ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย
หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะ
ไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควาน
ตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ...........
.
.
เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า............
.........
บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้
เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกัน
การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน
แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต
และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่น
ช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆ
ก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเอง
เพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง
ส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์
ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย
ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้
หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชาย
เข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
5.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
6.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ยกเว้นแนะนำนิยายหรือเรื่องราวที่อยากให้เพื่อนๆตามไปอ่านแล้วขอมาลงไม่สะดวก และช่วยกรุณาโพสลิงค์ที่บอร์ดนั้นกลับมาที่เวป http://www.thaiboyslove.com แห่งนี้ด้วยนะครับ เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับ
7.ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บเพจนี้ เกิดจากการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และ ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรองด้วยตัวเอง
8.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
ให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่า
แล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ด
เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
9.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
10.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
หวังว่าคงได้รับความร่วมมือจากสมาชิกทุกท่าน อ่าน และ พิจารณาถึงการกระทำ ของทุกท่านด้วยความระมัดระวังยิ่ง
อิเจ้
****เพิ่มเติม....
ปกติไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือบทความ เจ้าของบทความหรือรูปภาพมักให้ความสำคัญในเรื่องของลิขสิทธิ์เสมอ
รูปภาพบางท่านอาจจะเห็นว่าไม่สำคัญ แต่เจ้าของภาพต้องใช้ความพยายามและอุปกรณ์ราคาแพงกว่าจะได้ภาพแต่ละภาพออกมา บางท่านจึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากๆ
การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
ใครมีอะไรเพิ่มเติม ลองแนะกันดูนะคะ
และถ้ามีอะไรสงสัยถามได้ค่ะ
[/pre] [/pre]
เรื่องนี้ผมได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่อง "นายกฤษ" มาเพื่อโพสไว้ที่เล้าเป็ดเท่านั้น
ปฐมบท
“...คนเรามักจะเปรียบความรักให้เหมือนกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่สำหรับผม ความรักคือความรัก ผมไม่สามารถเอาอะไรมาเปรียบได้ แม้แต่ลมหายใจของผมเอง...”
เรื่องทั่ว ๆ ไป จะประกอบด้วยมิติหลาย ๆ มิติ เช่น บุคคล สถานที่ หรือเวลา เป็นส่วนประกอบสำคัญ เรื่องที่ผมจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังต่อไป เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตผม ถ้าจะว่าไปแล้ว มันมีหลาย ๆ มิติที่คลาดเคลื่อนไป เรื่องราวและการดำเนินเรื่องมันเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่คลาดเคลื่อน คือ บุคคล สถานที่ และเวลา (สรุปง่าย ๆ ก็คือ เป็นเรื่องจริง เหตุการณ์จริง ที่ถูกดัดแปลง เพราะมีเหตุผลความไม่สะดวกบางประการ แต่สำหรับคนในพื้นที่แล้ว ก็คงพอจะเดาออกคับ ว่าสถานที่ที่พูดถึงในเรื่อง เป็นที่ไหนบ้าง ^^!)
ผมจะแบ่งเรื่องออกเป็น 2 ช่วงนะคับ เรียกรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ว่า “สหบท” (คล้าย ๆ สหบาทา เนอะ อิอิ) ก็หมายถึงหลาย ๆ ตอนมารวมกันเป็น Part นั่นแหละคับ ผมใช้อะไรในการแบ่งนั้น โปรดติดตามกันดูเองนะคับ ^^!
แนะนำตัวก่อนละกันนะคับ ผมชื่อ “กฤษ” คับ ผมเรียนจบแล้ว ผมเป็นลูกหนี้แผ่นดิน ที่ตอนนี้กำลังทำงานใช้หนี้ภาษีประชาชนที่ส่งผมเรียนจนจบ ผมจบสายงานวิชาชีพที่ผมจะต้องเรียนทั้งศาสตร์และศิลป์ในเวลาเดียวกัน (เชื่อมั๊ยว่าผมต้องเรียนวิชาประดิษฐ์เกือบทุกเทอมตอนที่ผมเป็นนักศึกษาเลยนะ 555+) ... ผมถูกส่งให้มาอยู่ที่อำเภอเล็ก ๆ อำเภอหนึ่ง หลาย ๆ คนเมื่อเคยมาที่นี่แล้ว มักจะขนานนามที่แห่งนี้ว่า “ดินแดนแห่งความรัก” ภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง ใช้ที่นี่เป็นฉากหลังถ่ายทอดเรื่องราวของความรักในรูปแบบต่าง ๆ กันไป สำหรับผมหน่ะหรอ ที่นี่ คือดินแดนแห่งความรักโดยแท้จริง ^^!
ผมเขียนเรื่องนี้ไม่เคยหวังอะไร นอกจากแบ่งปันเรื่องราวของชีวิต และให้เก็บไว้ในความทรงจำของทุก ๆ คน ผมเขียนเรื่องนี้เก็บไว้ได้ไกลพอควรแล้วคับ ถ้าอยากให้ผมลงต่อ ผมจะเอามาลงคับ เว้นแต่ว่า ไม่มีใครอ่านจิง ๆ ผมก็จะยุติไว้ ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมแขนของแฟน ๆ ด้วยนะคับ (ใครเค้าเป็นแฟน ๆ ของเมิงวะไอ้กฤษ มโนชิบหายเลย 555) เป็นงานเขียนเรื่องแรก อาจจะเล่ารูเรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ยังไงก็ขอโทษไว้ตรงนี้ละกันนะคับ ไปลุยกันเลยดีกว่าคับ ^^!
สหบทที่ 1 เรื่องเศร้าใต้เงารัก
ตอนที่ 1
“กฤษษษษ ลูก ตื่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ไปสัมภาษณ์ไม่ทันหรอก ตื่นๆๆๆ เจ้าตัวขี้เซา” ประตูจะพังอยู่แล้วแม่ เคาะเข้าไป
“อ๋า....แม่อะ จะรีบไปทำไมเนี่ย เพิ่ง 6 โมงเองค้าบ บ้านเราก็อยู่แค่เนี้ย ขอลูกนอนต่ออีกแป๊บน้า....”
“ไม่ได้ กว่าจะขับรถเข้าเมืองอีก ถ้ารถติดแล้วไปไม่ทันจะทำยังไง แกจะลุกดี ๆ หรือจะให้แม่บอกพ่อเอาน้ำมาสาด..”
“จ๊ากกกกกก...ลุกแล้ววววววววว อ๋า...แม่อะ ตื่นก็ได้”
“อาบน้ำแต่งตัวเร็ว ๆ จะได้ไปกินข้าว พ่อแกเช็ดรถรออยู่ข้างล่างแล้วเนี่ย ตื่นปลุกแม่ตั้งแต่ไก่โห่ ไม่รู้จะตื่นเต้นไรนักหนา...เฮ้ออออ พ่อลูกคู่นี้นี่”
“...”
วันนี้เป็นอีกวันนึงที่ จิง ๆ แล้วมันก็เหมือนกับวันทั่ว ๆ ไปนั่นแหละคับ แต่ที่พ่อกับแม่ผมตื่นเต้นเกินเหตุเนี่ย ก็เพราะวันนี้ ต้องพาลูกชายตัวแสบ ไปรายงานตัวสอบสัมภาษณ์ เข้าเรียนมหาลัย ถ้าถามผมว่า วันนี้ตื่นเต้นป่าว ผมตอบได้เลยว่า ตื่นเต้นมากกกกกกกก ผมเลยอยากจะนอนให้มันหลับไม่รู้เรื่องไปเลย ตื่นมาแล้วจะได้เข้าเรียนเลย 555 ตอนนั้นมันคิดหยั่งงี้จิง ๆ คับ เพราะได้ยินกิตติศัพท์จากรุ่นพี่ ๆ ที่กลับมาแนะแนวที่โรงเรียนว่า อาจารย์คณะนี้อะ โหดชิบหายวายวอดแล้ว ผมยิ่งกลัวขี้หดตดหาย ไม่รู้ว่าถ้าตอบอะไรที่ไม่ถูกใจอาจารย์ไปแล้ว เค้าจะไล่ผมออกจากห้องสัมภาษณ์รึป่าว เค้าจะด่าจะเอ็ดมั๊ย รึเค้าจะเขวี้ยงอะไรใส่หน้าผมรึป่าว ... เฮ้อออออ แต่ในที่สุด ผมก็ต้องเผชิญกับความเป็นจริงอยู่ดีแหละคับ 555
ผมเดินลงบันไดมาอย่างเรียบร้อย (แต่งตัวแบบว่า เนี๊ยบสุด ๆ) คือตั้งแต่หัวจรดเท้าคือแบบ จะดูดีไปไหน ขนาดตอนอยู่โรงเรียนยังไม่ได้อะไรมากมายขนาดนี้เลยคับ อันที่จริง ผมก็ไม่ได้หน้าตาดีอะไรหรอกคับ ก็พอไปวัดไปวาได้ (โดยหมาไม่เห่าไม่หอนใส่) แต่ก็มีบ้างที่แบบว่ามีคนแอบเอาดอกกุหลาบมาไว้ที่โต๊ะ มีช็อคโกแลตบ้าง หรือมีรุ่นพี่รุ่นน้องกรี๊ดกร๊าดบ้างอะไรบ้าง ตามประสาวัยรุ่นแหละคับ....(ยอตัวเอง 555)
“โอ่โห จะไปสัมภาษณ์หรือจะไปเดินแบบแฟชั่นชุดนักเรียนอะเฮีย... จะเว่อร์ไปไหนเนี่ยยยยย 555”
“เงียบไปเลยไอ้เหม่ง กินเข้าไป ข้าวต้มอะ ปากจะได้ไม่ว่าง”
น้องสาวผมเองคับ จิง ๆ มันชื่อ “แพร” แต่ผมชอบเรียกมันว่า “ไอ้เหม่ง” ตามลักษณะของหน้าผากมันนี่แหละคับ ผมกับน้อง ห่างกัน 3 ปีคับ ผมอยู่ ม.6 มันอยู่ ม.3 เรา 2 คนก็ค่อนข้างสนิทกันนะคับ จิง ๆ น้องผมสนิทกับผมมากกว่าสนิทกับแม่ผมซะอีก วันนี้วันเสาร์คับ มันเลยมานั่งหน้าสลอนปากปีจอใส่ผมได้ ปกติเวลาไปเรียนก็ทางใครทางมันคับ เราเรียนกันคนละโรงเรียน เพราะที่บ้านเน้นแบบว่า “สอบได้ที่ไหนก็เรียน สอบไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียน ไม่มีฝากให้” (นี่แหละคับ คำพูดพ่อผม) ถึงโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่จะเป็นโรงเรียนเอกชน แต่ก็หยั่งว่าแหละคับ มันต้องสอบได้ก่อน ไม่งั้นพ่อก็จะไม่ให้เรียน 555... ผมจะขับมอไซต์ (หรือแถวบ้านเรียก “รถเครื่อง”) ไปเรียน เพราะโรงเรียนอยู่ใกล้ ๆ บ้านผม ส่วนน้องสาวผมพ่อกับแม่ผมไปส่งคับ แล้วพ่อกับแม่ก็ขับต่อไปสอนเลย บ้านกับโรงเรียนของพ่อกับแม่อยู่คนละอำเภอคับ โดยมีตัวจังหวัดอยู่ตรงกลาง บ้านผมอยู่ในเขตอำเภอที่มีชื่อเป็นดอกไม้แต่ค่อนไปทางอำเภอเมืองมากกว่า ส่วนพ่อกับแม่สอนหนังสืออยู่ที่อำเภอ “ขอบ ๆ” อะคับ (แกล้งคนอ่าน 555)
“นั่ง ๆ ๆ ๆ กินข้าวลูก จะได้มีไอเดียไปสัมภาษณ์” พ่อกำลังนั่งโซ้ยข้าวต้มกุ้งใหญ่เลยคับ
“โหพ่อ ใช้คำว่า ไอเดีย เลยทีเดียว มันคงไม่ขนาดนั้นมั๊งคับ แหะ ๆ”
“เออนา กิน ๆ เข้าไปให้ท้องมันอิ่ม ๆ สมองจะได้โล่ง” พ่อประชดป่าวเนี่ย ไอ้ที่บอกว่า “สมองโล่ง” เนี่ย
“ตอนนี้ก็โล่งคับ ถ้าเค้าถามความรู้นะพ่อ บอกได้เลย ตอนนี้โล่งจน กลวง แล้ว 555”
“ไอ้บ้านี่ อย่าทำให้เสียชื่อพ่อนะเว่ย 555” เอาเข้าไป ครูบ้านนอก ไปมีชื่อกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย
“พ่อกับลูกนี่ รีบ ๆ กินสิ แม่รอจนปากแห้งแล้วเนี่ย” แม่ก็เว่อร์ได้อีก แม่ผมเดินออกมาจากในครัวคับ
“ไหนบอกว่ามีแต่พ่อที่ตื่นเต้นไงแม่ อันนี้นี่ยิ่งกว่าพ่ออีกนะแม่ 555” พ่อผมได้ทีเอาคืนคับ
“ลูกไม่หิวอะคับ กินไรไม่ลงแล้วอะ...”
“ไม่ได้นะลูก ไม่หิวก็ต้องกิน เดี๋ยวหิวข้าวจนหน้ามืดมา อายชาวบ้านชาวช่องเค้า” นั่น ไม่ทันไร แช่งลูกตัวเองซะละแม่กรู
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ เดี๋ยวน้องใส่ตลับไปด้วย ถ้าพี่กฤษ หิวค่อยเอาออกมากินก็ได้” ให้มันได้หยั่งงี้สิน้องรัก
“อะ ๆ ๆ ๆ ไม่กินก็ไม่กิน อ้าว...คนนั่นอะ เมื่อไหร่จะเสร็จหล่ะพ่อมัน คนอื่นเค้าเสร็จกันหมดแล้วเนี่ย”
“คำสุดท้ายแล้วววววววว เอ....ยังไงเนี่ยแม่อะ ถ้ารีบก็เดินไปรอพ่อที่ปากซอยเลยไป 555”
นี่แหละคับบ้านผม จะว่าไปแล้วก็เพราะว่า พ่อกับแม่ไม่ค่อยเครียดกับชีวิตนี่แหละคับ ผมเลยโตมาแบบบ้า ๆ บอ ๆ แบบนี้ ผมแค่อยากให้รู้จักตัวผมกับครอบครัวของผมคับ เพราะคนเหล่านี้แหละ ที่เป็นทั้งคนผลักดัน และเป็นตัวแปรที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ชีวิตของผมมาได้ถึงขนาดนี้
แล้วผมก็มาถึงหน้าคณะที่ผมกำลังจะมาสอบสัมภาษณ์ ดู ๆ ไปแล้วก็ค่อนข้างเก่านะคับ แต่ข้างในนี่ คนจะเยอะไปไหนเนี่ย ทั้งคนที่มารับบริการ นักศึกษา นักเรียน แล้วก็พวกผู้ปกครองที่พาลูก ๆ มาสัมภาษณ์ พอเข้ามาถึงข้างใน รุ่นพี่ก็ออกมาประกาศว่า เค้าจะแบ่งสัมภาษณ์เป็น 4 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นการสัมภาษณ์ คุณสมบัติและผลการตรวจร่างกายทั่ว ๆ ไป ส่วนที่ 2 เป็นส่วนแสดงความสามารถพิเศษ ส่วนที่ 3 เป็นส่วนทดสอบจิตวิทยา และส่วนสุดท้าย เป็นส่วนทดสอบ ความรู้พื้นฐาน พอผมได้ฟัง ผมก็ถึงกับอึ้งเลยทีเดียว เพราะผมไม่ได้เตรียมอะไรมาซักอย่างเลย ผมมองหน้าพ่อแล้วพ่อก็บอกผมว่า
“ไม่ได้เอาไรมา ก็ใช้ที่ติดตัวมาแล้วก็ไปหาเอาในห้องสอบ” นี่แหละคับคำพูดของพ่อผม สั้น ๆ ได้ใจความ สำหรับบางคนที่ไม่คุ้นชินกับคำพูดแบบนี้ อาจจะรู้สึกว่า เป็นการพูดแบบรำคาญ ๆ พูดให้เสร็จ ๆ จบ ๆ ไป แต่สำหรับผมแล้ว ผมรู้ว่านี่คือ กำลังใจที่ยิ่งใหญ่ พ่อพยายามบอกผมว่า “พ่อเชื่อว่าลูกมีดีพอ และพ่อเชื่อว่าลูกต้องเอาตัวรอดในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ได้”
หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็มาเชิญผู้ปกครองและผู้ติดตามไปรวมกันที่โรงอาหารคณะ (เค้ามีเครื่องดื่มกับของว่างเลี้ยงคับ) หลังจากนั้น ก็ไม่รู้เค้าจะพาไปไหนต่อ แล้วก็พาพวกน้อง ๆ นักเรียนไปรวมกันที่ห้องประชุมอะไรซักที่นี่แหละ ผมจำได้ว่าอยู่ชั้น 2 แถว ๆ หน้าลิฟท์ มีข้อความติดไว้หน้าประตูทางเข้าว่า “สำนักงานคณบดี คณะ...”
มีคนอยู่ในห้องเต็มไปหมดเลยคับ ทั้งรุ่นพี่ ๆ แล้วก็พวกเพื่อน ๆ ทั้งต่างโรงเรียนและโรงเรียนเดียวกัน แต่คนละห้องคับ ผมมันมาจากห้องที่ไม่ค่อยมีใครคาดว่าจะสอบคณะนี้ได้ด้วยซ้ำ ผมเลยไม่ค่อยสนิทสนมมากมาย ก็แค่เคยเห็นกันบ่อย ๆ ก็เด็กโรงเรียนผมมันน้อยซะที่ไหนหล่ะคับ ^^!) ผมไปนั่งข้าง ๆ เด็กผู้ชายคนนึงที่กำลังก้มหน้าก้มตาเขียนกรอกใบรายงานตัวสัมภาษณ์อยู่ เค้าเลยหันมายิ้มทักทายผมคับ พระเจ้าช่วยกล้วยหอมพระเจ้าจอร์จอะไรจะหน้าหวานขนาดนั้น ผมใช้สายตาสำรวจทันที รูปร่างบาง ๆ คับ ไม่อ้วน ไม่ผอมมาก ขาว ๆ คิ้วหนา ๆ ปากแดง ๆ (แต่ตอนนั้น ก็คิดได้แค่นั้นแหละคับ เพราะกำลังตื่นเต้นเรื่องสอบอยู่) ผมก็อึ้ง ๆ นิด ๆ (ตอนนั้น ออกแนวยังไม่เข้าใจตัวเองคับ เพราะที่ผ่านมา ผมมีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด จนมาถูกทิ้งก็อีตอนที่จะสอบโควตานี่หละคับ เค้าบอกว่า ผมไม่มีเวลาให้เค้า แต่ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนะ เพราะเห็นผู้ชายหน้าตาดี ๆ เมื่อไหร่ ก็เป็นได้หวั่นไหวเหมือนกัน 555 ส่วนกรณีล่าสุดนี้ผมก็เสียใจได้ซัก 3 วันนี่แหละ แหะ ๆ) พอสงบสติอารมณ์ได้แล้ว ผมก็ลงมือเขียนบ้าง เขียนเสร็จผมก็นั่งรอคิวเข้าสัมภาษณ์คับ ผมได้หมายเลข 19 ส่วนไอ้หน้าหวานเมื่อกี้ ได้หมายเลข 18 คับ ระหว่างที่นั่งรอเซ็ง ๆ ก็จะมีพี่ ๆ มาเล่าให้ฟังว่าเรียนหยั่งงั้น ใช้ชีวิตหยั่งงี้ อะไรประมาณนี้และคับ
“นายได้เบอร์ 19 ป๊ะ” เอาแล้วไง กุยิ่งตื่นเต้นกับเรื่องสัมภาษณ์อยู่ เมิงจะมาคุยกับกุให้กุเสียสมาธิทำไมเนี่ยยยย
“อืมมมม...แล้วนายอะ” น้านนนนนน ทอแลได้อีก ก็เพิ่งบอกคนอ่านไปหยก ๆ จิง ๆ ก็แอบเห็นแล้วแหละคับ 555
“เราได้เบอร์ 18 อะ แหะ ๆ แล้วว่าแต่ นายชื่อไรอะ มาจากที่ไหน” อืมอะ กุให่เมิงสัมภาษณ์ก่อนอาจารย์เลยอะ
“อ๋อ...เราชื่อกฤษ มาจากบ้าน 555” นั่นไงเอาแล้ว ต่อมกวนตรีนเริ่มทำงานแล้ว
“อืมมมมม อะนะ เราชื่อนนท์ มาจากบ้านญาติ 555” เป็นไงหล่ะไอ้กฤษ เมิงกวนตรีนเป็นคนเดียวซะที่ไหน
“อืมมมม ขอบใจ...-*-!)
“คุณนนท์ปวีร์ เชิญเข้าห้องที่ 1 ค่ะ คุณกฤษบดินทร์ ห้องที่ 2 และคุณกาญจนาพร ห้องที่ 3 ค่ะ โชคดีนะค่ะ” รุ่นพี่พูดเสร็จก็ยิ้มให้คับ
ตอนนี้ผมเริ่มเหงื่อแตกแล้วคับ มือไม้สั่นไปหมด พอเข้าห้องสัมภาษณ์ ทุกอย่างก็ผ่านไปเร็วมาก ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่า อาจารย์ถามเรื่องอะไรบ้าง สรุปง่าย ๆ ก็คือ ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย แค่เค้าดูว่าเราไม่บ้าจนเกินงามก็คงให้เรียนแล้วมั้ง 555 ผ่านไปสำหรับส่วนที่ 1 แล้วพวกพี่ ๆ ก็มาเก็บเอกสารไปคับ แล้วก็แจกมาอีก 3 แผ่น สำหรับอีก 3 ห้อง แล้วก็บอกว่า รอสัมภาษณ์ห้องต่อไปตอนบ่ายโดยให้ไปรับข้าวกล่องที่หน้าห้องประชุมใหญ่ ผมเลยโทรหาแม่คับ แม่บอกว่า คณะเค้าให้ผู้ปกครองไปเข้าประชุม จนถึงบ่าย 3 ส่วนไอ้เหม่งก็ออกไปดูหนังกับเพื่อน ๆ มัน อืมมมม ผมเลยเดินตามชาวบ้านไปคับ ก็เดินไปกับไอ้นนท์นั่นแหละคับ พอตกบ่าย พี่ ๆ ก็จัดกลุ่มคับบอกว่า จะให้เข้าสัมภาษณ์เป็นกลุ่มกลุ่มละ 5 คน โดยแต่ละห้องจะมีอาจารย์นั่งรออยู่ ผมก็จับพลัดจับผลูได้อยู่กลุ่มกับไอ้นนท์นั่นแหละคับ คือเค้าจับสลากให้อะ ไม่รู้ดิ 555 (แอบยิ้ม) ช่วงนี้แหละคับ คือความหฤหรรษ์ อย่างแท้จริง อาจารย์แบบว่า โหดมาก ทั้งด่า ทั้งจิกกัด สารพัด สาระเพ ห้องแสดงความสามารถพิเศษก็กลายเป็นห้องเล่นตลก เอาความสามารถของทั้งกลุ่มมารวมกัน กลุ่มผมได้ว่ายน้ำตีแบดพร้อมกับร้องเพลงเล่นกีตาร์ (มันเข้ากันมั๊ยนั่นอะ...แต่ก็ทำให้ผมได้รู้ว่า ไอ้นนท์มันเป็นนักกีฬาว่ายน้ำคับ อิอิ) ส่วนอีกคนที่เป็นนักกีฬาหมากกระดาน ก็ต้องทำตัวดุ๊ก ๆ ดิ๊ก ๆ เป็นสาหร่ายคับ ผมเอง ทั้งหัวเราะไป เล่นกีตาร์อากาศไป โดนด่าตามระเบียบคับ มีทั้งคนที่ร้องไห้บ้าง เป็นลมบ้าง Hyperventrilation บ้าง กว่าจะเสร็จก็เกือบ ๆ บ่าย 3 แล้ว มีการประกาศด้วยว่ามีคนสอบตก ผมนี่ใจหายแว้บบบบบ (แต่ก็ผ่าน) สุดท้ายก็มาเฉลยว่า หลังจากบ่ายมาเนี่ย มีแต่อาจารย์เก๊ทั้งนั้น เป็นรุ่นพี่ล้วน ๆ แต่ก็ไม่เป็นไร ผมนี่ขำ ๆ อยู่แล้วคับ เออ...ส่วนพวกที่สอบตก เป็นลม ร้องไห้ อะไรพวกนั้นอะ มีแต่พวกพี่ ๆ ปลอมตัวมาสร้างสถานการณ์ทั้งนั้นแหละคับ นึกย้อนไปแล้ว ก็ตลกความไร้เดียงสาของตัวเองในตอนนั้น 555+
นั่นเป็นครั้งแรกคับ ที่ผมได้พบกับ “นนท์” คนที่ทำให้ผมมั่นใจที่จะเลือกทางเดินในชีวิต คนที่ทำให้ผมได้พบทั้งความสุขที่สุดและความเศร้าที่สุดเช่นกัน ตอนต่อไปจะไม่ยืดเหมือนตอนนี้แล้วนะคับ ผมต้องย่อเวลาตั้งหลายปี มาไว้แค่ไม่กี่ตอน ผมว่ามันก็ยากอยู่เหมือนกันนะคับ แต่ผมก็จะพยายามเขียนให้เข้าใจที่สุด โดยที่ทำให้เรื่องสั้นและอ่านง่ายที่สุดนะคับ เดี๋ยวคนอ่านเบื่อผมซะก่อน ^^... นายกฤษ