ก่อนล้มตัวนอนลงบนเตียงอย่างหมดแรง
ยังพอมีเวลาอีกหน่อยก่อนถึงมื้อเย็น
ตอนนี้เหนื่อยโคตร!!!
ขอพักเอาแรงก่อนแล้วกัน

มือเอื้อมถอดแว่นออก
ก่อนปิดเปลือกตาลงด้วยความง่วงงุน
แล้วเพียงไม่นานคนเหนื่อยอ่อนก็ผล่อยหลับไป


....


...


.



“นี่....คุณ....
คุณลูกแม่พลอย.......
สา....สาลี่.....ได้ยินมั้ย....”


เสียงเรียกทำให้เจ้าของชื่อรู้สึกตัวขึ้นช้า ๆ
กระพริบตาปริบ ๆ ปรับโฟกัส
ให้เห็นภาพของชายหนุ่มผมยาวมาดเซอร์ที่ชะโงกตัวอยู่เหนือเขา
พร้อมกับเสียงปลุกเอ่ยเร่ง

“แม่คุณให้มาตามไปกินสุกี้”

“อ้อ...อืม....”

คนที่ยังสะลึมสะลือพยักหน้าตอบรับเบลอ ๆ
หยิบแว่นขึ้นมาสวมก่อนเดินงง ๆ ข้ามร้านอย่างว่าง่าย
และทันที่ที่เขาก้าวเข้ามาในบริเวณโต๊ะทานข้าวซึ่งตั้งอยู่ติดกับห้องครัว
กลิ่นหอมฉุยของน้ำซุปก็ลอยโชยแตะจมูก
ไล่ความมึนงงให้หายเป็นปลิดทิ้ง
พร้อม ๆ กับกระตุ้นความหิวจนท้องร้องโครกครากตามมาทันที

“อ้าว สาลี่มาแล้วเหรอลูก
หมูกำลังสุกพอดีเลย
เอ้า เจ้ารบตักให้สาลี่เขาหน่อยสิ”

“ครับ”

คนถูกสั่งคว้าชามก่อนยกทัพพีตักเครื่องในหม้อไฟฟ้าที่บรรจุน้ำซุปเดือดปุด ๆ
แล้วจึงวางลงบนโต๊ะตรงหน้าคนข้าง ๆ ซึ่งกำลังหยิบช้อนตะเกียบเตรียมพร้อม
ก่อนจะตักน้ำจิ้มเทราดลงในถ้วย


เอ๊ะ...เดี๋ยว....
ทำไมมีแต่ผักเต็มไปหมดวะ 
ไหนหมูล่ะ...อ้าว...มีอยู่ชิ้นเดียวเอง

แม่ง ไอ้ลูกแม่เดือนมันแกล้งกูอีกแล้ว

มันแกล้งกูอีกแล้ว!!


แต่จะให้ร้องโวยวายตรงนี้ก็ไม่ได้ เพราะมีแม่ ๆ อยู่กันเพียบ
เขาเองก็ต้องรักษาภาพพจน์ที่ดีเป็นลูกชายที่อ้อนน้อมไม่เรื่องมาก

คนถูกแหย่จึงทำได้แค่เพียงส่งสายตาคาดโทษไปให้คนต้นเรื่อง
ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะรู้ดีถึงเรื่องที่ใครบางคนจะต้องสร้างภาพเอาไว้
จึงยิ่งแกล้งด้วยการตักเอาผักช้อนใหญ่เพิ่มใส่ชามให้อีก

“นี่ครับ... สา ทานผักเยอะ ๆ น่ะจะได้ดีต่อสุขภาพ”

“ขอบคุณครับ รบ”

สาลี่ฝืนยิ้มกว้าง ทั้งที่ในใจเดือดดาลจนแทบจะทะลุ


หนอยย...มึงรู้จุดอ่อนกูก็เล่นใหญ่เลยนะ
ฝากไว้ก่อนเถอะมึง
อย่าให้กูได้รู้ความลับของมึงบ้างล่ะกัน
ถึงตอนนั้นกูจะเอาให้หงอเลย


แม่งเจ็บใจโว้ยยยย!!



ทว่าดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่สาลี่คนเดียวที่รับรู้การกระทำที่จงใจแกล้งของนักรบ
เพราะแม่เดือนใจเองก็เหลือบมาเห็นเข้าพอดีจึงร้องเอ่ยเอ็ดผู้เป็นลูกชายเสียงดุ

“เอ๊ะ เจ้ารบไปตักแต่ผักให้สาลี่ได้ยังไง
หมูชิ้นใหญ่ ๆ ก็มีเยอะแยะ ไหนจะกุ้งอีกไม่ตักให้เขาไปล่ะ”


...หึหึ นั่นไง
โดนดุเลยสมน้ำหน้า
อยากแกล้งเขาดีนัก
ยังไงซะสวรรค์ก็มีตาไม่เข้าข้างคนชั่วหรอกเว้ยยย!!


เขาลอบยิ้มอย่างสะใจ
แต่หูก็ยังคงฟังคำแก้ตัวของร่างสูงที่เถียงปาว ๆ

“โธ่แม่ ผักน่ะให้ประโยชน์กับร่างกายต้องเยอะแยะ
ผมหวังดีหรอกครับ”

“ไม่ต้องเลย สาลี่เขาตัวนิดเดียว ต้องกินพวกโปรตีนเยอะ ๆ
อย่างรบน่ะกินพวกผักบุ้งไปก็พอ

“โห ผมไม่ใช่เต่านะแม่ พอมีลูกรักใหม่
ผมก็เป็นหมาหัวเน่าเลยนะครับ คุณนาย”

คำเอ่ยแซวแกมหยอกเรียกเสียงหัวเราะให้วงสนทนาครื้นเครง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไอ้นักรบมันติดนิสัยชอบแหย่มาจากไหน
ดูสิแม่ตัวเองก็โดนแซวไม่เว้น
แต่ก็...เฮ้อ...นานแล้วนะที่ไม่ได้กินข้าวกันเยอะ ๆ แบบนี้
ทุกทีก็มีแต่เขาที่นั่งกินกับแม่สองคน
แม้บรรยากาศมันจะไม่ได้เงียบเหงาหดหู่อะไรขนาดนั้น
แต่ก็เหมือนกับขาดบางสิ่งที่ทำให้ภายในใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา


...ความอบอุ่นที่คล้ายได้กลับไปอยู่กับ ‘ครอบครัว’ อีกครั้ง


สาลี่ยิ้มบาง ๆ อย่างสบายใจ
ก่อนจะนั่งฟังพวกแม่ ๆ เพื่อนซี้เมาส์กันต่อ

“แล้วนี่เตรียมเรื่องตกแต่งร้านอะไรเรียบร้อยรึยัง”

“โอย... ฉันก็ได้แต่ทำขนมแหละ
ส่วนไอ้เรื่องความคิดสร้างสรรค์นั้นต้องยกให้เจ้ารบเขาช่วย”

“เออ ฉันเองก็เหมือนกัน
คนรุ่นเราให้มาคิดอะไรพวกนี้คงจะไม่รอด
อย่างน้องสาเขาก็ช่วยคิดเมนูใหม่ ๆ ให้
เออนี่ก็บอกแม่ว่าจะทำขนมปังสังขยาตั้งนานแล้ว
แต่เห็นบ่นว่ายังหาขนมปังที่ถูกใจไม่ได้สักที”

คนที่ถูกเอาชื่อเขามาเอี่ยวแอบสะดุ้ง
เขารีบทำทีหันไปหยิบมะนาวมาบีบลงถ้วยสุกี้เพิ่ม
โดยหลบเลี่ยงสายตาของใครบางคนที่จ้องมองอย่างสงสัย
เหมือนกับเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้
ก่อนที่ใครคนนั้นจะเอ่ยขอเสนอตัว

“ใช้ขนมปังร้านผมก็ได้นะครับ”

“จริงด้วยสินะ สาลองขนมปังที่นักรบทำหรือยังลูก”


...เอาแล้วไง
ความซวยเริ่มมาเยือนอีกจนได้
ก็เพราะว่าลองไปแล้ว
แถมมันยังอร่อยถูกใจด้วย
แต่จะให้ยอมรับต่อหน้าคนอื่นแบบนี้เหรอ
ยังไงก็ไม่มีทาง!!


คนที่อยากจะเก็บศักดิ์ศรีของตัวเองไว้แม้เพียงน้อยนิด
จึงพยายามพูดเลี่ยงอย่างสุดความสามารถ

“ไม่ดีกว่าครับ สาเออ...คือ...สาอยากทำเอง”

แต่ยิ่งหนีก็เหมือนยิ่งเข้าตัว
เพราะแม่พลอยกลับร้องทักขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกใจ

“เอ๋ แล้วน้องสาจะทำได้เหรอลูก เราไม่เคยอบขนมมาก่อนนี่นา”

...โธ่แม่ คนมันก็เคยทำไม่เป็นมาก่อนทั้งนั้นแหละ
เดี๋ยวฝึก ๆ ไปก็ได้เองล่ะครับ
อบขนมมันจะยากตรงไหนกัน
แม่ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวสาหาทางทำได้เอง


ใจนึกคำตอบไปไกลแล้ว
แต่เจ้าตัวก็ยังคงนิ่งเงียบ
ไม่ทันกับร่างสูงที่ขอเสนอตัวขึ้นมาอีกครั้ง

“เอางี้ เดี๋ยวผมสอนให้สาทำดีมั้ย”


เอ๊ะ! ไอ้นี่ไม่ต้องเสือกสาระแนขึ้นมาเลยมึง
แหนะ ทำมาเป็นยิ้มอีก
อย่านึกว่ากูไม่รู้จุดประสงค์
มึงน่ะตั้งใจจะแกล้งกูชัด ๆ ใช่มั้ย


“อืม แบบนี้ก็เข้าท่านะ
แม่เห็นด้วย สาว่าไงจ๊ะ”


แม่อย่าไปเชื่อมานนนน!!!
ไม่เห็นเหรอว่ามันจ้องจะจับลูกชายแม่เชือดอยู่แล้ว
แม่ส่งสาเข้าปากเสือชัด ๆ

ยังไงก็ไม่อ๊าวววววว!!


แม้ภายในใจจะร้องโวยวายมากแค่ไหน
แต่ท้ายที่สุดลูกแสนกตัญญูภาพลักษณ์ดีอย่างสาลี่
จะตอบอะไรได้นอกจากคำว่า


“ครับ”



เฮ้อ....


กูล่ะเกลียดคนรู้ทันจริง ๆ เลยโว้ยยยย!!!



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: เทพมังกร ที่ 24-06-2012 09:01:01
สาลี่น่ารักมาก รีบมาต่อไวๆนะคะ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-06-2012 09:25:19
มาแล้วๆ คนแต่งขยันจริงๆ
หนุ่มน้ำเต้าหู้กับหนุ่มร้านกาแฟนี่คุ้นๆ นะ เค้าอยู่จังหวัดเดียวกันนี่เอง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-06-2012 09:44:51
ตัวใกล้กันแล้วเหลือก็แต่ใจ เนอะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 24-06-2012 10:39:42
ขยับเข้าไปอีกนิด ชิดๆๆเข้าไปอีกหน่อย ได้ทำขนมปังร่วมกันแล้ว ต่อไปก็เป็นทองแผ่นเดียวกัน

คิดถึงเฮียแทนกับเพลงอะ มาบ่อยๆนะ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >;>; P.18
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-06-2012 10:55:58
สาลี่ยอมรับไปเหอะ  มีเฮียแทนกับตี๋แพลงมาแจมด้วยอะ น่ารัก^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-06-2012 11:25:11
นักรบแกล้งได้
แกล้งดีจริงๆ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 24-06-2012 11:47:04
วู๊วว....พาเฮียแทนกับตี๋เพลงมาฝากด้วย  คิดถึงๆๆๆ จังเลยค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ถึงบางอ้อทันที...ร้านขนมไทยที่เฮียแทนเพียรมาซื้อไปฝากตี๋เพลงคือร้านของสาหรือนี่
ส่วนเบเกอรี่โฮมเมดที่ขายในร้านกาแฟของตี๋เพลงก็สั่งมาจากนักรบ
เป็นชมชนแห่งรักจริงๆ เค้าเกี่ยวโยงกันด้วย.... :impress2: :impress2:

ตอนนี้ย้ายมาอยู่ร้านติดกันเรียบร้อย นักรบก็ช่างเย้าแหย่น้องเหลือเกิน
น้องสาเค้าน่ารัก น่าแกล้งใช่มั้ยล่ะ  :-[ :-[

บวกๆค่ะ ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 24-06-2012 12:20:42
อ๊ายสนุกมาก มีคุณพี่แทนกับน้องเพลงมาให้คิดถึงด้วย น่ารักอ่ะ มาต่ออีกนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-06-2012 14:37:56
 :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 24-06-2012 16:01:00
 :laugh:สังขยาใกล้จะเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของขนมปังแล้ว
พี่ปาท่องโก๋กับน้องกาแฟมีมาแว้บๆ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 24-06-2012 20:28:28
รู้สึกเหมือสังขยากำลังจะโดนขนมปังจิ้มอ่ะ 5555555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-06-2012 20:39:20
รู้สึกเหมือสังขยากำลังจะโดนขนมปังจิ้มอ่ะ 5555555555555555

เห็นด้วยเลยครับ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 24-06-2012 20:56:40
รบขยันแกล้งสาจังเลย. 5555 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-06-2012 21:08:29
น้องสาปั่นหัวนักรบคืนสิ เริ่มหมั่นไส้นักรบนิด ๆ ชอบแกล้งน้องสาอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 25-06-2012 11:18:04
เฮียแทนกะพี่เพลง กิ้วๆรู้จักกันด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 25-06-2012 12:09:22
ในที่สุดเมนูใหม่ก็ใกล้จะเป็นความจริงซักที
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 9] 24/06/55 >> P.18
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 25-06-2012 15:26:46
น้องสาโดนแหย่ทีไร ดูน่าเอ็นดูทุกทีเลย..
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 26-06-2012 12:33:14
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 10


“เดี๋ยวคุณเอาหม้อต้มน้ำให้ทีนะ จะได้เอามาละลายน้ำตาลทรายกับยีสต์”


...คร้าบบบ  คุณครู


สาลี่ยั้งปากตัวเองไม่ให้เอ่ยคำล้อเลียน
ขณะที่ยืนหน้าเซ็งอยู่ในครัวร้านบ้านขนมเดือนใจ
พร้อมกับเปิดแก๊สอุ่นน้ำเปล่าธรรมดาในหม้อ

หัวก็คิดหาสาเหตุว่าทำไมกันหนอรูปการถึงได้ออกมาเป็นแบบนี้ไปได้
ทั้ง ๆ ที่แค่ต้องการหาขนมปังหัวกะโหลกดี ๆ มาคู่กับสังขยาร้านเขาแท้ ๆ
แต่ไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นว่าเขาต้องมาติดแหง็กรับบทลูกศิษย์
ให้คนที่สุดแสนจะเกลียดขี้หน้ามาเป็นอาจารย์คอยสอนทำขนมปังซะอย่างนั้น


โลกนี้มันซับซ้อนวุ่นวาย แถมไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!!


“เอ้าคุณ... มัวเหม่ออะไร น้ำได้หรือยัง
ไม่ต้องให้เดือดมากหรอกเอาแค่อุ่นนิด ๆ ก็พอ”


“คร้าบ...ได้แล้วคร้าบบบ....”


แต่แม้จะยั้งปากตัวเองแค่ไหน
ท้ายที่สุดเขาก็เผลอพูดลากเสียงออกมาด้วยความหมั่นไส้
ให้กับคนที่ร้องสั่งนั้นสั่งนี่ซึ่งดูท่าทางจริงจังผิดปกติ
ยิ่งพอผมยาว ๆ ถูกมัดเป็นมวยรวบขึ้น
ก็ยิ่งทำให้เห็นใบหน้าคมคายและเรียวคิ้วเข้มได้ถนัดตา
สลัดภาพลักษณ์เด็กติสต์จนดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นกว่าทุกที


“อ่ะ ตักน้ำใส่ถ้วยนี้ แล้วก็ใส่น้ำตาลลงไป
พอละลายหมดก็ใส่ยีสต์ตามรอจนกว่ามันจะขึ้น”

“แล้วจะรู้ได้ไงว่ามันขึ้น”

เขาขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
ทว่า อีกฝ่ายหันกลับมาตอบหน้าตายสั้น ๆ


“เดี๋ยวคุณก็รู้เอง”


เฮ้ย! อะไรวะ?
ไม่บอกแล้วจะรู้มั้ย
ตกลงตั้งใจสอนจริง ๆ ป่ะเนี่ย


สาลี่คิดในใจอย่างนึกเคือง
แต่มือก็ยังคงขยับทำตามคำสั่งของคนที่หันไปหยิบจับส่วนผสมทั้งหลายมาวางเรียงกัน
ก่อนเจ้าตัวจะยื่นแก้วสแตนเลสทรงสูงมาวางไว้ตรงหน้าเขา
พลางพูดอวดเคล็ดลับของตนด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ


“สูตรทำขนมปังของผมต่างจากที่อื่นก็เพราะเจ้านี่แหละ”


ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘สูตร’ คนที่พยายามค้นหาความลับของขนมปังเนื้อนุ่มมานาน
ก็ชะโงกหน้าก้มมองของเหลวที่บรรจุอยู่ในแก้วทันที


....น้ำสีขาว...นมเหรอ?
ไม่ใช่....
....เนื้อดูเข้มข้นกว่า

ถึงจะไม่เห็นบ่อยนัก
แต่ลักษณะแบบนี้ถ้าเดาไม่ผิด...


“วิปปิ้งครีม?”

สาลี่เอ่ยคำตอบที่คิดด้วยท่าทางไม่แน่ใจ
มองคนฟังที่พยักหน้ารับราวกับยืนยันในคำเฉลย

“ใช่ ผมใส่วิปปิ้งครีมแทนน้ำ
มันจะช่วยทำให้เนื้อขนมปังนุ่มแล้วก็เบากว่า
ถึงราคามันจะสูงกว่าหน่อย
แต่ผมยอมลงทุน เพราะผลที่ได้มันคุ้ม”


...ทีนี้ก็รู้เสียทีว่า ‘สูตรลับ’ ของขนมปังหัวกะโหลกร้านบ้านขนมเดือนใจคืออะไร
แต่ถ้าจำไม่ผิดราคาของขนมปังหกชิ้นหนา ๆ ขายแค่ยี่สิบบาทเองไม่ใช่เหรอ
ใช้วัตถุดิบต้นทุนขนาดนี้ แล้วจะเอากำไรมาจากไหน

ใจอยากจะอ้าปากถาม
ทว่า อาจารย์จำเป็นกลับร้องสั่งขึ้นมาเสียก่อน

“ถึงตาคุณแล้ว เดี๋ยวใส่ส่วนผสมตามที่ผมบอกนะ”


สาลี่จึงพับสิ่งที่สงสัยไว้ก่อนย้ายตัวเองไปอยู่หน้าเครื่องนวดขนมปังขนาดย่อม
แล้วจัดการเทส่วนผสมทุกอย่างตามคำสั่ง
เริ่มตั้งแต่วิปปิ้งครีมตามด้วยไข่ไก่หนึ่งฟอง
โดยมีนักรบช่วยกดปุ่มให้เครื่องทำงานอยู่ข้าง ๆ
พอเครื่องตีให้ส่วนผสมทั้งสองเข้ากันแล้ว
จึงใส่แป้งขนมปัง แป้งเค้ก และเนยอีกนิดหน่อย
ปิดท้ายด้วยเกลือซึ่งใส่ไว้ที่มุมซ้ายของเครื่อง

“ดูให้ทีว่ายีสต์ขึ้นหรือยัง”


เอ๊า! แล้วจะไปรู้ได้ไง

คำถามที่ยังไม่เข้าใจความหมายแน่ชัดทำให้หนุ่มแว่นแอบนึกฉุน
แต่เมื่อมองถ้วยใบเล็กที่ผสมยีสต์กับน้ำตาลทรายเอาไว้ก็เผลอตกใจที่เห็นฟองลอยขึ้นเต็ม
และนาทีนั้นเขาก็เข้าใจความหมายของคำว่า ‘ยีสต์ขึ้น’
จากใครบางคนที่ตั้งใจสอนเขาให้เรียนรู้ผ่านตามากกว่าแค่ฟังคำอธิบาย


สาลี่จึงเทยีสต์ลงไปตรงข้ามกับมุมที่ใส่เกลือ
มองนักรบกดตั้งโปรแกรมนวดโดว์ที่มีอยู่ในเครื่องทำขนมปังสุดแสนไฮเทค
ซึ่งดูก็รู้ว่าราคาคงแพงระยับไม่น้อย
แต่สำหรับเครื่องมือทำมาหากินแล้ว
มันก็ไม่แปลกที่จะต้องยอมลงทุนกันบ้าง
เพื่อให้ได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


ทั้งสองปล่อยให้เครื่องนวดบดขยี้แป้งขนมปังจนเนื้อเหนียว
เพียงสิบนาที นักรบจึงหยุดเครื่องหยิบแป้งขึ้นมาตรวจดูสภาพ
ร่างสูงพยักหน้า พลางบอกให้สาลี่จดจำลักษณะของแป้งที่ได้ทีเอาไว้
แล้วจึงหยิบขึ้นมานวดปั้นให้เป็นก้อนกลมอันใหญ่ วางใส่ในอ่างที่ทาเนยบาง ๆ
ก่อนใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำหมาด ๆ ปิดกันไม่ให้หน้าแป้งแห้ง
และแทนที่จะวางพักไว้เฉย ๆ นักรบกลับหยิบอ่างแป้งวางไว้บนเตาอบที่เปิดไฟแค่เพียงอุ่น ๆ
เพื่อเร่งปฏิกิริยาของยีสต์ให้ทำงานได้ดีและเร็วขึ้น


“หลังจากนี้ก็รอให้แป้งขึ้นเป็นสองเท่า”

“นานเท่าไร”

“อืม สักสิบโมงก็น่าจะได้”

ดวงตากลมภายใต้เลนส์แว่นมองนาฬิกาที่ติดอยู่ข้างฝาผนังสีขาว
เข็มยาวและเข็มสั้นบ่งบอกเวลา

...เก้าโมงสิบห้านาที


“เฮ้ย! รอตั้งสี่สิบห้านาทีเนี่ยนะ”

คนที่คำนวณระยะเวลาอุทานอย่างตกใจ
แต่อีกฝ่ายกลับยักไหล่เหมือนไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องน่าแปลก

“จะทำขนมมันก็ต้องใช้เวลาสิคุณ
นี่ก็ต้องรอให้ขนมปังขึ้นอีกรอบนะ
รวมเวลาหมดแล้วก็น่าจะสักสามชั่วโมงได้”


สามชั่วโมง!!


แค่จะทำขนมปังหัวกะโหลกทำไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นวะ
รอให้แป้งขึ้นอย่างเดียวก็เสียเวลาตายชัก
เขาเองก็ไม่อยากปล่อยให้เวลาผ่านไปเปล่า ๆ ด้วย
อุตส่าห์ข้ามร้านมาทำถึงนี่แล้วแท้ ๆ
เอ๊ะ แต่ไหน ๆ ก็ทำขนมปังแล้วทั้งที
ก็น่าจะทำสังขยาควบคู่ไปด้วยเลย
จะได้เช็คดูด้วยว่ามันเข้ากันได้ดีมั้ย


“งั้นเดี๋ยวผมมานะ รอแป๊บ”


เจ้าของไอเดียที่เพิ่งพุ่งกระฉูดร้องบอกทิ้งท้าย
ก่อนเจ้าตัวจะวิ่งตื้อทะลุห้องครัวด้านหลังไปยังร้านของตัวเองที่อยู่ข้าง ๆ กัน
ขนข้าวของอุปกรณ์ทั้งน้ำกะทิ ไข่หนึ่งแพ็ค น้ำตาลปี๊บ แป้งข้าวโพด
กับน้ำใบเตยที่เพิ่งคั้นเองกับมือเมื่อวาน
หอบหม้อหิ้วถุงวัตถุดิบพลุงพลังแล้ววิ่งกลับมาวางลงครัวที่เดิม
จนผู้เป็นเจ้าของต้องเอ่ยถามยั้งด้วยความสงสัย


“เอามาทำอะไรเยอะแยะเนี่ย จะยึดครัวผมเหรอครับ คุณลูกแม่พลอย”

“เออ ยืมใช้นิดใช้หน่อย อย่าทำเป็นห่วงน่า
เดี๋ยวผมจะสอนคุณทำสังขยาด้วยเลย
ถือว่าแลกกัน ตกลงนะ”

นักรบกระพริบตาปริบ ๆ ให้กับคำพูดที่คิดเองเออเองเสร็จสรรพ
โดยไม่สนใจฟังคำอนุญาตใด ๆ
แต่ในเมื่ออีกฝ่ายขนของมาขนาดนี้ก็เสมือนว่ามัดมือชกไปกลาย ๆ
คล้ายจะเป็นการบอกว่ามีเพียงทางเลือกเดียวคือ ‘มึงต้องทำ’


“เอ้า! อย่ายืนบื้อสิคุณ หยิบชามผสมให้หน่อย”

คนที่ผันตัวจากลูกศิษย์มารับบทเป็นอาจารย์
วางมาดร้องสั่งโดยยึดถือคติทีใครทีมัน
คอยคุมเข้มกำชับนักเรียนอยู่ไม่ห่าง
เริ่มจากตอกไข่ใส่ลงไปสองฟอง ตามด้วยน้ำตาลทราย และน้ำตาลปี๊บ
ใช้ตะกร้อคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ก่อนจะใส่กะทิ นมข้นจืด ตามด้วยน้ำใบเตยคั้นสด ๆ
ปิดท้ายด้วยแป้งข้าวโพดทีทยอยใส่ทีละนิด
พร้อมกับค่อย ๆ คนทุกอย่างให้ละลายเป็นเนื้อเดียว
เทส่วนผสมกรองผ่านตะแกรงลงในชามแสตนเลสอีกใบ เพื่อให้เนื้อสังขยาออกมาเนียนสวย
โดยระหว่างที่นักรบทำอยู่ สาลี่ก็ตั้งหม้อต้มน้ำไปด้วย
พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยรอเวลาอีกไม่นานน้ำในหม้อก็เดือดจัดพอดี


“ทีนี้คุณก็เอาชามผสมไปวางอังอยู่เหนือหม้อน้ำเดือด
แล้วคนไปเรื่อย ๆ ให้ส่วนผสมมันสุกช้า ๆ”

“อ้อ Double boiler น่ะหรอ”

“ห่ะ อะไร เบิ้ล ๆ นะ”

คำศัพท์ภาษาต่างประเทศแปลกหูทำให้หนุ่มร้านขนมไทยต้องร้องถามขึ้นอย่างงง ๆ
ซึ่งคนพูดก็อธิบายทวนคำซ้ำให้ใครอีกคนเข้าใจอย่างง่าย ๆ

“Double boiler เวลาละลายช็อคโกแล็ต
เขาก็ใช้วิธีอังน้ำเดือด ๆ เหมือนกัน
เพราะถ้าละลายในหม้อตั้งไฟโดยตรงมันจะไหม้”


สาลี่พยักหน้ารับจดจำข้อมูลไว้ในสมอง
ขึ้นชื่อว่า ‘ขนม’ ต่อให้ไทยหรือฝรั่ง
วิธีการก็ไม่ได้หนีไปมากเท่าไร ต่างกันแค่ส่วนผสมเท่านั้น
ได้เรียนรู้มุมมองใหม่ ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน



หลังจากใช้ตะกร้อคนอีกเกือบสิบนาทีเนื้อขนมก็ข้นขึ้น
จนได้สังขยาใบเตยสีเขียวอ่อน ๆ น่าทาน
เขาตักใส่ถ้วยรอทิ้งไว้ให้เย็น
แล้วหันไปเช็คแป้งขนมปังที่พักไว้ซึ่งดูจะได้ที่ดีแล้ว
นักรบจึงนำมันมาวางลงบนโต๊ะสำหรับนวด
พร้อมกับอธิบายขั้นตอนต่อไปด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงตามนิสัย

“ออกแรงชกแป้งเลย ชกให้แรง ๆ นะ นึกซะว่าเป็นหน้าผมก็ได้”

“ยินดีทำตามคำขอ”

สาลี่ถลกแขนเสื้อขึ้นก่อนลงมือชกไล่ลมในแป้ง
ดูเหมือนขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นตอนที่สนุกที่สุด
ยิ่งออกแรงบีบนวดกระแทกแป้งไม่ยั้ง
ก็เหมือนเป็นการระบายอารมณ์หงุดหงิดไปในตัว

เมื่อเรียบร้อยเขาก็จัดแจงวางแป้งขนมปังใส่ลงโลฟที่ทาเนยบาง ๆ ใช้ผ้าขาวบางปิดไว้
แล้วรอให้แป้งขึ้นอีกสี่สิบห้านาทีเท่าเดิม


ระหว่างนั้นสาลี่จึงหันไปสอนนักรบทำ ‘สังขยาไข่’
โดยมีส่วนผสมเหมือนเดิม เปลี่ยนจากใบเตย
เป็นกลิ่นวนิลลาซึ่งร้องขอวัตถุดิบจากร้านบ้านขนมเดือนใจเสียเลย
บวกกับสีผสมอาหารสีส้มนิดหน่อย
พอทำเสร็จแล้วก็จะได้เป็นสังขยาไข่สีคล้ายชาไทยกำลังสวย

สังขยาอุ่น ๆ สองชนิดเสร็จสิ้นเรียบร้อย
ขนมปังที่พักไว้ก็ขึ้นได้รูปเตรียมพร้อมเข้าอบ
ซึ่งจะอบด้วยไฟล่างที่อุณหภูมิ 175 องศาประมาณครึ่งชั่วโมง


แล้ว....

อีกสามสิบนาทีที่เหลือเขาจะทำอะไรกับมันดีวะ


สาลี่ครุ่นคิดหาหนทางฆ่าเวลาแบบคนที่ไม่อยากอยู่เปล่า ๆ ปลี่ ๆ
แต่ดูเหมือนใครบางคนจะชิงคิดได้ก่อน


“เออ เกือบลืม ผมมีของให้คุณ”

นักรบพูดเพียงแค่นั้นก่อนหายไปข้างบน
ทิ้งความสงสัยไว้ในใจของคนรอที่เริ่มรู้สึกแปลกใจ


ของอะไรวะ?
ถูกหวยเหรอไง
ถึงได้นึกใจดีขึ้นมาได้


ความอยากรู้อยากเห็นเริ่มทวีมากขึ้นทุกขณะ
ทว่า ทุกสิ่งก็มลายหายไปสิ้น
เมื่อคนที่เดินลงมาพร้อมกล้องคู่ชีพ
ยื่นของสิ่งหนึ่งมาให้ตรงหน้า
และเป็นของที่เขาสุดแสนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี


...โปสการ์ด


โปสการ์ดที่มีรูปของเขาเพียงคนเดียวยืนอยู่หน้าแผงขนม
กำลังทอดสายตามองเหม่อออกไปไกลภายใต้ท้องฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสียามเย็น
ซึ่งแม้แต่เฟรมกล้องก็ไม่อาจเก็บมุมมองของสายตาเอาไว้ได้


ถ่ายตั้งแต่เมื่อไร สองหรือสามวันก่อน
ไม่ใช่รูปใบแรกที่เขาจำวันเวลาไม่ได้
แต่โปสการ์ดอีกนับสิบใบที่อยู่บนห้องเขาตอนนี้
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกถ่ายมาได้ตั้งแต่ตอนไหน
เพราะทุกใบล้วนแล้วแต่เป็นรูปของเขาตอนกำลังเผลอทั้งนั้น


แชะ


สาลี่เงยหน้าทันทีเมื่อได้ยินเสียงชัตเตอร์
บ่นแป๊บ ๆ มันก็เอาอีกแล้ว
จะถ่ายอะไรกันหนักหนา
ทำตัวเหมือนพ่อเห่อลูกถ่ายพัฒนาการเด็กไปได้
อยากถ่ายนักใช่มั้ย
งั้นก็ตั้งท่าให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปเลย

คิดพลางหมุนตัวหันไปเผชิญหน้าสู้กล้อง
พร้อมกับส่งเสียงบ่นประชด


“อยากถ่ายก็ถ่ายมา
เอาให้สวย ๆ นะคุณ
อ่ะ...เดี๋ยว ๆ  มุมขวาผมไม่หล่อ
ต้องมุมซ้ายนี่โอเคเลย
นับด้วยนะ ผมจะได้เก๊กทัน”

พูดจบก็ยิ้มกว้าง กอดอกวางท่ามาดเข้มเตรียมถ่ายเต็มที่
ทว่า ช่างกล้องกลับลดมือลงดื้อ ๆ
ขมวดคิ้วทำเสียงหงุดหงิดไม่พอใจ


“ไม่เอา ผมไม่ถ่าย
ผมบอกแล้วไงว่าหน้าแบบนี้ผมไม่ชอบ”


...เอ้า! แล้วจะให้ทำหน้าแบบไหนวะ
ก็หน้าเขามันก็มีอยู่หน้าเดียวเนี่ย
หรือต้องเอาตอนกูทีเผลอตลอด
อุตส่าห์ยิ้มให้ถ่ายดี ๆ ก็ไม่ชอบ
บ้ารึเปล่า!!


“ถามจริงจะถ่ายผมไปทำไมกันเยอะแยะ”

คนหมดมู้ดจะเก๊กท่าถ่ายเอ่ยความสงสัยออกมาเป็นคำพูด
ทว่าคนฟังแค่เพียงยกรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ดวงตาคมพราวระยับ
ก่อนลากเสียงอย่างเจ้าเล่ห์


“เก็บไว้เวลาอยาก.....”



ยะ...อยากอะไรวะ

แล้วมองกูด้วยสายตาแบบนั้นหมายความว่าไง

โห... หื่นไม่ปิดบังเลย กามแล้วมึง


ท่าทางที่บ่งบอกถึงความคิดที่วนเวียนไปเรื่องใต้สะดือ
ทำให้หนุ่มแว่นถึงกับสะดุ้ง
ขนลุกวาบขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
กระเด้งตัวถอยห่างจากช่างกล้องทันที
ทิ้งคำสบถด่าสั้น ๆ แต่ได้ใจความ


“แม่ง โรคจิต!”


แต่คนถูกด่ากลับลอยหน้าลอยตาอธิบายคำแก้ตัว


“คิดไปถึงไหนกันคุณ
ผมเก็บไว้มองเวลาอยากปลดทุกข์ต่างหาก
แปะไว้หน้าห้องน้ำนะ พอเห็นหน้าคุณปุ๊บถ่ายคล่องปรื๊ด”


โดนอีกแล้วกู...
เผลอให้มันแกล้งได้อีกแล้ว
มายั่วให้โมโหเล่น
มึงคงสนุกมากเลยเนอะ
แต่กูไม่สนุกกับมึงแล้ววะ
เหนื่อยบอกตรง ๆ
โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า

ตอนนี้ กูขี้เกียจบ้าไปกับมึงแล้ว



“นี่คุณไม่เบื่อเหรอแกล้งผมอยู่อย่างเนี่ย
เราจะพูดกันดี ๆ แบบที่ไม่ต้องมาทะเลาะกันให้เหนื่อยได้มั้ย”


น้ำเสียงที่แสดงออกมาถึงความเหน็ดหน่ายอย่างเห็นได้ชัด
ทำให้คนขี้แกล้งต้องหยุดนิ่ง มองท่าทีของอีกฝ่ายอย่างพิจารณา


...ใจจริงก็ไม่ตั้งใจแหย่อะไรมากมายอยู่แล้ว
เพียงแค่อยากเห็นปฏิกิริยาของคนที่ชอบปั้นหน้าเก็บอาการเป็นเด็กดี
ได้แสดงออกถึงด้านที่ไม่มีใครรู้ก็เท่านั้น
ถ้าอีกฝ่ายร้องขอมาแบบนี้ เขาก็ยินดีทำตาม
ใครล่ะจะชอบหาเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านให้อารมณ์ขุ่นได้ตลอดวัน


“อืม....ก็ได้...
งั้นผมกับคุณเจรจาสงบศึกชั่วคราวแล้วกัน”

เออ...ว่าแต่...
คุณได้ดูบอลที่เตะกันเมื่อคืนมั้ย”


ประเด็นหัวข้อที่ถูกหยิบยกทำให้คนฟังถึงตาโต
‘ผู้ชาย’ กับ ‘ฟุตบอล’ นับเป็นของคู่กันอย่างจริงแท้
เพราะเพียงแค่ลากเข้าเรื่องกีฬาลูกหนัง
ทั้งสองคนก็ลืมความบาดหมางกันก่อนหน้า
หันมาคุยโม้ถึงแมทช์ฟุตบอลนัดที่ผ่านมาอย่างตื้นเต้น
ยิ่งรู้ว่าเชียร์ทีมเดียวกันก็ยิ่งคุยสนุก
เรียกว่าเพลินจนเสียงเตาอบร้องบอกเวลาถึงได้รู้สึกตัว


สาลี่ปล่อยให้นักรบดึงขนมปังที่อบเสร็จใหม่ ๆ ออกมาจากเตา
ส่วนตัวเองหันไปเตรียมตักสังขยาเอาไว้สองถ้วย ราดนมข้นจืดปิดท้าย
ปกติสังขยาต้องกินคู่กับขนมปังที่เอาไปนึ่งให้ร้อน ๆ
แต่ขนมปังที่เพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ ส่งกลิ่นหอมของเนยและนมจาง ๆ ลอยฟุ้ง
ก็นับว่าใช้ได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

เจ้าของร้านเบเกอรี่ใช้มีดตัดขนมหั่นเนื้อขนมปังเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำอย่างคล่องแคล่ว
ไม่จำเป็นต้องรอจัดใส่จาน ทั้งสองก็ทนแรงยั่วของขนมตรงหน้าไม่ไหว
หยิบขึ้นมาคนละชิ้นแล้วก็จิ้มกับสังขยาที่ทำเองกับมือ


“อือ อร่อยยย”


รสนุ่มเบาของขนมปังเข้ากันได้ดีกับสังขยา
หวานนิด ๆ ออกรสนมหน่อย ๆ
ลงตัวเข้ากันได้พอดิบพอดี


นี่แหละ...สิ่งที่ตามหา
และไม่น่าเชื่อว่าขนมปังชิ้นนี้เขาจะเป็นคนทำออกมาด้วยตัวเอง

ความอร่อยถูกใจของขนมปังผสมสานกับความภาคภูมิใจในฝีมือ
ทำให้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาเผลอระบายรอยยิ้มบาง ๆ ออกมา


แชะ


เสียงชัตเตอร์กล้องขัดจังหวะอารมณ์สุนทรีย์
สาลี่หันมาคนถ่ายที่ก้มหน้าลงเช็ครูปในกล้อง
สงสัยมันคงจะเก็บภาพถ่ายตอนเขากินเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่น
แต่ความคิดที่นึกไว้กลับผิดคาดเมื่ออีกฝ่ายที่กดปุ่มเลื่อนดูรูปร้องบอก


“หน้าตาตอนคุณยิ้มน่ารักดีนะ ยิ้มบ่อย ๆ สิ ผมชอบ”


อะ...อะไรวะ
ทีเมื่อกี๊ยิ้มกว้างดี ๆ ดันไม่ยอมถ่าย
มาถ่ายอะไรตอนกำลังกินเสร็จ
สังขยาเลอะข้างปากบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้
แล้วที่สำคัญ...
มาชมแบบนั้นเนี่ยนะ


“ไหนบอกว่าจะสงบศึกไง
แล้วมาพูดว่าผู้ชายอย่างผมน่ารัก
นี่ตั้งใจจะแหย่หาเรื่องอีกแล้วใช่มั้ย”


อารมณ์ดี ๆ เริ่มเปลี่ยนมาหงุดหงิด
แต่ร่างสูงกลับวางกล้องในมือลง
ขยับเดินเข้ามาใกล้พลางพูดปฏิเสธ


“เปล่า ผมไม่ได้แหย่
ที่ผมบอกว่าหน้าคุณตอนยิ้มน่ารักก็เรื่องจริง
แล้วก็.....”


ประโยคถูกหยุดไว้แค่นั้น
เมื่อเจ้าของดวงตาคมประสานสายตาเข้ากับดวงตากลมโตของสาลี่
ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำหนึ่งออกมา


...ถ้อยคำ


ที่ทำให้ใบหน้าของหนุ่มร้านขนมไทยร้อนวาบ
จนต้องเบือนหลบประกายตาที่ไร้ความล้อเล่นเหมือนเช่นทุกที



“ที่ผมพูดว่าชอบรอยยิ้มของคุณ

ผมก็พูดจากใจจริง ๆ เหมือนกัน”




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



เอาขนมปังสังขยาร้อน ๆ มาฝากค่ะ
ใครอยากกินชูมือขึ้นสูง ๆ หน่อยเร๊วววว

(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/sakya.jpg)


เจอกันใหม่กับชิ้นหน้าค่ะ
รักษาสุขภาพกันด้วยน้า~~
 
:กอด1:

BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >;>; P.19
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-06-2012 13:13:27
ใกล้เข้าไปอีกนิด ชิดๆเข้าไปอีกหน่อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 26-06-2012 13:27:18
 :o8:อร่อยแล้วชอบ :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 26-06-2012 13:43:36
เวลาสงบศึกกันเนี่ย สาลี่น่ารักจริงๆเลยน้าาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 26-06-2012 16:05:48
กลิ่นขนมปังกะสังขยาลอยมาถึงนี่เลย  อยากกินที่สุด

งานนี้เค้าสงบศึกแล้ว  รักก็บังเกิดแล้วสิ

 :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-06-2012 17:20:03
อื้อหืออออ หวานวุ๊ยคู่นี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-06-2012 17:23:48
คงจะเร็วๆ นี้ใช่ไหม ที่ขนมปังจะได้จิ้มสังขยา
ป.ล.ผมไม่ได้หื่นนะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-06-2012 18:14:14
 :กอด1:อยากกิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-06-2012 18:31:56
รักใกล้จะบังเกิด
แล้วใช่ป่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 26-06-2012 19:26:18
เริ่มเห็นแววความหวานของสังขยาแล้ว
หลังจากที่เจอแต่ความขมของช็อคโกแลตมาตั้งนาน
ชิ้นต่อไปขอหวานแบบแสบไส้ก็ดีนะ
ตอนนี้คุณลูกแม่เดือนก็ทำให้คุณลูกแม่พลอยยิ้มได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 26-06-2012 19:32:17
อ่านแล้ว อยากกินขนมปังสังขยาขึ้นมาเลยค่ะ
อธิบายบอกสูตรละเอียดเชียว เหมือน 2 คนนี้เค้ายืนทำอยู่ตรงหน้า อ่านเพลินเลยค่ะ

นายนักรบนี่ออกตัวแรงไม่ใช่เล่น ชมกันซึ่งๆหน้าขนาดนี้ น้องสามีหวั่นไหวแน่ๆ
นักรบชอบน้องสาจริงๆแล้วใช่มั้ยเนี่ย   :fox2: :fox2: :fox2:

+1+เป็ด
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 26-06-2012 21:22:56
สองหนุ่มลงครัวด้วยกัน เหมือนจะมีออร่าสีชมพูวิ้งๆ ออกมานะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 26-06-2012 21:25:55
อีกไม่นานสังขยาคงโดนจิ้มกินหมดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 26-06-2012 22:08:50
เขินนนนนนนนเลยสิ 555'
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 26-06-2012 23:29:23
มารักกันไวไวเร็ว รอนานแล้วนะ






มาต่อนะ จะรอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-06-2012 01:57:29
คนทำก็หวานไม่แพ้ขนมเลยนะ

 :m1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 27-06-2012 21:09:59
อ่านเสร็จแล้ว อยากกินขนมปังสังขยาขึ้นมากเลยอะ ปกติไม่ค่อยทาน
 เดี๋ยวต้องหามากินดีกว่า ดูสิว่าจะอร่อยเหมือน สาลี่กับนักรบกินหรือเปล่า
 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 28-06-2012 11:02:51
อ่านเรื่องนี้ทั้งอมยิ้มและหิวไปพร้อมๆกัน....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 10] 26/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 28-06-2012 18:44:19
โอย...อ่านรอบเดียวจบเลย สนุกและเพลินมากๆ ครับ
ภาคของเฮียแทนกับเพลงก็มีครบทุกรสเลย
มาภาคของลูกแม่ดวงใจกับลูกแม่พลอยก็สนุกมากกกก

ได้ทั้งเกร็ดความรู้ และอื่นๆ อีกมากมาย
โอย...ติดนิยายเรื่องนี้เข้าให้สิ  :impress2:

สู้สู้นะครับ

 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 28-06-2012 20:25:23
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 11



“ไปนะครับ แม่”


สาลี่หันไปร้องบอกคนที่กำลังเตรียมตัวปิดร้าน
หลังจากขนข้าวของใส่ในรถโฟล์กเต่าสีเหลือง
เพื่อนำไปตั้งแผงขายที่ถนนคนเดินเย็นวันศุกร์


“จ๊ะ น้องรบ ขับระวัง ๆ นะ แม่ฝากสาลี่ด้วย”


แม่พลอยพยักหน้ายิ้มรับ
ท้ายประโยคกำชับคนขับที่กำลังเปิดประตูก้าวตามขึ้นไป
ซึ่งเขาเองก็ตกปากรับคำให้อีกฝ่ายได้วางใจ
ก่อนจะปิดประตูสตาร์ทเครื่อง
แล้วแล่นไปบนถนนมุ่งหน้าสู่ทางเลียบริมน้ำ



มือขับไป แต่ดวงตาคมก็ยังไม่วายเผลอเหลือบมองคนข้างตัว
ที่วันนี้ ดูเหมือนจะมีความสุขลันล้าผิดปกติ
ฮึมฮำเพลงในคองุ๊งงิ๊ง ราวกับตื้นเต้นในการรอคอยอะไรบางอย่าง
ซึ่งอะไรบางอย่างนั้น เขาก็เดาได้ไม่ยากเลย
เพราะก็คือการประเดิมเปิดขายเมนูใหม่ ‘ขนมปังสังขยา’
ที่ลูกแม่พลอยฝึกอบขนมปังกับเขามาทั้งอาทิตย์


...เพิ่งรู้ว่าลูกแม่พลอยเป็นคนเอาจริงเอาจังทุ่มเทมากกว่าที่คิด
ค่าวัตถุดิบเจ้าตัวเป็นคนออกทั้งหมด
แค่มาอาศัยเครื่องนวดขนมปังกับเตาอบของเขาเท่านั้น
ที่ทำเสียก็เยอะ ที่อบพลาดก็มาก
แน่ล่ะ...กว่าจะดูให้ออกว่าขนมปังขึ้นได้ที่พอดีตรงกับความต้องการมั้ย
ไม่ใช่จะฝึกกันได้ภายในวันสองวัน
เขาอาศัยอยู่ในครัวช่วยแม่มาหลายปีกว่าจะเชี่ยวชาญ
น่าตลกเหมือนกันที่ผู้ชายมาดศิลปินอย่างเขาจะมาขายขนมเค้ก
แต่เมื่อเป็นทางที่ตัวเองเลือก เขาก็จะขอทำให้ดีที่สุด
กับลูกแม่พลอยเองก็คงคิดไม่ต่างกัน
ถึงได้เอาใจใส่และพยายามทุ่มเทเพื่อทำเมนูนี้ออกมา



ทันทีรถจอดสนิทเทียบริมฟุตบาท
ร่างของหนุ่มแว่นก็รีบชะโงกคว้าของที่เบาะหลัง
เปิดประตูรถออกผลัวะแล้ววิ่งลิ่วไปยังร้านก๋วยจั๊บเจ๊ใหญ่
เพื่อเอาโต๊ะที่ฝากไว้ออกมาเตรียมกางแผงขายทันที


...อะไรจะรีบร้อนขนาดนั้น


นักรบยิ้มขำบาง ๆ กับพฤติกรรมเหมือนเด็กของใครบางคน
แม้จะเป็นศัตรูทางการค้ากัน แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเอาใจช่วย
แอบภาวนาอยู่ลึก ๆ ว่า....



ขอให้วันนี้ ‘ขนมปังสังขยา’ ขายออกมาได้ดี ๆ ด้วยเถอะ



....แต่



...ใครจะรู้ว่าเสียงภาวนาของเขาอาจไม่ดังมากพอ




------------------------------------------------------------------------------------------------------------





...มันมีอะไรผิดปกติเหรอ?


สาลี่มองขนมปังที่นอนนิ่งในถุงพลาสติกใส
ซึ่งแพ็คคู่มาอย่างดีกับสังขยาในถ้วยพลาสติกมีฝาปิดอย่างเรียบร้อย


ขนมปังก็ดูนุ่มน่าทาน
สังขยาใบเตยสีกำลังสวย
สังขยาไข่เนื้อเนียนได้พอดี


แล้ว....


แล้วมันมีอะไรผิดปกติ
เขาถึงได้ขายมันออกไปได้แค่สี่แพ็คจากเกือบสามสิบแพ็ค
ตลอดระยะเวลาสี่ชั่วโมง


...เกิดอะไรขึ้น?


คำถามที่เฝ้าถามตัวเองอย่างมึนงงแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ กลับมา
ในหัวมีแต่คำว่า...ทำไม...ทำไม...ทำไม...

ทั้ง ๆ ที่ก็แน่ใจแล้วว่าขนมชนิดนี้ทุกคนต้องรู้จักกันดี
ดูไม่โบราณจนเกินไป แถมกินได้ทุกวัยตั้งแต่คนแก่ยันเด็ก

แล้วทำไม...

ทำไมเขาถึงขายมันออกไปไม่ได้
ทั้ง ๆ ที่ตั้งราคาไว้แค่แพ็คละ 40 บาทเท่านั้น

ทำไมถึงไม่มีคนมาซื้อ แค่มอง ๆ แล้วก็เดินจากไป
จะมีบ้างที่แวะเข้ามาหาด้วยความสนใจแต่ก็กลับซื้อขนมอย่างอื่นไปแทน


เขาทำผิดตรงไหนกัน...




คนที่ทุ่มเทพยายามอย่างตั้งใจนิ่งมองถุงขนมเมนูใหม่
ซึ่งอุตส่าห์จัดวางโลเกชั่นไว้เด่นอยู่หน้าแผง
แต่ต่อให้เค้นหัวสมองคิดหาสาเหตุมากมายเพียงใด
ก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย


...โลกของธุรกิจช่างน่ากลัว



และโลกของ ‘ความจริง’ กับ ‘ความฝัน’



...ก็ต่างกันมากเหลือเกิน




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



เกือบห้าทุ่ม...
ได้เวลาแผงขายของต่าง ๆ ในถนนคนเดินทยอยเก็บข้าวของ


นักรบเดินกลับมาที่รถเต่าคู่ใจของตนเอง
โดยมีใครอีกคนถือข้าวของของตนเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ
วางกล่องที่บรรจุขนมจากการขายลงไปที่เบาะหลังเหมือนเช่นทุกที


...กล่อง
ที่นักรบเผลอมองเพราะรู้ดีว่ามีอะไรอยู่ในนั้น



...ไม่ใช่จะไม่สังเกต
แผงก็อยู่ตรงข้ามกันแค่นี้
เขาก็พอจะเห็นว่าขนมปังสังขยาไม่ได้ลดลงไปเท่าไรเลย
อุตส่าห์ทุ่มเทแรงใจแรงกายไปขนาดนั้น
แต่กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง
ไม่รู้ว่าคนรักศักดิ์ศรีไม่ยอมแพ้อย่างลูกแม่พลอยจะรู้สึกยังไงบ้าง


ความสงสัยที่ค้างคาไม่ต้องทิ้งให้รอนาน
เพราะทันทีเขาสตาร์ตรถขับออกมามาได้เกือบครึ่งทาง
คนที่นั่งอยู่ข้างตัวก็ยังคงปิดปากนิ่งเงียบ
ดวงตากลมจ้องมองไปยังคอนโซลด้านหน้าแทนที่จะมองข้างทาง
เหมือนกำลังครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่างจนบรรยากาศล้อมรอบตัวหนักอึ้งผิดกับตอนขามาลิบลับ


“เดี๋ยวก็ขายได้”


ประโยคที่อยู่ ๆ ก็ดังขึ้นลอย ๆ ทำเอาคนเหม่อถึงกับสะดุ้งเบา ๆ
หันมากลับมาถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ


“ห่ะ เมื่อกี๊ว่าอะไรนะ”


คนฟังเหลือบมองอีกฝ่ายก่อนถอนหายใจ
แล้วพูดขยายความซ้ำให้ได้ยินอีกครั้งชัด ๆ


“ขนมปังสังขยา เดี๋ยวก็ขายได้
วันนี้คนเดินตลาดไม่ค่อยเยอะเท่าไร
พรุ่งนี้วันเสาร์คนอาจจะมากกว่านี้”


วูบหนึ่งที่ดวงตากลมโตมีแววสั่นไหว
แต่ก็แค่เพียงวูบเดียว...
ดวงตานั้นก็กลับมาเป็นประกายเจิดจ้า
ก่อนเสียงร้องแบบคนที่ไม่มีร่องรอยความกังวลจะตามมา


“โอยย...ไม่ต้องห่วงหรอก
ขายได้อยู่แล้ว อย่าลืมสิว่าใครทำ
ขนมร้านหวานละไมชื่อเสียงโด่งดังจะตาย
คอยดูไว้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ขายจนทำไม่ทัน
เอาให้ยอดแซงทะลุร้านบ้านขนมเดือนใจไปแบบไม่เห็นฝุ่นเลย
แล้วอย่ามานึกเสียใจที่สอนผมทำขนมปังทีหลังล่ะกัน ฮ่าๆๆๆ”



...แค่ฟังดูก็รู้ว่าประโยคที่พูดออกมาพวกนั้น
ล้วนตรงข้ามกับสิ่งที่อยู่ในใจโดยสิ้นเชิง
ถึงขนาดนี้แล้วยังเสแสร้งอีกเหรอ คุณลูกแม่พลอย



“ถ้ามันไม่ได้ออกมาจากใจ ก็อย่าฝืนหัวเราะเลย
ลืมไปแล้วเหรอว่าไอ้ท่าทางใส่หน้ากากของคุณมันปิดบังผมไม่ได้”



ความจริงที่พุ่งทะลุขึ้นกลางวง
ทำให้รอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้าของคนโดนรู้ทันค่อย ๆ จางหาย
ก่อนเจ้าตัวจะกลับไปนิ่งเงียบอีกครั้ง


แต่เป็นครั้ง...
ที่เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างในความรู้สึกของคนข้าง ๆ กำลังพังทลายลง



นักรบมองอีกฝ่ายเพียงชั่วครู่
ก่อนหมุนพวงมาลัยเบี่ยงออกนอกเส้นทาง
ขับเลียบเข้าชิดขวาเพื่อยูเทิร์นกลับรถ
จนคนที่มาด้วยกันต้องร้องถามอย่างสงสัย


“จะเลี้ยวกลับไปไหน”


“ไปสักที่”


เขาตอบกวน ๆ ด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง
ตอนแรกนึกว่าคนโดนแหย่จะโวยวายอะไรอย่างที่ทำเป็นประจำ
แต่กลับแค่เอ่ยปากบอกสั้น ๆ


“งั้นเดี๋ยวช่วยแวะเซเว่นข้างหน้าให้ที”


คนขับจึงจอดแวะเซเว่นตรงหัวมุมถนนตามคำขอ
สาลี่เปิดประตูลง หายเข้าไปพักใหญ่
ก่อนออกมาพร้อมหิ้วถุงมาด้วยสองข้าง
เสียงก๊องแก๊งของกระป๋องกระทบกันขณะถูกวางบนพื้นรถ
ดูจากปริมาณแล้วคงแทบจะซื้อมายกโหลเห็นจะได้

ไม่ต้องเสียเวลาเดาว่าเป็นอะไร
แปลกใจอยู่นิดหน่อยที่ลูกแม่พลอยใจกล้าซื้อมา
แต่ยังไงซะอีกฝ่ายก็ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว


...แม้บางทีแอลกอฮอล์อาจไม่ได้ให้คำตอบ
แต่อย่างน้อยมันก็อาจช่วยทำให้เราลืมคำถามที่กลัดกลุ้มอยู่ในใจ




รถโฟล์กเต่าสีเหลืองจึงออกตัวอีกครั้งขับเลียบมาทางเส้นทางเก่า
ก่อนจะจอดลงตรงถนนริมแม่น้ำที่ห่างออกมาจากถนนคนเดินไม่ไกลนัก
บริเวณนี้ความจริงเป็นลานเล็ก ๆ จัดไว้เป็นที่ออกกำลังกาย
มีอุปกรณ์สีสดใสมากมายหลายชนิดวางสะท้อนแสงไฟถนนสีเหลืองนวล
เขาดับเครื่องยนต์ก่อนเปิดประตูรถออกให้ไอลมเย็น ๆ ของแม่น้ำพัดผ่านเข้ามา



แป๊ก!



เสียงเปิดกระป๋องเบียร์ลีโอดังขึ้นจากข้าง ๆ
หันไปมองทันเห็นคนซื้อยกกระดกซดลงคอดังอึก ๆ อย่างไม่ยั้ง

 
“ดื่มเร็วแบบนั้นเดี๋ยวก็เมาซะก่อนหรอก”


เสียงท้วงไม่เป็นผลแต่อย่างใด
เพราะคนที่ใช้หลังมือเช็ดปากกลับเอ่ยถามขึ้นมาแทน


“เอาด้วยหน่อยมั้ย”


นักรบรับกระป๋องเบียร์ที่ถูกโยนส่งมาให้
ก่อนคนซื้อจะหันไปจัดการของตัวเองต่อจนหมดเกลี้ยงด้วยความรวดเร็ว

ตามมาด้วยกระป๋องที่สอง...

และสาม...


จนเขาต้องกระพริบตาปริบ ๆ มองคนที่ดื่มเบียร์เหมือนดื่มน้ำ
โดยไม่มีทีท่าจะหยุดเลยสักนิด


หรือว่าทีจริงลูกแม่พลอยจะคอแข็งถึงได้ดื่มดุขนาดนี้
นี่ก็กระป๋องที่สี่เข้าไปแล้ว
ดูสิดื่มจนหน้าเหนอแดงไปหมด

แล้วตามัน...

ตามันเยิ้มแปลก ๆ 



เดี๋ยว...



...แบบนี้คงไม่ใช่คอแข็งแล้ว



ลูกแม่พลอย มันจงใจให้ตัวเองเมาจริง ๆ




“โลกเรานี่มันไม่เคยมีอะไรง่ายเลยเนอะ”


ประโยคที่ดังขึ้นไม่ใช่คำถาม แต่คล้ายจะเป็นข้อสรุปให้ตัวเอง
นักรบรู้ดีว่าบางครั้งน้ำเมาไม่ได้แค่ช่วยทำให้ลืม
แต่ยังช่วยระบายความอัดอั้นตันใจทั้งหมดออกมาด้วย
เขาจึงไม่ได้เอ่ยคำตอบใด ๆ
ปล่อยให้คนที่กลัดกลุ้มได้ปลดปล่อยสิ่งที่อยู่ในใจออกมา



“คุณรู้มั้ยว่าทำไมผมถึงต้องเปลี่ยนนิสัยเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น”



...อันนี้สิ ถึงจะเป็นประโยคคำถาม
แถมเป็นคำถามที่น่าสนใจ

เขาชะงักมือที่ถือกระป๋องเบียร์ นิ่งฟังถ้อยคำมากมาย
ซึ่งพรั้งพรูออกจากปากของคนที่ไม่อาจทานทนเก็บปัญหาไว้



“ที่ผมต้องใส่หน้ากากเอาไว้ก็เพราะผมคิดว่าบางที....
บางทีมันอาจจะช่วยทำให้ชีวิตผมง่ายขึ้น
เป็นลูกที่ดีทำให้พ่อกับแม่สบายใจ
เรียนหนังสือให้เก่งเพื่อชื่อเสียงของตระกูล
ยิ้มรับลูกค้าเพื่อแลกกับเงินของเขา
เสแสร้งทำทุกสิ่งให้คนอื่นพอใจ

แต่ก็นั้นแหละ... อย่างที่ผมบอก...
โลกเรามันไม่เคยมีอะไรง่ายขนาดนั้น
สุดท้ายเราก็หนีความจริงไม่ได้
ต่อให้พยายามมากแค่ไหน
มันก็ยิ่งเห็นความน่าสมเพชของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น

หึ น่าตลกเนอะ ...คุณว่ามั้ย?”



น้ำเสียงกึ่งเยาะกึ่งสมเพชอย่างที่ปกติจะไม่มีทางได้ยินจากปากของลูกแม่พลอยเด็ดขาด
ถ้าไม่ใช่เพราะยามนี้แอลกอฮอล์เข้าไปละลายสติในส่วนการควบคุมศักดิ์ศรีของตัวเองไว้ไม่เหลือ
ทว่าคนที่ดื่มหนักก็ยังไม่วายซัดเบียร์กระป๋องที่สี่จนหมดก่อนคุ้ยเบียร์กระป๋องที่ห้าขึ้นมาเปิด
จนเขาต้องเผลอถอนหายใจ เอ่ยตอบบทสนทนาที่ค้างเอาไว้


“ไม่หรอก คนเรามันก็ต้องมีภาพพจน์กันอยู่แล้ว
ทุกคนมีหน้ากากติดตัวด้วยกันทั้งนั้น
อยู่ที่ว่าเราจะหยิบใบไหนขึ้นมาใช้กับใครเมื่อไร
และด้วยจุดประสงค์อะไร”


“งั้นผมก็คงมีหน้ากากเยอะที่สุดในโลกเลยล่ะสิ ฮ่าๆๆๆๆ”



...ปากหัวเราะไป แต่ดวงตาไม่ได้ยิ้มตามแม้เพียงนิด
กลับสะท้อนให้เห็นถึงความขมขื่นและความเหนื่อยล้าจากปัญหาที่ถาโถมเข้ามาใส่
ยิ่งเห็นแบบนี้ และยิ่งได้ฟังเรื่องราวถึงสาเหตุในมุมมองของเจ้าตัว
ก็ยิ่งอดรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้



ลูกแม่พลอยมันจะรู้มั้ยว่า...


...สิ่งที่มันแสดงออกมาไม่ใช่อย่างที่เข้าใจเลย




“อย่างคุณน่ะ ไม่ได้เรียกว่าใส่หน้ากากหรอก”


สาลี่หันกลับไปมองคนทักทันที


...เล่าให้ฟังขนาดนี้
ไม่เรียกว่าใส่หน้ากากแล้วมันจะเป็นอะไรไปได้

แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากถาม ร่างสูงก็เอ่ยคำอธิบายตามมา



“ถ้าคุณบอกผมว่า สิ่งที่คุณทำลงไปทั้งหมด
เพื่อให้พ่อแม่คุณสบายใจ เพื่อชื่อเสียงของญาติคุณ
หรือที่คุณยิ้มแย้มต้อนรับลูกค้า พูดคุยให้ความสำคัญกับเขา
ก็เพราะอยากทำให้ทุกคนพอใจล่ะก็
แบบนั้นน่ะเขาเรียกว่า....

คุณแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไปต่างหาก”



คำตัดสินที่ได้ยินเสมือนสายฟ้าผ่าลงตรงกลางใจ
มือที่กำกระป๋องเบียร์อยู่ชาวาบ
ในหัวมึนงงไปด้วยความสับสนให้กับสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด
แต่ก็ยังคงปล่อยให้ถ้อยคำเหล่านั้นลอยละล่องผ่านหู



“จริง ๆ แล้วคุณห่วงความรู้สึกของพวกเขาใช่มั้ยล่ะ
กลัวพวกเขาจะกังวลว่าคุณจะทำเรื่องอะไรไม่ดีรึเปล่า
กลัวเอาความเดือดร้อนมาให้พวกเขา
ก็เลยพยายามทำตัวเป็นเด็กดีเวลาอยู่ต่อหน้าคนที่คุณแคร์ไง

อันทีจริงมันไม่ใช่ไม่ดีหรอกนะ
แต่บางที ถ้าฝืนมากเกินไป
คุณจะเหนื่อยเอาซะเปล่าๆ

พักบ้างก็ได้ ทำในสิ่งที่คุณอยากทำดูบ้าง
ผมเชื่อว่าคนที่คุณแคร์ต้องเข้าใจคุณ”




...เหมือนกับปมในใจบางอย่างได้คลี่คลายลง
เพราะเพียงคำพูดไม่กี่คำ
ทว่าบางสิ่งที่ยังคงสับสนในความรู้สึกลึก ๆ
ทำให้สาลี่ต้องเอ่ยคำค้านตะกุกตะกัก


“ตะ...แต่...มันจะดีจริง ๆ หรอ
เรื่องแบบนั้น มันเห็นแก่ตัว
ผมคง...”


“ไม่เกี่ยวกับเห็นแก่ตัวหรอก
คุณแค่เป็นตัวของตัวเองในแบบที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
อ่ะ แต่ยกเว้นผมคนหนึ่งนะ
เพราะเวลาคุณเป็นตัวของตัวเองตอนอยู่กับผมทีไร
ผมเป็นต้องได้เดือดร้อนทุ๊กที”


อ้าว...ไอ้นี่
เหมือนจะพูดดี ๆ แต่กลับมาแหย่ใส่อีกแล้ว


“เออ ก็เพราะอยากให้เดือดร้อนไง เอาให้มันวอดวายแม่งให้หมดเลย!!”


คนโดนด่าไม่เถียงกลับ
เพียงแค่ระบายรอยยิ้มบาง ๆ ตามสไตล์
เหมือนพอใจที่การแกล้งประสบผล
ก่อนจะยื่นมือขึ้นมาลูบหัวคนเครียดเบา ๆ


“ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปเถอะ
ลูกแม่พลอยที่ผมรู้จักน่ะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ หรอก
แล้วถ้ามีปัญหาอะไรผมจะคอยช่วยคุณเอง
...นะ”




แปลก...


เสียงของลูกแม่เดือนมันแปลก....
มันอ่อนโยนผิดปกติเหมือนกับกำลังปลอบเขาอยู่


แล้วก็น่าแปลก....
ที่ความเศร้า ความหดหู่ทั้งหลายกลับค่อย ๆ จางหายไป
เหลือเพียงแค่ความรู้สึกประหลาดปั่นป่วนในอกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน


แล้วก็ยังรู้สึกร้อน...


...ร้อนวาบไปทั้งตัว


...ร้อนจนหน้าแทบไหม้อยู่แล้ว




“อะ...เออ...ในนี้ร้อนเนอะว่ามั้ย”


คนที่เริ่มมึนบ่นพลางเอื้อมเปิดประตูรถ
โดยมีนักรบก้าวเดินตามออกไป
เขาสองคนยืนใกล้กับขอบรั้วที่กั้นความสูงไว้ระดับเอว


มองลงไปจากตรงนี้...
กำแพงหินผสมคอนกรีตทอดยาวลงถึงแม่น้ำที่อยู่ห่างจากเขาเกือบสามเมตร
ฝั่งตรงข้ามเป็นสนามกีฬาของค่ายทหารแต่ก็มีต้นไม้ปลูกไว้ตลอดแนวเพิ่มความร่มรื้น
ลมจากริมน้ำพัดผ่านมาเบา ๆ อากาศดีบริสุทธิ์เสียจนเหมือนจะชำระล้างพิษในกายไปด้วย



หนุ่มมาดเซอร์ทอดสายตาออกไปไกล
นาน ๆ ที ได้พักแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ไม่ต้องเสียเวลาหามุมไปเที่ยวชาร์ตแบตให้ตัวเองที่ไหนไกล
แค่ได้อยู่ในสถานที่ที่ร่างกายได้เบาใจ


แค่นั้นก็พอแล้ว....



“อา....สบายจัง
วิวแม่น้ำตอนกลางคืนก็สวยดีเนอะ
อ่ะ! พระจันทร์เต็มดวง”


เขามองคนที่ถือกระป๋องเบียร์พูดด้วยน้ำเสียงเริงร่า


...ไอ้วิวแม่น้ำก็สวยดีอยู่หรอก
แต่พระจันทร์น่ะไม่เต็มดวงซะหน่อย
แหว่งไปตั้งเสี้ยวหนึ่งขนาดนั้น
คนที่เห็นมันเต็มดวงได้คงต้องบอกแค่คำเดียว


....ลูกแม่พลอย มันเริ่มเมาแล้ว



“นี่ ๆ ถ่ายรูปให้หน่อย ถ่ายให้เห็นวิวฉากแม่น้ำด้วยนะ”


ไม่ต้องเสียเวลาหาทางพิสูจน์ข้อสันนิษฐาน
เพราะน้ำเสียงเรียกร้องแบบนี้ไม่เคยมีแน่ ๆ
ปกติคนถูกถ่ายออกจะรำคาญนิด ๆ ด้วยซ้ำ
แต่นี่ดันมาขอให้ถ่ายง่าย ๆ
เออ ก็ดี... เผื่อเขาจะได้เก็บรูปตอนเมาเอาไว้แกล้งทีหลัง


นักรบจึงวางเบียร์ที่ดื่มไปแค่ครึ่งกระป๋องลง
แล้วหันไปหยิบกล้องตัวโปรดของตัวเอง
กดปุ่มใช้โหมดแบบไม่เปิดแฟลซเพราะกลัวคนเมาจะมึนแสง
แค่โคมไฟถนนสีเหลืองก็พอให้แสงนวล ๆ ก็ออกมาอาร์ตไปอีกแบบ
เขากดชัตเตอร์ไปสองสามภาพ แต่ดูเหมือนคนถูกถ่ายจะไม่พอใจ
ทำหน้าบึ้งพลางร้องโวยวายดังลั่น


“โหยย นับด้วยดิ ถ่ายแล้วไม่นับเลย
นับเป็นเปล่า...หนึ่ง สอง ซ่ำ อ่ะ
แล้วสาก็จะพูดว่า เป๊ปซี่ จะได้ยิ้มออกมาพอดีตรงคำว่าซี่ไง
แบบนี้ แบบนี้....เป๊ป ซี่ซซซ...~~~”


คนฟังแทบจะกลั้นขำกับเสียงงอแงเป็นเด็ก ๆ เอาไว้ไม่อยู่
แอลกอฮอล์นี่มันเปลี่ยนพฤติกรรมคนได้จริง ๆ
เพิ่งรู้ว่าลูกแม่พลอยเมาแล้วจะรั่วได้ขนาดนี้
ต๋องก็ต๋อง แต่ก็ดูน่ารักน่าแกล้ง
จนอยากจะเปลี่ยนเป็นโหมดอัดวิดีโอแทนจริง ๆ


“มา มา เดี๋ยวสาถ่ายให้บ้าง”


คนที่คิดเพลิน ๆ แอบสะดุ้งเมื่อจอมป่วนเดินเข้ามาใกล้พลางเอื้อมมือมาจะคว้ากล้อง
เขารีบยกมันขึ้นสูงทันที
เพราะไม่อยากปล่อยให้กล้องตัวโปรดตกอยู่ในมือคนเมาที่ไม่รู้ว่าจะเผลอทำอะไรไปบ้าง
ทำให้คนถูกขัดใจต้องร้องงอแงออกมาอีกครั้ง


“เอามาดิ๊ อย่าหวงน่า
คนอะไรขี้งก เอามานะ เอาม๊า~~~”


“เมาแล้วนะสา ไม่ต้องดื่มแล้ว”


มือหนึ่งยกกล้องไม่ให้อีกคนเขย่งถึง
ส่วนอีกมือก็พยายามคว้ากระป๋องเบียร์
แต่ร่างที่เล็กกว่ากลับเบี่ยงหลบได้ทัน


“ไม่ให้... ทีตัวเองยังไม่ให้สาเลยแล้วจะมาเอาของสาไปได้ยังไง”


ไม่ใช่แค่คำปฏิเสธแต่อีกฝ่ายกลับยังยกกระป๋องขึ้นดื่มเหมือนท้าทาย


“สา บอกให้พอไง อย่าดื้อสิ”


“แลกกันดิ แลกกานนน~~
ไม่งั้นไม่ยอม!”


นักรบชั่งใจเพียงชั่วครู่
ทว่าในที่สุดก็พ่ายแพ้ให้กับคนที่พยายามส่งสายตาปิ๊ง ๆ มาให้อย่างเว้าวอน


“เฮ้อ...ก็ได้ แต่ต้องรักษาเท่าชีวิตนะ”


ทันทีที่ได้ยินคำอนุญาต
คนฟังก็รีบยัดกระป๋องเบียร์ใส่มือแลกกับกล้องทันที
สาลี่ก้มมองพิจารณาสภาพของกล้องที่ยังคงเหมือนใหม่แม้จะผ่านการใช้งานมานาน
บ่งบอกว่าเจ้าของดูแลรักษามาเป็นอย่างดี
ก่อนดวงตากลมใต้เลนส์แว่นจะมองผ่านช่องมองภาพพลางส่งเสียงร้อง


“พร้อมยางงงง~~

เอ้า...หนึ่ง สอง ซ่ำ

เป๊ป ซี่ซซซซซ...~~~”


คำพูดกับท่าทางตลกของอีกฝ่ายทำให้นักรบเผลอหัวเราะออกมาแทนที่จะยิ้ม
จนคนสั่งหน้าบูด ร้องโวยวายออกมาอย่างงอน ๆ


“โห...ทำไมไม่พูดอ่ะ
แบบนี้ก็ออกมาไม่สวยอ่ะดิ
ไม่ไหว...ไม่ไหว....
เดี๋ยวสาจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างเองนะ”


จบคำ เจ้าของประโยคก็ย้ายตัวเองมาอยู่ข้าง ๆ ร่างสูงที่ยืนพิงรถเต่าอยู่
ใบหน้าเกลี้ยงเกลาแดงเรื่อยื่นเข้าไปใกล้จนได้กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ
ก่อนเจ้าตัวจะใช้มือข้างเดียวถือกล้องหมุนให้เลนส์หันกลับมาโฟกัสคนทั้งสอง


“พร้อมน๊า......

หนึ่ง สอง ซ่ำ

เป๊ป...ซี่ซซซซซ~~~~”



นักรบพูดประโยคสุดท้ายออกมาด้วยรอยยิ้ม

...ไม่ใช่เพราะคำมันบังคับ
แต่รอยยิ้มที่เกิด เขารู้ดีว่ามันออกมาจากหัวใจของเขาจริง ๆ


...ยิ้มเพราะความเอ็นดู

...ยิ้มเพราะความน่ารัก

...ยิ้มเพราะคนคนหนึ่ง



...คนที่ชื่อ ‘สาลี่’




“ดูสิ เห็นมั้ยบอกแล้ว”


คนถ่ายหยิบกล้องขึ้นมากดปุ่มเช็คดูภาพ
ก่อนจะยื่นมาตรงหน้าเจ้าของเหมือนตั้งใจจะอวด



..ถึงภาพที่ออกมามันจะเบลอเพราะแสงน้อยอยู่สักหน่อย
แต่ก็นับได้ว่านี่เป็นภาพแรก
ที่เจ้าของ 'ร้านหวานละไม' กับ 'ร้านบ้านขนมเดือนใจ' ถ่ายคู่กัน
หลังจากที่พบกันมาเพียงแค่หนึ่งเดือน



...และเป็นภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้างของคนทั้งสอง



“ฮ้าวววว....ง๊วงง่วงเนอะ
กล้องอะไรถ่ายแล้วง่วงนอนเลย
ซื้อมาจากที่ไหนอ่ะ เดี๋ยวสาจะได้ไปซื้อบ้าง
เอาไว้ใช้เวลานอนไม่หลับ เคยได้ยินปล่าววว......
น้องน๊อนไม่หลับหัวจ๊ายยมันกระสับกระส่ายยยย~~~วู้ววว....ฮ่าๆๆๆๆ”


คนเมาก็ยังเป็นคนเมาวันยังค่ำ
นักรบยืนฟังเสียงหัวเราะของคนข้าง ๆ
ก่อนเจ้าตัวจะเอนกายพิงรถ
ปล่อยศีรษะสบกับไหล่ของเขาพร้อมกับหลับตาลงช้า ๆ


“อืออ...ขอพักหน่อยนะ”


ดวงตาคมเหลือบมองคนซึ่งยึดหัวไหล่ตัวเองเป็นที่พักพิง
อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มบาง ๆ ออกมา



...ลูกแม่พลอย เมาซะจนสิ้นฤทธิ์ไปแล้ว
ร้องโวยวายนู้นนี้ แต่สุดท้ายก็มาหมดท่าเอาจนได้
หึ เห็นแบบนี้แล้วไม่แกล้งลงยังไงไหว
ถือว่าเป็นค่าให้พิงไหล่ล่ะกันนะ


มือแกร่งหยิบกล้องคู่ใจของตัวเองขึ้นมา
หมุนให้เลนส์กล้องส่องมายังทั้งคู่อีกครั้ง
เอนศีรษะเข้าใกล้กับคนที่พิงอยู่แนบหัวไหล่


...ใกล้จนได้กลิ่นหอมของแชมพูจาง ๆ



ไม่รู้ทำไม...

เขาถึงไม่อาจหักห้ามใจตัวเอง
ให้ก้มลงสูดกลิ่นความหอมหวานของคนข้าง ๆ
พร้อม ๆ กับปล่อยให้เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นเบา ๆ เป็นเสียงสุดท้ายในค่ำคืนนี้



...แชะ




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 28-06-2012 20:39:26
ตอนนี้สาลี่นั่วมากอ่ะ 55555555 เมาแล้วเป็นแบบนี้ก็น่ารักดีเนอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-06-2012 20:52:17
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 28-06-2012 21:20:02
น้องสา แทนตัวเองแบบนี้น่ารักมากกกกกกกกก

เด๋วพอสร่างเมาแล้วจะเป็นไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-06-2012 21:23:49
ใกล้กันเข้าไปอีกนิดแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 28-06-2012 21:31:10
ว้าวน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกด มาต่ออีกนะ ใกล้ที่จะรักกันแล้ว รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 28-06-2012 21:37:57
มันแพงไปนะเราว่าตั้ง 40 บาท ถนนคนเดิน 20 ก็พอ
นึกว่าจะมีฉากสวีทมาเรียกน้ำตาลแต่ตอนนี้ก็อบอุ่นนิดๆน่ารักหน่อยๆ
สาลี่หมือนเด็กมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >;>; P.19
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 28-06-2012 21:43:04
สู้ต่อไปคุณลูกแม่พลอย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 28-06-2012 21:43:37
อย่างนี้คงต้องเมาบ่อยๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 28-06-2012 21:44:36
มันแพงไปนะเราว่าตั้ง 40 บาท ถนนคนเดิน 20 ก็พอ
นึกว่าจะมีฉากสวีทมาเรียกน้ำตาลแต่ตอนนี้ก็อบอุ่นนิดๆน่ารักหน่อยๆ
สาลี่หมือนเด็กมากกกกกกกกก

คิดเหมือนกันเลย..เราว่าถ้าลดราคาลงอีกนิด ต้องขายได้แน่ๆอะ :]
สาลี่เวลาถอดหน้ากากแล้วน่ารักมาก อยากให้เค้าสนิทใจกันมากกว่านี้เร็วๆ อยากเห็นนักรบจีบน้องสาจริงๆจังๆซะที > <
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-06-2012 22:00:04
ตอนขายขนมปังไม่ได้อยากจะเดินเข้าไปกอดน้องแน่นๆจัง :กอด1:

ว่าแต่เมาแล้วน่ารักนะเรา....เห็นรูปตอนเมาแล้วจะเม้งแตกมั้ยเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 28-06-2012 22:23:27
แบบที่นักรบเป็นนี่ เรียกว่า เผลอใจ(รักน้องสา) ได้มั้ยนะ  :kikkik: :kikkik:
มีถ่ายรูปคู่ตอนยิ้มหวาน กับตอนหอมหัวเหม่งกันด้วย หากน้องสาเห็นจะว่าไงบ้างนะ

น่ารักจังค่ะ อ่านตอนนี้แล้ว ยิ้มจนเมื่อยแก้มเลย  :-[ :-[ :-[
+1   :กอด1: :กอด1: :กอด1: คนแต่ง
ปล. ขอให้ขนมปังสังขยาของน้องสาลี่ ขายดิบขายดีในวันพรุ่งนี้ด้วยเถอะ เพี้ยงงง....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 29-06-2012 00:34:56
สนุกมากๆเลยยย ! ชอบมากๆ !
เพิ่งอ่านภาคแรกจบ น้องเพลงน่ารักมากๆ !
จากตอนแรกแอบหงุดหงิดเพลงนิดนึง.. แต่ก็เข้าใจเป็นใครก็คงสับสนเพิ่งอกหักมาด้วย T T''
แถมอิตาพี่แทนก็กวนตีนน้องเพลงไว้แสบพอดูในตอนแรกๆ
แต่พอยิ่งอ่านไปก็ยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆๆๆ ปากไม่ตรงกับใจ ยิ่งเวลาเขินนี่น่ารักมากกกกก!! ><
โมเม้นที่น้องเพลงหึงพี่แทน ตอนน้องอ้อมชวนไปทำบุญนี่มันกร๊าววมาก !
คนอะไร๊โคตรน่ารักเลยยยยยยยยยยยยยยย !
''พี่แทนเขามีนัดกับแฟนแล้ว'' ตอนอ่านนี่แบบ.. อุ๊ยตาย! กรี๊ดดดดด! น้องเพลงหลุดซึน  :-[ :-[
อิจฉาพี่แทนวุ้ย!
ตอนพี่แทนเริ่มรุกจีบเพลงเป็นอะไรที่ฮามาก!
มุขพี่เสี่ยวลาวได้อีก ไม่เข้ากับหน้าโหดๆเล๊ย 555555555

ตอนพิเศษเขินมากกกกกกกกกกก >//////<
เขินแบบไม่ไหวแล้ว !
ตอนน้องเพลงอายปิดหน้าแล้วพี่แทนพลิกตัวให้เห็นหน้าชัดๆนี่มัน..
คือ..เขิน อายแทนน้องเพลง -////-

ตอนนี้กำลังจะอ่านภาคขนมปังสังขยากับลาวาช็อคโกแล็ตต่อนะคะ (:

ปล. น้องคูณจะมีคู่ด้วยมั้ย ??  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-06-2012 02:47:54
เมาแล้วอ้อนนะ สาลี่

 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-06-2012 07:29:02
สาลี่เมาแล้วรั่วแต่น่ารัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 29-06-2012 10:40:53
เมาแล้วรั่วมากอ่ะ 55555555

ปล.เชียร์ให้ขายขนมปังสังขยาให้ได้ไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 29-06-2012 11:15:21
มารอให้คู่นี้เขาหวานกันก่อน แล้วจะมาอ่านเรื่องรวดเดียวเลย
เพราะตอนพี่แทนน้องเพลง
อิคนอ่านคนนี้อินมากเกิ๊น ตอนเพลงซึน อ่านแล้วเม้นต์ด่าน้องเพลงซะ
ตอนนี้เลยแอบเข้ามาอ่านเม้นต์แทนก่อน กร๊ากกก :laugh:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-06-2012 11:46:23
สาลี่รั่วมาก
เลยนะตัวเธอ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 29-06-2012 15:31:57
นักรบถ้าไม่อยากตาย พรุ่งนี้ห้ามแซวสาลี่เรื่องนี้เด็ดขาดนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 11] 28/06/55 >> P.19
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 29-06-2012 18:11:02
ชอบน้องสาตอนแบบนี้จัง 555555
น่ารักมากมาย โอ๊ยยย รั่วและน่ารักสุดๆ

แนะนำนักรบจับกดเลยนะ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 30-06-2012 23:24:04
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 12


...อยากอ้วก


ความคิดแรกที่พุ่งขึ้นมาในสมองพร้อมกับอาการพะอืดพะอม
หลังจากสาลี่ลืมตาตื่นอย่างมึน ๆ อยู่บนเตียง


...เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น?


คำถามที่สองตามมาติด ๆ
ก่อนความทรงจำจะเริ่มหมุนวนกลับไป

เมื่อคืนออกไปขายของ
ขากลับแวะที่ถนนริมน้ำ
กินเบียร์ไปด้วย

แล้วก็เออ...


...เมาเละ



เขาจำได้แค่ว่าตัวเองซื้อเบียร์มาโหลหนึ่ง
แต่ดื่มไปเท่าไรไม่ได้นับ
รู้แค่ว่าอยากจะให้มันเมา ๆ ซะ
เผื่อจะได้ลืมความกลุ้มใจที่ขายขนมปังสังขยาออกมาไม่ดี
แล้วก็เผลอ....


...เผลอระบายความกลัดกลุ้มให้กับใครบางคนไป



‘อย่างคุณน่ะ เขาไม่เรียกว่าใส่หน้ากากหรอก

คุณแคร์ความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไปต่างหาก’




จริงเหรอ...
เขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ เหรอ

ที่พยายามทำตัวเป็นเด็กดี เพื่อไม่อยากทำให้แม่ลำบากใจ
ที่ตั้งใจเรียนให้ได้คะแนนเยอะ ๆ เพื่อไม่อยากนำความเดือดร้อนมาให้กับตระกูล
ที่ต้องยิ้มแย้มทั้ง ๆ ที่ในใจทรมาน เพื่อไม่อยากให้คนอื่นต้องกังวล

ทั้งหมดนั้น...
เขาทำลงไปก็เพราะห่วงความรู้สึกของคนรอบข้างมากกว่าความรู้สึกของตัวเองใช่มั้ย


‘พักบ้างก็ได้
ทำสิ่งที่คุณอยากทำบ้าง

แล้วถ้ามีปัญหาอะไรผมจะคอยช่วยคุณเอง
...นะ’




...น่าแปลก
แปลกที่คำพูดของคนที่รู้จักกันมาแค่เพียงเดือนเดียว
กลับทำให้ส่วนลึกที่สุดภายในใจสั่นไหว
คล้ายกับถูกมองทะลุถึงปมอันหนักอึ้งที่เขาแบกไว้ตลอดหลายปี
ซึ่งไม่เคยมีใครรับรู้ถึงมันมาก่อน แม้แต่แม่หรือเพื่อน ๆ
   
คนอย่างลูกแม่เดือน
คนที่เขาคิดว่าเป็นแค่ไอ้บ้าติสต์แตกไปวัน ๆ
แต่กลับเป็นคนที่คอยรับฟังปัญหา
และคอยปลอบโยนเขาให้คลายกังวล


...น้ำเสียงที่ห่วงใย

...สัมผัสของมือลูบเรือนผมเบา ๆ


ทั้ง ๆ ที่คอยแหย่กันตลอดแท้ ๆ
ทำไมลูกแม่เดือนกลับมาให้กำลังใจเขาซะได้


แล้วทำไม...



...ทำไมอยู่ ๆ ใจมันถึงเต้น  หน้ามันถึงได้ร้อนขึ้นมาวะเนี่ย!





ก๊อก... ก๊อก...


คนฟุ้งซ่านสะดุ้งเมื่อเสียงเคาะประตูขัดความคิด
พูดถึงปุ๊บ... ก็มาปั๊บ...
ไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็นหนุ่มผมยาวมาดเซอร์
ที่เปิดประตูพร้อมเสียงเรียกทัก


“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ
เป็นไงบ้าง ปวดหัวมั้ย”


คนที่นอนอยู่รีบผุดตัวลุกขึ้นนั่ง
ควานหาแว่นบนหัวเตียงมาสวมอย่างรีบร้อน
พยายามปรับเปลี่ยนสีหน้า กดความรู้สึกแปลก ๆ ของตัวเองให้ลึกลงไป
ในขณะที่ร่างในชุดเสื้อยืดโลโก้โคค่าโคล่าเดินเข้ามาใกล้พลางยื่นแผงยาส่งให้


“อ่ะ นี่พารา เดี๋ยวกินเสร็จแล้วก็ลงไปทานข้าวซะนะ
แม่คุณทำโจ๊กไว้ให้”


สาลี่รับของจากอีกฝ่าย
ในหัวมีคำถามมากมายที่สงสัย
แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน
จึงได้แต่ขยับปากพูดไปตะกุกตะกัก


“เออ....คือ...เมื่อคืน...”


“จะถามว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
หรือจะถามว่าเมื่อคืนคุณกลับมาได้ยังไง
หรือจะถามว่าเมื่อคืนใครกันที่อ้วกใส่รถผมซะเลอะไปหมดดีล่ะ”



...ไอ้สองคำถามแรกก็อยากจะรู้อยู่หรอก
แต่คำถามสุดท้ายไม่ต้องบอกก็เดาคำตอบได้


ตัวต้นเหตุหน้าเจื่อน
สารภาพตามตรงว่าจำเรื่องหลังจากเมาแล้วไม่ได้เลยสักนิด
แต่ไม่ต้องเสียเวลานั่งนึก
เพราะคู่สนทนากลับเป็นคนเอ่ยปากเล่าออกมาแทน


“เมื่อคืน แม่คุณเป็นห่วงมากเลยรู้มั้ย
ผมไม่แน่ใจว่ามือถือคุณแบตหมดหรือยังไง
แม่คุณถึงโทรหาคุณตั้งหลายสายแต่ก็โทรไม่ติด
เลยมาเคาะประตูหน้าร้านผมตอนเที่ยงคืน
มาขอเบอร์ผมจากแม่ แล้วก็โทรตามเข้าเครื่อง
ผมก็เลยรีบพาคุณกลับบ้าน

แต่ก็นะ...
เมาซะไม่เหลือดีขนาดนั้น
มาถึงก็โดนเฉ่งซะยกใหญ่
แต่คุณไม่ต้องห่วงหรอก
ผมบอกกับพวกเขาว่าผมบังคับให้คุณดื่มเอง
แล้วคุณก็คออ่อนดื่มไปแค่กระป๋องเดียวเลยน็อค”


เขาเนี่ยนะดื่มกระป๋องเดียวแล้วน็อค
ถึงจำไม่ได้ว่าดื่มไปเท่าไร แต่ซื้อมายกโหลขนาดนั้น
ต้องไม่ต่ำกว่าหกหรือเจ็ดแน่ ๆ
บอกกับแม่ไปแบบนี้ มันจะไม่น่าสงสัยไปหน่อยเหรอ

จากหน้าเจื่อน ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นซีดลงอย่างคนมีความผิดติดตัว
เอ่ยถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ


“ละ...แล้วแม่ว่าอะไรบ้าง”


“แม่คุณก็ดุผมไปนิดหนึ่ง
ผมพอจะเข้าใจอยู่หรอก ก็ท่านอุตส่าห์ฝากลูกชายไว้กับผมนี่
แต่ดันพาไปเมากลับมาซะอย่างนั้น
ส่วนแม่ผมเขาไม่ค่อยอะไรอยู่แล้ว
แค่เอ็ดตามประสาโทษฐานเมาแล้วขับ
แล้วก็เตือนว่าอย่าทำแบบนี้อีก”


อ้าว...ได้ไงล่ะ
โกหกออกไปทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาต่างหากที่เป็นคนเริ่มเอง
แบบนี้ไอ้ลูกแม่เดือนก็โดนดุอยู่คนเดียวน่ะสิ
เขาก็เป็นลูกผู้ชายนะ ทำผิดก็ต้องกล้ารับผิดอยู่แล้ว

 
“ทำไมไม่บอกความจริงไปล่ะ”


“ก็เดี๋ยวภาพพจน์เด็กดีของน้องสาลี่จะปลิวหายหมดไม่ใช่เหรอ”


คำพูดทีเล่นทีจริงเหมือนอย่างเคย
แต่ครั้งนี้มันกลับแทงใจลึก ๆ ให้คนได้ยินถึงกับสะอึก
 

...มันก็จริงอยู่หรอกว่าเขาอยากจะทำตัวเป็นเด็กดีของแม่
ทั้ง ๆ ที่ควรจะโล่งใจแท้ ๆ ทีลูกแม่เดือนมันช่วยปิดบังความลับให้
แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงกลับรู้สึกอึดอัดในใจแปลก ๆ
เหมือนกับว่า ไม่ต้องการจะปกปิดตัวตนที่แท้จริงนี่ไว้อีกแล้ว


“อีกอย่าง ผมก็รู้ว่าคุณไม่อยากให้แม่เป็นห่วง
เอาเป็นว่า เดี๋ยวลงไปอ้อนท่านสักหน่อย
แล้วรีบกินข้าวซะ ผมจะได้พาคุณออกไปสักที”


เสียงของหนุ่มติสต์ยังดังออกมาเรื่อย ๆ
แต่คนฟังกลับสะดุดใจในท้ายประโยคจนต้องเงยหน้าถาม


“ไปไหน”


คนถูกถามแย้มรอยยิ้มสบาย ๆ เหมือนที่ทำเป็นประจำ
พร้อมกับทิ้งคำตอบไว้เป็นปริศนาสั้น ๆ
แต่เรียกความสนใจของคนฟังจนดวงตากลมเบิกกว้าง



“ก็พาคุณไปทำให้ ‘ขนมปังสังขยา’ ขายได้ไง”




------------------------------------------------------------------------------------------------------------




...เขามาทำอะไรอยู่ตรงนี้วะ


สาลี่นั่งอยู่บนเบาะรถโฟล์กเต่าสีเหลืองที่ตอนนี้คุ้นเคยยิ่งกว่าฟีโน่ของตัวเอง
พลางครุ่นคิดไปมาหลายตลบถึงคำถามที่คาใจ
ทั้ง ๆ  ที่ไม่รู้ว่ามันจะพาไปไหน
แต่พอได้ยินคำว่า ‘จะทำให้ขนมปังสังขยาขายได้’ ก็ใจง่ายตามมาทันที
ถ้ามันเกิดหาเรื่องแกล้งขึ้นมาอีกจะทำอย่างไง
นี่เขาตัดสินใจถูกรึเปล่าวะเนี่ย

ชั่วขณะที่กำลังสับสน
อยู่ ๆ เสียงจากคนขับก็ร้องถามขึ้นทำลายความเงียบ


“คุณสายตาสั้นเท่าไร”


“ข้างขวาสี่ร้อย ข้างซ้ายสองร้อย”


คนใส่แว่นบอกออกไปอย่างไม่ภาคภูมิใจในโรคสายตาขี้เกียจของตัวเองซะเท่าไร
จะสั้นก็สั้นให้มันเท่า ๆ กันก็ได้
นี่เล่นห่างกันตั้งเกือบครึ่ง เวลาตัดเลนส์ใส่ลำบากจะตาย
แต่จะโทษอะไรได้ นอกเสียจากไอ้หนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ยกชุด
ที่พออ่านจบก็ทำเอาตาเฉไปเลย


“แล้วเคยใส่คอนแทคเลนส์มั้ย”


คนถูกถามส่ายหัวดิก


“ผมไม่กล้าเอาอะไรแหย่เข้าตา”


“งั้นก็ควรกล้าได้แล้ว”


“ห่ะ หมายความว่าไง”


สาลี่ขมวดคิ้วมุ่นให้กับบทสนทนาที่จับต้นชนปลายไม่ได้
มิหนำซ้ำยังไม่เห็นว่าเรื่องนี้มันจะเกี่ยวอะไรกับการทำให้ขนมปังสังขยาของเขาขายได้เลย
ทว่า อีกฝ่ายกลับเอ่ยพูดเปลี่ยนประเด็นใหม่ขึ้นมาแทนคำตอบ


“คุณรู้จักคำว่า Marketing มั้ย”


...มาอีกแล้วไอ้ศัพท์ภาษาอังกฤษ
ยิ่งไม่ถนัดอยู่ด้วย
แต่ไอ้คำง่ายแบบนี้ ใคร ๆ ก็ต้องเคยได้ยินผ่านหูกันบ้างล่ะ


“รู้ดิ การตลาดใช่มั้ย แล้วมันเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์ตรงไหน”


สาลี่ขยับแว่นตอบกลับไปอย่างมั่นใจ แต่ก็ยังไม่วายพ่วงท้ายด้วยความสงสัย


“งั้นคุณรู้มั้ย สมัยนี้น่ะแค่คิดว่ามีสินค้าอยู่
แล้วรอขายออกไปเฉย ๆ มันไม่ทันกินกันแล้ว
มันต้องมีการสำรวจตลาด หาวิธีการโปรโมท วางกลยุทธ์ใหม่ ๆ
เพื่อดึงลูกค้าให้มาซื้อของที่ร้านเราให้ได้มากที่สุด
 
อย่างร้านคุณขายขนมไทย แน่นอนว่าคู่แข่งบนถนนคนเดิน
ที่ขายของประเภทเดียวกันไม่มีอยู่แล้ว
ส่วนขนมของคุณก็อร่อยพอตัว
ดังนั้นเรื่องสถานที่ผ่าน ส่วนสินค้าก็ไม่มีปัญหา
แล้วก็เออ...ราคา
จริงสิ ขนมปังสังขยาคุณขายไปเท่าไร”


“สี่สิบบาท”


“แพงไป สินค้าใหม่เพิ่งเปิดตัวขายแค่ยี่สิบบาทต่อแพ็คก็พอ
ที่เหลือก็เป็นเรื่องวิธีโปรโมทความน่าสนใจของร้าน”



เออ...

...นี่กูคุยกับศิลปินหรือว่านักการตลาดวะเนี่ย
ถึงได้พูดออกมาเป็นช็อต ๆ อย่างกับนั่งฟังซีอีโอในห้องประชุม

แต่อันที่จริง... สิ่งที่ได้ยินผ่านหูมาก็น่าสนใจ
เขาแค่ขายขนมไปแต่ไม่เคยคิดถึงเรื่องพรรณนี้เลย
ความอยากรู้เรื่องราวต่อจึงทำให้อดไม่ได้ที่จะซักไซ้


“แล้วต้องทำยังไง”


“ก็ง่าย ๆ ร้านคุณขายขนมไทย
คุณก็ดึงคอนเซปต์ของความเป็นไทยออกมาเป็นจุดขาย”


“อ้าว แล้วทีร้านคุณขายเบเกอรี่
ไม่เห็นคุณจะดึงคอนเซปต์อะไรที่เกี่ยวกับเบเกอรี่ออกมาเลย”


รถโฟล์กเบรกลงเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีแดง
ก่อนคนขับจะหันมามองคนข้างกาย
แล้วจึงอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“ใครว่าจุดขายของผมอยู่ที่คอนเซปต์เบเกอรี่ล่ะ
จุดขายของผมคือ ‘ความเป็นศิลปะ’ ต่างหาก
ผมใช้ภาพถ่ายมาแทนตัวตนในแบบของผม
ลูกค้ามาเห็นเขาก็คิดว่ามันแปลก น่าสนใจ
แล้วก็ยังจำได้ง่ายด้วย ขนมผมมันถึงขายได้ดีไง”


แบบนี้นี่เอง...
มิน่ามันถึงคอยเอาโปสการ์ดมาประดับร้าน
จัดตกแต่งไฟซะสวย แถมยังเอาเตาอบขนมมาเพื่อใช้กลิ่นเข้าช่วยด้วย
ร้านบ้านขนมเดือนใจเลยมีคนแน่นตลอด
โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชอบหนุ่มเซอร์ลุคศิลปิน
เทียบกันไม่ได้เลยกับตัวเขาที่เป็นได้แค่หนุ่มแว่นหน้าจืด ๆ
แถมหน้าร้านก็ตกแต่งได้เชยสุด ๆ
ถึงแม้จะพยายามจัดน้องหงส์ขนมไทยมาประดับก็ตาม
แต่ให้ทำทุกวันเพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้าก็คงไม่ไหว


“แล้วผมต้องทำยังไงถึงจะดึงความเป็นไทยออกมาใช้เป็นจุดขายได้”


คนสงสัยร้องถามขึ้นมาอีกครั้ง แต่ร่างสูงกลับไม่ตอบคำ
หันไปยุ่งกับการเปิดไฟเลี้ยวขวา
หมุนพวงมาลัยจอดแนบริมฟุตบาทตรงหน้าร้านแว่นตา
แล้วจึงดับเครื่อง เอ่ยสั่งสั้น ๆ



“เริ่มจากใส่คอนแท็คเลนส์ซะ”


....


..


.


สาลี่นั่งอยู่ในร้านแว่นหนึ่งชั่วโมงเต็ม
และเป็นหนึ่งชั่วโมงที่เขาต้องเสียน้ำตาจนกระดาษทิชชู่หมดไปหนึ่งแพ็คเล็ก
ความไม่คุ้นชินกับการใส่คอนแทคเลนส์ทำให้เขากลัว
กว่าจะทำใจกล้ายัดเลนส์บาง ๆ ลงไปในลูกตาได้ด้วยตนเองก็ต้องเสียน้ำตาไปหลายปี๊บ
ทั้งแสบ ทั้งเคือง แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรก ๆ พอเริ่มชินมันก็ดีขึ้น
เจ้าของร้านแว่นก็แสนใจเย็นมาช่วยสอนให้
สุดท้ายเขาก็เลยซื้อคอนแทคเลนส์แบบรายเดือน
พร้อมกับน้ำยาล้าง และน้ำตาเทียมมาเรียบร้อยครบชุด

คนที่เพิ่งหัดใส่คอนแทคเลนส์เดินขึ้นรถเต่าไปด้วยมุมมองที่ต่างออกไปจากเดิม
เพราะไม่มีแว่นมาบดบังทัศนวิสัยบางส่วนให้เกะกะ
ทำให้คนเห่อของใหม่มองนั้นมองนี่ผ่านกระจกรถด้วยความตื้นเต้น
กระทั่งรถถูกจอดลงตรงหน้าร้านอีกแห่ง


“ต่อไปก็ที่นี่”


เขาหันมองไปยังร้านที่คนพามาพยักพเยิด
แค่เห็นผู้หญิงนั่งอยู่พร้อมกับช่างกำลังถือไดร์เป่าผมก็รู้แล้วว่าร้านนี้คือร้านอะไร


“ทำไมต้องพาเข้าร้านตัดผมด้วย”


สาลี่ร้องโวยวาย หน้าบึ้งอย่างคนหงุดหงิด
เพราะไอ้สิ่งที่ทำไม่ก็เห็นว่ามันจะไปเกี่ยวข้องอะไร
กับแผนการดึงคอนเซปต์ความเป็นไทยออกมาตรงไหนเลยสักนิด


“เถอะน่า ถ้าที่ผมทำให้คุณไม่ได้ผล
ผมจะยอมให้คุณอ้วกใส่รถผมอีกสิบรอบเลยเอ้า!”


คำพูดรับประกันอย่างมั่นใจแกมหยอกทำให้คนฟังนึกเคืองอยู่หน่อย ๆ
แต่ก็ไม่อยากจะเถียงอะไรให้มันวุ่นวาย


...เออ อยากจะทำอะไรก็ทำเลย
แล้วถ้ามันไม่เวิร์คจริง ๆ ล่ะก็
ไม่ใช่แค่อ้วกใส่รถแน่ คอยดู!!



สาลี่จึงจำใจนั่งเป็นตุ๊กตาให้เจ๊ลิลลี่สาวประเภทสองฝีมือเลื่องชื่อในจังหวัดเป็นคนจัดการ
ผมยาวระต้นคอถูกตัดสั้นขึ้นมาเล็กน้อย
ส่วนผมที่แทบจะทิ่มตาก็ถูกตัดให้เห็นหน้าผากเผยรูปหน้าให้ดูชัดเจนขึ้น
ความจริงเขาไม่ได้ตัดทรงเปิดหน้าแบบนี้มาตั้งแต่สมัยไถเกรียนตอนมัธยมแล้ว
หลังการแต่งทรงบวกด้วยแว๊กซ์อีกเล็กน้อย
พอมองตัวเองในกระจกอีกทีก็เลยรู้สึกเหมือนย้อนวัยไปอีกสักห้าปีไม่มีผิด
ทว่า เจ๊ลิลลี่กลับเอ่ยปากชมไม่ได้หยุด
 

“หัวน้องเขาทุยสวยอยู่แล้ว ตัดทรงนี้เหม๊าะเหมาะ
แหม...ไปไว้ทรงปิดหน้าปิดตาอยู่ได้ตั้งนาน มีของดีก็ไม่เอาออกมาโชว์
ดูสิ หน้าเนียน ตาหวานซะขนาดเนี่ยย...ซี๊ดดด....เห็นแล้วเปรี้ยวปาก
สนใจมาเป็นเด็กในสังกัดเจ๊มั้ยจ๊ะหนุ่มน้อย.....มามะ...”


ท้ายประโยคเจ้าหล่อนยักคิ้วพร้อมส่งเสียงกระเซ่าอย่างน่ากลัว
ทำเอาคนฟังต้องรีบส่ายหน้ายิก พร้อมกับหยิบแบงค์จ่ายตังค์
ดันหลังเร่งให้คนพามาเผ่นออกจากร้านโดยด่วน



ทั้งสองคนขึ้นรถคันเดิมขับออกมาตามซอกซอยอีกไม่ไกลนัก
ก่อนรถจะมาจอดสนิทอีกครั้งตรงหน้าร้านขนาดใหญ่
ที่ทำเอาดวงตากลมต้องมองชื่อร้านซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่แน่ใจ


‘ไอรัก Wedding Studio’



...มาทำซากอะไรวะ


ความสงสัยยังไม่ทันออกมาเป็นคำพูด
เพราะคนที่ตั้งใจจะถามกลับเปิดประตูเดินลิ่วเข้าร้าน
ทำให้สาลี่ต้องรีบเดินเข้าไปตาม
และทันเห็นลูกแม่เดือนพูดคุยกับหญิงสาวที่ดูท่าคล้ายเจ้าของซึ่งเหลือบมองเขาอย่างสนใจ
ก่อนทั้งคู่จะพากันเดินหายไปหลังร้าน
ทิ้งให้เขานั่งอยู่ที่โต๊ะรับแขกท่ามกลางคู่รักซึ่งพากันจูงมือมาเลือกซื้อแพ็คเก็ตถ่ายรูปเวดดิ้ง


คนอื่นเข้ามาเป็นคู่ชายหญิง
แต่แขกที่มาใหม่เป็นผู้ชายผู้ชายแบบนี้
ไม่แปลกเลยที่จะต้องมีคนมามอง ๆ บ้าง
ไม่ว่าจะเป็นช่างแต่งหน้าที่หันไปกระซิบกระซาบกับพนักงานหัวเราะคิกคัก
หรือคู่บ่าวสาวซึ่งมองมาทางเขาด้วยสายตาแปลก ๆ
จนคนที่ถูกเพ่งเล็งเริ่มทำตัวไม่ถูก


โอยยย....ที่อื่นมีเยอะแยะไม่ไป
จะมาทำไมที่เวดดิ้งสตูดิโอเนี่ยยย
แล้วไอ้ลูกแม่เดือนมันหายไปไหนวะ
ทิ้งกูไว้แบบนี้ได้ไง


...แม่งงง กูอายนะโว้ยยย!!!



ด่าอยู่ในใจยังไม่ทันขาดคำ
คนต้นเรื่องก็โผล่ออกมาพร้อมกับหิ้วบางสิ่งไว้ในมือ


...บางสิ่งที่ทำให้ความเคืองเปลี่ยนเป็นความอึ้ง
และยิ่งตะลึงเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยบอก



“เดี๋ยวคุณมาลองนี่หน่อย”



ดวงตากลมเบิกกว้างไล่สายตามองชุดที่ใครบางคนถือ
จากบนลงล่างแล้วล่างขึ้นไปบนอีกรอบ
ก่อนถามย้ำอีกครั้งสั้น ๆ


“เอาจริง?”


“ก็ต้องจริงน่ะสิ เนี่ยแหละไม้ตายสุดท้าย”




....ไม้ตาย


เนี่ยนะ... ไม่ตายของมัน

ไอ้ชุดไทยราชปะแตนสีขาว พร้อมด้วยโจงกระเบนสีน้ำเงินเข้ม
แถมคู่มากับสไบปักมุกข์สีน้ำตาลเหลือบทอง
จะตะแคงซ้ายขวามองยังไง
นี่มันก็เป็นชุดเจ้าบ่าวชัด ๆ
อย่าบอกนะว่ามันจะให้ใส่ไปขายขนม


...ยังไงก็ไม่มีทาง!!




“ผมไม่ใส่”


“อย่าเรื่องมากน่า พี่นุ่นเจ้าของร้านเขาเป็นลูกค้าผม
อุตส่าห์อ้อนตั้งนานพี่เขาเลยยอมลดราคาขายยกชุดแค่ห้าร้อยเอง
ไปลองให้ดูหน่อยว่าใส่ได้มั้ย แต่ผมกะดูแล้วก็น่าจะพอดีอยู่นะ”


“คุณจะบ้าเหรอ!! ให้ผมใส่ชุดนี่ไปขายขนมเนี่ยนะ น่าอายตายชัก!!”


คนถูกบังคับร้องโวยวายออกมา
ชนิดที่ว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม
แต่แทนทีร่างสูงจะโต้ตอบ
กลับทำแค่เพียงถอนหายใจออกมาอย่างหน่าย ๆ


“เฮ้อ....ตามใจคุณล่ะกัน
ถ้าอยากเห็นขนมปังสังขยาเต็มกล่องกลับมาเหมือนเดิมผมก็ไม่ว่า”



ประโยคเดียวแต่มีอานุภาพมากพอที่จะทำให้หัวใจคนฟังสะอึก


นั้นสิ...อุตส่าห์ทำมาตั้งขนาดนี้
ทั้งเปลี่ยนไปใส่คอนแทคเลนส์
ทั้งยอมลงทุนตัดผม
เหลืออีกแค่นิดเดียวเท่านั้น
แล้วเขาจะยอมปล่อยให้ร้านหวานละไมต้องเจอกับสภาพขายไม่ออก
เพราะความเอาแต่ใจของตัวเองแบบนี้น่ะเหรอ


...เอาก็เอาวะ!!



คนตัดสินใจได้จึงคว้าชุดไปจากมือของร่างสูงอย่างหงุดหงิด
แล้วเดินฉับ ๆ หายเข้าไปในห้องลองเสื้อ
ปล่อยให้คนที่มองเห็นแผนการตนเองสำเร็จผลยืนยิ้มอย่างพอใจ



...ยังไงเรื่องไม่ยอมแพ้นี่ก็สู้ลูกแม่พลอยไม่ได้จริง ๆ
ก็เพราะไอ้นิสัยแบบนี้น่ะสิ ถึงได้ทำให้น่าแกล้งนัก

คิดพลางเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่หน้าร้าน
หยิบกระเป๋าใส่กล้องตัวโปรดสะพายออกมา
ตั้งใจไว้ว่ากะจะถ่ายรูปคนน่าแกล้งในชุดไทยเอาไว้เป็นที่ระลึก
แต่พอเดินกลับเข้ามาอีกที เขาก็ยังไม่เห็นคนที่ว่า


...อะไรจะใส่ยากขนาดนั้น
โจงกระเบนก็เป็นยางยืดแท้ ๆ
แต่งตัวช้าเป็นผู้หญิงไปได้



คนรอจึงเดินไปเคาะห้องลองเสื้อ พร้อมกับเอ่ยปากเร่ง


“เสร็จรึยังคุณ ให้ผมเข้าไปดูหน่อย”


“ไม่เอาได้มั้ย ผมว่าใส่แล้วมันตลกอ่ะ”


เขาได้ยินเสียงคนข้างในตอบกลับลอดผ่านประตูมาเบา ๆ
จนต้องเผลอถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายอีกรอบ


“ตลกไม่ตลกเดี๋ยวผมบอกเอง เปิดประตูเร็ว ๆ”




...แกร๊ก



เสียงกลอนประตูห้องลองเสื้อเลื่อนเปิดออก
ก่อนคนที่อยู่ด้านในจะเดินออกมา
นักรบเตรียมจะอ้าปากบ่น
ทว่า ดวงตาคมกลับทำแค่เพียงจับจ้องร่างนั้นด้วยความนิ่งอึ้ง

...ลืมถ้อยคำพูด

...ลืมกดชัตเตอร์ภาพ


...แม้กระทั้งลมหายใจก็เหมือนกับลืมไปแล้วว่าต้องทำยังไง



ใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูอ่อนกว่าวัยด้วยผมทรงใหม่ที่พอเหมาะกับโครงหน้าคมหากแต่เรียวได้รูป
ดวงตากลมโตที่ไม่มีแว่นบดบังเป็นประกายวิบวับเหมือนมีดาวกระพริบอยู่ภายใน
เสื้อราชปะแตนสีขาวพอดีตัวอย่างไม่น่าเชื่อ มีสไบวางพาดไหล่เสริมให้ดูมีสง่าราศี
เข้าคู่กันดีกับโจงกระเบนสีน้ำเงินเข้มที่ขับผิวของคนใส่ให้ดูผ่อง
ยิ่งพอประกอบกับท่าทางเขิน ๆ ของเจ้าตัวที่เกาต้นคอเก้อ ๆ อย่างคนทำอะไรไม่ถูก
ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เป็นธรรมชาติชวนมองอย่างไม่อาจห้ามสายตาได้



...คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือลูกแม่พลอยจริง ๆ เหรอ


...แล้วทำไมหัวใจของเขาถึงคล้ายกับจะถูกพรากให้หลุดลอยไปเพราะคนคนนี้



นับรบได้แต่นิ่งอึ้งตะลึงพูดไม่ออก
ทว่า ใครบางคนที่บังเอิญผ่านมาเห็นกลับร้องขัดขึ้นเสียก่อน


“ต๊ายยย ใส่ออกมาได้พอดีเลย แถมยังหล่อซะด้วย
น้องใส่ชุดไทยขึ้นมาก ๆ เลยนะคะเนี่ย
ดูดีมีออร่าเจ้าบ่าวจับเชียวล่ะค่ะ”


เสียงแหลมเล็กของพี่นุ่นเจ้าของร้านเวดดิ้งวัยสี่สิบหย่อน ๆ
แต่ยังสวยปิ๊งเหมือนสาวอายุสามสิบเรียกให้คนทั้งสตูดิโอหันไปจับจ้อง
แถมเจ้าตัวยังไปสรรหาถุงเท้าขาวและรองเท้าหนังมาให้คนในชุดไทยใส่อีก
พอแต่งเต็มยศก็ยิ่งดูทั้งสง่า ทั้งมีเสน่ห์
เหมือนท่านเจ้าคุณวัยหนุ่มที่หลุดออกมาจากยุครัตนโกสินทร์อย่างไรอย่างนั้น
ทำเอาสาว ๆ ทั้งสตูดิโอเคลิ้ม
รีบใช้ไอโฟนแอนดรอย์บีบีถ่ายรูปแย่งกันให้วุ่นวายไปหมด


นักรบเองก็ได้แต่มองภาพนั้นหลังจากเรียกสติกลับคืนมา
ใจนึกอยากจะยกชัตเตอร์มาถ่ายด้วยเหมือนกัน
แต่ให้ฝ่าวงล้อมของสาว ๆ ไปคงไม่ไหว


ที่สำคัญ... เขายังสับสนกับความรู้สึกในใจ



...แค่เห็นหน้าลูกแม่พลอยเมื่อกี๊
ทำไมหัวใจถึงได้เต้นแบบนั้น
ทั้ง ๆ ที่มันก็เป็นผู้ชาย
แต่เขาดันเกิดความรู้สึกบ้า ๆ ขึ้นมาท่วมท้นไม่หยุด


อยากกอด...

อยากจูบ...

อยากเก็บไว้เป็นของเขาคนเดียว...




“นี่คุณ ตกลงว่า มันโอเคเปล่า ไม่ตลกแน่นะ”


คนที่จมอยู่ในห้วงความคิดสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกใครบางคนสะกิด
ดูเหมือนคนทั้งสตูดิโอจะถ่ายรูปกันเสร็จจนหนำใจแล้ว
ถึงได้ยอมปล่อยท่านเจ้าคุณหลงยุคมายืนทำหน้ากังวลอยู่ข้างเขา


“สาว ๆ รุมขนาดนี้แล้วยังต้องถามอีกเหรอไง”


นักรบตอบกลับไปเสียงห้วนเล็กน้อย
รู้สึกฉุนขึ้นมานิด ๆ อย่างห้ามไม่อยู่
แต่อีกฝ่ายแค่พูดเสียงเรียบเหมือนไม่ได้รับรู้ถึงความหงุดหงิดนั้น


“ก็แค่อยากได้ยินจากปากคุณให้แน่ใจ”


ดวงตาคมเหลือบมองคนพูด
จากความฉุนกลับเปลี่ยนเป็นความดีใจลึกๆ


...เดี๋ยวรู้สึกโกรธ เดี๋ยวรู้สึกดี
ลูกแม่พลอย มันแกล้งทำให้ความรู้สึกเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเล่นสนุกรึไงกัน

...ไม่ได้อย่างนี้ต้องเอาคืน



หนุ่มศิลปินจึงกวาดตามองพิจารณาคนข้างตัวอย่างจริงจัง
ใช้มือลูบคางตัวเองไปมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด


“อืม...เหมือนขาดอะไรไปอย่าง”


“อะไร”


คนไม่มั่นใจถามกลับด้วยสีหน้ากังวลที่เพิ่มมากขึ้น
เข้าตามแผนของคนขี้แกล้งที่แสร้งดีดนิ้วดังเปาะ


“อ้อ...รู้แล้ว  รอยยิ้มไง
ไหนลองยิ้มสิ ยิ้มกว้าง ๆ แบบไม่ต้องเก๊กนะ
ถ้าทำไม่เป็นเดี๋ยวผมจะสอน เพราะเมื่อคืนมีคนสอนผมมา
อ่ะ พูดตามผมนะ

หนึ่ง สอง ซ่ำ

เป๊ป ซี่ซซซซซ~~~”



คำล้อทำให้คนฟังชะงัก สะกิดใจในสิ่งที่ได้ยิน


...ไอ้คำพูดนี้มันคุ้น ๆ นะ

เหมือนว่าเมื่อคืน.....


เมื่อคืน......



อย่าบอกนะว่า....



ทันใดนั้นความทรงจำต่าง ๆ ก็ย้อนกลับมาเป็นฉาก
ความอายที่ถาโถมเข้าใส่ทำให้เลือดแล่นริ้วขึ้นสู่ใบหน้าของคนนึกออกทันที
สาลี่ไม่คิดจะโวยวายเถียงแต่กลับรีบวิ่งปรู๊ดเข้าไปในห้องลองเสื้อ
โดยทิ้งนักรบที่ยังคงหัวเราะเบา ๆ ไม่เลิกไว้ข้างหลัง


เฮ้อ...ลูกแม่พลอย นี่มันยังไงกัน
บอกให้ยิ้มดันไม่ยิ้ม
แต่มาทำให้เขายิ้มกว้างเสียเอง

อย่างนี้ก็เท่ากับว่าเขาก็โดนแกล้งเหมือนกัน
งั้นครั้งนี้ถือว่าเจ๊ากันไปล่ะกันนะ

ไว้เขาจะแก้แค้นคืนคราวหลัง
เตรียมตัวไว้ให้ดีเถอะ


...คุณลูกแม่พลอย



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-06-2012 23:37:17
โอ๊ย นึกว่านักรบจะไปจูบน้องสาซะแล้ว  :กอด1:


แต่จะแต่งชุดไทยไปขายขนมจริงๆ น่ะหรอ?   :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-07-2012 00:03:01
หวานนนนนนนมากกกกก

นักรบอึ้งไปเลยน้องสาหล่อใช่มะล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 01-07-2012 00:40:37
ตกหลุมรัก...ขึ้นไม่ไหว

ใครนะใครเป็นคนผลักฉัน ฮิ้วววว

 :music:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 01-07-2012 01:10:39
เรื่องเมา นักรบรับผิดแทนน้องสาด้วย พระเอกสุดๆ อารมณ์แบบว่าปกป้องน้องอ่ะ ปลื้ม.....จัง (ก็เค้าเป็นพระเอกนี่)
เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าพี่รบจะหวั่นไหวกับน้องสาบ่อยนะ เดี๋ยวตะลึง เดี๋ยวอยากกอด เดี๋ยวอยากจูบ คริคริ  :kikkik: :kikkik:

แค่ลองชุด ยังทำเอาสาวๆรุม นี่ถ้าแต่งไปขายขนม จะขนาดไหนเนี่ย :จ้อบจัง1: :จ้อบจัง1:
ขอให้ขนมปังสังขยาขายดิบขายดีนะจ๊ะ น้องสา

+1 ให้คนแต่งจ้าาาา
ขอบคุณนะคะ น่ารักมากๆ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 01-07-2012 01:15:03
แต่งเลยๆๆๆๆๆ

อุ๊ย ผิดงาน 5555555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 01-07-2012 01:26:02
ไอ้ลูกแม่เดือนขี้แกล้ง!
แต่น้องสาลี่ก็น่ารัก น่าแกล้งจริงๆ  :-[

น้องสาแปลงโฉมแล้วว! อยากเห็นอ่ะ ><
นักรบดูแลดีๆนะจ้ะ น้องน่ารักขนาดนี้ระวังโดนฉุด!

เขินนนน >//<
นายลูกแม่เดือนแอบหึงด้วย!
ตัวเองเป็นคนเปลี่ยนลุคให้น้องสาเองแท้ๆ ถ้าไปขายจริงจะไม่ยิ่งหึงเรอะ 5555555

ชอบฉากแป๊ปซี่~~ แล้วน้องสาอายวิ่งหนีเข้าไปในห้องลอง.... มันน่ารักมากกกกกกกก !!!!  :o8: :o8:

สาลี่เริ่มอยากเป็นตัวของตัวเองกับแม่แล้วสินะ...
ลองค่อยๆเปลี่ยนดู.. UU
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >;>; P.20
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-07-2012 02:09:56
New สาลี่  ฮี่ฮี่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 01-07-2012 02:17:49
 :o8:ออกอาการอยากเก็บน้องสาไว้ดูคนเดียวแล้วเว้ยเฮ้ย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-07-2012 07:02:44
น่ารักอ่ะ อยากเห็นน้องสาลี่ใส่ชุดไทยบ้างจัง

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-07-2012 08:35:42
หวานกันอีกแล้วนะเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-07-2012 08:38:16
จะโกรธจะเคืองอีกหรือเปล่าละลูกแม่พลอย :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 01-07-2012 08:41:15
ถอดรูปซะที  น้องสาลี่  :mc4:


ขอบคุณและรอตอนต่อไป :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 01-07-2012 09:15:14
เหมือนลูกแม่พลอยจะยอมรับในตัวนักรบมากขึ้น นี่แหละเนอะในชีวิตเราขอแค่มีคนเข้าใจสักคนก็พอ
ถ้าแปลงโฉมแล้วขนมขายได้ดีอย่าลืมมีรางวัลงามๆให้นักรบด้วยนะสาลี่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 01-07-2012 11:40:25
 :pig4: มาต่ออีกเร็วๆนะ รออยุ่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 01-07-2012 13:21:54
ตกลง
น้องสาลี่เป็นเจ้าบ่าว นักรบเป็นเจ้าสาว  :z6:

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 01-07-2012 14:48:00
หวานกันมากขึ้นละนะ : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-07-2012 15:13:18
เป็นแผนการตลาดที่สุดยอด o13 เปลี่ยนลุกส์ใหม่ให้กับน้องสา  ขนาดคนคิดแผนยังตะลึง

นี่ถ้าไม่อยู่ในร้านมีหวังน้องสาคงโดนหนุ่มมาดเซอร์จับไปกอดแล้ว เพราะน่ารักเกิน

รับรองว่าไปขายเที่ยวหน้าขนมปังสังขยา ยอดขายทะลุเป้าแน่

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 01-07-2012 15:31:34
อยากเห็นสาลี่ในชุดไทยจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-07-2012 16:39:58
หวานกันแล้วใช่ป่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 02-07-2012 17:19:00
ทีหลัง นักรบกระชากสาลี่มาจูบเลยก็ได้นะ
เราไม่ว่า 555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 12] 30/06/55 >> P.20
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 02-07-2012 23:12:30
สาลี่ถอดรูปเงาะออกแล้ว
พ่อนักรบตะลึงไปเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 03-07-2012 20:10:22
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 13



“อ่ะ กุญแจรถ”



ได้ยินเสียง...

แต่มือไม่ขยับ...



สาลี่ยังคงยืนจ้องพวงกุญแจรถโฟล์กที่เจ้าของยื่นมาตรงหน้า
เหมือนเป็นวัตถุประหลาดโดยไม่มีทีท่าจะรับไว้แต่อย่างใด
กระทั่งคนที่รอถือค้างจนเมื่อยมือต้องเร่งเอ่ยซ้ำ


“รีบไปเปลี่ยนชุดซะ เดี๋ยวผมจะช่วยเฝ้าแผงให้ก่อน”


แค่ได้ยินคำว่า ‘เปลี่ยนชุด’ ใครบางคนก็รู้สึกขนลุกซู่ไม่ทราบสาเหตุ
ก้มมองเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลของตัวเอง



...จริง ๆ แต่งแบบนี้ก็ดีแล้ว
จะยกหรือจะเก็บของก็คล่องตัวออกจะตาย
ไม่เห็นต้องทำอะไรให้มันยุ่งยากเลย
เพราะฉะนั้น.....เออ.....



เพราะฉะนั้น....



“มะ...ไม่เอาได้มั้ย”


สาลี่พูดเสียงอ่อย
ทว่ากลับไม่มีคำตอบรับใด ๆ จากคู่สนทนา
ยกเว้นแต่ดวงตาคมปลาบที่จ้องมาเมื่อได้ยินคำปฏิเสธ
ซึ่งคนถูกมองก็รีบเบือนหลบเสไปอีกทาง

...เงียบอยู่แบบนั้น เหมือนวัดใจกันเกือบครึ่งนาที

ในที่สุดนักรบก็ผ่อนลมหายใจออกอย่างเหนื่อยหน่าย
พูดตัดบทอย่างนึกรำคาญ


“เฮ้อ....อยากทำอะไรก็ตามใจคุณ
แต่ถ้ามันไม่ดีก็อย่ามาอ้วกในรถผมอีกล่ะ”


หมุนตัวกลับทันทีที่จบคำ
ทว่ายังไม่ทันจะก้าวเดิน
ชายเสื้อของร่างสูงก็ถูกคว้าไว้หมับ
พร้อมกับได้ยินคนด้านหลังร้องเสียงหลง


“เฮ้ย เดี๋ยว!!
เออ...
ก็...ก็ได้”


นักรบหันกลับมาทันที
ยิ่งเห็นสีหน้ากล้ำกลืนขมขื่นเหมือนถูกบังคับให้กินยาขมก็ยิ่งอดนึกขำไม่ได้

...ทำเล่นตัวไปมา
สุดท้ายก็ต้องยอมอยู่ดีนั้นแหละ



หนุ่มเซอร์จึงยื่นพวงกุญแจออกไปเหมือนเดิม
แต่คราวนี้คนที่เคยลังเลกลับฉวยไว้อย่างรีบเร่ง
เดินฉับ ๆ กลับไปยังที่จอดรถ
ซึ่งมีของบางสิ่งแขวนรอเตรียมพร้อมอย่างเรียบร้อย
ปล่อยให้คนที่ยังนึกขันในท่าทีนั้น ต้องแย้มรอยยิ้มบางจาง ๆ



...อยากรู้จริง ๆ ว่าโฉมใหม่จะทำให้ร้านหวานละไมเรียกลูกค้าได้มากแค่ไหนกัน


ยังไงก็พยายามเข้าล่ะ ....คุณลูกแม่พลอย




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



...มองทำไมครับ มองทำไม...
ผมมีสามขา หรือมีหางโผล่กันหรือไงกันครับ
ถึงได้มองกันอยู่นั้นแหละ....

น้องผมเปียที่จูงมือแม่อยู่ไม่ต้องชี้เลยครับ
พี่ไม่ใช่สัตว์ประหลาดก็แค่แต่งชุดไทยเอง
มันน่าแปลกตรงไหน...

...ไม่เคยเห็นคนใส่ชุดไทยรึไงกันคร้าบพี่น้องงงง!!



ถึงจะโวยวายแค่ไหนแต่ก็ทำได้แค่เพียงกู่ร้องอยู่ในใจ
ส่วนสภาพความเป็นจริงน่ะเหรอ
ซอยเลย... ซอยเท้ารีบเดินจนแทบจะวิ่งอยู่แล้ว



สาลี่ในชุดราชปะแตนสีขาว นุ่งโจงกระเบนสีน้ำเงินเข้ม
พร้อมด้วยถุงเท้ายาวกับรองเท้าหนังสีดำคู่เก่าซึ่งใช้ตั้งแต่สมัยยังเป็นนักศึกษา
ขาดแต่สไบสีน้ำตาลที่เจ้าตัวถือไว้ในมือ ก็จะครบเต็มยศเจ้าบ่าวงานแต่ง

ทว่าเจ้าบ่าวที่ไร้คู่เจ้าสาวเวลานี้กลับก้มหน้าแดงเรื่อของตัวเองงุด ๆ
รีบจ้ำฝีเท้าเดินเร่งกลับแผงของตัวเองโดยด่วน
ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ที่จ้องมองมาตั้งแต่หัวตลาดที่ตัวเองเดินผ่าน
กระทั้งถึงแผงขายขนมไทยซึ่งมีใครบางคนยืนรออยู่
มองแว๊บเดียวก็รู้ว่ามันกำลังพยายามกลั้นขำ
ยิ่งทำให้ใบหน้าเนียน ๆ งอหงิกเหมือนกุ้งจ้องอีกฝ่ายตาขวางอาฆาตโทษไว้ในใจ


มึงไม่ได้ต้องหัวเราะเลยนะ...

ไม่ต้องเลย...



“จอดรถไกลฉิบหาย จะจอดเข้ามาใกล้ ๆ กว่านี้ไม่ได้หรือไงวะ!”


สาลี่กระแทกเสียงบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
ก็ไม่ใช่เพราะมันเล่นจอดรถซะหน้าปากทางเข้าตลาดนู้น
ถึงทำให้เขาเดินฝ่าคนมาได้ตั้งไกล
ตามซอยใกล้ ๆ แถวนี้มีเยอะแยะก็ไม่ไปจอด
แบบนี้จะไม่ให้โมโหได้ไง

แต่คนโดนโวยกลับส่งเสียงจุ๊ปาก
เหมือนเห็นว่าคนบ่นช่างไม่รู้เรื่องอะไร
ก่อนจะเอ่ยคำอธิบายแกมย้อมถาม


“เขาเรียกว่าเป็นกลยุทธ์ดึงดูดความสนใจจากลูกค้าต่างหาก
เป็นไงได้ผลดีใช่มั้ยล่ะ?”



เออ ได้ผล...ได้ผลมากกกก
ได้ผลตรงที่กูรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกไง
แม่งงไอ้ลูกแม่เดือนมันจงใจแกล้งกันชัด ๆ


...อ๊ากกกกก!!!  เจ็บใจโว้ยยยยย!!!



“กลับไปแผงตัวเองนู้นเลยไป๊”


“อะไรกัน คนอุตส่าห์มาเฝ้าให้ไม่มีขอบใจกันสักคำ
เออ ผมไปก็ได้

อ่ะ...แล้วอย่าลืมพูดว่าเป๊บซี่เวลาขายด้วยนะ
ไหนลองพูดสิ...

..เป๊ป ซี่ซซซซ~”


คนกวนแหย่เล่นตามนิสัยทิ้งท้ายไว้
ก่อนจะเผ่นหายแน่บกลับไปยังร้านของตัวเองทันที
ทิ้งให้คนคับแค้นใจอ้าปากพะงาบ ๆ เพราะด่าตามไม่ทัน


...โว้ยยย!! วันนี้มันเป็นวันบ้าบออะไรกันวะ
ถูกลากตัวไปนู้นนี้แต่เช้า
แล้วพอตอนเย็นก็ต้องมาแต่งชุดโคตรน่าอายยืนขายขนมอีก
แถมยังโดนแกล้งรื้อฟื้นเรื่องเก่าไม่เลิก

ชีวิตของไอ้สาลี่มันช่างน่ารันทดจริง ๆ
เวรกรรมอะไรของกูกันหนอ
ที่เสือกหน้ามืดตามัวไปหลงเชื่อคนอย่างมัน
ไอ้กลยุทธ์แบบนี้มันจะไปได้ผลได้ยังไง
มีแต่ทำให้กูขายขี้หน้าเอาเปล่า ๆ
เดินกลับไปเปลี่ยนเสื้อตอนนี้เลยจะทันมั้ยวะ
ยังไงซะมันก็คงไม่ช่วยอะไรอยู่แล้ว


...แม่งพอกันที...!!



“แต่งชุดไทยขายขนมไทยไอเดียดีจังเลยนะคะ”

เสียงใสเอ่ยทักทำให้คนที่กำลังจะเตรียมเดินออกจากแผงต้องเบรกเท้ากึก
หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับหญิงสาวผมยาวแต่งตัวคล้ายพนักงานออฟฟิศ
ซึ่งยืนจับจ้องขนมที่วางขายสลับกับมองเขาอย่างสนใจ


“อุ๊ย ขนมสวย ๆ เยอะแยะไปหมดเลย
ว้า...เลือกไม่ถูก
คุณคนขายช่วยแนะนำหน่อยได้มั้ยคะ”


“ดะ...ได้ครับ”


สาลี่รีบสวมวิญญาณพ่อค้าทันที
แนะนำขนมสองสามอย่างที่ขึ้นชื่อ
ซึ่งคนซื้อก็เต็มใจรับแถมยังเลือกขนมปังสังขยาไปอีกสองแพ็ค
ก่อนจะยื่นเงินส่งให้พร้อมกับเอ่ยถามเสียงหวาน


“ปิดเทอมมาช่วยขายขนมเหรอคะ”


“เปล่าครับ ผมเรียนจบมาได้ปีกว่าแล้วครับ”


“ว๊ายย จริงเหรอคะ คุณหน้าเด็กมากเลย
นึกว่าเรียนอยู่ชั้นมอปลายไม่ก็เพิ่งเข้ามหาลัยซะอีก”


เสียงร้องอย่างตกใจทำให้คนโดนชมยิ้มเขินเกาต้นคอแก้เก้อ
แต่ยังไม่ทันจะพูดถ่อมตัว เสียงจากกลุ่มคนที่เข้ามาใกล้แผงก็ดังขึ้น


“ซื้อขนมหน่อยค่า!!”


เด็กมัธยมปลายผมสั้นในชุดนักเรียนโรงเรียนรัฐชื่อดังห้าหกคนเดินเข้ามารุมใกล้แผง
ทำให้เขาต้องหันไปขอบคุณลูกค้าคนเก่า
ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวเลือกขนมกันชุลมุน
บางอันที่ไม่รู้จักก็ร้องถามคนขาย
ซึ่งสาลี่ก็อธิบายด้วยความเต็มใจแถมยังนึกดีใจเสียด้วยซ้ำ
ที่มีเด็กรุ่นใหม่หันมาให้ความสำคัญกับขนมไทย ๆ แบบนี้
จนกระทั้งมาถึงคำถามที่ทำให้เขาชะงัก


“พี่คนขายชื่ออะไรคะ”


สาวน้อยใส่เหล็กดัดฟันท่าทางแก่นเซี้ยวหนึ่งในกลุ่มเป็นคนพูด
แต่ดวงตาใส่แป๊วอีกสิบคู่กลับจ้องมองมาที่เขาเหมือนรอคอยคำตอบ


“พี่ชื่อ สาลี่ ครับ”


“กรี๊ดดดด!! ชื่อน่ารักจังเลย
แล้วพี่มีแฟนหรืออ่ะยังคะ”


คำถามที่สองพุ่งมาติด ๆ
เมื่อกี๊ถามเรื่องขนมอยู่ดี ๆ ไหงกลายเป็นเรื่องของเขาไปได้ล่ะเนี่ย

แต่ในเมื่อเป็นความต้องการของลูกค้าที่อยากรู้
เขาก็ไม่อาจปฏิเสธ จึงตอบออกไปตามความจริง


“เออ...ยังไม่มีครับ”


“ว๊ายยยยย ยังไม่มีแฟน!!
งั้นขอเบอร์พี่ได้อ่ะป่ะ”



เฮ้ย...! เอางี้เลยหรอน้อง


สาลี่หน้าเหวอพยายามตอบเลี่ยงด้วยกลัวข้อหาพรากผู้เยาว์


“เออ...จะดีเหรอครับ”


แต่กลุ่มเด็กหน้าใสวัยมัธยมกลับส่งเสียงสนับสนุนกันเซ่งแซ่


“ดีสิค่ะ พี่น่ารักจะตาย
รู้จักกันไว้เป็นพี่น้องกันก่อนก็ได้ค่ะ
หนูยังไม่รีบ แต่ถ้าพี่รีบก็โอเคนะ อิอิ”


คนโดนรบเร้ายิ้มแห้ง ๆ

...เอาไงดีวะ เกิดมาก็เพิ่งจะมีคนมาเคยขอเบอร์เนี่ยแหละ
แต่ถ้ารู้จักกันเป็นพี่น้องไปก่อนก็ไม่เป็นไร
อีกอย่างน้อง ๆ เขาก็เป็นลูกค้าด้วย

ลงท้ายเจ้าตัวจึงบอกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองไป
พร้อมกับเร่งหยิบขนมที่น้อง ๆ เลือกไว้ใส่ถุง
ทว่ายังไม่ทันจะรับเงิน
ลูกค้าหน้าใหม่ที่เป็นน้องนักศึกษากลุ่มใหญ่ก็แวะเวียนเข้ามาเพิ่ม
ทำเอาตอนนี้มีจำนวนคนมากมายมามะรุมมะตุ้มร้านหวานละไมเหมือนแจกฟรี
จนคนขายต้องเร่งมือกันพัลวัน
ทั้งแนะนำขนม ทั้งรับทอนตังค์
แถมยังมีคนมาขอถ่ายรูปเขาอีกต่างหาก



“พี่สาลี่ ยิ้มหน่อยค่า”

“ซื้อขนมแถมคนขายด้วยมั้ยคะเนี่ย?”

“ว๊ายยย!! อย่าเบียดฉันสิแก! เดี๋ยวรูปเบลอหมด”

“น้องจ๊ะ... เอาขนมปังสังขยาเพิ่มอีกถุงด้วยนะ”

“มีพินมั้ยคะ? ...สนใจแลกกันมั้ย”
 
“พี่สาลี่ มองกล้องหน่อย ขออีกรูปนะค่า”




เฮ้ยยย... ใจเย็นคร้าบบบ!!


...ทำไมมันถึงได้วุ่นวายแบบนี้
แค่เขาแต่งชุดไทยมาขายขนมแค่เนี่ยนะ
ไม่อยากจะเชื่อว่าจะทำให้ขายดีจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ถึงขนาดนี้
นี่ตกลง เขาควรจะดีใจหรือเสียใจวะ



แต่ตอนนี้.....



...ใครก็ได้ช่วยกูทีเถอะ!!!




------------------------------------------------------------------------------------------------------------




“แล้วจะโทรไปหานะคะ”


“ครับ ขอบคุณที่อุดหนุนครับ”



สาลี่ยิ้มส่งลูกค้าคนสุดท้าย
ก่อนถอนหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อย
ขนมปังสังขยาสี่สิบแพ็คขายหมดเกลี้ยง
และไม่ใช่แค่ขนมปังสังขยาเท่านั้น แต่ขนมอื่น ๆ ก็พลอยขายดีไปด้วย
เรียกว่าทำยอดขายทะลุเป้าจนไม่เหลือห่อขนมใด ๆ ใส่กล่องกลับบ้านเหมือนอย่างเคย


...ไอ้ดีใจก็ดีใจอยู่หรอก
แต่เหนื่อยสายตัวแทบขาด
ไหนยังจะต้องมาแบกโต๊ะกลับไปฝากร้านก๋วยจั๊บอีก
แล้วใส่ชุดราชปะแตนเต็มยศแบบนี้มันจะสะดวกแบกไปที่ไหน
ดีไม่ดีเดี๋ยวทำเสื้อสีขาวเปื้อนอีก


โอยยย....ทำไมมันถึงได้ยุ่งยากนักวะ!!



สาลี่หน้ามุ่ยขยับพับโต๊ะที่กางไว้เตรียมยกเดินไปเก็บ
ทว่ากลับมีมือจากด้านหลังเข้ามาแย่ง
ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหนุ่มมาดเซอร์แผงตรงข้ามที่ขยับปากบอกสั้น ๆ


“ฝากเฝ้าของผมไว้ทีนะ”


จบคำ เจ้าตัวก็เดินแบกโต๊ะหายไปทางฝั่งร้านก๋วยจั๊บ
ทิ้งข้าวของไว้ให้หนุ่มในชุดไทยช่วยดูแทน


...อะไรวะ ไม่ได้ขอให้ช่วยสักหน่อย
เออแต่ก็ดีเหมือนกัน...
ไอ้ลูกแม่เดือนจะได้หัดมีน้ำใจกับเขาบ้าง
ไม่ใช่คอยเอาแต่แกล้งแหย่อย่างเดียว


สาลี่จึงได้แต่ยืนรอคนที่ช่วยยกของไปเก็บให้
แล้วก็พากันเดินกลับไปยังรถโฟล์เต่า
โดยมีนักรบคอยเหลือบตามองคนใกล้ตัวไม่ห่าง



...วันนี้ร้านบ้านขนมเดือนใจของเขาขายได้ไม่ค่อยดี
ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าลูกค้าคงให้ความสนใจกับร้านหวานละไมมากกว่า
เล่นแต่งชุดไทยแบบนี้จะไม่เด่นก็คงแปลกเกินไปหน่อย
แต่ลึก ๆ เขาไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงหงุดหงิดนัก


...เพราะน้ำหนักของขนมที่เหลือไว้เยอะกว่าทุกวัน


....หรือเพราะเมื่อกี๊เขาได้ยินเสียงผู้หญิงขอเบอร์จากใครบางคน



ความคิดสะดุดลงเมื่อถึงที่จอดรถ นักรบไขกุญแจ
ก่อนหันไปวุ่นวายกับการเก็บข้าวของไว้ที่กระโปรงหน้ารถ
แต่พอกลับเข้ามานั่งอีกที
เขาต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ
เมื่อเห็นว่าคนที่รออยู่กำลังปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก


“เฮ้ย! จะทำอะไรน่ะ”


“ก็ถอดเสื้อไง ตาบอดเหรอ
ไอ้ชุดนี่มันร้อนโคตร ๆ เลยวะ
คนสมัยก่อนมันใส่เข้าไปได้ยังไง
เหงื่อออกเหนียวตัวไปหมดแล้ว”


พูดจบก็ตั้งหน้าตั้งตาถอดต่อ
โดยไม่สนดวงตาคมที่มองตาค้าง


...เสื้อไปแล้ว

...โจงกระเบนไปแล้ว

...ถุงเท้ารองเท้าไม่เหลือ


ตอนนี้ร่างตรงหน้ามีแค่บ๊อกเซอร์สีดำตัวหลวม
กับเสื้อกล้ามสีขาวที่ลู่แนบเนื้อเพราะความชื้นของเหงื่อ
ผิวนวล ๆ สะท้อนแสงไฟจากโคมถนน
ทำให้ดวงตาคมแทบไม่อาจละออกมาจากภาพตรงหน้าได้


“เอ้า มองไรคุณ ไม่สตาร์ทรถล่ะ”


คนถูกทักสะดุ้ง ดึงสติกลับทันที
รีบหมุนกุญแจสตาร์ทรถ
พยายามตั้งสมาธิจดจ่ออยู่กับการขับ
โดยไม่สนคนยั่วตาที่เอาแต่จ่อแอร์เข้ากับใบหน้า


“เฮ้อ...ค่อยหายเหนื่อยหน่อย”


“เหนื่อยขายขนมหรือว่าเหนื่อยแจกเบอร์กันแน่ล่ะ”


ถามออกไปด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริงเหมือนอย่างเคย
แต่แปลกที่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกหน่วง ๆ ข้างในใจลึก ๆ
ทว่าคนฟังก็ยังคงส่งเสียงตอบรับเรื่อย ๆ


“ก็ทั้งคู่นั้นแหละ
ทำไม อิจฉาอ่ะดิ
ทุกทีมีแต่สาว ๆ ไปรุมร้านคุณ
แต่คราวนี้เป็นทีของร้านผมบ้าง
หัวเราะที่หลังยังไงก็ดังกว่าเว้ย  ฮ่าๆๆๆ”


ดูสิ... ไอ้ลูกแม่พลอย
พอหายเหนื่อยก็เริ่มอารมณ์ดีจนลืมไปแล้วว่าเจ้าของไอเดียนั่งทนโท่อยู่ข้าง ๆ
เห็นอย่างนี้ก็อดแกล้งอีกรอบไม่ได้


“ดีแล้ว รถผมจะได้ปลอดภัยจากอ้วกคุณซะที”


คนถูกล้อหันขวับ รีบขึ้นเสียงเถียงอย่างไม่ยอมแพ้


“น้อย ๆ หน่อย โห ตอกย้ำกันอยู่ได้
อ่ะ งั้นผมจะเลี้ยงคุณตอบแทนล่ะกัน
จะได้ไม่ต้องมาทวงบุญคุณกันอีก”
 

“หืม... อย่างคุณน่ะเหรอจะเลี้ยง”


“เออ ไม่ได้งกนะเว้ย!
วันนี้ขายดีได้กำไรมาเพียบ
อยากกินอะไรล่ะ บอกมาดิ”


“อะไรก็ได้ ผมกินได้ทั้งนั้น”


คนฟังทำท่าครุ่นคิดไปหลายวิ
ก่อนจะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อเหลือบเห็นป้ายร้านสีเขียวข้างทาง
หัวสมองสั่งให้ปากร้องบอกทันควัน


“งั้นซาลาเปาเซเว่นล่ะกัน”


คำตอบที่ได้ยินเล่นเอาคนขับแทบจะหน้าทิ่มไปกับพวงมาลัย


“ห่ะ? เนี่ยนะแล้วบอกว่าไม่งก”


แต่คนถูกประท้วงกลับทำแค่เพียงยักไหล่


“เอ้า ก็คุณบอกเองว่าอะไรก็ได้นี่หว่า
อีกอย่างซาลาเปาเซเว่นลูกตั้งสิบห้าบาท
ถูกซะทีไหนกัน
เลือกเองแล้วจะมาว่าผมไม่ได้นะ
สมน้ำหน้า ฮ่าๆๆๆๆ”


นักรบชำเลืองมองคนที่หัวเราะอย่างสะใจที่ได้แก้แค้นคืน
แม้ตัวเองจะเป็นฝ่ายโดนแกล้ง
แต่ไม่รู้ทำไม เขาถึงดีใจที่ได้ยินเสียงหัวเราะออกมาแบบนั้น


...ลูกแม่พลอยจะรู้มั้ยว่าเสียงหัวเราะกับรอยยิ้มของมันสดใสมากแค่ไหน
เห็นแล้วก็อยากจะยิ้มตามไปด้วย


...และไม่ใช่แค่อยากจะยิ้ม
แต่เขาต้องการแม้กระทั้งหยุดเวลาตรงนี้ไว้



...เพื่อที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คนคนนี้ตลอดไป



กระนั้นแม้จะภาวนาในใจให้ถนนมันยืดยาวออกไปสักเพียงไร
แต่ท้ายที่สุดรถโฟล์กเต่าก็มาหยุดจอดรถตรงหน้าร้านของทั้งสอง
สาลี่รีบเปลี่ยนกลับมาใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น
ด้วยกลัวว่าแม่พลอยเห็นแล้วอาจรับไม่ได้กับสภาพลูกตัวเอง
ต่างคนต่างขนของของกลับเข้าบ้าน


นักรบพยายามไขกุญแจอย่างเบามือ
เพราะเดาว่าแม่คงอาจจะเข้านอนแล้ว
ทว่ายังไม่ทันจะผลักประตูร้านเข้าไป
เสียงเรียกจากใครคนหนึ่งด้านหลังก็ทำให้เขาชะงัก




“รบ”




ชื่อ...

...นั่นชื่อเขาไม่ใช่เหรอ
ปกติเรียกแต่คุณ.. คุณ..
แล้วทำไมอยู่ ๆ ลูกแม่พลอยถึงได้...


ร่างสูงรีบหันกลับไปมอง
และก็ต้องนิ่งอึ้งจนแทบหยุดหายใจ

เมื่อเห็นรอยยิ้มจากใครบางคนที่ส่งมาให้



...และเป็นรอยยิ้มทั้งปากและตาที่สวยที่สุดที่เขาเคยพบ




“ขอบใจนะ”




เจ้าของรอยยิ้มพูดเพียงแค่นั้น
ก่อนเดินลิ่วเข้าบ้านปิดประตูไป

โดยไม่รู้เลยว่า...
แค่คำคำเดียว...
จะส่งผลต่อใจคนฟังได้มากถึงขนาดไหน



นักรบเดินเหม่อลอยเก็บข้าวของอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเหมือนคนไม่รู้ตัว
ก่อนจะกลับมาล้มตัวลงนอนนิ่งจ้องมองเพดาน
ฟังเสียงนาฬิกาข้างผนัง
พยายามข่มใจตัวเองอย่างสุดความสามารถ
พลิกตัวไปมากระสับกระส่าย


สุดท้าย... เขาก็ผุดลุกขึ้นดึงเก๊ะข้างหัวเตียงเปิดออก
หยิบรูปของใครบางคนออกมา
รูปปึกใหญ่ไม่รู้กี่ใบต่อกี่ใบ
ที่เก็บสีหน้าทุกอากัปกริยาของคนที่ถูกแอบถ่ายทีเผลอไว้



....ลูกแม่พลอย


คุณรู้มั้ยว่า...คุณจะทำให้ผมเป็นบ้า

คุณรู้มั้ยว่า...ผมไม่ได้ถ่ายรูปเพราะอยากแกล้งคุณ แต่เพราะอยากจะเก็บเอาไว้ดูเอง

คุณรู้มั้ยว่า...ผมหลับไม่ลงถ้าไม่ได้นอนมองรูปของคุณ

คุณรู้มั้ยว่า...ทุกคืนผมยิ้มกับรูปพวกนี้จนเมื่อยปากขนาดไหน



...แล้วลูกแม่พลอย คุณรู้มั้ยว่าไอ้อาการที่ผมเป็นอยู่มันเรียกว่าอะไร



ใช่ที่เขาเรียกกันว่า ‘ตกหลุมรัก’ รึเปล่า..?



ถ้าใช่...


คุณรู้ไว้เถอะว่า...



ตอนนี้ ลูกแม่เดือนกำลัง ‘ตกหลุมรัก’ ลูกแม่พลอยเข้าไปเต็มเปาซะแล้ว




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 03-07-2012 20:42:44
ลูกแม่พลอยไม่รู้ตัวหรอก
ลูกแม่เดือนบุกให้หนัก ๆ จัง ๆ หน้าไปเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 03-07-2012 20:48:16
ตกหลุมรัก ตกหลุมรัก ตกหลุมรัก .......... :mc4:


ลุ้นๆ รอตอนต่อไปนะครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 03-07-2012 20:48:39
 :m4:รักกัน รักกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 03-07-2012 20:51:45
แล้วเมื่อไหร่ลูกแม่เดือนจะบอกลูกแม่พลอยล่ะค่ะ

รวบหัวรวบหางไปเล้ยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >;>; P.21
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-07-2012 21:39:25
ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหวเธอใช่ไหมเป็นคนผลักฉัน  วันนี้ตกหลุมรักต่อไปสารภาพรักนะคุณลูกแม่เดือน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 03-07-2012 21:43:37
แอร๊ยยยยยยยยยยย นักรบอ่านแล้วเขินเลยอ่ะ สุดท้ายก็ตกหลุมของสาลี่ไปแบบไม่รู้ตัวเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-07-2012 21:44:15
ช่วงนี้สาลี่กำลังขายดี ขืนชักช้าเดี๋ยวอดไม่รู้ด้วยนะนักรบ   :m12:



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 03-07-2012 22:07:49
รุกหนักๆให้ลูกแม่พลอยระทวยไปเลยนะคุณลูกแม่เดือน

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 03-07-2012 22:15:26
เมายิ้ม  เมารัก เมาความน่ารักของเธอ

ฮิ้ววววววว(http://www.smileycodes.info/emo/bobototo/91.gif)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 03-07-2012 22:40:32
ก็น้องสาลี่น่ารักขนาดนี้...พี่รบก็ต้องตกหลุมรักอยู่แล้ววว : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 03-07-2012 22:54:46
อ่านตอนนี้แล้วฟินมากมาย
ลูกแม่เดือนจะทำยังไงให้ลูกแม่พลอยรู้ตัวนะว่ากำลังโดนจีบอยู่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 03-07-2012 23:40:09
ลูกแม่เดือน... คุณจะรู้มั้ยว่า ...คุณทำฉันเขินขนาดไหน !!!
ใช่เลยค่า! อาการแบบนี้แหละ 'ตกหลุมรัก' น้องสาลี่เข้าแล้ววว
นี่ถึงกับนอนดูรูปทุกคืนเลยหรอ........... > //// <

“เหนื่อยขายขนมหรือว่าเหนื่อยแจกเบอร์กันแน่ล่ะ” หึงเขาอ่ะดิ๊ กิ้วๆ xD
ตัวเองเป็นคนคิดเองแท้ๆ ! 5555555555

ลูกแม่พลอยก็เสน่ห์แรงจริงๆ!
เสียใจแทนสาวๆด้วยนะ น้องสาลี่เขาเป็น(ว่าที่)ภรรยาพี่รบย่ะ! 55555

น้องสาตอนสุดท้ายน่ารักมากกกกก !!!
ใจเต้นตามรบเลยอ่ะ! > <
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 04-07-2012 01:16:08
น่ารัก ตกหลุมรัก ยากจะขึ้น นะเนี่ย อิอิ

อ่านแล้วหิว อยากกิน ขนมไทย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-07-2012 01:29:32
อาการของคนตกหลุมรัก อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-07-2012 07:23:26
 :L1:ได้ใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 04-07-2012 08:04:06

น้องสาเรียกคุณลูกแม่เดือนว่า "รบ" แล้วแถมยังยิ้มหวานให้ด้วย ความรู้สึกดีๆกำลังเกิดขึ้นสินะ :m1: :m1: :m1:
อ๊า...... นักรบจ๊ะ ถึงขั้นต้องดูรูปน้องสาก่อนนอนทุกคืนเลยหรอ..?? อาการหนักแล้วนะเนี่ย คึคึ :kikkik: :kikkik: :kikkik:

+1จ้า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 04-07-2012 08:47:37
ตกหลุมรัก ตกหลุมลึกซะด้วย เพราะคำว่า "รบ" คำเดียว  :-[

มีแอบอมยิ้มกับรูปน้องสาที่ตัวเองถ่าย น่ารักดีอ่ะ

กด + และ + เป็ด ให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-07-2012 11:54:37
เอาน่ารบ คนอื่นได้แค่เบอร์ แต่รบได้เจอทุกวัน ได้คุยแบบเห็น  แถมยังได้กินซาลาเปาที่สาเลี้ยง จะกลัวไปทำไม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 13] 03/07/55 >> P.21
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-07-2012 12:19:38
ลูกแม่พลอย
ยังไม่ได้ขุดหลุมเลย
ลูกแม่เดือนตกหลุมซะแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 05-07-2012 15:51:07
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 14


แม้จะเป็นวันที่สอง....
และแม้จะขอให้คนขับช่วยจอดรถโฟล์กเต่าให้ใกล้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วก็ตาม
แต่การที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาเพราะชุดราชปะแตนเต็มยศ
ก็ไม่ทำให้ความอายของสาลี่ลดลงแม้แต่น้อย


...มันก็แน่อยู่แล้วนี่หว่า
เขาไม่ได้หน้าหนาสักหน่อย
ถึงมันจะช่วยทำให้ขนมขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
แต่ยังไงก็อดที่จะรู้สึกเกร็ง ๆ ไม่ได้อยู่ดี

เขายอมรับว่าแผนกลยุทธ์โปรโมทร้านแบบนี้ได้ผลมากกว่าที่คาดไว้
และไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดจากไอเดียของใครบางคน
ทั้ง ๆ ที่เขาเห็นมันเป็นคู่แข่งแท้ ๆ
แต่กลับยอมมาช่วยเหลือกันแบบนี้


....ลูกแม่เดือน มันคิดอะไรของมันอยู่กันแน่นะ?



หนุ่มเจ้าของร้านขนมไทยเหม่อมองร้านฝั่งตรงข้าม
ก่อนเสียงเรียกทักจะทำให้ความความคิดสะดุดลง


“น้องจำพี่ได้รึเปล่าจ๊ะ”


เขาเงยหน้ามองคนถาม แล้วก็ต้องร้องอ๋อขึ้นมาในใจ
พี่พนักงานออฟฟิศผมยาวลูกค้ารายแรกที่ทักเขาว่าเรียนอยู่มอปลายนี่เอง


“จำได้สิครับ แล้ววันนี้จะรับขนมอะไรดีครับ”


สาลี่ยิ้มอย่างยินดีที่ลูกค้าเจ้าเดิมกลับมาอุดหนุน
และยิ่งทวีความตื้นเต้นมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดประโยคต่อมา


“เมื่อวานพี่ซื้อขนมปังสังขยาของน้องไป
ที่บ้านชมกันใหญ่ว่าอร่อยมากเลย
พี่เลยกะว่าจะมาขอเหมาเอาไปแจกที่ทำงานด้วย
สักสิบห้าถุง พอจะมีบ้างมั้ยจ๊ะ”


“มีครับมี ขอบคุณมากเลยครับ”


ดวงตากลมวาบวับเป็นประกาย
ละล่ำละลักร้องบอกอย่างดีใจเป็นล้นพ้น
ในที่สุดความพยายามที่จะสร้างเมนูใหม่ก็ไม่สูญเปล่า
แถมยังมีคนชอบถึงขนาดเหมาหมดด้วย


...โอยยย แบบนี้ไม่ให้ไอ้สาลี่ปลื้มได้ยังไงคร้าบบ!!



เขาหันรีบหยิบถุงใบใหญ่ใส่ขนมปังสังขยาที่แพ็คเอาไว้
หูก็ยังคงได้ยินคำชมที่เอ่ยมาไม่ขาดปาก


“ขนมปังของน้องอร่อยมากนุ่มหอมไม่เหมือนที่ไหนเลย ซื้อหรือว่าทำเองจ๊ะ”


“อ๋อ ผมทำเองครับ”


“ต๊ายย จริงเหรอ ทำเก่งขนาดนี้น่าจะเปิดร้านเบเกอรี่ขายด้วยเลยนะเนี่ย”


ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอามือที่หยิบขนมชะงัก



...เก่งเหรอ?


...เปล่าเขาไม่ได้เก่งอะไรเลย
เพราะสูตรขนมปังที่ได้มาเขาไม่ได้เป็นคนคิดขึ้นเอง
วิธีทำต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ก็ทำไม่เป็นเลยสักนิด
ที่เขาสามารถอบขนมได้ดีแบบที่ตัวเองต้องการ


...มันก็เพราะใครบางคนที่คอยแนะนำเขาอยู่ข้าง ๆ ตลอดต่างหาก



สาลี่เผลอมองร้านฝั่งตรงข้ามที่ลูกค้าดูจะบางตากว่าปกติทุกวัน
ก่อนจะตัดสินใจหันมาตอบหญิงสาวซึ่งยืนรออยู่


“ไม่หรอกครับ ถ้าพี่อยากทานเบเกอรี่อร่อย ๆ
ผมแนะนำร้านบ้านขนมเดือนใจตรงข้ามร้านผมนี่เลยครับ
ขนมปังเขาอร่อยมาก แล้วพวกเค้กโฮมเมดก็ทำเองใหม่ ๆ ทุกวันด้วย”


“แหนะ สงสัยเป็นเพื่อนกันล่ะสิ ถึงเชียร์ร้านนี้น่ะ
แต่ถ้าน้องว่าอร่อย เดี๋ยวพี่จะลองซื้อชิมดูนะ”


คนฟังมองตามไปยังร้านอีกฝั่งพลางเอ่ยแซว
ซึ่งสาลี่ก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ตอบกลับ
แต่เมื่อรับถุงขนมแล้วเจ้าตัวก็เดินลิ่วไปหยุดอยู่ที่ร้านฝั่งตรงข้ามทันที
เห็นชี้ ๆ เลือกขนมกลับไปอยู่หลายชิ้น
ทำให้คนสังเกตดูอยู่เงียบ ๆ อดไม่ได้ที่จะโล่งใจเมื่อคำแนะนำได้ผล


อ้าว...แล้วไหงเขาถึงได้พลอยดีใจที่เห็นร้านคู่แข่งของตัวเองขายได้ขึ้นมาล่ะ
มันต้องหงุดหงิดไม่ใช่เหรอ
ทั้ง ๆ ที่เคยประกาศชัดเจนแล้วว่าจะตั้งใจทำยอดขายถล่มร้านบ้านขนมเดือนใจให้ได้
แล้วทำไมถึงไปแนะนำลูกค้าเขาแบบนั้น


...บ้าไปแล้วรึเปล่าวะ?


แม่งเอ้ยยย ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ เว้ยยย!!




“นี่ไง ร้านหวานละไมขนมไทยแม่พลอยที่ลงในโฆษณา”


เสียงของลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ทยอยเข้ามา
ทำให้สาลี่รีบดึงสติอันสับสนของตัวเองเข้าร่างโดยด่วน
เขาหันไปยิ้มต้อนรับลูกค้าสาว ๆ ทั้งรุ่นลูก รุ่นแม่ รุ่นป้า
ที่เหมือนจะยกโขยงมาเป็นครอบครัวใหญ่
ดูจากท่าทางการแต่งตัวสุดชิคบอกชัดเลยว่าเป็นคนเมืองกรุง
ที่แวะมาเที่ยวต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้


“ว๊ายยย!! คนขายแต่งชุดไทยด้วย
ไม่เห็นจะเขียนบอกไว้ในโฆษณาเลย เก๋ดีจัง”


คำในท้ายประโยคสะดุดหูคนขายอย่างแรง
จนเขาต้องเอ่ยถามซ้ำอย่างสงสัย


“เออ โฆษณาที่ว่าคืออะไรเหรอครับ?”


สาวรุ่นแม่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเจ้าของคำทัก
รีบยื่นแผ่นพับมาโบกตรงหน้าของคนถามทันที
พร้อมกับขยับปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดอธิบาย


“ก็นี่ไงจ๊ะ โฆษณาถนนคนเดินที่ลงในใบปลิวการท่องเที่ยว”


สาลี่รับของที่อีกฝ่ายยื่นส่งมาให้
ดวงตากลมพลิกมองด้านหน้าของแผ่นพับ
ที่ดูเหมือนจะเป็นการโปรโมทจังหวัดจัดร่วมกับททท.
ด้านหน้ามีการบอกประวัติที่มาที่ไปของการจัดถนนคนเดินริมน้ำขึ้นมา
ส่วนภายในแนะนำร้านค้าที่น่าสนใจต่าง ๆ เอาไว้

แล้วเขาก็พบร้านของตัวเองอยู่ตรงแผ่นพับหน้ากลาง
โดดเด่นด้วยภาพน้องหงส์ขนมไทยที่ล้อเล่นแสงสวยเหมือนปะติมากรรม
รายล้อมไปด้วยรูปขนมไทยอื่น ๆ ซึ่งถ่ายซูมจนดูน่าทาน
มิหนำซ้ำยังมีรายละเอียดของร้านค้าแทรกกรอบเล็ก ๆ
ทั้งการวางเลย์เอาท์และการใช้สีสันลงตัวพอเหมาะ


...นี่ไม่ใช่แค่ใบปลิวโฆษณาแล้ว
แต่เหมือนสูจิบัตรงานศิลป์ดี ๆ สักชิ้นมากกว่า

และคนที่มีหัวครีเอทมีฝีมือถ่ายรูป
ทั้งยังนำภาพมาเข้าคู่จัดวางได้ขนาดนี้
ก็คงมีแค่คนเพียงคนเดียว


...ลูกแม่เดือน มันจะทำให้เขานึกทึ่งในไปถึงไหนกันนะ
มาช่วยกันมากขนาดนี้
เขาควรเลิกตั้งแง่กับมันสักทีดีรึเปล่า

ที่ผ่านมามันเคยพยายามขัดแข้งขัดขาไม่ให้ร้านหวานละไมขายได้มั้ย?


ก็เปล่านี่...


มีแต่เขาที่คิดไปเองว่ามันเป็นคู่แข่ง


และถ้าต่อจากนี้....
เขาสองคนคอยช่วยเหลือพัฒนาร้านด้วยกัน
คอยช่วยแก้ปัญหา มีอะไรก็ปรึกษากันและกัน
มันจะดีสักแค่ไหนกันนะ


...มันจะดีสักแค่ไหน


หากวันนี้ ‘ลูกแม่พลอย’ กับ ‘ลูกแม่เดือน’
จะเปลี่ยนมาเป็นคนที่ต่างฝ่ายต่างเรียกกันว่า



‘เพื่อน’



คำถามที่ตั้งไว้ในใจหยุดลงเมื่อกลุ่มลูกค้าเริ่มเลือกชี้ขนมให้คนขายหยิบใส่ถุง
สาลี่หันกลับไปให้ความสนใจกับการขายตามเดิม


โดยไม่รู้ตัวเลยว่าหลังจากนั้น...
สายตาของตนก็มักจะเหลือบมองไปยังร้านฝั่งตรงข้าม
ที่มีเจ้าของเป็นหนุ่มติสต์มาดเซอร์อยู่ตลอดทั้งคืน



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ห้าทุ่มครึ่ง บนรถโฟล์กเต่า


นักรบพยายามบังคับตัวเองให้เพ่งความสนใจไปที่ถนน
โดยไม่สนร่างซึ่งนั่งอยู่บนเบาะข้าง ๆ
ที่กำลังพยายามถอดโจงกระเบนออกจากขาทั้งสองข้าง
จนเหลือแค่บ็อกเซอร์ลายตารางยาวปิดต้นขามาได้แค่คืบหนึ่งเท่านั้น
ขนาดวันนี้ขนพัดลมตัวเล็กมาช่วยเป่าคลายความร้อนจากการใส่ชุดไทยแท้ ๆ
แต่สภาพอากาศเมืองไทยก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าอบอ้าวมากแค่ไหน
จึงทำให้ทันทีที่ขึ้นรถ คนที่เหงื่อแตกพลั่กต้องรีบถอดเสื้อผ้าหันไปเร่งแอร์เพิ่มทันที


“เฮ้อ...ร้อน ๆๆๆๆ”



...ไอ้ร้อนก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าร้อน
แต่เล่นถอดซะจนเหลือแค่เสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์แค่นี้
ลูกแม่พลอยมันจงใจยั่วกันชัด ๆ

...น่าแปลกที่ร่างกายผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ
แถมไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งให้ดูน่าเย้ายวนตรงไหน
แต่ทำไมเขากลับรู้สึกตื้นเต้นแปลก ๆ


...อยากจะแตะต้องเนื้อนวล ๆ เพื่อพิสูจน์ว่ามันจะนุ่มขนาดไหน

...อยากจะลิ้มชิมกลีบปากสีชมพูจาง ๆ ว่าจะหวานละมุนลิ้นคล้ายกับสังขยาที่กินในคราวนั้นมั้ย

...อยากจะตระกองกอดคนตรงหน้านี้ไว้

...อยากให้รอยยิ้มและหัวใจเป็นของเขาคนเดียว


มันจะเป็นไปได้มั้ย...?

ลูกแม่พลอยพอจะให้โอกาสกันบ้างรึเปล่า...?



“เห็นโฆษณาที่คุณถ่ายในแผ่นพับแล้วนะ”


สติที่หลุดลอยไปไกลของนักรบ
ถูกขัดจังหวะลงด้วยเสียงพูดของคนข้างตัว
เขาพยายามทวนสิ่งที่ตัวเองได้ยินผ่านหู


โฆษณา... แผ่นพับ...

อ๋อ...แผ่นพับโปรโมทถนนคนเดินที่คณะกรรมการจัดงานช่วยขอให้เขาทำน่ะหรอ
ความจริงมันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรขนาดนั้นหรอก
เพราะเขาทำเลียนแบบสูจิบัตรงานศิลปะของตัวเองในโปรเจคจบมหาลัย
อีกอย่างเขาก็ชอบใช้โปรแกรมแต่งภาพจนคล่องมือแล้วด้วย
มันก็เลยเป็นงานที่เสร็จออกมาได้แปลกและน่าสนใจ
จากความคิดที่นอกกรอบไม่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆ ในแบบของเขา


“แล้วชอบมั้ยล่ะ”


นักรบย้อนถามกลับ
เกริ่นออกมาแบบนี้
ถ้าให้เดาคงต้องมีถูกใจกันอยู่บ้าง


“อือ ก็สวยดี”


คำตอบสั้น ๆ จากอีกฝ่ายทำให้เขาขยับยิ้มขึ้นมา
กำลังคิดหาคำแหย่กลับ ทว่ายังไม่ทันได้พูด
เสียงของสาลี่ก็ร้องขัดขึ้นมายาวเหยียด


“พอเห็นคุณถ่ายรูปสวยแบบนี้
ผมก็เลยคิดว่าอยากให้คุณช่วยถ่ายรูปขนมของผมหลาย ๆ แบบ
แล้วเปิดเว็บเพจไว้เรียกลูกค้าจากต่างจังหวัด
ถึงเขาจะรู้จักร้านเราจากถนนคนเดิน
แต่ร้านใหญ่จริง ๆ ของเราคนยังไม่รู้จักเท่าไร
ถ้าเปิดเว็บร่วมกันทั้งขนมไทย ทั้งเบเกอรี่
บางทีอาจจะช่วยดึงพวกลูกค้าที่มาเที่ยว
ให้เขาอยากซื้อกลับไปเป็นของฝากก็ได้
ไหน ๆ ร้านเราก็เปิดติดกันอยู่แล้ว หรือคุณว่าไง”



หืม...ลูกแม่พลอยคิดได้ขนาดนี้เลยหรอ
เขาเองก็เล่นเน็ทบ่อยอยู่เหมือนกัน
แต่ไม่เคยคิดจะใช้โลกโซเชียลให้เป็นประโยชน์
อย่างดีก็แค่เล่นเกมคลายเครียดนิดหน่อยเท่านั้น
แล้วยังจะมาบอกให้ช่วยกันทำด้วย
คนรักศักดิ์ศรีไม่ยอมแพ้ใครอย่างลูกแม่พลอย
เลิกมองว่าร้านเขาเป็นคู่แข่งแล้วหรือไง
มาญาติดีร่วมมือกันแบบนี้ไม่อยากจะเชื่อเลย



หรือว่านี่...
จะเป็นโอกาสดี ๆ ที่จะทำให้เขาพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้มากกว่าเดิม


นักรบพยายามข่มความดีใจของตัวเอง
พยักหน้าตอบกลับด้วยท่าทีสงบนิ่ง


“อืม เข้าท่าดี ผมเห็นด้วย”


เจ้าของไอเดียได้ยินคำสนับสนุนก็ยิ้มกว้าง รีบบอกเสียงเริงร่า


“ใช่มั้ยล่ะ งั้นพรุ่งนี้คุณว่างมั้ย ผมจะได้เตรียมทำขนมเอาไว้เลย”


“โอเค ร้านผมมีห้องว่างอยู่ พอใช้เป็นสตูดิโอชั่วคราวได้
พรุ่งนี้ตอนสาย ๆ คุณก็ขนขนมมาร้านผมเลยแล้วกัน”


ความจริงเขาเคยใช้สถานที่ในร้านถ่ายรูปทำโปสการ์ดขายมาก่อน
อุปกรณ์อะไรก็พอหาประยุกต์เองง่าย ๆ
มีโคมไฟ กระดาษแข็งสีขาว
แล้วก็...



“คุณจะคิดค่าจ้างเท่าไร”



...คำถามเพียงคำเดียว
ไม่ใช่แค่ทำให้ความคิดเตรียมการทั้งหมดสะดุด
แต่ยังรวมถึงลมหายใจของคนฟังที่แทบขาดห้วงลงไปด้วย


“ค่าจ้าง?”


ร่างสูงเอ่ยทวนคำขึ้นช้า ๆ
รู้สึกคล้ายกับถูกถ้อยคำนี้ตบหน้า บีบลงไปในใจกลางความรู้สึก
ทั้ง ๆ ที่จะร่วมมือกันทำไมต้องมาคิดถึงเรื่องเงินทองด้วย
ทว่าคู่สนทนากลับเอ่ยเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ


“ก็เดี๋ยวว่าผมงกอีก ถึงจะเป็นเพื่อนกันผมก็ไม่คิดจะเอาเปรียบหรอกนะ”


“เพื่อน?”


นักรบเอ่ยทวนออกมาเป็นครั้งที่สอง
แต่แปลกที่ครั้งนี้
ถ้อยคำไม่ได้โยงถึงความหมายที่ห่างเหิน
แต่เขารู้สึกถึงแรงบีบรัดรุนแรงกว่า คล้ายถูกมีดกรีดลงตรงหัวใจ


“อ่ะ เออ...ก็...
เราเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่เหรอ”


สาลี่เกาต้นคอแก้เก้อ
เหมือนคนยังไม่ชินปากที่จะเอ่ยคำพูดนี้ออกมา
แต่ก็เพราะตกลงใจแล้วว่าจะยอมรับอีกฝ่ายในฐานะเพื่อน
และนึกว่าลูกแม่เดือนก็คงคิดไม่ต่างกัน
ทว่า ทุกสิ่งกลับผิดความคาดหมาย
เมื่อร่างสูงกลับพูดย้อนถามออกมาเสียงเรียบ



“ผมเคยบอกเหรอว่าอยากเป็นเพื่อนคุณ”




...หัวใจหล่นวูบ


...รู้สึกทั้งเสียหน้า และเสียศักดิ์ศรี


เปล่า... มันไม่เคยบอกว่าอยากเป็นเพื่อน
มีแค่เขาที่คิดเองเออเองอยู่คนเดียว
ทั้ง ๆ ที่ยอมลดกำแพงของตัวเองลง
เพื่อให้อีกคนได้เข้ามาอยู่ข้าง ๆ
เพราะคิดว่ามันเข้าใจเขามากที่สุดแท้ ๆ
แต่โดนเหยียบย่ำน้ำใจกันขนาดนี้


...น่าขายหน้าชะมัด



รถโฟล์กเต่าจอดลงสนิทที่ร้านหน้าเหมือนเช่นเคย
สาลี่รีบหยิบเสื้อยืดกางเกงขาสั้นของตัวเองมาสวม
เอี้ยวคว้าข้าวของจากเบาะหลัง
เตรียมตัวจะเปิดประตูลงรถ
แต่ยังไม่ทันจะผละตัวออกห่างเสียงจากคนที่นั่งนิ่งอยู่ ๆ ก็พูดขึ้น


“ถ้าให้ผมเป็นเพื่อนคุณได้ปวดหัวตายชัก
ทั้งขี้โวยวาย ทั้งเอาแต่ใจ แถมยังปากเก่งอีก
แหนะ ๆ ดู...
ไม่ทันไร หน้าบึ้งอีกล่ะ
เพื่อนกันมันก็ต้องพูดได้ทุกเรื่องสิ
ผมพูดไม่กี่เรื่องก็ทำงอน
แล้วอย่างนี้จะมาบอกว่าเป็นเพื่อนกันได้อีกเหรอ”


แค่ฟังน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าโดนแกล้งเข้าให้อีกแล้ว
ใจที่หม่นเศร้าในตอนแรกเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิด
กระแทกประโยคตอกกลับไปอย่างโมโห


“เออ ผมก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนปากหมาอย่างคุณหรอก
คุยด้วยดี ๆ ต้องแหย่เล่นให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อย
โรคจิตรึไงวะ”


ทว่าคนโดนด่ากลับทำลอยหน้าลอยตา


“เพิ่งรู้เหรอ สงสัยจะติดมาจากน้องสาลี่เนี่ยแหละ
เลี้ยงพันธุ์อะไรไว้ในปากเหรอครับ ถึงได้ดุเชียว ฮ่าๆๆๆๆ”


เสียงหัวเราะอย่างสะใจยั่วความโกรธให้พุ่งปรี๊ด
สาลี่กระชากประตูรถปิดดังโครม
ก่อนเดินลิ่วเข้าบ้านไปอย่างไม่สนใจ
ทิ้งให้คนที่ยังก้มหน้าอยู่กับพวงมาลัยหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตายเพียงลำพัง



...หัวเราะ


...หัวเราะจนหมดแรง


...แต่ต่อให้หัวเราะมากแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บปวดทรมานลงไปได้เลย



ลูกแม่พลอยจะรู้มั้ยว่าคำคำนั้นเขาไม่ได้แหย่เล่นเลยสักนิด

แต่เขาพูดมันออกมาจากความรู้สึกลึก ๆ ข้างในใจ


ความรู้สึกที่มันฟ้องอยู่ชัดเจนว่า...



...เขาไม่อยากเป็น 'แค่เพื่อน' กับลูกแม่พลอยจริง ๆ




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




เปลี่ยนรสขมสลับกันบ้างกลัวคนอ่านจะเป็นเบาหวานกันหมดเสียก่อน   
ฝากเพลงของบร๊ะเจ้าโจ๊ก แทนความรู้สึกในใจที่เข้าก๊านนเข้ากันกับของพ่อนักรบ  :-[

เหตุผลที่ไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ



http://www.youtube.com/v/o-1EQKv_Sq4?



แล้วพบกันใหม่กับชิ้นหน้าค่ะ
เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก หนึ่งวันสามฤดู
ยังไงก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ


รัก

 :กอด1:


BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-07-2012 16:04:20
พ่อนักรบก็รีบรุก
สักทีสิจ๊ะจะได้เปลี่ยน
สถานะจากเพื่อนเป็น
คนรู้ใจ :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 05-07-2012 16:34:32
ขมน้อยๆเบาๆพอนะคะ  สงสารนักรบจัง

รบต้องใจกล้าบอกแบบแมนๆไปเลยว่าชอบสาลี่

ไม่งั้นน้องสาลี่ไม่มีวันรู้ตัวหรอก เนอะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 05-07-2012 17:01:07
สงสารสาลี่....
ไอ้รบเอ๊ย! น้องสาอุส่าเปิดใจแล้วนะ ยอมๆเป็นเพื่อนไปก่อนแล้วค่อยเลื่อนขั้นไม่ได้หรอไง  :sad4:
รีบง้อด่วนๆเลยนะ! T ^ T

น้องสาลี่แต่งชุดไทยไปขายขนมทุกวัน...ร้อนทุกวัน.... เดี๋ยวไอ้รบมันก็ทนไม่ไหวเข้าซักวัน !
5555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-07-2012 17:09:19
 :กอด1:เอาแล้วไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 05-07-2012 17:25:14
หัวเราะทั้งน้ำตา มันเศร้ามากนะ
กับารต้องเสแสร้งแกลงทำในสิ่งที่ตรงข้ามความรู้สึก
สงสารนักรบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-07-2012 17:33:14
แบบนี้ต้องจับปล้ำแล้วควบกิจการ  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-07-2012 17:41:06
อยากเป็นมากกว่าเพื่อนก็รุกสิจ๊ะ

(http://www.smileycodes.info/emo/bobinini/120.gif)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 05-07-2012 17:59:37
 :3125:  นักรบทำไมพูดจาแบบนี้อ่ะ   แล้วแบบนี้เมื่อไรจะพูดจาภาษารักกันได้ล่ะนี่    น้องสาอุตส่าห์พูดดีและยอมเป็นเพื่อน แถมยังช่วยคิดไอเดียที่จะเปิดเว็บร่วมกันด้วย   ช่วยกันทำมาหากิน


รออ่านชิ้นที่ 15 ต่อไป กด+ ให้กับความน่ารักของน้องสา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 05-07-2012 18:20:59
โอยยยยยยยยยยยยยย....
เริ่มจิดราม่าแล้วใช่มั้ยเนี่ยยย
ตอนที่แล้วยังหวานอยู่เลยยยย

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 05-07-2012 20:54:42
นักรบเค้าไม่อยากเป็นเพื่อน เพราะอยากเป็นมากกว่าเพื่อน  :m1: :m1:

เริ่มแอบมองกันไป ชำเลืองกันมาแล้ว ทีนี้ก็รอลุ้นว่านักรบจะทำยังไงให้เป็นได้มากกว่าเพื่อนซักที คิคิ

+1 ค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 05-07-2012 21:02:11
อยากเป็นมากกว่าเพื่อน ก็บอกเค้าไปซิจ๊ะ
ไม่ใช่กวนอารมณ์กันแบบนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >;>; P.22
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 05-07-2012 22:13:59
แค่บอกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนแต่อยากเป็นแฟนก็บอกไปสิลูกแม่เดือน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-07-2012 22:48:26
เริ่มอึดอัดนิดหน่อยกับนักรบแล้วนะ เมื่อไรจะเดินหน้าจีบสาลี่จริงจังสักทีเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 05-07-2012 23:27:08
 เพื่อน กู รัก เมิง วะ

สำหรับสาลี่

นักรบคงต้องใช้คำนี้ละ
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-07-2012 23:46:05
คำเดียว จุกเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 06-07-2012 09:28:09
แล้วหนูสาลี่จะรู้ใจตัวเองเมือไหร่นิ

แอบสงสารคุณช่างกล้องเบาๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 06-07-2012 11:35:13
รุกใช้ชัดเจนไปเลย..นักรบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 06-07-2012 12:10:20
 :sad4:แล้วเมื่อไร ขนมปังจะได้กอดสังขยา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 06-07-2012 13:07:35
น่าจะเริ่มจากเพื่อนก่อนแล้วค่อยพัฒนาจากความใกล้ชิด
เล่นไปพูดแบบนี้เด๋วลูกแม่พลอยก็โกรธจนมองหน้ากันไม่ติดหรอก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 06-07-2012 23:37:07
รบทำสาลี่ซะใจแป้วเลยอะ  รุกก็รุกดีๆสิจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 14] 05/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 07-07-2012 14:04:21
เจ็บแทนรบ TT
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 08-07-2012 09:16:06
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 15


สาลี่เดินหอบตะกร้าหวายเหมือนไปจ่ายตลาด
แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยขนมไทยหลายชนิด
ซึ่งเจ้าตัวจัดเตรียมมาพร้อม
เพื่อให้ใครบางคนถ่ายรูปสินค้าไว้สำหรับการโฆษณาโดยเฉพาะ


พื้นที่ห้องว่างชั้นสามร้านบ้านขนมเดือนใจ
ถูกยึดสร้างเป็นสตูดิโอถ่ายรูปชั่วคราวแบบง่าย ๆ
สาลี่นำขนมจัดวางบนโต๊ะว่าง ๆ
เหลือบมองนักรบที่กำลังง่วนอยู่กับการวางโคมไฟให้ส่องไปยังกระดาษโปสเตอร์สีขาว
ซึ่งแปะผนังยาวเลยลงมาที่โต๊ะเพื่อใช้เป็นฉากพื้นหลัง
ทั้งยังมีอุปกรณ์วัดแสง ขาตั้งกล้อง กระดาษไข และอะไรต่อมิอะไร
ดูแล้วชวนวุ่นวายไปหมดประหนึ่งเขาจ้างพวกมืออาชีพ


คนที่เป็นลูกมือทยอยส่งขนมของตัวเองไปให้ทีละอย่าง
ซึ่งช่างกล้องก็รับมาจัดวางโลเกชั่น
ก่อนกดชัตเตอร์ถ่ายภาพด้วยสีหน้าคล้ายจะเคร่งเครียดมากกว่าปกติ
ผมยาวเพิ่มมาดเซอร์ ๆ  ถูกรวบเป็นมวยเอาไว้
ให้เห็นดวงตาคมที่ไม่ฉายแววขี้เล่นเหมือนอย่างเคย
แถมยังไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดรอดออกมาจากปากที่ชอบแกล้งแหย่เขาเป็นประจำ


มันเงียบ...


...เงียบเสียจนอึดอัด


ลูกแม่เดือนมันเป็นอะไรของมันวะ?


...เป็นเพราะว่าจริงจังกับงาน

...หรือเป็นเพราะมีเรื่องอย่างอื่นกันแน่


เมื่อวานหลังจากแยกกับมัน
ก็เป็นเขาไม่ใช่เหรอที่เป็นฝ่ายโดนมันแกล้งยั่วโมโห
ยอมรับว่าโกรธอยู่หรอก
แต่เขาเป็นประเภทโกรธง่ายหายเร็วอยู่แล้ว
อีกอย่างมีวันไหนบ้างทีเขากับมันไม่ตีกัน
ทะเลาะกันตอนเช้า พอตอนเย็นก็กลับมานั่งรถไปขายของด้วยกันเหมือนเดิม
เป็นกิจวัตรซ้ำ ๆ ซะจนเขาไม่เก็บเอาเรื่องที่มันแหย่เล่นมาใส่ใจแล้ว
ขืนเต้นตามเกมที่มันแกล้งทุกครั้งคงได้เหนื่อยกันเปล่า ๆ
แล้วพอเขางอน มันก็หาวิธีแซวให้เขาหลุดด่าเปิงออกไปอีกจนได้


แต่กับครั้งนี้มันไม่ใช่...

เขารู้สึกเหมือนลูกแม่เดือนกำลังมีอะไรบางอย่าง
เป็นความคุกกรุ่นหงุดหงิดในใจคล้ายกับอารมณ์โกรธ


โกรธ...


โกรธใคร?



...เขาเหรอ?




“คุณโกรธผมเรื่องอะไรรึเปล่า”


แค่เพียงคิดในใจ แต่สาลี่ก็หลุดปากถามออกไปอย่างยั้งไม่ทัน
คนที่ได้ยินเสียงถามทำลายความเงียบชะงักมือที่กดชัดเตอร์
ก่อนหันมาตอบย้อนเสียงเรียบ


“เปล่านี่ ทำไมผมต้องโกรธคุณล่ะ”


“ไม่รู้สิ  ก็...มันไม่เหมือนทุกที”


ไม่ใช่แค่ดวงตาคมจะฉายแววประหลาดใจ
แต่สาลี่เองก็แปลกใจในสิ่งที่ตัวเองพูดไม่แพ้กัน


...อ้าว  พูดอะไรออกไปอีกแล้ววะ
ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าไอ้ทุกทีมันคือแบบไหน
แต่ดันฟันธงด้วยคำตอบข้าง ๆ คู ๆ ออกไปอย่างนั้น
ขนาดตัวเองยังคิดว่างี่เง่าเลย
อีกคนไม่หาว่าเขาบ้าก็คงจะเกินไปหน่อย


แล้วก็จริงดังคาด...
เมื่อหนุ่มมาดเซอร์หยอดคำแหย่เล่น
พร้อมกับยิ้มบาง ๆ เหมือนที่เจ้าตัวชอบทำ


“อะไรกัน คิดไปเองรึเปล่า ผมก็เหมือนเดิมทุกทีนั้นแหละ
เมื่อคืนนอนน้อยเหรอ ถึงได้หลอนเอากลางวันแสก ๆ”



ไม่ใช่แล้ว...


ไม่ได้คิดไปเอง...


ยิ่งเห็นว่ายิ้มแบบนี้ก็ยิ่งพิสูจน์ได้ชัดเจน
เขาเข้าใจแล้วในสิ่งที่ใครบางคนเคยบอก



“คุณยิ้มที่ปากแต่ตาไม่ได้ยิ้ม”



“......................”



ความนิ่งอึ้งเข้าครอบคลุมทันทีที่จบคำ
นักรบยืนตะลึงเหมือนถูกแช่แข็ง
ราวกับตกใจในคำทักที่ไม่คิดว่าจะโดนย้อนกลับมาที่ตัวเอง


...นี่เขาเผลอแสดงสีหน้าแบบไหนลงไปกัน
และที่สำคัญ ลูกแม่พลอยมันรู้ได้ยังไง


แล้ว...


แล้ว...


...ลูกแม่พลอยจะรู้ถึงความลับในใจของเขาด้วยรึเปล่า...



ไม่ต้องรอนานเมื่อความสงสัยในใจได้รับคำตอบ
จากคนเปิดประเด็นที่กลับเป็นฝ่ายปฏิเสธเสียเอง


“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณมีเรื่องไม่สบายใจอะไร
แต่ถ้ามีเรื่องอยากระบายก็เล่าให้ผมฟังได้นะ”


ประโยคกึ่งปลอบไม่ได้ช่วยทำให้นักรบรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย
กลับทำให้ร่างสูงถอนหายใจหนักอย่างเหนื่อยหน่าย

...ที่แท้ลูกแม่พลอยก็แค่เดาถูกใช่มั้ย



“อย่าเลย บอกไปคุณก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”


ถ้อยคำที่เหมือนไม่สนใจทำให้คนที่อุตส่าห์หวังดีเริ่มชักอารมณ์ขึ้น


“ก็ถ้าไม่บอกแล้วจะไปรู้ได้ไงเล่า!”


สาลี่เอ่ยคาดคั้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
เห็น ๆ กันอยู่ว่ามีเรื่องในใจชัด ๆ
แล้วยังจะมาโกหกกันซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้อีก
ทีเขามีปัญหาอะไรก็ไม่เคยจะปิดบังให้ลูกแม่เดือนรู้เลยสักนิด
แต่พอตัวเองมีมั้งกลับไม่ยอมพูดอะไรออกมา


...ทำไม หรือไม่ไว้ใจเขา?


....แล้วแบบนี้มันจะไม่น่าโมโหได้ยังไง!



คนรอคำตอบกอดอกนิ่งมองอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ปุด ๆ
แต่คนถูกบีบกลับทำแค่เพียงพูดออกมาสั้น ๆ


“พอเถอะ ผมจะทำงาน”


แค่คำตัดบทของช่างกล้องที่หันไปสนใจการถ่ายภาพต่อ
ก็เพียงพอจะจุดระเบิดความโมโหในตัวคนเลือดร้อน


...แม่งเล่นตัวนักใช่มั้ย

...กูไม่ทนแล้วโว้ยยยย!!!



สาลี่เดินเข้าไปกระชากไหล่ของร่างสูงให้หันมาเผชิญหน้า
ดวงตากลมโตที่บัดนี้ไร้แว่นบดบังวาวโรจน์ด้วยอารมณ์คุกกรุ่นชัดเจนมากกว่าเคย


“พูดออกมานะ รบ!”


ชื่อเรีำยกสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดจริงจัง
จนคนโดนดุต้องเหลือบมองมือที่บีบแขนของเขาไว้แน่น
บ่งบอกว่าถ้าไม่ได้คำตอบคนตรงหน้าคงไม่มีวันปล่อย


...ลูกแม่พลอยจะมาบังคับเขาทำไม
ที่วันนี้เขานิ่ง ๆ ไปก็เพราะเมื่อคืนเขานอนไม่ค่อยหลับ
แล้วที่นอนไม่หลับก็เพราะมัวแต่คิดถึงใครบางคน
วนเวียนซ้ำไปซ้ำมากับความรู้สึกที่เก็บซ่อนอยู่ในใจ


...รัก

...อยากจูบ

...อยากกอด

...อยากทำให้เป็นของเขาคนเดียว


ความจริงพวกนี้...
บอกไปแล้วลูกแม่พลอยจะเชื่อมั้ย
แล้วจะยินดีรับความรู้สึกที่มันล้นอยู่ในใจเขารึเปล่า


“แน่ใจนะว่าคุณอยากได้ยิน”


สาลี่พยักหน้าลงอย่างแน่วแน่
ยิ่งสร้างความลังเลให้กับนักรบ


...ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้
คงไม่มีทางให้หนีอีกต่อไปแล้ว
ถ้าลูกแม่พลอยอยากรู้มากนัก
เขาก็จะขอบอกกันตรง ๆ
ส่วนผลจะเป็นยังไง...


...เขาจะยอมรับมันไว้ทุกอย่างเอง



นัยน์ตาคมประสานสายตาเข้ากับคนรอฟัง
ซึ่งเจ้าตัวก็มองตอบโดยไม่หลบ
นักรบสูดลมหายใจลึก
พยายามเก็บเกี่ยวทุกความรู้สึก
ก่อนถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด


คำที่อยู่ในใจมาเนิ่นนาน...



“ผมอยากบอกคุณมานานแล้วว่า ผมระ....”



กริ๊งงง... กริ๊งงง... กริ๊งงง...



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา
สาลี่รู้สึกถึงการสั่นเบา ๆ ไม่หยุดในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
เขาลังเลเล็กน้อย เพราะอีกฝ่ายยังพูดไม่ทันจบ
แต่เสียงร้องก็ยังคงดังแผดขึ้นจนน่ารำคาญ
ท้ายที่สุดเจ้าของก็ต้องล้วงกระเป๋าหยิบมือถือขึ้นมากดรับ


“ฮัลโหล....
ครับ... สาลี่ครับ....
อ๋อ...จำได้สิครับ...
ขอบคุณมากเลยครับที่อุดหนุนขนมของผม...”


เมื่อได้ยินเสียงอธิบายจากปลายสายว่าใครเป็นคนโทรมา
เจ้าตัวก็เปลี่ยนท่าทีพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
ปล่อยมือที่บีบแขนร่างสูงไว้
ผละออกห่าง แล้วเดินไปคุยอีกทาง

แต่เสียงพูดเหล่านั้น จะให้เบายังไง
ก็คล้ายกับเป็นการเร่งให้ดังท่ามกลางความเงียบ
แม้ไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ใครอีกคนในห้องแคบ ๆ ก็ยังคงได้ยินทุกถ้อยคำ


“ร้านผมอยู่ไหนเหรอ พี่รู้จักตลาดเก่ามั้ยครับ...
นั้นแหละครับ...เข้ามาจากหอนาฬิกาสักสามร้อยเมตร
อยู่ตรงข้ามกับร้านขายชุดนักเรียน...
อะไรนะ...ให้ผมไปรับพี่เหรอ..
พูดจริงรึเปล่าครับเนี่ย...ผมไปได้นะ...”


“เปล่าครับ... ผมยังไม่มีแฟน
ผมเลยว่างมารับพี่ได้ไง...
อ๋อ...ร้านผมยังไม่มีเดลิเวอรี่ครับ...
แต่ถ้าพี่สั่งเยอะผมยินดีบริการให้พี่เป็นพิเศษเลย...”


“ครับ....ไม่ลืมลดให้อยู่แล้วครับ
โห...พี่ไม่ต้องชมผมเลย....
...ผมเขินไปหมดแล้วครับ...ฮ่าๆๆ”


“โอเคครับ...แล้วผมจะรอ...
ครับ...
...ขอบคุณมากเลยครับ”


สาลี่กดวางสายจากลูกค้าเจ้าประจำ
...ดีจริง ที่พี่คนที่เหมาขนมไปคราวนั้นบอกว่าจะแวะมาสั่งขนมปังสังขยาเพิ่มอีกที่ร้าน
แถมยังช่วยแนะนำร้านเขาให้คนอื่น ๆ ด้วย


เออ...ว่าแต่..


จริงสิ...เมื่อกี๊ถึงไหนแล้วนะ


คนที่ยังคาใจในบทสนทนาซึ่งยังไม่จบดีกำลังจะหันไปถาม
แต่ช่างกล้องที่เพิ่งกดชัตเตอร์รูปถ่ายใบสุดท้ายกลับพูดขัดขึ้น


“เสร็จแล้ว พรุ่งนี้คุณค่อยมาเลือกรูปแล้วกัน”


เอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนร่างสูงจะปิดโคมไฟ
แล้วหิ้วกล้องเดินเปิดประตูออกไปนอกห้อง


“เฮ้ย เดี๋ยว...”


สาลี่ร้องอย่างตกใจให้กับการกระทำปุบปับ
เขารีบเดินลงบันไดมาด้านล่าง
แต่ก็ยังไม่กับคนที่นำมา ซึ่งเดินขึ้นรถเต่าที่จอดอยู่หน้าร้าน
ก่อนขับรถออกไปโดยไม่ทิ้งคำอธิบายใด ๆ ไว้เลย


“อ้าว...สาลี่ ถ่ายรูปเสร็จแล้วใช่มั้ยลูก
เห็นเจ้ารบรีบร้อนไม่รู้ไปไหนของเขา
ว่าจะฝากให้ซื้อแป้งขนมปังเพิ่มเสียหน่อย
เฮ้อ...ใช้ไม่ได้เลยเจ้าลูกคนนี้”


แม่เดือนบ่นถึงลูกชายเมื่อเห็นแขกเดินลงมา
คนฟังยิ้มรับแห้ง ๆ ก่อนจะขอตัวเดินกลับขึ้นไปเก็บขนมไทยของตัวเอง
เขากวาดตามองขนมที่วางกองอยู่บนโต๊ะ
แล้วก็ต้องเผลอหงุดหงิดให้กับคนที่ทิ้งงานไปกลางคัน


...เสร็จบ้าอะไรกันวะ
ยังเหลือขนมอีกตั้งห้าหกอย่างที่ยังไม่ได้ถ่าย
แถมเรื่องที่พูดก็ยังคุยกันไม่จบด้วย



“ผมอยากบอกคุณมานานแล้วว่า ผม....”



ผมอะไร...?


..อยากรู้จริง ๆ ว่าลูกแม่เดือนมันตั้งใจจะบอกอะไรเขากันแน่นะ



สาลี่ทยอยเก็บข้าวของไปยังร้านของตัวเอง
แล้วก็กลับไปช่วยแม่เฝ้าร้านหวานละไมขายขนมไทยตามเดิม
ทว่าภายในใจยังคงวนเวียนสงสัย
กับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบจากใครบางคนตลอดทั้งวัน



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



...เก้าโมงเช้า


หนุ่มเจ้าของไทยเดินเข้าไปในร้านบ้านขนมเดือนใจตามคำนัด
เผื่อที่จะไปดูรูปซึ่งถ่ายเอาไว้เมื่อวาน
เขาชะโงกหน้ามองเข้าไปในครัวเห็นนักรบกำลังนวดแป้งอยู่


..เออ...เอาไงดีวะ
จะทักมันตอนนี้ดีมั้ย
หรือจะรอให้ทำเสร็จก่อนแล้วค่อยมาดูรูปอีกที


ทว่ายังไม่ทันจะหันหลังกลับ
ดวงตาคมก็เหลือบเห็นพอดี


“คุณเข้าไปห้องผมเลย ชั้นสองใกล้ห้องน้ำ
เปิดคอมดูในไฟล์ชื่อว่าขนม
แล้วตั้งโฟลเดอร์ใหม่เลือกรูปใส่เข้าไปเลย
เดี๋ยวผมอบเค้กเสร็จแล้วจะตามขึ้นไป”


ท่าทีที่พูดคุยอย่างเป็นปกติ ทำให้คนฟังพยักหน้า
แม้จะยังคงตงิดใจนิด ๆ กับเรื่องที่ยังไม่ได้คำตอบเมื่อวาน
แต่จะให้มาคาดคั้นตอนนี้มันก็กระไรอยู่
ไว้รอโอกาสที่อยู่ด้วยกันค่อยถามใหม่
ถ้ายังยึกยักไม่ตอบก็คงต้องบังคับกันอีกรอบล่ะ
คราวนี้เขาไม่ยอมปล่อยให้หนีอีกแน่ ๆ


สาลี่คิดในใจอย่างมุ่งมั่นขณะเดินขึ้นชั้นบนเปิดประตูห้องตามที่ได้ยิน
ห้องของนักรบดูรกกว่าที่คิดไว้
เห็นแล้วก็แอบขัดตากับความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
ตามประสานิสัยรักสะอาดอย่างเขา
ดวงตากลมมองหาโน๊ตบุ๊คซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะติดผนังใกล้ ๆ ประตู
เขาหยิบปลั๊กขึ้นเสียบ กดเปิด รอให้เครื่องดาวน์โหลด
พักเดียว หน้าจอก็สว่างวาบขึ้น

โห...โฟลเดอร์เต็มแน่นไปหมด หัดจัดบ้างรึเปล่าเนี่ย
ไม่ต่างอะไรจากห้องตัวเองเลยจริง ๆ
เออ...ลูกแม่เดือนบอกชื่อไฟล์ว่าขนม
แล้วมันอยู่ไหนวะ
มีแต่ชื่อเป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น


....Music

....Game

....Download

....Photo101

....Sweet....



...Sweet?


 
‘Sweet’ มันแปลว่า ‘ขนม’ เหมือนกันนี่หว่าใช่มั้ย?



เขาให้คำตอบตัวเองเสร็จสรรพ
มือเลื่อนคลิกเปิดอัตโนมัติ
และทันทีที่ภาพหน้าจอเปลี่ยนสลับไฟล์
ดวงตากลมก็เบิกกว้างเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏ


รูป...


รูปนับพัน.....


และที่สำคัญมันเป็นรูปของเขา

...ทุกสีหน้า ทุกการกระทำ
ถูกถ่ายเก็บเอาไว้โดยไม่รู้ตัวว่าตั้งแต่ตอนไหนและเมื่อไร
รูปที่ไล่เรียงเหมือนถูกแก้ไขปรับให้เป็นโปสการ์ด
โดยมีข้อความเขียนไว้ข้างใน


สาลี่คลิกเปิดมันขึ้นมาให้ขยายรูปจนเห็นข้อความสั้น ๆ ที่ประกอบเข้ากัน
หากแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมาจากใจของคนทำ


ใบหน้าเนียนร้อนผ่าว
หัวใจเต้นระรัวด้วยความสั่นไหว
เมื่อสายตาจับจ้องไล่อ่านตัวอักษร....



“อยากให้ยิ้มของคุณเป็นของผมคนเดียว”

...ภาพที่เขากำลังยิ้มหลังจากกินขนมปังสังขยาที่ทำเองครั้งแรก


“คุณมองอะไร... จะมองเห็นผมบ้างรึเปล่า”

...ภาพที่เขากำลังเหม่อมองบางสิ่งจากแผงขายในถนนคนเดิน


“อรุณสวัสดิ์ คนน่ารัก"

...ภาพที่เขาลงมาพร้อมชุดนอนหลังจากเจอกับแม่เดือนครั้งแรก


“ผมบอกหรือยังว่าชอบหน้าคุณตอนกำลังงอน”

...ภาพที่เขากำลังโมโหเพราะโดนแกล้ง


“คุณเมาเหล้า แต่ผมเมารัก”

...ภาพที่เขาชูสองนิ้วยิ้มให้กล้องอีกมือถือกระป๋องเบียร์ตอนอยู่ถนนริมน้ำ


“อย่าเศร้านะคนดี มีผมอยู่ตรงนี้ข้าง ๆ คุณ”

...ภาพตอนที่เขากำลังยืนซึมเพราะขายขนมปังสังขยาไม่ได้


“จูบของคุณคือขนมที่หวานที่สุด”

...ภาพหลังจากที่เขาโดนขโมยจูบแรก


“คุณจะรู้มั้ยว่ามีใคร ‘ตกหลุมรัก’ คุณ”

...ภาพที่นักรบหอมหน้าผากของเขาที่กำลังหลับตาเอนซบกับไหล่



นี่มัน...


มันอะไรกัน...




...แกร๊ก



“เลือกได้หรือยะ...”


คำถามสะดุดลงทันที
เมื่อคนเปิดประตูเข้ามาเห็นชัดเต็มสองตาว่าในจอคอมปรากฏภาพบางสิ่ง...


...บางสิ่งที่ไม่กล้าเอ่ยคำบอก

...บางสิ่งที่พยายามเก็บไว้ในใจ

แต่บางสิ่งในตอนนี้...


...กลับถูกคนที่ไม่สมควรเห็นมากที่สุดรับรู้เข้าเสียแล้ว...



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 08-07-2012 09:35:09
ค้างงงที่ซู๊ดดดดเลยค่า
พ่อรบของพี่ เป็นพระเอกเก็บกดน่าสงสารจริงจริ๊ง
คราวนี้น้องสาลี่รู้ความจริงแล้วทำไงดี
ตอนนี้คิดออกอยู่ทางเดียว ตามฟอร์มนางเอกแล้ว
นางต้องไม่ยอมรับรักแน่ๆ ต้องหนีนักรบไปห่างๆ
คนอ่านต้องเจ็บช้ำแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-07-2012 10:18:45
อุ้ยยยยยยเห็นจนได้
แล้วจะเป็นไงล่ะที่เนี้ย
สู้สู้น๊าพ่อนักรบหัวใจแกร่ง :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 08-07-2012 10:31:51
ค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!!

น้องสาลี่รู้แล้วววววว  :o8:
หวังว่าสาจะยอมรับนะ! T ^ T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 08-07-2012 10:38:30
อ๊าย เห็นความลับเข้าแล้ว

นักรบ ตอบดีๆ ทำคะแนนหน่อยจ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-07-2012 10:39:24
 :z3: ค้างมากเลยค่ะ

ไม่รู้สาลี่จะทำตัวยังไงเมื่อรู้ความในใจนักรบแล้ว

แต่ฟังรบก่อนนะลี่นะ  :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 08-07-2012 11:51:08
บอกไปเลยนักรบ...กล้าๆสมชื่อหน่อย : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-07-2012 11:52:21
หวานเวอร์

สาลี่ว่าไงละเนี่ย

 :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 08-07-2012 12:50:59
ความลับไม่มีในโลก แตความรักหาได้แค่ใช้ใจมองหา ใช่ไหมนักรบ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >;>; P.22
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-07-2012 14:43:10
เอาแล้วไง จะยังไงต่อล่ะเนี่ย??
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 08-07-2012 14:49:06
ลูกแม่เดือนให้คำตอบไปแล้ว
ลูกแม่พลอยจะเซย์เยสหรือโน
รอลุ้นอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 08-07-2012 15:11:50
คงไม่ต้องบอกแล้วล่ะเป็นกับตาเองเลย
ทีนี้ก็มารอผลที่ตามมาดีกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 08-07-2012 15:30:38
จีบเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 08-07-2012 18:36:01
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
งานเข้าแล้วนักรบบบบบบบบทำไงต่อล่ะงานนี้
สาลี่จะโกรธรบมั๊ย? T3T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 08-07-2012 18:50:01
ผ่างงงงง!! น้องสาลี่เห็นหมดแล้ว เอาไงต่อดีนักรบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 08-07-2012 19:41:58
โอ้ย ตื่นเต้นๆ เค้าจะว่ายังไงกัน
ว่าแต่อย่าให้ค้างตอนนี้นานนะครับ เดี๋ยวขนมปังสังขยากับลาวาช็อคโกแล็ตจะบูดแย่ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-07-2012 19:51:35
เอาใจช่วยนะนักรบ

 :o11:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 08-07-2012 20:05:52
แล้วความลับก็ไม่มีในโลก  อยากรู้ว่าน้องสาจะทำยังไง  เดินเข้าไปถามนักรบ  หรือเดินหนีไปตั้งหลัก

:z3: คนเขียนมาต่อชิ้นที่ 16 ด่วนค่ะ

กด + 1 ให้กับคนเขียน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 09-07-2012 00:21:15
กรี๊ดดดดดดด  นักรบงานเข้าาาา

สาลี่จะตอบยังไงอะ  จะตกใจแล้วหนีไปหรือเปล่า  แล้วพอเจอหน้านักรบก็จะไม่คุยด้วยหรือเปล่า
จะเปลี่ยนไปจากเดิมมั้ย  อย่านะน้องสา  อย่าทำแบบนี้นะคะ...

นักรบเค้าแค่แอบรักเองนะคะ  อย่าได้รังเกียจอะไรเลยเนาะะะะะะ 

ว่าแต่... ไหนๆ ก็รู้ความจริงแล้ว  ปล้ำจูบแม่มเลยนักรบ  กร๊ากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-07-2012 00:32:08
สาลี่จะทำยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-07-2012 07:24:24
รู้แล้วรับได้หรือเปล่าสาลี่


งานเข้าแล้วเจ้ารบ :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-07-2012 07:47:38
ค้างมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตัดจบตอนแบบนี้ทุกทีเลยสิ ^^"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 09-07-2012 10:46:50
 :o12:ค้าง...ที่ห้องพี่รบไปเลย OK.นะคะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 09-07-2012 12:38:42
น้องสาลี่รู้ความจริงโดยบังเอิญเข้าซะแล้ว จะเป็นไงต่อล่ะเนี่ย  :a5:
อย่าเพิ่งวิ่งหนีไปนะ รอฟังรบ ได้พูด ได้อธิบายก่อน

รบก็บอกน้องไปเลย.....ว่า "รัก"     รักก็บอกเลยเซ่....ชูวับ ชูวับ :z7: :z7:


ควบรวมทั้งคนทั้งกิจการไปเลย เพื่อความแข็งแกร่งของธุรกิจและหัวใจ คิคิ :kikkik: :myeye:
+1  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 
:pig4:
ลุ้นๆๆๆๆๆ กับตอนหน้าซะจริงๆ :serius2: :serius2:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 09-07-2012 19:15:12
ในที่สุด....

รบไม่ต้องบอกเองละ
สาลี่รู้เองเลย  :laugh:

ตอนหน้าจะเป็นยังไงละเนี่ย..
ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 15] 08/07/55 >> P.22
เริ่มหัวข้อโดย: RAKDEK_KA ที่ 09-07-2012 20:05:52
เอิ้ก .... จะเอาไงกันต่อละเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 09-07-2012 21:18:06
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 16



เอาไงดี...

สาลี่นั่งนิ่งอย่างคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ภาพหน้าจอปรากฏรูปของเขาที่ถ่ายคู่กับนักรบ
ซึ่งเจ้าตัวก็จำไม่ได้แม้เพียงนิดว่าไปถ่ายกันตอนไหน

รู้อยู่หรอกว่านี่คอมของคนอื่น
และเขาก็ไม่ควรจะเปิดดูพร่ำเพรื่อ
แต่ทำไงได้หลักฐานมันคาตาอยู่ตรงหน้า

อีกอย่างมันไม่ใช่ความผิดเขาสักหน่อย
รูปพวกนี้ก็รูปของเขาทั้งนั้น
ลูกแม่เดือนต่างหากที่ทำตัวโรคจิต
ไปตามแอบถ่ายเขาได้มากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร
แล้วไหนจะยังมีข้อความพวกนั้นอีก


ข้อความ...

...ที่ชวนให้สับสนในความรู้สึก


ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่...


โอยยยย!!!  ปวดหัวไปหมดแล้วโว้ยยยย!!



ในสมองผสมปนเปด้วยคำถามมากมายวิ่งชนกันให้วุ่น
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้ก็แค่เพียงนั่งก้มหน้า
เบนหลบสายตาของร่างสูงซึ่งยืนนิ่งมองมาไม่แพ้กัน


ต่างคนต่างเงียบอยู่อย่างนั้น


แค่เพียงอึดใจ...


ฝ่ายที่เป็นคนขยับก่อนก็คือหนุ่มมาดเซอร์เจ้าของห้อง
เอื้อมมือคลิกเมาส์ปิดหน้าต่างที่เปิดค้างลงไป
ก่อนจะกดเปิดไฟล์ซึ่งคราวนี้สาลี่เห็นชัดเต็มตาว่าชื่อ ‘Knom’
ตั้งค่าโฟล์เดอร์ใหม่อีกสองสามคลิก
แล้วก็ผละออกห่างพร้อมกับร้องบอกด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ


“เลือกรูปไหนก็ให้ลากเข้าไฟล์นี้นะ
เสร็จแล้วก็บอก จะได้ไรท์ใส่แผ่นให้”



...เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ลูกแม่เดือนมันทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พูดจบก็เดินไปนั่งบนเตียง
หยิบหนังสือพิมพ์กีฬามาเปิดอ่าน
เงียบ ๆ อยู่แบบนั้น...


...จะไม่อธิบายอะไรสักหน่อยเลยเหรอ

แต่ถ้าไอ้ลูกแม่เดือนมันเริ่มก่อน
เขาเองก็จะเลือกแสดงออกด้วยท่าทีไม่ต่างกัน

ดวงตากลมจึงไล่ดูรูปโดยไม่พูดอะไรออกมา
คลิกลากภาพส่ง ๆ เข้าโฟล์เดอร์ใหม่โดยเร็ว
เพราะแม้จะถ่ายเผื่อเอาไว้ห้าหกรูปในคนละมุม
แต่ลักษณะของงานก็ออกมาสวยไม่มีที่ติอยู่ดี
อีกอย่างตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะมาพิจารณารายละเอียดของภาพอะไรแล้วด้วย


“เสร็จแล้ว”

ใช้เวลาแค่ห้านาทีคนที่ลากรูปสุดท้ายลงโฟล์เดอร์ก็ร้องบอก
นักรบลุกขึ้นค้นกุกกักตรงตู้ หยิบแผ่นซีดีเปล่าออกมา
เขารีบลุกให้เจ้าของห้องนั่งแทนที่ตัวเอง
เพื่อจัดการไรท์ไฟล์ให้เรียบร้อย


บรรยากาศยังไม่คลายความอึดอัด...


สาลี่ยืนนิ่งอย่างสับสน
ใจนึกอยากจะหาเรื่องคุยเพื่อทำลายบรรยากาศแปลก ๆ นี้ลงไป

แต่ในสถานการณ์แบบนี้จะให้พูดเรื่องอะไร


จริงสิ...



“อ่ะ”

ซองสีขาวเรียบ ๆ ถูกยื่นมาตรงหน้าร่างสูง
นักรบละสายตามามองแว๊บหนึ่งก่อนเอ่ยถามสั้น ๆ

“อะไร”   


“ค่าเสียเวลา”


มือที่จับเมาส์กระตุกกำเข้าหากัน
แต่คนฟังกลับยังคงปั้นหน้านิ่งตอบกลับเสียงเรียบ


“คุณไม่ต้องให้หรอก”


“รับ ๆ ไปเถอะ
ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต้องคิดค่าจ้างยังไง
คุณเล่นไม่บอกนี่ เลยอาศัยเดา ๆ เอา
ไม่รู้ว่าจะน้อยเกินไปรึเปล่า”


“ผมไม่รับ เก็บไปซะ”


“เถอะน่า กล้องคุณมันงอกออกมาเองได้เมื่อไร
ไหนจะพวกค่าน้ำ ค่าไฟ ที่ผมชอบยืมครัวคุณมาใช้ด้วย
ของพวกนี้มันต้องมีค่าใช้จ่ายทั้งนั้น”


“ผมออกเองได้”


“เอ๊ะ เดี๋ยวก็หาว่างกอีก
ผมเคยบอกแล้วไง ถึงเราจะเป็นเพื่อนกันแต่...”


“หยุดได้แล้ว!!
ผมไม่เอาอะไรทั้งนั้น!!!

แล้วผมก็ไม่อยากเป็นเพื่อนคุณด้วย!!!”



นักรบโพล่งขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
ลุกขึ้นพรวดเดินเข้ามาใกล้ใครอีกคน

อารมณ์ไม่พอใจ... โมโห... สับสน...
คุกกรุ่นอยู่ในห้วงความคิด
บีบให้พรั่งพรูทุกสิ่งที่อยู่ในใจจนเกินกว่าจะเก็บไว้

คล้ายกับระเบิดเวลาที่ดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด


“เห็นรูปพวกนี้แล้ว
ยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าผมรู้สึกยังไงกับคุณ
คุณไม่ได้คิดอะไรถึงพูดออกมาได้
แต่รู้มั้ยว่าความจริงผมเจ็บแค่ไหน
ถ้าคุณอยากให้ผมเป็นเพื่อน
งั้นบอกหน่อยว่าเพื่อนของคุณ
มันทำแบบนี้ได้มั้ย!!”


จบคำ สาลี่รู้สึกถึงแรงกระชากตัวให้ปลิวเข้าปะทะร่างตรงหน้า
และก่อนที่จะทันได้คิดว่าอะไรเป็นอะไร
ริมฝีปากของเขาก็ถูกบดขยี้อย่างรุนแรง


จูบ...


ลูกแม่เดือนมันจูบเขา...


ไม่ใช่จูบเหมือนยั่วเย้าเช่นครั้งแรก
แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์
เร้าร้อน...แนบแน่น...
คล้ายกับจะฉกฉวยลมหายใจจากเขาไปจนหมดสิ้น


“อืออ...มะ..ไม่”

คนตกใจเบือนหน้าหลบ พยายามยกมือขึ้นดันร่างอีกฝ่าย
แต่กลับถูกมือแกร่งจับล็อกไว้แน่นไม่ให้ขยับ
ทั้งยังคงใช้ริมฝีปากตะโบมจู่โจมไม่ยอมหยุด
สาลี่จึงทำได้แค่เพียงดิ้นกุกกักก้าวถอยหลังอย่างคนคิดหนี
ทว่าที่สุดปลายทางกลับมีเตียงนอนมาขวางกั้น

“อ่ะ...เฮ้ยย!!”

สาลี่ร้องลั่นแรงสะดุดทำให้เขาหงายหลังล้มลงไปนอน
โดยมีร่างสูงหนักของหนุ่มเซอร์ทาบทับจนไม่อาจขยับไปไหนได้


ราวกับเวลาหยุดนิ่ง...


เมื่อดวงตากลมโตประสานสายตาเข้ากับดวงตาคม
ที่คล้ายจะส่งผ่านความรู้สึกทุกอย่างที่เก็บไว้ในใจ


....ความรู้สึกที่ค่อย ๆ ถ่ายทอดออกมาเป็นถ้อยคำพูด


“คุณอยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าจริง ๆ แล้วผมคิดยังไง
งั้นคุณฟังให้ดี

ผมอยากบอกคุณมานานแล้วว่า
ผมอยากกอดคุณ
ผมอยากจูบคุณ
ผมหึง ผมหวงคุณ
ไม่เจอหน้าคุณผมก็นึกเพ้ออะไรบ้า ๆ
คิดถึงคุณอยู่ทุกคืน
ผมไม่อยากปล่อยให้คุณเป็นของใครนอกจากของผมคนเดียว
และผมก็อยากให้คุณ....

....อยากให้คุณ ‘รัก’ ผม

เหมือนที่ผม ‘รัก’ คุณ”



สาลี่นิ่งอึ้งให้กับข้อความที่ได้ยิน
ในหัวหมุนวนเวียนด้วยความสับสน

หมายความว่ายังไง...

ลูกแม่เดือน


รัก?


รักเขา?


ยังไม่ทันได้คิดอะไรเพิ่ม
ริมฝีปากจากคนด้านบนก็โน้มลงมาจูบซ้ำ
สาลี่พยายามเบี่ยงหลบอีกครั้ง
แต่เมื่อร่างกายถูกกันอิสรภาพทั้งมือก็ยังถูกตรึงไว้แน่น
ต่อให้ขยับหนีอย่างไรก็หลบไม่พ้นการจู่โจมอันร้อนแรง
ทั้งจมูก แก้ม ปาก ดวงตา ไม่มีส่วนไหนที่เล็ดลอดริมฝีปากของนักรบไปได้
ลำคอขาวถูกซุกไซร้ ปลุกความรู้สึกแปลก ๆ ให้ปั่นป่วน
เรี่ยวแรงที่เคยมีเริ่มหดหาย
เมื่อสัมผัสได้ถึงมือซึ่งแตะร่างอย่างจาบจ้วง
ผ่านเสื้อยืดแขนสั้นที่ห่อหุ้มกายเขาเอาไว้

...ไม่ใช่

นี่ไม่ใช่แค่การแกล้งเล่น
ลูกแม่เดือนมันตั้งใจจะทำจริง ๆ


...ไม่เอานะ

แบบนี้ไม่เอา


...เขากลัว


กลัว...



“ฮึก.....”

เสียงสะอื้นในลำคอทำให้คนที่จมดิ่งอยู่ในห้วงอารมณ์ได้สติ
นักรบหยุดการกระทำของตัวเองลง
เมื่อสังเกตเห็นหยาดน้ำใส ๆ รินไหลออกจากดวงตากลมโต
พร้อม ๆ กับที่ร่างเบื้องล่างสั่นเบา ๆ ด้วยแรงสะอื้น


นี่เขา...

ทำอะไรลงไป...



“สา...ผม...ผมขอโทษ...”

ร่างสูงเอ่ยออกมาอย่างคนสำนึกผิด
ไม่คิดว่าการกระทำของตัวเองจะทำให้คนรักต้องเจ็บช้ำขนาดนี้
เขาปล่อยมือที่เกาะกุมไว้ แล้วใช้มันเกลี่ยน้ำตาเบา ๆ บนใบหน้าเนียน
แต่อีกฝ่ายกลับผลักเขาออกห่างอย่างรุนแรง
แล้วรีบวิ่งเปิดประตูออกไปจากห้องทันที

“เดี๋ยว สา...”

คนทำผิดรีบวิ่งลงบันไดตาม
แต่ยังไม่ทันได้คว้าตัว
เสียงของผู้เป็นแม่ก็เอ่ยขัดเขาที่กำลังจะออกนอกร้าน

“รบ เค้กของลูกอบได้รึยัง
แม่ได้กลิ่นอะไรไหม้ ๆ จากในครัว”


เฮ้ย เค้ก!!

คนถูกทักรีบเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งไปเปิดเตาอบทันที
เป็นจริงดังคาดเมื่อเค้กของเขาไหม้ดำส่งกลิ่นควันลอยตลบ


“โธ่เว้ย!!”

นักรบสบถด่าออกมาอย่างหงุดหงิดให้กับความผิดพลาด
ทุกสิ่งหลุดลอยไปเพราะความไม่ตั้งใจของเขาแท้ ๆ

ไม่ว่าจะเป็นเค้ก...


หรือคนที่ตัวเองรัก...


ไม่น่าเลย...

ไม่น่าทำแบบนั้น

ทั้ง ๆ ที่คิดไว้แล้วว่าจะตั้งใจทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ก็ดันเผลอใส่อารมณ์
เพราะคำพูดที่ตอกย้ำ ‘สถานะ’ ชัดเจนจากลูกแม่พลอย

เพียงแค่โดนสะกิด
สิ่งที่ทนเก็บไว้ในใจก็ระเบิดออกมาไม่หยุดยั้ง

แล้วที่นี่จะทำยังไง
จากแค่บรรยากาศอึดอัดแปลก ๆ
จะพาลกลายเป็นมองหน้ากันไม่ติดอีกเลย


หึ สมควรแล้ว
ก็กูมันอยากโง่เองที่คิดไว้ว่าทุกสิ่งมันจะเป็นไปในแบบที่หวัง
 
อยากให้ลูกแม่พลอยเขารู้ว่ารัก

แล้วสุดท้ายเป็นไงล่ะ ไอ้รบ

สุดท้ายมึงพอใจรึยัง


...นี่แหละคือ ‘คำตอบ’ ที่มึงต้องการจะได้ยิน



....


..


.


สาลี่ปิดประตูห้องนอนของตัวเอง
หลังจากอ้างกับแม่ว่าปวดหัวอยากขอตัวขึ้นไปนอนพัก

เรื่องมากมายที่เกิดขึ้น
มันรวดเร็วจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

รู้แค่เพียงหัวใจมันชา...
ร่างกายมันไร้เรี่ยวแรง...

เขาทรุดตัวกอดเข่า
ปล่อยให้น้ำตาที่กักเก็บไว้พังทลายลงมาไม่ขาดสาย


ไอ้ลูกแม่เดือนเฮงซวย!!!

ทำไมถึงมาทำกันแบบนี้
ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเป็นเพื่อนกันแท้ ๆ


...เพื่อน


ถ้อยคำเดียวแต่กลับทำให้เสียงของใครบางคนสะท้อนก้องอยู่ในความทรงจำ


‘ผมไม่อยากเป็นเพื่อนกับคุณ

ผมอยากให้คุณรักผม

เหมือนที่ผมรักคุณ’



ลูกแม่เดือน ‘รัก’ เขา


‘รักที่ไม่ใช่แค่เพื่อน’


แล้วเขาล่ะ...

เขาเองรู้สึกยังไงกับมัน


อยากให้เป็นเพื่อนกันต่อไป

อยากให้จบลงที่ตรงนี้

หรืออยากจะให้เป็นมากกว่านั้น


ไม่รู้...


...เขาไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



“น้องสาเขาไม่สบายนะจ๊ะ
รบฝากแม่ไว้ก่อนก็ได้ลูก
เดี๋ยวแม่เอาไปให้น้องสาเอง”

คำปฏิเสธที่ได้ยิน
ทำให้คนซึ่งเอาแผ่นซีดีที่ไรท์เสร็จเรียบร้อยพยักหน้าลงอย่างเข้าใจ
แม้ภายในจะรู้สึกเจ็บแปล็บขึ้นมาลึก ๆ ก็ตามที


...หึ น่าจะรู้ดีอยู่แล้วแท้  ๆ ว่ายังไงก็ต้องไม่มีทางได้พบ
แล้วเขาจะมาหวังลม ๆ แล้ง ๆ บ้าบออะไรอีก


แต่...


แต่อย่างน้อยเขาก็อยากจะเจอ
อยากขอโทษอีกครั้ง
อยากอธิบายถึงความรู้สึกจริง ๆ ข้างใน
ให้มันรู้ชัด ๆ ไปเลยดีกว่าว่าคิดอะไร
จะเกลียดหรือตัดขาดความสัมพันธ์ก็ว่ามา
แต่ขอร้องได้มั้ยลูกแม่พลอย


ขอร้อง....

...อย่าเงียบหายกันไปแบบนี้



นักรบเดินออกมานอกร้าน
พระอาทิตย์ยามเย็นเริ่มโพล้เพล้
เงยหน้ามองขึ้นไปบนชั้นสองซึ่งมีดวงไฟเปิดสว่าง
ใครบางคนอยู่ข้างในห้องนั้น

เอาเถอะ...
บ้านก็อยู่ใกล้กันแค่นี้จะไม่เจอกันอีกคงเป็นไปไม่ได้
ไว้โอกาสหน้า เขาก็จะขอปรับความเข้าใจ
เอาให้มันเคลียร์ ให้มันรู้กันชัดเจนไปเลย
ว่าตกลงแล้ว...


เขาสองคนควรอยู่ใน ‘สถานะ’ อะไรระหว่างกัน


ทว่าจนแล้วจนรอด
ผ่านไปห้าวันเต็ม
นักรบก็ไม่เห็นสถานการณ์ที่จะเอื้อให้คุยกับใครบางคนได้เลยสักนิด
ถึงจะเห็นหน้า แต่อีกฝ่ายก็มักจะอยู่ในร้านใกล้กับแม่ของตัวเองตลอด
ซ้ำยังพยายามหลบสายตาไม่มองหน้าเขาเลยแม้เพียงนิด


แม้กระทั่งเย็นวันศุกร์
ที่เขามักจะมารับหนุ่มร้านขนมไทยขึ้นรถไปตั้งแผงขายบนถนนคนเดินด้วยกัน
แต่อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะหนีเขาไปได้อีกครั้ง


“อ้าว...น้องสาเขาไปตั้งนานแล้วนี่ลูก
ไม่ได้ออกไปพร้อมรบหรอกเหรอจ๊ะ”


อะไรนะ...

ออกไปแล้ว...


ถ้อยคำที่ได้ยินทำให้คนฟังต้องรีบเดินไปนอกร้าน
มองหามอเตอร์ไซต์ฟีโน่ของใครบางคน
ซึ่งแน่นอนว่ามันว่างเปล่า


ลูกแม่พลอยจะไม่ยอมเคลียร์กันใช่มั้ย...

สำหรับเขาแค่ห้าวันมันก็มากเกินพอแล้ว!!


คนใจร้อนรีบเหยียบคันเร่งรถโฟล์กขับมุ่งหน้าไปที่ตลาดทันที
เลี้ยวเข้าจอดเปิดประตูออกอย่างรวดเร็ว
เดินพุ่งตรงไปหาเจ้าของร้านขายขนมไทย
ซึ่งวันนี้กลับไปใส่ชุดปกติธรรมดากำลังจัดของอยู่หน้าแผง


“สา คุยกันหน่อยได้มั้ย”


“....................”


คนตรงหน้ายังคงนิ่งเงียบ
ก้มลงหยิบถุงขนมขึ้นมาเรียงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


“สา ไม่ได้ยินที่พูดเหรอ”


นักรบถามซ้ำ ครั้งนี้เจ้าของร้านขนมไทยเงยหน้าขึ้นมา
แย้มรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ


“ร้านผมยังจัดไม่เสร็จเลยครับ
ถ้าคุณอยากซื้อขนมช่วยรอสักครู่ได้มั้ยครับ”


...ความห่างเหิน

ตอกย้ำ ‘สถานะ’ ของคนที่ยืนรออยู่อย่างชัดเจน


...อย่าว่าแต่จะให้กลับมาคืนดี
หรืออยากให้อีกฝ่ายบอกว่าเป็นเพื่อนกันเลย
ตอนนี้ในสายตาของลูกแม่พลอย
เขากลายเป็นแค่เพียงคนแปลกหน้าเสียด้วยซ้ำ


“ถ้าสาไม่อยากเจอผมก็บอกมาตรง ๆ
แต่อย่ามาทำเหมือนผมไม่มีตัวตนแบบนี้”


“...................”


ความเงียบถูกเลือกใช้เป็นคำตอบ

แต่ความเงียบในครั้งนี้

กลับกลายเป็นเสียงที่ดังที่สุด


...ดังกว่าคำว่า ‘โกรธ’


...ดังกว่าคำว่า ‘เกลียด’


...ดังกว่าคำว่า ‘ไม่รัก’


และเป็นความเงียบที่ทำให้นักรบเจ็บปวดทรมาน

ราวกับบางสิ่งในความรู้สึกได้แตกสลายลง....


แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเลือกจะพูดประโยค
ที่ทำร้ายหัวใจของตัวเองให้เจ็บลึกลงไปอีกครั้ง


“ผมเข้าใจแล้ว
ถ้ามันทำให้สาลำบากใจ
ผมก็จะไม่มาให้สาเห็นหน้าอีก”


ถ้อยคำสุดท้ายหยุดลง
พร้อมกับที่นักรบหมุนตัวหันหลังเดินกลับไป


ปล่อยให้คนที่ทำทีเป็นนิ่งเงียบ
เงยหน้าขึ้นมองอยู่ห่าง ๆ


เข้าใจ...

ลูกแม่เดือนมันเข้าใจว่าอะไร...


ถ้าเข้าใจจริงก็น่าจะรู้
ว่ารอยยิ้มของเขาเมื่อกี๊
มันฝืนแค่ไหน


...ยิ้มที่ไม่ได้ออกมาใจ

ก็เพราะดวงตาของเขามันคลอไปด้วยน้ำตาแบบนี้...



   
“รออีกหน่อยไม่ได้หรือไง

ก็แค่อยากขอเวลา...

รอกันแค่นี้ไม่ได้เลยใช่มั้ย

แล้วยังมีหน้ามาบอกว่าเข้าใจ


ไอ้ลูกแม่เดือนคนโกหก...


...มึงไม่เห็นจะเข้าใจอะไรกูเลยสักนิดเดียว”




------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 09-07-2012 21:28:00
 :z3: :z3: :z3:ทำไมเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 09-07-2012 21:42:44
เจ็บแทนนักรบทำไมคนแต่งทำแบบนี้
สาลี่อย่าใช้เวลานานนะสงสารนักรบบ้าง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 09-07-2012 21:44:12
 :serius2: :serius2: :serius2:
นี่มันอะไรกันนนนนนน!!!!

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >;>; P.23
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-07-2012 22:07:08
ม่ายยยยยยยย  !!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 09-07-2012 22:14:22
เข้าใจว่ารบเป็นศิลปิน จึงมีอารมณ์ติสต์และอ่อนไหวมาก.....เป็นพิเศษ
เลยทำให้เหตการณ์กลายเป็นแบบนี้

 :sad4: :o12: งื้อ...เศร้า เรื่องราวเลยไปกันใหญ่เลย
แต่หัวใจน้องสาก็ยังไม่ได้ปฏิเสธรบนี่นะ แค่ยังสับสนไม่แน่ใจเท่านั้นเอง

มองในแง่ดี การที่รบจะไม่มาให้สาเห็นหน้า อาจเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ดีก็ได้นะ
สำหรับน้องสาลี่ที่จะได้เข้าใจความรู้สึกตัวเองไวขึ้น

รอลุ้นกับตอนหน้าดีกว่าว่าจะผ่านปัญหานี้ไปยังไง
เอาใจช่วยทั้ง 2 คนนะ

และเป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-07-2012 22:25:16
 :dont2:

อย่าเพิ่งไปสินักรบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-07-2012 22:29:49
ขอตัวกระตุ้นให้สาลี่รู้ใจตัวเองหน่อยเถอะ

คราวนี้ได้เสียดายพ่อนักรบผู้น่าสงสารแน่ๆ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 09-07-2012 22:40:43
เล่นหลบหน้ากันแบบนี้ไม่มีใครเข้าใจได้หรอกนะจ๊ะน้องสา
ไม่เคยฟังเพลง ความเฉยชาคือการบอกลาโดยไม่ต้องออกเสียงหรือจ๊ะ
อยากขอเวลาก็บอกดีๆก็ได้ ทิฐิไม่ช่วยให้เรื่องดีขึ้นนะ
หน่วงมากๆ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 09-07-2012 23:34:43
สงสารน้องสา..

นักรบเป็น"เพื่อน"คนแรกที่สายอมเปิดใจให้
ที่ผ่านมาไม่เคยมีใคร ไม่เคยเป็นตัวของตัวเองต่อหน้าใคร แม้แต่กับแม่
แต่ยอมเปิดใจให้นักรบ... สงสารตั้งแต่ตอนที่นักรบปฎิเสธน้องสาว่าไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว
ชอบน้องสาตรงที่ไม่หนีความจริง แต่พยายามคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองดู

สาไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ไม่เคยชอบใครมาก่อน แม้แต่เพื่อนซักคนยังไม่ค่อยจะมี..
น้องสาคงทำตัวไม่ถูกกับเหตุการ์ณแบบนี้! ทั้งที่อาจจะชอบรบแบบนั้นมานานแล้วแต่ไม่รู้ตัว.. ก็เพราะไม่เคยไง UU
คนแบบนี้คงต้องใช้เวลา บางทีรบอาจจะรีบร้อนเกินไป... T^T
ถ้าสาไม่สับสนก็แปลกแล้วล่ะ !!

แต่ก็เข้าใจรบ.. ตอนที่น้องสาพูดจาห่างเหินมันเจ็บมาก T___T
สรุปสงสารทั้งสองคน..! อยากให้น้องสาคิดออกเร็วๆว่าตัวเองรู้สึกยังไงกันแน่
อยากเป็น 'เพื่อน' แน่รึเปล่า หรือว่าอยากเป็น 'ภรรยา' นักรบ ??  :z1: 555555555

นักรบก็รอหน่อยนะ.. รีบร้อนเกินไปอาจจะโดนปฎิเสธได้ ให้เวลาน้องสาคิดหน่อย UU
แต่อาจจะมีตัวช่วยให้เร็วขึ้น เช่นมือที่สาม(แต่อย่ามีเลย YY 555555555)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 09-07-2012 23:57:12
แงๆ ไม่จริง ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 10-07-2012 00:10:23
น้องสาลี่อยากขอเวลาก็พูดกับรบเขาดีๆสิคะ
เล่นไม่พูด หลบหน้าหลบตา แถมพอมีโอกาสก็ดันเย็นชาใส่
อีแบบนี้ใครหน้าไหนเขาก็เข้าใจว่าปฏิเสธทั้งนั้นแล
สาไม่บอกแถมการกระทำยังทำให้เข้าใจไปว่าอย่างนั้นอีก
รบมันจะไปรู้ใจสาได้ยังไง วานบอก
คือเข้าใจสานะว่าคนมันกำลังสับสนทำอะไรไม่ถูก ตั้งสติๆๆๆค่อยๆคิดไปก็ได้
แต่อย่างน้อยก็ไปบอกอีกคนหน่อยเหอะ เสียใจหนีหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-07-2012 07:41:01
 :3123:งานใหญ่กว่าเดิม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 10-07-2012 07:55:43
so sad
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 10-07-2012 08:39:23
:z3:  ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ แทนที่จะหันหน้าคุยกันดีๆ  อีกคนเงียบ แต่ต้องการเวลาคิด   อีกคนก็คิดเอง เออเอง  แล้วเมื่อไรมันเข้าใจกันล่ะ

นี่มันขายขนมหวาน หรือขายทิฐิกันแน่    ทิฐิกินแล้วมันจะมีแต่ความเจ็บปวดนะ  ไม่มีความอร่อยหรอก เลิกกินมันเหอะ

กด + เป็ด  :pig4: คนเขียนค่ะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 10-07-2012 11:09:33
หวังว่าคงเข้าใจกันเร็วๆนะ ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 10-07-2012 11:39:39
เอะ  ประโยคคำพูดสุดท้ายนี่สาแค่คิดหรือว่าพูดออกไปกันอะ

แต่ว่านะ... ก็เข้าใจทั้งสองฝ่ายนั่นหละ
เข้าใจทั้งสา  และเข้าใจทั้งนักรบ
ต่างคนต่างก็มีมุมมองแตกต่างกันไป
อีกฝ่ายบอกรัก...  จึงอยากได้คำตอบเร็วๆ ว่าสรุปแล้วเค้าควรจะอยู่ในสถานะไหน
อีกฝ่ายถูกบอกรัก...  จึงต้องคิดให้รอบคอบว่าจริงๆ แล้วตัวเองรู้สึกเช่นไร

เวลาที่ผ่านไปก็เหมือนจะเนิ่นนานเพราะว่าอีกฝ่ายอยากรู้  อีกฝ่ายก็ต้องคิด

เฮ้อ...  ความรักมันก็แบบนี้เนาะคะ!!!  เป็นกำลังใจให้น้องสาและนักรบอีกคน
กลับมาคืนดีกันไวๆ นะ  แม้มาม่ามันจะอร่อยก็จริง  แต่ก็อยากกินหนมปังสังขยากะลาวาช็อกโกแลตต่อเน่อ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 10-07-2012 13:33:35
ไม่เห็นต้องขอเวลาเลย ชอบก็บอกไปเลยว่าชอบ
เด๋วลูกแม่เดือนก็ติสต์แตกเตลิดหนีไปหรอก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 10-07-2012 17:56:31
ไม่ยอมปรับความเข้าใจกัน ไม่ยอมคุยกันดีๆ
สุดท้ายเป็นไง.....ดราม่าเลย

 :sad4:  :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-07-2012 19:23:43
ขนมมื้อนี้
จืดสนิท :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 10-07-2012 19:38:26
รบรอสาก่อนซิตัว T_T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 16] 09/07/55 >> P.23
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 10-07-2012 20:01:49
สาเอ้ยยยยยยยยย ถ้าน้องไม่พูด รบจะรู้มั้ยค่ะลูก เอ้อออออออออออออออ  :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 11-07-2012 19:02:58

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 17



ข้าวเหนียวหมูปิ้ง?


สาลี่หิ้วของมาวางขายในถนนคนเดินเย็นวันเสาร์
ดวงตากลมโตจับจ้องไปยังแผงตรงข้ามกับตัวเอง


...แผงตรงข้ามที่ไม่มีร้านชื่อว่า ‘บ้านขนมเดือนใจ’


มันหายไปไหน...


ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นเจ้าของร้าน
ก็คือเมื่อวานหลังจากเขาทำทีเป็นเฉยชา
ปล่อยให้มันเดินหันหลังเดินจากไปพร้อมกับคำพูด


'ผมเข้าใจแล้ว
ถ้ามันทำให้สาลำบากใจ
ผมก็จะไม่มาให้สาเห็นหน้าอีก'



...เรื่องจริงเหรอ?


ตอนแรกนึกว่าแค่แกล้งพูดไปงั้น ๆ
เพราะร้านของเขาสองคนก็อยู่ติดกัน
แถมแผงในตลาดยังตั้งอยู่ตรงข้ามกันอีก
จะไม่ให้เจออีกเลยคงเป็นไปไม่ได้
ขนาดเขาเลี่ยงไม่คุยกับมันตั้งหลายวัน
แต่ก็ยังพอเห็นหน้ากันแว๊บ ๆ อยู่ดี

...เมื่อวานมันก็ไม่ได้มาขาย
แล้ววันนี้กลับมีร้านอื่นมาตั้งแทนที

เพียงเท่านี้ก็พอที่จะทำให้เขาตระหนักได้แล้วว่า


...มันไม่ใช่แค่การแกล้งพูดเล่น ๆ


ลูกแม่เดือนมันหายไปไหน
หรือคิดจะเลิกตั้งแผงขายของบนถนนคนเดินไปเลย


แค่นึก...
หัวใจก็หนักอึ้ง
คล้ายกับมีบางสิ่งหน่วงอยู่ในความรู้สึก

...หายใจอึดอัด
ทั้ง ๆ ที่บรรยากาศรอบกายก็เหมือนเดิม


เพราะรู้สึกผิด...
หรือเพราะอะไรกันแน่...


แต่ที่สำคัญ...
 
...เขาไม่ชอบความรู้สึกในใจแบบนี้เลยจริง ๆ




“เอ๊ะ วันนี้ไม่ใส่ชุดไทยมาขายของเหรอคะ”

เสียงเรียกทักทำให้คนที่กำลังจมดิ่งในห้วงความคิดรู้สึกตัว
เงยหน้าขึ้นมองพี่สาวออฟฟิตซึ่งพักนี้เห็นบ่อยมากขึ้น
เพราะเจ้าตัวชอบแวะมาซื้อขนมที่ร้านหวานละไมเป็นประจำ

“พอดี เสื้อซักตากไว้ยังไม่แห้งนะครับ”

สาลี่โกหกตอบกลับไป

...ไม่ใช่เพราะเสื้อไม่แห้ง
แต่เขาไม่รู้จะหอบมันมากับมอเตอร์ไซต์ยังไงต่างหาก
ก็เลยเปลี่ยนกลับมาใส่ชุดปกติธรรมดาเหมือนอย่างเคย
ยกเว้นก็แต่เขายังคงใส่คอนแทคเลนส์แทนแว่น
เพราะรู้สึกว่ามันสะดวกกว่ากันมาก

“อืม...งั้นวันนี้ขอตะโก้ข้าวโพดอย่างเดียวแล้วกัน
พักนี้ทานขนมเยอะน้ำหนักพี่ขึ้นตั้งสองกิโลแหนะ
แต่ก็แหม... อดใจไม่ได้สักที ผู้หญิงนี่เนอะ
เมื่อกี๊ก็เดินผ่านร้านเค้ก พี่ทนไม่ไหวเลยจัดการมาก่อนสองชิ้น”

หญิงสาวพูดกลั้วหัวเราะพลางยกถุงขนมซึ่งบรรจุกล่องเค้กโชว์ให้เห็นหลักฐาน
ดวงตากลมโตไล่มองตามแล้วก็ต้องสะดุดกับโปสการ์ดสองแผ่นซึ่งแนบมากับขนม
ไอ้ร้านที่สามารถซื้อของสองอย่างมาพร้อมกันได้คงมีเพียงร้านเดียว

“พี่ซื้อเค้กที่ร้านบ้านขนมเดือนใจเหรอครับ”


“ใช่จ๊ะ พอดีพี่เดินเข้ามาจากทางหอนาฬิกา
เห็นทีแรกก็งง ๆ เพิ่งรู้ว่าเขาย้ายร้านไปขายอยู่ตรงนั้นแล้ว”



หอนาฬิกา?


สาลี่หันมองหอนาฬิกาที่เห็นอยู่ไกล ๆ ตรงหน้าตลาด
ส่วนที่เขาตั้งแผงขายนับเป็นส่วนท้าย ๆ ของร้านบนถนนคนเดินนี่
ซึ่งเป็นโซนขายของประเภทอาหารโดยเฉพาะ
ส่วนโซนด้านส่วนใหญ่เป็นพวกซื้อผ้า เครื่องประดับ งานฝีมือจิปาถะ
แล้วทำไมถึงได้ย้ายไปขายอยู่ตรงที่แบบนั้น


...หรือที่ทำกันขนาดนี้
แค่เพราะไม่ต้องการให้เขาเห็นหน้าอีกต่อไปแล้วจริง ๆ น่ะเหรอ


ดวงกลมโตเผลอมองฝั่งตรงข้ามอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
มีลูกค้าสองสามคนมาอุดหนุนร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งซึ่งเพิ่งเปิดใหม่


...แปลกที่รู้สึกราวกับหัวใจถูกบีบให้เจ็บทรมาน



อยากรู้จริง ๆ ว่าตอนที่เขาแกล้งหลบหน้า


...ลูกแม่เดือนจะรู้สึกแบบนี้เหมือนกันบ้างรึเปล่า



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ตีสามแล้ว


สาลี่ยังคงพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง
พยายามข่มตานอนให้หลับแต่ไม่สามารถทำได้
สุดท้ายจึงตัดสินใจหยิบแว่นมาใส่แล้วลุกเดินขึ้นเปิดไฟ
ตั้งใจจะหาหนังสืออ่านสักเล่มฆ่าเวลา
โดยเฉพาะไอ้พวกหนังสือสารคดีหนา ๆ
เผื่ออ่านแล้วจะชวนให้ง่วงขึ้นมาบ้าง

เดินไปที่โต๊ะไล่มองหาหนังสือ
ทว่า สายตากลับไปสะดุดเข้ากับบางสิ่ง


...โปสการ์ดที่ถูกใครบางคนถ่ายเอาไว้


เผลอหยิบมันขึ้นมาพลิกดู
รูปที่ถืออยู่มีอยู่เกือบยี่สิบใบ
และแต่ละใบมีข้อความบรรยายสีหน้าของตัวเองอย่างครบถ้วน

บางรูปก็คล้ายกับโปสการ์ดที่เขาเคยเห็นในโน็ตบุ๊คของคนทำก่อนหน้านี้
เพียงแต่ข้อความมันแตกต่าง

ข้อความที่บ่งบอกจากใจของคนทำว่า


...รัก




ก๊อก! ก๊อก!

ตีสามแบบนี้ใครกันจะมาเคาะประตูห้อง

สาลี่วางรูปในมือลง เดินออกมาเปิดประตู
ก่อนจะแปลกใจเมื่อพบว่าใครยืนอยู่หน้าห้อง

“อ้าว แม่ยังไม่นอนเหรอครับ”

คนถูกถามส่ายหน้า

“นอนไปแล้วจ๊ะ
แต่คนอายุมากนอนไปพักเดียวก็ตื่น
เลยว่าจะลงมาหาน้ำท่าดื่มสักหน่อย
แต่เห็นไฟในห้องลูกเปิดอยู่ เลยแวะมาดู”
นอนไม่หลับเหรอจ้ะ”

“อา...ก็นิดหน่อยครับ”

เขาตอบกลับเลี่ยง ๆ
เบนหลบกายให้ผู้เป็นแม่ก้าวเข้ามาในห้อง

“คิดอะไรอยู่ล่ะ หรือว่าคิดเรื่องของรบใช่มั้ย”

คนที่กำลังปิดประตูสะดุ้งเฮือก
แต่หูก็ยังคงได้ยินคำพูดประโยคคาดเดาต่อมา

“ทะเลาะกันล่ะสิ อย่าคิดนะว่าแม่ดูไม่ออกว่าลูกกำลังหลบหน้าเขาอยู่”

สาลี่ไม่ตอบกลับเพียงแค่เดินมานั่งบนเตียงข้าง ๆ ผู้เป็นแม่
ท่าทีบ่งบอกชัดถึงความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ
ทำให้คนมองต้องเผลอถอนหายใจเบา ๆ

“แม่ไม่ถามหรอกนะว่าเรื่องอะไร
แต่ถ้ายังไม่คุยกันตรง ๆ แบบนี้แล้วเมื่อไรจะปรับความเข้าใจได้
เอาแต่หนีอย่างเดียวไม่ช่วยแก้ปัญหานะลูก”

“สาไม่ได้หนีสักหน่อย สาแค่...แค่ยังไม่อยากเจอ”

คนโดนบ่นรีบร้อนแก้ตัวสวนกลับทันควัน
แถมยังเป็นคำแก้ตัวที่ไม่มีเหตุผลใด ๆ
จนทำให้คนฟังนึกแปลกใจ

“เออแหนะ เดี๋ยวนี้มีเถียงข้าง ๆ คู ๆ ด้วยนะเรา”

คำทักสะกิดใจให้คนพลั้งเผลอรู้สึกตัว
ปกติไม่ว่าแม่จะสอนอะไร
เขาก็จะตอบคำว่า ‘ครับ’ และทำตามมาโดยตลอด
แต่คราวนี้เขากลับปล่อยให้หน้ากากเด็กดีหลุดออกไปง่าย ๆ

...มันเกิดขึ้นได้ยังไง


“ปะ...เปล่านะครับ
เออ...คือ...สาแค่รู้สึกอึดอัดเวลาอยู่กับรบก็เลยไม่อยากเข้าใกล้”

สาลี่รีบพยายามหาข้ออ้างที่ฟังดูขึ้นมากกว่าเมื่อครู่
ทว่า ผู้เป็นแม่กลับร้องขัดด้วยความสงสัย

“เหรอจ๊ะ แต่แปลกนะ เวลาแม่มองดูลูกตอนอยู่กับรบ
ลูกรู้มั้ยว่าแม่เหมือนมองเห็นลูกย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน
ตอนที่ลูกยังยิ้มง่าย ร่าเริง ดูมีความสุขจากใจจริง ๆ”
 
ถ้อยคำที่ได้ยินทำให้หนุ่มแว่นนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง
และไม่เพียงเท่านั้น
หัวใจของเขากลับสั่นสะท้าน
ทันทีที่ประโยคต่อมาถูกเอ่ยขึ้น


“สาลี่ แม่รู้ว่าลูกเชื่อฟังแม่ก็เพราะไม่อยากให้แม่ห่วง
แต่บางทีลูกก็ห่วงความรู้สึกของคนอื่นมากไปจนลืมนึกถึงความรู้สึกของตัวเอง
ถ้ามันทำให้ลูกอึดอัดไม่สบายใจก็ค่อย ๆ ผ่อนลงมาบ้างเถอะลูก
ทำในสิ่งที่ใจตัวเองบอกให้ทำเถอะจ๊ะ”



...เหมือนกัน


คำพูดพวกนี้เหมือนกับที่ลูกแม่เดือนเคยบอกเอาไว้


‘ถ้าฝืนมากเกินไป
คุณจะเหนื่อยเอาซะเปล่าๆ
พักบ้างก็ได้ ทำในสิ่งที่คุณอยากทำดูบ้าง
ผมเชื่อว่าคนที่คุณแคร์ต้องเข้าใจคุณ’



เขาคล้ายกับได้ยินเสียงของคนคุ้นเคยดังก้องขึ้นมาในหัว

หน้ากากที่เคยสวมใส่ถูกแม่มองทะลุออกได้ตั้งนานแล้ว
แม่เข้าใจทั้งหมดในสิ่งที่เขาเป็น
ทว่าแม่ก็ยังคงแค่เฝ้ามอง โดยไม่รั้งเขาเอาไว้
ปล่อยให้เขาเรียนรู้เพื่อให้เติบโตด้วยหัวใจของตัวเอง

ซึ่งเขาก็อาจจะยังไปได้ไม่ถูกทาง
และคงใส่หน้ากากเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
หากไม่ใช่เพราะการชี้ทางของใครบางคน

คนที่เขารู้สึกสบายใจเวลาอยู่ด้วย

คนที่เขาสามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

คนที่คอยอยู่เคียงข้าง คอยช่วยเหลือ

เป็นทั้งที่ระบาย และให้คำปรึกษา


คนที่ทำให้หัวใจรู้สึกสั่นไหวทุกครั้งที่สบตา


...คนที่ก้าวเข้ามาทำให้กำแพงซึ่งเคยตั้งเอาไว้ในใจค่อยๆ พังทลายลง



“ขอบคุณครับแม่ แล้วสาจะทำตามที่แม่บอกครับ”

แม่พลอยพยักหน้ารับพร้อมแย้มรอยยิ้มบาง ๆ
เมื่อเห็นว่าลูกชายมีสีหน้าดีขึ้น
ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนข้างฝา

“ดูสิ เผลอแป๊บเกือบตีสี่แล้ว
แม่ต้องลงไปเตรียมทำขนมไว้ตักบาตรเช้านี้ก่อน เดี๋ยวจะไม่ทัน
ลูกก็นอนพักซะหน่อยเถอะนะจ๊ะ”

เอ่ยจบเจ้าตัวก็ลุกขึ้นเดินเปิดประตูออกไปนอกห้อง


ทิ้งให้คนที่ยังมีบางสิ่งติดค้างในใจ
ลุกก้าวไปยืนมองของซึ่งวางทิ้งไว้บนโต๊ะก่อนหน้านี้


‘ทำในสิ่งที่ใจตัวเองบอกให้ทำ’


สาลี่เอื้อมเปิดลิ้นชักข้างโต๊ะ
คุ้ยหาของที่เคยจำได้ว่ามี
ก่อนจะพบมันวางนิ่งอยู่ในกระเป๋าหนังสีดำใบเล็ก
เขาเปิดมันออก...

กล้องดิจิตอลสีเงินธรรมดาอยู่ในมือ



...ตีสามห้าสิบ


เขาหวังเหลือเกินว่าตอนนี้มันจะยังคงทัน



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



เย็นวันอาทิตย์

นักรบขายของโดยเปลี่ยนทำเลที่ตั้งใหม่
แม้ความจริงการเปลี่ยนที่จะทำให้ยอดขายลดลงไปเล็กน้อย
เพราะดันไปตั้งรวมอยู่กับส่วนของร้านขายพวกเสื้อผ้าเครื่องประดับ
แถมยังมีปัญหากับคณะกรรมการตลาด ซึ่งทีแรกจะไม่ยอมให้ตั้งเสียด้วยซ้ำ
เนื่องด้วยมันเร็วเกินไปและไม่ผ่านขั้นการตอนอนุมัติที่ถูกต้อง
แต่เพราะเขาเคยช่วยทำแผ่นพับโฆษณาตลาดให้
หัวหน้ากรรมการเลยใจอ่อนยอมอนุญาต
และปล่อยให้คนขายเจ้าใหม่เข้ามาแทนที่ตั้งร้านเดิมของเขา

แต่แม้จะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่
ทว่าสภาพจิตใจของเขากลับไม่ได้เปลี่ยนตามไปด้วย
เพราะใจยังคงวนเวียนคิดถึงแต่เรื่องของคนคนหนึ่ง


...คนที่เพิ่งจะหักอกไอ้นักรบไปอย่างไม่ใยดี


...อกหักมันเจ็บแบบนี้นี่เอง


ที่ผ่านมาถึงจะคบกับผู้หญิงมาบ้าง
แต่พอเลิกกันก็ยังไม่ได้เจ็บช้ำอะไรมากมายเท่านี้
หรือจะเป็นเพราะเขาไม่เคยจริงจัง


...แล้วทำไมกับลูกแม่พลอยถึงได้แตกต่าง


ทั้ง ๆ ที่ทีแรกแค่ตั้งใจจะแกล้งแหย่เล่น
อยากเห็นคนที่ชอบหน้าบึ้งโมโหโวยวายจนน๊อตหลุดออกมา
แต่พอยิ่งได้รู้จัก ยิ่งได้ใกล้ชิดก็ยิ่งเห็นว่านอกจากหน้าบึ้ง ๆ แล้ว
เวลามันทำหน้าตาแบบอื่นก็ดูน่ามองไม่แพ้กัน
ทั้งหน้าตอนหัวเราะ ยิ้ม เหม่อ เหงา เศร้า ซึม
ทุก ๆ สีหน้าล้วนดึงดูดความสนใจให้เขาเผลอมองอยู่บ่อย ๆ

จากแค่มองก็กลายเป็นถ่ายรูปเก็บไว้ตั้งมากมาย
นึกไปแล้วก็ตลกตัวเอง
รู้ดีว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่เขากลับไม่เคยรังเกียจ

อยากจะปกป้องดูแล
อยากจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป


ไม่น่าเชื่อว่าเจอกันเพียงแค่สองเดือนกว่าเท่านั้น
แต่ลูกแม่พลอยกลับอิทธิพลต่อใจเขารวดเร็วมากขนาดนี้


...รวดเร็วจนเขายังแปลกใจ


แล้วกับลูกแม่พลอยล่ะ
ที่เขาพูดโพล่งออกไปแบบนั้น
หรือว่ามันเร็วเกินไป


...เร็วเกินกว่าจะบังคับให้ใครมารักกัน


นั้นสินะ ถ้าเขาปล่อยให้ลูกแม่พลอยค่อย ๆ รับรู้
เริ่มต้นจีบอย่างจริงจังไม่ใช่แค่แกล้งเล่น

มันจะพอเป็นไปได้มั้ย...


...ลูกแม่พลอยจะยอมให้โอกาสกันบ้างรึเปล่า




นักรบขายของไปด้วยคำถามที่ยังติดค้างอยู่ในใจ
จวบจนกระทั่งเก็บแผงตอนห้าทุ่ม
ร่างสูงจึงเดินหอบข้าวของกลับมาที่รถโฟล์กเต่าคู่บุญ
ทว่ายังไม่ทันไขกุญแจ
ดวงตาคมกลับสะดุดเข้ากับบางสิ่งที่ถูกแขวนไว้ตรงกระจกมองข้างรถ
ถุงพลาสติกใสซึ่งภายในบรรจุของอยู่สองสิ่ง

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน
มือเอื้อมหยิบขนมที่ถูกห่อด้วยถ้วยฟลอยด์สีเงินขึ้นมาพิจารณา

แม้จะเย็นแล้ว
แต่รูปร่างแบบนี้...


...ช็อคโกแล็ตลาวา


ทว่า สิ่งที่ดึงความสนใจเขาไปมากที่สุด
กลับเป็นรูปถ่ายที่อัดไว้อีกใบ

รูปวิวริมแม่น้ำตอนกลางคืนอันคุ้นตา
แสงไฟสลัวส่องให้เห็นร่างของใครคนหนึ่งก้มหน้ายืนพิงราวรั้วกั้นอยู่

เขาพลิกรูปด้านหลังก่อนจะเห็นประโยคเขียนด้วยปากกาสั้น ๆ



‘รู้รึเปล่าว่าตอนนี้สีหน้าของผมมันเป็นยังไง’



หนุ่มมาดเซอร์กำรูปในมือแน่น
รีบเปิดประตูยัดข้าวของเข้ารถ
สตาร์ทเครื่องเหยียบคันเร่งพุ่งตรงสู่เป้าหมายด้วยใจที่เต้นรัว
ริมฝีปากไม่อาจกลั้นรอยยิ้มกว้างเมื่อได้คำตอบอยู่ในใจ



รู้สิ...


เขารู้ดีว่าสีหน้าแบบนี้มีเพียงแบบเดียว...



...มันคือสีหน้าของลูกแม่พลอยที่กำลังรอให้เขาไปหายังไงล่ะ



------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 11-07-2012 19:31:40
อ่านตอนแรกบีบหัวใจมายิ้มได้ตอนสุดท้ายนี่แหละ
โอกาสมาถึงแล้วพยายามให้เต็มที่นะพ่อนักรบผู้ยิ่งใหญ่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-07-2012 19:36:59
เอาใจช่วยพ่อนักรบ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-07-2012 19:44:47
รู้ได้ไงอ่ะ?

 :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 11-07-2012 19:57:10
นักรบเมพหวะ  รู้ได้ไงฟะว่าสาอยากให้เอ็งไปเจอหนะ  ขี้ตู่เอาเองอ๊ะปะเนี่ย  กร๊ากกกกกกกก

ตอนนี้รู้สึกเหมือนน้อยๆ ยังไงไม่รู้ค่ะ  หรือว่าเรารออ่านมาทั้งวันก็ไม่รู้
รีเฟรชเรื่อยๆ เพื่อรออ่านเรื่องนี้เลยนะเออว์  ฮิฮิ

มีโอกาสแล้วก็ทำให้เต็มที่นะนักรบ
โอกาสงามๆ ก็ต้องคว้าเอาไว้จะได้ไม่เสียใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 11-07-2012 20:16:30
มดเตร์ยมเดินแน่เลยตอนหน้า ^^"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 11-07-2012 20:21:17
เอาละเฟ้ยย มีลุ้นแล้ว
ตอนนี้น้องสาน่ารักนะคะ  :L2:
มาต่อเร็วๆนะ อยากดูหน้าน้องสาลี่ที่ริมแม่น้ำจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >;>; P.24
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-07-2012 22:21:12
รีบไปเลยนะลูกแม่พลอยกำลังรออยู่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 12-07-2012 00:11:29
รู้ใจตัวเองแล้วใช่มั้ยจ๊ะน้องสา... :impress2: :impress2:
ถึงได้เปิดโอกาสงามๆให้นักรบแบบนี้

โรแมนติกดีนะ จะง้อหนุ่มติสต์ทั้งทีก็ต้องถ่ายรูปติสต์ๆมาบอกโค๊ดลับ
ดีนะรบเค้ารู้ใจน้องสาอ่ะ

เอาใจช่วยนักรบนะจ๊ะ  :yeb: :yeb: :yeb:
คิดว่าตอนนี้คงไม่ต้องค่อยเป็นค่อยไปแล้วล่ะ อิอิ

+1 ค่ะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-07-2012 00:30:42
อย่าทะเลาะกันนานนะ คนอ่านใจจะขาดแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 12-07-2012 03:08:35
จะดีกันเเล้ว  เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-07-2012 07:05:03
 :pig4:ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-07-2012 07:30:05
 o13

ง้อให้สาลี่ใจอ่อนระทวยเลยนะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 12-07-2012 08:28:27
น้องสาแอบไปทำช็อคโกแลตลาวามาเพื่อนักรบโดยเฉพาะ   แถมมีการบอกรหัสลับที่รู้กันเองด้วยอ่ะ 


ชิ้นที่ 18 ต้องหวานหยดจนมดกัดแหงๆ   :-[

กด + ให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 12-07-2012 11:00:31
อย่าให้พลาดนะน้องสา รบมาตามง้อคำเชิญแล้ว  :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 12-07-2012 12:06:31
เอาแล้วววว จะคืนดีกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 12-07-2012 12:24:05
น้องสาลงทุนง้อรบก่อนเลยนะเนี่ย

แต่น้องสาผิดหล่ะที่ไม่ยอมคุยขอเวลาทำใจ บลา ๆ ๆ  ก็ว่ากันไป
ส่วนนักรบก็ผิดที่เร่งรัดน้องสา
หวังว่าการไม่เจอหน้ากันเคืองกันครั้งนี้พอจะทำให้ทั้งคู่เข้าใจกันมากขึ้นนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 12-07-2012 16:03:58
 :-[ :-[ :-[ :-[

เข้าใจอารมณ์ของคุณเฮีย ณ ร้านน้ำเต้าหู้ กันเลยทีเดียว

ก็ตี๋น้อย ณ ร้านกาแฟน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ ไม่หลงหัวปักหัวปำก็ไม่รู้จะว่ายังไง

มีแถมแก้วพิศษมาให้ได้ชื่นอกชื่นใจกันด้วย

ขอบคุณค่ะสำหรับนิยายน่ารักๆ เรื่องนี้ที่มาช่วยเพิ่มรอยยิ้มและความสุขให้กับทั้งตัวเองและอีกหลายๆ คน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 12-07-2012 17:58:03
แหมะ เค้าจะไปจิ้มสังขยากันแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 12-07-2012 20:33:22
ต้องอย่างนี้ดิ ได้ใจเค้าเลย!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 12-07-2012 20:39:42
น้องสาง้อได้น่ารักมากกกกกกกกก !! ><
 :-[ :-[

ยกความดีความชอบให้คุณแม่ !!
คุณแม่รู้อยู่แล้วป่ะ ว่ารบกับสามากกว่าเพื่อน.. หรือไม่รู้ ??
ถ้าไม่รู้ก็ขอให้คุณแม่รับได้นะ xD
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 12-07-2012 21:05:17
ทำหน้าแบบไหนเราก็ไม่รู้

รู้แต่ว่า...เค้ารู้กันอยู่สองคนเนอะ หุหุ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 12-07-2012 22:55:34
 :jul1: มาต่อเร็วๆนะ เค้าเพิ่งว่างมาอ่าน จะรอจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา






พ่อนักรบสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 17] 11/07/55 >> P.24
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-07-2012 12:43:22
 :catrun:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 13-07-2012 15:22:11
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต


ชิ้นที่ 18



รถโฟล์กเต่าจอดแนบฟุตบาทอยู่ฝั่งตรงข้ามกับถนนติดริมแม่น้ำ
นักรบคว้าถุงใส่ขนม เปิดประตูพรวดรีบวิ่งเข้าไปหาใครบางคน


...ใครบางคนที่เคยคิดอย่างปวดใจว่าคงไม่ได้เจอกันอีก


แต่ตอนนี้ใครคนนั้นกลับนั่งรอบนอยู่บนเบาะรถมอเตอร์ไซต์
ทอดสายตามองเหม่อไปยังอีกฝากของฝั่งแม่น้ำ
ลมพัดโชยลู่เส้นผมเบา ๆ
แสงไฟถนนสะท้อนใบหน้าเนียนให้ดูกระจ่างตาในความมืดของคืนพระจันทร์แรม

บรรยากาศมันสวย...
จนเขานึกอยากจะวิ่งกลับไปเอากล้องมากดภาพตรงหน้าบันทึกไว้
แต่ตอนนี้มีอย่างอื่นที่ต้องรีบปรับความเข้าใจก่อน


“สา”

คนถูกทักหันขวับกลับมาทันทีที่ได้ยิน
และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะเข้ามาใกล้
เจ้าตัวก็อ้าปากตะโกนบอกเสียงลั่น


“หยุดอยู่ตรงนั้นนะ!”


นักรบชะงักไปกับน้ำเสียงแสดงอาการหงุดหงิด
ในสมองมึนงงด้วยความสับสนไม่เข้าใจ


...หรือว่าลูกแม่พลอยยังไม่หายโกรธ

สั่งให้หยุดทั้ง ๆ  ที่อยู่ห่างกันแค่สองเมตร
ระยะทางดูเหมือนจะใกล้
แต่ความเป็นจริงเขารู้สึกว่ามันช่างไกล

ถ้ายังไม่อยากเจอหน้า...
แล้วจะเรียกเขามาหาในที่แบบนี้ทำไมกัน

...หรือแค่จะมาบอกว่าไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว


ดวงตาคมเริ่มฉายแววหม่นเศร้า
ให้กับความสงสัยที่เข้าครอบงำจิตใจ
ยืนนิ่งฟังอีกคนที่เหลือบตามองของในมือ
ก่อนได้ยินเสียงเอ่ยถามสั้น ๆ


“ขนมน่ะกินหรือยัง”



ขนม?


ขนมอะไร...


อ๋อ...ช็อคโกแล็ตลาวาเนี่ยนะเหรอ

ยังไม่ได้กินเลย
ก็มัวแต่รีบมาหาหลังจากอ่านข้อความนั้นแหละ
แล้วทำไมลูกแม่พลอยถึงต้องมาถามกันตอนนี้

เอ๊ะ...


หรือว่า...


หรือว่า...



“สาทำเองเหรอ?”


ทันทีที่ได้ยินคำถามคนฟังก็เบือนหน้าหลบเสไปมองอีกทาง
ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับคำคาดเดา

ความหมองเศร้าในประกายตาเปลี่ยนเป็นความลิงโลด
เมื่อเขาเริ่มจับทิศทางการกระทำของอีกฝ่ายได้

แม้ใจอยากจะยิ้ม แต่สมองกลับคิดแผนดักให้เหยื่อตกหลุม
ด้วยการแสร้งพูดคำปรามาสน้ำเสียงกึ่งเยาะ

“อ้าว ไม่ตอบ สงสัยคงไม่ได้ทำเองหรอกมั้ง
ช็อคโกแล็ตลาวาทำยากจะตาย
ต้องกะให้ดีไม่ให้สุกมาก
คนไม่เคยทำขนมมาก่อน
แถมยังไม่มีเตาอบด้วยคงจะทำไม่เป็น”

ถ้อยคำดูถูกทะลุทะลวงความหงุดหงิดของคนรักศักดิ์ศรีให้พุ่งปรี๊ด
จนกระทั่งลืมตัวเผลอรีบโต้เถียงขึ้นมาทันควัน

“ยากตรงไหน ไม่เห็นจะยากเลย
อ่านวิธีทำแป๊บเดียวก็รู้แล้ว
เตาองเตาอบอะไรไม่เห็นจำเป็นสักหน่อย
ไมโครเวฟมีก็ใช้ไปสิ
ถึงจะไม่เคยทำ แต่ออกมากินได้เหมือนกันล่ะวะ”

น่านไง...สะกิดเข้าหน่อยก็เผลอหลุดโมโหออกมาจนได้
เล่นพูดอธิบายว่าทำเองแบบนี้
แล้วจะไม่ให้เขามองว่าลูกแม่พลอยน่ารักน่าแกล้งยังไงไหว

“หรอออ...ตกลงทำเอง?
แบบนี้ยิ่งไม่กล้ากินใหญ่เลย”

คำลากเสียงยาวบ่งบอกถึงความไม่แน่ใจ
เพิ่มเชื้อไฟให้กับคนที่หงุดหงิดเป็นทุนเดิม
สาลี่กระโดดลงมาจากรถมอเตอร์ไซต์
เดินกระแทกเท้าเข้ามาใกล้ ชี้มือใส่หน้าร่างสูง
ตะคอกเสียงบังคับอย่างหมดความอดทน


“กินเดี๋ยวนี้นะโว้ยยย!!
คนอุตส่าห์ทำตั้งหลายรอบกว่าจะได้
ถ้าไม่กิน ไม่ต้องมาพูดกัน!!!”


นักรบแทบจะกลั้นรอยยิ้มขำของตัวเองไว้ไม่อยู่


โอยยย....ให้ตายเถอะ


เนี่ยเหรอวิธีการ ‘ง้อ’  ของลูกแม่พลอย


มาบังคับคนอื่นให้กินของที่ตัวเองทำ
แล้วยังหลุดมาด้วยว่าใช้เวลาทำตั้งหลายรอบ
ทุ่มเทให้กันขนาดนี้ ถ้าไม่กินก็คงใจร้ายเกินไปหน่อย
อีกอย่างเขาก็อยากจะรู้ด้วยว่าฝีมือลูกแม่พลอยจะอร่อยขนาดไหน


“เออ ๆ กินก็กิน”

นักรบพยักหน้าแกล้งจำใจตอบไปแกน ๆ
ก้มลงคุ้ยหาช้อนพลาสติกคันเล็กที่มีอยู่ในถุง
แล้วจึงตักเนื้อขนมเขาปาก


แม้จะเย็นลงไปแล้ว
แต่เนื้อช็อคโกแล็ตก็ยังคงนุ่ม
รสขมออกหวานจาง ๆ เข้ากันอย่างลงตัว
เนื้อตรงกลางที่ยังไม่สุกดีเยิ้มทะลัก
ให้ความเข้มข้นพอเหมาะอย่างกลมกล่อม

...รสชาติอร่อยไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่เขาทำเลย



“เป็นไง”

คนที่เฝ้ารอปฏิกิริยาจากคนกินเอ่ยถามอย่างหวั่น ๆ
ซึ่งนักรบก็ตอบกลับไปเพียงสั้น ๆ ตามความจริง

“อืม...อร่อยดี”

ดวงตากลมโตเป็นประกายแวววับเมื่อได้ฟังคำตอบถูกใจ
ทว่ายังไม่ทันจะได้อวดฝีมือให้สมภาคภูมิ
เสียงของคู่สนทนาก็ร้องขัด

“แล้ว...ตกลงสาเรียกผมมาที่นี่
เพื่อให้มากินช็อคโกแล็ตลาวาให้สาดูอย่างเดียวเหรอ”

คำถามส่งผลให้คนฟังชะงักงัน
ประกายตายินดีเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นลังเล
ก่อนเจ้าตัวจะเบือนหน้าหลบพยายามเริ่มต้นเรียบเรียงคำ
แต่ประโยคที่เอ่ยออกมาก็ยังจับใจความไม่ได้

“อ่ะ...เออ....คือว่า...คือ...เออ....”

คำพูดตะกุกตะกักพร้อมกับท่าทีอึกอักของคนตรงข้าม
ทำให้นักรบต้องเผลอถอนหายใจ
จนในที่สุดก็ตัดสินใจเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อนเสียเอง


“ถ้าสาลำบากใจก็ไม่ต้องบอกก็ได้
ผมรู้ว่า มันคงเร็วเกินไปที่จะให้สารับความรู้สึกของผมเอาไว้
แล้วสาเองก็คงจะตกใจที่ผมทำแบบนั้น

ผมผิดเอง...
ผมขอโทษนะ...

สาพอจะยกโทษให้ผมได้มั้ย

ยกโทษแล้วให้เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะนะ”


คำอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างคนสำนึกผิด
เพราะคนพูดเอ่ยออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ

 
เขารู้แล้วว่าสิ่งที่เจ็บกว่าการเป็น ‘แค่เพื่อน’

คือการถูกคนที่ตัวเองรักทำเหมือนเขา ‘ไม่มีตัวตน’


และหากโดนลูกแม่พลอยเมินใส่กันขนาดนั้น
เขาคงทนไม่ไหวอีกต่อไป
สู้ให้อยู่ข้าง ๆ กายกันเสียดีกว่า
อย่างน้อยก็ยังได้พูดคุย ยังได้เห็นรอยยิ้ม
ยังรู้ว่าอีกฝ่ายสุขสบายดี

...แค่นี้เขาก็พอใจมากแล้ว


ใบหน้าของคนฟังยังคงไม่ยอมหันมาสบคู่สนทนา
เพียงแค่เอ่ยคำถามย้อนกลับมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ


“ไหนคุณบอกว่าไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมไง
แล้วคุณมั่นใจเหรอว่าจะกลับมาเป็นเพื่อนกับผมได้”


...ไม่แปลกเลยที่จะโดนถามแบบนั้น

เพราะลูกแม่พลอยรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาว่ามันก้าวล้ำ
เกินกว่าคำ ‘เพื่อน’ ไปแล้ว

จะคลางแคลงใจในความสัมพันธ์
จะระแวงสงสัยเพราะกลัวบางสิ่งจะเกินเลยก็ไม่คงผิด

เพราะต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
มันก็เกิดจากการที่เขาดันเผลอใส่อารมณ์ล่วงล้ำลูกแม่พลอยไป
แถมยังย้ำชัดด้วยว่า อยากจะกอด อยากจะจูบ
อยากทำให้ลูกแม่พลอยเป็นของเขา

...สิ่งที่ทำลงไปก็สมควรแล้วที่จะถูกอีกคนไม่ไว้ใจกันขนาดนี้


แต่...


“มันก็ใช่ เพราะผมรู้สึกกับสาเกินเพื่อน
แต่ถ้าสารับไม่ได้ หรือไม่ไว้ใจผม
ผมก็จะพยายามไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องของสา

จะเป็นแค่เพื่อนที่ดีคอยช่วยเหลือ
เป็นคนรับฟังปัญหาของสา

แต่ขอให้โอกาสผมสักครั้ง
ให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะ

...ได้มั้ย”


น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาเต็มไปด้วยความวอนขอ
อย่างที่นักรบมั่นใจว่าไม่เคยพูดให้ใครได้ยินมาก่อน
แต่สำหรับคนคนนี้ ต่อให้คุกเข่าเพื่ออ้อนขอคืนดีก็ยอม


...แค่อยากจะขอโอกาสอีกสักครั้ง

แค่ครั้งเดียวเท่านั้น....


...ลูกแม่พลอยพอจะให้กันได้รึเปล่า


ดวงตาคมมองใบหน้าเนียนซึ่งหันกลับมาสบตา
ก่อนคำพูดหนึ่งจะเลื่อนหลุดจากริมฝีปาก

...ถ้อยคำที่ทำให้หัวใจของนักรบหล่นวูบ



“ไม่ได้หรอก มันสายไปแล้ว”



ประโยคปฏิเสธที่ได้ยินเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ
นักรบนิ่งงัน รู้สึกราวกับลมหายใจขาดห้วง
ร่างกายคล้ายจะหมดแรงลงไปดื้อ ๆ
เมื่อรับรู้ว่าความหวังที่มีพังทลายลงไปจนหมดสิ้น


‘มันสายไปแล้ว’


...ก็น่าจะรู้อยู่แล้วแท้ ๆ

เขายังจะมาหวังลม ๆ แล้ง ๆ บ้าบออะไรอยู่อีก
คิดอยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
ทั้ง ๆ ที่ทำร้ายความรู้สึกของอีกคนตั้งมากมาย
มาร้องขอโอกาสกันตอนนี้คงไม่มีประโยชน์


เพราะฉะนั้นจำไว้ซะ ไอ้รบ

ต่อจากนี้เรื่องระหว่างเขากับลูกแม่พลอย


...มันจบสิ้นลงไปแล้ว



นักรบตั้งท่าเตรียมหมุนตัวกลับ
ขืนอยู่ต่อไปมีแต่ทำให้หัวใจตัวเองต้องเจ็บช้ำเปล่า ๆ
อีกอย่างถูกพูดขนาดนี้ ลูกแม่พลอยคงไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกต่อไปแล้ว

ทว่ายังไม่ทันจะก้าวเดิน
ร่างสูงกลับรับรู้ถึงแรงกระชากจากคอเสื้อด้านหลัง
เขาหันหน้ากลับมาด้วยความแปลกใจ
ก่อนดวงตาคมจะเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
เมื่อพบว่าใบหน้าลูกแม่พลอยอยู่ใกล้เพียงแค่ลมหายใจกั้น

...ริมฝีปากถูกสัมผัสจากบางสิ่งที่นุ่มนวลค้างไว้เพียงชั่วครู่

แล้วผละออกห่างอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับได้ยินคำพูดประโยคหนึ่งดังขึ้น

...สะท้อนก้อนในใจอย่างชัดเจน




“เพราะเราสองคนไม่ได้เป็นเพื่อนกัน”




อะ...


...อะไรนะ


...เราสองคนไม่ได้เป็นเพื่อนกัน


ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน...


แล้วยังจูบแบบนั้น


อย่างนี้ก็ความหมายความว่า...


หมายความว่า...


ความโศกเศร้าในหัวใจสูญสลายเปลี่ยนเป็นความสุขซึ่งเอ่อเข้าท่วมท้น
ยิ่งเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาเบนหลบไม่สบตา
แต่เสี้ยวหน้าที่สะท้อนแสงไฟกลับขึ้นสีเข้มก็ยิ่งทำให้ริมฝีปากยิ้มกว้าง
นึกอยากจะคว้าตัวคนที่ช่างทำตัวน่ารักให้มากอดให้ช้ำ
โทษฐานที่แกล้งทำให้เขาเดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวสุข
จนหัวใจแทบจะรับไม่ไหว


...ลูกแม่พลอยนะ ลูกแม่พลอย
เล่นมาทำให้เขา ‘ตกหลุมรัก’ มากขึ้นไปกว่าเดิมแบบนี้
อย่าหวังว่าเขาจะปล่อยให้หลุดมือต่อไปได้อีกเลย


ดวงตาคมจ้องมองร่างตรงหน้าอย่างเปิดเผย
โดยไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกจากใจ
กระทั้งคนถูกมองเริ่มอึดอัดแปลก ๆ
จนต้องรีบพูดขอตัวเลี่ยงห้วน ๆ

“ผมกลับล่ะ”

“เดี๋ยว สากลับกับผมนะ”

นักรบรีบเอ่ยรั้งเดินตามคนหันหลังก้าวฉับ ๆ ซึ่งร้องตะโกนบอก

“มีมอไซต์กลับเองได้”

“น่ามันลำบากเดี๋ยวผมช่วยขนเอง”

หนุ่มมาดเซอร์คะยั้นคะยอ
มิหนำซ้ำยังเร่งเดินแซงหน้า
คว้ากล่องใส่ขนมใบใหญ่ยกเดินลิ่วข้ามไปอีกฝากอย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง
ตัดหน้าเจ้าของตัวจริงที่ร้องตะโกนโวยวายดังลั่น

“เฮ้ย!! เอาคืนมานะ!!
โธ่เว้ย!! เป็นแบบนี้ทุกที
แม่ง แกล้งกันอีกแล้ว!!”

 
คำด่าลอยมาตามลม
แต่นักรบกลับไม่ได้สนใจยังคงไขกุญแจรถ
เปิดกระโปรงหน้าแล้วยัดของใส่ลงไป
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนหน้าบูดที่เดินเข้ามาใกล้
อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขำขึ้นมาเบา ๆ
จนโดนดวงตากลมจ้องตาขวาง


“หัวเราะทำไม
อยากจะขับไปส่งก็เชิญ
ดี จะได้ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำมัน
แล้วอย่ามาหารกันทีหลังนะโว้ย!!”


คนบ่นประชดเปิดประตูแทรกกายลงไปนั่งที่ประจำ
แล้วกระชากปิดโครมอย่างรุนแรงอย่างไม่กลัวเจ้าขอรถจะด่า
ซึ่งแน่นอนว่าร่างสูงไม่คิดจะถือสาอยู่แล้ว

ก็จะโกรธทำไม
ในเมื่อไอ้สีหน้าแบบนี้มันฟ้องอยู่ชัด ๆ
ว่าลูกแม่พลอยกำลัง


...เขิน


นึกอยากจะหยิบกล้องออกมาถ่ายไว้ดูเล่นอีกหลาย ๆ ใบ
แต่ก็ทำได้แค่เพียงก้าวขึ้นรถ
สตาร์ทเครื่องขับออกไปตามถนนสู้เส้นทางที่คุ้นเคย
ทว่าก็ยังมิวายเหลือบมองเป็นระยะ


...มองคนที่ ‘ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน’


ซึ่งเจ้าตัวก็ยังเบือนหน้าดูวิวนอกกระจกไม่เลิก
เขาจึงค่อย ๆ แกล้งลดมือข้างซ้ายที่จับพวงมาลัย
ก่อนจะขยับเอื้อมมาวางทาบทับมือของใครอีกคนซึ่งวางนิ่งอยู่บนเบาะ
ดวงตากลมโตหันกลับมามองร่างสูงเพียงเล็กน้อย
แล้วก็เฉกลับไปชมวิวข้างทางเหมือนเดิม


...ปล่อยให้สองมือเกาะกุมเกี่ยวกันไว้


พร้อม ๆ กับปล่อยให้หัวใจรับรู้ตรงกันว่า...

ระหว่าง ‘ลูกแม่พลอย’ กับ ‘ลูกแม่เดือน’


‘สถานะ’ อะไรคงไม่สำคัญ



แค่ยังรู้ว่าต่อจากนี้เราจะมี ‘กันและกัน’


...เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว




------------------------------------------------------------------------------------------------------------




“รบ เอาเค้กไปไกล ๆ นะ
เห็นมั้ยว่ามันบังสังขยาร้านผมเนี่ย”


“ทีขนมของร้านสากินเนื้อที่ไปตั้งเกือบครึ่ง ผมยังไม่บ่นเลย”


“อะไร นี่กล้าว่าเหรอ
คนเขาใจดีมาแบ่งที่ให้ขายยังจะมากัดอีก”


“ไม่ได้กัดก็ผมพูดจริง
โปสการ์ดของผมยังต้องหนีบแอบ ๆ ไว้อยู่ข้างร้านเลย
แล้วแบบนี้ใครมันจะมาเห็น”


“โอยยย!!  อย่าเรื่องมากได้มั้ยวะ!!
รำคาญโว้ยยยย!!”



เสียงทะเลาะกันดังโหวกเหวกบนถนนคนเดินเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยน
จะต่างก็ตรงที่ว่าจากการทะเลาะกันข้ามฝั่ง
กลับเปลี่ยนมาเป็นการโต้เถียงในร้านแผงเดียวกันแทน


...แผงขายขนมซึ่งตอนนี้เกิดจากการรวมตัวของ


‘ร้านหวานละไม ขนมไทยแม่พลอย’ กับ ‘ร้านบ้านขนมเดือนใจ’ ไว้ที่เดียวกัน



สาลี่ถอนหายใจพลางคิดทบทวนถึงต้นเหตุของเรื่องที่ไม่ใช่คนอื่นคนไกล


...ไอ้ลูกแม่เดือนเลย


มันเล่นขอร้องคณะกรรมการตลาดให้ย้ายแผงกลับมาอยู่ตรงข้ามเหมือนเดิม
ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าใครจะอนุญาต
นึกอยากจะย้ายก็ย้าย นึกอยากจะกลับก็กลับ
แบบนี้ร้านอื่นมาเห็นคงได้ด่าคณะกรรมการเข้าพอดี

อีกอย่างเจ้าของร้านขายหมูปิ้งก็ไม่ยอมคืนที่ให้ด้วย
บอกว่าทำเลตรงนี้ดี แล้วก็เซ็นสัญญาตกลงค่าเช่าเรียบร้อยแล้ว
เรื่องมันเป็นแบบนี้ ไอ้ลูกแม่เดือนก็เลยหน้าหงอย

ไป ๆ มา ๆ สุดท้ายเขาก็เลยตัดสินใจ
สละที่แผงร้านหวานละไมให้ครึ่งหนึ่ง
ถึงมันจะดูขัด ๆ ตาไปสักหน่อย
เพราะเขากลับมาใส่ชุดไทยเหมือนเดิม
แต่ไอ้คนขายของคู่กัน มันดันใส่แค่เสื้อยืดเบียร์ช้างกับกางเกงยีนส์เซอร์ ๆ
มองยังไงก็ว่าแปลก...

ด้วยเหตุนี้เพียงแค่ตั้งแผงขายได้แป๊บเดียว
ร้านทั้งสองจึงดึงดูดความสนใจของคนที่ผ่านไปมาได้มากมาย


“อุ๊ย พี่ที่เป็นคู่เกย์นี่แกใช่มั้ย
เกือบจำพี่คนใส่แว่นไม่ได้แหนะ
น่ารักขึ้นตั้งเยอะ”


“ว๊ายยย แต่เห็นน่ารักแบบนี้ลืมไปแล้วเหรอว่าพี่เขาน่ะ ‘รุก’ นะย่ะ”


“จริงด้วยสิ คิก คิก ”


สาลี่ได้ยินเสียงนินทาแว่วเข้าหู
เขารีบหันมองกลุ่มสาววัยรุ่นห้าหกคนที่สุดแสนจะคุ้นตา
ยืนกระซิบกระซาบอยู่ใกล้ ๆ


...เกือบลืมไอ้เรื่องโกหกบ้า ๆ ที่กุขึ้นมาซะแล้ว
ตอนนั้นแค่เพราะอยากชนะก็เลยพูดออกไปได้


นึกแล้วตลกโชคชะตาจริง ๆ ...
ไม่เคยคิดเลยว่าคนที่เคยกัดกันจะเป็นจะตายในตอนแรก
ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามายืนขายของอยู่ข้างกัน


เขาไม่รู้ว่ามันดีแล้วรึเปล่าที่ตัดสินใจบอกลูกแม่เดือนไปเมื่อวาน

แต่ก็เพราะหัวใจมันรู้สึกแบบนั้น...


ความรู้สึกที่คิดเหมือนกันว่าคงเป็นไปมากกว่า ‘แค่เพื่อน’



...มีความสุขที่อยู่ใกล้

...เป็นตัวของตัวเองอย่างสบายใจ

...ยิ้มได้ หัวเราะได้

...ถ้าจะร้องไห้ก็รู้ว่ามีคนคนนี้คอยอยู่เคียงข้าง



ถึงยังไม่แน่ใจว่า มันคือ ‘รัก’ มั้ย

แต่เขายอมรับว่าตอนนี้...


‘ลูกแม่เดือนเป็นคนสำคัญในใจ’


...และเป็นคนที่ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน




“น้องกลุ่มนั้นซื้อขนมมั้ยครับ เดี๋ยวพี่แถมให้นะ”

สาลี่ชะงักมือที่จัดห่อขนม
เมื่อได้ยินนักรบร้องทักเด็กสาวซึ่งยืนเมาส์อยู่หน้าร้าน

“จริงเหรอคะ!!”

พอรู้ว่าจะมีของแถมกลุ่มสาว ๆ จึงรีบกรูเข้ามายืนออ
ซึ่งหนุ่มมาดเซอร์ก็พยักหน้าร้องตอบกลับ

“จริงครับ แต่ช่วยพี่อย่างสิ”

“อะไรคะ”

เด็กสาวใส่แว่นเอ่ยถามอย่างสงสัย
แต่หนุ่มผมยาวกลับเผยรอยยิ้มกรุ่มกริ่มก่อนบอกคำขอ

“ช่วยถ่ายรูปพี่สองคนคู่กับร้านให้หน่อยครับ”

ดวงตากลมหันขวับไปมองทันที
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่ตะเบ็งเข้าหู

“กรี๊ดดดด!!  ว๊ายยยยยยย!!
หวานเวอร์อ่ะ
ได้ค่ะพี่เดี๋ยวหนูจัดให้
พี่ยืนชิด ๆ กันหน่อยค่า”

เสียงร้องบอกทำให้ร่างสูงขยับเข้าใกล้หนุ่มในชุดไทย
ซึ่งขมวดคิ้วกระซิบเสียงดุถามอย่างเอาเรื่อง

“เล่นอะไรอีกแล้วห่ะ”

ทว่า คนโดนบ่นกลับส่ายหน้า

“ไม่ได้เล่น เอาจริง
ก็แค่อยากถ่ายรูปคู่กันกับร้าน
เถอะน่านาน ๆ ที
แล้วอย่าลืมพูดว่าเป๊ปซี่ซซซ~~ ด้วยนะ โอย!”

เสียงร้องด้วยความเจ็บดังขึ้นเบา ๆ
เมื่อคนแกล้งแหย่โดนศอกถอกเข้าไปเต็มๆ ท้อง


..สม!
อยากกวนมาก ๆ ก็ควรโดนสักทีหรอก


“โห เดี๋ยวนี้รุนแรงนะ ระวังจะโดนเอาคืน”

คำขู่อย่างไม่สำนึกทำให้คนฟังตั้งท่าจะหันไปด่าอีกรอบ
แต่เสียงใสกลับร้องขัด

“พร้อมหรือยังคะ”

สาลี่หยุดกึกหันกลับมามองกล้อง
ซึ่งเริ่มมีกลุ่มคนมุงดูมากขึ้น
ถึงใจจะหงุดหงิดแต่ก็พยายามปรับสีหน้าเป็นปกติ

เอาวะ...
แป๊บ ๆ ก็จบ
โดนถ่ายมาไม่รู้กี่รูปต่อกี่รูปแล้ว
จะเพิ่มอีกสักใบคงไม่เป็นไรหรอก


“เอานะ

หนึ่ง...

สอง...

ซ่ำ...”



“อ่ะ”



แชะ



ดะ...


เดี๋ยวนะ...


เมื่อกี๊...

รู้สึกไปเองรึเปล่าว่าก่อนชัตเตอร์ดัง
เหมือนมีอะไรนิ่ม ๆ มาโดนแก้มเขา


ยังไม่ทันคลายความสงสัย
นักรบยื่นมือรับกล้องคืนมา
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องวี๊ดว๊ายจากสาว ๆ
ก่อนเจ้าตัวจะกดมองภาพที่บันทึกไว้
ยิ้มบาง ๆ อย่างถูกใจ
พลางยกกล้องขึ้นมาให้เขาดูภาพที่ถูกถ่าย


“กะแล้วว่าต้องน่ารัก
ดูสิ นี่หน้าของคุณตอนโดนผมหอมแก้มไง ฮ่าๆๆๆ”


เสียงหัวเราะที่ได้ยินทำให้คนรู้ความจริงตัวสั่น
ใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงเรื่อ ร้องโวยวายออกมาเสียงดังลั่น


“ไอ้ลูกแม่เดือน แกล้งอีกแล้วนะโว้ยยย!!!!”


...และแล้วการทะเลาะครั้งใหม่
ระหว่าง ‘ลูกแม่พลอย’ กับ ‘ลูกแม่เดือน’
ก็เริ่มต้นบนถนนคนเดินอีกครั้งหนึ่ง


....


..


.



ถ้าจะให้นิยาม ‘ความรัก’

สำหรับเขาแล้ว...


‘ความรักก็คงเหมือนการทำขนมปัง’


เริ่มต้นจากส่วนผสมคนล่ะอย่างที่ดูไม่มีทางน่าเข้ากันได้
แต่พอนำมารวมกัน ใช้เวลาผ่านการนวดอย่างเอาใจใส่
จากที่ดูเหมือนไม่เข้ากันในตอนแรก
สุดท้ายก็กลายมาเป็นเนื้อเดียวอย่างกลมกลืน

เหมือนคู่ของเขากับลูกแม่เดือน

ตอนแรกเกลียดขี้หน้า ไม่ถูกชะตา
แต่พอเราได้มีโอกาสพูดคุยกัน ได้ใกล้ชิดกัน
มันก็ทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ แล้ว


...เราเข้ากันได้ดีมากแค่ไหน



ต่างคน ต่างรับรู้ถึงความรู้สึกจริง ๆ ในใจ

และต่างก็ยอมรับในตัวตนของอีกฝ่าย


จากคู่กัด เลยข้ามขั้น กลายมาเป็นคู่ที่ดูเหมือนจะมีอะไรมากกว่านั้น


ตอนนี้เขายังไม่แน่ใจว่า

สถานะระหว่าง ‘ลูกแม่พลอย’ กับ ‘ลูกแม่เดือน’ 

มันอยู่ตรงจุดไหนของความสัมพันธ์

 
แต่การทำขนมปังมันก็ต้องมีช่วงเวลาพักบ่มของเนื้อแป้ง

ดังนั้น เขาเลยอยากปล่อยให้เวลาค่อย ๆ พิสูจน์ทุกอย่างให้ชัดเจน
 

และสิ่งสำคัญที่สุด....

เขาเชื่อว่า ขนมปังจะอร่อยได้มันก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือคนทำ


ซึ่งเขามั่นใจว่าไอ้คนทำขนมปังของเขาคนนี้

คงอบออกมาได้รสชาติอร่อยถูกปากเขาอย่างแน่นอน



เพราะฉะนั้นก็รีบ ๆ เข้าหน่อยล่ะลูกแม่เดือน



....แล้วลูกแม่พลอยจะทำสังขยาไว้เตรียมรอนะ





...ขอให้รักของคุณหอมนุ่มละมุน...
....เหมือนขนมปังกรุ่นไอจากเตานะครับ...





------------------------------------------------------------------------------------------------------------




END


 



จบลงแล้วค่ะ   :L2:

สำหรับ ‘ซีรีย์หวานอมขม ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต’

บางคนอาจสงสัยว่า เฮ้ย ตัดจบกันดื้อ ๆ แบบนี้เลยหรอ
เปล่าค่ะ เปล่า ตั้งใจแต่แรกแล้วว่ามันควรจะจบอยู่ตรงนี้

เพราะเป็นเรื่องราวความรักที่ค่อย ๆ พัฒนา
จากคนที่ไม่ถูกกัน มาเป็นคนสนิท
แล้วก็เป็นไปไกลเกินกว่าคำว่าเพื่อน
ส่วนที่เหลือจะพัฒนาต่อไปยังไงในความสัมพันธ์
ก็คงต้องเป็นอย่างที่สาลี่บอกคือ ปล่อยให้เวลาพิสูจน์กันไปเอง

ความรักมักจะเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว
แต่ความผูกพันจะก่อตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดังนั้น นักรบจะเพิ่มเติมความรู้สึกของสาลี่ให้เป็นแบบไหน
ก็คงต้องลุ้นกับฝีมือของลูกแม่เดือนเอาเองล่ะค่ะ

แต่ถ้าใครอยากรู้ล่วงหน้าว่าคู่นี้จะเป็นยังไง
แอบกระซิบว่ามีให้ติดตามกันต่อในเซอร์วิสชิ้นพิเศษแน่นอน  :-[


สุดท้ายนี้ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ
ทุก ๆ คอมเมนต์ที่อยู่เป็นเพื่อนกัน

ขอบคุณที่ทำให้ ‘ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต’
อบออกมาหอมหวานนุ่มละมุนถูกปากถูกใจ

รู้สึกถึงเรื่องนี้ยังไงแบบไหน
ก็ฝากเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ
คนเขียนรับได้หมดทั้งคำติคำชมค่ะ

ส่วนซีรีย์เรื่องหน้าจะภาคเป็นอะไร
อดใจรออีกนิด แล้วจะมาเฉลย

ตอนนี้ขอตัวไปกินขนมปังสังขยาก่อน

แล้วเจอกันนะคะ


 :กอด1:


รัก


BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-07-2012 16:04:09
รอเวลาเพาะบ่มความรักของลูกแม่พลอยและลูกแม่เดือน

เมื่อถึงเวลา...คงส่งกลิ่นหอมกรุ่นและหวานละมุนละไมแน่นอน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 13-07-2012 16:12:08
จบอีกซีรีย์แล้วสิน๊าาาา

เรื่องนี้สั้นไปหน่อยแต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคเลยค่ะ
เพราะว่าความรักของนักรบและสาลี่ยังบ่มเพาะไม่เต็มที่ 
ยังไม่เป็นความรักแบบคู่รักจริงๆ  แต่สถานะ คนสำคัญ ก็พิเศษนะคะ
การที่นักรบเป็นคนสำคัญของสาลี่ได้ในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้  ถือว่าเก่งเอาเรื่องพอตัวเลยหละ

แต่ว่านะ...  ขนมปังพอนานวันเข้าเชื้อรามันจะขึ้นน๊าา  อย่าลืมกินซะละ!  ฮ่าาาาา

ว่าแต่ตอนที่นักรบมาหาน้องสา  เพื่อมาให้โดนง้อแล้วสุดท้ายนักรบก็พาน้องสากลับบ้านพร้อมกัน
แล้วรถมอไซค์คู่ใจก็ถูกทิ้งค้างไว้แบบนั้นแล้ววันหลังค่อยมาเอาหนะเหรอคะ (ไม่อะไรหรอก  แอบสงสัยหงะ)
ตอนน้องสาง้อนักรบน่าร้ากกกก น่ารัก  ง้อแบบเฉพาะตัวเลยจริงๆ  คนอื่นเลียนแบบไม่ได้นะเนี่ย
ถ้าเราเป็นนักรบเราก็คงยอมทุกอย่างอะ  ฮ่าาาา


ติดตามรอชิ้นพิเศษแล้วก็ภาคหน้าต่อไปค่ะ  สู้ๆ น๊าาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 13-07-2012 16:26:58
ซีรีย์นี้อ่านตอนดึกแล้วทรมานคนอ่านมากค่ะ ...หิว T_T อยากกินทองหยิบ ทองหยอด ขนมชั้น อยากกินช๊อกโกแลตลาวา ขนมปังสังขยา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-07-2012 16:33:19
ความรักก็เหมือนขนมปังที่ต้องรอให้ขึ้นฟูเพราะยีสต์   ถ้าเราเอาความรัก ความเอาใจใส่ ความจริงใจใส่ลงไปมันก็ทำให้ความรัก
นั้นสมบูรณ์

ความรักของคู่นี้คงต้องใช้คติ  ทะเลาะกันวันละนิด ความรักก็จะแจ่มใสวันละหน่อย

รออ่านตอนพิเศษของคู่นี้ (จะมีป่าวหว่า) และซีรีย์เรื่องต่อไป

กด + ให้กับคู่กัด ที่ต่อมาก็รักกัน  :L2: :pig4: คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 13-07-2012 16:33:47
รอเมนูต่อไปด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >;>; P.25
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-07-2012 16:44:47
รอตอนพิเศษของลูกแม่พลอยกับลูกแม่เดือน แล้วก็ซีรี่ส์ภาคใหม่ด้วย คึคึ  ^  ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 13-07-2012 16:49:34
โอ๊ยยยยย ภาคนี้จบหวานเว่อร์

ชอบตอนที่สาง้อนักรบด้วยวิธีการบังคับให้กินขนมอ่ะครับ
ฮามากๆ 55555

ภาคนี้สนุกมาก รอภาคต่อไปครับบบ
รอตอนพิเศษด้วย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 13-07-2012 17:02:07
อ้างถึง
ว่าแต่ตอนที่นักรบมาหาน้องสา  เพื่อมาให้โดนง้อแล้วสุดท้ายนักรบก็พาน้องสากลับบ้านพร้อมกัน
แล้วรถมอไซค์คู่ใจก็ถูกทิ้งค้างไว้แบบนั้นแล้ววันหลังค่อยมาเอาหนะเหรอคะ (ไม่อะไรหรอก  แอบสงสัยหงะ)



ฟีโน่คู่ใจของสาลี่จอดทิ้งไว้แบบนั้นล่ะค่ะ
มันเป็นที่จอดรถข้างริมฟุตบาทอยู่แล้ว

เช้าวันต่อมาสาลี่ก็เดินกลับไปเอารถ
โดยมีพ่อนักรบตามมาด้วย
เจ้าตัวอ้างว่าจะมาซื้ำอของนะคะ

แต่สุดท้ายก็แค่เดินมาเป็นเพื่อนสาลี่เอามอเตอร์ไซต์
แล้วซ้อนสาลี่กลับไปทั้ง ๆ แบบนั้น...   :o8:


BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-07-2012 17:18:51
 :pig4:

สำหรับเรื่องน่ารักๆเรื่องนี้นะคะ

รอตอนพิเศษและเรื่องใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-07-2012 17:26:55
จบแบบอิ่มเอมกันทีเดียว :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 13-07-2012 18:14:27
น่ารักมากเลยค่าาา

 :-[ :o8:

มารายงานตัวช้าไปหน่อย แต่ก็ทยอยตามอ่านจนมาทันเอาตอนจบพอดี
รออ่านตอนพิเศษของคู่นี้นะคะว่าจะหวานซักแค่ไหน :]

เป็นกำลังใจให้คุณหวานปนขม (BitterSweet) ด้วยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-07-2012 18:23:20
เป็นอีกเมนูที่อ่านแล้วมีความสุขจริงๆ

รอซีรีย์ภาคต่อไปนะครับ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 13-07-2012 18:46:35
จบแบบสุขสันต์ไปอีกภาค  :mc4:


ขอบคุณผู้แต่งมากๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-07-2012 18:54:07
เรื่องนี้น่ารักมากๆเลย
นักรบเจอสาลี่แค่แป๊ปเดียวแต่กลับมองทะลุตัวตนที่แท้จริงของสาลี่
และแล้วสาลี่ก็สามารถยิ้มได้ทั้งปากทั้งตาทั้งใจ
รอเรื่องใหม่จร้า อย่านานนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 13-07-2012 19:27:04
สนุกๆน่ารักมากๆ รอตอนพิเศษด้วยคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-07-2012 19:46:01
หวานละมุนน่ารักมากๆๆๆ





 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-07-2012 21:29:55
น่าฮักขนาด(http://www.whenifallinlove.net/diary/images_icon/emoticon/64487_1000706.gif)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 13-07-2012 21:32:29
คู่นี้น่ารักตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเลยอ่า. นักรบ<3สาลี่ ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 13-07-2012 22:02:09
จบแบบหวาน ได้กินช็อคโกแลตมาแต่ไกลเลย

รอซีรีย์เรื่องต่อไปคะ

 :mc4: :mc4: :mc4:
 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 13-07-2012 22:10:55
แป๊ปจบซะแล้ว นักรบกับลาสี่ คุณคนเขียนจะมีคู่อื่นมาลงอีกมั๊ยค่ะ?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 13-07-2012 22:17:41
ตอนนี้อ่านแล้วยิ้มไม่หุบเลย... xDD
ตอนนายรบโดนน้องสาหลอกเล่น... ถึงรบมันจะดราม่าอยู่ แต่เราแอบขำ 55555
คือรู้อยู่แล้วไงว่าน้องสาต้องมาไม้นี้....!
ฮาลูกแม่เดือน ! 555555 โถ่ๆ... ใจหายวูบเลยสิ > < !

ตอนน้องสาดึงรบมาจุ้บนี่แทบจะลงไปดิ้น!
น้องสาน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!! น่ารักเกินไปแล้วว  :-[ :-[

ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ ชอบลูกแม่เดือนกับลูกแม่พลอยมากๆ !
จะรอชิ้นพิเศษนะคะ xD

+ ปล. ภาคต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรน๊าาาา ? ตื่นเต้นๆ > <!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-07-2012 23:02:15
แอบหวานๆ อิอิ

รอเรื่องใหม่ครับ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 13-07-2012 23:36:35
น่ารักจังค่ะ :) ชอบนะ มันน่ารักละมุนๆกำลัง ไม่เลี่ยนไป แต่ก็ไม่ขมไป ตั้งแต่เรื่องแรกแล้ว เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาอ่าน เลยอ่านรวดเดียวเลย แล้วก็โดนเข้าตอนจบพอดี ทำไมเรายังไม่ค่อยอิ่มกับขนมปังสังขยาก็ไม่รู้ 5555 รออ่านชิ้นพืเศษนะค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 14-07-2012 00:28:31
ขอบคุณค่ะ จบไปแล้วอีกภาค น่ารักมากเลย  :-[ :-[ :-[

ไม่ต้องรู้ว่าเราคบกันแบบไหน ~~~~ รู้แค่ "เราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน" ก็พอ

+1ค่ะ  รอภาคต่อไปด้วยนะคะ
หรือจะจัดตอนพิเศษมาคั่นให้หายคิดถึง ทุกๆคู่ ซักตอน 2ตอนก็ได้ค่ะ (แอบคิดถึงตี๋เพลง อิอิ)
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 14-07-2012 00:40:51
ถ้าได้พูดคุยกัน ทุอย่างก็จบได้ด้วยดี ต่อไปนี้ลูกแม่เดือนก็มีที่พึ่งทางใจแล้วเนอะ

ขอบคุณค่าา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 14-07-2012 04:57:23
น่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะรอภาคต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-07-2012 07:25:13
 :กอด1:หวานๆตอนเช้าๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: kanunsak ที่ 14-07-2012 15:28:34
อ่านทันแล้ว เย้........  ขอบอกว่า อ่านซีรีย์นี้จบ น้ำหนักขึ้นในทันใด เพราะความอยากอาหารอัพเลเวลผันแปรตามตอนที่อ่านมากขึ้นทุกที ทุกที  ตั้งแต่น้ำเต้าหูกะปาท่องโก๋ของพี่แทนแระ   ตอนหลังนี่ไม่ต้องพูดถึง  ทั้งจ่ามงกุฏ  ขนมชั้น ขนมปังสังขยา แล้วไหนยังจะลาวาช็อคโก้อีก  เฮ้อ... ไม่ไหวจะเคลียร์จริงจริ๊ง...........
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 14-07-2012 16:28:20
น่ารักมากๆ บรรยากาศหอมหวานน่ากิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 14-07-2012 18:36:25
กรี๊ดดดดดดดดด น่ารักจังงง
ภาคต่อไปจะเป็นอะไรหนอ?? ฮิฮิ รอลุ้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-07-2012 19:21:45
อ่านจบสองเรื่องแล้ว น่ารักมากเลย แต่คู่หลังทะเลาะกันประจำเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-07-2012 11:05:39
 :catrun:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นที่ 18] 13/07/55 >> P.25
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 16-07-2012 11:57:28
 :กอด1:ชอบมากละมุลละไมในอารมณ์ คู่ขนมไทยขนมฝรั่ง
อ่า ต่อไปน้องขายอาหารตามสั่งรึปล่าวน้า..คงไม่สุดขั้วเจอคู่แบบร้านบุปเฟ่สเต็กนะ :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 16-07-2012 17:23:19
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต



ชิ้นพิเศษ   [Warning  NC 18]



“แม่ไปแล้วนะ ดูแลบ้านช่องให้ดีนะลูก”


“ไม่ต้องห่วงหรอกครับแม่ เดินทางปลอดภัยนะครับ”


สาลี่ยืนยันคำเป็นมั่นเป็นเหมาะ
ในขณะที่ยืนส่งสองแม่เพื่อนซี้ขึ้นรถตู้ซึ่งจอดอยู่หน้าร้านตอนหกโมงเย็น
พร้อมกับคณะทัวร์ทำบุญที่ตั้งใจจะไปตระเวนเที่ยววัดทางภาคเหนือสี่วันสามคืน
โดยทิ้งลูกชายสองคนไว้ดูแลบ้าน


เขารอจนรถตู้ไปไกลลับสายตา
หมุนตัวกลับมายืนมองหน้าร้านที่บัดนี้เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิม
กำแพงปูนที่เคยกั้นตัวตึกทั้งสองถูกทุบเข้าหากัน
ประตูบานใหญ่ถูกต่อเติมตรงกลาง
ส่วนผนังด้านข้างเป็นกระจกใส ส่องให้เห็นชั้นวางขนมภายใน
ซึ่งเพิ่งทาสีเสร็จใหม่ ๆ ยังไม่เรียบร้อยดี



ไม่น่าเชื่อว่าเพียงแค่เวลาครึ่งปี
อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปจากเดิมได้มากมายขนาดนี้
เว็บเพจที่เกิดจากการรวมตัวของทั้งร้านขนมไทยและร้านเบเกอรี่
ซึ่งเขากับลูกแม่เดือนช่วยกันทำ
ปรากฏว่าผลตอบรับที่ได้เกินคาดไปไกล
นักท่องเที่ยวมากมายต่างแวะเวียนมาซื้อขนมจากร้านเขากลับไปเป็นของฝาก
และเมื่อมีโอกาสงาม ๆ อยู่ตรงหน้าใครมันจะไม่คว้าไว้


สุดท้าย เขาสองคนจึงช่วยกันเค้นไอเดีย
คิดทำขนมประจำร้านขึ้นมาโดยผสมของที่มีอยู่ในท้องถิ่น
กลายเป็นขนมไทยประยุกต์กับเบเกอรี่
ซึ่งแน่นอนว่ามี ‘ขนมปังสังขยา’ เป็นตัวชูโรง
ขายดิบขายดี จนกระทั่งสามารถเปิดเครดิตกู้เงินจากแบงค์
มาร่วมลงทุนปรับปรุงร้านให้ยุบรวมกัน
โดยได้รับการอนุมัติจากป้าแต้วเจ้าของตึก
ที่บินกลับจากอเมริกามาเซ็นสัญญาขายให้ก่อนย้ายไปอยู่กับลูกสาวถาวร


...ตอนนี้ ‘ลูกแม่พลอย’ และ ‘ลูกแม่เดือน’
จึงกลายเป็นหุ้นส่วนของร้านร่วมกันอย่างสมบูรณ์




“คิดอะไรอยู่ หืม?”


แรงสวมกอดจากด้านหลังทำให้สาลี่ต้องหยุดนิ่ง
ก่อนได้ยินคำกระซิบด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่เบา ๆ


“ทำหน้าแบบนี้คิดถึงผมล่ะสิใช่มั้ย”


“มั่วแล้ว ใครคิดถึงคุณกัน”


ตอบปัด ๆ ให้กับคนหลงตัวเอง
แต่อีกฝ่ายก็ยังคงลากเสียงยาวอย่างไม่เชื่อ


“หรออออ 

งั้นถ้าทำแบบนี้....”


คำพูดหยุดลงก่อนมือแกร่งจะเชยคางเขาขึ้นมา
นัยน์ตาคมพราวระยับทอดมองอย่างเจ้าเล่ห์
ริมฝีปากโน้มลงมาแตะแผ่ว ๆ
ส่งปลายลิ้นเข้าชิมอย่างนุ่มนวลและเรียกร้องในเวลาเดียวกัน
จนเขาได้แต่ร้องครางอือเพราะหมดลมหายใจ
ทำให้อีกฝ่ายต้องผละออก แล้วต่อประโยคคำถามสั้น ๆ


“จะคิดถึงผมบ้างหรือยัง”



...ไอ้ลูกแม่เดือนขี้แกล้ง
ทำถึงขนาดนี้จะไม่ให้คิดก็บ้าแล้ว
พอแม่ไม่อยู่ล่ะก็เอาใหญ่เชียวนะ

ตามความจริงเขาก็ถูกลูกแม่เดือนจูบบ่อย ๆ จนเกินจะนับ
ทั้งหอมแก้มเอย กอดเอย แต่ก็ไม่เคยที่จะทำอะไรล่วงเกินไปกว่านั้น

ความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนมันก็ยังครุมเครือ


...รู้แค่ว่า ‘ไม่ใช่เพื่อน’


แต่เป็นอะไรเขาก็ไม่อยากใส่ใจจะนิยาม
แค่ไม่ได้รังเกียจ และยังรู้สึกดี ๆ ให้กัน


...อย่างที่เราเข้าใจกันเพียงแค่สองคนเท่านั้นพอ





“คืนนี้เดี๋ยวผมมานอนเป็นเพื่อนนะสา
ผมรู้ว่าแม่ไม่อยู่แล้ว สาคงเหงา”


“ไม่ได้เหงาโว้ยยย ไม่ต้องมาเลยนะ
ปล่อยได้แล้วอึดอัด
ร้อนจะตาย จะขึ้นไปอาบน้ำ”


คำโวยวายดังลั่น คนตอบสะบัดตัวออกห่าง
รีบเดินก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องนอนโดยไม่คิดจะมองหน้าคนแหย่
ทำให้นักรบอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขำเบา ๆ


...โกหกแล้วนะลูกแม่พลอย
ทำหน้าแบบนี้คิดว่าจะดูไม่ออกเหรอว่าโกหกกันชัด ๆ


ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาก็พยายามขยันจีบ ขยันหยอดตลอดทุกครั้งที่มีโอกาส
แรก ๆ ก็โดนดุ โดนต่อย โดนเอาของฟาดบ้างเป็นประจำ
แต่พักหลัง ๆ เหมือนลูกแม่พลอยจะยอมโอนอ่อนตาม
ไม่ค่อยลงไม้ลงมือ แค่ทำเป็นหงุดหงิดแล้วก็เดินหนีไป


...ดีใจอยู่หรอกที่เป็นแบบนั้น
แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะทำอะไรเกินเลย
เพราะไม่รู้ว่าสาจะหยุดความสัมพันธ์ไว้ในระดับไหน


เอาเถอะ... สาให้เท่าไรเขาก็จะทำให้ถึงเท่านั้น
ไม่เร่งร้อน ปล่อยให้มันไปตามเวลา


แต่ถ้ารีบ ๆ หน่อยก็ดีเหมือนกันนะ
เห็นใจกันบ้าง อย่าปล่อยให้เขารอนานล่ะ


....คุณลูกแม่พลอย



------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ก๊อก! ก๊อก!


นักรบเคาะประตูก่อนเปิดเข้ามาในห้อง
โดยไม่ต้องรอฟังคำอนุญาตจากเจ้าของ
ซึ่งกำลังนั่งเขียนอะไรยุกยิกอยู่บนโต๊ะ
และพอเห็นว่าแขกไม่ได้รับเชิญตอนสองทุ่มเป็นใคร
เจ้าตัวก็ถึงกับร้องโวยวายดังลั่น

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมา กลับไปเลยนะ!”

ทว่าคนโดนบ่นกลับไม่ได้สนใจฟัง
เพราะมีบางสิ่งดึงความสงสัยเขาไปเสียก่อน

“เขียนอะไรอยู่นะสา ขอดูหน่อย”

คนถูกทักสะดุ้งพยายามซ่อนกระดาษในมือให้พ้นสายตา
ตอบปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก

“มะ...ไม่มีอะไร”

“เถอะน่า...ขอดูนิดเดียว”

นักรบยังคงตื้อพลางขยับเดินเข้ามาใกล้
ซึ่งคนกุมความลับก็ได้แต่ส่ายหน้า


“ไม่เอา!!”


“น่านะ...สา...”


“เอ๊ะ! ก็บอกว่ามะ...”


ประโยคถูกหยุดไว้แค่นั้น
เพราะความตกใจที่อยู่ ๆ อีกคนก็โน้มตัวเข้ามาใกล้


...ใกล้จนกระทั่งสัมผัสถึงลมหายใจ

...ใกล้จนเห็นเงาของตัวเองสะท้อนในดวงตาคมที่จ้องมองมาโดยไม่ปิดบังความรู้สึกใด ๆ

....ใกล้จนหัวใจเต้นระรัวด้วยความสั่นไหว


สาลี่หลับตาลงราวกับรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
เงยหน้าเตรียมพร้อมรับสัมผัสของจูบรสนุ่มอันคุ้นเคย
แต่นิ่งไปนาน อีกคนก็ยังคงทำเฉย
จนเขาต้องลืมตามอง และได้เห็นว่ากระดาษที่ตนเองพยายามซ่อนไว้
ถูกคนขี้แกล้งฉวยเอาไปไว้ในมือเสียแล้ว


“เฮ้ย! อย่านะ!!”


คำร้องทัดทานไม่เป็นผล
เมื่อนักรบไล่สายตาอ่านข้อความซึ่งเขียนด้วยปากกาบนกระดาษ
และก็ต้องนิ่งงันด้วยความแปลกใจ


‘บ้านขนมหวานละไม’

‘แม่พลอยขนมไทย แม่เดือนใจเบเกอรี่’

‘แม่พลอย & แม่เดือน ขนมไทย & เบเกอรี่’

‘หวานละไม ขนมไทยเบเกอรี่’



นี่มันชื่อร้าน...


...ชื่อร้านของเขาสองคนที่รวมกัน


จริงสิตั้งแต่ทำร้านใหม่ก็ยังไม่ได้คิดตั้งชื่อกันเลย
มัวแต่ยุ่ง ๆ กับการออกแบบร้านจนลืมเรื่องสำคัญที่สุดไป

แล้วลูกแม่พลอยมาแอบคิดเองคนเดียวแบบนี้

...จะไม่ให้บอกว่า ‘น่ารัก’ ได้ยังไง



“ก็แค่คิดเอาไว้เล่น ๆ ไม่รู้ว่าจะถูกใจรึเปล่า”


“ดีแล้วล่ะ เดี๋ยวจะลองเอาไปปรึกษาแม่ดูอีกที ขอบใจนะสา”


หนุ่มมาดเซอร์ยิ้มบาง ๆ
แต่ร่างที่ยังคงนั่งอยู่กลับส่ายหน้า


“ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย

ก็...

...ก็ในเมื่อเราอยู่ด้วยกันแล้วนี่นา”



คำตอบพร้อมกับอาการไม่มองตา
แต่ใบหน้าที่เห็นกลับขึ้นสีแดงเรื่อ ๆ
ืทำให้นักรบถึงกับใจสั่น


...อีกแล้วนะสา...

...ทำแบบนี้ไม่ไหวหรอก


ถ้าไม่ให้รางวัลกับ ‘คนน่ารัก’

...เห็นทีคงจะไม่ไหว



คิดได้เท่านั้นร่างสูงจึงก้มลงจูบคนตรงหน้า

...จูบจริง ๆ ไม่ได้แกล้งเล่นเหมือนเมื่อครั้งก่อน
ซึ่งสาลี่ก็ได้แต่เงยหน้ารับสัมผัสอย่างไม่ขัดขืน
รสจูบเร่งเร้า อ่อนโยน สอดประสานอยู่เป็นนาน
กระทั่งนักรบเป็นฝ่ายผ่อนลง เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าชักไม่ไหว

แต่ชั่วขณะที่กำลังจะดันตัวออกห่าง
มือหนึ่งก็ดึงเสื้อของเขาไว้ไม่ให้ขยับ


“ดะ...เดี๋ยวก่อน....”


สาลี่ตัดสินใจเอ่ยปากรั้งเอาไว้
ทว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความสับสน


...ไม่อยากให้หยุดตอนนี้
เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันเลยรู้ว่าสักวันมันก็ต้องเกิด
ถึงจะไม่เคยมีประสบการณ์
แต่เขาไม่ได้อินโนเซนต์มากพอจนไม่สนใจความรู้สึกของอีกฝ่าย
ยิ่งวันนี้เหลือกันอยู่แค่สองคน
โอกาสเหมาะ ๆ หากันได้ยากอยู่แล้ว

แต่อยู่ ๆ จะให้พูดออกไปว่า ‘มาทำกันเถอะ’
มันจะไม่ดูแปลก ๆ ไปหน่อยเหรอ
...น่าอายจะตายชัก!

แต่ว่าถ้าไม่พูด โอกาสแบบนี้ก็จะไม่มีอีก


...โอยยย!! ทำไมมันยุ่งยากจริงวะ!!

...แล้วเขาจะทำยังไงดีเนี่ยยย!!!



ชั่วประเดี๋ยวที่หน้าซีด เดี๋ยวก็สลับไปหน้าแดง
ทำให้คนที่นิ่งมองอยู่นึกขำ
ดูยังไงก็ทั้งน่าแกล้งและน่าเอ็นดูไปพร้อม ๆ กัน
สุดท้ายนักรบจึงตัดสินใจโน้มตัวลงไปจูบซ้ำเบา ๆ อีกรอบ


“รู้แล้วไม่ต้องพูดหรอก
ขืนรอให้บอกคงเช้าพอดี”


คำกระซิบบอกที่แฝงด้วยคำแหย่
ทำให้คนฟังแอบนึกฉุน แต่ยังไม่ทันได้บ่น
ก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีปากของคนด้านบนอีกครั้ง
แต่เป็นครั้งที่ ร้อนแรง รุกเร้า มากกว่าเคย


“อือออ”


เสียงครางประท้วงดังลอดออกมาให้ได้ยิน
โดยปกตินักรบจะเป็นฝ่ายผละออกห่าง
ทว่าหนนี้ใบหน้าคมกลับเลื่อนลงมาจูบซับตรงต้นคอ
สองมือสอดเข้าไปในเสื้อยืดตัวบางแล้วเลื่อนมันให้หลุดออกจากศีรษะ
ของคนที่ยังคงมึนเมากับอารมณ์ซึ่งถูกปลุกปั้นให้พุ่งขึ้น


“อ่ะ จะทำอะไรนะ”


สาลี่ร้องขึ้นอย่างตกใจ
เมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกยกตัวให้ลอยหวือขึ้นไปนั่งบนโต๊ะเขียนหนังสือ
แล้วนักรบกลับเป็นฝ่ายนั่งบนเก้าอี้เสียแทน

ทว่าคนถูกถามกลับไม่ตอบเพียงแค่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์
ก่อนตะโบมใช้ริมฝีปากซุกไซร้ไปทั่วตัวจนคนโดนจูบอ่อนระทวย
และทันใดก็ต้องเปลี่ยนมาสะดุ้งเมื่อมือซึ่งไล่ไปตามผิวกลับแทรกลงไปใต้กางเกงบอลเนื้อลื่น


“ยะ....อืมมม....”


เสียงห้ามเปลี่ยนเป็นเสียงครางในลำคอ
ทันทีที่แก่นกายของตนถูกสัมผัสอย่างจาบจ้วง
สาลี่พยายามขยับขาเบียดเข้าหากัน
แต่ถูกมือของอีกคนกั้นออกพร้อมกับดึงกางเกงให้เลื่อนหลุดจากร่าง
ยังไม่ทันได้อายกับร่างเปลือยเปล่า
ริมฝีปากของนักรบก็ก้มลงดูดกลืนจนเขาไม่อาจห้ามความต้องการส่วนลึกภายใน
ใช้เวลาเพียงไม่นานอารมณ์ที่ทะยานขึ้นสูงก็ปลดปล่อยออกมาจนร่างสะท้าน

สาลี่นั่งหอบอย่างหมดแรง
ดวงตาปรือปรอยมองนักรบที่หันไปล้วงของบางสิ่งจากกางเกงขึ้นมา
และเขาก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็นของในมือนั้น


“อะ...ไอ้บ้ารบ!!
นี่เตรียมมาไว้พร้อมเลยนะ
ตั้งใจอยู่แล้วใช่มั้ยห่ะ!!


“ไม่ได้ตั้งใจ แค่เผื่อ ๆ ไว้
ไม่คิดว่าจะได้ใช้จริง ๆ หรอก”


นักรบยักคิ้วแกล้งตอบแหย่ที่เล่นที่จริง
พร้อมกับชู KY Jel และซองถุงยางอนามัยให้อีกฝ่ายเห็นชัด ๆ
จนคนมองต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหลบด้วยความเขิน
ปากก็ยังคงพ่นคำด่าตามมาเป็นชุด


“ไอ้ตอแหล!!  ไอ้หื่น!!  ไอ้... อ่ะ...”


เสียงโวยวายหยุดลงเมื่อสัมผัสเย็น ๆ ของเนื้อเจลถูกป้ายลงตรงช่องทางด้านหลัง
ก่อนที่ปลายนิ้วจะแทรกผ่านเข้ามาจนสาลี่เผลอเกร็งตัวอย่างห้ามไม่อยู่
นักรบจึงต้องชะโงกตัวขึ้นไปจูบเบา ๆ ให้คลายความกลัว
อีกมือหนึ่งก็พยายามเหนี่ยวรั้งความต้องการของอีกฝ่ายให้ตื่นตัวอีกครั้ง

สาลี่ถูกดึงให้ลงมายืนบนพื้นทั้งที่ริมฝีปากยังคงจูบกระหวัดกันอยู่เช่นนั้น
นักรบจัดท่าให้เขาหันหลังเกาะขอบโต๊ะเอาไว้
ปลดกระดุมกางเกง จัดการกับถุงยาง
แล้วร้องกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


“อย่างเกร็งนะสา
ถ้าสาเจ็บบอกรบนะ
แล้วรบจะหยุดให้”


คนฟังพยักหน้าลงเป็นเชิงรับรู้
และก็เผลอกลั้นหายใจเมื่อบางสิ่งที่ใหญ่กว่านิ้วมือค่อย ๆ แทรกผ่าน
นักรบหยุดเป็นพัก ๆ เพื่อให้ร่างกายของคนด้านล่างปรับตัว
ไม่ลืมที่จะเอื้อมมือไปช่วยปรนเปรอให้ผ่อนอารมณ์หายเกร็ง
กระทั่งเข้าไปได้จนหมดจึงขยับออกช้า ๆ 
และเริ่มเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามห้วงความต้องการที่หมุนวน
ริมฝีปากยังคงถูกจูบเป็นระยะ ๆ อย่างไม่ถอยห่าง


“อืออ...อ่ะ...ฮืออ...ระ..รบ...อา...รบ”


สาลี่สะอื้นเบา ๆ น้ำตารินไหลอย่างอัดอั้น
ด้วยไม่รู้ว่าตัวเองมึนกับรสจูบ
หรือเพราะความรู้สึกที่ดีจนเกินกว่าจะเก็บไว้

ที่สุดแล้วคลื่นอารมณ์ปั่นป่วนก็โหมกระหน่ำจนถึงจุดระเบิด
สาลี่ร้องครางออกมาพร้อมปลดปล่อยความต้องการจนหมดสิ้น
นักรบขยับกายออกหันมาเหนี่ยวรั้งร่างตัวเองก่อนจะปลดปล่อยตามไปติด ๆ

คนหมดแรงหายใจหอบ
ปล่อยให้ร่างร่วงผล่อยลงจนนักรบแทบจะรับไว้ไม่ทัน


“ไหวมั้ยสา”

นักรบเอ่ยถามด้วยความห่วงใย
ขยับร่างของสาลี่ให้นั่งพิงไหล่ของตัวเอง
กอดไว้หลวม ๆ อย่างทะนุทนอม


การกระทำที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน
ทำให้ดวงตากลมเผลอเหลือบมองใบหน้าของคนใกล้ตัว


...ยิ่งมอง ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่มันเอ่อล้นอยู่ในใจ



“รบ....”


“หืม”


เจ้าของชื่อขานรับ
คลายวงแขนให้อีกฝ่ายหันมาเผชิญหน้ากับเขาชัด ๆ
ตั้งใจฟังถ้อยคำที่อีกคนตั้งท่าจะบอก


“เออ.....คือว่า....เออ...
คือ....แบบว่ามัน....เออ.....”


ทว่า เสียงที่ลอดออกมาก็ยังคงอึกอักจับใจความไม่ได้
นักรบยิ้มบาง ๆ ให้กับท่าทีของคนซึ่งดูยังไงก็เห็นว่าช่างน่ารัก
ก่อนเขาจะตัดสินใจรวบร่างของคนเขินจนหน้าแดงเอาไว้ในอ้อมกอด
กระซิบถ้อยคำแผ่วเบา


...ถ้อยคำที่ออกมาจากส่วนลึกในใจ



“อืม...รู้แล้ว...

รบก็รักสาเหมือนกัน”



...ไม่ต้องมีคำอธิบายใด ๆ
แต่หัวใจก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ตรงกัน



ดวงตากลมโตร้อนผ่าว
ก่อนภาพตรงหน้าจะพร่ามัวด้วยน้ำตาของตัวเอง

สาลี่ก้มลงสะอื้นเข้ากับไหล่กว้าง


ความดีใจ...

ความตื้นตัน...

ความรัก...


มันท่วมท้นปนเปจนเขาไม่อาจเก็บความรู้สึกไว้ได้



พอแล้ว...

....สำหรับ ‘ลูกแม่พลอย’ และ ‘ลูกแม่เดือน’



แม้ไม่มีคำนิยามอะไรในความสัมพันธ์

แค่เราต่างเข้าใจ ‘กันและกัน’



...เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว   




“ไม่ต้องร้องแล้วสา ถ้าอยากร้อง
ไปร้องกันบนเตียงดีกว่านะ”

นักรบเอ่ยทั้งคำปลอบและคำแหย่ไปพร้อมกัน
ทำให้คนที่กำลังซาบซึ้งชะงักกึก
รีบเงยหน้าขึ้นมาตวาดเสียงดุทั้งที่ใบหน้ายังนองด้วยน้ำตา


“ทะลึ่ง!!”


“ไม่ได้ทะลึ่ง ก็หน้าสามันบอกแบบนี้”


“มั่วแล้ว ไม่ใช่เว้ยยย!!

เฮ้ย!! รบปล่อยนะ..ปล่อยยยยย!!



เสียงร้องโวยวายดังลั่น
เมื่อสาลี่ถูกนักรบอุ้มร่างขึ้นมาก่อนมุ่งเดินไปที่เตียง


และท้ายที่สุดสาลี่ก็ต้องเสียน้ำตาอีกรอบ
เหมือนดังคำบอกของคนรู้ทัน
ซึ่งบรรเลงเพลงรักอย่างลึกซึ้ง


ภายในร้านขายขนมไทยและเบเกอรี่ของ


...‘ลูกแม่พลอย’ และ ‘ลูกแม่เดือน’ นั่นเอง




------------------------------------------------------------------------------------------------------------




END





เสิร์ฟขนมชิ้นพิเศษหวาน ๆ
หวังว่าคงจะถูกปากถูกใจกันนะคะ  :-[
ฝากเพลงเพิ่มอรรถรสในการชิมอีกสักเพลง
ยกให้เป็นเพลงธีมประจำของคู่นี้เลย


http://www.youtube.com/v/NOEHyHWn8fs?



มาเฉลยเมนูใหม่กันค่ะ
ถ้าใครเดาว่าเป็นคู่ของน้องคูณ (ตัวละครที่ถูกลืมอีกรอบ)
งวดนี้ก็ยังไม่ใช่   อ้าว...ไหงงั้น  o22


เป็นการเขียนตามอารมณ์คนแต่งค่ะ
เพราะฉะนั้นซีรีย์เรื่องใหม่ภาคต่อไป

ได้แก่....



ซีรีย์หวานอมขม :  ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks


(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/tb13.jpg)


(อนึ่ง นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิง
มิได้มีจุดประสงค์สนับสนุนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใด ๆ ทั้งสิ้น
เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีควรพิจารณา)


รับรองว่ารักรสใหม่นี่ ไม่คนเขียนก็คนอ่านต้องมึนกันไปข้าง
ขอฝากซีรีย์ภาคใหม่ไว้ด้วยนะคะ


ขอบคุณมากค่ะ



 :a1:

BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 16-07-2012 17:24:22
จิ้ม จิ้ม ไปอ่านก่อนนะ

###################################

นึกว่าจะไม่มีบทขนมปัง 'ทิ่ม' เอ๊ย 'จิ้ม' สังขยาแล้วนะเนี่ย
+1, +เป็ดครับ

เมนูที่สามเป็นเครื่องดื่มเหรอเนี่ย น่าจะถูกใจคอปาร์ตี้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 16-07-2012 17:52:16
หวานอร่อยน่ากินมาก รักกันตลอดไปนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 16-07-2012 17:56:49
 :jul1:

ถูกใจถูกปากมากค่ะ  o13

เรื่องต่อไปน่าติดตามมากเลย  แต่ขอถามนิดนะ(ด้วยความไม่รู้)

ว่ารูปเครื่องดื่มสลับกับชื่อด้านล่างในรูปรึเปล่าคะ  ถ้ามันถูกแล้วก็ขอโทษด้วยค่ะ

เราไม่สันทัดเรื่องนี้เลย   :-[

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 16-07-2012 18:12:30


เรื่องต่อไปน่าติดตามมากเลย  แต่ขอถามนิดนะ(ด้วยความไม่รู้)

ว่ารูปเครื่องดื่มสลับกับชื่อด้านล่างในรูปรึเปล่าคะ  ถ้ามันถูกแล้วก็ขอโทษด้วยค่ะ

เราไม่สันทัดเรื่องนี้เลย   :-[




ใช่แล้วค่ะ ชื่อเครื่องดื่มสลับกัน :teach:

อันนี้เป็นความตั้งใจส่วนตัว (จริงเหรอ?)   :try2:

เพราะทุกเรื่องจะสังเกตได้ว่าชื่อไม่ตรงกับรูปที่แสดงเลย

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
 

:กอด1:

BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >;>; P.26
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-07-2012 18:34:35
เป็นสังขยาชิ้นสุดท้ายที่อร่อยจริงๆ  ภาคใหม่น่าติดตามเป็นที่สุด คงจะมึนน่าดู รอ รอ ^  ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-07-2012 18:44:03
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 16-07-2012 18:51:19
อ่านมาตั้งนาน...เพิ่งรู้ว่าสาลี่ขี้อาย -o-" 5555555
# ชื่อตอนใหม่โหดได้ใจมากกก ชอบๆ 55 รอนะคะ :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 16-07-2012 18:58:45
ขนมปังสังขยา>>>เลือดหมดตัว
ซีรี่ย์ต่อไป>>>มาวววว เอิ๊กกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 16-07-2012 19:06:18
เราว่านักรบเปิดสำนักหมอดูด้วยเหอะ ทายใจแม่นมาก หรือว่าที่แม่นแม่นกะสาลี่คนเดียวจ๊ะ
เป็นฉากNCที่อบอุ่นที่สุดในสามโลก (แต่สาลี่แอบหื่น)
ภาคต่อไปถ้าจะร้อนแรงน่าดู มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 16-07-2012 19:41:39
เรื่องต่อไปท่าทางจะร้อนแรง

ต้องเตรียมทิชชู่ไว้มั้ย?คิคิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 16-07-2012 19:59:30
เอ่อ นักรบ... เราก็รู้นะว่านายหื่นหนะ  แต่เราไม่เชื่อหรอกว่านายเตรียมเผื่อไว้นะ
เราไม่เชื่อจริงๆ นะ  เราว่านายตั้งใจจะมากินสาลี่หวะ  ฮ่าๆๆๆๆๆ

บ้ะๆ  ร้านสองร้านรวมเป็นหนึ่ง  ลูกชายก็เลยได้ผลพลอยได้ไปด้วยเลยแบบนี้
แต่สุดท้ายน้องสาก็ยังไม่กล้าบอกว่ารักสินะ  ฮิฮิ ไม่เป็นไร  ใจเราสื่อกันได้นะจ๊ะ


ซีรีย์หน้านี่ดูถูกปากเรามากมาย  กร๊ากกกก
ขนมปังสังขยาเรายังไม่ได้หามาทานเลยค่ะ  จบซะละ  ก็ยังไม่ได้หามาทาน

ตอนแรกว่าจะทักเรื่องรูปเหล้ากะชื่อมันไม่ตรงกันเหมือนกันค่ะ (ไม่นะ เราไม่ได้ขี้เหล้า  ฮ่าาา)
แต่มาอ่านที่เจอตอบว่าตั้งใจทำให้เป็นแบบนั้นก็เลยเข้าใจค่ะ

โดยส่วนตัวแล้วเราชอบ Sex on the beach ค่ะ  เพราะเรารู้สึกว่าวิสกี้มันหนักเกินไปสำหรับเรา
ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาา  ชักอยากรู้แล้วแฮะว่าใครจะเป็น Sex on the beach  จะรออ่านนะค๊าาาาาา

ป.ล. เราชอบ Mojito มากกว่า Sex on the beach นิดนึงค่ะ (ลองไปหามาดูน๊าา แนะนำ  กร๊าก)  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 16-07-2012 20:25:44
 :haun4: :haun4:

น้องสาน่ารักมากกกกกกกก !!!
แอบขำนักรับ.. นี่เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเลยซิ่นะ! 555555555555

ซีรีย์ต่อไปน่าอ่านนน อยากเมาแล้วว ><!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-07-2012 20:29:38
เป็นชิ้นพิเศษที่เรียก :z1: ได้ดี แล้วขนมไทย-เบเกอรี่ก็โดนน้องสาควบรวมกิจการ :m20:

4 วัน 3 คืน ใช้เวลาให้คุ้มค่านะนักรบ

ซีรีย์เรื่องใหม่คนอ่านคงเมารัก และเมาเหล้าแน่ๆ

กด + ให้กับคนเขียน และรออ่านซีรีย์เรื่องใหม่ต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-07-2012 20:52:31
นักรบตีความเข้าข้างตัวเองตลอด  :laugh:

on the beach กับ on the Rocks อันไหนจะเมากว่ากันนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 16-07-2012 21:47:01
อยากให้มีการสู่ขอเป็๋นเรื่องเป็นราวนะ
น้องสาเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ รบมาทำยังงี้่ได้่ไง
รับผิดชอบ บอกแม่มาสู่ขอสาเลย :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 16-07-2012 23:21:37
ชิ้นพิเศษอร่อยกรุบกริบมากค่ะ น่ารักจังเลย :m1: :m1:
นายรบนี่เค้าก็รู้ใจน้องสาไปหมดทุกอย่างเลยนะ แค่มองตาก็เข้าใจ ฮิ้วววววว

+1 ขอบคุณค่ะ
รอติดตามภาคใหม่ด้วยนะคะ
แค่ชื่อก็ดูร้อนแรง น่าติดตาม อิอิ 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 17-07-2012 03:59:43
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:นักรบมันหื่นอ่ะ  จะรอคู่น้องคูณนะคะ   
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-07-2012 08:26:17
หุหุ สมการรอคอย ^^
รอเรื่องใหม่ด้วยคนนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-07-2012 10:53:10
ขนมปังนี้พิเศษ
จริงซะด้วย :haun4:

รอเรื่องต่อไป :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 17-07-2012 17:27:17
โอ๊ยยยยยย ว๊ากกกกกกกกกกกก
ถูกใจชิ้นพิเศษมาก 5555

ซีรีย์ต่อไปก็น่าอ่าน
แต่รอคู่น้องคูณเหมือนกันนะครับ
ถูกลืมไปภาคนึงละ (รวมภาคใหม่นี่ก็สองภาคพอดี) 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต [ชิ้นพิเศษ] 16/07/55 >> P.26
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 18-07-2012 17:48:54
อ่านไปอ่านมา ชอบทุกตอนเลยค่ะ
รออ่านภาคต่อไปอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 18-07-2012 21:39:33
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 1


“ดนตรีนั้นเล่นอยู่ ฟังฉันฟังอยู่
แต่ว่าในใจนั้นเงียบงันนนนน
...ปับปาดาดี้ดา~~

มีแต่เสียงเพลงที่ว่างเปล่า
...ปับปาดาดี้ดา~~

จบไปแล้วความรักของเรา
...ปับปาดาดี้ดา~~

ไม่มีเขาเคียงข้างอีกแล้ววววว
ไม่มีคืนวันที่สดสายยย
ดื่มห้ายยยยยตัวเองอีกที...ฮึกก...

กลับร้ากกก...ฮึกก...ที่เพิ่งผ่านโพ้นปายยยยยย....

ฮึกก.....ฮืออออ....โฮฮฮฮฮฮฮฮ.......”



“ฮึก...น้องออนเดอะร็อคอีกแก้ว”


เสียงร้องสั่งปะปนมากับเสียงสะอึกสะอื้น

ในเมื่อเพลงมันสั่งให้ดื่ม กูก็จะดื่ม...
ดื่มให้มันลืม...

...ลืมว่าคนอย่าง ‘ไกรศร’

ผู้ชายร่างใหญ่ยักษ์เป็นที่เคารพยำเกรงของใครหลายคน
แต่บัดนี้พี่ศรผู้น่าเกรงขามกำลังฟูมฟายสะอึกอื้น
ร้องไห้น้ำตาไหลพรากเป็นสายเลือด
โดยไม่แคร์สายตาของคนที่หันมองมาเหมือนเขาเป็นตัวประหลาด


...ก็ใครจะมีกะจิตกะใจมารักษาภาพลักษณ์ในเวลาแบบนี้


พวกมึงไม่รู้หรือไงว่ากูกำลัง ‘อกหัก’


พี่ศรเจนสนามรัก
กำลังอกหักจากน้องเอมมี่
ที่เพิ่งสะบั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของพี่ทิ้งไปอย่างไม่ใยดี

ช่วงเวลาที่คบกันมาสามปีไม่เคยมีความหมาย
ทุกสิ่งพังทลายแค่เพราะคำพูดเหล่านั้น



“พี่ศรไม่เคยรู้เลยว่าเอมมี่ต้องการอะไร
ไม่เหมือนปอ ปอเขาเข้าใจมี่มากกว่า
แล้วเขาก็ดูแลเทคแคร์ให้สิ่งที่มี่ต้องการได้”


“แต่ปอเขาเป็นผู้หญิง....”


“แล้วไง ความรักมันไม่มีแบ่งแยกเพศหรอก
พอเถอะพี่ศร เอมมี่เบื่อที่จะต้องอธิบายซ้ำซากแล้ว
ลืมเรื่องของเราไปซะ
ต่อจากนี้ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายอะไรกับมี่อีก


เข้าใจชัดมั้ยว่า เรา ‘เลิก’ กัน”





ฮึก...


เข้าใจ...


พี่เข้าใจว่า ถึงแม้พี่รูปหล่อ พ่อรวย
หน้าที่การงานก็เลิศเล่อเพอร์เฟคปานนี้
แต่เอมมี่ก็ไม่เคยคิดจะรักกัน

เข้าใจว่าน้องเอมมี่อยากให้พี่ลืม
แต่พี่คงลืมความรักของเราไปไม่ได้
ไปที่ไหนก็ยังเห็นหน้าของน้องเอมมี่ผ่านตา

...เก้าอี้ตรงนี้เราเคยนั่งด้วยกัน

...ร้านอาหารตรงนั้นที่เอมมี่บอกว่าอร่อย


ขืนให้ทนอยู่ต่อไปในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ
คงได้ฟูมฟายกับความเจ็บช้ำซ้ำไปซ้ำมา
เลยตัดสินใจหอบหัวใจที่ซมซานหนีกลับมาบ้านนอก

ปิดโทรศัพท์ ไม่เปิดรับรู้เรื่องราวอะไร
พยายามกล้ำกลืนกับความทุกข์ทน
บอกตัวเองให้ทำใจ


แต่...


“บอกอย่างนั้น บอกอย่างนี้ บอกวิธีที่ทำให้ไม่เสียจายยย
ต้องหยุดรักเขาได้ยินมั้ยยยย เข้าใจแต่ทำไม่ด้ายยยย

เรื่องความรัก มันจบแล้ววววว
คงไม่แคล้วต้องมีคนร้องไห้
คำว่ารักเรามันหมดความหมายยยยย
   
เข้าใจ....

ฮึกกก....แต่ทำไม่ด้ายยยยจริงจริงงงง!!!!!

ฮือออออออ.......โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ............”


ไอ้ห่าเพลงนี้ก็เข้ากับชีวิตกูจริ๊งงงงงงง
คนเล่นก็เหมือนรู้ใจตอกย้ำซ้ำเติมคนอกหักอยู่ได้
มึงจะเล่นอะไรที่มันให้กำลังใจกูบ้างได้มั้ย
ไม่เห็นหรือไงว่ากูร้องไห้จนตาปูดเป็นลูกมะนาวแล้ว


“น้องเอาเหมือนเดิมอีกแก้ว”


“เออ...พี่ครับผมว่าพี่ดื่มไปเยอะแล้วนะครับ”


เด็กเสิร์ฟพยายามแนะนำอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
เพราะลูกค้าที่นั่งยึดครองโต๊ะเดี่ยวหน้าบาร์
เล่นกระดกซดเหล้าเหมือนน้ำ ตั้งแต่ผับเปิดจนใกล้จะปิด

ทว่าคนโดนปรามกลับเงยใบหน้าแดงก่ำขึ้น
ใช้ตาคมปราบจ้องมองก่อนถามย้ำอย่างเอาเรื่อง


“ว่าไงนะ”


“เออ...เดี๋ยวผมจะรีบจัดมาให้เลยครับ”


พนักงานเสิร์ฟหมุนตัวออกห่างเดินไปสั่งของตามออเดอร์ทันที
ทิ้งให้ลูกค้ายกแก้วกลืนของเหลวสีอำพันลงคอจนหมด


หึ ให้กินเหล้าแค่นี้กูไม่เมาหรอก
แต่ถ้าเมาก็ดีสิ เมาซะมันจะได้ลืม ๆ

ลืมว่าความรักของกูต้องมาแพ้ให้ผู้หญิงธรรมดา ๆ

ด้วยเหตุผลเพราะ ‘เข้ากันได้’


เข้ากันได้....


แค่นี้เองเหรอ?


แล้วพี่เข้าไม่ได้กับน้องเอมมี่ตรงไหน
หรือเพราะพี่เป็นผู้ชายเลยไม่รู้ว่าเอมมี่คิดยังไง

งั้นพี่ต้องไปคบกับผู้ชายเหมือนกันเหรอ
ถึงจะลงตัวได้พอดี


แล้วจะให้พี่ไปคบกับใคร...
 
น้องเอมมี่บอกพี่ทีสิ


...ว่าใครกันจะมาเข้าใจคนอย่างพี่ศร


ใคร...


“ใครสักคนที่เกิดมาเพื่อผูกพัน
ใครที่เกิดมาคู่กับฉัน
ใครคือคนนั้นช่วยมา บอกฉันที

ให้ใจที่หวั่นไหวได้พึ่งพิงซักที่
ให้รู้ว่าซักวันฉันจะเจอคนๆนี้
และใครที่รอคนนี้....

มีจริงช่ายยยม้ายยยยยยย~~~~~”


โห...น้องแม่งโดนทุกเพลงเลย
เดี๋ยวเอาทิปไปสองร้อย
ร้องเหมือนเข้าใจชีวิตกู

เอ๊ะ...


เดี๋ยวนะ...


เข้าใจ...


เออนี่ไง....


ใช่เลย...


เจอแล้ว...

ไม่ต้องหากันไกล


...ไอ้คนไหนมันร้องเพลงอยู่วะ


ไกรศรลุกขึ้นจากโต๊ะ
เดินโซซัดโซเซไปตามทาง
ก่อนหยุดลงตรงหน้าเวที
ตะโกนสวนขึ้นไปกลางวงดนตรีที่ยังคงบรรเลงเพลงเสียงดัง


“เฮ้ย!!  มึง....

เมิงอ่ะ....

หยุดเล่นดิ เหี้ยหนวกหูโว้ยยย!!!

เมิงงงฟางงงกูก่อนนนน!!!”


อาการโหวกเหวกโวยวายทำให้คนที่กำลังอ้าปากร้องเพลง
ต้องหยุดเนื้อที่เพิ่งมาแค่ครึ่งทาง
ก่อนหันมาให้ความสนใจกับคนด้านล่าง

“อะไรครับ จะขอเพลงเหรอครับพี่”

ทว่า คนถูกถามกลับโบกมือไหว ๆ
ประคับประคองร่างของตัวเองให้ยืนนิ่ง
พูดคำขอสั้น ๆ แต่ได้ใจความ


“มึง...อึก...มึงคบกับกูนะ”


“ห่ะ?  อะ...อะไรนะครับ”


นักร้องนำขมวดคิ้วอย่างงง ๆ

เมื่อกี๊ไอ้พี่คนนี้มันพูดว่าอะไรวะ

...มึงคบกับกูนะ

เพลงชื่อนี้เคยมีด้วยเหรอ
ของวงไหนวะ?
หรือจะเป็นพวกวงร็อคใต้ดิน
ทำไมไม่เห็นจะคุ้นหูเลย


“เออ....ไม่ทราบว่าเพลงนี้ใครร้องเหรอครับ”


คนสงสัยถามขึ้นมาอีกรอบ
แต่คราวนี้คนตอบกลับส่งเสียงจิจ๊ะ
ตะโกนโวยวายอย่างหงุดหงิด


“โอยยยย.... ม่ายยยช่ายยยย...
เมิงโง่เปล่าวะเนี่ยยย....
ขอคบอ่ะขอคบ.... 
ตั้งแต่วันนี้.... เอิ้กก.....

....มึงต้องเป็นแฟนกู”



ตะลึงตึงโป๊ะ!


เสียงกลองที่ไหนมันดันตีรับมุกเข้าจังหวะ
ขำ...ขำมากเลยมั้ย...
นี่กูไม่ได้แสดงตลกคาเฟ่ให้ดูนะเว้ย!


นักร้องนำหันไปถลึงตามองคาดโทษคนตีกลอง
ก่อนจะหันกลับจัดการกับปัญหาตรงหน้า
ด้วยการพยายามหาทางไกล่เกลี่ย


“เออ...ผมว่าพี่เมาแล้วนะ กลับไปนอนเหอะพี่”


แต่คนเมามีหรือจะยอมรับ
ไกรศรส่ายหัวปฏิเสธ
พยายามพูดแก้ตัวแทบไม่เป็นภาษา


“ม่ายยย... กูไม่ได้มาวววว
มึงเข้าจายยยกู... มึงต้องคบกับกู
ปายยย....
เดี๋ยวเราปายยยนอนด้วยกานนเนอะแฟนจ๋า”


ยิ่งฟังยิ่งงงหนักขึ้นไปทุกที
แถมพ่วงด้วยอาการขนลุกในคำพูดน่าสยองนั้นอีกต่างหาก
สถานการณ์เริ่มย่ำแย่ คนรับหน้าจึงรีบหันไปตะโกนบอกเพื่อนด้านหลัง


“เฮ้ย แม่งไม่ไหวแล้ววะ
เรียกเฮียเอกที่ดิ
บอกว่ามีกะเทยควายเมาอยู่หน้าร้าน
ให้ลากไปทิ้งหรือจะให้ทำยังงะ....

....เหวออออ!!!!”


คำพูดหยุดไปด้วยเสียงร้องอย่างตกใจ
เมื่ออยู่ ๆ คนเมาก็ปีนขึ้นมาบนเวที
พร้อมกับโถมร่างใหญ่เข้ากอดนักร้องนำจนล้มคว่ำ

กอดไม่พอแม่งมีไซร้อีกต่างหาก

ทั้งขบติ่งหู ทั้งเม้มซอกคอ


แล้วมือ...


มือมันล้วง....



“อ๊ากกกกกก!!!!!! 
 
ช่วยด้วยยยยยย!!!
ไอ้เผือก ไอ้ต้น แม่งช่วยกูที!!!

กูไม่อยากเป็นผัวกะเทยยย!!!!!



เสียงคนถูกลวนลามแหกปากตะโกนลั่นร้าน
เพื่อน ๆ ที่มัวแต่ตะลึงจึงรีบเข้ามาฉุดคนเมาร่างยักษ์ให้ถอยออกห่าง
จัดแจงพิงร่างสูงซึ่งหมดสติไปแล้วไว้กับลำโพงบนเวที
ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะขำกันสนุกสนาน
เอ่ยแซวบ่นเสียดายกับการแสดงสดซึ่งกำลังจะเริ่ม

ผิดกับคนที่เพิ่งผ่านการเสี่ยงตาย
ที่รีบยกเสื้อมาเช็ดปากเช็ดหน้าของตัวเองเป็นการใหญ่


...ไอ้ห่านั่นทำอะไรวะ

แหวะ...ขยะแขยง
เหม็นเหล้าไปหมด


แม่ง...กูอยากจะอ้วกกก!!



แต่ทุกเสียงโหฮากลับเงียบลง
เมื่อเฮียเอกเจ้าของร้านเดินออกมาดูสถานการณ์
ก้มลงเช็คลูกค้าที่นอนหมดสภาพพลางส่ายศีรษะด้วยความหนักใจ


“สงสัยจะกลับเองไม่ไหววะ
นี่ก็ลูกค้าคนสุดท้ายด้วย
เดี๋ยวปิดร้านแล้วใครสักคนลากมันกลับไปล่ะกัน”


จบคำพูด ทุกคนพยายามเลี่ยงหลบสายตา

...ก็แน่ล่ะ ใครจะอยากเอาไปเป็นภาระ
ถ้าเป็นผู้หญิงล่ะจะไม่ว่า
แต่กับผู้ชายตัวควาย ๆ ที่ส่อเค้าจะเป็นเกย์
ใครมันจะไปอยากได้


“บิน”


เวรล่ะ...อย่าหวยอย่าออกที่กูนะ


เจ้าของชื่อสะดุ้งรีบภาวนาในใจอย่างเร่งรีบ
แต่ดูเหมือนคำขอจะไม่เป็นผลเพราะเจ้าของร้านเอ่ยคำตัดสินสั้น ๆ


“เฮียฝากด้วยนะ”


ฉิบหาย...


“เฮ้ยยยย!!!!  ไม่ได้เฮีย...
เมื่อกี๊ไอ้กะเทยควายนี่มันเกือบจะผมปล้ำนะเฮีย
ขืนลากมันกลับห้อง
แล้วอยู่ ๆ มันนึกคึกขึ้นมาผมจะทำยังไง”


คนโดนโยนภาระมาให้รีบร้องโวยวาย
ห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของตัวเองอย่างสุดซึ้ง
ทว่า คนถูกท้วงกลับเอ่ยปัด ๆ


“ไม่หรอกมั้ง เมาหมดสภาพขนาดนี้นกเขามันคงไม่ขันแล้ว
เหอะน่า หอเราอยู่ใกล้สุด ถือว่าช่วยเฮียล่ะกัน”


“แต่ว่า...”


“ไป ๆ ยืนอยู่ทำไม
ไปเก็บร้านได้แล้ว จะได้กลับกันสักที”


ยังไม่ได้แย้งต่อ เจ้าของร้านก็สั่งไล่ลูกน้องให้เคลียร์ของ
เป็นอันปิดฉากคดีโดยไม่เปิดโอกาสให้ยื่นอุทธรณ์ใด ๆ


คนโดนสั่งนิ่งอึ้ง ตะลึง มึนงง
พยายามหาตัวช่วยด้วยการมองไปที่เพื่อน ๆ ในวง
แต่ทุกคนกลับส่งสายตากลับมาอ่านออกเป็นคำเดียวว่า


‘ซวย แล้ว มึง’


แล้วก็พากันเก็บข้าวของเดินจากไป
ปล่อยนักร้องนำของวงไว้ตามลำพัง
กับผู้ชายร่างใหญ่ที่เกือบจะเปิดฉากข่มขื่นตัวเองกลางเวที


คนโดนทิ้งยืนเอ๋อ เหลือบมองตัวปัญหา
ก่อนกุมขมับตัวความเหนื่อยหน่ายใจกับชะตากรรม



แม่งเอ้ยยย....

ใครก็ได้บอกกูที


...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!!



------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC




ภาคใหม่มาเสิร์ฟแล้วค่า :mc3:

เริ่มตอนมาก็เจอกับความมึนกันซะแล้ว  :-[

แล้วต่อไปจะไปยังไงกันน้อ~~


อ่ะ...เกือบลืมขอย้ำอีกครั้งนะคะว่าิ

"นิยายเรื่องนี้แต่งเพื่อความบันเทิงไม่ได้สนับสนุนให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันเน้อ"


เพราะฉะนั้น  ก็อย่าเพิ่งรีบเมากันซะก่อนนะคะ

 :m13:


เอ้า!! ชนแก้วววววว!!!


BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-07-2012 22:06:34
มาถึงพระเอกเราก็เมารักเมาเหล้าเลย

ส่วนนายเอก "บิน" ก็มึนเหมือนกันที่อยู่ๆก็มีกระเทยถึกมาจูบ

แต่  ป๊าดดดด  คิดได้ไงว่าจะเป็นผัวกระเทย  :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 18-07-2012 22:09:41
อร้ายยยยย ซีรีย์ใหม่มาแล้ววววววววว !
สนุกมากเลยย ชอบมากก! xD

ไกรศรมันอกหักได้ฮามาก !
น้องบิน? (ใช่ป่ะ?) ก็เล่นเพลงได้ตรงใจพี่ศรซะทุกเพลง!! 5555555

แล้วไปส่งถึงบ้านระวังนะจ้ะน้องบิน...  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 >; P.27
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-07-2012 22:26:05
ฉากแรกก็ ตะลึงตึงโป๊ะ ขนาดนี้แล้ว ต่อไปจะเป็นยังไงต่อน้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 18-07-2012 22:34:39
//ชนแก้วววววววววว


กำลังเง็งว่านายไกรศรกะนายบินนี่เกี่ยวอะไรกับซีรีย์อืนๆ มั้ยคะ 
หรือว่าตัวละครไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันแต่อาจจะมีใครในซีรีย์ก่อนโผล่มา (คือเราเริ่มจำซีรีย์แรกไม่ได้  ฮาา)

จะอะไรก็ช่างงงงงงง  ซีรีย์นี้ทำเอาเราเปรี้ยวปากจริงๆ นะคะ (ย้ำอีกครั้งเราไม่ใช่สาวขี้เมา  ฮ่าาาาา)
คุณคนเขียนไม่ได้สนับสนุนหรอก  แต่เราอยากกินเอง  กร๊ากกกกกกก

ว่าแต่บินจะพานายไกรศรไปถึงห้องมั้ยเนี่ย
แล้วจะโดนจับกินมั้ยเนี่ย หาาาา
เดี๋ยวออนเดอะร็อคจะได้ฟิจเจอริ่งกะเซกส์ออนเดอะบีชนะเว้ยยย
น้องบินจะได้เป็นผัวกระเทยนะค๊าา ระวังไว้ด้วย  ฮ่าๆๆๆๆ


รอชนแก้วต่อไปนะจ๊ะ!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 18-07-2012 22:48:48
มึนจริงๆ ออกจะงงๆไปหน่อย มาต่อไวๆเน้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 18-07-2012 22:56:53
5555+...หนุกคับ... ฮาได้อีก ตรรกกะคนเมานี่...คิดได้ไงว๊า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 18-07-2012 22:57:18
ต่ออีก เอาอีก ได้อีก







มึนจริงนะเนี่ย พี่แกเล่นขอกลางเวทีขนาดนั้น ก็ให้ไปสิ






เผื่อมีเอ็นซีตั้งแต่เริ่มตอนแรก  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-07-2012 23:01:54
ขอกันง่ายๆ งี้เลยนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-07-2012 23:07:37
ป้าดดดดด!กระเทยถึก 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 19-07-2012 02:55:37



   เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ น่ารัก ฮาได้ใจจริงๆ



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 19-07-2012 05:35:11
ฮาอ่ะ
หาคนที่เข้าใจจากเพลงที่โดนใจ
ไกรศรเปิดตัวได้หมดสภาพมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-07-2012 07:25:41
  :m20: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: nightingale ที่ 19-07-2012 08:06:17
อ่านแล้วติดมาก ซีรี่ส์นี้   o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-07-2012 08:21:19
นี่แค่เริ่มต้น อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-07-2012 08:35:47
สมกับชื่อเรื่อง มาถึงก็เมาแบบมึนและเนียน เล่นขอเป็นแฟนกันตั้งแต่ฉากแรกที่เจอเลย
พี่ไกรศรอกหักเพราะหญิงไม่รักไม่ว่า  แต่หญิงดันมีแฟนทอมนี่ดิ ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีอ่ะ

กด + ให้คนเขียนกับเรื่องใหม่ที่นำมาเสริฟ์ค่ะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-07-2012 09:38:12
จะเมาหรือจะมึนดี
ห๊ะคุณไกรศร :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 19-07-2012 09:49:04
ศร ช่างหาคนเข้าใจได้แปลกจริงๆ
เจอปุ๊บ...ไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงเค้าถึงบนเวทีเลย
แถมหวยยังมาออกที่นายบินอีก เจ้านายใช้ให้พากลับซะงั้น
บินก็ระวังตัวหน่อยน๊า.....ระวังคนเมาปล้ำ อิอิ

+1 ขอบคุณค่ะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 19-07-2012 10:00:29
เปิดเรื่องมาก็เจอออนเดอะร็อคเลยแฮะ
แล้วงี้จะกลายเป็น 'ค็อก'เทลได้ยังไงล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 19-07-2012 10:24:31
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :pigha2: :pigha2: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 19-07-2012 10:30:10
อ่านแล้วมึน

จัดมาอีกแก้ว เพียวๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 19-07-2012 11:09:15
เริ่มเรื่องก็น่าติดตามแล้ว  รอตอนต่อไปนะค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 19-07-2012 15:27:02
เพิ่งได้อ่านตอนพิเศษ ของนักรบกับสาลี่ น่ารักกันจังเลยยยยยยย. 
แล้วก็ได้อ่านเรื่องใหม่ด้วย ท่าทางเรื่องนี้จะออกแนวฮาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 19-07-2012 15:42:24
มึนจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 19-07-2012 15:49:30
ฉากแรกมาก็มึนแล้ว 5555
มาชนแก้วกันดีกว่าาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 19-07-2012 20:44:22
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 2


ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าหอพักของเขามันอยู่ห่างจากร้านเหล้าแค่สองตึก
และก็พอจะเข้าใจด้วยว่าเป็นลูกจ้างก็ต้องหัดกตัญญูต่อเจ้านายที่ให้โอกาส
ยามเจ้านายลำบากเดือนร้อนต้องให้ความช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้

แต่ที่ ‘บินหลา’ หรือ ‘บิน’ นักร้องนำประจำวงอย่างเขาไม่เข้าใจ

นั่นคือทำไมกูต้องมาแบกไอ้กะเทยควายขึ้นบันไดตั้งสี่ชั้นด้วยยยยย!!!!!


“หนักโว้ยยยยย!!  แม่งแดกช้างเข้าไปทั้งตัวหรือไงวะ”


บินสบถหอบแฮ่ก หลังจากรีดเค้นพลังทุกสัดส่วน
แบกร่างของคนที่เมาไม่ได้สติขึ้นมายังหอพัก

ไอ้เขาก็ว่าตัวเองไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อยแล้วนะ
ตัวล่ำ ๆ แขนก็มีกล้ามสวยขนาดนี้
แถมยังแอบมีซิคแพ็คหน่อย ๆ ด้วย
แต่ไอ้ยักษ์ตรงหน้าเนี่ยสิ ตัวใหญ่ผิดมนุษย์
หุ่นยังกับนักมวยปล้ำ แล้วยังเสือกจะเป็นกะเทยอีก
มาพูดว่าจะขอคบขอนอนกับเขาที่เป็นผู้ชาย


เฮ้อ....โลกเราแม่งชักจะวิปริตเข้าไปทุกที!!

 
ล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงไขประตูเข้าไป
กดไฟเปิดให้แสงสว่างส่องทั่วห้องพักกลางเก่ากลางใหม่
แล้วค่อยจัดแจงลากคนเมาขึ้นไปนอนบนเตียง


...เอาไงดีวะ


คิดพลางมองสภาพร่างที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีดำกางเกงแสล็ก
ดูเสื้อผ้าการแต่งกายเหมือนพวกคนมีเงิน
แต่ดันเมายำเปไม่ต่างจากหมาข้างถนน
ก็เพราะเหล้าเนี่ยแหละ น้ำเปลี่ยนนิสัยดี ๆ นี่เอง
เขาถึงไม่อยากจะไปข้องแวะกับมันเลยสักครั้ง

โห...แล้วดูนี่ รองเท้าหนังมันวาบเชียว
พวกเกย์นี่มันชอบพิถีพิถันการแต่งตัวเหมือนกันเนอะ
แล้วกูต้องถอดให้มันใช่มั้ยเนี่ย
บริการดีขนาดนี้ ตื่นมาไม่ให้ทิปล่ะก็เดี๋ยวมีเฮ

บินจัดการถอดรองเท้าหนังราคาแพงของร่างที่นอนอยู่ออก
ทว่า เพียงแค่ขยับข้อเท้าให้หลุดออกมาเท่านั้น
เสียงงึมงำจากเจ้าของก็ดังฮือขึ้นมา


“อือออ....น้องเอมมี่”



...เอมมี่?


เอมมี่ไหนวะ


ชื่อผู้หญิงไม่ใช่เหรอ


เอ๊ะ...หรือชื่อกะเทย?



“น้องเอมมี่....อย่าทิ้งพี่ไป
เอมมี่เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะ”



...อย่าทิ้ง?


อ๋อ...ไดอะล็อกอย่างนี้มีประเด็นเดียว


กูฟันธงเลยว่า ไอ้หมีควายแม่งต้องอกหักมาชัวร์!!


โธ่ๆๆ....น่าสงสารจริงจริ๊งงงง
แต่ตอนนี้กูสงสารตัวเองมากกว่าว่ะ
มึงตัวเหม็นเหล้าไปหมดอย่างนี้แล้วจะให้นอนเตียงกูได้ยังไง
หรือต้องเช็ดตัวให้มันก่อน

เฮ้ย...บริการเกินไปมั้ย?
ไม่ใช่พ่อกูสักหน่อย

ไหน ๆ แล้วก็ปลุกให้มันมาจัดการตัวเองดีกว่า



“เฮ้ย คุณ....คุณ...ตื่นอยู่ป่ะเนี่ย...
คุณ.....ได้ยินผมมั้ย....”


เจ้าของห้องพยายามเรียกคนที่ยังนอนหลับตา
พลางเอื้อมมือเขย่าหัวไหล่หนา ๆ ไปด้วย
แต่เขาคงจะลืม...

....ลืมว่าเมื่อครั้งล่าสุดที่ร่างตรงหน้าลืมตาตื่น

มันเคยทำอะไรเอาไว้...


“คุณ....นี่คะ...อุบบบ....อืมมมม...”


ประโยคขาดหาย...
เพราะริมฝีปากถูกปิดด้วยของสิ่งเดียวกันจากคนที่กระชากตัวเขาให้ล้มลงนอน

ปลายลิ้นร้อน ๆ ดุนดันกวาดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่มอย่างกระหาย
รสจูบเจือกลิ่นแอลกอฮอล์...เร้าร้อน...รุนแรง....
จนทำให้คนถูกรุกรานได้แต่เบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง

ความตกใจ ความมึนงงถาโถมเข้าใส่ไม่หยุด
ลืมแม้กระทั่งจะขยับดิ้นหนี
จวบจนได้สติเมื่อใบหน้าคมผละออกห่าง
พร้อมกับกระซิบถ้อยคำบางอย่างข้างใบหู


“เอมมี่ของพี่”



...เอมมี่พ่อมึงสิ!!

หน้ากูเหมือนเอมมี่มากหรือไงถึงจูบกูมาได้
ไอ้ห่าเอ้ยย!!! ถูกผู้ชายจูบ
แม่งขยะแขยง อยากจะอ้วก!!!

แล้วนี่...


มือ...


มึงจะล้วงเข้ามาในเสื้อกูทำม้ายยย!!!



“เหี้ยยย!!! กูไม่ใช่เอมมี่!!
มึงปล่อยกู....อืมมมมม....”


คนร้องโวยวายขยับดิ้นกุกกัก
แต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากร่างหนาหนักที่กดทับ
ทั้งยังจูบซ้ำด้วยการบดขยี้ริมฝีปากลงไปอย่างเร้าร้อน
อย่างไม่เปิดโอกาสให้คนด้านล่างร้องประท้วง
มือหนาปัดป่ายสะเปะสะปะไปตามร่างเนียน
ก่อนจะค่อยๆ  เลื่อยลงไปที่ขอบกางเกงยีนส์


และ...



พลั่ก!!!


ตุบบบ!!!




เสียงแรกเป็นเสียงประเคนลูกถีบเข้าไปเต็ม ๆ ท้อง
ส่วนเสียงที่สองเป็นเสียงของคนถูกถีบปลิวละลิ่วจากเตียง
ลงมากระแทกกับพื้นอย่างแรงก่อนสลบแน่นิ่งไปทั้งอย่างนั้น


คนที่เพิ่งรอดพ้นปากเหยี่ยวหายใจหอบ
เรียกสติของตัวเองให้กลับเข้าทีเข้าทาง
ก่อนชะโงกมองร่างที่นอนสลบอย่างกังวล


ตะ...ตายหรือยังวะ

ถีบเข้าไปเต็ม ๆ แรงแบบนั้น
หัวฟาดพื้นน็อคไปแล้วรึเปล่า

เฮ้ย...มาตายในห้องกูไม่ได้นะเว้ยย!!


บินลุกขึ้นขยับเข้ามาใกล้ ใช้เท้าเขี่ย ๆ ร่างที่ยังนอนบนพื้นอย่างกลัว ๆ


...ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ตอบกลับ


ใจที่มีชักเริ่มจะเสีย
เขารีบอ้อมไปด้านหน้าเอามืออังจมูกเช็คลมหายใจ


....ค่อยยังชั่ว มันยังไม่ตาย


คนรอดตัวถอนหายใจอย่างโล่งอก

แต่...

ถ้ามันตายจริง ๆ ก็ไม่ใช่ความผิดกูสักหน่อย
อยากมาทำเรื่องเหี้ย ๆ แบบนี้ก่อนทำไมล่ะ
กูทำไปเพื่อป้องกันตัวเฉย ๆ
อุตส่าห์จะปลุกให้ลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาดี ๆ เสือกหื่นขึ้นมาซะได้

...ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ เลยไอ้บินเอ้ยยยย



เขาขยี้ผมตัวเองอย่างหงุดหงิด
เดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
อาบน้ำชำระล้างกายให้คลายความเหนื่อยจากเรื่องบ้า ๆ
เสร็จแล้วจึงเดินออกมาเตรียมตัวปิดไฟเข้านอน


แต่ชั่วขณะนั้น...
ดวงตากลับเผลอมองร่างที่ยังนอนสลบอยู่บนพื้น
ลังเลเล็กน้อยก่อนตัดสินใจ
หมุนตัวไปเปิดตู้เสื้อผ้าคุ้ยกุกกักอยู่ครู่หนึ่ง
แล้วจึงหยิบผ้าแพรผืนสีฟ้ามาคลี่ห่มให้กับแขกเจ้าปัญหา


...เพราะกูเป็นคนดีหรอกนะถึงทำแบบนี้

ถ้าคิดอยากจะขอบคุณกู
ขอแค่พรุ่งนี้มึงตื่นมาทำตัวเหมือนมนุษย์ธรรมดา ๆ
แล้วรีบไสหัวออกไปจากห้องกูก็พอ

ไม่ต้องจำว่ามึงเคยทำอะไร
ไม่ต้องรื้อฟื้นห่าเหวอะไรขึ้นมาทั้งนั้น


...อย่าให้กูต้องมาวุ่นวายปวดหัวกับเรื่องของมึงอีกเลย



------------------------------------------------------------------------------------------------------



หือ...

ที่นี่ที่ไหนวะ?

ไกรศรปรือตามองเพดานอย่างมึนงง
ก่อนเรียกสติของตัวเองเข้าสู่ร่างที่ร้าวระบมไปหมดทั้งตัว
ปวดหัว...ปวดหลัง...ปวดเอว...
ขยับตรงไหนก็ปวดเหมือนโดนโบยตี

โอยยย....นี่มันอะไรกันวะ!!



“ตื่นแล้วเหรอ”

เสียงคำถามทำให้เขาต้องพยุงร่างตัวเองยันกายขึ้น
ขมวดคิ้วมองคนทักอย่างงง ๆ


อ้าว...แล้วนี่ใครมายืนแปรงฟันอยู่วะเนี่ย 

เขาไล่มองชายหนุ่มธรรมดา ๆ ตรงหน้า
คะเนจากสายตาน่าจะอายุสักยี่สิบ
เนื้อตัวมีแค่กางเกงบอกเซอร์ตัวยาว
โชว์ผิวแทน ๆ ตัดกับลายสักที่ต้นแขนขวาลามมาถึงอก
ทรงผมไถเกรียนข้างซ้ายเป็นรอยขวางสองเส้น
หูเจาะระเบิดจิวสีดำเม็ดใหญ่ทั้งสองข้าง
รูปร่างหน้าตาไม่ได้ย่ำแย่ แค่ดูกวน ๆ
เพราะดวงตาคม ๆ ที่มองมาเหมือนยียวนชวนหาเรื่อง
สภาพเหมือนเด็กแว้นแถวปากซอย

แล้ว...

นี่กูถูกเด็กแว้นหิ้วมาได้ยังไงวะ?



“เมื่อคืนคุณเมาอยู่ที่ร้านเหล้า
ผมเลยลากกลับมานอนในหอผม”


ประโยคคำตอบดังขึ้นมาทันทีโดยไม่ต้องถาม
สั้นง่ายได้ใจความ และเรียกความทรงจำอันเลือนรางของร่างใหญ่ให้คืนกลับมา


เออ...ใช่...
เมื่อคืนเขาก็เมาอีกแล้ว
ตั้งใจจะหนีกลับมาบ้านนอกเพราะไม่อยากยุ่งกับเหล้า
แต่สุดท้ายก็ยังต้องให้มันช่วยเพื่อทำให้เขาลืมคนสำคัญบางคนอยู่ดี

คนสำคัญบางคน....

ที่ยังค้างคาอยู่ในหัวใจส่วนลึก

...น้องเอมมี่ของพี่ศร

ทำไมน้องถึงทำกับพี่แบบนี้ได้
ห่างกันแค่อาทิตย์เดียว
พี่จะเป็นจะตายขนาดไหนเอมมี่รู้บ้างไหม
กินไม่อิ่ม นอนไม่เคยหลับ
เมาเหมือนหมากลับมาทุกคืน


...แล้วจากนี้พี่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปคนเดียวได้ยังไง



“ถ้าไม่มีอะไร คุณก็กลับไปได้แล้ว
หอนี่อยู่ห่างจากร้านเหล้าไปสองตึก
กลับเองเป็นนะ”

เสียงคำอธิบายขัดจังหวะความคิดของคนที่ตกอยู่ในห้วงอารมณ์เศร้า
ไกรศรเงยหน้าขึ้นมอง

...เกือบจะลืมไปแล้วว่ามีคนอีกคนอยู่ในห้อง


“คุณเป็นใคร”


คำถามสั้น ๆ ที่ได้ยินทำให้คนฟังชะงัก

ห่ะ? นี่มึงกวนตีนกูป่ะเนี่ย
อ๋อ...สงสัยจำเรื่องเมื่อวานไม่ได้
ดีเหมือนกัน เรื่องเหี้ย ๆ พรรณนั้นลืมไปได้ก็ดี
เข้าใจว่าคนกำลังสับสน
เดี๋ยวกูจะสงเคราะห์บอกให้

...แล้วสำนึกไว้ซะว่ากูเคยมีบุญคุณกับมึงมากขนาดไหน


“ผมชื่อ ‘บิน’ เป็นนักร้องนำของร้านเหล้าที่คุณไปเมื่อคืน”



...นักร้องนำ

คำคำเดียวทว่ากลับฉุดให้ความทรงจำของไกรศรหมุนวนกลับไปอีกครั้ง
แต่เป็นครั้งที่รุนแรงยิ่งกว่า...
กระทั่งเรียกภาพทั้งหมดของเหตุการณ์เมื่อคืนได้เป็นฉาก ๆ


...ทั้งเรื่องที่นั่งกินเหล้าครวญครางกับเพลง

...ทั้งเรื่องที่ตัดพ้อพร่ำเพ้อถึงน้องเอมมี่

...ทั้งเรื่องที่ตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นใหม่กับคนที่เข้าใจ


...และทั้งเรื่องที่ได้เจอกับคนที่ตามหาอยู่คนนั้น



“บิน คุณชื่อบินใช่มั้ย”

คำถามชวนยียวนอารมณ์เป็นครั้งที่สองทำให้เจ้าของชื่อขมวดคิ้ว

“ใช่ ชื่อจริงบินหลา ชื่อเล่นชื่อบิน เอานามสกุลด้วยมั้ย”

เขาตอบประชดกลับอย่างกวน ๆ
จะสงสัยอะไรมากมาย หรือยังไม่หายแฮงค์กันวะ

ทว่า คนบ่นกลับต้องเป็นฝ่ายนิ่งค้าง
ดวงตาคมเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมา


“งั้นบินคบกับผมนะ”



...คำคำเดิม
แม้ดูสุภาพมากกว่าที่พูดเมื่อคืน
ทว่าความหมายกลับไม่ได้แตกต่าง
เพราะใจความของมันก็ยังทำให้คนฟังอึ้งตะลึงเหมือนเช่นเดิม


นั่นไง...เวรแล้วกู ไม่น่าคิดว่ามันลืมเลย


คนที่ชักเริ่มเห็นแววส่อเค้าถึงปัญหา
เปลี่ยนสีหน้าเป็นเคร่งเครียด
กระแทกเสียงตอบกลับอย่างหงุดหงิด


“ผมไม่ใช่เกย์!!”


“ผมก็ไม่ใช่!”


“เอ้า!! แล้วจะมาขอคบกับกูทำไม”


มารยาทที่มีเริ่มหดหาย
เมื่อดูท่าว่าคู่สนทนาจะพูดกันไม่รู้เรื่อง
แต่อีกฝ่ายกลับสวนตอบขึ้นมาอย่างโต้ง ๆ


“ก็ผมอยากคบ บินไม่มีแฟนใช่มั้ย”


“ไม่มี แล้วไง”


“งั้นก็ดี ต่อไปนี้...ผมเป็นแฟนบิน”


คำพูดมัดมือชกกันอย่างดื้อ ๆ
เล่นเอาคนฟังถึงกับหน้าเหวอมึนงงราวกับโดนค้อนทุบใส่หัว
สมองสับสนกับเหตุการณ์ที่ไปเร็วเกินกว่าจะตามทัน


เดี๋ยวนะ....

คือ...กะ...กูเริ่มไปไม่ถูกแล้ว

มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ
มึงช่วยบอกกูใหม่ตั้งแต่ต้นสิ


“เออ แล้วผมชื่อ ‘ไกรศร’ นะ เรียก ‘พี่ศร’ ก็ได้”


ไม่ใช่แล้ว... 
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มึงชื่ออะไร

ประเด็นคือ...

มึงบอกว่า ‘กูเป็นแฟนมึง’ ได้ยังไงต่างหาก


“ดะ...เดี๋ยว...คือ...”


“ถ้าบินไม่ว่าอะไร พี่ศรขอไปอาบน้ำแป๊บนะครับ”


ยังไม่ทันอ้าปากถามร่างสูงใหญ่ก็ชิงพูดขึ้น
ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวของเขาที่พาดอยู่กับไม้แขวน
แล้วเดินเข้าห้องน้ำปิดประตูไปดื้อ ๆ


ปล่อยให้คนที่เพิ่งได้แฟนใหม่มาหมาด ๆ ยืนเอ๋ออยู่ในห้อง


เมื่อกี๊มันอะไรวะ
นี่ตกลงกูเมาหรือมึงเมากันแน่เนี่ย
พาราอยู่ไหน ยาแก้แฮงค์อยู่ไหน


ไม่ไหว....

ตอนนี้กูงงไปหมดแล้วววว!!!



------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-07-2012 20:50:12
ครึๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-07-2012 20:57:30
พี่ศรรวบรัดเลยอ่ะ บินยังเอ๋ออยู่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 19-07-2012 21:09:24
มึนได้อีก o13

อย่าว่าแต่บินเลย...เราก็เอ๋อ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 19-07-2012 21:12:31
5555' พี่ศร...มึนมากกก ขอคบดื้อๆเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 19-07-2012 21:22:26
อยู่ๆก็ได้แฟนมาซะงั้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 >; P.28
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-07-2012 21:31:34
มีแฟนแบบมึนๆเลยนะบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-07-2012 21:31:48
ตอนนี้กลายเป็นบินที่มึนแทน   พี่ศรเมาแรงถีบบินหรือเปล่านี่   



กด + และ + เป็ด ให้กับช๊อตที่ 2  รอช๊อตต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-07-2012 21:36:54
พี่ศรมึน แต่น้องบินคงมึนขั้นกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 19-07-2012 21:42:04
555 :) ตกลงพี่ศรเมา แต่บินมึนไปเลย รวบรัดได้เร็วมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-07-2012 21:54:52
อ้าว  บินมึนเลย 555

พี่ไกรช่างกล้า (ประชดแฟนเก่า เค้าจะรู้มั้ย)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 19-07-2012 22:54:11
ขำตั้งกะบินหลา  บินเอ๊ยยยย  บินเมาๆ จนโดนศรเมาๆ ไปสอยปักตกลงมาบนพื้นแล้วมั้งเนี่ยยย


สมชื่อซีรีย์จริงๆ  อ่านแค่นี้ก็อยากจะขอยาแก้แฮงค์สักสองแผง  แผงเดียวไม่พอนะคะ!
เพราะแผงเดียวไม่ทนทานกะอาการมึนของพี่ศรได้จริงๆ อะ

คนอะไร๊...  ตื่นยังไม่ทันไร  ทบทวนความจำได้ไม่เท่าไร
ยังจะมีหน้ามาตีหน้ามึนขอคนอื่นเป็นแฟน  ไม่พอ...  ยังจะมาให้เรียกพ่งเรียกพี่อีก
มึนค่ะงานนี้...  พี่ศรเล่นบทมึนแบบนี้  เราต้องมึนตามด้วยจะได้อินถึงฟิล  ฮ่าาาาาา


แล้วบินจะรอดเหรอ  อยู่ดีๆ ก็ได้แฟนมาเป็นตัวเป็นตนซะงั้นหนะ
แต่ว่ามาขอคนอื่นเป็นแฟนเพราะว่าตัวเองโดนทิ้งมาแบบนี้ไม่ดีนะคะพี่ศร
ถ้าเกิดว่าต่อไปนิสัยเข้ากันไม่ได้  แล้วเลิกกันไป  คนที่ตกหลุมลึกไปแล้วจะถอนตัวลำบากนะ


ต่อไปข้างหน้า...  ก็ยังไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น  บินอาจจะต้องเสียน้ำตาเพราะพี่ศรก็ได้
ใครจะไปรู้เนาะ! 


ไปหายาแก้เมามาเตรียมรอตอนหน้าดีกว่าค่ะ  ฮา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 19-07-2012 23:48:49
ได้แฟนมาแบบงง
แล้วเราก็งงต่อไป
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 20-07-2012 03:16:27
เค้าก็ร้องเพลงตามอาชีพของเค้า เอาส่วนไหนคิดว่ามันไปเข้าอกเข้าใจแกตอนไหนว่ะคุณพระเอก
ฮานายศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-07-2012 03:39:35
พี่ศรสร่างรึยังเนี่ย?  :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 20-07-2012 03:40:57
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 20-07-2012 05:07:20
 :z3:โอ้เย่ พีศร โคตรมุ่งมั่นเลยอ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 20-07-2012 05:59:38
พี่ไกรศรเค้าเมารักน่ะน้องบิน ฮิ้ววววววง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 20-07-2012 07:01:10
มึนได้อีกพี่ศร  :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 20-07-2012 14:43:39
ตรงไปมั๊ยพี่ศร 5555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: fon270640 ที่ 20-07-2012 16:12:19
อ่า ทำใจเถอะน้องบิน ถือซะว่ากำลังมีแฟนรวยละกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 20-07-2012 16:22:02
พี่ศร กับ น้องบิน ฮามาก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-07-2012 16:23:41
นู๋บิน
ได้แฟนโดย
ไม่ได้ตั้งใจ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 20-07-2012 16:55:42
อยู่ดีๆ ก็มีแฟนแบบไม่รู้ตัวซะงั้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 20-07-2012 19:18:46
พี่ศรมึนอ่ะตอนนี้ อยู่ดีๆ ก็ขอบินคบ
ไม่ให้บินตั้งตัวกันเลยทีเดียวเชียว 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: murasakisama ที่ 20-07-2012 21:42:46
ได้แฟนมาแบบงงๆ โดยรู้ตัว :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 20-07-2012 21:44:22
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 21-07-2012 18:56:07
 งานเข้า :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 22-07-2012 00:01:00
พี่ศรขอเป็นแฟนกันอย่างงี้เลย นายบินหลาก็มึนได้ใจ กร๊ากกก  :laugh: :laugh:
รอลุ้นว่าเค้าจะเป็นแฟนกันยังไงนะ คนหนึ่งก็แม๊น...แมน อีกคนก็มึ๊น....มึน พี่ศรกับน้องบิน :impress2:

+1 ค่ัะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: CrazierM ที่ 22-07-2012 00:39:21
มึนได้อีก 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 22-07-2012 01:26:47
โดนจูจุ๊บ ไปซะจ๊วบเบอเริ่ม

คนอกหักก็เตรียมมีแฟนใหม่ได้เลยนะ  หุหุ

+1 ให้จ้าาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19/07/55 > P.28
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 22-07-2012 07:55:55
ฮาพี่ศร โมเม มั่ว ได้ใจจริงนะเออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 22-07-2012 09:19:56
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 3



บินกำลังนั่งอยู่บนเตียงในสภาพกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว
มือกุมขมับคิดใคร่ครวญอยู่ในใจอย่างสับสน


...นี่กูทำอะไรผิดไปรึเปล่าวะ

หรือจริง ๆ กูเก็บคนบ้ามากันแน่
มันถึงได้พูดห่าเหวอะไรไม่รู้เรื่องเลยสักอย่าง
อุตส่าห์มีน้ำใจลากกลับมานอนที่ห้อง
แต่ดันเพ้อเจ้อบ้าบอคอแตกไร้สาระออกมาได้

เวรกรรมจริง ๆ กูหนอกู
ทำไมถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้วะ!!



...แกร๊ก


เสียงเปิดประตูห้องน้ำที่ดังขึ้นเรียกให้คนกลัดกลุ้มหันไปมองร่างสูงใหญ่ตรงหน้า
ซึ่งนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียวราวกับตั้งใจจะอวดกล้ามฟิตปั๋งได้รูปอย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำ
ถึงดวงตาจะดูโทรม ๆ เหมือนคนอดนอนมาบ้าง
แต่ใบหน้าคมคายก็ยังดูเข้มสมชาย ปล่อยออร่ารังสีความแมนโคตร ๆ
โดยไม่เห็นจะส่อเค้าว่าเป็นเกย์หรือกะเทยตรงไหน


“บินมีเสื้อกางเกงให้พี่ยืมบ้างมั้ย”


เสื้อกางเกงเหรอ...
เออ มี ๆ  จำได้ว่ามีเสื้อยืดตัวใหญ่ ๆ ที่ซื้อมาแล้วไม่ค่อยใส่เหมือนกันนี่หว่า
เอาไปซุกไว้ตรงไหนนะ
 
...เอ๊ะ...แต่เดี๋ยว...



“นี่คุณตั้งใจจะทำอะไรกันแน่เนี่ย”


มือที่กำลังเปิดตู้ชะงัก เมื่อนึกได้ถึงประเด็นสำคัญที่จะต้องเคลียร์
แต่อีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วอย่างงง ๆ


“เอ้า...ก็ใส่เสื้อผ้าไง
หรือบินอยากให้พี่ทำอย่างอื่น
อืม...ก็ได้นะ...
...ถึงพี่จะไม่เคยลองกับผู้ชาย
แต่ถ้าแฟนขอ...พี่ก็พร้อมจัดให้เสมอ”


คำพูดสองแง่สองง่ามไปคนละทางกับที่ต้องการ
ทำเอาคนฟังขนลุกซู่รีบร้องตะโกนโวยวายลั่น


“เหี้ยย!!  ไม่ไช่โว้ยย!!
กูหมายถึงที่มึงพูดว่าจะคบกับกู
เป็นแฟนกูอะไรเนี่ย มึงอำเล่นใช่มั้ย”


ทว่าแทนที่คราวนี้จะได้รับคำตอบ
ร่างสูงใหญ่กลับทำแค่เพียงเอ่ยขัดเสียงดุ ๆ


“บินพูดไม่เพราะเลยนะครับ
ไหนพูดใหม่สิ...
บอกแล้วให้เรียกพี่ว่า ‘พี่ศร’ ไง”


แค่นั้นแหละ...
สติของใครบางคนก็ขาดผึง


“โว้ยยยยยย!!
มันใช่เวลามั้ย ไอ้เรื่องชงเรื่องชื่อเนี่ย
แล้วกูจะพูดยังไงก็เรื่องของกู
ขนาดพูดกันตรง ๆ มึงยังไม่เข้าใจเลย
แล้วจะให้กูมาพูดเพราะ ๆ คงจะรู้เรื่องกันอยู่หรอก

ถามจริง สมองมึงปัญหาหรือไงวะ
กูไม่ว่างเป็นเพื่อนเล่นมึงนะ
ถ้ายังไม่หายแฮงค์ก็บอก กูจะได้หายามาให้
หรือถ้ามึงบ้า มึงเอาเบอร์โทรโรง’บาล เบอร์บ้านมึงมาก็ได้
แล้วกูจะได้โทรไปหาคนที่บ้านให้มารับมึงกลับไปสักที”


ประโยคยาวเหยียดเต็มไปด้วยคำสบถเถื่อนสถุลตรงข้ามกับสิ่งที่บอกไว้อย่างสิ้นเชิง
ทำให้ไกรศรได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ กับพฤติกรรมไม่เชื่อฟังของคนตรงหน้า
ก่อนจะตั้งต้นอธิบายคำถามที่ค้างไว้ด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“คือบินครับ พี่ไม่ได้บ้า ไม่ได้แฮงค์อะไรด้วย
มันอาจจะกะทันหันที่เราจะเป็นแฟนกันพี่เข้าใจ
แต่ในเมื่อบินยังโสดแล้วพี่เองก็ไม่มีใคร
ก็ไม่เห็นแปลกอะไรถ้าเราสองคนจะคบกัน”


“ไม่แปลกได้ไงวะ ตัวผู้ทั้งคู่
มึงแหกตาดูสิว่ากูมีนมมั้ย
หรือจะให้กูงัดไอ้นั้นขึ้นมาโชว์ให้มึงดูด้วย”


คำพูดเริ่มรุนแรงด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ทะยานขึ้นสูง
อย่างคนที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้วิปริตผิดเพศแต่ประการใด
ทว่าคนหน้ามึนก็ยังคงนิ่งเฉย
ปากขยับอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ


“ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็ไม่เป็นไร
เพราะพี่เคยฟังมาจากใครคนหนึ่งว่า

...ความรักมันไม่มีแบ่งแยกเพศ
ขอแค่เราเข้าใจกันได้ก็พอ...”


ประโยคสุดท้ายแผ่วเบาลง 
เพราะใบหน้าคมเลี่ยงสบตาก้มหน้าลงมองพื้น

รู้สึกถึงความเจ็บปวดลึก ๆ ในใจ
กับคำพูดที่เอ่ยออกไปซ้ำเติมตัวเองให้รวดร้าว


...ถ้าน้องเอมมี่บอกมาอย่างนั้น    
พี่ก็จะเชื่อ...

ต่อให้ต้องเจ็บช้ำมากแค่ไหน
แต่ถ้าการเลือกคบคนใหม่จะทำให้พี่ลืมน้องได้
พี่ก็จะทำตามในสิ่งที่น้องต้องการ

...ขอเพียงเอมมี่มีความสุข
...แค่นี้พี่ก็ไม่หวังอะไรอีกแล้ว


ไกรศรตกอยู่ในวังวนของความโศกเศร้า
คิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหลอีกรอบ


ตรงข้ามกับใครอีกคนที่กำลังยกมือกุมขมับ
รู้สึกคล้ายตัวเองกำลังจะเป็นไมเกรนกำเริบ


...ตรรกะป่วย ๆ อะไรของมึงเนี่ย


‘ความรักไม่มีแบ่งแยกเพศ
ขอแค่เราเข้าใจกันก็พอ'



ถุย!!
...โคตรน้ำเน่า!!

ระหว่างกูกับมึงมันจะเป็นความรักไปได้ยังไง
ในเมื่อตอนนี้กูไม่เข้าใจมึงเลยสักนิด
มีแต่พูดเออ เออเอง เข้าใจเองคนเดียวทั้งนั้น
แล้วจะให้มาคบเป็นแฟนกัน
ประสาทแดกรึเปล่ามึง


...แม่งงงง กูอยากจะบ้า!!!



“โอยยย ปวดหัวโว้ยยย!!
กูไปอาบน้ำแล้ว
เสื้อมึงก็คุ้ยดูในตู้ล่ะกัน”


บินตัดบทเดินคว้าผ้าเช็ดตัวอีกผืนเข้าห้องน้ำ
กระแทกประตูปิดดังโครมระบายความหงุดหงิด
เปิดฝักบัวราดตัวหวังใช้ความเย็นดับอารมณ์ร้อนของตัวเอง
พร้อมกับพยายามตั้งสตินับหนึ่งถึงสิบ


...ใจเย็น...
อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา
นี่มันทั้งเมาทั้งบ้า
เขาต้องไม่หงุดหงิดโมโห

มันจะบอกว่าเขาเป็นฟงเป็นแฟนอะไรก็เรื่องของมัน
ตราบใดที่เขาไม่คิดจะยอมรับ
ยังไงซะมันก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี

ปล่อยให้บ้าพร่ำเพ้อของมันไปคนเดียว
ก็แค่ทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวแม่งก็เลิกไปเอง
ตั้งสติปรับอารมณ์ปรับโหมดใหม่
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

..น่าน...ยังงั้น...

...โอเค กูพร้อมลุยกับมึงแล้ว



คนที่เรียกกำลังใจตัวเองคิดอย่างมุ่งมั่นเตรียมพร้อมรับศึก
ทว่าพอเปิดประตูห้องน้ำออกมา


ห้องทั้งห้องกลับว่างเปล่า...


“อ้าว...หายไปไหนวะ”


เหลียวซ้าย แลขวา
มองหาร่างยักษ์ ๆ ที่เคยยืนอยู่แต่ก็ไม่มีแต่เงา


เอ๊ะ...หรือว่าจริง ๆ มันตั้งใจมาขโมยของรึเปล่า
เป็นเทคนิคโจรกรรมใหม่ มาหลอกว่าเป็นบ้าให้เจ้าของบ้านตายใจ
แล้วชิ่งเอาทรัพย์สินมีค่าไป

เวรแล้วไงกู...
กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์อยู่ไหนวะ

สองมือรีบคุ้ยหาก่อนเจอกระเป๋าตังค์ในเก๊ะ
ส่วนโทรศัพท์ก็ยังวางเด่นหราอยู่บนโต๊ะ


อ้าว...ยังอยู่ครบ ไม่มีอะไรหายไป


แต่สิ่งที่หายคือไอ้หมีควายหน้ามึน


...หรือมันจะกลับไปแล้ว

เออ...ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิ
กูจะได้หลุดพ้นจากเรื่องปัญญาอ่อนนั้นสักที
เฮ้อ....



...แกร๊ก


ยังไม่ทันจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
เสียงเปิดหน้าต่างระเบียงดังขึ้นขัดความคิด
ก่อนร่างที่สุดแสนคุ้นตาจะเลิกผ้าม่านเดินกลับเข้ามา
ในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์สีเข้ม


..โห...กางเกงตัวโปรดกูเลยนะนั่น
อุตส่าห์ดีใจนึกว่ากลับไปแล้ว
แค่ออกไปนอกระเบียงห้องเองเหรอวะ
แล้วกลิ่นติดตัวแบบนี้มัน...


“สูบบุหรี่เหรอ”


คนฟังพยักหน้ารับพลางทำท่าล้วงหยิบของในกางเกง


“อือ เอาด้วยมั้ย”


“ไม่ต้อง กูไม่ชอบ”


คำปฏิเสธชัดเจนทำให้มือใหญ่ที่กำลังหยิบซองบุหรี่ยื่นให้ชะงักค้าง

ไกรศรยืนนิ่ง
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขยำซองบุหรี่ที่เหลืออยู่เกือบครึ่งทิ้งลงถังขยะ
พร้อมกับเอ่ยคำพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“ถ้าบินไม่ชอบพี่ก็จะเลิก”


“อ้าว..เกี่ยวไรกับกูวะ ปอดก็ปอดมึง
อยากจะสูบแค่ไหน หรืออยากจะปุ๊นยาด้วยก็ตามใจ
เพื่อนกูทำกันเยอะแยะ
แต่แค่กูไม่สูบเพราะมันไม่ดีต่อกล่องเสียงกูแค่นั้นเอง”


บินขมวดคิ้วถามอย่างง ๆ
ทว่าคนฟังกลับส่ายหน้า


“อะไรที่แฟนพี่ไม่ชอบ พี่ก็จะไม่ทำ
บุหรี่นี่พี่ก็เลิกได้เพื่อบิน”


..โอ้โห...น้ำตาจะไหล
นี่ต้องซาบซึ้งกับมึงด้วยมั้ยเนี่ย
ทำดีเพื่อแฟน...หล่อเลยมึง
นี่ถ้ากูเป็นผู้หญิงคงจะโผเข้ากอดแข้งกอดขาแล้ว
แต่กูไม่ใช่ไง...
ไม่ใช่ทั้งผู้หญิง ไม่ใช่ทั้งแฟน ไม่รู้สึกอะไรด้วยซ้ำ
แถมยังหมั้นไส้คันตีนขึ้นมาตงิด ๆ อีกต่างหาก


เขากำลังจะอ้าปากประชด
แต่อีกคนกลับก็ร้องขัดขึ้นมา


“บินก็รีบแต่งตัวเถอะ เดี๋ยวจะได้ไปกินข้าวกัน”


เออ...พอพูดถึงข้าว ท้องก็ร้องขึ้นมาเลย

...นี่มันกี่โมงแล้ววะ


ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกาที่ข้างฝา
แล้วก็แทบจะตาเหลือกขึ้นมาทันที่เห็นเข็มยาวอยู่ที่เลข 6
ส่วนเข็มสั้นอยู่ระหว่างเลข 9 และ 10


“ตายห่า!! สายแล้วกู”


สบถกับตัวเอง ก่อนรีบหันไปค้นหาเสื้อผ้าในตู้แต่งตัวด้วยความไวแสง
หยิบข้าวของ เปิดประตูออกจากห้อง ไขล็อกเรียบร้อย
แล้วจึงแทบจะพุ่งตัวลงมาจากหอพัก
ถอยมอเตอร์ไซต์ออกมาจากที่จอด
สวมหมวกกันน็อค สตาร์ทเครื่องเตรียมพร้อม
ขยับมือที่เกาะเอวตัวเองให้กระชับแน่นขึ้น


เดี๋ยวนะ...


มือ...


...มือใครวะ



“เฮ้ย ตามมาทำไมเนี่ย!!”


บินร้องโวยวายเสียงลั่นใส่แขกไม่ได้รับเชิญ
ซึ่งทำตัวเนียนมานั่งคร่อมด้านหลังมอเตอร์ไซต์ของเขา
แถมเจ้าตัวยังพูดตอบกลับออกมาหน้าตาเฉย


“ก็จะตามแฟนไปกินข้าวด้วยกันไงครับ”


...กูว่าไม่ต้องกินข้าวแล้ว
เดี๋ยวเลี้ยวพามึงไปส่งโรง’บาลเลยดีกว่า
นี่ยังไม่เลิกบ้าอีกเหรอวะ


ในใจนึกอยากจะถีบมันให้ตกรถมอเตอร์ไซต์
แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้ว
อีกอย่างด่ากับคนบ้าเหมือนด่ากับหมา
ต่อให้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี


บินถอนหายใจอย่างหน่าย  ๆ ก่อนบิดเครื่องขี่มอไซต์ไปตามทาง
โดยมีหมีควายหน้ามึนซ้อนไปแบบนั้น
จนถึงหน้าร้านอาหารเจ๊วรรณขายข้าวแกงอาหารตามสั่งเจ้าประจำ
จอดรถเดินลงมาหาที่นั่งในร้าน
คนหน้ามึนก็ยังคงเดินมาต้อย ๆ นั่งโต๊ะตัวเดียวกัน
รอเด็กเสิร์ฟมารับออเดอร์ แล้วร้องสั่งเมนูโปรด


“ข้าวกระเพราตับไข่ดาวเอาเผ็ด ๆ นะน้อง”


“เออ...ผมเอาข้าวหมูทอดกระเทียม”


เสียงชื่ออาหารทำให้บินนึกอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง
ตัวใหญ่ยักษ์อย่างกับตึกมาดแมนสมชายซะเปล่า
เสือกสั่งเมนูไม่ได้เข้ากับตัวเองเล๊ยยย...


“กินไรหน่อมแหน้ม ตุ๊ดชิบ”


ปากไวพอ ๆ กับสมอง
อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแขวะพอเป็นพิธี
แต่คนถูกเหน็บไม่ถือสา ซ้ำยังตอบกลับด้วยน้ำแสดงความเสียงห่วงใย


“บินนั้นแหละ กินเผ็ดมาก ๆ ตอนเช้ามันไม่ดีกับร่างกายนะ”


“อ๋อเหรอ ไม่ต้องทำมาเป็นสั่งสอนกูเลย
สอนตัวเองให้สติดี ๆ ก่อนเถอะ
จะกินอะไรก็เรื่องของกูสิวะ”


“ที่พูดก็เพราะพี่เป็นห่วงหรอก
เดี๋ยวปวดท้องขึ้นมาจะทำยังไง”



มาอีกแหละ...

ไอ้คำพูดประหลาด ๆ แบบนี้
ถ้าเป็นสาวสวย ๆ เสียงหวาน ๆ กูจะไม่ว่าเลย
แต่หน้าเถื่อน ๆ เสียงเข้ม ๆ อย่างมึง


กูฟังแล้วจะอ้วกกก!!


คิดในใจอย่างเซ็ง ๆ จังหวะพอดีกับที่น้องยกน้ำแข็งมาเสิร์ฟ
ซึ่งไกรศรก็จัดแจงบริการเปิดน้ำรินให้อย่างเรียบร้อย
โดยที่บินได้แต่นั่งกระดิกเท้ารออยู่เฉย ๆ
ครู่เดียวข้าวตามสั่งถูกนำมาวางบนโต๊ะ
ทั้งสองคนก้มหน้าก้มตากินโดยไม่พูดจาอะไรสักคำ
ใช้เวลาเพียงไม่นาน ข้าวสองจานก็ลงไปอยู่ในกระเพราะจนเรียบ



“เอิ้บ...”

คนอิ่มลูบท้องอย่างสบายอารมณ์
สูดน้ำผ่านหลอดอึกสุดท้าย
ก่อนเจ้าตัวจะตะโกนเรียกเด็กเสิร์ฟ


“น้องเก็บตังค์”


“ทั้งหมด 79 บาทค่ะ”


กำลังจะควักแบงค์ในกางเกงออกมา
แต่เสียงหนึ่งกลับห้ามเอาไว้


“ไม่ต้องเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”


ห่ะ...


ยังไม่ทันได้อ้าปากร้องท้วง
ร่างสูงใหญ่ก็ยื่นเงินออกมาจ่ายให้เรียบร้อย
ปล่อยให้คนที่กินฟรีได้แต่มองการกระทำตรงหน้านี้อย่างงง ๆ


“อะไรวะ ทำมาเป็นเลี้ยง
เอาตังค์ไป กูไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร”


บินส่งแบงค์ห้าสิบให้อีกฝ่าย
แต่คนรับกลับส่ายศีรษะ


“ก็พี่บอกแล้วว่าไม่ต้อง แฟนคนเดียวพี่เลี้ยงได้”


คำอธิบายไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
มิหนำซ้ำยังทำให้คนฟังยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิม
ไป ๆ มา ๆ แม่งก็วนเข้าประเด็นนี้อีกแล้ว


“คำก็แฟน สองคำก็แฟน
ถามกูสักคำหรือยังว่าไปตกลงคบกับมึงตอนไหน”


บินคาดคั้นขึ้นเสียงจริงจังอย่างคนเริ่มโมโห
ทว่าไกรศรกลับทำแค่เพียงยักไหล่ตอบเสียงเรียบ


“ไม่เห็นต้องถาม ก็เราข้ามขั้นไปแล้ว
ปกติเขาจีบกัน ค่อยมาตกลงขอคบกัน แล้วถึงกลายเป็นแฟน
แต่เราเป็นแฟนกันแล้ว เลยไม่ต้องถามกันอีกว่าคบกันตอนไหน
มันผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว ย้อนกลับไปไม่ได้ เข้าใจหรือยัง”



เออ...


...เหมือนจะเข้าใจนะ
..แต่ก็ไม่เข้าใจว่ะ


ตกลง กูจำเป็นต้องรอให้มึงมาขอคบกันมั้ย
แต่เดี๋ยว...มันข้ามขั้นไปแล้วนี่
ย้อนไม่ได้อีกต่างหาก


...คือ...สรุปว่ากูเป็นแฟนมึงไปแล้วเหรอ


เอ๊ะ...อะไร ยังไง


...ทำไมกูถึงรู้สึกว่ามันแปลก ๆ วะ



คนที่เพิ่งได้แฟนเป็นตัวเป็นตนครุ่นคิดในใจอย่างสับสน
เดินตามร่างสูงใหญ่ที่ลุกขึ้นออกไปยืนรอหน้าร้าน
ก้าวขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์แล้วขี่ออกไปทั้งอย่างนั้น


คนขี่ก็หน้างง

คนซ้อนก็หน้ามึน


...ดู ๆ ไปคู่นี้มันก็ช่างเหมาะสมกันเสียจริง ๆ



------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-07-2012 09:28:20
คนอ่านพลอยมึนไปด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 22-07-2012 09:48:28
อย่ามาเนียนพี่ศร :m16:

นายยังคิดถึงยัยชะนีเอมมี่อยู่

เหมือนตอนนี้นายกำลังสะกดจิตตัวเองให้รักบินอยู่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 22-07-2012 10:01:02
มึนแทนบิน

ไม่ได้ตกลงเป็นแฟน แต่เป็นแฟนไปแล้ว

ย้อนขั้นตอนไม่ได้ด้วย สรุปต้องเป็นแฟนเท่านั้น ใช่ไหมพี่ศร


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-07-2012 10:11:11
สองคนนี้งงๆ นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 22-07-2012 10:42:19
มึนไปมึนมาระวัง....กันนะค้าบบบบบ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-07-2012 10:57:26
เป็นแฟนกันแบบงงๆมึนๆ  แต่น่ารักเนอะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 22-07-2012 11:04:56
เป็นแฟนแบบมึนๆ แต่พี่ศรนิ่งดีนะคะ :) 555 อ่านแล้วก็ชอบคู่นี้ขึ้นเรื่อยๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 >; P.29
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-07-2012 11:08:25
พี่ศรเนียนเนอะ!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-07-2012 11:15:17
อะไรพี่ศรยัง
คิดถึงเอมมี่อยู่เลย
แล้วจะมาข้ามขั้น
ได้ไงห๊ะมึนมาก
เกินไปแล้ว  :3125:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 22-07-2012 12:21:47
มึนมากกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 22-07-2012 14:07:15
“ไม่แปลกได้ไงวะ ตัวผู้ทั้งคู่
มึงแหกตาดูสิว่ากูมีนมมั้ย
หรือจะกูงัดไอ้นั้นขึ้นมาโชว์ให้มึงดูด้วย”


คือ... จะบอกว่าบินมีนมหวะ  จะผู้ชายผู้หญิงก็มีนม 
เพียงแต่ผู้ชายไม่มีก้อนไขมันตรงนมแค่นั้นเอ๊งงง  กร๊ากกก (เกรียนได้อีกอะ)  :z2:


โอ๊ยยย  ยาแก้เมาสองแผงคงไม่พอสำหรับพี่ศร 
อย่างพี่ศรจะซัดยาแก้เมาจนหมดร้านก็คงไม่พอ ไม่หาย แถมมึนซ้ำกว่าเดิมอีก
คนอะร๊ายยย  มึนได้ตลอดเวลา   :really2:

ถามจริงๆ เหอะพี่ศร...  เลิกกะแฟนคนเดียวหนะ  มันไม่จำเป็นต้องไปเอาใครมาคบให้มันแก้อกหักนะ
แล้วพี่ศรทำกับบินแบบนี้  มันจะดีจริงๆ เหรอ   
ตัวเองยังคิดถึงน้องเอมมี่อยู่เลยอะ  แล้วจะมายัดเยียดความเป็นแฟนให้บินเนี่ย
มันโคตรจะไม่ยุติธรรมเลยนะเว้ย  พูดกันตามตรง
พี่ศรจะเนียนจีบเนียนทำอะไรก็ทำไปสิ  แต่เนียนเป็นแฟนทั้งที่ตัวเองยังลืมคนเก่าไม่ได้มันใช้ได้ที่ไหนเล่า
เดี๋ยวเถอะ... เอาวิสกี้ออนเดอะร็อคกระแทกปากอีกสักรอบสองรอบเลยนี่

 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-07-2012 16:07:31
อ่านรวดเดียวจบ ตามทันแล้ว ดีใจๆ

ภาคน้ำเต้าหู้กับคาเฟอีน
-สนุกมาก กัดกันไปมา ง๊องแง๊งๆ น่ารักดี
-พอพี่แทนเริ่มจีบก็ฮาไปกับมุขเสี่ยวๆ ไงล่ะไอ้ตี๋โดนบ้างเป็นไง อึ้งอ่ะดิ
-เจอมาม่า เข้าไป น้ำตาไหลพรากๆ สงสารพี่แทน ไอ้ตี๋เพลงใจร้ายมาก

ภาคขนมปังสังขยากับลาวาช็อคโกแล็ต
-"ลูกแม่พลอย" กับ "ลูกแม่เดือน" น่ารักที่สุด ความรักที่เกิดจากความปรารถนาดี
-ตอนที่ไม่เข้าใจกัน หน่วงและเจ็บจี๊ดมากอ่ะ
-สุดท้ายความรักก็หวานละมุนเหมือนขนม

ภาค sex on the beach กับ whisky on the rock
-มึน งง กันได้ใจมาก ทั้ง พี่ศร น้องบิน และคนอ่าน 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-07-2012 17:35:47
ฮาพี่ศร

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-07-2012 18:22:14
อย่าถือสาคนบ้าอย่าว่าคนเมา แต่พี่ศรก็หายเมาแล้ว แต่บินยังมึนอยู่เลย 

กด+ และ + เป็ด ให้กับความมึนของบิน  รอช๊อตต่อไปค่ะ
 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 22-07-2012 19:08:50
หน้างง กับ หน้ามึน

โชคดีนะ   :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: bleach_pa ที่ 22-07-2012 20:24:08
คู่นี้มากันแบบมึนๆ คบกันแบบมึนๆ ตามชื่อเรื่องเลยนะเนี้ย 55+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 22-07-2012 21:26:22
มาเป็นกลมเลยดีกว่าอย่ามากั็ก เดี๋ยวไม่เมารัก คนอ่านจะเมากลับแกล้มแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 22-07-2012 22:34:35
บอกก่อนว่าเพิ่งมาเข้ามาอ่านภาคล่าสุดนี่นะคะ
พระเอกมึนได้อีก
นายเอกก็ยังคุยด้วยอยู่อีก
ตกลงนี่ เข้าใจ รู้เรื่องกันแล้วใช่ไหม
ตลกดีทั้งคู่เลย

เดี๋ยวจะตามกลับไปอ่านสองภาคแรกนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 22-07-2012 23:02:19
เราก็อ่านตามแบบมืน ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 23-07-2012 03:40:05
จะไหวมั๊ยเนี่ย ดูๆแล้วคู่นี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 24-07-2012 01:29:18
ฮ่าๆๆๆๆ มึนดี

พี่ศรเค้าจัดสถานะให้เสร็จสรรพ ว่าเป็นแฟนกันไปแล้ว ย้อนกลับไม่ได้ด้วย

เอ้ออออออ....นะ แต่ก็น่ารักดีอ่ะ
พี่ศรออกแนวลูกอ้อน และเป็นห่วงเป็นใยในทุกสิ่งของน้องบิน
ช่างต่างกับรูปร่างล่ำบึกและแมนมากของพี่ืท่านเสียจริงๆ

+1 ค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
ภาคนี้มาแนวมึนๆ แต่ก็น่ารักดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.29
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 26-07-2012 07:33:36
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 4


รถมอเตอร์ไซต์จอดนิ่งอยู่หน้าตึกอาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่สี่ชั้น
ไกรศรก้าวลงจากรถ ดวงตาอ่านป้ายที่แปะเด่นหราอยู่หน้าตึก

‘ดนตรีนิยม สถาบันสอนดนตรีและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ดนตรีทุกชนิด’

ยืนงง ๆ อยู่หน้าร้าน แต่คนที่นำหน้ากลับเปิดประตูกระจกเข้าไป
ไกรศรรีบเดินตาม วูบแรกสัมผัสได้ถึงเครื่องปรับอากาศจากแอร์เย็นฉ่ำ
ภายในร้านมีอุปกรณ์ดนตรีหลายชนิด
ทั้งกีตาร์ เบส กลอง เปียโน วางโชว์อยู่อย่างเป็นระเบียบ
ยังไม่ทันสำรวจร้านได้ทั่ว เสียงของใครคนหนึ่งก็ร้องทัก

“มาแล้วเหรอมึง ล่อซะเกือบสายเชียว
กระเทยควายเมื่อคืนเล่นหนักเหรอวะ”

คำแซวกวน ๆ ดังขึ้นจากชายหนุ่มหน้าตี๋ ผิวขาวจั๊วะที่ยืนอยู่หลังเคาท์เตอร์
ผู้พ่วงดีกรีลูกชายเจ้าของร้านดนตรีประจำจังหวัด
แถมด้วยมือกีตาร์ประจำวง และเพื่อนสนิทของบินหลา

แต่เมื่อคนแซวเห็นว่าคนที่เดินตามเพื่อนของตัวเองเป็นใคร
ดวงตาตี่ก็เบิกกว้าง หลุดคำอุทานอย่างห้ามปากไม่ได้ด้วยความตกใจ

“เฮ้ย! นี่มันคนที่มึงลากไปไม่ใช่เหรอวะ”

พูดออกไป แล้วคนพูดก็แอบเสียววาบขึ้นมา
เมื่อพิจารณาเห็นว่า ‘กะเทยควาย’ ที่ตัวเองเผลอเรียกมีร่างสูงใหญ่ขนาดไหน 
แต่เจ้าของสรรพนามกลับไม่ถือสาเอ่ยแนะนำตัวยิ้ม ๆ

“สวัสดีครับ พี่ชื่อ ไกรศร เรียก ‘พี่ศร’ เฉย ๆ ก็ได้
น้องเป็นเพื่อนบินเหรอครับ ชื่ออะไรครับ”

พฤติกรรมสุภาพเรียบร้อย แตกต่างจากคนที่เมาหาเรื่องเมื่อคืนลิบลับ
ทำให้มือกีตาร์ที่อยู่ในเหตุการณ์ทำหน้างง ๆ  แต่ก็ยังคงตอบกลับ
ตามประสาคนอัธยาศัยดีผูกมิตรกับคนอื่นได้ง่าย

“อา ครับ ๆ หวัดดีครับพี่ศร
ผมชื่อ เผือก เป็นเพื่อนซี้ย้ำปึกกับไอ้บินตั้งแต่มัธยมจนจบมหาลัยเลยพี่”


จบมหาลัย?
นี่บินจบมหาลัยแล้วหรอ
นึกว่าเป็นเด็กแว้นเล่นดนตรียังเรียนไม่จบซะอีก
งั้นอายุก็คงห่างจากเขาแค่ไม่กี่ปีสินะ


ไกรศรนึกใคร่ครวญเก็บข้อมูลของแฟนใหม่เข้าสมอง
เขาจะต้องเรียนรู้เรื่องราวของบินให้เยอะ ๆ
คนเป็นแฟนกันต้องรู้จักเอาใจใส่
กลุ่มเพื่อนของบินก็เหมือนกันต้องทำความรู้จักกันไว้บ้าง
เผื่อมีปัญหาจะได้ช่วยเหลือกันได้


“แล้วนี่พี่รู้จักกับบินมาก่อนเหรอครับ”


คำถามดังขึ้นจากปากของเผือกที่คันหยิบ ๆ อย่างสงสัย

...เมื่อคืนยังเห็นไอ้บินโวยวายทำหน้าจะเป็นจะตายตอนให้ลากกลับหออยู่เลย
แล้วทำไมเช้าวันนี้ถึงได้มาด้วยกันได้วะ


“เปล่า กูไม่รู้จักเขา แล้วก็ไม่อยากรู้จักด้วย”


คำตอบไม่ได้มาจากคนถูกถาม
แต่กลับมาจากคนที่มีส่วนเอี่ยวเข้าเต็ม ๆ
ยิ่งสร้างความมึนงงให้กับไอ้เผือกเป็นยิ่งนัก


“อ้าว...แล้วพี่เขามาอยู่กับมึงได้ไง”


...อันนั้นกูก็อยากรู้เหมือนกันว่ะ


คิดในใจแต่ยังไม่ทันจะอ้าปาก
คราวนี้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กลับเป็นคนเอ่ยคำตอบขึ้นมาแทน


...และเป็นคำตอบที่ทำให้วงสนทนาถึงกับช็อค



“อ๋อ...คือ พี่เป็นแฟนบินนะ”




...เงียบ



เงียบกันทั้งหมด



เผือกเบิกตาตี่ ๆ กว้างขึ้นเหมือนเห็นผี
ก่อนจะอ้าปากตะโกนโวยวายดังลั่นร้าน


“เหี้ยยย!!! บินมึงเสร็จเขาแล้วเหรอวะ
กูไม่อยากจะเชื่อ!!
ไหนมึงบอกว่าจะไม่คั่วเกย์กะเทยไง
โอยยย!!  แม่งข่าวใหญ่โว้ยยย!!
เดี๋ยวกูส่งไลน์ไปหาไอ้ต้น ไอ้แมนก่อน”


“ไม่ใช่โว้ยยย!! กูยังไม่ได้เป็นอะไรกับมันทั้งนั้น
ไอ้เวรนี่มันบ้า มึงอย่าไปเชื่อมันสิวะ
เฮ้ยยย!! มึงไม่ต้องหยิบไอโฟนมึงขึ้นมาเลยนะ
หยุดเลยมึง ไอ้ควายเผือกกกก!!!”


“มึงนั้นแหละหยุด น้องฝ้ายเขามารอมึงที่ห้องฝึกนานแล้ว
ไปสักทีสิวะ เดี๋ยวกูตัดเงินเดือนนะโว้ยย!!


คำสุดท้ายที่ได้ยินทำเอาคนที่กำลังเอื้อมมือไปแย่งไอโฟนจากเพื่อนตัวดีต้องหยุดชะงัก
บินยืนนิ่ง ดวงตายังคงมองคนสั่งด้วยความเคือง
ก่อนตัดสินใจกระแทกเสียงใส่สั้น ๆ อย่างเอาเรื่อง


“เดี๋ยวเสร็จเมื่อไรมึงมีเคลียร์กับกู!!”


เอ่ยจบเจ้าตัวก็รีบเดินลิ่วขึ้นบันไดไปชั้นสองทันที

ไกรศรทำท่าจะเดินตามขึ้นไปด้วย
ทว่ากลับถูกเสียงจากด้านหลังรั้งไว้ก่อน

“เดี๋ยวครับพี่ ส่วนนั้นเข้าไม่ได้นะครับ ถ้าไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้อง”

ร่างใหญ่หยุดก้าว หมุนตัวหันกลับมาถามเจ้าของร้านอย่างลังเล


“เออ บินเขาไปไหนเหรอ”


“ไปสอนกีตาร์ครับ
เห็นพวกผมแบบนี้แต่ก็เรียนจบคณะดุริยางค์มานะพี่
ไอ้บินมันสอนเด็กจบไปหลายคอร์สแล้ว
ฝีมือดีนะ แต่สู้ผมไม่ได้ ฮ่า ๆ ๆ
มันก็เลยได้ตำแหน่งร้องนำในวงไปแทน”

เรื่องราวมากมายของใครอีกคนทำให้ไกรศรต้องรีบบันทึกไว้ในสมอง
ยิ่งเห็นบินมีความสามารถแบบนี้ เขาก็ยิ่งนึกทึ้ง
ดูเหมือนว่าแฟนใหม่ของเขาจะมีอะไรให้น่าค้นหา
และทำให้ประหลาดใจได้เสมอ

...เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เผื่อจะทำให้เขาตัดใจจากน้องเอมมี่ได้เร็ว ๆ


“ว่าแต่...พี่เป็นแฟนกับบินจริงอ่ะ”

คำถามดังขึ้นจากคนขี้สงสัย
เรียกความคิดของไกรศรให้กลับมาตรงหน้า

“ใช่ เพิ่งตกลงเป็นกันเมื่อเช้า”

เขาตอบกลับไปตามความจริง
อีกฝ่ายผิวปากหวือในคำพูดตรงไปตรงมา
แต่ก็ยังขมวดคิ้วตั้งข้อสังเกต
ตามประสาคนที่รู้จักกับเพื่อนคนนี้กันมานาน

“แปลกว่ะ บินมันยอมด้วยเหรอ
ปกติมันติสต์จะตายพี่ โลกส่วนตัวโคตรสูง
ไม่เคยมีใครทนคบมันเป็นแฟนได้สักคน
แต่ก็อย่างว่า มันก็ไม่เอาใครด้วย”

ทว่าไกรศรกลับไม่ทุกข์ร้อนอะไรในคำแฉของเพื่อน
แถมยังกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคงจริงจัง


“พี่เลือกบินเป็นแฟนแล้ว
ยังไงพี่ก็ต้องยอมรับในตัวของบินให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”


คนฟังนิ่งงันไปกับคำพูดสุดแสนเท่ห์
เหมือนมีพระเอกหนังจากทีวีหลุดออกมายืนตรงหน้า

โอ้โห...แมนโคตร ๆ เลยเว้ย
ไอ้บินได้แฟนดีฉิบหาย ถึงจะเป็นผู้ชายก็เถอะ
หน้าตาดีซะด้วย ท่าทางคงจะรวยไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

...น่าอิจฉาว่ะ!


“งั้นผมอวยพรให้โชคดีล่ะกัน
แต่ขอเตือนไว้อย่าง
เป็นแฟนนักดนตรีมันเหนื่อยนะพี่”


ไกรศรพยักหน้ารับ


...จะเหนื่อยกว่าคบน้องเอมมี่มั้ยไม่รู้
รู้แต่ตอนนี้คบบินแล้ว
ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น
ตัดสินใจได้ก็ต้องเอาให้เด็ดขาด
ยังไงเขาก็จะขอดูแลบินตามหน้าที่ของแฟนที่ดีคนหนึ่งเท่าที่จะทำได้


“เออ...แล้วมีใบสมัครคอร์สกีตาร์ที่บินสอนมั้ย”

ร่างสูงถามขึ้นอย่างคนต้องการหาทางดูแลแฟนใหม่อย่างใกล้ชิด
ซึ่งเจ้าของร้านเมื่อได้ฟังก็ยิ้มกว้าง
ขยิบตาให้อย่างเจ้าเล่ห์ ตกปากรับคำสั้น ๆ


“จัดให้เลยครับพี่”



------------------------------------------------------------------------------------------------------




“โอเค วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ
น้องฝ้ายหัดเล่นเพลงที่สอนไปให้คล่องก่อน
แล้วอาทิตย์หน้าค่อยมาดูกัน
อย่าลืมระวังนิ้วช่วงเปลี่ยนคอร์ดด้วยนะครับ

บินร้องบอกลูกศิษย์สาวหน้าใสวัยมัธยมต้น
ซึ่งยกมือไหว้ลาเขาก่อนจะเก็บข้าวของเดินออกไป


หลังเสียงปิดประตูห้อง...
หนุ่มศิลปินเผลอถอนหายใจ
เดินเอากีตาร์ไปวางไว้กับแท่นข้างผนัง
เสร็จสิ้นภารกิจการสอนประจำวันเสาร์ไปอีกวัน


...ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าตัวเองจะมาเป็นครู
ความฝันของเขาคือการได้แต่งเพลงและเดินทางหาแรงบันดาลใจไปทั่วโลก
ตามรอยศิลปินยิ่งใหญ่หลาย ๆ คน
แต่พอเรียนจบมาก็รู้ว่าอุดมการณ์มันใช้เลี้ยงปากท้องไม่ได้
ลงท้ายก็เลยใช้ความรู้ของตัวเองมาเป็นครูสอนกีตาร์
ตามคำชวนของเพื่อนสนิทที่ให้มาทำงานในร้านของมันที่ต่างจังหวัด
ค่าจ้างที่มีให้ก็ถือว่าไม่เลว พอรวมกับเงินที่ได้จากการเล่นวงตอนกลางคืน
ก็พอมีใช้จ่ายและเก็บเป็นทุนทำตามความฝันของตัวเองอยู่บ้าง

สอนแค่สองชั่วโมงไม่หนักหนาเท่าไร
อันที่จริงมีนัดซ้อมกับวงต่อแต่ถูกเลื่อนไปแล้ว
เพราะมือกลองกับมือเบสติดธุระ
เหลือแต่นักร้องนำกับมือกีตาร์จะไปทำอะไรได้

เออใช่...
พูดถึงมือกีตาร์ก็เกือบลืม
เขามีเรื่องต้องเคลียร์กับไอ้เผือกนี่หว่า...


บินกำลังจะเดินออกนอกห้อง
แต่ยังไม่ทันจะเอื้อมมือจับลูกบิด
บานประตูก็เปิดผลั๊วะออก
พร้อมกับร่างหนาคุ้นตายืนนิ่งอยู่ตรงหน้า


“มึงมาทำไม”


ไม่เหลือความสุภาพใด ๆ อีกต่อไปที่บินจะให้กับคนคนนี้
ยิ่งมันพูดอะไรบ้า ๆ ออกไปให้เพื่อนของเขาฟัง
ก็ยิ่งทำให้นึกโมโห

อีกฝ่ายตีสีหน้านิ่งตอบกลับไปสั้น ๆ


“พี่ก็เข้ามาเรียนน่ะสิ”


มือข้างหนึ่งถือกีตาร์ที่เจ้าตัวเพิ่งถอยออกมาสด ๆ ร้อน ๆ
อีกข้างหนึ่งโบกใบเสร็จจ่ายเงินค่าคอร์สให้คุณครูดูเป็นหลักฐานว่า
จำเป็นจะต้องรับลูกศิษย์คนใหม่สอนทุกวัน วันละสองชั่วโมง ตามเวลาที่สับเปลี่ยน
ซึ่งวันเสาร์จะตรงกับช่วงเที่ยงจนถึงบ่ายสองโมง
โดยด้านล่างมีลายเซ็นประทับตราจากเจ้าของสถาบันอย่างเรียบร้อย
ด้วยลายมือที่บินหลาสุดแสนจะคุ้นตา


ไอ้ควายเผือกกกกก!!!!!!


...นี่มันกะขายกูกันซึ่ง ๆ หน้าเลยนี่หว่า
แม่งเอ้ยยย!!  ไอ้เพื่อนชั่ว!!
อย่าอยู่เลยมึง!!!!


เขาทำท่าจะหุนหันออกไปนอกห้อง
แต่เสียงของใครอีกคนกลับรั้งไว้


“จะไปไหนล่ะ พี่จ่ายค่าสอนแล้วนะ
เออ แล้วเผือกก็ฝากบอกว่า
ถ้าบินไม่ยอมสอนเขาจะไม่จ่ายเงินเดือนงวดนี้ให้
แล้วจะเอาเรื่องที่เราคบกันไปโพสในเฟซบุ๊คบอกเพื่อนทั้งหมดด้วย”


...ขู่...มึงมีขู่
นึกว่าจะทำได้แต่หน้าโง่ ๆ มึน ๆ
เดี๋ยวนี้มีพัฒนาการกล้าขู่กูด้วยเหรอวะ
แล้วถามจริง ทำไมมึงถึงต้องมายุ่งยากกับกูนักห่ะ


“นี่คิดจะเกาะติดกันไปตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเหรอวะ
ไม่มีการมีงานทำหรือไง”


“มีสิ ตอนนี้ก็กำลังทำอยู่”


คำตอบที่ได้ยินทำให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น


“อะไรวะ ไม่เห็นทำตรงไหน”


“พี่ใช้เงินทำงานน่ะ”


ยิ่งพูดก็ยิ่งงง
สรุปแล้วมึงจะพูดอะไรให้กูเข้าใจบ้างได้มั้ย
ใช้เงินทำงาน
อาชีพอะไร ปล่อยกู้รึเปล่าวะ


ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสงสัยนาน
เจ้าตัวก็เป็นฝ่ายเฉลยออกมาเอง


“พี่เล่นหุ้น”


“อ๋อ...ตอบแบบนี้ตั้งแต่แรกก็หมดเรื่อง
นึกว่าทำงานพวกกู้นอกระบบซะอีก”


เขาพูดออกไปตามที่ตัวเองคิดก็เพราะบุคลิกมันเหมือน
แค่โชว์กล้ามลูกหนี้ก็คงรีบจ่ายกันอุตลุต
เพราะกลัวจะถูกหักคอด้วยมือเปล่า
มาดมันไม่เห็นว่าจะให้เป็นนักธุรกิจเล่นหุ้นอะไรเลย
หุ่นอย่างเนี่ยไปเป็นอาชีพมวยปล้ำอาจจะรุ่งมากกว่า

กำลังคิดพิจารณาเพลิน ๆ
เสียงของร่างใหญ่ก็ร้องขัด


“บินร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิ”


ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอาคนถูกขอหันขวับ
บอกปฏิเสธทันควัน


“ทำไมต้องร้อง กูมาสอนมึงเล่นกีตาร์นะ ไม่ได้มาสอนร้องเพลง”


“ก็พี่อยากฟังคุณครูบินร้อง”


น่าน....มีอ้อน มีอ้อน
ตัวใหญ่เป็นควายแบบนี้ยังจะมาอ้อนอีก
น่ารักตายห่าเล๊ยยยยยย


มึงอยากจะฟังนักใช่มั้ย

ได้เดี๋ยวกูจัดให้


บินหยิบกีตาร์โปร่งที่ผิงอยู่ขึ้นมา
แล้วจัดการลีดสายลงไปไม่ยั้ง
ปากก็ตะโกนร้องเพลงดังลั่นห้อง



“ไปลงนรกซะเถอะที่รักฉันจะลงโทษเธอ
ไปลงนรกซะเถอะที่รักฉันจะลงโทษเธอ
เวลาของเธอหมดแล้วววว....
ไป ไป!! 
ไป ไป!!...
โอ้เย้!!......
ไปไกลๆ.....ไปเลย.....
....ชิ่วววๆ  วู้ววววว!!!!!”



ที่ถืออยู่นะเป็นกีตาร์โฟล์ก
แต่คนร้องกลับรัวนิ้ววาดลวดลายประหนึ่งกีตาร์ไฟฟ้า
แถมเนื้อหายังมีการเสริมเติมแต่งขึ้นมาเองอีก
คนฟังเผลอยิ้มขำไปกับท่าทางเมามันในอารมณ์ของคนร้อง
อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากชมขึ้นมา


“ร้องเพราะดีเนอะ”


“ไม่เพราะได้ไง ก็กูร้องจากอินเนอร์
ร้องให้มึงโดยเฉพาะเลยนะเนี่ย
เท่ล่ะสิ มึงทำได้เหมือนกูเปล่า”


บินเอ่ยกัดแถมด้วยการคุยข่มทับอย่างสะใจ
พลางยักคิ้วท้าทายให้อย่างกวน ๆ


ไกรศรจึงหยิบกีตาร์โปร่งของตัวเองขึ้นมา
นั่งลงจับคอร์ดเกาเบา ๆ ให้ชินมือสองสามที
ก่อนจะค่อย ๆ ดีดเป็นท่วงทำนอง
พร้อมเสียงทุ้มซึ่งร้องออกมาเป็นเพลง



“มีบางคำที่อยากบอกกับเธอ จิตใจบางคนที่เหม่อเพราะคิดถึงเธอ
แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง และไม่รู้ว่าเธอจะรังเกียจไหม

ก็ยังเดาใจไม่ถูกอยากจะรู้ แต่ใครคนหนึ่งรักเธอหมดทั้งหัวใจ
อยากให้เขาคนนั้นทำอะไร เพื่อให้เธอได้พอเข้าใจว่าฉันรักเธอ

พูดไม่ค่อยเก่งแต่รักหมดใจ ถ้ารู้ว่าชอบอะไรจะหาให้เธอ
พูดไม่ค่อยเก่งแต่ฉันรักเธอ อย่าปล่อยให้เผลอให้รักเธอข้างเดียว

อย่าปล่อยให้เผลอให้ฉันรักเธอข้างเดียว”



อะ....อ้าว....
มันเล่นกีตาร์เป็นแล้วนี่หว่า
แถมยังเสือกร้องเพลงเพราะด้วย
ทำมาเป็นร้องไปมองตากูไป
คิดว่าเท่น่ะหรือมึง


“หึ เล่นได้แค่นี้ถือว่าเด็ก ๆ ว่ะ ลีลายังอ่อนหัด
เดี๋ยวกูจะสอนของจริงให้มึงดูเป็นบุญตา
เวลาเขาร้องเพลงรักให้กัน มันต้องร้องแบบนี้”


บินไม่พูดพล่าม แต่รีบทำเพลงทันที
ด้วยการยกกีตาร์ขึ้นมาเตรียมพร้อม
มือจับคอร์ดดีดสายพริ้วออกมาเป็นท่วงทำนองเพลงหวาน
แล้วบรรจงตั้งใจเปล่งเสียงนุ่มหากยังกังวานใสเป็นเอกลักษณ์ชวนฟัง


“ตั้งแต่วันที่ฉันได้คุยเคียงคู่สองคนกับเธอครั้งก่อน
กลับมานอนครวญครางละเมอ
คอยพร่ำหาเธอเหมือนจะอ้อนวอน
เกิดอะไรขึ้นมาละเออ มันอยากรู้นัก
เปลี่ยนฉันไปจากเดิม โอ๊ย

จะเป็นเพียงแววตาของเธอ ทั้งคู่ฉายมาสะกดรึเปล่า
อาจเป็นดาวดวงใด ใช้เธอมาหลอกเล่นกล เป็นไปไม่ได้
ออกจะงง คงเป็นเพราะเธอทำสับสน
โอ๊ย เดี๋ยวอยากรัก เดี๋ยวอยากลืม
โอ๊ย โอ๊ย ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเพราะเธอ

เธอทำให้ฉันรักเธอก่อน ไม่อาจถอน
หัวใจมันคอยแอบๆ มองแบบซึ้งๆ
เธอทำให้ฉันหลงใจอ่อน นอนกอดหมอนทุกคืน
จะทนได้นานสักเท่าไร หากคิดถึง โอ๊ย โอ๊ย

โอ่ย โอ๊ย คิดถึงจังเธอ”



เสียงกีตาร์ท่อนสุดท้ายจบลง
พร้อมกับที่คนร้องเอ่ยถามอย่างโชว์พาว


“เป็นไง เพลงรักมันต้องร้องออกมาจากใจแบบนี้ถึงจะเพราะ
คนละชั้นกับเพลงที่ร้องไปส่งๆ เหมือนมึง


“อือ เพราะมาก ขอบคุณนะที่ร้องเพลงนี้ให้พี่”



เกี่ยวเหรอวะ
กูไม่ได้ร้องให้มึง กูร้องโชว์เฉย ๆ
มาขอบคุณทำไม
ถึงกูจะบอกว่าร้องเพลงรักออกมาจากใจให้มึงก็เถอะ


เอ๊ะ...ยังไงวะ

นี่กูชักเริ่มงงกับตัวเองอีกแล้ว



“บินสอนเล่นเพลงนี้ให้พี่หน่อยสิ”


คำขอเอ่ยขัดความคิดของคนสับสน
เขาจึงได้แต่พยักหน้างง ๆ ให้กับคนที่จับกีตาร์เตรียมพร้อมในมือ



สรุปในวันนั้น...

...คุณครูบินจึงเริ่มต้นคลาสแรกของการสอนนักเรียนคนใหม่ด้วยเพลงรัก ‘โอ๊ย โอ๊ย’ นั่นเอง

   

------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC



แปะเพลงที่คุณครูบินสอนจ้า   :a11:

http://www.youtube.com/v/trU28uKleSo?

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-07-2012 08:24:45
พี่ศรนี่แอบรวยเนอะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 26-07-2012 08:58:45
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[  น่ารักอ่ะ  จีบกันด้วยเพลงไปเร้ยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 >; P.30
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-07-2012 09:01:07
บินท่าทางจะมึน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-07-2012 09:08:34
นี่พี่ศรเอาจริงแล้วใช่ไหม หายมึนแล้วนะ ส่วนบินก็ยังคงมึนต่อไป

พี่ศรน่ารักอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 26-07-2012 09:20:12
เพื่อนเผือกขายเพื่อนบินซะแล้ว  :m20:  น้องบิน-พี่ศร เค้าบอกรักกันผ่านเสียงเพลงชิมิ  :o8:

ปล. ว่าแต่พี่ศรเล่นหุ้นตัวไหนอ่ะ ขอตัวเด็ดๆ สัก 1-2 ตัวดิ :call: 


กด + และ + เป็ด ให้คนเขียน  รอช๊อตที่ 5 ว่าครูน้องบินจะสอนกีต้าร์พี่ศรในโหมดไหน 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 26-07-2012 11:03:40
 o18

มึนๆ  แต่น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-07-2012 11:33:13
พี่ศรรุกเร็วนะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 26-07-2012 12:05:34
แอบหวานกันผ่านเพลงอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 26-07-2012 12:28:21
เพลงที่ร้องกับลึกๆในใจคิดตรงกันใช่มั้ย
 :z3:ถึงปากไม่ตรงกับใจ แต่เพลงมันสื่อมากกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: aeecd ที่ 26-07-2012 16:01:33
เอ๊ะหรือจะกลายเป็นกีตาร์สื่อรัก :man1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-07-2012 16:14:02
ร้องเพลงจีบกันหรอจ๊ะ 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-07-2012 17:19:50
โอ๊ย...โอ๊ย...  :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-07-2012 18:07:51
พี่ศรตีหน้ามึนอย่างเดียวเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-07-2012 18:50:19
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 26-07-2012 19:15:13
มึนๆๆแต่น่ารัก พี่ศรตามติดแบบนี้น้องบินว่าไง o18



 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 26-07-2012 21:55:04
ไอ้พี่ศรนี่เจ้าเล่ห์นักนะ
หรือว่าบินจะซื่อจนเกินไป
ซื่อ ซ่า บ้า และฮาแตก
น่ารักเนาะ อยู่ด้วยคงไม่มีเบื่ออ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 27-07-2012 00:58:46
พี่ศรอาจจะไม่ได้มึนอย่างที่เราเห็น 55
บางทีอาจจะเป็นคนที่แค่คิดแล้วก็ทำเลย
ตัดสินใจแบบนั้น เชื่อความคิดตัวเองแบบนั้นไปซะเลย ไม่ต้องการข้อแม้เหตุผลอะไร สนับสนุน


ทำให้คนที่พยายามจะมีเหตุผล และใช้ชีวิตแบบที่"ทุกคนทั้งโลกบอกว่า"ควรจะเป็น
เป็นคนที่มึนซะเอง :p
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 27-07-2012 02:26:19
ด้านได้ อายอดใช่มั้ยพี่ศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 27-07-2012 15:52:29
สบายแล้วบิน อยู่ ๆ ก็ได้แฟนหล่อ รวย เอาใจเก่ง คอยตามติดชีวิตเรา แถมยังจะดูแลเราอย่างดีโอ๊ยยยยสบายยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 27-07-2012 22:20:57
โอ้ย โอย รักกันหวานชื่น....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 27-07-2012 23:20:37
เพลงซึ้งจัง 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 28-07-2012 19:17:51
โอ๊ย..โอ๊ยยยย..!
น้องบินน่าร๊ากกกกกกกกกก !!!  :m3: :m3:
ชอบน้องบินมากเลยยยย! ทำไมน่ารักขนาดนี้เนี่ย ดูมึนๆงงๆ ! 55555

พี่ศรเนียนมากก! เนียนเกินไปแล้ว!!
อีกหน่อยจะมีเนียนๆ กดน้องบินรึเปล่าเนี่ย.... o18

ชอบชื่อตัวละครในซีรีย์นี้มาก!
ชอบชื่อน้องบินหลา <3 ชอบชื่อ(ควาย)เผือก! โอ๊ย ฮา 5555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 28-07-2012 19:32:15
มึนๆ แต่น่ารักนะคู่นี้
พี่ศรก็นะ ... 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 28-07-2012 19:51:03
รู้ละทำไมตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ เพราะว่ามึนมาก ศรนี่ว่างมากนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 29-07-2012 22:28:30

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 5



“หมดเวลาแล้ว”

บินพูดตัดบทการสอนสั้น ๆ
เดินเอากีตาร์โปร่งไปพิงบนแท่นตามเดิม
นึกดีใจที่คลาสนี้จบลงได้สักที
เพราะมันเป็นการสอนที่โคตรผิดหลักสูตรทั้งหมดที่เคยทำมา
ปกติคลาสนักเรียนใหม่ต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้จังหวะ
จับคอร์ดพื้นฐานแล้วค่อยทดลองดีดสลับนิ้ว
เล่นเป็นเพลงง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนเพื่อให้คล่อง

แต่นี่อยู่ ๆ ไอ้นักเรียนหน้ามึนดันขอร้องให้เขาสอนเพลงขั้นเทพ
ไม่แค่เฉพาะการตีคอร์ด ยังข้ามขั้นไปไกลให้สอนดีดเป็นโน็ตอีกด้วย
ไอ้เขาก็กำลังงง ๆ รู้ตัวอีกทีก็ดันเผลอสอนตามน้ำไปจนจบเพลงซะได้

เฮ้อ...ไม่รู้ว่าจะโทษความหน้ามึนของมัน
หรือว่าโทษตัวเขาที่ดวงซวยโดนเคราะห์ชิ้นใหญ่ฟาดติดหนึบไม่ยอมห่าง
แถมยังทำให้ชีวิตที่ปกติของเขาดูสับสนวุ่นวายไปหมดอีกต่างหาก

โอยย!! กูอยากจะบ้าตายโว้ยยย!!!

 
“บินหลังจากนี้ต้องไปทำอะไรรึเปล่า”

เสียงของร่างสูงใหญ่ร้องถามขัดความฟุ้งซ่าน
บินหลาชะงักนึกครุ่นคิดถึงตารางงาน
   
“อืม...ก็ไม่มีอะไรแล้ว เหลือแค่รอเล่นที่ร้านตอนทุ่มหนึ่ง
ทำไม? อย่าบอกนะว่าจะตามกูมาอีก”

ท้ายประโยคเริ่มเอะใจ
และคำตอบที่ได้รับก็ไม่ชวนผิดคาดเท่าไร

“อือ ว่าจะชวนกินข้าว”

“กินข้าวน่ะกิน แต่กูไม่กินกับมึง”

“เดี๋ยวพี่เป็นเจ้ามือเอง ไม่ต้องห่วง”

“นี่คิดใช้เงินล่อกูหรอวะ
ถึงมึงจะเลี้ยงกูก็ไม่ไปกับคนอย่างมึงหรอกโว้ย!!”
 
“ไปเถอะนะบิน ไม่งั้นเดี๋ยวพี่จะเอาเรื่องของเรา...”

“ไอ้เหี้ย!! มึงหุบปากไปเลยนะ!!”


คนที่เริ่มโดนขู่อีกรอบตวาดลั่นอย่างหงุดหงิด

ความจริงเขาไม่คิดจะแคร์ภาพลักษณ์อะไรของตัวเองเท่าไรหรอก
ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีข่าวลือเสีย ๆ หายๆ เกี่ยวกับตัวเองเสียเมื่อไร
มีทั้งที่เคยลือว่ากินเหล้าเมายาคั่วผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า
แต่ตราบใดที่เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นยังไง
เขาก็ไม่คิดจะแก้ข่าวให้มันยุ่งยากอยู่แล้ว
ปล่อยให้เวลาพิสูจน์ความจริงไปเลยดีกว่า

แต่สำหรับเรื่องข่าวลือที่ว่าคบกับผู้ชาย
บอกตามตรงว่ามันสยองเกินรับ
ขืนปล่อยให้โพทะนาออกไป
มีหวังภาพลักษณ์นักดนตรีที่ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วของเขาได้เสียหายป่นปี้หมด
ซึ่งแน่นอนว่าไอ้ตัวริเริ่มแผนปล่อยข่าวไม่ใช่ใครอื่น
นอกจาก ไอ้ควายเผือก!! เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่จับเขาขายกันซึ่ง ๆ หน้า

นึกแล้วก็แค้นใจฉิบหาย!!
แม่งกูขอลงไปเคลียร์กับมึงหน่อยเถอะ!!


คนที่เตรียมตัวมีเรื่องรีบเดินลงไปด้านล่างทันที
หวังเต็มที่ว่าจะเอาเลือดออกจากหัวเพื่อนให้ได้
แต่พอมองไปที่เคาท์เตอร์ร้านกลับเห็นแค่หญิงสาวหน้าตาหมวย
ถอดแบบออกจากเพื่อนของเขาเป๊ะ ๆ สมกับเป็นพี่น้องคลานตามกันมา

“พี่ไผ่ครับ เห็นเผือกบ้างมั้ยครับ”

“อ๋อ เผือกเพิ่งออกไปข้างนอกเมื่อกี๊นี่เองจ๊ะ”

คำตอบที่ได้รับทำเอาคนมีความแค้นสุมอกนึกขัดใจ

หนอย...เอาตัวรอดไปก่อนเลยนะมึง
แต่ยังไงซะเดี๋ยวเย็นนี่ก็ต้องกลับมาเจอตอนเล่นที่ร้านอยู่ดี
เอาไว้ถึงตอนนั้นก่อนเถอะ กูได้จัดหนักแน่
สิบปีแก้แค้นยังไม่สายโว้ยย!!


“บินแล้วเรื่องกินข้าวว่าไงครับ”
   
เสียงจากด้านหลังทำให้ดวงตาคมหันกลับไปมอง
พร้อม ๆ กับดวงตาเรียวเล็กของหญิงสาวเจ้าของร้าน
ซึ่งพิจารณาหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เดินหิ้วกระเป๋ากีตาร์ลงมาจากชั้นสองอย่างสงสัย
 
“เอ๊ะ แล้วนี่ใครกันจ๊ะ เพื่อนบินหรอ?”

ไผ่ถามขึ้นอย่างแปลกใจ
ปกติเธอจะสนิทสนมกับเพื่อนของน้องชายตัวเองดี
แต่กับผู้ชายคนนี้เธอไม่ค่อยคุ้นหน้าสักเท่าไร

อีกฝ่ายพอได้ยินคำถามก็หันไปหาคู่สนทนา
หมายจะแนะนำตัวพร้อมตำแหน่งเหมือนเช่นที่เคยบอกก่อนหน้านี้

“อ้อ ผมชื่อไกรศรครับ เป็นฟะ....”

“เฮ้ย!!!  หยู้ดดดดดด!!!! ”

บินตะโกนลั่นรีบถลาเขาไปใช้มือตะครุบปิดปาก
คนที่กำลังจะหลุดคำพูดพล่อย ๆ ให้ได้ช็อคกันอีกเป็นรอบที่สองของวัน

ขืนให้พี่ไผ่รู้ล่ะก็ตายห่า
สองพี่น้องนอกจากหน้าตาถอดกันมาแล้ว
ไอ้นิสัยช่างเมาส์ก็เหมือนกันด้วย
ถ้าให้พี่ไผ่รู้ ไม่นานก็ได้รู้กันทั้งซอยแน่นอน
แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับฆ่าตัวตายชัด ๆ


“เออ งั้นเดี๋ยวผมไปกินข้าวก่อนนะพี่ ลาล่ะครับ”

บินรีบบอกลาพร้อมกับลากร่างยักษ์ให้ออกมาข้างนอกทันที
ท่ามกลางสายตาที่ยังคงมึนงงของหญิงสาวเจ้าของร้านดนตรี

และพอพ้นประตูออกมาเท่านั้น
ตัวต้นเหตุก็รีบเอ่ยถามอย่างคาดหวัง

“ตกลงบินจะไปกินข้าวกับพี่แล้วใช่มั้ยครับ”


เฮ้อ...เหนื่อย

นี่ยังไงมึงก็จะไม่ยอมปล่อยกูไปเลยใช่มั้ยวะ
ถึงจะไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใครก็เหอะ
แต่ตอนนี้ความหมั้นไส้เริ่มเอาชนะทุกสิ่ง

เขาจึงพยักหน้าตอบกลับไปอย่างเซ็ง ๆ

“เออ กูไปก็ได้ มึงบอกเองนะว่าจะเลี้ยง
พูดแล้วก็ทำให้ได้จริงล่ะมึง แม่งจะซัดให้จนเลย”

บินเอ่ยขู่พลางขยับก้าวไปยังรถมอเตอร์ไซต์ของตัวเองที่จอดห่างไปไม่ไกล
ทว่าเสียงด้านหลังกลับเอ่ยรั้งเอาไว้

“บินไม่ต้องเอามอ’ไซต์หรอก เดี๋ยวไปรถพี่”

ห่ะ?
ไปรถมึง มึงมีรถด้วยเหรอ
ตอนเช้าก็ซ้อนกูมานี่หว่า
แล้วไปเอารถมาจากนะ..ไหน...

โอ้โหเว้ยยย!!!

ที่จอดอยู่นั้นบีเอ็มดับเบิ้ลยูใครวะ
คันใหญ่ รุ่นใหม่ สีดำเงาวาบ
สองประตู แถมเปิดประทุนได้อีกต่างหาก
แค่เห็นเลขทะเบียนต่อท้ายด้วย 999 ก็ก้าวขากันไม่ออกแล้ว
สวยแจ่มเท่บาดใจสุด ๆ
รถราคาไม่ต่ำกว่าแปดล้านแบบนี้เจ้าของต้องรวยอย่างเทพ
   
อ้าว...แล้วไอ้หมีควายหน้ามึนไปยืนอยู่ใกล้รถเขาทำไมวะ
เดี๋ยวรถเขาหมองหมด
มึงกระเถิบ ๆ ไปหน่อยซิ จะได้ไม่บดบังรัศมีความไฮโซ
เอ๊ะ...ฮะ....เฮ้ย...
มันเปิดประตูเข้านั่งเฉยเลย
มีลดกระจกมาตะโกนเร่งอีก

“บิน รออะไรล่ะ ขึ้นรถสิ”


“............”


เออ...


คือ...


กูรอช็อค
ไม่เห็นหรือไงว่ากูกำลังช็อค

ไหนมันบอกเล่นหุ้นไงวะ
หุ้นเหี้ยอะไรถึงเล่นได้รวยขนาดนี้
บอกกูทีวันหลังกูจะได้ไปช้อนซื้อมาบ้าง

แม่งเอ้ยยย!! กูไม่อยากจะเชื่ออ!!!


แม้ใจจะสับสนมึนงง แต่ขาก็พาก้าวขึ้นรถคันหรู
ลืมมอเตอร์ไซต์คู่ใจของตัวเองไปหมดสิ้น
และก็นั่งตัวเกร็ง ๆ ไปตลอดทาง
เพราะกลัวจะไปทำอะไรเสียหาย
ข้างนอกว่าไฮโซแล้ว ข้างในก็สวยล้ำไม่แพ้กัน

โอยย!! ได้นั่งรถแพงเป็นบุญตูดกูแล้วโว้ย!!


บินปลาบปลื้มกับรถยนต์คันหรูอย่างห้ามใจไม่อยู่
รู้ตัวอีกทีบีเอ็มดับบลิวสีดำก็เลี้ยวเข้าจอดที่ห้างดังใหญ่ยักษ์ประจำจังหวัด

เอ๊ะ...แล้วจะมาห้างทำไม 
ไหนบอกว่าชวนกินข้าวไง
หรือมันจะมาทำธุระก่อน


เขาขมวดคิ้วมองคนขับที่ดับเครื่องเปิดประตูรถลงไป

“มึงจะซื้อของก็รีบไป เดี๋ยวกูเฝ้ารถให้”

อ้าปากเอ่ยขออาสาทันทีแบบไม่ลังเล

...รถแพง ๆ ชีวิตหนึ่งจะได้นั่งสักครั้ง
ใครมันก็อยากจะนั่งกันนาน ๆ กันทั้งนั้นล่ะวะ
เดี๋ยวมันลงไปกูจะแอบไปนั่งฝากคนขับ
อยากลองดูสักหน่อยว่ามันจะเป็นยังไง

ทว่า เจ้าของรถกลับทำสีหน้างง ๆ
อธิบายความจริงให้คนคิดฝันหวานได้ตื่น

“พี่ไม่ได้จะมาซื้อของ ก็เดี๋ยวจะไปกินข้าวกันไง บินลงมาสิ”

อะ...อ้าวไม่บอกใครจะรู้ มากินข้าวในห้าง
มันจะมีอะไรกินกัน ฟาส์ตฟู้ดส์เหรอ
เออ เอาเถอะ...
ตราบใดที่มันเลี้ยงจะอะไรก็ได้ทั้งนั้น

บินจึงตัดใจก้าวลงมาจากรถอย่างอาลัยอาวรณ์
แล้วเดินตามคนนำซึ่งพาขึ้นบันไดเลื่อนไม่กี่ชั้น
ก่อนจะเลี้ยวเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังร้านหนึ่ง
ซึ่งทำเอาบินได้แต่นึกทึ้ง

โห...ไอ้หน้ามึนมันพามาเสพของหรูซะด้วย
ก็ไม่ใช่ไม่เคยเข้าหรอกนะ แต่ก็จะเข้าเฉพาะโอกาสพิเศษ
ไม่เคยคิดจะกินเป็นมื้อกลางวันธรรมดา ๆ
เพราะอาหารญี่ปุ่นมันราคาแพง ๆ ทั้งนั้น
เขาหาตังค์เลี้ยงตัวเองคนเดียว
แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาละลายเล่นเหมือนพวกเศรษฐีกันล่ะ
แค่ข้าวแกงข้างทางยัดใส่ปากก็อิ่มท้องเหมือนกันแหละวะ

แต่เศรษฐีตัวจริงที่อยู่ตรงหน้าคงไม่ได้คิดเหมือนเขา
เพราะไกรศรกลับยื่นเมนูมาให้หลังได้โต๊ะนั่งเรียบร้อย
พลางบอกย้ำด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ

“อยากกินอะไรก็สั่งเต็มที่เลยนะ”


คร้าบ... พ่อบุญทุ้ม... พ่อมหาเศรษฐีใหญ่
มึงอยากเลี้ยงนักใช่มั้ย


ได้...

เดี๋ยวกูจัดให้!!


“งั้นน้องครับ เอาข้าวหน้าเนื้อหนึ่งที่
ซูชิพิเศษอีกหนึ่ง แล้วก็เทมปูระเซ็ตใหญ่...
เออ...อยากกินปลาเหมือนกันแหะ...เอาแซลมอลหรือซาบะดี...
อืม...เลือกไม่ถูก...งั้นเอาสเต็กปลาแซลมอล กับซาบะย่างซีอิ๋วด้วยอย่างละที่ครับ
ขอยากิโซบะด้วยนะครับ แล้วก็เอาอุด้งมิโซะ
อ่ะ ๆ เกือบลืมของโปรด...ทาโกยากิ...อันนี่เอามาสองเลยครับ
เครื่องดื่มขอเป็นชาเขียวสูตรต้นตำรับนะครับ”


บินร่ายเมนูสั่งยาวเป็นหางว่าว
โดยไม่สนคนเลี้ยงที่กระพริบตามองปริบ ๆ
ก่อนจะได้ยินเสียงมันหันไปสั่งเมนูข้าวแกงกะหรี่หมูทอดสั้น ๆ แค่นั้น
ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะอย่างสะใจ


หึ ไง อึ้งอ่ะดิมึง
กูบอกแล้วว่าแม่งจะซัดให้จนเลย
คนอย่างกูคำไหนคำนั้น
นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำกับการเอาคืนที่มึงเสือกมาวุ่นวายกับกู
เดี๋ยวหมดชุดใหญ่จะสั่งของหวานอีกรอบ
มึงเตรียมรอไว้ได้เลย ฮ่าๆๆๆ!!!!


เพียงครู่เดียวอาหารมายมายก็ทยอยออกมาเสิร์ฟจนวางเต็มโต๊ะไปหมด
ไกรศรยังคงมองอย่างงง ๆ กับปริมาณของอาหาร
มากันสอง แต่ดันสั่งเหมือนมาสักห้า


บินนี่ก็แปลกคนเนอะ
หรือจริง ๆ จะเป็นคนกินจุ

ปกติถ้าเขามากับน้องเอมมี่
น้องเขาจะสั่งแค่สลัดกุ้งเท่านั้นเอง
จะไม่กินพวกข้าวหน้าเนื้อ เทมปูระอะไรนี่หรอก
น้องบอกว่าจะลดหุ้นเพราะกลัวอ้วน
ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่เห็นว่าจะอ้วนตรงไหน
แต่ก็ตามใจ เพราะร้านอาหารญี่ปุ่นนี้เป็นร้านโปรดของเอมมี่
โชคดีที่มีสาขาเปิดที่ห้างต่างจังหวัดด้วย

ถึงบรรยากาศจะต่างกัน ทั้งสถานที่ และเมนูอาหารบนโต๊ะ
แต่การที่เขาเห็นบินกินเอา กินเอา ด้วยท่าทางอร่อยแบบนี้
มันก็ดีไปอีกแบบเหมือนกัน


ไกรศรเผลอยิ้มบาง ๆ
มองคนตรงหน้าที่ใช้ตะเกียบคีบแซลมอลเข้าปากทำหน้าสุขสุด ๆ
แล้วจึงก้มลงทานของตัวเองบ้าง


ใช้เวลาพักใหญ่กว่าทั้งสองจะจัดการอาหารตรงหน้าจนหมดเกลี้ยง
โดยปิดท้ายด้วยไอศกรีมชาเขียวถั่วแดงตามที่ใครอีกคนตั้งใจไว้


“เอิ้บ...”

บินลูบท้องที่ชักจุก ๆ แน่น ๆ ของตัวเอง
ยอมรับว่ากินเยอะไปหน่อย
แต่ของอร่อย ตังค์ก็ไม่ต้องเสียยังงี้
นาน ๆ ทีจะมีโอกาสก็ต้องเอาให้คุ้ม

เขาปล่อยให้คนเลี้ยงเซ็นรับบัตรเครดิตโกลด์ของตัวเองคืนมา
ส่วนตัวเองก้มลงสูดชาเขียวที่อยู่ก้นแก้ว
ก่อนจะได้ยินเสียงอีกฝ่ายถามสั้น ๆ

“บินไปดูหนังกันนะ”


...ชาเขียวที่ลงคอสำลักพรวดทันที


“แค่ก แค่ก ไปดูหนังกับมึงเนี่ยนะ”


กระแอมไอถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ

...กินข้าวยังพอว่า
แต่ผู้ชายไปดูหนังด้วยกันสองคน

บรึ้ยย...แค่นึกก็สยอง!!


“อืม เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”


มาอีกแล้ว...
เอะอะก็เอาเงินฟาดหัวตลอด
เห็นกูเป็นอะไรวะ
กลัวไม่รู้ว่ามึงมีงรวยว่างั้น
มึงอยากจะเลี้ยงนักก็เอา
เดี๋ยวกูจะถลุงให้หมดเลย
แม่งเสือกอวดดีนัก!!

“เออ ไปก็ไป”

บินตอบกลับห้วน ๆ อย่างหมั้นไส้
ก่อนจะลุกขึ้นออกจากร้าน
พากันเดินเรื่อย ๆ มาหยุดอยู่หน้าโรงหนัง
ซึ่งมีกลุ่มคนมายืนออกันดูตัวอย่างหนังที่กำลังจะฉาย

เขาสอดส่องอ่านรายละเอียดต่าง ๆ หาหนังที่น่าสนใจ
ก่อนจะได้ยินเสียงคนข้างตัวเอ่ยถาม

“เรื่องนี้มั้ย เพิ่งเข้าเลย”

ดวงตาคมไล่มองตามโปสเตอร์ที่อีกฝ่ายชี้
ก่อนจะทำหน้าเซ็งเมื่อเห็นภาพชายหญิงสองคนยืนโอบกันท่ามกลางหิมะ

“อะไรวะ หนังรักเกาหลี แค่เห็นชื่อแม่งก็เดาเรื่องได้ล่ะ
พระเอกรวยล้นฟ้า มารักกับนางเอกจน ๆ
ทะเลาะกันทั้งเรื่อง สุดท้ายกว่าจะรู้ว่ารักกัน
นางเอกดันมาเป็นโรคตายตอนจบ น้ำเน่าฉิบหาย”

คำวิจารณ์ซะแทบไม่เหลือชิ้นดี
ทำเอาคนฟังหน้าเจื่อน ต้องรีบเป็นฝ่ายถามอีกคนกลับ

“งั้นบินอยากดูเรื่องไหนล่ะ”

คนถูกถามไหวไหล มองซ้ายขวาอ่านโปสเตอร์หนังที่ติดอยู่รอบ ๆ

“ก็ไม่เห็นจะเข้าตาสักเรื่อง...
เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ...เรื่องนี้น่าสนดี
...เอานี่แหละ”

เสียงตัดสินใจทำให้ไกรศรมองไปยังภาพโปรโมทหนัง
ซึ่งเป็นรูปหญิงสาวผมยาวตัวขาดครึ่งท่อนมีไส้เลอะเลือดกองลงมาข้างล่าง
ร่างกายเต็มไปด้วยหนอนยั่วเยี้ยไต่ไปมาน่าสยดสยอง
ดวงตาเน่าเฟะข้างหนึ่งลึกเป็นโพรง ส่วนอีกข้างจ้องเป๋งมาทางคนดู
ปากอ้ากว้างเห็นหัวเด็กทารกที่ผุดแทรกออกมาจากข้างใน

...นี่มันหนังผีญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ


“เอ้า ไปซื้อตั๋วดิ รอบต่อไปอีกสิบนาที
แล้วก็ไม่เอาพากษ์ไทยนะ ดูซาวน์แทรคมันส์กว่าเยอะ”

แม้จะยังแปลกใจกับรสนิยมการดูหนังของคนเลือก
แต่ไกรศรก็จัดแจงซื้อตั๋ว แถมซื้อป็อปคอร์นกับโค้กติดไม้ติดมือ
เดินพากันเข้าไปในโรงหนังเรียบร้อย


ความจริงปกติเขาไม่ค่อยได้ดูหนังสยองขวัญเท่าไรหรอก
เพราะเอมมี่ชอบดูหนักรักเกาหลีมากกว่า
แถมไม่ชอบดูหนังที่เป็นซาวน์แทรคด้วย

พอบินบอกแบบนี้ก็รู้สึกแปลก ๆ
แต่ก็อย่างว่า...คนละคนกัน
อะไร ๆ  ที่เคยทำให้มันก็แตกต่าง
จะไปหวังให้ทุกสิ่งกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ยังไง

เอมมี่เอง...
คบกับผู้หญิงคนนั้นก็คงจะทำอะไรที่มันแตกต่างจากเขา

แล้วป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ
เอมมี่จะไปเดทด้วยการกินข้าวดูหนังเหมือนอย่างที่เขาเคยทำให้หรือเปล่า


ไกรศรเผลอจมอยู่กับห้วงความคิด
ก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรหนัก ๆ เอนลงมาพิงกับที่หัวไหล

เขาเหลือบมองคนนั่งข้างตัว
แล้วก็ต้องกลั้นขำเมื่อเห็นสภาพ


ดูสิ หน้าจอหนังกำลังเลือดท่วม
แต่แฟนใหม่ของเขากำลังนอนกรนสบายใจ


บินนี่มีอะไรให้เดาได้ไม่ถูกตลอดเลย

แต่ก็ดี เพราะบางที...


บางที...



...บินอาจจะช่วยทำให้เขาลืมเอมมี่เร็วกว่าที่คิดก็ได้



ไกรศรถอนหายใจ ดึงสายตากลับไปดูหนังอีกครั้ง
แต่ก็ยังเผลอตัวหันกลับมามองคนพิงหัวไหล่อยู่เรื่อย ๆ


...สรุปแล้ว หนังในวันนี้ ทั้งสองจึงเสียค่าตั๋วฟรี
เพราะไม่มีใครดูกันรู้เรื่องเลยสักคน



------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 29-07-2012 22:35:14
หวานนนนนนเชียว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 29-07-2012 22:54:26
หวานแบบขมๆ

นึกถึงแต่ชะนี :beat:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 29-07-2012 22:58:47
น้องบินน่าได้ฉายา นักกินแหลก เห็นอาหารที่สั่งแล้วแบบว่ากินหมดเหรอนี่

เดทแรกของทั้งคู่  พี่ศรเอาใจน้องบินสุดๆ

กด + ให้คนเขียนค่ะ 

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-07-2012 23:31:00
พี่ศรสู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 29-07-2012 23:34:53
ตกลงใครมึนกันแน่เนี่ย หรือมึนทั้งคู่ 555555555555

ตอนนี้(เหมือนจะ)หวาน.... 55555555
พี่ศร! มากับน้องบินนะไม่ได้มากับน้องเอมมี่! อยากให้พี่ศรลืมน้องเอมมี่ได้ซักที ;^;

น้องบินน่ารักมากกกก! > <
แล้วน้องบินแกล้งสั่งมาเยอะๆกินหมดหรอนั่น.. แถมพี่ศรยังไม่รู้อีกต่างหากว่าน้องบินจะแกล้งให้จ่ายเยอะๆ 5555555

ตอนจบแสดงว่าพี่ศรเริ่มสนใจน้องบินจริงๆแล้วรึเปล่า ? xD
ไม่ใช่มึนๆ ทำตามคำพูดน้องเอมมี่อย่างเดียว UU
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 29-07-2012 23:59:18
น้องบินอย่าใจง่ายไปรักมันง่ายๆนะ
หลอกให้มันเลี้ยงไปเรื่อยๆนี่แหละดีแล้ว ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 30-07-2012 02:16:24
เบื่อเอมมี่ แม่นางโผล่มาทุกตอน แม้จะโผล่มาแต่ชื่อก็เหอะ
สงสัยต้องนั่งนับแล้วว่าตอนนึงคุณพระเอกเธอพูดถึงแฟนเก่าคนนี้กี่ครั้ง แล้วเมื่อไหร่ฮีจะเลิกพูดถึงไปได้น้อ
อยู่กับคนนึงก็เปรียบเทียบกับอีกคนตลอด คบกับเขาก็เพราะคำพูดคนเก่าและหวังให้ช่วยลืมคนเก่า
อ่ะเหอๆ ก็เข้าใจว่าแผลยังสดใหม่ แถมคนนั้นก็รักมากกกกกกกก แต่หมั่นไส้อ่ะตัวเอง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 30-07-2012 05:46:45
ร้านที่บินร้องเพลงอยู่แถวไหนเนี่ย แล้วยังมีคนแบบพี่ศรอีกมั้ย จะไปดักฉุดสักคน
อิจฉาบินมากพี่ศรโครตใจดี
บินทำให้พี่ศรหายเศร้าเร็วๆนะ แล้วมาหวานใส่กันดีกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-07-2012 07:13:26
 :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-07-2012 08:25:41
เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 >; P.30
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-07-2012 09:35:00
บินกับเอมมี่มันคนละคนกันจะแทนกันได้ยังไงพี่ศร ลืมเอมมี่ซะ เดี๋ยวบินรู้แล้วจะฮาไม่ออก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-07-2012 09:35:44
พี่ศรหน้ามาก
อันนี้เรียกว่าเดทได้ไหมเนี่ย
บรรยากาศดูหวานๆเนอะ  :o8:

ตกลงพี่ศรมาขอคบกับบินเพื่อที่จะลืมเอมมี่เท่านั้นหรอ?  :serius2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 30-07-2012 10:37:27
หวานแบบเปรี้ยวๆหรือเปล่าเนี่ย?

ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-07-2012 10:52:26
นายไกรศรหวาน
อย่างเดียวก็ไม่ได้
ต้องมีรสอื่นมาพ่วง
ด้วยทุกที :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 30-07-2012 11:22:39
จิบเรดรอรอจนกว่าพี่ศรจะไม่นึกถึงเอมมี่ ตอนนั้นเปิดขวดใหม่ฉลองเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-07-2012 11:45:43
 :เฮ้อ:

คิดถึงแต่แฟนเก่า  แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ผูกพันธ์กันหรือมีใจให้มากมาย

แต่ต่อไปเกิดบินตกหลุมมึนๆหลุมใหญ่ที่ชื่อไกรศรแล้ว  ยังคิดถึงเอมี่อีก

ล่ะก็  มาม่าแน่ๆ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 30-07-2012 12:21:10
 :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 30-07-2012 12:35:05
น่ารักอ่ะ.... บินหลา....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-07-2012 12:49:37
ทำไมศรต้องคอยเอาบินมาเปรียบกับยัยเอมมี่ด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 30-07-2012 15:08:36
อีหรอบนี้ อีกซักพักก้อรักเค้า  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 30-07-2012 15:09:55
คนนึงก็ขอคบแบบมึนๆ อีกคนก็หลอกแ..กแบบมึนๆ อีก
แล้วงี้เมื่อไหร่จะได้ชนแก้วกันซักทีล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 30-07-2012 17:46:10
หลังจากมึนๆ มาหลายตอน มาตอนนี้หวานกันเชียวนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 31-07-2012 19:21:10
มาหวานหวานน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: Beerr_jh ที่ 31-07-2012 22:13:42
อ่านแล้วแอบมึน
พี่ศรมากับบินแล้วจะไปคิดถึงเอมมี่ทำมายยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 5] 29/07/55 > P.30
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 31-07-2012 22:17:51
เคืองพี่ศร มากะน้องบินแต่ยังคิดถึงคนอื่น :m16:

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 01-08-2012 07:27:29

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 6
   


“ทำไมไม่ปลุกวะ แม่งเสียดายค่าตั๋ว”

บินบ่นกระปอดกระแปดหลังจากที่เดินออกจากโรงหนังมาขึ้นรถอย่างเซ็งจิต

...ไม่รู้เผลอหลับไปได้ยังไง
สะดุ้งตื่นมาอีกทีหนังก็ขึ้นเครดิตจบเรื่องไปแล้ว
แถมหัวดันพิงคาอยู่ที่ไหล่ไอ้หน้ามึนนี่อีก
แทนที่มันจะปลุกกันบ้าง ไม่เห็นพูดอะไรสักคำ
สงสัยคงนั่งดูหนังคนเดียวสบายเลยสิมึง
ไว้วันหลังค่อยโหลดบิทมาดูเองก็ได้วะ

เซ็งฉิบ!!


“กี่โมงแล้วเนี่ย”

ถามอย่างหงุดหงิด
ได้ยินเสียงคนขับที่กำลังสตาร์ทรถตอบกลับมาสั้น ๆ

“หกโมงครึ่ง”

“เออ คงไปทันเล่นดนตรีพอดี
เดี๋ยวต้องแวะเอามอ’ไซต์ที่ร้านด้วย”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง”

“อ้าว แล้วมอเตอร์ไซต์กูล่ะ”

“ไว้อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวตอนเช้าค่อยไปเอา
เออ คืนนี้พี่ขอนอนค้างที่ห้องเราต่อนะ
พี่เตรียมกระเป๋าใส่เสื้อผ้ามาเรียบร้อยแล้ว”

ไกรศรตอบพลางพยักพเยิดไปที่เบาะหลัง
ซึ่งมีกระเป๋าเสื้อผ้าใบย่อมเตรียมพร้อม
ทำเอาคนถูกมัดมือชกดื้อ ๆ หน้าเหวอร้องขึ้นเสียงหลง

“เฮ้ย!! ได้ไงวะ!!”

“ได้สิ คนเป็นแฟนกัน
อยู่ด้วยกันไม่เห็นแปลกตรงไหน”

...แปลกตรงที่เป็นมึงเนี่ยแหละ
ถามจริงมึงเป็นคนหรือเป็นตุ๊กแกกันแน่เนี่ย
ถึงได้ตีนเหนียวเกาะหนึบสลัดยังไงก็ไม่หลุด
แถมยังหน้าด้านไล่ก็ไม่ไปอีก
สรุปคือมึงกะจะตามกูเป็นผีขอส่วนบุญไปตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยใช่มั้ย

แม่งเอ้ยยย!! มันเวรกรรมอะไรของกูกันนักวะ!!


บินนวดขมับรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
แต่ตอนนี้ดันหลวมตัวนั่งอยู่บนรถเตรียมออกจากห้างแล้ว
มันจะพาไปไหนก็ต้องตามใจมัน
เขาจึงจัดแจงบอกร้านที่เป็นจุดหมาย

คืนวันเสาร์ต้องวิ่งสองร้าน
สี่ทุ่มถึงเที่ยงคืนเล่นร้านของเฮียเอก
ส่วนหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่มเล่นที่ร้านวันทรูทรี
ซึ่งตอนนี้ราชรถคันงามก็พามาจอดอยู่หน้าร้าน
ก่อนทั้งสองคนจะเดินเข้ามายังด้านข้างเวที
โดยมีสมาชิกวงเตรียมแสตนบายไว้พร้อมอยู่แล้ว


“วู้วว...มาแหละคร้าบบบ คู่สวีทประจำปี”

น่าน...
มาถึงก็ปากหมาขึ้นมาทันทีเลยนะครับไอ้ควายเผือก
บัญชีเก่ายังไม่ได้เคลียร์ เสือกสร้างบัญชีใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว
เดี๋ยวกูจะทบต้นทบดอกเอาคืนให้เจ็บเลยมึง

“อ้อ เนี่ยเหรอแฟนใหม่ไอ้บิน
หวัดดีครับพี่ศร ผมชื่อ ‘ต้น’ เล่นเบสอยู่
ส่วนไอ้มือกลองนู้นชื่อ ‘แมน’ ครับ”

เพื่อนที่เหลืออยู่แนะนำตัวเสร็จสรรพ
ฟังจากประโยคเกริ่นนำ
เขาก็รู้ได้ทันทีว่าไอ้เผือกคงเล่าเหตุการณ์ไปหมดเปลือกแล้ว
แต่ก็นั้นแหละ...
ขืนไอ้ยักษ์หน้ามึนมันยังตามเขาต้อยๆ เป็นลูกเป็ดตามแม่อยู่แบบนี้ทั้งวัน
ยังไงซะพวกมันก็ต้องรู้อยู่ดี

“พี่ผมถามจริง ไปชอบบินมันได้ยังไงเนี่ย
มันมีดีอะไรเหรอครับ”

ไอ้ต้นลูกคู่ไอ้เผือก หรือฉายาคือเสือกหมายเลขสอง
ร้องถามขึ้นด้วยความสงสัย
ทำให้บินถลึงตามองเตรียมอ้าปากด่า
แต่คนถูกถามกลับเอ่ยคำตอบขัดขึ้น

“อืม...พี่แค่รู้สึกว่าเราน่าจะเข้าใจกันได้”

ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอาคนที่กำลังจะด่า
ต้องเปลี่ยนเป็นเหลียวมองคนพูดจนคอแทบหัก


...เข้าใจกันได้


โอยยย!!! กูล่ะอยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง

เอาอะไรมาพูดเนี่ย มึงกับกูเข้าใจกันได้ตรงไหน
ตั้งแต่ที่คุยกันมายังไม่เคยรู้เรื่องอะไรสักอย่าง
มีแต่มึงคิดเอง เออเอง เข้าใจเองคนเดียวทั้งนั้น
ที่กูหลวมตัวทำตาม เพราะกูมึนกับมึงเนี่ยแหละ
บอกเหี้ยอะไรก็ไม่เคยฟังสักอย่าง
แล้วยังจะมาพูดว่า ‘เราน่าจะเข้ากันได้’

ถุย!!
ชาติหน้าเถอะวะที่มึงกับกูจะเข้าใจกัน


บินนึกในใจอย่างขนลุกตรงข้ามกับคนฟัง
โดยเฉพาะไอ้เผือกที่ทำหน้าตาปลาบปลื้ม
เหมือนเห็นพระเอกเกาหลีบอกรักนางเอกยังไงยังงั้น

“ฟังแล้วอิจฉาโคตร โรแมนติกสุด ๆ เลยว่ะ
แบบนี้เขาเรียกว่าพรหมลิขิตใช่มั้ยวะ ไอ้แมน”

ท้ายประโยคหันไปถามมือกลองที่ยืนเงียบ ๆ
ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าตาม

“อืม บินจะได้เอาไปเขียนเพลงรักที่อย่างแต่งได้สักที”

ไอ้ห่าแมน พูดน้อยที่สุดในกลุ่ม
แต่แม่งพ่นออกมาทีเข้าเป้าตรงจุดโดนใจให้เจ็บจี๊ด
มันก็จริงอยู่หรอกที่เขาพยายามหาทางแต่งเพลงรักเป็นของตัวเอง
แต่ถ้าให้ไอ้หน้ามึนเป็นแรงบันดาลใจ
มีหวังเขาได้แต่งเพลงออกมาเป็นแนวฆ่าตัวตายแบบ Gloomy Sunday แน่เลยวะ

“น้อง ๆ ที่จะเล่นวงพร้อมหรือยังครับ ขึ้นไปเซตได้เลย”

เสียงคนคุมซาวน์บอกเมื่อจวนจะได้เวลา
ถือเป็นการยุติบทสนทนาก่อนนักร้องนำจะหมดความอดทนไล่กระทืบเพื่อนในวงที่ช่างซักไซ้

“งั้นพี่ไปนั่งรอข้างนอกนะครับ”

ไกรศรบอกยิ้ม ๆ ปล่อยบินไว้กับเพื่อน
ส่วนตัวเองออกไปหาโต๊ะนั่งสั่งอาหารรออยู่ใกล้ ๆ กับเวที

เพียงไม่นานสมาชิกวงก็เดินขึ้นมา
โดยมีมือกีตาร์ที่กุมหัวตัวเองปอย ๆ อย่างคาดว่าคงโดนบินสำเร็จโทษไปแล้ว
ตามมาด้วยมือเบส มือกลอง และนักร้องนำเป็นคนสุดท้าย

“สวัสดีครับ พวกเราวง ‘ต้มยำรวมมิตร’
วันนี้ทุกคนพร้อมแซ่บไปกับพวกเราหรือยังครับ”

ไกรศรแทบหลุดขำกับชื่อที่ได้ยิน
แต่ลูกค้าคนอื่น ๆ กับส่งเสียงกรี๊ดดังพอเป็นระยะ
ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับวงดนตรีนี้ดีอยู่บ้างพอสมควร
แนะนำตัวเช็คซาวนด์แซวเล่นพอเป็นพิธี
วงต้มยำรวมมิตรก็เริ่มเล่นบรรเลงเพลง
ซึ่งส่วนใหญ่จะออกแนวโฟล์กสบาย ๆ
ทั้งเพลงไทยและเพลงสากลเก่า ๆ
เหมาะกับร้านอาหารเปิดโล่งให้ได้พูดคุยกันเพลิน ๆ

ไกรศรร้องสั่งเบียร์กับแกล้มมากิน
มองคนร้องที่ดูเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าที่เคย
ไม่รู้ว่าเพราะแสงไฟบนเวที
หรือเพราเสียงร้องนุ่มละมุนอันเป็นเอกลักษณ์
ที่ทำให้เหมือนจะมีบางสิ่งดึงดูดสายตาของคนฟังให้จับจ้องไปที่นักร้องนำ

บินร้องเพลงเพราะจริง ๆ นั้นแหละ
เขาก็เคยหัดเล่นกีตาร์ตั้งแต่สมัยมัธยมกะไว้หัดจีบสาวเล่น ๆ
แต่ก็ไม่เคยได้ใช้เลยสักที
เพราะตอนจีบเอมมี่ที่เป็นดาวคณะบัญชี
เขาใช้สิทธิ์ของความเป็นรุ่นพี่ ซึ่งไม่มีรุ่นน้องคนไหนกล้าแย่ง
เพราะยังเกรง ๆ ตัวเขาที่ตอนนั้นดำรงตำแหน่งประธานคณะ
ยังไม่นับรวมไปถึงประธานภาควิชา ประธานเชียร์ และประธานชมรมรักบี้
เป็นพี่ใหญ่ที่เคารพยำเกรงของน้อง ๆ ทุก ๆ คน
เอมมี่จึงตกลงคบกับเขามาตั้งแต่นั้น


“เธอและฉัน จับมือเคียงกันนับจากนี้
ผ่านความเดียวดายที่สองเรานั้นเคยมี
เมื่อมีเธอคนที่แสนดีอยู่ตรงนี้

มากกว่านั้น ยิ่งมีกันและกันมากแค่ไหน
มีเพียงคำว่ารักที่สองเรานั้นเข้าใจ
รักเพียงเธอและตลอดไป...

...แค่เธอกับฉัน”



ไกรศรชะงักเมื่อได้ยินท่วงทำนองคุ้นหู


เพลงนี่มัน...


...เพลงโปรดของเอมมี่



“ของขวัญ”

“ของขวัญอะไรครับ”

“เพลงน่ะค่ะ เพลงชื่อของขวัญ
เอมมี่ชอบเพลงนี้ มันเหมาะกับเราดี
เหมือนเราเป็นของขวัญของกันและกัน พี่ศรว่ามั้ยคะ”

“ครับ ถ้าเอมมี่ว่าอย่างนั้น”

“พี่ศรค่ะ เอมมี่จะรักพี่ศรตลอดไปคะ”

“พี่เองก็เหมือนกันครับ

...จะรักเอมมี่ตลอดไป”



บทสนทนาเก่า ๆ ดังขึ้นในความทรงจำ
แต่ตอนนี้...

แค่เธอกับฉัน...
ไม่เหลืออีกแล้ว

คำว่า ตลอดไป...
ไม่เคยจะเป็นจริง

แค่สามปีเท่านั้น
เอมมี่ก็ทิ้งเขาไปหาคนใหม่

ทำไม...

เพราะอะไร...


...คนอย่างพี่มันไม่ดีตรงไหนกัน



“พี่ศรครับ ผมกินได้ป่ะเนี่ย”

คนที่จมอยู่ในภาพความทรงจำสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกถาม
เขามองเผือกที่เตรียมใช้มือหยิบเฟรนด์ฟรายเข้าปาก
พร้อมกับสมาชิกในวงที่เหลือเดินตามมาสมทบ

อ้าว...เผลอแป๊บเดียวเล่นครบสองชั่วโมงกันแล้วเหรอ


“อืม กินเถอะ ถ้าหิวสั่งเพิ่มก็ได้ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

ได้ยินแค่นั้น คนฟังก็ตาเป็นประกายวิบวับ
รีบลากเก้าอี้ชวนคนในวงนั่งลงร่วมโต๊ะทันที
ปากก็เอ่ยชมเจ้ามือไม่ยอมหยุด

“ขอบคุณคร้าบบ งั้นพวกผมไม่เกรงใจนะพี่
บินแฟนมึงโคตรใจดีเลยวะ อย่าปล่อยให้หลุดมือเชียวนะมึง”

คนโดนแนะนำไม่ตอบคำ
กลับถอนหายใจอย่างระอาในอาการตีเนียนของเพื่อน

รู้จักกันแค่แป๊บเดียวก็เอาใหญ่เลยนะพวกมึง
ไอ้หน้ามึนก็เหมือนกัน พ่อบุญทุ้มตลอด
เอะอะก็เลี้ยง ใช้เงินเป็นเบี้ยเลย
บ้านมึงผลิตแบงค์ไว้ใช่เองหรือไง

อ้าว...แล้วนี่ซัดเบียร์ไปกี่ขวดแล้ววะ
เมากลับบ้านไม่ได้ กูไม่ช่วยมึงแล้วนะ
ดูดิแดกไปเยอะขนาดนี้นั่งเงียบเลยนะมึง
ช่างแม่ง ยังงี้ก็ดีแล้ว
มันจะได้ไม่พูดอะไรให้ปวดหัวเหมือนเมื่อกี๊อีก

บินเลิกใส่ใจ เร่งกินข้าวให้เรียบร้อย
เพื่อให้ทันกับการเตรียมตัวไปต่อในร้านใหม่
แต่คราวนี้นักร้องนำกลับขอนั่งมอเตอร์ไซต์ซ้อนท้ายไอ้เผือกไปแทนนั่งรถบีเอ็มคันหรู
อ้างว่าเพราะเวลามันกระชั้นชิด ปล่อยให้ไกรศรเช็คบิลคนเดียว
ซึ่งไกรศรเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เนื่องด้วยรู้ดีอยู่แล้วว่าบินจะไปเล่นที่ไหน

ร่างสูงใช้เวลาครู่ใหญ่จัดการค่าอาหารให้เรียบร้อย
ก่อนจะขับรถบีเอ็มตามมาจอดยังหน้าร้านเดิม

...ร้านเดียวกับที่เมื่อวานเขามานั่งคร่ำครวญระบายความอกหักของตัวเอง

เพียงแค่เปิดประตูเข้าไปเสียงกรี๊ดก็ดังสนั่น
วันนี้ดูเหมือนคนจะเยอะกว่าเก่า
ทั้งชายทั้งหญิงออกมาเต้นวาดลวดลายที่วงต้มยำรวมมิตรกำลังบรรเลง
โดยเปลี่ยนสไตล์จากแนวกึ่งโฟล์กมาเป็นร็อคหนัก ๆ
บางจังหวะสลับกับเร็กเก้และเพลงตามสมัยนิยม
นับว่าวงต้มยำรวมมิตร เล่นรวมมิตรได้หลายแนวสมชื่อจริง ๆ

ไกรศรแทรกตัวไปนั่งที่เคาท์เตอร์บาร์เหล้า
ร้องสั่งเบียร์มาดวดเพิ่มอีกขวด

...วันนี้กินไปเท่าไรแล้วนะ
จากร้านแรกแล้วมาต่อร้านที่สองไม่ได้นับ
แต่ตอนนี้ชักเริ่มกรึ่ม ๆ แล้ว


“ตึ๊ดดด....  ตื้ดดด....”

รับรู้ถึงแรงสั่นในกระเป๋ากางเกง
มือใหญ่หยิบไอโฟนรุ่นล่าสุดของตัวเองขึ้นมามองชื่อผ่าน ๆ ก่อนกดรับ

“ฮาโหล”

((ว่าไงมึง ยังอยู่ดีรึเปล่าวะ))

เสียงอันคุ้นเคยของเพื่อนสนิทดังมาตามสาย
เขาประคองสติตอบกลับเสียงห้วนสั้น ๆ

“มีเหี้ยอะไร”

((โห พูดกับเพื่อนอย่างนี้เหรอวะ ที่กับหญิงล่ะเห็นทำเป็นพูดเพราะ
กูอุตส่าห์เป็นห่วงกลัวพี่ศรของน้อง ๆ จะจมน้ำตาตาย
เฮ้ย...ฮาโหล...มึงอยู่ไหนวะ เสียงเพลงดังฉิบหาย
อย่าบอกนะว่ามึงแดกเหล้าอีกแล้ว))

“เออ ก็ไม่เชิง กูมาเฝ้าแฟนเฉยๆ”

((แฟน? แฟนไหน มึงเลิกกับน้องเอมมี่ไปแล้วไม่ใช่เหรอ))

“ก็แฟนใหม่กู เขาเป็นนักร้อง”

((เฮ้ย!! จริงดิ เลิกกับเอมมี่อาทิตย์เดียวมึงหาใหม่ได้เลย
แม่งเร็วดีว่ะไอ้ลูกพี่ แต่ก็อย่างว่า หล่อรวยอย่างมึงแป๊บเดียวก็เรียบร้อย
แล้วเป็นไง แฟนใหม่มึงสวยแจ่มเหมือนน้องเอมมี่เปล่าวะ))

ไกรศรหันมองแฟนใหม่ที่ยืนอยู่บนกลางเวทีซึ่งกำลังร้องเพลงอย่างเมามันในอารมณ์
ตอนนี้บินถอดเสื้อชุ่มเหงื่อของตัวเองออกไปแล้ว
เหมือนตั้งใจจะโชว์ซิดแพ็คกับรอยสักที่ต้นแขนขวาอย่างเด่นชัด
หน้าหล่อ ตาคม หุ่นเท่ห์มาดแมน
แค่โปรยยิ้มทีสาว ๆ ก็กรี๊ดกันลั่นจนคอแทบแตก
ดูดึงดูดทุกสายตามากกว่าเก่าหลายเท่า


“ก็ดูดี แต่ไม่เหมือน...
...ไม่เหมือนเอมมี่สักนิดเดียว”

((หรอ ดูดีก็ระวังไว้หน่อยล่ะมึง ระวังหมาจะคาบไปแดกอีก
เห็นมึงหาคนมาดามใจได้แล้ว กูค่อยสบายใจหน่อย
จะได้ไม่ต้องมาค่อยตามเก็บศพมึงทีหลัง))

“เออๆ ไม่ต้องห่วงกูหรอก แค่นี้นะ”

เขาตัดบทกดวางโทรศัพท์ลงก่อนจะชะงัก
เมื่อเห็นหน้าจอดิสเพลย์ไอโฟนขึ้นรูปเอมมี่ถ่ายคู่กับเขา


....รูป

ที่ทำใจยังไงก็ลบไม่ลง...


จะเก็บไว้ทำไม
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทุกสิ่งไม่มีทางกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว
ป่านนี้เอมมี่คงมีความสุขกับแฟนใหม่
คนที่แย่งความรักของเขาไปและทำให้เจ็บเจียนตาย


“น้องเอาออนเดอะร็อคแก้วหนึ่ง”

ไกรศรเปลี่ยนเครื่องดื่มจากเบียร์เป็นวิสกี้
ตั้งใจจะดื่มให้เมา ๆ ดับความกลัดกลุ้มในใจ
แต่กลับไม่เป็นผลเท่าไร
เมื่อได้ยินบทสนทนาของสาวสองคนลอยเข้าหู


“นักร้องนำหล่อเนอะ แกว่าคืนนี้ฉันอ่อยเขาดีมั้ย

“เอ๊ะ...เอาจริงเหรอ”

“ก็แค่วันไนท์สแตนคิดไรมากย่ะ นาน ๆ จะเจอคนถูกใจสักที
พวกนักดนตรีเขาก็คิดกันแบบนี้แหละ แฟนเก่าฉันก็เป็น
คบกันแป๊บ ๆ ก็เลิก ไปคั่วคนใหม่ หึ ทีเขาทำได้ฉันก็ทำได้เหมือนกัน”


ไกรศรกระดกเหล้าเข้าปากเพิ่ม
จากที่หวังดับอารมณ์กลายเป็นตีให้อารมณ์ชักกรุ่น ๆ
ยิ่งได้ยินเสียงร้องเพลงของคนบนเวทีก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นไปอีก


“อยากให้ช่วยมาจีบ...มาจีบ...ฉันที
มาจีบ...มาจีบ...ฉันที ชะเง้อรอนานแล้ว
จีบ มาจีบ มาจีบ...ฉันที
มาจีบ...มาจีบ...ฉัน...สักที
ฉันทอดสะพานให้แล้วววว...วู้ววว...

...มีใครอยากจีบผมบ้างมั้ยคร้าบบบ!!”


นักร้องนำยักคิ้วยั่วทิ้งท้ายตามลีลา
เรียกเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ อย่างถูกใจ

แต่สำหรับไกรศรกลับกลายมาเป็นเสียงที่ตอกย้ำถึงคำพูดที่เพิ่งได้ยิน


...ระวังไว้เถอะจะโดนหมาคาบไปแดก



ไม่...


เขาจะไม่มีวันให้ใครหน้าไหนมาแย่งแฟนของเขาไปได้อีกแล้ว!!


คนที่เริ่มเมา ๆ เดินเซไปข้างเวที
ก่อนจะร้องตะโกนโวยวายเสียงดังลั่น


“เฮ้ยยย!! หยู้ดดดดด!!

มึงหยุดร้องได้แล้ว

คนนี้เขามีแฟนแล้ว

จีบไม่ได้โว้ยยยยย!!”



...เพลงหยุดเล่น

...คนหยุดนิ่ง


ไม่ใช่เพราะตามคำสั่ง

แต่เพราะความอึ้งที่อยู่ ๆ คนเมาร่างใหญ่ยักษ์ก็มายืนตะโกนปาว ๆ อยู่หน้าเวที


“เออ...ขอโทษครับทุกคน
...สักครู่นะครับ”

บินรีบพูดกรอกใส่ไมค์เพื่อแก้ไขสถานการณ์
ก่อนจะก้มลงไปคุยกับตัวต้นเหตุที่สร้างปัญหา

“มึงเมาแล้ว กลับไปนอนที่รถซะ”

แต่คนโดนสั่งที่ตอนนี้ไร้สติสัมปชัญญะโดยสิ้นเชิง
กลับไม่ขยับ ซ้ำยังเปล่งเสียงโวยวายออกมามากกว่าเดิม

“กูไม่ได้เมา!!  มาไล่กูทำไม
อ๋อ...มึงคิดนอกใจกูเหรอห่ะ!!
มึงจะนอกใจกูไปหาผู้หญิงคนอื่นอีกแล้วใช่มั้ย!
ทำไมกูไม่ดีตรงไหน
บอกมาสิว่ากูมันไม่ดีตรงไหน!!!!”

“เฮ้ย! จะตะโกนทำไมวะ เงียบ ๆ ดิโว้ย
นอกใจเหี้ยอะไร กูก็ไม่ได้เป็นแฟนมึงนะเว้ย”

บินรีบปฏิเสธ
คนอยู่กันเยอะแยะเสือกพูดออกมาได้ยังไง
ไอ้หน้ามึนมันเมาแล้วเรื้อนเหมือนเมื่อวานอีกแล้ว

แต่คนเมาก็ยังเป็นคนเมาวันยังค่ำ
เพราะนอกจากคำห้ามไม่ได้ผล
ซ้ำยังเร่งความโมโหให้เพิ่มมากกว่าเก่า


“เป็นสิ!!  มึงเป็นแฟนกู!!

กูจะทำให้คนอื่นรู้ว่า

มึงเป็นของกูคนเดียว!!”


จบคำร่างสูงก็ปีนขึ้นมาบนเวที
ก่อนจะดึงร่างของคนที่กำลังมึนงงให้เข้ามาใกล้

“เฮ้ย มึงจะทำอะไรวะ..
อุบบบ... อืมมม...”

เสียงขาดหายไปเพราะตอนนี้เจ้าของคำพูดกำลังเบิกตากว้าง
เมื่อสัมผัสได้ว่าริมฝีปากของตัวเองกำลังถูกปิดแนบสนิทด้วยริมฝีปากของอีกคน
พร้อมกับลิ้นร้อน ๆ แทรกเข้ามาฉกฉวยลิ้นของเขาไปอย่างดูดดื่ม


จูบ...


อะ...ไอ้หน้ามึนมันจูบเขาต่อหน้าคนทั้งร้าน


บินพยายามจะเบือนหน้าหนี แต่มือแกร่งก็ล็อคคางไว้ไม่ให้ขยับ
และก่อนที่อะไรอะไรจะเกินเลย
ท่ามกลางสายตาของคนดูซึ่งพากันตื่นตะลึง
เสียงกระแทกบางสิ่งโดยแรงก็ดังขึ้น


พลั่ก!!


โครม!!!



ร่างของไกรศรปลิวจากเวทีลงมากระแทกพื้นก่อนจะนอนแน่นิ่งไป
เมื่อคนถูกจูบตัดสินใจใช้ลูกถีบเข้าแก้ปัญหาเหมือนที่เคยทำ
โดยมีเสียงกรีดร้องวี๊ดว๊ายอย่างตกใจดังประกอบ


“เอะอะอะไรกัน”

เฮียเอกเจ้าของร้านรีบแหวกฝูงชนออกมาดูตามที่ลูกน้องรายงาน
เขารีบตรวจดูร่างคนหมดสติ ก่อนพบว่าไม่เป็นอะไรมาก
แล้วจึงสั่งให้พนักงานลากคนเมาไปพักหลังร้าน

“ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายครับ
มีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อย
ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
เชิญสนุกกันต่อได้เลยครับ”

เฮียเอกจัดแจงคุมสถานการณ์ให้กลับมาเป็นปกติ
ก่อนจะหันไปกระซิบกับนักร้องนำ

“เดี๋ยวเสร็จงานแล้วมาคุยกับเฮีย”


บินพยักหน้ารับอย่างมึนงง
เพราะในสมองยังคงช็อคไม่หาย


นะ...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ

ถูกผู้ชายจูบกลางร้าน
แถมเผลอ ๆ จะโดนไล่ออกจากงานอีก


โอยยย!! ซวยฉิบหาย!!!


ใครก็ได้บอกกูทีว่ากำลังฝันอยู่ใช่มั้ย


ตอนนี้กูปวดหัวไปหมดแล้วโว้ยยยย!!!!




------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 01-08-2012 07:50:01
เฮ้อออ  เป็นบินนี่ก็มึนดีเหมือนกัน

แต่สะใจเป็นบ้าที่ไกรสรโดนถีบกระเด็นแบบนั้น

เค้าแค่หมั่นไส้นิดเองนะ  ก็ทำไมต้องคิดถึงแต่เอมมีด้วยล่ะ  ชิ

อยู่ข้างบิน

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-08-2012 07:59:36
 :really2:หึๆๆๆๆๆน้องบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-08-2012 08:54:49
พี่ศรโดนบินโกรธแน่ๆ  :sad3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 01-08-2012 08:58:42
พี่ศรนี่ สมควรโดน o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-08-2012 09:16:48
สะใจที่พี่ศรโดนถีบ :z6: หึงบินอยากได้เป็นของตัวเอง แต่ใจยังคิดถึงยัยเอมมี่ แถมรูปในมือถือยังไม่ยอมลบออกอีก มันน่าโดน :beat: และ  :z6: เพิ่มอีกนะ

 :กอด1: เอาใจช่วยน้องบิน

กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ รอช๊อตต่อไป ว่าบินจะมึนกว่าเดิมหรือเปล่า :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 >; P.31
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-08-2012 09:29:38
หมั่นไส้พี่ศร สมน้ำหน้าโดนถีบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-08-2012 10:06:22
พี่ศรรุกเร็วไปหน่อย บินก็เลยเกิดการต่อต้าน
พี่ศรสู้ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 01-08-2012 10:06:48
พี่คะ...เมาจนเป็นเรื่อง (ให้น้องบิน) อีกแล้วนะคะ

เดี๋ยวบินก็งอนหรอก...เอ๊ะยังไง?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 01-08-2012 10:19:40
พี่ศรเมาแล้วทำน้องบินโกรธเลยอ่ะ ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 01-08-2012 12:05:55
เอ่อ..พี่คะลองจูบตอนไม่เมาดีมั้ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 01-08-2012 14:45:46
สมควรโดน!!!
จูบบินกลางเวทีได้ไง ไปจูบกันเงียบๆสองต่อสองดีกว่า  :z1: 555555

สงสารน้องบิน UU
ถึงน้องจะยังไม่รักไม่อะไรกับพี่ศรก็เหอะ! แต่พี่ศรคบบินเพราะแค่จะทำตามทำพูดของน้องเอมมี่นี่มันเกินไปแล้วว!
อยากให้พี่ศรลืมเอมมี่เร็วๆ หันมารักบินแล้วจีบบินอย่างจริงจังทีเถ๊อะะ !!!
รีบๆรักบินได้แล้วววววววววววววววววววววววววววว~~

แต่แอบฮาน้องบิน.. แทนที่จะโกรธ(มากกว่านี้)ดันเอ๋อมึนงงบนเวทีซะงั้น ? 555555555
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ♥ > <
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-08-2012 15:38:57
อิพี่ศรไม่มีสติ
อย่างนี้อย่าคิด
จะจีบบินดีกว่า
ซะใจจริงๆที่โดน :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-08-2012 15:41:35
น่าจะตามไปกระทืบด้วยนะบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 01-08-2012 16:45:36
สมควรโดน

อย่ามาคิดว่าบินเป็นยัยเอมมี่สิย่ะ

 :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 01-08-2012 17:18:19
จะสงสารหรือสมน้ำหน้าพี่ศรดี เฮ้อ 55555
ทำตัวเองแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 01-08-2012 17:37:47
ณ จุดนี้ เราเข้าข้างน้องบินค่ะ  :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 01-08-2012 17:49:06
ร้านเดิม ... เจอแบบเดิม... เบญจเพศป่าวแว้!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 01-08-2012 19:07:13
เวรกรรม
สงสารใครดีละนั่น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 01-08-2012 19:08:08
เฮ้อ...ดันกินเหล้าผสมเบียร์ เป็นไงล่ะเมาสมใจเลย รั่วอีกตะหาก
งานนี้ท่าจะต้องออกแรงง้อกันอีกนาน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-08-2012 19:58:26
พี่ศร ตายหยังเขียด
สงสัยบินไม่เอาไว้แน่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 01-08-2012 21:00:08
สมควรโดนแล้วพี่ศร   :beat:


ขออยู่ข้างน้องบิน :กอด1:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 6] 01/08/55 > P.31
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 01-08-2012 21:49:46
ยิ่งพี่รุกเร็วเกินอย่างงี้ เดี๋ยวน้องเค้าก็ถอยห่างกว่าเดิมซิค่ะ - -"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 02-08-2012 06:53:43

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 7


ที่เดิม...เวลาเดิม...
และห้องกูก็อยู่ชั้นเดิม...
ห้องสุดท้ายที่ชั้นสี่...

แต่ตอนนี้บินหลาอยากจะภาวนาให้เขาย้ายห้องตัวเองมาไว้ที่ชั้นแรก
เพราะจะได้ไม่ต้องออกแรงแบกร่างยักษ์ลากขึ้นบันไดมาจนลิ้นห้อย

โธ่ชีวิตไอ้บินหนอ...ไอ้บิน...
ทำไมมึงถึงได้รันทดขนาดนี้วะ
โดนผู้ชายจูบเอากลางร้านท่ามกลางสายตาประชาชี
แถมยังโดนเฮียเจ้าของร้านเรียกเขาไปต่อว่า
ดีที่เฮียเอกเข้าใจว่าอีกฝ่ายเมาไม่ได้สติ
เลยไม่ได้ไล่ให้วงเขาออกจากร้านไป
แต่ก็ยังดุเสียงเข้มโทษฐานไปทำรุนแรงกับลูกค้าแบบนั้นได้ยังไง

“โห...เฮีย เข้าใจมั้ยเนี่ยว่าผมก็มีศักดิ์ศรีลูกผู้ชายนะครับ
จูบกับสาว ๆ จะไม่อะไรเลย
แต่นี่กับผู้ชายหุ่นเหมือนนักมวยปล้ำ
ผมควรจะยินดียืนให้มันจูบต่อไปเหรอ
ไม่เข้าไปกระทืบซ้ำให้จมดินก็บุญเท่าไรแล้ว

เฮียเอกพยักหน้าหงึก ๆ เหมือนเห็นใจ
แต่สุดท้ายกลับสั่งประหารเขาด้วยการบอกสั้น ๆ ว่า

“ลากมันกลับไปด้วย”

เฮ้ยยย!!  เฮียยยย!!!
ทำไมทำกับผมอย่างนี้อ่ะ
เมื่อวานลากมันกลับไปทีก็ได้เรื่องไม่หยุด
แล้ววันนี้ยังจะต้องลากมันไปอีกรอบเหรอ

กูขอตายซะดีกว่า!!


พยายามเหลียวซ้ายแลขวาหาเพื่อนช่วยเหมือนเคย
แต่คนในวงกลับยืนนิ่ง มีไอ้เผือกเดินเข้ามาตบบ่าเบา ๆ คล้ายให้กำลังใจ
แต่คำพูดที่พ่นออกมากลับแตกต่างกันลิบลับ

“ทำใจเถอะวะ ว่าแต่...
แฟนมึงเนี่ยท่าจะชอบตบจูบเนอะ
คืนนี้เอาเบาะ ๆ พอนะมึง
ถ้าพรุ่งนี้เจ็บตูดมาสอนกีตาร์ไม่ได้
ก็อย่าลืมโทรบอกกูก่อนนะครับคุณครูบิน”

เชื่ยยย!!!  ไอ้ควายเผือกกกกก!!!
ไอ้เพื่อนชั่ว ไอ้ทรยศ สันดานหมา!!!

เขาแทบจะคว้าเก้าอี้ใกล้ตัวขึ้นยกทุ่มคนกวนตีน
แต่โน้น...มันเผ่นไปไกลลับแล้ว
ทิ้งให้เขาหงุดหงิดหัวเสียไว้กับร่างใหญ่ยักษ์
ที่ยังคงนอนอืดเหมือนศพเพราะลูกถีบของเขา

...และสุดท้ายก็ต้องจำใจแบกมันกลับมาหอเหมือนเดิม


บินไขกุญแจประตูห้อง กดเปิดสวิสต์ไฟ
แล้วจึงแบกร่างคนเมามานอนบนเตียง
ก่อนถอนหายใจเฮือกด้วยความเหนื่อยหน่าย

...ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าเวลา 24 ชั่วโมงของวันนี้
มันช่างยาวนานผิดปกติกว่าทุกที
หรืออาจเป็นเพราะมีใครบางคน
เข้ามาปั่นป่วนชีวิตเขาให้วุ่นวายจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

ดวงตาคมจ้องมองตัวต้นเหตุที่นอนหลับกรนคร่อก ๆ อย่างสบายใจ

...แล้วนี่ยังไง
กูต้องถอดรองเท้าให้มึงอีกแล้วใช่มั้ย
หรือกูควรถีบมึงไปนอนที่พื้นอีกเหมือนเดิมดี
นี่กูยังโมโหไม่หายเลยนะ
แต่จะให้ปลุกมันขึ้นมาโวยวายก็ใช่เรื่อง
เดี๋ยวแม่งเกิดทำอะไรบ้า ๆ ขึ้นมาอีกจะทำยังไง

แค่คิดว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยกับที่เคยเกิดก็ชวนให้คลื่นไส้
เขาจึงตัดสินใจคว้าผ้าเช็ดตัวไปอาบน้ำชำระล้างกาย
เพื่อดับความหงุดหงิดของตัวเองไปทั้ง ๆ อย่างนั้น

....

..

.


เสียงสายน้ำที่กระทบกันทำให้คนที่นอนอยู่ค่อย ๆ ปรือตาขึ้น
สมองยังคงสับสนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่หลงเหลือ
ไกรศรยันกายขึ้นมา สะบัดศีรษะไล่ความมึน
มองสำรวจรอบ ๆ ห้อง


...ที่นี่ที่ไหนวะ
ดูคุ้น ๆ นะ แต่นึกไม่ออก
เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
ก่อนหน้านี้ทำอะไร
กำลังอยู่กับเอมมี่เหรอ?

...ไม่ใช่
เขาเลิกกับเอมมี่ไปแล้ว


...แล้วตอนนี้เขาอยู่กับใครกัน



แกร๊ก

เสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้คนที่ตั้งคำถามหันกลับไปมอง
ร่างที่ก้าวเดินออกมาซึ่งพันผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ที่ท่อนล่างไว้ลวก ๆ
ในมือกำลังยกผ้าอีกผืนขึ้นขยี้เรือนผมที่เปียกชุ่ม
ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าใครกำลังมองตนเองอยู่บนเตียง

“อ้าว...ตื่นแล้วเหรอมึง
ดีเลย เดี๋ยวมึงเคลียร์กับกูก่อน
รู้มั้ยว่ามึงทำเหี้ยอะไรลงไปบ้าง”


...อะไร

เขาทำอะไรลงไปเหรอ

จำได้ว่าคุยโทรศัพท์กับเพื่อน
แล้วก็บอกว่าตัวเองได้แฟนใหม่แล้ว

แฟนใหม่...

ใช่...คนนี้ไง

แฟนใหม่เขาเป็นนักร้องชื่อว่า บิน
ร้องเพลงเพราะ เล่นกีตาร์ก็เก่ง
แถมยังดูดี น่าดึงดูดสายตาใครต่อใคร

...ดูดีเสียจน


...เกือบจะโดนผู้หญิงแย่งไป


ภาพความทรงจำบางส่วนหมุนวนเข้าสู่สมอง
แม้จะยังไม่เต็มร้อยด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
แต่เขายังจำอารมณ์คุกกรุ่นของตัวเองก่อนสลบไปได้
ไกรศรจึงพูดย้อนถามเสียงขุ่น

“ก็บินคิดจะนอกใจพี่ไม่ใช่เหรอ”

คำตอบที่ได้ยินทำเอาคนฟังแทบอยากจะเอาหัวคนพูดโขกกำแพงซ้ำให้สลบอีกรอบ
บินเขวี้ยงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กในมือลงบนเตียง
โต้กลับอย่างหงุดหงิด

“นอกใจอะไรวะ!! นี่มึงเหี้ยพูดไม่รู้เรื่องอีกแล้วนะ
หรือยังไม่หายเมา งั้นนอนไปเลยมึง
พรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้
แม่ง เซ็งฉิบหาย!!”

ทว่า อีกฝ่ายกลับไม่ทำตามคำสั่ง
ซ้ำยังตะโกนตอบเสียงดัง

“ไม่!! พี่จะคุยให้รู้เรื่องวันนี้
ไหนบินบอกพี่สิว่าพี่มันไม่ดีตรงไหน!!
บินถึงคิดจะนอกใจพี่ไปหาคนอื่นเหมือนเอมมี่”


...เอมมี่


ชื่อที่ทำให้คนฟังนึกสะดุดใจ
เมื่อวานไอ้หน้ามึนมันก็พูดชื่อนี่ขึ้นมานี่หว่า
จำได้คลับคล้ายคลับมันพูดทำนองว่า

‘เอมมี่ อย่าทิ้งพี่ไป’


หรือว่า...


หรือว่า...


“นี่มึงเพิ่งอกหักมาจากเอมมี่อะไรนั้นใช่มั้ย”


คนถูกถามชะงักนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด
เบนหน้าหลบสายตา
ก่อนจะพูดตัดบทเสียงเรียบ


“พอเถอะพี่ไม่อยากพูดถึงมัน”


...ยิ่งเห็นท่าทีแบบนี้ก็ยิ่งเหมือนตอกย้ำบางสิ่ง


บางสิ่ง...

ที่ทำให้บินดูเหมือนเริ่มจะเข้าใจพฤติกรรมบ้า ๆ ทั้งหมดของคนคนนี้เป็นครั้งแรก


นี่อย่าบอกนะว่า...


“อย่าบอกนะว่า ที่มึงมาบังคับให้กูเป็นแฟน
ก็เพื่อจะเอาไว้แทนที่แฟนเก่าของมึงใช่มั้ย”



...คำถามทะลุตรงกลางป้อง


...และเป็นคำถามซึ่งคล้ายจะเป็นบทสรุปของทุกสิ่ง



ไกรศรนิ่งอึ้งไปชั่วครู่
ก่อนจะรีบเรียบเรียงคำปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก


“มะ...มันไม่ใช่อย่างที่บินคิดหรอก
พี่ลืมแฟนเก่าพี่ไปหมดแล้ว
ตอนนี้พี่มีบินเป็นแฟนคนเดียว”


คำตอบที่ได้ยินไม่ได้ช่วยอะไร
ซ้ำยังเพิ่มเชื้อไฟให้คนที่เพิ่งเข้าใจสาเหตุของความวุ่นวายทั้งหมด


พี่มีบินเป็นแฟนคนเดียว

อ๋อเหรอ กูควรจะดีใจงั้นสิ
แต่ท่าทางมึงขัดกับคำพูดมากเลยนะ
คิดว่ากูโง่เหรอ
ถึงกูจะมึนตามน้ำมึงไปหลายที
แต่กูก็มีสมองคิดเหมือนกัน

ว่าแต่มึงเถอะ มีสมองคิดบ้างหรือเปล่า
คิดบ้างมั้ยว่ามึงใช้วิธีเหี้ย ๆ พรรณนี้
แล้วจะแก้อาการอกหักของมึงได้

มึงเห็นกูเป็นตัวอะไร
คนดามใจ คนคั่นเวลา
หรือคนที่เอาไว้แกล้งเล่นสนุก ๆ รอแฟนเก่ามึงกลับมาหา

กูเข้าใจว่าอกหักมันเจ็บ
แต่มึงทำแบบนี้มันหยามกูเกินไป


กูก็เป็นคน...

มีศักดิ์ศรีเท่า ๆ มึงเหมือนกัน

ไม่ใช่เป็นตัวห่าอะไรที่มึงนึกอยากจะทำตามใจชอบยังไงก็ได้นะโว้ยยย!!!



“ออกไปจากห้องกูซะ”

บินพูดเสียงเย็น
ทว่าคนฟังกลับยังคงนั่งไม่ขยับ

“ไม่พี่ไม่ไป”

“กูบอกให้ออกไปไงโว้ย!!!”

คนโมโหตะโกนลั่นอย่างหมดความอดทน
อีกฝ่ายก็โต้กลับด้วยแรงอารมณ์ไม่แพ้กัน

“ไม่!! ทำไมต้องไล่พี่ด้วย
อ้อ...บินคิดจะไปหาคนอื่นมาแทนพี่เหรอ
เห็นพวกผู้หญิงนั้นมันดีกว่าพี่ใช่มั้ย

งั้นมานี่...
มาพิสูจน์กันว่าลีลาใครมันจะเด็ดกว่ากัน!!”


ท้ายประโยคร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นพรวด
เดินตรงเข้าไปหาร่างที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ
ก่อนจะกระชากอีกฝ่ายลงบนเตียงนอน
แล้วโถมตัวทับขึ้นคร่อมทันที


“เฮ้ย!! มึงจะทำอะไรวะ
ปล่อยกูนะไอ้เหี้ยยย!!!
ปล่อยยย....อุบบ...อืมมมม”


คำร้องโวยวายถูกหยุดไว้ด้วยริมฝีปากที่ตะโบมจูบจาบจ้วงเร่งร้อน
บินได้แค่ครางอืออา พยายามจะดิ้นให้หลุดจากข้อมือแกร่งที่จับเอาไว้
แต่ขยับยังไงมือใหญ่ก็แกร่งเหมือนคีม
ซ้ำยังบีบแน่นให้เจ็บมากขึ้นไปอีก

เขาตั้งใจจะยกขาถีบหวังใช้ลูกไม้เดิม
ทว่าร่างด้านบนกลับโถมกายทับขาเอาไว้แน่น
ขยับดิ้นอย่างไรก็ไม่เป็นผล

บินจึงได้แต่ปล่อยให้ริมฝีปากซุกไซร้ไม่ยอมหยุด
ร่างกายที่เปลือยเปล่าถูกฝ่ามืออุ่นร้อนสัมผัสไปทั่ว
กลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งในลมหายใจคลอเคลียใกล้ใบหน้า
ลิ้นร้อนโลมเลียกวาดเข้าไปในโพรงปากดูดดื่มราวกับจะกลืนกินเขาไปทั้งร่าง


ไกรศรหน้ามืดตามัว
ไม่สนแล้วว่าคนคนนี้เป็นชายหรือหญิง

...ขอแค่เขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าไม่แพ้ใคร

...ขอแค่เขาได้ครอบครองร่างกายนี้

เพื่อไม่ให้คนอื่นมาแย่งของของเขาไปได้อีก


ร่างสูงจูบซ้ำไปที่ริมฝีปากหมายจะฉกฉวยความหวานซ้ำ
แต่บางสิ่งกลับขบปลายลิ้นเขาอย่างจังจนความเจ็บแล่นแปล็บ
สัมผัสถึงกลิ่นคาวเลือดคลุ้งในปาก

“โอยย!! เจ็บ!
นี่บินกัดพี่เหรอห่ะ!!”

ไกรศรตวาดลั่นอย่างโมโห
ทว่าคนที่อยู่ด้านล่างก็โต้กลับออกมาอย่างไม่ยอมแพ้


“เออสิวะ!! มึงจะได้เลิกบ้าสักที!!

กูรู้แล้วว่าทำไมแฟนมึงถึงเลิกกับมึง
ก็เพราะมึงเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ไง!!
คิดถึงแต่ตัวเองไม่เคยคิดถึงความรู้สึกคนอื่น

มึงอยากทำอะไรก็ทำ
ไม่เคยสนว่ากูจะรู้สึกยังไงบ้าง!!

ถ้ามึงอยากนักก็เอาเลย!!
กูจะแหกขานอนนิ่ง ๆ ให้มึงเอาจนกว่ามึงพอใจ

แล้วต่อจากนี้จะไสหัวไปตายที่ไหนก็ไปซะ
ไม่ต้องเสือกมายุ่งวุ่นวายอะไรกับกูอีก!!”



สิ้นคำพูด...


...ทุกสิ่งหยุดนิ่ง


ไกรศรชะงักค้าง
คล้ายโดนค้อนทุบเรียกสติทั้งหมดให้กลับคืนมา
ดวงตาจ้องมองคนที่นอนอยู่ด้านล่าง


...คนที่กำลังจะถูกเขาพรากศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายไป


“บิน...”


เขาหลุดชื่อเรียกออกมาเบา ๆ
ทว่า อีกฝ่ายยังคงตะโกนท้าทายตอบกลับด้วยอารมณ์รุนแรงไม่จางหาย


“เอาสิ!! หยุดทำไมล่ะ
หรือต้องให้กูเรียกแฟนขา ผัวขาด้วยมั้ย
มันถึงจะสะใจคนอย่างมึง!!!”


...ที่หยุดก็เพราะว่าเขาเห็น

...เห็นว่านัยน์ตาคมที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อคลอ
ทว่ากลับยอมไม่ปล่อยให้ไหลริน
เหมือนคนตรงหน้าพยายามกลั้นมันไว้อย่างเต็มที่
กระนั้นก็ไม่อาจปิดบังความเจ็บปวดที่ฉายชัดออกมาได้


“บิน....

คือ...พี่....

พี่....”


ไกรศรพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็นิ่งเงียบไป
ด้วยไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรมาแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
อารมณ์ชั่ววูบที่เคยโหมกระหน่ำถูกพัดจางหาย
เขาคลายมือที่กำแขนของคนนอนอยู่
ก่อนจะถูกบินผลักให้ออกห่างอย่างง่ายดาย
แล้วเจ้าตัวจึงหันไปคว้าเสื้อผ้ากับกางเกงใส่ลวก ๆ เปิดประตูเดินออกไป

โดยทิ้งคนที่กำลังสับสนไว้ตามลำพังในห้อง


...จริงเหรอ


จริงเหรอที่เขาถูกทิ้งเพราะคิดถึงแต่ตัวเองไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของคนอื่น


แล้วตอนนี้เขาควรทำยังไงดี

เขาต้องหัดคิดถึงใจคนอื่นใช่มั้ย


...คิดถึง


...ใจของบิน


เพียงแค่นึกชื่อเท่านั้น
ภาพแววตาที่เจ็บปวดก็ถาโถมเข้ามาแทนที่


ไม่ได้...
เขาต้องตามไปอธิบาย
ตามไปขอโทษบิน
ตามไปคุยกันให้เข้าใจ


คนที่หายเมาเป็นปลิดทิ้งลุกขึ้นรีบเดินไปเปิดประตู
วิ่งลงบันไดมาด้านล่างหอพักเพื่อหวังจะเจอคนที่ตามหา
แต่เหลียวซ้ายมองซ้ายขวา
กลับไม่เห็นแม้แต่เงา

บินหายไปไหนแล้ว
มอเตอร์ไซต์ก็ยังจอดอยู่ที่ร้านดนตรีอยู่เลยไม่ใช่เหรอ


ไกรศรพยายามชะเง้อคอมอง
เดินออกมายังถนนด้านนอก
ก่อนตัดสินใจวิ่งไปฝั่งขวา


...วิ่งออกไปแบบนั้น
ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าต้องไปเริ่มจากที่ไหน


แต่ตอนนี้รู้แค่ว่าต้องคุยกับบิน

...อยากขอโทษ

...อยากปรับปรุงตัวใหม่


แล้วเขาก็จะสัญญาว่าจะไม่ทำตามใจตัวเองอีก
จะคิดถึงใจบินให้มาก ๆ
ให้สมกับการทำหน้าที่แฟนที่ดี

แต่ขอร้องล่ะ...
บินอย่าหายไปได้มั้ย
กลับมาคืนดีเหมือนเก่าเถอะนะ
แล้วบินจะให้ทำอะไรก็ยอมแล้ว


“บิน... บินอยู่ไหน...

บินพี่ขอโทษ...

กลับมาคุยกันก่อนนะบิน...

บิน...”


ไกรศรร้องเรียกชื่ออีกฝ่าย
ขาก็วิ่งไปตามถนนทั่วทุกซอยอย่างไม่หยุดพัก


นี่อาจจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อกหัก
ที่ในหัวของไกรศรไม่ได้คิดถึงน้องเอมมี่ซึ่งคบกับมาสามปี

แต่กลับวนเวียนถึงหน้าคนคนหนึ่ง


คนธรรมดาที่เป็นเพียงนักร้องนำ


...ซึ่งเขาเพิ่งเจอกันแค่ในเวลา 24 ชั่วโมง



------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 02-08-2012 07:18:07
 :monkeysad: :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 >; P.32
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-08-2012 08:07:08
สมน้ำหน้าอีกที!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-08-2012 08:13:40
 :กอด1:งานเข้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-08-2012 08:54:37
บินหลา!!! เอ็งแน่โว้ย!!! คำพูดกระชากสติมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-08-2012 09:15:20
จุดพีค  :sad4:

เอาเถอะไกรศรจะได้รู้ตัวสักที  บินงอนนานๆนะ  :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 02-08-2012 09:20:13
มันต้องโดนอย่างนี้แหละ สม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-08-2012 10:20:58
เหล้าทำพิษอีกแล้วนะพี่ศร สงสารบินนะตอนนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 02-08-2012 10:42:33
 :angry2: :angry2: :angry2:  พี่ศร ทำงี้ได้งัย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 02-08-2012 10:48:26
สะใจจริงๆ สมน้ำหน้าพี่ศร นึกถึงแต่ตัวเอง   :เฮ้อ: น้องบินเกือบโดนพี่ศรกินไปแล้ว ดีนะโดนบินสั่งสอนถึงค่อยรู้สึกตัว

น้องบินหายไปไกลๆ เลย เอาให้พี่ศรคุ้มคลั่งไปเลย

กด + และ + เป็ด ให้กับคนเขียนค่ะ รอช๊อตต่อไป 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 02-08-2012 12:31:13
เฮ้อ!!! พี่ศรนะพี่ศร
 
เกือบไปแล้วบินเอ๋ย ว่าแต่บินหายไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 02-08-2012 12:36:28
นี่เค้าใกล้จะได้คุยกันดีดีหรือยัง ลุ้นจนตัวเกร็งแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-08-2012 12:39:52
สมองโล่งหรือยังไอ้คุณพี่ศร  :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 02-08-2012 12:43:04
บินกลับมาหลอกให้มันเขียนพินัยกรรมยกสมบัติให้ แล้วจับอีพี่ศรมันยัดส่งโรงบาลบ้าดีกว่านะ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 02-08-2012 12:51:06
พี่สอนคงต้องปรับปรุงตัวครั้งยิ่งใหญ่
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 02-08-2012 13:44:02
สงสารน้องบินนนนนนนน เกือบไปแล้ว..... T___T
ไอ้พี่ศรนิสัยไม่ดี  :z6:

รีบๆตามหาบินให้เจอแล้วง้อด่วน !!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-08-2012 13:59:20
สมน้ำหน้าไอ้พี่ศรจริงๆ เมาแล้วชอบทำตัวมีปัญหา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 02-08-2012 14:48:50
กว่าจะตาสว่างก็ต้องเสียคนข้างตัวไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-08-2012 16:03:56
คนล้ม....ขอเหยีบค่ะ โฮ๊ะๆๆๆๆ

หมั่นไส้!!งอนนานๆนะหนูบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 02-08-2012 16:17:28
พระเอกของบิน กว่าจะคิดได้ วิ่งหาเป็นหนังอินเดียเลย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-08-2012 16:27:07
สมน้ำหน้าอีพี่ศร  สมควรโดนเอมี่ทิ้ง และกำลังจะโดนบินทิ้งอีกคน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 02-08-2012 16:51:08
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 02-08-2012 18:07:46
อยากเขกหัวพี่ศร :beat:

เอาใจช่วยน้องบินนะ :กอด1:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 02-08-2012 18:17:11
สมน้ำหน้าพี่ศรและ...สงสารน้องบินสุดหัวใจ

 :m15:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 02-08-2012 19:48:57
สมควรโดนบินโกรธนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-08-2012 19:51:29
จะสงสารดีมั้ยเนี่ยนายศร :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 02-08-2012 20:50:46
ขอเหยียบหน้าไกรศรซักที
 :z6:
เหอะ คนอะไรคิดถึงแต่ตัวเอง วุ้ย
อ่านไปก็ยิ่งสงสารบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 02-08-2012 21:45:51
อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาคลอเบ้า ซึ้ง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 02-08-2012 23:06:05
กลับมาแล้วค่ะ  ^____^   

ไปนั่งปฏิบัติธรรมมา  เลยไม่ได้ติดตามตลอดช่วงสามสี่ตอนที่ผ่านมา  เอาบุญมาฝากค่ะ


ขอรวบเลยแล้วกันเนาะ (ง่วงมากแว้ว) 


อ่านมาถึงตอนล่าสุดแล้วรู้สึกขัดใจกะพี่ศรแบบที่สุดของที่สุด
เราไม่ชอบคนแบบนี้เลยค่ะ  เราไม่ชอบคนที่ทำอะไรแล้วนึกถึงตัวเองตลอดเวลา (เออ... แต่ก็เป็น  ฮ่าาา)
เราขัดใจมากกับการที่พี่ศรทำทุกอย่างแบบ  เรียลลิตี้ตามติดชีวิตนายบิน อะไรแบบนี้อะ
คือคุณจะเป็นแฟนหรือไม่ได้เป็นแฟนกันก็อีกเรื่อง  แต่คนทุกคนต้องการสเปซของตัวเอง
แต่พี่ศรนี่มัน...  ตามทุกฝีก้าวจริงๆ อะ
แล้วแถมเมา  มาจูบบินเป็นครั้งที่สองอีก 
เมา...  เมาเพราะเอมมี่


ลืมไม่ได้  จะมาหาใหม่ทำไมวะ!!!  //ปารองเท้าใส่พี่ศร


อย่างที่บินพูดก็ถูกว่า  ให้บินเป็นแค่คนคั่นเวลา
แถมตัวเองก็มาพูดมัดมือชกเอาเองด้วยว่าเป็นแฟนกัน  ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบตกลงด้วยเลย
นิสัยมากๆ อะ พี่ศร...



เราจะขอให้บินงอนพี่ศรนานๆ  หมั่นไส้นัก!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: beautifuldead ที่ 03-08-2012 04:28:24
สมน้ำหน้าอิพี่ศร5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 03-08-2012 09:42:32
อ่าวดราม่าหนักกว่าเดิมอีก ....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 7] 02/08/55 > P.32
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 03-08-2012 12:22:03
คิดช้าไปนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 04-08-2012 07:53:13
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 8



แปะ!


บินตบยุงที่เกาะอยู่ตรงแขนของตัวเอง
แล้วจึงค่อยๆ ลืมตาตื่นอย่างงัวเงีย
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มส่องแสงจ้าทิ่มแทงใส่เต็ม ๆ อย่างไม่ปราณี
จนเขาต้องกระพริบตาปรับโฟกัสอีกหลายที
ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากพื้นแข็ง ๆ ของคอนกรีตบนดาดฟ้าหอ


โอยยย... ปวดหลังไปหมดเลยวะ
ไงล่ะ เสือกทำตัวเหมือนนางเอกมิวสิคไปได้นะมึง
เล่นหนีพระเอกที่กำลังจะข่มขืนตัวเองขึ้นมาบนดาดฟ้า
แล้วก็มานั่ง ๆ นอน ๆ สงบสติอารมณ์อยู่บนนี้
จนเผลอหลับ ตากน้ำค้าง บริจาคเลือดให้ยุงไปหลายลิตร

นึกแล้วก็ยังแค้นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องไม่หาย
ไม่รู้ว่าพูดไปมันจะสำนึกขึ้นมาบ้างรึเปล่า
หรือป่านนี้นอนเตียงกูสบายใจเฉิบไปแล้ว
คนอย่างมันอยากทำอะไรก็ทำอยู่แล้วนี่


...ส่วนกูมันก็แค่คนซวยที่ต้องมารองรับอารมณ์หลังอกหักของมึงเท่านั้นเอง


คนที่ต้องระเห็จมานอนบนดาดฟ้าลุกขึ้นยืน
ปัดเสื้อผ้าสองสามครั้งหมายจะเดินกลับห้อง
ทว่าชั่วขณะที่กำลังจะก้าว อยู่ ๆ แข้งขากลับอ่อนแรง
ซวนเซจะล้มจนเขาต้องรีบคว้าขอบประตูดาดฟ้าเอาไว้

...เวรแล้วมั้ยล่ะ
ชักมึน ๆ เหมือนกันเว้ย
ขืนไม่สบายขึ้นมาล่ะก็เป็นเรื่องพอดี
วันนี้มีสอนเช้าด้วย นัดน้องเอาไว้แล้ว
ยังไงเขาก็ต้องลากสังขารตัวเองไปให้ได้


คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบค่ำคอพยายามประคับประคองร่างลงมา
ก่อนเดินมาหยุดหน้าห้องของตัวเอง
แล้วจึงค่อย ๆ เปิดประตูพลางกวาดสายตาสำรวจห้องมืดสลัว


...ไม่มีใครอยู่


อ้าว...แล้วไอ้หน้ามึนมันหายหัวไปไหนวะ
เสือกทิ้งห้องไว้ไม่ล็อกแบบนี้ได้ไง
ขโมยเข้าของหายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ
ขนาดตัวไม่อยู่ยังก่อเรื่องได้เลย


แม่ง!! ปวดหัวฉิบหายเลยเว้ย!!


บินถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ
ก่อนจะจัดการพาตัวเองเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ
เตรียมพร้อมจะออกไปสอนดนตรีข้างนอก


วันนี้มีสอนน้องชมพู่ตอนแปดโมงครึ่งถึงสิบโมงครึ่ง
หลังจากนั้นตอนสิบโมงครึ่งก็ว่างไปจนถึงบ่ายโมง

หืม...


...ว่างเหรอ?


เดี๋ยวก่อนนะ...

เหมือนกับว่าเมื่อวานนี้มีตารางงานของเขา
ถูกแทรกเพิ่มเข้ามาตอนสิบโมงครึ่งถึงเที่ยงครึ่งนี่นา


ใช่...

ตารางงานที่โดนยัดเหยียดมาจากไอ้เผือก
มอบหมายให้เขาสอนคนคนหนึ่ง


แค่นึกถึงภาระที่ต้องรับผิดชอบก็ชวนให้ปวดหัวจี๊ดอีกครั้ง
ความร้อนพัดขึ้นจนวิงเวียน
ต้องรีบเดินหายาพารามากรอกใส่ปากสักเม็ด
เข้าเปิดเก๊ะหาแผงยา แต่ดวงตาดันสะดุดเข้ากับกองกระดาษโน้ตเพลงที่แกะเอาไว้
หยุดมองชั่วครู่ ลังเลเล็กน้อย
แล้วจึงตัดสินใจคุ้ยหาแผ่นที่บรรจุเนื้อเพลงหนึ่งหยิบติดมือไปด้วย


...ก็ไม่ได้อยากจะเป็นคนดีอะไรนักหรอก

แต่ถ้ามันช่วยจบเรื่องวุ่นวายทุกอย่างลงได้


....เขาก็หวังว่าเพลงนี้จะช่วยทำให้ใครบางคนได้เข้าใจสักที




------------------------------------------------------------------------------------------------------




...ทำไมเขาถึงโง่แบบนี้วะ!


ไกรศรสบถด่าตัวเองในใจ
หลังจากเพียรพยายามตามหาคนโกรธที่เดินหายออกไปจากห้อง

เขาเที่ยวเดินดูไปหมดทุกซอกซอย
จนเหนื่อยก็กลับมาเอารถที่จอดอยู่หน้าร้านเหล้า
ขับวนเวียนหาอยู่เป็นนานสองนานกระทั่งถึงตีห้า
ทว่าก็ไร้เงาของบินจนเผลอถอดใจ



เขารู้แล้ว...

รู้ตัวว่าผิด

รู้ตัวว่าความเอาแต่ใจของตัวเองทำให้ใครอีกคนต้องเจ็บแค่ไหน


เขายอมรับ...
ทั้งหมดที่ทำลงไปตอนแรกก็เพื่ออยากหาคนมาคอยอยู่เคียงข้าง
ไม่อยากจะต้องทุกข์ทรมานฟุ้งซ่านกับความเจ็บช้ำเพียงลำพัง

และก็เพราะยึดว่าบินอยู่ในสถานะ ‘แฟน’
เป็นคนรักที่เขามีสิทธิ์ครอบครองคนเดียว
เลยเกิดอาการคิดไปเองบ้า ๆ หึงหวงไม่อยากให้ใครมาแย่ง
จนเผลอทำให้บินโกรธ


เขาเสียใจ...
อยากจะขอโทษ
แม้เดาได้ว่าบินอาจไม่มีวันให้อภัย

แต่เขาแค่อยากขอโอกาส

...โอกาสสักครั้ง


แล้วเขาสัญญาว่าต่อจากนี้จะดูแลบินให้ดีที่สุด



ไกรศรจอดรถเทียงข้างทางเอนหลังพิงเบาะอย่างท้อใจ
ในใจครุ่นคิดถึงใบหน้าของคนคนหนึ่งซ้ำไปมา

ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหนแล้ว
เจอบินเพียงแค่สองวัน เลยเดาไม่ถูกว่าบินไปที่ไหนประจำบ้าง

เดี๋ยว...


จริงสิ...


บินเป็นครูสอนกีตาร์นี่น่า
แล้วก็มีนัดสอนกีตาร์ให้เขาตอนสิบโมงครึ่งด้วย


...ทำไมเขาถึงโง่แบบนี้วะ!



คิดได้แค่นั้น
ร่างสูงใหญ่จึงรีบขับรถกลับบ้านไปอาบน้ำอาบท่า
แล้วขับออกมาจอดหน้าร้านดนตรีนิยมเพื่อดักรออย่างกระวนกระวาย

ปกติเวลาเคร่งเครียดแบบนี้เขาคงต้องสูบบุหรี่รอหมดไปหลายมวนแล้ว
แต่จำได้ว่าบินบอกว่าไม่ชอบ และเขาก็สัญญาว่าจะไม่สูบอีก
จึงได้แต่เดินย้ำเท้าไปมาอยู่หน้าร้านตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง

กระทั่งหนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ไกรศรจึงเห็นคนที่ตามหามาตลอดทั้งคืน
ลงมาจากวินมอเตอร์ไซต์รับจ้าง
นึกโทษตัวเองอยู่เหมือนกันที่ปล่อยให้บินต้องลำบาก
ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะมาส่งบินที่นี่ด้วยรถตัวเองแท้ ๆ
แต่เขาสองคนดันเกิดทะเลาะขึ้นมาเสียนี่


“บิน”

ไกรศรเดินเข้าใกล้อีกฝ่าย
แต่คนถูกเรียกชื่อกลับเดินจ้ำ ๆ เข้าไปในร้านโดยไม่สนใจ
จนเขารีบต้องตะโกนรั้งไว้


“เดี๋ยวสิ บิน คุยกันก่อนได้มั้ย”


“กูมีสอน”


สั้น ๆ ได้ใจความ
และทำให้คนที่กำลังเดินตามต้องหยุดชะงัก


...บินมีสอน

นั่นสิ เขาคงจะไปรบกวนบินไม่ได้
ก็บินบอกแล้วว่าอย่าทำตามใจตัวเอง


งั้นเขาก็จะรอ...

รอให้ถึงเวลาสอนของเขาตอนสิบโมงครึ่ง
แล้วถึงตอนนั้นเขาก็จะขอเข้าไปปรับความเข้าใจกับบินให้ชัดเจน


ไกรศรนั่งรอในรถนอกร้านอย่างกระวนกระวาย
ประเดี๋ยวก็ลุกขึ้นออกมาเดิน แล้วก็กลับไปนั่งใหม่
ท้องร้องหิวข้าวก็แว๊บไปกินอย่างเร่งรีบ
แล้วบึ่งกลับมาจอดที่เดิมอย่างกลัวว่าจะคลาดกับใครบางคน
ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวก็ยังนั่งสอนนักเรียนอยู่ข้างบนตึก

สองชั่วโมงยาวนานราวกับไม่มีที่สิ้นสุดในความรู้สึก


แต่สุดท้ายเมื่อนาฬิกาบอกเวลาสิบโมงครึ่ง
เขาก็รีบถลาคว้ากีตาร์ของตัวเองวิ่งขึ้นบันไดไปในห้องเรียนทันที
ยืนรออยู่เล็กน้อยให้เด็กสาวที่บินกำลังสอนอยู่เดินออกจากห้อง
แล้วตัวเองจึงเปิดประตูเผชิญหน้ากับคนที่กำลังนั่งรออยู่


“บินคือว่าพี่...”


“หยิบกีตาร์ขึ้นมาแล้วนั่งลงซะ”


คำพูดที่สวนขึ้นมาทำให้คนที่กำลังจะอ้าปากอธิบาย
ต้องเก็บความตั้งใจของตัวเองลงกระเป๋า
เพราะรับรู้ถึงอาการหงุดหงิดของคนตรงหน้า


...ก็พอเข้าใจอยู่หรอกว่าบินคงไม่อยากจะยุ่ง
ทำผิดขนาดนี้จะโกรธกันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
นี่ก็คงทำไปเพราะต้องจำใจสอนอย่างช่วยไม่ได้

แต่อย่างน้อย...
ช่วยให้โอกาสเขาขอโทษสักครั้งไม่ได้เหรอ



“เอ้า เพลงที่จะเล่นวันนี้”


บินยื่นกระดาษมาให้อย่างส่ง ๆ
เขารับมาไว้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีกะจิตกะใจอยากจะเรียนกีตาร์เลยแม้แต่น้อย

แต่เมื่อดวงตาเหลือบเห็นคอร์ทกีตาร์ก็ต้องชะงัก
นิ่งมองเนื้อเพลงที่เขียนเอาไว้
เอ่ยถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ    


“ให้เล่นเพลงนี้เหรอ”


“เออ กูจะเล่นให้ดูรอบหนึ่ง แล้วจำไว้ซะ”


คนสอนพูดสั่งเสียงห้วน
หยิบกีตาร์โปร่งของตัวเองขึ้นมา
ใช้นิ้วดีดเป็นท่วงทำนอง
ก่อนเปล่งเสียงร้องทุ้มนุ่มออกมาเป็นเพลง



“ความรัก ต้องพังลงไป
อนาคต ที่สุดก็ผ่านพ้นไป
เหลือเพียงหัวใจที่ยับเยิน

บาดแผล ลึกเกินเยียวยา
ตื่นจากฝัน เพราะถูกปลุกด้วยน้ำตา
ทุรนทุราย หัวใจเหนื่อยล้า....

ภาวนาให้ใจเจ็บจงเข้มแข็ง
แม้มันจะไร้เรี่ยวแรง จะฝืนลุกยืนให้ไหว
คนคนเดียวมันไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น
ไม่ทำให้ช้ำถึงตาย ยังไงต้องรับให้ได้

ชีวิตแค่โดนทำร้าย...
แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย
แค่วันนี้หัวใจสลาย...
เตือนตัวเองว่าถึงยังไงฉันยังต้องอยู่
ความรักลวงหลอกมันก็แค่เจ็บปวด
ไม่มีค่า.... ให้มันทำลายชีวิตไม่ได้...

ต้องไม่ตาย... ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ...

...ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ”




บินนี่เป็นคนยังไงกันแน่นะ
เขาทำไปขนาดนั้นแล้วไม่โกรธเหรอ
โกรธสิ... ดูก็รู้ว่าโกรธอยู่
แต่ก็ยังอุตส่าห์เลือกเพลงนี้มาสอน


...เพลงที่ฟังดูเหมือนตอกย้ำชีวิตของเขา

แต่คล้ายกับมีถ้อยคำให้กำลังใจแฝงมาอยู่ในนั้น


...นี่เหรอคือสิ่งที่บินบอกว่าให้เขาคิดถึงใจคนอื่น


แล้วเขาล่ะ...

บินทำให้เขาตั้งขนาดนี้

เขายังกล้าทำร้ายความรู้สึกของบินลงไปได้ยังไงกัน



ยิ่งคิด ยิ่งสำนึกผิด
แต่ไกรศรก็ยังคงจับกีตาร์มาหัดเล่นเพลงนั้นตามโน้ตเพลง
เล่นซ้ำ ๆ ให้ความหมายของเนื้อเพลงซึมลึกลงไปในใจ

จวบจนครบสองชั่วโมง
ร่างสูงจึงสามารถเล่นเพลงอกหักของบอดี้สแลมได้คล่องจบเพลง

ครูผู้รับผิดชอบตามหน้าที่ครบตามเวลาเห็นดังนั้น
จึงลุกขึ้นเดินเอากีตาร์ไปวางตั้งบนแท่น
เตรียมเก็บข้าวของออกจากห้อง

แต่ครั้งนี้คนที่ตามง้อไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปอีก
รีบลุกขึ้นขวางคนที่กำลังจะเดินไป
แล้วชิงพูดถ้อยคำที่ครุ่นคิดอยู่ในใจมาตลอดทั้งวัน


“บิน...คือ...
พี่.....พี่ขอโทษ...
...ขอโทษที่ทำเรื่องไม่ดีลงไปเมื่อวาน
แล้วก็เรื่องทั้งหมดที่พี่บังคับบิน

พี่มันผิด...พี่มันเลวเอง...
ตอนนี้พี่รู้ตัวแล้ว...

...บินพอจะยกโทษให้พี่ได้มั้ย”


คนฟังจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งเพียงครู่
ก่อนจะย้อนถามกลับสั้น ๆ เสียงเย็น


“แล้วถ้ากูบอกว่าไม่ยกโทษให้ล่ะ”


“พี่ก็จะตามง้อบินไปเรื่อย ๆ จนกว่าบินจะยอม”


“แล้วถ้ากูยกโทษ”


“พี่ก็จะขออยู่ข้างๆ บิน ทำตัวเป็นแฟนที่ดี พี่สัญญา”


ผลลัพธ์ของตัวเลือกที่ได้ยิน
ทำเอาบินแทบจะยกมือขึ้นกุมขมับ


...สรุปคือยังไงมึงก็จะตามกูมาอยู่ดีว่างั้นเถอะ
แล้วมันจะต่างจากที่มึงทำตามใจตัวเองตรงไหนวะ

โอยยย!! ไม่เอาแล้ว
คุยกับมึงทีไรปวดหัวทุกที
ตากูลายไปหมดแล้ว


บินไม่ตอบคำ เดินเลี่ยงพุ่งตรงไปยังประตูห้อง
แต่กลับถูกร่างสูงคว้าแขนเอาไว้


“บิน เดี๋ยวก่อนสิ

เอ๊ะ...บิน...

ทำไมบินตัวร้อนล่ะ”


เขาได้ยินเสียงอีกฝ่ายทักอย่างแปลกใจ
แต่ตัวเองยังคงพยายามดึงแขนให้ออกจากมือที่จับเอาไว้


“ปล่อยกู”


เสียงที่เปล่งออกมาแม้จะห้วนสั้น
ทว่าดูแผ่วเบากว่าทุกที

ร่างสูงใหญ่ไม่ทำตามกลับลากเข้าไปใกล้
มือแกร่งอังหน้าผากของคนคิดหนี
แล้วก็ต้องร้องขึ้นด้วยความตกใจ


“บิน! ทำไมตัวร้อนขนาดนี้
หน้าแดงไปหมดแล้ว
ไม่สบายเหรอ เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอนะ”


...ไม่ต้องไปหาหมอหรอก
แค่ให้กูไปไกล ๆ จากมึงก็พอ

เอ๊ะ...

แล้วทำไมมันมืด ๆ วะ
ใครมาปิดไฟรึเปล่า
หรือใครปิดแอร์
ทำไมมันถึงร้อนไปหมดแบบนี้


ยังไม่ทันได้คิดอะไรเพิ่ม
ร่างของคนมึนก็หมดแรงทรุดฮวบ
จนไกรศรแทบจะคว้าตัวเอาไว้ไม่ทัน


“เฮ้ย!! บิน... บิน....

ตื่นก่อนสิ... บินอย่าเป็นอะไรนะ

ได้ยินพี่มั้ย...

บิน.... บิน...

โธ่เว้ย!!”


เขาได้ยินเสียงตะโกนเรียกอย่างตื่นกลัว
ท่ามกลางสติที่เหลืออยู่น้อยนิด
ใจนึกอยากจะอ้าปากตอบกลับแต่ก็ไม่มีแรง
ก่อนจะรู้สึกถึงมือแกร่งยกตัวเขาอุ้มขึ้นมา



...แล้วภาพตรงหน้าทั้งหมดก็ดับวูบไป



------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC





แปะเพลงที่คุณครูบินสอนจ้า  :L2:



http://www.youtube.com/v/nADUcwgaBc0?h



ตอนนี้เห็นมีหลายคนอยากจะกระตืบพี่ศรกันสินะ ฮ่า ๆ 
ก็คุณพี่เล่นทำแบบนี้นี่นา จะโดนคนอ่านรุมตามซ้ำเติมก็ไม่แปลก

อารมณ์คนอกหักหลายครั้งสิ่งทำลงไปก็เหมือนจะดูไร้เหตุผล
แต่ก็เพราะความไร้เหตุผลนั้นแหละ
ที่ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดออกมาจากใจจริง ๆ

ขอบคุณที่ยังติดตามเป็นกำลังใจ
มาช่วยกันชนแก้วให้กับความรักเมา ๆ
ของพี่ศรและน้องบินนะคะ  :กอด1:



BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 04-08-2012 08:00:57
เฮ้อ เมื่อไหร่จะได้(รัก)กัน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-08-2012 08:15:09
พี่ศรคงต้องตามดูแลง้อบินไปอีกนาน กว่าบินจะใจอ่อนยอมเป็นแฟนจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-08-2012 08:27:29
กว่าจะได้รักกัน เมื่อไรนะที่ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี สงสารทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 04-08-2012 08:46:55
 o18 พี่ศรหน้ามึนตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 04-08-2012 08:54:49
สู้ๆพี่ศร คราวนี้คิดถึงใจบินบ้างนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-08-2012 09:38:36
ยังดีนะที่คิดได้ แต่ศรต้องคอยดูแลบินสักหน่อยไม่สบายอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 04-08-2012 09:39:05
 :เฮ้อ: เมื่อไรจะถึงฉากหวานบ้างนี่ เจอหน้าทะเลาะกันทุกที เพราะความรักที่เห็นแก่ตัวของพี่ศรทำให้บินเจ็บตลอด   


กด + และ + เป็ด ให้คนเขียนค่ะ รอช๊อตต่อไป


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 >; P.33
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-08-2012 09:59:07
อ้าว!! บินป่วยเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 04-08-2012 10:56:17
ศรก็ยัง(บังคับ)ให้บินเป็นแฟนอยู่ดี

ช่วงป่วยนี่ก็ทำคะแนนให้เต็มที่นะพ่อหนุ่ม

 :interest:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-08-2012 11:23:17
โอ... นี่ละครเพลงแบบ glee ป่ะคับเนี่ย!!! .... สื่อกันด้วยเพลงตลอด ตอนอ่านนี่นึกถึงฉากในห้องซ้อมเลยอ่ะ 555+ เล่นกีตาร์มองตาหวานซึ้ง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 04-08-2012 12:44:58
จีบกันแบบนิ่มนวลน่ะทำเป็นมั้ย
ไม่ใช่เอะอะก็จะเอาแต่บังคับกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-08-2012 15:44:30
เราต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์นะพี่ศร

 :interest:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 04-08-2012 18:37:36
จะไม่สาดน้ำเมาใส่พี่ศร  แต่จะสาดน้ำกรดใส่พี่ศรแทน

แบร่...  ถึงพี่ศรจะสำนึกยังไงเราก็ยังงอนพี่ศรอยู่ดี  แบร่ๆๆๆ


แค่อกหักมันไม่ตายหรอกนะพี่ศร  เราเคยอยู่ได้   พอเค้าจากไปเราก็ต้องอยู่ได้
แม้ว่าตอนแรกๆ มันอาจจะเจ็บ  เพราะว่าแผลมันยังสด 
แต่เชื่อเถอะ...  ยิ่งเราคอยพะวงกับแผลนั้นมันจะยิ่งเจ็บและเรื้อรังมากขึ้น
แล้วจะต้องทำยังไงหนะเหรอ?

ก็สาดแอลกอฮอล์ใส่แผลไปเลยหนะเซ่!!!  แต่ไม่ใช่แบบที่พี่ศรไปหาแฟนใหม่มาแทนน้องเอมมี่อะไรนั้นนะเฟ้ย

หมายถึงว่าตัดใจให้มันขาดไปเลย


เหมือนที่พี่ตูนบอดี้แสลมบอกไง...  โดนทำร้าย  แต่ไม่ได้โดนทำลายนะพี่ศร


"ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ"



โอกาสงามๆ ของพี่ศรมาแล้ว
เพราะงั้นคว้าไปแล้วอย่าทำเหลวหละ


ไม่งั้น...  เราก็จะสมน้ำหน้าพี่ศรต่อไป  แบร่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-08-2012 19:03:33
หลังจากนี้  ทั้งคู่น่าจะเข้าใจกันและกันมากขึ้นเนอะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-08-2012 19:09:04
พยายามง้อต่อไป :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 04-08-2012 19:12:20
ขออ่านด้วยค่่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 04-08-2012 21:52:11
หวังว่าพี่ศรจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้นนะ
แต่ก็ยังเนียนเป็นแฟนบินอยู่
งานหนักอยู่นะ ถ้าจะทำให้บินใจอ่อนได้เนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 04-08-2012 22:20:23
 :z3:ตอนนี้ขอโซดากะน้ำแข็งเพียวๆก่อนเด้อค่ะ กินมาม่ามาท้องมันอืดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 04-08-2012 23:05:01
หวังแค่พี่ศรจะลืมเอมมี่หมดใจจริง ๆ แล้วมาเริ่มต้นใหม่กับบิน
พี่ศรต้องอดทนเพราะืทำแบบนั้นไปแล้ว มันก็ยากที่บินจะเชื่อใจ แต่คนดีแบบพี่ศรเชื่อว่าสามารถค่ะ
บินไม่สบายเลย น่าสงสาร พี่ศรดูแลดี ๆ น้า

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-08-2012 23:18:16
ง้อเข้าไป ใช้ความจริงใจเข้าไปเยอะ ๆ นะพี่ศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 04-08-2012 23:28:25
โอกาสมาถึงแล้วหวังว่าพี่ศรจะทำให้น้องบินเชื่อใจได้นะ



 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 04-08-2012 23:37:56
ย๊ากกกกกก!! น้องบินไม่สบายยย ....พี่ศรดูแลน้องบินดีๆเลยนะ!!! T^T

แอบปลื้มที่ตอนนี้ไม่มีคำว่าน้องเอมมี่อย่างงั้นอย่างงู้นออกมาให้หงุดหงุดใจเล่น ! 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 05-08-2012 13:06:41
ดูทีท่าน่าจะคลายลงละนะ ^_^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 06-08-2012 18:33:26
หวังว่าช่วงที่บินป่วย พี่ศรจะทำคะแนนได้มากขึ้นนะ ... 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 09-08-2012 21:40:11
ยังไม่มาอีกเหรอ หายไปหลายวันแล้วนะ
คิ ด ถึ ง อ่ ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 10-08-2012 23:26:07
ดัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: charisma ที่ 12-08-2012 06:27:00
เฮือก. ตามทันซักที
แว้กกก ดราม่าเบาๆ  :sad11:
แต่ก้ดี พี่ศรจาได้เลิกเอาบินมาแทนเอมมี่ซักที

รอจ้าาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18/07/55 > P.27
เริ่มหัวข้อโดย: ice_painful ที่ 13-08-2012 04:20:05
น่ารัก และ ละมุน ทุกเรื่องเลย ><
ขอบคุณเรื่องราวดีดีที่มาให้เราอ่านนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-08-2012 12:47:43
 :3059:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 8] 04/08/55 > P.33
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 13-08-2012 21:06:02
ตามมาจากกระทู้แนะนำค่ะ สนุกสมคำแนะนำจริงๆ  รอช็อตต่อไปค่ะ:))
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 13-08-2012 22:14:27
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 9



สิ่งแรกที่ได้เห็น...

...หลอดไฟ


ส่วนเสียงแรกที่ได้ยินคือ..

...เสียงกวน ๆ ของใครคนหนึ่ง



“ไง ตื่นได้สักทีนะมึง
กูกะเตรียมกินข้าวต้มปลางานมึงเต็มที่แล้วนะเนี่ย”


คนที่พูดจาชวนกระทืบแบบนี้ไม่ใช่ใครอื่น
นอกจากไอ้เผือกเพื่อนรักปากหมา
บินหันมองคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้เตียงพลางร้องถามอย่างงง ๆ


“ที่นี่ที่ไหนวะ”


“โรงบาล มึงเป็นไข้เลือดออก”



...ชัดแจ้ง


ยิ่งเห็นสายน้ำเกลือระโยงรยางค์กับแขนขวา
ก็ยิ่งเป็นหลักฐานประกอบคำพูดโดยไม่ต้องอธิบายเพิ่ม


...เป็นไข้เลือดออกเหรอ
มิน่าล่ะถึงปวดหัวตั้งแต่เช้า
นึกว่าเป็นเพราะนอนตากน้ำค้างซะอีก
แม่งเมื่อคืนกูอุตส่าห์บริจาคเลือดให้เผ่าพันธุ์มึงไปตั้งเยอะตอบแทนกันมาแบบนี้เหรอวะ
เซ็งฉิบหาย!


แต่จะไปคิดโทษยุงบนดาดฟ้าหออย่างเดียวก็ไม่ได้
ไอ้ไข้เลือดออกมันต้องใช้เวลาเพาะเชื้อ
กว่าจะแสดงอาการก็ต้องสามสี่วัน


...สรุปแล้วเวรกรรมของกูเอง


เฮ้อ...มันอะไรกันหนักหนาวะ
เบญจเพสก็ยังอีกตั้งสองปี
แต่ดวงดันรีบส่งให้กูซวยล่วงหน้ามาก่อนเลย
ไหนจะต้องรับเคราะห์เจ็บป่วย
แล้วยังจะต้องมาปวดหัวจากเรื่องบ้าบอก่อนหน้านี่อีก


เออ พูดถึงเรื่องบ้า ๆ แล้วก็นึกขึ้นได้
ไอ้ยักษ์หน้ามึนมันหายหัวไปไหนวะ
จำได้ว่าครั้งสุดท้ายก็อยู่ด้วยกันนี่หว่า


“เฮ้ย เผือก เห็นไอ้พี่ศรบ้างเปล่าวะ”


คนสงสัยหลุดปากถามออกไปอย่างยั้งไม่ทัน
แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองจะถามไปทำไม


แต่ไม่ทันแล้ว
เพราะคนฟังส่งเสียงเป่าปากกิ๊วก๊าวพร้อมคำแซว


“โห...ตื่นมาก็คิดถึงแฟนเลยนะมึง”


“เหี้ย!! ไม่ใช่โว้ยย!!
กูแค่จำได้ว่าก่อนวูบไปกูอยู่กับเขา
แล้วตอนนี้กูมานอนอยู่ในโรงบาลได้ไง”


คนถูกแหย่รีบอธิบายแถมคำสบถด่าไปด้วย
ซึ่งพอเพื่อนรักได้ยินคำถาม
เจ้าตัวก็ไม่รอช้ารีบพรั่งพรูเรื่องราวทั้งหมดออกมาด้วยน้ำเสียงตื้นเต้น
กับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ


“โหยยย...มึงเอ้ยยย...
กูไม่อยากจะเล่า
มึงรู้มั้ยพี่ศรโคตรทำกูตกใจตอนอุ้มมึงลงมา
พี่แกโวยวายซะเหมือนมึงโดนยิง
พอรู้ว่ามึงตัวร้อนจนเป็นลม
กูเลยรีบตามออกไปช่วยพามึงขึ้นรถด้วย
แล้วกูก็เพิ่งรู้เนี่ยแหละว่าพี่ศรโคตรรวยฉิบหาย
รถบีเอ็มแม่งอย่างหรู แต่เหยียบเร็วซะกูหัวใจจะวายตาย

ไม่พอนะมึง มาถึงโรงบาลปุ๊บ
พี่แกก็อุ้มมึงตรงดิ่งเข้าห้องฉุกเฉิน
ไม่ฟังหมอพยาบาลอะไรเลย
บอกอย่างเดียวว่ามึงตัวร้อนมากกลัวมึงช็อค

หมอเลยให้น้ำเกลือฉีดยาลดไข้
แล้วก็เจาะเลือดมึงไปตรวจ พอรู้ว่ามึงเป็นไข้เลือดออก
พี่ศรเลยจัดการแอดมินเข้าห้องพิเศษ
นี่ก็เพิ่งออกไปเคลียร์ค่ารักษาให้มึง
อีกสักพักก็คงกลับมาแล้วมั้ง

แต่แม่งกูไม่อยากจะคุยเลยวะ
ว่าตอนที่พี่ศรเขาอุ้มมึงไปร้องโวยวายกับหมอ
โคตรเท่อ่ะ เขาตามดูมึงไม่ห่างเลยนะ
แล้วก็ยังจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อย
กูเนี่ยดิ ยืนเอ๋อ ยังงงกับมึงอยู่เลย
เห็นแล้วอิจฉาวะ มึงได้แฟนดีจริง ๆ ”


บินได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ
ฟังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อหู


ก็แน่ล่ะ...
บินคงไม่รู้หรอกว่า
ไกรศรเป็นถึงประธานคณะสมัยเรียนมหาลัย
ถนัดกับการจัดการเรื่องพวกนี้ได้รวดเร็วแค่ไหน
มีสปิริตภาวะความเป็นผู้นำสูงลิ่ว
จนเป็นที่เคารพชื่นชมของน้อง ๆ ทุก ๆ คน

ก็คงมีแต่เรื่องความรักเรื่องเดียวเท่านั้น
ที่ดูเหมือนลูกผู้ชายอย่างไกรศรจะสอบตกทุกที



แอ๊ดดด...


เสียงเปิดประตูห้องพร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งเดินเข้ามา
และเมื่อเห็นว่าคนนอนอยู่ฟื้นแล้ว
ไกรศรจึงรีบพุ่งตรงมาดูอาการพลางเอ่ยถามด้วยความห่วงใย


“บินตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง
ยังมีไข้อยู่มั้ย ปวดหัวรึเปล่า
เดี๋ยวพี่เรียกพยาบาลมาให้นะ”


ยังไม่ทันที่คนป่วยจะได้พูดตอบอะไร
ร่างใหญ่ก็จัดการกดปุ่มเรียกพยาบาลให้มาวัดความดันและวัดไข้เสร็จสรรพ
ซึ่งผลปรากฏว่ายังมีไข้สูงอยู่เกือบ 40 องศา
เป็นไปตามอาการของโรคไข้เลือดออกที่จะยังต้องทรง ๆ อยู่แบบนี้อีกสามสี่วัน
โดยระหว่างนี้เขาจำเป็นจะต้องนอนในโรงพยาบาลเพื่อคอยเช็คดูอาการตลอด
เพราะโรคนี้ไม่มียารักษานอกจากปล่อยให้หายเอง


นี่หมายความว่าเขาจะต้องนอนง่าวอยู่เฉย ๆ ในโรงพยาบาลเกือบอาทิตย์เลยเหรอวะ!



“งั้นกูกลับไปร้านก่อนนะ”

เผือกร้องบอกหลังจากที่นางพยาบาลเช็คร่างกายให้บินเรียบร้อย
และเห็นว่าเพื่อนตัวเองมีคนมาดูแลแทนแล้ว
ลูกชายเจ้าของร้านดนตรีจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่
แถมยังต้องกลับไปเคลียร์ตารางสอนแทนคลาสที่คุณครูป่วยด้วย


“ให้พี่ไปส่งมั้ย”


ไกรศรรีบถามขึ้นด้วยความหวังดี
แต่หนุ่มตี๋กลับปฏิเสธเพราะไม่อยากขัดเวลาของคนเป็นแฟนกัน


“ไม่ต้องหรอกครับ
เดี๋ยวผมนั่งวินกลับเองก็ได้
เฮ้ย! เดี๋ยวตอนเย็น ๆ กูมาหาอีกรอบนะ”


ท้ายประโยคตะโกนบอกคนนอนบนเตียง
ก่อนจะเดินออกนอกห้องไป
โดยทิ้งคนอีกสองคนไว้ตามลำพัง



...สิ้นเสียงปิดประตูห้อง


ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ


บรรยากาศความอึดอัดเริ่มครอบคลุม



บินตะแคงพลิกตัวหันหน้าหนีไปอีกทาง
บอกไม่ถูกว่าควรจะทำตัวยังไง
ก็ดันไปเสียฟอร์มเป็นลมต่อหน้าคนที่กำลังโกรธอยู่ซะได้


จะว่าโมโหก็โมโหอยู่หรอก
แต่มันอุตส่าห์พาเขามาโรงพยาบาล
ไม่รู้ว่าทำไปเพราะสำนึกผิดหรือเพราะอะไร
แต่จะไม่ขอบคุณเลยเดี๋ยวจะหาว่าแล้งน้ำใจอีก
ไอ้ครั้นจะพูดก็กระดากปากยังไงไม่รู้
เอาไงดีวะ ไข้แดกแบบนี้หัวตันไปหมด

แม่งคิดไม่ออกโว้ยยย!!

กูนอนเลยล่ะกัน


คนสับสนรีบปิดเปลือกตาลงหลังได้ข้อสรุปกับตัวเอง
ทว่า ยังไม่ทันได้นอนสมใจเขากลับได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ


“บิน...”


“บิน...หลับแล้วเหรอ”


เจ้าของชื่อยังคงนอนนิ่งไม่หือไม่อือ
กระนั้น คนมองคงจะพอเดาได้ถึงอาการแกล้งทำเป็นหลับปุบปับของเขา
จึงส่งเสียงถามคำออกมาอีกเรื่อย ๆ


“บินคุยกันก่อนได้มั้ย อย่าเงียบแบบนี้เลย
พี่ขอโทษจริง ๆ ยังไม่หายโกรธพี่อีกเหรอ”


“..............”


ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก


คนป่วยยังคงหลับตานอนตะแคงหันข้างนิ่งไม่กระดุกกระดิก
กระทั้งได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจเบา ๆ
ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ออกห่าง
และเสียงปิดประตูห้องตามมาอย่างเงียบ ๆ
จนทำให้คนแกล้งหลับต้องรีบยันตัวหันไปมอง
ก่อนจะพบแค่เพียงความว่างเปล่าในห้อง


อ้าว...
ไหงออกไปเร็วจังวะ
นึกว่าจะง้อนานกว่านี้อีกหน่อย
คนอะไรแม่งไม่มีความอดทนเลย

เอ๊ะ แล้วนี่กูจะไปสนใจมันทำไม
ไปได้ซะก็ดี กูรำคาญจะแย่อยู่แล้ว
คนอย่างมันก็แบบนี้แหละ
นึกอยากทำอะไรก็ทำ
พอเบื่อปุ๊บแม่งก็เลิก
ไม่สนว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง

หึ เอากูมาแทนที่แฟนเก่า
คงไม่มีใครบ้าคิดได้เหมือนมันแล้ว
ทำแบบนี้แล้วหวังว่าจะช่วยบรรเทาอาการอกหัก

ประสาทรึเปล่า!
ขนาดกูยังไม่มีแฟนยังรู้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้

เฮ้อ...ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชมันดี
แต่ตอนนี้สมเพชตัวเองว่ะ
ที่เสือกต้องไปพัวพันกับเรื่องบ้า ๆ ของมันซะได้

เพราะฉะนั้นตอนนี้มันจะหายหัวไปไหนก็ช่างมันเหอะ

กูจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไรกับปัญหาของมันอีกต่อไปละ...แล้ว...



แอ๊ดดด...


เสียงเปิดประตูขัดความคิดของคนที่ยังคงนั่งพิงหัวเตียง
และเมื่อมองเห็นว่าใครเดินเข้ามา
เจ้าตัวก็ต้องรีบล้มตัวนอนหันตะแคงข้างในท่าเดิมก่อนหน้าทันที
เพราะไม่คาดคิดว่าอยู่ ๆ คนที่เพิ่งเดินออกไปจะกลับเข้ามาอย่างรวดเร็วขนาดนี้


บินแกล้งทำเป็นนอนหลับตานิ่ง
แม้จะรู้ดีว่าตัวเองแอบพลาดให้อีกฝ่ายเห็น
แต่ก็นั้นแหละ
ตราบใดที่เขาไม่คุยด้วย มันจะไปทำอะไรได้

เขาตัดสินใจนอนอยู่แบบนั้น
ปล่อยให้เสียงลากเก้าอี้มาใกล้ ๆ เตียงดังผ่านเข้าหู
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงบางอย่าง...



...เสียงที่ทำให้ความคิดของเขาต้องสะดุดนิ่ง



...กีตาร์



...และคำร้อง



“บอกตรงๆ ว่าฉันก็เสียใจ
ที่ทำให้เราต้องทะเลาะกัน
ไม่ว่าด้วยเหตุผลนั้นคืออะไร

คนผิดคือฉันไม่ใช่เธอ
อย่าร้อง... อย่าร้องไห้เลยเธอ
หันหน้ามาคุยกันก่อน ดีไหม

ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยอมหายโกรธ
ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยกโทษให้ฉัน
อย่าทรมานโดยการไม่มองหน้ากัน
นึกว่าสงสาร คนรักกัน ฉันขอโทษ

ไม่ตั้งใจจะ ทำร้ายเธอ
แต่ก็เผลอทำเธอร้องไห้
ฉันไม่ได้ความจริงๆ ที่รัก

คนผิดคือฉันไม่ใช่เธอ
อย่าร้อง... อย่าร้องไห้เลยเธอ
หันหน้ามาคุยกันก่อน ดีไหม

ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยอมหายโกรธ
ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยกโทษให้ฉัน
อย่าทรมานโดยการไม่มองหน้ากัน
นึกว่าสงสาร คนรักกัน ฉันขอโทษ

...ฉันขอโทษ”


เสียงกีตาร์และเสียงร้องเพลงทุ้ม ๆ หยุดลงเมื่อบรรเลงจนถึงคอร์ดสุดท้าย
และคล้ายจะเป็นจุดสิ้นสุดความอดทนของคนฟัง
ซึ่งรีบยันกายลุกขึ้นหันมาถามคนที่นั่งถือกีตาร์โปร่งข้าง ๆ เตียงอย่างเอาเรื่อง


“มึงทำอะไรเนี่ย”


“ง้อบินไง”


“ง้อเหี้ยอะไร
นี่โรงบาลนะ เสียงดังแบบนี้เดี๋ยวก็โดนด่าหรอก”


บินโวยวายกลับอย่างหัวเสีย

แม่ง ใช้มุขกีตาร์เล่นเพลงง้อ
เท่ตายห่าล่ะมึง แต่หัดดูกาลเทศะบ้างสิวะ
นี่อยู่ในโรงพยาบาลนะโว้ย
ถึงจะเป็นห้องเดี่ยวก็เถอะ
เดี๋ยวเสียงกีตาร์ไปรบกวนคนอื่นขึ้นมาจะทำยังไง
ชอบทำตามใจตัวเองอยู่เรื่อง
แล้วเมื่อไรจะหัดนึกถึงใจคนอื่นเขาสักทีวะ!!


ในใจด่าไปเป็นกระบวน
แต่คู่สนทนากลับยังตีสีหน้าระรื่นร้องถามแบบเหมารวม


“งั้นหมายความว่าบินหายโกรธแล้วเหรอ”


อ้าว...ยังไม่สำนึกอีก


“มันคนละเรื่องกันโว้ย!”


บินตวาดกลับหงุดหงิด
เริ่มรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจี๊ด ๆ
ไข้แดกไม่พอ ยังต้องมารับมือกับปัญหาบ้า ๆ อีก
ไม่เอาแล้ว แม่งนอนเลยดีกว่า

คนคิดตัดบทจึงล้มตัวล้มนอนหันหลังให้อีกฝ่าย
ทว่า ดูเหมือนคนง้อจะไม่ยอมรามือง่าย ๆ
เพราะยังไม่ทันจะได้หลับตา
เสียงกีตาร์พร้อมกับเนื้อเพลงก็ดังประสานขึ้นอีก


“ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยอมหายโกรธ
ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยกโทษให้ฉัน
อย่าทรมานด้วยการไม่มองหน้ากัน
นึกว่าสงสาร คนรักกัน...”

   
“เฮ้ยแล้วจะร้องอีกทำไมวะเนี่ย!!”


คนกำลังจะนอนผุดลุกขึ้นนั่งตะโกนขัดทำนองเพลง
แต่ร่างสูงกลับอธิบายตอบสั้น ๆ


“ก็จะร้องจนกว่าบินจะหายโกรธนั้นแหละ

ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยอมหายโกรธ
ต้องทำอย่างไงเธอจึงจะยกโทษให้ฉัน
อย่าทรมานโดยการไม่มองหน้ากัน
นึกว่าสงสาร คนรักกัน ฉันขอโทษ

ต้องทำยังไง...”


“โว้ยย!! พอแล้ว!!”


บินรีบตะโกนห้ามเมื่อเพลงทำท่าจะวนลูปซ้ำ ๆ ไม่จบสิ้น
ก่อนจะตัดสินใจยอมความเพื่อจบปัญหา


“เออ กูยกโทษให้ก็ได้
แต่มึงต้องรับปากกูว่าจะไม่ทำอะไรเหี้ย ๆ อย่างนั้นอีก”


คนได้ยินคำยกโทษยิ้มกว้างรีบพยักหน้ารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ


“อืม พี่สัญญา ต่อจากนี้พี่จะทำตัวเป็นแฟนที่ดีของบิน”


ไอ้เริ่มต้นเหมือนจะดี
แต่ประโยคลงท้ายนี่พาลจะเป็นชนวนให้เปิดศึกอีกรอบ


“มึงเลิกพูดเรื่องแฟนบ้าบออะไรนี่สักทีได้มั้ยวะ”


“ไม่ได้!
ก็พี่เคยบอกแล้วไงว่าเราข้ามขั้นเป็นแฟนกันแล้ว
มันย้อนกลับไปไม่ได้”


ไกรศรปฏิเสธเสียงแข็ง
ยิ่งทำให้อารมณ์ของคนฟังเริ่มขึ้น


มาอีกแล้วไอ้ตรรกะบ้า ๆ บอ ๆ
คิดว่ากูยังจะเชื่ออีกเหรอ
เหตุผลก็รู้กันอยู่แล้วแท้ ๆ


“ย้อนไม่ได้เหี้ยอะไรกัน
มึงทำแบบนี้เพราะว่ามึงจะเอากูแทนที่แฟนเก่าไม่ใช่เหรอไง”


ร่างสูงชะงัก แต่ก็เพียงครู่เดียว
ก่อนจะยืนยันกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“มันไม่เกี่ยวกับเอมมี่แล้ว
แต่พี่อยากคบบินเป็นแฟนจริง ๆ”


คำตอบที่ได้ยินไม่ช่วยอะไร
ซ้ำยังเป็นเชื้อไฟเร่งความหงุดหงิดของบินให้ทะยานขึ้นสูง
จนกลายมาเป็นการโต้เถียงเสียงดังลั่น


“มึงบ้าเปล่า!!
จะให้คบเป็นแฟนกัน
ผู้ชายทั้งคู่นะโว้ยย!!”


“ได้สิ ความรักมันไม่มีแบ่งแยกเพศหรอก”


“แล้วมึงรักกูรึไง”




...สิ้นคำถามต่างคนต่างนิ่ง



นัยน์ตาคมของคนบนเตียง
สบมองคนที่ยังคงนั่งอยู่ใกล้อย่างคาดคั้น
ก่อนจะได้ยินคำพูดหลุดออกมาแผ่วๆ


“ไม่รู้...”



หึ เห็นมั้ย
มึงยังไม่รู้ตัวเองเลย


บินนึกเยาะในใจ
กำลังจะอ้าปากด่าซ้ำ
ทว่าเสียงของอีกคนก็กลับดังขึ้นต่อประโยคที่เหลือ



“แต่...

แต่ตอนนี้พี่คิดถึงแต่เรื่องบิน
พี่อยากอยู่ใกล้บิน
อยากเป็นคนดูแลบิน
เห็นบินเจ็บพี่ก็เจ็บไปด้วย
พี่ไม่อยากให้บินโกรธพี่
พี่อยากเห็นบินยิ้ม
อยากฟังเพลงที่บินร้อง

แล้วพี่ก็เชื่อว่า..
 
สักวันหนึ่งบินจะทำให้พี่รักบินได้”




อะ....


อะ...ไอ้หน้ามึน


แม่งพูดอะไรชวนงงอีกแล้ว


‘สักวันหนึ่งบินจะทำให้พี่รักบินได้’


กูเนี่ยนะจะทำให้มึงรัก
ตรงไหนกันวะ
กูอยู่เฉย ๆ ของกูทุกวัน
มีแต่มึงนั้นแหละเข้ามาวุ่นวายกับกู
แล้วยังมีหน้ามาบอกแบบนี้อีก
ถ้ากูกระโดดถีบมึงตอนนี้
มึงยังจะเชื่อว่ากูจะทำให้มึงรักได้อีกมั้ย
อยากจะรู้จริง ๆ ว่ะ


แต่ถึงจะคิดมากไปเท่าไรก็คงไม่ได้คำตอบ
ท้ายที่สุดเขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างระอาด้วยความปลง


“เฮ้อ...กูว่ามึงคงกำลังสับสนอยู่
กูเข้าใจ คนอกหักมันก็เป็นแบบนี้แหละ
เดี๋ยวสักพักมึงก็จะคิดได้เอง”


ทว่า คนได้รับคำแนะนำกลับส่ายหน้าปฏิเสธ


“พี่ไม่ได้สับสน
ถ้าบินไม่เชื่อตอนนี้ก็ไม่เป็นไร
แล้วพี่จะพิสูจน์ให้บินเห็นเอง”


คำยืนยันพร้อมแววตาที่มองตรงมาอย่างจริงจัง
ทำให้คนถูกจ้องรู้สึกแปลก ๆ


ทำไมหน้ามันร้อน ๆ วะ สงสัยไข้ขึ้นอีกรอบแน่ ๆ
ขืนคุยกับมันเรื่อย ๆ มีหวังได้ปวดหัวตาย
เอาเถอะ มันอยากทำอะไรก็ทำ
ขี้เกียจจะคุยด้วยแล้วโว้ย!!


“กูง่วงจะนอนแล้ว”

ตัดสินใจบอกพลางล้มตัวลงนอน
คราวนี้ไม่ได้หันตะแคงข้าง
แต่นอนหงายตรงๆ อย่างคนหมดแรงจะต่อความ


“อืม งั้นบินนอนเถอะ
นอนเยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ
เดี๋ยวพี่จะอยู่ข้าง ๆ บินเอง”



...อยู่ข้าง ๆ


คำนี้ฟังมากี่รอบแล้วก็ไม่รู้

ตั้งแต่ได้เจอไอ้หน้ามึนไม่เคยมีสักครั้งที่มันคิดจะไปจากเขา

จะด้วยเหตุผลเพราะอะไรก็ยังไม่เข้าใจ


แต่ตอนนี้ไม่ไหว...

ชักเบลอไปหมดแล้ว...


บินหลาค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง
ปล่อยให้คำถามยังคงค้างคาในส่วนลึกของหัวใจ
ก่อนความง่วงงุนจะเข้าครอบงำทีละน้อย


...จนกระทั่งหลับไปในที่สุด



------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



http://www.youtube.com/v/6_L6jJkTzSU?




แปะเพลง I am sorry ของ AB Normal
ถือเป็นคำขอโทษจากคนเขียนด้วยเลยนะคะ
ต้องขออภัยจริง ๆ ที่หายไปเสียนาน

:o12:

ต้นเหตุเพราะน้องโน้ตบุ๊คเสียกะทันหันค่ะ 
ไม่รู้ติดไข้เลือดออกมาจากน้องบินด้วยรึเปล่า
กว่าจะศูนย์จะซ้อมเสร็จก็กินเวลานาน
ไอ้เราก็ลุ้น ๆ กลัวข้อมูลในเครื่องหายแทบแย่
แต่ปรากฏว่าซ้อมเรียบร้อย
น้องโน้ตกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้วค่ะ
จากนี้ไปก็(คง)จะค่อย ๆ ทยอยอัพอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม

ขอบคุณสำหรับทุก ๆ กำลังใจที่ยัง
ร่วมอ่าน ร่วมเมา ร่วมมึน
ไปกับซีรีย์นี้อยู่เหมือนเดิมนะคะ

*กอดดดดด*

 :กอด1:


แล้วเจอกันใหม่ค่า


 :bye2:

BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 13-08-2012 22:29:02
พี่ศรนี่ขยันหยอดจริงๆ
ไม่รู้ใครจะรักใครก่อนนะแบบนี้  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-08-2012 22:29:28
พี่ศร...สู้เค้านะ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-08-2012 22:36:15
พี่ศรนี่หน้ามึนได้ใจคนอ่านมาก ร้องเพลงจนกว่าจะหายโกรธ คือฮามากอ่ะ
สรุปบินต้องเลยตามเลย กรั่กๆๆ บินว่าพี่ศรไม่หยุดเลยอ๊า พอเค้าเหมือนจะหายไปก็ว่าเค้า สับสนป่าว กิ๊วๆ
พี่ศรห่วงน้องมาก รักน้องบินแล้ว แต่น้องบินยัง (ทำเป็น) ใจแข็ง ชริๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-08-2012 22:39:22
พี่ศรคงต้องใช้ภาษิตที่ว่า  "ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก" กับบินให้มากๆ เผื่อบินจะใจอ่อน   แต่ฟังคำพูดที่พี่ศรบอกมา อยากบอกว่า บินใจอ่อนได้แล้ว 

เพื่อนเผือก ไหนๆ นักร้องป่วย  ลองชวนพี่ศรมาเป็นนักร้องแก้ขัดไปก่อนดิ

กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 13-08-2012 22:47:25
เขิน -/////-
น้องบิ๊นนนนนนนนนน! ที่หน้าร้อนๆนั่นไม่ใช่เพราะไข้เลือดออกแล้วล่ะ เขินล่ะซิ้ ฮิฮิ ><

พี่ศรพูดซึ้งมากกกกกก!
ต่อไปนี้ทำตัวดีๆกับบิน แล้วอย่าไปนึกถึงน้องเอมมี่อีกนะ !!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-08-2012 22:49:48
มึนจริง ๆ แหละพี่ศร

บินลองเปิดดูสักนิดนึงก่อนมั้ย นิดเดียวก็ได้ถ้าไม่เวิร์กค่อยตัดพี่ศรออกจากชีวิตก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 13-08-2012 22:54:26
พี่ศรเริ่มรักน้องบินแล้วอะดิ
แต่ยังไม่ค่อยรู้ใจตัวเองใช่เปล่า o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 13-08-2012 23:16:17
พี่ศร ตื้อสุดยอดจริงๆ เดินหน้าครั้งนี้ไม่มีถอยหลังละ คนอะไรมึ๊นมึน ฮ่าา
ต่อจากนี้ก็ทำตัวดีๆแล้วกันนะ ถ้าทำให้บินเสียใจอีก จะฝากรอยเท้าไปประทับหน้า หึๆ
ช่วยแก้คำผิดนะคะ : ฉนวน -> ชนวน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-08-2012 23:28:38
ใกล้จะได้เห็นซีนหวานๆ(มั้ง)ของคู่มึนคู่นี้

และดูท่าถึงบินจะปฏิเสธยังไงพี่ศรก็ยังหน้ามึน

ไม่ไปไหนอยู่ดี  :impress2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-08-2012 23:38:51
ใครจะตกหลุม[รัก]ใครก่อนกันแน่

พี่ศรจัดมาเต็มขนาดนี้

แมนแค่ไหนเราว่าต้องมีเป๋มั้งแหละ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 14-08-2012 00:34:04
 o18 พี่ศรสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-08-2012 06:48:53
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-08-2012 07:52:50
พี่ศรทำดีกับน้องบินขนาดนี้ก็อย่าใจร้ายกับพี่ศรนักนะ
พูดดีๆ กับพี่ศรหน่อย

+1 และให้เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 14-08-2012 08:02:33
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: moon ที่ 14-08-2012 08:21:04
สนุกมากกกกกก ชอบมากเลยนะคนเขียน เป็นเรื่องที่อ่านแล้วเรานั่งยิ้มทุกตอนเลย จนเพื่อนมันว่าเราบ้าแล้ว55555

ยิ้มตั้งแต่พี่แทน น้องเพลงกรี้ดดดดน่ารักมากกกกกก

ยิ้มกว้างมากขึ้นกับ นักรบ กับสาลี่ นี่ก็หวานมากกกก

ส่วนล่าสุด พี่ศรกับน้องบินนี่ไม่ใช่แค่ยิ้มอย่างเดียวนะแต่ขำกร้ากกกกเลย มึนได้ใจทั้งคู่เลย5555

ขอบคุณมากๆเลยที่เขียนเรื่องน่ารักๆมาให้เราได้อ่านอย่างมีความสุขขนาดนี้ อย่าทิ้งกันไปซะก่อนนะในตลาดยังเหลืออีกหลายร้านเลย

อ้อรอน้องคูณด้วยจ้า เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะอยู่ด้วยกันไปอีกหลายๆๆๆๆๆๆตอนเลยนะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: Renze ที่ 14-08-2012 08:50:47
พี่ศรแกน่ารักแบบมึนๆ
ไม่รู้จะเห็นใจหรือดีใจกับบินดี

ชอบตอนร้องเพลงง้อ พี่แกเน้นตีหน้ามึนใส่ลูกเดียว
บินเลยต้องยอมคืนดีด้วยแบบมึนๆ  :laugh:

ไม่รู้ว่าสุดท้ายใครจะรักใครก่อน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 14-08-2012 09:29:08
จะว่าไปพี่ศรก็น่ารักเนอะ :กอด1:

เชียร์พี่ศร แบบมึนๆ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 14-08-2012 12:30:52
เราว่าเปลี่ยนเป็นภาคกีตาร์กะเสียงเพลงเถอะ
เค้าจีบกันง้อกันเค้าก็ใช้เสียงเพลงกะกีตาร์นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 14-08-2012 12:41:20
 :laugh:พี่เก่งทุกเรื่อง แต่พี่เป็นเด็กหัดรักแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 14-08-2012 14:05:16
ก็อาจจะจริงของพี่ศรเค้านะ..."สักวันหนึ่งบินจะทำให้พี่รักบินได้"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-08-2012 14:25:29
พี่ศรสู้สู้ :ped149:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 >; P.34
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-08-2012 15:07:48
สู้ต่อไปพี่ศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 14-08-2012 18:53:13
เห็นแก่ความมึนที่เกือบน่ารักของพี่ศร เชียร์ให้น้องบินลองเปิดใจดูๆๆพี่ศรสักน้อยๆๆ



 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 9] 13/08/55 > P.34
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 14-08-2012 22:24:16
หายไปนานก็ยังเมาและมึนเหมือนเดิม  ฮ่าาาาา

พี่ศรนี่สรุปว่าจะเอาบินมาเป็นแฟนจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย
ต่อให้บินไล่กี่รอบก็จะะไม่ไปไหน  ไม่เปลี่ยนไปจริงๆ ใช่มั้ย

ไม่ใช่อะไรหรอก  กลัวบินจะเสียใจ
เพราะว่าพี่ศรยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารักบินหรือเปล่า
แล้วบินก็ไม่ได้รักพี่ศร ณ ตอนนี้ด้วย

อ่านไปอ่านมาชักมึนตามคู่นี้แล้วสิ  ฮ่าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 15-08-2012 22:15:09
   
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 10



ก็เพิ่งรู้นี่แหละ...


เพิ่งรู้ว่านอกจากไอ้ยักษ์ที่เขาเก็บมาจะหน้ามึนแล้ว


...มันยังโคตรจะบ้าอีกด้วย!



“เอ้า อ้าปากนะ
อ้ามมม....”


“กูเป็นไข้เลือดออก ไม่ได้เป็นง่อย”


บินหลาปฏิเสธเสียงห้วน
พลางขยับหนีช้อนข้าวต้มกุ้งที่ยื่นส่งมาให้ตรงหน้า
ทว่า คนป้อนยังคงไม่ยอมหยุด
กลับเอ่ยเสียงดุแถมเร่งซ้ำ


“บินอย่าดื้อ อ้าปากเร็ว”



..นี่กูดื้อตรงไหนวะเนี่ย?

มึงนั้นแหละดื้อ ไอ้ห่า!

มีที่ไหนวะมาป้อนข้าวให้กัน
ทำอย่างกับกูเป็นเด็กสามขวบ
ถ้าเป็นนางพยาบาลสวย ๆ สักคนจะไม่ว่า
แต่นี้ผู้ชายถึก ๆ ตัวโตเป็นควายแล้วมาทำอะไรกุ๊กกิ๊ก
น่าเจริญอาหารตายล่ะ!!


“ไม่เอา กูกินไม่ลง”


“ถ้าไม่กินก็ต้องให้น้ำเกลืออีกขวดนะ เลือกเอา”


...แม่ง ขู่อีกแล้ว
พอเห็นกูไม่สบายได้ทีเอาใหญ่เลยนะมึง
เพิ่งจะถอดสายน้ำเกลือไปเมื่อบ่าย
เรื่องอะไรจะให้มาจิ้มแขนกันอีกรอบ


บินเขม่นมองคนตัวโตอย่างเอาเรื่อง
นึกหงุดหงิดในใจกับความหน้าด้านหน้าทนของมัน


...สองวันแล้วที่มันมาเฝ้า
ชนิดที่ว่าแทบจะอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป
จนเพื่อนเขาแซวสนุกปากไปเลย

เมื่อกี๊ตอนเย็นพวกไอ้เผือกก็แวะมาที
มาถึงโหวกเหวกโวยวายคุยกันโขมงเหมือนลืมว่าเขาเป็นคนป่วยอยู่
ไอ้หน้ามึนนี่ก็ดันร่วมผสมโรง
โดนลากไปคุยตั้งแต่เรื่องกีฬา การเมือง หุ้นเหิ้นอะไรก็ไม่รู้
ยิ่งคุย ยิ่งเห็นว่าพวกมันปลื้ม
โดยเฉพาะไอ้เผือกพูดชมพี่ศรเรื่องความเก่งในการวิเคราะห์ตลาดกันไม่มีหยุด


โอยย...ทีมึงอยู่ต่อหน้าคนอื่นแม่งทำเป็นเท่

แต่พออยู่กับกูทำไมมันถึงได้บ้าบอปัญญาอ่อนขนาดนี้วะ!!



คนป่วยนึกเซ็งในอารมณ์
เหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาเกือบสองทุ่ม
ไอ้ข้าวต้มกุ้งนี่ก็อยู่ตรงหน้ามาเกือบชั่วโมง
ตั้งแต่เพื่อนเขาออกไปเล่นดนตรีกันแล้ว
จนถึงตอนนี้มันก็ยังเต็มชามอยู่เหมือนเดิม


“กินหน่อยเถอะนะบิน...”


ได้ยินเสียงบอกที่อ่อนลงเหมือนวอนขออยู่ในที
เขาหันมองอาหารบนโต๊ะนิ่ง
นาทีนี้ต่อให้เป็นหูฉลามเป้าฮื้อก็กระเดือกไม่ลงหรอก


ทว่าท้ายที่สุด...
คนถูกตื้อกลับถอนหายใจอย่างยอมแพ้


“เออ ก็ได้ มึงไม่ต้องป้อน เดี๋ยวกูกินเอง”


มันยิ้มกว้างหน้าบานหลังจบคำ
รีบกุลีกุจรยัดช้อนใส่มือเขาทันที
ท่ามกลางสายตาที่เขามองมันอย่างงงๆ


โห...อะไรจะดีใจขนาดนั้นวะ
แค่กูบอกว่าจะกินข้าวแค่เนี่ย

ปกติเวลาเขาไม่สบายอย่างดีก็แค่เอาพารากรอกปากสักสองเม็ด
ปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวมันก็หายไข้ไปเอง
ไอ้เรื่องจะมาใส่ใจว่าต้องกินข้าวครบสามมื้อรึเปล่า นอนพักพอหรือยัง


...ลืมเรื่องนั้นไปได้เลย


อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด
จะทำอะไรมันก็ต้องพึ่งพาตัวเอง
พอมาถูกบังคับให้ทำนู้นทำนี้
เลยอดไม่ได้ที่จะอึดอัดแปลก ๆ ขึ้นมา



...การมีใครสักคนมาคอยดูแลเป็นห่วงเป็นใยมันรู้สึกแบบนี้เองหรอ?
 


แต่กระนั้น...

แม้คนป่วยจะยืนยัน
ทว่ากลับทำได้แค่เพียงตักข้าวต้มเข้าปากแค่สี่ห้าคำ
ก่อนจะวางช้อนลงเหมือนเดิม
จนร่างสูงต้องร้องถาม


“อิ่มแล้วเหรอ กินไปนิดเดียวเองนะ”


“ไม่เอาแล้วกูขมปากกลืนไม่ลง”


บินตอบปฏิเสธไปตามความจริง
ไอ้อาการของโรคไข้เลือดออกก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าร่างกายมันทำงานไม่ปกติ
เลยพาลเบื่ออาหารกินอะไรไม่ลงไปด้วย
ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะเข้าใจดี


“เฮ้อ...งั้นก็ตามใจ
เดี๋ยวกินยาลดไข้
แล้วนอนพักซะนะ”


เขามองไกรศรยกถาดข้าวออก
แล้วรับยาหลังอาหารกับน้ำที่มันรินใส่แก้วยื่นให้
ก่อนมันจะเตรียมกดปรับเตียงให้เอนลงเพื่อให้เขานอน


เฮ้ย... นอนอีกแล้วหรอ
น่าเบื่อตายชักเดี๋ยวก็นอนเดี๋ยวก็นอน
ตอนนี้เขาเหนียวตัวร้อนๆ  ยังไงก็ไม่รู้


“กูอยากอาบน้ำ”


บอกออกไป
และทันเห็นคนฟังชะงักร้องเสียงหลง


“เฮ้ย! ได้ไง ไม่สบายอยู่นะ
เหนียวตัวหรอ
งั้นเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้”



โห...อะไรจะเซอร์วิสขนาดนี้
ไม่ต้องทำให้กูทุกอย่างก็ได้หรอกมั้ง
เป็นแม่กูรึไงครับเนี่ย
ซาบซึ้งฉิบหายเลย แต่ว่ากูขอเถอะ


“มึงไปเรียกพยาบาลมาดีกว่า”


“ไม่ได้! พี่ไม่ชอบให้บินเข้าใกล้ผู้หญิงคนอื่น”


ไกรศรปฏิเสธค้านเสียงแข็ง
ทำเอาคนฟังต้องโวยวายสวนกลับ


“นี่มึงบ้ารึเปล่า!! นั่นพยาบาลนะ”



“พี่หึง”



...สั้น ๆ คำเดียว
แต่ทำให้คนป่วยถึงกับสะดุด


...ดู เหตุผลของมัน
มีแต่คนบ้าๆ  เท่านั้นแหละที่คิดได้

พยาบาลเขาจะมาทำอะไรกูได้วะ
คนที่กูควรจะกลัวและไม่อยากอยู่ใกล้คือมึงมากกว่า
ไม่รู้ทำไมถึงมาวุ่นวายกับชีวิตกูนัก
แต่ตอนนี้กูเหนื่อยใจจะสรรหาคำด่าอะไรกับตรรกะปัญญาอ่อนของมึงแล้ว


“ตามใจมึง”


ทันที่ที่ได้ยินคำอนุญาตร่างสูงจึงรีบบอกคนบนเตียงให้รอแป๊บ
แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
ก่อนจะออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวผืนเล็กกับกะละมังใส่น้ำ


“ถอดเสื้อสิ”


บินแก้เชือกเสื้อคนป่วยออกอย่างว่าง่าย
จะอายทำไมผู้ชายเหมือนกัน
มันอยากจะเช็ดตัวทำอะไรก็ตามใจ
ถึงยังไงเขาก็ห้ามมันไม่ได้อยู่แล้ว

ขยับหันไปอีกทางเพื่อดึงเสื้อออก
ทว่ายังไม่ทันที่เสื้อจะหลุดออกจากแขน
เขากลับได้ยินเสียงจากอีกฝ่าย


“บินสักที่หลังด้วยเหรอ”


ร่างบนเตียงชะงักเล็กน้อยเอี้ยวตัวหันมองหน้าคนถาม
ซึ่งดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังของตัวเอง


“อ๋อ...ปีกเนี่ยหรอ
สวยอ่ะดิ กว่าจะสักเสร็จตั้งห้าชั่วโมง
กูออกแบบเองด้วยนะ”



ไกรศรพิจารณาตามคนที่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ

รอยสักรูปปีกทอดตัวยาวลงมาตั้งแต่หัวไหล่ทั้งสองข้างถึงกลางหลัง
ขนนกและเส้นสายของลายปีกผสมกลมกลืนลงตัว
ทำให้ภาพออกแนวกึ่งจริงกึ่งกราฟฟิค


ไม่ได้ดูน่ากลัว...

แต่เหมือนงานศิลปะสวย ๆ สักชิ้น


ยังไม่นับรอยสักบนแขนขวาซึ่งตอนแรกเขานึกว่าเป็นลายมังกร
แต่พอเพ่งดี ๆ แล้วกลับกลายเป็นรูปนกที่เกาะอยู่บนกิ่งไม้
ขดลวดลายไล่ไปตามแขนจนมาหยุดอยู่ที่ลายดอกไม้กราฟฟิคบนหน้าอก
เล่นสลับสีเข้มอ่อนเหมือนรอยสักของพวกยากูซ่า
อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัย


“ทำไมถึงสักเป็นรูปนี้ล่ะ”


“ก็สักตามชื่อกูไง”


“สักปีกเพราะชื่อบินน่ะเหรอ”


“ไม่ใช่ บินหลา ภาษาใต้มันหมายถึงนกกางเขน
แม่กูเป็นคนตั้งชื่อให้ แขนขวากูเลยสักเป็นรูปนก
ส่วนปีกมันหมายถึงกูเป็นอิสระจากทุกอย่าง
อันนี้กูสักตอนกูหนีออกจากบ้าน”


“หนีออกจากบ้าน?”


ประโยคสุดท้ายทำเอาไกรศรต้องถามย้ำด้วยความตกใจ
แต่คนเล่ายังคงตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ
เหมือนไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติ


“อืม พ่อแม่กูเลิกกันไปนานแล้ว
มีแต่ส่งตังค์มาให้กูใช้
บ้านหลังใหญ่ซะเปล่าแต่ไม่มีใคร
กูขี้เกียจอยู่เลยหนีออกมา
ตั้งแต่ตอนเข้ามหาลัยใหม่ ๆ นู้นแล้ว”


“แล้วบินอยู่อย่างไง เอาเงินที่ไหนใช้”


“เอ้า ก็ทำงานสิวะ สอนกีตาร์
ร้องเพลงตามร้านอาหารตอนกลางคืน
ค่าจ้างไม่ใช่กระจอกนะมึง ถ้าไม่กินไม่เที่ยวมากก็อยู่ได้สบาย ๆ
แต่คนรวย ๆ อย่างมึงคงไม่เข้าใจหรอกมั้ง
มีตังค์ก็เที่ยวเลี้ยงคนอื่นไปทั่ว
มึงหัดเห็นคุณค่าของเงินซะบ้างสิวะ
กว่ากูจะเก็บได้แทบตาย
นี่กะสะสมไว้ไปเที่ยวสักหน่อย
ความฝันกูเลยนะ
เที่ยวรอบโลกหาแรงบันดาลใจมาแต่งเพลง”



ไกรศรนั่งฟังถ้อยคำมากมายจากคนพูด


...ยิ่งรู้จักก็ยิ่งรู้สึกทึ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
รอยสักทุกรอยไม่ใช่สักเอาส่ง ๆ เพื่อความเท่
แต่เพราะมันบอกเรื่องราวในตัวเอง



...เรื่องราวที่หล่อหลอมให้บินเป็นคนแบบนี้


คนที่มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่น ตั้งใจจริง

คนที่ข้างนอกแข็ง แต่ข้างในกลับคอยห่วงใยนึกถึงคนอื่น

คนที่ทำให้รู้สึกดีเวลาอยู่ใกล้ ๆ


และเป็นคนที่...



เขาอาจจะเผลอ ‘ตกหลุมรัก’ เอาได้ง่าย ๆ




“ถ้าพี่จะสักบ้างดีมั้ย”


ถามพลางบิดผ้าชุบน้ำให้หมาด
ค่อย ๆ เช็ดลงบนแผ่นหลังของคนตรงหน้า

ถึงจะไม่เคยเช็ดตัวให้ใครมาก่อน
แต่มันคงไม่ยากเย็นเท่าไร
เขาสัญญาแล้วว่าจะดูแลบินให้ดีที่สุด
ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้นต้องทำตามที่พูดไว้ให้ได้


“หืม อะไร อย่างมึงน่ะเหรอจะสัก”


คู่สนทนาถามขึ้นอย่างงง ๆ


“อืม บินคิดหน่อยสิว่าจะเอารูปอะไรดี”


“เรื่องของมึงสิ แต่คิดดี ๆ นะ
เพราะรอยสักมันจะอยู่กับมึงไปตลอดชีวิต”


“งั้นพี่จะสักปีกไว้ที่หลัง
จะได้บินไปพร้อมกับบินไง”


“บินไปนรกคนเดียวเถอะมึง
กูไม่ไปกับมึงด้วยหรอกนะ
อยู่กันแค่นี้ก็ปวดหัวจะตายห่าอยู่แล้ว”


คำด่ากลับอย่างไม่สนทำเอาคนฟังถอนใจ

...อุตส่าห์พูดหวาน ๆ ตามประสาคนเป็นแฟนสักหน่อย
ทำเอาหมดมู้ดเลย
บินไม่มีอารมณ์โรแมนติกบ้างรึไง
ใคร ๆ เขาก็ทำกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ
หรือมันยังดีไม่พอ



ถ้างั้น...


ร่างสูงละมือจากที่กำลังเช็ดตัว
เดินไปหยิบของบางอย่างบนโต๊ะ
โดยมีสายตาของคนบนเตียงมาตามอย่างงง ๆ


“บินยื่นมือมาหน่อย”


แม้จะยังสงสัย แต่คนถูกขอก็ยังทำตามคำสั่ง
ยื่นมือซ้ายให้เพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะเช็ดแขน

ทว่าสิ่งที่คนตรงข้ามหยิบขึ้นมาไม่ใช่ผ้าเช็ดตัว
กลับกลายมาเป็นปากกาลูกลื่นสีน้ำเงินธรรมดา
มิหนำซ้ำมันยังตั้งท่าจะเขียนลงบนมือเขาอีกด้วย


“เฮ้ย! จะทำอะไรเนี่ย”


บินหลาร้องโวยอย่างตกใจ
พยายามดึงมือกลับแต่ถูกแรงของคนจับขืนเอาไว้


“น่า อยู่นิ่ง ๆ แป๊บเดียวเดี๋ยวเสร็จแล้ว”


ไกรศรพูดโน้มน้าว
พร้อมกับรีบลากปากกาเป็นเส้นบนหลังมือ
ทั้งของตัวเองและคนที่พยายามดึงยื้อ
ก่อนจะปล่อยเมื่อรูปที่วาดเสร็จสิ้นสมบูรณ์



“ที่นี่เราก็มีรอยสักเหมือนกันแล้ว”



บินพิจารณารอยปากกาลูกลื่นบนมือที่ยกมาเทียบกัน



....เส้นโค้งเป็นรูป 'หัวใจ' สองดวง



...บนหลังมือของคนสองคน



ไม่รู้จะโกรธ หรือจะขำดี
แต่ออกแนวสมเพชมากกว่า
มันทำอะไรไม่ดูหนังหน้าตัวเองเล๊ยยย
ผู้ชายตัวควาย ๆ มาทำกุ๊กกิ๊กโรแมนติกเหมือนเด็กมัธยมหัดจีบสาว
คงมีมันคิดได้คนเดียวในโลกนี้แหละ



“มึงมันโคตรบ้าเลยว่ะ”



สบถด่าออกไป
แต่ไอ้หน้ามึนทำเป็นไม่สนใจ
ยิ้มลูกเดียวแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาเช็ดตัวเขาต่อ


บินจัดการเปลี่ยนเสื้อท่อนบนเรียบร้อย
ส่วนข้างล่างมันพยายามจะช่วยแต่เขารั้งไว้
แค่อยากลดอุณหภูมิของร่างกายไม่ได้อยากสะอาดขนาดนั้น
เดี๋ยวพยาบาลเปิดประตูเข้ามาเจอแล้วจะยุ่ง

คนถูกห้ามจึงละมือเอาอุปกรณ์ไปเก็บ
แล้วกลับมาเอนปรับเตียงให้เขานอนลง
ซึ่งเขาก็ดึงผ้าห่มมาคลุมเสร็จสรรพเตรียมพร้อม
เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฤทธิ์ยา
มันเดินไปปิดไฟให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืดจาง ๆ


เขาพลิกตัวหันไปอีกด้าน
ช่วงขณะที่กำลังจะเคลิ้มกลับได้ยินเสียงพึมพำเบา ๆ



“ฝันร้ายนะบิน แล้วพี่จะเข้าไปช่วยในฝันเอง”



อ้าว...มีแต่คนบอกให้ฝันดี
ไอ้นี่อยู่ ๆ แช่งกูให้ฝันร้ายเฉยเลย


แล้วดูมันพูด...



...จะเข้าไปช่วยในความฝัน



มุกเสี่ยวฉิบหายพูดออกมาได้ไง
อยากจะลุกขึ้นไปด่าสักที
แต่ตอนนี้ง่วงสุด ๆ ไม่ไหวแล้ว


เขาปรือตาลงเรื่อย ๆ
สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือรอยสักรูปหัวใจบนหลังมือของตัวเอง
อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มขำเพราะใครอีกคน



...มึงมันบ้าจริง ๆ นั้นแหละ



...บ้า


จนทำให้คนป่วยยิ้มได้แบบนี้



อย่าอยู่ใกล้กูนาน ๆ ล่ะ
กูเป็นไข้เลือดออกพอแล้ว
กลัวติดเชื้อบ้าไปจากมึงอีก



เข้าใจมั้ย... 


...ไอ้พี่ไกรศรหน้ามึน



------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-08-2012 22:28:12
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย

สักที่มือเลยหรอค๊า 55555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 15-08-2012 22:32:31
 :m20: :m20:มึนได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-08-2012 22:45:11
"พี่หึง "อันนี้ข้ามขั้นนะพี่ศร...........ลืมไปว่าพี่ศร [หน้า]มึน 

ระวัง[รัก]คนมีเชื้อบ้านะน้องบิน :z1:

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 15-08-2012 22:46:31
พี่ศรน่าร้อกกกอ่า...เข้ากับเพื่อน ๆ ของบินได้ทุกคนด้วย
แล้วก็โรแมนติกดูแลตลอดเวลา บินน๊า...มีอยู่ไม่เห็นคุณค่า จะรอให้เสียไปก่อนหรือไง
หันมามองพี่ศรบ้าง...

บินเก่งจังนะ ดูแลตัวเองตั้งแต่เด็ก ๆ เลย ยิ่งมีรอยสักยิ่งแบบลึกลับน่าค้นหาบอกไม่ถูกเนอะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-08-2012 23:00:10
พี่ศรนี่หวานกว่าที่คิดนะ บินหลาเมื่อไรจะเปิดใจบ้าง สักนิดก็ยังดี
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: myofoxrain ที่ 15-08-2012 23:00:42
อ๊ากกกกก.... น้องบินนนนนนน......
ทำไมน่ารักยังเง้ ~~~~~~.....

เริ่มชอบพี่ศรแล้วชิมิล่า ชิมิล่า !!!!!!!!!
จิ้นกระจายกะช็อทมองรอยสัก(ปากกา)ที่มีแล้วหลับไป ฟินนนนนน XD

*กรีดร้อง*
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 15-08-2012 23:04:17
พี่ศร น่ารักมากอะ พี่เขาพยายามมาก เมื่อไรความพยายามของพี่แกจะส่งผลให้บินเห็นบ้างก็ไม่รู้เนอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 15-08-2012 23:09:10
 o18 น่ารักเหอะ พี่ศรจ๋า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-08-2012 23:17:47
พี่ศรคนหน้ามึนแต่ก็ทำให้บินยิ้มได้น้า

อ่านแล้วฮากะความเสี่ยวของเฮียศรซะจริง

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-08-2012 23:46:34
ร่วมสนับสนุนการมึนของพี่ศร
สู้สู้ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-08-2012 00:08:08
พี่ศรเป็นแฟนที่ฮามากอ่ะ นึกภาพตอนพี่ศรเป็นประธานนักศึกษาไม่ออกเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 16-08-2012 00:35:14
 :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-08-2012 00:44:54
หยอดไปเรื่อยๆนะ พี่ศร เดี๋ยวบินก็ใจอ่อน


 :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 16-08-2012 02:10:07
ชอบตอนนี้จัง ได้อารมณ์น่ารักๆ หวานปนมึนของพี่ศร
แถมพอได้ฟังเรื่องราวของบิน ก็พบว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย
รู้สึกว่าบินเป็นคนที่มีอะไรๆอีกเยอะที่ยังไม่ได้ถูกบอกเล่าเปิดเผยออกมาให้ได้รู้
แอบรู้สึกประหลาดใจกับเรื่องราวใหม่ๆของบิน
สำหรับพี่ศร ขอดูพฤติกรรมและผลงานไปเรื่อยๆก่อนละกัน
ให้บินมาหวั่นไหวอะไรตอนนี้คงง่ายและเร็วไปหน่อย
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 16-08-2012 05:51:28
”เราจะบินไปพร้อมกัน”พี่ศรเสี่ยวว่ะ แต่ก็น่ารักสุดๆเหมือนกัน
ความรักของพี่ศรนี่เหมือนพี่คอยดูแลน้องเลยเนอะ แต่ก็น่าจะเหมาะกับคนขาดความอบอุ่นอย่างบิน
ตอนนี้น่ารักแบบ เบาเบา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 16-08-2012 09:35:55
หื้อออออ....พี่ศร

นอกจากมึนแล้วยังน่ารักอีก
แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 16-08-2012 10:03:07
ไอ่น้องบิน ซึน
โถ่ พี่ศรก็ไม่ได้แย่หรอกน่าาา
ดูแลดีขนาดนี้  รับเลี้ยงไว้เถอะค่าา  ฮ่าา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-08-2012 10:19:25
พี่ศรน่ารักอ่ะ ทั้งมึนทั้งต๊อง  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 16-08-2012 10:34:38
บิน ก็เถื่อนได้ใจ
ส่วนพี่ศรก็มึนอ้อนไม่บันยะบันยัง

ตกหลุมรักกันไม่รู้ตัวแหง๋ๆ ทั้งสองคนเลย
น่ารักจังค่ะ

ขอบคุณคนแต่งนะคะ
น่ารักๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 16-08-2012 13:19:18
บินเริ่มใจอ่อนแล้วล่ะซิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 16-08-2012 14:32:45
อ่านแล้วต้องจิกหมอนไปด้วยนะตอนนี้.... : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >;P.35
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-08-2012 16:14:40
เขิน >///<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 16-08-2012 17:54:52
ฮาพี่ศร ทำไมมันมึนได้ขนาดนี้ อายุเท่าไรกันแล้วนี่
ส่วนบิน ก็ห้าวได้ใจ มึงกูตลอด พี่ศรมันยังหวานเิยิ้มได้ขนาดนี้
บางทีเผลอๆ คนอ่านคิดว่าพี่ศรนี่เป็นตุ๊ดน่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-08-2012 18:21:38
พี่ศรหน้า(มึน) จริงๆ แต่แอบโรแมนติกด้วย ตอนแรกนึกว่าพี่ศรจะให้แหวนบินซะอีก กลายเป็นรอยสักรูปหัวใจ

น้องบินนี่เก่งมากที่ออกมาอยู่คนเดียว แล้วสู้ชีวิตได้แบบนี้

กด + และ + เป็ดให้กับ พี่ศรหน้ามึนค่ะ  รอช๊อตต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 16-08-2012 18:49:19
พี่ศรบทจะน่ารักแม่มน่ารักมากๆ  น่ารักจนอยากได้พี่ศรมาเป็นแฟนเอง ฮ่าาา

แต่ก็ยังมีที่ตะขิดตะขวงใจเล็กน้อยก็ตรงที่พี่ศรบอกว่าอาจจะเผลอตกหลุมรัก...
อือออ  ว่ายังไงดีหละ... ก็เข้าใจนะว่าพี่ศรเป็นผู้ชายธรรมดาทั่วไปที่เพิ่งจะอกหัก
แต่ก็อยากให้พี่ศรคิดดีๆ ว่า  พี่ศรจะสามารถเคียงข้างบินได้ตลอดหรือเปล่า
สังคมยังไม่เปิดกว้างเรื่องชายชายนัก  พี่ศรเองก็คงจะเป็นคนมีหน้ามีหน้าไม่มากก็น้อย (ถ้าจะรวยขนาดนี้ก็คงมีมาก)
แล้วถ้าถึงเวลาที่คนทั่วไปรู้ หรือคนรอบข้างพี่ศรรู้

...พี่ศรยังพร้อมจะอยู่เคียงข้างบินหรือเปล่า...


ความรัก... มันไม่ใช่แค่อยากรัก แล้วก็มารักกัน
บางครั้งความรักมันก็ไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเหมือนกันนะคะ 
เพราะว่าเรายังคงต้องแคร์คนรอบข้างเราเช่นกัน


พี่ศรดูมึนน้อยลงแล้วววว  ในความคิดนะ  ฮ่าาาาาาาาา

ว่าแต่ว่า... น้องบินแอบมีใจแล้วหละเซ่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 16-08-2012 20:54:58
หวานแบบเกรียนๆ มึนๆ เนาะ
แต่ก็ทำเอาเรายิ้มได้ตลอดนั่นแหละ
จีบแบบนี้ก็แปลกๆ ดีเหมือนกันนะ
เราว่าบินคงเป็นอะไรที่ศรไม่เคยมี ไ่ม่เคยเจอ
แปลกใหม่ น่าสนใจ น่าหลงใหล น่าจับตามอง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 16-08-2012 23:44:15
พี่ศรมึนมาก ! 555555555555555
น้องบินไม่หายโกรธก็ต้องหายแล้วล่ะ..ไม่งั้นหลอนแย่เลย! 555

ใกล้จะรักกันแล้วสิน้าาาาาาาาาาาาา  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 17-08-2012 01:24:15
 :z3:พี่ศร พี่ทำเราจะบ้า ไปด้วย
ลุ้นนะว่าเมื่อไร กางเขนน้อย จะยอมถูกศร(รัก)เสียบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 17-08-2012 10:24:36
อยากหั้ยบินยอมรับไกรศรเร็วๆ
ถึงจะดูน่ารำคาญไปบ้าง แต่แอบรู้สึกว่า เค้าน่าจะรักใครรักจริง แต่แค่การกระทำบางอย่างดูเอาแต่ใจไปนิดก้อเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: mach201 ที่ 17-08-2012 11:17:45
พี่ศรสุดยอด นอกจากหน้ามึน(มาก)มุกจีบยังได้ใจ :-[
หวังว่าน้องบินจะมองเห็นความตั้งใจจริงของพี่ศรยอมใจอ่อนซะทีนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-08-2012 16:49:12
หวานรสกาแฟนะพี่ศร :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 10] 15/08/55 >P.35
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 17-08-2012 23:03:01
มุขจีบนายเอกแต่ละมุขในแต่ละเรื่องหวานหยดย้อยมว๊ากกกกกกกกก ไปเอามาจากไหนเนี่ยยยยยย555555

เรื่องแรก ช่วงแรกเรื่องเหมือนรักเกิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวจริงๆแหละ พอครึ่งเรื่องหลังพล็อตค่ยต่างหน่อย แต่สนุกดีจ๊ะ
เรื่องสอง ชอบมาก ตอนท้ายมาม่านิดๆ ทำเอาน้ำตาคลอแอร๊ยส์
เรื่องสาม สนุกดี แปลกๆ มึนๆ555รออ่านจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 18-08-2012 08:25:48
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 11


บินหาย...

ไม่รู้ว่าหายไปอยู่ไหน

เขารีบขับรถกลับไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านตอนเห็นว่าบินหลับ
พอกลับมาอีกที่คนป่วยที่ควรจะอยู่บนเตียงก็หายไปแล้ว

ไกรศรเดินทั่วโรงพยาบาลอย่างร้อนใจ
ถามหานางพยาบาลที่เฝ้าชั้นอยู่ก็บอกว่าไม่เห็น
โรงพยาบาลเอกชนภาษาอะไร ทำไมไม่หัดดูแลคนไข้ให้ดี
ถ้าไข้ขึ้นสูงหรือเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมากับบินแล้วใครจะรับผิดชอบ

ร่างสูงใหญ่บ่นหงุดหงิดในใจ
ลงลิฟต์มาถึงชั้นล่างสุด
คิดจะเดินเข้าไปหาตามร้านสะดวกซื้อ
เพราะบินอาจจะลงมาซื้ออะไรอยู่ก็ได้

แต่ยังไม่ทันได้เลี้ยวสายตากลับสะดุดเข้ากับบรรดาเก้าอี้นั่งรอคนไข้
ซึ่งตั้งเรียงรายอยู่ตรงด้านหน้า มีคนนั่งประปราย
และหนึ่งในนั้นก็คือคนที่เขากำลังตามหาอยู่ด้วย

“ซ้าย! ซ้าย! นั่นยังงั้น!
อ้าวเฮ้ย! แล้วทำไมคะแนนไม่ขึ้นเนี่ย
ลุงเห็นมั้ยว่าโดนอยู่ชัด ๆ
กรรมการตาบอดรึเปล่าวะ เซ็งฉิบหาย!”

เสียงคุยอย่างใส่อารมณ์ดังขึ้น
เมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้วงล้อมของกลุ่มชายสูงวัยสามสี่คน
ซึ่งนั่งเงยหน้ามองจอทีวีขนาดใหญ่บนผนัง
โดยมีชายหนุ่มในชุดคนป่วยนั่งตรงกลางจ้องจอทีวีตาไม่กระพริบ

“บินมาทำอะไรที่นี่”

คำถามที่ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังลุ้นเพลินๆ ต้องชะงัก
เหลือบมองคนมาเยือนแว๊บเดียวก่อนตอบสั้น ๆ

“ดูมวย”

“แล้วทำไมไม่ไปดูที่ห้องทีวีก็มี”

คำถามที่สองยังดังขึ้น
มิหนำซ้ำคนถามยังย้ายร่างของตัวเอง
มาหยุดยืนต่อหน้าอีกฝ่ายซึ่งยังคงทำที่เป็นไม่สนใจ

“ก็กูเบื่อ อยู่นี่มีเพื่อนคุยแก้เซ็งได้ตั้งเยอะแยะ
มึงหลบไปหน่อยดิ ยืนบังกู”

“ทำไมล่ะพี่ก็คุยเป็นเพื่อนบินได้”

คำถามที่สามตามมาติด ๆ อย่างไม่ลดละ
จนคนตอบส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างนึกรำคาญ

“อย่างมึงเนี่ยนะ มีแต่จะทำให้ยิ่งเซ็งกว่าเดิม”

“กลับเถอะบิน เดี๋ยวไข้ขึ้นอีกรอบนะ”

“มึงอย่ามายุ่งได้มั้ยวะ
คนกำลังดูมวยมันส์ๆ 
มึงจะไปไหนก็ไป แม่งเกะกะ!!”

บินหลาเอ่ยปากไล่อย่างชักเริ่มโมโห
ทว่า ไกรศรก็ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับ
พร้อมกับยืนยันในคำซ้ำ ๆ

“บินพี่บอกให้กลับ”

“ไม่เอากูไม่กลับ!!”

“ถ้าไม่กลับงั้นพี่จะอยู่ที่นี่แหละ”

“โอยย!! มึงจะอยู่ทำไมวะ
ไปไกล ๆ เลยไป๊!!
เหี้ยยย!! บังจอกูโว้ยยย!!”

คนหมดความอดทนลุกขึ้นตะโกนลั่นอย่างลืมตัว

...ทุกอย่างเงียบสนิทเมื่อสิ้นเสียง

สายตาหลายคู่ต่างจับจ้องพุ่งตรงมาที่เป้าหมายซึ่งยืนชะงักค้าง
ก่อนนางพยาบาลคนหนึ่งจะเดินเข้ามาเอ่ยเตือน

“ขอโทษนะคะ รบกวนอย่าส่งเสียงดังด้วยค่ะ”


....อายเลยมั้ยกู


บินหลารีบเก็บหน้าที่แตกของตัวเอง
เดินฉับ ๆ หลบสายตาผู้คน
ตรงขึ้นลิฟต์กลับห้องทันที

ซึ่งแน่นอนว่า...
ยังคงมีใครอีกคนเดินตามมาข้างหลังเป็นเงาตามตัวไปตลอดทาง
จนเขาได้แต่นึกคาดโทษไว้ในใจ

...ไอ้หน้ามึนนี่มันจะมายุ่งวุ่นวายอะไรกับเขากันหนักหนาวะ
แค่ลงมาดูมวยแค่เนี่ย ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้
ถึงจะมีไข้อยู่บ้างแต่มันก็เริ่มลดแล้ว
โชคดีที่ไม่มีเลือดออกตามช่องท้องหรืออวัยวะอื่น
หมอบอกว่าเพราะร่างกายเขาแข็งแรงพอสมควร
แต่ก็ยังต้องคอยเฝ้าระวังไว้จนกว่าจะหายดี

เขาเลยต้องทนนอนอุ้ดอู้อยู่ในห้องเฉย ๆ
แต่แค่สามวันก็เบื่อจะแย่อยู่แล้ว
ไอ้หน้ามึนที่อยู่ด้วยนี่ก็ไม่ได้ช่วยแก้เบื่ออะไรเลย
กลับจะทำให้ปวดหัวมากขึ้นกว่าเก่า
ตามติดเขาเหมือนผีขอส่วนบุญ
ไล่เท่าไรก็ไม่ยอมไป ไม่รู้ว่าคิดยังไงของมัน


“ถามจริง ตามกูทุกวัน มึงไม่เบื่อบ้างเหรอ”

ความสงสัยถูกกลั่นเป็นคำพูด
หลังจากที่เขาหย่อนตัวนั่งแหมะลงบนเตียงอย่างเซ็ง ๆ

“ไม่เบื่อหรอก อยู่กับแฟนจะเบื่อได้ยังไง”

...ไอ้คำนี้อีกแล้ว
เอะอะอะไรก็อ้างคำนี้ตลอด
เมื่อไรจะเลิกเหมาเอาเองสักทีวะ

“นี่กูต้องเคลียร์กับมึงอีกกี่รอบถึงจะเข้าใจห่ะ
กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ใช่แฟนมึง
อีกอย่างคนเป็นแฟนกันเขาไม่ทำกันแบบมึงหรอก”

คนฟังที่กำลังรินน้ำใส่แก้วชะงัก
ขมวดคิ้วถามอย่างงง ๆ

“พี่ไม่เหมือนแฟนบินเหรอ”

“เออ ถ้าไม่นับไอ้ที่ตามติดกันแบบนี้
กูก็ไม่เห็นว่ามึงจะทำตัวเหมือนแฟนกูตรงไหน”

บินหลาตอบไปอย่างที่ใจคิด
พลางเอื้อมมือรับน้ำที่อีกฝ่ายส่งมาให้ก่อนกระดกดื่มแก้กระหาย

“แล้วคนเป็นแฟนกันต้องทำแบบไหน”


คำถามที่ได้ยินทำเอาคนฟังต้องหยุดนิ่ง
นึกทบทวนอยู่ในใจ


เออว่ะ แบบไหนวะ
เขาเองก็ไม่เคยมีแฟนด้วยเหมือนกัน
คนเป็นแฟนกันนี่มันต้องทำอะไรบ้าง


...ต้องไปเดท ไปกินข้าว ดูหนังกันสองคน

อ้าว เขาก็มันไปกับมาแล้วนี่หว่า


...ต้องคอยพูดจาหวาน ๆ ให้กัน

อืม มันก็พูดสุภาพกับเขามาตลอด
แถมมีหยอดมุกเสี่ยว ๆ อีกต่างหาก


...ต้องคอยดูแล ห่วงใยกัน

มันก็ทำอยู่นี่ไงตอนเขาไม่สบาย


...ต้องหึงหวง อยากผูกมัดเป็นเจ้าของ

โห อันนี้ไม่ต้องพูด มันทำจนเวอร์เกินไปด้วยซ้ำ


ดวงตาคมมองแก้วน้ำในมือ
...ไม่ได้บอกว่าอยากได้สักคำ
แต่อีกคนกลับยื่นมาให้เหมือนรู้ใจ


เออ...สรุป...
ไอ้หน้ามึนมันทำหน้าที่เป็นแฟนทุกอย่าง


...แล้วเขาจะหาว่ามันทำตัวไม่เหมือนแฟนเขาตรงไหนกันวะ



“ว่าไงล่ะบิน พี่ต้องทำตัวแบบไหนให้เหมือนแฟนบิน”


ว่ะ!  ไอ้นี่ก็อย่าคาดคั้นสิโว้ย
กูกำลังคิดอยู่เห็นมั้ยเนี่ย
มึงเข้าใจกูบ้างมั้ย!!

เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน...


ใช่แล้ว...


นี่ไง...


“ก็...คนเป็นแฟนกันมันต้องเข้าใจกันด้วย
แต่นี่กูกับมึงไม่เห็นจะเข้าใจอะไรกันสักอย่าง
แบบนี้กูกับมึงเป็นแฟนกันไม่ได้ชัวร์ ๆ”

คนที่หาเหตุผลมาอธิบายจนเจอรีบตอบ
แต่คู่สนทนากลับไม่หยุดยิงคำถามซ้ำ

“บินไม่เข้าใจพี่ตรงไหนล่ะ
บอกพี่มาสิ เดี๋ยวพี่จะตอบให้บินเข้าใจเอง”

คนฟังกระพริบตาปริบ
นิ่งเงียบอีกครั้ง
เมื่อต้องเค้นสมองใคร่ครวญ


เออ แล้วเขาไม่เข้าใจมันตรงไหนวะ

เคยตั้งคำถามกับตัวเองมากมาย
ว่าเพราะอะไรมันถึงเป็นแบบนี้
ทั้ง ๆ ที่มันเปิดโอกาสให้ถามแล้ว


แต่แปลก...


...แปลกที่เขาไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน


ที่มันชอบทำมึน
ที่มันคอยเอาแต่ใจ
ก็เพราะว่ามันเป็นของมันแบบนี้

ถึงมันจะดูบ้า ๆ
ทำบางอย่างไปตามอารมณ์โดยไม่มีเหตุผล
แต่เขาก็ยังรับได้
จนเผลอเลยตามเลยกับมันไปทุกครั้ง

และที่สำคัญ
เขาเริ่มจะชินกับไอ้นิสัยนี้ของมันแล้วด้วย

เพราะฉะนั้น
จะถามไปให้ได้อะไรขึ้นมา
ในเมื่อเขาเข้าใจมันดีอยู่แล้ว

เอ๊ะ...

เดี๋ยว...


ตกลงเขาเข้าใจ
หรือไม่เข้าใจมันกันแน่วะ

แม่ง ชักงงตัวเองเว้ยย!!


บินหลาเริ่มสับสน
ยิ่งมองคนตรงหน้าที่เหมือนรอคอยคำตอบ
ก็ยิ่งทำให้คิดไม่ออกเข้าไปใหญ่
เลยตัดสินใจเลี่ยงเป็นฝ่ายถามกลับขึ้นแทน

“แล้วมึงอ่ะ เข้าใจกูเหรอ”

“เข้าใจสิ”

ไกรศรตอบขึ้นมาง่าย ๆ
จนทำให้คนฟังต้องเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อหู

ห่ะ อย่างมึงน่ะเหรอจะรู้
ตอนนี้กูยังไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าคิดยังไง
ไหนลองตอบมาให้ฟังดิ

“มึงเข้าใจว่าอะไร”

ร่างสูงยิ้มแล้วจึงเอ่ยอธิบาย
ด้วยถ้อยคำมากมายที่ทำให้คนฟังต้องนิ่งอึ้ง


“เข้าใจว่า...
ถึงพี่จะทำให้บินรำคาญแค่ไหน
บินก็ยังยอมให้พี่อยู่ข้าง ๆ
   
พี่รู้ว่า พี่อาจจะทำให้บินเหนื่อย
แต่บินก็ยังห่วงความรู้สึกพี่

บินคอยฟังคำขอของพี่
ไม่เคยเรียกร้องให้พี่ทำอะไรเพิ่มเลย

แล้วบินก็ทำให้พี่...
...รักบินเร็วกว่าที่พี่คิดไว้มากขึ้นทุกวัน”



อะ...


อะไร...


มันพูดอะไร...

เนี่ยเหรอคือสิ่งที่มึงเข้าใจ

ไม่ใช่แล้ว..

กูแค่อยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
มึงคิดเองเออเองทั้งนั้น
แม่งบ้าเปล่าวะ


เข้าใจผิดแล้ว

...มึงเข้าใจผิดเต็ม ๆ


เขากำลังจะอ้าปากเถียง
แต่เสียงบางเสียงกลับดังขึ้นขัดจังหวะ


ก๊อก.. ก๊อก..


“ขออนุญาตวัดไข้ค่ะ”

คำพูดพร้อมกับนางพยาบาลเดินเข้ามาในห้อง
ทำให้ไกรศรต้องผละไปนั่งบนโซฟา
ปล่อยให้คนมาใหม่จัดการกับคนป่วยบนเตียง

“ยื่นมือซ้ายมาเลยค่ะ”

บินหลาทำตามเพื่อให้พยาบาลวัดความดัน
แต่ทันทีที่ยื่นไปให้ เสียงเอ่ยแซวก็ดังขึ้นทันที

“อุ๊ย ใครมาแอบเขียนเป็นรูปหัวใจตรงนี้ด้วยค่ะ”

อ้าว...ลืมไปเลย
จะหลบก็หลบไม่ทันแล้ว
ถึงจะล้างน้ำแต่รอยปากกาบนหลังมือก็ยังคงเห็นจาง ๆ

เขาเหลือบมองอีกคนห่าง ๆ
มันทำท่าไม่ทุกข์ไม่ร้อน
หลังมือยังคงมีรอยปากการูปหัวใจเหมือนกัน
แต่มันไม่คิดที่จะซ้อนหรือหลบเลยสักนิด

“เรียบร้อยค่ะ ยังมีไข้ต่ำ ๆ อยู่บ้าง
ทานยาแล้วพักผ่อนเยอะ ๆ นะคะ”

นางพยาบาลบันทึกอาการพร้อมกับสั่งคนป่วย
ก่อนจะขอตัวเดินออกไปนอกห้อง
ทันทีที่สิ้นเสียงปิดประตู
คนบนโซฟาก็เดินเข้ามาใกล้เอ่ยท้วงขึ้นลอย ๆ

“แล้วที่ถามไว้ตอบได้หรือยัง”

“อะไร”

“ตกลงบินไม่เข้าใจพี่ตรงไหน”

มึงยังจะพูดเรื่องนี้อีกเหรอวะ
ที่มึงตอบไปเมื่อกี๊ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าคิดไปคนละทาง
แล้วยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ

บินขมวดคิ้วก่อนตัดสินใจตอบรวบรัด

“กูไม่เข้าใจมึงทั้งหมดนั้นแหละ”

“ทั้งหมดคือยังไง”

ไกรศรย้อนกลับอีกรอบ
ทว่า คราวนี้คนถูกเซ้าซี้เริ่มหมดความอดทน

“โอยยย กูไม่รู้โว้ยย!!
ไปคิดเอาเองไป๊!”

บินโวยวายล้มตัวลงนอนหันหลัง
เป็นการตัดบทสนทนาทันที
แต่อีกฝ่ายยังคงตื๊ออย่างไม่ยอมแพ้


“บิน....


บิน....”


“อะไรอีกวะ!”


เจ้าของชื่อหมุนตัวกลับมาอย่างหงุดหงิด
ในใจคิดว่าถ้ามันยังพูดเรื่องเดิมอีกจะไล่ไปนอกห้องจริง ๆ แล้ว

แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเงียบ
เดินเข้ามาใกล้นั่งลงบนเตียง
เอื้อมมือข้างที่มีรอยปากการูปหัวใจ
แตะลงเบา ๆ ที่มือซึ่งมีรอยเหมือนกันของเขา


ดวงตาที่สบมองทำให้บินต้องเผลอมองกลับ
และเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นมันอย่างชัดเจน


...มันเป็นแววตาที่ไม่ได้เด็ดเดี่ยว
แต่คล้ายจะอ่อนแสงลงเหมือนวอนขอ

...แววตาที่เต็มไปด้วยความจริงใจ
โดยไม่มีความสับสนใด ๆ สะท้อนอยู่ในนั้น



“พี่ไม่รู้ว่าพี่เป็นแฟนที่ดีที่สุดของบินหรือเปล่า

แต่สำหรับบิน...

....บินคือแฟนที่ดีที่สุดของพี่

พี่ชอบบินที่เป็นบินแบบนี้

แล้วพี่ก็ดีใจที่เราสองคนเป็นแฟนกัน”



คนฟังนิ่งงัน
เป็นอีกครั้งของวันที่เขาไม่รู้ว่าจะตอบมันว่ายังไง


สรุปแล้ว
มันจะนับเขาเป็นแฟนให้ได้ใช่มั้ย

เออ แฟนก็แฟนวะ
อยากเป็นนักเขาก็จะเป็นให้
ไหน ๆ มันก็ทำตัวใกล้เคียงอยู่แล้ว

ถ้าใครถาม  เขาจะได้ตอบว่า
...เขามีแฟนแล้ว

แต่อย่าถามต่อนะว่า เป็นแฟนกันได้ยังไง


...เพราะตอนนี้

เขาเองก็ไม่จะค่อยเข้าใจอยู่เหมือนกัน



------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



คอนเซปต์ของตอน
คุยกันมากขึ้นเข้าใจกันมากขึ้น (รึเปล่า?) *ฮา*

กลัวคนอ่านจะงง ไม่มึนกันไปก่อนใช่มั้ยคะ
เพราะทั้งน้องบินกับพี่ศรมันรู้ของมันเอง
เราเลยมีหน้าที่ต้องค่อย ๆ ทำความเข้าใจตามหลังมันไป

แต่คิดว่าต่อไปเรื่อย ๆ
จะเริ่มรับรู้เหตุผลของกันและกันมากขึ้น

ยังไงก็ฝากติดตามดูต่อไปนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ


:L2:


BitterSweet
 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: moon ที่ 18-08-2012 09:10:00
จริงแล้วคนที่มึนที่สุดนี่เราว่าน้องบินนะ555 รับเป็นแฟนกับพี่ศรแบบมึนๆ

แล้วเดี๋ยวก็รักพี่ศรแบบมึนๆด้วยใช่ไหม555

คู่นี้เค้าจะมึนกันมากขึ้นแต่เข้าใจกันกันมากขึ้นเนอะน่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-08-2012 09:28:50
สรุป บินยอมเป็นแฟนกับพี่ศรแล้วใช่ป่ะ

ตกลงใครมึนกว่าใครกันแน่ แต่ที่แน่ๆ คนอ่านก็มึน 5555

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-08-2012 09:40:29
ทำไมมันเข้าใจกันยากนัก เหมือนพี่ศรไม่ยอมรับรู้การปฎิเสธของบินนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-08-2012 09:40:56
 o18 เป็นแฟนกันแร้วววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-08-2012 09:46:24
คุยกันมากขึ้นแต่ก็ยังคงมึน  :laugh:

เอาน่ะบินหลายอมเป็นแฟนแล้วเนอะ  พี่ไกร(ศร)ก็สู้ๆนะคะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 18-08-2012 10:03:04
เอาน้ะบิน ลองเปนไปก่อนเด๋วก้อเข้าใจกันเอง  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >;P.36
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-08-2012 10:57:43
ก็ดีแล้วไง มีแฟนซะทีนะบิน อีกหน่อยคงดีขึ้นเองแหละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-08-2012 11:50:17
ไม่ใช่ว่าพอถึงวันที่บินเป็นแฟนแบบเข้าใจ แล้วพี่ศรก็มึนปฏิเสธนะจะโบกให้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 18-08-2012 11:55:53
ขอตอบตรงๆ ค่ะว่า มึน  มึนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก 
ตามความคิดสองคนนี้ไม่ทัน  ฮ่าาาาา
ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งโดนวิสกี้ออนเดอะร็อคกระแทกหัว  มึ๊นมึนจริงๆ


แต่ก็จะค่อยๆ ติดตามทำความเข้าใจกับสองคนนี้ต่อไป
และเชื่อว่า...สักวันเราจะเข้าใจความคิดสองคนนี้ค่ะ! 


แล้วสรุปน้องบินก็มีแฟนอย่างแท้จริง
ฮ่าาาา  แม้จะงงว่าเป็นแฟนกันได้ยังไงก็ตามที  แต่ก็มีแฟนแล้วนะเออว์


แล้วอย่าไปดื้อแพ่งกับพี่ศรมากๆ หละ  ไม่อยากมึนไปน้ำตาไหลไปนะบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 18-08-2012 11:58:45
เข้าใจกันได้สักที (?)

ตอนนี้น้องบินน่าร้าก :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 18-08-2012 12:03:53
อ้าวววว. บินนี่ก็ยังมึนอยู่่.  เมื่อไหร่จะรักกันน๊าาาาาาาา :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 18-08-2012 12:46:39
เราว่าตอนนี้คนที่มึนไม่ใช่พี่ศร หรือบิน  แต่จะเป็นคนอ่านมากกว่า  :z3:

ทั้งพี่ศร และบิน ต่างก็รู้ใจตัวเอง  พี่ศรบอกแล้วว่ารักบิน  แต่บินกลับไมกล้าที่เอ่ยคำว่ารักพี่ศร   บินรับรักพี่ศรเร็วๆ เถอะ คนอ่านอยากอ่านฉากหวานแล้ว  :z1:


กด + และ + เป็ด ให้กับคนเขียนที่เสิร์ฟเหล้าให้คนอ่านกินจนมึน  แต่คนอ่านก็ยังอยากกินเหล้าแก้วต่อไป เพราะมันอร่อย เอิ๊ก
 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 18-08-2012 12:52:51
ถึงจะมึนไปบ้างแต่ก็ด้วยความรักล้วนๆแน่นอน ถ้าเจอคนที่ดีต่อกันมากขนาดนี้ลองรับไว้พิจารณาก็ไม่เสียหายนะจ๊ะบินหลา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-08-2012 12:57:39
 o17

สรุปว่าบินยอมรับพี่ศรเป็นแฟนแล้วนะ?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 18-08-2012 13:17:20
ช่างเป็นคู่ที่ได้กันอย่างประหลาด แม้น้องบินอาจจะไม่ยอมรับ แต่ก็เข้าใจพี่ศรทุกอย่างนะเออ
ส่วนพี่ศร แม้เธอจะปากร้ายใส่  แต่พี่เค้าก็เข้าใจและรักจริง...
เวลาบินพูดแรง ๆ แอบกลัวพี่ศรเสียใจ พูดกับเค้าดี ๆ มั่งสิคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 18-08-2012 13:50:32
เอาหน่าาาาา ตอนนี้ก็เป็นแฟนกันแล้วหนิ
ถึงจะเป็นกันแบบมึนๆก็ตาม 55555  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 18-08-2012 14:03:18
พอบินยอมรับว่าเป็นแฟนกับพี่ศรแล้ว
จะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: charisma ที่ 18-08-2012 14:42:15
อ้าว. สรุปเปนแฟนแล้วอ่อ?
พี่ศรโคตตื้อเลยเหอะ แต่น่ารักดี ฮ้าๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-08-2012 14:57:33
ครึๆๆๆมึนต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 18-08-2012 17:47:07
งงกะไอคู่นี้จริง :really2:

มึนๆเมาๆสมชื่อเรื่อง 55555

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 18-08-2012 18:06:51
มึนจริงมึนจัง จนเราก็เม้นต์แบบมึนๆ
ตอนนี้ยังหยิบจับอะไรมาเม้นต์ไม่ค่อยเข้าที่ทางเพราะมึนเหมือนกัน ฮ่าาา

พี่ศรนี่ก็เจ้าพ่อมึน มึ๊น มึน อึด ทน ตื้อสุดยอด พูดเรื่องบินยอมให้พี่ศรอยู่ข้างๆ
ส่วนหนึ่งเราว่าก็จริง แต่อีกส่วนมันก็เพราะความที่พี่ศรไม่ยอมรับฟังบินไม่ใช่เหรอ
ไม่ว่าบินจะปฏิเสธยังไง พี่ศรก็จะทำตามแต่ใจตัวเองอยู่ดีนั่นแหละ
แบบที่คุณ nongrak คอมเม้นต์อ่ะ ใช่เลย คือคำว่า ไม่ยอมรับรู้

อันที่จริงพี่ศรแกก็เป็นคนดีคนหนึ่ง น้องบินจะรับไว้พิจารณาก็ไม่เสียหาย
แต่ก็อยากให้น้องแกหายมึนด้วยคน ไม่งั้นถ้าสมมติมีคนแบบพี่ศรอยู่ซักสามคนเข้ามาตื้อๆๆๆ
น้องมิต้องรับทุกคนเป็นแฟนด้วยแบบมึนๆเลยเรอะ เอ้อ คล้ายๆจะแบบ เลยตามเลย น่ะค่ะ

รอเฝ้าติดตามสถานการณ์ระหว่างสองคนนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 18-08-2012 18:32:01
เข้าใจกันมากขึ้นแล้ววววววววว!(เหรอ ?) 555555555
บางทีพี่ศรมันก็น่ารำคาญ(เกินไป) บางทีก็น่ารัก(แบบมึนๆ)
ถ้าเราเป็นน้องบินคงวีนแตกกระโดดถีบหน้าพี่ศรไปนาน(แบบไม่มึน)แล้ว! 5555555
แต่นี่น้องบิ่นบิ๊นก็มึนเหมือนกัน..เลยเข้ากันได้ <3 เพราะฉะนั้นเป็นแฟนกันแหละดีสุดแล้ว ><
ยอมรับซะเถอะน้องบิน 5555555555

แต่อ่านแล้วแอบคิดว่า....ถ้าตอนนั้นพี่ศรเลือกคนอื่นที่ไม่ใช่บินล่ะ ?
จะรักและดูแลเหมือนกันแบบนี้รึเปล่า UU
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Renze ที่ 18-08-2012 19:57:41
สมกับชื่อเรื่องมาก มึนตลอดเรื่อง แต่ไม่งงนะคะ
อารมณ์แบบนั่งดวดวิสกี้ ออน เดอะร็อคเลย

พี่ศรเขาก็ทำตัวเหมือนกับเป็นแฟนทุกอย่างเลยนะ
บินจะบอกว่าทำตัวไม่เหมือนแฟนได้ไง หึหึ
แต่สุดท้ายก็ยอมตกลงปลงใจเป็นแฟนแล้วใช่ไหมล่ะ
หลังจากโดนตีมึนมานาน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 18-08-2012 20:27:35
ความหน้ามึนของพี่ศรประสบความสำเร็จแล้ว
บินอ่อนใจ เอ้ย ใจอ่อนจนยอมเป็นแฟนในใจแล้ว
ฮี่ๆๆๆๆ
บินน่ารักอ่ะ พี่ศรฮาแตก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-08-2012 20:34:14
พูดกันมากขึ้นแต่ยังมึนเหมึอนเดิม 

 ดีใจแบบมึนๆๆกะพี่ศรน้องบินยอมเป็นแฟนแล้ว

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 18-08-2012 22:31:09
เขาเข้าใจกัน เราเลยต้องมาตามติดเพื่อความเข้าใจของเรา :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 19-08-2012 19:44:11
อ่านมาทั้ง 3 เรื่อง
ชอบทุกเรื่องเลย
 :-[
แต่เรื่องที่สามเนี่ยฮากว่าใครเพื่อน
เราว่าพี่ศรแม่งมึนสุดๆ
อย่างอื่นนี่ดีเลิศเลยนะ
แต่มันไมมันมึนจนเหมือนเอ๋อๆวะเนี่ย
สงสารบินก็สงสาร
ฮาก็ฮาจะแย่
เอาไงดีเนี่ย กร๊ากกกกกกกกกกกกกก
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 19-08-2012 20:16:15
สรุปว่ามึนกันทั้งคู่ คนนึงก็มึนตื๊อไม่บันยะบันยัง อีกคนก็รับรักไปแบบมึนๆ พอกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 19-08-2012 20:46:44
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 20-08-2012 10:11:59
เริ่มคุยกันเยอะแล้ว....แล้วก็เป็นแฟนกันแล้วววว (แบบงงๆ???)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 20-08-2012 13:40:57
น่าเห็นใจพี่ศร จริงๆ เลย  บิน ยอมเป็นแฟนแล้วเนี่ย  อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 20-08-2012 18:01:55
ค่อยๆ รักกันมึนมึน  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 20-08-2012 18:13:05
มึนกันไป มึนกันมา ตอนนี้เริ่มจะตกหลุมกันและกันทีละนิด น่ารักดีอ่ะ คู่นี้
 :o8: :-[ :impress2:

พี่ศรโรแมนติกอ่ะ มีเขียนลายหัวใจที่มือเหมือนกันด้วย
นึกไม่ออกจริงๆ ผู้ชายบึกบึนอย่างพี่ศรมาทำแบบนี้เนี่ย คงน่ารักดีพิลึก....
ไม่แปลกใจเลยที่บินจะไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่พี่ศรทำ แต่คงรับรู้ได้ถึงเจตนาและความรู้สึกที่ส่งมาล่ะนะ


+1 รอวันหนุ่มๆมีกล้ามทั้ง 2 คน รักกันแบบไม่มึนค่ะ


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: white choc~ ที่ 21-08-2012 17:21:26
บินหลา...ให้โอกาสนกตัว(ใหญ่)นี้ได้บินไปพร้อม ๆ กันไม่ได้หรอ ถึงแม้ว่ามันจะมึนไปบ้าง
อย่างน้อยเราก็มีผู้ร่วมทางนะ ไม่ต้องบินอย่างเหงาๆอยู่คนเดียว :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 11] 18/08/55 >P.36
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-08-2012 18:40:19
บินหลาเข้าใจอะไรยากจัง พี่ศรสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 22-08-2012 15:50:00

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 12



“นี่แผ่นสุดท้ายแล้วค่ะ”


ไกรศรเหลือบอ่านมองรายละเอียดในกระดาษเพียงชั่วครู่
ก่อนจะตวัดลายเซ็นลงบนช่องในชื่อของตัวเอง
แล้วจึงยื่นส่งไปให้เลขาสาวตรวจเช็คเอกสาร


“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณไกรศร ขอโทษที่ทำให้เสียเวลาด้วยนะคะ”


“ผมต่างหากล่ะครับที่ต้องขอโทษที่ไม่สะดวกเข้าไปในบริษัท
เลยต้องให้พวกคุณหอบงานมาให้เซ็นอนุมัติไกลถึงที่นี่”


ถ้อยคำพูดที่เต็มไปด้วยความเกรงใจ
ทำเอาผู้จัดการบริษัทที่มาด้วยกันต้องรีบบอกปฏิเสธ


“ไม่หรอกครับ คุณไกรศรอยู่ในช่วงลาพักอยู่แล้ว
พวกผมต่างหากที่สะเพราทำเอกสารผิดพลาด
เลยต้องให้คณะกรรมการผู้ถือหุ้นเซ็นใหม่ทั้งหมด”


“แล้วคณะกรรมการท่านอื่นว่ายังไงบ้างล่ะครับ”


“ก็โดนบ่นจนหูชานั้นแหละค่ะ
โดยเฉพาะท่านประธานแทบจะสั่งตัดเงินเดือนทั้งบริษัท อ่ะ...”


เสียงของเลขาสาวหยุดพูดในทันทีเมื่อโดนผู้จัดการสะกิด
ก่อนจะหน้าซีดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าประธานบริษัทที่เธอกำลังเมาส์
มีศักดิ์เป็นพ่อแท้ ๆ ของคนตรงหน้า
หากแต่ร่างสูงกลับไม่ถือสา ซ้ำยังหัวเราะเหมือนเห็นเป็นเรื่องปกติ


“ผมเข้าใจ พ่อก็เป็นแบบนี้แหละ
เดี๋ยวสักพักท่านก็หายโกรธเอง
อย่าไปซีเรียสกันมากนะครับ

เออ...ถ้าไม่มีอะไรแล้ว
ยังไงผมขออนุญาตขอตัวก่อน
ขากลับก็ขับรถระวัง ๆ กันด้วยนะครับ”


ไกรศรแสดงความเห็นใจอย่างไม่ถือตัว
ก่อนจะลุกเดินกลับขึ้นลิฟต์ของโรงพยาบาล

ทิ้งให้ลูกน้องใต้อาณัติทั้งสองคนส่งสายตาชื่นชมอยู่ด้านหลัง


...สมแล้วที่คนคนนี้เป็นถึงคณะกรรมการหนุ่มไฟแรง
ทั้งหน้าตา บุคลิก และการวางตัว
เหมาะสมกับตำแหน่งว่าที่ประธานบริษัทผู้ถือหุ้นอสังหาริมทรัพย์มากมาย
แม้อายุจะยังน้อยแต่ก็ทำให้เป็นที่เคารพรักของทุกคนได้ไม่ยาก


หากแต่ใครจะรู้ว่าผู้ชายสุดเพอร์เฟคผู้มัดใจลูกน้องไว้อยู่หมัด
แต่วิธีมัดหัวใจของคนที่ตัวเองรัก


...กลับทำไม่ได้เรื่องเลยสักนิดเดียว



ไกรศรรู้ดีว่าตัวเขานั้นเมื่อรักใครสักคนก็จะทุ่มเทลงไปทั้งใจ
ยิ่งแคร์มากก็ยิ่งหวงมาก
และความคาดหวังก็จะมากขึ้นไปตาม


หลายครั้งที่ดูเหมือนเขาเอาแต่ใจ
แต่ก็เพราะอยากแสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังมากแค่ไหน
อยากพยายามทำตัวเป็นแฟนที่ดี
ทว่าก็ยังอดไม่ได้ที่จะเผลอตัวบังคับนู้นนี้
แม้รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายรำคาญ


แต่จะโทษใครได้...


...เพราะแฟนเขาชอบทำตัวให้น่าห่วงอยู่เรื่อย


อย่างครั้งนี้ก็เหมือนกัน
เพราะทันทีที่ไกรศรเปิดประตูห้องพักพิเศษ
เขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียง
กลับไปนั่งให้ลมยามเย็นโกรกบนเก้าอี้พลาสติกข้างนอกระเบียงซะอย่างนั้น


“บินทำอะไรอยู่นะ”


“เรื่อยเปื่อย”


คนถูกถามตอบปัด ๆ อย่างไม่ใส่ใจ
ในมือถือดินสอจนขยุกขยิกลงในกระดาษ
ไม่ยอมเงยหน้าหันกลับมามองจนเขาต้องเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา


“แล้วทำไมมานั่งตรงระเบียงแบบนี้เดี๋ยวไข้ก็ขึ้นอีกรอบหรอก”


ร่างสูงถามซ้ำพลางเหลือบมองแขนขาของคนป่วยที่มีรอยจุดแดงๆ ขึ้นประปราย
ซึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากอาการไข้เลือดออก

ตอนเขาสังเกตเห็นครั้งแรกถึงกับตกใจต้องรีบตามหมอมาดูให้
เพราะกลัวว่าเลือดจะออกใต้ผิวหนัง
แต่หมอตรวจดูอาการแล้วไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงอะไร
ที่มันขึ้นแบบนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าบินกำลังจะหายในไม่ช้า
ถ้าไข้ลดลงเป็นปกติไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนคงออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
เขาเลยสั่งห้ามไม่ให้บินลงไปเดินเผ่นพ่านข้างล่างอีก

เจ้าตัวเหมือนจะเคืองอยู่เล็ก ๆ ที่โดนบังคับแถมยังโดนเขาเฝ้าอยู่ตลอด
แต่พอเขาเผลอลงไปคุยเรื่องงานแป๊บเดียว
กลับขึ้นมาอีกทีบินก็หาเรื่องให้จนได้


“บินฟังพี่อยู่รึเปล่า ไปนอนบนเตียงเถอะ”

ไกรศรพยายามลองบังคับอ้อม ๆ อีกครั้ง
ทว่าคนถูกสั่งกลับร้องโวยวายอย่างหมดความอดทน


“โอยย! เงียบ ๆ ได้มั้ย คนกำลังใช้สมาธิแต่งเพลงอยู่”

ถ้อยคำท้ายประโยคสะดุดหูจนคนฟังต้องเลิกคิ้วขึ้นถามซ้ำด้วยความแปลกใจ


“บินแต่งเพลงได้ด้วยเหรอ”

น้ำเสียงกึ่งไม่เชื่อที่ได้ยินทำให้ดวงตาคม ๆ ตวัดมองอย่างนึกเอาเรื่อง


“กูเรียนดนตรีมานะทำไมจะแต่งไม่ได้”


“งั้นแล้วทำไมไม่ไปแต่งเพลงในห้องล่ะ”


...มันวนมาเรื่องนี้อีกแล้ว

บินถอนหายใจอย่างระอาให้กับคนที่ชอบบังคับยิ่งกว่าหมอเฝ้าไข้
เจ้าตัวละมือจากกระดาษเงยหน้าขึ้นอธิบายความ


“แต่งในห้องมันจะได้แรงบันดาลใจอะไรวะ
ห้องก็เหลี่ยม ๆ แคบ ๆ
นั่งตรงนี้เห็นท้องฟ้า เห็นเมือง เห็นผู้คน
มองไปสักพักเดี๋ยวทำนองดี ๆ มันก็ไหลออกมาเอง”


ไกรศรพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ
ไอ้ห่วงก็ห่วงคนป่วยอยู่หรอก
แต่ขืนซักไซ้อีกรอบบินคงได้ลุกขึ้นมาอาละวาดอีกแน่
เขาเลยตัดสินใจเปลี่ยนเป็นถามเรื่องอื่น


“บินแต่งเพลงบ่อยรึเปล่า”


“แล้วแต่อารมณ์ บางทีกูเจอเรื่องอะไรเป็นความทรงจำดี ๆ ก็เอามาแต่ง”


“งั้นบินแต่งให้พี่เพลงหนึ่งได้มั้ย”


“เรื่องดิ แต่งเพลงไม่ใช่ง่าย ๆ นะโว้ย
มันต้องคิดทำนองให้โดน แล้วไหนจะคำร้องอีก”


“ไม่เห็นจะยากเลย ก็เอาเรื่องที่พวกเราเจอกันมาแต่งไง”


บินหลาเลิกคิ้วทำหน้าตาประหนึ่งว่ามึงพูดเล่นเปล่า


“เรื่องที่พวกเราเจอกันมันน่าจะเป็นความทรงจำดี ๆ ตรงไหน
เจอกันครั้งแรกมึงเมาอย่างกับหมา
น่าประทับใจตายห่าเลย
กินเหล้าให้น้อย ๆ หน่อยเถอะ
ถ้ากินจนคุมตัวเองไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน
เดี๋ยวหาเรื่องเดือดร้อนมาให้กูอีก”


ปากบ่นไปแต่ในคำบ่นก็ยังมีคำเตือน
จนคนโดนดุอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มต้องแกล้งถามกลับ


“ห่วงพี่เหรอ”


“ห่วงตัวเองมากกว่า”


คำตอบตรง ๆ แบบไม่รักษาน้ำใจคนฟัง
แต่แทนที่ร่างสูงจะโกรธกลับหัวเราะขำ


...นี่แหละบินแฟนเขา

พูดตรงเป็นที่หนึ่งจะตอบรับให้ชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้



“งั้นเดี๋ยวพี่จะแต่งเพลงให้บินเอง”


ไกรศรตัดสินใจคว้ากระดาษกับปากกาบนโต๊ะ
ลงมือเขียนเนื้อเพลง
ท่ามกลางสายตาของคนที่มองอยู่อย่างนึกเยาะ

มึงไม่รู้อะไรซะแล้ว   
แต่งเพลงไม่ใช่นึกจะเขียนอะไรมั่ว ๆ ก็ได้
มันต้องมีคำให้คล้องจองฟังง่ายจะได้ร้องแล้วติดหู
กูแต่งมาหลายปียังได้เพลงดี ๆ ไม่กี่เพลง
ทำเป็นพูดอวดเก่ง จะแน่สักแค่ไหนกันเชียววะ


“เสร็จแล้ว”


บินหลาสะดุ้งกำลังคิดเพลิน ๆ มันดันบอกว่าเสร็จแล้ว


“ยังไม่ถึงนาทีเลยเนี่ยนะ โม้เปล่า ไหนร้องให้ฟังดิ”


คนถูกท้าไม่รอช้า
หยิบกระดาษแล้วเปล่งเสียงทุ้มของตัวเอง
ตามเนื้อเพลงที่เพิ่งแต่งเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ


“บิน บิน บิน บิน บิน
น้องเคยเห็นบินหรือเปล่า
บินเขาน่ารักไม่เบา
มีแฟนคนหนึ่งชื่อว่าพี่ศร
มีแฟนคนหนึ่งชื่อว่าพี่ศร
พี่ศรรักบินคนเดียว”


อะ...

ไอ้ทำนองแบบนี้

มัน ‘เพลงช้าง’ ไม่ใช่เหรอ

ไอ้หน้ามึนแม่งมันเอาเพลงช้างมาดัดแปลงใสชื่อเขาเฉยเลย

แล้วดูคำร้องดิ คิดเข้าไปได้ยังไง บ้ารึเปล่า


“เพลงอะไรวะเนี่ย”


“เพลงรักไง”


“เพลงรักตรงไหน”


“ก็แต่งออกมาจากใจ
มันเลยเป็นเพลงรัก”


...เน่าเลยทีเดียว

เดี๋ยวนี้พอได้โอกาสมันแอบมีหยอดตลอด
ไอ้เรื่องรอยสักก็ที่หนึ่งแล้ว
ไหนจะมาเรื่องนี้อีก
ไม่ใช่ว่าชอบหรืออะไรหรอกนะ
ออกแนวขำซะมากกว่าที่มีคนมาคอยพูดเลี่ยน ๆ ใส่


แปลกดีเหมือนกัน

คนเป็นแฟนเขาทำกันอย่างนี้เหรอ?



“ขอดูที่บินแต่งบ้างสิ”


ไกรศรพยายามชะโงกตัวมองเนื้อเพลง
แต่อีกคนกลับรีบเบี่ยงตัวหลบ


“ไม่เอากูยังแต่งไม่เสร็จ”


“เถอะน่า นิดเดียวเอง”


คนตื้อไม่ละความพยายาม
ขยับเข้ามาใกล้หมายจะคว้ากระดาษที่คนนั่งซ่อนไว้ข้างหลัง
จนกลายเป็นว่าทั้งสองแทบจะคร่อมร่างเกยกัน
แต่ยังไม่ทันได้หยิบเนื้อเพลงสำเร็จ


เสียงเปิดประตูห้องกลับดังขึ้น
ก่อนเสียงอุทานอย่างตกใจจะตามมา


“อุ๊ย กูมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าเนี่ย
เชิญต่อได้เลยนะ เดี๋ยวกูเฝ้าหน้าห้องให้”


ไอ้เผือกพร้อมสมาชิกแก็งค์รีบทำท่าจะปิดประตู
แต่บินกลับดันร่างสูงใหญ่ออกห่างร้องโวยวายลั่น


“เฮ้ยไม่ใช่โว้ย!! กูกำลังแต่เพลงอยู่”


“โห แต่งเพลง ร้อยวันพันปีแต่งไม่เคยได้
พอมีแฟนปุ๊บแต่งได้ปั๊บ
เพลงไรวะ สงสัยจะฮาร์ดคอร์น่าดูต้องมีบิวอารมณ์กันด้วย”


“ถ้ามึงมาเพื่อกวนตีนกูกลับไปเลยไป”


“แหนะ เดี๋ยวนี้มีไล่
ใช่ซี๊... มึงมีแฟนแล้วนี่
เพื่อนก็เลยเป็นได้แค่หมาหัวเน่า”


คำหยอกแรง ๆ ที่ยังไม่หยุด
ทำเอาอารมณ์หงุดหงิดของคนฟังพวยพุ่ง
จนไอ้แมนที่ยืนอยู่ด้วยกันเห็นท่าไม่ดีจนต้องรีบเอ่ยปราม


“เผือกพอเถอะ ขืนล้ออีกเราว่าบินได้ทุ่มเก้าอี้มาแน่
คือว่าพวกเรามีธุระกับพี่ศรนิดหน่อย”


หัวข้อที่เปลี่ยนประเด็นทำให้บินเลิกคิ้วเอ่ยทวนคำงง ๆ


“ธุระ?”


“เออ กูขอยืมแฟนมึงแป๊บหนึ่งเดี๋ยวมาคืน
พี่ศรครับมากับผมหน่อย”


จบคำไอ้เผือกก็รีบลากร่างสูงใหญ่เดินออกไปนอกห้องทันที
โดยไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติม ทิ้งไอ้ต้นกับไอ้แมนไว้ในห้อง


แต่อย่าคิดว่าปัญหาจะหมด
เพราะดีกรีความเสือกของสองตัวนี่ก็ใช่ย่อย
ทันทีที่สิ้นเสียงปิดประตู เสียงจากไอ้ต้นก็ดังขึ้นทันควัน


“มึงเป็นแฟนกับพี่ศรเขาจริง ๆ เหรอวะ”


คำถามทะลุกลางปล้องแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทำเอาบินหลาที่เดินกลับมายังเตียงถึงกับชะงัก
แต่แค่เพียงแวบเดียว
ก่อนตัดสินใจพยักหน้าตอบกลับไปสั้น ๆ


“เออ”


แค่นั้นแหละ...
เสียงถามอย่างตกใจจากไอ้ต้นก็ดังลั่น


“จริงดิ! ตอนแรกกูนึกว่าไอ้เผือกมันอำเล่นเฉย ๆ
แต่พอเห็นพี่เขามาดูแลมึงอย่างนี้กูเลยตงิด ๆ
แม่งไม่อยากเชื่อว่ะว่ามึงเป็นเกย์”


“เฮ้ย กูไม่ได้เป็นเกย์”


“ไม่ได้เป็นอะไร มึงก็ผู้ชาย พี่ศรก็ผู้ชาย
แล้วเวลามีอะไรกันมึงจะรับให้เขาเหรอวะ
หรือจะผลัดสลับกันตามข้างขึ้นข้างแรม”


“เหี้ย!! กามแล้วมึง กูไม่ได้คิดถึงขั้นนั้น”


“อ้าว ถ้ามึงไม่ได้คิดแล้วตกลงคบเขาทำไม”


“ไม่รู้วะ อยู่ ๆ กูก็แค่คบมัน”


คำตอบที่วกวนสับสน
ทำเอาไอ้ต้นถึงกับขมวดคิ้วเกาหัวแกรก ๆ


“อะไรของมึงวะ กูงงกับคู่มึงนะเนี่ย
แล้วมึงรักเขาหรือเปล่า”


...รักเหรอ?


ถ้อยคำหนึ่งที่สะกิดในใจส่วนลึกของคนฟัง


...นั้นสิ เขาลืมมันไปได้ยังไงวะ
คนจะเป็นแฟนกันไม่ใช่แค่เข้าใจกัน
แต่ต้องรักกันด้วย


แล้ว...


...แล้วไอ้ความรักนี่มันต้องรู้สึกยังไง


ต้องใจเต้น ต้องหน้าร้อน


...ก็ไม่นี่


เขาไม่เคยรู้สึกอะไรเลย
อยากกอดรึก็เปล่า
อยากจูบเนี่ยเลิกคิดไปได้เลย
หึงสักนิดก็ไม่มี


...สรุปแล้วเขารักไอ้พี่ศรรึเปล่า?



...รัก


หรือว่า


...ไม่ได้รัก


แล้วรักคืออะไร?

แค่ไหนที่จะรู้สึกว่ารักกัน?



เขาไม่รู้....


...ไม่รู้เลยจริง ๆ



บินหลาจมดิ่งในห้วงความคิดนิ่งเงียบอย่างนั้น
กระทั่งคนรอคำตอบอยู่นานต้องเอ่ยแซว


“ไม่ตอบอย่างนี้แสดงว่ารักอ่ะดิ”


“ไม่ใช่...กูแค่...แค่...”


คำพูดอึกอักไม่จบประโยคทำให้ไอ้ต้นต้องหันไปสบตาไอ้แมน
ซึ่งยังคงยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ เหมือนจะถามความเห็น
ก่อนคนฉลาดสุดในกลุ่มจะถอนหายใจ
เดาประเมินสถานการณ์เพื่อนรักออกมาด้วยน้ำเสียงเชิงถาม


“เราไม่รู้หรอกว่าบินไปตกลงคบกับพี่ศรยังไง
แต่เราว่าบินกำลังสับสนอยู่นะ
บินตอบใจตัวเองดี ๆ ก่อนว่า
ที่เป็นแฟนกับพี่ศรมันเพราะอะไร

เพราะอยู่ใกล้กันเลยหวั่นไหว
หรือว่าเพราะรักพี่ศรจริง ๆ”


ยิ่งได้ยินคนฟังก็นิ่งเงียบกว่าเดิมเหมือนนิ่งอึ้ง
กระทั้งไอ้ต้นต้องรีบสะกิดเตือน


“ไอ้แมนแม่งไซโคอีกแล้ว
เดี๋ยวบินมันก็ได้ไข้ขึ้นอีกรอบพอดี
ที่จริงกูไม่อยากให้มึงคิดมากหรอกนะ
แค่ห่วงมึง เพื่อนจะมีแฟนทั้งที่ก็อยากให้ได้กันดี ๆ”


บินพยักหน้ารับ แต่ยังไม่ทันที่จะตอบว่าอะไร
เสียงเปิดประตูพร้อมกับคำเร่งจากไอ้เผือกก็ดังขัดจังหวะสนทนา


“เรียบร้อยแล้วไปกันยัง”


“เออ เดี๋ยวกูไป”


ไอ้ต้นตะโกนตอบกลับ
ก่อนตบบ่านักร้องนำของวงพร้อมฝากคำพูดทิ้งท้าย


“ถ้ามึงมีอะไรก็ปรึกษาพวกกูได้นะ”


เอ่ยให้กำลังใจเพียงแค่นั้น
แล้วเพื่อนทั้งหลายจึงพากันยกขบวนกลับไป
ทิ้งให้เขาอยู่กับใครอีกคนในห้องเพียงลำพังเหมือนเช่นเดิม


ดวงตาคมเหลือบมองแผ่นกระดาษที่อยู่ในมือ
ตัวอักษรของเนื้อเพลงบ้าๆ
ทว่ายังคงเห็นมันอย่างชัดเจน


...พี่ศรรักบินคนเดียว


คำว่ารักในกระดาษที่มันเขียนมาง่าย ๆ
ก็คงอาจเป็นได้แค่คำพูดเล่น ๆ
ที่มันเฝ้าบอกเขาหลายต่อหลายครั้ง


มันแน่อยู่แล้ว...

เพราะคนเราจะไปรักกันเร็วขนาดนั้นได้ยังไง
เจอกันไม่ถึงอาทิตย์
ความผูกพันอะไรกันไม่เคยจะมี
แค่มาทำดีด้วย แค่มาพูดหวาน ๆ ใส่
ก็จะเรียกว่ารักแล้วเหรอ


เรื่องคบกันเป็นแฟนนี่ก็เหมือนกัน
ไอ้หน้ามึนมันอาจจะแค่คิดเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร
แล้วเขาก็ดันเลยตามเลยไปกับสถานการณ์


“เพราะว่าอยู่ใกล้กันเลยหวั่นไหว
หรือว่าเพราะรักพี่ศรจริง ๆ”




....ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ ไอ้แมน



กูไม่ได้หวั่นไหว

คำว่ารักกูก็ยังไม่เข้าใจ

กูเลยตอบคำถามมึงไม่ได้



...มันก็แค่นั่นเอง


------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 22-08-2012 16:05:47
เป็นแฟนกันเพราะอะไร? ...เพราะอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่มันถูกบดบังด้วยความมึน ฮ่า (ยังคงมีคำว่ามึนอยู่ในคอมเม้นต์)
คิดว่าน้องบินน่าจะสามารถหาคำตอบได้ในเร็ววันนี้
และฮามากกกกับเพลงที่พี่ศรแต่ง กร๊ากกกกกกกก ขำตั้งแต่ บิน บิน บิน... แล้ว
เราร้องตามด้วยนะเออ แหม พี่ศรนี่เจ๋งจริงๆ ทำให้ทั้งยิ้ม(กว้างๆ)และขำได้ขนาดนี้
 :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-08-2012 16:08:51
มึนสมคอนเซ็ปเรื่องจริงๆค่ะ

เอาล่ะสิคราวนี้บินเริ่มหาคำตอบแล้ว  ไม่รู้จะออกหัวออกก้อย

ได้แต่ลุ้นตามกันไป   :L2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 22-08-2012 16:09:19
หาทางเข้าหัวใจตัวเองไม่ถูกเหรอกางเขนน้อย
พี่ศรเข้าไปนั่งรอแล้วนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 22-08-2012 16:16:11
อีน้องบินนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
ไม่หวั่นไหวเลยเรอะ  พี่ศรออกจะฮาขนาดนั้น
ออกแนวสงสารพี่ศรนะเนี่ย
แต่อย่างว่าแหละ  มันไวไปจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >;P.37
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-08-2012 16:28:03
ใช้ใจตอบสิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-08-2012 17:04:05
 :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 22-08-2012 17:11:35
บินไม่หวั่นไหวกับพี่ศรสักนิดเลยเหรอ -.,-

 :jul1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-08-2012 17:24:28
และแล้วบินก็กลับไปมึนเหมือนเดิม  - -"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: Renze ที่ 22-08-2012 18:22:12
บินเริ่มฉลาด...หรือเริ่มสับสน

รีบหาคำตอบให้ได้ไวๆนะบิน เอาใจช่วยพี่ศร
ไหนๆพี่แกอุตส่าห์เทหมดหน้าตัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 22-08-2012 18:36:14
เอาใจช่วยให้น้องบินหาคำตอบทีตรงกับใจได้เร็วๆ

พี่ศรสู้ๆๆนะ

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-08-2012 18:51:11
พี่ศรแกมุขเยอะเหมือนกันนะเนี่ย นึกว่าจะเป็นคนขรึมๆซะอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 22-08-2012 19:00:43
สงสารใครดีว้า
 :sad4:
บินน้อยหอยสังข์ก็ไม่เคยรู้จักความรัก
ไอ้พี่ศรก็ทำเหมือนตัวเองเข้าใจความรัก
แต่คนอ่านว่าทั้งคู่ยังไม่เจอหรอกว่าความรักมันเป็นยังไงแน่
เอาเป็นให้เวลาช่วยในการเรียนรู้ละกันนะ
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 22-08-2012 20:19:24
มึนๆ งงๆ
เมื่อไหร่เค้าจะรักกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: white choc~ ที่ 22-08-2012 20:32:08
ใช่ มันอาจจะเร็วเกินไปที่จะให้บินตอบว่ารักหรือไม่รักพี่ศร
ให้เวลามันเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า หากความจริงใจที่พี่ศรตั้งใจที่จะมอบให้กับบินจริง ๆ
ความรู้สึกที่ส่งถึงและบินยินดีรับมันไว้ด้วยหัวใจ เมื่อถึงเวลานั้นบินก็จะตอบมันได้เต็มปากว่า"รัก"หรือ"ไม่รัก"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 22-08-2012 22:05:50
เหมือนบินจะเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว
แต่กลับมีปัญหาใหม่เข้ามา ทำให้ต้องคิดมากและสับสนอีก
คิดถึงพี่ศรมากขึ้นนี้ เดี๋ยวก็ชินกับการมีพี่ศรอยู่ใกล้ๆ แล้วดิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 22-08-2012 22:23:03
ถ้ายังรักกันแบบมึนๆ

มันจะไปซักกี่น้ำเนี่ย :m31:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-08-2012 01:15:34
พี่ศรรู้เข้าคงน้อยใจแย่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 23-08-2012 02:48:59
ตกลงพี่ศรรักบินแล้วเหรอ ?? อ่านเรื่องนี้แล้วมันมึนวุ้ย! 5555555555

ตอนแรกๆหวานมากกกกก เขินมากกกกก >///<
พี่ศรน่ารักอ่ะ xD

แต่พอมาหลังๆเจอดราม่าน้องบินอีก...
แต่ก็จริงนะ! น้องบินรักพี่ศรรึยัง ? ยังไม่ค่อยจะหวั่นไหวเลยยย UU
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-08-2012 08:20:18
สับสนอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 23-08-2012 08:38:25
เวลาเท่านั้น ที่จะบอกได้ว่า รักรึเปล่า

แต่เชื่อว่า ทั้งคู่น่าจะมีความรู้สึกดีๆให้กันบ้างแล้วไม่มากก็น้อย
แม้มันจะมาพร้อมกับความมึนๆงงๆก็เถอะ

รอลุ้นต่อไปค่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-08-2012 09:49:46
บิน ยังคงสับสนต่อไป  ในขณะที่พี่ศร ก็มุ่งมั่นกับความรักของแกต่อไป   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 23-08-2012 13:13:49
บรรายากาศยังขมุกขมัวอยู่นิดๆนะ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-08-2012 13:22:45
ไกรศรยังคงความมึน
อย่างต่อเนื่อง :laugh:
เอาใจช่วยให้บิน
เลิกสับสนไวไว :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-08-2012 15:10:11
จนป่านนี่้แล้วยังไม่ได้คำตอบสักทีเลย
สงสัยบินยังคงคิดไม่ตก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 23-08-2012 15:35:28
บินหลาก็มึนเหมือนพี่ศร
คงอย่างนั้น เพราะว่าบินยังไม่รู้จัึกความรักเลย
จะไปเข้าใจความรักได้ไง
นี่เอง มันถึงได้แต่งเพลงไม่ได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-08-2012 21:18:16
แล้วคนอ่านก็มึนต่อไป    บินคงต้องลองถามใจตัวเองว่ารู้สึกยังไงกับพี่ศรกันแน่  เพราะตอนนี้บินก็ยังดูมึนๆ อยู่ว่าตัวเองคิดยังไงกันแน่  แต่ก็ดันยอมรับกับเพื่อนว่าเป็นแฟนกับพี่ศร

:m20: กับเพลงรักของพี่ศร  เข้าใจเอาเพลงช้างมาเปลี่ยนเนื้อเพลงเนอะ  ขนาดบินยังอึ้งกิมกี่เลย   


กด + และ + เป็ด ให้คนเขียน รอช๊อตต่อไป ว่าจะมึนกว่าเดิมหรือเปล่า :z3:
 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 23-08-2012 22:14:58
อ๋อยยย ยิ่งอ่านยิ่งมึน  ยิ่งมึนก็ยิ่งอยากรู้ว

น้องบินรู้แล้วว่าไม่ได้รักพี่ศร... หรือว่ารักไปแล้วแต่ไม่รู้ตัว
แต่ก็อย่างว่าว่าเจอกันแค่ไม่เท่าไรจะรักกันได้ยังไง 

ว่าแต่เพื่อนบินเรียกพี่ศรไปทำไมกันเนี่ย  เป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ไม่รู้

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 24-08-2012 03:37:32
อ่านตอนแรกน่ารักจังเลย
กำลังพอดี กลมกล่อมมากๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 24-08-2012 09:16:44
เพราะบินไม่เคยรักผู้ชายเลยต้องหั้ยเวลาบินหน่อย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: charisma ที่ 25-08-2012 05:49:25
ขอมึนด้วยคน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 12] 22/08/55 >P.37
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 25-08-2012 22:01:15
 :really2: :really2: :really2: :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 26-08-2012 15:26:24
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks



ช็อตที่ 13
   


...หกวันเต็ม   

สิริรวมเบ็ดเสร็จที่บินหลาใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาล
ถ้านานกว่านี้อีกนิดจะยึดมันเป็นบ้านแล้ว
แต่คงจะนานกว่านี้มาก ๆ ไม่ได้เพราะไม่มีปัญญาจ่ายค่าห้อง
โรงพยาบาลเอกชนอะไรวะถึงได้ราคาแพงระยับ
เปิดห้องนอนทีไม่ต่างอะไรจากโรงแรมเลย

ต้องโทษไอ้หน้ามึนคนเดียว
ตอนเขาเป็นลมเสือกไม่ไปพาไปส่งโรงพยาบาลรัฐ
ดันลากมาที่นี้ แล้วเขาจะมีปัญญาที่ไหนไปจ่าย 
พอจะไปเคลียร์ค่าห้องกะขอผ่อนเขาซะหน่อย
เจ้าหน้าที่กลับบอกว่าไอ้หน้ามึนมันจัดการจ่ายให้หมดแล้ว

เออ ลืมไปว่ามันรวยนี่เนอะ
มีแฟนรวยเหมือนกูเป็นเด็กป๋าเลยวะ
ค่าห้องเป็นหมื่นจ่ายให้เรียบร้อยแบบนี้
ใจปล้ำมากเลยป๋า


แล้วดู...
ยังจะขับบีอัมดับบลิวคันโก้มาอวดศักดาจอดรออยู่หน้าโรงพยาบาลอีก
ไม่เห็นหรือไงว่าคนมองกันเต็มแล้ว
ไม่ใช่ว่าชมรถนะ แต่คงมองงง ๆ
ว่าทำไมถึงมาจอดรับคนเพิ่งหายป่วยหน้าตาสภาพโทรมยับเยินสวนราคารถได้ขนาดนี้


“บินขึ้นรถสิ”


ไม่ต้องตะโกนเร่งก็ได้
แค่นี้ก็เด่นจะตายห่าอยู่แล้ว

บินถอนหายใจหน่าย ๆ เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง
ทันทีที่คาดเข็มขัดเรียบร้อย
เสียงคนขับก็ร้องถาม


“หิวรึยัง เดี๋ยวพี่พาไปกินข้าวนะ
บินอยากกินอะไรมั้ย”


“อะไรก็ได้”


ตอบกลับส่งเดชไปงั้น ๆ
เพราะเดี๋ยวมันก็ต้องพาบังคับไปกินนู้นนี้อยู่ดี
แล้วก็ผิดจากที่คิดไว้ที่ไหน
ระดับป๋าข้าวแกงข้างทางไม่มี ต้องกินข้าวบนห้างเท่านั้น

ไอ้หน้ามึนมันจอดรถเดินนำเขามาเรื่อย ๆ
ตอนแรกคิดว่าจะกินร้านอาหารญี่ปุ่นเหมือนเคย
แต่กลับเดินเลี้ยวเข้าเอ็มเคไปซะอย่างนั้น


“เอานี่แหละ บินเพิ่งหาย
กินอะไรที่มันต้ม ๆ ดีกว่า
สั่งได้เลยนะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง"


เลี้ยงอีกแล้ว
เอะอะเลี้ยงตลอด รู้แล้วว่าป๋าโคตรรวยเลย
แต่ป๋าควรจะเหลือส่วนที่เป็นศักดิ์ศรีให้กูบ้างได้มั้ย


“ไม่ต้องเลี้ยงหรอก กูช่วยหาร
แล้วค่ารักษา เดี๋ยวกูค่อยทยอยจ่ายให้นะ”


“ไม่ต้อง พี่เคยบอกแล้วไงว่าแฟนพี่พี่เลี้ยงได้”


“กูก็เคยบอกเหมือนกันว่า
กูไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร”


คนฟังชะงักเงยหน้าขึ้นมาจากเมนูมองคนตรงข้าม
เงียบไปแป๊บหนึ่งก่อนพยักหน้าบอกเบา ๆ


“อืม งั้นก็ได้ ตามใจบิน”


โห อะไรวะเพิ่งเคยได้ยิน
มันบอกว่าตามใจเขา
ปกติต้องตื๊อไม่ยอมแล้ว
มาแปลกเว้ยวันนี้

แม้ในใจจะยังงง ๆ แต่เขาก็ก้มหน้าก้มตาสั่งอาหาร
โดยเลือกเมนูที่ไม่แพงมากตามงบในกระเป๋าตังค์
รู้งี้ตอนมันถามว่ากินอะไร ตอบออกไปว่าข้าวแกงเจ๊วรรณธรรมดาซะก็ดี
จะได้ไม่ต้องมาเสียตังค์แพง ๆ

...แม่ง ซวยเลยกู


คิดอย่างหงุดหงิดใจแต่ก็เลือกสั่งอาหารไปสี่ห้าอย่าง
เพียงไม่นานถาดสุกี้มากมายก็ทยอยมาวาง
ไกรศรจัดการเทของสดลงในหม้อ
ส่วนบินคว้าถ้วยน้ำจิ้ม เตรียมกระหน่ำใส่ปรุงให้แซ่บตามรสโปรด
แต่ยังไม่ทันได้เติมพริกกลับถูกใครบางคนดึงถ้วยเอาไว้
แล้วจัดการบีบมะนาว กระเทียม คนให้เสร็จสรรพ
โดยไม่มีพริกกระเด็นลงไปในถ้วยสักเม็ด


“มึงจะทำอะไรเนี่ย เอาถ้วยน้ำจิ้มกูคืนมาเลย”


“บินเพิ่งหายอย่ากินเผ็ดมากเลยนะ”


น่านไง...
ว่าจะดีอยู่แป๊บ ๆ มันกลับมาบังคับกันอีกแล้ว


“เรื่องของกู”


เขาตอบเสียงห้วน แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมคืน
ซ้ำยังพูดเสียงอ่อนลงคล้ายจะวอนขออยู่ในที


“เชื่อพี่เถอะนะ”


ดวงตาคมสบมองร่างสูงนิ่ง
ซึ่งคนตรงข้ามก็มองตอบกลับมา


...ไม่รู้ว่าอะไรว่าคิดไปเองรึเปล่า
เขาถึงได้มองเห็นความห่วงใยสะท้อนอยู่ในแววตานั้นมากกว่าการบังคับขู่เข็ญ
จนท้ายที่สุดก็ต้องพยักหน้ารับด้วยความจำยอม


“เออ”


เพียงแค่นั้นคนฟังก็ยิ้มกว้าง ส่งถ้วยน้ำจิ้มคืน
แล้วหันไปกลับไปตักเครื่องที่ต้มสุกแล้วใส่ถ้วย
ส่งให้บินหลาที่นั่งรออยู่เฉย ๆ


...ทั้ง ๆ ที่มันเอาแต่ใจอย่างทุกที
แต่แปลกที่เขากลับยอมทำตามมันไปโดยไม่ฝืน
หรือเพราะรู้อยู่แล้วว่ามันหวังดี
ทุกการกระทำสัมผัสได้ว่ามันห่วงเขา


...เพราะอะไร?


หรือเพราะเขาทั้งคู่อยู่ในสถานะที่เป็น ‘แฟน’ กัน



“อ้าว ไม่กินล่ะบิน จะเอาอะไรเพิ่มมั้ย เดี๋ยวพี่ตักให้”


คนถูกทักหลุดจากภวังค์รีบส่ายหน้า
ก้มลงเทน้ำจิ้มลงในถ้วย
คนแล้วตักซดน้ำซุปเข้าปาก
ความจริงไอ้รสอ่อน ๆ แบบนี้ไม่ค่อยถูกใจเท่าไร
แต่พอลองเปลี่ยนดูบ้าง


...มันก็อร่อยดีอยู่เหมือนกัน




ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกินสุกี้กันอิ่มหนำเรียบร้อย
แน่นอนว่ามื้อนี้บินต้องงัดเงินก้อนสุดท้ายมาจ่ายจนหมดกระเป๋า
ยังไม่ทันสิ้นเดือนเลย งบที่จำกัดไว้เล่นใช้ซะเกลี้ยงแล้ว
...หมดกันเงินเก็บกู


“บินจะไปไหนต่อรึเปล่า ดูหนังมั้ย”


“ดูได้ที่ไหน เนื้อตัวกูมีอยู่ยี่สิบบาทเนี่ย”


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เลี้ย....”


ประโยคถูกหยุดไว้แค่นั่น
เพราะคนพูดนึกขึ้นได้ว่าเจ้าตัวไม่ชอบให้คนอื่นจ่ายให้
แม้จะเสียดายแต่สุดท้ายร่างสูงก็ต้องตัดใจ
เอ่ยเลี่ยงเปลี่ยนเป็นตัวเลือกอื่นแทน


“งั้นไม่ดูก็ได้กลับกันเถอะนะ”


“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูแวะธนาคารกดตังค์แป๊บหนึ่ง”


คำปฏิเสธสั้นๆ
ทว่า ไกรศรต้องหันมองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา


...นึกว่าบินจะเบื่อเขา แล้วเลี่ยงขอกลับบ้าน

แต่ีที่ไหนได้...
กลับยอมออกเงินเองเพื่อมาดูหนังด้วยกัน

แบบนี้มันดีใจยิ่งกว่าที่เขาจ่ายค่าหนังให้บินเสียอีก

เพิ่งรู้ว่าคนมาเดทไม่จำเป็นต้องเลี้ยงอีกฝ่าย
แค่ช่วยแชร์ก็สุขใจได้ง่าย ๆ เหมือนกัน


ไกรศรมองซ้ายขวาเดินตามบินหาธนาคาร
จนเห็นมันเปิดอยู่ชั้นสองข้าง ๆ ร้านขายหนังสือ
เขารออยู่ข้างหน้าปล่อยให้บินเข้าไปกดตังค์
แต่ระหว่างนั้นเสียงของใครบางคนกลับเอ่ยทัก


“นั่นไกรศรรึเปล่า”


เจ้าของชื่อหันตามเสียงเรียก
ก่อนจะรีบยกมือไหว้เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เป็นใคร


“สวัสดีครับ ลุงภาคย์สบายดีเหรอครับ”


“อืม สบายดี ไม่ได้เจอตั้งนาน
โตขึ้นมากเลยนะเรา แล้วนี่เป็นไง
ใกล้บริหารแทนพ่อเรารึยัง”


“ยังหรอกครับ ฝีมือยังห่าง คงต้องรออีกหลายปี”


ร่างสูงยิ้มตอบรับญาติผู้ใหญ่ที่นับถือ
ก่อนจะรู้สึกถึงแรงสะกิดจากด้านหลัง
เขาหันกลับไปมองเห็นบินพึมพำพลางพยักเพยิดไปร้านข้าง ๆ


“กูไปรอในร้านหนังสือนะ”


“เดี๋ยวบิน....”


แม้คนถูกรั้งได้ยินเสียงเรียก แต่ได้ไม่ทันแล้ว
เพราะเขาเดินลิ่วเข้าร้านไปเรียบร้อย
เรื่องอะไรจะอยู่ให้เกะกะ เห็นอยู่ว่ากำลังคุยธุระ
สู้เข้ามายืนอ่านข่าวฆ่าเวลาอยู่ในร้านซะดีกว่า


คนรอหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่านผ่านๆ
ทว่า ดวงตาคมกลับเหลือบมองผ่านกระจกใสออกไปหน้าร้านเป็นระยะ


โห คนคุยด้วยกับมันท่าทางอาเสี่ยไม่เบา
ไอ้หน้ามึนนี่รู้จักแต่กับคนรวย ๆ เนอะ
แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าไม่มีความสามารถด้วยคงไม่ได้เงินมาง่าย ๆ
คราวที่แล้วไอ้เผือกยังชมว่ามันเก่งเรื่องหุ้นอย่างนู้นอย่างนี้
ทั้ง ๆ ที่อายุมันเหมือนจะห่างจากเขาไม่เท่าไร
แต่ดูท่าทางบุคลิกเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขาเยอะ
ดูเป็นผู้นำพึ่งพาได้ไปซะทุกอย่าง


...เพราะแบบนี้รึเปล่า


...พอรู้ตัวอีกที เขาถึงยอมปล่อยให้มันมาคอยมาดูแลอยู่ข้าง ๆ กาย




“พี่ค่ะ”


เสียงเรียกทำเอาคนคิดเพลิน ๆ สะดุ้ง
ดึงสติของตัวเองหันกลับมามอง
แล้วก็ต้องอึ้งเมื่อเห็นคนทัก

เด็กผู้หญิงผมตัดสั้นเท่าติ่งหู
ดูยังไงก็คงเรียนไม่พ้นมัธยมต้น
แต่ใส่เสื้อยืดตัวบางโชว์ชั้นในสีชมพูแป๊ด
กับกางเกงยีนต์ขาสั้นกุดล่อตาจระเข้

แต่สำหรับจระเข้อย่างบินแล้ว
ต่อให้เห็นเนื้อแบบนี้มาวางก็คงกินไม่ลง
ทว่า เขาก็ยังคงถามกลับไปตามมารยาท


“ครับ มีอะไรครับ”


“ขอเบอร์หน่อยได้มั้ยคะ
พอดีเพื่อนหนูเขาชอบอยากคุยด้วย”


สาวน้อยบุ๊ยปากสีแดงเหมือนเพิ่งไปดื่มเลือดสด ๆ
ไปยังเพื่อนสี่ห้านางที่ยืนแอบอยู่ข้างชั้นหนังสือไม่ไกล
ซึ่งลักษณะท่าทางก็หาได้แตกต่างจากยานแม่ตรงหน้า
มันยิ่งทำให้เขาไม่รีรอที่จะตอบกลับ


“ขอโทษนะ พี่มีแฟนแล้ว”


คนฟังเบิกตาที่กรีดอายไลเนอร์อย่างตกใจ
แต่ก็ไม่วายจะย้ำถามซ้ำให้แน่ใจ


“จริงเหรอคะพี่”


“จริงครับ”



...ใช่ เขามีแฟนแล้วชื่อพี่ศร

ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน
แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกว่าไอ้หน้ามึนดีกว่าเด็กผู้หญิงกลุ่มนี้

ไม่ใช่ว่าจะดูถูกเรื่องมากหรืออะไร
เพราะเขาก็เคยถูกจีบอยู่บ่อย ๆ 
เป็นนักร้องนำเล่นดนตรีในผับ
มีสาว ๆ เสนอตัวด้วยตั้งมากมาย
ถูกใจก็หิ้วกลับ วันไนท์แสตนเสร็จต่างคนต่างไป
แต่ไม่เคยมีใครคิดจะระบุสถานะว่าเป็นแฟนสักครั้ง

คงมีแต่ไอ้หน้ามึนนี่แหละ ไม่รู้ว่ามายังไง
พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นแฟนมัน


....แฟน


ที่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันใช่ความสัมพันธ์ตามความหมายรึเปล่า

หรือแค่เพราะถูกผูกมัดด้วยคำคำนี้เอาไว้


...เลยทำให้เราสองคนไปจากกันและกันไม่ได้เสียที



“ว้า...มีแฟนแล้วเสียดายจัง
งั้นไม่เป็นไรค่ะ หนูไปนะคะ

อีจุ๊บแจงงงง เขามีแฟนแล้วย่ะ
อดแดกเลยเมิงงงง!!”


ท้ายประโยคน้องสุดเปรี้ยวหันไปตะโกนบอกกลุ่มเพื่อน
ซึ่งส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างไม่อายใคร
จนคนถูกจีบแทบจะอยากเดินออกนอกร้านเสียแทน
แต่ยังไม่ทันหมุนตัวกลับ ใครคนหนึ่งก็เดินมาหยุดด้านหน้า


“คนรู้จักหรอ”


ร่างสูงถาม ดวงตามองเลยไปยังกลุ่มสาว ๆ ที่ยังคงจับกลุ่มคุยกันไม่ไกล


“เปล่า เพิ่งเจอกัน เขามาขอเบอร์”



ไกรศรชะงักเมื่อได้ยินคำตอบ
ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นมาในใจ


...ก็รู้อยู่แล้วว่าบินดูดี ตาคม หน้าหล่อ
ขนาดใส่เสื้อยืดธรรมดา ๆ ยังเท่ห์ได้เลย
มันก็ไม่แปลกหรอกที่บินจะมีคนมาจีบ

บินมีเสน่ห์เสมอไม่ว่าจะร้องเพลงบนเวทีหรือว่ายืนอยู่เฉย ๆ
ยิ่งรู้จักก็ยิ่งประทับใจมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทั้งอ่อนโยน ทั้งใจดี 
จนเขากลัวว่าจะมีใครต่อใครมาแย่ง


...กลัวว่าประวัติศาสตร์เดิมมันจะกลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง



“บินชอบเขามั้ย”


คำถามดังขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาคนฟังขมวดคิ้ว


“ห่ะ มึงบ้าเปล่า
ก็บอกว่าเพิ่งเจอกันเมื่อกี๊กูจะไปชอบได้ไง”


“ได้สิ ที่น้องเขาเจอบินเมื่อกี๊ยังชอบบินได้เลย”


คำอธิบายทำให้คนข้างกายต้องหันมอง
เริ่มหงุดหงิดกับสิ่งที่ได้ยิน


...ไอ้หน้ามึนมันพูดเพ้อเจ้อบ้าบออะไรวะ
ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์บอกน้องเขาไปว่ากูมีแฟนแล้ว
แฟนกูก็มึงยืนอยู่ทนโท่นี่ไม่ใช่รึไง

แล้วยังจะตื๊อถามอะไรอยู่ได้
หรือมันอยากจะให้เขาได้กับน้องคนนั้น
ถึงยัดเหยียดตรรกะปัญญาอ่อนมาแบบนี้


ตกลงจะมึงจะเอายังไงกันแน่วะ!!


แม่งงง น่ารำคาญโว้ยย!!



บินไม่ตอบคำ
แต่รีบก้าวพรวดออกมาจากร้านหนังสือทันที
จนไกรศรแทบจะเอ่ยรั้งถามไว้ไม่ทัน


“บินจะไปไหน”


“กลับหอ”


“อ้าว แล้วหนังล่ะ”


“ไม่เอาแล้ว กูจะกลับ”


เขาตอบเสียงห้วนอย่างหงุดหงิด
ไม่รู้ว่าหงุดหงิดเพราะอะไร


...เพราะตัวเอง


...หรือเพราะใคร


แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้เขาไม่อยากจะยุ่งกับมันแล้ว



บินเปิดประตูขึ้นรถ
ให้สารถีขับไปส่งโดยไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำ


เพียงไม่นานรถบีเอ็มคันหรูก็มาจอดนิ่งอยู่หน้าหอ
ไกรศรทำท่าจะเปิดประตูลงไป
แต่กลับมีเสียงห้ามเอาไว้


“มึงไม่ต้องตามขึ้นมาได้มั้ย”


คำที่ได้ยินทำเอาคนฟังใจร่วง
รีบร้องถามอย่างมึนงง


“ทำไมล่ะ บินโกรธอะไรพี่เหรอ”


“กูไม่ได้โกรธ”


“งั้นแล้วทำไม”


“กูแค่อยากอยู่คนเดียว”


“แต่ว่า...”


“โอยยย!!! อย่ามาถามมากได้มั้ยวะ
มึงจะตามกูมาตลอดเวลาเลยรึไง!!
แม่งง น่ารำคาญโว้ยยย!!”



สิ้นเสียงตะโกนอย่างหมดความอดทน...


...ภายในรถเงียบสนิท



ไกรศรนิ่งงัน
มองคนข้างตัวที่ยังคงเบือนหน้าหนี
ไม่หันกลับมาสบตาตนเองแม้เพียงนิด


“อือ พี่เข้าใจแล้ว”


คนตัวโตเอ่ยเพียงสั้น ๆ ปิดประตูรถให้เข้าที
รอให้อีกคนเดินออกไป ก่อนขับหายไปตามถนน
ปล่อยให้บินเดินขึ้นห้องตามลำพังอย่างโล่งใจ


...ดี ไปได้ซะก็ดีแล้ว

คราวนี้ เขาจะได้มีเวลาเป็นส่วนตัวซะที



บินหลาไขกุญแจเปิดประตูห้องที่ไม่ได้เข้ามาเกือบอาทิตย์
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม โต๊ะ ตู้ เตียง

บรรยากาศเดิม ๆ


...นี่คือโลกใบเดิมของเขา



เปิดทีวีแล้วทิ้งตัวลงนอน
หยิบรีโมทขึ้นมากดเปลี่ยนช่อง
เปลี่ยนช่องไปเรื่อย ๆ จนครบกว่าร้อยช่อง
แต่กลับไม่เข้าหัวเลยสักเรื่อง
เพราะตาดูไป แต่สมองกลับคิดไปไกลถึงเรื่องอื่น
ตัดสินใจปิดมันดื้อ ๆ เพราะไม่มีอะไรน่าสน


ลุกขึ้นไปหยิบกีตาร์ที่วางพิงพนัง
ตั้งใจจะฝึกเพลงที่เพิ่งแกะ
แต่ก็เล่นเกาโน้ตไปได้นิดหน่อยก็วางทิ้ง


หยิบกระดาษมาจะแต่งเพลง
ทว่า กลับไม่มีอารมณ์เขียน



...เบื่อ



....ทำไมมันถึงได้น่าเบื่อแบบนี้วะ



เมื่อก่อนก็อยู่คนเดียวแต่ไม่เห็นว่ามันจะน่าเบื่อขนาดนี้
หรือเพราะเขาชินกับการที่ต้องมีใครมาอยู่ข้าง ๆ


แค่คิด...

หน้ามึน ๆ ของใครบางคนก็ลอยมาวนเวียนเข้ามาในหัว



...เมื่อกี๊พูดรุนแรงไปรึเปล่านะ

มันอุตส่าห์ขับรถมาส่งแต่ดันไล่กลับไปซะอย่างนั้น
ก็ความผิดมันนี่หว่า มาตามติดกันตลอดแบบนี้
มาทำตัววุ่นวายให้น่ารำคาญ ถูกเขาไล่มันก็สมควรแล้ว


เห็นมั้ย...

ขนาดตัวไม่อยู่ มันยังมาป้วนเปี้ยนในความคิดได้เลย
แล้วจะไม่ให้บอกว่ามันน่ารำคาญได้ยังไง


...แฟนที่ไหนเขาทำตัวกันแบบนี้กันบ้าง


...แฟนที่ไหนถึงมาทำให้อีกคนต้องคิดมากขนาดนี้



ช่วยบอกกูทีเถอะ...ไอ้พี่ศร



...มึงเป็นแฟนบ้าบอภาษาอะไรกัน



------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-08-2012 15:38:32
หว่า ไหงเป็นงี้อีกแล้วอ่ะ

สงสารพี่ศรจังเลย  :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 26-08-2012 15:45:34
เข้าใจบินนะ ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวบ้าง ไม่ใช่มาติดกันเป็นเงาตามตัว
แต่ .... ที่พูดไปอะ มันแรงไปหน่อยนะ  :z3:
แอบน้ำตาซึมเบาเบา สงสารพี่ศรอะ ฮรืออออออออออออออออออออออ  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 26-08-2012 15:47:18
โว๊ะะะะะแอบขัดใจอ้ะ :m16: คนนี้ก็มึน. คนนั้นก็มึน. คนอ่านก็มึนไปหมดแล้วเนี่ยยยยยย... :m31: แง่งงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 26-08-2012 15:49:22
พี่ศรคะ ดีใจเหอะ บินเค้าเอาแต่คิดถึงพี่แล้วล่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-08-2012 16:09:02
สงสารพี่ศร  :dont2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-08-2012 16:15:29
 :really2: :really2:อ้าว!!!มึนกันต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 26-08-2012 16:19:34
ง่าาาาา... บินใจร้ายกับพี่ศรอ่ะ  :sad4:

แอบเสียดายที่พี่ศรไม่ได้ยินตอนที่บินตอบน้องๆกลุ่มนั้นว่า "มีแฟนแล้ว"
เลยทำให้เคืองใจกันเลย ถ้าพี่ศรได้ยินคงไปหวานต่อกันในโรงหนังเรียบร้อยแล้วป่านนี้
แต่เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน บินอาจจะรู้ใจตัวเองได้บ้าง

บินจ๋า ถ้าเบื่อมากๆ ก็โทรหาพี่ศรเลยนะ

ขอบคุณคนแต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: white choc~ ที่ 26-08-2012 16:35:10
บินเปิดใจแล้ว เพียงแต่ยังไม่ยอมรับความจริงเท่านั้นเอง สงสารพี่ศรที่ยังต้องพยายามต่อไป  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-08-2012 17:06:44
พี่ศรต้องทำใจนะ คบบินก็แบบนี้แหละ
ไว้เมื่อไรบินไม่แทนตัวเองว่า กู  ค่อยมีหวัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Renze ที่ 26-08-2012 17:16:54
สงสารพี่ศร พี่ศรพยายามปรับตัว พยายามเข้าใจบิน
แต่บินดูยังไม่่ค่อยเข้าใจตัวเองและพี่ศรเท่าไหร่

สู้สู้ ความรักคือการเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 26-08-2012 17:21:59
มีแต่คนสงสารพี่ศร
ใช่ว่าบินจะไม่น่าสงสารเลย
รายนี้ก็อาการหนัก สับสนหัวใจอยู่เนี่ยะ
มีอาการหงุดหงิด น้อยใจพี่ศรอยู่ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 26-08-2012 17:22:50
สู้ต่อไปนะพี่ศร  คบน้องบินต้องพยายามเข้าใจนะ


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-08-2012 18:02:13
อ่าววว  ทำไมไม่คุยกันดีๆล่ะ

บางทีบินก็ปากหนักไปนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 26-08-2012 18:15:27
เอาใจช่วยพี่ศร  มึนต่อไปพี่เดี๋ยวดีเอง  :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 26-08-2012 18:34:17
 :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 26-08-2012 18:44:15
ไม่แปลกเลยที่บินจะสับสนอยู่ดี ๆ ก็มีแฟนเป็นผู้ชายแบบไม่ทันตั้งตัว
โดนบุกจู่โจมมาขนาดนี้ ยอมรับเป็นแฟนได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
แต่อีกไม่นานคงใจอ่อนยวบเป็นแฟนกันด้วยใจจริง ๆ เอง
ก็พี่ศรทั้งเอาใจใส่ ใส่ใจ ดูแลกันดีแบบนี้ ไม่รักก็บ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 26-08-2012 18:50:47
บินแม่งเอาแต่ใจตัวเองงงงงงงงงงงงงงง
พี่ศรเอาใจขนาดนี้  ยังจะเอาไรอีกกกกกกก

*เข้าข้างพี่ศรสุดๆ*  55555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 26-08-2012 19:40:54
แล้วคนอ่านก็มึนต่อไป  :z3:  บินค่อยๆ ที่จะเริ่มรู้ใจตัวเอง แต่ก็คงต้องการเวลา และความเป็นส่วนตัวบ้าง ขอเวลาคิด ตรึกตรองอีกนิด  แต่วันนี้น้องบินดูจะหงุดหงิด พูดแรงกับพี่ศรเกินไปป่าวค่ะ  ระวังนะไล่พี่ศรไปแล้ว พี่ศรไม่กลับมาน้องบินจะหนาวนะคะ   

 :monkeysad: พี่ศร  ถ้าบินตอบรักเมื่อไรคงมีเพลงรักที่แต่งให้พี่ศรได้ฟังแน่ 

+ และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ  รอช๊อตต่อไป 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 26-08-2012 20:47:01
เหมือนจะหวานแล้วนะ!!!!!!! แต่ทำไมจบแบบนี้เล่า T__T
บินไม่เข้าใจจจ! พี่ศรไม่ได้จะยัดเยียดบินให้ยัยเด็กสก๊อยนั่นซักหน่อย! พี่ศรมันหึง(โว้ยยย!)
น้องบินชอบพี่ศรแล้วใช่มั้ยยยย ?? ><
แหมม มีงงมีเหงา 55555555555555+
รู้ใจตัวเองเร็วๆนะ XDD
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-08-2012 21:58:07
ปากหนักและปากร้ายน่าดูเลยนะบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >;P.39
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 26-08-2012 22:17:42
ง่ะ มึนใส่กันอีกแล้ว!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: chaaom ที่ 26-08-2012 23:42:58
ถึงตอนนี้ทั้งสองคนจะไม่เข้าใจกัน แต่เราเชื่อว่าอะไรๆ กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ นะ
บินเองก็เปิดใจมากขึ้น555 พี่ศรเองก็พยายามปรับตัวเข้าหา เข้าใจบินมากกว่าเดิม
เอาใจช่วยกับทั้งสองคน  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-08-2012 12:48:46
เห็นหนทางแล้ว เหมือนบินจะเริ่มรู้ใจตัวเอง
นี่ขนาดเป็นแฟนแบบมึนๆยังตอบคนอื่นแบบไม่ลังเลว่ามีแฟนแล้ว มีจุดยืนของตัวเองมากๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-08-2012 13:32:27
มึนๆๆงงงงกันต่อไป :a6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 27-08-2012 14:28:11
บินรู้ตัวไหมเนี้ยะว่าทำให้พี่ศรน้อยใจ
เริ่มมีใจให้พี่ศรบ้างแล้วใช่ไหมละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 27-08-2012 15:08:57
ง้อพี่ศรหน่อยสิน้องบิน...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 27-08-2012 18:54:43
บินก็น่าจะบอกพี่ศรไปเล้ยว่าพูดกับน้องคนนั้นยังไง ส่วนพี่ศรก็ถามดื้อ ๆ เพราะความหวงอ่ะเนอะ
ถ้าพี่ศรรู้ว่าบินบอกว่ามีแฟนแล้วนะแกคงดีใจแย่...นั่นกลับบ้านไปเสียใจมั้ยนั่น
ขอให้ไม่คิดมากแล้วกลับมาหน้ามึนเหมือนเดิมนะคะ...เชียร์สุดใจค่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 13] 26/08/55 >P.39
เริ่มหัวข้อโดย: ฮาเดส ที่ 27-08-2012 18:58:45
บินใจร้ายไปมั้ยอ่ะะ  :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 28-08-2012 23:08:08
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 14



ตี๊ดดดด.... ตี๊ดดดด....


อือ...


เสียงอะไรวะ


บินหลางึมงำกับตัวเอง เอื้อมมือควานสะเปะสะปะ
หยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งยังคงสั่นไม่หยุดอยู่บนหัวเตียง
กดรับ กรอกเสียงลงไป ทั้ง ๆ ที่ตายังคงปิดสนิทซุกอยู่กับหมอน


“ฮัลโหล ว่าไงคร้าบบ...”


“เฮ้ยบิน มึงว่างเปล่า”


ไอ้เผือกเพื่อนรักถามมาตามสาย
ส่วนเขาเองก็ตอบกลับไปตามความจริง


“ไม่ว่าง กูนอนอยู่”


“เออ งั้นมึงตื่นได้แล้ว
วันนี้พี่ไผ่เขาติดธุระ
มาช่วยร้องแทนมึงไม่ได้
มึงต้องมาร้องเอง”


คำสั่งสายฟ้าแลบทำให้คนฟังเผลอขมวดคิ้ว

โห...ไรวะ คนเพิ่งหายป่วยคิดจะใช้ยันเลย
แต่จะไม่ไปก็ใช่ที่
รู้ ๆ กันอยู่ว่าทำงานเท่ากับมีเงิน
แล้วเขาต้องรีบหาให้ได้เยอะ ๆ
เพื่อไปใช้หนี้ค่าโรงพยาบาลไอ้หน้ามึนด้วย


คนมีภาระค้ำคอถอนหายใจเซ็ง
ถามกลับไปอย่างหน่าย ๆ


“ที่ไหน กี่โมง”


“ร้านเฮียเอก ทุ่มหนึ่ง”


เขาเงยหน้าออกจากหมอน สะลึมสะลือมองนาฬิกา
แล้วก็แทบจะสะดุ้งตื่นเต็มตา
เมื่อพบว่าเข็มยาวชี้อยู่เลขสิบเอ็ด
ส่วนเข็มสั้นใกล้จนแนบเลขเจ็ด


“เฮ้ย! มันอีกห้านาทีไม่ใช่เร๊อะ!!”


“ใช่มั้ง มึงก็รีบมาล่ะกัน แค่นี้นะ”



ตื๊ดดด.... ตี๊ดดดด...

วางสายไปแล้ว
สมคอนเซปต์มาเร็วเคลมเร็ว
แต่ช่วยถามกูสักนิดก็ดีว่า
จะเร็วตามมึงทันมั้ย


“ไอ้ควายเผือกกกก!!!”


เขาสบถสาปส่งกับโทรศัพท์ทิ้งท้าย
ก่อนรีบพุ่งไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็วทำลายสถิติ
แล้ววิ่งโกยแนบข้ามตึกไปอีกสองตึก


โชคดีที่ร้านเฮียอยู่ใกล้แค่นี้
เพราะมอเตอร์ไซต์ของเขายังจอดคาร้านไอ้เผือกอยู่เลย
ต้องโทษไอ้หน้ามึนที่ปล่อยให้เขาไปไหนมาไหนโดยนั่งรถมัน
ถึงจะเป็นรถหรูแค่ไหน แต่ตราบใดที่คนขับไม่ใช่เขา
ก็นับได้ว่าไม่มีประโยชน์อยู่ดีนั้นแหละ




บินเปิดประตูร้านเข้าไปอย่างเร่งรีบ
พลางกวาดตามองบนเวที
เห็นสมาชิกวงกำลังเช็คซาวน์เตรียมพร้อมอยู่แล้ว
เขาจึงเดินตามไปสมทบข้างหลัง
ปากก็ตะโกนถามมือกีตาร์ที่โทรเร่งตาม


“กูมาแล้ว ไมค์อยู่ไหนวะ”


“ไมค์อยู่ตรงบาร์”


คนฟังชะงักกึก
เบรกเท้าที่กำลังจะเหยียบขึ้นเวที
ขมวดคิ้วร้องถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ


“ห่ะ? มึงว่าไมค์อยู่ตรงไหนนะ”


“ไมค์อยู่ตรงบาร์เหล้า
พี่เขายืมไปใช้
มึงไปตามเอาเองแล้วกัน”


คำตอบที่ย้ำชัดเจนอีกรอบทำเอาดวงตาคมกระพริบปริบ

เออ...มันใช่ที่ที่ควรอยู่มั้ย
ทำไมไปอยู่ตรงนั่นได้วะ
หรือพี่เขาจะเอาไมค์ไปผสมเหล้ารึไง


“ไปสิมึง เดี๋ยวก็เริ่มแล้ว”


คนที่ยังคงงงได้ยินเสียงตะโกนเร่ง
แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิด
เขารีบเดินตรงไปยังเคาท์เตอร์บาร์เหล้าที่อยู่ห่างเวทีไปไม่ไกล
พร้อมกับร้องถามหาสิ่งที่ต้องการ


“พี่ครับ ขอไมค์ผมหน่อยครับ”


บาร์เทนเดอร์ชายวัยกลางคนละสายตาจากแก้วเหล้า
เงยหน้าขึ้นมองก่อนถามกลับอย่างงง ๆ


“ไมค์อะไรน้อง”


“ไมโครโฟนไงพี่ ผมจะขึ้นไปร้องเพลง””


เขาขยายความซ้ำ แต่คู่สนทนากลับยังทำหน้างงไม่เลิก


“ไม่ได้อยู่ที่พี่นะ”


“อ้าว แล้วมันอยู่ไหนอ่ะ”


ตอนนี้เป็นบินเองที่เริ่มงงบ้างแล้ว

ไหนไอ้เผือกบอกว่าอยู่ที่บาร์เหล้าไงวะ
แล้วตกลงมันอะไรกันแน่เนี่ย!?


ยังไม่ทันจะได้สงสัยต่อ
คำตอบกลับลอยมาตรงหน้า
เมื่อพี่บาร์เทนเดอร์ชี้นิ้วผ่านเลยไปด้านหลัง


“ไมค์มันอยู่ที่นักร้องบนเวทีแล้วไม่ใช่เหรอ”


...นักร้องไหน

ก็เขานี่ไงนักร้อง


หรือว่า...


บินหลาหันกลับไปมองทันที
และก็ต้องนิ่งอึ้ง
เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ท่ามกลางไฟสลัว

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร
เจ้าของไมค์หน้ามึน ๆ แบบนี้

มีเพียงคนเดียว


...ไอ้พี่ศร



ทะ...


ทำไมถึงไปอยู่บนนั่นได้...


คำถามมากมายผุดขึ้นในห้วงความคิด
หากแต่คำเฉลย
กลับกลายเป็นเสียงดนตรีที่ค่อย ๆ ดังขึ้นเป็นทำนองเพลงเบา ๆ
พร้อม ๆ กับแสงสปอร์ตไลท์เริ่มส่องสว่างรวมจุดไปยังตรงกลางเวที
คีย์บอร์ดซึ่งถูกเล่นโดยมือเบสแว่วผ่านเมโลดี้แผ่วหวานของเพลงที่ไม่คุ้นหู
ก่อนร่างสูงจะพูดกรอกลงตามไมค์ให้ได้ยินกันทั่วร้าน


“เพลงนี้ผมขอมอบให้คนสำคัญของผมครับ”



ถ้อยคำกำกวม...

ทว่าสายตาของคนบนเวที
กลับมองตรงมายังเขาที่กำลังยืนมึนงงอยู่หน้าเคาท์เตอร์บาร์เหล้าอย่างแน่วแน่
เหมือนต้องการจะย้ำชัดว่า คนสำคัญคนนั้นคือใคร


และเพียงไม่นานเสียงทุ้มนุ่มก็ร้องผ่านออกมาเป็นเพลง




เพลง....




...ซึ่งทำให้บินต้องนิ่งฟังอยู่อย่างนั้น




http://www.youtube.com/v/qoXzVYynZ4g?




“ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้และไม่เข้าใจ
ว่าทำไมต้องรักเธอ ไม่เข้าใจ
เหตุผลฉันก็ไม่มี ก็รู้ว่ามันไม่ดี
ที่ไม่อาจควบคุมจิตใจตัวเอง

คำว่ารัก มันบงการให้ฉันทำไป
แม้มันจะเจ็บ ก็ยังจะรัก

ผิดไหม...หากรักเธอฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีฉันควรหยุดใจตัวเอง
หรือต้องทำใจไม่คิดอะไร หรือควรทำอย่างไร

เธอ...บอกฉันทีฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีให้ฉันได้เจอความจริงให้ฉันทำใจ
เลิกหวังไปไกล และรับความจริงเสียที

สุดท้ายไม่รู้เป็นไง ที่รู้ที่ฉันเข้าใจ
คือวันนี้ฉันรักเธอ รักล้นใจ
จากนี้ฉันต้องทำไง ก็ยังไม่รู้จริงจริง
ยังไม่เจอหนทางใดให้เดินไป

คำว่ารัก มันบงการให้ฉันทำไป
แม้มันจะเจ็บ ก็ยังจะรัก

ผิดไหม หากรักเธอฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีฉันควรหยุดใจตัวเอง
หรือต้องทำใจไม่คิดอะไรหรือควรทำอย่างไร

เธอ...บอกฉันทีฉันทำผิดไหม
บอกฉันทีให้ฉันได้เจอความจริงให้ฉันทำใจ
เลิกหวังไปไกล และรับความจริงเสียที...”



เนื้อเพลงจบลง
ทว่าคำพูดของคนร้องยังคงดังขึ้นเป็นคำสุดท้าย



“สุขสันต์วันเกิดนะครับ บิน”



...สุขสันต์วันเกิด?



วันเกิดใคร...


วันเกิดเขา...



เออว่ะ ใช่...



วันเกิด!!



เฮ้ย!! เขาลืมไปได้ไงวะเนี่ย
วันสำคัญขนาดนี้ไม่น่าพลาดเลยนี่หว่า
แต่ให้ทำไงได้
เพราะช่วงนี้มัวแต่เจออะไรยุ่ง ๆ


ไหนจะไม่สบาย...

แล้วไหนจะต้องมาวุ่นวายกับใครบางคนอีก


ใครบางคน....


ที่เพิ่งร้องเพลงจบไปบนเวที



...ผิดไหมที่ฉันรักเธอ


เพลงอะไรวะ
ร้องออกมาได้ยังไง
น้ำเน่าฉิบหาย
ถามออกมาได้ว่าทำผิดไหม


เออ!

เขาจะบอกให้ก็ได้ว่ามันผิด


ผิด...




...ที่ทำให้เขาไม่กล้าเงยหน้ามองขึ้นไปบนเวทีแบบนี้ไงเล่า!!




บินหลารีบหมุนตัวกลับไปยังบาร์เหล้าทันที
นึกหงุดหงิดใจที่ตัวเองตกหลุมพรางไอ้เผือก


โดนหลอกเสียสนิทเลยกู
มันตั้งใจให้ไอ้หน้ามึนมาร้องเพลงอยู่แล้วนี่หว่า
แล้วดันปล่อยให้เขามาถามหาไมโครโฟนตรงบาร์ซะได้

แม่ง ไอ้ควายเผือกทำแสบนัก!!



“วู้ววว!! เจ้าของวันเกิดอยู่ไหนวะ
มานั่งนี่เร็วววว
พวกกูสั่งอาหารไว้รอแล้วววว”


เสียงตัวการจอมวางแผนตะโกนดังข้ามร้านขัดความคิด
แค่ได้ยินว่ามีอาหารไว้รอ
ท้องเจ้ากรรมก็ร้องตามขึ้นทันที
อยากจะทำเป็นหงุดหงิดใส่นักหรอก
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องจำใจ
เดินไปนั่งโต๊ะที่มีกับข้าวเสิร์ฟพร้อมรอเรียบร้อย
เหมือนรู้เวลาที่วงจะเลิกเล่น


เอ๊ะ...


แล้วอยู่ดี ๆ มันเลิกเฉยเลยได้ไงวะ



“ทำไมไม่ไปเล่นต่อล่ะ”


บินรีบถามทันทีที่ลากเก้าอี้นั่ง
ไอ้เผือกแค่ยักไหล่ ตอบคำขณะเทเบียร์เย็น ๆ ลงแก้ว


“วันนี้ไม่มีคิว กูไปขอแทรกเขามาเฉย ๆ
เดี๋ยวไม่มีเวลาเลี้ยงฉลองวันเกิดมึง”


โห...พูดจาดูเป็นคนดีเนอะ
แต่ได้ข่าวว่าต้มกูซะเปื่อยเลย


“ไหนบอกว่าขาดคนร้อง
แล้วทำไมไอ้พี่ศรถึงขึ้นไปได้
แถมให้กูไปตามหาไมค์จนหน้าแตกอีก”


“ก็เซอร์ไพรส์มึงไง
พวกกูอุตส่าห์เตี๊ยมกับพี่ศรล่วงหน้าตั้งหลายวัน
ตอนแรกกูเรียกเขาไปร้องกันและกัน
กะว่าให้เหมือนหนังรักแห่งสยาม
แต่พี่แกมาขอเปลี่ยนเพลงเมื่อเย็นนี้เอง
เล่นเอาซึมเลย ทะเลาะกันเหรอวะ
พี่เขาถึงอุตส่าห์มาร้องเพลงง้อขนาดนี้
ยอม ๆ เขาหน่อยเหอะ
ตอนร้องอย่างเท่เลยนะ เสียงก็ดี
มึงว่าเอาเป็นนักร้องนำดีมั้ย”


คนฟังคิ้วกระตุกให้กับคำชมที่จ้อไม่หยุด

อ้าว ๆ ไอ้เผือกครับ
ได้ใหม่แล้วลืมเก่า
หัวนักร้องนำเห็นตำตาอยู่ทนโท่แท้ ๆ
มองข้ามไปเฉยเลย


“เออ อยากได้ก็เอา
กูจะได้จำไว้ว่าเพื่อนกันมันให้กันแค่นี้”


เขาบ่นประชดจนคนข้างตัวต้องรีบพูดอ้อน


“โอ๋ๆ อย่าน้อยใจซีวะ
เดี๋ยวนี้ขี้งอนนะมึง
อ่ะ เอานี่ไป”


คำง้อมาพร้อมสินบนที่อีกฝ่ายยื่นมาให้


...แก้วค็อกเทลบรรจุน้ำสีส้มอมแดง
ด้านบนปักก้านเชอร์รี่กับร่มคันเล็ก ๆ ไว้
ดูคิกคุอาโนเนะไม่เหมาะกับหน้าตา
และความเถื่อนของสมาชิกในวงเหล้านี้เลยแม้แต่น้อย


“กูเพิ่งหายไข้มึงจะให้กูกิน”


คนยัดเยียดพยักหน้ารีบเอ่ยสนับสนุน


“เออ มึงเป็นเจ้าของวันเกิดทั้งที่
สักหน่อยเหอะ รับรองไม่มึนหรอก
แก้วนี้มันผสมเหล้านิดเดียวเอง
ชื่อ Sex on the beach”


“ห่ะ? ชื่ออะไรนะแม่งโคตรส่อ”


บินถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ
แต่คนฟังกลับยักคิ้วกวน ๆ


“เอาไว้เผด็จศึกพี่ศรคืนนี้ไง”


“พ่องสิ!”


คนถูกแหย่รีบสบถด่าออกไปทันควัน
ไอ้เผือกหัวเราะให้กับคำสรรเสริญ
ก่อนจะหันไปจัดการกับหม้อต้มยำกุ้งตรงหน้า
ทิ้งเขาไว้กับแก้วบรรจุน้ำเมาสีสวย


เอาว่ะ...

ไหน ๆ ก็เป็นวันเกิดทั้งที่
ค็อกเทลผู้หญิงแบบนี้มันจะมึนสักแค่ไหนกันเชียว


บินตัดสินใจยกแก้วขึ้นจิบ


ทันทีที่น้ำสัมผัสลิ้น...

รสหวานอมเปรี้ยวกับกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ก็ลอยขึ้นจมูก



แปลกดี...

ไม่ขมปร่าจนบาดคอเหมือนเหล้าที่เคยดื่ม
กลับให้ความรู้สึกคล้ายน้ำผลไม้รวมมากกว่า
รสชาติอร่อยใช้ได้ แต่ยังไงซะมันก็คือเหล้า
ดื่มมาก ๆ ก็มีสิทธิ์เมาได้เหมือนกัน
เขายิ่งคออ่อนอยู่ด้วย
ซัดเข้าไปไม่ระวังมีหวังได้เมาเหมือนหมาแน่


เออ...พูดถึงไอ้คนที่เมาไม่ต่างจากหมา


...ไอ้หน้ามึน


มันหายไปไหนวะ
ตั้งแต่ลงจากเวทีมาก็ไม่เห็นเลยนี่หว่า
หรือจะแอบไปก๊งเหล้าล่วงหน้าก่อนอีกแล้ว


บินชะเง้อมองซ้ายขวา
ทว่ายังไม่ทันได้เหลียวดูรอบร้าน
เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก
เมื่ออยู่ ๆ ไฟตรงบริเวณโต๊ะกลับดับพรึ่บ

และก่อนจะทันได้พูดอะไร
แสงวอมแวมจากเทียนเล่มเล็ก ๆ ซึ่งปักบนเค้ก
ก็ถูกถือออกมาโดยคนที่เพิ่งอยู่ในห้วงความคิด
พร้อมกับเพลงอวยพรดังขึ้นจากบรรดาเพื่อน ๆ


“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู ยู
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์
แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ทู~~ บิน
วู้ววววว!!!! เป่าเลย ๆ”


เจ้าของวันเกิดก้มหน้าลงเป่าตามเสียงเชียร์จนเทียนดับ
แสงจากหลอดไฟกลับมาส่องสว่างอีกครั้ง

ไอ้เผือก ไอ้ต้น ไอ้แมน หยุดยื่นยิ้มหน้าแฉล้ม
ยื่นกล่องห่อกระดาษสีสวยมาให้


“อ่ะนี่ ของขวัญจากพวกกู
จะแกะดูเลยก็ได้นะ”


ได้ยินคำอนุญาตอย่างนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว
คนรับไม่รอช้า รีบแกะกระดาษออกอย่างรวดเร็ว
แล้วดวงตาคมก็ต้องเบิกกว้างเมื่อเห็นของที่นอนนิ่งอยู่ด้านใน


...โมเดลกีตาร์ GIBSON ของ ZAKK WYLDE
นักกีตาร์มืออันดับต้น ๆ ของโลกที่เขาโคตรปลื้ม
แถมไม่ได้มีตัวเดียว ยังมาถึงสองรุ่นนิยมด้วย
งานแฮดเมดฝีมือเนี๊ยบขนาดนี้
มองแวบเดียวก็รู้ว่าคงมีราคาน่าดู


“ของจริงพวกกูคงต้องขายบ้านซื้อ
เอาโมเดลไปนอนกอดก่อนล่ะกันนะมึง”


ไอ้ต้นแซวเล่นขำ ๆ

แต่สำหรับเขา...

น้ำใจจากเพื่อนแค่นี้ก็ถือมากเพียงพอแล้ว



“ขอบใจว่ะ”


บินพูดพร้อมยิ้มกว้าง



...รอยยิ้ม



ที่ทำให้ไกรศรได้แต่นั่งมองเงียบ ๆ อยู่อย่างนั้น


เขาไม่กล้าเข้าไปแทรกการคุยระหว่างเพื่อนหรอก
เพราะกลัวจะโดนบินหาว่ารำคาญอีก
แค่อยู่ดี ๆ ขึ้นไปร้องเพลงผิดแผนจากที่อุตส่าห์วางกันไว้
ก็เหมือนกับเขาเอาแต่ใจมากพอแล้ว


ไม่รู้ว่าบินหายโกรธหรือยัง
หรือทำให้โมโหไปมากกว่าเดิม
ที่เขาดันประกาศออกไปโต้ง ๆ ว่าบินเป็นคนสำคัญกลางร้าน
บินคงไม่ชอบที่ถูกคนอื่นมองว่าเป็นอย่างนั้น


เขาเองก็รู้...


ผู้ชายเหมือน ๆ กันมันคงทำใจลำบาก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงขยะแขยง
แต่ตอนนี้ เขาพอจะเข้าใจแล้ว


...เข้าใจในความหมายของคำนั้น



‘ความรักมันไม่มีแบ่งแยกเพศ’



มันคงจะจริง...


เพราะแค่เห็นรอยยิ้มบิน

ไม่รู้ทำไม...

เขาถึงดีใจมากขนาดนี้



อยากจะรู้ว่าบินคิดเหมือนกันรึเปล่า

แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามออกไป



...บินจะพอมีใจให้กันบ้างมั้ย


...บินจะรับรู้ถึงความพยายามที่เขาทำมากแค่ไหน



แล้ว...



...บินจะยอมให้เขาเป็นแฟนต่อไปได้รึเปล่า




“มา ๆ ชนแก้ว ๆ กัน
พี่ศรอวยพรให้บินหน่อยสิครับ”


คำเรียกทำให้คนคิดไกลหลุดจากภวังค์
ไกรศรรีบดึงสติกลับมา
เห็นบรรดาน้อง ๆ ถือแก้วรอคำอวยพร
พร้อมกับเจ้าของวันเกิดคนสำคัญที่ยืนอยู่ตรงข้ามไม่ห่างกัน

เขามองสบนัยน์ตาคมอันคุ้นเคย
พยายามเรียบเรียงคำพูดอยู่ในสมอง
ก่อนจะเอ่ยคำจากใจออกมาให้ได้ยิน



“วันนี้บินอายุครบ 24 ปี

งั้นพี่ขออวยพรให้บินมีความสุขตลอด 24 ชั่วโมง

ขอให้บินแข็งแรงตลอด 24 ชั่วโมง

ขอให้บินเจอสิ่งที่ดีตลอด 24 ชั่วโมง



แล้วพี่ก็ขอให้บิน...


...อนุญาตให้พี่รักบินได้ตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ”




“ฮิ้วววววววววววว!!!!”



สิ้นคำอวยพร
เสียงโห่แซวก็ดังขึ้นตามมาทันที



บินรู้สึกได้ว่าแก้วในมือตัวเองสั่น


...คำอวยพรบ้าอะไรวะ
คิดเข้าไปได้ยังไง
ใครที่ไหนเขาอวยพรกันอย่างนี้
ไอ้สามประโยคแรกพอเข้าใจ
แต่ประโยคสุดท้ายไม่ต้องพูดก็ได้มั้ง

แล้วดูมัน...
ยังจะมาทำหน้ามึนใส่อีก
ไอ้พวกนี้ก็โห่กันไม่เลิก
สนุกเลยสิมึง


“โอยยย เงียบกันได้แล้วโว้ยย!!
เอ้า!! ชน ชน ชน!!”


บินรีบร้องโวยวายชนแก้วเหล้าส่ง ๆ ไปทั่ว
ก่อนกระดก Sex on the beach เข้าปากไม่ยั้ง


ปกติเขาไม่ชอบเมา
แต่งานนี้เมา ๆ ไปเลยได้ก็ดี


เมาซะให้มันมึน...


เผื่อจะได้ลืม...



...ลืมว่าหน้าตัวเองกำลังร้อน


...ลืมว่าถูกใครบางคนมอง



และเผื่อจะได้ลืมว่าตัวเองมีแฟน...



...แฟนที่สามารถทำให้เขายิ้มกว้างออกมาได้ขนาดนี้โดยไม่รู้ตัว



------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ploy789456 ที่ 28-08-2012 23:24:33
โอ้ยยยยยย. เขินแทนนายเอกค่าาา. มากกว่านี้มีอีก มั๊ยยยยย. 55555  :haun4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-08-2012 23:34:15
ใกล้แล้วพี่ศร  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 28-08-2012 23:39:09
หวั่นไหวแต่ยังไม่แสดงออกล่ะสิ

ปล.ควายเผือกที่หายไปจากอุตรดิตถ์มาโผล่อยู่ที่นี่นี่เอง
//โทรไปบอกสรยุทธ์ให้ตามมาจับควายเผือกที่นี่ดีกว่า  :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 28-08-2012 23:45:01
รู้สึกคำอวยพรจะโดนใจเจ้าของวันเกิดนะนี่ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 28-08-2012 23:50:07
 :monkeysad: น้ำตาซึม สงสารพี่ศรค่ะ...ดูเพลงที่ร้องดิ เว้าวอนซะ
อยากบอกแกว่าบินไม่ได้โกรธเลย แค่โพล่งออกไปเอง
ยิ่งตอนแกคิดว่าไม่กล้าแทรกบินกับเพื่อนโน่นนี่ยิ่งน่าสงสาร คนอ่านใจอ่อนใ้ห้พระเอกมากมายอ๊า...
น้องบินก็น่ารัก เขินซ้าไปไม่เป็นเลยค่ะ เมาแน่คืนนี้ ขอให้เสร็จพี่ศร อุวะฮ่าฮ่า  :z1:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 28-08-2012 23:51:02
เย้ยยย บินหลายอมรับแล้ว
ว่ามีแฟน ชื่อพี่ศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 28-08-2012 23:51:58
บินนี่ใจอ่อนเร็วเถอะนะ สงสารพี่ศรอ่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 29-08-2012 00:02:29
อีกนิดนึงหน่ะพี่ศร ใกล้แล้ว ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 29-08-2012 00:09:30
น้ำตาซึมอะ ตอนพี่ศรร้องเพลงให้บิน เปิดฟังไปด้วย ความรู้สึกพี่ศรมันตรงกับเนื้อเพลงเลยเนอะ
พาร์ทนี้มาอย่างซึมมมมมมมมมมมมม TT_______________TT  :sad2:
พี่ศรสู้นะะะะะะะะะะ  อีกไม่นานหรอก อย่างน้อยตอนนี้ทั้งคำพูดและการกระทำของพี่ศรก็ทำให้บินยิ้มได้ สู้นะ !!!!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: speedboy ที่ 29-08-2012 00:25:09
อีกนิดเดียวนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: chaaom ที่ 29-08-2012 00:44:50
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ถึงพี่ศรจะทำซึ้ง แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งมุกเสี่ยวนะคะ o13
บินเขินเกือบทั้งตอนเลยนะ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: ❥ʞαxiќɒ。 ที่ 29-08-2012 01:05:37
อ๊ากกกกกก!! น้องบินหวั่นไหวววววว ><
มึนเนียนต่อไปเรื่อยๆแบบนั้นแหละพี่ศร !

เหมือนบินจะซึน ? หรือไม่ก็มึนกับตัวเองอยู่นะ 55555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-08-2012 01:23:02
รอกันมานาน....จนสมดั่งใจตลอด24ชั่วโมง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-08-2012 01:44:22
พี่ศรแกแอบโรแมนติกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 29-08-2012 02:51:03
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 29-08-2012 03:11:08
อยากได้คนดูแลแบบพี่ศร จะหาได้จากที่ไหนบ้าง
อิจฉาบิน พี่ศรน่ารัก
อยากอ่านตอนหวานๆกว่านี้บ้างจัง พี่ศรจัดให้หน่อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 29-08-2012 08:06:25
พี่ศรสู้ๆ นะ ใกล้ความจริงแล้ว อีกนิดเดียว บินก็ยอมๆ หน่อยเถอะน่า สงสารพี่ศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Renze ที่ 29-08-2012 08:15:28
เห็นใจพี่ศรจัง พยายามเข้านะคะ

ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-08-2012 08:41:57
โอ๊ยยย  เขินอ่ะ  :impress3:

บินหลาเขินแล้วงานนี้พี่ศรเสี่ยวไม่เสียเที่ยวอ่ะ  :laugh:

รอ sex on the beach แผลงฤทธิ์  ให้บินเผด็จศึก!?

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 29-08-2012 09:25:41
บินเริ่มเปิดใจแล้ว มีเขินด้วยอ่ะ มียิ้มด้วย ยอมรับเหอะว่าตกหลุมรักไปแล้ว
ความรักมันไม่มีการแบ่งแยกเพศนะบิน อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 29-08-2012 09:53:37
อาจจะได้เห็นน้องบินหวานก็ตอนถัดไปรึป่าวววว...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 29-08-2012 10:25:45
ชื่อน้ำเมาชวนเสียตัวมากกกกกกกกกกกกก :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-08-2012 10:44:04
พี่ศรน่ารักอ่ะ เขินแทนบิน  :-[

ว่าแต่เมื่อไหร่บินจะใจอ่อนให้พี่ศรซะทีล่ะ สงสารพี่ศรแล้วน้าาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 29-08-2012 11:21:47
บินนนนนนนนนนนนนนนนนน
ใจแข็งจริงๆเล้ย
พี่ศรออกจะน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนั้นอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 29-08-2012 14:38:41
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย
 :impress2:
เดี๋ยวนี้พี่ศรเค้าปั๊ดตะนาแล้วเว้ย
รู้จักเห็นอกเห็นใจกันบ้าง
อีกหน่อยจะได้ลามไปเห็นอย่างอื่นเนอะ
เขินว้อยยยยยยยยยยยยยย
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-08-2012 15:55:36
เดี๋ยวนี้พี่ศรเขารู้จักที่จะรอไม่พูดมากแล้ว
ก็โดนบินสั่งสอนไปตั้งเยอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 29-08-2012 16:45:02
สงสารพี่ศร แต่ก็สู้ต่อไปนะพี่
อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 29-08-2012 18:22:49
พี่ศรมาขนาดนี้แล้ว สู้ต่อไปเน้อ o13

น้องบินได้เมาแน่ๆๆวันนี้ :z1:

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: charisma ที่ 29-08-2012 19:45:19
อ๊ากกก. พี่ศรน่ารักอ๊าาา
บินใจอ่อนเร็วๆ นะ

ตอนนี้โคตเชียร์พี่ศรเลย โคตน่ารักเลยว่ะเห้ย!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 29-08-2012 20:27:47
ตอนนี้หวานอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 29-08-2012 21:08:54
Happy Birthday น้องบินด้วยคนค่ะ    :o8: เขินกับเพลงและคำอวยพรของพี่ศร    น้องบินใจอ่อนแล้วชิมิ

หลังจากคนอ่านมึนกับ whisky on the rock มามาก  ตอนนี้ได้หวานกับ sex on the beach ของน้องบินแล้ว

กด + และ + เป็ดให้คนเขียนค่ะ     :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-08-2012 13:48:25
ใกล้เข้าไปอีกนิด
ชิดๆเข้าไปอีกหน่อย
เดี๋ยวอินู๋บินก็ใจอ่อน :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >;P.40
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-08-2012 16:22:52
ชอบคำอวยพรของพี่ศรอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 30-08-2012 19:17:17
    ตามอ่านน้ำเต้าหู้กับกาแฟอยู่
ถึงช็อตที่ตี๋บอกให้อยู่ห่าง
ผมไม่ได้ขอพี่ซะหน่อย ทำนองนั้น
กึ๊ดเลย!
    โอ๋ย ถ้าไม่ใช่พ่อค้าปาท่องโก๋เจ้าอร่อยนะ
ตี๋ว่านไม่ได้เจอหน้าอีกแน่
     ยอมรับในความถึกและคิดดีปนตื้ออย่างเหนียวแน่นของเฮีย
กดไลค์ด้วยบอกและเป็ดไปเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 30-08-2012 21:33:59
โอ๊ยยย ถ้าบินไม่เอาพี่ศรเราจะเอาเองแล้วนะ
มึนๆ แบบนี้หละชอบ  มัดมือชกง่ายๆ ฮ่าๆ แล้วตูก็จะรวย

อ่านแล้วเขิน  สงสารพี่ศรก็สงสารที่โดนบินโกรธ
แต่ถ้าพี่ศรจะง้อได้น่าหายงอนมากขนาดนี้ก็รีบๆ หายงอนเถอะบิน
ว่าแต่ยังไม่เคยเห็นบินดราม่าจริงๆ จังๆ เลยแฮะ
ยังไม่เจอจุดดราม่าใหญ่ๆ เลยยยย  (เรียกร้องอยากกินมาม่าค่ะ)

ป.ล. ขำตรงที่บินเรียกเด็กสาวว่ายานแม่  กร๊ากเลย
ป.ล.๒ อยากกินเซกส์ออนเดอะบีช  (เรื่องนี้บาปนะเนี่ย งดเหล้าเข้าพรรษาอยู่  ฮ่าาา)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 14] 28/08/55 >P.40
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 31-08-2012 00:08:24
Sex on the beach  :m13:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 31-08-2012 19:31:03
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 15



“ขอให้ไอ้บินของเรา
สุขสำราญเหมือนดอกไม้บานยามเช้า
เหมือนสัตว์สี่เท้า อ้วกเช้า อ้วกเย็น
เอ้า! กรึ๊บ ก่ะ ล่ะ ลึบ กรึ๊บ กรึ๊บ
ไม่หมด ไม่เลิก ไม่หมด ไม่เลิก
วู้ววววว!!! หมดแก้วโว้ยยไอ้บิน!!”


เสียงเป่าปากเฟี้ยวฟ้าวเหมือนเสียงเชียร์
เร่งให้บินยกแก้วเหล้ากระดก Sex on the beach เข้าปากไม่ยั้ง
ราวกับคนลืมสนิทไปว่าตัวเองเพิ่งหายป่วยออกมาจากโรงพยาบาลเมื่อเช้า
จนไกรศรที่ยืนนั่งไม่อยู่ไกลต้องเอ่ยปากรั้ง


“พอเถอะบิน เดี๋ยวเมานะ”


“ครายย... ครายมาววว
กูไม่มาวววเว้ยยย!!
โด่! แค่เนี่ย เด็ก ๆ ...เอิ้บ!
ไอ้เผือกจัดมาอีกแก้วเด๊ะ!!”



...เรียบร้อยไปแล้ว 



ไกรศรสรุปกับตัวเองในใจ
เมื่อเห็นว่าตาคมๆ เริ่มเยิ้ม ใบหน้าแดงเรื่อ
แถมเสียงพูดยังอ้อแอ้จนฟังแทบไม่รู้เรื่อง


...เพิ่งรู้ว่าบินคออ่อนนี่แหละ
ไม่คิดเลยว่าค็อกเทลผสมน้ำผลไม้ธรรมดาแค่ 3 แก้ว
จะทำให้บินเมาได้มากขนาดนี้

ส่วนเขาดื่มไปแค่นิดหน่อย
เพราะเคยโดนบินบอกไว้ว่าไม่อยากให้ดื่มเหล้าเยอะ
เขาเลยทำตามอย่างเคร่งครัด
แต่คนสั่งกลับเมาล่วงหน้าไปก่อนซะอย่างนั้น


“เอาไงดีครับพี่ศร ไอ้ต้นมันชิงหลับไปแล้ว
ส่วนไอ้เผือกก็ท่าจะไม่ไหวเหมือนกัน”

แมนที่นั่งฝั่งตรงข้ามพยักเพยิดไปที่หนุ่มตี๋
ซึ่งหน้าแดงจัดหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวไม่หยุดทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรให้น่าขำ
เพราะเจ้าตัวนอกจากจะดื่มเบียร์ไปหลายขวด
ยังซัดเหล้าเพิ่มไปอีกไม่น้อยด้วย
ผลเลยออกมาเมาเละอย่างที่เห็น

ไกรศรก้มมองนาฬิกาข้อมือ
เกือบห้าทุ่มแล้ว
คงได้เวลาแยกย้ายกันกลับเสียที


“งั้นเช็กบิลเลยล่ะกัน มื้อนี้เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”


ถ้าในยามปกติเขาคงได้ยินเสียงใครบางคนบ่นจนหูชา
แต่ยามไม่ปกติที่บินเอาแต่ร้องหาเหล้าแบบนี้
จึงเปิดทางสะดวกให้เขาจัดการจ่ายเงินค่าอาหาร
แล้วลากคนเมามารวมกลุ่มกันอยู่หน้าร้าน



“งั้นพวกผมกลับก่อน ฝากบินด้วยนะครับพี่”

แมนเอ่ยลากระชับมือข้างหนึ่งหิ้วปีกไอ้ต้นที่ยังคงสะลึมสะลือเอาไว้
ส่วนอีกข้างคว้าแขนไอ้เผือกที่ยังคงโวยวายพูดจาไม่รู้เรื่อง
ลากกลับไปยังรถเก๋งของตัวเองที่จอดเอาไว้ไม่ไกล


“ขับกลับระวัง ๆ ด้วยนะ”

ไกรศรเตือนส่งท้าย มองรถถอยแล่นออกไปตามถนน
ก่อนจะหันไปจัดการกับคนซึ่งยังยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
คล้ายกำลังพยายามประคองสติตัวเองเต็มที่


“บินไหวมั้ย”


“โอยย...สบ๊ายยย...”


คนพูดโบกมือตอบว่าไม่เป็นไร
ก่อนจะเดินเซ ๆ ย้อนกลับไปทางหอของตัวเอง
ทว่าก้าวไปได้สองสามก้าวมันก็เริ่มจะเอียง ๆ
จนไกรศรต้องรีบพุ่งตัวไปคว้าคนใกล้ล้มไว้
แต่อีกฝ่ายกลับส่งเสียงโวยวายดังลั่น


“เฮ้ยย!! ปล่อยกูดิ
บอกแล้วไงว่าไม่เป็นรายยย
เห็นม่ะ กูยังเดินกลับหอได้ตรงทางอยู่เลย
มึงแม่งก็เวอร์เกิ๊นนนน
แวแต่... เอ้ย! ว่าแต่...
ทำไมฟุตบาทมันดูเอียง ๆ วะ
รัฐบาลใช้เงินภาษีประชาชนไปตั้งเยอะทำได้แค่นี้เองเหรอ
เดี๋ยวแม่งก่อม็อบซะเลยนี่ เอิ้บ!”



....คนเมาก็เป็นคนเมาอยู่ดี

แต่สำหรับไกรศรแล้ว

เขาเพิ่งเห็นว่าในโลกยังมีคนเมาที่ทำตัวน่ารักเอาก็วันนี้


...น่าแปลกที่เขาใช้คำว่าน่ารักมาชมผู้ชายด้วยกันเอง
แถมรูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้เฉียดใกล้กับคำนั้นเลยแม้แต่น้อย
บอกว่าเท่ห์ ว่าแมนยังจะดูเหมาะกับบินซะมากกว่า

แต่สำหรับเขาที่กำลังหิ้วปีกคนที่งึมงำไม่รู้เรื่องขึ้นบันไดกลับหอ
จะตะแคงมองซ้ายมองขวายังไง
ก็ยังเห็นว่าท่าทางของบินนั่นช่างน่ารัก
จนทำให้เขาหลวมตัวรักมากขึ้นไปทุกวัน



ร่างสูงพาบินมาหยุดอยู่หน้าห้อง
รอเจ้าของไขกุญแจเก้ ๆ กัง ๆ อยู่นาน
จนกระทั้งเขาต้องเป็นฝ่ายดึงกุญแจมาเปิดไขเสียเอง
ก่อนจะประคองคนเมาเข้ามานอนบนเตียงด้วยท่าทางหมดสภาพ


“บินลุกขึ้นล่างหน้าไหวมั้ย หรือจะให้พี่เช็ดตัวให้”


ไกรศรถามพลางถอดรองเท้าผ้าใบของคนนอนออก
แต่คู่สนทนาก็ยังคงครางอืออาจับใจความไม่ได้
เขาจึงตัดสินใจเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าอย่างถือวิสาสะ
มองหาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กแล้วจัดการชุบน้ำบิดหมาด ๆ
ก่อนจะกลับออกมาใช้ผ้าเช็ดตามตัวคนเมาให้สร่าง



...ไม่รู้ว่าตอนเขาเมาบินมาดูแลยังไง
แต่บินก็ยังอุตส่าห์พาเขาที่ไม่รู้จักกันเลยกลับมานอนที่ห้องง่าย ๆ

บินเป็นแบบนี้ ใจดีเสมอ
ถึงจะดูเหมือนไม่แคร์ไม่สนใจ แต่ก็ยังคอยห่วงใยคนอื่น


เขาเสียอีกดันทำตัวน่ารำคาญจนบินไม่อยากจะเข้ามายุ่งด้วย
ก็รู้ว่ามันไม่ดีที่เขาอยากอยู่ใกล้กับบินตลอด
จะโดนบินไล่ให้ไปไกล ๆ ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน


...สมควรแล้วทำตัวเองทั้งนั้น


ทั้ง ๆ ที่เคยสัญญาว่าจะทำตัวเป็นแฟนที่ดีแท้ ๆ



ความรู้สึกผิดถูกตีตื้นขึ้นมาวนเวียนในใจ
จนไกรศรทนไม่ไหวต้องเอ่ยคำชดเชยสิ่งที่ทำลงไป


“บิน พี่ขอโทษนะ”


“ห่ะ? ขอโทษอาราย”


คนอยู่บนเตียงตอบกลับมาอย่างสะลึมสะลือ
ความเย็นสบายจากผ้าที่เช็ดอยู่ตามตัว
เริ่มทำให้สติกลับคืนมาบ้างแม้จะน้อยนิดก็ตาม


“ขอโทษเรื่องเมื่อเย็นที่ทำให้บินรำคาญ”


ไกรศรอธิบายความเพิ่มเติม
แต่คนฟังกลับขมวดคิ้ว


“จะขอโทษทำม่ะ
กูไม่ได้โกรธสักหน่อย
กูต้องหากที่ต้องขอโทษ
ที่พูดแรงออกไปตอนนั้น”


คนตัวโตถึงกับชะงักมือที่เช็ดแขนคนเมา
นัยน์ตาพราวระยับลิงโลดอย่างดีใจ
 

...ดูสิผิดจากที่เขาพูดซะที่ไหน
เห็น ๆ อยู่ว่าเขาเป็นตัวการทำให้บินหงุดหงิด
แต่บินกลับไม่โกรธ
ซ้ำยังเป็นฝ่ายมาขอโทษด้วย


แฟนดี ๆ แบบนี้จะหาได้จากที่ไหน


...แล้วเขาจะปล่อยบินให้หลุดมือไปได้ยังไงกัน




“อือ พอได้แล้ว กูโอเคแล้ว”


บินบอกคนเช็ดตัวให้หยุด
ก่อนจะพลิกตัวเตรียมปรือตานอน
พอร่างกายสบายก็เริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
แต่เสียงร้องของอีกฝ่ายกลับทำให้เขาต้องหันมอง


“เออ เกือบลืม พี่มีของขวัญจะให้บินด้วย”


ไกรศรรีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
และกำของสิ่งหนึ่งมาหยุดอยู่ตรงร่างคนเมา
ซึ่งคราวนี้ผงกหัวขึ้นมาถามอย่างสงสัย


“อะไร”


“ยื่นมือมาหน่อย”


บินขมวดคิ้วงง ๆ แต่ก็ทำตามคำสั่ง
แบมือออกไปรับของที่อีกฝ่ายปล่อยให้ร่วงลงมา
พร้อมกับคำพูดอวยพรสั้น ๆ


“สุขสันต์วันเกิดนะ”




หืม...


อะไรวะ...


ไอ้เครื่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สีเงินในมือนี่มันคืออะไร
รูปร่างหน้าตาดูคุ้น ๆ ยังไงบอกไม่ถูก
เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
แล้วข้างหลังมีรอยแอปเปิ้ลถูกแทะแหว่งแบบนี้


แอปเปิ้ล


แอปเปิ้ล


แอปเปิ้ล



เฮ้ย!!


นี่มันไอพอทนาโนไม่ใช่เร๊อะ!!



“กูไม่เอามึงเอาคืนไปเลย
ของแพงจะตายห่า
กูรับไม่ได้หรอก”


บินรีบผุดลุกขึ้นนั่งตาสว่างสร่างเมาทันที
พยายามยัดเยียดของขวัญวันเกิดคืนให้คนซื้อ
แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้ายึดมือของคนถือเอาไว้
แล้วกดปุ่มเปิดเครื่องให้หน้าจอทำงาน
ก่อนยื่นไปตรงหน้าบินอีกครั้งพร้อมคำอธิบาย


“ไม่แพงหรอก เพราะของขวัญของพี่ไม่ใช่ตัวเครื่อง
แต่เป็นเพลงที่อยู่ในเครื่อง
พี่เลือกมาให้ตั้งหลายเพลง ไม่รู้จะถูกใจบินรึเปล่า
แต่ทุกเพลงมันคือความรู้สึกทั้งหมดจากใจของพี่
พี่พูดไม่เก่งก็เลยอยากให้บินลองฟังดู”


...อ๋อ ของขวัญคือเพลงนี่เอง


แต่เดี๋ยวนะ....


ไอ้เพลงนั่นมันก็ติดอยู่กับไอพอดไม่ใช่เหรอ
แล้วอย่างนี้จะหาว่าไม่ใช่ตัวเครื่องได้ยังไงกันวะ


ตกลงมันงงหรือกูงงกันแน่เนี่ย!


บินเกาหัวแกรกด้วยความมึน
แต่ก็ยังไม่วายเหลือบมองอ่านดูชื่อเพลง
ที่เรียงรายอยู่ในเพลย์ลิสต์


...อยากบอกรัก

...เลือกเป็นคนที่เธอรัก

...มันคงเป็นความรัก

...รักเธอ 24 ชั่วโมง



มีแต่เพลงรักเต็มไปหมดทั้งเครื่อง


เพลงรัก...



สื่อความเหมือนกับเนื้อเพลง
ที่มันร้องให้เขาฟังเมื่อตอนค่ำวันนี้



...ผิดไหมที่รักเธอ



คำถามนั้น...

มันอยากจะรู้คำตอบจริง ๆ เหรอ


อาจเป็นเพราะความเมายังคงค้างคาในสมอง
หรืออาจเป็นเพราะความสงสัยสะสมดำเนินมาจนถึงจุดสิ้นสุด
จึงทำให้คนนั่งมองรายชื่อเพลงบนไอพอดในมือ
ตัดสินใจเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ


“มึงกูถามอะไรหน่อย”


“หืม?”


“มึงคบกูเพราะอะไร”


ไกรศรสะดุดกับคำพูด
นิ่งเงียบไปนิดเดียว
ก่อนจะยิ้มแล้วตอบคำง่าย ๆ



“เพราะรักไง”




...รัก...



คำซ้ำ ๆ ที่เคยได้ยิน
แต่ต่อให้มากมายซะเท่าไร
จะสักกี่ร้อยกี่พันครั้งยังไง


สำหรับบิน...

เขาไม่เคยเข้าใจในความหมาย



ยิ่งได้ยินยิ่งสับสน
ยิ่งสับสนก็ยิ่งหงุดหงิดใจ


กล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าใช่
รู้ได้ยังไงว่ารัก
มันก็แค่คำพูดลอย ๆ ที่หายไปกับสายลม
เขาไม่รู้สึกดีใจอะไรตอนได้ยินด้วยซ้ำ
สุดท้ายมันก็แค่คำคำเดียวไม่ต่างกัน


...ต่อให้ฟังสักเท่าไร



...เขาก็ไม่เคยสัมผัสถึงคำว่ารักนี้ได้เลย




“แล้วมึงแน่ใจได้ยังไงว่ารัก
มึงอาจแค่อยู่ใกล้กูมากไปจนหวั่นไหว
อยากใช้กูแทนแฟนเก่า
เลยหลอกตัวเองว่ารักกูอยู่

กูว่าจริง ๆ แล้วมึงไม่ได้รักกูหรอก
เราเจอกันแค่อาทิตย์เดียว
แล้วมันจะไปเป็นความรักได้ยังไง

มึงกลับไปคิดดี ๆ อีกทีเถอะ
คิดดี ๆ ว่าเรื่องระหว่างมึงกับกู
มันอาจเกิดจากความสับสน
ไม่ใช่เพราะความรักอย่างที่มึงเข้าใจ”




สิ้นเสียง...



ต่างคนต่างนิ่ง



...นี่อาจเป็นครั้งแรกที่คนสองคนได้นั่งเปิดอกคุยกัน



สำหรับบิน...

มันคือครั้งแรกที่เขายอมรับถึงสิ่งที่ถามตัวเองมาตลอด
คำถามที่พยายามหลีกเลี่ยง
แต่กลับยังค้างคาอยู่ข้างในใจมานานแสนนาน



สำหรับไกรศร...

นี่อาจเป็นครั้งแรก...
ที่ไกรศรได้ยินความในใจมากมายของบิน


และอาจเป็นครั้งแรกเช่นกัน...
ที่ไกรศรต้องคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเอง



...แน่ใจได้ยังไงว่ารัก



นั่นสิ...

เขาแน่ใจได้ยังไง

ทุกทีก็ได้แต่ทำตามสิ่งที่ตัวเองอยากทำ
ไม่เคยสงสัย ไม่เคยตั้งคำถามว่าใช่มั้ย

แค่รู้ว่าอยากอยู่ใกล้บิน
เห็นบินเจ็บเขาก็เจ็บ
ถูกบินไล่ให้ออกห่างเขาก็ทรมาน


...ความรู้สึกนี้ไม่มีส่วนไหนเลยที่บอกว่ารัก


แล้วถ้างั้น...


...ความรู้สึกที่มีต่อบินมันคืออะไร




“พี่ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่มีต่อบินมันเรียกว่ารักมั้ย
แต่พี่แค่เชื่อในความรู้สึกของตัวเอง”


บินชะงักเงยหน้าขึ้นมองคนข้างตัว
รีบเถียงกลับทันควัน


“ของแบบนี้มันเชื่อได้ที่ไหน
มึงทำตามใจตัวเองตลอดก็ต้องพูดได้อยู่แล้ว”


“เชื่อได้สิ หรือบินจะให้พี่พิสูจน์ให้ดู”


“พิสูจน์ยังไง”


“บิน หลับตาสิ”


คำขอที่มาพร้อมกับสายตาแปลก ๆ
ทำเอาคนถูกจ้องต้องกระเถิบถอยห่าง
พลางพูดด้วยน้ำเสียงอย่างไม่ไว้ใจ


“ไม่เอาเดี๋ยวมึงทำอะไรแปลก ๆ”


“เถอะน่า หลับตาก่อน”


แต่ไกรศรยังคงพยายามตื๊อจนบินเริ่มเขว


...ไอ้ลังเลก็ลังเลอยู่หรอก

แต่ในใจก็อยากรู้ด้วย



“ถ้ามึงคิดจะทำอะไรกู กูถีบมึงแน่”


สุดท้ายความสงสัยก็เอาชนะ
บินอนุญาตแต่ทิ้งท้ายด้วยคำขู่
มองไกรศรที่พยักหน้ารับจนแน่ใจ
ก่อนจะค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง

หากแต่ยังไม่ทันผ่านพ้นถึงเสี้ยววินาที
ร่างคนหลับตากลับถูกดึงคว้าไปกอดไว้แน่น
จนเขาต้องรีบลืมตาโพล่งร้องโวยวายดังลั่นอย่างตกใจ


“เฮ้ย!! ไหนบอกไม่ทำอะไรไงวะ
ปล่อยนะโว้ยย!!”


บินแหกปากดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของคนกอดที่นั่งอยู่บนเตียง
แต่จะขยับหนีอย่างไรแขนแกร่งกลับล็อกไว้เหมือนคีมเหล็ก
ซ้ำคนตัวโตยังพยายามพูดย้ำ


“เดี๋ยว บินหยุดก่อน
แค่กอดเฉย ๆ  อย่าเพิ่งดิ้นสิ
พี่กำลังพิสูจน์อยู่นี่ไง
บินหลับตา แล้วหยุดก่อน”


ไม่รู้เพราะน้ำเสียงที่อ่อนลง
หรือเพราะท่าทีที่ไม่ได้คุกคามใด ๆ
จึงทำให้คนคิดหนีหยุดนิ่ง


“แค่แป๊บเดียวนะบิน...
ขอร้องล่ะ...
ให้พี่กอด... แล้วหลับตาก่อนนะ...”



คำวอนขอยังคงดังออกมาอีกครั้ง
แม้จะยังสงสัยในการกระทำ
แต่ท้ายที่สุดเขาก็หยุดฝืนร่างตัวเอง
ปล่อยให้อีกฝ่ายดึงมากอดจนชิด
เอนใบหน้าซบกับบ่ากว้าง
หลับตาลง แล้วนิ่งเงียบ



...เงียบ



...จนสัมผัสได้ถึงหัวใจส่วนลึกของตัวเอง



เพราะอะไรก็ยังไม่เข้าใจ
ทั้ง ๆ ที่คนกอดเป็นผู้ชายเหมือน ๆ กัน
เป็นไอ้หน้ามึนที่เขาเคยนึกรำคาญ


แต่พออยู่ตรงนี้...

ได้กอดกันไว้แบบนี้...


เขากลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร



...เป็นไปได้ยังไง?

...มันเกิดมาจากอะไร?

...เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไร?



เขาหาคำตอบไม่เจอ



ไม่รู้...



...ไม่รู้เลยจริง ๆ



คำถามมากมายวนเวียนกลับมาให้คนคิดสับสนอีกครั้ง
บินทำท่าจะผละออก แต่ยังไม่ทันได้ขยับ
เขากลับรู้สึกถึงมือที่ลูบแผ่นหลังเบา ๆ
ก่อนเสียงทุ้มแผ่วจะค่อย ๆ ทยอยดังผ่าน
เป็นถ้อยคำที่คนฟังต้องหยุดนิ่ง



“พี่ไม่แน่ใจว่ามันเรียกว่าความรักมั้ย

แต่พอพี่หลับตา...
กอดบินไว้อย่างนี้
แล้วหยุดถามตัวเอง

...พี่ก็เข้าใจ

บินลองดูได้มั้ย
ไม่ต้องหาเหตุผล
ไม่ต้องคิดว่าทำไม

แค่กอดพี่ไว้...
แล้วถ้ามันยังเหลือ...
ความรู้สึกบางอย่างอยู่ในใจ

ถึงจะแค่นิดหน่อย...
แต่ถ้ามันชัดเจนมากกว่าอะไรทั้งหมด

...นั้นแหละคือสิ่งที่พี่รู้สึก”





...คำพูดมากมายตกกระทบลงกลางใจ


บินเงยหน้าขึ้นมองคนใกล้ตัว
สบดวงตาที่เคยเห็นมาก่อนหน้านี้


...แววตาที่ไม่ได้เด็ดเดี่ยว
แต่กลับอ่อนแสงลงเหมือนวอนขอ
ไม่มีความสับสน ไม่มีความลังเลใด ๆ
สิ่งที่สะท้อนคือความจริงจังที่ฉายออกมาชัดเจน
เช่นเดียวกับคำพูด...



“บินให้โอกาสพี่ได้มั้ย

...ให้โอกาสพี่

ทำให้บินรู้สึกถึงมันมากขึ้น

เหมือนที่พี่ได้มันมาจากบิน”




...ไม่รู้ว่าอาจเป็นเพราะประโยคที่ได้ฟัง

หรืออาจจะเป็น Sex on the beach แก้วนั้น
ที่ยังคงทำให้สติของเขากลับมาไม่เต็มร้อย

เขาจึงเลือกเอนหน้าซบลงกับบ่ากว้าง
หลับตานิ่ง ๆ ตามเดิม
โดยไม่ตอบคำใด ๆ



ช่างมัน...

จะเป็นเพราะเมา
เพราะมึน
หรือเพราะอะไรก็ช่าง


เขาไม่อยากคิดถึงเหตุผลอีกแล้ว



สิ่งเดียวที่รู้...

สิ่งเดียวที่ชัดเจน...



...คือความรู้สึกอุ่น ๆ ในใจ



ความรู้สึกที่ไม่อยากจากอ้อมกอดนี้ไปไหน

และคนที่กอดเขาไว้ก็คงคิดไม่ต่างกัน



จะใช่รักรึเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ



แต่เพียงแค่นี้...



...แค่นี้เท่านั้น



สำหรับเขาสองคน...



คำถามอะไรก็คงไม่สำคัญ


....อีกต่อไปแล้ว




------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 31-08-2012 19:44:52
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 31-08-2012 19:58:15
ไม่ได้กอดกับเขาแต่อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจัง  :กอด1:

ในเมื่อยังไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไรก็ให้เวลาเป็นตัวหาคำตอบแล้วกันนะพี่ศร บิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 31-08-2012 20:02:36
ลุ้นกันจนหืดขึ้นคอ ในที่สุดเค้าก็กอดกันแล้ว
พี่ศรสู้ๆ ใกล้จะได้ใจบินแล้ว
บินก็ลองให้โอกาสพี่ศรบ้าง พี่ศรน่ารักจะตาย อบอุ่นที่สุด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 31-08-2012 20:05:55
กอดนานๆๆๆ กอดแน่นๆๆๆอย่าพึ่งปล่อยกันนะ  น้องบิน พี่ศร :o8:



 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 31-08-2012 20:07:31
ค่อยๆเรียนรู้ ค่อยๆเดินไปด้วยกัน
อีกไม่นานจังหวะหัวใจก็จะเต้นตรงกัน  :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 31-08-2012 20:09:59
เอาใจช่วยพี่ศรต่อไปละกันนะ  :กอด1: 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 31-08-2012 20:16:21
แล้ว sex on the beach  ก็ทำให้บินเริ่มรู้ใจตัวเอง    :mc4: กับพี่ศรด้วยที่น้องบินไปผลักตัวออก แต่กลับกอดแน่นๆ

บินคงแต่งเพลงรักสำหรับตัวเองได้แล้วแหละ  มันต้องเป็นเพลงที่พี่ศรยิ้มไม่หุบแน่


กด + และ + เป็ด ให้คนเขียนค่ะ รอช๊อตหวานๆ ต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 31-08-2012 20:32:06
กอดพี่ศรแล้วอบอุ่นก็อย่าปล่อยพี่เขาไปนะ น้องบิน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 31-08-2012 20:37:55
กว่าจะได้กอดกันแบบดีๆ ไม่เถียงกัน
ลุ้นกันใจหายใจคว่ำกลัวได้กินมาม่าคืนนี้

ลองคิดดีๆ นะทั้งสองคน
ทั้งพี่ศรและบิน  ว่าจริงๆ แล้วความรู้สึกนั้นคือความรักหรือเปล่า
บางครั้งความรักก็ทำตัวไม่เหมือนความรักนะ 
เราอาจจะเข้าใจผิดว่านั่นไม่ใช่ความรัก  แต่แท้จริงแล้ว... มันคือความรัก

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >;P.41
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 31-08-2012 20:47:19
ถ้าไม่กินเหล้ามาก่อนนี่จะเป็นแบบนี้มั้ยนะ!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: A_ay ที่ 31-08-2012 21:03:19
บิน :man1: :man1: :man1:

มันเต็มๆไงไม่รู้
อ๊ายยยยยยย  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 31-08-2012 21:53:10
ดีใจจัง  บินหลารีบรู้สึกตัวนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 31-08-2012 23:49:45
เริ่มเข้าใกล้กันอีกนิด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 01-09-2012 00:06:21
เชียร์พี่ศร...

บางทีไม่ต้องคิดอะไร แค่เชื่อสิ่งที่เรารู้สึกก็พอเนอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-09-2012 00:26:40
พี่ศรอบอุ่นดีจัง บินหลาอย่าเล่นตัวนะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 01-09-2012 00:27:53
เชียร์พี่ศรสุดใจเลย... :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 01-09-2012 00:31:09
เรื่องนี้แค่ได้กอดกัน
คนอ่านก็นั่งลุ้นกันจนตัวเกร็งหมดแล้วค่า
 :laugh:

แถมวันนี้พี่ศรชั้น
หอบมดมาพิสูจน์ความหวานยกรัง
อรั๊ยๆๆ
 :-[  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 01-09-2012 09:39:36
 :z2: :z2: :z2: :z2: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 01-09-2012 11:00:54
หวานซะไม่ได้เกรงใจใครเล้ย
สรุปว่าลงเอยกันแล้วใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 01-09-2012 11:09:07
อิจฉานายบินจริงๆๆเลยย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 01-09-2012 12:40:19
แอร๊ยยยส์ หวานมากกกกกกกกกกกกก

ว่าแต่เป็นถึงคนที่กำลังจะขึ้นเป้นประธานบริษัท พ่อจะยอมรับบินเร้อออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 01-09-2012 12:42:06
บินควรเข้าใจกับความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว
รู้ว่าตอนนี้อาจจะยังไม่ได้รู้สึกว่า รัก แต่ก็เริ่มรู้สึกอบอุ่นบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะ
เห็นไกรศรทุ่มเทขนาดนี้ แม่ยกขอเชียร์ค่ะะะะ :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 02-09-2012 02:43:08
ต่างคนต่างหยุดฟังเสียงของหัวใจ  :z3:
รัก รัก รัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 03-09-2012 11:11:14
เริิ่มเขาใจกันแล้ว..... :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 03-09-2012 23:13:33
เพิ่งได้อ่านค่ะ กำลังไล่ทีละเรื่อง ตอนนี้จบเรื่องแรกแล้วค่ะ
ชอบมากเลย อ่านไปอมยิ้มไป เขินแทนเพลงกับพี่แทนจริงๆเฝยค่ะ หวานกำลังพอดีเลบ ขอตามเคื่องหน้าต่อระค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 06-09-2012 01:38:46
อ่านภาคสองจบแล้วค่ะ ให้อีกอารมณ์นึงจริงๆ แหมรบนี่เป็นอับดุลรึเปล่าค่ะ รู้ใจจริงๆเลย อิอิ ส่วนสาลี่ก็ขี้อายไม่กล้าพูดอะไรเลย
น่ารักมากเลยค่ะ
จะตามอ่านภาคต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 06-09-2012 19:40:32
สวัสดีค่ะ เพิ่งเข้ามาอ่าน ขอรับไปสองภาคก่อนนะ

เดี๋ยวค่อยมาต่อค่ะ สนุกมาก อ่านแล้วยิ้มได้เลยค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 10-09-2012 06:07:22
หายนานมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 10-09-2012 11:02:42
รอมาต่อตอนต่อไปปป~~
อยากรู้ว่า เมื่อไหร่บินจะใจอ่อนซักที
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 10-09-2012 20:30:41
 :pig4: ในที่สุดก็ตามทันแล้วค่ะ

ปูเสื่อรอตอนต่อไป  :call:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 12-09-2012 00:52:29
กิ้วๆ น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 15-09-2012 19:48:33
มารอจ้า เมื่อไหร่จะมาต่อหนอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: plaiphukan ที่ 17-09-2012 11:53:16
 :pig4: มาลงชื่อว่ากำลังอ่านอยู่คะ เป็นกำลังให้คนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-09-2012 19:50:15
รออยู่นะ :call:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-09-2012 03:29:19
รออยู่จ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-09-2012 11:18:18
เข้ามารอ คนเขียนหายเงียบไปเลย 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 24-09-2012 09:14:49
เฮ้ย!! ชอบอ่า เราเพิ่งอ่านจบน้ำเต้าหู้ กับ คาแฟอีน
เอาจริงๆ เรื่องนี้เพื่อนแนะนให้อ่านค่ะ
แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆนะ ตัวละคร หรือหลายๆคำพูดในเรื่องมัน โดน หา ป้อ เต๊อะ (หลุดภาษาบ้านเกิด แปล...โดนมากกกกก)
มีอยู่คำพูดนึง เราลองคิดแบบขำๆ ตอนที่พี่แทนถามว่า เพลงคิดว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกไหม (ฉากกำลังซึ้งๆอินๆ)
แล้วถ้าน้องเพลงมันกวนโมโหว่า "พี่จะอยากรู้ไปทำไมอ่ะ งั้นเดี๋ยวเพลงเช็คพยากรณ์อากาศให้" โหยยยยยย
พี่แทนคงไปไม่เป็นเลยมั่งนั้น ฮา ฮา อันนี้เราคิดเล่นๆขำๆนะ
เรื่องนี้อ่านง่าย สบายตาดีค่ะ หุหุ ได้ความรู้เรื่องกาแฟด้วยเอ๊าะ เราก็เป็นพนักงานร้านกาแฟเหมือนกัน
ก่อนเป็นก็ไม่รู้หรอกว่าเอซเฟสโซ่มันไม่มีเย็นอ่า ร้านเราเสิร์ฟช็อตอย่างเดียวค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆแบบนี้นะคะ จะไปอ่าน ขนมปังแล้ว
เป็นกำลังใจให้นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: plaiphukan ที่ 09-10-2012 13:00:39
รอ รอ รอ  :t3:  หายไปนานจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 15] 31/08/55 >P.41
เริ่มหัวข้อโดย: plbb.poy ที่ 09-10-2012 15:56:49
 :o8: :o8: :o8:
กลับมาอ่านกี่รอบๆก็เขินนนนน
อยากอ่านต่อแล้วค่าาาาาาาา
มามะมาแต่งต่อเร็ว คิดถึงงงงง
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 09-10-2012 19:35:49
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 16


      
“บินจะไปไหนน่ะ”


เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังจะเปิดประตูห้องต้องชะงัก
หันมาขมวดคิ้วตอบกลับคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จมาหมาด ๆ


“กินข้าวมั้ง ถามมาได้
เห็นๆ อยู่ว่ายกตะกร้าผ้า
กำลังจะเอาไปซักข้างล่างนี่ไง”


“บินไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวพี่ทำเอง”


ไกรศรพูดจบพร้อมกับรีบแย่งตะกร้าผ้าไปจากมือ
ก่อนเดินดุ่ม ๆ ออกนอกห้องลิ่วตรงไปยังบันได


อ้าว...ผ้าไปแล้ว
แต่แฟ้บยังอยู่ในมือเขา
แล้วมันจะเอาอะไรไปซัก


“เฮ้ยเดี๋ยว! แล้วไม่เอาแฟ้บกับน้ำยาปรับผ้านุ่มไปด้วยล่ะ”


คนถูกทักชะงักกึกหมุนตัวกลับมา
กระพริบตาปริบ ถามอย่างงง ๆ


“อ้าว แล้วเขาไม่ได้มีให้เหรอ”


ไอ้หน้ามึน!!


บินยกมือกุมขมับ
อยากจะบ้าตายกับคนที่ทำตัวไม่รู้เรื่องรู้ราว


“ตู้เสื้อผ้าหยอดเหรียญมันจะไปมีให้ได้ยังไงวะ
อย่าบอกนะว่าทำไม่เป็น
เออ กูลืมไปว่ามึงมันคุณชาย
แต่เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็น่าจะหัดรู้ไว้ซะบ้าง
มา ๆ เดี๋ยวกูสอนให้”


ลงท้ายจากแค่การไปซักผ้าธรรมดา ๆ
เขาเลยต้องไปรับหน้าที่พี่เลี้ยงจำเป็น
สอนคนไร้เดียงสาเรื่องงานบ้าน


ไม่เคยคิดเลยว่ากับเรื่องง่าย ๆ แค่นี้มันจะไม่รู้เรื่อง
แต่กับเรื่องบ้างเรื่องที่ลึกซึ้งเข้าใจยาก


...ไอ้หน้ามึนกลับดันรู้แถมยังสอนเขาอีกต่างหาก


เมื่อคืนหลังจากคุยกันจบ
เขาก็เผลอหลับไปทั้ง ๆ อย่างนั้น
ตื่นขึ้นมาอีกทีตกใจแทบแย่ที่เจอมันนอนกอดเขาอยู่บนเตียง
เลยรีบลุกไปอาบน้ำ พอออกมาคนหลับก็ตื่นแล้ว
เขาปล่อยให้มันผลัดเข้าไป ส่วนตัวเองตั้งใจจะซักผ้า
เพราะตั้งแต่ป่วยไปนอนแหมบอยู่โรงพยาบาล
ผ้าในตะกร้าก็กองเน่ามาอาทิตย์หนึ่งเต็ม ๆ
แต่ยังไม่ทันทำอะไรมันดันมารั้งไว้ซะก่อนแล้วบอกว่าจะช่วย
หึ ไม่รู้ช่วยทำให้ง่ายหรือยุ่งยากขึ้นกันแน่


บินส่ายศีรษะอย่างปลง ๆ
หลังจากใช้พลังงานยามเช้าไปโดยไม่จำเป็น
กับการสอนคนตัวโตให้รู้จักซักผ้า
สายป่านนี้ ท้องชักเริ่มร้องประท้วง
จำได้ว่ามีมาม่าเหลืออยู่นี่หว่า

เขาเดินกลับขึ้นมาบนห้อง
ตรงดิ่งไปลากกระทะไฟฟ้าออกมา
พร้อมกับคุ้ยหาของในตู้ไปด้วย
ท่ามกลางสายตาของไกรศรที่มองอย่างสงสัยอีกครั้ง


“บินจะทำอะไร”


“ว่ะ มึงก็ถามจริงจะต้มมาม่าอ่ะดิ
กินม่ะจะได้ทำเผื่อ”


“แต่มาม่ามันไม่มีประโยชน์นะ
เดี๋ยวพี่พาออกไปกินข้าวดีกว่า”


“ไม่เอากูอยากกินมาม่า
มาม่าต้มยำปลากระป๋องด้วยนะมึง
อร่อยจะตาย เดี๋ยวกูทำให้กิน”


ไกรศรพยายามจะห้าม
แต่ไม่ทันแล้ว...
เพราะบินจัดการฉีกซองใส่ลงในกระทะไฟฟ้าที่น้ำยังไม่ทันเดือดดี
คนที่อยู่ในวัยใช้พลังงานอย่างเขากับไอ้หน้ามึน
บิ๊กแพ็คสามซองก็น่าจะอิ่มอืดอยู่ท้อง
คนหิวคุ้ยหยิบปลากระป๋องสามแม่ครัวติดมาด้วย
รอจนน้ำเดือดแล้วเทปลากระป๋องพร้อมผงปรุงรถต้มยำกุ้งลงไป
ไม่เกินห้านาทีเมนู มาม่าต้มยำปลากระป๋อง ก็เรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ


บินหยิบส้อมลงมาคนเส้น
ก่อนจะม้วนแล้วยกขึ้นจ่อหน้าร่างสูง


“อ่ะ ลองดู”


“เออ พี่ว่าออกไปกินกับพี่เถอะ”


ไกรศรยังพยายามเอ่ยเลี่ยง
จนคนปรุงต้องส่งเสียงจิ๊จ๊ะด้วยความรำคาญ


“อย่าเลือกมากสิวะ กูอุตส่าห์ทำแล้ว”


“แต่...”


“มึงเป็นแฟนกูรึเปล่า”



สั้น ๆ คำเดียว
แต่เล่นเอาคนที่กำลังจะปฏิเสธต้องหยุดค้าง


มะ...เมื่อกี๊

บินถามว่าอะไรนะ
เป็นแฟนบินรึเปล่า?
เล่นถามมาแบบนี้จะให้ตอบว่าอะไรได้


คนตัวโตรีบพยักหน้าหงึกหงักอย่างรวดเร็ว



“เป็นสิ พี่เป็นแฟนบิน”


“ถ้าเป็นแฟนกูก็ต้องอดทน
เอ้า อ้าปาก”


เหรอ เป็นแฟนบินต้องอดทน


...ได้สิได้



ไกรศรทำตามคำสั่งอ้าปากให้แฟนป้อนถึงที่
ก่อนจะเคี้ยวเส้นมาม่าแล้วกลืนลงไป
โดยมีคนรอลุ้นถาม


“เป็นไง”


“อร่อยดี”


“เห็นมั้ยบอกแล้ว”


บินหัวเราะเบา ๆ อย่างถูกใจ
ก่อนจะยื่นช้อนส้อมอีกคู่ไปให้ร่างสูง
ซึ่งรับของมาไว้ในมือแต่ดวงตายังคงหยุดอยู่ที่รอยยิ้มนั้น


เขาชอบเห็นบินยิ้มอย่างนี้
รอยยิ้มที่สดใส ไม่ได้แต่งเติม



นึกถึงเรื่องเมื่อคืนหลังจากที่ได้เปิดใจคุยกัน
บินไม่หนี ไม่ดื้อดึง แต่ปล่อยให้เขากอดไปอยู่เงียบ ๆ จนหลับไป
ไม่รู้ว่าบินคิดยังไง จะรู้สึกเหมือนเขารึเปล่า
ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้


แค่ได้อยู่ข้าง ๆ กันในวันอาทิตย์
ทำกิจกรรมร่วมกันง่าย ๆ
ซักผ้า...กินข้าว...ด้วยกัน


น่าแปลก...

ที่มันกลับทำให้เขารู้สึกดีมากกว่าการไปเดท ไปกินร้านหรู ๆ เสียอีก


นี่ใช่มั้ยที่เขาเรียกว่า


...ความสุขของคนที่ได้เป็นแฟนกัน...



มื้ออาหารเช้าเรียบง่ายถูกจัดการหมดภายในเวลาไม่นาน
บินลูบท้องหลังจากกินอิ่มหนำสะใจเรียบร้อย
เขาเตรียมจัดการยกจานชามไปล้าง
แต่คนข้างตัวกลับรีบรั้งเอาไว้


“บินไม่ต้องเดี๋ยวพี่ทำเอง”


เป็นอีกครั้งที่โดนไกรศรแย้งของไปจากมือจนต้องขมวดคิ้วถาม


“มึงจะทำทุกอย่างเลยรึไง”


“อือ ก็บินบอกแล้ว
เป็นแฟนบินต้องอดทน”


คำอธิบายย้อนกลับทำให้บินนึกขำ


มันบ้าเปล่าวะ
ทำทุกอย่างตามคำสั่งเหมือนหมาเลย
หมาตัวใหญ่ที่เก็บมาได้
แล้วไม่รู้จะทิ้งมันยังไง


เขาเลยกลับมานั่งบนเตียง
มองใครบางคนที่กำลังล้างจานอย่างเก้ ๆ กัง ๆ
แล้วตัดสินใจเรียก


“พี่ศร”


ร่างสูงชะงักรีบหันกลับไปมองอย่างไม่เชื่อหู


ชื่อ...


บินเรียกชื่อเขาเป็นครั้งแรก
ปกติเรียกแต่มึง
แล้วทำไมถึง...
 

ยังไม่ทันได้สงสัย
คนที่นั่งมองอยู่กลับแบมือ
พร้อมเอ่ยประโยคต่อ


“ขอมือหน่อย”


คนถูกสั่งรีบวางหม้อลง
ยื่นมือมาวางลงบนมือของอีกคนทันที
มองนัยน์ตาคมที่พราวระยับ
ก่อนจะตามมาด้วยคำพูด


“ดีมากศรลูกพ่อ”


แล้วเสียงหัวเราะอย่างถูกใจก็ระเบิดขึ้นดังลั่น


น่านโดนเลย โดนบินแกล้งจนได้
เห็นว่าทำตามใจหน่อยเราเลยกลายเป็นหมาไปซะได้
แต่แบบนี้ไม่ได้เรียกแกล้งหรอกนะบิน
ของจริงน่ะต้องอย่างนี้


“เฮ้ย!”


บินหลาร้องสะดุ้งอย่างตกใจ
เมื่ออยู่ๆ ไกรศรกลับกระตุกมือของเขาเข้ามาใกล้
โดยไม่ทันระวังจนตัวเองตกอยู่ในวงแขนแกร่ง


“ปล่อยนะโว้ย! จะทำอะไรวะ”


คนโดนกอดโวยวายลั่น พยายามขยับดิ้นขลุกขลักแต่กลับไม่เป็นผล
น่าแปลก ทั้ง ๆ ที่ขนาดตัวพอสูสีกันแท้ ๆ เตี้ยห่างกันไม่กี่เซ็น
แต่เขากลับสะบัดตัวให้หลุดออกไปไม่ได้


“อย่าหนีสิบิน พี่แค่ขอรางวัลเอง”


“ขอมือแค่เนี้ยทำมาเป็นทวงรางวัล
โลภมากแบบนี้ แม่งเลี้ยงไม่เชื่องแล้ว
กูไม่ให้หรอกโว้ยย!”


คนคิดหนียังคงพยายามเอ่ยค้าน
ทว่าจะดิ้นอย่างไรคนตัวโตก็ยังรัดแน่น
ทั้งยังพูดคำต่อรองข้างใบหู


“แค่ขอกอดนิดหนึ่งเอง แป๊บเดียวเดี๋ยวปล่อย โอเคมั้ย”


ไม่รู้เพราะน้ำเสียงกึ่งวอนขอ
หรือเพราะดิ้นจนเริ่มเหนื่อยจึงทำให้บินสงบลง
ปล่อยตัวเองให้โดนกอดอีกครั้งเช่นเดียวกับเมื่อคืน
ยืนนิ่ง ๆ หลับตาลง


แม้จะอยู่ท่ามกลางความเงียบ
ทว่าความรู้สึกบางอย่างกลับชัดเจน
มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร
ทุกครั้งที่อยู่ในอ้อมกอดของคนคนนี้


ไม่มีเหตุผล
ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้


รู้แค่เพียงว่าไม่อยากจากไปไหน



ทำไม...



ความรู้สึกอุ่น ๆ ในใจแบบนี้มันคืออะไร


ใช่ที่เขาเรียกว่า



...รัก



รึเปล่า?



บินหลาเงยหน้าขึ้นมอง
สบจังหวะพอดีกับที่ร่างสูงขยับตัวก้มลงมา
ชั่วจังหวะนั่นคล้ายกับมีแรงดึงดูดบางอย่าง
ที่ทำให้เขาเผลอหลับตาลง
ปล่อยให้ลมหายใจเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ


เรื่อย... เรื่อย....




กริ๊งงงงงง กริ๊งงงงงงง


เสียงโทรศัพท์ที่ดังขัดจังหวะทำให้คนหลับตาอยู่เผลอลืมตา
ผงะถอยออกห่างอย่างขัด ๆ เขิน ๆ
เมื่อสำนึกได้ว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์ที่สุดแสนล่อแหลม
แถมยังเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปจนเกือบยั้งไม่อยู่


“ทะ...โทรศัพท์ดัง ไม่ไปรับล่ะ”


บินเอ่ยคำพูดถามตะกุกตะกักเมื่อจับน้ำเสียงริงโทนที่ได้ยินว่าไม่ใช่ของตน
แต่อีกฝ่ายไม่ขยับ มิหนำซ้ำยังคงมองตรงมาที่ใบหน้าคมอย่างไม่วางตา


“ช่างมัน”


“รับเถอะ”


“ไม่เอา”


“งั้นกูรับเอง”


บินรีบดันคนตัวโตออกห่าง
กดรับไอโฟนที่เจ้าของจงใจเมินเฉยวางทิ้งไว้บนโต๊ะ
โดยไม่ได้มองหน้าจอว่าใครโทรมา
ทว่าทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย
มันกลับสะกดให้เขาต้องนิ่งอึ้ง


“ฮึก...ฮืออ..พี่ศร
พี่ศรช่วยเอมมี่ด้วย...
...ปอเขาทิ้งมี่ไปแล้ว
ฮึก...เอมมี่ไม่เหลือใครแล้ว...
พี่ศร...ต้องช่วยมี่นะ...ฮือออออ”


แม้ถ้อยคำที่จะปะปนมากับเสียงสะอื้น
แต่ชื่อของใครคนหนึ่งเขากลับได้ยินชัดเจน



...เอมมี่


...ผู้หญิงที่ไกรศรเคยรัก



“อ่ะ ของมึง เอมมี่โทรมา”


บินยื่นโทรศัพท์ส่งคืนเจ้าของที่ชะงักไปเล็กน้อย
แต่ก็เอื้อมมือรับมาก่อนจะกรอกเสียงไปตามสาย
และเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นร้อนรนมากขึ้นเรื่อย ๆ


“ครับ...เอมมี่...
อะไรนะ!!...
เอมมี่ใจเย็นก่อนนะ อย่าเพิ่งวู่ว่าม
ครับ...ครับ..
เดี๋ยวพี่จะรีบไปหา..
เอมมี่รอพี่ก่อนนะ...”


ไกรศรกดวางโทรศัพท์หันมาหาอีกคน
ในหัวพยายามเรียบเรียงคำพูดด้วยความลำบากใจ


“เออ บิน คือว่า...”


“ไปสิ เขาร้องไห้อยู่เป็นอะไรมากรึเปล่าก็ไม่รู้ รีบ ๆ ไปเหอะ”


คำอนุญาตที่เอ่ยขัดทำให้ไกรศรชะงัก
แต่แค่แว๊บเดียวก็พยักหน้าลง
คว้าข้าวของ รีบเปิดประตูห้อง


“งั้นพี่จะรีบกลับมานะ”


“อืม”


บินหลารับคำง่าย ๆ ก่อนอีกฝ่ายจะปิดประตูลง
เหลือแค่เขาเพียงลำพัง

เจ้าของห้องเดินกลับลงมานอนบนเตียง
ก่อนคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมกาย


แปลกว่ะ
หนาวเนอะ อยู่ดี ๆ ก็ดันรู้สึกหนาวขึ้นมา
ไม่ได้เปิดพัดลมสักหน่อย
ห้องแม่งแดดก็ส่องแรงขนาดนี้

ทั้ง ๆ ที่ เมื่อกี๊...


เมื่อกี๊...

ยังรู้สึกอุ่น ๆ ในใจอยู่เลย
แต่ตอนนี้ทำไมมันถึงหนาวขนาดนี้วะ
แค่ใครบางคนไม่ได้อยู่ในห้องแค่นั้น


ทำไม...


ไม่มีเหตุผล
ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้


แล้วไอ้ความรู้สึกแบบนี้
ความรู้สึกเจ็บปวดทรมานแบบนี้



มันเรียกว่า


...รัก


เหมือนกันใช่รึเปล่า?




------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




ขออภัยที่ห่างหายไปนานไม่บอกกล่าว
แถมกลับมาพร้อมความดราม่า   :z6:

เหตุผลที่หายไปนาน
หายไปไหน?

สรุปสั้น ๆ ว่า
‘ไปพักร้อน’ มาค่ะ   :o12:
ไปเติมเชื้อไฟให้ตัวเอง
เขียนซีรีย์ติดต่อมาสี่เดือนเริ่มหมดไฟ
เลยต้องเบนเข็มไปทำนู้นนี้บ้าง
ประกอบกับภาระการงานเริ่มเยอะขึ้น
และอะไรมะรุมมะตุ้มหลาย ๆ อย่าง
เลยทำให้ไม่ได้มาปั่นซีรีย์ต่อ
แต่สัญญาว่าจะปั่นภาคนี้ให้จบแน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่ยังคงรอ ยังคอยติดตาม
เป็นกำลังใจให้เสมอ
คิดถึงทุกคนจริง ๆ ค่ะ

*กอดดดดดดด*
 :กอด1:


ดีใจที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ

รัก

 :L2:

BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 09-10-2012 20:11:30
เอมมี่เป็นมารผจญมาพิสูจน์ความรักระหว่างพี่ศรกับบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 09-10-2012 20:17:14
เอ้าาาาาาาาาาาา
พี่ศร เดี๋ยวเจอขาคู่  ทิ้งน้องบินได้ไงวะ
ถึงยัยแฟนเก่าจะโทรมาร้องห่มร้องไห้ก็เถอะ
แต่ก็นะ  เชอะะะะะะะ *สะบัดบ๊อบ*
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-10-2012 20:18:42
เวรแล้วไง  o22


เธอไปแล้ว เธอจะกลับมาอีกทำม้ายยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-10-2012 20:54:38
กลับมาทำไมๆๆๆๆๆ o22


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 09-10-2012 21:19:31
พี่ศรก็ยังเห็นเอมมี่สำคัญกว่าบินอยู่ดี ทำงี้ได้ไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 09-10-2012 21:24:20
 :monkeysad:ขอเพียวๆสักแก้วก่อน... อกหัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 09-10-2012 21:48:21
หร่อนเอมมี่ ทีเมื่อก่อนน่ะทิ้งเขาไป เคยคิดเคยจำบ้างไหม
แหมมมม พอตอนนี้กรรมตามสนองก็มิได้อายมาร้องห่มร้องไห้กับคนที่ตัวเองเคยทำร้าย เชอะ!
จะว่าที่พี่ศรตามไปก็โอเคนะ เค้าก็เคยเป็นคนรักกันมากกกกมาตั้งนานนิ
นี่ก็เพิ่งผ่านมาไม่นานเอง ถ้าพี่ศรลืมหมดสิ้นแล้วก็แอบใจร้ายไปนิดๆ อย่างน้อยไปดูในฐานะเพื่อนมนุษย์ก็ได้
แต่คิดอีกทียัยนี่มันเคยทำร้ายพี่ศรนี่หว่า เอาไงดีฟร้า
สรุป เห็นใจน้องบิน
ปล.คนเขียนไปเติมเชื้อไฟมาต้มมาม่าใช่ป่ะคะ ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 09-10-2012 22:11:18
รอได้เสมอค่ะ และหวังว่า จะยังเดินเรื่องต่อไปได้เรื่อยๆ
ตอนนี้ก็เริ่มขมวดปม ถึงทางแยกแล้ว
บินคงได้รู้ใจตัวเองซะที แล้วก็เจ็บเองซะอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-10-2012 22:24:37
พี่ศรกับเอมมี่เลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วพี่ศรจะยังกลับไปหาอีกทำไม ไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-10-2012 22:33:32
บินหลาหนักแน่นไว้  ยังไงพี่ศรก็ต้องกลับมา

เอมมี่กลับมาเป็นตัวพิสูจน์รักซะแล้ว

+1และเป็ด 

ปล.รอมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 09-10-2012 22:45:11
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ งานสร้างสรรค์ต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงสมอง พักแล้วหายเหนื่อยมาก็เขียนต่อให้คนอ่านได้ชื่นใจกันไปนะค่ะ อย่าข้างคาที่ดราม่าแบบนี้นานน้า :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >;P.42
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-10-2012 23:20:11
แอ่ะ โทรศัพท์ไม่น่าดัง ยัยเอมมี่จะกลับมาทำไมยะ เค้ากะลังจะ...กันนะ    ปล. ขอบคุณที่กลับมา คิดถึง ^_^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: plbb.poy ที่ 09-10-2012 23:51:27
 :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
 o22 o22 o22 o22 o22
อารมณ์นี้เหมาที่สุด อึ้งไปเลยจริงๆ
5555555555555555555
กำลังฟินกับมาม่าปลากระป๋อง
เจอดราม่าสะงั้น แต่ก็ดีนะ อิอิ
อย่างน้อยก้น่าจะทำให้บินเข้าใจมากขึ้น
พี่ศรกลับมาแล้วปลอบบินด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 10-10-2012 00:06:17
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-10-2012 01:00:32
อืม!!อีพี่ศรเปลื่ยนจากหมาเป็นควายทันตาเห็น

เมื่อได้ยินเสียงโหยหวนของชะนี
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 10-10-2012 08:49:02
เห้อ...........
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 10-10-2012 09:02:22
ขอสั้นๆ ค่ะ  "เกลียดชะนี"   :fire:


เอมมี่กลับมาทำไม๊  ตัวเลิกกะเค้าแล้ว  ปล่อยเค้าทิ้งไปแล้วจะกลับมาเอาทำไม
หรือว่าเพราะคนใหม่เค้าเลิก  เลยกลับมาหาพี่ศร


แล้วไอ้พี่ศรนี่ก็อะไร  แฟนเก่าโทรมามีเรื่องร้องไห้แค่นี้ก็รีบออกไป
ไม่รู้รึไงว่ามารยาผู้หญิงมันมากมายแค่ไหนหา?
แล้วไม่รู้รึไงว่าบินจะเป็นยังไง จะรู้สึกยังไง

ไหนบอกเป็นแฟนกันแล้ว  ไหนบอกจะรักบิน
นี่อะไร๊....   นี่อะไร๊



เฮอะ...  เราจะขอให้บินงอนพี่ศรนานๆ เลยเหอะ  เราหมั่นไส้   :3125:





(เพิ่งทักไปเมื่อวานเอง  ขอบคุณที่ยังคิดถึงกันค่ะ  :D  ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ   :L2:  )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 10-10-2012 09:17:59
เค้าเพิ่งจะหวานกันยังไม่พ้นวันเลย  ยัยมี่แกโผล่มาจากไหนนี่  พี่ศรต้องอย่าอ่อนไหวนะ  เพิ่งบอกรักบินไปเอง อย่าเป็นคนใจคอโลเลนะ  ไม่งั้น FC น้องบิน  :z6: ขาคู่พี่แน่ๆ

บินเข้มแข็งไว้  คิดซะว่ามันคือข้อพิสูจน์ว่าพี่ศรจะจริงใจหรือจิงโจ้  พี่ศรสัญญาแล้วนะว่าจะรีบกลับมานะ 


 :L2: :pig4: คนเขียนที่มาต่อให้ค่ะ  แต่อย่าหายไปนานนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 10-10-2012 11:47:51
เอมมี่ทำไมไปแล้วไม่ไปลับกลับมาทำไมห๊าาาาา :angry2:

พี่ศรก็อีกคนไปหาทำไม

กอดต้อนรับคนเขียนหลังจากหายไปนาน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 10-10-2012 14:44:44
...อีกอย่างของ 'รัก'  คือการรอคอยนะบินหลา....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-10-2012 15:19:45
พอบินเริ่มรู้สึกดีกับศร ยัยเอมมี่จะกลับมาทำไมนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 10-10-2012 15:36:30
เริ่มจะรักกันแล้วแต่ก็ยังเจออุปสรรคจนได้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 10-10-2012 23:06:03
หึหึ ชะนี ขัดจังหวะทุกที หึ่ยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 09/10/55 >P.42
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 11-10-2012 19:43:22
ชะนีบอกว่าจะฆ่าตัวตายแหงม

พี่ศรถึงได้รีบออกไปเนี่ย เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 16] 0
เริ่มหัวข้อโดย: nubeebaa ที่ 12-10-2012 20:14:10
ตามทันแล้ว >< ...ตัวละครน่ารักมากเลยคะ แอบคลั่งพี่ศรเป็นพิเศษ ตอนอกหัก ร้องเพลงฮาได้ใจจริงๆ 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 12-10-2012 22:22:01

ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 17


บีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำคันงามเร่งทำความเร็วบนถนน
แซงบ่ายเลี้ยวเข้าจอดคอนโดหรูกลางเมืองกรุง
ซึ่งใครบางคนเคยพาตัวเองมาเยือนหลายต่อหลายครั้ง
ก่อนจะถูกเจ้าของห้องสลัดรักทิ้งไปอย่างไร้เยื่อใย

แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้ที่ไกรศรเร่งกดลิฟต์ขึ้นไปหา
สาวเท้าเดินไปยังหน้าห้องอันคุ้นเคย
กดสัญญาณกรอกเสียงผ่านอินเตอร์คอมด้วยความร้อนรน


“เอมมี่ เปิดประตูหน่อย พี่เองนะ เอมมี่ได้ยินมั้ย”


เขายืนรออยู่นอกห้องอย่างหวั่นใจ
ยิ่งเมื่อหวนคิดถึงประโยคสุดท้ายที่คุยกันทางโทรศัพท์
ก็ให้นึกกลัวขึ้นมาว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย


ร่างสูงได้ยินเสียงกุกกักภายใน
ก่อนประตูจะเปิดออกพร้อม ๆ กับร่างของหญิงสาวพุ่งตัวออกมา
โถมกายกอดเขาเข้าเต็มวงแขนราวกับคนไร้ที่พึ่ง
น้ำตามากมายไหลชื้นเปื้อนอกกว้าง
ขณะที่คนร้องเอ่ยคำพูดปนเสียงสะอื้น


“พี่ศร...ฮึก....พี่ศรช่วยเอมมี่ด้วย
ปอ...ปอเขาทิ้งมี่ไปแล้ว
ฮือออออ...มี่จะทำยังไงดี
มี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา...ฮืออออ...”


“ใจเย็นก่อนนะ เอมมี่
มีอะไรค่อยๆ เล่าให้พี่ฟังนะ”


ไกรศรพยายามลูบหลังปลอบประโลม
พิจารณาร่างในอ้อมแขนที่บัดนี้ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด


...เอมมี่ยังเป็นเอมมี่คนเดิม


เอมมี่ที่ยังตัวเล็ก บอบบาง และน่ารัก
คงมีเพียงสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไป


....นั่นคือความเสียใจ
อย่างที่เขาไม่เคยเห็นเอมมี่แสดงท่าทีแบบนี้มาก่อน
ตลอดเวลาที่เคยอยู่ด้วยกัน


ผู้มาเยือนพาร่างที่ยังคงสะอื้นเป็นพัก ๆ เข้าไปนั่งสงบสติบนโซฟาในห้อง
พร้อมกับรับฟังปัญหาซึ่งพรั่งพรูออกมาเช่นคนที่ไม่อาจทนเก็บไว้


“ปอ...ฮึก...ปอเค้าหาว่าเอมมี่งี่เง่า
...เค้าบอกว่ามี่ไม่เหมือนก่อน
ตะ...แต่เอมมี่ว่าเอมมี่ก็เหมือนเดิม
มีแต่ปอที่เปลี่ยนไป...ฮึก...ปอเค้าบอกว่ามี่ไม่เข้าใจปอ
เค้าอยู่กับคนที่ไม่เข้าใจเค้าไม่ได้
ละ...แล้ว...แล้วเค้าก็....ก็....
บอก...ฮึก...
บอกเลิกเอมมี่...ฮืออออ...”



เหตุผลที่ถูกเอ่ยออกมาทำให้ไกรศรถึงกับนิ่งอึ้ง


...เหมือนกัน


เหตุผลนี้เหมือนกับเมื่อตอนที่เอมมี่ทิ้งเขาไป
ใครหลายคนอาจจะรู้สึกสะใจ
เมื่อเห็นแฟนเก่าถูกทิ้งด้วยสภาพไม่ต่างจากที่เราเคยโดน


แต่สำหรับเขา...
ภาพตรงหน้ากลับทำให้รู้สึกสงสารมากยิ่งขึ้น
ด้วยเพราะเขาเข้าใจดี
ว่าส่วนหนึ่งของความรักมันมักเป็นไปเช่นนี้


ยิ่งรักมาก
ยิ่งเจ็บมากเป็นเรื่องธรรมดา


เขาเคยฟูมฟาย
เคยกินเหล้าเมาไม่ต่างจากหมา
เคยทำทุกวิถีทางบ้า ๆ
เพื่อให้ลืมความเจ็บช้ำจากความรัก


แต่ท้ายที่สุดเมื่อยอมรับได้


...ทุกอย่างมันก็จะผ่านพ้นไป



ไกรศรยื่นกระดาษทิชชูไปให้คนร้องไห้ได้ซับน้ำตา
พร้อมกับพูดปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนลง


“ไม่ต้องร้องนะครับเอมมี่ พี่เข้าใจ
เอมมี่ต้องเข้มแข็งไว้นะ
แล้วเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง”


“ฮึก...พี่ศรพูดง่ายนี่
ปอเขาไม่รักเอมมี่แล้ว
ตอนนี้มี่ไม่เหลืออะไรแล้ว
มันจะไปดีขึ้นได้ยังไง”


“ได้สิ เพราะพี่เคยเป็นเหมือนเอมมี่มาก่อน
แล้วพี่ก็ผ่านมันมาได้แล้วยังไงล่ะครับ”


สิ้นคำอธิบาย คนฟังได้แต่ชะงักนิ่ง
ดวงตากลมโตบวมช้ำหยุดมองร่างสูงใหญ่ตรงหน้า
ซึ่งยังคงทอดสายตาสบมองมาอย่างห่วงใย


จริงสิ...เธอเคยทิ้งคนคนนี้มาก่อน
ด้วยเหตุผลไม่ต่างกันกับที่คนรักใหม่ของเธอได้ทำ


หญิงสาวหวนนึกทบทวนถึงเรื่องราวตลอดสามปีที่ผ่านมา
สามปีที่คบกับผู้ชายคนนี้
แม้เธอจะมีช่วงเวลาแห่งความสุข
แต่ลึก ๆ กลับรู้ตัวมาตลอดว่าพี่ศรไม่ใช่คนที่เธอรักได้อย่างสุดหัวใจ
มันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่
บางอย่างที่ไม่อาจมาเติมเต็มใจของเธอได้
จนกระทั่งได้มาเจอกับปอ
เธอจึงแน่ใจว่าส่วนที่ขาดหายไปได้กลับมาครบสมบูรณ์
เธอเชื่อมั่นอย่างนั่น จึงทำตัวเองเป็นนางร้ายทิ้งพี่ศรไปหาคนใหม่


กระนั้นเธอกลับไม่อาจปฏิเสธว่าพี่ศรคอยดูแลเอาใจใส่
คอยเป็นห่วงเป็นใยดูแลเธออย่างดีเสมอมา
แม้กระทั่งตอนนี้ที่เธอร้องไห้คิดถึงแต่ปอ
พี่ศรก็ยังมานั่งรับฟังและคอยปลอบโยนเธอไม่ห่าง


ถ้าเป็นแบบนั้น...

จะดีกว่ามั้ยหากตอนนี้เธอจะเลือก

‘คนที่รักเธอ’

มากกว่า

‘คนที่เธอรัก’



มือบางยกขึ้นปาดน้ำตา หยุดเสียงสะอื้นไห้
สูดลมหายใจลึกเรียกสติ
ก่อนตัดสินใจเอ่ยถามคำถามสำคัญ


“พี่ศร กลับมาคบกับเอมมี่ได้มั้ยคะ
มี่รู้ตัวว่าตัวเองผิดที่เคยทำกับพี่ศรไปแบบนั้น
แต่คราวนี้มี่สัญญาว่า มี่จะรักพี่ศรคนเดียว
เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะนะคะ”


คำร้องขอที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินทำให้ไกรศรนิ่งอึ้ง


...เรากลับมาคบกันเหมือนเดิม


ประโยคที่เขาอยากฟังมาตลอด
และตอนนี้มันได้ถูกเอ่ยออกมาตรงหน้าอย่างชัดเจน


หากแต่...
ถ้าหมุนเวลาให้เร็วขึ้นกว่านี้อีกสักนิด
เขาคงไม่ลังเลจะตอบรับด้วยความยินดี


ทว่า ณ วินาทีนี้
วินาทีที่ใบหน้าของใครบางคนผุดขึ้นในความทรงจำ
มันกลับทำให้เขาลังเล


“เออ...คือ...เอมมี่...คือพี่....”


“พี่ศรยังรักเอมมี่อยู่ใช่มั้ยคะ”


หญิงสาวถามขัดขึ้นมาอย่างคาดหวัง
ไกรศรนิ่งไปเล็กน้อย
ก่อนจะถอนหายใจเมื่อทบทวนตัวเองแน่วแน่


“ใช่ พี่รักเอมมี่ แต่พี่คงคบกับเอมมี่ไม่ได้
เพราะตอนนี้พี่มีคนสำคัญของพี่แล้ว”


“อะไรนะ! พี่ศรเพิ่งเลิกกับเอมมี่แค่สองอาทิตย์เอง
แล้วพี่ศรจะไปมีใหม่เร็วขนาดนั้นได้ยังไงกันคะ
หรือว่าพี่ศรคบกับเขาก่อนหน้านี้แล้ว”


คนฟังซักถามด้วยน้ำเสียงตกใจอยากไม่คิดจะเชื่อ
แต่ร่างสูงกลับส่ายหน้าปฏิเสธ


“เปล่า ไม่ใช่ พี่เพิ่งเจอเขาแค่สองอาทิตย์นั้นแหละ”


“เอ๊ะ..เจอแค่นั้นแล้วพี่ศรจะไปจริงจังกับเขาเท่าเอมมี่ได้ยังไงคะ
เราคบกันมาตั้งสามปีแล้วนะคะ
ยังไงถ้าเทียบกันพี่ศรก็ต้องรักเอมมี่มากกว่าอยู่แล้วใช่มั้ยคะ”


“พี่ไม่รู้หรอกเพราะพี่เอาเราสองคนมาเปรียบเทียบกันไม่ได้”


“ทำไมล่ะคะ”


นั่นสิ...ทำไม
เป็นคำถามที่เขาเคยถามตัวเองหลายต่อหลายครั้ง
แต่ไม่เคยพบกับคำตอบ


ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร
พอรู้ตัวอีกทีสายตาก็คอยเอาแต่มองหา

ไม่รู้ว่าชอบตอนไหน ชอบเพราะอะไร

ไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับใครได้
เพราะว่าคนคนนั้นแตกต่างจากคนอื่น


...เป็น ‘คนพิเศษ’ สำหรับเขาเพียงคนเดียว


ไกรศรทบทวนความคิดเงียบ ๆ
พยายามเรียบเรียงคำพูด
ซึ่งล้วนกลั่นออกมาจากความรู้สึกข้างในใจ


“ที่พี่เอาไปเปรียบเทียบไม่ได้
เพราะเอมมี่ก็เป็นเอมมี่
ส่วนคนนั้นก็คือเขาคนนั้น
ทั้งสองคนเป็นคนที่ทำให้พี่รู้สึกดี อยู่ด้วยแล้วสบายใจ
แต่ตอนนี้ พี่สัญญากับเขาไว้แล้วว่าพี่จะดูแลเขาให้ดีที่สุด
พี่ไม่อยากทำให้เขาต้องเจ็บเพราะพี่อีก
พี่เป็นห่วงเอมมี่นะ
แต่ให้ทิ้งเขาไป....พี่ก็ทำไม่ได้”



คำพูดที่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้ร่างบางต้องนิ่งฟัง
เธอไม่ใช่คนโง่ ยิ่งเห็นแววตาและท่าทางทั้งหมดก็พอจะเดาได้ว่า


หัวใจของคนที่รักเธอ...

...ไม่ได้อยู่ที่เธอทั้งหมดเสียแล้ว


....ช้าไป


ใครกันนะที่สามารถแบ่งใจของผู้ชายคนนี้ไปได้

ใครกันที่สามารถทำให้พี่ศรผูกพันลึกซึ้งได้เร็วเหลือเกิน

ใครกันที่พี่ศรไม่ยอมปล่อยมือรั้งเอาไว้



“พี่ศรเปลี่ยนไปนะคะรู้ตัวมั้ย”


“เอ๊ะ เหรอครับ”


“ค่ะ ก็ฟังเหมือนพี่ศรคิดถึงเขา
แต่ยังอยากรักษาน้ำใจของเอมมี่อยู่ก็เลยพูดแบบนั้น
ปกติพี่ศรคงดึงดันตัดสินใจเด็ดขาดแน่วแน่ไปแล้ว
แต่วันนี้พี่ศรเลือกใช้คำเหมือนยังห่วงความรู้สึกของมี่มากขึ้นยังไงไม่รู้นะคะ”


คำทักที่ได้ฟังทำให้ไกรศรนึกสะดุดใจ


...จริงเหรอ?


เขาเปลี่ยนไปยังงั้นเหรอ
ไม่รู้ตัวหรอกว่าเมื่อก่อนเป็นยังไง
แต่หากมันจะเปลี่ยนไป
คงเป็นเพราะเขาได้อยู่ใกล้ใครคนหนึ่งที่สอนให้เขาเป็นแบบนี้


แค่พูด...

ก็เผลอนึกถึงใบหน้าบึ้ง ๆ ตาคม ๆ ที่มักจะมองอย่างนึกรำคาญ


คนที่ชอบทำตัวหงุดหงิด แต่ยังคอยถามด้วยความห่วงใย

คนที่ชอบพูดจาขวานผ่าซาก แต่กลับมีคำแนะนำให้เขาอยู่เสมอ

คนที่ชอบไล่ให้ไปไกล ๆ แต่มักจะมีรอยยิ้มให้ทุกครั้งที่คุยกัน



...คนที่ทำให้เขามีความสุขได้มากคนนั้น



...มีเพียงคนคนเดียว...




กริ้งงงงงง  กริ้งงงงงงง


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของไกรศร
เขาเห็นหญิงสาวรีบลุกขึ้นไปหยิบไอโฟนของตน
ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้า
ก่อนจะกดรับพูดกรอกตามสายรีบเร่ง


“ฮาโหล ปอ ปอใช่มั้ย 
ไม่ๆ ปอไม่ผิด เอมมี่งี่เง่าเอง...
....ไม่เป็นไรค่ะ มี่ไม่โกรธหรอก
อือ....แค่ปอกลับมามี่ก็ดีใจแล้ว
...ค่ะ เอมมี่ก็รักปอเหมือนกัน...
...ได้ ๆ งั้นเดี๋ยวมี่จะรอนะคะที่รัก”


เจ้าของห้องกดวางโทรศัพท์ลงพร้อมรอยยิ้ม
นัยน์ตาบวมช้ำที่ก่อนหน้าเศร้าหมองกลับทอประกายระยิบระยับ
ไม่ต้องบอกก็รู้สาเหตุ เพราะแค่ฟังจากบทสนทนา
ไกรศรก็พอจะเดาเรื่องได้ทั้งหมด


“เออ...พี่ศรค่ะ คือ...ปอเขาขอกลับมาคืนดีกับมี่แล้วค่ะ”


“อือ พี่ได้ยินแล้ว
ดีใจด้วยนะ คราวหลังก็อย่าเพิ่งวู่ว่ามล่ะ
คนรักกันทะเลาะกันเรื่องธรรมดา
แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรมาถามพี่ได้ตลอดนะครับ”


คนตัวโตทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วง
ซึ่งอีกฝ่ายก็รับคำพร้อมรอยยิ้ม


“ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ศรที่อุตส่าห์มาช่วยปลอบมี่”


“ไม่เป็นไร เออ...แล้วจะให้พี่อยู่เป็นเพื่อนจนกว่าปอจะมามั้ย”


“ไม่ต้องหรอกค่ะ มี่โอเคแล้ว แค่นี้ก็รบกวนจะแย่”


คนฟังพยักหน้าลงก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา
โดยมีเจ้าของห้องเดินตามไปส่ง


“งั้นพี่กลับก่อนนะ ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ”


“เออ เดี๋ยว พี่ศรค่ะ”


คำรั้งทำให้คนที่กำลังจะก้าวเดินไปนอกประตูชะงัก
ก่อนจะได้ยินคำถามเลื่อนหลุดจากริมฝีปากบาง


...คำถามที่ทำให้เขาต้องหยุดนิ่ง



“พี่ศร รักเขาใช่มั้ยคะ”



รัก?


คำสั้น ๆ ที่เคยได้ยิน
คำที่ไม่เคยหาเหตุผล
ไม่เคยเข้าใจในความหมาย


แต่ในวินาทีนั้น
วินาทีที่นึกถึงใบหน้าของคนคนหนึ่ง
ไกรศรกลับพยักหน้าลงโดยปราศจากความลังเล


“อืม”


หญิงสาวยิ้มบาง ๆ เมื่อได้ยินคำตอบ
แล้วจึงเอ่ยคำอวยพรส่งท้ายจากใจ


“งั้นขอให้รักกันนาน ๆ นะคะ”


“เช่นกันครับ”


ไกรศรตอบกลับไปจากความรู้สึกข้างในจริง ๆ ไม่ต่างกัน


การจากลาครั้งนี้ระหว่าง เขา กับ เอมมี่
ไม่เหมือนกับคราวจากลากันเมื่อครั้งแรก


เราต่างรู้ดีว่าเราอาจไม่มีทางหวนกลับมาคบกัน
แต่ถึงอย่างนั้นเรายังมีความทรงจำดี ๆ ร่วมกันไว้


ไม่ทุกข์ทรมาน
ไม่เจ็บช้ำปวดร้าว
ไม่กล่าวโทษใครต่อใคร
ทว่ากลับอวยพรให้อีกคนได้เจอกับรักที่สมหวัง


...การจากกันด้วยดีคงเป็นแบบนี้


จากลาเพื่อเริ่มต้นใหม่
กับใครอีกคนที่เราทั้งคู่จะสามารถมอบความรักให้ได้อย่างสุดหัวใจ


เหมือนที่ไกรศรเองได้เจอกับคนนั้น

ได้เจอกับคนรักที่เขาสามารถรักได้โดยไม่ลังเล


คนรักที่รอเขากลับไปหา


...บิน



------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 12-10-2012 22:40:18
ว้าววววววววววววว  ช็อตนี้หวานจังเลย
พี่ศรรู้ตัวแน่วแน่แล้วนะว่ารักบิน
จะไม่ทำให้บินเสียใจ เจ็บปวดใจอีกแล้วนะ

เมื่อรู้ตัวแล้วก็ควรทำให้ดีนะ  แล้วเราจะรักพี่ศรมากกว่าที่เป็นอยู่  ฮ่าๆๆๆ

เราเข้าใจที่พี่ศรบอกกะมี่ค่ะ  คบกันมันต้องมีทะเลาะกันอยู่แล้ว
แต่ทะเลาะกันก็ไม่ควรจะใช้ความแรงเข้าหากัน  ไม่ควรจะวู่วาม
และฝ่ายหญิงไม่ควรจะคิดมาก คิดไปเรื่อย  เพราะว่าผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายคิดมาก คิดไปไกล ฮ่าาาาา



เมื่อพี่ศรรู้ตัวเองแล้ว...  คราวนี้เราก็รอให้บินรู้ความรู้สึกตัวเองต่อสินะคะ  ฮ่าาา
รู้ตัวเองไวๆ นะบิน  เราจะคอยเชียร์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 12-10-2012 22:44:02
สั้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  *โหยหวน*
แต่ก็ดีแล้ว หายโกรธพี่ศรไปจิ๊ดนึง
รีบกลับไปง้อบินไวๆเลยย่ะ ป่านนี้นอนน้ำตานองหน้า น้ำท่วมห้องไปแล้ว!
บินนนนน สักตุ้บสองตุ้บนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 12-10-2012 22:50:17
พี่ศรในที่สุดก็รูตัวแล้ว  รีบกลับไปาน้องบินเลย


รอลุ้นน้องบินให้รู้ใจตัวเอง


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-10-2012 22:51:28
ให้รีบเลยศร  ไม่รู้ป่านนี้บินจะน้อยใจไปถึงไหนแล้ว

 :z3:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-10-2012 22:59:13
 :กอด1:สายไปมั้ยนายศร กับการกระทำ


วิ่งร่าเมื่อแฟนเก่าเรียกหา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-10-2012 23:10:55
พี่ศรกลับไปหาบิน
บินจะคิดไปไกลแค่ไหนล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 12-10-2012 23:11:31
ในที่สุดพี่ศรก็รู้ใจตัวเองซักที แต่อย่าลืมกลับไปเคลียร์กับเขาละ
เดี๋ยวเขาจะน้อยใจ ตอนนี้เขายิ่งแอบแบ่งใจมาให้บ้างแล้วต้องรีบทำคะแนน
 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 12-10-2012 23:15:36
อ้าว บินหาย สั้นไปไหมค่ะ
แต่ก็ตอบโจทย์หมดแล้ว คลี่คลายค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >;P.43
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 12-10-2012 23:20:19
พี่ศรรีบกลับไปหาบินเหอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 12-10-2012 23:27:04
คิดเล่นๆนี่ถ้าพี่ศรตอบตกลงกับเอมมี่ไป หลังจากนั้นไม่เกินครึ่งชั่วโมง ปอกลับมา
พี่ศรมิกลายเป็นไอ้งั่งไปเลยเร้อออ เสียใจแต่อย่าเสียสตินะจ๊ะเอมมี่
สรุปสองคนนั้นเค้าก็โกรธกันเองดีกันเอง แต่อย่างน้อยที่พี่ศรมาก็ไม่ได้เสียเปล่าหรอกเนอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 12-10-2012 23:29:05
พี่ศรนิสัยไม่ดีอ่ะ
โป้งเลยนะ
ทำบิินเจ็บปวด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 13-10-2012 10:49:19
นึกว่าจะกินมาม่าต่อนเนื่องซะละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-10-2012 10:56:10
พี่ศรรู้แล้วสินะว่ารักคืออะไร เข้าใจความรู้สึกของตัวเองแล้วสินะ

กลับไปหาบินดีกว่า ป่านนี้รอแย่แล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-10-2012 11:15:47
พี่ศรรีบมาหาแฟนเก่าแบบนี้ บินงอนแน่ๆ  :haun5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: nubeebaa ที่ 13-10-2012 11:48:30
พี่ศรนิโคตรเท่เลยอ่ะ >w<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 17] 12/10/55 >P.43
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 13-10-2012 12:11:16
กลับไปหาน้องบินเร็วพี่ศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 13-10-2012 21:41:55
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตที่ 18


“อย่าโกรธเลยที่ฉันไม่เคยเข้าใจ
เก็บคำถามที่มีและความสงสัยไว้เสมอ
ในเมื่อเธอไม่เคยจะลืมเขา คนที่เคยเป็นคนรักเธอ
ฉันไม่รู้ต้องทำอย่างไร และรู้ไหมว่าลำบากใจเสมอ

มันจะเป็นอย่างนี้อีกนานเท่าไหร่  ต้องได้ยินถ้อยคำบาดใจซ้ำๆ
เรื่องของเขา ได้แต่ยิ้มฟังเธอ แต่รู้ไหม ว่าในใจฉันมันเศร้าๆ
จริงๆ แล้วเธอนั้นยังไม่ลืม  หรือว่าเธอนั้นไม่อยากลืมเขา

ต้องทำยังไง บอกหน่อยได้ไหม
ฉันรักเธอได้หรือเปล่า ทำไมในใจเธอมีแต่เขา
เหมือนเธอนั้นไม่เคยลืมเขาเลย
หรือเธอไม่เคยจะลืม

...ลืมเขาได้เลย”



http://www.youtube.com/v/O3lbVbJXnok?


นักร้องนำวางไมค์ลงหลังเอ่ยเนื้อเพลงประโยคสุดท้ายที่จะเล่นในค่ำคืนนี้
ก่อนจะก้าวเดินลงมาจากเวทีพร้อมกับสมาชิกวงที่เหลือ


“เฮ้ย ไอ้บิน ท๊อปฟอร์มเลยนะวันนี้
เล่นร้องซะอิน เหมือนอกหักจริง ๆ กูนี่ขนลุกเลย”


เสียงไอ้เผือกเพื่อนรักแซวดังมาตามหลัง
เขาแค่พยักหน้ารับไม่หันกลับไปต่อปากต่อคำเหมือนเดิม
ก็เพราะว่าส่วนหนึ่งมันอาจจะจริง


ดวงตาคมเหลือบมองนาฬิกา

...ตีหนึ่งกว่าแล้ว
นับตั้งแต่เช้าจวบจนตอนนี้


...นี่อาจเป็นครั้งแรกที่เขากับใครบางคนแยกห่างจากกันได้นานที่สุด


“กูกลับก่อนนะ”


บินหลาเอ่ยบอกสั้น ๆ เดินผลักบานประตูร้านเฮียเอกออกไปเพียงลำพัง
ไม่แม้แต่จะฟังคำลาของเพื่อน ๆ ที่มองกันมาอย่างงง ๆ
โดยเฉพาะไอ้เผือกที่ยกมือเกาหัวแกรก


“ไอ้ต้น ไอ้แมน มึงว่าบินมันเป็นอะไรเปล่าวะ
แซวด้วยก็ไม่เล่นด้วย ทุกทีแม่งต้องเอาไมค์โขกหัวกูแล้ว”


“สงสัยทะเลาะกับพี่ศรมั้ง ไม่เห็นพี่เขามาเลยนี่”


เป็นไอ้แมนตัวฉลาดประจำกลุ่มตั้งข้อสันนิษฐานขึ้นมาลอย ๆ
พวกเพื่อน ๆ คิดตามแล้วจึงพยักหน้าหงึกหงัก

...สงสัยจะจริง
เพราะวันนี้ไม่มีแม้เงาของคนรูปหล่อตัวโต
ที่มาคอยตามนักร้องประจำวงเหมือนอย่างเคย


พวกเขาไม่ได้รังเกียจอะไรที่เพื่อนมีแฟนเป็นผู้ชาย
ถึงตอนแรกดูจะงง ๆ สับสนกึ่งไม่เชื่อ
แต่พอได้เห็นท่าทางของคนทั้งคู่
เลยพอเดาออกได้ว่าเป็นเรื่องจริง


พี่ศรเองก็เป็นคนดี มีน้ำใจ
พยายามแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทุ่มเทดูแลให้บินได้มากแค่ไหน
คงเหลือแต่บินเนี่ยแหละที่ยังคงไม่แน่ใจ
ไอ้เพื่อนเขาคนนี้มันไม่เคยเริ่มต้นรักใครจริงจังซะด้วย
ไม่รู้จะเข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้มากแค่ไหน


แต่ถึงอย่างนั้น...
พอมาเห็นสภาพในวันนี้ของบิน
พวกเขาเชื่อว่าคงใช้เวลาอีกไม่นานแล้ว
ที่นักร้องนำประจำวงจะรู้ใจตัวเอง


ส่วนจะทำให้ยอมรับได้มากแค่ไหน
ก็คงขึ้นอยู่กับฝีมือของพี่ไกรศร


...รักแรกของไอ้บินแล้วล่ะ



มือกีตาร์เก็บของไปพลางคิดเพลิน ๆ ไปพลาง
เตรียมตัวพาวงเดินออกนอกร้าน
ทว่ายังไม่ได้ผลักประตูใครบางคนกลับเปิดสวนเข้ามาเสียก่อน
ไม่ใช่ใครอื่นหากแต่เป็นร่างสูงใหญ่ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี


“อ้าว หวัดดีครับพี่ศร โห มาช้าไปป่ะเนี่ย วงผมเล่นเสร็จไปเมื่อกี๊เอง”


“โทษที พอดีพี่พึ่งมาจากกรุงเทพ แล้วบินอยู่ไหนล่ะ”


ไกรศรเอ่ยตอบกลับพลางชะเง้อมองไปยังด้านหลังของกลุ่มน้อง ๆ


“อ๋อ ออกไปแล้วครับ สงสัยสวนกัน
บินมันเพิ่งออกไปเมื่อห้านาทีที่แล้วเองพี่
ดูเงียบ ๆ ซึม ๆ ยังไงไม่รู้”


...เงียบ ๆ ซึม ๆ เหรอ
หรือบินจะโกรธที่เขาออกไปหาเอมมี่แล้วทิ้งบินไว้คนเดียว
ไม่ได้แล้ว...เขาต้องรีบไปตามหา
อยากไปอธิบายให้บินเข้าใจ


“อืม งั้นพี่ไปก่อนนะ กลับกันดี ๆ ล่ะ”


“เดี๋ยว พี่ศรครับ”


เสียงรั้งด้านหลังทำให้คนกำลังหมุนตัวชะงัก
เขาหันมามองหนุ่มหน้าตี๋กับบรรดาเพื่อนสมาชิกในวงอีกสองคน
ก่อนเผือกจะวางมือลงบนไหล่เขา บีบเบา ๆ พร้อมกับพูดคำบอกสั้น ๆ


“ฝากเพื่อนผมด้วยนะพี่”


ไกรศรสบมองแววตาจริงจังของคนทั้งสามคน
ที่คล้ายกับจะฝากฝั่งเพื่อนคนสำคัญเอาไว้
ก่อนพยักหน้าลงรับคำยืนยัน


บินช่างได้เพื่อนดีจริง ๆ
แม้จะรู้จักกันไม่นานแต่เขาจะทำให้เพื่อนของบินผิดหวังไม่ได้


เขาจึงรีบผละออกมาจากร้าน
เร่งสาวเท้าไปตามทางเดิน
มุ่งหน้าสู่หอพักซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกล


อยากรีบไปหาเพื่อบอกว่ากลับมาแล้ว
กลับมาตามสัญญา
กลับมาทำหน้าที่แฟนที่ดี


....และคราวนี้เขาจะรักษาบินเอาไว้ให้ได้นานที่สุด


คนตัวโตรีบร้อนก้าวขึ้นบันไดตรงดิ่งไปยังห้องพักชั้นบน
เขาพยายามเปิดประตู แต่ปรากฏว่ามันล็อคแน่น
ราวกับขวางกั้นไม่ให้เขาได้มีโอกาสอธิบายใด ๆ


“บิน...บินอยู่รึเปล่า...
พี่ศรเองนะ...
...เปิดประตูให้พี่หน่อยบิน
พี่ขอโทษที่ทิ้งบินไป ให้พี่ได้อธิบายก่อน
...อย่าเพิ่งโกรธพี่เลยนะ
ขอร้องล่ะ...บิน เปิดประตูหน่อยได้มั้ย....
บินได้ยินรึเปล่า... บิน...บิน...”


แม้จะทั้งเคาะทั้งตะโกนเรียกคนที่อยู่ภายใน
ทว่ากลับไม่มีแม้เสียงตอบรับใดหลุดรอดออกมาสักนิดเดียว


...บินโกรธขนาดนี้เลยเหรอ
โกรธจนกระทั้งไม่ยอมมองหน้าไม่ยอมคุยด้วย
แล้วที่นี่จะทำยังไงดี...
จะทำยังไงให้บินเข้าใจแล้วให้โอกาสเขาอีกครั้ง


ไกรศรคิดอย่างกระวนกระวายใจ
ก่อนดวงตาจะเหลือบเห็นบางสิ่งที่อยู่ตรงกำแพง


...หรือจะพังประตูเขาไปซะเลยดีมั้ย
ถังดับเพลิงก็มีอยู่ตรงนี้ ถ้าทุ่มใส่ประตูคงเข้าไปได้
ถึงจะทำให้บินโกรธเพิ่มอีก
แต่ตอนนี้เขาพร้อมยอมแลกทุกอย่างแล้ว


“บินขอร้องล่ะ ฟังพี่หน่อย
ถ้าไม่ยอมเปิดประตู
งั้นพี่จะพังประตูเข้าไปแล้วนะ”


ไกรศรขยับยกถังดับเพลิงขึ้นมาไว้ในมือ
ทำท่าจะพังใส่ประตูจริงจังหากอีกฝ่ายไม่ยอมเปิดในวินาทีข้างหน้า
ทว่ายังไม่ทันได้ทำอย่างที่คิด
เสียงเสียงหนึ่งกลับดังขัดขึ้น


“มึงจะทำอะไรน่ะ”



เขารีบหันไปมองตามเสียงทักทันที

เป็นคนนั้น...

คนที่เฝ้ารอหากำลังหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
พร้อมกับที่ดวงตาคมมองกลับมาด้วยความงงงวย
พลางเอ่ยปากถามเมื่อเห็นของที่อยู่ในมือ


“มึงถือถังดับเพลิงไว้ทำไม”


“ก็พี่คิดว่าบินอยู่ในห้อง
เรียกเท่าไรก็ไม่ตอบ
เลยว่าจะพังประตูเข้าไป”


“ห่ะ? อะไรนะ? พังประตู
นี่มึงประสาทแดกป่ะเนี่ย
กูไม่อยู่ห้อง เดินไปซื้อข้าวกล่องเซเว่นมา
ก็เห็น ๆ อยู่ว่าแม่กุญแจมันล็อคคาเอาไว้
นี่มึงตาบอดรึไงวะ โอยยย กูอยากจะบ้า!!”


บินหลานึกเซ็งในอารมณ์กับพฤติกรรมของใครบางคน

 
กลับมามันก็ทำมึนใส่เหมือนเดิมเดี๊ยะ
สมกับเป็นมันจริง ๆ มึนได้เสมอตนเสมอปลาย
คิดไปได้ว่าจะพังประตู
อะไรจะรีบร้อนมาหากูขนาดนั้น
ทำเหมือนหมาตัวโตเฝ้าหน้าห้องรอเจ้าของ
ทีตอนเช้ามึงยังรีบวิ่งไปหาเอมมี่อยู่เลย
กลับมาตอนนี้เขาไม่เป็นไรแล้วหรือไง


ความสงสัยที่วนเวียนอยู่ในใจ
ทำให้คนไขกุญแจเปิดประตูห้อง
อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอย่างลอย ๆ


“แล้วเขาว่าไงมั้ง”


“หือ อะไรหรอ”


“เอมมี่ไง”


“ไม่เป็นไรแล้ว เขากลับไปคืนดีกับคนที่รักแล้ว”


“เหรอ”


บินหลาพยักหน้ารับ
ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นมาอย่างสับสน
เป็นความรู้สึกทั้งโล่งใจแปลก ๆ
แต่กลับเต็มไปด้วยความก่ำกึ่งไม่แน่ใจ


...เอมมี่คืนดีกับคนที่รัก


ถ้างั้นไอ้หน้ามึนก็คงอยู่ในสถานะถูกทิ้งอีกครั้งสินะ

แล้วมันจะเป็นอะไรมั้ย..

โดนทิ้งครั้งแรกจะเป็นจะตายขนาดนั้น
แล้วนี่ยังกลับไปให้ผู้หญิงปฏิเสธเป็นครั้งที่สองอีก

...สงสัยที่มันรีบกลับมา
คงเพราะอยากมาหาที่ดามใจเพื่อให้ตัวเองฟูมฟายคร่ำครวญซะล่ะมั้ง


“แล้วมึงกินไรมารึยัง หรือจะกินเหล้าเลยมั้ย
ห้องกูมีแต่โซดานะ เหล้าเพิ่งหมดไป คงต้องลงไปซื้อเพิ่ม”


คำถามที่อยู่ ๆ ก็ดังขึ้นทำให้ไกรศรขมวดคิ้วอย่างงงๆ


“บินอยากกินเหล้าเหรอ”


“เปล่า มึงนั้นแหละที่จะกิน
ก็มึงโดนเอมมี่เขาปฏิเสธมานี่
ไม่กินเหล้าย้อมใจเหมือนคราวที่แล้วเหรอ”


“พี่ไม่ได้เป็นอะไร พี่กับเอมมี่จากกันด้วยดีแล้ว
อีกอย่างพี่ก็บอกเขาไปแล้วว่า
ตอนนี้พี่เองก็มีคนสำคัญของพี่เหมือนกัน”


ไกรศรขยับเดินเข้ามาใกล้คู่สนทนา
ดวงตาคู่เดิมที่ทอประกายวอนขอสบเข้ากับดวงตาคม
ก่อนคำพูดที่เต็มไปด้วยน้ำเสียงจริงใจจะถูกเอ่ยออกมา


“บิน ที่พี่รีบมา เพราะพี่อยากกลับมาหาบินนะ
พี่อยากกลับมาบอกกับบินว่าพี่จะทำตามสัญญา
จะดูแลบินให้ดีที่สุด คอยอยู่ข้างบิน จะไม่ทิ้งบินไปไหนอีก
เพราะฉะนั้น....”


ร่างสูงคุกเข่าลงข้างหนึ่งบนพื้นห้อง
ก่อนจับมือซ้ายของคนตรงหน้ามากุมไว้
ให้ความอุ่นไอระหว่างมือทั้งสองส่งถึงกัน
แล้วจึงเอ่ยถ้อยคำสำคัญ...


...คำคำนั้น



“เป็นแฟนกับพี่นะครับ บิน”




ห่ะ?


อะไรนะ


ดะ...เดี๋ยวก่อนเมื่อกี๊มันว่าอะไรนะ


บินหลานิ่งงงอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก
มันขอเป็นแฟนแต่เล่นคุกเข่าเหมือนขอแต่งงาน
ใครที่ไหนในโลกมันจะบ้าทำกันแบบนี้


แล้วที่สำคัญคือ...


มึงเพิ่งจะมานึกได้ว่าควรถามเอาตอนนี้รึไงวะเนี่ย!!



“ไหนมึงบอกว่าข้ามขั้นนั้นไปแล้วย้อนกลับมาไม่ได้ไง”


คนถูกขอเอ่ยทวนความทรงจำ
ทีตอนนั้นอธิบายไปเท่าไรมันดันตีหน้ามึนใส่
พอคราวนี้เสือกมาขอคบกันดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น


“ก็บินเคยบอกว่าพี่ชอบบังคับเอาแต่ใจตัวเอง
ครั้งนี้พี่ก็เลยจะถามบินให้แน่ใจ
ว่าบินอยากคบพี่เป็นแฟนจริง ๆ รึเปล่า”


บินหลาเกาหัวแกรกอยากจะบ้าตายให้กับคำอธิบาย
ก่อนตัดสินใจย้อนถามกลับอย่างลองเชิง


“แล้วถ้ากูไม่คบล่ะ”


ไกรศรสะดุ้ง เริ่มใจเสียขึ้นมานิด ๆ
พยายามตอบคำตะกุกตะกัก
แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยมือที่กุมไว้


“เออ...พี่ก็...พี่ก็คงจะอกหัก”


“ถ้ามึงอกหักแล้วก็คงจะไปกินเหล้าเมาอีกล่ะสิ
แล้วมึงคิดเหรอว่าจะมีคนดี ๆ แบบกูไปเก็บมึงขึ้นมาอีก
เมาเหมือนหมาอย่างนั้น ขืนโดนคนรูดทรัพย์ไปจะว่ายังไง
หัดฉลาดบ้างสิวะ เรื่องบางเรื่องไม่ใช่คิดเองเออเองคนเดียว
อันไหนใช้เหตุผลได้ก็ควรใช้ อันไหนที่มันไม่ต้องใช้ก็ช่างแม่ง
มึงสอนกูเองแท้ ๆ เสือกทำเป็นลืม ตกลงเข้าใจบ้างรึยังวะเนี่ย”


คำเทศน์ยาวเหยียดทำให้ไกรศรได้แต่กระพริบตาปริบ
พยายามวิเคราะห์ตีความในประโยคเหล่านั้น


“ถ้างั้นสรุปว่า...”


ดวงตาคมสบมองอย่างหงุดหงิด
ก่อนจะตัดสินใจพูดตอบกลับสั้น ๆ


...แต่เป็นคำพูดที่ทำให้คนฟังถึงกับยิ้มกว้าง



“เออ มึงเป็นแฟนกู เป็นมาตั้งนานแล้วด้วย ชัดพอรึยัง”




ชัด...

ชัดเจนแล้ว...


บินเป็นแฟนเขา
บินหลาเป็นแฟนไกรศร
เป็นโดยที่เขาไม่ได้บังคับ
แต่บินเลือกด้วยตัวเอง


...แค่นี้สำหรับเขาก็เพียงพอแล้ว


คนที่คุกเข่าผุดลุกขึ้นยืนดึงมือที่ยังกุมไว้
เพื่อรั้งร่างของอีกคนเข้ามากอดในอ้อมแขนด้วยความดีใจ
ซึ่งอีกฝ่ายก็ยกแขนกอดตอบกลับโดยไม่ได้ขัดขืน
ปล่อยให้คำกระซิบสำคัญดังก้องขึ้น


...ถ้อยคำที่ตรงมาจากหัวใจ




“พี่รักบินนะ”




รัก?



คำคำนี้ที่ไม่เคยเข้าใจในความหมาย
คำที่ไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบาย
คำที่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร


แต่ความรู้สึกอุ่น ๆ ในอก
เสียงของหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะ
ภายใต้อ้อมกอดของกันและกันนี้


...สำหรับเขาสองคนต่างรับรู้ตรงกันว่า


ทั้งหมดนี้คือนิยามส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า...



...รัก





------------------------------------------------------------------------------------------------------




“ฉันคิดว่ารักมันคือความผูกพัน
คิดว่ารักแท้ต้องเดินผ่านวันและเวลา
ยิ่งเนิ่นนานนานไปเท่าไร ความรักยิ่งมีค่า
ที่ฉันรู้ที่เคยฝัน รักที่ฉันเคยเข้าใจ

ไม่คิดไม่ฝันเมื่อเธอผ่านเข้ามา
เหมือนว่าสายตาฉันเองมองไม่เห็นใครๆ
หยุดที่เธอแค่เพียงสบตา และวินาทีนั้น
โลกทั้งโลกหยุดเคลื่อนไหว ท้องฟ้ากลับสดใส

ลมหายใจ เหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจ ลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลา แค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ...

ฉันเพิ่งเข้าใจว่ารักเป็นอย่างนี้
ฉันเพิ่งเข้าใจเมื่อได้มาเจอด้วยตัวเอง
เสี้ยวนาทีก็มีความหมาย เปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ
ฉันเพิ่งรู้ในวันนี้ รักไม่ต้องการเวลา

ลมหายใจ เหมือนหยุดไปในห้วงนาทีนี้
เช่นหัวใจ ลอยหลุดไปทันทีที่สบตา
เธอหยุดยั้งวันเวลา แค่เราได้พบกันในวันนี้
แค่พบเจอกับเธอ ก็รักเธอ


...ฉันรักเธอ”



http://www.youtube.com/v/HBv8c-I2cco?




เสียงทุ้มนุ่มแผ่วเพราะหยุดร้องลงพร้อมท่วงทำนอง
เป็นอันจบเพลงสุดท้ายในค่ำคืนนี้


บินหลาเดินลงจากเวทีพร้อมกับสมาชิกในวง
ที่ตามหลังเขามาพลางเอ่ยคำแซว


“ท็อปฟอร์มเหมือนเดิมเลยนะมึง
แต่วันนี้ดีกว่าเมื่อวานว่ะ สงสัยแม่งออกมาจากอินเนอร์
กูฟังแล้วอย่างเลี่ยนอ่ะ แทบจะอ้วกตามบนเวที”


“ไอ้คุณเผือกครับ เก็บสุนัขในปากคุณมึงด้วยนะครับ
ถ้าไม่อยากโดนตีนกูซัดจนสูญพันธุ์”


คนโดนกัดหันมาตอบพร้อมคำขู่ จนหนุ่มตี๋จำต้องล่าถอย
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงแอบอมยิ้มในใจเงียบ ๆ
นี่แหละไอ้บินเพื่อนเขาคนเดิมต้องฟีลประมาณนี้ใช่เลย


“เออ ๆ เงียบก็ได้ว่ะ
แหม..แค่แซวนิดแซวหน่อยเองทำมาเป็นดุ
กูไปหาอะไรล้างคอดีกว่า
โหย...พี่ศรอยู่ตรงบาร์พอดีเลย
กูมีเจ้ามือเลี้ยงแล้วเว้ยเฮ้ย!!”


คนอยากดื่มรีบเดินปรี่เข้าไปหาใครบางคนที่นั่งรออยู่ตรงบาร์เหล้า
โดยมีสมาชิกวงคนอื่น ๆ เดินตามไปด้วย


ดวงตาคมมองคนคุ้นเคยที่นั่งรออยู่
พร้อมถือแก้วค็อกเทลสีส้มสวยไว้ในมือ
แค่เห็นก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น


...เอาอีกแล้ว
ไอ้เรื่องเหล้าอีกแล้ว
ไม่รู้วันนี้ระหว่างรอซัดไปมากเท่าไร
เตือนไปไม่เคยจะจำกันเลย
พอเมามาก็ต้องเป็นภาระให้เขาแบกกลับไปทุกที


“นี่ดื่มไปเท่าไรแล้ววะ บอกว่าอย่าดื่มให้มากไง”


“โห มึงก็ทำเหมือนแม่เขาไปได้
พี่ศรเขาแค่ดื่ม Sex on the beach ไม่เมาหรอก”
มึงอ่ะเอาด้วยมั้ย”


เป็นไอ้เผือกที่ตอบกลับขึ้นมาแทน
แถมท้ายประโยคยังเอ่ยชวนเพื่อน
แต่คนฟังกลับส่ายหน้าปฏิเสธ


“ไม่เอากูเมาแล้ว”


“ห่ะ? เมาไรว่ะ?”


เผือกขมวดคิ้วงงกับคำตอบ
ร้องเพลงก็ร้องด้วยกันบนเวที
เหล้าก็ยังไม่ได้แตะซะหน่อย
มันจะเมาอะไรได้วะ


บินหลานิ่งเงียบก่อนจะเอ่ยคำสั้น ๆ
แต่มีอานุภาพมากพอที่ทำให้คนในวงสนทนาถึงกับนิ่งอึ้ง



“กูเมารัก”




“พรวดดด!!”


ไกรศรถึงกับสำลักค็อกเทลที่กำลังเข้าปากทันที
ร่างสูงไอค่อกแค่กแต่ก็ยังถามกลับอย่างไม่คิดจะเชื่อหู


“อะไรนะบิน เมื่อกี๊ว่าอะไรนะ”


“ไม่บอกแล้วโว้ย! พี่จัด Whisky on the rocks ให้ผมแก้วหนึ่งด่วนๆ”


เขาเฉไปสั่งเหล้ากับบาร์เทนเดอร์แทน
ก่อนเสียงเป่าปากแซววี้ดวิ้วจะดังขึ้น
ปะปนกับเสียงหัวเราะครื้นเครงดังลั่นร้านในค่ำคืนนี้


........


.....


...


..



‘ความรัก’ คืออะไร

สำหรับเขามันยากที่จะนิยามความหมายให้ตรงตัว
มันอาจเป็นได้หลายความรู้สึก
ไม่ได้ต้องมีนิยามเจาะจงเฉพาะในการอธิบาย


เหมือนกับเวลาเราดื่มเหล้า
บางครั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์อาจช่วยทำให้เราค้นหาคำตอบ
จากความรู้สึกลึก ๆ ข้างในโดยไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล


...ความรักของเขาเองก็เป็นเช่นเดียวกัน


ใครบางคนที่เดินเข้ามาในชีวิต
ไม่ใช่มาเพื่อเติมเต็ม
ไอ้หน้ามึนเข้ามาเป็นส่วนเกินเสียด้วยซ้ำ
แต่พอมันจากไป


ไม่รู้ทำไม...
มันกลับทำให้เขาลืมว่า


...ชีวิตที่พอดีอยู่แล้วของเขาก่อนหน้านั้นเคยเป็นยังไง


คิดตั้งคำถามกับตัวเองหลายต่อหลายครั้ง
แต่กลับไม่ได้รับคำตอบที่ฟังดูสมเหตุสมผล


มีเพียงความรู้สึกจากใจเป็นสิ่งเดียวซึ่งทำให้เขาเชื่อว่า
คนคนนี้คือคนที่เขารอ
คือคนที่จะมอบหัวใจไว้ได้



...ความรัก


เขายังไม่เข้าใจมันดีพอหรอก


แต่เขาเจอคนที่ช่วยทำให้เขาค้นพบมันได้มากขึ้นแล้ว
หลังจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
เขาจะค่อย ๆ เรียนรู้จักมัน
อาจมีมึน ๆ อาจเมา ๆ ไปบ้าง



แต่นั้นแหละ...



สิ่งเหล่านี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของ ‘ความรัก’ ก็ได้


...ใครจะไปรู้จริงมั้ยครับ




...ขอดื่มฉลองให้คุณค้นพบ...

...ความรู้สึกที่เรียกว่า ‘ความรัก’ มากขึ้นนะครับ...


เอ้า...ชนแก้ว!!





------------------------------------------------------------------------------------------------------




END







ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach Whisky on the rock  จบบริบูรณ์แล้วค่า!!  :mc4:

แน่นอนว่าหลังจากนี้ก็จะมีภาคพิเศษให้ได้แอบมาปล่อยของกันอีกเช่นเคย
ภาคนี้ยอมรับว่าคนเขียนมึนเมาไปกับทั้งน้องบินและพี่ศรเหมือนกัน
ถึงขนาดต้องเตรียมยาแก้แฮงค์ไว้ใกล้ตัวตลอด
เพราะไม่รู้ว่าพี่ศรจะพามึนไปได้ขนาดไหน  :เฮ้อ: ...เหนื่อย


สำหรับคอนเซปต์ของภาคนี้ถ้าจะให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ‘ความรักมันไม่มีเหตุผล’ ค่ะ


ไกรศรใช้ชีวิตตามความรู้สึกของตัวเองเป็นที่ตั้ง คิดอย่างไรก็ทำไปแบบนั้น
ส่วนบินหลาใช้เหตุผลเป็นตัวนำทางชีวิต พอมาเจอไกรศรรุกมาก ๆ เข้า
เลยออกอาการมึน ๆ งง ๆ อย่างที่เห็น
แต่พอท้ายที่สุดเมื่อบินเข้าใจว่า
บางสิ่งไม่จำเป็นต้องใช้สมองอธิบาย ใช้แค่หัวใจรู้สึก
ความคิดของน้องบินก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป

ตัวไกรศรเองถึงแม้จะใช้ชีวิตแบบเอาแต่ใจ
แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องบางเรื่องเขาก็ได้เรียนรู้ว่าเราจะไปบังคับคิดเองไม่ได้
โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของคนอื่นที่เราไม่สามารถไปตัดสินใจแทน

ต่างคนต่างเปลี่ยน ต่างปรับตัวเข้าหากัน
จนมาเจอความพอดีและยอมรับกันและกันได้ในท้ายที่สุด


แฮปปี้เอนสะดิ้งไปเรียบร้อยสมดังสุภาษิต


‘หวานเป็นลม ขมเติมโซดา’   :a9:


อ้าว... เอ๊ะ... ไม่ใช่เหรอ?    :z6:



ขอบคุณนักอ่านที่แวะเวียนเข้ามาร่วมมึนร่วมเมาไปกับซีรีย์ภาคนี้นะคะ
แม้จะทิ้งระยะห่างไปนาน แต่ก็ดีใจที่ยังคงไม่ลืมกัน
ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุก ๆ คอมเมนต์
ทุกการถามไถ่ ทุกมิตรภาพที่มีมาให้เสมอค่ะ
ซีรีย์หน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้น
ยังไงก็ต้องขอฝากตัวอีกครั้งด้วยนะคะ


แล้วพบกันใหม่ค่า

 :กอด1:


รักและคิดถึง


BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: chaaom ที่ 13-10-2012 22:02:15
จบไปอีกเรื่องหนึ่งแล้ว น่ารักมากๆ
บินกับพี่ศรนี่มึนๆเมาๆ พอกันจริงๆ55
เราอ่านถึงตรงที่บินพูดว่าเก็บพี่ศรมาแล้วฮาเลย นี่มันไม่ต่างอะไรกับลูกหมาถูกทิ้งเลยนะ :กอด1:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 13-10-2012 22:05:35
อ้าว จบแล้วอ่ะ กำลังเพลินเลย :serius2:
สารภาพว่าเรื่องนี้มึนจริงๆ เราก็อ่านแบบอึนๆมึน งงว่าตกลงพวกเอ็งรักกันตอนไหน ยังไง รักด้วยความมึน???
อืม มึนอ่ะ อึนเลย
แต่ตอนจบบินน่ารักอ่ะ แอบเสี่ยวเบาๆ
รอเรื่องต่อไปนะคะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-10-2012 22:07:00
จบแล้วเหรอ เสียดายจัง
ขอตอนพิเศษแบบหวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะจ๊ะคนแต่ง
ตั้งแต่อ่านมาเค้ายังไม่ได้หวานกันเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 13-10-2012 22:10:34
พี่ศรน่ารักที่สุดอิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-10-2012 22:16:46
น้องบินเสี่ยวได้น่ารักมากๆๆ   


พี่ศรคงจะหายมึนแล้วนะมีขอก่อนด้วย :-[


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 13-10-2012 22:17:03
เย้ๆๆๆๆๆ น่ารักมากๆๆๆๆๆ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 13-10-2012 22:18:35
อิอิ น่ารักอ่ะ

พี่ศรรักบิน มึนมากแตรก็รักนะ รักกันนานๆนะจ้ะ

ขอบคุณนะจ้ะนักเขียน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 13-10-2012 22:21:39
น่ารักมากเลย
น้องบินเมารักพี่ศร
ขอบคุณมากค่ะ จะรอเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-10-2012 22:25:23
น่าอิจฉาคู่นี้จริงๆ อยากมีใครสักคนอยู่เคียงข้างแบบนี้บ้างจัง จะรักไปจนวันตายเลย T^T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 13-10-2012 22:42:30
เย้ๆๆๆๆ
ดีนะพี่ศรไม่ทำดราม่า
ขอบคุณคร้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet cream ที่ 13-10-2012 22:56:14
ชอบตรง "เมารัก" จริง ๆ เลย  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 13-10-2012 23:03:57
เมากันถ้วนหน้า :laugh:


 :pig4: ครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >;P.44
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-10-2012 23:13:54
^_^  ยิ้มมมมม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 13-10-2012 23:26:43
ในที่สุดก็รักกันซักที แอบลุ้นอยู่ตั้งนาน
ว่าแต่ขอตอนพิเศษแบบหวาน ๆ ได้ไหมอะ :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 13-10-2012 23:44:35
“กูเมารัก”

 :-[ อั๊ยยะ เปงไรกับ นู๋หมี เรื่องนู้นนนนนน ป่ะ เสี่ยวเหมือนกันเรยยยยย  ชอบนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆค่ะ ติดตามสเปต่อ  อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 14-10-2012 00:01:21
เอ้า ชนแก้วววววว!!! //ชน Pink Lady


เริ่มเรื่องมึนๆ จบก็มึนๆ เช่นกัน
แต่ทำให้เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้นตอนเพลงจบ...
รักไม่ต้องการเวลา แต่รักต้องการความเข้าใจนะคะ :)
โดยส่วนตัวยังคงคิดว่ารักยังต้องการเวลาอยู่ค่ะ
อย่างน้อยก็ต้องศึกษาดูกันไปก่อน อย่างของพีีศรกับบินก็ยังใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่อาจจะไม่นานเท่าคนอื่น แต่ก็ยังต้องใช้เวลาเพื่อสร้างความผูกพันเช่นกันค่ะ

ในความคิดเราคือคู่นี้คบกันมึนๆ แต่ทั้งคู่ก็ค่อยปรับกันไป ค่อยๆ สร้างความผูกพันกันไปค่ะ :)


ซีรีย์นี้กว่าจะจบก็เล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้องเพราะไม่รู้จะจบแบบไหน
เผื่อคุณพลอยอยากดราม่าขึ้นมาอะไรแบบนี้


รอซีรีย์หน้าต่อไปค่ะ~ ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันนะคะ


ปล. พิมพ์ในไอพอต ถ้ามีคำผิดขออภัยล่วงหน้า~
ปล.๒ เติมโซดายิ่งจืดไม่อร่อยน๊าาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 14-10-2012 00:46:47
ขมเติมโคล่า แซ่บเหมือนกัน
รักคู่นี้แล้ว สงสัยจะเมาเหมือนพี่ศร :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 14-10-2012 06:54:33
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-10-2012 07:26:24
 :laugh:มีความสุข :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 14-10-2012 09:03:31
แล้วก็ Happy Ending ไปแบบมึนๆ แต่น่ารัก    เป็นรักที่ปรับตัวเข้าหากันโดยที่ไม่ต้องการเวลา
 
รอตอน พิเศษ ของคู่นี้

 :L2:  :pig4: และ + 1 ให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-10-2012 09:38:06
 o13

สุขสมหวังแล้ว  ดีใจกับพี่ศรและบินหลาด้วยนะคะ

และ  :pig4: สำหรับนิยายน่ารักๆเรื่องนี้ค่ะ

รอตอนพิเศษที่มาปล่อยของอ่ะ  :z1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-10-2012 09:50:01
เมารัก !!


 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: plaiphukan ที่ 14-10-2012 11:49:00
 o13 o13 o13 o13 o13 o13
ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่าน  :L2:
เป็นกำลังใจให้มีผลงานชิ้นต่อๆไป และอย่าลืมตคอนพิเศษนะคะ อิอิ
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 14-10-2012 17:04:26
จบแล้ว ถึงจะมึนๆเมาๆ ตั้งแต่ต้นจนจบแต่ก็อบอุ่นหัวใจได้เสมอต้นเสมอปลายเช่นกัน  :กอด1:

รอตอนพิเศษจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 18] 13/10/55 >P.44
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 14-10-2012 19:34:07
กรี๊ดๆๆ เมารัก :-[

ตอนพิเศษ  :impress2:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 14-10-2012 20:01:07
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks


ช็อตพิเศษ  [Warning NC 18]


“ถ้าบอกว่าเพลงนี้แต่งให้เธอ เธอจะเชื่อไหม
มันอาจไม่เพราะ ไม่ซึ้งไม่สวยงามเหมือนเพลงทั่วไป
อยากให้รู้ ว่าเพลงรัก ถ้าไม่รัก ก็เขียนไม่ได้
แต่กับเธอคนดีรู้ไหม ฉันเขียนอย่างง่ายดาย

เธอคงเคยได้ยินเพลงรักมานับร้อยพัน
มันอาจจะโดนใจ แต่ก็มีความหมายเหมือนๆกัน
แต่ถ้าเธอฟังเพลงนี้ เพลงที่เขียนเพื่อเธอเท่านั้น
เพื่อเธอเข้าใจความหมายแล้วใจจะได้มีกันและกัน

ให้มันเป็นเพลง บนทางเดินเคียง ที่จะมีเพียงเสียงเธอกับฉัน
อยู่ด้วยกันตราบนานๆ ดั่งในใจความบอกในกวี
ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง
คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจ ฉันมีปลายทาง

มีความจริงอยู่ในความรักตั้งมากมาย
และที่ผ่านมาฉันใช้เวลาเพื่อหาความหมาย
แต่ไม่นานก็เพิ่งรู้ เมื่อทุกครั้งที่มีเธอใกล้
ว่าถ้าชีวิตคือทำนอง เธอก็เป็นดังคำร้องที่เพราะและซึ้งจับใจ

ให้มันเป็นเพลง บนทางเดินเคียง ที่จะมีเพียงเสียงเธอกับฉัน
อยู่ด้วยกันตราบนานๆ ดั่งในใจความบอกในกวี
ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง
คือทุกครั้งที่รักของเธอส่องใจ ฉันมีปลายทาง

มีทางเดินให้เราเดินเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน
มีทางเดินให้เราเดินร่วมเคียง และมีเสียงของเธอกับฉัน...”



http://www.youtube.com/v/87gCDM1X4xI?



โน้ตตัวสุดท้ายหยุดลงพร้อมเสียงปรบมือ
เป็นอันสิ้นสุดการแสดงของวง ‘ต้มยำรวมมิตร’ ในค่ำคืนนี้


นักร้องนำประจำวงหันไปช่วยเคลียร์ของให้เพื่อนเรียบร้อย
ก่อนจะเดินลงจากเวทีแล้วจึงเอ่ยคำขอตัว


“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นกูกลับก่อนนะ”


“เออ ไปเหอะมึง เห็นจ้องกันมาตั้งแต่ร้องบนเวทีแล้ว
ถ้าเป็นปลากัดสงสัยแม่งท้องลูกเป็นโขยงแล้วมั้ง
อิจฉาโว้ยยยย!! อิจฉา... อย่าให้ถึงทีกูบ้างนะ”


ไอ้เผือกมือกีตาร์ร้องแซวโวยวายตามหลัง
บินแค่ยักคิ้วกวน ๆ ตอบกลับ
แรก ๆ ก็มีด่าไปบ้าง แต่หลัง ๆ ชักชินแล้ว
เล่นได้ยินมาตลอดเกือบปีจะไม่ให้ชินได้ไง
มันอยากแซวก็ให้มันแซวไป
เขาไม่สนใจสักอย่าง เพราะส่วนหนึ่งคือเรื่องจริง


บินหลาเดินตรงไปยังประตู
ที่ที่ใครบางคนยืนรออยู่ได้สักพักแล้ว
คนตัวโต ร่างสูงใหญ่ หน้ามึนยังไงก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
ไม่รู้อะไรที่ทำให้เขาคบกันมันได้ยืดยาวมาตลอดหนึ่งปี

แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาสองคนจะไม่ได้ราบรื่น
มีทะเลาะกัน หึง หวง ไม่เข้าใจ บ้าบอ สุข เศร้า
หลากหลายอารมณ์ทุกรูปแบบที่เขาเผชิญมา
ในอย่างที่ไม่เคยคิดจะเป็นได้
แต่ทั้งหมดก็เกิดขึ้นเมื่อมาอยู่กับคนคนนี้
คนที่สอนให้เขาเรียนรู้จักในแง่มุมใหม่ ๆ ของ


...ความรัก



บินหลาไขกุญแจเปิดประตูห้อง
ก่อนปล่อยให้ใครอีกคนเดินตามเข้ามาอย่างคุ้นเคย


ตลอดหนึ่งปีมันก็เทียวไปเทียวมาระหว่างกรุงเทพกับที่นี่
เคยมีหลายครั้งที่ไอ้หน้ามึนชวนเขาไปอยู่ด้วยกัน
แต่เขาโวยวายว่าตัวเองมีวงดนตรีอยู่แล้ว
แถมยังเป็นครูสอนดนตรีด้วย
จะให้ทิ้งความรับผิดชอบแบบนี้ไปได้ยังไง
ลงท้ายมันก็เลยต้องหาโอกาสทุกสัปดาห์ขับรถมาหาแล้วค้างกับเขาแทน
ก่อนจะขับกลับไปทำงานที่กรุงเทพตามเดิม

ไอ้ความทุ่มเทพยายามขนาดนี้เขาก็ซึ้งในน้ำใจอยู่หรอก
แต่พูดตามตรงว่าชวนปวดหัวอยู่ไม่น้อย
เพราะมาทีไรมันต้องหาเรื่องให้เขามึนได้ทุกที


ครั้งนี้ก็เช่นกัน...
คิดยังไม่ทันขาดคำเสียงทักก็ดังขึ้น



“อ้าว ทำไมยังไม่เก็บของอีกล่ะ จะบินไปพรุ่งนี้อยู่แล้วนะ”


ร่างสูงเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อผ้า
ที่ยังคงแบนแฟ่บอย่างคนที่ไม่ได้จัดเตรียมข้าวของ
บินหลาได้แต่มองตามอย่างนึกเซ็งก่อนจะเถียงกลับโต้งๆ


“ไฟล์บินไปญี่ปุ่นมันออกตอนสองทุ่ม
แล้วจะรีบไปไหน พรุ่งนี้ยังมีเวลาอีกทั้งวัน”


“ถ้าไม่เตรียมของไว้แต่เนิ่น ๆ 
พอถึงเวลาเดี๋ยวบินก็ลืมนู้นลืมนี่อีก
เหมือนคราวที่แล้วลืมพาสปอร์ตไว้ต้องรีบกลับไปเอา
ดีนะที่ยังทัน ไม่งั้นได้ตกเครื่องอดไปสิงค์โปร์แล้ว”


“เออ ๆ รู้แล้ว ๆ เดี๋ยวเตรียมเอง
อย่าบ่นมากได้มั้ยวะ ไปอาบน้ำเลยไป”

คนขี้เกียจจะฟังรีบโยนผ้าเช็ดตัวไปให้
ก่อนไล่คนชอบบ่นให้เข้าห้องน้ำเป็นอันตัดบทสนทนา


...เห็นมั้ย ทะเลาะกันทั้งปี ทะเลาะกันไม่เคยมีเบื่อ
ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงเรื่องใหญ่ ๆ
เหมือนการไปเที่ยวด้วยกันในครั้งนี้


เขายังคงทำตามความฝันที่จะได้ไปเที่ยวรอบโลกอยู่
โดยมีใครอีกคนติดสอยห้อยตามมาด้วย
ตอนแรกมันบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายพาไปเที่ยวให้เลยดุมันไปที
บอกแล้วไม่เคยจำว่าเขาอยากใช้เงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง


ครั้งนี้เขาได้เงินมาก้อนหนึ่งจากค่าลิขสิทธิ์ที่ทำเดโมเทปส่งไป
ปรากฏว่าเพลงรักที่เขาเขียนได้รับความนิยมฮิตติดชาร์ต
ตัวเองไม่ได้เดบิวต์ร้องหรอก
โน้น...ให้นักร้องมืออาชีพร้องไป
แต่แค่นี้สำหรับเขาที่เขียนเพลงรักไม่เคยได้ก็รู้สึกภูมิใจมากพอแล้ว
เหมือนเป็นการทำความฝันให้สำเร็จไปอีกขั้น


และพูดตามตรงว่าที่ทำได้ถึงขนาดนี้

ส่วนหนึ่งก็คงเพราะเขาได้สัมผัส ‘ความรัก’ จากใครอีกคนที่มีให้มาตลอด



แกร๊ก


คิดเพลิน ๆ คนในห้วงความคิดก็เดินออกมาจากห้องน้ำ
ในสภาพนุ่งผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเอาไว้ผืนเดียว
โชว์ให้เห็นแผงอกกำยำอย่างคนสุขภาพดี
เขาไล่สายตามองตามบางสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาบนอกด้านซ้าย


....รอยสักรูปหัวใจมีปีกถูกลูกศรปักไว้ตรงกลาง
เล่นลวดลายกึ่งกราฟิกทั้งดูสวยแปลกตาแต่ลงตัวในคราวเดียวกัน


...รอยสักที่เขาออกแบบเอง
และมันได้ถูกสลักไว้เช่นเดียวกัน
บนอกด้านซ้ายตรงตำแหน่งหัวใจของเขา


...รอยสักที่เขาทำให้เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดของคนคนนี้
ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ
แค่อยากทำให้ใครบางคนที่มักจะชอบคิดมาก คิดเองเออเอง
ได้เข้าใจสักทีว่าจริง ๆ แล้วเขารู้สึกยังไง


ตอนมันเห็นครั้งแรกมันดันร้องไห้เฉยเลย
หลังจากนั้นมันก็บอกให้เขาพาไปสักเป็นลายเดียวกัน



...รอยสักคู่ที่จะอยู่ติดตัวด้วยกันไปตลอดชีวิต



“เหม่ออะไรอยู่เหรอ ไม่ไปอาบน้ำล่ะบิน”


คนถูกทักสะดุ้งหลุดจากภวังค์
รู้สึกร้อนวูบขึ้นมาตามหน้าแปลก ๆ
เมื่อดันรู้ตัวว่าเผลอจ้องมองคนตรงข้ามแบบไม่วางตา

เขาจึงรีบเดินลิ่วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ
ทว่าทันได้ปิดประตูลง
มือใหญ่กลับรั้งบานประตูแล้วเดินตามหลังเข้ามาแทน


“เฮ้ย! เข้ามาทำไมเนี่ย”


บินหลาร้องโวยวาย
แต่อีกฝ่ายกลับตีหน้ามึนตอบกลับมาเสียงเรียบ


“ก็เห็นมอง ๆ อยู่เลยนึกว่าบินอยากให้พี่เข้ามาช่วยอาบ”


โห...คิดมาได้ไอ้หน้ามึน
พูดมาเฉย ๆ แต่ตามึงระยิบเชียว
กูรู้ทันหรอกนะ


“ไม่ต้องช่วย มึงไปไกล ๆ กูเลย”


“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะบิน ไหนสัญญากับพี่ว่าจะพูดเพราะ ๆ ไงครับ”


อีกฝ่ายเอ่ยคำค้านไปคนละเรื่องเล่นทำเอาคนฟังนึกกุมขมับ


โอยยย...มันใช่เวลามั้ยเนี่ย!!
ถามอย่างตอบอย่าง
เมื่อไรจะเลิกหายบ้าซะทีวะ
มันอยากให้พูดเพราะ ๆ นักใช่มั้ย
เออได้ ๆ เดี๋ยวกูจัดให้...


“คุณพี่ศรครับ ช่วยกรุณาย่างก้าวออกไปจากห้องน้ำด้วยครับ
กระผมนายบินหลาจะได้อาบน้ำสักทีนะครับ”


คนตัวโตนึกขำอยู่ในใจให้กับคำที่ฟังยังไงก็รู้ว่าประชด
แต่แทนที่จะทำตามคำขอ ไกรศรกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
แถมซ้ำเอ่ยตอบให้อีกคนนึกอึ้ง



“ไม่ออกหรอก ก็ใจพี่อยู่ตรงนี้
เดี๋ยวออกไปแล้วพี่เกิดขาดใจตายขึ้นมาจะทำยังไง”



อ้วกกกกก!!!
นอกจากมันจะเป็นไอ้หน้ามึน แล้วมันยังเป็นไอ้เสี่ยวด้วย
พูดออกมาได้ไงน้ำเน่าฉิบ กูไม่คุยกับมึงแล้ว
ยิ่งคุยแม่งยิ่งใจเต้นแปลก ๆ
เดี๋ยวจะพาลไม่ได้อาบน้ำกันพอดี 


ไม่อยากออกก็ช่าง
กูถอดเลยแล้วกัน ไม่องไม่อายหรอก
เห็นกันไปถึงไหนแล้ว


บินหลาจึงจัดการดึงกางเกงสลัดเสื้อผ้าทิ้ง
หันไปเปิดฝักบัว ปล่อยให้น้ำเย็น ๆ ชำระล้างกาย
ก่อนจะหันไปเอ่ยสั่งอีกฝ่ายที่ยืนอยู่เฉย ๆ


“หยิบแชมพูให้หน่อยดิ”


ไกรศรทำตามอย่างว่าง่าย
ไม่ใช่แค่ยื่นขวดแชมพู
แต่บีบน้ำยาลงฝ่ามือแล้วออกแรงสระผมให้บินด้วย
ทั้งสระทั้งนวดครบเครื่อง กระทั่งลามเลยมาจนถูสบู่ไปให้ในตัว


ฝ่ามือแกร่งลูบแผ่นหลังกว้างเนียนอย่างเบามือ
ลูบไปลูบมาจนไอ้คนยืนนิ่งชักจะรู้สึกแปลก ๆ
ก็ผู้ชายเหมือน ๆ กันมาลูบ ๆ แบบนี้ของมันก็ขึ้นได้ง่าย ๆ นะเว้ย


ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมันจะเกินเลย
ความรักของเราผูกพันไม่เพียงแค่เฉพาะแค่ใจแต่เป็นร่างกายด้วย
แรก ๆ ก็ยังเกร็ง ๆ กลัว ๆ ทั้งคู่ เพราะไม่เคยกับผู้ชาย
เถียงกันแทบตายว่าใครจะรุกใครจะรับ
เลยตัดสินกันด้วยการเป่ายิงฉุบ


ผลเหรอ...?
อย่าถามเลยว่าใครแพ้
เพราะหลังจากนั้นเขาต้องหนีหน้ามันไปพักใหญ่เลย
เห็นมึน ๆ แบบนี้ใครจะไปรู้ว่ามันแอบหื่นวะ
เผลอนิดหน่อยเป็นไม่ได้


ถึงอย่างนั้นหลายครั้งเขาก็ได้แต่ปล่อยให้มันทำตามใจ
เพราะโอกาสที่อยู่ด้วยกันไม่ได้มีมาบ่อย ๆ
เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ใคร ๆ ก็รู้กันอยู่


บินหลาจึงได้แต่ยืนนิ่ง ๆ ปล่อยให้มือแกร่งไล่ไปตามตัว
ตั้งแต่นิ้วมือ... แขน... หัวไหล่...
ไปจนกระทั่งหยุดลงตรงรอยสักรูปหัวใจบนอกข้างซ้าย


ค้างนิ่งไว้เช่นนั้น
ดวงตาคมสบมองประสานเข้ากับนัยน์ตาอ่อนโยนที่ทอดมอง
ก่อนจะตามมาด้วยคำถามเสียงแผ่วหลุดรอดจากริมฝีปาก


“บินเหนื่อยมั้ย”


“ห่ะ เหนื่อยอะไร”


คนฟังขมวดคิ้วสงสัยกับคำถามที่อยู่ ๆ ก็ดังขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

ไกรศรยังคงสบตามองนิ่ง
ก่อนจะค่อย ๆ ต่อคำจากความสงสัยส่วนลึกภายในใจ


“อยู่กับพี่เหนื่อยรึเปล่า
ที่พี่ชอบบังคับบิน
ที่พี่ชอบเอาแต่ใจ
ชอบบ่นใส่บินอยู่เรื่อย
ทำให้บินต้องหงุดหงิดรำคาญ
พี่เป็นแบบนี้
 
...บินเหนื่อยรึเปล่า?”


ถ้อยคำมากมายที่ได้ยินเต็มไปด้วยความกังวล
หากแต่คู่สนทนากลับถอนหายใจ
ตีสีหน้าเบื่อหน่ายพลางตอบกลับสั้น ๆ เสียงห้วน


“เออ เหนื่อย”


ไกรศรชะงักนิ่ง
ใจที่เคยกังวลอยู่แล้วแทบร่วงหล่นไปกองบนพื้น
หากแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร
คนตรงหน้ากลับยกมือขึ้นจับมือใหญ่ซึ่งทาบค้างไว้ตรงอก
ก่อนจะพูดต่อประโยคตามมาที่เหลือ


...ประโยคที่ทำให้คนคิดมากนิ่งฟังอยู่อย่างนั้น



“บินเหนื่อยที่ต้องมาตอบคำถามซ้ำ ๆ ซาก ๆ อย่างนี่ไง
บอกต้องหลายครั้งแล้วไม่ใช่เหรอว่าพี่ศรจะเป็นยังไงก็เรื่องของพี่เหอะ
ถึงจะเอาแต่ใจก็ไม่เป็นไรหรอก...
ไม่ต้องทำอะไรให้บิน....
ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองให้บินมากเกินไปก็ได้
....เป็นอย่างที่พี่ศรอยากจะเป็น
บินรับได้.... แล้วบินก็เข้าใจพี่ด้วย 
...เป็นแฟนภาษาอะไร
อยู่ด้วยกันมาตั้งปี... เรื่องแค่นี้ยังไม่รู้อีกเหรอ”



สิ้นคำ หัวใจที่เคยลีบแบนของคนฟังกลับพองโตจนแน่น
ไกรศรดึงร่างของอีกคนมากอดไว้อย่างยินดี
ซึ่งบินหลาก็ยกมือกอดตอบไว้


...ไม่รู้ว่าเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน


เมื่อก่อนไอ้หน้ามึนมันชอบบังคับก็จริง
แต่พักหลัง ๆ มันมักจะถามเขาตลอด
โดยเฉพาะไอ้เรื่องเกี่ยวกับความรู้สึก
เขาเพิ่งสังเกตว่ามันกลัวที่จะทำให้เขาลำบากใจ
ทั้ง ๆ ที่เขาแสดงออกให้เห็นตั้งมากมายขนาดนั้น
ว่าจริง ๆ แล้วเขาคิดยังไงกับมัน


ความสงสัย ความสับสนไม่แน่ใจในตัวเอง
เขาทิ้งปัญหาพวกนั้นไปตั้งนานแล้ว

เพราะแค่อ้อมกอดนี้...
คือข้อพิสูจน์เพียงสิ่งเดียวที่ไม่ว่าเมื่อไรก็ไม่เปลี่ยนแปลงไป



...เป็นกอดที่ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้ง



“งั้นถ้าพี่ทำให้บินเหนื่อยมากกว่านี้อีก บินจะยอมมั้ย”


“เหนื่อยอะไรอีกล่ะ อ่ะ...”


ยังไม่ทันได้พูดอะไรเพิ่มเติม
ริมฝีปากร้อนกลับถูกอีกคนประกบทาบทับ
ตักตวงความหอมหวานอย่างรวดเร็ว
จนบินหลาได้แต่ครางประท้วงในลำคอ


ทีไอ้เรื่องเนี่ยไวจริง
ไม่เห็นต้องรอให้เขาตอบเลย


“อ่ะ....อือออ....”


เขาร้องครางขึ้นมาเบา ๆ
เมื่อมือแกร่งที่กอดไว้ไล่เรื่อยลงมายังจุดอ่อนไหวกลางลำตัว
คนที่โดนตะโบมจูบไม่ยั้งพยายามผละออกห่าง
ก่อนกระซิบคำห้ามเสียงแผ่ว


“มะ....ไม่ต้องใส่เข้ามานะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องนั่งเครื่อง”


ไกรศรชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงพยักหน้าตอบกลับตามคำขอ
ดึงมือของอีกคนเคลื่อนลงด้านล่างตรงตำแหน่งเดียวกัน


“งั้นบินทำให้พี่ด้วยนะ”


คำขอที่ตามมาพร้อมกับที่ร่างสูงเริ่มต้นเหนี่ยวรั้ง
ทำให้บินสัมผัสอีกฝ่ายเพื่อให้รู้สึกดีไปพร้อม ๆ กัน


ทั้งสองปล่อยให้ความรู้สึกไหลไปตามห้วงอารมณ์
บินพยายามกลั้นเสียงไม่ให้หลุดรอดออกมาจากในห้องน้ำที่ดังสะท้อนก้อง
โดยมีเสียงน้ำจากฝักบัวกระทบลงพื้นคอยกลบการกระทำ
ทั้งยังได้รสจูบร้อนแรงช่วยปิดปากของเขาเป็นอย่างดี


เพียงไม่นานเพลงรักที่บรรเลงก็ดำเนินมาจนถึงจุดสูงสุด
ภายใต้อารมณ์ที่หมุนคว้างอย่างมึนเมา
เขาได้ยินเสียงคนที่อยู่ใกล้กระซิบเรียกชื่อข้างใบหู



“บิน....บิน...


พี่รักบินนะ


...บิน”



“อือ...


บินก็รัก...


รัก....”



คำรักที่พูดซ้ำ ๆ
แต่เป็นคำรักที่ออกมาจากส่วนลึกข้างในใจ
ไม่ต้องถามอีกแล้วว่ามันหมายความว่ายังไง
เพราะวินาทีนี้เขาแปลมันออกมาได้เพียงคำเดียวว่า



...รัก คือ รัก...



คลื่นอารมณ์ก่อตัวขึ้นสูงจนยากจะหยุดยั้ง
ฉับพลับนั้นความรู้สึกทั้งหมดจึงถูกระเบิดออกไปพร้อม ๆ กัน


บินหลาแทบหมดแรงยืนพิงร่างของตัวเองไว้กับอีกคน
หอบหายใจระรัว ได้ยินเสียงหัวใจเต้นเสียงดังไม่ยอมหยุด


“เหนื่อยมั้ย?”


โหย...ยังมีหน้ามาถามอีก
เล่นทำซะเร็วเลย คงไม่เหนื่อยมั้ง


ดวงตาคมจ้องมองอีกฝ่ายขวาง ๆ
ก่อนผละร่างหันไปอาบน้ำ ถูสบู่
ให้ความเย็นของน้ำช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายที่ร้อนผ่าวให้เป็นปกติอีกครั้ง
แล้วจึงเดินกลับออกมาแต่งตัว
เตรียมล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างรวดเร็ว


“บินจะนอนแล้วเหรอ ไม่เก็บของก่อนล่ะ”


“โอยยย! ไม่เอาแล้ว เหนื่อยด้วย ง่วงด้วย
เพลียจะตายห่า ใครจะมามีแก่ใจเก็บของ
ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อล่ะกัน”


ไกรศรฟังคนโวยวายงึมงำบนเตียง
ก่อนจะถอนใจ เดินไปปิดไฟแล้วล้มตัวนอนข้างกัน
ทว่ายังไม่วายเอ่ยคำทิ้งท้าย


“งั้นที่ทำค้างไว้ในห้องน้ำเมื่อกี๊
เก็บไปทำต่อตอนไปฮันนีมูนพรุ่งนี้นะ”



อะ...


อะไรวะ


ไอ้หน้ามึนพูดบ้าอะไรอีกแล้วเนี่ย



“ไปฮันนีมงฮันนีมูนอะไร แค่ไปเที่ยวเฉย ๆ เว้ย!!”


บินเถียงกลับใส่คนที่คิดเองเออเอง
แต่ก็อย่างที่รู้ใครบางคนยังคงตีหน้ามึนทำเป็นไม่สน
ดึงร่างของแฟนตัวเองเข้ามากอดไว้แน่น


เจ้าของห้องนึกอยากจะถีบคนที่ชอบบังคับตกเตียงอยู่เหมือนกัน
แต่ยั้งเอาไว้เพราะความง่วง
เลยเปลี่ยนใจซุกหน้าลงกับอกกว้างแทน
แล้วค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง
ท่ามกลางอ้อมกอดอุ่น ๆ นี้อีกครั้ง



ช่างมัน...


ปล่อยมึน ๆ ตามน้ำไปก่อน


พรุ่งนี้ก็เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้

ส่วนเรื่องของวันนี้ แค่ได้นอนกอดกันไว้...


สำหรับ ‘ความรัก’ ของเขาสองคน



...เท่านี้ก็คงไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติมอีกต่อไปแล้ว




------------------------------------------------------------------------------------------------------



END





เสิร์ฟช็อตหวาน ๆ (รึเปล่า?) ภาคพิเศษตามคำเรียกร้อง
เป็นเรื่องราวหลังจากนั้นอีกหนึ่งปีของคนทั้งคู่
ไม่คิดว่าความมึนจะพาให้คบกันได้ยืดยาวขนาดนี้ (ฮา)

ทีแรกตั้งใจว่าจะเสิร์ฟตอนน้องบินเมา (อ่ะ ๆ อยากรู้ล่ะสิ)
แต่คิดไปคิดมาเดี๋ยวจะพาทั้งคนเขียนคนอ่านมึนกันจนกลับบ้านไม่ถูก
เลยจัดตอนผสมเหล้าน้อย ๆ มาให้ก่อน
ไว้ฤกษ์งามยามดีเมื่อไรจะกลับมาเสิร์ฟช็อตพิเศษให้อีกสักช็อตแน่นอนค่ะ  :-[


คราวนี้มาเฉลยกันดีกว่าว่าภาคต่อไปจะเป็นอย่างไร



แต่น แตน แต๊นนนน!!




ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/tb15.jpg)



ภาคนี้จัดขึ้นเพื่อสนองนี๊ดคนเขียนล้วน ๆ
และไม่ใช่เรื่องของน้องคูณอยู่ดี  (อีกแล้ว!! แฟนคลับแอบโวย) 
สงสัยได้เขียนภาคของน้องคูณเป็นภาคสุดท้ายแน่เลย
เก็บไว้หลอกล่อคนอ่านไปเรื่อย ๆ ก่อน (ฮ่า ๆ แผนสูง)


ยังไงก็ขอฝากเรื่องใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ


ขอบคุณที่ติดตามค่า

 :L2:

BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 14-10-2012 20:21:04
ยังหวานได้อีกอ่ะ ยังไม่ค่อยเลี่ยนเท่าไหร่เลย แต่ก็ชอบนะ มีการเป่ายิงฉุบตกลงกันด้วย
ภาคใหม่ น่ากินมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 14-10-2012 21:34:40
ขอตัวไปเคี่ยวน้ำปลาหวานเตรียมไว้กินกับสะเดาก่อนนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 14-10-2012 21:36:44
โอ๊ยยยย  หวาน...  หวานแบบนี้ใส่โค้กลงไปในเหล้าเยอะหรือเปล่า เลยไม่เมา (ไม่นะคะ  เรากินเหล้าไม่เป็น... #ใครเชื่อเอ็ง)


จริงๆ บินแอบใจเย็นนะ  คือถ้าพี่ศรง้องแง้งบินจะบ่น  แต่ก็แค่บ่น
ถ้าเป็นเราคงเบิร์ดพี่ศรไปสักสองสามทีแล้วค่อยพูดดีๆ ด้วย 

ออกแนวใช้กำลังมาก่อนอะ  ฮ่าๆๆๆ


ตอนหน้าข้าวโพดต้มกับยอดสะเดา...  หือ?  ขอบ้านนอกนิดนึงนะคะ  อะไรคือยอดสะเดาอะ?  (ขอแว้บไปหาก่อน)
ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินคำว่าสะเดาเลย  เพิ่งได้ยินจากเรื่องนี้หละค่ะ (อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะคะ  แต่ว่าเป็นคนไม่กินผักแต่เด็กเลยรู้ชื่อผักไม่เยอะ)
ข้าวโพดต้มบ้านเราชอบกินมากกกกกกกกก  ทั้งต้มทั้งปิ้ง  กินกันหมด (ยกเว้นเราอีกอะหละ)

ซีรีย์หน้าทำให้อยากรู้มากๆ ว่าจะเป็นเรื่องยังไง  ดูท่าทางน่ากินด้วย  เผื่ออาจจะทำให้เราอยากกินผักขึ้นมาบ้าง
เหมือนตอนลาวาช็อกโกแลตที่ทำให้เราอยากกินมากๆ แต่หาไม่เจอ  เลยไม่ได้กินสักที  ว๊าาาาา


รอติดตามตอนต่อไป


ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 14-10-2012 21:38:29
หวานๆ เค็มๆ ดีค่ะคู่นี้
เรื่องต่อไป เหมือนจะไม่เข้าคู่กันได้เลยนะคะ
แต่มีลุ้นว่ามันจะมาเจอกันได้ไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: MooN_LinghT ที่ 14-10-2012 21:44:05
 o13 สนุกอ่าาา >///< รอเรื่องใหม่คะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 14-10-2012 21:47:24
หวานและเสี่ยวมากๆๆพี่ศร   :-[


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-10-2012 22:07:30
ตอนพิเศษแค่มึนๆก็ยังดีค่ะ  แต่รอบินเมา(รัก)เต็มรูปแบบนะคะ

555  เป็นความหื่นเฉพาะตัว

และรอเรื่องต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 14-10-2012 22:17:57
ชอบกินทั้งสองอย่างเลยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-10-2012 22:33:16
สนุกอีกแล้วนะครับ ^^

ภาคใหม่จะเป็นแบบไหนนะ อย่ารุนแรงกันมาก อย่ามาม่ากันบ่อย กลัวเสียน้ำตา อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 14-10-2012 22:42:50
งั้นต้องเตรียมปลาดุกย่างด้วยดิ
ข้าวโพดต้ม????
ชอบความมึนของพี่ศร :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-10-2012 05:56:27
พี่ศรมึนแบบเข้าข้างตัวเองตลอดนะ  :laugh:


ภาคต่อไป ยอดสะเดาหรอ ?  :a5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >;P.45
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-10-2012 08:35:27
รอภาคใหม่ ^_^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 15-10-2012 08:48:40
ชื่อตอน ... น่ากิน แต่ ต้องกินสะเดาก่อนนะ แล้วค่อยต่อด้วยข้าวโพดต้ม!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-10-2012 11:00:50
ถึงจะมึนแต่ก็ทำให้บินรักได้ก็แล้วกันนะ ขนาดนี้แล้วบินยังไม่ยอมพูดกับพี่ศรเพราะๆเลย

บวกหนึ่งค่ะ รอเรื่องใหม่นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-10-2012 11:10:09
หวานนนน  :กอด1:

มึนยังไงก็อย่างนั้น มึนเสมอต้นเสมอปลาย ฮ่าๆ

รอภาคต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 15-10-2012 12:00:10
จริงนะ....บางทีก็ต้องคิดว่า..."พรุ่งนี้ก็เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-10-2012 16:34:10
เคยแต่เห็นแหวนคู่ สร้อยคู่ กำไลคู่ที่แลกให้กัน  แต่นี่เป็นลายสักคู่ที่มอบให้กัน   พี่ศรแกก็มึนหื่นกับบินได้ตลอด
เป็น NC ที่กรุบกริบแค่น้ำจิ้ม


:L2: :pig4: คนเขียน  รออ่านข้าวโพด กับยอดสะเดา มันเกี่ยวกันตรงไหนนี่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-10-2012 17:09:33
 :o8:

รอยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้มจ้ะ เดาแนวไม่ออกเลย  :m28:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: กล้วยปั่น ที่ 15-10-2012 19:38:18
ในที่สุดก็อ่านตั้งแต่ เรื่องแรก จนเรื่องนี้จบจนได้

อยากจะบอกว่า ติดมากๆเลย


 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 15-10-2012 22:31:50
กรี๊ดดดดดดดดดดดด น่ารักที่ซู้ดดดดด  เอาน้องคูณมาเสิร์ฟช้าจนคนอ่านเริ่มลืมไปแล้วนะเนี่ย ใครหว่า55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 16-10-2012 15:55:48
กลับมาอ่าน 3 ตอนรวดดดด
ในที่สุดก้อลงเอยกันซักที คู่นี้ลุ้นกันนาน เพราะบินไม่ค่อยหวาน 555+
ศรคงไม่ค่อยมั่นใจ เพราะเคยพลาดมาแล้วครั้งนึง รอบนี้เลยถามบินบ่อยๆ
และโชคดีที่เปนบินอีกเช่นกันที่ำไม่รำคาญที่จะตอบไปซะก่อน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: sinyou ที่ 16-10-2012 16:34:53
สนุกทุกเรื่องเลย ชอบเรื่องที่สอง น่ารักอบอุ่นดี รออ่านเรื่องต่อไปนะค่ะ  :call: :call:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตพิเศษ] 14/10/55 >P.45
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-10-2012 17:19:10
มึนๆๆหวานๆๆกันไปคู่นี้ :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 17-10-2012 17:21:13
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 1




“เดี๋ยวกูไปตักหมูก่อนนะ”


‘ปลายฟ้า’ หรือ ‘ปลาย’
ตะโกนบอกเพื่อนในกลุ่มและบรรดาน้องรหัสซึ่งนั่งรออยู่ที่โต๊ะ


เปิดเทอมใหม่มาตั้งเดือนแล้ว
แต่เพิ่งจะได้ฤกษ์เลี้ยงน้องสายรหัสกัน
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ


...มันเป็นธรรมเนียม


การเลี้ยงสายรหัสประจำคณะเภสัชศาสตร์
ต้องเริ่มจากให้พี่ศิษย์เก่ามาเปิดฤกษ์เลี้ยงน้องรหัส หลานรหัส เป็นคนแรกก่อน
ซึ่งส่วนใหญ่ก็ลาภปากน้อง ๆ ครับ เพราะมักได้เสพของหรู ๆ กัน
ก่อนจะตามมาด้วยพี่รหัสปีสี่ ที่เลี้ยงของกินถูกลงหน่อย
แล้วจึงเป็นปีสาม ปีสอง ซึ่งราคาอาหารจะลดหลั่นลงมาเป็นสเต๊ป

นายปลายฟ้าเองเป็นนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ปีสาม
ด้วยเหตุนี้จึงต้องทำการเลี้ยงน้องรหัสทั้งสองด้วยของกินอันเหมาะสม
บุฟเฟ่ต์หมูกระทะข้างมหาลัยราคาถูกแค่ 99 บาทถ้วนจึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
แม้ค่าเครื่องดื่มจะคิดแยกต่างหาก
แต่ก็นับว่าคุ้มเกินพอสำหรับรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ จัดเลี้ยงน้องสายรหัส
น้องเทค น้องเอ็นดู น้องโรงเรียน สารพัดน้องตามแต่จะชวน
ที่เล่นยกโขยงมากันเป็นฝูงชนิดกะถล่มพี่ซะจนกระเป๋าแบน

แต่เขาไม่โทษหรอกที่คนมากันเยอะ ๆ
ดีออกครับ...จะเลี้ยงน้องสายรหัสทั้งทีให้มีสี่ห้าคนก็คงเงียบเหงาเกินไป
คณะเภสัชยิ่งมีทรัพยากรบุคคลน้อย ๆ อยู่ด้วย
เลยต้องรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ มาช่วยให้บรรยากาศมันเฮฮาครึกครื้นหน่อย
ทั้งยังถือเป็นการเฉลี่ยหารตังค์ค่าน้ำไปอีกทางหนึ่งด้วย   

...งานนี้ไหน ๆ จะต้องเสียเงินอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องกินให้คุ้มล่ะครับ


นายปลายฟ้าผู้อดข้าวกลางวันมาอย่างเตรียมพร้อม
จึงเดินตรงดิ่งไปหยิบจาน ก่อนจะขยับมามองถาดใส่เนื้อหมู
ซึ่งวางเรียงรายไว้ให้เลือกสรรเอาตามใจ


....ไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่านายปลายฟ้ามีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่ง
เป็นนิสัยติดตัวที่แก้ยังไงก็ไม่หาย


...นั่นก็คือนิสัย ‘ช่างเลือก’ ครับ


ต่อให้หิวเจียนตายแค่ไหน  เขาก็จะขอให้ได้เลือกสักนิด
ไม่งั้นมันไม่สบายใจ รู้สึกค้าง ๆ คา ๆ ทำอะไรไม่สุด


ด้วยเหตุนี้ นายปลายฟ้าจึงบรรจงใช้ตะแกรงคีบเลือกเนื้อไปมา
ตากลมโตมองพิจารณาตรวจสอบเนื้อแต่ละชิ้นอย่างตั้งใจ
ประหนึ่งพนักงานตรวจคิวพีสินค้า โดยใช้ตัวเองเป็นมาตรฐาน


...เอาแบบไหนดีวะ?


เนื้อหมูที่ดีต้องเลือกแบบติดมันหน่อยๆ
ไม่ใช่มีแต่เนื้อแดง ๆ ไปหมดทั้งชิ้น
เพราะเวลาเอาไปปิ้ง มันของเนื้อมันจะละลายส่งกลิ่นหอมฟุ้ง
ใส่ปากเคี้ยวนุ่ม ๆ อร่อยเหาะ


ไหนดูดิ...
เฮ้ย ไม่เอาชิ้นนี้ใหญ่ไป
ปิ้งทีเดียวคงเต็มกระทะหมด


ส่วนชิ้นนี้...
ลายไม่สวยเลยว่ะ
มันกับเนื้อไม่บาลานซ์พอ หมดความสมดุล


ชิ้นนี้...
โหย...มองก็รู้ว่าเหนียวแน่
ข้ามไปอย่างไว


เอ๊ะ...ชิ้นนี้เข้าท่า
ต้องแบบนี้ มีมันแทรกกลางอยู่หน่อยๆ
เออ...ผ่านเก็บไว้


แล้วก็ชิ้นนี้...


“อ้าวเฮ้ย!!....”


คนที่กำลังคิดพิจารณาเพลิน ๆ อุทานอย่างตกใจ
เมื่ออยู่ ๆ จานที่เขาถือไว้ดันถูกมือมืดปริศนาคีบกองเนื้อในถาดมาใส่เองซะจนพูน
ทำให้เนื้อที่อุตส่าห์เลือกสรรไว้ปนกับเนื้ออื่นที่ถูกคัดทิ้งจนเละ


เหยดเช็ด!! 



“เอ้า คีบให้แล้วก็ไปสิ ชักช้าอยู่ได้ คนอื่นเขาจะได้คีบต่อ”


นายปลายฟ้ารีบหันควับกลับไปมองคนช่วยที่ตัวเองไม่ได้ร้องขอทันที
ก่อนจะเจอนัยน์ตาคมเข้มดุ ๆ มองตอบกลับมาอย่างสงสัย


“อ้าว...ยังไม่ไปอีก หรือว่ายังไม่พอ
อ่ะ...ใส่ให้เพิ่มก็ได้”


คนหวังดีคีบเนื้อพูน ๆ ใส่จานซ้ำสองให้อีกฝ่าย
ซึ่งบัดนี้ยืนช็อคนิ่งตาค้างไปเรียบร้อยแล้วครับ


เฮ้ย!! ได้ไงวะ
มึงทำแบบนี้ได้ไง
คนเขาอุตส่าห์ค่อย ๆ เลือกเนื้ออยู่ตั้งนาน
มึงเล่นมายัดใส่มั่ว ๆ จนเนื้อปนกันไปเละ
แล้วที่กูทำไปทั้งหมดมันเพื่ออารายกานนนน!!


คนช่างเลือกร้องโวยวายอยู่ในใจ
แต่กลับไม่กล้าพูดออกมาเสียงดัง
จะให้พูดได้ยังไงก็ดูสารรูปมันสิ

ตัวโตหนวดเฟิ้มเยี่ยงมหาโจรเหมือนเพิ่งหลุดจากเรือนจำบางขวางมาหมาด ๆ
ขืนเถียงออกไปว่า ‘มึงครับ อย่าเสือกครับ’
เป็นได้โดนกระทืบตายไส้ไหลอยู่ตรงนี้แน่


นายปลายฟ้าผู้ตระหนักรักชีวิตจึงไม่กล้าต่อปากต่อคำ
เดินถอยกรูดจากไปพร้อมความเจ็บช้ำกับเนื้อหมูที่ปนกันเละในจาน
โดยมีสายตาคม ๆ ของใครอีกคนที่มองตามไป



...แปลกคนว่ะ


อุตส่าห์คีบเนื้อให้ไม่มีขอบคุณเลยสักคำ
เขามายืนต่อแถวรออยู่ตั้งนานแล้ว
เห็นมันคีบแล้วก็วาง...คีบแล้วก็วาง...อยู่อย่างนั้น
สงสัยคงคีบเนื้อไม่เป็น เลยใจดีคีบตักไปให้

ตัวเล็ก ๆ ผอม ๆ ขาวซีดท่าทางออกแนวลูกคุณหนูจะตาย
สงสัยคงเพิ่งมากินบุฟเฟ่ต์ถูก ๆ แบบนี้ครั้งแรกล่ะมั้ง
เลยทำอะไรไม่ค่อยจะเป็น


‘คมสัน’ หรือ ‘คม’
ที่ทุกคนพร้อมใจกันพูดชมว่าพ่อแม่ช่างตั้งชื่อได้เหมาะสมกับหน้าตาอันสุดแสนคมเข้ม
คิดพลางส่ายศีรษะอย่างปลง ๆ ก่อนจะตักเนื้อหมูพูน ๆ ใส่จาน
แล้วเดินกลับยังโต๊ะเพื่อนกลุ่มวิศวะที่นั่งรออย่างสบายใจ


โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของตนเองนั้น
จะสร้างความปวดร้าวให้กับใครอีกคนหนึ่งมากมายเท่าไร

.....

...

.


ปลายฟ้าเดินกลับมานั่งโต๊ะด้วยความเซ็งในอารมณ์
ท่ามกลางเสียงแซวของไอ้ ‘เกมส์’ หนุ่มเหนือหน้าทะเล้น ที่ออกแนวเหนือมนุษย์ด้วย
เพราะดีกรีความกวนของมันบรรลุถึงขั้นสุดยอดจึงถูกตั้งให้เป็นหัวโจกประจำกลุ่มเด็กเภสัช


“โห โคตรช้าเลยว่ะ ไปตักหมู หรือไปรอเชือดหมูวะเนี่ย”


“ก็ใครใช้ให้ ‘พ่อเต่าน้อย’ ไปตักล่ะย่ะ มันก็ต้องช้าอย่างนี้แหละ”


คราวนี้เป็นเสียงแมนปนเซ็กซี่ของ ‘บอลล่า’ (ชื่อเดิม ไอ้บอล)
เพื่อนสาวแสนสวยในร่างชายอรชรอ้อนแอ้น
ซึ่งเอ่ยขานสมญานามของปลายฟ้า หรือที่ใคร ๆ ต่างพร้อมใจกันเรียกว่า

‘ไอ้เต่าปลาย’
‘ไอ้ปลายทาก’
‘ไอ้ปลายเทพบุตร’
‘ไอ้ปลายพี่เคนชิดซ้าย นิชคุณชิดขวา’


...อะแฮ่ม! ไอ้หลัง ๆ อย่างไปสนใจเลยครับ


เอาเป็นว่าสารพันนิยามแห่งความอืดอาดถูกสถิตเป็นประโยคต่อท้ายชื่อเล่น
เพราะพี่แกชอบทำอะไรชักช้าไม่ทันการชาวบ้านจนสร้างความเอือมระอาให้ผู้พบเห็น


“ไม่ได้ช้าสักหน่อย เค้าเรียกว่าค่อย ๆ พิจารณาอย่างถี่ถ้วนต่างหาก
เคยได้ยินเปล่าวะ ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงามอ่ะ”


“จะพร้า จะขวาน จะดาบ อะไรก็เอาเถอะย่ะพ่อคู้นนนน
มานั่งข้าง ๆ นี่มาเร็ว หิวจะแย่แล้ว
ชั้นแทบจะกินน้องรหัสแกเข้าไปทั้งตัวแล้วเนี่ย
แหม...หล่อล่ำเลยดูสิ ซี๊ดดด...เห็นแล้วเปรี้ยวปาก”


แม่หญิงงามเมืองประจำกลุ่มซูดปากไปพลาง
มองน้องปีหนึ่งเดือนคณะเภสัชคนล่าสุดไปพลาง
ทำเอาน้องรหัสของเขาถึงกับสะดุ้งเฮือก
เหมือนกลัวว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายโดยเขมือบแทนหมูกระทะไปเสียก่อน


“พอเห็นผู้ชายอย่างนี้แล้ว...
พี่บอลล่าอยากกิน ‘เห็ด’ จังเลยอ่ะ
ใครช่วยไปตักให้ทีได้ป่ะคะ”


ถ้อยคำออดอ้อนเน้นเสียงคำบางคำให้ชวนคิดลึก
มาพร้อมกับประกายตาวิบวับพุ่งตรงดิ่งทิ่มทะลวงไปยังเดือนคณะอย่างส่อความนัย
บ่งบอกได้ชัดเจนว่าหนนี้อีเจ๊บอลล่าตั้งใจรุกหนัก รุกจริง รุกเร็วใส่ไม่ยั้ง
หากแต่ยังไม่ทันที่เป้าหมายจะตอบรับ
เสียงของคนที่เพิ่งนั่งลงกลับร้องขัดขึ้นทันที


“งั้นเดี๋ยวกูไปเอง”


ไม่เพียงเฉพาะเจ๊บอลล่าที่หัน
หากแต่เพื่อน ๆ ทั้งโต๊ะก็พร้อมใจกันหันมองคนพูดเป็นตาเดียว
เหมือนถามกันในใจว่า ‘จะดีเหรอ’
ยกเว้นก็แต่น้องรหัสของเขาที่มองประหนึ่งว่าปลายฟ้าคือฮีโร่

บอลล่าอยากจะสะกิดเพื่อนยิก ๆ ว่า ‘แกทำแผนอ่อนเหยื่อชั้นล่มนะยะ’
แต่ไม่ทันแล้ว...เพราะปลายฟ้าเล่นลุกเดินออกไปเรียบร้อย
ทิ้งให้คนอื่น ๆ ในกลุ่มต้องเอ่ยปลอบบอลล่าไปเบา ๆ


“คราวนี้รอไปเถอะเห็ดน่ะ
ให้ไอ้เต่าปลายไปตัก
อีกสิบห้านาทีคงได้กิน”


ทว่าเสียงบ่นเหล่านี้ย่อมไม่เข้าหูนายปลายฟ้าแม้เพียงนิด
เพราะในสมองของเขามีความมุ่งมั่นเดียว
นั่นคือความตั้งใจจะแก้มือหลังจากที่พลาดไปเมื่อครั้งที่แล้ว


...ยังไงครั้งนี้เขาก็ต้องเลือกเห็นที่อยากกินให้ได้!!


สองขาจึงเร่งเดินตรงดิ่งไปยังตะกร้าใส่เห็ดสารพัด
ดวงตาเริ่มต้นสอดส่องแสกนเลือกพันธุ์เห็ดอย่างรอบคอบ
สมองก็คิดประมวลผลไปด้วย


...เห็ดฟางที่อร่อยต้องไม่แก่มาก


...ชิ้นนี้ไม่ได้ครับ
ใหญ่เกินไป มันจะเหนียว


...ส่วนอันนี้ โห สีคล้ำหมดแล้ว
เก็บมาตั้งแต่เมื่อไรวะเนี่ย


...อันนี้ อืม...
กลมกำลังดีอวบอิ่มสมน้ำสมเนื้อ
...ผ่าน ๆ


แล้วก็ชิ้นนี้...


คนเลือกยืนวิจารณ์เห็ดต่อไปอย่างเมามัน
โดยไม่ได้รับรู้เลยว่าใครบางคนกำลังยืนต่อคิวอยู่ด้านหลัง


นัยน์ตาคมเข้มเฝ้ามองร่างที่เดี๋ยวหยิบ... เดี๋ยววาง..
เห็ดในตะกร้าอย่างไม่ลดละด้วยความรำคาญใจ


ดูสิ...เห็นมั้ย

ขนาดคีบเห็ดยังได้แค่สี่ห้าชิ้นเลย
โตป่านนี้แล้วยังทำอะไรไม่เป็นสักอย่างต้องให้คนอื่นช่วยตลอด
แล้วคนดีมีน้ำใจอย่างเขาจะไม่ให้เข้าไปช่วยได้ยังไง


“มานี่ เดี๋ยวทำให้”


“อ้าวเฮ้ย!!...”


นายปลายฟ้าอุทานได้แค่นั้น
เมื่อจานของตนถูกดึงออกไปจากมืออย่างง่ายดาย

เขารีบหันไปมองคนที่บังอาจมาขัดจังหวะ
ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกกว้างขึ้นอย่างตื่นตะลึง
ทันทีที่เห็นการกระทำตรงหน้าราวกับภาพสโลโมชั่น


...ทัพพีคันใหญ่ช้อนตักบรรดากองทัพเห็ดขึ้นมามากมาย
ก่อนค่อย ๆ ปล่อยให้พวกมันร่วงหล่นลงบนจาน
ปะปนไปกับเห็ดชั้นดีที่เขาบรรจงเลือกมาทีละชิ้น...ทีละชิ้น...


เฮ้ย!!


ไม่...


ไม่นะ...


น้องเห็ดของพี่ปลาย


ม่ายยยยยยยย!!!



“เอ้า พอหรือยัง”


...เป็นคนเดิม
ไอ้หน้าดุหนวดครึ้มมหาโจรคนเดิม
ที่ทำลายความพยายามครั้งที่สองของเขาจนย่อยยับ


นี่กูไปทำอะไรให้มันแค้นรึเปล่า
ไม่ได้ขอร้องให้ช่วยเลย
แล้วมึงมาทำแบบนี้กับกูได้ยังไงกานนน!!!


“จะเอาอะไรอีกมั้ย เดี๋ยวจะได้คีบให้”


ไม่ต้องครับ... ไม่ต้องแล้ว..
แค่อย่าช่วยกูอีกก็พอครับ


ปลายฟ้าได้แต่คิดในใจโดยไม่กล้าปริปากบ่น
ด้วยเกรงกลัวรัศมีความโหดที่กระจายออกมาจากร่างตรงหน้า
สิ่งที่เขาทำจึงมีเพียงการรับจานมาเงียบ ๆ
ก่อนจะเร่งสาวเท้าหอบความเจ็บช้ำกลับไปนั่งที่โต๊ะตามเดิม


“อ้าว...หนนี้มาเร็วว่ะ...
นึกว่าจะต้องไปช่วยเพาะเห็ดซะแล้ว”


ไอ้เกมส์เอ่ยแซวขึ้นทันควันเมื่อเห็นจอมอืดอาดประจำกลุ่มวางถ้วยเห็ดลงบนโต๊ะ
แต่คนโดนแซวไม่ตอบว่าอะไร เพราะในสมองกำลังทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น


...ใครจะมารับรู้ถึงความปวดร้าวนี้


...ใครจะมาเข้าใจว่าเขาต้องทรมานเพียงใดกับสิ่งที่ได้เห็น



ปลายฟ้านั่งซึมน้ำตาตกใน
หมูที่คีบกินเข้าปากดูไม่อร่อยเหมือนอย่างเคย
แต่ต้องจำใจฝืนทนกินไป เพราะหิว
กระนั้นก็ยังไม่วายพยายามเลือกคัดเอาเองที่โต๊ะก็ได้วะ
พร้อมกับสะสมความแค้นที่มีอยู่ในใจ


...สิบปีล้างแค้นยังไม่สาย


ครั้งนี้กูจะต้องไม่พลาดโว้ยยยย!!

....

..

.


ใช้เวลาเกือบชั่วโมงจัดการกับหมูกระทะกันจนอิ่มหนำสำราญ
จึงถึงคราวที่ใครหลายคนเริ่มเมนูตบท้ายด้วยบรรดาของหวาน


“กูไปเอาผลไม้นะ”


ปลายฟ้าลุกขึ้นบอกเพื่อน ๆ ที่พยักหน้าเออออส่ง ๆ
ไม่มีใครคิดจะลุกเดินไปด้วยเพราะเข้าใจนิสัยดีว่า
กว่าพ่อเจ้าประคุณจะเลือกเสร็จคงได้ยืนรอจนรากงอก


ทุกคนในกลุ่มรู้...



...ยกเว้นคนนอกที่ยังไม่รู้


ซึ่งใครคนนั้นช่างสุดแสนบังเอิญ
เหลือบมองเห็นปลายฟ้าเดินตรงไปยังมุมผลไม้เข้าพอดี


“เฮ้ย เดี๋ยวกูมานะ”


นายคมสันร้องบอกเพื่อนในกลุ่มซึ่งยังคงมัวเมาไปกับการปิ้งหมูกระทะสั้น ๆ
ก่อนจะลุกขึ้นก้าวไปหาเป้าหมายที่มัวยืนจด ๆ จ้อง ๆ อยู่เช่นเดิม


“จะเอาอะไรเดี๋ยวคีบให้”


คนโดนทักสะดุ้งเฮือก
แทบไม่อยากจะหันไปเผชิญหน้ากับคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ


...ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร


นี่ถามจริงมึงจะตามจ้องล้างจ้องผลาญกูไปถึงไหน
กูไม่เอาอะไรแล้วครับ...
กูแค่อยากเลือกอย่างสงบสุข
มึงเข้าใจกูบ้างมั้ย...


คิดไปเถิด... คิดไป...
อย่าได้พูดออกมาเชียวถ้าไม่อยากหัวหลุด
เพราะอีกฝ่ายเดินมาอย่างถ่อยและเถื่อนเต็มขั้น
แถมยังไม่รอคำตอบใด ๆ พี่ท่านก็เล่นจัดการคีบ ฝรั่ง มะละกอ แตงโม
ใส่จานจนแน่นก่อนจะยื่นมาให้


“เอ้า”



หมด...


จบสิ้นกันแล้ว...


นายปลายฟ้าผู้ตระหนักถึงความพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
กล้ำกลืนความเจ็บช้ำไว้ในใจ
รับจานกลับมาเงียบ ๆ แล้วเดินจากไปเงียบ ๆ อย่างคนไร้วิญญาณ
โดยไม่ปริปากอะไรออกมาเลย
ปล่อยให้นายคมสันได้แต่มองตามอย่างงง ๆ



...เด็กอะไรพิลึกคน


พูดด้วยก็ไม่พูดสักคำ
เอาแต่เบิกตาโตจ้องมองเขาไม่กระพริบ


แต่จะว่าไป...
ไอ้ท่าทางเอ๋อ ๆ แบบนี้
ดู ๆ แล้วก็น่ารักดีเหมือนกัน
หน้าใส ๆ ผิวเนียน ๆ เสียแต่ผอมไปหน่อย
สงสัยคงเพราะคีบอาหารไม่ค่อยเก่งเลยกินได้ไม่เยอะ

งั้นไว้วันหลังเขาเจออีกเมื่อไร
จะเข้าไปช่วยคีบให้อีกครั้งล่ะกันนะ


นายคมสัน ผู้ใจดี มีจิตอาสา ขัดกับหน้าตาอันคมเข้มคิดตกลงกับตัวเอง
แล้วจึงเดินกลับไปรวมกลุ่มพรรคพวกของตนที่โต๊ะ
หยิบตะเกียบปิ้งเนื้อย่างต่ออย่างสุขกายสบายใจ
รู้สึกว่าหมูที่กินครั้งนี้อร่อยมากกว่าเคย


อา...การได้ทำประโยชน์ให้กับคนอื่น


...นี่มันดีจริง ๆ



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 


TBC



ฉลองเปิดซีรีย์ใหม่ด้วยเรื่องของชีวิตเด็กมหาลัยกันบ้าง  :mc4:
การโคจรมาพบกันระหว่าง ‘หนุ่มช่างเลือก’ กับ ‘หนุ่มจิตอาสา’ จะเป็นเช่นไร
จะขมเท่ายอดสะเดา หรือจะหวานหอมเหมือนข้าวโพดต้มมั้ย
ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะคะ


 :L2:

แล้วเจอกันจ้า


BitterSweet
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 17-10-2012 17:36:46
เรื่องใหม่แล้ววว น่าร้ากกก
ปลายน่ารักมากอ่ะ อยากแล้วสงสารเลยอะ ไม่เป็นไร เราเข้าใจนายนะ
คมก็..หึหึหึ ไม่ผิดนะ ก็ไม่รู้นี่เนอะ!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 17-10-2012 17:41:02
 :mc4: :mc4: :mc4: เย้  เปิดเรื่องใหม่แล้ววววว  สงสารหนูปลายจริงๆ ไม่ได้เลือก :monkeysad:  สงสัยจะไม่ได้เลือกอีกนานนะ   :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 17-10-2012 17:52:08
 :mc3: ต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ   หนุ่มช่างเลือก ปะทะ หนุ่มจิตอาสา  จะหวานหยด หรือ ดุเดือด คงต้องดูกันต่อไป


  :L2: และ :pig4: คนเขียนกับเรื่องใหม่  รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 17-10-2012 18:03:56
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: น่ารักอ่ะ น้องเต่าปลาย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-10-2012 18:14:17
 :laugh: :laugh:แต่ละคน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 17-10-2012 18:39:24
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 17-10-2012 19:14:22
นี่แค่ต้นที่หนึ่งนะเนี้ย
โอ้ย.....น่ารักมากๆ
ขำพ่อคนจิตอาสาสุดๆ อิ่มอกอิ่มใจที่ได้ทำความดีโดยไมรู้ว่าได้ทำร้ายจิคใจของหนุ่มช่างเลือกไปซะแล้ว
รอต้นต่อไปจร้า
ปลูกเสร็จแล้ว..จะใหช่วยรดน้ำพรวนดินก็บอกได้นะ

อย่างบอกว่า เต้าหู้กับกาแฟอร่อยมากๆ ขนมปังสังขยานี่ก็กินไม่เบื่อ ขอบคุณที่ทำของอร่อยๆมาให้เสพตลอดเลยนะ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 17-10-2012 19:25:42
แล้วมันเกี่ยวกะสะเดากะข้าวโพดตรงไหนอ่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-10-2012 19:41:13
หวังดีประสงค์รักรึเปล่า

 :laugh:


ภาคนี้เปิดได้ฮาจริงๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 17-10-2012 20:04:38
 :pig4:
อ๊ายยย น่ารักอ่ะ


สนุกทุกเรื่องเลยจ้ะ

ขอบใจคนแต่งมากๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 17-10-2012 20:06:42
น้องปลายคงจะหมดโอกาสเลือกแล้วละ :laugh:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-10-2012 20:42:12
เรื่องใหม่มารวดเร็วทันใจมากเลยค่ะ

ปลายฟ้ากะคมสัน  ช่างต่างกันสุดขั้ว

รอว่าทั้งคู่จะวนมาเจอกันอีกเมื่อไหร่

และจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 17-10-2012 21:18:50
โอยย  ฮามาก 555555555555555
มันก็นะ  แต่ขำจริงๆนะ
จะเถียงก็ไม่กล้า กลัวตาย คึคึ
น้องปลายช่างน่าสงสารจริงๆ  พี่คมก็ใจดี๊ใจดี 5555555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-10-2012 21:32:00
จากการที่ได้ติดตามซีรี่ย์หวานอมขมนี้มาตลอด

เดี๊ยนพบว่า......


พระเอกนายเอกของซีรี่ย์นี้

มักมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเวอร์

หนักไปทางคิดเองเออเอง 55555

ไม่ใช่อะไรหรอก....ชอบคะ  :จุ๊บๆ:

เรื่องล่าสุดนี่ขำกร๊ากกกกเลย

 :pandalaugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 17-10-2012 23:02:51
อ้อ  ยอดสะเดามันขมนี่เอง...  (โง่จริงๆ เลยตรู)


เรื่องนี้ดูน้องปลายจะมึนๆ  น้องคมก็ใจดีเหลือเกิน
ทำค่ายบ่อยใช่มั้ยคะน้องคมหนะ  ฮ่าๆๆๆ

ตอนแรกนึกว่าเรื่องนี้จะได้เปลี่ยนชื่อเป็นหมูกระทะซะแล้ว
เห็นน้องๆ กินหมูกระทะแล้วก็อยากกินบ้าง...  แต่คงต้องรออีกนานเลยหละค่ะ  ฮืออออ


ปล. ถ้าขมเหมือนยอดสะเดา  มาม่ายอดสะเดาคงกลิ่นโชยมารอเลยหละค่ะ


ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 17-10-2012 23:09:55
แค่เริ่มเรื่องก็ฮา+น่ารักแล้วค่ะ :) รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 17-10-2012 23:18:32
ตลกอ่า 55555+ น่าสงสารน้องปลาย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 18-10-2012 00:24:29
คมนี่เป็นคนดีมีจิตใจช่วยเหลือ
แต่ปลายคงไม่อยากได้น้ำใจนั้น
จึงมีทั้งคนที่ดีใจที่ได้ทำดี
และคนที่เสียใจเพราะไม่ได้ดั่งใจตนเอง
555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: Luk-Pla-Yai ที่ 18-10-2012 00:35:45
มีการว่าถ้าเจอคราวหน้าจะเข้าไปช่วยคีบอีกต่างหาก 5555
รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ :o8:
ชอบทุกเรื่องเลยค่ะ เยี่ยมยอด o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: 9nawKIHAE ที่ 18-10-2012 01:56:08
 พบรักที่ร้านหมูกะทะ? กร๊ากกกกกกก :z1:
อ่านตอนเกือบตี 2... อยากบอกว่าแอบหิวค่ะ T^T
สนุกมากเลย ชอบทุกเรื่อง ชอบทุกรส
รอต้นต่อๆไป~~ปลาย~~ น่ารัก :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-10-2012 08:03:14
เริ่มต้นมาก็น่ารักเลย
ปลายคงอยากจะบอกว่าไม่ต้องการความหวังดี แต่คงกลัวเนอะเลยไม่กล้าพูด 5555

บวกหนึ่งครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-10-2012 09:40:20
น่ารักอ่ะ  :-[

น่าสงสารปลายฟ้าผู้ช่างเลือกจริงๆ คงช้ำใจแย่เลย ไม่ได้เลือกอะไรซักอย่าง
เพราะมีคนหน้าโหดแต่ใจดีมาช่วยแบบไม่ต้องเลือก ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 18-10-2012 10:56:59
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก น้องปลายน่ารักอ่ะ เจอเค้ากะอิหนุ่มคนนี้เข้าไปเนี่ยสงสัยได้รบกันน่าดู
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-10-2012 11:49:19
ฮ่าๆ สงสารปลายจริงๆ เลย คมนี่ก็นะ จิตอาสาไปเรื่อย หุหุ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 18-10-2012 13:00:31
สงสารปนฮาไปกับน้องปลายอ่ะ  เหมือนคุณหนูจิงๆนะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 1] 17/10/55 > P.45
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-10-2012 13:51:08
หนุ่มช่างเลือกอย่างปลาย
เจอหนุ่มจิตอาสาอย่างคม
จะเกิดอะไรขึ้นอีกแค่ต้นที่1
ก็ทำเอาหนุ่มปลายพูดไม่ออก :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 18-10-2012 17:49:16
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 2



“เรื่องโปรเจควิชาจริยศาสตร์ของอาจารย์ชลิดา  มึงจะอยู่กลุ่มกูมั้ย?”


“อือ เอาดิ มีใครบ้างวะ”


ปลายฟ้าพยักหน้าหงึกหงักตอบไอ้เกมส์เพื่อนซี้
ส่วนปากขยับตักข้าวผัดขึ้นมาเคี้ยวตุ้ย ๆ


“ก็กลุ่มนี้แหละ มีกู บอลล่า ไอ้โจ ไอ้แว่น ตุ่ต๊ะ แล้วก็มึง หกคนครบพอดี”   


คนพูดพยักเพยิดไปยังเพื่อนร่วมโต๊ะ
ซึ่งกำลังกินข้าวเที่ยงอย่างเพลิดเพลินในโรงอาหารของมหาลัย


“แล้วตกลงเลือกได้ยังว่าจะทำอะไร”


“ยังไม่รู้เลย คงทำอะไรง่าย ๆ ล่ะมั้ง”


“ให้กูเลือกมั้ย”


“เฮ้ย! อย่าเลย กูเกรงใจว่ะ”


เกมส์รีบสกัดดาวรุ่งก่อนทันที
เพราะขืนรอให้คนคนนี้ได้เลือกพิจารณาเสร็จสิ้นกระบวนความ
มีหวังโปรเจคดี ๆ คงโดนกลุ่มอื่นคาบเอาไปรับประทานเรียบร้อยแล้ว


...ไม่ใช่ว่าปลายฟ้าทำงานไม่ดีหรืออะไรหรอกนะ
คบกันมาตั้งนาน เห็นงานมันมาก็มาก
ส่วนใหญ่มักจะเสร็จออกมาดีเกินมาตรฐานทั้งนั้น
โดยเฉพาะงานอะไรที่มันต้องอาศัยเวลาประดิดประดอย
พี่แกเล่นเพ่งสมาธิทำแบบไม่สนใจอย่างอื่นเลย
แต่ถ้างานไหนต้องใช้ความเร็วหรือมีชอยส์ให้มากกว่าหนึ่ง

อย่าเชียว....อย่าให้มันได้เลือก
รอไปเถอะจนวินาทีสุดท้ายนั้นแหละ
มันถึงจะตัดสินใจได้



“ให้พ่อเต่าน้อยเลือกยังดีกว่าแกเลือกนะไอ้เกมส์
ชั้นล่ะกลั๊วกลัวแกจะคิดอะไรประหลาด ๆ ออกมาให้ได้ลำบากอีก”


บอลล่าแม่นางแสนสวยประจำกลุ่มปัดมาสคาร่าไปพลาง
จีบปากจีบคอแขวะคนต้นเรื่องไปพลาง
ซึ่งแน่นอนว่าคนโดนบ่นย่อมไม่รอช้ารีบเถียงกวนตอบกลับทันควัน


“ไม่ประหลาดหรอกเว้ย เดี๋ยวจะเลือกงานง่าย ๆ ให้
รับรองขนตาปลอมเจ๊ยังไม่ทันร่วงเลยเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”


“ต๊ายยยย ให้มันจริงเถอะย่ะ!!
ถ้าผิดคำล่ะก็ชั้นจะให้เด็กในสังกัดมาอัดถั่วแกจนพรุนเลย”


...เอาอีกแล้ว ไอ้สงครามทะเลาะกันของคนคู่นี้
ไอ้เกมส์ก็ช่างแหย่ ส่วนบอลล่าก็ดันเล่นกลับ
เลยกัดกันไปกัดกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งจนตอนนี้ปาเข้าไปปีสามแล้ว
แต่เพื่อน ๆ ในกลุ่มกลับไม่ยักจะมีใครบ่น
เพราะถือซะว่าเป็นสีสันประจำวันคลายเครียดไป


ปลายฟ้าตักข้าวเที่ยงช้อนสุดท้ายเข้าปาก
ก่อนจะผุดลุกขึ้นยืน เอ่ยบอกประโยคกับคนที่เหลือ


“งั้นกูไปซื้อน้ำก่อนนะ”


“รีบ ๆ หน่อยนะเว้ย เดี๋ยวเรียนวิชาต่อไปไม่ทัน”


เสียงไอ้เกมส์ตะโกนแซวไล่มาตามหลังเขามาไกล ๆ


โห...ไม่ได้ช้าขนาดนั้นซะหน่อยครับ ไอ้นี่แม่งก็เวอร์ไป
อีกตั้งสิบห้านาทีกว่าจะบ่ายโมง มีเวลาทันถมเถ


ความจริงนายปลายฟ้าไม่ได้เป็นบุคคลประเภทเรื่องมากกินยาก
ไอ้ของกินทุกอย่าง เขาก็กินได้จนเกือบหมดนั้นแหละ
แค่เลือกไม่ถูกว่าวันนี้จะเอาอะไรดี
ประมาณว่าไหน ๆ จะกินทั้งที
เลยอยากเลือกให้ตรงกับความพอใจของตัวเองที่สุดเท่านั้นเอง


...แปลกที่ทำไมทุกคนถึงไม่ค่อยจะเข้าใจเขานักก็ไม่รู้


ปลายฟ้าได้แต่นึกสงสัยอยู่ในใจ
กระนั้นสองขากลับพาร่างของตนมาหยุดยืนต่อแถว
ซึ่งค่อนข้างยาวพอสมควรอยู่หน้าร้านขายน้ำ


แถวเคลื่อนไป...
ตากลมโตก็จ้องมองบรรดาโหลน้ำสารพัดสีที่ตั้งเรียงรายไปด้วย
พร้อมกับหัวสมองของคนช่างเลือกเริ่มเข้าสู่วงจรคิดพิจารณาอีกครั้ง



...เอาอะไรดีวะ?


...กาแฟเย็น ดีมั้ย?
เฮ้ยไม่เอา เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับ


...โกโก้ล่ะ?
เมื่อวานเพิ่งกินไปเองไม่ใช่เหรอ


...เป๊ปซี่?
ไม่... ไม่...
แก๊สเยอะจะตาย เดี๋ยวอืดในท้อง


ถ้างั้น...



หนุ่มเภสัชเถียงกับตัวเองไปมาในใจ
จนไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่ขยับมาหยุดยืนสถิตเป็นหัวแถวอยู่หน้าสุด
แถมยังมีคนอื่นรอซื้อต่อกันอีกยาวเหยียด

ทว่านายปลายฟ้าผู้ช่างเลือกกลับยังคงไม่ตระหนัก
เพราะมัวแต่พยายามคิดพิจารณาต่อไปอีกหลายวิ


...ชามะนาว ล่ะเป็นไง?
หวาน ๆ เปรี้ยว ๆ แก้ง่วงด้วย

อา... ใช่เลย...
งั้นเอาอันนี้แหละ...


ในที่สุด คนลังเลก็ตัดสินใจได้เสียที
เขารีบเงยหน้าขึ้นขยับปากร้องบอกสิ่งที่ต้องการ


“ป้าครับ ผมขอ...”


“ป้าผมขอเขียวโซดา แล้วเอาให้คนนี้เหมือนผมด้วยนะครับ”



เอ๊ะ...


ดะ...เดี๋ยวก่อนนะ


ใครสั่งเขียวโซดาวะ กูไม่ได้สั่งนะ


ปลายฟ้ารีบหันกลับไปหาต้นเสียงที่พูดขัดซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง
และก็ได้เห็นคนคนนั้น...



เออ...ใครวะ?

ดูคุ้น ๆ ยังไงบอกไม่ถูก


ตัวใหญ่ ๆ แบบนี้
ผิวเข้ม ๆ แบบนี้
หน้าตาดุ ๆ คม ๆ แบบนี้
ถ้าเติมหนวดเพิ่มอีกสักหน่อย


เฮ้ย...


ใช่เลย...



นี่มัน ‘ไอ้ตัวเสือก’ ที่เจอในร้านหมูกระทะ!!



“อ่ะ เอาไป เงินไม่ต้อง เดี๋ยวเลี้ยง”


ร่างสูงยื่นแก้วใส่น้ำเขียวโซดามาให้คนที่ยังมึนงงรับไว้
ก่อนดันหลังเขาให้เดินออกไปด้านนอกเพื่อให้คนอื่นในแถวได้ซื้อบ้าง
แถมซ้ำด้วยการพูดสอนเขาเพิ่มเติม


“วันหลังอยากกินอะไรก็บอกป้าเขาไปแบบนี้เลยนะ จะได้สั่งเอาเองเป็น”



เออ...คือ...


กูอ่ะ...
สั่งเองเป็นครับ


แต่มึงอ่ะ...

มาจากไหนวะครับเนี่ย!!


อยู่ ๆ ก็มาสั่งให้เฉยเลยแล้วยังมาเลี้ยงอีก
ความหวังดีของมึงกูไม่ต้องการ
กูต้องการแค่ชามะนาว
เอาชามะนาวกูคืนมาาาา!!!


อย่านึกครับว่าปลายฟ้าจะพูดประโยคเหล่านั้น
ได้แต่สื่อสารเรื่องราวความอาฆาตผ่านทางสายตา
ด้วยเพราะสังเกตเห็นเครื่องแต่งกายของคนตรงหน้า


โห...ใส่ช็อปคณะวิศวะด้วย มิหนาล่ะมันถึงได้โหดนัก
เทียบกับเขามวยคนละรุ่นกันเห็น ๆ อย่างมันรุ่นเฮฟวี่เวทแล้ว
ขืนชกไปได้ปากแตกไม่มีใครมาแจกทองให้อีกต่างหาก
ไอ้จะไปต่อแถวซื้อชามะนาวใหม่คงอีกนาน
นี่ก็ใกล้เวลาเรียนแล้วด้วย


ถ้างั้น...

เออ...กูไปก็ได้ว่ะ

แต่แม่งฝากไว้ก่อนเถอะมึง

แล้ววันหลังกูจะมาเอาคืน!!


เป็นครั้งที่ปลายฟ้าตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วผิดนิสัย
ก่อนพาตัวเองหันหลังจากไปอย่างเงียบ ๆ
เดินกลับตามมาที่โต๊ะกลุ่มเพื่อนของเขา
กระนั้น ภายในใจกลับยังคงพยายามนับหนึ่งถึงสิบ
ข่มอารมณ์เก็บความเคืองแค้นไว้อย่างสุดความสามารถ


“เฮ้ย น้ำไรวะ”


เสียงไอ้เกมส์ทักพลางชะเง้อมองแก้วในมือเขาอย่างสนใจ


“เขียวโซดา”


“ขอดูดคำดิ”


“มึงเอาไปทั้งแก้วเลยก็ได้”


คนหงุดหงิดยื่นส่งให้คู่สนทนาที่รับมาไว้พลางขมวดคิ้วถามงง ๆ


“แล้วมึงไม่กินล่ะ”


“กูอยากกินชามะนาว”


“เอ้า แล้วไม่สั่งวะ เสือกซื้อเขียวโซดามาทำไม”


...คำถามคำเดียว
ทว่ามันกลับมีอานุภาพทิ่มแทงใจของนายปลายฟ้า
ซึ่งพยายามข่มอารมณ์เดือนจนเส้นความอดทนในตัวขาดผึง


ยิ่งเมื่อเห็นภาพใบหน้าคมเข้มของใครบางคนลอยเข้าในหัว
ก็ยิ่งสร้างความแค้นให้เขาจนต้องเผลอร้องสบถสาปส่งเสียงดังลั่น


“เออ! ก็เพราะแม่งเสือกนั้นแหละเว้ยยย!!”



คำด่าทอที่ดังขึ้นอย่างไม่ปี่มีขลุ่ยทำเอาเพื่อนซี้สะดุ้ง
กระพริบตาปริบมึนงงด้วยความไม่เข้าใจว่าเหตุไฉน
อยู่ ๆ ไอ้คนช่างเลือกประจำกลุ่มถึงได้หงุดหงิดโวยวายออกไปอย่างนั้น


แน่นอนว่าไม่มีใครเข้าใจชะตากรรมอันปวดร้าวของปลายฟ้า...



...ไม่เลย



...แม้กระทั่งไอ้ตัวสาเหตุของเรื่องด้วย




นายคมสัน ผู้มีหน้าตาคมเข้มมาดแมนดังชื่อ
เดินเอื่อย ๆ ดูดเขียวโซดากลับมาที่โต๊ะ
พลางนึกถึงการกระทำของเขาก่อนหน้านี้


...ไม่คิดว่าจะเจอกันอีก


เขาต่อแถวอยู่ข้างหลังคนคนนั้น
เห็นยืนนิ่งอยู่สักตั้งนานสองนานแต่ไม่สั่งป้าเค้าสักที
สงสัยคงเป็นเด็กปีหนึ่งยังงงไม่รู้วิธีซื้อน้ำ
เขาก็เลยถือวิสาสะช่วยสั่งให้
คนต่อคิวข้างหลังจะได้ไม่ต้องรอนานด้วย

มิหนำซ้ำนายคมสันยังมีน้ำใจงามออกเงินเลี้ยงน้ำให้อีก
เพราะถือว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่วิศวะปีสามแล้ว
เผื่อรุ่นน้องจะได้เห็นว่ามหาลัยนี้น่าอยู่เป็นกันเอง

แต่ไอ้น้องคนนั้นไม่รู้จะเป็นกันเองกับคนอื่นได้มั้ย
ขนาดซื้อน้ำให้ยังเล่นไม่หือไม่อือ
ได้แต่มองเอา... มองเอา...
แล้วก็เดินกลับไปเงียบ ๆ อย่างนั้น



“ไปนานจังว่ะ จีบเด็กเหรอ”


ไอ้ ‘ดิว’ หนุ่มหล่อหน้าตาดีเยี่ยงนายแบบคลีโอ
การันตีด้วยตำแหน่งเดือนวิศวะปีสามร้องถาม
ขณะที่เขาทรุดตัวนั่งลงยังโต๊ะประจำ


“เปล่าแค่ไปช่วยเด็ก”


“เด็กไหนวะ น่ารักเปล่า”


คำถามที่สองตามมาติด ๆ
ไม่แปลกเลยที่นอกจากตำแหน่งเดือนคณะ
มันยังจะพ่วงตำแหน่งเพลย์บอยอันดับต้น ๆ ของวิศวะไปครองด้วย


นายคมสันหวนคิดถึงใบหน้าของคนที่ตัวเองเคยช่วย


เด็กผู้ชายธรรมดา ๆ เตี้ยกว่าเขาที่สูงร้อยแปดสิบเจ็ดอยู่เกือบสิบเซ็น
ผิวขาดซีดหุ่นผอม ๆ เหมือนพวกไม่ค่อยชอบออกกำลังกาย
หน้าตาเกลี้ยงเกลาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
จุดเด่นเพียงอย่างเดียวคือดวงตากลมโตใสแจ๋ว
ซึ่งชอบจ้องมองมาที่เขาตรง ๆ โดยไม่เคยหลบเลยสักครั้ง 


“อืม...ก็ดีมั้ง”


“เหรอวะ ถ้าเจอแนะนำให้บ้างดิ”


“เออ ๆ”


เขารับคำอย่างแกน ๆ
ไม่ได้บอกไปหรอกว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย
แถมยังไม่รู้จักชื่อเสียด้วยซ้ำ
จะเจอกันอีกรึเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ

แต่ถ้าหากได้พบกันครั้งหน้าเมื่อไร



นายคมสัน ผู้มีจิตอาสา ก็ขอสัญญาว่า...


...ตนเองจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือคนคนนั้นต่อไปอีกอย่างแน่นอน



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 18-10-2012 18:01:31
 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 >; P.46
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-10-2012 18:18:16
คนหนึ่งหวังดี อีกคนกลับไม่ต้องการ พอมาอยู่ใกล้ๆกันแล้ว แม่ง!! ฮา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-10-2012 18:24:29
น่าสงสารนะ แต่ขำมากกว่า

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-10-2012 18:27:13
ฮ่าๆๆ น่ารักอ่ะ

ได้ข่าวว่ารุ่นเดียวกันนะ นายคมสัน ผู้มีจิตอาสา

ห๊า ครั้งหน้าจะเข้าไปช่วยอีก? :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 18-10-2012 18:35:06
เค้าอยากอ่านต้นที่3แล้วอ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา o9 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-10-2012 18:40:35
 :laugh:  เออ  ฮามาก

ทั้งสงสารทั้งฮา  ถ้าเจอกันครั้งหน้าปลายฟ้าคงได้โวยมั่งล่ะนะงานนี้

ส่วนพระเอกหน้าเข้มคงมีอึ้ง  และยิ่งสนใจกว่าเดิม   o18

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-10-2012 19:02:44
 :m20: :m20:เออ!!....มุ่งมั่นดีหว่ะพี่คม


แต่!!!พี่หวังดีกับเขาเกินไปหรือปเล่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: moon ที่ 18-10-2012 19:10:59
พ่อจิตอาสาาาาาาาาา ถามเค้าบ้างไหมว่าต้องการรึเปล่า55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 18-10-2012 19:19:32
ยังจะช่วยอีกเรอะ  5555555555555
ฮามากๆๆ  ไม่ไหวนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-10-2012 19:19:54
คราวต่อไปน้องปลายจะโวยไม๊นะ


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 18-10-2012 19:41:53
ติดตามครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 18-10-2012 20:46:01
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 18-10-2012 21:03:53
ขำจริงอะไรจริง ตอนนี้น้องปลายน่าสงสารอีกแล้ว 55555555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 18-10-2012 21:15:17
:m20: กับพี่คมจิตอาสา   ซึ่งยังมีความตั้งใจแน่วแน่ว่าถ้าเจอปลายฟ้าก็จะตรงเข้าไปช่วย

และปลายฟ้าก็คงได้แต่พูดในใจทุกครั้งที่เจอพี่คมจิตอาสา ว่า ตรูไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเอ็ง :serius2:


:L2: :pig4: คนเขียนค่ะ  รออ่านต้นต่อไป  แต่อ่านมา 2 ตอน ยังไม่เห็นพูดถึงข้าวโพดต้ม หรือยอดสะเดาเลยอ่ะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 18-10-2012 21:28:32
พากันมึนทั้งคู่อะ ดูท่าแระ

แต่น้องปลายจ๊ะ  เลือกนานมันก็มีไม่ดีนะเออว์... ถ้าน้องปลายยังเลือกนานแบบนี้
ต่อไปน้องปลายอาจจะต้องเสียน้องคมสันไปในอนาคตนะ  ฮ่าๆๆๆ


บางครั้งการจะรักใคร มันก็ต้องพินิจนานว่าเค้าเหมาะกับเรามั้ย นิสัยเข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ว่านะ...  เลือกนานไปก็ไม่ดี พินิจนานไปก็ไม่ดี  ต้องให้มันพอเหมาะพอดีกันนะจ๊ะปลาย


มันไม่เหมือนเลือกหมูในร้านหมูกระทะ  และก็ไม่ใช่การหนีบหมูส่งๆ แบบคมสัน
มันคือการเลือกไม่มาก  แต่มีคุณภาพจ้ะ


นิสัยสองคนต่างกันสุดขั้ว  แต่ว่ามันจะมาลงตัวกันในที่สุด
เราเชื่อแบบนั้น...  มีอะไรเหมือนกันมันก็ไม่ใช่ไม่ดี  แต่มันไม่สนุกหรอก
เหมือนกันไปทุกอย่าง ทำอะไรด้วยกันก็อาจจะเซ็งได้
ต้องแบบนี้หละ  ต่างกันเข้าไว้  แต่มีอะไรดึงดูดกัน  ฮ่าๆๆๆ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 18-10-2012 21:36:56
รอดูว่า เมื่อไหร่น้องปลายจะอ้าปากเถียงพี่คมออกไป 55555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 18-10-2012 22:09:42
 :jul3:  :sad11: ไม่ไหว ไม่รู้จะฮา หรือสงสารปลายดี

ขอต้นที่สาม อย่างด่วนเน้อ  o13

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-10-2012 23:30:05
อ่านไปก็สงสารพ่อเต่าน้อยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 18-10-2012 23:47:19
 นึกภาพตามแล้ว..

:laugh: (x10)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 19-10-2012 10:39:40
 :z3:เอิ่ม คม มันเกิดจิตอาสากับคนๆนี้คนเดียวใช่ไหม?????
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 19-10-2012 11:31:52
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ คมสัน ผู้มีจิตอาสา  กับน้องปลายช่างเลือก...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-10-2012 15:09:46
คมสันหวังดีก็จริง แต่ปลายเขาไม่ต้องการนะ
แล้วเมื่อไหร่ปลายจะกล้าปฏิเสธกันนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 2] 18/10/55 > P.46
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 19-10-2012 18:42:19
 :m7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 19-10-2012 19:56:03
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 3



“กรี๊ดดดดดด!!”


นี่ไม่ใช่เสียงร้องโหยหวนของผีโดนข้าวสารเสกแต่อย่างใด
หากแต่เป็นเสียงแหลมกึ่งแมนของกระเทยหญิงเดี่ยวเจ๊บอลล่า
ผู้กรีดร้องประหนึ่งโดยน้ำมนต์สาดใส่ร่างจนร้อนกาย


...แม้ไม่ใช่เสียงผีออก แต่ก็ยังถือว่าใกล้เคียง
เพราะตอนนี้เจ๊แกเริ่มสั่น...
...สั่นไปทั้งตัวเหมือนมีองค์มาเสด็จมาลงร่าง
และคงเป็นองค์ประทับที่มีชื่อว่า ‘เทพธิดาโกรธาพิโรษ’


“กรี๊ดดดด!! แกไอ้เกมส์!!
แกทำอย่างนี้กับชั้นได้ยังไง บอกมาสิแกทำได้ยังงายย!!! 
ต๊ายยย ตะตะตายยย ตายย ตาย!!!
โอย...ไม่ไหวแล้ว ใครก็ได้ช่วยเจ๊ที เจ๊จะเป็นลม
แต่ก่อนชั้นเป็นลม ชั้นจะโทรเรียกนางแนนนี่มาอัดถั่วแกก่อน จะได้เป็นลมตาหลับ!!”   


เสียงกรีดร้องอย่างอาฆาตแค้นยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
ทว่ากลับไม่มีใครคิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายเลยแม้แต่น้อย
เพราะหากจะช่วยจริง...คงจะไปช่วยรุมกระทืบมากกว่า
สาเหตุก็เนื่องมาจากไอ้ตัวต้นเรื่องมันดันเฉลยวีรกรรมร้ายแรง
ที่เพิ่งกระทำต่อเพื่อนทั้งห้าชีวิตไปได้อย่างเจ็บแสบ


“บอกแล้วไงว่ากูขอโทษ...
ก็แค่...เออ...แค่กูลืมนิดหน่อยเอง”


“นิดหน่อยบ้านแกสิไอ้เกมส์!!  นิดหน่อยเป็นอาทิตย์เชียวนะแก
ลืมอะไรไม่ลืม เสือกลืมส่งรายชื่อโปรเจควิชาจริยศาสตร์
เกรดชั้นเทอมนี้เดี๋ยวได้มีปลาเข้าไปว่ายทั้งฝูงกันพอดีสิย่ะ
โอยย...พูดแล้วกระเทยเหนื่อย กระเทยเพลีย ลมจะจับอีกรอบ
นี่....พ่อเต่าน้อยส่งยาดมให้เค้าหน่อยสิ”


นายปลายฟ้ารีบยื่นอาวุธให้บอลล่าตามคำขอ
พลางมองไอ้เกมส์ที่ทำหน้าจ่อยเพราะถูกด่าไฟแลบ
สงสารมันเหมือนกัน แต่จะให้ทำไงได้....


...ความผิดนี้ช่างใหญ่หลวงนัก



ความจริงไอ้โปรเจควิชาจริยศาสตร์ที่เคยคุยกันไว้มันไม่ได้ยากเย็นอะไรหรอก
มันเป็นวิชาว่าด้วยหลักคุณธรรม หลักจริยธรรม ซึ่งว่าที่เภสัชในอนาคตพึ่งจะมี
นอกจากต้องสอบทฤษฎีแล้ว ยังต้องมีการสอบภาคปฏิบัติด้วย
โดยการจับกลุ่มนักศึกษาประมาณห้าหกคน
แล้วเสนอกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
จำพวกทำป้ายเชิญชวนต่าง ๆ เช่น อย่าทิ้งขยะ อย่ารับประทานอาหารทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ 
รณรงค์ไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ในมหาลัย แต่งชุดนักศึกษาให้ถูกระเบียบ
โดยแต่ละกลุ่มห้ามเสนอมาซ้ำกัน
แล้วอาจารย์จะเป็นคนตัดสินให้คะแนน
ซึ่งงานนี้นับเป็นห้าสิบเปอร์เซนต์ของคะแนนทั้งหมด


...ฟังดูเหมือนง่ายใช่มั้ยครับ?


...ง่ายแน่ ๆ ครับ



...ยกเว้นก็แต่ว่ามันหมดเขตเสนอโปรเจคไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว


และที่สำคัญคือ ‘อาจารย์ชลิดา’ อาจารย์ผู้สอนประจำวิชานี้
ดันขึ้นชื่อลือชาเรื่องความเฮี้ยบและตรงเวลาสุด ๆ
ขนาดนักศึกษาเข้าห้องสายแค่สองนาทีอาจารย์ยังเล่นล็อคห้องไม่ให้เข้าเรียน
นักศึกษาลืมเอาบัตรนักศึกษาเข้าห้องสอบ อาจารย์ยังให้หมดสิทธิ์สอบ


...เป็นไงครับ?


....คราวนี้ คิดว่ามันเริ่มง่ายมากขึ้นแล้วหรือยัง?



“แล้วทีนี่จะทำยังไงวะ”


ปลายฟ้าร้องถามขึ้นอย่างคนอับจนหนทาง
ครั้งที่แล้วอุตส่าห์เสนอตัวช่วยเลือกโปรเจคให้แท้ ๆ ไอ้เกมส์ดันไม่น่าพูดขัดเลย
อย่างน้อยเลือกช้ายังดีกว่าไม่เลือก มาช้ายังดีกว่าไม่มานะเว้ย


“คงต้องลองไปคุยกับอาจารย์ดู”


คนทำผิดเสนอทางออกที่ทุกคนเห็นพร้อมตรงกัน


...แม้ความหวังจะดูริบรี่เต็มที
แต่เมื่อมันเป็นฟางเส้นสุดท้ายยังไงก็ต้องขอลองสู้สักตั้ง


นักศึกษาปีเภสัชศาสตร์ชั้นปีที่สาม ชาย 5 กระเทย 1
จึงตกลงปลงใจเดินขึ้นตึกภาควิชาไปยังห้องพักอาจารย์
โดยมีไอ้เกมส์ตัวต้นเรื่องถูกดันให้เดินนำหน้าเพื่อขอเจรจา


“ขออนุญาตครับอาจารย์ชลิดา พวกผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ”


เปิดประโยคนำร่องไปก่อนอย่างงาม ๆ
เรียกให้อาจารย์ซึ่งกำลังตรวจเอกสารบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมอง
ที่จริงอาจารย์ชลิดาจัดเป็นอาจารย์ที่ยังสาวยังสวยอยู่เลย
อายุแค่ยี่สิบปลาย ๆ แต่ความโหดนี่นำหน้าไปไกลจนทุกคนแอบขยาดกันไปทั่ว


“อ้าว พวกเธอเองเหรอ จะคุยเรื่องโปรเจควิชาจริยศาสตร์กันใช่มั้ย”


คำทักทายแรกเหมือนโดนอ่านใจออก
เล่นทำเอาคนฟังอยู่ถึงกับสะอึก
คนนำทัพยิ้มเจื่อน ๆ แต่ก็ยังมีแก่ใจถามกลับ


“เออ...อาจารย์รู้ได้ไงครับ”


“ก็มีแต่รายชื่อพวกเธอเนี่ยแหละที่ไม่ได้ส่ง
อาจารย์ขอชื่นชมนะว่ากล้าหาญมาก
คงจะคิดดีแล้วใช่มั้ยว่าอยากผ่านจากคะแนนแค่เปเปอร์อย่างเดียว”


“มะ...มะ...ไม่ใช่ครับ... อาจารย์
คะ...คือว่า...ผมลืมส่งรายชื่อกลุ่มให้อาจารย์ไป”


ไอ้เกมส์รีบแก้ตัวตะกุกตะกักลิ้นพันกันจนแทบร้องแร๊ป
ทว่าผู้ฟังกลับไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย


“การลืมแสดงถึงการขาดความรับผิดชอบนะคะ
แล้ววิชาจริยศาสตร์ก็พูดถึงเรื่องการแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะโดยตรง
นักศึกษาคิดว่าอาจารย์ควรทำอย่างไรกับกรณีนี้ดีคะ?”


...เอาแล้วครับ
อาจารย์เริ่มใช้สำเนียงเหมือนการสอนแบบนี้
แสดงว่าเริ่มเอาจริง ไม่มีพูดเล่น


“เป็นความผิดของผมเองครับ
ถ้าอาจารย์จะตัดคะแนนก็ขอให้หักคะแนนผมคนเดียว
พวกเพื่อน ๆ ผมไม่เกี่ยวครับ
อาจารย์ให้พวกเขาทำโปรเจคต่อไปเถอะครับ”


โอ้โห...หล่อเลย มึงแมนมาก
ปลายฟ้ารีบหันไปชื่นชมคนพูดที่มีรัศมีพระเอกส่องกระจายทันที
ทว่าประโยคถัดมาของคนตรงข้ามกับดับออร่านั้นโดยฉับพลัน


“แล้วเพื่อน ๆ ที่เหลือไม่มีเตือนกันเลยรึไงคะ
แบบนี้แสดงให้เห็นว่าขาดความรับผิดชอบกันทั้งกลุ่ม”


...จุกครับ บอกได้คำเดียว
อาจารย์พูดอย่างนี้เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่า
แต่ให้ปฏิเสธอะไรก็ไม่ได้ เพราะทั้งหมดมันคือเรื่องจริง


“พวกผมเองก็ผิดเหมือนกันครับอาจารย์

...ผมขอโทษครับ”


นายปลายฟ้าตัดสินใจก้มหัวยอมรับผิด
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงบรรดาเพื่อน ๆ รอบตัวดังขึ้นพร้อมกัน


“หนูเองก็ผิด ขอโทษค่ะ”

“ผมขอโทษครับ”

“ขอโทษครับอาจารย์”

“ขอโทษครับ”


หกชีวิตได้แต่พูดคำเพียงคำเดียวอย่างสำนึกลึกซึ้งเต็มหัวใจ
บอกตามตรงว่าตอนนี้หลายคนเริ่มไม่หวังกันแล้วว่าจะได้แก้ตัว
หากจะยอมตกก็ขอตกกันยกกลุ่มเนี่ยแหละ
ปีหน้าค่อยลงเรียนซ้ำก็ได้ อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อน


อาจารย์ผู้กุมชะตานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
ท้ายที่สุดจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ


“เฮ้อ...ก็ได้ค่ะ อาจารย์จะโอกาสพวกเธออีกครั้ง
เพราะส่วนหนึ่งของวิชาจริยศาสตร์
คือหลักธรรมว่าด้วยการมีจิตเมตตากรุณาและให้อภัย”



...เหมือนถูกศาลตัดสินให้ยกเลิกโทษประหาร



ทุกคนเงยหน้าขึ้นมามองกันทันทีหลังสิ้นคำพูด
ประกายแห่งความปลาบปลื้มฉายชัดในแววตา
โดยเฉพาะบอลล่าออกอาการดีใจจนเนื้อเต้น
จนแทบอยากจะวิ่งเข้าไปกอดอาจารย์บัดเดี๋ยวนั้น


“แต่....”


คำเชื่อมขัดแย้งที่ดังตามมาทำเอาทุกคนซึ่งกำลังเปรมปรีย์ถึงกับสะดุดกึก


“เพื่อเป็นการลงโทษ อาจารย์จะเป็นคนเลือกโปรเจคที่จะให้พวกเธอทำแทน”


อาจารย์สาวพูดจบพร้อมกับยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้หัวหน้ากลุ่ม
ซึ่งก็คือไอ้เกมส์พลางเอ่ยคำอธิบาย


“อาจารย์จะให้พวกเธอไปเข้าร่วม ‘ค่ายวิศวะอาสา’
ที่จะไปช่วยสร้างห้องสมุดให้น้อง ๆ ที่จังหวัดเลยเป็นเวลาสิบวัน”


...ค่ายวิศวะอาสา?

ไอ้ค่ายสุดหฤโหดที่มีคณะวิศวะเป็นผู้นำใหญ่สุดประหนึ่งมาเฟียนั่นอ่ะนะ


ความจริงมหาวิทยาลัยของเขามีชมรมค่ายอาสาพัฒนาอยู่แล้ว
แต่พวกเด็กวิศวะมักจะจัดค่ายอาสาที่เป็นเฉพาะของคณะตนเอง
แม้นักศึกษาคณะอื่นจะเข้าไปร่วมได้
แต่ 80% ของกลุ่มคนในค่ายมักสังกัดคณะวิศวะตามชื่อ
จึงไม่แปลกนักหากคนนอกอื่น ๆ จะเป็นเหมือนแกะดำหลงฝูง


คนฟังต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
ก่อนหญิงในมาดชายหนึ่งเดียวจะยกมือถาม


“เออ แต่ว่าค่ายนั่นมันเริ่มตอนปิดเทอมไม่ใช่เหรอคะ”


“ใช่ อาจารย์จะทำเรื่องให้พวกเธอติด I ไว้ก่อน
แต่ไม่ต้องห่วงนะ... ถึงอาจารย์จะไม่ได้ไปด้วย
แต่ ‘อาจารย์ชวลิต’ พี่ชายของอาจารย์เขาเป็นที่ปรึกษาประจำค่าย
อาจารย์จะฝากให้เขาช่วยดูด้วยว่าพวกเธอตั้งใจทำงานกันดีรึเปล่า”


...นั่นไง ถึงจะรอดพ้นการประหาร แต่ก็เหมือนโดนสั่งให้จำคุกตลอดชีวิต
แล้วจะให้นักโทษอย่างพวกเขาเรียกร้องอุทธรณ์อะไรได้
ขืนบ่นมากจากเกรด I ที่คาอยู่จะงอกหัวออกมาเป็น F ไปเสียแทน


“อาจารย์จะแจ้งประธานค่ายในครั้งนี้ด้วย
ส่วนที่เหลือพวกเธอไปติดต่อกันเองนะ
รายละเอียดมีอยู่ในใบที่อาจารย์ให้ไป
แล้วก็...”


คำพูดประโยคสุดท้ายหยุดลงพร้อมกับรอยยิ้มหวาน


...รอยยิ้ม อันแสนขัดกับน้ำเสียงที่จงใจเน้นคำบางคำให้คนฟังได้สยองเกล้า



“คราวนี้นักศึกษาอย่า ‘ลืม’ ทำรายงานสรุปโปรเจคมาส่งด้วยนะคะ”



...ได้ครับ จะจำให้ขึ้นใจเลยครับผม!!



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



คณะเภสัชศาสตร์อยู่ห่างจากคณะวิศวกรรมศาสตร์แค่ 200 เมตร


...ระยะทางเหมือนจะใกล้ใช่มั้ยครับ


แต่ความจริงแล้ว...
ไม่ค่อยมีนักศึกษาคณะเภสัชคนใดอยากเฉียดกลายเข้าไปในคณะวิศวะเท่าไรนัก
อย่าว่าแต่คณะเภสัชเลย คณะอื่นก็มักไม่ค่อยอยากเข้าไปยุ่ง

สาเหตุเพราะพื้นที่คณะวิศวะมันกินอาณาบริเวณกว้างใหญ่เกือบครึ่งมหาลัย
รวมถึงกลุ่มคนผู้เรียนมีปริมาณมหาศาลนับหมื่น
พูดง่าย ๆ เหมือนมันครองตำแหน่งมาเฟียมหาลัย
แล้วใครกันจะอยากเหยียบเข้าไปในถิ่นโดยตรง


คณะเภสัชศาสตร์เป็นชนกลุ่มน้อยที่รักสงบ
อยู่รวมกันเป็นกระจุกราวกับหมู่บ้านลับแล
แต่บัดนี้คนในหมู่บ้านเล็ก ๆ กำลังเดินรวมตัวกันข้ามถิ่น
มาหยุดยืนรอใครบางคนตรงม้านั่งใต้ตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์
ท่ามกลางสายตาจากเหล่าบรรดาเจ้าถิ่นคนอื่น
ซึ่งมองประหนึ่งว่าพวกเขาช่างกล้ากระทำการอาจหาญ



“ประธานค่ายที่นัดไว้มันยังไม่มาอีกเหรอวะ
คนแม่งมองพวกกูเหมือนตัวประหลาดแล้ว
รู้งี้ไม่ใส่เสื้อกาวน์มาสักก็ดีหรอก”


ไอ้เกมส์หัวโจกเริ่มบ่นอุบ
ปลายฟ้าเองก็รู้สึกอึดอัดแปลก ๆ ที่มีคนผ่านไปผ่านมาเมียงมองอย่างสนใจ

แน่ล่ะ...ก็ไอ้เสื้อกาวน์สีขาว ๆ มันเด่นกว่าเสื้อช็อปสีน้ำเงินอยู่มากโข
พวกเขาหกชีวิตเลยกลายเป็นเหมือนพวกแปลกแยก
ยกเว้นแต่บอลล่ากระเทยหญิงประจำกลุ่มหนึ่งเดียว
ผู้ลันล้าดีใจทำเสียงระริกระรี้อย่างปลาบปลื้มมากกว่าปกติ


“มองเยอะ ๆ สิดี ชั้นล่ะชอบบบ!!
แหม...ผู้ชายเถื่อน ๆ หน้าตาหล่อ ๆ ทั้งนั้นเลยอ่ะแก
เห็นแล้วเจ๊อยากจะดึงมาขบกล้ามเล่นสักคนสองคน”


แม้ใบหน้าหวานยังแอบเก๊กนิ่งอยู่
ทว่าดวงตาของนางลวนลามไปไกลแล้ว
ทั้งยังมาสะกิดปลายฟ้าซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ยิก ๆ
ให้มาร่วมเมาส์มอยดั่งสมาคมสาวโสดหัวใจเปลี่ยว


“กรี๊ดดด!!  ไอ้ปลาย แกดูผู้ชายคนนั่นดิ
ขาว หล่อ ตี๋ หุ่นบาดใจสเป็คชั้น น่ารั๊กกกอ่ะ”


แม่นางบอลล่าไม่ได้สนเลยว่าคนที่ตัวเองชี้ชวนให้ดูก็เป็นตัวผู้เหมือนกัน
ซ้ำยังไม่ได้มีรสนิยมอยากปลูกป่ากับเพศเดียวกันเลยสักนิด

แต่ชินแล้วครับ.... เจ๊แกชอบของเขา...


บอลล่าเคยบอกเหตุผลว่าที่มารวมกับกลุ่มชายล้วนนี้
เพราะเจ๊แกอยากอยู่ท่ามกลางหนุ่ม ๆ มากกว่าสาว ๆ
จะได้ให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นราชินี มีองครักษ์รายล้อม
แม้องครักษ์จะดูกาก ๆ หน่อยก็ยังดีกว่าไม่มี
พวกเราเลยจับพลัดจับพลูมีเจ๊มาเป็นส่วนร่วม

แต่ดีอีกอย่าง เจ๊แกมีคติข้อหนึ่งคือไม่กินเพื่อนในกลุ่ม
พวกเขาจึงรอดพ้นปากเหยี่ยวปากกามาจวบจนทุกวันนี้
ส่วนคนอื่น ๆ ที่เหลือ....

หึหึ ...อย่าให้พูด

...เหยื่อเจ๊แกดี ๆ นี่เองครับ



ปลายฟ้าหันมองเหยื่อรายล่าสุดของเพื่อนสาวซึ่งเดินตรงมาให้เห็นไกล ๆ

ไอ้เนี่ยเหรอ...หล่อตรงไหนวะ
ก็แค่ตี๋อินเตอร์เกาหลีพิมพ์นิยมธรรมดา
แค่ตัวสูง หุ่นเฟิร์ม ดั้งโด่ง ขาว ขายาว
เดินที่มีออร่ากระจายวิ๊ง ๆ จนสาวเหลียวมอง


อ้าว...เวร ดูดีกว่ากูหมดเลยนี่หว่า


ไม่เพียงแค่นั้นไอ้หน้าหล่อมันยังเดินตรงเข้ามาใกล้ทางนี้เรื่อย ๆ
กระทั่งมาหยุดลงตรงหน้าโต๊ะที่พวกเขากำลังนั่ง
ก่อนจะเอ่ยคำทักพร้อมรอยยิ้มเท่ห์บาดใจ


“นี่ใช่กลุ่มคณะเภสัชที่จะมาเข้าร่วมค่ายวิศวะอาสารึเปล่าครับ”


“ใช่ค่ะ พวกเราเองค่ะ”


บอลล่ารีบตอบกลับทันควันพร้อมส่งสายตาหวานเชื่อม
หลุดอาการสาวแตกไปเรียบร้อยอย่างห้ามใจไม่อยู่


“งั้นยินดีที่ได้รู้จักครับ
ผมได้ยินเรื่องมาจากอาจารย์ชวลิตแล้วว่าพวกคุณจะเป็นสต๊าฟของค่ายด้วย
เลยเอาเอกสารรายละเอียดกำหนดการค่ายมาให้
อ่ะ...ลืมบอกไป ผมชื่อ ‘ดิว’ นะ”


“ค่ะ ๆ ยินดีที่ได้รู้จัก เออ...เราชื่อบอลล่านะ
ส่วนเนี่ยเกมส์ โจ ตุ๊ต่ะ แว่น แล้วก็ปลาย”


เจ๊บอลล่าแนะนำไปเสร็จสรรพพร้อมกับไล่ชี้นิ้วไปที่คนอื่นรัวๆ
บอกเร็วเป็นจรวดแบบนี้ไม่รู้คนฟังจะจำได้เปล่า


“แล้วนี่ดิวเป็นประธานค่ายใช่ป่ะ”


เสียงไอ้เกมส์ถามอย่างเป็นกันเองตามประสาคนมนุษย์สัมพันธ์ดี
แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าปฏิเสธ


“เปล่า ผมเป็นรองประธาน
ประธานค่ายกำลังไปเอาเสื้อมาให้วัดไซต์
เพราะปีนี้เราจะมีเสื้อค่ายด้วย เดี๋ยวก็คงตามมา
อ้าว...นั่นไง...มาพอดี”


คนพูดเหลียวมองไปด้านหลัง
เรียกให้คนอื่น ๆ ในกลุ่มหันตาม


และทันทีที่ได้เห็น...



นายปลายฟ้าจึงเริ่มตระหนักชัดเจนเป็นครั้งแรกในชีวิตว่า



....โลกนี้มันโคตรกลม ‘อย่างบัดซบ’ เพียงใด




“ขอแนะนำให้รู้จัก ‘คม’ ประธานค่ายวิศวะอาสาครับ”




...ใช่แล้วครับ อย่างที่เดา
 

ไอ้ตัวตามจองล้างจองผลาญ

ไอ้ตัวมารขัดจังหวะความสุข

ไอ้ตัวที่ชอบเสือกไปซะทุกเรื่อง


แม้กระทั้งเรื่องนี้...


...มันยังดันเสือกเป็นประธานค่ายอาสาด้วย!!




ฝ่ายนายคมสันเองก็แอบแปลกใจอยู่ไม่น้อย
เมื่อมองเห็นคนหน้าคุ้นตานั่งรวมกับคนที่จะมาสมัครเข้าค่าย


...อ๋อ ...เป็นเด็กคณะเภสัชเองหรอกเหรอ

อ้าวเอ๊ะ...

แล้วไหนอาจารย์บอกว่ามีเฉพาะพวกปีสามไง
ถ้างั้นทำไมถึงได้มาอยู่รวมกับกลุ่มนี้ได้
อย่าบอกนะว่าเรียนอยู่ปีเดียวกับเขาจริง ๆ

...หน้าเด็กขนาดนั้นเนี่ยนะ?



แม้ในสมองจะเต็มไปด้วยความพิศวงงงงวย
แต่นายคมสันก็ยังทำหน้าที่ประธานค่ายไม่ขาดตกบกพร่อง
มือใหญ่จึงยื่นส่งเสื้อสามสี่ตัวกับกระดาษไปยังกลางโต๊ะ


“นี่ไซต์เสื้อผู้ชายครับ ลองวัดขนาดดู
แล้วก็ช่วยเขียน ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น คณะ ชั้นปี รหัสนักศึกษา
เบอร์โทรศัพท์ แล้วก็ขนาดเสื้อลงในใบนี้ด้วยนะครับ”


เด็กคณะเภสัชที่เหลือจึงจัดการวัดขนาดเสื้อ
แล้วค่อย ๆ ทยอยเขียนชื่อลงในกระดาษ
วนส่งตามมาเรื่อย ๆ จนถึงคนสุดท้าย


ปลายฟ้าเขียนชื่อกับเบอร์โทรศัพท์ตัวเองเสร็จแล้ว
เหลือแต่ขนาดเสื้อที่ยังไม่ได้เลือก
เขาหยิบเสื้อไซต์ M มาทาบตัว
หัวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างคิดพิจารณาตามนิสัยอีกครั้ง



...อืม ...ไซต์ M ดีเปล่าวะ?
มันตัวเล็กไปมั้ย อยากได้หลวม ๆ หน่อย
หรือจะเปลี่ยนเป็นไซต์ L ดี
ไอ้เกมส์มันยังเอา L เลย
ไปเข้าค่ายใส่ให้คล่องตัวดีกว่ามั้ง?


...ไหนเอา L มาเทียบดิ

หืม...ชายเสื้อยาวไปมั้ง ไหล่ก็เหลือนิดหน่อย
แต่เอาน่าพอจะใส่ได้อยู่
ดู ๆ ไปมันก็ไม่ต่างจากตัวเมื่อกี๊เท่าไหร่


อืม...เอาไงดีวะ

...ไหนเอาตัวที่แล้วมาทาบกันอีกทีดิ


อ่ะ...อ้าว...

...แล้วเสื้อไซต์ M หายไปไหนแล้ววะ?



ปลายฟ้าหันรีหันขวางมองหาเสื้อที่ตัวเองเพิ่งจะวางไปไม่กี่วิ
ก่อนจะได้ยินเสียงใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง


“มาเดี๋ยวช่วย”


ไอ้ประโยคสุดแสนจะหวังดีแบบนี้คงมีอยู่คนเดียวที่กล้าพูดได้
เขาอยากจะหมุนตัวกลับไปบอกปฏิเสธ
ทว่าดันถูกมือใหญ่ตรึงไหล่เอาไว้แน่นไม่ให้ขยับ
เพื่อนำไซต์เสื้อทาบที่หลังสองสามตัว
ก่อนคนยืนนิ่งเป็นหุ่นจะได้ยินเสียงตัดสินใจ


“เอาเป็น S แล้วกัน”



...เฮ้ย!! เดี๋ยว ๆ S มันไม่เล็กไปเหรอ
ไซต์นี่มันเบอร์เดียวกับบอลล่าแล้ว
กูไม่ได้ตัวบางขนาดนั้นสักหน่อย
มึงวัดยังไงของมึงวะเนี่ย


กูอยากได้ไซต์ M โว้ยยย!!



 
ทว่า โชคชะตาของนายปลายฟ้ากลับแสนอาภัพ
เพราะยังไม่ทันที่คนช่างเลือกจะอ้าปากเถียง
คนจิตอาสาก็จัดแจงเขียนอักษรลงไปในใบรายชื่อเสร็จสรรพ
พร้อมกับรวบเก็บเสื้อต่าง ๆ พลางจัดการเอ่ยปิดประชุม


“โอเคครับ ไว้มีรายละเอียดอะไรพวกผมจะได้โทรตามไปแจ้งอีกทีนะครับ”


“ได้ค่าาา”


บอลล่ารับคำเสียงใส หันไปยิ้มหวานกับดิวส่งท้าย
ก่อนไอ้เกมส์จะชวนพรรคพวกลุกขึ้น


“ไปพวกเรากลับเถอะ เดี๋ยวเข้าแล๊ปไม่ทัน
เอ้า! ไอ้ปลายเดินไปสิ ยืนเอ๋ออยู่ทำไมวะ”



...กูไม่ได้เอ๋อ


...กูแค่กำลังเจ็บ



แม่งเอ้ยย!! เวรกรรมอะไรหนักหนาของกูวะ
จะเลือกอะไรก็โดนมันตัดหน้าไปก่อนทุกที
แต่จะโทษใครได้เพราะเขาดันชักช้าเอง
สมแล้วที่ถูกใครต่อใครเรียกว่า ‘ไอ้เต่าปลาย’



เป็นไงล่ะมึง...


คราวนี้ซาบซึ้งถึงทรวงในรึยัง


โธ่...ชีวิตไอ้ปลายฟ้า แม่งน่าอนาถจริงๆ!!



คนชอกช้ำระกำใจหอบความปวดร้าวกลับคณะตัวเองไปเงียบ ๆ

ทิ้งให้หนุ่มวิศวะสองคนมองตามกลุ่มคนซึ่งค่อย ๆ ถอยห่างไป




“เฮ้อ...เซ็งว่ะ นึกว่าจะมีผู้หญิงซะอีก
เห็นเค้าบอกว่าสาวเภสัชสวยจะตาย
แม่งไม่มีหลงมาเข้าค่ายบ้างเลย
อ่ะ...แต่มีน่ารัก ๆ อยู่คนหนึ่งนะ
มึงว่ามั้ยวะ ไอ้คม?”


เจ้าพ่อเพลย์บอยเริ่มออกลายพูดบ่นเบา ๆ ตามประสาคนช่างหม้อไม่เลือกชายหญิง
แล้วจึงหันไปถามความเห็นจากเพื่อนรักซึ่งพยักหน้าลงตอบรับ
ทว่า ดวงตาคมกลับยังคงก้มมองรายละเอียดในใบรายชื่ออย่างสนใจ



‘นายปลายฟ้า โชคชัยกุล  (ปลาย)’



...คนอะไรขนาดเลือกเสื้อยังต้องให้เขาช่วยเลย
แต่อย่างน้อยในที่สุดก็ได้รู้จักชื่อแซ่กันบ้าง
คราวหลังถ้าไปช่วยอีกจะได้เรียกถูกเสียที



...นะ



...ปลายฟ้า



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC






โผล่มาคุยกันนิด  :m22:
มีหลายคนแอบสงสัยว่ามันเกี่ยวกับ 'ยอดสะเดา' กับ 'ข้าวโพดต้ม' ตรงไหน?

อยากบอกว่าต้องมีเอี่ยวอยู่แล้ว
แต่อาจจะมาสั้น ๆ ไม่ได้จัดเต็มเหมือนภาคก่อน ๆ

ขอให้อดใจรอสักนิด เดี๋ยวของมันจะมาเอง   :impress2:


ดีใจที่มีคนชอบ 'ปลายฟ้า' กับ 'คมสัน' 
เป็นบุคลิกของตัวละครที่อยากแต่งมาตลอด   :-[
เพราะคิดว่าในชีวิตคนเราคงต้องเจอคนประเภท 'ช่างเลือก' หรือไม่ก็พวก 'จิตอาสา' ไม่มากก็น้อย

เพียงแต่เจ้าสองคนนี้มันมี 'ลูกบ้า' เกินมนุษย์มนาไปหน่อย เลยออกมาฮาอย่างที่เห็น  :laugh:


ขอบคุณที่ติดตามเป็นกำลังใจให้มาตลอด
ดีใจที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ

:กอด1:


BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 19-10-2012 20:18:53
ปลายยังมิได้เอ่ยปากกับพี่คมเลยยยยยยยยยยย
ได้แต่ด่าในใจ 55555555555555
สถาปนาให้พี่คมเป็นพี่นะคะ  พี่คมน่าจะอยากเป็นพี่ ฮ่าา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-10-2012 20:20:05
 :กอด1:สุดยอดเลยพี่คม o13เป็นผู้นำที่ดี ตัดสินใจแทนทุกที
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 19-10-2012 20:35:21
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 19-10-2012 21:03:04
อ๋อ เป็นประธานค่ายอาสานี่เอง ถึงได้มีจิตอาสาอย่างแรงกล้า

และแล้ว ปลายฟ้าก็ไม่เคยได้เลือกอะไรเองอีกเลย ตั้งแต่เจอคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 19-10-2012 21:05:44
จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันแล้ววววว
ท่าทางพ่อหนุ่มวิศวะจะเริ่มติดใจคุณเภสัชซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-10-2012 21:08:46
สงสารเต่าน้อย o18


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 19-10-2012 21:11:03
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-10-2012 21:14:25
 :laugh:

อ้าวปลายดีแต่ปากเหรอ  ไหนคราวก่อนบอกว่า
ถ้าเจอกันอีกครั้งจะจัดการไอ้จิตอาสาไงล่ะ  :laugh:

สุดท้ายก็โดนคมเลือกให้อยู่ดี  :impress2:

บวกเป็ด  รอค่ะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-10-2012 21:18:48
นายดิว!!!

อย่าคิดอะไรเกินเลยกับพ่อเต่าน้อยนะ เพราะเราจองไว้ให้นายคมแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-10-2012 21:23:23
:m20: หนุ่มปลายก็ได้แต่ด่าในใจ  ตอนนี้ก็ได้รู้ชื่อกันแล้ว   เข้าค่าย 10 วัน ปลายผู้ชักช้า จะโดนพี่คมจิตอาสา ช่วยอะไรอีกนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 19-10-2012 23:03:29
มีผู้นำ ก็ต้องมีผู้ตาม
ปลายก็ทำใจเหอะ ยังไงคงไม่ได้เลือดอะไรด้วยตัวเองแล้วแหละ
ขนาดได้ไปเข้าค่ายด้วยกัน ก็คงต้องเจอกันทุกวัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 19-10-2012 23:43:19
  :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 20-10-2012 02:37:21
ดีนะ เป็นแค่เสื้ออาสา ถ้าวันใดคมไปเจอปลายในห้างแล้วน้องเลือกเกงในอยู่ คมคงไม่เลือกช่วยลองเลยม้างงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-10-2012 06:12:14
โดนอีกแล้ว ปลาย

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 20-10-2012 08:07:02
ชอบเรื่องนี้มากเลยฮาดี  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 >; P.47
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-10-2012 09:22:01
โดนเลือกให้อีกแล้วพ่อเต่าน้อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 20-10-2012 10:05:57
รอวันที่น้องปลายจะได้พูดนะ...คาดว่าคงรัวแน่นอน 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 20-10-2012 10:46:48
ช่างเลือกนักนะปลายฟ้าาาา  แบบนี้ไม่ทันกินแน่นอน
เดี๋ยวถึงเวลาค่ายจะช้าแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ  ถ้าปลายจะมานั่งเลือกไม้นี้กับไม้นี้หนาไม่เท่ากัน คุณภาพต่างกัน ตะปูตัวนี้บางกว่าตะปูอีกตัวนิดหน่อยแบบนี้  ห้องสมุดน้องเมื่อไรจะเสร็จหละจ๊ะ

อย่างนี้ต่อไปคมก็ต้องเลือกให้ปลายฟ้าอยู่บ่อยๆ แน่เลย
แล้วปลายฟ้าก็จะต้องหงุดหงิดเพิ่มขึ้นอีกแน่เลย

ชักจะลุ้นต่อแล้วหละค่ะว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น
ปลายฟ้าจะทำอะไรเร็วขึ้นมั้ย  ฮ่าๆๆๆๆ



ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 20-10-2012 13:26:43
รอจ้าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-10-2012 13:27:27
ลูกเต๋าปลายได้แต่ชอกช้ำใจอีกครั้ง ทำไมปลายไม่พูดไปล่ะจ๊ะ
ว่าไม่ต้องการความหวังดีโว๊ย ถ้าคมสันได้ยินนี่จะเป็นเรื่องมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 20-10-2012 14:47:09
เรียนปีเดียวกัน แต่อายุเท่ากันไหม
ท่าทางแล้วคมเป็นผู้ใหญ่กว่ามาก นิ่ง ขรึม และมีน้ำใจ
หนูปลายนี่สิค่ะ ยังเด็กๆ อยู่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 20-10-2012 20:30:14
 :m22:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 20-10-2012 23:26:44
ปลายเอ๋อได้อีก คมแจมอีกล่ะ จะได้รักกันมั้ยเนี่ย -..- เอ แต่คมก็ดูจะชอบปลายนะ 55
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 21-10-2012 00:04:31
ขำปลายอ่ะ ช้าจนได้เรื่องเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-10-2012 13:23:56
อ่านมา3ตอน
อินู่ปลายก็ยังทำ
อะไรนายดิวไม่ได้ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 26-10-2012 14:44:36
อ่านเรื่องไหนของคุณ เราก็ไม่เคยผิดหวัง สนุกทุกเรื่อง

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 26-10-2012 14:56:16
ทุกอย่างมีแต่พี่คม'ยัดเยียด' ต่อไปคงยัดเยียดทั้งตัวละหัวใจมาให้น้องปลายแน่เลย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 26-10-2012 18:22:50
สนุกๆ เราชอบภาคนี้นะ มาต่ออีกนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 27-10-2012 23:47:20
อ่านแล้วต้องหัวเราะออกมาดังๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 28-10-2012 00:10:25
ฮาทุกตอน สงสารน้องเต่าน้อย พี่คมก็ช่างไม่เคยรู้อะไรบ้างเลยยยยยยย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 3] 19/10/55 > P.47
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-10-2012 13:07:29
คิดถึงแล้วเด้อ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 29-10-2012 20:18:25
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 4



“ฮาโหลลล”


นายปลายฟ้ากรอกเสียงลงไปในซัมซุงกาแล็กซี
ขณะที่ดวงตากลมโตยังคงจับจ้องพิจารณาหนังสือการ์ตูนสองเล่มในมืออย่างลังเล


“มึงอยู่ไหนวะ?”


เสียงไอ้เกมส์ดังตามสายมาสั้น ๆ


“ร้านเช่าการ์ตูนข้างมอ”


“ถ้ามึงเช่าเสร็จแล้วมาเจอกันที่หน้าโรงอาหารด้วยนะ”


“ตอนนี้?”


เขาถามย้ำ เพราะใจมัวพะวงกับการ์ตูนสองเล่มที่ยังตัดสินใจไม่ได้


“เออ ก็ตอนนี้สิวะ รีบ ๆ หน่อยนะมึง”


“ทำไม?”


ปลายฟ้าขมวดคิ้วมุ่นซักไซ้อีกครั้งด้วยความสงสัย
...มีเรื่องอะไรถึงต้องรีบร้อนขนาดนั้น
ลืมกระเป๋าตังค์? โดนกระเทยจีบ?  เจอหญิงสวย?
ทว่าปลายสายกลับไม่ตอบคำถาม ซ้ำยังเอ่ยเร่ง


“เหอะน่า... มาแล้วเดี๋ยวก็รู้เองแหละ ให้ไวล่ะ แค่นี้นะ”


เพื่อนซี้พูดจบพลางทำท่าจะวางสาย
แต่คู่สนทนากลับร้องเบรกเสียงดัง


“เฮ้ยเดี๋ยวมึง!!”


“อะไรอีกวะ”


คนถูกรั้งส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างรำคาญ
เขาเหลือบมองหนังสือในมืออย่างลังเลอีกครั้ง
ก่อนจะพูดประโยคที่ทำเอาคนฟังแทบหงายหลัง



“คือ...ถ้าอยากให้เร็ว ๆ อ่ะ
มึงช่วยตอบกูมาก่อนว่าระหว่างดราก้อนบอล Z กับ วันพีช กูควรอ่านอะไรดีวะ
เนี่ยกูยืนเลือกมายี่สิบนาทีจนเจ้าของร้านเค้ามองแล้ว”



“เชี่ยย!!  ไอ้เต่าปลายยยย!!”



...เจ้าของฉายาคล้ายได้ยินเสียงสบถดังมาตามสายเบา ๆ



....


..


.



สิบนาทีถัดมานายปลายฟ้าจึงพาร่างตัวเองมาสถิตอยู่ตรงที่นัด
พร้อมพลพรรคกลุ่มเด็กเภสัชสิ้นหกชีวิต


“ตกลงเรียกกูมาทำมั้ยเนี่ย”


เขาถามพลางหยิบดราก้อนบอล Z ที่เลือกได้ (เสียที)
มาเปิดอ่านฆ่าเวลาไปพลาง ๆ ขณะยืนรอ


“ก็เรื่องค่ายอาสาอ่ะดิ
ประธานมันโทรมาบอกว่าให้มาช่วยทำกิจกรรมวันนี้ด้วย”


ไอ้เกมส์ตอบกลับไปง่าย ๆ
พลางดูดชานมไข่มุกที่เพิ่งจิกมาจากเจ๊บอลล่า
ซึ่งกำลังยืนเมาส์มอยกับโจ แว่น ตุ๊ต๊ะอย่างออกรส


“หืม...กิจกรรมไรวะ?”


“แจกใบปลิวโฆษณามั้ง? หรือไม่ก็คงทำป้าย
ไม่รู้ว่ะ ต้องรอถามมันเอง...
เฮ้ย...นั่นไงมาพอดี...
อ้าว...แล้วนั่นแบกอะไรมาด้วยวะ”
 

ปลายฟ้าละสายตาจากเบจิต้าในมือหันมองตามเสียงทักทันที
ก่อนเห็นหนึ่งหนุ่มหล่อเกาหลีเดินคู่เคียงกันมากับหนึ่งหนุ่มโหดบางขวาง
โดยถือของบางสิ่งที่กั้นกลางระหว่างคนสองคนเอาไว้


...กลอง?



“เออ...ดิวเอากลองมาทำไมคะ?”


คำถามในใจถูกเสียงหวานจากเพื่อนชายร่างสาวเอ่ยขึ้นแทน
หลังจากที่หนุ่มหล่อในเสื้อช็อปวางของที่แบกมาลงบนพื้นแล้วหันมายิ้มตอบเล่นคำ


“ไว้มาใช้เรียกแขกไงครับ”


“ว๊ายยย!! เรียกแขกอะไรกันคะ
อย่างดิวไม่ต้องใช้กลองเรียกหรอกมั้ง แค่นั่งยิ้มเฉย ๆ ก็พอ
อย่าว่าแต่แขกเลย ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ก็คงมาให้พรึ่บ”


บอลล่ามันยังมีแก่ใจยิงมุกครับ
คนฟังตัวผู้ที่เหลือทำหน้าละเหี่ย
แต่คนรับดันเส้นตื้น หัวเราะตอบขำ ๆ ซะงั้น


“ฮ่า ๆๆ เปล่า ๆ ไม่ใช่เรียกแขกอย่างนั้นครับ
ผมหมายถึงเรียกให้คนสนใจมาบริจาคเงินเข้ากองทุนค่ายน่ะครับ
ถึงเราจะขอสปอนเซอร์ไปบางส่วน
แต่มันก็ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกเลยต้องใช้วิธีนี้”


ดิวพูดพลางเหลียวมองไปด้านหลัง
ซึ่งมีกลุ่มเด็กคณะวิศวะสี่ห้าคนเดินตามมาสมทบ
พร้อมถือกล่องบริจาคเงินกับฟิวเจอร์บอร์ดแปะรูปโครงการมาด้วย
ส่วนใหญ่ก็เป็นรูปโรงเรียนที่มีสมาชิกอาสาไปสำรวจก่อนหน้า
เป็นโรงเรียนบนภูเขาในจังหวัดเลยที่เห็นชัดว่ายังขาดแคลนทั้งพื้นที่และอุปกรณ์การเรียน
เพื่อให้คนมาบริจาคได้เข้าใจเราเอาเงินทุกบาททุกสตางค์ไปช่วยเหลือจริง ๆ


“แล้วจะให้เรียกกันตรงนี้เลยเหรอคะ แล้วบอลล่าต้องทำยังไงบ้างคะเนี่ย”


“อ๋อ ไม่ได้เรียกตรงนี้ครับ เดี๋ยวเราเข้าไปในนู้น”


หนุ่มหล่อเอ่ยพร้อมกับชี้นิ้วตรงไปด้านหน้า
โดยมีสายตาของทุกคนมองตาม


...ในนู้น


แปลความหมายออกมาได้ว่า ‘ตลาดนัดประจำมหาลัย’
สถานที่ตรงข้ามกับโรงอาหารสมรภูมิร้านค้าที่รวบรวมมากกว่าเจ็ดสิบร้าน
จัดขึ้นเป็นตลาดย่อม ๆ ในทุกวันพุธ เพื่อให้นักศึกษาได้มาช็อปปิ้งพักผ่อนหย่อนใจ
ทั้งของกิน เสื้อผ้า ของแฮนด์เมด สารพัดที่จะขนมาขายกันได้
จึงไม่แปลกนักที่ในตอนเที่ยงตะวันตรงหัวเช่นนี้
จะมีนักศึกษารวมถึงคนในพื้นที่มากมายมาเดินกันเบียดเสียดกันให้พลุพล่าน
จนดูเหมือนกำลังมีงานเทศกาลแจกฟรีอย่างไรอย่างนั้น


...แล้วจะให้พวกเขาฝ่าดงคนเข้าไปขอรับบริจาคในตลาดที่แทบหาที่วางตีนไม่ได้เนี่ยนะ



ปลายฟ้ากลืนน้ำลายลงคอ นึกภาวนาให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ
แต่กลุ่มเด็กวิศวะกลับไม่มีท่าทางบ่งบอกว่าล้อเล่นใด ๆ 
ซ้ำท่านรองประธานยังหันมาตอบประโยคที่บอลล่าถามค้างไว้
ด้วยรอยยิ้มแฝงแววเจ้าเล่ห์
 

“ส่วนจะทำยังไงให้เรียกแขกได้...

...อันนี้ผมคงต้องขอดูฝีมือเด็กเภสัชแล้วล่ะครับ”


.....


...


..



“ไก่ย่างถูกเผา  ไก่ย่างถูกเผา...
มันจะถูกไม้เสียบ จ๊ากกก มันจะถูกไม้เสียบ
เสียบตูดซ้าย... เสียบตูดขวา... 
เอ๊า!! ร้อนจริงๆ  ร้อนจริงๆ  ร้อนจริงๆ
เอ้ว เอ้ว เอ้ววว เอ้ววววว!! วู้ววว!!!!” 


...เสียงที่ท่านได้ยินไม่ใช่การร้องเพลงเชียร์รับน้องหรืออะไรอื่น
เพราะนี่คือกรรมวิธีเรียกแขกที่ได้กล่าวถึง
แต่มันได้ผลจริง ๆ นะเฮ้ย!
ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่!
เพราะคนที่เดินผ่านไปมาต่างก็เหลียวมองพวกเขาเป็นตาเดียว

เอ้า...ก็ไม่ให้มองได้อย่างไงวะ!

เล่นมีนักศึกษาสามสี่คนเต้นกระหน่ำเหมือนกิ้งกือโดนน้ำร้อนลวกขนาดนั้น
มีแรงเท่าไร กลุ่มเด็กวิศวะยิ่งจัดเต็มใส่ไม่ยั้ง
ทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งส่งเสียงกรี๊ดดิ้นกระแด่ว ๆ วาดลวดลายเพลิดเพลินอย่างเมามัน
จนนายปลายฟ้าได้แต่ยืนมองกระพริบตาปริบ ๆ


...สมแล้วที่มีข่าวลือว่าเด็กวิศวะแม่งซดกระทิงแดงแทนน้ำ
พี่เล่นเต้นกันเหมือนพื้นเป็นกระทะทองแดง ยืนเฉย ๆ ไม่ได้เพราะเดี๋ยวมันจะร้อนเท้า


...แต่อย่าคิดเด็กเภสัชจะยอมแพ้ครับ
เพราะกลุ่มของเขาเองก็ได้ส่งหน่วยกล้าตายออกไปเหมือนกัน



“บาทเดียวดูเพลินอะไรไม่เกินเมียงู
บาทเดียวดูเพลินอะไรไม่เกินเมียงู
ลูบได้คลำได้ ลูบได้คลำได้ แต่อย่าเอาไม้แหย่รู
แหย่รู... แหย่รู... แหย่รู...

อร๊ายยยย!! ใครอยากดูเมียงู หย่อนเหรียญบาทลงกล่องเลยค่า!!!”



ไม่ใช่เสียงใครอื่นนอกจากผู้กล้าประจำกลุ่ม
ถูกต้องแล้วครับ...
เจ๊บอลล่า...
นางนำทับออกสเต๊ปเหมือนเป็นเวทีคาบาเร่โชว์
เต้นคลอเคลียรูดเสาโดยติ๊ต๊างว่าเสาอันนั้นคือพ่อรองประธานรูปหล่อ
ซึ่งรับบทเป็นมือกลองรัวกระหน่ำเพลงสลับกับเสียงตะโกนเชิญชวนลั่นจากสมาชิกที่เหลือ


“แวะช่วยบริจาคให้น้อง ๆ ผู้ด้อยโอกาสทางนี้เลยครับ”


“เพียงคนละบาทก็ช่วยสร้างห้องสมุดให้น้อง ๆ ได้นะคะ”


“หรือจะบริจาคเป็นของเล่น เสื้อผ้า เราก็รับหมดครับ
มาร่วมแบ่งปันโอกาสให้น้อง ๆ กันนะครับ”



ไอ้เกมส์พร้อมเพื่อนในกลุ่มเขาอีกสามหน่อก็ช่วยตะโกนเรียกแขก
ในมือถือป้ายฟิวเจอร์บอร์ดแปะรูปโรงเรียน
และรายละเอียดของโครงการที่เราจะเข้าไปช่วยพัฒนาเชิญชวนคนในตลาด


นายปลายฟ้ายืนนิ่งมองสถานการณ์รอบตัวโดยไม่ปริปากอะไร
ที่ไม่พูดเพราะหัวสมองกำลังขบอย่างลังเลว่า
ตัวเองควรจะพูดประโยคแบบไหนดีที่ไม่ซ้ำกับเพื่อน


อ้าว...เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะครับ
จะเวอร์เกินเดี๋ยวก็หาว่าโม้
แล้วต้องบอกข้อมูลให้ละเอียดด้วยว่าไปที่ไหน
แต่ต้องให้สั้น กระชับ ได้ใจความ
ไม่งั้นคนเดินผ่านไม่ทันได้ฟังพอดี
...เห็นมั้ยว่ายากจะตาย


โอยยย...แล้วกูควรจะพูดยังไงดีวะเนี่ย?


ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวเว้ยยย!!



“ทำอะไรอยู่ ว่างใช่มั้ย”


เสียงปริศนาที่ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นใคร
ศัตรูคู้แค้นอาฆาตข้างเดียวของนายปลายฟ้าเดินเข้ามาใกล้
ด้วยสภาพที่ยังคงรักษาความถ่อยและเถื่อนดุจดั่งเกลือรักษาความเค็ม


คนถูกถามอยากจะบอกไปเหลือเกินว่า

...กูไม่ว่าง กำลังคิดประโยคที่จะพูดชวนบริจาคอยู่
เนี่ยเกือบจะคิดออกแล้วถ้ามึงไม่มาทัก
ช่วยไปให้ห่าง ๆ กูเลยไป


แต่ก็เหมือนทุกครั้งที่เขากำลังจะอ้าปากตอบ
เป็นต้องโดนอีกฝ่ายชิงก่อนพูดทุกที


“ถ้าว่างงั้นช่วยถือหน่อย เดี๋ยวเราจะไปขอเรี่ยร่ายเงินตามร้านค้ากัน”



และก็เช่นเดิม...

สถานการณ์เดิมๆ ที่มันตัดสินเอาเองเสร็จสรรพ
พร้อมกับยื่นกล่องกระจกใสซึ่งภายในมีเหรียญกับแบงค์อยู่เล็กน้อยมาให้


“ตามมา”


อืม...สั่งอย่างกับกูเป็นหมาเลย
ต้องให้กูเห่าแล้วเดินตามมึงไปด้วยมั้ย
ทำอย่างกับกูเป็นผู้ติดตามไปได้

เข้าใจแล้วครับลูกพี่...
มึงใหญ่ มึงเป็นประธาน มึงคุม
...จะว่าไงก็ว่าตามกันคร้าบบ


แม้ใจอยากอยู่ช่วยเพื่อนตรงนี้มากกว่า
แต่นายปลายฟ้าผู้ไร้สิทธิ์ไร้เสียงจะทำอะไรได้
นอกจากเดินตามท่านประธานค่ายไปต้อย ๆ
พร้อมกับเด็กวิศวะอีกสองคนที่ถือป้ายโครงการติดตัวไปด้วย
เดินวนเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน
โดยที่เขาทำหน้าที่แค่เพียงยืนเป็นหุ่นเงียบ ๆ
รอยื่นกล่องเงินหลังจากที่เจรจาสำเร็จผล

คนบริจาคเงินเยอะพอสมควร ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักศึกษา
โดยเฉพาะพวกเด็กคณะวิศวะที่เดินผ่านไปทีก็ทักทายกันที
ไม่น่าเชื่อว่าอย่างไอ้หน้าเถื่อนจะมีเพื่อนเยอะ น้องนุ่งเนี่ยยกมือไหว้กันเกรียว
จนเด็กเภสัชหลงฝูงอย่างเขาแทบมองเห็นรัศมีบารมีที่แผ่รังสีออกมาจาง ๆ


โห...อะไรจะเจ้าพ่อขนาดนั้นวะ
ยิ่งเห็นแบบนี้แล้วยิ่งไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวเข้าไปใหญ่
กลัวมีเรื่องแล้วมันเรียกพวกมารุบกระทืบ
มีหวังได้โดนแบกไปวัดเตรียมเผาแบบจอดไม่ต้องแจวแน่ ๆ
สู้อยู่อย่างสงบปากสงบคำเจียมตัวเอาไว้น่ะดีที่สุดแล้วกู


นายปลายฟ้าเดินรั้งท้ายพลางนึกสยองอยู่ในใจ
ทว่าทันใดนั้นเขากลับรู้สึกถึงแรงสะกิดจากทางด้านหลังจนต้องหยุดหันไปมอง
ก่อนพบหญิงวัยกลางคนหน้าตาใจดีคนหนึ่งซึ่งหิ้วของอยู่เต็มสองมือ


“เออนี่หนู ป้าขอถามหน่อย หนูทำโครงการอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะ”


“อ๋อ ค่ายอาสาพัฒนาครับ พวกเรามาขอรับบริจาคเงินไปเป็นกองทุน
ซื้ออุปกรณ์ก่อสร้างห้องสมุดให้น้อง ๆ ที่จังหวัดเลยน่ะครับ
แล้วก็ยังไปช่วยสอนหนังสือ กับทำกิจกรรมสันทนาการให้น้อง ๆ ด้วยครับ”


ปลายฟ้าอธิบายรายละเอียดของโครงการบางส่วนให้คนฟัง
ซึ่งแย้มยิ้มตอบรับด้วยความชื่นชม


“แหม..ดีจริงๆ เห็นคนหนุ่ม ๆ ช่วยเหลือสังคมแบบนี้
งั้นป้าขอบริจาคเงินด้วยได้มั้ยจ๊ะ”


“ได้สิครับ ขอบคุณมากเลยครับ”


เขารีบยื่นกล่องรับบริจาคไปให้พร้อมกับก้มหัวเอ่ยคำขอบคุณ
แต่คนจะบริจาคกลับหอบของเต็มสองมือ
พะว้าพะวังกับการหยิบเงินในกระเป๋าสะพายอย่างไม่ถนัด


“เดี๋ยวผมช่วยถือให้นะครับ”


ชายหนุ่มรีบยื่นมือเข้าช่วยถือถุงใส่ของต่าง ๆ
ทั้ง ๆ ที่อีกมือยังคงแบกกล่องรับบริจาคอยู่


“ขอบใจจ้าหนูนี่มีน้ำใจจริง ๆ”


“ไม่เป็นไรครับ”


ปลายฟ้าตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกกว้างขึ้น
เมื่อเห็นจำนวนและสีของแบงค์ที่กำลังถูกหย่อนลงในกล่อง


เฮ้ย!...จริงป่ะเนี่ย?



“สู้เขานะลูก ป้าไปก่อนนะ”


“ขอบคุณมากครับ ขอบคุณจริง ๆ ครับ”



3000 อ่านว่า สามพันบาทถ้วน

คือจำนวนเงินที่เขาเห็นมันร่วงลงกล่องไปหมาด ๆ
จนต้องก้มหัวพูดขอบคุณไม่หยุดด้วยความปลาบปลื้ม


เยส!! ในที่สุดเขาก็พูดชวนให้คนบริจาคเงินได้แล้วโว้ยย!!
แถมให้มาโคตรเยอะอีกต่างหาก
เป็นไงล่ะพวกวิศวะอึ้งไปเลยอ่ะดิ
อย่าคิดว่ามึงมีบารมีเป็นยอดมงกุฎเพชรแล้วจะแน่
อีโธ่...คนอย่างนายปลายฟ้าถ้าคิดจะทำก็ทำได้เว้ยยย!!
เห็นมะ....อะ...อ้าว.......ไปไหนกันหมดแล้ววะ


คนที่มั่วแต่ปรีดากับความสำเร็จรีบหันรีหันขวางตามหากลุ่มของตัวเอง
ทว่าแม้จะมองไปทางไหนกลับไม่เห็นคนคุ้นหน้าแม้แต่เงา


เวรล่ะกู...อุตส่าห์โชวพาวอยู่ตั้งนาน
สรุปไม่มีใครมอง นี่กูหลงกับคนอื่นใช่มั้ยวะเนี่ย


ละ...


แล้วจะเอาไงดีวะ?
นี่ก็เดินมาจนเกือบท้ายตลาดแล้วด้วย
สงสัยคงต้องย้อนฝ่าคนกลับไปที่ตั้งทัพด้านหน้าก่อน
แต่ให้ถือกล่องใบเบ้อเริ้มเดินเบียดไปด้วยคงจะลำบาก
หรือจะโทรเรียกให้ไอ้เกมส์มาช่วยแหวกทางให้ทีวะ

เออ....แล้วไอ้คนที่เดินตามกันมาเค้าจะรู้มั้ยว่ากูกลับไปข้างหน้า
เบอร์โทรพวกนั้นก็ไม่มีด้วย ถ้าสวนกันขึ้นมาเดี๋ยวจะเสียเวลาหากันอีก
เรายังไม่ได้วนไปโซนขายของกินอีกทางหนึ่งเลย
พวกนั้นมันจะไปทางนั้นหรือเปล่าวะ


แต่คิดอีกทีกูว่าปะ....



“เฮ้ยย...!!”


คนที่กำลังลังเลอุทานอย่างตกใจ
เมื่ออยู่ ๆ กลับถูกแรงกระชากรุนแรงให้หันหลังไปเผชิญใบหน้าคม
คิ้วเข้มขมวดกันยุ่งก่อนจะตามมาด้วยเสียงดุดังลั่น


“หายไปไหนมาน่ะ!!
คนเขาจะบริจาคเงิน แต่คนถือกล่องไม่อยู่แบบนี้ได้ยังไงกัน
ทำไมถึงไม่รีบเดินตามมาห่ะ!!”


กะ...ก็เพราะคนเขาบริจาคเงินไง
กูเลยต้องหยุดให้เขาอ่ะ
มึงจะมาดุกูทำไมเนี่ย
กูผิดหรือไงวะ ทำตามหน้าที่แท้ ๆ


นายปลายฟ้ากำลังจะอ้าปากแก้ต่างให้ตัวเอง
แต่ก็เป็นเหมือนเหตุการณ์เดิม ๆ
เพราะยังไม่ทันพูดร่างสูงกลับรีบเร่งขัดขึ้น
มิหนำซ้ำยังถูกมือใหญ่คว้ามือเขาไปดื้อ ๆ


“เร็วเข้า! อย่าช้าคนอื่นเขารออยู่”


คมสันจับมือของคนที่ยังยืนนิ่งแล้วออกแรงดึงให้เดินตามมา
ในใจนึกหงุดหงิดโมโหไม่หาย


...เดินขอเรี่ยรายเงินร้านขายน้ำปั่นอยู่ดี ๆ 
พอหันมาอีกทีคนถือกล่องรับบริจาคดันไม่อยู่ซะแล้ว
เขาตกใจแทบแย่ เลยรีบวิ่งกลับมาหาตามทางตั้งนาน
คนมากขนาดนี้ ก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่
ไม่รู้ว่ามั่วไปเถลไถลอยู่ที่ไหน
เงินในกล่องใสที่ถือไว้ตั้งเยอะตั้งแยะล่อตาโจรขนาดนั้น
เกิดมีคนมาดึงกล่องขโมยขึ้นมาจะทำยังไง...
ตัวเล็กแค่นี้จะสู้ใครได้...

เขาพลาดเองที่ดันปล่อยให้ไปเดินรั้งท้าย
ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้สู้ให้เดินนำข้างหน้าไปแทนเสียก็ดี
ดูสิ...เสียเวลาไปตั้งนานแล้วยังวนไม่ครบตลาดเลย...


...ทำไมถึงได้ทำอะไรชักช้าจริง ๆ



“ไม่ได้ช้า”



ประโยคเบา ๆ ที่ดังขึ้นลอย ๆ
กลับมีอานุภาพมากพอให้คนรีบชะงัก
จนต้องหันกลับมามองคนที่หยุดยืนด้านหลัง


“เมื่อกี๊มีคุณป้าเค้าจะบริจาคเงินให้ แต่ของเค้าเยอะ
เราเลยต้องหยุดช่วยถือของให้ก่อนเลยตามพวกนายไปไม่ทัน”



...นับเป็นครั้งแรกที่นายคมสันได้ยินเสียงของคนคนนี้


...เสียงคำอธิบายซึ่งทำให้คนฟังนึกประหลาดอยู่ในใจ


อ้าว...จะพูดก็พูดได้นี่นา
แล้วทำไมถึงชอบเงียบอยู่เรื่อย
เรื่องแค่นี้ถ้าบอกกันมาตั้งแต่แรกก็คงไม่โมโหแล้ว


คนฟังถอนหายใจช้า ๆ
ความหงุดหงิดลดลงไปมากกว่าครึ่ง
ร่างสูงคิดพิจารณาข้อความที่ได้ยิน
แล้วจึงตัดสินใจพูดข้อตกลง


“งั้นถ้าจะหยุดคราวหลังก็เรียกด้วย
เอาแต่เงียบคนอื่นเขาไม่รู้หรอกนะว่าคิดอะไร”



ปลายฟ้าหน้าเบ้แอบเถียงอยู่ในใจ


...กูไม่ได้เงียบเลยครับ มึงอ่ะรีบเอง
พอกูจะพูดมึงก็เสือกขัดขึ้นมาตลอด
อย่างนี้มึงจะฟังกูทันได้ยังไงกันวะ ไอ้หอกหัก!



“แล้วนี่รู้จักชื่อเราแล้วใช่มั้ย?
เราชื่อ ‘คม’ นะ ไหนเรียกสิ”



อ้าว...เรื่องอะไร ใครจะไปอยากเรียกวะ
สั่งเหมือนกูเป็นหมาอีกแล้ว
เป็นแค่ประธานค่ายคิดว่ากร่างได้เหรอง่ะ
กูไม่ใช่ทาสในเรือนเบี้ยของมึงนะโว้ย!!


คนต่อต้านยังคงทำตัวเหมือนเป็นใบ้
ยืนนิ่งรูดซิบปิดปากเงียบสนิทไม่เอ่ยคำใด ๆ
จนคนรอต้องพูดเร่ง


“เร็ว ๆ สิ คนอื่นเขารออยู่”


เอ้า! รออยู่ก็รีบไปสิ
แล้วจะมาบังคับกูอีกทำไม


คนนิ่งเงียบไม่ขยับเขยื้อนกาย ทำแค่เพียงเงยหน้าขึ้น
ปล่อยให้ดวงตากลมประสานสายเข้ากับนัยน์ตาคม
ซึ่งมองสบตรงมาอย่างคาดคั้น


...ต่างฝ่ายต่างจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร


เอาสิ...จ้องมาก็จ้องกลับ
คนอย่างนายปลายฟ้า

กะ...

กะ...

กะ...


...กลัวที่ไหน

แต่ตามันแม่งดุฉิบหายเลย
นี่ถ้าปล่อยแสงเหมือนเมทริกซ์ได้กูคงเป็นจุลไปแล้ว
แถมบีบมือกูอยู่นั้นแหละ



โอยยยย!!! นี่มึงกะจะบีบให้กระดูกกูหักเลยรึไงวะ!!



สัสส...กูเจ็บนะโว้ยยย!!



เออแม่ง...กูยอมก็ได้วะ!!




“(ไอ้เหี้ย)คม”




...สองคำแรกพูดอยู่ในใจครับ
ขืนเรียกไปโดนกระทืบไส้ไหลตายห่ากันพอดี


เจ้าของชื่อพยักหน้าอย่างพอใจในคำที่ได้ยิน
ก่อนเอ่ยประโยคตามมาสั้น ๆ



“อืม งั้นวันหลังมีอะไรให้ช่วยก็เรียกได้นะ ปลายฟ้า”



...มีอะไรก็เรียกให้ได้ช่วยได้งั้นเหรอ
เออดี...งั้นอย่างแรกมึงช่วยไปไกล ๆ จากชีวิตกูก่อนเลยไป๊!
นอกจากจะชอบเสือกแล้ว ยังชอบบังคับกูอีก
แม่งน่ารำคาญโว้ยยย!!



ทว่าแม้จะโวยวายไปมากแค่ไหน
ตราบใดที่มันยังอยู่ในใจ คนโดนด่าก็ไม่มีวันรับรู้

เพราะเจ้าตัวเร่งเดินไปข้างหน้าพร้อมกับดึงมือของอีกคน
ให้ก้าวตามหลังรวมกับกลุ่มเพื่อนที่รออยู่
แล้วจึงตระเวนขอรับเงินบริจาคต่อไป
โดยครั้งนี้คนจิตอาสาเดินตามประกบคนชักช้าไม่ยอมห่างกาย



และด้วยเหตุนี้เอง...


จุดเริ่มต้นความวุ่นวายของค่ายอาสาพัฒนา

จึงเปิดฉากด้วยความเคืองแค้นที่เพิ่มมากขึ้นของนายปลายฟ้าซึ่งมีต่อชายผู้ชื่อว่า....



(ไอ้เหี้ย) ‘คม’




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



ขออภัยที่ห่างหายไปเสียนาน  :o12:
เนื่องจากติดเชื้อเต่าน้อยของปลายฟ้าในกระแสเลือด
จึงทำให้การมาปั่นต่อเป็นไปด้วยความล่าช้า
น่าน...ฟังดูเหมือนมีเหตุผล  *แอ๊ก* :z6:

ดังนั้น เรื่องในภาคนี้ก็จะไปแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เหมือนตัวเอก (ฮา)
ระหว่างรอเคี่ยวน้ำปลาหวาน แทะข้าวโพดต้มไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

 :pig4:

แล้วเจอกันจ้า

BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 29-10-2012 20:38:23
น้องเต่่าปลายฟ้าน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 29-10-2012 20:44:31
 :laugh:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-10-2012 21:28:31
ถ้าคมได้ยินความคิดที่อยู่ในหัวของเต่าน้อย
คงหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 29-10-2012 21:29:36
ดีใจด้วยนะคม น้องเต่าน้อยพูดด้วยแล้ว :m20:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 29-10-2012 21:53:19
น้องเต่าก็พูดได้แล้ว สั้น กระชับมาก  "คม"  แต่พูดในใจยาว และอาจมีสะดุ้งได้ถ้าคนฟังได้ยิน


 :L2: :pig4: คนเขียนที่มาแบบเรื่อยๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 >; P.48
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-10-2012 21:57:08
กว่าจะพูดออกมา เฮ้อ!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 29-10-2012 23:46:39
บางครั้งก็หงุดหงิดปลายฟ้าเพราะช้าเหลือเกิน555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 29-10-2012 23:47:36
กรี๊ดดดดดดดดดดดด จุดพลุ ลูกชั้นได้พูดตั้ง 3 ประโยคแน่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: armmyrine ที่ 30-10-2012 00:09:33
โหดบางขวาง :m20: :jul3: :laugh: เหมาะกับนายมากอ่ะคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-10-2012 01:24:31
ปลายฟ้าก็ยัง(เชื่อง)ช้าเหมือนเดิมนะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-10-2012 05:48:48
 :laugh:


ต้องได้หัวเราะทุกตอน 55555555555555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-10-2012 07:41:48
 :jul3: :jul3:พูดแล้วๆด่ามันด้วยก็ได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-10-2012 08:25:19
น่ารักอ่ะ ชอบๆ

ถ้าวันไหนคมได้ยินสิ่งที่ปลายฟ้าคิดในใจคงมีอึ้งกันบ้าง ฮ่าๆๆๆ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 30-10-2012 09:25:57
เส้นแบ่งบางๆระหว่าง พ่อคนจิตอาสา กับ ชอบเสือกแล้วยังจะชอบบังคับ
มาอีกแล้วก็ฮาอีกแล้ว...สนุกมากๆจร้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 30-10-2012 10:05:13
กระบวนการทำน้ำตาลเพื่อมาเคี่ยว
ตอนเน้เข้าสู่การปาดตาลเพื่อมาเคี่ยวน้ำตาลปึก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-10-2012 10:12:06
ทำตัวสมกับเป็นเต่าปลายจริงๆ เลย 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-10-2012 10:16:13
เออนะ ยังนึกไม่ออกว่าคู่นี้จะไปกันได้ยังไง
คนหนึ่งเร็วปานจรวด อีกคนเชื่องช้าดังเต่าน้อย

 :laugh:

แต่ตั้งคู่คงมาพบกันตรงกลางได้อ่ะนะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 30-10-2012 10:28:34
ไม่ทันกิน

คำแรกที่นึกขึ้นมาในหัวเลยจ้ะ  ช้าแบบนี้ไม่ทันกินแน่ๆ นะน้องปลายฟ้า


แต่คมก็เร็วเกิน  เป็นคนพูดเร็ว คิดเร็วเกินไป อันนี้ก็ไม่ดีเหมือนกัน
แต่มันค่อนข้างยากนะ  ที่จะหาอะไรกลางๆ  แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ
โดยส่วนตัวเราเป็นเหมือนคม (ถ้าใช้ภาษาไทยคุย) จะเร็ว พูดเร็ว คิดเร็ว ตอบเร็ว

บางครั้งมันไม่ดี  บางครั้งมันก็ดี  ซึ่งแล้วแต่อีกฝ่ายเป็นใคร


แต่ในที่นี่  เราว่าดีนะ  เพราะเต่าปลายมันช้ามากจนบางครั้งเราก็นึกหงุดหงิดอยู่กลายๆ (จริงๆ แล้วเราเป็นลัทธิบูชาเมะต่างหาก)
อยากจะรู้ว่ามันจะเปลี่ยนเป็นอีกความรู้สึกได้ยังไง  คงไม่ใช่เอ็นดูหรอกนะคม... ฮ่าๆๆๆ

ปล. อยากกินน้ำปลาหวานง่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 30-10-2012 11:18:21
ขำปลายฟ้า ยังนึกไม่ออกเลยว่า แล้วจะมารักมาประทับใจกันได้ยังไง ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 30-10-2012 11:22:24
เย้ๆๆ  น้องปลายพูดกับคมแล้ว.... o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 30-10-2012 20:21:11
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: MonKeez ที่ 31-10-2012 12:59:38
โลเคชั่น คือ ม.ศิลปากรหรือป่าวครับ :']
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 31-10-2012 18:32:30
น่ารักดี 555

คำในวงเล็บไม่ค่อยน่ารัก แต่โดนใจมาก 55 สำหรับปลายฟ้าแล้ว มันก็เหมือนการเสือกจริงๆนั่นล่ะ

แต่สำหรับคมแล้ว รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฮีโร่คอยช่วยเหลือคน โดยเฉพาะคนอย่างปลายฟ้า

เป็นมุมต่างอีกมุมนึงเนอะ 55
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 4] 29/10/55 > P.48
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 31-10-2012 18:33:23
มาตอนนี้ปลายเปลี่ยนไป
ตอบกลับคมได้ด้วยอ่ะถึง
จะช้าไปหน่อย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 31-10-2012 20:39:55
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 5



“ไอ้เต่าปลาย เหลือตรงนี้อีกกล่องหนึ่ง”

เสียงตะโกนของไอ้เกมส์ดังขึ้นเสมือนเป็นหัวหน้าคุมกรรมกรแบกหาม
ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนายปลายฟ้าผู้รับหน้าที่เป็นจับกัง
ยกแบกลังตะปู ถังสี สารพัดข้าวของบริจาคขึ้นรถปิกอัพสองคัน
ที่จะแล่นตามรถบัสมหาลัยคันใหญ่ของเขาขึ้นไปบนยอดดอยจังหวัดเลย


ตลอดสองเดือนเต็มที่เปิดรับบริจาคมียอดเงินและข้าวของเข้ามาเยอะพอสมควร
ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ของเล่น หนังสือ
รวมทั้งอุปกรณ์ก่อสร้างที่ออกแนวเอาไปซ่อมแซมเพิ่มเติมมากกว่า
เพราะจะให้พวกนักศึกษาไปสร้างอะไรใหญ่โตในสิบวันก็ดูเหมือนเวลาจะไม่พอ
ดังนั้น อะไรที่ขนไปได้จากที่นี่ก็จะเอาไปก่อน
ส่วนพวกของหนัก ๆ เช่น อิฐบล็อก ปูน ทราย ค่อยไปหาซื้อเอาที่นู้น

กลุ่มคณะเภสัชของเขาจึงต้องตื่นมาช่วยเช็คของยกใส่รถตั้งแต่หกโมงเช้า
ซึ่งก็มีคนอื่น ๆ ทยอยเข้ามาเพิ่มเรื่อย ๆ คะเนดูแล้วน่าจะสักเกือบห้าสิบคน
และมีอาจารย์ที่ไปคุมด้วยอีกสามชีวิต แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นคือ ‘อาจารย์ชวลิต’
พี่ชายอาจารย์ของอาจารย์ชลิดาที่ได้ฝากฝังพวกเขาไว้เพื่อแลกกับเกรดงามๆ


ในที่สุดเมื่อเวลาตีครบเจ็ดโมงตรง
ล้อรถบัสมหาลัยคันใหญ่ก็เริ่มหมุนพาห้าสิบชีวิตในเสื้อยืดคอกลมสีเทาสกรีนคำ
‘คนค่าย รุ่น 14 วิศวะอาสาพัฒนาชนบท’
มุ่งหน้าสู้อำเภอด่ายซ้าย จังหวัดเลย


และเป็นปกติธรรมดาที่กลุ่มเด็กเรียนรักสงบอย่างคณะเภสัชต้องเลือกนั่งเก้าอี้ตัวหน้า
ส่วนถัดไปที่เหลือก็จะมีพวกคณะอื่นมากันประปรายอย่าง ศึกษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์
แต่โดยมากแล้วเด็กเฮ้ว ๆ ผู้ยึดครองแถบเบาะหลังสุด
เป็นใครไม่ได้นอกจาก ‘คณะวิศวกรรมศาสตร์’ ซึ่งขนพรรคพวกมาซะค่อนคันรถ


“สวัสดีค่า!! ขอต้อนรับสู้ค่ายวิศวะ ครั้งที่ 14
พี่ชื่ออ้อม อยู่ปีสี่ คณะวิศวะ เป็นหัวหน้ากลุ่มสันทนาการค่า”


เจ้าของชื่อเป็นสาวหมวยเปรี้ยวซ่าถือไมค์ออกมาแนะนำตัว
แน่นอนอยู่แล้วว่าระยะทางจากมหาลัยกว่าจะถึงที่หมายไม่ใช่น้อย ๆ
เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีกิจกรรมอื่นเล่นฆ่าเวลาไปพลาง ๆ
ก่อนจะเข้าสู่กิจกรรมซ่อนตาดำที่ทุกคนคุ้นเคย


“เอาล่ะค่ะน้อง ๆ ไหน ๆ พวกเราชาวค่ายต้องมาใช้ชีวิตกินนอนอยู่รวมกันตั้งสิบวัน
บางคนก็เป็นน้องมาจากต่างคณะ ต่างชั้นปี ยังไม่รู้จักชื่อแซ่กันเลยใช่มั้ยคะ
งั้นก่อนอื่นเรามาเริ่มจากการแนะนำตัวกันเลยดีกว่า
แต่เดี๋ยวก่อน..!!
จะให้แนะนำตัวเฉย ๆ ก็คงจะดูธรรมด๊าธรรมดาเกินไป
พี่อ้อมเลยอยากให้น้อง ๆ แนะนำตัวแบบเซเลปในเกมส์ที่มีชื่อว่า ‘จับคู่ชู้ชื่น’ ค่า!!!”


ปลายฟ้าปรบมือแปะ ๆ ไปพร้อมกับเสียงกลองที่ดังรัวเป็นซาวน์เอฟเฟ็คของพิธีกรมากลีลา
ไอ้กิจกรรมที่ว่าก็คงหนีไม่พ้นเกมส์จำพวกละลายพฤติกรรมสานสัมพันธ์ให้ชาวค่ายรู้จักกัน
บรรยากาศแบบนี้ชวนให้นึกถึงกิจกรรมตอนรับน้องขึ้นมาตงิด ๆ
ก็ได้แต่หวังว่ามันคงไม่เป็นอะไรที่ยากหรือพิเรนท์มากจนเกินไปหรอกนะ


“กติกามีอยู่ว่า พี่จะให้น้อง ๆ จับคู่กับคนข้าง ๆ
แล้วจับฉลากที่เตรียมไว้ในกล่องนี้ขึ้นมาหนึ่งใบ
ซึ่งฉลากพวกนี้จะเขียนเป็นหมวดต่าง ๆ เอาไว้
แล้วให้น้อง ๆ บอกชื่อเล่นของตัวเองพร้อมกับบอกชื่อสิ่งของให้ตรงตามหมวด
และยังต้องให้ตรงกับพยัญชนะแรกของชื่อน้องด้วย
โดยให้บอกทั้งหมดสามครั้ง ...งงมั้ยคะ?
ถ้างง... อย่าเพิ่งทำหน้าเครียดค่ะ เพราะพี่มีตัวอย่างให้ดู ...ฟ้ามานี่หน่อย”


จบคำพี่อ้อมก็เรียกพี่ผู้หญิงหน้าตาน่ารักอีกคนหนึ่งให้ขึ้นมายืนถือไมค์ข้าง ๆ


“เดี๋ยวพวกพี่จะลองเล่นให้ดูก่อนนะว่าทำยังไง
สมมติว่าพวกพี่จับได้หมวด ‘คำแสดงกิริยา’ นะคะ
...เอาเริ่มนะ”


“อ้อม อ่าน”


“ฟ้า ฟัง”


“อ้อม แอบ"


“ฟ้า ฟุ่บ”


“อ้อม อิ่ม”


“ฟ้า เออ... ฟ้า... ฟะ...เฟี้ยง”


“ดะ...เดี๋ยว มันเขวี้ยงไม่ใช่เหรอ
แบบนี้ถือว่าผิดกติกานะคะ
แล้วต้องโต้ตอบกันให้เร็วด้วย
ถ้าคู่ไหนช้าจะต้องโดนทำโทษทั้งคู่”


ชาวค่ายต่างนั่งฟังสาวหมวยอธิบายกติกาเสร็จสรรพ
ด้วยสีหน้าที่คงคิดในใจเป็นเสียงเดียวกันว่า



...เกมส์อะไรวะยากฉิบหาย



โดยเฉพาะคนซึ่งนั่งอยู่ข้างปลายฟ้า
ที่เหล่มองเจ้าตัวอืดอาดประจำกลุ่มด้วยอาการเสียววาบ


“ไอ้ปลายอย่าช้านะโว้ย กูขอล่ะ”

เกมส์ร้องเตือนด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนกลาย ๆ
ด้วยรู้ดีว่ากิจกรรมประเภทที่แข่งกันด้วยความเร็วเนี่ย
ไอ้เพื่อนคนนี้มันคงแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม


“เออ จะพยายาม”

ปลายฟ้าเองก็นึกเสียวอยู่ในใจไม่แพ้กัน
เพราะไม่ค่อยมั่นใจในความสามารถของตัวเองสักเท่าไร
ที่สำคัญคือเขาไม่อยากโดนลงโทษ
พวกเด็กวิศวะชอบมีเกมส์อะไรประหลาด ๆ มาอยู่เรื่อย
ขืนให้ออกมาทำอะไรน่าอาย ๆ ล่ะก็ชื่อเสียงป่นปี้หมดกันพอดี


“เอ๊า เรามาเริ่มกันที่คู่แรกก่อนเลยนะคะ ยืนขึ้นเลยค่ะน้อง”

สาวหมวยเดินถือไมค์มายังเบาะแรกที่อยู่ก่อนหน้าเขา
ซึ่งคนนั่งคู่กันก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหญิงงามหนึ่งเดียวประจำกลุ่ม


“ชื่ออะไรคะ”


“ญาญ่าค่ะ”


น่าน...เริ่มมาก็ปล่อยมุขเลย
เรื่องนี้เด็กเภสัชไม่เคยแพ้ใคร
โดนไปก่อนหนึ่งดอกเต็ม ๆ เล่นเอาฮาครืนกันทั้งรถ


“อุ๊ย จริง ๆ หนูชื่อ ‘บอลล่า’ ค่ะ
แต่ความสวยเนี่ยไม่แพ้ญาญ่าแน่นอนนะคะ
ถ้าไม่เชื่อมาพิสูจน์กันได้”

เจ๊บอลล่าจีบปากจีบคอตอบกลับไปแบบไม่มีเก๊กหวังจะแจ้งเกิดเลยทีเดียว
เพราะเจ๊แกบอกไว้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถแล้วว่าจบงานนี้เจ๊จะต้องได้กินหนุ่มสักคนให้ได้
พวกเพื่อนในกลุ่มจึงได้แต่สวดแผ่เมตตาไปให้พวกวิศวะที่ยังไม่รู้ชะตากรรม


“แล้วน้องคนนี้ล่ะคะ”


“เล็กครับ”   


...อย่าได้งงว่าเล็กเป็นใคร
เพราะมันก็คือไอ้หนุ่มเนิร์ดหัวสมองประจำกลุ่มนั่นเองครับ
และเพราะจากความเนิร์ด มันเลยต้องใส่แว่นอันโต ๆ
ทำให้พวกเราเรียกมันว่า ‘ไอ้แว่น’ ตั้งแต่ตอนอยู่ปีหนึ่งแล้ว
ซึ่งมันเองก็พูดอธิบายให้คนอื่นในค่ายได้ฟังด้วย


“จริง ๆ เพื่อนผมชอบเรียกผมว่า แว่น มากกว่านะครับ ไม่ค่อยเรียก เล็ก กันเท่าไร”


“แล้วตกลงน้องจะใช้ชื่อ เล็ก หรือ แว่นคะ”


“เอาแว่นดีกว่าครับ ชินแล้ว”


“งั้นน้องจับฉลากเลยค่ะ”


พี่อ้อมเขย่ากล่องทึบใบเล็กแล้วให้บอลล่าล้วงจับฉลากออกมา
โดยมีพี่ฟ้าคอยช่วยแกะอ่านป้ายชื่อให้


“ได้เป็นหมวดชื่อ ‘ผัก’ ค่ะ
เดี๋ยวเราให้เวลาน้องคิดได้สองวิ
ติ๊กต๊อก... ติ๊กต๊อก...”


..โห...ชื่อผัก ท่าจะยากวะ
ใครมันเป็นคิดเกมวะเนี่ย
แล้วถ้าจับได้หมวดอะไรที่มีชื่ออักษรของตัวเองขึ้นต้นน้อย ๆ ไม่ซวยเลยเหรอ
งานนี้นอกจากใช้สมองแล้วยังต้องพึ่งดวงด้วย
แล้วเขาจะรอดมั้ยวะเนี่ย!


ปลายฟ้าได้แต่นึกสยองอยู่ในใจ
พอดีกับพิธีกรเอ่ยขัดขึ้น


“พร้อมรึยังคะ...
เอาไมค์ไปแล้วหันหน้าไปหาเพื่อน ๆ เลย”

เตรียมตัวนะ...

....เริ่มค่ะ!”



สิ้นเสียงสัญญาณคนเล่นทั้งสองต่างก็ผลัดใส่กันไม่ยั้งแบบไม่มีใครยอมใคร


“บอลล่า บวบ”


“แว่น ว่าน”


“บอลล่า บล็อกเคอรรี่”


“แว่น วอเตอร์เครส”


“บอลล่า ใบบัวบก”


“แว่น วาซาบิ”



...เฮ้ย!!  มันทำได้
ว.แหวน ชื่อผักหายากจะตายไอ้แว่นมันดันคิดออกอีกครับ
สมกับเป็นนักเรียนท็อปหวังเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจริง ๆ


เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อคู่แรกเสร็จสิ้นการประเดิมเปิดเกมส์อย่างงดงาม
เหมือนเป็นความหวังกลาย ๆ ให้ใครหลายคนว่า
ไอ้เกมส์นี้มันคงเล่นไม่ได้ยากเย็นอย่างที่คิด


“คู่ต่อไปยืนเลยค่ะ”


เสียงพิธีกรเดินมายังเบาะด้านหลังถัดไป
ซึ่งคนเล่นต่างเตรียมใจรับชะตากรรมรออยู่แล้ว


“น้องชื่ออะไรคะ”


“เกมส์ครับ”


“ปลายครับ”


“โอเค งั้นมาเลือกหมวดกันเลยนะ”


ปลายฟ้ามองดูมือของเพื่อนล้วงลงไปในกล่อง
แอบภาวนาในใจว่าขออะไรที่มันง่าย ๆ หน่อย
อย่าเอาหมวดผักมาเชียวนะโว้ยย!!
กูคิดผักที่ขึ้นต้นด้วยอักษร ป. ไม่ออก


“เอาล่ะคะ... จับฉลากได้เป็นหมวด...

....หมวด ‘สัตว์’ ค่ะ”



...หมวดสัตว์?


...สัตว์ที่มีตัวอักษรด้วย ป.ปลา
อ้าว...อย่างนี้ก็ง่ายอ่ะดิ
เขาก็จะได้ตอบ ‘ปลา’ ไปเลย
ปลาในโลกมีตั้งกี่สายพันธ์ เอามาแค่สามชนิดเอง
โหย...สบาย ๆ หวานหมูล่ะกู


ปลายฟ้ายิ้มยินดีนึกปรีดาในใจเพราะเชื่อมั่นเปี่ยมล้นว่างานนี้ยังไงตัวเองก็ไม่แพ้


“แต่สัตว์เนี่ยห้ามตอบสปีชีย์ซ้ำนะคะ อย่างถ้าน้องปลายจะตอบว่าเป็นปลา
ก็ห้ามตอบว่าเป็น ปลาทอง ปลานิล ปลาดุก อย่างนี้ไม่ได้ ผิดกติกา”


...ฉิบหายแล้วครับ


แสงแห่งความหวังดับวูบลงทันที ใบหน้าที่เคยมั่นใจเริ่มซีด
นายปลายฟ้าพยายามเค้นสมองเร่งคิดถึงชื่อสัตว์อื่น ๆ
แต่ไอ้สถานการณ์ฉุกละหุกขนาดนี้ใครมันจะไปนึกออกละโว้ยยย!!


“พร้อมนะ....”



เฮ้ย!


ดะ....


เดี๋ยวก่อน...



“เอา...ลุย!!”


...ไม่ทันแล้วเพราะพอสิ้นเสียงสัญญาณ
คู่เล่นของเขาก็พูดสวนขึ้นมาทันที


“เกมส์  กบ”


“ปะ...ปลาย ปลา”

เขาพูดตะกุกตะกักตอบกลับ
ทว่าอีกฝ่ายก็ยังเร่งโต้ไม่มีเว้นวรรค


“เกมส์  กุ้ง”


“ปลาย เออ...
ปลาย....ปะ...ปู”


...ยิ่งเร่งก็ยิ่งคิดไม่ออกตอนนี้คลังสมองคนช่างเลือกเริ่มตีกันวุ่นแล้ว


“เกมส์ ไก่”


“ปลาย... ปลาย....
....เออ...ปลาย....
ปะ... ปะ...”



ปี๊ดดดดดดด!!



“หมดเวลาค่า”



“เว้ยยย! ไอ้ปลาย จะเป็ด จะปลวก อะไรก็ตอบไปสิวะ”

เกมส์สบถออกมาอย่างเซ็งในอารมณ์
ชื่อสัตว์ที่ขึ้นด้วยอักษรป.ปลามีเยอะจะตายไปทำไมมันถึงไม่พูดวะ


“โอ้ยย ไม่ได้หรอกค่า อย่างปลายน่ะ นึกไม่ออกหรอก
เพราะเขารักสมัครใจอยู่อย่างเดียว คือ ‘เต่า’ ค่า
ใช่มั้ยค่าพ่อเต่าน้อย?”

เสียงบอลล่าร้องอธิบายเหตุผลขึ้นมาแทน
แถมยังบอกฉายาประจำตัวให้ชาวบ้านเป็นที่รับรู้
เล่นเอาทุกคนในค่ายรู้จักนามนี้แทนชื่อจริงไปเรียบร้อย
ไม่เว้นแม้แต่พิธีกรที่เอามาแซวกันสนุกสนาน


“งั้น น้องเต่าปลาย เชิญออกมาทางนี้ พร้อมน้องเกมส์เลยค่า”


นายปลายฟ้าจึงต้องจำใจเก็บซากความอับอายของตัวเอง
แล้วเดินออกมายืนอยู่ด้านหน้าให้เป็นเป้าสายตาคนทั้งรถ


“บทลงโทษเรามีชื่อว่าเกมส์ ‘ให้ท่า’ ค่ะ
กติกาง่าย ๆ  คือพี่จะบอกบทให้น้อง
แล้วน้องก็แค่ทำท่าแอ็คติ้งให้ตรงตามบท
ถ้าถูกใจ พี่จะปล่อยให้กลับไปนั่งที่ได้”


เออ...เกมส์นี้ดูเหมือนง่ายกว่าเกมส์แรกแหะ
ดีเหมือนกัน ไม่ต้องเลือกอะไร แบบนี้จะได้เร็ว ๆ


“น้องเกมส์ทำท่าตามเสียงพี่อ้อม
ส่วนน้องปลายทำท่าตามเสียงพี่ฟ้านะ
เดี๋ยวหันหน้าเข้าหากัน แล้วเตรียมตัวเลยค่ะ”


เขาสองคนทำตามคำสั่ง
ยืนนิ่งรอฟังบทที่ตัวเองต้องแสดง
ซึ่งเริ่มจากบทแรกโดยเสียงพี่อ้อม


“ปลายที่รักครับ เกมส์มีอะไรจะบอก”



...ห่ะ?



คนฟังสะดุ้งเฮือก เจ้าของชื่อรีบหันไปถามคนพากษ์เสียงทันที
เหมือนไม่แน่ใจว่าเมื่อกี๊หูตัวเองเพี้ยนไปรึเปล่า

“เออ...อะไรนะครับ”

พี่อ้อมเลิกคิ้วเรียวสวยตอบด้วยสีหน้าเจือแววจงใจแกล้ง

“เอาทำท่าไปสิจ๊ะ”


...เอิ่ม...เมื่อกี๊ใครบอกว่าเกมส์นี้ง่ายวะ


ปลายฟ้ามองเพื่อนซี้ที่หันมาสบตากันแว๊บหนึ่ง
เหมือนเป็นสัญญาณว่า ‘เฮ้ย กูคงต้องเอาจริง’
ก่อนมันจะจับไหล่เขาไว้พร้อมกับเสียงพากษ์ดังขึ้นมาอีกครั้ง


“ปลายที่รักครับ เกมส์มีอะไรจะบอก”


“ว่าไงครับ ฮันนี่”


เขารีบหันมองคนพูดบทของตัวเองทันที
เห็นพี่ฟ้าเงียบ ๆ เหมือนเรียบร้อยอย่างนี้
แต่ความจริงโหดร้ายไม่เบาเลยนะครับเนี่ย
เล่นพากษ์แบบกะไม่ให้เขาเกิดเลยทีเดียว


“ขอกอดหน่อยได้มั้ยครับ”


“ได้สิครับ”


บทสนทนาเริ่มส่อแววรังสีเกย์ด้ากระจายเป็นหย่อม ๆ
เรียกเสียงของคนในรถให้เริ่มเป่าปากแซววี๊ดวิ๊วสนุกสนาน
แต่เขาจะทำอะไรได้นอกจากเล่นไปตามน้ำ
ปล่อยให้เกมส์กอดรัดฟัดเหวี่ยงแนบแน่น


...อือฮืออ....โคตรโรแมนติกเลยกู


“โห...ตัวที่รักเนี่ยห๊อมหอม แถมแน่นเต็มมืออีกต่างหาก”


คนให้เสียงพากษ์ไป...
คนให้ท่าก็ทำตามอย่างรวดเร็ว เล่นไซร้ซอกคอนวยเนีย
มือไม้เลื่อยลงไปเรื่อยๆ จนไปหยุดอยู่ด้านหลังจุดยุทธศาสตร์
แถมท้ายด้วยการตบตูดป๊าบใหญ่จนเขาสะดุ้งวาบ


“แม่เจ้าโว้ยย!! เด้งสุด ๆ ด้วย ที่รัก บอกมาคืนนี้อยากได้กี่ครั้ง”


...ไอ้ห่าเกมส์ มันนอกบทครับ
พูดออกมาเองเสียงดังลั่นเลย
แน่นอนว่ามีฮาครืนกันทั้งรถ
ทำเอาแก้มของเขาชักจะเห่อร้อนขึ้นมาดื้อ ๆ

แม่งเอ้ยย...กอดกับเพื่อนไม่อายหรอก
แต่มาโดนขย้ำตูดต่อหน้าประชาชีแบบนี้
จะไม่ให้อายก็ออกจะเกินไป


...กูไม่ได้หน้าด้านหน้าทนขนาดนั้นนะเว้ยย!


“ปลายครับ เกมส์ขอสัญญา ต่อให้ฟ้าถล่มดินทลาย
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราสองคนจะรักกันตลอดไป”


พี่อ้อมยังพากษ์บทต่อ ไอ้เกมส์เลยรีบแสดงตาม
คว้ามือเขามาสบตาปิ๊ง ๆ ซึ่งเขาเองก็ประสานสายตากลับ
แม้จะใจจริงอย่างจะเอานิ้วจิ้มลูกตามันก็ตามที


“ครับเกมส์ เราสองคนจะไม่มีวันพรากจากกัน”



อ้วกกกกกกก!!!



...บทอะไรน้ำเน่าเกิ๊นนน

แต่พี่อ้อมกลับส่งเสียงดี๊ด๊าด้วยความเปรมปรีย์


“กรี๊ดดดด  หวานมากเลยค่า!!
ปรบมือให้กับน้องเกมส์กับน้องปลายหน่อยเร็ววว!!”


ปลายฟ้าเดินตัวลีบกลับมายังที่นั่ง
ไม่ได้มีความยินดีกับเสียงชื่นชมสักนิด
นึกอยู่แล้วว่าพวกวิศวะชอบเล่นอะไรแผลง ๆ
สุดท้ายเขาก็โดนเป็นเหยื่อจนได้


โธ่....ชีวิตกูช่างบัดซบ



หลังจากนั้นฝ่ายพิธีกรสองสาวจึงทำการเล่นไล่ต่อไปเรื่อย ๆ
ซึ่งก็มีทั้งคนโดนลงโทษบ้าง คนผ่านบ้าง
แต่ส่วนใหญ่มักจะผ่านไปง่าย ๆ เหมือนไอ้ตุ๊ต๊ะ กับไอ้โจ เพื่อนเขา
บางรายก็มีอะลุ่มอล่วยกันบ้าง 
ที่จะโดนทำโทษส่วนใหญ่มักเป็นคู่ชาย ๆ ด้วยกัน
ไม่รู้พี่สองคนเขามีความหลังฝังใจอะไรกับคู่ผู้ชายรึเปล่า
ถึงชอบจับให้น้องมาเล่นบทเกย์กันเหลือเกิน


กระนั้นเกมส์นี้ก็มีข้อดีของมันอยู่
คือทำให้ชาวค่ายจำชื่อเพื่อนใหม่ได้มากขึ้น
ไม่ก็มีฉายาใหม่ ๆ ตลก ๆ จากชื่อของสิ่งที่เอามาพูดต่อท้าย


“เอาล่ะคะ แล้วก็มาถึงคู่ที่ทุกคนจับตา
คู่ของประธานค่ายกับรองประธานค่ายค่า
เอ้า... แนะนำตัวหน่อย”


เสียงพิธีกรดังขึ้นมาจากฝั่งท้ายรถ
เรียกให้ทุกคนหันกลับไปชะเง้อมอง
ผู้ชายร่างสูงสองคนที่ยืนเด่นอยู่ตรงทางเดิน


“ผมดิวครับ”


“คมครับ”


มีเสียงซุบซิบกันเบา ๆ เมื่อเสร็จสิ้นการแนะนำตัว
แน่นอนว่าประเด็นนี้คงไม่พ้นพูดถึงหนุ่มหล่ออย่างดิว
ซึ่งฟังได้ชัดเจนจากบอลล่าที่แทบจะลุกขึ้นเดินจากหน้ารถไปเป็นผู้ชมแถวริงไซด์


“งั้นประธานค่ายจับฉลากเลือกเลยค่ะ

...ไหนดูสิจะได้หมวดอะไร

และ.... หมวดที่ได้ก็คือ...


คือ....



‘หมวดสัตว์’  ค่ะ”



อ้าว....ไอ้หน้าเถื่อนมันโดนเหมือนเขาเลยนี่หว่า

ถ้าพูดถึงหมวดสัตว์ ตัว ค.
ก็คงจะเป็น...


เฮ้ย!  อย่าบอกนะว่า...



ปลายฟ้ารีบหันมองคนทั้งคู่พร้อม ๆ กับที่เสียงสตาร์ทดังขึ้น



“เอ้า ทั้งสองคนพร้อมนะ เริ่ม!”



“ดิว ด้วง”


หนุ่มหล่อชิงเป็นฝ่ายพูดก่อนทันที
อีกฝ่ายชะงักเหมือนไม่ทันเตรียมตัว
ก่อนจะรีบตอบกลับไปโดยไม่ทันได้คิด



“คม ควาย.. เฮ้ยเดี๋ยว!”



...ไม่ทันแล้วครับ
เพราะพูดใส่ไมค์ให้ได้ยินกันทั้งรถ
กว่าจะรู้ตัวว่าไอ้ที่บอกไปเมื่อกี๊เหมือนพูดหลอกด่าตัวเองอยู่
ก็เล่นเอาฮาแตกไปทั้งวง
รองประธานค่ายถึงกับหัวเราะขำไม่หยุด
สงสัยคงจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องหลุดออกมาแน่ ๆ


ปลายฟ้าเองก็อมยิ้มขำด้วยความสะใจ
....สมน้ำหน้ามัน อยากมาป่วนเขาหลายรอบนัก
โดนเองสักบ้างก็ดี สะใจจริงๆ ครับ ฮ่าๆๆๆ


“หมดเวลาแล้วค่ะ”


“อ้าวได้ไงอ่ะครับพี่อ้อม”


เสียงเตือนจากสาวหมวยทำเอาคนเล่นต้องรีบหยุดเอ่ยประท้วง


“ก็น้องดิวมั่วแต่หัวเราะนี่ค่ะ
ไม่รู้แหละ ออกมาให้ทำโทษเสียดี ๆ”


เขารู้สึกว่าพี่อ้อมแกจงใจให้ออกมามากกว่า
ยิ่งคู่ชายชายแบบนี้รับรองว่าไม่มีพลาด
สุดท้ายทั้งรองประธานและประธานค่ายจึงต้องพากันเดินออกมาหน้ารถ
เพื่อโดนทำโทษจากเกมส์ให้ท่าสุดโหด
ท่ามกลางสายตาของหลายคนที่ดูจะลุ้นระทึกมากกว่าปกติ
ซึ่งคนพากษ์ก็สนองด้วยการเริ่มต้นบรรเลงตามบท



“คมครับ”


“ครับ”


“ดิวว่าระหว่างเราคงไปกันไม่ได้”




“กรี๊ดดดดดดดด!!!!”


เสียงวี๊ดว๊ายอย่างถูกใจดังขึ้นมาลั่นรถ
โดยมีคนนำทัพเป็นบอลล่าที่ออกนอกหน้ามากกว่าใครเพื่อน
ปลายฟ้าเองก็แอบฮาอยู่ในใจ

....เพิ่งรู้ว่าละครครั้งนี้มันมีดราม่าด้วยเว้ยเฮ้ย!



“ทำไมเราถึงไปด้วยกันไม่ได้”


แม้บทพูดจะสุดโศก แต่ไอ้คนแสดงกลับทำหน้านิ่งแลดูโฉดมากกว่าเศร้า


“เพราะว่าตอนนี้ดิวมีคนสำคัญของดิวอยู่แล้วครับ”


...ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ
เพราะพอจบประโยคคนพูดกลับมองตรงมายังที่นั่งของเขา

ดวงตากลมโตของปลายฟ้า
ประสานกับแววตาที่เหมือนต้องการจะสื่อบางถึงบางอย่าง


...แววตาวิบวับเป็นประกาย คล้ายกับจะซ่อนความนัยอะไรเอาไว้


เพียงครู่เดียวสั้น ๆ
แล้วร่างสูงจึงหันกลับไปแสดงตามบทบาทของตัวเองต่อ


“เราเลิกกันเถอะ”


“เดี๋ยวดิว เราเลิกกันไม่ได้นะ”


หนุ่มโหดคว้ามือของเพื่อนตัวเองเอาไว้
ซึ่งคนเล่นก็พยายามสะบัดมือออกตามแอ็กติ๊ง


“ปล่อยดิวไปเถอะนะ อย่ารั้งดิวไว้เลย”


“ไม่ คมปล่อยดิวไปไม่ได้”


“ทำไมล่ะ”


“เพราะว่า คม...




คม...





...คมท้อง”





กร๊ากกกกกกกก!!!


...บทนี้ไม่ไหวจริง ๆ ครับ
ขอมอบโล่รางวัลออสการ์ไปให้เลย
ถึงไอ้หน้าเถื่อนมันจะไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรมาก
แต่ไอ้ท่าทางนิ่ง ๆ ขัดกับประโยคที่พูดเนี่ยแหละครับที่เรียกเสียกฮา


ผู้ชายตัวควาย ๆ ถึก ๆ มาบอกว่าตัวเองท้อง

...โอยยย!!  ขำว่ะ ขำจนปวดท้องไปหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆ



“ขอเสียงปรบมือให้น้องดิวกับน้องคมหน่อยค่า!!”


ผู้ชมที่เหลือปรบมือกันเกรียวแถมส่งเสียงกิ๊วก๊าวแซวไม่หยุด
ดิวเดินกลับนำหน้าผ่านเบาะของเขาไป
ใบหน้าหล่อหันมายิ้มบาง ๆ ให้
ซึ่งเขาก็ยิ้มตอบไปอย่างชื่นชมในฝีมือว่าแน่จริง

ทว่า เมื่อใครอีกคนหนึ่งเดินผ่าน ปลายฟ้ากลับหุบยิ้มแทบไม่ทัน
เพราะมันดันหันมามองด้วยสายตาคมดุเหมือนหงุดหงิดไม่พอใจอะไรสักอย่าง
แล้วจึงเดินหายไปยังที่นั่งด้านหลัง โดยทิ้งเพียงความสงสัยไว้ให้


...อะไรวะ


เขานั่งอยู่เฉย ๆ ยังไม่ทำอะไรให้เลย
มันดันจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
หงุดหงิดที่ตัวเองแพ้ก็อย่ามาลงกับคนอื่นสิวะ

...ประสาทรึเปล่า


ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อ
เสียงพิธีกรกลับเบรกความคิดของเขาให้เข้ามาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน


“เอาล่ะคะ ในเมื่อทุกคนรู้จักกันแล้ว
คราวนี้มาถึงเกมส์ต่อไปที่เราจะเล่น
นั้นก็คือเกมส์ ‘จับคู่จับฉลาก’ กันค่า!!”


อืม...ดูเหมือนพี่สองคนจะชอบอะไรที่มันเป็นคู่ ๆ
หรือไม่ก็พวกต้องวัดดวงจริง ๆ แฮะ
แต่ขอร้องอย่าเอามาเล่นบ่อยได้มั้ยครับพี่
เพราะตอนนี้ไอ้เกมส์มันชักจะมองเขาหวาด ๆ
แล้วเริ่มหันไปเจรจาขอแลกที่กับบอลล่าแล้ว


“กติกาง่ายอีกแล้วค่ะ นั้นก็คือในกล่องสมบัติจะมีรายชื่อของทุกคนในค่าย
พี่จะให้น้อง ๆ หยิบรายชื่อนี้ขึ้นมา ถ้าจับได้ใคร
เราจะต้องเป็นฝ่ายคอยดูแลคนคนนั้นตลอดระยะเวลาสิบวันที่เข้าค่าย
หรือพูดอีกอย่างก็คือ เป็น Buddy กับ Budder กันนั่นเองค่า”


..อ๋อ...เกมส์นี้นี่เอง
เขาเคยเล่นอยู่ตอนเรียนมัธยมช่วงจัดงานปีใหม่
คนที่เราจับได้จะเรียกว่า ‘บัดดี้’
ซึ่งเราต้องมีหน้าที่คอยเทคแคร์ดูแลเขาโดยไม่ให้คนอื่นรู้

ส่วนคนที่เขาจับได้เราจะเรียกว่า ‘บัดเดอร์’
เขาจะมาคอยมาแอบเทคแคร์เราเช่นเดียวกัน
โดยเราก็ต้องเอาเองว่าโดนใครจับได้กันแน่

แต่ความสนุกในตอนแรกของการจากจับฉลาก
มันอยู่ตรงที่ต้องคอยลุ้นกันนี่แหละครับว่าเราจะจับได้บัดดี้เป็นใคร


ถ้าได้ผู้หญิงล่ะก็แจ่มเลย
แบบพี่อ้อมก็ดี อย่างพี่ฟ้าเพื่อนเขาก็น่ารัก
หรือจะใครก็ได้ในค่ายนี้ มีผู้หญิงสวย ๆ ตั้งหลายคน
เขาจะได้ถือโอกาสนี้สานสัมพันธ์
ว่ากันว่าหลังจบค่ายมีคนได้เป็นแฟนกันก็ตั้งเยอะ
ไอ้ปลายฟ้ามันจะได้มีคู่กับเขาซะทีล่ะงานนี้


“จับได้แล้วต้องเก็บเป็นความลับนะคะ
แล้วก็ห้ามแลกกันเด็ดขาดด้วย
ใครจับได้ชื่อตัวเองมาจับใหม่ได้เลยค่ะ”

พี่อ้อมเดินถือกล่องมาให้ล้วงทีละคนทีละคนเริ่มจากด้านหน้า
คนช่างเลือกได้แต่ภาวนาอธิษฐาน
ขณะกำลังหยิบกระดาษใบเล็กที่ม้วนรายชื่อไว้


สาธุ... ขอให้จับได้คนดี ๆ ด้วยเถอะเพี้ยงงง!!!



ปลายฟ้าตั้งจิตอย่างมุ่งมั่น
ค่อย ๆ คลี่กระดาษอย่างช้า ๆ
เส้นหมึกพิมพ์ตัวบรรจงค่อย ๆ ปรากฏชื่อออกมา


ทีละนิด...


ทีละนิด....


ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกกว้างขึ้น
มือไม้เริ่มสั่น ใจหวิวจนอยากเป็นลม
เมื่อเห็นข้อความทั้งหมดปรากฏเป็นชื่อชื่อหนึ่งอย่างชัดเจน



...ลองทายดูสิครับว่าใคร



หึ ถามมาได้...




...ก็ไอ้ควายตัวนั้นนั่นแหละครับ!



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




บทนี้มี ‘อ้อม’ กับ ‘ฟ้า’ ตัวละครจาก ‘ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน’ มาด้วยใครจำได้บ้าง?

....กริบ  :undecided:

เอาเป็นว่าหยิบมาแจมนิดหน่อย เป็นการหมุนเวียน ตัวละครมีน้อยใช้สอยอย่างประหยัด


แอบมีคนมาถาม


โลเคชั่น คือ ม.ศิลปากรหรือป่าวครับ :']



ถูกต้องนะฮ๊าฟฟฟฟฟ!!   :teach:


โลเกชั่นคือ มหาวิทยาศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ นั่นเองจ้า
พูดไปก็คิดถึงทับแก้วจริง ๆ น๊า~
อยากไปเดินนัดวันพุธ ปั่นจักรยานรอบสระแก้ว กินน้ำในโหลใหญ่ ๆ
ผ่านมาหลายปีแล้ว เลยปล่อยให้พวกหนุ่ม ๆ เค้าไปกันแทน (อ้าว...รู้อายุกันหมดเลย)  :o8:
 
 :catrun:

แถมท้ายอีกเรื่อง...
เพิ่งจะเห็นว่าซีรีย์เรื่องนี้ติดโหวตเซ็งเป็ดอวอร์ทครั้งที่ 6 ประเภทเรื่องสั้นด้วย
แต่งมาตั้งนานเพิ่งรู้ว่าเรื่องที่ตัวเองเขียนจัดอยู่ในประเภทนั้น (ฮา)


คือ...ไม่รู้จะพูดยังไง

ตอนแรกตั้งใจว่าจะแต่งเอาขำ ๆ ไม่คิดไรมาก
แค่อยากแชร์อะไรสนุก ๆ ที่เราคิดขึ้นมาได้ และอยากให้คนอื่นสนุกไปกับเราด้วย
แต่พอมีคนมาโหวตให้ ก็แบบ... เฮ้ย! เอาจริงดิ


...ดีใจนะ ที่ชอบ ที่มาช่วยเชียร์
ระยะเวลารวมซีรีย์นี้เราอยู่ด้วยกันมาครึ่งปีแล้ว
เหมือนเป็นเวลาสั้น ๆ แต่สำหรับเราได้อะไรกลับไปเยอะมาก
เราได้หัวเราะกับคอมเมนต์ ได้เพื่อนนักอ่านใหม่ ๆ
ถึงจะไม่ค่อยได้แวะมาคุยกันตอนท้ายเรื่อง หรือหายหน้าไปนานแค่ไหน
แต่ก็ยังมีข้อความฝากมาบอกว่า ยังรอ ยังเป็นกำลังใจ


....ไม่รู้จะพูดอะไร


เพราะพูดได้แค่คำเดียวว่า ‘ขอบคุณ’ จริง ๆ


ขอบคุณที่ยังคอยติดตาม ไม่ว่าจะเป็นคนที่แวะมาอ่าน
คอมเมนต์ให้คะแนน บวกเป็ด บวก 1 หรือโหวตเรื่องให้


ขอบคุณที่เป็นกำลังใจ


ขอบคุณที่ทำให้ ‘รสหวานอมขม’ อร่อยลงตัวมากกว่าที่เคยเป็น



ฝากกอดแรงๆๆๆ ไปให้คนอ่านทุกคน
ดีใจจริง ๆ  ที่ยังอยู่ด้วยกัน
ต่อจากนี้ก็ขอฝากตัวต่อไปด้วยนะคะ


 :กอด1:


รักเสมอ


BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 31-10-2012 20:46:55
พึ่งเคยเข้ามาอ่าน น่ารักทุกเรื่องเลยค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 31-10-2012 21:09:16
 :กอด1:ให้กำลังใจน้องเต่าน้อย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 31-10-2012 21:19:14
ว่าอยู่บรรยากาศคุ้นๆ :mc4:

ที่แท้ ทับแก้ว  นี่เอง

เด็กเทคโน(วิศวะ)เยอะสุดละ 

 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 31-10-2012 21:35:54
จำฟัากะอ้อมได้ค่ะ  แหมดูท่าจะแค้นคู่ชายชายอยู่ลึกๆจริงๆด้วย
เล่นเอาฮามาก  คำกับคำว่า "คม ควาย" มากเหอะ  555

รอว่าพี่คมและน้องปลายจะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่  แต่ที่แน่ๆดิวมันรู้ใจ
ตัวเองก่อนใครซะแล้วสิ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 31-10-2012 21:40:00
ฮาจริง อะไรจริง
คนคิดเกมส์เก่งจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 31-10-2012 21:40:35
เต่าปลาย ต้องเป็นฝ่ายคอยดูแลพี่คมตลอดระยะเวลาสิบวันที่เข้าค่าย  กลัวจะเป็นพี่คมคอยดูแลมากกว่านะ เพราะความช้าของเต่าปลาย

 :m20: กับเกมส์มาก คม "ควาย"  ยิ่งเกมให้ท่าแล้ว พี่อ้อม-พี่ฟ้า สาววายตัวจริง  แล้วพี่ดิวที่มองนี่คิดอะไรกับเต่าปลายหรือเปล่า

กด + ให้คนเขียน ดีใจด้วยค่ะที่ได้เข้าชิงรางวัล ประเภทเรื่องสั้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 31-10-2012 21:45:30
แล้วพี่คมจะจับได้ใครหล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 31-10-2012 22:04:19
คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอก ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 >; P.49
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 31-10-2012 22:05:12
ขอบคุณ รอตอนต่อไป ^_^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 31-10-2012 22:29:36
แล้วพี่คมจะจับได้น้องปลายหรือเปล่าน้า
 :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 31-10-2012 23:05:01
จับได้กันเองรึเปล่า?


 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 01-11-2012 03:18:57
ปลายจับได้คน อิอิ

ดิวแอบคิดอะไรกับปลายอ่ะป่าวเนี่ย แต่ว่าคมหึงหรอจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 01-11-2012 07:53:42
555 ตลกอ่า
เป็นบทที่สุดยอดจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 01-11-2012 10:01:44
งานนี้น่าจะมีศึกชิงนายให้เห็นแน่ๆเลยใช่ป่ะคับบบบบ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 01-11-2012 13:32:40
ขำเต่าปลายกับเกมส์เล่นกอดกัน อ่านแล้วฮาเลยโดนขยำก้น
แถมคมกับดิวก็ฮาอีก เริ่มสนุกแล้ว

+1จ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 01-11-2012 14:34:56
สาธุ๊ ขอหั้ยจับได้ชื่อกันเอง
บุพเพอาละวาด ~   :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 01-11-2012 17:37:05
ฮาเกมส์ที่เล่นจัง   :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 01-11-2012 18:37:12
กริบ...  จำไม่ล่ายยย  ขอโต้ดฮับ


ตอนนี้อ่านแล้วขำค่ะ  ขำมากกก  แบบหึๆ หน้าโน้ตบุ๊คอะ
แล้วก็กร๊ากตอนปลายจับได้คมเนี่ยหละ  แต่ดูท่าคมคงจะได้รับการดูแลน้อย  แต่ว่าการดูแลแต่ละครั้งคงจะดีแน่ๆ

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


แล้วคมจะจับได้ใครหละเนี่ย  จะจับได้ปลายหรือเปล่า
แล้ว... แล้วจะเป็นยังไงต่อ  โอ๊ยอยากอ่านต่อ

ว่าแต่ที่คมทำหน้าบึ้งใส่เพราะว่าดิวมองปลายหรือเปล่านะ


ผ่านมาครึ่งปีแล้วเหรอ... เร็วจังเลยค่ะ
อีกแป๊บนึงก็จะหมดปีแล้ว  เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ


ยังไงก็จะแวะเวียนมาอ่านเรื่อยๆ  แอบให้กำลังใจเบาๆ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 01-11-2012 19:56:20
จับได้คนดีๆๆใช่ไหมน้องปลาย :jul3:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 01-11-2012 21:58:44
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :laugh: :laugh:
ไม่อยากบอกเลยว่าตอนนี้มันฮามากฮามายก่ายกอง
แบบว่าสงสารน้องปลายก็สงสาร
แต่ดิชั้นขอฮาก่อนละค่าคุณ
 :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: Little_Duck ที่ 02-11-2012 16:47:45
อะแฮ่ม...มาแสดงตัว แหะๆๆๆ

คือเพิ่งเปิดอ่านเจอทั้งซีรี่ย์แล้วตามอ่านทุกซีรี่ย์จนมาถึงซีรี่ย์ล่าสุดนี่แหละ บอกเลยว่านี้เป็นเม้นแรกในเล้าเป็ด(...เขินจัง :-[)
คือมันอดใจไม่ไหว ต้องสมัครยูสเซอร์มาเม้นกันเลยทีเดียว แหะๆ.....

จะบอกว่าอ่านแล้วชอบมากๆเลย มันแบบไม่หวือหวาอ่ะ มันเรื่อยๆ ตัวละครทุกภาคก็มีคาแรคเตอร์ชัดเจน คือปกติเป็นคนที่ชอบอ่านนิยายแบบที่มีบรรยายเยอะๆมากกว่าคำพูดอยู่แล้ว มันเห็นภาพมากกว่า อ่านแล้วสื่ออะไรได้มากกว่าแค่คำพูดตัวละคร

แล้วแต่ละซีรี่ย์อ่านแล้วรู้สึกสบายใจมาก คืออ่านแล้วแบบชิลๆเรื่อยๆแต่อยากอ่านต่อเรื่อยๆ เหมือนเสพติด ฮ่าๆๆๆ

ชอบที่แต่ละฉากเวลาอ่านบรรยายแล้วเห็นภาพง่ายมาก เราชอบโครงเรื่องแบบนี้ กรี๊ดกร๊าดดด ชอบที่แบบตัวเอกไม่ได้มาจากอินเนอร์เลยว่าฉันเป็น...นะ แต่แบบอารมณ์เหมือนมันเป็นแบบนี้เพราะความรู้สึกมากกว่า คือยังไงดี...เข้าใจเรามั้ย ฮ่าๆๆๆๆ ถ้าพูดตรงๆเหมือนแบบ ไม่ได้เป็นเกย์แต่แรกเริ่ม แต่ที่เป็นเพราะความรู้สึก ความใกล้ชิดอ่ะ มันดูเป็นเรื่องจริงดี เอิ้กกกกก

ชอบสไตล์การเขียนของพี่มากเลยนะ แล้วจะติดตาม ตามติดไปเรื่อยนะ  :impress2:

นึกภาพสีครีมออกมั้ยค่ะ ก้ำกึ่งระหว่างสีขาวกับน้ำตาล มันให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นโมโนโทน ซึ่งเรารู้สึกว่าซีรี่ย์ที่นี่เหมาะกับสีครีมจริงๆ ถึงจะมีดราม่าหรือว่าอะไรก็ตามแต่  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 02-11-2012 22:22:47
ตอนนี้ตลกมาก หลุดขำตอนพี่คมบอกว่าท้องนี่แหละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 5] 31/10/55 > P.49
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 03-11-2012 14:24:17
ว่าแล้ววว ทำไมบรรยากาศมันคุ้น

 :o8:

"คมท้อง" ฮามาก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 03-11-2012 17:05:34
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 6


“ไหวเปล่าวะ ไอ้ปลาย อ่ะ...ยาดม”

เกมส์ยื่นส่งยาดมหลอดสีขาวที่ไปขอจากเจ๊บอลล่ามาโบกไปมาหน้าเพื่อนรัก
ซึ่งบัดนี้กำลังซีดเป็นไก่ต้ม เดินเซประคองตัวลงมาพิงอยู่ข้างรถบัสมหาลัย


...หมดกันภาพลักษณ์ของนายปลายฟ้า
ตอนนี้สภาพไม่ต่างอะไรจากคนเมาโดนรุมโทรม
เหตุที่เป็นอย่างนี้ มีอยู่ประการเดียว...


แม่ง! ...ไอ้โค้งนรก!


...ก็รู้อยู่หรอกว่าระยะทางเข้าหมู่บ้านมันต้องขึ้นเขา
แต่ไม่คิดว่าถนนอะไรมันจะโค้งได้เยอะขนาดนี้
มีเกือบร้อยโค้ง เดี๋ยวซ้าย... เดี๋ยวขวา...
บางช่วงชันมากๆ ต้องไล่ให้คนลงไปเดินด้วยซ้ำเพราะกลัวรถขึ้นไม่ไหว
คดเคี้ยวซับซ้อนยิ่งกว่ารถไฟเหาะตีลังกา

แล้วนายปลายฟ้าผู้เกิดบนพื้นที่ราบ
มิหนำซ้ำยังเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
ทำให้สูญเสียการประคองทิศทางมากกว่าคนปกติ
จึงไม่น่าแปลกที่เขาจะตกรอบตายตั้งแต่ยี่สิบโค้งแรกแล้ว

ยาแก้เมารถไม่ช่วยอะไร
นอกจากจะทำให้เบลอและวิงเวียนยิ่งกว่าเดิม
ยิ่งเข้าไปลึก ทางก็ยิ่งขรุขระ
อย่าได้ถามถึงถนนลาดยางใด ๆ
แค่ที่แล่นผ่านมาดินลูกรังก็ทำเอาแดงเถือกกันทั้งรถ


...ใช้เวลาขึ้นเขาเกือบสองชั่วโมง
ในที่สุดเมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะลับฟ้า
รถบัสมหาวิทยาลัยจึงแล่นเข้าจอดเทียบท่าบนหมู่บ้านเล็ก ๆ
ณ ยอดดอยในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย


พวกชาวบ้านในหมู่บ้านมารอต้อนรับอยู่ก่อนแล้ว
นายปลายฟ้าจึงต้องพยายามประคับประคองสติของตัวเอง
เดินมึน ๆ ไปรวมกับชาวคณะที่อาคารเอนกประสงค์เล็ก ๆ ของโรงเรียน
โดยมีการแสดงของเด็ก ๆ แต่งตัวด้วยชุดพื้นเมืองมารำต้อนรับ
พร้อมกับเลี้ยงอาหารมื้อเย็นง่าย ๆ ที่ชาวบ้านช่วยทำเลี้ยง
ซึ่งหลังจากนี้อีกสิบวันพวกชาวค่ายต้องทำกินกันเอง

แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เห็นน้ำใจของชาวบ้านทุกคนที่มาร่วมต้อนรับมากมาย
เช่นเดียวกับความรู้สึกของประธานค่าย ตัวแทนที่ขึ้นมากล่าวขอบคุณหลังจบมื้ออาหาร


“พวกเราชาวค่ายวิศวะอาสารุ่นที่ 14 รู้สึกยินดี
ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโรงเรียนให้กับน้องๆ ในครั้งนี้
ขอให้พวกเราชาวค่ายร่วมแรงร่วมใจในการทำงานให้ดีที่สุด
เพื่อประโยชน์ของน้อง ๆ และเพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของทุกคนในหมู่บ้านด้วยครับ”


คำกล่าวสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ชัดเจน
เรียกรัศมีสมเป็นประธานจากคนหน้าโหดขึ้นมาทันที
เพิ่งเห็นว่ามันมีภาวะความเป็นผู้นำก็วันนี้
แต่ถ้าให้พูดจริง ๆ มันคงเป็นประเภทผู้นำจอมเผด็จการ
เพราะไม่รู้เป็นอะไรถึงชอบบังคับยัดเหยียดให้เขาอยู่เรื่อย


ปลายฟ้าเผลอมองคนที่มีอคติในใจเดินผ่านกลับไปยังที่นั่ง
ก่อนจะเรียกรวมพล เพื่อทำการแยกย้ายไปตามที่พัก
ตามปกติบางค่ายจะให้ลูกค่ายแบ่งไปนอนกับชาวบ้าน
แต่ค่ายของเราครั้งนี้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะรบกวนพวกคนในพื้นที่ให้ได้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะเราไม่อยากให้พวกเขาต้องมาคอยลำบากดูแล 
อะไรที่พอจะจัดการกันได้ก็เลยทำกันไปก่อน

โชคดีที่โรงเรียนแห่งนี้มีอาคารปูนที่เป็นชั้นเรียนของเด็กเล็ก
ซึ่งมีที่กว้างมากพอให้พวกผู้หญิงนอนรวม ๆ กันได้สิบห้าคน
ส่วนพวกผู้ชายที่เหลือกว่าสามสิบคนนอนที่ไหน
ถามมาได้... ก็กางเต็นท์เอาสิครับ

เต็นท์ที่เตรียมมามีทั้งหลังที่นอนได้สี่คนบ้าง หกคนบ้าง
จากความอนุเคราะห์ของพี่ค่ายวิศวะอาสารุ่นก่อน ๆ
ที่ซื้อไว้และตกทอดเป็นมรดกให้น้องๆ
กลุ่มเภสัชของเขาเลยเลือกเต็นท์หลังที่นอนได้หกคน
แต่กว่าจะกางกันออกมาได้ก็เล่นเอาฟ้ามืดสนิทพอดี


ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งหนาว
ถึงแม้อากาศจะบาดผิวแค่ไหน
ยังไงเราก็ต้องอาบน้ำชำระความเน่าของตัวเอง

นายปลายฟ้าจึงหอบข้าวของเสื้อผ้าเดินไปต่อคิวยาวเหยียด
เพราะห้องอาบน้ำดันมีอยู่แค่สี่ห้อง
และเป็นหน้าที่ของสุภาพบุรุษที่จะให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายอาบก่อน
กว่าจะมาถึงคิวเขาก็เล่นยืนจนเมื่อย

พอถึงห้องน้ำปลายฟ้าก็แทบจะลืมนิสัยชักช้าของตัวเองทันที
รีบคว้าขันซัดน้ำเย็นเจี๊ยบเข้าโครม ๆ ซึ่งน้ำที่ใช้เป็นน้ำบาดาลสีแปร่ง ๆ
ก็แบบนี้แหละ...อยู่บนยอดดอยอย่าถามน้ำประปา ไฟฟ้า
แม้จะมีพลังงานแสงอาทิตย์จากโซล่าเซลล์ใช้บ้าง
แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็ตั้งแคมป์ก่อกองไฟเล็ก ๆ
เพื่อไล่ความหนาวกระจายความอุ่นไอให้ร่างกาย


เขาเดินปากสั่นหงึก ๆ กลับมาที่เต็นท์
พวกเพื่อนที่เหลืออาบน้ำกันเสร็จเรียบร้อยเตรียมนอน
ยกเว้นไอ้หัวโจกประจำกลุ่มที่ไร้วี่แวว

อ้าว...ไอ้เกมส์หายไปไหนวะ
จำได้ว่ามันเข้าไปอาบน้ำก่อนแถวเขานี่หว่า
แล้วทำไมยังไม่กลับมาอีก

“ใครเห็นไอ้เกมส์บ้างมั้ย?”

“โอยยย... อย่างมันหายหัวไปหม้อสาวที่ไหนรึเปล่าแล้วก็ไม่รู้
เออดี... พ่อเต่าน้อย วานไปตามมันกลับมาที
ไม่รู้มันเก็บไฟฉายไปไว้ไหน ว่าจะมาร์กนอนสักหน่อย
เดี๋ยวจิ้มผิดจิ้มถูกหน้าชั้นได้เยินหมดพอดี”

บอลล่าบ่นงึมงำท่ามกลางความมืดลาง ๆ ภายในเต๊นท์
เขาเลยเป็นฝ่ายเดินออกไปหาข้างนอก
ตั้งใจจะวนไปแถวแคมป์ไฟ เผื่อมันหนาวแล้วเดินไปอยู่ตรงนั้น
แต่พอใกล้จะถึง มันกลับเดินสวนเข้ามาก่อน
ด้วยท่าทีรีบร้อนเหมือนหงุดหงิดโมโหอะไรสักอย่าง


“อ้าว...หายไปไหนมาวะ บอลล่าถามหาไฟฉายที่มึงเก็บไว้อ่ะ”


“เออ ๆ รู้แล้วเดี๋ยวตามไป แต่แม่งเอ้ยกูเซ็งว่ะ!”


ไอ้เกมส์สบถออกมาอย่างคนอารมณ์เสีย
ซึ่งสร้างความแปลกใจให้คนฟังจนต้องเอ่ยปากถามงงๆ


“ทำไม? มีอะไรวะ?”


“คืองี้... กูมีเรื่องจะบอกมึง
เมื่อกี๊กูลืมยาสีฟันไว้ในห้องน้ำ กูเลยกลับไปเอา
แต่พอกูไปถึง กูได้ยินไอ้พวกเด็กวิศวะมันพูดกันว่า...”


ยังไม่ทันจบประโยคกลับมีเสียงหนึ่งดังตะโกนเอ่ยขัดขึ้นมาจากด้านหลัง


“อย่ามัวแต่คุยเล่นกัน นี่จะห้าทุ่มแล้ว
รีบ ๆ เข้านอนซะ พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้า”

ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากประธานค่ายหน้าเถื่อน
ที่ใช้ดวงตาคมกริบกวาดมองไปยังคนที่อยู่รอบแคมป์ไฟ
รวมทั้งพวกเขาที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ทำให้คนเล่าค้างต้องตัดบทดื้อ ๆ


“เออ งั้นเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเล่าล่ะกัน ไปนอนเถอะ”


อ้าว...ได้ไงวะ มาหลอกให้ยากแล้วจากไป
ตกลงไอ้พวกวิศวะมันพูดอะไรกันแน่อ่ะ

ทว่าไอ้เกมส์หาได้ยินเสียงโวยวายในใจไม่
เพราะมันดันเดินนำหน้ากลับเข้าเต็นท์ไปเรียบร้อย
ปลายฟ้าจึงได้ทำแค่เพียงเก็บความสงสัยไว้
ไม่อยากเซ้าซี้ต่อด้วยเพราะตอนนี้เขาก็ชักง่วงแล้วเหมือนกัน
เป็นอาการเพลียตกค้างมาจากตอนเมารถขึ้นเขา
และที่สำคัญคือเขาต้องรีบนอนพักผ่อนเอาแรงให้ได้เร็วที่สุด


เหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เนื่องจากเขาได้รับหน้าที่ภารกิจอันใหญ่ยิ่งยวด

นั่นก็คือ ‘รองหัวหน้าหน่วยสวัสดิการ’


หน้าที่คือคอยช่วยเหลือประสานงานทุกอย่างในค่าย
ดูแลอาหารการกิน การพยาบาล ตลอดจนคอยช่วยเหลือเรื่องอื่น ๆ
พูดง่าย ๆ ก็เป็นตำแหน่งเบ๊ดี ๆ นี่เอง

นอกจากนั้นยังมีหน่วยอื่น ๆ
เช่นพวก ‘หน่วยวิชาการ’ อันนี้ไอ้แว่น โจ กับบอลล่ารับงานไป
‘หน่วยสันทนาการ’ เป็นของพวกพี่ฟ้า พี่อ้อม
แล้วก็ ‘หน่วยก่อสร้าง’ ส่วนใหญ่เป็นพวกประธานค่ายกลุ่มวิศวะ

แต่ละหน่วยก็มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบแตกต่างกัน
ทว่าถึงอย่างไรหน่วยหลักที่ต้องตื่นเช้านอนที่หลัง
ก็ไม่พ้นพวกหน่วยสวัสดิการอยู่ดี


นายปลายฟ้าจึงต้องแหกขี้ตาตื่นตั้งแต่เช้าตรู่
สะลึมสะลือปลุกตัวเองด้วยการไปอาบน้ำเย็น ๆ
แล้ววิ่งโร่มาช่วยหัวหน้าหน่วยสวัสดิการ
ซึ่งไม่ใช่ใครคือนั่นก็คือไอ้เกมส์เพื่อนซี้


“ไอ้ปลายยกหม้อแกงเขียวหวานไก่ไปตั้งบนโน้นดิ
แล้วใครเอาถุงใส่กระเทียมไปไว้ไหนวะ
มึงเห็นบ้างป่ะ พวกผู้หญิงเขาหากันไม่เจอ”

เสียงหัวหน้าหน่วยบ่นไปพลางคุ้ยหาของที่กอง ๆ เอาไว้
อันประกอบด้วยลังมาม่า ปลากระป๋องหลายแพ็ค
ไม่นับรวมน้ำดื่ม อาหารสด อาหารแห้งสารพัด
ที่ขนกันมาเหมือนเป็นผู้อพยพมากกว่าไปเข้าค่าย

ปลายฟ้ายกหม้อแกงไปวางไว้บนโต๊ะเตรียมพร้อมสำหรับอาหารมื้อเช้า
ก่อนจะรับรู้ถึงแรงสะกิดจากด้านหลังให้ต้องหันมอง


“เออ... เธอ ๆ ช่วยยกถังน้ำใส่กระติกได้มั้ย
มันหนักเรายกคนเดียวไม่ไหว”


ผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักชี้นิ้วไปที่กระติกน้ำข้าง ๆ
พลางทำเสียงหวานอย่างวอนขอจนเขาแทบใจละลาย


นี่แหละครับ...ข้อดีอย่างเดียวของสวัสดิการคือมีผู้หญิงอยู่ค่อนข้างมาก
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีผู้ชายคอยช่วยยกหม้อไห หาของ ผ่าฟืนก่อกองไฟไป
พวกเตาแก๊สมันมีน้อยครับ ของบางอย่างใช้ได้ก็ต้องประยุกต์ใช้เอา

แต่แม้จะรวมกลุ่มกับพวกผู้หญิงให้ได้ชื่นอุรา
ทว่าถ้าให้เทียบกันแล้วความเท่ของพวกเขา
สู้ไม่ได้เลยกับพวกคนในหน่วยก่อสร้าง
ที่โชว์ความเป็นชายกันให้เห็นกันแบบแมน ๆ
จนเป็นที่กรี๊ดกร๊าดชื่นชมของสาว ๆ ในค่าย

โดยการก่อสร้างหลัก ๆ จะเน้นไปที่การทาสีซ่อมแซมอาคารเรียน
ปรับปรุงห้องสมุดบางส่วนเพิ่มอีกนิดหน่อย
รวมไปถึงการสร้างโรงเพาะเห็ดให้กับน้อง ๆ ไว้เพิ่มรายได้ต่อไปในอนาคต
เพราะเวลาแค่สิบวันสำหรับพวกเราไม่ได้มากพอจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่
เลยต้องทำอะไรเท่าที่ความสามารถของเราทำได้ไปก่อน


หลังจากช่วยงานตอนเช้าเสร็จ
นายปลายฟ้าจึงต้องหิ้วกระติกน้ำไปวางไว้แถว ๆ หน่วยก่อสร้าง
ซึ่งลงมือรื้อสังกะสีเก่าของห้องสมุดออก
เพื่อเปลี่ยนเป็นกระเบื้องลอนคู่ให้ได้มาตรฐานและความแข็งแรง
เขายืนเมียงมองดูส่วนของงานต่อเติมอย่างสนอกสนใจ
กระทั่งไม่รู้เลยว่าตนเองยืนขวางเส้นทางลำเลียงอุปกรณ์ก่อสร้างอยู่


“พวกเภสัชถอยไปอย่าเกะกะ”

เสียงสั่งจากด้านหลังทำเอาคนยืนนิ่งถึงกับสะดุ้ง
เขารีบหันมองเด็กวิศวะสองคนที่แบกแผ่นกระเบื้องฝั่งละข้าง
เพื่อเอาไว้วางไว้เตรียมสำหรับขึ้นไปมุง


“อ่ะ ขอโทษครับ”


ปลายฟ้ารีบพูดพลางถอยหลบทางทันที
ทว่าคนฟังกลับทำเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิดไม่พอใจ
ก่อนเดินผ่านไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง

...อะไรวะ ทำหน้าอย่างกับคนท้องผูก


“มึงมานี่เหอะ ไอ้ปลาย”

เป็นไอ้เกมส์ที่เรียกคนที่ยังนืนงงจากอีกทาง
แล้วรีบลากแขนเขาให้ออกห่างจากหน่วยก่อสร้าง
เดินมาหลบมุมแถวโรงอาหารที่ไม่ค่อยมีคน
พร้อมกับทำหน้าซีเรียสเอ่ยด้วยน้ำเสียงเครียด


“มึงจำเรื่องที่กูว่าจะเล่าให้มึงฟังเมื่อคืนได้มั้ย”


ปลายฟ้าหูผึงรีบพยักหน้ารับทันที
คนกุมความลับมองซ้ายขวาให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่
ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องที่เก็บไว้ออกมา


“เมื่อคืนที่กูกลับไปเอายาสีฟันในห้องน้ำอ่ะ
กูบังเอิญไปได้ยินไอ้พวกเด็กวิศวะพูดกันว่า
ไอ้พวกเด็กเภสัชแม่งโคตรเอาเปรียบ
ไม่ได้มาค่ายด้วยจิตอาสา แต่มาเพราะจะทำเอาคะแนน
งานก็รับหน้าที่ง่าย ๆ เป็นพวกสวัสดิ พวกวิชาการ
ถ้าไม่ใช่เพราะอยากได้คะแนน แม่งคงจะทำทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ”


คนโดนกล่าวหานิ่งฟังด้วยความตะลึง


...เฮ้ย! อะไรวะ
นี่พวกวิศวะมันคิดกันแบบนี้เหรอ
มันก็จริงอยู่หรอกว่าพวกเขามาทำงานตรงนี้แลกเกรด
ไม่ได้มาด้วยใจจิตอาสาเหมือนกับคนอื่น ๆ
แต่ที่ผ่านมาเขาก็ช่วยทำงานอย่างเต็มที่ตลอด
แถมที่เป็นหน่วยสวัสดิกับวิชาการเนี่ย
ไอ้ประธานมันก็เป็นคนมอบตำแหน่งให้อีกต่างหาก
ไม่ใช่ว่ามารับงานง่าย ๆ ทำทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ สักเมื่อไรกัน


“แล้วมึงทำยังไง ได้ไปเคลียร์กับเขามั้ย”

ปลายฟ้าเอ่ยเสียงเครียดขึ้นมาบ้าง
แต่อีกคนกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

“พวกเยอะขนาดนั้นกูคงเคลียร์ได้หรอก
ดีที่ว่ามันมืด พวกมันเลยไม่เห็นว่ากูได้ยิน
กูฟังกูก็โมโหนะเว้ย แต่กูก็ไม่อยากได้เอฟเหมือนกัน
ขืนมีเรื่องได้โดนอาจารย์ชลิดาด่าแหลกแน่มึง
เอาเป็นว่าช่างมันเถอะว่ะ ทน ๆ ไปอีกสิบวันเดี๋ยวก็จบแล้ว”


...ถูกของไอ้เกมส์มัน

ถ้าทะเลาะกันคงได้เรียนวิชาจริยศาสตร์ซ้ำอีกปี
แถมยังต้องมาสร้างความกระอักกระอวนบาดหมางกันระหว่างคณะด้วย
เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเด็กวิศวะจะมีอคติต่อเภสัชขนาดนี้
แล้วต่อไปจะตั้งใจทำงานร่วมกันได้ยังไง
คิดแล้วก็พาลนึกไปถึงใครบางคน


...ไอ้วิศวะหน้าโหดที่เป็นหัวหน้าของค่าย
และยังเป็น ‘บัดดี้’ ที่เขาจับได้
มันจะรับรู้ถึงปัญหานี้มั้ย


....แล้วมันจะคิดแบบเดียวกันกับคนอื่นรึเปล่า



แม้ปลายฟ้าจะยังคงไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยินมาอยู่ลึก ๆ
แต่สุดท้ายก็ยังคงต้องรับผิดชอบทำหน้าที่ของตัวเอง
ดังนั้นตอนเลิกงานก่อสร้าง
เขาจึงต้องจำใจเดินหิ้วกระติกน้ำพร้อมกับแผ่นเจลต่าง ๆ
ไปให้พวกที่ลุยงานหนักกันมาทั้งวันใช้นวดคล้ายกล้ามเนื้อ

ไอ้ที่มันจะปวดเมื่อยตามตัวก็ตั้งแต่วันแรกเนี่ยแหละ
เพราะกล้ามเนื้อมันยังไม่ได้ปรับสภาพจากการออกแรงหนัก ๆ
ถ้าไม่ดูแลดี ๆ เดี๋ยวอักเสบขึ้นมาจะแย่ ยังไงก็ต้องทำงานอีกหลายวัน
รายไหนที่มีอาการปวดก็ประคบร้อนกันไปก่อน
พวกเพื่อนเขาที่เหลือก็มาช่วยกันดูแลให้สมกับได้ชื่อว่าเด็กเภสัช
กระนั้น หน่วยสวัสดิการอย่างเขาก็ต้องคอยดูแลด้านอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย


“ไอ้ปลายน้ำหมดแล้ว ไปเอามาเพิ่มที”

เสียงหัวหน้าหน่วยตะโกนเรียกเขาให้ไปช่วย
ซึ่งเจ้าของชื่อก็ตะโกนตอบกลับ

“ได้ ๆ รอแป๊บ”

ปลายฟ้ารีบวิ่งไปยังที่เก็บเสบียง
แต่ยังไม่ทันถึงดีกลับมีเสียงน้องผู้ชายคนหนึ่งทัก

“เออ...พี่ครับ มีพาราสักเม็ดมั้ยครับ เพื่อนผมเค้าขอ”

“อ๋อมี ๆ เดี๋ยวไปเอามาให้นะ”

เขารับปากพลางเร่งเดินกลับไปยังจุดหมาย
ทว่า เพียงห่างไปไม่กี่ก้าวก็ดันเจอกับพี่อ้อมซึ่งสวนมาพอดี

“น้องปลายจ๊ะ เดี๋ยวจะเดินกลับไปที่อาคารรึเปล่า
พี่วานฝากไวท์บอร์ดไปให้พี่ฟ้าที่นู้นได้มั้ย
เดี๋ยวพี่ไปจัดการเรื่องเครื่องเสียงแป๊บหนึ่ง”

“เออ.. ได้ครับ”

คนถูกไหว้วานพยักหน้าพลางรับไวท์บอร์ดแผ่นเล็กมาถือไว้
ก่อนคนฝากจะเดินหายไปอีกทางอย่างรีบเร่ง


ตอนนี้ รายการที่เขาต้องจัดการชักเยอะพะรุงพะรัง
คนลังเลจึงเริ่มต้องคิดอย่างชั่งใจตามนิสัย


....เอาไงดีวะ


...จะเดินกลับไปเอาบอร์ดให้พี่ฟ้าเลย
หรือว่าจะไปเอาของตรงนู้นก่อน


...แล้วกระเป๋ายาล่ะจะทำยังไง
จะให้เอาออกมาแค่พาราหรือจะยกมาทั้งหมดดี
แต่เผื่อมีคนต้องการยาอย่างอื่นด้วยคงต้องเอาไปทั้งหมด


...ไหนจะถังน้ำอีกล่ะ
ให้แบกไปพร้อมกันเลยดีมั้ยจะได้ไม่เสียเทียว
ถึงจะดูลำบากไปหน่อย แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว


อืม....เอาไปด้วยเลยแล้วกัน



ปลายฟ้าตัดสินใจวิ่งควบสามกะ
ตรงรีไปเอากระเป๋ายาที่เก็บไว้ในเต็นท์คล้องกับไหล่
มืออีกข้างหนีบกระดานไวท์บอร์ดไว้
แล้วเดินไปยกถังน้ำถือมายังอาคารอเนกประสงค์ด้วยสภาพทุลักทุเล

ทว่า ด้วยความที่ถือถังน้ำใบใหญ่ขวางการมองเห็น
ทำให้คนเดินไม่ทันสังเกตขั้นปูนที่อยู่ระหว่างพื้นอาคาร
ปลายเท้าของปลายฟ้าจึงสะดุดเข้ากับขอบกั้นเต็ม ๆ


“เฮ้ย!!”


ร่างเล็กเซเสียสมดุล ยิ่งประกอบกับของที่หิ้วมาเต็มอัตรา
ส่งผลให้ร่างของเขาเอียงจนเกือบจะล้ม


...ซวยแล้ว


ปลายฟ้าหลับตาปี๋ เตรียมตัวกระแทกเข้ากับพื้น
แต่ยังไม่ทันได้สัมผัสกลับมีบางสิ่งมาช่วยดันเขาไว้จากด้านหลัง
จนดวงตากลมต้องเปิดมองหันไปหาผู้มีพระคุณ


“ระวังหน่อยสิ หิ้วอะไรมาเยอะแยะขนาดนี้
ทำไมไม่เรียกคนอื่นให้ช่วยล่ะ
ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องยก เกิดเจ็บตัวขึ้นมาจะทำยังไง”

ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากไอ้ตัวชอบเสือกเจ้าเก่า
ใบหน้าคมขมวดคิ้วดุ รีบดึงถังน้ำไปถือไว้แทน
ปากก็บ่นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“มานี่ เดี๋ยวช่วย ไปพักทางนู้นไป
อยู่ตรงนี้เดี๋ยวจะเกะกะเปล่าๆ”


...คำว่า ‘เกะกะ’ ตกกระทบลงกลางใจของคนฟัง


เออ...ใช่ซี้ กูมันไม่ใช่พวกวิศวะ
เป็นแค่ปลิงเกาะดูดหวังเอาคะแนนเฉย ๆ
แต่มันไม่ได้หมายความว่ากูจะไม่ทำอะไรเลยนะเว้ยย!!


“ไม่ต้องช่วย แค่นี้เราทำเองได้
ไม่อยากเป็นภาระให้ใคร”


ปลายฟ้าพูดเสียงเย็น ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหลีกไปอีกทาง
ไม่ทันที่นายคมสันจะอ้าปากตอบว่าอะไร
ร่างสูงใหญ่จึงทำได้แค่เพียงยืนงงกับท่าทีของอีกฝ่าย


...เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนคนนี้โมโห


ทุกทีเห็นเงียบ ๆ แล้วก็ชอบจ้องเขาเฉย ๆ
แต่คราวนี้กลับพูดด้วยคำที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ
แล้วเขาไปทำอะไรให้โกรธกันตอนไหน

ก็บังเอิญผ่านมาพอดี
เห็นว่าเดินถือของตั้งเยอะเลยกลัวว่าจะไม่ไหว
เมื่อกี๊ก็เกือบจะล้มไปทีนึงแล้วเลยอยากจะช่วย
ไม่ได้คิดว่าเป็นภาระเลยสักนิด

อีกอย่างวันนี้ก็เห็นวิ่งวุ่นไปมาทั้งวัน
ทำงานเหนื่อย ๆ  เลยอยากให้ไปพักบ้างก็เท่านั้น
ที่เหลือเดี๋ยวเขาจัดการเองได้
แล้วนี่ตกลงเขาทำผิดเรื่องอะไรกัน?


...ไม่เห็นจะเข้าใจเลย



นายคมสันได้แต่คิดในใจอย่างสับสน
ทว่าคราวนี้กลับเป็นฝ่ายเขา
ที่ไม่มีโอกาสได้อธิบายความคิดของตัวเองให้อีกคนได้ฟัง


...แม้เพียงนิดเดียว



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------


TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 03-11-2012 17:28:41
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-11-2012 17:44:46
เข้าใจผิดกันซะงั้น :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 03-11-2012 18:00:52
เต่าปลายเกือบไปแล้ว  ดีแล้วแหละที่ได้นายคมจิตอาสาคอยช่วย


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 03-11-2012 18:12:18
นานาจิตตัง  เกิดความเข้าใจผิดจนได้

 :เฮ้อ:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 03-11-2012 18:33:41
ท่าจะเหนื่อย :เฮ้อ:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-11-2012 20:04:48
หว่า แล้วจะเข้าใจกันมั้ยเนี่ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 03-11-2012 20:14:41
ใกล้จะเป็นสะเดากะข้าวโพดต้มหรือยังอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 03-11-2012 20:41:59
เวรของกรรม
เพิ่งวันแรกก็โกรธพระเอกจิตอาสาเค้าซะและ
กว่าจะจบค่ายไม่ตีกันตายเรอะพ่อคู้นน
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 02/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-11-2012 21:11:01
จูบเลย !!


 :laugh3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-11-2012 22:55:28
พ่อเต่าน้อยใจเย็นๆ นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 >; P.50
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-11-2012 10:03:29
ซะงั้น เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 04-11-2012 12:08:29
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 04-11-2012 12:59:26
 :z10: :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 04-11-2012 13:51:08
ชอบมากเลยครับ คนแต่งมีพัฒนาการดีจัง
เรื่องแรกว่าสนุกแล้ว เรื่องต่อๆมาสนุกกว่าอีก
รออ่านซีรีย์เรื่องล่าสุดจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 04-11-2012 14:26:10
โอ่ยยยยยยย  พ่อแง่แม่งอนกันแบบนี้เมื่อไรจะเข้าใจกันนนนน


แล้วน้องปลาย ตัวเองก็เป็นบัดดี้เค้านะ  อย่าลืมสิ
น้องคมก็เหมือนกัน พูดจาไม่เคลียร์ ดูสิเข้าใจผิดกันไปหมดเลย


เข้าใจผิดกันไป เข้าใจผิดกันมาแบบนี้ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย
ค่ายจิตอาสาจะกลายเป็นค่าย จิตไม่อาสาแล้วปะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 05-11-2012 10:35:29
10 วันนี้น้องปรายเป็นบัดดี้นายคมนะ...ต้องคอยดูแลสิ อย่าชวนทะเลาะกานนนน 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-11-2012 10:50:14
กว่าจะจบค่ายคงไม่ตีกันไปก่อนนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 05-11-2012 10:56:24
ข้าวโพดต้มเริ่มร้อนแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 05-11-2012 12:29:44
เราต้องทำให้เห็นค่ะ ว่าเราตั้งใจจริงที่จะช่วยงาน  :fire:
อย่าไปสนใจพวกปากไม่ดี  :angry2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-11-2012 14:09:17
ไม่เข้าใจกันสักทีนะ แล้วอีกนานไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 6] 03/11/55 > P.50
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-11-2012 17:21:41
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 06-11-2012 20:52:44
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 7



...ไม่อาบน้ำกันรึไงวะ


ปลายฟ้าขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเห็นว่า
แถวยาวเหยียดที่เคยต่อคิวอยู่หน้าห้องน้ำเมื่อวาน
กลับหดเหลือสั้นลงเพียงไม่กี่คน
ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นเวลาค่ำมากแล้ว

“นั่นสิ เป็นผู้ชายอาร๊ายยยไม่รักษาความสะอาด
ถึงชั้นจะชอบแบบแมน ๆ ก็เถอะ แต่ให้ซกมกมาก ๆ
ก็รับไม่ได้เหมือนกันเนอะ เต่าน้อยว่ามั้ย?”

บอลล่าพูดบ่นขณะที่เดินนวยนาดออกมาจากห้องน้ำ
เตรียมกลับไปยังเต็นท์พร้อมเขา
คนฟังพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วย
ยิ่งพวกเด็กวิศวะที่ไปช่วยก่อสร้างกลับไม่เจอเลยสักคน
ไอ้เขารึก็อยากจะให้ไอ้เกมส์ชี้หน้าให้ดูหน่อยว่า
คนที่พูดนินทาเด็กเภสัชเสีย ๆ หาย ๆ มันเป็นใครกัน

ตอนนี้ทั้งเขาและเกมส์ยังไม่กล้าบอกเพื่อน ๆ ที่เหลือ
ด้วยกลัวว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งถ้าเกิดบอลล่าได้ฟัง
มีหวังแม่คงปรี๊ดแตกไปชวนท้าตบกับเจ้าถิ่นเอาแน่ ๆ
ด้วยเหตุนี้แม่หญิงงามประจำกลุ่มจึงยังคงทำท่าดี๊ด๊า
ลิ่วตาชวนก่อร่อก่อติกกับบรรดาหนุ่มต่างคณะได้เรื่อย ๆ
โดยเฉพาะกับหนุ่มหล่อสไตล์เกาหลีที่เพิ่งเดินผ่านมาพอดี


“อ้าว...ดิวไปไหนมาคะเนี่ย
วันนี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเลยนะ
บอลล่าล่ะคิดถึ๊งงงคิดถึงง”

...หยอดได้เป็นหยอดล่ะครับงานนี้
เจ๊บอลล่าจัดการเกี้ยวหนุ่มตามธรรมเนียม
ซึ่งอีกคนก็ยิ้มตอบกลับมาง่าย ๆ โดยไม่รู้ชะตากรรม

“อ๋อ ผมไปอาบน้ำมาครับ”

“เอ๊ะ? ไปอาบน้ำ?
ที่ไหนคะ ตรงนู้นมีที่อาบด้วยเหรอ”

เสียงหวานกึ่งแมนเอ่ยถามอย่างงง ๆ
เช่นเดียวกับปลายฟ้าที่ขมวดคิ้วสงสัยไม่แพ้กัน

“มีครับ เลยโค้งข้างหน้าไปหน่อยจะมีวัดอยู่
ผมเลยไปขอพระท่านอาบ
เพราะเมื่อวานเห็นคนเยอะ จะให้รอก็คงไม่ไหว
เลยต้องให้บางส่วนแยก ๆ กันไป”

“อ๋อ....แบบนี้นี่เอง งั้นพรุ่งนี้บอลล่าไปอาบที่นู้นด้วยดีกว่า
คนที่เหลือจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน”

คนฟังเหล่ตามองเพื่อนข้างตัว
...ดูปุ๊บก็รู้ว่ามีแผนแน่ ๆ ครับ
ตาเป็นประกายวิบวับขนาดนั้น
สงสัยคงตั้งใจไปดักหนุ่มในที่ใหม่ชัวร์ป๊าบ


“งั้นผมขอตัวไปเก็บของก่อนนะ
เออ.. จริงด้วย อากาศตอนเย็นมันหนาว
อย่าลืมห่มผ้าหนาๆ หน่อยนะครับ
ถ้าไม่มีมาขอพวกผมเอาก็ได้ กลัวเป็นหวัดกัน”


“ไม่ต้องห่วงค๊า ดิวเองก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ”


“งั้นก็เจอกันพรุ่งนี้นะครับ บอลล่า
เออ... แล้วก็....”

ร่างสูงหยุดประโยคทิ้งท้าย
ก่อนหันมาหาคนที่ยังยืนนิ่งไร้บทสนทนา
ริมฝีปากได้รูปคลี่รอยยิ้มบาง ๆ
พร้อมกับเอ่ยประโยคด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม


“ฝันดีนะครับ ปลายฟ้า”


คนถูกทักแอบสะดุ้ง เงยหน้ามองสบกับนัยน์ตาของอีกฝ่าย
ซึ่งทอประกายแปลก ๆ จนทำให้ต้องเผลอตอบรับตะกุกตะกัก


“อ่ะ คะ..ครับ ฝันดีเหมือนกันครับ”


ใบหน้าหล่อยิ้มให้อีกครั้ง แล้วจึงเดินหลบไปอีกทาง
ทิ้งให้คนที่เพิ่งได้รับคำอวยพรก่อนนอนยืนงงอยู่ตรงนั้น


...อะไรวะ?
เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเจอผู้ชายบอกว่า ‘ฝันดีนะ’ เนี่ยแหละ
แถมมันยังทำเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างกับจีบสาว
เฮ้ย อย่าบอกนะว่า...


“แหนะ! คิดจะทำแต้มเหรอยะ พ่อเต่าน้อย
เดี๋ยวนี้ชักร้ายนะเรา... ว่าแต่คนนี้ชั้นจองแล้วนะ
แต่ถ้าอยากได้ก็บอกกันล่วงหน้าด้วยล่ะ...
ไม่ต้องกลัว...เพราะชั้นถือคติกฎกระเทยเหล็กข้อที่สี่
...กระเทยที่ดีจะไม่แย้งผู้ชายของเพื่อน”


น่าน... โดนจนได้ คิดไม่ทันขาดคำ
คนที่อยู่ด้วยกันกลับกระทุ้งไหล่หยอกพร้อมเอ่ยคำแซว
จนเขาต้องรีบร้องโวยวายแก้ตัวพัลวัน

“เฮ้ย! อะไรกันบอลล่าก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นเกย์”


“ย่ะ! ให้มันจริงเถอะเพื่อนสาว คิกคิก”

ร่างบางหัวเราะอย่างมีเล่ห์นัย
ชวนให้ปลายฟ้าทำหน้าเซ็งกับพลังช่างจินตนาการล้นเหลือของคนชอบแหย่
กระนั้นลึก ๆ ก็อดที่จะแอบคิดตามเสียไม่ได้


...หรือว่าคุณรองประธานค่ายเป็นจะเป็นเกย์
หล่อ ๆ แบบนั้นเนี่ยนะ! แต่ก็อย่างว่า....
ผู้ชายสมัยนี้ดูไม่ค่อยออกเสียด้วย
หรือบางทีมันอาจเป็นนิสัยปกติของดิวอยู่แล้วก็ได้ที่ชอบพูดแบบนั้น
เขาเองก็ไม่อยากเดาฟุ้งซ่านไปไกลว่าอีกฝ่ายตั้งใจจะทำอะไร
ขอภาวนาอย่างเดียวคือ อย่าให้เป็นแบบที่บอลล่ามันพูดแล้วกัน
ลองนึกภาพ ถ้ามีผู้ชายมาดแมนอย่างดิวมาจีบแทนที่จะเป็นสาวสวยหมวยอึ้ม

อึ้ยยย....แค่คิดก็ขนลุกขึ้นมาบอกไม่ถูกแล้วครับ



ปลายฟ้าพยายามหยุดภาพสยองในใจ พลางเร่งเดินกลับมาจนถึงที่พัก
บอลล่าแยกเอาผ้าไปตาก ส่วนเขากำลังจะเอาของไปเก็บในเต็นท์
ทว่ายังไม่ทันได้เข้าไป บางสิ่งที่แขวนอยู่ตรงด้านหน้าเสาเต็นท์
กลับเด่นสะดุดตาจนต้องเดินเข้าไปมองใกล้ ๆ


“อะไรวะเนี่ย”

ความสงสัยถูกกลั่นออกมาเป็นคำถาม
เขาเอื้อมมือหยิบของสิ่งนั้นออกมา

...ถุงพลาสติก
และไม่ใช่ถุงพลาสติกธรรมดา
แต่ภายในดันบรรจุยอดต้นไม้สีเขียวมากำใหญ่
เขาก้มลงพิจารณาอาศัยแสงไฟลาง ๆ จากด้านนอก
สะท้อนให้เห็นตัวอักษรที่เขียนด้วยปากกาเมจิกบนตัวถุง


‘ปลายฟ้า’


อ้าว...นี่มันชื่อเขานี่หว่า
แล้วทำไมถึงมีชื่อเขาอยู่บนถุงได้
แถมไอ้ต้นไม้นี่...
ให้มองซ้ายมองขวายังไงก็ดูเหมือนต้นหญ้าชัด ๆ


“ใครเอาหญ้ามาแขวนไว้ตรงนี้วะ”

คนสงสัยหันไปตะโกนถามอย่างมึนงง
พอดีกับที่ไอ้เกมส์เพิ่งเดินมาถึงเต๊นท์
เลยตรงปรี่เข้ามาอย่างสนอกสนใจ

“ไหนอะไร ดูดิ”

มันร้องบอกพลางดึงถุงเอาไปส่องกับไฟให้เห็นชัด ๆ อีกที
ก่อนจะหันมาทำหน้าระอาใส่เมื่อรู้แจ้งเห็นจริงว่าของในมือคืออะไร
แล้วเฉลยคำตอบให้คนไร้เดียงสาได้แก้ไขความเข้าใจเสียใหม่

“มันใช่หญ้าที่ไหนล่ะวะไอ้ปลาย
ไอ้เนี่ยเขาเรียกว่า ‘ยอดสะเดา’ ต่างหาก
มึงไม่รู้จักเหรอวะ?”


“ไม่อ่ะ ไม่เห็นเคยได้ยิน”

คนถูกถามส่ายหน้าปฏิเสธ
หัวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างมึนงงมากกว่าเก่า


...ยอดสะเดา?
มันคือผักอะไรวะ
เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน


“เออกูลืมไปมึงมันไอ้ลูกคุณหนู
ลองกินดูหน่อยมั้ยล่ะ อร่อยนะเว้ย
อ่ะ... อ้าปาก เดี๋ยวกูป้อนให้”

คนชวนเด็ดยอดอ่อนมาให้ต้นหนึ่ง
พลางทำท่าจะยัดใส่ปากเขาจนต้องรีบร้องห้าม

“ไม่ต้องเลย กูกินเองได้”

ปลายฟ้าดึงถุงจากไอ้เกมส์มาถือไว้เองป้องกันการโดนลอบทำร้าย
ดวงตากลมก้มมองยอดสะเดากำใหญ่อย่างสนใจอีกครั้ง
ก่อนหัวสมองจนหมุนวนคิดไปตามนิสัย


...ดู ๆ ไปมันก็เหมือนยอดใบไม้ธรรมดา ๆ
ไม่น่าเชื่อว่าจะเก็บมากินได้
คนเรานี่ก็ช่างสรรหาของกินรอบตัวดีเนอะ

เออ...แล้วเขาจะต้องกินจากตรงไหนดีวะ
กินได้ทั้งใบ ทั้งดอก หรือจะเอาแค่เฉพาะตรงต้นมันดี
มืด ๆ แบบนี้มองไม่ค่อยเห็นความแตกต่างของสีเลย
ถ้าสีเข้มมันจะแก่หน่อยใช่มั้ย
แล้วตกลงมันต้องกินไอ้ที่อ่อน ๆ หรือว่าตรงที่แก่ ๆ กันแน่วะ

เออ...ถามไอ้เกมส์มันดูอีกทีดีมั้ยนะ


คนลังเลตั้งใจจะอ้าปากถามเพื่อน
แต่ทันทีที่เงยหน้าขึ้นกลับจ่ะเอ๋กับสายตาของอีกฝ่ายจ้องที่มองอยู่ก่อนแล้ว
มิหนำซ้ำมันยังแสดงสีหน้าท่าทางมีพิรุธเหมือนว่าจะลุ้น ๆ อะไรสักอย่าง
ไม่เฉพาะแค่ไอ้เกมส์ แม้แต่เพื่อนคนอื่นๆ ในกลุ่มก็มีเหลือบมอง
จนเขาต้องถามย้ำด้วยความระแวง

“ทำไมจ้องกูอย่างงั้นกันอ่ะ
ไอ้นี่มันกินสด ๆ ได้ใช่มั้ย
กินแล้วไม่เป็นไรแน่นะ”

ไอ้เกมส์รีบทำทีเป็นกลบเกลื่อนพยักหน้าหงึกหงัก
ตบไหล่เขาดังป๊าบ ร้องบอกสนับสนุนเต็มที่

“ได้ดิ มันก็เหมือนผักนั่นแหละ กิน ๆ ไปเหอะ
ลูกคุณหนูอย่างมึงหัดอยู่กับธรรมชาติบ้าง”

แม้จะยังคงสงสัยระแวงอยู่ในใจ
แต่ความอยากรู้กลับมีมากกว่า
สุดท้าย คนช่างเลือกจึงตัดสินใจ
เด็ดเอายอดสะเดายาวเท่านิ้วก้อยมาถือไว้

...อาจจะจริง แค่ผักจะคิดไรมาก


นายปลายฟ้าจึงหยิบของในมือเข้าปากจัดการเคี้ยวให้ออกรส
ทว่าแค่เสี้ยววินาทีที่แตะลิ้น ดวงตากลมกลับเบิกโพล่ง
ก่อนรีบคายสิ่งทีอยู่ในปากทิ้งลงพื้นทันทีพร้อมคำสบถดังลั่น


“เชี่ยยยย!! ขม! ขม! ขมโว้ยยย!!
ผักอะไรวะขมโคตร!!
ถุย!... แหวะ!! จะอ้วกกก!!”


คนโดนแกล้งพยายามถ่มน้ำลายลงกับพื้นให้รสในปากจางหาย
ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคนในกลุ่มที่เหมือนว่าจะรู้ฤทธิ์ของยอดสะเดาดีอยู่แล้ว
โดยเฉพาะไอ้เกมส์....
ไอ้เพื่อนชั่ว! เพื่อนทรยศ! เสือกมาหลอกกันได้
แถมยังมีหน้ามากวนตีนถามกลับ

“เป็นไงอร่อยป่ะ?”


“เออ...อร่อย...อร่อยมาก...อร่อยจนต้องดึงลิ้นออกมาเช็ดเลยแม่ง!”

ปลายฟ้าทำหน้าพะอืดพะอมไม่หาย
น้ำตาลูกผู้ชายเอ่อคลอขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
แต่ยังไม่วายถามกลับ

“แล้วตกลงใครมันเอาไอ้ผักขม ๆ
มาแขวนไว้ตรงหน้าเต็นท์กันแน่วะ
แถมมีชื่อกูเขียนไว้ที่ถุงด้วย”


“หรือว่าเป็นของฝากจากบัดเดอร์”

ไอ้แว่นพูดเดาคำตอบสมกับเป็นหัวสมองประจำกลุ่ม
แต่ข้อสันนิษฐานของมันกลับทำให้คนได้รับร้องโวยวาย

“บัดเดอร์บ้านใครเอาไอ้ต้นนรกเป็นกำ ๆ มาให้กันบ้าง
มันคิดจะแกล้งกูอ่ะดิ บ้ารึเปล่า!”


“อุ๊ย! อย่าได้ดูถูกนะยะ ยอดสะเดาเค้ามีสรรพคุณทางยาจะตาย
มีทั้งเบต้าแคโรทีน ช่วยแก้ร้อนใน ละลายเสมหะได้ด้วย
ที่สำคัญเอามาจิ้มกินกับน้ำปลาหวาน แกล้มด้วยปลาย่างนะ
อูยยยย....ขอบอกอย่างแซ่บ!!”

บอลล่าสาธยายไป พลางสูดน้ำลายมองยอดสะเดาอย่างเปรี้ยวปาก
ตรงข้ามกับคนได้รับซึ่งมองมันด้วยความขยะแยงเหมือนต้นยาพิษ

“งั้นก็ช่วยเอาอะไรที่มันธรรมดา ๆ มาให้หน่อยไม่ดีกว่าเหรอไง”


“มึงอย่าเรื่องมากดิวะ อยู่บนป่าบนดอยแบบนี้
มีของมาเทคให้ก็บุญแล้ว
ว่าแต่... พวกมึงจับได้ใครบ้างอ่ะ
บอกกูมาหน่อยดิ กูอยากรู้....”

ไอ้เกมส์พูดกระซิบกระซาบทำหน้าวอนขอเต็มที่
ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนรีบทำเป็นเมิน
ต่างหันไปจัดการธุระของตัวเองต่อโดยไม่มีใครปริปากคุยใด ๆ

...ก็แน่อยู่แล้วใครมันจะบอกกันเล่า!


สุดท้ายพวกเขาเลยสลายวง
มุดหัวเข้าไปในเต็นท์เตรียมนอนเก็บพลังงานเอาแรง
เพื่อรับศึกใหม่ที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้


....นับเป็นอันจบวันที่สองของพวกเราชาวค่ายวิศวะอาสา


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



วันที่สาม...


เริ่มต้นวันใหม่กันด้วยการถูกปลุกจากกลุ่มสันทนาการ
เพื่อนำทัพออกกำลังกายตอนเช้า

ปลายฟ้าไม่ได้ไปออกกำลังอะไรกับเขาหรอก
เพราะต้องรีบวิ่งไปเป็นกรรมกรแบกหามช่วยทำกับข้าวมื้อเช้าเสียก่อน
ยอดสะเดาที่ได้มาเมื่อคืน ถูกบอลล่ารีเควสทำน้ำปลาหวานไปเรียบร้อยแล้ว
แถมยังบ่นเสียดายที่ไม่มีปลาเผามาเป็นกับเคืองเคียงด้วย
เขาไม่เห็นจะเข้าใจเลยว่าไอ้ผักขม ๆ นั่นมันอร่อยตรงไหน

...แค่ลองทีเดียว ก็ขยาดไปทั้งชีวิตแล้วครับ


พอจัดการให้ชาวค่ายกินข้าวกันอิ่มหนำสำราญ
ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ใครหน้าที่มัน

หลังจากที่โดนพวกหน่วยก่อสร้างเขม่นเอาเมื่อวาน
เขาก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวในบริเวณนั้นให้เป็นเรื่อง
จึงปลีกตัวมาช่วยฝ่ายวิชาการ ซึ่งมีบรรดาเพื่อนของเขาดูแลอยู่

ลักษณะการเรียนการสอนของที่นี่
อย่าได้ถามถึงแท๊ปลง แท๊ปเล็ตครับ
เพราะแค่หนังสือเรียนยังยาก...
ต้องใช้กันซ้ำ ๆ จนเปื่อยแล้วเปื่อยอีก
ยิ่งเห็นสภาพห้องเรียนของน้อง ๆ ที่เป็นห้องเล็ก ๆ 
มีนักเรียนอยู่ไม่ถึงสี่สิบคนทั้งเด็กเล็กและเด็กโต
ก็ยิ่งรู้สึกอยากช่วยเหลือน้อง ๆ มากขึ้นไปอีก

เขาจึงพยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในการช่วยสอนและทำกิจกรรมให้น้อง ๆ อย่างดีที่สุด
เพราะในเมื่อเขามีโอกาสที่ดีกว่าจึงอยากจะแบ่งปันให้ได้มากเท่าที่ทำได้


ถึงกระนั้นรองหัวหน้าสวัสดิการอย่างปลายฟ้าก็ไม่ลืมหน้าที่
พอตกเย็นก็เตรียมหิ้วน้ำและเจลแก้ปวดเมื่อยทั้งหลาย
ไปเตรียมนวดคลายเส้นให้พวกใช้แรงงาน
ซึ่งนั่งพักกองหมดแรงอยู่ที่อาคารเอนกประสงค์

...มองจากสภาพแล้วคงจะเหนื่อยหนักมาทั้งวัน
ขนาดเมื่อวานนวดคลายกล้ามเนื้อไปให้บ้างแล้ว
แต่ก็ยังมีบางคนที่ดูเหมือนจะใช้แรงหนักจนเกิดอาการอักเสบขึ้นมา
ไม่อยากจะคิดเลยว่างานมันจะโหดขนาดไหน



“เดี๋ยวพวกคนที่วัดแบบ พักเสร็จแล้วมาคุยกันตรงนี้หน่อย
แล้วพรุ่งนี้ให้ใครไปสั่งเหล็ก 3 หุนสี่สิบเส้น
กับปูนก่ออีกตันหนึ่งมาจากข้างล่างแต่เช้าด้วย
เหฯ อยู่ไหนวะ? ไอ้บีม อย่าลืมดูแลงบให้เรียบร้อยนะ”

เสียงพูดสั่งงานล่งเหล่งเรียกความสนใจจากปลายฟ้าซึ่งกำลังเก็บกระปุกยาให้เข้าที่
แน่นอนว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้ประธานหน้าเถื่อน
ที่ทำท่าวางอำนาจซะใหญ่โตเดินคุมลูกค่ายไม่มีหยุด


..โหดไม่โหดก็ดูจากหัวหน่วยเนี่ยแหละ
ขนาดพักยังไม่มีเวลาให้เลย
ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่ไม่ได้อยู่หน่วยนี้
แต่ขืนทำตัวไม่ได้เรื่องเดี๋ยวพวกวิศวะมันจะหาว่าอ่อนเข้าพอดี
คดีที่ค้างคากันไว้ใช่จะลืมกันง่าย ๆ ซะเมื่อไร
เห็นแล้วก็แอบพาลหมั้นไส้ขึ้นมาตงิด ๆ


เออ...ว่าแต่นิ้วโป้งมันมีอะไรแดงๆ วะ


ดะ...เดี๋ยวก่อน



นั่นมัน....



....เลือด ใช่รึเปล่า?


คำถามที่เกิดขึ้นในใจทำให้คนสงสัยต้องเพ่งมองดี ๆ ให้มั่นใจอีกครั้ง


...ใช่ เลือดแน่ ๆ แล้วไม่ก็ได้น้อย ๆ ด้วย
เพราะมันค่อย ๆ ไหลผ่านง่ามนิ้วจนเริ่มหยดลงพื้นทีละหยด
แต่ดูเหมือนไอ้คนมีแผลจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย


ถึงจะไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากแค่ไหน
แต่เห็นกันตำตาแบบนี้จะให้ปล่อยผ่านเลยก็คงไม่ได้
คนที่มีวิญญาณเภสัชในตัวจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา



“นิ้วไปโดนอะไรมา”

คมสันสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงเรียกทัก
ก่อนจะแปลกใจทันทีที่หันหลังมาพบว่าคนนั้นพูดเป็นใคร
แต่เมื่อดวงตาของอีกฝ่ายยังคงจับจ้องอยู่ที่มือซ้ายของเขา
จึงทำให้ร่างสูงต้องยกมือขึ้นมามอง

“หือ... อ๋อเนี่ยหรอ...
สงสัยโดนสังกะสีบาดมั้ง
ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวก็หาย”

เขาตอบกลับรู้ตัวอยู่แล้วว่าเลือดออก แต่ไม่ได้สนใจ
แผลแค่นี้เอาไปน้ำล้างสักหน่อยก็โอเคแล้ว
ทว่าคู่สนทนากลัยยังคงยืนนิ่ง แถมยังเอ่ยประโยคต่อเรียบ ๆ

“มาให้เราใส่ยาเถอะ”

คมสันประหลาดใจซ้ำสองกับท่าทีของคนตรงหน้า
กระนั้นเขาก็ยังเลือกตอบปัดปฏิเสธ


“ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง
เดี๋ยวเราต้องรีบไปคุยเรื่องแปลนก่อสร้างด้วย
ไปช่วยคนอื่นเถอะ”


“ก็กำลังช่วยอยู่นี่ไง บอกให้มาก็มาสิ!”


คราวนี้ไม่ใช่ความประหลาดใจ....
แต่เป็นความอึ้งสนิทที่คนซึ่งพูดน้อยจนนับครั้งได้กลับเป็นฝ่ายดุเขาเสียแทน
แถมยังบังคับลากเขาไปยังโต๊ะที่วางกระเป๋ายาเอาไว้
ก่อนจะจัดการใช้แอลกอฮอล์เช็ดแผลทำความสะอาด
ใส่ทิงเจอร์ไอโอดีนฆ่าเชื้อ
และปิดท้ายด้วยการใช้สำลีพันนิ้วโป้งไว้เพื่อกันเชื้อโรค
โดยมีร่างสูงนิ่งมองพิธีกรรมรักษาไปเงียบ ๆ ด้วยความไม่เข้าใจ


“เดี๋ยวก็ต้องอาบน้ำแล้วจะทำแผลไปทำไม”


เสียงบ่นพึมพำทำที่เผลอหลุดออกมา
ส่งผลให้ดวงตากลมเงยขึ้นมองเพียงแวบเดียว
ก่อนจะตามมาด้วยคำอธิบายเสียงเรียบ


“ถ้าสังกะสีมันมีสนิม แล้วเกิดติดเชื้อขึ้นมาจะทำยังไง
เอาแต่คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ ไม่สำคัญ ปล่อยไปก็ได้
แล้วถ้าต่อไปมันดันเกิดผลเสียใหญ่โตขึ้นมาทีหลัง
ถึงตอนนั้นจะให้แก้ไขอะไรก็คงลำบาก
จะมัวแต่รีบร้อน แล้วมองข้ามเรื่องพวกนี้ไปไม่ได้หรอกนะ”


...นับเป็นประโยคพูดคุยที่ยาวที่สุดเท่าที่คมสันได้ยินจากปากของคนคนนี้


ถ้อยคำเต็มไปด้วยเหตุผลคล้ายกับจะทั้งดุทั้งเตือนไปพร้อม ๆ กัน
ทำให้คมสันต้องนิ่งฟังอย่างคิดทบทวนอยู่อย่างนั้น


...นึกว่าจะเงียบเป็นอย่างเดียวเสียอีก
คิดแล้วก็แปลกเขาชอบบอกให้อีกคนระวัง
แต่ครั้งนี้กลับเป็นฝ่ายถูกสั่งให้คอยระวังเอง

ปลายฟ้านี่เป็นคนยังไงกันแน่นะ
มีอะไรให้ต้องประหลาดใจอยู่เรื่อยเลย
ถ้าไม่พูดก็คงไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วคิดยังไงอยู่
เมื่อวานอยู่ ๆ ก็โมโห
แต่วันนี้กลับเข้ามาช่วยเขาเสียอย่างนั้น
ตกลงเลยไม่รู้ว่าโกรธเรื่องอะไรกันแน่


นายคมสันตั้งใจจะย้อนความถาม
ทว่ายังไม่ทันที่เริ่มเสียงหนึ่งกลับตะโกนขึ้นดังขัด


“ไอ้ปลายยยย!! เอาเก้าอี้แถวนั้นมาให้ตัวดิ ตรงนี้ไม่มีที่วางแก้วแล้ว”


หัวหน้าหน่วยสวัสดิการร้องสั่งมาจากลานอีกฝั่ง
ทำให้เจ้าของชื่อรีบเก็บขวดยาลงกระเป๋า
แต่เมื่อหันมาจะยกเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินที่อยู่ข้างตัว
อีกคนกลับยกขึ้นมาแทนจนเขาต้องรีบเอ่ยปากห้าม


“อ่ะ... ไม่ต้อง เดี๋ยวเรายกเอง”


“...แค่อยากช่วย”


คำพูดที่ดังขึ้นสั้น ๆ มีอานุภาพมากพอให้คนฟังชะงัก
ดวงตาคมประสานกับนัยน์ตาของคนตรงข้ามตรง ๆ
ก่อนร่างสูงจะเอ่ยบอกสิ่งที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจ


“เรื่องเมื่อวานก็ด้วย เราเต็มใจทำให้
ที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าเป็นภาระเลยสักครั้ง”


คราวนี้ปลายฟ้ากลับเป็นฝ่ายนิ่งอึ้งกับข้อความที่ได้ยินบ้าง
ปล่อยให้คมสันลุกขึ้นเดินห่างออกไปเพื่อเอาเก้าอี้ไปให้แทน
โดยไม่มีคำขอบคุณใด ๆ ระหว่างกันเช่นเดียวกับที่ผ่านมา


...แค่อยากช่วย


ไอ้หน้าเถื่อนเนี่ยนะจะมาช่วยเขา
ก็แค่ชอบเสือกชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านมากกว่าไม่ใช่เหรอ


เออ... แล้วเขาเองล่ะ....
วันนี้ดันจะไปญาติดีกับมันทำไม
ไปทำแผลให้ แถมยังไปสั่งสอนมันอีกว่าให้คอยระวัง
ทั้งๆ  ที่จะทำเป็นไม่สนใจปล่อยมันให้เลือดไหลจนหมดตัวไปก็ได้แท้ ๆ


แบบนี้ใช่ที่เขาเรียกว่า....


...'แค่อยากช่วย' เหมือนกันรึเปล่า?



ไม่หรอก...ไม่ใช่หรอกมั้ง...

ก็นี่ไง....

...ก็เพราะมันเป็น ‘บัดดี้’ ของเขา

เขาก็เลยต้องคอยดูแลสิ


...ใช่ ๆ

ที่ช่วยเพราะมันเป็นบัดดี้ต่างหาก

แล้วอีกอย่างก็เป็นหน้าที่หน่วยสวัสดิการด้วย

ไม่ได้เกี่ยวเพราะอยากทำดีด้วยเลยสักหน่อย



ปลายฟ้าหาเหตุผลให้กับการกระทำอันสับสัน
ก่อนจะตัดสินใจเลือกสรุปไปยังข้อหลังอย่างลังเล


...โดยที่ลึก ๆ  แล้วแม้แต่ตัวเองก็ไม่อาจจะเข้าใจ



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 06-11-2012 20:58:44
ให้สะเดาเนี่ยนะ !!

ใครเป็นบัดเดอร์ของปลายเนี่ย คมรึเปล่า?  :m20:

 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-11-2012 20:59:32
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 06-11-2012 21:04:49
อยากกินสะเดาน้ำปลาหวานขึ้นมาทันที >_<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-11-2012 21:10:22
นายคมให้สะเดาหนูปลายรึเปล่าเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-11-2012 21:11:25
เริ่มมีไมตรีต่อกันบ้างแล้ว o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 06-11-2012 21:30:59
สะเดา กินกับอะไรก็อร่อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: Little_Duck ที่ 06-11-2012 21:52:31
แหม....หิวสะเดาน้ำปลาหวานกันเลยทีเดียววว พ่อเต่าน้อยน่ารัก ชอบอะคนแบบงึมงัมๆกับตัวเอง ฮ่าๆๆๆๆ
น่ารักดีๆ อยากเป็นเจ๊บอลล่า จะได้ไปกระแซะคนอื่นบ้าง ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 06-11-2012 22:06:12
ไอเดียเลิศมากให้สะเดาคนที่ชอบ  ว่าแต่จะเป็นดิว หรือคมน่ะ   เชียร์ดิวให้บอลล่า



  :L2: :pig4: คนเขียนค่ะ  รออ่านต้นต่อไป   

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 06-11-2012 22:14:31
อยากกินสะเดาอ่ะ  เฮ้อออ  หิว

ปลายฟ้าหาคำตอบให้ตัวเองได้เร็วๆนะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 06-11-2012 22:24:29
สะเดามาแล้วววววววววววววว
ตอนหน้าคุณคมต้องได้ข้าวโพดต้มจากคุณปลายแน่เลยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 06-11-2012 23:04:43
มีคนให้สะเดาปลายนี่ ไม่ใช่ปลายให้ข้าวโพดต้มกับคมนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 06-11-2012 23:12:31
ให้สะเดากันแล้ว......(มันขมจริงๆนะเราก็ไม่เคยเห็นความอร่อยของสะเดาเหมือนกัน  :o12:)
รอข้าวโพดต้มอยู่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-11-2012 23:27:04
ให้แต่สะเดา แล้วน้ำปลาหวานล่ะ?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 07-11-2012 01:06:03
เข้าใจความรู้สึกพ่อเต่าน้อยเลย
ทุกวันนี้เราก็ยังไม่กินสะเดานะ
มันขมมากอ่ะ

ลุ้นตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 07-11-2012 06:48:48
เริ่มสปาร์คกันนิดๆและ
แบบนี้ถือว่ามีการพัฒนานะคะคุณน้อง
 :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 >; P.51
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 07-11-2012 07:43:22
ขอบคุณ ^ ^*
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-11-2012 08:49:39
ว่าแต่ใครให้ยอดสะเดากับปลายฟ้าเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 07-11-2012 10:18:16
เริ่มดีแล้ว อิอิ

ยอดสะเดาได้กินแล้ว งั้นรอกินข้าวโพดต้ม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 07-11-2012 12:42:07
ค่อยค้นหาตัวเองทั้งสองคนเลยนะ ....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 07-11-2012 12:47:52
แอบขำตรงปลายฟ้าไม่รู้จักสะเดา 
คือเอาจริงๆ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อต้นสะเดาจากฟิคเรื่องนี้เหมือนกัน
เลยเหมือนขำตัวเองไปด้วยว่าทำไมไม่รู้จัก

เค้าเริ่มเปิดใจคุยกันแล้วใช่มั้ยคู่นี้
เปิดใจคุยกันเถอะ ต่างฝ่ายต่างคิดไปเองมันก็เท่านั้น  เนาะ...  มันก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยถ้าจะคิดอยู่คนเดียว
เพราะงั้นหันหน้ามามุ้งมิ้งกันเถอะจ้ะ  ฮ่าๆๆๆ

ว่าแต่ยอดสะเดาเนี่ย  ของใครนะ?  น้องคมหรือเปล่า?
ส่วนน้องดิวเนี่ย...  ชอบปลายฟ้าจริงๆ เหรอ  //จัดยัดให้บอลล่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 7] 06/11/55 > P.51
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 07-11-2012 13:01:57
เค้าเริ่มใจตรงกันละ อิอิ  :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 09-11-2012 08:27:00
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 8


ขณะนี้นายปลายฟ้ากำลังประสบปัญหาใหญ่หลวง
เป็นปัญหาซึ่งปรากฏมาในรูปของเด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบ
ใบหน้าจิ้มลิ้มเลอะเกรอะกรังไปด้วยขี้มูก ผมสั้นระใบหู
ดวงตากลมโตใสแจ๋วไร้เดียงสา ปากเงียบนิ่งตลอดเวลา
ดู ๆ ไปแล้วเหมือนเด็กหญิงชาวดอยธรรมดาธรรมด๊า
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ธรรมดาจนเขาต้องแทบยกกุมขมับนั่นก็คือ


....มือคู่น้อยกลับไม่ยอมปล่อยออกจากชายเสื้อยืดของเขา!



ปลายฟ้าเหลือบมองร่างเล็ก ๆ ข้างตัวอีกครั้ง
ก่อนถอนใจเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


...เรื่องของเรื่องคงต้องย้อนความกลับไปเมื่อช่วงสายของวันนี้
หลังจากที่เขาจัดการกับภารกิจของหน่วยสวัสดิการเรียบร้อยแล้ว
เลยตั้งใจไว้ว่าจะไปช่วยพวกหน่วยวิชาการเหมือนเช่นเคย
ทว่าขณะที่กำลังจะเดินผ่านหน้าห้องน้ำหูของเขากลับได้ยินเสียงบางอย่าง



“แงงงงง!!”


อ้าว...มันเสียงเด็กผู้หญิงไม่ใช่เหรอ
ทำไมมีน้องมาร้องไห้ดังลั่นอยู่ตรงนี้ได้วะ


คนสงสัยเดินหาตามต้นเสียงอย่างรีบเร่ง
ก่อนพบกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่งสะอื้นไห้จนตัวโยนอยู่หน้าห้องน้ำ
หัวเข่า แขนขา ถลอกปอกเปิกเลอะดิน
รองเท้ากระเด็นไปคนละทิศละทาง
จากสภาพถ้าให้เดาคงจะลื้นล้มตรงดินโคลนโดยไม่ทันระวัง

แม้ปลายฟ้าจะไม่ใช่นางงามรักเด็ก
แต่เห็นน้ำตานองหน้าแบบนี้ใครจะทนไหว
เขาจึงรีบถลาเข้าไปช่วยอุ้มลูบหลังปลอบ


“โอ๋ๆ ...ไม่เป็นไรนะครับ
ไม่ร้องนะ คนเก่ง...
....เจ็บนิดเดียวเดี๋ยวก็หายแล้ว
เดี๋ยวพี่ชายจะช่วยทำแผลให้นะครับ”


คนปลอบรีบใช้เสื้อยืดเช็ดโคลนที่เลอะเปรอะตามตัว
ก่อนสำรวจดูบาดแผลที่ได้รับจากร่างเล็ก
มีรอยถลอกตรงหัวเข่ากับแขนคล้ายเลือดออกจาง ๆ

เขาจึงอุ้มร่างที่ยังคงสะอื้นฮักจนน้ำตาเปียกหัวไหล่
ไม่ลืมคว้ารองเท้าคู่เล็กก่อนรีบตรงดิ่งกลับไปยังเต็นท์ที่พัก
เพื่อเอากล่องปฐมพยาบาลออกมารักษา
ปากก็ยังคงพยายามเอ่ยปลอบหลอกล่อให้คนเจ็บหยุดร้องไห้


“จุ๊ ๆ เงียบก่อนเร็ว...
พี่มียาวิเศษจะให้ดูด้วย
....นี่ไงเห็นมั้ย
ถ้าร้องไห้ยาวิเศษจะหมดฤทธิ์เร็วไม่รู้ด้วยนะ”


...ได้ผล

เด็กน้อยหยุดเสียงลงได้บ้างแม้น้ำตาจะยังคงไหลออกมาไม่ยอมเลิก
แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยประวิงเวลาให้ร่างเล็กอยู่ ๆ นิ่ง ๆ
เขาจึงการหยิบขวดแอลกอฮอล์ที่อ้างว่าเป็นยาวิเศษมาใช้เช็ดแผล
ก่อนใส่ยาแดงรักษา และปิดสำลีกันเชื้อโรคให้เรียบร้อย


“เดี๋ยวพี่จะร่ายมนต์ให้นะ
ยาวิเศษจะได้ออกฤทธิ์ทำให้หายเจ็บไว ๆ
เอานะ...
โอม มะลึกกึกกึ๊ย มะลึกกึกกึ๊ย มะลึกกึกกึ๊ยเพี้ยง!
โอม มะลึกกึกกึ๊ย มะลึกกึกกึ๊ย มะลึกกึกกึ๊ยเพี้ยง!
โอม มะลึกกึกกึ๊ย มะลึกกึกกึ๊ย มะลึกกึกกึ๊ยเพี้ยง!
โอมมมมม.....เพี้ยงงง!!”


ปลายฟ้ารู้สึกตัวเองจะใกล้เคียงกับพิธีกรรายการหลอกเด็กเข้าไปทุกที
เขาแปลงเพลงแม่มดน้อยที่เคยได้ยินสมัยละอ่อนมาร่ายเป็นมนต์
แล้วจบด้วยการเป่าลมฟู่ใหญ่ ๆ ทิ้งท้ายเพิ่มความขลัง


เอาว่ะ...ถึงมันจะดูปัญญาอ่อนไปหน่อย
แต่ยังไงน้องเค้าก็หยุดร้องไปได้ แถมยังทำตาโตสนอกสนใจ
เหมือนมนต์ที่เขาเสกจะช่วยปัดเป่าความเจ็บไปได้จริง ๆ


“เก่งมากเลยครับ เห็นมั้ย.... ไม่เจ็บเลยสักนิด
อ้าว... แล้วดูสิ... หน้าเลอะเทอะไปหมดแล้ว
เดี๋ยวไม่สวยนะ ...มาพี่เช็ดให้”


ปลายฟ้าคว้านหากระดาษทิชชู่ในกระเป๋ายา
มาช่วยซับใบหน้าที่ยังมอมแมมด้วยน้ำตาให้สะอาด
ก่อนจะอุ้มคนเจ็บเตรียมตัวเดินกลับไปส่งที่....


เออ... เดี๋ยวก่อนนะ...


...แล้วจะให้ไปส่งที่ไหนวะ?


ความสงสัยที่ผุดขึ้นทำให้คนกำลังเดินต้องชะงึกกึก
เหลือบมองร่างเล็กที่อุ้มอยู่ในมือ


...จำได้ว่าเมื่อวานที่เขาไปช่วยไอ้แว่นมันสอนน้อง ๆ
มีแต่เด็กโต ๆ ทั้งนั้น เด็กเล็กสุดอย่างน้อยก็สักเจ็ดแปดขวบ
แต่นี่น้องเขาคงเพิ่งจะห้าขวบได้มั้ง?
แถมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้วย


แล้วนี่...
น้องเขาเดินออกมาเข้าห้องน้ำคนเดียวได้ยังไง
ปกติต้องมีพี่ค่ายมาช่วยเดินส่งน้องแล้วรออยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ?
ทำไมถึงปล่อยให้คาดสายตามาได้ล่ะ
หรือว่าน้องจะไม่ได้เข้าเรียน?


คำถามมากมายที่เกิดขึ้นคงมีเพียงคนเดียว
ที่สามารถตอบเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้
เขาจึงวางเด็กน้อยให้นั่งลงกับเก้าอี้ข้างเต็นท์เมื่อครู่
แล้วหันมาเริ่มพูดคุยหาข้อมูล

“เออ... น้องครับ...
บอกพี่หน่อยได้มั้ยว่าน้องจะไปไหน
...พี่จะได้พาไปส่ง”


“.....................”



...เงียบ


มีเพียงความเงียบและดวงตากลมโตใสแจ๋วที่จ้องกลับมาเป็นคำตอบ


“เดี๋ยวพี่พาไปส่งไม่ถูกนะ
...บอกพี่ก่อนเร็ว
ใช่ตรงแถวห้องเรียนรึเปล่าครับ?”


“.....................”


ยังคงไร้การตอบสนองใด ๆ จากคู่สนทนา

...จะว่าน้องฟังภาษาไทยไม่ออกก็ไม่ใช่
หมู่บ้านนี้แม้จะอยู่บนดอยแต่ก็ยังเป็นคนไทย
แถมตอนที่เขาโม้เรื่องยาวิเศษเจ้าตัวยังตั้งใจฟังอยู่เลย


ปลายฟ้าเริ่มเหงื่อตกกับสถานการณ์ตรงหน้า
หรือว่าน้องเขาจะกลัวคนแปลกหน้าเลยไม่กล้าพูด

“เออ...งั้นเอางี้ น้องชื่ออะไรครับ
พี่ชื่อปลายฟ้านะ
...บอกชื่อน้องให้พี่ปลายรู้ได้มั้ยครับ?”


“......................”


“......................”



...เป็นปลายฟ้าที่เริ่มใบ้แดกบ้างแล้ว


ถามอะไรก็ไม่หือไม่อือสักคำ
เอาแต่นั่งนิ่ง แล้วจ้องมองเขาเงียบ ๆ อยู่อย่างนั้น
แบบนี้ขืนซักไซร้ต่อไปมีหวังเสียเวลาตายชัก


เฮ้อ... สงสัยต้องคิดเอาเองแล้วมั้งว่าจะเอายังไง
งั้นคงต้องเริ่มจากไปห้องเรียนก่อนล่ะกัน
เด็กนักเรียนมีไม่มากอาจจะยังพอมีคนรู้จักน้องบ้าง


คนตัดสินใจได้จึงอุ้มสาวน้อยเดินตรงไปสู่ชั้นเรียนในอาคารหลังเล็ก
ยิ่งเข้าไปใกล้... ก็ยิ่งได้ยินเสียงเด็กนักเรียนกำลังหัวเราะ
คงเป็นวิชาภาษาอังกฤษจากคุณครูบอลล่าและคุณครูแว่น
ซึ่งออกลีลาสอนอยู่หน้าชั้นเรียนอย่างสนุกสนาน

เขาจึงเดินเลี่ยงเข้าไปยังประตูด้านหลังเพราะไม่อยากรบกวนการสอน
แต่ก็ยังไม่วายมีเสียงไอ้เกมส์ตะโกนแซวขึ้นจากข้างห้องจนได้

“อ้าว...ไอ้ปลาย หายหัวไปแป๊บเดี๋ยว
อุ้มลูกมาซะแล้วเหรอ ไวไฟจริง ๆ เว้ย!”

คำทักเรียกให้คนทั้งห้องเหลียวมองผู้มาใหม่เป็นตาเดียว
เขาถึงกับสะดุ้งที่อยู่ ๆ กลายมาเป็นจุดสนใจกะทันหัน
ทว่าก็ยังคงพยายามเรียบเรียงคำเล่าสถานการณ์ให้คนอื่นฟัง

“...คือว่าน้องเขาล้มอยู่หน้าห้องน้ำเลยพาไปช่วยทำแผล
แต่ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบเลยต้องมาที่นี่
ไม่รู้ว่าในห้องนี้ มีใครพอจะรู้จักน้องเขาบ้างมั้ย?”

“หนูรู้ค่ะ”

เด็กผู้หญิงหน้ากลมเกลี้ยง คะเนอายุน่าจะอยู่สักป.ห้า ป.หก
เป็นคนยกมือตอบพร้อมกับพูดอธิบายเสียงเจื้อยแจ้ว

“น้องชื่อ ‘กานดา’ เป็นน้องข้างบ้านหนูเอง
ตอนเช้าเขาตามหนูมาโรงเรียน
แต่พอเข้าแถวเสร็จน้องก็หายไปไหนไม่รู้
หนูต้องเข้าชั้นเรียนเลยออกไปตามหาไม่ได้”

“แล้วที่บ้านน้องเขารู้เรื่องรึเปล่า”

ปลายฟ้าถามขึ้นอีกครั้ง เกิดพ่อแม่เขาไม่รู้เรื่อง
แล้วกำลังออกตามหาอยู่เดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

“อืม...น่าจะรู้นะคะ เพราะทุกคนได้ยินว่าที่โรงเรียนมีพี่ ๆ มาสอน”

คนตอบเอ่ยลังเลแต่แฝงด้วยน้ำเสียงมั่นใจ

...ก็อาจจะจริงอย่างที่ว่า
ถ้ามีเด็กหายพวกผู้ใหญ่ก็น่าจะมาถามหาแถวโรงเรียนก่อน
แต่นี่ไม่มีใครมาโวยวายอะไร
ไม่แน่ว่าพ่อแม่เขาอาจรู้อยู่แล้วก็ได้
เลยปล่อยน้องให้พี่ ๆ นักศึกษาคอยช่วยดูแลระหว่างที่ตัวเองไปทำงาน


“งั้นก็ฝากน้องเขาวันที่นี่วันหนึ่งล่ะกัน
แล้วเดี๋ยวตอนเย็นหนูช่วยพาน้องกลับไปบ้านทีนะคะ”

บอลล่าเอ่ยสรุปจบพลางเดินเข้ามาใกล้เด็กน้อยที่เพื่อนกำลังอุ้มอยู่

“อุ๊ย! น่ารักจัง มาเล่นกับพี่มา”

หญิงงามประจำกลุ่มยื่นมือบางออกไปรับร่างเล็ก
แต่แทนที่เจ้าตัวจะยอมปล่อยมือโดยดี
เด็กน้อยกลับพยายามขยับหนี
ซุกหน้าเข้ากับอกปลายฟ้าโดยมือเล็กยังคงกำเสื้อเขาไว้แน่น
ไม่ว่าจะบอลล่าจะพยายามหลอกล่อยังไงก็ไม่เป็นผล
มิหนำซ้ำยังเบะปากน้ำตาคลอทำท่าจะร้องไห้อีกด้วย

“อ๋อ...หนูลืมบอกไป น้องเขาค่อยไม่ชอบคนแปลกหน้านะคะ”

เสียงเด็กข้างบ้านเจ้าเดิมดังเป็นแบล็กกราวน์
อธิบายให้เพื่อน ๆ และนายปลายฟ้าเข้าใจ
ถึงสาเหตุที่ร่างเล็กดื้อดึงไม่ยอมไปกับใคร


อ้าวเดี๋ยว...


...แล้วเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าเหรอวะ!



“วู้ววว! ไอ้ปลายเนื้อหอมจนสาวติดเลยวะ ฮ่าๆๆ”

ไอ้เกมส์ยังคงรักษาความกวนได้เสมอต้นเสมอปลาย
ร้องแซวจนเรียกเสียงฮาจากคนทั้งห้อง
ลงท้ายบอลล่าจึงหมดความพยายาม
ปล่อยให้พ่อหนุ่มเนื้อหอมคอยดูแลร่างเล็กแต่เพียงผู้เดียว


...นี่คือสาเหตุที่ ‘นายปลายฟ้า’

ต้องมาติดแหง๊กกับ ‘เด็กหญิงกานดา’


กระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงวันก็ยังไม่ยอมหยุด
แม้ว่าเขาชักจะเมื่อยแขนจากการอุ้มจนต้องปล่อยให้น้องลงเดิน
แต่ร่างน้อยก็ยังคงใช้มือของตนเองกำชายเสื้อเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยชนิดไปไหนไปกัน
ไม่ว่าจะเดิน... จะนั่ง... จะยกจานไปวาง... จะถือกระติกน้ำหิ้วไปเสิร์ฟ...
น้องกานดาก็จะคอยเกาะอยู่ข้าง ๆ เหมือนกลัวหลง
จนเป็นที่สังเกตของชาวค่ายไม่น้อย โดยเฉพาะพวกผู้หญิง
ที่คอยมารุมถามพยายามเล่นกับน้อง ทว่าเจ้าตัวก็ยังไม่ปริปากพูด
แถมยังหลบไปแอบอยู่ด้านหลังของเขาเสียด้วยซ้ำ



“สงสัยน้องคงจะขี้อาย”

พี่อ้อมผู้ทดลองชวนน้องเล่นรายล่าสุดพูดเดาทิ้งท้าย
หลังจากเอาตำแหน่งหัวหน้าสันทนาการมาเป็นประกันแต่กลับไม่เป็นผล


“ทำอะไรกันอยู่เหรอครับ?”

เสียงเรียกทักดังขึ้นมาจากนอกวงของกลุ่ม
ก่อนหนุ่มหล่อเกาหลีประจำค่ายจะเดินเข้ามา
พร้อมกับหนุ่มหน้าโหดสุดประจำค่ายเช่นกัน

“อ๋อ... กำลังเล่นกับ ‘ลูกติด’ น้องปลายน่ะจ๊ะ”

พี่อ้อมตอบตลกไปขำ ๆ
แต่คนโดนยิงมุกกับเลิกคิ้วถามอย่างตกใจ

“ห่ะ...อะไรนะครับ!?  ลูกติด?”

สายตาของคนมาใหม่รีบมองไปทางเด็กหญิง
ที่ยังคงเกาะชายเสื้อของปลายฟ้าแน่นไม่ยอมปล่อย
ทว่าคนโดนปรักปรำกลับไม่ทันได้แก้ไขอธิบายอะไร
บอลล่าก็เป็นฝ่ายชิงเล่าขึ้นเสียก่อน

“คืออย่างนี้จ๊ะดิว...พ่อเต่าน้อยเนี่ย
เขาเห็นน้องล้มอยู่หน้าห้องน้ำเลยใจดีพาไปช่วยทำแผล
ที่นี่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าน้องเขาดันเกาะติดแจไม่ยอมปล่อย
ใครเข้าใกล้ก็ไม่ยอมเล่นด้วย
สงสัยจะเห็นว่าพ่อเต่าน้อยเป็นพระเอกขี่ม้าขาว
เลยยอมให้เข้าใกล้ได้อยู่คนเดียว”

เรื่องของบอลล่าดูดีกว่าคำว่าลูกติดขึ้นมาหน่อย
แต่ก็ยังไม่วายแต่งเติมหยอกเล่นกันสนุกสนานจนปลายฟ้าทำหน้าเซ็ง


....ไม่ใช่ว่าจะรำคาญอะไรน้องเขาหรอก
แต่ถ้าขืนอยู่ด้วยกันตลอดเขาจะทำงานอื่น ๆ ลำบาก
เดี๋ยวต้องวิ่งไปวิ่งมาคอยดูแลพวกชาวค่ายจิปาถะ
มีน้องกานดาไปด้วยงานมันจะช้าลง
แล้วไหนจะต้องคอยระวังไม่ให้น้องบาดเจ็บด้วย
สู้ให้น้องเขาอยู่กับพวกผู้หญิงคอยเล่นอะไรไปดีกว่า


“งั้นให้ปลายคอยดูแลน้องไปจนกว่าน้องจะกลับ
งานอื่นที่มันหนัก ๆ ก็วานให้คนอื่นช่วยทำไปแทนก่อนแล้วกัน”

ประธานค่ายที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตั้งแต่เมื่อครู่เอ่ยอนุญาตให้พักงานหลักชั่วคราว
เหมือนคล้ายจะได้ยินเสียงบ่นที่อยู่ในใจจนปลายฟ้าต้องหันไปมอง
ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงทำหน้านิ่งดูดิบเถื่อนเหมือนเดิมจนแทบจะเดาความคิดไม่ได้

ผิดกับอีกคนที่ย่อตัวลงมาเสมอกับเด็กน้อย
พลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง
ก่อนยื่นบางสิ่งไปให้ด้วยท่าทางใจดี

“อ่ะนี่... พี่ให้...”

ลูกอมซูกัสสีชมพูเม็ดเล็กถูกยื่นออกมาตรงหน้าร่างเล็กซึ่งยังคงแอบอยู่ข้างหลังเขา
แต่ครั้งนี้ดวงตากลมโตใสแจ๋วกลับมีท่าทางสนอกสนใจ
ใบหน้ากลมชะเง้อมองอย่างอยากรู้ ใช้เวลาเพียงชั่วครู่เหมือนเด็กน้อยกำลังลังเล
ท้ายที่สุดมือเล็กจึงยื่นออกมารับลูกอมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
พอรับเสร็จก็รีบวิ่งไปแอบอยู่ข้างหลังเขาเหมือนเดิม

ทว่าแค่นี้ก็นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้ว
หลังจากที่ใครหลายคนพยายามให้เด็กหญิงกานดาตอบสนอง
จนทั้งกลุ่มอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มให้กับการกระทำที่เพิ่งประสบผลเป็นครั้งแรก


....จริงอย่างที่เขาว่า


...เด็กกับขนมคงเป็นของคู่กัน


ปลายฟ้าเหลือบมองคนที่ยังดึงชายเสื้อเขาไว้ด้วยความเอ็นดู
ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงของคนตรงหน้า



“เออ...แล้วอันนี้ ผมให้ปลายฟ้านะ”



...ซูกัสสีชมพูอีกเม็ดถูกยื่นส่งมาให้


คนที่ได้รับกระพริบตามองอย่างงง ๆ
แต่ดิวก็ยังถือลูกอมค้างไว้พร้อมรอยยิ้มที่ดูเชื้อเชิญอย่างเป็นมิตร
จนเขาต้องหยิบของจากอีกฝ่ายพลางตอบกลับไปสั้น ๆ

“ขอบใจนะ”

ท่าทีแสดงออกนอกหน้าของคนสองคน
ทำเอาคนรอบข้างที่ยืนรออยู่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากกระเซ้าแหย่

“แหม...ให้แต่พ่อเต่าน้อยคนเดียว
ทีคนอื่นไม่เห็นมีบ้างเลย...
...บอลล่าน้อยใจนะคะเนี่ย”


“อ๋อ พอดีมีเหลืออยู่อีกเม็ดเดียวน่ะครับ”


“อ้าว...แล้วทำไมต้องให้เฉพาะปลายฟ้าล่ะคะ
เอ๊ะ! หรือว่าดิวจะเป็นบัดเดอร์ของพ่อเต่าน้อย”

เสียงหวานกึงแมนสันนิษฐานขึ้นมาลอย ๆ
แต่คนถูกถามกลับย้อนความกลับไปสั้น ๆ
ทว่าเล่นเอาทุกคนต้องหันมามองเป็นตาเดียว



“ถ้าใช่ล่ะครับ”



...เฮ้ย! 


ปลายฟ้ารีบหันขวับมองคนอ้างตัวเป็นบัดเดอร์ทันควัน


...เล่นบอกกันโต้ง ๆ ไม่มีกั๊กอย่างนี้เลยเหรอ
ไม่คิดจะเก็บไว้ให้เขาเดาแบบลุ้น ๆ บ้างสักนิดก็ยังดี
แต่... มันอาจจะจริงก็ได้...
เพราะคราวที่แล้วตอนเจอกัน
ดิวยังแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยเขามากเกินกว่าปกติเลย


“ว๊ายยยย!! จริงอ่ะ! เสียใจจัง
นึกว่าดิวจับได้บอลล่าเสียอีก แบบนี้ก็อดลุ้นเลยสิ
หว่า....คนสวยเซ็ง!”

บอลล่าเองก็คงคิดเหมือนกัน
นางจึงแสดงท่าทีผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน
ดิวเองแค่ยิ้ม ๆ ยังไม่ทันที่ใครจะตอบว่าอะไร
ประธานค่ายกลับเป็นฝ่ายพูดขึ้นตัดบท

“เดี๋ยวพวกเราไปทำงานต่อแล้ว”
ยังไงที่เหลือก็ฝากด้วยนะ”

ดวงตาคมมองตรงยังปลายฟ้า
ก่อนจะเลยมาที่เด็กน้อยซึ่งโผล่หน้ามาหน่อยหนึ่งจากด้านหลัง
แล้วสองหนุ่มวิศวะจึงพากันเดินห่างออกไป
ปล่อยให้ทั้งกลุ่มซุบซิบถึงเรื่องบัดเดอร์ที่เพิ่งเฉลยตัวออกมาตรง ๆ


ปลายฟ้าเองก็ยังนิ่งอึ้งมึนงงไม่หาย
แต่ชั่วขณะนั้นเขากลับรู้สึกถึงแรงกระตุกจากชายเสื้อจนต้องก้มลงมอง
จึงเห็นมือเล็ก ๆ ยื่นซองลูกอมมาให้

“หือ? ให้พี่แกะให้เหรอ?”

เขาเดาท่าทีของเด็กหญิง
แล้วย่อตัวลงไปแกะห่อพลาสติกออกให้
หูก็ได้ยินเสียงไอ้เกมส์พูดบ่น

“นึกว่าน้องจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ซะอีก
แต่พอรองประธานมาปุ๊บดันเล่นด้วยได้ง่าย ๆ เลยซะงั้น
ไอ้เรารึอุตส่าห์พยายามแทบตาย”

“ก็เพราะดิวเขาหล่อกว่าแกไงไอ้เกมส์
...ใช่มั้ยลูก? บอกมาเลยไม่ต้องกลัว....
พี่คนไหนเขาหล่อกว่า... คนนี้หรือคนนู้น...”

บอลล่าย่อตัวลงมาคุยกับเด็กน้อยบ้างพลางชี้ไม้ชี้มือถาม
จนคนโดนเอาชื่อไปเอี่ยวต้องร้องโวยวายเถียงดังลั่น

“อะไรวะ... พี่เกมส์หล่อกว่าเห็น ๆ เนอะน้องเนอะ
ทั้งเท่ห์ มาดแมน เป็นสุภาพบุรุษ มีน้ำใจขนาดนี้
โห...เอามาเทียบกันได้ไง ...ใช้ตาตุ่มมองเหรอเจ๊”
 

“แต่พี่ว่า ถ้าพูดถึงเรื่องความมีน้ำใจเนี่ย
ประธานค่ายเขากินขาดเลยนะ”

พี่อ้อมที่ร่วมวงคุยด้วยเสนอชื่อขึ้นมา
เรียกให้บอลล่าพยักหน้าหงึกหงักตาม

“อือ ๆ ใช่ๆ ถึงหน้าจะดูดุไปหน่อย
แต่ก็คอยช่วยลูกค่ายตลอด ยกโต๊ะบ้าง... เก็บเก้าอี้บ้าง...
บางวันชั้นยังเห็นเขาไปช่วยกวาดพื้นให้ด้วยเลย
ทำมันทุกหน้าที่... มีอะไรบอกประธานจัดให้
คะแนนรับผิดชอบดีเลิศ ...เอาไปเลยเต็มสิบ!”



...มีน้ำใจ


ปลายฟ้าสะดุดหูกับถ้อยคำที่ได้ฟัง
สิ่งนี้ตอกย้ำเรื่องเมื่อวานที่ใครบางคนพูด


....ใครบางคน

...ที่มีสถานะเป็น ‘บัดดี้’ ของตัวเอง


หรือมันแค่มีน้ำใจอยากจะช่วยจริง ๆ
ไม่ได้ตั้งใจมายุ่งเรื่องชาวบ้านแบบที่เขาชอบคิด

นึกถึงเมื่อวานตอนที่ทำแผลให้มัน
แม้จะพยายามหลอกตัวเองว่าเพราะมันเป็น ‘บัดดี้’
แต่เขารู้ว่าเขาก็แค่ทำหน้าตามที่
ไม่ได้มีอะไรปฏิบัติเป็นพิเศษเหมือนอย่างที่บัดเดอร์สมควรทำให้เขา

อย่างดิวเองก็ออกตัวแรงว่าเป็นบัดเดอร์เขาแล้ว
คอยดูแลเทคแคร์ไม่ปิดบังกันโต้ง ๆ
เขาสิยังไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้สมฐานะบัดเดอร์บ้างเลย

แล้วอย่างไอ้ระดับประธานค่ายมันจะรับความช่วยเหลือจากเขารึเปล่า?
แต่จะให้ช่วยมันทั้งที่ยังตะขิดตะขวงใจแปลกๆ ก็รู้สึกไม่ดี
จะหาโอกาสให้ของ อยู่บนป่าบนดอยแบบนี้จะให้หาอะไร
หรือจะให้ยอดสะเดา เหมือนที่เขาเคยได้....


...เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน...

แล้วตกลงดิวเป็นคนให้ยอดสะเดาเขาจริง ๆ เหรอ?
ลืมถามซะด้วยสิ...
ลุคแบบดิวไม่น่าให้ต้นไม้ประหลาด ๆ ได้เลย
...แค่ตั้งใจจะแกล้งเขาเล่น ๆ
หรือจริง ๆ แล้วอาจเป็นใครที่คิดอยากฝากให้เขา
เอายอดสะเดามาทำเป็นกับข้าวมื้อเช้ารึเปล่า?


โอยยยย....แม่งไม่รู้เว้ย!


ปลายฟ้ายกมือกุมขมับยิ่งนึกก็ยิ่งปวดหัว
จนได้แต่ถอนใจถึงปัญหาที่แก้ไม่ตก


เฮ้อ...ไม่น่าปล่อยให้พวกวิศวะมันคิดเลย


...เกมส์อะไรวะยุ่งยากจริง ๆ



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



คล้อยหลังจากกลุ่มของเด็กเภสัชไปไม่ไกล...
หนุ่มหล่อเดินผิวปากอย่างสบายอารมณ์มุ่งหน้ากลับไปยังที่ก่อสร้าง
ข้าง ๆ กันเป็นหนุ่มหน้าโหดประธานค่าย
ซึ่งสักพักคล้ายกับได้ยินเสียงแกรกกร๊าก
เหมือนแกะอะไรบางอย่างจนดวงตาคมต้องหันไปมอง
ก่อนพบว่าอีกฝ่ายกำลังล้วงหยิบลูกอมซูกัสสีเขียวขึ้นฉีกห่อออก

“ไหนบอกว่าเหลือแค่เม็ดสุดท้าย”

“ก็สีชมพูมันเม็ดสุดท้าย
ที่เหลือมันสีอื่นนี่หวา...
...เอาด้วยหน่อยมั้ย?”

ดิวแค่ยักไหล่ โยนซูกัสเข้าปาก บอกคำตอบอย่างไม่ใส่ใจ
แล้วจึงล้วงหยิบลูกอมหลายสียกเว้นสีชมพูขึ้นมาพูดชวน
ทว่าคมสันกลับส่ายหน้าปฏิเสธ พลางเอ่ยเปลี่ยนประเด็น

“พูดเฉลยออกไปตรง ๆ แบบนั้นจะดีเหรอ”

“อืม ก็นะ... บอกไปให้เจ้าตัวรู้ไปเลยดีกว่า
เวลาทำอะไรหลาย ๆ อย่างมันจะได้ง่ายขึ้นไง
แล้วมึงไม่เฉลยไปบ้างเหรอวะ
...ตกลงจับได้ใคร?”

คนตอบย้อนถามกลับ ดวงตาแวววับด้วยความเจ้าเล่ห์
ร่างสูงใหญ่ชะงักไปชั่วครู่ แต่ก็เพียงแค่นิดเดียว
ก่อนพูดตอบออกมาสั้น ๆ


“เดี๋ยวก็รู้เอง”


ดิวมองคนปากแข็งยิ้ม  ๆ

...รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ตายไอ้เพื่อนซี้ก็คงไม่บอกออกมาหรอก
แต่ตรงนี้แหละที่ทำให้มันน่าลุ้น



...ใครกันที่ถูกไอ้คนจิตอาสาจับได้

....แล้วใครกันที่เป็นคนจับได้มัน



หึ จะว่าไป...



...ไอ้เกมส์นี่มันก็สนุกไปอีกแบบดีจริง ๆ



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 09-11-2012 08:43:17
 :z13:
พี่คมจับได้ใครอ่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 09-11-2012 08:49:51
 :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-11-2012 09:07:42
ดิวมั่วนิ่มปะเนี่ย  บัดดี้ของปลายน่าจะเป็นพระเอกเราน้า

บวกเป็ด 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 09-11-2012 09:20:50
ปลายได้ลูกสาวมา 1 คน หาพ่อให้จิอิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 09-11-2012 09:33:59
ดิวจับได้ปลายจริงอ่ะ? ไม่น่าเชื่อ มั่วอ่ะป่าว

คุณประธานคะ จะนิ่งไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-11-2012 09:35:45
ดิวมั่วชัวร์

55555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 09-11-2012 09:55:32
อยากให้คมจับคู่กับปลายอ่ะ ไม่ค่อยชอบดิวเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 09-11-2012 11:14:41
 :serius2: ดิวเป็นบัดเดอร์เต่าน้อยได้ไง  แล้วคมจิตอาสาจับได้ใครอ่ะ :z3: อยากรู้   แต่ยังดีที่ปลายได้คมเป็นบัดดี้

 :o8: อยากให้หนูกานดาเป็นกามเทพน้อยให้เต่าปลายกับคมจังเลย


 :L2: :pig4: คนเขียน  รออ่านต้นต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 >; P.52
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-11-2012 12:28:25
ขอบคุณ ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 09-11-2012 12:42:09
ดิวขี้โม้ป่าวเนี่ย 

ดิวขี้โม้แน่ๆ เลย  เราว่าคมสันต้องจับได้ปลายฟ้าแน่ๆ เลย (คิดเออเออเอง)
แต่น้องปลายจับได้คมสัน ไม่เห็นจะทำอะไรให้สมกับเป็นบัดดี้เลยนะ

มัวแต่ทำอะไรอยู่เนี่ย  เดี๋ยวก็จะจบเข้าค่ายแล้วนะ
เราลุ้นจนเราเลิกลุ้นละ  ฮ่าาาาาา


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 09-11-2012 14:25:25
 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 09-11-2012 18:26:34
หนุกๆ แต่เรื่องนี้มันคืบหน้าช้าจัง ผ่านมาแปดตอนแล้ว
ดิวยังรุกหนักกว่าพ่อพระเอกอีกนา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 09-11-2012 18:29:23
ดิวแอบอ้างหรือเปล่า จะได้จีบน้องเต่าได้ถนัดๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-11-2012 19:07:21
ดิวมีเป้าหมายอะไรหรือเปล่า


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-11-2012 19:19:31
ดิวแค่แกล้งพูดใช่มั้ย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 09-11-2012 19:25:26
เราว่าดิวแกล้งตอบว่าเป็นบัดเดอร์ปลาย
เพื่อจะได้จีบปลายได้เต็มที่
แต่บัดเดอร์ตัวจริงคือคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 09-11-2012 21:12:04
ไม่ยอมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม


ดิวมั่วววววววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 09-11-2012 21:26:05
สนุกครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 09-11-2012 22:15:31
มารายงานตัวว่าเป็นคนอ่านใหม่ครับ ^^

เรื่องแรก พี่แทนหล่อเวอร์ โคตรดี ใครได้เป็นแฟนคงมีความสุขไปตลอด

เรื่องสอง น้องสาลี่ก็น่ารัก ชอบนายเอกขี้โวยวายเป็นทุนเดิม 555+
ว่าแต่คนเขียนรู้จักคณะสิ่งแวดล้อมฯ ด้วย หายากมากกกกกกกกกกก เด็กศาลายารึเปล่าครับเนี่ยะ เราจบคณะนี้มาแหละ

เรื่องสาม มึนมาก นิยายเรื่องนี้มึนทั้งเรื่อง 5555+
เป็นแฟนกันแบบมึน ๆ

เรื่องสี่ ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
รอติดตามตลอดนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 10-11-2012 00:10:21
คนอย่างรองประธานน่ะเหรอจะให้ "สะเดา"
หรือว่าดิวเป็นบัดเดอร์จริง แต่คมให้สะเดาไปเพราะเหตุผลส่วนตัว 5555555555
แต่เรื่องจริงคือ เต่าน้อยเป็นบัดเดอร์ของคมนี้แหละ เราไม่สนดิว เพราะซึนๆแบบเต่าน้อยไม่มีทางเข้าใจที่ดิวทำหรอก อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-11-2012 00:15:35
พี่คมไม่ได้คู่กับปลายฟ้าหรอกหรือ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 10-11-2012 00:46:44
แล้วพี่คมจับได้ใครอะ
คิดว่าจับได้ปลายซะอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 10-11-2012 17:35:10
เข้ามารอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 10-11-2012 17:38:40
เข้าใจนะถ้าอิพี่ดิวมันจะจับได้ปลายฟ้า(ถ้าเกิดมันไม่ได้โกหกอะนะ)
แบบคนมาตั้งเป็นร้อยๆคน โอกาสจับได้กันเอง จริงๆก็น้อยนะ
แค่เต่าจับได้ของควาย เอ้ย ! คม ก็ดวงคู่กันแล้วนะ(หราาาา?555+)
ชอบๆๆ รอตอนต่อป๊ายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 11-11-2012 03:29:37
 :a5:จิตตก ถ้าดิวมันจะเป็นพระเอก(ปลอมๆ) ซ้าทุ ให้มันตกหลุมรักน้องเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: mildmint0 ที่ 12-11-2012 20:34:40
ชอบอ้ะ บัดดี้ ต้องพี่คมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม :m31:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 12-11-2012 23:09:54
คิดถึงพ่อเต่าน้อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 12-11-2012 23:18:40
คมรุกๆปลายหน่อยสิ ให้ดิวหยอดบ่อยๆแบบนี้ไม่ดีนาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 8] 09/11/55 > P.52
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 13-11-2012 09:44:31
บางทีแอบอ่านแล้ว งงๆ ว่า บทใครเปนบทใคร
แต่ชอบประธานอ่ะ ตีหน้าได้มึนมาก
แล้วสรุปว่า ดิวเปนบัดดี้ปลายจริงๆ หรอ นึกว่า คมกับปลายจับบัดดี้ได้กันเองซะอีก แง่มๆ อดฟินเลย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 14-11-2012 23:51:47
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 9



...หลับไปแล้วครับ


เด็กหญิงกานดาวัยห้าขวบนอนหลับสนิทคาตัก
โดยหมอนเป็นตักอุ่น ๆ ของนายปลายฟ้า


...ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก

เพราะน้องคงจะเหนื่อยเพลียมาทั้งวัน
หลังจากเที่ยวไล่ตามเขาเหมือนคู่ปาท่องโก๋
ความจริงเขาไม่อยากจะไปรบกวนการนอนฝันหวานของน้องหรอกนะครับ
แต่นี่มันสี่โมงเย็นเข้าไปแล้ว
เด็กคนอื่น ๆ เริ่มทยอยออกจากชั้นเรียนเพื่อมุ่งตรงกลับบ้าน 
น้องกานดาเองก็ต้องกลับเหมือนกัน
แต่เล่นมานอนหลับปุ๋ยอยู่อย่างนี้


...แล้วจะให้เขาทำยังไงดีวะเนี่ย?



“คงต้องอุ้มไปส่งแล้วมั้ง ไอ้ปลาย”


เกมส์เสนอแนะเมื่อเห็นสภาพของเด็กหญิงตัวน้อยนอนนิ่งหลับสบาย
ซึ่งปลายฟ้าก็พยักหน้าเห็นด้วย   


...คงต้องเป็นอย่างนั้น
หลับสนิทขนาดนี้มองแล้วไม่อยากปลุก
ไหน ๆ อยู่ด้วยกันมาทั้งวัน
จะให้เขาอุ้มไปส่งก็ได้ไม่ลำบากเย็นอะไร


คนที่ตัดสินใจได้แบบนั้นจึงหันไปถาม ‘น้องแก้ม’
เด็กนักเรียนหญิงป.ห้า ผมสั้น ใบหน้ากลมบ็อก
ผู้ระบุตัวว่าอยู่ข้างบ้านร่างเล็กบนตัก
ซึ่งมาเตรียมแสตนบายรอไว้อยู่แล้วเพื่อนำทางเหมือนที่เคยบอกไว้


“น้องแก้มบ้านอยู่ไหนครับเดี๋ยวพี่พาน้องกานดาไปส่งให้”


เด็กหญิงแก้มตอบเสียงเจื้อยแจ้วกลับมา
หากแต่เป็นคำตอบที่ทำให้คนฟังถึงกับสะดุ้ง


“อ๋อ ไม่ไกลหรอกคะ แค่กิโลเดียวเอง”


ห่ะ?


ดะ...เดี๋ยวก่อน


พี่ฟังผิดรึเปล่า?


...แค่กิโลเดียว


เฮ้ย! มันไม่ใช่ ‘แค่’ นะครับน้อง


ไอ้เกมส์เหมือนจะสงสัยเช่นเดียวกับเขา
จึงหันไปถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ


“ห่างจากนี้หนึ่งกิโลจริงๆ  เหรอ
แล้วน้องมาโรงเรียนยังไง”


“แก้มเดินมาค่ะ เพราะบ้านแก้มยังไม่มีจักรยาน”


ประโยคที่ได้ยินทำเอาเขากับเกมส์ถึงกับมองหน้ากันเงียบ ๆ


...สำหรับเด็ก ๆ บนดอยคงเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา
ในการเดินทางไปกลับหนึ่งกิโลเมตรทุกวันจากบ้านมาโรงเรียน
แต่ถ้าเทียบกับคนในเมืองที่มีทั้งมอเตอร์ไซต์ รถยนต์ หรือแม้แต่ BTS ช่วยย่นระยะทาง
มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงความสะดวกสบายที่ได้รับมาอย่างง่ายดาย
จนบางครั้งลืมไปว่ายังมีผู้คนอีกมากมายซึ่งไม่ได้รับโอกาสเหล่านี้


และที่สำคัญ...
สิ่งที่ทำให้เขานึกทึ้งไปมากกว่านั้น
คือน้องแก้มเพิ่งจะอายุแค่สิบเอ็ดขวบเอง


ไม่สิ...
ไอ้ตัวเล็กที่นอนอยู่บนตักเขาเพิ่งจะอายุห้าขวบด้วยซ้ำ
แต่กลับสามารถเดินเท้ามาได้เป็นระยะทางขนาดนี้!



...แม้รู้ทั้งรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ก็ยังอดรู้สึกหน่วงใจอยู่ลึก ๆ ไม่ได้


ปลายฟ้าจึงลุกขึ้นยืนโดยอุ้มร่างเล็กที่หลับให้ศีรษะเอนสบกับไหล่
แล้วหันไปพูดกับน้องแก้มที่รออยู่


“งั้นวันนี้ให้พี่เดินไปส่งน้องแก้มที่บ้านนะ
...ส่วนงานที่เหลือกูคงต้องฝากมึงแล้วล่ะไอ้เกมส์”


ท้ายประโยคเขาหันไปบอกเพื่อนซี้ซึ่งตกปากรับ
แต่ก็ยังไม่วายแอบถามด้วยความเป็นห่วง


“เออ ๆ ไปคนเดียวได้แน่นะ ให้ใครไปเป็นเพื่อนมึงมั้ย”


“ได้ดิ เดี๋ยวก็กลับแล้ว”


“งั้น อ่ะ... กูให้นี่...”


ถุงผ้าใบหนึ่งถูกยื่นส่งมาให้ตรงหน้า
ปลายฟ้ารับมาถือไว้อย่างงง ๆ
ก่อนจะเปิดดูข้างในเห็นเป็นพวกขนมสองสามถุงกับนมกล่อง


...อะไรวะ

เอามาให้ทำไม?


ยังไม่ทันจะอ้าปากถามให้คลายความสงสัย
คู่สนทนากลับสวนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
และเป็นคำตอบที่ชวนให้เตะปากมากที่สุด


“เต่าอย่างมึงกว่าจะคลานมาถึงค่ายคงสองทุ่มพอดี
กูเลยให้เสบียงเอาไปกินระหว่างทาง”


น่าน...ถ้าไม่กวนก็คงไม่ใช่มึงสินะไอ้เกมส์

คนโดนแหย่เลยรีบร้องโวยวายดังลั่น


“มึงอย่าดูถูกสิวะ!
สองทุ่มที่ไหน อีกสิบห้านาทีก็กลับมาแล้ว
ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวมึงคอยดู”


ปลายฟ้าฮึดฮัดพูดโต้อย่างหงุดหงิด
แต่ไอ้เกมส์กลับหัวเราะยิ้มร่า
พยายามยัดเหยียดถุงขนมโดยให้เหตุผลว่า


“เอาไปนั้นแหละ กูอยากฝากให้น้องเขาด้วย
รีบไปได้แล้วมึง เดี๋ยวกูจะจับเวลา
เอาสิบห้านาทีเป๊ะๆ ห้ามเลทนะโว้ย
ถ้ามึงแพ้ต้องจ่ายกูมาสองร้อย โอเคป่ะ?”


ไม่รู้ว่าอยู่ ๆ ประเด็นนี้กลายเป็นการพนันขันต่อกันเมื่อไร
แต่ลูกผู้ชายอย่างปลายฟ้าฆ่าได้หยามไม่ได้ ศักดิ์ศรียังมีครับ
คราวนี้จะพิสูจน์ให้เห็นเลยว่าตัวเองไม่ได้ช้าเป็นเต่าเหมือนที่ใคร ๆ เรียก


เขาเลยรับข้อเสนอโดยท้าว่า ถ้าเขากลับมาทัน
ไอ้เกมส์ก็ต้องจ่ายมาให้สองร้อยเหมือนกัน
แต่เหมือนคู่พนันไม่สะทกสะท้านใด ๆ
คล้ายมั่นใจว่าจะชนะเต็มประดาซะอย่างนั้น


หึ มึงไม่เคยได้ยินรึไงวะ
ว่าตอนวิ่งแข่งกัน ‘เต่า’ มันยังชนะ ‘กระต่าย’ ได้เลย


....‘ไอ้เต่าปลาย’ คนนี้ก็ทำได้ไม่แพ้ใครเหมือนกันล่ะโว้ยย!!




คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในการแข่งขัน
จึงรีบตั้งใจเดินให้ถึงเป้าหมายโดยมีน้องแก้มเป็นผู้นำทาง
ทว่ายังไม่ทันจะพ้นจากที่ตั้งค่ายกลับมีเสียงหนึ่งเรียกทักเสียก่อน


“อ้าว ปลายจะไปไหนครับ”


ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนุ่มหล่อวิศวะคนคุ้นเคย
ซึ่งเหมือนจะเดินผ่านมาเห็นเข้าพอดี


“อ๋อ เดินไปส่งน้องกานดาที่บ้านน่ะ”


ดิวคล้ายจะเข้าใจโดยอัตโนมัติ
เมื่อเหลือบมองเห็นร่างเล็กที่หลับอยู่ซบไหล่ของอีกฝ่าย
แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะซักถามซ้ำ


“แล้วบ้านน้องอยู่ไหนล่ะครับ”


“ห่างจากโรงเรียนแค่กิโลเดียวเองค่ะ”


ไม่ใช่เสียงของปลายฟ้า
แต่เป็นของน้องแก้มซึ่งอยู่ข้างตัวตอบขึ้นมาแทน
และเป็นคำตอบที่ทำให้คนฟังต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจ


“โห....ไกลจัง งั้นผมเดินไปส่งด้วยดีกว่านะ”


ร่างสูงเสนอตัวทันทีที่ได้ยิน
ทว่าปลายฟ้ากลับลังเลเพราะไม่อยากจะรบกวน


“เออ ไม่เป็นไร เราเกรงใจ
แล้วงานดิวเสร็จหมดแล้วเหรอ”


“อือ... เรียบร้อยแล้วครับ
ไม่ต้องเกรงใจหรอก
ผมแค่อยากเดินไปเป็นเพื่อนปลาย”


ทั้งแววตาและน้ำเสียงของคู่สนทนาบ่งบอกถึงความจริงใจ
จนปลายฟ้าชักจะเขว


....เอาจริง ๆ ดิวก็เป็นบัดเดอร์เขาด้วย
คงเป็นเรื่องปกติที่อยากจะดูแลเทคแคร์
ถ้าปฏิเสธไปเดี๋ยวจะเสียน้ำใจกันเปล่า ๆ
อีกอย่างขืนยักยักมาก ๆ ได้เกินเวลาสิบห้านาทีที่พนันไว้แน่ ๆ


คนมีชนักติดหลังจึงพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต


“งั้นก็ได้ครับ”


หนุ่มหล่อยิ้มกว้างส่งผลให้ใบหน้ามีเสน่ห์ชวนมองมากกว่าเดิม
แล้วจึงพาร่างของตัวเองขยับมาเดินข้าง ๆ ปลายฟ้า
ทว่ายังไม่ทันจะก้าวไปไหน
เสียงปริศนาจากด้านหลังกลับดังขึ้นขัดจังหวะอีกรอบ


“เฮ้ย! ไอ้ดิว จะไปไหนวะ!!”


ทั้งเขาและเจ้าของชื่อหยุดชะงักหันไปมองผู้มาเยือนซึ่งเดินตรงมา

ไม่ต้องเดา...

คนที่สามารถใช้น้ำเสียงเรียกรองประธานค่ายได้อย่างสนิทสนมขนาดนี้
คงมีเพียงคนเดียว...


...ไอ้ประธานค่าย นายคมสัน



“กำลังจะเดินไปส่งน้อง
บ้านเขาอยู่ห่างจากนี้ตั้งกิโล
เลยกะไปเป็นเพื่อนปลายสักหน่อย
ทำไม..?  มีอะไรหรอ?”


คำตอบถูกเปลี่ยนเป็นคำถามขึ้นมาแทน
คมสันหยุดชะงัก ดวงตาคมกวาดมองเลยมายังคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แวบหนึ่ง
แล้วจึงเบนกลับมาที่คนต้นเรื่องพร้อมกับอธิบายถึงสาเหตุ


“ไอ้บีมมันให้มาถามว่าโทรไปสั่งท่อน้ำพีวีซีที่ร้านวัสดุรึยัง”


“เออว่ะ! ...ใช่  ๆ เกือบลืมเลย
อ่ะ...งั้นมึงเอาเบอร์ไป
แล้ววานโทรสั่งให้ทีแล้วกันนะ
กูจะได้เดินไปส่งน้องกับปลายต่อ”


ดิวทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาเบอร์
ทว่าคนตรงข้ามกลับร้องขัดขึ้นเสียงเข้ม


“ไม่ได้!”


คนถูกห้ามหยุดมือ เงยหน้าขึ้นมองคนออกคำสั่ง
พลางขมวดคิ้วถามกลับอย่างงง ๆ


“ทำไม?”


“มึงเป็นคนวางแปลนท่อน้ำไม่ใช่เหรอ
กูไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรเท่าไร”


คมสันตอบเสียงเรียบ
แต่ดูเหมือนเหตุผลยังไม่มีน้ำหนักมากพอ
จนทำให้คู่สนทนาพูดแย้งโต้กลับอย่างไม่คลายความสงสัย


“มึงก็อ่านแบบออกนี่หว่า โทรสั่งเอาสิ”


“ไม่ได้! มึงก็รู้ว่าข้อต่อท่อพีวีซีมันเยอะ
ถ้าสั่งขาดไปแล้วมันจะลำบาก
มึงอย่าลืมสิว่าร้านวัสดุก่อสร้างมันอยู่ข้างล่างนู้น
จะให้เขาขึ้นมาส่งสองสามเที่ยว มันเสียเวลา
แล้วอีกอย่างกูต้องไปเก็บงานต่อด้วย ไม่ว่างสั่งให้
มึงไปคุยกับไอ้บีมเอาเอง แล้วรีบ ๆ โทรสั่งเร็ว ๆ เข้าล่ะ
ใกล้ห้าโมงแล้วเดี๋ยวร้านมันจะปิดซะก่อน”


คำอธิบายยาวเหยียดที่ยกมาอ้างทำให้คนฟังถึงกับจนมุม
เล่นบอกมาขนาดนี้แม้แต่ปลายฟ้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังเผลอสยอง
กับความเฮี้ยบและโหดของท่านประธาน
ขนาดเพื่อนตัวเองแท้ ๆ ยังไม่เว้นเลย

...คนอะไรวะน่ากลัวจริง ๆ



“ดิวไปทำงานเถอะ เราไปเองคนเดียวได้ไม่เป็นไร”


เขาพูดเสนอด้วยกลัวว่าขืนพ่อรองประธานยังไม่ไป
เดี๋ยวบัดเดอร์ตัวเองจะเป็นฝ่ายโดนบัดดี้ของตัวเอง
จับเชือดคอจนไม่เหลือใครอยู่ให้คอยเทคแคร์


หนุ่มหล่อมีทีท่าไม่อยากทำตามคำสั่งสักเท่าไร
แต่อย่างไรงานก็ต้องเป็นงาน
ดิวถอนหายใจเบา ๆ  ก่อนหันมาเอ่ยบอกกับอีกคนทิ้งท้าย


“งั้นปลายรีบไปรีบกลับมานะครับ ผมเป็นห่วง”


ปลายฟ้าพยักหน้ารับคำ
ดิวจึงขอตัวเดินหลบไปยังทิศทางของอาคารอเนกประสงค์
ทิ้งเขาไว้กับใครบางคนซึ่งยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเดินไปไหน
กระทั่งเขาแปลกใจจนต้องหันไปสบดวงตาคม
อีกฝ่ายทำท่าคล้ายจะอ้าปากพูดอะไรสักอย่าง
ทว่ากลับลังเลหยุดไปดื้อ  ๆ
แล้วจึงหมุนตัวเดินแยกห่างออกไปอีกทางเงียบ ๆ


อะไรของมันวะ...


คนสงสัยขมวดคิ้วไม่เข้าใจการกระทำแปลก ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้น


...พูดถึงอะไรแปลกๆ ก็นึกขึ้นมาได้อีกเรื่องว่า

ทำไมถึงมีคนชอบเป็นห่วงเขาอยู่เรื่อย?

แค่เดินไปส่งน้องที่บ้านนะเว้ยไม่ได้ไปรบสักหน่อย
ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้
ดิวก็คนหนึ่ง.... ไหนจะไอ้เกมส์อีก
แต่ไอ้เพื่อนเขาคงเห็นเป็นเรื่องสนุกมากกว่า
เลยตั้งเงื่อนไขพนันไปซะอย่างนั้น


อ้าว...แล้วนี่มันกี่โมงแล้ววะ
เสียเวลาคุยไปตั้งขนาดนี้

ไหนดูดิ...


ปลายฟ้าล้วงมือถือของตัวเองขึ้นมากดดูเวลา
แล้วก็แทบจะตาเหลือกเมื่อเห็นตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าจอ


เฮ้ย! ฉิบหาย...


...ผ่านไปห้านาทีแล้วกูยังไม่ได้ออกจากค่ายเลย


แม่งซวยแล้ว!!


คนผู้เห็นภาพเงินสองร้อยบาทใกล้จะปลิวหายในกระเป๋าสตางค์ลาง ๆ
จึงรีบจูงมือเด็กหญิงแก้มก้าวพรวด ๆ ออกจากค่ายไปตามทางดินสายเล็ก
มุ่งหน้ากลับไปยังบ้านของน้อง ๆ ซึ่งมีระยะห่างจากที่นี่หนึ่งกิโลทันที




พอพ้นตัวค่ายไปหน่อยจะเป็นวัดเล็ก ๆ ที่พวกเด็กวิศวะมาขออาบน้ำ
ถัดไปเป็นบ้านปลูกติด ๆ กันห้าหกหลัง
ทว่าเลยละแวกนั้นมาได้ไม่ไกลก็จะกลายเป็นทุ่งสลับกับต้นไม้น้อยใหญ่
คล้ายกับพื้นที่ทำการเกษตรซึ่งเป็นหนึ่งในอาชีพหลักของชาวบ้าน
แม้จะอยู่บนดอยหากแต่ยังมีพื้นที่ทำไร่นาปลูกผักต่าง ๆ
ให้ชาวบ้านเลี้ยงตัวได้พออยู่พอกิน
จึงทำให้มีแปลงสีเขียวปรากฏมากมายท่ามกลางภูเขาสูงโอบล้อม


ปลายฟ้าสูดอากาศบริสุทธิ์บนดอยเข้าไปเต็ม ๆ ปอด
ชีวิตที่เกิดมาอยู่แต่ในเมืองกรุงแบบเขา
เคยชินกับปัญหารถติด มลพิษ ความแออัด
ได้มาอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้
ก็คล้ายกับจะเป็นการปลดปล่อยความเหนื่อยล้าไปได้อีกทางหนึ่งเหมือนกัน

ถ้าเขากลับไปที่หอแล้วน่าจะลองปลูกต้นไม้ดูสักต้นสองต้นดีมั้ยนะ
มีต้นไม้สีเขียว ๆ แต่งห้องบ้างน่าจะทำให้สดชื้นขึ้น


...แล้วเอาเป็นต้นอะไรล่ะ?


...กุหลาบดีมั้ย?
เอ๊ะ..เขาว่าปลูกยากไม่ใช่เหรอ
ต้องเอาใจใส่มันให้มาก ๆ
ถ้าให้สวยต้องปลูกกันหลายๆ  ดอกด้วย
สงสัยระเบียงหอเขาคงมีพื้นที่ไม่พอ


...กระบอกเพชรล่ะ?
เลี้ยงง่ายดีด้วย ไม่ต้องคอยให้น้ำให้ปุ๋ยมาก
เออ...แต่มันไม่มีดอกนะ
อยากได้ต้นที่มีดอกมากกว่า
ยิ่งหลาย ๆ สีดูแล้วเพลินตา


...งั้นกล้วยไม้?
ไปซื้อที่เขาปลูกจนมีดอกแล้วค่อยเอามาเลี้ยงอีกทีไง
แต่ อืม...แบบนั้นมันดูเหมือนไม่ค่อยภูมิใจเลยแฮะ
สู้ค่อย ๆ เลี้ยงมันจากต้นเล็ก ๆ ดีกว่ามั้ย


ถ้างั้นเอาเป็น...



ความคิดลังเลสะดุดลงทันที
เมื่อปลายฟ้าถูกมือเล็กของคนข้างตัวดึงชายเสื้อเอาไว้
คล้ายจะสะกิดเรียกให้หยุดเดิน
จนเขาต้องหันมองเด็กหญิงแก้ม
ซึ่งทำปากบุ้ยใบ้ไปด้านหลังก่อนจะเอ่ยคำพูด


“มีใครก็ไม่รู้ตามมาค่ะ”


ดวงตากลมรีบเหลียวกลับไปมองทันที
จึงเห็นร่าง ๆ หนึ่งเดินอยู่ด้านหลังห่างกันเกือบสิบห้าเมตร
ลักษณะท่าทางสูงใหญ่ชวนให้คุ้นตาอย่างประหลาด
ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งเห็นความชัดเจนของใบหน้าคม
ประกอบกับรัศมีโหดที่แผ่กระจายออกมาเหมือนมาเฟีย



เฮ้ย! ชัดแล้ว...


ไอ้ประธานค่ายนี่หว่า



เออ....


ละ...แล้วมันมาได้ไงวะ?


อีกฝ่ายคล้ายจะเห็นว่าเขารู้ตัว
จึงเร่งก้าวตามมาให้ทันตรงที่เขาหยุดเดิน
แต่ยังไม่ทันที่จะอ้าปากถามใด ๆ
คนตรงหน้ากลับเป็นฝ่ายตอบขึ้นมาเสียก่อน


“พอดีเก็บงานเสร็จเร็วเลยตามมาช่วย”


เหตุผลสั้น ๆ แต่ได้ใจความถูกบอกด้วยน้ำเสียงเรียบปนหอบเล็ก ๆ
ราวกับเพิ่งรีบเร่งไล่ตามมาเป็นระยะทางไกล
ปลายฟ้ามองผู้มาเยือนนิ่งเหมือนคนจับต้นชนปลายไม่ถูก


ห่ะ...มันบอกว่าจะมาช่วยเนี่ยนะ


แล้วจะมาช่วยเรื่องอะไร?


แต่ข้อสงสัยในใจกลับได้รับการเฉลยทันที
เมื่อร่างสูงยื่นมือใหญ่มาตรงหน้า


“เมื่อยรึยัง ส่งน้องเขามาสิ”


คมสันพูดแค่นั้น ก่อนดึงร่างเล็กซึ่งหลับพาดไหล่ของอีกคนไปอุ้มแทน
โดยที่ปลายฟ้ายื่นส่งเด็กน้อยให้โดยไม่ทันปริปากอะไร
พอน้องกานดาพ้นไปจากตัวจึงเพิ่งจะตระหนักได้ว่า
ไหล่ของตัวเองปวดระบบจนยกแทบไม่ขึ้นมากแค่ไหน


แน่ล่ะ...อุ้มน้องมาเกือบทั้งวันเลยนี่
ไหนจะต้องหิ้วถุงผ้าใส่ขนมที่ไอ้เกมส์มันฝากมาอีก
....จะไม่ให้ล้าก็คงแปลก

แต่ที่น่าแปลกกว่าคือการที่อยู่ ๆ ใครบางคนดันโผล่มาเนี่ยแหละ


“ไปกันยัง”


คมสันหันมาถามสั้น ๆ
แล้วจึงเดินนำหน้าไปโดยไม่รอคำตอบใด ๆ
ตามประสาคนชอบทำอะไรรีบ ๆ
ปลายฟ้าจึงได้แต่ขยับก้าวเดินตามไปทั้ง ๆ ที่ในหัวสมองยังคงมึนงง



...ตกลงนี่ใครต่อใครเห็นว่าเขาไว้ใจไม่ได้ขนาดนั้นเลยรึไง
แค่เดินมาส่งน้องกลับบ้านถึงขนาดต้องมีคนตามมาช่วย


ที่สำคัญคือ ไอ้คนคนนี้มันดันเป็นบัดดี้เขาด้วย!
แล้วบัดเดอร์ภาษาอะไรกันต้องให้บัดดี้เป็นฝ่ายดูแลแทน
รู้ถึงไหนอายถึงนั้นเข้าพอดี


โธ่เว้ย! ไอ้ปลายฟ้า


...จับได้ใครไม่ได้
ทำไมต้องมาจับได้ไอ้คนชอบช่วยชาวบ้านแบบนี้ด้วยวะ
แล้วอย่างนี้เขาจะหาโอกาสตอบแทนมันได้ยังไง

 
...เวรกรรมแท้ ๆ เลยกู



ปลายฟ้าคิดอย่างปลงตกสับสนในสถานะของตัวเอง
ขณะที่เดินจูงมือเด็กหญิงแก้ม
เคียงคู่ไปกับนายคมสันซึ่งอุ้มเด็กหญิงกานดาเอาไว้
แล้วจึงพากันเดินข้าง ๆ  แบบนี้โดยไม่มีใครพูดอะไรไป


....ตลอดทาง


--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: mildmint0 ที่ 15-11-2012 00:06:42
 :impress2: ตั้งหน้าตั้งตารอเรื่องนี้เลย อ่านไปซะเพลิน รู้อีกทีหมดตอนซะแล้วววว  อยากอ่านตอนต่อไปซะแล้วสิ คมนะคม อุส่าห์ตามมาจนได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 15-11-2012 00:07:17
น่าร๊ากกกกก อ่ะ! ใช่เคลียร์งานหรอคม ไล่เพื่อนไป หันไปสั่งงานแล้ววิ่งตามมาป่าว

ฟ้าก็นะ คิดเยอะจริงๆ ขนาดปลูกดอกไม้ยังเยอะเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 15-11-2012 00:09:42
ครอบครัวเลยอ้ะ :z3: พ่ออุ้มลูก แม่จูงลูก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-11-2012 00:27:01
จิ้นไปไกลว่าคืนนี้ทั้งคู่คงได้นอนค้างที่บ้านเด็กหญิงตัวน้อยแน่ๆ

แล้วสานต่อความรู้สึกจนพีค   :laugh:

บวกเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-11-2012 00:30:54
คมคงจะเป็นห่วงปลายมาก
แต่คงไม่กล้าบอกตรง ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 15-11-2012 00:35:17
ที่ไปขัดเค้าเนี่ย เพราะอยากไปส่งเองใช่ม้าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 15-11-2012 01:22:32
เดินไปด้วยกัน เป็นครอบครัวเลย พ่อ แม่ ลูก >.<~~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-11-2012 01:33:19
คมเนียนนะเนี่ย ไล่ดิวซะไปไกลเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-11-2012 06:05:11
ฮั่นแน่ หรือว่าคุณคมสันแอบปิ๊งคุนเต่าปลายเข้าให้แล้วถึงได้ตามห่วงกันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-11-2012 07:51:11
นึกแล้วเดี๋ยวพี่แกต้องมา   :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-11-2012 08:05:36
หมั่นไส้ดิวอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 >; P.53
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-11-2012 08:09:55
นึกว่าจะไม่ตามไปซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-11-2012 08:30:17
คมอยากไปกับปลายเองใช่หรือเปล่า ถึงได้ไปขัดดิวอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 15-11-2012 08:57:21
สมกับฉายาเต่าปลายจริงๆ ชาวบ้านมารุมจีบยังไม่รู้เรื่องอีก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-11-2012 09:57:15
แล้วแบบนี้บัดดี้ปลายจะได้ดูแลคมไหมนี่  เพราะดูแล้วมีแต่คมจะดูแลปลายแทนนะ

คมหาทางไล่เพื่อนแบบเนียนๆ     
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-11-2012 10:05:26
ว่าแล้ว ว่ายังไงจะต้องตามมา

ปลายเค้าไม่ได้ไม่ไหวใจกันนะ เค้าแค่เป็นห่วงเต่าปลายกันต่างหาก 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 15-11-2012 10:38:21
สรุปดิวนี่เป็นบัดเดอร์จริงๆ เหรอ
ทำไมให้อารมณ์เหมือนแค่เข้ามาจีบมากกว่าเป็นบัดเดอร์

เชื่อสิ... เต่าปลายแพ้พนันเงินหายไปสองร้อยแน่ๆ
เดินไปกลับในเวลาสิบห้านาทีมันเร็วไปนะ จริงๆ  ไปกลับก็สองโลแล้ว  นายต้องวิ่งขวิดเอาแล้วถึงจะทัน
แล้วยิ่งเดินชมนกชมไม้ด้วย  ไม่ทันหรอกจ้ะน้องปลาย

ที่กรี๊ดกร๊าดที่สุดคือน้องคมเดินไปกับน้องปลายด้วยเนี่ย
เธอคิดอะไร๊ เธอเป็นบัดเดอร์ใช่ม๊ายยยย


แอบหวานนิดนึงค่ะ ชอบจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 15-11-2012 10:39:34
อ่านกำลังเพลิน..จบตอนซะละ...รอตอนต่อไป...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 15-11-2012 17:03:23
ดัน และบวก  :m4: ก่อนอ่าน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 15-11-2012 19:05:07
เต่าน้อยนี่ซื่อบื้อได้น่ารักจริงจัง
(สาบานว่านี่ชม 555555)
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-11-2012 19:10:41
เต่าน้อยท่าจะเสียตังค์


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 15-11-2012 19:33:16
ชอบนิสัยนายเอกอ่ะ ช่างเลือก 555+
คือเราก็เป็นนะ นิสัยอย่างนี้ไม่พ้นกรุ๊ปเอแน่นอน

ตาคมนี่ เดี๋ยวไม่ทันดิวนะ รายนั้นดูแพรวพราวมาก ออกหน้าออกตาขนาดนั้น
รีบ ๆ หน่อยเน้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-11-2012 22:10:41
อ๊ายยย จะหลงป่า หาทางกลับค่ายไม่ถูกหรือเปล่า
แต่ได้ข่าวว่ามันกิโลเดียวเอง
แต่ก็หลงได้น้า อาจจะมีพายุกระหน่ำจำทางไม่ได้
อยากให้สองคนใช้เวลาด้วยกันเยอะๆ หน่อย
ระยะนี้มันชักช้ายังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 15-11-2012 23:19:38
ปลุกต้นรักดีกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 9] 14/11/55 > P.53
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-11-2012 13:03:25
คมสันเนียนเลยนะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 17-11-2012 21:14:29
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 10

   

...ข้างบ้าน


ตามความเข้าใจของนายปลายฟ้า
ลูกคนกรุงเทพ 100 เปอร์เซ็นต์
มันน่าจะหมายถึงบ้านที่ปลูกอยู่ติดกัน

แต่สำหรับคนบนดอยแล้ว
ไอ้ข้างบ้านที่ว่า...
มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยสักนิด


บ้านไม้กึ่งปูนชั้นเดียววางตัวอยู่หน้าถนนดินสายเล็ก
ส่วนด้านหลังเป็นทุ่งกว้างสลับกับต้นไม้น้อยใหญ่พอให้ร่มรื้น
คือบริเวณที่น้องแก้มหยุดเดินพลางชี้นิ้วไปยังอีกทาง


“ถึงแล้วค่ะ นี่บ้านของหนูส่วนหลังนู้นของน้อง”


ปลายฟ้ามองตามมือเล็ก
ก่อนพบบ้านหลังน้อยปลูกอยู่บนเนินดินตรงหัวโค้ง
ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับหลังแรกแต่อยู่ห่างไปอีกเกือบห้าสิบเมตร


...ห้าสิบเมตร

มันไม่น่าจะใช้คำเรียกว่า ‘ข้างกัน’ 
แต่ก็อย่างว่ามีพื้นที่บนดอยมากขนาดนี้
จะให้มาปลูกติด ๆ กันเหมือนคนในเมืองได้ยังไง
ปลายฟ้าที่มีบ้านอาศัยอยู่ในคอนโดสูงกลางกรุง
เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะนึกอิจฉาบ้านที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติขึ้นมานิด ๆ

ถึงอย่างไรห้าสิบเมตรจากตรงนี้ก็ไม่ใช่ระยะทางที่ไกลมาก
เขาจึงหันไปส่งน้องแก้มเข้าบ้านพร้อมเอ่ยลา


“ขอบใจนะ อ่ะ...พี่ให้ขนมเป็นรางวัลด้วย
เดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันใหม่นะครับน้องแก้ม บาย ๆ”

พูดจบพลางล้วงขนมสองสามชิ้นจากถุงผ้าที่ไอ้เกมส์ฝากมาให้
ยื่นส่งให้เด็กหญิงซึ่งยิ้มจนตาหยียกมือไหว้ขอบคุณ
ก่อนโบกมือลาให้พวกเขาเดินกลับไปตามทาง


....ตอนนี้จากสี่ก็เหลือกันเพียงสามคน

บรรยากาศที่เงียบอยู่แล้วกลับยิ่งเงียบงันเข้าไปอีก


ปลายฟ้ารู้สึกอึดอัดแปลก ๆ
ปกติถึงแม้เขาจะเป็นคนพูดน้อย
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่พูดเลย
อยู่ในกลุ่มเขาก็เฮฮากันไปตามประสา
แต่กับไอ้คนที่ไม่สนิทแถมเอาแต่ดีหน้านิ่งแบบนี้
ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำตัวยังไง

โอกาสที่จะเทคแคร์บัดดี้อยู่ตรงหน้าแล้วแท้ ๆ
ถ้าอยู่ ๆ โพล่งออกไปว่าทำงานเหนื่อยมั้ย
หรือบอกให้นอนหลับฝันดีเหมือนที่ดิวเคยบอกเขาบ้าง
มันคงดูตลกไปหน่อย ขนาดแค่คิดยังรู้สึกขนลุกพิกล


โอยย...ทำไมแค่จะดูแลบัดดี้มันถึงยุ่งยากอย่างนี้วะ!


...มัวแต่หงุดหงิดกับความคิดสับสนของตัวเอง
รู้ตัวอีกดันเดินมาถึงหน้าบ้านบนเนินซะแล้ว

คมสันหันมองเหมือนจะให้เขาเป็นคนเรียก
เพราะตัวเองอุ้มน้องซึ่งยังคงหลับอยู่ไว้กับตัว
เขาพยักหน้ารับเข้าใจ
เดินไปใกล้รั้วบ้านหลังเล็กก่อนจะส่งเสียงทัก


“สวัสดีครับ พวกเราพาน้องกานดามาส่งครับ”


คำตอบที่ได้รับกลับมีเพียงความเงียบ
ปลายฟ้าขมวดคิ้วงง สงสัยคงจะเสียงเบาไป


“ขอโทษนะครับ มีใครอยู่บ้านบ้างมั้ยคร้าบ!!”


เขาเร่งเสียงให้ดังกว่าเดิม
มั่นใจว่าคราวนี้ยังไงก็ต้องได้ยินบ้าง
แต่หลังบานประตูใหญ่กลับยังคงเงียบเฉียบ
แถมสังเกตดี ๆ มันคล้องกุญแจบ้านไว้ด้วยนี่หว่า...


“สงสัยคงไม่มีใครอยู่
ยังไงลองกลับไปถามน้องคนนั้นใหม่ดีมั้ย?”

ท่านประธานค่ายคงสังเกตเห็นเหมือนกันเลยถามออกมาแบบนั้น
แต่ความจริงไม่ต้องถามก็ได้มั้ง เพราะพี่แกเล่นเดินนำไปแล้ว


...เป็นแบบนี้ทุกที 
รีบตัดสินใจเอาเองเสร็จสรรพ
แล้วมันจะถามขึ้นมาทำไมซากอะไรวะ


แม่งเซ็งเว้ย!!


ทั้งสองจึงเดินกลับมาตามทางเงียบ ๆ
แต่เป็นครั้งที่เงียบกว่าเดิม
เพราะพ่วงมาด้วยอารมณ์กึ่ง ๆ ไม่พอใจของนายปลายฟ้า

กระทั่งถึงหน้าบ้านของเด็กหญิงแก้ม
พวกเขาเดินเลยเข้ามาในรั้วก่อนหนุ่มเภสัชจะเป็นฝ่ายเอ่ยคำเรียก


“ขอโทษนะครับ ขอรบกวนหน่อยครับ”


หญิงชราวัยเกือบหกสิบนุ่งผ้าถุงท่าทางใจดีเดินออกมาจากในบ้าน
สงสัยคงเป็นคุณยายของน้องแก้มซึ่งถามแขกผู้มาเยือนอย่างแปลกใจ


“อ้าว...มีอะไรกันเหรอจ๊ะพ่อหนุ่ม”


“สวัสดีครับคุณยาย”


“ไหว้พระเถอะจ๊ะ
เอ๊ะ...ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลยนี่
เป็นลูกเป็นหลานบ้านใครกันล่ะ”


“พวกผมเป็นนักศึกษามาออกค่ายที่โรงเรียนน่ะครับ
แล้วที่มานี้ก็ว่าจะมาขอรบกวนถามคุณยาย
เออ...คุณยายพอจะทราบมั้ยครับว่าเจ้าของบ้านข้าง ๆ เขาไปไหน
พอดีผมจะพาน้องกานดามาส่ง แต่ไม่มีใครอยู่เลย”


“อ้อ พ่อสะอาดน่ะเหรอ
แกลงไปขายข้าวโพดในเมืองตั้งแต่สาย ๆ แล้ว
กว่าจะกลับขึ้นมาก็คงตะวันตกดินโน้นแหละ”


ความจริงที่ได้ยินทำให้คนฟังถึงกับนิ่งอึ้ง


...ดะ...เดี๋ยวก่อนตะวันตกดิน
มันตั้งอีกเกือบชั่วโมงไม่ใช่เหรอ
แล้วจะทำยังไงกันล่ะที่นี่

จะไปยืนรออยู่หน้าบ้านน้องคงได้เมื่อยตายพอดี
หรือจะให้น้องกลับไปรอที่ค่ายเดี๋ยวก็เสียเวลา
เผลอ ๆ ไปพักได้ครึ่งชั่วโมงก็ต้องเดินกลับมาส่งใหม่
อีกอย่างถ้าพ่อแม่น้องกลับมาไม่เห็นลูกจะแย่

เอาไงดีวะ...


“งั้นถ้าผมรบกวนฝากน้องไว้กับคุณยาย
จนกว่าพ่อแม่เขาจะกลับมาได้มั้ยครับ”

เป็นเสียงของคนที่มาด้วยกันเอ่ยเสนอขึ้นมาแทน
ขัดจังความคิดอันสับสนของนายปลายฟ้า
มิหนำซ้ำคู่สนทนายังตอบกลับมาง่าย ๆ


“ได้สิ น้อยมันเอามาฝากไว้ประจำ”


“ขอบคุณมากครับ”


ดวงตากลมมองร่างสูงแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเรียบร้อยรวดเร็วจนแทบตามไม่ทัน
พลางเดินนำเข้าบ้านไป โดยมีเขาเดินตามอย่างมึน ๆ
คุณยายหยิบเสื่อกับหมอนมาวางปูลงบนพื้นเตรียมที่ให้น้องนอน
เขาเห็นมือแกร่งค่อย ๆ ประคองร่างที่อยู่บนไหล่ซึ่งหลับสนิทให้เอนหลังลง
ทว่ายังไม่ทันที่หัวจะถึงหมอน ดวงตากลมกลับหรี่ปรือขึ้นมา
เด็กหญิงกานดากระพริบตางง ๆ
มองคนที่กำลังอุ้มตนด้วยความไม่คุ้นเคย
แล้วทำท่าจะเบะปากร้องไห้
แต่พอเหลือบไปเห็นปลายฟ้าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
เด็กน้อยกลับสะบัดตัวแล้ววิ่งลงมาโผกอดซุกหน้าลงเหมือนคนกำลังกลัว
โดยไม่ยอมปล่อยมือออกจากเสื้อยืดของเขา


...เออ น้องครับพี่เข้าใจว่ากลัวไอ้หน้าโหด
แต่มากอดพี่ไว้แบบนี้แล้วพี่จะกลับค่ายยังไงกันล่ะครับ!


ปลายฟ้าถอนใจ แล้วจึงย่อตัวลงไปลูบหัวเด็กน้อย
พยายามพูดโน้มน้าวใช้เหตุผลคุยเพื่อเข้าใจ

“น้องกานดาครับ ปล่อยพี่ก่อนนะ
อยู่กับคุณยายรอจนกว่าคุณพ่อคุณแม่จะมา
เดี๋ยวพวกพี่ต้องกลับไปค่ายแล้ว”


แต่เด็กอายุแค่ห้าขวบคงไม่อาจทำความเข้าใจในเหตุผลแบบนี้
ซ้ำยังทำท่าจะร้องไห้หนักกว่าเก่าเมื่อปลายฟ้าพยายามจะดึงมือเล็กออก
ทว่ายิ่งดึงกลับยิ่งเกาะเหนียวแน่นเหมือนเป็นลูกลิง
จนคุณยายที่มองอยู่นานอดไม่ได้ที่จะพูดทัก


“สงสัยเด็กมันคงจะติดใจ หายากนะ...
ปกติเจ้าคนนี้เจอใครแปลกหน้าหน่อยก็ร้องไห้งอแงแล้ว
ถ้างั้นไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว
พวกพ่อหนุ่มฝากดูด้วยเลยแล้วกัน
เดี๋ยวยายต้องไปทำข้าวเย็นก่อน
วันนี้ได้ผักมาเยอะ ว่าจะมาต้มจิ้มน้ำพริกเสียหน่อย
เออแหนะ... พอดีเลย...
กินด้วยกันมั้ยล่ะ น้ำพริกยายอร่อยนะ”


จากคุยเรื่องนู้น อยู่ ๆ กลับเปลี่ยนเข้าอีกเรื่องหน้าตาเฉย
จนปลายฟ้าตั้งรับไม่ทัน ได้แต่พูดตะกุกตะกักตอบ


“เออ...แต่ว่าพวกผม...”


“โอยยย...เชื่อสิ อร่อยจริง ๆ
นี่อย่าหาว่ายายคุยเลยนะ
ตำไปงานบุญทีไรไม่เคยเหลือกลับมา
แหม...มันหมดเกลี้ยงหม้อทุกครั้ง
พวกพ่อหนุ่มเล่นกับน้องรอไปก่อน
พักเดียวแหละเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว
แก้มเอยย... แก้ม... มาช่วยยายทำกับข้าวหน่อย”


จะปฏิเสธก็ไม่ทันแล้ว
เพราะคุณยายเดินตรงเข้าครัวด้านหลังบ้าน
โดยมีน้องแก้มตามไปเป็นลูกมือติด ๆ
ทิ้งปลายฟ้าให้ยืนลำดับเหตุการณ์ในหัวอย่างงง ๆ


เฮ้ย...ไหงกลายเป็นเงี้ย
แค่มาส่งน้องแต่กลับได้มานั่งกินข้าวบ้านคนอื่นซะงั้น
มันอะไรกันวะเนี่ย!!


อ้าว...แล้วไอ้ประธานนี่ก็อีกคน
ทีอย่างนี้มึงดันเงียบทำไมวะ
ไม่ช่วยห้ามกันบ้างล่ะเว้ยย!!


ปลายฟ้าเขม่นมองคนที่เริ่มทำตัวตามสบาย
เอนนั่งลงกับพื้นทำตามคำสั่งเจ้าของบ้าน
แบบไม่คิดว่าตัวเองต้องมีหน้าที่กลับไปคุมค่ายเลยสักนิด

ทว่าขณะที่กำลังคิดอย่างหงุดหงิดเขากลับรับรู้ถึงแรงสะกิด
จากเด็กหญิงกานดาซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนพูดคำสั้น ๆ ให้ได้ยินเพียงหนึ่งคำ


“หิว”


คนฟังชะงักกึกมองดวงตากลมโตใสแจ๋วที่จ้องกลับมาเหมือนรอคอย
จนเขาต้องรีบปรับอารมณ์ตามแทบไม่ทัน

“หิวเหรอ เดี๋ยวแป๊บนะ”


...หน้าที่เลี้ยงเด็ก ก็ยังคงเป็็นเช่นนั้นอยู่วันยังค่ำ

เขาเร่งคว้านหาของที่อยู่ในถุงผ้า
เสบียงจากไอ้เกมส์ที่ฝากมาใช้ประโยชน์ได้ก็ตอนนี้


เออ...แล้วมีของอะไรให้อยู่ท้องบ้างวะ
มีแต่พวกขนมกรอบ ๆ
เดี๋ยวเผลอ ๆ น้องต้องกินข้าวแล้วอิ่มก่อนพอดี
หรือจะให้น้องดื่มนมไปก่อน

นี่ไง...มีนมกล่องเล็ก  ๆสองกล่องพอดี
รสจืด กับ นมเปรี้ยว

อ้าว...แล้วจะให้ดื่มอะไรอ่ะ
รสจืดน้องเขาจะกินมั้ย
มันไม่ค่อยอร่อยนะ
ขนาดเขายังไม่ชอบเลย

หรือจะให้ดื่มนมเปรี้ยวดี
แล้วเด็กอายุแค่นี้ดื่มนมเปรี้ยวเป็นอะไรมั้ย
ดื่มตอนท้องว่าง ๆ มันจะอืดรึเปล่า


ถ้างั้น...


อ้าวเฮ้ย...!!


ปลายฟ้าอุทานในใจ
เมื่ออยู่ ๆ กลับมีมือปริศนาดึงกล่องนมเปรี้ยวไปจากมือ
พร้อมกับแกะหลอดจิ้มเจาะรูพร้อมยื่นให้น้องที่มองมาด้วยความลังเล
แต่คงเพราะความหิวเด็กหญิงกานดาจึงรับไปดูดกินอย่างไม่มีปัญหา

ทว่าคนที่มีปัญหากลับเป็นคนที่ชักช้า
ซึ่งโดนร่างสูงขมวดคิ้วถามเชิงบ่นขึ้นเบา ๆ อย่างไม่เข้าใจ


“หยิบมาแล้วทำไมไม่ให้น้องไปล่ะ”


...อีกแล้ว
ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้
ต้องโดนแย้งไปทำอยู่เรื่อย
ทั้ง ๆ ที่ยังเขาไม่ต้องการสักนิด


ปลายฟ้าก้มหน้ามองพื้น
พยายามข่มความไม่พอใจของตัวเองเอาไว้
ก่อนจะตอบกลับเสียงเรียบ


“...ก็กำลังตัดสินใจอยู่”


“หืม ตัดสินใจอะไร
ไม่ใช้เวลานานเกินไปหน่อยเหรอ
แบบนี้จะทันคนอื่นเข้ามั้ย”


คำถามที่ตามมาติด ๆ ไม่ได้ช่วยให้เบาลง
ซ้ำยังเหมือนเป็นตัวจี้กระตุ้นอารมณ์โมโหให้พุ่งสูง


“ทันไม่ทันก็เรื่องของเรา
นายไม่ต้องเข้ามายุ่งหรอก”


น้ำเสียงและคำพูดแฝงความไม่พอใจจนรู้สึกได้
คมสันชะงักคล้ายจับทิศทางของอีกฝ่ายถูก
ก่อนถอนใจ บอกเจตนาของตัวเองสั้น ๆ


“เราแค่หวังดีอยากจะช่วย”



...คำพูดเพียงคำเดียว


....ไร้ประโยชน์ใด ๆ หากต่างความหมายอย่างสิ้นเชิงในคนละมุมมอง



ปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นมาทันควัน
ดวงตากลมไม่ได้หลบไปทางอื่นแต่จ้องไปยังใบหน้าคมโดยตรง
พร้อม ๆ กับที่ความในใจพรั่งพรูทะลักทลายจากความอดทนที่สิ้นสุดลง


“แล้วนายคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้คนอื่นเขาต้องการเหรอ
ถ้าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนาย
แต่นายดันทำไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถามเขา
แบบนี้มันไม่เรียกว่าหวังดีหรอก แต่เรียกว่าสะ...!!”


ประโยคถูกหยุดไว้แค่นั้นก่อนเจ้าตัวจะเผลอพลั้งปากพูด
ด้วยรู้ดีว่าขืนบอกไปคงได้โดยเชือดคอแน่
หากแต่คมสันกลับถามขึ้นซ้ำ


“เรียกว่าอะไร”


“ช่างมันเถอะ”


ปลายฟ้าตัดบทสั้น ๆ
หันไปนั่งเล่นกับน้องกานดาแทน
เหมือนตั้งใจปิดประเด็น
ทว่าคู่สนทนากลับไม่ยอมแพ้
คว้าไหล่ของอีกฝ่ายอย่างแรงให้หันมาเผชิญหน้า


“บอกมา... ปลายฟ้า
ถ้าไม่เรียกว่าหวังดีแล้วมันเรียกว่าอะไร...”


น้ำเสียงเรียบเริ่มเปลี่ยนเป็นคาดคั้น
พร้อมกับมือที่บีบไหล่แน่น
จนคนที่อยากจะอยู่เฉยต้องเป็นฝ่ายร้องโวยวายดังลั่น


“โอยย!! ปล่อยดิ เจ็บนะโว้ยยย!!”


แม้พยายามดิ้นให้หลุดอย่างไรก็ไม่เป็นผล
น้องกานดาที่มองเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้า
หยุดดื่มนมแล้วเริ่มเบะปากร้องไห้ด้วยความตกใจกับเสียงดัง
ทว่ามือแกร่งกลับยังคงไม่ปล่อย
ดวงตาคมยังจ้องดุเหมือนรอคอย
จนเขาเป็นฝ่ายทนไม่ไหว
ต้องพูดโพล่งคำตอบขึ้นมาอย่างหมดความอดทน



“เออ ๆ บอกก็ได้

เขาเรียกว่า ‘เสือก!!’ ไง

...พอใจรึยัง!!”



...ชัดเจน


รู้ทั้งรู้ว่าคำที่พูดไปคือคำด่าเต็ม ๆ
ทว่านาทีนี้จะโดนอัดก็ไม่สนแล้ว


ปลายฟ้าสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุมที่คล้ายจะอ่อนแรงลง
ก่อนหันไปปลอบเด็กหญิงตัวน้อยที่ยังคงขวัญหนีจากการทะเลาะกันที่เพิ่งเกิดขึ้น

“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับ
ตกใจเหรอ พี่เสียงดังใช่มั้ย
นี่ไง... มีลูกอมด้วยนะ
หยุดร้องก่อนแล้วเดี๋ยวพี่จะให้กินลูกอมนะคนเก่ง”
 
เขาพยายามเอาขนมขึ้นมาล่อซึ่งก็ได้ผล
เพราะน้องกานดาเริ่มหยุดสะอื้นเช็ดน้ำตาปอย ๆ
แล้วหันมาให้ความสนใจกับลูกอมหลายสีที่อยู่ในมือของเขาแทน
ปลายฟ้าปล่อยให้เด็กหญิงตัวน้อยเลือกขนมอยู่แบบนั้น
ก่อนจะได้ยินเสียงพึมพำเบา ๆ เอ่ยขึ้นถามกลางเงียบ ๆ


“....ขอโทษ”


ดวงตากลมหันมองคนพูด
ซึ่งอีกฝ่ายคล้ายจะมองอยู่ก่อนแล้ว
พร้อมกับเอ่ยประโยคต่อที่เหลือ


“ไม่รู้ว่าที่เข้าไปช่วยจะทำให้รำคาญ”


ปลายฟ้านิ่งไปอึดใจ
รู้ตัวเหมือนกันว่าเป็นคนทำให้เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมันเลวร้ายมากแค่ไหน
เขาจึงเป็นพูดออกไปเช่นเดียวกันบ้าง


“เราต่างหากที่ขอโทษที่เมื่อกี๊พูดแรงไป
มันไม่ใช่ความผิดของนายหรอก”



...ความเงียบโรยตัวลงมาอีกครั้ง


แม้จะยอมให้อภัยกันทว่าบรรยากาศยังไม่คลายความอึดอัด
ก็คนเพิ่งจะทะเลาะให้เข้าหน้ากันติดคงจะยาก

ปลายฟ้าเริ่มลำบากใจกับสถานการณ์ที่แย่ลง
หันไปให้ความสนใจน้องกานดาเหมือนเดิม
หากแต่ใครบางคนกลับเริ่มต้นเป็นฝ่ายพูดมาลอย ๆ


“รู้มั้ยว่าเราเป็นพี่ชายคนโต
พ่อแม่เรามีลูกห้าคน ที่เหลือเป็นผู้หญิงหมด
มีแฝดคู่หนึ่ง ส่วนน้องคนสุดท้องเพิ่งจะเข้าประถม”


บทสนทนาที่ได้ยินทำให้คนอึดอัดต้องนิ่งฟัง
เหลือบมองร่างสูงที่นั่งเหยียดขาสบาย ๆ
ดวงตาคมทอดมองไปนอกบ้านซึ่งฟ้าเริ่มอ่อนแสงลง


“ตอนเราอยู่ม.ต้น บริษัทพ่อเราล้มพอดี
แม่ต้องออกไปทำงานหาเงินเพิ่มอีกแรง
เลยปล่อยให้เราช่วยเลี้ยงน้อง ๆ อยู่กับบ้าน
ตอนแรกมันก็ยากอยู่หรอก เราทำอะไรไม่ค่อยถูก
แต่พอเราต้องหัดดูแลใครสักคนอย่างจริงจัง
มันเลยทำให้เรารู้สึกโตขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น”
เราภูมิใจกับตัวเองที่เป็นแบบนั้น ดีใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น
ไม่รู้สิ....มันอาจไม่เกี่ยวกันก็ได้
แต่พอเห็นใครเดือดร้อน
เราเลยอยากจะเข้าไปช่วยเขาเท่าที่เราพอทำได้
...ก็แค่นั้น”



...เรื่องเล่ามากมายที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน
ปลายฟ้ากลับนั่งนิ่งตั้งใจฟังพิจารณาทุกคำพูด


...รู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น
ก็เลยชอบช่วยคนอื่นงั้นเหรอ
ถึงจะเป็นตรรกะแปลก ๆ ไปสักหน่อย
แต่มันคงเป็นเหตุผลหนึ่ง
ที่ทำให้ไอ้หน้าโหดเป็นคนแบบนี้


...และมันอาจเป็นเหตุผลที่ไม่ต่างอะไรไปจากเขา



“เห็นรอยแผลเป็นนี่ป่ะ...”


ปลายฟ้าพูดขึ้นมาบ้างพลางเปิดผมที่ปรกหน้า
ดวงตาคมพยายามมองหารอยเล็ก ๆ ที่ปรากฏบนหน้าผากด้านขวา
แม้รอยจะจางลงกลืนไปสีผิวขาวของเจ้าตัว
แต่ก็ยังเห็นได้อยู่ว่ารอยนั้นกรีดยาวขวางเกือบนิ้วหนึ่ง
แค่มองก็พอจะเดาได้ว่าแผลที่เกิดคงร้ายแรงไม่น้อย
และจริงดังคาดเมื่อคนถามเฉลยคำพูดออกมาให้ได้ตะลึง


“มันเป็นแผลตอนเราโดนรถชน
แล้วหัวไปโขกกับพื้นแรงจนเราน็อค”


ปลายฟ้าลดมือลง
ปล่อยให้ผมปรกหน้าผากปิดรอยแผลเหมือนเดิม
ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องถึงสาเหตุ


“ตอนนั้นเพิ่งขึ้นม.4 เปิดเทอมได้สองวัน
มีรถกระบะหักรถมอเตอร์ไซต์
แล้วเบียดมาชนเราที่จะข้ามถนนไปโรงเรียนพอดี
หัวเรากระแทกกับพื้นถนนแรงมาก
นอนสลบไปสองอาทิตย์ได้มั้ง
ช่วงนั้นเราจำอะไรไม่ได้หรอก
แต่ที่จำได้คือตอนตื่นมาเห็นแม่ร้องไห้อยู่ข้างเตียง
แม่บอกว่ากลัวเราจะไม่ฟื้นอีก
เราเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง
เขาเลยกลัวจะเสียเราไป

ตั้งแต่นั้นเราเลยคิดว่าเราจะไม่ทำให้แม่ร้องไห้อีก
เวลาจะทำอะไรเราต้องคิดให้ดีก่อน ไม่อยากให้แม่กังวล
อีกอย่างคนมันเคยเฉียดตายมาแล้ว ก็เลยอยากใช้ทุกวินาทีให้คุ้ม
ครั้งนั้นเราโชคดีที่สมองไม่ได้กระทบกระเทือนอะไรมาก
แต่ไม่รู้ว่าต่อไปเราโชคดีแบบนั้นอีกรึเปล่า
เวลาจะทำอะไรเราเลยต้องเลือกทำในสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด
ต่อไปจะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง

เออ....ไม่รู้เหมือนกันนะ
มันอาจจะไม่เกี่ยวกับนิสัยทำอะไรชักช้าของเราเหมือนอย่างนายก็ได้
แต่แค่อยากเล่าให้ฟังบ้างเฉย ๆ”


ปลายฟ้าพูดตะกุกตะกักลูบต้นคอแก้เก้อ
หน้าเนียนเริ่มร้อนขึ้นมาดื้อ ๆ
เพิ่งจะมารู้ตัวว่าเผลอคุยซะยาวเลย


...ความจริงมันเป็นเรื่องที่เขาไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนแม้แต่กับเพื่อนในกลุ่ม
ทุกคนคิดว่าเขาชักช้าเพราะเป็นนิสัยเดิม
แม้ว่าตัวเขาเองชอบทำอะไรให้ถี่ถ้วนอยู่แล้ว
แต่เหตุการณ์ที่มันเกิดเหมือนกับจะยิ่งทำให้อาการเขาหนักขึ้น
จนกระทั้งมันกลายเป็นสิ่งที่ยากจะแก้
คล้ายเป็นปมในใจ ที่เขาไม่อาจลืม


“งั้นสรุปว่าที่ชอบทำอะไรช้า
เพราะมัวเลือกอยู่เหรอ”

คมสันถามย้ำเหมือนต้องการความแน่ใจ
ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับ


“ก็เออสิ... พอนายตัดหน้ามาช่วยเลือกแทน
มันเลยเหมือนนาย...เออ....คือ...”


“เสือก”


“เฮ้ย! พูดเองนะ”

อยู่ ๆ อีกคนก็ต่อประโยคแทน
จนปลายฟ้าต้องรีบแก้ตัวเหมือนกลัวว่าจะโดนโกรธ
แต่ร่างสูงกลับหัวเราะออกมาอย่างไม่ติดใจเอาความแถมยังแกล้งแหย่กลับ


“รู้แล้ว เห็นไม่กล้าพูดเลยช่วยพูดให้”


คำแซวทำให้ปลายฟ้าเบ้หน้า
ทว่าก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มบาง ๆ 


น่าแปลก...
ที่เหมือนบรรยากาศอึดอัดเมื่อครู่จะคลี่คลายลง


มันคงจริงดังว่า...
คนเราพอหยุดทะเลาะเลิกใช้อารมณ์
แล้วต่างฝ่ายต่างหันมารับฟังเหตุผลตรง ๆ
มันอาจจะช่วยทำให้เราเข้าใจเรื่องทุกอย่างกันมากขึ้น



...ยังไม่ทันที่บทสนทนาจะดำเนินต่อ

เสียงยายจากด้านหลังบ้านก็เรียกให้ไปกินน้ำพริกเสียก่อน
วงข้าวเล็ก ๆ จึงเริ่มต้นขึ้นอย่างง่าย ๆ มีไข่เจียว แกงจืด ผักต้ม
และที่เด็ดสุดคือน้ำพริกมะขามฝีมือคุณยายที่เพิ่งไปเก็บมาสด ๆ จากต้น
โดยมีเรื่องเล่าจากคุณยายแกล้มไประหว่างมื้อ

ปลายฟ้าจึงได้รู้ว่าน้องแก้มอยู่กับยายสองคน
ส่วนพ่อแม่ไปทำงานในกรุงเทพส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน
โชคดีที่น้องแก้มเรียนเก่งจึงได้ทุนเรียน
ความเป็นอยู่เลยไม่ขัดสนมากเท่าไร

...ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกเกรงใจ
แต่พอน้ำพริกเข้าปากดันลืมหมด
กินกันเสียจนเกลี้ยง
แม้จะไม่อิ่มท้องเต็มที่เพราะเดี๋ยวต้องกลับไปจัดการที่ค่ายต่ออีก
ทว่าแค่นี้ก็พอแล้วที่จะทำให้แม่ครัวใหญ่ปลื้มยิ้มจนหน้าบาน


...ความสุขระหว่างเจ้าของบ้านกับผู้มาเยือน
คือการแบ่งปันน้ำใจเล็ก ๆ น้อยๆ ให้กันและกันแบบนี้นี่เอง


พอจบมื้ออาหาร ดวงตะวันใกล้ตกดิน
ทุกคนจึงได้ยินเสียงรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่แล่นมาจอดหน้าบ้าน
ซึ่งคนขับไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพ่อแม่ของเด็กหญิงกานดา
ที่คล้ายกับจะรู้อยู่แล้วว่าน้องอยู่ที่นี่ดังที่คุณยายเคยบอกไว้ว่า
คุณแม่ของน้องวานมาฝากยายเลี้ยงบ่อย ๆ
แต่ครั้งนี้มีนักศึกษาค่ายสองคนมาช่วยเลี้ยงด้วย


“ขอบคุณนะจ๊ะ ลำบากแย่เลย น้องไม่ดื้อใช่มั้ย”

หญิงสาววัยยี่สิบปลาย ๆ ดวงตาคู่สวยไม่ผิดไปจากน้องกานดา
เอ่ยขอบคุณพลางอุ้มน้องที่หลับไปอีกรอบจากมือปลายฟ้า

“ไม่เลยครับ พวกผมเล่นกับน้องสนุกมาก
ยังไงวันอาทิตย์นี้ถ้าพอมีเวลา
เรียนเชิญมาร่วมงานเปิดห้องสมุดใหม่ที่โรงเรียนด้วยนะครับ”

เขาถือโอกาสโฆษณางานค่ายไปด้วยในตัว
โดยมีคมสันพูดถึงรายละเอียดของค่ายอีกนิดหน่อยสมตำแหน่งประธาน
พอทั้งคู่รับปากว่าจะไป พวกเขาจึงเอ่ยขอตัวรีบเดินกลับก่อนฟ้าจะมืด


....ภารกิจในการส่งน้องจึงเป็นอันจบสิ้น



ปลายฟ้าถอนหายใจอย่างโล่งอก
เดินกลับมาตามถนนเดินดินเล็ก ๆ สายเก่า
ท้องฟ้าทอแสงสีส้มจาง ๆ ขณะพระอาทิตย์กำลังใกล้ตกดิน
ย้อมทุ่งกว้างและต้นไม้น้อยใหญ่ให้เป็นสีทองสวย
เขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็ม ๆ ปอด
บรรยากาศมันดีจนนึกอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความประทับใจ


....ที่สำคัญคือมันไม่ได้อึดอัดเหมือนตอนขามา


....ทั้ง ๆ ที่คนเดินข้าง ๆ ก็เป็นคนคนเดียวกัน



“ปลาย”


“หืม”


“วันหลังถ้าอยากให้ช่วยก็บอกมานะ
เดี๋ยวแยกไม่ถูก กลัวหาว่าไปเสือกอีก”


คำพูดที่ได้ยินทำให้เจ้าของชื่อต้องหันมอง
บรรยากาศกำลังดี ๆ มันชอบทำให้เสียฤกษ์อีกแล้ว
แต่คราวนี้เขาไม่ได้โกรธเท่าเดิม
ความรู้สึกมันคล้ายกับจะแซวเล่นมากกว่า

“โห ได้ทีพูดใหญ่เลยนะ
นี่ตั้งใจประชดใช่มั้ย”

ทว่าอีกฝ่ายกลับถือเป็นจริงเป็นจัง
รีบส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนหยุดเดินลงกลางคัน

“ไม่ใช่ เราพูดจริง ๆ
แล้วตกลงที่เราเดินมาส่งน้องด้วย
เรากำลังเสือกอยู่รึเปล่า”

น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าต้องการคำตอบ
ทำให้ปลายฟ้าต้องหยุดเดินลงบ้าง
เขาคิดทบทวนข้อความที่ได้ยิน


...ยอมรับว่าตอนแรกหงุดหงิดรำคาญ
ไม่เข้าใจว่ามันจะเดินตามมาส่งน้องกับเขาทำไม
ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไปเองคนเดียวได้
แต่พอมาเดินคุยกันแบบนี้
ได้รู้เรื่องบางอย่างที่ไม่เคยมองในอีกมุม

...มันกลับเปลี่ยนความคิดเขาไป


...ไม่หรอก


มันไม่ได้เสือก


แต่ว่า...




“...นายช่วยเรา

นายทำให้เราสบายใจขึ้น”

...ขอบใจนะ”



ปลายฟ้าหันไปยิ้มกว้างให้แทนคำขอบคุณ

....ไม่รู้อะไรที่เปลี่ยนแปลงความรู้สึกเขา
แต่ตอนนี้เขาคิดว่าไอ้หน้าโหดมันไม่ได้โหดเหมือนเคย
และบางทีเขาอาจจะเป็นเพื่อนกับมันก็ได้


...พอนึกได้แบบนี้อยู่ ๆ ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา


ถ้าไม่ได้มาด้วยกันเขาคงจะไม่รู้ถึงเหตุผล
และอาจจะคติกับมันไปตลอด
อย่างที่เคยรู้สึกกับพวกวิศวะที่ไอ้เกมส์เคยเล่าให้ฟัง


เออ...พูดถึงไอ้เกมส์เหมือนลืมอะไรไปอย่าง



เฮ้ย!! ฉิบหาย!


ตังค์สองร้อยที่พนันไว้กับไอ้เกมส์
ตายห่ากี่โมงแล้วเนี่ย
จากสิบห้านาทีพ่อล่อไปสองชั่วโมงครึ่ง


โอยย....หมดสิ้นแล้วกู!!



ปลายฟ้ากุมขมับความสบายใจตอนแรกเริ่มหายวับไปกับตา
คนที่เสียพนันรีบเดินนำหน้าไปอย่างหมดอาลัย
โดยไม่รู้เลยว่าคนที่มองอยู่ข้างหลัง
ยังคงติดอยู่กับความทรงจำในสิ่งที่เพิ่งผ่านมา



คมสันมองเงาของอีกคนที่เดินทาบไปกับพื้นถนน



...ปลายฟ้ารู้มั้ยว่าทำให้เขาสบายใจเหมือนกัน
ตอนแรกยอมรับว่าตกใจที่โดนปลายฟ้าว่าเอาอย่างนั้น
แต่พอคิดดูดี ๆ มันอาจจะเป็นจริงก็ได้
ที่ผ่านมาปลายฟ้าอาจอึดอัดกับการกระทำของเขา
พอรู้ว่าหายโกรธแล้วเลยค่อยโล่งใจ



แถมที่สำคัญยังมายิ้มให้กันแบบนี้....




“ปลายช่วยอะไรเราหน่อยได้มั้ย”


เสียงเรียกทักทำให้คนเดินนำสะดุดลง
หันกลับมามองอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน


...คนอย่างไอ้หน้าโหดเนี่ยนะ
ไหนบอกว่าชอบช่วยคนอื่นไง
แล้วมันจะให้เขาช่วยอะไรได้วะ


ปลายฟ้าขมวดคิ้วงงรอฟังคำขอจากปากคนจิตอาสาเป็นครั้งแรก


...และเป็นคำขอที่คนฟังถึงกับอึ้ง




“ปลายช่วยยิ้มบ่อย ๆ หน่อย

...ปลายยิ้มน่ารักดี

เราชอบ...


...ปลายช่วยยิ้มให้เราเห็นบ่อย ๆ ทีนะ”



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




แวะมาทักทาย  :กอด1:
ตอนนี้จัดมาให้แบบยาว ๆ กลัวไม่จุใจ
ในที่สุดมันก็มีพัฒนาการบ้างแล้วหลังจากโดนเชื้อเชื่องช้าจากพ่อเต่าปลายไป (ฮา)  :laugh:

ไอ้บุคลิกแบบพี่คมมันไม่ค่อยหวานหรอก
แต่อย่าเผลอปล่อยให้พี่เขาได้จังหวะล่ะกัน
มีจุกกันบ้างล่ะ ไอ้ปลายฟ้าเอย

ต่อจากนี้ความสัมพันธ์ของสองคนจะเป็นยังไง
จะคืบหน้าเร่งสปีดไปได้ไกลแค่ไหน
ยังไงก็ต้องขอฝากช่วยลุ้้นติดตามให้กำลังใจพ่อเต่าน้อยกันต่อไป  :-[

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อย อย่าลืมดูแลสุขภาพนะจ๊ะ

ขอบคุณค่า


 :จุ๊บๆ:

แล้วเจอกันนะ

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: Tnapat ที่ 17-11-2012 21:31:03
บรรยากาศเริ่มกลายเป็นสีชมพูล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 17-11-2012 21:38:38
 :-[ ม๊วฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 17-11-2012 21:46:44
ชะอุ้ย

หวานเกินไป

>///<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 17-11-2012 21:56:37
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 17-11-2012 21:57:02
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: saiiisai ที่ 17-11-2012 21:58:47
ตอนใหม่มาแล้ว
หวังว่าตอนต่อไป ปลายคงยิ้มบ่อย ๆ อย่างทีอีกคนขอนะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 17-11-2012 22:01:04
อั๊ยยะ คมสันรุกทีเล่นซะตรงจุดเลยอิอิ พูดตรงแบบนี้ เขินแทนปลายเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 17-11-2012 22:16:28
ตอนนี้ทั้งสองคนเข้าใจกันแล้ว  o22
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 17-11-2012 22:30:25
 :z2:

เค้าคืบหน้ากันแล้ว

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-11-2012 22:35:38
เริ่มจะเป็นสีชมพู
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 >; P.54
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-11-2012 22:44:36
ขอบคุณ ^ ^*
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 17-11-2012 22:54:30
ฮิ้วววว!! พี่คมมีหยอดน้องเต่าปลายซะด้วยยย  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 17-11-2012 23:05:52
ดริ่มปรับความเข้าใจ ก็ใกล้ที่จะรักกัน รอลุ้น มาต่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 17-11-2012 23:24:37
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :-[
เด๋วนี้พระเอกชั้นมีหยอด
น้องปลายไปใช่เบ้าขนมครกนะ
อย่าหยอดบ่อยๆ จับปล้ำเลยไวดี
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :z1: :oo1: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 17-11-2012 23:36:05
นึกว่าจะต้องโดนดิวคาบไปกินก่อนพี่คมสันแกถึงจะทำอะไรกับเขาบ้าง

เปิดใจรับเรื่องราวของกันแล้ว อิอิ แค่นี้ก็คงถือว่ามากแล้วหละเนาะ พ่อเต่าน้อย กับพ่อหมี
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 17-11-2012 23:37:11
พูดกันเยอะขึ้นแล้ว :-[ :-[


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 17-11-2012 23:38:11
เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น
โลกก็จะเป็นสีชมพู :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 17-11-2012 23:51:57
น่ารักอ่ะ. ยิ้มให้เราบ่อยๆนะ

เริ่มรักกันละ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 18-11-2012 00:00:01
ขอความช่วยเหลือแบบนี้
มีนัยอะไรซ่อนอยู่ลึกๆหรือเปล่าพี่คม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 18-11-2012 00:30:02
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 18-11-2012 00:58:20
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: gcc ที่ 18-11-2012 01:48:59
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 18-11-2012 07:16:33
เริ่มเปิดใจให้กันแล้ว ต้องอย่างนี้ซิ
ถ้าไม่คุยกันจะเข้าใจกันได้ไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 18-11-2012 08:34:35
แล้วก็รู้ถึงสาเหตุของความช้าของปลาย  แต่การชอบชวยเหลือคนของคมสัน

ตอนนี้ก็เป็นพัฒนาการอีกก้าวของทั้งคู่ นี่แหละน่าเปิดใจคุยกันตั้งแต่ทีแรก มันก็จะได้ไม่คิดกันไปเอง

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 18-11-2012 11:31:35
เริ่มมีพัฒนาการแล้ว แต่ตอนนี้ให้อารมณ์แบบเพื่อนคุยกันอยู่ ไม่ได้จงใจรุกแบบดิว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-11-2012 12:23:40
ปลายยิ้ม น่ารักดี เราชอบ อ๊ากกกก พูดมาได้ไง เขิน :-[

เหมือนอะไรๆกำลังจะดีขึ้น ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 18-11-2012 12:55:24
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 18-11-2012 14:10:56
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  เค้าปรับความเข้าใจกันแล้วค่า เจ้าข้าเอ๊ย
กว่าจะปรับกันได้ กว่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไงปาไปตอนที่สิบ

แล้วกว่าพวกน้องๆ จะชอบกัน รักกันไม่ปาไปตอนสามสิบเลยเรอะ ห๊ะ?
ฮ่าๆๆๆ  แต่ก็ได้รู้แล้วว่าทำไมคมสันชอบช่วยเหลือคนอื่น
และทำไมปลายฟ้าถึงเป็นคนช้า เป็นเต่าปลายแบบนี้
แต่ละคนก็มักจะมีเหตุผลที่บอกใครไม่ได้แบบนี้สินะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 18-11-2012 17:00:59
อยากกรีดร้องแต่กลัวซ้ำรอย เพราะเรามาอ่านแบบเต่าๆ ช้าไปไหมเธอว์ที่จะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 1] 18
เริ่มหัวข้อโดย: mino ที่ 18-11-2012 17:17:12
ฮ่าๆๆๆ โอ้ยขำ  :m20: เอากันงี้เลยฮ่าๆๆๆ o13 :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 2] 19
เริ่มหัวข้อโดย: mino ที่ 18-11-2012 17:26:29

ฮะ... o12 o12 :a6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 3] 22
เริ่มหัวข้อโดย: mino ที่ 18-11-2012 17:35:38
คนอ่านขอมึนด้วยคน :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks [ช็อตที่ 4] 26
เริ่มหัวข้อโดย: mino ที่ 18-11-2012 17:46:17
เห้ยนาย เรามีไรจะบอกนายว่ะ ขอหยาบคายหน่อยนะ...แม่งบ้าว่ะศร :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 18-11-2012 18:15:19
กว่าจะเข้าใจกันได้   เข้าไปตอนที่สิบ :เฮ้อ: ลุ้นเหนื่อย

ภาคนี้น่าจะยาวที่สุดของซีรี่ย์แน่เลย :laugh:

 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 19-11-2012 10:04:46
เปิดใจกันแล้ว...บรรยากาศก็กลายเป็นสีชมพูเลยย....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-11-2012 11:38:22
ค่อยๆใกล้กันที่ละนิด :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-11-2012 11:49:32
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 10] 17/11/55 > P.54
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-11-2012 15:33:42
เจอคมสันขอแบบนี้เรากลัวว่าปลายจะไม่กล้ายิ้มให้น่ะสิ หึหึ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 20-11-2012 23:01:45
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 11


ความลับไม่มีในโลกฉันใด
นายปลายฟ้าก็ยังคงความหล่ออยู่เหมือนเดิมฉันนั้น


ถุย!  ไม่ใช่...


ที่ความลับไม่มีในโลกเพราะสุดท้ายแล้ววันหนึ่งความจริงมันก็ต้องปรากฏ
ต่อให้พยายามปิดบังมากแค่ไหนก็ตาม


....เหมือนเช่นครั้งนี้
ที่กลุ่มคณะเด็กเภสัชชายล้วนห้าคนกำลังสุมหัวรวมกัน
ขยายความจริงอยู่บริเวณหน้าเต้นท์หลังมื้ออาหารกลางวัน
โดยมีไอ้เกมส์เป็นคนเปิดประเด็น


“ไอ้แว่น มึงรู้เหรอวะ”


“ก็กูไม่โง่นี่หว่า เห็นพวกนั้นมองก็พอเดาออกแล้ว”


...เออ ไอ้ฉลาด

ปลายฟ้าอ่านสายตาคนรอบข้างได้แบบนั้น
แต่ทุกคนยังคงยั้งปากไม่อยากขัดจังหวะให้เสียรูปการณ์
เพราะเรื่องที่กำลังคุยกันมันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวด

“ตกลงมึงไปรู้มาได้ยังไงเล่าให้เคลียร์ดิ ๆ”

คำถามถูกพูดขึ้นจี้จุดอีกรอบ
ซึ่งคนตอบแสดงท่าทางจริงจังขยับแว่นให้เข้าทีก่อนเริ่มต้นอธิบาย

“ก็ตอนเที่ยงกูลุกไปตักข้าวมาเพิ่ม
แล้วทีนี้มันต้องผ่านโต๊ะพวกเด็กวิศวะ
กูเลยบังเอิญได้ยินพวกนั้นพูดกันว่า
‘ทำงานแลกเกรด สบายเป็นคุณชาย พวกได้อภิสิทธิ์แม่งก็แบบนี้’
พอคนในโต๊ะมันเหลือบมาเห็นกู เลยสะกิดกันให้เงียบ
ถึงมันไม่ได้บอกชื่อมาว่าพูดถึงใคร
แต่โง่แค่ไหนก็ต้องดูออกล่ะวะว่ากำลังนินทาพวกเราอยู่”

ไอ้เกมส์หันมองหน้าเขาหลังฟังเรื่องราวจากปากเพื่อน
เหมือนกับจะบอกว่าเป็นสถานการณ์เดียวกันกับที่เคยโดยตรงหน้าห้องน้ำ
เจ้าตัวจึงตัดสินใจเล่าสิ่งที่พบเจอมาให้คนอื่นนอกจากปลายฟ้าฟังบ้าง
แถมยังตบท้ายด้วยคำสบถอย่างเคืองแค้น

“แม่งลูกผู้ชายรึเปล่าวะ ขี้นินทายังกับผู้หญิง
มีปัญหาอะไรสู้มาเคลียร์กันตัว ๆ เลยดิ
แม่งไม่แน่จริงนี่หว่า!!”

ปลายฟ้าพยักหน้าเห็นด้วย
ไอ้พวกเด็กวิศวะทำตัวน่าโมโหจริง  ๆ
มานินทากันลับล่อ ๆ สนุกปากเอาเอง
ครั้งแรกยังพอทน แต่ครั้งที่สองแม่งก็ยังพูดแบบนี้
แล้วยังไม่นับกับที่พวกเขาไม่ได้ยินอีกตั้งเท่าไร
ถึงจะทำงานผ่านมาห้าวันถือเป็นครึ่งทางของค่ายอาสาแล้ว
แต่จะให้เขาทนฟังคำดูถูกไปจนจบค่ายมันก็มากไป

...เด็กเภสัชเองก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะโว้ยย!


“แล้วจะให้ทำไง ออกไปต่อยมันเหรอวะ”
รู้อยู่ว่าขืนมีเรื่องกันอาจารย์ชลิดาไม่เอาไว้แน่
เผลอ ๆ มีรายงานความประพฤติไปยันอาจารย์ที่ปรึกษานู้น ”

ไอ้แว่นแจงเหตุผลแย้งคนอารมณ์ร้อน
ซึ่งก็ได้ผลเพราะทุกคนเริ่มคิดถึงสิ่งที่จะตามมา
การมีเรื่องทะเลาะชกต่อยกันในค่ายถือเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สุด
ควรเลี่ยงได้ก็ต้องเลี่ยงไม่งั้นคนก่อเรื่องคงโดนเพ่งเล็งจนเสียประวัติแน่

“แล้วมึงบอกบอลล่ารึยัง”

เกมส์ถามถึงชื่อของบุคคลเดียวที่ไม่ได้มาร่วมวงสนทนา
เพราะตอนที่ไอ้แว่นลากมาคุยมีแค่ เกมส์ โจ ตุ๊ต๊ะ แล้วก็เขา
คนถูกถามรีบส่ายหัวปฏิเสธ

“ยัง ถ้าบอลล่ารู้ กูคงเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้านได้เลย”

ทุกคนในกลุ่มเห็นพ้องต้องกัน
เพราะแม้ว่าบอลล่าจะละทิ้งความมาดแมนแรงเกินร้อยไปแล้ว
แต่เรื่องศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเจ๊ยังคงรักษาไว้เหนี่ยวแน่น
จะไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติได้ง่าย ๆ 
แถมเจ๊ยังใจร้อน ถ้าโมโหอะไรเจ๊ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้น
หวุดหวิดจะมีเรื่องกับคนอื่นมาแล้วหลายที
เป็นบุคคลที่ไม่สมควรให้ได้ยินคำนินทาพวกนี้เป็นที่สุด

ทว่าดูเหมือนโชคชะตาแห่งความลับจะไม่เข้าข้างพวกเขา
เพราะวินาทีหลังจากนั้นเสียงหวานกึ่งแมนร้องดังมาจากข้างหลังทันที


“ว่าไงจ๊ะหนุ่มๆ คุยอะไรกันเอย...”

คนถูกทักห้าคนสะดุ้งกันเกรียว
โห....ศักดิ์สิทธิ์จริง  ๆ พูดถึงเจ๊ เจ๊ก็มา
แถมยังมาได้จังหวะเรื่องไคล์แมกซ์เข้าพอดีแบบไม่ทันตั้งตัว
จนไอ้เกมส์ต้องรีบตอบปฏิเสธตะกุกตะกัก

“อะ...เออ ไม่มีอะไร
คะ..แค่คุยเรื่องงานเฉย ๆ”

และแน่นอนว่าพฤติกรรมสุดแสนมีพิรุธ
ย่อมไม่พ้นสายตาเจ้าสังเกตของบอลล่า
ที่หรี่ลงมองคนตรงหน้าด้วยอาการจับผิด

“จริงเหรอ แล้วทำไมต้องหลบ ๆ ซ่อนด้วย
ทำตัวน่าสงสัยเหมือนสามีแอบไปมีกิ๊กแล้วกลัวเมียจับได้เลยนะยะ
นี่! อย่าโกหก บอกมาไอ้เกมส์! แกนินทาชั้นอยู่รึเปล่า”


“เปล๊าครับเจ๊  โห....ใครจะกล้า
ถ้าจะนินทาคงบอกว่าเจ๊ส๊วยยยสวยย
ไอ้แว่นมันเพิ่งจะบอกให้เจ๊เป็นแบบให้น้องดู
เนี่ยกะจะบอกน้องว่าเจ๊สวยเหมือนนางพันธุรัตเลย”


“มันแน่อยู่แล้วว่าชั้นสะ..สวย...
เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน นางพันธุรัตนี่มันชื่อยักษ์ในสังข์ทองไม่ใช่เหรอ
กรี๊ดดดด!! ไอ้เกมส์ แกว่าชั้นเหมือนนางยักษ์เหรอย่ะ
มาให้แม่จับกินซะทีเถอะ!!”

โชคดีที่ไอ้เกมส์หาทางเล่นมุกเอาตัวรอดกลบเกลื่อน
พร้อมกับวิ่งเปิดแน่บไปทางอาคารเรียนเรียบร้อย
โดยมีบอลล่าที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าโดนแหย่ตามไปติด ๆ
เป็นอันแก้ไขสถานการณ์ไปได้อย่างหวุดหวิด
คนในกลุ่มที่เหลือถอนหายใจอย่างโล่งอก
ก่อนจะค่อย ๆ เดินตามไปสบทบที่หลัง


ปลายฟ้าเองมองคนสองคนที่วิ่งไล่กันอย่างกับเด็กประถม
ทว่าในสมองกลับยังคงขบคิดเรื่องที่ได้ฟังซึ่งยังคงคาใจอยู่

...เขาไม่อยากให้เด็กวิศวะเข้าใจเด็กเภสัชผิด
ถึงไม่ได้สนิทกันหรือร่วมงานอะไรกันมากมาย
แต่พวกเราก็ถือเป็นหนึ่งในชาวค่าย ทำงานด้วยจิตอาสาเหมือนกัน
เขาแทบจะลืมเรื่องที่มาค่ายเพื่อแลกกับเกรดไปแล้วด้วยซ้ำ
ดังนั้น เลยอยากอธิบายจะให้ทุกคนได้เข้าใจ
แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มทำด้วยวิธีไหนดี

....จะให้เข้าไปถามตรง ๆ
มันเหมือนไปหาเรื่องกันรึเปล่า
แล้วพวกนั้นจะยอมบอกง่าย ๆ เหรอ

...จะให้เขียนจดหมายไปแปะไว้
มันก็จะดูตลกไปมั้ย
ไม่ใช่เด็กประถมทะเลาะกันสักหน่อย

...หรือจะให้มีตัวกลางเป็นคนประสานดี
เออ...เข้าท่าเหมือนกัน


ถ้างั้นจะเป็นใครล่ะ...

ต้องเป็นคนประสานที่ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ไม่มีอคติทั้งเด็กเภสัชและวิศวะ
สามารถแก้ไขปัญหาได้ แล้วทุกคนยอมรับฟัง


ภาพของใครบางคนลอยวาบเข้ามาในหัว
สะกิดให้ปลายฟ้านึกขึ้นมาได้


จริงด้วยสิ....


ถ้าเป็นคนคนนั้นล่ะก็...



“เฮ้ย!!  ไอ้ปลาย ระวัง!!”

เสียงตะโกนเตือนดังลั่นทำให้คนที่กำลังก้มหน้าก้มตาคิดต้องเงยหน้าขึ้นมอง
ทว่ามันกลับช้าไป เพราะแค่เสียววินาทีบางสิ่งบางอย่างกลับพุ่งใส่เขาเข้าอย่างจัง



ซ่า!!



...ขาว


....ขาวเลยกู


ไม่ต้องไปให้หมอฉีดกรูตาไธโอแบบทีเขาฮิต  ๆ
หรือต้องกินวิตามินเป็นกำ ๆ แบบพี่โดม
ตอนนี้ทั้งแขนขาของนายปลายฟ้าขาวผ่องเปล่งออร่าด้วยครีมยี่ห้อใหม่
ที่ชื่อว่า ‘สีน้ำโฟร์ซีซั่น’ สีทนได้ทุกฤดูกาล


“เป็นไรเปล่าวะมึง”

ไอ้เกมส์ที่ร้องเตือนเขารีบวิ่งเข้ามาดูพร้อมกับเพื่อนคนอื่น ๆ
ซึ่งมีท่าทีตกใจกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นตรงหน้า
เมื่อเห็นพ่อเต่าน้อยประจำกลุ่มโดนสีทาบ้านสาดใส่เข้าเต็ม ๆ ตัว
จากชายหนุ่มคู่กรณีสองคนซึ่งกำลังส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างหงุดหงิด


“แม่งเอ้ยย...สีหกหมดเลย
แล้วจะทำไงวะเนี่ย ยิ่งรีบ ๆ อยู่ด้วย
ไอ้เต้ มีเหลืออีกแกลลอนหนึ่งรึเปล่ากลับไปดูดิ”

คนพูดเป็นชายรูปร่างสูง ผิวแทน หน้าตาคมออกแนวคนใต้
เดินคู่มากับอีกคนที่สูงพอกับนายปลายฟ้าแต่หน้าตาออกตี๋ ๆ
ถึงแม้เขาจะไม่รู้จักแต่เคยเห็นผ่าน ๆ ว่าอยู่รวมกลุ่มกับพวกเด็กวิศวะ
ทั้งสองคนหันหลังกลับทำท่าเหมือนจะเดินไปเอาสี
โดยไม่สนใจคนที่ยืนตัวขาวโพลนเลยแม้แต่น้อย


“เฮ้ย! จะไปไหนวะ ขอโทษสักคำน่ะเป็นมั้ย”

คำเอ่ยรั้งเรียกให้คนที่กำลังเดินออกห่างชะงัก
ก่อนชายผิวเข้มจะหันมากวาดมองพลางพูดโต้กลับด้วยท่าทางไม่สนใจ


“ทำไมต้องพูดวะ
ไอ้คนที่ไม่ทำงานทำการเอาแต่วิ่งเล่น
แล้วมาชนคนอื่นจนทำสีหกเนี่ย
ใครกันแน่ที่มันต้องเป็นฝ่ายขอโทษ”


ปลายฟ้ายืนนิ่งฟังถ้อยคำที่เหมือนหาเรื่องอยู่กลาย ๆ ด้วยความตะลึง


....เขายอมรับว่าตัวเองเดินเหม่อจริง
แต่เขายังมีสติเดินตรงไปตามทาง
ไม่ได้เฉไปไหนจนชนใครได้ง่าย ๆ
และเพื่อน ๆ ในกลุ่มก็ยังเห็นเป็นพยานชัดเจน
เช่นเดียวกับบอลล่าที่ก้าวมานำหน้าออกโรงเถียงแทนอย่างนึกฉุน

“นี่อย่ามามั่วนะยะ!! พวกชั้นไม่ได้วิ่งชนพวกเธอซะหน่อย
เธอเดินสะดุดแล้วกระแทกพ่อเต่าน้อยจนสีหกใส่เองชัด ๆ
ชั้นเห็นเต็มๆ ตา ยังจะกล้าเถียงอีกเหรอห่ะ!!”

ทว่าคำด่ากลับไม่ส่งผลกระทบกระทือนใด ๆ กับคู่กรณี
ซ้ำอีกฝ่ายยังยักไหล่ส่งเสียงในลำคอตอบกลับอย่างดูถูก

“หึ พวกกันมันก็ต้องเข้าข้างกันอยู่แล้วนี่หว่า
เด็กเภสัชแม่งก็แบบเนี่ย ชอบเอาเปรียบคนอื่น”

“เอาเปรียบยังไงวะ แม่งพูดมาให้ดี ๆ
แล้วไอ้เด็กวิศวะมันวิเศษนักเหรอไง
ถึงได้เที่ยวนินทาคนอื่นเขาไปทั่ว”

ไอ้เกมส์ทนไม่ไหวอีกคน
พูดโพล่งขึ้นมาพร้อมเดินขึ้นไปใกล้อีกฝ่าย
เหมือนตั้งใจว่าถ้าปล่อยหมัดใส่คงได้โดนกันแน่
แต่คนถูกท้ากลับไม่มีทีท่าว่าจะกลัว
เอ่ยสวนกลับด้วยน้ำเสียงชวนทะเลาะ

“นินทาอะไร?
เรื่องที่พวกเภสัชมาค่ายจะเอาเกรดน่ะเหรอ
แล้วมันไม่จริงรึไงวะ!
หรือว่ามันแทงใจ พวกมึงเลยโมโห”


“กรี๊ดดด!!  แกกล้าดียังไงย่ะ!!
มันปากหรือตูด ถึงได้พูดออกมาได้
โอยย...ชั้นทนไม่ไหวแล้ว
ขอแม่ตบล้างน้ำสักทีเถอะ!!”

คนใจร้อนสุดในกลุ่มร้องโวยวายขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
หญิงเดี่ยวในร่างชายใจเด็ดจึงเตรียมยกมือหมายจะประเคนหนุมานถวายแหวนให้เป็นรางวัล
แต่ยังไม่ทันที่มวยคู่เอกจะเริ่มหรือกรรมการสั่งห้ามได้ทัน
เสียงตะโกนดังลั่นจากด้านหลังกลับส่งผลให้การกระทำทุกสิ่งชะงัก


“หยุดนะ มีเรื่องอะไรกัน!!”


คำสั่งเด็ดขาดมาพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของท่านประธานค่าย
ที่พ่วงมาด้วยรองประธานสุดหล่อ
ซึ่งพอเห็นสภาพเลอะเทอะไม่มีชิ้นดีของใครบางคน
ดวงตาเรียวก็ต้องเผลอเบิกกว้างร้องถามขึ้นด้วยความตกใจ


“ปลายฟ้า! ทำไมขาวไปหมดแบบนั้นล่ะครับ เกิดอะไรขึ้น!?”


บอลล่าไม่รอช้าเมื่อเห็นพระเอกขี่ม้าขาวมาตรงหน้า
จึงรีบปรี่เข้าไปออเสาะพลางแฉเล่าสถานการณ์อย่างตื่นกลัว
เหมือนลืมสนิทว่าเมื่อกี๊แม่ยังจะออกลายท้าตบเขาอยู่เลย


“โอยย... ดิวขา ก็พวกนี้น่ะสิค่ะ
มันสะดุดล้มมาชนปลายฟ้าจนสีหกใส่ทั้งแกลลอน
ไม่ขอทงขอโทษอะไรเล๊ยซ้ากกคำ
แล้วยังมีหน้ามาหาว่าพวกเราเป็นคนวิ่งเล่นไปชนเองอีก
คนอะไรไม่หล่อ แถมยังปากหมาไม่น่าเก็บไว้ทำพันธุ์!!”


กระนั้นเจ๊บอลล่าก็ยังไม่วายลงท้ายด้วยคำจิกกัดเจ็บแสบ
จนคนถูกด่าแทบจะเข้าไปกระชากคอเสื้อร่างบางด้วยความโมโห

 
“ว่าไงนะ อีตุ๊ด!”


“เดี๋ยว ๆ อย่าเพิ่งทะเลาะกัน
เขาว่าแบบนั้น จริงรึเปล่าวะ ไอ้บีม”


ยังดีที่นายคมสันประธานค่ายเข้ามาขวางไว้ทันแล้วเปลี่ยนประเด็นขึ้นมาแทน
พอได้ยินชื่อปลายฟ้าจึงนึกออกว่าคนคนนี้คือเจ้าของตำแหน่งเหรัญญิกประจำค่าย

...มิหน่าเขาถึงเห็นว่าดูคุ้น ๆ ตา
และคงจะเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพวกประธานด้วย
จึงทำให้คนเล่าพูดอย่างมีท่าทีสนิทสนม


“จะถามทำไมวะ มึงก็รู้ว่าพวกเภสัชทำแต่งานง่าย ๆ
เลยมีเวลามาเดินเล่นเกะกะขวางทางชาวบ้าน
พวกกูสิยุ่งจะตายห่าไม่มีคนมาช่วยอยู่แล้ว”


แต่เหมือนคำตอบที่ได้รับจะยังไม่เป็นที่พอใจของคนฟัง
คมสันจึงเอ่ยถามซ้ำอีกครั้งให้เข้าประเด็นชัด ๆ


“ตกลงมึงสะดุดแล้วไปชนเขาจริง ๆ รึเปล่า”


คนโดนซักอึกอักเล็กน้อย
ทว่าเมื่อโดนดวงตาคมดุของเพื่อนตัวเองคาดคั้น
จึงได้แต่ตอบรับอ้อมแอ้ม


“....ก็บอกแล้วไงว่าพวกกูกำลังยุ่งอยู่”


“สรุปมึงชนเขา งั้นมึงขอโทษเขาซะ”


ท่านประธานตัดสินง่าย ๆ อย่างคนพอเดาเรื่องได้
อีกฝ่ายส่งเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างหงุดหงิด
ทว่าลงท้ายก็ต้องพูดคำนั้นออกมาตามคำสั่งแกน ๆ


“เออ ๆ ก็ได้

...ขอโทษ

พอใจยัง?”



“ยัง”


ทุกคนในวงสนทนาหันมองผู้พูดทันทีอย่างแปลกใจ
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนที่โดนสีขาวสาดใส่เต็มตัว


นายปลายฟ้ายังคงยืนนิ่งราวกับไม่สนใจจะเช็ดรอยเปื้อนออก
แต่กลับเริ่มต้นพูดในสิ่งที่เขาต้องการมานาน


ถ้อยคำที่เขาอยากจะอธิบาย...



“เรายังไม่พอใจ จนกว่านายจะเข้าใจพวกเราใหม่
จริงอยู่ที่ว่าพวกเรามาค่ายอาสา เพราะมันเป็นคะแนนส่วนหนึ่งในวิชาเรียน
แต่พอเรามาทำงานตรงนี้ เราก็ตั้งใจทำมันเต็มที่ทุกวัน
เราอยากจะช่วยจริง ๆ ไม่ได้คิดถึงเรื่องคะแนนอะไรเลย
แล้วที่เป็นฝ่ายวิชาการกับสวัสดิการพวกเราก็ไม่ได้เป็นคนเลือกเองด้วย
ถ้างานส่วนอื่นมันยุ่ง หรือมีอะไรที่เราพอทำได้ ก็ขอให้บอกมาเราจะช่วย
งานหนัก งานเบา ทำร่วมกับคณะ ชั้นปี เพศอะไรเราไม่เกี่ยง
แล้วไม่คิดจะเอาเปรียบใครทั้งนั้น
เพราะเราถือว่าเราเป็นคนค่ายวิศวะอาสาเหมือน ๆ กัน
มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันกับพวกนายทุกคน”



...สิ้นคำพูด ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบ


เรื่องพวกนี้นายปลายฟ้าเคยคุยกับคนในกลุ่มมาก่อนแล้ว
แรก ๆ ทุกคนเคยคิดว่าไอ้ค่ายนี้มันคงน่าเบื่อ
แต่พอได้มาอยู่นานวันเข้า พวกเขากลับพบว่ามันสนุกมากกว่าที่คิด
ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ได้เห็นรอยยิ้มของน้อง ๆ ที่ไปสอนหนังสือ
ได้ลองทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำ
จนเกือบลืมไปว่าตัวเองมาที่นี่เพื่อหวังเอาคะแนน
ต่างคนต่างช่วยงานกันเต็มที่ด้วยจิตอาสาจริง ๆ
เขาเลยอยากจะลองอธิบายเพื่อหวังให้คนที่มีอคติต่อตัวพวกเขา
ได้เข้าใจชัดเจนว่าตอนนี้เด็กเภสัชรู้สึกกันยังไง


และดูเหมือนความพยายามของนายปลายฟ้าจะไม่สูญเปล่า
เพราะคู่กรณีของเขาพยักหน้าลงเหมือนยอมรับ
ก่อนพูดด้วยท่าทีและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป


“อืม...เข้าใจแล้ว เราขอโทษด้วยแล้วกันที่เคยว่าพวกนาย”

คำกล่าวในประโยคอ่อนลง
คล้ายกับเจ้าตัวกล่าวออกมาจากใจจริง
ทำให้บอลล่าซึ่งเครื่องร้อนเริ่มเย็นลงบ้าง
แล้วจึงหันมาเอ่ยตอบกลับไปเช่นเดียวกัน


“ชั้นเองก็ขอโทษด้วยเหมือนกันที่พูดแรงไป
หาว่านายเป็นหมาไม่น่าเก็บไว้ทำพันธุ์
จริง ๆ หมาพันธุ์อื่นที่น่ารัก ๆ ก็มีเยอะนะ
แบบพุดเดิ้ล ชิสุ เชาเชา อะไรยังเงี้ย”


....พูดไปพูดมาชักฟังทะแม่ง ๆ จนไอ้เกมส์ต้องรีบยั้ง


“เดี๋ยวก่อน แบบนี้มันก็ไม่พ้นหมาอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับเจ๊!”


คนในวงหัวเราะครืนกับมุกที่มาโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทว่ามันก็ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดก่อนหน้าคลี่คลายลง


...ดีแล้วที่เริ่มต้นหันหน้าคุยกัน แทนที่จะใช้กำลัง
เรื่องจึงจบลงแบบไม่บานปลายใหญ่โต
เหลือก็แค่ให้คนอื่น ๆ ในค่ายได้เข้าใจพวกเขาบ้าง
และเหมือนโอกาสไปสู่หนทางนั้นอาจจะไม่ยากเย็นเท่าไร
เพราะประธานค่ายหันไปถามบีมก่อนเสนอทางเลือกให้พวกเขา


"เออ...จริงสิ เห็นมึงบ่นว่าขาดช่างทาสีไม่ใช่เหรอ
ก็ชวนพวกเขาไปช่วยด้วยเลยเป็นไง
ส่วนที่ต้องไปสอนเด็กเดี๋ยวเราจะวานบอกให้พวกพี่อ้อมทำให้แทน
งานมันเร่งพวกพี่เขาคงเข้าใจ”


ท้ายประโยคนายคมสันหันมาคุยกับทั้งหัวหน้าหน่วยวิชาการและสวัสดิการ
ซึ่งหันมามองคนในกลุ่มเหมือนถามความเห็น
และได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าตรงกัน
ดังนั้นช่วงบ่ายเด็กเภสัชจึงถูกโอนย้ายไปแผนกก่อสร้างชั่วคราวด้วยความเต็มใจ
เป็นอันสรุปข้อยุติไปได้เรื่องหนึ่ง


...กระนั้นยังเหลืออีกเรื่องที่ยังคาค้าง



“ปลายไปล้างตัวก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมช่วยเองนะ”


ดิวเสนอขึ้นมา หลังจากเงียบอยู่นาน
ทุกคนในกลุ่มจึงเพิ่งตระหนักได้ว่าปลายฟ้ายังยืนขาวผ่องไปทั้งตัว
แต่คนที่โดนเรียกกลับรีบพูดปฏิเสธ


“ไม่ต้องหรอก แค่ไปอาบน้ำใหม่เอง
เราไปคนเดียวก็ได้ ดิวไปช่วยทาสีเถอะ
เสร็จแล้วเดี๋ยวเราตามไป”


ทว่าหนุ่มหล่อกลับขมวดคิ้วถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ


“ไปคนเดียวได้แน่เหรอครับ ให้ผมไปช่วยดีกว่านะ”


“เราทำได้ไม่ต้องห่วง”


ปลายฟ้ายังคงยืนยันหนักแน่น

มันแน่อยู่แล้ว....
จะให้อีกคนไปช่วยอะไรล่ะ
แค่อาบน้ำใหม่ก็เรียบร้อยแล้ว
ขืนมัวมารอกันได้เสียเวลาเปล่า ๆ
ถึงจะเดาได้ว่าดิวคงอยากช่วยเหลือตามประสาบัดเดอร์ที่ดี
แต่จะให้ถึงขนาดไปช่วยเขาแก้ผ้าอาบน้ำมันก็ยังไงอยู่นะ


กระนั้นดิวยังคงไม่ละความพยายามเอ่ยท้วง


“แต่ผมว่า....”


“อูยยย! จีบกันอยู่นั้นแหละค่า อิจฉานะคะเนี่ย
ดิวไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พ่อเต่าน้อยมันทำได้
ขืนไปอยู่รอกว่าจะเสร็จคงทันข้าวเย็นพอดี
ดิวมาช่วยทาสีด้วยกันกับบอลล่าดีกว่า
บอลล่าอยากจับคู่ผสมสีชมพูด้วยกันกับดิวจังเลย~”

บอลล่ารีบร้องสวนขึ้นมาทันที พลางขยับไปคล้องแขนดิว
เดินลากควงไปอีกทางโดยไม่ลืมหันมาขยิบตาให้ปลายฟ้า
เหมือนจะรู้ว้าเจ้าตัวเริ่มลำบากใจจึงเข้ามาช่วยกู้สถานการณ์ให้แทน


คนในวงสนทนาจึงเริ่มต้นแยกย้ายกันไป
กลุ่มเภสัชเดินตามกลุ่มวิศวะกลับไปเอาอุปกรณ์ทาสี
ประธานหายไปทางอาคารเอนกประสงค์คงไปตามพี่อ้อมเหมือนที่เคยพูด
ส่วนเขาหันหลังกลับไปยังเต้นท์รีบวิ่งเร็วจี่ไปหยิบเสื้อกางเกงพร้อมสบู่
เดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำ เพื่อจัดการล้างเนื้อตัว


...ดีที่ว่าสีที่โดนสาดเป็นสีน้ำ
ถ้าเป็นสีน้ำมันต้องใช้ทินเนอร์ล้างออก
มีหวังเขาได้เมาทินเนอร์จนเหม็นไปทั้งตัวแน่

แต่ถึงอย่างนั้นโดนสีแค่นี้ก็นับว่าคุ้ม
ที่อยู่ ๆ ดันมีโอกาสเคลียร์เรื่องเข้าใจผิดไปได้
ไม่งั้นต้องมานั่งคิดว่าจะทำยังไงดี
เกือบต้องหาคนกลางมาประสานรอยร้าวระหว่างคณะซะแล้ว


จริงสิ...


...คนกลางที่เข้าเผลอนึกถึงก่อนโดนสีสาดใส่


และเป็นคนเดียวกับที่เขาได้ฟังอะไรบ้า ๆ
ระหว่างตอนกลับไปค่ายเมื่อวาน


“ปลายช่วยยิ้มบ่อย ๆ หน่อย
...ปลายยิ้มน่ารักดี
เราชอบ...
...ปลายช่วยยิ้มให้เราเห็นบ่อย ๆ ทีนะ”



...บ้ารึเปล่าวะ! 

ตอนที่ได้ยินครั้งแรกเขาถึงกับอึ้ง
ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะพูดออกมาได้
แถมยังตีหน้านิ่งแบบนั้น
เลยดูไม่ออกว่าพูดจริงพูดเล่น

แต่คงเป็นมุกนั้นแหละ
เพราะสุดท้ายมันก็ไม่ได้บอกอะไรเพิ่มมาอีก
เขาสองคนเลยทำตัวเป็นปกติเหมือนเดิม
แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่
ไม่ได้เจอหน้ากันอีกจนกระทั้งเมื่อกี๊

แม้จะเป็นเรื่องบังเอิญ
แต่ถ้าไม่ได้มันมาห้ามไว้ก็คงแย่
ดีแล้วที่คนอย่างมันมาช่วยพอดี
เพราะฉะนั้นเรื่องมุกบ้าบอที่มาแหย่เขาเล่น
เขาจะยกโทษให้มันไปก็แล้วกัน...


ปลายฟ้าคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
พลางใช้ขันตักน้ำราดตัวซึ่งเปื้อนสี
แต่ชั่วขณะที่กำลังจะเอื้อมมือหยิบสบู่
กลับมีเสียงบางเสียงดังขึ้นขัดจังหวะ...



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 20-11-2012 23:05:11
..


.


ก๊อก!  ก๊อก!


อ้าว...ใครเคาะประตูวะ
เห็น ๆ อยู่ว่ามีคนเข้ายังจะเสือกเคาะอีก
ห้องอื่นอีกสองห้องว่าง ๆ ก็มีไม่ใช่รึไง
ทำไมไม่ไปเข้าแทนล่ะวะครับ!


คนหงุดหงิดกำลังจะอ้าปากตะโกนไปว่าห้องนี้มีคนอยู่
แต่เสียงจากด้านนอกดันพูดสวนขึ้นมาเสียก่อน


“ปลาย เราคมนะ”


เจ้าของชื่อชะงักทันที่ได้ยิน

คม... ไอ้หน้าโหดประธานค่าย

คนที่เขาเพิ่งคิดถึงอยู่แหม่บ ๆ
มันไปตามพี่อ้อมมาช่วยงานไม่ใช่เหรอ
ละ...แล้วทำไมมาอยู่ที่นี้ได้ยังไงล่ะ


“มีอะไร”


คนอยู่ในห้องน้ำรวบรวมสติร้องถามอย่างสงสัย
ซึ่งอีกคนกลับตอบมาเพียงสั้น ๆ


“โยนเสื้อออกมาให้หน่อย”



...ห่ะ?


คำสั่งที่ทำให้แลดูงงหนักกว่าเดิมจนทำให้สับสน
แต่ไม่ต้องรอให้เขาเป็นฝ่ายถาม
เพราะคนด้านนอกกลับขยายความขึ้นมาเอง


“เสื้อกับกางเกงที่เปื้อนสีโยนออกมาเลย
เดี๋ยวเราจะเอาไปซักให้
ใช้แฟ้บกับน้ำคงล้างออกไม่หมดหรอก
แต่คงพอจางบ้าง ยังไงก็รีบเอาออกมาแช่ไว้เร็ว ๆ ดีกว่า”


เออ...จริงด้วยสิเนอะ
เขาเกือบลืมไปเลยว่าต้องรีบซักเสื้อด้วย
แต่อยู่ ๆ จะให้ใครบางคนมาช่วยซักให้มันจะดีเหรอ
ไม่ได้สนิทกันจนกล้าพึ่งพาขนาดนั้นสักหน่อย


คนเกรงใจเริ่มลังเลตามนิสัย
ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงยืนรออยู่หน้าประตูโดยไม่มีทีท่าว่าจะไปไหน
เหมือนเป็นตัวเร่งการตัดสินใจให้เร็วขึ้น

ในที่สุดปลายฟ้าจึงยอมหยิบเสื้อกับกางเกงเปื้อนสีของตัวเอง
พาดไว้กับขอบประตูด้านบนปล่อยให้อีกคนดึงมันไป
เพียงครู่เดียว เขาได้ยินเสียงกุกกักจากด้านนอก
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงที่คล้ายน้ำกำลังกระทบกับกะละมัง


...เฮ้ย! นี่อย่าบอกนะว่าจะลงมือซักกันในนี้เลย


ยิ่งรู้ว่าคนช่วยมาทำให้ต่อหน้าเลยก็ยิ่งเกรงใจ
ปลายฟ้าจึงเร่งถูสบู่ขัดตัวให้สีล้างออก
เพื่อจะได้รีบไปเอาเสื้อของตนมาซักเอง



“ทำไมไม่บอกเรา”


อยู่ ๆ เสียงสายน้ำจากก๊อกข้างนอกก็หยุดไป
แล้วถูกแทนที่ด้วยคำพูดลอย ๆ จากร่างสูง
ปลายฟ้าหยุดมือที่ถูสบู่
พลางขมวดคิ้วถามซ้ำด้วยความไม่แน่ใจ


"พูดเรื่องอะไร?”


เขาคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจ
ปนมากับเสียงจ๊อกแจ๊กเหมือนคนเอาผ้าลงน้ำ
ก่อนจะตามมาด้วยคำอธิบาย


“เรื่องที่พวกไอ้บีมพูดรู้มาก่อนแล้วใช่มั้ย
ทำไมถึงไม่บอกเรา ถ้าเรารู้ตั้งแต่แรกจะได้ไปเคลียร์ให้เข้าใจ
เราเป็นคนจับเด็กเภสัชลงหน่วยวิชาการกับสวัสดิการเอง
เพราะเราคิดว่ามันเหมาะกับพวกปลาย แล้วก็น่าจะทำได้ดี
ไม่ใช่เพราะเราเห็นเด็กเภสัชทำอะไรไม่เป็นเลยเอาลงตำแหน่งมั่ว ๆ หรอกนะ”


คู่สนทนาชะงักกับประโยคที่เพิ่งรับฟัง



...รู้อยู่แล้ว


ความจริงเขารู้ดีอยู่แล้วว่าคนอย่างคมไม่มีทางทำแบบนั้น
ตอนแรกยอมรับว่าเขามีอคติเลยคิดว่าคมอาจจะเข้าข้างเด็กวิศวะด้วยกัน
แต่พอได้มารู้จัก ได้คุยกันมากขึ้น เขาก็เลยรู้ว่าคมไม่มีทางดูถูกพวกเขา
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้เชื่ออย่างนั้น ทั้ง ๆ เพิ่งคุยกันไม่นาน
แต่จากพฤติกรรมที่ผ่าน ๆ มาทั้งหมด
ทำให้เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจริงใจและไม่คิดจะเอาเปรียบใครเลยสักครั้งเดียว


ปลายฟ้าทบทวนความรู้สึกของตัวเอง
แล้วจึงตัดสินใจพูดไปตามนั้น


“เรารู้อยู่แล้วว่านายไม่มีทางคิดแบบนั้นเลยไม่ได้บอกไป
อีกอย่างเราไม่อยากให้??ءันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย
นายมีงานยุ่งจะตาย เดี๋ยวจะกวนกันเปล่า ๆ เรื่องแค่นี้เราจัดการได้
เห็นมั้ย... สุดท้ายเราก็พูดเคลียร์ให้พวกเขาเข้าใจกันได้แล้ว”


คำตอบที่ดังจากหลังบานประตูทำให้คมสันนิ่งพิจารณา


....นั้นสิ เรื่องวันนี้ปลายฟ้าไม่จำเป็นต้องให้เขาช่วยอะไรมากด้วยซ้ำ
เพราะเจ้าตัวพูดเองไปหมดแล้ว แถมยังเป็นคำพูดที่ดีมากด้วย
ตอนเขายืนฟังยังนึกทึ้ง ไม่คิดว่าคนเงียบ ๆ อย่างปลายฟ้า
จะสามารถโน้มน้าวใจคนอื่นให้ยอมอ่อนลงด้วยคำเพียงไม่คำ

หรือที่จริงแล้วเห็นปลายฟ้าเงียบ ๆ ไม่ใช่ว่าไม่คิดอะไร
ปลายฟ้ากำลังคิดอยู่ตลอดแต่ไม่พูดออกมาแค่นั้นเอง

...แล้วมันจะเป็นอะไรมั้ย
ถ้าเขาอยากได้ยินในสิ่งที่ปลายฟ้าคิดบ้าง

...อยากให้ปลายฟ้าแบ่งปันเรื่องราวให้เขาฟัง
ไม่ใช่เอาแต่เงียบไปเฉย ๆ เหมือนที่ผ่าน ๆ มา


คมสันนึกใคร่ครวญถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ก่อนกลั่นออกมาเป็นคำขอส่งไปถึงอีกคน


“งั้นวันหลังปลายมีอะไรต้องบอกเรานะ
เราอยากฟังที่ปลายพูดทุกเรื่อง”


“ห่ะ? ฟังเราพูดเนี่ยนะ”


ปลายฟ้าถามซ้ำขึ้นอย่างงง ๆ อีกครั้ง


...อะไรของมัน
บอกว่าจะฟังทุกเรื่องที่เขาพูด
แม่งว่างมากเหรอวะ
หรือทำงานหนักจนสมองเพี้ยนไปแล้วรึไง!


ทว่าร่างสูงก็ยังคงตอกย้ำคำเดิมอีกหน


“อืม ถ้าปลายพูดอะไรมาเราก็จะฟัง
แล้วถ้าปลายอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเรา
เราก็จะตอบให้ทั้งหมดเหมือนกัน
ปลายลองถามมาสิ... เรื่องอะไรก็ได้...
เดี๋ยวเราจะบอกปลายเอง
ปลายถามมาเลย...”


...อ้าวไอ้นี่
อยู่ ๆ ก็มาบังคับให้ถามกันหน้าตาเฉย
แล้วใครมันจะไปคิดออกเอาตอนนี้
ตกลงมึงจะเอายังไงกันแน่เนี่ย
กูงงไปหมดแล้วนะเว้ยยย!!


ปลายฟ้าร้องโวยวายในใจ
ไม่รู้ว่าอยู่ ๆ ทำไมมันถึงวนมาเข้าเรื่องนี้ได้
แต่พออีกฝ่ายเงียบไปนานเหมือนรอคำถามก็ยิ่งสร้างความกดดัน
ท้ายที่สุดเขาจึงตัดสินใจถามขึ้นมาตะกุกตะกักโดยไม่ทันได้คิด



“มะ..เมื่อกลางวันกินข้าวกับอะไร”



ถามไปแล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตาย

....คำถามโคตรปัญญาอ่อน!

หลุดปากไปแล้วเพิ่งจะมานึกได้ว่าตัวเองเป็นบัดเดอร์แท้ ๆ
ควรถามอะไรที่มันน่าจะเข้าท่ากว่านี้
อย่างชอบกินอะไร อยากได้อะไรเป็นพิเศษรึเปล่า
เขาจะได้เทคแคร์จัดของเตรียมไว้ได้ถูก


โอยยย!!! ไอ้ปลายฟ้าทำไมกูมันโง่อย่างนี้ว่ะ!!


ทว่าคนด้านนอกลับไม่ถือสาหาความ
ให้คำตอบแถมเป็นฝ่ายย้อนถามกลับ


“เรากินกระเพราไก่ไข่เจียว แล้วปลายล่ะ”


“ก็...กระเพราไก่ไข่เจียวเหมือนกัน”


อาหารในค่ายกลางวันมันก็มีเมนูเดียวนี่แหละจะให้ตอบอะไร

อายเลยมั้ยกู ...อายเลยมั้ย...


ปลายฟ้ารู้สึกหน้าร้อนวูบขึ้นมาดื้อ ๆ
รีบใช้ขันตักน้ำเร่งล้างสบู่ออกจากตัวโดยเร็ว
สีหมดไม่หมดไม่สนแล้ว ตอนนี้ขอให้ออกไปก่อน
ขืนคุยกันหลังประตูแบบนี้เดี๋ยวได้เผลอปล่อยไก่อะไรบ้า ๆ อีก


เขาจึงเช็ดตัวลวก ๆ ใส่เสื้อผ้าด้วยความเร็วปานแสงขัดกับนิสัย
แล้วเปิดประตูห้องน้ำที่คั่นกลางระหว่างใครบางคนไว้ออกผั๊วะ

ดวงตากลมสบกับดวงตาคมที่เหมือนจะหันมาพอดี
ก่อนดวงตาคู่นั้นจะหยุดมองร่างที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหมาด ๆ
หยุดอยู่นานจนคนถูกจ้องชักจะเกร็ง ๆ แปลก ๆ
ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะขยับอะไร
ร่างสูงกลับโยนบางสิ่งมาให้


“อ่ะ เอาเสื้อตัวนี้ไปใส่ซะ”


เขาตะครุบรับของมาไว้ในมือ
เสื้อยืดสีดำมีลายโลโก้ยี่ห้อสินค้าอะไรสักอย่างเหมือนเป็นเสื้อแถมมา
ขนาดไซต์น่าจะใหญ่กว่าตัวเขาพอสมควรจนน่าจะเหมาะกับคนที่โยนให้มากกว่า

...แล้วมันจะเอาเสื้อมาให้ทำไมวะ


“จะไปทาสีไม่ใช่เหรอ ใส่เสื้อดี ๆ
แบบนั้นไปเดี๋ยวก็เปื้อนอีกหรอก”


คำถามที่สงสัยถูกเฉลยออกจากคนมอง
พอถูกทักแบบนั้นก็เพิ่งจะนึกได้

เออว่ะ...เขาดันใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อตลีวายส์ตัวโปรดมาเลย
ตอนหยิบมาก็ไม่ทันได้คิด รีบแต่จะไปอาบน้ำ
ถ้าใส่เสื้อตัวนี้ไปทาสีคงได้กลายเป็นเสื้อเพ้นท์ลายแน่
แต่ถึงยังนั้นจะให้รับเสื้อคนอื่นมามันก็ดูจะมากไป
คมทั้งมาช่วยซักผ้าให้เขาแล้ว เลยไม่อยากจะรบกวนเพิ่มอีก


ปลายฟ้าจึงบอกปฏิเสธพลางยื่นเสื้อส่งคืนให้


“ไม่เป็นไร เรากลับไปเปลี่ยนที่เต้นท์เองก็ได้”


“เอาไปเถอะ กว่าจะไปกลับเต้นท์เสียเวลา
งานยิ่งเร่ง ๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวเราต้องกลับไปดูโรงเพาะเห็ดต่อแล้ว
เออ...ผ้าที่แช่ไว้ เราจะช่วยบอกคนอื่นให้ว่าเป็นของปลาย
จะได้ไม่มีใครมาหยิบไป
ทาสีเสร็จค่อยมาซักให้สะอาดอีกทีแล้วกันนะ”


คมสันยังคงยืนนิ่งไม่คิดจะรับของตนเองคืน
ซ้ำยังร่ายประโยคยาวเหยียด


...ดีนะที่เมื่อกี๊เขาไปเอากะละมังซักผ้าที่เต้นท์
แล้วหยิบเสื้อติดมือมาด้วย
เขาไม่ค่อยถนัดเรื่องแฟชั่นเท่าไร
แต่ก็พอสังเกตเห็นว่าปลายฟ้าแต่งตัวดูดี
พวกเสื้อผ้าคงใช้ของมียี่ห้อราคาแพง
อย่างตัวที่เลอะสีนี่ก็เหมือนกัน
ถึงจะเป็นเสื้อยืดสีสว่างแต่ไม่รู้ว่าจะจางไปได้มากแค่ไหน
เขาลงแรงขยี้เท่าที่ทำได้ ที่เหลือก็ภาวนาอย่าให้เสื้อเป็นรอยมาก
ถ้าปลายฟ้าใส่เสื้อดี ๆ ไปช่วยทาสีอีก
เกิดทำเลอะเทอะขึ้นมาก็น่าเสียดายแย่
สู้ใช้เสื้อของเขาเลยดีกว่า เป็นเสื้อได้ฟรีแถมมา
ต่อให้โดนสีมากเท่าไรก็คงไม่เป็นไร


คนที่จัดการภารกิจเสร็จสิ้นจึงตัดบททิ้งท้าย


“งั้นไปนะ ทำงานระวังตัวด้วยล่ะ”


บอกไปแค่นั้น...
แล้วนายคมสันประธานค่ายจึงเดินห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งปลายฟ้าไว้กับเสื้อยืดสีดำและผ้าที่แช่ไว้เรียบร้อยในกะละมัง
โดยไม่มีโอกาสทันได้อ้าปากโต้แย้งใด ๆ


อ้าว...อะไรวะ
พอเขาออกมาคุยกันตรง ๆ ดันรีบไปซะงั้น
ยังไม่ได้พูดขอบคุณเลยสักคำ
แล้วนี่ตกลงเขาเป็นฝ่ายโดนให้บัดดี้ช่วยอีกแล้วใช่มั้ย
โธ่เว้ย! งั้นเมื่อไรเขาจะได้ทำหน้าที่ของตัวเองซะทีล่ะวะเนี่ย


แม่งปวดหัวจริง ๆ โว้ยยย!!



ปลายฟ้าแทบอยากจะยกมือกุมขมับ
มองเสื้อยืดคอกลมสีดำที่อยู่ในมือ
ซึ่งมีขนาดไซต์ใหญ่กว่าตัวเองอยู่มากอย่างลังเล

ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจสวมมันทับลงไปดื้อๆ
ก่อนเดินออกจากห้องน้ำเอาของไปเก็บ
แล้วจึงตามไปสมทบกับพวกเพื่อน ๆ ที่เหลือ
ซึ่งต่างมองกันอย่างแปลกใจในการแต่งตัวของคนที่เพิ่งกลับมา

และแม้ใครต่อใครจะถามถึงสาเหตุ
เจ้าตัวก็จะบอกแค่ว่ามันกันเลอะโดยไม่เล่าที่มาอะไรต่อ
ทั้งยังไม่คิดจะถอดเสื้อตัวใดตัวหนึ่งออกไประหว่างการทำงาน


ด้วยเหตุนี้...

นายปลายฟ้าจึงเป็นบุคคลเดียวในค่าย
ที่เป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่นแสนประหลาดล้ำ


....ตลอดทั้งวันนั้นนั่นเอง



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



เป็นครั้งแรกที่ต้องจัด 2 รีพลาย  o22
นับวันเนื้อเรื่องในตอนจะยิ่งยาวขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ถือเป็นการทำให้สมดุลเพราะเต่าปลายมันช้า
แต่ละตอนเลยต้องขอจัดให้กันยาว ๆ   :laugh:

มีบางคนแอบใจร้อน
เริ่มหงุดหงิดกับความชักช้าของเต่าปลายที่ค่อย ๆ คลานกระดืบต้วมเตี้ยมเหลือเกิน
ใจเย็นค่ะ ๆ ต้องทำใจเพราะซีรีย์ภาคนี้มันเป็นสไตล์แบบ
...รักน้อย ๆ ค่อย ๆ รักฉัน ค่อย ๆ คิดถึงกันทุกวัน (ฮิ้ววว~ ครวญเพลงบอกอายุอีกแล้ว)

มันกำลังเป็นความรักแบบพัฒนา
ไม่หวานมาก แค่ใส่ใจดูแลกันเบา ๆ (หราาาาา)

ภาคนี้อาจจะยาวที่สุดในซีรีย์จริง ๆ ก็ได้ :try2:
จะยังไงก็ฝากให้ร่วมด้วยช่วยกันดันเต่าปลายไปให้ถึงเส้นชัยให้ได้นะคะ
ขอบคุณทุกกำลังใจจ้า

 :กอด1:
 
รักเสมอ

BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 20-11-2012 23:22:24
ดีใจจังได้เจาะไข่ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-11-2012 23:53:21
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: saiiisai ที่ 20-11-2012 23:56:26
ปรับความเข้าใจกับเด็กวิศวะได้ซะที
ปลายจะได้โดนจีบสะดวกหน่อย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 20-11-2012 23:57:27
น่ารักอ่ะ






ค่อยๆพัฒนาควมาสัมพันธ์กันทั้งสองคน






เราเดาว่าคมน่าจะเป็นทั้งบัดดี้และบัดเดอร์กับปลายเลยแหละ






เราติดตาทุกภาคแต่พึ่งว่างเหมือนกัน เรียนหนักมาก






เราอยากบอกอีกว่า คู่นี้อยากให้ลงเอยแบบรวเร็วนิดนึงอ่ะ






กลัวบ่มรักนานไปจนกลายเป็นเน่าอ่ะ รีบรักกัน เข้าใจกัน จะได้มีฉากหวาน ๆ มาให้อ่านเยอะ ๆ






และฝากบอกอีกอย่างนางพันธุรัต มาจากเรื่อง สังข์ทองนะจ๊ะ ไม่ใช่เรื่องพระอภัยมณี เรื่องพระอภัยมณีเป็นนางผีเสื้อสมุทร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-11-2012 23:58:05
น่ารักจัง ระวังนายดิวด้วยล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 21-11-2012 00:02:49
พ่อเต่าน้อยคิดเยอะแต่ไม่พูด ระวังจะเครียดเน้อ ให้พ่อคมเค้ามาช่วยฟังบ้างนะ

ชอบตอนคุยกันข้ามประตูมาก ๆ เลย เขินอ่ะ น่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 21-11-2012 00:13:45
ค่อยเป็นค่อยไปกันจริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 21-11-2012 00:16:24
ผู้นำแฟชั่นเลยเหรอ
ว่าแต่ไม่ร้อนแย่เหรอ ใส่เสื้อตั้งสองตัว
ไปตากแดดอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 21-11-2012 00:46:27
ยาวได้ใจมาก >////<
ในที่สุดก็เริ่มค่อยๆ หวานขึ้นเรื่อยๆ ซะที งืม ดูเหมือนว่านายดิวจะพยายามเข้าใกล้ปลายฟ้ามากเลยนะพี่คม
ถ้าไม่รีบชัดเจนระวัง แห้ว นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 21-11-2012 04:08:19
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 21-11-2012 05:45:03
ซีรี่ย์นี้ชอบทุกภาคเลย แต่ชอบภาคน้องเต่าน้อยที่สุด ขอยาวๆ เลยครับ
คนนิสัยดีจิตใจสองคนมาเจอ (และรัก) กัน มันชื่นใจมากๆ
นิยายวาย พระเอกไม่ต้องร้าย นายเอกไม่ต้องรันทด ก็สนุกได้นะเออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 21-11-2012 05:56:18
คุณคมน่ารัก คุณเต่าปลายหวั่นไหวบ้างหรือยัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 21-11-2012 06:29:48
พี่จิตอาสาค่อยๆหยอดไปเรื่อยๆ น้องเต่าน้อยเริ่มมีท่าทีที่ดีขึ้นบ้างแล้ว .//////.


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-11-2012 07:21:38
เทคแคร์พิเศษแบบนี้ เดี๋ยวไก่ตื่นหมดหรอกคม  :m26:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 21-11-2012 07:52:02
คมช่างเอาใจปลายเสียจริง น่ารักอ่ะแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป
พอคุยกันแล้วก็เริ่มที่จะพูดคุยกันมากขึ้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 21-11-2012 10:13:35
น่ารักจัง

ค่อยๆรักกัน เบาเบา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 21-11-2012 10:16:55
เราไม่รู้สึกว่าเรื่องเดินช้านะ..แต่กลับรู้สึกชอบเวลาอ่านความรู้สึกมากกว่า....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 21-11-2012 10:22:30
แล้วปัญหาระหว่างค่ายก็จบลงด้วยดี  แลกกับสีเปื้อนตัวเต่าปลาย  แต่ได้หนุ่มคมมาช่วยซัก

คู่นี้เหมือนจะค่อยๆ เรียนรู้ นิสัย เอาใจใส่กันไปแบบสถานการณ์พาไปจริงๆ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 21-11-2012 11:02:17
ยอมรับอย่างจริงใจว่าหงุดหงิ๊ด หงุดหงิดกับความช้าของเต่าปลาย
ด้วยส่วนตัวเป็นคนทำอะไรเร็ว แต่ไม่ได้จิตอาสามากเหมือนคมนะ ฮ่าาาา

แต่เราก็เห็นหละว่าตัวละครมีการพัฒนามากขึ้น 
ถ้าเป็นเมื่อก่อนปลายอาจจะไม่พูดอะไร  เพราะกำลังคิดอยู่
แต่ตอนนี้ปลายก็พูดมากขึ้น  คิดเร็วขึ้น  (แต่ก็ช้ากว่าคมอยู่ดี)

ต้องให้สองคนนี้คุยกันบ่อยๆ จะได้รู้เรื่องกันและกันมากขึ้น
จะได้ทำตัวเป็นบัดดี้บัดเดอร์กันให้น่ารักสักที  เรารออยู่นะ... ฮ่า


ปล. เพลงนั้น...เราก็ยังฟังทันอยู่เหมือนกันนะ (บอกอายุอีกคน...)
ปล๒. สามสิบตอนไปเลยจ้ะ สามสิบตอนไปเลย ฮ่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 21-11-2012 11:51:23
 :กอด1:มันแฝงมาด้วยความห่วงใย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 21-11-2012 20:33:44
ค่อยๆๆดูแลกันไป

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 > P.55
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 21-11-2012 22:04:27
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 11] 20/11/55 >; P.55
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-11-2012 22:44:22
ขอบคุณ ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 22-11-2012 20:07:45
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 12



เผลอพริบตาเดียว...

ค่ายวิศวะอาสาผ่านมาครบหนึ่งอาทิตย์แล้ว
เหลืออีกเพียงแค่สามวันก็จะถือว่านายปลายฟ้า
ได้เสร็จสิ้นภารกิจในค่ายนี้อย่างสมบูรณ์

ส่วนของการก่อสร้างโรงเพาะเห็ดและซ่อมแซมห้องสมุด
เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นชาวค่ายก็ยังคงพยายามเร่งให้ทันช่วงโค้งสุดท้าย
เพราะในวันพรุ่งนี้พวกเขาจะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
โดยเชิญชาวบ้านในหมู่บ้านมาร่วมยินดี
พร้อมกับมีกิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์กับพวกน้อง ๆ ในโรงเรียน


และด้วยเหตุนี้กลุ่มของนายปลายฟ้าจึงถูกโอนให้มาช่วยหน่วยก่อสร้างแทบจะถาวร
ทั้งใช้แรงงาน แบกของ ทาสีอาคาร ปีนหลังคา สารพัด
แต่พวกเขาไม่เคยปริปากบ่นใด ๆ เพราะเต็มใจกันช่วยอยู่แล้ว
ทั้งยังเข้ากับเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา
คงเป็นเพราะได้เคลียร์เรื่องกับเด็กคณะวิศวะไปก่อนหน้า
จึงทำให้อะไร ๆ เหมือนจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
คล้ายกับทุกคนร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าเคย


...ยกเว้นอยู่เรื่องหนึ่งที่คนในค่ายพยายามแยกให้เป็นเรื่องของใครของมัน




“บอลล่ามีคนฝากจดหมายมาให้”


ไอ้เกมส์ยื่นกระดาษพับเล็ก ๆ ส่งให้สุดสวยประจำกลุ่ม
ระหว่างกำลังนั่งโต๊ะกินข้าวต้มมื้อเช้ากันอยู่

“ไหนอะไรยะ เอามาสิ”

มือบางคว้ากระดาษมาคลี่เปิดดู
ก่อนส่งเสียงอ่านให้ทุกคนได้ยินกันโดยทั่ว

“อยากเป็นตุ๊กตาหมีให้เธอกอด
อยากเป็นทามาก๊อตให้เธอเลี้ยง
อยากเป็นทูตสวรรค์ข้าง ๆ เตียง
อยากเป็นนกเอี้ยงคอยเลี้ยงเธอ

เทคแคร์นะคัฟ จุ๊บ ๆ 
จาก บัดเดอร์สุดหล่อเองคัฟ”



โห....เน่าสนิท!


ปลายฟ้ามองเพื่อนที่เหลือซึ่งทำหน้าอยากจะอ้วกข้าวต้มออกมา
ยกเว้นบุคคลเดียวที่ดูเหมือนจะถูกใจร้องกรี๊ดกร๊าดดีใจไม่ยอมหยุด

“ว๊ายยย!! น่าร๊อกกอ่ะ!!!
แต่เอ๊ะเดี๋ยวก่อน...
ไอ้อยากเป็นนกเอี้ยงมาคอยเลี้ยงเนี่ย
มันหาว่าชั้นเป็นควายไม่ใช่เหรอย่ะ
กรี๊ดดด!! บังอาจมาว่านางสาวไทยในอนาคตได้ยังไง
หึ แต่ชั้นให้อภัยก็ได้ยะ
เพราะเห็นว่ามันเขียนมาจากบัดเดอร์สุดหล่อหรอกนะ
ไม่งั้นแม่จะจับจูบปากให้ช้ำจนถึงไส้ติ่งเสียให้เข็ด!”

บอลล่าสะบัดหางเสียงส่งท้ายอย่างงอน ๆ
หลังจากเพิ่งตระหนักชัดถึงความหมายที่แฝงนัยยะมา
จนตัวกวนประจำกลุ่มต้องตบบ่าเบา ๆ พลางพูดเอ่ยปลอบ

“เอาน่าเจ๊... ได้แค่นี้ก็ยังดีกว่าเขาไม่ส่งอะไรมาให้
ว่าแต่บัดเดอร์เจ๊เก่งนะเนี่ยเลือกกลอนมาตรงกับตัวเจ๊เป๊ะ!”


“เงียบไปเลยนะยะ ไอ้เกมส์!
ใช่ซี้...ก็แกได้ลูกอมตั้งห่อเบ่อเริ้มเลยพูดได้นี่
ของชั้นอ่ะมีแค่กลอนส่งมาให้ทุกวันเอง
แหม...ไม่คิดจะลงทุนกันบ้างเลย”

บอลล่าพูดประชดกัดตอบตามความจริง

เพราะเมื่อสองสามวันที่ผ่านมา
ไอ้เกมส์เป็นบุคคลหนึ่งเดียวที่ได้รับของฝากจากบัดเดอร์ออกนอกหน้านอกตา
แรก ๆ มันก็บ่นเหมือนกันว่าสงสัยพี่อ้อมจะลืมใส่ชื่อมันลงไป
เลยไม่มีใครคนไหนมาดูแลเทคแคร์กันบ้าง
แต่พอตอนหลัง อยู่ ๆ กลับมีขนมปริศนาห่อใหญ่
ทั้งมันฝรั่งเลย์ โคอาร่ามารช์ สาหร่ายเถ้าแก่น้อย ชาเขียวโออิชิ
ทยอยประเคนฝากคนนู้นคนนี้ส่งให้ต่อกันมาเป็นทอด ๆ
โดยมีกระดาษโพสอิทสีเหลืองแปะข้อความไว้สั้น ๆ ว่า


‘GAME   

...With Love 

BUDDER’


สร้างความอิจฉาตาร้อนและความสงสัยแกผู้พบเห็น
ด้วยไม่รู้ว่าบัดเดอร์แกไปขนขนมมาจากไหนมากมายทั้ง ๆ ที่อยู่บนป่าบนดอย
แต่สิ่งนี้หาได้ส่งผลต่อคนรับไม่
เพราะไอ้เกมส์ดันยิ้มหน้าบานพูดเดาอย่างมั่นใจว่า
บัดเดอร์ตัวเองต้องเป็นผู้หญิงแน่ ๆ
เพราะมีแต่นิสัยผู้หญิงเท่านั้นที่ชอบส่งขนมกระจุกกระจิกมาให้
ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานเลยทำให้มันยิ่งปลื้มใจเข้าไปใหญ่


“แต่ถึงยังไงก็สู้พ่อเต่าน้อยไม่ได้หรอก
มีบัดเดอร์ดูแลดีแถมยังหล่อแบบดิว
โอยย... ชั้นยังอิจฉาอยู่เลยอ่ะ
ไม่คิดจะแลกกันบ้างเหรอ
ส่งไม้ต่อมาให้เค้าแทนบ้างไรบ้างก็ได้นะ”


บอลล่าเอ่ยแหย่จนคนที่นั่งเงียบมาตลอดถึงกับสะดุ้ง


...นึกว่าจะไม่เข้าตัวแล้วซะอีก
เพราะที่ผ่านมานายปลายฟ้าต้องปวดหัว
กับพฤติกรรมของบัดเดอร์ตัวเองที่โดนรุกหนักใส่ไม่ยั้ง
จนแทบเป็นการเฉลยออกมาโต้ง ๆ ให้ชาวบ้านเขารู้กันทั่วอยู่แล้ว


หึ...ใครจะไม่รู้ก็คงแปลกไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง
ดิวเล่นมาคอยดูแลปฏิบัติเทคแคร์ดีเวอร์ซะขนาดนี้
เหนื่อยก็หาน้ำมาให้ ร้อนก็มาช่วยพัด เดินมาส่งถึงหน้าเต้นท์
คอยถามเป็นห่วงเป็นใย แถมป้อนคำหวาน ๆ
อย่างกับคนเป็นแฟนคบกันช่วงโปรโมชั่น
ทำเอาเขาชักทำตัวไม่ถูกแปลก ๆ


...คือถ้าเป็นผู้หญิงมันก็ไม่ประหลาดเท่าไรหรอก
คงยืดอกได้ปลื้มกว่าไอ้เกมส์ด้วยซ้ำ
แต่นี่บัดเดอร์เขามันเป็นผู้ชายนะโว้ยย!!
แล้วนายปลายฟ้าเองก็เป็นผู้ชายแมน ๆ เหมือนกัน
ทำไมถึงไม่มีใครมองว่ามันประหลาดบ้างเลย
ซ้ำยังเอาไปล้อเลียนกันสนุกสนานไปทั้งค่าย
ยิ่งกับพวกกลุ่มพี่อ้อมพี่ฟ้าพอเห็นเขากับดิวเดินผ่านไปทีไร
เป็นต้องจับกลุ่มซุบซิบหัวเราะคิกคัก
เชียร์ให้เขาจับคู่ชู้ชื้นถูกใจพวกพี่ ๆ ซะอย่างนั้น


หว่าเว้ยย!! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้ววะ!!



แต่เรื่องพวกนี้ยังนับว่าไม่ใช่ปัญหาทั้งหมด
เพราะปัญหาที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ



...นายปลายฟ้ายังไม่ได้เทคแคร์บัดดี้ของตัวเองเลยสักครั้งเดียว!!



ที่ผ่านมาไม่ใช่ไม่มีโอกาส
แต่เขาไม่รู้ว่าจะเข้าไปช่วยเหลือคนมีน้ำใจแบบนั้นได้ยังไง
ทุก ๆ ครั้งที่คิดจะทำกลับถูกอีกฝ่ายชิงช่วยตัดหน้าก่อนเสียนี่
ถึงแม้มันไม่ได้มาทำอะไรให้โจ่งแจ้งแบบดิว
แต่ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องมากมายสำหรับเขาอยู่ดี

เขารู้อยู่แล้วว่าอีกคนไม่ได้คิดอะไรมาก
เพราะมันเป็นนิสัยส่วนตัวที่มีจิตอาสาชอบทำแบบนั้น
แต่ถึงยังไงเขาก็ยังมีฐานะเป็นบัดเดอร์
มาปล่อยให้บัดดี้ดูแลตัวเองแทนแบบนี้


...คิดแล้วมันโคตรเสียศักดิ์ศรีฉิบหายเลยเว้ยย!!



ปลายฟ้าปวดหัวจี้ดอิ่มข้าวต้มรวมมิตรขึ้นมาดื้อ ๆ
จากอาการตกค้างของปัญหามากมายที่รุมเร้าในสมอง


มิหนำซ้ำไอ้ตัวปัญหาทั้งสองคน
มันยังเดินออกมาเป็นตัวเป็นตน
ส่งเสียงทักทายที่ใกล้ ๆ โต๊ะเขาอีกด้วย


“อ้าว ยังกินข้าวไม่เสร็จอีกเหรอครับ”


หนุ่มหล่อสไตล์เกาหลีถามนำมาพร้อมรอยยิ้มหวานโปรยเสน่ห์
ตรงข้ามกับหนุ่มหน้าคมที่ยังคงตีหน้านิ่งเฉยแบบเดิม ๆ


“แหม...นึกว่าเสียงหล่อ ๆ ของใคร ที่แท้ดิวกับคมนี่เอง
เรากินกันอิ่มพุ่งกางหมดแล้วค่า แต่มัวเมาส์มอยเพลินไปหน่อย
งั้นเดี๋ยวเก็บจานเสร็จแล้ว จะรีบไปช่วยทำงานต่อนะคะ
...ป่ะ! พวกเราลุก”


คนฟังทั้งหมดเตรียมถือจานลุกขึ้นยืน
ทว่าเสียงของผู้มาเยือนกลับร้องขัดไว้


“อ่ะ! เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ครับ
เราแค่มีธุระจะคุยด้วยหน่อย”


ทุกคนชะงักเมื่อได้ยินคำห้าม
ก่อนคนพูดจะหลีกทางให้ประธานค่ายเป็นฝ่ายต่อบทสนทนาเอง


“คือเราอยากให้พวกนายช่วยแบ่งกลุ่มไปเยี่ยมคนในหมู่บ้านให้หน่อย
ไปถามผลตอบรับดูว่าพวกเขามีความเห็นยังไงเกี่ยวกับค่ายอาสา
เราจะได้เอาความเห็นมาประเมินทำสรุปผลไว้พัฒนาค่ายครั้งต่อไป
แล้วก็ถือโอกาสชวนพวกเขามางานเปิดโครงการวันพรุ่งนี้ด้วย
เดี๋ยวเราจะให้ไปกับพวกพี่อ้อม แบ่งกลุ่มย่อยสักห้ากลุ่ม
พวกพี่ ๆ เขาคงจัดการกันได้เอง แต่เราอยากให้มีผู้ชายไปด้วย
เพราะมีแต่ผู้หญิงเกิดอะไรขึ้นมาจะลำบาก
ส่วนพวกนายจะให้ใครไปกับใครก็แบ่งกันเอาเองนะ
เออ...งานนี้พอจะช่วยทำให้ได้มั้ย?”


ท้ายประโยคคมสันหันมาถามคู่สนทนาอย่างลังเล

...มันไม่ใช่เป็นการออกคำสั่ง
แต่ที่พูดเพราะต้องการถามความสมัครใจกันก่อน
เหมือนที่เคยได้รับบทเรียนเล็ก ๆ จากเรื่องที่เคยเกิดขึ้น
เลยไม่อยากให้เป็นความบาดหมางระหว่างคณะกันอีก


ทว่าเด็กเภสัชกลับไม่ได้คิดมากแบบนั้น
เพราะพวกเขาพร้อมใจกันตกลงง่าย ๆ
โดยมีเสียงสาวสวยนำมาก่อน


“ได้สิค่า! ประธานออกปากมาขนาดนี้ไม่ให้ทำได้ยังไง
พวกเราเต็มใจช่วยอยู่แล้วค่ะ
เดี๋ยวจะชวนพี่ป้านาอามางานพรุ่งนี้กันให้หมดหมู่บ้านเลย
เชื่อมือบอลล่าเถอะค่ะ บอลล่าจัดให้!!”


คนอื่นที่เหลือพยักหน้ากันหงึกหงัก
เป็นอันเข้าใจงานที่ได้รับมอบหมาย
เพราะการสานสัมพันธ์กับชาวบ้าน
นับว่าเป็นงานหลักที่สำคัญเหมือนกัน


“งั้นก็ฝากด้วยนะครับ
เดี๋ยวพวกผมต้องไปเก็บงานกันต่อ
เออ... ปลายฟ้า...”


ดิวหันมาหาเจ้าของชื่อซึ่งมองกลับไปอย่างงง ๆ
ก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมา



...ประโยคที่มาพร้อมรอยยิ้มหวานบาดใจจากคนพูด



“...ระวังตัวด้วยนะครับ ผมเป็นห่วง”




ฮิ้ววววววว~~~!!


เสียงล้อเป่าปากฟิ้วฟ้าวจากบรรดาเพื่อน ๆ
ทำเอาปลายฟ้ารู้สึกแก้มร้อนๆ ขึ้นมาบอกไม่ถูก


...บัดเดอร์ของบอลล่าว่าเน่าแล้ว
เจอบัดเดอร์ของตัวเองเข้าไปเทียบกันไม่เห็นฝุ่น
ตกลงไอ้ที่เล่นบัดดี้กันนี่ เพื่อจะหาว่าใครมีมุกเสี่ยวสุดใช่มั้ยครับ
โดนเอามาพูดเหมือนโดนจีบซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้
จะไม่ให้เขาอายได้ยังไงไหว


ปลายฟ้าพยักหน้ารับคำเขินเก้ ๆ กัง ๆ
ก่อนเผลอเบนหลบสายตาไปบังเอิญสบกับใครอีกคน
ที่คล้ายกับจะมองอยู่ก่อนแล้ว


นัยน์ตาของเขาประสานกับดวงตาคมตรง

...ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย

แต่เหมือนมีบางสิ่งส่งผ่านสายตานั้นมาให้


ทว่าแค่เพียงแวบเดียวร่างสูงก็ละออก
หันไปเรียกเพื่อนของตัวเองให้กลับไปทำงานต่อ
ก่อนหนุ่มวิศวะทั้งสองจะพากันเดินแยกหายไปตามทาง



“เฮ้อ...อิจฉาจริง ๆ แต่งกันเมื่อไรก็บอกกันด้วยนะพ่อเต่าน้อย
ชั้นจะได้ไปช่วยกั้นประตูเงินประตูทองให้ตอนดิวเค้าแห่ขันหมากมาขอ”


อือฮือ...ขอบคุณครับเจ๊ ซึ้งน้ำใจจริง ๆ

พวกมึงที่เหลือนี่ก็ไม่มีช่วยห้ามอะไรกันเลย
เออออเห็นดีเห็นงามเหมือนกันหมด
ถามจริงเป็นเพื่อนกันรึเปล่าวะ!


คนโดนแซวทำหน้าละเหี่ยใจ
กับคำล้อที่ยังคงตามมาอีกเป็นกระบุง
ก่อนไอ้เกมส์จะลุกขึ้นยืนตัดบท


“ไปทำงานเหอะวะเดี๋ยวสาย
มันต้องแบ่งเป็นห้ากลุ่มใช่มั้ย
งั้นพวกเราแยกย้ายกันไปห้าคน
ส่วนที่เป็นเศษเกิน...

...ไอ้ปลาย มึงมากับกู”
 

“อ้าว...แล้วทำไมกูถึงเป็นเศษไปกับมึงล่ะ”


คนที่ถูกทำให้เป็นส่วนเกินถามขึ้นอย่างงง ๆ
ไหนบอกว่าให้มีผู้ชายช่วยกระจายกันไปดูแลทุกกลุ่มไง
ถ้างั้นให้บอลล่าไปแทนเขาไม่ดีกว่าเหรอ
ถึงร่างจะเป็นชายแต่ใจมันเป็นหญิงไปเรียบร้อยแล้ว
แล้วทำไมหวยมันถึงมาออกที่เขาได้วะ


เพื่อนที่เหลือหันมามองคนถามเป็นตาเดียว
ก่อนไอ้เกมส์จะเฉลยข้อสงสัยให้ได้ฟังกระจ่างชัด

ด้วยคำตอบสั้นง่ายได้ใจความ....



“...ก็เพราะมึงมันเป็น ‘ไอ้เต่าปลาย’ ไง”



ขอบคุณครับ

กูได้ข้อสรุปแล้ว


ไอ้เวร พวกมึงแม่งไม่ใช่เพื่อนกู!!!



แม้ปลายฟ้าจะเจ็บช้ำเคืองโกรธมากแคไหน
แต่ท้ายที่สุดก็ต้องจำใจเดินตามพวกเพื่อน ๆ
มารวมตัวกันที่อาคารอเนกประสงค์
เพื่อมาฟังรายละเอียดโดยมีพี่อ้อมเป็นแกนนำในการจัดการ

และนี่เองที่ทำให้เขาได้รู้ว่าเหตุที่แยกกันเป็นกลุ่มเยอะ ๆ แบบนี้
เพราะหนทางไปแต่ละบ้านมันค่อนข้างห่างกันไกล
ถ้าอยู่ในเขตชุมชนก็ไม่ค่อยเท่าไร
แต่ถ้าเลยขึ้นไปบนยอดดอย
มันจำเป็นต้องเดินเท้ากันหลายกิโล
จึงต้องแบ่งกลุ่มเฉลี่ยประมาณสี่ห้าคน
ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและมีผู้ชายหนึ่งคนประกบตามไป

ยกเว้นกลุ่มของ พี่อ้อม ที่มี พี่ฟ้า ไอ้เกมส์
และปลายฟ้าเป็นหนึ่งติ่งแถมมาด้วย
ซึ่งจะทำการเดินไปตามบ้านไกลกว่ากลุ่มอื่น ๆ

เมื่อแจกงานกันเรียบร้อยก็เข้าเวลาช่วงสาย ๆ พอดี
พวกเขาจึงทยอยแยกย้ายกันไปตามแต่ละทิศ
แน่นอนว่าทางที่จะไปเยี่ยมชาวบ้านในกลุ่มบ้านไกล ๆ
เป็นถนนเดียวกันกับที่นายปลายฟ้าเดินมาก่อนหน้านี้


...ถนนที่เขาเดินไปส่งน้องกานดากลับบ้านกับใครบางคน





หนึ่งกิโลจากตัวค่าย....

บ้านหลังแรกที่พวกเขาหยุดคือบ้านของน้องแก้ม
เด็กผู้หญิงหน้ากลมยิ้มหวานออกมาต้อนรับพร้อมคุยยาย
ซึ่งพอเห็นปลายฟ้าก็ช่วยคุยชวนถามถึงเรื่องน้ำพริกที่เคยกิน
ไอ้เกมส์เลยรู้เหตุผลว่าทำไมเขาถึงเสียพนันสองร้อยให้มันไปวันนั้น
นั่งคุยเฮฮากับยายอย่างสนุกสนานเกือบครึ่งชั่วโมง
พวกเขาจึงค่อยขอตัวเดินไปบ้านหลังถัดไปซึ่งมีระยะห่างอีกห้าสิบเมตร


....บ้านของเด็กหญิงกานดา




“สวัสดีค่ะ พวกเรามาจากค่ายวิศวะอาสา ขอรบกวนเวลาหน่อยค่ะ”


พี่อ้อมส่งเสียงขออนุญาตตามธรรมเนียม
ผู้มาต้อนรับเป็นหญิงสาววัยเกือบสามสิบที่นายปลายฟ้าเคยพบก่อนหน้านี้แล้ว
แต่สิ่งที่เรียกความสนใจจากเขาคือร่างเล็กที่เกาะขาแอบอยู่ข้างหลังผู้เป็นแม่
และทันทีที่ดวงตากลมใสแจ๋วมองเห็นว่าใครเป็นคนมาเยี่ยม
เด็กขี้อายจึงรีบผละออกมาโผเข้าหาพี่ชายที่ไม่ได้เจอกันหลายวัน
จนปลายฟ้าแทบจะล้มจากการอุ้มยกอีกฝ่ายมากอดไว้
กระนั้นก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดทักทายด้วยความคิดถึง


“หวัดดีครับ น้องกานดาคนเก่ง
เป็นไงบ้าง หืม ...ไม่ดื้อใช่มั้ยเรา
...แล้วคิดถึงพี่ปลายมั้ยครับ”


แต่น้องกานดาก็ยังเป็นน้องกานดาคนเดิม
ที่ยังคงเงียบไม่ยอมเปลี่ยน
มีเพียงแค่มือเล็กที่ดึงเสื้อเขาไว้
เหมือนไม่อยากให้จากไปไหนเป็นคำตอบเท่านั้น
จนคนออกมาต้อนรับต้องเอ่ยดุขึ้นมาเบา ๆ


“ดูสิ ลูกคนนี้ไม่ไหวเลยจริง ๆ ไปกวนพี่เขาได้ยังไง
แหนะ...ว่าแล้วยังไม่ยอมปล่อยอีก”


“ไม่เป็นไรหรอกครับ
วันนี้เรามารบกวนสอบถามอะไรนิดหน่อยด้วยครับ”


เขาชี้แจงจุดประสงค์ซึ่งคนฟังก็พยักหน้าเข้าใจ


“อ๋อ ถ้างั้นเชิญเข้ามาในบ้านก่อนได้เลยจ๊ะ”


พวกเขาจึงยกขบวนพากันเข้าบ้านหลังน้อย
หลังจากนั้นพี่อ้อมจึงเริ่มเปิดฉากเข้าสู่ประเด็นเพื่อถามผลสำรวจ
โดยมีพี่ฟ้าจดรายงานใส่กระดาษไปด้วย


“พวกเราอยากมาสอบถามความเห็นนะคะว่า
ค่ายวิศวะอาสาในมุมมองของคนในชุมชนเป็นยังไง
บอกมาได้เลยนะคะไม่ต้องเกรงใจ
พวกเราจะได้นำไปพัฒนาปรับปรุงในค่ายครั้งต่อไปได้ถูก”


“ก็ดีนะจ๊ะ น้าเห็นว่ามันเป็นกิจกรรมที่เข้ามาช่วยชุมชน
อย่างโรงเรียนมันก็ค่อนข้างเก่ามากแล้ว
พอได้พวกหนูมาช่วยกันทาสีซ่อมแซมมันเลยน่าอยู่ขึ้น
เด็ก ๆ ก็ดีใจ มีพี่ ๆ มาช่วยสอนช่วยเล่นกับพวกเขา
ดูอย่างลูกน้าสิ ยังไม่ยอมปล่อยมือมาหาแม่เลย”


ประโยคสุดท้ายเรียกเสียงหัวเราะให้คนในวงสนทนา
พวกเราชาวค่ายพอได้ฟังผลตอบรับแบบนี้ก็ปลื้มใจครับ
เราลงทุน ลงแรง เหนื่อยกาย มากเท่าไร
แต่เมื่อเห็นว่ามันมีประโยชน์ต่อคนอื่นโดยไม่สูญเปล่า


...เพียงเท่านี้ก็นับว่าคุ้มค่าพอแล้ว


พวกเขาอยู่ชวนเจ้าของบ้านคุยกันอีกเกือบสิบห้านาที
ก่อนจะขอตัวไปปฏิบัติภารกิจต่อยังบ้านอีกหลัง
แม้จะขลุกขลักเล็กน้อยเพราะน้องกานดางอแงไม่ยอมปล่อยมือจากพี่ชาย
กระทั้งท้ายที่สุดผู้เป็นแม่ต้องงัดไม้ตายใช้ขนมมาล่อ
จึงทำให้ร่างเล็กยอมถอนตัวออกมาแต่โดยดี

ทว่าเมื่อนายปลายฟ้ากำลังจะเดินออกไป
กลับโดนคู่สนทนารั้งไว้เสียก่อน


“เออ...เดี๋ยวก่อนนะ น้ามีอะไรจะให้”


หญิงสาวหายเข้าไปในครัวครู่ใหญ่
ก่อนออกมาพร้อมถุงใส่ข้าวโพดต้ม
อัดแน่นเกือบสามสิบฝักแล้วยื่นส่งมาให้


“นี่จ๊ะ...น้าฝากข้าวโพดต้มกลับไปให้เพื่อน ๆ ด้วย
บังเอิญต้มไว้หลายฟัก เอาไปแบ่ง ๆ กันนะ
แล้วอย่าลืมฝากไปให้เพื่อนหนูที่ตัวสูง ๆ
ที่มาพร้อมกันวันนั้นด้วยนะจ๊ะ”


แม้ปลายฟ้าจะเกรงใจ
แต่จะให้ปฏิเสธน้ำใจเจ้าของบ้านที่อุตส่าห์นึกถึงก็ทำไม่ลง
เขาจึงรับถุงข้าวโพดมาพลางพยักหน้ารับคำ


“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเอาไปให้เขาเอง

...ขอบคุณมากครับ”


สุดท้ายกลุ่มของนายปลายฟ้าจึงต้องหิ้วถุงข้าวโพดต้มไปตระเวนเยี่ยมชาวบ้านด้วย

และกว่าจะเวียนไปได้ครบตามกำหนดการกลับถึงค่ายก็เกือบเที่ยงแล้ว
เป็นเวลาเดียวกับกลุ่มที่มาถึงก่อนล่วงหน้ากำลังเตรียมทำราดหน้ามื้อกลางวันอยู่พอดี



“อุ๊ย พ่อเต่าน้อยกลับมาแล้วเหรอ
อ้าวแล้วนั่นหิ้วอะไรมาเต็มเลยอ่ะ
ว๊ายยย! ข้าวโพดต้ม!! ของชอบเค้าเลย
กินได้ป่ะ บอลล่าขอสองฝักนะตัวเอง”

เจ๊ใหญ่เรียกทักมาไกล ๆ แต่พอเห็นของในมือ
จึงรีบปรี่มาดูพลางร้องวี๊ดว๊ายด้วยความดีใจ
ชวนให้คนอื่น ๆ ในค่ายมามุงดูเพิ่มด้วย
ข้าวโพดต้มจึงถูกทยอยแจกจ่ายไปคนละฝักสองฝัก


...สามฝัก    


...สี่ฝัก



...อ้าวนั่นเอาไปเจ็ดแล้ว



เฮ้ย!!  ไป ๆ  มา ๆ ทำไมมันลดลงเร็วขนาดนี้วะ


...เดี๋ยวก็ไม่ทันเหลือถึงคนที่ฝากมาก่อนเข้าพอดี



ปลายฟ้าจึงรีบชิงดึงข้าวโพดต้มสองฝักสุดท้ายเอาไว้ได้ทันอย่างหวุดหวิด
ก่อนจะถูกแบ่งไปให้ชาวค่ายจนหมด
ยังไงเขาก็ต้องทำตามที่คุณน้าคนฝากขอมาให้ได้
ว่าต้องเอาฝักหนึ่งไปฝากเพื่อนตัวสูง ๆ ที่มาด้วยกันวันนั้น

ดวงตากลมโตจึงสอดส่องหาเพื่อนที่ว่า
แต่มองหาเท่าไรกลับไม้พบแม้เงา
จนเขาต้องร้องถามคนที่ยืนแทะข้าวโพดต้มข้าง ๆ


“ไอ้เกมส์ เห็นประธานค่ายบ้างป่ะ”


“จะรู้มั้ยวะก็กลับมาพร้อมกัน
สงสัยคุมงานก่อสร้างยังไม่เสร็จมั้ง”


อีกฝ่ายเดาตอบกลับมาส่ง ๆ
ทำให้คนฟังเพิ่งจะนึกขึ้นได้


...ถ้าไม่อยู่ตรงนี้ เขาคงต้องเอาไปฝากไว้ที่อื่นก่อน



“งั้นเดี๋ยวกูมานะ”


“เออ รีบไปรีบกลับล่ะ”


ปลายฟ้าร้องบอกเพื่อนที่กินข้าวโพดเสร็จแล้ว
และเตรียมตัวไปยกจานชามทำหน้าที่สวัสดิการเหมือนเดิม
ซึ่งหัวหน้าหน่วยก็ไม่ลืมเตือนเพราะมีงานเร่งค้างอยู่


ร่างที่ถือถุงข้าวโพดต้มจึงต้องเร่งก้าวออกไปยังทิศทางของที่พัก
ตรงบรรดาเต้นท์นอนเรียงกันอยู่เป็นส่วน ๆ
 
เขามองหาเต้นท์หลังใหญ่ซึ่งจำได้ผ่าน ๆ ว่าใครบางคนนอนอยู่
ก่อนจะตัดสินใจแขวนถุงข้าวโพดต้มไว้ที่เสาหน้าเต้นท์
มั่นใจว่ายังไงตอนมันกลับมาก็คงเห็นเองเหมือนที่มีคนเคยทำให้เขา


แต่... เออ...
แล้วแขวนไว้เฉย ๆ แบบนี้มันจะรู้มั้ยวะ
เกิดมีคนเข้าใจผิดแล้วหยิบไปกินขึ้นมาจะทำยังไง


คนนิสัยลังเลเริ่มคิดมาก
มองถุงข้าวโพดต้มพลางตบกระเป๋ากางเกงเพื่อคว้านหาของบางสิ่ง
ก่อนเจอปากกาลูกลื่นสีน้ำเงินที่ไว้ใช้เขียนแบบประเมินผล


เขาจึงหยิบมันขึ้นมากดเขียนข้อความไว้ตรงหน้าถุงพลาสติก



‘คมสัน’



อืม...ระบุชื่อไว้แบบนี้จะได้รู้
รับรองว่าไม่มีใครกล้าแย้งของไอ้ประธานค่ายหน้าโหดนั่นแน่ ๆ
เว้นก็แต่มันจะเสือกมีน้ำใจแบ่งให้คนอื่นไปกิน


เอ๊ะ...แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ  ล่ะจะทำไง

เฮ้ย...ไม่ได้ ๆ

คุณน้าเขาอุตส่าห์ตั้งใจต้มมาฝาก
ถ้าไม่กินเองเดี๋ยวจะถือว่าผิดคำสัญญาที่บอกไว้

หรือจะให้เขาเขียนอธิบายที่มาที่ไปทั้งหมดดี
แล้วมันจะไม่ยาวไปเหรอวะ
เนื้อที่ถุงก็มีอยู่แค่เนี่ย


โอย...แม่งยุ่งยากโว้ยย!!


...งั้นแบบนี้เลยล่ะกัน!!



ปลายฟ้าจึงตัดสินใจจับปากกาขึ้นมาเขียนเติมคำสั้น ๆ



‘Budder’



เขายืนมองผลงานของตัวเองที่สถิตอยู่ตรงด้านล่างของถุง

อืม...ค่อยเข้าท่าหน่อย
เขียนไว้แบบนี้มันจะได้รู้ว่าบัดเดอร์ส่งมาให้
และเป็นของที่ให้มันโดยเฉพาะเจาะจง
ไม่ต้องไปมีน้ำใจแบ่งคนอื่นอีก

เออ...แต่ว่ามันจะง่ายไปรึเปล่าวะ
อยู่ ๆ ก็ใส่ไปว่ามาจากบัดเดอร์
ทั้งๆ ที่ไม่เคยเทคแคร์อะไรมาก่อนเลย
เดี๋ยวมันไม่เชื่อขึ้นมาอีกจะทำยังไง

ไหน ๆ ก็รับสมอ้างเป็นคนเอาข้าวโพดมาให้แล้วทั้งที
เขียนอะไรใส่ลงไปเพิ่มอีกหน่อยดีรึเปล่าวะ


ละ...แล้วจะให้เขียนว่ายังไง

ต้องเขียนอะไรถึงจะอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ

ต้องเขียนยาวแค่ไหนถึงจะสื่อถึงความรู้สึกของเขาได้



...ความรู้สึกทั้งหมดที่มีต่อคนคนนั้น



เขาทบทวนความคิดของตัวเองเงียบ ๆ
ปล่อยให้ทุกความรู้สึกแล่นตรงไปสู่มือ
ประทับรอยปากกาบนกลางถุงพลาสติก
ให้ปรากฏเป็นข้อความหนึ่งขึ้นมา


...ข้อความที่เขียนมาจากใจของนายปลายฟ้า





‘คิดถึงและเป็นห่วงนะ’





ฮิ้วววววววว~~!!


คนอ่านทวนรู้สึกหน้าร้อนวูบเขินตัวเองแปลก ๆ
เขียนเองแล้วดันเสือกอายเองอีก
สรุปว่าเขาย้ายเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาคมบัดเดอร์เสี่ยวแล้วใช่มั้ยเนี่ย!!


...แต่เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งเข้าใจผิด!!

เขาไม่ได้หมายความตามแบบนั้นนะเว้ย!


...คือไอ้ ‘คิดถึง’ เนี่ยมันแปลว่า
เขาไม่ค่อยมีโอกาสได้เทคแคร์เท่าไร
แต่ก็ยังคอยนึกถึงตลอดไม่ใช่
อยู่ ๆ จะหายหน้าลืมกันไปเลย


...แล้วที่เขียนว่า ‘เป็นห่วง’ เพราะอยากมันให้รู้ว่า
อย่ามัวแต่คอยช่วยคนอื่นจนลืมดูแลตัวเอง
ทำงานหนักเหนื่อย ๆ มาก็ไปพักซะบ้าง
เดี๋ยวจะไม่สบายเอาเปล่า ๆ แล้วจะแย่


ทั้งหมดมันก็แค่นั้นเอง...

...ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเลยจริ๊งงจริงงง!!



ทว่าต่อให้พลิกตะแคงซ้ายขวายังไง
มันก็ดูออกมาเลี่ยน ๆ แปลก ๆ อยู่ดี
แต่จะให้เขียนอธิบายลงไปเพิ่มเติม
พื้นที่บนถุงก็แทบไม่มีเหลือ


โอยยย!!  ช่างแม่งไม่สนแล้วโว้ยยย!!

...ถือว่าให้แล้วก็จบกัน

มันจะตีความยังไงก็เรื่องของมันล่ะกันเว้ย!!


นายปลายฟ้าจึงปล่อยถุงข้าวโพดต้มสองฝักแขวนไว้ตรงหน้าเต้นท์แบบนั้น
ก่อนจะเดินกลับไปทำต่อหน้าที่สวัสดิการของตัวเองต่อไปอย่างรีบเร่ง
โดยไม่รู้เลยว่าคล้อยหลังไปเพียงสิบนาที
ใครบางคนที่ตัวเองนึกถึงจะเดินกลับมายังสถานที่แห่งนั้น



นายคมสันผู้ทำงานจนเหงื่อท่วมตัว
เดินคู่มากับรองประธานค่ายเพื้อนซี้
ที่กะชวนกันมาเปลี่ยนเสื้ออาบน้ำให้คลายร้อน
ก่อนจะไปกินข้าวเที่ยงแล้วเริ่มลุยงานกันต่อ

ทว่ายังเพียงแค่เดินมาถึงหน้าเต้นท์
หนุ่มหล่อกลับทักเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติเข้าเสียก่อน


“ถุงอะไรแขวนอยู่ตรงนั้นวะ ไอ้คม”


คนถูกถามที่เป็นฝ่ายเดินนำจึงหยิบถุงยกขึ้นมาสำรวจ
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิด ๆ เมื่อเห็นของข้างในก่อนบอกคำตอบ


“ข้าวโพดต้ม”


“เออ...จริงด้วย เห็นคนในค่ายว่า
พวกที่ไปเยี่ยมชาวบ้านได้ข้าวโพดต้มมา
สงสัยเอามาแบ่งให้มั้ง”


ดิวสันนิษฐานขึ้นมาลอย ๆ ตามที่เห็นคนอื่นพูดกัน
แต่นายคมสันกลับไม่ได้ใส่ใจฟัง
เพราะดวงตาคมกำลังจดจ้องอยู่กับบางสิ่ง


...บางสิ่งที่ทำให้ลมหายใจเขาแทบหยุดชะงัก




‘คมสัน


คิดถึงและเป็นห่วงนะ


Budder’




ประโยคง่าย ๆ ถูกเขียนด้วยปากกาลูกลื่นธรรมดา
แต่มันไม่ธรรมดาเลยสำหรับคมสัน
เพราะข้อความนี้กลับเรียกความทรงจำบางอย่างขึ้นมา


..บัดเดอร์เหรอ

ทำไมบัดเดอร์ถึงให้ข้าวโพดต้มเขา

แล้วยังเป็นข้าวโพดที่ได้มาจากคนที่ไปเยี่ยมชาวบ้าน



หรือว่า...



หากแต่ยังไม่ทันนึก ความคิดทั้งหมดกลับสะดุดลง
เมื่อได้ยินเสียงพูดจากเพื่อนซึ่งเดินผ่านไปเปิดเต้นท์


“เออ กูหิวพอดีเลย เอามาให้กินบ้างดิ”


“ไม่ได้!”


คำบอกปฏิเสธอย่างรวดเร็วเด็ดขาด
ทำให้คนที่กำลังจะเข้าไปในเต้นท์ถึงกับหันมาร้องทวงถามอย่างสงสัย


“ไรว่ะ มีสองฝักไม่ใช่เหรอ
ปกติมึงไม่ขี้หวงนี่หวา”


ดิวขมวดคิ้วมองอย่างงง ๆ
หากแต่คมสันกลับไม่มีท่าทีขยับ
ซ้ำยังคงยืนยันคำเดิมหนักแน่น



“อันนี้ไม่ได้...

...คนสำคัญกูให้มา”



คำพูดที่ฟังมาพร้อมกับแววตาจริงจังแบบที่ไม่ค่อยได้เห็น
ทำให้ดิวเผลอหยุดพิจารณาด้วยความสงสัย
ก่อนจะไหวไหล่เหมือนปล่อยให้มันผ่านไป

เอาเถอะ..
เพื่อนไม่อยากให้เขาก็ไม่เซ้าซี้
ถึงหมู่นี้มันจะทำตัวแปลก ๆ ไปหน่อย
แต่ไว้มีอะไรค่อยไปสืบเองทีหลังก็ได้วะ


หนุ่มหล่อจึงจัดการเข้าเต้นท์ไปหยิบเสื้อผ้าต่อ


ปล่อยให้นายคมสันยืนมองถุงข้าวโพดในมืออยู่อย่างนั้น



....ทั้ง ๆ ที่ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าใครเป็นบัดเดอร์กันแน่

แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้นึกหน้าใครบางคนขึ้นมา



...ใครบางคนที่ชอบทำตัวให้อยากดูแล


...ใครบางคนที่ชอบเงียบเวลาถูกเขาถาม


...ใครบางคนที่เขาชอบมองรอยยิ้มสดใสเหมือนโลกทั้งใบกำลังยิ้มให้


...ใครบางคนที่เขาอยากฝากคำคำนั้นไว้เช่นเดียวกัน



นายคมสันหยิบข้าวโพดต้มขึ้นมาแกะซังออกแล้วจึงกัดลงไปหนึ่งคำ
แม้จะเย็นลงมากแล้ว แต่เนื้อข้าวโพดต้มก็ยังทั้งหอม ทั้งหวาน
จนเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มบางขึ้นมาอย่างถูกใจในรสชาติ
ซึ่งซึมลึกเข้าไปถึงความรู้สึกเช่นเดียวกับข้อความนั้น


....ข้อความที่เขาอยากฝากความรู้สึกไปให้ถึงเหมือนกันว่า




‘คิดถึงและเป็นห่วงนะ’




...ปลายฟ้า




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 22-11-2012 20:29:27
 :z13:
เต่าปลาย ออกมาจากใจใช่มั้ย  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: Luk-Pla-Yai ที่ 22-11-2012 20:48:20
 :m1:โอ๊ยยยยยยย อยากหม่ำข้าวโพดต้มมมมมมมม  :m13:
อ่านแล้วเขินไปด้วยเลย อ๊ายๆ~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: Milk ที่ 22-11-2012 20:53:17
ข้าวโพดฝักนี้หวานเนอะ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-11-2012 21:02:30
แอร๊ยยยยยแค่ 2 ประโยครู้เลยรึพ่อคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-11-2012 21:14:04
...ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเลยจริ๊งงจริงงง!!


คนสำคัญกูให้มา


ทั้งคู่เริ่มคิดถึงและเป็นห่วงกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 22-11-2012 21:15:32
โอ้......ที่มาของชื่อเรื่องภาคนี้ o13


 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 22-11-2012 21:16:53
สรุปว่าเค้ารู้ตัวว่าเป็นบัดดี้บัดเดอร์กันเหรอ ไอ้คำว่าบัดเดอร์เพิ่งเคยได้ยินตอนมาอ่านเรื่องนี้นี่แหละ
ข้าวโพดต้มออกมาแล้ว ฮิ้ววววววววววววววววว หายคาใจแล้ว
เค้าคิดถึงและเป็นห่วงกันด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-11-2012 21:19:52
มนต์รักข้าวโพดต้ม ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 22-11-2012 21:20:57
หวาน  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 22-11-2012 21:22:47
โอเค
เข้าใจที่มาของตอน "ยอดสะเดา และ ข้าวโพดต้ม" แล้ว

ขอส่งเสียงทิ้งท้ายหน่อยเหอะ

"ฮิ้ววววววววววววววววว" หวานเกินไปแล้วโว๊ย ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 22-11-2012 21:35:39
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 22-11-2012 21:38:35
ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว
เขินแทนว้อย
ผ้าปูที่นอนขาดคามือแล้ว
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-11-2012 22:06:45
เอาล่ะเว้ย  มีเป็นห่วงและคิดถึงกันด้วย

งานนี้บัดเดอร์ บัดดีั งานเข้าทั้งคู่  555

บวกเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 22-11-2012 22:10:00
 :L3: ฮิ้ววววววววววววว ฮู้วววววววววววววววววว

กลับจากค่ายก็เป็นแฟนกันไปเล้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 22-11-2012 22:12:47
ก็งงๆ เกี่ยวกับคำว่าบัดดี้ บัดเดอร์ เหมือนกันค่ะ
ว่าแต่ คมสันรู้ว่าเป็นปลายฟ้าเหรอค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-11-2012 22:13:15
ในที่สุดน้องเต่าปลายก็ได้ทำหน้าที่บัดเดอร์แล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 22-11-2012 22:48:22
น่ารักอ่ะ ทั้งสองคนเป็นบัดดี้ กับบัดเดอร์กันหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: saiiisai ที่ 22-11-2012 23:05:59
เขินเลย  o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 22-11-2012 23:44:34
ไม่รุทำไม อ่านแล้วเขินนนนนน   :-[
คิดถึงและเป็นห่วง  ฮื้มมม อยากเห็นตอนเฉลยบัดดี้ชะมัด  :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 22-11-2012 23:51:24
คนสำคัญ แล้วสำคัญขนาดไหนล่ะพ่อคม อิอิ

พ่อเต่าน้อยก็นะ น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย รักอ่ะ นายเอกแบบนี้รักเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-11-2012 07:20:48
ข้าวโพดต้มอย่างเดียวไม่พอหรอกนะปลาย


ต้องเอาทั้งตัวและหัวใจไปเทค   :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-11-2012 08:41:12
น้องเต่าปลายเริ่มมีพัฒนาการดีขึ้นนะเนี่ย มีเป็นห่วงและคิดถึง
และเหมือนคมจะรู้นะว่ามาจากปลาย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 23-11-2012 09:10:39
พี่คมคะ รู้ด้วยว่าใครให้ข้าวโพด :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 23-11-2012 12:25:25
หวานกันแล้วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-11-2012 13:50:18
ข้าวโพดต้มฝักนี้ถ้าจะหวานน่าดู :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 23-11-2012 13:58:49
วรั๊ยยย...น้องเต่าปลายเข้าใจหยอดนะคะ >////<~~~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-11-2012 13:59:26
ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-11-2012 14:06:30
อ๊ากกก อยากกรีดร้อง มันเป็นข้าวโพดที่หวานมากๆเลยแหละ

ก็คนสำคัญให้มานิเนอะ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 >; P.56
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-11-2012 22:43:03
ขอบคุณ ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 12] 22/11/55 > P.56
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 24-11-2012 11:07:51
เข้ามารอกินข้าวโพด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 24-11-2012 20:51:08
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 13



...และแล้วในที่สุดวันที่ชาวค่ายวิศวะอาสารอคอยก็มาถึง


ระยะเวลามากกว่าหนึ่งอาทิตย์ที่พวกเขาทุ่มเทแรงกายแรงใจ
จนปรากฏผลงานออกมาเป็นรูปเป็นร่าง
ทั้งอาคารเรียนทาสีฟ้าสดใส ห้องสมุดถูกต่อเติมเปลี่ยนกระเบื้องให้น่ามอง
โรงเพาะเห็ดเล็ก ๆ เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยคุณภาพ
สิ่งเหล่านี้คือความสำเร็จที่พวกเราชาวค่ายวิศวะอาสาภาคภูมิใจ


ปลายฟ้าหยิบซัมซุมกาแล็กซีขึ้นมาถ่ายภาพสถานที่ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนโฉมใหม่
เก็บไว้เป็นความทรงจำประทับใจว่าครั้งหนึ่ง
ตนเองเคยมีโอกาสได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมัน
ก่อนที่วันพรุ่งนี้พวกเขาจะต้องเตรียมตัวกลับไปยังมหาวิทยาลัยตามเดิม
โดยเหลือเพียงแค่ความทรงจำดี ๆ ทิ้งไว้เบื้องหลัง


เฮ้อ...


...แค่นึกมันก็อดไม่ได้ที่จะเศร้าอยู่ลึก ๆ 


ยิ่งนายปลายฟ้าเป็นคนบ่อน้ำตาตื้นอยู่ด้วย
พอคิดถึงภาพเหตุการณ์ร่วมทุกข์ร่วมสุขที่ผ่านมาของชาวค่าย
น้ำตาก็แทบจะคลอเบ้าพาลอยากร้องไห้ขึ้นมาดื้อ ๆ


ฮึก...


ฉันขอสัญญาาาาา... จะจำทุกเรื่องราว
ไม่ว่าร้ายหรือดี สุขหรือทุกข์ใจ
ฉันจะทบทวน เรื่องราวของเธอตลอดปายยย
เผื่อวันสุดท้ายที่ฉันหายใจ....
จะได้ไม่ลืมเธอออออ..... ฮือออ....




“เฮ้ยย!! ไอ้เต่าปลาย มึงมาอู้อะไรตรงนี้วะ
ไปช่วยยกเก้าอี้มาสิโว้ยจะเปิดงานอยู่แล้ว”




อ้าว...แม่งหมดมู้ด


คนอุตส่าห์จะทำซึ้งเป็นพระเอกเอ็มวีเพลงพี่เบิร์ดซะหน่อย
แต่พอหันไปเห็นสภาพรอบตัวก็พอจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่เวลา
เพราะตอนนี้คนในค่ายกำลังวิ่งกันวุ่น
เพื่อเตรียมงานเปิดโครงการที่กำลังจะมีขึ้นในสิบห้านาทีข้างหน้า

หน่วยสวัสดิการตำแหน่งเจเนอเรชั่นเบ๊อย่างปลายฟ้า
จึงต้องหยุดอารมณ์ซาบซึ้งแล้วรีบเผ่นไปช่วยยกเก้าอี้
สำหรับให้ผู้ปกครองและคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านซึ่งทยอยมาร่วมตัวกัน
ทั้งยังมีเด็กนักเรียนเข้าแถวเตรียมรออยู่ภายในอาคารเอนกประสงค์เรียบร้อยแล้ว


พิธีกรรับบทโดยพี่ฟ้าและพี่อ้อมสองสาวฝ่ายสันทนาการเป็นผู้ดำเนินรายการ
ความจริงแล้วพิธีการเปิดโครงการห้องสมุดไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย
ประเภทต้องมาตัดริบบิ้นเหมือนสส.มาเปิดงานขนาดนั้นหรอกครับ

แค่ให้อาจารย์ชวลิตอาจารย์ที่ปรึกษาค่ายขึ้นพูดถึงวัตถุประสงค์ของโครงการอาสา
ก่อนเชิญผู้ใหญ่บ้านรวมถึงบุคคลอื่น ๆ ที่สนใจ
พาชมอาคารเรียน ห้องสมุด และโรงเพาะเห็นที่สร้างขึ้นใหม่
และร่วมกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการแล้ว


ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเราชาวค่ายวุ่นวายตื้นเต้นกัน
ไม่ใช่เพราะพิธีเปิดโครงการหลักในตอนเช้า
แต่เป็นกิจกรรมในช่วงสายที่กำลังจะขึ้นต่อไปหลังจากนี้ต่างหาก


...ซึ่งนั่นก็คือ ‘กิจกรรมกีฬาสานสัมพันธ์’ ครับ


หรือพูดง่าย ๆ อีกอย่าง....
มันเป็นกิจกรรมกีฬาสีระหว่างพี่ค่ายและน้องโรงเรียน
โดยเราจะแบ่งน้องออกเป็น 4 สีด้วยกัน ได้แก่ ฟ้า แดง เขียว เหลือง
ซึ่งจะใช้วิธีผูกผ้าสีต่าง ๆ เป็นการกำหนดสัญลักษณ์
แล้วให้น้อง ๆ นับเลขแบ่งคนให้กระจายออกไปยังแต่ละสีเพิ่อความยุติธรรม
ส่วนพวกพี่ ๆ ที่เหลือถูกแบ่งจับฉลากกันตั้งแต่เมื่อวานเย็นแล้วครับ


และแน่นอนว่า...


...กลุ่มเภสัชของพวกเขาแตกกระซ่านซ่านเซ็นเป็นที่เรียบร้อย


ไอ้เกมส์ โดนจับไปอยู่ สีเหลือง
ไอ้แว่น สีแดง
ตุ๊ต๊ะ กับ โจ อยู่ สีเขียว
ส่วนบอลล่า กับ ปลายฟ้า ...ได้ สีฟ้า ไปตามชื่อ


ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน
แต่พอได้เวลาแข่งพวกเขากลับถือตัวเป็นศัตรูกันอย่างจริงจัง

โดยทุกคนจะต้องเวียนกันแข่งกีฬาประเภทใดประเภทหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นแข่งกินวิบาก วิ่งสามขา เหยียบลูกโป่ง เก้าอี้ดนตรี
และกีฬาหรรษาอีกมากมายสารพัด


สำหรับปลายฟ้า...
อะไรที่ต้องใช้ความเร็วนี่โดนตัดสิทธิ์หมดครับ
เลยต้องแข่งกีฬาประเภทใช้ทักษะแทน
ซึ่งก็เหลืออยู่เกมส์เดียว....


‘ยืนทรงตัวบนกระดาษหนังสือพิมพ์’




“พ่อเต่าน้อยเอาขายันไว้บนตัวเค้าเลย
เดี๋ยวเค้ารับไว้เอง แค่นี้บอลล่ารับได้ค่า
...กระเทยสู้โว้ยยย!!”


เจ๊บอลล่าออกปากสั่งสมตำแหน่งหญิงแกร่งหญิงอึด
พยายามยืนเบียดแทรกตัวบนกระดาษหนังสือพิมพ์พับครึ่ง
ซึ่งต้องให้คนสิบคนขึ้นไปทรงตัวให้ได้เกินสิบวินาทีโดยไม้ล้ม
ตอนนี้เหลือที่ว่างให้แหย่ขาเข้าไปได้แค่ข้างเดียว
ทำให้นายปลายฟ้าที่อุ้มน้องไว้คนหนึ่ง
โดยมีน้องอีกคนเกาะหลังเป็นลูกลิงอยู่
ต้องเหยียบเข่าบอลล่าเพื่อขึ้นไปต่อตัวอย่างกับกายกรรมเปียนยาง


...บอกแล้วว่าถ้าเป็นเรื่องแข่งขันเอาชัยชนะกันพวกเขามีทุ่มให้เต็มร้อย


เสียงนับเลขจากกรรมการเป็นสิบวินานที่โคตรยาวที่สุดในชีวิต
ปรากฏว่ากลุ่มของเขาเป็นฝ่ายที่ยังคงทรงตัวอยู่ได้นานที่สุด
โดยกลุ่มอื่นล้มไปก่อน หรือไม่ก็มีเท้ายื่นออกนอกกระดาษหนังสือพิมพ์
จึงทำให้ทีมสีฟ้าชนะไปอย่างเป็นเอกฉันท์


ปลายฟ้าถอยตัวออกมาจากบอลล่าอย่างโล่งอก
ทว่าแรงจากการอุ้มน้องไว้สองคน
กลับทำให้ตัวของเขาเซเสียหลัก
จนเกือบจะหงายหลังล้มไปกองกับพื้น

โชคยังดีที่เขาเอาแขนอีกข้างยันไว้ได้ทัน
เลยไม่มีโศกนาฏกรรมพาน้องเทกระจาด
ถึงกระนั้นก็ยังปรากฏเป็นรอยครูดกับดินจนถลอกได้เลือดซิบ


“ว๊ายยย!! เป็นอะไรรึเปล่าพ่อเต่าน้อย
ตายแล้วแขนมีเลือดออกเลยอ่ะ
รีบไปล้างแผลก่อนไป๊
เดี๋ยวทางนี้เค้าจัดการเอง”


บอลล่าร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองเจ็บ
ก่อนจะไล่ให้คนได้แผลรีบไปจัดการล้างรอยดินที่เปื้อนออกกันการติดเชื้อ

เขาพยักหน้ารับคำ ปล่อยน้อง ๆ ที่อุ้มลงพื้นอย่างปลอดภัย
แล้วจึงเดินห่างออกมาตั้งใจไปหาน้ำมาล้างแผลที่ชักจะแสบขึ้นมาเรื่อย ๆ
แต่ยังไม่ทันพ้นกลุ่มชาวค่ายกลับมีเสียงหนึ่งเรียกทักจากด้านหลัง


“เดี๋ยวปลาย....”


ดวงตากลมมองหาเจ้าของเสียง
ก่อนจะพบกับหนุ่มหล่อร่างสูงสไตล์เกาหลีพิมพ์นิยม
ซึ่งเขาสังเกตเห็นผ้าสีเหลืองผูกไว้ที่ข้อมือของอีกฝ่าย
อ้าว...ดิวอยู่สีเดียวกับไอ้เกมส์เลยนี่หว่า


“เมื่อกี๊ที่ล้มเป็นอะไรมากมั้ย”


ดูเหมือนท่านรองประธานจะเห็นเขาในเกมส์ที่เพิ่งจบ
เลยอดถามด้วยความเป็นห่วงตามประสาบัดเดอร์ที่ดี


“ไม่เป็นไร แผลไม่ได้ลึกมาก
แค่ใส่ยาเดี๋ยวก็หาย”


เขาบอกไปตามความจริง
แต่อีกคนกลับยังคงมีสีหน้ากังวล
ซ้ำยังถามคำถามสุดแสนคลาสิก


“ให้ผมไปช่วยมั้ย”



...เอาอีกแล้ว

ไอ้ประโยคแบบนี้

คือก็พอเข้าใจอยู่หรอกนะว่าดิวอยากดูแลเทคแคร์
แต่ขอโทษทีไม่ต้องเวอร์ขนาดนั้นก็ได้มั้ง


...กูไม่ได้เป็นง่อยนะครับ!!



ทว่ายังไม่ทันที่คนลำบากใจจะหาทางปฏิเสธ
เสียงจากร่างสูงผิวแทนที่เขาจำได้แล้วว่า
ชื่อ บีม เป็นเหรัญญิกประจำค่าย
กลับตะโกนข้ามมาเรียกคู่สนทนาที่คุยกันอยู่


“ไอ้ดิว!! มึงลงเกมส์วิ่งสามขาใช่มั้ย
ไปเตรียมตัวได้แล้วโว้ยย!!”


เขาเห็นดิวหันไปมองคนเรียก
ก่อนจะหันกลับมาหาเขาอย่างลังเลใจ


“ดิวไปแข่งต่อเถอะ เดี๋ยวแพ้สีเรานะ”


คำพูดทีเล่นทีจริงถูกบอกอีกคนไปเพื่อให้คลายกังวล
ดิวทำหน้าเป็นห่วงเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็พยักหน้าเข้าใจ
ก่อนผละออกห่างโดยไม่ลืมย้ำให้คอยระวังตัวด้วยกลัวว่าเขาจะเจ็บอีก


...ไอ้เขาอยากจะบอกเหลือเกินว่า
จะเจ็บก็เพราะมัวยืนคุยกันนี่แหละ
กว่าจะเคลียร์จบรู้เรื่องแผลได้แห้งกันพอดี

เฮ้อ...


ปลายฟ้าถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
มองแผลของตัวเองที่เลือดหยุดไหลไปเรียบร้อย
แล้วจึงมุ่งหน้าเดินตรงไปยังห้องน้ำซึ่งกะจะล้างแผลก่อนใส่ยา

แต่เมื่อไปถึงเขากลับพบว่ามีใครบางคนใช้อยู่ก่อนแล้ว
และแม้ใครคนนั้นจะยืนหันหลังให้อยู่
ทว่าแค่เห็นรูปร่างสูงใหญ่ที่แผ่รัศมีความโหดลาง ๆ
เขาก็พอจะเดาได้ว่าอีกคนเป็นใคร


“เออ...คือว่า...”


คนโดนทักที่เพิ่งจะล้างหน้าเสร็จรีบหันมาตามเสียง
กำลังจะเอ่ยปากพูดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคือใคร
แต่พอดวงตาคมเผลอมองไปยังรอยถลอกที่เด่นชัด
ร่างสูงกลับรีบเปลี่ยนเป็นประโยคที่คนฟังคุ้นเคย


“มีแผลเหรอ เป็นอะไรมากมั้ย”



...น่านไง กูว่าแล้ว


ปลายฟ้าทำหน้าละเหี่ยใจกับคำถามที่ฟังเป็นครั้งที่สามของวัน


ทำไมใคร ๆ ถึงต้องมาคอยเป็นห่วงเป็นใยเขาเยอะขนาดนี้วะ

ไม่ใช่ว่าโกรธอะไรหรอกนะ.... 
แต่มันรู้สึกเหมือนว่าเขาดูแลตัวเองไม่ได้
ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วไอ้ปลายฟ้ามันก็เป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง
ไม่ได้เป็นผู้หญิงบอบบางอ่อนแอซะหน่อย
มีแผลถลอกแค่เนี่ยดันทำท่าจะเป็นจะตาย


...แม่งน่ารำคาญจริง ๆ โว้ยย!!



คนที่ชักเริ่มหงุดหงิดจึงตอบไปด้วยน้ำเสียงกึ่งประชด


“ไม่เป็นไร แต่ถ้านายไม่หลีกทางให้เราล้างแผล เราอาจจะเป็น”


นายคมสันรีบถอยห่างออกมาจากอ่างล้างมือทันทีที่ได้ยิน
ปล่อยให้คนเจ็บล้างรอยเปื้อนดินออกจากตัว

ปลายฟ้าซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อน้ำเย็นโดนปากแผล
มันไม่ได้ลึกอะไรมากแต่ครูดเป็นทางยาว
คงต้องอีกสักอาทิตย์กว่าแผลจะแห้งตกสะเก็ด

เขาพิจารณาบาดแผลอยู่นานพอสมควร
ก่อนจะรู้สึกถึงความผิดปกติจากคนที่ยังคงยืนอยู่ด้านหลัง
ซึ่งไม่มีทีท่าจะขยับไปไหนซ้ำเมื่อเขาหันมากลับยังยื่นของบางสิ่งมาให้


“อ่ะนี่... เมื่อกี๊มีน้องล้ม
เราเลยไปหยิบมาแต่ยังไม่ได้คืน
...ปลายเอาไปใช้เถอะ”


คำอธิบายมาพร้อมกับทินเจอร์และพลาสเตอร์ยาในมือ

...ถึงแม้ไม่อยากทำตัวเหมือนคนพึ่งพาตัวเองไม่ได้
แต่จะให้ปฏิเสธความมีน้ำใจของคนช่วยก็ดูใจร้ายเกินไป
ที่สำคัญเขารู้แล้วว่านิสัยของคนคนนี้เป็นแบบนั้น
จะให้ไปเปลี่ยนแปลงอะไรมันก็คงไม่ได้
ท้ายที่สุดเขาจึงเอื้อมมือออกไปรับของไว้


“ขอบใจ”


ปลายฟ้าเอ่ยออกไปตามมารยาท
ก่อนจะเป็นฝ่ายถามขึ้นมาบ้าง


“นายไม่มีแข่งต่อเหรอ”


“มี แข่งกินวิบาก”


“อ้าว... แล้วไม่ไปเตรียมตัวล่ะ”


เขาจำได้ว่าเกมส์แข่งกินวิบากมันต่อจากรายการแข่งวิ่งสามขา
ที่ดิวเพิ่งจะขอตัวไปลงแข่งเมื่อกี๊นี่นา
ป่านนี้รู้ผลแพ้ชนะไปแล้วมั้ง
แล้วมันยังไม่ไปเตรียมแสตนบายอีกเหรอวะ


คนถูกทักพยักหน้าเหมือนนึกได้
ตั้งท่าคล้ายจะเดินออกไป
ทว่าเพียงแค่ก้าวไปได้สองก้าว
ร่างสูงกลับหยุดชะงัก
แล้วหันมาเรียกคนที่กำลังจัดการเปิดขวดทิงเจอร์


“ปลาย”


เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงเรียก
กระพริบตามองนายคมสันที่ยืนอยู่ไม่ห่างกัน
ซึ่งเอ่ยคำพูดออกมาเพียงสั้น ๆ


...แต่เป็นคำพูดที่ทำเอาอึ้ง



“ยิ้มให้หน่อย”




ห่ะ...


อะ...


อะไรนะ..


เมื่อกี๊มันบอกให้เขายิ้มเหรอ

ยิ้มให้เนี่ยนะ!?


กูเจ็บแผลอยู่เสือกมาสั่งให้กูยิ้ม


มึงบ้ารึเปล่าวะ!!


ทว่าคนบอกกลับไม่คู่สนทนาที่กำลังมึนงง
แถมยังเอ่ยซ้ำด้วยความเร่งรีบ


“เร็วสิ เดี๋ยวเขาจะเรียกแล้ว”



เอ้า! อะไรของมันวะ

แล้วยังจะมาจ้องอยู่อีก

อยากให้กูยิ้มมากนักใช่มั้ย

เออ...ยิ้มให้ก็ได้


อ่ะ..... ยิ้มมมมมมมมมม~~



นายปลายฟ้าฉีกยิ้มยิงฟันไปส่ง ๆ
แม้จะไม่เข้าใจจุดประสงค์อะไรเลยก็ตาม
แต่คนมองทำท่าคล้ายจะพอใจ


“อืม แค่นี้แหละ ไปนะ”


คมสันพูดจบพร้อมผูกผ้าสีแดงไว้กับศีรษะเหมือนเตรียมออกศึก
ก่อนจะเดินหายออกไปยังสนามแข่งตรงลานดิน
ทิ้งคนที่ยังมีรอยยิ้มค้างบนใบหน้าไว้กับความสับสนงงวย


...ตกลงมันเรื่องอะไรวะเนี่ย!
แล้วไอ้ที่มาขอให้ยิ้มมันดูคุ้น ๆ นะ
เหมือนว่าเคยได้ยินคำพูดทำนองนี้มาจากไหน


ปลายฟ้านึกทบทวนความทรงจำตัวเองในสมอง
แต่ต่อให้พยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
เขาจึงปัดเรื่องรกหัวทิ้ง
หันมารีบจัดการทำแผลของตัวเองให้เรียบร้อย
ก่อนจะเดินเข้าไปร่วมกลุ่มเพื่อดูกีฬาอื่น ๆ ต่อไป


....


..


.


ปี๊ดดดดดดดดด!!


เสียงนกหวีดจบเกมส์เป็นสัญญาณหลังจากสิ้นสุดกิจกรรม
ผลคะแนนรวมออกมาปรากฏว่าสีแดงชนะขาดลอย
มันแน่อยู่แล้วก็ดันมีคนอย่างประธานค่ายบ้าพลังอยู่ไม่ชนะคงแปลก
สีเหลืองได้ที่สอง ส่วยสีฟ้าได้ที่สาม และสุดท้ายเป็นสีเขียว

มีการแจกรางวัลเล็ก ๆ น้อยให้แชมป์ผู้ชนะ
กระนั้นทุกคนก็ยังได้ส่วนแบ่งของรางวัลกันไปเท่าเทียม
เพราะกีฬาครั้งนี้ชื่อบอกตรงตัวอยู่แล้วว่าเราตั้งใจมาสานสัมพันธ์
มันจึงเป็นกีฬาที่สอนให้เด็ก ๆ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

...และที่สำคัญคือ ‘รู้จักความสามัคคี’



กิจกรรมทุกอย่างจบลงเมื่อใกล้เวลาเที่ยงพอดี
พวกเราชาวค่ายอาสาได้ชาวบ้าน
มาช่วยเลี้ยงอาหารมื้อกลางวันให้เช่นเดียวกับตอนมาถึงใหม่ ๆ
แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่า
เพราะแต่ละบ้านต่างเตรียมอาหารของตนเองมาเลี้ยงกันแบบอิ่มหนำ
เสมือนเป็นงานบุญย่อม ๆ ที่นัดพบกันระหว่างคนในชุมชน
ซึ่งพวกเขาเคยแวะเวียนไปเอ่ยปากชวนมาร่วมงานเมื่อวาน
แสดงให้เห็นน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของชาวบ้านในหมู่บ้าน

หนึ่งในนั้นมีคุณยายของน้องแก้มที่ช่วยตำน้ำพริกมาฝาก
และแน่นอนว่าฝีมือระดับคุณยาย
วางลงแป๊บเดียวก็หมดเกลี้ยงหม้อสมราคาคุย


ส่วนปลายฟ้าเองหลังกินข้าวเที่ยงจนอิ่มท้อง
เขาก็ได้เจอกับคนสำคัญเช่นเดียวกัน


“น้องกานดา!”


ปลายฟ้ารีบเอ่ยทักเมื่อเห็นเด็กหญิงผมสั้นแก้มยุ้ยจูงมือมากับคุณพ่อคุณแม่
ร่างเล็กพอได้ยินว่าใครเรียกก็รีบปล่อยมือ
วิ่งมาให้พี่ชายคนโปรดให้อุ้มทันทีเหมือนเคย
จนผู้เป็นแม่ต้องเป็นฝ่ายดุเตือนอีกครั้ง


“เอาอีกแล้วลูกคนนี้ เจอพี่เขาไม่ได้เลย
อ้าว...นั้นแขนพี่เขาเจ็บอยู่นี่
ลูกมาให้แม่อุ้มดีกว่านะ”


คุณน้าทักเมื่อเห็นแผลติดพลาสเตอร์ยาของเขา
แต่น้องกานดากลับดื้อดึงไม่ยอมปล่อย
ซึ่งเขาก็ได้แต่บอกว่าไม่เป็นไร
เพราะหลังจากนี้จะมีแค่กิจกรรมเบา ๆ เป็นละครของชาวค่าย
ที่เขาไม่ได้ไปมีส่วนช่วยอะไรมาก
เนื่องจากคนร่วมแสดงถูกสั่งให้ปิดเป็นความลับ
เพื่อเซอร์ไพรส์คนดูทุกคนโดยเฉพาะ


พี่เลี้ยงเด็กจำเป็นจึงต้องอุ้มน้องกานดา
พาไปที่อาคารเอนกประสงค์เมื่อได้เวลา
ก่อนจัดแจงให้น้องนั่งบนตัก เพื่อดูละครที่กำลังเตรียมการเสนอ
โดยมีพี่ฟ้า พี่อ้อม สองสาวมารับบทพิธีกรเช่นเคย


“สวัสดีค่ะ ทานข้าวกันอิ่มแล้วใช่มั้ยค่า
งั้นตอนนี้เรามาทานอาหารตากันบ้างดีกว่า
กับผลงานที่พวกเราสุดแสนภูมิใจนำเสนอ
เป็นละครยุคใหม่กำกับการแสดงโดยอ้อมเองค่ะ
ถ้าพร้อมแล้วขอเสียงปรบมือดัง ๆ ให้กับละครที่มีชื่อว่า....
...นางพญางูขาว!!”


เสียงเป่าปากฟิ้วฟ้าวพร้อมกับเสียงปรบมือดังลั่น
เป็นแรงเชียร์ให้กับละครที่ทุกคนอยากติดตาม


โห...แค่ชื่อก็สร้างสรรค์ขนาดนี้แล้ว

แต่เมื่อเจอกับตัวละครกลับยิ่งตะลึงเข้าไปใหญ่
เพราะนางพญางูขาวที่เปิดตัวมาไม่ใช่ใครอื่น
นอกจากสุดสวยประจำกลุ่มเด็กเภสัช


...เจ๊บอลล่า!


ไม่รู้ว่าเจ๊แกไปซุ้มซ้อมกันตอนไหนถึงเล่นแอคติ้งกันกินขาด
ยิ่งมีพระเอกเป็นหนุ่มหล่ออย่างดิวแล้ว ก็ยิ่งฮาเข้าไปอีก
แถมเล่นพากษ์เสียงกันเหมือนทีมภาคพันธมิตรมาเอง
มีการเปิดเพลงกระบี่เย้ยยุทธจักรคลอไปตลอดเรื่อง
แค่นี้ก็เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูกันอย่างครึกครื้น
พอแสดงจบทุกคนจึงพร้อมใจกันปรบมือยาวดังลั่น

เป็นการการันตีว่า....

ละคร ‘นางพญางูขาว’ ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

   
หลังจากกิจกรรมละครสิ้นสุดลง
พวกเขาจึงปิดท้ายด้วยการมอบอุปกรณ์การเรียนและกีฬาให้กับน้อง ๆ
รวมถึงร่วมถ่ายภาพหมู่ด้วยกันกับทุกคนเป็นที่ระลึก


นับเป็นอันจบพิธีของโครงการพัฒนาโรงเรียนให้น้อง ๆ

และยังถือเป็นการสรุปจบด้วยว่า...


...ค่ายวิศวะอาสาได้ดำเนินมาจนบรรลุวัตถุประสงค์ของมันเสร็จสิ้นแล้ว



นายปลายฟ้ามองเด็กหญิงตัวน้อยที่ยังคงไม่ปล่อยมือจากเสื้อของเขา
อดไม่ได้ที่จะนึกแอบเศร้า ๆ อยู่หน่อย ๆ
น้องกานดาเองก็ทำท่างอแงเมื่อคุณแม่มารับกลับบ้าน
เหมือนจะรู้ว่านี่อาจเป็นการเจอกับพี่ชายที่เล่นด้วยกันมาตลอดเป็นวันสุดท้าย
เพราะพรุ่งนี้รถบัสมหาวิทยาลัยจะออกเดินทางตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า


คนบ่อตาตื้นแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
พยายามทำใจกับการลาจากที่อาจไม่ได้เจอกันอีก
เขาฝืนยิ้มออกมาให้ดีที่สุด
ก่อนโบกมือลาร่างเล็ก ๆ ซึ่งค่อย ๆ เดินห่างจนลับตาไป


....ลาก่อนนะครับ น้องกานดา



แม้ในใจจะเศร้ามากมายเพียงใด
กระนั้นปลายฟ้าก็ยังคงพยายามเรียกสติของตัวเองให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
เพื่อจดจ่อกับสิ่งที่เขาต้องเตรียมจัดการต่อไป


ถึงกิจกรรมที่จัดขึ้นกับทางโรงเรียนจะหมดไปแล้ว
แต่สำหรับพวกเราชาวค่ายมันยังไม่นับว่าจบสิ้น
เพราะยังเหลือกิจกรรมสำคัญอีกหนึ่งอย่าง
และเป็นสิ่งที่ทุกคนตั้งตารอคอยอย่างตื้นเต้นนับตั้งแต่วันแรกที่มาถึง


ใช่แล้วครับ...



กิจกรรมที่ชื่อว่า...



การเฉลยบัดดี้



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 24-11-2012 21:25:31
ถ้าเฉลยบัดดี้ออกมาว่าคมเป็นบัดเดอร์ปลายนี่ปลายคงจะเหวอน่าดูเนาะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 24-11-2012 21:33:42
เต่าน้อยจำไม่ได้ซะงั้น


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-11-2012 21:37:14
หนูปลายเทคนายคมไปกี่ครั้งเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 24-11-2012 21:38:02
รออ่านกิจกรรมสำคัญ.

เรื่องนี้samsung สนับสนุน เพราะส่วนมากจะเห้นเเต่apple อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-11-2012 21:42:54
ลุ้นๆๆๆๆ จากอ่านตอนเฉลยบัดดี้เร็วๆจัง

ตอนสมัยเรียนก็เคยเล่นนะ หลังจากเล่นบัดดี้แล้วก็จับฉลากใหม่เล่น บัดด็อก แทน
ประมาณว่าเปลี่ยนจากเทคแคร์ดูแลเป็นแกล้งแทน
โดยการแกล้งก็ต้องไม่ให้จับได้ด้วยว่าเป็นใคร
ก็สนุกไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-11-2012 21:43:52
เอาล่ะสิตอนหน้าจะได้รู้แล้ว ว่าใครคือบัดดี้ใคร

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 >; P.57
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-11-2012 21:59:59
ขอบคุณ ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 24-11-2012 22:51:26
น้องเต่าน้อย มีมุมเอ๋อๆเยอะนะ น่ารักดี >.<~~~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 24-11-2012 23:14:20
แล้วปลายได้เทคบัดดี้บ้างเปล่า
เรื่องทำแผลให้หนึ่งครั้ง แล้วมีอะไรอีกมั้ยน้า
หรือว่าเรื่องยิ้มให้กำลังใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-11-2012 23:25:54
ใครกันนะจะได้คู่กับพ่อเต่าน้อย ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 24-11-2012 23:26:26
 :L2: :L2:เต่าน้อยคอยบัดดี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 24-11-2012 23:30:12
ตอนหน้าจะเฉลยแล้ววววววววววว เพี้ยงงง ขอให้นายดิวหน้าแหกเพี้ยงงงง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 24-11-2012 23:42:11
 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 25-11-2012 00:04:32
ลุ้นๆๆๆๆๆๆ

น่าร๊ากกกกกกกกง๊าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 25-11-2012 00:27:40
จะเฉลยแล้วว ตื่นเต้นนนน  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 25-11-2012 00:51:57
อีตาคม เอ็งน่ารักว่ะตอนนี้ ขอยิ้มเป็นกำลังใจจากพ่อเต่าน้อย
แต่ก็นะ พ่อเต่าน้อยแกก็เต่าสมชื่อ นึกไม่ออกอีก 555+
ตอนหน้าจะรู้บัดดี้แล้ว ลุ้น ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 25-11-2012 02:51:17
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 25-11-2012 07:29:30
ชอบคิดว่าดิวเป็นบัดเดอของเกมส์
ส่วนปลายกับคมต่างเป็นบัดดี้บัดเดอกันเอง5555
เค้าอยากให้ดิวกับเกมส์ลงเอยกันจัง อิอิ...#เพ้อแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-11-2012 07:48:42
คมโคตรหวงอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-11-2012 09:21:16
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 25-11-2012 09:43:27
ประธานคมมีขอกำลังใจด้วย   ปลายฟ้าก็ช่างไม่รู้เลยว่า นายคมขอ รอยยิ้ม เป็นกำลังใจ


รอลุ้นตอนหน้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 25-11-2012 13:49:58
อยากอ่านตอนเฉลยบัดดี้จังง....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 25-11-2012 15:31:39
จะเฉลยบัดดี้แล้ว   :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 25-11-2012 19:25:51
จะเฉลยแล้วๆ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-11-2012 20:12:43
รอลุ้นตอนหน้า :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 25-11-2012 21:54:31
ลุ้นๆๆ
เกินหน้าเกินตาน้องปลายมาก
แต่คุณพี่ก็อยากให้ได้เป็นบัดดี้กันและกันทั้งคู่เลยน้า
 :-[
*เตะตูดดิวออกนอกวงโคจร
 :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 26-11-2012 14:00:56
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 14



....บอกแล้วว่าไอ้พวกวิศวะแม่งชอบคิดเกมส์อะไรที่มันยุ่งยาก


ปลายฟ้าเดินกลับวนเวียนไปมาหน้าเต้นท์ของตัวเองอย่างหงุดหงิด
เดี๋ยวลุกเดี๋ยวยืนเหมือนคนกำลังสับสนไปมาหาทางออกไม่ได้
เหตุที่เป็นแบบนี้มีอยู่เรื่องเดียว...


...ก็เพราะไอ้เกมส์เฉลยบัดดี้นรกนั้นแหละครับ!


ความจริงกติกาของเกมส์นี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนักหรอก
แค่ตอนเฉลยเราต้องเตรียมของขวัญไปให้บัดดี้ของเราหนึ่งชิ้น
ซึ่งบัดดี้อาจจะมีของตอบแทนให้บ้างหากได้รับการดูแลดี ๆ
ถือเป็นน้ำใจที่ใครจะให้ก็ได้ไม่ให้ก็ได้


แต่สำหรับนายปลายฟ้าอย่าว่าแต่ของตอบแทนเลยครับ

...แค่ของขวัญจะให้บัดดี้สักชิ้นเขายังไม่มีเลยด้วยซ้ำ!!



โอยย...จะบ้าเหรอวะ!!


อยู่บนยอดเขายอดดอยจะให้ไปเตรียมอะไรทัน
ไม่ใช่อยู่มหาลัยกูจะได้แว้นมอไซต์ไปหาซื้อขนมคุ้กกี้ S&P มาให้
นี่มีแต่ก้อนหิน ต้นไม้ ใบหญ้า
หรือจะให้เขาไล่จับผีเสื้อมาฝากบัดดี้ตัวเองรึไงกัน
เพราะแบบนี้ไงเขาถึงได้บอกว่า...



...พวกวิศวะชอบคิดเกมส์ห่าอะไรยุ่งยากจริงโว้ยยย!!!




ปลายฟ้าขยี้ผมตัวเองอย่างหัวเสีย
หลังจากคิดแก้ปัญหาไปมาหลายตลบในการสรรหาของขวัญบัดดี้
เพื่อให้ทันเวลาเรียกรวมพลตอนหนึ่งทุ่มตรง

แม้เขาจะพยายามเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามคนอื่นในกลุ่ม
ว่าตั้งใจให้ของขวัญอะไรเผื่อไว้ใช้เป็นไอเดียบ้าง
แต่ก็ดูเหมือนทุกคนแอบอุบไว้เป็นความลับ
รอเฉลยเป็นเซอร์ไพรส์รวดเดียว

มีพวกผู้หญิงแง้ม ๆ กันว่าทำของแฮนด์เมดให้
ประเภทการ์ด หรือ ของที่ติดตัวเอามาอยู่ก่อนแล้ว
เนื่องจากกติกาไม่ได้กำหนดมูลค่าของของขวัญ
เหมือนแค่ตั้งใจให้เป็นที่ระลึกเท่านั้น
ทุกคนเลยคิดที่จะทำอะไรง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก
เพราะต่างก็คอยแอบเทคแคร์บัดดี้ของตัวเองไปบ้างแล้ว
ตลอดเวลาที่เข้าค่ายอยู่ด้วยกัน

 
ทว่าสำหรับนายปลายฟ้า
ผู้ไม่เคยเทคแคร์บัดดี้ตัวเองเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักครั้ง
มิหนำซ้ำยังจะโดนบัดดี้เป็นฝ่ายดูแลเขาเองอีก
มันเลยเป็นเรื่องวุ่นวายที่ทำให้ต้องคิดมากจนปวดหัว


ถ้าเกิดเฉลยขึ้นมา เขาไม่ขายหน้าแย่เหรอที่ไม่ได้ทำอะไรให้เลย
ถึงจะเคยดูแลทำแผลตอนมันโดนสังกะสีบาด
แต่นั่นมันก็เป็นหน้าที่หน่วยสวัสดิการอย่างเขาอยู่แล้ว

....ส่วนข้าวโพดสองฝัก
เขาก็ดันสวมรอยคุณแม่น้องกานดาตู่เอาว่าเป็นของตัวเอง
แบบนี้มันไม่เรียกว่าทำหน้าที่บัดเดอร์ได้ดีจริง ๆ หรอก
ทั้ง ๆ ที่เขาเคยได้มันช่วยไว้หลายต่อหลายครั้งแท้ ๆ



โธ่เว้ย!

....ทำไมเขาถึงมาจับได้ไอ้หน้าโหดจิตอาสาแบบนั้นด้วยวะ



ปลายฟ้าถอนหายใจ เหลือบมองนาฬิกาจากมือถือ
นี่ปาเข้าไปหกโมงเย็นแล้ว ตะวันโพล่เพลใกล้จะตกดินเต็มที
ยิ่งเร่งให้เต่าน้อยอย่างเขาต้องรีบเค้นสมองนึก


...หรือจะหาขนมสักชิ้นสองชิ้นไปให้ดีวะ
แล้วเขาได้พกขนมขึ้นมาซะทีไหนกัน
จะจิกไอ้เกมส์ที่มีคนเอามาฝาก
มันก็เหมือนรู้ทันจัดการซัดเรียบร้อยไม่มีเหลือไปแล้ว


...จะให้หาต้นไม้ใบหญ้าแถว ๆ นี้
มันก็จะดูเล็กน้อยไปหน่อยมั้ย
เขาไม่เคยแทคแคร์อะไรดี ๆ สักอย่าง
มันควรจะหาของขวัญที่ยิ่งใหญ่
เพื่อทดแทนในส่วนที่เขาไม่ได้ทำ


...หรือจะให้ไปเงินดี
เฮ้ย! น่าเกลียดไปล่ะมั้ง
คนอื่นจะมองว่ามันไม่ได้ออกมาจากใจ
ใช้เงินฟาดหัวใครมันก็ไม่ใช่นิสัยของเขาด้วย


...หรือจะเขียนการ์ดไปให้แบบพวกผู้หญิงดี
ถึงมันจะดูกุ๊กกิ๊กไปบ้าง
แต่ถ้าเขียนข้อความออกมาจากใจก็ไม่น่ามีปัญหา
กระดาษกับปากกาก็มีพร้อมอยู่นี่แล้ว...


เออ... เอาก็เอาวะ...!


คนตัดสินใจได้หยิบของออกมากางไว้บนตัก
เตรียมตัวจรดปากกาเรียบเรียงถ้อยคำออกมา


ละ...


ละ...แล้วเขาจะเขียนอะไรให้คนอย่างมันดี

ต้องเขียนในสิ่งที่อยากจะบอกจากใจใช่มั้ย
คงไม่ใช่ ‘คิดถึงและเป็นห่วงนะ’ อีกแน่ ๆ
ประโยคชวนเลี่ยนน่าอายแบบนั้น
อย่าหวังว่าเขาจะเขียนอีกเป็นครั้งที่สองเลยครับ

ถ้างั้นคำที่อยากบอกมันก็คงจะเป็น...



‘ขอบคุณที่คอยช่วยมาตลอด’



อืม...ใช้ได้ ๆ

...เพราะที่ผ่านมามันคอยช่วยดูแลเขาจริง ๆ


แต่เอ๊ะ... เดี๋ยวก่อน....

แล้วบัดเดอร์บ้าอะไรเขียนขอบคุณไปให้บัดดี้ตัวเอง

มันต้องสลับกันไม่ใช่รึไงวะ!!



โอยย!!....อันนั้นก็ไม่ได้ อันนี้ก็ไม่ได้


แล้วเขาจะเขียนอะไรดี...


...อะไรที่พอจะตอบแทนสมฐานะบัดเดอร์ของคนคนนั้น



“ไอ้ปลายยย!! ไปเตรียมยกหม้อข้าวได้แล้วเว้ยยย!
คนเขารอกินข้าวกันเพียบแล้ววว!!”


เสียงหัวหน้าหน่วยสวัสดิการตะโกนเรียกข้ามมา
ทำให้ปลายฟ้าถึงกับสะดุ้ง

หมดเวลาคิดแล้ว....


ดวงตากลมมองกระดาษสีขาวแผ่นเล็กธรรมดาในมือ
ลังเลเล็กน้อย...
ก่อนตัดสินใจจรดปากกาเขียนข้อความขยุก ๆ ลงไป


เอาเถอะวะ ช่างมัน...


ตอนนี้คิดได้แค่นี้...


ส่วนที่เหลือค่อยว่ากันอีกที


...ก็ได้แต่หวังว่าบัดดี้ของเขาคงจะถูกใจล่ะนะ



.....



...


.


หนึ่งทุ่มตรง ตามเวลานัด


หลังกินข้าวมื้อเย็นอย่างอิ่มหนำสำราญ
ทุก ๆ คนจึงมารวมพลนั่งขัดสมาธิล้อมวงกลมรอบกองไฟเล็ก ๆ
เพื่อคลายหนาวให้สมกับเป็นการออกค่ายวันสุดท้าย
ยิ่งคืนนี้มีพระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นท้องฟ้าด้วยแล้ว
ก็ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ดูสวยลงตัวเข้าไปใหญ่


“ทุกคนพร้อมรึยังคะ นั่งล้อมวงชิด ๆ กันเลยค่า
เพราะเดี๋ยวเราจะมาทำกิจกรรมกัน
กับเกมส์ที่มีชื่อว่า ‘วันนี้ที่รอคอย’
หรือก็คือ ‘การเฉลยบัดดี้’ นั่นเองจ้า เย้!!!”

พี่อ้อมทำหน้าที่พิธีกรถือไมค์ลอยพูดขึ้นมา
พร้อมเสียงปรบมือจากชาวค่ายต้อนรับเกมส์ที่เฝ้ารอคอยกันสมชื่อ

“วิธีการเล่นง่าย ๆ แค่ให้น้อง ๆ เดินเอาของขวัญไปให้บัดดี้ตัวเอง
แล้วหลังจากนั้นคนได้รับก็จะเป็นฝ่ายส่งของขวัญต่อไปให้บัดดี้ของตัวเองบ้าง
ทำแบบนี้วนไปเรื่อย ๆ จนเฉลยครบทุกคนนะคะ มีใครไม่เข้าใจบ้างมั้ย”

สาวหมวยอธิบาย ซึ่งทุกคนไม่มีใครถามเพราะรับรู้ในกติกาดีแล้ว
มันเหมือนเป็นการเฉลยแบบสุ่มให้ได้ลุ้นกันเล่น ๆ ด้วย


“งั้นเริ่มจากพี่ก่อนเลยแล้วกัน
ไม่อยากรอนาน ตื้นเต้นๆ
เอาล่ะนะ...คนที่เป็นบัดดี้ของพี่ก็คือ แทน.. แทน.. แท่น...”


พี่อ้อมเดินวนไปรอบๆ วง
ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ที่นั่งของนายปลายฟ้าเรื่อย ๆ
แล้วจึงหยุดอยู่หน้าใครคนหนึ่งในกลุ่ม


...เฮ้ย! ไอ้แว่น



“พี่จับได้น้องแว่นค่า อ่ะนี่ค่ะของขวัญจากพี่”

มือบางยื่นของขวัญที่ห่ออย่างดีเหมือนเตรียมไว้ล่วงหน้ามาให้
ซึ่งคนฉลาดประจำกลุ่มก็รับไว้ด้วยท่าทางเขิน ๆ
เรียกเสียงแซวจากคนมองด้วยความอิจฉาตาร้อน

หลังจากนั้นมันจึงรับหน้าที่เป็นคนเฉลยคนต่อไป
ไอ้แว่นลุกขึ้นยืนเดินดุ่ย ๆ ไม่อ้อมค้อม
ก่อนยื่นขนมไปให้ผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่เขาจำได้ว่าเรียนอยู่คณะศึกษาศาสตร์
และเคยจับคู่สอนน้อง ๆ กับมันในหน่วยวิชาการ


“โห...อะไรวะ ไอ้แว่นมันได้ผู้หญิงสวย ๆ คูณสองเลย
น่าอิจฉาเป็นบ้า!! มิน่ามันถึงเงียบไม่ยอมบอก”

ไอ้เกมส์ที่นั่งข้าง ๆ งึมงำขึ้นมา
ซึ่งเขาก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างไม่คิดจะเถียง
ที่เขาดันจับได้ผู้ชายหน้าอย่างโหด


...แม่ง โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยเว้ย!



หลังจากนั้นการเฉลยบัดดี้จึงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ
มีทั้งบัดเดอร์ที่ให้ของขวัญฮา ๆ บ้าง ซึ้ง ๆ บ้าง
และก็มีบัดดี้ที่ให้ของตอบแทนบัดเดอร์อยู่เหมือนกัน
จนกระทั่งมาถึงสาวน่ารักอีกคนของค่าย



“พี่ฟ้าจับได้น้องดิวค่ะ”


เสียงโห่เป่าปากแซวดังขึ้นอีกรอบ
เมื่อสาวสวยอันดับหนึ่งของค่าย
มาจับได้หนุ่มหล่ออันดับหนึ่งเช่นเดียวกัน


ปลายฟ้าสะดุ้งนั่งตัวตรงมองไปยังคนทั้งคู่ทันที
คราวนี้ไม่ใช่เพราะอิจฉา แต่เป็นเพราะรู้ดีว่า
ลำดับในเกมส์มันใกล้จะวนมาถึงเขาต่างหาก


“ต่อไปตาน้องดิวเฉลยค่ะ
แหมไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาก็ได้
เอ้า! เดินไปหาบัดดี้ได้เลย”


หนุ่มหล่อสไตล์เกาหลีลุกขึ้นยืน
ก้าวเท้ามายังทิศทางที่นายปลายฟ้านั่งอยู่อย่างไม่ลังเล
เขามองเห็นอีกฝ่ายถือนมมาด้วยกล่องหนึ่ง



...เดี๋ยวไอ้ทีถือ ‘นม’ มาเนี่ย

อย่าบอกนะว่ามันจะมาเล่นมุก ‘รักใครให้ดื่มนม’

ถึงดิวจะชอบพูดเล่นหวาน ๆ ให้ได้ยินเป็นประจำ
แต่ต่อหน้าประชาชีทั้งค่ายแบบนี้


เขาก็อายเป็นเหมือนกันนะเว้ยย!!


แน่นอนว่าคนที่กำลังเดินมาย่อมไม่ได้ยินเสียงโวยวายในใจเขา
เพราะร่างสูงกลับมาหยุดอยู่ตรงหน้าเรียบร้อย
พร้อมกับเอ่ยประโยคที่นายปลายฟ้าเพิ่งกำลังคิด



“นี่ครับ เขาว่ารักใครให้ดื่มนม ผมเลยเอามาให้”




น่านไง...กูว่าแล้วเชียว

ผิดจากที่พูดที่ไหน

เห็นมั้ยดิวต้องบอกแบบนี้กับขะ...เขา...
 

อะ...


อ้าว....



....ไม่ใช่!



คนที่ดิวยื่นกล่องนมให้ไม่ใช่เขา

แต่กลับเป็นคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ




...ไอ้เกมส์!!





“ห่ะ...ให้เราเหรอ?”


ดูเหมือนคนรับก็ยังคงงง ๆ ไม่แพ้กัน
จึงเอ่ยถามขึ้นซ้ำขึ้นมาอย่างสับสน
ซึ่งร่างสูงกลับพยักหน้าตอบง่าย ๆ


“ครับ ให้เกมส์”


“เฮ้ย!! มั่วเปล่า ดิวจับได้ไอ้ปลายไม่เหรอ”


“ไม่ได้มั่วครับ บัดดี้ผมเป็นเกมส์จริง ๆ
นี่ไงหลักฐาน....”


พูดจบพร้อมยื่นกระดาษใบเล็กที่เคยใช้เมื่อตอนจับฉลากมาให้
เขาชะโงกหน้าไปมองพร้อมกับไอ้เกมส์ซึ่งค่อย ๆ คลี่กระดาษออก
ก่อนจะพบชื่อ นามสกุล และชื่อเล่นว่า ‘เกมส์’ ระบุอยู่อย่างครบถ้วน


เฮ้ยยย...เรื่องจริงเหรอวะเนี่ย!!



“อ้าว...แล้วที่มาเทคปลายล่ะ”


“อ้อ อันนั้นเขาเรียกบัดดี้หลอกน่ะ
คนอื่นจะได้ไม่สงสัยว่าตัวจริงเป็นใคร
แต่ผมก็ทำให้ปลายด้วยความเต็มใจนะครับ”


ท้ายประโยคคนพูดหันมาหาเจ้าของชื่อที่กำลังนิ่งอึ้งตะลึงมึนงง


อะไรกัน...

ถ้าดิวไม่ใช่บัดเดอร์ของเขา

แล้วบัดเดอร์ตัวจริงของเขาเป็นใคร...



“แหม...น้องดิวนี่ไม่เบาเลยนะคะ
เล่นต้มพวกพี่ซะเปื่อยเชียว
อ่ะ ถ้างั้นตาน้องเกมส์เฉลยแล้ว ลุกเลยค่ะ”


ไอ้เกมส์ลุกขึ้นยืนตามคำสั่งแม้จะทำหน้ามึนงงไม่หาย
แต่ยังไงก็ต้องเล่นตามกติกาต่อ
มันเลยเดินรอบวงไปหาเป้าหมาย
วนไปวนมาสองสามรอบเหมือนเล่นตัว
ก่อนมาหยุดตรงคนที่นั่งอยู่อีกข้างของนายปลายฟ้า


ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น...



“กรี๊ดดด!! ไอ้เกมส์แกจับได้ชั้นเหรอยะ
บัดเดอร์สุดหล่อที่ชั้นเพ้อคือแกอ่ะนะ
โอยยย!! ตายๆๆ ฝันสลายหมดกัน
แล้วนี่แกเอาอะไรมาให้ชั้นย่ะ
จะถวายสังฆทานให้ชั้นรึไงห่ะ!!”


บอลล่ากรีดร้องโวยวายออกมาอย่างตกใจ
เมื่อรู้ว่าบัดเดอร์ของตัวเองคือเพื่อนจอมป่วน
แถมยังตกใจเข้าไปอีกที่เห็นของขวัญของตัวเอง
เป็นถังพลาสติกสีเหลืองสดซึ่งภายในบรรจุ
สบู่ ยาสีฟัน ไฟฉาย ธูปเทียนมาอย่างพร้อม
จัดซะเหมือนชุดสังฆทานจริง ๆ จนเรียกเสียงฮากันไปทั้งค่าย


บอลล่าสวดไอ้เกมส์ไปยกใหญ่
ก่อนลุกขึ้นสะบัดตัวอย่างงอน ๆ
เพื่อทำหน้าที่เฉลยเป็นคนต่อไป
ซึ่งร่างบางก็เดินนวดนายตรงไปหาพิธีกรหนึ่งเดียว


...พี่อ้อม



“ขอบคุณค่ะ น้องบอลล่า
เอ๊ะ! ถ้าบอลล่าจับได้พี่
งั้นก็หมายความว่าเฉลยจบครบทุกคนแล้วนะคะ”

พี่อ้อมพูดสรุปเมื่อวนน็อครอบมาที่ตัวเอง
ถือเป็นอันจบเกมส์การเล่นบัดดี้ของค่ายอาสา


แต่เฮ้ย!!

เดี๋ยวก่อน....

เขายังนั่งหัวโด่อยู่นี่เลยไม่ใช่เหรอ



“เออ...คือผมยังไม่ได้เฉลยเลยครับ”


คนที่ถูกมองข้ามโบกมือไหว ๆ
เรียกสายตาจากทุกคนในวงให้หันไปมอง
จนพิธีกรต้องหยุดชะงักร้องถามออกมาอย่างแปลกใจ


“อ้าว น้องปลายยังไม่มีใครเอาของมาให้เหรอคะ
แปลกจัง...นี่ฟ้าลืมใส่ชื่อน้องปลายไปด้วยรึเปล่า”

พี่อ้อมหันไปถามพี่ฟ้าซึ่งเป็นคนทำฉลาก
ซึ่งเจ้าตัวก็เริ่มมีสีหน้าลังเลเหมือนไม่แน่ใจ
 


อ้าว....ซวยกูสิครับ

ตอนแรกนึกว่าบัดเดอร์เป็นดิวแต่ดันไม่ใช่
ถ้าพี่ฟ้าลืมใส่ชื่อเขาลงไป
งั้นเขาก็หมายความว่าเขาไม่มีคู่อ่ะดิ


แต่เดี๋ยว...


ถ้าไม่ได้ใส่ชื่อลงไป...


...แล้วมันจะจับฉลากครบคนได้ยังไงวะ


และก่อนที่คนสงสัยจะทันได้คิดเพิ่มเติม
เสียงจากพิธีกรกลับเป็นคนเอ่ยขัด


“งั้นน้องปลายจับได้ใครคะ”


เจ้าของชื่อชะงักเมื่อได้ยินคำถาม
สงสัยพี่อ้อมจะแก้ปัญหาด้วยการให้เขาเป็นคนเริ่มเฉลยก่อน


เอาวะ...

มาถึงขั้นนี้แล้วรีบทำให้มันจบ ๆ ไปเลยก็ดี

ส่วนใครจะจับได้เขา หรือไม่มีรายชื่อเขาอยู่

...ค่อยมาว่ากันอีกที


ปลายฟ้าสูดลมหายใจลึก
ตัดสินใจลุกขึ้นยืน
แล้วจึงก้าวไปหาคนคนนั้น


....บัดดี้ของตัวเอง




“อ่ะ”


มือยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งไปให้
ทันทีที่หยุดอยู่ตรงหน้าท่านประธานค่าย


นายคมสันมองตอบกลับมาเงียบ ๆ
ไม่มีท่าทีตกใจหรือพูดอะไร
แค่รับของไปจากเขา แล้วจึงคลี่เปิดออกอ่าน
ก่อนเจ้าตัวจะขมวดคิ้วเงยหน้าขึ้นมามองเหมือนงงๆ


...ก็น่าจะงงอยู่หรอก

เพราะในกระดาษมีแค่เพียงตัวเลขสิบหลักเขียนเอาไว้เท่านั้น



“เบอร์โทรเรา ไว้เราค่อยเลี้ยงนอกรอบนะ”



ปลายฟ้าอธิบายขยายความเพิ่มเติม
รู้สึกขัด ๆ เขิน ๆ ในความมักง่ายของตัวเอง


...ก็รู้อยู่หรอกว่ามันแปลก ๆ
แต่นึกออกแค่นี้นี่หว่า เลยให้เบอร์ไปก่อน
ตั้งใจโทรนัดกันอีกทีหลังกลับจากค่าย
ไว้จะขอเลี้ยงข้าวสักมื้อหรือซื้อขนมดีๆ ให้สักชิ้น
ถึงค่อยสมตำแหน่งบัดเดอร์ที่น่าภาคภูมิใจหน่อย


คนให้ของหันกลับไปทันทีหลังเสร็จสิ้นภารกิจ
ไม่อยากอยู่นานกลัวลำบากใจตัวเอง
แต่ยังไม่ทันจะเดินออกห่าง
ข้อมือของเขากลับโดนดึงไว้
พร้อมเสียงเรียกจากด้านหลัง


“เดี๋ยวก่อนปลาย”


เจ้าของชื่อหมุนตัวกลับมามองทันทีอย่างตกใจ
นึกว่าคนรับจะไม่พอใจที่เขาให้แค่เบอร์โทร
แต่กลับผิดคาดเมื่อร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืน
แล้วล้วงของบางอย่างมายัดใส่มือเขาไว้


“เราให้”


ดวงตากลมก้มลงมองสิ่งที่อยู่ในมือของตัวเอง



....ลูกอมฮาร์ทบีทสีชมพู



ลูกอมหวานจ๋อยไม่ได้เขากับหน้าคนให้เลยสักนิด
แล้วนี่มันจะเอามาให้เขาทำไม
หรือจะเป็นของตอบแทนบัดเดอร์

เออเนอะ...

คนมีน้ำใจอย่างมันอาจจะเตรียมไว้แล้วก็ได้
กระนั้นคนสงสัยกลับยังมาวายถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ


“อันนี้นายให้บัดเดอร์เหรอ?”


“เปล่า ให้บัดดี้”



อ้อ...ให้บัดดี้



“ห่ะ...เมื่อกี๊ว่าไงนะ..”


คำพูดปฏิเสธทำให้นายปลายฟ้าชะงัก
รีบเงยหน้าขึ้นถามทันทีเหมือนว่าตัวเองฟังผิด
แต่ใบหน้าคมก็ยังคงเรียบเฉยก่อนเอ่ยคำอธิบายที่ยาวขึ้น



“เราจับได้ปลาย”



...จับได้เหรอ


หมายความว่ายังไง...


จริงสิ....


เขายังไม่เห็นมันลุกไปให้ของขวัญคนอื่นเลย


ถ้างั้นอย่าบอกนะว่า....



ปลายฟ้านิ่งตะลึง
สบตาเข้ากับนัยน์ตาคมของอีกฝ่ายซึ่งสะท้อนแสงไฟระยับ
ก่อนได้ยินถ้อยคำแทนความคิดของเขาทั้งหมดจากคนตรงข้าม



...และเป็นคำพูดที่ตอกย้ำชัดเจนถึงความจริง




“เราเป็นบัดดี้ปลาย

แล้วปลายก็บัดดี้เราเหมือนกัน”



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 13] 24/11/55 > P.57
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-11-2012 14:03:50
คมมีขอกำลังใจจากน้องปลายด้วย น่ารักจริง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: wing ที่ 26-11-2012 14:20:41
คมกับปลายจับได้กันจริงๆด้วย เพราะเราคู่กันสินะ
ว่าแต่ปลายแอบแจกเบอร์แบบเนียนๆนะฮ่าๆ
คมคงดีใจน่าดูในที่สุดก็ได้เบอร์เต่าปลายมาครอบครองวันหลังจะได้นัดปลายมายิ้มให้ดูได้ง่ายๆไงเนอะ
ดิวเกมส์แอบคิดอยู่ว่าคู่กันรึเปล่าเอ๊ย(คู่บัดดี้ไงอิอิ)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 26-11-2012 14:22:34
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย เนื้อคู่!!!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 26-11-2012 14:43:03
ป่ะล่ะ  ว่าแล้วเชียว

บัดดี้คู่กันเอง  ฮิ้วววว  เต่าปลายใจกล้าให้เบอร์คมก่อนด้วย

นี่ถ้าไม่ใช่ปลายคิดไปแล้วน่ะเนี่ยว่าให้ท่าหนุ่มๆอ่ะ  :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-11-2012 14:50:07
เป็นบัดดี้คู่กันด้วยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 26-11-2012 14:57:45
"เออ ชะรอยจะเป็นเนื้อคู่  ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ
แต่ครั้งแรกเมื่อพบเธอ  ใจนึกเชื่อว่าแรกเจอ
ฉันและเธอคือคู่สร้างมา..."

ยกเพลงนี้ให้คมกับปลายเลยค่ะ อรั๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 26-11-2012 15:10:01
เพราะเรานั้นคู่กัน   :o8: เป็นบัดดี้ของกันและกัน  คมให้ลูกอมฮาร์ทบีทสื่อถึงอะไรป่าวนี่  แต่ปลายแน่กว่าเยอะ ให้เบอร์โทร.เลย มีคิดว่าจะแอบไปดินเนอร์กัน 2 ต่อ 2 ด้วย

แต่ที่พลิกล๊อก กลายเป็นดิวแอบชอบเกมส์เหรอ????

กด + และ + เป็ด ให้คนเขียนที่ขยันมาต่อเรื่องให้ได้อ่านตลอดค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-11-2012 15:37:03
เค้าเรียกว่าพรหมลิขิตใช่มั๊ย?


 :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: pmnet ที่ 26-11-2012 15:37:53
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 26-11-2012 15:38:42
 :laugh: :laugh: เกิดมาเพื่อคู่กัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: nutsumi ที่ 26-11-2012 15:49:15
โอ๊ยย ยิ้มแก้มปริเลยค่ะ อย่างที่คิดไว้จริงๆว่า 2 คนนี้ต้องเป็นบัดดี้กันและกัน อ๊ายย เขิน555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 26-11-2012 16:14:45
 :-[สานต่อสองคู่ ฮิ้วววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-11-2012 16:56:13
กรี๊ดดดดดค่ะ

พ่อเต่าน้อยงงเลย 555
คู่กั๊น คู่กัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: cheery_black ที่ 26-11-2012 17:27:00
กรี๊ดดดดดด ด ~~

บัดดี้บัดเดอร์ บัดเดอร์บัดดี้ ว่าแล้วเชียวว่าเค้าต้องคู่กันอ่ะ คึ อร๊ายยยย ย น่ารักอ่ะๆ

ของเทคบัดดี้น่ารักจัง เบอร์โทรเลยอ้าาาาาาาาาา า วู้วๆๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 26-11-2012 17:44:10
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 26-11-2012 18:46:11
 :-[ อยากรู้ปฏิกิริยาจากชาวค่าย คงแซวสองคนนี้น่าดูโดยเฉพาะพิธีกรสองสาว(วาย)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 26-11-2012 19:20:09
 :o8: :o8: :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8: :o8: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 26-11-2012 19:38:02
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :m11:
สมหวังเลยคร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
บอกแล้วคนเค้าจะคู่กัน อุฮิๆ
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-11-2012 19:51:43
ว่าแล้วต้องจับได้กันและกัน

อิอิ คนนึงให้เบอร์ อีกคนให้ฮาร์ทบีท(หัวใจ) อ่ะป่าว อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 26-11-2012 19:54:24
กรี๊ดดดดดดดดดดด นึกแล้วเชียวว่าพ่อเต่าน้อยกับหนุ่มจิตอาสาต้องเป็นบัดดี้กันและกัน  :-[

ชอบมากที่น้องปลายให้เบอร์โทร.อ่ะ อิอิ อย่างนี้ก็ได้สานสัมพันธ์กันต่อสิ

ลุ้นๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 26-11-2012 20:08:39
 น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-11-2012 20:20:21
อร๊ายยยยยยย แจกเบอร์พี่คมไปเฉยเลย อิอิ น้องเต่าน้อยปลาย เตรียมตัวให้ดีเถอะ เสร็จแน่!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 26-11-2012 20:23:26
กีสสสสสสสสสสสสสส น่ารักที่สุด

 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 26-11-2012 20:35:54
อ๊าย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เขินอ่ะ






ว่าแล้วว่าต้องจับได้กันและกัน ต่างคนต่างเทคแคร์ และสุดท้ายก็แคร์นะตัวเอง อิอิ






คมปลายคู่บัดดี้เป็นคู่รัก ดิวเกมส์ จะรักกันได้มั้ยติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 26-11-2012 20:46:47
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยย

 :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: hpsky ที่ 26-11-2012 20:53:42
อ่านทันแล้ว เย้ๆๆๆ น่ารักทุกเรื่องเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: Luk-Pla-Yai ที่ 26-11-2012 20:55:03
น่ารักแท้เหลา รอเค้าออกเลี้ยงนอกรอบกันอยู่นะคะ  :-[
มาต่อเร็วๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่า  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 26-11-2012 21:26:13
โอ้ว..... พรหมลิขิตมากเลย ปลาย - คม อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 26-11-2012 21:34:32
ว่าแล้วเชียวก็ชื่อเรื่องก็บอกอยู่นี่เนอะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 26-11-2012 21:40:46
มีแจกเบอร์กันด้วย
เต่าน้อยให้ความหวังแบบไม่รู้ตัว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 26-11-2012 22:38:17
กรี๊ดดด เซอร์ไพรซ์มากค่า
แล้วที่คมคอยเทคแคร์ปลาย เป็นหน้าที่บัดดี้หรือใจสั่งมาจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 26-11-2012 22:59:37
แอร๊ยยยยยยยยย แจกเบออออร์   :o8:
เป็นบัดดี้ซึ่งกันและกัน  หลังจากนี้ก็เทคแคร์กันและกันนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 26-11-2012 23:09:16
ยอดสะเดากับข้าวโพดต้ม

อ่านตอนแรกก็แอบหงุดหงิดเล็ก ๆ คนอะไรจะคิดช้า เลือกช้าขนาดนั้น
แต่พออ่านไป  ความเป็นเต่าปลายนี่แหละมันทำให้ฮาค่ะ และที่สำคัญ คิดเยอะ ๆ ทำช้า ๆ นี่แหละ เสน่ห์ของเต่าปลาย
แล้วพอได้ฟังสาเหตุ มุมมองของปลาย ก็ยิ่งรู้สึกว่าเข้าท่าดี ชอบค่ะ  ส่วนคมสันตอนแรกดูเป็นผู้ชายดุ แต่เอาเข้าจริง
จิตอาสานอกจากจะเป็นคนตั้งใจจริง มีน้ำใจ และมีมากกับเฉพาะเต่าปลายเสียดาย ดูเป็นคนอบอุ่นใส่ใจดีเนอะ

ชอบสไตล์การเขียนค่ะ  ดูไม่เยอะ ไม่หนัก  ไม่มาก แต่อ่านเพลิน น่าติดตามต่อ
ไม่ได้บรรยายรูปพรรณสัณฐานของตัวละครมาก โดยเฉพาะคมสัน กับปลายฟ้า แต่ก็สามารถนึกภาพตามได้จากบุคลิก
ปลายฟ้าเอาเข้าจริงเป็นคนขี้หงุดหงิด ขี้โมโหอยู่นะ ฮ่า ฮ่า  คือ คิดเยอะ ไม่ใช่เชื่องช้าสักหน่อย

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 26-11-2012 23:17:20
 :o8: :-[ :impress2:

ตัวเอง เค้าเขินอ่ะ อิอิอิอิอิอิอิ

นี่นอนอ่านอยู่จิกหมอนแทบขาด กัดหมอนเปียกน้ำลายไปหมดแล้วนะ

เขินอ่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 26-11-2012 23:17:54
เพราะเราคู่กัน หรือบุบเพสันนิวาสกันแน่ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 26-11-2012 23:25:27
กรี๊ดๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 26-11-2012 23:42:36
ว่าแล้วไง5555
เค้าอยากให้มีเกมส์กับดิวด้วยอ่า
แลเข้ากันดี *3*
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 27-11-2012 00:35:00
พี่คม กับ น้องปลาย น่ารักมาก >///< ทำเรายิ้มไม่หุบเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 27-11-2012 01:30:26
ภาคนี้ยาวกว่าทุกเรื่องเลยหรอ เราอุส่าต์กะตามทีเดียวจบ อิอิ
มีหวังลงแดงตายแน่เลย รักคนแต่งอ่ะ แต่งดีทุกเรื่องเลย
ชอบเพราะค่อยๆรักกันนี่ล่ะ ไม่ต้องสะดุดล้มแล้วสบตาก็รักกันได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 27-11-2012 01:41:31
พึ่งอ่าน ภาค  น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน
สนุกมากๆ อ่านแล้วหยุดไม่ได้
 :L2: :L2:

เด๋วพรุ่งนี้มาอ่าน ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต
 :pig4: :pig4:

+1  ค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 27-11-2012 05:21:44
ว้ายยยย!! จับได้กันเองอย่างนี้มัน destiny ชัดๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 >; P.58
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-11-2012 10:05:06
เบอร์โทรแลกลูกอมฮาร์ทบีทสีชมพู!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 27-11-2012 11:15:23
เขิน :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 27-11-2012 16:25:19
อึ้งไป 2 วิ....กับของเทคของน้องปลาย.....สุดยอดดดดดด!!!!!!!!!!1
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 14] 26/11/55 > P.58
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 27-11-2012 18:28:55
อ่านครบทุกเรื่องแล้ว  สนุกทุกเรื่องเลย
-->>> ภาคขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต 
อ่านแล้วอยากกินขนมปังสังขยาอ่ะ คิดถึงกลิ่มหอมๆของใบเตย กับขนมปังอบใหม่ๆหอม..หิวๆๆ
-->>>ภาค  Sex on the beach กับ Whisky on the rocks
อ่านภาคนี้แล้วมึนตามพระ-นาย เลยอะ มึนทั้งเรื่อง
-->>>ภาค  ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม
ตอนแรกๆนะเคืองปลายเหมือนกัน อะไรจะพิจารณามากมายลึกซึ้งซtขนาดนั้น แต่พอรู้เหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็โอเค เข้าใจแระ
แต่แจกเบอร์ก่อนเนี่ย .. น่ารักมากค่ะ
รอติดตามตอนต่อไป ภาคต่อไปนะคะ
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ป.ล.  ภาคแรกเราเม้นไปแล้วนะ เลยไม่เม้นอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 28-11-2012 07:33:25
ซีรีย์หวานอมขม

**หมายเหตุ ซีรีย์ภาคพิเศษนี้ประกอบด้วยตัวละครสามภาค
ภาค น้ำเต้าหู้ กับคาเฟอีน
ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแลต
ภาค Sex on the beach กับ Whisky on the rocks





ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ ‘กระทงหลงทาง’ (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน)




“...วันเพ็ญเดือนสิบสอง
น้ำไม่นองเต็มตลิ่ง
ไอ้เพลงนั่นหนาหล่อจริง
อยากเดินหลีหญิงดันมีคนคุม

เอ้า... ฮิ้ววววว~!!
ลอย... ลอย... ลอยกระทง”

 
เสียงร้องเพลงงึมงำจากอาหนุ่มหน้าตี๋ผิวขาวจั๊วะบ่งบอกชาติตระกูลบรรพบุรุษ
ซึ่งกำลังเดินเบียดเสียดกับผู้คนมากมายบนถนนติดริมแม่น้ำ
ที่เล่นแห่กันมามืดฟ้ามัวดินเสมือนชีวิตนี้ไม่เคยลอยกระทง
อัดแน่นไม่มีที่ยืนจนแทบจะได้เสียเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว


แต่ไม่เป็นไรครับ....
สำหรับพี่เพลงสุดหล่อแล้ว
เชิญสาว ๆ สวย ๆ มาเบียดกันได้ตามสบาย
เพราะไอ้เพลงคนนี้ยอมพลีกายถวายชีวี
ทอดร่างให้สาว ๆ ได้ใกล้ชิดแบบเอ็กซ์คลูซีฟเนื้อแนบเนื้อ


...อ่ะ ๆ น้องผมยาวคนนั้นมองพี่ทำไมจ๊ะ?

มองพี่เพลง ๆ นาน ๆ อย่างนี้ไม่ดีนะ

เพราะเดี๋ยวเบา ‘หวาน’ มันจะขึ้นตาพี่เอาได้นะครับ



...ฮิ้ววววววว ~ !!


หนุ่มสุดเสี่ยวแจกยิ้มเหล่สาวอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ
หากแต่ยังไม่ทันได้ทำมากกว่านั้นกลับมีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นขัด


“ไอ้ตี๋ เลือกกระทงได้รึยัง
รีบ ๆ ลอยซะจะได้รีบกลับ
เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องแต่ตื่นเช้าอีก”


...มาอีกแล้ว

ตลอด ....ตลอดเลย...

ชอบขัดจังหวะกูจริง ๆ
เป็นอะไรมากรึเปล่าวะ
นาน ๆ ทีจะมีโอกาสได้หลีหญิงกับคนอื่นเขาบ้าง
อุตส่าห์แต่งหล่อมาขนาดนี้
แม่งก็ต้องมีคนมาคอยคุมอยู่เรื่อย


“อะไรวะ พี่แทน ...นี่เพิ่งสองทุ่มเองนะ ยังเดินไม่ถึงไหนเลย
ร้านน้ำเต้าหู้พรุ่งนี้เปิดสายนิดสายหน่อยก็ได้ไม่เป็นไรหรอก”


เพลงหันมาตอบหนุ่มร่างสูงหน้าโหดที่เดินตามมาด้านหลัง
ซึ่งพอเจ้าตัวได้ฟังดังนั้นก็รีบพูดสวนบ่นขึ้นมาพร้อมแววตาดุ


“คิดแบบนั้นได้ยังไงกันห่ะ ไอ้ตี๋
คนทำมาค้าขายขืนเปิดสายได้ล่มจมพอดี
เอ้า! ตามใจ อยากเดินนักก็เดินไป..
แต่ถ้าพรุ่งนี้ไม่ยอมตื่นแต่เช้าล่ะก็...
.....เดี๋ยวพี่จะขึ้นไปปลุกให้เอง”


น้ำเสียงท้ายประโยคที่เปลี่ยนเป็นถ้อยคำส่อความนัย
ทำให้คนฟังถึงกับสะดุ้งเฮือก

...เพราะไอ้ที่มันบอกว่าขึ้นมาปลุกเองเนี่ย
ใช่ปลุกแบบธรรมดาเหมือนชาวบ้านซะที่ไหน
คนอย่างไอ้หน้าโหดแม่งต้องมีของแถมตลอด
ซ้ำยังเป็นของแถมที่ทำให้เขาเสียมากกว่าได้อีกด้วย


เอาว่ะ...รีบก็รีบ
เลือกร้านกระทงสักร้านมันจะไปยากเย็นอะไร
แค่ร้านไหนมีแม่ค้าน่ารักก็ใช่ได้แล้ว

อย่างร้านนี่ไง...
แม่ค้าสาวสวย หมวย เอ็กซ์ ตัวเล็ก นมใหญ่ ดัดฟัน
โห....ใช่เลย... สเป๊ค!...


ยอดชายนายเพลงจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปด้วยความรวดเร็ว
หมายไปซื้อกระทงโดยไม่ลืมหยอดคำป้อใส่แม่ค้าหน้าหวาน


“กระทงขายใบเท่าไรครับ”


“ใบเล็ก 35 ใบใหญ่ 55 ค่ะ”


“งั้นผมขอซื้อใบเล็กสองใบ
แล้วขอยืมไฟแช็กด้วยได้มั้ยครับ”


“ได้ค่ะ จะเอาไปจุดเทียนเหรอคะ”


“เปล่าครับ จะเอาไป ‘จุดไฟรัก’”



อ้วกกกกกกกกก!!


เสียงซาวด์เอฟเฟคดังขึ้นประกอบเป็นพิธีอีกรอบ
หึ แต่อย่าไปกลัวครับ เจ้าพ่อมุกเสี่ยวแบบไอ้เพลง
ด้านได้อายอด ริจะจีบหญิงก็ต้องหัดหน้าหนาเข้าไว้


...เห็นมั้ยครับ
น้องคนขายยังแอบหัวเราะคิกคักแก้มแดงเลย
แหม...มันน่าหอมแก้มเนียน ๆ สักที
ว่าแล้วก็ขอหยอดต้ออีกนิดเพิ่มความกระชุ่มกระชวยหน่อย


“แล้วน้องมีคนไปลอยเป็นเพื่อนแล้วหรือยังครับ”


“มีแล้วค่ะ”


“พอดีเลย ถ้าน้องมีคนลอยเป็น ‘เพื่อน’ แล้ว
งั้นพี่ขอไปลอยเป็น ‘แฟน’ น้องได้มั้ยครับ”



ฮิ้วววววววว ~ !!


...จัดไปอีกสักดอก

แบบว่าคนมันรวยนะครับ มุกเลยมีเยอะ 
เลยต้องขยันบริจาคออกไปบ่อย ๆ
เก็บเอาไว้นาน ๆ เดี๋ยวสนิมมันขึ้นเอาพอดี

...ว่าแต่ตกลงน้องคนสวยจะว่ายังไงจ๊ะเนี่ย
ปิดร้านแล้วไปลอยกระทงกับพี่เพลงดีกว่านะ



“น้องคงไปลอยเป็นแฟนกับพี่ไม่ได้หรอกคะ”


“อ้าว...ทำไมล่ะครับ”


“เพราะเขามี ‘ผัว’ ไปลอยด้วยแล้ว”


ประโยคหลังถูกเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้าวเข้ม
เรียกให้คนฟังเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาอย่างแปลกใจ
ก่อนจะสะดุ้งเข้าเฮือกใหญ่
เมื่อเห็นชายร่างยักษ์กล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ
หุ่นเหมือนนักมวยปล้ำเฮฟวีเวท
กำลังยืนถลึงตาจ้องมองคล้ายอยากจะบีบคอเขาให้ตายคามือ


...ฉิบหายแล้วครับ


“อะ...เออ พอดีพี่ก็มาลอยกับแฟนเหมือนกัน
นี่เงินครับ ค่ากระทงไม่ต้องทอนนะ
...ลาล่ะครับ”


หนุ่มนักรักรีบวางเงินพร้อมคว้าถุงใส่กระทงสองใบวิ่งลิ่วไปทันที
โดยไม่ลืมลากใครบางคนออกมาจากที่เกิดเหตุด้วย

...ตอนนี้ต้องเอาชีวิตรอดไว้ก่อน
อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลังครับ

เขาวิ่งหลบออกมาใกล้จากจุดเดิมพอสมควร
กระทั้งต้องมาหยุดหอบหายใจเอาตรงบันไดลงไปริมน้ำ


“เห็นมั้ย ก็เพราะมัวแต่เล่นจนเกือบได้เรื่องแล้ว”


เสียงแทนไทเอ่ยบ่นออกมาดุ ๆ อีกครั้ง
ทำให้เพลงที่กำลังเหนื่อยตับแล่บทำหน้าบึ้งอย่างหงุดหงิด


...อะไรวะ ไม่ช่วยปกป้องแถมยังซ้ำเติมอีก
ใครจะรู้ว่าน่ารัก ๆ อย่างนั้นดันมีสามีมาคุม

นึก ๆ ไปแล้วก็คล้ายกับตัวเขาเองจริง ๆ
ตั้งใจจะมาคนเดียวแต่ดันมีอีกคนพ่วงมาคุมด้วย
จีบหญิงเลยไม่ค่อยสะดวก แถมยังโชคร้ายอีกต่างหาก


โธ่เว้ย!! พระแม่คงคาไม่เห็นใจคนหล่ออย่างไอ้เพลงเลย
ทำไมวันลอยกระทงมันถึงต้องซวยขนาดนี้ด้วยวะ!!


คนหงุดหงิดนึกพาลอย่างอารมณ์เสีย
หากแต่แทนไทกลับไม่สนใจคนหน้าบูด
ซ้ำยังดึงกระทงสองใบมาถือไว้ในมือ
แล้วยื่นไฟแช็คให้อีกคนหนึ่งจุด
พลางพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบ


“ความจริงพี่ไม่ได้อยากมาลอยกระทงหรอก”


ประโยคที่ได้ยินผ่านหูทำให้หนุ่มตี๋รีบเงยหน้ามองทันที


“อ้าว...ไรว่ะ! ไม่อยากมาลอยกระทง
แล้วจะตามมาด้วยทำไม!”


เพลงร้องโวยวายขึ้นมาด้วยความโกรธ
จากที่ยิ่งหงุดหงิดอยู่แล้วก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปอีก
ทว่าแทนไทยังคงยืนนิ่ง
ยิ้มบาง ๆ ให้ก่อนเอ่ยถ้อยคำหนึ่ง


...และเป็นถ้อยคำที่คนฟังถึงกับนิ่งอึ้ง




“ก็พี่ไม่อยากลอย ‘กระทง’
แต่พี่อยากลอย ‘กะเพลง’ ”




อะ....


อะไรนะ...


มะ...เมื่อกี๊มันว่าอะไร

บอกว่า ‘อยากลอยกะเพลง’ เหรอ
แม่งไอ้เสี่ยว! มึงบังอาจเล่นมุก ‘กะ’ เป็น ‘กับ’

คิดได้ไงวะ... นึกว่าแน่เหรอ...

โด่... แค่เนี่ยเด็ก ๆ
ยังสู้เจ้าพ่อมุกแบบไอ้เพลงไม่ได้หรอกเว้ยยย!


ละ...


ละ...แล้วนี่มือกูจะสั่นเอาโล่ทำไมวะ

เอ๊ะ! นิ่ง ๆ สิโว้ยจุดไฟไม่ติดแล้วเนี่ย


เหี้ยเอ้ยยย...ไฟแช็คยี่ห้อไรวะกากคุณภาพสุด ๆ


อะ...ไอ้ลมนี่ก็เหมือนกันมันจะแรงเป็นเฮอริเคนไปถึงไหนวะ


เห็นมั้ยเนี่ยว่ากูจุดเทียนอยู่ เห็นมั้ย..


ฟะ...ไฟจุดไม่ติดแล้วจะลอยกระทงได้ยังไงก๊านนนน!!



“มาเดี๋ยวพี่ช่วย”


ร่างสูงดึงไฟแช็คจากมือของคนที่ยังคงสั่นไม่เลิกไปจุดให้แทน
ก่อนจะยื่นกระทงส่งให้เพื่อรับไปเตรียมลอยลงแม่น้ำ

พวกเขาเลยพากันเดินลงจากบันไดหาที่ว่าง ๆ 
แล้วจึงค่อย ๆ หย่อนกระทงลงไปยังแม่น้ำซึ่งห่างจากพื้นเกือบคืบ
เฝ้ามองกระทงของตัวเองไหลเอื่อย ๆ ตามกระทงใบอื่น
ที่มีแสงเทียนสองสว่างเป็นขบวนทอดยาวไปตามสายน้ำ



“ดูดิ ลอยไปคนละทิศเหมือนกระทงหลงทางเลย”


เพลงเอ่ยขึ้นอย่างขำ ๆ เมื่อดวงตาเรียวสังเกตเห็น
กระทงใบเล็กของพวกเขาแยกออกห่างกันไป
ทางซ้ายใบหนึ่ง ทางขวาอีกใบหนึ่ง


แทนไทไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม
ทว่ากลับขยับเข้ามาใกล้
พลางโน้มหน้าลงกระซิบคำเบา ๆ ข้าง ๆ หู



“กระทง ‘หลงทาง’ น่ะไม่เท่าไรหรอก
แต่พี่เนี่ยสิยัง ‘หลงเพลง’ อยู่แบบนี้ท่าจะแย่
หาทางออกตั้งนานแล้ว แต่ยังหาไม่เจอเลย”



...น่านไง


กูโดน.....


กูโดนอีกแล้ว....


มึงจะมาขยันปล่อยมุกแข่งกับกูทำไมตอนนี้วะ
คนอื่นมองอยู่ตั้งเยอะแยะไม่หัดอายบ้างเหรอไง
ถึงกูจะหน้าหน้าด้านหน้าทนพอตัว
แต่เจอบ่อย ๆ แบนี้มันก็ชักไม่ไหว
หัวใจมันหวิว ๆ หมดแรงคล้ายจะเป็นลม


โอยยย... แม่งไม่เอาแล้วโว้ยย!!



“กลับ!”


เพลงพูดสั่งสั้น ๆ พลางหมุนตัวหันหลังขึ้นบันไดไปยังถนนด้านบนทันที
ทิ้งให้ร่างสูงรีบวิ่งตามมาพลางร้องถามอย่างงง ๆ


“อ้าว...ไหนบอกจะอยู่เที่ยวนาน ๆ ไง”


แทนไทเห็นคนฟังชะงักกึก
ใบหน้าเนียนสะท้อนแสงไฟขึ้นสีแดงเรื่อ
ก่อนจะได้ยินคำบ่นเสียงหงุดหงิด


...หากแต่เป็นคำบ่นที่ทำให้หนุ่มหน้าโหดถึงกับยิ้มกว้างออกมา



“จะรีบกลับไปซ่อนแผนที่
เดี๋ยวพี่แทนเจอทางออกขึ้นมา
ผมก็แย่น่ะสิ!”


จบคำพร้อมกับร่างของหนุ่มตี๋เรียบพุ่งตัววิ่งเผ่นออกไปโดยไม่รอ
ทิ้งให้แทนไทยืนอยู่ที่เดิมก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ
เพราะพฤติกรรมน่ารักที่ใครบางคนชอบทำเวลาเขิน



โธ่... ไอ้ตี๋เอย

ต่อให้พี่เจอทางออกพี่ก็ไม่ออกหรอก
คนมันรักไปแล้วจะไล่ยังไงก็ไม่ยอมไป
หัวใจหยุดไว้ที่ตรงนี้มาตั้งนานแล้ว
และไม่ว่าจะปีนี้หรือปีไหน ๆ
ต่อให้อนาคตเป็นยังไง
พี่ก็จะขอให้เราได้มาลอยกระทงด้วยกันอีก


อ่ะ...


มันไม่ได้เรียกว่า ลอย ‘กระทง’ สินะ


แต่ต้องเรียกว่า...



ลอยความรักของ ‘ตี๋เพลง’ กะ ‘แทนไท’ ให้เคียงคู่กันไปแบบนี้



....ตราบนานเท่านาน



หนุ่มร่างสูงยิ้มออกมาบาง ๆ อีกครั้ง
ก่อนจะรีบวิ่งเดินตามคนที่หนีล่วงหน้าไปก่อนแล้วยังอีกด้านของถนนถัดไป...

...

..

.





หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 28-11-2012 07:36:07
...

..

.


ถนนอีกด้านที่ไม่ห่างกันนัก...

มีร้านค้ามากมายต่างจับจองเรียงรายขายของกันเต็มพื้นที่


และหนึ่งในนั้น...

มีแผงวางของเล็ก ๆ แผงหนึ่งซึ่งมีคนมุงรุมล้อมกันอย่างสนใจ

แผงที่มีป้ายเขียนไว้ว่า...


‘แม่พลอยขนมไทย แม่เดือนใจเบเกอรี่’


คนขายเป็นหนุ่มร่างเล็กตากลมโต ใส่ชุดไทยประยุกต์
พอเหมาะลงตัวชวนมองเหมือนคุณหลวงหลงยุค

ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหนุ่มผมยาวมาดเซอร์ใส่เสื้อยืดสกรีนลายกระทิงแดง
กางเกงยีนส์ขาด ๆ ลากแตะหนีบอย่างคนมีศิลป์


คนสองคนต่างบุคลิก
มายืนขายคู่กันในร้านเดียวทำให้ดูขัดตาแปลก ๆ 
มิหนำซ้ำ กลับยังมีเสียงโวยวายดังมาจากแผงขายเป็นพัก ๆ



“นี่คุณลูกแม่พลอยมาช่วยผมหน่อยได้มั้ย
ผมติดน้ำตาลกับกระทงขนมปังคนเดียวไม่ได้เดี๋ยวมันจะล้ม”


“โว้ยย!! คุณก็เห็นว่าผมยุ่งอยู่
อะไรทำได้ก็ทำไปก่อนสิวะ!”


“ก็มันทำคนเดียวไม่ได้ถึงเรียกให้มาช่วยไง”


“โอยยย!! อย่ามากวนได้มั้ยไอ้ลูกแม่เดือน
นี่คิดจะหาเรื่องกันอีกแล้วใช่มั้ยห่ะ!!”



...ทะเลาะกันประจำ

ทะเลาะกันทุกครั้ง เป็นเรื่องปกติของแผงขายขนมไทยและเบเกอรี่
ซึ่งตอนนี้ปรับเปลี่ยนเป็นแผงขายกระทงรูปแบบใหม่ชั่วคราวเพื่อให้เข้ากับเทศกาล
ถือเป็นการทำกำไรอันงดงามเข้าสู่เงินในกระเป๋า
ด้วยกลยุทธ์ไอเดียสุดล้ำที่มาจากการร่วมมือกัน
ระหว่างลูกแม่พลอยและลูกแม่เดือน


แต่ทว่าตอนนี้เจ้าของไอเดียกลับดันแตกคอกันเสียเอง
เพราะความวุ่นวายจากการขายดีเกินคาด
ทำยอดซื้อถล่มถลายจนของในสต็อคแทบจะหมดเกลี้ยง
ทำให้ต้องเร่งผลิตเพิ่มเติม เพื่อให้ทันกับกลุ่มลูกค้ามาใหม่

ซึ่งคราวนี้เป็นกลุ่มเด็กนักเรียนหญิงวัยมัธยมปลายเกือบสิบคน
ที่มารุมล้อมแผงกระทงขนมปังอย่างสนใจ


“อุ๊ย! สวยจังเลยอ่ะแก
เออ...พี่ค่ะ กระทงนี่ขายยังไงคะ”


สาลี่เปลี่ยนสีหน้าบึ้งตึงเป็นรอยยิ้มการค้าทันที
ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี๊เพิ่งจะหงุดหงิดใส่หนุ่มมาดเซอร์ไปแหม่บๆ
สมกับเป็นหนุ่มที่มีหลายหน้ากากอยู่ในตัว


“กระทงขายสามสิบบาทเองครับ
เป็นกระทงขนมปังไม่ใช่วัสดุแปลกปลอม
ลอยไปแล้วเป็นอาหารปลาย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ
ถือว่าได้ทำบุญไปด้วยนะครับ”


“แล้วถ้าพวกหนูซื้อเยอะ ๆ มีแถมคนขายให้ด้วยรึเปล่าคะ”


“กรี๊ดดดดด!!”


เสียงแซววี๊ดว๊ายจากกลุ่มเพื่อน ๆ ดังประกอบ
ทำให้คนโดนจีบรู้สึกขัด ๆ เขิน ๆ
ได้แต่ลูบต้นคอตัวเองแก้เก้อ
หากแต่ยังไม่ทันตอบอะไร
ใครบางคนจากด้านหลังกลับพูดขึ้นตอบ


“คนขายคงแถมให้ไม่ได้
แต่เดี๋ยวพี่แถมโปสการ์ดไปให้แทนแล้วกันนะครับ”


นักรบเขามารับช่วงไปขายต่อแทนเพื่อเกลี่ยไกล่สถานการณ์
ก่อนจะเชียร์ให้กลุ่มน้อง ๆ ซื้อกระทงขนมปังไปได้เกือบหมดแผง


“เอ้าคุณ! ทอนเงินที”


สาลี่รับแบงค์พันมาจากอีกฝ่าย ก้มลงหาเงินทอนจากในตัว
แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเขากลับเห็นนักรบแอบหยอดโปสการ์ดลงไปในถุง
ยื่นให้น้องนักเรียนที่ต่างพากันดึงรูปออกมามุงดู
และทันทีที่เห็นรูป เหมือนน้องจะทำหน้าอึ้ง ๆ กัน
หันไปซุบซิบแปลก ๆ มองเขาทีสลับกับคนข้างที
แล้วจึงกรี๊ดร้องวี๊ดว๊ายพูดอะไรไม่รู้ทำนองว่า ‘ฟิน ฟิน’


...ทำไม มันเกิดอะไรขึ้น?


สาลี่ขมวดคิ้วงงกับพฤติกรรมของลูกค้าตรงหน้า
ก่อนจะหันไปถามหาสาเหตุหนึ่งเดียวที่รู้เรื่อง


“นี่คุณแถมโปสการ์ดอะไรให้น้องเขา”


หนุ่มมาดเซอร์ยักไหล่ไม่ใส่ใจ
แล้วจึงชูรูปหนึ่งขึ้นมาโบกเป็นคำตอบ


ดวงตากลมเพ่งมองโปสการ์ดที่อยู่ในมือ
เป็นรูปของคนสองคนที่ดูคุ้นตาแปลก ๆ


เดี๋ยวนะ...

ไอ้ผู้ชายที่ทำหน้าเอ๋อ ๆ น่ะเขาแน่
ส่วนไอ้คนที่อยู่ด้วยกันก็คือไอ้ลูกแม่เดือน


...ถ้ามันเป็นภาพที่ถ่ายคู่กันเฉย ๆ คงไม่เป็นไร


แต่ไอ้ภาพนี้...
มันดันเป็นภาพที่ลูกแม่เดือนกำลังหันปลายจมูกมาชนเขา
ซึ่งเขาเองก็กำลังมองกล้องคล้ายคนตกใจ
ที่อยู่ ๆ ดันโดนหอมแก้มโดยไม่ทันตั้งตัว


ละ...แล้วมันดันเอารูปแบบนี้แถมไปให้คนอื่นดูเนี่ยนะ!!


สาลี่รู้สึกหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที
สับสนระหว่างความอายกับความโกรธที่แล่นสู่สมอง
ซ้ำยังโดนหนุ่มมาดเซอร์แกล้งพูดหยอกกลับ


“ที่เอารูปคุณกับผมแถมไปให้คนอื่น
เขาจะได้รู้ว่าคุณมีเจ้าของแล้วไง
ทีหลังจะได้ไม่ต้องเข้ามาจีบอีก
ดูดี ๆ สิ ...ผมว่าถ่ายสวยออกนะ
เออ...ไหน ๆ ก็ขายของหมดแล้ว
เดี๋ยวเราไปลอยกระทงด้วยกันเลยดีมั้ย
นี่ไง...ผมทำกระทงของเราเสร็จพอดี”


อีกฝ่ายยกกระทงขนมปังใบใหญ่ขึ้นมา
เป็นกระทงรูปทรงหัวใจดวงโต
ประกอบขึ้นมาด้วยความประณีต
แถมภายในยังมีรูปคู่กันของนักรบกับสาลี่อย่างเด่นชัด
เหมือนกับจะให้คนอื่นที่เห็นรู้กันไปเลยว่า
กระทงใบนี้มีเจ้าของเป็นใคร


“ป่ะ!  ไปลอยกันเถอะ
จริงสิ...ก่อนหน้านั้นต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อน
...สาถือกระทงไว้นะ
เออ... น้องครับ... น้อง...
รบกวนถ่ายรูปพี่คู่กันหน่อยได้มั้ยครับ”


นักรบรีบยัดกระทงใส่มือของอีกคนหนึ่งไว้
ก่อนจะหันไปตะโกนเรียกกลุ่มน้องนักเรียนหญิงเมื่อครู่ที่ยังคงไม่ได้เดินไปไหน
ให้มารับกล้องตัวโปรดเพื่อเตรียมตัวถ่ายภาพตามที่ต้องการ



“เฮ้ย! ไม่เอาทำไมต้องมาถ่ายรูปด้วย”

หนุ่มในชุดไทยรีบโวยวายตั้งท่าจะไม่ยอม
แต่กลับถูกคนที่ขยับเข้ามาใกล้พูดเกลี่ยกล่อม


“เถอะน่า เราไม่ได้ลอยกระทงด้วยกันทุกวันซะหน่อย
แล้วอย่าลืมพูดว่าเป๊บซี่ซซซซ~ ด้วยนะ
จะได้ยิ้มสวย ๆ ไง... โอยยย!!”


เสียงร้องด้วยความเจ็บดังขึ้น
เมื่อคนแกล้งแหย่โดนศอกใส่เต็ม ๆ ท้อง
เป็นการทำร้ายร่างกายอย่างที่มักเคยโดนประจำแต่ก็ยังไม่รู้จะเข็ด

สมน้ำหน้า!
คดีเก่ายังไม่เคลียร์ขยันสร้างเรื่องให้ใหม่อีกแล้ว
ถ้ามันมีเพิ่มอีกทีล่ะก็ เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่

...คนอย่างลูกแม่พลอยไม่ยอมใครหรอกนะโว้ยย!!


ทว่ายังไม่ทันที่สาลี่จะขู่เตือน
เสียงจากน้องผู้หญิงซึ่งถือกล้องกลับร้องขัด


“เอ้า... ชิด  ๆ กันหน่อยค่า
....จะถ่ายแล้วนะคะ”


คนหงุดหงิดจึงเก็บอารมณ์โมโหไว้ในใจ
ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
หันไปยิ้มบาง ๆ ให้หน้ากล้อง
โดยที่ถือกระทงขนมปังรูปหัวใจใบใหญ่คู่กันกับอีกคน


“พร้อมนะ


หนึ่ง....


สอง....


ซ่ำ...”



“อ่ะ... อือออ...”



แชะ



“กรี๊ดดดดดดด!!!”



เสียงชัดเตอร์ดังพร้อมกับเสียงกรีดร้องดังลั่น
เมื่ออยู่ ๆ หนุ่มในชุดไทยกลับโดนมือของคนข้างตัว
จับเอียงใบหน้าขึ้นรับจูบหวาน
ท่ามกลางสายตาคนเดินผ่านไปมาอย่างไม่สนใจ
เหมือนอยากจะประกาศให้คนอื่นรู้ว่าคนคนนี้เป็นของใคร

รสจูบอ่อนโยนค้างนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนคนรุกจะถอนริมฝีปากออกมา
หันไปรับกล้องคืนจากน้องที่ยังคงวี๊ดว๊าย
แล้วจึงเช็ครูปพลางพยักหน้ารับอย่างถูกใจ


“อืม...ใช้ได้ ๆ
โห...ดูสิ คุณหลับตาพริ้มเลยนะ
...สงสัยจะติดใจ
งั้นอยากลองอีกทีมั้ยครับ น้องสา”


ท้ายประโยคมาพร้อมคำแหย่
ทำให้เจ้าของชื่อหน้าแดงเรื่อ
เริ่มตัวสั่นด้วยความโกรธที่คุมไว้ไม่อยู่
ก่อนจะระเบิดออกมาเป็นคำโวยวายดังลั่น

 
“อะ...ไอ้ลูกแม่เดือน
เมื่อไรจะเลิกแกล้งกันซะทีวะ
โอยย...อยากจะบ้าตายโว้ยยย!!


ไม่พูดเปล่า...
คนโมโหยังฟาดคนขี้แกล้งด้วยกระทงขนมปังในมือไม่ยั้ง
แม้จะนักรบจะพยายามหลบหนีร้องห้ามอย่างไรก็ไม่เป็นผล



สรุปในวันนั้น...

ทั้งสาลี่และนักรบจึงไม่ได้ลอยกระทงอะไรกับใครเขา
เพราะกระทงขนมปังเละคามือของคนที่ใช้เป็นอาวุธไปเรียบร้อย

จะก็เหลือเพียงแต่รูปถ่ายที่เก็บไว้เป็นความประทับใจ
ของ ‘ลูกแม่พลอย’ และ ‘ลูกแม่เดือน’ เพื่อย้ำเตือนใน ‘รสจูบ’



...เมื่อครั้งหนึ่งในค่ำคืน ‘วันลอยกระทง’



...


..


.


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 28-11-2012 07:40:25
...

...

.


...ตีสองครึ่ง


ได้เวลาคนลอยกระทงเริ่มซา
ทั้งยังเป็นเวลาเดียวกับที่ผับในตัวเมืองทยอยกันปิดร้าน



“...อย่าสาดน้ำได้ไหม ช่วยเห็นใจกันบ้าง
ขอให้ช่วยหลีกทาง คนกำลังลอยกระทง
อย่าให้เทียนเปียกน้ำ เดี๋ยวผลบุญไม่ส่ง
ผมจะลอยกระทงในวันสงกรานต์คนเดียวววว...”


เสียงเพลงทุ้มนุ่มอันเป็นเอกลักษณ์จากนักร้องมาดเท่ห์
แต่งตัวสุดแนว เจาะระเบิดหู ไถผมเกรียนไปข้าง
ได้อารมณ์ศิลปินร็อคเต็มขั้น
กำลังครวญประโยคสุดท้ายของเนื้อเพลงบนเวที
   

...แม้เพลงจะเก่าเก็บแค่ไหน
ขอให้มันเข้ากับเทศกาลก็ร้องไปก่อน
แต่วันนี้คนอย่างไอ้บินหลาคงไม่ได้ไปลอยกระทงกับใครเขา
เพราะต้องร้องเพลงไล่ตามร้านเหล้าอื่น ๆ มาตั้งแต่ทุ่มครึ่งแล้ว

ป่านนี้ตีสองกว่าร้านขายกระทงคงเลิกกันหมดพอดี
อีกอย่าง เขาเริ่มง่วงแล้วด้วย 
ตาใกล้จะปิดอยู่มะร่อมมะร่อ
อยากรีบกลับไปนอนพักใจจะขาด



“เฮ้ย! กูกลับก่อนนะ”


นักร้องนำประจำวงต้มยำรวมมิตรร้องบอกสมาชิกวงที่เหลือ
ก่อนเดินเปิดปากหาวหวอด ๆ ออกไปนอกร้าน
เพื่อมุ่งตรงกลับหอพักที่อยู่ห่างไปเพียงสามช่วงตึก


ทว่ายังไม่ทันได้เดินพ้นจากตัวร้านไปไหน
รถบีเอ็มดับเบิ้ลยูรุ่นใหม่สีดำมันปลาบ
กลับแล่นเข้ามาแฉลบจอดเทียบริมฟุตบาท
ที่เขายืนอยู่เสียงลันดังเอี๊ยดดด!!
จนเขาแทบหลบออกมาไม่ทัน


โห...มึงเล่นขับมาซะเร็วแบบนี้
ไม่เหยียบตีนกูไปเลยล่ะครับ


เจ้าของรถคันหรูเปิดประตูออกมาทันที
ร่างสูงใหญ่เดินก้าวลงมาด้วยชุดเสื้อเชิ้ตราคาแพง ปลดกระดุมคอ ผูกไทหลวม ๆ
ดูดีเหมาะกับมาดนักธุรกิจวัยหนุ่มไฟแรง
ติดก็แต่พฤติกรรมเจ้าของมันออกจะมึน ๆ ไปบ้างเท่านั้น


“บิน ขอโทษนะที่พี่มาช้า
พอดีประชุมกรรมการหุ้นมันใช้เวลานานกว่าที่คิด”


“เออ ช่างแม่งเถอะ กูบอกแล้วไงว่ามึงไม่ต้องมาก็ได้”


“ไม่ได้หรอกต่อให้ไกลแค่ไหนหรือดึกยังไง พี่ก็จะมาหาบิน”



อือฮือ....โคตรพระเอกเลยมึง

แต่เดี๋ยวก่อน...

มึงเคยถามกูสักครั้งรึยังว่ากูจะทนตื่นมารับมึงมั้ย
มาดึกแค่ไหนไม่ได้เกรงใจอะไรกันเลย
นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป
เอาแต่ใจตัวเองฉิบหาย
คิดว่ารวยแล้วทำอะไรก็ได้รึไงวะ


แม่ง! กูล่ะโคตรเซ็ง!!



บินหลาเดินหงุดหงิดกลับหอพักตัวเองโดยไม่สนใจใครอีกคนที่เดินตามมา
ไขกุญแจห้องได้ปุ๊บก็รีบตรงดิ่งไปทิ้งตัวนอนบนเตียงอย่างหมดแรง
ปล่อยให้ไกรศรเอ่ยถามขึ้นมาอย่างคนมีความหวัง


“เออ...บินลอยกระทงไปแล้วรึยัง”


“ลอยห่าอะไร!!
ร้องเพลงจนเจ็บคอไปหมดแล้ว
มีเวลาไปลอยที่ไหนวะ!!”


“งั้นไปลอยกับพี่นะ
เมื่อกี๊พี่แวะซื้อกระทงมาพอดี
แต่มันเหลืออยู่ใบเดียวเอง”


“โว๊ยย!! ไม่เอากูง่วง กูจะนอนแล้ว
พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปสอนดนตรีน้องด้วย
มึงอยากไปก็ไปคนเดียวไป๊!!”


สิ้นเสียงสบถอย่างหงุดหงิด


...บรรยากาศภายในห้องกลับเหลือเพียงความเงียบ


ไกรศรลุกขึ้นยืนโดยไม่พูดอะไร
เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

...เงียบอยู่อย่างนั้นพักใหญ่


จนคนที่เผลอโวยวายชักใจเสีย


เออ...เขาพูดแรงไปรึเปล่าวะ
มันเลยขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำประชดชีวิต

เขาได้ยินเสียงเปิดน้ำมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้ว
อย่าบอกนะว่าไอ้หน้ามึนมันจะคิดอะไรบ้า ๆ
ประเภทกดหัวตัวเองจมอ่างล้างมือตายด้วยความน้อยใจ


บินหลาผุดลุกขึ้นยืน
รีบเดินออกไปหน้าประตูห้องน้ำอย่างนึกห่วง
ตั้งใจจะเอื้อมมือเคาะเรียก
แค่ดันได้จังหวะพอดีกับคนข้างในเปิดประตูสวนออกมา
ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเขากับมันกำลังยืนประจันอยู่ซึ่ง ๆ หน้า


“เออ...มึง ...คือว่า กู...”


บินเอ่ยตะกักตะกักพยายามเรียบเรียงคำพูด
ทว่าคู่สนทนากลับเมินหนี
เบียดผ่านเขาไปเปิดประตูระเบียงหลังห้อง

แสงสว่างของพระจันทร์ลอดออกมา
ส่องให้เห็นว่ามันกำลังถือกะละมังพลาสติกใบย่อม
ซึ่งภายในบรรจุน้ำเกือบเต็มจนเขาต้องขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย


...เอากะละมังไปทำอะไรวะ
หรือมันนึกอยากจะซักผ้าตอนตีสองรึไง



“บินมานี่สิ ช่วยจุดไฟให้พี่หน่อย”


เจ้าของชื่อเดินเข้าไปอย่าว่าง่ายแบบงง ๆ ก่อนจะถึงบางอ้อ
เมื่อมันยื่นกระทงใบน้อยมาให้เขาถือ
แล้วไกรศรจึงเป็นฝ่ายหยิบไฟแช็คขึ้นมาจุดเอง


แสงไฟจากเทียนเล่มเล็ก ๆ ส่องสว่างให้เห็นแววตาระยับของคนใกล้ตัว
จนบินเผลอต้องมองตาม
ในใจไม่รู้จะซาบซึ้ง ขำ หรือว่าเขินดี
แต่ที่แน่ ๆ คือ ความหงุดหงิดโมโหก่อนหน้าได้สลายหายไปแล้ว


“เอาเร็ว...ยกกระทงขึ้น แล้วหลับตาอธิษฐาน”


มึงจะอธิษฐานอะไรวะ   
นี่รู้รึเปล่าว่างานลอยกระทงเค้ามีไว้ใช้ขอขมา
ไม่ใช่เป่าเค้กขอพรวันเกิด


บินหลาอดหัวเราะออกมาไม่ได้
เมื่อมือใหญ่ปล่อยกระทงลงลอยในกะละมังพลาสติกสีเหลืองของเขา


“บ้าป่าว คิดได้ไงลอยในกะละมัง” 


“ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลอย
อีกอย่างพี่อยากลอยกระทงพร้อมบินด้วย”


คำพูดที่เอ่ยออกมาอย่างจริงใจทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง
เขาหันกลับไปมองกระทงลอยเทิ่งเติ้งอยู่กลางบ่อน้ำเล็ก ๆ ชั่วครู่
ก่อนจะส่งเสียงขึ้นทำลายความเงียบ


“พี่ศร”


“หืม”


“บินขอโทษนะ”


คนที่นั่งใกล้หันมาขมวดคิ้วมองอย่างงง ๆ


“ขอโทษเรื่องอะไร”


“ก็เรื่องที่หงุดหงิดใส่เมื่อกี๊”


ไกรศรถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงเอ่ยคำอธิบายเพิ่ม


“พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษ
เพราะพี่ก็เอาแต่ใจตัวเองเหมือนกัน
รู้ว่าบินเหนื่อยแต่ก็ยังบังคับให้ทำนู้นทำนี้
บินไม่โกรธพี่ใช่มั้ย”


คนฟังส่ายหน้าเป็นคำตอบ



“ไม่โกรธหรอก...

...แฟนอยากทำให้จะไปโกรธได้ยังไง”


คำเรียกแทนสรรพนามทำให้ไกรศรต้องรีบหันมามองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู
ยิ่งเห็นใบหน้าคมสะท้อนแสงเทียนแดงเรื่อขึ้นมานิด ๆ
ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำขอร้องขึ้นมาสั้น ๆ


“บินขอกอดหน่อยได้รึเปล่า”


คนฟังชะงักไปเล็กน้อยกับคำขอ
แต่แล้วก็พยักหน้าลงพลางเอนกาย
ให้อีกฝ่ายสอดมือเข้ามาดึงร่างของเขาไว้แนบอก



“ตอนนี้ในใจพี่มันเต้นแรงมากเลย
บินรู้สึกเหมือนกันกับพี่มั้ย”



อืม....เหมือนกัน

รู้สึกอุ่น ๆ ในหัวใจ

ไม่รู้มันเรียกว่า ‘รัก’ รึเปล่า

แต่ตอนนี้เขารู้สึกดีและไม่อยากที่จะจากอ้อมกอดนี้ไปไหน



บินผละออกห่างเล็กน้อย
เงยหน้ามองลึกเข้าไปในนัยน์ตาที่พราวระยับเหมือนดวงดาว

...บรรยากาศรอบข้างอะไร ๆ ก็ดูเป็นใจ

คืนนี้พระจันทร์สวย แสงเทียนสลัวสะท้อนจากกระทงที่ลอยอยู่ในน้ำ


หัวใจของเขา...


...เต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ


รอฟังถ้อยคำที่เอ่ยออกมาจากริมฝีปากคนตรงหน้า



...คำคำนั้น




“บิน คืนนี้พี่ขอสามยกได้มั้ย”




โป้ก!!



“พ่องสิ!!”



คนด่าประเคนมือตบหัวคนพูดลงไปอย่างแรง


...แม่งบรรยากาศกำลังโรแมนติกดันพังอย่างไม่เป็นท่า
แล้วกูจะเสียแรงใจเต้นไปกับมึงทำไมว่ะเนี่ยย!!


บินเดินกลับเข้ามาในห้องทิ้งตัวลงนอนต่อบนเตียงทันทีอย่างนึกเซ็ง
ทว่าก็ยังไม่วายแอบเหลือบมองคนที่เดินกุมหัวปอย ๆ เข้าห้อง
แล้วเลยไปเห็นกระทงใบน้อยซึ่งยังคงลอยอยู่บนกะละมังตรงระเบียง
อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มเล็ก ๆ  พลางพูดกับตัวเองในใจ


“ขอบคุณนะครับ พี่ศร”



...ขอบคุณที่มาลอยกระทงด้วยกัน


...ขอบคุณที่ยังคง ‘รัก’ กันอยู่เหมือนเดิม


.......


....


...


..


.


...วันเพ็ญเดือนสิบสอง
ไม่รู้ว่าเมื่อวันนี้เวียนมาครบปีอีกครั้ง
ถึงคราวนั้นพวกเราจะเป็นเช่นไร

แต่ตอนนี้...
แค่รู้ว่ายังมี ‘กันและกัน’ อยู่ก็สุขใจ
อะไร... อะไร..คงไม่สำคัญ
เท่ากับความรักรสหวานอมขม
ที่เราต่างผ่านมันมาด้วยกัน

ต่อให้กระทงหลงทางไปไกลแค่นั้น
พวกเราก็เชื่อว่า สักวัน...
สายน้ำจะพาเราสองคนกลับมาเจอกันอีกครั้ง
เพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป


...สุขสันต์วันลอยกระทง



-------------------------------------------------------------------------------------------------------------


THE  END




สุขสันต์วันลอยกระทงค่า!  :mc4:
ออกมาภาคพิเศษฉลองเข้ากับเทศกาล
สามคู่ สามรส ให้ได้หายคิดถึงกันบ้าง

เห็นหนุ่ม ๆ ลอยกระทงกันสองคนแล้วฟินจริง ๆ
วันนี้ใครไปลอยกระทงก็อย่าลืมแอบส่องเงียบ ๆ
แล้วมาเล่าให้ฟังกันบ้างนะคะ ฮ่าๆๆ  :laugh:

ตอนนี้ต้องขอตัวไปพับกระทงก่อน
ไว้เจอกันใหม่กับตอนพิเศษในโอกาสหน้า (ที่ไม่รู้เมื่อไร)
คิดถึงเสมอจ้า 

 :กอด1:

รัก

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-11-2012 07:58:49
ภาครวมมิตรอ่ะ ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-11-2012 08:43:02
ภาครวมมิตร ที่รวมความซาดิสต์ของนายเอกไว้รวมกัน 555 โหด มัน ฮา หวาน เลี่ยน


สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 28-11-2012 09:25:14
รวมมิตรชอบ  :o8:
ตอนพิเศษด้วย ลอยกระทงด้วย ฝนตกด้วย วันเกิดเขาด้วย  :laugh: มีความสุข  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 28-11-2012 09:35:20
 :impress2:

 :m20:

 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 28-11-2012 09:58:13
 :-[ :-[ :-[ :-[ ตกลงพี่ศร ได้สามยกป่าวคะ  :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 28-11-2012 10:11:29
หูยยยยยยยยยยยย มีการขออนุญาติด้วย พี่ศร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 28-11-2012 10:48:28
น่ารัก หวานกันทุกคู่เลยอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 28-11-2012 11:45:24
สุขสันต์วันลอยกระทงเช่นกันนะคับบบบ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-11-2012 13:01:47
ชอบทุกคู่เลย แต่แอบสงสารพี่ศรเป็นพิเศษ  :laugh:


ปล   พี่แทน...ยังยิงมุกเสี่ยวได้ตลอดเหมือนเดิมนะ
ปล2  เสียดายปีนี้ไม่ทันเห็นปลายฟ้าลอยกับคม


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 28-11-2012 13:22:44
น่ารักทุกคู่เลยคะ   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 28-11-2012 14:39:32
กรี๊ดดดดด ดังๆๆๆ >_<. ชอบทุกคู่เลย น่ารักที่สุด ถ้ามีคู่ปลายกับพี่คม คงจะสนุกขึ้นนะคะ แค่คิดว่ากว่าเต่าปลายจะเลือกกระทงเสร็จก็แอบฮาแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ <3
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 28-11-2012 14:54:23
 o13

ชอบตอนพิเศษของสามคู่มากค่ะ

 :pig4:

แถมเป็ดและรอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 28-11-2012 16:15:32
ชอบทุกภาคในซีรีย์ชุดนี้มากๆๆ เลยค่ะ ตอนนี้กำลังหลง ยอดสะเดากับข้าวโพดต้ม มากๆเลย ค่า ><

ปล ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่า คิดถึงทุกคุ่เลย หวานน่ารักมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 28-11-2012 21:01:49
 :-[
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 28-11-2012 21:25:23
ถ้ามีคู่นายคมสัน จิตอาสา กะนายปลายฟ้ารวมอยู่ด้วย
มันคงจะดีไม่น้อย555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 28-11-2012 21:29:18
มีความสุขวันลอยกระทงครับ  o13 o13 :mc4:

แต่ขาดพ่อเต่าน้อยกับหนุ่มจิตอาสานะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 28-11-2012 22:08:46
น่้ารักทุกคู่เลย อ่านแล้วอิ่มเอมใจ 555  o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 28-11-2012 23:28:56
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 28-11-2012 23:57:07
รวมมิตรวันลอยกระทง
แบบหวาน ๆ เลยนะนี่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 >; P.59
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-11-2012 01:55:22
ขอบคุณ ^ ^**
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 29-11-2012 03:22:07
ให้เบอร์เลย. เขินนน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: mino ที่ 29-11-2012 18:05:24
อร้ายยย อยากไปซื้อกระทงหนมปัง อร้ายยย //ฟินตาย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 29-11-2012 18:07:54
 :give2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 29-11-2012 18:57:48
ยังคงน่ารักอยู่เหมือนเดิม    แล้วพี่ศรนี่คำขอเป็นจริงหรือเปล่า :-[ :-[

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาคพิเศษ 'กระทงหลงทาง' (ยังหาเจอ แต่หลงเธอสิเหลือทน) 28/11/55 > P.59
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-11-2012 19:33:54
ชอบทุกคู่เลยน่ารัก :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 30-11-2012 08:57:04
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 15



...อึ้งแดกครับ



ณ วินาทีนี้ สำหรับนายปลายฟ้า
สามารถแปลข้อความจากในสมองออกมาได้เป็นคำเดียว



อะไรนะ...


...เมื่อกี๊ที่ได้ยินมันหมายความว่าไงกัน



“เราเป็นบัดดี้ปลาย
แล้วปลายก็บัดดี้เราเหมือนกัน”




ยะ...

อย่าบอกนะว่าที่ผ่านมาเขาได้คมสันเป็นบัดดี้
และคมเองก็เป็นบัดเดอร์เลยมาคอยดูแลเขา
ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นบัดเดอร์ของคมแล้วก็ยังเป็นบัดดี้
ในเวลาเดียวกันกับที่คมเป็นทั้งบัดดี้และบัดเดอร์ของเขา


อ้าว....แม่งชักงงแล้วเว้ย!

บัด... บัด... ห่าอะไรไม่รู้เต็มหัวกูไปหมดเลย


แล้วตกลงมันเป็นยังไงกันแน่วะเนี่ย!!


ปลายฟ้ายังคงยืนนิ่งอย่างคนสับสน
ในมือถือลูกอมฮาร์ทบีทสีชมพูค้างไว้
สบตามองไปยังดวงตาคมของใครอีกคน
ซึ่งมองตอบกลับมาโดยไม่อธิบายเพิ่มเติมอะไร
กระทั่งพิธีกรต้องเป็นฝ่ายส่งเสียงทำลายความเงียบ


“สรุปว่าสองคนนี้จับได้กันเองใช่มั้ยคะเนี่ย
แหม...น้อยคนนะคะที่จะจับได้แบบนี้
ต้องเรียกว่าพรหมลิขิตบันดาลชักพาจริง ๆ
...เอาเป็นว่าได้คู่เฉลยกันครบแล้วนะ
น้องปลายกลับเข้าทีได้เลยค่า...
เพราะเดี๋ยวเราจะเข้าสู่กิจกรรมต่อไปแล้ว”


พี่อ้อมเอ่ยตัดบททำให้คนมึนงงถึงกับสะดุ้ง
รีบเรียกสติกลับเข้าร่างก่อนเดินเข้าไปยังที่นั่ง

ไอ้เกมส์กับบอลล่าหันมาหน้าเขาแวบหนึ่ง
ดูก็รู้ว่าสองคนคงคันปากยิบๆ
คงอยากจะพูดแซวอะไรสักอย่างกับคนที่เพิ่งจะรู้ความจริง
แต่ยังไม่กล้าเพราะโดนขัดด้วยน้ำเสียงจริงจังจากพิธีกร


“ต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญนะคะ
ขอให้น้อง ๆ ทุกคนหลับตาลงค่ะ”


สมาชิกในค่ายอาสาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
ค่อย ๆ หลับตาลงจนไม่เหลือคำพูดคุย
ปล่อยให้เสียงไฟประทุในกองไม้กับเสียงจิ้งหรีดร้องเบา ๆ
ดังโอบล้อมบรรยากาศคืนพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น

และเพียงไม่นาน...

...ท่วงทำนองเพลงแผ่วหวานจึงค่อย ๆ แทรกตัวดังขึ้น


“โอ...โอ้... โอละเนอ...
เอ้อ... เออ... น้อง... เอย...
ลา... ลาลาลาลา...ล้า...ลาลาลาลา”


ทุกคนในค่ายได้รับคำสั่งให้ลืมตา
และทันทีที่เปิดเปลือกตามอง
เขากลับพบแสงเทียนที่ถูกจุดสว่าง
จากพวกพี่อ้อมและคนอื่นที่เหลือในกลุ่มสันทนาการ
ซึ่งยืนเรียงแถวกันตรงกลางวงพร้อมกับเสียงร้องประสานของบทเพลง


“โอ้...น้องเอ๋ย พี่นี้รักทรามเชย จะมิเลยแรมไกล
จะรักเจ้า ดังดวงใจมิคลายหน่ายนา
ลา... ลาลาลาลา...ล้า...ลาลาลาลา...”

พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต
จะรักดั่งชีวิตใจคิดกรุณา
ลา... ลาลาลาลา...ล้า...ลาลาลาลา...

ขอจงหายโศก พ้นภัยหายโรค ให้มีโชคนะน้องยา
จะเอาด้ายยาว ขาวบริสุทธิ์
ลา...ลาลา...ล้า...ลาลา...

พันมัดผูกไว้ที่ข้อมือของเจ้า
ลา...ลาลา...ล้า...ลาลา...

เหมือนดังใจพี่ผูกพันเจ้าไว้ ไม่หน่ายหนี
...เออ...เอ้อ ... เออ... เออ... เอย...

...ใจผูกพัน”



เพลงรับน้องบายศรีช่วยทำให้บรรยากาศโดยรอบ
เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และความอบอุ่นใจไปพร้อมกัน
ถึงแม้ค่ายนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการรับน้องเลย
แต่กระนั้นก็นับว่าสมาชิกในค่ายต่างมาจากต่างคณะ ต่างชั้นปี
ซึ่งไม่ได้สนิทคุ้ยเคยกันมาก่อน

ทว่าตลอดสิบวันที่ผ่านมา
พวกเขากลับหลอมรวมใจให้กลายเป็นหนึ่งเดียว
โดยมีเป้าหมายคือการทำให้ค่ายวิสวะอาสาพัฒนาชนบทนี้บรรลุผลสำเร็จ

ด้ายสีขาวจึงถูกส่งต่อไปยังอาจารย์รวมถึงพี่ ๆ ทุก ๆ คน
ไว้ใช้สำหรับผูกข้อมือน้องพร้อมคำอวยพร
และคล้ายเป็นการเปิดใจพูดคุยกันของแต่ละคน
เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำดี ๆ ตลอดระยะเวลาที่ได้เข้าค่ายร่วมกัน


ปลายฟ้าเองก็เดินไปให้พี่อ้อมพี่ฟ้าผูกข้อมือด้วย
เพราะปีนี้พวกพี่จะเรียนจบกันแล้ว
นี่จึงอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน

นอกจากนี้ยังมีน้อง ๆ อีกหลายคนเดินมาขอให้เขาผูกข้อมือให้
ทั้งหน่วยสวัสดิการด้วยกัน และน้องต่างคณะหน่วยอื่น ๆ

...ไม่น่าเชื่อว่าด้วยเวลาเพียงสิบวัน
จะทำให้พวกเขาได้ค้นพบมิตรภาพดี ๆ มากมาย
รวมถึงได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน


...นับเป็นความประทับใจที่ควรค่าแก่การจดจำครั้งหนึ่งในชีวิตจริง ๆ




หลังจากผูกข้อมือให้น้องผู้หญิงวิศวะปีสองเสร็จแล้ว
นายปลายฟ้าจึงมองซ้ายขวาตั้งใจจะเดินไปหาเพื่อนเภสัช
ท่ามกลางความวุ่นวายของกลุ่มคนชาวค่าย
หากแต่เสียงหนึ่งกลับเป็นฝ่ายเอ่ยทักรั้งไว้


“ปลาย ผูกข้อมือให้ผมหน่อยสิครับ”


เจ้าของชื่อหันมาหาคนเรียกทันที
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากบัดเดอร์ตัวปลอม
ที่ยืนยิ้มหล่อบาดใจอยู่ด้านหลังพร้อมกับยื่นด้ายสีขาวมาให้
เขาได้แต่มองกลับไปอย่างงง ๆ พลางขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย


“เราเรียนปีเดียวกันจะมาผูกให้กันทำไมล่ะ”


อีกฝ่ายยักคิ้วตอบกลับมาง่าย ๆ


“เป็นที่ระลึกไงครับ”


“ที่ระลึกที่โดนดิวหลอกน่ะหรอ
โห...เล่นทำซะเนียนเลย
เราก็นึกว่าดิวเป็นบัดเดอร์เรา”


ปลายฟ้าทำหน้าเบ้อดไม่ได้ที่จะพูดแซว

...ก็มันจริงนี่ครับ
ตอนที่ดิวเฉลยว่าไม่ใช่บัดเดอร์ทำเอาเขาใจแป้วตกไปถึงตาตุ่ม
นึกว่าพี่อ้อมจะลืมใส่ชื่อเข้าไปในฉลากซะอีก
ดีที่ไม่ร้องโวยวายขึ้นมาให้หน้าแตกเอากลางวง


“ฮ่า ๆ โทษทีครับ
ผมอยากเก็บไว้เป็นเซอร์ไพรส์
อีกอย่างเห็นมันกับปลายแล้วเลยอยากแกล้ง”


ดิวหัวเราะขำออกมาเบา  ๆ
แต่ไอ้ประโยคหลังที่ได้ยินกลับทำให้เขาสะดุดหู


‘เห็นมันกับปลายแล้วอยากแกล้ง’


ว่าแต่...

ไอ้ ‘มัน’ เนี่ยคือใครกันวะ?


แต่ยังไม่ทันที่คนสงสัยจะอ้าปากถาม
ใครคนหนึ่งกลับร้องขัดจังหวะเข้าเสียก่อน


“เฮ้ย ไอ้ปลาย!
เดี๋ยวไปขอให้อาจารย์ชวลิตผูกกัน
อ้าว....คุยกับดิวอยู่หรอ”


เกมส์ชะงักไปทันทีเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองกำลังยืนอยู่กับคู่สนทนาอีกคน
แต่พอร่างสูงหันมามองว่าใครเป็นคนเรียก
ดิวกลับเปลี่ยนท่าทีเป็นฝ่ายทักขึ้นมาอย่างดีใจ


“พอดีเลย เกมส์ผูกให้ผมด้วยสิ”


คนถูกขอเหมือนจะงง ๆ เช่นเดียวกับปลายฟ้าในคราวแรก
แต่มันไม่ได้ถามถึงสาเหตุกลับพยักหน้ารับง่าย ๆ


“เออได้ ๆ ไหน ๆ ก็เป็นบัดเดอร์กันแล้ว”


เกมส์จึงเอื้อมมือไปหยิบด้ายจากอีกคน
แต่ยังไม่ทันที่จะผูก มือของหนุ่มหล่อกลับชักหนี
แล้วเปลี่ยนเป็นดึงข้อมือของคนตรงข้ามขึ้นมาจับไว้
พร้อมกับเอื้อนเอ่ยประโยคหนึ่ง


...และเป็นประโยคที่ทำให้พวกเขาสองคนถึงกับตะลึง



“อ่ะ ไม่ใช่ผูกด้ายครับ
แต่ผมอยาก ‘ผูกใจ’ กับเกมส์
พอจะทำให้ได้รึเปล่าครับ”



ฮิ้ววววววววว ~ !!


...เป็นไงล่ะ

โดนเลยสิมึง...

อยากแซวชาวบ้านเขาดีนัก

คราวนี้โดนเข้ากับตัวเองเต็ม ๆ

ฮ่าๆๆๆๆ สมน้ำหน้าโว้ยยย!!


ปลายฟ้านึกขำอยู่ในใจที่เห็นเพื่อนซี้ถึงกับใบ้แดก
เมื่อโดนคำจีบหวาน ๆ จากคนเจ้าชู้
ไอ้เกมส์เก็บหมาในปากเงียบไม่มีโต้ตอบ
ได้แต่หยิบด้ายมาผูกข้อมือของบัดเดอร์ตัวเองโดยไม่พูดจา
แต่เขาแอบเห็นมือมันสั่น ๆ อยู่เหมือนกัน
สงสัยอาการเดิมคงกำเริบ


...ไม่ได้บอกใช่มั้ยครับว่าไอ้เกมส์เนี่ย
มันเคยโดนเกย์กระเทยจีบมาไม่น้อย
ความที่มันเป็นหนุ่มเหนือผิวขาวเนียน
หน้าตาพอพาไปวัดตอนกลางคืนได้
จึงทำให้มันเป็นที่หมายปองของเก้งกวาง
จนเคยมีวีรกรรมโดนรุ่นพี่เกย์หุ้นกล้ามปูจับขังห้องสองต่อสองมาแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่ามันหนีรอดมาได้ยังไง
แต่หลังจากนั้นมันเลยค่อนข้างขยาดพวกกับชายรักชาย

มันบอกว่าไม่ได้รังเกียจ แต่ออกแนวกลัวขึ้นสมองมากกว่า
ถ้าผู้ชายคนไหนตั้งใจจะจีบมัน หรือโดนรุกมาก ๆ เข้า
ตัวมันจะเข่าอ่อน พาลหมดแรงไปดื้อ ๆ
สงสัยความกลัวจะฝังใจจนยั้งรากลึก
พูดแซวคนอื่นได้ แต่อย่าเจอกับตัวเอง
ถึงขนาดเป๋ออกอาการไปไม่เป็นเลยทีเดียว


....จึงไม่น่าแปลกที่พอปลายฟ้าผูกข้อมือให้ดิวเสร็จ
ไอ้เกมส์เลยรีบลากแขนเขาให้ออกห่างพ้นท่านรองประธาน
แล้วอ้างว่าไปจะหาอาจารย์ชวลิตเพื่อให้ผูกข้อมือบ้าง


ตอนนี้เขาเลยได้กลับมาเจอเพื่อนกลุ่มเภสัชอีกครั้ง
เห็นบอลล่าบอกว่ารวมกันเยอะๆ ดีแล้ว
เผื่อจะได้อ้อนขอคะแนนจากอาจารย์สะดวก ๆ 

ถึงจะแฮปปี้กับการเข้าค่ายอาสามากแค่ไหน
แต่พวกเราก็ยังไม่ลืมครับว่า...
ส่วนหนึ่งมันคือคะแนนตัดสินชี้เป็นชี้ตายในวิชาจริยศาสตร์



ด้วยเหตุนี้...
เมื่อพิธีบายศรีผูกข้อมือดำเนินเสร็จสิ้นเรียบร้อย
พี่อ้อมผู้เป็นพิธีกรจึงสั่งให้น้อง ๆ นั่งล้อมวงรอบกองไฟอีกครั้ง
ทั้งยังเชิญอาจารย์ผู้ดูแลค่ายมากล่าวเปิดใจทิ้งท้าย
และฝากโอวาทไว้ให้เราได้เก็บประสบการณ์ดี ๆ ไว้ใช้ต่อไปในอนาคต

มีน้องผู้หญิงหลายคนแอบร้องไห้เพราะความซึ้ง
แล้วคนบ่อน้ำตาตื้นอย่างนายปลายฟ้ามีหรือจะกลั้นน้ำตาอยู่

...เล่นโดนบิ้วซะขนาดนี้

เลยแอบมีน้ำตาคลอหยดมาแหมะสองแมะบ้าง
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามกลั้นเอาไว้สุดความสามารถ
จะร้องไห้มากไม่ได้เดี๋ยวเสียมาดต่อหน้าประชาชน
ทว่า หลังจบพิธีก็ยังคงหนีไม่พ้นคำแซว



“ไอ้ปลายเป็นอะไรวะตาแดง ๆ 
มึงร้องไห้แล้วเหรอวะ ฮ่าๆๆ”


ไอ้เกมส์พูดกลั้วหัวเราะนำร่องมาก่อนเลย
สงสัยฤทธิ์คำจีบของดิวคงจะหมดแล้ว
มันเลยกลับมาปากหมาหน้าระรื่นได้อีกครั้ง


“เออ เดี๋ยวกูไปเข้าห้องน้ำแป๊บ
พวกมึงกลับไปเต้นท์ก่อนแล้วกัน”


เขาไล่คนกวนประสาทให้ออกไปห่าง ๆ
ส่วนตัวเองตั้งใจจะไปล้างหน้าเช็ดคราบน้ำตาสักหน่อย
เสร็จแล้วจะได้ไปเก็บของเตรียมอาบน้ำนอน
เพราะพรุ่งนี้เขาจะต้องออกเดินทางกลับมหาลัยตั้งแต่เช้า


ปลายฟ้าจึงมุ่งหน้าตรงมายังห้องน้ำอันเป็นเป้าหมาย

หากแต่ยิ่งเข้าไปใกล้...
เขากลับรู้สึกเหมือนตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เดิม ๆ คล้ายเดจาวู
เมื่อพบร่างสูงใหญ่ของใครบางคนยึดจองพื้นที่อ่างล้างหน้าอยู่ก่อนแล้ว


คนที่หันหลังให้เหมือนจะรู้ตัวว่ามีคนมายืนรอ
ร่างสูงใหญ่จึงหมุนตัวไปมอง ก่อนจะชะงักเล็กน้อย
เมื่อเห็นชัดว่าบุคคลนั้นคือใคร


....บัดเดอร์และบัดดี้


ปลายฟ้าพยายามก้มหน้าหลบดวงตาคมซึ่งจ้องอยู่
เขาไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าตัวเองตาแดงเพราะร้องไห้จนเสียฟอร์ม
เลยรีบเดินดุ่ย ๆ ไปเปิดก๊อกน้ำ
ทำสมาธิจดจ่ออยู่กับการล้างหน้า
หากทว่าคำพูดลอย ๆ จากด้านหลังกลับทำให้เขาต้องหยุดมือ



“ขอโทษที่ไม่ค่อยได้เทคเลย”



หนุ่มเภสัชหันมองเจ้าของประโยคทันที


เมื่อกี๊มันว่าไงนะ...

...ขอโทษที่ไม่ค่อยได้เทค

อย่างมันเนี่ยนะไม่ค่อยได้เทค

นี่พูดจริงหรือตั้งใจประชดกันแน่



“ไม่ได้เทคตรงไหน เราต่างหากที่ต้องพูด”


ใช่...คนขอโทษต้องควรเป็นเขา

เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำตัวให้สมฐานะบัดเดอร์เลยสักครั้ง
มีแต่ปล่อยให้มันคอยดูแลเอาฝ่ายเดียว

จริงสิ...

นี่อาจเป็นเหตุผลที่มันชอบมาป้วนเปี้ยนคอยช่วยเหลือเขาอยู่เรื่อย
คงเพราะอยากจะทำหน้าที่บัดเดอร์นี่เอง
แล้วมันยังมีหน้ามาบอกเขาว่าไม่ค่อยได้เทคให้อีกเหรอ



ปลายฟ้าขมวดคิ้วคล้ายไม่พอใจ
แต่คู่สนทนากลับอธิบายถึงเหตุผล


“เราไม่ค่อยมีของไปให้ปลาย
ที่ให้ก็มีแค่ยอดสะเดาครั้งเดียว”


ถ้อยคำผ่านหูทำให้คนฟังนึกสะดุดใจ


ห่ะ....


หมายความว่าไง


ของที่ให้มาครั้งเดียว


ไอ้ยอดสะเดานั้น...


อย่าบอกนะว่า...



“นี่คมเป็นคนเอาไอ้ต้นไม้นรกนั้นมาแขวนไว้ให้เราเหรอ”


คมสันพยักหน้ารับพลางย้อนถามซ้ำ


“อืม ปลายได้กินรึเปล่า”


“จะไปกินได้ไง ต้นบ้าอะไรขมจะตายชัก!”


เขาร้องโวยวายออกมาเสียงดังอย่างสยอง
แค่นึกถึงรสชาติของยอดสะเดาก็ขนลุกขึ้นมาแล้ว
ตอนแรกคิดว่ามีคนแกล้งเขาซะอีก
ที่ไหนได้ของเทคจากบัดเดอร์เองเหรอวะ
แล้วมันใช้ส่วนไหนคิดถึงวะเนี่ย
ถึงได้เอาของประหลาด ๆ มาให้เขา


“ปลายกินไม่เป็นต่างหาก กินสด ๆ คงขม
ต้องเอาไปจิ้มกับน้ำปลาหวานถึงจะอร่อย”


คนโดนบ่นย้อนความ
ทว่าปลายฟ้าผู้เข็ดขยาดกลับเบ้หน้าเอ่ยเถียง


“จะยังไงมันก็ขมอยู่ดีนั้นแหละ”


คมสันนึกขำอยู่ในใจกับท่าทีเหมือนเด็กน้อยของคนตรงหน้า
ก่อนจะคิดถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ ร่างสูงจึงคลี่ยิ้มแกล้งตอบ



“แต่อันที่เพิ่งให้ไปรับรองไม่ขมแน่”




อันที่เพิ่งให้...

อ้อ...หมายถึงลูกอมฮาร์บีทสีชมพูเม็ดนั่นนะหรอ

นึก ๆ ไปคนคนนี้มันบ้ากว่าที่คิดว่ะ
อันหนึ่งก็ให้ซะฮาร์ดคอร์
ส่วนอีกอันดันมาหวานจ๋อยไม่สมกับรูปร่างหน้าตาของมันเลย


“เอ้า! ก็แน่อยู่แล้วดิ ถ้าลูกอมขม
สงสัยคงมีคนเอาไปจิ้มน้ำปลาหวานแทนสะเดา”


มุกที่ปล่อยออกมาทำเอาคนสองคนหัวเราะออกมาเบา ๆ


นี่อาจเป็นครั้งที่แรก...

ที่เขาคุยกับคมได้อย่างสนิทใจเหมือนเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่ม



“ไม่คิดว่าเราจะมาจับได้กันเองแบบนี้
แต่ดีแล้วที่ได้ปลายเป็นทั้งบัดเดอร์บัดดี้”



ประโยคที่ถูกเอ่ยทำให้นายปลายฟ้าต้องนิ่งคิดทบทวน



นั่นสิ...

น่าตลกโชคชะตาที่ทำให้คนสองคนมาเจอกัน
จากที่เคยเกลียดขี้หน้า
เห็นว่ามันชอบเสือกเขาตลอด
แต่กลายเป็นว่าความสัมพันธ์กลับพัฒนามาไกล

ถ้าเขาไม่ได้คมเป็นทั้งบัดดี้และบัดเดอร์
บางทีเราอาจไม่ได้มาคุยกันอยู่อย่างนี้ก็ได้


เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...

...ความจริงมันก็ถือเป็นเรื่องดี ๆ ไม่น้อยเหมือนกัน




คนในภวังค์ยืนเหม่อกระทั้งได้ยินเสียงพูดขัดความคิด


“เออ แล้วก็ขอบใจที่ปลายให้ข้าวโพดมาด้วยนะ”


“อ่ะ อันนั้นไม่ได้เป็นของเรานะ
บังเอิญแม่น้องกานดาฝากมาให้
แต่เรากลัวว่านายจะไม่กินเลยบอกไปว่าเป็นของจากบัดเดอร์”


นายปลายฟ้ารีบเงยหน้าขึ้นมาพูดปฏิเสธบอกความจริง

...ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเขาไม่อยากจะปิดบัง
รับสมอ้างเอาดื้อ ๆ แบบนั้นมันจะน่าเกลียดเกินไป
อีกอย่างเดี๋ยวคมจะไม่รู้ถึงความมีน้ำใจของแม่น้องกานดาด้วย



คมสันนิ่งอึ้งไปคล้ายกำลังใคร่ครวญถึงสิ่งที่ได้ยิน
ก่อนจะเอ่ยคำถามขึ้นมาคำหนึ่ง


...แต่เป็นคำถามที่กลับทำให้เขาเป็นฝ่ายนิ่งอึ้งเสียแทน



“แล้วคำที่เขียนอยู่บนถุงแม่น้องเขาฝากมาให้เหมือนกันรึเปล่า”



...คำที่เขียนอยู่บนถุง


สมองของนายปลายฟ้ารีเพลย์กลับไปยังภาพความทรงจำ
ก่อนจะตระหนักชัดเจนถึงข้อความนั้น



‘คิดถึงและเป็นห่วงนะ’




"เฮ้ยยย!!  ไม่ใช่!!
อันนั่นแม่น้องเขาไม่ได้ฝากมา
คำนั่นเราเขียนเอง
แต่...คือว่า...มัน...เออ...”


ปลายฟ้ารีบละล่ำอธิบายอธิบายความจริง
หากแต่กลับไม่สามารถเอ่ยอะไรออกมาได้อีก
เพราะในหัวสมองของตัวเองก็กำลังสับสน
ด้วยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่มาที่ไปจากตรงไหน


...คือ มันเป็นคำที่เขาเขียนให้มันเองจริง ๆ
แต่จะเรียกว่าเขียนเองมันก็ไม่ถูก
เพราะเขาไม่ได้หมายความตามนั้น

แบบว่าเนื้อที่มันไม่พอไงก็เลยเขียนไปสั้น ๆ
ถึงความหมายมันคล้ายๆ กัน
แต่จริง ๆ มันมีบริบทขยายตามมาอีกไงเข้าใจป่ะ

คิดถึงเลยไม่ได้หมายความว่าคิดถึงจริง ๆ
ส่วนเป็นห่วงก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นห่วง

เออ...แล้วตกลงมันจะหมายความว่าอะไรล่ะวะ


เริ่มงงอีกแล้ววุ้ย!


โอยยย...แล้วเขาจะเริ่มอธิบายยังไงให้มันฟังดีวะเนี่ยย!!




ปลายฟ้าสับสนลังเลตอบคู่สนทนาไม่ถูกตามนิสัยเดิม
หากแต่ยังไม่ได้อ้าปากตอบ
เขาทั้งคู่ได้ยินเสียงร้องตะโกนเรียกจากที่ไกล ๆ


“ประธานค่ายอยู่ไหนคะ อาจารย์ชวลิตเรียกพบค่าาาา!!”


"ได้ครับ เดี๋ยวผมไปครับ!!"


เจ้าของชื่อตะโกนตอบรับกลับไป
ก่อนจะหันมาฝากคำพูดกับคนที่ทิ้งบทสนทนาไว้กลางคันสั้น ๆ



“งั้นไว้เราจะรอเลี้ยงนอกรอบนะ”



อ้าวเฮ้ย! เดี๋ยวก่อนสิเขายังไม่ทันจะอธิบายอะไรเลย



“เดี๋ยว คม...”


คำเรียกทำให้คนที่เดินห่างไปได้ไม่กี่ก้าว
ต้องหยุดหันกลับมามองคนอึกอักซึ่งพยายามจะเรียงเรียบถ้อยคำ
แต่สมองของปลายฟ้าดันอื้ออึงคิดอะไรไม่ออกจึงได้แต่พูดค้าง ๆ คา


“เออ...คือว่า...มัน...”


ยิ่งเห็นคนที่กำลังรีบเริ่มขมวดคิ้ว
ก็ยิ่งสร้างความกดดันให้คนชักช้าเพิ่มมากขึ้น


เอาวะ...ช่างมัน...

...ไม่ต้องอธิบายแล้ว

แม่งพูดรวบ ๆ ไปเลยก็ได้วะ!


นายปลายฟ้าจึงตัดใจหลับหูหลับตา
ตะโกนตอบขึ้นมาเพียงประโยคเดียว




"คำนั่นมันเป็นคำของเราที่อยากเขียนให้นายคนเดียวนะ”




...พูดจบไปแล้ว
หากแต่คนตัดบทกลับชะงักค้าง
เมื่อทบทวนว่าเมื่อกี๊ตัวเองเผลอหลุดปากอะไรไป


เอ๊ะ... ดะ...


เดี๋ยวก่อน...


ทำไมมันมาออกมาทะแม่งๆ  แปลก ๆ วะ


ฟังไปเหมือนเขากำลังสารภาพรักจีบไอ้หน้าโหดอยู่เลย



...อย่างนี้มันไม่ได้ช่วยให้กระจ่าง

ซ้ำยังทำให้เข้าใจผิดเข้าไปใหญ่น่ะสิเว้ย!



เขารีีบเงยหน้าขึ้นมองประธานค่าย
ซึ่งมันเองก็นิ่งไปเหมือนกัน
คล้ายไม่อยากจะเชื่อหูในคำที่เพิ่งได้ยิน
แต่ไม่นานใบหน้าคมกลับปรากฏยิ้มบางออกมาพร้อมกับตอบสั้น ๆ



“อืม เหมือนกัน”



ถ้อยคำปริศนาที่ทิ้งไว้ ทำให้คนฟังมึนงง
หากแต่ไม่มีประโยชน์ที่จะถาม
เพราะร่างสูงหมุนตัวเดินออกห่างไปไกลแล้ว
ปล่อยให้นายปลายฟ้าสับสนกับบทสนทนาก่อนหน้า
   


เหมือนกัน...

อะไรคือเหมือนกัน

มันเข้าใจเหมือนกันแล้ว

หรือจะหมายถึงข้อความนั่นที่อยู่บนถุง...




'คิดถึงและเป็นห่วงนะ'




น่าแปลก...

ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนเขียนคำคำนั้นเองแท้ ๆ
แต่แค่ออกมาจากปากของใครอีกคน
ไม่รู้ทำไมกลับรู้สึกเขินจนหน้าร้อนขึ้นมาดื้อ ๆ


เฮ้ย... มันกระทันหันก็เลยพูดอะไรมั่ว ๆ ออกไปก่อนต่างหาก
ไม่ได้หมายความว่ายังงั้นเหมือนข้อความบนถุงนั่นแหละ
แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่อยู่ให้อธิบายอะไรเพิ่มแล้ว
เลยป่วยการที่จะไปบอกเล่าอะไร
แถมจะโทษใครก็ไม่ได้นอกจากความชักช้าของตัวเอง


...ดูดิ นี่แค่จะมาล้างหน้า
แต่ดันเสียเวลาไปเท่าไร
ยังไม่ทันได้เก็บของอะไรเลย

โธ่เว้ย...ไอ้เต่าปลายเอ้ยยย!!

แม่งปาเข้าไปกี่โมงแล้ววะเนี่ย!!


คนหงุดหงิดตั้งใจจะล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงออกมาดูเวลา
แต่ปลายนิ้วกลับสะดุดบางสิ่งที่อยู่เคียงกัน



...บางสิ่งที่เขาต้องหยิบขึ้นมามองอยู่อย่างนั้น



...ลูกอมฮาร์ทบีทสีชมพู


ดวงตากลมพิจารณามันอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนตัดสินใจแกะเปลือกออก
โยนลูกอมเม็ดเกลี้ยงสีชมพูใส่ปาก
นึกถึงประโยคที่เคยพูดเล่นกันแล้วก็ต้องเผลออมยิ้ม



...ของเทคจากบัดเดอร์ครั้งนี้ไม่ขมจริง ๆ ด้วย



เพราะรสชาติที่เขารับรู้มีเพียงแค่รสเดียว....




...หวาน




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




ป.ล. มีแก้ไขเนื้อเรื่องช่วงท้ายนิดหน่อย
ใครที่เคยอ่านซีนก่อนหน้านี้ไปขอให้ช่วยรีเซ็ตใหม่นิดนึงนะคะ
เืพื่อประโยชน์ในการดำเนินเนื้อเรื่องหลังจากนี้ต่อไป

ต้องขออภัยจริง ๆ  จ้า  :sad4:


BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 30-11-2012 09:11:41
เหมือนปลายกำลังสารภาพรักเลยอ่ะ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 30-11-2012 09:21:24
หวาน  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 30-11-2012 09:36:33
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 30-11-2012 09:40:27
คม สารภาพรักด้วย >>ลูกอมรูปหัวใจ ฮิ้วววววววววววววววววววววววว :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-11-2012 09:56:30
อะไรอ่ะๆ ทำไมรู้สึกหวานๆ เนอะ :-[

ว่าแต่ดิวเกมส์นี่ชักจะยังไงๆอยู่นะ แอบเชียร์ 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 30-11-2012 10:01:36
ดิวเอาใจเราไปเลยยยยยยยย
อรั้ย เขิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 30-11-2012 10:02:47
หวานจริง ๆ ด้วย >////<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 30-11-2012 10:06:41
เวลาได้อ่านตอนหวานๆช่วงเช้านี้เหมือนเป็นกำลังใจในการทำงานเลย.....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 30-11-2012 10:14:31
:o8: คำพูดที่ออกมาจากปลายฟ้า  เหมือนเป็นคำบอกรักกลายๆ ของทั้งคู่ โดยที่ปลายฟ้าคงไม่รู้ตัว

แสดงว่าดิวก็รู้ว่าคมคิดยังไงกับปลายฟ้า เลยหาทางแกล้งเพื่อน   แต่กับเกมส์นี่คิดจริงจังเลยใช่ไหมหนุ่มดิว




หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 >; P.60
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-11-2012 11:56:16
ขอบคุณ ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 30-11-2012 12:46:54
สรุปคือดิวแกล้ง งั้นเราก็ได้คู่ใหม่อีกคู่แล้วซิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 30-11-2012 13:05:34
มาต่ออีกนะจะรอ






ใกล้จะรักกันได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 30-11-2012 13:40:09
น่ารักมากอ่ะคะ เป็นความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวกันขึ้น เป็นไปอย่างช้าๆ

ปล ดิวนี่ชอบเกมส์หรือเปล่าคะ หรือแค่แกล้งเล่น จะแกล้งไปแกล้งมาแล้วดันตกหลุมเองเปล่าเอ่น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: Milk ที่ 30-11-2012 14:22:45
หวานมากด้วยนะจ๊ะเต่าปลาย :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-11-2012 15:38:50
คู่นี้่เค้าค่อยๆซึมซับความรู้สึกกันนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 30-11-2012 18:51:34
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 30-11-2012 18:57:13
แค่ฮาร์ทบีท ก็สื่อความรู้สึกได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 30-11-2012 19:06:54
ใกล้แล้วๆๆ  หวานเริ่มมาแล้ว :-[ :-[


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 30-11-2012 19:53:40
ฮาอ่ะ ดิว เกม คู่นี้จะมีลุ้นรึเปล่าเนี่ย

ส่วนคู่เต่าปลายกับหนุ่มจิตอาสา
หวานชื่นใจจริง ๆ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 30-11-2012 19:54:57
หวาน

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 30-11-2012 20:15:27
 :o8: :-[ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-11-2012 21:04:32
คู่นี้ปลาย-คมหวานแน่นอน

แต่ดิว-เกมส์นี่มาไงน้า  ลุ้นคู่นี้จังเลย

บวกเป็ด  :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-11-2012 22:56:07
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 30-11-2012 23:17:52
ลูกอมฮาร์ทบีท  **สื่อรักรูปหัวใจ**
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 30-11-2012 23:21:25
หวานเจี๊ยบเลยน้องปลาย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 30-11-2012 23:44:22
ดิวสนใจเกมส์จริงหรือเปล่า หรือแค่อยากแกล้ง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 01-12-2012 05:35:51
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 01-12-2012 08:51:30
อั๊ยยะ!!

พ่อเต่าน้อยมีขงมีเขินละ แต่เราว่ายังไงก็ต้องมีตัวเร่งแฏิกิริยานะสองคนเนี่ยะ
ต้องให้เจ็บอลล่ากับเกมส์ช่วยนะ ฝั่งนู้นก็ให้ดิวช่วย

แต่แอบอยากอ่านตอนเต็ม ๆ ของเกมส์ดิวแฮะ ท่าจะมัน  อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 01-12-2012 13:21:29
รอวันที่รู้ใจตัวเองทั้งคู่ อยากรู้จะสารภาพรักกันยังไง อิอิ
ตกลงปลายจะจีบคมก่อนป่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 02-12-2012 00:32:47
หวานเวอร์ค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 04-12-2012 21:04:26
กรี๊ดดดดดด
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 15] 30/11/55 > P.60
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 04-12-2012 22:52:04
เข้ามารอจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 06-12-2012 14:03:46
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 16



“ไอ้ปลาย ยกกล่องนี้ขึ้นไปด้วย”


หน้าที่เดิมครับ...


ทั้งขาไปและขากลับ

นายปลายฟ้ายังคงดำรงตำแหน่งกรรมกรแบกหาม
สมกับรองหัวหน้าหน่วยสวัสดิการเหมือนเช่นเคย
เขาจึงต้องช่วยยกกล่องอุปกรณ์ครัวพวกจาน ชาม หม้อหุงข้าว
ขึ้นใส่ท้ายรถบัสเพื่อเตรียมตัวมุ่งหน้ากลับมหาวิทยาลัย



...นึก ๆ ไปสิบวันมันเร็วจนน่าใจหาย
เขายังจำวันแรกที่ขึ้นมาถึงยอดดอยนี้ได้อยู่เลย
ทั้งไอดิน กลิ่นธรรมชาติ และความมีน้ำใจของชาวบ้านที่มาต้อนรับ
มันทำให้เขาอยากจะยืดเวลาที่ได้อยู่รวมกันให้นานกว่านี้


ทว่าท้ายที่สุดทุกงานเลี้ยงย่อมต้องมีวันเลิกรา
ดังนั้น หลังจากที่ขนข้าวของเสร็จเรียบร้อย
พวกเราชาวค่ายจึงทยอยกันขึ้นรถประจำที่นั่ง
โดยมีพี่อ้อมและพี่ฟ้าเป็นคนช่วยเช็คชื่อ


“ทุกคนช่วยสำรวจข้าวของส่วนตัวให้เรียบร้อยด้วยนะคะ
แล้วช่วยมองคนข้าง ๆ ด้วยว่ามากันครบรึเปล่า
ถ้าใครลืมเพื่อนทิ้งไว้ที่นี่เราไม่ย้อนกลับมาเอานะค่า!!”


สาวหมวยพูดติดตลกเรียกรอยยิ้มยามเช้าจากคนบนรถ
ปลายฟ้านั่งข้างไอ้เกมส์บริเวณหน้ารถเหมือนขามา
แต่เขาไม่ได้สนใจฟังเสียงพิธีกรเท่าไร
เพราะตอนนี้เขากำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง
ด้วยว่าอยากจะเก็บภาพความประทับใจไว้ในความทรงจำเป็นครั้งสุดท้าย


ทว่ากลับมีเสียงบางอย่างดังขึ้น....


...เป็นเสียงเบา ๆ ที่แทรกดังมาจากด้านนอกของรถ



“พี่ปลาย...”


คนถูกเรียกสะดุ้งพรวดลุกขึ้นนั่งตัวตรงมองซ้ายขวาเลิกลั่ก


ใคร...


ใครเรียกเขา...


เสียงเล็ก ๆ เหมือนผู้หญิง

...ผีหลอกเหรอ


เฮ้ย! ไม่ใช่มั้งเช้าป่านนี้แล้ว

หรือว่าหูตัวเองจะฝาด...


นายปลายฟ้าจึงตั้งใจสงบนิ่งเงี่ยหูฟังอีกครั้ง
และเสียงเดิม ๆ ก็แว่วลอดผ่านคล้ายดังจากที่ไกล ๆ


“พี่ปลาย...”


“เฮ้ย! ไอ้เกมส์ได้ยินเปล่าวะ มีใครไม่รู้เรียกชื่อกู”


คนสงสัยรีบหันไปถามคนข้างตัวด้วยความไม่แน่ใจ
แต่เพื่อนซี้กลับขมวดคิ้วก่อนส่งเสียงจิ๊จ๊ะด้วยความรำคาญ


“ไรว่ะ กูไม่เห็นได้ยินเลย
มึงตื่นรึยังเนี่ย ละเมอเหรองะ...”


“พี่ปลาย...”


คราวนี้เสียงปริศนาดันดังขัดขึ้นมาก่อนประโยคจะพูดจบ
เขาสองคนหันมองหน้ากันอย่างมึนงง
ก่อนไอ้เกมส์จะเป็นฝ่ายสังเกตเห็นบางสิ่ง
มันชี้มือออกไปนอกหน้าต่าง
นายปลายฟ้าจึงรีบหันมองตามนิ้วของเพื่อน
ดวงตากลมเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อ
เมื่อเห็นชัดว่าเจ้าของเสียงปริศนานั่นคือใคร

เขารีบผุดลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งออกไปนอกรถทันที
โดยไม่ทันฟังเสียงห้ามจากพิธีกร


“อ่ะ เดี๋ยวค่ะน้องปลายจะไปไหนคะ รถจะออกแล้วนะคะ”


คำทัดทานใด ๆ ไม่เป็นผล
เพราะตอนนี้คนรีบร้อนก้าวลงจากรถบัส
ลดตัวลงอ้าแขนกว้างเพื่อให้ใครคนหนึ่ง
ซึ่งพุ่งตัวเข้ามาในอ้อมกอดเขาอย่างคุ้นเคย



“น้องกานดา”


ปลายฟ้าเรียกชื่อเด็กหญิงแก้มยุ้ยอย่างดีใจ
ไม่อยากจะเชื่อว่าน้องจะมาอยู่ด้วยกันตรงนี้
ทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะไม่เจอหน้ากันอีกแล้ว
คนในอ้อมกอดก็คล้ายจะรู้สึกเช่นเดียวกัน
เพราะมือเล็กดึงชายเสื้อเขาไว้ไม่ยอมปล่อยพลางงึมงำถ้อยคำเสียงเบา


“พี่ปลาย”


คำเรียกชื่อทำเอาคนฟังแทบน้ำตาร่วง
นี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินจากปากของเด็กหญิงตัวน้อย
เพราะปกติน้องกานดาจะขี้อายซ้ำยังไม่ค่อยพูด
จนนึกว่าจะจำชื่อเขาไม่ได้ซะแล้ว
แต่นี่ยังอุตส่าห์มาหาเพื่อมาส่งเขาตั้งแต่เช้า
มันเลยอดไม่ได้ที่จะซึ้งใจอยู่ลึก ๆ
แม้จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันไม่นาน
ทว่าความผูกพันมันกลับไม่ได้น้อยไปตามระยะเวลาเลย


“แกงอแงตั้งแต่เมื่อคืนแล้วน่ะคะ
บอกอยู่นั่นแหละว่าอยากเจอพี่ปลาย
เช้านี้เลยต้องพาแกมาส่งไม่งั้นคงไม่ยอม”


พ่อแม่ของน้องกานดาที่เพิ่งตามมาถึงเอ่ยคำอธิบาย
ก่อนคุณน้าจะเป็นคนยื่นถุงใส่ข้าวโพดต้มมากมายส่งให้


“อ่ะนี่จ๊ะ น้าฝากข้าวโพดมาให้กินกันตอนขากลับด้วย
คราวที่แล้วเอามาน้อยไปหน่อย คงไม่พอกินกันใช่มั้ยจ๊ะ
งวดนี้เลยเอามาให้เยอะแยะเลย แบ่ง ๆ กันไปนะ”


“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากจริง ๆ ครับ”


นายปลายฟ้ายกมือไหว้คนทั้งสองอย่างซาบซึ้งกับความมีน้ำใจ
พวกไอ้เกมส์ก็เดินลงมาช่วยหิ้วถุงข้าวโพดขึ้นไป
พร้อมคำขอบคุณที่เอ่ยกันอย่างไม่ขาดปากจากพวกเราชาวค่าย
ซึ่งต่างประทับใจกับการล่ำลาเป็นครั้งสุดท้ายของหมู่บ้านบนยอดดอยแห่งนี้




“น้องปลายขึ้นรถได้แล้วค่ะ”


เสียงระฆังจากพี่อ้อมเป็นสัญญาณบอกเวลาที่ต้องจากลากันจริง ๆ
เขาปล่อยเด็กน้อยที่อุ้มอยู่ลงพื้น
ครั้งนี้น้องกานดาไม่อิดออดเหมือนจะเข้าใจดีแล้ว
เพียงแต่ยังคงดึงชายเสื้อเขาไว้
พลางเงยหน้าที่เริ่มนองด้วยน้ำตาขึ้นพูดเสียงสะอื้น


“ละ..แล้วกลับมาหาหนูอีกนะคะ พะ..พี่ปลาย”


คนถูกรั้งชะงักค้างกับถ้อยคำที่ได้ยิน
น้ำตาเริ่มคลอหน่วยไม่แพ้กัน
ต่อให้เป็นลูกผู้ชายมาเจอคำขอที่ใสซื่อบริสุทธิ์แบบนี้
ใครมันจะไปทนไหว...


“ครับ แล้วพี่จะกลับมานะ”


คนรับปากตัดใจเอ่ยคำลา
กลั้นน้ำตาของตัวเองไว้ ดึงมือเล็กออกจากตัว
ปล่อยให้น้องกลับไปหาพ่อแม่
แล้วเดินหันหลังขึ้นรถกลับไปยังที่นั่งโดยไม่พูดไม่จา



รถบัสมหาวิทยาลัยจึงค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากโรงเรียน
ชาวค่ายโบกมือลาบุคคลที่มายืนรอส่ง

เขาหันมองภาพสุดท้ายของเด็กหญิงกานดา
ที่กลายมาเป็นจุดเล็ก ๆ ในสายตาจากนอกกระจกรถ



และแล้วไอ้ที่กลั้นไว้...


...มันก็ถึงจุดที่เกินจะอดทน



ปลายฟ้าปล่อยโฮออกมาทันที
ไม่สนแล้วตอนนี้ว่าใครจะมองตัวเองไม่แมน อ่อนแอ
ทำเป็นซึ้งกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี่

แต่สำหรับผู้ชายบ่อน้ำตาตื้นอย่างเขา
แค่ดูหนังยังอินเก็บมาร้องไห้ได้
แล้วกับเรื่องคำลาของเด็กผู้หญิงที่ไร้เดียงสาแบบนี้
ไม่แปลกเลยที่เขาจะปวดใจจนไม่สามารถหยุดน้ำตาของตัวเอง


เขาชันเข่าขึ้นมาซบหน้าลงสะอื้นไห้อย่างไม่มีเสียง
คนอื่น ๆ ที่เหลือบนรถอาจไม่ทันสังเกตเห็น
แต่เพื่อน ๆ เภสัชซึ่งนั่งอยู่ในละแวกเดียวกันต่างรับรู้พฤติกรรมของคนอ่อนไหว
ไอ้เกมส์ตบบ่าคนร้องไห้เบา ๆ คล้ายปลอบใจ
ส่วนบอลล่าก็ยื่นยาเม็ดเล็กมาให้พร้อมกับขวดน้ำ


“พ่อเต่าน้อยกินยาแก้เมาก่อนเถอะนะ
เดี๋ยวลงเขาแล้วจะเมารถปวดหัวอีก”


คนร้องไห้ปาดน้ำตาพลางรับยาจากเพื่อนที่นั่งอยู่เบาะหน้า

ดีเหมือนกัน...
กินซะจะได้หลับ ๆ ไป
กว่าจะลงไปถึงในเมืองก็คงตื่นพอดี
หวังว่าตอนนั้นเขาคงจะทำใจได้บ้างแล้ว


ปลายฟ้าจึงจัดการหยิบยาใส่ปากก่อนกรอกน้ำตาม
นั่งเอนหลังหลับตาบนรถซึ่งโคลงเคลงไปมา


และเพียงไม่นาน....

คนที่โดนฤทธิ์ยาจึงค่อย ๆ เข้าสู่ห้วงนิทราผล่อยหลับไป...


.....


....


..


.



อุ่น...


ความรู้สึกแรกหลังจากที่นายปลายฟ้าตื่นคือความอุ่น
อุ่นสบายเหมือนมีอะไรมาห่มตัวเอาไว้
เขาค่อย ๆ ขยับกายก่อนเปิดเปลือกตามอง
เพื่อพบกับดวงตาคมของใครบางคนที่กำลังมองกลับมาอยู่เช่นกัน


“ขอโทษ ทำให้ตื่นเหรอ”


คนถูกทักส่ายหน้าขยี้ตาด้วยความงัวเงีย
ก้มลงมองร่างกายตัวเองที่เพิ่งถูกห่มคลุมด้วยผ้าห่มสีน้ำเงิน
ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าของจะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนคนเดียวที่เหลืออยู่บนรถ


หือ?


...คนเดียวที่เหลืออยู่


นี่มัน คมสัน ประธานค่ายไม่ใช่เหรอ

อ้าว...แล้วทำไมมันถึงมานั่งอยู่ข้างเขาได้ล่ะ

ไอ้เพื่อนคนอื่นมันหายหัวไปไหนกันหมด


คนเพิ่งรู้สึกตัวเหลียวมองซ้ายขวาบนรถมหาวิทยาลัยที่ว่างเปล่า
ซึ่งจอดหยุดนิ่งสนิทอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นจนเขาต้องหันมาถาม


“ที่นี่ที่ไหน”


“น้ำตก เราปล่อยให้ไปเดินเล่นซื้อของฝากชั่วโมงหนึ่ง”


อ้อ...เก็ตล่ะ

สงสัยพวกเพื่อนคงเห็นว่าเขาหลับอยู่เลยไม่อยากจะปลุกสินะ
แล้วนี่มันลงไปนานแค่ไหน เผื่อเขาจะได้ตามไปทัน


“เออ...แล้วปล่อยให้ลงไปตั้งแต่กี่โมง”


“สิบโมง”


ดวงตากลมก้มมองนาฬิกาจากมือถือของตัวเอง
อีกครึ่งชั่วโมงจะสิบเอ็ดโมง
นี่เขาหลับไปตั้งสามชั่วโมงกว่าเลยเหรอวะเนี่ย
สงสัยฤทธิ์ยาแก้เมาจะแรงจริง
หรือไม่ก็คงเป็นเพราะเขาเพลียจากการร้องไห้มากเกินไป


“ปลายจะลงไปมั้ย?”


คำถามที่ดังขึ้นจากร่างสูงทำให้คนฟังหยุดคิดอย่างลังเล


นั้นสิ...เอาไงดี

คือ...ใจมันอยากนะ
แต่เหมือนร่างกายเหมือนไม่พร้อม
มันยังมึน ๆ เพลียอยู่แปลก ๆ
ร้องไห้หนักขนาดนั้น
ป่านนี้สภาพเขาคงทุเรศน่าดู
ตาเตอไม่บวมไปหมดแล้วเหรอวะ
ขืนลงไปเดินเล่นคงจะเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้านกันพอดี
อีกสักพักพวกมันก็คงจะขึ้นมาแล้ว
อยู่บนนี้อาจจะโอเคมากกว่าก็ได้


ปลายฟ้าจึงส่ายหน้าปฏิเสธ
แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วย้อนถามอีกคนหนึ่งกลับ


“แล้วนายไม่ลงไปล่ะ”


“ลงไปแล้ว”


คมสันตอบสั้น ๆ หากแต่สิ่งที่คู่สนทนาไม่รู้
คือร่างสูงลงไปแค่สิบนาทีก็ต้องรีบกลับมาที่รถ
เพราะในใจมันรู้สึกไม่ดี เที่ยวไม่ค่อยสนุกพิกล
มัวแต่นึกกังวลถึงใครบางคนที่ปล่อยทิ้งไว้ในรถคนเดียวเพียงลำพัง


คนจิตอาสามองอีกฝ่ายที่นั่งเงียบ ๆ
ก่อนจะขยับตัวเดินไปด้านหลังรถ
เพื่อหยิบบางสิ่งมายื่นส่งให้คนที่เพิ่งตื่น


“หิวรึเปล่า กินข้าวโพดต้มมั้ย”


คำว่า ‘ข้าวโพดต้ม’ สะกิดให้ปลายฟ้าหันมอง
และทันใดนั้นความรู้สึกซึ่งเหมือนจะถูกลืมไปแล้ว
มันกลับตีตื้นขึ้นมาใหม่อีกครั้งจนร้อนผ่าวอยู่ในกระบอกตา


คนน้ำตาคลอรีบเบือนหน้าหนีไปทางกระจก
ไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นสภาพไม่ได้เรื่องของตัวเอง
นึกโทษความช่างอ่อนไหวบ้า ๆ ที่แก้ไม่หาย
มันน่าอายจะตาย เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ชายวัยยี่สิบควรทำ


ปลายฟ้าพยายามใช้มือขยี้ตากลบเกลื่อน
หวังให้คนมองไม่ติดใจสงสัย
ทว่าชั่วขณะที่กำลังเช็ดน้ำตาบนใบหน้า
ร่างของเขากลับถูกดึงเข้ามาปะทะบ่าของคนข้างตัวอย่างแรง
พร้อมกับได้ยินเสียงคำปลอบโยน



“ไม่ต้องร้องไห้หรอก เดี๋ยวเราค่อยกลับมาน้องเขาใหม่ก็ได้”



คนถูกกอดไม่ได้ตกใจกับการกระทำที่เพิ่งเกิดขึ้น
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขานึกเจ็บ
คือคำปลอบซึ่งจี้ใจเต็ม ๆ
จนเขาต้องเงยหน้าขึ้นมาเถียงเสียงดังลั่น


“พูดบ้าอะไร!! คิดว่ามันกลับมาได้ง่าย ๆ เหรอ
นี่มันเลยนะไม่ใช่กรุงเทพ มันห่างกันตั้งกี่กิโล
แล้วเราจะกลับมาหาน้องเขาอีกได้ยังไง!!”



...ใช่ ที่เขาปวดใจจนร้องไห้ก็เพราะเรื่องนี้
แม้จะรับปากน้องกานดาไปแล้วว่าจะกลับมาหา
แต่รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นไปได้ยากเหลือเกิน
ทั้งระยะเวลา ทั้งการเดินทาง
มันดูคล้ายจะไม่มีโอกาสได้เจอกันในเร็ววัน
ถ้าอย่างนั้นอีกนานแค่ไหนถึงจะได้พบ
น้องกานดาไม่ลืมเขาไปหมดแล้วเหรอ


คมสันมองคนโวยวายในอ้อมแขน
ทว่าก็ยังคงพยายามหาคำปลอบ


“ถ้าปลายอยากมาเราจะพามาเอง”
ปีหน้าเรายื่นเรื่องจัดค่ายใหม่ที่นี่อีกก็ได้”


“หึ ตลก จะไปทำได้ไงล่ะ”


ปลายฟ้าส่งเสียงดูถูกในลำคอ

...มันพูดเหมือนง่ายเลย
จะมีใครอนุญาตให้ไปทำค่ายอาสาที่เดียวซ้ำ ๆ บ้าง

แต่คนโดนว่ากลับไม่ถอดใจซ้ำยังเอ่ยอธิบายร่ายยาว


“ได้สิ ปีหน้าเรากลับมาสร้างห้องน้ำให้น้องก็ได้
ยังเหลือห้องเรียน โรงอาหาร โรงพละ สนามฟุตบอล
ห้องโสต ห้องคอม ห้องแล๊ป ห้องประชุม
ยังมีอีกเยอะแยะที่เรายังไม่ได้ทำ”



...เดี๋ยวนะ

ไอ้ห้องน้ำ ห้องเรียนยังพอเข้าใจ
แต่ไอ้ห้องโสต ห้องแล๊ปมันจะมีไปทำไมวะ
นี่มันโรงเรียนบนดอยไม่ใช่มหาลัยเอกชน

แล้วดูมันดิ...

ทำหน้าซะจริงจังเลย

...นี่เอาจริงเหรอวะเนี่ย!?



“บ้าดิ ถ้าทำได้ขนาดนั้น เอางบมาสร้างให้ม.เราก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”


เขาพูดกวนกลับ
เผลออมยิ้มไปกับความคิดพิสดารของประธานค่าย
แม้จะเป็นคำบอกบ้า ๆ บอ ๆ
แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขารู้สึกสบายใจมากขึ้น
และคล้ายกับคู่สนทนาจะสังเกตเห็นได้
เพราะคมสันถอนหายใจเหมือนคนโล่งอก


“ดีแล้ว ยิ้มได้ซะที”



คำทักทำให้ปลายฟ้าชะงักราวกับเพิ่งรู้สึกตัว


จริงด้วย...

อยู่ดี ๆ  น้ำตาก็หายไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
ถึงจะฟังดูเหมือนคำปลอบที่ไม่ได้เรื่อง
แต่เขาเชื่อว่าคนคนนี้กำลังช่วยทำให้เขาสบายใจ


...อีกแล้วใช่มั้ย

เขาปล่อยให้มันมาช่วยอีกแล้ว
มันจะเป็นคนดีมีจิตอาสาไปถึงไหน
ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องมาดูแลเขาถึงขนาดนี้ก็ได้แท้ ๆ
แต่ก็ยังอุตส่าห์มาคอยช่วยปลอบเขาให้รู้สึกดีขึ้น


“ขอบใจนะ”


นายปลายฟ้าเอ่ยคำขอบคุณ
ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไรกับคนมีน้ำใจคนนี้
แต่คนฟังกลับส่ายหน้าปฏิเสธ


“ไม่เป็นไร เราเต็มใจทำ
ถ้าอยากขอบคุณเราก็ช่วยยิ้มบ่อย ๆ หน่อย
เราบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าชอบปลายยิ้ม”


คำพูดแปลกๆ ที่ได้ยินทำเอาคนถูกขอต้องรีบเปลี่ยนความคิด


อ้าว...เมื่อกี๊เพิ่งชมมันไปแหม่บ ๆ
นี่มันดันแกล้งพูดแหย่เล่นซะอย่างนั้น


เขาขมวดคิ้วมุ่น หันไปถามคนที่เอ่ยปากชมอย่างไม่เข้าใจ


“เรายิ้มแล้วดีตรงไหน
เป็นผู้ชายมายิ้มให้กัน
มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”


คมสันหยุดนิ่งไปเล็กน้อย
คล้ายกับกำลังใคร่ครวญพิจารณา
ก่อนจะเอ่ยคำตอบขึ้นมา


...และเป็นคำตอบที่นายปลายฟ้าได้แต่นิ่งอึ้ง




“เราไม่รู้ว่าแปลกมั้ย

เรารู้แค่ว่า...

เราชอบ...”





ห่ะ..


อะไรนะ..



ชะ...ชอบ



มันชอบอะไร...


...ชอบที่เขายิ้มเหรอ


เฮ้ย! บ้ารึเปล่าวะ!!

ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครพูดแบบนี้เลย
มันต้องแกล้งพูดเล่นอีกแน่ ๆ
ใช่ ๆ นึกว่าเป็นคนดีที่ไหนได้
โห...ทำซะเนียนเลยนะ


อ้าว...แล้วอยู่ ๆ เขาจะเสือกหน้าร้อนขึ้นมาทำไม


ละ...แล้วตามัน


เฮ้ยยยย...ทำไมตามันถึงระยิบระยับขนาดนั้นวะ


เล่นมาจ้องกันไม่หยุดแบบนี้...


เขาก็...


ก็...


ขะ...เขินเป็นเหมือนกันนะโว้ยยยย!!



นายปลายฟ้าหน้าแดงซ่าน
เบือนหน้าหลบดวงตาคมรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาดื้อ ๆ
และก่อนที่ใครจะทันได้โต้ตอบอะไร
กลุ่มคนที่เดินขึ้นรถกลับดังขัดจังหวะ
โดยมีเสียงสาวกึ่งแมนนำขบวนมา


“พ่อเต่าน้อยตื่นรึยังจ๊ะ... อุ๊ย!
มาขัดจังหวะอะไรรึเปล่าคะเนี่ย”


บอลล่าอุทานเสียงหวานขึ้นมาทันที
เมื่อเห็นเพื่อนนั่งอยู่ในท่าแปลก ๆ เหมือนกอดกันกับใครคนหนึ่ง
ซึ่งร่างสูงก็รีบลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนหันไปตอบเคลียร์ความเข้าใจผิด


“เราแค่เอาข้าวโพดมาให้ปลาย”


บอลล่าหลิ่วตาลงคล้ายไม่อยากเชื่อ
ก่อนจะจีบปากจีบคอส่งเสียงแซว


“แหม...ดูแลดีสมเป็นบัดเดอร์จริง ๆ
นี่กะทำจนจบค่ายเลยใช่มั้ยคะเนี่ย
ทีแกไม่เห็นทำแบบนี้บ้างเลยนะยะ ไอ้เกมส์”


ท้ายประโยคไม่ลืมหันไปกัดบัดเดอร์ตัวเองที่เดินตามมาข้างหลัง
จนไอ้เกมส์ได้แต่โอดครวญ


“โห... เจ๊ ใครมันจะไปคอยดูแลได้ตลอดขนาดนั้นวะ”


“แต่ผมจบค่ายไปแล้วก็ยังทำให้เกมส์ได้ต่อนะครับ”


เสียงปริศนาที่ดังขัดขึ้นมาทำเอาทุกคนหันไปมอง
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนุ่มหล่อประจำค่าย
ที่พอไอ้เกมส์ได้ยินถึงกับสะดุ้งเฮือก
ยิ่งหันไปมองดิวซึ่งยิ้มหวานส่งกลับมา
คนมีปมอดีตในใจกับการถูกผู้ชายจีบ
จึงรีบเดินกลับมานั่งประจำที่ทันทีโดยไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
แถมยังดึงข้าวโพดจากต้มปลายฟ้าไปแทะกิน
กลบเกลื่อนการกระทำของตัวเองเพื่อเลี่ยงสถานการณ์
ท่ามกลางสายตามึนงงของคนในวงสนทนา

หากแต่ยังไม่ทันที่ใครจะถาม
ทุกคนก็ต้องแยกย้ายสลายตัวกลับไปนั่งประจำที่
เมื่อชาวค่ายคนอื่นทยอยตามมาขึ้นรถมาจนครบ

ก่อนเริ่มต้นออกเดินทางต่ออีกครั้งหนึ่ง....


.....


...


..


.




...ในที่สุด

หลังจากใช้เวลาอีกเกือบสิบชั่วโมง
รสบัสจึงได้เดินทางมาจนถึงมหาวิทยาลัย
แต่สำหรับพวกเขากลุ่มเด็กเภสัชจะกลับเลยยังไม่ได้
เพราะต้องทำหน้าที่ขนของไปเก็บในห้องภาคของคณะวิศวะก่อน
กว่าจะล่วงเลยเบ็ดเสร็จนาฬิกาก็บอกเวลาเกือบสี่ทุ่มพอดี



“ป่ะ กลับกันเถอว่ะ”


เกมส์สะพายกระเป๋าเป้พลางหันมาพูดกับปลายฟ้า
ซึ่งต้องซ้อนมอเตอร์ไซต์ไปด้วยกัน
เนื่องจากเขาสองคนแม้จะอยู่คนละห้องแต่ก็อยู่หอเดียวกัน


“กลับกันดี ๆ นะครับ”


ดิวร้องบอกพลางโบกมือลาส่งให้คนทั้งคู่
ไอ้เกมส์เบือนหน้าหนีรีบเดินไปสตาร์ทมอเตอร์ไซต์ทันที
ส่วนปลายฟ้าหันไปโบกมือลากลับ
ก่อนเผลอมองใครอีกคนที่ยังง่วงอยู่กับการเคลียร์ของเป็นครั้งสุดท้ายตามประสาประธานค่าย


...และทันใดนั้นคนแอบมองก็ต้องสะดุ้ง
เมื่อร่างสูงหันหน้ามากลับมาสบตาเข้าพอดี

ดวงตาของเขาประสานกับนัยน์ตาคมชั่วครู่
ก่อนตนเองจะรีบก้มหลบลงอย่างรวดเร็ว


...อ้าว แล้วแม่งเขาจะหลบทำไมวะ
มันยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
แต่พอเห็นหน้ามันทีไร
ดันเผลอนึกถึงคำพูดบ้า ๆ นั่นขึ้นมาได้



“เราไม่รู้ว่าแปลกมั้ย

เรารู้แค่ว่า...

เราชอบ...”




...ชอบเชิบอะไรกันวะ

พูดมาได้ไม่อายปากกับผู้ชายแท้ ๆ
มันต้องแปลกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ


เออ... ใช่กับผู้ชายแท้  ๆ เหมือน ๆ กันมันต้องแปลก


ละ...แล้วนี่อยู่ ๆ หน้ามันดันร้อนขึ้นมาได้ไงวะ


เฮ้ยยย!!  เขาจะเขินซ้ำซากอีกทำไมเนี่ย!!


...โว้ยย!!  ไม่เอาเลิกคิด ช่างแม่งมันแล้ว!!



คนฟุ้งซ่านโวยวายกับตัวเองในใจ
รีบเดินไปซ้อนมอเตอร์ไซต์เพื่อนซี้
เพื่อตรงดิ่งกลับไปที่พักของตัวเอง


ทิ้งให้หนุ่มวิศวะสองคนมองขบวนรถที่แล่นจากไปในความมืด



“ไปค่ายครั้งนี้คุ้มวะ ได้อะไรกลับมาเยอะเลย มึงว่ามั้ย?”


หนุ่มหล่อพูดลอย ๆ ออกมาอย่างอารมณ์ดี
เมื่อเหลือแต่พวกเขาเพียงลำพัง
ซึ่งนายคมสันก็พยักหน้ารับคำ


ใช่...

...เขาได้อะไรกลับมาเยอะจริง ๆ



ร่างสูงนึกถึงใบหน้าของใครอีกคนแล้วก็ต้องเผลอยิ้มบาง
ก่อนมือใหญ่จะล็อคกุญแจห้องเก็บของ สำรวจเป็นครั้งสุดท้าย
แล้วจึงหันไปขึ้นมอเตอร์ไซต์ขี่กลับไปหอตัวเองบ้าง


...นับเป็นอันว่าค่ายวิศวะอาสาพัฒนาชนบทครั้งนี้จบลงอย่างสมบูรณ์



แต่ลึก ๆ แล้วสำหรับนายคมสัน


เขาเชื่อว่าเรื่องราวบางอย่างในความสัมพันธ์...



...มันเพิ่งกำลังจะเริ่มต้นขึ้น





--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC




ขออภัยที่ห่างหาย ช่วงนี้ไม่สบายค่ะ เป็นหวัดเจ็บคอมีไข้ครบสูตร  :sad4:
แถมพรุ่งนี้ต้องมีภารกิจไปกระบี่
คงจะไม่สามารถมาต่อเรื่องได้อีกประมาณหนึ่งอาทิตย์    :o12:

ยังไงก็ช่วยรอน้องเต่าปลายอีกนิด

(ความจริงคนอ่านเขาก็รอมานานแล้วย่ะ
กว่าความสัมพันธ์จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างได้
แม่ปาเข้าไป 16 ตอนแล้ว ชิชะ!)  :angry2:


อร๊ายยย!! ต้องขอโต๊ดจริง  ๆ ค่า   :impress3:
มันเป็นคอนเซปต์ของเรื่อง (เหรอยะ?)

ยังไงช่วงนี้ก็อย่าลืมรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
แล้วเจอกันอาทิตย์หน้านะจ๊ะ จุ๊บ ๆ


 :L2:

ด้วยรักและห่วงใย


BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 06-12-2012 14:36:28
อ่า น่ารักเนอะ >_<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 06-12-2012 14:42:27
 :laugh: สมกับที่เป็นเต่าปลายนานจริงๆ จนป่านนี้ยังไม่ชัดเจนเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 06-12-2012 14:50:48
แอ๊กก น่ารักวุ้ยยยยย  :-[ อ่านไปยิ้มแก้มแทบแตกเลยค่ะ 5555
ตอนนี้ยาวๆมากๆเลยอ่านๆไปเพลิน ลุ้นตลอด เอ้ยอย่าเพิ่งหมดนะ ขออีกนิด
อย่าลืมรักษาสุขภาพเช่นกันค่าา จะได้มาอัพน้องเต่าปลายบ่อยๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-12-2012 14:56:49
จบค่ายแล้วก็อย่าปล่อยน้องเต่าปลายลอยละล่องคนเดียวนะ หมั่นเทียวไปดูแลด้วย คืนนี้อย่าลืมโทรหาราตรีสวัสดิ์ด้วยเข้าใจนะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 06-12-2012 15:15:51
รอความสัมพันธ์ที่ลงเอยได้ มาต่ออีกนะ เค้าจะรอ






รู้ใจกัน ขอให้มี ๒ คู่ในเรื่องเดียว ได้แก่ คม-ปลาย และ ดิว-เกมส์ ยังไงเราชอบคู่นี้ แต่ดิวต้องจริงจังและจริงใจนะจ๊ะ อย่าลืม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 06-12-2012 15:58:55
จะละลายกับนายคมสัน เป็นผู้ชายที่อบอุ่นมากกกกกกกกกกกกก อยากได้แบบนี้ซักคน อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 06-12-2012 16:56:06
ไปกระบี่ก็รักษาสุขภาพด้วยนะจ๊ะตัวเอง ^^
รออ่านพ่อเต่าน้อยต่ออยู่จ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 06-12-2012 17:12:26
น่ารัก...พัฒนาขึ้นทีละเล็กละน้อย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 06-12-2012 17:24:49
ตามมาแอบกรี๊ดแอบลุ้นค่ะ  หวานเบา ๆ เนิบๆ แต่เพิ่มขึ้นทุกตอน เต่าปลายกับประธานคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-12-2012 17:39:53
น่ารักอ่ะ ปลายขี้แยจังแต่คมสันก็คอยดูแลอยู่เสมอนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 06-12-2012 18:42:14
หวานอ่ะ หวานจริงๆ อย่าลืมสานสัมพันธ์ต่อนะ พ่อจิตอาสา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 06-12-2012 19:23:13
 o13

เค้าบอกชอบกันด้วย อ๊ายยย  เขินแทนปลาย

รอตอนหวานๆที่กำลังมา !?

บวกเป็ดและรอต่อไป

 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 06-12-2012 19:41:47
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 06-12-2012 19:50:32
ว้าย มาหยอดคู่ดิวเกมส์ไว้แบบนี้เค้าก็อยากอ่านสิ
คู่น้องปลายนี่เริ่มแล้ว แต่เรารู้สึกว่ามันไม่มีทางปุบปับแน่ๆ น่าจะอีกนาน
รักษาสุขภาพนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 06-12-2012 20:31:24
อย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

สำหรับน้องปลายแล้วรอได้เสมอค่ะ

ค่อยๆ กระดื๊บไปอย่างช้าๆ แต่ทว่ามั่นคง

เรื่องของความรักต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และเข้าใจ

รอตอนต่อไปค่ะ

 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 06-12-2012 20:44:25
รักษาสุขภาพนะคะ
แล้วก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพค่ะ

ตอนนี้หวานน่ารักมาก
อ่านไปอมยิ้มไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-12-2012 20:46:32
ยังมีเวลาเหลือเฟือ
ทั้งคู่ต้องนัดเจอกันเพื่อเลี้ยงบัดดี้ บัดเดอร์ กันอยู่แล้ว
แต่ก็ลุ้นคู่ดิวกับเกมส์อยู่เหมือนกันค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 >; P.61
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-12-2012 21:08:44
ขอบคุณ ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 06-12-2012 21:13:45
อ่านตอนแรกน้ำตาซึมกับน้องกานดา ที่เรียก "พี่ปลาย"
แต่มาอมยิ้มกับคำปลอบของจิตอาสาคมที่ปลอบให้ปลายหายเศร้า

คนเขียนอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 06-12-2012 21:23:35
ชอบครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 06-12-2012 23:32:57
หนุ่มคมดูแลน้องปลายไม่ห่างเลยนะ :-[


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 07-12-2012 11:59:25
ภาคนี้มีลุ้น สองคู่ใช่ไหมคะ เต่าปลาย กับ ประธานคมน่าโหด และ เกมส์ กับ พ่อเทพบุตรดิว สุดหล่อ โฮะๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 07-12-2012 12:48:26
 :กอด1: แอบมาอ่านจนทันซีรีส์ตอนปัจจุบันแล้ว น่ารักทุกเรื่องเลยค่ะ มีติดตอนแรกๆ ที่อ่านร้านกาแฟกะปาท่องโก๋ว่าคล้ายๆ ของท่านAoikyosuke อ่านไปอ่านไป ไม่เหมือนแต่(บาง)ช่วงจี๊ดดดด ด ด กว่า ในความคิดเราของท่านAoiฯ จะมีกลิ่นไอของความอาร์ต หน่อยๆ แต่ของ Bittersweet จะยังไงไม่รุ มันอ่านแล้วติดใจอย่างแรงงง งง ง  ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีนักเขียนที่เราอ่านแล้วจี๊ดเท่าไหร่

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีที่แ่บ่งปันนะคะ ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 07-12-2012 13:11:06
เดินทางปลอดภัยจ้า 1 อาทิตย์รอได้ชิวๆ
รักษาสุขภาพด้วยนะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 07-12-2012 14:15:37
อีกนิดนึง
มีบอกชอบเชิบกันแย๊วววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 07-12-2012 18:35:31
น่ารักอ่ะ เขินนนนน :-[

ว่าแต่ดิวเกมส์ ยังไงๆอยู่นะ อิอิ แอบเชียร์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 08-12-2012 11:42:55
ยิ้มค่อยๆ แค่เธอยิ้มค่อยๆ หัวใจก็ลอยไปแสนไกล~~ 
-ชอบที่เธอยิ้มมา เต้ย-


แหม๊ะ เพลงนี้ช่างเข้ากับตอนนี้จริงๆ เลยนะคะ เนาะๆ
ก่อนอื่น.. ขอโทษษ หายไปหลายตอน กลับมาเมนท์รวดเดียวเลยเนาะ


โหยยย กว่าจะอะไรลงตัวก็ปาไปสิบหกตอน นี่ถ้าจะบอกรักกันนู่นนนน สามสิบแน่นอน เอิ๊กกก
แต่ก็ดีนะคะ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป  จะได้รู้สึกถึงรายละเอียดของใจแต่ละคนได้อย่างถี่ถ้วน

ว่าแต่นะ... ดิวกับเกมส์นี่จะมีโอกาสได้มีเรื่องของตัวเองหรือเปล่า เก๊าอยากอ่านนนนนนนนนน



โอ๊ย แต่น้องคมมาบอกแค่นั้น คนที่ได้ฟังเขาก็เก็บไปแอบคิดไกลได้นะคะคุณน้อง
พูดอะไรพูดให้ชัดเจนไปเลย แมนๆ ไปเลยเซ่


ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ จุบุ :3

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 09-12-2012 22:30:59
ความสัมพันธ์ทีาก่อตัวช้าๆ มันทำให้ซึมซับอารมณ์ของตัวละครดีนะคับ...
ปล.ไม่สบายหายไวๆนะคับ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 10-12-2012 20:50:34
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 10-12-2012 21:11:08
ทำไมเค้าคิดถึงพ่อเต่าน้อยแล้วอ่ะ T_T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 12-12-2012 00:03:25
หุหุ งงๆกันมานาน  ความหวานเริ่มจะคืบหน้ากันแล้วสินะ
ว่าแต่นายดิวของเรานี้มันหยอดไปทั่วจริงๆนะ
จับคู่กับเกมส์ไปเลยซะดีม่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 12-12-2012 11:28:00
ย่องมาเล็ง ข้าวโพดต้ม  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 16] 06/12/55 > P.61
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 12-12-2012 13:55:54
กดบวกปล่อยเป็ดให้เต่าน้อยน่ารัก
ค่ายจบแต่เชื่อเถอะ คมสันไม่จบแน่นอน
เบอร์โทรอยู่ในมือ หุหุ
ชอบเรื่องนี้ ไว้จะตามมาอ่านอีกทีคริสต์มาสโน่น
ไม่ได้เข้าเน็ตแต่คิดถึงเสมอ ^^ เจอกัน
 :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 13-12-2012 15:00:43
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 17



“เฮ้ย! คะแนนจริยศาสตร์ออกแล้วเว้ย!!”


ไอ้เกมส์ร้องเสียงดังอย่างตื้นเต้น
เรียกให้คนในกลุ่มที่กำลังงมอยู่กับข้าวมื้อกลางวัน
เงยหน้าขึ้นมาจ้องไอแพดสามของมันทันที


...ตอนนี้เปิดเรียนเทอมสองมาได้สองอาทิตย์แล้วครับ
คะแนนเกรดวิชาอื่นออกไปจนครบหมดแล้ว
เหลือก็แต่วิชาพิเศษนี้ที่ยังคงติดตัว I ให้เสียประวัติ
จนคนในกลุ่มต้องคอยไปเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามอาจารย์ชลิดาตั้งแต่เปิดภาคเรียน
ว่าทำไมถึงไม่ปลดล็อกเกรดวิชาจริยศาสตร์เสียที


ไม่ใช่อะไรหรอกครับ...
ขืนรอนานกลัวอาจารย์อาจส่งเกรดไม่ทันกำหนดเวลาของมหาวิทยาลัย
ไอ้ที่เห็น I อยู่หลัด ๆ จะกลายเป็น F ไปเสียก่อน

แต่พอได้ยินว่าเกรดออก
นายปลายฟ้าจึงต้องละมือที่กำลังคีบเส้นเล็กต้มยำของตัวเอง
หันมาให้ความสนใจกับคนที่กำลังรอโหลดตารางเรียนออนไลน์
เช่นเดียวกับบอลล่ารีบชะโงกตัวมองข้ามหน้าจออย่างลุ้น  ๆ


“ไหน ๆ แกได้เกรดอะไรย่ะ”


คำถามคำเดียวที่ทุกคนอยากรู้
เพราะอย่างที่เคยบอกว่าวิชาจริยศาสตร์นั่นไม่ได้เป็นวิชายากเย็นอะไร
ข้อสอบทฤษฏีห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็ออกตามหนังสือเป๊ะๆ เรียกว่าใครอ่านมาก็ทำได้
แต่ไอ้ที่มันน่าลุ้นคือข้อสอบวิชาปฏิบัติหรือโปรเจคอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือเนี่ยแหละ
ไปถามคนเรียนกลุ่มอื่นเขาได้ A กันเป็นทิวแถว
แต่สำหรับกลุ่มที่ไปส่งโปรเจคช้าแถมโดนจับยัดให้ทำค่ายวิศวะอาสาเอาดื้อ ๆ แบบนี้
ไม่รู้ว่าอาจารย์จะตัดเกรดพวกเขาลงไปอีกรึเปล่า


ปลายฟ้าจึงพยายามตั้งใจเงี่ยหูฟังคำตอบ
จากคนที่มองตารางผลการเรียนซึ่งพูดเพียงสั้น ๆ
แต่เป็นถ้อยคำที่สร้างความลิงโลดให้ทุกคนที่ได้ยิน



“A”



“กรี๊ดดด!! เริ่ดมากกกกก!!
ฉันจะได้ไม่ต้องมาทนเรียนซ้ำกับแกอีกปี
เบื่อขี้หน้าแกจะแย่แล้ว!”


บอลล่ากรีดร้องอย่างตื้นเต้นดีใจ
เพราะถ้าหากไอ้เกมส์ได้ A แล้ว
แสดงว่าคะแนนโปรเจคที่ทำอาจารย์ไม่ได้ตัดเกรดลง
ทุกคนในกลุ่มก็น่าจะได้คะแนนเท่า ๆ กันหมด



ปลายฟ้าถอนหายใจอย่างโล่งอก
ความจริงเขาไม่กล้าหวังว่าตัวเองจะได้ A หรอก
แค่ไม่ตกก็บุญหัวขนาดไหนแล้ว
แต่ที่ได้คะแนนสูงขนาดนี้คงเป็นเพราะอาจารย์เห็นว่า
พวกเขาทำผลงานค่ายวิศวะอาสาออกมาได้ดีจริง ๆ


...ถึงอย่างนั้นส่วนหนึ่งที่มันสำเร็จได้
คงไม่ใช่เพราะฝีมือพวกเขาอย่างเดียว


“นี่ต้องขอบคุณพวกเด็กวิศวะด้วยนะเนี่ย
ถ้าไม่ได้พวกเขาช่วยล่ะก็แย่แน่เลย
ดีที่ตอนทะเลาะกันไม่ได้มีเรื่องมีราวใหญ่โต
ไม่งั้นนะชั้นชวด A แหง ๆ
เฮ้อ...พูดไปแล้วก็คิดถึงเนอะ”


เสียงหวานกึ่งแมนบอกแทนความในใจที่ปลายฟ้ากำลังคิดอยู่



จริงด้วย...

นึก ๆ ไปแล้วตั้งแต่เปิดเทอมมายังไม่ได้เจอพวกนั้นอีกเลย
แต่ก็แน่ล่ะครับ เรียนกันคนละคณะมันจะไปเจอกันได้ง่าย ๆ ที่ไหน
ปกติถ้าไม่ใช่เพราะต้องติดต่อธุระเรื่องค่ายก็ไม่เคยเจอหน้ากันอยู่แล้ว
เลยคล้ายกับว่าอีกฝ่ายหายกันไปจากกันและกันในชีวิต
น่าเสียดายทั้ง ๆ ที่คิดว่าจะได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ แล้วแท้ ๆ ฮึก....


คนบ่อน้ำตาตื้นสูดน้ำมูกสะอื้น
มือวางตะเกียบชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง
เหมือนคนหมดอารมณ์กินเพราะกำลังเศร้า


...แต่ไม่ใช่ครับ

ไอ้ที่วางตะเกียบทำท่าคล้ายจะร้องไห้เนี่ย


...เพราะแม่งกูเผ็ด!


เล็กต้มยำบ้าอะไรวะ!!


...เผ็ดฉิบหายเลยครับ


เมื่อกี๊ตั้งใจจะไปซื้อน้ำแต่คนมันเยอะ
เลยกะว่าจะรอกินเสร็จก่อน
แต่ตอนนี้คงรอไม่ไหวแล้ว
เผ็ดจนน้ำมูกไหล แสบคอไปหมดแล้ว

...แม่ค้าแม่งเอาโคตรพริกนรกทองแดงอะไรมาใส่วะเนี่ยย!!



“ไปซื้อน้ำก่อนนะ”


คนเผ็ดลิ้นชาลุกขึ้นบอกคนบนโต๊ะ
ซึ่งได้รับคำตอบมาเป็นการพยักหน้าส่ง ๆ
แต่ไม่มีใครคิดจะลุกไปเป็นเพื่อนอย่างเช่นทุกที
ด้วยรู้ดีอยู่แล้วว่าขืนรอให้พ่อเต่าน้อยประจำกลุ่มเลือกซื้อน้ำเสร็จคงไม่ต้องกินข้าวกันพอดี
อีกอย่างตอนนี้ทุกคนกำลังสาละวนอยู่กับการเช็คเกรดวิชาจริยศาสตร์ของตัวเองด้วย


นายปลายฟ้าจึงเดินแยกออกมาต่อแถวซื้อน้ำเพียงลำพัง

และก็แบบเดิม...

ด้วยนิสัยเดิม ๆ ที่เจ้าตัวจะต้องมายืนต่อแถว
พลางมองโหลน้ำหลากสีอย่างลังเล
 


...เอาอะไรดีวะ

น้ำแบบไหนที่มันใช้แก้เผ็ดได้


...น้ำเปล่าไงดีมั้ย?
ง่าย ๆ เบสิก ไม่ต้องคิดมาก
เฮ้ย... แต่จะดีเหรอวะ
อุตส่าห์มาต่อคิวซื้อทั้งที่อยากได้น้ำอะไรที่มีรสมีชาติหน่อย


...งั้นกาแฟล่ะ?
มีรสชาติแน่ทั้งหวานทั้งขม
เออ...แล้วมันจะเข้ากับไอ้เล็กต้มยำที่เหลืออยู่รึเปล่า
กินด้วยกันรสไม่ตีกันมัวเหรอ
เขาอยากได้อะไรหวาน ๆ ซ่า ๆ มากกว่า


...ถ้าแบบนี้ก็ต้อง est เลยดิ ซ่าสะใจแน่
เดี๋ยว... แต่ว่ามันไม่หวานเลยนี่หว่า
คราวก่อนแย่งไอ้เกมส์มาดูดที
ซ่าบาดคอสำลักจนขึ้นจมูกเลยจำไม่ได้เหรอ


อืม... ถ้างั้น....


คนช่างเลือกยังคงเถียงตัวเองไปมาในใจ
กระทั่งกระเถิบมายืนสถิตกลายเป็นหัวแถว
ทว่าปลายฟ้ากลับไม่ละความพยายาม
ยืนนิ่งคิดอีกหลายวินาทีโดยยังไม่ร้องสั่ง


...หรือว่าจะกินโค้กดี
ซ่าเหมือนกัน หวานหน่อย ๆ ด้วย
แก้เผ็ดได้ดีเลย แถมเข้ากับเล็กต้มยำอีกต่างหาก

เออ...งั้นเอานี่แหละ


ในที่สุด คนช่างเลือกก็คล้ายจะตัดใจได้
จึงรีบเงยหน้าขึ้นบอกไปตามความคิดทันที



“ป้าครับผมขอ...”


“ป้าผมขอเขียวโซดา แล้วเอาให้คนนี้เหมือนผมด้วยนะครับ”




ห่ะ...


อะไรวะ...


ใครสั่งเขียวโซดา

เขาไม่ได้สั่งนะ


...แต่เดี๋ยว


...ไอ้เหตุการณ์แบบนี้มันคุ้น ๆ
เหมือนเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
และไอ้คนที่ชอบสั่งตัดหน้า
เป็นตัวเสือกเขาอยู่เรื่อย



...มีเพียงคนเดียว



ปลายฟ้ารีบหันไปมองคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังตัวเองทันที
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผิวแทน ใส่ช็อปวิศวะ ใบหน้าคมเข้มเรียบเฉยไม่บอกอารมณ์
มีเพียงแววตาคมดุที่คล้ายจะอ่อนลงเหมือนรู้สึกยินดีที่ได้พบกับคนคุ้นเคย


“อ่ะ ของปลาย เงินไม่ต้อง เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”


คมสันถือแก้วยื่นส่งให้อีกฝ่ายซึ่งกำลังมีท่าทีงง ๆ
ก่อนจะดันหลังให้เดินออกไปนอกแถว
พร้อมกับคำอธิบายถึงที่มาที่ไป


“เห็นมองอยู่นานไม่ซื้อ
กลัวคนต่อแถวคนอื่นข้างหลังจะว่าปลาย
เราเลยเลือกให้ก่อน”


อ๋อ...แบบนี้นี่เอง

คนฟังพยักหน้าเข้าใจ
พลางเหลือบตาไปมองแถวซื้อน้ำยาวเหยียดที่ตัวเองเพิ่งเดินผละจากมา
โดยมีใครหลายคนแอบส่งสายตาตำหนิมาให้เล็กน้อย

...เออว่ะ เขาก็ลืมไปเลยว่าตัวเองมีคนต่อแถวอยู่ข้างหลังอีกเยอะ
มัวแต่คิดช้าคิดนาน จนไม่ทันรู้ตัว
ถ้าไม่ใช่เพราะโดนทักแล้วดึงออกจากแถวก่อน
มีหวังต้องมีใครสักคนตะโกนด่ามาแน่

นึกแล้วก็โทษความชักช้าอืดอาดของตัวเอง
ที่บางครั้งมันดันสร้างความลำบากให้กับคนอื่นเหมือนกัน
ดีที่ได้คมมาช่วยเตือนไว้ก่อน


...ช่วยเตือน?


น่าแปลก...

ที่คราวนี้เขาคิดว่าความหวังดีจากคมไม่ใช่การ ‘เสือก’ 

แต่มันมาเพื่อ ‘ช่วย’ เขาจริง ๆ ต่างหาก



ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรู้จักกันมากขึ้นหรือเพราะเหตุผลอะไร
แต่ที่แน่ ๆ ปลายฟ้านึกแปลกใจกับความคิดที่เปลี่ยนไปของตัวเอง

กระนั้นสิ่งเหล่านี้กลับเป็นเรื่องที่อยู่ในใจโดยที่ใครอีกคนไม่รับรู้
จึงทำให้ร่างสูงเริ่มอึกอักเดาไปเองว่าคนนิ่งเงียบอยู่นานจะไม่พอใจ
คมสันเลยตัดสินใจเอ่ยถามทำลายความเงียบ


“คือ...เรามาเสือกอีกรึเปล่า
ปลายไม่ชอบเขียวโซดาเหรอ
เราไปซื้อให้ใหม่ก็ได้นะ”


ปลายฟ้าสะดุ้งก้มลงมองแก้วน้ำในมือ
เพิ่งรู้ตัวว่าสิ่งที่ถืออยู่ไม่ใช่โค้กอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ว่าอยากกิน
แต่อย่างน้อยเขียวโซดา มันก็ทั้งหวาน ทั้งซ่า คงพอแทนกันได้
เขาเลยตอบคำกลับไปตะกุกตะกัก 


“มะ...ไม่ต้องหรอก เรากินได้...
เออ...ขอบใจนะ”


...คำพูดจบลงพร้อมกับที่ต่างคนต่างเงียบ
ปล่อยบทสนทนาให้ว่างเปล่าเหมือนต่อประโยคไปไม่ถูก


...ก็แล้วจะให้คุยอะไรล่ะวะ
คนไม่ได้สนิทกันมากมาย
แถมไม่เจอหน้ากันมาเป็นเดือน ๆ
ไอ้เขาก็ไม่ใช่คนช่างพูดอยู่แล้ว
ทักทายพอเป็นพิธีแค่นี้ก็ควรจะจบแยกย้ายกันไป

แค่นั้น...



แค่นั้น...



ละ...แล้วทำไมมันถึงไม่ไปสักทีล่ะวะ


ละ...


และที่สำคัญ....


...มันยังจะมายืนจ้องเขาอยู่ได้


เฮ้ยยย...บ้ารึเปล่า จะจ้องทำไมเนี่ย

เขามีอะไรให้น่ามองรึไง


เอ้า! ยังไม่เลิกมองอีก


...มะ...มาจ้องนาน ๆ บะ...แบบนี้



กะ...



...กูก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะโว้ยยยย!!




เป็นครั้งแรกที่ปลายฟ้ายอมแพ้
เบือนหลบหันหนีนัยน์ตาคมไปดื้อ ๆ
พร้อมกับอาการหน้าร้อนวูบ ๆ
ซึ่งแม้แต่เจ้าตัวก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร
รู้แต่ว่ามันทำตัวไม่ถูกขัด ๆ เขิน ๆ แปลก ๆ


และก่อนที่ความเงียบจะปกคลุมคนสองคนไปมากกว่านี้
กลับมีเจ้าชายขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยแก้ไขสถานการณ์
ด้วยเสียงตะโกนถามพร้อมกับหน้าหล่อ ๆ ที่เดินนำเข้ามา


“เฮ้ย! ไอ้คม กูหาแล้วไม่มีที่นั่งเลยว่ะ
อ้าว...ปลายไม่ใช่เหรอครับเนี่ย
เป็นไงบ้างครับไม่ได้เจอตั้งนาน”


พ่อเทพบุตรเดือนคณะวิศวะเปลี่ยนเป็นโปรยยิ้มหว่านเสน่ห์ทันที
เมื่อเห็นเพื่อนซี้ตัวเองยืนอยู่กับคนคุ้นตา
ซึ่งปลายฟ้าก็รีบหันไปตอบคำทัก


“เราสบายดี ดิวล่ะ”


“ผมน่ะดีอยู่แล้วครับ แต่ตอนนี้ท่าจะแย่
ว่าจะมากินข้าวเที่ยงแล้วรีบไปเรียนสักหน่อย
แต่ยังหาที่นั่งไม่ได้เลย”


เขามองคนพูดบ่นที่ถือจานข้าวไว้สองจาน
เดาว่าจานหนึ่งคงเป็นของคนที่เพิ่งซื้อน้ำมาให้
แต่เจ้าตัวคงจะยังหาที่นั่งทานไม่ได้


ก็ไม่น่าแปลกหรอก...

ตอนเที่ยงตรงแบบนี้ใคร ๆ ก็แห่มากินข้าว
คนหลายร้อยจากต่างคณะ ถูกปล่อยจากคลาสพร้อมกันด้วยความหิว
ทำให้โต๊ะโรงอาหารมหาลัยไม่เคยเพียงพอต่อจำนวนนักศึกษาเสียที
โชคดีที่วันนี้ชั้นเรียนเด็กเภสัชปล่อยเร็วกว่ากำหนดห้านาที
กลุ่มของปลายฟ้าจึงสามารถจับจองโต๊ะอาหารได้ก่อนมันจะเต็ม

เออ นั้นสิ...

ถ้างั้นไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว

ทำไมไม่มานั่งโต๊ะเดียวกันกับพวกเขาเลยล่ะ


...สมองคิดไปปากก็พูดเอ่ยชวนอัตโนมัติ


“มานั่งกับเรามั้ย
พอดีกลุ่มเรานั่งเป็นโต๊ะยาว
คงพอเบียด ๆ กันได้”


คนฟังรีบหันมาทำตาโต
แต่ก็ยังไม่วายถามอย่างลังเล


“จริงเหรอครับ เออ...แต่เดี๋ยวผมมีเพื่อนอีกสองคนตามมาด้วยนะ”


“ไม่เป็นไร ก็ยังดีกว่าให้พวกดิวยืนกินข้าวกัน”


แค่นึกภาพผู้ชายตัวโตสี่คนยืนกินข้าวโดยไม่มีที่นั่งมันคงตลกพิลึก
คนชวนเลยเดินถือแก้วเขียวโซดากลับมายังโต๊ะไม้ยาวที่อยู่เกือบท้ายสุดของโรงอาหาร
ซึ่งมีสมาชิกเภสัชนั่งกันอยู่แล้วหกคน
และพอสาวสวยสุดในกลุ่มเห็นว่าผู้ติดสอยหอยตามเพื่อนเป็นใคร
ก็รีบส่งเสียงทักหวานหูขึ้นมาทันที


“ว๊ายย!! นึกว่าหนุ่มหล่อที่ไหนเดินตามพ่อเต่าน้อยมา
ที่แท้ดิวกับคมนี่เอง แหม...เมื่อกี๊ยังบ่นคิดถึงอยู่เลย
แสดงว่าแรงคิดถึงของบอลล่าเยอะจริงไรจริงถึงออกมาเจอกันตัวเป็น ๆ”


คำทักทายอย่างเป็นมิตรเรียกให้ทุกคนเงยหน้ามองผู้มาเยือน
ซึ่งหนุ่มหล่อก็ส่งยิ้มตอบกลับพร้อมด้วยคำหยอด


“ผมเองก็คิดถึงเหมือนกัน
เลยว่าจะมาขอนั่งทานข้าวด้วยคนได้มั้ยครับ”


ไม่ต้องรอฟังคำอนุญาต
เพราะคนพูดจริงคิดทำจริง
ทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามไอ้เกมส์ไปเรียบร้อย
เล่นเอาคนที่กำลังกินข้าวมันไก่อยู่ถึงกับสะดุ้ง
ชนิดไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคำพูด ‘คิดถึง’ ดิวตั้งใจส่งมันถึงใคร


“แล้วนี่เกรดวิชาที่ไปเข้าค่ายออกกันรึยังครับ”


พ่อเทพบุตรถามคนตรงข้ามต่อ
แต่ดูเหมือนอาการเดิมของไอ้เกมส์จะกำเริบ
เพราะมันดันปิดปากเงียบใบ้แดกไปแล้ว
ได้แต่ก้มหน้าเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ โดยไม่สนใจจะตอบรับกลับใด ๆ
จนทำให้บอลล่าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันต้องเปิดฝ่ายต่อบทสนทนาเอง


“อุ๊ย! เกรดเพิ่งออกเมื่อกี๊นี่เองค่ะ
ได้เอแอนด์มดกันครบเลย
นี่ต้องขอบคุณพวกดิวด้วยนะเนี่ย
ถ้าไม่งั้นมีหวังได้ปลาไปเลี้ยงกันทั้งฝูง”


“ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย พวกผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย
ถ้าจะขอบคุณต้องเป็นฝ่ายพวกผมต่างหากที่ได้กลุ่มเภสัชมาช่วย
เออ...จริงด้วย พูดถึงคณะเภสัช
เพื่อนผมมีเรื่องจะคุยด้วยพอดี
เฮ้ย!!...ไอ้บีม ทางนี้ ๆ”


ดิวตะโกนโบกมือเรียกให้เพื่อนอีกสองคน
ที่เดินถือชามก๋วยเตี๋ยวเหมือนกำลังมองหาที่นั่ง
ปลายฟ้าจำได้ว่าหนึ่งในนั้นคือเหรัญญิกประจำค่ายคนที่เคยเกือบจะมีเรื่อง
ส่วนอีกคนก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นคนที่เคยไปค่ายวิศวะอาสาด้วยกัน
ทุกคนจึงพยายามขยับเบียดเข้าหากันเพื่อเว้นที่ว่าง
ให้ผู้ชายตัวใหญ่ ๆ เกือบสิบคนได้นั่งบนโต๊ะเดียวกัน
ก่อนดิวจะเป็นคนเริ่มต้นแนะนำคนมาใหม่


“นี่ ‘บีม’ กับ ‘ไปป์’ ที่เคยไปเข้าค่ายด้วยกันจำกันได้ใช่มั้ยครับ”


...จำไม่ได้ก็แปลกแล้ว
โดยเฉพาะปลายฟ้าที่โดนสีทาบ้านสาดใส่ขนาดนั้น
แต่ในเมื่อเรื่องมันจบด้วยดีเขาก็ไม่อยากรื้อฟื้น
ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะยังคงติดใจในความผิด
จึงทำให้ดิวหันไปสะกิดเรียกความจำจากเพื่อนที่เคยบ่นไว้


“คือ...ไอ้บีมมันเคยพูดก่อนหน้านี้น่ะครับ
เรื่องที่เคยทะเลาะกัน มันอยากจะขอโอกาสเคลียร์ความเข้าใจ”


“หืม ไม่ต้องเคลียร์อะไรกันก็ได้นี่
เรื่องนั้นมันต่างคนต่างเข้าใจผิด
แต่ตอนนี้เราทุกคนโอเคกันหมดแล้ว”


บอลล่าขมวดคิ้วตอบอย่างงง ๆ เช่นเดียวกับปลายฟ้า

...ก็นึกว่าไม่ติดใจเอาความกันตั้งแต่จบเรื่องคราวนั้น
นี่ค่ายผ่านมาตั้งนานแล้วยังจะมาอยากเคลียร์อะไรอีก
แต่บีมกลับเป็นฝ่ายตั้งต้นอธิบายเสียเอง


“คืองี้ ตั้งแต่มีเรื่อง เราเคยมาคิด ๆ ดูว่า
คณะเภสัชกับวิศวะมันไม่ค่อยได้สนิทกันเท่าไรจริงมั้ย
เราเลยอยากชวนพวกนายมาทำกิจกรรมกระชับมิตรด้วยกัน
แบบเตะบอลอะไรเงี้ย เอาเฉพาะปีสามรุ่นเดียวกันนี่แหละ แข่งกันเองง่าย ๆ
พวกนายว่าไง พอจะว่างชวนคนมาได้บ้างมั้ย”


อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง

เออ จะว่าไปไอ้กิจกรรมกระชับมิตรระหว่างคณะมันก็น่าสนใจดี
ถือเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ของศิษย์มหาลัยเดียวกัน
แถมยังเป็นการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่
เหมือนตอนที่พวกเขาได้ไปเข้าค่ายอาสาด้วย


ทุกคนในกลุ่มเด็กเภสัชหันมองหน้ากันคล้ายถามความเห็น
ก่อนบอลล่าจะพยักหน้ารับเป็นคนออกปากตกลง


“โอเคได้ค่า เดี๋ยวบอลล่ารับเป็นแม่งานเอง
ไว้จะชวนสาว ๆ เภสัชมาให้เพียบเลย
แล้วดิวอย่าลืมชวนหนุ่มวิศวะมาให้เยอะๆ นะจ๊ะ คิกคิก”


เออ...นี่เจ๊เค้าเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า
มันงานเตะบอลนะครับ ไม่ใช่งานนัดบอด
ถึงได้หัวเราะคิกคักเหมือนชวนกันออกมาหาคู่ชู้ชื่นอย่างนั้น

แต่ยังไม่ทันที่ใครจะแย้งอะไรออกมา
ไอ้เกมส์มันกลับรีบลุกพรวด
รีบเก็บจานชามแก้วน้ำพลางพูดส่ง ๆ


“เฮ้ย...กูไปก่อนนะ ต้องรีบไปช่วยอาจารย์เตรียมของเข้าแล๊บกับไอ้ปลาย”



อ้าว...เตรียมไรวะกูไม่เห็นรู้เรื่อง

คนถูกเอาชื่อไปเอี่ยวทำหน้ามึน แต่คนชักช้าก็ยังคงเป็นคนชักช้า
เพราะกว่าจะรู้ตัวเพื่อนรักมันดันกวาดชามเล็กต้มยำของเขาที่กินยังไม่หมดเก็บไปด้วย
เหลือแต่แก้วน้ำเขียวโซดาที่ถือติดมือมาทัน
ก่อนไอ้เกมส์จะจัดการลากแขนเขาออกไปให้พ้นวงข้าวที่กำลังนั่งกินกันอย่างงง ๆ


“เอ๊ะ! อาจารย์ให้มันไปช่วยเตรียมของเข้าแล๊บด้วยเหรอ
ไม่เห็นเคยได้ยินเลยอ่ะ ชั้นพลาดอะไรไปรึเปล่าเนี่ย”


บอลล่ากระพริบตาปริบหันไปถามเพื่อนในกลุ่ม
ซึ่งทุกคนก็ได้แต่ส่ายหน้าทำนองไม่รู้ไม่เห็น
ยกเว้นแต่ดิวที่อมยิ้มบางเหมือนคนรู้ทัน
กับคมสันที่ได้แต่จ้องมองคนที่ถูกลากออกไปดื้อ ๆ
พลางหวนคิดถึงการกระทำของตนเองก่อนหน้านี้



...ไม่รู้ว่าปลายฟ้าจะโกรธเขารึเปล่า

เห็นเงียบ ๆ ไม่ค่อยหันมามองเขาเท่าไร
อย่างตอนซื้อน้ำให้ก็เหมือนกัน
ทุกทีถ้าเขาพูดอะไรออกไป
อีกฝ่ายก็ต้องจ้องตอบกลับมาตรง ๆ
แต่คราวนี้ดวงตากลมโตใสแจ๋วนั้นกลับหลบมอง
แถมยังทำท่าทางอึกอักแปลก ๆ


...แล้วถ้าสังเกตไม่ผิด

เขาเห็นว่าใบหน้าเกลี้ยงเกลานั้นขึ้นสีแดงเรื่อหน่อย ๆ ด้วย


ตกลงเลยไม่รู้ว่าปลายฟ้าโกรธที่เขาไปช่วยเลือกน้ำให้
หรือจะรู้สึกยังไงกันแน่เพราะไม่มีโอกาสได้ถาม

แต่ถ้ามันเป็นอาการโกรธจริง ๆ
จะผิดมั้ยถ้าเขาอยากบอกว่า


...ปลายฟ้าช่างโกรธได้ ‘น่ารัก’


ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็อยากจะทำให้โกรธอีกบ่อย ๆ
อยากจะเห็นสีหน้าท่าทางหลาย ๆ อย่างของคนคนนี้

คนที่ไม่ได้เจอหน้ากันเป็นเดือน
แต่พอเจอกันแป๊บเดียว
กลับวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดจนเต็มสมอง
นึกไปแล้วก็ให้ประหลาดใจตัวเอง


เออ...สงสัยเขาคงกำลังเมา


...เมาไอ้น้ำที่กินอยู่เนี่ยแหละ


ไม่รู้ว่าคนที่ได้รับไปอีกแก้วจะเมาเหมือนกันมั้ย
วันหลังจะได้เลี่ยงสั่งน้ำอย่างอื่นให้แทน
จะได้ไม่ต้องมามัวคิดถึงกันจนฟุ้งซ่าน
เหมือนอย่างตอนนี้ที่เขากำลังเมา...



...เมาน้ำเขียวโซดา




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC






กลับมาแล้วจ้า  คิดถึงกันบ้างมั้ย  (กริบ...)  :undecided:

มาเสิร์ฟตอนหวาน ๆ ให้พอยิ้ม ๆ
เดี๋ยวนี้เต่าน้อยเขาเริ่มพัฒนาแล้วนะเฟร้ยย!!   :impress2:
แม้จะเป็นไปด้วยสปีดเต่า ๆ เหมือนเช่นเคยก็ตาม

ยังไงก็มาช่วยกันเชียร์ ช่วยกันดันพ่อเต่าน้อยให้ไปถึงเส้นชัยกันด้วยนะจ๊ะ


แล้วเจอกันตอนหน้าจ้า จุ๊บ ๆ

 :กอด1:

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-12-2012 15:13:38
 :z2:

มาแล้ว  แต่แหมเกมไม่น่าลากปลายหนีดิวเลย

ทำให้พ่อเต่าน้อยไม่ได้จิ๊จ๊ะกะพี่อคมสันเลย  o22

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-12-2012 15:50:40
พ่อเต่าปลายก็ยังคงคอนเซ็บเดิม  ต้องให้คมตัดสินใจให้  แต่คราวนี้ความคิดของปลายฟ้า จากที่คิดว่า เสือก  กลายเป็นคำว่า ช่วย  หนุ่มปลายจะรู้ตัวไหมว่าคมเริ่มคิดอะไรกับตัวเองแล้ว

ตอนนี้เราอยากลุ้นคู่เกมส์กับดิวแทนแล้วดิ   ไม่รู้ที่ดิวทำแบบนี้คือคิดจริงจังกับเกมส์หรือแค่ล้อเล่น  แล้วจะทำให้เกมส์เลิกกลัวกับความรู้สึกที่มีผู้ชายมาจีบแบบนี้ได้ยังไง

ไม่รู้การคิดกีฬากระชับมิตรของบีมจะทำให้ทั้ง 2 คู่ รู้ใจกันเร็วขึ้นหรือเปล่า

กด + ให้กับคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 13-12-2012 15:56:32
เมาเขียวโซดาตาม ว๊ากก  :o8:
เกมส์ยิ่งหนีเค้ายิ่งรุกนะเออ ตอนนี้ปลายเลยเจอกับคมแปปเดียวเองง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-12-2012 16:15:59
พ่อเต่าน้อยก็ยังคงเป็นพ่อเต่าน้อยช่างเลือกอยู่นั่นเอง

สมมติว่า รถกำลังจะชนพ่อเต่า พ่อเต่าคงยืนคิดอยู่แน่เลยว่าจะวิ่งไปข้างหน้า บลา ๆ ๆ หรือวิ่งถอยหลัง บลา ๆ ๆ หรือยืนเฉยๆ บลา ๆ ๆ สุดท้ายตู้มมมกลายเป็นโกโก้ครั้นซ์

555 แซวเล่นนะจ๊ะหนูปลาย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 13-12-2012 17:13:00
จะว่าไปแล้ววววว คู่ดิวกับเกมส์แอบดึงความสนใจเรามากอยู่นะ

แต่อยากให้คู่คมกับปลายชัดเจนแน่นอนก่อน ค่อยลุ้นอีกคู่นะ หึหึ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: mascot ที่ 13-12-2012 17:55:21
มาช้าเหมือนเต้าน้อยเลย...เลียบแบบล่ะซิ่ ไม่ดีนะ
ยังน่ารักเหมือนเดิม เต่าสู้สู้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 13-12-2012 18:15:25
อิอิ ความรู้ใหม่จากหนุ่มวิศวะ
ดื่มน้ำเขียวโซดาก็เมาได้ 555 :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-12-2012 18:38:48
อั้ยย่ะ  ขอตัวไปเมาเขียวโซดา 5555

แอบเชียร์ดิวเกมส์ขาดใจ อิอิ

งานกระชับมิตรจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างน้าา รอติดตาม

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-12-2012 19:01:26
เค้าไม่โทรหากันเลยเหรอ มีเบอร์แล้วนะ ความสัมพันธ์ไม่พัฒนาเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 13-12-2012 19:19:53
ต้องไปลองเมาน้ำเขียวโซดาแล้ว


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 13-12-2012 20:31:33
เตะบอลๆๆๆๆ  น้องปลายเป็นโกลนะ จะได้ลังเลเยอะๆ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-12-2012 22:05:09
ยังเลือกช้าเหมือนเดิมนะพ่อเต่าน้อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 13-12-2012 22:29:16
ก็ปลายรู้สึกช้า คมก็ต้องรุกแล้วล่ะนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 13-12-2012 23:05:29
ยังไงเต่าก็ยังเป็นเต่า
รอให้กระต่ายมาพิชิตใจ
ว่าแต่เกมส์กับดิวนี่แปลก ๆ นะ มีซัมติงเปล่าเนี้ยะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 13-12-2012 23:05:40
อ่านเรื่องไหนก็ชอบแต่คู่รอง 555

ฮูเล่ ดิวเกมส์ค่ะ  :laugh:      ส่วนพ่อเต่าน้อย รีบๆเข้าเส้นชัยนะค่ะ คมสันรออยู่ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 13-12-2012 23:07:24
ทำไมมันเต่า เอ๊ย ทำไมเรื่องมันช้าๆ ล่ะค่ะ
ยังไม่คืบหน้าไปไหนเลย
ได้เบอร์โทรมาแล้ว เป็นเดือนยังไม่โทรหากันอีกเหรอ
ตานี้ไม่ใช่พ่อเต่าปลายแล้ว แต่เป็นพ่อยอดสะเดานั่นแหละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 >; P.63
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-12-2012 23:36:38
ไอ้ที่หน้าแดงน่ะเขินไม่ใช่โกรธ!! แล้วแน่ใจนะว่าครั้งต่อไปจะไม่สั่งเขียวโซดาอีกอะ? หึหึ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 14-12-2012 00:07:39
นั่งคิด ๆ ดู เราเองก็เคยเป็นพ่อเต่าน้อยนะ เลือกนั่นเลือกนี่
จนเพื่อนที่ไปด้วยกันปล่อยให้คิดให้เสร็จแล้วดักว่าห้ามเปลี่ยนใจ 555

ยังคงเดินหน้าความสัมพันธ์ได้อย่างสปีดเต่ามาก 5555
เอาจริงคงต้องให้พวกบอลล่ากับดิวดันให้นั่นแหละไม่งั้นคงนานมาก

อยากอ่านตอนของเกมกับดิวเต็ม ๆ อ่ะ จะมีมั้ยน้อออออ :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 14-12-2012 00:19:47
ดิวจัดการเกมส์เลย   ลากปลายหนีคมไปได้ไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-12-2012 14:52:00
คู่ดิวกับเกมส์นี่ก็น่ารักเนอะ อีกคนก็พร้อมรุก อีกคนก็พยายามหนี 5555
ส่วนเต่าน้อยปลายกับคมสันก็น่าจะก้าวหน้าเร็วกว่านี้ได้แล้ว ไม่ทันใจคนแก่เลย  :angry2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 14-12-2012 16:39:33
แล้วพ่อเต่าน้อย สัญญาว่าจะพาคมไปเลี้ยงหนิคะ ยังไม่ได้พาไปเลยหนิ

ปูลู คมนี่ แยกไม่ออกระหว่าง เขิน กับ โกรธเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 14-12-2012 23:52:37
น้องปลายไม่ค่อยพูด ต้องให้พี่คมพูดแทน...เดินหน้าจีบไปเลยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 15-12-2012 00:13:16
สะเดาชักจะหวานมันแล้วนะ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 17] 13/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 15-12-2012 01:57:49
โอ้ยยยยอ่านแล้วเมาน้ำเขียวโซดาไปด้วยเลยค่าา
น่ารักเสียจริง  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 15-12-2012 19:03:14
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 18



‘แค่แข่งเตะบอลกันเองง่าย ๆ ถือเป็นงานกระชับมิตรวิศวะ-เภสัช’


...ใครมันเป็นคนพูดประโยคนั้นวะ?


อ้อ... ไอ้บีม.. ไอ้บีมที่เคยมีเรื่องกับเขาตอนไปค่ายอาสาเป็นคนพูด
แต่เขาคงลืมไปว่าคนรับเป็นแม่งานน่ะ คือ ‘บอลล่า’
ซึ่งเจ๊มีคอนเซปต์ประจำตัวที่ท่องจำได้จนขึ้นใจ


‘เล็ก ๆ บอลล่าไม่ ใหญ่ ๆ บอลล่าทำ’


...จากไอ้ที่ตั้งใจแค่แข่งเตะบอลง่าย ๆ
มันเลยกลายเป็นเหมือนงานมหกรรม
ที่คนแห่กันมามืดฟ้ามัวดินกันไปหมด
แถมยังมีการขนกองเชียร์กันมาอีกเพียบ
ชนิดที่ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้น้อยหน้ากัน


...เฮ้ย!! นี่ตกลงจะมาแข่งกระชับมิตรหรือแข่งศึกศักดิ์ศรีระหว่างคณะกันแน่วะเนี่ย!!


ปลายฟ้าเงยหน้ามองแสตนเชียร์ที่คลาคล่ำไปด้วยกลุ่มคนเสื้อเขียวและเสื้อแดง
...ไม่ใช่ม๊อบสีเสื้อนะครับ
แต่เป็นเสื้อคณะเภสัชกับวิศวะที่จับจ้องพื้นที่นั่งริมสนามฟุตบอลขนาดใหญ่
ในเวลาห้าโมงเย็นที่ฟ้าเริ่มร่ม อากาศกำลังดี
เห็นจำนวนคนแล้วก็ยังนึกทึ่งในฝีมือจัดงานของเจ๊บอลล่า
ทั้ง ๆ ที่มีเวลาเตรียมการสำหรับงานแข่งแค่อาทิตย์กว่า ๆ
แต่เจ๊แกสามารถดึงคนมาให้ความสนใจได้มากขนาดนี้
...นับว่าสุดยอดจริง ๆ


แต่พูดไปแล้ว...
ไอ้จะไม่ให้คนสนใจเลยก็คงแปลกไปหน่อย
เพราะเจ๊เล่นแปะใบปลิวประชาสัมพันธ์ไว้ทั่วตึกเภสัช
ยังไม่นับกับที่ห้องสมุด โรงอาหาร หรือแม้กระทั่งห้องน้ำก็โดนด้วย
ทุ่มประชาสัมพันธ์กันหนักขนาดนั้นยังไงก็ต้องมีเข้าตาคนที่ผ่านไปมาบ้าง

เขาเคยถามบอลล่าว่าเอางบทำใบปลิวเยอะแยะมาจากไหน
เจ๊แกยิ้มกริ่ม บอกแค่ว่าไปเลียบ ๆ เคียง ๆ กับพวกอาจารย์มา
อาจารย์เห็นเป็นโครงการดี ๆ เลยคิดจะต่อยอดให้เป็นหนึ่งในแผนงานประเมินผลของคณะ
บอลล่าเลยได้เบิกงบลับพิเศษแถมยังมีสิทธิ์จองสนามฟุตบอลได้ผ่านฉลุย

ดังนั้น จากงานแข่งเตะบอลเชื่อมความสัมพันธ์กันเองง่าย ๆ
จึงเลยเถิดกลายมาเป็นงานใหญ่ระดับคณะด้วยประการฉะนี้


ทว่าแม้งานกระชับมิตรจะกลายมาเป็นงานช้างขนาดไหน
หน้าที่ของนายปลายฟ้ากลับยังคงเป็นเช่นเดิม...



“ไอ้ปลาย!! กระติกน้ำอยู่ไหนวะ นักบอลหิวน้ำโว้ยยย!!”


เกมส์ที่สวมเสื้อยืดสีเขียวมะกอก สีประจำคณะเภสัชศาสตร์
กับกางเกงบอลสีขาวตัวเก่งมาดเท่ห์สมกับตำแหน่งศูนย์หน้า
ร้องตะโกนพลางโบกมือเรียกเบ๊ประจำตัวหยอย ๆ

เขาจึงต้องจำใจแบกกระติกน้ำเดินมาแจกให้นักบอล
หรือก็คือบรรดาเพื่อนชั้นปีของตัวเอง


...ก็อย่างที่บอกล่ะครับว่าจุดประสงค์จริง ๆ ของงาน
มันก็ยังคงเป็นแค่การแข่งเตะบอลกันขำ ๆ
ระหว่างกลุ่มเพื่อนรุ่นเดียวกันเท่านั้นเอง
นักบอลในทีมจึงเป็นบรรดาคนคุ้นเคย
เพราะส่วนหนึ่งทรัพยากรชายของชาวเภสัชมันค่อนข้างมีน้อย
ไม่เหมือนพวกวิศวะที่นักกีฬาแต่ละคนส่อแววเทพระดับท๊อปฟอร์ม
อย่างกับพี่แกตั้งใจจะมาแข่งเอาถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ไปซะยังงั้น


“เอามาอีกแก้วดิ”


เสียงไอ้เกมส์ร้องขัดจังหวะความคิด
ปลายฟ้ามองคนที่ยื่นแก้วน้ำเปล่าส่งมาให้พลางขมวดคิ้วบ่น


“กินน้ำมาก ๆ ก่อนแข่งเดี๋ยวก็จุกหรอกมึง”


“จุกก็เปลี่ยนให้มึงมาเล่นแทนดิวะ จะได้แข่งเสร็จเร็ว ๆ ไง”


คนโดนเตือนยักไหล่ แถมยังยิ้มกวน ๆ ส่งท้ายคำอย่างมีเล่ห์นัย
เล่นเอาคนฟังทำหน้าเซ็ง


โห...มันพูดอย่างนี้จะไม่ให้เซ็งได้ไงวะ
เพราะทีแรกเขาเห็นว่าหาคนลงแข่งยากเลยคิดจะช่วย
แต่ทุกคนกลับเบรกเอาไว้ แถมยังบอกเหตุผลว่าขืนให้ไอ้เต่าปลายลงเตะ
กว่ามันจะตัดสินใจส่งบอลให้คนอื่นได้คงหมดครึ่งแรกก่อนพอดี
สู้ให้มันมานั่งข้างสนามเป็นเบ๊ช่วยแจกน้ำกับผ้าเย็นจะดูมีประโยชน์มากกว่า


อือฮื้อ...ขอบคุณมากเลยครับเพื่อน

...กูซึ้งน้ำใจพวกมึงจริง ๆ


สรุปนายปลายฟ้าจึงต้องมาทำหน้าที่สวัสดิการ
เคียงข้างกับบอลล่าที่แปรงร่างเป็นเชียร์ลีดเดอร์ชั่วคราว
เรียกเสียงกรี๊ดกันกระหึ่มอยู่ข้างสนามขณะที่นักบอลทั้งหลายเริ่มลงแข่ง



“กรี๊ดดดดด!! นี่เจ๊บอลล่าไปรู้จักกับหนุ่มหล่อ ๆ ได้ไงอ่ะเนี่ย
คิดงุบงิบเก็บไว้คนเดียวใช่ป่ะ
น้องนุ่งเงี้ยไม่คิดจะบอกเล่าเก้าสิบกันบ้างเลยนะเจ๊”


แนนนี่กระเทยรุ่นน้องปีสองซี้สาวสวยของบอลล่าเปรยขึ้นมา
หลังจากมาช่วยเป็นหนึ่งในเชียร์ลีดเดอร์จำเป็นอยู่ข้างสนาม
ซึ่งเขาได้ยินเสียงระรื่นของบอลล่าตอบกลับมา


“เอ้าหล่อน! ของดีไม่ใช่จะมีมาบ่อย ๆ นะยะ
ก็ต้องเก็บไว้เชยชมกันเองบ้างไรบ้าง
นี่บุญแค่ไหนแล้วที่ชั้นจัดงานซะใหญ่โต
เผื่อแผ่ให้ชะนีคนอื่น ๆ ได้มาเห็นของสวย ๆ งาม
ว่าแต่หล่อนถูกใจคนไหนบ้างรึเปล่าล่ะ
เดี๋ยวชั้นจะได้แนะนำให้ได้ถูก”


“ว๊ายยยย!! จริงนะเจ๊ เดี๋ยวของน้องส่องก่อน”


ปลายฟ้าที่นั่งฟังบทสนทนาอยู่ใกล้ ๆ ถึงกับหน้าล่ะเหี่ยใจ
ตกลงว่าเจ๊บอลล่าเห็นว่าไอ้งานแข่งเตะบอลกระชับมิตร
เป็นงานนัดบอดจับคู่ไปจริง ๆ แล้วเหรอวะ


“อุ๊ย!! คนนั้นอ่ะเจ๊... คนนั้น...
ที่สูง ๆ ขาว ๆ ดั่งโด่ง ๆ วิ่งอยู่ข้างพี่เกมส์อ่ะ
กรี๊ดดด!! ยิ้มทีเหมือนลีมินโฮเลย”


เขามองตามหาเจ้าของสรรพคุณที่ว่า ซึ่งไม่ยากเลยที่จะเดา
เพราะไอ้หนุ่มหล่อสไตล์เกาหลีเปล่งออร่าวิ๊ง ๆ ก็คงมีอยู่คนเดียวในสนาม


“ต๊ายย!! ตาถึงเหมือนกันนะเนี่ยเรา
เค้าชื่อ ‘ดิว’ เป็นเดือนวิศวะปีสาม
แต่เสียใจด้วยนะยะ ได้ข่าวว่าเค้าเล็งจีบคนอื่นไว้แล้ว”


บอลล่าแนะนำพร้อมบอกรายละเอียดข่าวเสร็จสรรพ
ทำเอาปลายฟ้าถึงกับงงว่าเจ๊แกไปรู้ข้อมูลมาได้ไงว่าดิวกำลังจีบใคร
กลุ่มเขาไม่ได้เจอกับดิวบ่อยขนาดนั้นเสียหน่อย
ทุกทีก็เห็นแค่ดิวแซวเล่นกับไอ้เกมส์เท่านั้นเอง

เฮ้ยย!! อย่าบอกนะว่า...


แต่ยังไม่ทันทีคนสงสัยจะได้คิดต่อ
เสียงถอนหายใจอย่างผิดหวังของแนนนี่กลับดังขึ้นขัด


“ว๊า!! เสียดายอ่ะ งั้นหาใหม่ก็ได้
อุ๊ย! คนนี้ก็เข้าท่า...
สูง หล่อ แมน คิ้วเข้ม ตาคม
เห็นแล้วใจน้องละลายเลย...
ว๊ายยย!! เค้ามองมาทางนี้ด้วยอ่ะ กรี๊ดดดดดดด!!!!”


คนฟังหูแทบแตกกับเสียงกรีดแปดหลอดเหมือนคนร้องบริโภคนกหวีดเป็นอาหาร
ทว่าก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันไปแอบมองหาเหยื่อที่โดนน้องแนนนี่เล็งเอาไว้


และเขาก็ได้เห็นใครคนนั้น....


....เจ้าของนัยน์ตาคมที่มองมายังฝั่งแสตนเชียร์ที่เขานั่งอยู่


ปลายฟ้าเผลอมองตอบกลับไปอย่างลืมตัว
ดวงตาทั้งคู่ประสานสายตากัน
จังหวะที่สบมองเพียงแค่แวบเดียว
แม้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ
แต่มันกลับทำให้เขาเกิดอาการประหลาด
รู้สึกหน้ามันร้อนวูบ ๆ ขึ้นมา แถมใจมันดันสั่นแปลก ๆ
จนต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาเบือนหน้าหนีไปอีกฝั่งแทน


...อ้าวเฮ้ย!! แล้วเขาจะหลบมันทำไมวะ
มันยังไม่ได้มาทำอะไรให้สักหน่อย
แค่บังเอิญมองมาเฉย ๆ ก็แค่นั้น


แต่....


...ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาคิดไปเองรึเปล่า

เพราะจากที่เห็นเหมือนคมไม่ได้บังเอิญ
คล้ายกับว่ามันตั้งใจมองเขาอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว


และไม่แน่ว่าจะมีเพียงเขาคนเดียวที่คิดแบบนั้น
เพราะบอลล่ากลับอมยิ้มกริ่มพูดตอบแนนนี่
แต่ไม่วายหันมาถามหาความเห็นจากคนที่นั่งเงียบ ๆ


“คนนั้นก็ไม่ได้ย่ะ เค้าจองคนอื่นไว้แล้วเหมือนกัน
...จริงมั้ยพ่อเต่าน้อย?”


...อะไร๊
เจ๊จะมาถามเอาอะไรจากเขา
ก็จะไปตรัสรู้ได้ยังไงว่าคมมันจะไปจีบใครคนไหน
มันจะรักจะชอบใครก็เรื่องของมันสิ
ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกับเขาเลยสักนิด


ละ...

...แล้วนี่หน้าเขาเมื่อไรจะเลิกร้อนสักทีวะ

โธ่เว้ย!! ทำไมวันนี้มันร้อนอย่างนี้เนี่ย

พระอาทิตย์แม่งก็รีบตก ๆ ไปซะสิเว้ย!!


...ไม่เห็นหรือไงว่าคนมันร้อนจะตายห่าอยู่แล้ว!!


คนหน้าแดงรีบหันไปวุ่นวายกับกระติกน้ำกลบเกลื่อน
พยายามสลัดความคิดบ้าบอของตัวเองออกจากหัวสมอง
เพื่อให้หันสมาธิกลับมาจดจ่อกับเกมส์การแข่งขันต่อ

...ตลอดระยะเวลาอีก 90 นาทีที่เหลือ


...


..


.


ปรี๊ดดดดดด!!


เสียงนกหวีดเป็นสัญญาณบ่งบอกเวลาสิ้นสุดดังขึ้น

ส่วนผลการแข่งขัน...

...ไม่น่าบอกก็คงพอเดาได้อยู่แล้ว


...คณะวิศวะชนะคณะเภสัชไป 3 – 1


ครึ่งแรกวิศวะนำไปหนึ่งประตูต่อศูนย์
ส่วนครึ่งหลังเภสัชไล่ตามมาได้
ก่อนวิศวะจะทำการหนีห่างแบบไม่ทิ้งฝุ่นไปอีกสองประตูติด ๆ
เยาะเย้ยให้คณะเภสัชเจ็บช้ำระกำใจ
พากันเดินสโลสเลหมดแรงข้าวต้มกับเข้ามานั่งพัก


“ต๊ายยย!! ไม่ต้องร้องไห้เสียใจหรอกไอ้เกมส์
ได้แค่นี่ก็เริ่ดแล้ว ชั้นยังต้องขอชมในความอึดทึดของแกจริง ๆ”


บอลล่ารีบเข้าไปประคองเพื่อน
ที่พยายามเอามือปาดน้ำซึ่งท่วมนองบนใบหน้า


“ไม่ได้ร้องไห้โว๊ยเจ๊!!
เหงื่อเว้ย! เหงื่อ เห็นบ้างป่ะเนี่ย
...แม่งเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว!!
ไอ้ปลาย โยนผ้าเย็นมาให้หน่อยดิ”


ท้ายประโยคคนหงุดหงิดตะโกนสั่งเบ๊
ซึ่งปลายฟ้าก็รีบกุลีกุจอเอามาให้ตามคำขอ
โดยมีบอลล่าคอยบีบนวดตัวพลางพูดอย่างเอาอกเอาใจ


“เอาน่า จบงานนี้แล้วชั้นมีรางวัลให้
เดี๋ยวจะพาไปกินหมูกระทะกัน
ชั้นโทรนัดพวกวิศวะเค้าไว้เรียบร้อยแล้ว
อีกครึ่งชั่วโมงค่อยไปเจอกันที่ร้าน”


ไอ้เกมส์ที่ได้ยินว่ามีของกินรออยู่ถึงกับหายเหนื่อย
เผลอทำตาโตรีบย้อนถามกลับ


“เจ๊จะเลี้ยงเหรอ?”


“ออกกันเองสิย่ะ!!”



...หมดกัน

พอรู้ว่าไม่มีสปอนเซอร์ให้ใครหลายคนก็แอบทำหน้าเบ้
แต่ในเมื่อพวกเขาอุตส่าห์แข่งด้วยกันมาจนจบเกมส์แล้ว
ก็ต้องขอโอกาสไปเลี้ยงฉลองปิดท้ายกันเสียหน่อย



ด้วยเหตุนี้...
หลังจากจัดการเคลียร์ของในสนามทุกสิ่งเรียบร้อย
ปลายฟ้าจึงทำหน้าที่เป็นสารถีขี่มอเตอร์ไซต์พาไอ้เกมส์กลับหอ
ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวมาถล่มร้านหมูกระทะเจ้าประจำไม่ไกลจากมหาลัย


แต่พอก้าวขาเข้ามาในร้านหมูกระทะได้
พวกเขาก็ถึงกับชะงักมองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา


...นี่ขนาดต้องออกตังค์เองยังมีคนยกโขยงกันมาแน่นร้านขนาดนี้อีกเหรอวะเนี่ย
นับ ๆ หัวดูแล้วแค่พวกกลุ่มวิศวะก็ปาไปเกือบสามสิบคน
เด็กเภสัชที่มาช้ากว่าใครเลยแทบจะไม่มีที่นั่ง
ต้องแยกย้ายกระจายกันออกไป
โดยเฉพาะกลุ่มของนายปลายฟ้าที่เพิ่งมาที่หลังสุด
ได้แต่ยืนหันรีหันขวางหาโต๊ะลงให้ตัวเองไม่ได้
ทว่าขณะที่กำลังลังเลกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากมุมซ้ายของร้าน



“เฮ้!! ทางนี้ครับ มานั่งกับพวกผมก็ได้นะ”


ดิวโบกไม้มือโบกมือเรียกให้มานั่งที่โต๊ะตัวเอง
ซึ่งเว้นที่ว่างไว้พอให้กลุ่มของพวกเขาหกชีวิตนั่งลงได้ครบ
ส่วนสมาชิกร่วมโต๊ะที่เหลือต่างก็คุ้นหน้าคุ้นตากันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น บีม ไปป์ กับเพื่อนที่เคยไปค่ายอาสาด้วยกัน
รวมถึงเจ้าของดวงตาคมซึ่งดันบังเอิญมานั่งติดกันกับเขา



“ไปตักหมูก่อนนะ”


ปลายฟ้ารีบเสนอตัวเองก่อนจะทันได้นั่งลง
และแน่นอนว่าไม่มีใครในกลุ่มคิดสนใจแม้แต่น้อย
ด้วยรู้นิสัยจอมอืดอาดของไอ้เต่าช่างเลือกเป็นอย่างดี

เขาเลยเดินตัวปลิวออกมายังโต๊ะที่วางบรรดาถาดเนื้อไว้เรียงราย
หยิบตะแกรงคีบเป็นอาวุธ
ดวงตากลมพิจารณาเนื้อแต่ละชิ้นอย่างตั้งใจตามนิสัยเดิม ๆ ของตัวเอง



...เอาแบบไหนดีวะ?


จะยังไงเวลากินหมูกระทะก็ต้องเป็นเนื้อติดมันอยู่แล้ว
เวลาเอาไปย่าง มันของเนื้อจะค่อย ๆ ละลาย
หอมหวานนุ่มลิ้น กินแล้วอร่อยสุด ๆ


เฮ้ย... ชิ้นนี้ ไม่ไหวมั้ง
เนื้อแดงทั้งแผ่นเลย ขืนย่างไปได้เหนียวตาย
คงเคี้ยวจนเมื่อยกรามก่อนพอดี


...ส่วนชิ้นนี้
โห...มันเกิ๊น มันหมูเหรอครับพี่
อย่างนี้ควรเอาไปย้ายไว้ในถาดสำหรับมันล้วนเลยดีกว่า


...แล้วก็ชิ้นนี้
อืม.... เข้าท่า....
มันแทรกระหว่างเนื้อกำลังดี
แต่ชิ้นไม่เล็กเกินไปเหรอวะ
ร้านขี้เหนียวไปหน่อยมั้งให้ของดีมาแค่นี่เอง
ลองหาชิ้นใหม่ก่อนดีกว่ามั้ย


งั้นชิ้นต่อไป...



“อ่ะ!...”


ปลายฟ้าอุทานออกมาอย่างตกใจ
เมื่ออยู่ ๆ มีมือปริศนาของใครบางคนดึงจานของเขาออกไปจากมือ
ดวงตากลมรีบหันกลับไปมองทันที
ก่อนจะพบกับนัยน์ตาคมมองตอบกลับมา


...คนคนเดิม

...ในสถานการณ์เดิม


และสิ่งที่กำลังจะทำถ้าเขาเดาไม่ผิด

...มันน่าจะมีแนวโน้มไปในแบบเดิมด้วย


เพราะตอนนี้เขาเห็นคนคนนั้นกำลังคว้าตะแกรงคีบมาไว้ในมือ
ก่อนจะจัดการคีบเนื้อหมูในถาดขึ้นมาพูน ๆ
พลางเอ่ยประโยคคลาสสิกที่สุดแสนจะหวังดี


“มาเดี๋ยวเราช่วย”


ปลายฟ้าสะดุ้งเฮือก
เบิกตากว้างมองการกระทำตรงหน้า
รีบอ้าปากร้องตะโกนห้ามเสียงหลง


“เฮ้ยย!!  หยู๊ดดดดด!!!”


มือที่กำลังคีบเนื้อหมูหย่อนลงจานถึงกับชะงัก
ร่างสูงหันกลับมามองอย่างสงสัย


“อ้าว...ทำไมล่ะ? คีบไม่เป็นไม่ใช่เหรอ จะได้คีบให้”


“ไม่ใช่คีบไม่เป็น เรากำลังเลือกอยู่”


“เลือก?”


คมสันทวนคำ ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างมึนงง
จนทำให้ปลายฟ้าต้องตั้งต้นอธิบาย


“ก็เวลากินหมูกระทะ มันต้องเลือกเนื้อหมูดี ๆ มาย่าง
ถ้าเลือกที่มีเนื้อแดงมาก ๆ มันจะเหนียวกินไม่อร่อย
เราเลยต้องค่อยๆ คีบเลือกเนื้อที่มีมันแทรกอยู่บ้าง
ไม่ใช่เพราะเราคีบไม่เป็น เข้าใจรึยัง?”


คมสันนิ่งคิดเหมือนกำลังประมวลผล
มองพิจารณาคนตรงหน้าซึ่งมีท่าทีจริงจังไม่ได้ล้อเล่น
กระทั้งเผลอนึกขึ้นได้ถึงลักษณะนิสัยบางอย่างที่เจ้าตัวเคยพูดไว้
จึงทำให้ร่างสูงพยักหน้ารับคล้ายกับเข้าใจ


“อ้อ...แล้วก็ไม่บอก”


ปลายฟ้าเบ้หน้าทันทีที่ได้ยินคำแก้ตัว
อดไม่ได้ที่จะเถียงกลับขึ้นทันควัน


“ไม่บอกอะไร นายเคยฟังเหรอ
คราวที่แล้วกำลังเลือกอยู่ดี  ๆ
ดันคีบเนื้อมาใส่ให้ซะงั้น
เราเลยกินหมูกระทะไม่อร่อยเลย”


คู่สนทนาบ่นอุบด้วยท่าทีงอน ๆ อย่างที่ไม่ค่อยจะเคยได้เห็น
จนคมสันเผลออมยิ้มบางกับภาพตรงหน้า
ก่อนจะยื่นส่งจานคืนกลับไปให้


“งั้นก็ขอโทษที คราวนี้เราไม่เสือกแล้ว
แต่ทีจริงไม่เห็นต้องเลือกเลย
กินลงท้องไปก็เหมือนกันหมด”


ไอ้ประโยคแรกเหมือนจะดี
แต่ประโยคท้ายเนี่ยสิ....
ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกคล้ายกับถูกจี้ใจดำ


ปลายฟ้าทำหน้าตึงรีบร้องโวยวายกลับด้วยความไม่พอใจ


“มันไม่เหมือนกันสักหน่อย!
เนื้อดี ๆ กินแล้วอร่อยกว่าตั้งเยอะ
ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวเราจะทำให้ดู! รอแป๊บ..”


พูดจบคนท้าก็หันกลับไปเลือกเนื้อต่อด้วยสปีดความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิด
ก่อนจะได้เนื้อหมูลายสวยสิบกว่าชิ้น
แล้วจึงลากนายคมสันให้กลับมานั่งประจำที่
ลงมือปิ้งเนื้อลงกระทะไม่พูดพล่ามทำเพลง
ดวงตากลมจดจ้องเนื้อหมูแทบไม่กระพริบ
เหมือนกำลังแข่งขันทีวีแชมป์เปี้ยนหาสุดยอดพ่อครัวปิ้งย่างซะอย่างนั้น
และชั่ววินาทีที่เนื้อเปลี่ยนสีส่งกลิ่นหอมฟุ้งสุกกำลังพอดี
เขาจึงอาศัยจังหวะใช้ตะเกียบคีบลงใส่จานของคนรอ


“อ่ะ ลองดู”


คมสันมองเนื้อหมูที่เพิ่งย่างเสร็จใหม่ ๆ ในจานอย่างงง ๆ
โดยมีสายตาของคนนั่งข้าง ๆ รอลุ้น
ร่างสูงจึงคีบเนื้อใส่ปาก ก่อนจะบรรจงเคี้ยวช้า ๆ ให้รสแทรกซึมลงไป


...ความจริงสำหรับคมสันแล้ว
ไอ้หมูกระทะเขาก็เคยกินมามาก
จนแยกไม่ออกหรอกว่าแต่ละอย่างมันแตกต่างกันตรงไหน
แต่น่าแปลกที่เนื้อหมูซึ่งใครคนหนึ่งตั้งใจปิ้งให้มา
กลับหวานนุ่มและหอมติดจมูกมากกว่าที่เคยกิน


เพราะอะไร...


...หรือเป็นเพราะคนทำใส่ ‘ความตั้งใจ’ ลงมาให้ด้วย




“เป็นไงอร่อยมั้ย”


“อืม อร่อย”


“เห็นป่ะบอกแล้ว”


ปลายฟ้ายิ้มหน้าบานเมื่อเห็นว่าตนเป็นฝ่ายชนะในคำท้า
เรื่องของศักดิ์ศรีมันฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ครับ
หากแต่ยังไม่ทันที่จะถล่มเกทับให้หายแค้น
อีกฝ่ายกลับต่อประโยคหนึ่งขึ้นมา


...และเป็นประโยคที่ทำเอาคนฟังถึงกับหน้าร้อนวาบ




“ยิ่งพอเห็นปลายยิ้มก็ยิ่งอร่อย”




อะ...


...อะไรนะ


มันว่ายิ่งอร่อยเพราะอะไรนะ



...เพราะเห็นเขา ‘ยิ้ม’ เหรอ



ไอ้บ้า!!

บ้าแล้ว!! มันพูดมาได้ยังไง

มีที่ไหนหมูกระทะอร่อยขึ้นเพราะเห็นเขายิ้ม
แม่งมั่ว!! คิดไปเองต่างหาก

ถ้าเขายิ้มแล้วอร่อยได้จริง
ป่านนี้เขาไปเปิดหมูกระทะขาย
แล้วยืนยิ้มตอนลูกค้ากินจนเมื่อยหน้าเลยไม่ดีกว่าเหรอ

ประสาทว่ะ!! คิดมาได้ยังไง!!


อ้าว...แล้วนี่มันยังจะมาจ้องเขาอยู่อีกทำไม

จ้องอะไรวะ!! มองไปที่อื่นดิ!!

ก็ตอนนี้เขาไม่ได้ยิ้มแล้ว...


...ไม่ได้ยิ้ม แต่หน้ามันกำลังร้อน ๆ


...ร้อนจนต้องเผลอเบือนหน้าหนีไม่กล้าสบดวงตาคมที่มองมา


...เอาอีกแล้ว เป็นอะไรวะ
พักนี้หลบตามันบ่อยจริง
ทั้งๆ ที่มันไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย
แถมใจมันสั่นตลอด ....รู้สึกหวิว ๆ แปลก ๆ
นี่เขาไม่สบายเหรอ กำลังเป็นโรคอะไร
ในหนังสือเรียนไม่เห็นมีบอกไว้เลยนี่นา


...โอยยย!!  ไม่รู้โว้ยยย!!  ปวดหัวไม่อยากคิดอะไรแล้ว!!!



ปลายฟ้าเถียงตัวเองไปมาในใจอย่างคนหาข้อสรุปไม่ได้
เสี้ยวหน้าที่เห็นยังคงแดงเรื่อจาง ๆ
ปล่อยให้คมสันนิ่งเงียบมองอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไรออกมา
จนกระทั่งมีเสียงแซวขึ้นเอ่ยขัด


“อุ๊ย! สองคนนี้มัวแต่ปิ้งให้กันอยู่นั้นแหละ
ไม่เห็นปิ้งให้คนอื่นบ้างเลยนะจ๊ะ พ่อเต่าน้อย”


คนที่กำลังสร้างโลกส่วนตัวเลยต้องรีบลากตัวเองกลับมาสู่ความจริง
หันไปให้ความสนใจกับมหกรรมปิ้งหมูกระทะต่อ
โดยไม่มีบทสนทนาเพิ่มเติมต่อจากนั้นอีกเลย


.....


...


.

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 15-12-2012 19:09:27
...

..

.

กว่างานเลี้ยงจะเลิกก็ปาเข้าไปเกือบสี่ทุ่ม
เรียกได้ว่าถ้าร้านไม่ใกล้ปิดพวกเขาคงไม่กลับ
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการชวนไปดื่มต่อกันที่ผับ
ซึ่งคราวนี้แอบมีแอลกอฮอล์มาเอี่ยวด้วยเล็กน้อย

แต่กลุ่มเภสัชของเขาต่างขอตัวลา
เพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้ากลัวจะไม่ไหวกัน
ปลายฟ้าจึงซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ไอ้เกมส์กลับมาที่หอ
แยกย้ายเข้าห้องใครห้องมันอย่างหมดสภาพ


คนเหนื่อยถอนหายใจลากตัวเองเข้าห้องน้ำ
ตั้งใจรีบอาบน้ำอาบท่าให้เสร็จจะได้เตรียมตัวเข้านอนซะที

วันนี้เจอเรื่องบ้าบอคอแตกให้ปวดหัวตั้งหลายเรื่อง
แถมยังมีอาการแปลก ๆ
อยู่ ๆ ก็หน้าร้อนขึ้นบ่อย ๆ โดยไม่มีสาเหตุ
สงสัยอากาศมันกำลังเปลี่ยน
เขาคงใกล้จะไม่สบายแน่ ๆ เลยวะ


คนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเดินถือผ้าเช็ดตัว
ขยี้ผมที่เพิ่งสระเสร็จใหม่ ๆ ของตัวเองให้พอหายแห้ง
กำลังจะเตรียมปิดไฟนอนเพื่อรักษาสุขภาพอันดี
หากแต่กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้น


ตี๊ดดดดดดดด!!!!!


ซัมซุมกาแล็คซีเอสสามร้องสั่นอยู่บนโต๊ะเรียกให้เจ้าของเดินมาหยิบ
ปลายฟ้ามองดูเบอร์โทรซึ่งโชว์เป็นตัวเลขที่ไม่ได้เมมชื่อไว้
เขาขมวดคิ้วงง แต่ก็กดรับพร้อมกรอกเสียงลงไป


“ฮัลโหล”


((ฮัลโหลปลาย เราคมนะ))




ถ้อยคำจากปลายสายทำให้ลมหายใจคนฟังสะดุด


...คม

...คมสันน่ะเหรอ


เฮ้ย!!  มะ...มันรู้เบอร์เขาได้ยังไง

เออวะ... ใช่... เขาเคยให้เบอร์มันไปกับมือตอนอยู่ค่ายนี่หวา

ละ...แล้วทำไมมันถึงมาโทรเอาป่านนี้


คนสงสัยพยายามเก็บอาการตกใจเอาไว้
แต่ก็ยังไม่วายเผลอทำเสียงตะกุกตะกัก


“มะ...มีอะไรเหรอ”


((ปลายจำเรื่องบัดดี้ที่บอกว่าจะเลี้ยงเรานอกรอบได้มั้ย))



เออ...จริงด้วย
จะว่าไปถ้ามันไม่ทักมาเขาก็เกือบลืมไปแล้วว่าเคยสัญญาไว้อย่างนั้น

ปัดโธ่! ก็ปิดเทอมมาตั้งเดือนหนึ่ง
แถมยังเพิ่งจะมาเจอหน้ากันอีก
ใครที่ไหนจะมารื้อฟื้นจำกันได้
สงสัยที่มันโทรมาหาก็คงจะเพิ่งนึกออกเหมือนกัน


คนที่เคยมีตำแหน่งบัดเดอร์เลยตอบปลายสายกลับไป



“อืม จำได้”


((วันเสาร์นี้ปลายว่างรึเปล่า))


“ว่าง”


((แล้วปลายอยู่หอไหน))


“หอตะวัน”


((โอเค งั้นเดี๋ยววันเสาร์สิบโมงเช้าเราไปรับหน้าหอนะ))


“อืม”


ปลายฟ้าตกลงไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด

อ้าว...ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
สัญญายังไงก็ต้องเป็นสัญญา
แค่ออกไปหาข้าวกินสักมื้อก็คงจบ
จะได้ไม่ต้องมีอะไรให้ค้างคาใจกันอีก


หลังจากนั้นบทสนทนากลับหยุดลงซะเฉย ๆ
ต่างคนก็ต่างเข้าสู่ภาวะเดิมเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
ปล่อยให้ความเงียบเข้าครอบคลุมอยู่อย่างนั้น


...เออ... พอเงียบแบบนี้แล้ว...

มะ...ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมา

ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เห็นหน้าได้ยินแค่เสียงแท้ ๆ
แต่เขาก็ยังคงทำตัวไม่ถูก...

จะเป็นเพราะสาเหตุอะไรก็ยังไม่แน่ใจ

...สิ่งที่รู้เพียงอย่างเดียวคือตอนนี้หน้าเขามันร้อน ๆ   
ในใจมันหวิว ๆ เหมือนคนกำลังจะเป็นไข้
นี่นับเป็นครั้งที่สามของวันแล้ว

...สงสัยเขาจะไม่สบายจริง ๆ เว้ย

ไม่เอาแล้ว... เลิกคุยเหอะ..

...เขาจะได้รีบไปนอนซะที



คนที่หาทางหนีจึงเริ่มเป็นฝ่ายพูดตัดบทเสียเอง


“เออ...ไม่มีอะไรแล้วใช่มั้ย งั้นแค่นี้นะ”


((เดี๋ยว ปลาย...))


คำรั้งทำให้คนได้ยินชะงัก
นิ่งเงียบรอฟังประโยคที่อีกฝ่ายพยายามบอก
หากแต่คำที่หลุดออกมาเสียงพยางค์สั้น ๆ จับใจความไม่ได้


((คะ...))


“ห่ะ อะไรนะ”


((เปล่า ไม่มีอะไรแค่นี้นะ))


คนพูดตัดบทวางสายไปดื้อ ๆ
เล่นเอาคนที่ยังไม่รู้เรื่องถึงกับมองงง ๆ


อ้าว...ตกลงมันจะพูดอะไรกันแน่วะ
แต่เอาเถอะ... ช่างมัน...
ตอนนี้เขารีบไปนอนดีกว่า
หน้ามันยังร้อนอยู่ไม่หายเลย
ถ้าไม่ดีขึ้นสงสัยพรุ่งนี้ต้องไปหาหมอแล้ว


ปลายฟ้าสะบัดหัวสั่งให้ตัวเองเลิกคิดฟุ้งซ่าน
ก่อนเตรียมตัวปิดไฟเข้านอน...



....ตรงข้ามกับใครอีกคน
ที่ยังคงเหม่อมองโทรศัพท์นิ่งอยู่นอกระเบียงหอพักของตัวเอง



คมสันจ้องมองดูชื่อของคนที่เพิ่งคุยด้วย
ซึ่งถูกบันทึกเอาไว้บนมือถือนับตั้งแต่ที่ได้มาเป็นครั้งแรกจากค่ายอาสา
แต่เพิ่งจะทำใจกล้าโทรมาหาเอาวันนี้


ไม่ใช่เพราะเขาอยากให้บัดเดอร์เลี้ยงนอกรอบหรอก

...นั่นน่ะเป็นข้ออ้าง


เหตุผลจริง ๆ ของมันคือถ้อยคำที่เขาไม่กล้าบอกออกไป
เลยทำได้แต่ด่าตัวเองซ้ำ ๆ ในใจ


...บ้าไปแล้วรึเปล่า

เพิ่งจะห่างกันแค่ไม่กี่นาทีแท้ ๆ
แต่ในหัวของเขากลับมีภาพรอยยิ้มของคนคนนั้นขึ้นมาจนเต็มไปหมด


...ไม่รู้เป็นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร

...ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นมาตอนไหน

รู้ตัวอีกทีสายตาก็คอยเอาแต่มองหา

อย่างวันนี้ตอนที่เตะบอลกันอยู่ก็ดันเผลอไปมอง
ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่เวลาจะทำอย่างนั้นเลย


แค่อยากเห็น...

แค่เป็นห่วง....

...อยากจะคุยให้มากขึ้น

...อยากจะเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ


ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่เขาไม่เคยนึกรังเกียจ

...จะรังเกียจลงได้ยังไง ก็ปลาย ‘น่ารัก’ ขนาดนั้น


ยิ่งวันนี้ได้อยู่ใกล้ ไม่รู้ทำไมยิ่งเห็นว่าน่ารักเป็นพิเศษ
ถึงอีกคนจะพยายามหลบตา แต่ไอ้ท่าทางแบบนั้น
กลับทำให้เขายิ่งอยากมองเข้าไปใหญ่

ไม่รู้ว่าปลายทำยังไงเขาถึงหลงเสน่ห์ได้มากขนาดนี้
หรือจะเป็นเพราะหมูชิ้นนั้นที่ปลายแอบร่ายมนต์ใส่มาให้กินกันแน่


...แล้วปลายจะรู้มั้ย


รู้รึเปล่าว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง...



ความรู้สึกที่เป็นเหตุผลเดียวกับที่อยากโทรหา


และเป็นความรู้สึกเดียวกันในถ้อยคำที่เขาไม่กล้าพูดออกมา


ความรู้สึกที่เขาอยากจะบอกปลายฟ้าว่า...




...คิดถึง...




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



ยาวได้อีก จัดไปเอาให้จุใจ :laugh3:
ตอบแทนความช้าของพ่อเต่าน้อย
เลยขอมาเสิร์ฟให้แบบยาว ๆ กันไปเลย
แถมเพลงประกอบให้อีกนิด  :-[
คงไม่มีเพลงไหนเหมาะกับเรื่องนี้ไปได้เท่าเพลงนี้แล้ว


‘ปลายฟ้า Ver. ประกอบละครรักนี้หัวใจเราจอง’


http://www.youtube.com/v/lqIAkwUPjOU?


“...คิดถึงเพียงเธอ ในใจฉันคิดถึงเพียงเธอ
ไม่มีคำใดจะแทนจิตใจมากมายเท่าคำนี้เลย
ดาวน้อยโปรดลอยมาลงตรงหัวใจ
เก็บเกี่ยวความคิดถึงฉันไปให้เธอที่
....ปลายฟ้าไกล”



 :L2:

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 15-12-2012 19:20:33
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
น้องปลายน่ารักมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คมเอ๊ย รุกเข้าไปๆ
เต้าน้อยเริ่มหวั่นไหวแล้ว
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-12-2012 19:23:35
คมรุกเข้าไปให้หนักๆๆ :-[ :-[ :-[

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-12-2012 19:25:45
อ่านไปอมยิ้มไป เอ็นดูพ่อเต่าน้อย
ขนาดหน้าร้อนแทบไหม้ยังคิดว่าตัวเองไม่สบายอีก :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 15-12-2012 19:32:42
จีบเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 15-12-2012 19:37:43
ขอกรี๊ดดดดดดดังๆ ก่อนนะคะ หวานมากกกกกกกกกกกกกกกกก ยาวถูกใจด้วยคร่า ชอบๆๆๆ พ่อเต่าน้อยเขินใหญ่เลย นี่คมยังไม่ได้ รุกนะคะเนี่ย แค่มองนิดเดียวเอง ยังหวานกันได้ขนาดนี้ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-12-2012 19:46:06
เดทแรกของสองเราจะออกมารูปแบบไหนนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: saiiisai ที่ 15-12-2012 20:12:01
อย่าว่าแต่ปลายเลย
คนอ่านก็ยังหน้าร้อนวาบ ๆ ขึ้นมา  :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 15-12-2012 20:15:21
 :3123:กรีดร้อง น้องเต่า ร้อนหน้า :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 15-12-2012 20:17:26
ค่อยๆรุกเข้าไปทีล่ะนิดนะพ่อคม เต่าน้อยเริ่มรู้สึกตัวแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 15-12-2012 20:18:10
น่ารักมากเลยอ่ะ น้องปลายกับหนุ่มคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 15-12-2012 20:36:15
นายคมนี่รู้ตัวรึยังว่าตัวเองชอบปลาย บางทีอาจจะยังไม่รู้นะ
ถ้ารู้แล้ว หรือสรุปได้แล้วคงรุกหนักกว่านี้แน่นอน

ส่วนพ่อเต่าน้อย พ่อน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตอนย่างหมู พ่อน่าจะป้อนคมไปเลยนะ
จะได้เห็นฉากเป่าหมู แล้วค่อย ๆ เอาเข้าปาก อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-12-2012 20:43:24
 :-[ น่ารักจังเลย

เริ่มคืบคลานไปเรื่อยๆแล้ว  o18

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 15-12-2012 20:48:06
คมเริ่มจีบแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 15-12-2012 20:50:54
อ๊ากกกกกก >_< เอาแล้วว้อยๆ คมเริ่ทรุกมาเรื่อยๆแล้ว
อิหนูเต่าน้อยก็เริ่มเข้าโหมดสาวน้อย  อ่านแล้วแก้มจะแตก

 :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-12-2012 20:52:57
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-12-2012 21:04:57
หมูกะทะมื้อนี้  หวานจริงๆ

ปลายจะรู้ไหมว่าหนุ่มคม คิดถึง

:o8: คมนัดออกเดทกับพ่อเต่าน้อยแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 15-12-2012 22:14:26
มนต์รักหมูกระทะ :mc4: แท้ๆ

ตอนหน้าไปดินเนอร์อาหารหน้าองค์พระเนอะๆ  ไปกินราดหน้ายอดผัก บะหมี่หมูแดง เย็นตาโฟชามเหล็ก ไอติมลอยฟ้า ตบท้ายด้วยหมูเวลล์รอบดึก  หิว.......... :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-12-2012 22:31:57
อีกนิดนึง
เสาร์นี้เขาจะเจอกันสองต่อสองแล้ว
จะมีความคืบหน้าไหมน่ะ
คมจะกล้าพูดคำว่า คิดถึง หรือเปล่า
เต่าน้อยก็จะถาม คิดถึงทำไมล่ะ
เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-12-2012 22:48:48

คมลุยเลยยย  o13

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-12-2012 23:14:56
หวานจนเดี๊ยนจะสำลัก

อิจฉาๆๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 15-12-2012 23:30:55
โอ๊ย - - แถวหน้าจอคอมมดเยอะเกิ๊น!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 15-12-2012 23:35:45
คมสันอย่างติดอ่างสิ..กล้าๆพูดเลยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-12-2012 23:53:13
น่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 >; P.63
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-12-2012 01:29:28
ยิ้มเบาๆกับความน่ารักของพ่อเต่าน้อยแลยนายคมสัน!! เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 16-12-2012 01:31:40
ยิ่งอ่านยิ่่งบิดเป็นเกลียวโปเต้
น่ารักอ่ะ
รู้สึกกันทีละนิด
หยอดให้เขิลกันบ่อยๆ  น่ารักดี
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 16-12-2012 18:57:34
โอ๊ะ พัฒนากันไปได้ค่อนข้างสวยเลยนะ
สปีดเร็วกว่าเดิมด้วยนิดนึงแหนะ 

แต่กว่าจะได้รู้ความรู้สึกกันจริงๆ คงอีกหลายตอน
แบบนี้ก็ดีนะคะ ค่อยๆ มีความรู้สึกก่อตัวขึ้นทีละน้อย จะได้รักกันนานๆ ฮิๆ :3

น้องคม... แค่คำว่าคิดถึง บอกออกไปเลย พูดออกไปเลย
อย่าไปเกรงอย่าไปกลัว บอกออกไป เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายก็คงคิดตรงกัน

เราว่าคมต้องรุกแล้วหละ แต่อย่ารุกเร็วไปนะ น้องปลายจะได้ปฏิเสธกันง่ายๆ


ว่าแต่ว่า... เรื่องนี้ไม่มีดราม่าเหรอคะ  อยากจิอ่านคู่นี้ดราม่าอะ  ฮ่าาาาา


ปล. คู่ดิวเกมส์น่าสนใจมากๆ เลย  อยากอ่านคู่นี้จังค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 16-12-2012 19:48:16
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 16-12-2012 22:43:04
อุ๊ยเขินจัง คิดถึงด้วย






น้องปลายค่ะถ้าหน้าร้อนแปลว่าเขินค่ะ แล้วยิ่งมีใจก็แปลว่ารักนะ ทำเป็นเด็กน้อยเชียว






ท่านชายคมค่ะ รีบรุกไล่ได้แล้ว เดี๋ยวน้องเค้าหนีไปมีกิ๊กนะ ลุ้นดิว-เกมส์อีกด้วย






มาต่อนะ เร็ว ๆ รออยู่เน้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 17-12-2012 10:55:33
เขินอ่ะ :-[

รุกเลยคม รอเต่าปลายคงไม่รู้ตัวอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 17-12-2012 12:24:26
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 17-12-2012 13:52:04
น่ารักจังเลยนะ น้องปลาย กับ คม  คมต้องรุกกว่านี้แล้ว เขินกันทั้งคู่ ชอบจังค่ะ อยากอ่านต่อแล้วละ จะคอยทุกวันเลยค่ะ

อยากอ่าน ดิวส์ เกมส์ ด้วย ดูน้องทั้งคู่น่ารักเหมือนกันเลย อ่านตอนแรกนึกว่าน้องดิวส์จะมาจีบน้องปลายซะอีก ที่แท้แกล้งเพื่อนนี่เอง

ชอบมาก จะรอนะคะ :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 17-12-2012 17:38:09
เหยยยยยยยยยยยย น่ารักเกิ๊น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 18-12-2012 01:57:53
เขินกันไปเขินกันมา น่ารักจังเลยเรื่องนี้
ึคมรุกหนักๆหน่อยสิ เดียวก็มีคนมาจีบปลายตัดหน้าหรอกยิ่งน่ารักๆอยู่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 18] 15/12/55 > P.63
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 18-12-2012 05:30:05
พุ่งกอดเต่าปลาย****

ก็เธอน่ารักอ่ะ

ตอนนี้เริ่มคุยกันมากขึ้น  น้องเต่าปลายบอกความคิดของตัวเองมากขึ้้น  เขินน่ารักสะบัดจริงๆ
พ่อหนุ่มหน้าคมหลงเสน่ห์เต่าท่าทางจะยั้งใจไม่ไหวแล้วล่ะ  ฮ่า ฮ่า  อย่าช้า อย่ารอให้เต่าตัดสินใจนะคม
อ้อออ แนะนำว่าไม่ต้องถามเยอะ ดูจากสีหน้าแล้วรวบรัดเลย  :laugh:  คนอ่านและดูเลวมาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 18-12-2012 22:22:12
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นที่ 19



...เฮ้ย!! ...มันก็แค่ไปเลี้ยงบัดดี้

ใช่ ๆ ไปกินข้าวกับบัดดี้ด้วยกันสองคนเฉย ๆ

มึงอย่าไปคิดอะไรมากสิวะ!!   

โอยยย...ก็บอกว่าอย่าไปคิด...อย่าไปคิด...


...ขนาดไม่คิด....แล้วนี่กูยังจะเสือกมายืนหมุนไปหมุนมา
เลือกเสื้ออยู่หน้ากระจกเป็นรอบที่ร้อยทำไมวะเนี่ย!!


ปลายฟ้าขยี้ศรีษะหงุดหงิดอย่างคนที่ไม่เข้าใจในอารมณ์ตัวเอง
ว่าเหตุไฉนเขาต้องมาเกร็งกับนัดเลี้ยงบัดดี้ธรรมดา ๆ นี้ด้วย

ก็เล่นตื่นตั้งแต่แปดโมงเช้าอาบน้ำอาบท่าแล้วก็มายืนมองหน้าตู้เสื้อผ้า
เลือกชุดอยู่นานสองนานอารมณ์เหมือนถูกสาวน้อยในการ์ตูนเข้าสิง


ไอ้เชี่ยเอ้ยย!! แค่ไปกินข้าวกับบัดดี้ไม่ได้ไปเดท

...เขาจะตื่นเต้นอะไรนักหนาวะ!!


ไม่แน่ว่าสาเหตุที่เป็นแบบนี้มันอาจเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรก
ที่เขากับคมไปกันสองคนโดยไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย
ถึงพวกเขาจะเริ่มสานต่อมิตรภาพดี ๆ
จากแค่คนแปลกหน้า... เด็กต่างคณะ...
กลายมาอยู่ในสถานะที่เรียกว่า ‘คนรู้จักกัน’
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาสองคนจะสนิทสนมอะไรกันมากมายเท่าเพื่อนในกลุ่ม
คุยกันก็แทบจะนับครั้งได้ ...อย่างล่าสุดที่มันโทรมาเขายังไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย
พอมานัดเจอหน้ากันแค่สองคนเลยรู้สึกแปลก ๆ

แต่เอาวะ... ช่างมัน...
ถ้าไม่มีเรื่องคุยก็ไม่ต้องคุย แค่ไปกินข้าวครึ่งชั่วโมง
ชำระหนี้ที่ค้างคาต่างคนต่างแยกย้ายเป็นอันจบ


...มึงอย่าคิดมากสิวะ!!


ปลายฟ้าสั่งตัวเองให้สงบย้ำซ้ำอีกครั้ง
แล้วจึงตัดสินใจคว้าเสื้อยืดสีขาวธรรมดา
กับกางเกงยีนส์สีเข้มตัวโปรดมาใส่ให้เรียบร้อยอย่างเป็นปกติ
ก่อนจะนั่ง ๆ  นอนเล่นเกมบนซัมซุงกาแล็กซี
หิ้วท้องรอใครบางคนตามเวลานัด
เล่นเกมส์เพลินจนเกือบจะเพิ่มแต้มทำลายสติได้อยู่แล้ว
แต่กลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงสั่นพร้อมกับที่หน้าจอเปลี่ยนเป็นโหมดมีสายโทรเข้า


“ฮัลโหล”


เขากรอกเสียงลงไปตามสาย
เหลือบตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่ข้างผนัง
ซึ่งชี้บอกเวลาสิบโมงตรงเป๊ะ


((เรารออยู่ข้างล่าง))


“โอเค เดี๋ยวลงไป”


คนพูดตอบสั้น ๆ กดวางโทรศัพท์
หันมาหาตัวเองในกระจกเพื่อเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งเผื่อลืมอะไรเอาไว้
ที่แน่ ๆ คือห้ามลืมเงินในกระเป๋าตังค์เด็ดขาด
เมื่อวานอุตส่าห์ไปกดมาเตรียมพร้อม
กะว่าบัดดี้ให้เลี้ยงอะไรเขาก็จะตามใจเต็มที่


ปลายฟ้าล็อคประตูห้องเดินลงบันไดมาจากชั้นสอง
มองหาคนที่นัดไว้ซึ่งไม่ยากเย็นเลย
เพราะไอ้คนที่ดูท่าทางเถื่อน ๆ ใส่เสื้อยืดสีดำกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลง่ายๆ
กำลังยืนกอดอกรออยู่ข้างมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์สีขาวคงมีเพียงคนเดียว


เอ๊ะ...เดี๋ยวก่อน....


...เมื่อกี๊เขาว่ามันยืนอยู่ข้างอะไรนะ?



ร่างสูงที่เห็นว่าอีกฝ่ายเดินลงมาแล้ว
จึงขยับตัวหันไปหยิบหมวกกันน็อคยื่นส่งมาให้


“อ่ะ ใส่นี้ซะ”

 
..โห...ขอบคุณมากครับ
ทำไมมึงไม่เอาเสื้อหนังฮาเลย์มาให้กูด้วยเลยล่ะ
อย่าบอกนะว่าจะไปกันด้วยมอเตอร์ไซตบิ๊กไบค์เนี่ยจริง ๆ

...เฮ้ย!! บ้าแล้ว!!

รู้อยู่หรอกว่าบิ๊กไบค์มันโคตรเท่ห์ เขาเห็นแล้วเขายังชอบเลย 
แต่ลืมไปรึเปล่าว่าไอ้มอเตอร์ไซต์แบบนี้ที่นั่งมันแคบ
แล้วจะให้ผู้ชายสองคนนั่งเบียดกันไป
มันจะไม่ดูตลกไปหน่อยเหรอวะ!!


นายปลายฟ้ายืนเก้ ๆ กัง ๆ มองรถด้วยท่าทีสับสนไม่ยอมขึ้น
จนคนที่สตาร์ทเครื่องเสร็จแล้วหันมาเอ่ยเร่งอย่างงง ๆ


“เอ้า ขึ้นมาสิ”


คนโดนเร่งสะดุ้ง นึกอยากจะออกปากให้เปลี่ยนไปนั่งมอเตอร์ไซติ์ฮอนด้าเวฟของตัวเอง
แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายคงไม่มีทางยอมแน่ ๆ

ท้ายที่สุดในเมื่อไม่มีทางเลือก เขาจึงต้องจำใจใส่หมวกกันน็อค
ปีนขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังของบิ๊กไบต์สีขาวคันงาม

...แม่งที่จงจับที่จับก็ไม่ค่อยจะมี

ถ้าขืนมันขี่เร็ว ๆ เขาได้ลงไปนอนให้รถสิบล้อเหยียบเล่นแน่ ๆ


แต่ดูเหมือนคนขับจะไม่รับรู้ความในใจของคนกลัว
เพราะคมสันหยิบสวมหมวกกันน็อคขึ้นมาสวม
ก่อนเร่งเครื่องบิดทะยานบิ๊กไบต์พุ่งตัวออกไปอย่างแรง
จนคนซ้อนแทบหน้าคะมำรีบผวาคว้าเกาะเอวสิงห์นักบิดไว้แทบไม่ทัน
ลืมภาพพจน์ที่คิดจะรักษาไว้ของตัวเองจนหมดสิ้น


....ก็ตอนนี้ใครจะไปมีกะใจมานั่งแคร์
ถูกคนอื่นมองว่าเขากอดเอวผู้ชายขี่มอเตอร์ไซต์ยังไงก็ช่าง
แต่ตอนนี้ขอเขาเอาชีวิตตัวเองรอดไว้ก่อนพอแล้ว

แม่งเอ้ยยย!! มันจะขี่เร็วไปไหนวะเนี่ย!!

มึงเป็นแว๊นซ์กลับชาติมาเกิดรึไง เบา ๆ หน่อยดิเว้ยย!! 


...กูกลัวโว้ยยยยย!!



ปลายฟ้าหลับตาปี๋มือจิกเอวคนข้างหน้าแน่นไม่ยอมปล่อย
กะว่าสะบัดเลี้ยวซ้ายขวายังไงรับรองไม่มีหลุด
กระทั่งบิ๊กไบค์คันใหญ่ผ่อนแรงลงเลี้ยวเข้าจอดหน้าร้านหนึ่ง
แต่คนซ้อนกลับยังไม่รู้สึกตัวจนร่างสูงต้องหันไปบอก


“ถึงแล้ว”


อ้าว...ถึงแล้วเหรอวะ
โอยย...นึกว่าตัวเองจะนอนไส้ไหลอยู่กลางถนนแล้ว
ขี่เร็วอย่างกับมันแข่งมอเตอร์ครอส
เป็นบุญของกูแท้ ๆ ที่รอดมาได้


ปลายฟ้าถอนหายใจอย่างโล่งอกนึกขอบคุณโชคชะตาฟ้าดิน
ก่อนจะมองไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำเอาหัวใจแทบวายที่เหมือนยังไม่รับรู้ว่ามีความผิด
แถมมันยังจะหันมายิ้มอยู่อีก

...เอ้า! แม่งยิ้มอะไรวะ!!

คนกลัวจะตายห่ามีอะไรน่าขำรึไง!!


คนหงุดหงิดนึกโมโหอยู่ในใจ
หากแต่ร่างสูงกลับไม่มีท่าทีจะขอโทษ
ซ้ำยังย้อนถามขึ้นมาสั้น ๆ
หากแต่เป็นคำที่ทำให้คนฟังถึงกับสะดุ้ง


“ปล่อยเราได้หรือยัง”


ปลายฟ้าชะงัก มองมือตัวเองที่ยังคาไว้กับเอวของร่างสูง
แล้วก็ต้องรีบชักมือกลับมาด้วยความรวดเร็วเมื่อเผลอนึกขึ้นได้
ความหงุดหงิดเปลี่ยนเป็นความอายที่พุ่งขึ้นสูง
จนใบหน้าเริ่มรู้สึกร้อนวูบ 


แล้วพอหน้าร้อนทีไร...

...ไอ้อาการเดิม ๆ มันก็เริ่มจะกลับมาทุกที


เขารีบปีนลงจากมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ถอดหมวกกันน็อคส่งคืน
แต่กลับเบือนหน้าหนีไปอีกทางโดยไม่กล้าสบตา
ปล่อยให้คมสันเดินนำเข้าไปในร้านนั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง
ก่อนจะได้ยินเสียงเอ่ยถาม


“ปลายจะกินอะไร”


เจ้าของชื่อรีบหันมองป้ายเมนูที่อยู่บนผนัง
แล้วถึงเพิ่งจะสังเกตว่าร้านที่พวกเขาเข้ามา
เป็นร้านข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูแดง ข้าวหน้าเป็ดธรรมดา
ความจริงร้านนี้เขาก็เคยมากินหลายครั้งแล้วกับเพื่อน
เพราะมันอร่อยแถมอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยด้วย
แต่ครั้งนี้จุดประสงค์ของเขาคือตั้งใจมาเลี้ยงบัดดี้ไม่ใช่เหรอ
อุตส่าห์กดเงินมาเยอะแยะคิดว่ามันจะพาไปให้เลี้ยงอะไรแพง ๆ
แล้วมันดันเลือกกินแค่ข้าวหมูแดงง่าย ๆ เนี่ยนะ!!


“น้อง ๆ สั่งอาหารหน่อยครับ
ผมเอารวมมิตรแล้วกัน ปลายล่ะ...”


แต่ยังไม่ทันที่คนสงสัยจะได้ถามอะไร
คนนั่งตรงข้ามกับเรียกสั่งอาหาร
แถมท้ายประโยคยังหันมาถามเขาซึ่งยังไม่ทันได้ตั้งตัว


“อ่ะ...เออ...คือ...”


ปลายฟ้าตอบกลับตะกุกตะกัก
ตามองเมนูที่เขียนไว้อย่างลังเลตามนิสัย


...จะเอาข้าวหมูกรอบ ดีมั้ย
เจ้านี้เขาทำอร่อยไม่มันเลี่ยนกำลังดี

เออ...แต่ว่าเขาชอบกินข้าวหมูแดงนะ
เนื้อหมูนุ่ม ๆ ราดน้ำซอสเฉพาะสูตรที่ร้าน

เฮ้ย! แต่ข้าวหน้าเป็ดก็น่าสนใจ
นาน ๆ จะได้กินที
คราวที่แล้วเห็นไอ้เกมส์กินก็ดูท่าอร่อย

โอยย...เอาไงดีวะเลือกไม่ถูก!!


ยิ่งเร่งคิดก็ยิ่งลังเล
มิหนำซ้ำยังมีสายตาของคนจดรายการรออยู่อย่างคาดคั้น
ทำให้คนชักช้าเริ่มอึกอักเข้าไปใหญ่


“เอารวมมิตรเหมือนกันมั้ย
จะได้กินครบทุกอย่าง”


ปลายฟ้าหันมองคนพูด
ถึงแม้ใบหน้าคมจะนิ่งไม่เปลี่ยน
ทว่าคำในน้ำเสียงไม่ได้มีท่าทีแสดงการบังคับหรือชิงตัดสินใจเอาเอง
เหมือนแค่อีกฝ่ายช่วยเสนอความคิดขึ้นมามากกว่า


แต่น่าแปลก...
ที่มันกลับทำให้เขาค่อย ๆ ใจเย็นลง
และพยักหน้าตอบรับไปง่าย ๆ


“อืม”


“งั้นเอารวมมิตรเพิ่มอีกจานครับ
แล้วก็ขอน้ำเปล่าสองแก้ว”


คมสันจัดการบอกรายการอาหารให้เรียบร้อย

เพียงไม่นานข้าวหน้ารวมมิตรสองจานก็มาเสิร์ฟ
พวกเขาต่างคนต่างนั่งกินกันไปเงียบ ๆ
กระนั้นก็ถือเป็นเรื่องประหลาดที่ปลายฟ้าไม่รู้สึกถึึงความอึดอัดใด ๆ
จากที่คิดไว้ว่าจะมีแอบเกร็งเพราะไม่รู้จะคุยเรื่องอะไรกันดี

แต่พอตอนนี้เขากลับพบว่า...
การกินข้าวด้วยกันโดยไม่มีบทสนทนาก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
ซ้ำการกระทำของคมก่อนหน้านี้กลับทำให้บรรยากาศคลี่คลาย
จนเขาสามารถกินข้าวได้อย่างผ่อนคลายสบายใจ


และแน่นอนอยู่แล้วที่ข้าวหน้ารวมมิตรน้อยนิด
คงไม่สามารถยาไส้ผู้ชายหิวโซสองคน
พวกเขาเลยสั่งมาเบิ้ลอีกคนละจาน
พอฟาดเรียบไม่มีเหลือ
คมสันจึงเรียกคนในร้านให้มาคิดเงิน


“ทั้งหมด 190 บาทค่ะ”


ปลายฟ้าหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาเปิด
เห็นมีแต่แบงค์พันนอนกองอยู่ข้างใน

เมื่อวานเพิ่งกดตังค์เลยมีแต่แบงค์ใหญ่ ๆ
...ดีเลยจะได้แตกเศษย่อยได้

คิดพลางกำลังจะดึงแบงค์ออกมาส่ง
แต่เสียงพี่ที่เก็บเงินกลับทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมาทันควัน


“เงินทอนสิบบาท ขอบคุณค่ะ”



...อ้าวเฮ้ยเดี๋ยว!!

เขายังไม่ได้จ่ายเงินเลย แล้วจะมาทอนได้ยังไงกัน!?


คนสับสนรีบหันมองตัวการซึ่งรับเงินทอนมาไว้พร้อมพูดอธิบาย


“ไม่ต้องเดี๋ยวเราออกเอง”


“อ้าว...แล้วไหนบอกว่าจะให้เราเลี้ยงบัดดี้”


คนที่ตั้งใจเลี้ยงถึงกับขมวดคิ้วงงที่โดนชิงจ่ายตัดหน้าไปก่อน
แต่อีกฝ่ายกลับตอบคำหน้านิ่ง
ทว่าเป็นคำที่ชวนทำให้งงหนักกว่าเดิม


“ก็เลี้ยงไง แต่ไม่ใช่อันนี้”



เอ้า!! แล้วไม่ใช่อันนี้แล้วมันอันไหนล่ะวะ!

แต่เดี๋ยว...ประเด็นคือมันจะมาจ่ายค่าข้าวให้เขาทำไม
อย่างนี้ไม่เท่ากับว่าต้องเลี้ยงมันคืนซ้ำซ้อนไปมาเหรอ

...ตกลงใครเลี้ยงใครกันแน่เนี่ย ชักงงแล้วเว้ย!!


หากแต่คนให้คำตอบกลับไม่อยู่ให้ถาม
เพราะเจ้าตัวเดินลิ่วกลับไปยังรถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์ที่จอดอยู่
พร้อมกับยื่นส่งหมวกกันน็อคให้คนซ้อนเหมือนอย่างเคย
ก่อนจะขยับรถสตาร์เครื่องพร้อมเตรียมออก
แล้วจึงหันมองคนที่ยังคงยืนเก้ ๆ กัง ๆ
ซึ่งทำหน้าเจื่อนเหมือนลังเลคล้ายว่าไม่อยากขึ้น
จนคนรออยู่อดไม่ได้ที่จะพูดแซวขึ้นมายิ้ม ๆ



“ถ้ากลัวตกก็กอดไว้แน่น ๆ ได้นะ”



อะ...ไอ้บ้าเอ้ยย!!

ไม่ต้องทำมาพูดดีเลยนะมึง
ก็ใครใช้ให้ขี่เร็วขนาดนั้นล่ะวะ
นี่คิดจะกวนกันใช่มั้ย

ได้...ถ้าอยากให้กอดนัก
เขาก็จะกอดให้แม่งทะลุถึงม้ามเลย!!


ปลายฟ้าข่มความอายไว้ในใจแกล้งทำประชด
ด้วยการก้าวขาขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์พลางเอื้อมมือไปยังเอวของอีกคน

...ไม่ได้กอดครับ กริยานี้ต้องเรียกว่าจิก

เพราะเขาใช้นิ้วขยุ้มจิกลงไปที่กล้ามเนื้อหนา ๆ
พร้อมออกแรงบีบกะให้แหลกคามือ
แต่ดูเหมือนคนโดนแกล้งจะหนังหนากว่าที่คิด
เพราะคมสันไม่ได้แสดงท่าทีเจ็บปวดอะไร
กลับเร่งเครื่องบิดมอเตอร์ไซต์ให้ออกไปตามถนน
ด้วยความเร็วที่เต่าอย่างปลายฟ้ากลัวจนหัวหดเหมือนเช่นเคย
และเพียงแค่ไม่กี่นาทีบิ๊กไบค์ก็พาเขาสองคนมาสถิตอยู่หน้าห้าง


อ้าว...แล้วมันจะพาเขามาห้างทำไมมั้ย?


ไม่ต้องปล่อยให้งงนาน
เพราะคนพามาเดินนำหน้าเข้าไปก่อนเฉลยคำตอบสั้น ๆ


“ไปดูหนังกัน”



อ้อ...มันจะให้เขาเลี้ยงหนังนี่เอง

ปัดโธ่!! แล้วก็ไม่บอกกันดี ๆ ตั้งแต่แรก

เข้าใจว่าค่าข้าวสองจานมันอาจจะถูกไป
ตั๋วหนังราคาแปดสิบบาทค่อยดูมีราคาขึ้นมาหน่อย

เอ๊ะ...แต่พอคิดดี ๆ ราคามันก็พอ ๆ กันไม่ใช่เหรอวะ

เออ...แต่ไหน ๆ มันอยากดูก็ปล่อยให้มันดูไป
ช่วงนี้เขาเองก็ไม่ค่อยได้มาดูหนังในโรงเท่าไร
ส่วนใหญ่โหลดบิตเอาแทน
มาเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็คงจะดี


เขากำลังเดินคิดอะไรเพลิน ๆ
แต่อยู่ ๆ เสียงจากคนข้างตัวกลับเอ่ยถามขัด

....และเป็นคำถามที่ทำเอาเขาต้องแทบเดินสะดุด



“กลัวผีมั้ย”


...ห่ะ อะไรวะ
อยู่ ๆ ก็มาถามว่ากลัวผีมั้ย
โอยย!! อย่างเขาน่ะเหรอ
กะ.. กะ.. กะ... กลัวที่ไหน
ถ้าเจอจัง ๆ เขาก็แค่เผ่นเท่านั้นเอง


คนไม่กลัวผีจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
ทว่ากลับตอบคำถามเสียงตะกุกตะกัก


“ผะ..ผีหรอ มะ...ไม่กลัว”


“แล้วร้องไห้ง่ายใช่มั้ย”


คำถามที่สองตามมาติด ๆ เล่นเอาคนฟังแทบหน้าคะมำ

...ถามแบบนี้มันหยามศักดิ์ศรียิ่งกว่าถามว่ากลัวผีมั้ยซะอีก
มิหนำซ้ำเขายังเคยใช้บ่าของคนถามเป็นที่ซับน้ำตามาแล้วอีกต่างหาก
แต่แม้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายจะเหลืออยู่น้อยนิดเขาก็อยากรักษาไว้

คนเริ่มอายจึงรีบร้องเสียงหลงพูดปัดจนลิ้นแทบจะพันกัน


“เฮ้ยยย!! ปล๊าววว!! เราไม่ได้ร้องไห้ง่าย
คือเรา... แบบว่า.. ตอนนั้นคือ...”


ปลายฟ้าพยายามหาคำมาอธิบาย
แต่สมองกลับตื้อคิดไม่ออกขึ้นมาซะอย่างนั้น
คนฟังทำเพียงแค่ยิ้มบางเหมือนขำ
แต่ก็เดินนำหน้าเขาไปซื้อตั๋วที่ช่องขาย
ปล่อยให้คนที่ยังหาข้อแก้ตัวไม่ได้อ้าปากพะงาบ ๆ
ทั้งนึกอายทั้งนึกหงุดหงิดโมโหขึ้นมาพร้อม ๆ กัน


อ้าว...แล้วอยู่ ๆ มันจะมารื้อฟื้นถามเพื่ออะไรวะ
นึกว่าเป็นคนดีมีน้ำใจ
ที่แท้แม่งแอบกวนตีนเขานี่หว่า
ไม่ได้... เดี๋ยวมันซื้อกลับมาเสร็จต้องมีเคลียร์!!


หากแต่พอถึงเวลาคนหงุดหงิดกลับไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้
เพราะอีกฝ่ายดันยื่นตั๋วส่งมาให้เขาก่อนจะทันได้อ้าปากพูดอะไร


“งั้นดูเรื่องนี้ เรื่องอื่นปลายคงไม่ชอบ”


คนรับก้มมองของในมือ
ชื่อหนังบนกระดาษจำได้ว่าเป็นหนังฝรั่งแอ๊คชั่นฟอร์มยักษ์งบหลายล้านที่กำลังดัง
แต่ไอ้ประโยคที่ห้อยท้ายมาของคู่สนทนา
กลับทำให้เขาต้องเงยหน้ามองบิลบอร์ดซึ่งแปะโฆษณาอยู่ทั่ว
เรื่องหนึ่งเป็นหนังผีญี่ปุ่นสุดสยอง
ส่วนอีกเรื่องเป็นหนังไทย และจากคำโปรยคงเป็นหนังรักประเภทแนวครอบครัวปนดราม่าเคล้าน้ำตา

พอเห็นรายชื่อหนังที่เข้าฉายแล้ว
ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาฉุกคิดขึ้นมาได้


หรือว่าเป็นไปได้มั้ย...


เป็นไปได้มั้ยที่คมถามเขาเมื่อกี๊...



...เพราะอยากเลือกหนังให้ถูกใจเขาอย่างนั้นเหรอ



ความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สัมผัสได้
ทำให้คนที่คิดจะด่าเปลี่ยนเป็นอาการประหม่าเขินแทน
ก่อนรีบกลบเกลื่อนด้วยการเป็นฝ่ายเดินนำเข้าโรงหนังไป
อาศัยความมืดพลางหน้าที่เริ่มขึ้นสีจาง ๆ ของตัวเอง
พยายามละความสนใจจากใครอีกคนที่เดินตามมานั่งอยู่ข้าง ๆ
แล้วหันไปตั้งสมาธิจดจ่อกับหนังแอ๊คชั่นซึ่งกำลังจะเตรียมฉาย

....

..

.
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 18-12-2012 22:27:29
....

..

.


...โชคดีที่หนังเรื่องนี้สนุกใช้ได้ทำให้เวลาสองชั่วโมงครึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แม้ต้นเรื่องจะออกแนวเอื่อย ๆ น่าง่วง
แต่ช่วงท้ายมีฉากให้ลุ้นระทึกระเบิดตูมตามกันมันส์หยดให้พอคุ้มกับค่าตั๋วที่เสียไป
เลยนับว่าคมคงเลือกหนังที่ดูได้ไม่ผิด
เพราะขนาดออกมาจากโรงมาแล้ว
เขายังคงพูดคุยถึงประเด็นในหนังไม่ยอมหยุด
กระทั่งเดินมาถึงหน้ามอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์คันเดิมโดยไม่รู้ตัว
จนคนฟังเขาเมาส์ต้องเอ่ยถามขึ้นขัด


“ปลายอยากไปไหนต่อรึเปล่า”


...และนั้นแหละถึงทำให้เจ้าของชื่อรู้สึกตัว
เผลอนึกขึ้นได้ว่าจุดประสงค์ของตัวเองไม่ใช่มาดูหนัง
แต่มาเพื่อเลี้ยงบัดดี้ต่างหาก
แล้วเขาปล่อยให้มันจ่ายตลอดแบบนี้ได้ไงวะเนี่ย


“เฮ้ย! เราต้องถามมากกว่าไม่ใช่เหรอ
เรามาเลี้ยงคมนะ
เออ...แล้วค่าหนังเมื่อกี๊เดี๋ยวเราออกให้”


ปลายฟ้าตั้งท่าจะหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาอีกรอบ
แต่กลับโดนคู่สนทนาสั่งห้ามไว้


“ไม่ต้อง ถ้าเราจะให้ปลายเลี้ยงอะไร เดี๋ยวเราจะบอกเอง”


อ้าว...ไหงเป็นงั้นวะ
อย่างนี้มันก็เหมือนกับเขามาเที่ยวกับมันเฉย ๆ อ่ะดิ
แถมมันยังจะมาเลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง
ทำอย่างกับผู้ชายออกเดทกับผู้หญิง

เฮ้ยยย!! ไม่ใช่ทำเหมือนแล้ว

...นี่แม่งเหมือนเลย

ไอ้พฤติกรรมแบบนี้ถ้าเปลี่ยนเขาไปเป็นผู้หญิงล่ะก็
ใครมองก็คงเดาว่าเป็นคู่เดทชัด ๆ

มะ...ไม่ใช่นะโว้ยย!!

...ก็คะ...แค่บัดดี้กับบัดเดอร์ มะ..มาเที่ยวด้วยกันเฉย ๆ

มะ...ไม่มีอะไรเลยจริ๊งงงจริงงงง!!


อ้าว....ละ...แล้วนี่เขาดันเสือกเกร็งขึ้นมาอีกทำไมวะเนี่ย!!


ปลายฟ้าเริ่มเลิกลั่กรีบหาทางแก้ไขสถานการณ์
ด้วยการบอกอะไรที่คิดได้ในหัวขึ้นมาส่ง ๆ


“ปะ...ไป... ตะ...ต้นไม้”


“หืม อะไรนะ”


“เราอยากไปซื้อต้นไม้”


ประโยคชัดถ้อยชัดคำซึ่งพยายามพูดในที่สุดก็ถูกบอกออกมาได้สำเร็จ

...อันที่จริงมันก๋ไม่ใช่ความคิดส่ง ๆ ซะทีเดียวหรอก
เขาอยากได้ต้นไม้มาปลูกไว้ริมระเบียงตั้งแต่กลับมาจากค่ายอาสาแล้ว
แต่ไม่มีโอกาสได้ไปเลือกซื้อสักที


คมสันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะสตาร์ทบิ๊กไบค์
ให้ปลายฟ้าขึ้นเกาะหนึบเป็นปลิง
เพราะอีกฝ่ายยังคงรักษาความเร็วเหมือนเดิม
ทีแบบนี้ไม่ยักจะถามความเห็นเขาบ้างล่ะว่าอยากให้ขี่เร็ว ๆ มั้ย
แต่ก็ถือว่าดีไปอย่าง เพราะแดดตอนใกล้บ่ายสองโคตรร้อนเปรี้ยงจนแสบ
มอเตอร์ไซต์คันใหญ่ซึ่งเร่งลัดเลาะมาตามถนนจึงพามาถึงร้านขายต้นไม้ได้ในเวลาไม่นาน


บรรยากาศคล้ายสวนเล็ก ๆ ชวนร่มรื้นจากต้นไม้ดอกไม้น้อยใหญ่
ที่ปลูกเรียงกันหลายต้นพอช่วยทำให้ความร้อนจางลงไปบ้าง


ปลายฟ้าไม่รอช้ารีบตรงดิ่งไปสำรวจหาตัวเลือกด้วยความตื้นเต้น
ซึ่งแต่ละต้นก็มีป้ายชื่อเล็ก ๆ ปักบอกพันธุ์ไม้เอาไว้เพื่อง่ายต่อการเรียก
เขาเดินมองต้นไม้ที่มีอยู่ละลานตา
หัวสมองวนเวียนครุ่นคิดอย่างลังเลตามนิสัย


...จะปลูกอะไรดีวะ?


...เอาต้นไม้ที่มีดอกสวย ๆ ดีมั้ย?
อย่าง ‘คุณนายตื่นสาย’ ก็เข้าท่า
ดอกเล็ก ๆ หลายสีดูน่ารักสบายตาดี
 

...เฮ้ย! แต่ลูกผู้ชายอย่างเขา
ไหน ๆ จะปลูกต้นไม้ทั้งที่
ไม่เลือกเท่ห์ ๆ แบบ ‘บอนไซ’ ไปเลยล่ะ
ถึงจะไม่มีดอก แต่ปลูกแบบนี้เอาไปอวดเพื่อนได้ไม่น้อยหน้าเลยนะเว้ย


...แต่คิดอีกที หรือว่าจะเอาต้นไม้ที่กลิ่นหอม ๆ ดีวะ
เมื่อกี๊เดินผ่าน ‘ต้นแก้วแคระ’ แล้วชอบกลิ่นแบบนี้
ตื่นขึ้นมาตอนเช้าพอสูดอากาศริมระเบียงจะได้สดชื่น


เอ๊ะ... หรือจะเอาเป็น...



“ให้ช่วยเลือกมั้ย”


คำถามเบา ๆ ที่ดังขึ้นทำให้คนกำลังครุ่นคิดถึงกับสะดุ้ง
ปลายฟ้ารีบหันมองคนเสนอตัวซึ่งมายืนอยู่ใกล้เขาตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
แถมยังชี้มือไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งที่ตั้งเรียงกันอยู่ไม่ไกล


“ต้นนี้เป็นไง”


คนถูกแนะนำมองตามก่อนพบกับต้นไม้เล็ก ๆ
ลักษณะเหมือนไม้ประเภทยืนต้นสูงประมาณหัวเข่า
ลำต้นสีน้ำตาล มีใบเขียวอยู่บนยอดกระจุกหนึ่ง
เป็นต้นไม้กำลังโตธรรมด๊าธรรมดาไม่มีอะไรโดนเด่นให้น่าตื่นตา
เหมือนต้นไม้ที่สามารถขึ้นได้ตามริมทางทั่ว ๆ ไป

...แล้วมันน่าเอาไปปลูกประดับระเบียงตรงไหน?


คนสงสัยขมวดคิ้วเดินก้มลงไปอ่านป้ายชื่อที่ปักไว้
ก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างเมื่อเห็นตัวอักษรปรากฏอยู่อย่างชัดเจน



‘ต้นสะเดาทวายพันธุ์ขาวผ่อง’




...เฮ้ยยย!!! ต้นสะเดาเนี่ยนะ!!

จะบ้าเหรอวะ!!

...ใครมันจะเอาไปปลูกเล่นริมระเบียงกันบ้าง!!


แต่ดูเหมือนจะมีคนบ้าอยู่ตรงนี้อยู่หนึ่งคน
เพราะร่างสูงหันไปตะโกนถามคนขายเสร็จสรรพ


“ลุงต้นนี้ขายยังไงครับ”


“อ้อ...สะเดาต้นละแปดสิบ”


“งั้นเอาต้นนี้ต้นหนึ่ง แล้วก็ขอกระถางใส่มาให้ด้วยเลยนะครับ”


อ้าว...ได้ไงวะ!!
มาตัดสินใจเอาเองแบบนั้นได้ไง
ไม่คิดจะถามเขาหน่อยเหรอ

...คนที่จะเอาไปปลูกที่ห้องมันคือเขานะโว้ยย!!



“ดะ...เดี๋ยวก่อนเราไม่ได้บอกว่าจะซื้อ”


ปลายฟ้ารีบร้องห้ามยั้งไว้
แต่คนฟังกลับทำหน้าไม่ทุกข์ร้อน
พลางย้อนถามกลับอย่างแปลกใจ


“หืม ไม่ชอบเหรอ
ปลูกสะเดาก็ดีนะ เลี้ยงง่าย
ไม่ต้องห่วงเรื่องแมลง
ถ้าโตไปเด็ดยอดมันกินได้ด้วย”


...คือ...กูซื้อไปประดับห้องมั้ย
ถึงมันจะมีสรรพคุณดีเวอร์ขนาดไหน
ที่แน่ ๆ เขาจะไม่ยอมกินไอ้ต้นสะเดาขมนรกอีกเด็ดขาด

...แล้วอย่างนี้เขาจะเอามันไปปลูกทำซากอ้อยอะไรก๊านน!!


คนไม่เห็นคุณค่าจึงพยายามเอ่ยค้านอีกครั้ง



“แต่...”


“ถือว่าปลายซื้ออันนี้ให้เราในฐานะบัดดี้ ...ตกลงมั้ย?”



คำถามที่ได้ยินเบรกคนที่กำลังจะพูดให้หยุดกึก

เออ...เดี๋ยว...ไอ้ที่บอกว่าจะให้เขาเลี้ยงคือไอ้ต้นนี้หรอ
มันก็โอเคอยู่หรอกนะถ้าเขาจะซื้อให้เป็นของขวัญบัดดี้

แต่ประเด็นคือคนที่จะต้องดูแลไอ้ต้นสะเดามันคือเขานะเว้ยย!!

...ถ้าอยากได้ทำไมไม่ซื้อไปปลูกเองล่ะวะ!!


ความสงสัยในใจถูกกลั่นออกเป็นคำพูดทันที
ด้วยสีหน้าที่ชักจะเริ่มหงุดหงิดของนายปลายฟ้า


“แล้วทำไมไม่ซื้อไปดูแลเองล่ะ”


“ระเบียงห้องเรามันแคบ
แล้วอีกอย่าง...”


ประโยคถูกหยุดไว้แค่นั้น
ก่อนนัยน์ตาคมจะสบเข้ากับดวงตาของอีกคน
พร้อมกับถ้อยคำซึ่งส่งผลให้คนได้ยินต้องนิ่งอึ้ง



“...ถ้าปลายเห็นสะเดาจะได้นึกถึงหน้าเราไง”




....อะ...ไอ้บ้า!!!

มันก็ต้องนึกถึงอยู่แล้ว
ใครมันจะไปนึกถึงอย่างอื่นได้
จะมีใครที่ไหนให้ยอดสะเดาเป็นของเทคบัดดี้
แถมยังบังคับให้บัดเดอร์ปลูกต้นสะเดาอีก
ถ้าไม่คิดถึงเลยก็คงจะแปลกไปหน่อย

งั้นแบบนี้ตอนเขาออกไปที่ริมระเบียงแล้วเจอต้นสะเดา
ก็คงต้องมานึกถึงหน้ามันทุกวันเลยน่ะสิ


...โอยยย!! ...แค่นี้ก็จะบ้าตายอยู่แล้ว

จะมาวนเวียนทำให้เขาหน้าร้อนบ่อย ๆ อีกทำไมวะ!!


...พอหน้าร้อนมาก ๆ ก็ชักจะไม่ไหว

...อาการเดิมมันเริ่มออก


เขาเลยรีบเดินหนีไปดูอย่างอื่นโดยไม่คิดจะเถียงต่อ
รอจนลุงเจ้าของร้านนำสะเดาลงกระถางให้เรียบร้อย
จึงเดินมาจ่ายเงินซื้อต้นไม้ที่ไม่เคยคิดจะอยากได้

....แต่ไหน ๆ ก็ดันหลวมตัวมาแล้ว
แถมสัญญายังต้องเป็นสัญญา
ว่าจะเลี้ยงบัดดี้คืนให้แม้มันจะเป็นอะไรก็ตาม


ปลายฟ้าจึงต้องจำใจหอบหิ้วกระถางสะเดาขนาดย่อม
ตะกายขึ้นรถบิ๊กไบค์อย่างทุลักทุเลพอสมควร
คราวนี้สถานการณ์ยิ่งแย่เพราะจากที่แคบอยู่แล้ว
พอมีกระถางต้นไม้ก็ยิ่งแคบเข้าไปใหญ่
เขาต้องอุ้มต้นสะเดากระเตงเหมือนลูก
ส่วนอีกมือเกาะเอวคนขี่ไว้แน่นชนิดไม่ต้องรอสั่ง
เพราะทั้งกลัวตกรถด้วยกลัวกระถางหลุดมือด้วย

...เห็นแบบนี้
มันหนักไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเว้ย
กว่าจะถึงหอได้ทำเอากล้ามแทบขึ้น
เขาก้าวลงจากมอเตอร์ไซต์พลางถอนหายใจเฮือก
หลังจากผ่านพ้นช่วงนาทีนรกมาได้
นึกดีใจที่ประคองทุกสิ่งไว้เรียบร้อยโดยไม่มีส่วนใดบุสลาย
กำลังจะหอบกระถางต้นไม้ขึ้นไปบนห้อง
แต่กลับถูกคนตัวโตแย้งไปถือไว้


“มา เดี๋ยวเราช่วยเอาขึ้นไปไว้บนห้อง”


“เออ...ไม่เป็นไรห้องเราอยู่แค่ชั้นสองเอง”


“มันหนักนะ ให้เราช่วยเถอะ”


คนจิตอาสาเอ่ยยืนยันคำหนักแน่นในน้ำเสียง
ทำให้คนที่เมื่อยแขนเป็นทุนเดิมต้องยอมแพ้
ปล่อยให้อีกฝ่ายดึงกระถางไปถือ


...อยากมีน้ำใจนักก็ให้ทำ
ไหน ๆ มันก็เป็นคนเลือกไอ้ต้นสะเดานี้มาแล้วนี่


ปลายฟ้าจึงเดินนำทางหยิบคีย์การ์ดผ่านประตูขึ้นไปบนห้อง

....ความจริงเขาไม่ชอบให้ใครขึ้นมาในห้องง่าย ๆ
เพราะเขาคิดว่าห้องมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว
นี่คือเหตุผลที่เขาแยกมาอยู่ห้องคนเดียว
จะได้ทำอะไรได้สะดวกไม่ต้องเกรงใจใคร
ดังนั้นจึงมีน้อยคนมาก ๆ ที่สามารถเข้ามาในห้องเขาได้
ถ้ารวมเกมส์กับบอลล่า ก็ถือว่าคมเป็นคนที่สาม
มันจึงไม่แปลกอะไรนักที่เขาจะรู้สึกตื้นเต้นจนถึงกับมือสั่นขณะไขกุญแจห้อง
จนต้องสบถด่าตัวเองในใจ

...โว้ยย!!  ใจเย็นสิวะ
มันแค่มาเอาต้นไม้มาวางเฉย ๆ
ไม่ได้มาทำอะไรสักหน่อย จะประหม่าไปทำไม!!


ในที่สุดคนควบคุมสติไว้จึงไขกุญแจได้เสร็จสิ้น
ก่อนผลักบานประตูออกให้ผู้มาเยือนเห็นสภาพห้องเรียบ ๆ
แต่เป็นระเบียบเรียบร้อยแสดงถึงนิสัยของเจ้าของ


ปลายฟ้าเดินตรงไปเปิดประตูกระจกตรงระเบียง
สอดส่ายสายตามองหามุมเหมาะ ๆ ที่จะจัดวางกระถางสะเดา

...ไอ้ระเบียงเขามันก็ไม่ได้กว้างมากมายอะไรหรอก
แค่ราวตากผ้ากับซิงค์ล้างจานก็จะเต็มอยู่แล้ว

...แต่คนช่างเลือกก็ยังคงเป็นคนช่างเลือกอยู่วันยังค่ำ
เพราะเขาสั่งให้คมทดลองวางกระถางในมุมต่าง ๆ วนอยู่หลายที

ท้ายที่สุดจึงได้มุมเมื่อขยับบรรดาไม้กวาด ไม้ถูพื้น ที่โกยผงไปอีกทาง
และพอร่างสูงวางกระถางลงก็เข้าล็อคได้พอดีเด๊ะ
แถมเป็นมุมที่ไม่โดนฝนสาดมากและมีไอแดดกำลังเหมาะ

เจ้าของห้องซึ่งพอใจได้เสียที
เลยจัดการกอบดินขยับต้นสะเดาในกระถางให้เรียบร้อย
ก่อนรีบใช้แก้ววิ่งไปตักน้ำในห้องน้ำมารดต้นไม้
ถือเป็นพิธีต้อนรับสมาชิกใหม่ประจำห้อง


กว่าจะเสร็จภารกิจได้ก็เล่นเอาต้องปาดเหงื่อ
กระนั้นเขาก็ยังมานั่งยอง ๆ ดูต้นสะเดาอย่างภูมิใจ

เออ...พอมอง ๆ ไปมันก็เข้าท่าดีเหมือนกัน
แต่ถ้าเลี้ยงไปเรื่อย ๆ จนมันโตคงต้องเปลี่ยนกระถางเปลี่ยนที่กันอีกที
แล้วไอ้ต้นนี้มันจะโตไปถึงเมื่อไรวะ
ได้ข่าวว่าโตจนเป็นสิบเมตรเลยไม่ใช่เหรอ

อ้าว...ถ้าถึงตอนนั้นแล้วเขาจะเลี้ยงมันยังไงเนี่ย!?


คนสงสัยกำลังจะหันไปถามหาความเห็นจากอีกคน
แต่ชั่วขณะที่กำลังหันหน้าไปมอง เขากลับต้องเผลอสะดุ้ง
เมื่อใบหน้าคมดันอยู่ใกล้เสียจนชิด
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร


....มันใกล้

....จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ


ใกล้....จนเห็นความรู้สึกบางอย่างสะท้อนในดวงตาคม


ใกล้....จนหัวใจค่อย ๆ เกิดอาการ....



....สั่นไหว




ปลายฟ้ารับรู้ทันทีว่าความร้อนกำลังแล่นตรงพุ่งขึ้นสู่ใบหน้า
เขารีบเบือนหลบตากำลังจะตั้งใจลุกหนี
หากแต่ยังไม่ทันทำอะไร มือใหญ่กลับจับมือเขารั้งไว้


“เดี๋ยวปลาย”


คำเรียกทำให้เจ้าของชื่อต้องหันกลับมามอง
ก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้างนิ่งค้าง
เมื่ออยู่ ๆ คนตรงข้ามเอื้อมมือมาสัมผัสแก้มเขาเบา ๆ


“ดินเลอะ”


พูดจบพร้อมปลายนิ้วค่อย ๆ เกลี่ยเช็ดดินที่เปื้อนแก้มเขาออก
การกระทำที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดส่งผลให้หน้าของปลายฟ้าร้อนจนแทบไหม้
ไม่ต้องมองกระจกก็รู้ว่าปานนี้หน้าของเขาคงแดงแปร๊ดแค่ไหน
ทันทีที่คมสันละมือออกเมื่อเช็ดดินจนหมด
เขาจึงรีบทำท่าจะลุกพลางพูดตอบตะกุกตะกัก


“ขะ...ขอบใจ”


“เดี๋ยว”


ทว่าร่างสูงกลับยังคงดึงมือเขาไว้อยู่เช่นเดิมไม่ยอมปล่อย
ถึงจะยังแปลกใจ หากแต่ปลายฟ้ากลับก้มหน้างุด
ไม่กล้าเงยขึ้นมาสบตา ได้แต่ร้องถามติด ๆ ขัด ๆ


“อะ...อะไร ยังไม่หมดอีกเหรอ”


“เปล่า...”


คมสันปฏิเสธ มือใหญ่ยังคงกระชับจับมือของคู่สนทนาไว้
ดวงตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้าของอีกคนไม่วางตา
ก่อนเอ่ยประโยคคำขอขึ้นมาเบา ๆ ราวกับคำกระซิบ


...กระนั้นมันกลับเป็นคำขอที่ดังก้องกระทบในใจของปลายฟ้า



“เราขออยู่อย่างนี้อีกสักพักได้มั้ย
อย่าเพิ่งหนีเราไปเลยนะ
เราอยากเห็นปลายใกล้ ๆ

ปลายหันมามองหน้าเราบ้างก็ได้
เวลาเห็นต้นสะเดาจะได้นึกหน้าเราออก

หรือไม่ปลายก็จำเผื่อไว้ใช้....


...ตอนที่ปลายคิดถึงเรา


...เหมือนที่เราคิดถึงปลาย”




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 18-12-2012 22:36:24
อ๊ากกพี่คมม :m3: น่ารักโพดดด
แทบจะลงไปดิ้น 5555
ปลายเดี๋ยวนี้มีคนช่วยตัดสินใจแล้วนะ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 18-12-2012 22:52:24
 :o8: :-[ :o8: :-[ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-12-2012 22:57:07
ฮิ้ววว  คมจีบปลายให้ได้อายม้วนตามปลายเลย

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 18-12-2012 23:02:31
ฟิน เขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก






ถ้าเราเป็นปลาย คงเขินหน้าแดงจนแก้มแตกแล้ว มาต่ออีกนะ รีบ ๆ จะรอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 18-12-2012 23:09:04
 :o8: เหมือนที่เราคิดถึงปลาย :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: tua ที่ 18-12-2012 23:15:53
เขินอ่ะ       :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 18-12-2012 23:23:35
 :o8:

เขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อ่านตอนนี้นานมากอ่ะ ไม่ใช่อะไร มัวแต่เขินแทนพ่อเต่าน้อย
ไม่ไหวอ่ะ คมน่ารักเกิน ตอนนี้พ่อเต่าน้อยก็น่ารักมาก
ตอนแรกชอบเรื่องสังขยามากสุด ตอนนี้โดนคมกับปลายตีแตกกระจุยเลยอ่ะ

พ่อเต่าน้อยอย่าช้านักนะ
ถ้าช้าเราจะมุดคอมไปแย่งคมนะ นี่พุดจริง ไม่ได้ขู่  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 18-12-2012 23:26:14
ปลายเอ้ยยยยยย ซิงค์ล้างจานก็อยู่ตรงระเบียง จะวิ่งไปเอาน้ำในห้องน้ำทำไมละคะ เด็กน้อยของเจ้~


ว่าแต่...................... อิประโยคนี้!!!!!!!!!

"ปลายหันมามองหน้าเราบ้างก็ได้
เวลาเห็นต้นสะเดาจะได้นึกหน้าเราออก
หรือไม่ปลายก็จำเผื่อไว้ใช้....
...ตอนที่ปลายคิดถึงเรา
...เหมือนที่เราคิดถึงปลาย"

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก มันหมายความว่าไงคะ เผื่อไว้ใช้อะไร??? คม!!!!!!!!!!!!!!!

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 18-12-2012 23:29:27
อยู่ต่อเลยได้ไหม... //ดีดอูคูเลเล่


อ๊ากกกกกกก  กรี๊ดค่ะ กรี๊ดดดดดดดดด
อยากอ่านต่อออออ  มันกรี๊ดมากๆ ค่ะ...
โอ๊ย ทุบโต๊ะกับความเขินแทนปลายฟ้า อยากได้คมบ้างอะไรบ้าง

รุกไปเลยคม รุกไปเลย  ฮ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-12-2012 23:36:46
ไปเดทกันแล้ว :-[ :-[ :-[


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 18-12-2012 23:41:13
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 18-12-2012 23:43:16
สะเดามันแทงใจไปไหม :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-12-2012 23:52:00
ตาย ตาย พ่อเต่าน้อยหัวใจวายตายแน่ ๆ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 18-12-2012 23:59:22
โอ๊ยยยยยยยยยยยย
พี่คมหวานซะ

ใจสั่นแทนปลายแล้ววววววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 19-12-2012 00:13:57
อ๊ายยยยย กรี๊ดค่ะ  กรี๊ดมากๆๆๆเลยตอนนี้ โฮะๆ หยอดหวานมาก อ่านไปยิ้มไป ละลายไปค่ะ พ่อเต่าน้อย ละลายยังเนี่ยยยย รู้แต่ คนอ่าน ละลายกันถ้วนหน้า หน้าแดงร้อนไปหมดค่ะ >/////<

ปล เท่าที่อ่านมา บุคลิกของคมไม่น่าจะหวานได้ขนาดนี้ ไหนจะขี่บิ๊กไบต์อีก ไหนจะเป็นประธานค่าย (มาดผู้นำมาซะ) แต่พอบทหวาน ทำให้รู้สึกว่า ก็หวานได้ละลายมากค่ะ และสิ่งที่คมแสดงออกมามันให้ความรู้สึกจริงใจ ไม่เล่นๆ หยอกๆ เหมือนดิวเลยอ่ะคะ
ชอบบบบพระเอกแบบนี้อ่ะ ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 19-12-2012 00:16:04
ฮิ้ววววววว!!!คมชนะเลิศ  o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 19-12-2012 00:56:52
ฟิน!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 19-12-2012 01:05:45
คมเริ่มรุกแล้ว
จัดไปอย่าให้ขาดเพราะเดี๋ยวปลางจะไม่รู้อีก :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 19-12-2012 02:06:08
อ่านแล้วเขินมากก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 19-12-2012 02:17:08
หงายท้องตึงลงที่นอนแล้วก็ดิ้นๆด้วยความฟิน
งื่ออออออออออ นายคมหยอดน้องปลายแต่ล่ะดอก เข้าเป้าหมดค่ะ
ขอเป็นแฟนเลยค่ะ ขอศึกษากันและกันเลยค่าาาาาา อย่าให้น้องทันได้คิดอะไรมาก จับมัดมือมันเท้าแล้วลากมาเป็นแฟนเล้ยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 19-12-2012 04:05:10
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก เขินแก้มแตกเป็นบ้าอยู่คนเดียวเลย โอ้ยยยแบบมันละมุนมากหวานแบบอุ่นๆเคลิ้มๆ :-[ :กอด1:
ไม่หลงรักพ่อจิตอาสาคนนี้ยังไงไหว โอ้ยยยยยยหุบยิ้มไม่ลงเลยอะชอบมากประโยคสุดท้าย ขอกรี๊ดดังซักหนึ่งนาที  :pighaun:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 19-12-2012 04:18:35
คมจีบแล้ววว
ทำเอาตสะเดาหวานไปเลย  o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: Milk ที่ 19-12-2012 07:31:32
สะเดาต้นนี้หวานมาก :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 19-12-2012 08:56:27
เริ่มจีบจริงจังตอนต้นที่ 19 ฮิ้ววววววว  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 19-12-2012 09:43:36
คมเอาใจอย่างนี้ น้องเต่าปลายคงจะเริ่มรู้ตัวแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-12-2012 11:21:10
สะเดาที่ว่าขม  กลายเป็นหวานไปเลย 

คมเริ่มรุกหนัก  ว่าแต่ปลายจะรู้ไหมว่าถูกคมจีบอยู่นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 19-12-2012 11:25:00
ช็อตนี้เอาใจไปเลยยพี่คม....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 19-12-2012 11:25:24
เค้าจีบกันแล้ววววววว

 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 19-12-2012 12:09:24
อร๊ายยย เขิน คมอ่ะ รุกเต็มที่แล้วสินะ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 19-12-2012 13:46:50
น่ารักอ่า...อยากได้แบบคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 19-12-2012 14:21:29
 :L1: :L1:
 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-12-2012 22:16:18
จีบกันดื้อๆ แบบนี้เลย ?


 :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 19-12-2012 23:46:38
ฮิ้วววววววววววววว
มันจีบกันโต้งๆ งี้เลยเหรอ
แล้วแบบนี้ น้องปลายเราจะต้านทานไหวป๊ะ
ยิ่งขี้เขิน หน้าร้อนทุกครั้งที่สบตา หรือแม้จะไม่สบ หน้าน้องก็แทบไหม้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 20-12-2012 02:24:10
สะเดาไม่ขมเลยแต่หวานค่อด ๆ 555

ค่อยๆรุกคืบเนอะคมเนอะ อีกนิ๊ดดด  อีกนิ๊ดดด  555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 20-12-2012 03:31:36
สะเดาต้นนี้ คงหวานพิลึก

มดขึ้นสะเดาแหงง รอบนีั้้

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 20-12-2012 04:01:36
เขิน แทน.  อ๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 >; P.65
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-12-2012 11:26:34
อ่านไปก็เขินไป เขินจนหน้าไหม้แล้วว๊อยยยยยย!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 20-12-2012 14:40:20
อ๊าาาาาาาาาาา น้องเต่าน้อย โดนพี่คมจีบซะแล้ว หวานมากกกกกกกกกกถึงมากกกกกกกกกกกกกที่สุดเลย ไม่น่าเชื่อ คมจะพูดได้หวานปานนี้ น้องเต่าน้อยละลายไปหมดแล้วค่า รอตอนต่อไปนะ ชอบมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 19] 18/12/55 > P.65
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 20-12-2012 19:22:54
ยิ่งอ่านยิ่งเขิน

เขินคม >//////////<

 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 23-12-2012 11:40:54
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 20


ร้อน...


...สิ่งเดียวที่ปลายฟ้ารู้สึกได้อย่างชัดเจนคือความร้อน

ความร้อนซึ่งแล่นริ้วขึ้นมาบนใบหน้าของตนเอง
จนกลัวว่าเลือดมันจะไปเลี้ยงส่วนอื่นไม่ทัน
โดยเฉพาะ ‘สมอง’ ที่คล้ายกับหยุดทำงานไปชั่วขณะ
จนหลงเหลือเพียงข้อความจากปากของใครบางคน
ให้ดังก้องซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น...



“เราขออยู่อย่างนี้อีกสักพักได้มั้ย
อย่าเพิ่งหนีเราไปเลยนะ
เราอยากเห็นปลายใกล้ ๆ

ปลายหันมามองหน้าเราบ้างก็ได้
เวลาเห็นต้นสะเดาจะได้นึกหน้าเราออก
หรือไม่ปลายก็จำเผื่อไว้ใช้....

...ตอนที่ปลายคิดถึงเรา

...เหมือนที่เราคิดถึงปลาย”




มะ...หมายความว่ายังไง

...เมื่อกี๊เขาได้ยินว่าใครคิดถึงใครนะ

ใช่คมคิดถึงเขารึเปล่า

ละ...แล้วมาพูดแบบนี้จะให้เขาตอบว่าอะไร



หากแต่ชั่วขณะที่กำลังสับสน
ปลายฟ้ากลับรับรู้ถึงแรงบีบเบา ๆ จากมือใหญ่ซึ่งกอบกุมมือเขาไว้
แม้จะไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบาย
ทว่าน่าแปลกที่การกระทำนั้นกลับมีอานุภาพมากพอ
ให้เขาเผลอเงยหน้าขึ้นตามคำสั่ง
สบดวงตาคมซึ่งทอดมองมาอย่างมีความหมาย


และนั้นถึงทำให้ปลายฟ้ารู้สึกตัวว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดมหันต์
เพราะจากเดิมที่หน้าร้อนอยู่แล้ว...


...ตอนนี้หัวใจของเขามันเต้นดังรัวเป็นกลองจนแทบทะลุ



...เฮ้ยยย!! บ้าไปแล้วเหรอวะ!!

เขาจะมาใจเต้นทำไมกับคำพูดของผู้ชายคนหนึ่ง

ใช่...อย่าลืมสิว่าเขาเป็นผู้ชาย แล้วคมมันก็เป็นผู้ชาย


...มันก็แค่แค่ผู้ชายสองคนที่อยู่ใกล้กัน

...จับมือกัน

...สบตากันเท่านั้นเอง


ไม่มีอะไรแปลกสักหน่อย...

ไม่เลย...

แต่ไม่รู้ทำไม...

...เขาถึงไม่อาจถอนสายตาจากดวงตาคมนั้นได้

ราวกับถูกสะกดเอาไว้ด้วยความรู้สึกบางอย่าง...


...ความรู้สึกที่เขาไม่อาจอธิบาย

...ความรู้สึกที่คล้ายช่วงเวลารอบตัวถูกหยุดหมุน

....ความรู้สึกสั่นไหวราวกับมีผีเสื้อมากมายบินวนอยู่ในท้อง



จนทำให้เขา...



...โครกกกกก!!




เสียงปริศนาจากกระเพาะที่โอดครวญส่งสัญญาณเตือนโดยไม่ต้องมีใครถาม
ดึงบรรยากาศแปลก ๆ ให้กลับเข้าสู่โลกของความจริง


ปลายฟ้ารีบกระเด้งตัวดึงมือพลางลุกขึ้นหนีออกห่าง
ใบหน้าที่เคยแดงอยู่แล้วจึงยิ่งเพิ่มปริมาณมากเข้าไปอีก
จนทำให้เขานึกกร่นด่าตัวเองอยู่ในใจ


....แม่งไอ้กระเพาะไม่รักดี!!

เข้าใจอยู่หรอกว่าหิว เพราะตอนนี้มันบ่ายสองกว่าแล้ว
ข้าวรวมมิตรที่กินตั้งแต่สิบโมงเช้าคงย่อยไม่มีเหลือ
แต่ที่เขาไม่เข้าใจคือทำไมมันถึงต้องมาส่งเสียงร้องกันต่อหน้าชาวบ้านด้วย
แถมเล่นซะดังจนคนหิวเองหน้าแดงเพราะความอาย


โอยยย...แล้วนี้เขาจะอายมาราธอนอะไรกันนักหนา

...มันเป็นวันนางอายแห่งชาติรึไงกันโว้ยยย!!




“งั้นลงไปกินข้าวกันมั้ย”


คนหงุดหงิดรีบหันไปมองร่างสูง
ซึ่งเดินตามกลับเข้ามาทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ก่อนก้าวไปใส่รองเท้ายืนรออยู่หน้าประตูห้อง


เขาจึงพยายามรวบรวมสติตัวเองให้กลับเข้าที่เข้าทาง
สลัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวออกมาล็อคประตูห้องเรียบร้อย
แล้วตามมาขึ้นมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์สีขาวคันเดิม
โดยไม่มีปากเสียงใด ๆ  หลุดออกมาสักคำ
ปล่อยให้คมสันพาลัดเลาะผ่านไปตามถนนด้วยความเร็ว
ก่อนบิ๊กไบค์คันงามจะหยุดลงตรงหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง


ปลายฟ้าก้าวตามอีกฝ่ายที่ผลักเปิดประตูกระจกนำ
ทันทีที่เหยียบย่างเข้าไปในร้าน
ไออากาศจากเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำก็ปะทะสู่ผิว
จนทำให้ความความกังวลใจก่อนหน้าคลายลงบ้าง


...เออ...ดีเหมือนกัน
ตอนบ่ายแบบนี้ข้างนอกร้อนจะตาย
มานั่งตากแอร์เย็น ๆ จะได้สบายอารมณ์หน่อย
แถมร้านกาแฟนี้ยังขายอาหารประเภทจานเดียวด้วย
รสชาติใช้ได้เพราะเขาเคยมากินกับกลุ่มเพื่อนตัวเองบ่อย ๆ
เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านประจำร้านโปรดที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัย
แล้วพวกพี่เจ้าของร้านก็อัธยาศัยดี
บางทีเลยนั่งดื่มกาแฟกินขนมเมาส์กันเพลินไปสามสี่ชั่วโมง

ที่สำคัญคือร้านนี้เวลาจะสั่งอาหารก็แค่เดินไปบอกที่เคาท์เตอร์
ไม่ต้องมีใครมายืนรอกดดันจดเมนูเหมือนร้านอื่น ๆ
เลยทำให้คนช่างเลือกอย่างนายปลายฟ้า
สามารถใช้เวลาขบคิดได้ตามสะดวกนานเท่าที่ต้องการ

ทว่าต่อให้คิดนานเท่าไร...
เหตุไฉนเขาถึงมาเลือกเอาเมนูสิ้นคิด
เป็นกระเพราไก่ไข่ดาวเหมือนคนที่มาด้วยกันไปซะได้เนี่ย!!


คนสองคนนั่งรออาหารที่สั่งด้วยบรรยากาศเงียบเฉียบ
ไร้ซึ่งบทสนทนาใด ๆ เหมือนอย่างเคย
ปกติก็ไม่รู้จะคุยอะไรกันดีอยู่แล้ว
ยิ่งเพิ่งผ่านพ้นสถานการณ์แปลก ๆ ตอนอยู่บนห้อง
เลยยิ่งไม่รู้จะพูดยังไงเข้าไปอีก
ปลายฟ้าจึงได้แต่หยิบซัมซุงกาแล็กซีของตัวเองมาเล่นเกมส์กลบเกลื่อน
รู้อยู่หรอกว่ามันค่อนข้างเสียมารยาทต่อคนที่นั่งด้วยกัน
แต่ตอนนี้ถ้าให้เขาเงยหน้าขึ้นไปมองตาคม ๆ คู่นั้น
บอกตามตรงว่าคงทำไม่ไหวจริง ๆ


...ไม่รู้เป็นเพราะอะไร
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ยังมองตอบตรง ๆ ได้ไม่มีปัญหา
...แต่หลังจากนั้น
พอเผลอมองกลับไปทีไร...


...หัวใจมันดันสั่นแปลก ๆ ขึ้นมาทุกที



เพียงไม่นานกระเพราะไก่ไข่ดาวสองจานก็ถูกนำมาเสิร์ฟ
ปลายฟ้าเก็บมือถือมองจานอาหารบนโต๊ะ
ซึ่งส่งกลิ่นหอมฉุยกระตุ้นความหิว


...โห ...สีใช้ได้น่าอร่อยดีว่ะ
ไข่ดาวแบบไม่สุกอย่างที่เขาชอบด้วย
แต่เดี๋ยว...แล้วทำไมไข่ดาวของเขามันเล็กจังวะ
พี่แม่ครัวใช้ไข่ไก่มาตรฐานเดียวกันรึเปล่าครับ
ไหงจานของเขามันถึงดูไม่สมดุลเหมือนลูกเมียน้อยอย่างนี้อ่ะ


และดูเหมือนอาการน้อยเนื้อต่ำใจจะปรากฏออกมาชัด
จนทำให้คมสันสังเกตเห็นแล้วนึกขำอยู่ในใจ
กับพฤติกรรมน่ารักของคนที่จ้องจานกระเพราไม่วางตา
เลยอดไม่ได้ที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาสั้น ๆ


“แลกกับเรามั้ย”


ปลายฟ้าสะดุ้งเพิ่งรู้สึกตัวว่าดันเผลอแสดงออกทางสีหน้ามากเกิน
เขาจึงรีบส่ายหัวพูดปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก


“มะ..ไม่เป็นไรเรากินได้”


แต่ร่างสูงกลับไม่ยอมปล่อย
ซ้ำยังถามย้ำยื่นข้อเสนอสุดแสนน่าสนใจ


“งั้นเราให้ปลายเลือกก่อนว่าจะเอาจานไหน”


คนฟังหูผึงรีบเงยหน้ามองอย่างไม่เชื่อ

...เฮ้ยยย...เอาจริงดิ!
นี่มันจะให้เขาเลือกก่อนเหรอ
แบบนี้ใคร ๆ มันก็ต้องเลือกไอ้จานที่มีไข่ดาวใบใหญ่กว่าอยู่แล้ว
แต่ถ้าเลือกไปเดี๋ยวมันจะหาว่าเห็นแก่กินอีก
แสดงออกชัดว่าตะกละขนาดนั้นได้อายตายชัก
แค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
อีกอย่างวันนี้มันก็มาช่วยทำอะไรให้เขาตั้งเยอะ
เขาก็ควรจะมีน้ำใจตอบแทนไปบ้าง


ถึงใจอยากกินไข่ดาวใบใหญ่กว่า
ทว่าท้ายที่สุดเขาก็เอื้อมมือมาดึงจานที่มีปริมาณน้อยเลื่อนไว้หน้าตัวเอง
หากแต่ยังไม่ทันได้หยิบช้อนกลับมีเสียงดังขึ้นขัด


“เดี๋ยว ตาเราเลือกบ้าง”


ปลายฟ้าชะงักค้างไปทันที
เมื่ออีกฝ่ายยกจานที่อยู่ตรงหน้าเขาดึงให้ไปเป็นของตัวเอง
แล้วสลับจานที่มีไข่ดาวใบใหญ่มาไว้แทน
พร้อมกับพูดคำตอบยิ้ม ๆ


“เราเอาจานนี้”


อ้าว...ทะ...ทำไมล่ะ

...ทำไมมันเลือกจานนั้น

ทั้ง ๆ ที่เขาอุตส่าห์ตัดใจไม่กินแล้ว
อย่างนี้มันจะปล่อยให้เขาเลือกไปเพื่ออะไร
หรือจริงๆ  มันตั้งใจจะแกล้งเขาตั้งแต่แรก


คนที่ยังไม่เข้าใจถึงสาเหตุเลยอดไม่ได้ที่จะร้องโวยวาย


“เอาจานนั้นไปได้ไงอ่ะ ขี้โกงนี่”


“ไม่ได้ขี้โกงแค่อยากลองเลือกเหมือนปลายบ้าง”


“แล้วทำไมถึงเลือกจานที่น้อยไปล่ะ”


“ถ้างั้นปลายทำไมถึงเลือกจานนี้”


คำถามย้อนกลับส่งผลให้คนฟังแทบไปต่อไม่ถูก

นั้นสิ...มันเปิดโอกาสให้เลือกแล้วแท้ ๆ
เขาก็ยังเลือกจานที่น้อยไปแทน
แต่จะให้มาอธิบายเหตุผลกันตอนนี้มันก็ดูยุ่งยากเข้าไปอีก

ปลายฟ้าจึงตัดสินใจตอบคำถามไปส่ง ๆ


“ก็...ก็...เราพอใจ”


คมสันยิ้มบาง ๆ เมื่อได้ยิน
แล้วจึงตอบกลับไปด้วยประโยคเดียว



“เราก็พอใจเหมือนกัน”




...แค่คำสั้น ๆ ง่าย ๆ

แต่ไม่รู้ทำไมกลับส่งผลให้หน้าของเขาแดงขึ้นมาอีกครั้ง

หรือที่หน้าแดงเพราะเขารู้...

...รู้อยู่แล้วว่ามันทำเพราะอะไร


คมไม่ได้แกล้งหรอก

แต่เพราะ ‘ความใจดี’ ของมันต่างหาก
คมคงเห็นว่าเขาอยากกินจานนี้เลยถามขึ้นมาแบบนั้น


แม้มันจะเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย...

...แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความใส่ใจที่คนตรงหน้าทำให้กัน


และนั้นอาจเป็นเหตุผลที่เขาทำตัวไม่ถูก
จึงได้แต่ก้มลงไปจดจ่ออยู่กับจานข้าว
ทว่ายังไม่ทันจะได้ลงมือกิน
เสียงจากหน้าประตูร้านกาแฟกลับดังขัด
ก่อนร่างบางสุดสวยแสนคุ้นตาจะย่างกรายเข้ามา
พร้อมกับเสียงทักหวานกึ่งแมนอันเป็นเอกลักษณ์


“อุ๊ยต๊ายยย!! นึกว่าใครเห็นหน้าคุ้น ๆ
ที่แท้พ่อเต่าน้อยกับคุณประธานค่ายคมนี่เอง
แหม...แอบมาเดทกันสองคนไม่บอกเลยนะ”


คำแซวจากบอลล่าทำให้ปลายฟ้าถึงกับสะดุ้ง
รีบแย้งอธิบายขึ้นมาจนลิ้นแทบพัน


“ดะ..เดทที่ไหนเราแค่มาพาคมมาเลี้ยงบัดดี้”


“เอ๊าะหรอออ”


กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังทำเสียงสูงคล้ายไม่อยากเชื่อ
จนคนที่เห็นท่าไม่ดีจึงจำต้องรีบหาหัวข้อเปลี่ยนประเด็น


“แล้วไหนบอกว่าวันนี้นัดทำรายงานที่ห้องสมุดไม่ใช่เหรอ
ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ”


และดูเหมือนคำถามจะได้ผลไม่น้อย
เมื่อเพื่อนสาวคนงามทำเสียงขึ้นจมูกแบบนึกเซ็ง
ก่อนจะพยักเพยิดไปที่ร่างของใครบางคนซึ่งยืนอยู่ตรงเคาท์เตอร์


“หึ ก็ไอ้เกมส์นะซี่อยู่ดี ๆ  มันดันวอนซ์คาปูชิโน่
บอกว่าถ้าไม่ได้กินมันจะลงแดงตาย
ในม.มีก็ไม่ซื้อ ต้องเจาะจงมากินร้านนี้
แต่ชั้นว่ามันอยากหาเรื่องอู้มากกว่า”


ท้ายประโยคบอลล่าเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบ
เพราะคนถูกนินทากำลังเดินถือแก้วเข้ามาใกล้
พร้อมเอ่ยคำทักทายเมื่อเห็นคนคุ้นเคย


“อ้าว...ไอ้ปลาย มาด้วยเหรอวะ
...ดีคม ขอนั่งด้วยดิ”

 
ไม่พูดเปล่ามันดันลากเก้าอี้มานั่งกันดื้อ ๆ
โดยไม่ต้องรอฟังคำอนุญาต
จนบอลล่าต้องเอ่ยปากไล่แทน


“วุ๊ยยย!! เขาจะนั่งกันสองคน
แกไปเป็นกขคงจทำไม!!
ไปนั่งกับชั้นทางโน้นไป๊”


“ไม่เป็นไรนั่งด้วยกันก็ได้”


คมสันบอกอีกฝ่ายง่าย ๆ 
ไอ้เกมส์เลยหันมายักคิ้วกวนใส่บอลล่าเหมือนคนถือชัย
แล้วจึงหันมาถามเพื่อนตัวเองพลางดูดกาแฟไปพลาง


“แล้ววันนี้แค่มานัดกินข้าวเฉย ๆ เหรอ”


“เปล่า เจอกันตั้งแต่เช้าแล้ว เพิ่งไปดูหนังกัน
แล้วก็แวะไปซื้อต้นไม้ให้ปลายไปปลูกที่ระเบียงห้อง”


คำพูดที่ได้ยินจากปากของหนุ่มวิศวะ
ทำเอาคนถามแทบสำลักคาปูชิโน่


โห...นี่ไอ้ปลายไปสนิทกับคมกันตอนไหนวะ
ปกติมันหวงห้องตัวเองจะตาย
กว่าเขากับบอลล่าจะเข้าไปได้ต้องคบกันมาเป็นปี
แต่นี่มันดันปล่อยให้คมขึ้นห้องง่ายๆ
แถมยังชวนไปดูหนังกันสองคนอีก
...มันชักยังไง ๆ อยู่นะ


เกมส์หันไปหาปลายฟ้า
ซึ่งอีกฝ่ายกลับดันหลบตาไม่ยอมมองซะอย่างนั้น
ยิ่งแสดงให้เห็นอาการผิดปกติเข้าไปใหญ่
จนบอลล่าต้องแซวเล่นขึ้นมาอีกเป็นรอบที่สอง


“แหม...น่าอิจฉาเนอะ
เห็นแล้วก็ชั้นอยากมีคนมาชวนกินข้าวสองคนบ้าง
อ้าว...แล้วนี่รออะไรไม่กินกันล่ะ”


ท้ายประโยคเปลี่ยนเป็นคำถาม
เมื่อเจ้าตัวสังเกตเห็นอาหารที่วางรออยู่บนโต๊ะจนเย็น


“อ้อ...กำลังจะกิน เมื่อกี๊รอปลายเลือกข้าวอยู่”


คำตอบจากคมทำเอาคนฟังถึงกับเบิกตาโต
ร้องอุทานเสียงดังอย่างตกใจ


“ห่ะอะไรนะ!! กินข้าวกระเพราเหมือนกันยังต้องเลือกอีกหรอ
โอยย...ตายๆๆ อะไรจะเต่าสมชื่อขนาดนั้นนน ช้าเกินไปมั้ยพ่อเต่าน้อย”


เจ้าของฉายารีบเงยหน้าขึ้นมาทันควัน

อ้าว...อุตส่าห์นั่งเงียบ ๆ แล้วมาโบ้ยได้ยังไงวะ
เรื่องอื่นนะพอทนได้
แต่เรื่องโดนหาว่าชักช้าเนี่ย
ยังไงก็ไม่ยอมง่าย ๆ หรอก

คนแก้ตัวจึงอดไม่ได้ที่จะเถียงกลับ


“ก็บอกว่าไม่ได้ช้า เขาเรียกว่ากำลังพิจารณาเลือกให้ดีที่สุดต่างหาก”


“นั้นแหละย่ะ  ก็ยังถือว่าช้ากว่าชาวบ้าอยู่ดี
นี่ถามจริง...ถ้าเกิดไปรักใครชอบใครขึ้นมาจะเลือกนานขนาดนี้รึเปล่า”


คำถามผ่าทะลุกลางป้องส่งผลให้วงสนทนาแทบจะเงียบกริบ
ปลายฟ้าอึกอักหัวสมองวนคิดถึงประโยคที่ได้ยินอย่างมึนงง


อะ...อะไรวะ ทำไมบอลล่ามาถามแปลก ๆ
ถ้าจะรักใครสักคนมันก็ต้องเลือกให้ดีอยู่แล้ว
สมัยนี้คนเรามองกันที่ภายนอกไม่ได้
ต้องอาศัยเวลาศึกษาดูใจกันด้วย
ไม่ใช่ปุ๊บปั๊บก็จะมาคบกันได้เลยเสียหน่อย


“จะรักใครมันก็ต้องเลือกดิ
จะมาคบไปส่ง ๆ ได้ยังไง
ขืนอยู่ด้วยกันคงอึดอัดตาย”


เขาอธิบายออกไปตามที่คิด
เห็นไอ้เกมส์พยักหน้าหงึกหงักก่อนพูดทวนคำเพื่อความเข้าใจ



“สรุปว่าถ้าไม่เจอคนที่ดีที่สุดมึงก็จะไม่รักเขา”



ถ้อยคำตรงประเด็นถึงกับทำให้ปลายฟ้าสะอึก


...จริงเหรอ

เขาคิดอย่างนั้นเหรอ

...จะว่าไปมันอาจจะใช่ก็ได้
เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยพยายามคิดอยากจะมีแฟน
เอาแต่อ้างกับตัวเองตลอดว่าเขายังหาใครคนนั้นไม่เจอ
คนที่พอดีกับตัวเอง อยู่ด้วยแล้วมีความสุข


...คนที่สามารถทำให้หัวใจหวั่นไหวได้ง่ายดาย


และไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไร
ถึงทำให้เขาเผลอมองไปยังคนที่ยังนิ่งเงียบอยู่ตรงข้าม
สบดวงตาคมซึ่งจ้องมองมาคล้ายรอคำตอบ
และเป็นอีกครั้งที่ปลายฟ้าต้องเป็นฝ่ายหลบตาลง

ก่อนเอ่ยประโยคยืนยันเสียงเบาราวคำกระซิบ...




“อืม ถ้าคนนั้นไม่ดีที่สุด ยังไงเขาก็คงไม่ใช่สำหรับเรา”




คมสันนิ่งงันไปทันทีเมื่อฟังได้ยินคำตอบจากใครบางคน


...ไม่รู้เลยว่าปลายคิดแบบนี้

เขาลืมไปได้ยังไงว่าปลายต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว
เพราะปลายเคยบอกเหตุผลให้ฟังว่าตัวเองเคยเฉียดตายมา
เลยอยากจะขอใช้เวลาเลือกให้แน่ใจ
เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเสียดายทีหลัง

....เขาเองก็เข้าใจ

ที่ผ่านมาเลยพยายามทำตัวไม่ให้ปลายอึดอัด
แต่ก็มีบางครั้งที่เผลอดุ เผลอตัดสินใจเลือกแทนปลาย
วันนี้ก็ดันบังคับให้ปลายซื้อต้นสะเดาที่ไม่อยากได้
พาไปกินข้าวดูหนังโดยไม่ถามปลายสักคำ

...ปลายจะรำคาญเข้ามั้ย

...เขาจะทำให้ปลายลำบากใจรึเปล่า


แล้วที่สำคัญ...
ถ้าเขาไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับปลายล่ะ
ต่อให้พยายามมากแค่ไหนถ้าปลายไม่เปิดใจ



...ยังไงปลายก็คงไม่เลือกเขา




วงสนทนาคล้ายหยุดนิ่งไปชั่วครู่
หากแต่ยังไม่มีใครเริ่มต้นประเด็นใหม่
กลับมีเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมาขัดจังหวะ


“คุยอะไรกันอยู่ครับ”


ทุกคนที่นั่งอยู่หันไปมองแขกผู้มาเยือน
ก่อนบอลล่าจะกรีดร้องตื้นเต้น
เมื่อเห็นว่าคนทักคือใคร


“ว๊ายย!! ดิว มาได้ไงคะเนี่ย”


“พอดีผมเห็นมอเตอร์ไซต์ไอ้คมจอดอยู่เลยแวะเข้ามาหา
แต่ไม่คิดว่าจะเจอคนอยู่กันเยอะขนาดนี้”


คำตอบที่ได้ยินไม่น่าแปลกเท่าไร
เพราะมอเตอร์ไซต์ของคมเล่นเด่นซะขนาดนั้น
ใครเห็นก็คงจำได้ติดตาง่าย ๆ
แต่ท้ายประโยคหนุ่มหล่อกลับโปรยยิ้ม
แล้วหันไปมองใครคนหนึ่งเป็นพิเศษ
ทำเอาคนถูกจ้องเผลอสะดุ้งเฮือก


“ไอ้ปลายกูกลับก่อนนะ”


คนที่ตั้งท่าจะหนีตามเสต็ปเดิม
รีบลุกพรวดคว้าหยิบแก้วคาปูชิโน่
ก่อนเดินลิ่วตรงไปหน้าประตู
โดยไม่ฟังเสียงของบอลล่าซึ่งค้านอย่างงงๆ


“อะไรกันยะไอ้เกมส์จะรีบไปไหน
นี่เพิ่งนั่งก้นชั้นยังไม่ทันเย็นเลย
อ้าว...ฟังชั้นมั้ยเนี่ย
ว๊ายยย!! เดี๋ยวรอก่อนสิยะ ไอ้เกมมม!!”


คนถูกทิ้งตะโกนไล่หลังพลางรีบลุกวิ่งตามเพื่อน
ซึ่งออกไปนอกร้านเรียบร้อยแล้ว
ท่ามกลางสายตามึนงงของคนทั้งโต๊ะ
ยกเว้นดิวที่ยกยิ้มมุมปากเหมือนเห็นเป็นเรื่องสนุก
ก่อนจะหันมาเอ่ยลากับปลายฟ้าสั้น ๆ


“งั้นผมไม่อยู่กวนแล้วกันนะครับ”


จบคำ หนุ่มหล่อก็เดินหายออกไปนอกร้านเช่นเดียวกัน
ปล่อยให้ปลายฟ้ากับคมสันไว้เพียงลำพังสองคน


พวกเขาจึงกลับไปสู่สภาวะเดิม นั่งกินข้าวเงียบ ๆ จนหมด
กระทั่งเรียบร้อยจึงลุกขึ้นเตรียมไปจานเงินที่เคาท์เตอร์
คมสันทำท่าจะควักกระเป๋าขึ้นมาจ่ายเงินค่าอาหารทั้งหมด
แต่ปลายฟ้ายืนกรานหนักแน่นว่าจะออกเอง
ความจริงเขาอยากจะเลี้ยงคมคืนด้วยซ้ำ
ไหนจะค่าข้าวเมื่อเช้า แล้วยังจะค่าหนังอีก
สรุปต่างคนจึงต่างออกเป็นอันหาข้อยุติ


กว่าจะเดินมานอกร้านนาฬิกาก็บอกเวลาสี่โมงเย็นแล้ว
แต่เป็นสี่โมงเย็นที่ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆครึ้ม
บ่งบอกสัญญาณว่าอีกไม่นานฝนคงจะตก
พวกเขากำลังจะเดินไปขึ้นบิ๊กไบค์
ทว่า ๆ อยู่ ๆ ร่างสูงกลับเป็นฝ่ายหันมาพูดกับคนที่เดินตามหลัง


“เดี๋ยวมานะ”


ยังไม่ทันได้ถามอะไรคมสันกลับวิ่งข้ามไปยังถนนอีกฝั่ง
ดวงตากลมไล่มองด้วยความมึนงง
ก่อนจะเข้าใจเมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซต์คันหนึ่งจอดอยู่อีกฝั่ง
โดยมีน้องนักศึกษาผู้หญิงท่าทางลำบากใจกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ตรงล้อ
ซึ่งดูเหมือนมันจะแบนรั่วจนติดพื้นถนน


ปลายฟ้าได้แต่ยืนมองคมที่เข้าไปสอบถาม
เห็นมันกดโทรศัพท์คุยหาใครสักคน
เดาเอาว่าน่าจะเป็นช่างซ่อมปะยางล้อรถ


...เป็นอีกครั้งแล้วที่เขาเห็นความใจดีของมัน
ที่ผ่านมาทุกครั้ง พอเขากำลังเดือดร้อน
ก็มักจะได้คมเนี่ยแหละเป็นคนช่วย
ถึงไอ้การช่วยเหลือของคมจะไม่เคยถามความเห็นก่อน
แต่เขารู้ว่าอีกฝ่ายทำด้วยความเต็มใจ


...แล้วครั้งนี้ที่คมมากับเขา
มาเลี้ยงข้าว เลี้ยงหนัง มาทำดีด้วยหลาย ๆ อย่าง
มันจะเป็นเพราะแค่ความใจดีเหมือนกันกับทุกคนรึเปล่า


...ความใจดีที่ทำให้เขาเผลอพึ่งพาคมไปโดยไม่รู้ตัว



ปลายฟ้ายืนรอคมอยู่สักพักจากอีกฝากของถนน
จนเห็นว่ามีรถมอเตอร์ไซต์ของร้านซ่อมปะยาง
แล่นมาจอดเทียบแล้วดูยางรถของน้องผู้หญิง
ซึ่งยกมือไหว้ขอบคุณคนจิตอาสาที่มีน้ำใจมาช่วย
ก่อนร่างสูงจะวิ่งข้ามกลับมายังร้านกาแฟพร้อมคำอธิบาย


“ขอโทษที รอนานมั้ย พอดีเราเห็นรถน้องเขายางรั่วเลยเรียกช่างซ่อมให้แล้ว”


“ไม่เป็นไร”


“งั้นปลายอยากไปไหนต่อรึเปล่า เดี๋ยวเราไปกินไอติมกันมั้ย”


คมเอ่ยชวนขึ้นมาง่าย ๆ
โดยไม่รู้เลยว่าคำถามที่แสดงความใส่ใจนี้
มันกลับยิ่งส่งผลกระทบต่อใจของปลายฟ้ามากขึ้น


...นี่มันยังชวนเขาไปไหนอีกเหรอ
วันนี้พาตระเวนไปทั่วทั้ง ๆ ที่ตั้งใจแค่มาเลี้ยงบัดดี้เฉย ๆ
เขาต่างหากที่ต้องเป็นคนตามใจคม
ไม่ใช่ให้คมมาตามใจเขาอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้



“พอแล้ว วันหลังไม่ต้องมาทำแบบนี้กับเราก็ได้”


คำปฏิเสธหนักแน่นทำให้ร่างสูงต้องขมวดคิ้วหันกลับไปมอง
พลางถามย้ำอย่างไม่เข้าใจ


“ทำไมล่ะ”


“คือเราเกรงใจ”


“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เราเคยบอกแล้วไงว่าเต็มใจทำให้ปลาย”



“แต่เราไม่ชอบ!”



บทสนทนานิ่งเงียบไปทันทีเมื่อจบคำ
คมสันชะงักงันหัวสมองหมุนวนกลับไปยังข้อความนั้นซ้ำ ๆ



...ข้อความซึ่งกลัวที่สุดว่าสิ่งที่คิดไว้จะเป็นจริง




“เราทำให้ปลายรำคาญเหรอ”




คำถามเบา ๆ สะกิดให้ปลายฟ้ารู้สึกตัว
และนั่นจึงทำให้เขาเพิ่งนึกได้ว่าดันเผลอพูดอะไรออกมา


“เฮ้ยย....มะ..ไม่...
...คะ..คือ...เราหมายถึง...”


“ขอโทษ วันหลังเราจะไม่มายุ่งอีก”


คำแก้ตัวตะกุกตะกักของคนชักช้า
กลับถูกขัดด้วยประโยคที่ชิงพูดจากอีกฝ่าย
ก่อนร่างสูงจะหมุนกายหันหลังขึ้นมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์


“กลับเถอะเดี๋ยวไปส่งที่หอ”


ปลายฟ้ามองอีกคนที่ตัดบทสนทนาง่ายๆ 
นึกลังเลใจแต่ท้ายที่สุดก็พาตัวเองขึ้นซ้อนท้าย
ปล่อยให้คมพากลับมาถึงหอ
พอเขาก้าวลงจากรถเรียบร้อย
อีกฝ่ายก็ขี่เลยไปโดยไม่มีแม้กระทั้งคำเอ่ยลา



....โกรธ

คมโกรธแน่ ๆ แบบนี้
แต่จะให้ทำยังไงก็เขาไม่ได้ตั้งใจจะหมายความว่าอย่างนั้น

ที่บอกว่าไม่ชอบ...
มันหมายถึงเขาไม่ชอบพึ่งพาความใจดีของคม
แค่กลัวมันจะเดือดร้อนที่เขาเอาแต่ทำตามใจเท่านั้นเอง



แต่ในเมื่อเจ้าตัวไม่อยู่ให้อธิบายแล้วจึงป่วยการที่จะไปทำอะไร
ปลายฟ้าจึงเดินกลับเข้ามาในห้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดแรง
อยากจะนอนหลับสักตื่นเพื่อลืมความสับสนบ้า ๆ ในหัวสมอง


...แล้วนี่เสียงหนวกหูอะไรกันวะ
คนจะหลับจะนอนสักหน่อยทำเสียงดังอยู่ได้

อ้อ...เสียงฝนตก

จริงสิ...เมื่อกี๊เห็นเมฆครึ้ม ๆ คงจะตกอีกนานเลย
โชคดีที่วันนี้เขาไม่ได้ตากผ้าไว้ตรงระเบียง
เลยไม่ต้องมากังวลว่าจะโดนฝนสาด


ฝนสาดตรงระเบียง...



เฮ้ย...แล้วต้นสะเดาล่ะ!!



คนนึกได้จึงรีบกระเด้งตัวจากที่นอนเดินไปเลื่อนประตูออก
สำรวจต้นไม้ซึ่งเพิ่งได้มาสด ๆ ร้อน ๆ
แล้วก็ต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก
เมื่อเห็นว่าต้นสะเดาไม่ได้ได้รับอันตรายจากลมฝนใด ๆ


ปลายฟ้าจิ้มใบเล็ก ๆ สีเขียวของมันเล่นเบา ๆ
เหม่อมองต้นไม้ในกระถางที่ได้มาโดยไม่ตั้งใจ
เผลอนึกถึงคำพูดของใครบางคนที่บังคับให้ซื้อมา



“...ถ้าปลายเห็นสะเดาแล้วจะได้นึกถึงหน้าเราไง”




...มันรู้ได้ยังไงนะว่าเขาจะนึกถึง

รู้ได้ยังไงว่าตอนนี้เขาอยากเจอ

...อยากขอโทษ

...อยากจะขอโอกาสอธิบาย


ทว่าสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้...
กลับมีเพียงแค่ภาพใบหน้าของใครบางคนวนเวียนซ้ำ ๆ


...และนี่อาจเป็นหนึ่งในไม่ีกี่ครั้งที่ปลายฟ้านึกโทษความชักช้าของตัวเอง


ความชักช้าที่ทำให้เกิดความกังวลสับสนลึก ๆ ภายใน


...ซึ่งแม้แต่เขาเองก็ยังไม่อาจเข้าใจมันได้เลย



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 23-12-2012 11:51:22
เฮ้อ...ก็เต่าปลายช้าอ่ะ
พูดไม่คิดนะนั่น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 23-12-2012 11:52:39
สะเดาขมๆ มาแล้ว
รอข้าวโพดหวานมาดับขม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 23-12-2012 11:55:38
โธ่ๆๆๆ
น้องปลายใจร้าย
 :sad4:
ทำไมทำร้ายจิตใจน้องคมของพี่(?)แบบนี้คะ
ไม่ได้น้าต้องไปขอโทษ ไปง้อขอคืนดีกันให้ได้นะ
ไม่งั้นคนอ่านจะงอนๆๆๆ
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 23-12-2012 12:06:23
พี่คมม :o12: น้อยใจกลับไปแล้วว
ปลายจัดการเลยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 23-12-2012 12:10:50
เฮ้อออ...ปลายซึนอ่ะ สงสารคมจัง  :monkeysad:
ถ้าปลายยังไม่เปลี่ยนตัวเองบ้าง...เราว่าแย่แน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-12-2012 12:12:55
สมกับเป็นเต่าปลาย

แต่คงจะสมกับคำว่า "ช้าๆได้พร้าเล่มงาม" มั้ง

เอาน่าไปง้อคมนิดหน่อย  ขี้คร้านจะดีใจหูตั้ง

บวกเป็ด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-12-2012 12:17:01
รีบไปง้อเลยนะปลาย  :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 23-12-2012 12:22:12
น้องปลายยยยยยยยย

โทรศัพท์น่ะอยู่ไหน โทรไปเดี๋ยวนี้เลยนะ
พูดอะไรน่าตีจริง ๆ แต่ก็ดีไปอีกแบบนะ จะได้กระตุ้นความรู้สึกตัวเองด้วย
ชอบเค้าก็อย่าเลือกมาก ไม่ต้องเอาคนที่ดีที่สุดหรอก เอาคนที่พอใช้กลาง ๆ แต่รักเรา เรารักเค้าก้พอเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 23-12-2012 12:42:08
บทเวลาจะพูดทีนึงก็คิดโน้นคิดนี้ พอบทสำคัญๆแล้วได้พูดโต้ตอบก็ดันไม่ทันคิดซะงั้น

ปลายเอ้ยยยยยยย ไหนๆก็คิดมากแล้ว คิดต่อไปอีกหน่อยก็แล้วกัน แต่ต้องคิดให้ได้ล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 23-12-2012 13:17:13
วอนขอดราม่าก็ได้กินมาม่าสมใจ โหย มาม่าขมปี๋เลย (มาม่ารสไรฟะ..)
กำลังมุ้งมิ้งได้ที่เชียวหละ แว้บเดียวเท่านั้นมาม่ามาจากไหนไม่ให้ตั้งตัว


แต่นี่คงเป็นบทลงโทษความชักช้าของปลายฟ้าได้ดีทีเดียวหละ
เพราะความช้าของตัวเองเลยทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับคม
เพราะการที่ตัวเองพูดไม่เคลียร์ เลยทำให้เรื่องราวใหญ่โตไปกันใหญ่

แล้วดูสิ ฝนตกขนาดนี้คมคงต้องขี่รถตากฝน ถ้าเป็นหวัดเป็นไข้ไป ใครจะดูแล...


ปลายฟ้า... นายต้องรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองเลย ฮึ!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-12-2012 13:31:24
อ้าว ซะงั้นอ่ะเต่าปลาย พูดไม่คิดเลย

สงสารคมจัง คงคิดมากไปหลายประโยคแล้วแหละวันนี้  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: alterlyx ที่ 23-12-2012 13:39:37
อะ อะ อ่าววว ทำไมเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ เหมือนถูกถีบตกจากจุดชมวิวเลย  :a5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 23-12-2012 13:45:20
น้องปลายรีบไปง้อคมเลยนะ :sad11:

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 23-12-2012 14:20:29
พ่อเต่าน้อยทำพลาดเสียแล้ว แง้วๆ เข้าสุ่ช่วงมาม่า แล้วเหรอคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 23-12-2012 14:57:16
ปลายใจร้าย  :sad4:
ทีเรื่องอื่นน่ะคิดมากๆ แต่เรื่องนี้ทำไมไม่คิดก่อนพูด  :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 23-12-2012 15:10:57
เฮ้อออออ   เต่าหน๋อเต่า
ไปง้อคมน่ารักๆเลยน๊าาาา :m15:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-12-2012 16:17:06
หงุดหงิดน้องเต่าปลายจริง ๆ คนอะไรมันจะเลือกช้าาาาอะไรขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 23-12-2012 16:28:10
 :sad4: โอ้ยยยยอิหนูปลายยยยยย ไหงไปพูดทำร้ายจิตใจคมไปเต็มๆเลยแบบนั้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 23-12-2012 16:33:23
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 23-12-2012 18:03:04
ปลายรู้ใจตัวเองสักทีเถอะ
สงสารคมแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 23-12-2012 18:58:22
ทรมาน นะ ถ้ารอเป็นคนถูกเลือก แต่คม สมบูรณ์แบบน้า เต่าปลาย :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 24-12-2012 10:58:14
น้องปลายเขียนจดหมายไปแทนก็ได้นะ เอาให้ละเอียดไปเลยยยยย ....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 24-12-2012 12:01:26
  :angry2: น่าจับไปลงทะเบียนวิชาภาษากับการสื่อสารทั้งคู่จริงๆ

ไม่ได้ดั่งใจ :m31:

แต่ก็รอตอนต่อไปนะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 >; P.66
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-12-2012 12:09:46
เบอร์ก็มีแล้วนิโทรไปสิ เต่าน้อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 24-12-2012 13:12:41
อ่านตอนนี้แล้ว
เอิ่ม หนูเต่าน้อย ไหงงี้อ่ะ งั่มๆๆๆ
แต่คนเขียนตัดซะอยากอ่านต่อ
กดบวกปล่อยเป็ดเมอรี่ คริสต์มาส อีฟ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 24-12-2012 14:27:11
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย ปวดใจ อ่านช่วงต้นจนถึงตอนกลางๆ เรายังยิ้มปากจะฉีกอยู่เลย

แล้วไม่ตอนท้ายมันหักมุมแบบนี้ละ ปลายเอ้ยยยยย ต้องพูดต้องอธิบายมากกว่านี้นะ เจ้ขอร้องงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 24-12-2012 15:48:33
เลือกคนที่ดีที่สุดอ่ะถูกแล้วไง555+ ไม่ใช่ดีที่สุดในสายทุกคน แต่ดีที่สุดในสายตาปลาย...อย่างคมไง อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 24-12-2012 18:47:15
จะปีใหม่แล้วยังจะให้กินมาม่าอีกหรอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 24-12-2012 19:29:27
ตอนที่ผ่านมา
หวานมากกกก เขินๆๆๆๆ อ่านแล้วอมยิ้ม
ตอนล่าสุด
:a5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 24-12-2012 21:46:26
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 25-12-2012 00:58:13
ไม่เคยว่าปลายเลยนะถ้าจะคิดช้า ทำอะไรช้า

แต่ตอนนี้ ไม่ได้นะปลาย ที่หลังต้องรีบพูดให้จบประโยคสิ

พูดแบบนั้น คม เค้าเข้าใจผิดหมด

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-12-2012 08:55:22
คนฟังเศร้าเลย คมสันสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 25-12-2012 09:59:59
ปลายเอ๊ยยยยยยยยยย เรื่องอื่นละช้าหนัก เรื่องทำร้ายจิตใจคนละไวเชียว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-12-2012 10:13:27
รีบไปง้อโดยด่วนพ่อเต่าน้อย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 25-12-2012 21:21:59
สะเดาเพิ่งจะหวานไปเอง  มาตอนนี้ขมซะแล้ว  เต่าปลายพูดทำลายน้ำใจคม เพราะความชักช้า ความขี้เกรงใจ 
คมคงนึกว่าตัวเองยังไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับปลาย  ว่าแต่ปลายจะแก้ความเข้าใจของคมยังไง

 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 25-12-2012 21:42:34
งื้อ ผ่านไปไม่กี่วัน ทำไมเค้าคิดถึงเต่าปลายอีกแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 27-12-2012 16:25:25
ชอบเรื่องลูกแม่พลอยกับแม่เดือนที่สุด555555
เห็นเขาทะเลาะกันน่ารักดีคะ แต่เร่องที่อ่านแล้วเจ็บปวดคือพี่แทน
สงสารเฮียแกมาก แต่น้องเพลงก็น่ารัก
อ่านแต่ละเรื่องทำเอาอยากจชิมเมนูตามเลยค่ะ
แต่ชอบเรื่องพี่ศรกับน้องบินเวลาเาสวีทกันที่สุด
น่าร้ากกกกกกกกก ชอบพี่ศรที่เอาใจใส่น้อง
ส่วนน้องก็ใจดีมาก เวลาคู่นี้อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักดีค่ะ
แทนตัวกันน่ารักด้วย
ส่วนเรื่องล่าาสุด ก็อันเอ็นดูน้องปลายไม่ได้
น้องปลายไม่ว่าจะทำอะไร เราอ่านแล้วยังเอ็นดูเลย
ตอนอ้อมกับฟ้าออกนี่ทำเราต้องย้อนนึกอ้อมไหนหว่าาาา
จนร้องอ่อ ออกมา อ้อมที่จีบเฮียนี่เอง ก๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-12-2012 07:25:18
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: dradareal ที่ 30-12-2012 14:47:43
คิดถึงคมปลายและพี่คนเขียน  รออยู่นะค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: Inamning ที่ 04-01-2013 17:27:49
รอค๊าาาาาาาาาาาาาาา  o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 20] 23/12/55 > P.66
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 04-01-2013 18:11:10
คิดถึงเต่าน้อย

กลัวน้องเต่าน้อยจะไม่ได้กับตาคม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 04-01-2013 21:57:51
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 21


“...พ่อเต่าน้อย  ...พ่อเต่าน้อย
โอยย!! ....นี่พ่อเต่าน้อยยย!!
จะนั่งจ้องมือถือหาเลขเหรอไงย่ะ ฟังชั้นอยู่รึเปล่า!!”


เสียงเรียกพร้อมแรกสะกิดจากเพื่อนร่างแมนใจสาว
ทำเอาเจ้าของฉายาที่กำลังเหม่อถึงกับสะดุ้งรีบเงยหน้าขึ้นมองคนในกลุ่ม
ซึ่งทุกคนก็ต่างส่งสายตาแสดงความสงสัยตอบกลับมา
จนคนถูกจ้องต้องตั้งสติเอ่ยคำแก้ตัวตะกุกตะกัก


“ทะ...โทษที เมื่อกี๊ว่าไงนะ”


“ก็รายงานที่จะพรีเซนต์วันมะรืนอ่ะ
จะให้พ่อเต่าน้อยพูดส่วนที่เหลือจากไอ้เกมส์
แล้วเดี๋ยวเค้าจะพูดสรุปจบตอนท้ายให้เองโอเคมั้ย”


“อ้อ...โอเค”


คนฟังพยักหน้าหงึกหงักเข้าใจในคำอธิบาย
หากแต่ยังไม่ทันที่ใครจะเริ่มคุยเรื่องถัดไป
ไอ้คนที่ทำเหมือนจะรู้เรื่องเมื่อกี๊ดันส่งเสียงถามซ้ำ


“เออ....ละ...แล้วส่วนที่เหลือของไอ้เกมส์มันคืออะไรอ่ะ”



...สายตาอีกห้าคู่จ้องตรงมายังปลายฟ้าเป็นรอบที่สอง


ทว่าคราวนี้กลับตามมาด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยหน่ายจากบอลล่า



“เฮ้ออออ!! นี่ถ้าพ่อเต่าน้อยไม่ใช่ผู้ชาย
ชั้นจะนึกว่าเธอเครียดที่เมนส์ไม่มาแล้วท้อง
ถึงได้นั่งใจลอยจ้องโทรศัพท์เหมือนคนกล้า ๆ กลัว ๆ
ลังเลจะบอกแฟนตัวเองให้รู้อย่างงั้นแหละ”


โห...เจ๊ช่างเปรียบเทียบไปได้


แต่ถึงพฤติกรรมไม่ใช่ก็นับว่าใกล้เคียง
เพราะตอนนี้เขากำลังนั่งในโรงอาหารกับกลุ่มเด็กเภสัชเพื่อประชุมแบ่งงานกันอยู่
แค่ตัวเองดันสติกระเจิงแทบไม่ได้ฟังเนื้อหาจากกองชีทด้วยซ้ำ
เพราะใจมันดันจดจ่อไปให้ความสำคัญกับตัวเลขสิบหลักที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
ซึ่งต่อท้ายชื่อของใครคนหนึ่ง...


...คนที่ทำให้เขาลังเลว่าควรจะโทรหาดีมั้ย



ผ่านมาสองวันแล้ว นับตั้งแต่ที่เขานัดเลี้ยงบัดดี้
และเป็นการนัดเลี้ยงที่จบลงด้วยทำให้บัดดี้ตัวเองโกรธซะอย่างนั้น


...ก็รู้อยู่หรอกว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดที่ชักช้า
สมควรจะรีบขอโทษแล้วพูดคุยแก้ความเข้าใจเสียใหม่
เบอร์โทรคมก็มีแล้ว แค่กดโทรไปอธิบายซะให้เรียบร้อย
แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่กล้าที่จะทำ
เพราะในใจมันดันเกิดคำถามว่า...



...ถ้าโทรไปแล้วเขาจะเริ่มต้นคุยยังไงดี



เอ้า...นี่มันเรื่องซีเรียสนะครับ ทำเป็นเล่นไป...
เรื่องพวกนี้มันต้องคิดให้รอบคอบ
ขืนอยู่ ๆ จะให้เขาบอกไปโต้ง ๆ ว่า...


“ขอโทษนะ เราไม่ได้รำคาญคมเลย คมจะยุ่งกับเราก็ได้”


...มันจะไม่ดูแปลกไปหน่อยเหรอ
พูดแบบนี้เหมือนเป็นคนโรคจิตมากกว่า
ยิ่งฟังยิ่งทำให้เข้าใจผิดกันเข้าไปใหญ่
แถมประโยคมันดูสั้นพิลึกเกินไป


หรือจะให้เปลี่ยนเป็นอธิบายยาว ๆ ไปเลยว่า...


“เราไม่ชอบให้คมช่วย เรากลัวคมจะเดือดร้อน
แต่ถ้าคมเต็มใจช่วย เราก็ไม่ว่าอะไรหรอก
แต่จริง ๆ แล้วเราก็ไม่อยากจะไปรบกวนคม
ดังนั้นเราว่าคมอย่าช่วยเราเลยดีกว่า”



...เฮ้ยย!!  ไม่ได้ ไม่ได้!
ถ้าพูดแบบไปนี้พาลจะทำให้โกรธนักกว่าเดิมแน่
ถึงใจความสำคัญจะอยู่ตรงที่ว่าเขาเกรงใจคม
แต่ให้บอกตรงดิ่งเป็นขวานผ่าซาก มันก็ฟังตัดรอนน้ำใจเกินไป
จากเคลียร์กันจะกลายเป็นชวนให้ทะเลาะกันเปล่า ๆ


ถ้างั้นลองเปลี่ยนไปพูดชมแทนล่ะ? ทำนองว่า...


“คือ...เราไม่ได้ไม่ชอบคมนะ
ที่คมมาช่วยเรา เราก็รู้สึกดีใจ
เราไม่ได้รำคาญคมเลย
คมอย่าไปจากเราได้มั้ย”



...บ้า!!!!!
ตกลงจะขอโทษหรือจะสารภาพรัก
ใครที่ไหนมันจะกล้าพูด
ทำตัวเป็นนางเอกซีรีย์เกาหลีไปได้
อย่าลืมสิว่าเขาเป็นผู้ชายแล้วคมมันก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
จะให้เขาพูดประโยคเลี่ยน ๆ ออกไปได้ยังไง


...โอยยย!! ไอ้นั้นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ดี

เขาเลยได้แต่ปล่อยให้มันคาราคาซังอยู่จนถึงวันนี้ไงเล่า!!



ปลายฟ้านึกปวดหัวกับนิสัยช่างเลือกสุดชักช้าของตัวเอง
เมื่อวานนั่งคิดนอนคิดทั้งวันก็ยังไม่เห็นได้คำตอบ
แถมพอเห็นต้นสะเดาตรงระเบียงทีไร
ก็พาลนึกวนเวียนไปถึงหน้าคนคนนั้นทุกที
จนเขาแทบไม่มีกะจิตกะใจจะไปทำอย่างอื่น
มิหนำซ้ำมันยังตามมาหลอกหลอนกระทั่งเวลาไปเรียน
รวมถึงตอนนี้ที่เขากำลังนั่งคุยกับกลุ่มเพื่อนประชุมเคร่งเครียด
แต่ตัวเองดันใจลอยสติหลุดจนคนอื่นชักจะสงสัยในพฤติกรรมเหม่อผิดปกติ
กระทั่งบอลล่าต้องเริ่มเปิดประเด็นถามด้วยความเป็นห่วง


“นี่พ่อเต่าน้อยมีอะไรก็เล่าให้ฟังได้นะ”


“ปะ..เปล่า ไม่มีอะไร”


เขาพูดปฏิเสธหากแต่ยังโดนสายตาจ้องจิกตอบกลับมาเหมือนไม่อยากเชื่อ


“เหรอ ไม่ใช่ว่าไปทะเลาะกับใครมานะ
เมื่อวันเสาร์ตอนอยู่กับคมยังเห็นดี ๆ อยู่เลย
เอ๊ะ! หรือว่าไปทะเลาะกับคมมาใช่รึเปล่าเนี่ย”


คำคาดเดาถูกเผงราวกับตาเห็นแทบทำเอาคนฟังแทบหน้าทิ่ม

โห...อะไรจะแม่นขนาดนั้นครับเจ๊
ไปเชิญเทพธิดาพยากรณ์มาสิงร่างกันตอนไหน
แต่ถึงอย่างนั้นคนคิดปิดบังก็ยังคงพยายามบอกปัดเสียงหลง


“เฮ้ยย!! เปล๊า ไม่ได้ทะเลาะ เออ..ก็แค่...แค่...”


ประโยคเริ่มอึกอักเพราะหัวสมองกลับตื้อ
คิดหาข้อแก้ตัวไม่ออกขึ้นมาดื้อ ๆ
จนบอลล่าเริ่มถามคาดคั้น


“แค่อะไร”


“เออ...คะ...แค่...เรา...
...เราแค่อยากกินหมูปิ้ง
เดี๋ยวไปซื้อก่อนนะ”



...ไม่ไหวแล้วครับ
ตอนนี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยง
บอกอะไรส่ง ๆ ไปก่อน


โห...ก็ใครมันจะไปกล้าพูดต่อหน้าคนทั้งกลุ่ม
พวกมันเล่นจ้องเขาเหมือนตำรวจเค้นคอนักโทษอย่างนั้น
สู้ให้เขาหายไปที่อื่นสักพักเดี๋ยวพวกมันก็คงลืมไปเอง


แต่ดูเหมือนคนถามจะไม่ยอมปล่อย
เพราะทันทีที่เขาลุกจากโต๊ะ
บอลล่ากลับร้องตามลุกขึ้นมาทันทีราวกับรู้ทัน


“อุ๊ย! ไม่ต้องหนีเลย พ่อเต่าน้อย
ชั้นไปด้วย บังเอิญอยากกินเหมือนกัน”


ทั้ง ๆ ที่ปกติถ้าเต่าอย่างปลายฟ้าจะไปซื้ออะไรมักจะไม่มีใครอยากตามมาแท้ ๆ
เนื่องจากเจ้าตัวขึ้นชื่อลื่อชาเรื่องความช้าเหนือกว่าชาวบ้าน
ทว่าคราวนี้ทั้งกลุ่มคงอยากจะรู้จริง ๆ
ถึงได้ส่งบอลล่ามาตามประกบชนิดไม่กลัวเสียเวลา
แม้ร้านขายหมูปิ้งคนจะเยอะต้องต่อคิวรอแค่ไหน
บอลล่าก็ยังตามมาร้องสั่งหมูปิ้งสิบไม้ข้าง ๆ
ก่อนจะเริ่มต้นลากเข้าสู่ประเด็นสำคัญอีกรอบ


“ตกลงมันเรื่องอะไร”


...ท้ายที่สุดก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี
ปลายฟ้าจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฟัง
โดยเฉพาะประเด็นที่โยงไปสู่สาเหตุของการทะเลาะ
จนทำให้เขากังวลไม่กล้าโทรไปเคลียร์กับคมตลอดทั้งวัน


...และแน่นอนว่าพอฟังจบ
เสียงหวีดร้องของบอลล่าก็ดังตามขึ้นมาทันที
พร้อมคอมเมนต์ประหนึ่งตัวเองสวมวิญญาณให้คำปรึกษาเป็นพี่อ้อยพี่ฉอด



“ต๊ายยย!!!  โถ่ๆๆ  พ่อเต่าน้อยของชั้น
เห็นมั้ยมันผิดจากที่ชั้นพูดเมื่อไรล่ะ
บอกแล้วไงว่าขืนชักช้าอย่างนี้
เกิดไปรักไปชอบใครขึ้นมาไม่ทันกินเข้าพอดี”


...เออ...เขาจำได้ลาง ๆ นะว่าเจ๊พูด
แต่ไม่ได้บอกเขาทำนองนี้นี่หว่า
แล้วที่สำคัญคือไอ้การที่เขาจะไปรักไปชอบใครมันเกี่ยวอะไรตรงไหนวะ
ทำไมต้องเอามาโยงถึงเรื่องที่เขาทะเลาะกับคมด้วย


คนปรึกษากลายเป็นฝ่ายงงเกาหัวแกรก
อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ


“ถ้าเราไปชอบใครแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วยอ่ะ”


“อูยยย...ก็ไปเดทกันตอนเช้า
เสร็จแล้วก็มางอนกันตอนเย็น
เหมือนคู่รักเด๊ะ ๆ แบบนี้จะไม่ให้เกี่ยวได้ยังไง”


คำอธิบายที่มาพร้อมแววตาล้อเลียน
ทำเอาปลายฟ้าหน้าร้อนวูบต้องรีบร้องแก้ตัวพัลวัน


“เฮ้ยยย!! มะ...ไม่ได้ไปเดทก็บอกว่าแค่ไปเลี้ยงบัดดี้
เราทะเลาะกับคมเหมือนเพื่อนทะเลาะกันเฉย ๆ
ละ...แล้วเราแค่อยากขอโทษที่พูดไม่ดีกับเขาแค่เนี่ยเอ๊งง”


“หรอออ....เพื่อนกันคิดมากขนาดนี้เชี่ยะ...”


คำล้อยังตามมาอีกหนึ่งกระบวนจนดวงตากลมต้องก้มหลบ
ไอ้อาการเดิม ๆ ชักจะกลับมาอีกรอบ
พอโดนทักมาก ๆ ก็แปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน
ปกติถ้าไปทะเลาะกับใคร เขาก็ไม่ได้เป็นถึงขนาดนี้
โดยเฉพาะไอ้อาการหน้าร้อนแปลก ๆ
ทั้ง ๆ ที่รู้ชัดอยู่แล้วว่าเขากับคมเป็นแค่ ‘เพื่อน’ กันแท้ ๆ
ถึงเมื่อวันเสาร์จะไปกินข้าว ดูหนัง เหมือนคนไปเดท

...แต่เขาสองคนไม่ได้เป็น ‘คู่รัก’ อะไรอย่างที่บอลล่าบอกเลยสักนิดจริง ๆ นะเว้ย!!



“...อ่ะ ก็ได้ ๆ ไม่แซว ๆ ล่ะ
งั้นเอาเป็นว่าตามที่ชั้นคิดนะ....
ถ้าพ่อเต่าน้อยอยากจะปรับความเข้าใจกับคม
มันก็ต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าเราไม่เข้าใจกันตรงจุดไหน
สมมตินะ....ถ้าพ่อเต่าน้อยขอโทษคมเสร็จแล้วจะทำยังไงต่อล่ะ
...จะยอมให้คมเข้ามาช่วยอีกรึเปล่า”

   
ท้ายประโยคบอลล่าเปลี่ยนประเด็นมาเข้าเรื่อง
ชักสงสารเพื่อนตัวเองที่หน้าแดงแปร๊ดอาการหนัก
จนกลัวว่าจะทำอะไรไม่ถูกไปมากกว่านี้



คำถามซีเรียสที่ได้ยินทำให้ปลายฟ้าต้องตั้งสติหยุดทบทวน
ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธตอบด้วยประโยคเดิม ๆ เหมือนที่เคยคิดไว้


“เราไม่อยากให้คมช่วย เราเกรงใจเขา”


“ก็คมบอกไม่ใช่เหรอว่าเขาเต็มใจ”


“แต่ว่าเรามะ...”


“จะบอกว่า ‘ไม่ชอบ’ อีกใช่มั้ยล่ะ?”


คนโดนดักคอถึงกับชะงัก
เมื่อคำตอบที่กำลังจะอ้าปากพูดกลับหลุดออกมาจากอีกฝ่ายแทน
แถมยังเป็นประโยคที่เขาเคยใช้บอกกับคม
จนกลายมาเป็นฉนวนต้นเหตุที่ทะเลาะกันด้วย


อ้าว...งั้นไอ้สถานการณ์แบบนี้มันก็ไม่ต่างจากเดิมเลยน่ะสิ
แล้วจะไปมีประโยชน์อะไรถ้าเขาจะหาคำอธิบายไม่ได้
ขืนคุยกับคมก็เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง
อย่าว่าแต่เคลียร์ปรับความเข้าใจกันเลย
คงได้ทะเลาะกันหนักมากกว่าเก่าแน่ ๆ


และดูเหมือนบอลล่าจะคิดไม่ต่างกัน
หนุ่มหน้าสวยจึงได้แต่มองคนที่เพิ่งรู้สึกตัว
พลางถอนหายใจออกมาเสียงดัง

 
“เฮ้อออ...แล้วแบบนี้คมจะไปรู้เรื่องได้ยังไงล่ะ
...นี่จะบอกอะไรให้นะ ก่อนจะไปเคลียร์ความเข้าใจกับคนอื่น
พ่อเต่าน้อยต้องทำความเข้าใจกับเองก่อนมั้ย
ไปลองคิดให้ดีนะว่าทำไมเราถึงไม่อยากให้เขาช่วย
...แล้วที่เราบอกไม่ชอบน่ะ...มันไม่ชอบเพราะอะไร...”



ปลายฟ้านิ่งฟังประโยคแนะแนวทางจากบอลล่าเงียบ ๆ
ค่อย ๆ ซึมซับทุกคำพูดให้ลงลึกในความทรงจำ



จริงด้วย...เขาจะไปเคลียร์กับคมรู้เรื่องได้ยังไง
ในเมื่อเขาไม่เคยเข้าใจตัวเองเลย
และไม่แน่ว่าจริง ๆ แล้ว

...นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาไม่กล้าโทรไปหาคมก็ได้



เพราะเขายังไม่รู้....



...ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงไม่ชอบให้คมมาช่วย


คำว่า ‘ไม่ชอบ’ สำหรับเขามันดูคลุมเครือ
ทั้ง ๆ ที่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองไม่ชอบตรงไหน
เขายอมรับว่าคมเป็นคนดีมีน้ำใจ
พออยู่ใกล้กันคมก็มักมาคอยห่วงใยเอาใจใส่
จนเขาเผลอพึ่งพาคมอยู่เรื่อย


...ก็นี่ไง...


...อาจเป็นเพราะการที่เขาเอาแต่คอยให้คมช่วย
มันคล้ายกับเขาอ่อนแอจนทำอะไรเองไม่เป็น...


แต่ถึงอย่างนั้น...พอมาคิด ๆ ดูดี ๆ ...
คมกลับไม่ได้ปฏิบัติต่อเขาอย่างดูถูกเลยสักนิด
คมแค่มองอยู่ห่าง ๆ พอเจอปัญหาจริง ๆ ถึงค่อยเข้ามาช่วย
เหมือนอย่างเมื่อวันเสาร์ที่คมไปช่วยน้องผู้หญิงที่ยางรถรั่วคนนั้น


...คมเป็นคนนิสัยแบบนี้
เป็นคนจิตอาสา มีน้ำใจกับคนอื่นเสมอ



...แล้วกับเขาเองก็ไม่ต่างกัน



คมก็คงแค่มีน้ำใจถึงได้เข้ามาช่วยเหลือเขาเหมือน ๆ กันกับคนอื่น
มาทำดีให้เหมือนใครหลายต่อหลายคนที่อยู่รอบตัวคม



เพราะแบบนี้ไง...



...เขาเลยไม่ชอบ




เอ๊ะ?...


มะ...เมื่อกี๊เขาพูด ‘ไม่ชอบ’ เหรอ?


อะ...อ้าว...แล้วทำไมถึงไม่ชอบล่ะ



มันเป็นคนดีมีน้ำใจก็สมควรแล้ว
มีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่ชอบขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ยังนึกชมมันอยู่เลย
แต่พอบอลล่าถามอะไรแปลก ๆ
เขาเลยดันคิดมากออกมาเป็นอะไรก็ไม่รู้
แถมยังไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นเลยสักอย่าง


...โธ่เว้ย!!...จะชอบไม่ชอบอะไรก็ไม่รู้

โอยยย!! ทำไมมันถึงยุ่งยากอย่างนี้วะ!!!

...ปวดหัวโว้ยยย!!




ปลายฟ้าพยายามใคร่ครวญความคิดของตัวเอง
แต่สิ่งที่ได้รับกลับยิ่งเพิ่มความสับสนมากขึ้น
ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะตั้งสติเรียบเรียงลำดับใหม่
กลับมีเสียงจากด้านหลังดังทักขัดจังหวะ



“หมูปิ้งยี่สิบไม้ที่สั่งได้รึยังครับ
...อ้าว...บอลล่ากับปลาย
มาซื้อหมูปิ้งเหมือนกันเหรอครับ”


เจ้าของชื่อหันกลับไปหาคนพูด
ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนุ่มหล่อประจำวิศวะเจ้าเก่า
ที่ยืนยิ้มโปรยเสน่ห์มาให้ด้วยความเป็นมิตร
จนบอลล่าต้องร้องลั่นทักทายกลับอย่างดีใจ


“ว๊ายยย!! นึกว่าใคร ดิวนี่เอง
แหม..มาสั่งหมูปิ้งตั้งเยอะแยะหิวเหรอคะ
แล้วนี่มีที่นั่งรึยัง? มานั่งกับพวกเรามั้ย”


“อ้อ...ผมทานเรียบร้อยแล้วครับ
แต่นี่ซื้อไปฝากไอ้คมมัน”


คนถูกถามชูข้าวเหนียวหมูปิ้งพร้อมห่อข้าวเหนียว
ที่เพิ่งรับมาไว้ในมือสด ๆ ร้อน ๆ ประกอบคำพูด
ทว่าชื่อในท้ายประโยคที่ห้อยมากลับดึงความสนใจจากคนฟัง
ซึ่งเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าวันนี้หนุ่มหล่อฉายเดี่ยว
ไม่มีเพื่อนตาคมแถมมาด้วยเหมือนอย่างเคย


“อ้าว...แล้วทำไมคมไม่มาด้วยล่ะ”


“มันช่วยงานอาจารย์อยู่ที่ภาคน่ะครับ
จริง ๆ มันไม่สบายอยู่แท้ ๆ แต่ก็ยังฝืน
ผมเลยต้องมาซื้ออะไรที่กินง่าย ๆ ไปให้”


ปลายฟ้ารีบเงยหน้าขึ้นมองทันทีหลังฟังคำอธิบายที่ไม่คาดคิด
เช่นเดียวกับบอลล่าที่ทำตาโตร้องถามอย่างเป็นห่วง


“เอ๋!! คมไม่สบายแล้วเป็นอะไรมากมั้ย”


“เห็นว่าไปตากฝนมาน่ะครับ
เมื่อวานมีไข้นิดหน่อยแต่วันนี้ไข้ลงแล้ว
ผมบอกให้พักแต่มันก็ยังฝืนมาเรียน
อ้างว่าต้องมาช่วยอาจารย์ทำงาน...คือ...
อาทิตย์หน้าที่คณะผมจะจัดงานโอเพ่นเฮ้าท์น่ะครับช่วงนี้เลยค่อนข้างยุ่ง”


“อุ๊ย! อย่างนี้ก็เหนื่อยแย่เลยสิ ฝากบอกคมด้วยนะว่าให้หายเร็ว ๆ
แต่ทำงานหนักขนาดนี้ชักอยากเห็นแล้ว
ถ้าเปิดงานเมื่อไร บอลล่าจะขอพาเพื่อนมาเที่ยวบ้างได้มั้ยเอย”


หนุ่มหน้าสวยไม่ลืมแถมท้ายที่จะหยอดเล็ก ๆ
พร้อมส่งสายตาวิบวับอย่างมีเล่ห์นัย
ซึ่งดิวก็ยิ้มรับซ้ำยังเอ่ยชวนออกลายคาสโน่ว่าไม่แพ้กัน


“ได้สิครับ พาเพื่อน ๆ มาเยอะ ๆ เลยเดี๋ยวผมพาทัวร์เอง
เออ...ถ้ายังไงตอนนี้ผมต้องขอตัวก่อน
แล้วว่าง ๆ ผมจะขอมานั่งกินข้าวด้วยกันนะครับ”


ดิวโบกมือลา ก่อนเดินกลับไปยังทิศทางตรงข้าม
ทิ้งให้สองหนุ่มเภสัชยืนรอหมูปิ้งอยู่ที่เดิม
หากแต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือความคิดของปลายฟ้า
ซึ่งยังคงวนเวียนอยู่กับข่าวล่าสุดที่เพิ่งได้ยินซ้ำ ๆ



..คมไม่สบายมีไข้นิดหน่อยเห็นว่าไปตากฝนมา



...ตากฝนเหรอ?


เขาจำได้ว่าฝนมันตกครั้งสุดท้ายเมื่อเย็นวันเสาร์นี่นา
...ใช่ ๆ เขายังห่วงต้นสะเดาอยู่เลย
ดีที่ว่าคมขี่มอเตอร์ไซต์เร็วเลยกลับมาถึงห้องทัน


...เฮ้ยย!! หรือว่าหลังจากคมส่งเขาแล้ว
มันดันขี่ตากฝนกลับหอเลยทำให้ไม่สบาย
แบบนี้เขายิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่น่ะสิ
แล้วแทนที่จะนอนพักมันดันมีน้ำใจไปช่วยงานอาจารย์อีก


...โธ่เว้ย!!

ทำไมถึงไม่ยอมช่วยดูแลตัวเองบ้างมัวแต่ไปช่วยคนอื่นทุกที



...คนอื่นอีกแล้ว



น่าแปลก...ที่ไม่รู้ทำไมพอคิดถึงตรงนี้
อยู่ ๆ เขาก็ดันรู้สึกอึดอัดใจแปลก ๆ 
คำว่า ‘ไม่ชอบ’ ผุดขึ้นมาซ้ำ ๆ ในสมอง
เหมือนจะตอกย้ำว่าเหตุผลที่เขาตามหามันคืออะไร



...หรือจริง ๆ แล้วที่เขาไม่ชอบให้คมคอยช่วยเขา



มันจะเป็นเพราะว่า...




“...พ่อเต่าน้อย ...พ่อเต่าน้อย
โอยย!! ใจลอยอีกแล้วนะ
จะเอามั้ยหมูปิ้งเนี่ย”


เสียงเรียกชื่อทำให้คนจมอยู่กับความคิดหลุดออกจากภวังค์
เขารีบหันไปหาบอลล่าซึ่งพยักเพยิดไปยังคุณป้าที่ยืนถุงหมูปิ้งมาให้


“ขะ...ขอโทษครับ เท่าไรนะครับ”


ปลายฟ้าถามย้ำฟังป้าคนขายบอกราคาก่อนยื่นแบงค์ส่งไปให้
ท่ามกลางสายตาคนข้างตัวซึ่งส่ายศีรษะอย่างระอากับพฤติกรรมผิดปกติของเพื่อน
อดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำพูดแซวขึ้นมาอีกรอบ
หากแต่เป็นถ้อยคำที่ทำให้คนฟังถึงกับสะดุ้ง


“ห่วงคมเขาเหรอไง”


คนถูกถามจี้ใจแทบทำเงินทอนหลุดจากมือ
รีบหันไปปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก


“เฮ้ยย!! ....มะ..ไม่ใช่...
คะ...คือว่า...เราแค่กำลังคิดว่าจะเลือกอะไรนิดหน่อย”


...ก็มันจริงนี่ครับ
เขากำลังเลือกเหตุผลมาตอบตัวเองให้ได้อยู่
เพราะบอลล่าดันมาถามอะไรแปลก ๆ ขึ้นมานั้นแหละ
เขาเลยต้องมานั่งปวดหัวสับสนอยู่นี่ไงเล่า!


คู่สนทนาส่งสายตากลับมามองอย่างไม่เชื่อ
นึกอยากจะอ้าปากแซวแต่กลัวจะเห็นคนหน้าแดงอีกรอบ
จึงเปลี่ยนมาถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลง ๆ
ก่อนจะตัดสินใจฝากคำแนะนำไว้เป็นครั้งสุดท้ายให้กับคนช่างเลือก



“เฮ้อออ...!! เอาเถอะ...จะทำอะไรก็ทำ...
พ่อเต่าน้อยอยากจะค่อย ๆ ละเลียดใช้เวลาพิจารณาเลือกให้ดีที่สุดก็ตามใจ
แต่ถ้าขืนชักช้ามาก ๆ ระวังเถอะจะไม่มีโอกาสอีกเป็นครั้งที่สอง
แล้วที่สำคัญพ่อเต่าน้อยอย่าลืมนะว่า...


เราน่ะเลือกได้...


...แต่เขาล่ะจะอยู่ ‘รอ’ ให้เราเลือกด้วยรึเปล่า”
 



จบคำ บอลล่าจึงเดินหมุนตัวกลับไปที่โต๊ะของกลุ่มซึ่งเริ่มประชุมงานต่อ
โดยมีปลายฟ้าก้าวตามไปนั่งข้าง ๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไร
เพราะในสมอง...ยังคงทบทวนข้อความที่กระทบลงตรงกลางใจ...



...รอ



นั้นสิ...เขาลืมไปได้ยังไงว่า
ไม่ใช่มีแค่เขาคนเดียวที่ใช้เวลาเลือก
อีกคนหนึ่งก็ต้องเลือกเหมือนกัน
แล้วจะมีใครที่ไหนใจเย็นอดทนรอคนช้าเป็นเต่าอย่างเขาได้นานพอบ้าง


...และถ้าเกิดเขาเลือกแล้วมันสายเกินไป


...เขาจะทำยังไง



“เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำแป๊บหนึ่งนะ”


ปลายฟ้าลุกพรวดขึ้นมาอีกครั้งทั้ง ๆ ที่เพิ่งนั่งลงยังไม่ถึงนาที
จนไอ้เกมส์ที่รอประชุมเคลียร์งานอยู่นานแล้วถึงกับต้องร้องโวยวายดังลั่น


“อะไรวะไอ้ปลาย!! จะหิวอะไรหนักหนา
แล้วเมื่อไรงานจะเสร็จวะเนี่ยห่ะ!!”


“เออ..ปล่อยพ่อเต่าน้อยไปเถอะ
เดี๋ยวชั้นแบ่งงานให้เอง”


บอลล่ารีบพูดห้ามทัพแอบขยิบตากับคนลุกขึ้นยืนเหมือนให้กำลังใจ
แล้วจึงหันไปจัดการคุยเรื่องงานกับไอ้เกมส์แทน


ปล่อยให้ปลายฟ้าเดินออกห่างมาจากโต๊ะ
แต่เขาไม่ได้ตรงไปซื้อน้ำอย่างที่บอก
แค่เลี่ยงออกมาให้ห่างจากกลุ่มเพราะอยากจะตั้งสมาธิ
ล้วงซัมซุงกาแล็กซีขึ้นมาจากกระเป๋า
กดไล่มองดูชื่อที่จ้องมันมาตลอดสองวัน
สูดลมหายใจลึกก่อนลงมือทำสิ่งที่สมควรทำ
หลังจากที่เสียเวลาเลือกมานานเกินพอ


...ใช่


....ตอนนี้เขาควรจะตัดสินใจเลือกได้สักที



...

..

.

 
ยังไม่จบนะคะ ต่ออีกนิดที่ความเห็น 2028
บังเอิญคนเขียนแก้คำผิดแล้วมือดันเผลอไปกดลบทิ้ง  :o12:
(นี่แหนะ!! ตีมือตัวเอง มันน่านักเชียว)  :m16:
ดังนั้น ขอเชิญไปอ่านต่อได้เลยจ้า  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 04-01-2013 22:08:04
มาแล้วเต่าปลาย
จะได้เคลียร์กันล่ะ  :กอด1:
 :z13:
รักษาสุขภาพด้วยจ้ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 04-01-2013 22:10:53
ที่ 'ไม่ชอบ' เพราะปลายหึงคมอ่ะดิ!!  :m12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-01-2013 22:24:50
กว่าจะตัดสินใจได้นะพ่อเต่า เย็นนี้ก็เคลียร์ให้รู้เรื่องหล่ะยืดยาดนักจะยุให้คมไปดูแลคนอื่นเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 04-01-2013 22:36:31
 o13

มาแบบจุใจมากกกกก แม้ทั้งคู่จะค่อยๆคลาน
แต่ก็คืบหน้าล่ะน้า

บวกเป็ด

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 04-01-2013 22:48:47
ดอกไม้ให้คนสบายดีแล้ว  สวัสดีปีใหม่ค่ะ :3123:
เต่าน้อยค่อยๆคลาน อิ อิ  คลานมาบอกรักจิตอาสา :z10:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 04-01-2013 23:06:11
มาแย้ววววว
คนเขียนสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ^^

น้องปลายยยยยยย โถ่ๆๆๆๆๆๆๆๆ
แอบเห็นใจคมเบาๆ ฮ่าๆ
น้องปลายก็น่ารักนะ แต่อย่างที่บอลล่าบอก จัดการความคิดความรู้สึกตัวเองก่อนดีกว่าเน๊าะ
อ่านเรื่องนี้ทีไรอยากกินอาหารตามตลอดดด ฮื่ออหมูปิ้ง><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-01-2013 23:37:55
ที่ไม่ชอบอาจเป็นเพราะไม่อยาก
ให้ทำดีกับคนอื่นมากกว่าตัวเองละซิ
เขาเรียกว่าอยากเก็บไว้เพียงคนเดียวนะเนี้ยะ :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 04-01-2013 23:59:30
ติดตามนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 05-01-2013 00:01:27
กรี๊ดดดดดลุ้นจนเยี่ยวเหนียวละ ใช้โอกาสนี้ให้เต็มที่เลยนะทั้งคู่ ปรับความเข้าใจกันเถอะนะ ลุ้นมากๆให้หวานกันอีก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-01-2013 00:06:07
คิดถึง คมสัน-ปลายฟ้า จัง

สวัสดีปีใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 05-01-2013 00:31:21
หายป่วยแล้วดีใจด้วยนะคะ
ต่อไปก็ต้องดูแลสุขภาำพให้ดีๆ
ตอนนี้มันเหงาๆ พิกลนะคะ
ปลายก็สับสน คมเลยหงอย
แล้วสรุปว่าตอนนี้ปลายรู้ใจตัวเองหรือยังนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 05-01-2013 00:35:55
ตัดจบตอนได้ทำร้ายจิตใจคนอ่านมาก
เขาลุ้นข้ามปีมาแล้วนะ ยังจะปล่อยให้เขาลุ้นอีกหรอ อิอิ
รอตอนต่อไปนะ ตอนนี้ชอบบอลล่าจัง จริง ๆ ชอบบอลล่ามาก ๆ เลย
เก่ง นิสัยดี อ้อร้อพอกรุบกริบ น่ารักดี

ปีใหม่ให้ทุกคนมีแต่สุขภาพดีถ้วนหน้านะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 05-01-2013 03:17:20
สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ  :L2:

ลุ้นพ่อเต่าน้อยจะบอกอะไรกับคม อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 05-01-2013 06:06:36
อาการไม่ชอบของปลายเราว่าเข้าขั้น หวงนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 05-01-2013 08:51:10
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 05-01-2013 10:11:55
 :pig4: คนเขียนจัดเต็ม ยาวจุใจ    :เฮ้อ: จะได้เคลียร์ปัญหาในใจกันซะที  แต่หวังว่าจะเคลียร์กันได้ชัดเจนนะ  กลัวใจเต่าปลายจังว่าความชักช้าจะทำให้เสียเรื่องอีก   แล้วคมจะได้ซดแห้วอีก


ขอนำคำอวยพรที่คนเขียนมอบให้  ส่งคืนกลับไปให้คนเขียนเช่นกันค่ะ :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-01-2013 10:58:28
อั๊ยย๊ะเต่าปลายมีอาการหึงกับเค้าแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 05-01-2013 11:04:21
..

.


ภาควิชาปิโตรเคมีเป็นหนึ่งในภาควิชาขนาดใหญ่ของคณะวิศวกรรมศาสตร์
แต่บัดนี้สภาพหน้าห้องภาควิชาที่แสนภูมิใจไม่ต่างอะไรไปจากสนามรบ
เพราะล้อมรอบไปด้วยข้าวของระเกะระกะทั้งกระดานแผ่นไม้อัด กระป๋องสี อุปกรณ์ช่าง
และเครื่องมือต่าง ๆ สารพัดที่ขนเอามาเพื่อเตรียมจัดงานโอเพ้นเฮาท์
โดยมีหัวเรี่ยวหัวแรงคือหนุ่มตาคม หน้าโหด คนจิตอาสา
ซึ่งกำลังลุยงานระบายสีน้ำมันลงบนแผ่นไม้ป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างทุ่มเท
ชนิดไม่สนใจจะพักทั้ง ๆ ที่ตัวเองเพิ่งฟื้นไข้
จนคนที่เห็นต้องเดินเข้ามาเป็นฝ่ายเรียกเสียแทน


“อ่ะ ข้าวเที่ยง”


คำพูดสั้น ๆ มาพร้อมกับถุงหมูปิ้งของเพื่อนที่ฝากซื้อ
ส่งผลให้ดวงตาคมเงยหน้าขึ้นมามองแวบหนึ่ง
ก่อนพูดพลางพยักหน้าไปทางโต๊ะใกล้ ๆ


“ขอบใจ วางไว้ตรงนั้นแหละ”


หนุ่มหล่อถอนหายใจทำตามคำสั่ง
เดินเอาของไปวางแล้วนั่งลงมองคนที่ยังจดจ่ออยู่กับการระบายสี
ไม่ยอมลุกขึ้นมากินข้าวกินปลาให้สมกับเป็นคนป่วย
...เห็นลูกบ้าของเพื่อนแบบนี้
เลยอดไม่ได้ที่จะแกล้งพูดแหย่ตามประสาคนเจ้าเล่ห์


“เออ..จริงสิ...เมื่อกี๊กูไปเจอบอลล่ากับปลายมา”


ดิวสังเกตเห็นมือที่จับแปรงชะงักไปเล็กน้อย
แต่คนตัวโตก็ยังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามอง
พูดตอบสั้น ๆ เหมือนไม่สนใจ


“แล้วไง”


“เปล๊า ก็เผื่ออยากรู้ เขาฝากบอกมาว่าให้มึงหายป่วยเร็ว ๆ”


ระเบิดลูกที่สองถูกวางลงไปอีกครั้ง
แล้วก็ทันได้เห็นว่าคราวนี้มือที่จับแปรงไม่ใช่แค่สะดุด
แต่นิ่งสนิทเหมือนคนฟังกำลังอึ้ง


ดิวอมยิ้มขำอยู่ในใจ
ไม่ได้บอกคมมันหรอกว่า‘เขา’ น่ะคือบอลล่า ไม่ใช่ปลาย
แต่แค่นี้ก็พอจะเห็นผลแล้ว
แถมยังรู้สาเหตุที่เมื่อวานมันดูหงอย ๆ ซึม ๆ แปลก ๆ
ตอนแรกเขานึกว่าเป็นเพราะคมไม่สบาย
พอวันนี้มันดันฮึดมาช่วยงานอาจารย์ตั้งแต่เช้าไม่ยอมหยุดเลยสงสัย

ปกติไอ้เพื่อนจิตอาสาของเขามันก็บ้าช่วยคนอื่นอยู่แล้ว
แต่นี่มันดูบ้าผิดปกติเข้าไปใหญ่
สาเหตุหลัก ๆ น่ะไม่ต้องสืบให้ยาก

...ถ้าไม่ใช่เพราะสมองกระทบกระเทือน


...ก็คงเป็นเรื่องที่ ‘หัวใจ’ โดนกระทบกระเทือนเสียแทน


ไอ้คมไม่ใช่คนที่มีนิสัยช่างพูดอยู่แล้วด้วย
ต่อให้ง้างปากมันก็คงไม่ยอมบอกหรอก
แต่โชคดีที่ท่าทางมันแสดงออกง่าย
ถ้าเป็นเพื่อนที่คบกันมานานอย่างเขามองแป๊บเดียวก็รู้แล้ว
อีกอย่างเขาเองก็ไม่คิดจะเข้าไปแก้ด้วย
ปัญหาใครก็จัดการกันเอาเอง
โดยเฉพาะไอ้เรื่อง ‘ความรัก’
เขาแค่ช่วยสะกิดให้รู้ตัว
ส่วนจะไปเคลียร์กันยังไง

...งานนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนสองคนแล้วล่ะ



ดิวมองดูผลงานของตัวเองที่คล้ายแรงสะกิดจะได้ผลอยู่ไม่น้อย
เพราะตอนนี้นายคมสันก็ยังคงนั่งเหม่อ
มือหยุดนิ่งค้างไม่ขยับทำงานเพิ่ม
สาเหตุจากสมองดันเต็มไปด้วยใบหน้าของคนคนหนึ่ง


...คนที่พยายามจะไม่เข้าไปอยากยุ่ง


....แต่ในใจกลับยังคง ‘คิดถึง’



ใครจะรู้ว่าผู้ชายจิตอาสาอย่างคมสัน
คนซึ่งคอยช่วยเหลือผู้อื่นมาตลอด
แต่พอถึงคราวปัญหาของตัวเองกลับไม่รู้ต้องช่วยแก้ยังไง
เขาเลยต้องกลบเกลื่อนแกล้งทำตัวให้ยุ่ง ๆ ไว้
เผื่อจะได้ไม่ต้องไปจำความรู้สึกบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นลึก ๆ ในใจ
ทว่าต่อให้พยายามมากเท่าไร ความรู้สึกนั้นก็ยังคงตอกย้ำไม่เคยหาย
ซ้ำยังมีแต่จะมากขึ้น...มากขึ้น...



...ความรู้สึกที่เขาอยากจะอยู่ใกล้กับ ‘ปลายฟ้า’ อีกครั้ง



...ป่านนี้ปลายจะเป็นยังไงบ้าง
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาลองคิดดูแล้ว
เขาไม่น่าพูดว่าจะไม่ยุ่งกับปลายแบบนั้นเลย
ถึงปลายจะไม่ชอบให้เขามาช่วยเพราะรำคาญ
แต่จะให้ไม่ให้เข้าไปยุ่งอีกเขาคงทำไม่ได้

เพราะพอเผลอตัวทีไร...


...เขาก็เอาแต่มองหาปลายทุกที


ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกที่มีนี้มันเรียกว่าอะไร
จะเรียกว่า ‘รัก’ หรือ ‘ชอบ’ ได้มั้ย

ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็เป็นผู้ชายและปลายเองก็เป็นผู้ชาย
แต่พออยู่ใกล้แล้วเขากลับรู้สึกดี


...อยากเข้าไปช่วยดูแล

...อยากเห็นปลายยิ้ม

...อยากเป็นที่ปรึกษาให้ปลาย

...อยากอยู่เคียงข้างปลายไปเรื่อย ๆ


ที่ผ่านมาถึงจะเจอคนอื่นมากมาย
แต่เขาไม่เคยคิดกับใครแบบนี้มาก่อน



...สำหรับเขาแล้วปลายถือเป็น ‘คนพิเศษ’



น่าเสียดายที่เขาเองคงไม่ใช่คนพิเศษสำหรับปลาย
เขาไม่กล้าหวังสูงเพราะดันไปทำให้ปลายรำคาญ
แถมยังเคยโดนพูดตอกหน้าว่าเสือกมาแล้ว
จะโดนอีกครั้งก็ไม่เห็นแปลกอะไร


ปลายอาจมองว่าเขาไม่ใช่คนที่ดีที่สุดที่ปลายจะเลือกก็ได้
แล้วอย่างนี้เขาต้องทำยังไงถึงจะใกล้เคียงคนคนนั้น


ต้องทำดีสักแค่ไหน....



...ปลายถึงจะยอมเปิดใจหันมามองกัน





TRRRRRRRRRR!!!!!




เสียงโทรศัพท์จากมือถือดังขัดจังหวะความคิด
คมสันเรียกสติกลับเข้ามาอีกครั้ง
รับรู้ถึงแรงสั่นจากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง
ใจอยากจะรับ แต่ตอนนี้มือกำลังเลอะสีน้ำมันไม่แห้ง
เลยปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นตั้งใจว่าเดี๋ยวค่อยโทรกลับ
ทว่าเสียงโทรศัพท์กลับยังดังแผดดังซ้ำ ๆ ไม่เลิก
จนดิวที่นั่งข้าง ๆ รำคาญต้องเป็นฝ่ายเดินเข้ามาถามเสียเอง


“กูรับให้มั้ย”


คนถูกช่วยพยักหน้ายืดตัวให้เพื่อนล้วงมือถือออกมาจากระเป๋ากางเกง
ก่อนจะหันไปจัดการกับภาพบนกระดานที่ระบายสีค้างไว้
หูรอฟังเพื่อนรับสาย แต่อีกคนกลับยังคงไม่รีบกดรับสักที
จนเขาต้องขมวดคิ้วหันไปถามด้วยความสงสัย


“ใครโทรมา”


ใบหน้าหล่อยิ้ม ๆ ก่อนอ่านชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอสั้น ๆ
หากแต่มีอานุภาพมากพอให้คนฟังเงยหน้าขึ้นมองทันควัน



“ปลายฟ้า”



จบคำ ไม่ต้องรอให้ดิวพูดอะไรเพิ่มต่อ
เพราะเจ้าของมือถือกลับดึงโทรศัพท์มาไว้เอง
ไม่สนแล้วว่าตอนนี้สีจะเลอะเทอะแค่ไหน
คมสันรีบกดรับก่อนกรอกเสียงลงไปอย่างร้อนรน


“ฮัลโหล”


((อ่ะ...เออ...ฮัลโหล))


เขาได้ยินปลายสายตอบกลับมาแค่นั้น
แล้วก็เงียบลงไปอีกครั้งเหมือนไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร
บรรยากาศนิ่งไปแปลก ๆ จนทำให้เขาต้องเป็นฝ่ายถาม


“มีอะไรรึเปล่า”


((คะ..คือ...ยะ...เย็นนี้คมว่างมั้ย
...ระ...เรามีเรื่องอยากคุยด้วย))


คำชวนตะกุกตะกักที่ฟังทำให้คมต้องเผลอขมวดคิ้วงงอย่างแปลกใจ
ทว่าลึก ๆ ก็ยังอดรู้สึกดีใจไม่ได้ที่ปลายยังอยากจะเจอหน้ากัน
เขาเหลือบมองงานที่กองระเกะระกะอยู่ตรงหน้า
ก่อนคิดคำนวณเวลาแล้วบอกไปตามจริง


“เย็นนี้เราต้องช่วยงานอาจารย์คงเลิกช้าหน่อย”


((มะ..ไม่เป็นไร...เรารอได้...
...ถะ..ถ้าเลิกแล้ว โทรหาเรานะ))


“อืม”


คมตอบรับสั้น ๆ ก่อนคู่สนทนาจะวางสายไป
เหลือไว้เพียงความสงสัยในใจของเขาเพียงลำพัง


...ปลายจะคุยเรื่องอะไรเขาไม่รู้


แต่ตอนนี้สิ่งที่เขารู้ คือ เขาดีใจที่ได้มีโอกาสคุยกับปลายอีกครั้ง


...และเขาจะขอใช้โอกาสนี้พยายามให้ดีที่สุด


เพื่อให้ตัวเองจะได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกของปลาย



...แม้เพียงสักนิดก็ยังดี




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC




สวัสดีปีใหม่ค่า!!!   :mc4:

กลับมาแล้วจ้า คลานกลับมาด้วยสภาพสะบักสะบอมเล็กน้อย
เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมามีเรื่องหนักหน่วง
สาเหตุเกิดจากทะเลาะกับสุขภาพตัวเอง   :laugh:
ป่วยรับสิ้นปีเลย โดนไวรัส นอนซมไข้ขึ้นสูง
เลยทำให้ไม่สามารถมาต่อเรื่องได้ เพราะต้องต่อชีวิตตัวเองให้รอดก่อน
แต่ตอนนี้กลับมาแข็งแรงแล้ว เย้!!    :a1:
มาสปีดอัพแบบเต่า ๆ แต่เนื้อหาแอบจัดเต็มให้จุใจกันนะเออ

ยังไงแม้จะมาเลทนิดหน่อย
แต่ก็ยังไม่สายที่จะขออวยพร :-[


"ในปี 2556 นี้ก็ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง
อย่าได้เจ็บได้ป่วยได้ไข้เหมือนคนเขียนเลย..มันทรมาน
ขอให้มีความสุขสมหวังทุกประการ
เป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของทุกคนนะคะ"


ขอบคุณที่อยู่ด้วยกัน เป็นกำลังใจให้กันมาตลอด ดีใจจริง ๆ ค่ะ  o1

สำหรับปีนี้ 'ซีรีย์หวานอมขม' ก็ขอฝากตัวอีกปีหนึ่ง


 :L2:


รักเสมอจ้า

:กอด1:

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 05-01-2013 11:05:30
รอเคลียร์กันเย็นนี้ อิอิ

เมื่อไหร่ปลายจะรู้ว่าไอ้ที่"ไม่ชอบ" อ่ะมันคือ"หึง" ฮ่าๆๆ

สวัสดีปีใหม่จ้าา อยู่กันไปอีกหนึ่งปีนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 05-01-2013 12:35:30
พูดเยอะๆๆนะหนูปลาย


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 05-01-2013 13:10:28
ต่อค่ะ มาต่ออีกมันค้างอยู่นินึงอ่ะว่าต่ไปจะเป็นยังไงจะตกลงกันได้ไหม






ยังไงเราก็จะรอนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 >; P.67
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 05-01-2013 14:45:47
HNY  2013  เต่าน้อยพูดให้รู้เรื่องนะ เดี๋ยวคมเข้าใจผิดอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 05-01-2013 15:29:16
..รักเจ้าของเรื่องจัง..


รอเต่าน้อยนะคะ จะบอกอะไรคมน้าอิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 05-01-2013 15:58:55
...น้องคนแต่งเข้าใจจินตนาการของคนที่คิดช้า แบบปลายเนอะ มันมีจริงๆแบบนี้คิดเยอะ คิดช้า
...แถมปากก็ช้าตามไปด้วย อ่านไปคิดไปเลยนะพี่อะ ว่าเออมันมีแบบนี้จริงๆๆ พอจะพูดอะไรก็พูดโพล่งออกไปเลย
...ใจดันเร็วกว่าปากอีก แล้วก็มานั่งคิดเสียใจที่พูดออกไป คือเป็นคนที่ไม่ค่อยสมส่วนทางความคิด และ การกระทำ
...ปลายคงตีหน้าแปลกๆๆเวลาเจอคมอีกครั้ง แต่อย่าพูดอะไรแปลกๆๆผิดๆไปอีกล่ะ ทีนี้ไม่รู้จะสมน้ำหน้าใคร555 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 05-01-2013 15:59:24
จะปรับความเข้าใจกันแล้ว...จะเข้าใจกันแล้ว...จะรักกันแล้ว....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 05-01-2013 16:33:30
อ้าวว เอาให้เคลีย นะจ๊ะรอบนี้ 

ไม่เอาทะเลาะกันอีกนะ

ปลาย คิดคำพูดดีๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: eyeaptchy ที่ 06-01-2013 00:50:56
จิ้มไว้นะคะ เดี้ยวมาอ่านค่ะ แต่อ่านคร่าวๆแล้ว แทนไทน่ารักมาก :D
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 21] 04/01/56 > P.67
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 07-01-2013 18:53:24
ขึ้นปีใหม่แล้ววววววว  ขอให้คุณคนเขียนสุขภาพแข็งแรงนะคะ
ไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่มีไวรัสมายุ่งเนาะ เราก็ไม่สบายข้ามปีเหมือนกัน ฮ่าๆๆ มีเพื่อนแล้ววว



ปลายฟ้า... ไม่สิ ทั้งปลายฟ้า ทั้งคมสันหนะ
ต่างก็ได้โอกาสมาไว้ในมือแล้ว ก็ควรจะทำมันให้ดีที่สุดนะ
เพราะไม่รู้ว่าโอกาสแบบนี้จะมาอีกเมื่อไร  ทำให้เต็มที่ไปเลย
เคลียร์ให้เต็มที่ พูดคุยกันให้เข้าใจ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ

แล้วคนอ่านอย่างเราๆ ก็จะคอยดูผลลัพท์จากสิ่งที่ทั้งคู่ได้เริ่มทำอย่างห่างๆ

ต่างคนต่างคิดถึง ต่างคนต่างห่วง เงียบกันไว้ก็ไม่มีอะไรดีหรอกนะ
มีแต่จะคิดไปเองเปล่าๆ  สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการที่เราคิดไปเอง
ความคิดของคนเราน่ากลัวที่สุดนะ ปลายฟ้ากับคมสัน


สู้ๆ... เราจะรอดูผลลัพท์นะ :3



เรามาอยู่เคียงข้างกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ นะคะคุณคนเขียน :D
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 10-01-2013 13:36:40
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 22



ถ้าเวลาเดินช้าเหมือนเต่าอย่างปลายฟ้า...

...ตอนนี้เขาก็คงอยากจะติดจรวดเร่งสปีดให้มันเดินเร็วมากที่สุด


...ใกล้จะสองทุ่มแล้ว
หากแต่ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ ดังมาตามคลื่นเครือข่ายโทรศัพท์

ปลายฟ้าก้มลงมองมือถือของตัวเองเป็นรอบที่ร้อยแปด
จำได้ว่าคมบอกจะนัดเจอกันเย็น ๆ หน่อยเพราะต้องอยู่ช่วยงานอาจารย์
พอเขาเลิกเรียนตอนสี่โมงกว่าเลยเดินมารอที่คณะวิศวะ
ตั้งใจไว้ว่าถ้ามันเสร็จงานแล้วโทรหาจะได้เจอกันไม่ต้องเสียเวลา
แต่รอแล้วรอเล่า...จากท้องฟ้าสว่าง เปลี่ยนกลายเป็นสีส้ม แล้วมืดลง
ซัมซุงกาแล็กซีของเขาก็ยังคงเงียบสนิทจนเกือบจะนึกว่าแบตหมดไปแล้ว


...หรือคมจะลืมที่นัดกับเขาไว้

...อยากจะโทรหาแต่ก็ไม่กล้า
เพราะถ้าเกิดมันดันทำงานขึ้นมาอยู่จริงๆ  จะไปรบกวนเปล่าๆ
อดทนรออีกหน่อยเดี๋ยวมันก็คงมาเอง


...แต่ถ้าจะช่วยเร็วกว่านี้อีกนิดก็จะดีมาก
นี่เขานั่งบริจาคเลือดให้ยุงไปหลายลิตรแล้ว
ทั้ง ๆ ที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองต้องลงทุน
มานั่งรอใครบางคนตั้งหลายชั่วโมงอยู่หน้าคณะอื่นแบบนี้


...อาจเป็นเพราะความรู้สึกที่ยังติดค้างอยู่ในใจ


...อยากจะรีบเจอหน้า

...อยากจะขอโทษ

...อยากจะอธิบาย



แม้เรื่องระหว่างเขาสองคน
จะดูคล้ายกับเป็นแค่การทะเลาะกันธรรมดา
แต่น่าแปลกที่เขากลับกระวนกระวายใจถึงขนาดนี้


...และเป็นความกระวนกระวาย
ที่เกิดขึ้นจากความกลัวเพียงเรื่องเดียว...



เขากลัว....



...กลัวว่ามันจะสายเกินไป



....


..


.



“ขอบใจมากนะ คมสัน ถ้าไม่ได้เธอช่วยอาจารย์คงแย่”


“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจช่วยอยู่แล้ว
งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับอาจารย์ สวัสดีครับ”


นายคมสันผู้มีจิตอาสายกมือไหว้เอ่ยลาอาจารย์ประจำภาควิชา
ซึ่งเขามาช่วยเตรียมเอกสารประกอบสำหรับงานโอเพ้นเฮาท์ของคณะวิศวะ
ด้วยเพราะคนน้อยแถมงานยังมีมากมายจิปาถะ
จะให้ขอปลีกตัวออกมาก่อนก็ไม่ได้
จึงทำให้เขาแทบไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจอย่างอื่น
พอรู้ตัวอีกทีฟ้าก็ดันมืดลงมากแล้ว
แถมยังเลยเวลานัดกับใครบางคนไว้ไปไกลโข


...ไม่รู้ว่าปลายฟ้าจะเป็นอย่างไงบ้าง
ปล่อยให้รอนานขนาดจะโกรธเขามั้ย
แล้วที่ปลายบอกมีเรื่องจะคุยด้วย
ปลายตั้งใจจะพูดเรื่องอะไรกัน

ไม่แน่ปลายอาจจะมาสั่งให้เขาเลิกยุ่ง
หรืออาจจะเอาต้นสะเดามาคืนก็ได้


...ต้นสะเดาที่เขาบังคับให้ปลายเป็นคนซื้อทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวไม่อยากได้


ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วเขาจะทำยังไง
อย่าว่าแต่โอกาสเลย....
บางทีแค่หน้าเขาปลายอาจไม่อยากมองด้วยซ้ำ


...แล้วอย่างนี้เขาจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของปลายได้ยังไงกัน



คมสันนึกโทษความไม่ได้เรื่องของตัวเอง
เร่งเดินออกมาที่ด้านหน้าคณะอย่างกังวล
พลางล้วงมือหยิบโทรศัพท์จะกดโทรหา
หากแต่ยังไม่ทันได้ทำตามที่ตั้งใจ
ดวงตาคมกลับเหลือบเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่เพียงลำพังตรงโต๊ะหินอ่อน
ถึงแม้คนคนนั้นจะหันหลังให้....


แต่รูปร่างแบบนี้....

ใส่เสื้อกาวน์เภสัชสีขาวแบบนี้...

...ถ้าจำไม่ผิดคนที่ใกล้เคียงในความทรงจำของเขามีเพียงคนเดียว


ร่างสูงเดินเข้าไปหาเป้าหมาย
ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งมั่นใจในคำคาดเดา

ถึงแม้จะไม่อยากเชื่อ...
แต่เขาก็ยังส่งเสียงเรียกทักสั้น ๆ



“ปลาย มาทำอะไรที่นี่”


เจ้าของชื่อสะดุ้งรีบเงยหน้าจากโทรศัพท์ในมือขึ้นมามอง
แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคนเรียกคือใคร


...เฮ้ยยย!! อยู่ ๆ มันมาได้ยังไงอ่ะ
ก็บอกไปแล้วไงว่าถ้าจะเลิกให้โทรหาก่อน
เขาจะได้ทำฟอร์มว่าเพิ่งจะมาถึงเหมือนกัน
แบบนี้มันก็รู้หมดน่ะสิว่าเขามารออยู่นานแล้ว
แถมมันยังมีหน้ามาถามอีกว่า ‘มาทำอะไรที่นี่’


โอยยย....คงมาตบยุงอยู่มั้ง
เล่นถามกันโต้ง ๆ แบบนี้
จะให้เขาตอบไปยังไงวะ!!


“เออ...คือ...”


คำพูดตะกุกตะกักพร้อมท่าทีอึกเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก
ทำให้คนมองเริ่มเข้าใจในสถานการณ์
ถึงจะไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็อดที่จะดีใจอยู่ลึก ๆ ไม่ได้
กระนั้นคมสันก็ยังไม่ลืมว่าเขาเป็นฝ่ายสาย
จึงพูดขัดขึ้นมาก่อนคู่สนทนาจะจบประโยค


“ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกก่อนว่าจะเลิกช้า”


“มะ...ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษหรอก”


ปลายฟ้ารีบส่ายศีรษะร้องปฏิเสธ
บอกไปแล้วก็ดันเผลอนึกขึ้นได้


...เอ๊ะ...มันแปลก ๆ รึเปล่าวะ
ไอ้ประโยคขอโทษมันต้องสลับกันพูดไม่ใช่เหรอ
เพราะจริง ๆ เขาตั้งใจมาขอโทษคม
แต่ดันถูกพูดตัดหน้าไปซะอย่างนั้น


สถานการณ์ที่ดันพลิกผันในรูปแบบตรงกันข้าม
ส่งผลให้คนเริ่มเรื่องยืนนิ่งอย่างไม่รู้จะทำยังไง
บรรยากาศรอบตัวมีเพียงความเงียบ
เหมือนดังที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อเขาอยู่กันสองคน
แต่ถ้าขืนเงียบกันอยู่แบบนี้ก็คงไม่ได้คืบหน้าไปไหนเสียที

...เอาวะ! มาถึงนี่แล้ว
เคลียร์ให้มันจบ ๆ ไปเลยแล้วกัน



“คือ...เรื่องเมื่อเสาร์ที่เราพูดออกไปแบบนั้น เราขอโทษนะ”


ปลายฟ้ากลั้นใจหลับหูหลับตาพูดออกไปตรง ๆ
ทว่าความตั้งใจกลับชะงักเมื่ออีกคนกลับเลิกคิ้วถามงง ๆ


“เรื่องอะไรเหรอ”


...อ้าว...มันดันลืม
นี่เขาอุตส่าห์คิดมากแทบตาย
นึกว่ามันจะโกรธแต่มันดันจำไม่ได้ซะอย่างนั้น
แล้วเขาจะมาฟุ้งซ่านบ้าบอกลัวอะไรอยู่คนเดียววะเนี่ย!!


ถึงแม้ในใจจะเริ่มนึกเคือง
แต่เขาก็ยังอุตส่าห์อธิบายขยายความ


“ก็ที่ทำให้คมเข้าใจผิดว่าเรารำคาญคม
จริง ๆ เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”


คนฟังนิ่งไปพักหนึ่งคล้ายทบทวนความคิด
ก่อนถอนหายใจแล้วจึงเป็นฝ่ายพูดความเห็นของตัวเองออกมาบ้าง


“เราต่างหากที่ต้องขอโทษ
เราคงยุ่งเรื่องของปลายมากเกินไปจริง ๆ
ปลายจะโกรธเราก็ไม่ว่าหรอก”


“เฮ้ยย!!  เราไม่ได้โกธรคมเลยนะ
เราแค่เกรงใจคม เลยไม่อยากให้เข้ามาช่วย”


คำขอโทษซ้ำออกมาเป็นรอบที่สอง
ทำให้ปลายฟ้าร้องเสียงหลงรีบหาข้อแก้ต่าง
หากแต่อีกคนกลับยังคงยืนยันเหตุผลเดิมเหมือนที่เขาเคยได้ยิน


“ก็บอกว่าไม่ต้องเกรงใจหรอก เราเต็มใจทำให้ปลาย”


“แต่เรามะ..”


ประโยคยังไม่ได้ถูกเอ่ยมาจนจบ
เพราะเขายั้งปากตัวเองไว้ได้ทัน


...เอาอีกแล้ว

มันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วใช่มั้ย
เกือบเผลอหลุดคำว่า ‘ไม่ชอบ’ ออกมา
ให้ได้ทะเลาะกันซ้ำรอยเดิมอีก


เขาจำได้ที่บอลล่าเคยบอกไว้ว่า
ก่อนจะไปเคลียร์ความเข้าใจกับคนอื่น
เขาต้องทำความเข้าใจกับเองก่อน

แต่ตอนนี้เขายังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เลย
แล้วจะไปเคลียร์กับคมรู้เรื่องได้ยังไง


...ความรู้สึกว่า ‘ไม่ชอบ’ มันเกิดขึ้นเพราะอะไรไม่รู้
แต่ที่รู้แน่ ๆ คือเกิดขึ้นเพราะคนคนนี้

แล้วถ้าเขากลับไปสู่จุดเริ่มต้นของปัญหาล่ะ

...ไม่แน่ว่าบางทีเขาอาจจะได้คำตอบจากที่นี่ก็ได้



“ทำไมคมถึงมาคอยช่วยเรา”


ประโยคคำตอบที่อยู่ ๆ เปลี่ยนเป็นคำถามขึ้นมาสั้น ๆ
ทำให้คมสันชะงักไปเล็กน้อยอย่างแปลกใจ


...จริงด้วย

...เขาไม่เคยถามตัวเองว่าทำไมถึงช่วยปลาย
มันอาจเป็นที่นิสัยที่เขาชอบช่วยคนอื่นอยู่แล้ว
แต่ถ้าจะให้ถามถึงเหตุผลลึก ๆ ของเขาจริง ๆ แล้ว

บางทีมันอาจเป็นเพราะ...



“ไม่รู้สิ ก็แค่อยากช่วย”



ปลายฟ้าขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังคำพูดง่าย ๆ ที่หลุดปากออกมา


...แค่อยากช่วย
เหตุผลแค่นั้นเหรอที่คมทำดีกับเขา
กับคนอื่นก็คงเหมือนกันใช่มั้ย
เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเพราะอะไร


....คมเป็นคนแบบนี้
เวลาเห็นใครเดือดร้อนมีปัญหาก็ชอบเข้าไปช่วย
ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษอะไรเลยที่มาคอยดูแลเขา


...ไม่มีเลย


...มีแต่เขาที่คิดไปเองว่าคมคอยห่วงใย

...มีแต่เขาที่สบายใจตอนคมอยู่ใกล้

...มีแต่เขาที่รู้สึกหน้าร้อนแปลก ๆ เวลามองตากัน


และอาจมีแต่เขาที่ไม่ชอบ...


...ไม่ชอบให้คมทำเหมือนเขาเป็นคนอื่น



คิดแค่นั้นหัวใจกลับเจ็บแปล๊บขึ้นมาดื้อ ๆ

...เฮ้ยย!! บ้าไปแล้วเหรอวะ นี่เขาเป็นอะไรไป
ตั้งใจว่าจะมาเคลียร์แต่กลายเป็นว่ายิ่งทำให้ตัวเองสับสนหนักเข้าไปอีก
พอแล้ว...ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านี้
เขาควรจะจบเรื่องนี้ลงสักที



“งั้นสรุปว่าคมไม่โกรธเราแล้วนะ
เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย”


ปลายฟ้าโพล่งถามขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ทันได้คิด
ก่อนสะดุดไปเมื่อรู้สึกตัวว่าดันเผลอหลุดคำออกมาคำหนึ่ง


...คำว่า ‘เพื่อน’ ที่ตอกย้ำชัดเจนถึงสถานะระหว่างเขาสองคน


เขารีบเงยหน้ามองคมสันที่คล้ายกับนิ่งไปครู่หนึ่ง
แล้วจึงพยักหน้าตอบรับเสียงเบา


“อืม”


ทั้ง ๆ ที่เป็นคนถามเอง แต่พอได้รับคำตอบ
หัวใจของเขากลับรู้สึกหน่วงขึ้นมาเหมือนมันถูกบีบเข้าหากัน

คมก็ไม่โกรธแล้วแท้ ๆ
แต่ทำไมเขาถึงยังรู้สึกไม่สบายใจหนักกว่าเดิม

...ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร
แต่ที่รู้คือทางเดียวที่จะแก้ไขได้
คือหาทางออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด


“เออ...ถ้ายังไงไม่มีอะไรแล้ว เรากลับก่อนนะ”



...ไม่เอาแล้ว

ไม่อยากอยู่ที่นี่
ไม่อยากจะรู้สึกปั่นป่วนไปมากกว่านี้
ต้องขอกลับไปตั้งสติก่อน
ขอกลับไปคิดดี ๆ ว่าไอ้ความรู้สึกบ้า ๆ พวกนี้


....มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง



ปลายฟ้ารีบหมุนตัวออกห่าง หากแต่ยังไม่ทันจะก้าวออกไปไหน
ข้อมือของตัวเองกลับโดนฉุดดึงจากคนด้านหลังพร้อมเสียงเรียก


“เดี๋ยว...”


คนถูกรั้งหันกลับมาทันทีอย่างตกใจเผลอเงยหน้าขึ้นมองร่างสูง
ดวงตาของตัวเองสบนัยน์ตาคมที่มองตอบอย่างมีความหมาย
ก่อนจะพูดอธิบายถึงสิ่งที่ทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง



“จริง ๆ เราไม่ได้แค่อยากช่วยปลายหรอก”



...ห่ะ? ...อะไรนะ?

...ไม่อยากช่วย

อ้าว...ถ้าคมไม่อยากช่วยเขา
แล้วจะที่ตอบเขามาเมื่อกี๊มันหมายความว่ายังไง


ปลายฟ้าขมวดคิ้วงง
ทว่ายังไม่ทันจะอ้าปากถาม
อีกคนกลับเอ่ยประโยคต่อออกมา


...และเป็นประโยดยาวเหยียดที่ตกกระทบลงกลางใจ




“เราไม่ได้แค่อยากช่วย
แต่เราอยากอยู่ข้าง ๆ ปลาย...อยากดูแลปลาย
เราชอบเห็นปลายยิ้ม...ชอบเห็นปลายหัวเราะ
เราอยากเป็นคนปลอบปลาย ตอนปลายร้องไห้
อยากไปกินข้าวด้วยกัน...
อยากโทรหา...อยากได้ยินเสียง...
...อยากให้ปลายคิดถึงเรา

แล้วเราก็อยากให้ปลาย...
...เลือกเราเป็นคนที่ดีที่สุดคนนั้นของปลาย”




คมสันพรั่งพรูความในใจออกมาทั้งหมด

...ความในใจที่เขาทนเก็บมันเอาไว้

เขายังไม่รู้จริง ๆ ว่าความรู้สึกที่มีต่อปลายคืออะไร
ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาตอนไหน ตั้งแต่เมื่อไร
แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความรู้สึก ‘ปวดใจ’
ตอนที่เขาได้ยินคำพูดของปลายว่าเป็น ‘เพื่อน’ กัน


เขาไม่เคยเห็นปลายเป็นแค่เพื่อน
เพราะสำหรับเขาแล้ว....


‘ปลายคือคนพิเศษ’


คนที่ไม่ใช่อยากแค่เข้าไปช่วย
แต่อยากทำทุก ๆ อย่างขอแค่ให้ปลายรู้สึกดี
เท่านั้นเขาก็มีความสุขมากพอแล้ว...



ปลายฟ้านิ่งเงียบแทบอ้าปากค้างหลังฟังข้อความจากคู่สนทนา

...ข้อความที่เหมือนกับคำสารภาพรัก

จนทำให้หัวสมองอื้ออึ้งสติหลุดลอยด้วยความสับสน



...มะ...เมื่อกี๊คมพูดว่าอะไรนะ

บะ...บ้าแล้ว...
บอกกันมาตรง ๆ แบบนี้มีใครที่ไหนเขาทำกัน
หรือมันจะแค่ล้อเขาเล่นเฉย ๆ

....ใช่...ต้องใช่แน่ ๆ
เขาลืมไปเลยว่ามันชอบแกล้งเขาด้วย
นี่มันก็คงเหมือนเพื่อนหยอกกันเท่านั้นเอง

....แถมไอ้เรื่องที่มันพูดมา
คนใจดีอย่างคมก็คงทำกับใครเขาไปทั่วอยู่แล้ว



“....พะ..พูดเล่นอะไร....
กะ...กับคนอื่นคมก็ทำแบบนี้เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”


ปลายฟ้าเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกักถึงสิ่งที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจ
หากแต่คนฟังกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
ก่อนตอกย้ำแน่วแน่อย่างชัดเจน



“เปล่า เรารู้สึกแบบนี้แค่กับปลายคนเดียว”



...น่าแปลกที่คำว่า ‘แค่คนเดียว’
กลับทำให้ความรู้สึกอึดอัดใจก่อนหน้าสลายหายไป
เปลี่ยนเป็นความรู้สึกเดิม ๆ ที่เคยเกิดขึ้น


...ความรู้สึกที่ทำให้หน้าตัวเองร้อน

...ความรู้สึกที่ทำให้หัวใจเต้นรัวจนแทบทะลุ

...ความรู้สึกสั่นไหวราวกับมีผีเสื้อมากมายบินวนอยู่ในท้อง




จนทำให้เขา...





“ไปเถอะ”


คำพูดที่อยู่ ๆ ก็โพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากปลายฟ้า
ทำให้คมสันเลิกคิ้วถามอย่างงง ๆ


“ไปไหน”


“ไปกินข้าว ไหนบอกว่าอยากกินข้าวกับเราไง”


ปลายฟ้าเอ่ยชวนออกมาตามที่ตัวเองคิด


...ไอ้ความรู้สึกแปลก ๆ อย่างนี้
ถ้าให้เดามันต้องคือความหิวแน่ ๆ
จำได้ว่าคราวที่แล้วเขาก็ดันท้องรองต่อหน้าคมจนอาย
เพราะฉะนั้นครั้งนี้เขาต้องชิงพูดก่อนจะได้หมดเรื่อง
ก็เล่นนั่งรอคมตั้งแต่เย็นยังไม่ได้กินอะไรเลย
ตอนนี้ปาเข้าไปจะสามทุ่มแล้วมั้ง
มันก็ต้องหิวขึ้นมาอยู่แล้วล่ะเนอะ...ใช่มั้ย?



คมสันยืนมองคนตรงข้าม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนชวน
แต่อีกฝ่ายกลับก้มเบือนหน้าหนีไปอีกทางไม่ยอมมอง


...ดูก็รู้ว่าปลายจงใจเลี่ยงสถานการณ์
แต่เสี้ยวหน้าที่เห็นแม้จะอยู่ในความมืด
มันกลับขึ้นสีแดงจาง ๆ
จนทำให้เขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

....ถึงจะทำเป็นเหมือนไม่ตอบรับ
แต่ปลายก็ยังจำคำที่เขาพูดได้
ที่สำคัญยังมาชวนไปกินข้าวแบบนี้อีก
แล้วมันจะผิดมั้ยถ้าเขาจะขอคิดเข้าข้างตัวเองว่า


...ปลายกำลังให้โอกาสเขา



“งั้นปลายรออยู่ตรงนี้แป๊บนะ
เดี๋ยวเราไปเอามอเตอร์ไซต์ก่อน”


คมสันร้องบอกตั้งใจจะเดินไปเอาบิ๊กไบค์
ซึ่งจอดไว้ใต้คณะห่างออกไปอีกหน่อย
แต่ยังไม่ทันขยับเขากลับได้ยินเสียงห้าม


“มะ...ไม่ต้อง ๆ เราก็เอามอเตอร์ไซต์มา
จอดอยู่ตรงนี้เอง คมมาซ้อนกับเราได้
เออ...ก็คมไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ
...ให้เราเป็นคนขี่ดีกว่านะ”


ปลายฟ้าเสนอขึ้นมาพลางพยักเพยิดไปที่ฮอนด้าเวฟสีแดงของตัวเอง
ซึ่งจอดอยู่ใต้บันไดตึกที่เขานั่งรออยู่โดดเดี่ยวคันเดียว
...ไหน ๆ มันก็ใกล้แค่นี่เอง จะเสียเวลาทำไม
แล้วอีกอย่างขืนให้เขาไปนั่งซ้อนไอ้บิ๊กไบค์อีกคงแย่
...จะทำใจยังไงก็ไม่ชินซะที

เขาเลยมัดมือชกก่อนเดินลงบันไดไปขยับสตาร์ทรถ
พลางหันไปถามคนที่ตามลงมานั่งซ้อนท้ายด้านหลัง


“อยากกินอะไรรึปะ..เปล่า...”


ท้ายประโยคเสียงเริ่มแกว่ง
เพราะพอคนขับหันไปถาม
กลับเจอใบหน้าคมเข้ามาใกล้เสียจนชิด


...เฮ้ยยย!!...นี่ไม่ใช่บิ๊กไบค์นะ
มีที่เหลือต้องเยอะแยะ
แล้วมันจะมานั่งเบียดเขาทำไมวะเนี่ย!!


ทว่าคนซ้อนท้ายกลับทำท่าไม่ทุกข์ไม่ร้อน
ซ้ำยังไม่มีท่าทีถอยห่างใด ๆ
แล้วจึงบอกคำตอบออกมาง่ายๆ


“เราให้ปลายเลือก”


...อ้าว....อยู่ ๆ มาโบ้ยให้กันเฉยเลยได้ยังไงกัน
ทุกทีคมก็เป็นคนพาเขาไปกินตลอด
เขาจะไปรู้ได้ไงว่าคมอยากกินอะไร
แล้วที่สำคัญมาปล่อยให้เต่าอย่างเขาเลือกแบบนี้จะดีเหรอ
เพื่อนเขายังไม่เคยขอให้เขาเลือกร้านให้เลย
เพราะกว่าจะคิดได้ก็หายหิวกันพอดี


ปลายฟ้ารีบหันหน้ากลับพยายามแย้งคำตะกุกตะกัก


“ตะ...แต่เราเลือกช้านะ”


ประโยคที่ได้ยินไม่ได้ทำให้คมแปลกใจแม้แต่น้อย
เพราะรู้ดีอยู่แล้วกับนิสัยของปลายฟ้า


ร่างสูงนิ่งคิดไปนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา
พร้อมเอ่ยคำกระซิบข้าง ๆ ใบหู


....ถ้อยคำที่เป็นเสมือนคำยืนยันจากใจ




“ไม่เป็นไรเรารอได้

ต่อให้นานแค่ไหน...

...เราก็จะรอ”




ปลายฟ้าสะดุ้งไม่ใช่แค่ตกใจกับคำกระซิบ
แต่ยังใจเต้นกับคำพูดที่คล้ายจะมีอะไรแฝงมามากกว่านั้น


นานแค่ไหนก็จะรอ...


หลายต่อหลายครั้งที่เต่าอย่างปลายฟ้า
เคยนึกโทษความชักช้าช่างเลือกของตัวเอง
กระทั่งเกือบจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่
จนกลัวว่าบางสิ่งจะสายเกินไป


แต่พอได้ยินมาว่ามีใครคนหนึ่งรอได้
ไม่รู้ทำไมในใจถึงรู้สึกโล่งอกขึ้นมา...


...เฮ้ยยย!!...บ้าน่า!! คิดอะไรของเขาวะเนี่ย!!
มันก็แค่บอกว่าจะรอให้เขาเลือกร้านกินข้าวเฉย ๆ
ไม่ได้พูดอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้นสักหน่อย
 

เออ...ถ้างั้นแล้วเขาจะเลือกร้านอะไรดีล่ะ
คมไม่สบายก็น่าจะกินโจ๊กง่าย ๆ ดีกว่ามั้ย
แต่นี่มันสามทุ่มแล้วจะมีใครที่ไหนมาขายโจ๊กอีก


...เอ๊ะ...หรือว่าจะกินเป็นพวกก๋วยเตี๋ยวแทน
แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ ที่เขารู้จักมันคงปิดไปหมดแล้วเหมือนกัน
ร้านที่ยังเปิดอยู่มันก็ไกล


....โอยย!!...แล้วจะเอายังดีวะ
ขืนเลือกแบบนี้คงไม่ได้กิน
ที่สำคัญหน้าเขามันดันร้อนอีกแล้ว
ไอ้คนข้างหลังนี่ก็จะอยู่ชิดเข้าไปถึงไหน


ว่ะ!!...ช่างมัน!! ขี่ไปก่อนระหว่างทางค่อยเลือกอีกที



คนคิดช้าจึงบิดมอเตอร์ไซต์พาคนจิตอาสาซ้อนท้าย
ขับไปตามถนนหาร้านอาหาร
โดยที่คมสันไม่ปริปากบ่นใด ๆ
ได้แต่ปล่อยให้เป็นไปตามใจของคนช่างเลือก


...ถ้าปลายอยากจะเลือก
เขาก็จะให้เวลาปลายเลือกให้ดีที่สุด


ต่อให้นานหรือช้าแค่ไหนก็ไม่เป็นไร
เพราะเขาอยากให้ทุกสิ่งมันค่อยเป็นค่อยไป...


...ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์

...ค่อย ๆ เข้าใจกัน

...ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป



ตราบใดที่ปลายยังให้โอกาสเปิดใจ...



เขาคนนี้ก็จะขอรอ...



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 10-01-2013 14:10:21
 :-[ น่ารักกกกกกกกมากกกก
คนแรกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: Inamning ที่ 10-01-2013 14:21:02
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 10-01-2013 14:37:00
รอเป็นคนถูกเลือก :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 10-01-2013 14:39:00
ติดตามครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 10-01-2013 14:44:19
 :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 10-01-2013 14:48:57
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 10-01-2013 15:11:29
มารอวันที่ทั้งสองคนจะเข้าใจตรงกันนะ....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-01-2013 15:23:00
หวานแบบเต่าๆ อิๆๆ ค่อยๆรับรู้ใจตัวเองแต่มั่นคงในกันและกัน

ดีกว่าเป็นไหนๆเนอะ

อยากเห็นปลายหึงและสับสนในตัวเอง ก่อนรับรู้ว่ารักคมจังค่ะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-01-2013 15:36:39
นี่รู้เรื่องกันแล้วใช่มั้ย555

คู่นี้นี่ลุ้นสุดตัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 10-01-2013 15:43:13
เรื่องนี้ยาวจริง  :laugh:
ปลายมีคนรอแล้วนะ นานแค่ไหนคมก็รอ  :laugh:
แอบอยากรู้เรื่องเกมส์ กะดิว อ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 10-01-2013 15:55:33
ให้โอกาสแล้วแบบเนียนๆ
ไปกินข้าวด้วยกัน พากันไปซื้อของเข้าบ้านอีกน่ะ
คนอ่านก็รอตอนต่อไป
หวังใจว่าคนแต่งจะไม่คิดนานเหมือนปลาย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 10-01-2013 16:23:37
คมคิดผิดหรือเปล่าที่ให้ปลายเลือกร้านอาหารตอน 3 ทุ่มน่ะ  กว่าปลายจะนึกออกกลัวว่าจะเที่ยงคืนอ่ะดิ  :laugh:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 10-01-2013 16:27:19
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-01-2013 17:00:34
เราก็รอหนูเต่าปลายเลือกคมเหมือนกัน ฮิ้ววววว หวานอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-01-2013 17:14:44
เอาเว้ย.. คมสันเราคงรอไม่ไหวแล้วมั้ง
ถึงได้พูดแบบนั้น เต่าปลายเราถึงกับไปไม่เป็น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 10-01-2013 17:37:52
โอ๊ยยยย

ใจแป้วมากตอนที่ปลายจะเดินหนีคมอ่ะ พอคมจับแขนไว้แล้วอยากจะกรีดร้องมาก
พ่อคมเขาสารภาพรักไปแล้วนะ ดีใจอีกอย่างที่พ่อเต่าน้อยเขาเข้าใจ
แต่น่ารักเนอะ ตอนเขินแล้วคิดว่าเป็นอาการหิว น่ารักจน 5555

น่ารักอ่ะ ยังยืนยันว่าชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 10-01-2013 18:06:24
น่ารัก :o8:

ไม่ใช่แค่คมที่รอ เราก็รอเหมือนกันนะ อย่าช้านะ เต่าปลาย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 >; P.68
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-01-2013 18:13:23
อืม เราก็จะรอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 10-01-2013 18:24:57
 :เฮ้อ: ลุ้นตัวโก่ง   


เข้าใจกันเสียที  :mc4:


ขอบคุณผู้แต่งครับ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: saiiisai ที่ 10-01-2013 20:13:38
กื๊ดดดดด กัดหมอน เขินแทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: cheery_black ที่ 10-01-2013 20:53:35
อร๊ายยยยยย ย ย  พี่คม ! นายเท่ห์มากอ่ะ แอร๊ยยยยย ย

เขินแทนปลายยยยย ย ย  กร๊ดดดดดด ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-01-2013 20:54:09
เข้าใจกันเสียทีนะ ค่อยเรียนรู้กันไปนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 10-01-2013 21:39:52
หนุ่มจิตอาสารุกแล้วจ้า  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-01-2013 21:41:11
ตอนนี้อ่านไปยิ้มไป รู้สึกมันแอบหวานยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 10-01-2013 22:16:10
คุณประธานค่ายน่ารักจังเลย เค้าค่อยๆเปิดใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 10-01-2013 22:25:38
หวานมากอะตอนนี้
เริ่มรู้ใจกันมาอีกนิดแล้วนะนี่ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: Jesale ที่ 10-01-2013 22:50:17
กรี๊ด..... คมน่ารักมากเลย
ปลายคนน่ารัก อย่าปล่อยให้รอนานนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 10-01-2013 23:55:05
โอ๊ยยย ว๊ากก อ๊ากกก อ่านตอนนี้ไปแทบจะกลิ้งไปด้วยฟัดหมอนไปด้วย น่ารัก น่ารักที่สุด  :o8:
บทจะคืบหน้าก็เล่นเอาคนอ่านอายม้วนต้วนเลยสองคนนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-01-2013 00:00:39
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: ~MiKi~ ที่ 11-01-2013 00:12:55
คมอย่างเท่อ่ะ รอน้องเต่าปลายหน่อยนะ อาจจะช้าไปหน่อยแต่คุ้มค่ากับการรอ  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 11-01-2013 01:14:46
รอนะรอน้องเต่า
ว่าสุดท้ายได้เป็นไง
จะยอมเค้ารึยัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-01-2013 13:27:19
คมนายเท่มากกกกกกก
รอการพัฒนาของเต่าน้อย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 11-01-2013 14:20:41
โอ๊ยยยยยยย ฟินค่าาาาา ฟินค่าาาาา

ประโยคที่ว่า รอได้ นานแค่ไหนก็จะรอ นี่ใครพูดก็ทำให้เราฟินจริงๆ
ยิ่งเร่งรัดยิ่งไม่อยากทำ ยิ่งเร่งรัดยิ่งคิดไม่ออกเนาะ
ค่อยๆ ให้มันเป็นไปแบบนี้หนะดีแล้ว แต่อย่านานเกินไปนะ
ถ้านานเกินไปก็ต้องเร่งรัดแบบอ้อมๆ ไม่งั้นคงได้เลือกกันไปจนแก่พอดี ฮ่าๆๆ


ดีใจกับคมสันด้วยนะที่ได้รู้ถึงความรู้สึกของปลายแบบนิดๆ
แล้วก็... ดีใจกับปลายฟ้าด้วยที่ได้รู้ความรู้สึกของคมสันแบบเต็มๆ

ที่ปลายถามตัวเองว่าทำไมหน้าร้อน ทำไมอย่างนู้นอย่างนี้
ปลายฟ้าน่าจะคิดไปถึงต้นตอนะ ว่าใครกันที่ทำให้หน้าร้อน
แล้วลองเอาไปปรึกษาบอลล่าดู รับรองว่าได้คำตอบแน่ๆ


ปล. อยากอ่านดิวเกมส์จังเลยค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 11-01-2013 16:50:10
เค้าหวานกันแล้ววววว

  :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 11-01-2013 20:42:12
ตอนนี้มันแอบเขินเบาๆ ค่อยๆดีขึ้นสินะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 11-01-2013 21:42:32
แบบว่า ความรักของคนคู่นี้ ค่อยๆ ดำเนินไปช้าๆ แต่ทักถอสายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่น อ๊ายยยยย ค่อยๆ หวาน และเรียนรู้กันไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 22] 10/01/56 > P.68
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 12-01-2013 23:32:21
ดีกันแล้ว เย้ๆ แอบหยอดคำหวานกันด้วย 5555 น่าร๊ากก จัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 14-01-2013 23:19:01
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม


ต้นที่ 23



...เอาอะไรดีวะ?


คำถามเดิม ๆ ที่คนช่างเลือกอย่างนายปลายฟ้า
มักจะถามตัวเองไม่ต่ำกว่าวันละแปดรอบ
รอบที่เก้าของวันนี้เป็นครั้งที่เขายืนอยู่หน้ากระสอบใส่ปุ๋ย


...ใช่ครับ กระสอบปุ๋ย

เพราะตอนนี้เขากำลังยืนลังเลอยู่หน้าซุ่มงานโอเพ้นเฮ้าส์
ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ
ซึ่งเปิดโครงการสิ่งประดิษฐ์ ‘เครื่องอัดเม็ดปุ๋ยชีวภาพ’
ให้น้อง ๆ นักเรียนมัธยมและคนที่เดินผ่านไปมาได้ชม


ทว่าสิ่งที่เขาสนใจน่ะ ไม่ใช่ไอ้เครื่องนั่นหรอกครับ
แต่เป็นอุปกรณ์เสริมที่วางประกอบเป็นตัวอย่างอยู่ข้าง ๆ
พวก ‘ปุ๋ยอินทรีย์’ ‘ปุ๋ยชีวภาพเม็ด’ กับ ‘น้ำหมักชีวภาพ’ ต่างหาก


เขาอยากจะหาเอาไปใส่ ‘ต้นสะเดา’ ที่เลี้ยงไว้ตรงระเบียงห้องสักหน่อย
ช่วงนี้ใบมันดูเหี่ยวแห้งยังไงไม่รู้
แถมยังรู้สึกว่ามันโตช้าแปลก ๆ
ทั้ง ๆ ที่ต้นสะเดาก็เลี้ยงไม่ได้ยากเย็นเท่าไร
แต่เขากลับกังวลจนเผลอมองมันบ่อย ๆ อยู่เรื่อย


...ถึงไม่ใช่ต้นไม้ที่ตัวเองอยากปลูก
แต่ไหน ๆ มันเขาก็ได้มาแล้ว
เลยอยากจะเลี้ยงให้ดีที่สุด
แถมมันยังเป็นของฝากที่ได้มาจากใครบางคน


...ใครบางคนที่ทำให้เขาคิดถึงทุกครั้งที่เห็นต้นสะเดา



“ทำอะไรอยู่เหรอ ปลาย”


เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกรีบหันหลังไปหาคนเรียก
แล้วก็ต้องตกใจเมื่อคนที่กำลังอยู่ในห้วงความคิด
กลับปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า


ร่างสูงใหญ่ใส่เสื้อช๊อป ใบหน้านิ่งเรียบเฉย
ดวงตาคมซึ่งมักจะมองดุ ๆ มีท่าทางอ่อนลงอยู่ในที
คล้ายแฝงความยินดีที่เห็นคนคุ้นเคยมายืนอยู่ในคณะตนเอง


ปลายฟ้าพยายามเก็บอาการประหม่าของตัวเอง
รีบตอบคำตะกุกตะกัก


“เออ..คือ..เรากำลังเลือกปุ๋ยอยู่”


หากแต่คำที่บอกออกไปกลับยิ่งส่งผลให้ตัวเองลำบากใจเข้าไปอีก
เมื่อคมสันกลับขมวดคิ้วถามซ้ำอย่างงง ๆ


“เลือกปุ๋ย?”


...เออ...มันก็แน่อยู่แล้ว
มายืนด้อม ๆ มอง ๆ บอกไปว่ากำลังเลือกปุ๋ย
ใครไม่งงก็คงแปลกไปหน่อย


แต่เขากำลังเลือกอยู่จริง ๆ นี่หว่า
ก็ปุ๋ยมันมีตั้งหลายชนิดแถมคุณสมบัติไม่เหมือนกันอีกต่างหาก
ที่สำคัญอยู่ ๆ จะให้เด็กต่างคณะไปขอดื้อ ๆ
ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับโครงการมีหวังโดนมองว่าบ้าแน่
เขาเลยลังเลคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงดี
จนโดนใครอีกคนมาทักเนี่ยแหละ


...เอาไงดีว่ะ
ถ้าบอกไปคมจะหัวเราะเขามั้ย


ว่ะ!...ช่างมัน!
มาถึงขั้นนี่แล้วบอกไปเลยแล้วกัน



“เรากำลังเลือกปุ๋ยจะเอาไปใส่ต้นสะเดา”


ปลายฟ้ากลั้นใจพูด
เตรียมรับสายตาแปลก ๆ ที่เดาว่าอีกฝ่ายคงมองมา
ทว่าดวงตาคมกลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น
ซ้ำยังนิ่งอึ้งคล้ายไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน


...จริงเหรอ

จริงเหรอที่ปลายบอกว่ากำลังเลือกปุ๋ยไปใส่ต้นสะเดา
เขานึกว่าปลายจะไม่ชอบเสียอีก
เพราะมันเป็นต้นไม้ที่เขาบังคับให้ปลายซื้อ
แต่ที่ปลายมาหาปุ๋ยคอยดูแลมันอย่างดี

เขาจะคิดเข้าข้างตัวเองได้มั้ยว่า...


...ปลายกำลังใส่ใจกัน



ความดีใจลึก ๆ ข้างในเปลี่ยนความสงสัย
ให้กลายมาเป็นความอยากช่วยทันที
คมสันจึงถามคนที่ยังคงลังเลอยู่อย่างมีน้ำใจ


“แล้วเลือกได้รึยังว่าจะเอาอะไร เราจะได้ขอเขาให้”


ปลายฟ้าเงยหน้ามองร่างสูงอย่างแปลกใจ
คมไม่ได้หัวเราะเยาะกับการกระทำของเขา
มิหนำซ้ำยังอุตส่าห์ยื่นข้อเสนอเป็นตัวช่วยไปขอปุ๋ย
ซึ่งเขาไม่กล้าทำอีกต่างหาก


...คมจะเป็นคนมีจิตอาสาไปถึงไหน
แต่ความห่วงใยเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้
ไม่รู้ทำไมกลับทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมา


...และเพียงแค่คิดอาการที่มักจะเป็นก็เริ่มเกิดขึ้น
ความเห่อร้อนพุ่งขึ้นสู่ใบหน้าจนเขาต้องก้มหลบ
ไม่เพียงแค่นั้นหัวใจของเขายังแกว่ง
จนต้องรีบสะบัดความฟุ้งซ่านออกไปจากสมอง
ก่อนจะพยายามเร่งตัดสินใจเลือกให้เร็วที่สุด


“เออ...คือ...”


แต่เต่าอย่างปลายฟ้าก็คงช้าเกินกว่าคนอื่นเขา
เพราะขณะที่กำลังจะอ้าปากพูดกลับมีเสียงดังขึ้นขัด


“ขอโทษนะคะพี่ ช่วยอะไรหนูหน่อยได้มั้ยคะ”


เขาสองคนหันกลับไปมองด้านหลัง
เพื่อเผชิญหน้ากับกลุ่มเด็กผู้หญิงวัยมัธยมปลายห้าหกคน
ซึ่งรีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว


“แบบว่าหนูอยากเข้าคณะวิศวะที่นี่น่ะค่ะ
แต่ไม่รู้ว่ามีสาขาอะไรบ้าง
แล้วแต่ล่ะสาขาเรียนเกี่ยวกับอะไร
พี่ช่วยแนะนำให้หนูหน่อยได้มั้ยคะ”


สาวน้อยหันมามองคมสันอย่างคาดหวัง
คงเพราะคมใส่เสื้อช็อปอยู่น้องเลยถาม
แถมยังเป็นคำถามหว่านแหซึ่งตอบยากอธิบายยืดยาว
ถ้าเป็นคนอื่นคงไล่ไปหาอ่านเอาเองแล้ว
แต่นี่คงเป็นโชคดีของน้องที่ดันมาถามคนมีจิตอาสาเข้า
หนุ่มวิศวะผู้มีน้ำใจจึงตั้งต้นอธิบายให้กลุ่มน้อง ๆ ฟังด้วยความยินดี
โดยทิ้งปลายฟ้าให้มองอยู่ข้าง ๆ แบบนั้น


เออ...คมนี่มีน้ำใจกับคนอื่นตลอดเลยเนอะ


....คนอื่นอีกแล้ว


แค่คิดในใจก็รู้สึกหน่วงขึ้นมา
มันอึดอัดคล้ายหัวใจถูกบีบจนเจ็บแปล๊บ
เพียงแค่เห็นคมคุยอยู่ท่ามกลางคนอื่น
แล้วปล่อยเขาให้ยืนมองอยู่เพียงลำพัง


ทำไมล่ะ....
คมไปช่วยคนอื่นก็ดีแล้วนี่
เดี๋ยวนี้ผู้ชายมีน้ำใจหายากจะตาย
ไม่เห็นแปลกอะไรถ้าจะมีคนมารุมล้อม
โดยเฉพาะกับน้อง ๆ ผู้หญิงที่ส่งสายตาปลื้มมาให้คมไม่ยอมหยุด


...ยิ่งเห็นแบบนั้น
ความรู้สึกไม่ชอบใจก็ยิ่งตอกย้ำชัดเจน


อ้าว...นี่ตกลงเขาเป็นอะไรไปกันแน่วะ
หรือเขาจะอิจฉาคมที่มีผู้หญิงมาสนใจ


เออ..อาจใช่ก็ได้ น้องนักเรียนก็หน้าตาน่ารักทั้งนั้น
เขาอาจกำลังอิจฉาคมที่เนื้อหอมก็ได้


แต่ลึก ๆ แล้วเขากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่

สิ่งที่ไม่ชอบใจอาจเกิดขึ้นเพราะเหตุผลอื่น....


...แล้วมันคืออะไรกัน




“โห...สุดยอดด!! ฟังแล้วอยากเรียนเลย
แต่ไม่รู้ว่าพวกหนูจะแอดติดรึเปล่า”


เสียงวี๊ดว๊ายจากกลุ่มน้อง ๆ เรียกสติของปลายฟ้าให้กลับคืน
เขาหันไปให้ความสนใจกับวงสนทนาย่อม ๆ
ก่อนทันเห็นคนที่มักจะทำหน้านิ่งอยู่เสมอ
ทว่าคราวนี้กลับแย้มรอยยิ้มบาง ๆ
ส่งผลให้ใบหน้าคมดูชวนมองมากกว่าเคย
ซ้ำยังเอ่ยคำพูดให้กำลังใจ


“ถ้าน้อง ๆ ทำเต็มความสามารถ
พี่เชื่อว่ายังไงเราก็ต้องสอบได้
แล้วพี่จะรอตอนวันรับน้องเข้าคณะพี่นะครับ”


บทพระเอกของคมสันเล่นทำเอาน้องผู้หญิงมองตาเคลิ้ม
แทบจะลงไปกองกับความใจดี มีน้ำใจ เป็นสุภาพบุรุษ
ปัดภาพลักษณ์โหดเถื่อนของคณะวิศวะไปจนหมดสิ้น


“พี่ใจดีจัง ถ้าหนูแอดติดวิศวะที่นี่แล้วขอเป็นน้องเทคพี่ได้มั้ยคะ”



...น้องเทค


ปลายฟ้าหูผึงทันทีที่ได้ยินคำขอดื้อ ๆ


...เฮ้ย! เอากันยังนี้เลยเหรอครับน้อง
ปกติน้องเทคพี่เขาต้องเป็นคนเลือกไม่ใช่เหรอ
ส่วนพวกน้องรหัสน้องสายมันขึ้นอยู่กับดวงใครดวงมัน
เหมือนที่เขาเล่นบัดดี้ยังต้องเสี่ยงดวงจับฉลากเลย
แล้วอยู่ ๆ น้องจะมาขอกันแบบนี้

...มันจะง่ายเกินไปมั้ย


หากแต่ใครบางคนกลับไม่คิดมากเท่าปลายฟ้า
กลับพยักหน้าตอบรับตามประสาคนมีน้ำใจ


“ได้สิครับ พยายามเข้านะ”


กลุ่มน้องผู้หญิงส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างดีใจอีกครั้ง
เขาเห็นคมคุยกับน้องอีกสองสามคำ
ก่อนจะขอตัวเดินกลับมาหาพร้อมคำถามที่ค้างไว้


“ปลายเลือกได้รึยัง”


“ไม่ต้องแล้ว”


คมสันขมวดคิ้วงงกับคำตอบปฏิเสธห้วนสั้นที่ได้ยิน


“อ้าว....ทำไมล่ะ”


“ไม่มีอะไรหรอก คมไปช่วยงานต่อเถอะ”


ปลายฟ้าตอบปัดอีกครั้ง
ทว่าคู่สนทนากลับยังคงยืนยันคำเดิม


“เดี๋ยวค่อยไปก็ได้ แต่ตอนนี้เราขอช่วยปลายก่อน”


“ก็บอกว่าไม่ต้องไง!
มีคนอื่นรอให้คมช่วยอีกตั้งหลายคน
นั้นไง...น้อง ๆ ผู้หญิงกลุ่มนั้นเห็นมองมาตั้งนานแล้ว
คงอยากรู้เหมือนกัน คมไปช่วยเขาเถอะ”


คราวนี้น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิดชัดเจน
จนทำให้คมสันชะงักมองคู่สนทนาที่เบือนหน้าหนีไปอีกทาง
คล้ายกับกำลังไม่พอใจเขาด้วยความมึนงง



...ปลายเป็นอะไร
เมื่อกี๊ยังดี ๆ อยู่เลย
แต่นี่กลับทำเหมือนโมโหเขา
เขาทำอะไรให้ปลายโกรธเหรอ


แล้วที่บอกว่าให้ไปช่วยกลุ่มน้อง ๆ
มันหมายความว่ายังไง...


ก็เขาอยากช่วยปลายอยู่ตรงนี้
แต่ปลายกลับไล่เขาไปที่อื่น
หรือว่าปลายจะรำคาญเขาอีกแล้ว


ไม่หรอก...
ท่าทางของปลายแบบนี้มันแปลก ๆ


ไม่ใช่โกรธ...

ไม่ใช่รำคาญ...


แต่เหมือนคนกำลังงอนเพราะว่า...



“หึงเหรอ”


คมสันเสี่ยงทักไปตามสิ่งที่คาดเดาไว้ในใจ
และคำตอบก็ได้รับเป็นอาการสะดุ้งเฮือกของปลายฟ้า
พร้อมกับใบหน้าเนียนขึ้นสีเรื่อรีบร้องแก้ตัวเสียงตะกุกตะกัก


“บะ...บ้าใครหึงกัน....
กะ...ก็แค่...ระ...เราเกรงใจคม...”



...เหตุผลเดิม ๆ ที่เคยได้ยินซ้ำแล้วซ้ำอีก
ถ้าเป็นทุกครั้งคมสันคงต้องแย้งไปแล้วว่าเขาเต็มใจทำให้
แต่คราวนี้เขากลับทำแค่เพียงอมยิ้มอยู่ในใจ


...ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง
แต่การกระทำของปลายฟ้า
มันทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า
สิ่งที่เขาเดาไว้อาจจะเป็นความจริง


...หรือที่ปลายชอบพูดว่าเกรงใจกันบ่อย ๆ

มันจะเป็นเพราะว่าปลายไม่อยากให้เขาทำกับปลายเหมือนคนอื่น

ถ้างั้นเขาจะคิดได้รึเปล่าว่า....


...ปลายกำลังหวงเขา



คมสันอยากจะถามถึงความสงสัยในใจ
หากแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร
เสียงจากด้านหลังกลับดังขึ้นขัดจังหวะ


“โอยยย...อยู่นี่เองพ่อเต่าน้อย!!
เล่นให้เดินตามหาซะทั่วงานตั้งนาน
อุ๊ย! แอบมาสวีทกับคมอยู่เหรอ มิหนาล่ะ...”


ประโยคคาดเดาทิ้งท้าพร้อมแววตาที่มองอย่างเจ้าเล่ห์
ทำให้คนถูกเข้าใจผิดรีบปฏิเสธเสียงหลง


“เฮ้ยย!!...ปะ...เปล่าเรากำลังเลือกปุ๋ยอยู่”


“ต๊ายย!! นี่พ่อเต่าน้อยยังจะเลือกอีกเหรอ
แต่เออ...มีคนมาช่วยเลือกแล้วนี่
แบบนี้คงจะเร็วขึ้นหน่อยล่ะมั้ง”


แต่คนแซวก็ยังไม่เลิก แกล้งพูดล้ออีกรอบ
จนใบหน้าของปลายฟ้าที่ขึ้นสีจาง ๆ อยู่แล้ว
ยิ่งแดงแปร๊ดเขินเข้าไปใหญ่แบบคนทำตัวไม่ถูก


บอลล่ายิ้มมองผลงานของตัวเองอย่างพอใจ
ตามประสาคนชอบหยอดเพื่อนไว้ละนิดจิตแจ่มใส
ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่องอื่นแทน


“เออ...ว่าแต่จัดงานใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย
เด็กหนุ่ม ๆ หน้าใส ๆ มากันเพียบเลย
เห็นแล้วก็แหม.....
น่าให้เภสัชจัดโอเพ้นเฮาส์บ้างเนอะ
ชั้นเสนออาจารย์บ้างดีป่ะ ไอ้เกมส์”


ท้ายประโยคเจ้าตัวหันไปถามเพื่อนที่เดินตามมาด้วยกัน
ซึ่งอีกคนกลับทำหน้าเบ้ พูดสกัดดาวรุ่งแบบไม่ให้ความหวัง


“โห....เจ๊ แค่สอบวันพรุ่งนี้ยังจะเอาไม่รอดเลย
ให้จัดโอเพ้นเฮ้าท์อีก ใครมันจะไปทำครับ”


คำพูดของไอ้เกมส์ไม่ได้เกินจริงเลย
เพราะช่วงนี้คณะเภสัชสอบเยอะจริง ๆ ครับ
อย่างพรุ่งนี้ก็มีสอบควิซเก็บคะแนนสำคัญด้วย
คืนนี้สงสัยเขาคงต้องกลับไปอ่านหนังสือกันตาเหลือกแน่นอน


หากทว่าบอลล่ายังไม่ทันได้เอ่ยค้านใด ๆ
อยู่ ๆ เสียงความเห็นอีกเสียงกลับดังแทรกขึ้นมา


“แต่ก็น่าสนดีนะครับ ถ้าคณะเภสัชคนไม่พอ เดี๋ยวผมไปช่วย”


คนในวงสนทนารีบหันไปมองผู้มาเยือน
ก่อนบอลล่าจะร้องวี๊ดว๊ายเมื่อเห็นหนุ่มหล่อยืนยิ้มอยู่ด้านหลัง


“ว๊ายยย!! ดิว มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยนะ ตกใจหมด”


“เห็นคุยกันอยู่เลยเดินมาทักน่ะครับ
แล้วนี่มีคนพาเที่ยวงานรึยัง”


ประโยคถามไปแบบไม่เจาะจง
หากแต่ดวงตากลับมองไปที่อีกคนหนึ่ง
อย่างไม่คิดจะปิดบังว่าตั้งใจชวนใคร


“ยังเลยอ่ะ ดิวพาเที่ยวหน่อยได้มั้ย”


หนุ่มหน้าหวานพูดน้ำเสียงออดอ้อน
แบบที่ปลายฟ้ากับไอ้เกมส์รู้ดีว่าโกหกกันเห็น ๆ

เพราะความจริงพอมาถึงงานบอลล่าก็จัดการลากพวกเขาวนกันมารอบหนึ่งเรียบร้อยแล้ว
ก่อนปลายฟ้าจะแยกออกห่างเพราะดันมาสนใจปุ๋ยใส่ต้นไม้เข้าซะก่อน


“โอเคครับ งั้นไปกันเลยมั้ย”


ดิวเตรียมหันหลังพาผู้เยี่ยมชมทัวร์คณะของตัวเอง
ทว่ายังไม่มีใครขยับเสียงไอ้เกมส์กลับดังผ่าขึ้นกลางวง


“เออ...พอดีนึกได้ว่าอาจารย์ให้ไปเตรียมของเข้าแล๊ปกับไอ้ปลาย ไปก่อนนะ”


ปลายฟ้ารู้ทันทีว่าไอ้เกมส์เริ่มเข้าสเต๊ปเดิมคือหาทางหลบ
แต่มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย
ถ้าไอ้เกมส์จะไม่ลากเขามาเอี่ยวด้วย

เพราะจบคำ คนคิดหนีก็คว้าแขนเขาวิ่งลิ่วออกไป
โดยไม่ทันฟังเสียงร้องงง ๆ ของบอลล่า


“ห่ะ! อะไรนะไอ้เกมส์
วันนี้มีเข้าแล๊ปซะที่ไหนกันย่ะ!!
ว๊ายยย!! เดี๋ยวอย่าเพิ่งไปสิ....
....รอชั้นด้วยยย!!”


คนถูกทิ้งรีบวิ่งตามเพื่อนสองคนไปทันที
ปล่อยให้หนุ่มวิศวะสองคนได้แต่มองตามจนลับสายตา



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------




ห้าทุ่ม  สี่สิบห้า

...ตาของปลายฟ้าใกล้จะปิดเต็มที


เขาลุยอ่านหนังสือสำหรับควิซวันพรุ่งนี้
แต่ตอนนี้เหมือนหนังสือมันกำลังอ่านเขาแทน
เพราะชักรู้สึกว่าตาเริ่มลายเห็นอักษรซ้อน
เนื้อหาบทเรียนเริ่มไม่เข้าสมอง


...ก็ไม่แปลกหรอก นี่มันจะเที่ยงคืนแล้ว
ดึกขนาดนี้ขืนอ่านต่อไปก็คงได้หลับคาหนังสือแน่
สงสัยจะไม่ไหว เขาคงต้องขอนอนก่อน
เกิดน็อคลุกขึ้นไปสอบสายที่อ่านมาคงไม่มีประโยชน์


ปลายฟ้าจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำหลังจากปล่อยตัวเองเน่ามานาน
ก่อนเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากตรงระเบียง
แล้วก็เผลอเหลือบเห็นของบางสิ่งที่ตั้งอยู่นั้น


จริงสิ...เขายังไม่ได้เลือกปุ๋ยให้ต้นสะเดาเลย
ดันโดนไอ้เกมส์ลากเขาออกมาก่อน
แล้วปล่อยใครอีกคนไว้ทั้ง ๆ ที่ยังคุยกันไม่จบ


คิดไปก็พาลนึกไปถึงประโยคสุดท้ายที่พูดค้างไว้


...หึงเหรอ?


บ้าหึงอะไรกัน
เขาก็แค่ไม่ชอบใจที่มันมีผู้หญิงมารุมแค่นั้น
เอ๊ะ! แต่ไอ้พฤติกรรมแบบนี้มันก็ใกล้เคียงกับที่มันว่า


...หรือเขาจะหึงคมจริง ๆ


โอยย!!...จะอะไรก็ช่างมันเถอะ
ไม่อยากคิดให้ปวดหัวแล้ว
เก็บสมองไว้จำเนื้อหาสอบวันพรุ่งนี้ดีกว่า
ส่วนเรื่องต้นสะเดาไว้คราวหลัง
เขาค่อยไปหาซื้อปุ๋ยแถวร้านต้นไม้เอาก็ได้
ตอนนี้ต้องนอนเอาแรงก่อนเลิกคิดฟุ้งซ่านสักที


ปลายฟ้าสั่งตัวเองให้หยุดความคิดในสมอง
เดินไปปิดไฟ แล้วกลับล้มตัวบนเตียงเตรียมเข้านอน
ทว่าหัวยังไม่ทันถึงหมอนดีกลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัด



ก๊อก! ก๊อก!



คนง่วงนอนรีบกระเด้งตัวลุกจากเตียงทันที
พร้อมความสงสัยอย่างหงุดหงิด


...ใครวะมาดึก ๆ ป่านนี้
หรือจะเป็นไอ้เกมส์
มันอยู่ห้องถัดขึ้นไปชั้นบนนี่เอง
สงสัยคงมาถามเรื่องที่จะสอบพรุ่งนี้ล่ะมั้ง


เจ้าของห้องจึงลุกขึ้นมาเปิดไฟ
จัดการเดินไปหมุนลูกบิดเปิดประตู
ก่อนดวงตากลมจะเบิกกว้าง
เมื่อเห็นว่าแขกผู้มาเยือนยามวิกาลเป็นใคร


“โทษที มาดึกไปหน่อย
เราเพิ่งช่วยอาจารย์เก็บงานเสร็จ
เลยแวะเอาปุ๋ยมาให้
ไม่รู้ว่าปลายจะเลือกอะไร
เราขอมาทั้งสามอย่างเลย”


...เป็นนายคมสันที่ยืนรออยู่หน้าประตู
สองมือหิ้วถุงที่ใส่ทั้งปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยชีวภาพอัดเม็ด กับน้ำหมักชีวภาพ
มาให้เขาที่กำลังยืนมองอย่างมึนงง


...เฮ้ยย!! บ้ารึเปล่าวะ!!
เอาปุ๋ยมาให้ตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ
มีใครที่ไหนทำกันบ้าง


...ก็คงจะมีแต่คนจิตอาสาอย่างคมล่ะมั้ง
ที่ยังจำได้ว่าเขาอยากได้ปุ๋ย
แถมยังอุตส่าห์เอามาให้ทั้งสามอย่าง
แบบกลัวว่าจะเลือกมาไม่ถูกใจเขา


...คมมีน้ำใจคอยห่วงใยขนาดนี้


แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกดีได้ยังไง...



“ขะ...ขอบใจนะ เออ...เข้ามาก่อนสิ”


ปลายฟ้าจึงหลีกทางให้ร่างสูงหิ้วถุงปุ๋ยเข้ามาวางไว้หลังระเบียงห้อง


“ตกลงเลือกได้รึยัง เราจะได้ช่วยใส่ให้”


คำถามที่ดังขึ้นทำให้คนเดินตามมาต้องหยุดคิด


เออ...นั้นสิ...จะเลือกอะไรดี
ปุ๋ยแต่ล่ะชนิดมันมีคุณสมบัติบางอย่างแตกต่างกัน
แล้วเขาก็ไม่ได้ศึกษามาว่าต้นสะเดานี่มันต้องเหมาะกับใช้ปุ๋ยแบบไหน
แต่ไหน ๆ คมอุตส่าห์เอามาให้ตั้งสามอย่างแล้ว
งั้นก็วนกันใช้ไปให้หมดเลยล่ะกันวะ จบเรื่อง!


คนตัดสินใจได้จึงเลือกเอาปุ๋ยอินทรีย์
ปล่อยให้คมช่วยเทใส่ลงกระถาง
โดยมีเขาเป็นลูกมืออยู่ข้าง ๆ



ปลายฟ้านั่งมองต้นสะเดาหลังจัดการเสร็จเรียบร้อย
ใบสีเขียวที่อยู่บนยอดเริ่มผลิใบใหม่แล้ว
พอได้ปุ๋ยไปเพิ่มอาจจะช่วยทำให้ต้นไม้โตเร็วขึ้นก็ได้


...เออ..ว่าแต่ใส่ปุ๋ยตอนเที่ยงคืนแบบนี้มันถูกแล้วรึเปล่าวะ
ใส่ไปเสร็จแล้วเพิ่งจะมานึกได้ว่า
ปกติเขาต้องให้ปุ๋ยกันตอนเช้าไม่ใช่เหรอ
แต่ช่างเถอะ ไหน ๆ มันก็เป็นอาหารบำรุงต้นไม้เหมือนกัน
ไว้คราวหลังเขาจะไปหาข้อมูลศึกษาดี ๆ อีกที
ว่าวิธีเลี้ยงต้นสะเดาที่ถูกจะต้องทำยังไงบ้าง
มันจะได้โตขึ้นไปเรื่อย ๆ ไม่เฉาตายคามือเข้าซะก่อน


จริงสิ...

แล้วถ้าต้นสะเดามันโตจนเกินกว่ากระถางใบนี้
เขาจะทำยังไงวะ....?
คราวที่แล้วเขาก็สงสัยอยู่แต่ยังไม่ได้ถาม


คนสบโอกาสจึงหันถามคนข้างตัวที่กำลังสาละวนกับการเก็บถุงปุ๋ยเข้าที่


“ถ้าต้นสะเดามันโตขึ้นมามากกว่านี้จะทำยังไง”


อีกฝ่ายปัดมือที่กำลังเลอะดินออกเบา ๆ
ก่อนหันตอบกลับง่าย ๆ 


“ปลายก็เอาไปปลูกลงดินที่อื่นสิ”


...คือก็รู้แล้วว่ามันต้องเอาไปปลูกลงดิน
แต่ปัญหาจริง ๆ น่ะ...


“เราอยู่คอนโด”


คมสันชะงักไปเล็กน้อยเมื่อฟังคำตอบคล้ายกับไม่เคยได้คาดคิด
ก่อนจะตัดสินใจเสนอทางเลือกใหม่ขึ้นมาเพียงเสี้ยววินาที


“งั้นเดี๋ยวเราเอาไปปลูกที่บ้านเราเอง”


...เออ...มันก็ได้อยู่หรอก
แต่ถ้าเอาไปปลูกไว้บ้านคม
อย่างนี้เขาก็ไม่มีสิทธิ์ดูแลต้นสะเดาต่อ
แถมเหมือนกับว่าต้นสะเดากลายเป็นของคมไปเลย
งั้นที่เขาคอยเฝ้าดูแลมันมาตลอดก็ไร้ความหมายน่ะสิ


คนค้านจึงบอกเหตุผลไปตามที่ตัวเองคิด


“แต่เราอุตส่าห์เลี้ยงมันมานะ
เราเสียดายถ้าไม่ได้ดูแลมันต่อ”


คมสันนิ่งไปแป๊บหนึ่งคล้ายครุ่นคิดก่อนพูดเสนอทางเลือก


...และเป็นทางเลือกที่ส่งผลให้ใบหน้าของปลายฟ้าเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง




“งั้นถ้าปลายอยากเห็นต้นสะเดา
ไว้ค่อยแวะมาบ้านเราก็ได้”



คำชวนที่ออกมาจากปากคนตรงหน้าเหมือนเป็นข้อความธรรมดา
แต่ไม่รู้ทำไมเขากลับต้องรีบก้มหน้า
หลบดวงตาคม ๆ ที่จ้องมาพลางตอบคำตะกุกตะกัก


“ขะ...ขอคิดดูก่อน...
...ระ...เรายังไม่ได้ตัดสินใจเลือกเลย”


“ต้องเลือกด้วยเหรอ”


เสียงถามสั้น ๆ คล้ายแฝงความนัยลึกซึ้ง
พร้อมดวงตาที่จ้องรอคอยอย่างเต็มไปด้วยความคาดหวัง


....ความคาดหวังที่ปลายฟ้ารับรู้ได้ว่ามันหมายถึงอะไร



“ก็เราอยากเลือกให้ดีที่สุด
ตอนนี้ยังไม่แน่ใจเลยบอกไม่ได้”




คำตอบของปลายฟ้าทำให้คมสันถอนใจ


...รู้อยู่ดีอยู่แล้วว่าเขาจะไปเร่งรัดปลายไม่ได้
เรื่องแบบนี้ต้องปล่อยให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ความสัมพันธ์
ถึงตอนนี้ความรู้สึกระหว่างเขากับปลายมันจะยังครุมเครือ
แต่เขาก็เชื่อว่าสักวันมันจะค่อย ๆ ชัดเจน
ตราบใดที่ปลายยังให้โอกาสเขา
เขาก็ยังสามารถทำให้ปลายเชื่อมั่นว่า
เขาจะเป็นคนที่ดีที่สุดคนนั้นของปลายได้



“อืม...ไม่เป็นไร
เราเคยบอกปลายแล้วไง
ว่านานแค่ไหนก็จะรอ”



คมสันพูดยืนยันย้ำออกมาอีกครั้ง
ทำให้คนหน้าร้อนอยู่แล้วยิ่งเพิ่มอุณหภูมิเข้าไปอีก
แถมจะไปโทษใครก็ไม่ได้
เพราะสาเหตุที่เกิดขึ้นมันดันมาจากตัวเอง


...สาเหตุที่เข้าใจมาได้สักพักแล้วว่าคืออะไร


ถึงปลายฟ้าจะเลือกช้า คิดช้า
ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไร้เดียงสากับเรื่องพวกนี้
ยิ่งพอเกิดขึ้นบ่อย ๆ ก็ยิ่งเข้าใจชัดเจน


ในที่สุดก็ต้องยอมรับตัวเองว่า....
ไอ้ที่หน้าร้อนน่ะ มันเป็นเพราะเขากำลังเขิน

แล้วที่ไม่กล้าสบตามอง...
ก็เพราะหัวใจมันดันเต้นเป็นจังหวะแปลก ๆ


....และมีเพียงคนคนเดียวที่ทำให้เขาเกิดความสับสนขึ้นมามากมายในใจ


แม้ไม่รู้ว่าความรู้สึกทั้งหมดที่มีคืออะไร
แล้วมันจะคืบหน้าพัฒนาไปในทิศทางไหน


แต่ตอนนี้เขาอยากจะขอเวลาให้แน่ใจในตัวเองอีกหน่อย
อยากให้มันค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป
เพื่อที่เขาจะได้ตัดสินใจเลือกให้ดีที่สุดว่า....


....ใครคือคนที่พร้อมจะเดินเคียงข้างเต่าจอมเชื่องช้าอย่างเขา




คมสันนั่งมองปลายฟ้าคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองเงียบ ๆ
ก่อนจะยื่นข้อเสนอตามประสาคนมีจิตอาสา


...หากแต่เป็นข้อเสนอที่ทำให้ปลายฟ้าแทบหยุดหายใจ




“แต่ถ้าปลายยังคิดช้าให้เราช่วยเลือกให้มั้ย”




...อะ...ไอ้บ้า!
ไม่ต้องมามีน้ำใจกันตอนนี้เลยนะ
เล่นถามแบบนี้จะให้เขาตอบว่ายังไงเล่า!!


ปลายฟ้าอึกอักอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
แต่ท้ายที่สุดก็กลั้นใจเงยหน้าขึ้นสบมองดวงตาคม
ก่อนพูดเสียงงึมงำตอบราวคำกระซิบ



...หากแต่เป็นคำที่ทำให้คมสันถึงกับยิ้มกว้างออกมาจากส่วนลึกของหัวใจ




“ไว้ถึงตอนนั้น...เราจะให้คมช่วยเลือกเป็นคนแรกนะ”




....


..


.



หลายครั้งที่เต่าอย่างปลายฟ้ามักจะคิดอะไรที่ชักช้าเกินกว่าชาวบ้าน
รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับ ‘ความรัก’
ที่เขายังไม่รู้หรอกว่าอะไรคือสิ่งเหมาะกับตัวเองที่สุด



ดังนั้นเขาเลยอยากจะค่อย ๆ ค้นหามันทีละเล็กทีละน้อย
เหมือนกับต้นสะเดาที่ต้องอาศัยระยะเวลาในการเติบโต
ต้องคอยรดน้ำ ใส่ปุ๋ย ดูแลไปเรื่อย ๆ
เพื่อสักวันหนึ่งมันจะได้กลายมาเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรง



ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคมก็คงไม่ต่าง
ถึงตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่มีให้กันเป็นแบบไหน
แต่เขาก็จะขอเรียนรู้มันต่อไปเรื่อย ๆ
ค่อย ๆ ถักทอเป็นความผูกพัน
แค่คอยใส่ใจกัน คอยห่วงใยกันและกัน


...เพียงเท่านี้สำหรับเขาสองคนก็อุ่นใจมากพอแล้ว


แม้จะใช้เวลาเลือกนานแค่ไหน
แต่ตราบใดที่ยังมีใครคนหนึ่งสมัครใจรอ
เขาก็จะขอใช้ทุกวินาทีอย่างคุ้มค่าเพื่อทำมันให้ดีที่สุด



และเขาหวังว่าสักวันหนึ่ง...

คมจะเป็นคนนั้นที่ ‘ช่วย’ ทำให้เขาค้นพบ

ความหมายที่แท้จริงของคำว่า ‘รัก’

แล้วเลือกจะก้าวเดินช้า ๆ หากแต่มั่นคง

อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป...




...ขอให้คุณพบเจอคนที่ ‘เลือก’ แล้วว่าดีที่สุด...

...และเป็นคนที่จะมา ‘ช่วย’ เติมเต็มหัวใจให้พอดีที่สุด...

...เช่นเดียวกันครับ...




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------



THE  END






....ในที่สุด
‘ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม’
ก็คลานมาจนถึงเส้นชัยแล้วจ้า!!  เย้!!  :mc3:


...กว่าจะคลานมาได้   :เฮ้อ:
เล่นเอาทั้งคนเขียนคนอ่าน
ลุ้นกันจนใจหายใจคว่ำในความช้าเกินลิมิตของเต่าปลาย 
เลยต้องขอตัดจบลงตรงนี้ก่อน
เพราะถ้าขืนเขียนเรื่องของสองคนนี้ต่อ
กว่าความสัมพันธ์จะคืบหน้าจริง ๆ คงปาไปหกสิบเจ็ดสิบตอนแน่ ๆ ค่ะ
สู้ปล่อยให้เรื่องของคนสองคนเขาค่อย ๆ พัฒนาไปอย่างช้า ๆ
ตามสปีดเต่าของปลายฟ้าดีกว่าเนอะ


แต่แน่นอนว่าถ้าใครอยากรู้เรื่องหลังจากนี้
ก็มีให้ติดตามในภาคพิเศษเป็นของแถม
แล้วตามด้วยการเฉลยซีรีย์ภาคต่อไปตามธรรมเนียม
ซึ่งภาคต่อไปนี้อยากได้เสียงโหวตนิดหนึ่งว่า...


‘ใครอยากอ่านเรื่องของดิวกับเกมส์ช่วยชูมือสูง ๆ หน่อยเร้วววว'  :-[


เพราะเรื่องของสองคนนี้ทีแรกไม่ได้ตั้งใจว่าจะเป็นเรื่องยาว
แต่ดูเหมือนแรงเชียร์เยอะเหลือเกิน
เลยอาจจะจับมาเขียนแซงคิวก่อนก็ได้
ถ้าจะยังไงไว้รอลุ้นกันตอนเฉลยอีกทีนะคะ


สุดท้ายนี้ ขอบคุณนักอ่านที่ร่วมคลานตามกันมาทุกคน
ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกบวกเป็ด บวกหนึ่ง ทุกกำลังใจ
และยังคงย้ำเสมอว่า...


...รู้สึก ‘ดีใจ’ ที่เรายังอยู่ด้วยกันมาอีกหนึ่งซีรีย์



ซีรีย์ภาคหน้าก็ต้องขอฝากตัวเหมือนเดิมนะคะ
แล้วพบกันใหม่เร็ว ๆ นี้ค่ะ


ด้วยรักเสมอ

 :กอด1:

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 14-01-2013 23:19:59
อ้างถึง
แต่นี่คงเป็นโชคดีของน้องที่ดันมาถามคนมีจิตอาสาเข้า
น้องค่ะ เป็นโชตดีจริงๆ ฮ่าๆ คมแบบผู้ชายที่หายากในโลกใบนี้><
คนดีจิตอาสา ก๊ากกกกกกกกก

ติดตามต่อเรื่องหน้าค่าาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 14-01-2013 23:34:43
อยากอ่าน  เกมส์ ดิวววว


ติดตามเสมอ  เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: Inamning ที่ 14-01-2013 23:59:17
เรื่องนี้เป็นอะไรที่เรียบๆ แต่มันก็ทำให้เราเขินได้ทั้งเรื่อง  :L2: :L2:

ยกมือสูงๆๆ ต้องการซีรีย์ของเกมส์กับดิวจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 15-01-2013 00:01:33
จบได้หวานมากๆ
แม้จะไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นยังไง  แต่ก็จบเรื่อไงได้แบบไม่ค้างคาเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-01-2013 00:05:00
คลานช้าจนถึงเส้นชัยแล้ว

แม้จะยังไม่ฟันธงว่ารัก  แต่ก็ดูพิเศษกว่าใคร
เอาใจช่วยทั้งคู่ให้เดินเคียงข้างกันต่อไปนะคะ

และรอตอนพิเศษ ยังนึกไม่ออกว่าปลายกับคมจะถึงจุดนั้นกันยังไง  555

ขอยกมือสูงๆรอคู่ดิวเกมค่ะ  จริงๆจะคู่ไหนก็อ่านน้า

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 15-01-2013 00:20:23
เฮ่ยยยยยยยยย!!!

พ่อเต่าน้อยจบแล้วอ่ะ แอบใจหาย
แต่เห็นด้วยนะว่าตัดจบแบบนี้ก็โอเค เพราะคือถ้าให้พ่อเต่าเค้าพูด คงเป็นเกือบร้อยตอนอย่างที่ว่า
แต่ก็นะ ไม่ใช่ไม่รู้ แล้วก็ไม่ใช่ไม่เลือกคม ก็ขอแค่เอาให้แน่ใจก่อนแค่นั้นเอง

ดิวเกมส์นี่ไม่เขียนไม่ได้นะ  :laugh:
แค่คิดก็สนุกแล้ว อยากรู้ว่าดิวจจะจัดการคนชอบหนียังไง อิอิ

ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุก ๆ มาให้อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 15-01-2013 00:48:44
จบแบบเต่าปลาย  :laugh:
น่ารักค่ะ รอตอนพิเศษ จะเป็นไง ถ้าไปถึงจุดนั้น  :haun4:

ดิว เกมส์ยังคงไล่ล่ากันต่อไป
จบเรื่องอาจจะลงแข่งวิ่งกันได้เลย
ขยันวิ่งหนีเหลือเกิน  :laugh:
รอตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 15-01-2013 00:52:42
พ่อเต่าน้อยยังเป็นเต่าน้อยจนถึงตอนสุดท้ายเลย ฮ่าๆ
แอบเหวอ จบแล้ว แต่จบได้สมกับปลายฟ้าดีค่ะ  ไม่เร่งรัด ค่อยเป็นค่อยไป
ชูสุดจั๊กกุแร้เลย อยากอ่านตอนของดิวกับเกมส์ค่าาาา!! :impress2:
รอติดตามตอนพิเศษกับเรื่องต่อไปด้วย  :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-01-2013 01:24:39
ชูมือสู๊งงสูงงงงงงงงงงง o/
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-01-2013 01:55:30
เชื่อว่าคะแนนคนอยากอ่าน ดิว เกมส์ ต้องล้นหลาม
ชูมือสูงๆ สองมือ สองขา เลยเอ้า
คู่นี้ท่าจะมันส์ ดิวรุกเร็วดีแท้ ถึงลูกถึงคนดี
ส่วนเกมส์ก็วิ่งหนีตลอด น่าจะฮาดี
อยากรู้้ว่าทำไมเกมส์ถึงหนี ไม่ชอบ หรืออาย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 15-01-2013 02:17:40
คู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันหรอกค่ะ แอบตกใจว่าจบเร็วจัง ชอบคู่นี้มากจ้า รอตอนพิเศษจ้าา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 15-01-2013 02:48:44
แอบใจหายเบาๆที่จบ นี่พ่อเต่าน้อยกับคมสันจบแล้วหรอเนี่ย
ยังชอบความช่างเลือก คิดช้า คิดนานของปลายอยู่เลย
คิดถึงหน้าโหดๆดุๆแต่มีน้ำใจมีจิตอาสาของคมด้วย
เป็นเรื่องที่น่ารักเบาๆจริงๆ อ่านไปยิ้มไป คอยลุ้นคอยเชีนร์กับทั้วสองคนไปด้วย
เราก็ได้แต่หวังว่าต้นสะเดาต้นนี้จะเติบโตไปเรื่อยๆพร้อมกับคนทั้งคู่นะ แฮปปี้เอนดิ้งๆ

 :กอด1: รอคอยเรื่องหน้าค่ะ จะเรื่องไหนใครคู่ใครจัดมาโลดดดดด อ่านได้หมดจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 15-01-2013 04:49:35
ชูสองมือสูงๆ เลยค่ะ อยากอ่านดิวกับเกมส์มากๆๆ ค่ะ เรื่องนี้เหมือนยังจบไม่เคลียร์น้า ต่ออีกนิดได้ไหมคะ แบบว่า ยังไม่ฟินอ่ะ แง้วๆๆๆๆๆๆ ต่อคมกับเต่าปลายอีกนิดได้ไหมคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 15-01-2013 05:34:46
 จบแล้วหรอ...  :o12:



รอตอนพิเศษกับเรื่องต่อไปนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-01-2013 06:01:55
จบแล้วเหรอ ในความรู้สึกเรานี่ตอนจบเหมือนเค้าเพิ่งรู้หัวใจตัวเองนะ
ยังไงก็ขอตอนพิเศษแบบชัดเจนนะจ๊ะคนแต่ง ขี้เกียจลุ้นแล้ว
ขอยกมือสนับสนุนคู่ดิวเกมส์ อีกคนดันทุรังสุดๆอีกคนหนีสุดๆ ต้องสนุกแน่ๆเลย
ปล.ถ้าต่อคู่ดิวเกมส์ ขอคมปลายมาแจมๆบ้างเน้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 15-01-2013 06:59:36
โอ้จบแล้วอ่ะ ภาคนี้
ชอบน้องเต่านะน่ารักดี ยังอยากอ่านต่อ
ดิวกับเกมส์นี่ก้น่าลุ้นดี
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-01-2013 08:08:58
จนจบพ่อเต่าปลายก็ยังเลือกไม่ได้แต่ก็ัยังดีมีตัวเลือกคือคม
คมคงจะรอพ่อเต่าปลายอีกนานแน่
อยากอ่านคู่ดิวกับเกมส์เหมือนกัน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-01-2013 09:04:09
จบเร็วเกินไปสำหรับพ่อเต่าน้อยนะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-01-2013 09:07:09
น่ารักตั้งแต่ต้นจนจบ  :กอด1: รอตอนพิเศษจ้า

ขอดิวเกมส์ยกมือสูงๆ o/

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-01-2013 09:39:46
เป็นตอนจบ ที่ปลายก็ยังไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนกับคม  แต่ความรู้สึก และการแสดงออกของปลายที่มีต่อคม ก็แสดงให้คมเห็นแล้วว่า  สุดท้ายปลายก็เลือกคม   

กด + รออ่านตอนพิเศษต่อไปนะคะ

ปล.  ยก 2 มือ ขอ เกมส์-ดิว  แบบลัดคิว :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 15-01-2013 10:26:31
จบแบบน่ารักตามสไลต์น้องปลายเลย...

รอคู่ดิวเกมส์น่าจะตื่นเต้นไม่แพ้กัน และน่านจะมีกวนๆกันด้วยใช่มั๊ย.....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 15-01-2013 10:38:13
มายกมือ รอดิว-เกมส์ด้วยคน แต่ขอภาคพิเศษเต่าปลายกะคมก่อนนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 15-01-2013 11:01:35
ยกมือโหวตดิวเกมส์
ดึกๆมาหยอดปุ๋ยสะเดา กับมารดน้ำหัวใจ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-01-2013 12:40:46
จบแบบสมเป็นปลายจริงๆๆ
ช่างเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุด :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 15-01-2013 13:32:04



    :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 15-01-2013 19:23:39
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

จะมีเรื่องอื่นให้อ่านอีกมั้ยคะ  อยากอ่านอีกจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 15-01-2013 19:45:44
จบได้น่ารักแบบน้องเต่าน้อย :-[ :-[ :-[

รอเกมส์ ดิว  :z2:



 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 15-01-2013 19:58:56
จบแล้ววววว

รอความคืบหน้าในตอนพิเศษนะจ๊ะ

ขอบคุณมากคร้าบบบ  :กอด1:

*ปูเสื่อรอดิวเกมส์*  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 15-01-2013 22:43:29
อ้างถึง
‘ใครอยากอ่านเรื่องของดิวกับเกมส์ช่วยชูมือสูง ๆ หน่อยเร้วววว'


ยกมือสูงๆ ค่าาาาาาาาาาา  :impress2:  อยากจิอ่านคู่นี้มากมายยยยยยยยย พ่อแง่แม่งอนแบบนี้เราชอบนัก ฮิฮิ



ตอนแรกตกใจตรงที่ท่อนท้ายว่าเหมือนจะจบ แล้วก็ต้องตกใจอย่างมากที่เห็นคำว่าดิเอ็น เฮ้ยยยยยยยยย ตัดจบอะไรแบบนี้เล่าคะ.... เรายังไม่เห็นคู่นี้เค้าหวานเหมือนคู่อื่นๆ เลยอะ แง๊  :sad4: เรายังคิดอยู่เลยว่าคู่นี้เค้าได้เกินกว่าจับมือไปหรือยัง  :sad11:

แต่อย่างที่คุณคนเขียนว่า... กว่าจะได้รู้ว่าอะไรยังไงต่อ คงได้ปาไปหกสิบเจ็ดสิบตอนเพราะความช้าของเต่าปลายเป็นแน่ เราก็ได้แต่หวังว่าเต่าปลายจะเพิ่มสปีดให้มันเร็วขึ้นกว่านี้  :call:

ชอบประโยคที่คมว่า ให้เราช่วยเลือกไหม... แอบไปกรี๊ดหลังไมค์กับเพื่อนมาว่าอยากได้หนุ่มวิดวะใส่ช็อป... แหม ตอนเรียนมหาลัยก็ไม่ได้คิดว่าหนุ่มใส่ช็อปจะเท่ห์อะไรนักหนา แต่พอเรียนจบแล้วเห็นน้องๆ ใส่ช็อปก็อยากสอยมาควงบ้าง ฮ่าาา


รออ่านเรื่องดิวกับเกมส์นะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-01-2013 22:51:40
จบแล้วอ่ะ แล้วพ่อเต่าน้อยจะเลือกช้าอีกไหมเนี่ย ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 >; P.70
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-01-2013 23:26:00
ยิ้มแก้มแตกกับเต่าปลาย อิ!!    เกมส์ ดิว ก็น่าสนเนอะ!! :))
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: tra_daday ที่ 20-01-2013 18:18:34
 :L2: :L2: :L2: :L2: :3123: :3123: :3123: :3123: :L1: :L1: :L1: ชอบมาก น่ารักจิงๆๆ น่ารักทุกภาคเลยคัฟ  :กอด1: :กอด1:คนแต่ง  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-01-2013 19:13:39
คิดถึง :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 23-01-2013 13:56:18
ในที่สุด เต่าน้อยก็มีคนมาดูแลแล้ว ไม่เป็นไรเนอะ ช้าหน่อยก็ค่อยๆดูกันไป น้องเต่าน่ารักซะขนาดนี้ คมคงดูแลได้เป็นอย่างดี

แล้วก็จบไปอีกเรื่อง ด้วยความสุขของคนอ่านอย่างเรา ขอบคุณมากนะคะ ชอบทุกเรื่อง และยังจะขอรอคอยเรื่องต่อไปอีกด้วย

เชียร์ดิวและเกมส์เหมือนกัน อยากรู้ว่าเกมส์จะทำยังไงถึงจะเอาตัวรอดจากดิวได้ 555555 ที่จริงก็ไม่น่ารอด ฝีมือขนาดดิวปล่อยให้รอดได้ไงเนอะ แต่ก็อยากอ่านนะ คงจะน่ารักมากเลย

และขอรอตอนพิเศษของเต่าน้อยและคมด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นที่ 23] 14/01/56 > P.70
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 24-01-2013 22:27:00
พึ่งอ่านถึง ภาค  ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต
ทนไม่ไหวขอเม้นตอบก่อนเลยว่า
อ่านแล้ว "โคตรหิวเลยจ้าาาาา!!!!!!!"  :z3:

ปล.อ่านสนุกจริงๆ แต่ดันอ่านตอนกลางคืน ท้องงี้ร้องจ๊อกๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 24-01-2013 22:52:08
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม



ต้นพิเศษ



“น้องจะเอาอะไรดีค่ะ”



...คำถามยากครับ


สำหรับใครหลายคนอาจเป็นคำถามธรรมดา ๆ
แต่สำหรับคนที่ช่างเลือกอย่างนายปลายฟ้า
มันเป็นคำถามที่โคตรยากยิ่งกว่าข้อสอบไฟนอลเสียอีกครับ

ทั้ง ๆ ที่หากมองจากสายตาคนนอก
คงเห็นแค่ปลายฟ้ากำลังยืนเลือกขนมอยู่ตรงแผงเล็ก ๆ ริมทางเท้าเท่านั้น
ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่จริง ๆ แล้วตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
เพราะตอนนี้ภายในใจของเขากำลังคิดลังเลไปมาหลายตลบ


...ไม่ให้คิดมากได้ยังไงครับ
เพราะไอ้ที่กำลังจะเลือกเนี่ย
มันสามารถตัดสินชะตาชีวิตเขาอีกสองชั่วโมงเต็ม ๆ เลยนะเว้ย!!



“ปลายเสร็จรึยัง รถจะออกแล้วนะ”


เสียงทักทำให้คนชักช้าถึงกับสะดุ้ง
หากแต่ยังไม่ทันหันไปมอง
คนเรียกกลับพาร่างสูงใหญ่มายืนสถิตอยู่ข้าง ๆ
ดวงตาคมเป็นเอกลักษณ์เหมาะเจาะกับชื่อคมสัน
มองเลยมายังแผงขนมที่เขากำลังยืนยึกยักไม่ซื้อสักที
อันประกอบไปด้วยของจำพวก
ลูกอม หมากฝรั่ง บ๊วยเค็ม กระดาษทิชชู่ น้ำเปล่า
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้สำหรับคนสปีชีย์เมารถง่าย


...ใช่แล้วครับ


เพราะหลังจากนี้อีกสองชั่วโมง
ปลายฟ้าจำต้องนั่งรถขึ้นเขาลูกเดิมกับที่เคยไปเมื่อครั้งช่วยงานค่ายวิศวะอาสา
พร้อมกับประธานค่ายเจ้าเก่าซึ่งชวนเขามาออกทริปเพียงลำพังสองคน


...แหม...พูดไปพูดมาเดี๋ยวจะมีคนมาหาว่าแอบเดทกันอีก


เปล่าครับ!  ...บอกกันตรง ๆ ตอนนี้



....จุดประสงค์ที่มาจริง ๆ ของเขาคืออยากทำตามสัญญาของน้องกานดาต่างหาก


ถ้าใครยังจำได้ก่อนขากลับจากค่าย
เขาเคยบอกกับน้องไว้ว่าจะกลับมาเยี่ยม
ถึงตอนนั้นจะรับปากไว้อย่างปวดใจเพราะไม่รู้จะมีโอกาสกลับมาอีกเมื่อไร
แต่เขาเป็นลูกผู้ชายพอ ในเมื่อสัญญาไว้แล้วยังไงก็ต้องทำตาม
ประจวบเหมาะกับที่คมสันได้รับมอบหมายงานจากอาจารย์
ให้กลับไปตรวจดูโรงเพาะเห็ด และอาคารที่ทาสีใหม่
เพื่อใช้รายงานผลประเมินค่ายวิศวะอาสาในปีต่อไป

คนดีมีจิตอาสาอย่างคมเลยต้องใช้ช่วงเวลาตอนปิดเทอมใหญ่
หลังจากสอบไฟนอลเคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
นั่งรถกลับไปอ.ด่านซ้าย จ.เลย อีกครั้ง

คมเลยมาชวนปลายฟ้าตามประสาคนมีน้ำใจ
และแน่นอนเมื่อเขาเห็นโอกาสที่จะทำตามสัญญาแบบนี้ก็ต้องรีบคว้าไว้


แต่ก่อนจะรีบ...

...เต่าอย่างปลายมันต้องมีการลังเลเล็กน้อยเดี๋ยวจะไม่สมคอนเซปต์


เขาพยายามชวนคนอื่นให้ไปเป็นเพื่อนด้วย
คนแรกที่ปฏิเสธเลยคือไอ้เกมส์ มันให้เหตุผลว่าจะกลับบ้าน
ส่วนบอลล่าบอกว่าไม่อยากจะไปเป็นก้างขวางคอ
คนอื่น ๆ เลยพากันไม่สนใจ
ปล่อยให้คำชวนของเขาละลายหายไปกับอากาศ


หลังจากนอนคิดไปคิดมาสามวันสามคืน
สรุปศักดิ์ศรีที่อยากทำตามสัญญาก็ชนะ
เขาเลยตามคมสันมาขึ้นยอดดอยด้วย


ความจริงไม่ใช่เขารังเกียจหรือไม่อยากมากับคมหรอก
แต่พออยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้
มันจะเกิดอาการแปลก ๆ ขึ้นมาทุกที
โดยเฉพาะตอนที่มันชอบเอาหน้าคมเข้มเข้ามาใกล้ ๆ
พร้อมกับเสียงถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยจนสัมผัสได้


“ปลายกินยาแก้เมารถอย่างเดียวไม่พอเหรอ”


“กะ...ก็เราอยากเผื่อไว้ก่อน”


เขาตอบคำเสียงตะกุกตะกัก
รู้สึกอายอยู่เหมือนกันที่ตัวเองดันทำตัวอ่อนแอ

เอ้า! ก็เป็นผู้ชายแล้วมาเมารถอ้วกนี่มันไม่เท่ห์เลยสักนิดนี่ครับ

ส่วนไอ้หยูกยาน่ะ เด็กเภสัชอย่างเขามีไม่ห่างตัวอยู่แล้ว
แต่ที่มามอง ๆ พวกลูกอมหมากฝรั่งบ๊วยเนี่ยแค่อยากป้องกันเอาไว้ก่อน
กลัวยาหมดฤทธิ์หรือใช้ไม่ได้ผล จะได้มีเตรียมเผื่อเอาไว้แก้ฉุกเฉิน


คนที่มาด้วยกันพยักหน้าเข้าใจ
ก่อนจะเป็นฝ่ายเสนอทางแก้ไขที่คล้ายจะเข้าท่ามากกว่า


“ถ้าไม่ไหวหลับไปเลยก็ได้ เดี๋ยวถึงแล้วเราปลุกเอง”



...ก็แบบนี้แหละครับ
คมมักมีน้ำใจกับเขาเสมอ
และไม่ใช่แค่มีน้ำใจ พอยิ่งรู้จักคมมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขากลับค้นพบว่าคมมีทั้งความอ่อนโยน ความห่วงใย เป็นที่พึ่งพาได้



ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน...
ความสัมพันธ์ของเขาสองคนยังคงไม่ได้คืบหน้าไปไหน
อย่าว่าแต่จับมือ จูงแขน เกี่ยวก้อยสวีทหวานอะไรเลย
เจอหน้ากันยังแทบไม่ค่อยได้เจอเพราะเรียนอยู่คนละคณะ
มีบ้างที่โทรคุยกัน แต่ก็นาน ๆ ทีเพราะต่างคนต่างคุยไม่เก่ง
คุยได้สักพักกลายเป็นว่าเงียบไปทั้งคู่
ปล่อยให้เปลืองเงินค่าโทรศัพท์ไปเปล่า ๆ


...สุดท้ายเขาเลยปฏิบัติกับคมไม่ต่างอะไรจากเพื่อนทั่วไปคนหนึ่ง

กระนั้นยังดีที่มีเพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ ซึ่งเขาสัมผัสได้
มันเป็นช่วงเวลาแห่งความอุ่นใจที่รู้สึกเวลาคิดถึงกัน


และนั้นคือสิ่งยืนยันที่ทำให้เขาตระหนักชัดเจนว่า...


....คมพิเศษกว่าใคร ๆ




ปลายฟ้าจึงตัดสินใจทำตามคำแนะนำ
เดินขึ้นรถสองแถวไปโดยไม่ซื้อขนมอย่างอื่น
แค่เพียงกินยาแก้เมาและน้ำตาม
ก่อนคนขับจะพารถสี่ล้อขับเลี้ยวซ้ายขวาไปตามโค้ง
ไต่ไปยังยอดเขาที่อยู่สูงหลายกิโลเมตร


แรก ๆ เขาก็พยายามสะกดจิตตัวเองให้จดจ่อกับวิวข้างทาง
ชมต้นไม้ใบหญ้าบ้าง เพื่อให้ลืมไอ้โค้งนรกที่ทิ้งระยะทุก  ๆ ร้อยเมตร
แต่ช่วงหลังสงสัยจะเพ่งสมาธิมากไปหน่อยจนสมองล้า
ประกอบกับฤทธิ์ยาแก้เมาคงได้ผลเกินคาด
จึงทำให้ดวงตากลมค่อย ๆ ปรือลงก่อนผล่อยหลับไปในที่สุด

...

..

.

...ปลายฟ้ารู้สึกตัวอีกทีจากแรงสะกิดเบา ๆ ตรงไหล่
พร้อมกับเสียงเรียกชื่อคล้ายได้ยินจากที่ไกล ๆ



“ปลาย...ปลาย...ตื่นเถอะ ถึงแล้ว...”


เจ้าของชื่อปรือตาขึ้นมาง่วง ๆ
สิ่งแรกที่เห็นคือภาพในมุมมองแปลกตา
พร้อมกับสติที่เริ่มเข้ามาสู่สมองอย่างไม่เต็มร้อย

...อ้าว...ถึงแล้วเหรอวะ
แล้วทำไมต้นไม้มันเอียงตะแคงขวาแปลก ๆ

เอ๊ะ...หรือว่ารถมันเลี้ยวโค้งอยู่

แต่ก็ไม่นี่...รถจอดนิ่งสนิทขนาดนี้

แถมไอ้อาการปวดต้นคอเมื่อย ๆ นี่มันคืออะไร
หรือนอนผิดท่า ขนาดมีหมอนนอนรองแล้วยังปวดอีก


...เฮ้ย! เดี๋ยวก่อน...เขาเอาหมอนมาด้วยเหรอวะ!



คนที่เพิ่งคิดได้รีบกระเด้งศีรษะขึ้นมาจากวัตถุที่เรียกว่าเป็นหมอนทันที
และทันเห็นได้เจ้าของหมอนอมยิ้มบาง ๆ
เอ่ยคำเชื้อเชิญตามประสาคนมีน้ำใจอีกครั้ง


“จะพิงต่อก็ได้ เราไม่ว่าหรอก
แต่ต้องลงไปนั่งพิงข้างล่างนะ
เพราะเดี๋ยวรถต้องกลับไปรับคนต่อแล้ว”



..โห...ขอบคุณมากครับคุณพี่
แต่ไม่ต้องมีจิตอาสาขนาดนั้นก็ได้มั้ง
แค่นี้ก็อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว

นี่หมายความว่าเขานั่งหลับพิงไหล่คมจนขึ้นมาถึงที่เลยหรอ
มันก็ช่างแสนดีไม่มีไม่มีปลุกเลยสักคำ
ปล่อยให้เขายึดไหล่ไว้ นอนน้ำลายยืดใส่เสื้อไปบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้
แล้วยังมาบอกให้เขาพิงต่อได้อีก
ถ้าเกิดเขาหลับไม่ตื่นขึ้นมาจริง ๆ
สงสัยคนมีน้ำใจอย่างมันคงอุ้มเขาเดินไปส่งด้วยแน่ ๆ


...แค่คิดหน้าของคนที่ตื่นเต็มตาก็ชักร้อน ๆ
ปลายฟ้าจึงรีบแบกกระเป๋ากระโดดลงจากรถ
ก่อนเดินจ้ำไปตามทางโดยพยายามไม่หันไปสบตากับคนที่เดินมาขนาบคู่กัน



...เป้าหมายแรกไม่ใช่ที่โรงเรียน
แต่คือการเดินเลยไปไกลกว่านั้น
เพราะพวกเขาตั้งใจจะมาที่นี่แบบวันเดียวกลับ
ตอนนี้บ่ายสองแล้ว แวะเยี่ยมบ้านน้องกานดาให้หายคิดถึงสักชั่วโมง
แล้วตอนบ่ายสามค่อยวนกลับไปยังโรงเรียน
ใช้เวลาถ่ายรูปพูดคุยกับอาจารย์ใหญ่
กว่าจะเสร็จคงทันรถเที่ยวสุดท้ายลงดอยพอดี


หลังเดินจากท่ารถมาพักใหญ่
เขาสองคนจึงมาหยุดยืนอยู่หน้าบ้านหลังเล็ก
ที่โอบล้อมด้วยบรรยากาศเงียบสงบของธรรมชาติ
ก่อนปลายฟ้าจะส่งเสียงทักไปตามมารยาท


“สวัสดีครับ มีใครอยู่มั้ยครับ”


คนที่เดินออกมาคนแรกไม่ใช่เจ้าของบ้าน
หากแต่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชะเง้อหน้าแอบมองอยู่ตรงประตู
แล้วเมื่อดวงตากลมวาววับเห็นว่าเป็นใคร
ร่างเล็กจึงเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มกว้าง
รีบวิ่งพุ่งตัวเข้ามาหาพร้อมเสียงเรียกอย่างดีใจ


“พี่ปลาย!”


เขาย่อตัวอ้าแขนรับสวมกอดน้องกานดาอย่างรู้งาน
ลุกขึ้นอุ้มเด็กห้าขวบไว้แล้วร้องถามด้วยความคิดถึงไม่แพ้กัน


“เป็นไงบ้างครับ คนเก่ง
พี่กลับมาหาแล้วนะ รอนานมั้ย”


คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้มไม่เปลี่ยน
จนคนอุ้มอยากจะหอมแก้มยุ้ย ๆ นั้นอย่างหมั้นเขี้ยว
แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร เจ้าของบ้านที่แท้จริงกลับเดินออกมาเสียก่อน


“อ้าว...สวัสดีจ๊ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไปไงมาไงล่ะจ๊ะเนี่ย”


หญิงสาววัยใกล้สามสิบมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นแขกผู้มาเยือน
ซึ่งเขาสองคนก็รีบยกมือไหว้สวัสดีก่อนอธิบายความ


“ผมแวะมาเยี่ยมน่ะครับ คิดถึงน้องแล้วก็เอาของมาฝากคุณน้าด้วย”


ปลายฟ้าพยักหน้าไปทางคมสัน
ซึ่งเจ้าตัวเตรียมหยิบถุงที่ถือไว้ส่งมาให้เป็นของฝาก

...อันนี้เป็นไอเดียวของคมเองที่บอกให้เขาเอาของมาให้คุณน้า
ตอบแทนความมีน้ำใจเมื่อครั้งคุณน้าฝากข้าวโพดต้มมากมายมาให้ชาวค่าย
เขาเองก็เห็นด้วยอย่างไม่คัดค้าน
เลยเลือกซื้อจำพวกของทะเลตากแห้งประเภทปลาหมึก กุ้ง หอยมาให้
เพราะแถวยอดดอยคงหายากและราคาแพงกว่าแถวมหาลัยเขาอยู่มาก


คุณน้ารับถุงของฝากไป พร้อมกับคำบ่นอย่างเกรงอกเกรงใจ


“โอยย...ไม่เห็นต้องลำบากเลย แต่ก็ขอบใจมากนะจ๊ะ
มา ๆ เข้ามานั่งก่อนเดี๋ยวจะน้ำท่าให้ดื่ม
คงจะเหนื่อยล่ะสิ แล้วนี่ปิดเทอมกันรึยังจ๊ะ”


“ปิดแล้วครับ พวกเราเลยว่าจะไปหาครูใหญ่
แล้วแวะมาดูโรงเรียนที่เพิ่งสร้างไปด้วยครับ”


คมสันเป็นฝ่ายอธิบาย
โดยมีปลายฟ้าเดินตามเข้ามาในบ้านพลางอุ้มน้องกานดามาด้วย
หากแต่ยังไม่ทันได้นั่งให้เรียบร้อย
คุณน้ากลับชะงักหมุนตัวกลับมาเหมือนนึกขึ้นได้


“เอ๊ะ...แต่วันนี้ผู้ใหญ่เขาพาลูกบ้านไปประชุมในอำเภอนี่
ครูใหญ่กับแฟนน้าเขาก็ไปเหมือนกันคงกลับมาค่ำ ๆ หน่อย”



...อ้าว...ซวยแล้วครับ

ข่าวใหม่สดๆ ร้อน ๆ ทำเอาคนสองคนหันมองหน้ากัน
ครูใหญ่จะกลับค่ำแค่ไหนพวกเขารอได้
แต่รถที่จะลงดอยเนี่ยสิ มันไม่อยู่รอเขาหรอก


ถ้าไม่เจอครูใหญ่แล้วใครจะมาเป็นคนตอบเรื่องประเมินผลค่ายอาสา
ทางเดียวคือต้องขึ้นมาถามใหม่เอาวันพรุ่งนี้
แล้วนี่เขาจะต้องมาผจญกับไอ้โค้งนรกอีกรอบเหรอวะ!!


ปลายฟ้านึกอย่างสยอง
มิหนำซ้ำเผลอ ๆ เขายังอาจได้นอนหมอนพิเศษแก้เมารถเหมือนวันนี้ก็ได้
แบบนั้นคงได้อายซ้ำอายซ้อนจนไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรไว้แน่
สีหน้าลำบากใจของเขาคงแสดงให้เห็นชัด
จนเจ้าของบ้านต้องเอ่ยถามขึ้นมา


“แล้วคืนนี้นอนกันที่ไหนล่ะจ๊ะ”


“เออ...ว่าจะลงไปพักในเมืองน่ะครับ”


คมสันตอบไปตามแพลนที่ได้วางเอาไว้
เพราะหาโรงแรมหรือเกตเฮ้าท์ถูก ๆ แถวในเมืองจะง่ายกว่า
แล้วพรุ่งนี้ช่วงสาย ๆ ค่อยตีรถกลับไปมหาลัย
แต่ดูเหมือนแผนที่วางไว้จะล่มเอากลางทางจนไปต่อไม่ถูก


“ถ้างั้นคืนนี้มาพักกับน้าก่อนก็ได้
จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาเสียเวลา”


คำเชิญชวนอย่างมีไมตรีทำให้คนเจอปัญหาพบกับที่พึ่งพิง
แต่ถึงอย่างนั้นปลายฟ้ากลับปฏิเสธตามเหตุผลเดิม ๆ ที่ชอบคิด


“จะดีเหรอครับ พวกเราไม่อยากรบกวน”


“โอยย ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ดีเสียอีก
ลูกคนนี้เขาจะได้มีเพื่อนเล่นใหม่
...ดูสิ...เกาะแจไม่ยอมปล่อยอีกแล้ว”


ท้ายประโยคเอ่ยแซวเรียกเสียงหัวเราะให้วงสนทนา
ซึ่งดูเหมือนเด็กหญิงที่ฟังจะยิ่งกอดปลายฟ้าแน่น
สนับสนุนคำพูดของแม่อย่างเต็มที่



ความเอื้ออาทรที่มักมีให้เสมอทำให้เขารู้สึกตื้นตัน
และรับรู้ได้ในนาทีนั้นว่า...


...น้ำใจตอบแทนกันด้วยน้ำใจเช่นนี้นี่เอง



คมสันหันมาหาเขาคล้ายถามความเห็น
ซึ่งเขาก็พยักหน้าตอบกลับ
ปล่อยให้คมพูดแสดงความขอบคุณที่รู้สึกจากใจจริง


“ขอบคุณมากครับ ถ้ายังไงคืนนี้พวกเราขอรบกวนด้วยนะครับ”


คนชวนยิ้มรับคำ แล้วจึงเดินไปหาน้ำท่ามาให้แขกดื่ม
ก่อนจะกลับมานั่งคุยถึงเรื่องราวสัพเพเหระต่าง ๆ มากมายอย่างเพลิดเพลิน
โดยมีปลายฟ้าคอยเล่นกับน้องกานดาเป็นระยะ ๆ


และเนื่องจากเหลือเวลานานกว่าที่คิด
เขาเลยถือโอกาสแวะไปบ้านน้องแก้มซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน
เอาของฝากเล็กน้อยไปให้คุณยาย
และแน่นอนว่ายายย่อมมีของตอบแทน
เป็นการชวนตำน้ำพริกให้พวกเขาได้ลาภปาก


...ครั้งนี้ไม่มีปฏิเสธครับ
เพราะเขาอยากได้สูตรมานานแล้ว
จะจดกลับเอาไปทำกินเองบ้าง
จากที่เล่นกับน้อง ๆ เลยกลายสภาพเป็นลูกมือครัวชั่วคราว
ช่วยคุณยายออกแรงตำน้ำพริกได้ถ้วยใหญ่ ๆ เป็นมื้อเย็นวันนี้
ซึ่งพวกเขาต้องขอฝากท้องไว้กับคุณแม่น้องกานดา



และกว่าสามีของคุณน้าจะกลับมาบ้าน
นาฬิกาก็ตีบอกเวลาเกือบสองทุ่มแล้ว
พวกเขาสวัสดีทักทายเจ้าของบ้านซึ่งดูจะแปลกใจไม่น้อยที่เห็นแขกมาเยี่ยม
แต่พอพวกเขาอธิบายถึงเหตุผลก็แย้มยิ้มต้อนรับอย่างยินดีไม่แพ้กัน
ซ้ำยังแอบมาชวนให้ชิมเหล้าผลไม้หมักสูตรเด็ดที่เจ้าตัวทำเอง
จนโดนคุณน้าเอ็ดดุเข้ายกใหญ่หาว่าทำเด็ก ๆ เสียคน
ก่อนจะไล่ให้เด็กโข่งอย่างพวกเขาไปอาบน้ำ
แล้วจัดการขนเอาฟูกพร้อมหมอนสองใบมาวางเตรียมไว้ในห้องรับแขกเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง
ทว่าเมื่อคุณน้าหันมาพิจารณาขนาดตัวของแขกสองคนกลับมีสีหน้าลังเลลำบากใจ


“ขอโทษนะจ๊ะ ฟูกมีอยู่ผืนเดียว ไม่รู้จะนอนกันได้มั้ย”


“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็ดีมากแล้ว
พวกผมนอนเบียดกันได้ ขอบคุณมากนะครับ”


ปลายฟ้ารีบบอกคนเอื้ออารีอย่างเกรงใจ
ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังคงลังเล หากแต่พอมองสีหน้าที่ยืนยันของเขาจึงไม่คัดค้าน
ปล่อยให้แขกได้พักผ่อนตามสบาย กระนั้นก็ยังกำชับว่ามีอะไรขาดเหลือก็บอกได้เลย


ปลายฟ้าพูดขอบคุณเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนเจ้าของบ้านจะปิดประตูห้องเดินออกไป
ตอนนี้จึงเหลือเพียงเขากับคมสันสองคนเพียงลำพัง



ดวงตากลมเหลือบมองฟูก
ซึ่งดูเหมือนคงจะต้องนอนเบียดกันจริง ๆ อย่างที่บอก
เพราะไซต์ของเขาสองคนไม่ใช่ธรรมดา
โดยเฉพาะกับคมสันที่รูปร่างสูงใหญ่กว่าเขา
คงต้องนอนแทบจะชิดติดกันแน่ ๆ


แค่คิดจำลองสถานการณ์...
อยู่ ๆ ใบหน้ากลับเห่อร้อนขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ



...เฮ้ย!! เขาก็เคยนอนกับคนอื่นมาตั้งเยอะแยะ
อย่างตอนไปเข้าค่ายอาสาก็นอนเบียดกับไอ้เกมส์ยังไม่เห็นเป็นไรเลย
แล้วนี่จะมาตื่นเต้นอะไรกันหนักหนาล่ะวะเนี่ย!!



“นะ...นอนเถอะ ง่วงแล้ว”


ปลายฟ้ารีบข่มความฟุ้งซ่าน
เดินไปล้มตัวนอนยึดฟูกด้านขวาหันหลังให้กับอีกฝั่ง
ได้ยินเสียงคมเดินไปมุมห้องเพื่อปิดสวิสต์ไฟ
แสงสว่างดับลงเหลือเพียงความมืดราง ๆ
ก่อนเขาจะรับรู้ถึงแรงขยับหยุดอยู่ตรงฟูก
คล้ายร่างสูงนอนลงข้าง ๆ แล้วเช่นกัน


คนแกล้งง่วงพยายามข่มตาตัวเองให้หลับ
แต่เหมือนยิ่งฝืนกลับยิ่งไม่เป็นผล
ท้ายสุดจึงเผลอลืมตามองท่ามกลางความมืดสลัว



...จากตรงนี้
ผ่านบานหน้าต่างที่เปิดไว้ให้ลมเข้า
เขาเห็นพระจันทร์เดือนแรมเป็นเสี้ยวเหมือนกำลังยิ้ม
ได้ยินเสียงจิ้งหรีดร้องไกล  ๆ
บรรยากาศสงบเงียบจนแทบไม่น่าเชื่อว่า
เขาจะได้กลับมานอนอยู่กลางป่าเขาตรงนี้อีกครั้ง



...ผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่จบค่ายวิศวะอาสา
แต่สำหรับเขาให้ความรู้สึกเหมือนมันเพิ่งผ่านพ้นไปไม่นาน
มีความทรงจำดี ๆ เกิดขึ้นมากมายตลอดระยะเวลาที่อยู่ร่วมกันกับเพื่อน


...ได้เจอทั้งมิตรภาพ

...ได้ซาบซึ้งกับความมีน้ำใจของชาวบ้าน

...ได้หัวเราะสนุกไปกับน้อง ๆ ที่โรงเรียน



และที่สำคัญเขายังได้พบกับ ‘สิ่งพิเศษ’



...จากคนคนหนึ่งที่อยู่เคียงข้างเขา



หากไม่ใช่เพราะโชคชะตาบันดาลมาให้เขาจับบัดดี้ได้คม
ป่านนี้เขาอาจจะไม่ได้สนิทกันจนความสัมพันธ์พัฒนามาไกล


นึกแล้วก็ตลกดี...
คนมีต้องหลายสิบคนแต่ท้ายที่สุดพวกเขากลับมาจับได้กันเอง
แถมยังเข้าใจผิดว่าบัดดี้ตัวเองเป็นดิวด้วย
พอเฉลยมาแล้วเล่นเอาเขาถึงกับเอ๋องงไปเลย
แต่คงไม่ใช่มีแค่เขา...
เพราะต้องเรียกว่าคนในค่ายทุกคน
ต่างก็พากันเดาผิดจนหน้าแตกกันครบถ้วน



ภาพความทรงจำในวันนั้น
ทำให้คนที่ย้อนคิดเผลอหลุดหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ
กระทั่งคนที่นอนอยู่เคียงข้างได้ยินจนต้องเอ่ยถาม


“มีอะไรเหรอ”


และนั้นแหละถึงทำให้ปลายฟ้ารู้สึกตัว
....ตั้งใจว่าจะนอนนิ่ง ๆ แท้ ๆ
แต่ดันเผลอส่งเสียงประหลาดออกไปซะได้
ดีที่ว่ามันมืดซ้ำยังนอนหันหลังให้อีกฝ่าย
เขาเลยเลี่ยงหลบหน้าซ่อนความอาย
แต่น้ำเสียงที่บอกออกไปก็ยังมีลักษณะขัด ๆ เขิน ๆ


“ปะ...เปล่า... เออ...เราแค่นึกถึงเรื่องเก่า ๆ นิดหน่อย”


“หืม เรื่องอะไรล่ะ”


ร่างสูงย้อนถามขึ้นมาอีกครั้ง
เขาลังเลเล็กน้อยกลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ
ทว่าสุดท้ายก็กลั้นใจบอกความจริง


“เรื่องตอนไปค่ายที่เรากับคมจับได้บัดดี้กันเอง”


คนฟังไม่ได้หัวเราะหรือแสดงท่าทีตลกอะไรซ้ำยังพูดตอบรับง่าย ๆ



“อ้อ...ถ้าเรื่องนั้น เรารู้อยู่แล้วล่ะว่าปลายจับได้เรา”



...ห่ะ


...เดี๋ยวนะ รู้อยู่แล้ว....


เฮ้ยยย!!  หมายความว่ายังไง!!


ปลายฟ้ารีบผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ
แทบจะหันมาเขย่าคนที่นอนนิ่งอยู่ข้างตัว
ตะโกนถามเสียงดังลั่น


“คมรู้ได้ยังไง!! ทำไมถึงรู้ล่ะ!! แล้วรู้ตั้งแต่เมื่อไร!!”


คนถูกถามเปลี่ยนมาลุกขึ้นนั่งเช่นเดียวกัน
ก่อนเฉลยความลับให้คนมึนงงได้คลายความข้องใจ


“ก็ตอนปลายให้ข้าวโพดมา เราจำลายมือปลายที่อยู่บนถุงได้”



เออ...ใช่ตอนนั้นเขากลัวว่าคมจะไม่กินข้าวโพดที่คุณน้ามาฝากเลยเขียนข้อความไว้ให้


ข้อความเลี่ยน ๆ ว่า ‘คิดถึงและเป็นห่วงนะ’


...คิดแล้วก็ยังน่าอายไม่หาย

แต่เดี๋ยวประเด็นสำคัญคือแล้วมันเคยไปเห็นลายมือเขาตอนไหน
จำได้ว่าเคยเขียนให้เห็นครั้งเดียวตอนลงรายชื่อเขาค่ายตั้งนานแล้ว
นี่อย่าบอกนะว่ามันจะจำลายมือเขาได้แม่นขนาดนั้น



“คมเห็นลายมือเราแล้วจำได้เลยเหรอ”


“อืม ลายมือปลายสวยดีเราเลยจำได้”


คมสันพยักหน้ารับ

...ไม่อยากบอกปลายหรอกว่าไม่ใช่แค่ลายมือ
ความจริงแล้วเขายังจำรายละเอียดของปลายได้เยอะกว่านี้
เพราะพอเผลอตัวก็มักจะชอบมองปลายอยู่เรื่อย
บ่อยจนขนาดเพื่อนของเขาจับได้


เขาก็เพิ่งรู้มาก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเหมือนกันว่า
ดิวมันตั้งใจจะแกล้งเขาเมื่อตอนเล่นบัดดี้
เพราะมันเดาได้ว่าเขาเป็นบัดเดอร์ปลายฟ้าอยู่แล้ว
เห็นมันบอกว่าเจอเขาตอนเก็บต้นสะเดามาใส่ถุงพอดี
แล้ววันต่อมาดันมีข่าวกระจายไปว่าปลายฟ้าเป็นคนได้ต้นสะเดาถุงนั้น
ทุกอย่างเลยเข้าทางลงล็อค ไม่ต้องสืบต่อให้ยุ่งยาก



...เรื่องนี้เขาไม่ได้บอกต่อให้ปลายรู้
ไม่ใช่เพราะอยากปิดบัง
แต่เพราะมันพิสูจน์ได้ว่านับตั้งแต่ตอนนั้น
เขาก็เริ่มที่จะเอาใจใส่ปลายโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว


แล้วกับปลายเองล่ะ...

...จะสนใจเขาตั้งแต่ตอนนั้นด้วยรึเปล่า


ความสงสัยในใจทำให้คมสันจึงแกล้งถามอีกฝ่ายกลับไปบ้าง



“แล้วตอนเราเอายอดสะเดาไปให้ปลายจำลายมือเราไม่ได้เหรอ”


ทว่าคำตอบจากคู่สนทนากลับเป็นเสียงบ่นอย่างเซ็ง ๆ


“โห...ของอย่างนั้นใครจะไปจำได้
เรายังไม่รู้เลยว่าลายมือคมเป็นยังไง”


ความจริงที่ได้ฟังทำเอาคมสันถึงกับใจหดฟีบ
แต่ประโยคต่อมาของปลายฟ้ากลับทำให้หัวใจของเขาพองโตขึ้นอีกครั้ง


“แต่ถ้าเป็นหน้าคมอ่ะ
เราจำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอที่ร้านหมูกระทะแล้ว
ตอนนั้นไว้หนวดด้วยใช่มั้ย
หน้าโคตรดุเลย เรากลัวแทบตาย”


...ถึงจะจำลายมือไม่ได้
แต่อย่างน้อยปลายก็จำหน้าเขาได้ตั้งแต่ครั้งแรก


คมสันจึงย้อนกลับไปในความทรงจำของเหตุการณ์วันนั้น
แล้วจึงอธิบายเพิ่มเติม


“อ้อ พอดีเราเป็นพี่ว๊ากรับน้องน่ะ
เขาเลยบังคับให้ต้องไว้หนวด”


ปลายฟ้าเลิกคิ้วหันมามองหน้าคนพูดทันทีที่จบคำ


...คมเป็นพี่ว๊ากเนี่ยนะ
ถึงบุคลิกจะให้เพราะตัวสูง หน้าโฉด ตาคมดุ
แค่ยืนเฉย ๆ ก็ทำให้น้อง ๆ กลัวหัวหดกันแล้ว
แต่พอรู้จักกันจริง ๆ เขาแทบไม่เคยเห็นคมตวาดใส่ใครคนอื่นเลย
แล้วแบบนี้จะไปเป็นพี่ว๊ากได้จริง ๆ เหรอ


อย่าบอกนะว่า...



“อย่าบอกนะว่า คมแค่ยืนคุมน้องเฉย ๆ
แล้วคอยดูว่าน้องคนไหนไม่ไหวถึงพาออกไป”


ปลายฟ้าพูดคาดเดาออกไปทันทีจากการวิเคราะห์ลักษณะนิสัย
และคล้ายกับคำดังกล่าวจะถูกเผง
เพราะเขาได้ยินเสียงคมร้องถามอย่างงง ๆ


“ปลายรู้ได้ยังไง”


...น่าน...ว่าแล้วเชียว
ก็เพราะคมมีน้ำใจแบบนี้ไงทำไมเขาจะไม่รู้
สงสัยไอ้ที่ได้รับตำแหน่งพี่ว๊ากมานี่คงมีคนขอให้ช่วยแน่ ๆ


...น่าแปลกเหมือนกัน
ทั้ง ๆ ที่รู้จักกันไม่นานแต่เขากลับมองการกระทำของคมออก
ยิ่งคุยกันถึงเรื่องเก่า ๆ มากมายที่ผ่านเขามาระหว่างเขาสองคน
ก็ยิ่งทำให้สัมผัสได้ว่า....


...พวกเขาใส่ใจกันและกันมากมายเพียงไร



ความรู้สึกประหลาดที่ก่อเกิดเต็มตื้นขึ้นมาคล้ายมีผีเสื้อบินวนเวียน
แต่คราวนี้ไม่ใช่ในท้อง กลับกลายเป็นจมูกของเขา
ที่รู้สึกว่ามันจะ...ฮะ...ฮัด.....



“ฮัชชิ่ว!”


ปลายฟ้าจามเสียงดังอย่างไม่มีกั๊ก
แม้จะเข้ากลางเดือนมีนาคมแล้ว
แต่อากาศบนยอดดอยก็ยังคงเย็นกว่าปกติอยู่ดี
แถมที่นอนฝั่งเขาดันมาอยู่ใกล้หน้าต่าง
ซ้ำยังลุกขึ้นมานั่งคุยปล่อยให้ลมโกรกตั้งนาน


“ปลายหนาวเหรอ เอาผ้าห่มเราไปอีกผืนมั้ย”


คนมีน้ำใจรีบเสนอความช่วยเหลือทันที
และแน่นอนที่เขาย่อมยึดหลักเกรงใจตอบปฏิเสธ


“มะ...ไม่เป็นไร ห่มไปเถอะ เดี๋ยวคมก็ไม่สบายหรอก”


ร่างสูงนิ่งเงียบไปคล้ายกำลังใช้ความคิด
ก่อนจะพูดเสนออย่างมีน้ำใจขึ้นมาอีกครั้ง


“งั้นเราช่วยทำให้อุ่นขึ้นมั้ย”


ปลายฟ้ากำลังผ้าคว้าห่มเตรียมล้มตัวนอน
แต่กลับชะงักไปเมื่อได้ยิน
คมจะช่วยอะไรหรือมันจะลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างให้
เขาขมวดคิ้วงงพลางเอ่ยถาม


“ช่วยยังไง”


คำตอบมีเพียงรอยยิ้มของคมสัน
ก่อนปลายฟ้าจะรับรู้ถึงแรงที่ดึงตัวเขาล้มลงไปนอนอย่างรวดเร็ว
ไม่ทันแม้แต่จะส่งเสียงอุทานอย่างตกใจ
รู้ตัวอีกทีหน้าของเขาก็แนบสนิทอยู่ที่อกกว้างของอีกฝ่าย
ซึ่งรับหน้าที่เป็นหมอนใช้สองมือกอดเขาจนแนบชิด
พร้อมกับถ้อยคำกระซิบข้างใบหูสั้น ๆ




“อุ่นรึยัง”






...ไม่ใช่แค่อุ่น


แต่ตอนนี้เขาร้อน...


...ร้อนลามไปทั้งหน้า



โอยยย....แล้วจะให้เขาตอบไปว่ายังไงเล่า!!

อยู่ ๆ มันก็มากอดเฉยเลย
ปลายฟ้าเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะคร้าบบบ!!
มาทำกันแบบนี้ไม่อายก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว


แต่ถ้าจะให้พูดกันตามตรงแล้ว
ความจริงเขาก็รู้สึกอุ่นอยู่เหมือนกัน


เป็นความอบอุ่นที่รับรู้ได้ตรงหัวใจ...


...เหมือนกับที่เขาได้ยินเสียงหัวใจของคนที่อยู่ด้านล่างนี้เช่นเดียวกัน



ปลายฟ้าขยับศีรษะเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของจังหวะหัวใจ
แม้มีเพียงความมืดสลัวเลือนราง
ทว่าเขากับยังคงเห็นดวงตาคมซึ่งทอดมองมาอย่างชัดเจน
พร้อมกับสิ่งที่สะท้อนถึงความจริงใจโดยไม่ปิดบัง
คล้ายจะดึงดูดให้ตัวเขาจมลึกหายลงไปอย่างไม่อาจทัดทาน
ได้แต่ปล่อยให้แววตาคู่นั้นเข้าใกล้เรื่อย ๆ
จนไม่สามารถต้านทานไว้ได้


ปลายฟ้าปิดเปลือกตาลงด้วยความยินยอม
สิ่งสุดท้ายที่รับรู้ คือ สัมผัสของลมหายใจอุ่น ๆ
และบางสิ่งจรดลงบนริมฝีปากเขา


...แผ่วเบา


...นุ่มนวล



ทิ้งค้างไว้ให้เก็บซึมซับทุกความรู้สึก
ก่อนเขาจะเป็นฝ่ายผละออกห่าง
มุดตัวลงไปนอนแนบกับอกกว้างของร่างสูงตามเดิม
โดยที่อีกคนก็ขยับให้พิงนอนอย่างสบาย
เอื้อมคว้าผ้าห่มมาคลุมกายคลายหนาว
พร้อมกับกอดเขาไว้หลวม ๆ อย่างอ่อนโยน
เพราะรู้ดีว่ากำลังนอนบ้านคนอื่น
เลยไม่กล้าทำอะไรไปไกลกว่านั้น



แต่เพียงเท่านี้....



....แค่ ‘จูบแรก’ สำหรับพวกเขาสองคน


ก็นับว่ามันมากมายเกินกว่าอะไรทั้งหมดแล้ว




ปลายฟ้าปิดเปลือกตาลง
ความง่วงเริ่มเข้าครอบงำทีละน้อย
กระนั้นก็ยังฝืนตัวเองขยับปากพูดงึมงำ


“ฝันดีนะคม”


แล้วเขาก็ต้องยิ้มออกมาทั้งที่หลับตา
เมื่อได้ยินเป็นถ้อยคำสุดท้ายจากคนที่ให้ไออุ่น



....ทั้งกายและหัวใจ



“ฝันดีเหมือนกัน ปลายฟ้า”




...


..



.




หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 24-01-2013 22:53:27
...

..

.


ช่วงสายแล้วที่พวกเขาสองคนเตรียมตัวลากลับ
หลังจากมาอาศัยบ้านของน้องกานดาเป็นที่นอนชั่วคราว


ปลายฟ้าหยิบมือถือมาถ่ายรูปเล่นกับน้องกานดาทิ้งท้าย
ตั้งใจไว้ว่าหากมีโอกาสหน้าก็จะขอกลับมาเยี่ยมใหม่
ตอนนี้ขอเก็บรูปไว้เยอะ ๆ ก่อน
เผื่อวันไหนคิดถึงจะได้หยิบขึ้นมาดูง่าย ๆ


เขากำลังแอ๊คท่ากับน้องได้ไม่กี่รูป
ร่างของคนที่มาด้วยกันกลับเดินผ่านประตูเข้ามาจากด้านหลังบ้าน
พร้อมของบางสิ่งในมือที่ทำเอาคนมองต้องขมวดคิ้วถาม

 
“อะไรน่ะ”


คมสันชูถุงที่หิ้วขึ้นมาให้อีกคนเห็นชัด ๆ
ภายในถุงพลาสติกเป็นกระถางบรรจุต้นไม้ต้นเล็ก
ใบสีเขียวสดเรียวยาวชูช่อขึ้นมาหลายใบจนแทบมิดลำต้น
มองผ่าน ๆ ไม่แตกต่างจากต้นหญ้าที่ปลูกอยู่ทั่วไปตามทาง
หากแต่ชื่อจริง ๆ ของต้นไม้ต้นนี้กลับทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง



“ก็ ‘ต้นข้าวโพด’ ไง
ตอนแรกคุณน้าเขาจะให้ข้าวโพดต้มมา
แต่เราขอเอาต้นมันมาปลูกเลยดีกว่า
จะได้คู่กับต้นสะเดาด้วย ปลายว่าดีมั้ย”



โห...อัจฉริยะจริง ๆ คิดไปได้ยังไง
ปลูกต้นข้าวโพดคู่กับสะเดาเนี่ยนะ
มีใครที่ไหนในโลกปลูกคู่กันบ้าง
มันไม่ใช่เหมือนกิ่งทองใบหยกนะถึงจับมาคู่กันได้
แล้วที่สำคัญ...


...ไอ้คนที่ต้องมาคอยดูแลต้นไม้พวกนี้มันคือเขาไม่ใช่เร๊อะ!!



แต่ไหน ๆ คมมันก็อุตส่าห์ไปขอมา
และคุณน้าก็ดันมีน้ำใจให้มาแล้วเลยไม่กล้าปฏิเสธ
พวกเขาสองคนจึงเอ่ยคำลาพร้อมคำขอบคุณซึ่งไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไร
เพราะซาบซึ้งกับความเอื้ออารีที่ได้รับมาอย่างเสมอ



แขกผู้มาเยือนโบกมือลาน้องกานดา
...รู้สึกเหงานิดหน่อย
แต่ก็ยังดีที่ถือว่าเขาทำตามที่สัญญาไว้ได้แล้ว
คราวนี้ถึงเวลาที่ต้องไปทำภารกิจซึ่งค้างไว้ให้เสร็จสิ้น
นั่นคือกลับไปโรงเรียนเพื่อประเมินผลงานของค่ายวิศวะอาสา



ปลายฟ้าเดินทอดน่องอย่างไม่รีบร้อนไปยังถนนดินสายเล็ก
สองข้างทางโอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่
ท่ามกลางลมโชยเบา ๆ และไอแดดอุ่น ๆ กำลังดี


...ทางเดินจากบ้านน้องกานดาห่างจากโรงเรียนหนึ่งกิโลเมตร

และเป็นทางเดินที่เขาเคยเดินคู่กับคนข้างกายมาก่อน



...เพียงแต่ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาในครั้งนี้มันแตกต่างกัน



ตอนเช้าที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าคมกอดไว้
มันรู้สึกจั๊กจี๊หัวใจแปลก ๆ


...ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อคืน

แต่เขาเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้น
คล้ายเป็นการยืนยันในความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปอีกขั้น


ทั้งยังเป็นการยืนยันกับตัวเองด้วยว่า...


...เขาเลือกคมมาไว้ตรงหัวใจมากแค่ไหน




ดวงตากลมเหลือบมองคนข้างกายที่เปลี่ยนมือหิ้วกระถางต้นไม้
เห็นก็พอจะเดาได้ว่าคงหนักเอาการอยู่ ไหนจะเป้ที่อยู่บนหลังอีก
เขาเลยอดไม่ได้ที่จะเสนอตัวขึ้นมาบ้าง


“ให้เราช่วยถือมั้ย”


“ไม่เป็นไร”


ร่างสูงคงจะติดเชื้อเกรงใจจากเขาเลยพูดปฏิเสธออกมา
ทว่าครั้งนี้เต่าอย่างปลายกลับไม่ยอมแพ้
ดึงมือที่ถือกระถางต้นไม้ของคมเอาไว้
ก่อนหันไปพูดย้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“ให้เราช่วยบ้างเถอะ คมช่วยเราเยอะแล้ว”


คมสันชะงักเงยหน้ามองสบนัยน์ตาที่ไม่หลบหนีเหมือนเช่นทุกที
กระนั้นมือใหญ่กลับไม่ปล่อยกระถางซ้ำยังจับมือของปลายไว้
แล้วจึงเปลี่ยนเป็นพูดประโยขอร้องขึ้นมาแทน


“งั้นช่วยอะไรเราหน่อยได้มั้ย”


ถ้อยคำที่ฟังดูคุ้นเคยในความทรงจำทำให้ปลายฟ้าสะดุด
รู้สึกเหมือนย้อนภาพกลับไปเมื่อคราวนั้น
ในข้อความคำขอซึ่งถูกพูดบนถนนสายนี้


...อย่าบอกนะว่าคมจะขอให้เขาช่วยยิ้มอีกน่ะ



ปลายฟ้าคาดเดาเอาไว้
แต่ก็ยังไม่วายย้อนถามกลับให้แน่ใจ


“อะไร”


คมสันยิ้มบาง นัยน์ตาคมแววระยับ ก่อนเอ่ยคำขอสั้น ๆ
ทว่ามีอานุภาพมากพอที่จะทำให้หัวใจของปลายฟ้าแทบหยุดเต้น....




“ช่วยรักเราที”






...ห่ะ



...อะไรนะ...



เมื่อกี๊มันว่าอะไร..



‘ช่วยรักเราที’ เหรอ?



กะ...กล้าพูดมาได้ยังไง



...อุตส่าห์มีน้ำใจแล้วยังมาขอให้ช่วยแบบนี้



โอยยย.....มันบ้ารึไงวะ!!



ปลายฟ้ารีบหันหน้าร้อน ๆ ของตัวเองหลบไปอีกทาง
กระถงกระถางไม่ต้องช่วยหิ้วกันแล้ว

เขารีบจ้ำเดินออกห่าง
ปล่อยให้คนที่พูดตรงไปตรงมาไม่มีอ้อมค้อมเดินตามหลัง


แต่ไม่รู้ทำไมทั้งๆ  ที่มันน่าหงุดหงิดโมโห
เขากลับยังเผลอยิ้มกว้างออกมา




...ก็เพราะคมมันบ้าไม่ใช่เหรอ

บ้าที่ไม่รู้ตัวเลยว่าไม่ต้องให้เขาช่วยหรอก

เพราะตอนนี้เขาเต็มใจเลือกคมไปหมดหัวใจแล้ว



...คมคือที่ดีที่สุดสำหรับเขา



คนที่คอยห่วงใยกันและกัน

คนที่คอยอยู่เคียงข้าง

คนที่ทำให้ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ



...และเป็นคนที่สอนให้เข้ารู้จักคำว่า ‘รัก’




ต่อจากนี้ไม่รู้ว่าเต่าอย่างปลายฟ้า...
จะเดินหน้าไปได้ช้าแค่ไหนบนถนนของความสัมพันธ์


แต่สิ่งหนึ่งที่เขาแน่ใจ...
คือเขาจะขอดูแลรักษาความรักครั้งนี้ให้นานมากที่สุด


เหมือนอย่างที่คอยดูแล ‘ต้นสะเดา’ และ ‘ต้นข้าวโพด’
ให้ได้เติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงมั่นคง
รอวันผลิดอกออกผลจนงอกงามเคียงคู่กันและกัน...



....ตลอดไป



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------




THE  END






เอาตอนพิเศษมาเสิร์ฟถึงที่เรียบร้อยแล้วค่า  :L2:
ตอนพิเศษนี้เป็นการเก็บรายละเอียดเล็กน้อยถึงปริศนาที่ไม่ได้บอกไประหว่างเนื้อเรื่อง
ทั้งเรื่องที่ทำไมคมถึงเดาได้ว่าปลายเป็นบัดเดอร์
และที่ดิวเองก็รู้เหมือนกันว่าคมจับได้ปลาย


และสุดท้ายคู่ของเต่าปลายก็ไปได้ไม่ไกลกว่าจูบอยู่ดี   :laugh:
แต่เอาน่าอย่างน้อยเขาก็สวีตหวานพอให้เห็นบ้าง
ว่าสุดท้ายแล้วปลายก็ตัดสินใจเลือกคมเป็นคนที่ดีที่สุดของตัวเอง
ถือเป็นการคลานช้า ๆ แต่มั่นคงจนเข้าเส้นชัยไปได้ล่ะเนอะ....พ่อเต่าน้อย  :-[


และแน่นอนถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย
...การประกาศซีรีย์ภาคใหม่


ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นอย่างขาดลอย
เลยขอหยิบยกคู่ ‘ดิว’ กับ ‘เกมส์’ มารอเป็นคิวถัดไปเลยค่า!! 
(เอ้า...ขอเสียงแม่ยกหน่อยเร้วววว  ฮิ้วววว!!!)  :impress2:


ซีรีย์ภาคถัดไปขอภูมิใจนำเสนอ...เออ....เออ....




ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



(http://i1081.photobucket.com/albums/j350/ploybutsara/tb163_zps0abc42a8.jpg)




จะขมควันบุหรี่หรือหวานน้ำตาลจากจูปาจุ๊บก่อนกัน

โปรดติดตามภาคต่อไปได้เร็ว ๆ นี้


ขอฝากเรื่องรักครั้งใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
 
:กอด1:

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 24-01-2013 22:54:22
กรี๊ดดดดดดดด มาต่อแล้ววววววว เย้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 24-01-2013 23:05:50
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 24-01-2013 23:35:25
 :L2: กรี๊ดดดดดดดด น้องเต่ามาแล้ววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-01-2013 23:46:27
เย้ๆ มาต่อตอนพิเศษแล้ว น่ารักจัง ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 24-01-2013 23:48:00
ตอนใหม่ชื่อน่าย้ากกกก

 :-[

ดิวเกมส์ ดิวเกมส์ ดิวเกมส์  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 25-01-2013 00:14:40
ดิว & เกมส์ !! กรี๊ด >.<
(วิ่งไปหยิบป้ายไฟมาโบก)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-01-2013 00:16:16
 :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 25-01-2013 00:35:26
 :o8: แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 25-01-2013 00:50:14
 :o8:
 :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 25-01-2013 01:15:26
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ประทับใจในความรักของสองคนนี้จังเลย
ประทับใจคมที่สามารถทำให้ปลายเลือกตัวเองได้
ขอบคุณคมที่หนักแน่น แม้จะแกว่งไปบ้างเพราะคำพูดของปลาย แต่สุดท้ายก็ยังรักและทนปลายได้
ปลายฟ้า คนช่างเลือก และคราวนี้ก็คงเลือกไม่ผิดแล้วล่ะ

อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ชอบที่สุดในซีรีส์นี้
รักน้อย ๆ ค่อย ๆ รักกัน ไม่ฉาบฉวย ไม่หวือหวา แต่มั่นคงและทนทาน
น่ารักจริง ๆ ครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 25-01-2013 02:29:34
อยากอ่านตอนพิเศษของน้องเต่าอีกสักตอนสองตอน
ปล.ดิวกับเกมส์ท่าจะสนุกอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 25-01-2013 04:34:13
น่ารักมากเลย
รอเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 25-01-2013 06:02:13
แค่เอาปากชนเองเหรอน้อยไปนิด แต่ก็น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 25-01-2013 06:17:01
กรี๊ดดดด กับตอนพิเศษมากค่ะ เอิ๊กๆๆๆ รอคอย ดิว กับ เกมส์นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 25-01-2013 10:19:26
แค่จูบก็ถือว่าเต่าปลายมีพัฒนาการขึ้นแล้วหน่า อิอิ :-[

รอดิวเกมส์ อิอิ เชียร์ขาดใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 25-01-2013 11:10:21
ตอนพิเศษน่ารักมากๆเลยยยยยย...ขอบคุณนะครับ

...รอเรื่องต่อไปครับ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 25-01-2013 11:21:48
อ่านไปก็ชักจะเขินแทนปลาย คมนี่มาขอให้ปลายช่วยรักคมที  :o8:
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 25-01-2013 12:08:49
โอ้ยยยยมันละมุนมากกกชอบจังอ่านเเล้วอุ่นๆหัวใจแทนหนูเต๋าปลายเลย
ชอบจังคมโรแมนติกแบบหวนๆดี กรี๊ดดดดดดด!!! เราคงคิดถึงคู่นี้มากๆเลย
เอาจริงๆเลยนะ อ่านอ่านคู่นี้ต่อตอนเป็นแฟนกันเเบบหวานๆหึงๆหรือทะเลาะกัน
อยากอ่านความคคืบหน้าต่อไปเรื่อยๆ แต่ก็จบลงจนได้ ฮือออแอบเสียดาย

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 25-01-2013 12:19:23
ช้าๆ เบาๆ สไตล์ปลาย

 :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 25-01-2013 12:22:04
 :กอด1:ปลายดีมากลูก รักนวลสงวนตัวดี คึ คึ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 25-01-2013 12:45:21
ชอบความรักค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปของเต่าน้อย
คมสันช่างจิตอาสาไม่เปลี่ยน
สองคนนี้ขอให้ยอดทองตระบองยอดเพชร
ว่าแต่เมื่อไหร่จะได้...กันน้อ
ล้มเต่าน้อยสุดๆ
555
สนุกมาก ขอบคุณคนเขียน
เอิ่ม...ขอชูป้ายไฟให้ดิวกับซิกาแร็ต
ฮิ้วววว ท่าจะมันสสสส์
กดบวกปล่อยเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 25-01-2013 15:04:47
น่ารักและอบอุ่นมากๆ ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 25-01-2013 16:49:02
กีสสสสสสสสสสสสส คมกับพ่อเต่าน้อย >/////////////<

รออ่านภาคต่อไปคะ

 :ped149: :ped149: :ped149:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 25-01-2013 17:06:08
แค่จูบเล็กๆ สำหรับคู่นี้ก็หวานแล้ว

รออ่าน ดิว-เกมส์ต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 25-01-2013 19:30:46
ก้าวไปอีกขั้นแล้วคู่นี้ หวานขนาดนี้อ่านแล้วมันชื่นใจ :-[


รอเกมส์ ดิวจ้า


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-01-2013 19:40:45
อ่านตอนนี้แล้วเหมือนคนบ้านั่งยิ้มจนแก้มแทบแตก
มันน่าร้ากกกกกกกกมากกกกกกกก  :L1:

รอรอเรื่องถัดไปถ้าจะมันส์ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 25-01-2013 20:21:49
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 >; P.71
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 25-01-2013 20:52:25
อั๊ยยะ จูปาจุ๊บกับซิกกาแร๊ต!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-01-2013 20:53:45
เนียนจูบเบาๆนะพี่คม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: Inamning ที่ 25-01-2013 22:56:53
จะรอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 25-01-2013 23:38:01
ตอนพิเศษมาแบบรักใส ๆ อมยิ้มจนเมื่อย
แต่ตอนต่อไปนี่ซิน่าสนใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: 9nawKIHAE ที่ 26-01-2013 02:28:06
ว้ากกกกก เฝ้ารอ ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต ด้วยใจจดใจจ่อ 
เป็นกำลังใจให้นะคะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 26-01-2013 10:06:06
เหยยย ได้แค่จูบนี่ก็พัฒนาไปไกลแล้วเน่อออออ 

จะบรรยากาศเป็นใจหรือว่าอะไรก็แล้วแต่เถอะนะ  รู้แต่ว่ากรี๊ดมากค่าาาา


คนที่ดีที่สุด มันไม่ได้จำเป็นว่าเค้าจะดีที่สุด ไม่มีข้อเสียเลยสักหน่อย
คนที่ดีที่สุดก็คือคนที่อยู่กับเราในทุกๆ สถานการณ์ คอยหัวเราะ ร้องไห้ไปด้วยกัน
แล้วก็ดีใจด้วยที่ปลายฟ้าเจอคนนั้นแล้ว เจอคนที่ดีที่สุดอย่างคมแล้ว
และเราก็รู้ว่าคมสันจะดูแลปลายฟ้าอย่างดีเหมือนกัน 

พูดไปแล้วก็ใจหาย เราก็แอบอยากตามคู่นี้ไปอีกเรื่อยๆ นะ
แต่ว่าคู่ต่อไปนี่น่าตามไปไม่น้อยกว่าคู่นี้เลยยย

โอ๊ย อยากอ่านแล้ว ดิวเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 26-01-2013 12:16:03
อ่านจบถึงภาคล่าสุดแล้ว เย้!!  :mc4:
โดยส่วนตัวชอบ ภาค  Sex on the beach กับ Whisky on the rocks มากกกก
โอ๊ยเมารักไปพร้อมกับบินหลาไปตลอดทุกตัวอักษรเลยเชียว ชอบเหลือเกินกับการที่ใช้้เพลง
มาช่วยบอกเล่าอารมณ์ในช่วงนั้นๆ ของตัวละคร แถมอินตามความคิดที่ว่าความรักน่ะบางทีก็
ไม่ต้องการเวลา ใครว่ารักที่นานหลายปีจะต้องมีคุณค่ามากกว่าเสมอ ชอบจริงๆ ชอบเรื่องนี้มาก!!!

ส่วนในภาคอื่นๆ ก็ต้องขอชื่นชมนักเขียนมากเลยสนุกมากทุกภาค ขอบอกว่ารักตัวละครของนักเขียนทุกตัวเลย
แล้วจะรอติดผลงานต่อไปอย่างเหนียวแน่นเลยจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 27-01-2013 18:15:41
วู้วๆๆๆ รอเรื่องใหม่ ชอบทุกเรื่องเลยน้า
ชื่อเรื่องใหม่อย่างเท่ห์อ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: Nile ที่ 28-01-2013 13:30:37
ตอนพิเศษน้องปลายน่ารักมากเลยค่ะ ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน แล้วมันจะมั่นคงเองค่ะ ^^
ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 28-01-2013 20:21:50
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ รักปลายและคมจริงๆ ปลายอึนได้ใจมาก ปกติเราเป็นคนเร็วนะ ทำอะไรโฉ่งฉ่างซุ่มซ่าม มาเจอปลายเข้า ตอนแรกอึดอัดใจกับความช้าของเต่าน้อยมาก แต่พออ่านไปสักหน่อย ความน่ารักผุดขึ้นมาแทนที่ ยิ่งเมื่อคมเข้ามา แล้วปลายก็หงุดหงิดกับคมที่เหมือนยัดเยียดอะไรๆให้ เราเลยยิ่งขำ แล้วก็ติดใจเต่าน้อยไปเลย

ตามอ่านจนจบ อยากบอกว่า อ่านมาทุกเรื่องเลย ชอบซีรีย์นี้มากมาย และขอบคุณที่จะมีตอนต่อไปแล้ว อยากอ่าน ดิว กับ เกมส์ เหมือนกันค่ะ คงน่ารักมาก ชอบดิวในภาคก่อนอยู่แล้ว  จะรอนะคะ ขอบคุณที่เขียนเรื่องน่ารักอย่างนี้ให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม [ต้นพิเศษ] 24/01/56 > P.71
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 28-01-2013 21:48:47
หวานหยดจนนาทีสุดท้าย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 10-02-2013 12:05:37
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต




แท่งที่ 1





แมลงสาบบิน ....รับได้


ตุ๊กแกเกาะข้างฝา ...รับได้


เจอผีระยะประชิด ...รับได้



แต่สิ่งที่คนอย่าง ‘นายกรีฑา วิไลเลิศ’ 
‘พี่ซีเกมส์’ สุดหล่อของน้อง ๆ
หรือ ‘ไอ้เกมส์’ สุดกวนตีนของเพื่อน ๆ



รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง ก็คือ....




....การโดนผู้ชายตามจีบ!!!





“สวัสดีครับ น้องชื่ออะไรอ่ะครับ พี่ขอเบอร์ได้มั้ย”



คนฟังหยุดเท้าที่กำลังจะเดินออกจากปากซอยไปหน้าเซเว่น
หันไปมองผู้ชายร่างสูง หุ่นฟิต กล้ามล้ำ
เหมือนเพิ่งหลุดมาจากสนามมวยหมาด ๆ
แถมมีไรหนวดบาง ๆ เสริมลุคให้พอโคตรเข้ม


ลักษณะท่าทางดูแมนสมชายดีอยู่หรอก


แต่ไอ้ประโยคที่พูดเนี่ยสิ...




...มันไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ควรพูดกับคนแปลกหน้าที่เป็นผู้ชายเหมือนกันไม่ใช่เหรอวะ!!




คนที่เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ กลืนน้ำลายลงคอ
ยิ่งพอมองเห็นดวงตาหยาดเยิ้มของอีกฝ่ายก็ยิ่งนึกสยองจนขนลุกซู่
 


....เอาแล้วไง อย่าบอกนะว่ากูเจอแจ๊กพ็อต


เฮ้ย! แต่บางทีพี่เขาอาจจะมาทักเฉย ๆ ก็ได้
หรือไม่ก็พวกขายตรง ขายประกันไรเงี้ย


เออ ใช่ ๆ ....มึงอย่าคิดมากสิวะ ไอ้เกมส์



เขาปลอบตัวเอง พยายามรวบรวมสติทำใจดีสู้เสือ
พลางเอ่ยถามขึ้นมากวน ๆ ทั้ง  ๆ ที่น้ำเสียงเริ่มสั่น



“ขะ...ขอเบอร์ผมไปทำไมครับพี่ จะเอาไปแทงหวยเหรอครับ”


คนฟังหัวเราะเบา ๆ จนกล้ามเนื้ออกกระเพื่อม
ยิ้มกับมุกที่อีกฝ่ายแกล้งทำเป็นเฉไฉ
ก่อนจะตอบคำตามความจริง



....และเป็นความจริงที่ทำให้คนเป็นโรคกลัวผู้ชายจีบแทบลมจับ




“ที่ขอเพราะน้องน่ารักดี... พี่ชอบ....”




...แจ๊กพ็อตแตก!!



....โดนแน่แล้ว ไอ้เกมส์มึงโดนเขาจีบแน่แล้ว



พอคิดได้แค่นั้น อาการเก่าก็ชักกำเริบ
หน้าซีด ใจมันเริ่มหวิว ๆ  มือไม้สั่นควบคุมไม่อยู่ เหงื่อแตกพลั่ก ๆ
แข็งขาอ่อนเปลี้ยเหมือนเรี่ยวแรงทั้งหมดโดนสูบหายไปไม่มีเหลือ


ถ้าไม่รีบออกจากสถานการณ์ตรงนี้โดยด่วน
อีกไม่กี่วินาทีต้องมีคนป็นลมนอนชักกระแด่ก ๆ ตายคาพื้นแน่ ๆ


ความกลัวแล่นริ้วขึ้นมาจับขั้วหัวใจคนกลัวจนแทบช็อค
และก่อนที่ตัวเองจะนอนตายขึ้นมาจริง ๆ ด้วยสภาพศพทุเรศ
เขาจึงพยายามงัดแรงเฮือกสุดท้าย
พูดปฏิเสธพร้อม รีบใส่ตีนหมาเผ่นแนบ


“ทะ...โทษนะพี่ โทรศัพท์ผมเสีย ลาล่ะครับ”




....โกยเถอะมึง ก่อนเกย์จะโกยตามมา


นายซีเกมส์รีบสวมวิญญาณนักวิ่งร้อยเมตรพุ่งตัวออกห่างเป็นระยะทางไกลลิบ
เซเว่นหน้าปากซอยอยู่ใกล้แค่นี้ไม่สนแล้วครับ
เปลี่ยนแผนกะทันหัน เพราะเดี๋ยวไอ้พี่กล้ามโตนั้นจะตามมาทัน
เขาเลยต้องวิ่งอ้อมไปเซเว่นถัดห่างออกไปอีกฝั่งของถนน
ก่อนมาหยุดหอบหายใจเหน็ดเหนื่อยเหมือนเพิ่งหนีตายจากซอมบี้กินคน


โห...ถึงไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะวะ
สายตาพี่แกหื่นกระหายขนาดนั้น

แม่ง! พูดแล้วก็ยังรู้สึกขนลุกไม่หาย ชอบเชิบอะไรกัน


ถามจริง มันไม่ได้แหกตาดูรึไงว่า...



....กูเป็นผู้ชายนะโว้ยยไม่ใช่เกย์!!!




นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับชีวิตของนายซีเกมส์
แต่มันเกิดนับครั้งไม่ถ้วน แถมเจอรุนแรงสุดแทบหวุดหวิดจะเสียตัว
เลยทำให้เขากลายเป็นโรคประสาทแดก กลัวผู้ชายมาจีบจนฝังใจ


...คือ...ไม่ได้รังเกียจเกย์หรือกระเทยอะไรหรอกนะครับ
เพื่อน ๆ ที่คบกันอยู่ในกลุ่มเขาก็มี ‘เจ๊บอลล่า’ เป็นกระเทยคู่กัดอยู่คนหนึ่ง
แต่ถ้าผู้ชายคนไหนมันเริ่มส่งสายตากรุ้มกริ่มมาหา


นั่นแหละ...ฟันธงเลยว่าเจอแจ๊กพ็อตแน่ ๆ



แล้วไม่รู้ทำไมเหมือนกันไอ้ผู้ชายแบบที่ว่าก็มักจะชอบเข้ามาหาอยู่เรื่อย
เข้าดั่งสุภาษิตเกลียดอะไรก็ได้ยังนั้น
จนเขาชักสงสัยว่าตัวเองผิดปกติตรงไหน


ทั้ง ๆ ที่รูปร่างหน้าตาของนายซีเกมส์ มันก็หล่อพอฟัดพอเหวี่ยงกับณเดช์ขนาดนี้
หัวสมองรึก็สุดแสนล่ำเลิศเหมือนแดกเป็บทีนมาสิบลัง
ชาติตระกูลดี มีมอเตอร์ไซต์ขับ โทรศัพท์ถ่ายรูปได้
โปรไฟค์อลังการจนสามารถขึ้นปกหนุ่มหล่อคลีโอชนิดไม่อายใคร


แต่แล้วทำไมเรียนมาจนจะจบปีสามอยู่แล้ว


....กลับไม่มีผู้หญิงมาเหลียวแลหนุ่มเพอร์เฟคแบบเขาเลยสักนิด!!



ตอนม.ปลายอุตส่าห์คิดไว้ดิบดีว่า ถ้าเข้ามหาลัยจะได้มาส่องสาว ๆ หาแฟนสักคน
ไอ้คณะเภสัชศาสตร์ที่เขาเรียนก็ไม่ใช่จะร้างลาผู้หญิงสักหน่อย
ถึงขนาดได้รับการโหวตว่า มีสาว ๆ น่ารักมากที่สุดครองแชมป์ในมหาวิทยาด้วยซ้ำ



แต่เสียใจ....



...เพราะไอ้คนมาจีบเขาดันมีแต่




ผู้ชาย!    ผู้ชาย!    แล้วก็ผู้ชาย!!!



โอยยย...อะไรกันหนักหนาวะชีวิต!!!



พวกมึงเข้าใจกูบ้างมั้ยว่า....





....ไอ้เกมส์จะเอาเมีย ไม่ได้อยากเป็นเมียใครโว้ยยย!!




คนถูกสเป็คเกย์ได้แต่ร้องโวยวายอยู่ในใจ
แต่คิดไปก็เท่านั้น จะมีใครมาเข้าใจปัญหาอันระทมทุกข์ของเขา
ยิ่งนึกก็ยิ่งปวดหัวเปล่า ๆ ซ้ำยังรู้สึกขยะแขยงขนลุกเพิ่มขึ้นด้วย



นายซีเกมส์จึงพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่าน
ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างปลงตก
แล้วเดินผ่านประตูเซเว่นเข้าไปเลือกเดินดูของ



หากแต่ยังไม่ทันได้หยิบจับอะไร
เสียงพร้อมอาการสั่น ๆ จากกระเป๋ากางเกงดังขัด

คนที่เพิ่งอ้างตัวว่าโทรศัพท์มือถือเสียไปหมาด ๆ
หยิบขึ้นมากดรับทันทีโดยไม่ดูหน้าจอรายชื่อ

แต่เมื่อกดรับเสียงตวาดดุซึ่งดังจากปลายสาย
กลับทำให้ต้องหัวหดรีบยกมือถือออกห่างหู



“ซีเกมส์!!  เมื่อใดจะปิ๊กบ้าน!”



...ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรกเต็ม ๆ



ก็เจ้าของเสียงพูดภาษาเหนือแบบนี้... เรียกชื่อเต็มยศแบบนี้...
สำหรับชีวิตของไอ้เกมส์คงมีเพียงคนเดียวเท่านั้น



...คุณนายสายสมร วิไลเลิศ



คุณแม่บังเกิดเกล้าผู้น่ากลัวกว่าผู้ชายตามจีบไม่รู้กี่เท่า

....น่ากลัวขนาดไหน ก็ดูจากเสียงบ่นผ่านโทรศัพท์จนหูชานี่ล่ะกัน



“ปิดเทอมก็แล้ว... ปี๋ใหม่ก็แล้ว...
...หายแซ้บหายซ้อย...บ่เห็นเกมส์ปิ๊กบ้าน
แห๋มหน้อยเกมส์คงลืมแม่แล้วไจ้ก้อ?



...โห...ปิดท้ายด้วยน้ำเสียงน้อยใจตามเสต็ป
ถึงแม้จะไม่เห็นหน้า แต่ลูกที่ดีอย่างเขาก็ยังพยายามยิ้มแหย ๆ
ตอบปลายสายกลับไปด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ


“โธ่...แม่...เกมส์บอกฮื้อแม่ฟังแล้วว่าปิดเทอมเกมส์ไป๋เข้าค่ายอาสามา
ส่วนปี๋ใหม่เกมส์จองรถบ่ทัน บ่มีรถว่างปิ๊กเจียงใหม่เลยสักกั๋น
บ่ไจ้เกมส์ลืมแม่สักหน้อย...เกมส์คึ๊ดเติงแม่ทุกลมหายใจ๋เข้าออกจะอี้
...อย่าน้อยอกน้อยใจ๋ เดี๋ยวหน้าแก่เร็วเน้อเจ้า”



“บ่ต้องทำปากหวาน ที่เกมส์บ่ปิ๊กบ้าน บ่ไจ้ไปติดแม่หญิงผู้ใดล่ะว่า”



...แม่หญิงล่ะไม่มี  มีแต่ป้อจายมาตามจีบเขาเมื่อกี๊นี่เอง


แต่เรื่องนี้ขืนบอกไปคงได้ขำตาย เขาจึงรีบร้องปฏิเสธเสียงสูง



“บ่มี๊!!  โธ่! ไผจะสู้แม่หญิงที่บ้านได้ กอดแล้วม่วนใจ๋กว่ากั๋นเยอะ”


“ให้มันจริงเต๊อะ แล้วนี่กิ๋นข้าวแลงแล้วก๋า บ่ไจ้กิ๋นขนมแทนข้าวแห๋มเน้อ”



มือที่กำลังหยิบโคอาล่ามารช์ลงตระกร้าชะงักทันที
เมื่อได้ยินคุณนายพูดเดาแม่นอย่างกับตาเห็น


โด่...อะไรกัน ไม่เคยได้ยินรึไงว่าน้ำตาลเป็นองค์ประกอบสำคัญของสมอง
ที่เขาชอบกินขนมบ่อย ๆ ก็เพราะว่าต้องชดเชยพลังงานจากสมองที่เรียนหนักต่างหาก
ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่กินอย่างอื่นสักหน่อย
ข้าวน่ะกิน แต่แค่กินเป็นอาหารจานรองเท่านั้นเอ๊งงงง!!


คนหาข้ออ้างจึงตอบปลายสายกลับไปตะกุกตะกัก



“กะ...กำลังซื้ออยู่เจ้า”


“งั้นไปกิ๋นเต๊อะ แม่จะไปผ่อละครต่อ
เออะ...เกือบลืม ตะวานแม่ไปดูหมอมา
หมอตั๊กว่าเกมส์ดวงบ่ค่อยดี ฮื้อระวังตัวหน้อย”



...นี่ก็อีกเรื่อง คุณนายสายสมรน่ะชอบดูดวงเป็นที่หนึ่ง


ทั้ง ๆ ที่ลูกชายเรียนคณะเภสัชศาสตร์ คณะอันอุดมด้วยสายวิทย์เต็ม ๆ  แถมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้สักนิด
แต่คุณนายผู้เป็นเจ้าของเฝ้าไร่ส้มอยู่ที่เชียงใหม่กลับช๊อบชอบไอ้เรื่องหมอดูหมอเดาเนี่ย
เจ้าไหนเด็ด เจ้าไหนดัง ถ้าว่างเมื่อไรคุณนายต้องตระเวนไปดูให้ได้
ไม่แค่นั้น ยังใจดีมาเผื่อแผ่ดูดวงให้ลูกหลานวงศ์ตระกูลจนครบ
แทบจะตั้งสำนักธิดาพยากรณ์ประจำตระกูลได้อยู่แล้ว


เขาว่าไอ้ที่โทรมาหาเนี่ยไม่ใช่เพราะน้อยใจอย่างเดียวหรอก
น่าจะเป็นเพราะโทรมาบอกเรื่องดวงเสียมากกว่า



“โอยยย...จะมีไผมายะอะหยังกับเกมส์ได้
บ่ต้องเป็นห่วง แม่เองก็ดูแลตัวเองดี ๆ ต้วยเน้อเจ้า”



เกมส์รีบตอบกลับให้ผู้เป็นแม่คลายกังวล
ก่อนอีกฝ่ายจะรับคำแล้ววางสายไป
ปล่อยให้เขามองโทรศัพท์ด้วยความไม่สบายใจ



...รู้ว่าแม่เป็นห่วง เพราะเขาดันมาสอบติดเรียนอยู่ที่ไกล ๆ
ไม่ค่อยได้กลับไปให้แม่เห็นหน้าสักเท่าไร
แต่ความจริงเขาไม่อยากให้แม่เชื่อเรื่องดวงอะไรมากนัก
เพราะเรื่องพวกนี้อธิบายไม่ได้ด้วยซ้ำ
ระแวงคิดมากไปเดี๋ยวจะเครียดเปล่า ๆ



โธ่...มันจะมีใครมาทำอันตรายอะไรเขาได้


หรือถ้าจะมีจริง ๆ ก็เข้ามาเลย...


...คนอย่างไอ้เกมส์รับมือได้สบาย ๆ อยู่แล้ว



คนที่ลืมไปสนิทว่า ตัวเองเพิ่งหนีการตามจีบหัวซุกหัวซุนมาเมื่อครู่ นึกกระหยิ่มยิ้มหย่องในใจ
เลือกหยิบขนมอีกสองสามชิ้น แล้วจึงเดินไปจ่ายตังค์หน้าเคาท์เตอร์ให้เรียบร้อย

แต่ชั่วขณะที่กำลังจะหยิบถุงเดินออกไป
ดวงตากลับเหลือบเห็นบางสิ่งที่วางอยู่ไม่ไกล



....อมยิ้มห่อกระดาษสีน้ำเงินสกรีนแปะป้ายเด่นกระแทกตา




‘จูปาจุ๊บรสโคล่า’




...เฮ้ย!! ของโปรดเขาเลยนี่หว่า

ปกติไอ้รสนี้มันชอบหมดก่อนรสอื่น ๆ
ส่วนใหญ่เลยเหลือแต่พวกรสพวกรสผลไม้อย่าง สตอเบอรี่ ส้ม หรือไม่ก็พวกผสมนม



ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบรสพวกนี้หรอก
แต่จูปาจุ๊บรสผลไม้ มันยังพอหาลูกอมยี่ห้ออื่นแทนกันได้
ยกเว้นไอ้รสโคล่า เพราะถ้าให้ถูกใจจริง ๆ ก็ต้องเป็นของจูปาจุ๊บยี่ห้อเดียวเท่านั้น
แถมไอ้ลักษณะแท่ง ๆ อมแล้วคาบไว้ในปากแบบนี้มันโคตรเท่ห์โดนใจวัยรุ่นเลย
ถึงมันจะเป็นการเท่ห์แบบเสี่ยว ๆ ไปหน่อยก็เถอะ แต่เขากลับชอบทำไงได้



...แล้วนี่ดันมีเหลืออยู่แท่งเดียวด้วย


ถ้าจะให้เขาเชื่อเหลือดวงล่ะก็


....แบบนี้ต้องเรียกว่า ‘โชคเข้าข้าง’ จริง ๆ




คนดวงดีจึงเอื้อมมือออกไปหมายจะหยิบจูปาจุ๊บที่เล็งไว้
หากทว่ายังไม่ทันถึงเป้าหมายกลับมีมือของใครบางคนชิงหยิบลูกอมตัดหน้า



...เฮ้ย! ได้ไงวะ!!



เขารีบหันไปหาเจ้าของมือคนขโมย
และทันที่เห็นหน้า ลมหายใจก็แทบจะหยุดหายไปดื้อ ๆ
คล้ายพบเจอเหตุการณ์เดจาวูที่เพิ่งเกิดไปเมื่อกี๊



....เปล่า ไอ้คนคนนี้มันไม่ได้มีกล้ามโต หนวดครึ้ม หน้าหื่นอะไรเหมือนคนที่แล้ว


ตรงข้าม มันดันสูงขาว หน้าตาดีมีราศีจับ เปล่งออร่าวิ้ง หล่อโคตรพ่อจนหน้าหมั่นไส้


แถมไม่ใช่คนที่เขาไม่รู้จัก... เขารู้จักดีเลยแหละ...


....มันชื่อ ‘ดิว’ เป็นเดือนคณะวิศวะปีสามปีเดียวกับเขา
 

เคยไปเข้าค่ายอาสามาด้วยกันเมื่อตอนปิดเทอม
แรก ๆ ตอนอยู่ค่ายเขาไม่ได้สนใจอะไรมันนัก
แต่พักหลัง ๆ เขารู้สึกว่ามันชักจะแปลก ๆ
ทั้ง ๆ ที่มันก็วางตัวสุภาพตลอด
ยิ้มให้เป็นมิตรธรรมดาเหมือนเพื่อน ๆ ทั่วไป


แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงกลับรู้สึกว่าสายตาที่ดิวมองเขามันเหมือนมีอะไรบางอย่าง



....อะไรบางอย่างที่สัญชาตญาณลึก ๆ เตือนว่าตัวเองกำลังถูกจีบ




...โธ่...ชีวิตบัดซบของนายซีเกมส์ถูกเดือนวิศวะจีบ แทนที่จะเป็นดาว



....กูล่ะอยากจะบ้าตายจริง ๆ !!!




และตอนนี้สงสัยคงได้ตายสมใจแน่ ๆ
เพราะตัวเขากำลังหน้าซีด ยืนนิ่งค้าง
เผชิญหน้าระยะประชิดกับหนุ่มหล่อที่ส่งเสียงทัก



“อ้าว...เกมส์ มาซื้ออะไรเหรอครับ”


คนถูกถามไม่ตอบคำ
อย่าว่าแต่ขาเลย ทั้งมือ ทั้งปากตอนนี้เหมือนถูกแช่แข็งจนไม่มีแรงขยับ
เพราะอาการเดิม  ๆ ของนายซีเกมส์เริ่มกำเริบเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า ‘ใบ้แดก’


แต่เขาไม่จำเป็นต้องอ้าปากตอบอะไร
หนุ่มวิศวะกลับคาดเดาเอาเอง เมื่อสังเกตเห็นสายตาของคู่สนทนามองตรงมาที่ของในมือ



“เอ๊ะ! หรือว่าจะมาจูปาจุ๊บนี่
โห....ใจตรงกันเลยนะครับ
...แต่เหมือนรสนี้ มันจะมีเหลืออันเดียวด้วย
อืม...ไม่เป็นไร ถ้างั้นผมยกอันนี้ให้เกมส์แทนล่ะกันนะ
...โทษครับ คิดเงินให้หน่อยครับ”


ไม่เพียงแค่คิดเองเออเอง แต่อีกฝ่ายกลับจ่ายเงินเองให้เสร็จสรรพ
ก่อนยื่นจูปาจุ๊บมาให้คนตรงหน้าโดยที่ไม่คิดจะถามความต้องการของเขาเลยสักคำ



“อ่ะ นี่ครับของเกมส์”




...พฤติกรรมสุดแสนจะเป็นสุภาพบุรุษ
ถ้าเป็นผู้หญิงเจอหนุ่มหล่อเดือนคณะทำให้คงลงไปนอนละลายกองแทบเท้า



แต่นี่ไอ้คนรับกลับเป็นผู้ชายทั่งแท่ง
แถมยังเป็นโรคกลัวผู้ชายจีบขึ้นสมอง
เจอแบบนี้เข้าไป เขาก็อยากลงไปนอนกองแทบเท้าเหมือนกัน



....ไม่ใช่เพราะเขิน  แต่กูกลัวววว!!!



....กูกลัวจะตายอยู่แล้วโว้ยยยย!!




ใจอยากจะโกยวิ่งหนีไปให้ไกลแสนไกล
แต่ขากลับไม่ขยับ  มิหนำซ้ำไอ้คนตรงหน้าดันยืนขวางดักทางจะออกอีก




เออ...เอาเข้าไป... ฮึก...แม่จ๋า เกมส์อยากร้องไห้



....นาทีชีวิตเลยงานนี้



.... ซ้ายก็ตาย ขวาก็ไม่รอด




ฮือออออ......ใครก็ได้ช่วยกูทีเถอะ!!!




คนคร่ำครวญหมดความหวัง
เมื่อไร้ตัวช่วยใด ๆ ก็จำต้องยึดคติตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
หนทางรอดสุดท้ายจึงเหลือเพียงทางเดียว



เกมส์มองจูปาจุ๊บในมือที่ถูกยื่นให้อย่างชั่งใจ



เอาวะ...รับหูรับตาเอามาซะ มันจะได้หลีกทางให้
นึกซะว่ามันแค่ใจดีซื้อให้ ไม่ได้ตั้งใจจะมาจีบก็แล้วกัน


เออ....ใช่ ๆ อาจเป็นแบบนั้นก็ได้



...ใจเย็น ๆ มึงอย่าคิดมากนะ ไอ้เกมส์


สูดลมหายใจลึก  ๆ ....น่านอย่างนั้น


...ไม่มีอะไร...มึงไม่ต้องกลัว



...ที่นี่ก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบจูปาจุ๊บช้า ๆ



...ค่อย ๆ หยิบ....  ค่อย ๆ หยิบ....



...อ้าว...เอ๊ะ แล้วทำไมมันไม่ปล่อยวะ



เจ้าของมือสั่น ๆ พยายามดึงลูกอมอีกครั้งอย่างสงสัย
แต่ร่างสูงกลับดึงมันไว้ไม่ยอมปล่อย
ซ้ำดวงตายังวิบวับทอประกายอย่างมีเล่ห์นัย
ก่อนจะพูดประโยคหนึ่งที่ดังราวกับคำกระซิบ



....หากแต่เป็นคำที่ทำให้ใจคนฟังร่วงกองลงไปกับพื้น




“อย่าทานลูกอมเยอะนะครับ
แค่นี้เกมส์ก็หวานจะแย่อยู่แล้ว
ผมกลัวว่า ฟันผมจะผุ ตอนได้ชิม”






อะ....อะไรนะ



....หวาน...




คะ...ใครหวาน




แล้วมันจะฟันผุตอนได้ชิมใคร




อย่าบอกนะว่า...



....ไม่ใช่แล้ว




นี่ไม่ใช่คำเตือน แถมไม่ใช่คำจีบด้วย




....แต่นี่มันเป็นคำที่อีกฝ่ายเจาะจงจะกินเขาโดยเฉพาะเลยต่างหาก!!





ไม่ไหว...เจอแบบนี้เข้าไป ยังไงก็ไม่ไหว

   

โอยยย.......กูจะเป็นลม  รถพยาบาลเบอร์อะไรวะ โทรเรียกมาที   

หรือไม่ก็หามกูเข้าวัดไปเลยก็ได้

งานศพขอโต๊ะจีนนะ ไม่เอาข้าวต้มปลา มันธรรมดาไปเดี๋ยวไม่สมศักดิ์ศรี 



ฮือออออ.....แม่จ๋า เกมส์ขอโทษที่เกมส์ดื้อไม่ค่อยกลับบ้าน  ไม่ค่อยเชื่อฟังแม่   


เกมส์เลยต้องมานอนตายอนาถอยู่ตรงนี้ ยังไม่ทันได้ทดแทนบุญคุณ




แต่เดี๋ยว....


ถ้ากูตายก็แย่อ่ะดิ  ยังอ่านการ์ตูนที่ค้างไว้ไม่จบเลย



ไม่เอา...แม่จ๋า  เกมส์ยังไม่อยากตาย



ต้องหนี.... 


ต้องหนี....




ต้องไปแล้ว....




.....กูไม่อยู่แล้วโว้ยยยยย!!!!




คนกลัวจึงรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย
ดึงมือที่ถือจูปาจุ๊บไว้โดยแรงซึ่งหนุ่มหล่อก็ปล่อยไปง่ายดาย
แล้วรีบวิ่งหนีตายเผ่นออกไปนอกร้านทันที


ทิ้งให้ดิวมองตามอย่างงงๆ
กับพฤติกรรมประหลาด  ๆ ของคนที่เพิ่งเจอ



....แปลกดี...ปกติเดือนวิศวะอย่างเขาเจอใครก็มีแต่คนเข้าหา
แต่กับเกมส์เนี่ยสิ ไม่รู้ทำไมเจอหน้าเขาทีไร ถึงชอบทำหน้าเหมือนเห็นผี
แถมยังชอบวิ่งหนีเขาอีกต่างหาก
มันเลยเป็นสาเหตุให้เขาติดใจตั้งแต่ตอนไปค่ายวิศวะอาสาด้วยกัน



ความจริงเขาก็พูดแซวจีบขำ ๆ ไปงั้นแหละ
เพราะคนอย่างดิว ขึ้นชื่อว่าคาสโนว่า ได้ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายอยู่แล้ว
แต่ของอะไรที่ได้มาง่าย ๆ มันมักจะไม่สนุกเท่าของที่ต้องพยายามคว้ามาหรอก


....และเกมส์ก็ดูเหมือนจะเป็นของหายากชิ้นนั้น




หนุ่มวิศวะยกยิ้มในใจ ก่อนหันไปเรียกหาพนักงานที่เคาท์เตอร์
ถามหาของที่ตั้งใจจะซื้อตั้งแต่แรก



“น้องครับ ขอมาโบโร่มินต์ซองหนึ่งครับ”




...ในเมื่อจูปาจุ๊บรสโคล่าหมด  ก็ขอบุหรี่ไว้สูบเล่นแก้เหงาแทนล่ะกัน


ไม่เป็นไร ไว้ถ้าอยากชิมจูปาจุ๊บเมื่อไร 


ตอนนี้เขารู้แล้วว่าจะต้องชิมมันจากใคร



...ขออย่างเดียว อย่าให้คนคนนั้นกินเยอะ

เพราะเดี๋ยวมันหวานจนเขาฟันผุหลังชิมเสร็จขึ้นมาจะแย่เอา



...เตือนไว้แล้วนะ อย่าลืมซะล่ะครับ




....เกมส์





----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





TBC





สวัสดีเจ้า  (อู้กำเมืองเอาฤกษ์เอาชัย)   :mc4:
เฮาบ่ไจ่คนเหนือเน้อเจ้า แต่เป๋นลูกครึ่ง มีแม่เป็นคนเจียงใหม่แต๊ ๆ
ฟังกำเมืองมาแต่ละอ่อน แต่อู้บ่จ้าง ยะอะหยังผิดพลาดไป๋จะได จ่วยบอกฮื้อต้วยเน้อเจ้า


สวัสดีค่ะ  กลับมาแล้วจ้า คิดถึงกันบ้างมั้ยเอย  :-[
ตั้งใจมาลงเอาวันตรุษจีน เพราะถือฤกษ์งามยามดี เป็นมงคล (เหรอ? ไม่ใช่เพราะอู้หรอกนะ)
ก็แบบว่า...ที่หายไปนานก็แอบไปพักผ่อนเตรียมพร้อมลงเรื่องใหม่นี่แหละ
เพราะหลังจากนี้คาดว่าคงจะลงเรื่องยิงยาว ไม่หายไปนาน ๆ เป็นอาทิตย์แล้ว (มั้งนะ?)   :try2:


มาพูดถึงซีรีย์ภาคนี้สักนิด  สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มต้นอ่านซีรีย์นี้เป็นครั้งแรก
“อยากให้ย้อนกลับไปอ่าน ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม กันก่อนนะคะ”
เพื่อเพิ่มความมีอรรถรสมากขึ้น  รับรองสนุกมันส์ไม่แพ้กัน (เนียนแอบโฆษณา)  :laugh:


สรุปว่าภาคนี้เป็นการจับคู่ของ ‘หนุ่มที่เป็นโรคกลัวผู้ชายจีบขึ้นสมอง’ กับ ‘หนุ่มคาสโนว่าจอมเจ้าชู้’ ค่ะ
สุดหล่อดิวของเรา จะรักษาโรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์ได้มั้ย
หรือเกมส์จะนอนตายน้ำลายฟูมปาก ก่อนดิวจะจีบสำเร็จ ก็ต้องรอลุ้นกันนะคะ


อนึ่ง นิยายเรื่องนี้ไม่ได้สนับสนุนให้สูบบุหรี่กันเน้อ แม้ชื่อเรื่องจะล้อเป้ามากก็ตาม
แต่มันเป็นไปตามคอนเซปต์เรื่อง เลิกบุหรี่แล้วหันมาดูดจูปาจุ๊บหวาน ๆ แทนดีกว่าเนอะ



ยินดีต้อนรับทุกคนสู่ภาคใหม่ค่ะ   


:กอด1:


รักและคิดถึง


 :L2:


BitterSweet



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: Inamning ที่ 10-02-2013 12:25:55
น่าสงสารเกมส์อ่า 55555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 10-02-2013 12:38:41
 :mc4:

คู่นี้เป็นคู่ที่น่าอ่านมากเลยค่ะ  ดิวเกม  น่าสนุกจัง

รอตอนต่อไปนะคะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 10-02-2013 12:42:37
 :z13:  ในที่สุดตอนใหม่ก็มา ดีใจๆ  :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-02-2013 12:43:10
กรี๊ดดดดดดดดดดดดกรีดร้องสามตลบ

แล้วเข้ามาอ่านโดนพลัน

55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 10-02-2013 12:45:58
^^ รอๆตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-02-2013 13:04:46
คู่นี้น่าจะฮาน่าดูเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 10-02-2013 14:57:49
อรั้ย คู่นี้ที่รอคอยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 >; P.72
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-02-2013 15:34:55
เกมส์มันจะรอดมั๊ยนั่น!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 10-02-2013 16:14:52
ฟินตายคาที่กับมุขฟันผุ :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 10-02-2013 16:30:51
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ดิวหยอดเกมส์ ได้น้ำเน่ามาก 555555555555555
สงสารเกมส์ กลัวจนมือไม้อ่อนแข้งขาสั่นไปหมดแล้ว  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 10-02-2013 16:36:40
มาแล้วอ่ะ ตอนที่รอคอย
แบบว่าคอนทราสต์กับพ่อเต่าน้อยอย่างแรง
เรื่องนั้นแอบหวานไปเรื่อย ๆ
แต่เรื่องนี้ฮามหาศาลมาก
ชอบอ่ะ ดิวเป็นว่าทันใจมาก ถ้าดิวไปจีบพ่อเต่าน้อยคงเตลิดไปแล้ว
แต่มาเป็นเกมส์แล้วสนึกอ่ะ 555
ดีใจที่คนแต่งจะมาต่อแบบรวดเร็ว อิอิ
รอนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 10-02-2013 16:55:18
เรื่องของคมกับเต่าน้อยนี่จบหวานเหมือนข้าวโพดต้มจริงๆค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-02-2013 17:11:11
เกมส์คิดมากเหมือนปลายเลยนะ 555555555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 10-02-2013 18:03:52
 :o8: :sad4:  น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 10-02-2013 18:37:48
กลัวอะไรมักได้อย่างนั้นนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 10-02-2013 18:49:40
อยากรู้ว่าดิวจะใช้วิธีอะไร ยังไง จีบคนอย่างเกมส์
ตอนแรกก็นึกว่าชอบจริงๆ ที่ไหนได้แกล้งๆแซวหรอกเหรอ ระวังไว้นะดิวของที่ได้มายากก็ต้องพยายามมากๆแล้วจะรักเค้าแบบไม่รู้ตัว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 10-02-2013 19:07:02
ตอนใหม่มาแล้ว :mc4: 

ระวังเถอะดิวจะตกหลุมตัวเอง


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 10-02-2013 19:07:32
กรี๊ดดด คู่นี้มาแล้ววววว

สวัสดีตรุษจีนเดย์นะคะ ขอให้คุณคนเขีนได้อั่งเป่าเยอะๆ นะ




เกมส์กลัวผู้ชายจีบซะน่ารัก แล้วดิวก็ชักจะสนใจซะแล้วจิๆ
แล้วอย่างนี้ดิวก็คงแก้นิสัยกลัวการจีบของดิวได้ใช่ไหม
ว่าแต่ว่านะคะ... ถ้ามีผญมาจีบ ดิวจะเกิดอาการแบบนี้ไหม หรือว่าเป็นแค่ผช.เท่านั้น?


แล้วก็ชอบประโยคนี้จุงเบยยยยยย

“อย่าทานลูกอมเยอะนะครับ
แค่นี้เกมส์ก็หวานจะแย่อยู่แล้ว
ผมกลัวว่า ฟันผมจะผุ ตอนได้ชิม”

กรี๊ดดดดดดด  เธอจะแซวให้มันก๊าวใจทำไม๊

รออ่านต่อหน้าเน่อออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 10-02-2013 19:11:01
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 10-02-2013 19:13:17
ฮาไอ้หนูเกมส์อ่ะ 
เรื่องนี้ต้องทำให้ฮากระจายได้เเน่ๆ
แต่ดิวเสี่ยวไปนะบ้างที o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: pizza2011 ที่ 10-02-2013 19:16:21
เขินแทนเกมส์ อ๊ายยยยย :o8: :o8:
คราวนี้จะหนีพ้นไมเนี้ย 555+ งานหนีเชื่อว่าโกยกันยังไงก็ไม่รอด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 10-02-2013 19:22:20
เอ่อเพิ่งรู้ว่าเกมส์กลัวการโดนผู้ชายจีบ
มิน่าภาคที่แล้วเกมส์ถึงหลบดิว และเหมือนกลัวดิวซะขนาดนั้น
สงสารเกมส์เหมือนกันนะเพราะถูกใจนายดิวเข้าแล้ว งานนี้เกมส์คงต้องทำใจยอมรับอย่างเดียว  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 10-02-2013 19:24:29
เกมส์น่ารัก ไม่รู้จะสงสารดีมั้ยเนี่ย ไอ้โรคกลัวผู้ชายจีบ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 10-02-2013 21:39:24
ชอบคู่คมจังค่ะ ละมุนละไมมากๆ น่ารักๆ

รอติดตามคู่ใหม่ก๊ะ ท่าจะฮา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 10-02-2013 21:42:15
กีสสสสสสสส เรื่องใหม่

 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 10-02-2013 22:22:54
เรื่องนี้ท่าทางจะมันส์
พระเอกจอมเจ้าชู้ ส่วนนายเอกขี้กลัวผู้ชายจีบขึ้นสมอง
แล้วแบบนี้ มันจะจีบกันสำเร็จตอนจบไหมนั่น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-02-2013 22:57:31
มาวันดีด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: 9nawKIHAE ที่ 10-02-2013 23:50:00
โอย จะเป็นลมแทนเกมส์ กับมุก กลัวฟันผุก่อนได้ชิม ของดิว   :o8:
ดิว เสี่ยวมากอ่ะ แต่หล่อขนาดเป็นเดือนคณะเราก็ให้อภัยนะ -..-
เกมส์เอ๋ย จงทำใจเสียเถิด ถ้าจะเจอผู้ชายรุกบ่อยขนาดนี้
ไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือดิวหรอก!  :z1:
รอตอนต่อไปค่ะ   :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: 9nawKIHAE ที่ 11-02-2013 00:03:22
เกมส์คิดมากเหมือนปลายเลยนะ 555555555+

เห็นด้วยเลยค่ะ 555555555  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 11-02-2013 00:09:34
เกมส์ละอ่อนน้อยแลดูน่าเอ็นดู
 :laugh: :laugh:
ว่าแต่จริงๆชื่อซีเกมส์??
สงสัยเกิดตอนปีที่เชียงใหม่จัดซีเกมส์ล่ะสิ
คริๆๆ
 :m12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 11-02-2013 05:11:44
เกมส์น่าสงสารมาก อะไร๊อะไรจะกลัวขนาดนั่น  5555 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 11-02-2013 07:55:20
ดิวรุก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 11-02-2013 08:40:13
 :impress2:>_< ดีใจได้อ่านดิว&เกมส์ แล้ว ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 11-02-2013 08:53:59
คู่นี้ถ้าจะฮาเกิน  แค่ตอนแรก กับมุกฟันผุของดิว   

หนุ่มเกมส์ที่กลัวผู้ชายจีบ   กับหนุ่มดิวขี้แกล้ง  ดิวจะทำยังไงให้เกมส์หายจากอาการกลัวแบบนี้

กด + ให้กับตอนใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 1] 10/02/56 > P.72
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 11-02-2013 12:03:31
ตอนใหม่ท่าทางจะได้ลุ้นแบบสนุกๆ เพราะความเป็นคาสโนว่าของเกมส์นี่แหละ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 12-02-2013 22:00:22
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต




แท่งที่ 2



....สตอเบอรี่กูลิโกะ

...ช็อกโกแล็ตคิทแคท

....โคล่อนรสนม

...ทูโทน กับ อัลฟี่อย่างล่ะกล่อง



และนี่เลย ต้องไม่ลืม...



.....จูปาจุ๊บรสโคล่า



นายซีเกมส์หอบหิ้วขนมประทังชีพใส่ตระกร้า จากในเซเว่นหน้าปากซอยหอตัวเอง
ซึ่งก่อนมาเขาตรวจดูเรียบร้อยแล้วว่า ไม่มีคุณพี่กล้ามโตซึ่งเคยตามจีบเขาคราวที่แล้วอยู่ด้วย


หึ...ถ้าขืนมีล่ะก็..
สงสัยเขาคงต้องล็อคห้องขังตัวเองอยู่ในหอจนหิวตายแน่
เพราะไอ้เกมส์คนนี้ถือคติ...


....ถ้าเป็นขนมกูขอวิ่งหา แต่ถ้าผู้ชายมากูขอวิ่งหนี


เขาเลยต้องซื้อเสบียงกลับไปตุนไว้ยามฉุกเฉิน เนื่องจากวันพรุ่งนี้มีควิซสำคัญ
ตามตำราว่าไว้...น้ำตาลเป็นส่วนประกอบของสมอง
เขาจึงรีบตระเวนหาน้ำตาลมาเติมพลังเป็นการด่วน
หวังให้ซูโครสและสารอนุมูลอิสระต่าง ๆ แทรกซึมเข้าไปในสมอง
เผื่อมันจะเฉียบคมประดุจดั่งไอสไตน์ แล้วควิซคราวนี้ก็จะได้สอบผ่านง่าย ๆ   


...แหม ช่างฉลาดสมกับเรียนเภสัชจริง ๆ เลยกู


คนรักขนมยิ่งชีพจึงจ่ายเงินหอบหิ้วขนมกลับหอ
ทว่าก่อนหน้านั้น สองขากลับเลี้ยวหาไปยังแผงขายข้าวเล็ก ๆ ที่เปิดง่าย ๆ ขายราคากันเอง
ซึ่งเขาอุดหนุนอยู่เป็นประจำ จนสามารถเรียกหาเจ้าของร้านที่ผัดข้าวอยู่ด้านหน้าได้อย่างสนิทสนม


“ป้าดา ผมขอซื้อปลาทูสองตัวครับ”


“เลือกเอาเลยจ๊ะลูก”


เจ้าของร้านตอบกลับพลางพยักเพยิดไปยังปลาทูซึ่งวางขายคู่กับน้ำพริกกะปิ

เขาเลยจัดการหยิบปลาทูสองตัวใส่ถุง
ไม่ต้องตัวใหญ่มาก เหลือเผื่อไว้ให้คนอื่นบ้าง
เสร็จแล้วจึงจ่ายเงิน โดยไม่ลืมบอกเจ้าของ


“ป้าครับ ผมวางเงินไว้ตรงนี้นะ”


“จ้า จะเอาปลาทูไปให้ไอ้ตัวเล็กเหรอ”


“ครับ”



...ถูกแล้ว


เพราะคนอย่างไอ้เกมส์เพิ่งซื้อขนมเต็มสองมือเป็นข้าวประทังชีวิตอยู่แล้ว
จะมาสนใจอะไรกับปลาทูแค่สองตัว
แต่ที่ซื้อเนี่ย เพราะตั้งใจจะเอาไปให้ ‘ไอ้ตัวเล็ก’ ของป้าดาต่างหาก


...‘ไอ้ตัวเล็ก’ ที่เขาชอบเรียกมันว่า...




“ไอ้จั๊ดง่าว!”



เกมส์ร้องเรียกชื่อทันทีที่เปิดประตูเข้าห้อง
ก่อนลูกแมวพันธุ์ไทยสีน้ำตาลแซมขาวจะวิ่งตรงเข้ามาหาเขาด้วยความยินดี



....เนี่ยแหละ ‘ไอ้จั๊ดง่าว’

ลูกแมวที่เขาได้รับมาจากป้าดา ตอนประกาศหาคนเลี้ยงเมื่อสองอาทิตย์ก่อน



...จริง ๆ คำว่า ‘จั๊ดง่าว’ มันเป็นคำด่าภาษาเหนือ หมายถึง ‘โง่’  หรือ ‘ซื่อบื้อ’


และเหตุที่เขาตั้งชื่อแบบนี้เพราะวันแรกที่ได้มันมา
มันดันเซ่อเดินชนกระจกระเบียงดังเปรี้ยง
นอนเจ็บร้องแหง่ว ๆ เล่นทำเอาเขาขำกลิ้ง
เขาเลยตั้งชื่อตามนิสัยซื่อบื้อของมันว่า ‘ไอ้จั๊ดง่าว’ ตั้งแต่นั้น


โชคดีที่หอนี้ไม่ได้มีกฎห้ามเลี้ยงสัตว์
ทำให้เขาสามารถเลี้ยงลูกแมวไว้ในห้องได้
ตอนออกไปเรียนก็ขังเอาไว้ ถึงจะน่าสงสารไปหน่อย
แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้มันออกไปเล่นเพ่นพล่าน
มันยังเป็นแค่ลูกแมวอยู่เลย แถมดูโหงวเฮ้งซื้อบื้อขนาดนี้
กลัวจะโดนแมวตัวอื่นกัดตายซะก่อน


ทุกครั้งที่กลับเขาจึงพยายามหาทางเอาใจมัน
เป็นการตอบแทนที่ขังมันไว้ไม่ให้ได้รับอิสรภาพ



“เป็นจะใดหือ? ....หิวยังก๋อ?
...ป้อซื้อปลาทูมาฮื้อต้วย
รอแห๋มหน่อยป้อจะทำให้กิ๋น”


เกมส์นั่งยอง ๆ เกาปลายคางลูกแมวตัวเล็ก
ก่อนจะวางถุงใส่ขนมเตรียมตัวขยำข้าวคลุกปลาทูให้


หากแต่ยังไม่ทันได้ลงมือเลาะก้างปลา
เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงกลับสั่นร้องเตือน


เขามองเบอร์แปลก ๆ ซึ่งปรากฏโดยไม่ได้เม็มชื่ออย่างงง ๆ
แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกดรับ


“สวัสดีครับ”


“ฮัลโหล ไอ้เกมส์ ฮาเอง”


“ฮาไหนครับ ยังไม่มีมุกให้ขำ แล้วจะฮาได้ไง”


คนปากหมาแกล้งตอบกวนประสาทกลับไปตามนิสัย
และแน่นอนว่าอีกฝ่ายต้องโวยวายกลับมาเป็นภาษาถิ่นดังลั่น


“โคะ! คิงบ่ต้องทำเป๋นลืม ฮาเปลี่ยนเบอร์หน้อย จำกั๋นบ่ได้ก๋า?”


เขาจำได้ตั้งแต่เสียงแล้วว่าเป็น ‘ไอ้ต้าร์’
เพื่อนเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมที่เชียงใหม่
สนิทกันจนใช้สรพพนามแทนตัวว่า ‘ฮา’ กับ ‘คิง’
เหมือนภาษากลางที่ใช้พูดว่า ‘กู’ กับ ‘มึง’


แต่ถึงอย่างนั้น แม้จะรู้แล้วว่าเป็นใคร
เขาก็ยังไม่วายแกล้งตอบกวนตีนเพื่อนกลับ


“ถ้าเป็นแม่หญิงฮาจำแม่น แต่ถ้าเป็นป้อจายอย่างคิงฮาบ่อยากจำ”


“บ่ห้าปันต๋าย!! ว่าจะชวนกิ๋นของฟรีสักหน้อย แต่ปากจะอี้ก็บ่ต้องกิ๋น”


ปลายสายสบถด่าไม่หยุด แต่คำท้ายประโยคกลับทำให้เขาหูผึงจนต้องรีบถามกลับ


“ของฟรีอะหยัง”


“ก็ปี้โฮงเฮียน เปิ้นจะเลี้ยงข้าวแลงก่อนเปิ้นจบ เลยฮื้อมาชวนหมู่เฮา”


“เมื่อใด”


“วันพรุ่ง ทุ่มหนึ่งร้านนั่งสบาย คิงฮู้ไจ้ก้อ”


“ฮู้”


“โอเค งั้นไว้ป๊ะกั๋นเน้อ”


อีกฝ่ายวางสายไปหลังนัดตกลงเรื่องกันเรียบร้อย
สร้างความลิงโลดให้คนได้ลาภปากฟรี


....พอดีเลย พรุ่งนี้มีคนเลี้ยงข้าวฉลองสอบควิซเสร็จด้วยเว้ย
ถึงจะไม่ใช่ขนม แต่ตราบใดที่เป็นของฟรี มีรึไอ้เกมส์จะพลาด


นายซีเกมส์นึกลันล้าอยู่ในใจ
ก่อนหันไปจัดการขยำปลาทูกับข้าวที่ทำค้างไว้
เอามาใส่ถ้วยวางให้ลูกแมวตัวเล็ก
พลางนั่งมองมันกินพร้อมพึมพำด้วยความเอ็นดู


“มื้อแลงนี้กิ๋นปลาทูไปก่อนแล้วกั๋น
เดี๋ยววันพรุ่ง ป้อจะแฮ่บของกิ๋นดี ๆ กลับมาฝากเน้อ
....ไอ้จั๊ดง่าว”




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




...ร้านนั่งสบาย


เป็นร้านอาหารชิล ๆ จัดบรรยากาศโต๊ะแบบโอเพ้น
ราคาอาหารไม่แพงมาก พอเหมาะให้กลุ่มนักศึกษามาเลี้ยงสายรหัสกันบ่อย ๆ


นายซีเกมส์ก็เคยมีพี่คณะเลี้ยงมาก่อนเช่นเดียวกัน
เขาเลยขี่มอเตอร์ไซต์หาทางมาร้านได้อย่างไม่ยากเย็น
พอมาถึงก็เพิ่งรู้ตัวว่าดันมาช้ากว่าใครเค้า
เพราะเพื่อน ๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตามานั่งจองที่กันหน้าสลอนเรียบร้อยแล้ว



“อ้าว...ไอ้เกมส์บ่ได้ป๊ะกันเมิน คิงเป๋นจะใดพ่อง”


‘ไอ้ทัช’ เพื่อนสนิทตอนเรียนม.ปลายอีกคนเอ่ยทัก
เพราะมันสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่นี่

เขายักไหล่ ยิ้มตอบกลับคนถามไปด้วยอารมณ์กวน ๆ


“ก็สบายดี ยังบ่ตาย ยังหน้าตาดีให้ไผแถวนี้อิจฉาฮาได้อยู่”


ท้ายประโยคแอบเหล่ตาไปหา ‘ไอ้ต้าร์’ คนโทรมาชวน
ซึ่งทำหน้าเหม็นเบื่อเอ่ยบ่นใส่


“อู้จะอี้คงจะตายจริ๋งเข้าสักวัน ถ้าบ่กวนกั๋นคงบ่ไจ้คิงไจ้ก่อ ไอ้เกมส์”


“อีล่ะ...ฮาล้อเล่นหน้อยเดียว คุณครูต้าร์บ่ต้องดุใส่
...เดี๋ยวนักเฮียนกลั๋วคิงกั๋นหมดพอดี”


เกมส์ยังคงแซวทิ้งท้ายใส่คนเรียนคณะศึกษาศาสตร์ขำ ๆ



...ความจริงเพื่อนโรงเรียนเก่าเขาส่วนใหญ่
มักไม่ค่อยเลือกลงเรียนมหาลัยห่างจากเชียงใหม่กันนัก
เพราะไหนจะค่าเดินทาง ความคิดถึงบ้าน และอะไรอื่น ๆ อีกจิปาถะ

แต่บางคนกลับเลือกที่จะมา เพราะอยากหาประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเอง
ทั้งเขา ไอ้ทัช หรือไอ้ต้าร์ ก็มาลงเรียนที่นี่ด้วยเหตุผลเดียวกัน


ดังนั้น เพื่อนโรงเรียนเก่าที่เรียกมามันเลยมีน้อย
แม้จะรวมกับรุ่นพี่ของทุกปี ยังนับกันได้ไม่ถึงยี่สิบคน


...ทว่าแค่นี้ก็นับว่าเพียงพอแล้วที่จะเรียกบรรยากาศเก่า ๆ ให้หวนกลับมาด้วยความคิดถึง


เขาเลยจัดการซัดข้าวแกล้มด้วยหัวข้อพูดคุยจากพวกพี่ ๆ กันจนเปรม
เวลาล่วงเลยจนเกือบสี่ทุ่มนั้นแหละถึงได้เตรียมตัวทยอยกลับ
แต่ดูเหมือนพวกพี่บางคนยังไม่ยอมเลิกรากันง่าย ๆ
เพราะชั่วขณะที่เขากำลังลุกขึ้นกลับได้ยินเสียงไอ้ต้าร์เอ่ยรั้ง


“เดี๋ยวพวกปี้จะไปต่อกันแห๋มหน้อย คิงจะไป๋ต้วยก้อ?”


...โห...ถามแบบนี้มีเหรอจะพลาด

 
รู้ ๆ กันอยู่ว่าหลังจากกินข้าวเสร็จมันต้องมีออกกำลังกายกันหน่อย
และไอ้กิจกรรมที่ว่าก็คงไม่พ้น....

....กิจกรรมส่องสาวเต้นเข้าจังหวะเคล้าเสียงดนตรีและแอลกอฮอล์

แถมพรุ่งนี้เขามีเรียนบ่ายด้วย
เพราะฉะนั้น คืนนี้ไอ้เกมส์ทางสะดวกอยู่ได้จนถึงเช้าไก่ขันเลยเอ้า!



คนอยากปลดปล่อยเต็มที่ จึงรีบพยักหน้ารับคำ
เตรียมลุกออกจากโต๊ะโดยไม่ต้องคิด


“ไป๋ ๆ ที่ไหน”


“เดอะกลาส”


สถานที่ที่ได้ยินผ่านหู ทำเอาคนฟังแทบหน้าคะมำ
ต้องรีบเบรกขาของตัวเองดังเอี้ยดดดด



....เดอะกลาส  ชื่อนี้มีตำนาน


และเป็นตำนานสยดสยองที่เขาไม่อยากนึกถึง
เพราะมันดันเป็นสถานที่ ‘ต้นกำเนิด’ ของโรคประหลาดซึ่งติดตัวเขาไม่หายจนถึงบัดนี้



...ใช่ มันคือที่ที่ไอ้เกมส์เกือบเสียเอกราชทางประตูหลังเป็นครั้งแรก!!




...คือ...เรื่องของเรื่อง มันก็เริ่มง่ายๆ  จากการไปต่อกันนี่แหละ

ตอนนั้นเขายังเป็นเฟรชชี่น้องใหม่ใสกิ๊ง ยังอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น
พี่รหัสชวนกันไปเปิดหูเปิดตาก็ใจง่าย
เดินตามเขามาต้อย ๆ ที่ผับชื่อดังอย่างเดอะกลาส

มาถึงก็จัดการซดเหล้า เต้นแรงเต้นกากันเต็มที่
ดื่มเหมือนลืมตาย เท่าไรไม่ได้นับ จนเขาเมาหัวทิ่ม


และพอรู้สึกตัวอีกที เขากลับตื่นขึ้นมาบนเตียงในห้องห้องหนึ่ง
ที่น่าตกใจกว่านั้นคือมันมีใครบางคนคร่อมร่างเขาอยู่


....ใครคนนั้นชื่อ ‘พี่ปูเป้’


จริง ๆ พี่แกชื่อ ‘พี่เป้’ เป็นพี่คณะเภสัชเรียนห่างจากเขาไปปีเดียว
แต่คนในคณะส่วนใหญ่ชอบเรียกกันตามฉายาว่า ‘พี่ปูเป้’
อันเนื่องจากกล้ามแขนล่ำ ๆ เหมือนกล้ามปู ซึ่งพี่แกลงทุนเล่นฟิตเนตซะจนบึกบึน
เพื่อเอาไว้ล่อหนุ่ม ๆ ทั้งหลายมาติดกับโดยเฉพาะ


ใคร ๆ ก็รู้ว่าพี่เป้เป็นเกย์ตัวพ่อ
ถ้าพี่แกติดใจคนคนนั้นรับรองว่าไม่มีรอด
จนกว่าจะเสียประตูหลังให้แกทำแต้มนั้นแหละ



ทุกคนรู้....


ยกเว้นเด็กเฟรชชี่หน้าใสเพิ่งเข้ามาใหม่อย่างนายซีเกมส์
ผู้ไม่เคยได้ยินเกียรติศัพท์อันลือเลื่องมาก่อน
จึงกลายเป็นเหยื่อรายล่าสุดที่ดันเผลอไปถูกใจนักทำประตูเข้าให้
กระทั่งโดนพี่แกมอมเหล้าลากขึ้นเตียงเอาง่าย ๆ



...ลองคิดสภาพผู้ชายที่ตื่นขึ้นมาเหลือบ๊อกเซอร์เพียงตัวเดียว
โดยมีไรหนวดแข็ง ๆ ลิ้นชื้น ๆ ไซไปมาตามซอกคอ
พอลืมตามองกลับถูกจ้องตอบด้วยแววตาหื่นกระหายแบบไม่ปิดบัง
จะขยับตัวไปไหนก็ไม่ได้  เพราะขาถูกกดทับด้วยน้ำหนักของผู้ชายที่ล้ำมากกว่าตัวเองเท่าหนึ่ง
ซ้ำเนื้อตัวยังโดนมือปลาหมึกสาก ๆ ลูบไล้ขยำไปมาตั้งแต่หน้าอกจนถึงก้น
แถมมีเสียงหอบหายใจฟืดฟาดเป็นแบล็กกราวน์ประกอบอารมณ์หื่นอีก



....นั้นแหละครับ สิ่งที่ไอ้เกมส์เผชิญ



...เหตุการณ์ที่เกิดมันรุนแรงจนถึงขนาดทำให้จิตใจของเขาช็อค!



และคงเป็นเพราะอาการตกใจอย่างหนัก
คล้ายอาการของคนที่เห็นไฟไหม้บ้านแล้ววิ่งไปยกตู้คนเดียวได้
เลยทำให้เขาสามารถใช้แรงถีบคนตัวใหญ่จนกระเด็นตกเตียง
แล้วรีบคว้าเสื้อผ้า วิ่งหนีออกมาจากห้องพี่ปูเป้แบบไม่คิดชีวิต



...ถึงทางกายภาพจะหนีรอด



....แต่สภาพจิตใจของนายซีเกมส์กลับถูกยำยีเละไปแล้วไม่มีเหลือ



ความกลัวฝังรากลึกเกิดเป็นปมในใจ เขาผวาผู้ชายไปอยู่พักหนึ่ง
แต่หลัง ๆ อาการเริ่มดีขึ้น จึงทำให้กลับมาเป็นปกติ


...ยกเว้นอย่างเดียว คือ อย่าให้มีผู้ชายมาจีบ
หรือมองเขาด้วยสายตาหื่นแปลก ๆ อีกเป็นอันขาด
ไม่งั้นอาการกลัวมันจะกำเริบ เพราะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น



แล้วครั้งนี่พวกเพื่อนโรงเรียนมันดันจะชวนเขาไปสถานที่ก่อเหตุอีก


....แค่นึกก็ขนลุกแล้ว ใครที่ไหนมันจะกล้าไปอีกวะ




“เออ...ฮาเปลี๋ยนใจ๋บ่ไป๋ได้ก๋า?”


คนมีอดีตติดตัวพยายามหาทางเลี่ยง
และแน่นอนว่าต้องได้ยินคำห้ามดังมาจากไอ้ต้าร์อย่างหงุดหงิด


“โคะ! เป๋นอะหยังวะ นาน ๆ ป๊ะกันที คิงอย่าเล่นตั๋ว”


“นั้นดิ ไป๋เต๊อะเกมส์ บ่ไจ้หมู่เฮาจะร่วมกั๋นได้บ่อยๆ”



ไอ้ทัชพูดชวนสมทบขึ้นมาอีกรอบ สร้างความลังเลให้กับคนกลัว


...ใจจริงเขาก็อยากไปกับพวกมันอยู่หรอก
แต่ทำไมต้องเลือกเป็นผับเดอะกลาสด้วยวะ
เกิดไปเจอพี่ปูเป้ขึ้นมาอีกจะทำยังไง


...แต่คิดดูอีกที.... เรื่องมันก็เกิดขึ้นมานานแล้ว
แล้วก็ไม่ใช่พี่ปูเป้จะสิงอยู่ที่ผับทุกวันซะหน่อย
บางทีเขาอาจจะไม่เจอพี่ปูเป้อีกก็ได้

ครั้งนั้นที่เกิดเรื่องเพราะเขาดื่มเหล้าจนเมา
แต่ถ้าคราวนี้ไม่ดื่มมากไป พอครองสติตัวเองก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
แถมมีเพื่อน ๆ มากันเยอะขนาดนี้ด้วย


...เอาไงดีวะ


เกมส์วิเคราะห์ในใจไปมาอยู่หลายวิ
สุดท้ายความอยากก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ความกลัว
เขาจึงพยักหน้ารับไปอย่างแกน ๆ


“เออ ๆ ก็ได้ แต่พวกคิงต้องบ่ทิ้งฮาไว้นะ
ถ้าจะปิ๊กหอเมื่อใด ต้องปิ๊กพร้อมกั๋น”


...พูดดักไว้ก่อนเลย เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน
อย่างน้อยก็ยังแน่ใจว่า ถ้าเขาหายไปเพื่อนมันต้องมาตาม



ด้วยเหตุนี้ เด็กเชียงใหม่จึงพากันยกขบวนไปประกาศศักดากันต่อตามที่ตกลง


....


...


.
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 12-02-2013 22:01:26
...

.


...ผับเดอะกลาส

เป็นผับที่เป็นแหล่งร่วมตัวของวัยรุ่นนักศึกษาชื่อดัง
เพราะมีดนตรีเล่นสดกันมันส์หยด แถมตัวผับเองก็มีลุคสุดแสนโมเดิร์น
เนื่องจากใช้กระจกเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างสมชื่อ


พอมาถึงพวกพี่ก็ร้องสั่งเหล้าจัดกันไม่ยั้ง
ซึ่งนายซีเกมส์ได้อานิสงค์มาบ้าง
ไหน ๆ ก็ของฟรีทั้งที ถ้าไม่ดื่มเดี๋ยวเสียบรรยากาศ
ถึงแม้จะต้องยั้งตัวเองไม่ให้เมามากก็ตาม


เสียงดนตรีดังกระหึ่ม เคล้าบรรยากาศกรึ่ม ๆ แอลกอฮอล์กำลังได้ที่
ยิ่งพอสังเกตเห็นแล้วว่าไม่มีพี่ปูเป้นักล่าประตูอยู่ด้วย
ก็ยิ่งทำให้คนมีอดีตสบายใจขึ้นมาหน่อย

เขากำลังเหล่มองสาวน้อยผมยาวยิ้มน่ารักอยู่พอดี
แต่ชั่วขณะกลับรู้สึกถึงแรงสะกิดจากข้างตัว


“น้องเกมส์ ๆ เห็นทัชบ้างก่อ ปี้มีเฮื้องจะคุยกับเปิ้นหน้อย”


‘พี่สอง’ พี่ผู้หญิงโรงเรียนเก่าที่จะจบปีนี้ถาม
เขาหันไปมองรอบ ๆ ก่อนจะส่ายหัวบอกปฏิเสธ


“บ่เห็นเจ้า แต่เดี๋ยวเกมส์เรียกเปิ้นฮื้อนะปี้”


เขารับปากก่อนเดินไปหาไอ้ต้าร์ ซึ่งกำลังวาดลวดลายเต้นพริ้วอยู่ไม่ไกล
แล้วตะโกนถามแข่งกับเสียงลำโพง


“ไอ้ต้าร์ ๆ เห็นไอ้ทัชก๋อ?”


"ทัชไป๋หาเปื้อนเปิ้นตรงปู้น”


คนตอบชี้ไม้ชี้มือไปยังทิศตรงกันข้ามกับกลุ่มของเขา
นายซีเกมส์จึงก้าวตามไปหาเป้าหมายโดยอาศัยแสงไฟวิบวับของผับนำทาง
ก่อนจะเจอเพื่อนตัวเองยืนหันหลังคุยกับใครสักคนที่หน้าโต๊ะหนึ่ง


“เฮ้ย!  ไอ้ทัช! ปี้สองเรียกหาคิง”


เจ้าของชื่อหันกลับมาทันทีตามเสียง
และไม่ใช่แค่คนเดียว แต่คู่สนทนากลับหันตามมาด้วย
ซึ่งพอเขาได้เห็นหน้าอีกฝ่ายเท่านั้นแหละ...


นายซีเกมส์จึงเพิ่งตระหนักชัดแจ้งในคำที่บอกไว้ว่า...



....ประวัติศาสตร์แม่งซ้ำรอยกันได้จริง ๆ




“อ้าว...นั่นเกมส์ไม่ใช่เหรอครับ”


หนุ่มหล่อเดือนวิศวะทักกลับทันที เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่เป็นใคร
คำพูดที่เหมือนคุ้นเคยกัน ทำให้ผู้มีศักดิ์เป็นเพื่อนทั้งสองคนต้องถามงง ๆ


“รู้จักกันด้วยเหรอวะ ไอ้ดิว”


“อืม...เคยไปเข้าค่ายอาสาด้วยกันมา”


“อ้อเหรอ...เออดีวะ โลกมันกลมเนอะ”




...กลมเลย



....กลมซะกูอยากจะกลิ้งตัวเองให้หนีไปอีกขั้วโลกหนึ่งอยู่แล้วเนี่ย



...โอยยยย....จะบ้าเหรอวะ!!!


มันเวรกรรมอะไรกับชีวิตเขากันนักห่ะ
ไม่เจอพี่ปูเป้แต่ดั๊นนมาเจอกับคนที่มีแนวโน้มไม่ต่างกัน


....หนีเสือปะจระเข้แท้ ๆ เลย ไอ้เกมส์เอ้ยยย!!



...แล้วจะทำยังไงดีล่ะที่นี่ 
ขามันเริ่มสั่น ๆ ไม่มีแรงอีกแล้ว
ขืนอยู่ตรงนี้อีกสักพักได้ลงไปนอนกองกับพื้นแน่


...ไม่เอา เขาต้องหนี
ใครจะโง่อยู่รอเป็นเหยื่อถวายพานให้ทั้งเสือทั้งจระเข้กินกันง่าย ๆ


เขาก็แค่มาเรียกไอ้ทัชเฉย ๆ  เสร็จแล้วก็ไปแค่นั้น



....แค่นั้น



....แล้วไอ้ทัชมันจะมาลากแขนเขาเข้าไปที่โต๊ะทำไมวะเนี่ย!!



“มา...ไอ้เกมส์ ไหน ๆ มาแล้ว
คิงมายืนนี่ ชนแก้วกับเปื้อนฮาสักตั้ง
ดิวเปิ้นอยู่คนเดียว ฮาบ่อยากฮื้อเปิ้นเหงา
เดี๋ยวฮาไป๋หาปี้สองก่อน”


คนพูดจัดการดึงแขนคนที่เตรียมหนีให้มาใกล้
ไม่เพียงแค่นั้นยังมีน้ำใจชงเหล้าแก้วใหม่ยัดใส่มือเพื่อน
ก่อนเจ้าตัวจะตบไหล่คนรู้จักสองคนให้สานสัมพันธ์คุยกันเอง
แล้วจึงเดินหายลับไปอย่างรวดเร็ว
ทิ้งให้นายซีเกมส์ได้แต่มองตามอย่างนิ่งอึ้ง



...เฮ้ย!! ได้ไงวะ!!


อยู่ ๆ ทิ้งเขาหน้าตาเฉยแบบนี้ได้ยังไง
มันบอกว่ากลัวเพื่อนมันเหงา
แต่เขาก็เพื่อนมันเหมือนกันนะโว้ย!!

ทำไมไม่ถามความเห็นเขาสักคำเลยวะ
นี่ไม่สนใจเลยใช่มั้ยว่าเพื่อนคนนี้จะเป็นจะตายรึเปล่า
ถึงได้มาปล่อยเขาอยู่กันตามลำพังสองคนอย่างนี้


....แม่ง! ไอ้เชี่ยยทัช ไอ้เพื่อนทรยศ!!


....มึงอย่าเพิ่งไป กลับมาช่วยกูก่อนนนนน!!



คนถูกทิ้งร้องโวยวายอยู่ในใจ
ก่อนสะดุ้งเฮือกสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงคนข้างกายเอ่ยทัก



“เกมส์เป็นคนเหนือเหรอครับ ผมเพิ่งรู้”



...กูเป็น ‘คน’ ทุกที่แหละ


ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเขาคงเล่นมุกนี้กลับไปแล้ว


....แต่ตอนนี้คงเล่นไม่ได้
เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองชักจะไม่เป็น ‘คน’ เข้าไปทุกที


...หัวใจมันจะวายตายกลายเป็น ‘ผี’ อยู่แล้ว!


ใครก็ได้เตรียมโลงให้เขาเลยมา
เวลาเป็นลมจะได้นอนเอนหลังลงไปเลย

 
อ้าว...แล้วนี่มันจะเขยิบเข้ามาใกล้อีกทำม๊ายยยยย!!
แถมยังจ้องไม่หยุดอีกต่างหาก


....เอาเข้าไป บัดซบชีวิต


โอยยย....มึงช่วยออกไปห่าง ๆ หน่อยได้มั้ย



....กูกลัวจะตายห่าอยู่แล้วโว้ยยยยยย!!



คนที่อาการกลัวผู้ชายจีบเริ่มกำเริบโวยวายในใจ
ยืนตัวเกร็ง เผลอบีบแก้วในมือแน่นจนมันสั่นเบา ๆ 
หากแต่หนุ่มหล่อกลับไม่รับรู้ ซ้ำยังขยับเข้ามาหาใกล้ ๆ
เหมือนคนสำรวจพิจารณา ก่อนตั้งข้อสังเกต



“มิหนาล่ะ ผมถึงว่าเกมส์ผิวดีจัง เพราะเป็นคนเหนือนี่เอง”



...เอ้า! แล้วมันจะมายุ่งอะไรกับผิวเขากันคร้าบบ


....ไม่มีอะไรให้มองแล้วเหรอคู้ณณณ!!


เขาก็แค่ผิวขาวเหลืองเหมือนคนเหนือทั่วไป
แถมไม่เคยดูแลสนใจใยดีผิวตัวเองเลยสักนิด
แต่อยู่ดี  ๆ มันดันมาชมซะงั้น
ไม่ใช่ว่ามันมองอยู่ก่อนแล้วหรอกนะ



อ้าว...ชิบหาย....


.....ซวยแล้วไงมึง!



....นี่กูโดนมันลวนลามทางสายตาไปเท่าไรแล้ววะเนี่ย!!



แค่คิดขนก็ดันลุกซู่ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ
เกมส์ยังคงนิ่งเงียบปิดปากสนิทเหมือนคนถูกสาปให้เป็นใบ้
กระนั้นร่างสูงกลับยังไม่ยอมแพ้เอ่ยประโยคชวนคุยต่อ


“ผมชอบภาษาเหนือนะ ฟังแล้วเพราะดี
ถ้ายังไงเกมส์ช่วยสอนให้ผมพูดบ้างได้มั้ยครับ”



คำขอที่ไม่คิดว่าจะได้ยินทำเอาคนฟังชะงัก


...อะไรนะ

...มันอยากให้ช่วยสอนภาษาเหนือเหรอ


เอาจริงดิ...
เห็นอย่างนี้นายซีเกมส์มีจิตสำนึกรักบ้านเกิดอยู่เหมือนกัน
เลือดคนเชียงใหม่มันแรง ถ้าอยากให้สอนเฉย ๆ เขาก็พอจะทำให้ได้
แค่ขอให้มันไม่มาทำลวนลาม ส่งสายตากรุ้มกริ่มตั้งท่าจะจีบใส่เขาก็พอ


...แล้วพอคิด ๆ ดู
ถึงดิวจะขยับเข้าใกล้ แต่มันก็ไม่ได้มีท่าทีคุกคามอะไรใส่เขา
มันเพียงแค่ยิ้มเรื่อย ๆ ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มสบาย ๆ เท่านั้น


...ใจเย็น ๆ ไอ้เกมส์  มึงไม่ต้องกลัว


....ค่อย ๆ ตั้งสติ


....เมื่อกี๊เผลอตกใจมากไปหน่อย ดิวมันยังไม่ได้ทำอะไรเลย
จะมอมเหล้ารึก็เปล่า แก้วเหล้ายังอยู่ในมือเขา แถมไม่ได้ยกจิบสักอึก
เพื่อนเขาก็มีเยอะแยะ ถ้าเกิดเรื่องค่อยวิ่งหนีไปหามันก็ได้


....ไม่ต้องไปกลัว ไอ้เกมส์ มึงกล้า ๆ หน่อยสิวะ!



เขาสูดลมหายใจลึกระงับอาการตื่นตกใจ
พยายามรวบรวมสติให้เข้าที ก่อนพยักหน้า
เปล่งเสียงพูดสั่น ๆ ออกมาเป็นคำแรก


“ดะ...ได้”


ดิวยิ้มบางเมื่อได้ฟังคำตอบจากคนยืนนิ่ง
แล้วจึงเอ่ยคำคำหนึ่งให้เจ้าของภาษาช่วยสอน



....หากแต่มันกลับเป็นคำที่ทำให้คนรับปากแทบอยากจะถอนคำพูด




“งั้นเกมส์ช่วยสอนผมหน่อย

......คำว่า ‘น่ารัก’

ภาษาเหนือต้องพูดว่ายังไงเหรอครับ”





.....คำว่า ‘น่ารัก’ กูไม่รู้ เพราะตอนนี้กูรู้จักแต่คำว่า ‘น่ากลั๋ว’



....น่ากลั๋วชิบหายเลยโว้ยยยยยยย!!!




สิ้นคำขอ ความกล้าที่รวบรวมไว้ตอนนี้แตกสลายมลายหายเกลี้ยง
สิ่งที่เหลือมีเพียงความกลัว แล่นตรงดิ่งเข้ามาจับขั้วหัวใจของนายซีเกมส์เท่านั้น
ยิ่งเมื่อเห็นสายตาของดิวมองมาเหมือนเจาะจงในความหมาย
ก็ยิ่งทำให้คนถูกจ้องเป็นลมหงายหลัง



มะ...ไม่เอาแล้ว.....กูไม่ไหวแล้ว



...ขอร้องล่ะ กูไหว้ล่ะนะ


ถึงเขาจะไม่เชื่อผีสางนางไม้เทวดา
แต่ตอนนี้ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
เวลาคนกลัวอะไรมาก ๆ ก็มักจะยึดเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งสุดท้ายเสมอ


....นายซีเกมส์เองก็ไม่ต่างกัน
ในใจเตรียมยกมือไหว้ขึ้นท่วมหัวอธิษฐานอย่างวิงวอน


...สาธุ!! พ่อเจ้าพระคู๊ณณณ
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยลูกช้างน้อย ๆ อย่างเกมส์ทีเถอะ
ถ้ารอดตายไปได้เขาจะทำบุญถวายให้เก้าวัดเลย เอ้า!!




“ตกลงต้องพูดว่ายังไงครับเกมส์”


ได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยเร่ง ทำให้คนกลัวสะดุ้งเฮือกแทบประสาทแดก


ฮือออออ....มึงอย่าเร่งกูได้มั้ย
กูจะร้องไห้อยู่แล้วเนี่ย


...เออ ๆ คำว่า ‘น่ารัก’ เหรอ
ได้ ๆ มึงอยากรู้ใช่มั้ย
ถ้ารู้แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีกนะ
ตอนนี้ให้สั่งอะไรกูยอมหมดทุกอย่างแล้ว



คนหมดทางสู้จึงกลั้นใจเอ่ยคำตอบออกมา


....คำว่า 'น่ารัก' ภาษาเหนือ มันต้องพูดว่า....




“นะ...นะ...น่า...ฮะ...ฮะ....ฮัก”




ถ้อยคำที่บอกเบาหวิวซ้ำยังฟังไม่เป็นภาษา
เพราะว่าปากของคนพูดมันสั่นไม่หยุด
จนกลายเป็นประโยคตะกุกตะกักที่ทำเอาดิวต้องขมวดคิ้ว
ขยับเข้ามาใกล้ พลางถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ



“ว่ายังไงนะครับ”



เกมส์เบิกตากว้างมองระยะที่ห่างหดลงเหลือแค่คืบ
ลมหายใจของเขาแทบขาดห้วง
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อใสอย่างใกล้ชิด
รู้สึกทันทีว่าเลือดในตัวไหลไปรวมกัน


...ไม่ใช่ข้างบนหน้า แต่เป็นข้างล่างเท้า



มะ...ไม่ไหวแล้ว...



เรี่ยวแรงหมดสิ้นเหมือนโดนธรณีสูบ หัวสมองหมุนติ้ว
คล้ายอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเป็นลมตายคาที่
ทว่าก่อนที่เขาจะน็อคไปจริง ๆ
กลับมีเสียงสวรรค์ดังเป็นเหมือนระฆังช่วยชีวิต



“ขอโทษนะคะ ให้นาเดียร์ดื่มเป็นเพื่อนด้วยคนได้มั้ยค่ะ”


เสียงสวรรค์มาพร้อมกับนางฟ้าผมยาวสุดเซ็กซี่
ในชุดเดรสสีแดงรับรูปอวดหุ่นเว้าโค้งได้เหมาะเจาะ
ใครเห็นก็ต้องมองเหลียวหลังจนน้ำลายหก
ไม่เว้นแม้แต่สองหนุ่มที่ถูกถาม


“ได้สิครับ”


ดิวยิ้มตอบรับด้วยความยินดีพลางขยับผละจากอีกคน
เพื่อให้นางฟ้าชุดแดงเยื้องกายมาอยู่ข้าง ๆ

โดยมีนายซีเกมส์มองตามแทบไม่ละสายตา
ใจนึกอยากจะเข้าไปกอดนางฟ้าบนดินตัวเป็น ๆ สักครั้ง


...สวยนะใช่ แต่เขาอยากไปกอดขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขาต่างหาก



โอยยย....กูรอดแล้ว กูรอดแล้วโว้ยยยย!!



เขากู่ร้องในใจอย่างยินดี
อยากจะอยู่เชยชมคุณพี่สุดเซ็กซี่อยู่หรอก
แต่ตอนนี้ในเมื่อมีโอกาสจะอยู่ทำไมให้โง่


คนคิดหนีจึงรีบวางแก้วเหล้าที่ถืออยู่
แต่ยังไม่ทันเดินออกห่างจากโต๊ะ
เสียงจากด้านหลังกลับเอ่ยรั้ง


“อ้าว....เกมส์จะไปไหนล่ะครับ”


“กะ...ก็มี...พะ..เพื่อนนั่งแล้ว...ระ...เรากลับล่ะ”



ดูเหมือนจะเป็นประโยคยาวที่สุดในวันนี้ที่เขาพูดกับดิว


...ก็ในเมื่อไอ้ทัชกลัวดิวเหงาเลยให้เขานั่งเป็นเพื่อน
แต่ตอนนี้มันมีหญิงมานั่งด้วยแล้วก็ถือว่าเขาไม่มีประโยชน์


...จะโทษเขาไม่ได้นะเว้ย!!



นายซีเกมส์จึงรีบเผ่นหนีกลับมายังโต๊ะของตัวเอง
ซึ่งเขาเห็นไอ้ทัชยังคุยกับพี่สองอย่างออกรส
เหมือนลืมไปแล้วว่าทิ้งให้เพื่อนต้องเผชิญกับอะไร
จนมันเหลือบมาเจอเขานั้นแหละถึงได้ร้องถาม



“อ้าว...ไอ้เกมส์ แล้วดิวเปื้อนฮาล่ะ บ่ไจ้ทิ้งเปิ้นไว้คนเดียวเน้อ”


“มันอยู่กั๋บแม่หญิง”


“อ้อ...อีกแล้วก๋า ดิวเปิ้นหน้าตาดี
มาผับทีไรเปิ้นได้แม่หญิงกลั๋บไป๋ทุกที ฮายังอิจฉา”


หนุ่มวิศวะตอบแบบไม่แปลกใจอะไร
คล้ายรู้นิสัยของจอมคาสโนว่าประจำคณะดีอยู่แล้ว



แต่คนที่ได้ฟังกลับทำหน้าเหนื่อยหน่าย ยกแก้วเหล้ามาดื่มย้อมใจ


...ก็ถ้าดิวจะมีผู้หญิงมาจีบเยอะอยู่แล้ว
มันจะมาทำท่าเหมือนจีบเขาทำไมล่ะวะ ประสาทรึเปล่า!

มีผู้หญิงสวย ๆ น่ารักวิ่งเข้าหาดันไม่ชอบ
เขาสิตามหาผู้หญิงตั้งนานยังไม่เคยมีใครมาสนใจเลย
ดันเสือกมีแต่ผู้ชายวิ่งเข้าใส่



....แม่ง!! ทำไมโลกนี้ถึงไม่ยุติธรรมเลยวะ!!



แต่เอาเถอะ...ช่างมัน...


ขอแค่เขารอดจากเอื้อมมือมัจจุราสมาได้ก็นับว่าบุญแล้ว
ดิวมันจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายเขาไม่รู้
แต่สิ่งที่เขารู้แน่ชัดตอนนี้มีเพียงเรื่องเดียว




....จำไว้นะไอ้ผับเดอะกลาส



...กูจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกเลยตลอดชีวิต!!!







----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------






....มาโบโร่มินต์ถูกจุดไฟในเวลาใกล้เที่ยงคืน



ณ ระเบียงห้องชั้นบนคอนโดในตัวเมือง ซึ่งถูกเช่าไว้สำหรับเป็นที่พัก
สมฐานะของ 'นายเตวิชญ์ สหวัฒน์' หรือ 'ดิว'
หนุ่มเดือนคณะวิศวะปีสาม รูปหล่อ พ่อรวย สุดเพอร์เฟค
จึงไม่แปลกที่จะมีสาว ๆ หลายคนมารุมตอม เพราะหน้าตาและเงินในกระเป๋า
เหมือนผู้หญิงเซ็กซี่ชุดแดงที่เพิ่งหิ้วมาจากผับคนนั้น
ซึ่งกำลังนอนสบายอยู่บนเตียงเขาหลังจากเสร็จกิจกันไปเรียบร้อย



ร่างสูงอัดควันบุหรี่เข้าปอดก่อนพ่นมันออกมา
ปรากฏเป็นควันเบาบางในอากาศแล้วค่อย ๆ จางหาย


...ความสัมพันธ์ของเขาก็ไม่ต่างจากควัน


วันไนท์สแตน ตอบสนองอารมณ์เสร็จก็แยกย้ายกันไป
เขาไม่เคยจริงใจกับใครได้นาน ไม่เคยรู้จักความผูกพัน


....สำหรับเขาความรักมันก็แค่คำหวาน ๆ คำหนึ่งไว้ใช้จีบผู้หญิง


เขาสามารถพูดอะไรเลี่ยน ๆ  หรือน้ำเน่าแค่ไหนก็ได้
เพราะจับจุดได้ว่ามีผู้หญิงหลายคนชอบ
และเขามักจะได้เหยื่อง่าย ๆ จากคำหวานเหล่านั้น


...ยกเว้นก็เพียงแค่คนเดียวที่เขาดูไม่ออก



กับเกมส์เขาไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวคิดยังไง
อุตส่าห์จีบด้วยคำหวาน ๆ แบบชัดเจนเต็มที่
ถ้าเป็นคนอื่นคงได้หน้าแดง เขินกันไปแล้ว
แต่เกมส์ดันเอาแต่เงียบ แถมยังพูดลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ


....เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง


หรือเพราะเกมส์เป็นผู้ชายเลยมีนิสัยไม่เหมือนผู้หญิง
แต่ผู้ชายที่เขาเคยคั่วด้วยก็ไม่เห็นเป็นแบบนี้



...ยิ่งนึกก็ยิ่งติดใจ



ดิวสูดควันบุหรี่อีกครั้งจนไฟแดงวาบ
พอคิดถึงภาพของคนคนนั้นในหัว
ก็อดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมา



....เอาเถอะ...

ถ้ามีโอกาสเขาก็อยากหาทางเข้าใกล้อีกครั้ง
เพื่อพิสูจน์ว่าตกลงเกมส์รู้สึกยังไงกันแน่



แต่ตอนนี้สิ่งที่เขารู้แน่ชัดในใจมีเพียงเรื่องเดียว...



นั่นคือเรื่องเขาคิดไม่ผิดเลยว่า...




....เกมส์นี่ช่าง ‘น่าฮัก’ เสียจริง ๆ





----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC





สำหรับใครที่งง ๆ กับภาษาเหนือ มีแถมซับไตเติ้ลค่ะ   :-[

มาเรียนศัพท์เหนือกันวันล่ะคำกันนะ (ส่วนใหญ่มีแต่คำด่า)  :laugh:


ฮา  =  กู

คิง =  มึง

แห๋มหน้อย =  อีกหน่อย

บ่าห้าปันต๋าย  =  ไอ้เวร

โคะ!  =  คำอุทานไม่มีความหมายแบบ โว๊ะ! อะไรวะ!

ข้าวแลง  =  อาหารเย็น, มื้อเย็น

ป๊ะ = เจอกัน

เมิน = นาน   [บ่ได้ป๊ะกันเมิน คิงเป๋นจะใดพ่อง = ไม่ได้เจอกันนาน มึงเป็นยังไงบ้างวะ]

ปิ๊ก  = กลับ

ฮื้อ = ให้


นอกนั้นก็จะเป็นการเลียนเสียงแล้วค่ะ
 
จาก  ร.  เป็น  ฮ.  เช่น   รู้ = ฮู้ , โรงเรียน = โฮงเฮียน 

จาก  พ. เป็น  ป.  เช่น  เพื่อน = เปื้อน , พี่ = ปี้


จะพยายามใช้ศัพท์ง่าย ๆ เพื่อความเข้าใจกันนะคะ :)


BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 12-02-2013 22:17:22
ตอนนี้น่าฮักจริงๆ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 12-02-2013 22:33:54
แอบฮาหนูเกมส์กับอดีตที่เดอะกลาส

หลังจากนี้เกมส์คงไม่เหยียบที่นี่อีก

และเห็นด้วยกับดิวว่าเกม "น่าฮัก" จัง

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 12-02-2013 22:36:52
สงสารเกมส์นิดๆนะเนี่ย  ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 12-02-2013 22:54:18
เกมส์มีความหลังแบบนี้นี่เอง


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 12-02-2013 23:04:44
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 12-02-2013 23:05:42
น่าฮักขนาดดด :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 12-02-2013 23:09:10
ฮา เกมมากกก เบนแอบพูดสำเนียงเหนือตาม 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 12-02-2013 23:28:11
สงสารนุ้งเกมเบาๆ
แต่ก็อยากให้ดิวจริงจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 12-02-2013 23:28:29
เกมส์อ่ะน่ารัก
แต่ก็น่าสงสารแต๊ๆกะเจ้า
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-02-2013 23:42:24
 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 12-02-2013 23:55:44
กะลังจะได้ป้อ ไอ้จั๊ดง่าว ใจ้ก่อ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 13-02-2013 01:05:29
เกมส์เป็นโรคกลัวผู้ชายจีบ
อย่างนี้ดิวก็คงยากหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: Key Mine ที่ 13-02-2013 01:32:30
น่าฮักกกกกกกกกกแท้ :impress2:

เป็นกำลังใจให้นะคะ o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 13-02-2013 02:21:48
กว่าจะจีบติดคงแหมนานนนนน 

ท่าเกมส์ยังกลั๊วปู้จายหยังอี้
แต่จะใดก่อเชียร์อยู่เน้อเจ้า  น่าฮักแต๊น่อ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 13-02-2013 05:48:54
อ๊ายยยยย ดิวคาสโนว่ามากๆๆเลยค่ะ แง้วๆ แล้วมาจีบซีเกมส์แบบเล่นๆ ไหมเนี่ยยยยยย มิใช่ว่า ได้แล้วทิ้งนา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-02-2013 05:59:47
เค้าไม่เข้าใจภาษาเหนืออ่ะ แปลด้วยได้มั้ย
อีกหน่อยเกมส์คงต้องหึงไม่ไหวแน่เพราะดิวเสน่ห์แรงเกิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-02-2013 07:21:35
ดิวจริงจังป่ะเนี่ย??
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-02-2013 09:27:39
เพิ่งรู้สาเหตุที่เกมส์เป็นโรคกลัวผู้ชายวิ่งเข้าหา  เพราะไปเจอพี่ปูเป้กล้ามโตนี่เอง

นี่ถ้าดิวรู้ว่าเกมส์กลัวอะไร  ไม่รู้ดิวจะหาวิธีรักษาให้เกมส์หายกลัวได้ยังไง  เพราะแค่เจอและพูดไม่กี่คำ  เล่นเอาเกมส์เกือบเป็นลมล้มฟุบทุกที

เกมส์ น่าฮัก จริงๆ

กด + ให้กับความน่าฮักของคนเขียนที่มาอัพบ่อยๆ   :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-02-2013 10:07:41
แอบสงสารเกมส์เบาเบา

งานหนักนะเนี่ยคาสโนว่าปะทะคนกลัวผู้ชายจีบ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 13-02-2013 10:23:20
เป็นนิยายที่ไม่ควรแอบอ่านในที่ทำงานเป็นอย่างยิ่ง
เพราะมันทำให้อึดอัด ยิ้มมากก็ไม่ได้ ต้องเกร็งไว้
หัวเราะเสียงดังก็ไม่ได้  เค้าจะรู้ว่าอู้
แต่ทีเ่ป็นอยู่ อยากจะฮาปนขำและเอ็นดูน้องเกมส์เหลือเกินค่ะ
ชีวิตมันก็เป็นอย่างนี้แหละเกมส์  พรหมลิขิตกำหนดขีดเส้นไว้
ไม่ต้องดิ้นรนไป หนียังไง คาดว่าจะไม่พ้น ฮ่า ฮ่า

ตอนนี้เป็นตอนเปิดตัวหนุ่มหล่อโคตรเพอร์เฟกในรายละเอียดครั้งแรกสินะ
ที่อ่านผ่าน ๆมา รู้ว่าดิวเป็นคนหล่อมาก หน้าตาดี สุภาพ แอบกรุ้มกริ่ม
ครั้งนี้ได้เห็นอีกบุคลิกเพิ่ม ท่าทางพี่ดิวจะรุกล่ะน้ออออน้องเกมส์
เตรียมสั่นสู้ได้เลย  :กอด1:

ปล. ตกลงว่ายอดสะเดาข้่่าวโพดต้ม มีแค่ปากแตะเหรอคะ (หวังอะไรอยู่ฮึ)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 13-02-2013 11:23:50
ซวยซ้ำซวยซ้อน ซวยซ่อนเงื่อนขนาดเลยเน่อเกมส์
หนีเสือปะจระเข้ แล้วหยั่งอี้จะเอาตั๋วรอดได้ก่อนิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 13-02-2013 17:08:44
เริ่มเข้าใจความหลังของเกมส์บางแล้วนะ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-02-2013 18:09:10
น้องเกมส์น่ารักขนาดดดดดดดดด :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 >; P.74
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-02-2013 18:44:01
เกมส์น่าสงสารอ่า!!  คงจะฝังใจมากสินะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 13-02-2013 22:20:39
นี่คงเป็นเหตุผลที่เกมส์กลัวดิว  ฮ่าาาา
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 14-02-2013 18:41:15
อ๊า มาแล้ว มาแล้ว น้องดิวและน้องเกมส์ คอยมาหลายวัน พอลืมเปิดแค่ 2-3 วันมาซะสองตอน 55555555  ชอบคู่นี้มากเลย เพราะน่าจะต้องมีเต่าน้อยมาเดินแวบๆกับน้องคมในนี้มั่งแน่ๆ อยากรู้ว่า ดิวจะรักษาเกมส์ยังไง อิอิ

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 14-02-2013 18:43:07
กดบวกปล่อยเป็ด
อ่านรวดเดียวแล้วติดงอมแงม
ในที่สุดดิวก็มีเรื่องเป็นของตัวเองเสียที
จูปาจุ๊บอร่อย
ขอบคุณสำหรับวาเลนไทน์ได้อ่านเรื่องน่ารักอีกเรื่อง
จะติดตามต่ออย่างเหนียวแน่น^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 14-02-2013 21:01:58
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย
สงสารเกมส์มาก เป็นใครใครก็ช็อค
เล่นตื่นมาเจอว่าตัวเองกำลังจะโดนเกย์ก้ามปูกิน  :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 14-02-2013 21:34:18
.. :m22:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 2] 12/02/56 > P.74
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-02-2013 00:05:14
สงสารเกมส์น่ะ เจอเหตุการณ์ที่ทำให้ช็อค
ก็เป็นธรรมดาที่จะกลัวผู้ชายที่มาจีบ
ส่วนดิว ยังไม่รู้เรื่องราวของเกมส์
แต่ถ้ารู้แล้ว และยังคิดจริงจัง จริงใจกับเกมส์ ก็คงต้องออกแรงเยอะหน่อยล่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 15-02-2013 22:28:24
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 3




“ได้ข่าวว่าเมื่อวานไปเดอะกลาสมาเหรอย่ะ”


เสียงถามที่ดังขึ้นทำให้นายซีเกมส์ต้องชะงักมือที่กำลังแกะกล่องโคอาล่ามารช์
หันไปมองเพื่อนชายใจหญิงซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ
 

ขอแนะนำให้รู้จัก ‘บอลล่า’ หรือชื่อเดิมคือ ‘ไอ้บอล’
กระเทยหนึ่งเดียวประจำกลุ่มชายล้วนทั้งห้าของเขา
ดีกรีปากจัดกวนตีนไม่แพ้ใคร ถึงได้คบกับเขายืดตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสาม
แถมเรื่องความรู้รอบตัวโดยเฉพาะเรื่องชาวบ้านดูเหมือนเจ๊จะหูตาไวเป็นพิเศษ
สมฉายาเจ้าแม่ข่าวกรอง จนเขาอดไม่ได้ที่จะถามประชดกลับ



“ไปรู้มาจากไหนล่ะ หรือว่าสิงอยู่ในลำโพงผับรึไงครับ เจ๊”


“มะเหงกน่ะสิ! เห็นนังแนนนี่มันบอกว่าไปเจอแกมา
แล้วเป็นไง ไปลองของมาเจอดีบ้างมั้ย”


บอลล่าทำเสียงบ่น แต่ท้ายประโยคไม่วายถามกลับด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ทำเอาคนที่ไปลองของจริง ๆ ถึงกับขนลุก เพราะถึงแม้เดอะกลาสจะไม่ใช่บ้านผีสิง
แต่ดีกรีความน่ากลัวของมันก็ยังสะพรึงติดตัวเขาไม่หาย
ยิ่งเมื่อวานได้เจอประสบการณ์สยองขวัญจากเดือนคณะวิศวะเข้าไป
ยิ่งทำให้เขาคนเสียวสันหลังวาบ พยายามเอ่ยเลี่ยงเปลี่ยนประเด็น


“อย่าพูดถึงมันเลยเจ๊ ก็รู้ว่าคนกลัว ๆ อยู่”


“หึ พูดแบบนี้ แสดงว่าโดนผู้ชายจีบมาอีกแล้วล่ะสิ
เฮ้อ...ฉันไม่รู้ว่าจะสงสารหรือว่าอิจฉาแกดี
นี่...ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าทำไม๊ทำไมถึงได้มีผู้ชายวิ่งเข้าหาแกตลอด
แต่ก็นะ...ดู ๆ ไปแกมันสเป็คเกย์นั้นแหละ 
ปากนิด จมูกหน่อย แถมขาวจั๊วะแบบเนี่ย
ฉันล่ะไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ผู้ชายจะตอมแกจนหึ่ง
ถามจริงชาติที่แล้วทำบุญมาด้วยอะไรย่ะ
ฟีโรโมนเรียกผู้ชายมันถึงได้เปล่งออร่าขนาดนี้
บอกมาซิ...ฉันจะได้ไปทำมั้ง ทุกวันนี้หาผู้ชายย๊ากยาก
กระเทยไทยจะไร้ที่ยืนอยู่แล้วนะรู้มั้ยเนี่ย!”


คนเก็บกดมานานระบายเป็นคำยาวเหยียดออกมารวดเดียวหมดสิ้น
แต่เขาไม่ได้ฟังหรอก ทำเฉย แล้วหันไปพินิจพิจารณาโคอาล่ามารช์ในมือแทน
จนบอลล่าที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าพูดอยู่คนเดียวต้องถามขึ้นเสียงดุ


“นี่สนใจฉันบ้างรึเปล่าห่ะ! มัวแต่กินขนมอยู่นั้นแหละ”


“โห...ก็เจ๊บ่นเร็วเป็นจรวดขนาดนี้ใครจะไปฟังทัน เดี๋ยวเสียสมาธิหมดพอดี”


“สมาธิอะไรยะ! ฉันไม่เห็นแกทำอะไรสักอย่าง”


บอลล่ากอดอก เอ่ยถามอย่างหงุดหงิด
ก่อนคู่สนทนาจะทำเสียงจิ๊จ๊ะ ชูช็อกโกแล็ตรูปตุ๊กตาหมีให้อีกฝ่ายเห็นชัด ๆ
แล้วตามมาด้วยคำอธิบายเหตุผล
 

“ก็นี่ไง กำลังทำอยู่ เห็นป่ะเนี่ย
เคยได้ยินป่ะ เขาว่ากันว่า ถ้าเจอโคอาล่ามารช์มีคิ้ว แล้ววันนั้นจะโชคดี
ก็เลยต้องตั้งสมาธิหา เดี๋ยวเผลอกินเข้าไปไม่ทันดูขึ้นมา เจ๊จะรับผิดชอบเหรอ”


“โอยยย!! ไอ้เกมส์ ปัญญาอ่อนอีกแล้วนะแก
ระวังเถอะกินขนมมาก ๆ ฟันจะผุเข้าสักวัน”


บอลล่าทำหน้าเพลีย
มองตัวโตเป็นควายขนาดนี้แล้วยังจะมาทำอะไรไร้สาระอยู่ได้

หากแต่คนกวนก็ยังเป็นคนกวนวันยังค่ำ
เพราะนายซีเกมส์แค่ยักคิ้ว แถมตอบกลับด้วยน้ำเสียงทะเล้น


“คร้าบแม่คร้าบ เดี๋ยวกินเสร็จแล้ว
ก่อนนอนเกมส์จะแปรงฟันนะครับ
คุณแม่อย่าดุเกมส์นะคร้าบบ”


“ไอ้เกมส์!!”


เจ้าของชื่อได้ยินเสียงตวาด แต่ไม่ทันแล้ว
เพราะเขารีบลุกเดินหนีขึ้นไปยังตึกเรียนก่อนจะโดนเพื่อนกระเทยตบตายคาโต๊ะ



...โห...แค่แซวเล่นนิดหน่อย เจ๊ทำเป็นโมโห
ทีเจ๊แหย่เขาเรื่องผู้ชายจีบ เขายังไม่บ่นเลย
สเป็คกงสเป็คเกย์อะไรกันวะ
หน้าตาเขาออกจะหล่อคมมาดแมน หุ่นเท่ห์ทรมานใจสาวขนาดนี้
ยังมีผู้ชายตาถั่วมาจีบเขาได้ พูดแล้วพาลสยองขนลุกขึ้นมาอีกรอบ
แล้วไหนยังจะมาแช่งให้เขาฟันผุอีกต่างหาก



..โด่...กินขนมแค่นี้อ่ะนะ ฟันจะผุ  ไม่มีทาง!

ฟันของเขาแข็งแรงอยู่แล้ว มีแคลเซียมและฟลูออไรน์พร้อมสู่กับแบคทีเรียเต็มร้อย
ถึงสองสามวันนี้มันจะจั๊กจี๊ฟันแปลก ๆ หน่อยก็เหอะ แต่เดี๋ยวก็หายแล้ว
จะให้คนอย่างไอ้เกมส์งดขนมหวาน ๆ  เป็นเด็กหกขวบเหรอ


หึ  บอกได้คำเดียว....



ฝันไปเถอะ!




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




....แม่ง ไม่ใช่ฝันว่ะ


ขอโทษครับ นายซีเกมส์ขอถอนคำพูดที่เคยพูดไว้เมื่อวาน

เพราะตอนนี้เขากำลังปวด...



...ปวดฟันแบบสุด ๆ!!



ทั้งๆ  ที่เมื่อวานยังกินขนม จูปาจุ๊บ ช็อกโกแล็ต ต่อด้วยไอศกรีมได้หน้าตาเฉย
แต่พอตื่นเช้ามาวันนี้ ทำไมฟันเค้ามันถึงปวดเหมือนมีใครเอาเหล็กมาแทงฟันเขาไว้
จะกลืนน้ำก็ปวด แตะก็ปวด ทรมานยิ่งกว่าเป็นร้อนใน
เพราะมันเจ็บจี๊ดขึ้นไปถึงสมอง จนทำให้เขานอนชักดิ้นชักงออยู่บนเตียงตั้งแต่เช้า


...ดี ที่ว่าวันนี้เป็นวันเสาร์ ไม่งั้นเขาคงต้องลากสังขารไปเรียนด้วยสภาพแก้มบวมตุ๋ย
พูดกับใครก็ไม่ได้ มีหวังคงโดนคนอื่นหัวเราะแน่ โดยเฉพาะเจ๊บอลล่าที่เคยแช่งไว้
ก็เพิ่งรู้ว่าเจ๊ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ เนี่ยแหละ ไม่เชื่ออย่าหลบหลู่
ถ้าเจอกันวันหลังจะเอาผ้าสามสีไปผูกสักหน่อย
หรือความจริงเจ๊มันมีจิตอาฆาตอะไรกับเขารุนแรงรึเปล่า ถึงแช่งกันได้เห็นผลเร็วขนาดนี้


...โอยยย แล้วเขาจะทำยังไงดีว่ะเนี่ย!!


...ปวดโว้ยยย ปวดฟันจะตายอยู่แล้วววว!!!




TRRRRRRRRRRR!!!



...อ้าว...แล้วใครเสือกโทรมาวะ


รู้มั้ยเนี่ยว่าพูดไม่ได้ แค่อ้าปากก็ลำบากแล้ว


...เข้าใจสถานการณ์กูบ้างมั้ยยยย!!



เกมส์เอื้อมมือคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงอย่างหงุดหงิด ใจอยากจะกดวางสาย
แต่ทันที่เหลือบเห็นชื่อคนโทรเข้าระบุชัดเจนว่า  ‘คุณนายสายสมร’
เขาก็ต้องรีบกระเด้งตัวจากที่นอน พยายามข่มความเจ็บ
แล้วเปลี่ยนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหวาน


“สวัสดีเจ้า แม่มีอะหยังก่อ?”


“แหม...ถ้าแม่บ่มีโทรหาบ่ได้ก๋า
เกมส์ยะอะหยังอยู่ กิ๋นข้าวงายแล้วก๋า?”


ปลายสายบ่นออกมาอย่างน้อยใจตามนิสัย
ก่อนแสดงความห่วงใยด้วยการถามเขาว่ากินข้าวเช้าแล้วรึยัง
ซึ่งแน่นอนที่คนปวดฟันจนกลืนแทบน้ำลายไม่ลงขนาดนี้จะไปมีกะใจกินได้ยังไง
แต่เขาก็ยังคงโมเมแกล้งโกหกตอบกลับไปตามเรื่อง


“กะ..กำลังจะลงไป๋ซะ...ซื้อเจ้า... โอยย...”


ท้ายประโยคคนพูดเผลออุทานเมื่อรู้สึกปวดฟันจี๊ดขึ้นมา
จนผู้เป็นแม่เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเอ่ยถามอย่างสังเกต


“เป๋นอะหยังเกมส์ ทำไมเสียงอู้อี้แปลก ๆ”


“บ่มี๊!  โอยย....เจ็บ!”


คราวนี้ไม่ใช่แค่เผลออุทาน แต่ดันสบถเสียงดังบ่งบอกชัดแจ้ง
ความลับที่ถูกปิดไว้จึงรั่วไหลเพราะมีพิรุธ
จนทำให้ปลายสายต้องถามเสียงดุคาดคั้น



“บอกมาบะเดี๋ยวนี้นะเกมส์! อย่าฮื้อแม่โมโห!!”


คนฟังแทบตัวสั่น แม้จะได้ยินเฉพาะแค่เสียงไม่เห็นตัว
เพราะสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของนายซีเกมส์

...คือเวลาคุณนายสายสมรโมโหขึ้นมาจริง ๆ เนี่ยแหละ

เพราะคุณนายแกเล่นไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมทั้งนั้น ขืนเขายังโกหกต่อไป
มีหวังคุณนายได้นั่งเครื่องจากเชียงใหม่ บินตรงมาหาเขาที่มหาลัยอีกไม่กี่ชั่วโมงแน่
และถ้าเจอกันจริง ๆ ล่ะก็ เขาคงโดนเอ็ดจนน่วม สภาพคงอนาถยิ่งกว่าตอนนี้อีก


สุดท้ายคนเก็บความลับจึงถอนใจ ก่อนเฉลยความจริงเสียงอ้อมแอ้ม



“คะ..คือว่า...กะ...เกมส์ปวดฟัน”



และประโยคต่อมาจากผู้เป็นแม่ก็หนีไม่พ้นคำบ่นยาวเหยียด


“อิล่ะ! แม่บอกแล้วไจ้ก้อว่าอย่ากิ๋นขนมหวาน ๆ ฮื้อมาก
เกมส์ก็บ่ยอมเจื้อ คราวนี้เป็นจะใด ฟันผุจนได้
บ่ผิดไปจากที่เตือนเลยเห็นก้อ ฮูกคนนี้มันน่าตีจริ๋ง ๆ เล๊ยย!
แล้วนี่เกมส์ไปหาหมอแล้วหยัง”


“ยังเลยเจ้า”


“เอ้า! แล้วทำไมยังบ่ไปอีก ต้องรอให้เป๋นหนัก ๆ ก่อนไจ้ก่อ
ช่วงนี้เกมส์ดวงบ่ค่อยดี  หมอดูเค้าตั๊กมาแล้วก็บ่ยอมฟัง หาเฮื้องเจ็บตัวแต๊ ๆ
แต่เอาเถอะ...เปิ้ลว่าโชคร้ายชอบมาคู่กั๋นกับโชคดี ทน ๆ ฮื้อหน่อยแล้วกั๋น”


...เออ....ที่เขาปวดฟันมันไม่เห็นเกี่ยวกับโชคลาภตรงไหนเลย
คุณนายชอบดูดวงเอามาโยงกันมั่วอีกแล้ว


...แต่คิด ๆ ไปมันก็จริงอยู่หรอก
เพราะพักนี้เขารู้สึกว่าดวงตัวเองมันอยู่ในช่วงทิ้งดิ่งยังไงไม่รู้
อาทิตย์ที่ผ่านมาเจอดัรแต่เรื่องน่าเหนื่อยใจทั้งนั้น
ทั้งเรื่องมีผู้ชายมาจีบ ทั้งเรื่องผับเดอะกลาส แล้วก็ยังจะมาปวดฟันอีก



“รีบไป๋ซะ เกมส์อย่าดื้อ ไป๋ฮื้อหมอเปิ้ลฮักษาฟัน
ถ้าแม่โทรหาอีกที แล้วยังบ่ไป๋ จะโดนดี! เข้าใจ๋ก้อ!”


“เจ้า”


คำขู่ทิ้งท้ายทำเอาคนโดนสั่งต้องรีบน้อมรับคำโดยไม่มีข้อแม้
ขืนเถียงอีกรอบคงได้โดยบ่นยาวจนเขาหายปวดเลยนั้นแหละ


...สรุปแล้วนายซีเกมส์จึงต้องลากสังขารตัวเองไปให้หมอตรวจจนได้
ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาก็ไม่ได้นึกชอบไอ้การไปหาหมอเลยสักนิด
เมื่อก่อนตอนเล็ก ๆ จำได้ว่าเคยถอนฟันอยู่ทีหนึ่ง
เพราะฟันน้ำนมไม่ยอมหลุดให้ฟันกรามแท้ขึ้น
เขาเลยโดนหมอฉีดยาชาทิ่มเข้าเหงือกจนแหกปากร้องจ๊ากลั่นคลีนิก
ตั้งแต่นั้น เขาเลยไม่ถูกโฉลกกับหมอฟันใด ๆ อีกเลย


แต่วันนี้คงต้องพับไอ้เรื่องความกลัวฝังใจไว้ก่อน
เพราะความปวดมันมีมากกว่า ถ้ายังงอแงไม่กล้าไปรักษา
เขาคงได้นอนทรมานตายกลายเป็นศพคาห้องแน่ ๆ



นายซีเกมส์จึงต้องจำใจขี่มอเตอร์ไซต์ไปจอดหน้าคลินิกทันตแพทย์ในตัวเมือง
ก่อนจะเข้าไปทำการติดต่อหน้าเคาท์เตอร์บอกอาการของตัวเองให้พี่พยาบาล
แล้วค่อยกรอกประวัติรายชื่อไว้เป็นข้อมูลคนไข้นิดหน่อย
เสร็จเรียบร้อยจึงมานั่งลุ้นระทึกรอคิวตัวเอง
พลางฟังเสียงเครื่องมือจากในห้องตรวจดังเป็นระยะ ๆ พอให้ได้สยองเล็ก ๆ


....วี๊ดดดดดดดด!

..ฉึกก!

...ครืดดดดดดด



..โห....นี่ตกลงว่ากำลังทำฟันหรือประกอบหุ่นยนต์ครับเนี่ย
ทำไมเสียงมันถึงเหมือนสว่านเจาะเข้าร่างคนแบบนี้
ยังไม่พอเขายังได้ยินเสียงเด็กแผดเสียงร้องไห้จ้าดังลั่น
ราวกับกำลังหนีตายดังมาจากห้องตรวจที่สองอีก


...เอาเข้าไป กูลุกกลับบ้านเลยดีกว่ามั้ง


ความกลัวตีสลับไปมากับความเจ็บทำให้คนรอใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ
ร่ำ ๆ อยากจะเปลี่ยนใจไม่ตรวจมันอยู่แล้ว
หากแต่ชั่วขณะที่กำลังลังเลก็ถึงคิวเขาพอดี


นายซีเกมส์จึงต้องเดินตัวลีบเข้าห้องเพื่อให้หมอดูอาการ
แต่ความรู้สึกเขาเหมือนกำลังเดินเข้าสู่โรงเชือดหมูอย่างไรอย่างนั้น
โดยมีคุณหมอวัยกลางคนคนหนึ่งเป็นเหมือนมือมีดพาเข้าขึ้นเขียง
แล้วบังคับให้อ้าปากให้กว้างมากที่สุด


คนกลัวหลับตาแน่น รู้สึกเกร็ง ๆ
เมื่อหมอใช้อุปกรณ์สอดส่องดูสุขภาพช่องปาก
สัมผัสได้ถึงแท่งเหล็กเย็น ๆ ที่เข้ามากระทบฟัน
เพียงครู่เดียว เขาก็ได้ยินหมอเอ่ยคำวินิฉัย



“อืม...เป็นฟันคุดน่ะ”




...อ้าว ไม่ใช่ฟันผุหรอกเหรอ


คนรู้ความจริงขมวดคิ้วงง ๆ


ตอนแรกก็นึกว่าฟันผุเพราะตัวเองกินขนมหวาน ๆ มากซะอีก
แต่ถ้าเป็นฟันคุดก็แสดงว่าไม่เกี่ยวกันงั้นสิ


...ไงล่ะ...เห็นมั้ยบอกแล้วว่าฟันเขาออกจะแข็งแรง
อย่ามาโทษสาเหตุว่าเป็นเพราะขนมหน่อยเลย
กินขนมบำรุงสมอง มีประโยชน์จะตาย
ทำไมคนถึงชอบโยนให้มันเป็นแพะรับบาปอยู่เรื่อยเลยวะ


แต่เดี๋ยวก่อน.... ประเด็นตอนนี้คือ
ถ้ามันเป็นฟันคุดแล้วปวดสุด ๆ ไม่หาย แล้วเขาจะรักษายังไง
เพราะธรรมดาแค่ฟันผุ อุดฟันหน่อยก็โอเคแล้ว
แต่ถ้าเป็นฟันคุด จำไม่ผิดเขาได้ยินมาว่า...



“อืม...ก็คงต้องผ่าออกล่ะนะ ไม่งั้นมันจะอักเสบมากกว่านี้
แล้วหมอก็เห็นฟันคุดจะโผล่มาอีกสองซี่ตรงข้างขวาทั้งบนและล่างด้วย
แต่วันนี้ที่มันปวดคือข้างซ้ายใช่มั้ย งั้นก็คงต้องรักษาตรงนั้นก่อน
ความจริงหมอต้องให้กินยาแก้อาการปวดสักอาทิตย์ก่อนนะถึงจะผ่าได้
แต่เคสของคุณ หมอดูแล้วพอจะผ่าให้ได้เลย
คนไข้คิวหลังจากนี้เขาก็แคนเซิลหมอพอดีด้วย เอาไงจะผ่าเลยมั้ย”


ได้ยินเสียงหมอพูดเรื่อย ๆ ราวกับกำลังคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ
แต่สำหรับนายซีเกมส์ถ้อยคำที่ได้ฟังเหมือนคำพิพากษาดังกระทบลงกลางใจ



...เฮ้ยยย!! ผ่า...ผ่าเลยเนี่ยนะ

แล้วไม่ใช่เป็นฟันคุดแค่ซี่เดียว มันยังมีอีกตั้งสามซี่!!


โอยยย...พวกมึงจะบ้ารึเปล่าห่ะ สามัคคีกันขึ้นอะไรขนาดนั้นนนน!!



....แล้วไอ้เรื่องผ่าตัดนี่ก็ไม่ใช่เล่น ๆ
เอาแค่นึกภาพตามก็อยากจะวิ่งหนีแล้ว


ลองคิดดูสิ...มีมีดปลายแหลม ๆ ทิ่มเข้าไปในเหงือกเราสด ๆ
แล้วยังมีคีมมาดึงกระทุ้งฟันเราให้ออกจากปากอีก


...มะ....ไม่เอา ไม่ไหว ขอเวลาทำใจก่อนได้มั้ย


นี่มันแย่กว่าฟันผุธรรมดาซะอีก
รู้อย่างนี้เขายอมให้ตัวเองโดนล้อว่าเป็นฟันผุยังดีเสียกว่า

...เมื่อกี๊ ไม่น่าหลงดีใจเลยกู


แต่ในเมื่อมันเป็นไปไม่ได้ จะช้าหรือเร็วเขาก็ต้องผ่าอยู่ดี
และถ้าไม่ผ่าตอนนี้ เขาก็ต้องทนปวดฟันไปเรื่อย ๆ อีกเป็นอาทิตย์

...ทำใจเถอะ ไอ้เกมส์ ยังไงเจ็บสั้นดีกว่าปวดนานอยู่แล้ว



...เฮ้ออออ...เอาก็เอาวะ!



คนกลัวจึงต้องพยายามข่มใจ พยักหน้าอนุญาตให้หมอทำการผ่าฟันคุดแต่โดยดี
และกระบวนการเชือดนายซีเกมส์จึงเริ่มต้นขึ้น

ทว่าเพียงแค่ขั้นตอนแรกเขาก็เห็นอุปสรรครำไร
เมื่อหมอหันไปจัดการอุปกรณ์แล้วบอกเขาที่กำลังเตรียมตัวบ้วนปาก


“เดี๋ยวหมอจะฉีดยาชานะครับ อย่าเกร็งนะ”



...โห...พูดง่ายเนอะหมอ
ฉีดยานะ ไม่ได้เล่นตบแปะ มันจะไม่เกร็งได้ไงวะ
มีใครบ้างที่โดนเข็มทิ่มเนื้อแล้วจะยิ้มสบายอยู่ได้ ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เขาคนหนึ่งแหละ

เพราะว่าแม้หมอจะเอ่ยเตือน แต่คนกลัวก็ยังเผลอหลับตาปี๋
เกร็งตัวแน่น เล็บแทบจะจิกลงกับพนักเก้าอี้ น้ำตาเกือบคลอหยดออกมา
เมื่อปลายเข็มแทงผ่านสู่เหงือกจนเขาสะดุ้ง



โอยย!  เจ็บ!...ฮือออ...แม่จ๋า เกมส์เจ็บบบ....


...ไม่เอาแล้ว เกมส์จะกลับบ้าน ฮืออออ....ไม่ผ่าฟันแล้วววว!!



ใจอยากจะตะโกนคร่ำครวญ แต่ปากถูกอ้าดึงค้างไว้อย่างนี้
จึงทำให้นายซีเกมส์ต้องเก็บความปวดร้าวเอาไว้ในใจอย่างทุกข์ทรมาน


และเพียงไม่นานยาชาก็ออกฤทธิ์
หลังจากนั้น เขาจึงแทบจะไม่รู้สึกว่าหมอจัดการอะไรบ้าง
เพราะตัวเองก็หลับตาแน่น นึกอยากจะสลบตั้งแต่เห็นเข็มแล้ว



...กระบวนการผ่าฟันคุดใช้เวลาเกือบชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น



นายซีเกมส์ลูบแก้มบวมตุ๋ยของตัวเองออกมาจากห้องตรวจ
ด้วยสภาพอิดโรยหน้าซีดราวกับเพิ่งผ่านพ้นสมรภูมิรบ
เดินเหมือนหมาหงอยสิ้นสภาพหนุ่มช่างกวน
มายืนรอรับยาอยู่ตรงหน้าเคาท์เตอร์



“ชุดนี้เป็นยาแก้ปวด ส่วนชุดนี้ยาแก้อักเสบนะคะทานสี่เวลาหลังอาหาร
แล้ววันตัดไหม นัดอีกหนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า
ขอให้มาตรงตามเวลาด้วยนะคะ”


คนไข้พยักหน้ารับคำไปอย่างแกน ๆ
เพราะตอนนี้ฤทธิ์ยาชายังคงอยู่ทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรได้
จึงต้องก้มหน้าก้มตาหยิบกระเป๋าตังค์จ่ายเงินค่าหมอ
กำลังจะเตรียมเดินออกไปนอกคลินิกอยู่แล้ว หากแต่เพียงแค่หมุนตัวหันหลัง
มันกลับเป็นจังหวะพอดีที่คนสองคนเปิดประตูกระจกสวนเข้ามา


ดวงตาของนายซีเกมส์เบิกกว้าง
แทบอยากจะวิ่งเข้าไปนอนอ้าปากให้หมอผ่าฟันอีกซี่
เมื่อเห็นว่าหนึ่งในคนคนนั้นเป็นใคร



“อ้าว...เกมส์ บังเอิญจังเลยนะครับ”


หนุ่มหล่อเดือนวิศวะร้องทัก
ทันทีที่เห็นคนคุ้นตายืนนิ่งอยู่หน้าเคาท์เตอร์อย่างแปลกใจ


...ไม่คิดเลยว่าจะเจอเกมส์ในที่แบบนี้


กำลังนึกอยู่เชียวว่าทั้งเขาและเกมส์เรียนต่างคณะกันคงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าหา
แค่ตอนไปผับเดอะกลาสเขาดันบังเอิญเจอ ก็คิดว่าเป็นความโชคดี
แล้วคราวนี้ยังจะมาพบกันในคลีนิกอีก แต่ล่ะที่แปลก ๆ ทั้งนั้น


...เกมส์นี่น่าสนใจไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ



หนุ่มคาสโนว่ายกยิ้มอย่างถูกใจ
ก่อนจะรับรู้ถึงแรงสะกิดจากข้างคนข้างตัว



“เพื่อนเหรอค่ะ ดิว”


คำถามดังมาจากสาวน้อยน่ารักตากลมสวยสมตำแหน่งหลีดคณะ
ซึ่งมองคู่สนทนาทั้งคู่อย่างงง ๆ จนทำให้คนพามาต้องเอ่ยปากแนะนำ


“ครับ ชื่อเกมส์ เรียนคณะเภสัช รู้จักกันตอนไปอาสาน่ะครับ
เออ...เกมส์ นี่แพรนะครับ เรียนอยู่วิศวะปีเดียวกับผม”


ดิวเป็นฝ่ายบอกประวัติรายละเอียดทั้งหมดจนครับ
โดยที่เจ้าของประวัติไม่จำเป็นต้องอ้าปากตอบใด ๆ
แต่จะพูดตอบก็ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะนายซีเกมส์เพิ่งจะผ่าฟันคุดมาสด ๆ ร้อน
จึงทำแค่เพียงผงกหัวรับคำอย่างมีมารยาทเมื่ออีกฝ่ายยิ้มตอบกลับมา
แถมยังเป็นยิ้มน่ารักซะจนเขาแทบใจละลาย
ดูแตกต่างจากผู้หญิงคนเมื่อวานที่สวยเอ็กซ์คนละขั้ว


เออ...ใช่ซี๊...ดิวมันหน้าตาดีนี่
จะควงผู้หญิงไม่ซ้ำคนก็ไม่ใช่เรื่องแปลก


แต่ที่แปลกก็คือ...



...ทำไมมันถึงต้องมาคอยยุ่งกับชีวิตเขาด้วยวะ!!


นึกว่าจะหนีพ้น แต่โชคชะตาดันเล่นตลกต้องให้พบเจอกันตลอด
หรือว่าเขาจะโชคร้ายตามที่คุณนายสายสมรบอกจริง ๆ



...ละ...แล้วมันจะขยับเข้ามาใกล้อีกทำไมเนี่ย


ฮืออออ....ออกไปห่าง ๆ นะเว้ย!! 


กูกลัวมึงยิ่งกว่าหมอฟันอีก เพราะหมอฟันก็แค่ถอนฟัน


แต่กับไอ้คนนี้...




...มันตั้งใจจะ ‘ฟัน’ เขาตรง ๆ เลยต่างหาก!!!




มะ...ไม่เอาแล้ว ....ไม่อยู่แล้ว

ก่อนที่จะโดนจับขึ้นเขียงอีกรอบ เขาขอเผ่นก่อนดีกว่า


...คิดได้ปุ๊บ ก็รีบทำปั๊บอย่างไม่รีรอ


นายซีเกมส์จึงรีบเดินฉับ ๆ เปิดประตูคลีนิกออกไปไม่พูดไม่จา
คว้ามอเตอร์ไซต์ได้สตาร์ทเสร็จ ก็บิดเผ่นแน่บไม่เหลียวหลังกลับมามอง
โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองได้ทิ้งของสำคัญบางอย่างเอาไว้



“อุ้ยต๊ายแล้ว! น้องเขาลืมเอาถุงยาไปด้วย”


พี่พยาบาลตรงเคาท์เตอร์เอ่ยทักอย่างตกใจ
เมื่อเห็นถุงสีขาวของคนไข้ยังวางแหมะอยู่ที่เดิม
ดิวหันมองใช้เวลาชั่วครู่ตัดสินใจแล้วจึงพูดขันอาสา


“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเอาไปเขาให้เอง
เออ...พอจะมีเบอร์โทรเขามั้ยครับ”


“อ๋อ มีค่ะ”


คนพูดหยิบประวัติคนไข้รายล่าสุดที่เพิ่งกรอกรายละเอียดมาให้ดู
ฟังจากที่ทักกันเมื่อกี๊ก็พอรู้ว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกัน เธอจึงไว้ใจฝากไปให้
ก่อนจะทำหน้าที่เรียกคิวคนไข้ถัดไปเข้าห้องตรวจ


“เดี๋ยวน้องผู้หญิงเข้าไปหาคุณหมอได้เลยนะคะ”
 

“ดิวรอแพรแป๊บนะคะ”


หญิงสาวน่ารักเอ่ยบอกกับคนข้างตัว
เพราะเธอคงใช้เวลาเปลี่ยนลวดที่ดัดฟันไม่นาน
เลยไม่อยากให้ดิวต้องมาเสียเวลารอ
แค่ดิวยอมมาเป็นเพื่อนด้วยกันแค่นี้เธอก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว


...จะมีผู้ชายคนไหนทำตามคำขอได้ขนาดนี้เท่าดิวบ้าง
เธอนี่ช่างโชคดีจริง ๆ ที่มีดิวมาคอยเอาใจจนเพื่อน ๆ พากันอิจฉา
ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมยังเป็นสุภาพบุรุษอีกต่างหาก
ดูได้จากคำตอบรับง่าย ๆ ที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มหวาน


“ได้ครับ ผมรอแพรอยู่นี่นะ เสร็จแล้วเดี๋ยวเราไปดูหนังกันนะครับ”



คำชวนทิ้งท้ายทำให้ร่างบางแทบใจละลาย
อมยิ้มแล้วเดินเขิน ๆ หายเข้าไปในห้องตรวจ
โดยทิ้งพ่อเทพบุตรแสนดีไว้เพียงลำพัง



...และเพียงเมื่อไร้เงาของคนที่มาด้วย


หนุ่มหล่อจึงหยุดภารกิจโปรยเสน่ห์
หันกลับมาให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ในมือต่อ


...ประวัติคนไข้ของเกมส์


เขาไล่อ่านเนื้อหาที่มีทั้งชื่อและเบอร์โทรศัพท์
ตั้งใจจะหยิบไอโฟนมากดเมมเบอร์ตัวเลข
แต่ดวงตากลับเผลอมองเห็นที่อยู่ซึ่งเขียนไว้ใกล้กัน


...หืม...หอตะวันเหรอ?

 
เขารู้จักนะ จำได้ว่าอยู่ไม่ไกลจากคอนโดเขาเท่าไร
ตอนแรกว่าจะโทรหานัดให้เกมส์มารับยาที่อื่นอยู่หรอก
แต่พอเห็นหออยู่ใกล้ ๆ กันแบบนี้ก็คงปล่อยผ่านไปไม่ได้



ดิวยิ้มบาง ๆ กับตัวเอง


...ไม่ใช่รอยยิ้มหวานเหมือนเมื่อครู่ หากแต่เป็นรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์


เพราะแววตาที่สะท้อนออกมาวาววับ คล้ายหมาป่ากำลังล่าเหยื่อ




....ดูเหมือนว่า ระหว่าง เขา กับ เกมส์



โอกาสที่จะพบกัน มันชักน่าสนใจขึ้นมาทุกทีซะแล้วสิ




...จริงมั้ยครับ?




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 15-02-2013 22:53:18
ดิวรุกช้าๆหน่อย เด่วน้องเกมส์ช็อกตาตั้งหรอกๆ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 15-02-2013 22:57:44
 :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-02-2013 22:58:30
อย่าเล่นๆ กับเกมส์เชียวนะนายดิว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 15-02-2013 23:07:05
เข้าใจเกมส์เลยว่าตอนปวดฟันคุดมันทรมานแค่ไหนนนนนนนนน
แต่ตอนปวดยังไม่เท่ากับตอนผ่า นรกมีจริง เจ็บมากก 55555555

ส่วนดิวเหมือนจะเริ่มรุกหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงเจ้าชู้อยู่ดี เห้อออ
ถ้าคิดจะจีบเกมส์จริงๆช่วยลดๆๆลงหน่อยเหอะ เรื่องผู้หญิง !!!!!  :m5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-02-2013 23:15:05
ดิวมีทั้งที่อยู่และเบอร์โทรครบขนาดนี้
งานนี้เกมส์คงไม่รอด คงต้องทำใจยอมรับดิวซะแล้ว
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 15-02-2013 23:44:08
ไมชอบดิวเลยอ่ะ รำคาญมันมาก ไม่รู้นะทุกครั้งที่เห็นก็จะเจอดิวอยู่กับคนนู้นทีคนนี้ที เจ้าชู้มาก ไร้ซึ่งความจริงใจ






ดิวเป็นผู้ชายที่เราเกลียดเกือบทุกอย่างเลยคือ เจ้าชู้ สูบบุหรี่ ไม่จิงจัง ปากหวานไปทั่ว ฯลฯ มีอย่างเดียวที่ชอบคือ หล่อ แค่นั้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 16-02-2013 00:34:22
ดิวรุกเร็วๆ เกมจะได้หายกลัวผู้ชาย!?   :laugh:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 16-02-2013 08:19:54
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 16-02-2013 09:28:35
อูยยยยย เสร็จแน่ๆ เกมส์เอ๋ย
ทุกอย่างอยู่ในมือหมด
ชื่อที่อยู่โคตรหง้า
จะโดนฟัน เอ๊ย! โดนล้วงลูกแล้ว
รอตอนต่อไปอย่างใจจดในจ่อ
กดบวกปล่อยเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 16-02-2013 09:49:06
ดิวแม่งโคตรรรรรรเจ้าชู้เลยอะ คิดจะจีบเกมส์แล้วก็อย่าทิ้งนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-02-2013 09:52:35
กระต่ายน้อยจะรอดเงื้อมมือหมาป่าเจ้าเล่ห์มั้ยน้าาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 16-02-2013 10:00:15
อรั้ย หล่อเลว
แต่กับเกมส์นี่ยากนะ จะบอกให้  :z2:น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-02-2013 10:09:21
นึกภาพเกมส์ผ่าฟันคุดออกเลย  เพราะเราก็เคยผ่ามาแล้ว 2 ซี่ เป็นประสบการณ์ที่ทรมานมาก เจ็บสุดๆ

เกมส์เจอดิวทีไรต้องมีผู้หญิงขนาบข้างตลอด   แล้วแบบนี้ยังคิดจะจีบเกมส์อีก  ไม่ชอบผู้ชายแบบนี้เลย  เพราะุ้ถ้าคิดจะจีบเกมส์ก็ควรจะเลิกทำตัวเจ้าชู้ 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 >; P.75
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-02-2013 12:21:56
ผ่าฟันคุด แล้วยังต้องมาเจอดิวอีก เหอะๆ ซวยเนอะเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 16-02-2013 17:58:48
จะรอดู ไอ้หมาป่าเจ้าเล่ห์ตกหลุมเสน่ห์กระต่ายขี้ตื่น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-02-2013 18:41:01
เจ้าชู้อ่ะ  :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 16-02-2013 19:06:15
หายไวๆๆเน้อน้องเกมส์


ดิวนี่ขาดความน่าเชื่อถือนะ :m16:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 16-02-2013 19:34:03
ดิวรุกหนักแบบนี้ 

เกมส์มิช๊อค  หัวใจวาย(Y)  ไปก่อนจบรึ??? :laugh:



 :pig4:  และรอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 16-02-2013 19:43:08
เกมส์น่าสงสารอะ 55555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 16-02-2013 21:04:44
จริงครับ รุกเลยครับดิว แต่บวกความจริงใจไปด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 17-02-2013 17:18:02
อ้าาาาา เกมส์ดูแบ๊วกว่าภาคก่อนเยอะเลยนะ
ดูเอ๋อๆ ถึงว่าเป๋นเพื่อนปลายได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 17-02-2013 17:56:27
 :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 17-02-2013 18:06:26
พึ่งโดนหมอผ่าฟันมาไม่นานจะโดนฟันซะแระ 5555 ดวงจริงๆนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 17-02-2013 19:45:21
น่ารักอ่าาาา  :-[ :-[ :-[
+เป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: Key Mine ที่ 17-02-2013 20:21:58
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกก :-[

มากกกกกก ชอบเกมส์มากเลยค่ะ พ่อคู๊ณณ

ส่วนดิว เดี๋ยวซักพักนิสัยแบบนี้ของฮีก็หายแล้วค่ะ

รอก่อนเห๊อะะะะ กร๊ากกกกก
เป็นกำลังใจให้ มาต่อไวๆนะคะ :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 18-02-2013 21:29:19
สวัสดีพี่คนแต่งอย่างเป็นทางการร
เพิ่งเข้ามาอ่าน สาม วันละค่ะ สนุกมากกก
ชอบมากๆเลยค่ะ
ทุกภาคนี่สนุกไม้แพ้กันเลยอะ
 o13 o13 o13

รออัพตอนต่อไปนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 18-02-2013 21:47:43
รุกหนัก รุกไว รุกยังไงก็ได้ แต่รีบเอายาไปให้น้องเกมส์นะคะน้องดิวววว
ผ่าฟันคุด พอหายชาแล้วมันจะปวดมากกกกกก ปวดจนอยากลืมไปว่ามีปากเลยล่ะ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 3] 15/02/56 > P.75
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 19-02-2013 00:04:03
 :m7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 19-02-2013 06:38:22
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 4




...หิวขนม


ตอนนี้บ่ายสองแล้ว แต่นายซีเกมส์ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า
กระเพราะจึงเริ่มร้องโครกครากเป็นสัญญาณเตือนให้เจ้าของหาอะไรมาใส่
ซึ่งแน่นอนสำหรับเขาคงไม่ใช่ข้าวสวยร้อน ๆ แต่ต้องเป็นขนมหวาน ๆ เท่านั้น!
เพราะมันอุดมไปด้วยสารอาหารหล่อเลี้ยงบำรุงสมองเหมาะกับเด็กเภสัชอนาคตไกล
เมื่อวานเลยจัดชุดใหญ่ ไปซื้อขนมมาเตรียมพร้อมกองบนโต๊ะเป็นภูเขา
ใจอยากจะเอื้อมไปแกะห่อขนมหวานที่วางยั่วตาอยู่สักชิ้น


ทว่ามีอุปสรรคอยู่เพียงประการเดียว นั่นคือ...




....เขาปวดฟันจะตายห่าอยู่แล้วโว้ยยยย!!!




แม้ท้องจะร้องครวญคราง แต่ก็ทำได้แค่เพียงเหม่อมองขนมตาละห้อย
ทั้งช็อกโกแล็ต จูปาจุ๊ป กูลิโกะป๊อกกี้ คล้ายกำลังกวักมือเรียกให้เขาไปกิน
แต่ถ้าให้เขากินขนมพวกนี้ก็คงเหมือนฆาตกรรมตัวเอง
เพราะยาชาที่หมอฉีดให้ตอนผ่าฟันนั้นหมดฤทธิ์ไปแล้ว
ความปวดทรมานจึงส่งตรงไปให้เขารับรู้ร้อยเปอร์เซนต์แบบไม่มีกั๊ก
แค่กลืนน้ำลายยังเจ็บ นับประสาอะไรกับพวกขนมหวานทั้งหลาย


...ทำไมปากกับกระเพราะเขาถึงไม่สัมพันธ์กันอย่างนี้วะ!!



เมี๊ยวววว~



เสียงแมวร้องคลอเคลียเบา ๆ ที่ข้างเตียง
ทำให้คนที่นอนอยู่เพิ่งนึกขึ้นได้ถึงสิ่งมีชีวิตอีกหนึ่งตัวในห้อง


ไม่ใช่แค่ตัวเองที่หิว แต่เจ้าแมวตัวเล็กก็คงจะเริ่มหิวไม่แพ้กัน
จนทำให้เขาต้องฝืนตัวเองลุกจากเตียงเดินมาลูบหัวพูดกับมันเบา ๆ


“หิวแล้วก๋าไอ้จัดง๊าว รอป้อหน้อยเน้อ เดี๋ยวจะหาข้าวฮื้อกิ๋น”


เขาจัดการเดินไปเอาข้าวที่แช่ตู้เย็นไว้มาอุ่น
ก่อนแกะปลาทูขยำลงไปเป็นกับให้เสร็จสรรพ
แล้วจึงวางถ้วยพลางนั่งมองแมวตัวเล็กกินด้วยความเอร็ดอร่อย


มอง ๆ ไปก็อิจฉา เห็นแล้วท้องพาลจะร้องอีกรอบ
แต่ถ้ามันหายเจ็บกว่านี้สักหน่อยเขาคงจะพอหาอะไรรองเท้ากินง่าย ๆ
อย่างพวกนมหรือขนมอะไรนิ่ม ๆ


เออ...จริงด้วย มันมียาแก้ปวดอยู่นี่หว่า
เขาจำได้ว่าหมอจัดให้มาพร้อมกับยาแก้อักเสบใช่มั้ย


โอย...โง่จริงกู เขาลืมไปได้ยังไง
ถ้ากินยาสักพักฤทธิ์ยาคงช่วยบรรเทาความปวด
พอให้เขากระเดือกอะไรลงไปได้บ้าง
มัวแต่นอนปวดฟันอยู่ได้ตั้งนาน ไม่น่าลืมเลยจริง ๆ


ไม่น่าลืม...


ไม่น่าลืม...


เออ....ละ.......แล้วถุงยาอยู่ไหนวะ
พี่พยาบาลเขายื่นให้ก่อนกลับแล้วนี่
แล้วทำไมหาในห้องจนทั่วแล้วไม่มี


อย่าบอกนะว่า...




...ลืม




เออ...เอาเข้าไปไอ้เกมส์ นอกจากจะลืมกินยาแล้ว ยังลืมถุงยาไว้ที่คลินิกด้วย!!


...แม่งชีวิตบัดซบ!!


แล้วนี่เขาจะต้องขี่มอเตอร์ไซต์กลับไปเอายาที่คลินิกใช่มั้ยเนี่ย
แต่ท้องร้องหิวข้าวขนาดนี้ แถมยังปวดฟันจนแรงจะลุกเดินไปเปิดประตูยังไม่มีเลย
กว่าจะถึงคลีนิกหมอคงได้แหกโค้งนอนตายอนาถก่อนแน่ ๆ


...โอยยย...แล้วจะทำยังไงดีวะ!!




ก๊อก! ก๊อก!


กำลังโวยวายกับชะตากรรมรันทดของตัวเองอยู่ดี ๆ
กลับต้องหยุดชะงักไปทันทีที่ได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง


...เอ้า! ใครมันจะมาหากันตอนนี้อีก
หรือว่าจะเป็น ‘ไอ้ปลาย’ เพื่อนกลุ่มเดียวกับเขาที่เรียนเภสัชอยู่ด้วยกัน
มันอยู่ห้องถัดไปข้างล่างนี่เอง สงสัยจะมาถามหาอะไรเขารึเปล่าก็ไม่รู้
แต่ที่รู้ ๆ ตอนนี้เขามีคนมาช่วยชีวิตแล้ว


คนเห็นแสงสว่างรำไรรีบลากสังขารไร้เรี่ยวแรงของตัวเองไปเปิดประตูห้อง
กำลังจะอ้าปากเอ่ยคำขอร้องให้ช่วย

หากแต่เมื่อพบหน้าสบตาแขกผู้มาเยือน นายซีเกมส์ถึงกับต้องนิ่งค้าง
ตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง จ้องมองรอยยิ้มหวานที่มาพร้อมคำพูด



“สวัสดีครับเกมส์ ปวดฟันรึเปล่า ผมเอายาแก้ปวดมาให้ แล้วก็ซื้อโจ๊กมาฝากด้วยครับ”


ดิวชูถุงยาพร้อมกับโจ๊กอุ่น ๆ ที่เพิ่งแวะซื้อให้ก่อนขับรถมาหา
ของที่อยู่ในมือสำหรับคนปวดฟันแถมท้องร้องจนทรมาน
คงไม่ต่างอะไรกับการมีเทวดามาโปรด

ยกเว้นก็เพียงแต่ใครคนนั้นดันเป็นโรคกลัวผู้ชายมาจีบเข้าขั้น
เทวดาหน้าหล่อจึงเป็นเหมือนปีศาจที่ทำเอาคนกลัวแทบอยากหนีไปให้ไกลสุดขอบโลก
แต่มันดันยืนดักทางออกไว้อย่างนี้  แล้วเขาจะหนีไปทางไหน


...เดินหน้าไม่ได้ งั้นก็ถอย...



...ถอยไปตั้งหลักก่อน...ไม่เอา...ไม่อยู่แล้วววว



คนกลัวฝืนบังคับขาแข็ง ๆ ของตัวเองให้ถอยกรูดหนีหัวซุนให้ห่างออกไปให้มากที่สุด
ทว่าภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ นี้จะหนีไปไหนได้ไกล
สุดท้ายเขาเลยต้องไปจนมุมอยู่หลังระเบียงหลังห้อง
ระยะห่างจากหน้าประตูหกเมตรถ้วน


ท่ามกลางสายตางง ๆ ของแขกที่มาเยือนจนต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถาม


“เกมส์เป็นอะไรรึเปล่าครับ”


พูดไม่พูดเปล่า ดิวยังเดินเข้ามาในห้อง แถมยังใจดีปิดประตูให้ด้วย
ทำให้คนมองนิ่งค้างด้วยความอึ้ง รู้สึกเหมือนถูกไล่ต้อนให้จนมุม


...หมดกันทางหนีสู่อิสรภาพ จะโดดออกจากระเบียงเลยดีมั้ย
ไอ้ห้องเขาก็ดันอยู่ชั้นสามซะด้วย ขืนโดดออกไปสภาพคงตายศพไม่สวย
แล้วจะทำยังไงดีวะกู อยู่ตรงนี้ก็ตาย กระโดดลงไปก็ตาย


...งานนี้มีแต่กับ ‘ตาย’ กับ ‘ตาย’


โห...อนาคตชีวิตสุดหล่อชื่อซีเกมส์ต้องมาจบลงตรงนี้เหรอวะ



คนหนึ่งกำลังเหลียวซ้ายแลขวาหาทางหนี
แต่อีกคนหนึ่งซึ่งยังไม่ได้รับคำอธิบายใด ๆ กลับเดินเข้ามาใกล้พลางเอ่ยถามงงๆ


“เกมส์มีอะไรรึเปล่าครับ”



....เฮ้ยยย!! แล้วมันจะเดินเข้ามาอีกทำม๊ายยยย!!

ไม่ไหวแล้ว...อย่านะ...อย่า....




“ยะ...อย่าเข้ามา”


เกมส์รีบตัดสินใจตะโกนบอกในสิ่งที่ตัวเองคิด
ตอนนี้ลืมหมดสิ้นแล้วทั้งอาการปวดฟัน หิวข้าว
เพราะตอนนี้มีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า คือความกลัวที่แล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจจนสั่นทั้งร่าง


หากแต่คนฟังกลับไม่สังเกตถึงท่าทีนั้น
และยังคงสับสนคล้ายไม่แน่ใจจนต้องเอ่ยถามซ้ำ


“ห่ะ อะไรนะครับ?”


ถามเฉย ๆ ยังพอทำเนา แต่นี่ดิวดันเดินขยับเข้ามาใกล้ด้วย
จนเกมส์แทบจะตาเหลือก ตะโกนร้องห้ามดังลั่น


“บะ...บอกว่าอย่าเข้ามา หยุดตรงนั้นนะ!”


“อ้าว...ทำไมล่ะครับ”


คำห้ามไม่มีผล เพราะยิ่งห้ามยิ่งงง ยิ่งห้ามยิ่งสับสน
และเหมือนกับจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้คนขัดคำสั่งก้าวมาใกล้มาขึ้น
จากหน้าประตูตอนนี้เดินมาจนถึงตู้เสื้อผ้าแล้ว
หากแต่เหลือระยะทางเพียงไม่กี่ก้าวกลับมีบางสิ่งร้องขัด



เมี๊ยววว~


เสียงเรียกทำให้หนุ่มหล่อก้มลงไปมอง
สิ่งมีชีวิตที่เข้ามาคลอเคลียขาเขาเบา ๆ
แล้วก็ต้องเผลอยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าสัตว์เล็กนี่คืออะไร


“เอ๊ะ เกมส์เลี้ยงแมวด้วยเหรอครับเนี่ย”


ดิวก้มลงลูบหัวแมวสีน้ำตาลแซมขาวที่เข้ามาใกล้
พลางเอาหัวกลม ๆ ไถมือเหมือนอ้อนเล่นอย่างถูกใจ
ทำให้เจ้าของที่แท้จริงต้องมองตาค้าง


...เฮ้ยยย!! ได้ไง นั้นแมวกูนะ
อุตส่าห์เฝ้าเลี้ยงอย่างทะนุทะนอมใครให้มันมาจับอะไรง่าย ๆ
แล้วไอ้จั๊ดง๊าวนี่ไปยุ่งกับมันทำไมวะ
มันศัตรูนะเว้ย น่ากลัวจะตายไม่เห็นเหรอ
ไปอยู่ใกล้ ๆ ได้ยังไง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยใช่มั้ย ซื้อบื้อสมชื่อจริง ๆ


นึกไปก็พาลโมโหสัตว์เลี้ยงทรยศ
จนทำให้เจ้าของที่ให้ข้าวให้น้ำต้องตะโกนเรียกหงุดหงิด


“ไอ้จั๊ดง้าวมาหาป้อมานี่!”


และคล้ายเจ้าแมวตัวเล็กจะเข้าใจในภาษา
จึงรีบผละออกจากมือของแขกวิ่งเผ่นแพล่วไปหาเจ้าของเดิมที่คุ้นเคย
ซึ่งอุ้มมันขึ้นมากอดไว้ตรงริมระเบียงอย่านึกหวง
จนคนมองอดไม่ได้ที่จะถามกลับด้วยเพราะติดใจในคำเรียก


“มันชื่อว่าอะไรน่ะครับ ภาษาเหนือเหรอ ผมฟังไม่คุ้นเลย”


คนฟังสะดุ้งที่อยู่ ๆ อีกฝ่ายหันมาคุยด้วย
แต่ในเมื่อดิวยังคงทิ้งระยะห่างไม่มีท่าทีขยับเข้ามาใกล้
แถมยังมีแมวสุดรักเป็นเพื่อนตายอยู่ตรงนี้
จึงทำให้คนกลัวตอบกลับเสียงตะกุกตะกักเบา ๆ



“จะ...จั๊ดง้าว”


“หืม..แปลว่าอะไรเหรอครับ”


“โง่”


คำด่าสั้น ๆ ที่หลุดออกมาทำให้ดิวถึงกับชะงัก ต้องเลิกคิ้วถามอย่างงง ๆ


“อ้าว...มาด่าผมทำไมล่ะครับ”


หากแต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้ายิกก่อนรีบอธิบายขยายความเพิ่ม
เหมือนกลัวว่าถ้าร่างสูงไม่พอใจจะขยับเข้ามาหาเรื่องใกล้ ๆ


“มะ...ไม่ใช่ จั๊ดง้าวแปลว่าโง่ มันชอบซุ่มซ่ามเลยตั้งชื่อมันแบบนี้”


“อ๋อ...เหรอครับ”


เมื่อได้ฟังคำตอบ คนเข้าใจก็พยักหน้าหงึกหงึก
ทว่ายังไม่ทันจะเอ่ยอะไรต่อคนที่อยู่นอกระเบียงกลับร้องสั่ง


“เอายาวางไว้ตรงโต๊ะนั้น แล้วกลับไปซะ”


ถ้อยคำที่ดูห่างเหินสร้างความแปลกใจให้กับดิวซ้ำ ๆ


“ทำไมล่ะครับ นี่ผมซื้อโจ๊กมาฝากด้วยนะ
เห็นว่าเกมส์เพิ่งทำฟันมา เลยคิดว่าทานอะไรง่าย ๆ ดีกว่า
เกมส์ทานอะไรแล้วรึยัง ถ้ายังไงเดี๋ยวผมแกะให้เลยดีมั้ยครับ”


คนพูดชูถุงโจ๊กพลางทำท่าจะขยับเข้ามาใกล้อีก
จนคู่สนทนาต้องรีบตะโกนห้ามเสียงหลง


“เฮ้ย! ไม่ต้อง อย่าเข้ามา!”


นายซีเกมส์ใจชักสั่น เมื่อเห็นระยะทางหดใกล้เข้ามาทุกที
ตอนนี้มันอยู่ใกล้โต๊ะเขียนหนังสือแล้วระยะทางห่างจากเขาแค่สามเมตร
ทำให้คนกลัวเลิกลั่กรีบหาตัวช่วยนอกจากแมวตัวเล็กที่กอดไว้ให้อุ่นใจเป็นการด่วน


และก็เพราโชคช่วย เขาจึงเหลือบไปเห็นไม้กวาดที่อยู่ตรงมุมระเบียงพอดี

....เอานี่ล่ะวะ เป็นอาวุธแก้ขัดไปก่อน มีดีกว่าไม่มี


คนกลัวเอื้อมมือคว้าไม้กวาดมาถือไว้พร้อมพูดคำขู่


“ถ้าเข้ามาใกล้เกินสามเมตร เราตีจริงด้วย ๆ”


ดิวกระพริบตาปริบ ๆ มองพฤติกรรมที่ขู่ฟ่อ ๆ เหมือนเห็นเขาเป็นตัวประหลาด
ไม่ได้น่ากลัวแต่กลับดูแปลกตาในมุมมองของเขา
แถมยังเพิ่มความสงสัยให้มากเท่าเป็นทวีคูณ


...ตกลงว่าเกมส์เป็นอะไรกันแน่
ตั้งแต่เข้าห้องมา เกมส์ก็หนีไปตรงระเบียง
ทำเหมือนไม่อยากอยู่ใกล้เขา เพราะรังเกียจ ไม่ชอบ หรือเพราะอะไร
เขาก็ไม่เห็นว่าตัวเองมีอะไรผิดปกตินี่
เมื่อกี๊ก่อนจะมาหาก็ไปตอนดูหนังแพรยังมาซบไหล่เขาเลย
แต่กับเกมส์ดันทำท่าออกห่างจากเขาซะงั้น


เอาเถอะ...ไม่รู้หรอกนะว่าเกมส์เป็นอะไร
แต่วันนี้เขาไม่มีเวลาพอจะซักไซ้
เพราะเดี๋ยวมีนัดไปกินข้าวกับน้องมะเหมี่ยวดาวอักษรต่อ
เขาจึงไม่คิดจะยื้อ เพราะจุดประสงค์แค่ตั้งใจจะแวะมาหาเพื่อเช็คที่อยู่เท่านั้น



“โอเคครับ ๆ ไม่เข้าก็ไม่เข้า ๆ งั้นผมวางของไว้ตรงนี้นะ”


หนุ่มคาสโนว่าจึงตัดสินใจลามือ
วางถุงยาและโจ๊กซื้อมาฝากบนโต๊ะเขียนหนังสืออย่างยอมแพ้
ก่อนจะเตรียมตัวหันหลังเดินออกไปนอกห้อง
หากแต่ยังไม่ทันจะเอื้อมมือแตะลูกปิดประตู
เสียงจากด้านหลังที่ยังคงอยู่ใกล้ๆ  กลับรั้งไว้


“เดี๋ยว”


ดิวหยุดมือหมุนตัวให้มามองคนที่มีพฤติกรรมแปลกประหลาดทั้งวัน
แม้จะอยู่ไกลแต่เขาพอเห็นสีหน้าลังเลคล้ายกระอักกระอวนใจ
แต่สุดท้ายดูเหมือนเจ้าจะตัดสินใจได้ จึงเงยหน้าขึ้น
พร้อมพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงเบาหวิวแทบจะกระซิบ


...หากแต่เป็นถ้อยคำที่ดังชัดเจนในความรู้สึก



“ขอบใจนะ”




....คำธรรมดาง่าย ๆ

แต่ไม่รู้ทำไมพอออกมาจากปากของใครบางคนกลับดูพิเศษกว่าปกติ



พูดจบ คนที่อยู่ตรงระเบียงก็ก้มหน้าลงเหมือนเก่า คล้ายไม่สบตา
เขาจึงทำได้แต่ยิ้มตอบด้วยคำธรรมดาที่ยังคงรักษาความเป็นสุภาพบุรุษทำนองเดียวกัน


“ไม่เป็นไรครับ แล้วเจอกันใหม่นะครับเกมส์”


อีกฝ่ายไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใด ๆ นอกจากมือข้างหนึ่งยังอุ้มแมวไว้
ส่วนอีกข้างถือไม้กวาดกอดไว้แน่น ทั้งดูตลกและดูน่ารักในสายตาเขา


ดิวละสายตาออกจากภาพนั้น ก่อนหมุนลูกบิดออกจากห้องแล้วปิดประตูลง
เขานิ่งคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจหยิบไอโฟนออกมากดโทรหาใครบางคน
และทันทีที่สายติด หนุ่มหล่อจึงแสร้งทำเสียงลำบากใจ


“แพรครับ เรื่องนัดวันอาทิตย์นี้ พอดีอาจารย์เรียกผมไปคุยธุระด่วน
ต้องขอโทษจริง ๆ นะครับ ผมก็เพิ่งรู้”


เขาได้ยินเสียงคู่สนทนาตอบกลับมาว่าไม่เป็นไร
ก่อนจะคุยต่ออีกสองสามคำแล้วจึงวางสาย
เป็นอันว่าสัญญาที่จะพาสาวน้อยน่ารักไปเที่ยวช็อปปิ้งถูกยกเลิกไปเรียบร้อย



ดิวขยับยิ้มมุมปาก เดินลงมาจากหอพักที่จดจำเลขห้องไว้ขึ้นใจ


...ก็ว่าจะไม่ทำอะไร ตั้งใจจะให้มันค่อยเป็นค่อยไป
แต่เห็นแบบนี้แล้วคงจะปล่อยไปไม่ได้
เพราะยิ่งรู้จักเกมส์ก็ยิ่งน่าสนใจขึ้นทุกวัน


ทุกทีมีแต่คนวิ่งหาเขา แต่กับเกมส์ดันพยายามเอาตัวออกห่าง
แล้วยังจะท่าท่าสั่น ๆ เหมือนกระต่ายน้อยที่กำลังกลัวหมาป่าขย้ำ
แถมยังพยายามพูดขู่ซะจนเห็นแล้วนึกขำ


เกมส์ทำจริง ๆ หรือแค่แกล้งเล่น ๆ เขาไม่รู้
แต่ที่แน่ใจคือระยะห่างสามเมตรนั้น
เขาจะเป็นคนทำให้มันหดสั้นลงเอง
อยากจะรู้นัก ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป



....เกมส์จะทำยังไง



....ถ้าหากเขาได้เข้าไปใกล้จนถึงตัวเกมส์




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 19-02-2013 07:21:23
แหม่ ไอ้หมาป่าเจ้าเล่ห์นี่
เดี๋ยวยุให้จั๊ดง่าวมันข่วนหน้าแหกเลยนี่
 :angry2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 19-02-2013 08:05:01
บระ! หมาป่าดิวร้ายจริงๆ
อย่างนี้กระต่ายเกมส์จะรอดไหมนั่น คิคิ
ขออย่างเดียวอย่าทำนุ้งเกมส์เสียใจนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 19-02-2013 08:58:03
เกลียดคนเจ้าชู้ ถึงจะเป็นดิวเขาก็ไม่อภัยให้หรอก ถ้ามาทำเกมส์เสียใจ  :z6:
หวังว่าจะเลิกนิสัยนี้โดยเร็ววัน  :angry2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 19-02-2013 09:10:12
กรี๊ดดดดดดด มาอย่างสั้นอ่ะ แง้วๆๆๆๆๆ ดิวรุก นี่เคลียร์ตัวเองก่อนดิ เหอๆ ยังมีเหล่าสาวๆ ต่อขบวนอีกเยอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-02-2013 09:16:40
ขอความกรุณาช่วยจัดการบ่วงให้หมดไปจากคอก่อนนะนายดิว ไม่อยากให้น้องเกมส์ต้องเสียใจ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 19-02-2013 09:55:11
เกมส์น่ารักจัง  :o8:

ว่าแต่นายดิวนี่สาวเยอะใช่ย่อยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-02-2013 10:13:22
ตอนนี้สั้นไปหน่อยนึงเนอะ

แต่เกมส์ก็ดูน่าเอ็นดูน่าแกล้งมาก  :laugh:

เป็นดิวสนใจก็ไม่แปลก  o18

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 >; P.76
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-02-2013 10:42:21
หมั่นไส้ดิวมากกกกกก..
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-02-2013 14:39:07
ร้ายนะ  o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 19-02-2013 15:10:37
มาสั้นๆ..แล้วรอลุ้นต่อ..
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 19-02-2013 16:20:22
งั้นให้พี่ดิิวเป็นไอ้ขี้จุ๊พี่ชายไอ้จั๊ดง่าว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-02-2013 17:02:01
ร้ายนะดิวไปเคลียร์
เรื่องสาวๆๆก่อนดีมั๊ย
ก่อนจะจีบเกมส์อ่ะ :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 19-02-2013 17:48:53
ถ้าคิดจจีบเกมส์
อยากให้ดิวไปเคลียร์เรื่องผู้หญิงก่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 19-02-2013 18:09:48
ดิวไปเคลียร์สาวในสต๊อกแล้วค่อยมาจีบเกมส์นะ  :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 19-02-2013 19:12:08
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-02-2013 19:24:00
เคลียร์สาวๆๆให้หมดก่อนดีกว่านะดิว o12


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 19-02-2013 20:14:59
 :beat: :beat: :beat: ดิว สาวๆยังไม่เคลีย มายุ่งกับเกมส์ เชอะๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 19-02-2013 20:43:55
+1 จัดไปดิวอิอิ น้องเกมซ์ยิ่งตื่น ๆ อยู่ :jul3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 19-02-2013 21:56:51
กว่าจะเข้าใกล้ได้ เกมส์มันจะหัวใจวายไปซะก่อน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 19-02-2013 22:10:37
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 19-02-2013 22:34:26
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 19-02-2013 22:40:29
ถ้าสนใจเกมส์อย่าลืมไปเคลียร์กับสาว ๆก่อนแล้วกัน :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 19-02-2013 22:47:18
เมื่อไหร่จะเลิกเจ้าชู้ ?  :angry2: :angry2:
ชอบเรื่องนี้อะน่ารักดี ถ้าดิวเลิกเจ้าชู้ได้คงจะน่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 19-02-2013 22:51:01
สงสารเกมส์เบาๆนะเนี่ยย
แต่พี่ดิวทำไมเจ้าชู้งี้อ่าา เลิกนิสัยนั้นซะ
ก่อนจะมาจีบเกมส์นะเห้ย !!

รออัพค่ะ  o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 19-02-2013 22:51:55
เย๊ยย อย่าบอกนะ ว่าจะกลับขึ้นไปอีก
สาธุ ขอให้คาสโนว่า ลายหายเกลี้ยงก็งานนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 19-02-2013 23:41:15
กลัวทำไม ดัวไม่ใช่เกย์ซะหน่อย แค่ชอบเกมส์เอง 5555555

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 20-02-2013 08:42:29
เพราะเกมส์ก็น่าหยอกไก่ไม่หยอก
แต่เอ๊ะ ห้ามเข้าใกล้มากขนาดนี้
อยากรู้เหตุผลชะมัด
ดิวววววว ชูป้ายไฟให้เพลย์บอย
กดบวกปล่อยเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 20-02-2013 11:02:05
เกมส์น่ารักจังงงงงง  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 21-02-2013 11:20:06
ไม่ได้อ่านไปหลายวัน กลับมาย้อนอ่านทีเดียวสามตอน
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าเราก็ไปเรียนที่เหนือมาหละค่ะ
ฟังภาษาเหนือออกบ้างแต่ไม่มาก พูดไม่ได้นอกจากติดคำว่า ก๋า กลับมา
เรื่องนี้ก็เหมือนเป็นเรื่องที่ทำให้เราได้นึกย้อนกลับไปยังสำเนียงที่เคยฟังตลอดสี่ปี
พูดแล้วก็คิดถึงทีเดียวเชียว

ส่วนเรื่องดิวเนี่ย พูดจริงๆ ว่าเราไม่รู้เลยว่าดิวนี่จะหลอกฟันเล่นหรือเปล่า
เพราะคนอย่างดิวก็น่ากลัวกว่าหมอฟันเหมือนที่เกมส์ว่า
ก็เข้าใจหรอกว่าเกมส์มีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับแบบนั้นมันก็น่าแกล้ง
แต่หัวใจและความรักมันไม่ได้เป็นสิ่งที่ควรจะแกล้งนะคะดิว...

เพราะฉะนั้น... ถ้าเกมส์เสียใจ เราโกรธนายแน่ๆ ดิว


ปล. ถ้าเอาความหวานจูปาจุ๊ปมารวมกันรสบุหรี่ อาจจะได้บุหรี่กลิ่นใหม่ก็ได้เนาะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 4] 19/02/56 > P.76
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 21-02-2013 14:53:01
เกมส์กลัวฝังใจขนาดนี้ แล้วนายดิวจะเข้าใกล้ได้ยังไงนะ

อย่าว่าแต่ใกล้ใจเลย แค่ใกล้ตัวให้ได้ก่อนเหอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 23-02-2013 00:29:49
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 5




...รากฟันนี่มันเชื่อมกับเส้นประสาทสมองเส้นที่เท่าไรเหรอครับ


เพราะตอนนี้นอกจากนายซีเกมส์กำลังปวดฟันอย่างหนักแล้ว
เขายังรู้สึกกำลังปวดหัวจี๊ดดดเหมือนมีใครเอาเหล็กแหลมมาแทงสมอง
ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงวิงเวียนหน้ามืดคล้ายไข้กำลังจะขึ้น
ขนาดซัดยาแก้ปวด แก้อักเสบ บวกด้วยดีคอเจนเม็ดยาสามชั้น
ให้ตัวเองกินชุดใหญ่ก็ดูเหมือนเอาไม่อยู่


เพิ่งรู้ว่าการผ่าฟันคุดโคตรจะทรมานขนาดนี้
อยากจะกินอะไรก็กินไม่ได้ เพราะมันปวดฟันจนเคี้ยวไม่ลง
เมื่อวานร่างกายเขาเลยรับสารอาหารเพียงแค่โจ๊กถุงเดียวเท่านั้น


...ก็ไอ้โจ๊กที่ใครบางคนส่งมาให้นั้นแหละ
นึกไปแล้วก็ยังสยองไม่หาย
ลองคิดดูสิครับว่าอยู่ ๆ ดันเจอสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตมาเคาะประตูเยี่ยมถึงหน้าห้อง
เขาไม่เป็นลมสลบน็อคตายคาทีก็เป็นบุญแค่ไหนแล้ว
ถึงมันจะใจดีเอายามาให้ด้วยก็เถอะ
แต่จะให้เขายิ้มรับหน้าชื่นตาบานเดินไปกอดคอขอบคุณคงทำไม่ลง
เลยต้องบอกอยู่ห่าง ๆ อย่างกลัว ๆ อยู่แบบนี้


เออ..จริงด้วย พูดไปดันนึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมจ่ายเงินค่าโจ๊กให้มันไปเลย
ถึงจะชอบกินของฟรีเท่าไร แต่เขาไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณคนอย่างดิว
เพราะกลัวว่ามันจะเรียกร้องตอบแทนอะไรกันอีก


...ถ้ามันไปแล้วก็ขอให้ไปลับ ไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้ากันตลอดชีวิตอีกเลยเถอะ เพี้ยง!!




TRRRRRRRR!!



เสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะความคิดของคนพนมมือไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่ง
เขาหยิบมือถือของตัวเองกดมองดูหน้าจอ ก่อนจะรับสายเมื่อเห็นชื่อเพื่อนคนหนึ่ง


“ฮัลโหล”


“นี่ไอ้เกมส์! งานกลุ่มที่จะพรีเซนต์วันพฤหัสนี้ แกทำพาวเวอร์พอยซ์เสร็จรึยังย่ะ!”


คำตวาดแหวจากเจ๊บอลล่าดังมาตามคลื่นกระแทกใส่หู
และเหมือนมันจะทะลวงทะลุโสตประสาท
เข้าไปกระตุ้นสติของคนที่ปวดหัวให้ระลึกถึงความทรงจำขึ้นมาได้


...ฉิบหายแล้ว! งานกลุ่มยังไม่ได้เริ่มเลย
โอยย... ทำไมช่วงนี้เขาถึงขี้ลงขี้ลืมบ่อย ๆ วะ

อ้อ...สงสัยไม่ค่อยได้กินขนมเลยไม่มีอะไรไปกระตุ้นสมองแน่ ๆ
แต่ขืนบอกความจริงไป
แม่เจ้าพระคุณต้องเล่นงานกระตุ้นสมองเขาจนได้นอนตายกลับบ้านเก่าชัวร์


คนอยากมีชีวิตอยู่ต่อจึงแกล้งโกหกอ้อมแอ้มเลี่ยง ๆ


“เออ...ก็เหลืออีกนิดนึง”


“นิดนึงของแกนี่แค่ไหนกันห่ะ! อย่าบอกนะว่าพิมพ์ได้แค่ชื่อรายงาน
นี่คงไม่ลืมใช่มั้ยว่าต้องมาซ้อมพรีเซนต์ล่วงหน้ากันก่อนด้วยน่ะ”


คนจับทางได้บ่นเสียงดุตามออกมาอีกระลอก
จนเขาต้องรีบแก้ตัวพลัลวัน


“โห...เจ๊ อย่าเร่งสิคร้าบ รับรองเดี๋ยวทำให้เสร็จทันวันพรีเซนต์แน่ เจ๊ไม่ต้องห่วง”


“โอยย...ให้มันจริงเถอะย่ะ บอกตรง ๆ ฉันล่ะไม่เชื่อใจแกเล๊ยยย!
...เอางี้เดี๋ยวฉันโทรบอกให้ใครในกลุ่มไปช่วยแกด้วยล่ะกัน 
จะได้มีคนมาคอยคุมกันแก้อู้งาน”


ท้ายประโยคเจ๊บอลล่าพูดตัดสินเอาเองเสร็จสรรพ 
เมื่อเห็นว่าขืนปล่อยงานไว้กับคนอย่างไอ้เกมส์คงได้ล่มจม
ซึ่งพอเจ้าตัวได้ยินว่ามีคนมาช่วยกลับไม่ได้สลดซ้ำยังยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่ง


“โห...พอดีเลย เจ๊นี่โคตรรู้ใจจริง ๆ 
จะได้มีคนไปซื้ออะไรมาให้กิ...เอ้ย!
แบบจะได้มีคนมาช่วยให้งานมันเสร็จเร็ว ๆ ไง”


เกมส์ที่เผลอเอ่ยจุดประสงค์แอบแฝงออกไปเกือบยั้งปากไว้ไม่ทัน
กระนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ได้ยินเสียงถอนหายใจจากปลายสาย


“เฮ้อ...เอาเถอะ ฉันเบื่อความไม่ได้เรื่องของแกเต็มที่แล้ว
เดี๋ยวโทรไปจิกคนอื่นก่อน อีกสักพักคงไปถึง
แกก็รีบ ๆ ทำให้เสร็จภายในวันนี้ล่ะเข้าใจมั้ย แค่นี้นะยะ!”


บอลล่ากำชับเสียงเขียวส่งท้ายก่อนวางหูโทรศัพท์ตัดบทสนทนา
ปล่อยให้นายซีเกมส์รู้สึกโล่งอกที่จะมีคนมาสานต่อภารกิจ
เพราะว่าตอนนี้เขาทั้งปวดฟันปวดหัวไปหมดแล้ว
จะให้มานั่งเปิดคอมพิมพ์งานงก ๆ อยู่ได้ยังไง

ถ้าเพื่อนเขามาจะได้ช่วยเบาแรงลงหน่อย
แถมยังอ้อนให้มันเป็นเบ๊ลงไปซื้อขนมของกินมาให้เขาอีกด้วย

แหม...งานนี้มีไอ้เกมส์เป็นเสือนอนกินสบายใจเฉิบ ชิล ๆ 

เออ...จะว่าไปก็เหมือนคุณนายสายสมรคุณแม่ผู้บังเกิดเกล้าบอกไว้เปี๊ยบ!
มีโชคร้ายติด ๆ กันหนักขนาดนี้ มันก็ต้องมีโชคดีวิ่งเข้ามาหากันบ้าง


...ใครมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนกันได้ตลอดจริงมั้ยครับ




ก๊อก! ก๊อก!




...โอ้โห พูดปุ๊บก็มาปั๊บเลยเว้ย
สงสัยเพื่อนเขาคงเกรงอำนาจของเจ๊บอลล่า
ถึงสั่งไวได้เร็วทันใจยิ่งกว่าพิซซ่าฮัทขนาดนี้


เจ้าของห้องรีบลากสังขารลงจากเตียงที่นอนอุ้ดอู้มาทั้งวันเดินไปเปิดประตู
ในใจนึกอยากกระโดดกอดคนที่จะมาเป็นตัวช่วยชีวิตของเขาให้ชื้นใจสักที
หากแต่พอเห็นร่างของแขกผู้มาเยือนกลับทำให้เขาถึงกับสะดุด
ต้องขยี้ตามองซ้ำอีกรอบจากบนลงล่าง



...ดะ...เดี๋ยวนะ...


จำได้ว่าเพื่อนในกลุ่มรายงานเขาไม่มีคนที่สูงยาวเข่าดี

ไม่มีคนที่หน้าตาหล่อเหมือนดาราเกาหลี

ไม่มีคนที่ยิ้มโปรยเสน่ห์จนสาวเหลียวแบบนี้


และที่สำคัญ...


...ไม่มีคนที่ครองตำแหน่งเดือนคณะวิศวะด้วย!



...เฮ้ยยยย!! 




“สวัสดีครับเกมส์”


คำทักจากดิวทำเอาคนฟังถึงกับสะดุ้งเฮือก
รีบเข้าสู่เสต็ปเดิมคือ...ถอยดีกว่า...ไม่เอาดีกว่า
ก้าวขาสั่น ๆ พั่บ ๆ ของตัวเองเผ่นแน่บ
โดยไม่ลืมคว้าแมวตัวเล็กหนีบเป็นเพื่อนคู่ตาย
หนีไปหยุดอยู่ตรงระเบียงระยะทางห่างหกเมตร
ก่อนตะโกนถามเสียงหวาด ๆ


“มะ...มาทำไม”


“ก็แวะมาเยี่ยมน่ะครับ แล้วก็ซื้อของมาฝากด้วย”


หนุ่มหล่อตอบด้วยท่าทีสบาย ๆ
เดินหิ้วถุงขนมเข้ามาในห้องโดยไม่ต้องรอให้เจ้าขออนุญาต
หากแต่ก็ยังรักษาระยะห่าง ด้วยการหยุดยืนอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าใกล้ประตู


“วันก่อนที่มาห้องเกมส์ ผมเห็นขนมเยอะแยะเลย
คิดว่าเกมส์คงจะชอบใช่มั้ยครับ
แต่เกมส์เพิ่งทำฟันมา คงทานอะไรไม่ได้มาก
วันนี้ผมเลยซื้อพวกวุ้นกับโยเกิร์ตมาฝาก
ไม่รู้จะถูกใจเกมส์รึเปล่า มาลองเลือกดูสิครับ”


คำพูดเอ่ยถามที่มาพร้อมกับของล่อ ซึ่งร่างสูงแสร้งทำเป็นเปิดโชว์ขนมในถุง
เรียกความสนใจจากคนที่อยู่นอกระเบียงให้เผลอชะโงกมอง
ขัดกับท่าทางหวาด ๆ ราวกับพยายามยั้งใจไว้ จนทำให้ดิวต้องนึกขำเบา ๆ



...ก็ว่าแล้วว่าแผนนี้ต้องได้ผล   


โชคดีที่เขาเป็นคนช่างสังเกต
เลยสามารถจับจุดความชอบของคนอื่นได้ง่าย ๆ
และเขาก็มักจะใช้ข้อได้เปรียบนี้มาเป็นส่วนหนึ่งของเคล็ดลับในการจีบสาวเสมอ
ซึ่งขอบอกว่าได้ผลทุกราย

และกับเกมส์ก็คงไม่แตกต่างกัน
ดูจากนัยน์ตาทอประกายวิบวับเหมือนคนเจอขุมทรัพย์แล้ว
เขาคงจะจับจุดของเกมส์ได้อยู่หมัดจริง ๆ
ที่เหลือก็แค่รอให้เกมส์ขยับเข้ามาใกล้
เพื่อเขาจะได้พิสูจน์ข้อสงสัยในใจก็เท่านั้น


หากทว่าร่างสูงคงประเมินกระต่ายตื่นตูมน้อยไปหน่อย
เพราะคนที่อยู่นอกระเบียงห้องกลับไม่ขยับ
ซ้ำยังเอ่ยคำพูดตะกุกตะกักเสียงเบาหวิว


“กะ..กระเป๋า...”


“ห่ะ อะไรนะครับ?”


ดิวขมวดคิ้วงง เมื่ออยู่ ๆ คำที่หลุดออกจากอีกฝ่ายกลับเปลี่ยนประเด็นจนไม่ทันตั้งตัว
หากแต่คนพูดยังคงยืนนิ่งสูดลมหายใจลึกคล้ายเรียกความกล้า
แล้วจึงขยายความให้ได้ยินอีกครั้งชัด ๆ


“หยิบกระเป๋าเป้สีดำที่แขวนตรงเก้าอี้”


คำสั่งจากเจ้าของห้องยังคงสร้างความแปลกใจให้ผู้มาเยือน
กระนั้นแม้จะสงสัย แต่ร่างสูงก็ยังคงทำตาม
เดินขยับเข้าไปใกล้อีกสามก้าว
เพื่อหยิบกระเป๋าเป้ที่ดูเหมือนกระเป๋าใส่หนังสือเรียน
แล้วประโยคของคู่สนทนาจึงดังตามขึ้นมาอีกรอบ


“เห็นกระเป๋าตังค์ในนั้นมั้ย”


“ครับ”


“ค่าขนมกับค่าโจ๊กเมื่อวานเท่าไรดึงเงินออกไปได้เลย”


ดิวชะงักงันหลังจากจบคำ
สิ่งที่พูดมาคล้ายตอกย้ำในความห่างเหินราวกับไม่คิดจะรักษาน้ำใจใด ๆ



หึ...เกมส์มาไม้นี้ นึกเหรอว่าเขาจะยอมแพ้


...ยิ่งทำเป็นไม่สนใจก็ยิ่งท้าทาย


...ยิ่งหนีก็ยิ่งอยากเข้าใกล้



หัวสมองของคนเจ้าเล่ห์หมุนวนหาแผนการอย่างรวดเร็ว
แล้วจึงแสร้งยิ้มออกมาด้วยความไม่ถือสา พลางเอ่ยคำตอบกลับไป


“อ้อ ไม่ต้องหรอกครับ ของพวกนี้ผมเลี้ยงเอง
เออ...ว่าแต่....”


ท้ายประโยคร่างสูงลากเสียงยาว พลางหยิบกระเป๋าตังค์หนังสีดำเรียบ ๆ ขึ้นมา
ก่อนจะดึงบางสิ่งที่เสียบอยู่ไวชูให้เจ้าของเห็นพร้อมคำถาม


“นี่บัตรประชาชนเกมส์เหรอครับ ในรูปไม่เหมือนตัวจริงเลย”


“เฮ้ยยยยยย!!!”


เกมส์ร้องตะโกนเสียงหลง เมื่อเห็นบัตรประจำตัวประชาชนสีฟ้าของตัวเองโบกไปมา

ใคร ๆ ก็รู้ว่าประเทศไทยแดนสารขัณฑ์นี้ช่างมีระบบถ่ายรูปราชการได้ดีเลิศ
แม้แต่แอปคาเมล่า 360 องศายังต้องอาย เพราะไม่สามารถสู้หนังหน้าจริงเหนือมนุษย์ได้
แล้วไอ้บัตรประชาชนใบนี้เขาทำตั้งแต่ตอนอยู่ม.หก
ผมยังสั้นไถเกรียน หน้าตาก็เด่อ ๆ ด่า ๆ จนเขาไม่กล้าโชว์ให้ใครดู
ขนาดถ่ายเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่ต้องใช้สำเนาบัตรยังต้องแอบซ่อนแล้วซ่อนอีก

เรียกว่าเก็บเป็นความลับท็อปซีเคร็ท
แทบจะอยากเอาสติกเกอร์ลายคิตตี้มาแปะติดกันอุบาวท์ด้วยซ้ำ
แต่นี่กลับถูกใครบางคนเอารูปไปส่องพิจารณาทุกซอกทุกมุมกันง่าย ๆ
ทำแบบนี้ยิ่งกว่าถูกหยามศักดิ์ศรีกันชัด ๆ!!


ใจอยากจะวิ่งเข้าไปกระชากดึงบัตรมาเก็บไว้
แต่ขายังสั่น ๆ ให้ก้าวก็ก้าวไม่ออก
เลยทำแค่เพียงร้องตะโกนห้ามจากที่ไกล


“หยุด อย่าดูนะโว้ย!!”


หากทว่าคำสั่งกลับไร้ผล เมื่อคนครอบครองกระเป๋าเงินกลับทำหูทวนลม
แถมด้วยการค้นหาสำรวจตรวจตราทุกซอกมุกเหมือนภรรยาค้นความลับสามี


“อืม...มีรูปครอบครัวด้วย
เกมส์มีน้องชายด้วยเหรอครับเนี่ย
หน้าตาคล้าย ๆ กันเลยนะครับ น่ารักทั้งบ้านเลย”


เออ...เอาเข้าไป มาทั้งวงศ์ตระกูลเลย
ทั้งคุณนายสายสมร พ่อ ไอ้กาวน์น้องชายตัวป่วนถูกเห็นหมดไม่มีเหลือ
เขาอุตส่าห์เก็บรูปไว้ในกระเป๋าตังค์เผื่อเวลาคิดถึงจะได้เอาออกมาดูง่าย ๆ
รูปแต่ละใบล้วนเป็นของสำคัญเต็มไปด้วยความทรงจำทั้งนั้น
แต่ตอนนี้มันกลับโดนใครบางคนดึงสิ่งที่อยู่ภายในออกมาจนหมดสิ้น


“บอกว่าอย่าดูไงวะ!!!”


เกมส์ตะคอกเสียงด้วยอารมณ์กรุ่น ๆ
เริ่มขยับเดินออกห่างจากระเบียงเข้าไปในห้องโดยไม่รู้ตัว
ทันทีที่เห็นร่างสูงยังคงสำรวจกระเป๋าต่ออย่างสนุกสนาน


“โอ๊ะ! มีรูปเกมส์ตอนเด็ก ๆ ด้วย
ถ้ายังไงผมขอถ่ายรูปเก็บไว้ดูได้มั้ยครับ”


พูดไม่พูดเปล่า ดิวยังหยิบไอโฟนขึ้นมากดตั้งท่าจะถ่าย
จนเกมส์แทบตาเหลือก ปล่อยลูกแมวตัวเล็กในอ้อมกอดลงพื้น
แล้ววิ่งถลาเข้าไปคว้ากระเป๋าปากก็ตะโกนห้ามเสียงหลง


“เฮ้ยยย! อย่าถ่ายยย!!!”


แต่ไม่ทันแล้ว เมื่อหูได้ยินเสียงแชะเบา ๆ
พร้อมกับคนถ่ายกดดูรูป ก่อนขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจ


“ขออีกรูปหนึ่งนะครับ เมื่อกี๊มันเบลอ”



...ขอรูปหนึ่งพ่องสิ! ใครให้มันถ่ายกันง่าย ๆ วะ!!


ความกลัวถูกแทนทีด้วยความโมโหที่ขึ้นสูง
เกมส์พุ่งเข้ามาประชิดตัวของอีกฝ่าย
พยายามจะเอื้อมคว้ารูปถ่ายของตัวเอง
พร้อมกับร้องโวยวายเสียงดังลั่น


“ไม่ให้โว้ยยย! เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ!!”


แต่ร่างสูงกลับชูมันขึ้นเหนือหัวให้ห่างมือเจ้าของที่แท้จริงเหมือนแกล้ง
ทำให้เขาต้องตะเกียดตะกายไขว้คว้าของสำคัญอย่างหงุดหงิด
แย่งยื้อกันไปเหมือนเด็กแย่งของเล่น กระทั้งในที่สุดเขาก็ดึงรูปกลับมาได้
หากทว่ายังไม่ทันดีใจกับความสำเร็จ
มือที่ว่างอยู่ของร่างสูงกลับคว้าข้อมือของเขาไว้ทั้งสองข้าง
ล็อกมันไว้แน่นพร้อมเอ่ยประโยคสั้น ๆ ที่รอมานาน


“จับได้แล้ว”


คนถูกจับสะดุดกึก ก้มลงมองสำรวจตัวเองอย่างตกใจ
เมื่อรู้สึกตัวว่าตอนนี้เขามาอยู่ใกล้อีกฝ่ายแค่ไหน



...ฮะ..เฮ้ยย ทำไมเขามาอยู่ตรงนี้ได้

แย่แล้ว...อย่าบอกนะว่าที่มันแกล้งถ่ายรูปเพราะต้องการจะหลอกเขาเข้ามาใกล้


ไอ้ดิวชั่ว!  ไอ้เจ้าเล่ห์!  แม่งไม่น่าหลงกลมันเลย


ละ...แล้วทีนี่จะทำยังไง มือก็โดนมันจับไว้แน่นขนาดนี้



มะ...ไม่เอา...



...กะ..กลัว...กูกลัววววว!!!



อาการของคนกลัวผู้ชายจีบกลับมากำเรีบอีกครั้ง
ยิ่งอยู่ใกล้กันก็ยิ่งใจสั่น เรี่ยวแรงแทบจะไม่มีเหลือ
กระนั้นก็ยังคงพยายามเปล่งเสียงตะกุกตะกักขัดขืน


“ปะ..ปล่อย...”


“ไม่ปล่อยหรอกครับ จนกว่าเกมส์จะบอกผมมาก่อนว่าทำไมถึงชอบหนีผม”


ดิวเพิ่มเงื่อนไขต่อรองที่สงสัยติดอยู่ในใจเขามานาน
อยากจะรู้จริง ๆ ว่าทำไมเกมส์ถึงหนีเขา
ทั้ง ๆ ที่มีแต่คนอยากจะวิ่งเข้าหา


หากแต่คนถูกถามกลับก้มหน้าก้มตา
พยายามดึงมือสั่น ๆ ของตัวเองให้ออกห่างอีกครั้ง


“ระ...เราบอกให้ปล่อย”


“ไม่ครับ บอกผมมาก่อนสิครับว่าเกมส์เป็นอะไร”


ดิวยังคงดื้อดึงตื้อจะเอาคำตอบ
ยึดข้อมืออีกฝ่ายแน่นแบบไม่ปล่อย
ดวงตามองสบกับคนที่ไม่ยอมเงยหน้า
ซึ่งขยับเปล่งเสียงเบา ๆ เป็นคำตอบ


...และเป็นคำตอบที่ทำให้ดิวต้องนิ่งอึ้งด้วยไม่เคยคาดคิดมาก่อน




“ระ...เรา...กะ...กลัว”





...กลัว?


...กลัวเขาเหรอ? ทำไมล่ะ?


คำตอบรับไม่ได้ช่วยอะไร
กลับเพิ่มความสงสัยให้มากขึ้นในสมองของชายหนุ่มหน้าตาดี


...เพราะอะไร ทำไมเกมส์ถึงกลัวเขา
กับคนอื่นเกมส์ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ
แล้วเขาผิดปกติตรงไหน น่ารังเกียจ น่าขยะแขยงสำหรับเกมส์มากรึไง
 
เพราะแม้ว่าเขาจะทำดีต่อเกมส์ทุกอย่างมากแค่ไหน
เกมส์กลับตัดรอนออกห่างโดยไม่คิดจะสนใจกัน
 

หรือจริง ๆ แล้วเกมส์แค่อยากแกล้งเขาเล่น ๆ กันแน่
เลยทำท่าเหมือนกลัวกันแบบนี้ เพื่อให้เขากระวนกระวายใจ
แล้วค่อยมาแอบนึกหัวเราะเยาะเขาทีหลัง


...มันจะใช่เพราะเหตุผลนี้รึเปล่า




“ทำไมล่ะครับ ทำไมเกมส์ถึงกลัวผม ผมมันไม่ดีตรงไหนกัน”


น้ำเสียงที่เอ่ยแม้ยังคงเรียบนิ่ง
ทว่ามันกลับดูเย็นชามากกว่าที่แล้วมา
ยิ่งเมื่อเห็นคู่สนทนาเงียบเฉยก็ยิ่งทำให้คนไม่เข้าใจเร่งถามซ้ำ


“เงียบแบบนี้ผมไม่รู้หรอกนะ
ตกลงว่าเกมส์จะตอบ หรือจะให้ผมหาคำตอบเอง”


ถ้อยคำกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูส่งผลให้คนฟังนิ่งค้าง
คล้ายกับเห็นภาพเหตุการณ์เดิม ๆ วนเวียนฉายซ้ำ


ภาพ...ที่ทำให้ความทรงจำหมุนย้อนกลับไปยังคืนฝันร้ายคืนนั้น

ภาพ...ที่โดนคนร่างใหญ่ขึ้นคร่อมตะโบมกอดไซร้เขาไปทั่ว

ภาพ...ที่ส่งผลให้ร่างกายเกิดการต่อต้านเพราะความกลัวแล่นจับขั้วหัวใจ


...และมันเป็นภาพเดียวกัน
ราวซ้อนทับกับภาพใบหน้าของร่างสูง
ซึ่งเอื้อมมือเชิดปลายคางคนก้มหน้าที่นิ่งค้างขึ้น
ก่อนโน้มลงมาใกล้พร้อมเอ่ยคำพูดสั้น ๆ


“หมดเวลาครับ”


ดิวก้มตัวลงหมายจะฉกฉวยริมฝีปากของคนที่จับไว้เพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจ
หากแต่เพียงเข้าใกล้ เขากลับรับรู้ถึงลมหายใจที่ร้อนผ่าว


...มันร้อนแบบผิดปกติ


...ทำไมถึงร้อนแบบนี้



...หรือว่าเกมส์



ยังไม่ทันได้สงสัยร่างของอีกฝ่ายกลับทรุดฮวบ
ล้มลงทั้งยืนจนดิวเกือบจะคว้าเอาไว้ทัน
ร่างสูงนิ่งอึ้งอย่างตกใจตะโกนเรียกชื่อคนเป็นลมซ้ำ ๆ


“เกมส์!!  เกมส์ครับ...ได้ยินผมมั้ย... เกมส์!!”


ดิวพยายามจะปลุกร่างที่สลบไปอย่างตระหนก
และพอเอื้อมมืออังหน้าผากถึงได้เพิ่งรู้ว่าเกมส์ตัวร้อนขนาดไหน


โธ่เว้ย!! ทำไมเขาถึงมาสังเกตกันตอนนี้
ทั้ง ๆ ที่ปกติเรื่องเล็กน้อยขนาดนี้ เขาไม่น่าจะพลาดแท้ ๆ
หรือจะเป็นเพราะเขามัวแต่กระวนกระวายถึงสาเหตุที่เกมส์หนีเขา


...สาเหตุที่ตอนนี้เขาได้คำตอบชัดเจนแล้ว


เกมส์ไม่ได้แกล้งเขาเล่น แต่เพราะเกมส์กลัว...



...ใช่...เกมส์กลัวเขาจริง ๆ




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 23-02-2013 00:35:14
อ๊ายยยยยยย ช่วยจุ้บคนเป็นลมด่วน ต้องการอากาศบริสุทธิ์  :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 23-02-2013 01:15:05
 :sad2: เกมส์น่าสงสารจัง ยิ่งป่วยอยู่ด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-02-2013 02:43:26
กระต่ายเกมส์น่าสงสารจัง :m17:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 23-02-2013 06:02:42
ไม่ได้กลัวดิวแต่กลัวเหตุการณ์ในอดีตตะหาก ดิวสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 23-02-2013 06:46:12
เกมน่ารักอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 23-02-2013 08:40:34
+1 นู๋เกมซ์ สลบไปซะแล้ว  :sad4:ดิวต้องจู๊บใช่ไหม :o8: สโนไวส์เกม :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 23-02-2013 08:43:29
คุณหมาป่าดูแลกระต่ายเกมส์เลยนะ
น่าสงสารจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-02-2013 08:46:03
ผายปอดด่วน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-02-2013 09:03:02
ก็คนมันกลัวนี่หว่า  ทำไงได้  จริงๆ ดิวน่าจะไปถามพวกเพื่อนๆ เกมส์นะว่าทำไมเกมส์ถึงได้กลัวเขา  ไม่ต้องคอยมาแกล้งเกมส์เพื่อหาคำตอบ   และจะได้หาวิธีช่วยเกมส์ให้หายกลัวผู้ชายที่เข้ามาจีบ

+ เป็ด ให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-02-2013 09:04:20
ผายปอดด่วนนนนน :z1:
รู้สึกจะผิดหลักการช่วยเหลือมากไปหน่อย  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 23-02-2013 09:08:17
เกมส์ครับเกมส์
วิธีทำให้หายกลัวคือจ้องตาสู้มัน
แต่ตอนนี้ 555 ผายปอดช่วยหายใจด่วน
โอ๋ย เรื่องน่ารัก อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอ
กดบวกปล่อยเป็ดติดสินบน
ส่งพี่ดิวมาด่วน^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 23-02-2013 09:11:48
ดีใจจัง คนแต่งมาเร็ว :pig4: :กอด1:

เกมส์น่ารักอ้ะ5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 23-02-2013 09:23:28
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 23-02-2013 09:34:35
คู่นี้น่ารักมากกกกกกกกกกก

 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-02-2013 09:43:36
สงสารเกมส์จริงๆนะ

ดิวนายต้องทำให้ดิวหายกลัวให้ได้นะ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 23-02-2013 09:45:30
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 23-02-2013 09:56:28
เกมส์กลัวฝังใจขนาดนั้น จะรักกันได้มั้ยเนี่ย
ดิวก็อย่ามาล้อเล่นกะเกมส์นะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 23-02-2013 09:57:55
 o18

สโนว์เกมส์รอเจ้าชายจุมพิตใช่มั้ยล้า

รู้ทันนะ  :laugh:

งานนี้ดิวคงยิ่งอยากเข้าใกล้เกมส์มากกว่าเดิมแน่ๆ

รอตอนต่อไปค่ะ

บวกเป็ด

 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 23-02-2013 10:59:21
จะรักกันได้ไง ยังนึกไม่ออกจริงๆ ค่ะคู่นี้ รู้สึกว่ายิ่งแต่งยิ่งเดาแนวยากขึ้นอ่ะ แต่ก็ยิ่งน่าติดตามมากขึ้นไปอีก ไม่ได้เข้ามาเม้นแต่อ่านผ่านโทรศัพท์ประจำๆ ค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 23-02-2013 11:24:59
โอยหนูเกมส์เป็นลมในอ้อมกอดเจ้าชาย :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-02-2013 13:21:28
เกมส์สู้ต่อไป :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-02-2013 15:58:31
สงสารเกมส์กลัวดิวจนเป็นลม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 23-02-2013 19:06:24
เอาใจช่วยทั้งสองคนนะ
 

 :กอด1: :L2:


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 23-02-2013 22:26:10
ชอบนายเอกบุคลิกประมาณนี้จัง
หายากแบบหนึ่งในร้อย  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 24-02-2013 00:56:22
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
สงสารเกมส์อะ มันเป็นความกลัวฝังลึกขั้นสูงในจิตใจเลยนะนั่น
ถึงกับขนาดเป็นลม  :z3:  แล้วจะรักกันได้ยังไงหละพ่อคุณเอ้ยยยยย
ถ้าดิวคิดจะมาเล่นๆกับเกมส์ เพราะอยากเอาชนะ จะตีให้หัวแตกเลยยยยยยยย คอยดู!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 24-02-2013 09:41:19
รู้สึกว่าเหตุการณ์รายงานมหาภัยจะคุ้นๆ แฮะ


นายดิวมาแกล้งลูกแมวน้อยแบบนี้ได้ไง

ระวังจะโดนเกลียดจนเข้าหน้าไม่ติดนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 >; P.77
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-02-2013 16:06:01
เป็นลมไปแล้วอะ ทำไงดี ทำไงดี?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: Damon ที่ 24-02-2013 16:12:55
 :-[ แอบอ่านนานและ ชอบมากๆ อ่านจนตาแฉะไปหมด 
 :laugh: รอตืดตามผลงานของ Bittersweet อิอิ ชอบหมดเลย

สู้ๆ จ้า :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 24-02-2013 16:18:35
เป็นลมแล้ว ทำไงดี ผายปอดเลยเผื่อจะหายนะ  :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 24-02-2013 17:21:14
โอ๊ะ  โอ้ 
หนูเกมส์เรากลัวจนลมใส่ซะเเล้ว  นู๋ดิวรีบปฐมพยาบาลด่วนคร๊า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 24-02-2013 19:39:44
ผายปอดไปเลยครับคุณณณณณณ


คนเป็นลมเค้าต้องผายปอดใช่มะ? #ผิดละแก




เราว่าดิวคาดคั้นเกินไปอะ นอกจากเกมส์จะกลัวแล้ว เกมส์ต้องหนีดิวไปอีกแน่ๆ
พลาดละนาย ถ้านายไม่อยากพลาด นายต้องวางแผนดีๆ ให้เจ้าตัวมาติดกับเองแล้วก็หนีไปไหนไม่รอด
จะหนีก็ไม่ได้ จะอยู่ก็ไม่อยาก แบบนี้น่าสนุกดีออกนะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 25-02-2013 13:39:11
อ้าาาส์ เกมส์ดูเดียงสามากเวลาโดนรุกเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 5] 23/02/56 > P.77
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 26-02-2013 14:03:19
เค้าว่ากันว่า..กลัวอะไรต้องทำลายความกลัวนั้นออกไปใช่มั๊ยย... :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 2/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 02-03-2013 21:15:28
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 6



“เฮ้ย! ไอ้เกมส์ขอโทษวะ พอดีกินข้าวเพิ่งเสร็จ เลยมาชะ...ช้า”


เสียงคนทักสะดุดลงไปทันทีเมื่อคนที่เปิดประตูมาไม่ใช่เพื่อนหน้าทะเล้นเจ้าของห้อง
หากแต่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ซึ่งแย้มรอยยิ้มพร้อมเอ่ยคำทัก


“สวัสดีครับ ปลาย”


ร่างสูงมองสีหน้างง ๆ ของคนหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าประตู


เขารู้จักคนคนนี้ ชื่อว่า ‘ปลายฟ้า’ หรือ ‘ปลาย’
เป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกับเกมส์ เคยไปเข้าค่ายวิศวะอาสาด้วยกันมาก่อน
หน้าตาน่าเอ็นดู ไม่แพ้คนที่เขาติดใจด้วย
แต่ตอนนี้ใบหน้าเกลี้ยงเกลากลับขมวดคิ้วมุ่น
ก่อนเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ


“อ้าว...ดิว ทำไมมาอยู่ที่นี่ แล้วเกมส์ล่ะ”


“ผมแวะเอาของมาให้น่ะครับ ส่วนเกมส์ตอนนี้ไม่สบายนอนอยู่ครับ”


ดิวเลี่ยงบอกความจริงไปบางส่วน
เพราะเขาไม่อยากจะอธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมเกมส์ถึงนอนซมอยู่บนเตียงแบบนี้
ในใจอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดและเป็นกังวล


...เกมส์เป็นลมเพราะกลัวเขาจริง ๆ


แต่เขาไม่ใจเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เห็นว่าตัวเองปฏิบัติกับเกมส์ผิดปกติตรงไหน
ใส่ใจดูแลเทคแคร์ดี เหมือนที่เคยทำกับสาว ๆ ไม่ต่างกัน
แล้วทำไมเกมส์กลับถอยห่างจากเขา
แถมเป็นความห่างซึ่งย้ำชัดถึงความหวาดกลัวอย่างที่สุด


ความสงสัยในใจหยุดลงเมื่อร่างสูงได้ยินเสียงพูดคล้ายตกใจจากปลาย
ซึ่งเดินเขามาในห้องมองดูคนนอนซมบนเตียง


“จริงเหรอ! เกมส์ไม่สบายตั้งแต่เมื่อไร ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลย
อ้าว...แล้วนี่งานกลุ่มจะทำยังไงที่เนี่ย
เฮ้อ...สงสัยต้องโทรไปบอกบอลล่าก่อนแล้วมั้ง
ไม่งั้นเดี๋ยวได้วีนแตกขึ้นมาอีกแน่ ๆ”


ปลายฟ้าถอนหายใจพลางงึมงำบ่นกับตัวเองเบา ๆ
พร้อมตั้งจะหยิบมือถือขึ้นมารายงานคุณแม่จอมบงการประจำกลุ่ม
แต่เสียงของคนข้าง ๆ ตัวกลับดังขึ้นขัด


“เออ..คือปลายครับผมมีเรื่องอยากถามหน่อย”


“อะไรเหรอ”


“เกมส์มีอะไรที่กลัวมาก ๆ บ้างมั้ยครับ”


คำถามที่อยู่ ๆ ก็พุ่งเข้าประเด็นนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทำให้ปลายฟ้าต้องเงยหน้าขึ้นมาจากจอโทรศัพท์อย่างแปลกใจ
กระนั้นก็ยังคงขยับตอบคำถามสั้น ๆ ตามที่นึกได้


“ก็ไม่นะ”


“ไม่มีจริง ๆ เหรอครับ”


เสียงเน้นย้ำอีกเป็นครั้งที่สอง ไม่ใช่เพียงแค่ส่งผลให้ปลายฟ้าชะงัก
หากแต่ยังต้องหยุดนิ่ง สบสายตามองคู่สนทนาซึ่งแม้จะมีสีหน้าเป็นปกติ
ทว่าดวงตาเรียวทอประกายคล้ายกำลังรอคอยบางสิ่งอย่างคาดคั้นจริงจัง
จนทำให้คนผู้รู้ความลับเกิดอาการลังเล
แม้มันจะเหมือนการเผาเพื่อนสนิท แต่สุดท้ายเขาก็เผลอหลุดปากเล่าความจริง


“จะว่ามีมันก็มีหรอก แต่มันแปลก ๆ อยู่สักหน่อยไม่รู้ว่าจะเข้าใจรึเปล่านะ
...คือ ไอ้เกมส์มันเป็น ‘โรคกลัวผู้ชายจีบ’ น่ะ
เมื่อก่อนตอนปีหนึ่งมันโดนพี่ที่เป็นเกย์มอมเหล้าลากเข้าห้องจนเกือบไม่รอดแล้ว
ดีที่ว่ามันหนีออกมาได้ ตั้งแต่นั้นมันเลยผวาเวลามีผู้ชายมาทำรุ่มร่ามกับมัน
คงกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยล่ะมั้ง เออ...ว่าแต่ดิวถามทำไมเหรอ”


ท้ายประโยคเปลี่ยนเป็นคนถามอย่างสงสัย
แต่คนฟังกลับส่ายหน้าปฏิเสธ ยังคงรักษารอยยิ้มสบาย ๆ ตอบกลับไปเป็นปกติ


“ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อยากรู้เฉย ๆ
ถ้ายังไงผมขอตัวก่อน ฝากปลายดูแลเกมส์ด้วยนะครับ”


เอ่ยจบร่างสูงก็ลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องทันที
โดยไม่เปิดโอกาสให้ปลายฟ้าซักไซ้ต่อ
ทิ้งไว้เพียงความมึนงงในสมองของคนสับสน


...น่าแปลก...ทำไมอยู่ ๆ ดิวถึงมาถามเรื่องแบบนี้ขึ้นมา
แล้วไหนจะมาอยู่ในห้องนี่กับเกมส์สองคนอีก
หรือว่าดิวทำอะไรเกมส์ไปแล้วรึเปล่า เฮ้ย!...ไม่จริงมั้ง


คำคาดเดาที่ผุดขึ้นมาทำให้ปลายฟ้าต้องหันรีบไปมองไปเพื่อนสนิท
ซึ่งนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง มีผ้าห่มคลุมกายอย่างดี
โดยไม่พบอาการหรือท่าทีผิดปกติใด ๆ


เอาเถอะ...

ถึงแม้เขาไม่รู้หรอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเกมส์กับดิวเป็นยังไง
แต่ถ้าดิวคิดจะจีบเกมส์จริง ๆ ล่ะก็
ขอบอกเลยว่าโอกาสเป็นสำเร็จแทบจะเป็นศูนย์

 
เพราะหนึ่ง ไอ้เกมส์ไม่ใช่เกย์

และสอง โรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์ไม่ใช่จะหายขาดกันได้ง่าย ๆ
ขนาดเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งหลายปียังไม่รู้เลยว่าจะช่วยมันยังไง


ความรักระหว่างผู้ชายไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ไอ้คนที่จะมาคู่กับเพื่อนแปลก ๆ ของเขาได้เนี่ย
ถ้าไม่คิดทุ่มเทจริงจังให้สุด ๆ ก็คงยากหน่อย
ซึ่งแน่นอนว่าเขาชักจะเห็นเค้าความหายนะเกาะติดชีวิตของมันขึ้นมาลาง ๆ
และจะมีใครเข้าไปยื่นมือแก้ปัญหาก็คงไม่ได้นอกเสียจากเจ้าตัว



เฮ้อ...โทษทีนะ แต่ครั้งนี้คงถึงคราวซวยของมึงจริง ๆ แล้วล่ะวะ


...ไอ้เกมส์




...


..


.


...แก๊ก  ...แก๊ก


เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังเป็นจังหวะปลุกให้คนที่หลับอยู่ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง
ก่อนจะเหลือบไปเห็นคนคุ้นเคยนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานจนเผลอส่งเสียงเรียก


“ไอ้ปลาย”


เจ้าของชื่อละมือจากโน้ตบุ๊คหันหลังกลับมามองคนบนเตียง
ซึ่งกำลังยันกายลุกขึ้นนั่งงง ๆ เหมือนสติยังไม่คืนเต็มร้อย


“ไงตื่นแล้วเหรอ”


“อือ...ปวดหัวว่ะ”


คนป่วยงึมงำตอบกลับรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ
เหมือนมีใครเอาไม้มาทุบแถมยังมันยังร้อนวูบ ๆ ไม่หาย


“ก็มึงไข้ขึ้นนี่ แล้วอยู่ ๆ ทำไมถึงเป็นได้ล่ะ”


ปลายฟ้าถามออกไปอย่างอยากรู้
เพราะเมื่อวันศุกร์ยังเห็นไอ้เกมส์ยังกระดี๊กระด๊า
แกล้งบอลล่าเล่นอย่างสนุกสนานได้อยู่เลย
พอมาวันอาทิตย์ดันตัวร้อนซะงั้น
หรือจะป่วยการเมืองเพราะไม่อยากทำรายงานรึเปล่าวะ
อุตส่าห์โทรไปบอกบอลล่าเรื่องไอ้เกมส์แล้วด้วย
ขืนมันทำสำออยมีหวังเจ๊แกได้จัดการส่งมันเข้าห้องไอซียูจริง ๆ แน่ ๆ


ซึ่งก็ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ดีว่าปิดบังไว้คงไม่ได้ประโยชน์
เลยต้องยอมเสียศักดิ์ศรีเปิดปากเล่าความจริงอย่างจำยอม


“กูเพิ่งไปผ่าฟันคุดมา”


และแน่นอนที่ปฏิกิริยาตอบกลับจะต้องเป็นไปตามคาด
เพราะปลายฟ้าเลิกคิ้วรีบร้องด้วยความตกใจ


“ห่ะ! ไปผ่าฟันคุดเนี่ยนะ ถ้าบอลล่ารู้มีหวังสะใจตาย
เห็นเขาแช่งมึงไว้เยอะนี่ แล้วดันได้ผลด้วย
โคตรศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ ว่ะ ฮ่าๆๆ”


ท้ายประโยคเปลี่ยนเป็นอาการขำยาวหยุดไม่อยู่
เกมส์หน้าเซ็งแทบอยากจะเขวี้ยงหมอนใส่เพื่อนตัวเอง
เขาปวดหัวจะตายห่ามันยังมีน่ามาหัวเราะ

แต่เอาจริงเขาก็ตลกตัวเองอยู่เหมือนกัน
ใครจะไปคิดว่าเรื่องที่บอลล่าชอบแช่งเขาประจำเวลากินขนมจะเป็นจริง
แต่เขาไม่ได้ฟันผุนะเว้ย แค่ฟันคุดเฉย ๆ เท่านั้นเอ๊งง
แสดงว่าอิทธิฤทธิ์คำด่าของเจ๊แกยังไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ
ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงไม่วายเอ่ยกำชับ


“ก็เออดิ มึงอย่าเพิ่งไปบอกเจ๊เขานะ
เดี๋ยวได้เก็บเรื่องนี้ไปแซวกูจนลูกบวชแน่”


“เออ ๆ กูไม่บอกหรอก...แล้วนี่มึงกินยารึยัง”   


ปลายฟ้ารับปาก ก่อนไม่ลืมถามด้วยความเป็นห่วง


“ข้าวกูก็ยังไม่ได้กิน”


“อ้าว...แล้วทำไมไม่กินวะ
อ้อ...ลืมไปมึงปวดฟันใช่ป่ะ
งั้นเดี๋ยวกูลงไปซื้อโจ้กให้”


ความสงสัยถูกเบรกเมื่อปลายฟ้านึกถึงสาเหตุขึ้นได้
หากแต่ยังไม่ทันจะเตรียมลุกจากเก้าอี้อีกคนกลับร้องขัด


“เฮ้ย! ไม่ต้องกูไม่กินโจ๊ก”


“งั้นเอาอะไร”


“กูอยากกินขนม”


คำตอบสั้น ๆ จากคนป่วย
ทำเอาปลายฟ้าได้แต่ส่ายศีรษะพลางถอนหายใจอย่างระอา


“เฮ้อ...ก็เพราะแบบนี้ล่ะนะ สมควรปวดฟันแล้วล่ะมึง
แล้วนี่ก็ดันซื้อขนมมาตั้งเยอะแยะ
มึงอยากจะผ่าฟันให้ครบทุกซี่เลยรึไงวะ”


ปลายฟ้าบ่นประชดเมื่อเหลือบเห็นขนมในถุงเซเว่นถุงใหญ่วางอยู่บนโต๊ะ
ก่อนจะคว้าทั้งถุงโยนมาบนเตียงให้คนไม่เจียมอาการตัวเองได้เลือก


ทว่าคนรับกลับนิ่งอึ้ง มองถุงขนมที่วางแหมะอยู่ตรงหน้า


...ขนมมากมายซึ่งเขาไม่ได้ซื้อ


...หากแต่กลับเป็นใครอีกคนหนึ่ง



และเป็นคนเดียวกับที่เขาเห็นเป็นคนสุดท้ายก่อนจะสลบไป



...เฮ้ย! จริงด้วย มัวแต่มึนหัวจนลืมดิวไปเลย
พอนึกขึ้นได้แล้วมันน่าโมโห ทั้งโมโหตัวเอง
แล้วก็โมโหไอ้คนขี้แกล้งเจ้าเล่ห์คนนั้นด้วย


เขาไม่น่าพลาดเดินไปตามหลุมที่ดิวดักไว้
ทั้งที่อุตส่าห์บอกไปแล้วว่ากลัว ๆ 
แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ดันขยับเข้าใกล้จนหน้าแทบชิด
แล้วเป็นไง... ผลสุดท้าย...


...กูเป็นลม


อายมั้ยกู ถ้ารู้ถึงไหนคงได้อายถึงไหน
ผู้ชายสุดเท่ห์สาวรักสาวหลงอย่างไอ้เกมส์
เจอสัตว์ประหลาดยักษ์มารที่ไหนไม่มีหวั่น
แต่แค่มีผู้ชายมาจีบกลับดันเผลอเข่าอ่อน
ช็อคเป็นลมสลบเหมือดไปซะอย่างนั้น
ก็ทำไงได้คนมันมีปมกลัวฝังใจนี่หว่า


แล้วนี่ดิวมันหายหัวไปไหนวะ ตื่นมาก็เห็นไอ้ปลายนั่งอยู่คนเดียว
หวังว่ามันคงไม่ได้เอาเรื่องที่เขาเป็นลมไปโพทะนาหรอกนะ

ความระแวงในใจเริ่มก่อตัว
และที่คนรู้ก็คงมีแค่เพื่อนเขาซึ่งอยู่ในห้องก่อนเขาฟื้น
แต่จะให้อยู่ ๆ ถามถึงดิวตรง ๆ มันก็คงจะดูประหลาด


เกมส์จึงตัดสินใจเปลี่ยนไปเลี่ยงคำถามอ้อมโลกอย่างอื่น


“เออ...แล้ว...ไอ้ปลาย....มึงเข้ามาตอนไหนวะ”


“สักสิบเอ็ดโมงมั้ง กูกินข้าวเสร็จแล้วค่อยมา”


อีกฝ่ายตอบส่ง ๆ พลางหันไปให้ความสนใจกับโน้ตบุ๊ค
พิมพ์รายงานบนโปรแกรมพาวเวอร์พอยด์ต่อ
ปล่อยให้คนฟังทบทวนเวลาอยู่ในใจ


เขาจำได้ว่าดิวมาตอนเกือบเก้าโมงเช้า
งั้นแสดงว่าดิวอยู่ในห้องเขาตั้งสองชั่วโมงเลยเหรอ
เฮ้ย...จริงดิ!

แต่เออ...คิดอีกทีมันอาจไม่อยู่นานขนาดนั้นก็ได้
พอเห็นเขาเป็นลมแล้วอาจจะแค่ลากมาไว้บนเตียงด้วยความสงสาร
แล้วก็กลับไปทั้งอย่างนั้น


ความสงสัยในใจถูกกลั่นออกมาเป็นคำถามเลียบ ๆ เคียง ๆ แบบอ้อมโลกอีกเที่ยว


“แล้ว...เออ..คือ..ตอนเข้ามามึงเจอใครบ้างป่ะ”


“ดิวน่ะเหรอ”


ชื่อเป้าหมายตรงเผงเล่นเอาคนมัวพิรี้พิไรสะดุ้งเฮือก
หากแต่หูก็ยังคงฟังบทสนทนาที่เอ่ยอธิบายออกมา


“เจอดิ เขาเพิ่งออกไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้วนี่เอง
เออ..แล้วทำไมเขาถึงมาหามึงที่ห้องได้วะ”


ปลายฟ้าละมือจากแป้นพิมพ์หันกลับมามองหน้าคนบนเตียงอีกครั้ง
ซึ่งเป็นคำถามเดียวกับที่เกมส์อยากจะถามตัวเองเหมือนกัน
แต่ตอนนี้ขืนพูดไปคงได้ซักกันยาว
เขาเลยแสร้งทำเป็นเฉไฉพูดกลบเกลื่อน


“เออ...ก็แบบเขาเอาของมาให้นิดหน่อย”


“เหรอ?”


ปลายฟ้าถามย้ำคล้ายไม่เชื่อจนคนถูกซักไซ้
เปลี่ยนไปทำสีหน้าเซ็ง ตอบกลับหงุดหงิด


“ก็เออดิวะ! ไม่มีอะไรหรอก
มึงกลับไปพิมพ์งานต่อไป เดี๋ยวกินเสร็จแล้วกูช่วย”


ประโยคที่ปลายฟ้าดูก็รู้ว่าคนต้นเรื่องแกล้งเปลี่ยนประเด็น
ถึงแม้มันจะเป็นคำตอบเดียวกับที่เคยได้ยินมา
แต่ลึก ๆ เขาก็ยังคงสงสัยในท่าทีของเพื่อนซี้
เพราะคนอย่างไอ้เกมส์มีอะไรไม่ค่อยบอกหรอก
ชอบที่จะเก็บปัญหาไว้แก้คนเดียว


ดูอย่างตอนที่เขารู้ว่ามันโดนพี่ปูเป้ลากไปขังในห้อง
จนฝังใจเป็นโรคกลัวผู้ชายจีบขึ้นสมอง
กว่ามันจะกล้าเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง
ก็เล่นเอาทั้งกลุ่มแทบประสาทแดก
เพราะพอมีใครเข้าใกล้มันดันผวาออกอาการกลัว
กระทั่งบอลล่าทนไม่ไหวต้องเค้นคอถามถึงได้รู้
เลยช่วยกันรักษาอาการของโรคให้ดีขึ้นมาบ้าง
แม้จะยังไม่หายขาดก็ตาม


แต่จากที่เขาสังเกตไอ้เกมส์ตอนนี้ มันก็เป็นปกติดี
หรือว่าดิวไม่ได้ทำรุ่มร่ามใส่ เขาอาจจะนึกระแวงไปเองก็ได้


...มันคงไม่มีอะไรจริง ๆ ล่ะมั้ง



ปลายฟ้าตัดสินใจปล่อยความคาใจให้พ้นไปจากสมอง
ก่อนจะหันกลับไปเพ่งสมาธิตั้งหน้าตั้งตาทำรายงานต่อ
โดยทิ้งให้คนบนเตียงคุ้ยหาขนมจากในถุงมากินแก้หิว



เกมส์ก้มลงมองขนมหลายอย่างละลานตาในถุง
ทั้งยูโร่คัสตาร์ด เยลลี่ เจลาติน นม น้ำผลไม้
แถมยังมีจูปาจุ๊บรสโคล่ามาให้ด้วย 


ไม่เห็นเขาใจเลยว่าดิวจะซื้อขนมให้เขามากมายขนาดนี้ทำไมกัน
แค่อยากจะแกล้งเล่น ๆ หรือเพราะคิดอยากจะจีบเขาจริง ๆ จัง ๆ


แต่มันจะเป็นไปได้เหรอ
หน้าตาดีตำแหน่งเดือนวิศวะอย่างมัน
แค่ยิ้มหน่อยก็มีสาว ๆ วิ่งเข้าหาตั้งเยอะแยะ
แล้วจะมาสนใจอะไรเขาที่เป็นแค่ผู้ชายธรรมดา ๆ
แถมยังเป็นโรคกลัวผู้ชายมาจีบขึ้นสมองอีก


ช่างมัน...จะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม
ขออย่างเดียว คือ อย่าให้มันมาเข้ายุ่งย่ามกับเขาอีก
เพราะขนาดแค่เข้าใกล้เขายังเป็นลม
ขืนเจอหน้าอีกที มีหวังได้ช็อคหัวใจวายตายแน่


ถ้ามันจะจีบเขาจริง ๆ เชื่อเถอะกับดิวมีอีกกี่ชีวิตคงไม่พอหรอก
แต่ถ้ามันคิดจะแกล้งกันเล่น ๆ เขาก็จะไม่อยู่เฉยเหมือนกัน
จะไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่งให้มันรังแกเหยียบย้ำศักดิ์ศรีฝ่ายเดียวแน่ ๆ


....ถึงจะกลัวแึค่ไหน แต่คนอย่างไอ้เกมส์ก็พร้อม 'สั่นสู้' นะโว้ยยย!!  คอยดู!!




...



..



.



ควันบุหรี่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ริมระเบียงบนคอนโดหรูกลางเมือง
ดิวเหม่อมองท้องฟ้ายามอาทิตย์ใกล้ตกดิน
ตามองไป หากแต่หัวสมองกลับครุ่นคิดถึงความจริงที่เพิ่งได้รับรู้


‘เกมส์เป็นโรคกลัวผู้ชายจีบ’ 


มีด้วยเหรอโรคประหลาดแบบนี้
แต่มันก็อาจเป็นไปได้เพราะเขาเคยได้ยินคนกลัวอะไรแปลก ๆ ตั้งหลายอย่าง
เพราะสาเหตุมาจากความฝังใจหรือความช็อคซึ่งเคยพบเจอ
แล้วจากสิ่งที่เกมส์เคยเผชิญมา
ก็อาจส่งผลมากพอจะกระทบกระเทือนจิตใจจนกลายเป็นโรคนี้


ทว่าเขากลับไม่เคยรู้มาก่อน
แถมยังไปแกล้งดึงเกมส์มาตั้งใจจะจูบใกล้ ๆ จนเกมส์เป็นลมไป

ยอมรับว่าตกใจแทบแย่ เกือบจะอุ้มเกมส์ไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเกมส์เพิ่งไปผ่าฟันคุดมาคงไข้ขึ้นเพราะอาการอักเสบ
เขาเลยอุ้มเกมส์มานอนบนเตียง แล้วก็เฝ้าอยู่ข้าง ๆ ด้วยความกังวล
กระทั่งปลายฟ้ามาคอยดูแลต่อนั้นแหละ ถึงยกหน้าที่ต่อให้ดู
แต่แม้จะกลับมาถึงหอแล้วก็ยังเป็นห่วงกระวนกระวายใจจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร


...เกมส์จะเป็นอะไรมากรึเปล่า?




TRRRRRRRR!!



เสียงโทรศัพท์ดังขัดความคิดในใจ
ดิวหยิบไอโฟนขึ้นมากดรับ
ก่อนได้ยินเสียงเพื่อนคนหนึ่งตามมาจากปลายสาย


((เฮ้ย! ไอ้ดิว คืนนี้ว่างเปล่าวะ))


“ทำไม”


((จะชวนไปเดอะกลาส กูมีเลี้ยงวันเกิดเพื่อน งานนี้หญิงเพียบเลยนะโว้ย))



...ผับเดอะกลาส


สถานที่คุ้นเคยยามราตรีซึ่งเขาเที่ยวบ่อยจนแทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง
เพราะเป็นแหล่งล่าเหยื่อชั้นดีสำหรับหนุ่มคาสโนว่าอย่างเขา
หากแต่คราวนี้หมาป่าเจ้าเล่ห์กลับลังเลเพียงชั่วครู่ ก่อนขยับปากบอกสั้น ๆ


“โทษที พอดีกูไปไม่ได้วะ”


คำปฏิเสธทำเอาปลายสายถึงกับบ่นด้วยความแปลกใจ


((อะไรวะ ปกติขาปาร์ตี้อย่างมึงไม่พลาดนี่
เออ แต่ก็ดี มึงไม่มาสาว ๆ จะได้มาหากูบ้าง
ไม่งั้นไปรุมตอมแต่มึงคนเดียว แม่งเซ็ง!))


เขาได้ยินคนบ่นด้วยความเสียดายอีกสองสามคำ
ก่อนจะขอตัววางสายไป


บุหรี่ในมือจึงถูกนำมาอัดควันเข้าปอดอีกครั้ง
รสขมจาง ๆ และความเย็นซ่านจากมินต์
ไม่ได้ช่วยทำให้สมองปรอดโปร่งเหมือนเคย
หากแต่มันกลับทำให้เขารู้สึกกังวลหนักกว่าเดิม
เมื่อตระหนักถึงคำถามในหัวใจ


....ทำไมถึงปฏิเสธไป

ทั้ง ๆ ที่หากไม่มีธุระอะไรติดพันเขาก็ต้องไปขอร่วมแจมงานพวกนี้เกือบทุกครั้ง
ชีวิตที่เต็มไปด้วยแสงสี ความสนุก ปล่อยตัวเองให้โลดแล่นไปกับความมึนเมา
หากใครเข้ามาใกล้ชิด เขาก็พร้อมสนองตอบอารมณ์โดยไม่คิดจะผูกพัน


แต่กับครั้งนี้....

แค่เพียงนึกถึงใบหน้าของคนคนหนึ่ง
มันกลับทำให้เขาไม่มีอารมณ์จะไปสนใจแสงสีพรรณนั้น


เพราะในใจมันเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เขายอมรับว่าตัวเองไม่รู้เรื่องที่เกมส์กลัว
แต่ตอนนี้ในเมื่อรู้แล้ว จะให้ละเลยไปก็คงไม่ได้
เขาไม่ใช่คนไม่มีความรับผิดชอบ เมื่อทำผิดก็ต้องหาทางขอโทษ


แต่อย่างเกมส์จะให้ไถ่โทษด้วยวิธีไหน
เพราะพอเข้าใกล้เกมส์ก็วิ่งหนี
หรือว่าเขาควรจะรักษาอาการโรคกลัวผู้ชายจีบให้หายไปเลยดีมั้ย


เออนั้นสิ...แค่ทำให้เกมส์หายกลัว
เขาก็จะสามารถเข้าใกล้เกมส์ได้แล้ว
ทีนี้อยากจะทำอะไรชดเชยความผิดก็คงไม่ยาก


ดิวขยี้บุหรี่ดับไฟกับขอบระเบียง
ยิ้มบาง ๆ เมื่อคิดถึงแผนการมากมายในหัว
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจท้าทายใหม่



...โรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์


เจ้าของฉายาคาสโนว่าอย่างเขาคนนี้...



...จะขอจีบเกมส์เพื่อรักษาอาการของโรคนั้นให้ดู!




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC




แวะมาทักทายค่ะพร้อมกับแจ้งข่าวเล็กน้อย

ช่วงนี้งานยุ่งมากกกกก!! (เติมก.ไก่อีกสามพันห้าล้านตัว)  :m15:
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดเขียนซีรีย์นะคะ
แค่อาจจะมาต่อช้าเล็กน้อยสักอาทิตย์ล่ะครั้ง

ขอเคลียร์คลื่นมรสุมสึนามิงานให้หมดก่อน
แล้วจะกลับมาตั้งหน้าตั้งตาปั่นซีรีย์ให้เร็วกว่านี้ค่ะ  :m17:

ยังไงก็ช่วยรอเขาอีกหน่อยนะจ๊ะ


รักนะ ม๊วฟ ๆ

 :จุ๊บๆ:

BitterSweet



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 02-03-2013 21:31:05
 :z13: :z13: :z13: :z13:
น่ารักกกก
แต่มาสั้นจัง รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 02-03-2013 21:32:03
รอได้นะม๊วฟ ปั่นงานให้เสร็จก่อน  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 2/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 02-03-2013 21:35:13
เอาเลยดิว ใช้ความจริงใจพิชิตใจให้ได้
เกมส์เค้าก็สั่นสู้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 02-03-2013 22:15:09
คอยจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-03-2013 22:30:51
เอาล่ะสิ เกมส์คงไม่รอดมือดิวแน่ๆ

คาสโนว่าตัวพ่อลงมือจีบเองทั้งที

บวกเป็ดและรอค่ะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 02-03-2013 23:24:04
น่ารักมากเลยค่า ชอบจัง

ต่อจากตอนนี้ไป เกมส์ ต้องทำใจแล้วละนะว่าคงจะมีหนุ่มหล่อคารมดีอย่าง ดิว

มาคอยรักษา โรคกลัวผู้ชายจีบ แน่ๆ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 02-03-2013 23:58:14
 o13

จีบเลย รักษาเกมส์ให้ได้นะ ดิว สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 02-03-2013 23:59:39
ดิวสู้นะะะะะะะะะะ
รักษาเกมส์ให้หายให้ได้นะ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 03-03-2013 00:08:48
จะรอนะจ๊ะคนเขียน สู้สู้น้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 03-03-2013 00:14:44
น่านไง
เอาดีๆนะดิว อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 2/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 03-03-2013 01:09:31
เราว่าดิวมีใจให้เกมแล้วจริงๆไม่ใช่เล่นๆแบบคนอื่นทั่วไปแล้วแน่ๆ หึหึ
ที่เหลือก็แค่พิชิตใจนายซีเกมให้ได้ต๊ะ สู้ๆ อิอิ  :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 03-03-2013 01:44:36
รักษาดีๆๆละดิว   o13

สู้ๆๆนะคะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 03-03-2013 04:53:00
สู้ๆนะคะ รักคนแต่งมากมาย;) :กอด1: :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 03-03-2013 07:52:03
สู้ๆนะคะ
ทั้งคนแต่ง ไอ้ดิว น้องเกมส์
และคนอ่าน ฮาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-03-2013 08:27:50
หวังว่าดิวจะไม่หมดแรงจีบเกมส์ไปซะก่อนหรอกนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 03-03-2013 08:28:44
ดิวสู้ๆ

 :ped149: :ped149: :ped149:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-03-2013 08:47:36
เอาใจช่วยละกัน  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 03-03-2013 09:13:16
โถๆๆๆ ดิว... แค่เข้าใกล้เกมส์ยังจะเป็นลม
คาสโนว่าอย่างดิวก็ช่วยอะไรไม่ได้ค่ะ

จะช่วยรักษายังไงเราก็ไม่รู้เหมือนกัน
จะให้ดิวเข้าใกล้บ่อยๆ หรือหยอดเล็กน้อย ก็เกรงว่าจะทำให้เกมส์กลัวเข้าไปอีก
แต่เรารู้ว่าคนอย่างดิวคิดวิธีได้อยู่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ว่าแต่ปลายไปกินข้าวกับใครเอ่ยยยยยยยยยยยยย (แวะมาแซว)




สู้ๆ กับงานกองโตนะคะ
ทางนี้ก็จะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อเช่นกัน ฮ่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-03-2013 09:22:58
จะเป็นไงนะ ถ้าจะให้คาสโนว่าตัวพ่อมารักษาโรคกลัวผู้ชายจีบเนี่ย

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 03-03-2013 09:35:08
สู้นะยะพ่อคาสโนว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 03-03-2013 10:19:04
ตอนนี้  ดิวก็รู้ถึงสาเหตุที่เกมส์กลัวแล้ว   ต่อไปคงต้องมาดูว่าดิวจะมีวิธีแก้อาการโรคเกลียดผู้ชายที่เข้ามาจีบเกมส์ยังไง

คงต้องรอดูต่อไป

กด + แทนคำ :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: NT.orn ที่ 03-03-2013 13:50:27
ดิวรู้แล้วว่าเกมส์กลัว แล้วแบบนี้จะทำไงต่ออ่ะเนี้ย >< จะจีบให้เกมส์หายกลัวได้หร๊อออ เดี๋ยวได้กลัวหนักกว่าเดิมหรอก 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-03-2013 14:04:11
รีบจีบโดยเร็วเลยดิว :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 >; P.78
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-03-2013 14:19:22
เกมส์มันจะรักษาหายมั้ยเนี่ย?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 03-03-2013 15:56:14
คู่นี้สนุกปนน่ารักมากๆ ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 03-03-2013 20:13:42
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 03-03-2013 20:48:41
งานนี้หนักใจแทนพ่อพระเอกของเราจริงๆ ยังไม่ทันเดินหน้าจีบก็มีอุปสรรคใหญ่หลวงขวางกั้นแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: muangnarak ที่ 03-03-2013 20:58:58
คุ่นี้น่รัก o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 04-03-2013 00:08:25
คือมืดแปดด้านแทนดิวได้ป๊ะ
มันจะแก้ยังไงว้าาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-03-2013 00:22:03
สู้สู้นะดิว เป็นกำลังใจให้ ถึงแม้จะเป็นภาระกิจที่ยากไปซักหน่อย
แต่ก็ต้องพยายามนะ เพื่อให้ได้มาซึ่งหัวใจของเกมส์ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 04-03-2013 19:14:35
พี่ดิวสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 06-03-2013 22:49:26
แอร๊ยยยยยยยยยยย เอาเลยลูก แผนทำให้เกมส์หายจากโรค มันอาจจะเป็นแผนที่ทำให้หนูรักเกมส์จริงๆก็ได้นะจ๊ะ 555555555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 08-03-2013 13:59:22
รออยู่นะ คิดถึงเกมส์ อ่ะ
จริงน้องเต่าด้วย ถึงจะออกแว๊บๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 10-03-2013 16:34:28
สู้ๆนะค่ะ จะเป็นกลจอยู่ในมุมเล็กๆตรงนี้  :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 10-03-2013 20:37:57
เข้ามารอพี่ดิวน้องเกมส์
สู้ๆนะคะ :a2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-03-2013 00:13:07
 :m7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 13-03-2013 18:58:52
ดันนนนนน ! :z2: :z10:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 14-03-2013 14:33:52
ในที่สุดก็ตามทันน่ารักมากกกกกกก   :กอด1: :กอด1:

ตามมาจากบ้านเฮียเท็นเลยนะเนี่ย :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 14-03-2013 15:37:42
sea game, where r u???
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-03-2013 12:32:04
 :t3: :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 6] 02/03/56 > P.78
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 15-03-2013 12:35:06
 :z2: :z2: :z2: :z2:
รอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 15-03-2013 21:58:35
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต


แท่งที่ 7




“วันนี้โดนใครวางยาเบื่อมารึไงยะ ไอ้เกมส์
หมาในปากแกถึงได้เงียบตายสนิทขนาดนี้”


นั้นล่ะครับคำทักทายกลางวงข้าวเที่ยงของคุณเจ๊บอลล่า
ผู้ช่างมีสายตาเรดาห์จับความผิดปกติได้รวดเร็วโดยเฉพาะเรื่องของชาวบ้าน
แต่วันนี้ชาวบ้านไม่ใช่คนอื่นคนใกล้ กลับเป็นเพื่อนสนิทคู่กัดประจำ
ซึ่งดูเหมือนจะลดดีกรีความกวนลงไปไม่สมตำแหน่ง
ทั้ง ๆ ที่ปกติเป็นต้องด่าให้เจ๊โมโหเล่นสักสองสามดอกแล้ว
ทว่าตั้งแต่เช้าก็ยังไม่ได้ยินเสียงพูดอะไรออกมาเลยสักแอะ
ไม่แปลกเลยที่จะโดนเจ๊บอลล่าสงสัย จนทำให้เขาต้องรีบแก้ตัวตอบเลี่ยง ๆ


“โด่ เจ๊ ผมออกจะเรียบร้อย พูดน้อย ไพเราะขนาดนี้
ยังมาหาว่าผมมีหมาในปากอีก แต่ถึงจะมีหมาผมก็ผู้ดีครับเจ๊
โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ รู้จักเปล่า ไม่ใช่พันธุ์บางแก้วกระจอก ๆ นะครับ”


“อุ๊ยต๊ายย! อย่างแกนะเหรอจะพันธ์โกลเด้น ฝันสูงนะยะ
ไอ้ด่างข้างวัดก็บุญแค่ไหนแล้ว
นี่เพิ่งปลุกให้มันตื่นได้รึไงยะพ่อคุ๊ณถึงมาเห่าใหญ่เลย
โธ่...ฉันก็หลงนึกดีใจว่าใครมาผ่าหมาในปากแกออกหมดแล้ว”


คนโดนเหน็บถึงกับสะดุ้ง เมื่อได้ยินคำจี้ใจดำ
ถึงไม่ได้ไปผ่าหมาในปาก แต่ก็โดนเฉือนเหงือกผ่าฟันคุดเจ็บระบมจนไข้ขึ้น
ดีที่เมื่อวานกินยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดพอบรรเทาอาการไปได้บ้าง
วันนี้เลยไม่มีอาการอะไรให้เห็นมากเท่าไร
จนบอลล่าชักจะไม่มั่นใจในคำอ้างที่ว่าเขาไข้ขึ้นจนทำพาวเวอร์พอยน์รายงานกลุ่มไม่เสร็จ

มีแต่ไอ้ปลายที่รู้ความจริงเลยแอบกลั้นขำเบา ๆ
ทำให้เขาต้องขยิบตาส่งซิกให้มันเงียบไว้
ขืนบอลล่ารู้เรื่องทั้งหมดล่ะก็ขายหน้าตายห่า
เขายอมโดนเจ๊แขวะ ดีกว่าเสียศักดิ์ศรี
เห็นแบบนี้คนอย่างไอ้เกมส์ก็รักษาภาพพจน์ตัวเองยิ่งชีพนะครับ



คนเพิ่งผ่าฟันคุดจึงทำแค่เพียงยักไหล่ไม่ตอบคำประชดจากเพื่อน
ก้มหน้าเขี่ยต้มเลือดหมูนิ่ม ๆ ในชามเกาเหลาของตัวเองเท่านั้น
แม้ปากจะพอหายเจ็บแล้ว แต่ก็ยังเคี้ยวอะไรแข็ง ๆ ไม่ได้
กินแต่ละทีต้องค่อย ๆ เคี้ยวช้า ๆ เหมือนเคี้ยวเอื้อง
เลยทำให้เขามักจะหมดอารมณ์กินซะก่อนจะอิ่ม เหมือนแค่กินมันไปกันตายเท่านั้น


เฮ้อ...เวรกรรมของสุดหล่อซีเกมส์
อย่าว่าแต่ขนม ข้าวก็กินไม่ได้
คงได้อดตายเพราะผ่าฟันคุดแน่เลยทีนี่กู 

โธ่...บัดซบชีวิต!


คนกำลังคร่ำครวญถึงชะตากรรมได้แต่นึกปลง
ขยับตักต้มเลือดหมูขึ้นมาเข้าปาก
หากแต่ยังไม่ทันได้บรรจงเคี้ยวกลับมีเสียงถามดังขึ้นข้างหลัง


“ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยครับ พอดีโต๊ะอื่นเต็มหมดแล้ว”


“ได้สิค่ะ เชิญเลยค่ะ”


คนตอบไม่ใช่เขา ทว่าเป็นเจ๊บอลล่าที่นั่งตรงข้ามชิงพูดเสียงหวาน
เจอแบบนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าคงเป็นผู้ชายหน้าตาดีถูกเสป็คเจ๊แกแน่ ๆ
ไม่งั้นเจ๊ไม่ยอมให้คนอื่นมานั่งร่วมโต๊ะด้วยหรอก


ไอ้ตัวเขาไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว
เพราะโรงอาหารมหาลัยมันเล็ก ตอนเที่ยงมักจะเบียดหาที่นั่งกินกันไม่พอ
เลยมักจะมีคนมาขอแชร์ร่วมโต๊ะกินข้าวบ่อย ๆ
ยิ่งวันนี้เขามานั่งกินแค่ปลายกับบอลล่ากันสามคนเลยเหลือพื้นที่ว่าง
เขาเห็นบอลล่าขยับกระเป๋าเปิดทางให้ผู้มาใหม่ทรุดตัวลงนั่งยังฝั่งตรงข้ามโต๊ะ
ก่อนจะได้ยินเสียงคำทักดังขึ้น และต้องแทบอ้าปากค้าง
รู้เหตุผลทันทีที่บอลล่ามันยอมให้มานั่งกินข้าวด้วย


“สวัสดีครับเกมส์”


ไม่ใช่แค่คนมาขอนั่งจะฉีกยิ้มสว่างสดใสถูกเสป๊คเจ๊บอลล่า
แต่มันยังเป็นคนที่เขารู้จักดีจนแทบจะอยากมุดโต๊ะหนี
รู้สึกทันทีว่ามือเริ่มที่จับช้อนเริ่มแข็งค้าง
ใจมันหวิว ๆ วิงเวียนคล้ายจะเป็นลม
โต๊ะอื่นมีต้องเยอะแยะ ทำไมต้องมานั่งโต๊ะเขา
ที่สำคัญ ทำไม่ต้องเป็นไอ้คนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดตอนนี้ด้วย!!


หากแต่ดูเหมือนหนุ่มหล่อจะไม่ได้รับรู้อาการประสาทแดกเบื้องต้นของเกมส์แม้แต่น้อย
เพราะเจ้าตัวกลับเริ่มต้นบทสนทนาด้วยการถามไถ่อย่างเป็นห่วง


“แล้วที่เกมส์ไม่สบายหายดีหรือยังครับ”


“โอย...อย่างมันน่ะไม่สบายที่ไหนกัน ป่วยการเมืองซะมากกว่า
เอ๊ะ! แล้วนี่ดิวรู้ได้ยังไงคะว่าเกมส์ไม่สบาย”


แน่นอนว่าบอลล่าเป็นฝ่ายแย้งพูดตอบตามเคย
แต่ท้ายประโยคแอบเอะใจจนต้องย้อนถามกลับ
เพราะมีแค่กลุ่มเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเกมส์ไม่สบาย
แล้วกับดิวที่เป็นคนนอกจะมารู้ข่าวก่อนได้ยังไง


ความสงสัยในใจของบอลล่าไม่ต้องรอช้า
เพราะวินาทีต่อมาดิวก็รีบหันมาตอบตามความจริงโดยไม่ปิดบัง


“ก็ต้องรู้สิครับ เพราะว่าเมื่อเสาร์ผมเจอเกมส์ที่คลินิกทำฟะ...”


“เฮ้ย!! บอลล่า กูลืมไปว่าอาจารย์เรียกกูกับปลายไปหา กูไปก่อนนะ”


เสียงคนพยายามเก็บความลับตะโกนขึ้นเสียงดังขัดจังหวะก่อนประโยคจะจบ
แถมไม่รอช้า พูดจบปุ๊บก็กวาดชามเกาเหลา กับข้าวผัดของไอ้ปลายที่ยังกินไม่หมดไปด้วย
แล้วดึงลากแขนออกมาเหมือนเป็นเพื่อนกันตายเผ่นแน่บออกไปจากจุดเกิดเหตุทันที
ทิ้งบอลล่าที่ได้แต่งงงวยจับต้นชนปลายไม่ถูกให้นั่งเอ๋ออย่างถามอย่างงง ๆ


“เดี๋ยวอะไรกันยะ จะไปไหนเนี่ยไอ้เกมส์... ไอ้เกมส์!!”


เสียงถามไม่มีผลใด ๆ เพราะคนหนีเดินลิ่วไปไกลแล้ว
จนบอลล่าอดไม่ได้ที่จะบ่นกระปอดกระแปดอย่างไม่รู้สาเหตุ


“เฮ้อ...ดูมันทำสิ อยู่ ๆ ก็ลุกไป ไม่มีมารยาทเลยจริง ๆ”


หากแต่ร่างสูงกลับส่ายศีรษะยิ้ม ๆ


“ไม่เป็นไรหรอกครับ เออ...ว่าแต่บ่ายนี่มีเรียนอีกรึเปล่าครับ”


บอลล่านึกสะดุดใจบางอย่างกับคำถาม
หันกลับมาให้ความสนใจกับคู่สนทนาที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่
ก่อนตอบไปตามความจริง


“ก็มีเหลืออีกตัวหนึ่งน่ะค่ะ”


“เลิกกี่โมงเหรอครับ”


“บ่ายสองโมงห้าสิบ”


ดิวนั่งคำนวณเวลาเงียบ ๆ
วิชาเรียนต่อไปของเขาก็เลิกตอนบ่ายสองโมงห้าสิบเท่ากัน
แล้วจากคณะวิศวะมาคณะเภสัชระยะทางก็ค่อนข้างไกล
ดีไม่ดีจะชวดกับใครบางคนเสียก่อน
แม้ตอนเที่ยงจะยังโชคดีดักเจอได้
แต่เขาไม่มั่นใจว่าจะมีโอกาสนั้นอีกครั้งมั้ย


“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ คลาสนี้อาจารย์ชอบเลิกเลท”


คำพูดลอย ๆ ของบอลล่าดึงความคิดให้เขาหันไปมอง
เห็นร่างบางดูดชามะนาวเล่น แต่ก็แอบมีรอยยิ้มในประกายตาคล้ายรู้ทันอะไรบางอย่าง
ตามนิสัยเจ้าแม่ข่าวกรองผู้ช่างปะติดปะต่อเรื่องราวได้รวดเร็ว


ดิวไม่อธิบายเพิ่มเติมใด ๆ เพียงแค่ยิ้มแล้วพูดสั้น ๆ


“ขอบคุณครับ”


ก่อนจะก้มลงไปจัดการข้าวมื้อเที่ยงของตัวเองต่อ



...ไม่เป็นไร


...เพราะต่อให้เกมส์หนีเขาไปเท่าไร


เขาก็จะพยายามไล่ตามไปให้ได้ใกล้ที่สุดมากเท่านั้นเอง



...


..


.



“ฮ้าววว...หิวว่ะ”


คำสองคำไม่สัมพันธ์กันใด ๆ แต่คนอย่างนายซีเกมส์กลับทำให้มันสัมพันธ์กันได้
เพราะตอนนี้เขากำลังทั้งง่วงทั้งหิว หลังจากจบการแล็กเชอร์มหาโหด
ที่อาจารย์ผู้สอนเล่นพูดบรรยายด้วยน้ำเสียงโทนเดียวเหมือนเพลงชวนกล่อมให้หลับ
แต่จะหลับก็หลับไม่ลงเนื่องจากกระเพาะตัวเองกำลังผลิตน้ำย่อยส่งเสียงดังโครกคราก
ประท้วงเจ้าของที่มีอาหารย่อยลงไปไม่ถึงครึ่ง
ทว่าคงไม่ใช่แค่กระเพาะอาหารประท้วงโอดครวญ
เพราะไอ้เพื่อนที่นั่งเรียนข้าง ๆ เขาก็ดันบ่นออกมาเหมือนกันด้วย


“โห...พูดมาได้ กูไม่หิวเลยว่างั้น
กินข้าวยังไม่หมดจานเลย ดันลากกูออกมา”


ปลายฟ้าทำหน้าเซ็งเมื่อนึกถึงเรื่องตอนกลางวันที่ดันโดนไอ้เกมส์หลอกเอาซะได้
พอออกมาจากโรงอาหาร มันดันพาเขาขี่มอเตอร์ไซต์ไปเช่าหนังสือการ์ตูนซะอย่างนั้น
แล้วพอถามมันว่าอาจารย์คนไหนเรียก
มันกลับตอบว่าก็อาจารย์ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ คนแต่งโดเรมอนเรียกหา
เลยต้องมาศึกษางานอาจารย์ไว้ เฮ้อ...ดูคำตอบมันทำไปได้


แต่ตอนนี้คนโกหกกลับยังทำท่าไม่ทุกข์ร้อน
คล้ายไม่สำนึกที่ลากเพื่อนไปลำบาก ซ้ำยังออกอาการแถตอบกลับ


“เอาน่า...มันเหตุฉุกเฉิน มึงไม่เคยได้ยินเหรอวะ
คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายนะโว้ย
แล้วมึงก็เป็นเพื่อนกู เพราะฉะนั้นเอาแล็กเชอร์มึงมาซีล็อกซะดี ๆ”


“อ้าวก็เห็นจดอยู่ไม่ใช่เหรอวะ จะยืมไปทำไม”


ปลายฟ้าขมวดคิ้วถามงง ๆ
เพราะเขาก็สังเกตว่ามันขยับปากกายิก ๆ ไม่หยุดมือตามอาจารย์ทุกตัวอักษร
แต่อีกคนกลับพลิกหน้ากระดาษเปิดออกแล้วเฉลยความจริง


“กูไม่ได้จด กูวาดรูปอยู่
เห็นป่ะได้สไปเดอร์แมน กับซุปเปอร์แมน
เหลือไอรอนแมน อันนี้กูยังวาดขาไม่เสร็จ”


“อูยยย! จะควิซอาทิตย์หน้าอยู่แล้ว ช่างกล้านะยะ”


เสียงแขวะบ่นประจำไม่ใช่ใครอื่น ในโลกหล้านี้มีคนเดียว
แม่นวลอนงค์บอลล่าเจ้าเก่าซึ่งเก็บของเสร็จแล้วเลยเดินมาฝากรอยคู่กัดถึงที่
โดยคนกวนก็ไม่รอช้า โชว์เหนือตอบกลับแมน ๆ


“อะโด่ ระดับนี้กล้าอยู่แล้วเจ๊”


“แหม...กล้าให้มันจริงทุกเรื่องเถอะย่ะ! แล้วฉันจะรอดู คิคิ” 


บอลล่าแซวพร้อมเสียงหัวเราะที่ดูแฝงเล่ห์นัยยังไงชอบกล
ไม่รู้ทำไมพอพูดถึงเรื่องนี้กลับพาลคิดไปยังเรื่องที่เจอใครบางคนเมื่อตอนกลางวัน
อันนั้นไม่ใช่เขาไม่กล้านะโว้ยย เรียกว่าถอยมาตั้งหลักต่างหาก
เล่นอยู่ ๆ ก็มาแบบไม่มันตั้งตัวใครจะไปเตรียมใจลง
แต่คราวนี้เจออีกทีสิ แค่ไหนก็จะสู้โว้ยยย!! ไม่มีกลัวอยู่แล้ว หึ


เกมส์คิดในใจอย่างมุ่งมั่น
แม้จะรู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาแปลก ๆ ร้อน ๆ หนาว ๆ พิกลคล้ายไข้จะขึ้น

ไม่เอาแล้ว เลิกคุยเถอะว่ะ
รีบไปถ่ายเอกสารแล้วหาข้าวกินกลับหอไปนอนดีกว่า



กลุ่มเภสัชจึงรีบเดินลงบันไดไปยังร้านถ่ายเอกสารที่อยู่ชั้นหนึ่งใต้ตึกเรียน
ซึ่งมีคนมารอต่อแถวอยู่บ้างประปราย แต่ไม่นานก็ได้คิวของเกมส์


ความจริงเขาจะยืมแล็กเชอร์ของไอ้ปลายไปจดก็ได้
แต่เขาขี้เกียจเขียนเองมากกว่า อีกอย่างลายมือไอ้ปลายก็เป็นระเบียบอ่านง่าย
ผิดกับลายมือเขาที่แปรผันตรงกับความเบื่อและง่วงบางตัวเขียนเองยังแปลเองไม่ออก
เขาเลยยอมเสียตังค์ไม่กี่บาทแลกกับความสะดวกนี้นับว่าคุ้มกว่ากันเยอะ


“เจ็ดบาทค่ะ”


เห็นมั้ยแค่ไม่กี่บาทก็ได้แล้วแนวควิซที่จะสอบอาทิตย์หน้า
ไม่ได้เอาเปรียบนะโว้ย แค่ใช่สมองและสตางค์ให้เป็นประโยชน์เท่านั้นเอ๊ง


นายซีเกมส์จึงก้มหน้าคุ้ยเศษเหรียญ
ได้เหรียญห้ามาหนึ่ง กับเหรียญบาทมาอีกหนึ่ง อ้าว...ตังค์ไม่พอ


“เฮ้ยไอ้ปลายมีเศษบาทหนึ่งเปล่าวะ กูมีอยู่เหรียญเดียว”


“โห...ยืมแล็กเชอร์กูไปแล้วยังต้องให้ออกอีกเหรอ”


เขาได้ยินเสียงจากด้านหลังบ่นเบา ๆ
แต่ไม่คิดจะสนใจเพราะกำลังยุ่งอยู่กับการจ่ายเงินให้พี่คนถ่ายเอกสาร


“เออน่า เดี๋ยวสอบเสร็จถ้าคะแนนดีกูพาเลี้ยงข้าว เคป่ะ”


เกมส์พูดตะล่อมแลกเปลี่ยนข้อเสนอไปส่ง ๆ 
เพื่อนกันแค่นี้อย่าทำงกนักสิวะ
และดูเหมือนคนด้านหลังจะนึกปลงกับพฤติกรรมของเขา
จึงเงียบไปไม่นานก่อนมีมือมาสะกิดเขาเบา ๆ พร้อมยื่นเหรียญส่งมาให้


“อ่ะนี่”


“เออขอบใจว่ะ”


“ไม่เป็นไรครับ”


โห...ตอบกลับซะสุภาพเชียว

เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อน เสียงของไอ้ปลายมันห้าวทุ้มขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร
แล้วมันก็ไม่ได้ตัวสูงเป็นเปรตมากกว่าเขาตั้งเกือบสิบเซ็นขนาดนี้ด้วย


อย่าบอกนะว่า...



เกมส์ค่อย ๆ หันหน้ากลับไปมองช้า ๆ
ถ้าเปรียบเป็นหนังตอนนี้คงมีซาวน์เอฟเฟคเพิ่มความหลอน
ในขณะที่ภาพของใครบางคนปรากฏขึ้นระยะประชิด
ห่างกันแค่เพียงลมหายใจคั้น ตาสบตาประสานกัน
พร้อมรอยยิ้มหวานบาดใจให้บิดปลิว


...โอมายก้อด! แม่จ๋าช่วยเกมส์ด้วยยยยยย!!



“น้องค่ะ ขาดบาทหนึ่งค่ะน้อง”


เสียงจากพี่คนถ่ายเอกสารเรียกสติของคนวิญญาณคล้ายหลุดออกจากร่างให้กลับเข้าที


“อ่ะ...คะ...ครับ”


เกมส์รีบวางเศษเหรียญบาทที่เพิ่งได้รับมาสด ๆ ร้อน ๆ
แล้วจึงคว้าเอกสารและสมุดแลกเชอร์จ้ำเดินหนีออกจากร้านตามเสต็ปเดิม
โดยไม่หันมามองคนมีน้ำใจซึ่งร้องเรียกตามมาไม่ห่าง


“เดี๋ยวสิครับเกมส์ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”


“เราไม่ว่าง”


เกมส์ตอบปัด ๆ พยายามเหลียวซ้ายแลขวาหาที่พึ่ง
ไอ้ปลายมันหายหัวไปไหนวะ
เมื่อกี๊ยังเห็นคุยข้างหลังเขาอยู่เลย
พอหันมาเจอดันกลายเป็นดิวได้ยังไง


โธ่เว้ยย!! ไอ้ปลาย จำไว้เลยนะมึง แม่งกล้าทิ้งกู
อุตส่าห์บอกแล้วว่าคนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตาย
ตอนนี้เขาเหลือคนเดียวหัวไม่หาย แต่หัวใจจะวายตายอยู่อีกนาทีข้างหน้านี่แล้ว
ไอ้ดิวนี่มีพ่อเป็นสโตเกอร์รึไงครับ แม่งตามกูจั๊งงงงง!!


“เกมส์ครับ ฟังผมก่อน”


แม้อีกคนหนึ่งจะรีบสับขาเดินเร็วจนแทบกลายเป็นวิ่ง
แต่ร่างสูงกลับไม่ละความพยายามตะโกนร้องเรียกชื่อหวังให้หยุดคุย
ช่วงขาที่ยาวเร่งเดินตามมาหดระยะห่างให้เข้าใกล้มากขึ้น
ขืนไม่ทำอะไรสักอย่างมีหวังดิวคงคว้าตัวเขาไว้ได้แน่
หัวสมองของนายซีเกมส์หมุนวนหาทางออก
ก่อนจะหยุดกึกแล้วหมุนตัวชี้ส่งเดชไปบนฟ้า


“เฮ้ย! นั้นจานบิน”


“ห่ะ! อะไรนะครับ”


ดิวสะดุดหันไปมองตามที่มือของอีกคนชี้


อุบ๊ะ! ...มุกหลอกเด็กเสือกได้ผลเว้ย! ไอ้จั๊ดจ้าวเอย!!

แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาสะใจ
เพราะเมื่อแผนได้ผลก็รีบพาร่างตัวเองใส่เกียร์หมา
วิ่งเผ่นแนบออกมาตรงลานจอดรถใต้คณะ
กระโดดขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์ของตัวเอง
สตาร์ทรถบิดเร่งเครื่องพุ่งชิวออกไปนอกมหาลัย
ทั้งหมดกินเวลาไม่เกินสองนาที
กะว่าแม้อีกคนจะเป็นเสือชีตาร์ก็วิ่งตามกูมาไม่ทันแล้ว 


...อะไรครับ! ใครหาว่าเขากลัว ก็บอกแล้วว่าพร้อมจะสู้จริง ๆ
แต่ดิวมันชอบมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงเลยต้องถอยไปตั้งหลัก
แล้วแบบ...ถอยไปตั้งหลักไกลไปหน่อย
ไกลจนเลี้ยวเข้าร้านข้าวที่ข้างหอแค่นั้นเอ๊งงง


โธ่...เคยได้ยินรึเปล่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องครับ
ตอนนี้เขาแค่หิวเว๊ยเลยไม่มีแรงมาสู้รบกับดิว
ไว้ท้องอิ่มเมื่อไรเจออีกทีคราวนี้พร้อมสู้แน่จริง ๆ ไม่ได้โม้ คอยดูเลย!



นายซีเกมส์จึงเดินลงมาสั่งข้าวร้านป้าดากินให้หายหิว
โดยก่อนเข้าร้านก็พยายามสำรวจตรวจตราหาใครบางคนอย่างนึกระแวง
ตามคอนเซปต์ปลอดภัยไว้ก่อน แต่เมื่อไม่พบความผิดปกติจึงเริ่มตักข้าวเข้าปาก
แม้จะยังมีอาการระบมอยู่นิด ๆ จากการผ่าฟันคุด ทว่าเขาก็พยายามเร่งกินจนอิ่ม
เสร็จแล้วลุกขึ้นจ่ายตังค์ และไม่ลืมซื้อปลาทูติดไม้ติดมือไปให้ไอ้จั๊ดง๊าวลูกแมวตัวเล็กบนห้องกินด้วย
ซึ่งพอไขบานประตูเปิดออกไป ก็คล้ายกับเจ้าตัวเล็กจะรู้ดีว่าได้เวลา
เพราะมันมาตั้งท่ารอส่งเสียงเหมียว ๆ อยู่ตรงหน้าประตู
จนเจ้าของอดไม่ได้ที่จะอุ้มขึ้นมากอดด้วยความเอ็นดู


“ว่าจะใดไอ้จั๊ดง้าว มารอป้อก๋า? คิดเติงป๋อไจ้ก้อ?”


เกมส์ก้มลงคุยกับแมวสีขาวตัวเล็ก ได้ยินมันร้องแหง่ว ๆ ตอบกลับมา
ซึ่งแน่นอนเขาฟังภาษาแมวไม่ออกอยู่แล้ว แต่มันก็ยังทำให้เขารู้สึกชื่นใจอยู่ลึก ๆ
เหมือนเวลาเรากลับบ้านแล้วรู้ว่ามีคนรออยู่ โดยเฉพาะเขาที่มาอยู่หอไกลบ้านแบบนี้
เลยมีบางครั้งเหมือนกันที่ทำให้รู้สึกเหงาอยากมีเพื่อนคุยด้วย
ถึงเขาจะมีไอ้ปลาย บอลล่า หรือเพื่อนเก่าอีกหลายคน
แต่อย่างมากก็คุยกันเรื่องธุระสำคัญทั่วไป ไม่ใช่การคุยแก้เหงาที่ทำให้รู้สึกสบายใจ
ยิ่งช่วงนี้ใกล้จะควิซสำคัญอีกหลายตัว คงยากที่จะมีเวลามาคุยเล่นไร้สาระกัน


เออ...พูดถึงควิซแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้คืนสมุดแล็กเชอร์ของไอ้ปลายเลยนี่หว่า
ยืมมันมาเดี๋ยวไม่มีอ่านสอบแล้วมันได้บ่นเขาตาย
แต่ช่วยไม่ได้ก็ตอนนั้นใครใช้ให้มันดันทิ้งเขาไว้คนเดียววะ
ถ้าเจอหน้าแม่งจะขอด่าสักหน่อย คิดแล้วยังนึกเคืองไม่หาย



ก๊อก!  ก๊อก!



เสียงเคาะประตูทำให้ความคิดเกมส์หยุดลง
และคนที่จะมาหาเขาในตอนนี้ได้ ไอ้ปลายชัวร์
สงสัยจะมาท้วงแล็กเชอร์มันคืน ...ดี ๆ มาให้ด่าได้ถึงที่
งานนี้ต้องขอเคลียร์กันหน่อยว่าดันหายตัวไปไหนเวลาเพื่อนเขาตาจน


คนมีคดีค้างในใจจึงเปิดประตูออกไปกะบ่นใส่เพื่อนตัวเองเต็มที่


“เฮ้ย! ไอ้ปลาย ทำไมมึง...”


หากแต่ประโยคกลับค้างกลางอากาศเพียงแค่นั้น
เมื่อสองตาเห็นชัดแจ้งว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห่างไกลจากเพื่อนตัวเองมากแค่ไหน
เพราะมันเป็นคนเดียวกับที่เขาพยายามหนีให้ห่างมาตลอดทั้งวัน
แต่เหมือนยิ่งไกลมันจะยิ่งใกล้

...ใกล้จนกระทั่งทำให้หัวใจหวิว แข็งขาอ่อนแรง มือไม้เริ่มสั่น



“เกมส์ครับ”


ได้ยินเสียงอีกฝ่ายเรียกชื่อสั้น ๆ จนสะดุ้งเฮือก
ก่อนมือของคนตรงข้ามจะเอื้อมมาจับบานประตูให้เปิดกว้างออก
เกมส์ตาเบิกโพล่งมองการกระทำที่ขยับคุกคาม


...เอาอีกแล้ว อาการเดิม ๆ มันจะกลับมาอีกแล้ว


แต่ไม่...ไม่ได้...

ถ้าเขาหนีมันจะต้องเป็นการหนีอยู่อย่างนี้ตลอดไป
เคยหนีรอดครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง แล้วครั้งนี้ก็ยังจะหนีอีกเหรอ
เขาบอกกับตัวเองแล้วว่าต้องจะสู้
คนอย่างไอ้เกมส์ก็มีศักดิ์ศรีที่จะต้องรักษาเหมือนกันนะโว้ย
เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ยอมถอยหนีอีกต่อไปแล้ว



คนรวบรวมความกล้าจึงพยายามคุมสติ
ก่อนที่ร่างสูงจะดึงประตูเปิดออก
เขากลับจับลูกบิดกระชากปิดอย่างแรงจนดิวได้แต่ร้องห้าม


“เดี๋ยวครับเกมส์ อย่าเพิ่งปิดสิครับ”


“อะ...ออกไปนะโว้ย! มะ..ไม่ต้องเข้ามา!”


แม้เสียงจะยังสั่น ๆ แต่นายซีเกมส์ยังยึดลูกบิดประตูไว้เหนียวแน่น
ใช้แรงทั้งหมดดันให้ร่างของอีกคนที่ผลักบานประตูให้ถอยกลับไป


“ผมมีเรื่องจะคุยกับเกมส์จริง ๆ นะครับโอย!”


ท้ายประโยคดูเหมือนดิวจะถูกแรงประตูหนีบเบา ๆ ที่มือ
ทว่าตอนนี้เจ้าของห้องไม่สนแล้ว เป้าหมายแค่กั้นประตูไว้
จะยังไงก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายผ่านมาได้
ในหัวมีแต่แรงฮึดสู้จนตัวตาย พร้อมกับตะโกนไล่เสียงดังลั่น


“แต่เราไม่มีเรื่องจะคุยโว้ยยย!! ออกไปซะ!!”


และดูเหมือนความพยายามของนายซีเกมส์จะประสบผล
เพราะในที่สุดเขาก็ใช้แรงดันจนร่างสูงล่าถอย
ทำให้สามารถปิดประตูได้ดังปึง


...ปิดแล้วทำยังไง ก็ต้องล็อกลูกบิด ล็อกกลอน
ไม่พอลากเก้าอี้มากั้นห้องไว้ด้วย
แถมวิ่งไปหยิบไม้กวาดจากหลังห้องมาเป็นอาวุธเสริม

เอาซี่...ต่อให้มึงใช้ขวานจามประตูเข้ามาเหมือนหนังซอมบี้
กูก็พร้อมสู้โว้ยยย! เขาจะไม่ยอมหนีอีกต่อไปแล้ว!!



ดวงตาจ้องเขม็งไปยังประตูนอกห้องที่เงียบเสียงไป
เหงื่อเริ่มหยดเพราะความตึงเครียดจากสถานการณ์
รอคอยเวลาเหมือนวัดใจเตรียมพร้อมรบ
หากทว่าแม้จะผ่านไปหลายนาทีเสียงจากด้านนอกก็ยังเงียบฉี่


เออ...หรือว่าดิวมันจะถอดใจไปแล้ววะ
ถ้าเป็นแบบนั้นก็รอดแล้วใช่มั้ยกู

เฮ้อ...ค่อยโล่งหน่อย บอกแล้วว่าถ้าคนอย่างเขาพร้อมสู้
หน้าไหนก็มาทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น


...


..

.
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 15-03-2013 21:59:50
..

.


TRRRRRRRRR!!



เสียงโทรศัพท์พร้อมแรงสั่นเบา ๆ ในกระเป๋ากางเกงทำให้ความคิดสะดุดลง
เขาวางไม้กวาดอาวุธคู่ชีพลงกับพื้นก่อนล้วงหยิบมือถือออกมากดรับทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ดูเบอร์


“ฮัลโหล”


“เกมส์ครับ ผมดิวนะ”


ตี๊ด!



ไม่ต้องให้พูดอะไรต่อ เพียงแค่ได้ยินชื่อ
มือก็กดวางสายลงไปโดยอัตโนมัติ


ดะ...เดี๋ยวนะ


...มะ...เมื่อกี๊เขาหูฝาดไปรึเปล่า


คนที่โทรมาคือใครนะ 



TRRRRRRRRR!!!



ความสงสัยไม่อยู่ในหัวนาน
เพราะเสียงโทรศัพท์ในมือกลับแผดร้องขึ้นมาอีกครั้งจนสะดุ้งโหย่ง
เกมส์มองตัวเลขสิบหลักที่โชว์ในเครื่องอย่างหวาด ๆ
พยายามกล่อมตัวเองว่าเมื่อกี๊เขาอาจฟังชื่อผิด


...ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ดิว
อย่างมันจะไปรู้เบอร์เขาได้ยังไง
เขาอาจจะฟังผิดไปก็ได้ ของแบบนี้ต้องพิสูจน์กันอีกที



เจ้าของเครื่องสูดลมหายใจลึกเรียกความกล้า
ก่อนจะกดรับกรอกเสียงลงตามสาย


“ฮัลโหล”


“เกมส์อย่าเพิ่งวางนะครับ ฟังผมก่อน”


เป็นดิวแน่ไม่ผิดล่ะคราวนี้ที่เป็นคนตอบกลับมาอย่างร้อนรน
เขามองตรงดิ่งไปยังประตูเหมือนได้ยินเสียงแอคโค่สะท้อนอยู่ด้านหลัง

...แม่งเอ้ยยย!! มันยังไม่ไปจริง ๆ ด้วย แต่มีเรื่องสำคัญไปกว่านั้น...


“รู้เบอร์เราได้ยังไง”


“ก็รู้มาจากคลินิกทำฟันตั้งแต่วันที่เกมส์ลืมยาเอาไว้น่ะครับ”


คำตอบที่ได้ฟังทำเอาเกมส์กุมขมับ
คลินิกบ้าอะไรวะไม่คิดจะเก็บความลับของคนไข้เลยรึไง
เล่นเอามาโชว์แผ่หลาให้ชาวบ้านชาวช่องดูกันง่าย ๆ อย่างนี้
วันหลังแม่งจะฟ้องร้ององค์การคุ้มครองผู้บริโภคเสียให้เข็ด
แต่ตอนนี้เขาต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อน


“ลบเบอร์เราซะ”


“ถ้าอย่างนั้นเกมส์ต้องเปิดประตูให้ผมก่อน”


เงื่อนไขจากปลายสายทำเอาคนถูกขอหน้าหงิก
ฝันไปเถอะว่าเขาจะโง่ยอมเปิดประตูให้


“ไม่! ให้ตายก็ไม่มีวันเปิดโว้ยยย!!”


เกมส์ยืนคำขาดเสียงจริงจัง
อุตส่าห์รอดแล้ว ใครมันจะยอมถีบตัวเองลงนรกอีกรอบ
คู่สนทนาเงียบไปสักพัก ก่อนจะถอยหายใจเบา ๆ เหมือนยอมแพ้


“เฮ้อ...งั้นก็ได้ครับ
แต่ถ้าผมบอกว่าเกมส์ลืมของสำคัญเอาไว้ข้างนอกนี้
เกมส์จะเปิดมั้ยครับ”


คำพูดปริศนาทำเอาคนฟังชะงัก

...ของสำคัญอะไร มีด้วยเหรอที่เขาลืมไว้
ทว่ายังไม่ทันได้เช็คสำรวจ เขากลับได้ยินเสียงบางเสียงดังขึ้นเบา ๆ


“เมี๊ยววว~”



เสียงแมวร้องแบบนี้  ไอ้จั๊ดง้าวไม่ใช่เหรอ

อ้าว...แล้วมันอยู่ไหนวะ


เกมส์ก้มลงมองหารอบห้องไล่ตามเสียงแมวร้อง
แต่ยิ่งตามก็ยิ่งพบว่าเสียงมันไปหยุดอยู่ตรงหน้าประตู


...เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าของที่เขาลืมก็คือ ไอ้จั๊ดง้าว!!


แล้วมันไปอยู่ข้างนอกห้องได้ยังไง
หรือว่าตอนที่เขาดันประตูกันอยู่มันจะแอบมุดออกไปได้



“ว่าไงครับเกมส์ จะปล่อยเจ้าตัวเล็กนี้ไว้ข้างนอกจริง ๆ เหรอครับ”


คำขู่จากปลายสายทำเอาเขาชักจะเดือด

แม่งไอ้ดิวชั่ว! มึงนี่มันเลวโคตรจริง ๆ
คิดจะเอาลูกแมวมาใช้เป็นเครื่องต่อรอง
แต่จะให้เขาปล่อยให้จั๊ดง่าวอยู่ข้างนอกตัวเดียวก็ไม่ได้
เพราะเขาเลี้ยงมันไว้อยู่แต่ในห้อง
เกิดมันซื่อบื้อเดินหลงทางไปไหนต่อไหนจะทำยังไง


เกมส์ชั่งใจอยู่หลายวินาทีอย่างสับสน
ใจหนึ่งก็นึกห่วงลูกแมวที่เลี้ยงมากับมือ
แต่อีกใจก็ยังคงนึกหวั่นกับอสูรร้ายหน้าประตู


กระนั้นท้ายที่สุดความกังวลกับเจ้าตัวเล็กก็เป็นฝ่ายชนะ


“ก็...ก็ได้ เราจะเปิดประตู แต่นายห้ามเข้ามานะ
แค่ส่งไอ้จั๊ดง่าวมาให้เฉย ๆ แค่นั้นพอ”


เขาขยับปากเอ่ยคำอนุญาต กระนั้นก็ยังไม่วายเอ่ยกำชับป้องกันไว้ก่อน
โดยที่คู่สนทนาก็ยื่นเงื่อนไขกลับมาเช่นเดียวกัน


“โอเคครับ แต่เกมส์ต้องคุยกับผม ห้ามวางสายผมนะ”


“เออ”


ต่างฝ่ายต่างตกลงในคำสัญญา
ก่อนเกมส์จะลากเก้าอี้ที่ขวางประตูอยู่ออกห่าง ปลดกลอนทีละชั้น
สุดท้ายจึงค่อย ๆ หมุนลูกบิด แง้มประตูพอเป็นช่องเล็ก ๆ ช้า ๆ
กะว่าถ้าอีกฝ่ายเล่นตุกติกจะกระชากประตูกลับงับให้นิ้วขาด


แต่ดิวที่ยังอยู่ด้านนอกกลับทำแค่เพียงยื่นลูกแมวตัวเล็กส่งให้เท่านั้นจริง ๆ
ไม่ได้มีท่าทีพยายามเปิดประตูเช่นคราวแรก
เขาจึงรีบอุ้มไอ้จั๊ดง้าวกลับเข้าห้องก่อนปิดประตูลงดังปัง
ล็อกลูกบิด ล็อกกลอน เอาเก้าอี้มาวางกั้นลงที่เดิม


“งั้นแค่นี้นะ”


เกมส์ทำท่าจะวางสายเมื่อเสร็จภารกิจ จนดิวต้องรีบร้องท้วงเงื่อนไข


“เดี๋ยวสิครับเกมส์ยังไม่ได้คุยกับผมเลย”


คนฟังส่งเสียงจิ๊จ๊ะหงุดหงิด
 
แต่เอาเถอะ...ตอนนี้เขาอยู่ในป้อมปราการปลอดภัยแล้ว
ดิวมันไม่มีทางทำอะไรเขาได้หรอก
มันอยากจะคุยอะไรกับเขาก็ตามสบายเลย


เขาจึงค่อยผ่อนความกลัวลง ตอบกลับไปสั้น ๆ


 “ว่ามา”


“ผมอยากบอกเกมส์ว่าผมรู้แล้วนะครับ”


“รู้อะไร”


“เรื่องที่เกมส์เป็นโรคกลัวผู้ชายจีบ”



ถ้อยคำเพียงประโยคเดียว
กลับส่งผลให้คลื่นอารมณ์เบาบางเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความนิ่งตะลึง



...ดิวมันไปรู้เรื่องนี้มาได้ยังไง


แล้วที่สำคัญถ้ามันรู้แล้ว วันนี้มันยังจะแกล้งตามเขามาอีกเพื่ออะไรกัน


...สนุกเหรอที่เห็นวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้

...สนุกเหรอที่มาล้อเล่นกับความกลัวของคนอื่น


...มึงสนุกมากใช่มั้ย เห็นกูเป็นตัวอะไรกัน!!




“แล้วไง รู้แล้วทำไม มันน่าตลกมากใช่มั้ยวะ! อยากจะหัวเราะก็เอาเลยเซ่โว้ยย!!”


ความหงุดหงิดทะยานขึ้นสูงทำให้เกมส์เผลอท้าทายกลับไปตามอารมณ์
ไหน ๆ จะโดนหยามศักดิ์ศรีก็เอาสุด แต่จำไว้ ถ้ามันคิดจะหัวเราะเขา
เขาก็จะเอาคืนมันเป็นสามเท่า เพราะความกลัวมันมีอานุภาพน้อยกว่าแค้น
คนอย่างไอ้เกมส์เจ็บแล้วจำ แค้นแล้วฝังรากลึก
ถ้าเปิดประตูไปต่อยหน้ามันตอนนี้ได้ เขาก็จะทำโดยไม่ลังเลเลยสักนิด


กระนั้นสิ่งที่หลุดออกมาจากอีกฝากฝั่งกลับเป็นแค่ข้อความสั้น  ๆ



“ผมแค่อยากขอโทษ”



เสียงพูดนั้นมั่นคงจริงจัง โดยไม่มีวี่แววของอาการล้อเล่นใด ๆ
หยุดอาการความโมโหที่อยู่ในหัวของเกมส์ให้ลดลงเหลือเพียงความนิ่งงัน
ปล่อยให้คำอธิบายจากปลายสายผ่านเข้าหู


“ตอนนั้นผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเกมส์มีอาการนี้
เลยเข้าไปใกล้จนทำให้เกมส์เป็นลม
ผมยอมรับว่าผมทำผิดไป แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งเกมส์นะ
ผมอยากขอโทษ เกมส์พอจะยกโทษให้ผมได้มั้ยครับ”


ดิวยังคงรักษาน้ำเสียงซึ่งยังคงแสดงความจริงใจเอาไว้ไม่เปลี่ยน
กระทั่งทำให้เกมส์เริ่มเอนเอียงทีละน้อย


...มันก็จริงอยู่หรอกที่ดิวทำไปโดยไม่รู้ว่าเขากลัว
เพราะเขาไม่ได้ไปเที่ยวโพทะนาบอกอาการของโรคที่เป็นอยู่
แล้วถ้ามันคิดจะสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำไว้อย่างที่บอก
เขาก็ยินดีจะปล่อยเรื่องเหล่านั้นให้ผ่านไปเป็นหน้าหนึ่งของชีวิตที่ไม่อยากจดจำ


“เออ ยกโทษให้ก็ได้ แต่นายต้องเลิกมายุ่งวุ่นวายกับเราก่อน”


เกมส์ยื่นเงื่อนไขต่อรองอีกครั้ง
คราวนี้ขอให้ต่างคนต่างเลิกแล้วต่อกันให้มันจบ ๆ ไปก็ดี


“คงไม่ได้หรอกครับ เพราะผมอยากเป็นเพื่อนกับเกมส์”


“ห่ะ! อะไรนะ?”


คำตอบได้ยินทำเอาเขาต้องเลิกคิ้วถามงง ๆ
ไม่ใช่เพราะคำปฏิเสธแต่เป็นเพราะเหตุผลท้ายประโยค


“เพื่อนไงครับ เหมือนที่เกมส์เป็นเพื่อนกับปลายฟ้า เป็นเพื่อนกับบอลล่าแบบนั้น”


ร่างสูงอธิบายขยายความเพิ่มเติม
หากแต่กลับยิ่งทำให้เขามึนงงเป็นการใหญ่


อ้าว...ที่ผ่านมาดิวไม่ได้ตั้งท่าจะจีบเขา แต่มันคิดกับเขาเป็นแค่เพื่อนเหรอ
แล้วไอ้สายตากรุ่มกริ่มกับรอยยิ้มหวาน ๆ เวลามองเขามันคืออะไรล่ะ
หรือมันเป็นนิสัยของดิวอยู่แล้ว
งั้นอย่าบอกนะว่าตลอดมา มีแค่เขาที่คิดไปเอง กลัวไปเองคนเดียว


ความสับสนในใจถูกพูดออกมาเป็นคำถามเสียงเบาหวิวเพื่อความแน่ใจ


“นายอยากเป็น ‘แค่เพื่อน’ กับเราจริงๆ  เหรอ”


“ครับ ผมว่าผมถูกชะตากับเกมส์นะ
เหมือนเรามีบางอย่างคล้าย ๆ กัน
ผมเลยอยากคุยกับเกมส์ให้เยอะกว่านี้”


แม้จะได้ยินประโยคขยายตามมากระนั้นเกมส์ก็ยังไม่คลางแคลงใจ
เรื่องที่เกิดขึ้นมันกลับตาลปัตรเกินไป เดี๋ยวนะกูตามไม่ทัน
สรุปคือมันแค่อยากชวนเขาคุยด้วยกันเฉย ๆ ใช่มั้ย

เฮ้ย!...เอาจริงดิ
แต่คนอย่างมันกับเขาจะคุยกันรู้เรื่องเลย ลักษณะท่าทางไม่ได้คล้ายกันเลยนะ


ความแตกต่างที่ดูไม่น่าจะไปกันรอดเลยทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะถามอีกครั้ง


“ถ้าอย่างนั้นจะคุยอะไร”


“อะไรก็ได้ครับถ้าเป็นเรื่องของเกมส์ อย่างวันนั้นผมเห็นรูปครอบครับเกมส์
เกมส์มีน้องชายด้วยใช่มั้ย ชื่ออะไรนะครับ อายุห่างจากเกมส์มากมั้ย”


“อ้อ ‘ไอ้กาวน์’ น่ะเหรอ ตอนนี้มันอยู่ม.หก กำลังจะเข้ามหาลัย”


“แล้วจะเข้าคณะไหนครับ”


“ไม่รู้เหมือนกัน อย่างมันสนใจแต่เตะบอล”


“เอ๊ะ เล่นบอลเก่งเหรอครับ”


“ก็ติดทีมเยาวชนของจังหวัดแหละ ตอนนี้กำลังคัดตัวเข้าทีมชาติ”


“แบบนั้นก็เรียกว่าสุดยอดแล้วครับ”
 

“งั้นมั้ง แต่ไม่ติดก็แปลกแล้ว ในสมองมันมีแต่ฟุตบอลๆๆ
รู้ป่ะ ตอนช่วงบอลโลกนะ เราเนี่ยแทบไม่ได้นอน
พอบอลทีมที่ตัวเองเชียร์เตะเข้าโกลทีแม่งมันร้องตะโกนเฮลั่นบ้าน
ตีสองนะโว้ยย แล้วเรานอนอยู่ข้างห้องมันพอดี อยากจะบ้า!”


“โห...ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”


“เออดิ แล้วยังมีอีกนะ เมื่อปีที่แล้ว...”


เขาเลยเริ่มต้นเล่าเรื่องราวของน้องชายให้ฟัง
แม้ส่วนใหญ่จะเอนเอียงไปทางเผาเสียมากกว่า
เพราะเขาสนิทกับไอ้กาวน์เพราะโดนคุณนายแม่สายสมรจับเลี้ยงมาเหมือนเพื่อน
แต่พฤติกรรมเขาสองคนต่างกันสุดขั้ว ดูจากชื่อก็รู้...

เขาชื่อเกมส์ แต่ดันฝักใฝ่จะเรียนแพทย์ สนใจวิทย์ อ่านตำราหมอ
ส่วนน้องชื่อกาวน์ ที่มาจากคำว่าเสื้อกาวน์ กลับมุ่งไปทางกีฬาแทนเสียอย่างนั้น

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องประหลาดประจำครอบครัวที่ไปเล่าที่ไหนก็ขำ
และแน่นอนมันถูกเกมส์เล่าให้ดิวฟังหมดไม่มีกั๊ก
ยิ่งอีกฝ่ายตั้งใจฟังซักถามมาอย่างอยากรู้ ก็ยิ่งทำให้เขาคุยด้วยยาวจนเพลิน



“...เห็นป่ะ มันอ่ะโคตรงี่เง่าเลย มีที่ไหนปั่นจักรยานลงบันได
หัวเลยโขกกับเสาต้องให้เราขี่มอเตอร์ไซต์ไปเย็บแผล
แล้วที่บ้ากว่านั้นนะ หมอชอบจับเราสลับกับไอ้กาวน์อยู่เรื่อย
ก็เห็น ๆ อยู่ว่ามีผ้าก็อซแปะหน้าผากไว้ ยังคิดว่าเราเป็นไอ้กาวน์
ไม่รู้ทำไมใคร ๆ ชอบบอกว่าหน้าตาเราสองคนเหมือนกันอย่างกับฝาแฝด
เราว่าไม่เห็นมันจะเหมือนกันตรงไหนเลย”


“ก็พี่น้องกันนี่ครับ มันต้องคล้ายกันอยู่แล้ว
แต่ฟังแบบนี้ ผมชักอยากเห็นน้องกาวน์แล้วสิครับ
อาจจะเหมือนเกมส์จริง ๆ ก็ได้”


ดิวเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะตอบกลับมา
หลังจากที่เขาเล่าพฤติกรรมสุดแสบสะเด็ดเรื่องที่เท่าไรไม่ได้นับให้ฟัง
เกมส์พลิกตัวนอนเปลี่ยนท่ามาตะแคงขวาเพราะเริ่มเมื่อย
จากคุยกันอยู่หน้าประตู อยู่ ๆ ก็ดันมานอนกลิ้งบนเตียงตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
แต่เพราะมันกำลังเพลิน จึงทำให้เขากำลังเริ่มต้นเผาน้องชายเรื่องใหม่
ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรปลายสายกลับเอ่ยขัด


“เออ...เกมส์ครับ ผมก็อยากคุยต่อนะ
แต่แบตผมมันกำลังจะหมด ผมคงจะ...”



ตี๊ดดด!!



เสียงสัญญาณขาดหายทำให้คนได้ยินชะงัก
ยกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมามองสำรวจ
แล้วก็ต้องเผลอเบิกตากว้างเมื่อสังเกตเห็นเวลาคุย


2:51:43


เฮ้ยย!! สองชั่วโมงห้าสิบนาที
ไม่จริงมั้ง ทำไมเวลามันผ่านไปไวขนาดนี้วะ
มันเหมือนกับเขาเพิ่งเริ่มคุยได้แป๊บเดียวเอง
แต่เวลาคงไม่โกหกหรอก เพราะตอนนี้แบตโทรศัพท์มือถือเขา
จากที่ชาร์ตเกือบเต็มร้อยกลับเหลือแค่ 20% เท่านั้น


...บ้าแล้ว!! ทำไมเขาถึงปล่อยให้ตัวเองคุยกับดิวนานได้แบบนี้




ก๊อก! ก๊อก!



เสียงเคาะประตูจากหน้าห้องทำเอาคนสับสนต้องหันไปมอง
ก่อนได้ยินเสียงคนซึ่งคุยกันต่อเนื่องดังลอดออกมา


“เกมส์ครับ แบตผมหมดแล้ว ขอโทษจริง ๆ นะครับ”


“เฮ้ย! นี่ยังอยู่หน้าประตูห้องอีกเหรอ”


เกมส์โพล่งถามไปอย่างตกใจ รีบลุกจากเตียงไปใกล้ประตูห้อง
นึกว่าดิวไปที่อื่นนานแล้ว แต่เสียงจากด้านนอกกลับย้ำให้มั่นใจ


“ครับ แต่ตอนนี้มันจะห้าโมงเย็นแล้ว ถ้าผมไม่ไป เกมส์คงไม่ออกมาใช่มั้ย
งั้นผมขอตัวก่อนดีกว่า เกมส์จะได้ออกมาซื้อข้าวเย็นทาน
แล้วไว้คืนนี้ ผมค่อยโทรหาเกมส์ใหม่นะครับ”


ประโยคจบลงเพียงแค่นั้น ก่อนคนด้านในจะได้ยินเสียงฝีเท้าถอยห่างออกไป
เกมส์ลงทุนเอาหูแนบชิดกำแพงฟังความเคลื่อนไหว
รอสักพักจนมันเงียบสนิทไร้อาการใด ๆ
ทำให้เขาตัดสินใจแง้มเปิดประตูห้องออก


...ไม่มีใครเลย

แต่เมื่อกี๊ดิวต้องอยู่ตรงนี้แน่ ๆ
ที่สำคัญห้องเขามันอยู่ริมสุดทางเดินติดหน้าต่าง
ทำให้แดดตอนบ่ายส่องเข้ามาเต็ม ๆ ตลอด
ร้อนขนาดนี้คงไม่ใช่ว่าดิวจะนั่งคุยกับเขาเกือบสามชั่วโมงหรอกนะ



เกมส์ขมวดคิ้วมองโทรศัพท์มือถือในมือตัวเอง
อย่าจะนึกโทษความเผลอตัวที่ดันไปเล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรต่อมิอะไรตั้งมากมาย
แม้แต่ความลับบางเรื่องที่ไม่เคยคุยให้เพื่อนในกลุ่มฟัง
ก็กลับหลุดปากออกมาง่าย ๆ เพราะดิวชอบถามนู้นนี้คอยฟังเขาอย่างตั้งใจ


...น่าแปลกที่ดิวสามารถชักนำให้เขาคุยด้วยได้


แต่ที่แปลกกว่านั้นคือ...


...เขากลับไม่ได้รู้สึกกลัว


อาจเพราะว่าไม่เห็นหน้า ไม่เห็นรอยยิ้มหวาน ๆ
และสายตาประหลาด ที่มันชอบจ้องมองมา
จึงส่งผลให้เขาคุยกับดิวเหมือนที่คุยกับเพื่อนคนอื่น


...’เพื่อน’ เหรอ


พอนึกถึงคำนี้เขาก็รู้สึกคล้ายดิวจะลดระดับความน่ากลัวลงไปได้อีกนิด
หรือว่าต่อจากนี้ เขากับดิวจะเริ่มต้นจากความสัมพันธ์แบบนั้นได้รึเปล่า
ให้พูดกันตรง ๆ การมีมิตรมากมันก็ย่อมดีกว่ามีศัตรูอยู่แล้ว


...ถ้าตราบใดที่ดิวไม่คิดจะจีบเขา


...บางที


...เขาก็อาจจะยอมเป็น ‘เพื่อน’ กันกับดิวก็ได้ ล่ะมั้ง?



....


..


.


ร่างสูงเดินลงบันไดมาจากหอพักเรื่อย ๆ
พลางหยิบรีโมตกุญแจมาเปิดรถฮอนด้าซิตี้สีขาวมุกของตัวเอง
ก่อนโยนไอโฟนที่แบตหมดสนิทลงไปตรงคอนโซลรถ


...ไม่คิดหรอกว่าแผนนี้จะได้ผล


ตอนแรกที่เข้าไปหาเกมส์ เขาพยายามทำทุกวิถีทาง
ทั้งไปกินข้าวด้วย ทั้งดักรอ  หรือแวะมาหาที่ห้อง
เกมส์ก็มัวแต่วิ่งหนีจนเขาแทบถอดใจ
อย่าว่าแต่อธิบาย แค่หน้าเขา เกมส์ก็ไม่อยากจะเห็น

เออ จริงสิ...เกมส์ไม่อยากเห็นหน้าเขา
งั้นถ้าลองใช้แค่เสียงคุยกัน เกมส์จะยอมหันมาพูดกับเขามั้ย


เป็นไอเดียที่อยู่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาได้
ถึงจะรู้ว่าเสี่ยงที่ตัดสินใจโทรไป เพราะมันอาจจะส่งผลแย่
จนทำให้เกมส์โมโหเขามากขึ้น
แต่สุดท้ายมันกลับออกมาลงตัวมากกว่าที่คิด


เกมส์เป็นคนร่าเริง มนุษย์สัมพันธ์ดีอยู่แล้ว
พอลากไปคุยถึงเรื่องสบาย ๆ ที่เจ้าตัวคุ้นเคยอย่างเรื่องครอบครัว
ก็คล้ายเป็นการจุดฉนวนให้เกมส์พูดออกมาได้เรื่อย ๆ ไม่มีหยุด
แต่เขาไม่เบื่อหรอกที่จะฟัง
เพราะเขาชอบน้ำเสียงที่เกมส์เล่าเรื่อง มันฟังดูสนุก ตื่นเต้น แถมยังน่าสนใจ
ถ้าแบตไอโฟนไม่หมดก็อาจจะเผลอคุยยาวต่อได้อีกหลายชั่วโมง


...เป็นแบบนี้เขาจะคิดได้มั้ยว่า เกมส์กำลังเริ่มเปิดใจให้เขา
พูดคุยกันทุกเรื่อง ให้ความไว้วางใจเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง
โดยที่ไม่คิดเอะใจสงสัยอะไรเลย



ใช่...


เกมส์คงไม่หรอกรู้ว่า
เวลาคนเราจะจีบกันก็มีหลายคู่เริ่มต้นความสัมพันธ์
จากการเป็น ‘เพื่อน’ กันไปก่อน


ไม่ต่างอะไรจากที่เขาคุยกับเกมส์แบบนี้เลย


...สักนิดเดียว




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC




หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 15-03-2013 22:02:23
มาแล้ววววว
รอมานานเลย
ชอบจังๆๆๆๆๆ

คนแรกป่าวเนี่ย ดีใจจจจจจ  :man1: :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 15-03-2013 22:23:50
อร้าย พ่อดิว รูปหล่อมีสมอง
แต่อย่าเล่นๆ นะจ้ะตัวเธอ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-03-2013 22:27:34
ขอให้ดิวจีบให้จริงเถอะ ไม่ใช่แค่อยากสนุก อยากเอาชนะหรอกนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: babaaa ที่ 15-03-2013 22:41:35
กรี้ดด พี่ดิวพ่อยอดขมูขี  :-[ :-[
จีบน้องได้แต่อบ่าแค่เล่นๆนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-03-2013 22:50:41
เกมส์ตามดิวไม่ทันหรอก :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 >; P.79
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-03-2013 23:25:33
เริ่มจากเพื่อนแหละดีแล้ว!! ดิว จงสู้ต่อไป.. ! !
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 15-03-2013 23:53:03
555

ดิว นี่เจ้าเล่ห์มาก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 16-03-2013 00:22:44
 :L2:ดีใจด้วยค่ะกับการได้ตีพิมพ์ 

รออ้่านเรื่องของเด็กมอหกร้านอาหารตามสั่งอยู่นะเออ

ดิวจีบจริง แล้วเอาจริงหรือเอาเล่น อย่านะ บอกบอลล่าจัดการนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 16-03-2013 00:35:50
พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกได้เลยว่า เกมส์ขี้โม้วะ 5555


ปล ภาพปกสวยมากกกก เฮียหล่อลากมากกก  :man1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 16-03-2013 00:55:25
 :กอด1:

เกมเริ่มเปิดใจล่ะ เหลือก็แต่ความจริงใจที่ดิวจะมีให้

อย่าหลอกเกมแล้วกัน แม่ฟันหัวแบะ  :m16:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 16-03-2013 01:14:22
ดิวตอนอยู่กับเกมส์นี่ดูเป็นคนดีนะ
ไม่คิดว่าจะเจ้าชู้
แต่ก็แน่ดิจะจีบเค้านิต้องทำคะแนนไว้ก่อน555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 16-03-2013 02:13:08
พ่อดิวฉลาดมาก
เกมส์จ้อเก่งมาก
หุหุ
คนจะเป็นแฟนกันเขาก็ต้องมาจากเพื่อนก่อนสิ บุ่ยยยยย ไม่รู้อะไรซะเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 16-03-2013 09:13:50
ดิวเดินมาถูกทางแล้ววววว อิิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-03-2013 09:29:05
เกมส์ติดกับล่ะ !!  :laugh3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 16-03-2013 09:43:30
ดีใจกับคนเขียนด้วยจ้า
จะได้รวมเล่มเป็นของตัวเองแล้ว เย่!!!
 :a2: :a9: :a1:

อิคุณชายดิวมันช่างร้ายกาจยิ่งนัก
แผนนี้เข้าท่าๆคนอ่านขอยกนิ้วให้
แต่ไปๆมาๆมันจะเป็นยังไงน้อ
 :m28:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-03-2013 09:52:05
ดิวนี่จะจีบเกมส์เพราะชอบหรือเปล่า ถ้ามาเล่นๆ กับเกมส์ไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: NT.orn ที่ 16-03-2013 11:39:14
อั้ยย่ะ ดิวทำเนียนเลยนะเนี่ย แกล้งทำเป็นพูดว่าจะขอเป็นเพื่อน แหม่ๆๆๆๆ  :-[

ดูเหมือนจะได้ผลด้วยเพราะว่าเกมส์ยอมคุยด้วยมากขึ้น 555 ยังไงก็สู้ๆ ขอให้จีบให้ติดแต่อย่ามาหวังฟันแล้วทิ้งนะเฟ้ยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 16-03-2013 15:50:13
เกมส์คงไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะมีเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-03-2013 16:08:46
มาเหนือเมฆมากเลยนะ
คุณชายดิว :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 16-03-2013 19:52:05
ดิวมาถูกทางล่ะ  แต่คงตะล่อมเกมส์นานหน่อยล่ะ แมวขี้กลัวอย่างนั้น อิ อิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-03-2013 20:56:22
ดิวมาถูกทางแล้ว  ได้ยินแต่เสียง ไม่เห็นหน้า กลับทำให้เกมส์เปิดใจได้มากกว่า
ก็คงต้องค่อยๆ ทำให้เกมส์เชื่อใจ และไว้ใจให้ได้


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-03-2013 21:24:57
ดิวสุดอ่ะ คิดได้ไง  o13

แต่ได้ใจไปเต็มๆกับการคุยโทรศัพท์ตากแดดอยู่หน้าห้อง

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: 9nawKIHAE ที่ 16-03-2013 21:43:09
ชอบแฟนอาร์ต เฮียแทน กับ ตี๋เพลงจังเลย  :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 16-03-2013 21:46:27
อยากเอาใจช่วยแต่ยังระแวงดิวอยู่  คนเจ้าชู้คงไม่หยุดง่าย ๆ หรอก แต่เห็นเกมส์น่าสนใจ กลัวว่าพอได้เขามาแล้วจะกลับไปทำนิสัยเดิม ๆ  :z3:
เกมส์พิจารณาดิวดี ๆ ก่อนนะ  เล่นเข้าหาแบบขอเป็นเพื่อนก่อนแบบนี้ จะรู้ตัวมั้ย  :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-03-2013 22:44:04
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 17-03-2013 18:04:27
น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน
แล้วหัวใจอ่อนๆ ของนายซีเกมส์จะไม่ระทวยได้ไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 17-03-2013 21:20:58
ดิวสู้ๆๆๆ  o13 อีกนิดน่ะ เดี๋ยวก็จะเข้าทางแล้วล่ะ  :กอด1: มาต่อเร็วๆน้าา เค้ารออยู่  :sad4:


ปล.นี้เม้นท์แรกของเค้า :-[ ในที่สุดเค้าก็ตามอ่านทันทุกเรื่องแล้ว  :mc4: ทุกเรื่องประทับใจมากงับบ แบบว่ากินใจทุกเรื่องเลยย  :impress3: คนแต่งสุดยอดจริงๆ  :call: ยกให้เป็นคนแต่งในดวงใจเลยค้าบบบบ  ที่เค้าตามอ่านทุกเรื่อง ทุกตอนจริงๆ :impress2: ขอบคุณมากน้าา ที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่าน  o18 ขอให้แต่งไปเรื่อยๆน่ะ มีคนอ่านแน่นอน !!! อย่างน้อยก็เค้าคนนึงเย้ๆ  :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 18-03-2013 11:31:47
ดิวถ้าเอาจริงแม่ก็หนับหนุนค่า อิอิ

แต่รูปสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก อ๊ายยยยยยยยยยยยยย เฮียหล่อ

ไม่คิดว่าอาเฮียที่ทอดปาท่องโก๋หน้ามันจะหล่อขนาดนี้  กรี๊ดๆๆๆ อยากได้ๆๆๆ >//////<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 18-03-2013 15:53:17
ดิวเนียนมากกกก 555
ขอให้เกมส์เปิดใจเร็วๆ น้าาา
คนอ่านก็รออยู่ อยากให้ลงตัวกันทุกคู่จริงๆ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 18-03-2013 17:04:11
อ๊าาาาาาา เฮียแทนใช่เลย
กดบวกและเป็ด
ยิ่งอยากอ่านมะม่วงไม่ไหว
จะติดตามข่าวรวมเล่มอย่างใกล้ชิด
กดบวกและเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 25-03-2013 15:55:08
กรี๊ดดดด กำลังคิดอยู่เลยว่าไม่ทำหนังสือเหรอ


เราจองคนนึงเลยน๊าาาาา  ฮิฮิ  เปิดจองเมื่อไรจะรีบจองไปเลยนะคะ




ส่วนเรื่องดิวเนี่ย... //ตบเข่าฉาด
เราว่าแล้วว่าดิวต้องมามุกนี้ เพราะมันเป็นมุกที่เชื่อมไปยังคนรู้ใจได้ง่ายมากเลยหละ
จากเพื่อน เพื่อนสนิท ไปคนรู้ใจ และแฟน นี่มันเป็นอะไรที่...
ช้าๆ ได้พร่าหลายเล่มงามเลยนะเอ้อออออ

แล้วเกมส์ก็คงไม่คิดอะไรมากด้วย
กว่าจะคิดได้อีกทีคงเป็นตอนที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วไม่เห็นดิววนอยู่รอบตัวแล้วก็รู้สึกนึกถึงแบบนั้นแน่ๆ
เราจะรอนะจ๊ะ น้องเกมส์ ฮ่าๆๆๆๆ



แล้วก็ซีรีย์ใหม่หงะ น่าอ่านมากกกกกก
กรี๊ดดดด อยากอ่านจังเลยหงะ เปิดจองไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 7] 15/03/56 > P.79
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 25-03-2013 21:26:02
ดีใจ ๆ ๆ จะได้มีไว้เป็นรูปธรรม 555

ดิวฉลาดมากที่จับจุดได้
เกมส์เองไม่มีกำแพงอะไรมากมาย อย่าบุ่มบ่ามเป็นโอเค
สู้ ๆ นะนาย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 26-03-2013 21:25:33
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 8



“...แล้วรู้รึเปล่าว่าจูปาจุ๊บมีกี่รส มีตั้ง 33 รสเลยนะเว้ย
มีรสชาเขียวด้วยอ่ะ ใช่ ๆ เราอยากลองกินดูเหมือนกัน...
โห...แต่อันนี้ยังไม่เท่าคิทแคทหรอก นั่นมีตั้งสองร้อยกว่ารส 
เฮ้ย...พูดจริงนะ มีรสดอกซากุระ รสถั่วแดง รสข้าวโพดมันฝรั่งยังมีเลย
...เออนั่นดิเราก็งงเหมือนกัน คิทแคทมันเป็นช็อกโกแลตใช่มั้ยล่ะ...
หืม ช็อคโกแลตหรอ...เออเราก็ชอบกิน ยิ่งเป็นพวกเค้กขม ๆ หน่อยนะ...
โหย...สุดยอดดด!!  เออแล้วก็ยังมีอีกนะ...”


“โอยยย!! ไอ้เกมส์นี่แกจะมั่วเมาส์แตกไปถึงไหนยะ จะซ้อมมั้ยพรีเซนต์งานเนี่ย!!”


เสียงตวาดแวดจากเจ๊บอลล่าเบรกการสนทนาอย่างออกรสของนายซีเกมส์ลงทันควัน
ยิ่งเมื่อหันไปประสานสายตาของบรรดาเพื่อนในกลุ่มทั้งห้า
ที่จ้องมองมาที่เขาเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อก็ยิ่งทำให้นายซีเกมส์สะดุ้ง
รีบหันไปขอตัวบอกปลายสาย


“เออ...งั้นแค่นี้ก่อนนะ เราต้องไปทำงาน...อืม ๆ บาย”


เขากดวางโทรศัพท์พร้อมกับเสียงของคู่กัดเจ้าประจำรีบบ่นประชดเหน็บแนม


“แหม...ที่บ้านมีหุ้นอยู่ค่ายโทรศัพท์ไหนรึไง
ถึงได้คุยกันเป็นชาติ ฉันฟังแล้วเมื่อยหูแทนเลย
ถามจริงโทรคุยอยู่กับใคร เดี๋ยวนี้ก้าวหน้าไปกุ๊กกิ๊กกับสาวที่ไหนได้แล้วเหรอยะ”


บอลล่าเริ่มซอกแซ่กถามอย่างสอดรู้สอดเห็นตามประสาเจ้าแม่หน่วยข่าว
แต่คนถูกจ้องจับผิดกลับร้องตะโกนปฏิเสธเสียงหลัง


“เฮ้ย! ไม่ใช่ก็แค่...เออ...แค่เพื่อนอ่ะ”


ท้ายประโยคถูกตอบด้วยน้ำเสียงอึกอักเล็กน้อย
จนคนฟังเลิกคิ้วถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ


“เหรอ อย่างแกมีเพื่อนคนอื่นนอกจากพวกเราทนคุยด้วย?
 ไม่ใช่ว่าแกไปติดหนี้ใครไว้จนเขาโทรมาทวงรึเปล่า”


“โห...เจ๊อย่าดูถูก หน้าตาดี นิสัยเพอร์เฟคขนาดนี้
มันก็ต้องมีคนอยากคุยด้วยอยู่แล้ว”


เกมส์พูดโชว์พาวอวดตัวแบบไม่มีสะดุด
ส่วนบอลล่าทำหน้าพะอืดพะอมตอกกลับอย่างหมั้นไส้


“จ้า ๆ พ่อคนเนื้อหอม แต่ถ้าขืนแกยังไม่มาทำงานต่อ
เดี๋ยวฉันจะแช่งให้แกเนื้อหอมเฉพาะกับผู้ชายเยอะๆ เลยดีมั้ย”


ถ้อยคำที่ได้ยินทำเอาคนถูกแช่งถึงกับสะอึก
ด้วยรู้ดีว่าอานุภาพในตัวเจ้าแม่บอลล่านั้นศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน
แถมความจริงปลายสายที่เขาคุยโทรศัพท์ด้วยจนเพลินนั้นไม่ใช่ใคร
หากแต่เป็นเดือนวิศวะที่ ‘ทำท่าเหมือนจะจีบ’ เขาต่างหาก
ทว่าตอนนี้เจ้าตัวกลับยืนยันสถานะชัดเจนกับเขาแล้วว่าเป็น ‘แค่เพื่อน’
เช่นเดียวกับที่เขาอธิบายให้บอลล่าฟังไป


กระนั้นลึก ๆ เขาก็ยังคงงง ๆ กับความสัมพันธ์อยู่เหมือนกัน
เพราะนี่ก็เข้าวันที่สามแล้วที่เขาคุยโทรศัพท์กับดิวแบบนี้
แล้วเรื่องที่คุยก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรด้วย
ออกแนวเรื่อยเปื่อยไร้สาระเสียมากกว่า
แต่เขาสองคนก็ยังจะคุยต่อกันไปได้โดยไม่มีหยุดเป็นชั่วโมง ๆ
ซึ่งเขาไม่เคยโทรคุยกับใครนานอย่างนี้มาก่อน
เหมือนเรื่องวันนี้ที่อยู่ ๆ ก็ลากวนไปหาขนมได้ไงไม่รู้
คิดแล้วก็ชักอยากกินตงิด ๆ ขึ้นมา
แต่ตอนนี้ไม่มีตังค์เหลือแล้วเพราะใกล้สิ้นเดือนพอดี
กว่าแม่จะโอนค่าขนมให้ก็วันจันทร์ วันนี้เพิ่งวันพฤหัสเอง
สงสัยนายซีเกมส์คงต้องอดไปตามระเบียบ เฮ้อ...


เขาจึงต้องพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากสมอง
หันไปให้ความสนใจกับการเตรียมงานของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนไปเผชิญสถานการณ์จริงในคาบเรียน
ซึ่งกว่าจะผ่านมาได้ จนเลิกคลาสตอนหกโมงเย็น
ก็เล่นเอาเด็กเภสัชหมดแรงไปตามๆ  กัน


เกมส์ขี่มอเตอร์ไซต์กลับหอพัก ไม่ลืมแวะซื้อปลาทูจากร้านป้าดา
กลับไปฝากแมวตัวเล็กที่เลี้ยงไว้เหมือนอย่างเคย
เดินสะโหล่สะเหล่ขึ้นห้องของตัวเอง
อยากจะทิ้งตัวลงเตียงแล้วหลับสักเงียบก่อนกินข้าวเย็น
แต่บางสิ่งที่แขวนอยู่ตรงลูกบิดหน้าประตูห้องกลับทำให้เขาหยุดชะงัก


...ถุงอะไรวะ

 
เป็นถุงสีขาวเรียบ ๆ ด้านหน้ามีโลโก้ชื่อร้าน ‘บ้านขนมหวานละไม’
เอ๊ะ! นี่มันร้านขายเบเกอรี่กับขนมไทยชื่อดังในตลาดนี่หว่า
เห็นบอลล่าชอบพูดบ่อย ๆ ว่าขนมร้านนี้อร่อยหนักอร่อยหนา
แต่เขายังไม่มีโอกาสได้กินสักที เพราะว่ามันเปิดอยู่ห่างจากมหาลัย
ถ้างั้นอย่าบอกนะว่าของในถุงคือพวกขนม


คนสงสัยเปิดอ้าปากถุงสำรวจ
เขาเห็นกล่องกระดาษสีเหลี่ยมบรรจุอย่างดีวางสงบนิ่ง
แต่สิ่งที่สะดุดตาคือโพสอิทสีส้ม ซึ่งมีข้อความสั้น ๆ เขียนไว้


‘Hope you like na krab’



เพียงเท่านี้ไม่ระบุชื่อผู้รับและผู้ส่ง
เขามองมันงง ๆ อยู่ครู่หนึ่ง

...ตกลงนี่มีคนเอามาให้เขาจริง ๆ เหรอ
ไม่ใช่เอามาแขวนไว้ผิดห้องหรอกนะ


แม้จะความสงสัยจะมีอยู่ในใจ
แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไขประตูเข้าห้องนำถุงไปวางบนโต๊ะ
ก่อนหยิบกล่องออกมาค่อย ๆ แกะเปิด
ด้านในเป็นดังที่คาดไว้...เค้กช็อกโกแล็ต มาคู่กับคาราเมลพุดดิ้งสีสวยน่าทาน


...เฮ้ย! กำลังอยากกินพอดีเลย ใครกันวะรู้ใจขนาดนี้


อย่าบอกนะว่า...



เกมส์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา
กดโทรหาชื่อที่เพิ่งคุยกันล่าสุด
เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็รับสาย


((ครับ เกมส์))


“ดิวเป็นคนเอาขนมมาแขวนไว้ที่ห้องเราใช่รึเปล่า”


ถามออกไปอัตโนมัติ
ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาแน่ใจคิดว่าเป็นดิว
แต่ก็คล้ายจะเดาถูก เพราะคู่สนทนากลับตอบรับง่าย ๆ


((ครับ เมื่อตอนกลางวันที่คุยกันเห็นเกมส์บอกว่าชอบช็อคโกแล็ต
ผมก็เลยซื้อเค้กมาฝาก ร้านนี้อร่อยนะครับไม่หวานมาก
แล้วพุดดิ้งร้านเขาก็ขึ้นชื่อด้วย ผมเลยอยากให้เกมส์ลองชิมดู))


“เฮ้ย! ไม่ต้องซื้อมาให้ขนาดนี้ก็ได้ เราเกรงใจ”


คนฟังตกใจจนร้องเสียงหลง

...ก็แน่ล่ะ ขนมเค้กกับพุดดิ้งนี่มันตั้งกี่บาท
แล้วอย่างที่บอกว่าร้านนี้มันอยู่ค่อนข้างไกลจากมหาลัยเขาด้วย
อยู่ ๆ จะให้รับมาเลยแบบหน้าด้าน ๆ ได้ที่ไหนกัน
ถึงเขาจะชอบกินของฟรี แต่มากเกินไปอย่างนี้มันก็ต้องมีลีมิตกันบ้าง

กระนั้นอีกคนกลับพูดปฏิเสธด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องลำบาก


((เกมส์ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก
ถือซะว่าเพื่อนซื้อมาฝากให้ล่ะกันนะครับ))



เหตุผลที่ได้ยินทำให้เกมส์หยุดชะงักทันควัน


...ถือว่าเพื่อนฝากซื้อให้ก็พอเข้าใจอยู่หรอกนะ
แต่คนเป็นเพื่อนกันมันทำให้กันขนาดนี้เลยเหรอวะ
ขนาดเขาสนิทกับไอ้ปลายยังไม่เคยคิดจะซื้อของอะไรมากฝากกันเลย
บางทีเขายังไปแย่งของมันมากินด้วยซ้ำ
ไม่ใช่ว่าเห็นแก่ตัวหรืออะไร
แค่รู้สึกว่าคนเป็นเพื่อนมันต้องคบกันแบบชิล ๆ
มีอะไรแบ่งกันไป ไม่ต้องคิดมากจุกจิกกับเรื่องเล็กน้อย


แต่กับดิวเขารู้สึกว่ามันแปลก ๆ
ถึงดิวจะบอกชัดว่าอยากคบเขาเป็นเพื่อนในลักษณะเดียวกับปลายหรือบอลล่า
แต่จะยังไงเขาก็วางตัวไม่ถูกอยู่ดี
ยิ่งซื้อของมาให้ใส่ใจกันขนาดนี้ ก็ยิ่งสร้างความสับสนเข้าไปใหญ่
หรืออาจเป็นเพราะเขาไม่ชินกับนิสัยความเป็นเพื่อนในแบบของดิวก็ได้มั้ง


คนนึกว้าวุ่นในใจนึกอยากจะเอ่ยปากถาม
ทว่าเสียงสัญญาณจากโทรศัพท์กลับทำให้เขาต้องหยุด
ก่อนรีบขอตัวกับคู่สนทนา


“แป๊บนะดิว มีสายซ้อน”


เขากดสลับสายบนหน้าจอ ซึ่งคนโทรมาแทรกก็ไม่ใช่ใครอื่น
หากแต่เป็นคุณนายสายสมรคุณแม่ผู้บังเกิดเกล้าคนเดิม
ผู้มาพร้อมกับเสียงน้อยใจลูกตามเสต็ป


((เกมส์ ช่วงนี้บ่ค่อยโทรหาแม่เลยเน้อ ยะอะหยังอยู่))


“อู้โทรศัพท์อยู่แม่”


((แหนะ! ฮูกคนนี่บ่ต้องทำเป๋นยอกย้อน))


“บ่ได้ยอกย้อนเน้อเจ้า เกมส์อู้โทรศัพท์กับเปื้อนจริง ๆ นี่เปิ้ลก็รอสายอยู่”


((อ้าว...ถ้างั้นก็ไป๋คุยเต๊อะ แม่แค่โทรมาถามเฮื้องฟัน เป๋นจะได๋ดีขึ้นแล้วไจ้ก้อ))


“ก็บ่ค่อยเจ็บเต้าได้แล้ว”

 
((งั้นก็ดี๋ เกมส์อย่ากิ๋นขนมฮื้อมันมาก
แล้วก็อย่าลื๋มวันนัดตัดไหมด้วยเน้อลูก))


“เจ้า”



เขารอให้ผู้เป็นแม่วางสายไปเรียบร้อยแล้ว
จึงรีบสับเปลี่ยนไปคุยกับอีกคนที่รออยู่


“ฮัลโหล ดิว โทษทีนะ แม่โทรมา”


((ไม่เป็นไรครับ คราวหลังเกมส์วางสายผมแล้วคุยกับแม่ก่อนก็ได้
เดี๋ยวผมค่อยโทรหาเกมส์ใหม่))


ถ้อยคำบอกคล้ายดิวให้ความสำคัญกับแม่ของเขามากกว่าคนเป็นลูกเสียอีก
แต่ไม่ใช่ว่านายซีเกมส์คนนี้จะไม่อยากคุยกับคุณนายสายสมรหรอกนะ
ก็แค่กำลังติดพันกับสายแรกที่โทรมาก่อนเท่านั่นเอง
แล้วอีกอย่างเขายอมรับตรง ๆ ว่ายังไม่อยากเลิกคุยกับดิวตอนนี้
มันน่าประหลาดอยู่หน่อย ๆ เหมือนกัน ที่ดันมารู้สึกสนุกเวลาคุยกับดิว
อาจเป็นเพราะเขาสองคนมีทัศนคติตรงกันในบางเรื่องเลยคุยกันได้ถูกคอ

ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่แน่ใจว่าดิวจะรู้สึกแบบเดียวกับเขารึเปล่า
บางทีเขาอาจจะไปรบกวนดิวก็ได้
เพราะคุยกันแต่ละทีไม่เคยต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงเลยสักครั้ง
อย่างวันนี้เขาก็เป็นฝ่ายโทรไปหาก่อนโดยที่ยังไม่ถามว่าดิวว่างคุยมั้ยเลย

คนที่เพิ่งจะตระหนักถึงความจริงเลยแกล้งตะล่อมถามอ้อม ๆ


“แล้วนี่ดิวทำอะไรอยู่เหรอ”


((อ้อ...ผมอยู่กำลังเช็คบรรณานุกรมรายงานอยู่น่ะครับ
อาจารย์นัดส่งพรุ่งนี้แล้ว แกเฮี้ยบมาก เลยต้องตรวจให้ถูก))


พอได้ยินว่ามีงานคนที่นอนเกลือกกลิ้งบนเตียงว่าง ๆ
ถึงกับต้องรีบกระเด้งตัวนั่งรีบพูดขึ้นด้วยความเกรงใจซ้ำอีกครั้ง


“อ้าว...ถ้างั้นก็ไปทำเถอะ เราไม่กวนแล้ว”


...นั่นไงไอ้เกมส์ เห็นมั้ยว่าเหมือนที่เดาไว้ไม่ผิด

เขานึกตำหนิตัวเองในใจที่ดันไปดึงเวลาของอีกคนซึ่งกำลังยุ่ง
กระนั้นถ้อยคำของคู่สนทนาในประโยคต่อมากลับทำให้เขาเป็นฝ่ายนิ่งอึ้ง


((ไม่กวนหรอกครับ เพราะผมเองก็อยากคุยกับเกมส์เหมือนกัน))



...คำตอบแรกตรงกับสิ่งที่เขาคาดเดาไว้ 


...แต่คำตอบที่สองเหมือนกับสิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจ


รู้สึกใจมันแกว่งนิดหน่อยแปลก ๆ คล้ายมันผสมด้วยความโล่งอก
ไม่ใช่ว่าดิวฝืนทนฟังเขา เพราะส่วนมากมีแต่เขาที่เป็นฝ่ายชอบพูดเรื่องนู้นเรื่องนี้
นาน ๆ ครั้งที่ดิวถึงจะหลุดคุยอะไรยาว ๆ ออกมาบ้าง
แต่โดยส่วนใหญ่ดิวก็มักเป็นคนเริ่มต้นประเด็นถามเช่นเดียวกับตอนนี้


((แล้วเมื่อกี๊คุณแม่โทรมาคุยเรื่องอะไรครับถึงรีบวางสายจัง))


“อ้อ ไม่มีอะไรหรอก แม่แค่โทรมาถามเรื่องฟัน
แล้วก็มาเตือนว่าอย่าลืมไปตัดไหมวันเสาร์นี้”


((ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ย))


ลมหายใจของคนฟังสะดุดลงทันทีที่จบคำ


...สำหรับคนอื่นมันอาจเป็นคำหวังดีมีน้ำใจธรรมดาทั่วไป
แต่สำหรับคนมีประวัติความหลังฝังใจมันกลับเป็นเหมือนคำถามเสี่ยงชีวิต
จนทำได้แค่เพียงอ้ำอึ้งพูดตอบตะกุกตะกัก


“เออ...คือ...”


((คงไม่ได้ใช่มั้ยครับ ไม่เป็นไร ผมลืมไปว่าเกมส์กลัวผม))


คู่สนทนากลับเป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นมาเสียก่อนเหมือนจะรู้อยู่แล้วในคำตอบ
แต่แทนทีเกมส์จะเบาใจมันดันส่งผลตรงข้าม


...ใช่ เขายอมรับว่าตอนนี้เขายังกลัวดิว
แต่มันลดน้อยลงมากกว่าเมื่อก่อน
อาจเพราะไม่เห็นหน้ากันได้ยินแค่เพียงเสียง
ถึงอย่างนั้นมันกลับทำให้เขารู้จักดิวมากขึ้น
พอได้พูดคุยถึงได้รู้ว่าดิวไม่ใช่คนเลวร้าย
ดิวคุยสนุก เป็นกันเอง มองโลกในแง่ดี
บางครั้งก็ให้กำลังใจเขาเวลาที่เขาบ่นเรื่องภาระงาน
หรือบางครั้งก็คอยแนะนำหลายอย่างในเรื่องที่เขาไม่รู้
เลยทำให้เขาเผลอเล่าอะไรหลาย ๆ อย่างให้ฟัง
ทั้งเรื่องครอบครัว เรื่องเรียน เรื่องไร้สาระบ้าบอ
หรือแม้กระทั่งความฝันที่อยากจะทำในอนาคตซึ่งเขาไม่เคยบอกกับใคร


...ความรู้สึกสบายใจเวลาเราสามารถเปิดใจคุยทุกเรื่องให้ใครสักคนได้รับฟังคงเป็นแบบนี้


แต่ถึงอย่างไรไอ้โรคกลัวผู้ชายมาจีบฝังใจก็ใช่จะหายขาดกันได้ง่าย ๆ 
จะให้เขาโผล่ไปคุยกับดิวต่อหน้าก็คงอาจจะเข้าลูปเดิมคือเป็นลมน็อคตายซะก่อน


อารมณ์ตอนนี้เลยออกมาสับสนก้ำกึ่ง
กระนั้นเขาก็พยายามเรียบเรียงสิ่งที่อยากสื่อออกไปให้ชัดเจนมากที่สุด


“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก
ตอนนี้เราคุยกับดิวได้ไม่ค่อยรู้สึกกลัวแล้ว
แต่ถ้าจะให้เจอตัวจริง ๆ เรายังไม่ชิน”


เกมส์ได้ยินเสียงปลายสายถอนหายใจเบา ๆ
แต่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่ออีกฝ่ายพูดคำเสนอ


((ถ้างั้นเรามาเริ่มฝึกกันก่อนให้เกมส์ชินดีมั้ยครับ))


“ห่ะ! ทำให้เราชินได้ด้วยเหรอ แล้วต้องทำยังไง”


((เกมส์วางสายก่อนนะครับ เดี๋ยวผมจะทำให้ดู))


แม้จะเต็มไปด้วยความมึนงง แต่คนฟังก็กดวางโทรศัพท์ลงไปตามคำสั่ง
ครู่หนึ่งจึงได้ยินเสียงร้องเตือนว่ามีข้อความเข้า
เขากดรับรอดาวน์โหลดสักพักจึงเห็นชัดว่ามันเป็นรูปภาพของคนที่เพิ่งคุยด้วย
ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเซ็ง ๆ ในมือถือกล่องข้าวผัดปูแช่แข็งตามร้านสะดวกซื้อ
ซึ่งดูเหมือนจะอุ่นเปิดฝาไว้เรียบร้อย โดยมาพร้อมกับคำบรรยายใต้ภาพ



‘ข้าวเย็นมื้อนี้ของผม สงสัยเนื้อปูคงหดตอนผมเอาไปเวฟ’



เกมส์ถึงกับหัวเราะขำก๊ากทันทีที่อ่านจบ
เพราะเนื้อปูที่อยู่ในกล่องข้าวเทียบกับป้ายซึ่งแปะบนฝาปิดด้านหน้าแล้ว
มันแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ยังไม่ทันตลกกับมุกของอีกฝ่ายได้นาน
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าก็ดังมาพร้อมคำถามวัดผล


((เป็นไงครับ ถ้าเห็นแต่ภาพไปก่อนเจอตัวจริง แบบนี้พอไหวมั้ย))


“เออ ๆ ฮาดี”


((งั้นเกมส์ลองส่งมาให้ผมบ้างสิ ถ่ายมาให้เห็นหน้าเกมส์ด้วยนะครับ))


คนถูกท้าจึงทดลองทำดูบ้าง เหลียวซ้ายแลขวาหามุม
ก่อนหันไปเจอลูกแมวตัวเล็กที่กำลังงัวเงียเหมือนเพิ่งตื่น
เขาจึงอุ้มลูกแมวขึ้นมาพร้อมหิ้วถุงปลาทูที่ซื้อติดมือก่อนเข้าหอ
แล้วหันมือถือของตัวเองกดถ่ายภาพตัวเขาซึ่งอุ้มลูกแมวตัวเล็กเทียบกับปลาทูชิ้นโต
ก่อนจะพิมพ์ข้อความขยุกขยิก ส่งไปพร้อมกับภาพกวน ๆ



‘ข้าวเย็นไอ้จั๊ดง่าว ดูดีกว่าของใครบางคนเยอะ’

 

ไม่นานเกินรอโทรศัพท์ในมือก็ส่งสัญญาณว่ามีสายโทรเข้ามาอีกรอบ
เขาจึงรีบกดรับก่อนได้ยินคำบ่นโอดครวญดังตามมา


((เกมส์ใจร้ายจังเลยครับ))


“ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็อยากให้เราส่งรูปไปให้เอง”


คนแกล้งเอ่ยคำยียวนอย่างไม่สำนึกตามนิสัย

...คิด ๆ ไปไอ้การส่งรูปไปมาแบบนี้มันก็สนุกดีเหมือนกัน
ต้องขอนับถือไอเดียเข้าท่าของดิวเลย

กระนั้นความชื่นชมกลับเปลี่ยนเป็นอาการสะดุ้ง
เมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากคู่สนทนา


((เห็นเกมส์เลี้ยงจั๊ดง่าวดีแบบนี้
ผมยอมเป็นแมวให้เกมส์เลี้ยงไปตลอดชีวิตดีกว่า))


คำหยอดหวาน ๆ ที่อยู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
ถึงจะไม่ได้เห็นหน้า มาแค่เสียงมันก็ยังอดหวั่น ๆ ไม่ได้
เขาจึงรีบพูดเฉไฉเปลี่ยนประเด็นไปเรื่องอื่น


“ดิวไปกินข้าวเถอะ เราก็จะไปกินเหมือนกัน”


ที่บอกเพราะเห็นรูปดิวถือกล่องข้าวอุ่นไว้เตรียมกินแล้วเลยไม่ขอรบกวนต่อดีกว่า
อีกอย่างท้องเขาก็ชักจะร้องขึ้นมานิด ๆ เหมือนกัน
ซึ่งปลายสายก็ไม่คิดจะรั้งไว้ ทว่ากลับยังคงไม่ลืมเอ่ยเตือน


((ครับ แล้วเกมส์อย่าลืมเค้กที่ผมให้ไปนะ
ถ้ากินหมดแล้วถ่ายรูปมาให้ผมดูเป็นหลักฐานด้วยนะครับ))


“เออ ๆ ก็ได้ งั้นแค่นี้นะ”


เกมส์รับปากก่อนกดวางสายโทรศัพท์ลง ตั้งใจจะลงไปหาซื้ออะไรกิน
แต่พอหันมามองกล่องเค้กซึ่งวางยั่วน้ำลายตรงหน้าใครล่ะจะอดใจไหว
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ เอาให้มันเป็นข้าวเย็นเขาวันนี้เลยแล้วกัน


คนหิวจึงหยิบเค้กที่อยู่ในกล่องมาวางใส่จาน
ชิ้นแรกเป็นช็อกโกแล็ตเค้กสีน้ำตาลกำลังสวยดูเรียบ ๆ แต่กลิ่นหอมยั่วจมูก
มีหรือที่เขาจะรอช้า รีบตักเนื้อเค้กเนียนนุ่มเข้าปาก และทันทีที่สัมผัสปลายลิ้น
เขาก็แทบจะยึดโต๊ะไว้ไม่ทันเพราะรู้สึกได้ว่าตัวมันกำลังลอยขึ้นไปบนสวรรค์
รสเข้มข้นของเค้กช็อกโกแล็ตไม่หวานมากกลับออกขมนิด ๆ ตามแบบที่เขาชอบ
ส่วนน้องพุดดิ้งซึ่งวางอยู่เคียงข้างล้อตา เขาก็รีบตักชิมให้รู้รส
ซึ่งก็พบว่ามันทั้งหวานละมุนนุ่มลิ้นละลายหายลงคอไปโดยไม่ต้องเคี้ยว


คนชอบกินขนมจะมีอะไรสุขไปกว่าการได้ละเลียดขนมอร่อย ๆ สักชิ้น
สมแล้วที่เป็นร้านเจ้าอร่อยตามคำล่ำลือ
แบบนี้ต่อให้อยู่ใกล้จากมหาลัยเขาก็ต้องขอไปชิมอีกให้ได้
ไว้รอแม่โอนเงินค่าขนมมาต้นเดือนหน้า
นายซีเกมส์คนนี้ขอสัญญาว่าจะพากระเพาะตัวเอง
ไปถล่มร้านบ้านขนมหวานละไมให้ราบคาบ!

แต่ก่อนอื่นต้องขอจัดการขนมเค้กตรงหน้าให้หมด
ข้าวมื้อเย็นจึงถูกเขาฟาดเรียบอย่างสบายอุรา
นั่งลูบท้องอิ่มแปล้ของตัวเองกำลังจะลุกเดินเอากล่องเค้กไปทิ้ง
แต่กลับได้ยินเสียงเตือนเบา ๆ จากโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง

เจ้าของจึงล้วงหยิบมันขึ้นมากดดู แล้วก็ได้เห็นข้อความจากคนเดิม
เป็นรูปดิวถือกล่องข้าวเปล่า ๆ โดยด้านข้างเป็นคอมพิวเตอร์
ซึ่งวางบนโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยหนังสือกับกระดาษเอกสารมากมาย
ตรงกับคำบรรยายที่เจ้าตัวเขียนมา



‘กินอิ่มแล้วครับ พร้อมลุยงานต่อ :]’



เห็นแบบนั้นแล้วเกมส์จึงเปลี่ยนโปรแกรมโทรศัพท์เป็นโหมดกล้อง
จัดการถ่ายรูปซากเค้กที่กินเกลี้ยงโดยมีเขายกชูนิ้วโป้งให้
ก่อนพิมพ์ข้อความส่งกลับไปบ้าง



‘เค้กอร่อยมาก ขอบใจนะ สู้ ๆ ล่ะ ; ) ’



...


..


.


ตี๊ด!  ตี๊ด!



ดิวหยิบไอโฟนของตัวเองขึ้นมาสไลด์เปิดอ่าน
ก่อนจะยิ้มบางเมื่อภาพของใครบางคนปรากฏบนหน้าจอ
รู้สึกเหมือนมีกำลังใจทำงานต่อทันทีแค่ได้เห็นคนทำหน้ากวน ๆ
แต่กลับดูน่ารักเหลือเกินในสายตาเขา


แม้ตอนนี้เกมส์จะยังคงไม่กล้าจะมาเจอกัน
แต่จากการที่ได้คุยกันบ่อย ๆ ก็นับได้ว่าเขาเข้าใกล้เกมส์ไปอีกขั้น
ที่เหลือก็เพียงแค่รอให้เกมส์ค่อย ๆ เปิดใจให้เขาทีละนิด ๆ อย่างอดทน
ซึ่งเขาเชื่อว่าแผนการรักษาโรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์


...คงจะประสบผลสำเร็จอีกไม่นานแน่นอน



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC




กลับมาแล้วจ้า   :sad2:
คลานกลับมาด้วยสภาพสะบักสะบอมจากการรอดตายเพราะมรสุมงาน
แต่ตอนนี้เคลียร์ภารกิจไปได้บางส่วนแล้ว
เลยคาดว่า (น่าจะ) มาอัพให้เร็วขึ้นกว่าสปีดเดิมอีกนิดดดดด!!
เพราะเรารู้มีใครหลายคนอยากติดตามว่า
หมาป่าเจ้าเล่ห์อย่างดิวจะงัดกลเม็ดอะไรมาดักจับกระต่ายน้อยซีเกมส์อีกรึเปล่า
ไม่ใช่อะไรเผื่อหยิบมุกจีบเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้บ้าง (ฮา)  :-[
ดังนั้นก็จะพยายามมาขยันอัพเรื่องให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้นะคะ (หันกลับไปซดกระทิงแดง)


ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าจ้า

 :a2:

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 26-03-2013 21:56:14
+1 :hao3:มีพัฒนาการ อิอิ เกมซ์ ดิว :hao3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 26-03-2013 21:58:37
 :heaven

ดีใจที่กลับมาอัพค่ะ

ชอบมากกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 26-03-2013 22:08:55
ดิวสุโค่ยมาก
เกือบดีขึ้นแระ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 26-03-2013 22:36:07
คึคึ แผนทะลวงใจ กระดื้บความสัมพันธ์ช้าพอๆกะเต่าปลายเนอะ
แฮ่ม ขนมร้านนั้นๆๆๆๆๆคิดถึงจัง
สงกรานต์จะมีเจอกันแบบรวมมิตรไหมคะ  แบบว่าคิดถึงทุกคนในซีรี่ย์:katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 26-03-2013 22:46:30
รอเก็บมุกจีบของดิว :hao3:


 :pig4: :กอด1: :L2:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 26-03-2013 23:37:38
ดิวสู้ๆนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 27-03-2013 00:12:51
กระทิงแดง ห้ามดื่มเกินวันละสองขวดนะจ๊ะ ><
อยากถามว่า ดิวจริงใจกับเกมส์ไหม
ชอบเกมส์ไหม หรือว่าจะแค่รักษาโรคกลัวผู้ชายจีบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 27-03-2013 00:25:18
ดิวสู้ ๆๆ !!!!  :mew1:
อย่างน้อยๆตอนนี้เกมส์ก็กลัวดิวน้อยลงแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 27-03-2013 00:38:22
มีพัฒนาการในทางที่ดีทั้งคู่เลยน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 27-03-2013 01:13:26
วิธีดิวน่ารักมากอะชอบบบบบบ
จีบให้ติดนะ สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 27-03-2013 02:04:58
 :mew3:

ดีใจที่ได้อ่านค่ะ หายไปนานเลย

แต่กลับมาคราวนี้น้องเกมส์ก้าวหน้าขึ้นน้า

คุยกับนายนิวได้เยอะเชียว

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 27-03-2013 02:05:24
เกมส์เอ๊ยยยย

ที่ทำอยู่น่ะ แฟนกันยังไม่ทำเลยนะแก

5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 27-03-2013 03:40:53
ดูน่ารักคิกขุดีแห๊ะ นายดิวก็ช่างสรรหาวิธีนะ 555
สู้ต่อไปนะ!!  พ่อเดือนวิศวะหนุ่มรูปหล่อ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-03-2013 05:49:47
น่ารักจัง
คุยกันยิ่งกว่าแฟนที่คบกันใหม่ๆอีก ไม่เคยเห็นเพื่อนคุยกะเพื่อนนานขนาดนี้เลย
เกมส์จะรู้ตัวมั้ยนั่นว่าถูกจีบแบบเนียนๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 27-03-2013 07:26:12
น่ารักๆๆๆๆๆ :mew3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-03-2013 08:44:57
ร้ายนะดิว o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-03-2013 11:05:43
ดิวสู้สู้เกมส์สู้สู้ :ped149:
คนเขียนสู้สู้ :mew1:

+1และเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 27-03-2013 11:06:44
ดิวเริ่มที่จะเข้าใกล้อีกนิดแล้ว อย่างเกมส์นี่ต้องเริ่มแบบช้าๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 27-03-2013 14:11:05
แผนการรักษาโรคกลัวผู้ชายของดิวได้ผลดีเกินขาด :katai2-1:  พยายามต่อไป  เผื่อวันที่เกมส์ตัดไหมอาจมี surprise ชวนดิวไปด้วยก็ได้     ดิวสู้ๆ  :z7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 27-03-2013 15:21:45
ใกล้แล้วๆ ใกล้เข้ามาทุกที เกมเริ่มกลัวดิวน้อยลงแล้วสินะ ดีจุัง อีกไม่นานคงตามคู่ปลายไปติดๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 27-03-2013 16:06:43
ยอมรับว่าดิวเก่งมากๆนะ ที่ทำให้เกมส์เปิดใจได้ถึงขนาดนี้ เอาเป็นว่าเอาใจช่วย สู้ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 >; P.81
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-03-2013 20:15:02
อร่อยจนต้องจับโต๊ะไว้เลยเหรอเกมส์ !! 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: NT.orn ที่ 28-03-2013 14:29:02
แอบอิจฉาเกมส์เหมือนกันนะ อยากกินขนมอร่อยๆฟรีๆแบบนี้บ้างจังเลย คริคริ

แผนของดิวโคตรเนียนเลยจริงๆ มีหยอดบ้างไรบ้างแต่เกมส์ก็ยังคิดไม่ถึงอยู่ดี

แต่ถ้าเกิดวันไหนเกมส์รู้ว่าดิวแกล้งมาเนียนตีซี้ละก็ โหยยย ตายแน่เลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 8] 26/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 28-03-2013 17:11:32
ดิว..  :hao3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 29-03-2013 22:48:41
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 9




ถ้าจะถามว่าตอนนี้นายซีเกมส์กำลังทำอะไร

เขาจะตอบว่ากำลังตีพระอาทิตย์


...อ่านไม่ผิดหรอกครับ



...เพราะตอนนี้เขากำลังตั้งท่า ‘ตีพระอาทิตย์’ จริง ๆ




“เฮ้ย! ไอ้ปลายเร็ว ๆ สิโว้ย กูเมื่อยยย!!”


คนยกไม้แบดมินตันกางแขนตบพระอาทิตย์
โดยติต่างว่าเป็นลูกขนไก่รีบร้องโวยวายบอกเพื่อน
ซึ่งกำลังหามุมกล้องที่จะเห็นท่าได้พอเหมาะ
ก่อนจะกดชัตเตอร์บันทึกลงในโทรศัพท์มือถือ
ท่ามกลางเสียงบ่นอย่างระอาใจจากกระเทยหนึ่งเดียวประจำกลุ่ม


“นี่ฉันชวนแกมาตีแบดออกกำลังกายเพื่อสุขภาพนะยะ ไอ้เกมส์
ไม่ใช่ถ่ายรูปเล่น แล้วดูทำท่าเข้า โอยย...คิดไปได้ยังไง”


“ก็เพราะคิดแล้วนี่แหละเจ๊
ดูดิเห็นป่ะ ภาพโคตรอาร์ตเลย
เดี๋ยวขอกดส่งรูปแป๊บหนึ่งนะ”


คนกวนตอบกลับตามนิสัย
แล้วหันไปให้ความสนใจกับโทรศัพท์ต่อเหมือนเดิม
จนบอลล่าต้องเบ้หน้าใส่อย่างนึกเบื่อก่อนตั้งข้อสงสัย


“จะส่งไปหาใครยะ เออ...ช่วงนี้แกแปลก ๆ นะไอ้เกมส์
เมื่อวานก็คุยโทรศัพท์เมาส์แตกน้ำท่วมทุ่ง
แล้วพอวันนี้ก็บ้ากล้องถ่ายรูปอะไรไม่รู้ตั้งแต่เช้า
อย่าบอกนะว่าส่งไปให้คนที่คุยด้วยคนนั้น มีซัมติงรองกันใช่มั้ย”


คนโดนทักสะดุ้ง เมื่อถูกเจ้าแม่ข่าวตาไวเริ่มปฏิบัติการจับผิดอีกรอบ
หากแต่เจ้าตัวก็ยังทำทีบอกปัด แม้ปลายเสียงจะตะกุกตะกัก


“อะไร๊...มะ...ไม่มีสักหน่อยก็แค่เพื่อนธรรมดา”


“อ่ะหรอออ เพื่อนธรรมดา เชื่อตายล่ะ
สวีตหวานเวอร์ยังกับคู่ข้าวใหม่ปลามัน”


และแน่นอนว่าพฤติกรรมลับ ๆ ล่อ ๆ คงไม่พ้นสายตาเป็นสับปะรดของเจ๊แกไปได้
ขืนไม่เปลี่ยนเรื่องมีหวังโดนซักตายยิ่งกว่านักโทษค้ายาแน่
นายซีเกมส์ผู้เห็นท่าไม่ดีจึงรีบหันเหเฉประเด็น


“โห...เลิกจับผิดเถอะเจ๊ไหนบอกว่าจะตีแบดไง เอ๊าก็ตีดิพร้อมแล้วเนี่ย”


ซึ่งก็ได้ผลเพราะคนอยากเล่นกลับตวาดแวดขึ้นมาอย่างหงุดหงิด


“พร้อมบ้าอะไรย่ะ! แหกตาดูสิฟ้าจะมืดอยู่แล้วเนี่ย
อุตส่าห์มาคลายเครียดก่อนสอบควิซสักหน่อย
โอย...เซ็ง!! พอ ๆ เลิก ๆ กลับไปนอนอ่านแนวข้อสอบดีกว่า”


บอลล่าบ่นงึมงำเตรียมเก็บไม้แบดที่ตั้งใจจะมาตีเล่นในสวน
ซึ่งมักจะเป็นที่ออกกำลังกายยอดนิยมข้างมหาลัย
โดยเฉพาะพวกหนุ่ม ๆ ที่ชอบมาวิ่งเพื่อสุขภาพเห็นแล้วยั่วน้ำลายยิ่ง
แต่ไอ้หนุ่มเหนือปัญญาอ่อนนี่กลับทำเสียฤกษ์
เพราะตีไปได้ไม่เท่าไรก็มัวไปบ้ากล้องอะไรอยู่ได้ก็ไม่รู้


กระนั้นแทนทีตัวปัญหาจะสำนักผิด
กลับรีบย้อนถามในคำที่เผลอหลุดออกมาก่อนหน้า


“แนวข้อสอบอะไรมีด้วยเหรอ”


“อุ๊ยต๊าย! ลืมบอก เมื่อตอนกลางวันฉันกับพ่อเต่าน้อยไปเจอของดีที่ห้องสมุดมาย่ะ”


คนถือไพ่เหนือกว่ารีบแสร้งทำท่ามีลับลมจนคนฟังชักอยากรู้
เพราะตอนกลางวันเขาต้องแวะไปให้ข้าวไอ้จั๊ดง่าวที่หอเลยไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ซึ่งเขาก็รีบหันไปถามปลายฟ้าหรือฉายาคือพ่อเต่าน้อยเนื่องจากนิสัยชักช้าของมัน


“เจออะไรวะ”


“ก็จำที่มึงเอาแลกเชอร์มาคืนกูได้ป่ะ
ตรงที่มึงสงสัยแล้วอาจารย์ไม่ได้อธิบายอ่ะ
กูไปเจอเนื้อหามาเหมือนที่แกว่าจะออกสอบวันจันทร์นี่เปี๊ยบ”


“เฮ้ย!! จริงอ่ะ!! เอามาให้ยืมบ้างดิ”


คนเห็นแสงสว่างที่ปลายทางรีบร้องบอกอย่างดีใจ
เพราะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเขาง่วง ๆ เลยไม่ค่อยได้ฟังที่อาจารย์สอน
แล้วพออ่านชีสซีลอกซ์จากปลายก็มีบางจุดที่ไม่เข้าใจ
แต่อาจารย์กลับกั๊กไว้ไม่ยอมสอน ดันบอกว่าให้ไปหาเอาเอง
เขาก็อุตส่าห์ตามหาในเน็ตแต่ไม่เจอคำอธิบายชัด ๆ
จนมาได้ยินว่าเพื่อนหาเจอเนี่ยแหละ โป๊ะเช๊ะ! ที่นี่ก็ไม่ต้องห่วงคะแนนสอบแล้ว
...เห็นมั้ย คนอย่างนายซีเกมส์เรียนชิล ๆ อย่าไปเครียดให้มากเลยครับ


เขานึกกระหยิ่มยิ้มหย่องในใจ
ทว่าความหวังที่มีกลับดับวูบเมื่อได้ยินประโยคที่ตามมา


“เสียใจย่ะ! เพราะเนื้อหามันอยู่ในวิทยานิพนธ์
เขาไม่ให้ยืมออกมาข้างนอก อยากได้ต้องไปจดเอาเอง
อ้อ...แล้วก็ไม่ต้องไปยืมพ่อเต่าน้อยนะ ฉันขอสั่งห้าม!
ตอนเรียนแกก็ไม่สนใจเรียน ตอนสอบก็หัดขวนขวายเอาเองบ้างแล้วกัน
แล้วถ้าขืนแกตุกติก ฉันจะไปฟ้องคุณหญิงแม่!”


คำสั่งประกาศิตเด็ดขาดจากเจ๊บอลล่า
โดยเฉพาะคำขู่ข้างหลังซึ่งอ้างชื่อคุณนายสายสมรทำเอาเกมส์ชาวาบ

ต้องโทษแม่ของเขาเลยที่ดันอยากได้เบอร์ของเพื่อนสนิทเขาทุกคน
เผื่อเวลาฉุกเฉินจะได้โทรเช็คตาม เขาก็เลยต้องจำใจให้
แถมว่าง ๆ คุณนายยังโทรมาสอบถามข่าวคราวเป็นระยะ
และไม่ต้องถามนะว่าคุณนายโทรมาหาใครบ่อยสุด
ก็หน่วยข่าวประจำกลุ่มนั่นแหละ
คุยกันสนิทสนมจนนับถือเป็นแม่คนที่สองได้อยู่แล้ว
ซึ่งเขาจะไม่ว่าอะไรเลยสักนิดถ้าแม่จะไปสนิทกับใคร
ยกเว้นก็เพียงแต่บอลล่ามันชอบแกล้งฟ้องเวลามันเถียงแพ้ทางเขาเท่านั้น
แล้วเขาก็จะโดนเอ็ดจนหูชาซวยตามมาทุกที


นายซีเกมส์จึงทำหน้าเจื่อนเถียงไม่ออก ได้แต่คอตกยอมรับชะตากรรม
ทว่ายังดีที่ไอ้ปลายมันสงสารกระซิบบอกว่าหนังสือชื่ออะไรอยู่ตรงไหน
พรุ่งนี้วันเสาร์ไปตัดไหมเสร็จ แล้วเขาค่อยแวะเอาก็ได้วะ


พลพรรคนักตีแบตจึงพากันไปกินข้าวเย็นก่อนแยกย้ายกันกลับหอ
เพื่อเตรียมท่องตำรา ท่องหนังสือตามประสาเด็กเภสัชที่ดี
เขาอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้วก็มานั่งดูหนังสือไปพลาง
เล่นกับไอ้จั๊ดง่าวไปพลางจนเกือบสี่ทุ่มตาก็ชักจะงัวเงีย
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะปิดไฟเตรียมนอนเสียงสั่นเตือนว่ามีข้อความเข้าก็ดังขึ้น


เขากดเปิดโปรแกรมไลน์
ก่อนจะเห็นภาพจากใครบางคนซึ่งชี้นิ้วไปโทรศัพท์
คล้ายถ่ายตัวเองสะท้อนในกระจก โดยมีข้อความสั้น ๆ



‘Could I Call you now?’



และพอตอบรับไปว่า ‘ได้’
เสียงโทรศัพท์ร้องเตือนว่ามีสายเข้าก็ตามมาทันที
เกมส์กดรับก่อนได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้น


“สวัสดีครับเกมส์ วันนี้ไปตีแบดมาเหรอครับ”


...ใช่แล้ว ไอ้คนที่เขาส่งรูปไปหาก็คือ ‘ดิว’ เนี่ยแหละ
พอเมื่อวานตกลงว่าจะลองส่งรูปที่เห็นหน้าของแต่ละคน
หลังจากนั้นทั้งเช้า กลางวัน เย็น เขาก็จะได้ยินเสียงเตือนข้อความเข้า
ซึ่งเขาก็จะส่งรูปตัวเองที่ส่วนใหญ่จะทำท่าฮา ๆ ตอบกลับไปเหมือนกัน
แต่ภาพเหล่านั้นมันจะมีเรื่องราวในตัวเองว่าเขากำลังทำอะไรที่ไหนไปเจออะไรมาบ้าง
อย่างวันนี้นับได้เจ็ดแปดรูปจนพัฒนามาส่งต่อกันในไลน์แทนเพื่อเซฟตังค์
กระนั้นแม้ภาพหนึ่งภาพจะอธิบายแทนคำได้ล้านคำ แต่มันก็ยังสู้คุยกันตรง ๆ ไม่ได้
ซึ่งเขาก็เผลอเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ให้ดิวฟังจนยาวเหมือนเคย กระทั่งดิวเอ่ยคำทัก


((จริงสิ พรุ่งนี้เกมส์นัดตัดไหมใช่มั้ยครับ))


“อืม แล้วก็ต้องไปให้หมอตรวจฟันคุดซี่ที่เหลือด้วย
ไม่รู้จะขึ้นมาทำไมเยอะแยะ ผ่าแต่ละทีเจ็บจะตายชัก!


((ยิ่งฟังเกมส์พูดแบบนี้แล้ว
ผมยิ่งอยากจะไปเป็นเพื่อนเกมส์จริง ๆ นะครับ
แต่ผมรู้ว่าคงทำไม่ได้))


ประโยคที่ได้ยินคล้ายปะปนด้วยความรู้สึกเหมือนกึ่งน้อยใจ
ซึ่งสะดุดหูคนฟังจนต้องนิ่งเงียบ


...มันก็จริงอยู่หรอกที่เขาเป็นโรคกลัวผู้ชายจีบ
แต่พอมาคุยด้วยกันกับดิวแล้ว ตลอดห้าวันที่ผ่านมา
เขาเชื่อว่าดิวไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
ซึ่งเขารับรู้ได้ผ่านจากนิสัยและเรื่องราวที่เขาสัมผัส
ดิวเป็นคนที่ชอบเทคแคร์คนอื่น
คอยใส่ใจและสังเกตในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
อย่างตอนที่เขาไม่สบายแล้วดิวเอาขนมที่เขาชอบมาฝากนั่นก็เหมือนกัน
กับครั้งนี้ดิวเองก็คงอยากจะไปหาหมอฟันเป็นเพื่อนเขาจริง ๆ
และเขาไม่ปฏิเสธหรอกว่าการหนีบเพื่อนไปด้วยมันอุ่นใจกว่าไปตัวคนเดียวเยอะ


ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะกล้าพอเผชิญหน้ากับความกลัวได้รึเปล่า
แต่การที่ต้องมาปฏิเสธความหวังดีของคนอื่นแบบนี้
มันทำให้เขาอดที่จะรู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ ไม่ได้
เขาจึงเผลอหลุดคำพูดออกไปสั้น ๆ


“ขอโทษนะ”


และเป็นไปตามคาดเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยถามอย่างงง ๆ


((ขอโทษทำไมครับ))


“ก็เรายังไม่พร้อมเจอหน้าดิว”


คล้ายปลายสายจะเงียบไปเล็กน้อย
ไม่มั่นใจว่าจะอึ้งหรือคิดอะไร
หากท้ายที่สุดก็มีเสียงตอบกลับเป็นถ้อยคำยาว


((ไม่เห็นต้องขอโทษเลยนี่ครับ เกมส์ไม่ได้ผิดอะไร
...ผมเข้าใจ...เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาค่อย ๆ ปรับตัว
แล้วผมจะรอจนกว่าวันที่เกมส์พร้อมมาเจอหน้าผมเองนะครับ))


ประโยคที่เหมือนจะฟังดูหวาน 
แต่เขาไม่ได้นึกหวั่นเพราะความกลัว
ตรงข้ามกลับรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาด


...อ้าว...เอ๊ะ ทำไมกันวะ?


ยังไม่ทันที่คนสงสัยได้คิดอะไรเพิ่มเติม
เสียงจากคู่สนทนากลับดังขึ้นขัด


((งั้นผมว่าเกมส์ไปนอนเถอะครับ
พักผ่อนเยอะ ๆ พรุ่งนี้จะได้มีแรง เดี๋ยวจะไม่สบายอีก))


คนถูกเตือนเหลือบมองเวลาจากนาฬิกาที่เข็มสั้นชี้ไปใกล้เลขสิบสอง


...เฮ้ย! นี่มันจะเที่ยงคืนแล้วเหรอ
เหมือนเขาเพิ่งคุยกับดิวได้แป๊บเดียวเอง
ทั้ง ๆ ที่ความจริงมันผ่านไปตั้งสองชั่วโมง


“อืมก็ได้ งั้นแค่นี้นะ”


เกมส์ฟังอีกคนหนึ่งตอบรับก่อนวางสายลง


...บทสนทนาจบไปแล้ว
แต่ความคิดของเขาไม่จบลงตาม
เพราะยังคงวนเวียนถึงความสงสัยที่เกิดขึ้นก่อนหน้า


...ทำไมเขาถึงต้องขอโทษเหมือนห่วงว่าดิวจะรู้สึกยังไง
ไหนจะไอ้ความรู้สึกประหลาดที่เกิดขึ้นอีก
หลังจากดิวบอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องขอโทษเพราะไม่ใช่ความผิดเขา


...มันคล้ายกับความรู้สึกโล่งอก และสบายใจไปพร้อมกัน
อาจเพราะส่วนหนึ่งดิวไม่เคยมองว่าโรคกลัวผู้ชายจีบของเขามันพิลึก
แต่มาคุยด้วยกันดี ๆ แล้วยังบอกอีกว่าอยากเป็น ‘เพื่อน’ กันกับเขา


...หรือจะเพราะเหตุผลนี่รึเปล่า



...เหตุผลที่เขาเริ่มยอมรับว่าดิวคือเพื่อนที่สนิทอีกคนหนึ่งของเขาจริง ๆ




ตี๊ด!  ตี๊ด!


เสียงเรียกข้อความเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นเตือน
เจ้าของจึงเอื้อมมือไปหยิบอุปกรณ์สื่อสารบนหัวเตียงแล้วกดเปิดดู
ก่อนพบรูปของดิวกำลังหลับตาคล้ายเตรียมนอนพร้อมกับประโยคอธิบาย



‘ฝันดีครับ แล้วผมจะเข้าไปเจอหน้าเกมส์ในฝันแทนนะครับ’



คนอ่านหัวเราะเบา ๆ ให้กับคำแกล้งหยอกเสี่ยว ๆ

แต่คิดอีกที...ถ้ายังเจอหน้ากันตรง ๆ ในชีวิตจริงไม่ได้
ไม่แน่ในฝันอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะกว่า
....ระหว่างมิตรภาพของเขากับดิว


เกมส์จึงเปลี่ยนโปรแกรมเป็นโหมดกล้อง
แล้วหันโทรศัพท์มาถ่ายรูปตัวเองตอนกำลังนอนบ้าง
โดยไม่ลืมที่จะพิมพ์ตัวอักษรส่งตอบไปเป็นข้อความสุดท้ายในวันนี้



‘งั้นเราจะรอนะ Good Night’



...




..



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 29-03-2013 22:51:30
.


เช้าวันเสาร์ ในวันที่อากาศดี ๆ
หนุ่มโสดหน้าตาดีอย่างนายซีเกมส์ควรจะทำอะไร

ถามมาได้...


...ก็ซักผ้าน่ะสิครับ!


แดดแรงขนาดนี้ ผ้าที่ถูกกองหมักหมมไว้เป็นอาทิตย์จึงได้ฤกษ์หยิบมาซัก
ก่อนเขาจะไม่มีเสื้อผ้าสะอาดเหลือ แล้วต้องหันกลับหน้าเอหน้าบีใส่แทน


โชคดีที่วันนี้ตื่นเช้า เขาจึงจัดการเอาผ้าไปปั่นตั้งแต่แปดโมง
แล้วก็ลงไปหาข้าวร้านป้าดากิน
พร้อม ๆ กับซื้ออะไรติดไม้ติดมือไปฝากไอ้จั๊ดง่าวด้วย
พอให้หาอาหารมันเสร็จ ลงมาผ้าก็เรียบร้อยพอดี

เขาขนผ้าขึ้นห้อง ยกตะกร้าไปอยู่ตรงระเบียง
หากแต่หยิบไม้แขวนมาตากเสื้อไปได้เพียงสี่ห้าตัว
แรงสั่นเบา ๆ จากข้างในกระเป๋ากางเกงก็ทำให้ชะงัก
ต้องล้วงอุปกรณ์สื่อสารขึ้นมากดเช็ค
และก็ได้เห็นใบหน้าหล่อ ๆ ที่งัวเงียตาบวม ๆ เหมือนคนเพิ่งตื่น



‘อรุณสวัสดิ์ครับ ผมตื่นสาย มัวแต่รอเกมส์เมื่อคืนแต่ไม่เจอเลย’



คนมองหัวเราะขำกับคนหมดมาดเท่ห์แบบไม่รักษาภาพพจน์

...ดิวนี่บ้ากว่าที่คิดอีกวะ


เขาจึงยกกล้องขึ้นถ่ายรูปตัวเองกับราวตากผ้าส่งไปบ้างพร้อมข้อความกวน ๆ



‘สงสัยนัดกันคนละที่เลยไม่เจอมั้ง 555 วันนี้แดดดี เรากำลังตากผ้า’



หน้าจอระบุผลดำเนินการส่งเรียบร้อย
ทว่ายังไม่ทันเก็บลงกระเป๋ากางเกง
โทรศัพท์กลับแผดเสียงเรียกเข้าจนดัง


...ไม่ใช่คนที่เพิ่งส่งรูปไปหาหรอก
แต่เป็นคนที่แค่เรียกหานายซีเกมส์ก็กลัวจนหัวหด


“สวัสดีเจ้า เกมส์กำลังคิดเติ๊งแม่อยู่พอดีเลยเจ้า”


คนเป็นลูกรีบพูดเสียงหวานทักปลายสายไปทันที
และดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันจึงมาพร้อมคำบ่นเสียงดุ


((บ่ต้องมาอ้อน คิดเติ๊งให้มันจริงเต๊อะ ฮูกคนนี้
ปากบอกว่าจะอี้ แต่บ่ค่อยโทรหาแม่เลย
แล้วเป๋นจะใดพ่อง ช่วงนี้บ่มีอะหยังผิดปกติไจ้ก้อ))


“บ่มีนี่ แม่ถามทำไมเจ้า?”


((ก็ตะวานแม่ไปดูหมอมา
หมอเปิ้ลตั๊กอีกแล้วว่าดวงเกมส์บ่ค่อยดี
ฮื้อระวังจะสูญเสียคนเป็นตี๊ฮักไป๋))


...เอาอีกแล้ว เทพธิดาพยากรณ์เริ่มทำงาน


ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าแม่ชอบดูดวงเผื่อแผ่มาให้เขา
แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยเชื่อมันเท่าไร
แม้พักหลัง ๆ จะเริ่มแม่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตามเถอะ
แต่เขาไม่อยากให้แม่งมงายในสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
คิดมากไปพาลจะกังวลเอาเปล่า ๆ


คนพยายามคลี่คลายสถานการณ์
จึงตอบกลับทำน้ำเสียงให้ร่าเริงเป็นปกติ


“โอยย...แม่บ่ต้องห่วงเกมส์หรอกเจ้า
ถ้าจะห่วงก็เป๋นห่วงตัวแม่เต๊อะ
เพราะคนเป๋นตี๊ฮักของเกมส์ก็มีแต่ครอบครัวเกมส์เต๊านั้น”


((ก็เกมส์อยู่ไกลบ้านเฮา แม่ก็ต้องเป๋นห่วง
แล้ววันนี้นัดหมอทำฟันไว้บ่ไจ้ก๋า เปิ้ลนัดกี่โมง))

 
“สิบโมงเจ้า”


((แต่นี่มันเก้าโมงสี่สิบฮื้อแล้วนะเกมส์))


ดวงตารีบหันมองนาฬิกาทันควัน
เข็มยาวชี้เลขแปด เข็มสั้นใกล้เลขสิบ


...เฮ้ย เวรแล้ว!!



“งั้นเต้านี้ก่อนเน้อแม่ เดี๋ยวเกมส์ค่อยโทรหาใหม่”


คนเพิ่งรู้ตัวรีบบอก ได้ยินคำบ่นตามมานิดหน่อยก่อนจะวางสาย
แล้วเร่งมือตากผ้าด้วยความไวแสง คว้ากระเป๋าตังค์ ล็อกห้อง
วิ่งตับแล่บ กระโดดขึ้นมอเตอร์ไซต์บึ่งไปคลินิกเต็มสปีด
และก็โชคดีที่ทันเวลาเอาฉิวเฉียด
แต่ก็ยังหอบแฮ่ก ๆ เข้าห้องหมอไปเช็คตรวจฟันเพื่อดึงไหมออก


แม้เกมส์จะเตรียมใจมาแล้วมันก็ยังอดตื้นเต้นไม่ได้
กระนั้นกรรมวิธีตัดไหมก็ไม่เจ็บเท่าที่คิด
แค่เสียว ๆ แปล๊บ ๆ เบากว่าตอนผ่าฟันเยอะ
หลังจากนั้นหมอจึงจับเขาเอ็กซเรย์ตรวจดูฟันคุดที่ยังเหลืออยู่อีกสองซี่
ซึ่งผลที่ได้ก็ยังไม่น่าเป็นห่วง
พอมีเวลาให้เขาพิจารณาว่าควรจะผ่าหรือเก็บไว้ดูเล่นดี
และแน่นอนว่าคนอย่างนายซีเกมส์ต้องเลือกข้อหลัง
ขอเตรียมใจให้พร้อมสู้ศึกใหม่เสียก่อน
เพราะศึกรบครั้งที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเขาพ่ายแพ้ยับ
บาดเจ็บหนัก แทบกระอักเลือด เลยต้องพักฟื้นอีกสักระยะ


คุณหมอจึงนัดให้เขามาตรวจเช็คฟันในอีกเดือนข้างหน้า
เผื่อว่ามีอะไรผิดปกติ จะได้จัดการก่อนมันจะปวดขึ้นมาอีก แล้วค่อยปล่อยเขากลับบ้าน

...เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการถอดฟันคุดมหาโหดที่ต้องทนมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม!



นายซีเกมส์แทบอยากจะโห่ร้องไชโย ซาบซึ้งน้ำตาจะไหล
จนต้องขอถ่ายรูปยิ้มอวดฟันกว้างกับคลินิกเป็นที่ระลึกสักหน่อย
โดยไม่ลืมแชร์รูปไปให้ใครอีกคนเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้ว


หลังจากนี้ไปไหนต่อ...เออ...ใช่เกือบลืม
ต้องไปห้องสมุดหาแนวข้อสอบที่บอลล่าบอก


เขาจึงขี่มอเตอร์ไซต์กลับไปยังมหาลัย
วันเสาร์แบบนี้มีนักศึกษามาห้องสมุดบ้างประปราย
ส่วนหนึ่งเพราะแอร์ที่นี่เปิดเย็นฉ่ำไว้คลายร้อน
ไอ้ตัวเขาก็อยากนั่งชิล ๆ เหล่สาวน่ารัก ๆ ที่จับกลุ่มมาอ่านหนังสือเหมือนกัน
แต่ตอนนี้คงต้องขอตัวไปปฏิบัติภารกิจก่อน


ชั้นสามเป็นชั้นของพวกหมวดหนังสือวิทยาศาสตร์ เคมี ฟิสิกส์
และมีชั้นเก็บพวกวิทยานิพนธ์ไว้แยกโดยเฉพาะ
ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่บอลล่าบอกว่าทางห้องสมุดไม่อนุญาตให้ยืมออกไป


เขาก้ม ๆ เงย ๆ หาชื่อสารนิพนธ์จากคำใบ้ของเพื่อนแล้วก็พบได้ไม่ยากเย็น
แต่คิดเหรอครับว่าเขาจะเอามาเปิดกางนั่งลอก

...ฝันเหอะครับ คนอย่างไอ้เกมส์ฉลาดกว่านั้น
ในเมื่อมีเทคโนโลยีอยู่ในมือแล้วก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์


เขาจึงหยิบมือถือมาออกมากดปิดเสียง
แล้วจัดการถ่ายรูปเซฟซะเลย ...เห็นมั้ยเร็วกว่าเยอะ
ค่อย ๆ ถ่ายเอาให้เห็นชัด ๆ ทีละหน้า
ตรงใจความสรุปสำคัญที่มีอยู่สองสามจุดหลัก ๆ
พอเรียบร้อยแล้วก็เก็บเข้าชั้นตามเดิม
ส่วนเนื้อหาค่อยไปอ่านที่หอให้ละเอียดอีกที
โอ้ว...อัจฉริยะจริง ๆ เลยกู
บอกแล้วเรียนเภสัชใครว่ายาก ไม่ต้องเครียดมาก
เอาเวลาไปอ่านการ์ตูนสบาย ๆ อย่างเขาก็ทำได้
เดี๋ยวขากลับแวะเช่าการ์ตูนอีกสักสองสามเล่มดีกว่า



คนลันล้าอารมณ์ดีเก็บมือถือลงกระเป๋าเตรียมเดินออก
หากแต่ยังไม่ทันก้าวแรงสั่นเตือนข้อความเข้าก็ดังขัด
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร ดิวคงส่งรูปมาให้เขาอีกแล้ว



‘ทำฟันเสร็จแล้วใช่มั้ยครับ เก่งมากเลยครับ
ตอนนี้ผมกำลังทำงาน แต่งานเยอะมากๆ
ขอกำลังใจหน่อยสิครับเกมส์’



ข้อความมาอ้อน ๆ ท้ายประโยคถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงขนลุกซู่
แต่ตอนนี้ชักจะชินเลยเห็นเป็นเรื่องขำมากกว่า กำลังจะกดตอบกลับ
ทว่าสายตาดันเหลือบไปเห็นฉากที่อยู่ด้านหลังของคนถ่าย


อ้าว...มันห้องสมุดนี้หว่า

ที่สำคัญไอ้ชั้นวางนี่มันคุ้น ๆ นะ


เหมือนกับ...



“อยู่ห้องสมุดมึงยังจะเก๊กถ่ายรูปได้อีกเหรอวะ
กูรู้แล้วว่ามึงหล่อ ไม่ต้องถ่ายบ่อยมากหรอก”


เสียงดังขึ้นคล้ายคนบ่นเดินเข้ามาใกล้ชั้น
ทำให้เกมส์ที่ยืนอยู่ชั้นด้านหลังถัดไปต้องนิ่งชะงัก
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของใครบางคน


“กูไม่ได้เก็บไว้ดูเองนี่”


ดิวหันไปตอบไอ้บีมเพื่อนเรียนวิศวะด้วยกันที่วันนี้ลากมาทำรายงานกลุ่ม
เลยต้องมาค้นหาสารนิพนธ์ดูข้อมูลเก่า ๆ ที่รุ่นพี่ทำเอาไว้
แต่ยังไงก็อยากได้กำลังใจ เลยส่งรูปไปอ้อนเกมส์
ซึ่งเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ผลรึเปล่า แต่ก็ยังอยากลอง


“อ้าว...ส่งให้สาวหรอกเหรอวะ มุกจีบหญิงมึงนี่ร้ายนะ
คราวนี้เป็นใครล่ะเมื่ออาทิตย์ที่แล้วกูยังเห็นมึงควงแพรอยู่เลย
หรือจะเป็นน้องอักษรคนนั้นชื่ออะไรวะ...มะเหมี่ยวใช่มั้ย”


คำถามที่ได้ยินทำให้มือที่ค้นหนังสือหยุดลง


...มันเป็นความจริงที่เขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าบ่อย ๆ
และผู้หญิงหลายคนก็รู้ดีว่าเป็นได้แค่ตัวเลือกของเขา
แต่ก็ยังมีใครหลายคนวิ่งเข้าหา ซึ่งเขาก็มีหน้าที่ตอบสนอง
ไม่มีอะไรเสียหาย หากได้ความพึ่งพอใจจากทั้งสองฝ่าย
พอเบื่อกันแล้ว ต่างคนก็ต่างไป และเขาเองก็เป็นคนเบื่อง่ายซะด้วย


ยกเว้นเพียงคนเดียวที่ยังไม่ทำให้เขาเบื่อได้เลย
ทั้งยังรู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้คุยด้วย
ซึ่งไม่เคยมีใครทำให้เขาคุยได้นานเป็นชั่วโมง ๆ ขนาดนี้
และไม่เคยมีใครทำให้เขาสรรหาวิธีที่จะพยายามใกล้ชิดกัน


...เกมส์เป็นคนเดียวคนนั้นที่สามารถทำได้



“เปล่า คนนี้พิเศษไม่เหมือนใครหรอก”


ดิวตอบกลับไปตามความจริง
หากทว่ามันกลับเพิ่มความหมั้นไส้ให้กับคนฟังจนต้องบ่นประชด


“เออใช่ซี๊วะ มึงหล่อเลือกได้นี่ คุยเล่น ๆ ไม่ทันไรแม่งก็มีคนมาตกหลุมมึงแล้ว
ว่าง ๆ สอนเคล็ดลับให้กูบ้างดิ ไม่งั้นมึงก็เอาคนที่มึงทิ้งมาให้กูบ้างก็ได้
เห็นมึงควงใครไม่เคยเกินเดือนสักครั้ง แล้วคนล่าสุดนี่จีบนานยังวะ”


“อาทิตย์หนึ่งแล้ว”


“เหรอ งั้นอีกสามอาทิตย์ก็ใกล้เขี่ยทิ้งแล้วดิ
น่าสงสารวะที่ดันมาถูกใจคาสโนว่าอย่างมึงเข้า”


ไม่แน่ใจว่าประโยคจากเพื่อนนั้นชมหรือด่า
แต่ดิวเชื่อมั่นว่ากับเกมส์แล้วเขาคงไม่กล้าตัดใจทิ้ง
เกมส์นิสัยดี ยิ่งรู้จัก ยิ่งมีเสน่ห์
ถึงจะนับเป็นเพื่อนก็น่าคบหา
หรือจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านั้น
เขาก็ไม่คิดจะรังเกียจอะไร
ถ้าให้เขาปล่อยมือจากเกมส์ตอนนี้คงเสียดาย
ไม่แน่อาจจะเสียดายมากกว่าทุกคนที่เคยผ่านมา


...เพราะเขารู้สึกว่าเกมส์เป็น ‘คนพิเศษ’ คนสำคัญคนหนึ่งของเขา



ความคิดในหัวถูกกลั่นกรองออกมาเป็นคำพูด
ระหว่างที่เขากำลังเดินตามหลังคนซึ่งเดินเลี้ยวไปชั้นหนังสืออีกชั้น


“กูไม่ทิ้งหรอก เพราะคนนี้...”


“อ้าว...เกมส์นี่นา มาทำไร หาหนังสือเหรอ”


คำทักจากปากของเพื่อนส่งผลให้ประโยคที่กำลังพูดหยุดลงทันควัน
ดิวรีบหันมองเจ้าของชื่อซึ่งหยุดยืนประจันหน้าเขาจัง ๆ


...ทะ...ทำไมเกมส์มาอยู่ตรงนี้
แล้วที่สำคัญประโยคก่อนหน้านี้ที่เขาพูดเกมส์จะได้ยินรึเปล่า


หากแต่อีกฝ่ายกลับยังคงทำตัวเป็นปกติ
เอ่ยตอบเพื่อนเขาที่รู้จักกันอยู่แล้วตอนไปเข้าค่ายวิศวะอาสา


“อืมใช่ แต่หาเสร็จแล้วกำลังจะกลับ”


คำพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดาคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยิ่งทำให้ดิวสับสนไม่แน่ใจ
ทว่าเขาก็ยังคงใจกล้าลองส่งยิ้มเอ่ยทักไปเช่นเดียวกัน


“เกมส์ บังเอิญจังเลยนะครับ”


คู่สนทนาหันมาสบตาเขาก่อนคำตอบจะถูกส่งมาพร้อมรอยยิ้ม


“นั้นดิ บังเอิญจังเลยเนอะ งั้นเรากลับก่อนนะ มีธุระ”


จบคำ อีกฝ่ายก็เดินแทรกตัวผ่านหน้าเขาไปในระยะใกล้เพื่อเดินออกไปนอกห้อง



...มันใกล้จนแปลก


ปกติเกมส์ไม่เคยเข้ามาจนระยะห่างเพียงแค่เอื้อมมือก็ถึงแบบนี้
เพราะทุกครั้งแค่สามเมตรเกมส์ก็กลัวเขาจนเข่าอ่อน
แต่นี่กลับมายิ้มให้เขา พูดด้วยกันดี ๆ แล้วเดินผ่านกันไปซึ้งๆ หน้า


หรือว่า...




“เฮ้ย! จะไปไหนวะดิว”


บีมส่งเสียงเรียกเพื่อนที่อยู่ ๆ ก็หันหลังวิ่งออกไปทันที
แต่ตอนนี้เขาไม่สนแล้ว  รีบลงบันไดก้าวออกจากห้องสมุด
มองหาร่างที่เพิ่งจะหนีออกห่าง ก่อนจะพบว่าอยู่ตรงลานหน้าห้องสมุดไม่ไกล
จึงทำให้เขารีบวิ่งเข้าไปหาพลางตะโกนเอ่ยรั้ง


“เดี๋ยวสิครับเกมส์! เกมส์รอผมก่อน!”


เจ้าของชื่อไม่หยุดตามเสียงเรียกซ้ำเร่งเดินให้เร็วขึ้น
จนดิวต้องก้าวขาตามแล้วใช้ความสูงของตัวเองให้เป็นประโยชน์
กระทั่งคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้ทัน แล้วเอ่ยถามสั้น ๆ


“ได้ยินใช่มั้ยครับ”


ถามออกไปแม้รู้ว่าเป็นคำถามที่โง่สิ้นดี
เพราะคนที่ยังหันหลังใช้ความนิ่งเป็นคำตอบ
และนั่นยิ่งสร้างความหวั่นใจให้ดิวจนต้องรีบอธิบาย


“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับเกมส์”


“สนุกมากมั้ย”


คำย้อนกลับสั้น ๆ ส่งผลให้คนฟังชาไปทั้งร่าง
รู้สึกถึงแรงดึงมือให้หลุดจากการเกาะกุม
และเมื่อใบหน้าของคนพูดหันมา
ดิวจึงได้เห็นดวงตาคู่นั้นของเกมส์ที่สบมองนิ่ง



...มันไม่มีความกลัว


...มันไม่มีความเกลียด


...มันไม่มีความโกรธ



อย่างเดียวที่สะท้อนให้เห็นชัด คือ ความเจ็บปวด
เช่นเดียวกับคำพูดประโยคต่อมา



“แกล้งเราเล่นมันสนุกมากมั้ย”



ดิวนิ่งอึ้งฟังถ้อยคำเสมือนมีดกรีดลงกลางใจ
กระนั้นเขาก็ยังคงพยายามหาข้อแก้ไขความเข้าใจผิด


“เปล่านะครับ ผมไม่ได้แกล้งเกมส์เล่น
ผมแค่อยากรักษาโรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์ให้หาย”


“ก็เลยมาทำดีด้วย มาโทรหา มาส่งรูปให้
แล้วบอกว่าเราเป็น 'เพื่อน' กัน”



คำถามจี้ตรงจุดอีกครั้ง แต่เป็นครั้งที่รุนแรงยิ่งกว่า
เพราะต่อให้หาข้อแก้ตัวมากแค่ไหนก็คงไม่มีประโยชน์อะไร
ในเมื่อท้ายที่สุดแล้ว...


...มันคือความจริง




“ใช่ครับ”



คำยอมรับสั้น ๆ แต่มีอิทธิพลมากเหลือเกินในความรู้สึกของคนฟัง
เกมส์รับรู้ได้ว่าร่างกายมันกำลังสั่น หัวใจมันว่างโหวง 
ทุกส่วนประสาทแทบหมดแรงยิ่งกว่าความกลัวใด ๆ ที่เคยเจอมา


...เพราะเหนือกว่าความกลัว มันคือการรับรู้ถึงความเจ็บปวดจากการทรยศหักหลัง



...ที่คอยมาคุยด้วยกัน

...ที่ทำเหมือนห่วงกัน

...ที่มาบอกว่าเป็น ‘เพื่อน’ กัน



...ทุกอย่างมันก็แค่คำโกหกใช่มั้ย




ดิวมองคนที่ก้มหน้านิ่ง
รู้ทั้งรู้ว่ามันจะต้องทำให้เกมส์เจ็บปวด
แต่ถ้ามันถึงที่สุดแล้วก็คงมีแต่ต้องอธิบายเรื่องทั้งหมด
รวมทั้งความรู้สึกลึก ๆ ข้างในใจของตัวเขาเอง


“แต่ว่าผม...”


“อ้าว...ดิวนี่ค่ะ  กำลังอยากเจออยู่พอดีเลย
คืนนี้ดิวว่างมั้ยคะ แพรมีเลี้ยงวันเกิดอยากชวนดิวไปด้วย”


เสียงหวานพร้อมร่างของสาวน้อยน่ารักเดินเข้ามาทัก
ทำให้ประโยคสนทนาหยุดลงจนเขาต้องรีบหันไปบอกขอตัว


“เออ...แพรคือว่าผมกำลังคุยธุระกับเกมส์อยู่น่ะครับ”


หญิงสาวรีบหันมองก่อนจะอุทานเสียงตกใจ


“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ แพรไม่เห็นว่าดิวคุยกับเพื่อนอยู่”


ทว่าคนฟังกลับปฏิเสธเสียงเรียบ


“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ใช่เพื่อนเขาหรอก เชิญตามสบายเลยครับ”


จบคำ เจ้าตัวก็หันหลังเดินหนีไปทันที
ไม่แม้แต่จะมองร่างสูงซึ่งพยายามเอ่ยเรียก


“เดี๋ยวครับเกมส์!”


“ดิวค่ะ แล้วตกลงคืนนี้ว่ายังไงล่ะคะ ไปด้วยกันนะคะ”


เสียงหวานรั้งไว้พร้อมกับรอยยิ้มอ้อน
จะให้เขาทำตัวไม่สุภาพแล้วทิ้งแพรไปก็ไม่ได้
ดิวจึงต้องมาเคลียร์ปฏิเสธสาวที่เคยควง
ซึ่งกว่าจะหลุดมาได้เกมส์ก็หายไปแล้ว


ร่างสูงหยิบไอโฟนมากดโทรออกในเบอร์อันดับต้น ๆ
หากแต่มีเพียงบริการฝากหมายเลขโทรกลับ
และแม้จะโทรเป็นสิบเป็นร้อยสาย
เสียงที่เคยคุยก็ไม่มีวันจะได้ยินอีกครั้ง


“โธ่เว้ย!!”


ดิวสบถใส่โทรศัพท์อย่างหงุดหงิด
นึกก่นด่าตัวเองในใจด้วยความโมโห


ทำไมเรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้วะ!
แล้วจะโทษใครก็ไม่ได้
เพราะเขาเริ่มมันด้วยตัวเองทั้งนั้น


...แผนช่วยทำให้เกมส์หายจากโรคกลัวผู้ชายจีบพังไม่เป็นท่า


และคาสโนว่าอย่างดิวยังรับรู้ในนาทีนั้นว่า
แทนที่จะขยับเข้าไปใกล้ตัวเกมส์


...แต่ตอนนี้เกมส์กลับห่างจากเขาไปไกลเกินกว่าจะกลับมาแล้ว




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 29-03-2013 23:10:31
เอาความจริงใจเข้าสู้เท่านั้นแหละค่ะดิว
ตอนนี้ไ่ม่มีอะไรจะเสียแล้ว
จีบและตื๊อสุดลิ่มทิ่มประตูเลย! :katai4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 29-03-2013 23:11:22
ต้องมีสักวันนนนนนนนนน
ที่เกมส์จะรับดิวเข้าไปอยู่ในหัวใจ
สู้ต่อไปพ่อรุปหล่อ !!!!  :katai4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-03-2013 23:12:08
โอว  ใครจะรู้สึกว่าตนเองเสียสิ่งที่รักกันแน่ :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-03-2013 23:12:58
ดิวงานเข้านะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 29-03-2013 23:24:19
ไกลแค่ไหนคือใกล้ใชไหมดิว :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 30-03-2013 00:11:36
 :hao5: เฮ้อ สงสารเกมส์จังเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 30-03-2013 00:13:05
กำลังไปด้วยดีอยู่แล้วเชียว ไม่น่าเกิดเรื่องเลย ดิวเอ้ย นังแพรนิก็มาถามตอนอื่นไม่ได้หรอ เสียเรื่องหมด  :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 30-03-2013 00:31:42
ดิวก็พูดความจริงไป ไม่มีอะไรเสียหายนิ
หรือว่าคงจะไม่มีโอกาสได้พูดแล้ว เพราะเกมส์งอน
โกรธนานๆเลยน่ะ อยากเห็นดิวตามง้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 30-03-2013 00:37:49
ดิวพลาดครั้งยิ่งใหญ่เลยนะนี่
กว่าจะตีสนิทเกมส์ได้ขนาดนี้
แต่เกมส์ก็คงจะเสียใจไม่น้อยที่โดนคนที่ไว้ใจหลอกกันได้ลงคอ :mew4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 30-03-2013 02:25:16
คุณดิวค่ะ คุณเป็นคนยังไงกันแน่




ใครบอกว่าดิวจริงใจ เรายังไม่เชื่อแล้วเกมส์จะเชื่อหรอ




ถ้าเมียเก่ามาทักก็ควรตัดความสัมพันธ์ไปเลย ไม่ต้องมัวแต่รักษาน้ำใจเกินไป




แล้วก็รีบตามเกมส์ไปสิ นี่อะไรต้องเคลียร์กับนังนั่นก่อนแล้วค่อยตาม




มันบ่งบอกว่า คุณไม่ได้ให้ความสนใจในตัวเกมส์อย่างจริงใจ




และการที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะทิ้งเกมส์หรือไม่ มันก็ไม่ดี ควรแน่ใจก่อน




เล่นกับความรู้สึกคนมันเจ็บนะ ถึงจะช่วยให้โรคกลัวผู้ชายหายได้ แต่คุณยิ่งตอกย้ำให้เค้ารู้สึกแย่ด้วยวิธีการแย่ๆนะ




เกมส์ก็สู้ต่อไป ส่วนดิวหากคุณจริงใจ ก็เริ่มคิดให้ดี ความเจ้าชู้ก็ตัดให้ขาด แล้วชั้นเชื่อว่าเกมส์ต้องเห็นแน่นอน





ปล. แม่หมอคนนี้แม่นเนอะ อยู่ที่ไหนอ่ะ จะไปดูบ้าง แม่นสุดยอด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 30-03-2013 04:12:12
 :ling1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 30-03-2013 05:33:42
เศร้า :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 30-03-2013 05:50:25
ดิว ลุยโลด บอกว่ามาจีบจริงไม่ทิ้งขว้าง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 30-03-2013 05:52:20
แม่หมแแม้นแม่น ไม่บอกคุณนายแม่ว่าจิได้ลูกเขย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 30-03-2013 08:25:07
เศร้าโฮกกกกก :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 30-03-2013 08:52:45
เกมใสซื่อจังง เพื่อนเค้าไม่ทำอะไรให้กันมากขนาดนี้หรอกนะคร้าฟฟ555555 :katai5:

ปล มาต่อเร็วๆนะ รักคนแต่งมากมาย จุ้บ :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 30-03-2013 08:59:51
ผู้ชายเจ้าชู้พอจะรักใครจริงชีวิตมักมีอุปสรรคจากเรื่องในอดีตที่เคยทำ
สงสารเกมส์สุดติ่ง คงจะเสีใจน่าดู  :hao5:
ปล. ว่าเต่าปลายเรื่องยาวแล้ว เรื่องเกมส์นี่ถ้าจะยาวกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-03-2013 09:37:36
สงสารเกมส์จัง  มันเจ็บปวดนะ :o12:

ดิวคิดยังไงกับเกมส์กันแน่ ยังไม่ชัดเจนเลย เพราะที่เข้ามาเพราะอยากจะลองรักษาโรคกลัวผู้ชายจีบ เพราะคิดสนุกเท่านั้นเอง


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-03-2013 09:43:31
ถ้าดิวแน่ใจว่าชอบก็ต้องแสดงความจริงใจให้เกมส์รับรู้
แต่ยังมีข่าวยุ่งกับสาวอยู่นี่ชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าจะชอบเกมส์จริงหรืออยากลอง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 30-03-2013 10:53:17
ดิวมาเล่นกับความรู้สึกของเกมส์แบบนี้  และก่อนที่ดิวจะเคลียร์กับเกมส์  เราว่าดิวน่าจะเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อนว่าคิดกับเกมส์แบบไหนกันแน่  เพื่อน หรือ คนรัก  เพราะถ้าคิดกับเกมส์แบบคนรัก  ดิวก็เป็นคนเห็นแก่ตัวมาก เพราะยังเที่ยวหว่านเสน่ห์ตัวเองไปทั่ว   

:katai1: :fire: โมโหแทนเกมส์


   
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 30-03-2013 12:31:18
ค้างค่ะ ค้างมากเลยอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 30-03-2013 13:18:13
กรี๊ดดดดดดดดด อยากโดนดิวจีบแบบนี้บ้างอ่ะ 555555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 30-03-2013 14:43:52
อยากจะบ้าตายย กำลังเข้าได้เข้าเข็มเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 30-03-2013 15:10:49
สงสารคุณนิด อ่านไปน้ำตาไหล ฮือออออออ
มาต่อไวๆ นะค้า
พระเอกซึนเกิ๊นนนน Y_Y โธ่เอ๊ย ทำเป็นเย็นชา แต่จริงๆ ก็อยู่กับเขาตลอด หวงเขาอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-03-2013 15:29:39
โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองนะดิว
รีบรีบทำให้มันกระจ่างซะก่อนจะสาย
เกินไป :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 30-03-2013 18:54:28
น่าสงสารพระเอกของเราจัง หวังว่าดิวจะตามไปง้อเกมส์ให้ได้ในเร็วๆ นี้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 30-03-2013 20:16:03
ดิว สู้ๆ น้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 30-03-2013 20:28:31
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:


แทนไท......นายน่ารักว่ะ




โอ้วฟินนนน จิ้มๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: Tumz ที่ 30-03-2013 22:08:17
น่าสงสารเกมส์ เจอคนกะล่อนไปวันๆ แบบนี้

 

ถ้ายังสันดานคาสโนว่า อยู่ห่างๆเกมส์ไว้ดีแล้ว :angry2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 31-03-2013 02:32:50
อ่าส์ น้องเกมส์อย่าเสียใจ ดิวเค้าอยากช่วย หวังดี
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 31-03-2013 04:17:22
อู๊ย!!!! มาม่าเริ่มาอีกแล้วววว สู้ๆนะดิว ถ้านายจริงใจเราเชียร์เต็มที่เลย  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 31-03-2013 09:10:55
ดิวเอ้ย โทษใครไม่ได้เลยงานนี้ :ling1:

น้องเกมส์เข้มแข็งไว้นะ :กอด1:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 31-03-2013 10:43:08
ดิวสู้ๆนะ เกมส์ฟังดิวหน่อยน๊าา  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 31-03-2013 14:51:24
ค้างงงงงงงงงง อย่างแรงอ่ะ  น้ำตาจะไหล    :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 >; P.81
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 31-03-2013 15:47:13
จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดิวดีวะ? เฮ้อ !!  พูดเสียงดังในก็ห้องสมุดก็งี้แหละ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 31-03-2013 16:45:07
ดิวน่าสงสารน่ะ แต่ก็เกมส์ก็น่าสงสารเหมือนกันน  :hao5: มาม่าา
รีบมาต่อไวๆน่ะค่ะ เค้าค้างงง  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 31-03-2013 18:14:24
 :z6: :z6: :z6: :z6:



รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 9] 29/03/56 > P.81
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 31-03-2013 21:06:37
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 01-04-2013 18:10:58
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต


แท่งที่ 10



...ขออภัยค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้


ข้อความซ้ำ ๆ ที่ได้ยินไม่ส่งผลต่อความพยายามสำหรับดิว
ซึ่งกดหมายเลขโทรออกอีกครั้งในเบอร์โทรเบอร์เดิมที่แทบจำขึ้นใจ
ปกติเขาไม่ใช่เป็นคนช่างตื้อและไม่ได้เป็นคนใจร้อน
แต่ตอนนี้ทุกสิ่งกลับตรงกันข้าม
เพราะเขายิ่งเร่งสองขาให้ก้าวเดินขึ้นบันไดไปยังหอพัก
ก่อนหยุดลงตรงบานประตูสุดทางเดิน
แล้วลงมือเคาะเรียกใครบางคนด้วยความร้อนรน


“เกมส์ครับ...เกมส์ออกมาคุยก่อนได้มั้ย...เกมส์...อยู่รึเปล่าครับ”


ไร้เสียงตอบรับเช่นเดียวกับสัญญาณโทรศัพท์
และแม้จะร้องเรียกกี่ครั้งก็ไม่มีสิ่งใดหลังบานประตูตอบสนอง


....ไม่น่าแปลกเลย

เขาควรจะเดาได้อยู่แล้วว่าเกมส์ต้องโกรธ
แต่เขาอยากบอกกับเกมส์ว่าสิ่งที่ทำลงไปไม่ใช่เพื่อแกล้งเล่น
เขาอยากช่วยรักษาโรคอาการกลัวผู้ชายจีบของเกมส์จริง ๆ
ถึงได้พยายามชวนคุย ถึงได้ทำทุกวิธีที่จะได้เข้าใกล้
แต่แผนทุกอย่างมันกลับพังทลายจนทำให้เกมส์ต้องเจ็บ


...เจ็บเพราะความหวังดีของเขา


พอคิดถึงตรงนี้ หัวใจมันกลับหน่วงแปล๊บขึ้นมา


...ไม่ใช่ไม่รู้ว่าถ้าวันหนึ่งแผนการทุกอย่างแตกขึ้นมาเกมส์จะรู้สึกยังไง
แต่เขากลับเลือกที่จะทำ เพราะคิดว่ามันน่าท้าทาย
ยิ่งหนีก็ยิ่งอยากเข้าใกล้ ยิ่งอยากเอาชนะใจให้สำเร็จ


ทว่าพอเวลาผ่านไปกลับเป็นเขาเองที่เริ่มลืมเลือนจุดประสงค์
รู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้คุยกัน พอเห็นรูปของเกมส์ก็ทำให้เขายิ้มออก
อยากเป็นคนคอยดูแล  อยากฟังเสียงหัวเราะ  อยากเห็นหน้าเกมส์ใกล้ ๆ


เคยคิดไว้ว่าถ้าได้เกมส์เป็น ‘คนรู้ใจ’ ก็คงดี

หรือถ้าไม่ไปไกลกว่านั้นก็ยังอยากเป็น ‘เพื่อน’


แต่ตอนนี้สถานะของเขาคงเป็นได้แค่ ‘คนทรยศหักหลัง’
แล้วเขายังมีสิทธิ์มาตามตื้อ
หวังจะเจอหน้าเกมส์อีกครั้งทำไม


...มันเป็นความเห็นแก่ตัวของเขาเกินไปรึเปล่า



TRRRRRRRR!!



เสียงไอโฟนเรียกสติของคนในภวังค์
เขาหยิบมันขึ้นมากดรับก่อนได้ยินเสียงเพื่อนตัวเองดังตามมา


“ฮัลโหล ไอ้ดิวโว้ย! ทำไมมึงไม่มางานวันเกิดแพรวะ”


“กูมีธุระ”


ตอบไอ้บีมกลับไปสั้น ๆ โดยไม่อยากอธิบาย
แต่ดูเหมือนกลับยิ่งไปสร้างความหงุดหงิดให้อีกฝ่ายจนต้องถามย้อน


“ธุระอะไรวะ เมื่อตอนกลางวันแม่งก็ชิงหนีกูไปก่อน
ทิ้งกูอยู่ห้องสมุดคนเดียว มึงต้องขอโทษกูในงานนี้เลย
แล้วรู้ป่ะ แพรเขาหน้าเศร้าโคตร
นางเอกของงานไม่มีพระเอกมาอยู่ด้วยน่าสงสารนะเว้ย”


คำบอกเล่าของคนในสถานการณ์ทำให้ดิวเริ่มคิดหนัก

...เขารู้ว่าตัวเองอาจเป็นสาเหตุทำให้แพรเป็นแบบนั้น
เพราะพักหลัง ๆ เขาไม่ได้ติดต่อกับแพรเลย
ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้าคอยดูแลรับส่งแพรอย่างดี
แล้วแพรเองก็ไม่ได้ทำผิดอะไรด้วย
มีแต่เขาที่ออกห่างทิ้งแพรไว้โดยไม่บอกเหตุผล
ถึงอย่างนั้นใจมันก็ยังนึกพะวงกับคนที่ยังไม่ได้เคลียร์ความเข้าใจ


“แต่ว่ากู...”


“อ่ะ..เดี๋ยวกูให้คุยกับแพร
...แพร...แพร...ดิวจะคุยด้วย”


ยังไม่ทันที่เขาจะพูดปฏิเสธ
ไอ้บีมกลับโยนสายไปให้เจ้าของงานรับ
ซึ่งไม่นานก็ได้ยินเสียงหวานตามมา


“ดิวเหรอคะ เออ...ขอโทษนะคะที่รบกวน
ทั้ง ๆ ที่ดิวบอกแล้วว่าจะไม่มางานวันเกิดแพร
แต่ว่าแพรก็ยังอยากให้ดิวมาจริง ๆ นะคะ”


ยิ่งฟังคำขอ ก็ยิ่งทำให้ดิวรู้สึกผิด
เพราะเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากความลังเลไม่แน่นอนของเขา


ร่างสูงมองตรงไปยังประตูซึ่งยังคงเงียบเฉียบ


...หรือมันควรจะถึงเวลาที่เขาต้องปล่อยเกมส์ไปเสียที



“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะแวะไป”


“จริงเหรอค่ะ! ขอบคุณมากค่ะดิว แล้วแพรจะรอนะคะ”


เสียงหวานพูดตื้นเต้นดีใจก่อนจะขอตัววางสายลง
ส่วนเขาหันหลังเดินลงบันไดมาจากหอพัก



ถึงจะอยากขอโทษ
อยากอธิบายให้เกมส์เข้าใจมากแค่ไหน


แต่เขาก็ควรจะคิดได้เหมือนกันว่า...



...เกมส์อาจไม่มีวันอภัยให้เขาอีกแล้ว




...


..


.




...นอนตาค้างแน่ครับคืนนี้


ไม่ใช่เพราะคนอย่างนายซีเกมส์มีเรื่องให้คิดมาก
แต่เพราะเขากำลังนั่งดื่มคาปูชิโน่เป็นแก้วที่สามแล้วต่างหาก!

แม้จะมีสายตาจากพี่หน้าตี๋เจ้าของร้านมองด้วยความเป็นห่วงในสุขภาพ
ว่าทำไมเขาถึงต้องการคาเฟอีนในร่างกายมากมายนัก
แต่จะให้เขานั่งเฉย ๆ ในร้านพี่เขาห้าชั่วโมงโดยไม่สั่งอะไรมากินเลยก็เกรงใจไป


...ใช่แล้วครับ ห้าชั่วโมงเต็มจากบ่ายสองถึงหนึ่งทุ่ม!

เขาปิดโทรศัพท์มือถือ และช่องการติดต่อทุกชนิด
มานั่งรากงอกอยู่ในร้านกาแฟ แทนที่จะกลับห้อง
เพราะเขาไม่แน่ใจว่าใครบางคนนั้นจะมาดักรอเจอรึเปล่า


...ใครบางคนที่เมื่อก่อนเขานับเป็นเพื่อน

แต่ตอนนี้แม้แต่ชื่อเขาก็ยังไม่อยากจะได้ยิน



ถามว่าโกรธมั้ย   ...แน่นอนว่าต้องโกรธ

ถามว่าเจ็บใจมั้ย  ...มันยิ่งกว่าเจ็บใจ


การถูกหักหลังจากคนที่เราเชื่อใจ
มันเหมือนกับการเอามีดมากรีด เอาเหล็กร้อนมานาบ
เจ็บปวดทรมาน จนอยากจะเข้าไปซัดหมัดใส่หน้าคนทรยศ
ทั้ง ๆ ที่อุตส่าห์ไว้ใจกัน แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนคือการเอาความรู้สึกเขามาเล่นตลก


...ไอ้ดิวชั่ว!! สารเลว!! เฮงซวย!!


เขาไม่รู้หรอกว่าทำไมดิวถึงมาทำกับเขาได้ขนาดนี้
แต่ตอนนี้สิ่งที่เขารู้คือเขาจะไม่มีวันเข้าไปใกล้อีก


คนเจ้าเล่ห์อย่างดิว...


...ยิ่งอยู่ให้ห่างให้ไกลมากเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น



แต่ถึงจะใจอยากย้ายหนีไปสุดขอบโลก
กระนั้นท้ายที่สุดเขาก็วิ่งพ้นความจริงไม่ได้ว่าต้องกลับไปนอนที่ห้อง
ไม่ใช่ปักหลักนอนในร้านกาแฟ เพราะนี่มันได้เวลาปิดร้านของพี่เจ้าของแล้ว


อีกอย่างเขาก็ชักเป็นห่วงไอ้จั๊ดง่าวด้วย
แม้จะให้ข้าวเช้าไปค่อนข้างเยอะพอกินเหลือถึงเย็น
แต่การทิ้งลูกแมวซึ่งเลี้ยงอย่างทะนุทนอมไว้ตัวเดียวมันก็อดเป็นห่วงไม่ได้


นายซีเกมส์จึงลุกขึ้นจ่ายเงินก่อนเดินออกจากร้าน
ขึ้นขี่มอเตอร์ไซต์กลับหอด้วยใจที่นึกหวั่น
ภาวนาว่าหน้าห้องของเขาจะไม่มีใครดักรออยู่
พอถึงหอเรียบร้อยก็เดิยขึ้นบันไดไปยังห้อง
กระนั้นก็ยังหยุดตัวเองไว้ที่ขั้นบันไดชั้นสอง
แอบชะโงกหน้าออกมาดูเพื่อสำรวจความแน่ใจ
ก่อนจะพบกับ...


...ความว่างเปล่า


เฮ้อ....รอดตัวไป
ดีแล้วที่ไม่เจอดิวมาดักรอ
แต่คนคิดอีกทีคนอย่างดิวอาจจะไม่มาหาเขาก็ได้
เพราะเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
มันก็อาจเป็นแค่เกมสนุกเกมหนึ่งของพวกคนเจ้าชู้เท่านั้น


เขาเคยรู้จักเพื่อนที่มีนิสัยหน้าหม้อควงหญิงไม่ซ้ำคล้ายดิว
มันบอกว่าผู้ชายคาสโนว่ามองทุกอย่างเหมือนเกมพนัน
พอจบเกมโอเวอร์ ต่างคนต่างก็แยกย้าย
ไม่จำเป็นต้องเหลือความรู้สึกอะไรต่อกันอีก


...หึ รู้แบบนี้สู้กลับหอตั้งแต่แรกดีกว่า
ไม่น่าหลบไปที่อื่นเลย
ในเมื่อเรื่องของเขากับดิวมันตัดขาดกันไปแล้ว


เกมส์จึงไขประตูห้องเปิดออก
พลางร้องเรียกลูกแมวที่นึกห่วงเพราะทิ้งไว้เพียงลำพัง


“จั๊ดง่าว ป้อปิ๊กห้องแล้วเน้อ หิวยังก้อ เดี๋ยวป้อจะยะอะหยังให้กิ๋น”


ปกติเรียกแค่นี้เจ้าตัวเล็กมันต้องมาคลอเคลียอยู่กับขาเขาแล้ว
แต่ทุกสิ่งในห้องกลับยังคงเงียบไร้ความเคลื่อนไหว


“ไอ้จั๊ดง่าว ได้ยินก้อ?”


เขาส่งเสียงเรียกอีกครั้ง
พร้อมกวาดสายตาไปทั่วห้องเผื่อไอ้ลูกแมวจอมซื้อบื้อจะแอบมุดหลับอยู่ที่ไหน
แต่ก็เปล่า...

ทั่วทั้งห้องยังคงไร้ร่องรอยของสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก
ความหวาดหวั่นเริ่มเกาะกุมจิตใจของคนหา


...ไอ้จั๊ดง่าวหายไปไหน
เมื่อเช้าเขายังเอาข้าวให้มันกินอยู่เลย
ตอนออกมาตากผ้าที่ระเบียงมันก็อยู่ด้วย


หรือว่า...


เขารีบเปิดผ้าม่านที่กั้นประตูกระจกระเบียงออก
ดวงตาเบิกกว้างเมื่อพบว่ามีช่องเล็ก ๆ ซึ่งเลื่อนปิดไม่สนิท
เพราะเมื่อเช้าเขามัวแต่รีบร้อนออกไปด้วยกลัวจะไม่ทันนัดหมอฟัน


...ไม่จริงหรอก ไอ้จั๊ดง่าวมันคงไม่ได้ออกไปทางนี้ใช่มั้ย



เกมส์รีบชะโงกหน้าออกไปตรงระเบียงห้อง
หากแต่ความมืดในเวลาสองทุ่มกลับเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น
เขาคว้ากุญแจล็อกห้องแล้ววิ่งลงมาชั้นล่างทันที
พยายามก้มดูตรวจตราทุกซอกทุกมุมจากบริเวณใต้หอ
ทว่าก็ยังไม่พบลูกแมวตัวเล็กใด ๆ
จนต้องลามเลยออกมาหาต่อยังถนนด้านหน้า
ปากตะโกนเรียกชื่อไปตลอดโดยไม่หยุด


“ไอ้จั๊ดง่าว! จั๊ดง่าว!”


“มาอู้ว่าคนอื่นบ่ดีเน้อ”


พี่ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเดินผ่านตรงหน้าหอเอ่ยทัก
ทำให้เกมส์สะดุ้งเมื่อรู้ตัวว่าเผลอใช้ภาษาเหนือเรียก
แถมแปลออกมายังกลายเป็นคำด่าอีก
จนเขาต้องรีบอธิบายแก้ไขความเข้าใจ


“บ่ไจ้เจ้า บ่ได้อู้ว่าปี้จะใด
ชื่อแมวของเปิ้ลเองเจ้า มันหายไป๋ เปิ้ลหามันบ่เจอ
ปี้เห็นมันบ้างก้อ ตัวเล็ก ๆ สีน้ำตาลมีหางสีขาวเจ้า”


คนฟังมีท่าทีลังเลเล็กน้อยเมื่อได้ฟังลักษณะท่าทาง
ก่อนจะตอบกลับด้วยสีหน้าลำบากใจ


“เออ...จะว่าเห็นก็เห็นอยู่ แต่ปี้ก็บ่แน่ใจว่าจะใช่ตัวนั้นก้อ
ยังไงน้องลองไป๋ดูตรงหัวมุมนั้นแล้วกั๋นเน้อ”


“ขอบคุณเจ้า”


เกมส์ยิ้มกว้างทันทีที่พบเบาะแส
รีบเดินย้อนกลับไปยังหัวมุมปากซอยที่พี่ผู้หญิงคนนั้นชี้
ซึ่งเป็นที่ว่างพวกถังขยะใกล้โคนเสาไฟฟ้า


สงสัยไอ้จั๊ดง่าวคงหิวแล้วมาหาไรกิน
เขาอุตส่าห์เลี้ยงซะไฮโซดันมาคุ้ยขยะเฉยเลย
..นั่นไง...เห็นหางสีขาวมันแล้ว อยู่ที่นี่จริง ๆ ด้วย

คนโล่งอกจึงส่งเสียงเรียกขณะเดินเข้าไปใกล้


“ไอ้จั๊ดง่าว มายะอะหยังอยู่นี่ ป่ะปิ๊กบ้านกับป้อกะ....”


ประโยคขาดหายไปเมื่อเขาพบเห็นร่างของลูกแมวที่ตามเจอ
มันไม่ได้กำลังคุ้นขยะ ไม่ได้กำลังกิน ไม่ได้ยืนด้วยซ้ำ
แต่กลับนอนหลับตานิ่งเงียบ


...เงียบราวกับหมดลมหายใจ



“ไอ้จั๊ดง่าว! ไอ้จั๊ดง่าวเป็นจะใด!”


เกมส์ส่งเสียงร้องอย่างตกใจรีบช้อนตัวอุ้มลูกแมวไว้ในอ้อมกอด
สัมผัสถึงเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลช้ำมากมาย
จากเนื้อตัวแข็งทื่อและเย็นเฉียบ ไร้การตอบสนองใด ๆ
เช่นเดียวกับหัวใจของเขาซึ่งแทบหยุดเต้นด้วยความหวาดกลัว


...ไม่จริงใช่มั้ย



...ใครก็ได้ช่วยบอกเขาทีว่ามันไม่จริง


...ใครก็ได้บอกเขาทีว่าต้องทำยังไง




ใครก็ได้...




เกมส์เอื้อมมือสั่น ๆ ของตัวเอง
หยิบมือถือจากในกระเป๋ากางเกงมาเปิดเครื่อง
กดโทรหาเบอร์ของใครคนหนึ่งซึ่งคุ้นเคย


...ลืมความโกรธ

...ลืมความเกลียดที่เกิดขึ้นก่อนหน้า



เพราะตอนนี้สิ่งที่เขารับรู้มีเพียงว่า...



...เขาไม่อาจทนอยู่คนเดียวตามลำพังได้อีกแล้ว



...



..



.



“ดิวไม่เอาเหล้าหน่อยเหรอวะ
มาถึงก็สูบบุหรี่อย่างเดียวมันจะไปอิ่มได้ยังไง”


เสียงไอ้บีมทักคนกำลังจุดมาโบโร่มินต์เป็นมวนที่สาม
แต่คนฟังกลับนิ่งเฉยไม่สนใจในคำเตือน

...ปกติเขาไม่ใช่คนสูบบุหรี่จัด
ส่วนใหญ่ก็วันละสามมวนถึงครึ่งซอง
พอให้ผ่อนคลายอารมณ์ไปได้บ้าง
ทว่าตอนนี้แม้จะสูบบุหรี่กี่มวนก็คล้ายกับไม่ช่วยอะไรมาก

เพราะความเครียดซึ่งยังคงตกค้างอยู่ในใจ

...มันไม่ได้จางหายไปเช่นเดียวกับควัน


ดิวสูดบุหรี่เข้าปอดอีกเฮือกใหญ่
หูฟังเสียงอึกทึกของเพลงซึ่งแผดดังจากลำโพงเป็นจังหวะเร้าใจ
ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะสนุกและชินในบรรยากาศแบบนี้
แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ผิดที่ผิดทาง


“เดี๋ยวสักพักกูคงไปแล้ว”


คำเอ่ยขอตัวของคนหมดอารมณ์
ทำให้เพื่อนซึ่งกำลังส่งแก้วเหล้าต้องรีบร้องห้ามเสียงหลง


“เฮ้ย! ไม่ได้ ๆ มึงต้องยกเค้กไปให้เซอร์ไพรส์แพร
มาเลย ๆ เตรียมไว้ให้แล้ว อยู่ข้างหลังโน้น”


จบประโยค ไอ้บีมก็จัดการลากพระเอกของงานไปมุมในสุดของร้าน
ซึ่งมีเค้กก้อนใหญ่เกือบสามปอนด์เตรียมไว้อยู่แล้ว
โดยมีเพื่อนผู้หญิงของแพรกำลังจุดเทียนปักไว้โดยรอบ


แม้ตอนนี้อารมณ์ของเขาจะสวนทางกับงานรื่นเริง
แต่เขาก็ยังไม่ลืมว่าวันนี้เป็นวันเกิดของแพร
และมันควรเป็นวันที่แพรมีความสุขที่สุด
ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะต้องไม่ทำมันล้ม
ด้วยเพราะเรื่องส่วนตัวเป็นตะกอนในใจ


ดิวจึงปรับเปลี่ยนท่าทีให้ผ่อนลง
กระนั้นเสียงบางอย่างในกระเป๋ากางเกงกลับดังขัด
ในจังหวะเดียวกับที่เขากำลังรับเค้กก้อนใหญ่มาจากเพื่อน


“เอ๊าถือไป กูจะบอกให้ร้านดับไฟแล้วนะ”


“เฮ้ย! กูรับโทรศัพท์แป๊บ”


“เดี๋ยวมึงค่อยโทรกลับก็ได้”


ไอ้บีมบอกปัดไม่สนแล้วเดินหนีไปอีกทาง
ทิ้งให้เขาอยู่เพียงคนเดียวเพื่อเตรียมเซอร์ไพรส์
หากแต่แรงสั่นจากกระเป๋าก็ยังคงไม่หยุดจนเขาชักจะร้อนใจ

ดิวจึงประคองเค้กไว้ในมือเพียงข้างเดียว
ก่อนจะล้วงหยิบไอโฟนขึ้นมาดู
และทันทีที่เห็นรายชื่อบนหน้าจอ
ดวงตาเขาก็เบิกกว้างรีบกดรับพร้อมกรอกเสียงพูดอย่างร้อนรน


“ฮัลโหลครับเกมส์”


“...จะ...จั๊ด...”


เสียงแผ่ว ๆ ซึ่งดังลอดมาปะปนกับเสียงดนตรีในผับ
ทำให้ดิวต้องถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจอีกครั้ง


“ฮัลโหล เกมส์ อะไรน่ะครับ”


โชคดีที่เสียงดนตรีเริ่มเงียบลงคล้ายจบเพลงพอดี
เขาจึงพยายามเงี่ยหูฟังถ้อยคำจากปลายสายอย่างตั้งใจ
ซึ่งอีกฝ่ายก็เอ่ยประโยคสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเหมือนก่อนหน้า


...หากทว่าคราวนี้มันกลับเป็นเสียงที่ดังสะท้อนก้องในใจของคนฟัง




“...จั๊ดง่าวตายแล้ว”




...จั๊ดง่าว ชื่อแมวที่เกมส์เลี้ยง


เจ้าตัวเล็กที่ชอบมาคลอเคลียเขา

เจ้าตัวเล็กที่เกมส์ชอบกอดไว้อย่างหวนแหน

เจ้าตัวเล็กที่เกมส์คอยดูแลไม่เคยห่าง



มัน...




ปลายสายตัดสัญญาณลงพร้อมกับแสงไฟดับพรึ่บ
เหลือแค่แสงจากเทียนบนเค้กที่ร่างสูงถืออยู่
ทุกสายตามุ่งตรงมาหา หากแต่เขากลับนิ่งไม่ขยับ
จนไอ้บีมต้องรีบเดินมากระซิบบอกคนลืมบท


“เฮ้ย! ไอ้ดิวทำอะไรอยู่วะ ยกเค้กไปสิโว้ย!”


“โทษที กูต้องไปแล้ว”


ดิวยัดเค้กใส่มือบีม แล้ววิ่งออกไปนอกประตูทันที
แม้จะรู้ว่าตัวเองทำไม่ดีที่ทิ้งงานออกมาในช่วงเวลาสำคัญ
แต่ตอนนี้เขามีบางสิ่งซึ่งสำคัญมากกว่าการจะมารักษาน้ำใจใคร


ร่างสูงขึ้นรถเหยียบแทบมิด
มุ่งตรงไปยังหอพักที่เพิ่งออกมาก่อนหน้าไม่กี่ชั่วโมง
แล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นสอง
หยุดหอบเคาะประตูตรงห้องสุดทางเดิน


“เกมส์ครับ เกมส์ ผมดิวนะ”


ดิวตะโกนเรียกชื่อคนข้างใน
กระนั้นกลับไม่มีเสียงใดตอบรับ
เขาร้อนรนจนต้องตัดสินใจลองหมุนลูกบิด
ซึ่งพบว่ามันเปิดออกอย่างง่ายดาย


คนเร่งรีบผลักบานประตู ก้าวเข้าไป
และก็ได้เห็นร่างของคนที่อยากพบมาตลอดวันนั่งนิ่งอยู่กลางพื้นห้อง
ตรงหน้ามีลูกแมวตัวเล็กนอนหลับตาอยู่บนผ้าซึ่งปูรองไว้
ท่ามกลางกองกระดาษทิชชู่ซึ่งเลอะเลือดบางส่วน
เหมือนเจ้าของพยายามจะเช็ดเลือดให้มัน


“เกมส์”


ร่างสูงเรียกชื่อคนที่ยังนั่งหันหลังมองลูกแมวอยู่อย่างนั้น
แม้เขาจะขยับไปใกล้แต่เกมส์ก็ไม่คิดจะหันมามองกัน
กระทั่งเขาต้องเอื้อมมือแตะตัวเกมส์
จึงทำให้ร่างนั้นสะดุ้งเงยหน้าขึ้นสบดวงตา


และนั่นจึงทำให้เขาเห็นสิ่งที่สะท้อนในแววตาเกมส์ครั้งแรก


...มันเป็นแววตายิ่งกว่าตอนเมื่อครั้งสุดท้ายที่เขาสองคนเจอกัน


เพราะไม่ใช่แค่ความเจ็บปวด แต่มันกลับว่างเปล่า



...ว่างเปล่าจนไม่อาจคาดเดาได้ว่าเกมส์จะรู้สึกยังไง




“ไปกันเถอะครับเกมส์”



ดิวจับมือหนึ่งของคนนั่งให้ลุกขึ้น
โดยส่งลูกแมวให้เกมส์ประคองแมวไว้
แล้วพาลงบันไดมา เปิดประตูให้เกมส์ขึ้นไปนั่งในรถ
ส่วนเขาอ้อมไปนั่งด้านคนขับสตาร์ทรถ
เตรียมมุ่งตรงสู่ถนนเพื่อหาที่ฝังศพลูกแมว
และสถานที่เดียวซึ่งเขานึกออกตอนนี้

จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก...วัด


เขาเปิดไฟเลี้ยวเข้าซุ้มประตูวัดที่อยู่ไม่ไกลตอนเกือบสามทุ่ม
บอกให้เกมส์คอยอยู่ในรถ ส่วนตัวเองเดินไปขออนุญาตหลวงพ่อ
โชคดีที่ท่านเข้าใจและมีเมตตา
เลยไม่ถือสาแม้พวกเขาจะมาในยามวิกาล
แถมให้พลั่วขุดดินไว้สำหรับฝังลูกแมวอีกด้วย


ดิวจึงพาเกมส์มาหยุดตรงใต้ต้นชมพูพันทิพย์ซึ่งกำลังออกดอกสวยบานสะพรั่ง
แล้วลงมือถลกแขนเสื้อเชิ้ตขุดดินให้ลึกประมาณห้าสิบเซ็น
ก่อนจะให้เกมส์ค่อย ๆ หย่อนร่างของลูกแมวลงไป
พร้อมกับช่วยกันกลบฝังให้เรียบร้อย

เมื่อเสร็จแล้วจึงพากันไปล้างไม้ล้างมือ
เอาพลั่วไปคืนบอกขอบคุณหลวงพ่อ
แล้วขับรถกลับมาส่งยังหอ

โดยที่เกมส์นิ่งเงียบตลอดทางไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ
แม้กระทั่งตอนที่เขาเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกันก็ตาม


“เกมส์เข้าไปอาบน้ำเถอะครับ ตัวเลอะหมดแล้ว”


เจ้าของชื่อทำตามคำสั่งง่าย ๆ เดินคว้าเสื้อผ้าใหม่ไปอาบน้ำ
ส่วนเขามาจัดการล้างหน้าล้างตาที่ซิงค์อ่างตรงระเบียง
รอเกมส์อาบน้ำเสร็จเปิดประตูออกมา ตั้งใจจะถามว่ามีอะไรให้ช่วย
หากแต่ยังไม่ทันพูด เสียงไอโฟนของเขากลับดังเตือนจนต้องกดรับ


“ฮัลโหลครับ...แพรเหรอครับ ขอโทษครับที่ผมออกมาก่อน
...ครับ...ผมขอโทษจริง ๆ ครับทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันเกิดแพร
...คือว่าตอนนี้ผมติดธุระสำคัญอยู่ คงจะไปไม่ได้จริง ๆ”


“ดิวไปเถอะ”


เสียงซึ่งดังขัดประโยคสนทนาทำให้ร่างสูงต้องหยุดมองคนพูด
ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าราบเรียบของเกมส์เฉยเมยเป็นปกติ
ก่อนเจ้าตัวจะขยับหมอนผ้าห่มบนเตียงเตรียมนอน
โดยไม่สนใจคนที่ยังคุยโทรศัพท์ค้างจนโดนปลายสายเร่ง


“ครับแพร เออ...ถ้าอย่างนั้นอีกสักพักผมจะไปหา”


ดิวตัดสินใจพูดตอบรับไป ตามความต้องการของเกมส์

...ถึงจะนึกห่วง แต่ตอนนี้อาจจะดีกว่าถ้าให้เกมส์นอนพัก
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันมากมายเกินกว่าที่ใครจะรับไหว
อีกอย่างเขายังไม่แน่ใจว่าเกมส์จะยังคงโกรธเขามั้ย
แถมกับแพรเขาก็ยังรู้สึกผิดที่ทิ้งงานวันเกิดมากลางคัน


“งั้นเดี๋ยวผมปิดไฟให้ แล้วถ้าเกมส์มีอะไรโทรเรียนผมได้ตลอดเลยนะครับ”


“อืม”


เกมส์พยักหน้า ล้มตัวนอนนอนห่มผ้าหันหลัง
ปล่อยให้ร่างสูงเดินไปปิดไฟดับลง
แล้วปิดประตูตามอย่างเงียบ ๆ
ก่อนเดินขึ้นรถขับออกไปหาแพร


...ใช่...เขาควรจะทำอย่างนั้น


ทว่าสองขาของเขากลับไม่ทำตามคำสั่ง
มันหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องไม่ขยับไปไหน
เพราะหัวสมองกำลังวนเวียนอยู่กับความคิดในใจ



...รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์ เพราะเขาทำเกมส์โกรธขนาดนั้น

...รู้อยู่แล้วว่าเกมส์คงกลัว และอาจจะหนีเขาไปอีก



แต่จะให้เขาทิ้งเกมส์ไว้แบบนี้...


...จะทำได้จริง ๆ เหรอ

 

เพียงเสี้ยววินาทีนั้นร่างสูงตัดสินใจเปิดประตู
ก้าวเข้าไปในห้องท่ามกลางความมืด
แล้วดึงร่างของคนซึ่งนอนนิ่งบนเตียงมากอดไว้


คนหลับตาสะดุ้งเฮือก
เมื่อรับรู้ถึงแรงจากด้านหลังจับให้พลิกตัวหันกลับมาปะทะอกกว้าง
กำลังจะโวยวายด้วยความตกใจ
แต่เสียงของคนกอดกลับหยุดทุกอย่างเอาไว้



“อยากจะร้องไห้ก็ร้องเถอะครับเกมส์ อย่าเก็บมันไว้เลย”



ประโยคเพียงสั้น ๆ
ไม่ใช่คำสั่ง แต่มันคล้ายเป็นการขอร้อง


...คำขอซึ่งคนพูดรู้ดีว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดกำลังซ่อนอะไรไว้ในใจ


 
ทุกอย่างเงียบลงไปสักพักหนึ่ง
ก่อนดิวจะรู้สึกถึงแรงขยับของอีกฝ่าย
มันเป็นแรงสั่นเบา ๆ ที่ไหล่
โดยไม่มีเสียงสะอื้นใด ๆ หลุดรอดออกมา
หากเขาสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นจากน้ำตา
ตรงบริเวณที่ใบหน้าของอีกคนแนบอกเขาไว้



...ความจริงของเหตุผลซึ่งเขาไม่อาจจากไปไหน


เขาเข้าใจนับตั้งแต่วินาทีที่ได้เห็นแววตานั้นของเกมส์แล้ว



แววตาที่เศร้าที่สุดของเกมส์....



...ไม่ใช่แววตาของความเจ็บปวดเพราะความโกรธ


...ไม่ใช่แววตาของความว่างเปล่าจากการสูญเสีย



แต่เป็นแววตาซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า...




...เกมส์ไม่อาจอยู่คนเดียวตามลำพังในค่ำคืนนี้



...โดยไม่มีเขา




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC




สวัสดีในวันที่อากาศร้อนจนเกิดจุดที่เรียกว่าร้อนมากไปแล้ว
แต่วันนี้แอบแวะมาแจ้งข่าวร้อน ๆ ไม่แพ้อากาศเหมือนกัน


...นั่นคือ BitterSweet มีแฟนเพจแล้วจ้า!!  :mc4:

BitterSweet  Fanpage (http://www.facebook.com/BittersweetBoyslove)


เปิดไว้เพื่อสำหรับรองรับข้อมูลและอีเวนต์ต่าง ๆ ในอนาคต
มาพูดคุยทักทาย ไถ่ถาม ตามจิกตัวเวลานักเขียนหาย
หรือใครอยากรีเควซอะไร ไปเจออะไรฟิน ๆ ก็มาร่วมแชร์กันได้ค่ะ
ยินดีต้อนรับทุก ๆ คนสู่บ้านหลังใหม่


แล้วพบกันในหน้าแฟนเพจนะคะ

o13

BitterSweet

 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 01-04-2013 18:17:04
ยาวววววววววววววววววว
แปะไว้ก่อนค่า เดี๋ยวมาอ่าน
เรื่องยาวดีค่ะ ชอบๆ >w<

---------------------------------

โอย ตอนนี้มันหน่วงจัง
ขอให้เข้าใจกันเร็วๆ นะคะ
อยากอ่านตอนสวีท สดใส
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 01-04-2013 18:47:35
เอาแล้วไง  :hao6:
แอบโกรธดิวนะ ที่พะวงหน้าพะวงหลัง จะจีบเกมส์ก็ตัดคนอื่นให้ขาดสิ
ถ้ายังไงคืนนี้อยู่เป็นเพื่อนเกมส์เค้าจะให้อภัย 555555555
เกมส์อย่าเศร้านะ จั๊ดง่าวไปสบายแล้ว หมาเค้าก็พึ่งตายเหมือนกัน แอบเข้าใจความรู้สึกเกมส์  :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 01-04-2013 19:07:45
จั๊ดง่าวยอมสละชีวิตเพื่อช่วยดิวเลยนะ
หมอดูทายแม่นเนอะ เกมส์ได้เสียของรักจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 01-04-2013 19:28:26
พูดไม่ออกเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-04-2013 19:40:49
จั๊ดง่าวกลายมาเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้เกมส์กับดิวอีกครั้ง :mew6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 01-04-2013 19:43:11
เศร้ามากกกก :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 01-04-2013 19:43:43
อย่าร้องไปเลยนะ เกมส์

ขอให้ จั๊ดง่าว ไปดีน้า

อ่านตอนนี้แล้วนึกถึงแมวของตัวเองเหมือนกันเลย

แมวเราก็เพิ่งตายไป

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 01-04-2013 20:05:46
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 01-04-2013 20:10:14
 :hao5: สงสารน้องแมว
 :mew6: สงสารพี่เกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 01-04-2013 20:13:58
เศร้าแท้  จั๊ดง่าวไปดีเน้อ :mew6:

น้องเกมส์ :กอด1:


 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 01-04-2013 20:26:29
จั๊ดง่าว!!! :mew4:

ทำไมดิวต้องลังเลอยู่เรื่อย ไม่เข้าใจ ปล่อยแพรไปเหอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 01-04-2013 21:08:43
ใครทำจั๊ดง่าววววววววววววววววววววววว
หลับให่สบายนะลูก ฮรือออออออออออออ  :o12:

ดิวอยู่กับเกมส์นะ ตอนนี้เกมส์ต้องการดิว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 01-04-2013 21:09:19
เมื่อไหร่จะเปิดปากพูดให้ตรงใจน้อออ ลุ้นคู่นี้พอๆกะตอนเต่าน้อยเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 01-04-2013 21:23:44
พีคมากๆเลยตอนนี้...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-04-2013 21:51:26
 :sad11: จั๊ดง่าวกลายเป็นตัวเชื่อมให้เกมส์-ดิว กลับมาคบกันใหม่ 

ดีใจที่ดิวคิดได้ว่าควรจะอยู่เป็นเพื่อนเกมส์ในเวลาที่เกมส์ไม่มีใคร  มากกว่าที่จะไปงานเลี้ยงวันเกิดของแพร

หวังว่าหลังจากที่เกมส์ตื่น  คงมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นนะ   แต่ก็อยากให้ดิวเคลียร์เรื่องแพรให้เป็นเรื่องเป็นราวซะที 

   
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 01-04-2013 22:14:19
 :m15: มันทั้งเศร้า ทั้งหวานเลยอ้ะ บอกม่ะถูก555555  :hao5:

ดิวเลิกกับแพรเหอะ!!!!! จะเลือกเกมส์ หรือ แพร เอาซักคนดิ้ๆๆ :m16:

มาต่อเร็วนะ รักคนเขียนจังง :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 01-04-2013 22:40:23
สงสารน้องจั๊ด ไปโดนหมากัดหรือเปล่า
แต่ทำไมห้องดิวอยู่ชั้นบนๆ ไม่ใช่เหรอ น้องจั๊ดลงไปทางระเบียงได้ไง
เข้าใจเกมส์เลย สัตว์เลี้ยงของเราก็เหมือนลูกหลาน เป็นครอบครัวเดียวกัน
เฮ้อออ เสียน้ำตาเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 01-04-2013 22:41:08
ตกลงท่านดิวจะเอายังไงกับชีวิตค่ะ เดี๋ยวก็ไปหาคนนู้นทีคนนั้นที ขอบอกว่ามาหาเกมส์ได้คนเดียวเท่านั้น






ไม่งั้นเจ๊ตบหัวแบะแน่  :ling3: รีบมาต่อเน้อ มันปนหลายอารมณ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 01-04-2013 23:13:33
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :heaven  ดิว กอด เกมส์ :heaven
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 01-04-2013 23:17:50
สงสารเกมส์ แต่จั๊ดง่าวก็ไปสบายแล้ว :mew4:
ก่อนไปยังอุตส่าห์เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้ดิวอีก
ว่าแต่คำทำนายของคุณนายแม่นี่แม่นจริง ๆ นะเออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 01-04-2013 23:29:48
 :katai1: :katai1:
อ่านตอนนี้แล้วสะเทือนนใจ  :ling1:

ปล.อีโมใหม่นี่ได้อารมณ์สุดๆ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: gcc ที่ 01-04-2013 23:41:16
 o22 o22 o22 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 01-04-2013 23:55:48
 :m15:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 02-04-2013 00:16:00
นี้ถ้าดิวทิ้งเกมส์ไปหายัยแพรในเวลาที่เกมต้องการดิวที่สุด ได้ด่ากันแน่ ดิวทำถูกแล้วที่อยู่ปลอบเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 02-04-2013 00:55:29
สงสารแมวจัง T^T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 02-04-2013 01:15:45
ฮือออ ผู้ชายเจ้าชู้ก็อบอุ่นได้อะไรได้
โถ่เอ๊ย จั๊ดง่าว  :mew6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 02-04-2013 01:19:52
ซึ้งอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 02-04-2013 01:35:13
คือตอนอ่านแรกโกรธดิวมาก แต่พอดิวเลือกที่จะอยู่กับเกมส์ ชั้นเลยให้อภัยนะ อิอิ
แต่ๆๆ สงสารไอจั๊ดง่าวอ่า   :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 02-04-2013 06:38:12
ดิวยังคงลังเล และหลายใจเช่นเดิม ไม่เชียร์ดีกว่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 02-04-2013 07:23:05
ดิวโคตรพระเอกอ่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 02-04-2013 07:51:03
 :m15: :m15:


เข้าใจความรู้สึกตอนเจอแมวที่จีวเองเลี้ยงตายเลย เสียใจมาก


สู้ต่อไปครับดิว :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-04-2013 10:49:58
เกมส์สู้สู้นะจั๊ดง่าวไปสบายแล้ว :mew6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 02-04-2013 12:06:01
ดีแล้วที่ดิวเลือกที่จะอยู่กับเกมส์ตอนที่เกมส์ต้องการใครสักคน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 >; P.83
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-04-2013 12:21:49
เลือกซักทีสิดิว ไอ้จั๊ดง่าวมันยอมเสียสละขนาดนี้แล้วนะ!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: Witchuda ที่ 02-04-2013 14:40:02
 :katai1: ดิวเลือกเลยยยยยยย

อย่าลังเล  :ling1: อิฉันหัวใจจะวายยยยยย

 :hao5: :hao5:

แต่ตอนนี้มันหวานนะในความคิดเรา  :hao3:

ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:

มาต่อเร็วๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 02-04-2013 15:24:42
เกมส์น่าสงสารร  :sad4: เจอเรื่องแบบนั้นแล้ว ยังมาเจอเรื่องแมวตายอีก  :hao5:
ดิวนี้ก็น่ะ :m16: เลิกกับยัยแพรนั้นได้แล้ววว :angry2: ยัยแพรนี้ก็เน้อ ตามจังเลยย :katai4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 02-04-2013 17:50:40
เศร้าอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: p.spring ที่ 02-04-2013 20:27:39
ดิวลังเล ตกลงจะเอายังไงกับชีวิต ไม่เข้าใจสงสารเกม
น้องเเมววว  :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 03-04-2013 00:33:10
สงสารเกมส์ วันนี้รับแต่เรื่องเสียใจตลอดเลย หมอดูของแม่นี่แม่นเนอะ เสียของรักไปจริงๆ แต่ก็ทำให้รักษาของรักอีกอย่างไว้ได้ใช่มะ ดีใจที่ดิวรีบมาดูแล และอยู่เป็นเพื่อนเกมส์ ตกลงดิวรู้ใจตัวเองแน่แล้วสินะ จะได้บอกกันให้ชัดเจนไปเลย แล้วตอนนี้เกมส์ก็ดูจะคิดถึงดิวเป็นคนแรกเมื่อมีปัญหานะ และที่สำคัญญญญญญญญ  เค้ากอดกันแล้วววววววววววววววววววววววววววว

รำคาญเจ้าบีมมากมาย นิสัยไม่เคยดีเลย ตั้งแต่ตอนเต่าน้อยแล้วที่ทำปากเสียที่ค่าย มาตอนนี้ก็น่ารำคาญตามดิวอยู่นั่นแหละ คาดคั้นอยู่ได้ สงสัยจะชอบยายแพรละสิ ชอบก็จีบเองไปเลย ดิวจะได้ไม่มีปัญหา ส่วนยายเจ้าของวันเกิดนี่ก็น่ารำคาญพอกัน สมกันกับเจ้าบีมพอดี ผู้ชายปฎิเสธขนาดนี้เป็นเราละก็ไม่เอาแล้ว นี่ไม่มีศักดิ์ศรีเลย โทรตามออดอ้อนอยู่นั่นแหละ หมั่นไส้ตั้งแต่ตอนที่แล้วแระ ทำเป็นมองไม่เห็นคนเค้าคุยกัน เข้ามาพูดเพ้อเจ้อ คนตัวเบ้อเร่อบอกว่าไม่เห็นกันเนี่ยนะ สตอจริงๆไม่ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 03-04-2013 01:06:14
ดิวมันหล่อทั้งหน้าตาและนิสัยเลยอะกรี๊ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 03-04-2013 11:14:33
TT TT

จั๊ดง่าววววววว ใครทำอะไรแกอะ!!!

คือเหมือนจะดีที่จั๊ดง่าวตายทำให้เกมส์อ่อนแอแล้วคิดถึงดิว แต่ก็อดสงสารจั๊ดง่าวไม่ได้ เง้อออออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 03-04-2013 23:00:23
ดีใจที่ดิวได้อยู่ข้างๆ เกมส์

เสียใจที่จั๊ดง่าวตาย

สะใจที่ชะนีโดนทิ้ง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 10] 01/04/56 > P.83
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 04-04-2013 01:48:21
มาต่อแท่งที่ 11 เร็วๆ นะคะ :katai4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 04-04-2013 22:28:49
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 11




...ขยับไม่ได้


นายซีเกมส์พยายามขยับตัวกระดุกกระดิกทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา
แต่เหมือนร่างมันชาเพราะมีอะไรหนัก ๆ มาทับ
แม้จะยังง่วงงุน ทว่าก็ต้องฝืนเปลือกตามองอย่างอึดอัด
ก่อนพบสาเหตุของปัญหา ซึ่งวางทาบกอดเขาเอาไว้


...มือนี่หว่า
...มาได้ยังไงวะ
...แล้วเจ้าของมันเป็นใคร


คนสงสัยรีบเงยหน้ามองคำตอบ แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่า
ใบหน้าของใครบางคนอยู่ใกล้ในระยะประชิด
ความตกใจไล่ความมึนงงทั้งหมดให้ปลิวหายไปจากสมองทันที
พร้อม ๆ กับสติเริ่มหวนคิดกลับไปยังความทรงจำเมื่อวาน


...จั๊ดง่าวไม่อยู่แล้ว

เมื่อคืนเขาร้องไห้เพราะทำใจไม่ได้ที่สูญเสียมันไป
และคนซึ่งอยู่ข้าง ๆ คอยปลอบเขาคือคนนี้
ร่างสูงที่ยังหลับตานิ่งผ่อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ
ใบหน้าแนบชิดจนได้กลิ่นบุหรี่จาง ๆ จากเสื้อเชิ้ตใกล้ตัว...


...ใกล้  เฮ้ย! ใกล้มากไปแล้ว


เกมส์กระเด้งตัวห่าง พยายามยกมือที่กอดออก
ทว่าเพียงขยับก็คล้ายจะเป็นการปลุกให้คนกำลังหลับตื่นขึ้นพอดี


ดิวลืมตางัวเงียค่อย ๆ รู้สึกตัว
ก่อนประสานสายตาเข้ากับอีกคนซึ่งผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ
ทำให้ร่างสูงต้องปล่อยมือที่กอดไว้
พร้อมกับร้องถามด้วยความห่วง


“เกมส์ตื่นแล้วเหรอครับ”


อีกฝ่ายไม่ตอบคำ
เพียงแค่ก้าวลงจากเตียงเดินไปหยิบเสื้อผ้าเหมือนเตรียมไปอาบน้ำ
ทิ้งดิวไว้บนเตียงกับลำดับความคิดซึ่งค่อย ๆ เรียบเรียงสู่สมอง


“คือว่าเกมส์...”


แค่ชั่วขณะที่กำลังเปิดปากพูด
เจ้าของห้องก็ชิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปโดยไม่ทันได้ต่อความ


...ชัดเจนแล้ว เกมส์ยังคงโกรธเขาอยู่


เขาเข้าใจว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นตั้งมากมายทำให้ไม่มีโอกาสอธิบาย
เลยไม่แปลกที่เกมส์จะยังคงไม่ยอมพูดดี ๆ กับเขาง่าย ๆ
ถึงจะอยากแก้ไขความเข้าใจผิด แต่ก็ดูคล้ายจะไม่มีหวัง
อีกอย่างเขาก็ยังห่วงความรู้สึกของเกมส์ที่เพิ่งสูญเสียลูกแมวตัวเล็ก


...แม้เมื่อคืนเขาจะอยู่ปลอบเป็นเพื่อน
แต่ตอนนี้เขาไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกมส์จะรู้สึกยังไงบ้าง


ดิวคิดกังวลด้วยความห่วงและสับสน
หากแต่เมื่อประตูห้องน้ำเปิดออกมา
เขากลับพบว่าคนที่โกรธหันมองแล้วเอ่ยถามสั้น ๆ


“ไม่อาบน้ำเหรอ?”


ดิวชะงักหลังได้ยินคำทัก รีบดมกลิ่นตัวเองฟุดฟิดอย่างไม่มั่นใจ
ก็เขาไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
เพราะหลังจากกอดปลอบเกมส์ดันเผลอนอนหลับไปทั้ง ๆ อย่างนั้น


คนเสียภาพลักษณ์หนุ่มหล่อเดือนคณะหมดสิ้น
จึงเอ่ยคำขอด้วยความเก้ ๆ กัง ๆ


“งั้นผมขอยืมเสื้อเกมส์หน่อยได้มั้ยครับ”


เหมือนเจ้าตัวจะรู้สถานการณ์ดีหรือทนความเน่าของคู่สนทนาไม่ได้
จึงคุ้ยเสื้อยืด กับผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ แล้วโยนไปให้ร่างสูงรับไว้
ก่อนจะเดินไปอาบน้ำตามคำสั่งอย่างงง ๆ


...ที่งงก็เพราะท่าทีของเกมส์
มันเป็นปกติเกินกว่าที่คิดไว้
นึกว่าจะโกรธ หรือจะเศร้าจนร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
แต่ก็เปล่า...เกมส์ยังคงนิ่งเงียบพูดคุยธรรมดากับเขา
จนไม่รู้ว่าเจ้าตัวอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่


พอเขาอาบน้ำเสร็จออกมาจัดการตัวเองเรียบร้อย
เกมส์ที่รออยู่แล้วจึงลุกขึ้นคว้ากระเป๋าตังค์และกุญแจห้อง


“เดี๋ยวเราจะออกไปแล้วนะ”


“เกมส์จะไปไหนเหรอครับ”


“วัด”


ถ้อยคำเดียวแต่กินใจความครอบคลุม
ทำให้ดิวพอจะเริ่มเดาการกระทำของอีกคนหนึ่งได้
เขาจึงเปลี่ยนท่าทีเป็นเอ่ยขันอาสา


“งั้นเดี๋ยวผมพาเกมส์ไปเองครับ”

คู่สนทนายังคงนิ่งเงียบไม่ตอบรับอะไร
นั่นเท่ากับการตีความว่าไม่ปฏิเสธ


ดิวจึงพาเกมส์ขึ้นรถขับไปยังวัดซึ่งไปมาเมื่อคืน
ในวันอาทิตย์ตอนเกือบแปดโมงเช้ามีผู้คนมาเข้าวัดบางประปราย


เกมส์ลงจากรถทันทีที่จอดสนิท
เดินตรงดิ่งไปยังโบสถ์ จุดธูปเทียนไหว้พระ ถวายสังฆทานเรียบร้อย
แล้วมานั่งฟังพระเทศน์ โดยมีดิวตามไปนั่งด้วยข้าง ๆ


...รู้สึกแปลก ๆ อยู่เหมือนกันเพราะห่างวัดมานาน
ทุกทีวันอาทิตย์เขาต้องนัดใครสักคนไปเดทที่ห้าง ดูหนัง กินข้าวบ้าง
แต่วันนี้พอได้มาทำบุญ ฟังธรรมแล้ว
ก็คล้ายใจที่เคยเคร่งเครียดมันพอจะสงบลงไปบ้าง


พอฟังพระเทศน์เรียบร้อย
เกมส์ก็ลุกผละจากเขาไปพูดคุยอะไรกับพระท่านเล็กน้อย
ก่อนกราบลาแล้วถอยออกมาพร้อมมือที่ถือคนโทกรวดน้ำใบเล็กมาด้วย
เดินลงจากโบสถ์มาหยุดใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์
ที่ซึ่งด้านล่างมีร่างของลูกแมวตัวเล็กนอนหลับอยู่
น้ำจากคนโทค่อย ๆ ไหลลงรดตรงโคนต้นไม้
พร้อมกับบทสวดแผ่เมตตาที่เกมส์ค่อย ๆ ท่องออกมา
เพื่อหวังว่าบุญกุศลที่ได้ทำในวันนี้จะส่งผลถึงลูกแมวตัวน้อยด้วย


กระนั้นแม้ใจจะพยายามสงบนิ่ง
แต่มันช่างตรงข้ามกับความรู้สึกลึก ๆ ข้างใน


...มันเป็นความผิดของเขาเอง
ถ้าเมื่อวานนี้เขาระวังอีกสักหน่อย
เลื่อนปิดประตูบานเลื่อนตรงระเบียงให้สนิท
ไอ้จั๊ดง่าวมันคงไม่มีทางปีนหนีออกไป
ดูจากบาดแผลที่เกิด มันคงถูกหมาหรือแมวตัวอื่นกัดตาย
ซึ่งเขาไม่อยากจะไปสืบค้นต้นต่อว่ามาจากตัวไหน
เพราะสุดท้ายคนที่ทำให้มันต้องตายก็คือเขา


“ป้อขอโทษเน้อจั๊ดง่าว
ไว้จาดหน้ามีจริงมาเกิดเป๋นฮูกป้อใหม่
คราวนี้ป้อสัญญาป้อจะดูแลฮื้อดีที่สุด
หลับฮื้อสบายเน้อ จั๊ดง่าว”


เกมส์แตะมือลงไปบนดินแผ่วเบา
เช่นเดียวกับคำพูดที่หวังเหลือเกินว่ามันจะเป็นจริง

เขาไม่เคยเชื่อในดวงชาติภพ
แต่ตอนนี้เขาอยากเชื่อว่ามันมี
เผื่อชาติหน้าเขาจะได้กลับมาเจอไอ้จั๊ดง่าวอีกครั้ง
หรือถ้าในวินาทีนั้นสามารถย้อนกลับมาได้
เขาก็ขอจะเริ่มต้นใหม่

แต่เขารู้...

...เวลาไม่เคยถอยหลัง
เหมือนกับลูกแมวของเขาที่มันจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก


เกมส์นั่งนิ่งมองดินที่กลบขึ้นใหม่ตรงหน้าเงียบ ๆ
ท่ามกลางสายตาของดิวซึ่งสังเกตอยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา


...เขาคิดถูกแล้ว

ไม่ใช่ว่าเกมส์จะไม่รู้สึกอะไร
แต่เพราะเกมส์พยายามทำตัวให้เข็มแข็ง
เลยแสดงออกมาด้วยสีหน้าและท่าทางเป็นปกติ
ทว่าจะซ่อนเท่าไรก็คงซ่อนไม่มิด
เพราะแค่จากแววตานั้นของเกมส์ก็บอกชัดว่าลึก ๆ แล้ว


...เกมส์กำลังโทษตัวเองที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้น



ดิวนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตัดสินใจก้มลงไปเอามือแตะลงบนดิน
แล้วเอ่ยประโยคพูดคุยเหมือนที่เกมส์ทำบ้าง


“ตัวเล็กครับ ตัวเล็กอยู่บนฟ้าแล้ว ตัวเล็กต้องคอยดูแลพี่เกมส์นะครับ
ถ้าพี่เกมส์เศร้าตัวเล็กก็จะไม่สบายใจใช่มั้ย
ตัวเล็กรู้ว่าพี่เกมส์คิดถึง ตัวเล็กก็คิดถึงพี่เกมส์เหมือนกัน
แต่พี่เกมส์ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นตัวเล็กจะร้องงอแงขึ้นมานะครับ”


คนถูกเอาชื่อไปเอี่ยวหันมองเจ้าของถ้อยคำทันที


...ดิวมันพูดบ้าอะไรเป็นตุเป็นตะ
ไปรู้แทนไอ้จั๊ดง่าวได้ยังไง
ประสาทรึเปล่าวะ!

แต่แม้ถ้อยคำจะบ้าบอ
เขาก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังปลอบ
เหมือนที่ทำให้เขาเช่นเดียวกับเมื่อคืน


...พอนึกถึงเรื่องราวภาพความทรงจำก็ย้อนกลับมาเป็นฉาก

หงุดหงิดตัวเองอยู่เหมือนกันที่ดันงี่เง่าโทรหาดิวเป็นคนแรก
ทั้ง ๆ ที่เคยคิดไว้ว่าไม่อยากจะเจออีก

...ทีไหนได้ไม่ทันครึ่งวันเลย
เขากลับต้องมาพึ่งพาดิวซะอย่างนั้น


แต่จะว่าเขาไม่ได้นะ...
เพราะหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นมันเกินจะตั้งตัวทัน
ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง
แต่ตอนนี้สติกลับมาปัญญาเริ่มเกิดพร้อมอารมณ์ซึ่งก่อตัว


...อย่ามาหวังว่าแค่ตีเนียนช่วยเขา
แล้วจะทำให้เขาหายโกรธลืมเรื่องที่ดิวเคยทำไว้!



“เราจะกลับแล้ว”


เกมส์พูดตัดบทลุกขึ้นเอาคนโทไปคืนพระท่านให้เรียบร้อย
ก่อนเดินกลับมาหาดิวซึ่งเตรียมขับรถไปส่งถึงหอ

หากแต่เมื่อร่างสูงเดินตามเข้าไปถึงในห้อง
อีกฝ่ายกลับหมุนตัวหันมาร้องห้าม


“ตามเข้ามาทำไม กลับไปได้แล้ว”


ดิวหยุดกึกหน้าประตูห้องทันที
แม้จะรู้ว่ามันหมดธุระของเขาแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอดห่วงเกมส์ไม่ได้


“ให้ผมอยู่อีกหน่อยไม่ได้เหรอครับ”


“ไม่ได้! แล้วไม่ต้องเข้ามาใกล้ด้วย หยุดอยู่ตรงนั้นนะเว้ย!”


คำอ้อนวอนไม่เป็นผล
มิหนำซ้ำเกมส์ยังหันมาชี้นิ้วสั่งคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาเพิ่ม
ก่อนหนีขึ้นไปนั่งบนเตียง หยิบรีโมทโทรทัศน์มากดดูข่าวดูการ์ตูนไปเรื่อย
โดยไม่สนแขกซึ่งยืนอยู่ตรงที่เดิมบริเวณหน้าประตูเหมือนถูกทิ้ง


ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนจวบจนเมื่อเช้าเขาคิดว่าจะเข้าใกล้เกมส์มากแล้ว
แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นว่า...


...เขาไม่ได้ใกล้มากขึ้นเลย


...ก็แน่อยู่แล้ว เขามีความผิดติดตัวขนาดนี้
มันคงถึงเวลาเสียทีที่เขาต้องชดใช้ความผิด
และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เกมส์เข้าใจ


ร่างสูงจึงขยับปากเตรียมเล่า


“เกมส์ครับ คือเรื่องเมื่อวานนี้ผม...”


“ไม่ต้องพูดเราไม่อยากฟัง จะไปไหนก็ไปซะ!”


หากยังไม่ทันจบประโยคเสียงตะโกนไล่ก็เอ่ยขัด
พร้อม ๆ กับที่เกมส์หันไปเร่งรีโมทเสียงโทรทัศน์ให้ดังขึ้น
ปิดกั้นทุกโอกาสจะแก้ตัว ปฏิเสธโอกาสเปิดใจ


ดิวมองอีกฝ่ายเงียบ ๆ ถอนหายใจคล้ายคนยอมแพ้
ก่อนจะหมุนตัวหันหลังปิดประตูลงไปตามความต้องการ
ปล่อยให้เกมส์อยู่ในห้องเพียงลำพัง


สิ้นเสียงปิดประตู คนทำท่าไม่สนใจจึงค่อยลดเสียงทีวีลง


....เห็นมั้ย สุดท้ายมันก็ต้องไป
คิดจะมาคุยดี ๆ ด้วยอย่าหวังเลย
เพราะเขาไม่อยากจะฟังคำโกหกอะไรอีกแล้ว
สำหรับดิวมันไม่เคยมีความจริงจังให้กันตั้งแต่แรกหรอก


ตรงข้ามกับไอ้จั๊ดง่าวที่ถึงจะคุยกันคนละภาษา
มันก็ยังมีความซื่อสัตย์ เฝ้าคอยเขาทุกครั้งที่กลับบ้าน


เพียงแต่ตอนนี้มันไม่อยู่รอเขาอีกต่อไปแล้ว...


เกมส์กวาดตามองรอบห้องเงียบ ๆ ของตัวเอง
ทุกภาพ ทุกส่วนของห้องจะมีลูกแมวตัวเล็กเสมอในความทรงจำ
ถาดข้าวที่มันกินยังวางอยู่ตรงนั้น เบาะที่มันนอนก็อยู่ใกล้เตียงของเขา

...แค่คิดขอบตาก็ร้อนผ่าว
เขาพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติต่อหน้าคนอื่น
ทว่าพออยู่เพียงลำพัง
เขากลับไม่สามารถกลั้นน้ำตาเพราะความเศร้าให้หยุดลงได้เลย


...ฮึก...ไอ้จั๊ดง่าว ป้อขอโทษ

...ฮืออออ...กลับมาหาป้อเต๊อะ ไอ้จั๊ดง่า...



แอ๊ดดด...



เสียงเปิดประตูทำให้คนที่น้ำตานองรีบเงยหน้าขึ้นมองทันควัน
แล้วก็ได้เห็นคนที่คิดว่าออกไปแล้ว
กลับเปิดประตูเข้ามาในห้องพร้อมของหิ้วเต็มสองมือ
ก่อนจะร้องถามอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพคนบนเตียง


“เกมส์เป็นอะไรครับ”


...เฮ้ย! อยู่ ๆ เข้ามาได้ยังไงวะ ไหนบอกว่าไปแล้วไง


คนเผลอตัวรีบปาดน้ำตาลวก ๆ ปากขยับพูดโกหกคำโต


“อ้อ...คือ...ฝะ...ฝุ่นมันเข้าตาเฉย ๆ
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กวาดห้อง ฝุ่นมันเลยฟุ้ง
แล้วนี่เข้ามาทำไม บอกให้ออกไปไง”


“ผมลงไปซื้อข้าวมาให้เกมส์น่ะครับ
นี่มันจะสิบโมงแล้ว เกมส์หิวรึยังครับ”


อีกฝ่ายพูดพร้อมชูถุงหิ้วใส่กล่องข้าวมาโชว์
ทำให้คนมองเผลอนึกขึ้นได้


...จะว่าไปมันก็หิวอยู่หน่อย ๆ เหมือนกัน
แต่จะให้คนทรยศหักหลังเดินเข้ามาใกล้ง่าย ๆ ได้ยังไง
เดี๋ยวดิวมันเกิดเจ้าเล่ห์ซ้อนแผนอะไรขึ้นมาอีกเขาไม่ซวยเหรอ
คนอย่างไอ้เกมส์ไม่ยอมโง่ซ้ำสองอีกแล้ว


“เอาของเราวางไว้ที่โต๊ะนั้นแหละ เสร็จแล้วถอยไปตรงประตูนู้น”


เขาออกคำสั่งพลางชี้นิ้วไปยังโต๊ะหนังสือของตัวเอง
ซึ่งอยู่ห่างจากเตียงไปเกือบสองเมตร
ดิวทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย วางข้าวกล่องและถุงขนมไว้ที่โต๊ะ
แล้วหันหลังกลับไปรออย่างสงบตรงประตู


เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีการเล่นตุกติก
คนระแวงจึงเดินลงมาหยิบข้าวกล่องหนึ่ง
ก่อนกลับไปลากโต๊ะพับตัวเล็กมากางนั่งกินบนเตียง
โดยไม่ลืมวางเงินไว้บนโต๊ะ


“เงินค่าข้าวเอาไปเลยไม่ต้องทอน”


หากแต่คนซื้อกลับถอนหายใจอีกรอบก่อนเอ่ยคำปฏิเสธเดิม ๆ


“ไม่ต้องหรอกครับ ผมเลี้ยง...ว่าแต่เกมส์จะให้ผมนั่งกินตรงไหนครับ”


เสียงถามทำให้คนที่กำลังแกะกล่องข้าวชะงัก


...นี่มันคิดจะหาทางเข้ามาให้ได้เลยใช่มั้ย



“ทำไมไม่กลับไปกินที่ห้องตัวเองล่ะ”


“เขาว่าถ้ากินข้าวด้วยกันกับคนเยอะ ๆ มันจะอร่อยขึ้นนะครับ”


...ทฤษฏีไหนวะ
คนกินก็แค่สองคน ข้าวผัดก็ธรรมดา
ไม่ใช่หูฉลามมันถึงจะอร่อยเวอร์ได้ขนาดนั้น

หากแต่ดูเหมือนร่างสูงจะไม่สนใจ
เพราะแทนทีจะรอคำตอบ
ดิวกลับเดินเข้ามาหยิบกล่องข้าวแล้วถามย้ำอีกครั้ง


“ตกลงผมนั่งโต๊ะนี้ได้มั้ยครับ”


สุดท้ายก็คล้ายผลสรุปจะไม่สามารถเอาชนะคนตื้อได้

...มันอยากหน้าด้านนักก็ตามใจ
อีกอย่างไหน ๆ มันก็ลงไปซื้อข้าวมาฝากเขาแล้ว


“เออ”


เกมส์จึงพยักหน้าแกน ๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเอง


บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเฉียบโดยไม่มีเสียงพูดจาใด ๆ
นอกจากเสียงโทรทัศน์ซึ่งเปิดคลอเบา ๆ
แม้คนสองคนจะอยู่ห้องเดียวกัน
แต่ราวกับมันยังมีกำแพงกั้นก่อตัวไว้
ความอึดอัดใจไม่ได้สร้างความสุนทรีย์อะไรในการรับรู้รสชาติ


เกมส์ตักข้าวเคี้ยวเข้าปากเหมือนกินกันตายเท่านั้น
แล้วก็วางช้อนลงหลังจากกินไปเพียงครึ่งเดียว
ซึ่งแน่นอนว่าดิวที่คอยมองอยู่ห่าง ๆ จะต้องสังเกต
จึงเปลี่ยนไปยกถุงเซเว่นเปิดออกพลางพูดเสนอ


“เกมส์อิ่มแล้วเหรอครับ กินขนมมั้ย
ผมซื้อขนมมาให้เกมส์ด้วยนะ
เอาอะไรดีครับ มีช็อคโกแล็ต โครอล จูปาจุ๊บ...”


“บุหรี่”


ตัวเลือกที่ไม่มีอยู่ในรายการ ส่งผลต่อใจคนฟังให้ชะงักงัน
ดิวเงยหน้ามองคนพูดซึ่งมีสีหน้าเรียบนิ่งอย่างไม่อยากเชื่อ
เขาคิดว่าตัวเองหูฝาด แต่ประโยคทีตามมากลับย้ำชัด


“สูบใช่มั้ย มีสักมวนรึเปล่า”


เกมส์รู้ว่าดิวต้องมีแน่
เพราะเขาได้กลิ่นบุหรี่ตอนอยู่ใกล้กันเมื่อเช้าที่ตื่นนอน


...ไม่ใช่ไม่เคยสูบ เขาหัดมาตั้งแต่เข้ามหาลัยใหม่ ๆ แล้ว
เพราะไกลหูไกลตาคุณนายสายสมรเลยสามารถทำได้
ลองให้รู้ เอาไว้คลายเครียด ไม่ใช่จะติดอะไร
เหมือนกับเหล้าที่นาน ๆ ครั้งถึงได้กิน
แต่ตอนนี้ตะวันยังตรงหัว จะให้กินเหล้ามันก็ดูฮาร์ดคอร์เกินไปหน่อย
เลยขอบุหรี่มาสูบแก้เซ็งสักมวนให้ใจเขามันพอผ่อนคลายไปบ้าง


หากทว่าแทนทีจะได้รับง่าย ๆ
คนมีบุหรี่อยู่ในมือกลับเลือกจะตอบปฏิเสธ


“ขอโทษครับ ผมคงให้เกมส์ไม่ได้”


...อะไรวะ! แค่นี่ทำงก
ทีข้าวกล่องขนมราคาเป็นร้อยบอกจะเลี้ยง
บุหรี่มวนละไม่ถึงสิบบาทดันไม่ไห้


“งั้นเดี๋ยวเราลงไปซื้อเอง”


เกมส์นึกหงุดหงิดใจ ผุดลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกนอกห้อง
แต่ดิวกลับรีบลุกเดินมาขวางประตูไว้


“เดี๋ยวครับเกมส์! อย่าสูบเลยนะครับ”


ยิ่งฟังคำห้ามเหมือนเห็นเขาเป็นเด็กอ่อนต่อโลก
ก็ยิ่งสร้างความขุ่นเคืองจนต้องอ้าปากเถียงกลับไปบ้าง


“ทีดิวสูบได้แล้วทำไมเราจะสูบไม่ได้”


“งั้นผมจะเลิก เกมส์ก็ต้องเลิกสูบเหมือนกัน”


“ยุ่งอะไรด้วยวะ! จะสูบไม่สูบมันก็เรื่องของเรามีสิทธิ์อะไรมาห้าม!!”


“มีสิครับ ก็ผมเป็นห่วงเกมส์!”


สิ้นคำ ต่างคนต่างเงียบ
โดยเฉพาะคนต้นเรื่องที่พยายามจะออกไปกลับต้องหยุดทุกอย่างไว้
เพียงเพราะแค่มองเห็นดวงตา
ซึ่งสะท้อนความจริงจังแบบที่เขาไม่เคยพบมาก่อนจากดิว
ไม่ต่างจากน้ำเสียงหนักแน่นซึ่งเอ่ยออกมา


“ผมรู้ว่าเกมส์เครียด
ถ้าเกมส์อยากจะระบายก็มาระบายกับผม
ผมจะอยู่ข้าง ๆ เกมส์เอง
แต่เกมส์อย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เลยได้มั้ยครับ
....ผมขอร้อง” 


ท้ายประโยคแผ่วลงเจือน้ำคำวอนขอ
จนทำให้อารมณ์โกรธของเกมส์เริ่มลดลงกว่าครึ่ง
กระนั้นก็ยังคงไม่คลายความหงุดหงิด


...ก็แค่สูบบุหรี่แก้เครียวมวนเดียว มันจะไปทำร้ายตัวเองตรงไหน
แต่รู้ว่าขืนดื้อเถียงไปอีกฝ่ายคงไม่ยอมปล่อยแน่
อีกอย่างกินขนมหวาน ๆ ก็อาจจะพอช่วยทำให้สมองเขาปรอดโปรงได้เหมือนกัน


สุดท้ายเกมส์จึงต้องยอมจำใจรับอย่างเสียไม่ได้


“เออ ไม่สูบก็ได้วะ เอาจูปาจุ๊บมาที”


คนยอมแพ้หันหลังกลับไปนั่งบนเตียงตามเดิม
มองร่างสูงซึ่งยิ้มกว้างอย่างยินดีรีบค้นถุงขนมหาจูปาจุ๊ปตามคำขอ
หากแต่ยังไม่ทันได้ยื่นให้ เสียงโทรศัพท์กลับดังขึ้นขัดจังหวะ
และเมื่อดิวหยิบไอโฟนของตัวเองดูสายเรียกเข้า
ก็ต้องทำให้เขารีบกดรับ กรอกน้ำเสียงรีบร้อนกลับไปทันที


“ฮัลโหล ครับแพร เมื่อวานผมขอโทษจริง ๆ นะครับที่ไม่ได้ไป”


ชื่อที่เอ่ยขึ้นมาทำให้เกมส์นึกขึ้นได้เช่นกัน


...เมื่อวานคล้ายจำได้ลาง ๆ ว่าเป็นวันเกิดแพร
แล้วเขาก็ไล่ให้ดิวไปหา แต่ดิวกลับมานอนห้องเขาทั้งคืน
มันไม่แปลกหรอกที่จะทำให้แพรโกรธ
ซึ่งคนผิดคำพูดก็คงคล้ายจะรู้ดี
จึงพยายามหาข้อแก้ตัวตอบคู่สนทนา


“...ครับ ผมผิดเอง...ถ้าพอมีอะไรที่ผมทำให้แพรได้
ถือว่าเป็นการไถ่โทษ...อะไรนะครับ...
แพรจะดูหนังตอนนี้เหรอครับ คือว่าผมคงไปไม่...”


“ผู้ชายที่ไม่ทำตามคำสัญญา มันไม่ใช่ลูกผู้ชายหรอก”


คำพูดลอย ๆ จากคนซึ่งเงี่ยหูฟังอยู่ในห้อง
ทำให้ดิวต้องหยุดประโยคเอาไว้
และก็ต้องรู้สึกชาวาบเหมือนถูกมีดแหลมจี้ใจ
เมื่อได้ยินเสียงถามต่อมา


“อยากจะโกหกคนอื่นเพิ่มอีกใช่มั้ย”



...แค่ในนาทีนั้น

...กับถ้อยคำนั้น


ดิวรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า...


...เกมส์ไม่เหลือความเชื่อใจอะไรให้เขาอีกแล้ว



...นี่สินะ ถึงเป็นเหตุผลที่เกมส์พยายามหนี
โดยไม่ยอมรับฟังคำอธิบายใด ๆ ของเขาเลย


ที่น่าเจ็บใจกว่านั้นคือ....ความอวดดีโง่ ๆ อย่างดื้อดึงของเขา

แม้จะคิดว่าตัวเองเข้าไปใกล้เกมส์มากแล้ว


...ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ไม่เคยเข้าไปจนถึงใจของเกมส์สักครั้ง


ถ้าจะโทษก็ต้องโทษความลังเลของตัวเอง
ที่ทำให้เรื่องทั้งหมดมันกลายเป็นแบบนี้
และถึงอยาก0tอยู่กับเกมส์มากแค่ไหน
แต่ในเมื่อเกมส์บีบเขาให้ออกห่าง


...เขาก็ต้องยอมทำใจว่ามันหมดเวลาของเขาแล้ว



“งั้นก็ได้ครับแพร เดี๋ยวอีกชั่วโมงหนึ่งผมจะไปรับ”


ดิววางสายหลังจากตกลงกันเรียบร้อย ก่อนหันไปหาใครอีกคน


“เกมส์ครับ ผม...”


“รู้แล้ว จะไปก็ไปซะ”


คนฟังตัดบทอย่างง่ายดายโดยไม่เหลือเยื่อใยใด ๆ ให้กัน
พอเห็นท่าทีไล่จริงจัง จึงทำให้ร่างสูงถอนหายใจ
ส่งจูปาจุ๊บรสโคล่าในมือให้อีกฝ่าย


“งั้นผมจะรีบไปรีบกลับนะครับ”


เป็นประโยคสุดท้ายก่อนดิวจะปิดประตูห้องลง
ซึ่งเกมส์ไม่ได้สนใจมันแม้แต่น้อย


เขาเดินไปทิ้งตัวนอนบนเตียง
แกะห่อจูปาจุ๊ปรสโปรดในมือใส่เข้าปากแทนบุหรี่


....รสหวานแรกสัมผัสคุ้นเคย


แม้จะเคยพร่ำบอกตัวเองว่าความหวานจะช่วยให้สมองปรอดโปร่ง
แต่เหมือนทุกอย่างในวันนี้จะตรงกันข้าม
เพราะมันกลับทำให้หัวใจของเขาหนักอึ้งมากขึ้นกว่าเดิม


ยิ่งเมื่อตระหนักชัดว่าตัวเองอยู่ในห้องนี้ลำพัง
ความเหงาก็ยิ่งเริ่มเข้ามาเกาะกุม


...ถ้ามีไอ้จั๊ดง่าวอยู่ด้วยกัน
เขาคงกอดมันไว้แล้วทำแข็งใจไล่อีกคนไปตั้งแต่แรก
และคงไม่เผลอให้ดิวเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ขนาดนี้


...ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะโกรธ
แต่คนที่เขาเรียกหาเป็นคนแรกกลับเป็นดิว


...ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะกลัว
แต่กลับแสดงให้ดิวเห็นด้านที่อ่อนแอของตัวเองอย่างง่ายดาย


...ทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าคำปลอบพวกนั้นมันโกหก
แต่เขาก็ยังจะเชื่อ และรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ฟัง



...ทำไม...เพราะอะไร...



...เขาถึงยังอยากให้ดิวมาอยู่ตรงนี้กับเขา




ตี๊ด!  ตี๊ด!


เสียงข้อความเข้าเรียกสติของคนในภวังค์
เกมส์เอื้อมหยิบมือถือบนหัวเตียงขึ้นมาเปิดดู
ภาพของคนใครบางคนปรากฏชัด
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มคล้ายให้กำลังใจเช่นเดียวกับข้อความ



‘ยังมีผมอยู่ข้าง ๆ เกมส์เสมอนะครับ’



เขามองภาพนั้นเงียบ ๆ  ก่อนตัดสินใจลบมันออก
กดปิดเครื่องโทรศัพท์ไม่ตอบกลับ
โยนจูปาจุ๊บรสโคล่าที่ไม่หมดแท่งลงถังขยะอย่างไม่เสียดาย


...จะเสียดายทำไมในเมื่อเขาคิดผิดจริง ๆ



เพราะความหวานที่ผสมกับน้ำตา...



...เขารู้แล้วว่ามันไม่ได้ช่วยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้เลย





----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 04-04-2013 22:31:27
จิ้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :mc4:


รอต่อๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 04-04-2013 22:45:10
อย่าหน่วงไปมากกว่านี้เลย  :o12:
เข้าใจว่าดิวไม่ได้โลเลนะ
กับแพร ดิวคงรู้สึกผิดอย่างเดียว ไม่ได้รัก รู้สึกผิดกับสันดานเจ้าชู้ของตัวเองที่ให้ความหวังไปทั่วจนแพรเสียใจ
แต่กับเกมส์ จะรักรึเปล่าก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆ ดิวคงรู้สึกลึกซึ้งพิเศษมากกว่าคนอื่น รู้สึกกับเกมส์แค่คนเดียวไม่มีคนอื่น
เราว่าที่ดิวไปหาแพรก็สมควรทำอยู่แล้ว ลูกผู้ชายไม่ควรเอาเปรียบผู้หญิง หวังว่าไปคราวนี้ดิวคงเคลียร์ตัวเองได้

ส่วนเกมส์ เข้าใจว่าเหตุการณ์มันเพิ่งสดๆ ซิงๆ เลยยังให้อภัยดิวไม่ได้
แต่ถ้าเกมส์เปิดใจกว่านี้ เกมส์ก็น่าจะรับรู้ได้ว่าดิวมันจริงใจนะเอ้อ!

มาต่อเร็วๆ นะคะ ชอบมากเลย นี่ก็ประมาณครึ่งเรื่องแล้วสินะคะ แอร๊ยยยย รอตอนหวานๆ อยู่นะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: gcc ที่ 04-04-2013 22:52:13
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-04-2013 23:01:55
ดิวคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก ความจริงใจอย่างมากที่จะมาสร้างความเชื่อใจให้เกมส์อีกครั้ง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 04-04-2013 23:05:47
 :ling2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 04-04-2013 23:12:29
ปวดใจ เฮ้อออ

ดิวแม่งไม่ชัดเจนว่ะ เซง

>>แท่งที่ 11 แล้วเน้อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 04-04-2013 23:37:28
ยังหน่วงากกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 04-04-2013 23:52:36
 :katai1:ดิวควรจะเคลียร์ตัวเองนะ ว่าชอบใครกันแน่น่ะ

ถ้าชอบแพรก้ออย่ามาทำดีกับเกมส์ขนาดนี้เล้ยยย สงสารเกมส์ :z3:

รักคนเขียนนะคะ มาต่อเร็วๆน้าาาา :mew1:><~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 04-04-2013 23:57:21
เกมส์นี่ใจแข็งจริง ๆ เลย
สู้ต่อไปนะดิว ซักวันจะต้องเป็นวันของเรา o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 05-04-2013 00:17:13
การเริ่มต้นด้วยการอยากเอาชนะผลก็เป็นแบบนี้ล่ะน้า

แต่ถ้าปรับความเข้าใจกันได้  เชื่อว่าทั้งดิวและเกมต้องไปด้วยกันได้ดีแน่ๆ

เอาใจช่วยทั้งคู่ค่ะ  :katai3:

บวกเป็ดให้ทั้งสองตอนเลย

แอบเบี้ยวไปตอน  :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 05-04-2013 00:21:09
อ่านตอนนี้แล้วสงสารดิวนะ เหมือนที่ผ่านมาดิวหลอกเกมส์ แต่เราว่าดิวก็ไม่ได้หลอกอะไร ดูจากเกมส์กลัวผู้ชายที่เข้ามาจีบ ดิวก็กลับไปนั่งคิดว่า อยากแก้ความกลัวนี้ก็เริ่มเข้ามาหาเกมส์แบบเพื่อน ที่มาพูดคุยกับเกมส์โทรหาเกมส์ก็บอกขอเป็นเพื่อน คุยกันสารพัดเรื่องช่วยเหลือเกมส์ เอาขนมมาฝาก จนถึงการเสนอการส่งรูปพูดคุยแทนการมาพบด้วยตัวเอง ก็ยังเป็นในรูปของเพื่อน ไม่เคยบอกเกมส์ว่ารักหรือขอจีบ จะว่าหลอกได้ไง สิ่งที่เกมส์ได้ยินคือ เจ้าบีมพูดถึงการหลอกจีบสาวที่เกมส์ฟังแล้วตรงกับการกระทำที่ดิวปฎิบัติกับเกมส์ ยิ่งตอนที่ดิวบอกว่าอยากช่วยแก้ความกลัวของเกมส์ ก็เรื่องจริง อย่างนี้ดิวหลอกอะไรอ่ะ หรือเราเข้าข้างดิวเหรอ ก็เปล่านะ

ยิ่งตอน จั๊ดง่าวตาย เรารู้เลยว่าดิวทำสำเร็จแล้ว เกมส์ไม่ได้กลัวดิวและนึกถึงดิวก่อนคนอื่น เพราะคุ้นเคยกับการกระทำของดิวแล้วและเปิดใจยอมรับดิวแล้วด้วย จริงๆเกมส์รู้ตัวแล้วว่าชอบดิวไม่ใช่เหรอ แต่มาเคืองเพราะคิดว่าดิวหลอกตามคำพูดของบีมต่างหาก  เราไม่เคยชอบบีมเลย ยิ่งตอนมาเซ้าซี้ดิวเรื่องยายแพรแล้วยิ่งไม่ชอบใหญ่เลย  ดิวรีบไปเคลียร์ยายนี่เหอะ ตื้อสุดๆไม่ชอบเลยอ่ะ

เกมส์ค่อยๆหันมาดูใจตัวเองหน่อย คงต้องให้มีเหตุการณ์อะไรอีกเหรอถึงจะยอมรับดิว เราเอาใจช่วยทั้งสองคนนะ :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 05-04-2013 00:24:01
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ทำอะไรไม่ชัดเจน ไปกับเขาเสียอย่างนั้นนน ความใจดีระดับนั้นเก็บไว้ให้คนพิเศษเถอะ ใจดีเรี่ยราดขนาดนี้ แล้วใครจะไปไว้ใจล่ะดิวเอ๊ย
โลเลนานกว่านี้ เ้จ้ไม่เชียร์แล้วนะ  :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 05-04-2013 00:25:40
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: rnonimo ที่ 05-04-2013 00:39:26
ดราม่าสึดๆ

 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 05-04-2013 01:06:49
โกรธกันไปใหญ่แล้วเกมส์
ดิวก็ง้อสุดฤทธิ์แล้วเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 05-04-2013 02:41:14
หน่วงและดราม่า
เราเข้าใจในแง่เกมส์นะว่าคงกลัวคิดมากแต่นางไม่เปิดใจเลย
เกทว่านางกลัวแต่คือทำเหมือนบางทีก็หึงป่ะ? ฮ่าๆๆ
ดิวแม่งก็นะโกหกไว้แล้วความแตกก็งี้
สู้ละกันเคลียร์เรื่องแพรด้วย!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 05-04-2013 04:17:03
ดิวเอ็งเลือกเอาซักทางซิ    :katai1:


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 05-04-2013 08:32:12
เฮ้อ..... :ling2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 05-04-2013 08:54:54
หวังว่าการที่ดิวไปเจอกับแพรครั้งนี้ จะตอบใจตัวเองได้ซักทีว่าจะเลือกใคร  ใครที่ทำให้ดิวอยากดูแล อยากอยู่ใกล้ และทำให้ดิวมีความสุึขที่สุดก็เลือกคนนั้น และทำให้มันชัดเจนไปเลย


กด + ให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-04-2013 09:04:47
บางครั้งก็รำคาญดิวว่ะ จะคอยดูแลเกมส์แถมยังจะต้องคอยเทคหญิงอีก
หมั่นไส้เลือกสักทางสิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: p.spring ที่ 05-04-2013 11:05:45
ก็คิดอยู่ว่าดิวไม่ได้รักแพร เเต่ช่วยเคลียร์ตัวเองหน่อยเถอ
ทำแบบนี้มันหน่วง เลือกเอาสักคนเลยดิว

เดี๋ยวก็เชียร์ให้ ผู้ชายคนอื่นมาจีบเกมส์เลย   :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 05-04-2013 13:00:52
 :katai1: โถ พ่อคุณ กำลังไปได้ด้วยดียู่แล้วเชียว
แต่ดิวก็ทำไปด้วยความหวังดีนี่นะ ถึงวิธีการมันจะเจ้าเล่ห์ไปหน่อยก็เถอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 05-04-2013 17:45:57
ดิววว เลือกสักทสงเซ่ๆๆ  :hao7: :hao7: :hao7: ไม่เลือกอย่างงี้เมื่อไหร่มันจะจบเล่าา...
แล้วนางแพรก็น่ะ  :katai1: เข้ามาได้จังหวะพอดีเลยน่ะ ตลอดเลยยย  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

มาต่อไวน่ะค้าบบ  :mew2: รอๆๆ บวกเป็ดให้แล้ววว  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-04-2013 17:52:53
มันหน่วงจังเลยยยยยย :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 05-04-2013 21:23:21
ค้างงงงงงงงงงงงงค่ะ   :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 05-04-2013 21:47:55
หน่วงไปนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 05-04-2013 23:46:48
จุกแบบน่ารัก เพราะรู้ว่าเดี๋ยวดิวก็จะกลับมาง้อเกมส์อีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 06-04-2013 12:36:14
 :mew4 :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: Nile ที่ 06-04-2013 14:38:36
ถ้าดิวจะทำตัวเป็นคนของสาธารณะชนขนาดนี้ก็อย่ามายุ่งกับเกมส์เลยดีกว่า คนยิ่งกลัวๆอยู่ เราว่าถ้าเจอเจ้าชู้อย่างดิวเข้าไปจะอัพเลเวลจากกลัวเป็นเกลียดเลยล่ะเชื่อดิ

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 06-04-2013 22:34:25
ดราม่า 2 ตอนติดเลยยย ... จะคลี่คลายเมื่อไหร่นะะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 > P.84
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 06-04-2013 22:59:38
หน่วงใจจังเลยยยยยยยยยยยยยยย
ฮรืออออออออออออออออออออออออออ  :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 11] 04/04/56 >; P.84
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 07-04-2013 10:45:11
ดิวสู้ต่อไป  ^ ^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 07-04-2013 22:52:01
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 12



...หน้าเดิม


ชั่วโมงหนึ่งแล้วนับตั้งแต่บ่ายสองถึงสามโมง
แต่ชีทตรงหน้าของเด็กเภสัชยังคงอยู่หน้าเดิมไม่ไปไหน
แม้รู้ทั้งรู้ว่าจะมีควิซสำคัญพรุ่งนี้
แต่ตราบใดที่ใจของเขาไม่อยู่กับตัว อ่านไปเท่าไรก็ไม่เข้าหัวอยู่ดี
และถึงจะพยายามกินขนมหวานที่เคยช่วยให้สมองปรอดโปร่งเป็นนิจ
ตอนนี้ยิ่งกินมันกลับไม่มีประโยชน์อะไรเลยแม้แต่น้อย
เพราะมันยิ่งทำให้เขาพะอืดพะอมปวดหัวหนักมากกว่าเดิม


เฮ้อ...อะไรกันหนักหนาวะชีวิต!

สงสัยคะแนนควิซพรุ่งนี้คงจะปลิวหายไปแน่ ๆ
มีหวังโดนคุณนายสายสมรด่าเปิง
แต่จะโทษเขาได้ยังไงกัน
เจอเรื่องหนักหนาขนาดนั้น ใครจะมีอารมณ์มานั่งอ่านหนังสือ
นี่เขาประคับประคองสติของตัวเอง
ไม่ให้เศร้าไปมากกว่าเดิมได้ก็นับว่าดีแค่ไหนแล้ว


ตอนเก็บของไอ้จั๊ดง่าวมารวมกันไว้
ต้องกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลแทบตาย
เพราะเขาเหนื่อยที่จะร้อง
เหนื่อยที่จะต้องมาจมอยู่กับความสูญเสีย


แต่ถึงแม้จะพร่ำบอกตัวเองว่าให้อดทนไว้
ทว่าพอนึกถึงลูกแมวทีเคยเลี้ยงไว้ทีไร
ขอบตามันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทุกที



TRRRRRRR!!



เสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะคนเศร้า
เกมส์สะดุ้งปาดน้ำตาตัวเองลวก ๆ
มองหน้าจอซึ่งระบุชื่อไอ้ทัชเพื่อนจากโรงเรียนเก่า
ก่อนกดรับโทรศัพท์พยายามทำเสียงให้เป็นปกติไว้


“ฮัลโหล ไอ้ทัชว่าจะใด”


“เฮ้ย ไอ้เกมส์ เย็นนี้คิงว่างก้อ?”


“มีอะหยัง”


“ก็ไอ้เชษฐ์แวะมาหาฮา เลยว่าจะชวนเปื้อนเก่านัดรวมกั๋น”


ชื่อของเพื่อนเก่าในกลุ่มทำให้เกมส์สะดุดหู
มันเรียนอยู่ที่ม.เชียงใหม่เลยไม่ค่อยได้เจอ
จนกว่าเขาจะกลับไปที่บ้านนู้นแหละถึงค่อยนัดรวมพล
แต่วันนี้ไม่รู้ลมอะไรหอบมันมาไกลถึงที่นี่ได้


“ตกลงคิงว่างไจ้ก๋า?”


ได้ยินเสียงปลายสายถามซ้ำอีกครั้ง
เกมส์มองชีทวิชาเรียนตรงหน้า
ก่อนตัดสินใจตอบกลับไปตรงข้ามกับความจริง


“เออ ๆ ว่าง นัดที่ไหน กี่โมง”


“ทุ่มหนึ่ง ร้านนั่งสบายที่เดิม”


“โอเค”


เขาวางสายลงหลังจากนัดเวลาเรียบร้อย
ในเมื่ออ่านไปก็ไม่ให้เข้าหัว
สู้เอาเวลาออกไปพักสมองคลายเครียดอาจจะดีกว่า
ไปกินข้าวเฮฮากับเพื่อนสักสองสามชั่วโมง
แล้วค่อยกลับมาอ่านก็ยังทัน เพราะพรุ่งนี้มีสอบตอนบ่าย

และอย่างน้อยมันอาจเป็นหนทางช่วยทำให้เขาลืมความเศร้าไปได้บ้าง



...รวมทั้งมันอาจทำให้เขาเลี่ยงการเผชิญหน้า

...กับใครบางคนที่สัญญาว่าจะมาหาอีกครั้งหนึ่ง



….



..



.



“ดิวเป็นอะไรคะ อาหารไม่ถูกปากเหรอคะ”


เสียงถามหวาน ๆ จากฝั่งตรงข้ามทำให้เจ้าของชื่อสะดุ้งคล้ายรู้สึกตัว


“ปะ..เปล่าครับ ก็อร่อยดี แพรทานเยอะ ๆ นะครับ”


เขาใช้ตะเกียบคีบกุ้งเทมปุระวางลงในจานของอีกฝ่าย
ก่อนจะแสร้งทำยิ้มกลบเกลื่อนอาการใจลอยของตัวเอง
แล้วดึงสติกลับมายังสถานการณ์ปัจจุบัน


...ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นกับแพร
หลังจากที่เพิ่งดูนั่งจบไปแล้วเรื่องหนึ่ง
แต่อย่าถามว่าเป็นเรื่องอะไร เขาเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน
เพราะหัวสมองคิดเลยไปไกลถึงใครอีกคนหนึ่ง
แม้ขณะที่กำลังกินข้าวอยู่นี่ก็ยังเผลอนึกถึงจนท่าทีแสดงออกชัด
จนทำให้ใบหน้าหวานของคู่สนทนามุ่ยลง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ


“จะให้แพรทานเยอะได้ยังไงคะ ก็ดิวมัวแต่นั่งเหม่อแบบนี้”


“ขอโทษครับ”


คนเสียมารยาทต้องรีบบอกอย่างสำนึกผิด
ปกติเขาไม่ใช่คนละเลยแบบนี้
ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะใส่ใจกับแพรที่มาด้วยกัน
แต่กลับห้ามความคิดตัวเองไม่ได้


และดูเหมือนคนสังเกตจะรับรู้
ร่างสูงจึงได้ยินเสียงถามด้วยความเป็นห่วง


“ดิวมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่าคะ”


“เปล่าครับ ผมสบายดี”


แน่นอนว่าเขาจำต้องปฏิเสธ
พร้อมทั้งยังรักษารอยยิ้มของตัวเองไว้บนใบหน้า
หากทว่าคำย้อนในประโยคถัดมากลับทำให้รอยยิ้มนั้นชะงักค้าง


“ไม่ใช่ว่าดิวกำลังคิดถึงใครอีกคนอยู่เหรอคะ”


คำคาดเดาที่ตรงกับความรู้สึกในใจส่งผลให้คนฟังนิ่งอึ้ง
ไม่อยากจะเชื่อว่าท่าทางของเขามันจะแสดงออกได้ชัดเจนขนาดนั้น
และการเงียบของเขามันคงจะเป็นคำตอบที่ยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปอีก


สำหรับแพร...เธอไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รับรู้ว่าคนที่เธอมีใจปิดบังซ่อนอะไรไว้
ยิ่งเมื่อครั้งงานวันเกิดอยู่ ๆ ดิวก็ผลุนผลันออกไปทำเอาเธอแทบเสียหน้า
ธุระด่วนหนักหนาอื่น คงไม่พ้นไปกับเรื่องผู้หญิงคนใหม่
ที่ทำให้ดิวลังเลในการกลับมาหาเธออีกครั้ง
แต่คราวนี้เธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น


คนตัดสินใจเด็ดขาดจึงวางตะเกียบลง
ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงวอนขอ


“แพรอิ่มแล้วค่ะ อยากกลับหอ ดิวไปส่งแพรหน่อยได้มั้ยคะ”


“ได้สิครับ”


ดิวพยักหน้ารับคำโดยไม่มีเงื่อนไข
เพราะในเมื่อจุดประสงค์ในการมาครั้งนี้คือไถ่โทษให้แพร
เขาก็จะดูแลแพรให้ดีที่สุดเพื่อให้สมกับที่ผิดคำสัญญา


ร่างสูงจึงขับรถพาแพรไปส่งที่หอพัก
หากแต่เมื่อรถจอดสนิทหน้าหอ
คนที่นั่งเคียงคู่กลับเอ่ยคำขอร้องมาอีกครั้ง


“ดิวค่ะ แพรมีเรื่องอย่างรบกวนดิวหน่อยนะคะ
คือว่าโทรทัศน์ที่ห้องแพรมันเสีย เปิดไม่ติดเลย
ดิวช่วยขึ้นไปดูให้แพรหน่อยได้มั้ยคะ”


ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการความช่วยเหลือ เขาก็ไม่อาจปฏิเสธ
อีกอย่างมันไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงเขาเลย
ดิวจึงตกปากรับคำง่าย ๆ


“ก็ได้ครับ”


ใบหน้าหวานยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
ก่อนจะเปิดประตูรถนำหน้าเข้าไปในหอพัก
กดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นห้า แล้วไขกุญแจให้แขกเข้าไปด้านใน
ภายในห้องค่อนข้างกว้างเป็นระเบียบตามประสาห้องผู้หญิง
โทรทัศน์ตั้งอยู่ตั้งข้ามฝั่งใกล้กับเตียงนอน


ดิวเดินตรงเข้าไปสำรวจเพื่อหาความผิดปกติ
แต่เมื่อกดปุ่มเปิดเขากลับพบภาพปรากฏขึ้นบนจออย่างง่ายดาย


“ไหนครับที่เสีย ก็เห็นเปิดติดดีนี่ครับ”


คนเช็กขมวดคิ้วงง มือกดรีโมทเปลี่ยนช่อง
ซึ่งก็ไม่พบกับความผิดปกติใด ๆ
หากแต่ยังไม่ทันหันมาถามเจ้าของห้อง
เขากลับต้องชะงักตกใจเมื่อสัมผัสแรงกอดทางด้านหลัง
พร้อมกับน้ำเสียงหวานเอ่ยคำยั่ว


“แพรโกหกค่ะ ที่เรียกดิวขึ้นมาเพราะแพรอยากอยู่กับดิว”


ดิวรีบหันกลับมาประสานสายตากับคนที่อยู่ใกล้ตัว
แววตาสวยทอประกายระยับ
มองตรงไปยังร่างสูงโดยไม่มีความลังเลใจ
ก่อนเอ่ยถ้อยคำที่เก็บซ่อนอยู่ในความรู้สึกมาเนิ่นนาน


“ดิวค่ะ แพรชอบดิวนะคะ ชอบมาตั้งนานแล้ว”


จบคำ ใบหน้าหวานก็โน้มเข้ามาใกล้
กระทั่งเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วบาง


...บรรยากาศอะไรอะไรก็ดูเป็นใจ
ผู้หญิงน่ารักที่พร้อมยอมให้เขาง่าย ๆ
หากเป็นยามปกติเขาคงคว้ามันไว้
แล้วก้มลงจูบปล่อยอารมณ์ให้พาไปโดยไม่คิดอะไร


แต่ตอนนี้ผู้ชายหมาป่าคาสโน่ว่าอย่างเขา
กลับเบือนหน้าหลบแล้วรั้งร่างบอบบางให้ออกห่าง


“ขอโทษด้วยนะครับ ผมคิดกับแพรแค่เพื่อนจริง ๆ”


คนถูกปฏิเสธนิ่งค้างไม่คิดว่าแผนการที่อุตส่าห์วางไว้จะไม่ประสบผล
รู้สึกทั้งเสียหน้าและทั้งเจ็บใจ
ไหนข่าวลือบอกว่าดิวพร้อมจะผูกสัมพันธ์กับทุกคนที่เข้ามาใกล้
แล้วทำไมดิวถึงไม่ยอมเข้าหา
ทั้ง ๆ ที่เธอพร้อมจะยกทั้งหัวใจและร่างกายให้กับดิว


“ทำไมล่ะคะ ในเมื่อดิวยังไม่มีใคร แล้วแพรก็ไม่มีใครเหมือนกัน
ทำไมเราไม่ลองคบกันไปก่อนเผื่อว่าจะเข้ากันได้”


คำถามที่อีกคนเอ่ยด้วยความไม่เข้าใจ
และเช่นเดียวกับเขาซึ่งไม่อาจสรรหาคำมาตอบ
เพราะตอนนี้เขาก็ยังสับสนอยู่กับความรู้สึกของตัวเอง


...รู้แค่ว่า เขาไม่สามารถจูบหรืออะไรเกินเลยกับแพร
เพราะความรู้สึกบางอย่างที่ค้างคาใจ


...ความรู้สึกที่หัวใจยังคิดถึงใครอีกคนหนึ่ง



และคล้ายกับคู่สนทนาจะตีความจากท่าทางนั้นได้
จึงทำให้เธอถอนใจเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ


“แพรเคยฟังเรื่องของดิวมามาก
ตอนแรกก็คิดว่าข่าวลือ
แต่พอเจอกับตัวถึงรู้แล้วว่าเป็นเรื่องจริง”


“...ข่าวลือ?”


หญิงสาวสบตามองเดือนคณะวิศวะตรงหน้า
ผู้ชายที่เข้ามาดูแลเทคแคร์เธอตลอดเกือบสองอาทิตย์
แล้วเอ่ยตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม


“ดิวไม่เคยรักใครจริง ไม่ยอมผูกมัดกับใคร
ทำดีต่อทุกคนเท่า ๆ กันไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ
จนคนที่คบกับดิวต้องออกห่างเองเพราะทนไม่ได้”


ความจริงที่หล่นกระทบลงกลางความรู้สึก
เหมือนหมัดหนักที่พุ่งเข้าใส่จนหัวใจชา


...ถามว่าเขารู้นิสัยเสียของตัวเองข้อนี้ดีมั้ย

ใช่...เขารู้

เขารู้ว่าตัวเองไม่เคยจริงจังกับใคร
คบเล่น ๆ เผื่อเลือก ใครเข้ามาใกล้เขาก็พร้อมสนองกลับ
ไม่เคยคิดผูกสัมพันธ์ลึกซึ้ง นิสัยอย่างเขาถึงได้ฉายาว่าคาสโนว่า



...ผู้ชายเจ้าชู้ ใจโลเล




“ขอโทษครับ”


คำขอโทษดังขึ้นเป็นครั้งที่สอง
ด้วยไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาอธิบายแก้ตัว
เพราะในเมื่อเรื่องทั้งหมดคือความจริง


ร่างบางนิ่งเงียบพยายามสะกดกลั้นความเศร้าของตัวเอง
เธอยอมเสียศักดิ์ศรีใช้ร่างกายเข้าแลก
แต่สุดท้ายเธอก็ไม่มีวันได้หัวใจของดิว


“งั้นไม่เป็นไรค่ะ แต่วันนี้ดิวต้องตามใจแพร เป็นเพื่อนแพรเที่ยวให้หนำใจ
ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดจริง ๆ ชิ้นสุดท้ายให้แพรได้มั้ยคะ


คำวอนขออีกครั้งของแพรทำให้ดิวลังเลใจ
เพราะเขายังคงนึกห่วงใครอีกคน
แต่จะปล่อยแพรทิ้งไว้เพียงลำพังก็ไม่ได้
เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะขอไถ่โทษ
ให้สมกับความลังเลของตัวเอง


“ได้ครับ ผมจะไปเป็นเพื่อนแพร”


ดิวรับปากคู่สนทนา

เขาจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแพร
ก่อนจะรีบกลับไปทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับใครอีกคนหนึ่งเช่นกัน



...รออีกหน่อยนะครับเกมส์



...


..


.



หนึ่งทุ่มตรง ร้านนั่งสบายกับเพื่อนสี่ห้าคนที่เป็นก๊วนกรุ๊ปเดิม
เพียงแต่มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง
จึงทำให้วงสนทนาของหนุ่มเหนือเฮฮาขึ้นมากกว่าเดิม
ยกเว้นก็เพียงแต่ตัวกวนประจำกลุ่มที่วันนี้กลับดูเงียบผิดปกติ
กระทั่งไอ้ทัชคนโทรชวนต้องเป็นฝ่ายเอ่ยทัก


“เฮ้ย! ไอ้เกมส์เป๋นจะใดวะ วันนี้คิงเงียบไป๋นะ ไม่อู้กวนฮาเลย”


“บ่มีอะหยัง”


เขาส่ายหน้าปฏิเสธ
แต่ดูเหมือนเพื่อนซี้จะรู้ทันจนด่ากลับ


“โคะไอ้วอก! หน้าคิงมันฟ้องฮาอยู่ว่ามีเฮื้อง
งั้นเดี๋ยวฮาจะพาคิงไป๋คลายเครียดดีก้อ”


ประโยคชวนเที่ยวทำให้เกมส์ต้องคิดหนัก
เพราะความจริงตัวเองมีหนังสือกลับไปอ่านอีกกองพะเนิน
แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ มาถึงขนาดนี้แล้ว
อีกอย่างอารมณ์เขามันยังไม่คงที่
กลับไปก็คงอ่านอะไรไม่ลงอยู่ดี


เอาวะ...เอาให้มันเมาไปซะ
ในเมื่อบุหรี่สูบไม่ได้แล้ว
ก็ขอดื่มย้อมใจลืมความกลุ้มให้เต็มที่ก็แล้วกัน


แต่ก่อนอื่นเพื่อความแน่ใจ...



“ไปที่ไหน”


“ผับเบลอเบลอ เพิ่งเปิดเมื่ออาทิตย์ปู้น”


ชื่อผับที่ได้ยินทำเอาคนมีความหลังโล่งใจ
ขอให้ไม่ใช่ผับเดอะกลาสจะที่ไหนก็ไปได้ทั้งนั้น
เพราะเขาสาบานว่าจะไม่กลับไปยุ่งกับไอ้ผับพาซวยนั้นอีก



นายซีเกมส์พร้อมผองเพื่อนจึงพากันเฮละโลไปต่อกันที่ร้านใหม่
ลักษณะของผับไม่ต่างไปจากเดอะกลาสเท่าไร
เพียงแต่แนวดนตรีดูชิล ๆ มากกว่า
จึงเรียกแขกประเภทวัยรุ่นนักศึกษามาค่อนข้างเยอะ


กลุ่มเด็กเหนือพากันไปนั่งโต๊ะสั่งเปิดขวดพร้อมมิกเซอร์
แล้วรินแจกกันคนละแก้วรอบวง
ก่อนจะตะโกนคุยแข่งกับเสียงดนตรีไปพลางเหล่หญิงไปพลาง
พอหมดแก้วก็รินไปให้ใหม่
ซึ่งคนอยู่ใกล้ทำตัวเป็นมือชงก็ไม่ใช่ใคร
เป็นเกมส์ที่ดื่มจัดไม่ยั้งเหมือนเห็นเหล้าเป็นน้ำเปล่า
กระทั่งไอ้ทัชต้องพยายามเอ่ยเตือน


“ไป๋อดยากจากไสมา ไอ้เกมส์
คิงค่อย ๆ ดื่มก็ได้ เหล้าเปิ้ลบ่หนีไปไส”


“เออ บ่ต้องห่วง ฮาบ่เมาหรอก”


พูดไปมือก็เทเหล้าไปเสียเกือบค่อนแก้วแล้วผสมโซดาตาม
ด้วยปริมาณที่มองยังไงก็ตรงข้ามกับที่รับปากไว้


แต่เอาเถอะ...เพื่อนอยากเมานักจะห้ามอะไรได้


“ตามใจ๋คิง แต่อย่าให้หนักเน้อ
เดี๋ยววันพรุ่งไปเฮียนบ่ไหว
อ้าว...นั้นไอ้ดิวบ่ไจ้ก๋า” 


ท้ายประโยคหยุดมือของคนที่กำลังกรอกเหล้าเข้าปากให้ชะงัก

เกมส์เงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่เชื่อว่าโชคชะตาจะกลั่นแกล้งให้พบกับ
...คนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด
...คนที่อยากหนีมากที่สุด

แต่วินาทีนี้คนคนนั้นกลับปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า


“เฮ้ย! ไอ้ดิวทางนี้โว้ย!”


เจ้าของชื่อพากลุ่มเพื่อนเข้ามาใกล้ตามเสียงเรียก กำลังจะยกมือทักทาย
ทว่าดวงตากลับสะดุดลงที่ใครอีกคนซึ่งนั่งอยู่ด้านในโต๊ะ
และเป็นคนที่แทบทำให้ดิวหยุดลมหายใจ
ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงถามจากเพื่อน


“โห...มากันเยอะเหมือนกันนี่พวกมึง ใครเป็นเจ้ามือวะ”


ดิวยังคงนิ่งเงียบไม่ตอบคำ
เพราะใจมัวแต่มองเลยไปยังร่างของคนจดจ่อกับแก้วเหล้า
จนร่างบางต้องเป็นฝ่ายตอบเสียเอง


“แพรชวนดิวมาเองค่ะ มากันเยอะ ๆ สนุกดี
แต่คงมาช้าไปหน่อยโต๊ะไม่ค่อยมีเลย”


“อ้อ...ถ้างั้นมานั่งกับพวกผมมั้ย พอมีที่ว่างอยู่นะ
แล้วนี่ก็เพื่อนโรงเรียนเก่าผม เดี๋ยวแนะนำให้รู้จัก”


ทัชกำลังจะหันไปหาคนนั่ง
แต่เพื่อนคนหนึ่งกลับลุกขึ้นเอ่ยบอกสั้น ๆ


“ฮาไปห้องน้ำนะ”


เกมส์เดินผละจากไปโดยไม่รีรอ
แม้รู้ว่าอยู่ ๆ การลุกไปต่อหน้าแบบนี้จะเสียมารยาท
แต่เขาไม่อยากจะทนกับการต้องนั่งรวมโต๊ะกับคนคนนั้นแล้ว


ร่างที่ดื่มแอลกอฮอล์ไปหนักเดินเซ ๆ เข้าห้องน้ำ
พอเริ่มเดินก็ชักจะรู้ว่าตัวเองดื่มเกือบจะเกินลิมิตอยู่เหมือนกัน
หลังจากนี้อาจจะต้องขอชิ่งพวกไอ้ทัชกลับหอก่อนแล้ว


“อ้าว...น้องเกมส์นี่ครับ”


เสียงจากด้านหลังของเจ้าของชื่อซึ่งกำลังล้างมืออยู่
ทำให้เกมส์เงยหน้าขึ้นมองในกระจก
และทันทีที่ได้เห็นภาพสะท้อนของคนทัก
ร่างกายที่มึน ๆ ก็แทบจะล้มทั้งยืน
ราวกับถูกสูบเอาเรี่ยวแรงให้หายไปจนหมดสิ้น
หัวใจสะท้านกลัวด้วยความหวาดหวั่น
มือไม้สั่น เย็นเฉียบแทบควบคุมไม่ได้


เขาอยากให้ตัวเองตาฝาด
แต่เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นความจริงที่ปรากฏชัดตรงหน้า
ความจริงที่หลอกหลอนเขาเป็นระยะเวลาเกือบสามปี


...พี่ปูเป้



“ไม่ได้เจอกันตั้งนานน่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ”


คำชมพร้อมรอยยิ้มหวานนัยน์ตากรุ่มกริ้ม
ยิ่งสร้างความตระหนกให้กับเกมส์เหมือนเป็นคำสาป
ภาพในคืนนั้นที่ตนเองเกือบโดนปลุกปล้ำฉายรีเพลย์ซ้ำในสมอง
ปลุกโรคเดิมให้กำเริบ แม้ในหัวสั่งให้หนี แต่ร่างกายไม่ยอมทำตาม
เพราะเพียงขยับขาก้าวออกห่างเขาก็ซวนเซจนจะล้ม
จนคนมองอยู่ต้องรีบเข้าไปประคอง


“เป็นอะไรครับน้องเกมส์ เมาซะแล้วเหรอครับ
งั้นเดี๋ยวพี่เป้ไปส่งให้ดีมั้ยครับ”


คำถามกระซิบข้างใบหู
พร้อมมือที่ขยับกอดเอวไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
เกือบจะฆ่าเกมส์ให้ตายทั้งเป็น
รับรู้ถึงใบหน้าของอีกคนที่โน้มต่ำลงมาใกล้

...หมดแล้วทุกอย่าง ...หมดหนทางรอด


...ไม่เอา...กลัว....


....เขากลัว...ใครก็ได้ช่วยเขาที...


...ใครก็ได้...



“ขอโทษครับ คนนี้เขามากับผม”


แรงดึงร่างให้ออกห่างจากอ้อมกอด
แล้วฉุดจับข้อมือเขาไปยังด้านหลัง
ก่อนที่ใครบางคนจะเอาตัวบังไว้
ทำให้เกมส์ซึ่งรอดพ้นจากปากเหยี่ยว
ต้องรีบเงยหน้ามองแผ่นหลังอันคุ้นตาของคนช่วย


ใช่...คนเดียวกับที่เขาเพิ่งจะหนีมา



ร่างใหญ่ซึ่งถูกขัดจังหวะมองสบดวงตาของแขกไม่ได้รับเชิญ
ก่อนมองเลยไปยังข้อมือซึ่งถูกจับไว้แน่น
อาการหวงแบบนี้เห็นชัดเจนโดยไม่ต้องระบุความสัมพันธ์
จนทำให้หมาป่าจอมล่าต้องยอมแพ้ปล่อยเหยื่อที่หมายปอง


“มีแฟนแล้วก็ไม่บอกนะครับน้องเกมส์ น่าเสียดาย”


ในเมื่อมีคนมาคุมก็ไม่อยากจะแส่เข้าไปหาเรื่อง
ถึงจะเสียดายเด็กที่เคยเล็งไว้ว่าตั้งใจจะคั่ว
แต่เมื่อผิดเวลาก็ต้องจำใจเดินหันหลังออกนอกห้องน้ำไป


เมื่อไร้เงาของต้นเหตุแล้ว
ดิวจึงหมุนกายกลับมาถามคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านหลังด้วยความห่วง


“เกมส์เป็นอะไรรึเปล่าครับ”


...โชคดีที่เขาตามเกมส์มาในห้องน้ำ
ตอนแรกแค่ตั้งใจจะอธิบายเหตุผลกับเกมส์
แต่เขาลืมไปว่าเกมส์หน้าตาหน้าเอ็นดูขนาดนี้
เลยอาจมีใคร ๆ มาคอยวอแว
และก็เป็นจริงดังคาดเพราะเพียงไม่ทันไร
เกมส์กลับถูกลวนลามโดยผู้ชายคนอื่น


และคนที่เป็นโรคกลัวผู้ชายมาจีบอย่างเกมส์จะไปสู้ไหวได้ยังไง
ถ้าเขาไม่มาพบเกมส์ก่อน ป่านนี้อาจจะโดนใครลากไป
หรือเกมส์อาจเป็นลมอยู่ตรงนี้ก็ได้
มันน่าโมโหตัวเองที่เขาไม่ดูแลเกมส์ให้ดี
และยิ่งเจ็บใจเข้าไปอีกเมื่อสุดท้ายเขาก็รู้ว่า


...เขาไม่สามารถรักษาโรคกลัวผู้ชายจีบของเกมส์ให้หายได้จริง ๆ



คนที่เพิ่งประสบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ
ค่อย ๆ ไล่ความกลัวให้คลี่คลายลงทีละน้อย
ก่อนสติจะกลับมาพร้อมแรงอารมณ์
เมื่อรับรู้ถึงสถานการณ์ตรงหน้า


“ปล่อย”


เกมส์ดึงมือของคนจับไว้ออก
หงุดหงิดตัวเองที่ต้องให้ดิวเป็นฝ่ายช่วยอีกครั้ง
ทำไมดิวต้องมาเจอเขาในสภาพอ่อนแอแบบนี้ทุกที


...พอแล้ว เขาไม่อยากจะมาเป็นตัวตลกให้ใครมาสมเพชอีก


เกมส์เดินผละออกห่างจากร่างสูง
หากเพียงก้าวไปไม่กี่ก้าว
ร่างก็เอนเหมือนจะยืนไม่อยู่
จนดิวต้องรีบเข้ามาประคองรับไว้
ดูจากใบหน้าแดงเรื่อ และกลิ่นเหล้าตามตัว
ก็พอรู้ว่าคนคนนี้คงดื่มไปไม่น้อย


“เกมส์เมาแล้วนะครับ”


“ใครเมาไม่เมาสักหน่อย จะไปหาผู้หญิงคนไหนก็ปายเซ่!!”


เกมส์ขืนตัวออกห่าง เอ่ยตะโกนไล่ดิว
แต่คนฟังไม่ทำตามคำสั่งกลับจับข้อมือของคนเมาไว้
แล้วดึงให้ออกมาด้านนอกตรงไปโต๊ะของเพื่อน


“แพรครับ ผมต้องไปส่งเกมส์ก่อนเขาเมามากแล้ว
ไอ้บีม ฝากดูแพรด้วยนะ”


ดิวเอ่ยลากับร่างบางที่เขาพาเที่ยวตลอดวัน
โดยไม่ลืมหันไปฝากเพื่อนอีกคนคล้ายเปิดทางเป็นนัย ๆ ไว้
เพราะเขารู้ว่าไอ้บีมแอบมีใจให้กับแพร
อีกไม่นานแพรคงหาคนมาแทนตัวเขาได้


ส่วนเขาตอนนี้ก็ต้องลากเกมส์ขึ้นรถขับไปส่งที่หอ
แล้วพาคนเมาขึ้นบันได ควานหากุญแจห้องอย่างทุลักทุเลพอสมควร
ก่อนไขเปิดประตู พยุงเจ้าของห้องไปนั่งบนเตียง


“เกมส์ไหวรึเปล่าครับ”


“ไม่ต้องยุ่ง ออกไปนะโว้ย!!”


คนหน้าแดงโวยวายเมื่อกลับมาถึงห้อง
พยายามผลักให้อีกคนหนึ่งออกจากเขตแดนของตัวเอง
แม้สติจะกลับมาไม่เต็มร้อย
แต่สิ่งหนึ่งที่รับรู้ชัดเจนคือเขาไม่อยากจะเจอหน้าดิวอีก


“ผมไปได้หรอก ก็บอกแล้วไงครับว่าผมเป็นห่วงเกมส์”


ถ้อยคำแสดงความมีน้ำใจไม่ได้ช่วยอะไร
ซ้ำกลับยิ่งเสียดแทงลึกเข้าไปในใจ
คล้ายสะกิดแผลของคนฟังมากขึ้น


...เป็นห่วง


คำนั้นจริงหรือแค่แกล้งโกหกให้เขาตายใจ
แล้วค่อยเหยียบย้ำความรู้สึกของเขาเล่นทีหลัง
ดิวยังสนุกไม่พอรึไงถึงมาคอยทำดีให้กันแบบนี้
แต่เขาไม่อยากจะเป็นคนโง่ซ้ำสองอีกแล้ว!


เกมส์กำหมัดแน่น
คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เข้าไปทำร้ายสติส่วนควบคุมสมอง
จึงทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งกักเก็บไว้ในใจทลายลงไปจนหมดสิ้น


“จะมาห่วงเราทำไม!
ถ้าอยากจะแกล้งเราก็เลิกแกล้งได้แล้ว
เล่นกับความรู้สึกของเราไม่พอรึไง
จะวุ่นวายกับชีวิตเราไปถึงไหน
หยุดสักที ไม่ต้องทำดีอะไรกับเราอีก!!”


คำตะโกนที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจนคู่สนทนาสัมผัสได้


...ดิวไม่รู้เลยว่าเขาจะทำร้ายเกมส์ขนาดนี้
เพราะความนึกสนุก เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องท้าทาย
แต่พอยิ่งรู้จักเกมส์ เขากลับค้นพบความรู้สึกอื่น ๆ ตามมา


...ความเป็นห่วง

...ความคิดถึง

...ความอยากอยู่ใกล้

...และความหวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยพบจากใคร



...ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นก็เพราะเกมส์คนเดียวเท่านั้น




“แล้วถ้าผมไม่ได้แกล้งล่ะ”


คำถามสั้น ๆ ที่พูดออกมาทำให้เกมส์ชะงักงัน
เงยหน้าขึ้นมองใครบางคนซึ่งตัดสินใจไม่มีความลังเล
ก่อนจะได้ยินประโยคเอ่ยถามตามมา


“ถ้าสิ่งที่ผมทำให้เกมส์มันมาจากความรู้สึกของผมจริง ๆ
ถ้าผมจะหยุดตัวเองไว้ที่เกมส์คนเดียว
เกมส์จะรับมันไว้ได้รึเปล่าครับ”


ลมหายใจของเกมส์แทบหยุดนิ่ง
หัวสมองเริ่มสับสนกับสิ่งที่ได้ฟัง
ทำได้แค่เพียงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว


“หมายความว่ายังไง”


ดิวสบมองคนตรงหน้า
ค่อย ๆ เรียบเรียงคำพูดทีละคำด้วยความหนักแน่น
เพื่อย้ำชัดถึงความรู้สึกชัดเจนภายในใจ



“ผมรู้ตัวแล้ว คนที่ผมมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง
คนที่ผมเจ็บทรมานในเวลาที่เห็นเขาร้องไห้
คนที่ผมนึกเป็นห่วงจนอยากจะอยู่ใกล้ด้วยกันทุกวัน
...คนคนนั้นก็คือ...เกมส์”



ราวกับช่วงเวลาหยุดหมุนไป
เมื่อเกมส์ประสานสายตาเข้ากับดิว
สะท้อนให้เห็นความรู้สึกสั่นไหว
ในวินาทีที่ได้ยินถ้อยคำร่วงหล่นกลางใจ



คำคำนั้น...



“ผมชอบเกมส์ครับ”




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 07-04-2013 23:02:47
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: pizza2011 ที่ 07-04-2013 23:18:58
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
บอกชอบแล้ว ไอ้ดิวมันบอกไปแล้ว
น้องเกมส์ค่ะอย่าเพิ่งช๊อกน้ำลายฟูมปากตายไปก่อนนะคะ
ปล.เกลียดปูเป้จุง  ขอให้ไอ้จั๊ดง๊าวไปหลอก อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: gyugyu ที่ 07-04-2013 23:22:43
อร้ายยยยย ในที่สุด  พ่อหนุ่มคาสโนว่าของเราก็รู้ใจตัวเอง

สารภาพรักน้องเกมส์แว้ว ไงต่อๆๆ


ค้างอ่ะๆๆๆๆๆๆๆ≧﹏≦
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: gcc ที่ 07-04-2013 23:22:56
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 07-04-2013 23:29:11
ดิวมั่นใจแล้วใช่ไหมมมมมมมมมมม
มั่นใจกับความรู้สึกตัวเองแล้วจริงใช่ไหม
อย่าทำให้เกมส์เสียใจอีกนะโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: Witchuda ที่ 07-04-2013 23:35:45
กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! :impress2:

ลูกชายแม่(??) บอกชอบไปแล้ว ><

เกมส์น้อยจะให้โอกาส ลูกชายแม่ไหม >< :-[

ฉันล่ะ เขิน สู้ๆต่อไปดิว  o13 o13

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 08-04-2013 00:15:52
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ชั้นพูดอะไรไม่ออกเจงๆ
 :hao7: :hao7: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 08-04-2013 00:49:32
ดีมากดิว เคลียร์ตัวเองแล้วก็เดินหน้ารุกเกมส์น้อยอย่างจริงใจและจริงจังนะ
ตอนหวานๆ ใกล้เข้ามาแล้วใช่มั้ยคะ??? >w<!!

แก้คำผิดนะคะ
"ชื่อของเพื่อนเก่าในกลุ่มทำให้ดิวสะดุดหู
มันเรียนอยู่ที่ม.เชียงใหม่เลยไม่ค่อยได้เจอ
จนกว่าเขาจะกลับไปที่บ้านนู้นแหละถึงค่อยนัดรวมพล
แต่วันนี้ไม่รู้ลมอะไรหอบมันมาไกลถึงที่นี่ได้
"

ตรงสีแดงน่าจะเป็นเกมส์ใช่มั้ยเอ่ย??
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 08-04-2013 01:42:45
หืมมมมมมมม  :hao3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 08-04-2013 02:52:24
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
KO!!!!!!!!! ก้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เกมส์เผยไต๋หมดเลยว่ะว้ายยยยยยยยย
ดิวแมนอีกแล้วทำตัวแมนอีกแล้วววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 08-04-2013 03:10:11
ทิ้งท้ายแบบนี้แทบจะรอตอนต่อไปไม่ไหว :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 08-04-2013 05:02:45
ใกล้แล้ว ใกล้จะสมหวังแล้ว อีกนิดเดียว > <
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 08-04-2013 05:59:40
ขอกรี๊ดด้วยอีกคน ในที่สุดวันที่รอคอยก็มาถึง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 08-04-2013 07:00:35
ค้างค่ะ ค้างมาก แง้ว ตัดจบตอนแบบฆ่ากันเลยอะคะ มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-04-2013 07:08:23
 เยี่ยมมากดิว :hao6:


อย่าเพิ่งเป็นลมไปก่อนนะเกมส์  :ling1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 08-04-2013 07:22:53
 :-[กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด  ตัดจบอย่างนี้ได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 08-04-2013 08:17:57
ดิวบอกชอบเกมส์แล้ว หวังว่าเกมส์จะยอมรับความรู้สึกดิวนะ
จะได้เลิกดราม่าสักที
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 08-04-2013 09:13:47
แอร๊ย บอกไปแล้ว พูดออกมาแล้ว รู้ตัวเองซักที :katai2-1:

สู้ต่อไปนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 >; P.85
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-04-2013 09:17:47
แล้วเกมส์ล่ะว่ายังไง?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-04-2013 11:06:10
หลังจากฟังจบ เกมส์ก็สลบไป ตื่นมาจำไม่ได้ว่าดิวพูดอะไรไว้
จะได้สมน้ำหน้าดิวอีกซักรอบ :m16:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 08-04-2013 11:16:54
 :hao3:อยากเห็นนู๋เกม กะดิว สวีตคลายร้อน  :ling1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 08-04-2013 11:24:42
ดิวเล่นจู่โจมหนักหน่วงซะขนาดนี้ กลัวว่าพ่อซีเกมส์จะช็อคตาตั้งไปซะจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 08-04-2013 11:38:59
น้องเกมส์จะสร่างเมามั๊ยยยเจอดิวสารพภาพแบบนี้...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-04-2013 11:39:47
อินู๋เกมส์จะตอบ
ว่าไงล่ะเนี่ย :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 08-04-2013 11:56:29
ดิวมาผิดเวลาป่าวนิ  ดันมาสารภาพเอาตอนที่เกมส์ไม่ค่อยมีสติ  แล้วเกมส์จะรู้ตัวไหมว่าตัวเองพูดอะไรออกไป และดิวบอกอะไรกลับมานะ

คงต้องรอให้เกมส์หายเมาซะก่อน  แล้วดิวค่อยมาบอกตอนที่เกมส์มีสติมากกว่านี้ 

หวังว่าเรื่องของแพรคงจบลงด้วยดี ไม่มีมาป่วนให้ดิวไขว้เขว่อีกนะ

 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 08-04-2013 12:17:56
อ้ากกกกกกกกกกก :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 08-04-2013 12:32:03
 :mew3:

ดิวบอกชอบแล้ว แต่เกมส์เมาจะจำได้มั้ยน้อ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: VALUE ที่ 08-04-2013 12:38:02
 :katai5: :katai5:      แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   อยากจะชักดิ้นชักงอ จิ๊งเชี๊ยววววววววววววว      :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 08-04-2013 14:07:57
ในที่สุด...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 08-04-2013 14:10:01
เข้าใจเกมส์นะ ความรู้สึกที่เสียไป
มันรักษายาก :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 08-04-2013 15:45:39
เอาใจช่วยนายดิวจ้ะ รักษาให้หายนะโรคเนี้ย ของเกมส์น่ะ จะได้เป็น เขยจาวเหนือ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 09-04-2013 09:33:39
อ๊ายยยยยยย

ดิว สารภาพว่าชอบ เกมส์ แล้วอ่ะ

อยากรู้จังว่าจะเป็นยังต่อ

มาไวๆ น้า คนเขียน

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: poporimikoru ที่ 09-04-2013 16:57:32
อ่านรวดเดียวทุกซีรีย์ แอร้ยยยยยยยยยยยย สารภาพรักแล้วววววว สารภาพแล้วววววววววววววว (ฟัดหมอน)


น่ารักมากกกกกกกกกกก :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 09-04-2013 18:06:33
 :hao5: ค่อยยังชั่วหน่อยดิว ค่อยสมเป็นพระเอกหน่อยยย :hao5:

อ้ากกก อยากรู้ตอนต่อปายยยย มาต่อเร็วๆนะตะเอง :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 12] 07/04/56 > P.85
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 09-04-2013 20:45:33
ดิวพูดแล้ว อธิบายแล้ว แล้วเกมส์ว่าไงบ้างง

ค่อยๆคิดเน้อออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 18-04-2013 06:57:26
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 13



‘ผมชอบเกมส์’


‘ผมชอบเกมส์’


‘ผมชอบเกมส์’


เสียงสะท้อนก้องดังซ้ำไปซ้ำมาภายในใจ
เกมส์ยืนนิ่ง รู้สึกราวกับทุกสิ่งหยุดเงียบลงหลังได้ยินถ้อยคำนั้น
คำสารภาพที่ดังออกมาจากปากของดิว



...ชอบ



มะ...ไม่จริงหรอก

คนอย่างดิวน่ะเหรอจะมา ‘ชอบ’ เขา
ที่ผ่านมาดิวก็แค่แกล้งเขาเล่นเพราะนึกสนุกเท่านั้น
ไม่ได้มีความคิดอะไรพิเศษต่อกัน
อีกอย่างคนหน้าดีแบบดิว
มีผู้หญิงเข้าหาไม่เคยขาดอยู่แล้ว จะมาสนใจเขาทำไมอีก
เพราะฉะนั้นไอ้ที่พูดว่าจะยอมหยุดใจตัวเองไว้ที่เขา


...ฟังยังไงก็ไม่น่าเชื่อ


...ไม่มีทางเป็นไปได้เลยสักนิด!



“โกหก”


ดิวชะงักไปกับคำพูดแผ่ว ๆ ที่หลุดรอดริมฝีปากของจากคนสับสน
แม้จะเจ็บปวดที่ได้เห็นเกมส์ยังมีทีท่าไม่ไว้ใจ
เพราะเขารู้ดีว่ามาบอกกันหลังจากที่เขาเคยทำไม่ดีกับเกมส์ไว้
เกมส์ก็คงไม่ยอมเชื่อกันง่าย ๆ อีก
แต่ทุกสิ่งที่เขาพูด เขาตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว


“ผมไม่ได้โกหกครับ
ทุกครั้งที่ได้อยู่กับเกมส์ ผมรู้สึกดีจริง ๆ
ผมชอบเกมส์...ชอบแบบที่ไม่ใช่แค่เพื่อน”


ทั้งน้ำเสียงจริงจังพร้อมแววตาที่สบมองมา
สื่อตรงถึงความรู้สึกตามตรงโดยไม่ปิดบัง
ยิ่งสร้างความสับสนให้กับเกมส์
เพราะมันคล้ายออกมาจากใจของคนตรงหน้า
แต่ใครจะรู้ว่าดิวอาจกำลังเสแสร้งอยู่ก็ได้
คำพูดจาดี ๆ ก็แค่หลอกให้เขาตายใจ
เขาเคยโดนดิวหักหลังมาแล้ว
และจะไม่ยอมเป็นคนโง่อีกซ้ำสองอีก


“เราไม่ชอบผู้ชาย เรากลัว และจะไม่มีวันชอบด้วย ออกไปซะ!!”


เกมส์ตะโกนโต้ตอบกลับ
พยายามใช้แรงที่ซวนเซของตัวเองผลักร่างสูงให้ออกห่างไปยังหน้าประตู
แต่กลับถูกอีกฝ่ายดึงรั้งจับข้อมือไว้ไม่ให้ขยับ
ก่อนจะเอ่ยถ้อยคำวอนขอ...


 ...และเป็นคำที่มีอานุภาพมากพอให้คนฟังต้องนิ่งอึ้ง



“เกมส์อย่ามองผมเป็นแค่ผู้ชายสิครับ
เกมส์มองผมที่เป็นผม...
...มองตัวตนผมจริง ๆ ที่อยู่ตรงหน้าเกมส์ตอนนี้”



ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาหมดแรง
หรือเป็นเพราะน้ำเสียงที่ฟังดูแผ่วเบาวิงวอน
จึงทำให้เขาเงยหน้าขึ้นราวกับโดนถูกสั่ง


...มอง ‘ดิว’ คนที่เขาคุยด้วยตลอดหนึ่งอาทิตย์

คนที่เขารู้สึกสบายใจเวลาโทรหา

คนที่คอยปลอยโยน ให้กำลังใจ

คนที่คอยดูแล ห่วงใยเขา


แต่...


...มันจะเป็นไปได้ยังไง


ในเมื่อเขาก็เป็นผู้ชาย และดิวก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
ทุกครั้งที่ผู้ชายเข้าหาตั้งท่าจะจีบเขา
เขาก็ต้องออกอาการกลัวจนตัวสั่น
มันเป็นโรคประจำตัวที่ไม่มีทางรักษาหาย
แล้วกับดิวที่มาบอกว่าชอบเขาชัดเจน
เขาก็ต้องกลัวไม่ต่างกันกับคนอื่นเหมือนกัน
เรื่องที่จะให้มองแค่ตัวตนของดิว


...มันไม่มีทางเป็นจริงได้เลย



เกมส์ก้มหน้าเผลอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น
สะกดกลั้นความหวั่นไหวและอารมณ์สับสนที่ก่อตัวขึ้นในใจ
ก่อนเอ่ยตอบกลับไปให้คนที่ยังคงดึงดัน


“เลิกล้อเล่นได้แล้ว จะทำยังไงเราก็ไม่เชื่อ”


คำยืนกรานจากคนซึ่งไม่ยอมเปิดใจ
ดิวตระหนักถึงมันอย่างชัดเจน
แม้จะอธิบายไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว
แต่เกมส์ก็ยังไม่เข้าใจเสียที
แบบนี้ก็คงจะเหลือเพียงแค่วิธีเดียว


“ถ้าเกมส์ไม่เชื่อ งั้นผมจะพิสูจน์ให้ดู”


จบคำ ร่างสูงก็ดึงรั้งมือที่จับไว้มาสอดประสานให้แนบสนิท
มือใหญ่กอบกุมส่งผ่านไออุ่นมาให้พร้อมกับคำเอ่ยถาม


“ถ้าผมทำแบบนี้เกมส์กลัวผมรึเปล่าครับ”


คนได้ยินสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ ๆ ก็ถูกจับมือไว้แน่น
มองมือของตัวเองที่ถูกคว้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย



แต่น่าแปลก...

ทั้ง ๆ ที่ควรจะกลัวและรีบสลัดมือหนีไปให้ไกล
ทว่าเขากลับไม่สามารถทำได้
เพราะร่างกายไม่ได้สั่น ไม่ได้รังเกียจหรือหวาดกลัว
ซ้ำกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ค่อย ๆ ก่อตัวในหัวใจ


...ทำไม ....เพราะอะไร


กระนั้นยังไม่ทันหาคำตอบ
ดิวก็กลับดึงร่างเขาไปปะทะแนบอก
ใช้สองมือโอบกอดเอวเข้าไว้ชิด
ก่อนได้ยินเสียงกระซิบผ่านข้างใบหู


“แล้วถ้าแบบนี้เกมส์กลัวผมมั้ย”



...ไม่


...ไม่ใช่ความกลัวที่เขารู้สึกได้ในตอนนี้


แต่มันเป็นเสียงหัวใจที่เต้นโครมคราม
หัวสมองถูกความร้อนจากทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์
และความสับสนในใจพัดขึ้นจนวิ่งเวียน
โดยเฉพาะเมื่อถูกอีกฝ่ายกอดจนใกล้
ก็คล้ายจะตรึงให้ร่างทั้งร่างติดอยู่กับที่


...มันอาจใกล้เคียงกับความรู้สึกกลัว

หากแต่สั่นไหวกว่านั้น และที่สำคัญ...



....เขารู้สึกแปลกที่ไม่ได้ต้องการจะหนีมันไป



ดิวคลายวงแขนลงสบมองเกมส์ซึ่งเงยหน้าจากอ้อมกอด
สัมผัสถึงมือใหญ่แตะเชยคางเขาช้า ๆ
รู้สึกราวกับถูกสายตาคู่นั้นสะกดให้ลมหายใจหยุดนิ่ง


“...เกมส์”


ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองแผ่วเบา
ก่อนใบหน้าอีกฝ่ายจะโน้มลงมาใกล้


...ใกล้



....จนทำให้ความรู้สึกบางอย่างปั่นป่วนสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่



“อุ๊บ!”


และก่อนที่ริมฝีปากจะสัมผัสกัน
เกมส์กลับผลักร่างที่แนบชิดออกไปเต็มแรง
รีบวิ่งตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
แล้วโก่งคออาเจียนลงชักโครกระบายความปั่นป่วนมวนท้อง
ทิ้งดิวให้นิ่งงงอยู่อย่างนั้นเพราะถูกตัดจบอารมณ์เอาดื้อ ๆ
ก่อนเจ้าตัวจะตั้งสติได้ แล้วจึงเข้าไปช่วยลูบหลังคนเมาซึ่งอ้วกจนหมดกระเพาะ


“ไหวรึเปล่าครับเกมส์ นอนก่อนเถอะนะครับ”


เกมส์พยักหน้าเนือย ๆ จัดการบ้วนปากแปรงฟัน
แล้วให้ดิวประคองขึ้นไปนอนห่มผ้าบนเตียง
และทันทีที่หัวถึงหมอนก็ผล่อยหลับลงไปเพียงไม่นาน
ปล่อยให้ดิวได้แต่นั่งมองคนเมาหมดแรงด้วยความถอนใจ


...บรรยากาศกำลังดี ๆ แต่เกมส์ก็ดันมาเป็นอย่างนี้
สุดท้ายเขาเลยไม่รู้ว่าเกมส์รู้สึกยังไง
แล้วที่อ้วกนี่เพราะเมา หรือเพราะกลัวเขาจนทนไม่ไหวกันแน่
แต่ที่รู้ชัดเจนแน่ ๆ คือ...



...เกมส์ยังไม่ยอมเปิดใจให้เขาเลยแม้เพียงนิดเดียว



ดิวทอดสายตามองคนหลับสนิท
เอื้อมมือเกลี่ยผมนุ่มเบา ๆ
ก่อนก้มลงกระซิบถ้อยคำวอนขอสุดท้าย
โดยหวังเหลือเกินว่าจะมันจะเป็นจริง



“ให้ผมได้เข้าใกล้เกมส์บ้าง อย่ากลัวผมอีกเลยนะครับ เกมส์”



...


..


.




ตี๊ดดดดด!!  ตี๊ดดดด!!



เสียงโทรศัพท์แทรกเข้าไปในโสตประสาทของคนหลับให้สะดุ้ง
สามัญสำนึกแรกในหัวสมองของนายซีเกมส์
คือความปวดทรมานจี๊ดจากเสียงแหลมหนวกหูที่ยังคงแผดดังลั่นไม่หยุด
เขาเอื้อมมือคว้านสะเปะสะปะไปตรงหัวเตียง
ก่อนหยิบโทรศัพท์มากดปิดเสียงปลุกให้เงียบลง
นึกด่าตัวเองในใจว่าตั้งปลุกทำไมเอาตอนหกโมงเช้า
วันนี้ไม่มีเรียนสักหน่อย มีแค่ควิซวิชาเดียวตอนบ่ายนู้น


...ควิซ


...เฮ้ย! ควิซ!! ฉิบหายแล้วยังไม่ได้อ่านอะไรเลยสักตัว!!



เกมส์สลัดความง่วงทิ้งทันที
รีบพุ่งตรงมายังโต๊ะซึ่งวางกองชีทระเกะระกะไว้ตั้งแต่เมื่อวาน


...ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจจะกลับมาอ่าน
แต่เมื่อวานดันออกไปกินเหล้าเมาหัวทิ่ม
แถมตื่นมาปวดหัวอีกต่างหาก
แล้วอย่างนี้จะอ่านรู้เรื่องมั้ยวะเนี่ย
ไอ้วิชานี้มันเป็นวิชาบังคับเกี่ยวเนื่องไปในปีหน้าด้วย
ถ้าไม่ผ่านก็ต้องซ้ำชั้นใหม่ แล้วต้องเรียนตามหลังพวกเพื่อน ๆ
เผลอ ๆ อาจเรียนไม่จบเภสัชภายในห้าปี
ขืนเป็นแบบนั้นมีหวังโดนคุณนายสายสมรฆ่าตายแน่ ๆ


คนรักชีวิตจึงพยายามตั้งต้นอ่านเอกสารเรียนที่ค้างไว้
หากแต่เริ่มไปไม่เท่าไรก็ชักจะปวดหัวพะอืดพะอมเพราะเมาค้าง
มิหนำซ้ำกระเพาะเริ่มร้องครวญครางให้หาอะไรมาใส่
หรือเขาควรจะหาอะไรมากินก่อนดีวะ แล้วค่อยลุยกันใหม่อีกรอบ


คนคิดได้จึงเดินไปยังตู้เย็น ตั้งใจจะดื่มน้ำสักแก้ว
หากแต่ยังไม่ทันเอื้อมเปิดออก
สายตากลับสะดุดเห็นอะไรบางอย่าง


...โพสอิทที่แปะข้อความไว้



‘ผมซื้อน้ำผลไม้แช่ไว้ตู้เย็น เกมส์ดื่มแก้เมาค้างนะครับ
และถ้ายังไม่หายผมมีโจ๊กถ้วย
วางอยู่ใกล้ ๆ กระติกน้ำร้อน เสียบปลั๊กก็ใช้ได้เลย
ทานเสร็จค่อยทานยาแก้ปวดหัวตามนะครับ’



...ไม่ได้ลงชื่อที่มาแต่เขารู้ได้ทันทีว่าเป็นใคร


...เกือบลืมไปแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
ความทรงจำทั้งหมดแล่นย้อนกลับมาเป็นฉาก
ความทรงจำที่เต็มไปด้วยคำถามที่เขาไม่เข้าใจ


...ทำไมดิวถึงทำแบบนั้น

...ทำไมถึงมาบอกว่า ‘ชอบ’

...ทำไมถึงเข้ามา ‘กอด’

...ทำไมถึงเกือบจะ ‘จูบ’



แล้วทำไม...


...ทำไมเขาถึงไม่รู้สึก ‘กลัว’



แม้จะรับรู้ถึงจุดประสงค์ชัดเจนว่าดิวคิดเกินกว่าเพื่อนกับเขาแล้วก็ตาม
แถมยังมีพฤติกรรมไม่ได้แตกต่างจากพี่ปูเป้ที่ตั้งใจจะลวนลาม
ทว่าเขากลับยอมให้ดิวเข้าใกล้ง่าย ๆ จนเกือบเกินเลย


หรืออาจเป็นเพราะเมา
อาจเพราะบรรยากาศภาพไป
เลยทำให้เขาเผลอปล่อยตัวปล่อยใจ
ไขว้เขวไปกับคำพูดล่อหลอกของดิว



ลืมไปแล้วรึไงว่าดิวทำอะไรกับเขาไปแล้วบ้าง
ลืมความโกรธ ความเกลียด
ลืมคำสัญญาทั้งหมดที่ให้ไว้กับตัวเองว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก



...ลืมความกลัวที่มันหายไปเพียงแค่อาทิตย์เดียว



ไม่หรอก...



...เขายังไม่ลืม


เพราะตอนนี้เขารู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน



เขากลัว...


...กลัวที่จะต้องได้ยินคำโกหกซ้ำ ๆ

...กลัวที่จะต้องสูญเสียความเชื่อใจอีกครั้ง

...กลัวที่จะต้องทนอยู่กับความสับสนในใจ



ใช่...เขาคิดถูกแล้ว...



...เขาควรจะกลัวดิวให้มาก ๆ ตั้งแต่แรกจริง ๆ



...


..


.




“ตาโหลเป็นหมีแพนด้าเชียวนะยะ
แอบไปซุ่มอ่านมาทั้งคืนล่ะสิใช่มั้ย
ฉันล่ะดีใจที่แกสำนึกกับเขาได้ซะทีนะ ไอ้เกมส์”


เสียงบอลล่าเอ่ยเดาให้คนที่เดินสะโหลสะเหลออกจากห้องสอบ
เปล่าเขาไม่ได้ซุ่มอ่าน แต่ไปซุ่มดื่มเหล้ามาทั้งคืนต่างหาก
แต่ขืนบอกไปคงได้โดนคุณแม่ประจำกลุ่มบ่นร่ายยาวแน่
ดีไม่ดีอาจไปฟ้องคุณแม่ตัวจริงที่อยู่เชียงใหม่อีก


อีกอย่างเขาต้องขอบคุณบอลล่าด้วย
เพราะถ้าไม่ได้แนวข้อสอบที่เคยบอกให้เขาไปหาที่ห้องสมุด
เขาก็คงนั่งง่วงหัวตันหลับคาห้องสอบ
ไม่เค้นสมองทำได้มากจนรอดตายหวุดหวิดขนาดนี้หรอก


และแน่นอนว่าคนเตรียมตัวมาพร้อมอย่างบอลล่า
ก็ต้องทำได้ผ่านฉลุยจึงยังทำตัวเริ่งร่าเอ่ยถามเสียงกระดี๊กระด๊า


“นี่ไปดูหนังด้วยกันสักเรื่องมั้ย
สอบเสร็จแล้วฉันอยากลันล๊าให้หนำใจบ้าง”


“เจ๊ไปเหอะ ง่วงว่ะ จะไปนอน”


เกมส์เอ่ยปฏิเสธคนแรกพลางปิดปากหาวหวอด ๆ
พอสอบเสร็จก็ไม่เหลือแรงจะไปทำอะไรแล้ว
ซึ่งคนชวนก็ไม่พูดคัดค้านอะไร


“เออ ตามใจ เห็นสภาพแกแล้ว
กลัวจะไปนอนกรนในโรงหนังให้หายขี้หน้าเหมือนกัน
ฉันชวนคนอื่นเอาก็ได้ย่ะ...อุ๊ย! นั่นดิวนี่ พอดีเลย”


เสียงทักท้ายประโยคทำให้เกมส์หยุดชะงักนิ่งค้าง
หัวใจหล่นวูบเมื่อเงยหน้ามองเจ้าของชื่อ
ซึ่งยืนอยู่ห่างไปไม่ไกลเหมือนกำลังรอคอย
และทันทีเห็นเขา ร่างสูงก็รีบเดินเข้ามาใกล้
ยิ่งระยะห่างหดสั้นลงเท่าไร
ความหวาดหวั่นก็ยิ่งเข้าเกาะกุมจิตใจ
เขาไม่รู้ว่าตัวเป็นอะไร
แต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับดิว


...ไม่เอา



....เขาต้องหนี



ร่างกายขยับตามความคิด
เกมส์หมุนตัวหันหลังกลับรีบวิ่งหนีออกไปอีกทาง
ไม่หยุดแม้จะได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง


“เดี๋ยวสิครับเกมส์”


ดิวรีบร้องตะโกน ก่อนรีบวิ่งไล่ตามคนนำหน้า
ซึ่งตอนนี้ไม่สนอะไรอีกแล้วนอกจากจะหนีไปให้พ้น


เกมส์ออกแรงวิ่งเลี้ยวซ้ายขวาไปรอบมหาลัยอย่างกับหนังอินเดีย
ทั้งโรงอาหาร อาคารเรียน ห้องสมุด
วนเข้าออก แต่อีกฝ่ายก็ยังคงตามตื้อ
กว่าจะสลัดให้ร่างสูงหลุดออกไปได้ก็แทบลิ้นห้อย
ต้องมาหยุดหอบหายใจด้วยความเหนื่อยเหงื่อท่วมอยู่ที่ตึกเภสัชที่เดิม


...ซวยอะไรกันหนักหนาว่ะชีวิต
เมาค้าง ปวดหัว แถมยังต้องมาวิ่งออกกำลังกายอีก
แต่โชคดีที่ตอนนี้หลบพ้น เขาก็เลยกลับมาเอามอเตอร์ไซต์
จะได้รีบบึ่งไปห้องให้ทันก่อนใครบางคนจะไปดักรอที่ห้องอีก


หากแต่ยังไม่ทันขยับสตาร์ทรถเตรียมถอย
มือปริศนาก็ยื่นมาขวางแฮนด์รถไว้
ก่อนเสียงคุ้นเคยจะดังขึ้น


“นึกแล้วว่ายังไงเกมส์ก็ต้องกลับมา”


คนเจ้าเล่ห์ยังไงก็เป็นคนเจ้าเล่ห์
สำหรับดิวที่รู้ว่าวิ่งตามเกมส์ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์
สู้มาดักรออยู่หน้าคณะเภสัชจะดีกว่า
เพราะยังไงเกมส์ก็ต้องกลับมาเอามอเตอร์ไซต์
เขาจึงเลิกตามเกมส์แล้ววนกลับมาซุ่มดูรอเวลา
แล้วค่อยอ้อมไปด้านหลังดักทางออกเพื่อไม่ให้เกมส์หนีไปได้อีก
และยังเปิดโอกาสให้เขาเคลียร์ความเข้าใจกับเกมส์ด้วย


คนรู้ตัวว่าหมดทางหนีเริ่มหน้าซีด
เป็นอีกครั้งแล้วที่เขาโดนดิวหลอกล่อให้ไปตามเกม
แม้พยายามหนีให้ห่างแต่ก็ไปไม่เคยพ้น
ถ้าหนีไม่ได้อย่างนี้ก็เห็นทีจะต้องสู้


เกมส์จึงตัดสินใจหันมาเผชิญหน้า
ตะโกนเอ่ยไล่คนตื้อด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“เลิกตามเราสักที ถอยไปซะ!!”


“เกมส์ครับ คุยกับผมก่อนได้มั้ย”


“ไม่!! เราไม่มีเรื่องอะไรจะต้องคุยกันแล้ว!!”


“มีสิครับ ก็เรื่องที่ผมชอบเกมส์”



...สิ้นประโยคทุกสิ่งนิ่งเงียบ


ดิวตัดสินใจพูดออกไปแบบนั้น
ด้วยไม่แน่ใจว่าเกมส์จะจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้รึเปล่า
แต่ถึงยังไงเขาก็อยากจะย้ำอีกครั้งให้ชัดเจน
ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะจำได้ดี
เพราะเขาเห็นนัยน์ตาวูบไหวของคนตรงหน้าแม้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ
ก่อนมันจะเปลี่ยนเป็นประกายตาของความโกรธ
เช่นเดียวกับน้ำเสียงตะคอกดังลั่น


“หยุดพูดได้แล้ว! ยังไงเราก็ไม่เชื่อ!!”


คำปฏิเสธซ้ำ ๆ เดิม ๆ ที่เคยได้ยินเมื่อวาน
ไม่ได้ช่วยให้เรื่องทั้งหมดง่ายขึ้น
หากกลับเสียดแทงใจของดิวให้เจ็บช้ำกว่าเดิม


...เพราะอะไร
เขาพูดถึงขนาดนี้แล้วเกมส์กลับยังไม่เชื่อใจกันอีกเหรอ
ต้องให้ย้ำมากแค่ไหนเกมส์ถึงเข้าใจเขาไม่ได้โกหก


ความท้อถอย ความเหนื่อยล้า และความสับสนมากมาย
ประดังประเดเข้ามาจนเกิดเป็นคำถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ


“ทำไมล่ะครับ ทำไมเกมส์ถึงไม่เชื่อผม
ทั้ง ๆ ที่ผมทำให้เกมส์มากขนาดนี้”


ถ้อยคำอ้อนวอนที่ได้ยินแทนทีจะส่งผลให้คนฟังใจอ่อน
ตรงข้ามมันกลับเร่งอารมณ์เดือดดาล
ให้คู่สนทนาเงยหน้าขึ้นมองทันทีคล้ายหมดความอดทน
ก่อนจะพรั่งพรูประโยคยาวเหยียดจากส่วนลึกข้างใน


...คำตอบของการหนีจากเกมส์ที่เขาไม่เคยรับรู้



“คนที่คบกันคนอื่นไปเรื่อยแบบดิวน่ะเหรอจะมาชอบเรา
ดิวแค่อยากเอาชนะเรา ไม่ได้คิดจะจริงใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ความชอบของดิวมันก็เป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ
พอเบื่อแล้วก็ทิ้งหาใหม่ ไม่เคยรู้จักพอ
แล้วจะให้เราเชื่อได้ยังไง....
จะให้เราเชื่อคนที่ยังไม่เคยรู้จักเลยว่า
 ‘ชอบ’ จริงๆ มันเป็นแบบไหนได้ยังไงกัน!!”



ดิวนิ่งอึ้งฟังถ้อยคำที่ตกกระทบลงกลางใจ


...นี่เหรอคือเหตุผลที่เกมส์ออกห่างจากเขา


เหตุผลที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน
แม้จะมีใครหลายคนสะกิดเตือน
แต่เขากลับไม่รู้สึกตัว


ผู้ชายคาสโนว่าจอมเจ้าชู้ รักง่ายหน่ายเร็วอย่างเขา
ไม่แปลกเลยที่เกมส์จะไม่เชื่อใจ
ไม่แปลกเลยที่เกมส์จะคลางแคลงสงสัย


แล้วตัวเขาเองล่ะ...
มั่นใจได้ยังไงว่าชอบเกมส์ในแบบไหน
มั่นใจได้ยังไงว่าจะหยุดหัวใจไว้ที่เกมส์ได้
เพราะเขาก็ยังไม่เคยรักใครจริงจังเลยสักครั้ง
คบเพียงแค่หนึ่งเดือนก็ต้องเลิกราทุกราย


แม้จะรู้สึกว่าเกมส์เป็นคนพิเศษแตกต่างจากคนอื่น
และรู้สึกดีด้วยเวลาได้อยู่ใกล้
แต่เขาก็อธิบายมันได้แค่นั้น
มันอาจเป็นอารมณ์ชั่ววูบอย่างเกมส์ว่า
หรือแค่อยากเป็นความเอาชนะบ้า ๆ ของเขา
แค่เพียงอาทิตย์เดียวที่เริ่มรู้จักกันและกัน
มันคงเร็วเกินไปที่จะชอบใครจริงจังรึเปล่า


....แล้วถ้าอย่างนั้นเขาคิดยังไงกับเกมส์กันแน่?



“เกมส์...คือผม...”


ดิวพูดได้เพียงแค่นั้นก่อนจะเงียบเสียงลง
ด้วยไม่รู้จะสรรหาถ้อยความใดมาอธิบาย
ในเมื่อเขาก็ยังคงไม่สามารถตอบตัวเองได้
และนั่นก็คงเพียงพอแล้วสำหรับทุกสิ่ง


“อย่ามาให้เราเห็นหน้าอีก”


เกมส์เอ่ยทิ้งท้ายสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ก่อนกระแทกร่างสูงให้ออกห่างเพื่อเปิดทาง
ซึ่งเขาหมดแรงจะขวางเอาไว้
ปล่อยให้เกมส์เดินไปเรียกวินมอเตอร์ไซต์ที่ขี่ผ่านทางมา
แล้วขึ้นซ้อนท้ายแล่นออกไปจนลับสายตา
เหลือเพียงแค่เขาซึ่งยังคงยืนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น


...มันอาจจะจริงที่เขาไม่รู้ว่าการชอบใครสักคนมันเป็นแบบไหน


แต่แค่เพียงช่วงเวลาที่เขาปล่อยมือจากเกมส์ไป
เขาอยากรู้ว่ามันจะใช่ความรู้สึกเดียวกับที่เขากำลังเป็นตอนนี้รึเปล่า


...ความรู้สึกของความ ‘กลัว’ ซึ่งค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในหัวใจ



...กลัวเกมส์จะหลบหน้า
...กลัวเกมส์จะหนีหาย
...กลัวเกมส์จะโกรธเคือง
...กลัวเกมส์จะเกลียดกัน



และสิ่งที่กลัวมากที่สุด...



....‘เขากลัวจะเสียเกมส์ไป’



เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มรู้สึกกลัวมากมายขนาดนี้
ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยสัมผัสมันจากใครมาก่อน



ถามหน่อยสิครับเกมส์


ความกลัวทั้งหมดพวกนี้....



...มันเป็นความรู้สึก ‘ชอบ’ จริง ๆ รึเปล่า?




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 18-04-2013 07:25:04
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด  มาทำให้ค้างนะคะ  กรี๊ดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-04-2013 07:27:00
ปั๊ดโธ่...ไปไล่เขาหนีทำไมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 18-04-2013 08:22:43
สงสารเกมส์นิดนึง 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 18-04-2013 09:33:32
สะใจมากที่เกมส์พูดกับดิวแบบนั้น   ดิวคงต้องหาคำตอบด้วยตัวเองว่า ชอบ เกมส์แบบไหนกันแน่


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 18-04-2013 09:44:06
อ้ายยยยย เครียดดดด ดิวขาาาาา มั่นใจหน่อยเถ้ออ ว่ามันคือความรัก :ling1:

ไม่ชอบบรรยากาศหน่วงๆแบบนี้เลยย ขอหวานๆหน่อยน้าาา :hao7:

รักคนแต่งค่า มาต่อไวๆน้าาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-04-2013 09:54:05
สมกับเป็นซีรีย์หวานอมขมจริงๆๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 18-04-2013 09:55:36
ถ้าแค่อยากเอาชนะ ดิวคงไม่ทุรนทุรายขนาดนี้
ก็ดีนะ ดิวจะได้ถอยไปถามตัวเองว่าจะเอาไงต่อ
คงไม่ต้องถามแล้วหรอกว่าชอบเกมส์หรือแค่อยากอาชนะ

ส่วนเกมส์ ต่อไปถ้าเค้าไม่มาให้เห็นหน้าอย่างที่ไล่ไป ก็อย่ามองหาเค้าให้ได้อย่างที่ใจตัวเองต้องการ

จะรอดูว่าใครจะทรมานกว่ากัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 18-04-2013 09:57:25
สงสารดิวจัง :o12:
แต่มันเป็นสิ่งที่ดิวจะต้องพิสูจน์ให้เกมส์เห็นแล้วล่ะ คำว่า"ชอบ"ของดิวอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 18-04-2013 09:57:53
สมน้ำหน้าดิวค่ะ เหอๆ ค้างอะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 18-04-2013 10:36:36
อ่าว ดราม่าต่อเลย....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-04-2013 10:38:14
สงสารดิวเหมือนกันแต่ต้องให้เวลาเกมส์อีกหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 18-04-2013 10:58:21
มาม่าอีกแล้ว
มารอต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 18-04-2013 11:52:46
อดทนไว้น่าดิว รักแท้ย่อมต้องมีบทพิสูจน์
เพื่อรู้ว่ารักครั้งนี้มันมีค่า

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 18-04-2013 12:16:46
สงสารดิว
แต่ก็เข้าใจเกมส์นะ

ค้างเบาๆ
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 18-04-2013 12:18:32
ถ้าถามว่าดิวกลัว... นี่เป็นความรู้สึกชอบไหม

ถ้าในคำตอบของเรา เราว่ามันเป็นแค่การเริ่มต้นรู้สึกดีกับใครสักคนหรือเปล่า
มันอาจจะไม่ได้เข้าขั้นชอบหรือรัก มันเป็นแค่รู้สึกดี
และความชินในการที่ต้องไปหาใครสักคนทุกวัน แคร์ใครสักคนทุกวัน
พออีกฝ่ายจะหายไป เราก็ตื่นตัวเพราะกลัวเค้าจะหายไป

มันอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้



ดิวไม่รักใครจริง ก็ไม่แปลกถ้าทำไมเกมส์จะกลัว
ถ้าเป็นเรา เราก็กลัว... ถ้าเป็นเรา เราก็หนี ไม่อยากยุ่งด้วย
เราไม่อยากเอาตัวและหัวใจเราเข้าไปเสี่ยงในเกมส์แบบนี้
เพราะถ้าพลาดพลั้งไป คนที่เจ็บที่สุดก็เป็นตัวเราเอง

เราก็หวังว่าดิวคงจะเข้าใจตรงจุดนี้



แต่ถ้าดิวรู้แล้วว่าตัวเองชอบเกมส์จริงๆ แล้วเกมส์ยังงี่เง่าอยู่
เราแนะนำว่า ปล้ำแม่งเลย ฮ่าๆๆๆๆๆ



ปล. ขอโทษที่ไม่ได้เมนท์มานานเลยค่ะ เราติดภารกิจยาวนานรวมถึงสงกรานต์ กว่าจะได้มาเมนท์ก็ตอนนี้ แต่ยังตามอ่านทุกตอนไม่ได้หายไปไหนนะ
ปล๒. ชื่อพระ-นายในซีรีย์นี้ตรงกับชื่อเดือนของคณะเรากับอีกคณะหละค่ะ อ่านแล้วมันชวนให้คิดถึงสองคนนั้นจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

เกือบลืม รูปนักรบกับสาลี่นี่ชวนให้ฟิน  :hao7:  น้องสาลี่นี่เหมือนแฮร์รี่พอตเตอร์เลยหงะ เง้อออออออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 18-04-2013 13:05:40
ดิวต้องกลับมาทบทวนตัวเองสินะ อย่านานนะ รอลุ้นจ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 18-04-2013 13:20:18
กลับมาจากเล่นน้ำสงกรานต์อารมณ์ดีๆ เจอฉากนี้เข้าไป ทำเอาไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียว

 :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-04-2013 13:27:20
อ้าว!! 

 :a5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 18-04-2013 13:36:46
ภาคนี้มันหน่วงๆ ไม่ค่อยอิ๊อ๊ะเหมือนภาคก่อนๆ เลย

รอตอนหวานๆ อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 18-04-2013 13:42:07
ดิวสู้ๆละกันเนอะ
ทำให้เกมส์เชื่อใจให้ได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 18-04-2013 14:46:45
ถ้าดิวตอบความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ได้ว่ารักเกมส์จริง ๆ
ก็เดินหน้าสู้ต่อไปอย่าท้อถอย และเคลีร์ยเรื่องผู้หญิงของตัวเอง
เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เกมรู้ว่าดิวจริงใจกับเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 18-04-2013 15:07:03
ดิวจะแก้ตัวยังไงน้า  อยากรู้จัง   :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 18-04-2013 15:17:44
ดิวสู้ๆน้าาา  :hao5: :hao5: เกมส์ก็อย่าใจร้ายกับดิวนักเลยน่ะ  :mew2: :mew2: :mew2:

อยากอ่านต่ออออ  :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 18-04-2013 15:41:49
โถ่หลานป้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: coldcream ที่ 18-04-2013 16:18:51
มาแล้ว อ่านแล้ว อยากบอกว่าชอบตอนนี้นะ

อาจดราม่าแต่เราชอบตอนนี้เพราะ การที่เกมส์ไม่ตอบรับคำของดิว เราว่าถูกแล้ว แต่ก็ไม่เถียงนะว่าเกมส์ก็รู้สึกดีและชินกับการที่เคยมีดิวในชีวิตช่วงที่ผ่านมา เริ่มเคยชิน อบอุ่นและมีใจให้ในความคุ้นเคย แต่ถามว่ารักมั้ย คงยัง เราอ่านรีบนแล้วเห็นด้วยว่า เกมส์เพิ่งเผลอใจรับดิวเข้ามาในชีวิตในฐานะเพื่อน รู้สึกดีกับความเอาใจใส่ของดิว แต่ยังไม่พัฒนาถึงรักแน่นอน เพราะตอนนี้เกมส์ยังไม่ได้นึกถึง ดิวกับผู้หญิงรอบข้างของดิวเลย ยังไม่ทันเฉลียวกับความรัก ยังแค่เริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อน มันอาจพัฒนาไปถึงความรักได้ในอนาคต แต่คงต้องใช้เวลามากกว่าอาทิตย์เดียวนี้มาก

ส่วนดิว อาจคิดว่าตัวเองรักเกมส์ แต่ความรู้สึกนี้เพิ่งเกิดในช่วงที่เหตุการณ์แตกหักนี้เท่านั้น เพราะความที่ดิวใช้เวลากับเกมส์ค่อนข้างมากเป็นอาทิตย์ มันก็เป็นความเคยชินและรู้สึกดีๆที่เพิ่มขึ้น ค่อยๆเข้ามาแทนที่สิ่งที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเกมส์ถึงไม่สนใจตัวเอง หนีทั้งๆที่คนอื่นมีแต่เข้าหา ที่ทำดีด้วยก็เหมือนเอาชนะเกมส์ทางนึงเหมือนกัน แม้ตอนเหตุการณ์แตกหักนี้เกิดแล้ว ดิวก็ตั้งใจจะไปหาเกมส์เพื่ออธิบาย ดิวก็ยังมีเหตุที่ต้องพัวพันกับผู้หญิงคนอื่นตลอด เหมือนเกมส์เกือบสำคัญแต่ก็ยังไม่สำคัญจริง ยังมีเวลาลังเล เหมือนไม่แน่ใจตลอด ขนาดคืนนั้นยังไปกับแพร ถึงใจจะคิดว่าพรุ่งนี้จะไปหาเกมส์ แต่ก็เหมือนผลัดว่า ค่อยทำทีหลังก็ได้ จนเมื่อเห็นเกมส์ถูกลวนลาม จึงคิดว่า ตัวเองรักเกมส์แน่แล้ว

เราว่าดีที่ยืดระยะเวลาออกไปอีกสักพัก ให้ทั้งคู่ได้คิด และทบทวนความรู้สึกของตัวให้แน่ ดิวจะได้ชัดเจนกับตัวเองมากกว่านี้ถ้าผ่านเวลานึงด้วยความทรมาน รู้ตัวว่าใช่  และเกมส์ก็จะมีเวลาที่คิดได้ว่า ตัวเองคิดอะไร แน่ใจกับความรู้สึกด้วย คงต้องใช้เวลาทั้งคู่นะ

รออ่านการตัดสินใจของทั้งสองคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 >; P.87
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-04-2013 16:24:22
ทบทวนให้ดีๆนะดิว ว่าชอบจริงๆหรือป่าว??  หรือแค่อยากครอบครอง เกมส์ไม่ใช่ของเล่น..
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 18-04-2013 19:59:15
หาคำตอบให้ได้นะดิว

เอาใจช่วยทั้งสองคน


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-04-2013 21:08:56
โหยยยยย..ยย
น่าสงสารอ่ะ =0=
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: Prince_Duck ที่ 18-04-2013 21:16:19
ดิวสู้ๆน่ะครับบ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 18-04-2013 22:06:38
ฮ่วยเกมส์ :ruready อุตส่า ขยับมาใกล้แต่ไกลออกไปอีกแล้ว ความสัมพันธ์ เหมือน เดินหน้าสองก้าว ถอยหลังสามก้าว  :katai1:จะถึงไหมเส้นชัย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 18-04-2013 22:23:58
 :เฮ้อ:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 18-04-2013 23:52:11
อ่านตอนนี้ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
คนอ่าน ยังรู้ได้ ว่าเกมส์ไม่ได้รู้สึกกับสัมผัสของดิว อย่างที่เคยรู้สึกแย่กับคนอื่น
แต่สิ่งที่ตัวเองยังจำฝังใจมันก็หลอกหลอนไม่เลิก  เข้าใจนะว่าไม่ได้ลืมกันได้ง่าย ๆ
แถมยังรู้สึกปักใจว่าดิวเป็นคนแบบนั้นแบบนี้  ซึ่งมันก็เป็นความจริงในอดีตที่ผ่านมา

งานคงตกหนักอยู่ที่ดิว ว่าจะทำยังไงให้เกมส์เืชื่อและั่มั่นใจ ส่วนเรื่องจะทำให้ชอบยังไงคงไ่ม่ต้อง
เพราะเราว่าเกมส์ชอบดิวไปแล้วอ่ะ

ชอบที่ดิวยังพยายาม ยังตื้อ ชอบที่สุดตอนที่ดิวรู้สึกว่ากลัว .. กลัวจะเสียเกมส์ไป
ต่างคนต่างกลัวนี่แหละมันจะผลักดันให้คนเริ่มทำสิ่งที่ต้องทำ ^ ^

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 19-04-2013 00:38:45
ทบทวนๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: Nile ที่ 19-04-2013 14:50:32
ดีแล้วล่ะที่เกมส์พูดออกไปอย่างนั้น ดิวจะได้ตอบคำถามของตัวเองให้ชัดเจนได้เสียที ถ้ายังคบกันทั้งที่ไม่แน่ใจแบบนี้ต่อไปอาจจะทำให้เจ็บมากกว่านี้ก็ได้นะ(พูดอย่างกับเค้าเลิกกัน  :mew5:
ปล รูปนักรบกับสาลี่.... กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด น่าร้ากกกกกกกกกกกกก :m3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 13] 18/04/56 > P.87
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 19-04-2013 22:47:59
 o22 เริ่ม มาม่าเปล่านี่ :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 20-04-2013 17:42:12
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 14



...สามเดือน


ในความรู้สึกของดิวเหมือนเป็นเช่นนั้น
ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วเวลาที่เขาเจอหน้าเกมส์ครั้งสุดท้าย
มันเพิ่งผ่านพ้นไปเพียงแค่...สามวัน


...เป็นแบบนี้เสมอ
ในความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเกมส์
ความผูกพันที่เกิดขึ้นเพียงอาทิตย์เดียว
หากแต่มันกลับก่อให้เกิดความรู้สึกลึกซึ้ง
ที่เขาก็ไม่รู้ว่าเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไร


มันอาจมาจากความท้าทาย
กลายเป็นความหวังดี สนิทกันจนเป็นเพื่อน
และคิดอะไรมากเกินเลยไปกว่านั้น
แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลง
โดยเขาทำลายความเชื่อใจด้วยมือของตัวเอง
เพราะเขาไม่รู้จะค้นหาคำตอบซึ่งเกมส์ต้องการมาได้ยังไง


...คำตอบของคำว่า ‘ชอบ’ ที่เขามีให้ต่อเกมส์มันคือแบบไหน



คิดถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาทว่าไม่เคยได้คำตอบ

เหตุผลแรกคือเขาไม่เคยรู้ว่าเวลาชอบใครสักคนมันเป็นแบบไหน


...แค่สบายใจเวลาได้คุยกัน

...แค่เป็นห่วงเวลาอยู่ห่าง


...แค่นี้มันพอแล้วเหรอที่เขาจะบอกว่าชอบเกมส์จริงจัง



แล้วที่สำคัญ เขามีหลักประกันอะไรจะทำให้เชื่อมั่นว่า


...เขาสามารถหยุดหัวใจไว้ที่เกมส์ได้คนเดียว



ขนาดเขาเองยังสับสน
ไม่แปลกเลยที่เกมส์จะยังคงคลางแคลงใจตัวเขา
ถึงใจอยากจะโทรหา อยากส่งข้อความ อยากตามตื้อให้เห็นหน้า
แต่ทุกครั้งพอคิดจะทำ เขากลับไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นพูดมันอย่างไร


สุดท้ายก็ต้องมาเครียดหลบมุมคิดคนเดียวข้างตึกเรียนเงียบ ๆ
นั่งเหม่อกระทั่งไม่รู้ตัวว่ามีใครเดินมาทักจากด้านหลัง


“เฮ้ย! ไอ้ดิว ขอสักมวนดิ”


คนถูกทักหันมองเพื่อนที่ทรุดตัวนั่งลงข้าง ๆ
เป็นไอ้บีมซึ่งคงจะสังเกตเห็นว่าเขาคาบอะไรอยู่ในปาก
แต่สิ่งที่มันร้อของตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับที่เห็น


“เปล่า กูไม่ได้สูบ”


ดิวสั่นหัวปฏิเสธทำให้คนฟังเลิกคิ้วสงสัย
มองไกล ๆ เห็นเป็นแท่งสีขาว ๆ ก็นึกว่าใช่


“อ้าวหรอ  แล้วนั่นอะไรวะ”


“จูปาจุ๊บ เอามั้ย”


ตอบพลางดึงเอาลูกอมหลากสีจากในกระเป๋ากางเกงมายื่นให้


...เขาเลิกสูบบุหรี่นับตั้งแต่สัญญาไว้กับเกมส์คราวนั้น
แรก ๆ ยอมรับว่าหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน
แต่พอได้ความหวานจากลูกอมมาช่วยก็คล้ายจะพอบรรเทาได้บ้าง
ถึงมันจะดูเสียลุคแมน ๆ แบบเดือนวิศวะ
แต่เขาไม่จำเป็นต้องมารักษาภาพพจน์อะไรกันตอนนี้
เพราะเขาแค่อยากรักษาสัญญาไว้กับเกมส์
แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่รับรู้เรื่องพวกนี้เลยก็ตาม


และแน่นอนว่าเพื่อนสนิทที่คบกันมานานย่อมต้องสงสัย
จนเผลอแสดงความแปลกใจให้ปรากฏบนสีหน้าอีกครั้ง


“เดี๋ยวนี้มึงเปลี่ยนมากินขนมแทนแล้วเหรอไง
เออ...เอาก็ได้...ดีกว่าเหงาปาก
แล้วมึงมานั่งทำหน้าซึมอะไรตรงนี้วะ
ทำหน้าอย่างกับคนอกหัก”


คำเอ่ยแซวแบบไม่คิดอะไรมาก
หากคู่สนทนากลับพูดตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“กูอาจจะอกหักอยู่ก็ได้”


“ห่ะ? คาสโนว่าตัวพ่ออย่างมึงเนี่ยนะอกหัก ไม่อยากเชื่อ”


ไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไรที่ดิวทำให้บีมแปลกใจในวันนี้
โดยเฉพาะกับประโยคล่าสุดซึ่งฟังยังไงก็ไม่น่าเป็นจริง
เพราะคบกันมานานถึงรู้ว่าเดือนวิศวะเพื่อนเขาคนนี้
แค่ยิ้มทีก็มีสาว ๆ เหลียวมองจนคอแทบหัก
เปลี่ยนคู่ควงเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า
เป็นฝ่ายทิ้งสาวก่อนจะโดนสาวทิ้ง
แล้วจะมาพูดว่าโดนคนอื่นสลักรักจะเป็นไปได้ยังไง


และดูเหมือนท่าทางของคนประหลาดใจจะแสดงให้เห็นชัด
เพราะดิวกลับเป็นฝ่ายถอนหายใจแล้วเปลี่ยนไปยอมรับเสียใหม่


“เออ...บางทีกูอาจจะไม่ได้อกหักก็ได้
คำว่าชอบจริง ๆ กูยังไม่รู้เลยว่าเป็นยังไง”


ทั้งน้ำเสียงส่อแววประชดตัวเอง
ทำให้บีมซึ่งกำลังแกะลูกอมต้องชะงักหยุดมองคนซีเรียส
ซึ่งหนนี้คงจะมีเรื่องเครียดจริงจังแตกต่างจากที่ผ่านมา
เพราะสีหน้านั้นดูผิดกับทุกครั้ง
จนคู่สนทนาต้องเป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาบ้าง
ก่อนตั้งต้นอธิบายไปตามความคิดของตัวเอง


“กูก็ไม่รู้เหมือนกันวะว่าชอบมันเป็นแบบไหน
แต่สำหรับกู...กูแค่อยากเห็นหน้าเขาทุกวัน
พอเขายิ้มกูก็ดีใจ พอเขาเศร้ากูก็เศร้าไปด้วย
กูห่วงเขา อยากไปอยู่ใกล้ อยากดูแล
ถึงเขาจะไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตาเลยก็ตาม”


ดิวนิ่งฟังเพื่อนซึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ
หากแต่ประโยคที่เอ่ยเหมือนแฝงความในใจเอาไว้
คล้ายมาจากประสบการณ์ของตัวเองเหมือนมีคนที่ชอบอยู่แล้วจริง ๆ
และคนคนนั้นถ้าเขาเดาไม่ผิดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...


“มึงหมายถึงแพร”


ข้อสันนิษฐานที่หลุดออกมาง่าย ๆ
จนบีมต้องหันกลับมาชักสีหน้าใส่ด้วยความหงุดหงิด


“รู้แล้วยังเสือกถามอีก
ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเพื่อน
กูคงซัดมึงไปนอนตั้งแต่ที่ปล่อยแพรไว้วันนั้นแล้ว”


...วันนั้นที่ว่าคงเป็นวันเดียวกับที่เขาทิ้งแพรมาในงานวันเกิดเพื่อกลับมาหาเกมส์


เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนผิดที่ปล่อยแพรให้เสียหน้าอยู่กลางงาน
แถมบีมเองก็เป็นคนต้นคิดให้เขาถือเค้กวันเกิดไปเซอร์ไพรซ์แพรด้วย
แม้เขาจะรู้อยู่หน่อยๆ แล้วว่าบีมแอบมีใจให้แพรอยู่บ้าง
แต่สุดท้ายก็ยังเผลอไปทำลายน้ำใจของเพื่อนสนิทและคนที่เพื่อนตัวเองรัก


ไม่แปลกเลยที่บีมจะโกรธแบบนี้
ถ้ามันคิดจะต่อยเขาจริง ๆ เพื่อชดเชยความผิดเขาก็ยอม
และหากจะโทษก็ต้องโทษความโลเลของตัวเอง
ที่เป็นต้นเหตุทำให้ทุกอย่างมันพังลงอีกครั้ง
แต่ในเมื่อเวลามันย้อนกลับมาไม่ได้
คนสำนึกจึงทำแค่เพียงเอ่ยสั้น ๆ


“กูขอโทษว่ะ”


เป็นคำขอโทษอย่างคนไม่อาจหาข้อแก้ตัวใด ๆ
หากบีมกลับส่ายหน้าเหมือนไม่ถือสา


“ไม่ต้องขอโทษกูหรอก
กูรู้ว่าเรื่องพวกนี้มันบังคับกันไม่ได้
เขาชอบมึง กูชอบเขา
แล้วเขาไม่ได้ชอบกู มันก็แค่นั้นเอง”


...ความสัมพันธ์ง่าย ๆ อธิบายไม่ซับซ้อน
แต่ลึก ๆ แล้วในความไม่ซับซ้อนเหล่านั้น
มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย
ที่คงไม่สามารถหาคำใดมาบอกเล่าได้เพียงพอ


...ถ้านี่เป็นอีกหนึ่งของความชอบจริง ๆ

มันจะเหมือนที่เขารู้สึกกับเกมส์รึเปล่า


...เหมือนจะชัดเจน แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำอะไรมาอธิบายให้เข้าใจ



“แล้วมึงคิดจะทำให้เขาหันมาชอบมึงมั้ย”


ดิวเอ่ยถามต่อคล้ายปรึกษาคนผ่านประสบการณ์แบบเดียวกับซึ่งเขาเพิ่งจะเผชิญ


“ทำดิวะ แต่เขาด่ากูกลับมาว่ากูเป็นพวกหน้าม่อ ฮ่าๆๆ”


เสียงหัวเราะทิ้งท้ายราวกับอีกฝ่ายเห็นเป็นเรื่องตลก
แต่ฟังดูก็รู้ว่ามันแฝงความเจ็บปวดไม่น้อย
เหมือนกับที่เขาประชดตัวเองในตอนแรก
ทว่ายังไงที่สุดแล้วเจ้าตัวก็ต้องยอมรับความจริง
จึงเปลี่ยนมาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“แต่กูก็ยังหน้าด้านทำต่อไปนั่นแหละ
กูไม่รู้หรอกนะว่าเขารู้สึกยังไงกับกู
แต่กูรู้สึกดีที่ได้ทำ...ได้ห่วงเขาอยู่เงียบ ๆ ในแบบของกู
แล้วกูก็เชื่อว่า เดี๋ยวเวลามันก็พิสูจน์ทุกอย่างเอง”


คำตอบเป็นไปอย่างเดียวกับที่ดิวเคยคิดไว้


...สำหรับเกมส์เขาไม่รู้เหมือนกันว่าเกมส์จะคิดยังไง
แต่เขาก็เลือกแล้วว่าจะขออยู่ดูแลเกมส์
แม้เกมส์ยังไม่เชื่อเขาในตอนนี้
เขาก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาพูดจริง ทำจริง
ส่วนที่เหลือก็เพียงแค่อาศัย ‘เวลา’ เป็นตัวตัดสิน


ถึงกระนั้นก็ยังทีเรื่องหนึ่งซึ่งยังคงคาค้างใจ
หากแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร
เสียงเรียกจากด้านหลังกลับดังขัดจังหวะ


“ไอ้บีม!! ไอ้บีม!! อยู่ไหนวะ คมมันเรียก”


“เออ ๆ เดี๋ยวกูไป”


เจ้าของชื่อหันไปตะโกนตอบ ลุกขึ้นยืน
พลางตบไหล่ให้กำลังใจกับเพื่อนสนิท


“มึงก็ไม่ต้องคิดมากหรอกว่ะ รู้สึกยังไงก็ทำไปอย่างนั้น
เจ้าพ่อแผนการอย่างมึงเดี๋ยวก็หาวิธีง้อเขาสำเร็จแล้ว”


“เดี๋ยว ไอ้บีม!”


ดิวรั้งร่างที่กำลังหันหลังให้หมุนตัวกลับมามองงง ๆ
ก่อนตัดสินใจเอ่ยถามสุดท้าย


“แล้วถ้าเกิดมึงทำให้เขาไปตั้งมากมาย
แต่เขาไม่เคยสนใจมึงเลย มึงจะทำยังไง”


บีมนิ่งคิดไปครู่เดียว แล้วค่อยไหวไหล่
ตอบคำถามไปเหมือนไม่ใช่เรื่องซีเรียส



“ก็ง่าย ๆ ถ้าวันไหนกูเหนื่อยที่จะตามเขา
...แสดงว่ากูไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว”



บีมเดินห่างออกไปแล้ว...

เหลือเพียงดิวที่อยู่คนเดียวตามลำพัง
กับความรู้สึกซึ่งตระหนักได้ในใจชัดเจน


...ความรู้สึกที่มันฟ้องว่า


เขาเหลือแผนการเดียวเท่านั้นที่จะพิสูจน์ให้เกมส์เห็น



...และจะทำให้เกมส์รับรู้จริง ๆ เสียทีว่า


...ลึก ๆ แล้วใจเขาคิดยังไงกับเกมส์



...



..


.



“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ โอยแม่งฮาว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”


เสียงหัวเราะดังลั่นภายในห้อง
จากเกมส์ที่กำลังนอนกลิ้งอ่านการ์ตูนสบายใจ

...ก็คนมันขำก็ต้องหัวเราะให้สุดเสียงจริงมั้ยครับ
แต่มันติดอยู่ที่ปัญหาเล็ก ๆ เพียงนิดเดียว...


“โว๊ยยย!! หัวเราะเงียบๆ หน่อยดิวะไอ้เกมส์
กูดูหนังไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย!!”


...นั้นแหละ ก็ห้องที่นอนอยู่มันไม่ใช่ห้องของเขาเท่านั้นเอง


ปลายฟ้าขมวดคิ้วพลางหันมาตะโกนด่า
คนซึ่งยึดเอาเตียงเป็นฐานที่มั่นในบ่ายวันเสาร์


...ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกมส์มานอนเล่นห้องนี้
แต่อาทิตย์นี้มันกลับมาถี่ผิดปกติ
รวม ๆ เกือบห้าวันแล้ว แถมใช้เวลาขลุกอยู่เป็นชั่วโมง ๆ
มีตั้งแต่ยกโน้ตบุ๊คมาเล่น นั่งกินข้าว นอนอ่านการ์ตูน
บางวันมาหลับห้องเขาอีกต่างหาก
เขาไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะที่เกมส์มาอยู่กับเขา
แต่บางทีถ้ามันมากก็ก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวเกินไป


...อย่างวันนี้กำลังดูหนังฆาตกรรมเข้มข้นอยู่พอดี
แต่ฉากที่ตัวเอกยอมสละชีวิตช่วยนางเองอย่างเศร้าน้ำตาซึม
มันดันส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาซะงั้น แบบนี้จะไม่ให้เซ็งได้ยังไงกัน

และคนทำเสียมู้ดก็คล้ายจะรู้จึงพูดแก้ตัวอ้อมแอ้ม


“เออ ๆ โทษทีก็มันฮานี่หว่า มาอ่านด้วยกันป่ะ”


หากท้ายประโยคก็ยังคงพูดชวนเหมือนไม่สำนึก
จนปลายต้องส่ายศีรษะด้วยความระอา
กดปิดรีโมททีวีอย่างตัดใจเลิกดู
ก่อนลุกขึ้นเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทนให้คลายอารมณ์เครียด


“กูหิวแล้ววะ เดี๋ยวจะลงไปซื้ออะไรกินนะ”


“เฮ้ย! เผื่อกูด้วย เอาเหมือนมึงนั้นแหละ
แล้วซื้อขนมขึ้นมาเยอะ ๆ ด้วยนะ”


ยังไม่วายที่อีกคนจะตะโกนบอก
แล้วหันกลับไปนอนกลิ้งหัวเราะคิกคักกับการ์ตูนต่อ
ชนิดไม่เกรงใจเจ้าของห้อง
จนปลายฟ้าอดไม่ได้ที่จะแกล้งพูดถาม


“กูเห็นขนมที่ห้องมึงเยอะแยะไม่กลับไปกินล่ะ”



...ได้ผลเมื่อคนหัวเราะเริงร่าเงียบเสียงลงในทันใด


เพราะใจกำลังนิ่งอึ้งกับคำพูดสะกิดให้คิดถึงใครบางคน
เจ้าของขนมซึ่งถูกซื้อมาฝากกองโตในห้อง

...ห้องที่เขาไม่อยากจะกลับไปด้วยกลัวว่าจะเจอคนที่ทำให้นึกหวั่น

...และเป็นห้องเขากลัวว่าความทรงจำมันจะย้อนมาทำร้าย

โดยเฉพาะเรื่องของจั๊ดง่าวลูกแมวซึ่งเคยเลี้ยง
พอไม่มีมันห้องทั้งห้องก็ดูว่างเปล่า


...มันเหงาเกินกว่าเขาจะทนอยู่คนเดียวได้


เขาก็เลยต้องอพยพมาอยู่ที่ห้องปลายชั่วคราว
แต่เรื่องเสียศักดิ์ศรีแบบนี้เป็นใครจะกล้าบอก
เกมส์จึงทำแค่เพียงหาเรื่องแก้ตัวตอบตะกุกตะกัก


“กู...กูแค่...แค่แบบอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
มึงไม่เคยได้ยินเหรอวะ
ถ้ามึงเปลี่ยนสถานที่กิน ขนมมันจะอร่อยขึ้น
อาจารย์ยิ่งศักดิ์เขายังบอกไว้เลย”


ปลายฟ้าขมวดคิ้วงงกับตรรกะประหลาด
แถมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันตรงไหน
ฟังดูก็รู้ว่าเพื่อนเขากำลังโกหกหน้าตาย
เพื่อหลีกเลี่ยงความจริงที่มีอยู่ข้อเดียว


“มึงจะหนีอยู่อย่างนี้อีกนานมั้ยวะ”


คำถามที่สองยิงมาติด ๆ อย่างคนเดาทางได้
หากแต่เกมส์ก็ยังคงทำเป็นไม่รู้เรื่องปฏิเสธเสียงแข็ง


“นะ...หนีอะไร? กูไม่ได้หนีสักหน่อย มึงอย่ามามั่ว!”


ปลายฟ้าหรี่ตาลงมองอย่างจับผิด
ถึงขนาดนี้มันก็ยังคงไม่ยอมรับ

หึ ถามมาได้ว่าหนีอะไร...
ไม่ใช่คนที่มันวิ่งหนีเขาหัวซุกหัวซุนหลังสอบเสร็จเมื่อวันนั้นเหรอ
อยู่ ๆ ก็เผ่นแนบไปทิ้งเขากับบอลล่าให้มองดิววิ่งตามไปงง ๆ
โง่ขนาดไหนก็คงดูออกว่าเกมส์มีเรื่องอะไรบางอย่างกับดิว
แต่สิ่งที่เขาไม่รู้คือปัญหาทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะอะไร
แล้วคนนิสัยอย่างเกมส์ก็คงไม่ยอมบอก


แม้จะเพื่อนกันตั้งแต่ปีหนึ่ง
กระนั้นเขายอมรับว่ารู้จักตัวตนจริง ๆ ของเกมส์น้อยมาก
เพราะมันเป็นพวกปากหนักมีเรื่องอะไรก็ไม่เคยบอกเขา
ต้องเก็บเอาไว้คิดเองคนเดียว
ดูอย่างตอนที่มันเป็นโรคกลัวผู้ชายจีบ
ก็ต้องให้บอลล่าช่วยเค้นคอตั้งนานกว่ามันจะยอมพูด


...หรือว่าครั้งนี้จะเป็นปัญหาเดียวกับเมื่อคราวนั้น
เพราะดูจากพฤติกรรมของดิวแล้วก็อาจจะเข้าข่ายว่าคิดจะจีบเกมส์
แต่ก็คงเป็นไปได้ยากถ้าเกมส์มันยังออกห่างอยู่แบบนี้


...ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ว่าเกมส์หนีเพราะกลัว หรือหนีเพราะอะไร



ปลายฟ้าถอนหายใจอย่างปลง ๆ
โดยไม่ลืมฝากเตือนไปตามที่ตัวเองคิด


“เฮ้อ...ตามใจ แต่มึงไม่เคยได้ยินเหมือนกันเหรอวะ
ว่าหนีอะไรน่ะหนีได้
แต่หนีใจตัวเอง ยังไงก็ไม่พ้นหรอกนะโว้ยไอ้เกมส์”



...ราวกับมีมีดมาปักเขาแทงใจให้เกมส์ต้องนิ่งอึ้งอีกรอบ


...เปล่าสักหน่อย...เขาไม่ได้หนี
ก็แค่ไม่อยากอยู่คนเดียว
ไม่อยากต้องมาคิดฟุ้งซ่านบ้าบอต่างหาก


แต่ถึงแม้จะปฏิเสธตัวเอง
ลึก ๆ เกมส์ก็ยังรู้สึกอึดอัด
เป็นความอึดอัดที่หาใครระบายไม่ได้
เพราะคนซึ่งเขาสามารถเปิดใจด้วย
กลับเป็นคนเดียวกับที่ทำให้เขาต้องทรมานอยู่อย่างนี้


...แล้วจะให้เขาทำยังไง


...จะให้เขาเอาความรู้สึกพวกนี้ไปอธิบายกับใครดี



“งั้นกูไปล่ะ เฝ้าห้องดี ๆ นะ”


เสียงปลายฟ้าดึงสติของคนในภวังค์ให้กลับคืน
เกมส์มองคนที่กำลังเดินออกไปนอกห้อง
ก่อนรีบลุกขึ้นแล้วเอ่ยรั้ง


“เฮ้ยไม่ต้องแล้ว กูก็จะไปเหมือนกัน”


“ไปไหนวะ”


“วัด”


คำตอบสั้น ๆ แต่เล่นเอาปลายถึงกับงง
...นี่เกมส์มันคิดอะไรไม่ออกจนถึงต้องขนาดไปพึ่งพระเลยเหรอวะ

หากยังไม่ทันจะอ้าปากถามว่าไปทำไม
เจ้าตัวก็รีบเปิดประตูเดินออกไปจากห้องก่อนแล้ว


แน่นอนว่าจุดประสงค์ของเกมส์คงไม่ได้ไปแค่พึ่งพระ
แต่เขาตั้งใจไปหาไอ้จั๊ดง่าวลูกแมวตัวเล็กที่นอนหลับอยู่อย่างสงบต่างหาก
ถึงมันจะไม่อยู่แล้ว แต่อย่างน้อยแวะไปเยี่ยมคุยกับมัน
ก็อาจพอช่วยให้คลายเหงาลงไปบ้าง


เกมส์จึงบึ่งมอเตอร์ไซต์มาถึงวัด
แล้วจัดการเดินเข้าไปจุดธูปไหว้พระประธาน
แม้จะเป็นวันเสาร์ทว่าคนมาวัดกลับดูบางตาเพราะเวลาเกือบบ่ายสามแล้ว
เลยทำให้เขาเดินเข้าไปหาหลวงพ่อที่อ่านพระธรรมอยู่บนศาลาได้สะดวก
ก้มลงกราบ ก่อนเอ่ยปากขอยืมของเช่นที่เคยทำ


“หลวงพ่อครับ ผมขอยืมคนโทไปกรวดน้ำ
ตรงใต้ต้นชมพูพันทิพย์ใกล้โบสถ์ได้มั้ยครับ”


“อ้าว...วันนี้ไม่ได้กรวดไปแล้วหรอกเหรอโยม”


เสียงพระท่านซึ่งทักออกมา
ทำให้คนฟังต้องขมวดคิ้วงง

...เขาเพิ่งมาถึง
จะไปกรวดน้ำให้ไอ้จั๊ดง่าวก่อนแล้วได้ยังไง
หลวงพ่อจำผิดรึเปล่า?


“หมายความว่าอย่างไงครับหลวงพ่อ”


คนสงสัยถามกลับ
หากคู่สนทนาก็ยังคงยืนยันเช่นเดิม

...และเป็นคำยืนยันที่ทำให้หัวใจคนฟังชาวาบ


“ก็เมื่อเช้าอาตมาจำได้ว่ามีโยมคนหนึ่ง
มาขอคนโทไปกรวดน้ำตรงใต้ต้นนั้นเหมือนกัน
เห็นบอกว่าจะอุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกแมวเลยมาทำบุญทุกวัน”



...ลูกแมว


เป็นไปไม่ได้...
คนที่รู้ว่ามีลูกแมวฝังอยู่ใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์นอกจากเขาแล้ว


...มีเพียงคนเดียว


เกมส์รู้สึกว่ามือของตัวเองกำลังสั่น
กระนั้นก็ยังคงอ้าปากถามให้คลายความสงสัย


“ตั้งแต่เมื่อไรครับ”


“ก็น่าจะสักเมื่อวันจันทร์”


ไอ้จั๊ดง่าวเสียไปเมื่อวันเสาร์
แล้วเช้าวันอาทิตย์เขาก็มาทำบุญให้มัน
ก่อนตอนเย็นจะไปเมาหัวทิ่ม
จนวันจันทร์เกือบลุกไม่ไหว


ถ้าดิวมาทำบุญให้ตั้งแต่วันจันทร์จวบจนถึงตอนนี้
ก็นับเป็นเวลาหกวันแล้วที่ไม่เคยขาดเลย
ตรงข้ามกับเขาซึ่งเพิ่งจะมาหาไอ้จั๊ดง่าวเป็นครั้งที่สองเท่านั้น


...ดิวทำแบบนี้ไปทำไม ...ทำเพื่ออะไรกัน



“งั้นผมไม่เอาแล้วครับ ขอบคุณครับหลวงพ่อ”


เขากราบลาพระผู้ใหญ่ ก่อนลงมาจากศาลา
เดินมาหยุดตรงใต้ต้นชมพูพันธ์ทิพย์ที่กำลังออกดอกสวย
ก้มลงมองหลุมดินเล็ก ๆ ที่มีร่องรอยการขุดกลบขึ้นมาใหม่
ซึ่งฝังร่างของลูกแมวซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนคู่ใจ
แต่หัวสมองกับคิดเลยไปไกล
ถึงใครอีกคนที่ไม่รู้ว่าเป็น ‘เพื่อน’ หรือเป็นอะไรดี


...ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมดิวต้องมาให้เขาขนาดนี้
ทั้ง ๆ ที่เขาประกาศตัดขาดกันไปชัดเจนแล้ว
และหลังจากนั้นก็ไม่มีแม้กระทั่งเสียงโทร หรือข้อความส่งมา
จนเขาคิดว่าดิวคงเลิกตามตื๊อถอดใจ
ทว่าพอสุดท้าย ดิวก็ยังทำเหมือนแคร์กัน


แล้วจะให้เขารู้สึกยังไง...


...เขาควรจะโกรธ

...เขาควรจะเกลียด

...เขาควรจะกลัว


พยายามบังคับตัวเองให้ออกห่างปฏิเสธทุกสิ่งเกี่ยวกับดิว
กรอกสมองว่าคนเจ้าเล่ห์อย่างดิวกำลังโกหก
กำลังหลอกหลวง แกล้งเขาเหมือนเป็นเรื่องสนุก
แต่ลึก ๆ ในใจส่วนหนึ่งมันก็ยังอดไม่ได้ที่จะเชื่อ


...เชื่อว่า คำพูดทุกอย่างทั้งหมดนั้นมาจากใจของดิวจริง ๆ


แล้วจากนี้เขาควรทำยังไงต่อไป

จะเชื่อดิว หรือ จะหนีให้ห่างอีก


...เขาต้องเลือกทางไหนถึงจะถูกต้อง



ความสับสนที่วนเวียนในสมอง
ส่งผลให้เกมส์ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์
ขึ้นมากดหาที่พึ่งพิงคนสุดท้าย ซึ่งมักจะอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
และเมื่อสัญญาณโทรศัพท์ติดไม่นานก็ได้ยินเสียงปลายสายทักกลับมา


“แปลกแต๊ สงสัยวันนี้ฝนคงต๊ก
เกมส์ถึงโทรหาแม่ก่อนจะอี้”


คุณนายสายสมรเปรยขึ้นแกมหยอก
ให้กับคนที่นาน ๆ ทีถึงจะเป็นฝ่ายโทรหา
จนผู้เป็นลูกต้องรีบเอ่ยอ้อน


“โธ่แม่...ก็เกมส์คิ๊ดเติ๊งแม่ เกมส์ก็ต้องโทรมาหาแม่สิเจ้า”


“แต้ก๊ะ? ที่เกมส์โทรมาหาแม่
บ่ไจ้ว่าเกมส์มีเฮื้องคิ๊ดหนักก้อ?”


คำเดาถูกเผงส่งผลให้คนฟังสะอึกต้องรีบปฏิเสธเสียงสูง


“โอยย...บ่มี๊แห๋มหน้อย
คือเกมส์แค่...แค่อยากจะฮู้ว่า
ช่วงนี้หมอดูเปิ้ลตั๊กเกมส์ว่าจะใดพ่อง”


หากแต่ท้ายประโยคก็ยังมีการอ้อมแอ้มถาม
ความผิดปกตินี้ทำให้คนชอบดูดวงต้องสงสัยอีกครั้ง


“แหนะ ทุกทีบ่เห็นเจื้อ พอมาวันนี้อยากจะฮู้”


“ก็ฟังเปิ้ลไว้บ้างบ่เสียหลายนี่เจ้า”


เกมส์หาเหตุผลตอบข้าง ๆ คู ๆ
ทว่าปลายสายกลับเถียงขึ้นมาทันควัน


“ขี้จุ๊ เกมส์คิ๊ดแก้ปัญหาบ่ออกเลยต้องมาพึ่งดวงเอา
แม่เลี้ยงฮูกมากับมือ ทำไมแม่จะบ่ฮู้ว่าเกมส์จะยะอะหยัง”


คนถูกจับได้นิ่งเงียบสนิทด้วยไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาเถียงอีก
เพราะสิ่งที่แม่บอกมันคือจุดประสงค์ที่ตรงอยู่ในใจเขา


...ใช่...จริง ๆ แล้วเขาก็ยังไม่เชื่อเรื่องดวงอยู่ดี
แต่หลัง ๆ คำเตือนที่แม่บอกมันชักจะแม่นขึ้นเรื่อย ๆ
จนเขาอยากจะพึ่งมันเป็นตัวช่วยตัดสินใจกับเรื่องครั้งนี้
เลยต้องเสี่ยงโทรมาถามแม่ให้ได้รู้


และความเงียบของเกมส์คงเป็นคำตอบในตัว
เพราะเขาได้ยินเสียงปลายสายถอนหายใจ
ก่อนเอ่ยให้คำปรึกษาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง



“เกมส์...แม่ก็บ่ฮู้ว่าไป๋มีเฮื้องอะหยังมา แต่เกมส์ฟังแม่เน้อ
เฮื้องบางเฮื้องบ่ไจ้ว่าจะให้คนอื่นตัดสินเอามั่วๆ
ตี๊แม่ไป๋ดูดวงก็แค่ให้เปิ้ลบอกเป๋นแนวทาง
แต่สุดท้ายคนที่ตัดสินใจเลือกก็คือตั๋วแม่เอง
บางเฮื้องหมอดูตั๊กว่ายะไป๋อนาคตจะบ่ดี แต่แม่ก็ยังยะ
เพราะแม่เจื้อใจตั๋วเอง เลือกที่ตั๋วเองยะแล้วมีความสุข
เกมส์ก็เหมือนกั๋น บ่ต้องไปคิ๊ดหนัก เลือกยะที่ใจบอกก็พอ”



...ถ้อยคำชี้ทางค่อย ๆ ซึมลึกเข้าไปในตัวคนฟัง


น่าแปลกที่มันช่วยคลายความสับสนและความกังวลใจให้จางหาย


...บางทีมันอาจจะจริงอย่างที่แม่ว่า
เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นจากตัวเขา
มันก็ต้องหาทางจบลงที่ตัวเขาเองเช่นเดียวกัน



“เดี๋ยวแม่ต้องวางก้อนเน้อ อีป้อเรียก
บ่ฮู้มีเรื่องอะหยัง ดูแลตัวเองดี ๆ เน้อลูก”


“เจ้า”


ท้ายประโยคได้ยินแม่บอกมาด้วยความเป็นห่วง
ซึ่งเขาก็รับคำก่อนกดวางสายลง
 

เกมส์เหม่อมองใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์อย่างชั่งใจ
ก่อนย่อตัวลง เอื้อมมือแตะเกลี่ยดินเบา ๆ
ในหัวครุ่นคิดทบทวน
พลางพึมพำถามร่างซึ่งนอนหลับอยู่อย่างสงบ


...คำถามที่เสี่ยงเลือกไปตามหัวใจของตัวเอง



“ไอ้จั๊ดง่าว ถ้าป้อเลือกจะเชื่อดิวอีกทีจะดีก้อเจ้า?”





----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



TBC


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 20-04-2013 17:50:31
มาแล้ว :katai4:


โอ้วเย้ :heaven
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 20-04-2013 17:57:35
ลองเชื่อหัวใจตัวเองดูอีกสักครั้งนะเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: pizza2011 ที่ 20-04-2013 17:59:10
เกมส์อยากทำอะไรก็ทำเลยลูก ถ้าทำแล้วมีความสุข
เลิกวิ่งหนีดิว บ้างครั้งการเปิดใจให้กว้าง อาจจะทำให้เกมส์ได้เจออะไรดีๆก็ได้นะลูก
ปล.1 ตอนนี้อ่านแล้วอิน  o13
ปล.2 รีบๆคืนดีกันซะที หวานกันได้แล้ว 55+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 20-04-2013 18:39:01
ดีเจ้า ดีมากๆเลยเจ้า เกมส์เจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 20-04-2013 18:40:53
ดีเจ้า จั๊ดง่าวบอก ^ ^

ถ้ายังกลัว ยังไม่ลองตอนนี้ก็ได้ เว้นระยะสักพัก ให้หัวใจตัวเอง และให้อีกคนได้แสดงบางอย่างให้เห็น
แต่ไม่ต้องปิดกั้นใจตัวเอง ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ


ฮิ้ววววววว  ตอนนี้ทำให้อยากอ่านต่อมาก ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 >; P.88
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-04-2013 18:44:40
ลองเลยเป็นไงเป็นกัน!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-04-2013 19:06:37
ขอเป็นวิญญาณจั๊ดง่าว บอกป้อเกมส์ว่า "เชื่อหัวใจตัวเองดีจ้า"
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 20-04-2013 19:23:22
อรั๊ยๆๆๆๆ เกมส์กำลังจะเปิดใจแล้ว ดิวอย่าทำให้เกมส์เสียใจน๊าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 20-04-2013 19:53:22
เกมส์ฟังหัวใจตัวเอง ว่าคิดยังไง ก็ทำแบบนั้นไปเถอะ  อะไรที่คิดว่าทำแล้วสบายใจ ก็ทำไปเลย

เอาใจช่วยให้สิ่งที่เกมส์เลือกและเชื่อนั้น ทำให้เกมส์มีความสุข   คนอ่านจะได้เห็นความหวานของคู่นี้อีกครั้ง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 20-04-2013 20:15:29
แค่เชื่อหัวใจตัวเองซักครั้ง ลองเสี่ยงดูซักตั้ง ปล่อยให้หัวใจนำทางไป
บางทีนะเราลองใช้สมองให้น้อยลงแล้วอาจจะพบว่าความจริงแล้วปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย
มันอยู่ที่หัวใจเรานั่นแหละ
สู้ๆเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 20-04-2013 20:36:42
ก้าวต่อไปอย่าได้ย่ำกับที่

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 20-04-2013 21:02:20
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 20-04-2013 21:23:46
 :ling1: มันค้างอ้ะะะ อยากรู้อ่าเกมส์จะตัดสินใจยังไงๆๆ :hao7:

ดิวอย่าเพิ่งหมดกำลังใจน้าาาา เกมส์จะตัดสินใจได้แล้ววว :katai1:

มาต่อเร็วๆน้าา รักคนแต่งค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 20-04-2013 21:57:49
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 20-04-2013 22:16:34
นี่ถ้าเกมส์ไม่ใช่นายเอกแล้วยังเล่นตัวยึกยักอย่างงี้น้องจะไม่ทน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 20-04-2013 22:42:14
โอ่ย ไหนๆดิวก็เริ่มรู้ใจตัวเองแล้ว
เกมส์ก็ยอมเปิดใจบ้างนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 20-04-2013 23:57:34
ดีมากเจ้า ดีที่สุดเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 21-04-2013 00:06:26
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  มันค้างนะเจ้า  :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-04-2013 17:01:45
ดีดีดีเปิดใจเลยเกมส์ :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 21-04-2013 22:19:36
ดีก้ะเจ้า

ต้องดีแน่นอน...



ทั้งดิวทั้งเกมส์กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องตัดสินใจ
เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือกให้ดีที่สุด เลือกให้ตัวเองมีความสุข

สู้ๆ นะ  :3


ปล. เราติดจูปาจุ๊ปโคล่าไปเรียบร้อยแล้ว...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 22-04-2013 11:59:59
การที่เปิดใจให้ได้คุยกับใครสักคน มันไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นแฟนหรือคนรักกันตลอด   แต่มันมีการเริ่มสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้น   และการสร้างมิตรภาพนั้นก็อยู่ที่เราว่าจะยังคงอยากเป็นมิตรกับอีกคนหรือเปล่าก็เท่านั้น....

ทั้งเกมส์และดิวก็จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ในชีวิตเพิ่มขึ้น....
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 22-04-2013 14:56:59
ค้างจ๊ะ  :katai4: :katai4: :katai4: มาต่อเถอะน้าาาา  :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: Nile ที่ 22-04-2013 15:44:32
จั๊ดง่าวไม่ว่างเจ้า กำลังกินปลาทูน่าอยู่(?) ขอตอบแทนนะเจ้า ดีเจ้า เชื่อไปเลย  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: felin_kkr ที่ 22-04-2013 15:49:01
ลุ้นนนนนนนน

ไม่ต้องปรึกษาจั๊ดง่าวแล้ววว

ปรึกกษาใจตุวเองเล้ยยยย

 o13 o13 o13


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 14] 20/04/56 > P.88
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-04-2013 15:50:50
ดีจังที่เกมส์ยอมเปิดใจที่จะเชื่อดิวอีกครั้ง
หวังว่าคราวนี้ดิวจะยอมพูดความจริงทุกอย่างกับเกมส์นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 24-04-2013 08:17:31
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งที่ 15




“วันนี้ก็มาอีกแล้วรึโยม”


“ครับ หลวงพ่อ”


ดิวตอบกลับหลังก้มลงกราบพระ
ซึ่งท่านก็ยื่นคนโทสำหรับกรวดน้ำให้ราวคุ้นชิน
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่นับเกือบสัปดาห์หนึ่งแล้ว
ที่เขามาวัดในตอนเช้าทุก ๆ วันไม่เคยขาด


ถ้าบอกใครก็คงไม่เชื่อ ขนาดเขายังไม่เคยเชื่อตัวเองเลย
ว่าหนุ่มเพลย์บอยผู้เคยเข้าผับเข้าบาร์ตอนกลางคืนเป็นประจำ
กลับเปลี่ยนเป็นคนตื่นเช้าเพื่อมาทำบุญตักบาตรฟังธรรมที่วัดแทน
สาเหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะเขารู้สึกว่าการมาวัดมันทำให้ใจมันสงบ
เหมือนได้ผ่อนคลายความเครียดให้บรรเทาลง


เมื่อก่อนเวลามีเรื่องหงุดหงิดใจ
เขามักจะสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าหาทางเมาให้ระบายจะได้ลืม ๆ
แต่พอหลังจากเลิกไปข้องแวะกับเรื่องพวกนั้น
เขาค้นพบว่าวิธีแก้ความเครียดมันมีได้หลายทาง
จากสูบบุหรี่ก็กลายมาเป็นติดลูกอมจูปาจุ๊บ
จากเข้าผับก็เปลี่ยนมาเขาวัด


หากจะถามว่ามันช่วยทำให้ลืมปัญหาที่เกิดขึ้นมาได้มั้ย
ตอบเลยว่าไม่ได้หรอก
แต่อย่างน้อย ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ที่โอบล้อม
มันทำให้ใจเขาสงบและมองเห็นอะไร ๆ ชัดเจนมากขึ้น


...โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับ ‘ความรู้สึก’ ของตัวเอง


เช่นเดียวกับเช้าวันอาทิตย์นี้ที่เขาปลีกตัวจากผู้คน
มาหยุดใต้ต้นชมพูพันทิพย์เพื่อกรวดน้ำให้ลูกแมวตัวเล็ก
สัตว์เลี้ยงแสนสำคัญของใครคนหนึ่ง


...เขาไม่เคยบอกกับเกมส์เรื่องนี้และไม่คิดที่จะอยากให้เกมส์รู้
เคยพยายามหาแผนการต่าง ๆ ในหัวมากมายเพื่อให้เกมส์กลับมาคืนดี
แต่สุดท้ายแผนที่นึกออกก็มีอยู่แผนเดียว...


...คือการอดทนรอให้เวลาพิสูจน์ทุก ๆ อย่าง


ทั้งความรู้สึกที่ไม่แน่ชัดของตัวเอง
และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเกมส์


เขาไม่อยากจะตามตื้อหรือร้องขออะไร
ด้วยกลัวว่าจากเกมส์จะยิ่งออกห่างไปอีก
กลัวจะทำให้เจ็บเกมส์ และเกลียดเขามากขึ้น
แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ดูยากเย็นเหลือเกินแล้ว
เขาจึงทำได้แค่เพียงคอยเป็นห่วงอยู่ตรงที่ไกล ๆ ตรงนี้


...แม้รู้ทั้งรู้ว่าเกมส์จะไม่เคยสนใจมันเลยก็ตาม



TRRRRRRRRRR!!



เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิด
ดิวหยิบไอโฟนขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง
ก่อนดวงตาจะเบิกกว้างอย่างตกใจ
ทันทีที่เห็นรายชื่อคนโทรเข้าเป็นคนเดียวกับที่เพิ่งนึกถึง


...เกมส์



“ฮัลโหล ครับเกมส์”


ร่างสูงรีบกรอกเสียงรับอย่างรวดเร็ว
ในใจเต้นรัวด้วยความรู้สึกยินดีที่คนโกรธโทรมาหา
เขากำลังจะอ้าปากถามด้วยความเป็นห่วง
แต่อยู่ ๆ เสียงปลายสายกลับถามแค่เพียงสั้น ๆ


“ทำแบบนี้ไปทำไม”


...ทำแบบนี้

...หมายความว่ายังไง? แบบนี้ของเกมส์คืออะไร?
หรือจะเป็นเรื่องที่เขามาทำบุญให้ลูกแมวตัวเล็ก
งั้นอย่าบอกนะว่าเกมส์รู้แล้ว

และทางเดียวที่เกมส์จะรู้ได้
แสดงว่าเกมส์ก็ต้องอยู่ในวัดนี้ด้วย!


“เกมส์เห็นเหรอครับ ตอนนี้เกมส์อยู่ที่ไหนครับ”


ดิวกวาดมองซ้ายขวาเลิกลั่ก
วันนี้เป็นวันพระทำให้ผู้คนมาทำบุญหนาตามากกว่าปกติ
หากแต่ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวเดินไปตามหา
เสียงในสายกลับตะคอกร้องห้าม


“หยุดอยู่ตรงนั้นนะ! แล้วไม่ต้องหาด้วย ไม่งั้นเราจะวาง”


ประโยคขู่ทำให้ดิวหยุดชะงักอยู่กับที่
ได้แต่แนบหูกับโทรศัพท์ฟังคำถามย้ำอีกครั้ง


“ตอบเรามา จะทำแบบนี้ทำไม”


ดิวนิ่งเงียบใคร่ครวญถึงความรู้สึก
ก่อนถอนหายใจแล้วพูดไปตามความจริง



“อะไรที่สำคัญสำหรับเกมส์ก็สำคัญสำหรับผม”



ใช่...เหตุผลที่เขามาทำบุญให้จั๊ดง่าว
นอกจากจะทำเพื่อให้ตัวเองสบายใจแล้ว
สิ่งเดียวที่เขาพยายามรักษามันไว้
คือเยื่อใยบาง ๆ ระหว่างเขาและเกมส์

ถึงแม้มันจะมีเพียงน้อยนิด
แต่เขาก็ยังยึดความรู้สึกของเกมส์เป็นสิ่งสำคัญ
ซึ่งเขาก็ได้ถ่ายทอดมันออกมาเป็นคำอธิบาย


“เกมส์ครับ ผมรู้ว่าเกมส์ยังโกรธผมอยู่
แล้วผมก็ไม่หวังว่าจะให้เกมส์ยกโทษให้
แต่สิ่งที่ผมทำให้เกมส์ทุกอย่าง มันคือความรู้สึกของผมจริง ๆ
ถึงเกมส์จะไม่เชื่อใจผมตอนนี้ หรือต่อให้เกมส์จะไม่รับรู้
ผมก็จะทำมันต่อไปเรื่อย ๆ เพราะว่าผมมีความสุขที่ได้ทำเพื่อคนที่ผมชอบ”


“แล้วดิวแน่ใจได้ยังไงว่าชอบ
เราเคยบอกแล้วไงว่าสิ่งที่ดิวรู้สึกกับเรามันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ
ไม่ใช่ความชอบจริง ๆ หรอก”


ความไม่เชื่อยังคงแฝงอยู่ในน้ำเสียงอย่างชัดเจน
เป็นคำถามเดิม ๆ ซึ่งทำเขานึกหวั่น
จนเก็บมาถามตัวเองหลายต่อหลายครั้ง
และก็ค้นพบเพียงคำตอบเดียว


“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่รู้สึกกับเกมส์
มันคือความชอบจริง ๆ มั้ย
แต่ทุกครั้งเวลาคุยกับเกมส์ผมรู้สึกสบายใจ
ผมอยากอยู่ใกล้ อยากดูแลเกมส์
อยากกลับไปเป็นเพื่อนกับเกมส์อีกครั้ง”


...เขาไม่กล้าบอกออกไปเพราะยังไม่แน่ใจ
คำว่า ‘ชอบ’ ของใครต่างก็มีความหมายเฉพาะในแบบของมัน
หากสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนในใจ
คือความพิเศษที่เขามีให้กับเกมส์ซึ่งมันแตกต่างจากคนไหน ๆ

เขาไม่เคยหวาดกลัวที่จะสูญเสียใครไป
ยกเว้นกับเกมส์...
ซึ่งเขาไม่สามารถจะห้ามความรู้สึกนี้ได้เลย

ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะย้อนเวลาให้ทุกอย่างกลับไปเริ่มต้นใหม่
แต่ในเมื่อไม่สามารถแก้ไขความผิด
ที่เหลือก็แค่หวังเพียงโอกาสให้เกมส์เปิดใจเท่านั้น


เสียงจากปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะย้อนถามประโยคสำคัญซึ่งทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง


“ดิวอยากเป็น ‘เพื่อน’ กับเราจริง ๆ เหรอ”


...เพื่อน สถานะที่ระบุความสัมพันธ์
เหมือนที่เขาเคยโดนเกมส์ถามด้วยความคลางแคลงใจ
ในครั้งแรกที่เขาเคยขอเป็นเพื่อนกับเกมส์

ตอนนั้นเขาตอบไปโดยหวังแค่เพียงใช้ความเป็นเพื่อน
เพื่อเป็นสะพานไปสู่จุดมุ่งหมายอื่น

แต่ตอนนี้ ณ เวลานี้ ด้วยคำถามเดียวกัน
เปล่าประโยชน์ที่จะโกหกซ้ำ
เพราะความจริงในใจมันมีอยู่แล้วชัดเจน


“ไม่ครับ ผมรู้ว่าจริง ๆ ใจผมคงคิดเกินไปไกลมากกว่านั้น
ถึงเกมส์จะไม่คิดแบบเดียวกับผมก็ไม่เป็นไร
หรือถ้าเกมส์รังเกียจไม่อยากเข้าใกล้ผม ผมก็ไม่โทษเกมส์
เพราะผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าอนาคตมันจะมีอะไรเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้ สิ่งที่ผมแน่ใจมีอย่างเดียว...
...ผมจะไม่ปล่อยเกมส์ไปจากมือผม”


...นี่คือความจริงใจทั้งหมดที่เขามีต่อเกมส์
เขาไม่คิดจะปิดบังอะไรอีกต่อไปแล้ว
รู้สึกยังไงก็พูดไปแบบนั้น
เพราะเขารู้ว่าผลสุดท้ายของการปิดบังกันและกัน
มันสร้างความเจ็บปวดให้อีกคนหนึ่งแค่ไหน


แม้ว่ามันจะเสี่ยงที่ตัดสินใจสารภาพอย่างหมดเปลือก
และมันอาจทำให้เกมส์ยิ่งห่างเขามากขึ้น
แต่เขาไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว


ต่อให้เกมส์ถอยห่างจากเขาไปมากแค่ไหน
เขาก็จะขอยืนยันว่าจะรอจนกว่าเกมส์จะเป็นฝ่ายเดินมาหา
รอจนกว่าเกมส์จะไว้ใจ เลิกกลัวเขา แล้วยอมให้เขาเข้าใกล้


....จนกว่าจะถึงใจของเกมส์



ต่างฝ่ายต่างเงียบเสียง
โดยไม่มีใครพูดจาใด ๆ
ปล่อยให้ห้วงความรู้สึกปกคลุมการสนทนา
ในที่สุดคนโทรมาก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นเอ่ยเสียงแผ่ว


“สามเมตร”


วลีลอย ๆ ที่ดังเบา ๆ ทำให้ดิวเผลอขมวดคิ้วงงจนต้องถามย้ำอีกครั้ง


“อะไรนะครับ”


“เราให้ดิวเข้าใกล้เราได้แค่นั้น”



คำอธิบายที่ยาวขึ้นส่งผลให้หัวใจของร่างสูงเต้นรัวด้วยความไม่อยากเชื่อ


...จริงเหรอ เขาฝันไปอยู่รึเปล่า

...นี่หรือว่าเกมส์กำลังให้โอกาสเขาใช่มั้ย


ระยะทางสามเมตรคนอื่นอาจมองว่าไกล
แต่สำหรับเขาที่เกมส์พยายามหลีกหนีมาตลอด
ระยะทางแค่นี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไรเลย
ที่สำคัญเขาก็ยังมีวิธีอื่นตั้งมากมายที่จะเข้าใกล้เกมส์


“แล้วถ้าผมโทรไปหาส่งรูปไปให้เหมือนเดิมได้รึเปล่าครับ”


ดิวเอ่ยถามด้วยความหวัง
และทันทีที่ได้รับคำตอบสั้น ๆ ก็ทำเอาเขาแทบกระโดดตัวลอย


“อืม”


“ขอบคุณครับเกมส์”


ร่างสูงรีบพูดพร้อมรอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้า


...เท่านี้ เพียงแค่เห็นว่ายังมีโอกาสก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
คราวนี้เขาขอพิสูจน์ให้เกมส์เห็นว่าเขาจะไม่ลังเลอีก
จะพร้อมทำทุกอย่างเพื่อหัวใจของตัวเองและเพื่อใจของเกมส์


“งั้นแค่นี้นะ”


คู่สนทนาทำท่าจะตัดบทวางสายหลังจากจบเรื่อง
หากแต่ดิวยังคงเอ่ยรั้งไว้


“เดี๋ยวครับเกมส์!”


ร่างสูงหันไปทิศทางจากศาลาวัดซึ่งอยู่ไม่ไกล
ซึ่งมีคนทยอยเดินลงบันไดมาเสร็จจากการฟังพระเทศน์มากมาย
สายตาจับไปที่ใครคนหนึ่งซึ่งกำลังถือโทรศัพท์เดินกลมกลืน
หลังจากหลบซ่อนอยู่ข้างหลังเสาใกล้บันได
เขาละมือจากไอโฟน ก่อนจะป้องปากตะโกนเสียงดัง



“ผมคิดถึงเกมส์นะ”



ทุกสายตาหันมามองเจ้าของเสียง
แต่ตอนนี้ดิวไม่ได้สนใจอะไรแล้ว
เพราะเขากำลังยิ้มกว้างให้กับคนที่เผลอสบตามองมาอย่างตกใจ
ก่อนใบหน้าเนียนจะก้มงุด รีบกดวางโทรศัพท์
แล้วเร่งสาวเท้าเดินปะปนออกจากกลุ่มคนอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับความหงุดหงิดใจ


...ดิวมันบ้าไปแล้วรึไงวะถึงตะโกนออกมาได้ไม่อายปาก
คนก็อยู่เยอะแยะ มาพูดคิดถงคิดถึงอะไร
ไอ้ที่เขาอยากคืนดีน่ะ เพราะไม่ชอบมีเรื่องติดคาค้างใจต่างหาก
แล้วไม่อยากเสียเพื่อนดี ๆ ไปสักคนก็แค่นั้น


ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าต่อไปดิวอาจไม่ได้เข้ามาหาในรูปแบบปกติ
แต่เขาก็อยากกลับไปคุยกับดิวเหมือนเดิม
เพราะเขายอมรับในสิ่งที่คิดตรงกัน
นั่นคือเขารู้สึกสบายใจเวลาได้ใช้เวลาอยู่ด้วย
และมันเป็นความรู้สึกพิเศษแตกต่างจากคนอื่น ๆ


...ที่สำคัญ ทุกคำพูดของดิวในวันนี้
ส่วนหนึ่งเขาสัมผัสได้ว่ามันออกมาจากใจของดิวจริง ๆ
เขาเลยยอมเปิดโอกาสให้คนทำผิดอีกครั้ง


แม้ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับดิวต่อไปจะเป็นยังไง
แต่เขาไม่อยากจะไปกังวลถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด

...ขอแค่เขาเลือกที่จะเชื่อในความรู้สึกของตัวเองก็พอ
และมันอาจจะคล้ายกันกับคำพูดสุดท้ายของดิวก็ได้


ใช่...เหตุผลลึก ๆ ที่เขาอยากให้ดิวกลับมา

เพราะหัวใจเขาบอกชัดเจนว่า...



...เขาคิดถึงดิว


...

..

.
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 24-04-2013 08:18:30
...

..

.


“เกมส์ครับ ช่วยรับความรู้สึกจากใจผมไปด้วยนะครับ”



ช็อกโกแล็ตในกล่องสีใสถูกยื่นมาให้ตรงหน้า

ถามว่าคนอย่างนายซีเกมส์ผู้รักขนมหวานเป็นชีวิต
เห็นช็อกโกแล็ตอย่างแพงสีสวยน่ากินแล้วจะชอบมั้ย
...ขอตอบว่า ‘ชอบ’


แต่ถ้าถามว่าคนที่เอามาให้เป็นผู้ชายหุ้นล้ำกล้ามโต
มีหนวดพองามเสริมใบหน้าให้คมเข้มลุคแมนโคตร ๆ
แล้วนายซีเกมส์จะรู้สึกยังไง
...ขอตอบเลยว่า ‘กลัว’


...กูกลัวฉิบหายเลยโว้ยยยยย!!!


คนโดนผู้ชายจีบในระยะประชิด
เผชิญสถานการณ์ที่เรียกนาทีชีวิต
ยืนนิ่งเงียบสนิทเหมือนเป็นใบ้
อาการเดิมที่เป็นโรคประจำตัวค่อย ๆ เริ่มคุกคาม
มือไม้สั่น อยากจะก้าวขาหนีแต่ก้าวไม่ออก
เพราะเรี่ยวแรงหดหายคล้ายโดนธรณีสูบไม่มีเหลือ
หัวใจมันหวิว ๆ ใกล้จะเป็นลม
รู้สึกภาพตรงหน้าเริ่มวูบไหวเลือนรางทีละน้อย...


...ไม่ไหวแล้ว


...ใครก็ได้ช่วยเขาที



“อุ๊ย! ขอบคุณค่ะคุณพี่
แต่เดี๋ยวเพื่อนหนูต้องไปทำธุระต่อแล้ว
ขอตัวก่อนนะคะ”


และก่อนที่เกมส์จะทรุดลงเพราะความกลัว
เขาได้ยินเสียงบอลล่าเอ่ยตัดบทบอกคู่สนทนา
ส่วนแขนข้างหนึ่งโดนปลายฟ้าลากดึงออกมา
แล้วจึงรีบเดินให้หลุดพ้นจากสถานการณ์เสี่ยงตาย
พร้อมกับเสียงบ่นตามมาเบา ๆ


“บอกแล้วว่าวันนี้ให้มึงขังตัวเองอยู่ห้อง
คนที่เท่าไรแล้ววะ สามแล้วใช่มั้ย”


เกมส์หันมองเพื่อนตัวเองด้วยแววตาหงุดหงิด


...มันพูดเหมือนพูดง่าย
ใครจะขังตัวเองอยู่ในห้องกันวันนี้วะ


...ก็เพราะวันนี้มันเป็น ‘วันวาเลน์ไทน์’ เชียวนะโว้ย!!



วันที่คู่รักมีความสุขแฮปปี้
วันที่เปิดโอกาสให้คนแอบรักสารภาพความในใจ

ตามความคิดแล้วเขาควรจะได้รับขนมน่ารักกุ๊กกิ๊ก
จากสาวน้อยขาว ๆ ตาโต ๆ ตัวเล็ก ๆ ที่แอบชอบเขามานาน


แต่ความจริงช่างตรงข้ามกับจินตนาการลิบลับ
เพราะคนที่เอาช็อคโกแล็ตกับดอกไม้มาสารภาพรักเขา
ดันมีแค่พวกหุ้นกล้ามปู ตัวโต แมนถึก แถมเป็นผู้ชาย!!

และเขาซึ่งเป็นโรคกลัวผู้ชายอยู่แล้วมีหรือจะรอด
จนต้องเป็นฝ่ายลำบากเพื่อน ๆ ที่ช่วยกู้ชีวิต
ก่อนคนกลัวจะช็อคน้ำลายฟูมปากตายให้ได้น่าอนาถรับวันวาเลนไทน์


...โธ่...ชีวิตบัดซบของไอ้เกมส์


กระนั้นถึงแม้เขาจะถมถุยความซวยของตัวเองแค่ไหน
หากแต่คนอื่นอาจเห็นเป็นความน่าอิจฉา
เหมือนกับบอลล่าที่พูดด้วยน้ำเสียงประชดแกมหมั้นไส้


“ใช่ ฉันเห็นด้วยว่าแกควรจะขังตัวเองในห้อง
หรือไม่ต้องออกมาให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกก็ดี
เผื่อแถว ๆ นี้มันจะได้สงบ ๆ ลงไปบ้าง
หึ พวกคนมาจีบแกนี่ก็อะไร ใช่ตาตุ่มมองรึไงย่ะ
ฉันสวยเริ่ดเชิดขนาดนี้ยังไม่เห็นได้ช็อกโกแล็ตจากใครสักคน
...อ่ะอันนี้ช็อกโกแล็ตของแก ของดีซะด้วยนะ ไฮโซเชียว
โอยยย...เห็นแล้วน้ำตาลในเลือดมันเรียกร้อง อยากกินบ้าง
คนสวยไม่เข้าใจเลยอ่ะ เบื่อออ!! เซ็งงงงง!!!

 
บอลล่าบ่นโอดครวญ
แต่ก็ยังยื่นกล่องใส่ช็อกโกแล็ตที่เพิ่งได้รับมาหมาด ๆ ให้
ทว่าเกมส์กลับผลักมันกลับคืน


“อยากได้ก็เอาไปเลย ยกให้”


คำอนุญาตทำให้คนฟังเบิกตากว้าง
รีบร้องถามด้วยความตกใจ


“ว๊ายย!! จริงอ่ะ คนขี้งกอย่างอ่ะนะแกจะให้ขนมฉัน
อ้าว...แล้วแกจะไปไหนย่ะ
เดี๋ยวก็โดนผู้ชายคาบไปกินอีกหรอก”


ท้ายประโยคเอ่ยถามคนซึ่งกำลังหันหลังเดินออกห่างด้วยความห่วง
เพราะวันนี้ต้องคอยตามเป็นหน่วยช่วยชีวิต
ประกบติดคนเนื้อหอมทั้งวันตั้งแต่เช้าจนตอนนี้หกโมงเย็นเข้าไปแล้ว
ซึ่งคู่สนทนาก็หันมายักคิ้วให้ตอบกลับกวน ๆ ตามนิสัย


“ก็จะไปขังตัวเองอยู่ในห้องไง
เดี๋ยวเจ๊จะช้ำใจตายที่เห็นคนอื่นได้ขนมเพิ่มอีก”


“ไอ้เกมส์!!”


คนแกล้งได้ยินเสียงโวยวายด่าตามหลังมา
ยังไงก็ขอไว้ลายแหย่คู่กัดตัวเองสักนิด
แต่ความจริงเขาก็ต้องจำใจกลับห้องตัวเองตามที่พูด
เพราะขืนอยู่ข้างนอกต่อไปก็ไม่รู้ว่าจะโดนผู้ชายคนอื่นเข้าหาอีกรึเปล่า
และเขาก็คงไม่สามารถหาทางหลบได้ตลอด
ดีไม่ดีอาจกลัวจนสลบเหมือดแล้วโดนลากไปทำปู้ยี้ปู้ยำก็ได้
แค่คิดคิดก็สยองขนลุกขึ้นมาแล้วครับ


เกมส์จึงขี่มอเตอร์ไซต์ตรงดิ่งกลับหอ
แวะซื้อข้าวร้านป้าดาเหมือนอย่างเคย
แอบซื้อปลาทูมาด้วยตัวหนึ่ง
พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวจะลงมาตักบาตรให้ไอ้จั๊ดง่าวมัน


เขาไขกุญแจเข้าห้อง วางข้าวของเรียบร้อย
แล้วเดินไปหยิบจานเตรียมพร้อมกินข้าวเย็นด้วยความหิว


...ก็เห็นขนมหวาน ๆ ยั่วตามาตลอดทั้งวัน
แต่จะให้ทำใจกินก็กินไม่ลงเพราะเผลอนึกถึงสภาพคนให้
เขาเลยโมโหหิวต้องมาระบายกับข้าวผัดกระเพราไปก่อน
ไอ้ครั้นจะซื้อขนมกินเองตังค์ก็ไม่ค่อยจะมี
อีกอย่างอาทิตย์หน้าหมอฟันนัดให้เขาเช็คฟันคุดด้วย
เลยต้องรักษาสภาพฟันให้ดี ๆ
เตรียมใจพร้อมเข้าสู่พิธีกรรมทรมาน
ถือเป็นการฝึกความอดทนไปในตัว



TRRRRRRRR!!


ทว่ายังไม่ทันที่คนหิวจะได้ตักผัดกระเพราร้อน ๆ เข้าปาก
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้ากลับดังขึ้นขัด
เขารีบดึงอุปกรณ์สื่อสารออกมาจากกระเป๋ากางเกง
ขมวดคิ้วมองหน้าจองง ๆ เพราะมันไม่ได้ปรากฏเป็นชื่อที่เมมไว้
แสดงว่าเป็นแปลกโทรมาหา ...ใคร?

...อย่าบอกนะว่าจะเป็นคนที่โทรมาจีบเขาในวันวาเลนไทน์อีก


แม้ใจจะระแวง กระนั้นแรงสั่นพร้อมเสียงร้องก็ยังคงเร่งดังไม่หยุด
จึงทำให้เจ้าของกดรับ ก่อนกรอกเสียงตามสายไปหวาด ๆ


“ฮัลโหล นั่นใครครับ”


“เกมส์ ผมดิวเองครับ”


เสียงที่คุ้นเคยดังลอดเป็นคำตอบ
และเป็นเสียงที่เขาคุยมาด้วยแล้วสองอาทิตย์หลังจากเกิดเรื่อง


...นับตั้งแต่คราวนั้น เขากับดิวก็กลับมาสู่ความสัมพันธ์ที่เป็นปกติ
ทุกอย่างเริ่มเข้าทีเข้าทางอย่างที่มันควรจะเป็น
ซึ่งเขาก็รู้สึกดีที่ยังรักษามิตรภาพตรงนี้ไว้ได้จึงเริ่มเปิดใจคุยกันมากขึ้น
โดยดิวมักเป็นฝ่ายโทรมาหาเขาทุกวัน
หรือไม่บางครั้งก็ส่งรูปภาพมาหาบ้าง ซึ่งเขาก็จะส่งรูปฮา ๆ กลับไป
เนื้อเรื่องที่คุยกันก็เรื่อยเปื่อยลากยาวตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ
แต่น่าแปลกที่เขาสองคนยังคุยได้เป็นชั่วโมง ๆ ไม่มีเบื่อ
ดังนั้น ถ้าเห็นชื่อดิว เขาก็จะกดรับสายทุกครั้ง
เพียงแต่วันนี้เบอร์ที่โทรมาดันไม่ใช่เบอร์เดิมเลยงง ๆ


หากยังไม่ทันทีคนสงสัยจะอ้าปากถาม
อีกฝ่ายกลับชิงขึ้นตอบเสียก่อน


“พอดีผมเปลี่ยนเบอร์ใหม่
เดี๋ยวเกมส์เมมเบอร์นี้ไว้นะครับ
แล้วเวลาจะโทรเข้าหาผมก็ใช้เบอร์นี้ได้เลย”


“อ้าว...ทำไมล่ะ”


“ก็เบอร์นี้ ผมเก็บไว้ให้พ่อแม่ เพื่อนสนิท
แล้วก็...เฉพาะคนสำคัญ”


ถ้อยคำท้ายประโยคจงใจเน้นเสียงเพื่อย้ำชัด
จนทำให้ลมหายใจคนฟังเผลอสะดุด


...ถึงทุกอย่างจะเหมือนเดิมแล้ว
ทว่าจริง ๆ มันก็มีที่ไม่ปกติอยู่สองสามอย่าง


หนึ่ง...ดิวก็พูดกับเขาธรรมดาทั่ว ๆ ไป
ยกเว้นแต่จะชอบมีประโยคหวาน ๆ หยอด ๆ ทำนองนี้เขามาอยู่เรื่อย
ซึ่งมันก็ชัดเจนแหละว่าอีกคนกำลัง ‘จีบ’ เขาอยู่


สอง...แม้รู้อยู่แล้วว่าดิวจีบ
น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกกลัวเหมือนคนอื่น
อาจเป็นเพราะเริ่มชินกับนิสัยของดิวขึ้นเรื่อย ๆ


และสุดท้าย...หลัง ๆ พอโดนดิวพูดจีบทีไร
เขารู้สึกใจมันสั่น ๆ หวิว ๆ คล้ายความกลัวแต่ไม่ใช่
เพราะมันส่งผลให้หน้าเขาเห่อร้อนขึ้นมาผิดปกติ
พาลจะทำตัวไม่ถูก พูดต่อไม่ออกขึ้นมาทุกที
จนต้องหาเรื่องเปลี่ยนประเด็นบทสนทนาเหมือนเช่นครั้งนี้


“ละ...แล้วตอนนี้ดิวทำอะไรอยู่เหรอ”


เกมส์เลี่ยงไปถามถึงเรื่องอย่างอื่น
ซึ่งอีกคนก็ตอบกลับมาง่ายๆ 
หากแต่เป็นคำที่ทำให้คู่สนทนาแทบอ้าปากค้าง


“ถ้าบอกว่าอยู่หน้าห้องเกมส์ เกมส์จะเชื่อมั้ยครับ”


“ห่ะ! จริงดิ”


เกมส์ผุดลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ
ถึงไม่อยากเชื่อ เพราะกลัวว่าดิวจะแกล้งหลอกกันอีก
แต่เขาก็พาตัวเองไปหยุดตรงหน้าประตู
ก้มลงมองเห็นเงาของร่างคนซึ่งสะท้อนบนพื้นชัดเจน
ยิ่งประกอบกับเสียงเอคโค่ที่อยู่ด้านนอกสะท้อนก้องกับโทรศัพท์
ก็คล้ายจะเป็นหลักฐานอย่างดีว่าอีกคนพูดจริง
กระนั้นแขกหลังประตูกลับเอ่ยเหมือนไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ


“แต่เกมส์ไม่ต้องให้ผมเข้าไปหรอกครับ
เดี๋ยวจะลำบากใจเกมส์เปล่า ๆ แค่นี้ก็พอแล้วครับ”


...คำพูดราวกับห่วงใยความรู้สึกทำให้เกมส์ได้แต่ยืนนิ่งเงียบ


...มันจริงอยู่ที่เขาบอกว่าไม่ให้ดิวเข้าใกล้เกินสามเมตร
เพราะตอนนั้นเขายังไม่ค่อยไว้ใจดิว
แต่ไม่ใช่เกิดจากความรังเกียจหรือขยะแขยง
เพราะถ้าหากเขากลัวดิวจริงคงออกอาการตั้งแต่วันที่เขาเมาแล้ว

แม้สติไม่เต็มร้อย เขาก็ยังจำได้ว่าดิวจับมือเขา ดึงมากอดไว้
และเกือบจะทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้น
ซึ่งเขากลับปล่อยใจให้ยอมทำได้ง่าย ๆ โดยไม่มีอาการหวาดกลัวใด ๆ


...บางที ไม่แน่ว่าเขาอาจเลิกกลัวดิวไปนานแล้วก็ได้



ชั่วขณะที่กำลังลังเลว่าจะเอื้อมมือเปิดประตูให้อีกฝ่ายดีมั้ย
เสียงสัญญาณเตือนจากโทรศัพท์กลับแทรกขัดจังหวะ
ทำให้เขาต้องชะงักมือตัวเองเปลี่ยนเป็นพูดกลับ


“เดี๋ยวนะมีสายซ้อน”


เกมส์บอกสั้น ๆ ก่อนกดรับคนโทรเข้า
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่น...คุณนายสายสมรขาประจำ


“แม่มีอะหยังก้อเจ้า”


“แหนะ ทำเป๋นถาม ที่ตอนมีเฮื้องรีบโทรมาอ้อน
เสียงใสจะอี้คงแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้วไจ้ก๋า
ถึงบ่อยากคุยกับแม่?”


เสียงบ่นด้วยความน้อยใจตามมาเป็นเสต็ปเหมือนอย่างเคย
จนทำให้ผู้เป็นลูกต้องรีบเอ่ยอ้อน


“บ่ไจ้เจ้า เกมส์ติดสายคุยกับเปื้อนอยู่”


“อ้าว...ถ้างั้นก็ไปคุยเต๊อะ แม่ว่าจะโทรมาอู้ให้ฟังเฮื้องดวงแห๋มหน้อย”


ประโยคทิ้งท้ายทำเอาเกมส์หูผึงรีบกลับลำเอ่ยถาม


“แล้วหมอตั๊กว่าจะใดพ่อง”


ซึ่งคุณนายสายสมรก็คล้ายจะรู้ทัน
จึงแกล้งพูดแกมหยอกก่อนอธิบาย


“ทีจะอี้อยากฮู้ขึ้นมาเชียวนะ
ก็เนี่ยหมอเปิ้ลตั๊กแปลก ๆ บอกว่าช่วงนี้ดวงเกมส์จะเจอเนื้อคู่
รวยรูป รวยทรัพย์ขนาด เปิ้ลว่าเป็นคนดี
ถ้าจริงใจ๋ต่อกั๋นจะครองคู่กั๋นยืน
แล้วเค้าก็ตั๊กแม่ว่าจะได้ลูกสะใภ้ดีเป็นศรีกับวงศ์ตระกูล
อย่าฮื้อพลาดรีบจับเอาไว้
เพราะถ้าปล่อยไป๋ต้องรออีกยี่สิบปีเกมส์ถึงเจอเนื้อคู่ใหม่”


ไม่รู้อยู่ ๆ ทำไมพอได้ยินคำทำนายแล้วดันเผลอนึกถึงใครบางคน
จนทำให้ใบหน้าร้อนวาบต้องรีบพูดเห็นต่างเสียงหลง


“ห่ะ! มะ...มั่วแล้ว เนื้อคู่อะหยังมีตี๊ใดแม่บ่ต้องเชื่อ”


“แต๊ก๊ะ? บ่ไจ้เกมส์แอบจีบแม่หญิงไว้บ่ยอมบอกแม่เน้อ”


“บ่มี!! บ่ได้คุยกับแม่หญิงที่ใดเลยเจ้า”


...จะมีก็แต่ป้อชายที่กำลังคุยอยู่ตอนนี้เอง
แถมชักจะเริ่มใจหวั่นในคำทำนาย
เพราะพักหลังมันเริ่มแม่นขึ้นจริง ๆ อย่างกับนั่งไทม์แมนชีนไปดูอนาคตเขา
แต่เฮ้ย! ดวงพวกนี้มันเอาจริงเอาจังไม่ได้หรอก หมอก็ทักไปเรื่อย...อย่าไปเชื่อ!!


และคล้ายคุณนายสายสมรจะขี้เกียจต่อปากต่อคำ
จึงเป็นฝ่ายพูดตัดบทเสียแทน


“งั้นไป๋คุยกับเพื่อนเต๊อะ แม่วางก่อน
แต่ถ้าจ่วงนี้เกมส์เจอไผดี ๆ ก็เปิดใจ๋
อย่าฮื้อปล่อยไป๋เน้อเกมส์”


“เจ้า”


เกมส์รับปากกับคำกำชับที่สัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากผู้เป็นแม่
แม้จะอยู่ไกลกัน แต่แม่ก็ยังเป็นคนเดิมที่คอยหวังดีกับเขาเสมอ
หลังจากนั้นเขาจึงสลับเปลี่ยนสายเพื่อคุยกับคนรอที่เสียนาน


“ขอโทษนะ แม่โทรมาเลยคุยยาว”


“ไม่เป็นไรครับ ผมบอกแล้วว่าให้เกมส์คุยกับแม่ก่อนก็ได้
เพราะผมแค่เอาของมาให้เกมส์เฉย ๆ
เกมส์ลองเปิดประตูห้องมาสิครับ”


คนที่ยืนอยู่ในห้องขมวดคิ้วงง


อ้าว...ก็เมื่อกี๊ดิวบอกว่าไม่ให้เปิดประตู
แล้วทำไมคราวนี้ถึงได้...
อย่าบอกนะว่า...


เกมส์เอื้อมมือเปิดประตูห้องทันที
และเป็นจริงดังคาดเมื่อหน้าห้องนั้นว่างเปล่า
ไร้เงาของคนที่กำลังคุยด้วย
ยกเว้นบางสิ่งที่วางนิ่งอยู่บนพื้น


...บางสิ่งที่ทำให้เกมส์ถึงกับเบิกตากว้าง ก้มลงหยิบมันขึ้นมา


...ช่อลูกอมจูปาจุ๊บ


ลูกอมหลากสีเกือบยี่สิบลูก
ถูกมัดผูกติดกันเป็นช่อดอกไม้ช่อใหญ่ผูกโบว์สีขาวสะอาดตา

...ดูสวยจนไม่อยากจะเชื่อว่ามันทำมาจากลูกอมเพียงอย่างเดียว
ไม่เพียงแค่นั้นด้านบนยังแนบการ์ดเขียนข้อความด้วยลายมือสั้น ๆ
หากแต่ทำให้คนอ่านรู้สึกถึงเลือดที่ไหลมารวมกันตรงใบหน้า
พร้อม ๆ กับจังหวะของหัวใจที่เต้นดังขึ้นอย่างไม่รู้เหตุผล



‘Dear My Sweetheart
Happy Valentine’s day’



“ชอบรึเปล่าครับ”


ได้ยินเสียงกระซิบถามจากโทรศัพท์
ซึ่งคนรับก็พยักหน้าตอบไปตามความจริง


“อืม ขอบใจนะ”


พูดจบ มือก็ชักจะสั่น ๆ อีกรอบ

...ถึงจะได้รับของขวัญวันวาเลน์ไทน์เป็นชิ้นที่สี่แล้ว
แถมได้เป็นขนมเหมือนกันไม่ต่างไปจากคนอื่น
แต่ทำไมความรู้สึกมันถึงตรงข้ามกัน
มิหนำซ้ำยังพาลออกอาการแปลก ๆ
เดินเป๋กลับเข้าห้อง พาลทำอะไรไม่ถูก
กระทั่งต้องรีบเปลี่ยนประเด็นไปพูดเรื่องอื่น


“เออ...ดิว...คือว่า...อาทิตย์หน้าเรามีนัดหมอผ่าฟันคุด
ละ...แล้ว...เออ...ดิวปะ...ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยได้มั้ย”


เสียงถามตะกุกตะกักจากเกมส์ซึ่งตัดสินใจเอ่ยชวน
แม้ว่ามันจะเป็นประโยคธรรมดาเหมือนบอกเพื่อน
แต่หัวใจก็ยังเต้นรัวไม่ยอมหยุด
โดยเฉพาะเมื่ออีกฝ่ายตกปากรับคำมาง่าย ๆ ด้วยน้ำเสียงยินดี


“ได้สิครับ งั้นอาทิตย์หน้าผมจะมารับเกมส์นะ”


ยิ่งฟังแทนทีจะทำให้ทุกอย่างสงบ
กลับยิ่งเพิ่มความสั่นไหวในความรู้สึก


...ทั้ง ๆ ที่ได้ยินเพียงแค่เสียงจากดิวแท้ ๆ
ไม่เห็นหน้าค่าตากันสักหน่อย
ทว่ามันกลับส่งผลโดยตรงต่อร่างกายเขาจนเข่าอ่อน
มากกว่าเผชิญหน้าตรง ๆ เสียอีก


...ไม่เอาแล้ว ขืนคุยต่อต้องตายแน่ ๆ


คนคิดพาตัวเองออกจากสถานการณ์จึงรีบมองหาตัวช่วย
ก่อนเจอข้าวกระเพราที่วางอยู่บนโต๊ะ


“อืม...เออ แค่นี้ก่อนนะ เรากินข้าวก่อน หิวแล้ว”


“ครับ งั้นทานข้าวให้อร่อยนะครับเกมส์”


แม้ครั้งนี้จะเป็นการคุยที่ค่อนข้างสั้นกว่าปกติ
แต่ดิวก็ไม่คิดจะตื้อต่อ ยอมปล่อยให้เกมส์วางง่าย ๆ
เพราะไม่อยากจะทำอะไรให้เกมส์ลำบากใจ

...แค่ที่เอาช่อจูปาจุ๊บทำเองพร้อมกับข้อความนั้นมาให้
ก็กลัวว่าเกมส์จะไม่ชอบอยู่แล้ว
แต่พอเห็นว่าเกมส์รับไว้ ถึงค่อยโล่งใจขึ้นมา


...อย่างน้อย ๆ ความรู้สึกที่เขามีก็คงส่งไปถึงเกมส์ได้บ้าง


...เพียงเท่านี้สำหรับเขาก็มากพอแล้ว



ดิวกำลังจะกดวางไอโฟนลงหลังจากซุ่มดูอยู่ตรงบันไดหอ
หากเสียงจากปลายสายกลับเอ่ยรั้ง


“เดี๋ยวดิว”


“ครับ”


ร่างสูงชะงัก หันหลังกลับไปมองประตูห้องที่ยังคงปิดสนิท
รอใครบางคนด้านใน ซึ่งเงียบลงเพียงชั่วอึดใจ
ก่อนเอ่ยประโยคเพียงประโยคเดียว


...ประโยคที่ทำให้ดิวถึงกับยิ้มกว้าง



“สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะ”


จบคำ เจ้าตัวก็ตัดสายทิ้งไปทันที
ปล่อยให้ดิวยืนมองก่อนจะหลุดขำออกมากับความน่ารักของใครบางคน


...ไม่รู้ทำไม แม้จะไม่เห็นหน้า และแม้อยู่ห่างจากเกมส์ขนาดนี้
แต่เขากลับรู้สึกว่าหัวใจของเขาสองคนขยับเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที
และต่อให้ใช้เวลาอีกนานมากแค่ไหน
เขาก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาพร้อมหยุดหัวใจตัวเองตรงนี้ไว้กับเกมส์


...จะยอมอดทนรอวันที่เกมส์เลิกกลัว แล้วรับเขาไว้อยู่ตรงข้างใจ




...หลังบานประตู
นายซีเกมส์เข่าแทบทรุดหลังวางสายอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
อยากจะโทษอะไรสักอย่างที่ทำให้เขาเผลอพูดประโยคน่าอายขึ้นมาอย่างนั้น
แต่จะโทษใครได้ นอกจากใจตัวเองที่ดันสั่งออกไป


...ใจที่ค่อย ๆ ยอมรับใครอีกคนให้เข้ามาใกล้


เขามองช่อจูปาจุ๊บในมือ
ก่อนดึงลูกอมรสโคล่าออกมาหนึ่งแท่ง
แล้วแกะห่อมันออกใส่เข้าปาก


...รสสัมผัสหวานคุ้นเคยซึมลึงลงไปข้างใน


คงคล้ายกับข้อความที่เขียนอยู่บนการ์ด
ซึ่งพออ่านอีกครั้งก็ต้องทำให้เผลออมยิ้มออกมาเสียไม่ได้


ข้อความนั้นที่สัมพันธ์ตรงกันกับหัวใจ...



‘Sweetheart’



...


..


.


..


...



...เขาคิดว่าบางที

ในความรู้สึกบางอย่างก็คงคล้ายกันกับ ‘จูปาจุ๊บ’
ที่มันต้องค่อย ๆ อาศัยเวลาละเลียดชิมรสชาติ
ปล่อยให้ความหวานละลาย ๆ โอบล้อมหัวใจ


แม้จะมีความสับสนลังเล
แต่หนทางออกแท้จริงไม่ใช่การวิ่งหนีปัญหา
เขารู้แล้วว่าสิ่งที่เขาควรจะทำคือการเผชิญหน้าและยอมรับมัน


...อย่ากลัวการเริ่มต้น

...อย่ากลัวที่จะเปิดหัวใจตัวเองใหม่อีกครั้ง


เพราะการปล่อยปัญหาทิ้งไว้ก็ไม่ต่างอะไรจาก ‘บุหรี่’
สูบเผื่อผ่อนคลายให้มันหายเครียด รู้สึกโปร่งโล่งสบายใจ
แต่สุดท้ายมันกลับส่งผลร้ายในระยะยาว
เต็มไปด้วยความไม่ยั่งยืนคล้ายควันที่เลือนราง...จางหาย...
ทิ้งไว้เพียงรสขมปร่าขืนลำคอ


ทุกอย่างต้องอาศัยความพอดีของระยะทาง
ใช้ความจริงใจเป็นเครื่องมือพิสูจน์
ช่วยผลักให้ใจสองดวงขยับเข้ามาชิดใกล้
รอเวลาให้ความหวานละลายจนสามารถเชื่อมไว้ด้วยกัน


และเมื่อนั้น...

เขาเชื่อว่า ‘ความกลัว’ คงไม่สามารถทำอะไรเขาได้
เพราะเขามีหัวใจอีกดวงคอยปลอบโยนเอาไว้

และเปลี่ยนมันเป็น ‘ความกล้า’ ที่พร้อมจะเดินไปเคียงข้างกันไป


...อย่างแน่นอน




...อย่ากลัวที่จะเรียนรู้จัก ‘ความหวาน’ ของชีวิตนะครับ...




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------




END






ซีรีย์หวานอมขม ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต จบแล้วจ้า!!   :mc3:


บางคนอาจคิดว่า...เฮ้ย! ดราม่ามาครึ่งเรื่อง หวานกันตอนสุดท้ายก่อนจบแค่เนี้ย!
คือ...มันก็ลุ้นให้ขึ้นได้แค่นี้ล่ะค่ะ
เพราะคู่นี้เพิ่งจะตัดสินใจคืนดีกลับไปเป็นเพื่อน
ยังต้องอาศัยเวลาอีกนานกว่าจะสวีทหวานถึงขั้นนั้น

แต่อย่างน้อย ๆ เรื่องบางเรื่องตอนจบของมันคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ใหม่
สำหรับดิวกับเกมส์ก็คงเหมือนกัน
และต่อจากนึ้ทั้งคู่ก็คงจะค่อย ๆ พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น
ถ้าใครอยากรู้ว่าคู่นี้จะไปกันถึงไหน
เดี๋ยวมีตอนพิเศษแถมให้อีกนิดหนึ่งเหมือนเคยค่ะ


สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่ด้วยกันเหมือนเคยนะคะ (กอดแรงๆ)
จะครบปีแล้วนะที่เปิดบ้านหลังนี้มา
และเราคงมาไม่ไกลได้ขนาดนี้ถ้าไม่ได้ทุกคนมาช่วยอ่าน ช่วยเชียร์ ให้กำลังใจกัน
ถึงจะไม่ค่อยโผล่หน้ามาทักทาย หรือนาน ๆ คุยกันที
แต่ยังรู้สึกดีใจที่ทุกคนแวะเวียนเข้ามาในบ้านซีรีย์หวานอมขมหลังนี้


...ขอบคุณจริง ๆ จากใจค่ะ


รักและคิดถึงเสมอ
 

:L2:

BitterSweet



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 24-04-2013 08:47:13
แอร๊ยยยยย จบแล้วอ่ะ  :L2:
เกมส์กำลังน่ารักเลย อิอิ ยอมเปิดใจแล้ว 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 24-04-2013 08:47:56
 :hao6:  อ้ายยยยยยย หวานมากกกก :-[

“อะไรที่สำคัญสำหรับเกมส์ก็สำคัญสำหรับผม” แค่ดิวพูดประโยคนี้ เราก็ปลื้มแล้วอ้ะ :impress2:

แต่งสนุกมากค่ะ  ขอบคุนนะคะ ขอตอนพิเศษหน่อย น้าาาาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: tuckky ที่ 24-04-2013 08:48:34
 :hao3: จบแล้ว รอหวานๆ(กว่านี้)ในตอนพิเศษละกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: gcc ที่ 24-04-2013 09:25:09
ยังไม่อยากให้จบเลย กำลังเริ่มหวาน


 :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 24-04-2013 09:27:32
รอตอนพิเศษ!!!!! :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 24-04-2013 09:43:58
รอนะ  รอซีรีย์หวานอมขม เรื่องต่อไป   :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-04-2013 10:02:16
รอตอนพิเศษครับ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-04-2013 10:13:30
อยากให้มันหวานกว่านี้อีกหน่อย แต่ได้แค่นี้ก็ดีแล้วสำหรับเกมส์
ดิวก็พยายามดีมากที่อดทนรอเกมส์
ขอบคุณค่ะ

จะรออ่านเรื่องต่อไปนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-04-2013 10:37:47
ได้แค่นี้ก็ดีแล้วเนอะ  :hao7:





ปล รู้สึกว่าสองเรื่องหลังนี่ค่อนไปทางขมอ่ะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 24-04-2013 10:43:55
กรี๊ดดด จบแล้ว จริงเด๊ะะะะ!!!!!!!!!!! :katai1:
ไม่อยากให้จบเลยยยยยยยยยยยยย><
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
เกมส์เขินน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกก
ว่าแต่ดิว จะได้เป็นแฟนเกมส์มั้ยเนี่ยยย
รอตอนพิเศษน้า
กดมาอ่านเรื่องนี้ก่อน เนื่องจากเห็นเป็นล่าสุด
เดี๋ยวจะทยอยอ่านให้หมด แล้วเม้นแต่ละตอนให้น่ะค่ะ
จะเก็บเงินรอซื้อหนังสือด้วย
ตอนนี้กำลัง กรี๊ดๆๆๆๆ นักรบกะสาลี่ ฮ่าๆๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 24-04-2013 11:28:15
แหมม เกมส์
เขินจนทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะสิ
 :o8: :o8: :o8:

สนุกๆมากๆค่ะ รอตอนพิเศษจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 24-04-2013 12:17:02
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 24-04-2013 12:49:13
จีบมาตั้งนาน พอจะได้รักกันก็จบซะแล้ว เสียดายจัง อยากอ่านต่อ
ขอตอนพเศษบ้างนะเจ้า
ปล.หมอดูอยู่ทีไหนเนี่ย อยากดูบ้าง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 24-04-2013 13:13:13
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ไม่มั่นใจว่าจะมีซีรี่ย์อื่นอีกรึเปล่า
เพราะเห็นกำลังทำเล่มอยู่
อย่างไรก็จะรอตอนพิเศษนะ
ชอบทุกซีรี่ย์เลย ขอบอก  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 24-04-2013 13:39:11
แล้วการเปิดใจคุยกัน เริ่มที่จะเรียนรู้กันและกันไปเรื่อยๆ ความกลัวผู้ชายของเกมส์จะค่อยๆ หายไป และดิวก็สามารถเปิดใจ รู้ใจตัวเองซะทีว่าคำว่า "ชอบ" หรือ "รัก" เป็นยังไง

กด + ให้กับคนเขียน  รออ่านตอนพิเศษของเรื่องนี้ต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 24-04-2013 14:16:46
จบลงแบบอบอุ่น อมยิ้ม แบบชื่อเรื่องจูปาจุ๊บเลย...ขอบคุณนะครับบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 24-04-2013 14:30:13
โอ๊ยยย หวานเว่อร์
รอตอนพิเศษขอหวานๆเลยนะ เอาแบบให้ไปหาหมอฟันพร้อมเกมส์เลย อิอิ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 24-04-2013 14:52:05
พอดีรู้ใจตัวเองแล้วแบบ อบอุ่นมากกกกกกกกกก
เป็นผู้ชายที่อบอุ่นมากอะะะะะะะะะ  :hao5:

ตอนพิเศษขอแบบโคตรหวานเลยนะคะ  เอาให้หวานกว่าจูปาจุ๊บช่อนั้นทั้งช่อรวมกันเลยนะ ฮ่าาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: Aini_es ที่ 24-04-2013 15:04:42
ขอบคุณนะคะ รอตอนพิเศษนะคะ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: Kaame ที่ 24-04-2013 15:54:28
เปิดใจให้กันซะที น่ารักมาก  :o8:
รอตอนพิเศษนะคะ : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 24-04-2013 16:09:09
สรุปจบเรื่องได้ดีมากๆเลยค่ะ

แม้ไม่หวือหวาแต่ก็กินใจ  ชอบจัง

รอตอนพิเศษหวานๆ  แต่ขอเร่าร้อนนิดก็ดี  555

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: felin_kkr ที่ 24-04-2013 17:18:09
จบแบบให้มโนต่อเอง ฮ่าๆๆๆ

 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: littleberberry ที่ 24-04-2013 18:53:21
สนุกมากๆค่ะ รอตอนพิเศษหวานๆนะค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 24-04-2013 19:14:12
เฮ้ยยยยยย จบแล้วหงะ  ทำไมจบแล้วหงะ...


โคล่ายังไม่หวานเข้าลิ้นเลย โธ่ เสียดาย...



อย่างที่คุณคนเขียนว่านั่นหละค่ะ เราต้องจบความสัมพันธ์นึงเพื่อเริ่มอีกสถานะนึง
ดิวกับเกมส์ก็เหมือนกัน  กำลังจะเริ่มอีกความสัมพันธ์นึง  ซึ่งอาจจะดูกันไปยาวไกล
คนกลัวผช.แบบเกมส์ คงจะแก้ยากอยู่  แต่เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งดิวจะทำได้


ว่าแต่นะ ยังอยากลุ้นอยู่เลยหงะค่ะ T_T
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-04-2013 21:22:53
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-04-2013 21:54:23
คู่นี้ ถึงจะความคืบหน้าช้า แถมมีถอยหลังด้วย แต่ก็รัก แต่ก็เชียร์จนจบนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 24-04-2013 22:56:49
 :hao3: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: pochu52 ที่ 24-04-2013 23:17:26
การก้าวเดินของดิวกับเกมส์เริ่มต้นอย่างช้าๆ แล้ว ^^ On & On
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 25-04-2013 00:13:15
ชอบบบบบบ  น่ารักดี อ่านแล้วอยากกินขนมขึ้นมากลางดึกเลยทีเดียว

ขอบคุณนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 25-04-2013 02:08:18
ดิวเป็นผู้ชายที่แบบบบบบบโฮรกกกกกหาไม่ได้อีกแล้ว
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนะคะ
อ่านแล้วมีความสุขมากเฉพาะตอนหวานๆฮ่าๆ
รอตอนพิเศษค่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 25-04-2013 03:06:57
ติดตามมาตลอดนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-04-2013 10:24:42
สมกับชื่อเรื่องจูปาจุ๊ป :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 25-04-2013 11:03:46
ในที่สุดความพยายามของดิิวก็ประสบความสำเร็จ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 25-04-2013 11:14:07
อรั๊ยๆๆๆๆๆ ขอตอนพิเศษหวานๆของคู่นี้อีกซักนิดได้มั้ยค้าาาาาาาาาาาา

แบบจุ๊บๆผ่านจูปาจุ๊บ หรืออะไรอิ๊อ๊ะๆ นิดนึงก็ได้ อร๊ายๆๆๆๆๆ เขิน :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 >; P.89
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 25-04-2013 23:11:06
หวานได้แค่นี้ก็ดีแล้ว  รอตอนพิเศษเน้อ!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 25-04-2013 23:42:18
ขอตอนพิเศษให้ดิวชื่นใจหน่อยจร้า  สงสารจังเลย  :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 26-04-2013 00:57:17
อร๊ายยย ดีกันแล้วววว

ดีใจ ตอนนนี้เฝ้ารอตอนพิเศษ อยากรู้อยากเห็นคู่นี้เป็นพิเศษ จะเป็นยังไงหน้ออออ

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 26-04-2013 01:02:17
ในที่สุดก็อ่านจบซะที   :z2:
 แต่แอบรอตอนพิเศษ  จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต อยู่นะ

ใช้เวลาอ่านห้าเรื่องสองวัน สนุกมาก สนุกทุกเรื่อง ชอบหมดเลย
เขียนได้ดีมากอ่ะ อ่านแล้วรู้สึกผ่อนคลายๆ สบายๆ ดี ภาษาสวยอ่านง่าย  :L1:

ขอบคุณนิยายดีๆนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 26-04-2013 05:23:00
โอ้ว! จบแล้ว แอบเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทัน ดราม่ามาค่อนเรื่องหวานอยู่ตอนเดียวแล้วตัดฉับจบเลย 555+

ชอบแนวคิดตอนจบของผู้แต่งมากเลย ให้ข้อคิดดีมาก

สุดท้ายนี้รอตอนพิเศษแบบหวานๆ และซีรี่ย์เรื่องต่อไปนะจ๊ะ อิอิ  :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งที่ 15] 24/04/56 > P.89
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 26-04-2013 21:35:23
แบว่า...ค้างอ่ะ ไม่สุดอ่ะ  :hao5:
ตอนพิเศษขอหวานปานน้ำตาลปี๊บ นะคะ >w<!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 29/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 28-04-2013 14:09:14
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งพิเศษ



“ขอโทษนะครับ พอมียารักษาโรคหัวใจบ้างมั้ยครับ”


เสียกเรียกทักทำให้หนุ่มเภสัชเงยหน้าขึ้นมาจากการจัดเรียงกล่องยา
ก่อนหันไปมองคนถามซึ่งแต่งตัวคล้ายพนักงานออฟฟิศ

...ดูแล้วยังหนุ่มยังแน่น อายุก็น่าจะยี่สิบต้น ๆ พอ ๆ กับเขาแท้ ๆ
แต่กลับมาถามเรื่องยารักษาโรคหัวใจ หรือจะซื้อไปให้คนอื่นรึเปล่า


เกมส์ขมวดคิ้วงง
แต่ถึงยังไงก็นับว่าอีกฝ่ายเป็นลูกค้ารายแรกของวันในร้านขายยาแห่งนี้
เขาจึงตอบพลางย้อนถามกลับ


“มีครับ เป็นโรคหัวใจอยู่เหรอครับ
แล้วเคยใช้ยารักษาตัวไหนมาก่อนแล้วรึเปล่าครับ”


อีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธก่อนแย้มรอยยิ้มบาง
แล้วบอกคำที่ทำเอาคนฟังต้องนิ่งอึ้ง


“ยังไม่เคยใช้ครับ
แต่ตอนนี้พอเห็นหน้าคุณเภสัชทีไรหัวใจผมเต้นแรงทุกที
ไม่ทราบว่าโรคนี้มียารักษาหายบ้างรึเปล่าครับ”


...เอาแล้วกู โดนอีกแล้ว
นึกว่าจะรอดแต่ก็โดนจนได้
เวรกรรมอะไรของเขากันหนักหนาวะ

ตั้งแต่เรียนจบจนมาเปิดร้านขายยาได้ปีหนึ่งเป็นต้องโดนจีบตลอด
ไอ้ที่ว่าตัวเองเนื้อหอมน่ะไม่ปฏิเสธหรอก
ก็เขาหน้าตาดี มีเสน่ห์ แถมเท่ห์สุด ๆ ขนาดนี้
มันก็ต้องมีใครต่อใครมาหลงกันบ้าง
แต่ไม่รู้ทำไมคนที่เข้าหาเขาถึงมีแต่ผู้ชายล่ะวะ!


...ไม่รู้รึไงว่าคนอย่างนายซีเกมส์เป็น ‘โรคกลัวผู้ชายจีบ’ โว้ยยยย!!


แล้วพอโดนจีบทีไร แข้งขามันพาลไม่มีแรงทุกที
ใจมันสั่น ๆ หวิว ๆ คล้ายจะเป็นลม
หัวสมองเริ่มชัดดาวน์ตัดระบบความคิดจึงได้แต่นิ่งเงียบสนิท
จนลูกค้าซึ่งส่งมุกจีบเข้าใจผิด
เลยยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่มาส่งให้ตรงหน้าพร้อมกับคำเอ่ยแซว


“ไม่พูดอะไรเลย เขินอยู่เหรอครับ น่ารักจัง
งั้นคุณช่วยรับดอกไม้วันวาเลน์ไทน์จากผมครับแทนค่ารักษาได้มั้ยครับ”


...ใครเขินวะ ตาบอดรึไงครับ
กูหน้าซีดขนาดนี้เรียกเขิน
ต้องเรียกว่า ‘กลัว’ โว้ย

....กูกลัวจะตายห่าอยู่แล้วเนี่ยยยย!!



“ขะ...ขอโทษนะครับ ผมมีธุระต้องรีบปิดร้านแล้ว
ถะ...ถ้าไม่มีอะไร เชิญด้านนอกด้วยนะครับ”


เกมส์ตัดสินใจเอ่ยไล่อ้อม ๆ แม้น้ำเสียงจะสั่น ๆ
ทว่าประสบการณ์ที่สะสมมาทำให้เขาเริ่มปีกกล้าขาแข็งมากขึ้น
อีกฝ่ายอิดออดเล็กน้อย พยายามเซ้าซี้ขอเบอร์ไว้ปรึกษาปัญหาโรคหัวใจ
ซึ่งเขารีบปฏิเสธไปอย่างไม่ใยดี
ตอนนี้ไม่รักษาใครทั้งนั้นแหละ ขอรักษาโรคกลัวของตัวเองให้รอดก่อนก็พอ
ในที่สุดคนจีบก็ยอมล่าถอย ออกนอกร้าน
เขาจึงล็อคประตู เตรียมปิดร้านตามที่พูดไว้


...ไม่ได้มีธุระอะไรหรอก  แต่ลืมไปว่าวันนี้มันวาเลนไทน์
วันที่เขาเคยเฝ้ารอคอยด้วยความหวังเมื่อหลายปีก่อนว่าจะมีสาว ๆ เอาช็อกโกแล็ตมาให้บ้าง
ซึ่งความเป็นจริงแล้วตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะมันดันมีแต่ตัวผู้วนเวียนมาหาทุกปี
จากความชอบเลยกลายเป็นความเกลียดปนสยอง

เหมือนอย่างวันนี้พอเปิดร้านมาตอนเก้าโมง
...เก้าโมงสี่สิบห้าก็ได้ฤกษ์เจอแจ๊กพ็อตเลย
แล้วอย่างนี้จะเปิดร้านไว้ล่อเป้าทำไม สู้ปิดร้านกลับไปหมกตัวเองอยู่ที่บ้านดีกว่า


คิดไปก็ทำตามใจอย่างรวดเร็ว
เกมส์รีบล็อคกุญแจดึงประตูเหล็กปิดร้านแล้วสตาร์ทรถขับออกไป
โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ยอดดอยปลูกไร่ส้มบ้านเกิดของตัวเอง


หลังจากเขาเรียนเภสัชจบก็กลับมาเปิดร้านขายยาในเชียงใหม่ไม่ไกลจากบ้าน
ด้วยการยืมทุนของคุณนายสายสมร พอขายได้คืนกำไรมาเรื่อย ๆ
ปกติเขาจะนอนชั้นบนของร้านขายยาเพื่อเฝ้าร้านไปด้วย
นาน ๆ ทีถึงจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่ไร่ส้ม
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่แม่จะเอ่ยทักเมื่อเห็นเขามาเยือนตั้งแต่หัววัน


“อ้าว...ซีเกมส์ มาได้จะใด วันนี้บ่เปิดร้านก๋า?”


คนถูกถามยิ้มหวาน รีบเดินไปกอดร่างเจ้าเนื้อของคนเป็นแม่ พลางตอบคำเสียงอ้อน


“บ่เปิดเจ้า ก็วันนี้วันวาเลนไทน์บ่ไจ้ก้อ
เกมส์ก็เลยปิดร้านมาอยู่กับคนตี๊เกมส์ฮัก”


กระนั้นแทนทีคู่สนทนาจะดีใจ
กลับตีแขนคนกอดดังเผียะ
แล้วเอ่ยว่าดักทางอย่างรู้ทัน


“ปากหวานทุกทีฮูกคนนี้
บ่ต้องขี้จุ๊! เกมส์ขี้คร้านล่ะว่า
โตแล้วเน้อเกมส์บ่ไจ้ละอ่อน
ขยันตั้งใจ๋ยะการยะงานหน้อย”


คำเอ็ดใส่คนฟังตามมาเป็นขบวนจนคนถูกดุหูชา


...นี่เขาคิดถูกรึเปล่าที่กลับบ้านมา
เหมือนหนีเสือปะจระเข้ยังไงไม่รู้
เจออะไรที่น่ากลัวแล้วยังต้องมาเจอคนที่กลัวกว่า

...โธ่ ชีวิตบัดซบของสุดหล่อซีเกมส์


ถึงอย่างนั้นแม้จะโดนบ่นดุแค่ไหน
เขาก็อาศัยความเนียนบีบนวดบีบไหล่ออดอ้อนคุณนาย
ให้กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้งจนลืมเรื่องที่เขาแอบอู้งาน
แล้วหันไปยุ่งกับเรื่องไร่ส้มของคุณนายต่อ
นายซีเกมส์จึงถือโอกาสแว๊บหนีมาตรงระเบียงชานบ้าน

...โชคดีที่บ้านของเขาเป็นบ้านไม้ทรงไทยประยุกต์สองชั้น
ปลูกบนทำเลสวยบนเนินเล็ก ๆ มีอากาศพัดผ่านโปร่งโล่งสบาย
เลยไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน แม้จะเป็นช่วงสาย ๆ ของวันแล้วก็ตาม
จึงทำให้เขาสามารถนั่งชิว ๆ รับลมตรงมุมโปรด
พลางเปิดหนังสือพิมพ์กีฬาอ่านอย่างสบายอกสบายใจ
พลิกหน้ากระดาษไล่ไปเรื่อยจนเกือบหมดเล่ม
กระทั่งสายตาไปสะดุดเข้ากับข่าวดาราบันเทิงในหน้าสุดท้าย
เกือบจะทำเป็นไม่สนใจอยู่แล้ว
หากแต่รูปและข้อความพาดหัวใหญ่กลับทำให้เขานิ่งอ่านอยู่อย่างนั้น


‘ดิว เตวิชญ์’ ยัน ‘นินิว’ กับ ‘แองจี้’ แค่พี่น้อง

อยู่ ๆ ก็มีข่าวล่ามาแรงว่าพระรองหน้าใส ‘ดิว เตวิชญ์’
กำลังแอบกุ๊กกิ๊กปลูกต้นรักกับนางเองน้องใหม่ ‘นินิว’
ที่ไปปิ๊งรักกันกลางกองถ่ายแสดงจนสมบทบาทคนรักได้หวานสมจริง
แต่พอไปถามเจ้าตัวกลับยืนยันว่า ‘นินิวเป็นแค่น้องสาว’
ส่วนนางแบบลูกครึ่ง ‘แองจี้’ 
ที่มีแหล่งข่าวเห็นทั้งคู่ควงกันไปห้างสองต่อสองก่อนหน้านี้
ก็ยังย้ำคำเดิมว่ามีสถานะเป็นแค่ ‘พี่สาว’ ที่เคารพเท่านั้น
งานนี้ไม่รู้ว่าญาติเยอะ หรือรักพี่เสียดายน้องกันแน่รึเปล่า
ถึงตัดใจเลือกใครไม่ได้เสียทีล่ะจ๊ะ ‘พ่อคาสโน่ว่าดิว’




ภาพพระรองหน้าใสยิ้มโปรยเสน่ห์บาดใจหญิงข้างกรอบข่าว
ทำให้เกมส์ถึงกับเบ้หน้ามองอย่างหมั้นไส้


...เออ...ใช่ซี๊ มันหล่อเลือกได้นี่
มีแต่ผู้หญิงน่ารักวิ่งเข้าหาทั้งปีทั้งชาติ
ไม่เหมือนเขาที่มีแต่ผู้ชายมาจีบ

...แม่งโลกนี่ไม่ยุติธรรมเลยโว้ย!!


จากอารมณ์ดี ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นหงุดหงิดโดยไม่รู้สาเหตุ
เกมส์ปิดหนังสือพิมพ์กีฬาลงทันควัน
เลิกอ่านมันแล้ว ข่าวดาราก๊อซซิบไร้สาระเปลืองสมอง
กลับไปอ้อนแม่ให้ทำอะไรอร่อย ๆ ให้กินดีกว่า


เขากำลังจะเดินไปหาคุณนายสายสมรบริเวณหน้าบ้าน
ทว่าเสียงแล่นรถเข้ามาจอดเทียบด้านล่างกลับทำให้ต้องหยุดชะงัก
และเมื่อเห็นคนขับปรากฏกายลงจากรถ
คนมองอยู่ก็แทบจะเปลี่ยนเป็นหันหลังวิ่งหนี
ตรงข้ามกับผู้เป็นแม่ที่รีบเอ่ยปากต้อนรับแขกอย่างคุ้นเคย


“อุ๊ย! ดิว บ่ไจ้ก้า มาได้จะใดลูก”


“สวัสดีครับคุณแม่”


ดาราหนุ่มหน้าใหม่รีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่คนสำคัญ
ซึ่งแวะเวียนมาเยี่ยมอยู่เรื่อย ๆ ตลอดสามปีไม่เคยขาด
นับตั้งแต่เขาขอใครบางคนตามมาเที่ยวบ้านเกิด
จนได้รู้จักสนิทสนมกับคุณแม่กระทั่งนับเขาเป็นลูกรักอีกคน


“มาให้แม่กอดหน้อย บ่ได้ป๊ะกั๋นตั้งเมิน แล้ววันนี้บ่ยะงานก๋า?”


“วันนี้ขอหยุดน่ะครับ พรุ่งนี้ผมถึงค่อยบินกลับ
ผมคิดถึงคุณแม่เลยรีบมาหา
เมื่อวานผมไปทำงานที่หัวหิน เลยซื้อของมาฝากคุณแม่เพียบเลย”


พูดจบ ร่างสูงก็ยกเอาของฝากจำพวกของทะเลและขนมหม้อแกงมาโชว์
จนคนรับยิ้มหน้าบานหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ
ลืมลูกแท้ ๆ ที่แอบยืนมองห่าง ๆ เหมือนถูกทิ้งด้วยความน้อยใจ


...อะไรอ่ะ แม่ ทีมันหยุดงานทำไมแม่ไม่หาว่ามันขี้เกียจบ้างอ่ะ
เป็นดาราแค่เนี่ย พะเน้าพะนอเข้าไป รู้งี้ไม่พามารู้จักแม่ก็ดีหรอก
แล้วนี่มันจะมาทำไมวะ บ้านช่องมีไม่กลับรึไง
ต้องชอบมาขัดความสุขของคนอื่นอยู่เรื่อย
หึ ไม่สนแล้วอยากอี้อ้ออะไรก็เชิญตามสบาย
เขากลับไปนอนอ่านการ์ตูนที่ห้องก็ได้วะ!


คนหงุดหงิดหมุนตัวหันหลังอย่างงอน ๆ
หากยังไม่ทันก้าวเสียงเรียกด้านหลังกลับทำให้ต้องหยุดกึก


“เกมส์! จะไป๋ไหน! บ่ต้องเลย
ทำตัวฮื้อเป๋นประโยชน์บ้าง มาช่วยดิวยกของหน้อย”


คำสั่งประกาศิตมีผลบังคับใช้ทันที ถึงใจจะไม่อยากทำแค่ไหน
แต่พอหันมาเจอตาเขียว ๆ ของคุณนายสายสมร ความกลัวก็แล่นวาบจับหัวใจ
ต้องรีบเดินฉับ ๆ กลับมายกของฝากหิ้วไปเก็บในครัวด้านหลัง
โดยมีใครบางคนตามเข้ามาช่วยด้วย
ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังคงก้มหน้าไม่ยอมพูดยอมจาทักทาย
จนกระทั่งร่างสูงที่มองอยู่นานต้องเผลอถอนหายใจ เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน


“โกรธอะไรผมเหรอ เมื่อวานโทรไปหาก็ไม่ยอมรับ ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ”


คำถามสั้น ๆ แต่มันเป็นสิ่งที่ค้างคาในใจของดิวให้กระวนกระวาย
จนต้องรีบบินจากกรุงเทพขึ้นมาหาต้นเหตุ
ซึ่งคู่สนทนาเพียงแค่ชะงักมือไปเล็กน้อย หากยังคงตอบกลับเสียงเรียบ


“เปล่า ไม่มีอะไรนี่”


...มีแน่ ๆ ต่างหาก


ทำไมจะไม่รู้ว่าเกมส์คิดอะไรในใจ
นี่แหละนิสัยเกมส์เลย ชอบเก็บปัญหาไปคิดคนเดียว แล้วไม่ค่อยยอมพูด
มันตั้งสามปีแล้วนะที่เขากับเกมส์รู้จักกันมา
สามปีที่เขาพยายามจะร่นระยะห่างระหว่างกันให้ใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ
ถึงแม้จะช้า แต่เขาอาศัยความค่อยเป็นค่อยไป
และใช้ความจริงใจเป็นเครื่องมือพิสูจน์ตามสัญญาที่เคยให้ไว้


เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เข้าไปถึงใจเกมส์มากแค่ไหน
แต่อย่างน้อยเขาก็เริ่มจะสัมผัสความรู้สึกของเกมส์ได้มากขึ้น
อย่างตอนนี้ที่ทะเลาะกัน แม้เกมส์จะไม่ยอมบอกเหตุผล
แต่หากจับคำจากน้ำเสียงและท่าทีแล้วไม่นานเขาก็คงรู้เอง
นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เขาต้องรีบมาหาเกมส์ เพื่อเผชิญหน้ากับคนคิดหนีตรง ๆ


“แล้วไม่ไปทำงานล่ะ หยุดมาแบบนี้กองถ่ายเขาไม่ว่าเหรอ”


ดิวฟังคำถามของเกมส์ซึ่งกำลังนำขนมหม้อแกงออกจากถุง
น้ำเสียงเรียบเฉยเหมือนคุยกันเป็นปกติคล้ายไม่ได้โกรธอะไร
จึงทำให้เขาตอบกลับไปตามความจริง


“ผมยังไม่มีคิวครับ วันนี้ถ่ายแต่ของน้องนินิว”


“เหรอ น้องเขาน่ารักเนอะ อยากเจอบ้าง ว่าง ๆ ขอลายเซ็นให้หน่อยสิ
แองจี้ก็ด้วยได้ข่าวว่าตัวจริงสวยมากเลยใช่ป่ะ
ไปเดินห้างกันมาคนคงรุมเพียบเลยอ่ะดิ ดีเนอะ น่าอิจฉา ดาราก็เงี้ย”


คำแซวซึ่งอีกฝ่ายพูดไปยิ้มไป
หากคุณกันทางโทรศัพท์ไม่เห็นหน้า
เขาคงนึกว่าเกมส์คิดอย่างนั้นจริง ๆ
แต่พอมาอยู่ใกล้กันแล้ว
ถึงได้สังเกตเห็นว่ามือที่กำลังหยิบถาดขนมหม้อแกงใส่จานกำลังสั่น


... แม้ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง
แต่บางทีเขาอาจจะรู้เหตุผลที่เกมส์พยายามหนีเขาแล้วก็ได้



“เกมส์หึงผมเหรอครับ”



ข้อสันนิษฐานลอย ๆ หากมันมีอานุภาพมากพอให้คนฟังสะดุ้ง
เกือบทำขนมหลุดมือ ก่อนรีบเถียงกลับเสียงดัง


“อะไรใครหึง! ไม่ได้หึงสักหน่อย!!”


“แล้วทำไมเกมส์ถึงไม่ยอมมองหน้าผมล่ะครับ”


ความจริงที่หล่นลงกลางวงสนทนาส่งผลให้ทุกอย่างนิ่งเงียบ
เกมส์เม้มปากเบือนหน้าหนีไปอีกทางเมื่อถูกจับได้
ปล่อยให้ดิวมองด้วยความอ่อนใจ ก่อนเอื้อมมือมาจับมือเขาไว้เบา ๆ


“เกมส์ ผมไม่ได้มีคนอื่นจริง ๆ นะครับ
คนที่ผมชอบมีแค่เกมส์คนเดียว
เกมส์เชื่อใจผมหน่อยไม่ได้เหรอครับ”


น้ำเสียงวอนขอเต็มไปด้วยความน้อยใจจนเกมส์สัมผัสได้
กระทั้งต้องเผลอคิดทบทวนถามตัวเอง


...หึงมั้ยไม่รู้หรอก
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีบางสิ่งที่ยังคงค้างคาอยู่ในใจ


ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับดิวอยู่ในสถานะอะไร
เขาไม่เคยคิดจะค้นหา และไม่อยากได้คำตอบ
แค่รู้ว่าอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจ อุ่นใจ
ยังโทรคุยกันเกือบทุกวัน ส่งข้อความหากันบ่อย ๆ
มีบางทีที่ดิวส่งคำหวาน ๆ มาให้
แต่ก็ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งเกินเลยไปมากกว่านั้น

 
ความจริงเรื่องดิวกับผู้หญิงคนอื่นมันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเขาเลย
แต่ก็ยังรู้สึกหงุดหงิดแปลก ๆ ขึ้นมา
พยายามบอกตัวเองว่าดิวเป็นคนมนุษย์สัมพันธ์ดี และนั่นก็เป็นหน้าที่
อีกทั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ดิวก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าดิวไม่เคยมีใครเลยยกเว้นแค่เขา
กระนั้นลึก ๆ ในใจมันก็อดสับสนไม่ได้


ความเงียบที่ยังคงโรยตัวลงมาปกคลุม
คล้ายนาทียาวนานของคงเฝ้ารอ
ในที่สุดดิวจึงถอนหายใจ ละมือที่กุมอยู่ออก
หมุนตัวหันหลังเดินออกไปคล้ายยอมแพ้
ทิ้งให้เกมส์อยู่เพียงลำพังภายในห้อง


...แค่เพียงความอุ่นไอจากมือที่จางหาย
กลับทำให้เกมส์ต้องรีบเงยหน้าด้วยความนึกหวั่น
มันยิ่งย้ำชัดให้เห็นถึงความกลัว

นี่แหละคือความสับสนที่ว่า...


...ไม่ใช่เพราะเขาหึง

แต่เขากำลังกลัว...


...กลัวว่าดิวกำลังจะห่างจากเขาไป

....และเขาอาจทนอยู่คนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มีดิว


เขารู้ว่าสามปีที่ดิวรอมันอาจจะเหนื่อย อาจจะท้อ
กับการพยายามทำทุกทางให้เขาเปิดใจ
แต่ถึงอย่างนั้นดิวก็ยังเป็นห่วง คอยดูแลเขาไม่ห่าง


...แล้วกับใจของดิวเอง เขาก็ควรจะหันกลับไปมองมันบ้าง

...ไม่ใช่ปล่อยทิ้งขว้าง ให้ดิวต้องเป็นฝ่ายไล่ตามเพียงลำพัง



เกมส์จึงตัดสินใจรีบลุกออกไปตามอีกฝ่าย
หากยังไม่ทันก้าว ร่างที่เพิ่งออกไปกลับสวนเข้ามาจนแทบเบรกเท้าไม่ทัน


"เออ...คือ..."


คนประจันหน้าเอ่ยตะกุกตะกัก
ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่หลบทาง
ซ้ำยังหยิบของบางอย่างนำมันมายื่นให้
พร้อมกับเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคง


“ถึงเกมส์จะไม่เชื่อผมก็ไม่เป็นไรครับ
แต่ผมอยากให้เกมส์รับมันไว้
สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะครับเกมส์”


...ช่อจูปาจุ๊บสีขาวถูกส่งมาให้
ของขวัญวันวาเลนไทน์เช่นเดียวกับทุกปีที่เคยได้รับ
และมักจะมีการ์ดใบเล็กเขียนข้อความมาให้ด้วยเสมอ


เกมส์ก้มลงอ่านข้อความนั้น
ข้อความภาษาอังกฤษเขียนด้วยลายมือ
แต่มีอานุภาพพอไล่ความกลัวก่อนหน้านั้นให้ปลิวหาย
และถูกแทนทีด้วยความสั่นไหวในใจ...



‘No matter how long it takes
I will love you forever and ever’



...ไม่ว่าจะนานเท่าไร ก็จะขอรักตลอดไป



คำยืนยันอย่างไม่ยอมแพ้
ทลายความสับสนทั้งหมดในหัวใจ
และมันเป็นเหมือนข้อพิสูจน์ว่า
ดิวยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ห่างไปไหน


...ดิวยังรอให้เขาเข้าไปใกล้เสมอ



“ขอโทษนะ ที่ไม่ได้โทรหา”


เกมส์ก้มหน้าบอกเสียงแผ่วอย่างสำนึกผิด
เพราะความงี่เง่าของตัวเองแท้ ๆ เลยทำให้ดิวต้องวุ่นวายใจ
หากแต่ร่างสูงกลับส่ายศีรษะปฏิเสธ


“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ
แต่ถ้าอยากให้ผมยกโทษ
คืนนี้ให้ผมนอนค้างที่ห้องเกมส์ได้มั้ยครับ”


ท้ายประโยคเริ่มสะกิดใจคนฟังให้ต้องเงยหน้าสบตา
และก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นว่าจากแววตาออดอ้อน
กลับเริ่มฉายแววระยับกรุ้มกริ่มของหมาป่าเจ้าเล่ห์

เดี๋ยวนะ...แค่อ่อนข้อให้หน่อยอยู่ดี ๆ ทำไมเปลี่ยนท่าทีเร็วจังวะ
แล้วไอ้มือที่ค่อย ๆ เอื้อมมาโอบหลังเขานี่มันหมายความว่ายังไง


“จะ...จะมานอนห้องเราทำไม ห้องรับแขกก็มี”


เกมส์รีบปฏิเสธเสียงตะกุกตะกัก
พยายามใช้ช่อจูปาจุ๊บขวางกั้นระยะห่างเอาไว้
เมื่ออีกฝ่ายยังคงขยับเข้าใกล้พร้อมกับยืนยันเหตุผล


“ไม่เอาครับผมไม่อยากนอนคนเดียว ผมกลัว”


“จะบ้าเหรอไง โตขนาดนี้ยังจะกลัวอยู่อีก”


“กลัวสิครับ ผมกลัวทุกวัน”


“กลัวอะไร”


“กลัวเกมส์จะไม่รัก”


คำสารภาพที่ได้ยินสะท้อนก้องในใจคนฟัง
แม้คำพูดจะคล้ายฟังแกล้งเล่น
แต่ทั้งน้ำเสียงและแววตามันมีเพียงความจริงใจที่สัมผัสได้อย่างชัดเจน


...สำหรับดิว มันคือความกลัวที่ยังคงซ่อนอยู่ไม่จางหาย

ต่อให้พยายามมาหลายปีแค่ไหน
มันก็มีบางครั้งที่เขากลัวว่าเกมส์จะเบื่อกัน
ยิ่งเกมส์หนีหายไป ไม่ยอมพูดคุยกับเขาก็ยิ่งทรมาน
ถึงเกมส์จะมีท่าทีเหมือนยอมมีใจให้
แต่ลึก ๆ เขาก็ยังไม่แน่ใจว่า
ระยะห่างระหว่างเขากับเกมส์มันยังเหลืออีกมากแค่ไหน


...สามเมตรเมื่อสามปีที่แล้ว

...มาตอนนี้มันจะใกล้มากขึ้น หรือ ห่างไกลออกไปเท่าเดิม


ดิวมองคนคนเดียวที่สามารถให้คำตอบเข้าได้
ซึ่งอีกฝ่ายยังคงก้มหน้าเงียบ ๆ
แล้วจึงขยับลดมือที่ถือจูปาจุ๊บขวางเอาไว้ออก


และก่อนจะทันรู้ตัว...

สัมผัสแผ่วเบาจากริมฝีปากคนตรงข้ามก็แตะลงมาที่ริมฝีปากเขา
ความนุ่มหวานประทับตราตรึงอยู่อย่างนั้นเพียงชั่วครู่
แล้วรีบผละออกพร้อมคำอธิบาย



“นี่ยารักษาให้หาย จะได้เลิกกลัวสักที”



ดิวนิ่งอึ้ง สมองทบทวนความมึนงงต่อเหตุการณ์เมื่อครู่


...เมื่อกี๊ เกมส์ ‘จูบ’ เขาเหรอ

แล้วที่บอกว่าเป็นยารักษาให้หายกลัว

คือรักษา ‘โรคที่เขากลัวเกมส์ไม่รัก' ใช่มั้ย


ถ้างั้นก็หมายความว่า...



“ไปล่ะ”


เกมส์รีบดันร่างสูงออกห่าง
เดินหมุนตัวหิ้วช่อจูปาจุ๊บเร่งหนีไปอีกทาง
ทิ้งให้คนที่เพิ่งเข้าใจอะไร ๆ ต้องรีบเอ่ยรั้งตามหลัง


“เดี๋ยวสิครับเกมส์ ผมยังไม่หายดีเลย ขออีกรอบได้มั้ย”


คนถูกขอหยุดชะงัก ก่อนหันใบหน้าแดงแปร๊ดมาตะโกนโวยวายดังลั่น



"ฮักษาฮื้อวันล่ะเตื่อ ไค้ได้ฮื้อมาขอแหมวันพู้ก!!”



พูดจบ เกมส์ก็เดินหนีไปให้ดิวแปลความหมายอยู่ในใจ
จนต้องเผลอหัวเราะเบา ๆ กับความ ‘น่าฮัก’ ของใครบางคน

...รักษาแค่วันละที อยากได้ให้มาขอใหม่วันพรุ่งนี้

...ได้ครับเกมส์ ผมจะขอให้เกมส์รักษาทุกวันจนกว่าจะหายเลย




...ต่อจากนี้ ไม่ต้องถามแล้วว่าระยะทางระหว่างหัวใจของเขากับเกมส์เหลือแค่ไหน

บางทีมันอาจจะอยู่ใกล้จนมีเพียงแค่ช่อจูปาจุ๊บหวาน ๆ ขวางไว้เท่านั้นก็ได้

ซึ่งเขาเชื่อว่าอีกไม่นานมันคงละลายหายไปในเร็ววัน


...เพื่อให้หัวใจสองดวงได้สัมผัสถึงกันและกันอย่างแน่นอน




----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



END





...จัดภาคพิเศษของดิวเกมส์มาให้แล้วจ้า!!  :oni1:
เป็นเรื่องสามปีต่อมาของทั้งดิวและเกมส์ที่ดูเหมือนจะไม่คืบหน้าไปไหน (ฮา)
แต่เอาน่า...แค่จุ๊บ ๆ ก็พอน่าฮักกรุบกริบ
อย่างน้อยโรคกลัวของทั้งคู่ก็ต่างคนต่างช่วยกันรักษาให้จนหายแล้วเนอะ

ส่วนใครหวังฉาก NC อยู่ ต้องขออภัย เพราะออกตัวก่อนเลยว่าไม่ถนัด (เหรอ?)
เรายังคงคอนเซปต์ซีรีย์ใส ๆ ปลอดภัยไร้มลพิษ เน้นอินดี้ แปลก และฮา

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

BitterSweet



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 29/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 28-04-2013 14:14:44
วันนี้วันที่ 28 นะคะ >w<!!!

“เกมส์! จะไป๋ไส! บ่ต้องเลย
ทำตัวฮื้อเป๋นประโยชน์บ้าง
มาช่วยดิวยกของหน้อย”

คนเหนือไม่พูดว่า "ไปไส?" นะคะ นั่นภาษาอีสานค่ะ >w<
คนเหนือก็ใช้คำว่า "ไปไหน?" เหมือนคนภาคกลางนั่นแหละค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 29/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 28-04-2013 14:40:16
วันนี้วันที่ 28 นะคะ >w<!!!

“เกมส์! จะไป๋ไส! บ่ต้องเลย
ทำตัวฮื้อเป๋นประโยชน์บ้าง
มาช่วยดิวยกของหน้อย”

คนเหนือไม่พูดว่า "ไปไส?" นะคะ นั่นภาษาอีสานค่ะ >w<
คนเหนือก็ใช้คำว่า "ไปไหน?" เหมือนคนภาคกลางนั่นแหละค่ะ


แก้เรียบร้อยแล้วค่ะ วันนี้เบลอ ๆ  วันที่ยังผิดคิดดู  o7

ขอบคุณมากนะคะ

BitterSweet

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: pizza2011 ที่ 28-04-2013 14:49:43
อั๋ยย่ะ :-[  เราก็อยากได้ยารักษาจากนายซีเกมส์นะ :impress2: งุงิ
เขินแทนดิว 3ปีฮิ้ววววววว  o13 รักนี้ขอให้มั่นคง 55+
ปล.ตอนนี้ทำเราเจ็บตัว เขินจนหัวกระแทกโต๊ะ 55+
ปล.2 ตามไปอ่านซีรีย์เก่าดีกว่า :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 28-04-2013 15:21:07
นายดิวกลายเป็นดาราไปซะแล้ว แต่ทำตัวน่ารักขึ้นนะ
อยากอ่านต่ออ่ะ ความรักของเค้ายังจัดได้อีกเยอะ เสียดายจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 28-04-2013 16:35:36
มาแล้วน้องร้านอาหารตามสั่ง เด็กคนนั้นน่ารักนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 28-04-2013 16:42:41
แอร๊ยยยยย เกมส์ใจอ่อนเหอะ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 28-04-2013 17:13:12
ฮิ้วววววววว ยารักษาของเกมส์ ดีชะมัดเลย  :mew1:

หวานซะน่ารักเชียว

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 28-04-2013 17:34:38
กรี๊ดดดดด น่าฮักแต้ๆ
สามปีได้หนึ่งจุ๊บ
แล้ว NC ต้องรอกี่ปีเนี่ยยย ฮาา

เรื่องใหม่ ชื่อน่ากินมาก น้องคูณๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 28-04-2013 17:49:28
น่ารัก
แต่สามปีนานไปไหม สองปีก็นานแระ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 28-04-2013 17:54:25
เกมส์กับดิว ใสใส จริงๆ   :laugh:

รอ น้องคูณ ต่อไป 

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะคุณนักเขียน

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 28-04-2013 18:14:34
อรั๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆ เกมส์ชนะเลิศค่าาาาาาาาาาาา ตอนพิเศษหวานมากกกกกกกก

ขอบคุณคนเขียนมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-04-2013 18:22:43
น่ารัก ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-04-2013 18:46:01
ฮิ้วนู๋เกมส์ :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 28-04-2013 18:55:55
 :-[
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 28-04-2013 19:15:44
สามปี... สามปีนี่นานกว่าของน้องคมกับน้องปลายอีกนะเนี่ย
ดิวเก่งหงะ รอมาได้ตั้งสามปีแหนะ จากสามเมตรจนกลายเป็นศุนย์เมตร

สู้ๆ อีกนิดนะดิวนะ  ฮี่ๆๆ

ไม่ได้ยินภาษาเหนือมาหลายปีแล้ว คิดถึงจังเลย
เราชอบนะเวลาเพื่อนๆ พูดภาษาเหนือกัน คือเราพูดไม่ได้ แต่อยากพูดได้
เราว่าภาษาเหนือมันน่ารักดี ชอบจังเลย



รออ่านน้องคูณนะ เราจำได้ ไม่ลืมแน่นอน ฮี่ๆๆ


เกมส์นี่กล้าแกร่งมากขึ้นนะ มีจุ๊บด้วยอะ
ถ้าเป็นเมื่อสามปีก่อน เกมส์คงขาแข้งสั่น ตาลายเป็นลมอีกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-04-2013 19:21:27
ยารักษากลัวเกมส์ไม่รัก นี่ถูกใจดิวเป็นที่สุด  และดิวก็เสมอต้นเสมอปลายมากขนาดผ่านไป 3 ปี วาเลนไทน์ก็ยังให้จูปาจุ๊บเหมือนเดิม :katai3:

รออ่านน้องคูณต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 >; P.90
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 28-04-2013 19:26:59
แค่จุ๊บก็เริ่ดสุดละ    รอภาคใหม่น้องคูณซะด้วย!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 28-04-2013 19:33:46
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
สามปี คืออยากจะบอกว่าดิวมั่นคงมาก !!!!!!!!!!!!!!!!!
ในที่สุด หัวใจก็ใกล้กันสักที
โอ้ยยยย หวานนนนนนน
มีการจุ๊บรักษาวันละครั้งด้วย แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 28-04-2013 21:01:29
 o13 สุดยอดดดดดดมากเลยค่ะ แหม เขินแทน หวานไปอ่ะ อิจฉาาาา555 :-[

สนุกมากค่ะ รอเรื่องต่อไป :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 28-04-2013 21:40:47
น่ารักจังค่าาาาาาาา

อยากอ่านตอนพิเศษอีก แต่แหม ดิวไปเป็นดารา อาชีพนี้เสี่ยงต่อการมีหญิงเข้าหาฝุดๆ!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 28-04-2013 22:13:58
น่าฮักมากกก

สามปีได้หนึ่งจุ๊บ  นับถือนายดิวมากมาย

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: BBnuna ที่ 28-04-2013 22:23:10
คนถูกขอหยุดชะงัก ก่อนหันใบหน้าแดงแปร๊ดมาตะโกนโวยวายดังลั่น



“ฮักษาแค่วันละที อยากได้ฮื้อมาขอใหม๋วันพรุ่ง!!”


                             ฮักษาฮื้อวันล่ะเตื่อ ไค้ได้ฮื้อมาขอแหมวันพู้ก.       

คือคำเมืองไม่มีคำว่าวันพรุ่งค่ะ วันพรุ่งนี้คือวันพู้ก

ปล.รอน้องคูณน่ะค่ะ เป็นพ่อสื่อมานานได้มีเรื่องของตัวเองสักที
ปล.อยากให้มีตอนพิเศษที่ทุกคนมาเจอกันจัง อิอิ


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 28-04-2013 23:17:46
จุ๊ฟรักษาโรคงั้นหรอ 55555 น่ารักจัง ดิวได้ใจไปเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 29-04-2013 02:07:33
ดิวเกมส์
คู่นี้หวานแบบน่ารักๆจริงๆนะ
อบอุ่น ใสๆ
ชอบมากกก

รอติดตามภาคต่อไปค่าา
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 29-04-2013 06:24:27
คนถูกขอหยุดชะงัก ก่อนหันใบหน้าแดงแปร๊ดมาตะโกนโวยวายดังลั่น

“ฮักษาแค่วันละที อยากได้ฮื้อมาขอใหม๋วันพรุ่ง!!”


                             ฮักษาฮื้อวันล่ะเตื่อ ไค้ได้ฮื้อมาขอแหมวันพู้ก.       

คือคำเมืองไม่มีคำว่าวันพรุ่งค่ะ วันพรุ่งนี้คือวันพู้ก

ปล.รอน้องคูณน่ะค่ะ เป็นพ่อสื่อมานานได้มีเรื่องของตัวเองสักที
ปล.อยากให้มีตอนพิเศษที่ทุกคนมาเจอกันจัง อิอิ


แก้แล้วจ้า ความจริงไม่ค่อยถนัดคำเมือง เลยต้องปนภาษากลางไปบ้าง
กลัวทั้งคนเขียนคนอ่านแปลกันไม่ออก ฮ่าๆๆ
แต่ภาษาเหนือแท้ ๆ ที่พูดกันแล้วก็เพราะจริง ๆ นะคะ ชอบ

ขอบคุณตี๊จ่วยเน้อเจ้า  :กอด1:



หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-04-2013 06:36:34
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 29-04-2013 07:00:11
รอนะครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 29-04-2013 11:12:04
ตอนพิเศษน่ารักมากกกกกกก ขอบคุณนะค้าบบบบ

...แต่พออ่านชื่อตอนใหม่แล้วถึงกับหัวเราะก๊ากออกมา ก็เพราะ \"มะระยัดไส้ กับไข่ลูกเขย\" เนี่ย ... เป็นเมนูที่กินเกือบทุกวัน จนจะเบื่อแล้ว ... ต่อไปถ้าได้กินอีกคงจะนึงถึงเรื่องนี้แน่นอน...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-04-2013 13:36:31
ดิวยังมั่นคงกับเกมส์ 3ปีแล้วได้แค่นี้ก็ยังดีเกมส์ยอมรับดิวแล้วถึงได้จุ๊บดิวก่อน น่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 29-04-2013 13:51:49
ดิวความอดทนสูงเนอะ 3ปีได้แค่จุ๊บ55555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 29-04-2013 14:27:46
เห็นในความตั้งใจของดิว รอมาตั้ง 3 ปี ในที่สุดก็ได้ใจเกมส์ไปแล้ว
ไว้วันต่อไปค่อยมารักษาใหม่ อย่างนี้สงสัยต้องมารักษาทุกวันซะแล้วใช่ไหมดิว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: thepopper ที่ 29-04-2013 15:24:08
กรี๊ดดดดดดด มดขึ้นนนน แอร๊ย อ่านละเขินแทนเกมส์สุดๆ -/////////////////-
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 30-04-2013 18:39:24
มารอกิน 'ไข่'เด็ก ครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 30-04-2013 19:49:55
ตอนพิเศษน่ารักมากๆๆ

รอน้องคูณคะ


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 02-05-2013 11:36:43
จบได้น่ารักมากอ่ะ

รอคู่ต่อไปจ้า

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ] 28/04/56 > P.90
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 02-05-2013 13:55:49
อ๊ากกก!!! ตอนพิเศษทำเราเขิลมากเลย ดูน่ารักใสๆ  กรุบกริบๆดี  555555
ปล.เราจำน้องคูณได้ดีเป็นพ่อสื่อในเรื่องน้ำเต้าหู้กับคาเฟอีนไง คริคริ ชูป้ายไฟ > <
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 02-05-2013 23:21:46
ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต



แท่งพิเศษ 2



แกงฮังเล แกงโฮ๊ะ แกงแค ลาบคั่ว ผักกาดจอ
ไส้อั่ว น้ำพริกอ่อง แคบหมู ปิดท้ายด้วยข้าวนึ่งร้อน ๆ


อาหารมาตรฐานของคนเหนือที่นายซีเกมส์กินมาแต่ละอ่อน
ถึงอย่างนั้นก็ยังน้ำลายหกทุกครั้งเมื่อเห็นกับข้าววางอยู่บนโต๊ะละลานตา
ยิ่งได้ยอดฝีมือจากคุณนายสายสมรคุณแม่บังเกิดเกล้าที่นาน ๆ จะเข้าครัวมาจัดให้ชุดใหญ่
ก็การันตีรสชาติได้เลยว่าอาหารมื้อนี้เป็นลาภปากของไอ้เกมส์ยิ่งนัก


ยกเว้นเพียงแต่มีมารผจญมาบดบังบุญของเขาเพียงคนเดียว...



“ดิว กิ๋นข้าวแลงเยอะ ๆ เน้อลูก แม่ยะสุดฝีมือ ลำขนาดบ่ต้องห่วง”


แม่ครัวใหญ่ตักไส้อั่วแฮนด์เมดทำเองร้อน ๆ มาวางบนจานของหนุ่มหล่อ
ซึ่งระบายยิ้มก่อนเอ่ยขอบคุณอย่างเกรงใจ


“แค่มองก็รู้แล้วครับว่าต้องอร่อย
อยู่ที่กรุงเทพผมหาอาหารเหนือทานยากมากเลยครับ
เพราะทานที่ไหนก็ไม่ติดใจเท่าฝีมือคุณแม่ทำ”


โอยยย...หวานเว้ย! หวานนนน!!
กับข้าวเมืองเหนือส่วนใหญ่รสเค็ม ๆ แต่ทำไมวันนี้มันถึงหวานได้วะ


ยิ่งมองคนถูกชมหัวเราะดีใจคิกคักก็ยิ่งหงุดหงิด
ทั้งพ่อเองก็ร่วมผสมโรงคุยกันหน้าชื่นตาบาน
ดีที่ไม่มีไอ้กาวน์มาด้วยกันอีกคนเพราะมันยังอยู่หอพักมหาลัย
ไม่งั้นบ้านนี้คงลืมไปแล้วมั้งว่ามีลูกชายชื่อ ‘ซีเกมส์’ นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้


แล้วไอ้แขกไม่ได้รับเชิญนี่ก็ทำเนียนเลยนะ กินไปชมไปไม่หยุด
นี่ตกลงกินข้าวเย็นธรรมดาหรือจะมาออกรายการดาราชวนชิมกันแน่ครับ

...แม่งเห็นแล้วหมั่นไส้โว้ยยย!!


คนถูกทิ้งให้อยู่นอกวงสนทนากระแทกกระติ๊บข้าวเหนียวเปิดออกระบายอารมณ์
ลงกับใครไม่ได้ก็ลงกระเพาะตัวเองเนี่ยแหละ
มือหนึ่งถือผักอีกมือหยิบข้าวเหนียวจิ้มน้ำพริกกินแกล้มไป
ทำเป็นเมินไม่สนใจประโยคบทสนทนาที่กำลังเปลี่ยนเรื่อง
หากแต่ถ้อยคำจากคนเป็นแม่กลับทำให้สะดุด


“ดิวจำที่แม่ขอวันเกิดดิวได้ก้อ? นี่แม่ไป๋ดูดวงมาฮื้อแล้วเน้อ”


...เอาแล้วไง เทพธิดาพญากรณ์เริ่มทำงานแล้ว
นี่ดูให้ญาติพี่น้องไม่พอ ลามเลยไปดูดวงให้ดิวด้วยเหรอเนี่ย


เกมส์รีบกลืนข้าวเหนียวลงคอ พยายามเอ่ยคัดค้าน
เพราะกับคนในครอบครัวไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่กับคนอื่นเดี๋ยวเขาจะหาว่าฟุ้งซ่านเอาได้ง่าย ๆ


“แม่บ่ต้องอู้หรอกเจ้า ดิวเปิ้ลบ่เจื่อเรื่องจะอี้”


“เงียบไป๋เกมส์! ดวงก็บ่ไจ้ดวงเกมส์
เฮื้องนี้สำคัญ ยังไงก็ต้องอู้ฮื้อดิวฟัง”


...อ้าว โดนดุอีก

ใช่ซี๊...เขาเป็นหมาหัวเน่าแล้วนี่
พอคุณนายมีลูกรักเป็นดาราหล่อเขาก็ถูกเขี่ยทิ้งทันที
ได้ใหม่แล้วลืมเก่าแบบนี้ อยู่เงียบ ๆ เหมือนเดิมก็ได้ว่ะ


เกมส์จึงหันไปหยิบแก้วยกน้ำดื่มล้างปาก
เตรียมลุยระบายอารมณ์กับของกินอีกรอบ
ปล่อยบทสนทนาของอีกคนซึ่งเอ่ยถามลอยผ่านหู


“แล้วหมอเขาว่ายังไงบ้างครับ”


“หมอเปิ้ลตั๊กว่า ปลายปีนี้ดิวจะได้แต่งงานกั๊บคนตี๊ดิวฮัก”



พรวดดดด!!!



น้ำดื่มพุ่งย้อนศรทันทีที่จบประโยค
เกมส์ไอค่อกแค่กจนตัวโยน
ลำบากดิวซึ่งนั่งข้าง ๆ ต้องยกมือลูกหลังคนสำลักน้ำ
โดยมีเสียงบ่นของคุณนายสายสมรเป็นแบล็กกราวด์


“เกมส์ยะอะหยัง ทำตัวบ่สุภาพเลย
กิ๋นช้า ๆ บ่ต้องรีบ กับข้าวปะเลอะปะเต๋อ”


คนโดนดุหอบหายใจเหนื่อย
หลังจากเริ่มสงบลงจากอาการไอ
แต่ไอ้ที่เขาสำลักน่ะไม่ใช่เพราะว่าตะกละสักหน่อย


“บ่ไจ้เฮื้องนั่นเจ้า เกมส์บอกฮื้อแม่ฟังแล้วว่าบ่ต้องเจื้อดวง
หมอเปิ้ลตั๊กอะหยังบ่แม่น ฟังไป๋บะเดี๋ยวเก็บไป๋คิ๊ดหนัก”


“แต๊ก๊ะ? เกมส์ฮู้ได้จะใดว่าหมอตั๊กบ่แม่น
แม่ดูเปิ้ลมาหลายปี เปิ้ลอู้จะใดบ่มีพลาด
ดิวก็ฟังฮื้อไว้เน้อ หมอเปิ้ลตั๊กว่าปลายปีจะมีฤกษ์
แล้วนี่ดิวมีคนตี๊ฮักแล้วไจ้ก้อ?”


ท้ายประโยคเจ้าตัวหันไปถามร่างสูง
ซึ่งอีกฝ่ายก็เพียงแค่แย้มยิ้ม
แอบสบตามาหาคนข้างตัวก่อนตอบสั้น ๆ


“มีแล้วครับ”


“เห็นก้อ ถ้ามีแล้วก็แสดงว่าหมอเปิ้ลแม่นแต๊
เกมส์บ่ต้องเถียง ไว้ดิวแต่งเมื่อใดก็จะฮู้เอง”


...เออ...ไม่เถียงก็ได้ครับ
แต่แม่จะรู้มั้ยว่าเผลอ ๆ แม่อาจมีงานแต่งเข้าบ้านปลายปีนี้เหมือนกัน
ก็ไอ้คนที่ดิวบอกรักได้ทุกวี่ทุกวัน
มันก็คือคนเดียวกับลูกชายแม่ที่นั่งเงียบอยู่ตรงนี้ไงคร้าบบ!!


ละ...แล้วนี่ดิวมันจะส่งสายตาวิวับมาทำไมบ่อย ๆ ว่ะ
จะกินก็กินไปสิ เขาไม่ใช่น้ำพริกนะเว้ยมามองไปแล้วกินแกล้มคู่กับผักเนี่ย
มองไม่พอแถมยิ้มอีกต่างหาก แม่ใส่ยาอะไรลงไปในแกงฮังเลหรือเปล่า
เพราะมือเขาชักจะสั่น ๆ คล้ายโดนวางยาเหมือนกัน

...ไม่เอาแล้ว เลิกกินก็ได้วะ
ก่อนที่เขาจะหมดแรงลุกไม่ขึ้นไปมากกว่านี้


คนอิ่มกะทันหันคว้าจานจากเตรียมลุกออกจากโต๊ะ
ทว่าเสียงดุ ๆ ของคุณนายแม่กลับเรียกให้หยุดเท้าลงทันควัน


“จะไป๋ไหนเกมส์ กิ๋นนิดเดียว อิ่มแล้วก๋า?”


“เออ...เกมส์...เกมส์ไดเอทอยู่เจ้า”


หาเหตุผลส่ง ๆ ตอบเพียงแค่นั้นแล้ววิ่งฉิวหันหลังไปทันที
ทิ้งให้คนมองต้องส่ายศีรษะอย่างระอากับความเสียมารยาท


“บ่ไหวจริง ๆ ฮูกคนนี้ ตามใจ๋จนเคยตั๋ว ดิวบ่ต้องถือสาเน้อลูก”


“ครับ คุณแม่”


ร่างสูงตอบกลับอย่างไม่คิดมาก
เพราะเขาชินแล้วกับการที่เกมส์ชอบหนีเขาไปอยู่เรื่อย
และวิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ คือแค่วิ่งตามเกมส์เท่านั้น


...จริงอยู่ที่เขาปล่อยให้เกมส์เป็นฝ่ายเข้ามาใกล้ด้วยตัวเอง
แต่บางครั้งต้องยอมรับว่าจะการยืนรออยู่เฉย ๆ อย่างเดียวมันเสียเวลา
ดังนั้น ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลเข้าแลก
เดี๋ยวจะไม่ทันแต่งกับคนที่รักตอนปลายปีเหมือนหมอทัก
เลยต้องเตรียมแผนการไว้รอรับแต่เนิ่น ๆ ซะก่อน


คนเจ้าเล่ห์ยิ้มละไมก่อนหันไปสนใจกับอาหารเมืองเหนือต่อ
ทว่าภายในหัวกลับครุ่นคิดคำนึงถึงใครบางคนอยู่ตลอดเวลา


....


..


.


ห้าทุ่มครึ่ง


เกมส์เดินออกมาจากห้องน้ำหลังเพิ่งขุดตัวเองออกจากกองหนังสือการ์ตูน
แล้วไปอาบน้ำชำระความเน่ามาหมาด ๆ
รู้สึกว่ากระเพาะชักเริ่มร้องครวญครางอยู่หน่อย ๆ
เพราะมื้อเย็นดันกินไปนิดเดียว
ความจริงเขาไม่น่าชิ่งหนีมาเลย แต่จะให้ไม่หนีได้ยังไง
ก็เพราะสายตาของอีกคนมันทำให้เขาต้องแพ้ทางทุกที


...ไม่ใช่รู้สึกกลัว
แต่เป็นอาการแปลก ๆ ที่บอกไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร
รู้แค่เพียงเขาคงไม่สามารถทนอยู่ใกล้ดิวได้นาน
เลยต้องตัดสินใจเป็นฝ่ายออกห่าง
แล้วขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้า


กระนั้นเสียงท้องซึ่งร้องประท้วงก็ไม่ยอมหยุดง่าย ๆ
ถึงจะพยายามหลบเท่าไร ทว่าสุดท้ายก็ต้องจำใจโผล่หัวออกมาจากในห้อง
เขาเมียงมองสำรวจให้แน่ใจว่าไม่มีใครมาเผ่นพล่าน
ก่อนจะเดินฝ่าความมืดออกมาทางห้องครัว ลงมือเปิดตู้เย็น คุ้ยหาอะไรกินแก้หิว


...โห...พอดีเลย มีไส้กรอกซีพีกับนมอีกกล่องหนึ่ง
เวฟไส้กรอกกินไปก่อนคงพอยังชีพได้
นี่ถ้าไม่เกรงใจกะต้มมาม่าไปแล้ว
เอ๊ะ...หรือจะจัดมาม่าคัพดีว่ะ เสียบปลั๊กน้ำร้อนก็ใช้ได้เลย
แล้วถ้วยมาม่ามันอยู่ไหนนะ...


“เกมส์ครับ”


“เฮ้ย!”


เสียงทักทำเอาคนเปิดตู้หาของกินถึงกับสะดุ้งเฮือก
รีบหมุนตัวกลับมามองคนเรียก
ก่อนถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อพบว่าเป็นคนคุ้นเคย


“มาเงียบ ๆ ตกใจหมด เออ...ละ...แล้วทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ”


ท้ายประโยคเสียงเริ่มแกว่ง
เพราะพอหายตกใจถึงได้รู้ชัดว่า
ตอนนี้เขากำลังประจันหน้ากับที่พยายามหนีมาทั้งวัน
หากอีกคนกลับตอบคำมาด้วยน้ำเสียงติดจะล้า ๆ


“พอดีผมนอนไม่ค่อยหลับน่ะครับ ปวดหัวนิดหน่อย”


“อ้าว แล้วเป็นอะไรมากมั้ย?”


เกมส์เปลี่ยนอาการประหม่าเป็นเสียงถามด้วยความห่วง
...ยังไงเขาก็ไม่ลืมว่าดิวเป็นแขก
และเจ้าของบ้านอย่างเขาต้องมีหน้าที่ดูแลให้ดี
ซึ่งร่างสูงก็สันนิษฐานอาการตัวเองไปอย่างง่าย ๆ


“คงเหนื่อยล่ะมั้งครับ ช่วงนี้งานเยอะ แต่เดี๋ยวก็หาย”


ถ้อยคำพูดคล้ายบ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่เป็นไร
แต่จิตวิญญาณคนเรียนเภสัชพอฟังแล้วกลับรู้สึกพลุ่งพล่าน
เขาจะให้ทิ้งคนไข้แบบนี้ไว้ได้ยังไง


“งั้นเอาพาราสักเม็ดมั้ย อยู่ในห้องเรา เดี๋ยวไปหยิบมาให้”


“ได้ก็ดีครับ ขอบคุณครับเกมส์”


เมื่อคนไข้ต้องการ เขาเลยต้องวางมือจากการหาของกิน
ด้วยอุดมการณ์มุ่งมั่นว่าการรักษาคนป่วยย่อมมาก่อน


เกมส์จึงเดินกลับห้องตัวเองโดยมีใครอีกคนตามหลังมาด้วย
เขาเปิดประตูเข้าไปภายในห้องเรียบ ๆ
ซึ่งมุมหนึ่งอุทิศให้เป็นชั้นหนังสือการ์ตูน
ที่เหลือก็เป็นโต๊ะ ตู้ เตียง ห้องน้ำในตัว
ส่วนยาพาราเขาเก็บรวมไว้กับกล่องยาสามัญในเก๊ะข้างหัวเตียง


“อ่ะ...เจอแล้ว ดิวกินสักสองเม็ดล่ะกันจะได้หาย”


เขายื่นแผงยามาให้อีกฝ่าย
หากทว่าเจ้าตัวกลับส่ายหน้าปฏิเสธ


“ผมว่ากินแล้วคงไม่หายหรอกครับ”


เกมส์ขมวดคิ้วงงในคำตอบ

...ไหนว่าปวดหัวไง แล้วทำไมถึงกันแล้วไม่หาย
หรือว่าดิวไม่ถูกกับยาประเภทนี้


“ทำไมล่ะ หรือว่าดิวแพ้ยาเหรอ”


ความสงสัยในใจถูกกลั่นเป็นคำถาม
หากดิวกลับแย้มรอยยิ้มบาง


“เปล่าครับ เพราะผมว่าทำแบบนี้น่าจะหายมากกว่า”


จบคำ เจ้าตัวก็ดึงมือคนเผลอรวบไว้โดยไม่ทันตั้งตัว
แรงนั้นรั่งร่างให้ปะทะกับอกกว้างแล้วใช้แขนโอบเขาไว้
จนกลายเป็นว่าตอนนี้เขาตกอยู่ในอ้อมกอดดิวอย่างสมบูรณ์


...เฮ้ย! ได้ไงว่ะ เล่นทีเผลอแบบนี้
แสดงว่าที่ปวดหัวก็พูดโกหกอีกแล้วน่ะสิ
เขาลืมไปได้ยังไงนะว่าดิวมันเป็นคนเจ้าเล่ห์ชอบหลอกลวงอยู่เรื่อย
แต่เขาก็ยังเผลอตกลงไปในหลุมพรางนั่นทุกที


คนติดกับจึงพยายามดิ้นตะกุกตะกักปากก็ร้องโวยวายเสียงดัง


“ปล่อยนะโว้ยยย! ที่บอกปวดหัวโกหกใช่มั้ย
เราก็อุตส่าห์เป็นห่วง ไม่ต้องมายุ่งกับเราเลยนะเว้ย!!”


“ชู่ว...เกมส์เบา ๆ หน่อยสิครับ เดี๋ยวก็ตื่นกันทั้งบ้านหรอก
ผมไม่โกหกเกมส์นะ ผมเหนื่อยจริง ๆ
พอกอดเกมส์แล้วใจผมมันสงบ เหมือนมันได้พัก
...นะครับเกมส์ ขอผมขอกอดแค่แป๊บเดียวเองนะครับ”


ดิวเอ่ยปรามพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงวอนขอ
ดวงตาที่สบมองมามีแววจริงจังไม่ได้ล้อเล่น
มันเป็นแววตาเดียวกับทุกครั้งที่ดิวพยายามขอให้เชื่อใจ
และเขาก็มักเผลออ่อนไหวกับท่าทางแบบนี้
คนดิ้นจึงหยุดนิ่งตามคำสั่ง ยืนเงียบ ๆ ปล่อยให้ดิวกอดเอาไว้



...อยู่ตรงนี้

มันใกล้จนได้ยินเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะ


เขาไม่รู้ว่าตัวเองยอมขยับมาใกล้ดิวมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร
ทั้ง ๆ ที่เวลามีผู้ชายคนอื่นมาทำรุ่มร่ามก็มักจะต้องกลัวจนตัวสั่นทุกครั้ง
แต่กับดิวมันแตกต่าง...


เขาไม่ลืมว่าดิวเป็นผู้ชาย และเขาเองก็เป็นผู้ชาย
หากมีบางสิ่งที่ทำให้เขายอมก้าวข้าม
เพื่อเดินไปหาคนที่อดทนรอเขาอยู่อย่างมั่นคง


...บางสิ่งที่เรียกร้องให้เขาทำตามจากเสียงหัวใจ
โดยปราศจากความกลัวและความลังเลใด ๆ


...บางสิ่งที่ทำเขาค้นพบช้า ๆ ว่าการยอมเปิดใจได้ใกล้กับใครสักคน
มันอบอุ่นกว่าอยู่คนเดียวลำพังมากเพียงไร



...และบางที สิ่งนั้น อาจมีความหมายเดียวกันกับคำว่า



...รัก...



เกมส์เงยหน้าขึ้นมองคนสำคัญ
สบดวงตาซึ่งทอดมองกลับอย่างลึกซึ้งสื่อความหมาย
รับรู้ถึงไออุ่นจากมือที่ประคองใบหน้าเขาไว้
และลมหายใจแผ่วเบายามเมื่ออีกฝ่ายโน้มลงมาชิดใกล้


ริมฝีปากนุ่มแตะสัมผัสกันและกัน
รสสัมผัสนุ่มนวล...หอมหวาน...
ยากจะต้านทานให้ลิ้มชิมรสซ้ำเรื่อย ๆ
กระทั่งเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงดื่มด่ำลึกล้ำ
ปล่อยร่างให้เอนกายลงบนเตียงโดยไม่รู้ตัว

ฝ่ามืออุ่นร้อนสอดสัมผัสเข้ามาในเสื้อยืด
ปะป่ายเนื้อตัวจนเผลอเคลิบเคลิ้ม
หัวสมองของเกมส์มึนงงด้วยความสับสน
รู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาสูดหายใจเมื่อละจากริมฝีปากซึ่งชิมรสจูบไม่ห่าง
ก่อนละเรื่อยคลอเคลียกระซิบคำแผ่วเบาข้างใบหู


“เกมส์ครับ ผมขอนะครับ”


...อือ...ขอ...ดิวขออะไร
แล้วทำไมเขาถึงรู้สึกแปลก ๆ
เหมือนเหตุการณ์แบบนี้มันเคยเกิดขึ้นมาก่อน


...เหตุการณ์ที่เคยมีคนมาจูบสัมผัสเขาไปทั่วร่างกายจนไม่มีแรง


ความทรงจำส่วนลึกสะกิดเตือนให้แล่นสะท้อนขึ้นมา
จิตใต้สำนึกเริ่มปลุกความหวาดกลัวให้เข้าครอบงำสติ
ร่างกายเริ่มสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่อยู่
จากอาการยินยอมเริ่มเปลี่ยนเป็นแรงต่อต้าน
และถูกเอ่ยออกมาเป็นน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น


“อืม...มะ..ไม่เอา...อย่า...กลัว...เรากลัว”


ดิวหยุดริมฝีปากซึ่งคลอเคลียลงทันที
รีบเงยหน้ามองคนที่พยายามยกมือขึ้นกันเขาไว้
ทั้งน้ำเสียงและแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
จนต้องสบถด่าความวู่วามของตัวเองในใจ


...นี่เขาทำบ้าอะไรลงไป
ลืมได้ยังไงว่าเกมส์เคยมีประสบการณ์เลวร้ายกับเรื่องแบบนี้
แล้วเขายังจะใจร้อน ไม่คิดถึงความรู้สึกเกมส์ให้ดี
มัวแต่เผลอไปกับความหลงใหล
แค่เพียงเห็นผิวขาว ๆ เนียน ๆ ของเกมส์ที่โผล่พ้นเสื้อยืดกับกางเกงบอล
มันอาจดูธรรมดาในสายตาคนอื่น
ทว่าสำหรับเขากลับมองว่ามันน่ารักเย้ายวนจนห้ามตัวเองไม่อยู่
ยิ่งเกมส์ยอมใจอ่อนให้เขากอด ยอมให้เขาจูบเก็บเกี่ยวความหอมหวานก็ยิ่งเตลิดไปไกล

ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะคิดได้ว่า
เกมส์ไม่เหมือนผู้หญิงทั่ว ๆ ไปที่เคยผ่านมือเข้ามา
และเขาควรจะทะนุถนอมเกมส์ให้มากที่สุด
แต่นี่เขากลับทำลายมันเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง



“ขอโทษนะครับเกมส์ ผมขอโทษจริง ๆ ครับ”


ดิวรีบดึงเกมส์เข้ามากอดไว้ด้วยความสำนึกผิด
ร่างกายของคนสั่นจึงค่อย ๆ คลายหวาดกลัวลงทีละน้อย
พร้อมกับสติที่เริ่มกลับคืนมาจนสามารถเรียบเรียงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
และนั่นถึงทำให้เกมส์เพิ่งรู้ว่าเผลอแสดงอาการอะไรออกไป
เพราะนิสัยที่แก้ยังไงก็แก้ไม่หายของตัวเองแท้ ๆ
บรรยากาศดี ๆ เลยต้องกลายมาเป็นแบบนี้


“ดิว เราขอโทษนะ”


“ขอโทษผมทำไม ผมต่างหากที่ต้องพูดเพราะผมทำให้เกมส์...กลัว”


น้ำเสียงท้ายประโยคอ่อนลง
อย่างที่เกมส์สัมผัสได้ว่าคนพูดเอ่ยออกมาด้วยความกังวลใจ

...ที่เขาขอโทษเพราะเขาเป็นผู้ชายเหมือนกัน
เรื่องพวกนี้ให้มาหยุดกลางคันมันอาจทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่
แต่ดิวกลับยอมปล่อยเขาง่าย ๆ ซ้ำยังมากอดปลอบเขาไว้
และไม่แน่ว่าดิวอาจกำลังโทษตัวเองที่เป็นสาเหตุทำให้เขากลัว
ซึ่งความจริงแล้ว มันตรงกันข้าม...


เกมส์เงยหน้าสบตามองกับคนชิดใกล้
กลั่นกรองความรู้สึกส่วนลึกในใจเป็นคำตอบให้กับดิว



“เราไม่ได้กลัวดิวหรอก เราแค่กลัวใจเราเอง
แต่ดิวเคยบอกว่าจะช่วยรักษาเราให้หายกลัวใช่มั้ย
ดิวต้องสัญญานะว่าดิวจะช่วยเราจริง ๆ
เพราะเรายกมันให้ดิวแค่คนเดียว ไม่ให้คนอื่นแล้ว
ดิวต้องทำให้เราหายกลัวได้ด้วยตัวดิวนะ”



คำขอร้องที่ทำให้คนฟังต้องนิ่งอึ้งอย่างไม่อยากเชื่อ
เพราะข้อความเหล่านั้นมันคล้ายกับประโยคสารภาพของเกมส์ที่เขาเฝ้ารอ


....ยกใจให้เขารักษาแค่คนเดียว ไม่ให้คนอื่น


เพียงแค่นี้ก็กลับทำให้หัวใจพองโตอย่างที่ไม่เคยเป็น
แม้มันไม่ใช่คำหวานว่า ‘รัก’
แต่ความหมายทั้งหมดสื่อความคล้ายการยืนยันว่า
มีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้ครอบครองหัวใจของเกมส์


“ครับ ผมสัญญา”


ดิวรวบร่างมากอดไว้แนบอกด้วยความยินดี


...ในเมื่อสัญญาไว้แล้วว่าจะรักษา
เขาก็จะไม่ใช่ใช้เล่ห์อุบายใด ๆ เพื่อให้ได้เกมส์มาครอบครองเร็ว ๆ
แต่จะค่อยๆ ใช่ความจริงใจพิสูจน์ให้เกมส์เห็นไปเรื่อย ๆ
สามปีแค่นี้ไม่นานไปหรอก ต่อให้ทั้งชีวิตเขาก็รอเกมส์ได้


...เขาจะรักษาให้เกมส์หายกลัว


...และรอวันที่เกมส์พร้อมยอมรับเขาจากใจจริง ๆ


....


...


.



“เดินทางระวังเน้อดิว ว่างเมื่อใดปิ๊กมาหาแม่บ้างเน้อลูก”


“ครับ เดี๋ยวเร็ว ๆ นี้ผมมาให้คุณแม่ใหม่แน่ ๆ ครับ”


ดิวยกมือไหว้เตรียมลาเจ้าของบ้านใจดีซึ่งเดินมาส่งที่รถ
ในยามเช้าที่เขาต้องบินตรงกลับกรุงเทพ
โดยมีใครอีกคนทำหน้าบูดยืนยกลังส้ม
ซึ่งถูกคุณนายสายสมรบังคับเอามาเป็นของฝาก


มองไปแล้วก็นึกขำให้เขาเผลอคิดถึงเรื่องเมื่อคืน


...พอปลอบเกมส์เขาก็ขอตัวกลับห้อง
แม้ใจอยากจะนอนกอดเกมส์จนถึงเช้า
แต่ก็ไม่ลืมว่ายังมีคนอื่นอยู่ในบ้าน
เกิดใครมาเห็นเขาสองคนแบบนี้จะไม่ดี
กระนั้นถึงจะกลับไปนอนห้องแล้ว
เขาก็ยังคงไม่วายนอนคิดถึงหน้าเกมส์ขึ้นมาจนแทบนอนไม่หลับ
เพราะมัวแต่ยิ้มกับความน่ารักและดีใจกับความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปอีกขั้น


พอคุณนายสายสมรล่ำลาเสร็จเรียบร้อย
ก็ขอตัวไปจัดการธุระวุ่นวายของไร่ส้มต่อ
โดยไม่สนใจเกมส์ที่ยกลังส้มไปใส่ท้ายรถ
เหมือนลืมว่าหลังจากนี้ลูกตัวเองก็ต้องกลับไปทำงานเหมือนกัน

...ทีคนอื่นเป็นห่วงเป็นใย แต่พอทีลูกแท้ ๆ กลับทำเมินเสียอย่างนั้น
มันน่าน้อยใจแบบนี้จะไม่ให้เขาหงุดหงิดได้ยังไง


เกมส์แทบจะกระแทกกระโปรงรถปิดระบายอารมณ์
กำลังจะเดินกลับไปขึ้นรถตัวเองที่จอดอีกทางบ้าง
แต่เสียงของอีกคนกลับรั้งไว้


“เดี๋ยวก่อนครับเกมส์ อาทิตย์หน้าพอมีวันหยุดว่างสักสองวันมั้ยครับ”


...วันหยุด จริง ๆ ร้านขายยาเขาบริหารงานเองคนเดียว
อยากหยุดเมื่อไรก็หยุดได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรหรอก


“อืม ก็หยุดได้นะ ทำไมเหรอ”


บอกไปตามความคิดกระนั้นก็ยังอดไม่ได้ที่จะสงสัย
และคำตอบของคู่สนทนาก็ทำเอาต้องเอาต้องนิ่งค้าง


“ผมจะพาเกมส์ไปหาพ่อกับแม่น่ะครับ”


“เฮ้ย! อะไรนะ”


เกมส์ตะโกนร้องอย่างตกใจในความปุ๊บปั๊บ
เพราะที่ผ่านมาถึงจะเคยฟังดิวเล่าเรื่องครอบครัวมาบ้าง
แต่ก็ไม่เคยพบหน้าคาตาอย่างเป็นทางการเลยสักครั้ง
ซึ่งอีกฝ่ายก็อธิบายเหตุผลง่าย ๆ


“ก็ผมรู้จักพ่อกับแม่เกมส์แล้ว
แต่เกมส์ยังไม่เคยไปพบพ่อกับแม่เลยนี่ครับ”


...อีกอย่างถ้าจะแต่งงานกันปลายปีจะได้ดูตัวกันไว้ก่อนด้วย


ประโยคหลังดิวไม่ได้พูดแค่คิดเงียบ ๆ 
หากลึก ๆ ก็ตั้งใจทำตามคำทำนายของหมอดู
มันจะได้แม่นจริง ๆ เหมือนที่คุณแม่เกมส์ว่าไว้


และแน่นอนความคิดแยบคายของดิวไม่มีทางที่เกมส์จะรู้
เพราะเจ้าตัวตอบรับอ้อมแอ้มในความสมเหตุสมผล


“เออ...เดี๋ยวอาทิตย์หน้าจะไป”


ร่างสูงยิ้มละไมเมื่อได้ฟังคำยืนยันกระนั้นก็ยังคงเอ่ยท้วง


“แล้วเกมส์ลืมอะไรอีกเรื่องรึเปล่าครับ”


“ห่ะ อะไร?”


เกมส์ขมวดคิ้วงง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความหวั่นใจ
เมื่ออีกฝ่ายเดินขยับเข้ามาใกล้
แล้วโน้มหน้าลงกระซิบ



“ยารักษาโรคกลัวของผมไงครับ”



...คำขอแผ่วเบา หากสะท้อนก้องในความรู้สึก
จนส่งผลให้ใบหน้าเห่อร้อนวูบขึ้นมาดื้อ ๆ

...ต้องโทษความบ้าของเขาที่ดันไปพูดแบบนั้นตอนวันวาเลนไทน์
เลยกลายเป็นว่าเขาขุดหลุมฝังตัวเองไว้ซะมิด


ถึงอย่างนั้นลูกผู้ชายรับปากแล้วก็ต้องทำตาม
เกมส์จึงข่มความอายยื่นหน้าไปแตะริมฝีปากลงข้างแก้มอีกคนเร็ว ๆ
ชนิดที่คนโดนจูบแทบไม่รู้สึกจนต้องเอ่ยประท้วง


“โห...ทำไมจุ๊บแก้มล่ะครับ”


“ก็ไม่ได้บอกว่าให้ตรงไหนนี่”


ตอบอธิบายไปกวน ๆ ตามนิสัย
แม้จะยังเขิน ๆ อย่างน้อยก็ถือว่าเขาเอาตัวรอดไปได้แล้วกัน
หากยังไม่ทันได้ถอนหายใจโล่งอก
อีกคนกลับเปลี่ยนท่าทีเป็นดึงข้อมือให้เขาเข้ามาใกล้


“งั้นคราวนี้ตาผมบ้าง”


จบคำ ริมฝีปากร้อนก็แนบลงมาประทับฉกชิงความหอมหวาน

....‘จูบ’ แบบเรียกว่า ‘จูบ’


...ลึกซึ้ง อ่อนไหว จนหัวใจสั่นสะท้าน


ก่อนดิวจะละริมฝีปากเมื่อเขาใกล้หมดแรง
พร้อมกระซิบคำบอกสรรพคุณ



“อันนี้ยารักษา ‘โรคคิดถึง’ เผื่อเกมส์จะคิดถึงกันไงครับ”



...อะ...ไอ้คนเจ้าเล่ห์!!
มันมีที่ไหนยารักษาโรคคิดถึง
นี่มันฉวยโอกาสจากเขาชัด ๆ

ใจอยากจะนึกด่าอะไรสักคำ
แต่ติดที่ร่างกายไม่มีแรงคล้ายโดนจูบเมื่อกี๊สูบเอาพลังไป

เกมส์จึงทำเพียงมองอีกคนเดินกลับขึ้นรถพลางหันมาเอ่ยลาด้วยรอยยิ้ม


“แล้วอาทิตย์หน้าผมจะมารักษาให้ใหม่นะครับเกมส์”


และก่อนจะทันรู้ตัวอีกฝ่ายก็ขับรถแล่นฉิวออกไปจากบ้าน
ทิ้งให้เขามึนงงยืนหน้าแดงค้างอยู่อย่างนั้น



...แต่เอาเถอะ...ช่างมัน...

เพราะนี่อาจจะเป็นยารักษาโรคที่ได้ผลที่สุดก็ได้


โรคที่เขายินยอมให้ดิวรักษาแค่คนเดียว
เหมือนที่ดิวให้เขาเป็นคนช่วยรักษาโรคนี้



...โรคซึ่งเขาสองคนพร้อมกันใจกันเป็น



มันมีชื่อง่าย ๆ ว่า...




...รัก






----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



END





กลับมาตามคำเรียกร้อง หลังจากทนกระแสไม่ไหว  :m1:
จัดให้ด้วยใจรักตามคำขอ เป็นภาคต่อจากแท่งพิเศษที่ 1
เอาให้หวานจนหมดขึ้นตามชื่อจูปาจุ๊บ

หลังจากนี้คงไปต่อเรื่องอื่นแล้วนะคะ
เดี๋ยวน้องคูณจะงอแงรอนาน
แต่อาจจะมีแวบกลับมาบ้างตามเวลาและโอกาส
ถ้าใครอยากฟิน มาตามกันได้ในแฟนเพจเลยจ้า 
BitterSweet Fanpage (http://www.facebook.com/BittersweetBoyslove)  แล้วมาคุยกันนะ  :m13:

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

 :จุ๊บๆ:

BitterSweet


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 02-05-2013 23:32:51
 :-[
แง แล้วไม่มีแบบตามคำทำนายหรือคะ  :m17:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-05-2013 23:34:56
แบบนี้เกมส์ไม่เอาดิวไม่ได้แล้ว  สามปีอดทนมาก  :katai3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 02-05-2013 23:50:24
อยากเจอน้องคูณแล้ว ><
จำได้ว่าน่ารักกวนตีนมาก 555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: ปุยหมาม่วง ที่ 02-05-2013 23:58:00
อร๊ากกกกกกกก หวานมากกกกกกกกกกกกก

น่ารัก ><

ชอบคู่นี้ที่สุดในทุกภาคเลย ชอบตั้งแต่ตอนเรื่องของปลายแล้ว จริงๆน่ารักทุกคู่แต่คู่นี้มันแบบ อิ๊อร๊างงง ถูกโฉลกส่วนตัว

ตั้งแต่ที่คู่นี้เริ่มมีซัมติงในเรื่องสะเดา เรด้าวายก็คอยแต่จะกระดิกๆว่าเมื่อไหร่คู่นี้จะออกมาอีก กร๊ากกกกก

ขอบคุณน้า ตอนพิเศษมีอีกเรื่อยๆก็ดีนะ 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 03-05-2013 00:05:29
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
รักษากันตลอดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 03-05-2013 00:11:03
อ่านตอนนี้แล้วซึ้ง เห็นในความพยายามของดิวจริง ๆ
 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-05-2013 00:18:08
หว๊านหวาน หวานได้อีก ขอตอนที่น้องเกมส์เข้าบ้านดิวด้วยนะครับ อยากรู้ว่าน้องจะเป็นอย่างไร อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-05-2013 07:02:10
เกือบไปแล้วเชียว  :hao6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 03-05-2013 07:17:44
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด  น่ารักมาก ๆ ๆ  เลย  ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ ^_____^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: ปุยหมาม่วง ที่ 03-05-2013 07:43:30
จะไปเจอพ่อแม่ดิวแล้ว คนเขียนสามารถเอาพล็อตนี้มาเล่นได้อีกนะ จะดราม่าหรือจะน่ารักไปเลยก็เขียนได้
อาทิตย์หน้าเองด้วย ใกล้ขนาดนี้เอามาเขียนด้วยเถอะน้าาาา
ออดอ้อนคนเขียน เค้าอยากอ่านอ้าาาา และก็เชื่อว่าทุกคนก็อยากอ่านด้ย

พลีสสสสสสสสสสสสส นัวเนียๆๆ เขียนๆๆๆๆ

จะรอนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: ekonut ที่ 03-05-2013 07:56:46
น่ารัก :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 03-05-2013 08:19:16
 :impress2: อั้ยยยยยย่ะ ดิวน่ารักมากกกกก ไม่ไหวแล้ว  :ling1:

อิจฉาเกมส์ตะหงิดๆ5555 :hao7:

รอภาคน้องคูณอยู่นะคะ มาต่อเร็วๆน้าา :กอด1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 03-05-2013 09:31:00
 :katai2-1:

ฟินมากเลย เขิน

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 03-05-2013 09:46:39
กรี๊ดดดดด ค้างกว่าเดิมมมมม งานแต่ง งานแต่ง!!! งานแต่ง!!!!!!!!!!!!!!

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 03-05-2013 09:51:56
หวานขนาด ><
จะรอไป๋งานแต่งฮานปลายปี๋นี้นะเจ้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 03-05-2013 10:15:18
ภาคต่อตอน 2 น่ารักมากๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 03-05-2013 10:40:40
หายคิดถึงเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 03-05-2013 11:17:27
น่ารักมาก อย่างนี้ต้องรักษากันสองคนนะดิว+เกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 03-05-2013 11:17:37

ยาดีขนาดนี้ หายขาดแน่เกมส์  :laugh:

รออ่านน้องคูนค่า คิดถึง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 03-05-2013 14:28:30
กรี๊ดดดด
ยาหลายขนานขนาดดดด
ดีใจมากๆๆๆ ที่มีตอนพิเศ๊ษ พิเศษต่อ
น่ารักมากๆๆๆ
รองานแต่งงานน้า เกมส์ >,<
ดิวรีบๆมาขอหล่ะ
แอบมีฉากเบดซีนเบาๆฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 >; P.91
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 03-05-2013 15:16:37
เป็นตอนพิเศษที่หวานมากกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 03-05-2013 15:29:56
หวานขนาดดดดด   :-[


ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ  :pig4: 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 03-05-2013 16:33:48
อยากกินไส้อั่ว
แม่อวยว่าที่ลูกเขยอย่างมาก
เกมส์ไม่ต้องน้อยใจ
ปลายปีได้แต่งแน่
คนเขียนจัดมาโตย จั๊ดนักๆ เลยเน้อ
กดบวกและเป็ดเป็นกำลังให้นายอดทนต่อไป...ดิว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 03-05-2013 18:54:03
แง๊... จิอยากอ่านตอนที่เกมส์ไปหาพ่อแม่ดิวต่อ
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จัดมาให้อีกตอนเถอะจ้ะ นะจ๊ะนะ...

เดี๋ยวดิวงอแงแย่ มีแต่ตัวเองมาหาแม่เกมส์ที่บ้าน
แต่ไม่เห็นให้เกมส์ไปที่บ้านดิวบ้าง คนอ่านเองก็อยากอ่านเหมือนกันค่ะ แหะๆ


กว่าจะรักษาโรคที่เกมส์กลัวให้หายได้นี่คงใช้เวลาอีกสักระยะเลยเนาะค่ะ
ถ้าสมมติว่าปลายปีได้แต่งงานจริงๆ เกมส์จะหายกลัวยังเนี่ย
อยากอ่านเรื่องคู่นี้ต่อจังเลย ฮือออออ

แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราจะเปลี่ยนมารอคอยน้องคูณก็ได้ค่ะ
มาเร็วๆ น๊า คนอ่านคิดถึง ชุ๊บุ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 03-05-2013 20:05:57
 :katai2-1:+1 ดิวซีเกมส์ :heaven แค่นี้ก็ฟินแล้วเรา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: 9nawKIHAE ที่ 04-05-2013 02:17:53
มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย
รอออออออออออออ
:-[ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-05-2013 11:17:12
หวานมากกกกก
จนมดเดินกันให้ไขว่ :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 04-05-2013 12:24:46
คนแต่งมาให้หอมแก้มทีซิ แบบว่าตอนนี้ถูกใจมากๆๆๆๆๆ
ไว้ตอนปลายปีที่เค้าแต่งกันเอาไว้เป็นตอนพิเศษ3นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 04-05-2013 13:42:17
ไอเราก้อนึกว่า จะมีตอนพิเศษตอนต่อไป ดูว่าหมอทำนายแม่นมั้ยไรงี้ ฮ่าๆๆ
อยากรู้ว่า พ่อแม่ดิวจะว่ายังงัยบ้างน้าาาา
ขอหั้ยราบรื่นเหมือนคู่อื่นๆ นะ ดิวเกมส์ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 05-05-2013 08:46:50
มาอ่านตอนพิเศษ 2 อีกรอบ
งื้อ~~ ดิว เกมส์น่ารักจริงๆ>//< :hao5:
จริงๆ ก็อยากอ่านน้องคูณ
แต่ จริงๆ ของจริงๆ อยากอ่านเรื่องนี้ต่ออีก อ๊ากกก น่ารักไปไหน
อยากเห็นขันหมากดิวมาสู่ขอเกมส์จริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 05-05-2013 11:30:44
บรรยายได้ซึ้งมากเลยยยย  :hao5: :hao5: ชอบๆๆ  :-[ :-[

ขอบคุณคนเขียนน้าาา  :pig4: :pig4: รออ่านเรื่องต่อไปปป o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 06-05-2013 04:40:20
มันยังไม่จบนี่นา มาต่อเลยๆ เอาให้ถึงตอนแต่งงานมีลูกเลยจิ  แอร๊ย!!! เพ้อ 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 07-05-2013 15:35:47
พัฒนาการสปีดเต่าขึ้นเรื่อยๆ = =;
เรื่องต่อไปขอแบบหวานกว่านี้เห้ออออออ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: GGG24 ที่ 08-05-2013 07:59:36
ยังอ่านไม่หมดเลย แต่มาเม้นให้ก่อน

อ่านจบไปแล้วสองคู่ น่าร๊ากกกกก  :กอด1: :กอด1:

 :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต [แท่งพิเศษ 2] 02/05/56 > P.91
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 10-05-2013 09:28:56
มาอ่านอีกรอบ
ก็ร๊ากก ดิวเกมส์ งื้ออออ
อยากเป็นปาปารัสซี่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 13-05-2013 21:09:52
คู่นี้มาในธีมกีฬาสี ม. ปลาย
ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-05-2013 21:24:16
ต๊ายล่ะนี่น้องคูณเราเป็นฝ่ายถูกกินเหรอเนี่ย
ก็สนุกดีนะ กลับมาเป็นเด็กอีกครั้งหลังจากที่อ่านเรื่องของผู้ใหญ่ไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 13-05-2013 21:29:11
มึงอ่ะเหมือน...อะไรนะ...เคะ ๆ แคะ ๆ ...นั้นแหละ

เจอประโยคนี้ขำลากกกกกกกก 555555555555555555
เอาใจช่วยน้องคูณให้ไปยั่วพี่น่านสำเร็จนะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 13-05-2013 21:30:18
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 13-05-2013 21:33:10
น้องคูณกับน่านนที

แววน่ารักออกกวนๆมาแต่ไกล

รอค่ะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 13-05-2013 21:44:50
น้องคูณแววเคะมาตั้งแต่เรื่องแรกแล้ว 555+
แอร๊ยยย คิดว่าเรื่องนี้น่าจะกิ๊วก๊าวหัวใจกว่าสองเรื่องที่ผ่านมา >w<
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 13-05-2013 21:48:38
ตามมาอ่านจ้า มารอดูน้องคูณถูกส่งไปบรรณาการให้กับน้องน่าน 55555 163 กำลังดีเป๊ะเลยค่ะน้อง  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 13-05-2013 21:59:39
แบบนี้แหละค่ากำลังกรุบกรอบวัยใส สำนวนแบบเน้ใช่เลย
 อ่า..บรรยายน้องคูณดูน่ารักแกมงกนะนี่  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 13-05-2013 22:11:29
รอดูน้องคูณ ยั่วว 555
น่ารักกดีค่ะ วัยขนาดนี้><
ใสๆ เลิฟ
และยังคิดถึงดิวเกมส์อีกเหมือนเดิม 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: pizza2011 ที่ 13-05-2013 22:21:48
ข้าวสวยหุงพร้อมค่ะ ตักแกงมะระราดให้ชุ่ม แกล้มไข่ลูกเขย อู้วววววววว อร่อย 55+
น้องคูณ แหมวัยใสน่ารัก กระดูกอ่อนๆเคี้ยวกำลังมันส์? 55+ รอพี่น่านเปิดตัว
ป.ล. ไม่เจอเเนววัยใส เด็กมัธยมนานแล้ว  :-[ ป้าชอบกินเด็ก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 13-05-2013 22:34:05
อา น่ารักกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 13-05-2013 22:54:36
ทำไมต้องทำร้ายน้องคูณถึงเพียงนี้ 55555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 13-05-2013 23:05:10
รอดูคูณยั่วคน... :hao6:



อิอิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 13-05-2013 23:07:10
แค่ตอนแรกก็สนุกแล้ว
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 13-05-2013 23:20:27
 :mc4: เย่ๆๆน้องคูณมาแล้ววว

มาต่อเร็วๆน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 13-05-2013 23:29:48
แค่เริ่มก็สนุกแล้วค่ะ  รอๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 14-05-2013 00:12:50
รอฝั่งพี่น่าน :katai2-1:

 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: Little_Duck ที่ 14-05-2013 00:47:39
น้องคูณของพี่~~~~ มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาคนข้างบ้านนะลูก เผื่อเค้าช่วยคิดหาทางไปยั่ว เอ๊ย...ไปจีบได้นะลูก 555

ว่าแล้วก็ไปเซเว่นหาของกินสักหน่อย เห็นชื่อตอนแล้วหิวตะหงิดๆ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 14-05-2013 02:35:12
ได้อ่านมัธยมบ้างละมันกระปี้กระเปร่า ฮา
คูณเดี๋ยวได้เสร็จน่านก๊ากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: took-ta_naka ที่ 14-05-2013 06:18:30
 :mc4:  เย้......ภาคใหม่    เค้ารออยู่นะจ๊ะ   
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 >; P.93
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 14-05-2013 08:19:30
คือแบบรักเพื่อนมากอะ ให้เพื่อนไปยั่วเกย์!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 14-05-2013 09:00:00
ตอนนี้เป็นรักวัยใสของเด็กมัธยม ทำเอานึกถึงเรื่อง "รักแห่งสยาม"   ว่าแต่คูณจะมีวิธีอะไรมาทำเสน่ห์ให้น่านหลงรักได้นะ  สงสัยต้องเอาเสน่ห์ปลายจวักเข้าช่วย


รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-05-2013 09:23:18
ย้อนวัยกลับไปสมัยมัธยม (หลายปีแล้วนะ) อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 14-05-2013 09:29:13
ก่อนอื่นขอกรี๊ดดังๆเลยค่ะ น้องคูณมาแล้ววววว >////<
พออ่านไปจนถึงน้องน่าน คนอ่านก็จิ้นไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
แบบเด็กเรียนกะเด็กศิลป์ อุ๊ย พี่สนับสนุน :heaven
จะรอนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-05-2013 10:06:55
วัยใสปริ๊งออกโรงแล้วน้องคูณ :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 14-05-2013 10:58:15
มาแล้วๆ น้องคุณมาแล้ว
เพื่อนๆนี่ช่างรักน้องคูณจริงๆ แทบจะใส่พานให้น่านนที 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 14-05-2013 12:18:40
ผิดคาดแฮะ นึกว่าน้องคูณจะเสร็จพวกเฮียแก่ๆ ซะอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: dradareal ที่ 14-05-2013 12:33:38
โอ๊ย! แค่เปิดเรื่องมา ก็ทำให้ยิ้มแก้มแตกกับความน่ารักของน้องคูณและผองเพื่อน
ชอบมากๆเลยค่ะ ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 14-05-2013 14:00:40
อยากรู้ว่าน้องคูณจะยั่วน่านยังไงหว่าาา....  :-[ :-[

มาต่อไวๆน่ะค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 14-05-2013 14:12:31
อะอะอ้าววว น้องคูณ โดนเพื่อนเล่นแล้วมั้ยล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
เอาน่า สุดท้ายแล้วเรื่องนี้คูณก็ต้องได้กับผู้ชายอยู่ดี เชื่อเจ้ อย่าไปขัดคอเพื่อนเลย (ฮา)
ว่าแต่พระเอกนี่น่านหรอ? เอ๊ะ ยังงัย รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 1] 13/05/56 > P.93
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-05-2013 14:20:16
ต้องลงแรงน่าดูเลยนะงานนี้  :hao6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 15-05-2013 21:49:24
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :laugh: :laugh:
แบบนี้เค้าเรียกกวนตีนแบบซึ่งๆหน้าเลยใช่มั้ยเนี่ย
น้องคูณลำบากแล้วลูกเอ้ย
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: gcc ที่ 15-05-2013 21:59:01
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-05-2013 22:02:49
น้องคูณจะรอดไหม? อิอิ คุณชายน่านนทีก็นะ หุหุ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 15-05-2013 22:06:19
เปิดตัวน้องน่านได้ประทับใจมากค่ะ ยิ่งบรรยายด้วยภาพลักษณ์คุณชาย (คนเขียนติดคุณชายพุฒิภัทรรึเปล่าคะ !!! )
แทบจะแดดิ้น // จิกหมอน ><
เอ่อ... น้องคูณคะ พี่ว่าหนูพลาดแล้วจริงๆ 555

รอต่อไปนะคะ รักคนเขียน จุ๊บๆ >< // เตรียมหมอนไว้จิกอีกหลายๆใบ
 :heaven
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 15-05-2013 22:14:01
น่ารักน่าเอ็นดูทั้งคู่  ใสๆ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 15-05-2013 22:39:53
ตามมาอ่านน้องน่านกับน้องคูณค่ะ

เราว่า มันคงมีอะไรมากกว่าออร่าเทพ และเป็นเกย์นะ
คือ แบบว่า จู่ ๆ จะนัดพบแต่เ้จ้า จนน้องคูณต้องเสียวประตูหลัง
เราว่าจริง ๆ น้องน่านอาจจะให้ใช้แรงงาน แบบว่าช่วยงานแลกมากกว่า
แต่น้องคูณก็คิดไปเสร็จสรรพแล้ว เพราะงั้นต้องรู้ดี อาจจะช่วยงานกันไป ปิ๊งกันไป อะไรทำนองนั้น

น้องคูณท่าจะน่ารักน่าดู เพื่อนถึงให้เป็นทัพหน้า แต่ถูกเข้าใจว่ามาสมัครเป็นลีด  5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 15-05-2013 23:04:43
โอ้โห สำนวนน่ารักมากค่ะ
แต่ภาพลักษณ์น้องคูณ นึกไม่ออกว่าจะออกตุ๊ดตรงไหน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 15-05-2013 23:34:14
"เข้าใจแล้วครับ".

ชอบจริงๆ ขอซื้อประโยคนี้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-05-2013 00:05:12
 :laugh:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 16-05-2013 00:31:05
น่านแอบกวนตรีนนนนเบาๆนะ ฮ่าาาาาา :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 16-05-2013 00:36:22
บทบรรยายน่านนที
นี่นึกถึงพวกจุฑาเทพเลย ฮุ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 16-05-2013 01:13:50
ยอมๆไปเหอะคูณเหมือนได้จุฑาเทพมาครอบครองนะ555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 16-05-2013 05:56:54
อยู่โรงเรียนเดียวกันไม่รู้จักกันเหรอ แปลกเนอะ
เป็นอีกภาคนึงที่ต้องลุ้นว่าเกี่ยวกะชื่อเรื่องตอนไหน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 16-05-2013 06:42:07
ซึนน่าดู นะเจ้าน่าน :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 16-05-2013 09:14:04
น้องคูณน่ารักกกก น้องน่านเท่  อ้ายยย มันช่างเหมาะสมจริงๆ!!!!  :hao6:

มาต่อเร็วๆน้าาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 16-05-2013 09:19:40
น่านเรียกคูณไปทำไม เรียกไปใช้งาน   :katai3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-05-2013 11:06:46
รอลุ้นพรุ่งนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 16-05-2013 11:14:36
นานๆได้อ่านเรื่องวัยมัธยมต้อนรับเปิดเทอมนี่ก็สนุกดีเหมือนกันนะ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-05-2013 11:36:41
แล้วที่ให้ทำจะคุ้มมั๊ยเนี่ย  :m29:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: nunamicky ที่ 16-05-2013 12:03:25
เริ่มเรื่องได้สองตอนก็สนุกแล้ว :katai2-1:
ติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-05-2013 12:47:30
น้องน่านออกแนวกวนๆ แบบสุภาพ แบบที่คูณอาจนึกไม่ถึง  คูณคงต้องตั้งรับให้ดี
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: took-ta_naka ที่ 16-05-2013 12:47:50
 :mew1:  น่านน่าติดตามมากเลย  น้องคูนน่ารักอ่ะ  ชอบน้องคูณมากจ้า  :hao5:  ส่วนเสียวประตูหลังนะ 

    ไม่ต้องห่วงหรอกนะน้องคูณ    คงต้องเสียวประตูหลังตลอดไปอย่างแน่นอน :hao6:   :hao6:

    รอตอนต่อไปจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา    +1  จ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 16-05-2013 14:29:29
555 น่ารักอะ ทั้งน่าน ทั้งคูณเลย มีข้อแรกเปลีี่ายนงั้นรึ อะไรนะ อยากรุ้แล้วสิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: dradareal ที่ 16-05-2013 18:34:46
เรื่องงบกีฬาสี พี่คนเขียนเอาเรื่องในโรงเรียนคนอ่านมาเขียนหรือเปล่าเนี่ย? ฮ่าๆ

น้องคูณน่าร้ากกกกกกกก น่ารัก น่ารัก น่ารัก  :impress2:
หลงคูณจริงๆ
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆแล้ว เป็นกำลังใจให้ค่า ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-05-2013 19:50:33
พลาดแล้วล่ะนู๋คูณเอ๋ย :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 16-05-2013 20:43:06
น่าน นี่กวน.... หน้าตายมาก
กรี๊ดๆๆๆๆ กวนได้อีก
อิอิ ว่าแต่ จะให้น้องคูณไปป๊ะ ที่ห้องวิทย์ทำไมกันน้าาาาาา :hao6:
น้องคูณก็น่าร๊ากๆๆๆๆๆ><

อัพต่อน้า จะรอจ้า
ps. คิดถึงดิวกะเกมส์จุง :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 16-05-2013 22:11:32
อ๊ายยยยย พ่อคุณชาย ตายแล้วจะทำอะไรหนูคูณจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 >; P.94
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-05-2013 11:44:28
คูณเอาตัวรอดให้ได้นะ!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: infinitez123 ที่ 17-05-2013 12:23:48
ว้าว เรื่องของน้องคูณมาแล้ววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: narunarutoboyz ที่ 18-05-2013 11:35:58
ต้อนรับตอนใหม่จ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
อ่านมาตั้งเเต่ซีรี่ย์เเรกเมื่อไม่นานมานี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะค๊ะ  :กอด1:
อยากบอกว่าชอบทุกเรื่องเลยยยยยยย ทำเราเขิลม้วนต้วนได้ทุกคู่เลยค่ะ

สำหรับซีรี่ย์ของน้องคูณณณณณณ หึหึหึ แค่เเรกเริ่มก็สมวัยน้องคูณเเล้วค่ะ
คิดถึงสมัยนั้นจริงๆ รอดูตอนต่อไปนะคะ อยากรู้เเล้วว่าน่านจะทำอะไรน้องคูณ.....

เป็นกำลังใจรอคอยตอนต่อไปค่าาาาาาา  :กอด1:


ปล.สมัยมัธยมเราอยู่สีแดงมา 6 ปีเลยนะ เรายังเคยทำธีมมังกรเลย ดูดีกว่านางฟ้าอะไรอีกนะ
มันแหววเกินสีแดงไปอ่ะ  o21
ปลล.ธีมมังกรไฟเราได้เเชมปฺด้วยนะเออ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 19-05-2013 08:41:56
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เฮ้ย น่านนทีนี่ก็เจ๋งเหมือนกันแฮะ เอาสยบน้องคูณที่ดูท่าจะแสบมาตั้งแต่ต้นเรื่องได้
ชักน่าสนใจขึ้นมานิดๆ แล้วหละ 
อยากจะรู้ละว่าน่านนทีเป็นเกย์จริงหรือเปล่า ที่นัดน้องคูณไปตอนเช้าเนี่ย จะทำอะไรน๊าาาา
แต่ที่คิดไว้ คงไม่น่าจะใช่ที่นัดไปทำมิดีมิร้ายเพราะเป็นเกย์หรอก
ชักอยากอ่านตอนต่อไปละค่ะ มาไวๆ น๊าาาา


ปล. เพิ่งสังเกตว่าสไตล์การเขียนแปลกไป แต่แบบนี้ก็เยี่ยม อ่านแบบไหนได้หมดจ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 2] 15/05/56 > P.94
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 19-05-2013 10:25:24
จะให้น้องไปทำไรน้อ :hao4:


 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 19-05-2013 18:57:00
อ้าวทำไมออกมาแบบนี้อ่ะ หรือคุณน่านไม่ใช่พระเอก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 19-05-2013 19:00:58
โอ้วพ่อสื่อ สือกันไปมาได้กันเองโอ้ยฟิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 19-05-2013 19:02:39
เอาและคุณชายน่านนทีให้น้องคูณจีบสาวให้
แล้วต่อไปสองหนุ่มจะรักกันยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 19-05-2013 19:04:13
ชอบพล็อตนี้ น้ำเน่าีดี 555+
น้องคูณเป็นพ่อสื่อ สื่อไปสื่อมาก็รักกันซะเอง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: ช็อคโกแลตสีม่วง ที่ 19-05-2013 19:13:17
มาอ่านสองตอนรวด  :heaven


โถ๊วว นึกว่าจะมีข้อแลกเปลี่ยนแบบที่มัน"ดีๆ"กว่านี้หน่อย o18


ไม่เป็นไรเชียร์คูณต่อไปครับ o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 19-05-2013 19:19:31
"ผมชอบข้าว"
“อ้อ...หิวข้าวเหรอ ไม่ได้กินข้าวเช้ามาอ่ะดิ งั้นจะให้เราเลี้ยงข้าวใช่ป่ะ” :laugh: :m20:

ตลกอ่ะ คิดไปด้ายยยย คนทั่วไปหิวข้าว คงไม่พูดหรอกว่าชอบข้าว กร้ากกกก :jul3:

มาต่อเร็วๆน้าา  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 19-05-2013 19:32:45
หนุ่มน่าน น้องคูณ <3
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 19-05-2013 19:38:03
อ้าววววเห้ยยยย
น่านชอบข้าวววว แล้วยังให้คูนเป็นพ่อสื่อ  แล้วจะรักกันได้ไงอ่ะ ~~~~
แต่ไม่แน่นะ พ่อสื่อพ่อชักมักได้กันเอง ฮ่าาา  :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-05-2013 19:39:28
อ้าวกลายเป็นให้คูณช่วยเป็นพ่อสื่อจืีบหญิงแทน  นี่จะเป็นแผนของน่านป่าวนิ

อ่านมา 3 ตอน ยังไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับชื่อเรื่องเลย


รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: ~soda~ ที่ 19-05-2013 19:52:49
จะเป็นพ่อสื่อ แต่ระวังตกหลุมรักพ่อสื่อเองนะฮะคุณน่าน :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 19-05-2013 20:51:22
ซะงั้น...อุตส่าห์เข้าใจกันผิดตั้งนานเนอะ 555

ดู้ดู คูณก็นะเข้าใจผิดว่าหิวข้าว เอิ่ม ทุกคนก็ชอบกินข้าวไม่ใช่หรอ

ฮาตรงนี้ แถมยังไปว่าเขาอีกว่า ขี้ป๊อด แต่แอบจริงนะ อิอิ

รอตอนต่อไป ว่าพ่อสื่อจะได้เองหรือเปล่า :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 19-05-2013 21:01:13
ทีนี้คูณจะช่วยคุณชายขี้ป๊อดจีบหญิงแบบไหน ช่วยไปช่วยมา ตกหลุมรักคุณชายซะเอง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: took-ta_naka ที่ 19-05-2013 21:11:22
 :hao3:  ลุ้นแทบตาย   ชิ....

    +1  จ้า.........
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 19-05-2013 21:14:41
อดเลย อ้าววววววววววววว :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-05-2013 22:03:47
แผนรึเปล่า?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: Key Mine ที่ 19-05-2013 22:23:20
โถ่ววววววววววววววววว
น้องน่านนนนน
ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะลูก :z3: :z10:
แต่เดี๋ยวพอได้ใกล้ชิดกับคูณแล้วก็จะหลงรักคูณชัวร์
น้องคูณแกรั่วๆนะ น่านน่าจะชอบแนวนี้มากกว่า
แบบข้าวนั่น ชีวิตจืดชืดกันพอดี  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 19-05-2013 22:32:20
นี่อาจจะเป็นแผนซ้อนแผนของน่านนที
ที่ให้คูณเป็นพ่อสื่อ  แต่จริงๆตัวเองอาจจะชอบคูณก็ได้น้า
คงอยากใกล้ชิดคูณโดยเอาข้าวมาอ้าง

รอพ่อสื่อโดนชักซะเอง  555

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 19-05-2013 22:39:50
กรี๊ดดดด ฟินค่ะฟินนนน  ชอบทั้งน่านทั้งคูณเลย เอาใจช่วย  :mew3:
ชอบคาแรคเตอร์คูณมาก ฮาดี 55555555  ส่วนน่าน น่านจ๊ะน่าน เด๋วคนอ่านจะช่วยผลักดันให้เสร็จพ่อสื่อเอง 5555
ชื่อเพราะดีนะคะ น่านนที  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 19-05-2013 22:48:53
พ่อสื่อนี่ตัวดีเดี๋ยวก็รักกันเอง ชัวร์ป๊าป!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 19-05-2013 22:52:49
พ่อสื่อพ่อชัก แล้วเดี๋ยวจะได้กันเองใช่มะ ฮ่าาาา
มีแบบนี้มาหลายคู่แล้วนาน้องคูณ ระวังไว้ดีๆ เหอะ
เอ... หรือว่าน่านนทีเอาเรื่องขวัญข้าวมาบังหน้า
แต่จริงๆ อยากจะเต๊าะน้องคูณนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 19-05-2013 22:53:38
มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นแน่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 19-05-2013 23:31:53
 :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 20-05-2013 01:52:49
อะไรอ่ะ
ทำไมน่านทำอย่างนี้กับคูณ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 >; P.95
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 20-05-2013 09:04:34
ได้กับพ่อสื่อชัว!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 20-05-2013 12:34:48
อ้าววววว ไหงงั้นอ่ะ  :ling1:

ไม่เป็นไรพ่อสื่อนี่แหละตัวดี เดี๋ยวก็ได้กันเอง 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 20-05-2013 14:54:08
555555 มาแนวนี้ก็น่ารักดีนะ ลุ้นๆต่อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-05-2013 15:54:41
ให้คูณเป็นพ่อสื่อ อย่างนี้พ่อสื่้อก็ได้เองสิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 20-05-2013 17:48:52
คิดถึงเรื่องนี้เลยแว่บมาอ่านตอนพิเศษ ดิว-เกมส์ น่ารักมากๆ
เรื่องใหม่ก็น่าติดตาม เป็นกำลังใจให้จ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 20-05-2013 21:02:27
มันเป็นแผนของน่านหรือเปล่าา 555555 หวังให้เป็นแบบนั้นน่ะ  :hao5: :hao5: :hao5: แต่ถ้าพ่อสื่อได้กันเองก็ดีอีกแบบ 5555  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 21-05-2013 21:34:13
กรี๊ดกร๊าด อ๊ายๆๆๆๆ อยากอ่านแบบยาวววววววววววจังเลย 5555+ ชอบแนวนี้เลยตอนแรกยังชอบหญิงอยู่ หึหึ รอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 21-05-2013 22:17:07
จะรักกันไงน้ะ รอค่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 22-05-2013 16:45:24
สวัสดีค่ะเลือกอ่านเรื่อวนี้เรื่องแรก ตลกและสนุกมากเร่ิมต้นเรื่องก็น่าติดตามแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-05-2013 16:57:05
รอลุ้นกันต่อไป :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 22-05-2013 17:03:21
นายเอกเต้นไปตามเกม แต่พระเอกเนี่ยมาเหนือเมฆจริงๆถึงขนาดยกเตาอบมาเนี่ย555^__^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-05-2013 00:28:26
 :m7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 24-05-2013 14:24:18
เริ่มต้นเป็นพ่อสื่อ ไปไปมามาก็ชอบกันเองใช่เปล่า
เข้าทำนองพ่อสื่อพ่อชักมักได้เองเปล่า 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 26-05-2013 01:51:46
พ่อสื่อพ่อชัก  มักจะได้''ชัก''เอง   :oo1:


ติดตามๆ  :katai4:
ขอบคุณนักเขียนค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: comics_boy ที่ 02-06-2013 15:43:51
หายไปนานเลยยยยยยยยยย คิดถึงน้องคูณแล้วนาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 03-06-2013 13:46:07
เฮียแทนคิดไงเนี่ย  ฮิ้วว รอความรักมาเติมเอกเพรสโซ่พูดไปได้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 03-06-2013 13:58:00
เจ๋งมากเฮีย  มีมาหยอดตลอด อย่างนี้เพลงเสร็จเฮียแน่555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 03-06-2013 14:13:36
โดนเข้าแล้วเพลงเอ๊ย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 03-06-2013 14:35:46
เพลงพูดอย่างนี้กับพี่แทนได้ยังไง  สงสารพี่แทน เพลงใจร้ายยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 03-06-2013 15:16:35
ตี๋เพลงสะดุ้ง นอนเตียงเดียวกัน    นอนเตียงเดียวกัน!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 3] 19/05/56 > P.95
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 03-06-2013 16:07:01
ขอบคุณค่ะนำ้เต้าหู้กับกาแฟเมนูนี้สนุกจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 09-06-2013 21:10:13
สู้ต่อไปน้องคูณ :mew1:


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 09-06-2013 21:17:10
สนุกเกินไปแล้ว ภาคนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 09-06-2013 21:26:12
กลับมาแล้วดีใจจังค่ะ

แม้ลุคน่านจะดูคุณหนูทำทีไม่สนใจคูณ
แต่เราว่าน่านนทีน่ะร้าย  คงแอบสนใจคูณอยู่แน่ๆ
อ้างเรื่องขวัญข้าวไปงั้น

รอน่านเผยไต๋  แต่ตอนนั้นคูณคงตกหลุมน่านจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 09-06-2013 21:36:34
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 09-06-2013 21:42:09
ดีใจจัง น้องคูณกลับมาแล้ว
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 09-06-2013 21:52:03
เย้ๆๆ  :katai2-1:  มาต่อซะที
คิดถึงคูณอยู่พิดีเลยยยยยยยยยยยยยยยยย   :mew1:

เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปนะ  :katai1:   

ตอนนี้สนุกเลยทีเดียว  o13


มาต่ออีกนะ จะรอ  :t3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 09-06-2013 22:57:44
อยากจะครายอิ้งงงง
งื้ออออ แล้วพ่อน่านจะรักน้องคูณได้อย่างไร
เอ๊ะ รือน้องคูณจะเป็นเจ้าหญิง น่านเป็นเจ้าชายกันน่ะ อ๊ายยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 09-06-2013 23:05:07
เจ้าหญิงคูนถูกขังไว้ในปราสาท แล้วเจ้าชายน่านก็มาช่วยออกไป โอ้ว โรแมนติกสุดๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 09-06-2013 23:23:23
น่านชอบขวัญข้าวจริงๆหรอเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 09-06-2013 23:45:26
ดีใจมากมาต่อแล้ว รอเรื่องนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเลยนะค๊าา  :mew1:
น่ารักนะ สนุกด้วย ชอบๆๆ  น่านยังไม่ออกท่าทีอะไรมาก อยากรู้ว่าจริง ๆ คิดอะไรอยู่น๊า  :hao7:
แตุ่สุดท้าย ยังไงก็คงลงเอยกะพ่อสื่อใช่ไหม   ฮุฮุ  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: mildmint0 ที่ 10-06-2013 01:52:09
 :-[ :o8: วันนี้ลองเข้ามาดูว่ามาลงรึยัง ดีใจตัวลอยยยย คนแต่งยังไม่หายไป สู้ๆน้าาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 10-06-2013 06:46:39
ช่วยกันไปช่วยกันมาเดี๋ยวก็สปาร์คกันอิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 10-06-2013 13:25:54
ไม่เป็นไร
เรายังรอคนเขียนเสมอ หุหุ
น่านนทีจะมีตื้นลึกหนาบางอะไรรึเปล่าเนี่ย  :katai3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 10-06-2013 15:03:58
น่านเป็นผู้ชายที่เข้าถึงยากมากก เหมือนมีออร่าห้ามเจ้าใกล้ถ้าไม่จำเป็นอยู่ คููนเหมือนจะเป็นคนพิเสษนะ โดนขอให้ช่วยแทนแ 555 โดนขอให้ช่ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 10-06-2013 17:30:48
มันแปลกๆแหะ ถ้าน่านไม่ได้ป๊อดจนเกินเหตุ เราว่าน่านต้องแอบชอบคูณอยู่แหงๆ เลย :hao6:

น่านเก่ง สมเป็นเด็กห้องคิงจริงๆ o13

มาต่อไวๆน้าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: comics_boy ที่ 11-06-2013 00:40:58
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ

ถึงจะไม่รู้ว่ามีปัญหาหนักอกอะไร

แต่ก้อขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะคับ

..........................

ส่วนเรื่องน้องคูณกะคุณชายน่าน

ยังดูไม่ออกเลยว่าจะมารักกันได้ยังไง

หรือจริงๆแล้วเป็นแผนสับขาหลอกของคุณชายน่านกันแน่ 55555

จะคอยตามลุ้นคู่นี้จนได้รักกันนะ

คนเขียนก้ออย่าทิ้งคนอ่านให้รอเก้อนะค้าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 >; P.96
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-06-2013 10:28:09
น่านอยากจีบขวัญข้าวจริงปะเนี่ย? หรืออยากอยู่ใกล้คูณ หึหึ..
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-06-2013 11:33:48
น้ำมันใกล้ไฟเดี๋ยวก็ติด :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 11-06-2013 13:46:36
ดีใจจังเลยยมาต่ออีกตอนแล้วว...รอดูความสัมพันธ์ระหว่างคู่นี้ต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 11-06-2013 14:48:04
โอ้วว นึกว่าจะหายไปแล้วซะอีกค่ะ คิดถึงคุณคนเขียนจังงง


ดูไปดูมาเหมือนน่านนทีคงจะไม่ได้ชอบขวัญข้าวอยู่หรอกมั้ง
ท่าทางจะไปแอบชอบน้องคูณแล้วใช้แผนนี้ทำความรู้จักปะนิ
อ่านแล้วคิดถึงช่วงกีฬาสีม.ปลายจัง เวลาผ่านมานานจนแทบจะจำไม่ค่อยได้
แต่ก็ยังจำได้ว่ามันสนุกมาก พอมาอ่านตอนนี้แล้วก็ชักคิดถึงกีฬาสีตะหงิด

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-06-2013 19:22:14
นึกว่าจะขอให้คูณมาเป็นเจ้าหญิงให้ซะอีก   :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: narunarutoboyz ที่ 13-06-2013 11:18:10
ฮั่นแน่ !!  :m12:
น่าน............เเน่ใจนะว่าอยากจีบขวัญข้าวจริงๆ
ไม่ใช่ว่าแผนสูงหลอกล่อให้คูณตายใจและจับกินน่ะ  :o9:
คงกลัวว่าถ้าจีบตรงๆแล้วคูณจะระเเวงใช่มั๊ย พอสบโอกาสเลยใช้เหตุนี้เป็นข้ออ้าง
ถ้าใช่นี่....นายร้ายไม่เบาเลยน๊าาาาาาาา  o18
แต่ถ้าไม่ใช่!!!! ก็ไม่เป็นไร เค้าว่ากันว่าเเม่สื่อเเม่ชักมักได้ชักเอง อิอิ
น้องคูณมีเเต่ได้กับได้? คิคิคิ o3>>>>ได้อะไรหราาาาา......สามีรึเปล่า อิอิ

รอดูปฏิบัติการแผนร้าย? (ของใครกัน?) อย่างใจจดใจจ่อเลยจ้าาาาา
เป็นกำลังใจเสริมด้วยนะ เย้!!  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 13-06-2013 16:17:18
หรือน่านไม่ได้จะจีบหญิงจริง แค่หลอกคูณเพราะเรื่องมากเหลือเกิน   :katai1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: N_N ที่ 13-06-2013 18:29:32
ง่ะ ไมเราอ่านแล้ว ชอบเด่นมากกว่า น่านหว่า เหมือนคุณชายมันจะไม่ค่อยมีบทกับคูณสักเท่าไหร่ แล้วมันจะไปรักกันตอนไหนว่ะ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 14-06-2013 20:51:08
น่านนี้แปลกๆน่ะ จะจีบขวัญข้าวจริงหร๋ออออ 555555 ไม่ใช่เห็นขวัญข้าวเป็นทางผ่านเฉยๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 4] 09/06/56 > P.96
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 14-06-2013 21:43:14
เราว่า

น่านหาอะไรให้คูณทำ เพราะจะได้มีเรื่องมาคุยกับคูณแหละ  : :hao3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 14-06-2013 22:50:55
โอ่ยยยยยยยยยยยยยย  หนุกๆๆ มากกกกกกกก   :katai4:

ใกล้กันมากๆ เดี๋ยวก็หวั่นไหวกันทั้งสองคน


 :pig4: นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 14-06-2013 22:56:06
น่านแอบตกลงอะไรกับขวัญข้าวไว้ก่อนป่าว แผนซ้อนแผนเพื่อจีบน้องคูณงี้ แอร๊ยยยย
มโนเองสุดฤทธิ์ค่า 555+  :hao6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 14-06-2013 23:03:39
เฮ้ย น้องปัด ชงมากไปป่าวววว ประเดี๋ยวคนอ่านก็ฮี้ววจนหมดเสียงหรอก 555

นั่นไง เราว่าแล้ว 
ไม่รู้แหละว่าน่านชอบขวัญข้าวจริงหรือเปล่า
แต่ที่ทำอยู่เี่นี่ย มีแต่เพิ่มโอกาสให้ได้คุยกับคูณมากขึ้นชัดๆ
หนนี้จะให้สอนทำอาหาร  มันก็โอกาสสวีทนิหน่า
เอาล่ะงานนี้ไม่ใครก็ใครได้หวั่นไหวกันบ้างล่ะ (หวังว่านะ 55)

ขอบคุณค่า
ติดตามต่อนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 14-06-2013 23:11:07
มันจะเป็นความใกล้ชิดหรือแผนการกันละนี่?!?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 14-06-2013 23:29:55
 :hao6: อะไรเนี่ยยยย น่านน่าสงสัยมากๆๆๆๆ ดูมีลับลมคมใน

 พอแนะนำให้ไปจีบ ก็บอกว่าให้ไปสืบข้อมูลมาก่อน
 พอไปสืบข้อมูลมาแล้ว ก็บอกว่าให้มาสอนทำอาหาร

เอ้ๆๆ น่านจ้ะ คิดอะไรกะน้องคูณป้ะเนี่ย555 :mew3:

มาต่อไวๆน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 14-06-2013 23:37:01
ลุ้นต่อไปว่าน่านนทีจะเผยไต๋เมื่อไหร่

เอาใจช่วยหนูคูณ   :katai3:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 14-06-2013 23:38:42
พ่อสื่อจะโดนกินเองหรือเปล่าน้า~

น่านแอบน่าสงสัยนะ คูณทำอะไรพูดอะไรเหมือนจะมีข้อต่อรองอยู่เรื่อย

คูณก็นะ ยอมซะทุกเรื่องเหมือนกัน อยากอ่านต่อแล้วววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 14-06-2013 23:48:48
เราว่าน่านแนสูงงงงงงง
แผนซ้อนแผนจีบคูณเองอ๊ะป่าววววววววววว 55555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 15-06-2013 00:06:37
ความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดแห่งความรักนะคูณ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 15-06-2013 02:37:45
แผนซ้อนแผนชัวร์ๆ  :oo1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: mr_longza ที่ 15-06-2013 02:50:20
 :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 >; P.97
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 15-06-2013 08:39:58
สุดท้ายคูณก็ต้องช่วยอยู่ดี น่านมันยังไงกันแน่!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-06-2013 08:47:53
เสร็จคุณชายน่านแน่ๆ น้องคุณ หุหุ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 15-06-2013 09:51:39
แอบมองเห็นแผนของม่านรางๆ..... (หรอออออออออออออ)
จะจีบขวัญข้าวหรือจะจีบน้องคูณของเจ้หรอจ้ะน่านนที กริ๊วววว
สงสารคูณตงิดๆนะตอนนี้ กลายเป็นเป้าสาววายซะงั้น

รอตอนต่อไปค้าาาาา :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 15-06-2013 12:17:04
คูณจะซึนไปถึงไหน :m12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 15-06-2013 12:20:42
ครูกับลูกศิษย์ช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว แล้วเผอิญเอื้อมมือไปจับตะหลิวพร้อมกัน

เกิดไฟฟ้ากระแสสลับสปาร์คคนทั้งคู่  ฮิ้ววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 15-06-2013 12:33:34
จริงๆแล้วเป็นวิธีการที่น่านหาทางชิดใกล้คูณหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 15-06-2013 12:39:02
คือเห็นปัดแล้วเหมือนเห็นตัวเอง ฮ่าาาาาาาา

นี่แหละสอนทำอาหารนี่แหละโอกาสใกล้ชิด บ่อเกิดของความหวั่นไหว อิอิ 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 15-06-2013 15:06:47
 :hao3:  น่าน กำลังจีบ คูณอยู่ใช่ไหม  :heaven แต่หนู๋คูณ ไม่รู้อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: inspyme.glamour ที่ 15-06-2013 16:34:02
น้องคูณมาแย้วววววววววววววววววววว :impress2:
ติดตามน้องมาก็นาน ในที่สุดน้องก็จะมีคู่แล้ว เย้เย :mc4:
น่ารักมากๆทุกเรื่องเลยค่ะ เรื่องนี้ยิ่งน่ารักกกก น่านที่ทำเป็นจะจีบข้าว จริงๆแล้วจะจีบคูณใช่ไหมเล่าถึงได้โยกโย้ นั่นก็ไม่เอาโน่นก็ไม่ดี อยากจะใกล้ชิดคูณนานๆก็บอกมา แอร๊ยยยย(มโนสุดๆ)  o18
ติดตามปักหลักรอ มาต่อบ่อยๆยิ่งดี ไม่ชอบมะระแต่ชอบน้องคูณม๊ากมากน้าา
ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 15-06-2013 17:25:00
แอร๊ยยยยยยยยยย ปฎิบัติการ ใกล้ชิด สะกิดรัก กำลังจะเริ่มแล้ว เย้ 55555555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-06-2013 19:23:35
หนูคูณเอ้ยสื่อไปสื่อมา
ระวังเข้าตัวเองนะจ๊ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: warunporn ที่ 15-06-2013 20:47:05
น่านนี้ยังไงๆอยู่น้าา คูณเหอะระวังไปชอบน่านน่ะ  :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 15-06-2013 23:36:09
โอ๊ะโอ เข้าทางเลย สอนทำกับข้าว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 16-06-2013 00:57:02
 :-[ :-[ :-[
คูณ  แกเสร็จน่านนทีแน่นอน ในไม่ช้านานนี้  ฉันฟันธง  o18
จะว่าไม่เนียนก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะลูกชายร้านข้าวแกงไม่มีท่าทีจะรู้ตัวสักนิดว่าถูกรุกทีละนิดละหน่อย เด็กห้องคิงประมาทไม่ได้จริง ๆ  :laugh:
น่าร๊ากกกกกกกกกก อยากอ่านอีกจ้าา  :mew3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 16-06-2013 20:13:39
น่าน คูณน่ะนะ น่ารักกว่าตั้งเยอะ!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-06-2013 21:42:59
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: YuuYuu ที่ 17-06-2013 10:39:44
เอ มันไม่ใช่แล้ว มันไม่ใช่แล้วววววววว

น้องน่านคะ นี่จีบขวัญข้าวหรือจีบน้องคูณกันแน่เนี่ย
ไม่น่าจะใช่ขวัญข้าวแล้วม๊างงงงง
ที่ให้คูณไปถามนู่นถามนี่ขวัญข้าวก็แค่อยากจะหาโอกาสคุยกับน้องคูณบ่อยๆ หละสิ
แล้วนี่ขอให้คูณสอนทำอาหารก็อยากจะเข้าไปตีสนิททางแม่ด้วยหละสิ ใช่ม๊าาาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 17-06-2013 10:54:58
เริ่มสงสัยแล้วสิว่า ตกลงน่านชอบขวัญข้าวจริงหรือเปล่า

ดูน่านไม่รีบร้อน ไม่กระตือรือร้นเท่ากับตอนที่ขอให้คูณทำนู้นนี้ให้นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 17-06-2013 10:59:56
เนียนเนอะคุณชายน่าน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: orra ที่ 17-06-2013 15:54:06
มึนกว่านี้มีอีกพี่ศรจ๋า มึนได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-06-2013 17:14:17
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 17-06-2013 17:50:33
ชักไม่แน่ใจว่าน่านจีบขวัญข้าวจริงๆ หรือแค่เอาชื่อขวัญข้าวมาบังหน้า  เพื่อหาโอกาสได้ใกล้ชิดกับคูณ  เป็นการวางแผนจีบที่ดูซับซ้อนมาก


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 19-06-2013 20:44:41
เข้ามารอ เข้ามาดัน จานที่ 6

 :katai5:   :katai5:    :katai5: 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 5] 14/06/56 > P.97
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 20-06-2013 12:18:02
เป็นการจีบขวัญข้าวที่ซับซ้อนมากจริงๆ   บางครั้งก็แอบคิดว่าน่านร่วมมือกับขวัญข้าวเพื่อจีบคูณ
ไม่ใช่ร่วมมือกับคูนเพื่อจีบขวัญข้าว
เอออเห้ยย ยังไง พิมไปเริ่มงงตัวเอง 55555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-06-2013 21:32:17
น่านเอาจริงอ่ะ? o22
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: lykar ที่ 22-06-2013 21:34:37
พี่ชายยยย พี่รู้มั้ยฉันตามอ่านย้อนหลังทั้งวันเลยนะ *o*

 :katai5: :katai5: :katai5:

กอดรัดฟัดเหวี่ยงแรงๆ หนึ่งที โทษฐานที่เขียนไว้ยาวมาก สนุกมาก และทำให้ติดงอมแงม

//กลับไปอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 22-06-2013 21:43:05
 :katai5:
มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 22-06-2013 21:52:16
ค้างแต่รอค่า

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 22-06-2013 22:04:23
มาต่ออีกไวๆนะจ้ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 22-06-2013 22:06:15
นี่ผมอ่านเร็ว หรือตอนมันสั้นจริงๆ
(ไม่ได้ว่าคนแต่งนะครับ แค่มาต่อก็ดีใจแล้ว)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 22-06-2013 22:06:48
กรี้ซซซซ น่านขอเบอร์แล้ววว คูณจ้ะระวังตัวให้ดีนะ น่านดูไม่ชอบมาพากลอยู่นาา :hao6:

มาต่อเร็วๆน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: saiiisai ที่ 22-06-2013 22:33:51
เรื่องมันน่าลุ้น
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: toou ที่ 22-06-2013 23:08:02
ให้น่านติวให้โลดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 6666666666666
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 22-06-2013 23:30:37
รอน้องคูณกระทะเหล็กมาจับมือคุณชายน่านถือตะหลิวช่วยกันทำเมนูรัก

ส่วนเรื่องเรียน จะไปยากอะไรล่ะ ก็ให้คุณชายช่วยติวให้ซะสิ ติวไปติวมาก็................นั่นแหละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: beerry_j ที่ 23-06-2013 03:10:50
เอ๋!! ทะแม่งทะแม่งนะเนี่ย ขอเบอร์ด้วยหรอ จีบเพื่อนคูณจริงอะป่าว แหนะๆ  555555  :hao3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 23-06-2013 04:10:31
น่านก็เป็นติวเตอร์ให้คูณมั่งสิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 23-06-2013 05:41:57
ลับลมคมในแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 23-06-2013 07:26:47
หนูคูณคิวทองซะจริงๆ  พอจะมีวันว่างให้ป้าไปหามั๊ยลูก?   :laugh:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: vit ที่ 23-06-2013 09:01:59
เพิ่มอีดนิดไม่ได้รึ อ่านแป็บเดี๋ยวจบแล้ว ได้โปรดนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 23-06-2013 09:38:28
สรุปแล้วจีบคูณใช่มั้ยน่าน
คูณสอนทำอาหาร น่านก็สอนเลขซิ ลงตัวมากๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 23-06-2013 10:59:44
คงต้องให้น่านติวให้แล้วล่ะลูก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 23-06-2013 11:30:27
เย็นนี้ใช่ไหม :katai3: จะได้ช่วยเตรียมอุปกรณ์รอ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-06-2013 14:43:04
น่านเนียนไปป่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: inspyme.glamour ที่ 23-06-2013 14:43:47
แหนะๆ น่าน ทำขอบงขอเบอร์ จริงๆแล้วจะจีบคูณก็บอกมาเลยตรงๆไม่ต้องเขินนนน แอร๊ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: nutty2554 ที่ 23-06-2013 20:55:20
ไม่ไ้ด้คิดเลย จิ้นไกล
แต่ถามจริง



เบอร์น้องคูณเนี่ย เอาไปโทรถามหาร้านแค่นั้นใช่ป่ะ? 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-06-2013 21:07:43
น่านให้คูณสอนทำอาหาร   คูณก็น่าให้น่านติวหนังสือให้ไปเลย แฟร์ๆ เนอะ

รออ่านเรื่องยาวตอนต่อไป 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 23-06-2013 21:50:33
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 23-06-2013 22:22:13
อุ๊ย อยากได้ครึ่งหลัง คิดถึงน้องน่านนน >///<
นายคูณ กลุ้มเรื่องเรียนก็ปรึกษาเด็กห้องคิงสิจ๊ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 23-06-2013 22:27:17
อย่างนี่ต้องผลัดกันติว 555 :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 23-06-2013 23:34:46
แหนะ :hao3: น่านเนียนขอเบอร์คูณใช่ป่ะ

คูณเอ๋นคูณ ทำอาหารเก่งแต่เรียนไม่เก่งสินะ ให้น่านสอนสิ อิอิ

ชอบจัง รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 24-06-2013 11:09:00
ขอตอนต่อแบบยาวๆ เลยนะค้าบบบบ ...
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-06-2013 11:18:38
คูณก็ให้น่านช่วยสอนให้สิ มีคนเก่งอยู่ใกล้ตัวแล้วหนิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 24-06-2013 12:29:56
รอเรียนทำอาหารจ้าาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 >; P.99
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-06-2013 13:34:25
เหมือนน่านกำลังจีบคูณมากกว่านะ!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 29-06-2013 07:10:08
สนุกๆ อยากให้มาบ่อยๆจัง มันค้างอ่ะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: cherilnatcha ที่ 29-06-2013 08:27:25
ให้น่านสอนเลขแบบตัวต่อตัว :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 29-06-2013 10:14:21
 :katai5: :katai5: น้องคูณ เมื่อไรจะมาอ่ะ  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 29-06-2013 10:38:39
ได้อ่านแล้วหายคิดถึงเฮียแทนน้องเพลง

ลูกแม่เดือนกับลูกแม่พลอย

น้องบินกับพี่ศรไปได้นิดนึงเลยอ่า

หวานๆ น่ารัก หื่น+ฮากันทุกคู่เลย ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6.1] 22/06/56 > P.99
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 29-06-2013 10:47:21
ชักยังไงๆ แล้วสิคุณชายน่าน

ตกลงอยากให้น้องคูณเป็นพ่อสื่อ

หรืออยากได้พ่อสื่อกันแน่จ๊ะคุณชาย

เดี๋ยวเบอร์ เดี๋ยวโน้น เดี๋ยวนี ข้ออ้างหรือเปล่าเอ่ย คึคึ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 29-06-2013 13:52:18
อ่าาส์ เห็นอยู่ว่ามีเรื่องใหม่
ไม่เป็นไร เรารอได้
อารมณ์ ซีรี่ส์ฝรั่ง ที่พอจบซีซั่นก็มีเบรคบ้าง
เดี๋ยวไปอ่านเรื่องใหม่รอ ฮาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 29-06-2013 14:17:30
 :a5: ห่ะ  :mew2: ระ รอ ได้ :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 29-06-2013 15:11:42
รอได้ค่ะ
นักอ่านก็อยากอ่านงานดีๆ มากกว่างานที่เค้นให้ออกเป็นตอนๆ ไปอยู่แล้ว
เดี๋ยวอ่านอีกเรื่องรอ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 29-06-2013 15:18:21
รอได้จ้า ยังไงเราก็ตามอ่านพี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่งอยู่แล้ว ชอบอ่ะ น่ารักใสๆดี

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 29-06-2013 15:35:20
ก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้แต่งล่วงใหม่ต่อไปนะ
ยังไงเรื่องนี้ก็จะรออ่านเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 29-06-2013 16:21:15
กำลังตามอ่านซีรีย์นี้อยู่ค่ะ แต่ไม่เป็นรอได้ค่ะ สบายใจเมื่อไหร่ก็อย่าลืมมาต่อนะค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-06-2013 16:39:24
รออ่านได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 29-06-2013 16:55:37
เรื่องโน้นก็อยากอ่าน เรื่องนี้ก็คิดถึง
เลยแล้วแต่คนแต่งครับ เขียนอะไรมาอ่านหมด
เข้าใจอยู่นะ กระแส พว กะ ปน มันแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 29-06-2013 17:08:59
รอค่ะรอๆๆ เดี๋ยวฆ่าเวลาด้ายการไปอ่านเรื่องsotusดีกว่า555 :hao6:

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 29-06-2013 18:03:47
ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ นานแค่ไหนก็จะรอน้องคูณ ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 29-06-2013 19:03:41
ยังไงก็จะรอน้องคูณกับน่าน
แต่ระหว่างรอเราไปอ่านพี่ว๊ากก่อนก็ได้

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 29-06-2013 19:21:02
ไปอ่านเรื่องโน้นรอน้องคูณ น้องน่านได้จ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 29-06-2013 19:38:31
เอาจริงก็แอบผิดหวังที่คนแต่งต้องหยุด
แต่เราเข้าใจมาก ๆ ครับ
ตรง ๆ เลยคือเรารู้สึกมานานแล้วว่าเราไม่ค่อยอินกับภาคนี้เท่าไหร่ทั้ง ๆ ที่แนวมัธยมใส ๆ นี่แนวที่เราชอบมาก
แต่ถึงตรงนี้เลยเข้าใจ เพราะงานเขียนต้องการแรงบันดาลใจ อารมณ์หลาย ๆ อย่าง
เขียนออกมาได้ไม่ดี ก็หยุดได้ครับ
เรารอเสมอ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 29-06-2013 19:50:11
รับแซ่บจ้า

จะเรื่องไหนก็มันส์เหมือนกันทั้งนั้นเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-06-2013 20:07:40
โอเค รอได้ๆ
งั้นเราจะแว้บไปอ่านเรื่องพี่ว้ากก่อนเหมือนกัน 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 29-06-2013 20:17:11
ฮึก...  :monkeysad:
ใจรักน้องคูณกะน้องน่านไปเรียบร้อยแล้วแหละ มันโดนใจพอดีด้วยกับแนวใส ๆ แบบนี้
แต่เราเข้าใจอารมณ์นี้ดี   เอาเป็นว่ารอได้ค่ะ  ไว้พบกัน (ในอีกเรื่อง 555) 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 29-06-2013 20:44:43
รอได้ค่ะ

เราชอบเรื่องนี้มาก

แต่ที่จริงเราก็ชอบทุกภาคนะ

สู้ๆค่ะ เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 29-06-2013 22:30:38
ตามเรื่องใหม่ไปพลางๆ

เอิ่ม..แต่อย่านานจนเรื่องนี้หลุดไปอยู่หน้านิยายที่ไม่มาต่อจนจบนะคะ
เพราะซีรี่ย์นี้สนุกทุกเรื่อง  รอน้องคูณมานานจะเป็นไรไปถ้าจะต่อเวลารออีกสักหน่อย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 30-06-2013 08:04:07
อ่า  ไม่เป็นไรๆ เข้าใจๆ
เดี๋ยวไปตามอ่านเรื่องนั้นล่ะกัน!  :m18:

ส่วนเรื่อง น้องคูณ 
ไม่ว่ายังไง นานแค่ไหน ก็รอนะ

สู้ๆ  :yeb:  เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: narunarutoboyz ที่ 30-06-2013 13:15:03
ห่ะ? จนกว่าจะเขียนเรื่องพี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่งเสร็จ ??!!

 :a5:

คือให้พี่ว๊ากฯจบบริบูรณ์เลยเหรอคะ ฮึกกกกก :sad2:
นานเหมือนกันนะเนี่ยยยย เเต่เราจะทำอะไรได้ล่ะคะ คุณคนเขียนบอกให้รอ เราก็คงทำได้เเค่รอ  :m17:
และจะภาวนาพร้อมกำลังใจให้คุณคนเขียนสบายใจเร็วๆนะคะ  :กอด1:
เราอยากบอกว่าเราชอบทุกภาคเลย เรื่องใหม่เราก็ชอบค่ะ มันทำให้เราคิดถึงวันเวลาเก่าๆได้ดีเลยค่ะ


จะรอเเละเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 30-06-2013 20:14:32
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: inspyme.glamour ที่ 30-06-2013 22:03:49
เสียดายนิดๆที่คงไม่ได้อ่านน้องคูณอีกยาว แต่ตอนนี้กำลังติดลมกับพว และปน อย่างมากเหมือนกัน แหะๆ :-[
เราเข้าใจค่ะ เวลาเขียนแล้วต้องฝืนเพื่อจะเค้นออกมาสุดท้ายมันก็ไม่ใช่ เขียนไปเขียนมาก็ลบอยู่ดี เพราะงั้นไม่ว่ากัน เอาที่เขียนแล้วสบายๆดีกว่า พอมันไหลเดี๋ยวก็ยาวต่อเอง ไม่ต้องซีเรียสค่ะ รออ่านเพื่อผ่อนคลาย นักเขียนสู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกเรื่องเลยค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 01-07-2013 14:40:52
รอได้จ้าาา
เอาน้องเกมส์ มาแทนน้องคูณสั้นๆให้หายคิดตึ๋งได้ก๋า
แต่ตอนนี้ไปอ่นพี่อาทิตย์ก่อนน่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 01-07-2013 14:41:42
เข้าใจค่ะ เรื่องแบบนี้ ถ้ายังไม่มีอารมณ์ก็พักสักพัก ไปแต่งเรื่องอื่นแล้วกลับมาก็ยังรอ จ๊าาา

แอบเสียดายยยเรื่องนี้ อย่างน้อยก็น่าจะให้จบตอนนี้ก่อนนนน

คิดถึงน้องคูณ แน่เลยยยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 01-07-2013 16:30:29
อยากจะบอกว่ารอพี่อาทิตย์กะน้องก้องภพทุกวันเลยค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: luzileas ที่ 01-07-2013 18:48:37
รอได้ค่ะ. เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 02-07-2013 21:50:19
ไม่เป็นไร เราไม่อยากกดดันคนเขียนเหมือนกัน พร้อมแล้วค่อยมาแต่งดีกว่าจ้า แต่เรื่องนี้แอบชอบมากนะ รอได้ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: raluf ที่ 02-07-2013 23:02:04
คุณชายน่านนที นี่ไม่ใช่วิธีจีบหญิงนะคะ มันเป็นวิธีตีสนิทพ่อสื่อต่างหาก รู้ทันนะคะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-07-2013 12:32:38
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 03-07-2013 17:21:36
ว้าาาาาาา ชอบตอนน้องคูณมากกกกกก
รอน้องคูณมาตั้งนาน แต่ไมเป็นไรคะ
จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-08-2013 23:53:34
ดันก่อนจะตกไปหน้าท้ายสุด  แล้วก็โดนลบทิ้งไป  เสียดาย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 01-08-2013 23:56:47
เราติดตามทั้งสองเรื่องอยู่แล้วคร๊าา
สนุกทุกเรื่อง คึคึ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 22-08-2013 12:40:22
รักซีรี่ย์นี้มาก
รอได้เสมอค่ะ
เป้นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 08-09-2013 02:45:04
ThankS
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 08-09-2013 03:25:16
รอนะคร้าาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 29-09-2013 23:10:02
ตามทันแหละ  อิอิ  เป็นนิยายที่สนุกมากเลย  จะรอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 30-09-2013 09:21:13
เข้ามาดันรอไว้ก่อน ไออุ่นกับก้องภพจะจบแล้ว ขอเรื่องนี้ต่อเลยนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 30-09-2013 09:36:27
เรื่องนู้นจบ อย่าลืมเรื่องนี้นะ รอมาตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: Key Mine ที่ 15-10-2013 23:14:36
ดันค่ะ ดัน ดันนนนนนนน :katai4: :katai4: :katai5:
ลืมชื่อตัวเอกในซีรีย์ใหม่แล้วค่ะตอนนี้ 555555
SOTUS จบแล้ว อย่าลืมมาแต่งเรื่องนี้ต่อนะคะ
จะตอนไหนก็ได้ รอได้อยู่แล้วค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: K. ที่ 20-10-2013 01:14:35
ประโยคสุดท้าย ฟินกระจุยกระจายเยยอ่า  :hao5: :ling1: :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [ประกาศคำชี้แจง] 29/06/56 > P.100
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 20-10-2013 01:56:18
ยังรออยู่นะ 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: took-ta_naka ที่ 01-11-2013 19:42:21
 :z13:  คนเขียนก่อน  แล้วรีบวิ่งไปอ่าน  (เดี๋ยวมาจ้า)

เอาน่าคูณตอนนี้เหมาะกับผ้ากันเปื้อน  เดี๋ยวอีกหน่อยก็เหมาะกับน่านเองนะแหละ  เมนูไข่ลูกเขย  แล้วมันจะมีไข้ลูกสะใภ้ไหมน่า...

+1  จ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: parakoparako ที่ 01-11-2013 19:44:29
มาแล้วววววว รอนานเลยนะเนี่ยย :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 01-11-2013 19:55:41
น้องคูณน้องน่านกลับมาแล้ว

 :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-11-2013 19:56:54
คิดถึงฝุดฝุด!!   ชักอยากกินไข่ลูกเขยละ!  :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: sine_saki ที่ 01-11-2013 20:01:34
น้องคูณ คัมแบ็ก!!!
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 01-11-2013 20:03:38
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

 :mc4: :mc4: :mc4: คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: นอนกินแรง ที่ 01-11-2013 20:15:04
คิดถึงจัง กลับมาแล้ว~

ตอนนี้ใกล้ชิดกันอีกนิด อิอิ

คราวนี้ได้รู้กันว่าจะได้เป็นพ่อสื่อแน่หรือเปล่า

ติดตามตอนต่อไปจ๊ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: Thuaphu.H ที่ 01-11-2013 20:20:21
น้องน่านเนียนนะครับ ขอเบอร์ไว้ด้วย หึหึหึ
ว่าแต่... เมนูไข่ลูกเขยนี่ สงสัยได้เป็นลูกเขยของแม่วรรณีมากกว่ามั้งคูณ ?
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 01-11-2013 20:23:52
 :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-11-2013 20:26:21
เมนูแรก ไข่ลูกเขย  แค่ชื่อก็ได้ใจน่านไปแล้ว

รออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 01-11-2013 20:41:27
และแล้วก็ได้ฤกษ์ทำไข่ลูกเขยแล้วจ้าาาาา
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 01-11-2013 21:11:04
+ & + เป็ด ให้เลย

คิดถึงน้องคูณณณณณณณณณณณณณ มากๆ

เรื่องนั้นก็สนุกนะ

ดีใจที่มาต่อเรื่องนี้ เรารออยู่ ตามอ่านอีกรอบเลย

อ่านกี่ทีๆก็สนุกกกกกกกกกก ชอบๆ

มาต่ออีกนะ 

ขอบคุณค่ะ   :hao7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 01-11-2013 21:19:48
 :z2:

เย้ มาต่อแล้ว เราเป็นเอฟซี น้องคูณ

น่ารัก งื้อๆ

น่านตกลงจะชอบน้องคูณจริงจังหรือเปล่า แอบกังวล
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 01-11-2013 21:45:51
ในที่สุดเรื่องนี้ก็มาต่อ หลังจากรอคอยมานานอย่างอดทนด้วยความสนุกสนาน เพราะอ่านปีหนึ่งกะพี่ว๊ากไปด้วย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 01-11-2013 21:50:31
 :hao6: สอนให้ทำไข่ลูกเขย ระวังคุณแม่จะได้ลูกเขยคนใหม่นะ55555

ยิ่งเวลาที่น่านชมคูณว่าattractiveนี้มันชักจะยังไงๆอยู่น้า :z1:

มาต่อเร็วๆน้าาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: aphro_dite ที่ 01-11-2013 22:31:50
รีบมาต่อนะคะพี่ฮันนี่ แฟนคลับน้องน่านนทีคนนี้รออยู่ 55555
ชอบคุณชายแผนสูง รอดูว่าจะมาไม้ไหน
แล้วน้องคูณจะตกหลุมพลางของคุณชายเค้าลงไปอิท่าไหนด้วย
รอนะคะ อิอิ  :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 01-11-2013 23:23:24
 :o12:กลับมาแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: BBnuna ที่ 02-11-2013 01:04:06
ถ้าบอกว่าคิดถึงพี่ว๊ากคงโดนแม่ยกเรื่องนี้ตบเอา
จริงๆก็คิดถึงเรื่องนี้เหมือนกันน่ะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 02-11-2013 01:23:27
อร๊ายยยยยยย  ยินดีต้อนรับกลับมาค่าาา  คิดถึงน้องคูณกะน่านนทีสุดๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 02-11-2013 09:57:49
เย้ๆๆๆ กลับมาแล้ว

คูณน่านความแตกต่างที่ลงตัว

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 02-11-2013 11:01:31
น้องคูณกลับมาแว๊วววว
อุ๊กรี๊ดส์!!!!!!,,, เห็นข่าวในเฟสเลยรีบมาอย่างไวว่อง
สอนไข่ลูกเขย แบบว่าๆบอกทางอ้อมว่าสนใจมาเป็นลูกเขยบ้านนี้หรือเปล่า
ฮิ้วววว~~
อัพต่อน้า รอจ้าๆๆ
ปลฺคิดถึงดิวเกมส์จุง(ยังคงเหนียวแน่น 5555) :hao5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 02-11-2013 18:59:38
อร๊ายยยย คิดถึงคูณมากค่ะ ><
คุณชายน่านขา คือ ทำไมไม่ติววิทย์ยกเซตให้น้องคูณอ่ะคะ
จัดเต็มๆให้น้องคูณมึนมากๆ จะได้หลงคุณชายเยอะๆ // เอ๊ะ ไม่เกี่ยว 555
จะรอกินไข่ลูกเขยนะคะ
ชอบซีรี่ย์นี้ อ่านแล้วหิวค่ะ ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 02-11-2013 19:56:12
ย้งรออ่านเรื่องนี้อยู่แต่ไม่รู้คนเขียนจะเขียนต่อไหม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 02-11-2013 20:19:09
 :mc4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: lillapinn ที่ 03-11-2013 20:30:59
กลับมาแล้ว คิดถึงจัง.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-11-2013 19:25:09
มาเนียนๆเลยนะนายน่าน :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 04-11-2013 20:06:25
ประเดิมเมนูแรกก็เอาไข่ลูกเขยเลยรึน้องคูณ  เดี๋ยวแม่กลับมาตกใจเอานะค่ะ  คิกคิก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 05-11-2013 09:48:51
เย้ มาต่อแล้ววววววว ดีใจมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: raluf ที่ 05-11-2013 18:53:36
กรี๊ด น้องน่านน้องคูณมาแล้ว เ้จ้คิดว่าฝันไป น้ำตาปริ่มๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 05-11-2013 19:22:16
คิดถึงจริงจัง     กลับมาสอนกันต่อแล้ว   :mc4: :mew1:

 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 06-11-2013 00:57:38
คุณชายน่านจะจีบ ข้าว หรือ คูณกันแน่เนีย
เหอะๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 09-11-2013 11:55:29
เย่ น่านนทีกับคูณกลับมาแล้วววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 11-11-2013 07:08:44
 o13 น่ารักกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 11-11-2013 10:43:50
ไข่ลูกเขย ชื่อมงคล จริงๆด้วย 5555

น่าน ว่าทีลูกเขยคุณแม่

อร๊ายยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 6] 01/11/56 > P.101
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 11-11-2013 11:08:25
รอกินไข่ลูกเขยฝีมือคุณชายน่าน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: Thuaphu.H ที่ 12-11-2013 21:56:21
ป้กป้ายก่อนเลยครับ

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:



น..น่ารักอ่ะ อ่านไปแล้วหิวไปเลยล่ะครับ (ฮา) สรุปน้องน่านก็จ้องมองน้องคูณทำตาปริบ ๆ เลยทีนี้
มีการพูดถึงออกเรือนด้วย ...อยากให้ไปออกเรือนที่บ้านน่านหรือครับ ? หืม?? (ฮา)

มีสอนก็ต้องมีตอบแทน ~~ น่าสนุกนะน้องคูณ ~~~~


หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 12-11-2013 22:16:58
แล้วเมื่อไรน่านจะพาคูณออกเรือนล่ะ  :katai2-1: 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 12-11-2013 22:20:59
 :ling1: สั้นอ่ะคนเขียน
อยากอ่านอีก กระหายยยยยย :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 12-11-2013 22:30:31
หิววววว ทำร้ายกันตอนดึกทำมายยยย :ling1:

น่านชมคูณเพราะหวังจะให้ออกเรือนไปอยู่ด้วยรึเปล่าน้าาา :hao6:
แถมดูเต็มใจติวหนังสือให้ซะไม่มี555

มาต่อเร็วๆน้าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: 7PrinceX ที่ 12-11-2013 22:37:07
เยี่ยมเลยค่ะ น้้องน่าน รุกไปเล้ยยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 12-11-2013 22:44:05
แหม เข้าทางคุณชายน่านเลย ท่าทางไข่ลูกเขยจะนำโชคจริงๆ คุณแม่เล่นชวนลูกเขยเข้าบ้านซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 12-11-2013 23:29:32
หิวเลยง่าาาา อยากกินไข่ลูกเขย
น้องน่านติดใจเสน่ห์ปลายจวักน้องคูณแน่นอนน  :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 12-11-2013 23:45:32
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 13-11-2013 00:46:46
น่านเนียนป่ะจ๊ะ 55555
สงสัยจะได้ลูกเขยจริงๆแล้วล่ะมั่ง :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-11-2013 05:33:00
อยากรู้ว่าน่านคิดจะทำอะไร
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: shironeko ที่ 13-11-2013 05:37:50
:-) อ่านแล้วหิวเลยค่ะ 
ติวเตอร์ส่วนตัวแบบน่านก็น่ารักนะคะน้องคูณ
 :L2: มอบให้คนแต่งจ้า ชอบเรื่องนี้จัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: moon ที่ 13-11-2013 07:26:07
คำเตือน นิยายเรื่องนี้ห้ามอ่านตอนกลางคืน กี้ดดดดดดดดหิวเลยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: NINEWNN ที่ 13-11-2013 09:21:50
น้องคูณทำแม่หิววววววววววววว
โฮ ยังไม่ๆด้กินข้าวไง
อ่านแล้วหิวเลย
ไข่ลูกเขยเป็นเมนูไข่ที่เราชอบที่สุดเลยนะ
ยิ่งเจอน้องน่าน สนใจทำไข่ลูกเขยให้แม่ทานมั้ยคะหนู :hao6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-11-2013 09:44:51
ออกเรือนได้สบาย ฮ่าาาาาาาาา
แล้วน่านสนใจเอาไปไว้ที่เรือนมั้ยจ๊ะ
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 13-11-2013 10:40:01
อ่านตอนนี้แล้วหิว เลยอ่ะ
น้องคูณไม่โดน น้องน่านหยอดใช่มั้ย เรื่องออกเรือน
อิอ๊ะย์ จริงๆๆๆ ><
น่ารัก
อัพต่อน้า จะรอจ้า :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 13-11-2013 14:28:40
ดีที่อ่านตอนบ่ายเลยไม่หิวอิอิ
คูณโดนหยอดไป1ทียังไม่รู้สึกตัวกร้ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-11-2013 15:15:31
เข้าทางแม่สินะ  หึหึ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: raluf ที่ 13-11-2013 17:18:55
คุณแม่ปูทางให้ลูกเขยด้วยนะคะ น้องน่านเค้าเป็นมากกว่าทำำไข่ลูกเขย อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 13-11-2013 18:07:50
ที่จริงน่านนทีแอบคิดไรกับคูณอ่ะป่าวหนออออออออ??  :hao7:

หนูคูณเป็นแม่บ้านแม่เรือนจริงๆ ถ้าไม่ติดว่าเป็นนายเอกเรื่องนี้

จะให้พ่อให้แม่ไปขอ งื้ออออออออออออ    :m1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: BlueJay ที่ 13-11-2013 18:25:08
น่านพาคูณออกเรือนเลย..นี่แหละศรีภรรยาที่ดี :katai2-1: :katai1:
ปล.เพิ่งกลับมาจากร.ร.แล้วมาอ่าน ตอนแรกก็ไม่หิวนะ พออ่านแล้วหิวสุดๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-11-2013 19:15:15
อ่านแล้วอยากกินไข่ลูกเขย   จริงๆ น่านคงอยากบอกคูณว่าเป็นศรีภรรยาให้ผม  แต่คงกลัวคูณจะไหวตัวซะก่อน

หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 13-11-2013 21:25:23
สนุกมากค่ะ เมื่อเย็นเพิ่งไปหาซื้อไข่ลูกเขยมากิน มาอ่านนิยายแล้วรู้สึกน้ำลายสอเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: nekko ที่ 14-11-2013 18:37:28
อ่านแล้วหิวข้าวเลย


 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: GETIIZ ที่ 14-11-2013 21:06:32
อ่านเสร็จ หิวเลยยยยยยยยยยยยย
น่านน่ารักเนาะ เอาตรงๆตอนนี้ก็ยังคิดว่าน่านชอบคูนอ่ะ 555555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: Pikky ที่ 14-11-2013 22:18:28
คิดถึงเรื่องนี้มากเลยค่ะ : )
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: yamapong ที่ 14-11-2013 23:41:00
เราก็ชอบกินไข่ลูกเขย 555+
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 15-11-2013 11:16:31
สรุปแล้ววววว
จีบคูณแน่ๆๆเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-11-2013 12:24:33
น่านนทีจีบแบบเนียนๆเลยนะ :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: aelfy ที่ 15-11-2013 21:37:17
เดาไม่ออกเลยอ่ะ

แบบว่าน่านจะจีบคูณแต่ทำเป็นให้คูณช่วยจีบคนอื่น

หรือว่าจะจีบคนอื่นจริงๆ แต่ว่าใกล้ชิดกันจนหวั่นไหว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: nopkar ที่ 16-11-2013 11:06:19
อ่านจบแล้วก็หิวววว ..และน่ารักกันด้วยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 16-11-2013 11:31:24
 น่ารักน่าหยิก
แถมเคล็บลับทำอาหาร
ชอบจัง

 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-11-2013 21:13:32
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 03-12-2013 19:28:40
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกก จังเลยค่ะ :D
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 07-12-2013 23:03:21
บรรยายซะเห็นภาพไข่ลูกเขยเลย
ขอกินด้วยได้เปล่า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: BizcuitO ที่ 04-01-2014 19:29:07
ตามมาอ่านจากเรื่อง SOTUS ค่ะ  :mew3:

อย่างแรกเลย ต้องขอบอกว่าระทับใจชื่อเรื่องมากกกกกกกกกก ยิงมาได้อ่านแต่ละตอนด้วยยิ่งฟินเข้าไปใหญ่เลยค่ะ มันเหมือนเป็นอะไรที่แตกต่างตรงข้ามกันแต่กลับผสมผสาน อร่อยเชียวค่ะ

น้ำเต้าหู้ กับ กาแฟ: สารภาพว่าปลื้มน้อยสุด เพราะอินจัด สงสารพ่อน้ำเต้าหู้ T^T ตี๋เพลงใจร้าย  :mew6:

เค้กช็อคฯ กับ หนมปังสังขยา: หิวววววววค่ะ อยากกินหนมปังสังขยาขึ้นมาแบบสุดๆๆ คู่นี้ก็น่ารักทีเดียวเชียว ซึนๆ  :hao3:

เซ็กซ์ออนเดอะบีช กับ วิสกี้ออนเดอะร็อค: เรื่องนี้พาเมาๆไปกับความมึนๆของพี่ศร ๕๕๕๕ น้องบินก็น่ารัก ไม่รู้ใครมึนกว่ากัน  :hao7:

ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม: กรี๊ดดดดดดด ค่า ขอกรี๊ดอย่างแรงกับคู่นี้  :impress2:ไม่รู้ทำไม แต่เราชอบมากจริงๆ มันเรื่อยๆเอื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไป มีพัฒนาการกันไปเรื่อยๆ ใสๆ น่ารักกกกกกกกกกกก อยากอ่านต้นพิเศษๆๆๆอีกจังค่ะ ติดตามความคืบหน้า >0<  :-[

จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร็ต: ปกติเราไม่ชอบทานลูกอมเท่าไหร่ แต่มาอ่านแล้วอยากอมจูปาจุ๊บแบบน้องเกมส์มั่ง อร้ายยยยย ดิวอึด ทนมากค่ะ แต่ก็สมควรอยู่เพราะคาสฯขนาดนั้น แถมมาหลอกน้องเกมส์อีก ...ตอนพิเศษก็น่ารัก ผลัดกันรักษา อิอิ  :o8:

มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย: น้องคูณณณณณณณณณณณณ โดนเนียนอะ น่านเนียนมากกว่าจะน่านนทีนะ ๕๕๕ เราว่าพ่อเนียนแอบไปตกลงอะไรกับนายเด่นรึเปล่าจ๊ะว่าให้ส่งเพื่อนตัวเองมาเป็นบรรณาการน่ะ หุหุ ...สารภาพว่าไม่รู้ยังๆงแต่ชอบอ่านชื่อน้องคูณเป็น ณเดชน์ ทุกทีสิน่า ๕๕๕๕ และอย่างที่พ่อเนียนเราบอกเลย น้องคูณเหมาะแก่การออกเรือนมากค่า  o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-01-2014 18:03:54
 :กอด1: :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 22-01-2014 02:49:27
คนเขียน อย่าลืมมาต่อซีรีย์มะระยัดไส้บ้างน๊าาาา คิดถึงน้องคูณอ่า >_<  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 22-01-2014 08:58:18
แอบคิดถึงนะนี่ สงสัยจะไม่ได้อ่านแล้วล่ะม้างงงงงงง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 12-03-2014 22:44:47
คิดถึงน้องคูณ   :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม : ภาค มะระยัดไส้ กับ ไข่ลูกเขย [จานที่ 7] 12/11/56 > P.103
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 13-03-2014 00:46:08
เรื่องนี้จะไม่มาอัพไรบ้างหรอ รอนานแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet ที่ 18-04-2014 00:05:34

เรามีคำอธิบายมากมาย แต่เราไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากคำพูดที่ว่า


"เราขอโทษ เราเสียใจ เราขอบคุณ"


ตลอดช่วงที่เขียนซีรีย์หวานอมขมเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นเรามีความสุขมากที่เขียนนิยายวาย


มีความสุขกับพี่แทน ไอ้ตี๋เพลง นักรบ สาลี่ บินหลา พี่ศร  ปลายฟ้า คมสัน ดิว เกมส์ มีความสุขกับคนอ่านที่คอยอยู่ข้างๆ เรา ให้กำลังใจ คอมเมนต์ ทวงนิยาย กดเป็ด กดโหวต ให้กับซีรีย์หวานอมขมตลอด


มาจนถึงตอนที่เรามีปัญหาในการเขียน ภาคล่าสุด น้องคูณ น้องน่าน เรารู้สึกได้ว่าเราเริ่มไม่มีแรงบันดาลใจจะเขียนแล้ว


ทั้งๆ ที่เราสัญญาว่าเราจะลงน้องคูณน้องน่านไปให้สุดทาง แต่เราก็ทำไม่ได้ มันเหมือนหมดแรงวิ่ง เราวิ่งมาตลอดสองปี จนถึงวันหนึ่งก็ต้องหยุดพัก เราขอโทษที่เคยรับปากไว้ และเราเสียใจที่ตัดสินใจแบบนี้ แต่ถึงไม่มีเรื่องของน้องคูณน้องน่านแล้ว นิยายเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สมบูรณ์ในตัวมันเอง 


เราคิดว่าเราคงไม่พิมพ์ซีรีย์หวานอมขมเป็นเล่มกับสำนักพิมพ์ที่ไหน เพราะโดยแรกเริ่มก็ไม่ได้ตั้งใจจะพิมพ์อยู่แล้ว มันเกิดจากในนี้ ก็ขอให้จบลงในนี้  เพราะฉะนั้นถ้าใครคิดถึงกันก็แวะมาหากันบ้าง เรายันยืนคำเดิมเสมอว่ารู้สึกดีใจที่เราได้อยู่ด้วยกันมาจนถึงตรงนี้


ขอบคุณจริงๆ สำหรับทุกอย่าง


...ขอบคุณที่ทำให้ ‘ซีรีย์หวานอมขม’ อร่อยลงตัวถูกปาก...ถูกใจ...


 :กอด1:


BitterSweet


 
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 18-04-2014 00:23:56
ok ค่ะ  :hao5:

 :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 18-04-2014 01:19:19
เคารพการตัดสินใจของคนเขียนค่ะ   :m15: :o12:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 18-04-2014 02:55:59
เคารพการตัดสินใจของคนเขียนนะ :hao5:
ถึงจะไม่อยากให้จากไปก็เหอะ
ยังมีเรื่องค้างอยู่หลายๆเรื่อง ซึ่งน่าเสียดาย

ความรู้สึกเราอยากจะให้อย่างน้อยเก็บเอาไว้โดยไม่ลบจะได้มั้ย
(อย่างเรื่องน้องคูณน้องน่าน เราก็ติดตามนะ มันเป็นชีวิตเด็กๆที่น่ารักดี
ถึงจะยังไม่ได้เป็นแฟนกันแต่เราก็ยังอยากเก็บเรื่องราวของสองคนนี้ไว้)
พอเราคิดถึงเราก็ยังอยากอ่านอีกครั้ง อย่างน้อยก็ในเด็กดีก็ได้

พอคนเขียนพร้อมเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะกี่ปี
พวกเราก็จะต้อนรับเสมอ  :กอด1:
เราเข้าใจว่าไม่มีใครหรอกที่อยากจะทิ้งหรือลบเรื่องที่ตัวเองสร้างขึ้นมา
เพราะมันเป็นที่สร้างความทรงจำและความผูกพันธ์ระหว่างคนเขียนและคนอ่าน


จะรอเสมอ หวังว่าสักวัน เราคงจะได้พูดว่า
"ยินดีที่กลับมานะ"
 :L1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: bobby_bear ที่ 18-04-2014 09:33:45
ในที่สุดก็มีวันนี้ เฮ้ออออ
เราคิดไว้แล้วล่ะว่าต้องเป็นแบบนี้ เพราะงานเขียนถ้าไม่มีแรงบันดาลใจ อยากเขียนแค่ไหนก็ทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่ดีใช่มั้ยครับ

ขอบคุณนะครับที่แต่งนิยายเรื่องนี้ออกมา
เราชอบนิยายของคุณครับ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 18-04-2014 09:38:39
ตกใจแป๊บ  o22
แต่เราเองก็เคยเขียนนิยายอยู่พักนึง แล้วพอวันนึงมันก็ถึงจุดอิ่มตัวขึ้นมา แล้วก็เป็นคนอ่านอย่างเดียวจนถึงทุกวันนี้
ยังไงถ้าวันนึงพบแรงบันดาลใจ หรืออยากกลับมาเขียนอีก  ก็เขียนได้เสมอนะคะ
ชอบเรื่องนี้มากเลย  หวานอมขมได้สร้างแรงบันดาลใจกับรอยยิ้มไว้ให้เราเยอะมาก ซีรีส์ชุดนี้จะอยู่ในใจเสมอจ้า :bye2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SenzaAmore ที่ 18-04-2014 14:13:45
 :hao5: ไม่เป็นไรค่ะ ถึงจะรู้สึกใจหายก็เหอะ

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆอย่างนี้ออกมานะคะ รอติดตามเรื่องใหม่นะคะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 18-04-2014 14:39:40
เสียดาย เสียใจ แต่ก็เข้าใจนะคะ จะเป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ และจะรองานเขียนชิ้นต่อไปของนักเขียน. สู้ๆค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: vivalasvegus ที่ 18-04-2014 19:23:06
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ หวังว่าจะได้อ่านเรื่องของคุณในอนาคตอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 18-04-2014 21:49:28
เคารพการตัดสินใจของคนเขียนค่ะ  แต่กลับมาได้ตลอดนะ   :hao5:

ซีรีย์ชุดนี้เป็นอีกหนึ่งนิยายในดวงใจเลย  อ่านซ้ำมาสองรอบแล้ว คิดว่าต้องได้กลับมาอ่านอีกแน่นอน

ขอบคุณ BitterSweet มากค่ะ  :o7:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 19-04-2014 23:59:39
อ่านภาคแรกถึงแก้วที่สาม แต่คือน่ารักกก น่ารักมากทั้งเพลงและแทนคนนึงกวน ๆ คนนึงชอบแต่ไม่กล้าบอก อิอิ หวังว่าคุณแทนไทจะบอกนายดนตรีไปเร็ว ๆ นี้นะคะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 00:32:38
เมื่อไหร่จะกล้าบอกรักเพลงกันนะพี่แทน แอบรักมันเจ็บนะ..แต่ก็เจ็บไปตาม ๆ กันนั่นแหละ คนนึงแอบรักแต่อีกคนดันชอบคนอื่นไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 00:56:53
แก้วที่เจ็ด.....พี่แทนอย่างแมนอ่ะ คือรักและดูแลอย่างดีไม่ฉวยโอกาสตอนเพลงไม่รู้เรื่อง
แก้วที่แปด...ถ้าเพลงจะรู้สักนิดว่ามัคนรักและห่วงอยู่ก็จะดีมาก ๆ คือดูแลดีมากหาโน่นนี่มาให้กิน
พี่แทนสู้ ๆ น๊าาาเดี๋ยวเพลงเค้าก็ต้องรู้สักวัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 01:19:25
แก้วที่เก้า...พี่แทนแมนมากกก เอาใจไปในที่สุดก็บอกชอบแล้วแต่เพลงแบบไม่เข้าใจแถมต่อยอีกต่างหาก
แก้วที่สิบ...อึ้ง ๆ อึ้งครับเพลงอึ้งคงไม่คิดว่าหน้าโหด ๆ แบบเฮียแทนจะเล่นมุกเสี่ยวล่ะสิแต่เป็นไปแล้วจ้าาา พี่แทนสู้ ๆ เดินหน้าต่อเลย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 01:42:16
แก้วที่สิบเอ็ด...พี่แทนสู้ ๆ เพลงกำลังหวั่นไหวไม่นานจีบติดแน่บอกเลยยย เป็นไงอวดภูมิสุดท้ายเข้าตัวเห็น ๆ ถ้ารู้ก็อย่าลืมสอนพี่แทนนะจ๊ะคุณเพลง ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 02:00:38
แก้วที่สิบสอง.......พี่แทนสู้ ๆ ใกล้ ๆ เพลงมันหวั่นไหวแล้ววว
แก้วที่สิบสาม..... เพลงงงงงคิดถึงพี่แทนก็บอกเขาไม่ไปหาวันเดียวเองหงุดหงิดอย่างกะหมาบ้าจนต้องไปหาเขาถึงบ้านแหมมมคูณมันก็พูดความจริงหรอกตัวเองยิ้มหน้าบานมาตั้งแต่พี่แทนบอกคิดถึงเหอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 02:50:17
แก้วที่สิบสี่....มันก็หวั่นไหวอยู่แหละแต่ไม่ยอมรับไงอีคนหัวดื้อ ๆ จริง ๆ เลยเพลงเดี๋ยวเถอะไล่เขาไปถ้าไปจริงอย่ามาร้องไห้ขี้มูกโป่งนะไม่สงสารเลย
แก้วที่สอบห้า...ใจร้ายว่ะเพลง ใจร้ายมาก ๆ คำพูดอ่ะทำร้ายจิตใจมากตัวไม่รักไม่ชอบแล้วผลักไปหาคนอื่น เจ็บนะแบบนี้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 03:05:04
แก้วที่สิบหก....เศร้าเลยยยยย รักกันก็บอกไปสิว๊าาาหนีกันทำไมว่าแต่ใครโดนชน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 03:14:03
แก้วที่สิบเจ็ด......คำว่ารักต้องพูดเบา ๆ ฮิ้วววววววว ไงล่ะเสี่ยวเจอเสี่ยว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 03:27:59
แก้วที่สิบแปด....หวานนนทำไมตอนนี้มันหวานแบบนี้น๊าาา พอเข้าใจกันละเอาใหญ่เลยนะ
แก้วที่สิบเก้า.....ดีกันได้ไม่เท่าไหร่เถียงกันอีกละคิดมากว่ะเพลง เอาล่ะนอนเตียงเดียวกันฮิ้ว ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 03:36:23
แก้วที่ยี่สิบ.....เกือบไปแล้วเพลงเกือบเสร็จพี่แทนละเกือบห้ามตัวเองไม่ทัน
แก้วที่ยี่สิบเอ็ด.....พอได้จูบทีละเอาใหญ่เลยนะพี่แทน แหน่โดนขอเป็นแฟนแค่นี้ตกใจแก้วร่วงอีกละเพลง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 03:47:11
แก้วที่ยี่สิบสอง.....พี่แทนหื่นขึ้นมากก ก็อย่างว่าเพลงมันน่ารักนี่เนอะ
แก้วที่ยี่สิบสาม.....เกือบไปอีกละเพลงแต่พี่แทนแบบน่าสงสารค้างหลายทีละเจอหนักแน่เพลงถ้าแขนหาย จบแบบมีความสุขแบบนี้ดีจัง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 03:57:18
แก้วพิเศษ....สมใจพี่แทนกำไรเต็ม ๆ ฮวาาาาา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 05:26:01
ชื้นที่หนึ่ง.....โอ๊ะ กวนตีนกันตั้งแต่ต้นเลยแฮะ จะรอดมั้ยเนี่ย  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 05:38:27
ชิ้นที่สอง....แหน่ลูกแม่พลอยไปแกล้งเขาทำไมเดี๋ยวโดนเอาคืนแล้วจะยุ่งนะ
ชื้นที่สาม....ไม่มีชื่อเป็นของตัวเองเหรอวะอีคู่นี้แต่ว่านายเอกของเราทำไมปากไม่ตรงกับใจเลยนะ ขนมร้านพระเอกอร่อยล่ะสิ
ชิ้นที่สี่.....จะไปหลอกถามสูตรเขายังไงคุยกันดี ๆ ยังไม่ได้เลย :ruready
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 05:42:46
ชิ้นที่ห้า....ไม้เบื่อไม้เมากันจริง ๆ มันจะญาติดีกันตอนไหนล่ะเนี่ย :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 05:47:33
ชิ้นที่หก....อึ้งไงน้องสาอึ้งโดนเขาจูบสติหลุดหมดละ วิญญาณออกจากร่างเลย นี่ก็เวอร์ ฮ่าๆๆๆๆ :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 05:51:12
ชิ้นที่เจ็ด...อย่าว่าแต่น้องสาจิตหลุด แหม่อีพี่นักรบมันก็เคลิ้มเหมือนกันล่ะวะ ฮวาาาาาา :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 05:55:06
ชิ้นที่แปด.....อ้าวเฮ้ยยย แม่เป็นเพื่อนสนิทกันแต่ลูกดันไม่ถูกกัน เอาเถอะเกลียดอะไรได้แบบนั้นให้มันไม่ถูกกันมาก ๆ เดี๋ยวมันก็ตกหลุมกันเองแหละ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 06:02:07
ชิ้นที่เก้า....แหมคุณนักรบชอบเขาที่แกล้ง ๆ อยู่เนี่ยอยากอยู่หาวิธีคุยกับเขาก็บอกแต่ว่าร้านของสานี่เองสินะที่อีพี่แทนมันซื้อขนมไปฝากแฟน แหม่โลกกลมนะนี่นักรบยังรู้จักกับเพลงอีก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 06:08:01
ชิ้นที่สิบ....เออดีกันได้ไม่นานมันก็เถียงกันอีกแต่งานนี้นักรบมีหยอดจ้ามีหยอด หลงรักน้องสาไง ??
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 06:15:50
ชิ้นที่สิบเอ็ด....รักน้องสาก็บอกกกก แหม่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 15:05:35
ชิ้นที่สิบสาม.....ตกหลุมรักน้องสาแล้วล่ะคุณนักรบ ฮ่าาา แหงล่ะน้องสาออกจะน่ารัก :mew2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 15:41:52
ชิ้นที่สิบสี่....ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนแต่อยากเป็นอย่างอื่นแต่ไม่บอกเขาก็ไม่รู้หรอกนะพ่อหนุ่ม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 16:08:14
ชิ้นที่สิบห้า....ทีแรกว่าจะบอกเองแต่ดันมีอุปสรรคไป ๆ มา ๆ เจ้าตัวเลยมารู้เอง ความลับมันไม่มีในโลกจริง ๆ แต่อยากรู้ว่าสาคิดยังไง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 16:18:11
ชิ้นที่สิบหก.....อะไรกันเหมือนใจจะตรงกันแต่ไม่คุยกันเลยคิดไปคนละทางเอากับเขาสิ  :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 16:26:27
 :o8: เค้าเข้าใจกันแล้ววว หวานล่ะคราวนี้  :z2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 16:37:22
ชิ้นที่สิบแปด.....น่ารักกกก :impress2: แต่คือแบบมันจะคุยกันดี ๆ ได้เกินสองนาทีมั้ยวะรบก็ขี้แกล้งจังนะน้องสาก็ขี้โวยวายเออ ไปกันได้อยู่
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 16:48:57
ชิ้นพิเศษ....เสร็จโจรชื่อรบเพราะแม่ไม่อยู่บ้าน แต่อย่าว่ารบมันหื่นเลยน้องสาก็หื่นจ้า หื่นเงียบ :m25:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 16:57:06
ช็อตที่หนึ่ง.... :laugh: :laugh: อีพี่ศรอย่างฮา นี่อกหักหรือคนบ้ากันน่ะหนึซ้ำไปขอเขาเป็นแฟนแล้วยังจะปล้ำเขาอีก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 17:05:41
ช็อตที่สอง.....อยู่ดี ๆ ก็มีแฟนแถมโดนมัดมือชกอีกตะหากกเนอะบินเนอะ  :z10: อีพี่ศรขี้ตู่แต่น่ารักมุ้งมิ้งอ่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 17:15:35
ช็อตที่สาม.....บินแบบฮาร์ดคอว่ะด่าแม่งอย่าเดียว :hao7: อีพี่ศรก็หน้ามึนมึงด่าไรด่าไปกูไม่สนแต่มึงเป็นแฟนกูแล้วงี้ โอ้ยยย ฮวาาาาา   :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 17:24:03
 :mew1: มึน ๆ นะบิน ฮ่าๆๆแต่คือมาร้องเพลงจีบกันนี่หว่าา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 18:29:46
ช็อตที่ห้า.....เอาน่าบินมีแฟนรวยสบายไปทั้งชีวิตดูดิหิวข้าวมีคนเลี้ยงดูหนังมีคนจ่าย พี่ศรจะเอาเอมมี่มาเปรียบกับบินไม่ได้หรอกคนละคนกัน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 18:39:23
ช็อตที่หก...อีพี่ศรเมาแล้วก่อเรื่องจะทำน้องเดือดร้อนนะเนี่ย ไปจูบเขากลางร้านต่อหน้าประชาชีอีก :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 18:54:09
ช็อตที่หก....ไปเลยตามหาน้องให้เจอแล้วขอโทษน้องซะ ใจเขาใจเรา
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 20:04:56
ช็อตที่แปด....ไม่สบายแล้วยังจะดื้ออีกแหน่ะน้องบิน ให้พี่เขาดูและน่ะถูกแล้ว หนูไปนอนตากน้ำค้างมานี่นะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 20:17:38
ช็อตที่เก้า....หน้ามึนตลอดอ่ะพี่ศรแต่ก้น่ารักมีร้องเพลงง้อบินด้วย ไอ้บินก็น๊า เขินล่ะสิหวั่นไหว ๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 20:32:35
ช็อตที่สิบ....หน้ามึนไมส่พอยังเป็นไอ้บ้าอีกแหน่ะ แต่น่ารักดีหึงน้องแม้กระทั่งกับพยาบาล ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 20:42:24
ช็อตที่สิบเอ็ด...ว่าแต่พี่มันน่ามึนตัวเองก็มึน ๆ งงเหมือนกันนั่นแหละ ฮ่าๆๆ พี่ศรดูอบอุ่นจังบินก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 20:53:33
ช็อตที่สิบสอง.....เอาเถอะเดี๋ยวอีกหน่อยบินก็คงจะเข้าใจ มึน ๆ อึน ๆ กันอยู่นี่แหละทั้งคู่ :really2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 21:07:22
ช็อตที่สิบสาม...หน้ามึนบ้าบอแถมขี้น้อยใจอีกน๊าพี่ศรเนี่ยแต่ก็นะก็เป็นห่วงนี่หว่าอยากอยู่ด้วยอยากดูแล บินไล่พี่เขาทำไม
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 21:28:08
ช็อตที่สิบสี่...เวลาบินเขินมันน่ารักดีเนาะ..อีพี่ศรก็ดหน้ามึนบอกรักอีกแล้ว ฮิ้ววววว
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 21:39:12
 :mew1: :mew1: :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 21:46:15
ช็อตที่สิบหก....ฮึ่ยยยยกำลังหวานกำลังน่ารักเลยยัยเอมมี่ดันโทมา :angry2: อย่าคิดมากนะบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 21:53:11
ช็อตที่สิบเจ็ด....รีบ ๆ กลับไปเร็ว ๆ เลย ป่านนี้คิดไปถึงไหนแล้วมั้งบินน่ะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 22:03:59
ช็อตที่สิบแปด...แฮปปี้เอนดิ้งแต่บินแบบเสี่ยวได้หน้ามึนมาก "เมารัก" อหหหหหหห
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: peeknim24 ที่ 20-04-2014 22:20:24
ช็อตพิเศษ...แฮปปี้กันไปอีกคู่รักกันไปนาน ผ่านไปนานขนาดไหนบินกฌขี้โวยวายเหมือนเดิมส่วนอีพี่ศรแม่งก็หน้ามึนอยู่นั่น เออ แต่ก็อยู่กันมาได้ป่านนี้แหละวะ มึนอึนกันต่อไป
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 21-04-2014 15:30:57
ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาแฟอีน  o13
อยากมีแฟนแบบพี่แทนจังงง อิ้อิ้
น้องเพลงน่ารักมาก อร๊ายชอบอ่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: luv_khun ที่ 21-04-2014 18:12:35
 ไม่เป็นไรนะจ๊ะ หมดแรงก็พักก่อน 
เกิดวันข้างหน้าเกิดพลังขึ้นมา อยากมาเขียนเรื่องน้องคูณ กับน้องน่านต่อก็ได้นะ
เราคนอ่านรอได้จ๊ะ

และขอบคุณที่เขียนเรื่อง หลากหลายรสชาด ให้ได้อ่านกัน :pig4: :pig4: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 22-04-2014 00:25:18
ภาค ขนมปังสังขยา กับ ลาวาช็อคโกแล็ต
อร๊ายยย เป็นคู่รัก[คู่กัด]ที่น่ารักมาก ><
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 22-04-2014 13:37:39
ภาค Sex on the Beach กับ Whisky on the Rocks

อ๊ากกกก อิจฉาบินที่มีแฟนแบบพี่ศร หล่อ รวย เอาใจทุกอย่าง อร๊ายยย
ปล. พี่ศรโคตรเนียนอ่ะ 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 23-04-2014 12:52:15
ภาค ยอดสะเดา กับ ข้าวโพดต้ม

อร๊ายยย ปลายคือนายเอกในฝัน ><
พี่คมคือพระเอกในใจ คนที่แสนดี
ชอบคู่นี้ที่สุดดดด กรี๊ดดดดด อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 23-04-2014 13:28:51
ภาค จูปาจุ๊บ กับ ซิกาแร๊ต

อ๊ากกกกกก หวาน หว๊าน อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 23-04-2014 13:33:40
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านฮับ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: canvrce ที่ 24-04-2014 01:19:11
อ๊ากกกกกก เค้าพึ่งเข้ามาอ่านตอนของพี่แทนกับเพลง คือทั้งหวาน ทั้งหอมมากอะ ชอบคู่นี้ น่ารักที่หนึ่ง อ่านไปเขินไป ยิ่งฉากดราม่านะ เศร้าตามด้วยอะ ชอบๆๆๆๆๆ และจะอ่านตอนอื่นๆอีกด้วย รู้เลยคงต้องหวานและรักเหมือนตอนพี่แทนกับน้องเพลงแน่นอน :)
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 24-04-2014 14:50:51
ไม่เป็นไรคะ แต่เสียดายมากก อยากอ่านอีก อยากอ่านอีกเรื่อยๆ แต่ถ้าผู้เขียนเห็นสมควรว่าไม่ต่อแล้ว ก็เคารพการตัดสินใจคะ ^^
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 26-04-2014 18:14:07
สนุกทุกเรื่องเลยยยย
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 27-04-2014 03:45:17
เสียดายจัง แอบชอบน้องคูณอยู่เบา ๆ 555+

ชอบคู่ดิว เกมส์ ที่สุดเบย คู่อื่นก็สนุกนะ โดยเฉพาะคู่แรก เพราะถ้าไม่สนุก ไม่ฮา คงไม่อ่านมาเรื่อย ๆ จนจบ

ขอบคุณคนเขียนมาก และขอยกนิยายเรื่องนี้ เป็นหนึ่งในนิยายในดวงใจตลอดกาลอีกเรื่องนึง
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: newyniniw ที่ 27-04-2014 13:40:44
ง่า เพิ่งมาดูอีกทีเห็นย้ายมาห้องจบแล้ว เสียดายจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เคารพการตัดสินใจของคนเขียนนะ นิยายเรื่องนี้สนุกมากทุกภาคเลย ตลอดเวลาที่อ่านแบบว่ามีความสุขอ่ะ ชอบมากเลยค่ะ

ขอบคุณมากที่เขียนมาให้อ่านกันนะคะ รักตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้ รักคนเขียนด้วย กอดสักที
 :กอด1:
ขอบคุณมากๆนะคะ
 o13 :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 28-04-2014 12:29:19
เสียดายที่ไม่ได้เขียนต่อแล้ว สนุกทุกภาคแต่ชอบภาคน้ำเต้าหู้ที่สุด เป็นภาคแรกทึ่อ่านแล้วทำให้เราติดต้องตามอ่านทุกๆภาค
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 30-04-2014 19:54:41
สนุกทุกภาคครบรสจริง ๆ หวาน มึน เกรียน  o13
                         :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 05-05-2014 16:52:12
ThankS
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 12-06-2014 09:31:08
สงสารศรเบาๆ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 12-06-2014 10:37:34
โอย ไม่ไหวจะฮากับภาคสะเดา ข้าวโพด ปลายมันช้าจริงๆอ่ะนะช้าจนได้เรื่องต้องให้พ่อจิตอาสาคมมาดูแลทุกเรื่องซะแล้ว :m20: :m20: :m20: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 12-06-2014 19:25:53
เข้าใจความรู้สึกของเกมส์นะ เพราะดิวเป็นคนแบบที่เกมส์ว่าจริงๆ มันช่วยไม่ได้ที่เกมส์จะไม่มั่นใจว่าดิวจะชอบตัวเองจริงๆ  และเป็นเรื่องธรรมดาที่เกมส์จะสร้างกำแพงเพื่อกั้นตัวเองจากดิว คนเรารักตัวเองทุกคนแหล่ะถ้าเราเห็นว่าสิ่งนั้นจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดก็ไม่แปลกที่เราจะพยายามหลีกหนีมัน  แต่ยังไงก็อยากให้เกมส์ให้โอกาสหัวใจตัวเองนะไม่ต้องคิดว่าทำเพื่อใคร แต่ให้คิดว่าทำเพื่อใจตัวเองก็พอ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: juneloveme ที่ 13-06-2014 04:06:04
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 15-06-2014 10:32:54
สนุกทุกคู่เลย  :katai2-1:

ปล.อ่านแล้วก็อยากกินตามชื่อเรื่อง  :z1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 20-06-2014 01:12:27
เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน เรื่องน่ารักมากเลย ตอนแรกที่ไม่อ่านเพราะกลัวจะดราม่าเนื่องจากมันหวานอมขมน่ะแหละ แฮะๆ
แต่พออ่านแล้วมันก็หวานอมขมจริงๆ แต่มันลงตัวและไม่รุนแรงขนาดหนัก ทำให้มันยังคงความน่ารักอยู่ได้เสมอ
ขอบคุณคนแต่งมากค่ะสำหรับนิยายดีๆ ถึงจะเสียดายที่ไม่ได้อ่านน้องคูณ แต่ก็เคารพการตัดสินใจของคนเขียนค่ะ
จะเป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 21-08-2014 23:25:32
ชื่อซีรีย์หวานอมขม ขมไปไหนหมด เจอแต่หวานนะเนี่ย  ฮี่ๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 08-10-2014 08:14:06
ติดตามมาจากเรื่อง Sotus คะ ตอนนี้กำลังเริ่มอ่าน  ภาค น้ำเต้าหู้ กับ คาเฟอีน ถึงแก้วที่ 11 แล้ว
คอยลุ้นเอาใจช่วยพี่แทนให้จีบ น้องเพลงติดนะจ๊ะ หวานกะมุกเสี่ยวๆของทั้งคู่อิอิ  o18
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 08-10-2014 11:49:29
แก้วที่ 14 เฮ้ยเพลงพูดว่าเกลียด พี่แทนได้ไง ทำพี่แทนเขาเสียใจนะแก
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 08-10-2014 12:12:04
 o16
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 14-04-2015 14:19:51
อ่านอีกรอบ โอ้ยยยสนุกเหมือนเดิมจ้า
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 07-05-2015 00:20:15
 o13
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 07-05-2015 02:11:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 26-07-2015 09:40:55
สนุกมากกกกกกกกกกเลยค่ะ  o13
ชอบคู่พี่ศรกะบินที่สุด  :m1: :m1: มึนได้ใจน้องมากเบย  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 28-09-2015 17:33:23
สนุกทั้ง 5 ตอนเลยครับ แต่ที่ชอบที่สุดก็ เพลง – พี่แทน กับ บินหลา – ไกรศร

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 26-08-2016 18:09:49
อ่านเเล้วได้เเต่ร้องฮิ้ววววววดังๆ
555555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 27-08-2016 15:18:27
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่น่ารักมาก อ่านแล้วฟินเหมือนกันขนมอบเสร็จใหม่ๆ
เดี๋ยวจะตามต่อเรื่องถัดไปอีกนะคะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ o13 :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 27-08-2016 17:32:26
555555
พี่ศรกับน้องบิน
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 28-08-2016 01:34:59
อยากอ่านตอนพิเศษ คมกับน้องเต่าอีก ฮืออออ ขออีกได้ไหมคะ ~
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 28-08-2016 23:39:22
โถ่ๆๆๆๆๆ ไม่รู้จะสงสารน้องปลายฟ้าดีไหม โดนพี่คมผู้หวังดีแย่งทำให้จนเหมือนกลายเป็นประสงค์ร้ายในความคิดน้องปลายไป

ครั้งหน้าหากเจอกันอีก ไม่รู้จะยังไงนะ2คนนี้ รู้แต่คนอ่านมีความสุข 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 29-08-2016 00:02:11
ครั้งนี้น้องปลายก็ยังไม่กล้าท้วงอะไร พี่คมระวังไว้นะ เกิดน้องปลายทนไม่ไหวระเบิดออกมา
จะหงายเงิบกัน 555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 29-08-2016 14:15:06
ดิวกะปั่นกระเเสเเหง ไม่ได้เป็นบัดเดอร์จริงๆ
เเต่พอบอกปลายเเบบนั้นจะได้เป็นข้ออ้างเข้าใกล้ไง
เพราะเราว่าคมต่างหากเป็นบัดเดอร์ปลายตัวจริง
หุหุ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: ติชิลา ที่ 29-08-2016 15:49:19
ตายค่ะตาย เพิ่งอ่านจบไปสองซีรีย์ น่ารักมากมายอะ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 29-08-2016 20:59:48
คมต้องขยันทำคะแนนนะคะ เพราะคู่แข่งคมเป็นดิวเชียวนา 5555
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 29-08-2016 22:11:12
สรุปที่ดิวเคยเปรยว่าในกลุ่มนี้มีคนน่ารักอยู่กด้วย นี่หมายถึง เกมส์ ใช่ปะ
ว๊าย ลุ้นคู่นี้ไปพร้อมกับคู่คมปลายดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 30-08-2016 19:21:23
ในเมื่อเกมส์ไม่เหมือนใคร ดิวคงต้องใช้ความพยายามและความเข้าใจแล้วแหละ
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 30-11-2016 23:15:38
ชอบจังเลยคะ เรื่องละมุนละไม กลมกล่อมในอารมณ์ สมกับที่โฆษณาไว้เลยคะ

สารภาพว่าอ่านเรื่องแรกแล้วข้ามไปอ่านเรื่องสาม นี่กำลังจะข้ามไปอ่านเรื่องห้าต่อ

ถูกใจตรงได้เห็นความรักจากความสัมพันธ์ในหลายๆรูปแบบนี่ละคะ

สนุกและน่าติดตามเป็นที่สุดเลยละ

ขอบคุณคะ รักคนเขียนนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีย์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 5 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 07-12-2016 13:15:16
งงค่า เกิดอะไรขึ้นกับภาคสุดท้ายน้า ยังไม่ได้อ่านน้องคูณเรย
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: benzs ที่ 17-07-2017 22:59:28
ภาค น้ำเต้าหู้ไม่ตีพิมพ์หรอค๊าาาา???  :sad4:
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 27-07-2017 08:56:32
พึ่่งได้เอามาอ่าน เสียดาย ไม่ได้อ่านภาคน้ำเต้าหู้ กับ ภาคไข่ลูกเขย เสียหายจริง ๆ เลย  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-09-2017 19:16:43
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-09-2017 20:36:48
 :L2:
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 26-09-2017 12:51:05
ทำไมหายไป1คู่ละค่ะ มะระยัดใส้กับไข่ลูกเขยหายไปไหน เอามาคืนเดี๋ยวนี้นะ  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: Pranfah_tk ที่ 26-05-2018 07:02:07
ภาคน้ำเต้าหู้หายไปไหนอ่า หรือตีพิมพ์
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: nutgen ที่ 11-01-2019 08:49:48
กลับมาอื่นกี่ครั้งก็ยังฮา ชอบซีรี่ย์อารมณ์ดีแบบนี้จัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: poontriple ที่ 11-01-2019 13:07:39
เปิดเรื่องมาก็ชวนสนุกแล้ว

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 13-01-2019 21:59:55
ชอบดิวเกมส์
หัวข้อ: Re: ซีรีส์หวานอมขม [นิยายเรื่องยาวรสกลมกล่อมรวม 4 ภาค]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 14:13:40
 :pig4: