พิมพ์หน้านี้ - [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: しろやま としんや ที่ 16-11-2007 21:44:26

หัวข้อ: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 16-11-2007 21:44:26
เราได้รับการอนุญาตจากพี่บอยให้นำเรื่องนี้มาลงในบอร์ดเมื่อคืนที่ผ่านมานี่เองคับ

เรื่องนี้ก็เป็น1ในผลงานของพี่บอยที่จะลงในSeries's book ที่กำลังจะวางจำหน่ายในเร็วๆนี้

ใครสนใจจะพี่บอยจะมาแจ้งประกาศในทราบกันโดยถ้วนหน้า

คำเตือน : นิยายของพี่บอยทุกเรื่องได้จำการจดลิขสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้ามผู้ใดกระทำการลอกเลียนแบบหรือว่าดัดแปลงใดๆทั้งสิ้น มิฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามทางกฎหมาย จึงเรียนมาเพื่อทราบกันโดยถ้วนหน้า
ขอความกรุณาให้เกียรติกับผู้แต่งด้วย ขอบคุณ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

***************************************

Chapter 1

แสงสีวูบวาบชวนแสบตา สลับกับเสียงเพลงที่ดังสนั่นชวนแสบแก้วหู ผู้คนก็เบียดเสียดกันจนน่าอึดอัด ..ตาย กูตายแน่ๆ สถานที่แบบนี้นะเหรอที่ไอ้พวกเพื่อนตัวดีมันนัดกันมา.. ศิระ  กวาดสายตาเข้าไปในแสงสลัวที่สลับกับจ้าจรัสเป็นบางเวลา เด็กหนุ่มยืน หันหน้าหันหลัง ในใจก็ภาวนาให้สายตาเจอกับคนรู้จักซักคนพอที่จะนำเขาเข้าไปข้างในเธคแห่งนี้ได้อย่างไม่ขัดเขิน
“ อย่าให้กูเจอนะพวกมึง หลอกกูได้ว่ามันเป็นร้านเหล้าธรรมดา” เด็กหนุ่มสบถ นึกหัวเสียที่โดนหลอกล่อเข้ามาในสถานที่เฉพาะกลุ่มแบบนี้ได้ มองไปทางไหนมันก็มีแต่ผู้ชายหน้าเด้งทั้งนั้น ดูซินั่น เสื้อผ้าก็ใส่กันซะรัดติ้ว ลีลาท่าเต้นก็วี้ดวิ้ว เสียจนน่าเวียนหัว เห็นแล้วก็อดที่จะก้มมองสารรูปตัวเองไม่ได้ เสื้อยืดพอดีตัวสีทึบ กับยีนส์ขาดซีดตัวเก่า ไหนจะผ้าใบเน่าๆที่เหยียบทับส้นนี่อีก คนสำรวจตัวเองผ่อนลมหายใจ เขาจะกล้าเข้าไปข้างในที่เต็มไปด้วยกลุ่มผู้นำแฟชั่นที่กำลังมันส์กับชีวิตสุดเหวี่ยงนั้นได้ยังไง เขาไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น จริงอยู่ที่สภาพจิตใจเขาไม่ได้ต่างจากคนกลุ่มข้างหน้านั่น แต่สภาพร่างกายภายนอกเขา มันคนละเรื่องกับภาพที่เห็นอยู่  ผมชี้ตั้งไม่เป็นทรงจากแรงลมที่ปะทะระหว่างโหนรถเมล์เขียวเล็ก ถูกเสยอย่างลวกๆเมื่อในใจฮึดขึ้นมา เป็นไงเป็นกันซิวะ คนเยอะขนาดนี้ใครจะมาสนใจมึง เด็กหนุ่มก้าวขาออกเดินไปข้างหน้า พยายามก้มหน้าไม่มองสบตาใครเพราะหวั่นอยู่ลึกๆว่าตัวเองจะถูกมองเป็นตัวประหลาดที่หลงทางเข้ามา
..ผลั๊ก!! .. เสียงร่างของเขาชนเข้ากับใครคนหนึ่งระหว่างเดิน เล่นเอาคนเดินก้มหน้าหลับตาปี๋ เวรแท้ๆ ตกเป็นเป้าสายตาก็คราวนี้แหละมึง
“เฮ้ย!! เดินยังไงวะ” ไม่ได้มาแค่เสียง แต่ศิระรู้สึกได้ถึงแรงที่ผลักที่หน้าอกเขาจนต้องเซนิดๆ
“ขอโทษ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นพูดด้วยเสียงไม่พอใจนัก ทำไมจะต้องผลักกะอีแค่เดินชน ก็คนมันเบียดขนาดนี้
“ขอโทษแล้วไง เสื้อกูเปื้อนเห็นป่ะ” คนพูดชี้เสื้อตัวเองที่เลอะของเหลวบางชนิด ศิระคิดว่ามันเป็นเหล้าเพราะจมูกเขาเริ่มได้กลิ่น เด็กหนุ่มใจเสีย มองด้วยสายตาเสื้อผ้าที่คนตรงหน้าสวมอยู่ ห้าหกเดือนเขาคงไม่มีปัญญาเจียดเงินจากงานที่ทำอยู่ซื้อใส่เป็นแน่
“ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” นาทีนี้คงไม่มีคำไหนที่เขาจะเอ่ยออกไปได้ดีเท่าคำพื้นๆแบบนั้น ก็มันไม่ได้ตั้งใจจริงๆนี่หว่าทำไงได้ล่ะ
“โธ่เอ้ย ไอ้กุ๊ย ถ้าจะมาสมัครงาน มาตอนที่แขกเขาเที่ยวไม่เยอะสิวะ เสียอารมณ์ชิบ” อกแน่นโดนผลักเป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้แรงกว่าเดิมเยอะ ศิระ หลับตาข่มอารมณ์เมื่อเกือบจะทรงตัวไม่อยู่ เขายืนนิ่งไม่โต้ตอบจนรู้สึกว่าโดนของเหลวบางอย่างสาดเข้าที่หน้า
“ถือว่าหายกัน มีปัญหาเคลียร์กัน หลังร้านปิดได้” คนสาดทิ้งประโยคสุดท้ายเอาไว้ให้ ก่อนที่เดินชนเขาหายเข้าไปในกลุ่มคน คนโดนสาดใช้มือเช็ดหน้าลวกๆ รู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นฉุน เขามองสบตาคนที่มองดูเหตุการณ์ครู่หนึ่ง หมดอารมณ์ที่จะเขินอาย ร่างสูงจึงเดินลิ่วๆแทรกเข้าไปข้างในต่อ
 :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 16-11-2007 21:56:30
“ ว่าไงวะเมษา” ปอนด์เอ่ยทักถามเมื่อเมษาทรุดนั่งลงบนโซฟาที่ว่างข้างตัว คนโดนถามไม่ตอบคำถามนอกจากยกแก้วเหล้าที่วางทิ้งไว้ขึ้นกระดกดับอารมณ์หงุดหงิด
   “ เป็นอะไรของมึง ออกไปหาไอ้พฤกษ์ มาไม่ใช่เหรอ” เด็กหนุ่มมองหน้าคนพูดอย่างดุๆ ก็เพราะเขาออกไปหานายนั่นมาน่ะสิ เขาถึงต้องกลับมานั่งซดเหล้าต่อแบบนี้ แทนที่จะได้ทำอะไรๆที่มันสนุกๆอย่างที่หวัง
“ มึงเลิกพูดแล้วก็เงียบกูกำลังอารมณ์ไม่ดี” เขาบอกเพื่อน ก่อนจะเทเหล้าเพียวๆยกขึ้นซดอีกแก้ว
“ โธ่เอ้ย แห้วมาอ่ะดิมึง บอกแล้วว่าเพื่อนกูอ่ะแอ้มยาก” ปอนด์ พูดอกมาอย่างขำๆ เมษา เกย์เจ้าสำอางที่ทำใครต่อใครน้ำตาตกมาเยอะเพราะความเจ้าเล่ห์คนอย่างนายนี่จะเล่นใครไม่เคยแห้ว รูปก็หล่อ พ่อก็รวย แค่ส่งสายตายั่วใครต่อใครที่พอใจแค่นี้ คนๆนั้นก็เข้ามาหาได้ไม่ยาก ยิ่งในสถานที่เที่ยวแบบนี้ นายนี่แทบจะเป็นคนที่หลายคนหมายตากันเลยทีเดียว
“ กูก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเพื่อนมึงจะเล่นตัวได้นานซักแค่ไหน” เมษา บอกออกไป มันน่าเจ็บใจนักที่โดนคนๆหนึ่งปฏิเสธที่จะผูกสัมพันธ์ด้วย เกิดมาตั้งแต่รู้จักความต้องการของตัวเองยังไม่เคยโดนใครปฏิเสธแบบนี้
เขารู้จักพฤกษ์จากปอนด์ ปอนด์เป็นเพื่อนที่เรียนคณะเดียวกันกับเขา ในขณะที่พฤกษ์เป็นเพื่อนกับปอนด์ตั้งแต่เรียนมัธยม แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนต่างที่กัน วันแรกที่ปอนด์แนะนำให้เขารู้จักพฤกษ์ในงานประเพณีกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว เขาก็รู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่ไม่เคยมีใครคนใดทำให้เกิดขึ้นกับจิตใจเขาได้
พฤกษ์ เป็นคนร่างสูงหุ่นนักกีฬากำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายไม่ต่างจากเขากับปอนด์  หน้าตา บุคลิกผิวพรรณของพฤกษ์ ทำให้เขาพอใจว่านี่แหละคือคนที่น่าจะคู่ควรเหมาะที่เขาจะผูกพันมากกว่าคู่นอนทั่วไปที่หาได้ตามที่เที่ยว พฤกษ์เกิดในครอบครัวที่พร้อมไปทุกด้านไม่ต่างกับเขา เด็กหนุ่มถึงปฏิญาณกับตัวเองทันทีว่าพฤกษ์นี่แหละคือคนที่เขารอคอยที่จะเจอ
แม้ว่าทุกๆอย่างระหว่างเขากับพฤกษ์จะไม่มีช่องว่างระหว่างกัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้ใจพฤกษ์มาอย่างง่ายดาย จากวันนั้นถึงวันนี้แม้จะหลายเดือน พฤกษ์ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะมีใจให้เขา แต่ถ้าให้ตามตื้อคนอย่างพฤกษ์มันก็ไม่น่าที่จะเสียเปล่ากับสิ่งที่จะได้มาแม้มันจะนานก็เถอะ ซักวันสิน่าเขาจะจับเด็กหนุ่มคนนี้ให้อยู่หมัด คนอย่างเขาหรือจะยอมแพ้ง่ายๆ ยิ่งยากมันก็ยิ่งสีสันสำหรับชีวิต อีกอย่างผู้ช่วยที่คอยรายงานความเป็นอยู่ของคนที่หมายปองก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่มีตก เขารู้ความเป็นไปของพฤกษ์ได้จากปอนด์ แค่ใช้เศษเงินไม่เท่าไหร่ฟาดหัวนายนี่ขี้คร้านจะรีบคาบข่าวมาให้เขาว่าพฤกษ์จะไปไหน ทำอะไรกับใคร แค่นี้เขาก็สามารถตามตัวพ่อยอดชายนี้ได้แล้ว
“ เออแล้วกูจะคอยดู”  ปอนด์ บอกเมื่อมองเห็นแววตามุ่งมั่นของเพื่อน ก่อนจะส่ายหัวแล้วยกเหล้าขึ้นซดบ้าง เขารู้จักพฤกษ์มาตั้งแต่เด็ก ใครๆที่ว่าแน่ก็แพ้ความเฉยชานายนั่นซะทุกราย ไม่ใช่เมษาคนเดียวที่ตามจีบเพื่อนเขา ถ้าพฤกษ์เป็นคนใจง่ายป่านนี้ได้แฟนเป็นกระบุงโกยกันไปแล้ว
“ แล้วนั่นเสื้อมึงไปโดนใครราดอะไรมา เสน่ห์แรงนะมึง” เด็กหนุ่มพูดต่อเมื่อสังเกตเห็นเสื้อคนหน้าเครียดเลอะคราบอะไรบางอย่าง
“ แม่ง กุ๊ยที่ไหนไม่รู้หลงทางเข้ามา เดินก้มหน้าก้มตาชนกูเข้าให้”  เมษาบอก นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่แล้วยิ่งหงุดหงิด เขาอุตส่าห์ให้ปอนด์นัดพฤกษ์มาที่นี่ เผื่ออะไรๆที่คาดหวังมันจะง่ายขึ้นถ้าพฤกษ์มาเจอบรรยากาศแบบนี้ แต่เขาก็ต้องเสียความรู้สึกเมื่อพฤกษ์มาถึงก็เลือกที่จะออกไปนั่งอยู่คนเดียวตรง อยู่มุมรีแล็กซ์ด้านนอกของร้าน มันเปิดไฟสว่างจ้าขนาดนั้นเขาจะกล้าทำอะไรได้ จะให้ไปนั่งมองตาพูดจาสวีทจิตมันก็ไม่ใช่ตัวเขา เขาเลยต้องหนีกลับมาเข้าสังคมตัวเขาที่แท้จริงด้านในไอ้หน้าจืดที่โดนชนเมื่อครู่ก็กลับสร้างความหงุดหงิดให้เพิ่มเท่าทวี
เสียงเพลงเบาสบายด้านนอก คลอไปกับบรรยากาศการผ่อนคลายที่แยกออกมาจากบรรยากาศด้านในอย่างสิ้นเชิง เด็กหนุ่มเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างรู้สึกง่วงเต็มทน ถ้าไม่ติดว่าต้องรอไอ้เพื่อนตัวดีติดรถกลับไปด้วยป่านนี้เขาคงจะรีบบึ่งเก๋งคู่ใจกลับไปหาที่นอนนุ่มๆแล้ว รอบตัวมีไม่กี่คนที่นั่งอยู่ ไม่สิ เขาน่าจะเรียกว่ากี่คู่มากกว่า มันเป็นสถานที่เฉพาะจริงๆ สถานที่ ที่คนภายนอกอาจคิดว่ามันไม่มีจริงถ้าไม่เข้ามาสัมผัส ขนาดเขาเองยังอึ้งที่เดินเข้ามาก้าวแรก ผู้ชายกับผู้ชายนั่งอยู่เป็นคู่ๆ สายตาที่ส่งให้กัน มือที่สัมผัสกัน มันไม่ต่างอะไรเลยกับที่ผู้หญิงกับผู้ชายทั่วไปปฏิบัติต่อกัน
พฤกษ์ เอนกายหลับตาเมื่อกวาดสายตามองคนคู่รักรอบตัวเสร็จ เขาเองก็อยากมีใครบ้างตามวัย แต่คงไม่ใช่ในสถานที่แบบนี้แน่นอน คนที่เขาเฝ้ารอ ก็ต้องมีอะไรที่ตรงกันกับเขา ไม่ใช่ค่ำมาก็เที่ยว เช้ามาก็นอน อย่างน้อยเมษาคนหนึ่งล่ะที่เขาไม่คิดที่เอามาเป็นคนที่เดินคู่กัน
“ เลวมาก ไอ้พวกเวร ทำกูได้ แม่งนัดกูมา เสือกหนีกลับก่อน” เสียงเดินตึงๆสลับกับเสียงบ่นดังเข้ามาให้ได้ยิน คนที่กำลังจะเคลิ้มหลับหรี่ตาขึ้นมอง แวบแรกที่เห็นทำเอาเด็กหนุ่มแปลกใจ คืนนี้มีประกวดแฟนซียาจกหรือยังไง ทำไมคนที่เดินอยู่ตรงหน้าถึงได้แต่งตัวมอซอเข้ามาในสถานที่แบบนี้ได้ เสื้อผ้าหน้าผมที่เห็นนี่ถ้าเขาเป็นกรรมการนะ จะเทคะแนนในความเซอร์ให้หมดใจเลยเชียว ดีหน่อยที่คนสวมเป็นคนตัวสูงพอๆกับเขา รูปร่างก็ดีแต่ทำไมผมเผ้าถึงได้ยุ่งเหยิงมาแบบนั้น
ศิระ ชะงักเมื่อมองสบตาคนที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ไม่ไกลขณะที่เขากำลังจะเดินผ่าน ไอ้หน้าใสนี่มันจะหาเรื่องอะไรอีกล่ะ เบื่อนักไอ้พวกแต่งตัวดีมีรสนิยมแต่มองคนอื่นแบบนี้
“ มองไรวะ” เด็กหนุ่มโพล่งออกไป ถือเป็นคราวเคราะห์ของนายนี่ก็แล้วกันก็คนมันหงุดหงิด เพื่อนก็หนีหายกันกลับหมดปล่อยให้เขาเผชิญชะตากรรมกับสังคมที่ไม่คุ้นเคยอยู่คนเดียว คิดดูละกันจะเข้าห้องน้ำไปล้างคราบน้ำเมาที่โดนสาดเต็มๆหน้า พวกเด็กที่ยืนหารายได้กับคนขี้เมื่อยยังมองหัวจรดเท้า แถมยังขำกันคิกๆ มันน่าอายนัก  คนโดนถามหันหน้าหันหลังไม่แน่ใจว่าตัวเองหรือเปล่าที่โดนทักจนคนทักต้องเตือนให้รู้เอง
“ มึงน่ะแหละ มองทำไม”อ้าวไอ้นี่ พฤกษ์คิดในใจ พูดจาไม่ได้ต่างจากสารรูปเลยแฮะ ใครปล่อยให้หลงเข้ามาวะเนี่ย
“ พูดจาให้มันดีๆหน่อยคุณ ถ้าเมาก็กลับไป”  เด็กหนุ่มตอบกลับไป ขนาดนั่งอยู่ตั้งไกลกลิ่นยังหึ่งมาแตะจมูกได้ มอซอจริงๆ
“ เออ กูก็ไม่อยากจะอยู่หรอก ไอ้ที่แบบนี้ ไม่ต้องไล่”นั่น ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่าหรือว่าเมาจนเพี้ยน พฤกษ์ ถอนหายใจ ลุกขึ้นจะเดินหนี ไม่อยากที่จะมีเรื่อง คนอย่างเขาไม่น่าที่จะมาเสียเวลากับคนเถื่อนๆแบบนี้
“ โธ่เอ้ย วันๆไม่ทำอะไรกัน ดีแต่ขอเงินพ่อเงินแม่มาเที่ยว เจริญกันล่ะ พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ” ศิระ พูดออกมาอย่างเหยียดๆเหมือนระบายอารมณ์ขุ่นมัวกับตัวเองเพราะแค้นที่โดนมองตั้งแต่หัวจรดเท้าตลอดทางที่เดินออกมา แต่ทว่าสายลมมันกลับพัดเอาคำพูดพวกนี้ไปเข้าหูคนที่กำลังจะเดินหนีอย่างจัง
“ เฮ้ย ว่าใครวะ” พฤกษ์หันกลับมาถาม มันค่อนข้างเกินไปที่นายนี่จะมาเที่ยวระรานคนอื่นแบบนี้ คำพูดเมื่อครู่มันกระทบเขาชัดๆ
“ อยากรับก็รับไปดิ” ศิระ ยียวนกลับทั้งๆที่นึกใจเสีย แม่งหูดีนักนะมึง
“ สมัครเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วโดนไล่ตะเพิดออกมาหรือยังไงถึงได้ระรานคนอื่นแบบนี้ มันก็น่าเห็นใจนะ ดูสภาพ เป็นใครเขาก็คงจะไม่รับกุ๊ยเข้าทำงานหรอก”
ศิระ หน้าชาตัวสั่น มันครั้งที่สองแล้วนะที่โดนหาว่าเป็นกุ๊ย ทำไมกะอีแค่คนแต่งตัวตามมีตามเกิดนี่มันต้องกุ๊ยทุกคนหรือไงกัน เด็กหนุ่มได้ทีระบาย





ตอน1ยังโพสไม่จบคราวน้าจะมาต่อใหม่คับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: กลั่นกรอง ที่ 16-11-2007 22:03:40
 o13  มาเจิมเรื่องใหม่   

ขอคุณที่เอามาโพสต์ให้อ่านกันครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: nattabadin ที่ 16-11-2007 22:45:41
เรื่องใหม่ ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 16-11-2007 22:54:35

มาอ่านแล้วนะเคอะ น้องสาว

คิดถึงนะ จุ๊ฟๆ

ปล.  นิยายคุณบอย

กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :m3:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 17-11-2007 01:40:47
รอตอนต่อไปค่ะ ~ :give2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: Red....[em] ที่ 17-11-2007 02:00:24
 :เฮ้อ:(จบตอนแย้วว)

ฮัดซ่า...

กำลังเมามันกับความมึนเมาและความปอนแอนส์เซอร์ของคุณศิระเลยอะ จบตอนซะล่ะ

 ฮี่ๆๆๆ


สนุกครับ

รออ่านต่อครับผม :a11:

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 17-11-2007 04:42:07
มาเป็นกำลังใจให้ก่อน  อิอิ  เด๋วตามอ่านอีกที 
 :m4:  :m4:  :m4:  :m4:  :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-11-2007 08:47:36
มาอ่านด้วยคนน่าสนุก :m9:
ชอบนักล่ะเซอร์ ๆ เถื่อนๆ  :m27:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-11-2007 10:11:18
ชื่นชมผลงานทุกชิ้นของคุณบอยจริงๆ
 :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: nattabadin ที่ 17-11-2007 11:07:55
เรื่องเถื่อนแนวชอบมาอีกเรื่อง จะติดตามคับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 17-11-2007 11:20:35
 :m11: วู้..............................เรื่องของบอยมาลงอีกเรื่องนึงแล้ว

 :m4: ดีใจ ดีใจ

 :m3: สาวแตกไปหนึ่งรอบ

 :m18: อ่านนิยายของบอย เย้

บ้าไปแล้ว ตรู .......  :m7: ดีใจเกิน
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 17-11-2007 21:47:46
ตอน1ที่เหลือมาอัพต่อแล้วคับ

+++++++++++++++++++++
“ ทำไม กุ๊ยแล้วมันผิดตรงไหน ไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทองนี่หว่าจะได้แต่งตัวดีขับรถโก้ โธ่เอ้ย ดูถูกกันเข้าไปซักวันเหอะมึงอย่าจมให้กูเห็นละกัน”  พูดจบก็เดินลิ่วๆหนีไป ปล่อยให้คนฟังยืนชะงัก
พฤกษ์ มองตามศิระ นายนั่นต้องโกรธเขามากแน่ๆถึงได้เดินกัดฟันแน่นหนีไปแบบนั้นเด็กหนุ่มรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันทีนี่เขาพูดแรงไปหรือเปล่านะ ปกติเขาก็ไม่เคยดูถูกใครขนาดนี้นาถ้าตามไปขอโทษนายนั้นจะยอมฟังหรือเปล่านะ


   ศิระ นั่งหน้าดุอยู่ป้ายรถเมล์ที่ไม่มีใคร ดึกๆแบบนี้ใครๆเขาก็คงจะเข้านอนหรือพักผ่อนอยู่กับบ้านกันหมด ลมเย็นพัดมาให้คลายร้อนและหายเหนื่อยจากการเดินออกมาจากสถานที่ ที่สาบานกับตัวเองว่าจะไม่เข้าไปเหยียบมันอีก ตู้โทรศัพท์ที่ตั้งเด่นเรียงเป็นแถวอยู่ใกล้ๆยั่วใจให้เด็กหนุ่มลุกค้นตัวตัวเองทุกซอกกระเป๋าเพื่อหาเหรียญที่จะไปหยอดโทรเล่นงานกลุ่มเพื่อนตัวดี ถ้าพวกมันไม่โดนจัดการ เขาเองก็คงจะนอนไม่หลับเป็นแน่
“ มีอยู่แค่เนี๊ยจะด่ามันถึงสามคำป่าววะเนี่ย” เด็กหนุ่มแบเหรียญบาทห้าเหรียญที่อยู่ในกำมือมอง บ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินไปยังจุดหมายที่เรียงรายกันอยู่เป็นตู้ๆ หนึ่งเหรียญถูกหยอดลงไปตามด้วยเบอร์ปลายทางที่เขากดมันอย่างคล่องมือ แน่ล่ะ เขามันประเภทต้องจำเบอร์ใครต่อใครไว้ในสมองเพียงอย่างเดียว ไม่ได้มีอุปกรณ์ไฮเทคใดๆให้ช่วยจำอย่างที่คนค่อนประเทศมีกัน มันถือเป็นวัตถุนิยมหรือยังไงไม่รู้ ถ้าเกิดวันใดที่ขอทานข้างถนนมีวัตถุอย่างว่ามันก็คงจะดูไม่แปลกแล้วมั้งสำหรับคนสมัยนี้ มีเสียงปลายสายกดรับ ศิระไม่รอช้า เด็กหนุ่มอ้าปากโวยลั่นทันทีถึงการกระทำแย่ๆที่เขาไม่ควรจะโดน แต่ยังไม่สาแก่อารมณ์หงุดหงิด เหรียญเจ้ากรรมก็หมดลงซะดื้อๆ โทรศัพท์ถูกวางลงกระแทกแป้นดังปังใหญ่ก่อนที่คนวางจะเปิดประตูออกมา กึก!!! เด็กหนุ่มหยุดเดินอัตโนมัติเมื่อมองสบตากับคนที่ยืนกอดอกมองอยู่ตรงหน้า การที่คนๆหนึ่งมายืนอยู่ระยะประชิดขนาดนี้เป็นใครก็อดไม่ได้ที่จะใช้สายตาประเมินมอง ศิระก็เช่นกัน  เขามองเด็กหนุ่มผมซอยไล่ยาวปะบ่าแต่ทว่าข้างหน้าถูกจับวางให้ยาวชี้สั้นสลับกัน ร่างสูงนั่นสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลพอดีตัวแขนยาวพับแค่ศอก กระดุมสองเม็ดบนถูกปลดออก ไม่รู้ว่าเจ้าตัวตั้งใจหรือมันเผลอหลุด แต่นั่นศิระก็ยอมรับว่ามันส่งให้คนตรงหน้าดูมีเสน่ห์ชวนมองไปอีกแบบ เพราะผิวที่ซ่อนอยู่ข้างในมันขาวสะอาดเกินกว่าที่จะละสายตาไปได้ เด็กหนุ่มไล่สายตาไปมองใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ขาวใสสาดรับกับแสงนีออนของหลอดไฟป้ายรถเมล์ คิ้วเข้มดกดำถูกวางไว้บนตาสองชั้นที่ไม่สังเกตใครหลายคนก็อาจจะคิดว่ามันเป็นชั้นเดียว จมูกคมได้รูปเรียวไล่มาลงรับกับริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ไรหนวดบางๆทำให้หน้าที่เกือบหวานนั่นเข้มขึ้นมาได้ คนตรงหน้า เปลี่ยนจากยืนกอดอกเป็นยืนสอดมือเรียวเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแฟชั่นสีขาว ศิระดูไม่ออกว่ามันเป็นกางเกงอะไร แต่รู้ว่าตัวเองจนปัญญาที่จะหามาใส่อย่างแน่นอน เด็กหนุ่มเลิกมองฝ่ายนั้นครู่หนึ่งเมื่อมีรถเมล์เทียบจอดและมีคนลงมาสองสามคนก่อนที่เขาเหล่านั้นจะหายไปตามเส้นทางของตัวเอง
พฤกษ์ลอบมองคนหน้าคนที่มองประเมินเขาก่อนบ้างเมื่อที่ตรงนั้นไม่มีใครแล้ว ดูๆไปนายนี่บุคลิกหน้าตาก็ใช่ว่าจะเลวร้าย แค่แต่งตัวมอซอไปหน่อยเท่านั้น ถ้าจับวางเสื้อผ้าที่ไม่เรียบไปกว่าที่ใส่อยู่ นายนี่ก็น่าที่จะมีเสน่ห์ชวนมองอยู่ไม่น้อย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 17-11-2007 21:50:46
“ มองอะไร” ศิระ ถามขึ้นก่อน นึกย้อนไปถึงคำพูดเมื่อครู่แล้วนึกเคืองนายนี่ขึ้นมาเฉยๆ
“ ทีนายมองฉัน ฉันไม่เห็นถามเลย” พฤกษ์ย้อนกลับคิดถูกหรือผิดที่ตามนายนี่มา
“ ก็มึงมายืนเก๊กอยู่ตรงหน้า แมวที่ไหนมันจะไม่มอง “  ศิระไปได้น้ำขุ่นทั้งๆที่ก็รู้สึกว่าตัวเองก็มองคนตรงหน้านานอยู่เหมือนกัน แต่พฤกษ์นึกเซ็ง ทำไมนายนี่ต้องพูดจาเถื่อนๆกับคนที่เพิ่งจะเห็นหน้ากันด้วยนะ
“ เป็นเพื่อนเหรอ ถึงมาขึ้นกูมึงแบบนี้”
“ แล้วเป็นพ่อเหรอถึงจะได้นอบน้อมด้วย” พฤกษ์สะอึกจนแทบจะหันหลังกลับเมื่อโดนย้อน เถื่อนได้ใจจริงๆให้ตายเถอะ เขาเริ่มมีอคติกับคนตรงหน้านิดๆ แต่ก็เอาสิวะ กับคนอื่นก็ใช่ว่าเขาจะไม่ขึ้นกูมึงถ้าจะพูดจาภาษาเถื่อนกับนายนี่อีกคนมันก็คงจะไม่แปลก
“ ไม่ได้เป็นพ่อหรอก แต่กูรำคาญ”ศิระ มองคนพูดนิ่ง รู้สึกแปลกๆกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ไม่อยากจะสนใจ ที่จริงเขาก็ไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับนายนี่อยู่แล้วจึงเดินไปนั่งเงียบบนเก้าอี้รอรถเมล์ทำราวกับว่าพฤกษ์ไม่มีตัวตน ร้อนถึงพฤกษ์ที่ทำตัวไม่ถูกเขาจะเริ่มขอโทษนายนี่ยังไงดีล่ะปกติเคยง้อใครซะที่ไหน ยิ่งนายนี่ขนาดชื่อเขาก็ยังไม่รู้จัก เออนะ นี่เขาตามมันออกมาทำไมถ้ามันจะโกรธจะถือสาคำพูดเขาเมื่อครู่ก็เรื่องของมันสิ ดูซินั่นนั่งหน้าเข้มนึกว่าหล่อตายล่ะมึง
“ มายืนหัวโด่ทำไมล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่ารอรถเมล์กลับบ้านเหมือนกัน”ศิระทักก่อนในที่สุดเมื่อเห็นคนข้างตัวยืนเก้ๆกังๆ เขามองพฤกษ์ตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกรอบ อมพระพุทธบาทมาพูดเขาก็ไม่เชื่อว่านายนี่จะโหนรถเมล์เป็น เอาแค่ตอนนี้ค่าตั๋วขึ้นเป็นกี่บาทสาบานได้ว่ามันคงไม่รู้แน่
“ ทำไม เป็นเจ้าของป้ายหรือไงใครๆถึงจะยืนด้วยไม่ได้” พฤกษ์แย้ง หายใจคล่องขึ้นมาหน่อยที่นายนี่ยอมพูดด้วย
“ อยากยืนก็ยืนไปดิ ขามึงนิ ไม่ใช่ขากู ที่นั่งว่างเป็นตับเสือกอยากเมื่อยก็ตามใจ”
“ นั่งไม่ได้ว่ะ มันคัน” ศิระมองขวับที่คนพูด ไม่เข้าใจว่ามันจะอวดตนไปทำไมนิสัยแย่ชะมัด เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีอย่างหัวเสียโดยไม่รู้ว่าคำพูดเมื่อครู่ของพฤกษ์เจ้าตัวแค่กวนออกไปเท่านั้นเพราะหมั่นไส้ในท่าทีทะนงของคนที่ไม่มีอะไรให้ทะนง  คนรอรถรีบลุกขึ้นเมื่อสายตามองเห็นสายรถที่รอวิ่งมาแต่ไกล พฤกษ์มองตามสายตาก็พอจะรู้ว่าถ้ารถเมล์คันนั้นจอด คนหน้าดุก็คงจะหายไปจากที่ตรงนี้ นึกอะไรบางอย่างได้เด็กหนุ่มรีบเดินคว้ามือที่ศิระกำลังจะโบกรถให้ลดต่ำลงพอที่คนขับรถเมล์คันนั้นจะมองไม่เห็น และมันก็ได้ผลเมื่อรถคันนั้นไม่จอดเทียบป้าย แต่ขับเลยผ่านไปต่อหน้าต่อตาคนที่นั่งรอหลายนาที จนต้องโวยดังลั่น
“ หาเรื่องเหรอวะ มึงทำอะไร รถเมล์นะโว้ย ไม่ใช่แท็กซี่ที่จะมาเทียบจอดชวนให้ขึ้นทุกๆห้านาที แม่งเสียเวลาชิบ ไปไกลๆกูเลยไป”
“ อ้าว จะไปคันนั้นเหรอโทษทีว่ะพวก ไม่รู้จริงๆ”  พฤกษ์ ยักคิ้วตอบอย่างสะใจ เห็นนายนี่เดือดแล้วสนุกชะมัดให้ตายสิ
“ มึงจะไม่รู้ได้ไงก็กูกำลังจะโบกมึงเอามือมาขวางทำไม” ศิระเถียง อยากจะชกหน้านายนี่นัก ง่วงก็ง่วงเหนื่อยก็เหนื่อย มันแกล้งกันชัดๆ
“ อ่ะ ๆ โทษที จ่ายค่าแท็กซี่ให้ก็ได้อ่ะ คุ้มนะโว้ย ไม่ต้องโหนให้เมื่อย นั่งรถแอร์เย็นๆเบาะนุ่มๆ” ไม่พูดเปล่า พฤกษ์ทำท่าที่จะควักกระเป๋าจริงๆ คิดแค่จะล่อให้นายนี่โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง คนแบบนี้พอโดนดูถูกเข้าหน่อยจะพูดอะไรได้นอกเสียจากทำตัวเป็นคนดีรักศักดิ์ศรีว่าเงินแค่นี้ฟาดหัวไม่ได้ง่ายๆ แต่…
“ จากนี่ไปห้องกู ไม่ต่ำกว่าสองร้อย บวกค่าเสียเวลาที่มึงทำให้กูอดหลับอดนอน ถ้ามึงไม่จ่ายห้าร้อยกูอัดมึงแน่” ศิระบอกราคาอย่างหน้าตาเฉย เล่นกับใครไม่เล่น มึงกล้าจ่ายกูก็กล้าเอา แน่จริงมึงควักสิ  พฤกษ์หน้าเสียไม่คิดว่านายนี่จะเอาจริง ก็ที่ตัวมีเงินสดซะที่ไหน เอาไงดีวะ เด็กหนุ่มคิดหาวิธี พลางเถียงออกไป
“ มึงจะบ้าเหรอ พักอยู่ในเขาหรือยังไง ค่าแท็กซี่กับค่าเสียเวลาห้าร้อยโหดไปหน่อยมั้ง”
“ โหดแน่ถ้ามึงไม่จ่าย”  ศิระบอก
“ ไม่มี มีอยู่สองร้อยจะเอาป่ะ”
“ สองร้อย เอาไปทำไม มึงบอกจะจ่ายมึงก็ต้องจ่าย “
“ ก็จ่ายไงสองร้อย”
“ กูจะเอาห้าร้อยมีไรม่ะ”
“ มี แต่กูไม่ให้ สองร้อยไม่เอามึงก็รอรถเมล์ต่อไปล่ะกัน”
“ โธ่เอ้ย นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็ปอด เงินมึงน่ะ กูไม่อยากได้หรอก จำใส่สมองเอาไว้ซะอย่าเที่ยวไปอวดรวยกับคนที่ไม่รู้จัก แค่ค่าแท็กซี่กูมีปัญญาจ่าย” ศิระยิ้มเยาะ มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้พฤกษ์รู้สึกผิด และทันทีที่ศิระจะเดินไปโบกแท็กซี่กลับเขาก็ไม่รอช้าที่จะเรียกเอาไว้
“ เอ้ย เดี๋ยวก่อนดิ “
“ มีอะไร มึงนี่จะเอาอะไรกะกูเนี่ย “ ศิระบอกอย่างนึกรำคาญ
“ นายชื่ออะไรอ่ะ “ พฤกษ์ถามพลางสังเกตอาการแปลกไปของคนตรงหน้านิดหน่อยโดยไม่รู้ว่าศิระกำลังอึ้งคิด คนอย่างนายนี่เนี่ยนะอยากที่จะรู้จักเขา เด็กหนุ่มรีบบอกปัด
“ จะรู้ไปทำไม พรุ่งนี่มึงกับกูก็ไม่มีทางได้เจอกันแล้ว”
“ ทำไมคิดอย่างนั้นวะ กรุงเทพมันไม่ได้กว้างขนาดนั้นนะโว้ย”
“ แล้วมึงจะสนใจทำไมล่ะ ในเมื่อกูเองยังไม่อยากที่จะรู้จักมึง”
“ โอเคได้ ถ้านายคิดแบบนั้นก็ตามใจ ฉันเองก็ไม่เคยที่จะถามชื่อใครก่อนหรอกนะ และก็ไม่เคยเดินตามใครออกมาด้วย”
“ จะบอกว่าวันๆมีแต่คนเดินตามงั้นสิ “
“ นั่นก็สุดแต่นายจะคิด”
“ ถึงไม่คิดกูก็รู้ คนมีตังค์อ่ะนะใครๆก็วิ่งเข้าหา แต่ขอโทษว่ะ ไม่ใช่กู”
   “ นั่น ก็เรื่องของนาย ลืมคืนนี้ไปก็ได้ โชคดีพวก “ พฤกษ์ ถอยหลังเดินกลับ รู้สึกเสียเชิงนิดๆ ชีวิตเขาถ้าจะโดนปฏิเสธ ก็ไม่น่าที่จะเป็นจากนายนี่ อย่าให้มีโอกาสเอาคืนละกันจะเอาให้เจ็บชนิดที่ลืมเขาไม่ลงเลยคอยดู
.





End of Chapter 1
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 17/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 19-11-2007 00:11:40
แล้วจะเจอกันอีกได้ไงอ่ะ o12
รวยจิงป่าวพี่มีแค่ 200 :a6:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 17/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 19-11-2007 19:22:35
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววอ่ะ  :m18:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 17/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 20-11-2007 00:33:03
2

ศิระหลับตาลงไปพร้อมกับความรู้สึกเหงาลึกๆ ทุกครั้งที่ขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในหอพักแบบนี้ เด็กหนุ่มก็มักจะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ไปเจอะเจอมาทั้งวัน แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งจะผ่านมาได้ไม่นานจะติดอยู่ในหัวของเขานานกว่าทุกๆครั้ง  ภาพเด็กหนุ่มหน้าใสที่ฉะคารมกับเขาเมื่อซักสองสามชั่วโมงที่ผ่านมายังคงวนเวียนอยู่ให้เขาได้คิดถึง มันไม่ใช่เรื่องให้น่าประทับใจแต่ทำไมเขาถึงไม่ลืม หัวใจคงไม่เล่นตลกกับตัวเองตอนนี้หรอกนะ นายนั่นชื่ออะไรเขายังไม่รู้จัก สถานภาพความเป็นอยู่เท่าที่วัดดูด้วยสายตาก็น่าจะต่างกับเขาหลายช่วง อย่าบ้าน่าศิระ ชีวิตนี้ก็ใช่ว่าจะขาดคนมาพัวพัน ปฏิเสธมาก็พอมีบ้าง การที่จะไปหลงคิดอะไรกับนายนั่นมันเหมือนเห่าเครื่องบินชัดๆ ถ้าไม่อยากเจ็บปวดก็อย่าไปคิดอะไรน่าจะดีกว่า คนคิดเผลอหลับไปในที่สุดเมื่อบอกกับตัวเองให้หยุดเพ้อเจ้อถึงใบหน้าคนที่แค่ผ่านมาให้เห็นไม่กี่ชั่วโมง

   “ เมษา ผมคงต้องเข้านอนแล้วล่ะ พรุ่งนี้ไว้คุยกันใหม่ดีกว่านะ”พฤกษ์ ตัดสินใจบอกออกไปตามใจคิดเมื่อเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียงเห็นมันดึกเกินกว่าปกติของเวลาที่เขาจะพักผ่อน
“ ง่วงแล้วเหรอครับ “ เมษา ถามออกไป มันเป็นกิจวัตรประจำยามค่ำคืนไปแล้วที่เขาจะต้องโทรคุยกับคนที่หมายปองก่อนเข้านอน แม้จะเพิ่งกลับออกมาจากสถานที่เที่ยวด้วยกันก็เถอะ แต่เขาถือสิทธิและพอใจที่จะทำแบบนี้ มันเป็นหนทางเดียวที่ทำให้ตัวเองดูเป็นคนพิเศษขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้เพราะเขาเชื่อว่าคงไม่มีใครคนใดที่สามารถคุยกับพฤกษ์ได้ยามดึกดื่นค่อนคืนแบบนี้ พฤกษ์คงไม่แจกเบอร์ส่วนตัวกับใครง่ายๆ ยิ่งเบอร์ที่บ้านเด็กหนุ่มเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่าคงไม่มีใครได้ไปจากผู้ชายเช่นพฤกษ์อย่างแน่นอน
“ ก็พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้า เดี๋ยวตื่นไม่ทันครับ” คนโดนถามบอกพลางผ่อนลมหายใจเบาๆ เพราะไอ้เพื่อนตัวดีแท้ๆเชียวแจกเบอร์เขามั่วไปหมด มันดูไม่ออกหรือไงว่าเขาไม่ชอบที่จะให้เบอร์ใครง่ายๆ
“ เดี๋ยวผมโทรไปปลุกได้นี่ครับ”เมษาหยอดกลับมาตามที่ใจสั่งแต่คนฟังไม่ได้ปลื้มไปด้วย เด็กหนุ่มหลับตานิ่งชั่วครู่ก่อนจะลืมขึ้นแล้วตอบกลับไป
“ ไม่รบกวนล่ะครับ เมษาก็น่าจะพักผ่อนได้แล้วนะครับ ผมเห็นดื่มมาหนักเหมือนกันนี่”
“ หนักยังไงผมก็ไม่ลืมที่จะโทรกู๊ดไนท์พฤกษ์หรอกครับมันชินซะแล้ว”
“ แล้วไอ้ปอนด์ล่ะครับโทรไปหามันบ้างหรือยังระวังมันน้อยใจนะครับ”
“ พฤกษ์ก็รู้นี่ครับว่าระหว่างพฤกษ์กับปอนด์ผมคิดถึงใคร”
“ก็…ครับ แต่ผมว่ามันดึกแล้ว และผมก็เริ่มง่วงแล้วด้วย”
“ งั้น ผมก็ไม่กวนแล้วครับ คิดถึงนะครับ นอนหลับฝันดี กู๊ดไนท์ครับ”ปลายสายวางหูไป พฤกษ์ผ่อนลมหายใจอีกรอบก่อนจะเอนกายลงนอน เมษาตามตื้อเขามาเกือบปี ทำไมนะเขาถึงทำใจให้รักคนๆนี้ไม่ได้ เมษาก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย ถ้าไม่นับเรื่องเที่ยวเก่งหากเขาจะเปิดใจซักครั้งนี่มันจะดีหรือเปล่านะ

เช้าวันใหม่ชีวิตคนกรุงยังคงดำเนินไปอย่างน่าเบื่อ รถราบนถนนหลายสายพร้อมใจกันนิ่งเหมือนโดนสะกดไว้ด้วยมนต์ดำจากสัญญาณจราจร ไฟแดงนี่ขยันทำงานชะมัดส่วนไฟเขียวก็อู้ได้ใจชวนให้หงุดหงิดจนหลายคนคิดอยากจะบีบแตรไล่ให้มันตื่นมาทำงานให้ได้ เช้า สาย บ่าย เย็น วัฏจักรชีวิตก็วนเวียนกันอยู่ในรูปแบบเดิมๆ คนเรียนก็เรียน คนทำงานก็ทำงาน แต่สำหรับศิระ เด็กหนุ่มทำมันทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน ชีวิตมีชาติเดียวทำมันซะให้คุ้มกับที่ได้เกิดมาบนโลกที่ไม่ยุติธรรมในความคิดเขา
“ กินกันก็ไม่หมด เฮ้อ รวยกันจริงๆ เงินเหลือกันมากก็ไปช่วยคนที่อดยากกันสิวะ” เด็กหนุ่มบ่นงึมงำอยู่กับตัวเองเมื่อมองเห็นอาหารที่วางเต็มโต๊ะจากลูกค้าที่เพิ่งลุกออกไป หลายปีที่เขาทำงานpart timeหลังเลิกเรียนที่นี่ เขาเห็นพฤติกรรมเหล่านี้ของคนที่มีอันจะกินจนเอียน แต่ใช่ว่าเขาจะทำใจได้ เขานึกไปถึงคนด้อยโอกาสหลายคนที่ชีวิตไม่เคยเจอกับคำว่าเหลือเฟือ
“ บ่นอะไรของมึงศิระ รีบเก็บเข้า ลูกค้าไม่มีที่นั่งระวังหูชานะมึง” โก๋ เพื่อนร่วมงานเดินมาติงแขน ร้านอาหาร fast food เวลาเป็นสิ่งสำคัญ จะมายืนไว้อาลัยให้กับอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ตัว อาจโดนหัวหน้ากะเล่นงานเอาง่ายๆ
“ ก็มึงดูดิ ซื้อมาแล้วมากองไว้แบบนี้ เสียดายตังค์ว่ะ” ศิระบอกในสิ่งที่เห็น โก๋ส่ายหน้า เอาอีกแล้ว ไอ้นี่ โรคอคติกับคนมีอันจะกินกำเริบอีกละ ต้องปราบซะหน่อย
“ แล้วมึงไปยุ่งอะไรกะเขา เขาซื้อมาแล้วไม่กินเราก็เก็บก็จบ ไปๆ มึงไม่กล้าเก็บกูเก็บเอง”
“ ไม่ต้องอ่ะ กูเก็บได้ มึงไปช่วยข้างในเหอะ เดี๋ยวข้างนอกกูลุยเอง วันนี้ท่าทางคนจะเยอะ”
“ มึงไหวแน่นะ อย่าไปตบกบาลลูกค้าล่ะมึง กูว่ามึงแหละควรไปอยู่หลังร้าน ดุๆอย่างนี้กูไม่ไว้ใจว่ะ”
“ เออน่ะ กูจะไปทำอะไรใครได้ ตกงานมากูก็ตายดิ ไม่ได้เกิดมารวยนะโว้ย มึงไม่ต้องกลัว”
“ ทั้งปีล่ะมึง ประชดตัวเองล่ะเก่งนัก อยากอยู่ก็อยู่ไป ไม่ไหวเรียกกู เดี๋ยวกูมาเปลี่ยน” สองหนุ่มแตะมือให้กันอย่างรู้เกม ก่อนที่จะแยกกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง ศิระ ชอบร้านนี้ก็ตรงนี้แหละทุกคนที่นี่อยู่กันอย่างสนิท บางทีที่เขาเหงามากๆ แค่ก้าวขาเข้ามาในร้านที่เป็นที่ทำงานตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งมันก็เป็นสถานที่ ที่ทำให้หายเหงาได้อย่างดี ไม่เหมือนที่บ้านของเขา บ้านที่อยู่ไกลจากรุงเทพไม่กี่กิโล แต่เขาไม่เคยอยากที่จะกลับไป เขาสอบไม่ติดมหาลัยของรัฐเหมือนอย่างที่ใครๆคาดหวัง ไม่มีใครสนใจใยดีที่จะส่งให้เขาเข้าเรียนในมหาลัยเอกชนด้วยเหตุผลที่ไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ เด็กหนุ่มเลยตัดสินใจลงเรียนในมหาลัยเปิดแล้วหาหนทางส่งเสียตัวเองจนเหลืออีกเพียงไม่กี่เทอมเขาก็จะได้เป็นบัณฑิตเต็มตัว ถ้าไม่มีอะไรผิดแผนการเรียนที่วางเอาไว้
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 20/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 20-11-2007 00:52:52
“ ทำไมถึงเลือกร้านนี้ล่ะ พฤกษ์ ผมไม่ชอบทานของพวกนี้”  เมษา แย้งพฤกษ์ เมื่อเด็กหนุ่มขับรถหรูพาเขาเข้ามาจอดตรงลานด้านข้างของร้านอาหารที่เขาไม่เคยคิดชอบ
“ ก็เห็นมันใกล้มหาลัยดี ขับไปไกลผมไม่ชอบรถติด เอาเหอะ หิวไม่ใช่เหรอครับ”  พฤกษ์ให้เหตุผล ก็เพราะเมษาไม่ชอบน่ะสิเขาถึงต้องเลี้ยวรถเข้ามา ถ้านายนี่อยากที่จะคบกับเขาจริงๆก็ต้องเข้ากับเขาได้ในทุกๆเรื่องสิ
“ ตามใจสิครับ ผมติดรถมาแล้วนี่”  คนบอกแอบข่มอารมณ์ขัดใจ อุตส่าห์ทิ้งรถเอาไว้ ออกอุบายว่ารถเข้าศูนย์ซ่อม ลงทุนนั่งแท็กซี่กระเตงตัวเองไปดักรอคนข้างตัวถึงหน้ามหาลัย หวังแค่คิดที่จะไปหาบรรยากาศหรูหราคุยกันสองต่อสอง แล้วนี่อะไร พาเขามาหาอาหารที่เขาคิดว่ามันไม่เหมาะกับสถานภาพเขาซักนิด เบอร์เกอร์ เฟร้นฟราย ไก่ทอด ตายล่ะจะกินเข้าไปได้ยังไง ไขมันทั้งนั้น หมดกันรูปร่างจากการเล่นฟิตเนสมาเป็นแรมปี แต่เอาวะเพื่อเอาชนะใจอะไรยอมได้ก็ยอมไปก่อน ถึงเวลาถอนคืนเมื่อไหร่จะเอาให้คุ้มเชียวอย่าเผลอก็แล้วกัน

   ตายห่าล่ะมึง ฟ้าผ่าแต่หัวค่ำ ศิระรีบหันหลังเดินกลับเข้าไปหลังร้านเมื่อมองเห็นเต็มสองตาว่าใครที่กำลังเดินควงคู่กันเข้ามาในร้าน
“ เป็นอะไรวะ ศิระ”  โก๋ทักเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนไม่ค่อยดี 
“ กูเหนื่อย มึงไปดูข้างนอกแทนกูหน่อยดิ” ศิระบอก ก่อนจะรีบแวบเข้าไปในส่วนลึกของร้านไม่ใช่ว่าอาย แต่สายตามันกระตุกเตือนว่าหากได้อยู่ใกล้กับไอ้คู่ขี้อวดนั่นสงครามย่อยๆอาจประทุขึ้นในร้าน
“ ไรวะ ยังไม่เท่าไหร่เหนื่อยละ” โก๋ร้องตามหลัง แต่คนเดินหนีไม่อยู่ฟัง จะอยู่ให้โง่เรอะไอ้คู่นั่นมันเดินมาสั่งอาหารอยู่หน้าเคาน์เตอร์แล้วนี่ เพิ่งรู้นะนี่ว่าเป็นแฟนกัน เออ พวกมันคงอยู่กันได้นานหรอกคนชนชั้นระดับเดียวกันนี่

แม้จะเดินหลบไปแต่สายตาก็ยังแอบลอบมอง ศิระเผลอใจกระตุกอย่างไม่รู้สาเหตุเมื่อเห็นพฤกษ์คอยเทคแคร์ สั่งโน้นสั่งนี่ให้คนข้างตัวแถมยังดูให้เกียรติฝ่ายนั้นให้รับของก่อนทุกครั้ง ก่อนจะจ่ายเงินให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ….นี่กูจะไปรู้สึกน้อยใจทำไมเนี่ย มันไม่ได้เป็นอะไรกะกูซะหน่อย ……. เด็กหนุ่มบอกตัวเองในใจก่อนจะหนีหายไปจากภาพนั้นเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ในตัวร้าน

   “ รอแป๊บนะผมไปห้องน้ำเดี๋ยว”พฤกษ์บอกเมษาเมื่อรู้สึกว่ามือจะดูเลอะๆ เมษาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะมองตามร่างสูงในชุดนักศึกษาเดินไป ยิ่งมองดูรูปลักษณ์คนๆนี้เท่าไหร่เขาก็ยิ่งหลงรักจนถลำลึกมากเท่านั้นให้ตายสิ

   ศิระ สำรวจตัวเองกับเงากระจกในชุดพนักงานบริการแล้วลอบถอนหายใจ คิดไปทำไมไอ้ศิระ พวกมันออกจะเหมาะกันดี อย่างมึงจะไปอยู่ในสายตาพวกมันได้ไง เด็กหนุ่มถอยออกมาจากกระจกหันไปเปิดประตูจะออกไปจังหวะเดียวกับที่คนภายนอกเปิดเข้ามา….
“ขอโทษครับ” ศิระบอกยิ้มๆอย่างนอบน้อมเมื่อเกือบจะชนลูกค้าเข้าที่หน้าประตู ก่อนจะรีบหลบให้พ้นทาง รอจนลูกค้าผ่านหน้าไปแล้วเขาจึงรีบกลับเข้าไปในร้าน พฤกษ์ มองเห็นหลังคุ้นตาไวๆผลักประตูเข้าไปในร้าน เด็กหนุ่มหยุดยืนมองครู่หนึ่งก่อนจะเลิกสนใจเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ทำไมถึงต้องคิดว่าคนเมื่อกี้เป็นนายนั่นด้วยล่ะน่าจะลืมมันไปได้แล้วนี่นา

   

   “มองอะไรวะศิระ”  โก๋อดที่จะเดินเข้ามาถามคนที่มองจ้องไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอยไม่ได้ มันมีอะไรน่ามอง
“เปล่า”  คนโดนถามตอบสั้นๆแต่คนถามไม่เชื่อ
“เปล่าอะไร ก็กูเห็นมึงมองเหม่อไปข้างนอกนานสองนาน”
“อ้าวพนักงานไม่มองลูกค้าจะให้ไปมองลิงที่ไหนมึงนี่”
“โธ่ ไอ้บ้อง กูก็พอจะดูออกหรอกว่าสายตาที่มึงมองน่ะไม่ใช่สายตาพนักงานที่จะคอยบริการลูกค้า กูว่าถ้ามึงฆ่าใครไม่ผิดกฎหมายได้ตอนนี้มึงคงฆ่าไปแล้ว ตอบกวนนะมึง”
“ไปนั่น กูคนนะไม่ใช่เครื่องจักร กูเหนื่อยกูจะหยุดพักมองอะไรเลื่อนลอยไม่ได้หรือไง อีกอย่างกูอยากจะมองอะไรมึงมายุ่งอะไรกะกูโน่นหน้าที่มึงไปทำดิ เก็บกวาดเช็ดถูนอกร้าน มาอู้ข้างในระวังโดนนะหาว่ากูไม่เตือนอีก”
“เรื่องล่ะ นี่เวลาเบรกกูโว้ยมึงมาหลังกู กูเบรกมึงก็ไปทำหน้าที่แทนกูดิ เหลือไม่เยอะหรอก กูเก็บจนจะหมดแล้ว”อ้าวซวยสิ ศิระหน้าเหวอวันนี้เขาต้องทำหน้าที่สลับกับไอ้เพื่อนซี้นี้ด้วย แล้วมันพักแบบนี้ เขาก็ต้องออกไปดูแลข้างนอกแทนมันอ่ะดิ แล้วนั่น พวกมันจะอยู่จนร้านปิดหรือไงน้ำสองแก้วอาหารไม่กี่อย่างนั่งแช่ยังกะคนไม่มีที่ไป เด็กหนุ่มพาลไปถึงสองคนที่ทำให้เขากลายเป็นคนขี้เกียจออกไปนอกร้านอย่างหงุดหงิด สาบานได้ถ้าพวกมันจำเขาได้ไม่ต้องให้ทายหรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นเดี๋ยวก็รู้จะหมู่หรือจ่า ถ้าเขาออกไปให้พวกมันเจอ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 20/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 20-11-2007 01:18:25
ไม่รู้ว่าจะลงอีกมั้ย แต่ชอบศิระเคอะ 55+ ตอนนี้ขอตัวไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไปโรงเรียนไม่ได้
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 20/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 20-11-2007 01:31:48
มาลงชื่อรออ่านด้วยคนจ้า....

ลุ้นน่าดู....มาแนวไม่ชอบเข้หน้ากันนี่ชอบเจงๆ...

ว่าแต่.....ใครจาเปงฝ่ายบุกหว่า....ยังดูไม่ออก...หุหุ :m12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 20/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 22-11-2007 00:58:05
ขออนุญาตนะครับท่านเจ้าของบอร์ด ขอประชาสัมพันธ์ข่าวนิดนึงนะครับ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=3023.0



แอม สู้ๆ นะ นิยายเรื่องนี้ยังอีกยาวไกล เอาใจช่วย


ขอบคุณครับ


Boy
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 20/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-11-2007 08:49:53
สนุกมากๆท่าทางจะแสบสันต์แน่ๆ รออ่านต่อนะค้าบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 22-11-2007 14:54:58
“ไม่เห็นทานเลย ไม่ชอบเหรอเมษา”  พฤกษ์ถามคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเมื่อเขาจัดการกับอาหารที่สั่งมาจนเกลี้ยงแต่ฝั่งนั้นยังไม่แตะอะไรนอกจากน้ำเปล่าๆ
“ยังอิ่มอยู่ พฤกษ์เอาอีกดิ เนี่ยผมยกให้”  เมษารีบเลื่อนอาหารตัวเองไปให้คนถาม ที่จริงหิวจนไส้จะขาดแต่ไม่อาจที่จะกินของพวกนี้ลง ยี้ แค่เห็นก็จะอ้วก
“ไม่ล่ะ ผมทานไปเยอะแล้ว กลับกันยังอ่ะ รถคงไม่ติดแล้วมั้ง”  พฤกษ์ปฏิเสธแล้วเอ่ยชวน ท่าทางเขากับนายนี่คงไปกันไม่รอดแน่ แค่อาหารการกินยังไปคนละเรื่อง
“ก็ดี ว่าแต่จะกลับบ้านเลยเหรอ ผมยังไม่อยากกลับ”  คนตอบดีใจที่จะได้ออกจากร้านนี้ แต่แอบขุ่นใจถ้าจะให้แยกจากคนชวน
“ผมเหนื่อย คงต้องกลับบ้านแหละ หรือเมษาจะไปไหนต่อก็ตามสะดวกนะ ผมคงไปด้วยไม่ได้”
“ทำไมล่ะ พฤกษ์เบื่อผมเหรอ”
“ผมไม่ได้เบื่อแต่ผมเหนื่อยจริงๆ”
“เรียนหนักเหรอครับวันนี้”
“ก็บ้างตั้งใจว่าจะจบให้ได้ ก็เลยหนักหน่อย”
“งั้นก็ไปส่งผมที่คอนโดก็พอครับ หวังว่าคงไม่ใจดำให้ผมกลับเองนะ”พฤกษ์ไม่ตอบแค่ยิ้มนิดๆ เขารู้ความต้องการของเมษาอยู่แล้วนี่ ไปส่งน่ะได้ แต่ถ้าจะให้เข้าไปนั่งพักในห้องเขาคงไม่เอาด้วยแน่ๆ สองหนุ่มกำลังจะลุกออกจากที่โดยที่มีสายตาของคนที่รอจะเข้ามาเคลียร์โต๊ะมองอยู่
กูว่าแล้ว เหลืออีกตามเคย …. ศิระคิดอยู่ในใจเมื่อมองเห็นอาหารในส่วนของเมษาที่ยังไม่มีใครแตะต้องแต่ทั้งสองทำท่าว่าจะออกจากร้านไปแล้ว เมื่อสองหนุ่มลับสายตาเขาจึงก้าวออกมาจากที่ซ่อน รอดตัวไปนึกว่าจะได้ปะทะคารมกับคนพวกนี้ซะแล้ว มือที่เก็บกวาดอาหารพลันต้องหยุดชะงักเมื่อมองเห็นวัตถุสีดำที่ชีวิตนี้ไม่เคยมีครอบครองวางทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะ โอ้โห นี่พวกมันรวยถึงขนาดทิ้งๆขว้างๆโทรศัพท์ราคาแพงแบบนี้เลยเหรอเนี่ย เดี๋ยวพ่อก็จับมันยัดลงขยะซะหรอก ศิระแค่คิดให้ตัวสะใจเล่นๆลองทำจริงๆสิจะได้โดนไล่ออกภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง
“เห็นโทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะมั๊ยครับ” เสียงเจ้าของร้องทวงถามมาจากทางด้านหลัง ศิระตัวชา มันไม่ใช่เสียงของคนที่เขาเดินชนในเธค แต่มันเป็นเสียงของคนที่ยืนต่อปากต่อคำเขาที่ป้ายรถเมล์
“คุณครับ” พฤกษ์เรียกซ้ำเมื่อคนที่ยืนหันหลังให้ไม่ยอมหันมาคุยกับเขา มันมีพิรุธแฮะ และก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปใกล้อย่างที่ใจคิดโทรศัพท์คู่กายเขาก็ถูกยื่นมาให้แต่คนยื่นไม่ยอมหันมา เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบของ ของตัวเองช้าๆแต่สายตาจับต้องอยู่ที่คนยื่น ทันทีที่รู้สึกว่ามีมือมาสัมผัสสิ่งของที่ยื่นให้ศิระรีบคิดที่จะชักมือกลับ  เขายังไม่อยากเผชิญหน้ากับนายนั่นตอนนี้ แต่เด็กหนุ่มคิดช้าไปแทนที่เจ้าของโทรศัพท์จะหยิบเอาแค่ของ มือนุ่มนั่นกลับรวบเอามือเขาไปด้วย
“เฮ้ย!!!! ไรวะ” ศิระร้องตกใจเสียงดังเป็นเหตุให้คนทั้งร้านหันมามองเขาเป็นตาเดียว แต่เขาไม่ได้สนใจใคร นอกเสียจากคนที่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงหน้าเมื่อเขาหันมาสบตาเข้าอย่างจัง
“นี่นาย” พฤกษ์ทัก ที่แท้ความสงสัยตอนที่เขาจะเข้าห้องน้ำมันก็เป็นจริงหรอกเหรอ
“ปล่อยซิวะ มาจับไว้ทำไมเล่า” ศิระ สะบัดมือออกให้หลุดจากการเกาะกุม เด็กหนุ่มไม่คิดว่าคนจับจะมือไม้อ่อนขนาดนี้ หน้าที่ซีดอยู่แล้วถึงกับซีดหนักไปกว่าเดิมเมื่อแรงเหวี่ยงจากการสะบัดมือส่งผลให้โทรศัพท์เครื่องเล็กหล่นกระแทกพื้นกระเบื้องของร้านชิ้นส่วนกระจุยกระจาย
   “เฮ้ย อะไรวะ” พฤกษ์เป็นฝ่ายตกใจบ้างเมื่อเห็นของรักแตกกระจายต่อหน้าต่อตา เด็กหนุ่มมองคนต้นเหตุด้วยแววตาโกรธจัด จะสะบัดมือทำห่าอะไรผู้ชายเหมือนกันไอ้…ฮึ่มจะด่ามันว่าไงดีวะ.
   “เกิดอะไรกันขึ้นคะ”คนที่มีอำนาจในร้านรีบวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์เมื่อเห็นหลายโต๊ะเริ่มให้ความสนใจ สุดท้ายเรื่องก็ไปจบลงในที่ลับตาลูกค้ารายอื่น พฤกษ์ ไม่ได้เสียดายของอะไรมากมาย อย่างเขาซื้อใหม่อีกซักกี่เครื่องก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ใจเจ้ากรรมนี่สินึกอยากจะกลั่นแกล้งคนต้นเรื่อง ท่าทางอวดดีและถือตัวของนายนี่ยังติดอยู่ในความทรงจำของเขา ขอเอาคืนซักทีเหอะน่า
“พนักงานบริการอะไรทำผิดแล้วยังไม่ขอโทษอีก ทำของลูกค้าแตกเสียหายแบบนี้ ราคาก็ไม่ใช่บาทสองบาท ผมไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ”  เด็กหนุ่มเริ่มโวยต่อหน้าผู้จัดการร้านทันที จะดูซิว่าถ้านายนี่โดนตำหนิจะมีสีหน้ายังไง
“ศิระ เรามีเรื่องต้องคุยกัน”พฤกษ์ ได้ยินถ้อยคำสุดท้ายของเจ้านายของคนที่เขาเพิ่งจะรู้ว่าชื่อ ศิระ หลังจากที่เขาได้รับคำขอโทษที่ฟังยังไงๆมันก็ออกมาจากคนพูดอย่างไม่เต็มใจ นี่ถ้าไม่โดนเจ้านายบังคับนายศิระนี่ก็คงจะไม่ยอมเอ่ยเป็นแน่
“ช่วยอบรมมารยาทให้ดีกว่านี้หน่อยนะครับ” เด็กหนุ่มเตือนย้ำพลางปรายสายตาไปทางคนที่ต้องการแกล้ง โธ่เอ้ย ซึมเป็นไก่กำลังจะโดนเชือดเชียวสะใจดีว่ะ ศิระมองสบตาตอบคนมองมา ถ้าไม่ติดที่มีภาระมากมายที่ต้องแบกเอาไว้ด้วยการงานเขาคงจะโดดชกหน้านายนี่ไปแล้ว ที่จริงถ้าจะผิดมันก็น่าจะผิดด้วยกันทั้งสองคนทำไมนายนี่จะต้องคิดเอาเรื่องเขาขนาดนี้ด้วย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 22-11-2007 14:58:43
“โดนอีกแล้วไอ้ศิระ คงไม่รุนแรงถึงขั้นให้ออกหรอกนะมึง” โก๋ พูดออกมาลอยๆระหว่างที่พฤกษ์เดินผ่าน ก่อนจะรีบหลบตาก้มเดินหนีไปเมื่อพฤกษ์หยุดกึกหันมามองเขา  ลับหลังโก๋ไปแล้วพฤกษ์อดที่จะหันกลับไปมองไปทางห้องที่เขาเพิ่งจะก้าวออกมาไม่ได้ เขาเองก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรนี่นา คำพูดในทำนองเอาเรื่องของเขาจะทำให้นายนั่นเดือดร้อนเหมือนอย่างที่เด็กหนุ่มเมื่อกี้พูดหรือเปล่านะ
“พฤกษ์ กลับกันหรือยังครับ” เมษาเดินมาติงแขนคนที่กำลังจะย้อนกลับไปห้องนั้นเพื่อถอนคำพูดทั้งหมด
“ไม่รอที่รถล่ะครับ”พฤกษ์ หันมาบอกคนที่ตามมา เมษามาถึงตัวแบบนี้เขาจะกลับไปห้องนั้นได้ยังไง
“ผมรอนานแล้วนะครับ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” เมษาอธิบาย พฤกษ์รีบปฏิเสธ
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
“ไม่มีอะไรแล้วทำไมเข้ามานานจังล่ะครับ แล้วเจอโทรศัพท์หรือเปล่า”
“ไม่เจอครับ ผมคงลืมไว้ที่อื่นมั้ง”
“งั้นก็ช่างมันเถอะครับ ผมซื้อให้ใหม่ก็ได้ กลับกันเถอะนะครับ”
“เมษา ไปรอผมที่รถก่อนดีกว่านะครับ แป๊บนึงเดี๋ยวผมตามไป”
“ทำไมครับ มีอะไรหรือเปล่าครับพฤกษ์”
“ไม่มีอะไรครับ ไปเหอะ เดี๋ยวผมตามไป” แม้น้ำเสียงจะบอกไปอย่างเรียบเฉยแต่สายตาที่พฤกษ์ส่งให้ เมษารู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ควรถามเซ้าซี้ผู้ชายคนนี้ถ้าไม่อยากให้คะแนนตก เด็กหนุ่มเลยจำยอมเดินออกไปทางเดิมอย่างนึกเซ็ง พฤกษ์ถอนหายใจแล้วหันไปมองทางห้องที่เพิ่งเดินออกมาเมื่อครู่อีกรอบ และคราวนี้เขาเจอกับคู่กรณีกำลังเดินออกมาพอดี  ศิระชะงักเมื่อเห็นพฤกษ์ยังไม่กลับออกไปจากร้าน เขารู้จักชื่อนายนี่จากการพูดคุยเมื่อครู่ แต่เขาจะสนใจทำไมล่ะในเมื่อทางร้านยืนยันที่จะชดเชยค่าเสียหายให้นายนี่แต่เขาสิเป็นตัวแบกภาระค่าเสียหายทั้งหมดจากการหักค่าจ้างที่ปกติก็น้อยจนน่าใจหายอยู่แล้ว
“ยังได้ทำงานอยู่ใช่มั๊ย”  พฤกษ์ถามอย่างนึกห่วงเมื่อศิระกำลังจะเดินผ่านเขาไป แต่โชคร้ายที่คนฟังแปลเจตนาผิด
“เสียใจด้วยนะที่มึง เอ่อ คุณต้องผิดหวัง” รอบกายมีลูกค้าอยู่บ้างศิระจึงรีบเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกพฤกษ์แต่คนถูกเรียกก็ใช่ว่าจะใส่ใจ ศิระพูดจาแบบเดิมเขายังจะรู้สึกดีกว่าตั้งเยอะทั้งๆที่เคยไม่ชอบแต่ตอนนี้มันไม่ใช่
“ไม่โดนไล่ออกใช่ป่ะ”  พฤกษ์รีบทักขึ้นอีกเมื่อศิระจะเดินหนีไป
“เออสิวะ” คนถูกทักหันมาตะคอก อยากให้กูตกงานนักหรือไง
“คราวหน้าคราวหลังก็ระวังหน่อยละกัน มันอาจไม่โชคดีแบบนี้ตลอดนะ” ศิระชะงักขาที่กำลังจะก้าวเดินหนีอีกรอบเมื่อได้ยินคำพูดในน้ำเสียงในเชิงตักเตือน นอกจากกลุ่มเพื่อนๆเขาไม่เคยได้ยินคำพูดทำนองนี้จากปากใครๆแม้แต่ผู้ให้กำเนิดเอง เด็กหนุ่มรู้สึกหวั่นไหวนิดๆแต่ก็รีบตัดใจไม่ให้คิดอะไร ขาที่ชะงักจึงรีบก้าวหนีไปจากที่ตรงนั้น โดยไม่หันมามองคนพูดที่มองตามหลังเขาอยู่ด้วยความโล่งใจ  พฤกษ์เดินออกจากร้าน ไปหาเมษาที่รออยู่ ท่าทางที่เด็กหนุ่มขอโทษขอโพยคนนั่งรอทำให้คนที่แอบมองอยู่ในร้านเกิดเหงาอยู่ลึกๆ คนแอบมอง ก้มหน้าก้มตา ทำหน้าที่ตัวเองอย่างซึมๆเมื่อมองรถของพฤกษ์เคลื่อนออกไปลับสายตา…….


โปรดติดตามอ่านในตอนต่อไป>>>>>
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-11-2007 15:08:58
555 สนุกๆๆๆๆๆเอาอีกๆๆๆๆๆ  :m3:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 22-11-2007 15:30:16
เอาอีก เอาอีก   :m4: :m11: :m4: :m11:

ชอบศิระ   :m3:

อิอิ  :m18:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 22-11-2007 15:50:03
รอครับดีแท้ๆกัดกัดซะเลือดสาดเลย :m23:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 22-11-2007 18:15:59
ตามอ่านทันละ  หนุกๆๆๆ  รออ่านต่อ   :a2:

คิดถึงแอมนะ  :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: sky-cafe ที่ 22-11-2007 21:44:28
เอาอีกกกกกกกก อยากอ่านอีกกก กดมาดูทุกวันเลยนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 22/11/07
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-11-2007 22:28:51
เรื่องนี้ขอแบบไม่เศร้านะพี่บอย :a10:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 24-11-2007 15:45:28
#3

“อะไรนะครับ ทางร้านจะชดใช้ค่าเสียหายให้ผมเหรอครับ”พฤกษ์ร้องถามถึงสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่เสียงดัง หลังจากที่เขาได้รับการติดต่อจากที่ทำงานของศิระจากเบอร์บ้านที่เขาทิ้งไว้ให้
“ขอบคุณนะครับสำหรับความรับผิดชอบ แต่ที่จริงผมก็มีส่วนผิด ไม่ต้องชดใช้ให้ผมก็ได้ลืมเรื่องนี้ไปได้เลยครับ” เด็กหนุ่มรีบปฏิเสธ เขาพอจะรู้บ้างว่าทางร้านคงไม่ยอมเสียในสิ่งที่ไม่ควรจะเสียและของๆเขาที่เสียหายไปราคาน้อยอยู่ซะเมื่อไหร่ล่ะ ศิระคงต้องรับภาระนั้นไปเต็มๆแน่  เมื่อทางร้านรับคำปฏิเสธของเขาและกล่าวขอบคุณกลับมาเป็นกระบุงโกยแล้ว พฤกษ์จึงวางสายและออกมายืนคิดอะไรเงียบๆ เด็กหนุ่มบอกกับคนที่บ้านว่าหากมีโทรศัพท์มาบอกว่าเขานอนไปแล้ว แน่ล่ะเขาเลี่ยงที่จะคุยกับเมษาที่โทรมาเป็นประจำ
 ใต้ฟ้าเดียวกัน ศิระเดินเตะเท้าไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยหลังจากทำหน้าที่เรียบร้อย หัวใจไม่เคยเหงา ทำไมคืนนี้มันถึงรู้สึกได้ โก๋แยกตัวออกไปแล้วกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่ง เขาก็มีเพื่อนนี่นา เพื่อนที่มีวิถีชีวิตบนเส้นทางเดียวกัน เขาจะปล่อยตัวเองมาเดินเหงาอยู่คนเดียวทำไม
“พวกมึงอยู่ไหนกัน เสียงดังมากเลยว่ะ” ศิระถามปลายสายที่เขาโทรหาหลังจากที่ได้ยินเสียงอึกทึกปนเข้ามาในหู
“กำลังมันส์อยู่เลย มึงล่ะอยู่ไหน”เสียงเพื่อนตอบกลับมา ศิระส่ายหน้า
“กูว่าแล้วพวกมึงนี่มีคืนไหนบ้างวะที่ไม่ออกไปล่าเหยื่อกันเนี่ย”
“เออนะ เรื่องของพวกกู แล้วนี่มึงโทรมาทำไม หรือว่าอยากตามมาด้วย”
“กูคงโง่ไปอีกหรอก คราวที่แล้วพวกมึงทำกูแสบมาก”
“เฮ้ย พวกกูขอโทษ ก็คิดว่ามึงไม่มาแล้วไงก็เลยกลับกันก่อน”
“กูไม่ได้เรียนเสร็จแล้วว่างเหมือนพวกมึง ก็รู้ๆกันอยู่ แทนที่จะรอกูบ้างถ้ากูบอกไปก็ไปดิ”
“เออๆ พวกกูผิด แล้วนี่จะมามั๊ย คราวนี้จะรอจนร้านปิดเลยอ่ะ”
ศิระนิ่งคิด ไม่รู้ว่าความเหงาเมื่อครู่มันเริ่มลามหนักไปหรือเปล่าถึงยอมตกลงไปยังสถานที่ ที่ไม่คุ้นเคยอีกครั้ง มันเป็นสถานที่ใหม่จากคืนนั้น คืนที่เขาเจอกับพฤกษ์ แต่คนที่มาเที่ยวไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เผลอๆแน่นกว่าที่นั่นด้วยซ้ำ แต่แปลกที่ศิระกลับนึกถึงสถานที่นั่นมากกว่า
เมษากำลังนั่งปรับทุกข์อยู่กับปอนด์ด้วยท่าทางเมาหนัก เขาเริ่มทนไม่ไหวกับการถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจากพฤกษ์ เขาไม่ดีตรงไหน พฤกษ์รอใครอยู่ เมื่อช่วงค่ำที่แสดงออกถึงความต้องการภายในใจตอนที่พฤกษ์ไปส่งที่คอนโด เขาอายจนแทบจะร้องไห้เมื่อพฤกษ์ไม่เล่นด้วยแถมยังไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ได้อีก เขาเลยต้องถ่อมาระบายอารมณ์ที่นี่
“มึงเห็นคนนั้นมั๊ย ศิระ” ศิระมองตามสายตาเพื่อนไปยังคนดูดีที่นั่งซึมให้เพื่อนอีกคนปลอบ เด็กหนุ่มยิ้มเยาะก่อนจะบอก
“นึกว่าใคร อย่าบอกนะว่ามีใครสนใจมัน” เขามองเพื่อนในกลุ่มที่รวมตัวกันอยู่สี่คนรวมเขาด้วย อย่างอยากรู้คำตอบ
“ทำไม หรือมึงสนใจ” เป้หนุ่มสำอางที่พอจะสูสีกับเมษาเป็นเป็นคนตอบ
“กูไม่ได้สนใจและกูก็ไม่อยากที่จะให้ใครสนใจด้วย”
“ทำไมวะ”
“มันมีแฟนแล้ว”
“มึงรู้ได้ไง”
“ก็กูเห็นพวกมันควงกันไปร้านที่กูทำงานอยู่”
“โห เซ็งเลยมึง”
“เอานะ อย่างพวกมึงเที่ยวกันเกือบทุกคืน คนอื่นมีเยอะแยะไป เชื่อกูอย่าไปยุ่งกะพวกมัน แม่งร้ายกันทั้งคู่”
“ท่าทางเป็นเอามากแฮะมึง พวกกูชักสงสัยแล้วสิว่ามึงหลงรักใครเข้าให้ระหว่างนายนี่หรือแฟนนายนี่”
“พูดห่าอะไรของมึงเนี่ย อย่างกูเนี่ยนะจะมีสิทธิไปรักไปชอบใคร”
“ทำไมวะ มึงไม่มีหัวใจหรือไง”
“หัวใจกูน่ะมี แต่กูก็รู้ว่าคนอย่างกูพอที่จะรักใครได้ไม่ใช่หลับหูหลับตารักใครเขาไปเรื่อยเปื่อย กูไม่อยากผิดหวังกับเรื่องพวกนี้”
“น่ากลัวว่าชาตินี้มึงจะไม่ได้เจ็บปวดหรอก ในเมื่อมึงไม่กล้ารักใครศิระ”
“ก็ดี อยู่คนเดียวไม่มีใครมากวนใจมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรซักหน่อย”
“แล้วที่มึงมานี่อย่าบอกนะว่ามึงอยากมา”
“ถ้ากูไม่อยากมาแล้วกูจะมาทำไม”
“มึงกำลังเหงา พวกกูดูกันออก”
“เหงาห่าอะไร พวกมึงพูดเรื่อยเปื่อย”
“ศิระ เอ้ย เปิดใจบ้างเหอะว่ะ ความรักมันไม่ได้น่ากลัวเสมอไปนะมึง ถ้ามึงยิ่งกลัวมึงจะยิ่งเหงา”
“อย่ามาสอนกู พวกมึงเอาตัวเองให้รอดกันก่อนเหอะ แม่งเพ้อเจ้อกันไปใหญ่กูกลับล่ะ” ศิระไม่อาจอยู่ให้ใครอ่านความรู้สึกภายในใจที่ซ่อนอยู่ได้ต่อ เด็กหนุ่มรีบเดินออกจากกลุ่มเพื่อนทันที แล้วเดินออกจากร้าน แต่พลันต้องตกใจเมื่อเจอกับคนคุ้นตาที่เดินมาประชิดตัวพอดีที่หน้าประตู
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 24-11-2007 15:53:19
“ศิระ” พฤกษ์เรียกคนที่ยืนอึ้งอยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง นี่มันอะไรกันนายนี่ก็เที่ยวเก่งเหมือนกันหรอกเหรอ ความรู้สึกที่เขาเห็นใจจนปฏิเสธรับค่าเสียหายจากที่ทางร้านนายนี่มอบให้หายไปหมดสิ้น เลิกงานแล้วก็วิ่งมาเที่ยวตามสถานที่แบบนี้ มันน่าถอนคำพูดนัก
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เขาถามเมื่อศิระดูท่าจะตกใจที่เห็นเขาเหมือนกัน
“ยุ่งอะไร” ศิระตวาดกลับแล้วจะเลี่ยงเดินหนี แต่อะไรไม่รู้ที่ทำให้พฤกษ์ลากแขนคนที่จะเดินหนีไปคุยกันในมุมมืด
“เฮ้ย อะไรวะ”  ศิระร้องอย่างตกใจไม่คิดว่าจะโดนลากมาในที่ลับตาแบบนี้ ยิ่งมองเห็นแววตาขุ่นมัวในแสงสลัวของคนลากมาเด็กหนุ่มก็ยิ่งข้องใจ
“นี่มันไม่ใช่ที่ที่นายควรมานะเลิกงานแล้วทำไมไม่กลับบ้านไป”
“แล้วมายุ่งอะไรด้วยเนี่ย ปล่อยๆๆ แล้วจะไปทำบ้าบอแบบนี้กับใครที่ไหนก็ไป อย่ามายุ่งกะกู” ศิระเกะมือพฤกษ์ออก บีบจับซะเจ็บมันบ้าหรือเปล่าวะ
“ ก็ไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ แต่เห็นแล้วมันขัดตา โธ่เอ้ย ที่แท้ก็ทำงานหาเงินเที่ยวเล่น มันน่านัก “
“น่าอะไร พูดมาดีๆนะมึง กูจะทำอะไรมันก็เรื่องของกู ที่นี่ไม่ใช่ที่ร้าน กูไม่ใช่คนที่มึงจะมาข่มได้จำเอาไว้”
“ที่ไหนก็เหมือนกันคนอย่างนาย ฉันข่มได้ทุกเมื่อถ้าฉันจะข่ม หรือไม่จริง” พฤกษ์ยิ้มเหยียด แค่อยากจะทำให้นายนี่เลิกอวดดีซะที ดูจากการพูดจาก็น่าจะรู้ว่ายังเคืองเขาอยู่ แต่เขานี่สิน่าเคืองเสียกว่าอุตส่าห์หลงคิดว่าเป็นคนน่านับถือที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ที่ไหนได้ เวรแท้ๆ ที่ๆยืนอยู่นี่คนหาเช้ากินค่ำจะมากันได้ที่ไหน ขนาดเขาไม่ได้มีปัญหากับเรื่องค่าใช้จ่ายยังไม่อยากจะมาเลยถ้าไม่ติดว่าไอ้เพื่อนตัวดีโทรเซ้าซี้ให้มารับเพราะเมษาเมาหนัก ที่บ้านก็ใจดีกันจังบอกแล้วว่าไม่อยากรับโทรศัพท์ใคร แต่พอรู้ว่าเป็นปอนด์ก็ไม่กล้าโกหกในสิ่งที่เขาบอก
“หลีกไป กูจะกลับ”  ศิระผลักคนที่คิดว่าดูถูกเขาให้พ้นทาง ทำไมนะคำพูดนายนี่ถึงทำให้เขาเจ็บได้
“ทำไมรีบกลับล่ะ ร้านยังไม่ปิดไม่ใช่เหรอ หรือว่าได้เป้าหมายแล้ว”พฤกษ์ประชด สาบานได้ว่าเขาเพิ่งมีอาการแบบนี้ ทำไมจะต้องเคืองนายนี่ขนาดนี้ด้วยที่จริงมันจะทำอะไรก็น่าจะเป็นเรื่องของมัน
“แน่นอน อย่างผมก็มีปัญญาหาคู่นอนได้เหมือนกันครับท่านชายพฤกษ์”
พฤกษ์สะอึกกับถ้อยคำสุดท้ายของคนที่หันมาประชด ก่อนเจ้าตัวจะเดินหนีไป  คู่นอนเหรอ นี่มันเที่ยวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย  เด็กหนุ่มคิดตามหลังในสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะเดินหายเข้าไปในร้าน และพอไปถึงตัวคนที่โทรตามเขาออกมา เด็กหนุ่มรีบจัดการโยนกุญแจรถให้ บอกให้คนรับกุญแจขับรถกลับบ้านเอง พูดจบ เด็กหนุ่มก็รีบวิ่งออกไปทางนอกร้านทันที

ปอนด์รับสิ่งของที่ถูกโยนให้ พลางนึกสงสัยว่า พฤกษ์เป็นอะไร แล้วจะรีบไปไหนขนาดนั้น เด็กหนุ่มมองตามหลังคนที่วิ่งฝ่าฝูงชนออกไปทางด้านนอกก่อนจะหันมาพยุงคนที่เมาจนฟุบหลับไม่รู้เรื่องข้างตัว





ไว้จะมาต่ออีก
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-11-2007 18:05:21
เป็นกำลังใจให้น้องแอมนะ  :m1:   :m1:  :m1:

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-11-2007 00:00:54
อยากอ่านต่อแล้ววววววววววววว ดูสิใครมันจะรั้นได้มากกว่ากัน พอกันทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 25-11-2007 20:43:08
ครบคู่พอดี  วิ่งตามกันเข้าไป  :a11:
ศิระ พฤกษ์
ปอนด์ เมษา

รออ่านอยู่น้า  แอม  เป็นกำลังใจให้จ้า  :a2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: Ferfa ที่ 25-11-2007 21:35:51
 :give2: รักพี่บอยจัง หนุกๆๆ  :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 25-11-2007 21:36:56
แอม มาต่อเลย ด่วนๆ
 :m3:

หนุกจัง ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 26-11-2007 03:21:28
พี่แอมจ๋า  จุ๊บๆ

น้องชอบเรื่องนี้อ่ะพี่แอม  ดังนั้นมาต่อให้อย่างด่วนๆเลยนะ

อย่าให้มีทวงนะจ๊ะ  ^_^

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 24/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 26-11-2007 23:50:40
“ศิระ”เสียงเรียกทางด้านหลังทำให้ศิระหยุดหันไปมอง ไอ้บ้านั่นจะตามเขามาทำไมเนี่ย เด็กหนุ่มคิดหาวิธีที่จะทำให้พฤกษ์ไม่กล้าเข้าใกล้ เอาวะเป็นไงเป็นกัน ชีวิตนี้ไม่เคยยั่วใครขอซักครั้งละกัน  พฤกษ์หยุดกึกไม่กล้าเดินเข้าไปหาคนที่เขาเดินตามเมื่อเห็นเต็มสองตาว่าเจ้าตัวเข้าไปหาเด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่
“นั่งด้วยคนนะครับ”ศิระกัดฟันพูดฝืนยิ้มสุดชีวิตเท่าที่จะทำได้ ภายในใจก็สั่นเป็นเจ้าเข้า ถ้าเกิดว่าคนที่เขาเข้าไปตีสนิทด้วยเกิดไล่ตะเพิดเขาขึ้นมาหน้าคงแตกเป็นเสี่ยงๆแน่ แต่พอหนุ่มนั่นยิ้มพลางขยับที่ให้เด็กหนุ่มก็เริ่มโล่งและจำต้องนั่งลงข้างๆทำตีสนิทให้คนที่มองอยู่ไกลๆไม่เข้ามายุ่ง  พฤกษ์ ถอยหลังเดินกลับช้าๆรู้สึกแปลบๆที่ใจนี่เขาเป็นฝ่ายยอมให้คนอย่างศิระเป็นต่ออีกแล้วเหรอ
“ที่แท้มึงก็ตามไอ้กุ๊ยนี่มานี่เองนะพฤกษ์” ปอนด์ทักเพื่อนเมื่อตามมาเห็นเต็มสองตาว่าพฤกษ์เกิดอาการเช่นไรกับภาพที่เห็นตรงหน้า
“ทำไมไปเรียกเขาว่ากุ๊ยมึงรู้จักเขาดีแล้วเหรอปอนด์”  พฤกษ์ ติงเพื่อน ไอ้นิสัยดูถูกคนอื่นคงติดมาจากคนที่กำลังพยุงอยู่แน่ๆ   ปอนด์ไม่ตอบอะไร แค่รู้สึกไม่พอใจ เขารู้จักคนที่คิดว่าพฤกษ์ตามมาจากเมษานั่นแหละ ตอนที่นายนั่นก้าวเข้ามาในร้านเมษาก็ชี้ให้เขาดูว่านายนี่แหละที่เกือบจะมีเรื่องด้วย ดูจากสารรูปเรียกกุ๊ยก็ไม่น่าจะผิดซะหน่อย เมษาฟื้นเมื่อไหร่ เรื่องยาวแน่
“กูจะไปถอยรถให้ ฝากเมษาด้วย” ปอนด์ส่งคนที่เขาคิดจะเล่าเหตุการณ์ให้ฟังหากสร่างเมาให้กับพฤกษ์ ก่อนจะเดินแยกไป พฤกษ์จำต้องประคองร่างของคนที่คิดจะลวนลามเขาเมื่อช่วงค่ำเอาไว้ ศิระเบือนสายตาจากภาพที่เห็นทันที เขาเห็นพฤกษ์โอบกอดเมษาไว้อย่างห่วงใย เด็กหนุ่มหูอื้อ ตาพร่า ไม่รับรู้ในสิ่งที่คนข้างๆชวนคุย


“เป็นอะไรไปครับคุณ”
“เปล่าครับ ผมไม่กวนแล้วนะครับ” ศิระบอกยิ้มๆกับเพื่อนใหม่ที่เขาไม่ต้องการสานสัมพันธ์ต่อ ชื่ออะไรเขายังไม่อยากจะรู้ ที่ทำไปก็แค่ประชดคนตามมา แต่ก็นะประชดไปก็เท่านั้น นายนั่นจะมารู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขาทำ อีกอย่างตัวจริงของมันก็กำลังอยู่ในอ้อมกอดมัน แล้วนี่เขาจะฟุ้งซ่านไปทำไมนะ

ศิระรับรู้ว่าพฤกษ์ไม่เรียกร้องค่าเสียหายคืนในวันที่เขาไปทำงานที่ร้านในเย็นวันต่อมา เด็กหนุ่มรู้สึกเฉยๆ เขาคิดว่ายังไงซะเขาก็ต้องชดเชยในสิ่งที่พฤกษ์เรียกร้องตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เรื่องอะไรที่จะต้องให้นายนั่นมารู้สึกสมเพชเวทนา
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 26/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 26-11-2007 23:58:27
“เขาไม่เอาก็ไม่เอาสิวะ มึงนี่ยังไงวะศิระ ไม่โดนหักเงินแล้วยังจะขอให้เขาหักอีก”  โก๋ ว่าเข้าให้เมื่อมีโอกาสนั่งคุยกันสองต่อสองกับเพื่อนร่วมงานหัวดื้อ ศักดิ์ศรีมันกินไปได้หรือไงวะ
“มึงไม่เห็นตอนมันโวยวายมึงก็พูดได้สิไอ้โก๋ สายตามันมองกูดูถูกกันชัดๆ” ศิระเถียง เขาไม่รู้สึกเสียดายเลยซักนิดที่ขอให้ทางร้านหักเงินเดือนทั้งเดือนไปชดใช้ค่าเสียหายให้กับพฤกษ์รวมกับเงินเก็บของเขาที่เขายอมควักเองก็น่าจะทำให้นายเลิกดูแคลนเขาได้
“เออๆ พูดกะมึงพูดยาก เดี๋ยวกูช่วยก็ได้อ่ะ คนละครึ่ง จริงๆวันนั้นมันก็หน้าที่กูแหละที่กูต้องไปดูแลข้างนอกไม่ใช่มึง” โก๋พูดอย่างเห็นใจเพื่อน ถ้าศิระยอมขอความช่วยเหลือจากทางบ้านก็ว่าไปอย่าง นี่อะไรงานการก็ยังไม่มั่นคง ทำตัวเหมือนอยู่ตัวคนเดียวซะอย่างนั้น
“มึงจะมายุ่งทำไม มันไม่เกี่ยวกับมึงซะหน่อย”
“เกี่ยวดิก็มึงไปทำหน้าที่แทนกูนี่หว่า”
“เลิกพูดไปได้เลย มาทำงานมันก็ทำได้ทุกหน้าที่นั่นแหละ แล้วก็ไม่ต้องคิดที่จะมาช่วยกูเลยนะ มันอยากให้กูชดใช้กูก็ต้องชดใช้ มาคืนคำตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์”
“เอาเข้าไป ไปโกรธแค้นอะไรเขานักหนาวะ กูว่ามันท่าจะเกินไปแล้วนะมันไม่ใช่เรื่องพนักงานกับลูกค้าแล้วมั้งแบบเนี่ย”
“มึงกำลังคิดอะไรไอ้โก๋ หยุดเลยนะมึง อย่าคิดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้”
“คิดอะไร ผมคิดอะไรครับคุณศิระ ผมก็แค่แหย่เล่นๆ เอ หรือว่ามันมีอะไรจริงๆ” พูดทิ้งท้ายให้คนโดนแหย่สะอึกได้โก๋ก็ต้องรีบแจ้นหนีก่อนที่จะโดนอะไรปาเข้าที่หน้า ศิระมองตามหลังอย่างเคืองนิดหน่อยที่ไม่มีโอกาสโต้กลับ เขารู้สึกไม่ดีที่ใครจะโยงเขาให้ไปเกี่ยวข้องกับพฤกษ์ มันรู้สึกสงสารตัวเองยังไงบอกไม่ถูก แค่คิดมันก็ผิด เขาจะไปมีสิทธิเป็นคนที่นายนั่นสนใจได้ยังไง

   เมษานัดเจอกับพฤกษ์เพื่อคุยเรื่องราวที่ปอนด์เล่าให้เขาฟัง เด็กหนุ่มร้อนรนทนไม่ได้ที่รับรู้ว่าคนที่เขาตราหน้าว่าเป็นแค่กุ๊ยกลับกลายมาเป็นคู่แข่งหัวใจตัวเอง
“บ้ากันไปใหญ่แล้วเมษา อย่างผมเนี่ยนะจะไปคิดอะไรกับนายนั่น” พฤกษ์ปฏิเสธเสียงแข็งในสิ่งที่โดนยัดเยียดให้ ให้ตายเหอะนี่เขากลายเป็นคนที่วิ่งตามจีบคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ก็ปอนด์บอกผมมาแบบนั้น”  เมษาบอก ที่จริงเขาก็ไม่เชื่อตั้งแต่แรกว่าพฤกษ์จะไปคิดอะไรกับคนอย่างคนที่อยู่คนละสังคมอย่างนายกุ๊ยนั่น แต่ถ้าได้ยินจากปากเจ้าตัวมันก็น่าจะทำให้หายข้องใจได้ดีกว่าจากปากคนอื่น
“เชื่ออะไรกะมันมากไอ้ปอนด์มันเชื่อได้ที่ไหน”
“งั้นผมก็ขอโทษละกัน ผมก็แค่ไม่สบายใจ ผมคิดยังไงกับพฤกษ์ พฤกษ์ก็รู้นี่ครับ ถ้าผมจะมีคู่แข่งซักคน ก็อย่าเป็นนายนั่นเลยนะ ผมคงรับไม่ได้”
“ตอนนี้ผมไม่พร้อมที่จะมีใครทั้งนั้นแหละครับเมษา”
“แม้กระทั่งผมเหรอครับ”
“อย่างคุณน่าจะมีคนมาชอบเยอะนะเมษา ลองคบไว้ซักคนซิครับ ระหว่างเราผมมันคงไปได้ไม่ไกลกว่านี้หรอก”
“แล้วถ้าผมจะรอวันที่เราไปไกลกว่านี้พฤกษ์คงไม่ว่านะครับ”
“ก็มันสิทธิของคุณนี่ครับ”
“หวังว่าถ้าพฤกษ์พร้อมจะมีใคร คงไม่ไปเลือกคนอื่นนอกจากผมนะ” พฤกษ์อึ้งในสิ่งที่ได้ยิน ทำไมเมษาจะต้องพูดจาเหมือนบีบบังคับแบบนี้ด้วยนะ เขาไม่ชอบเอาซะเลย
“ผมว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่ามั๊ย”  เด็กหนุ่มเฉไปเรื่องอื่น เรื่องของหัวใจ พูดแล้วก็เหนื่อยเปล่า เขายังไม่รู้เลยว่าคนของเขาจะมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่มี บางทีเขาอาจจะต้องอยู่คนเดียวแบบนี้ไปเรื่อยๆ ชีวิตแบบนี้มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว จะกระเสือกกระสนมีคู่กันไปทำไมให้ปวดสมอง
“เออ วันนี้ไปดูโทรศัพท์กันมั๊ย ของพฤกษ์หายไม่ใช่เหรอ”เมษาเอ่ยชวนเมื่อคุยกันได้ซักพักซึ่งพฤกษ์ก็เห็นด้วย ลำพังให้เขาเลือกของเองเขาก็ไม่ถนัดเท่าไหร่ มีคนช่วยเลือกก็ดีเหมือนกัน



โปรดติดตามอ่านตอน4
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyseries 26/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 27-11-2007 00:07:46
พี่แอม น่ารักจังเลย  จุ๊บๆๆๆๆๆ

 :give2: :give2: :give2:

มาต่อตอนต่อไปไวๆน้า
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 27/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 27-11-2007 00:17:49
อยากอ่านยาวๆ :a6:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 27/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 27-11-2007 16:12:14
เข้ามารอตอนต่อไปด้วยคนน๊า...

ว่าแต่หมั่นไส้อิตาเมษาเจงวุ้ย...ขอซักทีเหอะ.... :เตะ1:

สบายจายแระ.... :a10: :m18: :a10:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 27/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 27-11-2007 18:17:04
 :a4:จะติดตามต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 27/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 27-11-2007 18:27:20
กำลังมันส์

ต่อเลยแอม เย้ๆ  :m11:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 27/11/07 Chapter 3
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-11-2007 23:26:46
รอๆๆๆๆๆๆชอบได้ใจจิงๆเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 28-11-2007 00:52:41
ศิระ เดินด้อมๆมองๆแถวๆหน้าร้านShopโทรศัพท์ วันนี้เขาเลิกงานเร็วกว่าปกติ ยังพอมีเวลาเหลือเขาก็เลยอยากจะสำรวจราคาเครื่องที่เขาต้องจ่าย
“แพงเหมือนกันแฮะ” เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองเมื่อมองเห็นสิ่งที่กำลังมองหา
“จะซื้อโทรศัพท์เหรอ” หนึ่งเสียงที่เดินมาทักทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งหันมอง คุ้นๆ แฮะ ใครวะ
“ฉันชื่อปอนด์เพื่อนของพฤกษ์”อ้อออ….กูนึกว่าใคร  ศิระยักไหล่ทำท่าไม่สนใจที่จะพูดด้วย เมื่อนึกออกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือคนที่นั่งประคบประหงมนายคนเจ้าสำอางในคืนที่เขาไปหาเพื่อน
“ว่าไงถามทำไมไม่ตอบ” ปอนด์เริ่มหมั่นไส้ในท่าทีโอหังของคนที่เมินเฉย ไม่รู้สิ รู้สึกหมั่นไส้ไอ้นี่จัง
“แล้วคิดว่ากูมาซื้ออาหารหมาหรือไงล่ะ ถามแปลกไอ้นี่”ศิระตอบกลับ ไม่ได้กวนหรอกแต่ท่าทางนายนี่ไม่น่าจะมาดี
“อ้าวเฮ้ย มึงกวนนี่หว่า”ปอนด์ฉุนขาดไม่คิดว่าศิระจะมาไม้นี้
“กวนตรงไหนพวก ถามมาก็ตอบ ไม่ตอบก็หาว่าเงียบ จะเอาไง”
“ปากดีนะมึง พฤกษ์ ไม่น่าโง่เลย ชอบใครไม่ชอบมาชอบคนอย่างมึง” ศิระเหวอชั่วขณะ ตะกี้ไอ้นี่มันบอกว่านายพฤกษ์นั่นชอบเขา นี่มันอะไรกัน
“เฮ้ย มึงพูดอะไรวะ” เด็กหนุ่มถามกลับ ไอ้โก๋ก็คนนึงแล้วที่โยงเขาให้เข้าไปยุ่งกับนายนั่น แล้วนี่ยังจะเพื่อนของมันเองอีก
“อ้าวนี่มึงไม่รู้เหรอว่าเพื่อนกูแอบชอบมึงอยู่ ก็คืนนั้นไงที่มันตามมึงไป”
ปอนด์ยกเมฆก้อนโตขึ้นมาตบใส่หน้าศิระเล่นอย่างแอบสะใจ เขาได้รับคำยืนยันจากเมษาแล้วตอนที่เมษาโทรชวนเขาออกมาที่นี่ว่า พฤกษ์ไม่ได้คิดอะไรกับไอ้หน้าจืดนี่ แต่เมื่อกี้ที่เขาโยนหินถามทางโดยเอ่ยชื่อพฤกษ์ขึ้นมาว่าชอบมัน เด็กอนุบาลก็ดูออกว่ามันต้องมีรู้สึกกับเพื่อนเขาบ้างไม่มากก็น้อยล่ะ ดีล่ะมึงกวนส้นต..ดีนักจะแกล้งซะให้เอ๋อเลยคอยดู
“พูดอะไรของมึง กูไม่รู้จักกับเพื่อนมึง และก็ไม่อยากจะรู้จักรวมทั้งมึงด้วย” พูดจบศิระก็เดินหนีทันที มันอะไรกันนักหนาทำไมพฤกษ์จะต้องเข้ามาวนเวียนในใจเขาเพราะคนรอบข้างด้วยไม่เข้าใจจริงๆ

    “รอนานป่าววะปอนด์ “ เมษาทักเพื่อนที่เขาใช้เป็นตัวนำสืบเรื่องของชายคนรักอย่างสนิทสนมโดยที่พฤกษ์เดินตามมาสมทบทีหลัง
“ไม่นานหรอก เพิ่งมาถึงเหมือนกัน แล้วนี่โอ้เอ้ที่ไหนกันมา ทำอะไรกันมาป่าว”
“ทะลึ่งไอ้ปอนด์ ปากดีนะมึง” พฤกษ์ดุคนคะนองปาก มันคงอยากให้เขาลงเอยกับเพื่อนของมันมากล่ะสิเนี่ย
“โหย กูล้อเล่น เออมึงมากะกูหน่อยดิพฤกษ์กูมีอะไรจะคุยด้วย” ปอนด์ตบไหล่เพื่อนแล้วเอ่ยชวน ทำให้เมษาสงสัย ปอนด์ไม่น่าจะมีความลับกับเขานี่นา
“มึงจะคุยอะไรกับพฤกษ์เหรอปอนด์”
“เออน่าไม่เกี่ยวกับมึงหรอก”
“เกี่ยวไม่เกี่ยวไม่ว่าแต่มาชวนกันไปแบบนี้เห็นกูเป็นอะไร”
“อะไรของมึงเนี่ย เอาน่ามีอะไรสนุกๆให้มึงสะใจเล่นแล้วกันเดี๋ยวกูมาเพื่อน” ปอนด์ดึงแขนพฤกษ์ให้ห่างออกไปจากเมษา เขาจะใช้พฤกษ์เป็นตัวล่อเพื่อจัดการคนที่กวนใจเมื่อครู่ จะดูซิว่าคนอวดดีอย่างมันโดนคนเจ้าเสน่ห์อย่างพฤกษ์ปล่อยมนต์ให้หลงมันยังจะอวดดีอีกหรือเปล่า

   “เล่นอะไรไม่เข้าท่าไอ้ปอนด์ กูไม่ใช่หุ่นเชิด” พฤกษ์ดุขึ้น เมื่อปอนด์เล่าความคิดทั้งหมดให้เขาฟัง จะให้เขาแกล้งตามจีบนายพฤกษ์นั่นนะเหรอ บ้าชัดๆ
   “ใครบอกว่ากูจะให้มึงเป็นหุ่นให้กูเชิด กูจะจัดการกับไอ้เวรนั่นต่างหาก”
   “มันชื่อ ศิระ”
“เออ ชื่อเชยๆนั่นแหละ มึงทำไงก็ได้ให้มันติดมึง กูอยากเห็นมันอกหัก”
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 28-11-2007 01:04:12
“หมายความว่าไงวะ”
“หมายความว่ากูอยากเห็นเวลามันโดนมึงทิ้งน่ะสิ มันยังจะมีหน้ามาอวดดีอีกหรือเปล่า แม่งมันกวนส้นตี..เมื่อกี้ก่อนที่พวกมึงจะมากันเกือบมีเรื่องกะมันแล้ว”
“เฮ้ย กูว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่าว่ะ ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับมันก็น่าจะดีที่สุด”
“อ้าวเฮ้ย ไงพูดงี้วะ เพื่อนกันป่าวเนี่ย ก็กูอยากให้มันสำนึกซะบ้างว่ามันเป็นใครแล้วพวกเราเป็นใคร”
“แล้วทำไมมึงไม่ลงมือเองมึงจะเอากูไปล่อทำไม”
“ดูก็รู้ว่ามันคงกำลังรู้สึกอะไรกับมึงอยู่ พวกมึงไปรู้จักกันตอนไหนกูไม่สนใจหรอกนะ แต่วันนี้มึงต้องช่วยกู ทำให้ไอ้นั่นมันหน้าแหกต่อหน้าเมษาให้ได้”
“มึงไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่าไอ้ปอนด์”
“อะไรที่กูไม่รู้วะ”
“ไอ้นั่นมันเกลียดกูจะตาย มึงใช้คนผิดแล้วล่ะ”
“โหย แล้วมึงยอมได้ไงวะ อย่างนี้มึงต้องรีบทำตามที่กูบอกเลยเพื่อน”
“ทำไมวะ”
“ก็คนอย่างมึงเกิดมาเพื่อให้คนอย่างมันเกลียดเหรอ กูอายแทนว่ะ ขนาดเมษายังหลงมึงโงหัวไม่ขึ้น แต่มึงจะมาเสียฟอร์มเพราะไอ้กระจอกนั่นทุเรศว่ะ”
“กูไม่เข้าใจ”
“โว้ย ไอ้โง่ มึงก็ทำให้มันรักมึงให้ได้สิวะ ถ้ามึงใช้เสน่ห์ให้เป็นนะ ขี้คร้านมันจะหลงมึงเหมือนอย่างที่ใครๆหลง มึงก็จะได้กู้หน้าคืนมาไงพวก ถึงเวลานั่นก็สลัดมันทิ้งให้มันเจ็บใจกับความโง่ของมันก็จบ” พฤกษ์หยุดคิด นั่นสินะ เขาโดนนายนั่นทำให้เสียหน้ามาถึงสองครั้งถ้าเขาคิดที่จะเอาคืนซักครั้งนี่มันคงไม่ผิดอะไร แล้วนายนั่นท่าทางอวดดีจะตาย มันก็น่าลองดูเหมือนกันที่จะปราบมันให้หายอวดดีบ้าง
“แล้วกูต้องทำไง” เด็กหนุ่มถามคนต้นคิดออกมาในที่สุด ฝ่ายนั้นยิ้มกริ่มอย่างพอใจ วันข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้นไม่รู้ล่ะ แต่วันนี้นายศิระนั่นจะต้องได้รับบทเรียนที่กล้าอวดดีกับคนที่อยู่สูงกว่าตน
“กูคิดว่าไอ้นั่นมันคงอยู่แถวนี้แหละ มันคงไปไหนไม่ไกลหรอก มึงรอเดี๋ยว เดี๋ยวกูไปตามมันให้มึงเชือดเล่น โทษฐานกวนส้นต…”  ปอนด์เดินแยกออกไปอย่างมีแผนการอยู่ในใจ ปล่อยให้พฤกษ์ยืนนึกคิดในสิ่งที่กำลังจะทำว่ามันควรหรือไม่ควร..?


เพล้งง!!!!….. “ว้าย” เสียงร้องของผู้คนที่ทั่วบริเวณร้านขายแจกันคริสตัลดังลั่นเมื่อได้ยินเสียงแจกันใบใหญ่ที่วางโชว์อยู่ทางเข้าตกกระทบพื้น ศิระยืนหน้าซีดตัวลีบมองเศษชิ้นส่วนวัตถุที่ตัวเองเดินชนจนล้มแตกกระจายด้วยความตกใจสุดขีด หางตาที่เหลือบมองเห็นป้ายราคาที่ร่วงหล่นลงมาด้วยทำเอาเด็กหนุ่มแทบทรุด  พระเจ้า แจกันห่าหอกอะไรราคาปาไปเกือบหมื่น หัวใจคนอุทานเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ  เมื่อหญิงวัยกลางคนที่เขาคิดว่าเป็นเจ้าของร้านเดินหน้าตึงมาหา
“มีอะไรกันครับ” เหมือนระฆังช่วยชีวิต ศิระได้ยินเสียงผู้ชายดังแทรกเข้ามาก่อนที่คนหน้าตึงจะเอ่ยพูดอะไรออกมา นายปอนด์…ศิระอุทานในใจเป็นครั้งที่สอง นี่โชคดีหรือโชคร้ายที่นายนี่เข้ามาทัก
“อืม ละเอียดซะไม่มีชิ้นดี ราคาก็สูงน่าดู”  ปอนด์หยุดยืนข้างๆศิระแล้วพูดออกมาลอยๆก่อนที่ผู้หญิงที่เขาเบรกวาจาเอาไว้เมื่อครู่จะเปิดปากฉะออกมา
“สูงสิ ของนำเข้านะไม่ใช่ของกระจอก จะเอาไงว่ามา จะชดใช้ดีๆหรือจะให้เรื่องถึงโรงพัก”
“โหเจ๊ ถึงโรงพักเลยเหรอ” ศิระว่า ก่อนจะหน้าชาเมื่อโดนตอกกลับ
“ใครเจ๊ ฉันเป็นเจ้าของร้านในห้างหรูนะไม่ใช่ยัยมียัยมาตามตลาดนัด เดี๊ยะ ปรับสิบเท่า เดินยังไง แจกันสูงเท่าตึกชนเข้าไปได้ ยังไงต้องชดใช้ฉันวันนี้นะ ไม่งั้นฉันเอาเรื่องแน่”
“ว่าไง มีปัญญาชดใช้เขาหรือเปล่านาย”  ปอนด์พูดด้วยสายตาเยาะหยัน เขาเห็นเต็มสองตาว่าศิระเดินชนแจกันตอนที่เขาจะตรงเข้ามาหาเพื่ออกอุบายตามที่ในคิดไว้ แต่ไม่คิดว่านายนี่จะเสร่อทำตัวเองหน้าแหกซะเองต่อหน้าฝูงชน โธ่เอ้ย เงินในกระเป๋าจะถึงพันหรือเปล่ายังไม่รู้ ตายแน่มึง
“อ้าวไม่ใช่เพื่อนกันหรอกเหรอ”  เจ้าของร้านร้องถาม พลางมองสองหนุ่มสลับกัน ปอนด์เลยรีบปฏิเสธ
“เปล่าครับ ผมไม่รู้จักเขา”
“อ้าว อย่างนี้ก็แย่สิ เด็กนี่จะมีปัญญาจ่ายค่าเสียหายให้ฉันเหรอ” ศิระโดนมองตั้งแต่หัวจรดเท้าจากทุกสายตาที่ได้ยินคำพูดของเจ้าของร้าน   มันทำให้เขาหน้าเจื่อนจนแทบจะมุดหนีไปให้ไกล แต่ก็ทำใจดีสู้ไว้ เขามีเพื่อนนี่   อย่างน้อยเรื่องแค่นี้ กลุ่มของเป้ก็น่าจะช่วยได้
“ชดใช้ให้ก็ได้ครับ แต่แค่ราคาป้ายที่โชว์นะครับ สูงกว่านั้น คงต้องถึงโรงพักเหมือนอย่างที่คุณบอกแล้วล่ะครับ” หญิงวัยกลางคนประเมินคนพูดอีกรอบ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเสียเวลาแล้วได้ไม่คุ้มเสีย    คนแบบนี้ฟ้องร้องไปคงได้ไม่คุ้มทุน
“แค่ราคาป้ายก็หามาจ่ายฉันให้ได้เหอะ” หล่อนบอกออกไป ก่อนจะเดินไปบอกเด็กในร้านมาเก็บกวาดและจัดการเรื่องแทน
“ไม่มีปัญญาจ่ายเองเหรอ ถึงได้โทรหาตัวช่วย” ปอนด์เดินตามมาก่อกวนศิระที่ออกมาโทรศัพท์หาเพื่อนตรงตู้สาธารณะหน้าทางเข้าห้องน้ำ เพื่อขอยืมเงินไปชดใช้ทางร้าน
“ไม่เกี่ยวกับมึง” ศิระบอก แม้สีหน้าจะดูเรียบเฉยแต่ในใจเด็กหนุ่มกำลังโกรธจนอยากจะชกหน้าคนพูดเข้าให้ถ้าไม่ติดว่าจะโดนอีกหนึ่งข้อหา
“ได้มากี่บาทล่ะ พอจะกู้หน้าคืนมาได้มั๊ยว่ะ กูแทนอายว่ะ โดนประณามท่ามกลางคนเยอะๆ ไม่มีตังค์แล้วเสือกอยากมาเดินห้างหรูๆ ไม่ดูสภาพตัวเองเลยนะมึง”  ปอนด์ลอยหน้าลอยตาพูดต่อ เมื่อศิระคุยธุระเสร็จ ชีวิตเขาไม่โชคร้ายเสมอไปเมื่อเป้บอกจะโอนเงินมาให้
“ขืนมึงพูดอีกคำกูต่อยมึงแน่” ศิระขู่เมื่อเริ่มทนไม่ไหวกับการถูกยั่วโมโห แต่ใช่ว่าคนที่ต้องการกวนประสาทจะกลัว
“แน่จริงมึงก็เอาดิ ไอ้กระจอก” ปอนด์ผลักอกคนขู่อย่างท้าทาย ศิระตั้งตัวได้จึงกระชากคอเสื้อคนผลักสุดแรงจนฝ่ายนั้นตกใจไม่คิดว่าจะโดนเล่นจริงๆ
   “เฮ้ย ทำไรวะ” พฤกษ์ตะโกนถามเมื่อเดินมาเห็นภาพตรงหน้าเต็มๆ ไอ้อันธพาลนี่กำลังจะทำร้ายเพื่อนเขา
“ปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้ “  เด็กหนุ่มออกคำสั่ง มองสบตาศิระอย่างท้าทาย ทำตัวแบบนี้ไงล่ะ ใครๆถึงเรียกว่ากุ๊ย ศิระปล่อยมือจากคอเสื้อปอนด์แล้วชี้หน้ากำชับ
“อย่าตามมายุ่งกะกูอีก ต่างคนต่างอยู่ จำเอาไว้”  เด็กหนุ่มเดินหนีไปผ่านหน้าคนที่เข้ามาห้ามสถานการณ์เมื่อพูดจบ แวบแรกก็กลัวว่าพฤกษ์จะเข้าใจผิด แต่อีกใจก็คิดว่ายังไงเขาก็คนอื่น เรื่องอะไรที่พฤกษ์จะมองว่าเขาโดนก่อกวนก่อน
“มีอะไรกันวะ ไหนบอกจะมาตามตัวมันไงแล้วมีเรื่องอะไรกัน” พฤกษ์ถามเพื่อนตัวเองเมื่อศิระเดินผ่านไปแล้ว ปอนด์จึงเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่เขาตามศิระมา
“ป่านนี้จะมีเงินใช้เขาหรือยังไม่รู้ กูอยากให้มึงเห็นหน้ามันตอนที่เจ้าของร้านเขาดูถูกมันว่ะ สะใจชิบ”  ปอนด์เอ่ยตบท้ายอย่างขำๆ ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์ตอนนั้นยิ่งสะใจ
“สะใจมากเหรอมึง”  พฤกษ์ประชดเพื่อนเสียงดุ ก่อนจะหันหลังเดินหนี ปอนด์ออกอาการเหวอที่โดนว่า แต่พอเห็นพฤกษ์กำลังจะเดินหนีจึงรีบถาม
“แล้วนั่นมึงจะไปไหน”
“กูไม่ได้ชั่วเหมือนมึงนี่” พฤกษ์หันมาตอบ ทำให้ปอนด์รีบเดินไปรั้งแขน
“อย่าบอกนะว่ามึงจะไปจ่ายให้มัน”

   ปุ่ม Cancel บนแป้นตู้เอทีเอ็มถูกนิ้วเรียวของคนที่อยู่ด้านหลังกดมันลงไปก่อนที่เจ้าของบัตรจะป้อนรหัสลงไปครบสี่ตัว พฤกษ์เอื้อมมือหยิบบัตรเอทีเอ็มที่กระเด็นออกมาคืนให้เจ้าของที่ยืนอึ้งอยู่หน้าตู้
“รับไปสิ”   เด็กหนุ่มบอกศิระที่เอี้ยวตัวหันมามองเขาจนหน้าเกือบชิดกัน
“ทำบ้าอะไรวะ”  คนอึ้งตั้งสติได้รีบคว้าบัตรมาถือไว้ในมือแล้วผลักคนยื่นให้ออกห่างจากตัว
“ซวยอีกกู” พฤกษ์เอ่ยออกมาลอยๆ
“คิดจะทำอะไร” ศิระถามเสียงเย็นลงเมื่อเห็นพฤกษ์ถอนหายใจเท้าเอวมองหน้าตน
“ทำอะไร คิดว่าฉันจะจี้เอารหัสบัตรนายไปหรือไง”พฤกษ์ประชด หน้าเขามันดูเลวร้ายขนาดที่นายนี่ไม่คิดที่จะญาติดีได้เลยหรือไง
“แล้วนายมาทำแบบนี้ทำไม” คนถูกถามไม่สนใจคำถามนอกจากสรรพนามที่คนถามใช้เรียกเขา หูฝาดไปหรือเปล่า ศิระไม่ขึ้นกูมึงกับเขา เออมันค่อยน่าชื่นใจหน่อย
“ไม่ต้องถามหรอก จะไปไหนก็ไป แล้วอย่าไปเดินชนอะไรเขาอีกล่ะ”
“หมายความว่าไง”
“ก็บอกว่าไม่ต้องถามไง”
“ไม่ถามแล้วฉันจะรู้มั๊ยว่าที่นายพูดมันหมายความว่าไง”
“ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ รู้แค่ว่าตอนนี้นายจะรีบไปไหนก็ไปก่อนที่จะไปทำของใครเขาพังอีก แค่นี้เคลียร์มั๊ยครับ”
“นายรู้เหรอว่าฉันไปทำอะไรพังมา”
“ไม่รู้ก็คงไม่เสียตังค์เกือบหมื่นหรอกมั๊ง”
“นี่อย่าบอกนะว่าเพื่อนนายเล่าอะไรให้นายฟังแล้วนายเป็นคนจ่ายค่าเสียหายให้ยัยเจ๊นั่น”
“ก็ทำนองนั้น” ศิระฟังคำตอบเสร็จก็รีบหันหลังสอดบัตรเข้าไปที่ช่องเดิม เกลียดนักไอ้พวกอวดรวยโดยใช่เรื่อง ภาระของเขาเกี่ยวอะไรกับมัน ปุ่ม Cancel ถูกจิ้มลงอีกครั้งจากคนๆเดิม
“เก็บเงินเอาไว้ชดใช้ค่าโทรศัพท์ให้ฉันดีกว่า” พฤกษ์พูดกรอกหูคนข้างหน้าก่อนจะเดินจากไปอย่างช้าๆ เขาไม่มีเหตุผลใดที่จะหยุดอาการอวดดีของศิระที่ดูก็รู้ว่าคงไม่ยอมให้เขาช่วยเหลือภาระครั้งนี้ง่ายๆ เลยต้องยกภาระค่าโทรศัพท์ขึ้นมาอ้าง
“ไหนบอกไม่เอาเแล้วไงวะ” ศิระบ่นตามหลัง พยายามหาเหตุผลที่พฤกษ์ยื่นมือเข้ามาช่วยครั้งนี้ เด็กหนุ่มเลี่ยงที่จะคิดเข้าข้างตัวเอง  มันเป็นไปไม่ได้หรอกศิระ อย่าคิดไปไกลถ้านายไม่อยากเจ็บปวด ……..


>>>>>>>>>>>>>>

โดนน้องบัวบีบบังคับข่มเหงจิตใจให้มาโพสอ่ะ (หึหึหึ)

เข้ามาอีดิทใหม่ ข้อมูลเก่ามันหายไปอ่านะเลยต้องมาลงใหม่ 

ขออภัยสำหรบความผิดพลาดที่ลงตอน4ไม่ครบนะคับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 28-11-2007 01:07:42
^
^
^
จิ้ม...(ทันป่าวหว่า...)

ทำไมพฤกษ์ถึงคบเพื่อนนิสัยม่ายดีเลยว้า...นิสัยน่า... :เตะ1:

เลิกคบเพื่อนมาคบศิระคนเดียวดีก่า..เน๊อะๆๆๆ :m3: :m18:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-11-2007 01:18:37

ไม่ต้องไปฟ้องคนอื่นเลยนะพี่แอม

บีบบังคับจิตใจที่ไหนกัน ไม่มี๊ ไม่มี

ก็เค้าอยากอ่านต่อนี่นา

ไม่รู้แหละ  พรุ่งนี้มาต่อด้วย ไม่งั้นมีเคือง   :a14:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-11-2007 01:22:10
เอ่อ  ลืมไปๆ

ขอบคุณนะคะพี่แอม จุ๊บๆๆๆๆๆ



 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-11-2007 10:54:33
เชียร์น้องบัวด้วย ไปบังคับให้มาลงอีกด่วน อิอิ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 29-11-2007 13:04:41
แบบนี้ก็เข้าแผนเลยอะดิ
จะหลอกให้เค้าหลง  เด๋วก็หลงกันเองซะแล้วว  ศิระกับพฤกษ์  :m1:

รออ่านต่อจ้าแอม  นี่มันเลยหนึ่งวันแล้วนะ  มาต่อเร็วๆๆ  :a2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 29-11-2007 13:50:04

..........เด๋วก็แย่งกันเองหรอก.........  :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 29-11-2007 14:17:36
ขอบคุณมากนะครับรีบมาต่อนะครับผม :m23:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyserie 28/11/07 Chapter 4
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 29-11-2007 17:45:04
รีบมาต่อ ด่วนๆเลย นู๋แอม

ให้ไว ให้ไว

ชอบเรื่องนี้

ปล. ทำไม ศิระ มันซุ่มซ่ามจังเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 03-12-2007 23:30:59
ทดแทนที่โพสไว้หายไปวันนี้จะโพสตอน5ให้ทั้งหมดน๊า

++++++++++++


#5

“นั่นๆๆๆ มึงเตรียมเฮได้เลยศิระมึงเริ่มมีแววว่าจะได้คู่แล้วว่ะ” เป้ลุกขึ้นตบโต๊ะดังปังใหญ่ระหว่างนั่งทานข้าวกันอยู่เมื่อได้ยินสาเหตุที่ศิระโทรนัดเขาออกมาหาและเอาเงินคืนให้เขาโดยไม่ได้ใช้ซักบาท
“มึงอย่าเว่อร์ไอ้เป้ ไอ้นั่นมันแค่อวดรวยก็เท่านั้น กูไม่มีทางเอาเงินมันมาฟรีๆหรอก”  ศิระบอกหน้าตึง รวมๆแล้วที่เขาค้างเงินพฤกษ์ ทั้งค่าโทรศัพท์และแจกันใบหรูนั่น ก็เยอะเอาการอยู่ไม่น้อย
“แล้วใครเขาจะบ้ามาอวดร่ำอวดรวยกับคนที่ตัวเองไม่ได้คิดอะไรด้วย เป็นกูคนนึงล่ะ ถ้าไม่ใช่มึงหรือเพื่อนในกลุ่มสตางค์แดงเดียวกูก็ไม่ให้”  เป้นั่งลงให้เหตุผล แต่ก็ยากที่ศิระจะยอมรับฟัง
“จะอะไรก็ช่าง ไม่มีทางที่กูจะคิดว่าไอ้นั่นมันจะอะไรกะกู”
“ทำไมวะ มึงนี่เครียดกับชีวิตเกินไปหรือเปล่าเนี่ย”
“กูไม่ได้เครียด แต่กูเคยบอกมึงไปแล้วไงว่าไอ้นั่นมันเป็นแฟนกับคนที่มึงจ้องจะงาบนั่นไง”
“อ้าวแว้งกัดกูซะงั้น กูจ้องจะงาบใครพูดมาดีๆนะมึง”
“ก็ไอ้ที่มึงชี้ให้กูดูคืนนั้นไง”
“อ๋อ ไอ้เมษานะเหรอ”
“รู้จักชื่อมันได้ไงวะ”
“ไม่รู้ก็ไม่ใช่กูแล้ว กี่ที่ๆที่กูไป ถ้าไม่เห็นหน้าไอ้นี่กูให้มึงต่อยเลยอ่ะ กูว่ากูเที่ยวเก่ง แม่งไอ้นี่ท่าทางหนักกว่ากูอีก”
“กูว่าก็พอกันแหละ อย่างนี้ก็แย่สิวะ”
“แย่อะไรวะ”  ศิระ อึกอัก นั่นสิ แย่ยังไง จะบอกไอ้เป้ว่ายังไงล่ะ ว่าเขากำลังรู้สึกเห็นใจพฤกษ์ขึ้นมาที่มีแฟนเที่ยวเก่งอย่างเมษา แต่มันก็คงเที่ยวเก่งพอกันแหละถึงอยู่กันได้ อย่าสนใจมันเลยว่ะ
“เปล่า ไม่มีอะไรกูเพ้อเจ้อเอง”  เด็กหนุ่มบอกเพื่อน เมื่อเลิกที่จะสนใจเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
“แล้วตกลงมึงจะเอาเงินนี่ไปใช้นายนั่นก่อนหรือเปล่า ไม่ต้องรีบเอามาคืนกูหรอก” เป้เปลี่ยนเรื่องคุย ศิระมองหน้าเพื่อนอย่างนึกขอบคุณ แต่ในเมื่อเขาผ่านเหตุการณ์ที่โดนบีบบังคับมาได้แล้วเขาก็คิดที่จะหาทางชดใช้ให้พฤกษ์ด้วยเงินของตัวเอง อาจจะใช้เวลาซักหน่อย แต่มันก็ดีกว่าที่จะให้เพื่อนมารับภาระไปด้วย
“ขอบใจว่ะ แต่มึงเอาคืนไปเหอะ กูไม่จำเป็นต้องใช้แล้ว ตอนนั้นกูคิดอะไรไม่ออกก็เลยนึกถึงมึงคนแรกเดี๋ยวกูหาทางชดใช้ไอ้บ้านั่นเอง”
“ไม่ใช่คิดเอาตัวเข้าแลกนะมึง มันคุ้มสุดคุ้มเลยนะนั่นน่ะ”
“ไอ้บ้า กูไม่คิดสกปรกแบบนั้นหรอกโว้ย”
“กูจะไปรู้กะมึงเหรอ เห็นมานักต่อนักแล้วไอ้พวกแรดเงียบเนี่ย”
“ปากมึงนี่สุดยอดนะไอ้เป้ กัดได้แม้กระทั่งกู”
“กะมึงน่ะกูกัด แต่กะคนอื่นน่ะ กูใช้ทำอย่างอื่น”
“มึงนี่ทะลึ่งไม่หาย กินเข้าไปไม่ต้องพูดแล้วกูกลัวใครมาได้ยินความลามกของมึง” ศิระแก้เก้อในคำพูดของเป้ ด้วยการตักอาหารที่มีไปใส่ในจานของเด็กหนุ่ม ก่อนจะลงมือจัดการจานข้าวของตัวเองพลางพูดคุยต่อกับเป้อย่างเฮฮาตามประสาเพื่อนซี้ที่ไม่เคยมีความลับต่อกัน แต่คนที่มองอยู่นอกร้านขณะเดินผ่านไม่ได้คิดแบบนั้น ภาพที่เห็นมันแสดงถึงสองคนกำลังมีความสุขกันสุดขั้วกับบรรยากาศที่คิดว่ามีกันแค่สองคนนั่งกันอยู่ภายในร้าน

พฤกษ์ รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ยิ่งมองก็ยิ่งอยากที่จะเข้าไปขัดจังหวะการพูดคุยของสองหนุ่มนั่น ศิระทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเป็นครั้งที่สาม ชีวิตเขาไม่เคยเสียเชิงให้ใครขนาดนี้ ศิระแสดงท่าทีรังเกียจเขาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่กับคนอื่นกลับยิ้มหน้าระรื่น มันต้องมีเอาคืนกันบ้างล่ะ
“นั่งด้วยคนนะครับ” เสียงที่ฟังดูเย็นเยือกดังแทรกขึ้นมาระหว่างการสนทนาที่กำลังออกรสออกชาติ ศิระใจกระตุกเมื่อมองสบตาคนพูดที่ยืนจ้องหน้าเขา สาบานได้ว่ามันเป็นแววตาที่มีอะไรแอบแฝงอยู่ภายใน
“กลับกันเถอะเป้”  เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้าคนที่มาขอนั่งด้วย พฤกษ์ข่มอารมณ์โมโหเอาไว้ นี่แค่เขามาขอนั่งด้วยนายนี่ยังไม่มีมารยาทที่จะต้อนรับ คำพูดของปอนด์มันชักจะมีน้ำหนักขึ้นมาแล้วสิ เขาอุตส่าห์คิดทบทวน สุดท้ายก็คิดได้ว่าต่างคนต่างอยู่น่าจะดีที่สุด แต่ ณ วินาทีนี้ สิ่งที่ศิระทำ เขาคงอยู่เฉยอีกต่อไปไม่ได้ ศิระ ..นายได้รับบทเรียนแน่
“ เป็นแฟนศิระเหรอครับ” คนคิดแค้นเอ่ยปากถามคนที่นั่งตรงข้ามกับคนที่ตนแค้นตรงๆ  คนถูกถามชะงักมองสบตาคนถาม ทบทวนในสิ่งที่ศิระเพิ่งเล่าให้เขาฟังเมื่อครู่ เด็กหนุ่มปักใจเชื่อทันทีว่า พฤกษ์กำลังหึงเพื่อนเขาอย่างแน่นอน ด้วยความที่อยากให้เพื่อนมีความรักที่สมหวังซะทีจึงเอ่ยออกมายิ้มๆ
“ เปล่าครับ เป็นเพื่อนครับ ท่าทางคุณคงมีอะไรจะปรับความเข้าใจกันกับศิระ ตามสบายครับ ขอตัวนะครับ” พูดจบเด็กหนุ่มก็ส่งสายตาเป็นเชิงบอกเพื่อนว่าเขาจะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอแล้วลุกเดินหนีไป  ศิระทำทีจะลุกตาม เมื่อรู้สึกแปลกๆขึ้นมา แต่เด็กหนุ่มต้องล้มนั่งลงบนโต๊ะตามเดิมเมื่อโดนคนที่ทำให้ใจแปลกๆผลักอกเอาไว้
“กู จะกลับ” คนโดนผลักหยาบคายขึ้นทันที เมื่อรู้สึกว่าคนผลักไม่ได้ออมแรงซักนิด
“ฉันไม่ให้กลับ” พฤกษ์สวนกลับทันควัน สายตาดุดันของเขาที่ไม่ค่อยได้แสดงออกบ่อยนักสยบให้ศิระถึงกับนิ่งไปพักใหญ่
   “เพื่อนนายไปไหน ทำไมนายไม่ไปอยู่กับเพื่อน ตามมาก่อกวนฉันทำไม”คนยอมสยบเอ่ยถาม
“ใครบอกว่ามากวน ตั้งใจตามหาต่างหากล่ะ”
“นี่นายพูดอะไร”
“ก็ได้ยินแล้วนี่”
“ได้ยินแต่ไม่เข้าใจ”
“ง่ายๆ ฉันสนใจนาย” ศิระมองสบตาคนพูด ก่อนจะรีบหลบวูบ ใจที่เคยหวั่นไหวอยู่แล้วพอมาเจอคำพูดตรงๆแบบนี้มันยิ่งกระเจิงไปจนยากที่จะกู่กลับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 03-12-2007 23:35:38
“ว่าไง เข้าใจหรือยัง”
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนายนะ อย่าพูดจาที่มันฟังดูตลกหน่อยเลยฉันไม่ตลกกับนาย”
“ไม่ได้อยากให้ตลก ถ้าฉันไม่คิดอะไรกะนายฉันจะยอมเสียเงินเป็นหมื่นๆให้นายฟรีๆเหรอ อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า ฉันไม่เคยที่จะจีบใครหรอกนะ นายเป็นคนแรก และฉันก็คิดว่า ฉันคงไม่โดนปฏิเสธ”
“ยิ่งกว่าปฏิเสธอีก นายอย่ามาลูกไม้กับฉัน ฉันเป็นใคร นายเป็นใคร รู้ๆกันอยู่ ฉันไม่หลงกลนายหรอก … อย่าตามมาอีก ไม่งั้นฉันไม่ไว้หน้าแน่”
“จะพิสูจน์หรือเปล่าล่ะ ว่าที่ฉันพูดมันจริงหรือแค่หลอก” พฤกษ์รีบพูดดักทางไว้ ลองเขาได้เดินหน้า มีเหรอเขาจะยอมแพ้ ศิระต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสมที่ทำให้เขารู้สึกสมเพชตัวเองได้
“พิสูจน์ทำไมให้เสียเวลา อย่างนายคบไปก็เท่านั้น พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ เกาะพ่อแม่ไปวันๆ มันทุเรศเกินกว่าที่ฉันจะคบว่ะ”
“พูดแรงไปแล้วนะ ฉันไปทำอะไรให้ ทำไมถึงชอบพูดจาหาเรื่องกันนัก”
“ไม่อยากโดนหาเรื่องก็อย่ามายุ่งดิ เอาเวลาที่มีไปเอาใจคนของนายดีกว่า ป่านนี้ตามหานายให้วุ่นแล้วมั้ง”
“นายหมายถึงใคร”
“คู่ขานายไง ไอ้พวกอวดรวยเหมือนๆกัน”
“เอะอะก็ประชดมันอะไรกันนักหนาวะ มีปมด้อยกับชีวิตอะไรนักหนา มันเกินไปหน่อยแล้วนะโว้ย”
“โธ่เอ้ย พูดแทงใจเข้าหน่อยทำเป็นโกรธ เสียเวลาว่ะ อย่าตามมานะมึง ไม่งั้นกูเอาเรื่องแน่” เอ่ยจบ คนคาดโทษ ลุกขึ้นจะเดินหนี แต่แล้วต้องชะงักเมื่อเห็นเพื่อนสองคนของคนตรงหน้าเดินเข้ามาหา เวรล่ะ หวังว่าพวกมันคงไม่หมาหมู่กันหรอกนะ  เด็กหนุ่มแอบคิดในใจ
“ที่แท้ก็แอบมาสวีทกันสองต่องสองน่าอิจฉาว่ะ” ปอนด์ทักขึ้นก่อน เมษามองสบตาศิระก่อนจะไปยืนคู่พฤกษ์ที่ยืนขึ้นเสมือนต้อนรับเขา
“ตามหาตัวตั้งนานนะพฤกษ์” เด็กหนุ่มพูดนึกโมโหที่พฤกษ์แอบมานั่งอยู่สองต่อสองกับคนที่เขาไม่ชอบหน้า
“ก็เห็นว่าคุณกับไอ้ปอนด์จะเข้าห้องน้ำกันผมก็เลยออกมาเดินเล่น เจอเพื่อนก็เลยทักทายนิดหน่อย” พฤกษ์อธิบาย มองไปทางศิระที่ยืนนิ่งเงียบ คนถูกมองนึกอึดอัดที่โดนจ้อง จึงคิดจะเดินหนีจากที่ที่ยืนอยู่
“ถอยไป” เด็กหนุ่มบอกกับปอนด์ที่รีบมายืนขวางทางเขาไว้เต็มๆ
“รีบไปไหนวะ อยู่ด้วยกันก่อนดิ” ปอนด์บอกกวนๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นฉุนขาดเมื่อได้ยินพฤกษ์สั่งขึ้น
“ถอยไปปอนด์”
“เฮ้ยพฤกษ์” คนถูกสั่งเรียกชื่อคนออกคำสั่งเหมือนเตือนให้รู้ว่าข้างตัวมีเมษายืนอยู่ด้วย แต่คนออกคำสั่งกลับไม่สนใจ หนำซ้ำยังคงย้ำคำเดิม
“กูบอกให้ถอยไง”
“เออ มึงมีเรื่องต้องคุยกะกูแน่” ปอนด์ยอมถอยอย่างขัดใจแต่ก็ไม่วายที่จะยื่นขาไปขัดเท้าของศิระที่กำลังจะก้าวเดินจนเจ้าตัวเสียหลักคะมำไปนิด พฤกษ์ชะงักตามสัญชาตญาณ เมื่อเห็นคนโดนขัดขากำลังจะล้ม แต่เมื่อเห็นเด็กหนุ่มทรงตัวไว้ได้ประกอบกับที่เมษาแตะแขนเขาเอาไว้ เขาจึงได้แค่ยืนมองเจ้าตัวจ้องหน้าเพื่อนเขาอย่างเอาเรื่อง
“พวกมึงกลับกันเองนะ” เด็กหนุ่มตัดสินใจเอ่ยเมื่อเห็นท่าไม่ดี เขาเริ่มที่จะรู้นิสัยศิระจึงรีบเดินไปฉุดแขนเจ้าตัวให้ตามเขาไปทางอื่นก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปกันใหญ่
“เฮ้ยไอ้พฤกษ์” ปอนด์ร้องเรียกตาม ไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าเพื่อนเขาจะทิ้งให้เมษายืนอึ้งกับสิ่งที่เห็น
“เฮ้ย ดึงกูออกมาทำไมวะ แม่งกวนนะพวกมึง” ศิระโวยลั่นเมื่อโดนลากตัวมายังลานจอดรถ
“เลิกโวยวายและก็เงียบซะที หวังดีหรอกน่าถึงลากออกมาแบบนี้”พฤกษ์ตะคอกกลับบ้าง ถ้าเกิดมีเรื่องกันขึ้นมาจริงๆ อนาคตข้างหน้าศิระคงไม่ได้อยู่อย่างปกติสุขแน่ สาบานได้ว่าเพื่อนเขาคงตามราวีนายนี่ไม่เลิก
“ไม่ต้องมาหวังดงหวังดี โน่นไปสั่งสอนนิสัยเพื่อนมึงให้มันเลิกอันธพาล ระวังซักวันจะไม่ตายดี”
“เออๆๆ ไม่ต้องพูดมากไป จะไปไหนจะไปส่ง จะกลับบ้านหรือจะไปล่าเหยื่อก็บอกมา”
“ว่าไงนะ”
“ทำไมฉันพูดอะไรผิดหรือพูดไม่ชัด”
“ชัดเจนเลยล่ะ ใครจะไปล่าเหยื่อ อย่าปากพล่อยนะมึง”
“อ้าวชอบไม่ใช่เหรอของแบบนี้”
“มึงอ่ะดิชอบ แล้วก็ไม่ต้องเสร่อจะไปส่งกูเลยนะ รถเมล์มี นั่งรถคนรวยแล้วกลัวนอนไม่หลับ”
“นอนไม่หลับเพราะมัวแต่จะคิดถึงเจ้าของหรือป่าว พ่อคุณ”
“อย่างมึงเนี่ยนะ”
“ทำไม อย่างฉันทำไม”
“ไม่ไหวว่ะ ไม่ชอบคุณหนู”
“อ้อ นายคงชอบคนประเภทเถื่อนๆเหมือนกันล่ะสินะ ตามใจ ฉันเสียเวลากับคนอย่างนายมามากพอแล้ว ฉลาดนี่รู้ตัวด้วยว่ากำลังจะโดนหลอกถึงไม่หลงกลฉันง่ายๆ โธ่เอ๊ยหรือว่ารู้จักตัวเองดีว่าชาตินี้คงไม่มีใครมาจีบจริงถึงปิดกั้นตัวเองขนาดนี้ ลืมคำพูดเมื่อกี้ฉันไปซะ อะไรที่ฉันเสียให้นายไปถือว่าฉันทำบุญก็แล้วกันไม่ต้องกระเสือกกระสนหามาคืน หาเลี้ยงตัวเองให้รอดจนเรียนจบเถอะ คนอย่างฉันคงไม่มีวันดิ้นรนเหมือนนายอยู่แล้ว พอกันทีฉันจะไม่ตามตอแยคนอย่างนายอีก สังคมของฉันรอฉันอยู่ ต่อไปนายไม่มีทางที่จะอยู่ในสายตาฉันอีกต่อไปศิระ”พฤกษ์พูดออกไปอย่างไม่ไว้หน้าคนที่ไม่ไว้หน้าเขาก่อน บอกแล้วว่าเขาจะไม่ยอมให้ศิระมาอวดดีกับเขาได้อีก เด็กหนุ่มใจหวิวไปนิดหน่อยเมื่อเห็นศิระยืนหน้าซีดเมื่อฟังในสิ่งที่เขาระบายออกมาจนจบ แต่เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้นายนี่อีก ยิ่งศิระมีปฏิกิริยาแบบนี้เขาควรที่จะสะใจ ไม่ใช่เห็นใจ
“ไม่ต้องย้ำหรอกว่าสังคมเราต่างกัน อะไรที่ฉันค้างคานายเอาไว้ ถึงนายไม่อยากได้คืน ก็ขอให้รู้ไว้ด้วยว่าฉันก็ไม่ต้องการติดหนี้บุญคุณใคร ฉันหามาคืนนายแน่”
“ถ้ามีปัญญา ฉันก็ยินดีรับคืน แต่ไม่ต้องรีบนะ ฉันไม่อยากเห็นใครเดือดร้อนตอนชักหน้าไม่ถึงหลัง ฉันไม่รีบเอาคืนหรอก แค่นี้มันกระจอก”ประโยคสุดท้าย คนเอ่ยก้มลงพูดใส่หูคนยืนฟังเต็มๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองยิ้มเหยียด เมื่อเห็นฝ่ายนั้นหน้าถอดสีกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ คนเอ่ยจึงรีบเดินหนี ในเมื่อจะให้บทเรียนนายนี่เขาก็ต้องใจเด็ดให้ถึงที่สุด


“ไงล่ะมึง พามันไปไหนมาล่ะ” ปอนด์ตั้งท่าแขวะเพื่อนทันทีที่เห็นฝ่ายนั้นเดินหน้าขรึมกลับมาหา
“เลิกพูดและก็เลิกสนใจคนแบบนั้นซะ อย่าเอ่ยถึงมันให้กูได้ยินอีก”พฤกษ์บอกเสียงเข้ม เขาไม่ต้องการที่ยุ่งเกี่ยวกับคนที่ทำให้เขาเสียความเป็นตัวของตัวเองขนาดนี้ ศิระทำให้เขาหวั่นไหวในใจได้ตอนที่เขามองเห็นสีหน้าซีดเผือดก่อนที่จะเดินจากมา แต่จะให้เขาเข้าไปถอนคำพูดและก็ขอโทษก็เมินซะเถอะ เขาไม่ยอมเสียเชิงขนาดนั้นแน่ ศิระไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาต้องรู้สึกผิดขนาดอะไรมากมายเมื่อซักครู่ก็อาจเป็นแค่อาการหวั่นไหวชั่วขณะซึ่งหากไม่มีใครพูดถึงนายนั่นอีก เขาก็อาจจะลืมมันได้อย่างไม่ยากเย็น
“ทะเลาะกันมาเหรอ” เมษาพูดขึ้นบ้างเมื่อสังเกตดูสีหน้าคนที่เขากำลังนึกน้อยใจอยู่
   “ไม่มีอะไรให้ต้องทะเลาะนี่ครับผมไม่ได้รู้จักนายนั่นเป็นพิเศษ” พฤกษ์ปฏิเสธ
   “แน่ใจเหรอที่มึงพูด” ปอนด์แย้งซึ่งเมษาก็เห็นด้วย
   “ไม่รู้จักกันเป็นพิเศษ ก็ไม่น่าที่จะพากันไปสองต่อสองแบบนี้นะครับ”
“ไม่ว่าคุณกับเพื่อนผมจะคิดยังไงนะเมษา ผมขอยืนยันตรงนี้ว่าผมกับนายนั่น ไม่ได้มีอะไรต่อกัน เข้าใจผมซะใหม่นะครับ อย่างผมถ้าจะคบใครรับรองได้ว่าไม่ใช่มันแน่” พฤกษ์เดินหนีคนจับผิดเขาสองคนทันที เมื่อเอ่ยประโยคที่ตัดรำคาญจบ ลับหลังเด็กหนุ่ม คนสองคนมองสบตาอย่างรู้กัน ก่อนที่ฝ่ายหนึ่งจะหยิบวัตถุพิสดารที่อัดได้แม้กระทั่งเสียงสนทนาเมื่อครู่ขึ้นมากดเซฟสิ่งที่พฤกษ์พูดทิ้งท้ายเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้น

   “ดูก็รู้ว่าไอ้ศิระนั่นมันคงรู้สึกอะไรกับไอ้พฤกษ์ถ้ามันได้ยินสิ่งที่ไอ้พฤกษ์มันพูดเมื่อกี้ รับรองมันกระอักเลือดตายแน่” เมษามองหน้าคนพูดอย่างนึกสะใจ ศิระน่ะเหรอจะเป็นคู่แข่งเขา เหมือนฟ้ากับเหวชัดๆ เสียงในมือถือที่ปอนด์ถืออยู่น่าจะทำให้ไอ้นั่นเจียมตัวมากกว่าที่เป็นอยู่










รอติดตามอ่านต่อในตอน6กันนะคับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-12-2007 01:56:56
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม ชอบๆๆนะครับ

แต่ตัวละครศิระดูด้อยไปในฐานะการเงิน

น่าจะแต่งให้เท่าเทียมกัน จะสนุกกว่านี้นะครับ

จะเห็นได้ว่าตัวละครเวอร์ๆเด่นๆ จะทำให้เรื่องดูน่าสนใจมากขึ้น

เหมือนศิระจะปิดกั้นในเรื่องของความรักมากไปนะครับ

มันขัดกับความเป็นจริงนะครับ แต่ยังไงๆก็เอาใจช่วยครับผม

รออ่านตอนต่อไปครับ สู้ๆๆ

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 04-12-2007 09:30:25
นู๋แอม ลงข้ามอ๊ะเปล่าอ่ะ

ถ้าไม่ก็ขออภัยด้วยยยนะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-12-2007 09:57:26
ร้ายได้อีก แรงได้อีก เรื่องนี้สุดๆเลย ถูกใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 04-12-2007 17:16:17
  พี่แอมๆ ลงตอนที่ 4 ไม่ครบอ่ะ   :m26:


จะรอตอนที่หกนะคะ  มาต่อเร็วๆ น้า

 :impress: :impress: :impress:

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 04-12-2007 23:26:49
เข้ามาอีดิทตอน4ที่ขาดหายไปให้แล้วนะ

ลงในคอมเม้นต์ของตอนที่4

สามารถย้อนกลับไปอ่านใหม่ได้นะ

ขออภัยสำรับความผิดพลาด

ไม่ได้สังเกตุให้ดีๆอ่า ขอโทษจริงๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 3/12/07 Chapter 5
เริ่มหัวข้อโดย: Red....[em] ที่ 05-12-2007 14:06:32
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซวววว


อ่านกันอย่างมึนเมาและเมามันกันเลยครับแอม

กลับมาแล้วนะครับ นั่งอ่านเรื่องงนี้ก่อนเลย


ไอ้เอ็มชอบศิระล่ะฮะ 5555+



สเป๊คเลย  555

สุดยอดทั้งคนโพสและคนแต่งครับ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่านกันนะครับ(นานแล้วนะที่ไม่ค่อยได้ติดอะไรแบบนี้ ครึๆๆ)


หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 07-12-2007 00:21:50
“เฮ้ย มึงเอาจริงเหรอศิระ เงินนี่มันหลายหมื่นนะโว้ย”โก๋ แย้งศิระขึ้นมาอย่างนึกเสียดายเมื่อศิระออกปากชวนเขาให้ไปเป็นเพื่อนเพื่อเอาเงินทั้งหมดที่เขาค้างคาพฤษ์ไว้ไปคืนให้เจ้าตัว
“จะหลายหมื่นหรือหลายแสน กูก็จะเอาไปคืนมันให้หมด มึงจะมาเสียดายทำไม กูไม่อยากเก็บไว้ให้มันดูถูกเล่นอีก”  ศิระพูดด้วยความโกรธนึกอยากที่จะเอาเงินก้อนนี้ไปคืนพฤกษ์โดยเร็วที่สุด มันเป็นสิ่งแรกที่เขานึกทำทันทีที่ได้รับเงินเดือนซึ่งจริงๆมันไม่พอเสียด้วยซ้ำสำหรับเงินที่เขาค้างไว้ทั้งหมด เด็กหนุ่มยอมที่จะควักเงินเก็บตัวเองเพิ่มเติมเข้าไปในส่วนที่ขาดเพื่อที่จะกู้ศักดิ์ศรีที่พฤกษ์เคยดูแคลนเอาไว้และครั้งนี้มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะแบกหน้าไปหาคนที่เขาสาบานกับตัวเองไว้ว่าชาตินี้ไม่มีทางที่เขาจะญาติดีด้วยเด็ดขาด
“มึงนี่นะศิระ ถ้าอย่างเราๆ มีเงินเหลือกินเหลือใช้ กูจะไม่ว่ามึงซักคำเลย แต่นี่อะไร ภาระมากมายก็สุมหัวรออยู่ ศักดิ์ศรีน่ะ มันกินเข้าไปได้มั๊ยวะ”โก๋แย้งขึ้นอีก เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนเอาจริง
“มึงไม่ต้องพูดมากไอ้โก๋ ตกลงมึงจะไปหรือไม่ไป”คนเอาจริงยื่นคำขาด ทำเอาคนแย้ง ถึงกับพูดไม่ออก และยอมไปเป็นเพื่อนในที่สุด


 “สวัสดีครับ ผมพฤกษ์พูดครับ” เสียงสุภาพปลายสายที่ตอบกลับมา ศิระแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินคำพูดในลักษณะนี้จากคนที่ดูถูกเขาไว้ เด็กหนุ่มได้แต่ยืนอึ้งไปซักพัก เมื่อไม่รู้จะเอ่ยเริ่มต้นยังไงถึงจุดประสงค์ตัวเอง
   “สวัสดีครับ ผมพฤกษ์ครับ” พฤกษ์กรอกเสียงไปรอบที่สองเมื่อไม่มีเสียงตอบกลับเขาเมื่อทักทายไปแล้ว โรคจิตที่ไหนโทรมาหรือเปล่า บอกขอสายเขาแล้วไม่ยอมพูด นี่มันก็จะสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว หรือว่าเป็นเมษา ก็ไม่น่าใช่เพราะเขาซื้อมือถือเครื่องใหม่ไปแล้วนี่ เมษาน่าจะโทรเข้าเครื่องเขามากกว่าที่จะโทรมาที่บ้าน
“ไม่พูดผมวางสายนะครับ” เด็กหนุ่มบอกอย่างหงุดหงิด เบอร์บ้านเขาไปตกหล่นไว้ที่ไหนอีกแล้วสิเนี่ย
“เดี๋ยว” ศิระ ตัดสินใจพูดเสียงห้วนสั้นออกไปทันที ไม่สิเขาต้องไม่กลัวนายนี่ จะสี่ทุ่ม ห้าทุ่ม เที่ยงคืน ยังไงซะวันนี้เขาต้องคืนเงินทุกบาททุกสตางค์ให้นายนี่ให้หมด จะได้สาปส่งมันให้ออกไปจากจิตใจซะที
“ใครน่ะ” คนคิดวางสายถามเสียงนิ่ง ไอ้บ้าที่ไหนมาพูดจาห้วนไร้มารยาทแบบนี้กับเขาตอนดึก มันน่านัก
“ลูกหนี้นายไง” ศิระตอบคำถาม ถ้าเขาเห็นฝ่ายตรงข้ามได้เขาคงเห็นพฤกษ์หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตอนนี้
“ถ้าโทรผิดผมก็ไม่ถือสานะครับ ผมคงไม่ว่างที่จะคุยด้วย สวัสดีครับ”พฤกษ์จะวางสายเพราะนึกไม่ออกว่าไปมีลูกหนี้ไว้ที่ไหน ชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะปล่อยเงินกู้ไอ้บ้าที่ไหนมันมาอำเปลืองเวลาที่จะคุยด้วย
“ถ้านายวางสาย สาบานได้ว่านายไม่ได้เงินคืนซักบาทแน่ นายพฤกษ์”คนคิดวางสายชะงักมืออีกรอบ เมื่อได้ยินประโยคยาวๆจากคนที่เขาคิดว่าโทรเข้ามากวนประสาท
“โธ่เอ้ย นึกว่าใคร”เด็กหนุ่มพูดออกไปลอยๆ ศิระนึกน้อยใจกับน้ำเสียงที่ได้ยิน พฤกษ์คงรู้ว่าเป็นเขาแล้วน้ำเสียงถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ แต่เขาจะสนใจทำไมล่ะในเมื่อเขาโทรมาเพื่อเคลียร์ปัญหาที่ค้างคากันอยู่ก็น่าจะเข้าเรื่องให้เร็วที่สุด
“หวังว่านายคงยังไม่นอนหรอกนะ”
“ถ้านอนจะมารับโทรศัพท์นายได้ยังไง โทรมาทำไม”
“ฉันจะเอาเงินไปคืนนาย”
“เงินอะไร”
“ที่ฉันค้างนายเอาไว้ทั้งหมด”
“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วคุณ ดูเวลาซะบ้าง อยากแสดงตัวว่าตัวเองเป็นคนซื่อสัตว์นักหรือไง” ศิระสะอึกในสิ่งที่ได้ยิน เอาเถอะต่อไปนายนี่จะไม่มีทางที่จะได้รำคาญเขาอีกแน่ คำพูดแค่นี้จะนึกน้อยใจไปทำไม
“ฉันไม่ได้อยากอวดตนว่าเป็นคนซื่อสัตว์อะไรกับใคร แต่ฉันไม่อยากเก็บเงินนายเอาไว้ให้มันหนักตัวก็เท่านั้น ชีวิตฉันไม่ได้ว่างยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนอย่างนายถ้าคิดว่ามันเสียเวลามากนักบอกเบอร์บัญชีมา ฉันจะโอนให้ทุกบาททุกสตางค์”
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 07-12-2007 00:26:37
“ เลิกเพ้อเจ้อ แล้วจะไปไหนก็ไป เงินแค่นี้ฉันไม่คิดติดใจเอาคืนจากนายหรอก บอกแล้วไงว่าถือซะว่าฉันทำบุญ อย่าโทรมาดึกๆแบบนี้อีกถ้าคิดจะมาพูดจาไร้สาระแบบนี้ ทางที่ดีลืมเบอร์บ้านฉันไปซะจะขอบใจมาก” เสียงโทรศัพท์วางโครมพร้อมเสียงสัญญาณขาดหายไป ศิระ ใจสั่นเป็นห้วงๆ นึกโกรธตัวเองที่โทรไปให้พฤกษ์ด่าอย่างไม่ไว้หน้า นายนั่นไม่เคยเอาเรื่องเขาไปคิดให้หนักสมอง มีแต่เขาเองหรอกเหรอที่คิดว่าตัวเองมีภาระติดอยู่กับคนแบบนั้น มันน่าอายสิ้นดีที่หลงคิดไปคนเดียว คำพูดที่พฤกษ์ตอกกลับเมื่อครู่ช่วยย้ำให้เด็กหนุ่มสำนึกได้ดีว่าเขาหลุดไปจากวงจรชีวิตของพฤกษ์ตั้งแต่วันนั้นที่ลานจอดรถแล้ว
“เป็นไรวะ หน้าซีดๆ” โก๋ทักเมื่อศิระเอาโทรศัพท์ที่ยืมไปโทรเมื่อครู่มาคืน แต่ก็มาแบบสภาพเลื่อนลอยแถมหน้าตายังซีดยังกะโดนผีหลอกมา
“เปล่า”ศิระตอบสั้นๆ คอเขาแห้งผากไปหมด น้ำลายที่จะกลืนลงไปยังไม่มี เพราะฝืนให้ก้อนสะอื้นลงไปจุกที่อกเอาไว้
“เขาว่าไงบ้าง” โก๋ถามต่อ
“ไม่มีอะไรหรอก ทุกอย่างมันจบแล้ว กูบ้าไปเองคนเดียวแหละ คนระดับนั้น เขาไม่มาสนใจเงินแค่นี้ให้เสียเวลาหรอก”
“แสดงว่าเขาไม่เอาคืนเหรอ”
“จริงๆเขาไม่เอาตั้งนานแล้ว แต่กูบ้าเอง ขอบใจนะที่มึงมาเป็นเพื่อน มึงกลับเหอะมันดึกแล้ว”
“แล้วมึงล่ะ”
“เออ ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่นอนข้างถนนหรอกน่า เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน” ศิระฝืนยิ้มให้เพื่อน แต่เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่ารอยยิ้มของตัวเองมันดูเศร้าจนเกินที่โก๋จะปล่อยให้เขากลับคนเดียว
“ศิระ ท่าทางมึงไม่ค่อยดีเลยว่ะ มีอะไรหรือเปล่าวะ”
“ไม่มีอะไรจริงๆ คนอย่างกูเนี่ยนะจะมีอะไรให้แย่กว่าที่เป็นอยู่”
“ทำไมมึงชอบประชดตัวเองนักวะ เอาเถอะ มึงคงอยากอยู่คนเดียว กูไม่กวนก็ได้ แต่อย่าคิดอะไรมากนะโว้ย ยังไงมึงก็มีกู มีอะไรก็โทรหากูแล้วกัน” คนบอกตบไหล่เพื่อนแล้วเดินแยกจากไป ลับหลังเพื่อนที่แสนดี ศิระยืนหลับตานิ่งเพื่อไล่ความรู้สึกสมเพชตัวเองให้หายไป อะไรที่แย่กว่านี้ยังเคยผ่านมันไปได้นับประสาอะไรกับเรื่องของคนๆหนึ่งที่เหมือนเป็นเส้นขนานของชีวิตเขาจะลืมมันไปไม่ได้


“เป็นไรวะพฤกษ์ เหม่อๆชอบกล” ปอนด์ทักเพื่อนขณะนั่งรอเมษาอยู่ วันว่างแบบนี้ พวกเขาก็มักจะชวนพฤกษ์มาเที่ยวนอกบ้านเสมอ เมื่อก่อนอาจจะใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานซักหน่อยกว่าที่พฤกษ์จะยอมออกมาด้วย แต่วันนี้พวกเขาแทบจะไม่ต้องออกแรงพูดให้เปลืองแรงพฤกษ์ก็ยอมออกมาหาด้วยดี แต่มาแล้วมาเหม่อแบบนี้มันก็ไม่ค่อยที่จะดีนัก
“มีอะไรบอกกูได้นะโว้ย” เด็กหนุ่มพูดต่อเมื่อพฤกษ์ยังไม่ยอมเปิดปากถึงสาเหตุที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ
“อย่ามายุ่งกะกู มึงนั่งรอเพื่อนมึงเงียบๆไปเถอะ” พฤกษ์พูดออกมาในที่สุด เขากลายเป็นคนหงุดหงิดตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนแรกคิดว่าอยู่คนเดียวจะยิ่งหงุดหงิดเลยยอมมออกมาหาเพื่อนคุย แต่กลับกลายเป็นว่าเขาต้องหงุดหงิดเพิ่มเมื่อได้ยินโปรแกรมเที่ยวที่ปอนด์วางเอาไว้ให้
“ทำไมพูดงี้วะ เพื่อนกูก็แฟนมึงนะโว้ย” ปอนด์แย้ง แต่มันเป็นคำแย้งที่คนได้ยินฉุนขาดทันที
“ใครแฟนกู มึงอย่ามั่วไอ้ปอนด์ กูยังไม่ได้ตกลงจะคบใครนะมึง”
“อ้าว มึงจะรอคบไอ้กุ๊ยนั่นเหรอ ถึงไม่ยอมตกลงลองเปิดใจคบกับเมษาดู”
“มึงหมายถึงใคร”
“ไอ้ศิระ”
“กูบอกมึงแล้วไงว่าอย่าเอ่ยถึงไอ้นั่นให้กูได้ยินอีก”
“เออๆ กูแค่เผลอ ขอโทษที ว่าแต่มึงจะเกลียดอะไรมันขนาดนั้นวะ”
“มึงไม่ดีใจเหรอที่กูเกลียดมัน มึงอยากให้กูเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ”




รอติดตามอีกนะ

ฝากนิสนึง

ตอนนี้มหกรรมกีฬาแห่งอาเซี่ยนเริ่มแล้ว

อย่าลืมมาเป็นกำลังใจให้ทัพกีฬาไทยกันนะคับ

ซีเกมส์ครั้งที่ 24 จัดที่นครราชสีมานะคับ

(http://images.forstudent.com/ib/2007951247501.jpg)
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 07-12-2007 00:31:12
พี่แอมน่ารักมากเลย   :m13:

เดี๋ยวน้องจะหาของไปเซ่นนะคะ

 :m18: :m18: :m18:


มาต่อไวๆ น้า

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: Red....[em] ที่ 08-12-2007 22:31:09
ง่า...เมื่อไหร่จะมาต่อล่ะครับแอม


อารมณ์กำลังได้เลยอะครับ


ไอ้เอ็มรออยู่นะแอมน้า อยากอ่านอะ


ปล. หุ หุๆๆๆ คิดถึงเน้อ ไสหัวตัวเองมาถึงกทม.แล้วนะแอม กลับมาแล้วก็เหมือนเดิมอะ มีแต่ทรุดกับทรุด แฮ่ๆๆ ที่คุยๆกันไว้เรื่องไอ้พี่นั้นอะ  กร๊าซซซซซซซซซซสงสัยจะเป็นหมันว่ะแอม

โฮกกกกกกก  คราวนี้ทำใจลำบากกกกกก  :a6:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 6/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-12-2007 22:48:03
ว้า.......................รอ ร้อ รอ ร้อ รอ  :a12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 10-12-2007 02:32:21
“มันก็จริง แต่ดูเหมือนมึงจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เอ่ยถึงมัน กูไม่คิดว่ามึงจะเป็นไปขนาดนี้”
“เอ อ เรื่องของกู โน่น เพื่อนมึงมาแล้ว” พฤกษ์ตัดบทเสร็จก็หันไปมองเมษาที่เดินยิ้มร่ามาแต่ไกล แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อด้านหลังเมษา เขาเห็นศิระ เดินมากับเด็กหนุ่มคนนั้น คนที่เขาเคยเจอในร้านอาหารวันที่มีเรื่องกัน
“เฮ้ยพฤกษ์ มึงมองอะไรเมษาขนาดนั้นวะ  หรือมึงเริ่มจะเปลี่ยนใจแล้ว”
ปอนด์ทักพฤกษ์ทำตาเจ้าเล่ห์เพราะคิดว่าพฤกษ์มองเพื่อนตัวเองจริงๆ แต่สิ่งที่พฤกษ์พูดออกมาทำเอาเขาหน้าจ่อย
“กูป่าวมองเพื่อนมึง”
“แล้วมึงมองใครวะ”
“เปล่า” ปากบอกเปล่า แต่สายตากลับไม่ไปที่คนถาม ปอนด์เลยหันตามสายตาที่คนบอกเปล่ามองไป….นั่นไง กูว่าแล้ว ….. คนมองตามคิดในใจเมื่อมองเห็นศิระเดินอยู่กับเป้ เขารู้จักเป้บ้างคร่าวๆจากสถานที่เที่ยว ไม่คิดเลยว่าเป้จะไปคบกับศิระ
“หึงมันเหรอมึง” เด็กหนุ่มแขวะ  พฤกษ์ได้สติ เด็กหนุ่มรีบเบือนสายตาหนีจากภาพตรงหน้า และเพื่อตบตาเพื่อนเขารีบยิ้มทักทายเมษาที่เดินมาถึงพอดี
“รถติดหรือเปล่าครับเมษา”
“ไม่เท่าไหร่ครับ แล้วนี้มากันนานหรือยังครับ” เมษาตอบกลับยิ้มๆรู้สึกเป็นสุขเมื่อได้รอยยิ้มจากคนที่รัก แต่ปอนด์นี่สิ รู้สึกได้ถึงกลิ่นการหลอกตาของเพื่อนตัวเอง
“ทำอะไรจริงใจหน่อยนะมึงพฤกษ์ เมื่อกี้มึงไม่ได้เป็นแบบนี้”  เด็กหนุ่มรีบแย้ง ดูออกหรอกน่าว่าเพื่อนกำลังรู้สึกกับภาพที่เห็นนายศิระนั่นเดินคู่กับนายเป้
“อะไรของมึงไอ้ปอนด์ มึงจะมาจ้องจับผิดอะไรกูนักหนา เมษาเขาก็มาแล้วจะไปไหนก็พากูไป วันนี้กูให้เวลาพวกมึงเต็มที่” พฤกษ์แย้ง แต่ปอนด์ก็ยังแขวะจนได้
“ประชดใครหรือเปล่าวะ”
“ไอ้ห่านี่ กูจะไปประชดใครวะ รำคาญว่ะ งั้นก็ไปกันเองละกันสองคน”พฤกษ์เดินหนีอย่างนึกรำคาญคนจับผิดจนลืมไปว่าตัวเองกำลังเดินไปทางที่ศิระเดินดูของอยู่กับเป้
“เป็นอะไรของเขาน่ะ ปอนด์”    เมษาพูดอย่างหงุดหงิด ก็เมื่อกี้ยังดีๆอยู่
“สงสัยว่าเราต้องทำอะไรเด็ดขาดซะแล้วว่ะเมษา” ปอนด์บอกอย่างนึกเคืองในท่าทีเพื่อนตัวเอง ที่เขาเริ่มสงสัยว่าไปติดบ่วงไอ้กุ๊ยอย่างศิระแน่ๆ

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 10-12-2007 02:36:53
“เฮ้ย ศิระที่รักมึงนี่หว่า” เป้สะกิดแขนคนที่กำลังก้มๆเงยๆดูโทรศัพท์มือถือที่เรียงรายกันอยู่ในตู้ ศิระทนให้คนรอบกายรบเร้าไม่ไหวเรื่องโทรศัพท์ เพราะใครๆก็บ่นว่าติดต่อเขายากจนน่าเบื่อ เจ้าตัวเลยยอมกัดฟันมาเลือกซื้อติดตัวไว้ซักเครื่อง
“ใครอีกล่ะที่รักกู มึงไปโดนใจใครเข้าล่ะ โยนมาให้กูแก้เขินอีกแล้วนะ”คนโดนสะกิดพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองคนที่คนสะกิดกำลังพูดถึง เป้กำลังจะสะกิดคนไม่สนใจเขาเป็นรอบที่สองแต่ต้องชะงักเอาไว้เมื่อคนที่เขาเอ่ยถึงเมื่อครู่เดินมาถึงตัวแล้ว เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงทักทาย และด้วยความที่ไม่รู้อะไร นึกว่าคนๆนี้จะมาหาเพื่อนตัวเองเลยจำเป็นต้องหลบฉากออกไปเงียบๆ ปล่อยให้คนมาใหม่เข้ามายืนแทนที่ตน
   “เฮ้ย เป้ มึงว่ารุ่นนี้เป็นไงบ้างวะ” ศิระเอื้อมมือกลับมาฉุดแขนคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนตัวเองโดยไม่หันกลับมามองให้เข้าไปดูโทรศัพท์ตัวที่ตัวเองสนใจใกล้ๆ ฝ่ายโดนฉุดแขนก็เงียบปล่อยให้คนฉุดจับมือเขาไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดไม่จา แต่สายตาเหลือบไปเห็นแล้วล่ะว่าเจ้าตัวกำลังสนใจโทรศัพท์รุ่นไหนอยู่ ราคาสูงเหมือนกันแฮะ ไหนบอกไม่มีตังค์ โธ่เอ้ยฟุ่มเฟือยโดยใช่เหตุ เด็กหนุ่มนึกคิดเหยียดๆในใจ แต่แล้วก็ใจกระตุกรู้สึกผิดเมื่อได้ยินสิ่งที่คนที่เขานึกเหยียดระบายออกมาใหม่
   “แต่อย่างกูคงไม่มีปัญญาซื้อหรอกว่ะ เอาแค่โทรเข้าออกได้ก็บุญโขแล้ว แม่งแพงชิบ เสียดายเงิน” คนใจกระตุกผ่อนลมหายใจเบาๆก่อนจะโน้มตัวลงก้มลงไปตามแรงฉุดของคนตัดพ้อตัวเอง กลิ่นหอมจางๆที่ไม่คุ้นเคยของคนข้างตัวทำให้ศิระหันมามองแทบจะทันทีที่เจ้าของกลิ่นโน้มใบหน้าเนียนใสลงข้างๆ
“เฮ้ย” เด็กหนุ่มอุทาน หัวใจหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้าเมื่อมองสบตากับคนที่เขากุมมือเอาไว้อยู่ ไม่ใช่เป้เพื่อนแต่เป็นคนที่ชีวิตนี้เขาไม่ขอยุ่งเกี่ยวให้อับอายอีก ปากจึงเผลอครางชื่อนั้นเบาๆ
“นายพฤกษ์”
   “อยากได้มันเหรอ” พฤกษ์ไม่สนใจเสียงครางชื่อเขาจึงเอ่ยขึ้น แม้สีหน้าเด็กหนุ่มจะดูเรียบเฉย แต่แววตาและน้ำเสียงมันไม่ได้หยาบกระด้างอย่างที่เคยได้ยิน
ศิระ ไม่สนใจคำถามนั่น เด็กหนุ่มรีบสลัดมือให้หลุดออกจากคนที่เขาเห็นแน่ชัดแล้วว่าเป็นใคร พอมือเป็นอิสระ ก็คิดที่จะเดินหนี แต่ต้องชะงักเมื่อโดนคนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนรีบดักทางเอาไว้ พฤกษ์แปลกใจในความเฉยชาที่ได้รับจากคนตรงหน้าที่เขารีบดักทางเอาไว้ ก่อนเจ้าตัวจะเดินหนี  ตอนแรกเขาคิดว่าศิระจะโวยวายลั่นร้านอย่างที่เขาเคยโดน เปล่าเลย ศิระไม่มีท่าทีแยแสเขาแม้แต่น้อย ตอนที่ปล่อยมือออกจากเขา 
“เฮ้ย เดี๋ยวดิ” เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเอ่ยทัก คนตรงหน้าที่คิดจะเดินหนีเขาอีกรอบ และฝ่ายนั้นก็หยุดตามเสียงทักเขาจนได้
“ทำไมไม่ซื้อล่ะ” คนเอ่ยทัก ถามขึ้น เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่เขาเรียกไว้อีกรอบ เงียบไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกจากปากคนตรงหน้า นอกจากแววตาเฉยชาเท่านั้น
“เฮ้ย พูดอะไรมั่งดิวะ” พฤกษ์ รู้สึกแปลกๆจึงพยายามที่จะให้ศิระพูดกับเขาให้ได้  ซักคำก็ยังดี แต่ยังไงก็ไม่เป็นผล ศิระนิ่งเสียจนเขาไม่เชื่อว่านี่คือคนที่เคยทำให้เขาเคยหมดความอดทนจนต้องพูดจาอะไรแรงๆออกไป
“อ้าวเฮ้ย จะไปไหนอีกวะ” เด็กหนุ่มรีบร้องเรียกตามคนที่หันหลังจะเดินหนีเขาอีก ศิระ ไม่ใช่คนแบบนี้นี่นา
ผั๊วะ!!!!! พฤกษ์หน้าหน้าหันตัวเซนิดหน่อยเมื่อโดนแรงเหวี่ยงจากหมัดคนที่เขาวิ่งตามที่หันมาซัดเข้าใบหน้าเขาเต็มๆตอนที่เขาตามไปถึงร่าง
“ขืนยังตามกูอีก มึงโดนหนักกว่านี้แน่” คนชกชี้หน้าเหยื่อกำปั้นอย่างไม่เกรงสายตาคนที่หยุดมองดูเหตุการณ์ ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้คนโดนชกยืนลูบมุมปากตัวเองมองตามด้วยรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่เจอ




ติดตามตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 10-12-2007 09:55:09
งงชกทำไม o12
แล้วเมื่อไหร่จะรักกันซักทีล่ะ....หรือว่ารักแต่ยังไม่แสดงออก o7
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 6
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-12-2007 10:31:02
ชกกันแบบนี้เลยเหรอ  :o

นี้เป็นวิธีแก้เขิน หรือ หนีหัวใจตัวเองกันแน่เนี่ย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 10-12-2007 12:47:13
ครั้งนี้จะลงรวดเดียวทั้งตอนเลยละกันนะ

ตามลุ้นความรักระหว่างพฤกษ์กับศิระกันต่อไป

++++++++++++

#7

ศิระกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติอย่างที่เคยเป็นหลังจากที่พฤกษ์หายไปจากชีวิตเขาตั้งแต่วันนั้น วันที่โดนเขาต่อยหน้ากลางสายตาฝูงชน จากเหตุการณ์นั้นใช่ว่าจะไม่มีผลต่อจิตใจเด็กหนุ่ม ศิระใช้เวลาทบทวนหลายวันว่าที่เขาทำมันน่าจะรุนแรงเกินไป เพราะในทางกลับกันหากเขาเป็นพฤกษ์ เขาจะยอมให้คนที่พูดจาหยาบคาย ทั้งๆที่เพิ่งเคยเจอกันมาก่อความวุ่นวายให้ชีวิตขนาดนี้ได้หรือเปล่า เขายังตอบตัวเองไม่ได้ พฤกษ์มีสิทธิ์เต็มที่  ที่จะเอาเรื่องเขาในเรื่องการบริการครั้งนั้น ไม่มีคู่มืองานบริการเล่มไหนสอนให้พนักงานยื่นของให้ลูกค้าโดยหันหลังให้  เขาผิดเต็มประตูที่แยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันไม่ได้ ถ้าเป็นลูกค้าคนอื่นเขาอาจจะโดนมากกว่าที่พฤกษ์ทำ จากคำพูดของผู้จัดการร้านที่เขาเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุที่พฤกษ์ไม่เอาเรื่องเขาสิ่งที่เขาได้ยินจากปากผู้บังคับบัญชาคือ พฤกษ์แค่อยากที่จะให้เขารู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ตั้งท่าที่จะเถียงท่าเดียว นายนั่นแค่อยากที่จะได้ยินคำขอโทษและก็การพูดจาให้เหมือนคนให้บริการพึงกระทำที่มาจากใจเขาจริงๆไม่ใช่โดนบังคับ

   “อะแน่ เพื่อนกู แอบเหงากะเขาเป็นด้วย” โก๋เดินเข้ามาแซวคนนั่งซึมภายในร้านที่นัดเขามา มันเป็นร้านกาแฟเล็กๆ แต่ดูอบอุ่นในสายตาของคนที่แอบมาสำรวจทุกๆเย็น จนรู้จักกับเจ้าของร้าน
“ใครบอกกูซึม กูรอมึงจนเบื่อต่างหากล่ะ” ศิระแกล้งว่ากลบเกลื่อนอาการตัวเอง จริงๆเขาเองก็เป็นอย่างที่โก๋ทัก
“อะไร กูว่ากูมาเร็วแล้วนะ แล้วนี่มึงคึกอะไรของมึงเนี่ยถึงนัดกูมาร้านแบบนี้” โก๋เถียงแล้วมองรอบห้องสี่เหลี่ยมที่แยกเป็นสัดส่วนชัดเจนระหว่างโต๊ะนั่งกับมุมเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม มันไม่ต่างจากร้านที่เขากับศิระทำอยู่เท่าไหร่ แต่โทนสีเย็นตาของวอลเปเปอร์ เมนูบอร์ด และ เฟอร์นิเจอร์ที่มองเห็น  มันทำให้ร้านดูมีระดับกว่าที่นั่น แต่ดูยังไงๆที่นี่มันก็ไม่เหมาะกับคนอย่างเขาให้ตายสิ
“ทำไมที่นี่ทำไมเหรอดูดีออก กูยังคิดเลยว่ากูอาจจะมาทำงานที่นี่แทนที่เดิม”ศิระแย้งกลับ ทำเอาคนฟังส่ายหน้า
“ก็เพราะมันดูดีอ่ะดิกูเลยไม่อยากเข้ามา แล้วที่แบบนี้เนี่ยนะจะรับคนอย่างเรา เรียนก็ยังเรียนไม่จบ เพ้อเกินไปหรือเปล่ามึง”
“อ้าวกูก็ไม่ได้บอกว่ากูจะมาตอนนี้ซะหน่อย”
“แล้วมึงเบื่อที่ร้านแล้วเหรอ”
“กูไม่ได้เบื่อหรอกแต่จะให้กูเป็นขี้ข้าเขาไปจนตายกูก็ไม่เอาว่ะ”
“แล้วมึงมาอยู่นี่มึงคิดว่าเขาจะเอามึงนั่งหิ้งบูชาหรือไง”
“ก็ถ้ามาแล้วกูยังให้คนอื่นโขกสับแล้วกูจะมาทำไม”
“มึงหมายความว่าไง”
“เออ มึงคอยดูกูต่อไปละกัน คนอย่างกูไม่ให้คนอื่นดูถูกไปจนตายหรอก”
“ยังไม่เลิกแค้นเจ้าหนี้อีกเหรอวะเงินซักบาทมึงก็ไม่ต้องใช้เขาแล้วนี่หว่า”
“กูไม่ได้แค้นใคร เรื่องกูกับนายนั่นจบไปตั้งนานแล้ว”
“จบจริงเหรอ”
“ไมถามงี้วะ”
“อ้าวกูจะไปรู้เหรอ ก็กูเห็นมึงดูแปลกๆตั้งแต่มึงโทรหาเขาวันนั้นแล้ว พักหลังนี่ยิ่งเอาใหญ่ กูไม่เคยเห็นมึงนั่งเหงา กูก็เห็น กูไม่เคยเห็นมึงชวนกูออกมาเที่ยวมึงก็ชวน อาการแบบนี้มันเหมือนคนที่อยากที่จะลืมอะไรซักอย่างแต่ลืมไม่ได้ชัดๆ”
“พูดมากไอ้โก๋ ทำเป็นเก่งปรัชญา เดี๋ยวเถอะมึง”
“นั่นไงพูดแค่นี้ทำโมโห โดนใจล่ะซี้ ไอ้ศิระ”
“ไอ้นี่วอนนะมึง” ศิระทำขึงขังใส่โก๋เพื่อให้เจ้าตัวเลิกแซว และเมื่อฝ่ายนั้นเลิกพูด เขาเองก็กลับไปคิดเรื่องพฤกษ์ นั่นสินะ ทำไมเขาลืมพฤกษ์ไม่ได้ซักที ทั้งๆชีวิตก็มีเรื่องให้คิดมากมาย
“บางทีคนเราถ้าไม่ตั้งป้อมกันท่าอะไรๆที่เข้ามาในชีวิตเอาไว้ก่อน ชีวิตก็อาจจะเจออะไรดีๆก็ได้นะศิระ” โก๋พูดออกมาเหมือนย้ำให้ศิระคิด ชีวิตมันก็มีอยู่แค่นี้ จะเครียดกับมันไปทำไมนักหนาก็ไม่รู้
“สอน ๆๆ กูไม่ได้ตั้งป้อมกันท่าอะไรทั้งนั้น มึงเลิกพูดอะไรที่มันฟังแล้วเลี่ยนหน่อยเลยไอ้โก๋ กูขี้เกียจฟัง”
“มึงก็งี้แหละศิระ ใครพูดอะไรแม่งก็ไม่ฟัง กูเลิกพูดก็ได้วะ แต่มึงอย่ามาทำเป็นซึมแบบนี้ให้กูเห็นเลยว่ะ มันไม่คุ้นตากู”
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 10-12-2007 12:53:50
สงสารพฤกษ์เจงๆ

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 10-12-2007 13:03:46
“เออๆๆ กูขอเวลาหน่อยแล้วกัน ช่วงนี้กูเครียดหลายเรื่อง”
“รวมทั้งเรื่อง…..”
   “หุบปากไปเลยมึงไหนบอกจะเลิกพูดแล้วไง” โก๋อ้าปากค้างอยู่แค่กลางประโยคที่กำลังจะเอ่ยต่อจนจบเมื่อศิระชี้หน้าปรามเอาไว้ด้วยเสียงดุๆ

ศิระยืนมองคนร่างสูงที่กำลังยืนเลือกหนังสืออยู่ในมุมหนึ่งของร้านที่ข้างกายมีพนักงานคอยให้คำแนะนำ ท่าทางพฤกษ์ไม่ได้หยิ่งและดูแคลนพนักงานบริการอย่างที่เขาตั้งแง่เลยซักนิด รอยยิ้มของเด็กหนุ่มดูจริงใจและเป็นมิตรเสียด้วยซ้ำกับคนที่คอยให้บริการ คนเฝ้ามองอดคิดไม่ได้ว่าทำไมพฤกษ์ไม่มีท่าทีเป็นมิตรกับเขาเหมือนอย่างที่กำลังทำตอนนี้บ้าง คำพูดเสียดแทงของพฤกษ์ยังคงก้องอยู่ในหูตลอดเวลา แล้วนี่เขาเป็นบ้าไปหรือเปล่าที่แอบตามนายนี่มาเกือบทั้งวัน ทั้งๆที่เคยบอกกับตัวเองเอาไว้แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก ไม่นะศิระ แกอย่าอ่อนแอและบ้าไปกับคำพูดของไอ้โก๋แค่ไม่กี่ประโยคสิวะ อยู่ดีไม่ว่าดีจะโดดเข้ากองไฟอีกหรือยังไง
“มาซื้อหนังสือเหรอ” คนที่เผลอคิดสับสนกับจิตใจตัวเองถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทักที่ลอยมาเข้าหูเต็มๆ และคนพูดก็ยืนอยู่ห่างตัวไม่ถึงคืบ
“ปะเปล่า เอ้ย ใช่” ศิระกระอึกกระอักตอบจากการที่ตั้งตัวไม่ติดเมื่อโดนประชิดกะทันหัน ก็ถ้ามันบังเอิญเจอกันจริงๆเขาคงไม่ประหม่าเท่าไหร่ แต่นี่หัวใจรู้อยู่เต็มอกว่าแอบตามคนๆนี้มาตั้งแต่ตอนเจอเมื่อเช้า ตอนที่เขากลับจากการลงทะเบียนเรียนเทอมสุดท้ายและเป็นการลงขอจบในภาคการศึกษานี้
“ท่าทางนายคงไม่อยากที่จะคุยกับฉัน ไม่กวนล่ะนะ” พฤกษ์บอกด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย แต่คนฟังกลับร้อนรน
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ” ศิระรีบทัก ตายล่ะ หลุดปากไปได้ยังไงวะ
“หมายความว่าไง นายอยากคุยกับฉันเหรอ” พฤกษ์หันมาถาม
“ก็ไม่เชิง” ศิระพูดไม่เต็มปากนักเมื่อเขาเริ่มรู้ตัวเองแล้วว่า หัวใจเขาคิดยังไงกับคนตรงหน้า อคติที่เขาเคยมีกับพฤกษ์นั่นแหละคือป้อมกันท่าที่โก๋พูดถึง  คำพูดของเพื่อนซี้วันนั้น เด็กหนุ่มเอากลับมาคิดทบทวนจนแน่ใจแล้วว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเขาก็มีส่วนผิดไปไม่น้อยมากกว่าพฤกษ์ เป้ บอกกับเขาอีกคนในวันที่เขาโทรไปขอคำปรึกษาเรื่องนี้เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายร้อนรนเองที่พฤกษ์หายไปจริงๆ ว่าคำพูดและการกระทำของเขา บางทีกลุ่มเพื่อนด้วยกันเองยังเคยสะอึกมาแล้ว นับประสาอะไรกับคนอื่นที่เพิ่งจะเจอกันไม่นานจะไม่รู้สึกหรือมีอารมณ์โมโห เป้ให้ความเห็นว่าพฤกษ์น่าที่จะคิดอะไรกับเขาบ้างล่ะถึงยอมอะไรที่ไม่น่ายอมขนาดนี้ แม้จะเคยมีคำพูดเสียดแทง แต่ก็ใช่ว่าที่ผ่านมาเขาจะไม่สวนกลับแรงๆไปซะหน่อย
“ไม่เชิงก็แปลว่าคุยก็ได้ไม่คุยก็ได้ใช่หรือเปล่า” พฤกษ์ถามต่อ ศิระมองสบสายตาที่เด็กหนุ่มส่งให้ ยอมรับจริงๆว่าเขาอ่านอะไรไม่ออกในแววตานั่น แต่เพื่อนบอกให้กล้าเขาก็ต้องกล้าสิ เป้ยืนยันว่า พฤกษ์ไม่ได้เป็นอะไรกับเมษา นายคนนี้เป็นแค่คนที่โดนตามตื้อเท่านั้น
“ฉันอยากจะขอโทษนาย” ศิระบอกในที่สุด ภายนอกอาจดูปกติ แต่ในใจเด็กหนุ่มรอคำตอบที่จะโดนสวนกลับ เขามาดีขนาดนี้ ถ้านายนี่ยังไม่ยอมญาติดีอีก มันก็คงชัดเจนว่าสิ่งที่เขาคิดจากเหตุผลคนรอบตัวมันผิดไปทั้งหมด เขาจะได้ทำใจและเลิกคิดอะไรที่มันลมๆแล้งๆไปคนเดียวซะที
“เรื่องอะไร” พฤกษ์ถามเสียงเย็น หัวใจคนรอลุ้นถึงคลายจากแรงกดดันออกมาได้
“ก็เรื่องที่ฉันต่อยนาย” พฤกษ์ยิ้มที่มุมปาก วันเวลาที่ไม่เจอกันมันทำให้นายศิระเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรอ ก็ดี ทุกอย่างจะได้เข้าทาง
“ฉันลืมมันไปตั้งนานแล้วล่ะ อันที่จริงฉันก็มีส่วนผิด ดีใจนะที่นายยอมมาญาติดีกับฉัน ถือว่าที่ผ่านมาเราหายกันละกัน ที่จริงเราเองก็วัยเดียวกัน ก็น่าจะเป็นเพื่อนกันได้นะ ถ้านายไม่รังเกียจ” ศิระ ยืนงง ทำไมทุกอย่างมันดูง่ายดายขนาดนี้ สิ่งที่เขาหวาดกลัวมันไม่เกิดขึ้น พฤกษ์กำลังขอคบกับเขาชัดๆ
“นายคิดอย่างนั้นเหรอ” เด็กหนุ่มถาม
“อ้าว ทำไมล่ะ หรือนายไม่อยากที่จะคบกับฉัน ฉันยังยืนยันคำพูดเดิมวันนั้นนะว่าฉันสนใจนายจริงๆ ถ้านายลดความอวดดีลงมาอีกนิด”
“ฉันไม่ได้อวดดี”
“แต่อารมณ์ร้าย”
“ก็ไม่อีกนั่นแหละ”
“ที่ผ่านมาหมายความว่าไงล่ะ   คนที่มีอารมณ์ปกติ เขาทำกันอย่างนี้เหรอ”
“ยังไงล่ะ”
“ก็อย่างเงี้ย ตกลงนี่นายจะขอโทษฉันแล้วหาเรื่องทะเลาะต่อใช่มั๊ย ฉันจะได้ไม่เสียเวลารบกับนาย”
“มาขอโทษก็คือมาขอโทษ”
“มาขอโทษ อืม งั้นก็แสดงว่านายตั้งใจมาหาฉันอย่างงั้นเหรอ แล้วรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
“เปล่า ฉันแค่ผ่านมา เห็นนายก็เลยแวะเข้ามาก็แค่นั้น”
“แน่ใจ”
“ยิ่งกว่าแน่”
“โธ่เอ้ย ไอ้เราก็หลงดีใจ นึกว่าจะตั้งใจมา เสียอารมณ์ว่ะ”
“เฮ้ย นายฟังฉันก่อนสิ” ศิระดึงเสื้อคนที่หันหลังจะเดินหนีเอาไว้ คนโดนฉุดใช้หางตาชำเลืองมอง ศิระไม่มีโอกาสเห็นหรอกว่า รอยยิ้มที่มุมปากของพฤกษ์มันแฝงไว้ด้วยอะไร นอกจากเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ดี กลับมาให้ฉันเอาคืนจนได้นะศิระ ท่าทีอวดดีและจองหองของนายนึกเหรอว่าฉันจะลืมมันไปง่ายๆ เจ็บตัวไม่เท่าไหร่แต่เจ็บใจนี่สินายต้องรับผิดชอบ………


รอติดตามลุ้นกันต่อไปในตอน8นะครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 10-12-2007 18:45:27

...........จาโดนเอาคืนแบบไหนดี.......... :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 10-12-2007 19:34:54
เอาคืนแบบเบาๆ ก็พอน้า

เค้ายังไม่อยากเศร้าอ่ะ

 :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 10-12-2007 21:25:08
เอา....เอา...แบบ เลือดสาดดดดด...อ่ะ...ได้ป่ะ....  :m26:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-12-2007 23:37:21
สรุปแล้วจะเอาคืนศิระอีกใช่มั้ยเนี่ย เดี่ยวได้สนุกกันอีกแน่ๆ.............เหอะๆ  o21
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 10/12/07 Chapter 7
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 13-12-2007 23:34:04
แง้งงงงงงง หายไปไหนอ่ะคร้าบบบบ  :o11:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 14-12-2007 00:44:40
ตามลุ้นกันว่าพฤกษ์จะใช้วิธีไหนจัดการกับศิระ


+++++++++++++++++++

#8

“ไม่หิวเหรอ” พฤกษ์ถามคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นอาหารที่เขาสั่งมาให้ยังอยู่ในสภาพเดิม ศิระไม่แตะมันซักนิด กลัวว่าเขาจะวางยาพิษไว้หรือยังไงก็ไม่รู้
“ยัง” ศิระตอบสั้นๆได้แค่นั้น เขากลายเป็นคนประหม่าและพูดอะไรไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยอมมานั่งอยู่ในร้านอาหารที่ไม่เหมาะกับฐานะตัวเองได้ พฤกษ์ชวนเขามาตอนที่เดินออกจากร้านหนังสือพร้อมกัน เขามีข้ออ้างร้อยแปดที่จะปฏิเสธแต่ทำไมเขาไม่ทำนะ หรือหัวใจมันยอมอ่อนข้อให้คนๆนี้ไปแล้ว ไม่สิ เขาต้องไม่อ่อนไหวขนาดนี้
“ฉันกลับก่อนนะ” เมื่อในใจคิดทบทวนว่าไม่ควรที่จะนั่งอยู่กับคนที่เป็นเหมือนเส้นขนานได้ ศิระจึงบอกออกไปแบบนั้น แต่ยังไม่ทันที่จะได้ขยับตัว คนที่เขาประหม่าก็ดักคอขึ้นซะก่อน
“นายยังไม่ไว้ใจฉันเหรอ”
“เรื่องอะไร” ศิระถามกลับ
“เรื่องที่จะคบกับฉัน”
“เลิกพูดเรื่องนี้ดีกว่า”
“ทำไม”
“นายก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้”
“ขอเหตุผล”
“เรามันต่างกัน”
“ตรงไหนล่ะ”
“ทุกอย่าง ฐานะ ความเป็นอยู่ และก็สังคม”
“ถ้าคิดว่าแค่นี้เป็นอุปสรรคที่เราจะคบกันนายมันขี้ขลาดมาก”
“จะคิดอย่างนั้นก็ตามใจ ยอมรับก็ได้ว่าฉันกลัวกับการที่จะคบกับนาย”
“แล้วทำไมถึงตามฉันมาง่ายๆ ทั้งๆไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่นายจะตามฉันมาแบบนี้ ถ้านายไม่ได้คิดอะไรกับฉัน”
“แล้วแต่นายจะคิด ฉันตามนายมาได้ ฉันก็ถอยกลับได้”
“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ”
“หมายความว่าไง”
“บอกแล้วไงว่าฉันสนใจนาย ลองคบกันหน่อยมันจะเสียหายตรงไหน หรือนายมีใครอยู่ตอนนี้”
“ฉันไม่มีใคร และก็ไม่อยากที่จะมี”
“ใครๆก็อยากมีคนรู้ใจทั้งนั้น นายนี่มันแปลกคนแฮะ”
“แล้วที่นายทำอยู่มันไม่แปลกหรือไง คนที่สนใจนายมีไม่น้อย แต่นายบอกนายสนใจฉัน”
“แล้วนายเสียหายตรงไหน”
“ไม่อายเหรอที่จะเดินคู่กับฉัน”
“อายแล้วจะมานั่งอยู่ด้วยแบบนี้ทำไม”
“ฉันไม่รู้”
“นั่นไง นายไม่มีเหตุผลนี่”
“ฉันมีเหตุผลของฉัน”
“เลิกพูดเถอะ นายตามฉันมาขนาดนี้ แล้วจะมาปฏิเสธอีกทำไม ว่าไม่ได้คิดอะไรกับฉัน จากวันนี้ไปมาพิสูจน์กันว่าสิ่งที่ฉันพูดมันจริงหรือแค่หลอก กินซะ ถือซะว่ามื้อนี้เป็นการเริ่มต้นสำหรับเรา” พฤกษ์ตักอาหารใส่จานให้ศิระ เมื่อฝ่ายนั้นเอาแต่อึ้งพูดอะไรไม่ออก โธ่เอ้ย แค่นี้ก็เรียบร้อย จะให้ฉันเกี่ยวก้อยคืนดีกับนายง่ายๆ อย่างงั้นเหรอ ฝันไปเถอะศิระ เวลาของนายมันหมดไปตั้งนานแล้ว คนอย่างฉันไม่เคยโดนไล่ให้ออกจากชีวิตใคร นายเป็นคนแรกที่กล้า โทษฉันไม่ได้หรอกนะถ้าหลังจากนี้ไปนายจะเจออะไรที่ไม่ได้หอมหวานอย่างที่นายอาจจะคิดไว้ ช่วยไม่ได้นี่ นายกลับมาหาฉันเอง มันต้องสนองกันหน่อยล่ะ ….
   “อิ่มแล้วเหรอ” เป็นคำถามแรกที่พฤกษ์เอ่ยเมื่อเห็นศิระยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม หลังจากจัดการอาหารที่เขาตักให้
“อืม” ศิระตอบสั้นๆ อาการประหม่าหายไปหมดสิ้น เมื่อคนถามทำบรรยากาศให้ดูเป็นกันเองมากขึ้น พฤกษ์เอาใจใส่ถามไถ่เขาในหลายๆเรื่องจนเขาเริ่มไว้ใจในคำพูดก่อนหน้า พฤกษ์สนใจเขาและขอคบกับเขา ท่าทางมันจะจริงแฮะ
“กลับกันหรือยัง หรือไปไหนต่อ เดี๋ยวพาไป” พฤกษ์ถามออกมาอีก จะล่อเหยื่อทั้งทีต้องเอาให้ติดเบ็ดจนดิ้นไม่หลุด ถึงเวลาเชือดจะได้เจ็บแสบจนพูดไม่ออก
“แล้วแต่นายสิ” ศิระตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เขาชักอยากยืดเวลาให้ยาวนานกว่านี้ซะแล้วสิ จะขอบใจใครดีนะ เป้ หรือว่าโก๋ ที่ทำให้เขากล้าที่จะเปิดใจ ผลที่ได้มันไม่ได้น่ากลัวเลยซักนิด
“ดูหนังมั๊ย” พฤกษ์ชวน เป็นครั้งแรกที่เขาชวนคนอื่นไปในสถานที่จำกัดแบบนี้ นี่เขาลงทุนเกินไปหรือเปล่า
“บอกแล้วไงว่าตามใจนาย” ศิระตอบ พฤกษ์จึงเดินนำออกไป อะไรมันจะง่ายปานนั้น ไม่ยักรู้แฮะว่านายนี่หลอกง่ายกว่าเด็กอมมือซะอีก เห็นท่าทางเอาเรื่องนึกว่าจะแน่ ง่ายๆแบบนี้ให้คบเป็นแฟนจริงๆคงไม่เอาหรอก ไม่ไหวว่ะ ไอ้พวกไม่มีความคิดอะไรก็แล้วแต่แล้วแต่


   ภายในโรงหนังเครื่องปรับอากาศนั้นเย็นเฉียบ แต่คนที่โดนกุมมืออยู่รู้สึกร้อนรุ่มอย่างประหลาด ศิระปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีจนอยากที่จะยืดเวลาให้หนังฉายยาวนานออกไปกว่าเดิมพฤกษ์กุมมือเขาไว้ทันทีที่โรงทั้งโรงปิดไฟมืดมันมีความสุขอย่างประหลาด ไม่เคยมีใครที่ทำกับเขาแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่ส่วนลึกของหัวใจเรียกร้องมานานแสนนาน ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริง แล้วยิ่งคนที่นั่งข้างๆตอนนี้ ยิ่งเขาลอบมองใบหน้าคมได้รูปภายใต้แสงสลัว เขาก็อดไม่ได้ว่านี่มันคือความฝันไม่ใช่เรื่องจริง
“หนาวมั๊ย” พฤกษ์หันมาถามคนข้างตัว จริงๆเขาไม่น่าทำขนาดนี้ก็ได้ให้ตายสิ แค่นี้ก็แสดงได้ชัดเจนแล้วว่านายนี่ตกหลุมพรางเขาจนลุกขึ้นไม่ได้ง่ายๆ
“นิดหน่อยแล้วนายล่ะ” ศิระตอบแล้วถามกลับ
“แค่ได้จับมือนายไว้ก็อุ่นแล้ว” หนังเล่าเหตุการณ์ไปถึงไหนแล้วศิระไม่อาจรู้ เขาเฝ้าแต่คิดว่านี่มันความฝันหรือเรื่องจริง พฤกษ์ดูอบอุ่นอ่อนโยนจนหัวใจเขาถลำลึกจนได้การมีคนรักมันดีแบบนี่นี่เอง
   “นายทำแบบนี้กับใครบ่อยหรือเปล่า” ศิระถามคนที่เดินคู่กันออกมาจากโรงหนัง เขาต้องรู้ก่อนสิว่าพฤกษ์ทำแบบนี้เป็นประจำหรือกับเขาเป็นคนแรก
“ทำอะไรเหรอ”พฤกษ์ถาม
“ก็ชวนใครไปดูหนังแล้วกุมมือเขาไว้แบบนี้จนหนังจบ”
“จะให้ไปทำกับใครล่ะ นายนี่แหละเป็นคนแรก”
“กับเมษา นายก็ไม่เคยทำเหรอ”
“ฉันกับเมษาไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ”
“กับฉันเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ขนาดนี้เนี่ยนะ ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน นายยังระแวงฉันอยู่หรือไง”
“ปะ เปล่า ก็ ไม่รู้สิ ฉันไม่เคย รู้สึกแบบนี้ฉันก็พูดไปเรื่อยเปื่อย”
“รู้สึกอะไรเหรอ”
“ก็…. เอาน่า นายอย่าเพิ่งรู้เลย รู้แต่ว่าวันนี้ฉันขอบใจนายก็แล้วกันที่ทำให้ฉันรู้สึกดีๆกับชีวิตแบบนี้ได้” พฤกษ์หลบตาต่ำ ท่าทางนายนี่จะปักใจเชื่อจริงซะแล้วสิว่าสิ่งที่เขาทำวันนี้มันมาจากใจเขาจริงๆ อย่างนี้ต้องรีบรุกก่อนที่มันจะรู้ตัวหน่อยล่ะ
“มืดแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งบ้านนะ”
“นายไม่ลำบากแน่นะ”
“ไม่หรอก คนจะเป็นแฟนกันอยู่แล้ว แค่นี้จิ๊บจ้อย ป่ะ” อีกครั้งที่ศิระโดนฉุดมือจากคนที่เขาตกหลุมรัก เฮ้อ ถึงฟ้าจะมืดแต่ทำไมหัวใจมันสว่างจนอยากจะหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้นะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 14-12-2007 00:57:41
“ไม่เคยเหรอ” พฤกษ์ถามเมื่อเห็นคนที่นั่งเบาะข้างตัวมือไม้สั่นไปหมดหลังจากที่เขาก้มลงจะประกบปาก จะสั่นไปทำไมให้จูบจริงๆก็ไม่เอาหรอก มั่วใครมามั่งก็ไม่รู้ ทำเป็นคนไม่เคย เดินเข้าออกผับบ่อยขนาดนั้น เด็กหนุ่มนึกแขวะในใจ ก็เห็นอยู่ว่านายนี่เจอตัวทีไรก็อยู่แต่ที่เที่ยว ดูดีตายล่ะ ทำเป็นเด็กดีไปได้
“แล้วนายเคยเหรอ” ศิระถามกลับ เกิดมาเขาไม่เคยเข้าใกล้ใครในลักษณะแบบนี้ คนที่เริ่มจะคบกันจะเป็นกันอย่างนี้ทุกคู่หรือเปล่านะ
“ไม่เคย แต่ก็ไม่ได้โง่จนทำไม่เป็น” พฤกษ์ถอยตัวออกมาพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนไม่พอใจ ทั้งๆที่โล่งใจ ที่นายนี่ไม่บ้าจี้ไปกับเขา นี่ถ้าเกิดศิระตอบสนองเขาขึ้นมาจริงๆ เขาไม่ต้องเปลืองตัวจริงๆหรอกเหรอ แค่คิดก็ลำบากใจน่าดู ไม่ได้มีอารมณ์ใคร่กับนายนี่เลยให้ตายเถอะเอา
“นายโกรธเหรอ” ศิระถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่คนฟังจับได้ว่าแคร์เขา
“เปล่า นายคงยังระแวงฉันอยู่ เอาเถอะ ถ้านายไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร”ศิระหน้าชา นี่พฤกษ์โกรธเขาจริงๆหรือเปล่า
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฉันแค่ไม่เคย”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ไม่เคยไม่เคยสิ ไม่เห็นต้องร้อนตัว”
“แต่นายเหมือนโกรธฉันนะ”
“บอกไม่โกรธก็ไม่โกรธสิ เดี๋ยวก็โกรธจริงๆซะหรอก”
“นายไม่โกรธฉันแน่นะ”
“โกรธไม่โกรธแล้วไง นายแคร์ฉันเหรอ”
“ก็บ้าง นายทำให้ฉันแคร์แล้วนี่”
“แคร์ฉันมากมั๊ย”
“ถามทำไม”
“เปล่า แค่อยากรู้ว่านายเลิกระแวงฉันหรือยัง”
“เลิกไปตั้งแต่อยู่ในโรงหนังแล้ว”
“นายนี่มันใจง่ายดีเนอะ”
“เฮ้ย ทำไมพูดงี้”
“ล้อเล่น ไปเถอะ เข้าบ้านเถอะ ดึกแล้ว”
“นายก็กลับบ้านดีๆล่ะ”
“ครับ” ศิระยิ้มอย่างเป็นสุขเมื่อได้ยินคำพูดเชิงหยอกล้อจากปากของพฤกษ์เหมือนเดิม โดยไม่รู้ซักนิดว่าใจคนพูดกำลังกระหยิ่มที่ทำให้เขาหลงรักได้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง

 “รับโทรศัพท์ได้แล้วเหรอครับพฤกษ์” เมษาประชดทันทีที่ได้ยินเสียงพฤกษ์ตอบกลับมาหลังจากที่เขาพยายามกดโทรศัพท์หาหลายรอบ
“ผมดูหนังอยู่ ปิดเครื่องไว้” พฤกษ์บอกสาเหตุ เขาล่ะเชื่อเลย เมษาโทรหาเขาทุกๆนาทีหรือไง เปิดเครื่องได้ไม่เท่าไหร่    สายแรกที่โทรเข้าก็เป็นนายนี่ซะแล้ว
“ดูหนัง หนังอะไรครับ แล้วดูกะใคร” เมษาจี้ทันที ไม่อยากจะเชื่อว่าพฤกษ์ไปดูหนังโดยไม่ชวนเขา      เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าคนที่เขากำลังไล่จี้กำลังนึกเซ็ง
“กับเพื่อนครับ” พฤกษ์ตอบหวังเพียงจะตัดทุกคำถามให้มันหมดๆไป แต่เขาคิดผิดเมื่อเมษาไม่ยอมเลิกรา    การสนทนาจึงยาวออกไปอีกด้วยอารมณ์ที่ต่างกัน
“เพื่อน เพื่อนกลุ่มไหนครับ ปอนด์เองก็อยู่กับผม”
“เพื่อนผมไม่ได้มีแค่ไอ้ปอนด์นี่ครับเมษา”
“ก็นั่นสิครับ ผมถึงได้ถามว่าเพื่อนกลุ่มไหน ไปกันกี่คน”
“เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมไม่ขอตอบนะครับ ผมว่ามันเกินไป”
“เกินไปยังไงครับ ไม่เห็นต้องปิดบังอะไรนี่ถ้าคุณไปกับเพื่อนจริงๆ”
“ถึงผมจะไปกับใครเป็นคนพิเศษขนาดไหน ผมว่าผมก็มีสิทธิที่จะไปนะ”
“พฤกษ์คุณไม่แคร์ไม่ไว้หน้าผมเลยเหรอ”
“แล้วคุณจะตีโพยตีพายโวยวายไปทำไมล่ะเมษา ผมกับคุณมันก็เหมือนเดิม ใช่ว่าผมจะไปดูหนังแล้วผมจะเลิกคุยกับคุณ เลิกเจอหน้าคุณ เรายังคบกันได้เหมือนเดิมนี่ครับ”
“เหมือนตรงไหน ใครๆก็รู้ว่าผมคิดยังไงกับคุณ แล้วถ้าเกิดมีใครที่รู้จักผม ไปเห็นคุณเดินกับคนอื่น สองต่อสอง คุณไม่กลัวว่าผมจะโดนล้อเหรอ”
“สรุปผมผิด”
“คุณไม่ได้ผิดหรอก ผมอาจจะหวงคุณมากไปหน่อย ผมขอโทษละกันถ้าผมทำคุณลำบากใจ” ตึ๊ดๆๆๆ…… เป็นครั้งแรกที่พฤกษ์โดนเมษาวางสายไปโดยไม่ร่ำราด้วยคำพูดหวานเลี่ยน ตรงกันข้ามน้ำเสียงสุดท้ายเมื่อครู่ของเจ้าตัวมันบ่งบอกถึงอาการตัดพ้อด้วยความน้อยใจชัดๆ ใช่สินะ เขาพูดจาอะไรรุนแรงเกินไปหรือเปล่ากับคนที่หวังดีกับเขามาตลอด
   พฤกษ์จอดรถริมถนนเมื่อรู้สึกสับสนขึ้นมา ภายในใจเด็กหนุ่มคิดทบทวน เมษาเฝ้ารอคำตอบจากเขามานานว่าเมื่อไหร่เขาจะใจอ่อนยอมให้เจ้าตัวเข้ามาเป็นคนพิเศษได้เต็มตัวอย่างที่หวังซะที รูปร่าง หน้าตา ฐานะ การศึกษา เมษาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเท่าไหร่ เด็กหนุ่มนึกย้อนกลับไปคำพูดของเมษาเมื่อครู่ หากมีใครเห็นเขาเดินเคียงคู่อยู่กับนายศิระ เมษาคงโดนล้ออย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเขาจะมีใครหรือคบใครซักคน เขาก็น่าที่จะให้เกียรติคนที่เฝ้ารอเขามานานวัน ศิระไม่มีอะไรเทียบเท่าเมษา ข้อนี้เขาลืมไปได้ยังไง ในเมื่อเขาคิดจะแกล้งคนอวดดีอย่างนายศิระนั่นเล่นๆ เขาก็น่าที่จะถือโอกาสนี้ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปแล้วไม่คิดกับเมษาได้นี่

   “หา มึงว่าไงนะ พฤกษ์นี่นะ ชวนมึงไปเที่ยวสองต่อสอง”ปอนด์ เงยหน้าถามเพื่อนซี้อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง อาหารที่วางในจานไม่สงไม่สนมันล่ะ เรื่องที่เมษาบอกเมื่อกี้ แค่ได้ยินก็อิ่มไปได้สามมื้อ
“ทำไมคนอย่างกูมันเสียหายตรงไหน จริงๆพฤกษ์น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วเสียด้วยซ้ำ” เมษาพูดอย่างเป็นต่อ คนเป็นหูเป็นตาให้เขามีมากมายยังกะไร่สับปะรด พฤกษ์ไปไหนกับใคร ทำไมเขาจะไม่รู้ ถ้าสถานที่ ที่ไปอยู่ในแหล่งหรูหรา นายศิระนั่นได้เดินควงคนของเขาหน่อยเดียวเพื่อนปากไวที่ไหนจะไม่โทรฟ้องเขา
“ทำเป็นคุย โธ่ที่ผ่านมาแค่ชวนไอ้ตัวดีนั่นไปกินข้าวก็ทำเอาหืดขึ้นคอ ขนาดกูไปด้วยมันยังไม่ยอมง่ายๆเลย แล้วนี่อะไร มันบอกจะไปกะมึงสองต่อสอง กูไม่อยากเชื่อว่ะ มึงไปทำยังไงให้มันยอมได้วะ” ปอนด์ยังคงข้องใจไม่หายเลยถาม เขาเห็นเมษายิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนจะเล่าหมัดเด็ดที่ล่อพฤกษ์ยอมสิ้นลายให้ฟัง
“กูก็แค่ ทำเป็นพ้อนิดๆหน่อยๆ”
“มึงทำไงวะ ปกติไอ้พฤกษ์ก็ไม่ชอบง้อใครนี่นา”
“แต่คราวนี้ไม่ใช่ เพราะกูรู้ว่าเขาไปทำอะไรกะใคร กูก็เลยกำจัดจุดอ่อน”
“ยังไง”
“พฤกษ์แอบไปเที่ยวกับนายศิระ กูก็เลยแกล้งพูดในทำนองที่ว่าถ้าคิดจะทำอะไรให้เกรงใจกูบ้าง สงสัยคิดได้มั้งว่า ไอ้กุ๊ยนั่น กะกู มันกระดูกคนละเบอร์ คงละอายใจที่จะทิ้งกูแล้วหันไปคบกับไอ้นั่น เป็นมึงมึงจะเลือกใคร คนที่มีพร้อมทุกอย่างกับคนที่หาเช้ากินค่ำ”
“กูเข้าใจละ ร้ายนะมึง แม่งสุดยอด หลอกไอ้พฤกษ์ได้”
“นี่มันแค่เริ่มต้นโว้ย กูจะไม่ยอมเฉยอีกต่อไปแล้ว เล่นตัวดีนัก คราวนี้ถ้าดิ้นหลุดได้ก็ให้มันรู้ไป” ปอนด์มองแววตาคนพูดที่ออกอาการมาดร้าย ใจหนึ่งนึกเป็นห่วงเพื่อนตัวเอง นี่เขาคิดถูกหรือคิดผิดที่เชียร์คนข้างหน้าให้ได้สมหวังกับเพื่อนตั้งแต่เด็กๆอย่างพฤกษ์ ..................




ต่อไปจะเป็นยังไงก็ตามลุ้นกันต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 14-12-2007 03:39:52
ร้ายพอกันทั้งพฤกษ์ ทั้งเมษา สงสารก็แต่ศิระ

ขอให้สองตัวนั้นตกหลุมพรางของตัวเอง ให้กรรมสนองไวๆเหอะ ล้อเล่นกับหัวใจคนแบบนี้เลววววววววว
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 14-12-2007 11:00:25
ฮ่าฮ่า สนุกกกกกกก


เอาอีกกกก  o14
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-12-2007 11:14:29
พฤกษ์ใจร้ายอ่ะ

 :m15: :m15:


พี่แอม ต่อด่วนๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 14/12/07 Chapter 8
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 14-12-2007 11:30:42
เล่นสนุกกับหัวใจคนนะ นายเป็นคนอยู่หรือเปล่าเนี้ย :a6:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 16-12-2007 15:41:09
#9

ศิระ เก้ๆกังๆ อยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่น คนตรงหน้าไม่ได้ช่วยให้เขาหายจากอาการเขินอายได้เลย เกิดมาไม่เคยเข้ามาทานอาหารในร้านแบบนี้ ชีวิตทั้งชีวิตก็ฝากท้องไว้กับพวกอาหารกันตายที่กินกันง่ายๆสั่งกันง่ายๆ แล้วนี่อะไร เมนูที่ไล่ยาวเป็นหางว่าว สาบานได้ว่าไม่รู้จักซักชนิด แล้วจะสั่งอะไรมากินล่ะเนี่ย
“ไม่สั่งอ่ะ” พฤกษ์ถามขึ้นห้วนๆ ศิระถึงกับแปลกใจ คราวที่แล้วนายนี่ไม่ได้มีอาการแบบนี้นี่นา
“สั่งไม่เป็น นายกินอะไรฉันก็กินไอ้นั่นแหละ” คนแปลกใจบอกออกไปตรงๆตามประสาซื่อ เพียงหวังว่าจะได้รับคำแนะนำอย่างที่เคยได้รับจากคนตรงหน้า แต่เด็กหนุ่มถึงกับหน้าชาเมื่อเขาคิดผิด
“กินไม่เป็นก็ไม่บอก แล้วตามมาทำไมล่ะเนี่ย”
“อ้าวก็นายชวนฉันมานี่” ศิระเถียง อาการน้อยใจแล่นมาทักทายเอาดื้อๆ
“ก็บอกแล้วไงว่าจะพามาร้านแบบนี้ ถ้ากินไม่เป็นก็ปฏิเสธก็ได้ ไม่ใช่ใครชวนไปไหนก็ไป”
“ที่พูดนี่หมายความว่าไง”
“ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ”
“นายกำลังหาว่าฉันใจง่าย ไม่มีความคิดใช่ป่ะ”
“ก็แล้วมันจริงมั๊ยล่ะครับ คุณศิระ”
“นายเป็นอะไร ท่าทางเหมือนนายหาเรื่องฉันนะ”
“โอ้ย ใครเขาอยากมีเรื่องกะนาย อย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย”
“ท่าทางเราคงคุยกันไม่รู้เรื่องฉันว่าฉันกลับดีกว่า”
“จะรีบไปไหน อยู่ด้วยกันก่อนดิ” คนจะลุกใจชื้นขึ้นมานิดเมื่อได้ยินคำทักท้วงจากคนที่ตัวเองกำลังนึกน้อยใจอยู่ พฤกษ์อาจจะกำลังอารมณ์ไม่ดีก็ได้ มองโลกในแง่ดีไว้สิ ศิระ
“ฉันขอโทษ” ศิระเอ่ย เมื่อคิดว่าการกระทำของตัวเองไม่มีเหตุผล โกรธ น้อยใจ ลุกหนี เอานิสัยแย่ๆมาใช้ได้ไงวะ
“ขอโทษทำไม” พฤกษ์เอ่ยขำๆ ร้อนถึงศิระที่ต้องอธิบาย
“ฉันก็แบบนี้แหละ อารมณ์ร้อน นายก็รู้อยู่”
“แล้วไง”
“ฉันกลัวนายโกรธที่ฉันลุกหนีแบบไม่มีเหตุผล”
“อย่าเว่อร์ไปหน่อยเลยนะ เรื่องแค่นี้ เอามาคิดทำไมให้ปวดหัว ที่ให้นั่งอยู่เนี่ยก็แค่ให้นั่งอยู่เป็นเพื่อนฉัน ฉันนัดเพื่อนไว้อีกคน ถ้าเขามา นายจะไปกินก๋วยเตี๋ยว ราดหน้า ผัดไท ที่ไหนก็เรื่องของนาย เพราะที่นี่คงไม่มีขายหรอก” ศิระอึ้ง จุกแน่นตัวชาขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มมองสบตาคนพูดอย่างไม่เข้าใจ คำพูดเมื่อครู่มันเชิงดูถูกกันชัดๆ พฤกษ์ต้องการอะไร
“ล้อกันเล่นแบบนี้มันไม่สนุกนะพฤกษ์” น้ำเสียงคนพูดที่เอ่ยสั่นเครือเพราะข่มความโกรธเอาไว้จนจับได้ แต่คนฟังกลับไม่สนใจ
“ถ้าคิดว่าล้อเล่น ก็อย่าใส่ใจ เพื่อนฉันมาแล้ว” สายตาพฤกษ์มองข้ามศิระไปเมื่อพูดจบ ศิระเอี้ยวตัวมองตาม หัวใจเด็กหนุ่มหล่นไปกองที่พื้นเมื่อมองเห็นว่า เมษา กำลังเดินมาในบุคลิกที่เหมาะกับสถานที่แบบนี้มากกว่าเขา
“นึกว่ามีแต่เราสองคนซะอีกนะพฤกษ์” คนมาใหม่ทักคนที่ยิ้มทักทายเขา ก่อนจะปรายตาชำเลืองมองคนที่นั่งหน้าซีด
“นั่งสิ เมษา ข้างผมก็ได้”พฤกษ์ขยับที่ว่างให้คนที่เขาตั้งใจนัดมาชนกันกับคนตรงหน้า ถึงเวลาที่เขาจะทำให้ศิระตาสว่างก็คราวนี้ล่ะ ว่าอย่าลองดีต่อคารมและอวดดีกับเขาอย่างที่ผ่านๆมาอีก
“หิวป่าว ผมว่าจะสั่งอาหารไว้รอ แต่กลัวคุณไม่ทานก็เลยรอก่อนดีกว่า”
ศิระก้มมองพื้นทันทีที่เห็นพฤกษ์ยิ้มแย้มเอาใจเมษาที่นั่งลงคู่กัน เด็กหนุ่มรู้สึกตัวเองตัวลีบเล็กลงไปอย่างนึกละอาย เขาจะหาทางออกให้ตัวเองพ้นจากสถานการณ์ที่กดดันนี่ยังไง
“อ้าวแล้วไม่หิวกันเหรอ รอผมทำไมครับ สั่งอะไรมาผมทานได้หมดแหละ แต่ว่าเพื่อนใหม่พฤกษ์ ชอบทานอาหารพวกนี้ด้วยเหรอ” เมษาเอ่ยอย่างรู้เกม ตอนแรกก็นึกเคืองพฤกษ์ว่าทำแบบนี้ทำไม เขาอุตส่าห์คิดว่าอาหารมื้อนี้จะเป็นมื้อพิเศษระหว่างเขากับคนที่หมายปอง แต่เมื่อเห็นอาการคนชวนก็พอจะจับได้ว่า พฤกษ์คงกำลังเล่นงานศิระ จะเพราะอะไรก็ช่างเขาไม่สนใจทั้งนั้น แต่โอกาสที่จะแกล้งให้ศิระอับอายขายขี้หน้าต่อที่สาธารณะแบบนี้มันหาไม่ได้ง่ายๆ ซัดมันซักทีก็ดีเหมือนกัน จะได้รู้ว่าใครเป็นใคร
“ศิระเขาก็คงชอบทานอาหารแบบนี้อยู่มั้ง เห็นขอตามผมมานี่พอรู้ว่าผมจะมาที่นี่” ศิระ เงยหน้าขึ้นมองพฤกษ์ทันควัน เด็กหนุ่มแอบกำมือแน่น อยากจะถามนักว่าทำไมพฤกษ์ถึงพูดแบบนี้ เขาทำงานของเขาอยู่ดีๆ ก็ต้องยอมออกก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัวมาที่นี่ ถ้านายนี่ไม่ชวนเขามา อย่างเขาเหรอจะกล้าขอมา
“ล้อเล่นแค่นี้ มองตาเขียวเลยนะศิระ” พฤกษ์เอ่ย ศิระจึงอ่อนลงบ้าง จริงๆเขาไม่มีเรี่ยวแรงตอบโต้ต่างหากล่ะ รู้สึกใจมันหวิวจนหายใจได้ไม่เต็มปอด
“เอาเมนูมาเดี๋ยวสั่งอาหารให้” พฤกษ์เอ่ยขึ้นอีก ยังดีนะที่มีน้ำใจ ศิระค่อยๆใจชื้น มือที่ยังสั่นเทาอยู่ค่อยๆหยิบเมนูยื่นส่งให้คนพูด
“อะไร ฉันบอกเมษา ไม่ได้บอกนาย ยื่นมาทำไมเมนูไหนบอกจะกลับไง”
เมนูที่ถือยื่นอยู่แทบร่วงลงบนโต๊ะ ศิระหน้าซีดตัวสั่นด้วยความละอาย เขาทำอะไรผิด ทำไมพฤกษ์ต้องฉีกหน้าเขาด้วยคำพูดแบบนี้ ยิ่งเขามองหน้าเมษาที่แอบยิ้มอยู่เขาก็แทบอยากจะแทรกหายไปในอากาศ....พฤกษ์…นายทำแบบนี้ทำไม?
   “คุณนี่ก็ชอบแกล้งคนอื่นเหมือนกันนะพฤกษ์” เมษาละสายตาจากการมองศิระอย่างสมเพชมาพูดกับคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ไม่สนใจว่าจิตคนที่นั่งตรงข้ามอยู่จะเป็นยังไง
“ศิระเขาไม่ถือสาเรื่องพวกนี้หรอกเมษา โดนผมล้อเล่นแค่นี้เขาไม่สะเทือนหรอก” พฤกษ์เอ่ยตอบคนข้างตัวเสร็จก็ดึงเอาเมนูในมือศิระมาเปิดดู ก่อนจะลอบถอนหายใจ ศิระหน้าซีดจนจะเป็นกระดาษอยู่แล้ว ใจอ่อนจนได้สิกู เมษานึกขัดใจเมื่อพฤกษ์สั่งอาหารชุดเดียวกับของตัวเองให้กับศิระ แต่กลับปล่อยให้เขาสั่งเอาเอง ด้วยเหตุผลที่บอกว่าไม่รู้ว่าเขาชอบทานอะไร
“ที่จริงนายไม่ต้องสั่งเผื่อฉันก็ได้นะ ฉันคงต้องรีบกลับคงนั่งอยู่ด้วยไม่ได้”ศิระเอ่ยขึ้น เมื่อปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ แม้มันจะไม่เต็มร้อย แต่ก็มีแรงพอที่จะข่มอารมณ์อารมณ์น้อยใจไม่ให้แสดงออกมาได้ แต่ถ้าให้นั่งอยู่นานไป ก็ไม่มั่นใจตัวเองเหมือนกันว่าจะทนมองคนสองคนที่อยู่ตรงหน้าได้ซักกี่น้ำ
“เมื่อกี้ที่ฉันล้อเล่น นายคิดเป็นจริงเป็นจังเหรอ” พฤกษ์ถามหยั่งเชิง ถ้าเขาปล่อยให้ศิระลุกไปจากตรงนี้ได้ โอกาสที่เขาจะปั่นหัวเจ้าตัวต่อไปคงหมดลงแน่ๆ ศิระกำลังคิดอะไรอยู่ทำไมเขาจะไม่รู้ คนแบบนี้แค่มองตาก็ทะลุไปถึงไหนต่อไหน คิดจะปลีกตัวออกจากเขางั้นเหรอ หลงกลเข้ามาแล้วมันไม่ง่ายนักหรอก ที่จะถอยหลังกลับ
“เปล่า” ศิระตอบสั้นๆ
“เปล่าแล้วทำไมรีบกลับ”
“นัดเพื่อนไว้”
“ใคร”
“ทำไมนายต้องรู้ด้วยล่ะ”
“ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ แต่แค่อยากรู้”
“รู้ไปทำไม”
“นายมานี่ไม่ถึงชั่วโมง แล้วบอกมีนัดที่อื่น จัดเวลายังไง สับรางเก่งนี่”
“ในเมื่อฉันขอตามนายมา ฉันก็จะกลับเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ใช่เหรอ นายไม่ได้นัดฉันมานี่ ลืมแล้วหรือไง” พฤกษ์เงียบ เมื่อโดนศิระย้อนกลับ เมษาเห็นท่าทีเป็นต่อของคนย้อนเลยเอ่ยขึ้น
“พฤกษ์ไม่ได้สนใจหรือห้ามอะไรนายหรอกนะ ถ้านายจะกลับ แต่นายควรมีมารยาทบ้างคนเขาอุตส่าห์สั่งอาหารมาให้ถ้าจะปฏิเสธ ทำไมไม่เอ่ยตั้งแต่ต้น”
“ช่างเถอะ เมษา พูดไปก็เท่านั้น คนมันไม่มีมารยาท มันคงพูดยาก” ศิระรู้สึกเหมือนตัวเองโดนบีบขึ้นมาอีกครั้งหลังได้ฟังคำพูดพฤกษ์ที่เอ่ยเข้าข้างเมษาจบ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจลุกหนีเดินออกจากร้าน
“ขอตัวเดี๋ยวนะเมษา” พฤกษ์เอ่ยบอกคนข้างๆก่อนจะลุกเดินตามศิระที่ก้าวฉับๆออกนอกร้าน กว่าจะตามทันก็เล่นเอาเขาหอบเอาการอยู่เหมือนกัน
“เดินหนีไฟไหม้หรือไงวะ คุยกันก่อนดิ” เด็กหนุ่มกระชากเสื้อคนที่เอาแต่เดินโดยไม่สนใจใคร
“กูไม่มีอะไรจะคุย” ศิระบอกเสียงหนักแน่น พอกันที 
“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ” พฤกษ์บอกดุๆ ท่าทางนายนี่คงโกรธเขามาก ยอมง้อมันซักวันเพื่อความสะใจในอนาคตก็น่าจะคุ้มวะ
“ต้องการอะไร ทำแบบนี้หมายความว่าไง ตลกเหรอที่ได้ดูถูกคนอื่น”
“คิดมากทำไมวะก็แค่ล้อเล่น ท่าทางนายไม่ใช่คนขี้แยนี่หว่า”
“ไม่ได้โวยวาย แค่ไม่เข้าใจ มีอะไรพูดกันตรงๆเลยดีกว่า”
“จะให้พูดอะไร ก็บอกว่าแค่ล้อเล่น ไม่คิดว่านายจะโกรธขนาดนี้”
“ไม่ชอบคนล้อเล่น”
“เออๆๆ ต่อไปไม่ทำก็ได้ พอใจหรือยัง” ศิระเงียบเริ่มลังเลว่าจะเชื่อในคำพูดของพฤกษ์หรือเลือกที่จะเดินหนี ต่างกับพฤกษ์ เมื่อเห็นศิระเงียบ เด็กหนุ่มจึงรุกต่อ เพื่อดึงอารมณ์แปรปรวนของเจ้าตัวกลับมาให้ได้
“นี่ถ้านายโกรธฉันเพราะเรื่องแค่นี้ ฉันจะรู้สึกผิดไปจนตายเลยนะ คนเราเพิ่งเริ่มคบกัน มันก็ต้องมีลองใจกันหน่อย ฉันนัดเมษามาก็แค่ลองใจนายเท่านั้น แต่นายเป็นแบบนี้ก็ดีนะ ฉันจะได้รู้ไงว่านายแคร์ฉันจริง ฉันเองก็กลัวนายหลอกเหมือนกันนี่”
“ฉันไม่เคยหลอกใคร”
“แค่ลมปากใครจะเชื่อ”
“งั้นฉันก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อนายอ่ะดิ”
“ไปกันใหญ่ เฮ้อ พูดไปก็เหมือนจะทะเลาะกันเปล่าๆ เอาเป็นว่าถ้านายไม่อยากนั่งอยู่ในร้านเพราะอึดอัด ก็รอฉันแถวนี้ก็ได้ ฉันนัดเมษามาแล้ว นายคงไม่อยากเห็นแฟนนายเป็นคนนิสัยแย่ๆหรอกนะ ที่หลอกใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือทดสอบจิตใจแฟนตัวเอง ฉันกับเขาไม่มีอะไรกันจริงๆ เชื่อฉันเถอะว่านายเป็นคนแรกที่ฉันคิดอะไรด้วย” ศิระถอนหายใจ พยักหน้ารับช้าๆ ไม่มีเหตุผลที่พฤกษ์จะตามมาง้อเขานี่ ถ้าพฤกษ์ไม่ได้คิดอะไรกับเขา คนอย่างพฤกษ์คงไม่มาเสียเวลาให้กับอะไรที่เจ้าตัวไม่ใส่ใจหรอก
“รอผมนะ สัญญาจะรีบมาหาให้เร็วที่สุด เอาโทรศัพท์นี้ไปจะได้ตามตัวเจอ” พฤกษ์แกล้งพูดเอาใจแถมยังลงทุนควักมือถือตัวเองยื่นให้เพื่อล่อเหยื่อไม่ให้หลุดจากบ่วง ได้ผล ศิระยอมยิ้มบางๆให้เขารับของที่เขายื่นให้อย่างว่าง่าย ก่อนที่เขาจะแยกตัวออกมา คนแรกที่ฉันคิดอะไรด้วย ศิระนายฟังไม่ผิดหรอก ฉันคิดอะไรกะนายจริงๆคิดจะสั่งสอนไงไก่อ่อนชะมัดให้ตายสิ
   พฤกษ์กลับมาหาเมษา ขอโทษขอโพยเสร็จ ก็ชวนทานอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ โดยเลี่ยงที่จะพูดถึงศิระ เส้นทางแห่งรักจอมปลอมที่เขาสร้างขึ้นครั้งนี้ เขาคิดว่าเขามีสิทธิคนเดียวที่จะปั่นหัวศิระเล่นมันเป็นเส้นทางรักของเขาสองคนเท่านั้น
“ไปดูหนังต่อกันมั๊ยพฤกษ์”เมษาเอ่ยชวนคนที่เดินคู่กันออกมาจากร้านอาหาร โอกาสแบบนี้หายาก ต้องเอาให้คุ้มหน่อยล่ะ
“ช่วงนี้ไม่มีหนังน่าดูเท่าไหร่นะเมษา” พฤกษ์บอกปัด เมษาชวนเขานั่งแช่อยู่ในร้านร่วมสามชั่วโมง แล้วนี่ยังจะชวนเขาไปดูหนังอีก อย่างน้อยๆเวลาที่เขาต้องอยู่กับคนๆนี้ก็ต้องต่อยอดไปไม่ต่ำกว่าสามชั่วโมงอีกแน่ๆ
“ไม่น่าดูหรือดูมาหมดแล้วครับ” เมษาดักทางทีไปกับไอ้กับนั่นไปได้ ทีกับเขามาปฏิเสธ มันต้องคุยกันหน่อยล่ะ
“ไม่หรอกครับ วันนี้เราอยู่ด้วยกันนานแล้ว เอาไว้วันหลังดีกว่านะครับ”
“เพิ่งรู้นะครับ ว่าคุณจับเวลาตอนที่อยู่กับคนอื่นด้วย” พฤกษ์นิ่งคิดเมื่อโดนเบรกอีกรอบ นั่นสินะ ไม่ว่าจะกับใครที่เขาได้อยู่ได้พูดคุยด้วยเขาก็มักที่จะอึดอัดมองนาฬิกาแทบจะทุกครั้งถ้ามันนานเกินกว่าชั่วโมง แต่กับคนๆหนึ่งเขาแทบจะไม่มองเข็มนาฬิกาเลยซักนาทีที่ได้อยู่ด้วย ป่านนี้จะรอเขาอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้
“นะครับพฤกษ์ ดูหนังกับผมซักเรื่อง ไหนๆก็มีโอกาสแบบนี้แล้ว ไม่สงสารผมเหรอ” เมษา ใช้วาจาเข้าอ้อนถ้าผู้ชายคนนี้ไม่ใจอ่อนก็ให้มันรู้ไปสิ
“มันมีรอบที่เร็วที่สุดหรือเปล่าล่ะครับ ผมไม่อยากกลับบ้านดึก” พฤกษ์ เออออตามในที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงว่าตัวเองกำลังนึกถึงคนที่รออยู่ ในเมื่อเขาจะแกล้งนายนั่น เขาก็ต้องแกล้งให้จนถึงที่สุดสิ คนแบบนั้นง้อง่ายจะตาย ขนาดเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่นึกว่าจะกู่ไม่กลับเขาก็ยังเอาอยู่ขอปั่นหัวอีกซักทีเถอะน่า





อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ  ติดตามตอนต่อไปกันนะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 17-12-2007 12:54:02
โอ้ววว บีบหัวววจายยยย เจงเจง  :o


เกลียดพฤกษ์อ่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 17-12-2007 13:02:06
ไม่มีคำบรรยาย   :m8: :m8: :m8:

ศิระอย่ายอมโดนแกล้งฝ่ายเดียวนะ

ถ้าถึงเวลาต้องเอาคืนให้หนักๆเลย



มันจะเศร้าอีกนานมั้ยอ่าพี่แอม


หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-12-2007 13:11:30
ศิระเอ้ยยยยยยยยยย ทำไมถึงมาตกม้าตายให้คนเลวๆหลอกแบบนี้
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 19-12-2007 18:10:41
 :oni3: :oni3: :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 16/12/07 Chapter 9
เริ่มหัวข้อโดย: Red....[em] ที่ 19-12-2007 23:11:46
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:

กว่าจะมาไล่อ่านจนจบตอน เล่นเอาต่อมสงสารทำงานมากมายเลยอะครับ


งึดดดด ๆๆๆ สงสารศิระเนอะๆๆ ช่างเป้นเด็กหนุ่มที่น่าสงสารอะรายเยี่ยงเน้ แฮ่ๆๆๆ



แบบนี้ถ้ารู้ความจริง ต้องเอาคืนให้ :m15:เลยนะครับ



หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 20/12/07 Chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 20-12-2007 01:05:13
เอ้าบีบหัวใจกันเข้าไป

+++++++++++++

#10


ศิระเริ่มออกอาการเนือยๆกับการนั่งจิ้มเกมส์ที่เล่นมาหลายชั่วโมง โทรศัพท์ของพฤกษ์ที่ให้ไว้ แม้จะมีคนโทรเข้ามา แต่ก็ไม่ใช่เจ้าของเครื่องซักคน เขาเริ่มเบื่อๆและถามตัวเองว่าตัวเองกำลังทำอะไร และรออะไรอยู่ ยิ่งผ่านไปนานหลายชั่วโมงหัวใจก็ยิ่งว้าเหว่อย่างประหลาด หรือว่าพฤกษ์จะหลอกเขา ถ้าหลอกแล้วทิ้งโทรศัพท์ไว้ให้ทำไม การกระทำแบบนี้ใช่ว่าคนที่รู้จักกันทั่วไปที่ไหนเขาจะทำกัน เขาต้องใจเย็นและเข้าใจในความรักครั้งนี้สิ มันเป็นรักครั้งแรกที่เขาโดดลงมาหาความหมายแล้วนี่
      พฤกษ์ ทนรอให้สองชั่วโมงที่หนังฉายจบลงไปแทบไม่ไหวเมื่อตลอดเวลาเมษาพยายามซุกไซร้ใกล้ชิดเขา จนเขาเกรงว่าจะมีใครมาเห็นแล้วฉายไฟส่องประจาน มันน่าโมโหอยู่น้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ ทันทีที่ไฟมืด ร่างกายเขาก็โดนลวนลามแทบจะทุกส่วน นี่ถ้าเมษาทำได้มากกว่านี้ นายนี่ก็คงจะทำไปแล้วแน่ๆ
“โกรธผมเหรอพฤกษ์” เมษาถามเมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของคนที่เขาถือโอกาสใกล้ชิดในที่ ที่คนๆนี้ไม่มีโอกาสเดินหนีไปไหน ช่วยไม่ได้ อยากให้เขาเลือกที่นั่งเองดีนัก
“เปล่าครับ” พฤกษ์ตอบแบบไม่มองหน้าคนถาม ศิระต่างกับคนๆนี้อย่างสุดขั้ว รายนั้นกว่าจะจับมือได้ก็เล่นเอานึกรำคาญ หวงตัวจนน่าหมั่นไส้ แต่นี่อะไร ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือโรงหนังเขาไม่เสร็จไปแล้วเหรอ
“แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะครับ หนังไม่สนุกเหรอ”
“ทำนองนั้นแหละครับ หนังมันน่าเบื่อ ผมว่าเราแยกกันตรงนี้เลยนะครับ คุณเอารถมาใช่มั๊ย กลับบ้านดีๆนะครับ” พูดจบพฤกษ์ก็ไม่รอให้คนยืนอึ้งโต้ตอบอะไรกลับมา เมษาได้แต่มองตามหลังคนเดินหนีอย่างขัดใจ จะรีบไปไหนนักหนา.

“ทำอะไรอยู่วะ ทำไมไม่รับสาย โทรหลายรอบแล้วนะมึง” พฤกษ์เผลอสบถออกมาเมื่อรู้สึกหงุดหงิดที่โทรติดต่อคนที่เขาให้รอไม่ได้ เด็กหนุ่มรู้ว่าตัวเองหายไปนาน แต่อะไรบางอย่างทำให้เขามั่นใจว่าศิระต้องรอเขาอยู่แน่ๆ ด้านศิระ ก็กำลังครื้นเครงกับเพื่อนใหม่ที่เขามาทำความรู้จักระหว่างที่นั่งเล่นเกมส์อยู่คนเดียว เขาฆ่าเวลารอพฤกษ์ไปด้วยการสนทนาพื้นๆของคนที่เพิ่งรู้จักกัน แลกกับการได้ความรู้และกลโกงในการเล่นเกมส์ต่างๆที่ไม่เคยรู้
“โทรศัพท์มา ไม่รับเหรอ” เด็กหนุ่มข้างตัวเตือนคนที่กำลังสนุกกับการใช้กลโกงในการเล่นเกมส์ให้หยุดหันมาสนใจอุปกรณ์สื่อสารเครื่องเล็กที่สั่นตัวเองส่งเสียงเรียกให้คนสนใจอยู่ในกระเป๋ากางเกง
“อ้าวรับไม่ทันอีก” ศิระบ่นเมื่อสายโดนตัดทิ้งไปก่อนที่เขาจะกดรับ
“โห ตั้งสิบ missed call แน่ะ แฟนนายโทรตามหรือป่าวว่ะ” ศิระมองหน้าคนอุทานที่มองหน้าจอโทรศัพท์ที่เขาถืออยู่ มันแสดงผลชัดเจนว่ามีสิบสายที่โทรเข้ามาแล้วเขาไม่ได้รับ พฤกษ์หรือเปล่า ?
“เจอกันวันหลังนะ ต้องไปแล้วว่ะ ขอบใจที่มาคุยเป็นเพื่อน” ศิระตบไหล่คนที่พยักหน้าให้ก่อนจะรีบเดินออกไปทางที่เขาแยกตัวจากพฤกษ์มา สองขาหยุดชะงักเมื่อเห็นพฤกษ์เดินเนือยๆมาด้วยหน้าตาหงุดหงิด
“พฤกษ์” เด็กหนุ่มร้องเรียก ทำให้คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นมองเขาก่อนจะเดินดุ่มๆเข้ามาหา
“ทำอะไรอยู่ โทรหา ทำไมไม่รับ” พฤกษ์โวยใส่ทันทีเมื่อเดินมาถึงคนที่เขานึกโกรธขึ้นมา
“ก็ไม่ได้ยิน เสียงเกมส์มันดัง” ศิระอธิบาย ที่จริงนายนี่หายไปร่วมหกชั่วโมง เขามีสิทธิโวยวายแต่ทำไมกลับกลายว่าตัวเองมาโนเล่นงานซะเอง
“เล่นเกมส์ เกมส์อะไร มันสนุกจนลืมนึกถึงฉันเลยหรือไง” ศิระกำลังจะอ้าปากเถียงว่าคนที่ยืนว่าเขาปาวๆๆก็ลืมเขาไปเหมือนกัน แต่ยังไม่ทันขยับลิ้นหนึ่งเสียงก็ตะโกนเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
“ศิระ นายลืมของแน่ะ” สองคนที่ยืนเผชิญหน้ากันหันไปมองต้นเสียงอย่างไม่ได้นัดหมาย พฤกษ์ยิ้มหยันนึกเข้าใจได้เองว่าอะไรเป็นอะไร ไอ้หน้าละอ่อนนี่เองที่ทำให้นายนี่ปล่อยให้เขาโทรหาเป็นสิบๆเที่ยว
“ขอบใจ นายเอาไปเถอะ ที่จริงมันก็ของนายแหละ ฉันไม่ได้เล่นชนะคนเดียวซะหน่อย” ศิระบอกคนที่เดินมายื่นของให้ มันเป็นรางวัลจากการเล่นชนะเกมส์เมื่อครู่
“งั้นก็ไม่กวนแล้ว ไปล่ะ แล้วเจอกัน” คนที่เข้ามาผิดที่ผิดเวลาถอยฉากออกไปอย่างรู้ตัวเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าไม่พอใจของคนตรงหน้าศิระ
“ไปรู้จักกันตอนไหน” พฤกษ์ถามเมื่อลับหลังเด็กหนุ่มที่เข้ามาเมื่อครู่
“ที่ตู้เกมส์” ศิระตอบ นึกไม่ออกว่าพฤกษ์ไม่พอใจเรื่องอะไร ทั้งๆที่เขาเองควรเป็นฝ่ายถามมากกว่าว่าอยู่ล้างจานให้ร้านอาหารนั่นหรือยังไงถึงเพิ่งออกมาเอาป่านนี้
“ดีนี่ ได้เพื่อนใหม่แล้วลืมแฟนตัวเอง” พฤกษ์ประชด มันไม่ใช่การประชดเล่นๆ แต่เขารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เขาหงุดหงิดที่เห็นศิระเป็นมิตรกับคนเมื่อครู่
“ฉันไม่ได้ลืมนะ ก็บอกแล้วไงว่าเสียงเกมส์มันดัง เลยไม่ได้ยิน”
“ไม่ได้ยินหรือไม่สนใจกันแน่ มัวแต่คุยอะไรกันล่ะ”
“อย่าหาเรื่องกันหน่อยเลยน่า ทีนายล่ะ ไหนบอกจะรีบมาไง นี่มันผ่านไปกี่ชั่วโมง ใครกันแน่ที่ลืมกัน”
“นายไม่มีสิทธิมาย้อนฉันนะศิระ จำเอาไว้”
“ทำไม นายเป็นเทวดาหรือไง ถึงย้อนไม่ได้”
“อย่างน้อยฉันก็เป็นคนรักนาย หรือไม่จริง” ศิระอึ้ง จะปฏิเสธก็ไม่กล้า ในเมื่อสิ่งที่พฤกษ์พูด มันเป็นสิ่งที่ตัวเองกำลังต้องการ
“โอเคๆ ฉันขอโทษ พอใจหรือยัง” เด็กหนุ่มยอมเอ่ยในที่สุด ก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนให้เจ้าของ พฤกษ์รับมาถือไว้ในมือ รู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อคนที่ควรจะขอโทษน่าจะเป็นเขา แต่ศิระกลับยอมเป็นเป็นคนเอ่ยซะเอง
“แล้วนี่ กินข้าวบ้างหรือยังหรือมัวแต่เล่นเกมส์” พฤกษ์เอ่ยถาม เป็นครั้งแรกที่เขาถามออกมาจากใจจริงๆไม่ใช่แกล้งถามอย่างที่ผ่านๆมา
“ช่างเถอะ ฉันว่าฉันกลับดีกว่า”ศิระบอกปัด พฤกษ์ก็แค่อาจจะนึกได้ว่าลืมโทรศัพท์ไว้ที่เขาคงย้อนกลับมาเอาก็แค่นั้น เขาคงไม่มีค่าพอที่จะให้นายนี่ย้อนกลับมาด้วยใจ ดูเอาเถอะมาถึงก็ชักสีหน้าเหมือนเขาทำอะไรผิดนักหนา
“โกรธฉันเหรอ” ศิระมองหน้าคนถาม ถ้าเป็นเมื่อก่อน นายนี่อาจโดนสวนกลับไปแล้ว แต่ตอนนี้ ทำแบบนั้นไปก็เท่านั้น ศิระจึงใช้ความนิ่งสยบอารมณ์ พฤกษ์กับเขาที่มาที่ไปมันต่างกัน มันก็ไม่แปลกถ้าพฤกษ์จะรู้สึกว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าเขาและคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ แค่ได้เดินคู่กันมันก็บุญแค่ไหนแล้วสำหรับเขา
“ฉันมีสิทธิโกรธนายด้วยเหรอ”
“ทำไมพูดแบบนี้ อารมณ์คนเรามันก็มีเท่ากันทุกคนนะ ถ้าเมื่อกี้ฉันพูดแรงไปหรือทำอะไรขัดใจ ฉันก็ขอโทษ”
“คิดดูอีกที ช่องว่างระหว่างเรามันก็เยอะจนเติมยังไงมันก็เติมไม่เต็ม แค่นี้เราสองคนก็จะไปกันไม่รอดอยู่แล้ว ฉันจะไม่โกรธนายเลยนะพฤกษ์ถ้าตอนนี้นายจะบอกฉันว่านายไม่อยากที่จะเสียเวลากับฉันอีก เราคงเป็นเส้นขนานกันแล้วล่ะ คิดว่าต่างคนต่างเดินมันจะดีกว่าหรือเปล่า บางทีฉันก็ไม่เข้าใจว่าฉันทำอะไรอยู่ มันตลกเกินกว่าที่จะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง” ศิระระบายในสิ่งที่ตัวเองแอบคิดตอนนั่งอยู่คนเดียว เขาคิดว่ายังไงรักของเขาครั้งนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ด้วยเหตุผลร้อยแปดที่เขาไม่อยากคิดก็ต้องคิด แวบแรกที่คิดจะลองอดทนดูแต่เมื่อยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเจอทางตัน ตัดใจตอนนี้น่าจะยังไม่สาย
“เลิกคิด และก็เลิกพูดแบบนี้นะศิระ” พฤกษ์เอ่ยห้าม รู้สึกใจกระตุกอย่างประหลาด ละอายที่ศิระจะถอยออกจากชีวิตเขาเพราะความไม่เท่ากันของวิถีสังคม ที่ผ่านมามีแต่คนวิ่งเข้าหาเขา น้อยคนที่จะคิดแบบนี้ เขาคงจะผิดอย่างไม่น่าให้อภัยถ้าไปตอกย้ำรอยแผลที่ศิระสร้างให้ตัวเอง เขาน่าจะทำให้ศิระรู้สึกว่าตัวเองมีค่าสำหรับคนอื่น ที่ผ่านมาเขาใจดำคิดทำร้ายคนๆนี้ได้ยังไงนะ
“ปะ เดี๋ยวพาไปหาอะไรกิน เลิกคิดที่จะไปจากชีวิตฉันได้เลย ฉันไม่ยอมให้นายไปไหนทั้งนั้น”พูดจบ มือที่ว่างของพฤกษ์ก็เอื้อมไปกุมมือคนที่กำลังหวาดระแวง เขาบีบมือนั้นเบาๆเหมือนย้ำให้เจ้าตัวเลิกหวาดกลัว……………
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 20/12/07 Chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 20-12-2007 01:08:04
พฤกษ์นั่งมองคนที่กำลังจัดการกับชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าอย่างใช้ความคิด ศิระนิ่งเงียบมาตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกันกับเขา ถ้าเขาไม่ถามว่าเจ้าตัวจะกินอะไร เขาคงต้องขับรถรอบเมืองอย่างไม่มีจุดหมายเป็นแน่ เขาไม่กล้าที่จะปล่อยให้ศิระแยกจากเขาไปในสภาพแบบนี้ เขากลัวในสิ่งที่ศิระพูดตั้งแต่ตอนก่อนจะออกมา เขาคงเริ่มแคร์คนๆนี้แล้วสินะ
“มองอะไร” ศิระเอ่ยถามเมื่อจัดการกับอาหารโปรดเรียบร้อย เขาเลือกร้านที่เป็นรถเข็นริมถนนเมื่อพฤกษ์ถามว่าเขาจะกินอะไร เขาไม่ได้ขอร้องให้พฤกษ์นั่งเป็นเพื่อนและก็ไม่ต้องการด้วยซ้ำ เพราะเชื่อว่าพฤกษ์คงปล่อยเขาลงคนเดียว แน่ล่ะ ร้านแบบนี้มันเหมาะกับนายนั่นซะเมื่อไหร่ แต่แล้วเด็กหนุ่มก็แปลกใจเมื่อพฤกษ์ขับรถวนหาที่จอดและก็ตามเขามาแต่ก็ไม่ยอมสั่งอะไร เป็นเขาที่ต้องสั่งน้ำเปล่าๆมาให้ แต่ก็ใช่ว่าพฤกษ์จะแตะ มันมาสภาพยังไงตอนนี้มันก็อยู่แบบเดิมถ้าไม่นับน้ำแข็งที่ละลายจนหมด
“อิ่มแล้วเหรอ” พฤกษ์ไม่ตอบคำถามแต่กลับถามกลับ ศิระจึงพยักหน้ารับแต่ท่าทีสีหน้าก็ยังนิ่งเฉยจนคนถามต้องถามคำถามใหม่
“ยังไม่เลิกคิดอีกเหรอ”
“คิดอะไร”
“เรื่องของเราไง”
“ทำไมเหรอ มันไม่มีอะไรจะต้องคิดแล้วนี่”
“หมายความว่าไง”
“แค่นี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่านายกับฉันคงไปกันไม่รอดหรอก”
“นายวัดจากอะไร” ศิระเงียบมองสบตาคนถามก่อนจะใช้สายตาตัวเองมองไปยังแก้วน้ำที่ไม่มีใครสัมผัส เพียงแค่นั้นพฤกษ์ก็เข้าใจความหมาย นายนี่คิดไปถึงไหนต่อไหน เขาไม่ได้ถือตัวขนาดที่จะกินน้ำตามร้านแบบนี้ไม่ได้ ที่ไม่แตะก็มัวแต่คิดเรื่องของนายน่ะแหละ  พฤกษ์ไม่รอให้ศิระคิดไปไหนได้ไกลอีก เด็กหนุ่มคว้าแก้วน้ำขึ้นมายกดื่มรวดเดียวจนหมดแก้วก่อนจะวางลงต่อหน้าคนที่มองเขานิ่งๆ ก่อนจะบอก
“พอใจยัง หรือจะสั่งอะไรมาให้ก็ได้นะ เดี๋ยวฉันจะกินให้ดูตรงนี้แหละ”
“ทำไมต้องประชดด้วย” ศิระถาม นึกย้อนกลับไปตอนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารที่เขาโดนคนๆนี้ฉีกหน้าก็นึกเคืองขึ้นมา ถ้าเขาจะเอาคืนบ้างมันจะรู้สึกอายบ้างหรือเปล่ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้
“ใครประชด ก็นายคิดอะไรอยู่ล่ะ ฉันแค่ทำให้นายเห็นว่าฉันมันก็คนธรรมดาเดินดินคนหนึ่งเหมือนกัน” พฤกษ์เถียง รู้ว่าจิตใจของศิระตอนนี้คงกำลังสับสนกับตัวตนของเขา ขนาดเขาเองยังสับสนกับตัวเอง อารมณ์ที่เคยนึกจะแกล้งมันหายไปหมดสิ้น ยิ่งเห็นศิระซึมเขาก็ยิ่งนึกโทษตัวเองกับเหตุการณ์ที่เขาทำให้ศิระต้องอาย ถ้าเป็นเขาที่โดนแบบนั้นบ้างเขาก็คงไม่ต่างจากคนตรงหน้าตอนนี้นักหรอก ตอนนี้อะไรที่จะเติมช่องว่างที่เหลืออยู่ให้เต็มเขาก็พร้อมจะทำ ก่อนที่ศิระจะคิดอะไรไปไกลเกินกว่าที่เขาจะกู่กลับ อย่างน้อยๆศิระก็ยังไม่รู้ว่าการทำดีที่ผ่านมาเป็นการเสแสร้งแกล้งทำของเขา ถ้าเขาจะเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองตอนนี้มาทำดีกับคนๆนี้จริงๆ มันก็คงจะยังไม่สายไป ก็ไม่รู้ล่ะ ถ้าศิระยังไม่กลับมาเป็นคนที่พร้อมจะวีนเขาได้ทุกเมื่ออย่างที่เคย เขาก็จะไม่ยอมให้คนๆนี้ไปไหนทั้งนั้น
“มันดึกแล้ว นายกลับไปเถอะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” ศิระเอ่ยในสิ่งที่คนฟังไม่อยากได้ยิน เขาจึงได้รับคำตอบที่สวนกลับทันควัน
“ไม่อ่ะ ถ้านายเป็นแบบนี้อยู่ ฉันก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“ถ้างั้น นายก็คงอยู่กับฉันทั้งคืนแล้วมั้ง”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้านายไม่ไล่ฉัน”
“อย่าเสียเวลากับฉันดีกว่าพฤกษ์ อย่าให้ฉันสงสารตัวเองไปกว่านี้เลยนะ”
“ทำไมนายชอบพูดแบบนี้ มันอะไรนักหนา นายมีร่างกาย มีเลือดเนื้อ มีสมอง แล้วทำไมต้องดูถูกตัวเองด้วย”
“ตอนเราเจอกันครั้งแรกนายคิดแบบนี้หรือเปล่า” พฤกษ์ชะงัก หวังว่าศิระคงไม่จำทุกคำพูดของเขาไว้หรอกนะ
“มันผ่านมาแล้ว นายจะรื้อฟื้นทำไมอีก” ศิระเงียบบ้าง เขาไม่ได้ต้องการรื้อฟื้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยมันขึ้นมา
“อย่าพยายามปิดตัวเองเลยนะศิระ ฉันอยากให้นายเป็นนายคนเดิมได้มั๊ย”
“คนไหนล่ะ คนที่ไม่ยอมให้นาย หรือคนที่เชื่อนายทุกคำพูด นายคิดว่าคนไหนที่นายจะหลอกได้ง่ายที่สุด”
“ถ้านายพูดแบบนี้อีก ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ฉันจะรั้งนายไว้แล้วล่ะศิระ เพราะนายคงไม่เชื่อใจฉันง่ายๆ”
“ไม่ใช่เพราะฉันรู้ทันหรอกเหรอ ว่าจริงๆนายคิดยังไง”
“ศิระ ทำไมนายพาลแบบนี้ นี่นายไม่เชื่อใจฉันจริงๆใช่มั๊ย”
“เชื่อก็โง่ล่ะ”
“ศิระ” พฤกษ์ครางออกมาเบาๆ ศิระคิดทันในสิ่งที่เขาเคยคิดทำหรือแค่แกล้งทดสอบเขากันแน่ มันต้องพิสูจน์กันหน่อยล่ะ พฤกษ์แกล้งผลุนผลันจะลุกหนีจากคนที่เขากำลังนึกหวั่นใจ แต่แล้วหัวใจก็ยิ้มออกมาได้เมื่อ มืออุ่นๆของศิระคว้าหมับเข้าที่มือเขาไว้ก่อนจะพูดด้วยท่าทีตกใจ
“นายจะไปจริงๆเหรอพฤกษ์”
“นายต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ฉันขอโทษ ฉันกำลังสับสน” พฤกษ์ถอนหายใจ ในที่สุดศิระก็ไม่รู้อะไร ขอเวลาเถอะน่า ขอเวลาให้เขาแก้ตัวในสิ่งที่ทำให้คนๆนี้ต้องสับสน



ติดตามกันต่อไปให้ดีนะ สนุกขึ้นเรื่อยๆแล้ว

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 20/12/07 Chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-12-2007 11:08:18
อ่ะ โจรจะกลับใจอย่างนั้นเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 20/12/07 Chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 20-12-2007 11:15:44
 :m4: :m4: :m4:

เลิกแกล้งศิระซะที  รึเปล่า?



จะมีอะไรทำให้เปลี่ยนไปเป็นโหมดร้ายเหมือนเดิมมั้ยเนี่ย   :m29:

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 20/12/07 Chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 20-12-2007 12:23:16
กลับบบใจได้แปป เดี๋ยวก้อเปงอีกกกกกกก......เจอเพื่อนยุก้อแกล้งงงง ศิระอีกกก ชัวร์  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 20/12/07 Chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: Red....[em] ที่ 21-12-2007 19:42:09
หงืมๆๆ...


พฤกษ์จะใจอ่อนได้ตลอดรอดฝั่งปล่าวง่า...?

จะไม่คิดเกลียด หรือโกรธชิงชังไรอีกแล้วใช่ม้า...?

ละ...แล้ว ศิระกำลังคิดทำไรอยู่เนี้ย...?



แง่งงงงงง

กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซ

(บ้าบอได้อีกซิตรู)
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 20/12/07 Chapter 10
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 21-12-2007 20:08:45
ไม่เชื่อใจพฤกษ์น่ะ  o12
ทำไมต้องมาหลอกกันด้วย เป็นผีรึไง:serius2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 23-12-2007 00:11:29
มาดูการตัดสินใจของศิระกัน

ดูสิว่าศิระจะตัดสินใจถูกหรือผิด

++++++++++++++++++++

#11

“ มึงว่าไงนะพฤกษ์ “ ปอนด์ทุบโต๊ะดังปังก่อนจะใช้สายตาหันขวับมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ไอ้เพื่อนจอมเล่นตัวของเขากำลังจะตกลงลองคบใครคนหนึ่งเพื่อดูใจ เขาจะไม่ใจหายขนาดนี้ถ้าชื่อของคนที่หูได้ยินเมื่อครู่ไม่ใช่ ศิระ
“มึงจะบ้าเหรอไอ้พฤกษ์ มึงเอาสมองส่วนไหนคิด ที่จะเอาไอ้กุ๊ยนั่นมาเป็นภาระให้มึงดูแล” เด็กหนุ่มโวยใส่เพื่อนเมื่อฝ่ายนั้นพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
“มึงเลิกเรียกศิระว่ากุ๊ยได้แล้วไอ้ปอนด์” พฤกษ์เอ่ยขึ้นเสียงดุหวังเพียงให้เพื่อนนึกเกรงบ้าง เขาเอาเรื่องนี้มาบอกก็แค่อยากให้เพื่อนรับรู้ไม่ใช้มาออกความเห็นแบบนี้ แต่ปอนด์นี่สิไม่ได้แค่ไม่รับรู้เฉยๆแต่เจ้าตัวถึงกับชี้หน้าเขากลับพลางต่อว่าอีกเป็นกระบุงโกย
“มึงมันบ้าแล้วพฤกษ์ คนดีๆที่เหมาะกับมึงทำไมมึงไม่รู้จักมอง ไปมองทำไมกับไอ้คนที่มันไม่มีอะไรดีเลยซักอย่าง กูไม่เข้าใจมึงเลยจริงๆ คบกันมานานกูเห็นมึงโง่ก็วันนี้แหละ”
“มึงจะด่ากูกูยังไงก็สายไปแล้วล่ะปอนด์ เพราะกูตกลงคบกับศิระเรียบร้อยแล้ว”
“แล้วเมษาล่ะ มึงจะเก็บมันไว้ที่ไหน”
“ทุกอย่างก็เหมือนเดิม มันมีอะไรต้องเปลี่ยนเหรอ”
“มึงก็รู้ว่าเมษามันรักมึง”
“แล้วไง จำเป็นด้วยเหรอที่กูต้องรักตอบ”
“ถึงมึงไม่รักตอบ แต่มึงหาใครที่มันมีอะไรดีๆ พอที่จะทำให้เมษามันตัดใจจากมึงได้มากกว่าไอ้ศิระไม่ได้หรือไง”
“กูเคยคิดเรื่องนี้แล้วแต่กูว่ามันไม่เกี่ยว ถ้ากูมัวแต่แคร์จิตใจคนอื่น กูจะกล้าตัดสินใจอะไรๆได้ยังไง”
“หมายความว่ามึงไม่คิดที่จะแคร์คนที่รักและรอมึงอย่างเมษาเลยงั้นสิ”
“กูเชื่อว่าซักวันเขาต้องเจอคนที่ดีกว่ากู”
“มันเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเลยนะพฤกษ์”
“แล้วไง มึงจะให้เมษาหมดรักกูก่อนหรือไง กูถึงจะสามารถคบใครได้ ทั้งๆที่กูกับเขาก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“มึงก็รู้ว่าเมษาไม่มีทางหมดรักมึง”
“มึงรู้ใจเขาได้ไง มึงไปนั่งในใจเขาเหรอ คนมันเที่ยวบ่อยขนาดนั้น”
“นี่มึงกำลังดูถูกเพื่อนกูนะ”
“ก็อย่างที่มึงดูถูกศิระไง”
“ไอ้นั่นเป็นใคร เมษาเป็นใคร มึงเอามาเทียบกันได้ไง”
“มึงเลิกเอาสองคนนี้มาเปรียบเทียบกันเถอะยังไงมึงก็เปลี่ยนใจกูไม่ได้ ศิระอาจโชคร้ายที่เกิดมาแล้วต้องดิ้นรนด้วยตัวเอง ไม่ต้องอยู่อย่างคนไม่เดือดร้อนเหมือนมึง กู หรือเมษา แต่ในความเป็นคนเหมือนกัน ศิระยังไม่เคยดูถูกใคร หรือนินทาใครให้กูได้ยิน”
“มึงมั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอ มึงรู้จักมันนานแค่ไหนกันเชียว”
“เวลามันใช้วัดอะไรๆ ไม่ได้เสมอไปหรอก”
“ถ้างั้นที่ผ่านมามึงก็หมายความว่า เมษาเป็นคนไม่ดีในสายตามึงน่ะสิ เที่ยวเก่ง ดูถูกคน เป็นคนไม่เอาไหนงั้นสิ”
“กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
“ก็มึงเพิ่งพูดไปหยกๆ”
“มึงตีความเอาเองต่างหาก”
“มึงอย่าแกล้งเป็นคนดีต่อไปเลยพฤกษ์ ในเมื่อมึงไม่เลือกเมษา มึงก็ควรจะยอมรับว่ามึงมองเพื่อนกูเป็นอย่างที่กูว่าจริงๆ”
“ถ้างั้นก็สุดแต่มึงจะคิด”
“กูคิดไปมันก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคนเสียใจที่มึงคิดแบบนี้ คือเจ้าตัวเขาต่างหากล่ะ”
“ถ้ามึงตีความหมายจากคำพูดก็แบบนั้นแล้วเอาไปบอกเมษากูก็ห้ามไม่ได้ที่จะไม่ให้เขาเสียใจ”
“ถึงกูไม่บอก มันก็รู้หมดทุกอย่างแล้วล่ะตอนนี้”
“หมายความว่าไง”
“เมษา อยู่ข้างหลังมึง” การสนทนาหยุดลงชั่วครู่ พฤกษ์ถึงกับใจหาย เด็กหนุ่มหันไปมองด้านหลังแทบจะทันที เมษากำลังยืนหน้าซีดอยู่อย่างที่ปอนด์บอก
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ เมษา” เด็กหนุ่มรีบรีบถาม ถ้าตาไม่ฝาดเขาเห็นตาคนตรงหน้าเริ่มแดงอย่างชัดเจนก่อนที่เจ้าตัวจะฝืนยิ้มพูดกับเขา
“ก็ นานเหมือนกันครับ”
“นัดปอนด์ไว้เหรอครับ” พฤกษ์ถามต่อ เมษาหน้าซีดเผือดจนเขาทำตัวไม่ถูก สิ่งที่เขาเอ่ยเมื่อครู่คงเข้าไปในหูของเด็กหนุ่มคนนี้แล้ว บ้าชะมัด
“ไม่นัดกูแล้วจะนัดใคร นัดมึงมึงเคยว่างให้มันมั๊ย” ปอนด์กระแทกเสียงใส่ หวังให้เพื่อนรู้จักสำนึกในสิ่งที่ทำกับคนที่รักตัวเองข้างเดียวซะบ้าง พฤกษ์ผ่อนลมหายใจ ใช่ว่าเขาจะรู้สึกผิดอะไรมากมาย เพราะไม่ได้มีใจให้เมษาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่นึกเสียใจที่ปอนด์ตีความหมายในคำพูดเขาแรงไปให้คนตรงหน้าได้ยิน เมษาคงเสียใจไม่น้อยเพราะสภาพที่เห็นเหมือนคนกำลังช๊อคอะไรซักอย่าง แล้วก็ฝืนทำตัวเองให้ปกติ แต่มันปิดมิดซะเมื่อไหร่ล่ะ
“พอดีผมกับไอ้ปอนด์ว่าจะไปต่างจังหวัดกันสัปดาห์หน้าน่ะครับ เพื่อนที่มหาลัยเขาชวนไปกัน ก็เลยว่าจะหาซื้อของที่ต้องเตรียมน่ะครับ” เมษาตอบปอนด์เลยสานคำพูดให้
“ตอนแรกพวกกูกะจะชวนมึงไปด้วยเพราะเป็นการเที่ยวเฉพาะกลุ่มไม่เกี่ยวกับมหาลัยแต่ตอนนี้กูเปลี่ยนใจแล้วว่ะพวกกูคงเป็นหมาหัวเน่าสำหรับมึงแล้ว”
“ทำไมพูดอย่างนี้วะ ยังไง มึงก็ยังเป็นเพื่อนกู หัดแยกแยะบ้างสิว” พฤกษ์ตัดพ้อ การที่เขาจะคบศิระมันผิดขนาดนั้นเลยหรือไง
“เพื่อนโง่ๆ อย่างมึงกูไม่อยากจะคบต่อไปหรอกว่ะ” ปอนด์ว่าเข้าให้อย่างไม่เกรงใจ เมษาจึงต้องรีบเอ่ย
“มึงอย่าพาลเป็นเด็กสิวะไอ้ปอนด์”
“หมายความว่าไงเมษา”
“มึงไม่ควรพูดแบบนี้กับเพื่อนที่คบกันมานานเพราะรื่องไม่เป็นเรื่องนะ”
“นี่อย่าบอกนะว่ามึงยอมเข้าใจ และยอมรับในสิ่งที่มึงได้ยินได้”
“ทำไมล่ะ สิ่งที่พฤกษ์พูดมันก็ถูกต้องแล้วนี่ ใช่มั๊ยครับพฤกษ์” ประโยคท้ายเมษาหันมาถามคนที่ยืนทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นสองหนุ่มที่ซี้กันกำลังประทะคารมกันเพราะเขา
“พูดไม่ออกอ่ะดิมึง โธ่เอ้ย ไม่แน่จริงนี่หว่า” ปอนด์แขวะขึ้น
“มึงเลิกพูดก่อนปอนด์” เมษาสั่งเพื่อน แล้วมองพฤกษ์
“อย่าลำบากใจเลยนะครับพฤกษ์ ถ้าจะคุณคบกับใครจริงๆผมก็ไม่มีสิทธิห้าม ผมยังยืนยันคำเดิมว่าผมยังรู้สึกดีกับคุณ ลองคบคนอื่นดูก็ได้ ถ้าคิดว่าผมไม่ดีพอสำหรับคุณ ที่คุณพูดมาทั้งหมดก็ถูก ผมเที่ยวเก่ง ดูแลตัวเองไม่ได้ ยังเป็นภาระของครอบครัวอยู่ ถ้าเลือกได้ผมก็อยากจะเป็นคนที่ทำตัวมีค่าอย่างศิระ เผื่อคุณจะได้มองผมในแง่ดีบ้าง”
“ผมไม่ได้มองอะไรลึกขนาดนั้นนะครับเมษา ผมขอโทษ ถ้าสิ่งที่ผมพูดไปมันทำให้คุณเสียความรู้สึก”
“เปล่าเลยครับ ผมไม่เสียความรู้สึก ผมกลับดีใจด้วยซ้ำที่เห็นคุณไม่โลเล ทำตามสิ่งที่คุณคิดแหละครับดีแล้ว ผมรักคุณ คุณไม่จำเป็นต้องรักผมตอบ มันถูกแล้วล่ะครับ ผมคงเรียกร้องอะไรไม่ได้ เวลามันจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเองอย่างที่ปอนด์บอก ผมคงไม่หมดความรู้สึกดีๆไปจากคุณง่ายๆหรอกนะครับ แค่คุณให้ผมเป็นเพื่อนที่สามารถโทรหาคุณตอนดึกๆแบบเดิมได้ผมก็มีความสุขแล้วล่ะครับ”
“เมษา คุณก็เหมือนไอ้ปอนด์ เรายังเป็นเพื่อนกันครับ ผมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย คุณทำตัวเหมือนเดิมได้ตามสบายครับ” เมษายิ้มบางๆรับคำบอกของคนตรงหน้า เขาทำให้พฤกษ์รู้สึกผิดขึ้นมาได้ อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น นี่ถ้าเขาโวยวายไม่พอใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ความสัมพันธ์ของเขากับพฤกษ์ อาจขาดสะบั้นลงได้ ดีนะที่ไหวตัวทัน ใช้มารยาให้เป็นประโยชน์ ใครบอกว่าเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่มีคุณสมบัตินี้ติดตัวมา ศิระ ก็ศิระ เถอะ ยากหน่อยนะที่เขาจะยอมหลีกทางให้ใครที่ไม่ใช่เขาได้ใกล้ชิดคนที่มีพร้อมทุกอย่างอย่างพฤกษ์
“ถ้าอย่างนั้น พฤกษ์ไปเที่ยวกับเรามั๊ยครับ ไปขึ้นดอยทางเหนือกัน เปิดหูเปิดตา พาศิระไปด้วยก็ได้นะครับ” เมษาเอ่ยชวน ภาวนาให้พฤกษ์ตอบตกลง และถ้าลากมารหัวใจอย่างศิระไปด้วยได้เขาจะยิ่งขอบคุณพระเจ้า เพราะการไปเที่ยวครั้งนี้เป็นการไปเฉพาะกลุ่มจริงๆ ถ้านายนั่นไปก็เท่ากับว่ามันจะกลายเป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญทันที พฤกษ์จะมีเวลาปกป้องมันตลอดสัปดาห์ที่อยู่บนดอยก็ให้รู้ไปสิ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-12-2007 00:18:36
ไอ้เจ้าเมษาเนี่ยท่าทางร้าย  แล้วพฤกษ์จะเป็นพระเอกที่โดนเมษาปั่นหัวเล่นไม๊เนี่ย :m29:

แล้วศิระจะรอดไม๊เนี่ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 23-12-2007 00:30:08
“อย่าเสียเวลาน่ะเมษา มันคงอย่างสวีทกับสุดที่รักมันสองต่อสองจนใจจะขาด ต่อไปเราไม่ได้อยู่ในสายตามันหรอก” ปอนด์เอ่ยขึ้น ทนฟังอยู่นาน จะบ้าตาย เมษาหน้าร้อนกลายเป็นเมษาหน้าหนาวไปแล้วหรือยังไง คนรักกำลังจะถูกแย่งจากคนที่ไม่คู่ควร ยังจะชวนมันสองคนไปสวีทให้เห็นตำตาตำใจอีก ประสาทแล้วมั๊ยล่ะ
“ถ้ากูจะไปมึงจะเลิกแขวะกูได้มั๊ยไอ้ปอนด์” พฤกษ์หลุดปากตอบตกลงเพราะความหมั่นไส้เพื่อนซี้ที่เอาแต่แขวะเขาไม่จบไม่สิ้น ทั้งๆที่เขาไม่ค่อยชอบที่จะไปไหนไกลๆกับคนที่ไม่สนิทนัก ยิ่งเป็นเพื่อนกลุ่มของเมษากับปอนด์อีก คงสนุกตายล่ะ แต่ดูท่าเขาจะกลับคำลำบากเมื่อ เมษาแสดงท่าทีดีใจออกหน้าออกตา
“จริงเหรอครับพฤกษ์ ขอบคุณมาก ผมอยากไปต่างจังหวัดกับคุณมานานแล้วนะครับ”
“แต่ผมคงพาศิระไปด้วย คงไม่ว่านะครับ” พฤกษ์บอก แปลกใจที่เห็นอาการเมษาร่าเริงกว่าเดิม แต่ก็ดี เผื่อคำพูดแรงๆของเขาเมื่อครู่มันจะได้ถูกกลืนไปกับสถานการณ์
“กูไม่ให้ไอ้นั่นไป ถ้าจะไป มึงไปได้คนเดียว” ปอนด์กันท่า เพราะห่วงความรู้สึกเพื่อน แต่คนที่ถูกห่วงกลับหันมาว่าเขาซะเอง
“แล้วถ้ากูให้ไปล่ะ ไอ้ปอนด์”
“เมษา มึงคิดว่ามึงทำอะไรอยู่”
“ทำอะไร กูไม่ได้พาลอะไรเป็นเด็กๆเหมือนมึงนี่ เลิกพูดเถอะ พฤกษ์จะพาใครไปมันก็เรื่องของเขา มึงอ่ะ มากะกู ขอตัวนะครับพฤกษ์” พูดจบเมษาก็เดินไปลากแขนคนยืนงงไปอีกทางปล่อยให้พฤกษ์มองตามหลังเมษาเข้าใจอะไรง่ายกว่าที่เขาคิดมันทำให้เขารู้สึกดีกับคนๆนี้ขึ้นอีกหลายเท่าตัว

   พฤกษ์ เอ่ยบอกศิระเรื่องไปเที่ยวตามคำชวนของเมษาในตอนเย็นหลังศิระเลิกงานและออกมาเจอเขาตามปกติ อารมณ์ดีๆของศิระชะงักลงชั่วครู่เมื่อได้ยินสิ่งที่คนข้างตัวบอก เขานิ่งคิดก่อนจะเอ่ยถาม
“นายอยากไปเหรอ”
“ก็รับปากพวกมันไปแล้ว” พฤกษ์ตอบ น้ำเสียงของศิระเขาจับได้ทันทีว่าคนๆนี้คงไม่อยากไป ยิ่งศิระคาดคั้นเขาอีกเขาก็ยิ่งปักใจว่าศิระคงไม่พอใจกับการที่เขาชวนไปเที่ยวครั้งนี้แน่ๆ
“แล้วนายอยากไปหรือเปล่าล่ะ”
“จริงๆก็ไม่อยากไปอ่ะนะ แต่ก็รับปากพวกมันไปแล้ว”
“แล้วไปรับปากเขาทำไมล่ะ”
“ก็เพื่อนกัน พวกมันชวน ฉันเองก็ไม่ค่อยมีเวลาให้พวกมันเท่าไหร่ นานๆทีก็คิดว่าคงไม่เป็นไร”
“งั้นนายก็ไปคนเดียวดิ มาชวนฉันทำไม”
“พาลอีกล่ะ ก็ฉันอยากให้นายไปด้วย บอกสิว่านายจะไม่น้อยใจถ้าฉันไปโดยไม่ชวนนาย”
“ทำไมต้องน้อยใจ ไม่ใช่เด็กสามขวบ นายจะไปไหนมาไหน มันก็สิทธิของนายอยู่”
“เออ รู้ว่าเก่ง แต่คนเก่งเขาไม่ได้พูดประชดกันแบบนี้หรอกนะ”
“ใครประชดนาย”
“ก็นายไง”
“ฉันเปล่า”
“ปากแข็งอ่ะดิ ตกลงจะไปไม่ไป ไม่ไปจะได้บอกพวกมัน”
“หมายความว่าไง”
“ก็ถ้านายไม่ไป แล้วฉันจะไปทำไม”
“อย่าให้ฉันต้องเป็นภาระนายเลยพฤกษ์ นายจะไปก็ได้ฉันเข้าใจ เพราะจริงๆ ฉันก็มีงานที่ต้องทำ แถมเรียนก็ไม่เป็นเวลาอีก ยังไงพวกเขาก็เพื่อนนาย”
“เลิกพูดเถอะ บอกแล้วไง นายไม่ไปฉันก็ไม่ไป”
“อายุเท่าไหร่แล้วนายเนี่ย”
“ก็เท่านายน่ะแหละ”
“งั้นก็เลิกคิดอะไรที่มันไม่เป็นเรื่องได้แล้ว จะไปไหนจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องมารายงานฉันทุกเรื่องหรอกนะ”
“เออทำพูดดีเข้าไป เดี๋ยวจะหายไปซักสามวัน จะดูซิว่าจะทนได้กี่น้ำ”
“แต่ก่อนฉันก็อยู่คนเดียว หายเป็นชาติ ฉันก็ไม่ตามหานาย”
“ได้แฟนใจกว้างเป็นมหาสมุทร แล้วสิกู หาเศษ หาเลยซะดีมั้งเนี่ย”
“ก็ลองดิ คนเราคบกันแล้วไว้ใจกัน ไม่ได้ให้นอกใจกัน แยกแยะเป็นป่ะ”
“อะ อะ ยอมแพ้ แล้ว ขี้เกียจเถียงกะนายไว้จะบอกพวกมันแล้วกันว่าเราไม่ไป ถ้าจะไป ขอไปกันแค่สองต่อสอง” พฤกษ์ตัดบทเสร็จก็ทำท่าทางเจ้าเล่ห์ใส่คนที่ยืนอึ้ง ศิระไม่สบายใจที่ตัวเองทำให้พฤษ์ตัดสินใจห่างเพื่อนแบบนี้ ยังไงเขาก็มาทีหลัง ไม่ดีแน่ถ้าพฤกษ์จะเสียเพื่อนเพราะเขา
“ตกลงฉันจะลองลางานไปกะนายก็แล้วกัน ไม่ต้องไปปฏิเสธพวกเขาหรอก” ศิระบอกในที่สุด พฤกษ์หันมามองอย่างแปลกใจ แต่ก็ยอมรับว่าโล่งใจที่เขาไม่ต้องลำบากใจไปกลับคำกับเมษา คนที่เขาคิดว่ากำลังเสียใจกับคำพูดของเขาวันนั้น ถ้าเขาปฏิเสธคำชวนครั้งนี้ เมษาอาจเสียความรู้สึกไปมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ อย่างน้อยคนๆนี้ก็เคยมีความรู้สึกดีๆให้เขา อย่างที่ปอนด์บอก เขาหันมาคบศิระแบบนี้ เมษาคงรู้สึกแย่อยู่ไม่น้อย แต่ทำไงได้ล่ะ เขาได้สัญญากับตัวเองเอาไว้แล้วนี่ว่าจะไม่ทำให้ศิระ รู้สึกน้อยใจกับชีวิตตัวเอง แม้เขาจะยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าเขารักคนๆนี้แล้วหรือยัง แต่ศิระรักเขาแล้วแน่ๆล่ะ เขาดูออก ยังไงเขาก็ขอเวลาบ้างล่ะ ที่จะตอบหัวใจตัวเองได้อย่างชัดเจน ไม่คลุมเครืออยู่แบบนี้ ใช่ว่าเขาจะไม่คิดในคำพูดของปอนด์ เขาพร้อมที่จะรับศิระมาเป็นภาระดีขนาดไหน? คนรอบกายยังมีผลต่อจิตใจเขาอยู่ เขาเดินคู่ศิระแบบนี้ ยังไงใครๆก็ต้องมองเห็นความแตกต่างและช่องว่างที่เกิดขึ้นแน่นอน เวลาเท่านั้นล่ะมั้งที่จะทำให้ศิระถมช่องว่างขึ้นมาจนถึงเขา หรือเขาเองจะชินชากับสิ่งที่หายไป

   ศิระลางานไม่ได้อย่างที่ได้รับปากไว้กับพฤกษ์ เขาไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะหยุดงานต่อเนื่องได้ถึงหนึ่งสัปดาห์ เด็กหนุ่มลำบากใจอยู่ไม่น้อยที่บอกพฤกษ์ว่าตัวเองไม่สามารถไปเที่ยวครั้งนี้ได้ ยิ่งใกล้วันเดินทางพฤกษ์ก็ยิ่งชวนเขาไปซื้อของที่จำเป็นต้องใช้โดยไม่ถามเขาซักนิดว่าเขาลางานได้อย่างที่บอกหรือไม่ พฤกษ์ทำราวกับว่าเขาจะสามารถไปไหนมาไหนได้ตามสะดวก หรือพฤกษ์จะลืมไปว่าสถานะความเป็นอยู่ของเขาไม่ได้ทำอะไรง่ายๆอย่างใจนึก
“เป็นอะไรไปศิระ ท่าทางเหมือนกลุ้มใจเลย” พฤกษ์หยุดถามคนที่เดินเนือยๆตามหลังเขาเมื่อสังเกตเห็นมานานว่าเจ้าตัวเหมือนคนเหม่อๆ
“เปล่า ไม่มีไร แค่เหนื่อยนิดหน่อย” คนโดนถามบอกปัด เพราะหาคำพูดเริ่มต้นที่จะปฏิเสธอย่างที่ใจคิดไม่ได้
“งานหนักเหรอ” พฤกษ์เอื้อมมือปัดไรผมคนบอกบอกเหนื่อย เพราะคิดว่าเจ้าตัวคงจะเหนื่อยจากงานมาจริงๆ
“ก็นิดหน่อย” ศิระตอบยิ้มๆ
“พักบ้างนะอย่ามัวแต่บ้างาน อย่าลืมนะว่าหน้าที่นายจริงๆคือเรียนให้จบ”
“ทำไงได้ ไม่ได้เกิดมาสบายเหมือนนายนี่”
“ไม่เกี่ยว ฉันว่านายเลือกที่จะเป็นแบบนี้เองต่างหากล่ะ”
“หมายความว่าไง”
“ลองคุยกับที่บ้านดูหรือเปล่า บางทีพวกเขาอาจรอนายอยู่ก็ได้นะ อย่าทำเป็นคนไม่มีใครไปหน่อยเลย”
“พูดไปนายก็ไม่เข้าใจ อย่าพูดถึงพวกเขาเลยดีกว่า”
“ก็เป็นซะแบบนี้ แล้วก็มานั่งน้อยใจตัวเองอีก นายนี่มันรั้นจริงๆ”
“ช่างเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ” พฤกษ์เงียบเมื่อศิระเริ่มอาการไม่ดี ถ้าคนๆนี้ได้ความอบอุ่นจากครอบครัวบ้างก็คงจะไม่ก้าวร้าวอย่างที่เขาเคยเจอตอนแรก





อย่าเพิ่งปาดกันดิยังลงไม่เสร็จเลย

เนตเต่าอ่ะ ทำอย่างอื่นด้วยT^T
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 23-12-2007 00:43:16
อ่านแล้ว ดูท่าทางเรื่องนี้คงไม่หยุดฟาดฟันกันง่ายๆแน่
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 23-12-2007 00:48:47
“แล้วลางานเป็นไงบ้าง” ศิระหายใจคล่องขึ้นเมื่อพฤกษ์เอ่ยถามเขาในที่สุด มันเป็นสิ่งที่เขาอยากบอกอยู่แล้วเลยไม่อ้ำอึ้งที่จะเอ่ย
“ลาได้แค่สามวัน”
“สามวัน ไปเหนือ เนี่ยนะ” พฤกษ์โพล่งปากอย่างตกใจ พลอยทำให้ศิระอึดอัดขึ้นมาใหม่ จึงรีบอธิบาย
“ที่จริงฉันไม่ไปก็ได้นะ นายไปคนเดียวจะดีกว่าหรือเปล่า”
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกล่ะ พวกนั้นเขาเซ็ตคนหาที่พักกันเรียบร้อยแล้ว”
“ก็ฉันไม่รู้ มันลาไม่ได้จะให้ทำไงเล่า”
“ลาออก”
“หา นายว่าไงนะ” ศิระร้องถามเมื่อได้ยินสิ่งที่พฤกษ์เอ่ยออกมาอย่างหน้าตาเฉย
“ก็ลาออกไง ทำทำไมงานแบบนั้น ลาแค่สัปดาห์เดียวไม่ให้ จะทนให้เขาโขกสับอยู่ทำไม”
“นายไม่ลำบากนายก็พูดได้ดิ ขืนฉันลาออกตอนนี้ ฉันก็อดตายกันพอดี เรียนก็ยังเรียนไม่จบ จะไปทำอะไรที่ไหนได้”
“มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ก็ลองอยู่ตัวคนเดียวดูมั๊ยล่ะ”
“เอาล่ะๆ ฉันเข้าใจ แต่ยังไงนายมาปฏิเสธตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันลงตัวหมดแล้ว สรุปคือนายต้องไป”
“เฮ้ย เข้าใจกันบ้างสิวะ บอกลางานไม่ได้ไง” ศิระขึ้นเสียงเมื่อพฤกษ์ไม่ยอมเข้าใจในภาระของเขา
“แล้วไง ตอนแรกฉันก็จะปฏิเสธไปแล้ว แต่นายเองไม่ใช่เหรอที่ห้ามไว้ แล้วมากลับคำตอนนี้ ไม่บอกวันเดินทางซะเลยล่ะพ่อคุณ” พฤกษ์ย้อนกลับบ้าง เขายอมรับว่าเขาไม่เข้าใจสังคมคนทำงาน อย่างเขาจะไปไหนก็ต้องไป ไม่ต้องมีเรื่องให้พะวงแบบนี้ก็เลยหงุดหงิดกลับสิ่งที่ต้องเจอ
“จริงๆ ฉันก็ไม่ได้สนิทกะใคร ฉันไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปก็ได้”
“ก็ฉันไง นอกจากไอ้ปอนด์แล้ว ฉันก็ไม่ได้สนิทกับใครเลยเหมือนกัน ถ้าลาไม่ได้ก็ลาออกซะ ถ้าตกงานแล้วมันลำบากมากนักก็บอกอีกเทอมเดียวนายก็จะเรียนจบแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันคงพอช่วยได้ หางานใหม่ได้เมื่อไหร่ค่อยมาว่ากันอีกที”
พูดจบพฤกษ์ก็เดินหนีโดยไม่รอฟังคำคัดค้านใดๆจากศิระที่ยืนสับสนไม่รู้ว่าจะเลือกหนทางไหนดีนั่นก็งาน นี่ก็คนรัก ทำไมคนเรามันต้องได้อย่างเสียอย่างด้วยไม่เข้าใจ

   “หา มึงจะลาออก” โก๋ตาโตถามศิระทันที ที่เขาเอาเรื่องที่เขาจะออกจากงานที่ทำอยู่มาบอก
“เออ พรุ่งนี้กูคงไม่มาแล้ว” ศิระตอบ นึกใจหายอยู่เหมือนกัน ถ้าการตัดสินใจครั้งนี้ผิดพลาด ชีวิตเขาจะเดินไปทางไหนยังไม่รู้ ทำแบบนี้มันเท่ากับเอาชีวิตไปแขวนอยู่กับคนอื่นชัดๆ ทั้งๆที่เคยอยู่ได้ด้วยตัวเองมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาพฤกษ์ก็ทำให้เขาเริ่มเชื่อใจได้บ้าง ลองเดินบนเส้นด้ายซักหนมันคงไม่เท่าไหร่ ตกลงมาไม่ตายก็แค่เจ็บ แต่พฤกษ์คงไม่ยอมให้เขาเป็นแบบนั้นหรอกมั้ง
“คิดดีๆนะโว้ย เรียนก็ยังเรียนไม่จบนะมึง ออกไปแบบนี้ เกิดเทอมนี้มึงไม่จบอย่างที่ตั้งใจ จะแย่เอานะ” โก๋เตือนสติ มันเป็นข้อเตือนที่ศิระไม่หวั่นเท่าไหร่ เขามั่นใจว่ายังไงซะเขาจะจบชีวิตนักศึกษาภายในเทอมนี้ให้ได้อยู่แล้ว ก็เลยเฉยๆ
“ขอบใจว่ะที่เตือน แต่กูตัดสินใจแล้ว กูเคยบอกมึงแล้วนี่ว่ากูจะไม่ยอมอยู่แบบนี้ไปจนตายหรอก” คนมั่นใจตบไหล่เพื่อน แต่ฝ่ายนั้นก็ยังอดห่วงไม่ได้
“มึงไปดีกูก็ดีใจด้วย แต่ถ้ามึงไปแล้วเจอทางตัน มันจะจบไม่สวยนะโว้ย กับชีวิตที่มึงสู้มาตั้งนาน”
“เอาน่า ในเมื่อกูเลือกที่จะเดินแล้ว ถ้ามันผิดพลาดกูก็จะถือว่ามันเป็นบทเรียนแล้วกัน”
“แล้วถ้าบทเรียนนี้มันไม่มีข้อสอบให้แก้ตัวล่ะ”ศิระอึ้ง นั่นสินะ ชีวิตไม่ได้เหมือนข้อสอบถ้าเขาก้าวพลาดไปในครั้งนี้ อนาคตเขาจะเป็นยังไง
“มึงยังคิดและตัดสินใจใหม่ได้นะศิระ ถ้ามึงเรียนจบกูจะไม่ห้ามมึงเลยซักคำ ชีวิตที่ผ่านมา มึงต้องฝ่าอะไรมาบ้าง แล้วจู่ๆจะมาเสี่ยงตอนท้ายเรื่องทำไม เกิดพลาดขึ้นมา ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวนะโว้ย” เพื่อนซี้ยังย้ำเจตนาเดิมเพื่อเตือนสติคนสับสน แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นผล เมื่อศิระยึดมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง
“มึงเป็นเพื่อนที่ดีมากไอ้โก๋ แต่กูมันคนรั้นมึงก็รู้ ว่ากูไปไม่รอดจริงๆ กูจะนึกถึงมึง”
“เออ กูต้อนรับมึงทุกเมื่อศิระ” สองหนุ่มกอดคอกันกลม ก่อนที่ศิระจะแยกจากไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่โก๋ไม่มั่นใจว่าเขาจะเห็นมันจากเพื่อนคนนี้อีกเมื่อไหร่  จากนี้ไป เส้นทางที่ศิระเลือกเดิน เขาภาวนาให้ฟ้ามอบความสุขที่แท้จริงให้คนๆนี้เสียที


ต่อไปจะเป็นยังไงติดตามกันได้ในตอนหน้านะ


เพิ่งจะสังเกตุแฮะว่าคุณfc_uk เป็นเด็กลุงโยด้วย หุหุหุ

เราเองก็เด็กเจร๊อคคนนึงเหมียนกัน ตั้งแต่รุ่น X-japan ครือกาน

ว่าแล้วก็คิดฮอดป๋าเดะ   เรายังไม่ได้ฟังS.K.I.N ของลุงโยเลยสักครั้ง เพราะช่วงนี้ไม่ได้โหลดไรเลย

ไว้จะลองไปหาฟังเสียงไอ้มิดูหน่อย  


ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะครับที่ติดตามกันมาอย่างเหนียวแน่น


ปาดกันอีกแระ  :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 23-12-2007 01:18:14
เริ่มเห็นความเศร้ามาลางๆ  :m29:
รื่องนี้
ศิระทำไมต้องยอมพฤกษ์ขนาดนี้ด้วยเนี่ย



ปล. พี่แอมๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะจัดการเรื่องที่บอกให้

แต่ต้องแลกกับการมาต่อเรื่องนี้นะ  โอเช๊   :oni2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 23-12-2007 01:22:55
ขอบคุณครับคุณ..โทชินยะ..หรือป่าว.....ที่มาต่ออ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:

ตอบบ....

S.K.I.N ยังไม่ได้ฟังเหมือนกานอ่ะครับ

ก้อยังคงฟังมันแต่เพลงเก่าๆของXอ่ะ

เพลงโปรดผม "Scar" อ่ะ :m23: :m23:


หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: Red....[em] ที่ 23-12-2007 17:56:00
แอบปาดดดดด


เจอขาร๊อคเหมือนก๊านนน  คุยด้วยๆๆ แฮ่ๆๆ


เด็กลุงโยเหมือนกัน คิดถึงป๊าเดะด้วยครับ  เพลงโปรด ก็ Tear ฟังทีไรก็ซึ้งครับ ฮี่ๆๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 23-12-2007 18:21:17
ตอบคุณข้างบน...

ง่ะ tear ก้อดี..คร้าบบบ

หวังว่าที่ x กะลังจะ reunion นี่พี่โยทำแนวดนตรีที่สดใสไม่ขุ่นมัวมาบ้างอ่ะครับ

 :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyser 23/12/07 Chapter 11
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-12-2007 20:38:09
เราไม่อยากให้ศิระทำแบบนี้เลย o12
ไม่ชอบพฤกษ์ด้วย ไม่น่าเอาความรู้สึกมาล้อเล่น o7

ทำไงดีไม่ชอบทั้งนายเอก พระเอก  :m13:

ไม่ได้ดั่งใจเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 26-12-2007 12:44:47
ก่อนจะอ่านตอนนี้ทำใจกันด้วยนะ เพราะมันบีบหัวใจ

+++++++++++++++++++++++++

#12
ในวันเดินทางศิระได้เผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่เขาไม่ค่อยลงรอยด้วย เมษากับปอนด์และเพื่อนร่วมทางรอเขากับพฤกษ์อยู่ก่อนแล้ว ทั้งหมดลงความเห็นว่าจะเดินทางกันด้วยรถประจำทาง ด้วยเหตุผลว่าไม่มีใครชำนาญทางพอที่จะเอารถกันไปเอง เด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อยที่ต้องยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนที่ดูเหมือนจะมองเขาด้วยแววตาแปลกๆหลังจากที่เมษาแนะนำเขาต่อหน้าทุกคน เพื่อนของเมษาห้าคนทำเหมือนกับไม่รับรู้มาก่อนว่าจะมีเขาร่วมเดินทางไปด้วย
“แน่ใจเหรอพฤกษ์ ว่าพวกเขาพอใจในการที่ฉันเดินทางไปด้วยครั้งนี้”ศิระลอบถามพฤกษ์ เมื่อมีโอกาสยืนอยู่ด้วยกันสองต่อสอง หลังจากที่ทั้งหมดขึ้นทยอยขึ้นรถกันไป
“คิดมากน่า ฉันอยู่ทั้งคน นายจะกลัวอะไร” พฤกษ์ตอบ พลางส่งยิ้มบางให้คนข้างตัวไม่ต้องคิดมาก เขาเห็นแล้วล่ะ ว่าสายตาแต่ละคนมองศิระยังไง อย่างว่าคนแต่งตัวง่ายๆ ดันหลงมาเข้ากลุ่มกับคนแฟชั่นจ๋า เป็นใครก็ต้องมองเป็นธรรมดา
“จะอี๋อ๋อกันอีกนานป่ะพวกมึง” ปอนด์ชะโงกหน้าร้องทักเมื่อหมั่นไส้ในภาพที่เห็นไม่ได้ ในใจก็อยากจะให้ถึงที่หมายเร็วๆ ศิระจะได้สำนึกว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะยืนคู่เพื่อนเขาแบบนี้ด้วยประการทั้งปวง
“เงียบไปเลยมึงไอ้ปอนด์” พฤกษ์ดุเพื่อนกลับ แล้วเดินนำศิระขึ้นไปบนรถ เด็กหนุ่มแปลกใจที่เห็นเลขที่นั่งตัวเองไม่ได้ติดกับเลขที่นั่งของศิระคนหกคนที่นั่งอยู่ก่อน ต่างก็อยู่กันเป็นคู่ แต่หนึ่งคนที่เหลือกลับนั่งอยู่เพียงลำพัง และเบาะว่างข้างตัวมันเป็นเลขที่นั่งของเขาชัดๆ
“ทำไมที่นั่งเป็นแบบนี้วะปอนด์” เขาถามเพื่อนตัวเอง หลังจากมองมองสบตาเมษาที่นั่งอยู่คนเดียว
“คนมาเก้าคนยังไงมันก็ต้องมีคนนึงที่ต้องนั่งคนเดียว แปลกตรงไหน”
ปอนด์ตอบไม่ตรงคำถาม ศิระที่เดินตามหลังขึ้นมาพอจะเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร งานนี้ยังไงซะเขาก็ดูเหมือนเป็นส่วนเกิน จึงเอ่ยบอกพฤกษ์
“นายก็ไปนั่งตามเลขที่ก็ถูกแล้วนี่พฤกษ์”
“แล้วนายล่ะ” พฤกษ์ย้อนถาม ปอนด์จึงแขวะขึ้น
“มึงไปนั่งกะเมษาน่ะแหละดีแล้วไอ้พฤกษ์ แฟนมึงโหนรถเมล์ออกจะบ่อย จะห่วงมันทำไม”
“พูดงี้หมายความว่าไงวะ” ศิระถามปอนด์เสียงดังเมื่อจับได้ว่าน้ำเสียงที่ได้ยินมันไม่ค่อยเข้าท่า เป็นเหตุให้คนอีกห้าคนที่นั่งอยู่มองหน้าเขาเป็นตาเดียว พฤกษ์จึงรีบแก้สถานการณ์
“เฮ้ย มองทำไมไม่มีอะไร สองคนนี้ก็แบบนี้แหละ”
“เถื่อนๆแบบนี้คบเข้าไปได้ไงนะพฤกษ์” เด็กหนุ่มที่นั่งคู่กับปอนด์เอ่ยขึ้นกลางวง ศิระรู้สึกไม่ค่อยดีจึงรับตัดบทกับคนที่หันมามองเขา
“ฉันนั่งคนเดียวได้ นายไปนั่งกับนายเมษาเถอะพฤกษ์”
“นายไม่โกรธฉันนะ” พฤกษ์ถาม ศิระส่ายหน้าก่อนจะเลี่ยงหลบเดินไปหาที่นั่งของตัวเอง เขาเดินผ่านหน้าเมษา สาบานได้ว่าเขาเห็นรอยยิ้มเหยียดหยันจากเจ้าตัวอย่างชัดเจน พฤกษ์มองศิระ รู้สึกลำบากใจอยู่เหมือนกัน ที่ปล่อยให้คนของตัวเองต้องไปนั่งอยู่เพียงลำพัง แต่เมื่อเขามองสบตาเมษา เขาก็นึกถึงคำพูดที่เคยคิดว่าทำให้คนๆนี้เสียความรู้สึก ระยะเวลาไม่กี่ชั่วโมงถ้าเขาจะนั่งคู่เมษา ศิระคงไม่ถือสาอะไรเท่าไหร่ เอาไว้ถึงที่หมายแล้วค่อยเคลียร์กันอีกที ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
“ลำบากใจก็ไม่ต้องก็ได้นะพฤกษ์” เมษาตีหน้าเรียบเฉยบอกคนที่กำลังจะนั่งลงข้างๆ พฤกษ์จำเป็นต้องยิ้มตอบเพื่อรักษาน้ำใจก่อนจะนั่งลง
“ไม่หรอก ผมยังไงก็ได้”
“แล้วศิระล่ะครับ”ไ
“นายนั่นแกร่งจะตาย คุณอย่าห่วงเลย เผลอๆอาจจะชอบด้วยซ้ำที่ได้นั่งคนเดียว” ปากบอกคนข้างตัวว่าแบบนั้น แต่สายตากลับหันไปมองคนที่เขาคิดว่าแกร่ง ศิระหลบสายตาเพื่อซ่อนความน้อยใจที่เกิดขึ้นมาแบบไม่รู้ตัว เพื่อจะหลบให้พ้นๆภาพที่คนของตัวเองนั่งคู่กับคนอื่น เด็กหนุ่มเลยเลื่อนตัวเองไปนั่งแนบชิดติดกระจก ก่อนจะหลับตาลงพยายามไม่คิดมากให้จิตใจมันวุ่นวาย ไม่อยากจะคิดหรอกว่าตัวเองกำลังจะเจออะไรบ้าง
“อยู่ได้นะ” พฤกษ์เดินมาถามจนได้ หลังจากที่รถเริ่มเคลื่อนตัว
“อืม” ศิระตอบสั้นๆ โดยไม่มองคนถาม จะให้มองยังไงไหวล่ะ ก็เมื่อกี้ที่ลอบมอง เขาเห็นเต็มสองตาว่าพฤกษ์ถอดเสื้อคลุมตัวเองให้เมษาใส่
“อากาศมันเย็น ฉันว่านายห่มผ้าหน่อยดีกว่า” พฤกษ์เอื้อมมือหยิบผ้าที่ทางรถเตรียมไว้กำลังจะยื่นให้ศิระ แต่เขาต้องชะงักเมื่อมีเสียงปฏิเสธขึ้นมาซะก่อนขึ้นมาซะก่อน
“วางไว้นั่นแหละ จะห่มฉันหยิบเองได้”
“เป็นโรคอะไร ทำไมชอบปฏิเสธความหวังดีจากคนอื่นจังศิระ” คนชะงักมือบอกดุๆ ศิระจึงหันมามองถอนหายใจแล้วบอก
“กลับไปที่ของของนายเถอะ ฉันง่วง จะนอน”
“นายไล่ฉันเองนะ” พฤกษ์เริ่มหงุดหงิดที่ศิระทำท่าทีเหมือนรำคาญที่เขาเข้ามายุ่งโดยที่ไม่รู้ว่าที่รู้เหตุผล
“ก็เออสิ รู้ตัวก็ไปซะทีสิ” ศิระขึ้นเสียงเพื่อข่มความรู้สึก พฤกษ์ไม่รู้จริงๆเหรอว่าทำอะไรลงไป จะให้เขาใจดีไม่ถือสาไม่ได้หรอกนะ ไหนๆก็ห่วงคนอื่นมากกว่าเขาแล้วนี่ จะมายุ่งกับเขาทำไม
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 26-12-2007 13:00:22
“พฤกษ์ ผมมีโปรแกรมจะให้ดู มันเข้าท่าหรือเปล่ามาช่วยคิดหน่อยครับ” เสียงเมษาเอ่ยแทรกกลางขึ้นมาระหว่างสองคนที่กำลังมองท้าทายกันอยู่ ด้วยความหงุดหงิด พฤกษ์จึงบอกคนของเขาด้วยน้ำเสียงห่างเหิน
“เก่งนักก็นั่งไปคนเดียวให้ตลอด คนที่เขาต้องการฉันก็มี” ศิระใจสั่น ไม่คิดว่าพฤกษ์จะพูดออกมาแบบนี้ เด็กหนุ่มตัดสินใจหันหน้าหนีจากคนพูดเหน็บ นี่ถ้าเขาสามารถหยุดรถได้ สาบานได้ว่าเขาจะลงจากรถคันนี้ไปทันที แต่มันก็ได้แค่คิด จากนี้ไป พฤกษ์จะเป็นคนที่เขาไว้ใจได้แค่ไหน หัวใจมันตอบตัวเองไม่ได้

“เฮ้ย” เสียงเรียกและมือที่ตบเข้าที่แก้มค่อนข้างแรงทำให้คนที่นอนหลับสะดุ้งตื่นขึ้นสุดตัว
“ทำอะไรวะ” ศิระรีบถามคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ทันทีที่ทรงตัวลุกนั่งได้พลางนึกฉุนการกระทำของเจ้าตัวในใจ ที่บ้านมันสอนให้ปลุกคนอื่นแบบนี้หรือไง
“มึงจะนอนไปถึงไหน รถเขาจอดพักกันอยู่” ปอนด์เอ่ยบอกคนที่มองเขาตาขวาง ใช่ว่าเขาจะหวังดีกับเจ้าตัวหรอกนะที่อาสาขึ้นปลุกแทนพฤกษ์ เขาก็แค่อยากจะให้ศิระรับรู้อะไรที่มันอาจแทงใจไปหลายวัน นายนี่หนีไปไหนไม่ได้แล้วนี่ หลวมตัวมาขนาดนี้ รับรู้อะไรที่มันไม่น่าฟังหน่อยเป็นไง
“ยุ่งอะไรกะกู มึงอยากลงก็ลงไปดิ” ศิระบอก พลางเบือนหน้าหนีจากคนกวนใจ แต่สายตาเจ้ากรรมกลับหันไปเจอภาพภายนอกกระจกรถ เมษากำลังเดินคู่อยู่กับพฤกษ์ ท่าทางทั้งสองกำลังอารมณ์ดีอยู่กับการสูดอากาศบริสุทธิ์นอกตัวเมือง อากาศภายนอกคงจะเย็นน่าดู เสื้อของพฤกษ์ เมษายังคงสวมอยู่กับตัว
“ไง เห็นความแตกต่างระหว่างที่พฤกษ์เดินกะมึงหรือยัง” ปอนด์บอกด้วยน้ำเสียงเยาะหยันเมื่อเห็นสีหน้าศิระซีดไปถนัดตากับภาพที่ห็นภาพข้างหน้า
“อย่ามากวนฉันดีกว่า นายจะไปไหนก็ไป” ศิระข่มใจบอกตอนนี้เขาไม่มีแรงที่จะโต้ตอบ ไม่รู้ว่าแรงฉุนขาดเมื่อครู่มันหายไปไหนหมด
“กูอุตส่าห์ขึ้นมาหามึงขนาดนี้ มึงคิดว่ากูจะมาปลุกมึงเพื่อดูภาพแค่นี้เหรอ”ปอนด์พูดต่อ ศิระเลยฝืนเรี่ยวแรงหันมาตวาด
“แล้วมึงต้องการอะไร”
“กูอยากให้มึงได้ยินบางอย่าง” ปอนด์ตะคอกกลับพลางล้วงเอาของบางอย่างในกระเป๋ากางเกงออกมา
“เล่นอะไรของมึง” ศิระถามเมื่อเห็นคนยืนอยู่หยิบโทรศัพท์ออกมา
“มึงฟังเอา แล้วก็เลิกฝันลมๆ แล้งๆซะ เสียงนี้ก็เพิ่งอัดมาจากพฤกษ์เมื่อกี้นี่เอง ตอนที่มึงหลับอยู่ ไอ้โง่” ศิระกำลังจะตอบโต้ที่ปอนด์มายืนว่าปาวๆแบบนี้ แต่เด็กหนุ่มต้องชะงักเมื่อได้ยินน้ำเสียงของพฤกษ์ที่ลอดผ่านออกมาจากวัตถุที่ปอนด์ถืออยู่  ไม่ว่าคุณกับเพื่อนผมจะคิดยังไงนะเมษา ผมขอยืนยันตรงนี้ว่าผมกับนายนั่น ไม่ได้มีอะไรต่อกัน เข้าใจผมซะใหม่นะครับ อย่างผมถ้าจะคบใครรับรองได้ว่าไม่ใช่มันแน่.........
   “คิดเอาเองนะว่าที่กูเอาเสียงคนที่มึงหวังจะเกาะมาให้ฟังแบบนี้เพื่ออะไร ออกจากชีวิตเพื่อนกูซะ ถ้ามึงไม่อยากเป็นตัวตลกมากไปกว่านี้ ใครเขาจะเชื่อว่าพฤกษ์จะจริงจังกะมึง” ปอนด์ยิ้มเหยียดอย่างสะใจหลังจากพูดจบ เสียงนี้เขาอัดไว้ตอนไหน จ้างให้นายนี่ก็ไม่มีปัญญารู้ เห็นสีหน้าซีดๆตอนนี้ของมันแล้วอยากจะให้เมษามาเห็นด้วยจริงๆให้ตายเถอะ
   “นอนต่อไปเถอะ หลับทั้งน้ำตาก็ไม่มีใครว่านะ พวกกูคงจะไม่มายุ่งกะมึงอีก มึงมันก็ส่วนเกินดีๆนี่เอง” ปอนด์เดินจากไปอย่างผู้กำชัยชนะ ศิระหันไปมองทางเดิมอีกครั้ง เด็กหนุ่มแทบน้ำตาซึม เมื่อเห็นพฤกษ์หยอกล้อเมษาอย่างคนอารมณ์ดี จึงรีบเอนตัวลงบนเบาะหลับตาข่มความรู้สึกนิ่ง สิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่กับภาพที่เห็น มันไม่มีเหตุผลใดที่จะมาแย้งได้อีกแล้วว่าเขากำลังจะกลายเป็นส่วนเกินขึ้นมาจริงๆ น้ำตาที่ซึมออกมาเพราะความอัดอั้นกำลังจะเหือดแห้งไป ศิระใช้ฝ่ามือเช็ดมันลวกๆ เขาอ่อนแอไปก็จะยิ่งกลายเป็นตัวตลก เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้นเพื่อที่จะลงไปล้างรอยคราบความอ่อนแอ สองขาชะงักงันเมื่อคนแปดคนเดินสวนทางมาเพื่อมาที่รถ แน่ล่ะ คนแรกที่ศิระมองสบตาด้วย คือเจ้าของเสียงที่ทำให้เขาอ่อนแอเมื่อครู่
“ไปไหน” พฤกษ์เดินมาถามเมื่อเห็นศิระก้มหน้าจะเดินผ่านพวกเขาไป เพื่อนในกลุ่ม เดินผ่านขึ้นรถไปก่อน เหลือแต่เขา เมษา และก็ปอนด์เท่านั้นที่ยืนอยู่
“เข้าห้องน้ำ” ศิระตอบแต่ไม่เงยหน้ามอง แต่ก็มีคนลอบเห็นรอยช้ำที่ดวงตาเขาจนได้
“นอนก็เยอะ ทำไมยังตาแดงอยู่อีกล่ะศิระ” เมษานั่นเองที่เอ่ยถาม ปอนด์เล่าเรื่องให้เขาฟังจนหมด สะใจเป็นบ้า เขาน่าจะเห็นสภาพนายนี่กับตาตอนที่ได้ยินเสียงที่พฤกษ์พูด นี่คงจะแอบร้องให้มาล่ะสิ น่าอายจริงๆ
“ตอนปอนด์ปลุกทำไมไม่ลงมา” พฤกษ์ถาม เขาว่าจะไปปลุกเองแต่โดนเมษารั้งไว้เลยจำเป็นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของปอนด์
“คิดว่าคนมันน่าจะเยอะก็เลยไม่ลง ขอตัวนะ” ศิระคิดที่จะเดินหนีแต่ต้องชะงักเมื่อปอนด์เอ่ยขึ้นก่อน
“เร็วนะโว้ย รถออกก่อน ไม่รู้ด้วยนะ”
“พูดมากน่ะ ไอ้ปอนด์” พฤกษ์ดุเพื่อน ก่อนจะเดินไปใกล้คนของตัวเอง
“เดี๋ยวไปเป็นเพื่อน”
“ไม่ต้อง”ศิระหันมาตวาด พฤกษ์จึงอดที่จะหัวเสียไม่ได้อีก นายนี่เป็นอะไร เข้าใกล้ทีไรเป็นงี้ทุกที
“ฉันจะไม่ถามหรอกนะว่านายเป็นอะไรทำไมถึงมีท่าทีแบบนี้นัก เรียกร้องความสนใจหรือไง” คนหงุดหงิดต่อว่าอย่างไม่เกรงใจ นั่นยิ่งย้ำให้ศิระน้อยใจหนักขึ้นอีก
“เรียกร้องไปทำไม ไอ้ความสนใจปลอมๆ” คนน้อยใจสวนกลับ พฤกษ์ไม่เข้าใจเลยต้องถาม
“นายหมายความว่าไง”
“แฟนมึงมันเพ้อเจ้อดีว่ะพฤกษ์” ปอนด์ขัดขึ้นก่อนที่ศิระจะเอ่ย พฤกษ์นึกรำคาญเลยฉุดแขนศิระพาเดินหนี เมษามองภาพนั้นอย่างรู้สึกเจ็บขึ้นมาบ้าง จึงรีบเดินตามไป
“ไปด้วยคนดิ จะล้างมือเหมือนกัน” พฤกษ์ผ่อนลมหายใจ เมื่อตอนอยู่บนรถ เมษาก็ตื้ออยากใส่เสื้อเขา เขาก็ถอดให้ไปแล้ว ตอนพักเขาจะไปหาคนของตัวเองบ้างก็รั้งไว้ พาลงรถมาก่อน แถมชวนเดินโน่นเดินนี่ แล้วนี่ยังจะตามเขามาอีก ใจคอจะไม่ให้เขาได้อยู่กับศิระสองต่อสองหรือไง
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว พวกนายไปสองคนเถอะ” ศิระแกะมือพฤกษ์ออกจากแขนแล้วหันหลังเดินกลับ พฤกษ์คิดจะรั้งไว้แต่ก็ไม่ทันเมื่อเมษาเดินมาถึงเขาพอดี
“อะไรของเขาครับ อย่าบอกนะว่าเขาหึงผมกับคุณ” เมษาแกล้งตีสีหน้ารู้สึกผิด พฤกษ์ขี้เกียจฟังเลยตัดบท
“จะไปล้างมือไม่ใช่เหรอครับ”
“ครับ ไปเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ” เมษาไม่รอฟังคำตอบรับคนที่ยืนคิดหนัก เขาเดินนำไปก่อน พฤกษ์คงไว้หน้าเขาบ้างแหละ เด็กหนุ่มคิดไม่ผิด เมื่อพฤกษ์เดินตามหลังตัวเองมาจริงๆ
บนรถศิระรีบเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นพฤกษ์กับเมษาเดินคู่กันออกมาจากทางไปห้องน้ำ   เขาไม่อยากคิดไปถึงไหนต่อไหนให้ใจมันวุ่นวาย แต่มันก็อดไม่ได้
“ดื่มน้ำหน่อยนะ”พฤกษ์เดินถือขวดน้ำมายื่นให้คนที่นั่งนิ่ง เมื่อขึ้นมาบนรถและขอตัวแยกมาจากเมษาปล่อยให้ฝ่ายนั้นเข้าไปนั่งที่ก่อน
“ไม่หิว” ศิระปฏิเสธอีกครั้ง
“เอาเข้าไป ถามจริงเป็นอะไรไป รำคาญแล้วนะโว้ย ให้อะไร ทำอะไรให้ก็ปฏิเสธมันซะทุกเรื่อง” พฤกษ์อดต่อว่าไม่ได้ ศิระเองก็ใช่ว่าจะฟังเฉยๆด้วยอารมณ์น้อยใจที่อัดอั้นจึงสาดเสียงกลับไปทันที
“รู้แล้วยังจะมายุ่งกับฉันทำไม”
“ถ้าไม่ติดว่าสงสารที่ต้องนั่งคนเดียวก็จะไม่มายุ่งหรอกนะ” พฤกษ์เหน็บเข้าให้อีก จริงๆก็นึกห่วงแต่เห็นท่าทีของเจ้าตัวที่ต่อต้านเขาแล้ว มันพูดคำนั้นไม่ออกเลยจริงๆ
“ไม่ต้องมาสงสาร คิดว่าฉันไม่มีตัวตนอยู่บนรถนี้ได้ยิ่งดี” ศิระสวนกลับพลางสู้สายตาพฤกษ์ไม่ถอย สุดท้ายธาตุแท้มันก็หลุดมาจนได้ ที่ทำทุกอย่างเพราะสงสารหรอกเหรอ ขอบใจนายปอนด์จริงๆที่ทำให้เขาตาสว่าง
“ก็ดี ฉันจะได้หมดภาระซะที” พฤกษ์จะหันหลังเดินหนี แต่นึกอะไรขึ้นได้เลยหันกลับมาใหม่ ขวดน้ำในมือถูกโยนให้ศิระจนเจ้าตัวสะดุ้ง เมื่อมันเกือบจะโดนหน้าจังๆ แต่สุดท้ายมันก็หล่นลงไปกองที่ปลายเท้า
“ฉันซื้อมาให้ มันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่นายจะได้จากฉัน ทิ้งก็ได้นะไม่ว่ากัน”คนโยนให้หลุดปากพูดออกมาออกมาอีก มันอดไม่ได้ทุกที ที่เห็นอาการศิระเป็นแบบนี้ ในเมื่อไม่อยากให้เขายุ่งด้วยนัก เขาก็จะเลิกสนใจจริงๆจังๆมันซะตั้งแค่วินาทีนี้ล่ะ อยู่ได้อยู่ไป จะดูหน่อยว่าจะอวดดีไปได้ซักกี่น้ำ


ติดตามใหม่ตอนหน้าเหมือนเดิม

fc_uk ส่วนของเราชอบเพลงForever love piano versionล่ะ บาดใจดีฟังทีไรขนลุกเสียงลุงโทชิแทรกซึมเข้าไปในหัวใจ ชอบมากมาย

เพลงEndless rainเราก็ชอบนะ สรุปเพลงช้าของXเพราะ ซึ้งทุกเพลง  พูดแล้วก็คิดถึงXฉบับ Original ป๋าเดะไม่น่าตายเลยเนาะ คิดถึงๆทุกคน
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 26-12-2007 13:13:53
เจ็บปวด :sad2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัŦ
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 26-12-2007 15:05:27
โอ้วววววววววววว.......เจ็บปวดครับพี่น้อง ...

เหมือนคนแต่งเอาเข็มมาทิ่มหัวจวยคนอ่านนนนน.. . :m15: :m15: :m15:


ป.ล....1

ขออีกตอนดิพี่  :m4: :m4: :m4:

ป.ล....2  ตอบโทชินยะ

2.1 Foreverlove..... ฟังม่ายหวายยย... ฟังทีไรคิดถุงตอนงานศพ   :o12:

2.2 เพลงช้าอ่ะ พอผมฟัง "The last song"  ท่อน.....

"........Owaranai ame dakishimeta yoru ga asa o mukaeru
Kokoro wa mada nureta mama........."

โทชิแม่งร้องโคตรโหยหวนเลย ฟังแล้วเจ็บแทน...


ป.ล....3

เกลียดไอ้ปอนด์อิ๊บอ่ายเลยฟ่ะ... :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-12-2007 15:31:12
โดนเค้าปั่นหัวทั้งคู่แบบนี้จะไปกันรอดเหรอ............เฮ้อ แบบนี้ลุ้นกันน้ำตาท่วมจอแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 26-12-2007 15:40:34
 :เฮ้อ: อ่านเรื่องของคุณบอยทีไรก็เป็นแบบนี้

อยากไป :เตะ1: ตัวร้าย เมษา กะปอนด์

อยากไป :angry2: พฤกษ์ ทำไมใจร้ายอย่างนี้

อยากไป :a2: ศิระ อย่าไปอ่อนแอ สู้โว้ย


 :m21: ไม่รู้อินเกินไปรึเปล่าซิ :a4: อิอิ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 26-12-2007 17:52:04
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

เศร้าอ่ะพี่แอม


 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

อยากเอาขวดน้ำขว้างใส่หัวไอ่พฤกษ์จริงๆ  :เตะ1:

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัŦ
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 27-12-2007 14:21:38
โอ้วววววววววววว.......เจ็บปวดครับพี่น้อง ...

เหมือนคนแต่งเอาเข็มมาทิ่มหัวจวยคนอ่านนนนน.. . :m15: :m15: :m15:


ป.ล....1

ขออีกตอนดิพี่  :m4: :m4: :m4:

ป.ล....2  ตอบโทชินยะ

2.1 Foreverlove..... ฟังม่ายหวายยย... ฟังทีไรคิดถุงตอนงานศพ   :o12:

2.2 เพลงช้าอ่ะ พอผมฟัง "The last song"  ท่อน.....

"........Owaranai ame dakishimeta yoru ga asa o mukaeru
Kokoro wa mada nureta mama........."

โทชิแม่งร้องโคตรโหยหวนเลย ฟังแล้วเจ็บแทน...


ป.ล....3

เกลียดไอ้ปอนด์อิ๊บอ่ายเลยฟ่ะ... :seng2ped:


ตอนนี้กำลังฟังThe last  song อยู่เลย ได้อารมณ์จริงๆอยู่คนเดียวอีกต่างหาก เสียงลุงโทชินี่บาดจริงๆเลยเนาะ

เราชอบเพลงCrucify my loveด้วยนะ

ชอบจังเล้ยเพลงเก่าๆช้าๆ แล้วfc_ukชอบLuna sea มั่งป่าว?
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 27-12-2007 16:45:31
ตอบคุณโทชินยะ
.....................................................

Lusa Sea ก้อฟังครับแต่ก้อไม่ได้ชอบมากเท่า ...X

เพลงที่โอสำหรับผมก้อ "Tonight" .....มันส์ดีครับฟังแบบ + 120 เดซิเบลลลไปเลย

เพลงช้า แน่นอนต้องเป็น Love Song....

เสียงร้องของริวอิจินี่ฟังแล้วปวดตับ........เฉพาะตัวมากกก........

หันหลังให้ยังรุ้เลยว่าใครร้อง   :a2: :a2: :a2:  เวอร์โคตร...อิอิ

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 27-12-2007 23:18:55
ตอบคุณโทชินยะ
.....................................................

Lusa Sea ก้อฟังครับแต่ก้อไม่ได้ชอบมากเท่า ...X

เพลงที่โอสำหรับผมก้อ "Tonight" .....มันส์ดีครับฟังแบบ + 120 เดซิเบลลลไปเลย

เพลงช้า แน่นอนต้องเป็น Love Song....

เสียงร้องของริวอิจินี่ฟังแล้วปวดตับ........เฉพาะตัวมากกก........

หันหลังให้ยังรุ้เลยว่าใครร้อง   :a2: :a2: :a2:  เวอร์โคตร...อิอิ



ชอบเพลงเดียวกัน จายตรงกันเลย ชอบเหมือนกัน จริงๆก็ชอบหลายเพลงของLuna seaอ่ะนะ วงโปรดวงนึงเลยล่ะนะ   

l miss you itsu no hi ni kasono kizuwo

l love you iyaseru kara

sou kimiwo aishiteru love song together

sou kimi wo hanasanai

ช่วงShineเสียพี่ลิงลูกคอมากมายยังกะร้องเพลงลูกทุ่งเลย แต่ก็ชอบ

จะกลายเป็นกระทู้เพลงเจร๊อคไปป่าวเนี่ย นอกเรื่องไปเยอะเลย  เห่อๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 28-12-2007 22:36:53
^
^
^
^

ก้อไถ่โทษเอามาลงอีกซักตอนซิคร้าบบบบบบ  :m13: :m13: :m13:


ป.ล....

ดีจายจัง ใจตรงกานนน   อิอิ

อิ  :m23: :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 28-12-2007 22:49:43
เฮ้อ...สงสาร ศิระ จัง จะทำยังไงต่อไป ยังต้องอยู่ไปอีกหลายวัน  :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 01-01-2008 18:03:51
อ่านตอนนี้แล้วสงสารศิระ จะอยู่รอดได้มะเนี่ยอีกตั้งหลายวัน

เป็นเรากลับบ้านได้กลับไปแล้ว จะอยู่เพื่อ??

มาลงตอนต่อไปไวๆนะแอม  :m13:

ปล. เห็นเค้าเม้าเรื่องเจร็อคกัน ขอมั่ง เราก้ชอบเจร็อคนะ แต่ชอบ L'arc กับ Luna Sea  ส่วน X นี่ฟังได้ แต่ชอบเพลงช้ามากกว่า
ตอนนี้แอบเหนคอนฯ reunion ของ LS ในบิทยังไม่ได้โหลดเลย แล้ว con reunion X กลางปีนี้ใครจะไปดูมั่งเปล่า ดูเผื่อด้วยนะ
 
เอ่อ มันเริ่มจะกลายเป็นกระทู้เจร๊อกไปแล้วจริงๆด้วย 555

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 26/12/07 Chapter 12
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 01-01-2008 23:56:51
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:


หวัดดีปีใหม่คร้าบบบบบบบทุกทั่น


ตอบคุณข้างบน..อยากไปดูมากมายอ่ะ  :m4: :m4:




หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 02-01-2008 16:17:32
สวัสดีปีใหม่ทุกๆคน ขอให้มีความสุขกันมากๆนะ ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะ

โชคดีปีใหม่กันทุกคนลย ขอให้ร่ำขอให้รวยกันถ้วนหน้า  (สาธุ)

++++++++++++++++++

#13

ตลอดการเดินทางศิระไม่ได้พูดคุยกับพฤกษ์อีกเลย เขาต้องทนนั่งเป็นส่วนเกินของกลุ่มไปจนถึงที่หมายในตอนหัวค่ำ ที่พักคืนแรกของพวกเขาคือโรงแรมในตัวเมือง ศิระอึดอัดและลำบากใจอีกครั้งเมื่อเขาไม่คุ้นเคยกับการเข้าพักในสถานที่แบบนี้ พฤกษ์ไม่ได้อยู่ข้างเขาแล้ว แล้วเขาจะพึ่งใครได้ เด็กหนุ่มยืนมองกลุ่มคนที่เขาคิดว่าคงคุ้นเคยกับการเข้าพักในที่แบบนี้ด้วยความรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดดเดี่ยวขึ้นมาอย่างประหลาด พฤกษ์ไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำว่าเขากำลังวางตัวลำบากอยู่ในตอนนี้
“จะนอนมั๊ยคืนนี้ ยืนเอ๋ออยู่ทำไม” เป็นปอนด์เองที่หันมาบอกเขาเมื่อทุกคนกำลังจะไปที่ห้องพักตัวเอง คนพูดจำใจต้องเอ่ยเมื่อพฤกษ์เป็นคนวาน เขาไม่ค่อยพอใจนักที่พฤกษ์เลือกห้องพักตัวเองคู่กับศิระ
“อยู่บนรถไม่เห็นคุยกะมัน ห่วงมันจนได้นะไอ้พฤกษ์” ปอนด์แขวะเพื่อนเมื่อเห็นพฤกษ์หยุดยืนรอศิระ โดยบอกให้ทุกคนไปกันก่อน
“ยุ่งอะไรกะกู” พฤกษ์ตอบกลับก่อนจะเลิกสนใจว่าปอนด์จะตีสีหน้ายังไงจนเจ้าตัวเดินหัวเสียนำไปก่อน เขาหันไปมองศิระที่เดินก้มหน้าตามมาก่อนจะมองสบตาเขาในที่สุด มันเป็นแววตาแรกที่เขาได้มองหลังจากที่เขาแกล้งปล่อยให้ศิระอยู่อย่างไม่มีใครสนใจมาหลายชั่วโมง
“เหนื่อยป่ะ” เด็กหนุ่มถามเมื่อศิระเดินมาถึงตัว แต่ฝ่ายนั้นไม่ตอบนอกจากก้มหน้าจะเดินผ่านไป
“ไปไหน ใครเข้าจองห้องให้นายพักที่นี่” พฤกษ์แกล้งพูดขึ้นมาอีกเมื่อเห็นศิระไม่สนใจเขา ศิระที่ไม่มั่นใจในเหตุการณ์อยู่แล้ว หยุดชะงักมองคนพูด พฤกษ์จะทำร้ายเขาด้วยคำพูดไปถึงไหน เด็กหนุ่มผลุนผลันเดินหนีจากที่ยืนอยู่ทันที ยังไม่รู้หรอกว่าจะไปไหน เพราะมืดแปดด้านไปหมด แต่ถ้าจะทนให้โดนถากถางอยู่แบบนี้ เขาก็ขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า  พฤกษ์ใจเสียเมื่อเห็นศิระเดินลิ่วๆออกไปอย่างไม่สนใจใคร เขารีบออกเดินตามทันที จะมืดจะค่ำอยู่แล้ว ศิระคิดจะทำอะไร
“นั่นนายจะไปไหนศิระ” คนเดินตามร้องถามเมื่อคิดว่าคนเดินหนีอยู่ใกล้พอที่จะได้ยินเสียงเขา แต่เหมือนลมเป่า ศิระไม่มีคำตอบใดๆกลับมาทั้งสิ้น เจ้าตัวยังคงเดินลิ่วๆเหมือนไม่ได้ยินอะไร พฤกษ์ไม่รู้เลยว่าตอนนี้คนที่เขาคิดว่าแกร่งกำลังเดินไปพร้อมน้ำตาแห่งความอัดอั้นกำลังซึมเต็มสองตา
“ศิระ ถ้านายไม่หยุดฉันจะไม่ตามแล้วนะ” พฤกษ์ตวาดบอกอีกคิดว่าศิระเจอแบบนี้เข้าไปก็น่าจะหยุด แต่เขาคิดผิด ศิระยังไม่สนใจเขาอีกอยู่ดี ร้อนถึงเขาที่ต้องออกแรงวิ่งไปฉุดแขนเจ้าตัวไว้
“ประสาทหรือไงวะ คิดจะไปไหน นี่มันไม่ใช่ที่ๆนายจะไม่หลงทางนะโว้ย” พฤกษ์ตวาดสุดเสียงด้วยความโมโหเมื่อเขาสามารถหยุดศิระด้วยการฉุดแขนไว้ได้ เด็กหนุ่มออกแรงกระชากให้ศิระหันมามองหน้าเขา  อารมณ์ที่โมโหหายไปทันทีที่พฤกษ์ได้เห็นคนที่หันมาสบตาเขาเพราะแรงฉุดกระชาก ภายใต้แสงไฟที่สาดเข้ามาศิระกำลัง น้ำตาซึมจนแทบจะไหลออกมา แค่เห็นเขาก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวพยายามกลั้นมันไว้ขนาดไหน เพราะตาที่แดงช้ำมันฟ้องได้อย่างชัดเจน
“เฮ้ย ศิระ นายเป็นอะไร” คนถามใจเสียขึ้นมา น้ำเสียงที่เอ่ยถามออกไปจึงเจือไปด้วยความห่วง จนคนฟังหมดแรงกลั้นสิ่งที่อัดอั้น ศิระหลบตาพฤกษ์ทันทีที่รู้ตัวว่าน้ำตาตัวเองกำลังจะไหลออกมา
“ศิระ นายมองฉันสิ นายเป็นอะไร” พฤกษ์เปลี่ยนมือตัวเองจากจับแขนศิระมาเป็นจับไหล่เจ้าตัวเขย่า พลางก้มมองคนที่กำลังร้องให้ออกมาจริงๆ
“ศิระ พูดกับฉันหน่อยได้มั๊ย นายเป็นอะไร” พฤกษ์เขย่าแรงขึ้นเพราะความที่สับสน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเองหรือเปล่าที่ทำให้คนที่คนที่เขาคิดว่าอยู่ได้ด้วยตัวเองต้องมาอ่อนแอแบบนี้
“ขอฉันอยู่คนเดียว นายกลับไปหาพวกของนายเถอะ” ศิระพูดออกมาเสียงสั่นจากแรงกลั้นที่ฝืนใจเต็มที่ พฤกษ์ถึงกับส่ายอย่างหน้ารู้สึกผิด คำพูดแค่นี้ของศิระ มันฟ้องได้ชัดเจน ว่าเขาเป็นคนทำให้ศิระรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวขึ้นมา
“พวกไหน นายก็พวกฉันเหมือนกัน” พฤกษ์รีบบอก แต่มันก็ไม่ทำให้คนตรงหน้าดีขึ้น เมื่อศิระผลักเขาออกจากตัว ก่อนจะปาดน้ำตาลวกๆ เอ่ยบอกเขา
“กลับไป อย่ามาสนใจฉัน”
“แล้วนายจะไปไหน” พฤกษ์ถามเมื่อเริ่มใจไม่ดีขึ้นมา ศิระคงไม่คิดไปจากเขาตอนนี้หรอกนะ
“พื้นที่แค่นี้ ฉันเอาตัวรอดได้” ศิระตอบ เด็กหนุ่มฮึดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อน้ำตากำลังจะหายไป ชีวิตเขาเคยเสียน้ำตามาแล้วครั้งหนึ่งจากปัญหาครอบครัวและมันก็ทำให้เขาเลือกที่จะเฉยชา หันหลังให้สิ่งนั้น และอยู่ตัวคนเดียวมาจนทุกวันนี้ วินาทีนี้เขาต้องมาเสียน้ำตาด้วยคำพูดและการกระทำของคนตรงหน้า ไม่แปลกถ้าเขาจะเลือกทำอย่างที่เขาเคยทำเมื่อคราวก่อน พอกันทีกับทางรักที่เขาคิดว่ามันจะทอดยาวไปได้มากกว่าที่คิด คำพูดของพฤกษ์และพวกหลังจากนี้ อย่าคิดว่าจะสะกิดใจเข้าได้อีก
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-01-2008 16:28:26
เป็นเราก็ไม่อยู่ให้ถากถางหรอก ไปเลยศิระอย่าใจอ่อนนะ :a1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 02-01-2008 16:50:53
“นายคงไม่คิดจะแยกออกจากกลุ่มหรอกนะ” พฤกษ์ถามขึ้นอีก เห็นแววตาศิระที่เปลี่ยนไปแล้วทำให้เขารู้สึกเหมือนครั้งแรกที่รู้จักคนๆนี้ขึ้นมาทันที
“ฉันไม่เคยเข้ากลุ่มมาตั้งแต่ต้นต่างหากล่ะ” ศิระตอบ พฤกษ์ใจกระตุกถ้าอาการศิระเป็นแบบนี้ เขารู้ทันทีว่าเขาต้องลำบากในการขอโทษกับสิ่งที่ทำมาแน่ แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอน อย่างน้อยที่ผ่านมาเขาก็ผิด การที่จะยอมให้ศิระครั้งนี้มันก็ไม่น่าอายอะไร
“ไม่เอาน่า ศิระ นี่มันต่างจังหวัดนะ กลับไปกับฉันเถอะ ฉันขอโทษ ถ้านายกำลังโกรธอะไรฉันอยู่”
“คนอย่างฉันนอนริมรั้วหรือข้างถนนที่ไหน ก็ไม่มีปัญหา นายกลับไปเถอะ อย่ายุ่งกับฉันดีกว่า”
“พอเถอะ เลิกประชดและก็กลับไปกับฉัน มาขนาดนี้ ใครที่ไหนจะปล่อยให้นายนอนข้างถนน”
“ไม่ต้องมีใครปล่อยหรอก ฉันรู้ตัวเองดี”
“นายกำลังจะกวนประสาทเหมือนเดิมนะศิระ”
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่งกับฉัน”
“ไม่ยุ่งกะนาย จะให้ฉันไปยุ่งกะใคร นายเป็นแฟนฉันนะ”
“เป็นได้ก็เลิกได้ง่ายกว่าที่ฉันจะต้องทนกับอะไรที่มันหลอกลวงแบบนี้”
“นายหมายความว่าไง”
   “นายจะทำแบบนี้ให้ได้อะไรขึ้นมา ฉันไปทำอะไรให้นายตั้งแต่ตอนไหน ถึงคิดจะเอาความรู้สึกมาแกล้งกันแบบนี้ ไม่รักไม่หวังไม่มีใจให้กันก็น่าจะบอกกันตรงๆ แกล้งให้คนอื่นเสียความรู้สึกมันดีนักใช่มั๊ย เห็นใครเป็นตัวตลกแล้วชีวิตพวกนายจะมีความสุขกันอย่างงั้นหรือเปล่า พอกันที ถ้าคิดว่าฉันจะอยู่ให้นายและพวกของนายสนุกกันต่อไป ลาก่อนพฤกษ์” พฤกษ์ปวดร้าวกับคำต่อว่าของศิระ เพราะไม่รู้ว่าศิระหมายถึงอะไร เขาเลิกคิดที่จะแกล้งคนๆนี้ตอนรู้สึกผิดคราวนั้นแล้ว แล้วนี่อะไรศิระเป็นอะไรไป คนๆนี้ไปได้ยินอะไรมา การกระทำแค่ไม่กี่ชั่วโมงบนรถของเขามันแย่ขนาดที่ ศิระมองข้ามสิ่งที่เขาตั้งใจทำให้ตอนอยู่ด้วยกันมาจนหมดเลยหรือไง ศิระ หมุนตัวจะเดินหนี เมื่อมองสบตากับคนที่ยืนอึ้ง เขาคิดว่าที่พฤกษ์อึ้งเพราะคงพูดไม่ออกที่เขารู้ทันความคิดของเจ้าตัวครั้งนี้
   “ศิระ ฉันไม่ยอมให้นายไปไหนทั้งนั้น” พฤกษ์รีบคว้ามือคนที่จะเดินหนีไว้ จากความรักที่กำลังจะกลายเป็นความเกลียด ศิระกำหมัดแน่น ยังไงเขาขออัดคนๆนี้ให้หายแค้นหน่อยเถอะ มือที่กำหมัดแน่นและกำลังจะยกมันสวนกลับใส่หน้าคนที่ดึงรั้งไว้ต้องชะงักค้างไว้ เมื่อเห็นเป้าหมายยืนนิ่งท้าทายเขาอยู่
“เอาสิ ชกเลย ถ้ามันทำให้นายมองฉันซะใหม่” พฤกษ์ท้า เขาไม่กลัวเจ็บหรอก การที่ศิระมองเขาอย่างที่พูดออกมาเมื่อกี้ต่างหากล่ะ ที่ทำให้เขาเจ็บมากกว่า
“อย่าท้าคนแบบฉันนะพฤกษ์” ศิระบอกเสียงแข็ง
   “ก็ใครท้าล่ะ ก็เอาสิ จะเอาฉันให้ตายตรงนี้เลยมั๊ยล่ะ ถ้ามันทำให้นายเลิกมองฉันในแง่ร้ายได้”
   “ถึงขนาดนี้ นายยังจะดันทุรังสร้างภาพต่อไปเหรอพฤกษ์ พอเถอะ ฉันชักจะสมเพชนายมากกว่าที่จะมองนายเป็นคนดีได้แล้ว”
“ฉันมันทำหน้าที่คนรักได้แย่ขนาดนั้นเลยเหรอศิระ” ศิระลดมือลงเมื่อได้ยินพฤกษ์ถามเสียงอ่อน นี่เขาจะยอมคนๆนี้ไปถึงเมื่อไหร่นะ
“นายไม่ได้แย่หรอก คนรักของนายต่างหากที่ไม่มีค่าพอที่นายจะแคร์”
พฤกษ์สะอึกกับประโยคสุดท้ายของศิระ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินหันหลังหนีไปจากเขา เด็กหนุ่มเข่าอ่อน สุดท้ายการกระทำของเขาก็ไม่วายที่จะกรีดแผลเก่าที่ใจของศิระให้ลึกมากขึ้นกว่าเดิม
   
“เด็กมึงล่ะ” ปอนด์เอ่ยถามพฤกษ์ทันที ที่เห็นเจ้าตัวเดินทำสีหน้าไม่ค่อยดีกลับเข้ามาในโรงแรมขณะที่เขากับเมษานั่งรออยู่
“ทำไมไม่นอนพักกัน” พฤกษ์ไม่ตอบคำถามเพื่อนแต่กลับถามกลับ
“แล้วมึงล่ะ ไปไหนมา” ปอนด์ถามใหม่ ศิระมองสบตาก่อนจะตอบ
“ไปตามศิระ”
“เขาไปไหนเหรอพฤกษ์” เมษาถามบ้าง ศิระคงจะเรียกร้องความสนใจล่ะสิ มันน่านัก
“ไม่รู้เหมือนกันครับ ผมตามตัวไม่เจอ” พฤกษ์ตอบเนือยๆ หลายชั่วโมงที่เขาตามหาศิระแต่ไม่เห็นแม้แต่เงา ความอ่อนเพลียจึงพาเขากลับเข้ามาที่นี่
“มันกร้านโลกขนาดนั้น ไม่ตายง่ายๆหรอกน่า” ปอนด์เอ่ยขึ้นอีก ไม่ได้รู้สึกร้อนหนาวอะไรว่าตัวเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ศิระต้องเตลิดหนีไปแบบนี้ พฤกษ์เองยิ่งกำลังใจไม่ดีอยู่เลยตวาดออกไปเสียงดัง
“มึงเลิกพูดเลิกว่าศิระทีเถอะปอนด์ กูชักไม่แน่ใจแล้วสิที่มึงอาสาขึ้นไปตามศิระตอนรถจอดพักมึงไปพูดอะไรให้ศิระเข้าใจอะไรกูผิดหรือเปล่า”
   “อย่ามาหาเรื่องกันนะโว้ย กูจะไปพูดอะไร มึงต่างหากที่เป็นคนพูด”   “ปอนด์สวนกลับ ยิ่งพฤกษ์ทำทีปกป้องศิระเพียงใดเขาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด
   “มึงหมายความว่าไง กูพูดอะไร” พฤกษ์ถาม ก่อนจะสังเกตเห็นท่าทีเมษาใช้สายตาปรามไม่ให้เพื่อนเขาเอ่ยอะไรออกมา จึงเดินเข้าไปใกล้คนทั้งสองแล้วถาม
   “ว่าไงมึงว่ากูพูดอะไร ตอนไหนไอ้ปอนด์”
“อย่าทะเลาะกันเพราะเรื่องคนอื่นเลยนะ ผมว่าเราขึ้นไปพักผ่อนกันดึกแล้ว” เมษารีบเข้ากันท่าปอนด์ที่กำลังจะโต้ตอบคนที่เดินเข้าหาตัว พังกันพอดีถ้าพฤกษ์รู้ว่าตัวเองโดนแอบอัดเสียงสนทนาเอาไว้ เด็กหนุ่มรวบแขนปอนด์เพื่อที่จะพาเดินหนีไปให้พ้นจากคนที่กำลังหวาดระแวงพวกเขา
“เฮ้ย พูดกันให้รู้เรื่องก่อนสิวะ” พฤกษ์ออกแรงกระชากแขนปอนด์เอาไว้ จนเจ้าตัวฉุนสะบัดแขนให้หลุดจากมือของเมษาแล้วหันมาตะคอกคนกระชาก
“มึงบ้าไปแล้วเหรอไอ้พฤกษ์” เพราะอารมณ์ที่เก็บกดจากคำพูดของศิระที่ทิ้งไว้ให้คิด พอมาเจอคำตะคอกของเพื่อน ทำให้พฤกษ์คุมอารมณ์ไม่อยู่สองมือแข็งแรงจึงจับคอเสื้อปอนด์กระชากเข้าหาตัวแล้วตะคอกกลับ
“เออ กูมันบ้า กูมันไม่ดี กูทำให้คนอื่นมองว่ากูมันไม่เอาไหน”
“ใจเย็นสิครับพฤกษ์ คุณเป็นอะไรไปครับ” เมษาเขาแยกสองคนออกจากกันก่อนที่จะมีใครมาเห็นเหตุการณ์เข้า พอปอนด์เป็นอิสระด้วยอารมณ์ขุ่นมัวที่เพื่อนมาทำแบบนี้กับตนเลยโพล่งปากออกไปอย่างเหลืออด
“มึงจำไม่ได้จริงๆเหรอว่ามึงเคยพูดอะไรไว้กับพวกกูไอ้พฤกษ์”
“กูพูดอะไรล่ะ” พฤกษ์ถาม ปอนด์ยิ้มเยาะที่มุมปากนิดนึงก่อนบอก
“มึงเคยบอกพวกกูเองว่าถ้ามึงจะคบใครซักคนรับรองว่าต้องไม่ใช่ไอ้กุ๊ยศิระนั่นแน่ นี่แหละคือคำพูดที่กูเอาไปให้สุดที่รักมึงฟัง มันคงเริ่มรู้ตัวและสำนึกในความเป็นกุ๊ยของมันแล้วสิ ถึงได้หนีหน้ามึงไปแบบนี้”
“มึงยังจำคำพูดกูไว้อีกเหรอไอ้ปอนด์”
“จำไว้สิ และก็จำได้ดีด้วย หรือมึงอยากจะฟังเสียงมึงก็ได้ กูยังไม่ลบทิ้งไปไหน มึงจะฟังมั๊ยล่ะ” ปอนด์ขึงขังจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาแต่เมษารีบห้ามไว้
“มึงจะทำอะไรปอนด์”
“ให้ไอ้พฤกษ์มันฟังไงมันจะได้รู้ว่าตอนนี้มันกำลังกลืนน้ำลายตัวเองอยู่”
“หมายความว่ามึงเก็บคำพูดกูไว้ในโทรศัพท์มึงเหรอไอ้ปอนด์” พฤกษ์ถามอย่างใจไม่ดี นึกถึงคำพูดวันนั้นบวกกับการกระทำเฉยชาของเขาตลอดเส้นทางที่อยู่บนรถ ก็ไม่แปลกที่ศิระจะรู้สึกแย่ขึ้นมาจนหนีหน้าเขาไปแบบนี้ ความรู้สึกผิดในใจเริ่มก่อตัวรุนแรงขึ้นเมื่อปอนด์พยักหน้ารับในสิ่งที่เขาถาม เด็กหนุ่มโผเข้ากระชากคอเสื้อเพื่อนอีกครั้งแล้วถามเสียงดัง
“มึงทำแบบนี้เพื่ออะไรปอนด์ กูเป็นเพื่อนมึงนะ”
“มึงจะมาโทษอะไรกูไอ้พฤกษ์ ถ้ามึงไม่พูดกูจะเอาคำพูดพวกนี้มาจากไหน มึงทำตัวมึงเองมึงจะมาโวยวายทำไม ถึงกูไม่เอาคำพูดเหล่านี้ไปให้ไอ้นั่นฟัง มึงแน่ใจแล้วเหรอว่าการกระทำที่ผ่านมาของมึงจะทำให้ไอ้นั่นไว้ใจมึงขึ้นมาได้ ยอมรับมาเถอะว่ามึงเองก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่ารักมันจริงหรือเปล่า มึงก็ยังคงแคร์สังคมมึงอยู่แล้วมึงจะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไร กูทำให้ไอ้นั่นหายไปจากชีวิตได้มึงน่าจะขอบใจกูด้วยซ้ำที่มึงจะได้กลับมาใช้ชีวิตในแบบของมึงเหมือนเดิม”
“ได้กูขอบใจมึงก็ได้ ที่มึงทำให้กูรู้ใจตัวเองเสียทีไอ้ปอนด์ ต่อไปนี้สังคมบ้าบออะไรกูไม่สนใจทั้งนั้น ที่ผ่านมากูหลงกลพวกมึงเองจนทำให้กูทำร้ายจิตใจคนๆหนึ่งจนบอบช้ำ กูรักศิระ พวกมึงจำเอาไว้ด้วย” พฤกษ์ปล่อยมือจากคอเสื้อคนที่ยืนอึ้ง ก่อนจะหลังเดินกลับออกจากโรงแรม ถึงเวลาที่เขาจะแสดงความรู้สึกจริงๆของตัวเองกับคนที่เขาเคยเผลอทำร้ายจิตใจเสียที
“พฤกษ์” เมษา ร้องตามหลังเมื่อหายจากอาการนิ่งงันกับสิ่งที่ได้ยิน พฤกษ์เอ่ยคำว่ารักคนอื่นต่อหน้าเขา
“เพราะมึงคนเดียวแท้ๆไอ้ปอนด์ มึงมันเพื่อนเฮงซวย” เมษาโกรธคนต้นเหตุที่ทำให้เขาได้ยินคำที่แทงใจจนทนไม่ไหว กำปั้นเด็กหนุ่มจึงลอยไปกระทบที่มุมปากเจ้าตัวทันทีจนคนโดนหน้าหันไปตามแรงเหวี่ยง
“สำหรับปากดีๆของมึง” เมษาชี้หน้าตะคอกซ้ำก่อนจะรีบเดินหนีกลับขึ้นห้อง ปอนด์ยืนอึ้ง สับสนว่าตัวเองกำลังเจออะไร เพื่อนสองคนเดินหนีจากเขาไปด้วยแววตาราวกับเห็นเขาเป็นตัวอะไรซักอย่าง
ทางด้านศิระเด็กหนุ่มเดินเลียบไปตามถนนที่ตนไม่คุ้นเคยเมื่อเวลาเวลาจวนจะเที่ยงคืน เขาอยู่ที่ไหน และกำลังจะไปไหน เด็กหนุ่มตอบตัวเองไม่ได้ รอบตัวตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า ภาพวันเดิมๆที่เคยหันหลังให้กับครอบครัวกลับเข้ามาหลอกหลอนให้น้ำในตาไหลออกมาได้อีกครั้ง จะโทษใครได้ล่ะมันเป็นทางที่เขาเลือกเอง เขาก็ต้องผ่านมันไปให้ได้ อย่างที่เคยผ่านๆมา แสงไฟเริ่มไม่มีให้เห็นเมื่อคนเหม่อลอยเดินออกนอกเส้นทางที่เกินกว่าไฟในถนนหลักจะสาดถึง กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองเดินมาในที่เปลี่ยวก็ต่อเมื่อมีเมื่อมีเสียงหนึ่งทักขึ้น
“เฮ้ย” เด็กหนุ่มรีบปาดน้ำตาตัวเองทิ้งหันไปมองต้นเสียง แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว สามคนในเงามืดที่เป็นเจ้าของเสียงก็เข้าล็อคตัวเขาไว้ทันที
“เฮ้ย อะไรวะ” ศิระร้องถามหัวใจเต้นรัวเมื่อเห็นสภาพรางๆของคนที่จับตัวเองไว้แน่นเขาคิดว่าน่าจะเป็นพวกนักเลงท้องถิ่น เพราะหน้าตาแต่ละคนมองเขาราวกับหลุดออกมาจากเรือนจำที่ไหนซักแห่ง
“จะพากูไปไหน ปล่อยนะโว้ย” เด็กหนุ่มถามอีกพลางดิ้นหวังให้หลุดจากอุ้งมือแข็งแรง เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนลากเข้าไปในที่มืด เขาฟังไม่ออกว่าพวกมันพูดอะไรกัน แน่ล่ะ มันเป็นภาษาท้องถิ่นเขาจะไปรู้ได้ยังไง แต่ที่รู้แน่ๆ พวกมันน่าจะไม่หวังดีกับเขาแน่นอน และก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อสามคนตัวใหญ่ได้ลากเขาไปในเงามืดที่เปลี่ยวสนิท อาการจุกที่ท้องก็แล่นเข้ามาหาตัวเมื่อรู้สึกว่ากำปั้นหนักอัดเข้ามาเต็มๆ  ศิระกุมท้องแน่นกัดฟันฝืนจะร้องแต่ก็ร้องไม่ออกเมื่อความจุกมันอัดอยู่ที่ท้องไล่ไปถึงลำคอ เขาถูกผลักให้ล้มลงกองกับพื้น ก่อนที่จะโดนเตะซ้ำจนตัวงอ แล้วเป้ที่สะพายติดตัวมาก็ถูกกระชากและรื้อค้นจนของหล่นกระจัดกระจาย สามชายหนุ่มยังคงพ่นภาษาที่เขาฟังไม่รู้เรื่องออกมาให้ได้ยิน
“อย่ายุ่งกับกระเป๋า” ศิระพยายามเปล่งเสียงที่ขาดเป็นห้วงๆออกมาเมื่อเห็นว่ากระเป๋าพกใบเล็กที่เก็บทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในมือของหนึ่งในกลุ่มแล้ว เด็กหนุ่มยันกายลุกจะไปคว้ามันคืนมา แต่ต้องเซล้มกลับไปเหมือนเดิมเมื่อโดนสวนกลับด้วยกำปั้นเต็มๆแรง ก่อนที่จะตามด้วยของจุกๆจิกๆที่ถูกโยนกลับมาเต็มๆหน้า แน่ล่ะ เงินทุกบาททุกสตางค์ในกระเป๋าถูกพวกมันเอาไปจนหมด ไม่เหลือแม้กระทั่งบัตรต่างๆที่พวกมันพาซื่อ คิดว่าจะสามารถจัดการเอาสิ่งที่พวกมันต้องการออกมาได้
ศิระคว้ากระเป๋าที่พวกมันคืนให้เปิดดูทุกซอกมุม เด็กหนุ่มเข้าอ่อนใจหายวาบ เขาอยู่มุมไหนของพื้นดินส่วนนี้เขายังไม่รู้ แล้วเงินในกระเป๋าก็หายเกลี้ยงไปแบบนี้ บัตรทางการเงินซักใบ ไอ้พวกชั่วก็ไม่เหลือไว้ให้แล้วเขาจะไปไหนได้อีก
“ทำไมมันซวยอย่างนี้วะ” น้ำตาคนสับสนไหลออกมาอีกครั้งพลางเก็บข้าวของตัวเองลวกๆยัดใส่เป้สะพาย ก่อนที่ยันกายพาร่างกายที่สะบักสบอมของตัวเองยืนขึ้น เด็กหนุ่มออกเดินทั้งๆที่ไม่รู้จะไปไหน ความเหนื่อยล้า ความหิวและความอ่อนเพลียถาโถมเข้าหาตัว อาการจุกเสียดจากการโดนทำร้ายก็ยังไม่ทุเลาลงเลยแม้แต่นิด สุดท้ายร่างทั้งร่างก็เซล้มซุบตรงม้านั่งริมสวนสาธารณะที่เดินมาถึง......


ติดตามใหม่ตอนหน้า

บีบหัวใจกันสุดๆ เชื่อว่าตอนนี้คงมีคนน้ำตาซึมกันหลายคน

สงสารศิระเนาะ ซวยซ้ำซวยซาก เฮ้อออออออ


วีอีลุงไหหน้าใสเด้งจังเนาะ

เพิ่งจะมาคิดออกว่าเพ่เจของเราปีนี้ก็เข้าปีที่38แล้ว

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อีก2ปีก็40ดิ โหจะไล่ลุงไหทันแระ

แล้วลุงโยของfc_ukจะเท่าไหร่กัน คิกๆ  :m12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 02-01-2008 18:50:46
โหหหหห ฆ่าผมให้ตายเลยดีฟ่า มาว่าเด๊กเค้า :m21: :m21: :m21:


เดี๋ยววววโทนชินยะจาโดนนนนมะช่ายยน้อยยยยยย


แหมมมมาว่าเด็กผม..แค่ 40 ฟ่าฟ่า เอง  :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 02-01-2008 19:14:59
โอ้ๆ หลงมาอยู่ท่ามกลางเด็กเจร๊อค   

 :oni2: :oni2: :oni2::oni2:


ง่ะ ศิระนี่ซวยซ้ำ ซวยซ้อนจริงๆ

ต้องโทษพฤกษ์คนเดียวเลยเรื่องนี้

 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 02-01-2008 19:32:53
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆนายเอกฉัน  :a6:

พระเอกก็ทำแต่เรื่องขัดใจ ได้แก้แค้นเมื่อไหร่เอาให้แสบๆเลยนะศิระ






อีไหมันหน้าเด้งเพราะสูบพลังชีวิตเมียมาหรอกแอม   :oni1:
คุณ fc_uk  40ฟ่าฟ่า นี่ 49 รึเปล่า  :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-01-2008 20:29:20
 :sad2: จะเศร้าไปไหน
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 02-01-2008 20:52:04
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆนายเอกฉัน  :a6:

พระเอกก็ทำแต่เรื่องขัดใจ ได้แก้แค้นเมื่อไหร่เอาให้แสบๆเลยนะศิระ


อีไหมันหน้าเด้งเพราะสูบพลังชีวิตเมียมาหรอกแอม   :oni1:
คุณ fc_uk  40ฟ่าฟ่า นี่ 49 รึเปล่า  :m20:

ตอบคุณข้างบน

 :m15: :m15: :m15:


----------------------------------------


แกจะแก่แค่ไหน ผมก้อรักกกก ฝันว่าชาตินี้ถ้าได้..ฟัดพี่แกซักที ชาตินี้จะไม่ขอไรอีก  :m23: :m23: :m23:

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 03-01-2008 18:28:32
ตามอ่านทันอีกแระ  :m4:

สงสารนายเอกจริงๆ ด้วย  ซวยโคตรๆ เฮ้อ  :เฮ้อ:
ไหนจะเรื่องหลังจากนี้อีก  เวง

ปล  คุยเรื่องไรกัน ร๊อคไรกัน  รู้สึกว่าตัวเองไม่เข้ายุคเลยเว้ยย  :m30:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 06-01-2008 14:24:16
มารอจ้า

ป๋อหลอ ช่วงปลายปีลุงไหแกมีทัวร์ด้วยนี่
ตามตารางเห็นว่าสามเดือน
ทำอะไรไม่ดูอายุเล้ย  :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 06-01-2008 14:30:13
โอย สงสารศิระ จับใจ  :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 07-01-2008 00:33:45
มารอจ้า

ป๋อหลอ ช่วงปลายปีลุงไหแกมีทัวร์ด้วยนี่
ตามตารางเห็นว่าสามเดือน
ทำอะไรไม่ดูอายุเล้ย  :m20:



เห็นด้วยยยยยยยยย ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 07-01-2008 12:39:12
14..พฤกษ์ เดินเตะเท้าเลียบไปตามริมถนนเมื่อเริ่มเหนื่อยล้าจากการออกตามหาคนที่เขานึกห่วงขึ้นมาเกือบ

ทั้งคืน คนอื่นห่วงเขาเขาไม่สนใจ เพื่อนๆที่อยู่ในโรงแรมโทรตามตัวเขาจ้าละหวั่น ตอนนี้อะไรมันก็ไม่สำคัญ

เท่ากับการที่เขาต้องการรับรู้ว่าศิระอยู่ที่ไหน อยู่ยังไง เขาเป็นต้นเหตุให้คนๆนี้เตลิดไปจนกู่ไม่กลับ ความรู้สึก

ผิดที่ติดอยู่ในใจคงลบออกไปได้ยากหากว่าเขาไม่พบว่าศิระไม่เป็นอะไรไปในพื้นดินที่เพิ่งมาเหยียบเป็นครั้งแรก

ลมเย็นและหมอกหนาเริ่มปกคลุมในตอนใกล้เช้ามืด พฤกษ์ยังเดินไปเรื่อยๆไปจนถึงริมสวนสาธารณะพลาง

กอดกระชับเสื้อคลุมตัวเองแน่นเพราะอากาศตอนเช้ามืดของต่างจังหวัดมันหนาวแบบชนิดที่เขาไม่คุ้นเคย เด็ก

หนุ่มชะงักเท้าขณะที่กำลังจะเดินผ่านร่างบางร่างที่นอนกอดตัวเองตัวสั่นอยู่บนม้านั่ง ตอนแรกที่เห็นแต่ไกลแค่

คิดว่าคงเป็นคนจรจัดธรรมดาที่หาที่หลับนอนตามสวนสาธารณะซึ่งเขาเจอมาตลอดทางที่เดินมา แต่คนที่นอน

ขดในสายตาตอนนี้เป็นคนที่เขาคุ้นเคยและตามหาอยู่ชัดๆ
   “ศิระ” เด็กหนุ่มครางออกมา ความรู้สึกโกรธตัวเองแล่นขึ้นมาที่ใจทันที ที่เห็นสภาพคนที่นอน

หนุนกระเป๋าตัวเองกอดอกแน่นอยู่ตรงหน้า ใบหน้าใต้แสงไฟที่บอบช้ำ และขอบตาที่ช้ำฟกของเจ้าตัวมันทำให้

เขาแทบจะร้องให้ในความเลวร้ายของตัวเองที่ทำให้คนหนึ่งคนตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เขาคิดว่าศิระคงไม่คิดที่จะ

นอนริมถนนจริงๆอย่างที่ประชดเขาไว้ เจ้าตัวคงเจอเรื่องร้ายอะไรมาซักอย่าง
“ศิระๆ” พฤกษ์คุกเข่าลงจับไหล่คนนอนหลับเขย่าเบาๆพลางส่งเสียงปลุก ก่อนที่เขาจะสะดุ้งชักมือกลับ       

หมอกหนามันจับคลุมคนที่นอนอยู่จนตัวเย็นเฉียบ
“ศิระ นายไม่เป็นไรนะตื่นเร็วสิ”    พฤกษ์ออกแรงเขย่าใหม่ อย่างร้อนรน ยิ่งไม่มีอาการไหวติงจากคนที่นอน

ปากซีดอยู่ตรงหน้า   เขาก็ยิ่งใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ศิระ ตื่นเถอะนะ นายอย่านิ่งแบบนี้สิ” สองมือรีบจับดูชีพจรคนที่นอนไม่รับรู้หรือได้ยินเสียงของเขา ชีพจรที่

เต้นอ่อนแรง    มันทำให้เขาใจหายวาบขึ้นมา
“ศิระ ๆ ตื่นทีสิ” พฤกษ์ออกแรงตบแก้มที่เย็นเฉียบของศิระซ้ำๆกันเบาๆ คราวนี้เขาเผยยิ้มออกมาได้ เมื่อศิระ

เริ่มปรือตาขึ้นมา
“พฤกษ์” เสียงแหบแห้งที่ครางชื่อเขาออกมาของศิระทำให้พฤกษ์รู้สึกสงสารคนเรียกจับใจ ศิระไร้เรี่ยวแรงแม้

แต่ที่จะพูดอะไรยาวๆ เขาคงปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้
“ศิระ ทำไมนายเป็นแบบนี้” คนที่นอนอยู่ไม่ตอบคำถามทั้งๆที่คนถามกุมมือเอาไว้แน่น พฤกษ์ใจหายเมื่อเห็น

ศิระหลับตาลงไปอีกครั้ง คราวนี้เขาเห็นหยดน้ำใสๆไหลออกมาจากตาเจ้าตัว
“ศิระ ฉันขอโทษนะ นายไปกับฉันนะ” พฤกษ์น้ำตาไหลเพราะความเจ็บปวดที่เห็นคนที่เขาบอกว่าจะดูแลตกอยู่

ในอาการแบบนี้ เขาเป็นอะไรไป ไปดูแลทำไมคนที่ใครๆก็ห้อมล้อมอยู่แล้ว ทำไมเขาไม่ดูแลคนๆนี้ คนที่เป็น

หน้าที่ของเขาที่เขาต้องทำ เสื้อคลุมที่เคยถอดให้คนอื่นสวมคราวนี้พฤกษ์ถอดมันออกจากร่างตัวเองใช้คลุมร่าง

คนที่นอนอยู่ให้ได้รับความอบอุ่นบ้างก่อนที่ตัวเองจะรีบลุกเดินไปหาหนทางที่จะพาคนๆนี้ไปหามหมอที่ใกล้ที่สุด

ศิระคงกำลังโดนพิษไข้เล่นงาน ศิระต้องตื่นขึ้นมารับรู้ความรู้สึกจริงๆของเขาศิระต้องไม่เป็นอะไร…..

พฤกษ์ พาร่างกายที่อ่อนแอของศิระเข้าโรงพยาบาลในตัวเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากที่พัก กลุ่มคนที่มาด้วยกันรู้ข่าว

เรื่องศิระจากเขา ตอนที่เขาเข้าไปชำระร่างกายที่ล้ามาทั้งคืน ทั้งหมดพยายามห้ามเมื่อเห็นเด็กหนุ่มจะออกไป

เยี่ยมศิระที่ยังนอนหมดสติที่โรงพยาบาล
“มึงนอนพักก่อนไม่ดีกว่าเหรอพฤกษ์ ไอ้นั่นมันถึงมือหมอแล้วมันคงไม่ตายหรอก” ปอนด์เป็นคนนำพูดก่อน

ก่อนที่เมษาจะเอ่ยขึ้นสมทบ
“นั่นสิพฤกษ์ ท่าทางคุณดูไม่ดีเลยนะ”
“ผมไปโรงพยาบาลนะครับ ไม่ได้ไปเที่ยว ทำไมผมจะต้องดูดีด้วยล่ะ”
พฤกษ์ตอบ ทั้งๆที่รู้สึกเวียนหัวและอิดโรยอยู่ไม่น้อย จากการเดินทางที่ยาวนานหลายชั่วโมง เมื่อคืนแทนที่จะได้

พักผ่อน แต่กลับไม่ได้นอนเลยซักนิด
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 07-01-2008 12:48:50
“ที่เมษาเตือนเพราะมันห่วงมึงนะ มึงพูดงี้ได้ไงวะ” ปอนด์เอ่ยเข้าข้างเพื่อน หวังเพียงเมษาจะเลิกเฉยชากับเขา

ตั้งแต่เมื่อคืนที่พักห้องเดียวกัน เมษาไม่มองแม้แต่หน้าเขาเลยด้วยซ้ำ
“กูบอกเหรอว่าให้ใครห่วงกู” พฤกษ์สวนกลับอย่างไม่เกรงใจ หมดเวลาที่เขาจะเอนเอียงไปกับคำพูดคนอื่นเสียที
“งั้นมึงก็ไปเลยไป มึงมันเห็นไอ้นั่นดีกว่าพวกกูแล้วนี่” ปอนด์ตะคอกเพราะไม่พอใจในสิ่งที่ได้ยิน พฤกษ์ไม่ใส่

ใจที่จะตอบโต้ เขาหันหลังเดินหนีจากกลุ่มทันที เมษากำลังจะออกเดินตามแต่โดนมือเพื่อนในกลุ่มฉุดไว้พร้อม

ให้เหตุผล
“เรามาเที่ยวกันนะเมษา เราน่าจะไปตามโปรแกรมที่เราวางไว้นะ”
“แล้วพฤกษ์ล่ะ” เมษาถามกลับ
“ตอนแรกพฤกษ์ก็ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมเที่ยวซะหน่อย รวมทั้งนายศิระด้วย คิดซะว่าเรามากันแค่นี้ก็หมดเรื่อง”

เพื่อนคนเดิมตอบ เมษาจึงหมดทางเถียง ที่ทำได้ก็คือหันไปพูดเสียดแทงปอนด์ที่ยืนซึมอยู่
“เพราะมึงคนเดียวไอ้ปอนด์ ที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้”
“ที่กูทำกูหวังดีกับมึงนะเมษา” ปอนด์รีบแย้งแต่ก็เมษากลับไม่ฟัง
“อย่างนี้เหรอที่หวังดี มึงทำให้พฤกษ์มองว่ากูเป็นคนไม่ดีไปกับมึงด้วย”
“นี่มึงกำลังว่ากูนะเมษา”
“เออสิ กูจะว่า มึงจะทำไม มึงจะโดนมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้ามึงยังคิดที่จะเข้ามายุ่งเรื่องของกูกับพฤกษ์อีกไ
“เมษา ทำไมมึงพูดห-าๆแบบนี้วะ”
“ทำไมกูจะพูดไม่ได้ มึงมันก็ไม่ต่างจาก ห-าที่กูเลี้ยงไว้หรอก”
“เมษา มันจะมากไปแล้วนะโว้ย” ปอนด์เลือดขึ้นหน้าทันทีที่โดนด่ากลับมาแบบไม่ไว้หน้าจากคนที่เขาหวังดี

ด้วยตลอด เมษาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“ก็หรือไม่จริงล่ะ มึงเลิกคิดที่มาหวังดีกับกูเถอะ เพราะกูคงจะไม่มีอะไรตอบแทนมึงได้อีกแล้ว” เมษาพูดด้วยสี

หน้าจริงจัง พฤกษ์กำลังมองปอนด์ในทางลบ เขาต้องรีบตีตัวออกห่างซะก่อนที่พฤกษ์จะมองเหมารวมมาถึงเขา

ส่วนปอนด์จะรู้สึกยังไงเขาไม่สนใจทั้งนั้น คนอย่างมันต่างอะไรล่ะกับสุนัขรับใช้ ที่เลียเช้าเลียเย็นอยู่แบบนี้ หวัง

ผลตอบแทนทั้งแหละ
“มึงมองว่ากูทำทุกอย่างเพื่อหวังสิ่งตอบแทนจากมึงงั้นเหรอเมษา” ปอนด์ถามออกมาอย่างนึกเสียใจ เม

ษาประเคนของทุกอย่างให้เขาเองเป็นส่วนใหญ่เพื่อแลกกับการรู้ความเคลื่อนไหวของพฤกษ์ ที่เขาเข้านอกออก

ในบ้านเจ้าตัวได้ตามสะดวก น้อยนักที่เขาจะเอ่ยปากขอ จู่ๆเมษามาตลบหลังแบบนี้ เป็นใครก็คงจะรู้สึกแย่

เหมือนกัน
“มึงกล้าพูดมั๊ยล่ะ ว่าของส่วนใหญ่ที่มึงมีอยู่และความสะดวกสบายที่มึงได้รับ ไม่ได้มาจากเงินของกู” เมษายิ้ม

เยาะ เชื่อว่าตัวเองยิ่งพูดแรงเท่าไหร่ ปอนด์ก็ยิ่งจะไม่เข้าใกล้เขา คนสำคัญตอนนี้ คือพฤกษ์เท่านั้น เขาอยู่เฉย

และปล่อยเวลาให้มันเนิ่นนานเกินไปแล้ว ที่ผ่านมายืมมือที่คนยืนอึ้งอยู่ตรงหน้าจัดการทุกอย่างให้ ไม่เห็นมันจะ

ได้อะไรดีขึ้นมา ถึงเวลาแล้วล่ะมั้งที่เขาจะลงสนามฟาดฟันกับศิระด้วยตัวเองเสียที งานนี้ถ้าพฤกษ์ไม่กลับมาหา

เขา เขาจะยอมถอยออกมาเอง แต่ศิระก็ต้องถอยออกมาพร้อมกับเขา ในเมื่อเขาไม่ได้ทั้งกายและใจพฤกษ์

ศิระก็อย่าหวังที่จะได้เหมือนกัน

   คน ที่นอนหลับฟุบอยู่ข้างเตียง ทำให้ศิระเผลอลอบมองเมื่อตื่นขึ้นมาเจอ เขาหลับไปกี่ชั่วโมง

เด็กหนุ่มตอบตัวเองไม่ได้ แล้วพฤกษ์ทำไมมานอนตรงนี้ ศิระค่อยๆดึงมือข้างหนึ่งของตัวเองออกจากมือนุ่มของ

พฤกษ์ ที่กุมเอาไว้อยู่ทั้งๆที่ตัวหลับ
“หลับหรือตายวะ ทำไมมันแน่นแบบนี้” เด็กหนุ่มเผลอบ่น เมื่อรู้สึกว่ามันยากเอาการอยู่ที่จะให้มือตัวเองหลุด

ออกมาเป็นอิสระ จะออกแรงมากก็ไม่กล้า กลัวว่าคนที่นอนหลับอยู่จะตื่นขึ้นมา เขายังไม่อยากพูดคุยหรือสนทนา

กับคนๆนี้ จากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ทำให้เขาเจ็บทั้งกายและใจ อีกทั้งไม่มีอะไรเหลือติดตัวเลยซักอย่าง ทำให้เขา

อยากที่จะอยู่ให้ไกลจากคนๆนี้ให้มากที่สุด คนที่หลับอยู่เริ่มไหวติง ศิระรู้ได้ทันทีว่าตัวเองคงทำให้เจ้าตัวตื่นเมื่อ

มือที่จับเขาไว้แน่นเริ่มคลายออก พฤกษ์ค่อยๆลืมตาขึ้น ยังไม่ทันที่จะตั้งตัวหรือหายจากเวียนหัว ก็รู้สึกได้ถึงว่า

มือที่เขากุมไว้อยู่ได้หลุดออกไปจากตัวแล้ว
“รู้สึกตัวแล้วเหรอศิระ” เด็กหนุ่มถาม รู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างประหลาด เขาจะวางตัวยังไงกับคนที่เบือนหน้าหนี

จากเขา ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาอาจจะพูดจาเสียดแทงให้เจ้าตัวหันมาสนใจเขาแล้ว แต่นี่เขาไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไร

เลยซักอย่าง
ศิระแปลกใจนิดๆที่เห็นพฤกษ์เงียบแทนที่จะพูดจาเหน็บแนมเขาอย่างที่เคยผ่านๆมา จึงหันกลับมามองเจ้าตัว

ใหม่ พฤกษ์กำลังก้มหน้านิ่งอย่างคนไม่มีพิษสงอะไร
“นายพาฉันมาที่นี่เหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามในที่สุดเมื่อเห็นพฤกษ์ไม่กล้าที่จะสบตาเขา และแม้ขนาดเขาถาม

พฤกษ์ก็ยังแค่พยักหน้ารับโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองเขาเลยซักนิด
“นายเป็นอะไร” ศิระถามอีก ในที่สุดพฤกษ์ก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา เด็กหนุ่มใจกระตุกเมื่อเห็นตาที่กำลังแดง

ของพฤกษ์ พร้อมรอยยิ้มบางๆของเจ้าตัว แต่เสียงที่พูดตอบกลับเขามามันกลับสั่นเครือ
“ฉันดีใจนะ ที่นายไม่เป็นอะไรไปมากศิระ”
“นายร้องให้เหรอพฤกษ์” ศิระเอื้อมมือไปแตะมือคนเสียงสั่นตามสัญชาตญาณ แม้จะบอกตัวเองว่าไม่ให้อ่อน

ไหวไปกับคนๆนี้อีก แต่สิ่งที่เห็นมันกลับกระตุกใจเขาได้ไม่น้อย พฤกษ์กำลังมีน้ำซึมอยู่เต็มขอบตา ถ้าเจ้าตัวไม่

พยายามกลั้นจนตัวเกร็งเชื่อว่ามันคงไหลออกมาแล้ว
“ศิระ ฉันขอโทษ” พฤกษ์ตอบได้แค่นั้นน้ำตาหยดแรกของความเสียใจก็ร่วงหล่นลงบนหลังมือคนที่กำลังแตะมือ

เขาอยู่ ศิระมองหยดน้ำบนหลังมือตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา เด็กหนุ่มอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก จนพฤกษ์พูดออกมา

อีกเขาจึงได้สติว่านี่คือเรื่องจริงไม่ใช่ความฝัน
“ให้โอกาสฉันทำหน้าที่คนรักที่ดีนะศิระ”
“ฉันเพลีย ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันยังไม่อยากฟังอะไร ศิระรีบชักมือตัวเองกลับ พฤกษ์ทำอะไรได้เสมอเพื่อให้เขา

กลับไปตกหลุมพรางที่กำลังปีนหนีขึ้นมา เด็กหนุ่มบอกตัวเองว่าอย่าเชื่อในสิ่งที่ตาเห็นอีก พฤกษ์ตัวชาชะงัก

ปฏิกิริยาต่อต้านของศิระ ทำให้เขาเริ่มใจเสียขึ้นมา
“ศิระ นายฟังฉันนะ” เด็กหนุ่มรีบบอก แต่คนนอนอยู่กลับบอกปัด
“ขอฉันนอนพักเถอะนะพฤกษ์”
“ศิระ” พฤกษ์ครางชื่อคนพูดออกมาเบาๆ กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่างออกไปก็ต้องหยุดเมื่อเจ้าตัวหลับ

ตาลง เหมือนไม่อยากรับรู้อะไรจากเขาอีก
“คนไข้รู้สึกตัวแล้วเหรอครับ” เสียงนุ่มที่ดังแทรกเข้ามาตอนที่ประตูห้องเปิดออก พฤกษ์รีบปาดน้ำตาตัวเองทิ้ง

หันไปฝืนยิ้มทักทายหมอหนุ่มที่เดินเข้ามาพร้อมแฟ้มในมือ
“ขอหมอตรวจอาการคนไข้นิดนึงนะครับ” คนมาใหม่บอกคนที่ยืนอยู่ยิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองศิระที่ลืมตาขึ้นมา

สบตาเขาเข้าพอดีเลยทัก
“สวัสดีครับ เป็นไงเอ่ย ยังเพลียอยู่หรือเปล่าครับ”
“นิดหน่อยครับ” ศิระตอบยิ้มๆ รู้สึกดีกับรอยยิ้มที่ได้รับ หมอนี่หน้าอ่อนวัยเองหรือเพิ่งจบมากันแน่นะ ถ้าจับไป

ใส่ชุดนักศึกษาก็น่าจะเข้ากับนิสิตปีสุดท้ายได้ไม่ยาก
“ผมศรันย์นะครับ เป็นหมอจบใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักคนไข้รายแรกของวิชาชีพครับ คุณ เอ่อ ศิระ” แฟ้มในมือถูก

ปิดลงเมื่อหมอหนุ่มดูชื่อคนไข้ในความดูแลเพื่อทักทายเสร็จ ศิระถึงกับสะดุ้งเมื่อหลังมืออุ่นๆของศรันย์ยื่นมา

แตะที่หน้าผากเขา ก่อนเอ่ย
“ตัวไม่ร้อนเท่าไหร่ ไข้คงลดแล้วมั้งครับ” ศิระยิ้มนิดๆกับคำบอกที่ได้ยินก่อนจะนึกในใจ หมอที่นี่เขาวัดไข้กัน

แบบนี้เองหรือว่ามันเป็นวิธีการเฉพาะของหมอมือใหม่กันแน่
“ญาติรอข้างนอกซักครู่นะครับ” คนเป็นหมอหันไปบอกพฤกษ์ที่ยืนมองเหตุการณ์เมื่อครู่อย่างอึ้งๆ ทำให้ศิระ

ต้องมองตาม สองสายตาประสานกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่ศิระจะเป็นฝ่ายหลบหันไปยิ้มให้หมอหนุ่มที่หันมายิ้ม

ให้เขา
“เดี๋ยวขอตรวจตามวิธีสากลหน่อยนะครับ เมื่อกี้ หลอกๆครับ”
“ครับ” ศิระพยักหน้ารับ หมอประสาอะไรวะ ขี้เล่นขนาดนี้ จะรักษาคนเจ็บยังไงวะนี่ พฤกษ์รู้สึกว่าตัวเองหมด

ความหมายขึ้นมาทันทีเมื่อศิระไม่ได้หันมาสนใจเขาเลยแม้แต่นิด เพราะมัวแต่อารมณ์ดีไปกับคำพูดของหมอ

มือใหม่ เด็กหนุ่มไม่อาจที่จะทนอยู่มองเหตุการณ์ที่คนไข้พูดคุยสนิทใจกับหมอได้เกินความจำเป็นเลยเปิดประตู

เดินออกจากห้องเงียบๆ ถ้าเพียงแค่เขาหันกลับมามอง เขาก็คงจะเห็นว่าศิระเองก็กำลังมองตามหลังเขาอยู่จน

ประตูปิดลง…….
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 07-01-2008 12:59:34
พฤกษ์ออกมานั่งอยู่คนเดียวบริเวณลานกว้างด้านนอก ในใจรู้สึกเหงาๆ ขึ้นมาเมื่อคิดไปไกลว่าศิระคงไม่อยากที่

จะเป็นคนของเขาเหมือนอย่างที่ผ่านมา เด็กหนุ่มเผลอเอนตัวหลับเมื่อรู้สึกอ่อนเพลียขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่เมื่อคืนที่

ตามหาศิระจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้แตะอะไรพอที่จะทำให้ร่างกายมีแรงขึ้นได้เลย
ศิระ แหงนมองดูกระปุกน้ำเกลือที่พยาบาลเพิ่งนำมาเจาะเข้าเส้นเลือดเมื่อซักครู่ตามคำสั่งของศรันย์ เด็กหนุ่ม

ถอนหายใจที่รู้ว่าตัวเองจะต้องนอนพักอยู่ที่นี่อีกหนึ่งคืน ค่าใช้จ่ายเขาจะเอาที่ไหนมาเสียในเมื่อตอนนี้ไม่มีเงิน

ติดตัวแม้แต่บาทเดียว เขาไม่อยากที่จะทำตัวให้ตกเป็นภาระของพฤกษ์อีก พฤกษ์เคยพูดกับเขาว่ายังไงเขายัง

จำได้ดี มีทางเลือกเดียวที่เขาคิดออกตอนนี้คือเพื่อนที่เขาอยากกลับไปหามากที่สุดตอนนี้ โทรศัพท์ข้างเตียงถูก

ยกมาใช้งาน
ประตูห้องถูกเปิดเข้ามาอีกครั้งในตอนที่เด็กหนุ่มกำลังจะกดเบอร์โทรศัพท์เพื่อน พฤกษ์เดินเข้ามาด้วยตา

แดงกล่ำและผมเผ้าเปียกหมาดๆที่ถูกเสยด้วยมือเจ้าตัว ศิระวางโทรศัพท์ลงที่เดิมเมื่อสนใจคนที่เดินเข้ามา

มากกว่า เด็กหนุ่มจ้องมองคนเดินไม่ตรง ที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้าเขามองเข็มน้ำเกลือที่เสียบไว้ตรงข้อมือแล้ว

เอ่ยถาม
“นายต้องนอนพักที่นี่ต่อเหรอ”
“จริงๆก็ไม่อยากหรอก” ศิระตอบห้วนๆ มองอาการพฤกษ์ที่สะบัดหัวและกุมขมับ เด็กหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าเจ้าตัว

กำลังไล่ความง่วงให้พ้นตัว จากสภาพที่เห็นพฤกษ์คงไปล้างหน้าล้างตามา
“นายน่าจะกลับไปนอนพักนะ” เด็กหนุ่มอดบอกไม่ได้ พฤกษ์เงยหน้าขึ้นมอง เขาจะรู้สึกดีเอามากๆถ้าคำพูด

เมื่อครู่เป็นเพราะศิระห่วงเขา แต่เด็กหนุ่มคิดว่ามันเป็นอย่างอื่นมากกว่า
“ไม่อยากให้ฉันอยู่เหรอ” พฤกษ์ถามเมื่อคิดไปไกลว่าศิระคงรำคาญเขาที่เข้ามาหาแบบนี้ อีกทั้งยังพาลที่เห็น

คนพูดร่าเริงอยู่กับหมอหนุ่มตอนที่เขาออกไป
“รู้ตัวก็ดีแล้วนี่” ศิระตอบอย่างไม่แคร์ คำพูดแค่นี้ถ้าพฤกษ์เจ็บก็ถือซะว่าเอาคืนจากที่เคยพูดเคยทำกับเขาไว้ก็

แล้วกัน แต่อย่างพฤกษ์เหรอจะมาแคร์คำพูดเขา ทำตีหน้าเศร้า เชื่ออีกคราวนี้ก็โง่เต็มทน
“แหงสิเจอหมอจบใหม่ฝึกงานเข้าไป ฉันมันจะไปมีความหมายอะไร”
พฤกษ์ว่ากระทบ แต่คนฟังกลับรู้สึกเฉยๆ นายนี่จะคิดยังไงก็ช่าง หัวใจเจ้ากรรมตอนนี้มันปิดตายตั้งแต่ที่รู้ว่าตัว

เองเลือกเดินทางผิดโดยไม่ฟังคำทัดทานจากเพื่อนแล้ว กลับไปก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะดำเนินชีวิตยังไง เมื่อศิระ

ไม่ตอบโต้กลับ พฤกษ์จึงเดินไปนั่งโซฟาริมห้องก่อนจะถอดรองเท้าเอนตัวลงนอน
“หวังว่าคงไม่มีใครมาไล่ให้ออกนอกห้องอีกนะ” คนกำลังจะหลับตาพูดขึ้นมาลอยๆ ก่อนจะเงียบเสียงลงแล้วหัน

ไปมองคนที่ลอบมองเขาอยู่บนเตียง
“ถ้านายนั่นมาแล้วนายอยากอยู่กับมันสองคนก็ปลุกนะ จะได้ไม่อยู่ให้รกตา” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอีก ศิระถอนหายใจ

เออนะ เพิ่งเคยได้ยินพฤกษ์ประชดเขาด้วยน้ำเสียงเบาหวิวก็ตอนนี้นี่เอง
   เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไรไม่รู้ที่สองคนต่างหลับกันอยู่คนละที่ในห้องเดียวกัน คนที่รู้สึกตัวก่อน

คือคนนอนให้น้ำเกลือ เมื่อรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา ศิระพยายามยันกายลุกขึ้นถอดกระปุกน้ำเกลือออกจากเสา

เพื่อจะหิ้วเขาไปในห้องน้ำด้วย เด็กหนุ่มหันไปมองคนที่นอนหลับเมื่อรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรมือเดียวลำบากเพราะ

มืออีกข้างยังติดอยู่กับเข็มน้ำเกลือ  อย่าเลยตื่นมาก็ใช่ว่ามันจะเต็มใจช่วย เด็กหนุ่มบอกตัวเองในใจเมื่อเผลอ

คิดว่าถ้าพฤกษ์ลุกขึ้นมาช่วยพยุงเขาอีกแรงก็คงดีแต่มันก็คงได้แค่คิด พฤกษ์เหรอจะมาเสียเวลาดูแลคนอย่างเขา

แค่คิดเขาก็น่าจะไม่มีสิทธิ
“โอ้ย” ศิระหลุดปากร้องเมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงรอยต่อระหว่างเข็มน้ำเกลือกับเส้นเลือดตอนที่ยกกระปุกน้ำเกลือ

ออกจากเสาได้สำเร็จ แต่ต้องยกมือข้างที่เสียบเข็มอยู่ช่วยยก จนเลือดไหลย้อนกลับ
“เอ้ย นายทำอะไรศิระ” พฤกษ์ดีดตัวลุกอย่างตกใจเมื่อเห็นศิระบีบสายน้ำเกลือไล่เลือดให้กลับไปทางเดิม ตอน

ที่เขาได้ยินเสียงร้องของเจ้าตัว
“เลือดมันย้อน” ศิระบอกเสียงเบา เกิดมาไม่เคยให้น้ำเกลือ พอเจอแบบนี้ถึงกลับมือสั่น
“แล้วใครให้ทำแบบนั้นล่ะ” พฤกษ์รีบลุกเดินมาหาแย่งกระปุกน้ำเกลือออกจากมือเจ้าตัวแขวนไว้ที่เสาดังเดิม

ก่อนจะค่อยๆจับมือข้างที่ติดเข็มวางไว้ในตำแหน่งที่เลือดจะสามารถไหลกลับไปทางเดิม
“กลัวเหรอ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาย” ปากบอกตามองจ้องคนหน้าซีด แต่มือกลับไม่ยอมปล่อย ศิระเองยัง

เจ็บจี๊ดๆอยู่ก็ไม่กล้าที่จะชักมือกลับ เลยปล่อยให้พฤกษ์กุมเอาไว้แบบนั้น เห็นมันนานไปก็เลยบอก
“ฉันจะเข้าห้องน้ำ”
“ไปดิ เดี๋ยวพาไป เลือดไม่ไหลแล้ว” พฤกษ์บอก ศิระเงียบ พฤกษ์อ่อนโยนกว่าที่เขาคิด เด็กหนุ่มปล่อยให้คน

อาสาจูงมือเขาไป มือที่ว่างอีกข้างก็ถือกระปุกน้ำเกลือให้
“ส่งฉันแค่นี้ก็พอ ฉันจะทำธุระ” ศิระบอกเมื่อพฤกษ์พาเดินไปถึงหน้าห้องน้ำ พฤกษ์จึงเอ่ยถามเพราะยังห่วงอยู่
“จะทำอะไร” ศิระไม่ตอบ แต่หันไปทางโถ ปัสวะ พฤกษ์จึงเข้าใจ
“เข้าไปคนเดียวแล้วจะฉี่ยังไง มือก็มีมือเดียว” เด็กหนุ่มบอก ศิระเลยหันมามองหน้าแล้วพูด
“ทำได้ละกัน”
“ป่วยแล้วยังอวดเก่งอีกนะ  ไม่ดูหรอกน่าของตัวเองก็ดูจนเบื่อแล้ว”
พฤกษ์ดันหลังคนป่วยให้เข้าไปส่วนตัวเองเลือกที่จะยืนหันหลังให้แต่มือก็ยังถือกระปุกน้ำเกลือไว้ให้เจ้าตัว จน

ฝ่ายนั้นทำธุระเสร็จ จึงพาไปล้างมือที่อ่าง
“เฮ้ย ไม่ต้อง ล้างเองได้” ศิระรีบบอกเมื่อเห็นพฤกษ์เปิดน้ำและจับมือเขาลงไปแช่
“ฉันไม่ได้พิการนะ” ศิระบอกอีกเมื่อพฤกษ์ ใช้มือตัวเองนวดมือเขาเบาๆผ่านสายน้ำอุ่นที่เปิดทิ้งไว้
“ก็อยากทำให้ เผื่อนายจะได้หายเกลียดฉันบ้าง” พฤกษ์บอกออกมาตรงๆจนคนฟังชะงัก ศิระเพิ่งรู้ว่าพฤกษ์คิด

ไปไกลขนาดนั้น
   “ที่ผ่านมาฉันไม่ดูแลนายเท่าไหร่ แถมยังเคยแกล้งนายอีก ทำให้นายแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

พฤกษ์พูดอีกก่อนจะยิ้มเศร้าๆ เขาน่าจะดูแลคนๆนี้ตั้งนานแล้วไม่น่าปล่อยเวลาให้ผ่านมาเนิ่นนานขนาดนี้ที่ผ่าน

มาเขามันตาบอดชัดๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 07-01-2008 13:15:22
โอยยยยยย

ปวดใจ :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-01-2008 13:16:32
มันเป็นกรรมเวร จิงๆทำกับเค้าไว้แบบไหนก็เจอแบบนั้น
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 07-01-2008 13:38:09
มารอจ้า

ป๋อหลอ ช่วงปลายปีลุงไหแกมีทัวร์ด้วยนี่
ตามตารางเห็นว่าสามเดือน
ทำอะไรไม่ดูอายุเล้ย  :m20:



เห็นด้วยยยยยยยยย ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :m20: :m20: :m20:

ใจร้ายอะ ทุกคนเรยยย เตี้ยแก่แล้วผิดตรงหนายยยย  :m15:
ยังไม่ได้อ่านตอนใหม่เลยอะ เด๋วมาเม้นให้อีกทีนะ อ่านก่อน
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 07-01-2008 13:39:31
ลุงไหแก่เพ่เจแก่ลุงโยแก่ :m15: :m15:(http://images.forstudent.com/il/0lunasea.jpg)
(http://images.forstudent.com/iw/webj02.jpg)
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 02/01/08 Chapter 13
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 07-01-2008 13:47:29
มารอจ้า

ป๋อหลอ ช่วงปลายปีลุงไหแกมีทัวร์ด้วยนี่
ตามตารางเห็นว่าสามเดือน
ทำอะไรไม่ดูอายุเล้ย  :m20:



เห็นด้วยยยยยยยยย ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :m20: :m20: :m20:

ใจร้ายอะ ทุกคนเรยยย เตี้ยแก่แล้วผิดตรงหนายยยย  :m15:
ยังไม่ได้อ่านตอนใหม่เลยอะ เด๋วมาเม้นให้อีกทีนะ อ่านก่อน




น่านๆๆ

มีน้อยใจนะเนี่ย
แหม...ก็เหมือนขิงไง
ยิ่งแกยิ่งเผ็ด

แต่อย่างลุงแกคงเป็น
ยิ่งแก่ยิ่งเปรี้ยวเข็ดฟัน

เหอๆๆ :m12: :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 07-01-2008 14:19:21
สงสารศิระ เห็นใจพฤกษ์ แต่ก็สมน้ำหน้าด้วย
เพื่อนทำซวยช่วยไม่ได้  :เฮ้อ:

>>>ลุงไหแก่เพ่เจแก่ลุงโยแก่
แม่นเลยแอม พาเหรดกันแก่  :a6:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 07-01-2008 14:45:02
สงสารศิระ เห็นใจพฤกษ์ แต่ก็สมน้ำหน้าด้วย
เพื่อนทำซวยช่วยไม่ได้  :เฮ้อ:

>>>ลุงไหแก่เพ่เจแก่ลุงโยแก่
แม่นเลยแอม พาเหรดกันแก่  :a6:

:m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 07-01-2008 17:09:44
555555555555555


 :a4: :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: armani ที่ 08-01-2008 11:19:12
ซึ้งจาายจิงๆ :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 08-01-2008 11:47:29
สงสารทั้งพฤกษ์ และ ศิระ อุปสรรคเยอะเหลือเกิน

ปอนด์ก็น่าสงสาร โดนหลอกใช้ และหลงมัวเมา จนทรยศเพื่อนตัวเอง

วายร้ายที่แท้จริง ของเรื่องนี้ คือ เมษา รึเปล่า จิ้งจกเปลี่ยนสีชัด ๆ เลย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 08-01-2008 12:19:11
รันทดจิต o7
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 08-01-2008 15:36:56
 :o12: :o12: :o12:
เศร้า
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 09-01-2008 11:03:56
ผมอ่านเรื่องนี้ตั้งแต่อยู่บอร์ดปาล์ม

ขอบอกว่าชอบมากนะครับ  คุณบอย

ชอบพฤษ์กับศิริ  แต่ไม่อยากให้จบแบบนั้นเลย

แอบสงสาร....
 :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 09-01-2008 11:06:27
 :m13:

อยากให้โพสเรื่องต่อไปของคุณบอย

เป็นเรื่อง  Dream Series จะได้ป่าวครับ

เพราะเป็นอีกเรื่องของคุณบอยที่ผมโปรดมากๆ

 :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 07/01/08 Chapter 14
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 09-01-2008 13:35:50
วันนี้เข้ามาอ่านทวน

เฮ้อ...
อยากจะหมั่นไส้นายพฤกษ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 09-01-2008 14:14:59
15..“ดูรักกันดีนะครับ” เสียงห้วนดังแทรกผ่านเข้ามาในห้องทันทีที่ประตูที่ปิดอยู่ได้เปิดออก พฤกษ์ถึงกับชะงักขณะที่กำลังประคองศิระกลับไปที่เตียง เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียง เมษานั่นเอง
“ยังไม่หายเหรอศิระ” เมษาเมินหน้าหนีจากสายตาของพฤกษ์เพื่อหันไปถามคนที่กำลังพยายามถอยตัวออกจากคนประคอง
“เดินเองได้” ศิระไม่ตอบคำถามเมษาแต่หันไปบอกคนข้างตัวแทน ฝ่ายนั้นจึงได้สติ ตอบกลับมาเสียงแข็ง
“อย่าดื้อไม่เข้าเรื่องศิระ เดี๋ยวเลือดก็ได้ไหลย้อนออกมาอีก” พฤกษ์ไม่รอให้ศิระแย้งอะไรได้อีก เด็กหนุ่มประคองพาเจ้าตัวไปจนถึงเตียง ก่อนจะจัดแจงห้อยกระปุกน้ำเกลือให้เข้าที่ แล้วส่งศิระนอนลงที่เตียง
“ไปดูแลคนของนายก่อนดีกว่า” ศิระเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพฤกษ์ไม่สนใจอีกคนที่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่ในห้อง
“ก็ทำอยู่นี่ไง”
พฤกษ์ตอบ ตอนนี้ไม่ว่าใครจะมาไม้ไหนเขาก็จะไม่ยอมทำให้คนที่นอนอยู่ตรงหน้าสับสนในตัวเขาได้อีก เมษาคงไม่ได้มาดีหรอก แค่ฟังน้ำเสียงก็เดาได้ไม่ยาก
“ฉันหมายถึงเพื่อนของนาย” ศิระบอก เขาเองก็เคยเป็นส่วนเกิน มันรู้สึกแย่ขนาดไหนเขารู้ดี พฤกษ์เงยหน้าขึ้นชำเลืองมองเมษา ได้ทีฝ่ายนั้นที่รออยู่ จึงรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจกึ่งตัดพ้อทันที โดยยกเพื่อนร่วมกลุ่มขึ้นมาอ้างทั้งๆที่ขัดกับความเป็นจริง
“ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลยนะพฤกษ์ เพื่อนๆพอรู้ว่าคุณไม่ไปเที่ยวด้วยกันทุกคนพาลไม่อยากจะไปกันหมดเลย  เนี่ยยังเกาะกลุ่มกันอยู่ที่โรงแรม”
“อย่าบอกนะครับว่าคุณมาตามผม” พฤกษ์ดักทางเอาไว้ก่อนที่เมษาจะพูดจบ ฝ่ายนั้นจึงพยักหน้ารับ
“เห็นสภาพศิระแล้ว คงไม่ต้องให้ผมบอกนะเมษา ว่าผมจะเอายังไง”
ศิระหันไปสบตากับเมษาทันทีที่พฤกษ์เอ่ยจบ ตาเมษาดูเศร้าจนเขาไม่อยากจะคิดว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกแย่เหมือนที่เขาเคยเป็นเลยตัดสินใจหันมาเอ่ยกับคนที่ยืนอยู่ใกล้ตัว
“ย่าให้ทุกคนหมดสนุกเลยนะพฤกษ์พวกเขาตั้งใจมาเที่ยวกัน ฉันอยู่โรงพยาบาล อยู่กับหมอ คงไม่ตายง่ายๆหรอก”
“พูดมากน่า” พฤกษ์ดุขึ้นเมื่อตีความหมายศิระออก ตัวเองโดนอะไรมาบ้างยังจะทำเป็นคนใจดีอีก
“ทำไมต้องดุกันด้วยวะ” ศิระเถียงขึ้น พฤกษ์มองหน้าแค่แวบเดียว ก่อนจะหันไปบอกกับเมษา
“ฝากขอโทษทุกคนด้วยเมษา ผมคงไปไหนไม่ได้ จนกว่าน้ำเกลือที่ให้ศิระจะหมด” เมษาใจเต้นเพราะความฉุน เมื่อเห็นน้ำเกลือที่ให้ศิระเหลืออยู่ไม่ใช่น้อยๆ
“งั้นผมว่าคุณคงต้องค้างที่นี่อีกคืนแล้วมั้งครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยประชด น้ำเกลือเหลือเต็มกระปุก หยดทีละหยดสองหยด มันจะหมดลงง่ายๆได้ยังไง
“ก็ไม่เห็นแปลก ผมตั้งใจไว้ว่าอย่างนั้นอยู่แล้ว” พฤกษ์ตอบ ศิระถอนหายใจ รู้ว่าบรรยากาศตึงเครียดขึ้นอย่างแน่นอน พฤกษ์เปลี่ยนเป็นคนละคนขนาดนี้
“จะมานอนทำไม เกะกะเปล่าๆ ช่วยหมอได้เหรอนาย” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเพราะไม่อยากให้เมษารู้สึกแย่ เขากับพฤกษ์ยังไงคงไปกันไม่ได้อยู่แล้ว เหตุการณ์ที่ผ่านมามันฟ้องอะไรชัดเจน เขาอยากได้ความรักจริงๆไม่ใช่ความรักที่เกิดจากความสงสาร ต่อให้พฤกษ์มาทำดีกับเขาตอนนี้เท่าไหร่ ความรู้สึกที่เสียไปของเขาก็ยากที่จะผสานต่อให้มันคงรอยเดิมได้
“อยากอยู่กะหมอนั่นสองต่อสองนายก็บอกมาเถอะศิระ” พฤกษ์สวนกลับเพราะคิดไปไกลถึงสาเหตุที่ศิระไม่อยากให้เขาอยู่ ศิระเห็นว่าเป็นทางเดียวที่จะทำให้บรรยากาศดีขึ้นได้เลยปล่อยเลยตามเลย
“ก็ทำนองนั้น” เด็กหนุ่มตามน้ำ สังเกตเห็นพฤกษ์นิ่งไปซักพัก แต่ก็ไม่อยากสนใจ เขากำลังแคร์จิตใจเมษาอยู่ ไม่รู้สิ หรือเพราะเขาเคยรู้สึกแย่จนเสียน้ำตามาแล้วหรือเปล่าเลยไม่อยากให้เมษาตกอยู่ในสภาพแบบนั้น เด็กหนุ่มหาเหตุผลให้ตัวเองที่อยู่ๆเกิดนึกใจอ่อนเห็นใจคนที่เคยไม่ชอบหน้าขึ้นมา
“งั้นก็ตามใจ อยากอยู่กะมันนักก็ตามใจ” พฤกษ์แพ้ใจตัวเองในที่สุด ว่าจะอดทนให้มากที่สุดเท่าที่จะทนได้ แต่ก็อดน้อยใจในสิ่งที่ได้ใจคิดไม่ได้ จึงโพล่งออกมาเพื่อประชด แต่คนฟังกลับไม่คิดที่จะใส่ใจ
“เที่ยวให้สนุกนะ” ศิระบอกเสียงเย็นเป็นเชิงมัดมือชกให้พฤกษ์ไม่มีข้อแย้งก่อนจะหลับตาเหมือนจะไม่รับฟังอะไรอีก เด็กหนุ่มจึงไม่มีโอกาสได้เห็นว่าพฤกษ์กำลังมองเขาด้วยแววตาเจ็บปวดที่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองคงไม่สามารถทำอะไรให้คนที่นอนอยู่รู้สึกดีๆต่อเขาขึ้นมาได้อีก

ศรันย์เข้ามาดูอาการศิระกลางดึกเมื่อได้เวลาที่จะถอดสายน้ำเกลือให้เจ้าตัว ระหว่างที่พยาบาลผู้ช่วยกำลังจัดการตามคำสั่งเขาอยู่ หมอหนุ่มเลยถือโอกาสพูดคุยกับคนป่วย
“ห้องนี้มันแคบไปเหรอครับ”
“หืออ..” ศิระลากเสียงในลำคอถามอย่างสงสัยว่าคนพูดหมายถึงอะไร หมอมือใหม่เห็นอาการนั่นเลยเฉลยคำพูดของตัวเอง
“ก็เห็นเพื่อนคุณไปนั่งสัปปะหงกอยูด้านนอกก็เลยงงว่าทำไมไม่เข้ามานอนในห้องนี้กับคุณ ทางเราก็ไม่ได้ห้ามญาติเข้ามานอนเฝ้าซะหน่อย ห้องนี้เขาก็เป็นคนจองน่าจะรู้กฎดี” ศิระรู้สึกหวิวๆขึ้นมาเมื่อรู้ทันทีว่าศรันย์หมายถึงใคร พฤกษ์ไม่ได้ไปกับเมษาหรอกเหรอ นายนั่น นั่งอดหลับอดนอนอยู่ข้างนอก ไปทรมานตัวเองทำไม บ้าชัดๆ
“อืม ผมถอดสายน้ำเกลือแล้ว ผมขอออกไปดูเขาได้มั๊ยครับ” ศิระบอก ศรันย์เอ่ยยิ้มๆอย่างคนใจดี
“ได้สิครับ ถ้าคุณไม่เพลีย”
“คงไม่ล่ะครับ ล่อน้ำเกลือไปซะขนาดนี้” ศิระเอ่ยติดตลก แต่ใจตัวเองตอนนี้ไปอยู่กับคนที่ตัวเองกำลังนึกภาพอยู่ว่าไปนั่งหลับๆตื่นๆอยู่ส่วนไหนของโรงพยาบาล
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 09-01-2008 14:27:46
“ไปพร้อมกันมั๊ยล่ะครับ ผมกำลังจะไปดูคนไข้รายอื่นอยู่เหมือนกัน”
ศรันย์เสนอ ศิระส่ายหน้าอย่างไม่อยากรบกวน
“ผมไม่เป็นไรแล้ว ไม่รบกวนล่ะครับผมว่าผมเดินไปเองดีกว่า”
“แล้วรู้เหรอครับว่าญาติคุณอยู่ตรงไหน โรงพยาบาลที่นี่ถึงจะอยู่ต่างจังหวัดแต่ก็ไม่ได้แคบนะครับ” ศรันย์เอ่ยล้อๆ ศิระไม่มีทางเถียงเลยเดินคู่กับหมอหนุ่มออกไปจากห้อง 
พฤกษ์มองสองคนที่กำลังเดินคู่กันออกมาตามแนวทางเดินที่เชื่อมมาตรงที่เขากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ เด็กหนุ่มหายจากอาการเบลอๆจากการที่เพิ่งจะตื่นทันที หมอนั่นทำให้ศิระมีรอยยิ้มสดใสอย่างที่เขาไม่เคยเห็น จนอดที่จะน้อยใจขึ้นมาไม่ได้ จึงรีบลุกเดินหนีก่อนที่จะอยู่เผชิญหน้ากับสองคนที่กำลังจะเดินมาถึง
“ไปไหนแล้วล่ะ เมื่อกี้ตอนผมจะเข้าไปตรวจคุณเขาก็ยังนั่งหลับอยู่ตรงนี่นี่นา” ศรันย์เอ่ยเมื่อพาศิระเดินมาถึงที่ ที่เขาเดินผ่านตอนทีพฤกษ์หลับอยู่
“คงตื่นแล้วมั้งครับ อาจไปห้องน้ำ” ศิระบอก แต่ในใจพาลคิดไปว่าพฤกษ์คงกลับไปที่โรงแรมแล้ว นายนั่นจะมาอดหลับอดนอนเพื่อเขาทำไมกันล่ะ
“คงงั้นมั้งครับ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวไปดูคนไข้ก่อนนะครับ ยังไงผมจะให้พยาบาลพาคุณกลับไปที่ห้องละกัน” ศรันย์บอกก่อนจะหันไปมองพยาบาลสาวผู้ติดตาม แต่ศิระเอ่ยขึ้นก่อน
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้เองผมกลับเองได้ ไม่รบกวนล่ะครับ ขอบคุณนะครับ ผมคงขอตัวเหมือนกัน” พูดจบเด็กหนุ่มก็รีบเดินแยกออกมา จากที่นอนมาทั้งวัน ร่างกายจึงไม่มีอาการเพลียหรือง่วง ศิระจึงเดินเนือยๆช้าๆอย่างไม่เร่งรีบที่จะกลับไปพักผ่อน ไฟในโรงพยาบาลยังสว่างจ้า บรรยากาศจึงไม่ได้น่ากลัวอะไร คงมีแต่สายตาพยาบาลที่เดินสวนเขาเท่านั้นที่มองเขาแปลกๆ คงคิดว่าใครปล่อยให้เขามาเพ่นพ่านกลางดึกในชุดผู้ป่วยแบบนี้ ก็หมอเจ้าของไข้เป็นคนอนุญาต ต่อให้ใครจะมองให้จนตาพลิกเขาก็ไม่สนหรอก อีกอย่างตอนนี้จิตใจเขาไปอยู่ที่คนที่เขากำลังคิดว่าไปอยู่ที่ไหนแล้วต่างหาก


   พฤกษ์เบือนหน้าหนีจากคนที่เปิดประตูห้องเข้ามา นึกๆแล้วก็เคือง เด็กหนุ่มพาลคิดไปว่าภาพที่เห็นเมื่อครู่ที่ตัดสินใจเดินหนีมาเป็นการที่ศิระออกเดินตามหมอเจ้าของไข้ไป ศิระชะงักเมื่อเห็นพฤกษ์อยู่ในห้องของตัวเอง ก่อนจะรวบรวมสติเอ่ยถาม
“มาอยู่นี่ได้ไง”
“มาไม่ได้หรือไง” พฤษ์ตอบกลับเสียงขุ่นแต่ยังไม่ยอมหันไปมองคนถาม จนฝ่ายนั้นเดินเข้ามาหยุดตรงเตียงนอนแล้วเอ่ย
“ฉันนึกว่านายไปกับเพื่อนนายแล้วซะอีก”
“อยากให้ไปนักหรือไง” พฤกษ์ยอมหันมามอง สองสายตาประสานกันก่อนจะต่างคนต่างหลบเมื่อคิดไปคนละทาง ศิระ รู้สึกผิดนิดๆที่เห็นสีหน้าและแววตาอ่อนล้าของพฤกษ์ ที่คงอดหลับอดนอนเพราะคำพูดของตัวเอง ส่วนพฤกษ์นึกว่าศิระไม่พอใจที่เขาเข้ามาเสนอหน้าอยู่ในห้องนี้อีก ถึงได้พูดกับเขาแบบนี้ ภายในห้องเงียบไปชั่วครู่เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมเอ่ยอะไรออกมา พฤกษ์ก็ได้แต่นั่งน้อยใจในคำพูดของคนที่เขามั่นใจตัวเองแล้วว่ารัก ส่วนศิระก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยคำพูดใดออกมา อาการต่อต้านว่าอย่าอ่อนไหวกับท่าทีที่คนตรงหน้าอาจขุดหลุมพรางให้ตกลงไปอีกมันเกาะติดอยู่ที่ใจ จึงไม่กล้าแสดงอาการใดๆออกมาว่าแคร์คนๆนี้ เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลับไปจุดเดิมที่อุตส่าห์ผ่านมันมาได้
“ฉันกลับล่ะ” พฤกษ์ตัดสินใจเอ่ยเพราะทนอาการเฉยชาศิระไม่ไหว เจ้าตัวผลุนผลันลุกขึ้นจะเดินออกจากห้อง แต่ต้องชะงักเมื่อรู้สึกถึงมืออุ่นๆของศิระที่รวบมือเขาไว้ขณะเดินผ่าน ศิระทำเพราะเผลอตัว พอเห็นพฤกษ์อยู่ชิดตัวจึงเริ่มรู้ว่าตัวเองทำบ้าอะไรลงไป
“โทษที” เด็กหนุ่มรีบบอกก่อนจะปล่อยมือตัวเองออกแต่มันไม่ง่ายเมื่อพฤกษ์เป็นฝ่ายกุมไว้เสียเองแถมยังดึงเขาเข้าไปชิดตัวจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน
“กำลังทำอะไรอยู่ศิระ”พฤกษ์เอ่ยถาม กระแสบางอย่างที่เขาสัมผัสได้จากการกุมมือของคนใกล้ตัว ความรู้สึกมันบอกว่าศิระกำลังต่อต้านเขา ทั้งๆที่ส่วนลึกของใจมันไม่ใช่
“ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ” ศิระเถียง พยายามข่มอาการไม่ให้คนถามจับความรู้สึกอ่อนไหวตัวเองได้ มันเท่ากับเป็นจุดอ่อนให้โดนทำร้ายจิตใจถ้าหากว่าพฤกษ์แค่เล่นๆกับเขาเหมือนอย่างที่ผ่านมา
“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น” พฤกษ์ออกแรงดึงคนที่พยายามเบี่ยงตัวหนีให้เขามาชิดตัวยิ่งกว่าเดิม ทั้งๆที่เจ้าตัวฝืนจนตัวเกร็ง แล้วถาม
“แล้วนายหมายความว่าไง”
“จริงๆนายก็ยังรู้สึกกับฉันอยู่ใช่มั๊ย” พฤกษ์บอกตรงๆ กลั้นใจฟังคำตอบที่อยากได้ยิน
“นายคิดว่าฉันจะโง่ขนาดนั้นเลยเหรอพฤกษ์” ศิระตอบเสียงนิ่งต่างกับใจที่พยายามซ่อนความจริง แม้มันจะต้องฝืนแค่ไหน แต่การทรมานแค่ไม่กี่นาที มันก็ยังจะดีกว่าต้องกลับไปตกหลุมพรางแล้วเจ็บจนตลอดชีวิต
“นายโกหกฉัน” พฤกษ์ออกแรงดึงอีกเมื่อศิระพยายามเบี่ยงตัวหนี ถ้าคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่มาจากใจจริงๆของศิระเขาก็พร้อมที่จะยอมรับ แม้มันจะยากก็เถอะ แต่ที่เขาสัมผัสได้ ศิระคงกำลังฝืนตัวเองอย่างหนัก เขาทำให้คนๆนี้หวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เลยเหรอ
“มองตาฉันสิศิระ ถ้านายพูดจริง” พฤกษ์คาดคั้น ยิ่งเห็นอาการศิระเขาก็ยิ่งรู้สึกผิด
“ปล่อยเถอะพฤกษ์ ฉันจะนอน” ศิระบอกปัดเมื่อพฤกษ์ดึงเขาเข้าไปใกล้ซะจนตัวชิดกัน
“กลัวฉันจะทำอะไรเหรอ” พฤกษ์ถามพลางโน้มหน้าลงมาใกล้
“เปล่า” ศิระปฏิเสธพลางเบือนหน้าหนี แล้วออกแรงดันตัวพฤกษ์
“เปล่าแสดงว่าไม่กลัว” พฤกษ์เอ่ยขึ้นอีก ศิระจึงอดไม่ได้ที่จะมองค้อน แต่แค่ชั่ววูบเดียวเท่านั้นที่เขาสบตาพฤกษ์ สิ่งที่เขาไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้นจนทำให้ใจสั่น เมื่อริมฝีปากอุ่นๆของพฤกษ์ประกบที่ริมฝีปากเขาที่กำลังจะเอ่ยคำพูดที่คิดไว้ สัมผัสพฤกษ์ไวเกินกว่าที่เขาจะตั้งตัว ปากและลิ้นของพฤกษ์เล่นงานเขาจนเขาตั้งตัวไม่ติด พฤกษ์เหมือนรู้ว่าคนที่เขากำลังเล่นงานอยู่จะทรงตัวไม่ไหว จึงถอนปากออกมาแล้วเอ่ยถาม
“ทำไมต้องสั่นขนาดนี้ด้วย”
“ใครจะไม่สั่น นี่มันโรงพยาบาล นายมาทำแบบนี้ เกิดใครมาเห็นเข้าคิดว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น” ศิระเถียงพลางยันตัวให้ออกห่างจากคนที่ทำให้สติหลุดลอย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 09-01-2008 14:36:55
เกือบจะเช้าเมษายังคงนั่งครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ตอนที่เขาไปตามตัวพฤกษ์ที่โรงพยาบาล เด็กหนุ่มเริ่มร้อนรนเมื่อไม่สามารถพาพฤกษ์ออกมาจากที่นั่นได้ ขนาดศิระออกปากไล่ แทนที่พฤกษ์จะมากับเขา เจ้าตัวกลับบอกจะอยู่เฝ้าศิระต่อ เขากำลังจะตกเป็นรองคนอย่างศิระแล้วเขาจะมองหน้าคนรู้จักหลายๆคนที่เคยป่าวประกาศบอกว่าพฤกษ์คือคนที่เขาเลือกจะคบได้ยังไง เหตุการณ์ที่ผ่านมา มันชัดเจนจนแน่ใจว่าพฤกษ์เลือกศิระ พฤกษ์กลืนน้ำลายตัวเองชัดๆ มันต้องมีหนทางสิ ที่สองคนนั่นจะผิดใจกันจนมองหน้ากันไม่ติด
   ที่โรงพยาบาล พฤกษ์ตื่นตั้งแต่เช้า เขาบอกกับศิระตอนที่นั่งคุยกันเมื่อคืนก่อนที่ต่างคนต่างหลับว่าทันทีที่ออกจากที่นี่เขาอยากจะไปเที่ยวรอบเมืองกันแค่สองต่อสองกับเจ้าตัวเพื่อทดแทนเวลาที่เขาเมินเฉยไม่ดูแล ศิระเองแม้ไม่รับปากแต่อาการเงียบเขาก็ถือ ว่านั่นเป็นคำตกลง
“ตื่นแล้วเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามยิ้มๆเมื่อเห็นคนที่นอนอยู่พลิกกายแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมา ศิระมองคนทักก่อนจะพยักหน้ารับแล้วยันกายลุกนั่ง
“ตื่นเช้าจัง นอนพอแล้วเหรอ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม เห็นใจพฤกษ์เหมือนกันที่อดหลับอดนอนกับเขาหลายชั่วโมง
“จะให้ตื่นหลังคนป่วยหรือไง มาเฝ้านะไม่ได้มานอน” พฤกษ์ตอบก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและของใช้ที่ถูกเตรียมไว้ให้จากพยาบาล
“ล้างหน้าล้างตาก่อนนะ ลุกไหวมั๊ย” เด็กหนุ่มหันไปบอกคนที่นั่งอยู่บนเตียงแล้วถาม ศิระรู้สึกดีอยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่อยากคิดไกลเพราะแผลใจที่พฤกษ์กรีดไว้มันยังไม่สนิทดี
“หรือจะให้ทำให้” พฤกษ์แกล้งแหย่ ศิระจึงว่า
“ไม่ได้ป่วยเป็นอัมพาต”
“งั้นก็ลุกสิครับ”
“จะเร่งไปทำไม คนเพิ่งตื่นนะ”
“เบื่อที่นี่เต็มทนแล้ว หรือนายอยากอยู่ต่อ อยากรอเจอหน้าไอ้หมอจบใหม่นั่นใช่มั๊ยล่ะ”
“ก็ทำนองนั้น” ศิระแกล้งตอบ ทั้งๆที่ตัวเองก็เบื่อที่จะอยู่ห้องสี่เหลี่ยมนี้แทบแย่เหมือนกัน
“อย่ายั่วโมโหศิระ” พฤกษ์บอกเสียงขรึม อารมณ์ดีๆพาลจะหงุดหงิดไปกับคำพูดเมื่อครู่ ศรันย์ไม่ใช่ตาสีตาสา ถ้าศิระจะสนใจขึ้นมาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะดูท่านายนั่นจะเอาใจใสดูแลศิระมากกว่าเขาเสียอีก ถึงมันจะเป็นหน้าที่ของหมอเจ้าของไข้ก็เถอะ แต่เขาก็อดที่จะคิดไม่ได้
“ใครไปยั่วโมโหนาย” ศิระบอกไม่รับรู้อาการหงุดหงิดของคนฟัง
“ที่พูดเมื่อกี้ไง คิดนะโว้ย” พฤกษ์บอก ศิระมองสบตาอย่างนึกสนุก ถ้านายนี่แคร์คำพูดเขาจริงๆมันก็น่าแกล้งน้อยอยู่ซะเมื่อไหร่ล่ะ ทำกับเขาไว้ก็เยอะ เอาคืนซักหน่อยเถอะน่า
“คิดก็เรื่องของนายสิ เราไม่มีอะไรเกี่ยวกันแล้วนี่”
“พูดงี้หมายความว่าไง”
“ก็อย่างที่พูด”
“ก็แล้วมันหมายความว่าไงล่ะ”
“ขี้เกียจอธิบาย พูดแค่นี้ไม่เข้าใจ ก็เรื่องของนาย”
“ศิระ” พฤกษ์ได้ร้องเรียกตามหลังเมื่อศิระลุกเดินมาแย่งของในมือเขาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำเมื่อพูดประโยคสุดท้ายจบ  ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกอีกครั้ง ศิระก้าวออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวที่พันกายเพียงผืนเดียว รู้สึกแปลกนิดๆที่เห็นพฤกษ์จ้องมองเขาเหมือนสำรวจร่างกายเปล่าเปลือยท่อนบนที่เขาไม่เคยเปลือยให้ใครเห็น
“มองอะไร” เด็กหนุ่มตวาดถามเมื่อเห็นว่าพฤกษ์มองตัวเองนานเกินไป
“เปล่า” พฤกษ์ตอบก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถูกเตรียมไว้ให้อีกเช่นกัน มันเป็นเสื้อผ้าชุดเดิมของศิระที่ถูกซักแล้วเรียบร้อย
“ที่นี่เขาดูแลดีเหมือนกันนะ” เด็กหนุ่มเฉเปลี่ยนเรื่องทั้งๆที่ภายในรู้สึกหวงแหนคนที่ยืนเปลือยท่อนบนขึ้นมาอย่างประหลาด ศิระดูดีในแบบของคนที่น่าจะดูแลตัวเองอยู่ไม่น้อย จนทำให้เขาอดนึกถึงวันแรกที่เจอไม่ได้ เด็กหนุ่มเซอร์ๆวันนั้นกับเด็กหนุ่มที่ยืนผิวขาวละเอียดตรงหน้าตอนนี้ มันเหมือนคนละคนกัน จนต้องเผลอคิดว่า ถ้าคนๆนี้กลายไปเป็นคนของคนอื่น เขาคงอดรู้สึกเสียดายขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ใส่ซะ” พฤกษ์เดินมายื่นเสื้อผ้าให้คนที่เขาสำรวจร่างกายด้วยสายตาเมื่อครู่ กลิ่นหอมจางๆจากเนื้อตัวของศิระ ทำให้เขายิ่งหวงเจ้าตัวขึ้นมาจนไม่อยากให้ใครเข้ามาเห็นสภาพเปลือยท่อนบนแบบนี้
“นายไม่อาบเหรอ” ศิระรับเสื้อผ้าตัวเองมาถือไว้ในมือแล้วเอ่ยถามคนยื่นให้เมื่อมองดูแล้วว่าเจ้าตัวยังอยู่ในชุดเดิม
“ไม่อ่ะ ไปอาบที่โรงแรมดีกว่า” พฤกษ์บอก ศิระพยักหน้าเออออ แล้วหันไปจัดการสวมเสื้อผ้าตัวเองเงียบๆโดยที่พฤกษ์ยังมองอยู่ห่างๆ



ไม่มีคีย์บอร์ด :m15: :m15:ขาเดี้ยงไม่มีปัญญาออกไปซื้อ :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 09-01-2008 14:49:44
^
^
^
^

เดี๋ยวให้ขี่หลัง 

:oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 09-01-2008 15:04:38
ตามฟ๊อกซ์มาติดๆ
รออ่านด้วยคนนะ :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-01-2008 15:58:05
ลุ้นให้เข้าใจกันไวๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 09-01-2008 15:58:38
อัพบ่อย ๆ นะครับ ชอบ ๆ เรื่องนี้ครับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 09-01-2008 17:45:29
 :m1: :m1: :m1:

ใกล้จบแล้วเหรอคับ  โคตรชอบเรื่องนี้

มีโครงการโพสเรื่องไหนต่ออ่ะคับ

(อยากอ่านดรีมอ่ะ)

 :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 09-01-2008 18:55:54
คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม

รออ่านนะจ๊ะ  :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 09-01-2008 22:51:41
บ้านอยู่ไหนจ๊ะ
เดี๋ยวจ้างพี่วินไปรับ :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 09-01-2008 23:13:55
เมษา น่ากลัวนะเนี่ย นายเอกทั้งสอง จะต้องเผชิญ ปัญหาอะไรต่อไปอีกเนี่ย  :เฮ้อ: :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 09-01-2008 23:40:29
คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม



หึหึ อิจฉาล่ะสิ เดี๋ยวให้ขี่ด้วย เอาป่ะ  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 10-01-2008 10:05:30
คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม

รออ่านนะจ๊ะ  :m1:
ฟ๊อก :m1: :m13: :m1: :m13:

vi :m23: :m23: :a2:

DekDoy รอพี่บอยออนก่อนนะ

ใช้พี่ใช้เชื้อ พิมพ์ข้อความให้ :m23: :m23:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 10-01-2008 10:15:03
คีย์บอร์ดเดี้ยงเป็นสาเหตุของการไม่พูดอะไรเลยในไฮ5วีปะแอม 555 :oni1:
ฟ๊อกซื้อแล้วส่งไปให้แอมดิ จะให้ขี่หลังทำไม



หึหึ อิจฉาล่ะสิ เดี๋ยวให้ขี่ด้วย เอาป่ะ  :m13: :m13:

ไม่เอา เด๋วโดนฟ้อนเล็บ  :m20:

วีจะรอวันที่แอมพูดกับวีนะ  :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 10-01-2008 10:37:52
เป็นกำลังใจให้นะครับขอให้หายป่วยไวๆนะครับผม :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 10-01-2008 18:54:08
เอาแล้วซิ
เมษาไม่รามือ
แถมศิระก็ยังไม่รู้ว่าทั้งหมดที่เข้าใจน่ะ ผิดมาตลอด
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 10-01-2008 21:45:32
เมื่อไหร่จะมาอัพน๊า รออยู่นะครับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 10-01-2008 23:44:30
  :m22:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 09/01/08 Chapter 15
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 11-01-2008 00:54:59
ยืมคีย์ชาวบ้านเขามาเล่น อิอิ รอฟ๊อกไม่ยอมซื้อให้ซะที ขายังเดี้ยงอยู่ ขี่รถไปซื้อคีย์ไม่ถนัด

มีแต่คนเรียกร้องให้โพสตอนใหม่แฮะ เอ้า ลงก็ลง ตามคำขอจัดห๊ายยยยย


++++++++++++++++

#16


ศิระนั่งมองพฤกษ์เงียบๆขณะที่พฤกษ์เข้าไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้ เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจก่อนจะนั่งก้มหน้านิ่ง ในใจก็คิดว่าสุดท้ายตัวเองก็ต้องตกเป็นภาระของคนที่ไม่อยากที่จะเกี่ยวข้องอีกจนได้
“จะออกจากที่นี่แล้วเหรอ” หนึ่งเสียงที่ทักขึ้นทำให้เขาต้องแหงนหน้าขึ้นมอง เมษานั่นเองที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ก็ไม่รู้จะอยู่ทำไม” เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะละสายตามองไปที่อื่นเพราะไม่อยากสนใจเมษา แต่ก็ต้องหันกลับมาอีกจนได้เมื่อได้ยินประโยคที่ฝ่ายนั้นเอ่ยขึ้น
“ดีนะ รักษาฟรี อยู่ๆก็มีคนออกค่าใช้จ่ายให้”
“แล้วไง” คนได้ยินเอ่ยถาม เมษายักไหล่ก่อนจะหันไปมองที่พฤกษ์ที่กำลังคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วพูดต่อ
“อย่าเพิ่งหลงดีใจไปล่ะที่พฤกษ์ทำแบบนี้กับนาย” ฟังจบศิระยืนขึ้นผ่อนลมหายใจก่อนจะบอกออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“ทำไมฉันต้องดีใจ ในเมื่อฉันไม่ได้หวังว่าจะได้อะไรจากคนของนาย”
“ไม่ได้หวังหรือหมดหวังกันแน่”
“จะคิดอย่างนั้นก็ได้ไม่ว่ากัน”
“ฉันไม่จำเป็นต้องคิดหรอก ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้วว่าที่พฤกษ์ทำทุกอย่างก็แค่รู้สึกผิดที่เขาปล่อยให้นายตกสภาพหมดเนื้อหมดตัว” ศิระกำลังจะโต้ตอบคำพูดของเมษาแต่ช้ากว่าพฤกษ์ที่เดินเข้ามายืนข้างๆก่อนจะมองเขาและเมษาสลับกัน แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เลือกที่จะทักเมษาก่อน
“มาอยู่นี่ได้ไงเมษา”
“มาไม่ได้เหรอครับ” เมษาย้อนถาม พฤกษ์จึงถามถึงปอนด์
“แล้วพวกไอ้ปอนด์ล่ะครับ”
“พวกเขาก็ออกไปเที่ยวตามประสาคงไม่มีใครมาต่างจังหวัดเพื่อที่จะเข้าออกโรงพยาบาลหรอกครับ” เมษาประชด พฤกษ์นึกรำคาญเลยหันมาเอ่ยกับศิระพลางยื่นใบเสร็จที่ตัวเองเป็นออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
“ไปรับยาเถอะศิระ”
“นายจ่ายไปเท่าไหร่” ศิระถาม เพราะไม่สบายใจ มันไม่ใช่เรื่องที่พฤกษ์จะต้องมารับผิดชอบชีวิตเขา
“ที่เห็นตามบิลนั่นแหละ แล้วถามทำไมจะหามาคืนหรือไง” พฤกษ์ถามกลับ คนถามจึงรับกระดาษที่ตัวเองไม่กล้าดูตัวเลขมาเงียบๆ เมษาจึงถือโอกาสแขวะ
“ไงมีปัญญาจ่ายเองหรือเปล่า” สองหนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยหันไปคนพูดตัวแทบจะพร้อมกัน พฤกษ์นึกฉุน เมษาท่าจะก่อพายุในใจศิระ พายุที่เขากำลังพยายามจะผ่อนมันให้เบาแรงที่สุด
“เพื่อนของคุณคงรอคุณอยู่นะเมษา” เด็กหนุ่มชิงเอ่ยขึ้นก่อน ก่อนที่ศิระจะทันได้พูด
“ทุกคนรอคุณต่างหากล่ะพฤกษ์” เมษาสวนกลับ เป็นศิระที่ชะงัก พฤกษ์ไม่น่ามาเสียเวลากับเขา จริงของเมษา ทุกคนตั้งใจมาเที่ยวคงไม่มีใครอยากมาโรงพยาบาลกัน
“นายควรจะไปหาพวกของนายได้แล้วล่ะพฤกษ์” เจ้าตัวเอ่ยขึ้น พฤกษ์หันมามองหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจศิระยังคิดว่าเขาเป็นพวกนั้นอยู่ กลุ่มคนที่ไม่มีน้ำใจแม้ที่จะมาเยี่ยมคนที่เดินทางมาด้วยกันเลยซักครั้ง
“ทำไมนายพูดแบบนี้ศิระ ฉันไม่ใช่คนพวกไหน ฉันคิดว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
“แค่นี้ก็ตีความหมายไม่ออกเหรอพฤกษ์” เมษารีบแทรกขึ้น เขาทำให้สองคนเริ่มมีรอยร้าวได้จะปล่อยให้โอกาสเสียไปได้ยังไง คำพูดไหนที่พอจะกรีดรอยร้าวให้ลึกลงได้เขาก็พร้อมที่จะทำมันเดี๋ยวนี้แหละ
“ความหมายบ้าบออะไรเมษา ผมว่าคุณกลับไปเถอะ ผมจะไปกับศิระ”
พฤกษ์หันมาบอกเสียงแข็ง แทนที่เมษาจะรู้สึก เปล่าเลย เจ้าตัวกลับยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่เตรียมมาอย่างดี
“เลิกโง่ทีเถอะพฤกษ์ คุณทำกับศิระขนาดไหน คุณก็น่าจะรู้ คุณคิดว่าคนๆหนึ่งที่โดนคนรักกลั่นแกล้งจนต้องเข้าโรงพยาบาล จะไม่รู้สึกอะไรเหรอ”
“หมายความว่าไงเมษา” ศิระชิงเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าไม่ดี เมษามาในท่าทีแบบนี้ มันต้องมีอะไรพาดพิงถึงเขาแน่
“พอเถอะศิระ เลิกเล่นละครได้แล้ว เมื่อกี้นายพูดเองนี่ ว่าถ้าไม่ติดว่าต้องอาศัยให้พฤกษ์ช่วยค่ารักษาที่นายนอนอยู่ที่นี่ นายคงจะเล่นงานพฤกษ์ให้รู้สึกกับที่ทำกับนายเอาไว้”เมษาพูดต่ออย่างไม่สนใจว่าศิระกำลังอึ้งในสิ่งที่ได้ยินจนพูดอะไรไม่ออก พฤกษ์เห็นศิระเงียบก็เริ่มใจหวิว ถ้าเมษาพูดจริง ก็เท่ากับว่าศิระก็ร้ายไม่ใช่เล่น ตกลงเขากำลังโนใครปั่นหัวกันแน่
“จะไม่แก้ตัวหน่อยเหรอศิระ” เมษาลอยหน้าถามต่อ ยิ่งเห็นสองคนมองหน้ากันเหมือนกำลังค้นหาความจริงในกันและกันเด็กหนุ่มก็ยิ่งสะใจ ต่อให้ศิระแก้ตัวยังไง มันก็คงจะผสานรอยร้าวที่เขากรีดไว้ไม่ได้สนิทนักหรอก
“พูดอะไรบ้างสิศิระ” พฤกษ์เองเป็นคนเอ่ยถามขึ้นก่อน แต่จากน้ำเสียงที่ได้ยินศิระถึงกับแอบถอนหายใจ คำพูดของคนรอบกายยังคงมีผลต่อจิตใจคนๆนี้อยู่ จากแวบแรกที่จะปฏิเสธในสิ่งที่โดนใส่ไฟ เด็กหนุ่มเปลี่ยนใจเป็นไม่เอ่ยอะไรออกมา ถ้าพฤกษ์ยังอ่อนไหวกับลมปากใครๆแบบนี้อยู่อีก พูดอะไรไปก็ไร้ประโยชน์
“ว่าไงล่ะศิระ” เมษาย้ำถาม เขาอ่านเกมไม่ผิดหรอก จากที่นั่งตรึกตรองทั้งคืน ดูท่าจะไม่เสียเวลาเปล่า
“ก็ไม่รู้จะพูดอะไร นายพูดหมดแล้วนี่” ศิระเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะเดินไปยังเคาน์เตอร์รับยา พฤกษ์ถึงกับใจสั่น ไม่น่าเชื่อว่าศิระจะร้ายกับเขาได้ถึงขนาดนี้
“ตาสว่างหรือยังพฤกษ์” เมษาเอ่ยขึ้นเสียงเยาะหยัน ที่เห็นผลงานตัวเองเป็นที่น่าพอใจ พฤกษ์กำลังมองตามหลังศิระด้วยสายตาผิดหวัง และที่สุดเจ้าตัวก็เดินตามไป เมื่อเห็นศิระรับยาเสร็จและกำลังเดินออกจากเคาน์เตอร์
“ทำอะไรน่ะพฤกษ์” ศิระเอ่ยถามอย่างตกใจเมื่อถุงยาในมือที่เพิ่งรับมาโดนมือของพฤกษ์กระชากไปเมื่อเจ้าตัวเดินมาถึงเขา
“พูดกันให้เคลียร์ก่อนซิ” พฤกษ์บอกเสียงเครียด โดยที่ศิระไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโดนมองในแง่ร้ายอีกครั้ง
“คนของนายล่ะ” เด็กหนุ่มเลี่ยงถามถึงเมษาที่หายตัวไปแล้ว นึกหวั่นใจกับท่าทีแข็งกระด้างของพฤกษ์
“ถามหาเขาทำไม”
“ฉันคิดว่านายจะกลับไปด้วยกัน”
“ที่เมษาพูดไม่จริงใช่มั๊ย” พฤกษ์เปลี่ยนเรื่อง ศิระส่ายหน้า
“จริงไม่จริงก็น่าจะคิดเองได้ ทำไมต้องให้พูดด้วย”
“ก็นายก็บอกสิว่ามันไม่จริง”
“แล้วถ้ามันจริงล่ะ”
“ก็เท่ากับนายหลอกฉัน”
“ก็โง่เองนี่”
“นี่นายยอมรับแล้วใช่มั๊ยว่า ที่นายอ่อนข้อให้ฉันเพราะนายกลัวว่าจะไม่มีคนออกค่ารักษาให้นาย”
“ฉันจะไม่พูดไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น พฤกษ์ ขอยาคืนด้วย” ศิระตัดบทที่ไม่อยากจะอธิบายอะไรเพราะคิดว่ามันไม่มีประโยชน์ ยังไงเสียเขาก็ไม่กล้าที่จะกลับไปยังจุดเดิมแต่พฤกษ์กลับฉุนขาดเพราะคิดว่าศิระยอมรับกับเขาแล้วว่าสิ่งที่เมษาพูดเป็นเรื่องจริง ด้วยอารมณ์โมโหที่เหมือนโดนหลอก เด็กหนุ่มฟาดถุงยาลงกับพื้นต่อหน้าต่อตาคนที่ยื่นมือขอจนหล่นกระจัดกระจาย ก่อนจะเอ่ย
“ไม่ได้เป็นคนจ่ายเองก็เก็บเอาตามพื้นละกัน” พูดจบสองขาก็ก้าวข้ามถุงยาที่วางกองที่พื้น ศิระถึงกับตัวชาที่ถุงยาบางส่วนโดนเหยียบจนเละไปต่อหน้าต่อตาก่อนที่คนเหยียบจะก้าวเดินฉับๆหนีเขาไปโดยไม่หันมามองเขาเลยซักนิด

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 11-01-2008 01:03:45
ศิระนั่งมองถุงยาที่ยับป่นปี้ในมืออย่างรู้สึกสมเพชตัวเองความรู้สึกว้าเหว่โถมเข้ามาทักทายอีกครั้ง เด็กหนุ่มนึกอยากหนีจากที่นี่ นึกอยากหนีไปให้พ้นจากสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยบางทีการกลับไปสังคมเดิมๆในที่ ที่เคยอยู่เขาอาจจะไม่อ่อนแออย่างตอนนี้ก็เป็นได้ แต่เขาจะกลับไปที่ตรงนั้นได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้เขาเหมือนอยู่ตัวคนเดียว อยู่ในที่ที่ไม่รู้จักใคร ถุงยายับๆถูกหย่อนลงถังขยะใกล้ๆ คนหย่อน นั่งหลับตานิ่งนึกหาหนทางที่จะพาตัวเองไปจากที่นี่ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อมีเสียงเรียก
“ศิระ”
“หมอเองเหรอครับ” คนโดนเรียกทักคนที่เดินมาหา ทั้งๆที่รู้จักแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังไม่คุ้นเคยที่จะเรียกหมอหนุ่มที่หยุดอยู่ตรงหน้าว่า ศรันย์ เฉยๆ
“แล้วนึกว่าใครล่ะครับ” ศรันย์ถามล้อๆ ศิระหมดสถานภาพเป็นคนไข้ของเขาตั้งแต่ตอนที่เจ้าตัวโดนถอดสายน้ำเกลือออกตั้งแต่เมื่อคืน เขาคิดว่าป่านนี้ศิระคงจะออกจากที่นี่ไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ทำไมยังมานั่งอยู่ในเขตโรงพยาบาลอยู่อีก ทั้งๆที่เวลามันวิ่งมาจนถึงรอบที่เขาต้องเข้าเวรดึกแล้ว
“ไม่เห็นตอบผมเลยว่ารอใครอยู่” หมอหนุ่มถามซ้ำเมื่อคนตรงหน้าเงียบ
“เปล่าครับ” ศิระตอบ พลางขยับที่ให้เมื่อเห็นศรันย์ทำท่าจะนั่งลงข้างตัว
“ไม่มีคนไข้เหรอครับ” เด็กหนุ่มถามเมื่อศรันย์นั่งอยู่ข้างๆแล้ว
“ผมขยันไง มาก่อนเวลาที่จะไปตรวจใคร เห็นอดีตคนไข้นั่งอยู่เลยแวะเข้ามาดู เผื่อไข้จะตีกลับจะได้จับฉีดยาทัน” ศรันย์ยังคงพูดติดตลกตามเดิมจากแววตาและสีหน้าเปื้อนยิ้มที่เห็นคนฟังเลยอดที่จะยิ้มจางๆไม่ได้ก่อนที่จะเริ่มสนทนา
“ท่าทางหมออารมณ์ดีนะครับ”
“อารมณ์ร้อนจะดูแลคนป่วยได้ไงล่ะครับ ว่าแต่ทำไมคุณมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะ ผมคิดว่าคุณไปไหนถึงต่อไหนแล้ว”
“นั่นสิผมน่าจะไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
“พูดแปลกแฮะ มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“ไม่มีอะไรครับ ไข้ผมคงตีกลับมั้งเลยพูดเพ้อเจ้อไปหน่อย”
“อืม น่าคิด สงสัยผมรักษาไม่ดี แย่จัง”
“หมอรักษาดีครับ แต่ผมดื้อยาเอง ยาพิษอีกต่างหาก”
“ผมตามไม่ทันแล้วแฮะ ท่าทางคุณต้องมีอะไรให้คิดแน่ๆ ไหนๆผมก็เคยเป็นเจ้าของไข้คุณ ในหลายข้อของจรรยาบรรณของหมอคือเก็บความลับได้ ผมก็มีคุณสมบัติข้อนั้นนะครับ” ศิระหันมองทันทีที่ศรันย์เอ่ยจบ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสีหน้าจริงจังของคนข้างตัว เด็กหนุ่มฉุกคิด ไหนๆก็หมดหนทางที่จะไปจากที่นี่แล้ว พฤกษ์คงจะไมใยดีเขาอีก แต่ถึงนายนั่นจะกลับมาแสดงความห่วงใย เขาก็หมดใจที่จะยอมรับมัน เป็นไงเป็นกันสิ จะลองบากหน้าขอความช่วยเหลือจากคนเคยรักษาซักครั้ง ไม่ตายคงทดแทนน้ำใจให้ได้
“ว่าไงครับ” หมอหนุ่มถามอีก เหมือนเปิดทางให้คนที่เหมือนน้ำท่วมปากที่เอาเข้าจริงๆก็อึกๆอักๆไม่รู้จะเริ่มตรงจุดไหนที่จะบอกความเป็นมาของตัวเองที่ต้องมานั่งสิ้นหนทางอยู่ในที่ ที่หลายคนไม่อยากเข้ามาสัมผัส
“มันอาจจะฟังดูแย่ซักหน่อยนะครับ” ในที่สุดก็เกริ่นนำก่อนจะถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่ที่ตัวเองตัดสินใจหันหลังให้เพื่อนให้งานเพื่อตามพฤกษ์มาที่นี่

   พฤกษ์นอนพลิกกายไปมาในเตียงกว้าง ในใจเริ่มกระวนกระวาย เขาทำอะไรลงไป ศิระอยู่ที่นี่ก็เหมือนไม่มีใคร เด็กหนุ่มดีดตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อนึกห่วงคนที่ตัวเองทำนิสัยแย่ๆใส่ ถ้าเมื่อตอนสายศิระแค่เอ่ยออกมาคำเดียวว่าสิ่งที่เมษาพูดไม่เป็นความจริงเขาก็พร้อมที่จะเชื่อโดยไม่แคลงใจซักนิด เขาก็ไม่อยากที่จะเป็นคนหูเบา แต่ทำไมคนของเขาต้องทำท่าทีไม่แคร์จิตใจเขาเลย จะไม่ให้รู้สึกอะไรมันก็อดไม่ได้ ที่เขาเดินจากมาก็ใช่ว่าเขาจะมีกะจิตกะไจไปสนุกต่อกับเมษาและกลุ่มเพื่อน ได้แต่ขังตัวเองอยู่ในห้องจนมืดแบบนี้
   “ศิระ ขอให้นายยังอยู่ที่เดิมเถอะ” ร่างสูงลุกขึ้นคว้าแจ็คเก็ตสวมคลุมเพื่อไล่ความหนาวที่คิดว่าคงจะเจอข้างนอก ตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเองเสร็จรีบเปิดประตูออกไปตามหาคนของตัวเองอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 11-01-2008 01:12:10
“อ้าวพฤกษ์มึงจะไปไหน” ปอนด์ร้องทักเพื่อนสนิทที่เริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจ้าตัวเดินแกมวิ่งสวนทางตรงทางเข้าโรงแรมขณะที่ตัวเองและเพื่อนกลับจากที่ออกไปเที่ยวกัน
“หาศิระ” พฤกษ์หยุดตอบเมษาได้ยินจึงรีบพูดขึ้น
“ป่านนี้นายนั่นไปถึงไหนต่อไหนแล้วจะไปหามันที่ไหนพฤกษ์”
“ศิระไม่มีอะไรติดตัว จะไปไหนได้ไง คงอยู่โรงพยาบาลแหละ”
“ทะเลาะกันมาเหรอ” ปอนด์ถามเสียงอ่อน ชักเห็นใจที่เห็นเพื่อนวิ่งเข้าวิ่งออกกับความรักครั้งนี้
“นิดหน่อย กูว่าจะพาศิระกลับกรุงเทพแล้วล่ะ พวกมึงถ้ายังสนุกก็เที่ยวต่อกันตามสบาย” ปอนด์ไม่แย้งใดๆ เมษาเปลี่ยนไปจนเขานึกเอนเอียงอยากให้พฤกษ์ลงเอยกับศิระด้วยดี ถ้ามีโอกาสเขาก็อยากที่จะปรับความเข้าใจและผสานรอยร้าวที่เขาเป็นคนก่อไว้ในใจศิระอยู่เหมือนกัน
“รีบไปเถอะนี่มันก็เย็นแล้วด้วย นายนั่นไม่มีอะไรติดตัว มึงทิ้งมาได้ไง”
พฤกษ์มองเพื่อนตัวเองอย่างนึกแปลกใจ แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะสนใจ เมื่อนึกตามในสิ่งที่ได้ยิน ใช่สิ ศิระอยู่อย่างไม่มีอะไรติดตัวป่านนี้จะอยู่ยังไงเขาเป็นคนรักที่ไม่ได้เรื่องอีกจนได้

   ศรันย์หยุดชะงัก มองคนที่เดินแกมวิ่งกลับเข้ามาในโรงพยาบาล ก่อนที่จะยืนเก้ๆกังๆมองซ้ายขวา เหมือนหาอะไรซักอย่างแต่ไม่รู้จะเริ่มไปถามใคร เลยตัดสินใจเดินเข้าไปหา
“ญาติศิระหรือเปล่าครับ” หมอหนุ่มถามหยั่งเชิง พฤกษ์ได้ยินเลยหันมามองก่อนจะตอบห้วนๆ เพราะยังติดใจที่หมอนี่ทำเขาเป็นคนแปลกหน้าสำหรับศิระไปช่วงหนึ่ง
“เพื่อนครับ ไม่ใช่ญาติ”
“อืม มิน่าล่ะถึงห่วงศิระได้แค่นี้”
“หมายความว่าไง”พฤกษ์ถามเมื่อศรันย์พูดให้คิด แต่คิดตามไม่ทัน
“ก็ ปล่อยให้เจ้าตัวเขานั่งไม่มีที่ไปอยู่ในที่ที่ใครๆก็ไม่อยากมา” ศรันย์ตอบ จากที่รับรู้เรื่องราวจากปากศิระ เด็กหนุ่มตรงหน้าไม่น่าที่จะได้เจอกับเจ้าตัวอีกเลยให้ตายเถอะ ผู้ชายอะไรไม่มีความหนักแน่นซักนิด
“แสดงว่าศิระยังอยู่ที่นี่ใช่มั๊ยครับ” พฤกษ์ออกอาการดีใจ แต่แล้วก็ต้องใจหายเมื่อศรันย์ส่ายหน้าแล้วบอก
“ผมว่าป่านนี้ศิระคงพ้นเขตจังหวัดนี้ไปแล้วล่ะครับ”
“ศิระจะไปไหนได้ไงในเมื่อ.......”
“ในเมื่ออะไรครับ” ศรันย์รีบถามสวนเมื่อพฤกษ์ชะงักคำพูดตัวเองไว้
“ไม่มีเงินติดตัวซักบาทใช่มั๊ยครับ” หมอหนุ่มต่อประโยคที่คิดไว้ให้ และมันก็จี้ที่ใจคนฟังจนถึงกับก้มหน้า
“ผมถึงบอกไงว่าคุณก็แค่เพื่อนที่ห่วงเพื่อนได้แค่คนรู้จัก” ศรันย์บอกอีก พฤกษ์ใช้มือตัวเองลูบหน้าถ้าเดาไม่ผิดศิระคงได้รับความช่วยเหลือจากคนตรงหน้า เขาคงกลายเป็นคนรักที่ดีไม่ได้จริงๆ
“ศิระรบกวนคุณหรือเปล่า”
“เปล่า”
“เปล่าแล้วศิระจะไปไหนมาไหนได้ยังไง”
“แล้วทำไมคิดว่าศิระจะรบกวนผมล่ะ”
“ผมว่าผมรู้จักเขาดีพอ ศิระไม่เคยขอร้องอะไรใครง่ายๆ”
“ถ้างั้นก็คงใช่”
“เท่าไหร่”
“ทำไมครับ”
“ผมจะคืนให้”
“ไม่ต้องลำบากหรอกครับ ผมไม่รีบร้อนขนาดนั้น เรื่องของผมกับศิระ เราเคลียร์กันได้ ขอตัวนะครับ” พฤกษ์ตัวชาเมื่อศรันย์เดินจากไปหลังจากพูดจบ เขากำลังจะกลายเป็นส่วนเกินอย่างนั้นเหรอ มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนะศิระ




อะไรกันนักกันหนาว๊าไอ่คู่นี้เดี๋ยวก็โน่นเดี๋ยวก้นี่

พฤกษ์ก็หูเบาเชื่อคนง่ายซะงั้น    :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ตามลุ้นกันใหม่ตอนหน้าละกัน เรื่องราวของสองคนนี้ยังคงดำเนินต่อไป




คิดถึงทุกคนนะ เอาไว้ได้คีย์บอร์ดจะมาคุยด้วยใหม่ละกัน

ตอนนี้ตามไรไม่ทันเลยในวงการเจร๊อค ไลฟ์LSที่วีบอกก็อยากดูเนตไม่แรงโหลดไม่ได้

รอส่วนบุญจากวีละกัน อิอิ  ส่วนงานลุงโยS.K.I.N ได้ฟังสักวันน่า

ฟ๊อกฟังแล้วอย่าลืมมารายงานกันนะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 11-01-2008 01:15:11
 :m15:

สงสารศิระ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 11-01-2008 01:23:27
โอย อะไรกันนักหนา คู่นี้น่ะ

สงสารทั้งศิระ และ พฤกษ์

พฤกษ์ ก็หูเบาและเชื่อคนง่ายเกินไป

เห้อ... :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 11-01-2008 05:51:11
 o7ตามทันแล้วครับ   :m15: สงสารปอนจริงเห็นกงจักรเป็นดอกบัว :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 11-01-2008 08:45:37
เฮ้อ เหนื่อยแทนคู่นี้เค้าจริงๆอะ เมื่อไหร่ศิระจะสมหวังซะที ไอ้เมษา แกกกกกกกกกก :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 11-01-2008 09:17:38
เอาเข้าไป ............................... จะเข้าใจผิดกันไปถึงไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 11-01-2008 10:56:02
ยืมคีย์ชาวบ้านเขามาเล่น อิอิ รอฟ๊อกไม่ยอมซื้อให้ซะที ขายังเดี้ยงอยู่ ขี่รถไปซื้อคีย์ไม่ถนัด

มีแต่คนเรียกร้องให้โพสตอนใหม่แฮะ เอ้า ลงก็ลง ตามคำขอจัดห๊ายยยยย


ไม่ใช่แควนนนนนน....

ซื้อแทนไม่ด้ายยยยย..... :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 11-01-2008 11:14:02
 :angry2:ปวดประสาทจริงบ้าบอทั้งคู่ :angry2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: armani ที่ 11-01-2008 11:56:38
 :m15: :m15: :m15: :m15: ไม่ไหวๆๆๆๆๆๆ ไม่หนักแน่นทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: YoOl ที่ 11-01-2008 14:39:29
อ่านแรกๆแล้ว ปวดใจจริงๆ

สงสารศิระอ่ะ :m15:
พฤกษ์ ตื้อเท่านั้น fighting :a2:

ปอนด์ร้ายกาจมาก  :angry2:
เมษาร้ายกว่าปอนด์อีกมั้ง :angry2: :angry2:

ชอบครับ สนุกมากเลยครับ :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 11-01-2008 17:52:21
 :m15:

สงสารปอนด์
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 12-01-2008 23:48:17
ยืมคีย์ชาวบ้านเขามาเล่น อิอิ รอฟ๊อกไม่ยอมซื้อให้ซะที ขายังเดี้ยงอยู่ ขี่รถไปซื้อคีย์ไม่ถนัด

มีแต่คนเรียกร้องให้โพสตอนใหม่แฮะ เอ้า ลงก็ลง ตามคำขอจัดห๊ายยยยย


ไม่ใช่แควนนนนนน....

ซื้อแทนไม่ด้ายยยยย..... :m13: :m13: :m13:


เพิ่งจะรู้นะว่าฟ๊อกอ่ะนอกจากจะฟังเจร๊อคแล้ว ยังรู้จักฟังเพลงของนักร้องคนบ้านเดียวกะเราด้วย  :m12: :m12:

จริงๆแล้วฟ๊อกชอบฟังแนวลูกทุ่งเป็นหลัก เจร๊อคเป็นรองก็ว่ามาเถ๊ออออออ  :m12: :m12:

ลองจิ้นลุงโทชิ ป้าไห ปี้ลิงอิจิ เอื้อนลุกคอสิ แจ่มเลย 555+

ได้ข่าวว่าปี้ลิงเขาถนัดลุกคอ8ชั้นหนิ 555+
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 13-01-2008 01:45:17


เพิ่งจะรู้นะว่าฟ๊อกอ่ะนอกจากจะฟังเจร๊อคแล้ว ยังรู้จักฟังเพลงของนักร้องคนบ้านเดียวกะเราด้วย  :m12: :m12:

จริงๆแล้วฟ๊อกชอบฟังแนวลูกทุ่งเป็นหลัก เจร๊อคเป็นรองก็ว่ามาเถ๊ออออออ  :m12: :m12:

ลองจิ้นลุงโทชิ ป้าไห ปี้ลิงอิจิ เอื้อนลุกคอสิ แจ่มเลย 555+

ได้ข่าวว่าปี้ลิงเขาถนัดลุกคอ8ชั้นหนิ 555+
[/quote]


หึ หึ ไปคุยกันตัวต่อตัวเลยดีกว่า ว่าไหม?

 รุ้สึกจะคอเดียวกันหลายอย่างเลยนะครับ  :m23:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 13-01-2008 02:45:35
ตาพฤกษ์ ตาศิระ
ทำเจ๊เครียดปวดไหล่เลยวุ้ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 13-01-2008 13:28:57
พฤกษ์นี่ไม่ฉลาดเลย คนธรรมดาผิดครั้งเดียวก้พอแล้ว นี่ผิดซ้ำผิดซาก จับตอนซะเลยนี่  :angry2:

ไลฟ์ LS rebirth วีก้จิ้มไม่ทันเหมือนกัน แต่ขอส่วนบุญเพื่อนไปแล้ว วันไหนแอมเข้ากรุงมาบอกละกันเด๋วจัดให้

ปี้ริวเค้าเอื้อนเบ็ดเสร็จได้8ชั้นเศษสามส่วนสี่หรอกแอม  :laugh3:

วีมาอ่านแล้ว เอาตอนใหม่มาลงได้แระมามะ  :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-01-2008 00:41:55
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เซ็งกะไอ้คู่นี้จริงๆ

จบเรื่องนั้น ต่อด้วยเรื่องนี้

เมื่อไหร่จะรู้เรื่องกันเนี่ยยยยยยยยยย


 o12 o12 o12 o12 o12


ปล.ถึง พี่แอม

เมื่อไหร่จะได้ซื้อล่ะคะ คีย์บอร์ดน่ะ

หายเร็วๆนะคะ จุ๊บๆ



ปล.ถึง ฟะระร็อก

ไหนอ่ะ เพลงที่บอกจะส่งมาให้  ทำเป็นความจำสั้นเหมือนป้าเค้าไปได้  :m14:


หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 14-01-2008 02:52:10
อย่าไปยอมค่ะศิระ

ดีมาดีตอบ

ในเมื่อเค้าแรงมา เราก็แรงตอบไปเลยค่ะ  o12

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 14-01-2008 10:59:33
ต่อๆๆๆ  รออยู่  :oni2:  :oni2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 14-01-2008 12:36:19
มาอัพบ่อย ๆ น้า รออยู่ครับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 14-01-2008 17:17:07
 :sad2: :sad2: :sad2:
ฉงฉานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
อึดอัดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เมื่อไรจะคุยกันให้รู้เรื่องฟะ
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 11/01/08 Chapter 16
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 14-01-2008 17:27:48

ปล.ถึง ฟะระร็อก

ไหนอ่ะ เพลงที่บอกจะส่งมาให้  ทำเป็นความจำสั้นเหมือนป้าเค้าไปได้  :m14:


โทษทีครับ ผมลืม  :m23:

เดี๋ยวอัพให้ครับ เดี๋ยวนี้แหละครับบบบบ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 15-01-2008 00:33:06
#17

แดดจางๆไล่แผ่ความร้อนผ่านกระจกใสเข้ามาในตัวรถที่คนนั่งริมกระจกไม่ได้ปิดม่านเอาไว้ สองตาค่อยปรือขึ้นเมื่อรู้สึกถึงอากาศที่เปลี่ยนไป ป้ายบอกเส้นทางที่คุ้นเคยทำให้เจ้าตัวใจชื้นขึ้นมาจนเผลอผ่อนลมหายใจ ในที่สุดการเดินทางที่ผ่านมาหลายชั่วโมงก็พาเขามาถึงที่หมายได้อย่างที่รอ ก้าวแรกของการเหยียบพื้นดินที่คุ้นเคยแม้จะไม่ใช่ถิ่นกำเนิดแต่หลายปีที่ได้ใช้ชีวิตอยู่แบบพึ่งตัวเองทำให้ศิระเผยยิ้มออกมาอย่างอุ่นใจเมืองหลวงที่หลายคนบอกมีภัยรอบด้านมันกลับเป็นที่ปลอดภัยในความรู้สึกเขาขึ้นมาอย่างประหลาด อย่างน้อยๆเขาก็คิดว่าตัวเองปลอดภัยจากบางคนที่เคยทำให้เขารู้สึกสมเพชตัวเองและหดหู่ใจเมื่อตอนอยู่ต่างถิ่น
“พอกันทีพฤกษ์” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาลอยๆเมื่อมองรถทัวร์คันใหญ่ที่ตัวเองเพิ่งจะก้าวลงเคลื่อนตัวไปนึกขอบคุณที่มันพาเขาหลุดออกมาจากความวุ่นวายที่เจอ ต่อจากนี้ไปพฤกษ์กับเขาคงเป็นแค่คนเคยรู้จัก หรือถ้าคนๆนั้นไม่ตามมาวุ่นวายกับเขาอีกเขาก็จะยิ่งขอบคุณฟ้าฝนอย่างสุดใจ

   “ศิระ กูนึกว่ามึงหายไปจากโลกนี้แล้วซะอีก มึงหายหัวไปไหนมาเนี่ย ตามตัวที่ร้านก็ไม่เจอ ที่หอก็ไม่อยู่ นี่มึงตัวเป็นๆหรือแค่วิญญาณมาหลอกกูวะ” เป้ร้องทักเพื่อนที่หายไปอย่างไม่มีใครรู้ใครเห็น เมื่อเปิดประตูห้องออกมาเจอหลังจากที่เจ้าตัวเคาะอยู่นานสองนาน
“พาใครมานอนอีกล่ะมึง” ศิระไม่ตอบคำถามแต่กลับเปลี่ยนเป็นถามกลับ เพื่อนซี้เปิดประตูออกมาแค่ผ้าเช็ดตัวพันกายตัวเดียวแบบนี้ คงมีกิจกรรมเดียวเท่านั้นแหละที่คงกำลังทำกับใครบางคนในห้อง
“กูคงไม่คว้าท่อนไม้มาหรอกมาถึงก็ทำเป็นรู้ดีเลยนะมึง” เป้ว่าก่อนจะลากแขนเด็กหนุ่มเข้าไปในห้อง แต่คนโดนลากรีบยั้งตัวเอาไว้แล้วบอก
“ไอ้เป้ ไอ้บ้า กูไม่อยากเข้าไปเห็นคนของมึงในสภาพแบบมึงตอนนี้ มึงไม่สะดวกเดี๋ยวกูกลับก่อนก็ได้”
“หอกเหอะ คนของกูที่ไหน กูแค่สอยเอามาแก้เลี่ยนเกรงใจมันทำไม เข้ามา อย่าเล่นท่า มันข่มขืนมึงหรอก มึงกะกูต้องคุยกันยาว หายไปหลายวันกูอยากเจอมึงอยู่พอดี” คนยั้งตัวโดนลากเข้าไปในห้องจนได้เมื่อเจ้าของห้องไม่ยอมปล่อย
“ชอบสามคนเหมือนกันเหรอเนี่ยเป้” คนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงทักทายยิ้มๆอย่างไม่ขัดเขินถึงสายตาคนมาใหม่ที่จ้องมอง ศิระเกินจะคาดเดาว่าคนทักสวมอะไรไว้ใต้ผ้าห่มที่พันกายไว้ครึ่งตัวหรือเปล่า แต่จากคำทักที่ได้ยินมันทำให้เขามองเจ้าตัวติดลบทันที ทะลึ่งไม่เลือกหน้า ไม่ได้มั่วกะใครง่ายๆนะโว้ย
“ท่าทางเข้าท่าซะด้วย” คนบนเตียงยังคงพูดจาให้ขัดหูได้อีก หน้าตาก็ไม่เท่าไหร่พูดจายังลามปามอีกท่าจะโดนสอยมาจริงๆ ไอ้เป้นะไอ้เป้ มั่วไม่เลือก
“พอเลย นี่เพื่อนฉันอย่าลามปาม แต่งตัวแล้วก็กลับไปก่อน เราจะคุยกัน”
เป้พูดขึ้น เห็นสีหน้าไม่พอใจของคู่นอนแวบขึ้นมาแต่ก็ไม่อยากจะสนใจ ไม่ได้รักไม่ได้ชอบ แค่สอยมาแก้ขัด จะรู้สึกยังไงก็เรื่องของมัน
“โหยไล่เลย เจอของใหม่แล้วไล่เลย ขอร่วมด้วยไม่ได้เหรอ ท่าทางจะมันส์ไม่หยอก” คนโดนไล่พูดพลางลูบคางด้วยแววตาที่ศิระไม่อยากมอง แค่คิดก็ขนลุก บรรยากาศไม่ชวนให้น่าอยู่ในห้องนี้ซะจริงๆ
“กูว่ากูเป็นคนไปดีกว่าเป้ ตามสบายเหอะว่ะ” คนอึดอัดบอกพลางจะหมุนตัวเดินออกจากห้องแต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคที่ทำให้อารมณ์ฉุนขาด
“เล่นตัวซะด้วย ท่าทางจะฟิต จะรีบไปไหนจ๊ะที่รัก”
“เฮ้ยลามปามแล้วนะมึง”เด็กหนุ่มหันไปบอกเสียงจริงจังเห็นฝ่ายนั้นทำหน้าขึงขังขึ้นมาก่อนจะยันกายลุกนั่งเต็มตัวเอ่ยสวนกลับ
“ขึ้นมึงกูเลยเหรอวะ”
“เออสิ หยาบๆอย่างมึงกูว่าสมควรแล้วล่ะ”
“ไอ้นี่ วอน” คนโดนว่าทำท่าจะลุกขึ้นติดที่ว่าเป้ขึ้นเสียงจึงต้องนั่งท่าเดิม
“จะทำอะไร นี่เพื่อนฉัน อย่าแม้แต่จะคิด”
“กูกลับล่ะเป้” ศิระบอกปัดก่อนจะเดินออกจากห้องอย่างหัวเสีย แวะมาหาเพื่อนเพราะห่างหายไปหลายวัน ดันมาเจอคนหยาบๆบ้าชะมัด
“งั้นเดี๋ยวกูไปส่ง” เป้บอกพลางหยิบเสื้อผ้ามาสวมลวกๆ หันมากำชับคู่นอนว่าไปแค่หน้าปากซอย ก่อนจะวิ่งตามศิระๆไป
“มึงไม่กลัวมันเชือดคอปล้นมึงเหรอไอ้เป้ ดูมันไม่น่าไว้ใจเลยนะมึง”ศิระเตือนคนที่วิ่งตามทันทีที่เจ้าตัวมาถึงแต่ฝ่ายนั้นกลับไม่สะท้าน
“กูไม่ใช่เพิ่งทำแบบนี้มึงก็รู้ เอาน่ากูเอาอยู่ กูไม่ได้สอยสุ่มสี่สุ่มห้าอย่างที่มึงเข้าใจหรอก ส่วนใหญ่อีไอ้พวกนี้มันก็คิดว่าคนอื่นจะร่านเหมือนพวกมันนั่นแหละเจอมึงเข้าหน่อยมันเลยเสียเซลฟ์ ดูๆไปกูก็ขำ คิดจะล่อคนอย่างท่านชายศิระ โดนตอกหน้าหงายไม่เป็นท่า สมน้ำหน้ามัน”
“เออ ทำเป็นพูดดีเหอะ ระวังตัวไว้หน่อยก็ดี กูเป็นห่วง”
“เออรับรองได้ ว่าแต่มึงหายไปไหนมา  กูไปหาที่ร้านเจอเพื่อนมึงที่ชื่อโก๋มันบอกว่ามึงลาออก กูงงเลย ทำอะไรไม่บอกกู นี่ถ้ามึงเป็นอะไรไปกูจะรู้มั๊ย”
“กูก็กลับมาหามึงได้ครบสามสิบสองแล้วไง เอาไว้กูจะเล่าให้มึงฟัง มึงส่งกูแค่นี้แหละ กลับไปหาไอ้นั่นเถอะ”
“เออๆโชคดี รายงานตัวกับคนอื่นบ้างล่ะมึง พวกมันดีดิ้นกันอยู่ตั้งแต่ที่รู้ว่ามึงหายไป”
“กูว่าที่พวกมันดีดน่ะเพราะเรื่องอื่นมากกว่า” ศิระกล่าวปิดท้ายอย่างขำๆ ได้พูดได้คุยแค่นี้กับเพื่อนซี้มันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าพฤกษ์ไม่มีค่าให้น่าคิดถึงได้ซักเท่าไหร่ แต่ก็อดไม่ได้หรอกที่จะคิดว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังทำอะไรอยู่ คงเฮฮาตามประสาคนที่เหวี่ยงภาระให้พ้นตัวได้นั่นแหละเขาจะมีค่าอะไรให้คนที่อยู่คนละสังคมแบบนั้นได้แคร์ล่ะ

   บรรยากาศเก่าๆคุ้นเคยที่มองเห็นทำให้ศิระยืนยิ้มเหงาๆให้กับตัวเอง เขากลับมาที่ร้านเดิม หาเพื่อนเดิมๆ เด็กหนุ่มรู้สึกเพลียนิดหน่อยหลังจากตะลอนไปจัดการเรื่องเอกสารตัวเองที่สูญหายไปกับพวกวายร้ายต่างถิ่นกว่าที่จะพาตัวเองมาร้านที่เคยอยู่ก็ตะวันตกดินเข้าพอดี โก๋กำลังง่วนอยู่กับการบริการลูกค้า ความวุ่นวายเล็กๆยังคงเกิดขึ้นไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงหัวค่ำแบบนี้
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 15-01-2008 00:35:36
“อ้าวเฮ้ย ศิระ” คนขยันละทิ้งหน้าที่ตัวเองชั่วครู่เมื่อมองเห็นร่างที่เดินผลักประตูร้านเข้ามา เด็กหนุ่มแทบจะโผเข้าไปทักทายถึงตัวติดที่สถานการณ์ไม่เอื้อต่อการทำแบบนั้น คนมาใหม่ก็เหมือนจะเข้าใจเลยแค่พยักหน้าให้เป็นเชิงตอบรับก่อนจะเลี่ยงไปนั่งในอีกมุมของร้านที่ไม่ค่อยมีลูกค้านั่ง  ไม่นานคนทักก็เดินตามมา
“มึงมาได้ไงวะ กูนึกว่าจะไม่เจอมึงแล้วซะอีก” โก๋ทัก มองซ้ายแลขวาก่อนจะนั่งลงข้างๆศิระ
“ระวังพี่เค้าเห็นนะมึง” ศิระหมายถึงคนมีอำนาจในร้าน ที่ตัวเองยังคิดอยู่ว่าจะทำหน้ายังไงถ้าเจอ ก็ตอนไปจากที่นี่เขาไม่ฟังเหตุผลร้อยแปดที่ถูกเตือนก่อนผลีผลามตัดสินใจ
“ไม่อยู่หรอก ไปข้างนอกยังไม่กลับ” โก๋บอกก่อนจะถามถึงความเป็นไป ศิระไม่ได้บอกอะไรมากนักเพราะไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกสมเพชตัวเอง เก็บความโง่ไว้กับตัวเองน่าจะดีเสียกว่า
“แล้วตอนนี้มึงทำอะไรอยู่ กลับมาอยู่ด้วยกันป่าววะ” ศิระมองหน้าคนถาม ส่ายหน้ายิ้มนิดๆ เขาคงไม่กล้ามาอาศัยที่นี่เพื่อส่งเสียตัวเองให้เรียนจบจึงบอก
“คงไม่ กูแค่แวะมาหามึง”
“เออก็ยังดีที่ยังคิดถึงกูว่าแต่มึงมีปัญหาอะไรหรือเปล่าดูมึงแปลกไปนะ”
“ไม่มีอะไรกูสบายดี”
“แน่เหรอ กูว่ามึงดูเศร้าๆไปนะ”
“กูจะมีอะไรให้เศร้าล่ะ เชื่อกูเหอะ กูไม่มีไรให้มึงต้องห่วงหรอก”
“ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร เสียดายว่ะ วันนี้พ่อแม่กูมาหา ไม่งั้นคืนนี้กูคงได้คุยกับมึงให้หายอยาก” ศิระก้มหน้าเมื่อได้ยินในสิ่งที่โก๋จบ ถ้าเปลี่ยนกันได้ตอนนี้ เขาก็อยากที่จะเป็นคนข้างตัวขึ้นมาแต่มันก็คงได้แค่คิด พ่อแม่คงลืมเขาไปจากความทรงจำไปแล้ว ก็แค่ลูกไม่เอาไหนคนหนึ่ง
“เฮ้ย นี่กูทำให้มึงคิดมากหรือเปล่าศิระ” โก๋รีบเข้าเขย่าตัวเพื่อนเมื่อรู้ว่าคำพูดตัวเองอาจไปแทงใจฝ่ายนั้นได้ ศิระมีปัญหากับทางบ้านอยู่ไม่น่าปากพล่อยเลยให้ตายเถอะ
“มึงแหละคิดมาก กูเลิกคิดเรื่องพวกนี้ตั้งนานแล้ว” ศิระกลบเกลื่อนความรู้สึก ทั้งๆที่เริ่มรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอขึ้นมาดื้อๆ แผลเรื่องพฤกษ์ยังไม่สนิทดี แผลเก่าเรื่องครอบครัวก็เข้ามาแทรกให้จิตใจได้แย่ลง
“งั้นกูกลับก่อนล่ะกัน ไว้กูจะมาใหม่” เด็กหนุ่มรีบบอกเมื่อเริ่มรู้ตัวว่านั่งต่อไปไม่ไหว ความอ่อนแอมันพาลจะแสดงออกมาประจานให้ได้อาย โก๋รั้งไว้ไม่ทัน จึงได้แต่มองตามหลัง ก่อนจะถอนหายใจในความปากพล่อยตัวเอง

   ฟ้ามืดลง ร้านกำลังจะปิด โก๋ต้อนรับลูกค้าคนสุดท้ายด้วยอารมณ์เซ็งนิดๆ แม้มันจะนานมาแล้วแต่เขาก็จำได้ว่าคนร่างสูงที่ยืนเด่นอยู่ตรงหน้า คือคนที่เคยทำให้เพื่อนเขาเกือบเดือดร้อน
“อีกห้านาที ร้านจะปิด ขออภัยก่อนนะครับที่อาจไม่มีบางอย่างที่คุณต้องการ” เด็กหนุ่มบอกปัด ทำใจยากนิดๆที่จะใส่ใจบริการ จำได้แม่นเลยล่ะว่านายนี่ชื่อพฤกษ์
“ฉันไม่ได้มาซื้ออะไร” พฤกษ์ตอบ ทันทีที่เขามาถึงกรุงเทพที่นี่เป็นที่ๆสองเขาตรงมาจากที่ไปหาศิระที่ห้องแต่ไม่เจอตัว ศิระน่าจะไปไหนได้ไม่ไกลนัก
“แล้วต้องการอะไรครับ” โก๋ถาม ไม่ได้ซื้อของแต่เข้ามาร้านที่ขายของ จะว่ารู้จักใครก็ไม่น่าจะใช่
“ศิระมาที่นี่บ้างหรือเปล่า” พฤกษ์บอกจุดประสงค์ โก๋หรี่ตามอง ประเมินสถานการณ์ก่อนจะถามหยั่งเชิง
“มีธุระอะไรกะมัน เอ้ย ศิระ”
“แล้วเขามานี่หรือเปล่าล่ะ”
“มา แต่กลับไปแล้ว”
“กลับไปแล้วเมื่อไหร่นานหรือยัง”
“ป่านนี้ถ้ากลับห้องก็คงถึงแล้ว”
“แล้วพรุ่งนี้ ศิระจะมาทำงานหรือเปล่า”
“งานอะไร”
“ก็งานที่นี่ไง”
“ศิระลาออกไปตั้งนานแล้วคุณ ทำไมจะมาทวงหนี้กะมันเหรอ” ศิระลาออก พฤกษ์ทวนประโยคนี้ในใจโดยไม่สนใจคำประชดของโก๋ ศิระลาออกตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเขาไม่รู้
“นี่นายพูดจริงพูดเล่น”
“อ้าว สนิทกันเหรอครับผมถึงจะล้อเล่นด้วย”
“ศิระลาออกตั้งแต่เมื่อไหร่”
“หลายวันแล้ว”
“เขาบอกหรือเปล่าว่าลาออกทำไม”
“ไม่ได้บอก ทำไมครับ” พฤกษ์นึกทวนเหตุการณ์ เขาเคยบอกให้ศิระลาออกเด็กหนุ่มนึกได้ขึ้นมาศิระทำตามเขาแล้วทำไมไม่บอกเขาซักคำ

   ประตูห้องถูกเคาะหนักขึ้นเรื่อยๆ คนนอนอยู่ปรือตาขึ้นควานมือเปิดไฟหัวเตียง ก่อนจะยันกายลุกนั่ง นาฬิกาบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน ใครกันมาเคาะประตูเรียก ทันทีที่ประตูถูกแง้มเปิดจากมือเจ้าของห้อง คนที่เคาะเรียกอยู่นานรีบใช้มือแข็งแรงดันมันเปิดกว้างออกแล้วรีบแทรกตัวเข้าไป โดยไม่ปล่อยให้เจ้าของห้องตั้งตัวได้ทัน แม้มันจะมืดแต่ศิระจำได้ติดตาว่าคนที่ยืนอยู่ในห้องด้วยตอนนี้เป็นใคร พฤกษ์กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“ออกจากงานตั้งแต่เมื่อไหร่” น้ำเสียงแข็งกร้าวถามขึ้น ศิระเดินไปเปิดไฟให้สว่างก่อนจะตั้งสติมองคนถามให้เต็มตา นายนี่รู้ได้ไงว่าเขาลาออก
“ใครบอกนาย”
“คนอื่นไง ถ้ารอรู้จากปากคนของตัวเองคงได้เรื่องหรอก”
“ใครคนของนาย แล้วนี่เป็นอะไร มาหาเรื่องคนอื่นทำไมกลางดึก”
“เพราะอย่างนี้ใช่มั๊ย เพราะนายคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่นสำหรับฉันใช่มั๊ย ถึงไม่ยอมบอกอะไรฉันเลย”
“แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะ”
“ไม่จริงฉันไม่เคยคิดว่านายเป็นคนอื่น มีแต่นายคิดเองฝ่ายเดียว”
“เลิกพูดแบบนี้ซะทีพฤกษ์ ฉันเบื่อคำพูดสร้างภาพของนายเต็มทนแล้ว ไปไหนก็ไปไป นายไม่ควรมาที่นี่ ฉันไม่อยากคุยกะนาย”
“ไม่อยากคุยก็ต้องคุย นายลาออกจากงานไม่บอกฉันซักคำ นายเห็นฉันเป็นตัวอะไร แล้วยังเรื่องที่นายหนีกลับมาที่นี่เองอีก ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เพิ่งเคยรู้จักกัน ไม่อายบ้างหรือไง..........”
เพี๊ยะ!!ศิระฟาดฝ่ามือไปที่หน้าคนที่ต่อว่าเขาเต็มๆก่อนที่เจ้าตัวจะพล่ามต่อ เผื่อแรงจากฝ่ามือที่ส่งไปจะทำให้นายนี่รู้สำนึกได้บ้างว่าเป็นคนที่แย่แค่ไหน นี่เขาเคยไปหลงรักคนอย่างนี้ได้ยังไง ไม่สำนึกตัวเองบ้างเลยหรือไงว่าที่เขาเป็นอย่างนี้เพราะใคร มาถึงแทนที่จะพูดจาดีๆกลับมาโวยวายต่อว่า
“นายมันวอนเองนะศิระ” คนโดนตบกัดฟันพูดเสียงแข็งเพราะนึกเสียใจที่โดนกระทำแบบนี้จากคนที่ตัวเองดิ้นรนหาทางตามมาเพื่อปรับความเข้าใจ ถ้าไม่ได้รับรู้ว่าศิระลาออกจากงานโดยไม่บอกเขา อารมณ์โกรธคงไม่ประทุขึ้นจนต้องเปลี่ยนมาต่อว่าแบบนี้ ในเมื่อศิระคิดว่าตัวเองเป็นคนอื่นสำหรับเขา เขาก็จะทำให้เจ้าตัวรู้สึกว่าเป็นคนของเขาอย่างเต็มตัวมันคืนนี้ล่ะ
“นายจะทำอะไรพฤกษ์ ปล่อยนะโว้ย” ศิระโวยลั่นเมื่อโดนกระชากสุดแรงจากคนตรงหน้าจนต้องเซถลาเข้าไปปะทะอกเจ้าตัว
“ทำให้นายรู้สึกว่าเป็นคนของฉันไง ทนมานานแล้ว อยากรู้นักว่าคนอวดเก่งอย่างนาย จะมีดียังไงบ้าง” ขาดคำศิระไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว เมื่อร่างทั้งร่างโดนเหวี่ยงไปล้มกองที่เตียง ก่อนที่คนเหวี่ยงจะโถมตัวลงทับ
“ปล่อยกูสิวะ” ศิระพ่นคำหยาบเพราะนึกกลัว เพราะตอนนี้พฤกษ์ไม่เหลือคราบเด็กหนุ่มที่ดูอ่อนโยนอย่างที่เขาเคยแอบเห็นในหลายๆครั้งที่อยู่ด้วยกันจนเผลอมีใจให้
“ขึ้นกูมึงเลยเหรอ ที่รัก ชอบเถื่อนๆใช่มั๊ย ได้ ผมจัดให้” พฤกษ์พูดอย่างเยือกเย็น ศิระแทบไม่เชื่อหูตัวเองคำพูดที่ได้ยินเหมือนสุภาพแต่การกระทำมันไม่ใช่เมื่อเสื้อนอนตัวเองโดนคนทับตัวกระชากขาดจนกระดุมกระจาย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 15-01-2008 00:49:34
โอ้วว มารอฉากต่อไปปปปเลือดดดสาดดดดด ชัวร์  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 15-01-2008 01:05:02
“มันเกินไปแล้วนะพฤกษ์” ศิระตวาดลั่นเมื่อเหลืออดกับการกระทำของพฤกษ์ เขาเองก็ไม่ได้ตัวเล็กไปกว่านายนี่ซักเท่าไหร่ ที่พลาดท่าก็แค่ไม่ทันได้ทันตัว ใครกันแน่ที่มันวอน
“โอ้ย!!!!!!” พฤกษ์ร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิระพลิกมือที่เขากุมไว้ออกแรงหักสุดแรงจนสุดจะทนความเจ็บปวดที่ได้รับ ศิระรู้สึกได้ถึงเรี่ยวแรงพฤกษ์หายไปจากการกดทับเด็กหนุ่มจึงออกแรงผลักเจ้าตัวออกอย่างสุดกำลังจนฝ่ายนั้นเสียหลักเซถลาออกไปตั้งตัวกลางห้อง
“กลับไปพฤกษ์ อย่างนายไม่มีปัญญาทำอะไรใครได้หรอก” คนผลักลุกขึ้นยืนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ถ้าคนตรงหน้าตอนนี้เป็นไอ้หน้าเข้มที่เขาไปเจอในห้องเป้ก็ว่าไปอย่าง รายนั้นคงยากเอาการอยู่ที่เขาจะขัดขืนถ้ามันคิดจะจัดการเขาจริงๆ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ คือพฤกษ์ คนที่เคยมีความอ่อนโยน อะไรๆก็เกิดขึ้นไม่ได้ถ้าเขาไม่ยอม
“เออ นายมันอวดเก่งกับฉันได้ทุกเวลาอยู่แล้วนี่” พฤกษ์เอ่ย ก่อนจะเดินไปทรุดนั่งสงบสติอารมณ์ที่เก้าอี้ที่อยู่คู่โต๊ะอ่านหนังสือของเจ้าของห้อง ก้มลงนวดมือตัวเองเบาๆ  ศิระมองเจ้าตัวครู่หนึ่งก่อนจะรีบเบือนสายตาหนีเมื่อโดนมองสบตา
“ออกมาหวังว่าคงไม่เจอนายนั่งอยู่ในห้องนี้นะพฤกษ์” เด็กหนุ่มบอกก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ พฤกษ์มองตามจนเจ้าตัวปิดประตูปังใหญ่ใส่หน้า
   ศิระขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำนานจนแน่ใจว่าพฤกษ์คงออกไปถึงไหนต่อไหนจึงเปิดประตูออกมา โดยถอดเสื้อที่ขาดวิ่นทิ้งไว้ในห้องน้ำ พฤกษ์ชะงักขณะก้มเก็บกระดุมเม็ดสุดท้ายที่กระเด็นหล่นไปข้างเตียงเพราะฝีมือตัวเองเมื่อเห็นศิระเปิดประตูออกมา ศิระเองก็ชะงักไม่ต่างกันแต่ก็ทำไม่สนใจเอ่ยถามเสียงเย็น
“ทำอะไร บอกให้ออกไปจากที่นี่ทำไมไม่ไป” พฤกษ์หยิบกระดุมเม็ดนั้นมารวมกับกระดุมที่อยู่ในมือเดินถือไปหาศิระที่ยืนเปลือยท่อนบนโดยไม่ตอบคำถามเมื่อครู่ เด็กหนุ่มยื่นมันให้เจ้าของรู้ว่ามันอาจดูตลกแต่เขาแค่เพียงอยากสื่อให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขารู้สึกผิดที่ทำนิสัยแย่ๆอย่างเมื่อครู่ลงไป
“ทิ้งขยะไป เก็บมันมาทำไม” ศิระบอกเสียงแข็ง พฤกษ์ทำแบบนี้เพื่อสื่อถึงอะไรเขาไม่อยากรับรู้ทั้งนั้นถ้าลองทำให้เขาโกรธขนาดนี้ ไปให้ไกลตาซะเลยน่าจะดีที่สุด
“ที่ทำเมื่อกี้น่ะขอโทษ” พฤกษ์บอกเสียงอ่อน แต่ศิระไม่อ่อนตามมือเรียวยกปัดกระดุมที่ถูกยื่นให้นั่นสุดแรงจนหล่นกระจายลงตามพื้นอย่างเดิม พฤกษ์หน้านิ่วไปชั่วครู่เมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดที่มือก็เพิ่งโดนจับหักนิ้วอาการเจ็บยังไม่หายดีก็โดนปัดอีกสุดแรงจึงข่มอาการไว้ไม่อยู่ แต่ที่เจ็บยิ่งกว่ามือคือที่ใจเมื่อสัมผัสได้ว่าคนตรงหน้าไม่สะท้านเลยซักนิดว่าสภาพมือเขาเป็นยังไงตอนนี้
“กลับไปพฤกษ์ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆนายควรอยู่” ศิระเอ่ยไล่อีก เห็นพฤกษ์ยืนนิ่งจึงเดินไปเปิดประตูให้เสียเอง
“ไปซะพฤกษ์” คนเปิดประตูเอ่ยซ้ำ พฤกษ์มองดูเจ้าตัวอย่างเจ็บปวด มันคงถึงเวลาที่ทางรักสายแรกของเขาจะขาดสะบั้นลงจริงๆ ในสายตาศิระเขาคงเป็นคนไม่เอาไหน
“เราเริ่มใหม่ไม่ได้เลยใช่มั๊ยศิระ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามทั้งที่การกระทำที่เห็นมันก็เป็นคำตอบชัดเจนจนน่าจะเข้าใจ แต่ก็แค่อยากได้ยินจากปากเจ้าตัว ศิระส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบ พฤกษ์ใจหวิวแต่ก็แข็งใจพูดขึ้นใหม่
“แล้วนายไม่เสียดายเวลาที่ผ่านมาบ้างเหรอ ฉันรู้ว่าฉันอาจจะนิสัยเสียไม่เอาไหน แต่ทุกครั้งฉันก็ตามง้อนายตลอด นายเป็นคนแรกที่ฉันกล้าพูดว่าฉันรัก”
“เราต่างเหนื่อยกันมาพอแล้วพฤกษ์ อย่าฝืนต่อไปเลยดีกว่า ช่องว่างระหว่างเราถมยังไงมันก็ถมไม่เต็ม เลิกกันไป ต่อไปนายจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาตามง้อฉัน และฉันก็ไม่ต้องเหนื่อยที่จะต้องวิ่งหนีนาย มันน่าจะยุติธรรม” สองคนมองสบตากันและกัน ต่างฝ่ายต่างก็เจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น พฤกษ์เจ็บปวดที่ศิระมองเห็นความไม่เอาไหนของเขามากกว่าช่วงเวลาที่เขาดูแลเอาใจใส่ ศิระเจ็บปวดที่พฤกษ์ทำให้เขาลำบากในการตัดใจ พฤกษ์เอ่ยคำว่ารักออกมาให้ได้ยิน เด็กหนุ่มรู้สึกแต่ฝืนไม่ใส่ใจทุกอย่างมันควรจบลงซะที
“นายคิดอย่างนั้นใช่มั๊ย” พฤกษ์ถามอีกเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อเห็นศิระพยักหน้ารับช้าๆ เด็กหนุ่มจึงเม้มปากพยักหน้ายอมรับการตัดสินใจนั่น
“เราคงเหนื่อยกันมาพอแล้วจริงๆ” มันเป็นประโยคสุดท้ายที่ศิระได้ยินจากพฤกษ์ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินผ่านหน้าออกจากห้องไปช้าๆ ศิระเอนหลังพิงประตูเพราะแรงวูบไหวเกิดขึ้นในใจเมื่อพฤกษ์เดินผ่านพ้นสายตา



ติดตามต่อไปในตอนที่18เน้อ

มาต่อให้ตามคำขอแล้วนาฟ๊อก :a11:

ใครอยากอ่านเรื่องดรีม รอก่อนนะเดี๋ยวพี่ป๊อมเขาจะเอามาลง คงจะรอให้เราลงเรื่องนี้จบก่อนแล้วถึงจะมาลงมั้ง

เราคุยกะพี่บอยเรียบร้อยแล้วล่ะ

ส่วนเรื่องนี้อีกไม่นานก็จะจบแล้วล่ะ

รอลุ้นแล้วกันว่าพฤกษ์กับศิระจะลงเอยกันยังไง


ยังโพสไม่เสร็จฟ๊อกจะรีบปาดไปหนายยยยย

กลัวไม่ได้เปิดซิงรึงายยยยยย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: armani ที่ 15-01-2008 02:20:10
 :sad2: :sad2: :sad2: เอาเลยแล้วไม่ต้องคืนดีกันนะ โกรธจิงๆ เลย o12 งอนกันไม่เข้าท่า ต้องให้ไอ้หน้าเข้มนั่นมาจัดการซะแล้ว :angry2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 15-01-2008 08:51:05
ต่างคนต่างแรง

ต่างคนต่างโดนปั่นหัว

ต่างคนต่างหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง

ปอนด์จะกลับใจมาช่วยพฤกษ์ในการปรับความเข้าใจกับศิระหรือไม่

พฤกษ์จะรู้ธาตุแท้ของเมษาเมื่อไหร่

น่าลุ้น น่าติดตามดีครับ

แต่ตอนล่าสุดนี้ ศิระ เท่ห์มากครับ เด็ดขาดดีจริง ๆ  :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 15-01-2008 10:02:54
ตัวแปรสำคัญตอนนี้ก็คงเป็นปอนด์
แต่เป้ หรือโก้ก็น่าจะมีส่วนเหมือนกัน

แต่ ... อึดอัดอ่ะ ไมมันสวนทางกันจัง
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 15-01-2008 11:19:14
มาต่อไว ๆ น้า รออยู่คับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-01-2008 11:23:26
ทำไมอ่านแล้วมันปวดใจอ่ะ :m15:
ช่วยด้วย :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 15/01/08 Chapter 17
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 15-01-2008 11:42:42
ก.จ.บ.ต.

 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 18-01-2008 00:01:45
จะจบแล้วเน้อออออ

ตามลุ้นกันต่อปายยยยย

+++++++

#18

สายน้ำที่ไม่ไหลกลับ เวลาที่เดินหน้าทุกวินาที สองสิ่งนี้ไม่ต่างอะไรกับความสัมพันธ์ของสองคนที่ตัดสินใจหันหลังให้กันและกัน    พฤกษ์หายไปจากชีวิตศิระ ไม่ต่างกัน ศิระเองก็ไม่ไขว่ค้าหรือเรียกร้องโหยหาในสิ่งที่ตัดใจโยนมันทิ้งไกลตัว คนแรกเก็บตัวเงียบกลายเป็นคนขรึมแม้แต่เพื่อนสนิทอย่างปอนด์ยังเข้าหน้าไม่ติด เมษายิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง จากที่เคยโทรหาคนๆนี้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะดึกดื่นขนาดไหน ตอนนี้กลายเป็นเพียงแค่สิ่งที่เคยได้ทำ พฤกษ์แทบจะตัดขาดจากคนเคยรู้จักหลายๆคน เขาจะมีความสุขกับการพูดคุยกับใครๆได้ยังไง ในใจของเขาอยู่กับคนที่เขาไม่อยากเดินจากมาแต่ก็ไม่กล้าอยู่รบกวนใจ ศิระไม่ต้องการเขาแล้วมันเป็นสิ่งที่เขากำลังทำใจยอมรับมัน
ศิระเข้าไปทำงานในร้านกาแฟที่รู้จักมักคุ้นกับเจ้าของร้านที่เคยพาโก๋ไปนั่ง ด้วยความคุ้นเคยเขาเลยได้ทำงานที่สบายขึ้น เพราะเป็นร้านที่เปิดขายง่ายๆจึงมีมีกฎเกณฑ์อะไรมากนัก เวลาเรียนก็มีเยอะขึ้นทำให้เด็กหนุ่มมั่นใจว่ายังไงซะเขาก็จะจบชีวิตนักศึกษาได้ในอีกไม่กี่เดือน อีกทั้งเขายังคงติดต่อกับศรันย์อยู่ตลอดอย่างน้อยๆคนที่จบก่อนก็ยังช่วยสอนอะไรเขาได้อีกแรง ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นแม้มันจะดูสมบูรณ์แต่มันก็เป็นในรูปแบบของมิตรภาพมากกว่าที่จะคิดอย่างอื่นได้ ศรันย์ไม่ได้เป็นเหมือนเขา เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกกับศรันย์แบบนั้น แบบที่เคยรู้สึกกับพฤกษ์ เพื่อนในกลุ่มเขาก็ยังติดต่อพูดคุยตามปกติไม่ได้ตัดขาดจากใครอย่างพฤกษ์   และเป้ก็เป็นคนเดียวที่รับรู้เรื่องราวระหว่างเขาและนายนั่น แต่เป้ก็เป็นคนที่เขานึกห่วงที่สุด เมื่อรับรู้ว่าเพื่อนคนนี้มีทีท่าว่าจะไม่จบชีวิตนักศึกษาพร้อมๆกับเขาทั้งๆที่ลงเรียนมาด้วยกัน
   
เมษาทนไม่ไหวที่พฤกษ์ห่างหายออกไปจากชีวิตเขา จึงกลับมาใช้ปอนด์มาเป็นประโยชน์อีกครั้ง เด็กหนุ่มคะยั้นคะยอให้เพื่อนเคยสนิทชวนพฤกษ์ออกมาเข้าสังคมบ้าง เก็บตัวไปก็ใช่ว่าจะมีประโยชน์ จะแคร์มันทำไมนักหนากับไอ้กุ๊ยข้างถนนคนนึง
“มีปัญญามึงก็ชวนมันเองดิ” ปอนด์บอกปัด พอทีกับการโดนหลอกใช้ พฤกษ์คบกับเขามาตั้งแต่เด็ก แต่กับเมษาก็แค่เพื่อนที่พอจะคุยถูกคอกัน แต่ไปๆมาๆดันจะทำให้เขามองหน้าเพื่อนซี้ไม่ติด ถ้าเมษาไม่หลงพฤกษ์และถ้าพฤกษ์ไม่ใช่เพื่อนเขา ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนนี้จะยังเห็นเขาเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า
“ไมมึงพูดแบบนี้วะปอนด์ กูเพื่อนมึงนะโว๊ย” เมษาโวย ปอนด์สวนกลับ
“เพื่อนแล้วไง ทีมึงว่ากูอย่างหมูอย่างหมา มึงเคยคิดมั๊ย ถึงขนาดนี้แล้วกูว่ามึงเลิกเพ้อเถอะ ไอ้พฤกษ์มันคงไม่ใจให้ใครได้แล้วล่ะ”
“อ๋อนี่มึงคิดว่าไอ้ศิระนั่นมันมีดีกว่ากูจนพฤกษ์ลืมไม่ลงงั้นเหรอ”
“กูไม่ได้คิด แต่เด็กอนุบาลมันยังจะรู้เลยว่าสองคนนั่น ถ้าไม่มีมึงมีกู ป่านนี้เขาลงเอยกันไปไหนต่อไหนแล้ว กูไม่อยากจะยุ่งเรื่องของใครอีก ยิ่งเป็นพฤกษ์มึงก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าทุกวันนี้มันเป็นยังไง มันตัดขาดเราไปแล้วด้วย “
“ตัดขาดมึงคนเดียวสิ มึงไม่ชวนก็หาวิธีล่อมาเองก็ได้ กูทนรักมาตั้งนาน จะไปจากกันเฉยๆแบบนี้ มึงก็รู้ว่ากูคงไม่ยอมง่ายๆ”
“ไม่ยอม มึงจะทำอะไรได้ เลิกยุ่งกับพฤกษ์มันทีเถอะ”
“เรื่องอะไร ไม่ได้ใจ กูเอาแค่ตัว แค่นี้เพื่อนมึงคงไม่สึกหรอหรอก”
“มึงคิดได้ไงเมษา กูล่ะเชื่อมึงเลย ถ้ามึงหื่นมากนักมาเอากะกูนี่ กูขอบอกนะว่ามึงอย่าไปวุ่นวายกับพฤกษ์ กูไม่อยากถูกมองว่าคบเพื่อนที่ในหัวสมองคิดแต่เรื่องไม่เป็นเรื่อง”
“กูต้องการพฤกษ์เท่านั้น มึงจำเอาไว้” เมษาทิ้งท้ายเอาไว้อย่างชัดเจนก่อนจะเดินจากไป ปอนด์มองตามอย่างรู้สึกระอา เขาไม่น่าเคยทำให้ศิระกับเพื่อนของเขาผิดใจกันเลยให้ตายสิ ศิระจะว่าอะไรมั๊ยนะถ้าเขาจะขอเจอซักครั้ง


   “เฮ้ นาย” ศิระหันไปตามเสียงเรียกขณะเดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัย มันเป็นวันสุดท้ายที่เขามาเรียนหลังจากนี้ก็จะเป็นการเตรียมตัววัดว่าเขาจะปิดตำรานักศึกษาลงได้หรือเปล่า เด็กหนุ่มพอมองเห็นเจ้าของเสียงก็หันหน้าหนีจะเดินต่อไป นายปอนด์นี่มาโผล่ที่นี่ได้ไง สงสัยฟ้าจะผ่าผิดฤดู
“เฮ้ย หยุดก่อนดิวะ” ปอนด์ออกวิ่งขวางทางไว้ ศิระจึงหยุด ถามเสียงเรียบ
“มีไร”
“คุยกันหน่อยดิ” ปอนด์บอกจุดประสงค์ เขามาดักรอคนตรงหน้าหลายวัน กว่าจะเจอตัวได้ไม่ใช่ง่ายๆ เลยอยากจะคุยให้จบๆ
“มีอะไรต้องคุย” ศิระถามอีก ปอนด์จึงเอ่ยชวนให้ไปคุยกันในร้านกาแฟใกล้ๆเพราะคิดว่าอาจจะคุยนาน ท่าทางศิระต่อต้านเขาขนาดนี้ ศิระรับฟังสิ่งที่ปอนด์เอ่ยออกมาให้รับรู้เงียบๆ พฤกษ์เก็บตัวแล้วเกี่ยวอะไรกับเขา ดีแล้วนี่ ปล่อยให้อยู่กับตัวเองซะบ้างจะได้ไม่เอาแต่ใจตัวเองเป็นหลัก ท่าทางนายนี่จะเพี้ยน เมื่อก่อนเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ กว่าจะไปฉุดเพื่อนตัวเองตกต่ำ แต่วันนี้กลับอยากให้เขากลับไปคบกับพฤกษ์ตามเดิม
   “มีอะไรต้องพูดอีกมั๊ย” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเมื่อปอนด์หยุดหายใจหลังจากที่ร่ายยาวว่าพฤกษ์เปลี่ยนไปยังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 18-01-2008 00:04:42
“ก็หมดแล้ว สุดแต่นายจะคิดต่อเอาเองก็แล้วกัน พฤกษ์มันไม่ได้รักใครได้ง่ายๆ ที่ผ่านมามันก็ไม่ได้ผิดอะไร มีแต่ฉันกับพวกเท่านั้นที่ผิด ที่ปั่นหัวนายเล่น จนต้องไปทะเลาะกันกับมัน ที่มันไม่พูดไม่คุยกับฉันก็เพราะเรื่องพวกนี้แหละ”ปอนด์พูดต่อจนจบ เห็นศิระยังเฉยก็เริ่มถอดใจ
   “จริงๆเรื่องบ้าๆพวกนี้ฉันลืมมันไปตั้งนานแล้ว นี่พวกนายยังเก็บเอามาใส่หัวสมองกันอีกเหรอ ไร้สาระกันเปล่าๆ ชีวิตใครชีวิตมัน ขอตัวนะพวก” ศิระลุกขึ้นจะเดินหนี หน้าที่ตัวเองมีทำไมไม่ไปสนใจกัน เรียนให้จบไวๆต่างหากล่ะที่เขากำลังใส่ใจอยู่ตอนนี้ พฤกษ์มันก็แค่อดีต นิยายรักเก่าๆที่จบไม่สมบูรณ์จะรื้อขึ้นมาอ่านอีกทำไม
   “เออๆๆ กูรออยู่ในร้านนี่แหละ มึงมาถึงแล้วใช่ป่ะมึงรีบเข้ามาเลยนะ กูมีปัญหาจริงๆไม่งั้นกูไม่รบกวนมึงออกมาเจอหรอก” ปอนด์รีบพูดเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือพฤกษ์ คนที่เขาออกอุบายให้มาที่นี่เพราะต้องการความช่วยเหลือ จุดอ่อนของพฤกษ์ไม่เคยทิ้งเพื่อนหรอก แม้จะกำลังโกรธเกลียดขนาดไหนก็ตาม จะเป่าไฟที่มอดลงให้ลุกโชนขึ้นมาอีกมันก็ต้องเติมเชื้อไฟกันแบบนี้แหละ คนเคยรักกันเจอกันมันก็ต้องวูบไหวกันบ้างล่ะศิระกำลังจะออกจากร้านคงพอดีแหละที่พฤกษ์จะเดินสวนเข้ามา สาธุ ขอให้พวกมันเดินชนกันทีเถอะ คนวางแผนภาวนากับฟ้าดิน
   ปอนด์ หน้าชาวูบเมื่อศิระตวัดสายตากลับมามองตอนกำลังจะเดินออกจากร้าน เด็กหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าศิระคงมองเห็นพฤกษ์แล้วจึงรีบลุกเดินไปขวางเมื่อเจ้าตัวกำลังจะรีบผลักประตูร้านออกไป
“พฤกษ์มันอยากเจอนาย คุยกับมันหน่อยสิ” คนขวางทางรีบบอก ไม่รู้ล่ะไหนๆก็หลอกพฤกษ์ได้คนหนึ่งแล้วกรอกหูนายนี่อีกคนก็ไม่น่าจะเสียหาย ศิระยังไม่ทันที่จะได้อ้าปากพูดอะไร ก็รู้สึกใจสั่นขึ้นมาดื้อๆเมื่อมองข้ามร่างปอนด์เห็นพฤกษ์กำลังผลักประตูร้านเข้ามา
“มายืนขวางทางคนอื่นทำไมไอ้ปอนด์” พฤกษ์ทักเพื่อนเพราะมองไม่เห็นคนที่เจ้าตัวกำลังยืนบังอยู่
“กูไม่ขวางมึงก็แห้วดิ” ปอนด์หันมาบอกและไม่ปล่อยให้พฤกษ์งงกับคำพูดตัวเอง พอเอ่ยจบจึงเลี่ยงออกจากตรงกลางระหว่างสองคน ปล่อยให้แววตาที่เคยคุ้นเคยได้ประสานกัน
“เรื่องของพวกมึงสองคนที่กูเคยสร้างความวุ่นวายให้กูขอขอโทษพวกมึงตรงนี้แหละ ทีเหลือพวกมึงเคลียร์กันเอาเอง โตๆกันแล้วหวังว่ามึงสองคนคงคุยกันรู้เรื่อง” เด็กหนุ่มเอ่ยแทรกขึ้นก่อนจะมองสองคนสลับกันเลือกที่จะตบไหล่พฤกษ์แล้วเดินออกจากร้านไป จังหวะเดียวกับที่มีคนเดินสวนเข้ามา พฤกษ์จึงหลีกทางให้อย่างเลี่ยงไม่ได้ เด็กหนุ่มเดินเข้าไปชิดตัวคนตรงหน้า ศิระเห็นพฤกษ์เดินเข้ามาชิดเกินไปจนหน้าแทบจะชนกันฝ่ายนั้นจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจไม่รู้ล่ะแต่ในสถานที่เปิดแบบนี้เขาก็แคร์สายตาคนอื่นเหมือนกันจึงรีบถอยตัวห่างออกไป สองสายตามองกันอีกครั้ง เป็นพฤกษ์ที่เอ่ยขึ้นก่อน
“ไม่นึกว่าจะได้เจอนายอีกสบายดีหรือเปล่า”
“ก็ดี......” ศิระตอบสั้นๆ พฤกษ์จึงชวนคุยต่อ เขายังไม่ลืมคนรักคนแรกของหัวใจคนนี้ นึกอยากรู้เหมือนกันว่าศิระจะรู้สึกเหมือนกับที่เขารู้สึกหรือเปล่า
“ไปนั่งในร้านดีกว่านะ” เด็กหนุ่มไม่รอคำตอบจากคนฟัง เดินนำหน้าไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์ก่อน ศิระถอนหายใจ อย่างน้อยก็คนเคยรู้จักกันถ้าพฤกษ์ไม่รื้อฟื้นหรือวุ่นวายกับเรื่องราวในอดีตก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องหนี พฤกษ์แอบยิ้มในใจที่ศิระเดินมายืนคู่เขาที่เคาน์เตอร์ นานแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกดีแบบนี้ ศิระคงหายเกลียดเขาแล้วซินะ
“ทานอะไรดี” เด็กหนุ่มเอ่ยถามยิ้มๆ ไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังทำให้คนข้างๆนึกถึงวันนั้นวันที่แอบเหม่อมองเจ้าตัวเอาใจเมษาในร้านที่ตัวเองเคยทำงานอยู่ ถ้าพฤกษ์ดีกับเขาตั้งแต่วันนั้นมันก็คงจะดีอยู่หรอก มาดีกับเขาวันนี้ ดูเหมือนใจมันจะชาด้านจนไม่มีความรู้สึกอะไร
“ไม่ดีกว่า” ศิระปฏิเสธ พฤกษ์คงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาคลุกคลีอยู่กับกาแฟพวกนี้อยู่แค่ได้กลิ่นก็เมาไปแล้วสามวัน มาให้นั่งจิบนั่งดื่มอีกคงไม่ไหวขนาดเมื่อกี้นั่งอยู่กับปอนด์เขาก็ล่อแค่น้ำเปล่าๆ
“แล้วนายจะไปไหน” พฤกษ์รีบร้องถามเมื่อเห็นศิระกำลังจะเดินไป เขากลัวจริงๆกลัวว่าศิระจะเดินหนีเขาอีก แต่แล้วก็ต้องโล่งใจเมื่อเห็นศิระเดินลงไปนั่งลงโต๊ะที่ว่าง เด็กหนุ่มจึงหันมาจัดการสั่งเครื่องดื่มอีกแก้วให้เจ้าตัวเอง
“ก็บอกว่าไม่เอาอะไรไง”  ศิระบอกเมื่อเห็นกาแฟหน้าตาดีวางลงตรงหน้า
“เฉพาะที่ฉันเอาให้หรือเปล่า” พฤกษ์พูดด้วยน้ำเสียงเสียใจนิดๆ ศิระน่าจะรักษาน้ำใจเขาบ้าง นี่ถ้าแก้วกาแฟนี่เป็นของคนอื่นซื้อมาให้อยากรู้นักว่าเจ้าตัวจะพูดจาให้เจ้าของเสียใจแบบนี้มั๊ย
“ไม่เอาก็คือไม่เอา ไม่ว่าจะของใครนายอย่าหาเรื่องดีกว่า” ศิระบอกเมื่อรู้ว่ากำโดนประชด คิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมมานั่งคู่คนที่คอยหาเรื่องไม่เลิกราแบบนี้อีก
“จะไปรู้เหรอ นึกว่านายยังเกลียดฉันอยู่” พฤกษ์พูดต่อ เป็นคำพูดที่ศิระชะงักไม่อยากจะเชื่อหรอกว่านายนี่ยังไม่ลืมเขา
“ฉันหมดความรู้สึกกับนายไปตั้งนานแล้วพฤกษ์ไม่ว่าจะรักหรือเกลียด”
เด็กหนุ่มบอกเสียงนิ่ง แต่มันเป็นเสียงที่ทำเอาคนฟังเจ็บแปลบขึ้นที่ใจ จนต้องถาม
“นายลืมฉันได้จริงๆเหรอศิระ”
“เหตุผลที่ฉันต้องจำ”
“ฉันไม่เชื่อว่านายจะลืมคนรักคนแรกอย่างฉันได้ลงคอ”
“คนอย่างนายมันน่าจำตรงไหนล่ะ”
“ฉันมันเลวขนาดนั่นเลยเหรอไง”
“นายน่าจะรู้จักตัวเองมากกว่าคนอื่น”
“นี่นายยังไม่หายโกรธฉันใช่มั๊ย”
“บอกแล้วไงฉันหมดความรู้สึกกับนายไปตั้งนานแล้ว”
“ฉันรู้สึกนะศิระที่นายพูดแบบนี้”
“เรื่องของนาย” พฤกษ์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อโดนศิระสวนคำพูดกลับมาแบบไม่รักษาน้ำใจ เด็กหนุ่มก้มหน้าลงชั่วครู่ซ่อนแววตาหม่นเศร้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาใหม่เมื่อแน่ใจว่าเก็บอาการได้มิดก่อนจะกลั้นใจถาม
“เราคงเริ่มใหม่ไม่ได้ใช่มั๊ย”
“กี่ครั้งแล้วล่ะที่นายพูดคำนี้” ศิระยังเดินหน้าพูดแทงใจ จริงๆไม่อยากจะเอ่ยเพราะทำให้นึกถึงวันเก่าๆที่เคยโง่งมงาย แต่ในเมื่อนายนี่อยากรื้อฟื้นมันก็จำเป็น
“นายจะไม่ให้โอกาสฉันอีกซักครั้งเลยเหรอ” พฤกษ์มองสบตาหวังเพียงอ้อนวอนให้คนตรงหน้าเห็นใจแต่มันก็ไร้ผล
“เราต่างคนต่างอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว ทุกวันนี้ฉันก็มีความสุขดี”
“ แต่ฉันไม่มี”
“ชีวิตนายจะสุขจะเศร้านายกำหนดเอง ไม่มีใครกำหดได้อยู่แล้วพฤกษ์”
“นายไงที่กำหนดชีวิตฉันได้ศิระ”
“ฉันไม่ต้องการ” อีกครั้งที่พฤกษ์ต้องอึ้ง แต่ก็ฝืนเก็บอาการเอ่ยทักใหม่
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 18-01-2008 00:12:53
“กลับมาเริ่มต้นใหม่เถอะนะศิระ นายอย่าแกล้งฉันต่อไปเลย”
“จบก็คือจบพฤกษ์ ฉันไม่เคยนึกอยากจะแกล้งนายหรือทวงคืนอะไร เราน่าจะไปจากชีวิตกันและกันได้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว แค่นี้นายคงพอจะเข้าใจนะ” พูดจบศิระก็ทำท่าว่าจะลุกหนีพฤกษ์จึงรีบทัก
“เดี๋ยวสิศิระ” เด็กหนุ่มรีบฉุดมือเจ้าตัวไว้โดยเร็ว ศิระแสดงออกว่าไม่ชอบให้เขารื้อฟื้นเรื่องเดิมๆ เขาก็จะไม่ทำ เพื่อแลกให้คนๆนี้ไม่ต้องเดินหนีเขาอีก
“นายอย่าเดินหนีฉันเลยนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยขอร้อง ศิระมองแววตาที่ถูกส่งให้ แม้จะรู้สึกใจสั่นนิดๆแต่พยายามคิดว่านี่มันแค่ภาพลวงตา พฤกษ์ทำเขาเสียใจมาหลายครั้ง ถ้าเขายอมอีกครั้งนี้รอยแผลรอยเดิมมันคงไม่หายขาดซะที
“ขอโทษนะพฤกษ์” พูดจบมือเรียวเอื้อมไปแกะมือคนที่จับไว้ให้ปล่อย ก่อนจะวางมือนั่นวางลงที่โต๊ะอย่าง่ายดายเพราะเจ้าตัวดูเหมือนหมดแรง พฤกษ์มองตามศิระที่เดินจากเขาไปอย่างเฉยชา หมดเรี่ยวแรงที่จะเรียกตาม
   คนยืนมองเหตุการณ์ถึงกับส่ายเมื่อมองเห็นเพื่อนตัวเองนั่งก้มหน้านิ่งอยู่ภายในร้านกับถ้วยกาแฟสองถ้วยหลังจากที่อีกคนได้เดินหนีไปอย่างไม่หันหลังกลับ
“พฤกษ์มึงไม่เป็นไรนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเดินเข้าไปทรุดนั่งตรงที่คนเดินหนีเคยนั่ง คนถูกทักเงยหน้าขึ้นมอง ฝืนยิ้มให้ก่อนตอบสั้นๆ
“อืม ไม่เป็นไร”
“มึงโกรธกูหรือเปล่า” ปอนด์ถาม ยิ่งเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ก็รู้สึกผิด เขาไม่น่าเข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องของเพื่อนตั้งแต่ต้นเลย เรื่องมันลงเอยแบบนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาแท้ๆ
“กูมันคงไม่ดีจริงๆ” พฤกษ์เอ่ยขึ้นมาอีกลอยๆ ปอนด์เอื้อมมือไปตบไหล่เจ้าตัวอย่างให้กำลังใจ
“อย่าโทษตัวเองเลยว่ะพฤกษ์ กูเชื่อว่ามึงทำดีที่สุดแล้ว”
“ขอบใจที่พูดให้กูรู้สึกดี ถึงเวลาแล้วมั้งที่กูจะยอมรับความจริงว่าถูกทิ้ง”
“แต่มึงก็ยังมีกูนะโว้ย”
“ก็คงงั้น”
“งั้นคืนนี้มึงไปกะกู ไปเปิดหูเปิดตาซะบ้าง เก็บตัวไปก็ใช่ว่าอะไรจะดี”
พฤกษ์มองหน้าคนชวนอย่างลังเลว่าจะเอายังไง เขายังไม่อยากเจอเมษา ถ้าไปกับปอนด์มีเหรอจะพ้นจากการโดนตอแย สองคนนั่นตัวติดกันขนาดไหนเขาก็รู้อยู่
“แล้วเพื่อนมึงล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม ปอนด์รู้ได้ทันทีว่าบุคคลที่สามที่โดนเอ่ยถึงคือใคร จึงส่ายหน้าก่อนตอบ
“คืนนี้กูจะไปกะมึงแค่สองคน เมษาไม่เกี่ยว”
“มึงแน่ใจเหรอ”
“แน่สิ กูเองก็ชักรำคาญมันแล้วเหมือนกัน”
“ทำไมวะ”
“มึงกะกูมองหน้ากันไม่ติดก็เพราะใครมึงน่าจะรู้” พฤกษ์นิ่งเมื่อฟังจบ ก่อนจะพยักหน้าตกลงในคำชวนในที่สุด

   เมษาหงุดหงิดเมื่อออกแรงไล่ตามพฤกษ์ถึงที่บ้านแต่คว้าน้ำเหลวเพราะคนที่บ้านบอกว่าเจ้าออกไปข้างนอกตั้งแต่หัววันยังไม่กลับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 18-01-2008 00:17:59
“ไหนบอกไม่เที่ยวไง นี่มันค่อนคืนแล้วนี่ คุณไปอยู่ไหนนะพฤกษ์” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นลอยๆ ก่อนจะตัดสินใจโทรไปถามเบาะแสจากคนใกล้ตัวที่สุดของคนที่กำลังคิดถึง
“มึงอยู่ไหนปอนด์” คนโทร กระแทกเสียงถามเมื่อได้ยินเสียงตอบรับจากปลายสาย ปอนด์มองพฤกษ์ที่นั่งข้างๆ ไม่อยากให้เจ้าตัวรู้ว่าคนวุ่นวายโทรเข้ามาเลยลุกขึ้น เดินไปคุยที่อื่น พฤกษ์มองตามนิ่งๆ ไม่อยากจะเดาว่าใครโทรมาจึงหันกลับมานั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยต่อ
“นั่งด้วยคนนะครับ” หนึ่งเสียงทักทาย เด็กหนุ่มหรี่ตามอง เจ้าของเสียงมาในมาดนุ่มแต่หน้าตามันไม่ขัดกับกิริยาซะมากมายพฤกษ์ ยังไม่ทันที่จะเอ่ยอะไรฝ่ายนั้นก็นั่งลงชิดตัวจนเขาต้องรีบถอยออกห่างแล้วเอ่ยเสียงเรียบ
“โทษนะพวก ฉันมากับเพื่อนว่ะ”
“แล้วเพื่อนไปไหนล่ะครับ” คนมาใหม่ลอยหน้าถาม พฤกษ์นึกไม่ชอบในสีหน้าและแววตาที่พอจะดูออกว่าเจ้าตัวสื่อว่าต้องการอะไรจากเขา กะว่าจะไม่เจอเรื่องแบบนี้แล้วเชียวไม่เคยรอดซักทีสิน่า
“ฉันไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร โทษนะที่ต้องไล่ ฉันอยากอยู่คนเดียว”
“คนหน้าตาดีนี่เล่นตัวแบบนี้ทุกคนหรือเปล่านะ แหม มันเร้าใจพิลึก” สาบานได้ว่าสายตาคนพูดหื่นขึ้นมาชัดเจน พฤกษ์เบือนหน้าหนีจากคนที่เขานึกเกลียดการกระทำขึ้นมา นึกอยากจะอ้วกกับปลายลิ้นที่มันใช้เลียริมฝีปากตัวเอง
“ถอยไปอย่าเข้ามานะมึง” เพราะความสุดทนทำให้เด็กหนุ่มหลุดคำหยาบออกมา จะให้นั่งเฉยคงไม่ได้เมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะโดนรุกรานจากคนหน้าเข้ม มือยาวนั่นกำลังจะสาวมาถึงตัวเขา เด็กหนุ่มจึงปัดออกสุดแรง
“เฮ้ย ไรวะ” ปอนด์ที่เดินมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีร้องทักเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองดีดตัวลุกยืนเตรียมจะเดินหนีจากที่นั่ง ไอ้หน้าเข้มนี่มาวุ่นวายอะไรกับเพื่อนเขา ก่อนที่คนรอบกายจะสนใจเหตุการณ์พฤกษ์รีบเดินตัวปลิวออกไปข้างนอก อยู่ไปก็รังแต่จะตกเป็นเป้าสายตา
“คิดจะทำอะไรเพื่อนกู” ปอนด์ถามคนที่ลุกยืนมองตามพฤกษ์พลางลูบปลายคางอย่างมาดหมาย
“เพื่อนมึงเหรอ แม่งน่า....ฉิบหาย” ปอนด์แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองว่าไอ้คนตัวใหญ่จะหยาบคายได้ขนาดนี้ สถานที่ตรงนี้มันก็ไม่ได้ส่อไปในทางอย่างว่า ถึงเป็นที่แบบนั้นมีเหรอพฤกษ์จะมา เจอพวกโรคจิตเข้าให้มันน่านัก
“พูดจาระวังปากนะมึง” เด็กหนุ่มชี้หน้าคาดโทษ ก่อนจะเดินตามพฤกษ์ออกไปทางด้านนอกเห็นเจ้าตัวกำลังยืนหน้าตึงอยู่จึงเข้าไปทัก
“ท่าทางมึงอารมณ์ไม่ดี กลับกันก็ได้นะโว้ย”
“ก็ดีเหมือนกัน” พฤกษ์ตอบแล้วออกเดินนำไปก่อน ปอนด์จึงก้าวขาเดินตาม จริงๆก็อยากที่จะไปให้พ้นๆจากตรงนี้เพราะเมื่อครู่ที่คุยกับเมษาก็หลุดปากบอกเจ้าตัวไปแล้วว่าเขากับพฤกษ์กำลังดื่มกันอยู่ เชื่อสิไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพื่อนตัวดีเขาคงแจ้นมาถึงอย่างไม่ต้องให้เดา
“มึงนั่งเฉยๆกูขับให้” ปอนด์บอกเมื่อเดินตามพฤกษ์มาถึงที่รถจอดอยู่ สติของเพื่อนตอนนี้คงไม่สมบูรณ์มากนัก ดูๆแล้วก็น่าเห็นใจ คนรักตั้งท่ารังเกียจไม่พอดันมาเจอไอ้พวกโรคจิตกวนใจอีก
“ศิระ” พฤกษ์ครางชื่อของคนเคยรักเขาออกมาเบาๆโดยไม่สนใจคำพูดของเพื่อนเมื่อครู่ คนยืนอยู่ด้วยถึงกับงงว่าเพื่อนละเมอหรือเมา ท่าจะเป็นเอามาก อยู่ๆมาเรียกชื่อคนที่ทำเจ็บปวด
“มึงรอกูอยู่นี่นะ” พฤกษ์พูดจาแปลกๆออกมาอีก ปอนด์งงได้ซักพักก่อนจะกระจ่างทุกอย่าง เมื่อมองตามเพื่อนที่ออกวิ่งไปในทางที่ร่างบางร่างกำลังเดินเข้ามาอย่างบึ้งตึง    ศิระ สาวเท้าก้าวให้เร็วขึ้นอย่างที่หัวใจที่กำลังเต้นสั่นระรัว ที่เคยคิดเอาไว้มันพลิกโผไปซะเมื่อไหร่  เป้โดนไอ้หน้าเข้มที่เขาไม่ชอบหน้าทำร้ายร่างกายจนต้องเข้าโรงพยาบาล.......เด็กหนุ่มรู้เรื่องจากเพื่อนในกลุ่ม ที่เขาโทรไปคุยเล่นตามปกติหลังจากแยกตัวออกมาจากพฤกษ์ ใจหนึ่งก็โกรธเพื่อนที่คบคนไม่เลือกหน้า แต่ที่เดือดที่สุดคงไม่พ้นไอ้ตัวการ ขอให้มันอยู่ที่นี่จริงๆเถอะ จากข้อมูลที่ได้รับจากเพื่อนที่มาให้กำลังใจเป้ ทุกคนปักใจว่ามันอยู่ที่นี่ ใครจะรอให้คนที่นอนพะงาบๆฟื้นขึ้นมาพูดว่าจะเอายังไงต่อไปก็รอไป เขาคงไม่รอแน่ เป็นไงเป็นกันสิ เกลียดขี้หน้ามันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว............. มาแตะต้องเพื่อนรักเขาขนาดนี้มันต้องรับผิดชอบ  พฤกษ์ ร้องเรียกศิระเมื่อเดินเข้าไปใกล้จนแน่ใจว่าคนที่กำลังก้าวเดินจะได้ยินเสียงของเขา
“พฤกษ์”ศิระเอ่ยชื่อคนที่เดินเข้ามาหาเบาๆ แปลกใจที่มาเจอพฤกษ์ที่นี่ เด็กหนุ่มหยุดเดินเมื่อเห็นเจ้าตัวเดินมาถึงและหยุดอยู่ตรงหน้า เอ่ยขึ้นกับเขา
“มานี่ได้ไง”
“ไม่ได้มาเที่ยวละกัน” คนโดนถามตอบ พฤกษ์แปลกใจจึงถามขึ้นใหม่
“ไม่ได้มาเที่ยว แล้วมาทำไม”



ใครอ่านเรื่องนี้แล้วไม่น้ำตาซึมบ้าง

ให้มันรู้ไป

ใกล้จบแล้วล่ะนะ ติดตามไปเรื่อยๆล่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 18-01-2008 00:49:32
 :sad2:ขออย่าให้ใครเป็นอะไรเลยนะ :serius2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 18-01-2008 06:37:45
มีเรื่องตลอด  :serius2:

รออ่านต่อเน้อ แอม  คิดถึงๆ  :oni2:  :oni2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 18-01-2008 09:43:07
ดีใจที่ปอนด์คิดได้ และช่วยเหลือพฤกษ์กับศิระ

เมษานี่ร้ายจริง ๆ และ ร้ายใช่เล่น จะลงเอยอย่างไร สำหรับคน ๆ นี้

เอาใจช่วยให้ศิระและพฤกษ์ ลงเอยกันเร็ว ๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 18-01-2008 10:11:33
 :m30:

ถึงกับทำร้ายร่างกายเลยเหรอ  น่าสงสารเป้อ่ะ


ทั้งพฤกษ์ทั้งศิระเลย  ไปช่วยๆ กันรุม  :เตะ1: ไอ้หน้าเข้มนั่นที

แล้วค่อยมาคืนดีกัน  :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-01-2008 10:29:39
ชักกลัวว่าจะมีเรื่องกันรุนแรงน่ะซิ :m29:

ไม่นะ กลัวไปกันใหญ่อ่ะ :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 18-01-2008 13:04:26
มาต่อไว ๆ นะครับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 18-01-2008 13:21:00
ดูเหมือนศิระจะไม่เคยเที่ยวจริง ๆ จัง ๆ เลยนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 18-01-2008 13:37:52
มันจะเป็นยังไงต่อไปหว่า?

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 18-01-2008 13:39:36
 o2 o2 o2 o2

อารายยยกานนนนนนน ฟ๊อกงง....

แอม มาต่อ มาต่อ...
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-01-2008 14:26:07
ปอนด์กลับตัวกลับใจแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 18-01-2008 16:09:45
 :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 18/01/08 Chapter 18
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 19-01-2008 16:23:13
 :m1:

เรื่องนี้ผมโคตรชอบเลย

พอๆ กับ Real Love อ่ะคับ

ดีใจนะคับ ที่แว่วๆ ว่าจะมีซีรีย์ ดรีม

มาฉายอีก อิอิ :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 21-01-2008 14:48:32
ใกล้จบแล้วจริงๆ

+++++++++++++


“อย่ายุ่งได้มั๊ย” ศิระตวาดเพราะมีอารมณ์ครุกรุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้คนที่เขาต้องการเจอหน้าที่สุดคือไอ้คนที่มันทำเพื่อนเขาต่างหาก 
“พฤกษ์” เสียงปอนด์แทรกขึ้นขัดจังหวะ ทำให้สองคนที่กำลังเผชิญหน้ากันต้องหันไปมอง ศิระถือโอกาสที่พฤกษ์เผลอรีบออกเดินต่อเพื่อเข้าไปในสถานที่ ที่ใจมันสั่นอยากจะเข้าไปให้เห็นกับตาว่าคนที่ต้องการเจอตัวมันกำลังทำอะไรอยู่
“อ้าวเฮ้ย” ปอนด์โพล่งปากออกมาเมื่อศิระเดินแทบจะชนตัวเอง
“จะรีบไปตายหรือไงวะ” เด็กหนุ่มเอ่ยตามไล่หลัง
“ปากพล่อยนะมึงไอ้ปอนด์” พฤกษ์บอกดุๆ แต่ก็รู้สึกผิดสังเกตในท่าทีศิระเช่นกันเลยรีบเดินตามเข้าไป ปล่อยให้ปอนด์ยืนงงอยู่พักใหญ่  ภายในสถานที่ ที่เต็มไปด้วยกลุ่มคนขณะกำลังเฮฮาระบายตัวตนที่แท้จริงของตัวเองไปกับเสียงเพลงที่คลอเคล้าไปกับแสงสีวูบวาบ ศิระเริ่มเวียนหัวกับบรรยากาศไม่คุ้นเคย แต่ต้องทนฝืนเดินเข้าไป สายตาก็แลหาคนที่กำลังตามตัวเพราะต้องการที่จะเคลียร์ในสิ่งที่มันทำ
“เจอตัวจนได้มึง” เด็กหนุ่มพูดออกมาเมื่อมองเห็นเต็มตาว่าคนที่กำลังตามหากำลังเมามันส์กับแสงสีเสียงและคนรอบกาย เพื่อนเขานอนเจ็บแต่มันคนทำมาจะสนุกสุดเหวี่ยงแบบนี้มันยุติธรรมซะที่ไหน
“มึงต้องรับผิดชอบในสิ่งที่มึงทำ” ด้วยอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ประกอบกับที่คิดไม่มีใครสนใจตน ศิระจึงกวาดสายตาหาสิ่งของที่พอจะติดไม้ติดมือไป หากว่าเข้าไปคุยแล้วฝ่ายนั้นจะแว้งกัด จะได้โต้ตอบได้ทัน นั่นไงโต๊ะว่างกับขวดโซดาสองสามขวด เจ้าของไปหัวราน้ำอยู่ที่ไหนไม่สนล่ะ เด็กหนุ่มทำเนียนเดินเข้าไปคว้าขวดแก้วขนาดเหมาะมือมาถือไว้กะตัว เจ้าตัวคิดว่าไม่มีใครรู้เพราะคงไม่มีใครสนใจ แต่...
“ทำอะไรน่ะ ศิระ” เสียงคุ้นหูตวาดถามขึ้น คนทำเนียนถึงกับตัวชา พฤกษ์ตามเขาเข้ามาทำไม
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกะนาย” เด็กหนุ่มบอกเสียงเรียบ พฤกษ์มองอย่างแปลกใจ ก่อนออกคำสั่ง
“วางขวดนั้นลงศิระนี่ไม่ใช่ที่ที่นายจะมาทำแบบนี้นะ” ศิระไม่สนใจ มองหน้าคนสั่งแค่แวบเดียวก่อนจะหันมองไปอีกทางหนึ่ง
“มองหาใคร” พฤกษ์ถามใหม่ เมื่อเห็นศิระชะเง้อแปลกๆ
“หายไปไหนวะ” ศิระหงุดหงิด เมื่อเป้าหมายหายไปจากที่เดิม นึกโทษที่คนมาทักทำให้เขาเสียโอกาสที่จะเคลียร์ปัญหาคาใจ นี่ถ้าไอ้เลวนั่นมันกลับไปแล้วเขาจะไปตามตัวมันได้ที่ไหนอีก
“เพราะนายคนเดียว อย่าตามฉันมาอีกนะ” เด็กหนุ่มเอ่ยโทษคนที่ไม่เข้าใจเหตุการณ์ ก่อนจะกระแทกวางขวดในมือลงที่เดิมแล้วก้าวเดินหนีจากตรงนั้น
“เป็นอะไรของมันวะ” พฤกษ์มองตามอย่างนึกสงสัย แล้วเรื่องอะไรเขาจะไม่ตาม หัวใจตอนนี้มันนึกห่วงและสังหรณ์ขึ้นมาว่าศิระคงไม่ได้มาดีแน่ๆ

ผลั๊ก!!! เสียงร่างสองร่างชนกันจนต่างฝ่ายต่างก็เซเพราะรีบทั้งคู่ อีกคนตามหาใครบางคนด้วยความหลง แต่อีกคนตามหาใครบางคนด้วยความแค้น เมื่อต่างฝ่ายต่างตั้งตัวได้ จึงยืนมองจ้องกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“มึงอีกแล้วเหรอ ไอ้กุ๊ย” เมษา ตวาดถามขึ้นก่อน เพิ่งมาถึงแท้ๆแทนที่จะเจอพฤกษ์กลับมาเจอกิ๊กเก่าเจ้าตัวซวยชะมัด
“ก็เออสิ ทำไม” ศิระโวยกลับคนรอบข้างที่ได้ยินเริ่มชะงักหันมาสนใจเหตุการณ์ แต่สองคนที่ยืนเผชิญหน้ากันกลับไม่สะท้าน เพราะในใจตอนนี้กำลังขุ่นมัวกันอยู่ทั้งคู่
“มึงกล้าหือเหรอ มึงน่าจะรู้นะว่ากูเป็นใคร” เมษาชี้หน้าขึ้นเสียงเมื่อเห็นว่าศิระดูจะไม่ยอมให้เขาอย่างที่เคยๆ
“แล้วไง มึงก็แค่คนๆหนึ่ง ทำไมกูจะไม่กล้าหือ” ศิระสวนกลับ เมษานึกฉุนตรงเข้าไปเพื่อที่จะทำร้ายให้หายแค้น แต่ต้องชะงักเมื่อโดนกระชากตัวไว้
“มึงอย่ามาอวดตนแถวนี้เมษา ไป ไปกะกู” เป็นปอนด์เองที่เข้ามากระชากตัวเด็กหนุ่มเอาไว้ก่อนจะออกแรงลากออกไปทางนอกร้านเมื่อเห็นผู้คนเริ่มสนใจ ไม่นานนักศิระก็โดนลากไปอีกทางเหมือนๆกันจากคนที่เพิ่งตามมาถึง

   “ปล่อยสิโว้ย” ศิระสะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุม บอกนายนี่แล้วว่าอย่าตามเขามา อย่าตามเขามา ยังตามมาอีก  มันอะไรกันนักหนา     ตั้งใจจะมาหาคนๆหนึ่งแต่ดันมาเจอไอ้พวกสามเกลอพวกนี้ ทุกอย่างเลยพังกันหมด
“ปล่อยให้นายไปอาละวาดเป็นหมาบ้างั้นเหรอ” พฤกษ์ตวาด ก่อนจะผลักศิระให้นั่งลงสงบสติอารมณ์ตรงม้านั่งนอกร้าน
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 21-01-2008 14:52:39
“นายมายุ่งกับฉันทำไม” ศิระต่อว่า พฤกษ์อดไม่ได้ที่จะสวนกลับ
“ฉันยุ่งมันยังดีกว่าที่นายจะโดนคนของทางร้านจับโยนออกมาโทษฐานไปก่อความวุ่นวายหรืออยากโดนแบบนั้น”
“โดนอะไรฉันก็ไม่กลัวทั้งนั้น ขอให้ฉันได้จัดการกับมันก็พอ” ศิระเถียง พฤกษ์เลยถามต่อ
“มันนี่ใคร เมษาเหรอ”
“ฉันไม่อยากที่จะยุ่งกะคนของนายหรอกถ้าไม่จำเป็น”
“เมษาไม่ใช่คนของฉัน นายต่างหากล่ะที่เป็น”
“ฉันไม่อยากคุยกับนายแล้วพฤกษ์ ขอตัวนะ” ศิระลุกจะเดินหนี เมื่อไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเดิมๆ พฤกษ์กำลังจะอ้าปากรั้งไว้ แต่ทุกอย่างที่จะเอ่ยมันช้ากว่าสายตาศิระที่มองเห็นคนที่ต้องการเจอกำลังจะก้าวขึ้นไปบนเก๋งคันหรูพร้อมใครอีกคน เด็กหนุ่มไม่รอช้าที่จะวิ่งออกไปรั้งไม่ให้เจ้าตัวหนีหน้าไปได้
“เอ้ย ศิระ จะไปไหน” พฤกษ์ตกใจกับสิ่งที่เห็นตะโกนไล่หลังเสร็จจึงรีบวิ่งตามไป  ปอนด์กำลังเคลียร์เรื่องเมื่อซักครู่กับเมษา ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นร่างศิระวิ่งผ่านหน้าไป เด็กหนุ่มมองตามพร้อมๆกับคนที่ยืนอยู่ด้วย ซักพักเห็นพฤกษ์วิ่งตามมาเขาจึงรีบคว้าตัวเอาไว้
“เกิดอะไรขึ้นวะ ไอ้พฤกษ์” ปอนด์ถาม พฤกษ์ตอบว่าไม่รู้แต่สายตากลับมองตามศิระที่วิ่งไปจนถึงเป้าหมาย ภาพที่เห็นทำเอาเขาตัวชา ศิระตรงเข้ากระชากตัวใครบางคนออกจากรถคันหรู
“นั่นมันไอ้ที่มากวนใจกูนี่ปอนด์” เด็กหนุ่มอุทานออกมาเมื่อมองเห็นชัดเจนว่าศิระกำลังกระชากตัวใครไว้
“เออ จริงด้วย แล้วนั่นศิระมันจะทำอะไร” ปอนด์เอ่ย ตกใจไม่แพ้พฤกษ์ที่เห็นภาพแบบนั้น ท่าทางไอ้หน้าเข้มนั้นก็ร้ายไม่ใช่เล่น ศิระมีเรื่องกับมันตอนไหน
“วอนตายล่ะมึงไอ้กุ๊ยเล่นกะใครไม่เล่น” เมษาเอ่ยออกมาบ้าง ทั้งพฤกษ์และปอนด์หันมามองเจ้าตัวแทบจะพร้อมกัน พฤกษ์จะไวกว่าที่จะถามออกมา
“รู้จักไอ้นั้นด้วยเหรอเมษา”
“อยู่ในสังคมเที่ยวใครจะไม่รู้จักมัน ไอ้นี่มันร้ายจะตาย.........” ไม่รอให้เมษาพูดจบ พฤกษ์รีบวิ่งไปหาคนที่นึกห่วงขึ้นมาทันที ศิระกำลังชุลมุนอยู่กับมัน เด็กเรียกรถไปไหนหมดวะ
“มึงวอนนักใช่มั๊ยกูจะส่งมึงไปนอนโรงบาลเดียวกับเพื่อนมึงเลยไอ้อ่อนหัดกวนโมโหกูตั้งแต่วันนั้นแล้ว” คนตัวใหญ่เดินสามขุมเข้าไปจะจัดการกับคนที่พลาดเสียท่าล้มลง หลังจากยื้อกับเขาอยู่ซักพัก ศิระพยายามดันกายลุกขึ้นแต่ก็ช้ากว่าที่ฝ่าเท้ามาเหยียบเข้าที่หน้าอกดันให้นอนราบที่พื้น
   “โอ้ย..” คนร้องไม่ไช่ศิระ แต่กลับเป็นคนตัวใหญ่ที่กำลังจะออกแรงขยี้ฝ่าเท้าตัวเองลงไปบนร่างที่นอนราบอยู่ที่พื้น เมื่อโดนใครบางคนกระชากตัว ก่อนจะกระแทกหมัดเข้าที่ปลายคางเต็มๆ จนหน้าหันและเซแทบจะล้มคว่ำไม่เป็นท่า พฤกษ์มองคนที่ตัวเองเล่นงานชั่วครู่แล้วหันไปมองคนที่กำลังยันกายลุกขึ้นยืน ด้วยความห่วงจึงเข้าไปพยุงอีกแรง
“ไม่เป็นไรนะศิระ”เด็กหนุ่มเอ่ยถาม ศิระมองสบตาเขาแค่แวบเดียวเท่านั้นก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปมองคนที่เขาเพิ่งซัดหมัดใส่เมื่อซักครู่
“หมาหมู่เหรอพวกมึง” ฝ่ายนั้นตวาดพลางสะบัดคู่ขาที่มาด้วยกันให้พ้นตัวขณะที่วิ่งเข้ามาดูอาการ
“แค่นี้มึงยังโดนไม่พอกับที่ทำกับเพื่อนกูด้วยซ้ำ” ศิระตอบกลับไม่นึกสะท้านเลยซักนิดกับการวิ่งเข้ามาของเด็กๆที่ร้าน ต่างกับพฤกษ์ที่วางตัวไม่ถูก ก็เขาเห็นเต็มๆตาว่าศิระเองเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน ถ้าเด็กพวกนี้คิดจะจัดการ คนของเขาคงโดนก่อนไอ้นั่นแน่
“มากันก็ดีแล้ว พวกมันสองคนหาเรื่องผมก่อน คงไม่ต้องให้บอกนะว่าพวกคุณต้องทำยังไง” ฝ่ายตรงข้ามชิงพูดก่อน พฤกษ์หันมองสบตาศิระ อยากจะถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าตัวถึงได้เลือดร้อนทำอะไรดีเดือดแบบนี้แต่ใครอีกคนที่มากับไอ้นั่นชิงพูดขึ้นอีกคนซะก่อน
“ใช่ครับพวกเรากำลังจะกลับ แต่ไอ้บ้านี่มันดันมาหาเรื่องทั้งๆที่เราไม่ได้ไปมีเรื่องบาดหมางอะไรกับมันเลย”
“มึงไม่เกี่ยวก็ไม่ต้องยุ่ง” ศิระตวาด นึกสมเพชตัวตายตัวแทนเพื่อนตัวเอง ทำปากดีอีกไม่นานคงไม่ต่างจากเป้หรอก
“ยืนเซ่ออยู่ทำไมล่ะ จับมันไว้สิ ถ้าไม่ทำอะไรร้านพวกแกเดือดร้อนแน่”
ฝ่ายนั้นตวาดขึ้นมาใหม่ พฤกษ์เห็นกลุ่มคนโดนตวาดเหมือนจะเชื่อเพราะกรูมาที่เขากับศิระ จึงรีบพูดขึ้น
“ถ้าจับผมสองคน ก็ต้องจับพวกมันด้วย พวกมันต่างหากล่ะที่หาเรื่องก่อความรำคาญให้เราก่อน” ศิระมองหน้าพฤกษ์ ไม่รู้หรอกว่าพฤกษ์พูดเรื่องจริงหรือปั้นน้ำ แต่คนที่รู้ดีคือคนที่วิ่งเข้ามาใหม่
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 21-01-2008 15:00:41
“ผมเป็นพยานอีกคนว่าไอ้เนี่ยมันกวนใจเพื่อนผมก่อน”ปอนด์นั่นเองที่เพิ่งมาถึงพอพูดเสร็จก็ชี้หน้าคนที่ยืนทำหน้าเลิ่กลั่ก ศิระเพิ่งรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนปกป้องจากคนสองคนที่เคยแกล้งเขาสารพัด เด็กหนุ่มกำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง พฤกษ์กับปอนด์  เมษา ที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ไกลๆนึกหงุดหงิดเมื่อเห็นสองหนุ่มที่เคยอยู่ข้างเขากำลังยืนปกป้องคนที่ตัวเรียกเรียกว่ากุ๊ยข้างถนน ดูจะปกป้องกันดีซะเหลือเกิน ดูเอาเถอะเรื่องร้ายๆที่ภาวนาให้เกิดขึ้นกับศิระดันไม่มีอะไรให้ลุ้นซักนิดเมื่อเห็นต่างฝ่ายต่างแยกย้ายเดินหันหลังให้กัน วุ้ย ไม่ได้ดั่งใจจริงๆ ให้ตายสิ
“รอดมาได้นะมึง” สามหนุ่มหันมองเจ้าของเสียงที่กระแทกทักทายขณะกำลังจะเดินกลับไปที่รถ ศิระรู้ตัวว่ากำลังโดนว่าจึงคิดที่จะเลี่ยงเดินหนีเพราะนึกรำคาญ แต่คนข้างกายกลับฉุดมือไว้
“จะไปไหนศิระ” คนฉุดมือเอ่ยถาม
“จะกลับ”ศิระตอบสั้นๆ
“ก็นี่ไง เดี๋ยวไปส่ง” พฤกษ์บอก ปอนด์จึงรีบแทรกขึ้น
“นั่นดิ นายเพิ่งมีเรื่องกับไอ้นั่นถ้าจะกลับก็ให้ไอ้พฤกษ์ไปส่งดีกว่า”
“ห่วงมันทำไมนักหนาปอนด์” เมษาตวาดขึ้นอย่างเหลืออดที่เห็นปอนด์แปรเปลี่ยนไปใส่ใจศรัตรูของหัวใจ
“กูไม่ได้ใจดำเหมือนมึงนี่” ปอนด์สวนกลับก่อนจะหลังจะเดินหนี พฤกษ์จึงรีบเอ่ยทัก
“แล้วนั่นมึงจะไปไหนปอนด์”
“กูจะกลับไปนอนเหมือนกัน ชักเหนื่อยๆ” ปอนด์หันมาตอบพฤกษ์จึงว่า
“ มึงจะกลับยังไง มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิวะ เดี๋ยวกูไปส่ง”
“กูกลับเองได้ มึงอ่ะไปส่งแฟนมึงเถอะ” ปอนด์ปฏิเสธพลางมองสบตาศิระ เมษาจึงหยันขึ้นอีก
“โธ่เอ้ย ทำตัวเป็นคนดี เป็นผู้เสียสละ คิดว่ามันจะชดเชยที่มึงเคยก่อเรื่องไว้เหรอปอนด์”
“อย่ายุ่งกะกูเมษา มึงเองก็กลับได้แล้ว” ปอนด์ตวาด พฤกษ์ถอนหายใจที่เห็นสองคนที่เคยตัวติดกันต้องทะเลาะกันเองจึงตัดบท
“ยิ่งอยู่ยิ่งดึก มึงไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นปอนด์ ไปกะกูเดี๋ยวกูไปส่ง”
“แล้วคนของมึงล่ะ” ปอนด์ถาม พฤกษ์จึงหันมองคนข้างตัว ศิระคงไม่ใจแคบขนาดนั้น
“คนรู้จักกันทั้งนั้นไปด้วยกันนี่แหละ” เด็กหนุ่มเอ่ย ศิระพอที่จะจับน้ำเสียงของความลำบากใจได้ ยังไงเขาก็เคยเป็นส่วนเกินของคนพวกนี้ จะเป็นอีกซักครั้งจะเป็นไรไปจึงเอ่ยกับคนพูด
“ไปส่งเพื่อนนายเถอะ ฉันกลับเองได้”
“ไม่เอาศิระ รถฉันไม่ใช่จักรยานหรือมอไซค์นะที่จะมีสิทธินั่งได้แค่คนเดียว มันอันตรายนายก็เห็นอยู่ว่าไอ้นั่นมันกล่าวคาดโทษไว้ขนาดไหน” พฤกษ์ให้เหตุผล ก็รู้ว่าคนรักกับเพื่อนไม่ถูกกันมาก่อน แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ จะให้ปล่อยใครคนใดคนหนึ่งไปคนเดียวเขาก็ทำไม่ได้
“นายไปกับพฤกษ์เถอะศิระ อย่าให้ฉันต้องอยู่ตรงกลางระหว่างพวกนายอีกเลยนะ ฉันเคยทำให้พวกนายทะเลาะกัน ฉันก็อยากเห็นพวกนายดีกัน ฉันจะได้สบายใจ” ศิระมองสบตาปอนด์ที่เอ่ยขึ้น มันจะไม่สายไปหน่อยเหรอที่มาสำนึกผิดเอาตอนนี้
“งั้นก็ได้ ลองให้เพื่อนนายตอบให้ชัดเจนหน่อยสิ ว่าระหว่างฉันกับนาย จะเลือกใคร” ศิระเอ่ยเสียงเยือกเย็น ในเมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ก็อยากจะรู้นักว่าพฤกษ์จะหนักแน่นซักแค่ไหน
“สำคัญตัวผิดไปมั้ง” เมษาสวนขึ้นเพราะนึกหมั่นไส้ แต่ศิระไม่ใส่ใจ เขาอยากได้ยินอะไรที่มันชัดเจนจากคนที่ต้องตัดสินใจต่างหากล่ะ จบแล้วไม่ยอมจบมันต้องเจอแบบนี้แหละ
“ว่าไงพฤกษ์ โอกาสสุดท้ายของมึงแล้วนะ” ปอนด์เอ่ยขึ้น ถ้าพฤกษ์ฉลาดคงตอบคำถามนี้ได้ง่ายมาก เขาไม่คิดมากอะไรอยู่แล้ว เคยเป็นต้นเหตุให้สองคนทะเลาะกันถ้าจะกลายเป็นส่วนเกินให้สองคนคืนดีกันก็ถือว่ายุติธรรมดี
“อย่าใจแคบน่าศิระ” พฤกษ์บอกคนที่ยืนรอคำตอบเมื่อสบสายตากับเพื่อนเสร็จไม่อยากเห็นศิระเป็นแบบนี้เลย คนรักก็คือคนรัก เพื่อนก็คือเพื่อน ทำไมต้องให้เลือกด้วยล่ะ
“ฉันถือว่านี่คือคำตอบ” ศิระตอบกลับอย่างเด็ดขาด สุดท้ายพฤกษ์ก็ไม่หนักแน่นพอ เด็กหนุ่มแกะมือพฤกษ์ออกจากตัวหันหลังจะเดินหนี เมษายิ้มที่มุมปากอย่างสะใจที่ผลมันออกมาแบบนี้ ศิระจะมีค่าพออะไรให้ใครต้องเลือก เสร่อจริงๆ ปอนด์นึกใจหายที่เห็นโอกาสดีๆของเพื่อนกำลังจะหลุดลอยไป แต่แล้วทั้งเขาและเมษาก็ต้องกลับมาลุ้นใหม่ เมื่อพฤกษ์เอื้อมมือไปคว้าศิระไว้ใหม่พลางเรียกไว้
“เดี๋ยวศิระ” คนโดนเรียกหันกลับมามอง สองคนสบตากันครู่หนึ่งก่อนที่พฤกษ์จะหันไปมองปอนด์ที่ยืนลุ้นอยู่ข้างหลัง สายตาคู่เดิมหันกลับมามองคนที่ตัวเองเรียกไว้ ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังรอฟังคำตอบจากเขาอยู่ พฤกษ์ผ่อนลมหายใจตัดใจเอ่ยออกมาในที่สุด
   “ฉันเลือกนาย ศิระ” คนถูกเลือกอึ้งไปซักพัก ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หันไปมองอีกคนที่ถูกลืม
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 21-01-2008 15:07:58
“ได้ยินชัดแล้วนะศิระ” ปอนด์เอ่ยออกมายิ้มๆ นึกโล่งอกและหวังว่าทางรักของสองคนจะกลับมาบรรจบกันอีกครั้ง ต่างกับเมษาที่ยืนเคียดแค้นชิงชังกับการตัดสินใจของพฤกษ์
“บ้าไปแล้วพฤกษ์คุณต้องบ้าไปแล้ว อะไรที่ทำให้คุณเลือกไอ้กุ๊ยนี้แทนเพื่อนที่คบกันมานาน”เด็กหนุ่มโวยวาย คนตัดสินใจจึงตวาดกลับ
“เลิกพูดเถอะเมษา ศิระเขาต้องการให้ทุกอย่างมันออกมาแบบนี้ พวกเราทำอะไรกับเขาไว้ ก็น่าจะรู้ๆกันอยู่ ไม่แปลกหรอกที่เขาต้องการจะเอาคืน” ศิระรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาเมื่อรู้ว่ากำลังโดนพฤกษ์ประชดประชันถึงการผูกใจเจ็บของตัวเอง
“ไม่มีใครขอร้องให้นายเลือกฉันนี่พฤกษ์” เจ้าตัวเอ่ยพลางสู้สายตาคนพูดไม่ถอย ปอนด์ที่มองอยู่กลัวเรื่องไปกันใหญ่เลยรีบตัดรำคาญ
“โหย พวกมึงอะไรกันเนี่ย จะเล่นแง่กันไปถึงไหนวะ ไปๆๆ จะพากันไปไหนก็ไป ไม่ใช่เด็กสามสี่ขวบแล้วนะโว้ยที่จะจ้องเอาชนะกันจะเป็นจะตาย    “พฤกษ์ละสายตาจากศิระเมื่อเพื่อนเอ่ยจบ เด็กหนุ่มหันไปมองเมษาตัดสินใจเอ่ย
“ไปส่งปอนด์แทนผมด้วยนะเมษา รถผมมันแคบคงนั่งได้แค่คนเดียว”
ประโยคท้ายเด็กหนุ่มไม่วายที่แว้งใส่ศิระ ไม่รู้สิ เขารู้สึกไม่ดีที่ศิระเป็นแบบนี้ขึ้นมา อยากให้เขาทิ้งเพื่อนเพื่อความสะใจของตัวเองเขาก็จะยอมตามใจ ทำขนาดนี้แล้วก็แค่หวังว่าอะไรๆมันจะเหมือนเดิม
“กลายเป็นคนถูกทิ้งแล้วนี่ มีปัญญาก็หาทางกลับเอาเอง” เมษา เอ่ยขึ้นอย่างนึกหงุดหงิด ก่อนจะเดินหนีไปอย่างไม่สนใจว่าคนข้างหลังจะมองยังไง
“มันคงไม่เห็นกูเป็นเพื่อนแล้วล่ะพฤกษ์” ปอนด์เอ่ยออกมาอย่างปลงๆ ศิระเห็นเหตุการณ์ก็เริ่มรู้สึกไม่ดีที่ตัวเองทำอะไรงี่เง่าออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไร คนปลงตกก็เอ่ยขึ้นซะก่อน
“กูไปก่อนนะโว้ย หวังว่าพรุ่งนี้พวกมึงคงกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ศิระชะงักคิดจะเรียกปอนด์เอาไว้เมื่อเห็นเจ้าตัวส่งยิ้มให้เขากับพฤกษ์หลังพูดเสร็จ
“ต้องการแบบนี้ไม่ใช่เหรอ” พฤกษ์ดักคอเอาไว้ ศิระมองสบตาเด็กหนุ่ม เห็นแววตาหม่นเศร้านั้นก็นึกเห็นใจ
“นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้นะพฤกษ์” ศิระว่า ก็ในเมื่อเจ้าตัวไม่สบายใจก็ไม่น่าที่จะตามใจเขานี่นา
“พอเถอะ ศิระ ฉันรู้ว่านายต้องการอะไร ฉันก็ทำตามเกมนายแล้วไง” ศิระพูดไม่ออกเมื่อโดนสวนกลับ เด็กหนุ่มได้แต่ยืนมองตามหลังคนพูดที่ออกเดินนำเขาไป ก่อนที่จะหันไปมองอีกทางที่ปอนด์เดินหายไปลับสายตา
“ฉันไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ปอนด์” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นลอยๆหลับตาถอนหายใจเฮือกใหญ่ หนักใจที่ทุกฝ่ายตามใจในความงี่เง่าของตัวเอง เขายังไม่อยากกลับไปหาพฤกษ์ แต่เรื่องมันออกมาแบบนี้เขาจะหาข้ออ้างไหนที่จะปฏิเสธ

ศิระนั่งรถคู่ไปกับพฤกษ์รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเมื่อพฤกษ์เอาแต่นิ่งเงียบ น้อยครั้งที่เจ้าตัวจะหันมามองหน้าเขา เด็กหนุ่มคิดทบทวนในสิ่งที่ตัวเองบีบบังคับให้คนๆนี้เลือกระหว่างเขากับเพื่อนขึ้นมา มันเป็นการกระทำที่งี่เง่าชัดๆ อยากจะเอ่ยอะไรที่อาจจะทำให้บรรยากาศในรถมันดีขึ้น แต่ทิฐิในใจมันยังอยู่เหนือกว่าความรู้สึกผิด ทางด้านเมษาเองก็ขับรถวนไปวนมาตามถนนเส้นเดิมที่เคยผ่านไปไหนมาไหนกับปอนด์ ภาพเฮฮาของกลุ่มเพื่อนที่เดินหยอกล้อตาริมถนนทำให้เขานึกถึงวันเก่าๆขึ้นมา เขาตัดเยื่อใยจากเพื่อนเพราะความรักบังตาแท้ๆ ความรักที่ยังไงก็ไม่มีทางสมหวัง พฤกษ์ยืนยันหนักแน่นขนาดนั้นว่าศิระคือตัวจริง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เขาจะยอมรับความจริงซะที อย่างน้อยๆปอนด์ก็น่าจะยังเป็นเพื่อนซี้เขาได้นี่ ดีกว่าที่เขาจะไม่เหลือใครเลย เด็กหนุ่มตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรหาคนที่ใจนึกถึงทันที




โดนหมากอดขาร่ำร้องให้มาต่อหรอกนะนี่ถึงได้มาลงให้

ตอนแรกก็กะจะดองนานๆอยู่หรอกเพราะเห็นใกล้จบแล้ว

อดสงสารหมาไม่ได้น่ะ เลยต้องลงอ่านะ

เหลืออีก1ตอนก็จะจบแล้วนะครับ

ขอบคุณทุกคนจริงๆที่ตามกันมาตลอดเลย ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 21-01-2008 15:13:28
น้องหมาที่ไหนหว่า    :m29:


อ่า..จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกมั้ยเนี่ย  :m21:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 21-01-2008 15:23:22

คำก้อหมา สองคำก้อหมานะ....

 :o12: :o12: :o12:

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 21-01-2008 15:38:34
วันหลัง ถ้าไม่ต่อให้ น้องหมาโดดกัดเลยนะ  :m12: :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 21-01-2008 16:09:14
เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 21-01-2008 16:28:17
สงสัยจะมีเรื่องร้าย  ก่อนลงเอยกันด้วยดี

รออ่านต่อเน้อ  ว่าแต่ใครเป็นน้องหมาหว่า  :oni2:  :oni2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 21-01-2008 17:42:11
 :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 21-01-2008 20:40:43
เหลืออีกตอนเดียวเองเหรอเนี่ย ก็จะจบแล้ว

สนุกจริง ๆ นิยายเรื่องนี้ ความรักของศิระและพฤกษ์ จะลงเอยเช่นไร

หวังว่า คงหวานนะครับ อย่าขมเลยยย  :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 21-01-2008 22:01:20
55555

รู้แล้วว่าน้องหมาตัวไหน

 :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 21-01-2008 22:58:36
ขำ เหรอ

เดี๋ยวโดน นะ บัว

 :m15: :m15: :m15:


แอม อ่ะ ใจร้ายยยยยย ชอบขมขู่ด้วย 


หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-01-2008 08:58:08
 :laugh: :laugh: :laugh: อ่านๆไปถึงตอนหมาร้องไห้ก็งงว่าหมาไหน อิอิ



แอมเราไม่เป็นหมาแต่อยากอ่านต่อนะ  อยากรู้ว่าเป็นไง  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 22-01-2008 13:52:37
รอตอนจบอยู่นะครับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 22-01-2008 16:06:47
รีบมาต่อนะครับผม :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 24-01-2008 21:50:16
 :m15: :m15:

ตอนนี้ปอนด์ได้ใจไปเต็มๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 25-01-2008 13:56:58
มานั่งรอตอนจบครับ  :m1: :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 25-01-2008 20:13:49
ยังไม่มาต่ออีก

 :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 26-01-2008 01:42:11
 :m22:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 26-01-2008 14:55:03
นั่งรอตอนจบคร้า   :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 21/01/08 Chapter 19
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 27-01-2008 01:22:43
 :m15:

มารออ่านตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 28-01-2008 01:32:12
ตอนสุดท้ายแล้วอ่า ไวจังเนาะแป๊บเดียวจบซะแล้ว


+++++++++++


#20

เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นขณะยืนรอเรียกแท็กซี่ เจ้าของเครื่องหยิบเครื่องออกมาดู ทำใจอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจกดรับ
   “โอ้ยยย!!!!..” เมษาสะดุ้งใจหายวาบเมื่อเสียงแรกที่ได้ยินจากปลายสายแทนที่จะเป็นเสียงทักทายอย่างที่เคยได้ยินกลับกลายเป็นเสียงร้องที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดของเจ้าตัวก่อนที่สัญญาณจะถูกตัดหายไป
“เฮ้ย ปอนด์มึงเป็นไรวะ” เด็กหนุ่มตะโกนถามออกไปทั้งๆที่รู้ว่าสัญญาณได้ถูกตัดไปแล้ว มันเกิดอะไรขึ้น ปอนด์เป็นอะไร ทำไมอยู่ๆถึงร้องเสียงหลงออกมาอย่างผิดปกติ ที่ร้ายยิ่งกว่าทำไมสัญญาณโทรศัพท์จึงถูกตัดทิ้งไปหรือว่าไม่รอให้สมองลำดับเหตุการณ์อีกต่อไป เมษารีบหาทางกลับรถเพื่อย้อนกลับไปในทางเดิมที่ทิ้งเพื่อนมา ในใจก็ภาวนาให้สิ่งที่ได้ยินเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นกับคนร้อง ไม่หรอก ไอ้นั่นมันคงไม่ย้อนกลับมาเอาเรื่องปอนด์ เพื่อนเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ไอ้ศิระต่างหากล่ะที่เป็นต้นเหตุ ปลายเท้าที่เหยียบคันเร่งจนมิดหวิดที่รถหรูจะเสียหลักหลายครั้ง ไม่ทำให้เมษานึกหวั่นใจเท่ากับเสียงร้องที่ได้ยินจากปากของคนที่ตัวเองโทรไปหาเพื่อที่จะขอโทษและปรับความเข้าใจพร้อมทั้งอยากที่จะเริ่มต้นมิตรภาพในคำว่าเพื่อนอีกรอบ เพราะคิดไปคิดมาคนๆนี้น่าจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขา ขออย่าให้มึงเป็นอะไรไปนะปอนด์เมษาภาวนาอีกรอบ เมื่อหักพวงมาลัยรถชะลอเลี้ยวกลับเข้าไปทางเดิมที่คิดว่าปอนด์คงจะยังอยู่ มันเป็นความหวังลมๆแล้งๆ แต่จะให้เขาไปตามปอนด์ที่ไหนล่ะ เมื่อติดต่อเจ้าตัวไม่ได้
   ภาพฝูงชนกำลังมุงดูอะไรซักอย่างเบื้องหน้า พร้อมกับเสียงไซเรนและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่วิ่งจัดระเบียบและดูแลพื้นที่กันโกลาหล ทำให้ปอนด์ถึงกับเหงื่อตกออกมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ทั้งๆที่เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำในรถเพิ่งจะดับลงไปพร้อมๆกับเครื่องยนต์  เด็กหนุ่มเปิดประตูรถก้าวเท้าออกมาช้าๆ ระยะที่เจ้าตัวจอดรถอยู่กับกลุ่มฝูงชนไม่ได้ไกลกันมากนัก สายลมอ่อนๆที่โชยมาเด็กหนุ่มถึงกับขนลุกเมื่อได้กลิ่นคาวเลือดมาแตะที่จมูก มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คนสงสัยไม่รอให้อารมณ์หวาดกลัวครอบงำจิตใจจนเกินไป สองขาออกก้าวเดินฉับๆไปยังฝูงชน แต่แค่ออกเดินได้ไม่กี่ก้าวเจ้าตัวต้องหยุดชะงักเมื่อรู้สึกว่าปลายเท้าเหยียบสัมผัสวัตถุบางอย่าง จึงก้มมอง พระเจ้าช่วย!!!!!!!! เมษาถึงกับเข้าอ่อนแทบทรุดเมื่อมองเห็นเต็มตาว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังเหยียบอยู่เป็นเป็นเศษซากโทรศัพท์ที่น่าจะโดนจับเหวี่ยงกระแทกพื้นจนแตกร้าวแบบนี้ แม้สภาพที่เห็นมันจะไม่สมบูรณ์เต็มร้อยแต่ความคุ้นตาที่เคยเห็นมันมานานทำให้เด็กหนุ่มใจสั่นตัวเบาหวิวเมื่อรู้ได้ทันทีว่าไอ้เศษวัตถุชิ้นนี้มันคือวัตถุที่เขาโทรเข้ามาหาเมื่อซักครู่
“ไอ้ปอนด์ ไม่นะมึง” คนตะโกน วิ่งฝ่าฝูงชนเข้าไปจนถึงภาพที่ทำให้ขวัญกระเจิง ร่างอาบเลือดที่พรุนไปหลายสิบแผลจากการโดนของมีคมจ้วงแทง ยังคงนอนลืมตาโพลงอย่างน่าเวทนาจากผู้พบเห็น ยังไม่มีผ้าคลุมร่างนั้นพอๆกับยังไม่มีใครกล้าเขาไปสัมผัส หลังจากที่ประเมินด้วยสายตาว่า ไม่น่ารอด เมษาเป็นคนแรกที่วิ่งปล่อยโฮเข้าไปดึงร่างอ่อนปวกเปียกที่อาบไปด้วยเลือดนั้นมาเขย่าพลางพร่ำเพ้ออย่างคนเสียสติโดยไม่สนใจคำทัดทานและอารมณ์ตกใจของคนที่มุงดูอยู่ก่อน
“ปอนด์ มึงฟื้นสิ มึงคุยกับกูสิใครทำมึงใครทำมึง มึงคุยกับกูก่อนมึงต้องไม่เป็นไร กูกลับมาแล้วกูกลับมารับมึงแล้วไง มึงต้องไปกะกู พูดกะกูสิ พูดกะกู”
เหล่าฝูงชนพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเมื่อเห็นอาการฟูมฟายของคนที่กอดร่างโชกเลือดไว้ในอก หลายคนกรูเข้ามารั้งเจ้าตัวให้ปล่อยร่างที่ดูก็รู้ว่าไร้วิญญาณแล้วให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบงานด้านนี้โดยตรง
“ไม่ ผมจะอยู่กับเพื่อนผม มันเกิดอะไรขึ้น มันเกิดอะไรขึ้น” เมษาดึงดันที่จะไม่ปล่อยร่างปอนด์ที่นอนหมดลมหายใจในอ้อมกอด เด็กหนุ่มสงสารเพื่อนขึ้นมาจับใจเมื่อมองเห็นแผลสดหลายแผลที่พรุนไปทั่วร่าง เลือดสีแดงยังคงไหลออกมาไม่หยุด
“ใครทำมึงปอนด์ ใครทำมึง” เด็กหนุ่มปล่อยโฮเพ้อออกมาอีก หนึ่งในฝูงชนที่เห็นเหตุการณ์จึงเอ่ยขึ้นเพราะนึกเวทนา
“เพื่อนคุณน่ะโดนกลุ่มวัยรุ่นมาจากไหนไม่รู้วิ่งมากระชากตัวไว้แล้วก็รุมกันแทงยับจนใครๆก็ช่วยไม่ทัน ก็เลยต้องมาเป็นแบบนี้แหละ”
“ตายโหงทั้งๆที่ยังเด็กแท้ๆ” หนึ่งเสียงสนับสนุน เมษาแทบขาดใจเมื่อรับรู้ชัดเจนว่าเพื่อนได้ตายสนิท เขาไม่น่าปล่อยปอนด์ไว้แบบนี้ เขาน่าจะรับคนๆนี้กลับไปด้วย เขาทำให้เพื่อนต้องตายทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจกัน ศิระ มึงอีกคนที่เป็นต้นเหตุ....

   “ว่าไงครับเมษา” พฤกษ์ทักทายคนที่โทรเข้ามาขัดจังหวะขณะที่กำลังจอดรถทะเลาะกับศิระอย่างรุนแรงเพราะต่างฝ่ายต่างเก็บอารมณ์กันไม่ไหว
   “ หาาาาา!!!!!!!! ว่าไงนะ” ศิระตกใจในเสียงอุทานที่ได้ยินจากปากพฤกษ์ เขาไม่รู้ว่าฝ่ายที่โทรเข้ามาพูดว่าอะไร รู้แต่ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะหลังคำอุทานเสียงดังของพฤกษ์ เด็กหนุ่มเห็นเจ้าตัวปากสั่นหน้าซีด ก่อนที่โทรศัพท์จะหล่นลงจากมือเหมือนอาการคนช๊อคอะไรซักอย่าง
   “มีอะไร” คนสังเกตอาการเอ่ยถาม ตัวชาวูบเมื่อได้คำตอบที่คนตอบหันมาบอกเสียงสั่น
   “เมษาโทรมาบอกว่าไอ้ปอนด์ตายแล้ว”
“ว่าไงนะ” ศิระเผลออุทานบ้างเพราะตกใจและช๊อคกับสิ่งที่ได้ยิน เด็กหนุ่มรวบรวมสติเอ่ยถามถึงสาเหตุ ก่อนจะหน้าซีดใจหายเมื่อพฤกษ์ตวาดตอบกลับมา
“โดนกลุ่มวัยรุ่นรุมแทงไง สะใจนายหรือยัง สะใจนายหรือยัง!!!!!!!!!!”
ศิระไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรก็ต้องรีบทรงตัวเมื่อพฤกษ์สตาร์ทรถกระชากเกียร์ออกตัวอย่างกับพายุหลังตวาดเขาเสร็จ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 28-01-2008 01:57:54
“นายใจเย็นๆก่อนสิพฤกษ์ จะเชื่อได้ไงว่านี่เป็นเรื่องจริง” ศิระพยายามปลอบเพราะระดับความเร็วของรถที่พฤกษ์กำลังขับอยู่ตอนนี้หากแค่เสียหลักนิดเดียวคงพลิกคว่ำไปหลายตลบอย่างไม่ต้องสงสัยแน่
“เรื่องแบบนี้ใครจะมาล้อเล่น กูไม่น่าทิ้งมึงเลยไอ้ปอนด์” พฤกษ์ตอบศิระเสร็จก็เอ่ยโทษตัวเองอย่างนึกเสียใจ แต่คนที่เสียใจกว่าคือคนที่นั่งข้างๆ หากว่าเรื่องนี้เป็นเรื่อง จริง ความรู้สึกผิดในความงี่เง่าของตัวเองจนทำให้คนหนึ่งคนต้องจบชีวิตลงคงติดตัวไปจนตาย  ศิระเอื้อมมือไปแตะตัวพฤกษ์เพื่อปลอบใจเจ้าตัว แต่ต้องหน้าชาเมื่อฝ่ายนั้นเอ่ยเสียงดุออกมา
“อย่าแตะต้องตัวฉัน มันช่วยอะไรไม่ได้หากว่าปอนด์ตายขึ้นมาจริงๆ”
คนเอื้อมมือวางสีหน้าไม่ถูก ได้แต่ชักมือกลับมานั่งนิ่งๆตามเดิม พฤกษ์จึงเร่งความเร็วขึ้นอีกตามอารมณ์ที่กำลังร้อนเป็นไฟ ในใจนึกห่วงเพื่อนยิ่งกว่าอะไรในตอนนี้
“พฤกษ์ พฤกษ์” เมษาร้องเรียกเมื่อมองเห็นร่างพฤกษ์วิ่งเข้ามาในตัวตึกของโรงพยาบาลที่นำศพของปอนด์มาเพื่อผ่าชันสูตร ญาติของปอนด์ยังไม่มีใครมา แต่สีหน้าและแววตาของเมษาที่เห็น รวมทั้งคราบเลือดที่เปรอะเต็มเสื้อตัวเท่ห์นั่นทำให้พฤกษ์รู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องโกหก เด็กหนุ่มจึงไม่เกิดอาการต่อต้านใดๆเมื่อฝ่ายนั้นโผเข้ากอดเขาเมื่อเข้ามาถึงตัว พฤกษ์กอดตอบเมษาอย่างปลอบใจ เขาเชื่อว่าเมษาคงเสียใจไม่น้อยไปกว่าเขาปอนด์ไม่น่าอายุสั้นขนาดนี้
“ไอ้กุ๊ย” เมษาผละตัวออกจากพฤกษ์ตวาดขึ้นเมื่อมองเห็นศิระเดินตามพฤกษ์เข้ามา คนถูกตามหันไปมองตามสายตาคนตวาด ชั่วครู่คนที่เขามองตามก็โผเข้ากระชากคอเสื้อศิระเขย่า พลางระบายคำพูดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
   “เพราะมึงเพื่อนกูถึงต้องตาย เพราะมึงคนเดียว ทำไมคนอย่างมึงไม่ตายไปแทนไอ้ปอนด์ มึงเอาชีวิตเพื่อนกูคืนมา เอาชีวิตไอ้ปอนด์คืนมา” ศิระไม่ตอบโต้ เด็กหนุ่มปล่อยให้เมษาระบายอารมณ์เคียดแค้นได้อย่างสุดขีด จนสุดท้ายต้องล้มไปกองกับพื้นเมื่อเมษาออกแรงเหวี่ยงสุดกำลัง คนที่ศิระมองสบตาด้วยไม่ใช่เมษาแต่เด็กหนุ่มมองสบตาอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย พฤกษ์เมินสายตาหนีอย่างไม่ใยดีเมื่อเห็นคนที่นั่งที่พื้นมองมาที่เขา ก่อนที่ศิระจะถูกเมษาตรงเข้าทำร้ายอีก เหล่าเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งเข้ามาระงับเหตุ ศิระเจ็บปวดเมื่อเห็นพฤกษ์ตรงเข้าปลอบโยนเมษา เด็กหนุ่มรีบเบือนสายตาหนีเมื่อเมษาโผซบพฤกษ์อีกรอบ โดยที่พฤกษ์โอบกอดตอบด้วยท่าทีเต็มใจ……….

   ควันที่ลอยออกจากจุดยอดสุดของเมรุ ทำให้คนที่ยืนลอบมองอยู่ห่างๆเช็ดขอบตาอย่างลวกๆเมื่อรู้สึกถึงน้ำใสๆได้รินไหลออกมา
“ปอนด์ ฉันขอโทษ” ศิระเอ่ยออกมาเสียงสั่น ภาพไกลตาที่เห็นผู้คนรักและอาลัยคนจากไปทำให้เด็กหนุ่มนึกโทษ โกรธเกลียดตัวเอง จนไม่อาจที่จะกล้าเข้าไปสู้หน้าคนเหล่านั้นได้ พฤกษ์คงอยู่ในคนกลุ่มนั้น เขาจะมองหน้าคนๆนี้ได้ยังไงพฤกษ์กับเขาไม่สมควรที่จะเจอกันอีก

   “ศิระไม่ได้มาหาฉันนานแล้ว” คนนอนบนเตียงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเมื่อมองเห็นคนที่เปิดประตูห้องเข้ามา ก่อนหน้าเมษาก็เข้ามาหาเขาจนกลับไปแล้วคนหนึ่ง แล้วนี่ก็เป็นนายพฤกษ์ซึ่งก็คงรู้จากปากเมษาแหละถึงตามมาหาเขาถูก สังคมคนเที่ยวนี่มันแคบจริงๆเมษารู้จนได้ว่าเขาพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่นี่ แต่ตอนมาหาเขาแทนที่จะถามไถ่อาการเขากลับถามหาเพื่อนเขาซะนี่ ศิระมันคงดีใจอยู่หรอกที่พวกมึงถามหามัน
“รู้ได้ไงว่าผมมาหาศิระ” พฤกษ์ย้อนถาม หลังจากเผาศพปอนด์ ศิระก็เป็นอีกคนที่หายสาบสูญไป
“เราสนิทกันเหรอฉันถึงจะเชื่อว่านายมาเยี่ยมฉัน” เป้ตอบ ศิระหลบหน้าคนพวกนี้เพราะรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้า เขารู้เรื่องทุกอย่างในวันที่เจ้าตัวมาหาเพื่อบอกว่าจะกลับไปหาคนที่บ้านเพราะเหนื่อยและท้อกับการต้องเผชิญเรื่องราวที่หนักเกินจะรับไหว ศิระเครียดและกังวลจนหลอนตัวเองในทุกๆคืนว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้คนหนึ่งต้องตายอย่างน่าสมเพช แม้ไอ้พวกวายร้ายพวกนั้นจะโดนจับได้ในที่สุด หนึ่งในนั้นเป็นไอ้ชั่วที่เคยเป็นคู่ขาเขา นั่นเป็นสาเหตุให้ศิระยิ่งหลอนจนไม่อันทำอะไร จึงตัดสินใจย้อนกลับไปในที่ๆน่าจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้หัวสมองลืมเรื่องร้ายๆแม้จะไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าที่ตรงนั้นจะอ้าแขนรับ
“ใช่ผมมาเพื่อตามหาศิระ รู้มั๊ยเขาไปไหน” พฤกษ์ยอมรับ คนที่หอบอกศิระบอกเลิกสัญญาเช่าอย่างไม่มีกำหนด เขามืดแปดด้านไปทันที เป้น่าจะเป็นคนที่รู้ว่าคนที่เขาอยากเจออีกซักครั้งหายไปไหน
“ถึงรู้ฉันก็คงบอกนายไม่ได้ อย่าตามศิระมันอีกเลยนะ ทุกวันนี้ศิระมันเลิกหลอนตัวเองหรือยัง ยังไม่รู้ ปล่อยให้มันอยู่ในที่ที่อาจจะมีคนรักและอ้าแขนกอดปลอบมันด้วยใจจริงเถอะ บอกตามตรงว่าฉันสงสารมัน สาเหตุและต้นตอที่แท้จริงที่เป็นต้นเหตุให้เรื่องร้ายๆพวกนี้มันเกิดขึ้นคือฉัน ศิระมันเตือนฉันแล้วว่าให้เลิกใช้ชีวิตเสเพและกลับมาตั้งใจเรียน แต่ฉันมันดันทุรังจนต้องมาเป็นแบบนี้ เพื่อนพวกนายตายไป ศิระเองก็ไม่ต่างกันหรอก ทุกวันนี้มันก็คงตายทั้งเป็นกับความรู้สึกผิด ที่มันไม่ได้ก่อ” เป้อธิบายยืดยาว พฤกษ์ที่คิดตามนึกโกรธตัวเองที่วันนั้นเขาเองก็มีส่วนทำให้ศิระต้องเป็นแบบนี้ ศิระไม่ใช่ต้นเหตุทั้งหมด เขากับเมษาเองก็ผิดไม่แพ้กันที่เอาแต่อารมณ์เป็นหลัก ยิ่งเห็นสภาพเป้ตอนนี้เขาก็ยิ่งเข้าใจในความรักและห่วงเพื่อนของศิระ เขารักปอนด์ยังไงศิระก็คงจะรักเป้อย่างนั้น แม้ปอนด์จะหมดลมหายใจไปแล้วแต่ก่อนตายปอนด์ขอร้องเขากับศิระว่ายังไงศิระจำมันได้หรือเปล่า?

   เสียง กิ่งไม้แห้งในสวนหลังบ้านดังกรอบให้ได้ยิน ศิระผวาตื่นจากอาการหลับหนังสือเรียนเล่มหนาที่ใช้ปิดหน้ากันแสงขณะนอนหล่นลงที่พื้นเมื่อเจ้าตัวลุกขึ้นนั่ง
“เมษา” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เมษากำลังยืนบนพื้นดินบ้านเกิดของเขา
“มาได้ไง” ศิระลุกขึ้นถามต่อ
“มีบางคนเขาไม่กล้ามาคนเดียวกลัวนายไล่ตะเพิด ฉันเลยต้องพามา” เมษาตอบยิ้มๆ ตั้งแต่เสียปอนด์ไปอย่างไม่มีวันกลับทำให้เขานึกปลงตกได้หลายๆอย่าง คนเราจะตายวันนี้พรุ่งนี้ มะรืนนี้ กำหนดเองได้ที่ไหน ที่ผ่านมาก็ทำอะไรร้ายๆไว้เยอะ ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จึงขอเป็นคนดีเพื่อส่งให้เพื่อนไปสู่ในที่ๆสบาย
   “จริงๆบ้านนายก็น่าอยู่ดีนะ อากาศดี” คนมาใหม่เอ่ยต่ออีกเมื่อเห็นศิระวางสีหน้าไม่ถูก คงกำลังไม่ไว้ใจเขา
“ที่ผ่านมา ฉันขอโทษนะศิระ หากว่าฉันเคยทำอะไรร้ายๆไว้กับนาย นายจะไม่ให้อภัยฉันหรือถือโทษฉันไปจนตายก็ได้ แต่เพื่อเห็นแก่ไอ้ปอนด์ ฉันอยากให้นายลงเอยกับพฤกษ์อย่างที่ปอนด์มันอยากเห็นได้หรือเปล่า”
“ได้หรือเปล่าศิระ” หนึ่งเสียงที่สะท้อนดังตามหลังเมษาที่เอ่ยจบ ทำให้ศิระหันไปมองแทบจะทันที พฤกษ์กำลังยืนมองเขาอยู่
“พวกนายมาด้วยกันเหรอ” ศิระหันมาถาม เมษา จึงได้คำตอบที่ชัดเจน
“บอกแล้วไงว่าพฤกษ์กลัวนายไล่ตะเพิด ฉันเลยต้องมาเป็นเพื่อน แต่แค่มาด้วยกันนะ พฤกษ์บอกจะอยู่กับนายจนกว่านายจะเห็นใจและเข้าใจเขา ซึ่งฉันคงรอไม่ไหว นายมันใจแข็งแค่ไหนก็รู้ๆกันอยู่..” พูดจบเมษาเดินมาจับมือคนฟังกุมไว้แล้วบอกด้วยนำเสียงเศร้าๆ
“ถือซะว่าทำเพื่อไอ้ปอนด์เถอะนะ ฉันสงสารมัน” ศิระกุมมือตอบเมษาอย่างนึกเห็นใจเมื่อเห็นเจ้าตัวตาแดงขึ้นมา รอยยิ้มจางๆจึงแต้มขึ้นบนใบหน้าชายหนุ่ม เมษายิ้มตอบพร้อมๆกับหยดน้ำตาที่รินไหลลงอาบแก้ม เด็กหนุ่มมองเลยศิระไปยิ้มให้พฤกษ์ก่อนจะโบกมืออีกข้างที่ว่างให้ฝ่ายนั้นเป็นสัญญาณลาว่าจะจากไปและจะไม่ขอเข้ามาเกี่ยวข้องกับทางรักเส้นนี้อีก

   พฤกษ์ก้าวเดินเข้าไปหาคนที่หันมามองเขาช้าๆ เขาอยากกอดคนๆนี้ให้เต็มอ้อมแขนเต็มทนแล้ว ขออย่าให้ศิระอย่าขัดขืนเขาเลยนะ
“ศิระ กูหิวแล้วว่ะ กลับเข้าบ้านมึงเหอะ” หนึ่งเสียงดังแทรกขึ้นขณะที่พฤกษ์กำลังเอื้อมมือจะไปสัมผัสคนตรงหน้า ศิระถอยร่นออกห่างคนเอื้อมมือทันทีที่หน้าซื่อๆของเพื่อนที่อาสามากับเขาโผล่มาให้เห็น
“เฮ้ย คุณมาได้ไงวะ” โก๋ ทักอย่างแปลกใจเมื่อเห็นพฤกษ์ยืนตัวสูงอยู่ท่ามกลางแมกไม้ในสวน ว่าอยู่ในตัวเมืองคนๆนี้ดูดีแล้วนะพอมายืนอยู่ในพื้นที่บ้านสวนของศิระทุกอย่างมันยิ่งส่งให้พฤกษ์ดูโดดเด่น
“มาตามหาคนรักไง” พฤกษ์ตอบยักคิ้วล้อเลียนศิระ ก่อนจะแกล้งแหย่
“นึกว่าจะแน่ ที่แท้ก็ลากคู่หูมาด้วย”
“คู่หูอะไร คู่หูอะไร” ศิระถามแก้เก้อเมื่อมองสบสายตาที่ส่งประกายรอยยิ้มจริงใจของเจ้าตัว เอื้อมมือทุบเมื่อพฤกษ์เอาแต่อมยิ้มล้อเลียน
“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ไปรักกันตอนไหนเนี่ย ปล่อยให้ไอ้โก๋ โง่มาตั้งนาน เฮ้อ” คนหน้าซื่อส่ายหัวยิ้มๆ รู้สึกดีขึ้นเป็นกองที่เห็นศิระมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าระหว่างหยอกล้อกับคนตัวสูง คงไม่มีอะไรที่จะทำให้เพื่อนคนนี้ของเขาต้องกลับไปอมทุกข์ต่อสู้ชีวิตตามลำพังคนเดียวอีกแล้วมั้ง ในเมื่อที่บ้านก็อ้าแขนต้อนรับอย่างอบอุ่นจนเขาต้องน้ำตารื้นเมื่อเห็นบรรยากาศวันแรกที่มาถึง ทั้งพ่อและแม่โผกอดเพื่อนเขาร่ำไห้ด้วยความคิดถึงแม้จะมีถ้อยคำต่อว่าแต่น้ำตาที่อาบแก้มก็บ่งบอกได้ว่ายังไงพ่อแม่ก็ตัดสายใยจากลูกไม่ขาด แล้วนั้นภาพตรงหน้า เห็นแล้วไม่กล้ามองนาน ผู้ชายอะไรวะเดินจูงมือกันไปอย่างไม่อายฟ้าดิน
“เฮ้ย” โก๋ร้องเสียงหลงอย่างตกใจเมื่อมีแรงลมวูบไหววิ่งผ่านร่างไปยังสองคนที่กำลังเดินจูงมือกัน ซักพักเขาก็เห็นเต็มตาว่าลมนั่นหอบพัดดอกไม้ให้ร่วงหล่นลงเต็มบริเวณสวนเล็กๆ พฤกษ์แหงนหน้าขึ้นมองดอกไม้ที่ร่วงหล่นพร้อมศิระก่อนที่ทั้งสองจะเอ่ยออกมาพร้อมๆกัน
   “ขอบใจว่ะปอนด์” สองมือที่กุมกันอยู่กระชับประสานกันแน่นยิ่งขึ้นเมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจในภาษาสายลมที่สื่อผ่านดอกไม้จนร่วงโปรย..





จบบริบูรณ์



ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามอ่านกันมาจนถึงตอนจบ

ขอบคุณมากๆเลยสำหรับคอมเม้นต์ของทุกๆคน

ไว้ยังไงก็อย่าลืมติดตามอ่านผลงานเรื่องต่อๆไปของพี่บอยกันนะ

แล้วก็ขอบคุณที่บอยมากที่สุดที่แต่งเรื่องดีๆมาให้พวกเราได้อ่านกันทุกคน

ขอบคุณๆๆ ขอบคุณยังไงก็ไม่หมด
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: artday ที่ 28-01-2008 02:32:46
 ปอนด์.... :m15: :m15: ขอบคุณครับกับเรื่องดีๆ :m4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: myLoveIsYOu ที่ 28-01-2008 10:28:38
อ่าจบซะแล้ว

สนุกมาก ๆ เรื่องนี้

จบแบบ Happy ให้ชุ่มชื่นหัวใจ   :m1:

หลังจากอ่านหลาย ๆ เรื่อง รันทดเหลือเกิน  :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-01-2008 11:53:47
จบแบบประทับใจครับ แต่ก็ยังสงสารปอนด์จิง

จะรอเรื่องต่อไปน่ะคร้าบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-01-2008 12:41:43
 :m29: จบแบบมีตายด้วยอ่ะ
 :เฮ้อ:ยังดีที่ศิระกะพฤกษ์ไม่ตาย
  ขอบคุณแอมค่ะที่เอาเรื่องดีๆมาลงให้อ่านกัน :a1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 28-01-2008 12:48:41
ขอบคุณคุณบอยที่อนุญาติให้เอาเรื่องมาลง
เรื่องของคุณบอยทุกเรื่องจะออกแนวดราม่า  ดึงอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลงกันสุดชีวิต
แล้วก็มักจะจบลงแบบแฮปปี้เอนดิ้ง  ปกติคนร้ายจะตาย เพิ่งอ่านเรื่องนี้ที่เพื่อนพระเอกตายด้วย
เฮ้อ  สงสารปอนด์อ่า ซวยจริงๆ

ขอบคุณแอมที่นำเรื่องนี้มาลงน้า ขอบคุณๆ
 o13  o13  o13  o13  o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: sakura ที่ 28-01-2008 21:06:52
อ่านจนจบแล้ว
ขอบคุณมากนะค่ะที่แต่งเอามาให้อ่านกันjavascript:void(0);
javascript:void(0);
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: armani ที่ 28-01-2008 23:13:51
มีคนตายด้วย เศร้าอ่ะ :m15:
แต่ทำไมคืนดีกันง่ายกัน.... :m21:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 29-01-2008 12:18:11
สงสารพี่ปอนด์จังไปสู่สุขคตินะครับผม :sad2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 29-01-2008 19:34:29
 :m1: :m1: :m1: :m1:


ขอบคุนครับบบ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: -~iK@iZ_KunG~- ที่ 31-01-2008 20:07:39
จบแบบ HAPPY ENDING  :m1: :m1:

จาติดตามผลงานอื่น ๆ ต่อไปครับ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: DekDoy ที่ 31-01-2008 20:48:28
 :m15:

ขอบคุณนักเขียน คุณ"บอย"

ขอบคุณคนโพส

สำหรับเรื่องดีๆ ที่เอามาให้อ่านนะคับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 01-02-2008 17:37:13
สงสารปอนด์ง่ะ

แต่ก้อจบด้วยดี

ขอบคุนนักเขียนคุณ บอย มากค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 03-02-2008 15:09:48
 o7 o7 o7
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: mahama ที่ 08-02-2008 11:44:04
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

ซึ่งใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 12-02-2008 15:15:38
 :m15: :m15: :m15:



 :oni1: :oni1: :oni1:


เลือกไม่ถูกเลย จะอารมณ์ไหนดี




 :pig4: นะคะพี่แอม & พี่บอย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Oḇlivïaté℠ ที่ 17-02-2008 00:47:52
รวดเดียวจบ









เป็นอีกเรื่องที่บีบหัวจัยสุดๆ




ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: baros ที่ 22-02-2008 21:25:53
 :m15:อ่านกี่รอบก้อยังชอบ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 23-02-2008 02:42:45
 :m1: สนุกมากค่ะ มีหลายรสดี อ่านทีเดียวจบเลยค่ะ เรื่องเป็นเรื่องที่ 3 นะคะในบอร์ดนี้ที่เราเพิ่งเข้ามาอ่าน  ประทับใจมากค่ะไม่น้ำเน่าดี   :o8: เพียงแต่ว่ารู้สึกว่าฉากหวาน ๆ น้อยไปหน่อยป่ะ  เราเป็นโรคเบาหวานน่ะ  เลยต้องหาความหวานมาเติมให้ชีวิตมากหน่อย   ถ้ามีตอนพิเศษหวาน ๆ นิด ๆ ก็ดีเนาะ แหะๆ 
   o13 เราขอเป็นกำลังให้คุณเขียนนิยายดี ๆ อย่านี้ต่อไปอีกนะคะ  ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 27-02-2008 11:34:16
อ่านรวดเดียวจบ

คิดว่าจะจบแบบเศร้าซะอีก

จะติดตามเรื่องอื่นๆค่ะ

 :pig3: :pig3: :pig3:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 13-03-2008 16:20:56
 o13 o13 o13 o13 o13

ขอบคุนครับบบ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: sirasyung ที่ 25-04-2008 20:32:10
ไม่เคยอ่านเรื่องไหนแล้วเครียดเท่านี้มาก่อนเลยฮะ  :serius2: :o12: o7

แต่ก็อ่านรวดเดียวจนจบเลย
แบบว่าปิดไม่ลงอ่ะ

ขอบคุณมากนะฮับที่แต่งเรื่องสนุก ๆ มาให้อ่าน

ปูลู  อยากอ่านตอนพิเศษจังเลย  จะมีมั้ยน้อ... :oni2: 
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: thopia ที่ 06-05-2008 01:50:24
แง~ เศร้าจังเลยค่ะ เรารู้สึกอัดอั้นตันใจมาก 
โดยเฉพาะตอนที่ปอนด์ตายแล้วพฤกษ์เมินใส่ศิระเนี่ย เจ็บปวดแทนจริงๆ   :m15:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: baros ที่ 14-05-2008 19:07:35
 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
สุดยอดจิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Lady-Rabbit ที่ 21-07-2008 20:05:52
อ่านรวดเดียวจบเลย

สงสารปอนด์จริงๆ  :sad2:

ขอบคุณที่เอามาโพสต์ให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 25-08-2008 01:46:10
สงสารปอนด์อ่ะ o7 o7
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: โพ่มือคลี่ ที่ 17-12-2008 06:02:47
ชอบเรื่องนี้ของคุณบอยจัง

อ่านแล้ววางไม่

เสียดายนิดที่ตอนจบดูกระชับไปหน่อยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 30-01-2009 00:41:47
เพิ่งได้เข้ามาอ่านอะ

บีบคั้น หัวใจมาก

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: vagon ที่ 01-02-2009 09:47:56
ขอบคุณมากๆครับ สำหรับนิยายที่ทำให้อ่านแล้วมีความสุขมากๆ อีกเรื่องนึง
ถึงแม้ว่ากลางๆเรื่อง จะอ่านแล้วใจสั่นเยอะแยะเลยก็เถอะ


งานเก่าๆ ของคุณบอยครับ

>>Real Love Story ….Ton ( Series 2 , Series continue )
>>จนกว่าฟ้าจะมีเวลา ( เรื่องเล่าไม่มีชื่อ , Series Step 2 )
>>Time For Love เวลา ลมเหงา เราที่รักกัน
>>Dream ขีดเส้นฝันในวันที่มีรัก ( Serie Dream From Evil )
>>รู้ไหม? หัวใจฉันตามหา

โดนใจทุกเรื่องครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 19-02-2009 01:10:05
 :o12: :o12: วันเดียวจบ :m15: :m15:

 :monkeysad: สงสารปอนด์อย่างแรง :sad11:

 :L3: :L3: :L3: :L3: :L3:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ltahset ที่ 02-10-2009 00:29:17
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆอีกเรื่องนะคะ

^^
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: BABOO ที่ 04-10-2009 03:41:36
ขอบคุณมากค่ะ

เศร้าอ่ะ  ร้องไห้ทั้งเรื่องเลย 

 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 04-10-2009 11:13:32
เพิ่งมีโอกาสได้ตามมาอ่านเรื่องนี้ค่ะ

สนุกและบีบคั้นหัวใจมากเลย

ขอยกนิ้วให้คนเขียนเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 25-10-2009 23:16:49
เรื่องนี้จะว่าไปความเศร้ายังน้อยกว่าเรื่องอื่นๆ ของคุณบอยเนาะ... :z1:
แต่เนื้อเรื่องก็ชวนติดตามดี...เรื่องอื่นอ่านแล้วเกลียดตัวร้าย แต่เรื่องนี้
อ่านแล้วเกลียดพระเอกชะมัด...รมณ์เสียเอามากๆ  :beat:
แต่ก็จบแบบ Happy สนุกมาก...ขอบคุณครับสำหรับนิยายดีๆ
 :L1: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: しろやま としんや ที่ 26-10-2009 21:09:32
จิ้มพี่นาท :z13: :z13:

ยังอุตส่าห์ขุดกระทู้เนาะพี่นาท

นานแล้วไมเพิ่งมาอ่านเนี่ย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 26-10-2009 21:51:59
 :sad4:
โดนจิ้ม...กะพึ่งเห็นก็พึ่งอ่านสิ ง่ายๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 28-10-2009 08:01:25
อ่านรวดเดียวจบ

ซึ้ง--เศร้า แอบหมั่นไส้พระเอก

ขอบคุณ คุณแอม&คุณบอยค่ะ สำหรับนิยายดีๆอีกเรื่อง
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 29-10-2009 11:31:48
เหมือนขาด nc คริ ๆ :z2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: pug5 ที่ 30-10-2009 19:51:26
หนุกดี แต่สงสาร ปอน อ่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 03-11-2009 23:03:04
ถ้าคนจนเจอเเบบศิระกรุงเทพคงไม่มีที่ให้ยืน
สำหรับคนจนเศร้ามีแต่จะโดนประนามหยามเหยียด
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 02-12-2009 00:13:55
จบแบบแฮปปี้ดีอะ ชอบมากคับ :mc4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 05-12-2009 00:34:13
กว่าจะลงเอยกันได้  :เฮ้อ:  ขอบคุณที่นำมาให้อ่านจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 24-12-2009 17:13:23
สนุกมากค่ะ สงสารนายเอกจัง

จริงๆ ตอนแรกพระเอกก็มาหลอกจริงๆ ล่ะนะ  เฮ้อ... 

เจ็บปวดกับฉากบนรถทัวร์มากเลยค่ะ  สงสารจับใจ

แต่...... ที่สำคัญ  เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราอ่านตั้งแต่ต้นยันจบก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่า  ฝ่ายไหนเป็นพระเอก หรือนายเอก 55

เลยถือ ความร้าวระทมเป็นตัวชี้วัดว่า ฝ่ายที่ชั้นสงสารต้องเป็นนายเอก

(จริงๆ ฉากที่ทำให้เราแน่ใจก็คือตอนที่พระเอกถอดเสื้อให้เมษานั่นล่ะ  ถึงจะฟันธงได้)
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 05-02-2010 23:22:35
ตามหามาก็อ่านติดต่อกันเลย
เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ผมกุมหน้าอกตัวเองอยู่หลาย นึกอยู่เหมือนกันว่าเผลอรับจากอิทธิพล จากเรื่องรู้มั๊ยหัวใจชั้นตามหา เพราะอ่านเรื่อง นี้จบก็ตามมาอ่านเรื่อง สองคนบนทางรัก ทันที ฉากหลายตอนที่ศิระ มักพูดกับตัวเองเสมอๆว่า คนอย่าฉัน มันฟังที่ใจ ปวดใจจริงๆ เป็นเรื่องที่เรียกน้ำแรงปวดใจได้มากมาย

ขอบคุณครับ

สำหรับเรื่องดีดี

จะตามล่าหาเรื่องที่ยังไม่ได้อ่านของคุณบอยครับ ตอนนี้ได้สิบกว่าเรื่องแล้ว

อยากอ่านอีก

เป็นกำลังใจให้ครับ :man1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: [[_GozpeL_]] ที่ 06-02-2010 14:18:00
ตามล่าหานิยายของคุณบอยเหมือนกัน

ขอบคุณค่ะ^^"
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัŦ
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 07-02-2010 23:25:46
:man1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ~MeiMeiZ@~ ที่ 04-03-2010 09:25:49
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ :o8:
นู๋มีหนังสือของพี่ด้วยนะ :กอด1:
จะเป็นกำลังใจให้นะคะ :L1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Mushroom*TBL ที่ 22-03-2010 04:21:22
 :เฮ้อ: ตอนจบทำเอาลุ้นจนเหนื่อยว่าจุดจบจะออกมาในรูปแบบไหน
ทำเอาคิดไปต่างๆนานา ในที่สุดก็แฮปปี้ นึกว่าจะแซดเอนดิ้งซะแล้ว

เรื่องนี้ให้ข้อคิดนักเที่ยวมากๆ สงสารปอนด์อย่างยิ่ง
ทุกคนล้วนแต่มีส่วนผิด จะโทษก็คงต้องโทษทุกคน  :sad11:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้า  :pig4: :L2: o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 28-03-2010 18:32:26
เป็นไม่กี่เรื่องที่ดราม่าโดนใจแต่กลับทำให้ต่ายร้องไห้ไม่ได้...

ไม่ใช่ความหมายไม่ดีนะคะ

เรื่องนี้สอนอะไรหลายๆอย่าง พล็อตอาจจะดูน้ำเน่า ความรักต่างชนชั้น เจอปุ๊บก็ปิ๊งปั๊บแต่ด้วยฝีมือของคนเขียนทำให้มันมีอะไรมากกว่านั้น

โธ่ปอนด์...อุตส่าห์กำลังจะเป็นคนดีได้แล้วดันมาตายเสียนี่...

ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสนะคะ^^

 :L2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: หัดดิน เอ้ยหัดกิน ที่ 05-04-2010 23:01:29
เขียนดีจริงๆ ครับ
ยอมรับเลย
อ่านแล้วประทับใจจริงๆ
 o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 06-04-2010 16:44:52
ดีใจที่จบแบบแฮปปี้ซะที
น่าสงสารปอนด์
แต่ก็เพราะปอนด์ที่ทำให้ศิระ ใจอ่อนลงบ้าง
ที่สำคัญคือการที่เมษาคิดได้
หวังว่าเรื่องราวต่อจากนี้ (ถ้ามี) คงจะมีแต่ความสุขเนอะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: mysunsa ที่ 06-04-2010 19:16:59
สงสารปอนด์

แต่เข้าใจกันรวดเร็ว

สงสารศิระด้วย

เอ้อ ความหูเบา ตาบอด อ่าเน้อ

ชีวิตคนเราถึงงี้ เป้น้อ ไม่น่าเล้ย หลายความผิดพลาดจริงๆ  :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Hachi_an1234 ที่ 29-04-2010 01:37:11
 o22 เศร้าที่ปอนตายอะ....
จิงๆอยากให้ศิระเจ็บหนักๆแทนอะ.... แบบว่าพฤกษ์จะได้ดูแลนานๆๆ แล้วจะได้หวานๆๆกันหน่อยอะ....

ยังไงก็แต้งส์ๆๆนะฮํบ :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Isuru ที่ 30-04-2010 00:15:14
อ่านจบแล้วก็เศร้า

แงๆๆๆ  ทำไมปอนด์ต้องตายด้วย

น่าจะให้คู่กับเมษา

ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีนะคะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: εїзป่วงน้อยεїз™ ที่ 30-04-2010 03:13:59
อ่านเรื่องนี้กี่รอบก็น้ำตาซึมทุกทีสิเรา T---T
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: mumumim ที่ 01-05-2010 00:00:29
อ่านรวดเดียวจบเลยอ่า

น้ำตาซึม  สงสารปอนด์อ่ะ 

เขียนดีจังเลยค่ะ  เป็นกำลังใจให้ทำผลงานดีๆให้คนอ่านอีกนะคะ

หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 05-05-2010 21:34:17
ช่วงนี้ท้อแท้ครับ
ทำให้นึกถึงเรื่องนี้อีกครั้ง
นึกถึงความเข้มแข็งของศิระ
แม้จะไม่อยากได้ยินศิระพูดว่า คนอย่างฉัน
แต่ก็เพราะประคำพูดจากประโยชน์นี้ ทำให้รักศิระล่ะนะ
รู้สึกมีแรงใจขึ้นเป็นกอง
ขอบคุณคุณบอยที่แต่งเรื่องนี้มาก
ขอบคุณด้วยใจจริง  :man1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ToeyTato ที่ 19-09-2010 17:17:36
ปวดม้ามมากกกกก ปวดใจก็เหลือหลาย แถมร้องไห้ ประหนึ่ง โดนดูถูกเองซะงั้นนน
ชอบจ๊ะ แต่มันดูแบบรวบรัดไปนิดนึง แต่ก็โอเคชอบงับ เด๋วจะไปตามอ่านเรื่องอื่น แต่คงก็ใจชิมิว่าจะบีบคั้นใจมากกว่านี้อีก
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 23-10-2010 23:58:47
เฮ้ย! นี่มันเรื่องอะไรวะเนี่ย
แม่งเอ๊ย โคตรซึ้งเลย สุดยอด
ปอนด์กลายเป็นกามเทพไปแล้วนะเนี่ย
ตอนแรกเกลียดพฤกษ์แทบตาย แต่ตอนนี้ซึ้งโคดดดด
แต่ว่ามันจบแบบแปลกๆนะ คนที่ไม่ผิดอะไรดันต้องมาตาย
แต่ให้คนอื่นตายก็ไม่เอานะ เฮ้อ เกลียดแนวแบบนี้จัง
แต่ก็ดั้นด้นอ่านจนจบ ขอบอกว่าได้ใจมากกกก
หวังว่าศิระกับพฤกษ์จะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไปนะ
ส่วนเมษา แล้วแต่เวรแต่กรรมเถ๊อออ คงซึ้งไปอีกนานสิแก

เรื่องนี้อ่านแล้วมึนมาก โคตรจุกเลย สงสารศิระจริงๆ แทบจะปล่อยโฮออกมาก
สุดท้ายรักปอนด์ว่ะ เยี่ยมมากเลยสุดหล่อ  o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-10-2010 16:03:36
เรื่องของคุณบอยอ่านแล้วน้ำตาซึมทุกเรื่อง

รวมทั้งเรื่องนี้กว่าจะเข้าใจกันได้  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-11-2010 21:35:28
แงงงงงง
เศร้าจังนะ แต่ก้ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับเรื่องราวดีๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 06-12-2010 22:49:29
น้ำตาไม่ซึม

แต่มันไหลเป็นทางเลยต่างหาก
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: eyerabbit ที่ 07-12-2010 03:55:59
อ่านจบแล้วเกลียด พฤกษ์ มาก
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 05:05:09
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 26-12-2010 01:32:19
อ่านไปตอนแรกๆ เศร้า ยิ่งอ่านยิ่งมัน อ่านไปอ่านมา เฮ้อ สงสารปอนด์
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 26-12-2010 22:15:34
เป็นเรื่องที่ดราม่าทั้งเรื่องจริงๆ
อ่านแล้วเศร้า ซึม กันไปเลย
แต่นำเสนอได้ดีมาก อินตามกันไปเลย
สุดท้ายยังได้ชุ่มชื่นหัวใจมานิดนึง
ขอบคุณค่ะสำหรับผลงานดีๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 20-01-2011 03:26:39
ประโยคจบประโยคเดียวสั้นๆ
ที่ทำผมน้ำตาแตกได้ทันทีทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็เศร้าบ้าง แต่ไม่ถึงกับร้องไห้
.
.
.
.
.
.
.
.
"...ขอบใจว่ะปอนด์.."
.
.
.
.
ฝากความคิดถึงถึงพี่บอย..
จบได้สุดยอดมากครับบบบ
 :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 26-01-2011 19:05:20
เศร้าเล็ก ๆ สงสารปอนด์
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: YouandMe ที่ 27-01-2011 21:37:14
พอถึงตอนที่ปอนด์ตายเท่านั้นแหล่ะ บ่อน้ำตาแตกเลย  :sad4:
สงสารปอนด์ทั้งๆ ที่ตอนแรกๆ สุดแสนจะเกลียด
เรื่องนี้โดนปอนด์ขโมยซีนตอนจบไปเต็มๆ  :o12:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 28-01-2011 19:41:13
 :sad4: :sad4: :sad4:สงสารปอนด์ไม่อยากให้ตายอะ
ชอบประโยคจบอ่านแล้วคิดถึงปอนด์
 ขอบคุณครับ
อ่านนเรื่องนีแล้วเครียดดดดดมาก
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: sassyaom ที่ 01-02-2011 01:24:42
น่าสงสารปอนด์จังเลย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: crosa ที่ 17-02-2011 12:11:21
กว่าจะเข้าใจกัน
เสียน้ำตาไปเป็นถังTOT
สงสารปอนด์อะ...ไม่น่าตายเลย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-02-2011 13:06:30
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: yaoigirl ที่ 26-03-2011 01:42:53
รวดเดียวจบ

สงสารปอนด์ จิงๆๆ

ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 26-03-2011 21:01:08
เข้ามาอ่านรวดเดียวจบคะ
อึ้งมากตอนที่รู้ว่าปอนด์ตาย..

สงสารปอนด์มากๆๆ ไม่น่าเลย
อุตส่าห์เปลี่ยนความคิดตัวเองได้แล้ว
ฮืออออออ T T


ในที่สุดก็แฮปปี้กันซักทีนะคะ
พ่อแม่ไม่เคยตัดเราขาดหรอก เชื่อเหอะ
ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเราหรอก

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่นำมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 26-04-2011 14:22:09
จบดีค่ะ o13 แต่เศร้ามากกก o22  ความจริงไม่น่าให้ปอนด์ตาย เอาแค่บาดเจ็บสาหัสก็พอ มันเศร้ามากอ่ะเลยทำใจไม่ได้ :serius2:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 03-06-2011 11:26:25
 :L2: -อบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟฟ
สงสารปอนด์อะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 04-06-2011 10:44:22
 :m15:เจ็บปวดที่สุดเลยเจ้าค้ะ


แต่ดีแล้วอ่าที่จบแบบมีความสุขอ่ะ แต่กว่าจะสุขได้นี่อิชั้นปวดตับมากมาย มันบีบหัวใจอิชั้นอย่างแรง o7


แต่สงสารปอนด์อ่า :sad4: เมษาถึงแม้ว่าแรก ๆ อิชั้นจะไม่ชอบขี้หน้า แต่ตอนจบก็เอาใจไปเลยเจ้าค้า o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 06-06-2011 10:44:13
ก็รู้สึกดีที่เรื่องจบแบบมีความสุข แต่อ่านจบแล้วก็ยังไม่ชอบนิสัยพระเอกอยู่ดี
โลเล หูเบา ตัดสินใจไม่เด็ดขาด วันที่เลือกศิระแล้ว เกิดเรื่องกับปอนด์ก็เข้าใจ
ว่าเครียด แต่ทำไมถึงทำอย่างนั้นกับศิระ ความรักไม่ใช่ทุกสิ่ง วันนี้คุณตัดสินใจ
กลับมาคู่กันแล้วแต่เท่ากับจุดเร่ิมต้นใหม่ มองแล้วชีวิตคู่คงไปรอดได้ยาก
ถ้าไม่ปรับในจุดนี้
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 06-06-2011 21:03:47
จบเหมือนจะเศร้า แต่ก็ไม่เศร้า
ปอนด์ไม่น่าตายเลย
ศิระก็ขี้งอน พฤกษ์ก็อะไรไม่รู้
อ่านแล้วนึกไม่ออกเลยว่าใครแมนกว่ากัน
เหมือนศิระจะเป็นผู้ชายมากกว่าพฤกษ์
แต่ลงเอยแบบนี้ก็ดีแล้ว ไม่มีใครเสียใจอีกต่อไป
่ขอบใจน่ะปอนด์ เมษา
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 23-07-2011 18:58:13
ไม่ชอบพฤกษ์ เท่าไร ไม่ค่อยชอบเลย

สงสารปอนด์ไม่น่าตายเลย

คิระ  คงยังคิดว่าตัวเองผิืดสินะ อยากตบพฤกษ์ สักฉาก

เเต่สุดท้ายก้อจบด้วยดี
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 30-07-2011 10:55:42
ตามอ่านผลงานเก่าของพี่บอย
เรื่องนี้จบซึ้งและเรียกน้ำตามากกกอ่ะ
ถึงจะแฮปปี้แต่สงสารปอนด์จัง :m15:
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Mickii ที่ 11-11-2011 14:07:11
อ่านรวดเดียวจบแล้ว เรื่องนี้ก้อเลยกลายเปงอีกเรื่องที่ชอบ

สงสารศิระมากที่จะ้ต้องมาโดนก่อกวน และกลั่นแกล้งตลอดเวลา

ส่วนพฤกษ์ไม่อยากจะพูดเลยอ่ะ ความจิงควรจะโดนมากกว่านี้ซะด้วยซ้ำนะ

กว่าจะจบแบบแฮปปี้น้ำตาไหลพรากซะเต็มหน้าเลย กว่าจะลงตัวกันเลย เหนื่อยแทนเลยอ่ะ

สงสารปอนด์อีกคนอุตสาห์กับตัวกับใจเลยไม่น่าเลย คนที่ร้ายที่สุดคือเมษาใช่ไหม แต่ก้อยังดีที่เปลี่ยนใจเนอะ

ขอบคุนนะคะที่นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านและแบ่งปันกันทั้งคนโพสต์และคนเขียนคะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: BBellza ที่ 13-11-2011 02:46:22
ตามอ่านจนทันแล้วนะคับ!!!
   เป็นเรื่องแรกเลยนะเนี้ยที่อ่านจนลืมเวลากินข้าวไปเลย
 เรื่องสนุกนะคับแต่ก็แอบเศร้าไปหลายตอนเลย
 คนแต่ก็ใจร้านเกิ๊นมาให้ปอน ตาย --> น่าจะซัก บาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล ก็พอ
  ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีดีอย่างนี้มาให้อ่านนะคับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-11-2011 18:30:19
เข้ามาอ่านอีกรอบ มันบีบหัวใจดีแท้
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: ladyzakura ที่ 15-11-2011 00:56:10

เรื่องมันเศร้า คนเราจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้

ตอนแรกก็เข้าใจดีอยู่แล้ว ไม่น่าให้ปอนตายเลย

กลายเป็นความรู้สึกผิดของคนที่ยังอยู่รอด เศร้าค่ะ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 16-11-2011 01:05:20
โครงเรื่องใช้ได้ครับ ละครดราม่าใช้ได้เลย แต่การพัฒนาตัวละครไม่ดีเอามากๆ คิดว่าช่วงเวลามันปุบปัปจนตัวพระเอกเพื่อนพระเอกนายร้ายดูเป็นตัวละครที่เฟคเกินไป กลุ่มนี้เหมือนจะวางตัวเป็นพวกคนที่หลงฐานะและอยู่ในสังคมเฟคๆ แต่ก็ปุบปับเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ดูประหลาดคนเอามากๆ แทนที่จะค่อยชี้นำให้จากร้ายกลายมาเริ่มมองนายเอกในมุมดี แปลกใจ แล้วค่อยแสดงออก จนกลายเป็นพระเอกและเพื่อนพระเอกที่แสนดี นี่มันไม่มีอะไรชี้นำเหตุการณ์ อยู่ๆก็รู้สึกแบบนั้นแบบนี้ พล็อตจบที่ดีแล้วแต่ก็ยังเขียนกระชับจนรู้สึกได้แค่ว่าจบแล้วแค่นั้น ตัวละครที่ดูจะสามัญและจับต้องได้มากที่สุดน่าจะเป็นศิระ(คือถ้าเราๆมาเจอคนอะไรแบบนี้ก็คงเสียจิตแบบนายเอกเรานั่นเอง) แต่จะดีมากถ้าปูพื้นตัวละครแต่ละตัวให้แน่นขึ้น มีเหตุการณ์ที่แสดงพื้นเพของแต่ตัวละครว่าเพราะอะไรตัวละครถึงเป็นคนแบบนี้คิดแบบนี้ ทำแบบนี้

.....ติเพราะชอบในผลงานนะครับ :))
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: armchair2535 ที่ 19-11-2011 05:10:31
เคยอ่านเรื่องนี้สมัยยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิก
    พอวันนี้กลับมาอ่านอีกครั้ง   เลยขอขอยคุณผู้แต่งด้วยนะค่ะ   ยิ่งกว่าต้มยำรสแซบอีกขอบอก  :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: stdvic ที่ 19-02-2012 16:30:54
ขอบคุณผู้แต่งมากๆเลยคร้าบได้อะไรดีๆกับเรื่องนี้เยอะเลย

ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: e-ga-g ที่ 12-03-2012 22:28:28
อ่านไปอ่านมา รูสึกได้เลยว่า นิยายของคุณBboyseriesโคตรอาถรรพ์ มีคนตายแทบทุกเรื่อง :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-05-2012 05:09:57
สงสารปอนด์ พฤกษ์บางทีก็ใจร้ายจังเลยนะ สงสารศิระ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 23-09-2014 00:53:33
ให้ตายเถอะ !! ทั้งเรื่องมีอยู่อารมณ์เดียว
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 14-01-2015 06:49:02
ขอบคุณค่ะ ถึงมันจะเศร้าแต่ก็จบสมหวัง :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: E.L.F. Thai ที่ 14-01-2015 17:23:31
ทำให้ร้องแต่เริ่มยันจบเลย :sad4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 11-02-2015 15:46:11
เฮือก! กว่าจะลงเอย.น้ำตาตกไปเสียหลายปี๊บ
 :hao5: สนุก~  o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: b02290 ที่ 08-12-2016 06:57:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 22-12-2016 06:23:40
พล็อตเรื่องดี เนื้อเรื่องก็สนุก แต่ตอนท้ายแอบงง ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนิดหนึ่ง อยู่ ๆ ก็มีตัวละครตายซะงั้น

 :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-01-2017 22:07:10
 o13
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 06-05-2017 22:48:55
 :hao5:
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 07-06-2017 22:26:40
เนื้อเรื่องดีค่ะ แต่ท้ายๆ เรื่องตัดตอนไปหน่อย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: manow1 ที่ 16-06-2017 11:04:20
นิยายคุณบอยไม่อ่านได้ไง ถึงจะเศร้า แต่เขาก็สมหวัง
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 08-03-2020 21:19:10
สนุกดีค่า แอบสงสารปอน ไม่น่าเลย
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 09-03-2020 23:41:51
สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: [Novel]สองคนบนทางรัก by:Bboyse 28/01/08 Chapter 20 END
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 11-03-2024 13:03:40
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)