พิมพ์หน้านี้ - มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Tassanee ที่ 12-01-2012 22:56:09

หัวข้อ: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-01-2012 22:56:09
 :sad11:ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

admin
thaiboyslove.com


****************************************************************************


ตอนที่  1  พลาด   (นัย+เอก)

ผมกะไอ้นัยมาเที่ยวผับที่เรามากันประจำ
เพราะไอ้ปิงปองมันไปแข่งตีแบตที่ต่างประเทศ
ส่วนไอ้เป้ พาเมียเพื่อน (น้องปาง) ไปหาหมอ
น้องเค้าดั๊นไม่สบายมาวันนี้ ไอ้ที่นัด ๆ กันล่มไปเลย
(มึงอดแดกไปเชี่ยเป้ หึหึหึ)
ผมกับไอ้นัยเมากันพอสมควร (แค่แทบจะกลิ้งลงโต๊ะ+_+)
ตอนนี้ผมรู้สึกง่วงจนต้องหมอบที่โต๊ะไปเรียบร้อยแล้ว
ว่าแต่...ไอ้นัยแม่งหายไปไหนวะ  วันนี้มาฉลองที่แฟนไอ้นัย
ที่มันไปหาแบบเซอร์ไพร์ และมันก็ไอ้เซอร์ไพร์ของจริง
หึหึ  เห็นเมียตัวเองกำลังสวิงกับผู้ชายคนอื่นอยู่ จิตหลุด
จนต้องมาแดกเหล้าอย่างที่เห็น  แล้วแม่งทิ้งกุไว้คนเดียวอีก...ห่านี่
ผมแทบจะทนความง่วงไม่ไหว  (จริง ๆ ก็เมามากน่ะแหล่ะ)
พอมีสตินิดหน่อย  กูอยากกลับบ้าน  พยายามเดินหาไอ้ตัวดี
ที่เห็นหลังไว ๆ ว่าเดินหายไปทางห้องน้ำ
เดินมาถึงก็เห็นไอ้คุณหนู  แม่ง จูบปากกะสาวร้อน (ที่ร้อนจริง ๆครับ อ่า...)
แลกลิ้นกันชนิดถ้ามีเชื้อไฟหน่อยกุว่าแม่งมอดไหม้ไปทั้งคู่แล้ว
ไม่ใช่แค่ลิ้น แต่ลำตัวที่เสียดสีกันอย่างเมามัน
(ได้ข่าวว่ามึงอกหักอยู่...ไอ้ฟายยยย  ไวไฟจริงนะ )
มือไอ้นัยลูบสะโพกน้องเค้าไปแล้วครับ กดสะโพกแนบชิดลำตัว
ด้านล่างก็ถูไถกันไปทั้งที่มีเสื้อผ้ากางกัน เสียงครางกระเส่าเบา ๆ
เล็ดออกมาจากปากทั้งคู่  ผมที่ยืนมองดูอยู่ไม่ได้รู้สึกอะไร
(แค่ใจเต้นแรงนิด ๆ กับบทรักที่ร้อนแรง  ฮ่า ๆ
เป็นคุณจะไม่รู้สึกเหรอครับ   แต่กุง่วงนอนมากกว่า
ห่า...เมาแทบเดินไม่ไหวเสือกมามีแรงมากแดกสาวนะมึง)
“อ๊ะ....”  เสียงไอ้นัย ร้องอย่างแปลกใจที่อยู่ดี ๆ ทั้งตัวมันก็ลอยห่าง
จากตัวสาวชุดแดงข้างหน้า  แขนผมที่สอดเข้าโอบเอวด้านหลัง
ดึงรั้งไอ้ตัวป่วนให้หยุดความมันส์ไว้เท่านั้น มันตัวบางกว่าผมเยอะครับ
(ไม่งั้นคืนนี้กุไม่ได้กลับบ้าน  จะปล่อยแม่งไว้กะน้องเค้าก็กะไรอยู่
ไอ้ปิงปองกลับมามันเอาตายครับ เพราะกลัวไอ้เนี่ยโดนลากไปรุมโทรม
คราวก่อนก็ทีหนึ่งมีนกต่อมาล่อให้ไปที่ลานจอดรถ ผุ้หญิงอ่ะสวยใช้ได้เลย
ไอ้นี่ก็ตามเค้าไปอย่างว่าง่าย ยังไม่ทันทำอะไรน้องเค้าหรอกครับ
ผู้ชายโผ่มาเป็นพวน   ก็แม่งขาวอ่ะ ตัวบางสูง น่าตาที่จะดูว่าหล่อก็ได้
น่ารักก็ไม่เชิง  แล้วกุจะกล้าปล่อยมึงไว้คนเดียวมั้ย)
“พี่ขอตัวเพื่อนพี่กลับไปก่อนนะครับ ...วันหลังค่อยมาต่อนะ” คิสเบา ๆ
ที่ปากคนสวย  หญิงสาวยิ้มแก้มปริไม่ถือสาอารมณ์ค้าง ๆ ของตัวเอง
ส่งสายตามแพรวพราวมาให้ผม
“ไม่ไปด้วยกันก่อนเหรอคะ”  สาวร้อนเอ่ยเชิญชวน
“อยากไปครับ...แต่วันนี้ไม่ไหว พรุ่งนี้พวกพี่ต้องไปทำธุระต่อ”
ผมยิ้มหล่อ ๆ ให้หล่อน  คิดจะซั่มพี่ก็เลือกนะน้อง กร๊ากกกก
ล้อเล่นครับ แต่ไม่นิยมสาวในผับ ขี้เกียจเสี่ยง  ไอ้ตัวป่วน
ที่เมาอ้อแอ้ได้ที่..ดิ้นขลุกขลิกอยู่ในอ้อมแขนผมแทบไม่มีแรง
“เชี่ยเอก ...ปล่อย   ปล่อยดิ กูม่ายกลาบบบบบบ” เสียงแม่งไปแล้ว
มันเงยหน้ามามองผมเคือง ๆ เมากว่ากู มึงอย่ามาคิดจะต่อกร
“กูจะซั่มกะน้องเค้า อ่ะ ปล่อยยยยยยย หืออออออ” มันโวยวายอย่างขัดใจ
ผมหรือจะสนใจ ไอ้ตัวป่วน ไอ้คุณหนูเอาแต่ใจ
“กุจะกลับอ่ะ   มึงต้องกลับกะกุด้วย เดี๋ยวแม่งไอ้ปิงปองมาฆ่ากุ” ผมว่า
ไม่สนใจการอิดออดของไอ้คุณหนูลงมือลากมันมาที่ลานจอดรถ
โอยยย  ลำพังกุก็จะแย่แล้ว... ห่า  ดีนะที่แม่งตัวเบาเลยลากมาง่าย ๆ
แต่คนเมาสองคนลากกันมากว่าจะถึง รู้สึกเหมือนกุเดินอ้อมโลกกันอยู่
“ปิ๊ด ๆ... แกร๊ก”  ผมกดสัญญารีโมทหารถตัวเอง ก่อนจะเปิดประตู
ผมโยนไอ้คุณหนูให้นอนที่เบาะหลังครับ
(แม่งถ้านั่งข้างกุมีดึงพวงมาลัยรถ...เชื่อดิ)
ผมขับรถออกไปจากผับที่ว่าไม่นานก็ถึงคอนโดผม
ไอ้ตัวป่วนยังโวยวายตลอดทาง ถามหาน้องเชอร์รี่ ที่เกือบ ๆ จะฟิชเจอริ่งกัน
ตอนที่ผมไปลากตัวออกมา  ผมส่ายหน้าหน่าย ๆ ก่อนจะลงรถไปลาก
ไอ้คุณหนูให้ลงจากรถไปด้วยกัน ลำบากพอควรครับเพราะมันดิ้นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
นี่ถ้าถูกใครพาไปมันจะรู้ตัวมั้ย  ถึงผมจะเมาแต่ตอนนี้ยังพอมีสติครับ
ผมหิ้วปีกมันได้ก็ตรงดิ่งไปที่ลิฟ ไอ้ตัวป่วนยังไม่หยุดป่วนนัวเนียผมใหญ่
(สงสัยคิดว่ากุเป็นน้องเชอร์รี่  ==’)
“เพี๊ยะ”   ผมฟาดมือไปที่หน้าผากไอ้ป่วนดัง ๆ โทษฐานนัวเนียกุ
(ไม่ใช่หญิง... ไม่ตู้ม  เค้าไม่สนหร๊อก  )
“อื๊อออออ  เจ็บ”  มันลูบหัวตัวเองป้อย ๆ อย่างสะเปะสะปะ
แต่ก็ได้ผลครับ มันทำท่าว่าจะหลับแล้ว  ฮ่า ๆ พิงตัวมาที่ผมเต็มที่
ผมแบกไอ้ไปโยนที่เตียง แทบหมดแรง เมาก็เมา
“ห่า...ไม่ต้องอาบน้ำเลยมึง นอนแม่งอย่างนี้แหล่ะ
พรุ่งนี้มึงจะได้คันคะเยอ ฮ่า ๆ เสือกหลับเอง” ผมด่ามัน
(กุก้อไม่อาบเหมือนกัน กร๊ากกกกกก)
ผมนอนลงข้าง ๆ ไอ้นัยที่สลบเหมือดไปแล้ว  พลางหลับตานึกถึงภาพ
น้องเปิ้ล เมียไอ้นัย ภาพที่น้องเค้ากำลังสวิงกะไอ้คนรักใหม่
(มึงนี่หาเมียมีแต่ชื่อผลไม้ทั้งนั้น  ท่าทางจะรักสุขภาพ หึหึ)
ไอ้นั่นไม่ตายคาตีน ... ก็บุญเท่าไหร่   ดีที่ผมห้ามไว้ทัน
มันเล่นกระทืบจนไอ้นั่นหมอบคาตีน หันไปมองน้องเปิ้ลตาเขียวปัด
ก่อนจะกระทืบของขวัญวันเกิดน้องเปิ้ลที่ไอ้นัยมันเตรียมไปให้
แหลกคาตีน  ร่างขาว ๆ ของน้องเปิ้นสั่นระริก น้ำตาพราวอาบแก้ม
ร้องไห้สะอึกสะอื้น ร่างเล็ก ๆ นั้นสั่นสะท้าน  ทำได้เพียงแค่ร้องไห้
แค่นั้นเองไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมา แม้แค่คำว่า “ขอโทษ”
ผมเองก็อดรู้สึกเสียใจไม่ได้ที่ผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มันมาถึงจุดนี้
 ไม่ใช่ผมไม่รู้หรอกครับว่าน้องเปิ้ลเป็นคนยังไง
แต่เพราะไอ้นัยมันรักมาก  มากจนผมคิดว่าน้องเปิ้ลจะเปลี่ยน
แต่ก็เปล่า  ก่อนที่ไอ้นัยจะพาน้องเปิ้ลจะมาเปิดตัว ก่อนจะรู้ว่าเป็น
แฟนมัน  ผมไปเที่ยวผับกับเพื่อนอีกกลุ่มหนึ่งรู้จักกัน พวกมันแนะนำ
ให้ผมรู้จักกับน้องปกติผมไม่ชอบคบผู้หญิงเที่ยวสักเท่าไหร่
แต่น้องเค้าก็ดูน่ารักดีครับ ดูสุภาพ อ่อนโยน สะอาดสะอ้าน
ตัวเล็ก ๆ น่ารัก ผิวขาว ปากสีระเรื่ออิ่มได้รูป
หน้าอกที่แม่ให้มาเกินพอดีเบียดกันโชว์สายตาพวกผมอย่างไม่เกรงใจ
เอวเล็กคอด แถมสะโพกสะบัดช่อขนาดนั้น ใครจะอดใจไหว
ผมชวนน้องเปิ้ลมาที่ห้อง หลังจากทำความรู้จักมาเดือนหนึ่งได้
ระหว่างนั้นก็ไปดูหนัง ชอปปิ้งบ้าง กินข้าวประมาณนั้นแหล่ะครับ
เราอยุ่ในห้องกันสองคนครับ  ผมเดินเข้าไปกอดด้านหลังเปิ้ล
รู้ดีว่าเปิ้ลคงไม่ใช่สาวไร้เดียงสาขนาดนี้ ซุกจมูกสูดดมซอกคอขาว
ของร่างบางระหง กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ หวาน ๆ จนผมแทบอยาก
จะกลืนกินเปิ้ลทั้งตัว เปิ้ลสะเทิ้นอายน้อย ๆ ผมดึงน้องเปิ้ลให้หันมาหา
กดจูบเร่าร้อน แทรกลิ้นไล่ชิมความหวานทั่วปากน้องเปิ้ล
ริมฝีปากบางอิ่มกวัดลิ้นเกี่ยวผมอย่างเร่าร้อนเช่นกัน
ผมไล้มือทั้วตัวน้องเปิ้ล ก่อนจะเลื่อนมือเข้าใต้เสื้อ สัมผัส
ทรวงอกอวบอิ่ม แล้วละปากเลิ่อนลงมาชิมยอดสีชมพู
ที่ชุชันสู้ผม  ผมดันหญิงสาวลงที่เตียง ซอกไซร้จมูกไปทั่ว
ริมฝีปาก ก็ขบเม้มเนื้อขาว ๆ จนขึ้นรอย  ร่างเล็กแอ่นรับสัมผัสผม
.
.
.”อ่า........อือออออออ” ผมครางกระเส่า เมื่อร่างบาง
นำเกมอยู่บนตัวผม ริมฝีปากบางจูบเร่าร้อน ส่งลิ้นสอดแทรก
มาในปากกวัดเกี่ยวลิ้นผมอย่างชำนาญ
“อ่า...........อืมมม” ผมครางต่ำ เมื่อคนตรงหน้าละลิ้นไล่ชิมติ่งหู
ขบกัดเบา ๆ ให้ผมเสียวสะท้าน ไล่มาดูดกลืนซอกคอ
ไล่ขบหน้าอกผม ก่อนจะครอบปากลงบนเม็ดสี ดูดแรง ๆ
จนผมเสียวสะท้าน ไล่ถอดเสื้อผ้าของเราทั้งคู่ภายใต้ความมืด
มือซน ๆ ยังคงหยอกเย้าหน้าอกผมอย่างชำนาญ
“อื๊มมมมมมม” อีกฝ่ายครางเสียว  เมื่อผมพลิกตัวขึ้น
กดริมฝีปากหนา ชิมปากบางได้รูป อย่างเร่าร้อนและรุนแรง
จมูกซุกไซร้ซอกคออีกครั้งสูดดมความหอม
ก่อนจะดูดแรง ๆ ที่ยอดอกสวยยยยยยยย
“อ่าส์.....”  ร่างบางสั่นสะท้าน เด้งตัวรับสัมผัส สองแขนโอบ
รอบคอผมอย่างเสียขวัญ  ดึงดันเหมือนต้องการจะเป็นผู้นำเกมอีกครั้ง
ผมไล้มือตามผิวเนียนกระชับของร่างบางกระตุ้นอารมณ์
ก่อนจะพลิกร่างบางให้คว่ำหน้า จะได้ไม่สามารถขึ้นมาเป็นนำได้
ผมจูบเบา ๆ ที่หลัง ก่อนจะไล้ลิ้นเลียลากยาวตามแนวสันหลัง
แล้วกัดเบา ๆ อีกที
“อ่า...อืมมมมมมม” ร่างบางครางกระเส่า ผมคำรามอย่างพึงใจ
ก่อนจะเค้นสะโพกแน่น ๆ จนน่าแปลกใจ ทั้งที่ควรจะนุ่มกว่านี้
ผมไล้มือวนที่ท้องน้อย อีกฝ่ายสะดุ้งเสียว เผลอแอ่นสะโพกขึ้น
ผมกระแทกสะโพกลงไปอย่างเกินจะสะกัดกั้นอารมณ์
“โอยย......เจ็บ”ร่างบางส่งเสียงเจ็บปวด แต่กลับกระตุ้นอารมณ์ผมมากขึ้น
แท่งร้อนสอดเข้าได้แค่ครึ่ง รู้สึกแน่นชะมัด ผมค่อยถอนแท่งร้อน
ก่อนจะแทกแรง ๆ ทีเดียวให้เข้าไปจนสุด ร่างบางร้องด้วยความเจ็บปวด
“อืมมมมมมมม อ่า” ผมครางเสียวแทบจะแตกในนั้นทั้งที่ไม่ได้ขยับ
ช่องหวานคับ และตอดรัดแน่นจะผมแทบจะขยับไม่ไหว
เอื้อมมือไปดึงหน้าหวานมาจูบสัมผัสไอ้ถึงน้ำตาร้อน ๆ ที่รินไหล
จนน่าสงสาร ผมไล้สัมผัสทั่วตัวให้ร่างบางผ่อนคลาย กดจูบที่หลังเบา
ไล่ลิ้นร้อน ๆ  ไล้เลีย ขบ จูบ ดูดกลืน ไปทั่วจนร่างบางผ่อนคลาย
ผมค่อย ๆขยับแท่งร้อน เร็วขึ้น ๆ  ๆ จนร่างบางครางหวาน
“อื๊อออ  ร...ระ...เร็ว อีก” สาวน้อยออกคำสั่ง ผมกระแทกไม่ยั้ง
“อืมมมมมมมมมมม” เราทั้งคู่เกร็งกระตุก ก่อนผมจะปล่อยน้ำรัก
เข้าไปในด้านใน ก่อนจะทิ้งตัวหมดแรงลงบนที่นอนทั้งคู่
ผมค่อย ๆ ถอนแท่งร้อนออก นอนหอบหายใจแรง ๆ
โอบกอดร่างบางจากด้านหลัง แล้วหลับไป
.
.
.
ตอนเช้าผมรู้สึกตัว เพราะคนในอ้อมกอดเริ่มขยุกเขยิก
ผมรั้งร่างบางมากอดแน่น ๆ กดจูบแรงที่หัว
อยากจะซั่มอีกสักที เมื่อคืนช่าง สุด ๆ อะไรเช่นนี้
ผมค่อย ๆ ปรือตา อยากจะมองหน้าหวาน ๆ ให้ชื่นใจ
กระพริบตางง ๆ ทำไมผมน้องเปิ้ลสั้นจังวะ
เอื้อมมือไปสัมผัสอกตู้ม ๆ ที่ตอนนี้แบนเหมือนไม่มีหน้าอก
ผมงงหนักเข้าไปอีก   ไล้มือสัมผัสเอวคอด ๆ
ที่ไม่คอดแล้วตอนนี้ เห้ย....หรือน้องเปิ้ลแม่เสริมวะ
(แม่ง....อกตู้ม ๆ หายไปแหล่ะ กุ โดนหลอกอีกแม่ง
ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ไว้ใจไม่ได้จริง ช่างแม่งเถอะวะ
เอามันส์ขนาดนี้ถือว่าให้อภัย ขอตอนเช้า
อีกสักดอกนะจ๊ะน้องเปิ้ล)  ไล้มือวนที่หน้าท้อง
แบนเรียบ ก่อนจะส่งมือไปเย้าน้องสาว
“เห้ย” ผมร้องลั่น น้องเปิ้ลมีช้างน้อยเหมือนกุได้ไง
เด้งตัวขึ้นอัตโนมัติ จับน้องเปิ้ลให้หันมา
“เชี่ยยยยยยยยยยยย” ผมตะโกนอย่างตกใจ น้องเปิ้ลกลายเป็นไอ้นัย
ที่หันมามองผมส่งสายตาอาฆาตมาให้ หน้าแดง
เพราะแรงโกรธ ตัวแดง..เอ่อ เพราะผมเอง
มันไม่ได้พูดอะไรได้แต่จ้องและเงียบ
และผมซึ่งเงียบยิ่งกว่า กุมขมับไปเรียบร้อยแล้ว
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ.......เคลียร์ (part 1) P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-01-2012 22:58:05

ตอนที่  2   ขอ.......เคลียร์  (part 1)
.
.
หลังจากความจริงเปิดเผย  ...และเป็นที่เข้าใจว่าเมื่อคืนผมกับไอ้นัย
ได้เสียกันเป็นที่เรียบร้อย (ใครได้ใครเสียไปคิดเองนะครับ ^^’)
จนผมต้องมานั่งกุมขมับอยู่นี่ พร้อมทั้งสายตาอาฆาตแค้น
ที่ไอ้คุณหนูส่งมาไม่ขาดสาย
 (น่ากลัวโคตร ๆอ่ะครับ ผมจิตตกเลยทีเดียว ผมได้แต่ก้มหน้ามองพื้น)
ความเงียบเข้าครอบงำเราทั้งสองคน บรรยากาศมึนตึง
หน้าผมดำคร่ำเครียด เหมือนคนโดนของ
(จริง ๆ แล้วผมว่า  แม่งมีใครแอบทำคุณไสยใส่เพราะหันว่าผมหล่อกว่า)
ได้แต่นั่งทำใจรอฟังคำสั่งศาล ... ว่ามันจะเอายังไง
ในฐานะผู้เสียหาย  ผมใจเต้นระทึกนี่เป็นครั้งแรกที่ถูกข้อหา
พรากพรหมจรรย์ผู้ชาย  (กุจะโดนมันกระทืบป่ะว่ะ)
แถมเมื่อคืนผมก็เต็มที่ เต็มสตรีมแบบยั้งไม่อยู่จริง ๆ
(ตายแน่กุ ~  ขอลาท่านผู้อ่านซะตอนนี้เลยนะครับ)
หลังจากเงียบมานาน  ไอ้นัยก็เป็นคนเอ่ยทำลายความสงบ
ที่ผมเฝ้าบ่มเพาะมาหลายนาทีนี้  หัวใจเต้นรัวค่อย ๆ เงยหน้า
หันไปสบตาไอ้คุณหนู  ...ทำตัวไม่ถูกเลยจริงครับ
“กูตัดสินใจแล้ว....”  มันว่า ผมรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
ว่ามันจะเอายังไงต่อไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เรียกว่าแทบจะหยุดหายใจเลยทีเดียว
“เรา..... จะเป็นเพื่อนกันต่อไป” มันหันมามองหน้าผม
“กุเป็นผู้ชาย ยังไงก็..เอ่อไม่เสียหาย”  มันพูดต่อ
(อืม ...ใช่ ๆ มึงไม่เสียหายแค่เสียตูด) ผมยังรอฟังมันต่อไป
“ฉะนั้น ...มึงก็ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนซะ
กูก็จะถือซะ......ว่าให้หมามันแดก”  มันว่าเน้นเสียงประโยคสุดท้าย
เดินหนีไปอาบน้ำแล้ว  มีแต่ผมที่ยังนั่งนิ่งอยู่กับที่
ตัวที่แข็งเป็นหินเมื่อสักครู่ ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง
จนเผลอถอนหายใจยาวววววว ก่อนจะเอนหลัง
ไปพิงหมอนตรงหัวเตียง
สายตาเหลือบมองไปยังห้องน้ำ ฟังเสียงไอ้ตัวป่วน
คนที่ผมนอนกอดเมื่อคืนนี้กำลังอาบน้ำ   
ความรู้ที่บอกไม่ถูกของผมตอนนี้ไม่รู้จะบอกยังไง
มันทั้งโล่งอก ที่อย่างน้อยก้ไม่ได้เสียเพื่อนไป
ทั้งรู้สึกเจ็บแปลก ๆ เศร้า ๆ แอบผิดหวังนิด ๆ กับคำตอบของมัน
(ให้มึงต่อยกุซะดีกว่าที่มึงจะนิ่ง ๆ อย่างนี้ สิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่น่าให้อภัยสักนิดเดียว ผมรู้ดี)   ผมหลับตาลงเม้มปากแน่น
นึกถึงสัมผัสของค่ำคืนที่ผ่านมา ทั้งเร่าร้อน อ่อนหวาน
น่าถวิลหาร่างเนียนๆ ที่ผมโอบกอด ความรู้สึกแบบนี้ ...
ทำไมนะ....ไม่เข้าใจเลย     ผมรู้สึกสับสนไปหมด
“แกร๊ก...” ไอ้ตัวป่วนอาบน้ำเสร็จแล้ว มันพันผ้าเช็ดตัวไว้รอบเอว
เดินออกมาค้นตู้เสื้อผ้าผมอย่างคุ้นเคย แน่นอน...มีเสื้อผ้ามันอยู่
ข้างใน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมกับมัน นอนด้วยกัน  แต่เป็นครั้งแรกที่....
เอ่อ........ อย่างนั้นแหล่ะครับ.....
ผมมองสำรวจตัวขาว ๆ ของไอ้นัยที่หันหลังมาให้ผม พึ่งรู้ว่ามันขาวขนาดไหน
รอยคิสมาร์ค ขึ้นโชว์เป็นจ้ำตามตัว  (นี่ผมหื่นขนาดนี้เลยเหรอ)
รอยฟันจาง ๆ จากการขบกัดเมื่อคืน ขึ้นอยู่บนหลังขาว ๆ นั่น
ร่างกายที่เปียกชื้นดูเซ็กซี่หน่อย ๆ เอวคอดตามประสาคนตัวบาง
บั้นท้ายสมส่วนได้รูป ที่ผมรู้ว่ามันตึงแน่นขนาดไหน
เล่นทำเอาผมหน้าร้อนฉ่า  ..ด้านล่างมีปฏิกิริยาตอบสนอง
ผมดึงหมอนมาปิดมองได้ตัวป่วนตัวแต่งตัวจนเสร็จ
“นัย..” ผมเรียกเสียงแผ่ว  มันหันมามองหน้า
“กุ.....ขอโทษ  ขอโทษจริง ๆ ถ้ามึงอยากต่อยกุก็ได้นะเว่ย”
รู้สึกผิดจริง ๆ แต่ถ้าจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจก็กระไรอยู่
ถึงผมไม่รู้ว่าเป็นมัน  ...ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชาย...แต่ที่ทำอ่ะตั้งใจครับ
มันนิ่งกลืนน้ำลายลงคอหนัก ๆ  ก่อนจะเฉตามองไปทางอื่น
"กุจะกลับแล้ว" มันพูดแค่นั้นแล้วเดินจากผมไป
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 12-01-2012 23:01:19
ชอบเอกอ่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-01-2012 23:01:57
 :mc4:อ้าว??ล่อเพื่อนซะงั้น


ฝันไม่เปียกวุ๊ยยยยยยย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-01-2012 23:11:15
เป็นตอนต่อค่ะ จากเรื่อง
(เรื่องไม่สั้น) ยอม.........มึงคนเดียวอ่ะ
ถ้าชอบ  ก็ลองอ่านดูนะคะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30509.270
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: lovetn ที่ 12-01-2012 23:46:18
เราชอบพาร์ทนี้มากกว่านะ ^^

ติดตามค้าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 12-01-2012 23:52:02
ตามมาอ่านแล้วจ้า

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 13-01-2012 00:03:47
ตามมาค่ะ ว่าแต่คู่นี้ตอนต่อไปยังลงในเรื่องโน้นป่าวคะ หรือลงแค่ในกระทู้นี้อย่างเดียวแล้ว
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ P.1 11/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2012 00:06:17
คงจะลงในกระทู้โน้นอีกตอนค่ะ
เพื่อแจ้งให้ทราบกันก่อน  แล้วค่อยมาลงกระทู้นี้ถาวร 
อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์(2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2012 01:25:19
เรื่องนี้เป็นตอนต่อของเรื่อง

(เรื่องไม่สั้น) ยอม.......มึงคนเดียวอ่ะ 
ลองอ่านดูนะคะ  คลิ๊กลิ้งข้างล่างได้เลยค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30509.270

อ่านให้สนุกนะคะ  ตอนนี้ยาวพอสมควร  อิอิ แก้ตัวตอนที่แล้วสั้นมั๊ก ๆ
คิคิ



ตอนที่ 2   ขอ.......เคลียร์  (part 2)

มันกลับไปแล้วมีแต่ผมที่ยังวุ่นวาย  ทำตัวไม่ถูก
ลุกขึ้นไปอาบน้ำ คิดถึงแต่เรื่องไอ้นัย มันวนอยู่ในหัว
ไม่ไปไหนเลย  ยิ่งอยู่ในห้องนอนผมยิ่งคิดถึง
ทั้งรสสัมผัส  และความรู้สึกที่มันมากมายจนล้นเอ่อ
เป็นครั้งแรกที่ผมสติแตกขนาดนี้ยั้งความต้องการ
ของตัวเองไม่อยู่ ทั้งที่ปกติผมเป็นคนคุมเกมได้เสมอ
ไม่เคยเผลอปล่อยอารมณ์ดิบให้รุนแรงจนอีกฝ่ายต้องเจ็บ
และครั้งนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคงเจ็บมากเดินกระเพลก ๆ
ไปนู่นหน้าขาวซีดเผือด ... หน้าตาเหยเกเมื่อเริ่มเดิน
ผมอยากโทรหามันอยากรู้ อยากถามมัน อยากไปดูแลมัน
แต่ก็ไม่กล้า...เพราะมันบอกให้ผมลืม ...ลืมเรื่องเมื่อคืน
“ทำไงดีวะ  ..แม่งเอ๊ยยยย”ผมตะโกนอย่างเหลืออด
 ผมเตะ ตระกล้าผ้าให้ล้มเกลื่อน
รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก  เผลอไปมองเห็นชุดไอ้ตัวป่วน
ที่ใส่เมื่อคืนนี้ พร้อมคำพูดแม่ง....เวลาผมทำห้องรก
“ห่า......แม่ง นี่ห้องคนรึรังหนูวะ
 ถ้ากุไม่กลับลำบากไม่มานอนห้องมึงหรอก” มันจะบ่น
ผมทุกครั้ง  ตอนหลัง ๆ ผมก็พัฒนาตัวไม่ให้มันบ่น
มันไม่ใช่คนเรื่องมากหรอกคับ  แค่ผิวมันแพ้ง่าย
และผื่นขึ้นทีเป็นสัปดาห์กว่าจะหาย  หึหึ
ผมก้มไปเก็บเสื้อผ้าใส่ตระกล้าให้เรียบร้อย หยิบ
ชุดไอ้ตัวป่วนขึ้นมาดู  เห็นแล้วนึกถึงเจ้าของมัน
เสื้อรัดรูปที่ใส่แล้วพอดีตัว กางเกงขาเดปที่ฟิตซะ
เห็นทุกสัดส่วนของไอ้ตัวป่วนอย่างชัดเจน
หน้าผมร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง  ห่า....ทำไมตัวมันรุ่มร้อนขนาดนี้
“โอ๊ยยยยยยยยย กุเป็นบ้าไรเนี่ย”  ผมถอนหายใจ
พูดกับตัวเอง  ทำไมต้องคิดแต่เรื่องไอ้นัยว้า
.
ผมตัดสินใจออกมาข้างนอก ถ้าขืนยังอยู่ในห้องนี้
กุต้องเป็นบ้าแน่ ๆ  เพราะคิดถึงแต่เรื่องมัน
(คงเป็นเพราะผมรู้สึกผิดเลยคิดแต่เรื่องมันนะสิ...นะ ปลอบใจตัวเอง ^^’)
ผมขับรถไปถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังแถวสยาม
เดินไปเรื่อย ๆ ทั้งเข้าร้านหนังสือ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า
ร้านรองเท้า ...ดูมันแก่ว ๆ ยังไงไม่รู้  เหงา ๆ ด้วย
เพราะปกติผมก็ลากไอ้คุณหนูมาเป็นเพื่อนทุกครั้ง  เดินไปเดินมาตั้งนาน
มันก็พึ่งจะบ่าย 4 โมง ทั้งที่เดินโคตรจะเหนื่อย
(โอยย...ทำไมเวลาแม่งเดินช้าขนาดนี้วะ  หรือว่านาฬิกากุตาย ) 
ผมเงยหน้ามองหาร้านที่มีนาฬิกาเพื่อเปรียบเทียบเวลา แต่ความจริงก็คือความจริง
ใช่ครับตอนนี้มันแค่บ่าย 4 โมง แม้ผมจะพยายามใช้เวลาให้หมด ๆ ไป
เพราะไม่อยากคิดเรื่องมันแล้ว  สุดท้ายผมตัดสินใจไปดูหนังดีกว่า
มีเรื่องที่อยากดูมาก ๆ ตั้งใจว่าจะชวนไอ้นัยมาดูด้วยเสาร์นี้ถ้าไม่เกิดเรื่องเมื่อคืนซะก่อน 
นี่เป็นสิ่งที่ผมชอบทำที่สุด (น่า...คงจะลืมเรื่องมันไปได้บ้างหล่ะน่า ^^’)
ผมเดินเข้าไปต่อแถวซื้อตั๋วเสร็จได้รอบ 6โมงเย็น เลยไปเลือกซื้อป็อปคอนกับเครื่องดื่ม
สองอย่างนี้ขาดไม่ได้เลยครับ  ชอบมาก (พยายามทำตัวลั้นลาสุด ๆ ) 
นั่งรออยู่ไม่นานก็ถึงเวลาเข้าโรงหนังสักที ผมเลือกที่นั่งเป็นแถวบน ๆ ครับ
เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นหนังแนวโรแมนติก ฉะนั้นคนส่วนใหญ่ที่มาดู
มันจะมาเป็นคู่  และไอ้คุ่ที่ว่ามันเป็นคู่รักครับ ขณะที่ผมมาคนเดียวเริ่มเสียใจนิด ๆ
คนค่อนข้างบางตาเนื่องจากหนังเรื่องนี้เข้ามาสักระยะแล้วครับ มีเรื่องวุ่น ๆ กับ
ชีวิตหลายอย่างถึงทำให้ผมไม่มีโอกาสได้มาดูสักที  ทั้งแถวมีผมนั่งอยู่คนเดียว
เกิดอาการขนลุกซู่  ผีจะหลอกกุป่ะวะ   ถัดไป 2 แถวมีคู่รัก 1 คู่ และแถวถัด ๆ ไป
อีกปะปาย นั่งกันซะห่าง  หนังเริ่มฉายแล้วครับ เนื้อเรื่องก็ประมาณว่า
 พระเอกเป็นทหารครับ ถูกกองทัพส่งตัวออกไปช่วยรบกับประเทศเพื่อนบ้าน
ตามสนธิสัญญาอะไรสักอย่างที่ต้องส่งทหารไปช่วยรบเวลาผ่านไปประมาณ1 ปี
พระเอกก็ตายครับ เพราะไปดันไปรู้เรื่องความลับด้านผลประโยชน์ ของผุ้นำ
ระหว่างประเทศตนและประเทศเพื่อนบ้านเข้า เลยโดนฆ่าปิดปาก 
(หึหึ  พระเอกแม่งเสือกจริง ๆ ครับ  เค้าปิดแต่ไอ้นี่สงสัยเลยไปสืบจนรู้
และถูกฆ่า  ตามที่โบราณว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย  แต่คนพูดมักจะตาย”
กร๊ากกกกกกกก  ล้อเล่นครับ  แค่มันคล้องจองเท่านั้นเอง”)
 โดยทางกองทัพปิดเรื่องครับ แต่ก่อนที่ทางพระเอกจะถุกจับ
ได้ส่งหลักฐานมาให้นางเอกเรียกร้องความยุติธรรม  ...อ้อ นางเอกเป็นทนาย
ที่เก่งติดอันดับ  1 ใน 5 ของประเทศครับเชียวนะครับใช่ย่อยที่ไหน
 (หึหึ...ว่าแต่มึงตายคนเดียวไม่พอใช่มั้ย  ต้องลากเมียไปตายด้วย  = =’ )
แล้ววิญญาณพระเอกเลยกลับมาหานางเอก  ด้วยความคิดถึงทั้งคู่ก็ซั่มกันครับ
(Something like that  ก็ประมาณนั้นแหล่ะครับอย่างที่คิด คึคึ) 
ทั้งเร่าร้อน  ดูดดื่ม  ส่งเสียง...อ่าอืมม เป็นระยะ  ไอ้ข้างในไม่เท่าไหร่
แต่...เห้ย  ไอ้คู่ข้างนอกนี่สิ คู่ที่อยู่ใกล้ ๆ ผม แม้จะมืดแต่ก็ชัดครับ
(เพราผมตั้งใจดู  หุหุ กร๊ากกกกกกกกกกกก)
ไอ้ผู้ชายก้มไปจูบแฟนตัวเองอย่างดูดดื่ม  มือนี่ไล้ไปทั่วเค้นกันอย่างเมามันส์
(เกรงใจกูนิสสสสนึงดิ....ถ้าเอากันแข่งกะหนัง เช่าไปดูที่บ้านดีกว่าป่ะวะ =.=)
“อืมมมมม........”  เสียงคางเบา ๆ เล็ดลอดออกมาจากลำคอผู้หญิง
ถ้าผมไม่เห็นว่าเค้ากำลังทำอะไรกันก็คงไม่ได้สนใจ
(โอยยย ...ไม่ไหวแล้วครับ  เห็นขนาดนั้น รู้สึกนะเว่ย)  เซ็งเลยครับ
แม่ง...ไม่ดงไม่ดูแล้ว  ไม่งั้นผมคงได้เข้าไปแจมไอ้คู่ข้างหน้าเป็นแน่แท้
น้องผู้หญิงเค้าก็หน้าตา ผิวพรรณ  ที่สำคัญหุ่น เอ็กซ์  ได้ใจมั๊ก ๆ อ่ะ
(เสียดายแต่ไอ้ผู้ชาย ...หน้าแม่งปลวกได้อีกครับไม่เหมาะกะน้องเค้าเลย
แต่หุ่นมันนี่ ท่าจะเร้าใจสาว ๆ อยู่ในที่มืดอย่างนี้คงพอทุเลา
มองหน้ามันไม่ค่อยชัดน้องเค้าคงรู้สึกดี หึหึ)
เกือบ ๆ สองทุ่ม เห้ออออออออออ  ผมมองดูนาฬิกาอีกครั้งยังไม่ดึกเลย
กลับห้องไป คงเซ็งเหมือนเดิม ผมตัวสินใจโทรหาไอ้เป้ครับ
“ฮัลโหล...ว่าไง”  เสียงไอ้เป้กรอกมาตามสาย
“มึงว่างป่ะวะ”  ผมเอ่ยถามขึ้น
“ไม่ว่างว่ะ  กุมาเป็นเพื่อนไอ้ปิงปอง กะ ปางอ่ะ มาดูมันซ้อม .... มึงมีไร” มันว่า
“ไม่มีไร...แค่หาเพื่อนกินเหล้า” ผมตอบเซ็ง ๆ ไปกะไอ้ปิงปองอีกแล้ว
(กุไม่ใช่เพื่อนมึงใช่มั้ยเชี่ยนี่ ....แอบพาล หึหึ)
“ไม่สะดวกว่ะ...กว่ามันจะซ้อมเสร็จเหอะ  อีกนานมึงไม่ไปกับไอ้นัยอ่ะ ” มันว่า
“เมื่อวานมันก็กินจนเมาแล้วอ่ะ  ไม่อยากกวนมัน” ผมตอบเลี่ยงๆ
(ใครจะบอกความจริงว่ะ ว่ากุพึ่งข่มขืนมันเลยเกรงใจไม่กล้าชวย เหอ ๆ)
“เออ...เอางี้นะ...”  มันพูดเปิดประเด็นให้เป็นความหวัง  ผมแอบยิ้ม
(หึหึ...มึง จะกลับมาเป็นกินเป็นเพื่อนกุใช่ป่ะ)
“มึงไปแดกคนเดียวแล้วกัน  เจอกันวันจันทร์  ฮ่า ๆ” มันว่าขำ ๆ
“ห่า  ...เออ กุไปคนเดียวก้อได้ แม่ง...อยู่กันไปเลยนะ 3 คน
ผัวเมียมึงอ่ะ อย่าได้พรากจากกัน” ผมด่าประชดนิด ๆ
“ฮ่า ๆ อย่างอน ๆ มึงไม่ใช่ไอ้นัย พวกกุไม่ง้อว่ะ” มันพูดติดจะขำ
“เออ  ๆ  งั้นแค่นี้แหล่ะ แม่ง” ผมพูดกดวางสายแม่งเลย
(ไปคนเดียวก็ได้วะ) ผมขับรถไปถึงผับที่พวกผมมาประจำ
ไม่ค่อยชอบเปลี่ยนที่ เพราะคุ้นเคยกันดีกับเจ้าของร้านและเด็กในร้านนี้
ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรพี่เค้าก็จะได้ช่วยเคลียร์ครับ 
“ไงเอก...วันนี้มาคนเดียวเหรอ” เจ้าของร้านครับแกมาทักทายเป็นปกติ
“ครับ..พอดีเพื่อนผมไม่ว่างกันอ่ะพี่”  ผมตอบ
“เหรอ..อืม  อ้าวพี่เห็นไอ้นัยก็มา ไม่ได้มาด้วยกันเหรอ” พี่เค้าถาม
“อ้าว...มันมาเหรอพี่ตอนไหนอ่ะ ไม่เห็นชวย” ผมตอบ
(มันคงอยากชวนผมหรอก  ...+_+...)
“มันมาตั้งแต่หัวค่ำนู่น  ...เมาเละแล้วมั้งป่านนี้  เตือนมันหน่อย
เพลา ๆ มั่งเห็นคั่วสาวลากไปฟัดหน้าห้องน้ำนู่น  ฮ่า ๆ
ระวังเจ้าที่ของเค้ามั่งนะโว้ย”  พี่โจ้บอก
“ครับพี่ หึหึ” ผมตอบขำ ๆ แต่ในใจชักไม่ขำด้วย
ผมสั่งเบียร์มานั่งดื่มไม่กล้าไปกวนไอ้คุณหนูมัน  กินไปได้
สองแก้ว  แม่ง...ใจผมมันอยู่ไม่สุขวุ่นวายได้อีก ทั้งโมโห
ทั้งหงุดหงิดไม่รู้เป็นอะไร ผมตัดสินใจเลิกดื่ม..เปลี่ยน Target
ไปตามหาไอ้ตัวป่วนแทน  แน่นอนผมมุ่งตรงไปหน้าห้องน้ำ
ตามที่พี่โจ้บอก  เต็ม ๆ ครับ ไอ้นัยแม่ง...กำลังแลกลิ้นอย่างเมามันส์
กับสาวหุ่นสะบึม มันเมาจนต้องพิงหลังกับผนังปล่อยให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายลุก
เสื้อเชิ๊ตสีดำที่กระดุมถูกแกะจนเผยให้เห็นหน้าอกขาว
ถูกสาวชุดแดงใช้มือลุบไล้ไปตามหน้าอกขาวที่มีกล้ามนิด กระชากใจสาว
นวดเฟ้นเม็ดสีแรง ๆ  กระตุ้นอารมณ์อีกฝ่าย
(แม่ง...สีแดงอย่างเดียวเลยนะมึง  เดี๋ยวสีเหลืองเค้าน้อยใจ  หึหึ
ล้อเล่นคร้าบบบบบบบ )
“อ่า..”ไอ้นัยครางงงงกระเส่า สองมือกดสองมือสะโพกสาวชุดแดง
ให้แนบกับช่วงล่างตัวเอง พยายามจะล้นกระโปรงน้องเค้า
(แม่งงงงงง...ผมฉุนกึกขึ้นมาทันที    ไม่รู้กุเกี่ยวไรแต่กุโมโห)
“ไอ้นัย” ผมเรียกเสียงดัง แทบกลายเป็นตวาด
ได้ผลครับ ...ทั้งคู่หยุดซั่ม น้องชุดแดงที่ผมไม่รู้ว่าน้องเค้าชื่ออะไร
(ไม่รู้จะชื่อผลไม้อีกรึเปล่า  แม่งไอ้นี่มันรักสุขภาพครับ ฮ่า ๆ อันนี้ไม่เกี่ยว)
หันมามองหน้าผมงง ๆ  เลิกคิ้วเป็นคำถาม ไม่ได้หวาดกลัวอะไร
“หนูเคยไปเหยียบหางพี่เหรอคะ  ...ถึงต้องมากวนตอนกำลังซั่มเนี่ย”
“ห่า...เมาแล้วมั่วตลอด   แม่ง...กลับได้แล้ว” ผมว่า เดินเข้าไปกระชากแขนมัน
ไอ้นัยเซตามแรงดึงของผมเพราะมันเมามากจริง ๆ
“ชิส์  แม่งปล่อยกุ   ปล่อยยยยยยยยยยย กูกกกกกกกกกก” เสียงไปแล้วครับ
“ห่า   กูบอกให้กลับ”  ผมดุ  โมโหแม่งจริง ๆ แต่หาเหตุไม่ได้จริง
“ชิส์  ยุ่งแม่งงงงงงง  ปล่อยดิ้” มันดิ้นขลุกขลัก พยายามหนี
แต่มันจะสู้อะไรผมได้  เพราะที่ไม่เมาและไม่มีสติ   
(ครับถูกแล้วครับ  ไม่มี สติ  เรียกว่าฉุนขาด)  ว่าแล้วก็กระทำการ
สอดมือเข้าข้างลำตัวไอ้นัยแล้วลากมันมาที่รถผม
ตลอดทางไอ้ตัวป่วนทุบ ๆ ตี ๆ ผมเป็นระยะ เบา ๆ ครับ
(เพราะมันมีแรงเหลืออยู่แค่นั้น  กร๊ากกกกก  เสร็จกุ หึหึ)
ผมยัดไอ้ป่วนนั่งด้านหน้า รัดเข็มขัดเรียบร้อย แม่ง..ถ้ากวนกุ
กูจะจูบ  (กร๊ากกกก  ข้ออ้างครับดูดีมีเหตุผล  หึหึ)
ผมกลับไปประจำที่คนขับ  ไอ้ป่วนแทบลืมตาไม่ไหวครับ
แต่ปากแม่งนี่ ก่นด่ากูจังนะ  ............. = =”
ผมโน้มตัวไปกดจูบหนัก ๆ ให้ไอ้คนปากดี สอดลิ้นร้อน ๆ
อย่างเผลอไผล บรรยากาศที่เป็นใจ มืดสนิทบริเวณลานจอดรถของผับ
ไร้ซึ่งผู้คนเนื่องจากว่าตอนนี้พึ่ง 4 ทุ่มยังไม่ถึงเวลาเลิกผับ
จับมือกดหน้าไอ้ตัวป่วนให้มันอยู่นิ่ง กวัดลิ้นดูดกลืนลิ้นไอ้นัย
“อ๊ะ.......อืมมมมมมม”  มันครางหวานจนผมแทบสติแตก
อยากจะจับแม่งกดซะตรงนั้น  มันไม่ได้ขัดขืนคงเพราะอารมณ์ที่ค้าง
จากสาวชุดแดงที่ว่า  ผมรีบละปากก่อนที่จะหยุดไม่ได้  มองไอ้ป่วน
หน้าแดงหอบหายใจอยู่ข้าง ๆ ปากแดงบวมเป่ง  ผมกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ
ไม่อยากหยุดเลยจริง ๆ แต่ก็ต้องตัดใจ ค่อย ๆขับรถออกไปจากผับมุ่งหน้า
กลับคอนโดผม
---------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 13-01-2012 01:47:18
แล้วก็ไปซั่มกันต่อที่คอนโด

เฮ้ย คิดไรเนี๊ย ม่ายยยยย
 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 13-01-2012 01:55:41
พอดังแล้วแยกวง หึหึ ล้อเล่น ในที่สุด เอก-นัย ก็ได้แยกครอบครัวซะที ว่าแล้วก็พานัยไปเป็นเมีย เอ้ย!!! ไปเคลียร์กันให้หมดแรง  :laugh3:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-01-2012 02:08:34
อร๊ากก.......มาตามต่อ อิอิ ร้ายกาจม๊วกก><

ยังไงก้ออย่าให้ขาดตอนน้อค๊าฟ อิอิ

ขอแบบยาวๆเล้ยยยย

รอ รออีกเหมือนเดิมน้า><
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2012 04:46:04
พยายามเขียนตอนสั้น ๆแล้วค่ะ มันไม่จบอ่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2012 05:05:51
แต่งเองเสียดายเองค่ะ เลยเอามาฝากกร๊ากกกกกกกกกกกก 
 o18มีใครชอบกลอนรึเปล่าเอ่ยเค้ามีมาฝาก: เอาไปใช้ได้นะคะแต่งเองค่ะ คึคึ  o18 :bye2:
-------------------------------
ไม่อยากเป็น...คนดี....
ถ้าไม่มีเธอ...ให้รัก
ไม่อยากกลายเป็นแค่...คนรู้จัก
เมื่อเคยยืนอยู่ในฐานะคนรัก...มานานตั้งเท่าไหร่
อย่าบอกว่าเรา...เป็นแค่เพื่อน..
เพียงแค่อยากจะลบเลือน...ชั้นออกไป
เมื่อก่อนเคยบอกรักมากแค่ไหน...แล้วทำไมวันนี้ถึงลืม
---------------------------------------

อยากให้เธอมาช่วยสร้าง...รอยยิ้ม
แค่อยากจะเต็มอิ่ม...ด้วยความสดใส
อยากได้คนน่ารัก~น่ารัก~ ..โปรดช่วยมา ทักทาย
มาทำลาย..ความเหงา ให้จางที
-------------------------------------------
ก็แค่....ใครคนหนึ่งที่อยู่ใกล้
พูดคุยทักทาย...ตามประสา
ทำไมวันนี้รู้สึกหวั่นไหว...เมื่อสบตา
ทำไมเวลาเธอไม่มา...ใจหายจัง
เคยถามตัวเอง...กี่ร้อยครั้ง
รู้สึกอยากจริงจัง..หรือแค่หวั่นไหว
อะไรก็ไม่รู้...รู้แค่ว่าในหัวใจ
เรียกหาเธออยู่ร่ำไป...เมื่อไม่เจอ
---------------------------------------
ชั้น...ไม่ได้มีไว้แค่ "รัก"...
แต่อยากให้เธอเข้าใจไว้สักอย่าง
วันที่ท้อ..เสียใจ...ไร้หนทาง
ช่วยหันมาทางนี้บ้าง...ชั้นยังรอ
ถ้าเธอเศร้า...จนอยากร้องไห้
ถ้าเธอหวั่นไหว...เสียใจจนท้อ
ถ้าเจ็บมากนัก..ทุก ๆ อย่างมันเกินพอ
อยากให้รู้ชั้นยัง "รอ"...จะปลอบใจ
-----------------------------------------
ไม่จำเป็นต้องรักกัน...
ไม่จำเป็นต้องเป็นฉัน...เสมอ
อยากให้รู้ไว้..ที่ห่างกันไปไม่ได้พบเจอ
เป็นห่วงเสมอ...ทุกลมหายใจ
--------------------------------------
ยืมได้ไหม....
ขอยืมหัวใจ...เธอได้รึเปล่า
แอบมองอยู่นาน...มันก็พาลจะเหงา
เธอหล่ะว่างเปล่า...ขอใจเธอที
----------------------------------------
เคยเดินอยู่ในวังวนความเหงา...
เคยยืนว่างเปล่า...อยู่ลำพัง
เคยถามหาใคร...เพราะใจยังหวัง
คนที่จะมาอยู่ข้าง~ข้าง~ให้คลายเหงา
วันนี้ไม่ได้มองหา....
แต่กลับรู้สึกว่า...ความเหงามันจางหาย
แปลกนะ..ทั้งที่เคยตามหา...มันแทบตาย
แค่รู้สึกว่าเราพอใจ...ทำยังไง..ก็ไม่เหงาเลย
หันไปมองฟากฟ้า..ก็ยังยิ้ม....
ตกบันไดหัวทิ่ม..ยังขำขำ
เจอะคนมาจีบ...เราก็พูดงึมงำ
ไม่พอใจก็แค่ ขำ~ขำ~ ...เท่านั้นเอง ^_^
---------------------------------------------
คนเรามีเวลาอยู่เท่ากัน...
ขึ้นอยู่กับเรานั้น...จะเลือกใช้มันทางไหน
อยากรัก"ก็รัก"...อยากเจ็บ"ก็เจ็บ" ทนกันไป
เมื่อเวลาเลยผ่านไป...จะได้ไม่เสียดายที่ไ้ด้ทำ
-------------------------------------------------------
ความทรงจำ...
ไม่เคยอยากทำให้มันเลือนหาย
สิ่งดี ๆ ที่เคยสร้างมันก็มีตั้งมากมาย
แค่เราต้องจบไป...แล้วทำไมจะต้องลืม
อยากเก็บไว้....
ไม่ว่าจะยิ้ม ร้องไห้ หรือเสียใจ
เป็นความทรงจำในกล่องใบใหญ่
ที่เราเคยทำไว้.....ด้วยกัน
------------------------------------------
อย่าพูดว่าเสียใจ...
เพราะมันดีที่สุดแล้วใช่ไหมที่เราเลือกเดินทางนี้
ไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียด..อยากแค่เหลือสิ่งดี-ดี
หยุดขอโทษสักที...เพราะชั้นคนนี้ไม่ได้เสียใจ
-------------------------------------------------
 :bye2: o13 :z2: :z1: :impress3:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 13-01-2012 08:50:31
ดูแลกันดีๆนะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-01-2012 12:51:28
อ๊าก,,,,,เคลียร์กันไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 13-01-2012 13:17:22
ฮ่าๆๆๆ เพื่อนรัก ได้กันมานักต่อนักแล้ว นะเออ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 13-01-2012 13:29:43
คิดอยู่ว่าอยากให้แต่งเรื่องนัยกะเอกใหม่
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2012 14:40:03
ค่ะยินดีค่ะ      แต่หลังจากเรื่องนี้อาจจะเงียบหายไปสักพัก
ยังไม่มีไกด์ไลน์เรื่องถัดไป  อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 13-01-2012 14:56:58
ไปต่อที่คอนโดเล้ยยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 13-01-2012 15:47:12
เอ้าตามมาถึงรถและ ตอนหน้าตามไปในคอนโดด้วย 555
สงสัยคุณหนูจะไม่รอดอีกแล้ว เสร็จคุณชายแน่เลยย :jul3:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: PoMArmKuB ที่ 13-01-2012 16:16:16
เหมือนเรื่องยอมมึคนเดียวเลย คนแต่งลงซ้ำหรือเริ่มใหม่คับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2012 17:50:24
เรื่อง มากกว่าเพื่อน ... ได้มั้ยวะ  จริง ๆ แล้วเริ่มต้นมาจาก
ตอนพิเศษของเรื่อง  ยอม...มึงคนเดียวอ่ะ
แล้วแต่งไป แต่งมามันยาวอ่ะค่ะ  เลยคัดลอก เพื่อมาแต่งเป็นเรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-01-2012 21:06:53
ตามมาอ่านต่อครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 13-01-2012 22:30:24
อดทนหน่อยนะคะ แต่งอยู่ค่ะ  ฮ่า ๆ   :z1:

ยังไงรอนิสนึง 

 :bye2: :o8:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 2 ขอ....เคลียร์ (2) P.1 12/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: bellbpms ที่ 14-01-2012 01:17:36
ตามมาติดตามนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 14-01-2012 02:43:27

ตอนที่ 3 เผลอไป


มาถึงคอนโด กว่าผมจะลากไอ้ตัวป่วนขึ้นห้องได้แม่งไม่อยากจะบรรยาย

วันนี้เป็นวันซวยอีกวันหนึ่งที่รถโคตรจะติด ปกติขับรถจากผับมาที่คอนโดผม

ใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงแต่วันนี้ล่อไป 2 ชั่วโมงเต็ม ๆ ไอ้ตัวป่วนนี้ก็หลับตลอดทาง

ไม่หือไม่อือใด ๆ ทั้งนั้นครับ
 (โอยยยยย  แม่งจะติดไปไหนวะ เหนื่อยโฮกกกก)     :เฮ้อ:

พอลงจากรถได้ไอ้ตัวป่วนเสือกมีวิญญาณผีอินเดียสิงอีก แม่งวิ่งรอบตึก
 :z2:
ผมวิ่งไล่จับมันอยู่นานกว่าจะลากมันเข้าลิฟได้
 :angry2:
(แม่งเพราะมันเมาครับ ผมไม่สามารถคะเนทิศทางการวิ่งแม่งได้
ทั้งที่คิดว่ามันจะวิ่งตรงไปทางนี้ แม่งเสือกเซแล้วกลับลำวิ่งไปอีกทางซะงั้น
โอยยยยยยยย กุเหนื่อยยยยยยยย ^^ :fire:’)

พอเข้าลิฟได้นึกว่าทุกอย่างคงจะเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ผีอินเดียแม่งแรงครับ

ยังคงสิงไอ้นัยต่อไป ถ้าลิฟหยุดเปิดชั้นไหน ไอ้ตัวดีก็วิ่งออกไปครับ

ผมนี่วิ่งไล่จับมันอยู่สองสามครั้งก็เริ่มรู้ทัน 

เลยเริ่มทำพิธีไล่ผีอินเดียด้วยการมัดตราสังแม่งเลย ฮ่า ๆ 

ใช้แขนผมนี่แหล่ะครับเป็นสายสิญจ์ โอบรัดไอ้ตัวป่วนแน่นจนเหมือนจะสิ้นฤทธิ์ 
 :กอด1:
แต่แม่งก็ยังดิ้นไม่หยุดครับจนหอบอยู่ในอ้อมกอดผม

ผมชักหมั่นไส้กลัวตัวเองจะหมดแรงตายก่อนถึงห้อง เลยจับไอ้ตัวป่วนดันจนติดผนังลิฟ

ทำพิธีบูชายันต์โดยการกดจูบหนัก ๆ

 (ถามว่าเกี่ยวกันมั้ย...ตอบได้เลยว่าไม่  ไม่สนครับ)

และยังสติล(still) แทรกลิ้นดูดกลืนลิ้นหวาน ๆ ไอ้คุณหนู ซึ่งมันจูบตอบอย่าเร่าร้อนพอกัน :impress2:

อารมณ์ที่ค้างมาจากน้ององุ่น ท่าทางจะไม่จบง่าย ๆ

 (บอกแล้วไงครับ ว่ามันแพ้ชื่อที่เป็นผลไม้+กับชุดแดงจริง ๆ ไอ้นี่)

“อืมมมม...”  ผมละปากจากไอ้ตัวป่วน ที่ตอนนี้กลายเป็นตัวอ่อนเปี้ย
 :impress2:
ทิ้งตัวมาพิงผมทั้งตัว ส่งสายตาหยาดเยิ้มด้วยแรงปรารถนา

สายตาอ้อนวอนให้ผมอย่าหยุด   

 :impress2:(โอยย กุจะทนไหวมั้ย.......จัดเต็มในลิฟซะเลยดีมั้ย  หึหึ)

หน้าขาว ๆ ของไอ้ตัวป่วนแดงแปร๊ดดด ด้วยแรงอารมณ์ ผมเองก็ยังฉกจูบไปเรื่อย ๆ  :o8:

กอดบ้าง ฟัดบ้าง  ลูบไล้ไอ้ตัวป่วนเป็นระยะตลอดทางจนมาถึงห้อง

อะไร ๆ ที่อดทนกันไว้ก็เหมือนจะทนไม่ไหว

“แกร๊ก..” ทันทีที่ผมล็อคประตูห้อง กลายเป็นไอ้ตัวป่วนที่ดันผมจนชิดผนัง 

ลากปากบาง ๆ ของมัน กดจูบอย่างเร่าร้อนที่ปากผม แทรกลิ้นร้อน ๆ อย่างชำนาญ 

กวัดเกี่ยวลิ้นของผม จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอร์คลุ้งนิด ๆ แทรกซึมเข้ามาในปาก

 ลิ้นหวานๆ กวัดเกี่ยวตอบกันอย่างไม่ลดละ มันสอดมือเข้าใต้เสื้อนวดเฟ้นที่หน้าอกผม

“อืมม  นัยยยย” ผมครางเสียงต่ำทันทีเมื่อโดนไอ้ตัวป่วนรุก สองมือจับสะโพกแน่น :oo1:

ของอีกฝ่ายให้บดเบียดมายังสะโพกผม เสียดสีแท่งร้อนที่ต่างฝ่ายเริ่มตื่นอย่างเต็มตัว

ต่างคนต่างไล่ถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่าย ทีละชิ้นๆ ล่วงหล่นตามทางเดิน ไม่ได้ใส่ใจ

เหลือเพียงกางเกงในตัวจ้อยที่ห่อหุ้มแท่งร้อนของแต่ละคน

ไอ้นัยดันผมให้นั่งลงที่เตียงก่อนที่   ก่อนที่มันจะนั่งทาบทับมาบนตักผม 

สองแขนโอบกอดรอบคอผมก่อนริมฝีปากร้อน ๆ จะเข้ามาช่วงชิงความหวาน 

ผมจูบตอบใช้ลิ้นดุนลิ้นหวานออกจากปากผม  ก่อนจะเป็นฝ่ายเล็มเลีย

รอบริมฝีปากบางเสียเอง กดปากเม้มเบา ๆอย่างหยอกเย้า

ใช้จมูกถูไถเบา ๆ กับจมูกคนตรงหน้า จุมพิตที่เปลือกตาทั้งสองข้าง

ก่อนจะสูดดมกลิ่นหอมที่ซอกคอ ริมฝีปากหนาดูดกลืนซอกคอขาว ๆ อย่างหลงไหล

“อืมมมม ...”  ไอ้ตัวป่วนครางหวาน   เอียงคอเปิดทางให้ผมสัมผัสได้เต็มที่

ผมไล้ริมฝีปากไล่ขบ ตามแนวบ่า สองมือกดแน่นที่สะโพกไอ้นัย

ให้ช่วงล่างสัมผัสกันเต็มที่ ก่อนจะกดจูบหนักที่เม็ดสีของอีกฝ่าย

“อ๊ะ ..อะ ...เอก”  ร่างบางครางกระเส่า แอ่นตัวหงายให้ผมกลืนกิน

“อืมมมมม..” ผมครางเสียวเมื่อร่างบางเริ่มขยับ ๆ สัมผัสร้อนเสียดสีกันแค่ผ้าบางกัน

พลางพลิกตัววางไอ้ตัวป่วนให้นอนบนเตียง กดจูบแรง ๆ ที่หน้าท้อง แล้วกัดเบา ๆอีกที

“อา......” ไอ้ตัวป่วนคราง  เกร็งหน้าท้องแน่น ผมเลื่อนมือไปลากผ้าบาง ๆ

ที่เป็นปราการชิ้นสุดท้ายออก เผยให้เห็นแท่นร้อน ๆ ที่ตื่นตัวเต็มที่ ชี้ตรงมาที่หน้า

ครั้งแรกกับการสัมผัสแท่งร้อนของคนอื่น ผมหยุดจ้องนิดหนึ่งสำรวจ

ไอ้นัยน้อย ..เปล่งสีแดงระเรื่อราวกับร้อนจนกำลังจะระเบิด ผมไล้มือจับเบา ๆ

“อื๊ออออ”  ไอ้ตัวป่วนถึงกับเด้งรับสัมผัส ผมใช้ลิ้นแตะที่ส่วนบนสุดที่มีน้ำเยิ้ม

แล้วตวัดกลับเร็ว ๆ เป็นครั้งแรกที่ต้องสัมผัสของ..ของผู้ชายด้วยกัน

รสชาติเค็ม ๆ ของน้ำรักไอ้นัย ทำผมสับสนหน้าแดงซ่าน

(นี่กุต้องอมไอ้นัยน้อยจริง ๆ เหรอว่ะ  ผมได้แค่คิดในใจ รู้สึก หยึ๋ย ๆ

ก็ผมไม่เคยทำอ่า.....  +_+  เคยแต่ถูกอมอ่ะครับ  คุคุ)

ผมลองเลียที่แท่งนัยน้อย อีกครั้ง เอ่อมันก้อไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด 

(อืมม .. หร่อยดีเหมือนกัน อะ..ผมมีความคิดแบบนี้ได้งะ 

ม่ายยยยยยย กุรับไม่ได้ กร๊ากก ทำไมกุชอบดูดไอติมมมว่ะ  )

“อ่า..ซีสสสส  ดี ~ดี~ครับ”  ไอ้ตัวป่วนดูจะเสียวสุด ๆ ผมตัดสินใจ

ใช้ปากครอบไอ้นัยน้อยทั้งแท่ง ก่อนจะตวัดลิ้นด้านในไล้เลียแท่งที่ว่า

“อืมมมมมม  อ่า .ซีสสสสสส์” ไอ้ตัวดีครางเสียว แทบไม่เป็นภาษาคน

มือจิกไหล่ผมแน่น  ด้านล่างก็เด้งรับสัมผัสสม่ำเสมอ

“อ๊ะ...จะเสร็จแล้ว” มันเด้งรัวเข้าปากผม พร้อมกับกดหัวผมลงไปอีก

ไอ้ตัวป่วนเกร็งกระตุกสองสามครั้ง ก่อนจะปล่อยน้ำรักออกมาเต็มปากผม

(เฮ้ย  ...ปะ  ปากกุ  เชี่ยยยยยยย ออกไปก่อน กุไม่เคยกิน)

ผมแดกน้ำรักไอ้นัยแม่งไปเต็ม ๆ ทั้งทะลักล้นริมฝีปากออกมาเปื้อน

ผมไล้ลิ้นเลียรอบปากตัวเอง  ห่า...หึหึ เสร็จแล้วสิมึง

(แต่ไม่เป็นไร รสชาติก็พอใช้ได้  หึหึ แดกแม่งหมด ห่า ปล่อยใส่ปากกุดีนัก)

ไอ้นัยนอนหอบหายใจ  ราวกับชาติแม่งไม่เคยได้อากาศ หน้าแดงก่ำ

ตัวทั้งตัวสั่นกระเพื่อมเพราะแรงหายใจ  หลับตาพริ๊มอย่างมีความสุข

ผมจับได้ตัวดีพลิกคว่ำ  ถอดผ้าผืนน้อยที่ยังอยู่บนตัวผม

แนบตัวไปด้านหลังไอ้ตัวป่วน  สอดชายน้อยเข้าหว่างขาเพื่อเสียดสีกับไอ้นัยน้อย

“อ๊า....” ผมกับมันครางเสียวเมื่อผมเริ่มขยับให้ชายน้อยเสียดสีกับไอ้นัยน้อย

สองมือกำรอบแท่งร้อนของเราสองคน  ผมขยับเร็วขึ้นเรื่อย ๆ กระชับขาไอ้นัย

ให้หนีบมากขึ้นเพื่อให้ชายน้ำได้เสียดสี 

“อ๊ะ....อ๊ะ.....อืมมม”  ผมครางเสียว เกือบ ๆ จะเสร็จ ผมหยุดแค่นั้น

จับไอ้ตัวดีนอนหงาย ให้พักผ่อน แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเร่งตัวเอง

ให้ถึงจุดหมายเช่นกัน ผมใช้มือจับกระตุ้นแท่งร้อนของตัวเองอย่างชำนาญ

ชักเข้าออกตามแรงปรารถนา พลางนึกถึงหน้าไอ้คนที่นอนตัวแดง

หายใจหอบอยู่ที่เตียง   

“อ่า.......ซีสสสสส์”  แล้วมันก็ถึงจุดหมายปลายทางที่ฝันไว้ ผมทำความสะอาด

ร่างกายตัวเอง  ก่อนจะมาทำความสะอาดให้ไอ้ตัวป่วนที่นอนนิ่งสนิท

หลับเป็นตาย ผมไม่อยากทำให้มันเจ็บอีกครับเมื่อวานเพิ่มโดนผมไปหยก ๆ

ยังไงอดทนไปก่อน  ผมยังอยากถนอมมันไว้นาน ๆ ร่างบาง ๆของมัน

คงแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนที่โดนผมทำแบบไม่ยั้งขนาดนั้น

นึกแล้วก็สงสารมันจับใจ  ทำความสะอาดเสร็จผมก็กลับมาที่เตียง

นอนกอดไอ้ตัวป่วนแน่น ๆ สูดดมกลิ่นหอมอ่อนของคนที่ผมหลงไหล

คงต้องยอมรับแล้วครับว่าผมชอบมัน  ชอบมากกกกกก  อยากดูแล

อยากมีมันอยู่ใกล้ การที่ผมหึงมันกับน้ององุ่น มันก็พอจะทำให้รู้ตัวเอง

แล้วมันหล่ะจะยอมรับผมไหม??  มันรู้สึกตรงกันกับผมหรือเปล่า?

ถ้าพรุ่งนี้มันตื่นมา แล้วสร่างเมามันจะจำได้มั้ยว่าเมื่อคืนนี้เราทำอะไรกัน?

มันอาจจะอยากฆ่าผมเลยก็ได้ ดังนั้นในคืนนี้ที่มันยังไม่รู้ตัว

(กุขอคิดว่ามึงใจตรงกับกุแล้วกันนะ  ....สุดที่รัก)  ผมกดจูบเบาที่หัวทุย

ของไอ้ตัวป่วนก่อนจะผลอยหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อน

----------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 14-01-2012 07:14:37
ขอให้ใจขอทั้งคู่ตรงกันนะคะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-01-2012 08:35:14
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 14-01-2012 09:57:19
น่าจะจัดเต็มอีกดอก
ให้นัยลิมไม่ลงเลย
กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 14-01-2012 10:31:52
สนุกดีครับ 

มาต่อบ่อย ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-01-2012 11:08:10
รักกันไวๆนะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 14-01-2012 14:48:38
นัยก็รู้แล้วนี่ว่าเป็นเอกก็ยังยอมเลย ตื่นมาแล้วคุยกันดีๆอีกทีนะ อยากอ่าน พาร์ทของนัยบ้างจัง
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-01-2012 15:12:17
คุณชายเปงสุภาพบุรุษจัง อิิอิ น่ารัก><

ถ้ามีแฟนแบบคุณชายคนน่ารักไม่เบาเนอะ

ทำมั้ยพระเอกของสองเรื่องนี้ มีความเปงสุภาพบุรุษสูงมาก อิอิ ชอบๆ

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า รอรอน้าู^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 14-01-2012 15:45:21
ตื่นเช้ามา นัย คงไม่วีนแตกนะครับ  o22
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 14-01-2012 18:30:47
คนแต่งครับ

ถ้าเป็นอย่างนี้ก็หมายความว่าคุ่นี้เค้า...กันก่อนคู่ของเป้กับปิงปองมั้ย?
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 14-01-2012 18:39:00
ถูกต้องค่ะ  คู่นี้เค้าซั่มกันก่อน...แต่ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะให้เป็นคู่เด่น
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: PoMArmKuB ที่ 14-01-2012 18:48:42
สู้นะคุณชายเป็นกำลังใจให้ เด่วตัวแสบก็ยอมใจอ่อนเองแหละ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 14-01-2012 18:49:57
 :jul1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: nopnom ที่ 14-01-2012 22:11:50
ชอบมากค่ะ
หนุกๆ o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 14-01-2012 22:41:34
^_____^   ขอบคุณค่ะที่ชอบ

อย่าลืมโหวต สถานที่สวีทสุดท้ายด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 14-01-2012 23:17:25
กำลังสนุกเลยยยย  รอตอนต่อไปนะคร๊าบบบ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 15-01-2012 00:14:31
รอวันที่ใจตรงกัน
นัย เลิกกินองุ่น แล้วมากินไอ... ดีกว่านะ :-[
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: fox ที่ 15-01-2012 01:23:55
นัยนี่เร่าร้อนจังน้า คึ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 15-01-2012 01:37:12
นัย ยอมเหอะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะตอนที่ 3 เผลอไป P.1 13/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 15-01-2012 08:02:46
รอต่อฮะ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-01-2012 12:09:12

ตอนที่  4   เซอร์ไพร์ (นัย Version)

“ฮัลโหล  ...เปิ้ลเหรอครับ  นัยเองนะ

พอดีวันนี้นัยต้องไปทำงานส่งอาจารย์

บ้านไอ้เอกมันอ่ะ  นัยคงไม่ได้เข้าไปหานะครับ” 

ผมโทรไปรายงานตัวกับสุดที่รัก :กอด1:

“เอ๊า....ยังงี้วันนี้เปิ้ลก้อต้องอยู่คนเดียวสิคะ เหงาแย่เลยพี่นัยไม่อยู่

ถ้างั้นพรุ่งนี้ต้องสัญญามาก่อนจะต้องอยู่ฉลองวันเกิดกับเปิ้ลด้วย

ห้ามเบี้ยวนะคะ”  เสียง ๆ หวานจากเปิ้ลงอแงเล็กน้อย


“คร๊าบบบบบบ  สัญญาเลยครับ งานชิ้นนี้ด่วนจริง ๆครับ

ถ้าไม่ต้องส่งพรุ่งมีเหรอนัยจะยอมห่างเปิ้ลอ่ะ” ผมพูดอ้อน ๆ

ได้ยินเสียงเปิ้ลหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี   o18

“ค่ะ...แล้วรีบกลับมาหาเปิ้ลหล่ะ   คิดถึงนะคะ   จุ๊บ”   :-[

“ครับคิดถึงที่สุดในโลกเลยครับคนสวย  จุ๊บ”  :o8:

 ผมร่ำลาสุดที่รักก่อนจะดำเนินแผนขั้นต่อไป  หึหึ  เป็นครั้งแรกเลยครับ

ที่ผมจะเซอร์ไพร์แฟน  ปกติผมไม่ใช่คนโรแมนติกมากอะไรแค่ขี้อ้อน

วันเกิดเปิ้ลปีที่แล้วเราไปดินเนอร์กันบนเรือฮอลิซอล แชงกรีลา

แบบสองต่อสอง บรรยากาศโรแมนติกมากครับ เปิ้ลยิ้มแก้มแทบปริ

เพราะเธอเปรย ๆ ไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าอยากล่องเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยาบ้าง

เพราะเพื่อนสาวของเปิ้ลกับแฟนพึ่งไปมา  ผมเลยจัดไปครับที่รัก  หึหึ

แต่ปีนี้พิเศษครับผมวางแผนว่าจะไปเดินดูแหวนคู่แล้วสลักชื่อผมกับเปิ้ล

คิดว่าน่าจะใช้เวลานาน แต่จะเอาไปเซอร์ไพร์เปิ้ลวันนี้เที่ยงคืน

ฉะนั้นผมเลยหาเรื่องปลีกตัวออกมาตั้งแต่เที่ยง และแน่นอนลากไอ้เอก

มาด้วย ให้มันมาช่วยตัดสินใจครับ  ผมกับมันมาถึงห้างชื่อดังแถว ๆ

เซ็นทรัลเวิร์ล เดินหาร้านจิวเวอรี่อยู่หลายร้านจนได้แหวนที่ถูกใจ

เป็นแหวนทองคำขาวครับสลักชื่อผมกับเปิ้ลไว้ตรงกลางมีรูปหัวใจสองดวง

หึหึ...เป็นไงหล่ะความโรแมนติกของผม  อยากจองไว้ครับ

เพราะเปิ้ลเป็นคนน่ารัก เรียบร้อย แถมแอบเซ็กซี่(ที่ใครก็เห็น :haun4:) โดนใจ

ผมเลยอยากแสดงความเป็นเจ้าของ  กลัวจะมีหมาคาบไปแดก หึหึ

(เค้าจะได้รู้ว่ากุจองแล้ว  ว่าแต่ต้องฉี่ใส่หรือเปล่า..เหอ ๆ ไม่ใช่หมาสักหน่อย)



“มึงว่าให้ยังไงดีวะ  ...ห่อใส่กล่องเปิ้ลก็รู้ว่าเป็นแหวนดิ”  ผมขอความเห็นไอ้เอก

(ว่าแต่มึงจะหล่อไปไหน เหล่สาวอยู่นั่นแหล่ะมึง  หึหึ อย่างว่าครับไอ้คน

หน้าตาไม่ถึงเกณฑ์อย่างมันจะให้หาแฟนได้น่ารัก ๆ เหมือนผมได้ไง

กร๊ากกกกกกกกกกกก  กุหล่อ  :z1:เสียใจด้วยนะไอ้น้อง (แอบทำเสียงหล่อ) )



“มึงก็ห่อหลาย ๆ กล่องซ้อนกันดิ สัก 10 ใบเป็นไง น้องเค้าจะได้ลุ้น

ค่อยค่อยเปิด ๆ พอถึงใบสุดท้าย อ๊ะแหวน ..ขอบคุณพี่นัยมากนะคะ เซอร์ไพร”

มันออกความเห็นฮา ๆ  พร้อมแปลงกลายเป็นน้องเปิ้ลพูดจาขอบคุณ

ก่อนจะซุกหัวมาที่ไหล่ผมหมุนไปหมุนอย่างน่ารักน่าชัง

 (น่ารักตายแหล่ะมึง... ห่านี่กุเครียดอยู่)   ผมผลักหัวมันออกเบา ๆ ส่ายหน้ากับ

ความเห็นที่โคตรจะธรรมดา   แล้วคิดดูนะห่อหลาย ๆชั้น

กว่าน้องเค้าจะเปิดมาเจอเซ็งตาย  แถมถ้าแหวนหายอีก  โอยไม่ไหว ๆ 

นี่กุจะเซอร์ไพร์น้องเค้านะ ไม่ได้จะทำให้เค้าเซ็งเป็ด 



“ธรรมดาโคตร ๆ ความคิดมึงอ่ะ  แล้วจะเซอร์ไพร์มั้ย”  ผมถามกลับ

ไอ้หล่อที่ยังยืนขำไม่หยุด  และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแปลงกลายเป็น

น้องเปิ้ลสุดที่รักของผม

“พี่นัยให้อะไรเปิ้ล  เปิ้ลก็ชอบทั้งหมดแหล่ะค่ะ” ไอ้เอกกัด สอดมือ

มาควงแขนผมข้างที่ล้วงกระเป๋าอยู่  หึหึ จนผมอดขำมันไม่ได้

“เพี๊ยะ...ห่ามาแซวแฟนกุ  อย่าให้มึงมีแฟนนะกุแปลงกายเลียนแบบ

ให้เหมือนกว่ามึงอีก”    ผมด่าขำ ๆ

ผมกับมันเดินไปเดินมา เดินดูของมั่งเพราะไอ้เอกก็จะซื้อของ

เข้าคอนโดมันบ้าง จนเดินผ่านร้านที่มีเซรามิคขาย ผมเหลือบไป

เห็นเซรามิคที่เป็นคู่รักที่ทำเป็นสองตัวแยกกันแต่พอประกบคู่

ก็จะกอดกัน ผมก็ไอเดียบรรเจิด เลือกซื้อตุ๊กตาเซรามิค ให้ทางร้าน

ห่อให้  ทำดิ้นทองมัดแหวนทองคำขาวที่สลักชื่อผมกับเปิ้ล

ห้อยคอตุ๊กตาคู่นี้ ให้มันแทนคู่ของเราทั้งผมและเปิ้ล

ผมเลือกซื้อการ์ดสีขาวด้านในเป็นสีชมพู  เขียนข้อความจากใจ o18

“สุขสันต์วันเกิดนะคะ คนดี

  ขอให้เปิ้ลมีความสุขมาก ๆ นะคะ

  ครบรอบหนึ่งปีที่เราคบกัน  . :L2:


พี่นัยขอสัญญาว่า

 
คนๆ นี้จะรักเปิ้ลสุดหัวใจ และตลอดไปครับ   :L1:


                     รักนะคะ

                     ภาคินัย  (สุดหล่อ)  ”


ผมเขียนการ์ดไปอมยิ้มไป  หึหึ  คราวนี้น้องเปิ้ลต้องหลงพี่มากกว่าเดิม

(กร๊ากกกกกกกกกกก ไอเดียสุดยอดด  :laugh: หึหึ คิดเอาเองอยู่คนเดียว  ^^)

เขียนเสร็จก็พับปิด แปะการ์ดอันเดิมไว้บนกล่องของขวํญที่ผมภาคภูมิใจ

ยิ้มกว้างปากบาน   แทบจะอมส้มได้ทั้งลูก  หึหึ

“มึงว่าไอเดียกุดีมั้ย” ผมหันไปยักคิ้วถามไอ้หล่อข้าง ๆ (แต่น้อยกว่าผม)

“ก็.....  อืมดี”  มันหันมาตอบส่งๆ สีหน้าเรียบเฉยติดจะเป็นกังวลชอบกล 

(ผมว่ามันคงรู้สึกเศร้านิด ๆ ที่หาแฟนไม่ได้ จริง ๆ คือไม่มีเป็นตัวเป็นตนมากกว่า )

ผมเอื้อมแขนไปโอบไหล่ไอ้เอก  ตีเบาที่ไหล่จริง ๆ อยากปลอบใจคนขี้เหงา

(ไอ้เอกสักวันมึงต้องได้เจอคนดี ๆ ...ที่ใช่สำหรับมึง)

“ขอบใจวะเพื่อน...วันนี้มึงไปเป็นเพื่อนกุนะ” ผมว่า ไอ้เอกหันมามองงง ๆ

“มึงจะให้กุไปเป็น กขค มึงทำแปะไร บ้าป่ะวะ” มันด่าเลิกคิ้วสงสัย

“กุไม่ได้บ้าไอ้เพื่อนที่รัก...  กุจะให้มึงไปทำหลักฐานให้กุ” ผมบอก

“หลักฐานห่าไรของมึงเนี่ย  รึมึงอยากจะซั่มแบบ 3P ฮ่า ๆ” ไอ้เอกพ่นหมาออกจากปาก

“กวนตีนแล้วมึง...ห่า  กุจะให้ไปถ่ายวีดีโอให้เว้ย”  ผมโบกหัวไอ้เอกเบา ๆ

มันยังหัวเราะไม่หยุด  ก่อนจะหันมารับปากอย่างว่าง่าย

“เลี้ยงข้าวกุด้วยเลย ห่า....ชอบใช้แรงงานต่างด้าวนะมึงอ่ะ”  มันว่า

“เออ กุก็กำลังจะพาไปเลี้ยงนี่แหล่ะ  ไอ้ต่างด้าวชาวอิงแลนด์” ผมด่ามัน

ไอ้นี่มันชอบใช้คำว่าต่างด้าว  คงเหมาะกับหน้ามันดี จริงเป็นลูกเซี่ยวครับ

ปู่มันเป็นคนประเทศอังกฤษ+ย่าคนไทย พ่อเลยเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย

มาได้กับแม่มันที่เป็นไทย-จีน มันเลยเป็นลูกเซี่ยว ไทย-จีน-อังกฤษ 

มันเลยได้ความขาว แต่ขาวไม่เท่าผมเพราะผมเป็น ไทย-จีน-เชียงใหม่ ฮ่า ๆ

สามเชื้อชาติเช่นกัน  ไอ้เอกจะหนักไปทางหน้าตาคมคายแต่ก็จัดได้ว่าขาว

..
.
หลังกินข้าวเสร็จผมเตรียมแชมเปญอีกขวดสำหรับฉลอง หึหึ ^^

ตอนนี้ได้เวลา 23.00 น. ผมกับไอ้เอกขับรถมาที่คอนโดเปิ้ล  30นาทีก็ถึงครับ

หัวใจผมเต้นระทึก  (กร๊ากกกกกกกก ยังกะขอแต่งงาน)  ทั้งที่นี่ก็แค่

เซอร์ไพร์วันเกิดเท่านั้น  แต่ของข้างในมันเป็นการตีตราจองชัด ๆ

แล้วน้องเปิ้ลเค้าจะยอมมั้ยเนี่ยยยยยยย  พอจอดรถเสร็จผมก็เริ่มให้ไอ้เอก

ถ่ายวีดีโอ เริ่มตั้งแต่บนรถนั่นแหล่ะครับ พอไอ้เอกเริ่มกดอัด

ผมก็เริ่มถ่ายทอดความรู้สึกในใจทันที



“เปิ้ลครับ นัยขอโทษนะที่ต้องโกหกวันนี้    :-[

ไม่อยากโกหกเลยครับแต่มันจำเป็นนะ

ก็พรุ่งนี้มันเป็นวันเกิดเปิ้ลแล้วอ่ะ

ที่สำคัญมันเป็นวันครบรอบ 1 ปีที่เราคบกันนะครับ

รักเปิ้ลนะคะ รักมาก  เปิ้ลเป็นคนน่ารักที่สุดเลยนะ   :L1:

เท่าที่นัยเคยเจอมา เปิ้ลไม่ใช่แค่สวยนะ

ยังใจดี ใจเย็น มีเหตุผล และก็เซ็กซี่สุด ๆ ด้วย

(ผมทำท่ากัดริมฝีปากหื่นๆ แล้วหัวเราะ)

หึหึ  นัยรักทุกอย่างที่เป็นเปิ้ลอ่ะ

และก็ไม่อยากให้มันเป็นแค่นี้

อยากให้คนที่อยู่ข้าง ๆ นัยเป็นเปิ้ล .

ไม่รู้ว่าเปิ้ลจะยอมรับมั้ย  ของที่อยุ่ในกล่องนี้

อาจจะยังไม่ใช่แหวนแต่งงานนะ

แต่พี่ขอจองไว้ก่อนแล้วกัน  ...

รออีกนิดนะคะ  ถ้าถึงตอนนั้น :กอด1:

เปิ้ล...........ช่วยเป็นเจ้าสาวให้พี่ได้มั้ยครับ  :L2:”



ผมพูดจบหน้าแดงซ่า :o8:น รู้สึกเขินที่ต้องทำแบบนี้

แต่ก็อยากให้เปิ้ลดีใจ  อยากให้เปิ้ลรู้สึกประทับใจ

อยากเห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ของเปิ้ลเป็นที่สุด 

ผมยิ้มแก้มแทบปริ  .....



“พอแล้วมึง........  จะยิ้มกว้างไปไหนปากจะฉีกถึงหุแล้ว

ขึ้นไปได้แล้ว อีก 15 นาทีจะเที่ยงคืนแล้ว” ไอ้เอกว่า

“เออ ๆ...รู้แล้วน่า ชิส์”  ผมว่ามันแก้เขินรีบเดินไปที่ลิฟ

.

.



ไม่นานเกินรอพวกเราก็มาหยุดยืนที่หน้าห้องน้องเปิ้ล

ผมหัวใจเต้นรัว  ๆๆๆๆๆๆๆ  โอยย  หน้าแดงซ่าน

รู้สึกจะป๊อดขึ้นมาตะหงิด ๆ

“เฮ้ย... มึงว่าเร็วไปมั้ยวะ  ที่กูทำแบบนี้

จริงมันก็ยังมีเวลาให้น้องเค้าคิดกว่าจะเรียนจบอ่ะ”

ผมหันไปขอความเห็นไอ้เอกที่กำลังปรับกล้องวีดีโอ

เตรียมถ่าย 

“ห่า...มึงจะมาป๊อดอะไรตอนนี้ เชี่ยนี่”  มันด่าพร้อม

โบกหัวผมแรง ๆ ทีหนึ่ง 

(ห่า..ผมกุเสียทรงเดี๋ยวกุไม่หล่อ กร๊ากกกกกกก)



ผมไขกุญแจห้องและเปิดประตูเข้าไป

“แกร๊ก.....ตุบ”  ของขวัญที่เตรียมมาล่วงไปอยู่ที่พื้นเรียบร้อย กำหมัดแน่น

กัดฟันกรอดด   :fire:หน้าแดงร้าวด้วยอารมณ์  หัวใจเต้นเร็วรัวกว่าเดิม..

.แต่ไม่ใช่ด้วยความปิติ  สองขาก้าวไว ๆ เข้าไปในห้องไม่คิดจะก้มเก็บของขวัญ

“เอ๊าไอ้นี่  ถือดี ๆ ไม่เป็..น....................เฮ้ยเชี่ยยยย” ไอ้เอกพูด

ยังไม่เห็นอะไร เพราะมีผมยืนบังอยู่มัน  ปิดประตูได้มันก้มจะเก็บของขวัญ 

 ก่อนจะตะโกนเสียงดังวิ่งมาห้ามผมไว้  แต่ผมสะบัดมันออก

ภาพที่ผมเห็นน่ะเหรอคือ ภาพเปิ้ลผู้หญิงที่ผมรัก

กำลังเปลือยเปล่าอยู่บนตัวผู้ชายอีกคนอยู่บนโซฟาห้องดูทีวี  :oo1:

ทำกิจกรรมรักอย่างเร่าร้อนสีหน้าแววตา  ราวกับจะหลอมละลาย

ไปด้วยกันทั้งคู่ แต่เมื่อเปิ้ลหันมาเจอผม

“อ๊ะ...พี่นัย” เปิ้ลมีสีหน้าตื่นตระหนก  เด้งตัวขึ้นยืนหอบเสื้อผ้ามาปิดบังร่างกาย

ร้องไห้ตัวสั่น :m15: ผมผลักเปิ้ลเซล้มไปด้านข้าง ลากไอ้เหี้ยนั่นลงมากองกับพื้น

ก่อนกระแทกหมัดสวย ๆ อัดหน้าแม่งไม่ยั้ง :angry2:

“สัด............เมียกุ   ของๆกุ ..มึงได้ยินชัดมั้ย  ไอ้เหี้ย”  ผมกระแทกมัด

แรง ๆ ใส่หน้ามันอีกครั้ง ก่อนที่ไอ้เอกจะมาลากผมให้ออกห่าง

จากไอ้เหี้ยนั่น ผมกระทืบเท้าใส่ท้องแม่ง  และเตะที่ลำตัวมันอีกที

“ปล่อย...ปล่อยยยยยยยกู  ไอ้เอกมึงปล่อยกูกกกกก”  ผมตะโกน

“เห้ยมึงหยุด...  ไอ้ห่านัยหยุด  ....มึงเห็นมั้ยไอ้ห่านั่นมันจะตายคาตีนมึงแล้ว

 พอได้แล้ว ....  หยุดเลยมึง....เดี๋ยวได้ไปเที่ยวฮ่องกงกันพอดี ใจเย็น ๆ ดิ”

มันจับผมแน่น ๆ ผมยืนหอบเหนื่อย  หันไปมองเปิ้ลที่ทำตัวลีบอยู่ข้างโซฟา


กอดเสื้อผ้าไว้แน่นเพื่อปิดบังอำพรางร่างกายเปลือยเปล่า 

นี่เหรอผมหญิงที่ผมรัก  คนที่ผมอยากจะใช้ชีวิตด้วยเป็นแบบนี้เหรอ

ถ้าผมไม่คิดจะเซอร์ไพร์คงไม่รู้ใช่ไหม 

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ..ทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่   ที่บอกอยู่ทุก ๆ วันว่ารัก

ผู้หญิงที่ผมนอนกอด..ผู้หญิงที่แสนดี  แสนน่ารักของผม

.

.

หายไปไหน   ดวงตาร้อนผ่าวอย่างช่วยไม่ได้ น้ำตาไหลคลอเบ้า

ผมกลั้นจนปวดกระบอกตา  ส่งสายตาแห่งความผิดหวังไปให้

ผมตั้งสติเลิกดิ้น  หันไปพยักหน้ากับไอ้เอกว่ากุโอเคแล้ว

ผมเดินไปหยิบของขวัญวันเกิดเปิ้ล โยนลงพื้นตรงหน้าเธอ

“Happy Birthday และครบรอบที่เราคบกันมา 1 ปี”  ผมพูด

เปิ้ลมองตอบมาที่ผม ร้องไห้โฮจนตัวโยนไม่มีคำพูดใด

หลุดออกมาจากปากเปิ้ล

“งั้นพี่ขอลาขาด  ...จบกันแค่นี้” ผมพูดน้ำเสียงเย็นเยียบจบ

กระทืบเซรามิกตรงหน้าแหลกกระจาย ไม่แคร์สายตาเปิ้ลที่มองมา

ก่อนไอ้เอกจะลากผมออกมาจากห้อง

... 


หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-01-2012 12:52:08
เจอแบบนี้ สุึดยอดแห่งความเซอร์ไพรส์อ่า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 15-01-2012 13:09:15
เจอแบบนี้ไม่ลาขาดก็ควายแล้ว นัยเอย แต่ก็นะ จะสุขจะทุกข์ ก็ อยู่ร่วมเหตุการณ์ตลอด
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-01-2012 13:25:52
ต่อให้อยู่ด้วยยี่สิบสี่ชั่วโมง
เค้าก็ยังแอบไปมีกิ๊กกันได้เลย
ดีแล้วที่เป็นอย่างนี้



ไม่งั้นก็ไม่มีคู่นัยเอกอ่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 15-01-2012 13:29:12
เปิ้ลนิสัยไม่ดีเลยอ่า
นัยน่าจะกระทืบสักที
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-01-2012 13:59:08
ตามที่รีเควสสสสสสสสส ค่ะ  ที่อยากได้ Part ของนัยบ้าง

(จริง ๆ จะเขียนอยุ่พอดี  อิอิ  คึคึ  หรือว่าเราใจตรงกัน ฮ่า ๆ)

ตอนหน้าก็ยังเป็น Part ของนัยอยู่  จะทำให้ทราบเหตุผลว่าทำไม

โดนไปครั้งแรกแล้วตื่นเช้ามา ....เอกถึงไม่โดนกระทืบ

(กร๊ากกกกกกกกกก  ทิ้งปมไว้ก่อน  ฮ่า ๆ ยังเขียนไม่เสร็จ  อิอิ)

เม้นเยอะ ๆ นะคะ จะได้เป็นไอเดียการเขียนด้วย และเป็นกำลังใจไปในตัว  คิคิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 15-01-2012 14:24:51
ดีแล้วพี่ที่เลิกกับผู้หญิงแบบนั้น เสียเวลาว่ะพี่
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 15-01-2012 14:40:34
ต่อนะๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: piride ที่ 15-01-2012 14:46:45
 :beat: เปิ้ล
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 15-01-2012 15:19:47
สงสารนัยสุดๆ
เห็นคาตาขนาดนั้น เป็นใคร ใครก็ช็อค
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 15-01-2012 15:46:00
อ๊ากกกกก  อยู่ดี ๆ ได้ PC เค้าเจ๊งอ่ะ 
ฮือ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 15-01-2012 17:01:39
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: sobry225 ที่ 15-01-2012 17:10:34
สุดยอดเลยฮะ ผมตามมาจากตอนที่แล้ว เขียนนได้อินม่ก จุ๊บๆๆ คนเขียนคับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: nopnom ที่ 15-01-2012 17:24:23
มาต่อไวๆน้่า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-01-2012 17:27:33
ผู้หญิงอารายไม่รักนวลเลย แล้วแบบนี้จะมีครอบครัวดีดีได้ยังไง ไม่ไหวๆ

ต้องปรับนะ เด๋วภาพจะเสีย อิอิ

เหตุการณ์ที่จะเซอร์ไพร์ทเค้า แต่ตัวเองโดนเต็มๆเลยน้อคุณหนู

ยังไงก้อรอตอนต่อไปน้า^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 15-01-2012 17:37:29
ชะนีแรงมากเลยยยย

น่าตบมากเลย อิอิ

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 15-01-2012 17:58:49
เลยโดน surprise ซะเอง เหอะๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 4 เซอร์ไพร์ P.2 15/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 15-01-2012 19:00:34
รออ่านตอนต่อไปค้า 
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 1ุุ6/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 16-01-2012 00:45:29

ตอนที่ 5 คืนเสียตัว   (Version นัย)

ผมกะไอ้เอกขับรถตรงมาที่ผับที่เรามากันประจำ
ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงหรอกครับ ไอ้เอกสั่งเหล้ามาให้ ผมก็ทำหน้าที่
กระดกเหล้าเข้าปากอย่างว่าง่าย เรียกว่าอาบเหล้ากันดีกว่า เพราะมันเกินคำว่าดื่มไปเยอะ
ภาพเปิ้ลกับไอ้เหี้ยนั่นยังแจ่มชัดในสมองผม ภาพนั้นย้อนไปย้อนมาราวกับกดโหมดรีพีท
เหล้าออนเดอะร็อคถูกส่งเข้ามาในปากผมแก้วแล้วแก้วเล่า ไม่ขาดไม่มีเสียงห้ามจาก
ไอ้เอกซึ่งนั่งดื่มเป็นเพื่อนเงียบ ๆ มันคงเข้าใจดี  ไม่ต้องมีคำพูดใด ๆ แค่นี้กุก็ซึ้งใจแล้ว
ดื่มไปสักพักรู้สึกว่าตัวเองเมามาก  มากจนแทบจะไม่มีสติ ผมลุกขึ้นเซนิด ๆ
เห็นไอ้เอกหมอบราบอยู่กับโต๊ะ ผมไม่ได้ใส่ใจแค่อยากไปห้องน้ำสักนิด  ผมเดินเซ ๆ
พยายามฝืนเดินไปให้ถึง 
(โอยฉี่จะราดอยู่แล้ว  แม่งห้องน้ำ .. ทำไมเหมือนอยู่ไกลเป็นกิโลวะ จำได้ตอนกุมาถึง
เดินไปเข้าแค่ 5นาทีก็ถึงแล๊ะ  แล้วนี่แม่งหนีไปอยู่ที่ไหนนนน)
สุดท้ายผมก็ลากสังขารมาถึงห้องน้ำชายจนได้ ฉี่ ๆ ก่อนที่มันจะราดไปทั่วพื้น
เมื่อจัดการธุระเสร็จผมก็เดินเซ ๆ มาหยุดหน้าห้องน้ำนั่นแหล่ะ  ขอพักก่อน
จะออกเดินทางไกลกลับไปที่โต๊ะ   ผมเอาหลังพิงผนังหลับตาแน่นรู้สึกว่าตอนนี้
โลกมันหมุนได้ 360 องศาพากุเวียนหัวไปหมด (โอย  พักก่อน ๆ) ไม่ถึงนาทีก็ได้ยิน
ยินเสียงหวานจากใครสักคนกระซิบข้าง ๆหู ค่อย ๆ เป่าลมหายใจลดต้นคอผม
“เมาแล้วเหรอคะ.....ให้เชอรี่ช่วยมั้ย”  ผมค่อย ๆ ลืมตาเจอน้องเชอรี่ที่ว่า  ยื่นหน้ามาหา
จนปากเราแทบจะประกบกันแล้ว ชุดสีแดงรัดรูปเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจน
ขาเรียวขาวที่สอดแทรกมาตรงกลางหว่างขาผมเสียดสีกันเบา ๆ เป็นการเชิญชวน
ใบหน้าเรียวได้รูป ริมฝีปากอวบอิ่มขยับอีกครั้ง
“ว่าไงคะ.....สุดหล่อ”  ผมกลืนน้ำลายลงคอเอือก เป็นคำตอบ น้องเชอรี่ก็เบียดตัว
ให้แนบกับตัวผม ริมฝีปากอิ่มกดจูบหวาน  ๆ หยอกเย้า สองมือโอบคอผม
ผมพลิกตัวมาเป็นผู้นำเกมเปลี่ยนให้น้องเชอรี่หลังพิงฝา กดจูบเร่าร้อน
สอดแทรกลิ้นชิมลิ้นหวานของอีกฝ่าย  สองมือบีบอกตู้ม ๆ อย่างแรงจนอีกฝ่าย
เผลอคราง  ฝ่ามือผมไล่เฟ้นทั้งตัวของเชอรี่ที่นุ่มนิ่มอ่อนหวาน ริมฝีปากก็ดูดกลืน
อย่างไม่ลดละ  สองมือผมสัมผัสสะโพกผายบีบแรง ๆ แล้วดันขึ้นหมุนเป็นวงกลม
ก่อนจะกดให้แนบกับลำตัวผม
“อืมม......อ่า” ต่างคนต่างครางกระเส่า  ก่อนที่ผมจะได้ซั่มต่อกับน้องเชอรี่ 
ผมก็รู้สึกได้ถึงแขนของใครบางคนที่สอดเข้าโอบเอวด้านหลังดึงรั้งร่างผม
ให้ลอยห่างจากน้องเชอรี่อารมณ์ที่กำลังพุ่งพล่าน แทบอยากจะเตะไอ้คนที่มาขัดขวาง
ให้กระเด็นไปให้พ้น area นี้เลยทีเดียว ผมหันไปมองด้วยสายตาโมโห ก็เห็นเป็นไอ้เอก
(เชี่ยนี่............มารความสุขกุแท้ ๆ กุอยากร้องไห้  เชอรี่ ๆ  เชอรี่ครับ)
“พี่ขอตัวเพื่อนพี่กลับไปก่อนนะครับ ...วันหลังค่อยมาต่อนะ”มันว่า คิสเบา ๆ
ที่ปากคนสวยของผม  หญิงสาวยิ้มแก้มปริส่งสายตามแพรวพราวไปให้ไอ้เอก
“ไม่ไปด้วยกันก่อนเหรอคะ”  น้องเชอรี่เอ่ยเชิญชวน
(ผมเซ็งเล็ก ๆ เมื่อกี้น้องเค้ากำลังจะซั่มกะกุไม่ใช่เหรอ  แล้วนี่  =.= หมายความว่าไง)
“อยากไปครับ...แต่วันนี้ไม่ไหว พรุ่งนี้พวกพี่ต้องไปทำธุระต่อ”ไอ้เอกยิ้มหล่อ ๆ ให้น้องเค้า
(ว่าแต่มึงมีธุระแล้วเกี่ยวไรกะกูเนี่ย เหอ ๆ ให้กุไปกับน้องเค้าเซ่
ได้แต่คิดปากมันไม่ยอมขยับครับ) 
ผมดิ้นสุดแรง (ซึ่งแรงที่มีเท่ากับแมวที่โดนวางยาแล้วกำลังจะสลบ)
“เชี่ยเอก ...ปล่อย   ปล่อยดิ กูม่ายกลาบบบบบบ” ผมเงยหน้ามามองมันเคือง ๆ
“กูจะซั่มกะน้องเค้า อ่ะ ปล่อยยยยยยย หืออออออ” ผมโวยวายพยายามต่อสู้
(พี่ทำเพราะอยากซั่มกับเชอรี่เลยนะครับเนี่ย  เชอรี่ ๆ เชอรี่คร๊าบบบบบบบ)
“กุจะกลับอ่ะ   มึงต้องกลับกะกุด้วย เดี๋ยวแม่งไอ้ปิงปองมาฆ่ากุ” มันว่า
ลงมือลากผมมาที่ลานจอดรถ  ๆ ก่อนจะเปิดประตูผลักผมให้นอนที่เบาะหลังครับ
แล้วทุกอย่างก็เบลอ ๆ ไปหมด  จำไรไม่ได้แหล๊ะ   
.
.
ผมรู้สึกตัวเองอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่พุ่งพล่านแรงปรารถนาที่ไม่อาจสะกัดกั้นได้แล้วนาทีนี้
เสียงครางของใครบางคนข้างๆตัวผมดังเล็ดลอดออกมาเป็นระยะ 
“อ่า....  เชอรรี่สินะ” ผมคิดได้แค่นั้นภาพลาง ๆ ที่ผมพอจะจำได้ผมกำลังฟัดกับใครสักคน
หญิงสาวคงจะยังต้องการสัมผัสเร่าร้อนของผม  เพราะผมชิ่งหลับไปก่อน
“ขอโทษนะครับ คนสวยที่ปล่อยให้รอ”  ผมเอ่ยเสียงเบา กลิ้งตัวไปหาสาวน้อย
วาดมือสะเปะสะปะสัมผัสริมฝีปากอีกฝ่าย  ริมฝีปากอบอุ่นกับลิ้นร้อน ๆ ดูดกลืนนิ้วผม
ราวกับถวิลหา
 “หึหึ....อยากขนาดนั้นเลยเหรอครับที่รัก” ผมพ่นคำหวานปรารถนาให้อีกฝ่ายพึงใจ
กดจูบไปที่ริมฝีปากร้อน สอดลิ้นชิมรสหวาน สัมผัสเร่าร้อนที่ต่างฝ่ายต่างประเคนให้กัน
“อืมมมม   อืออ”  ผมครางเสียว    ไม่อยากเชื่อว่าน้องเชอรี่จะรสแซ่บขนาดนี้  ผมดันตัวขึ้น
ก้าวค่อมตัวสาวน้อย กดจูบเร่าร้อนอีกครั้ง มือของเชอรี่ไล่สัมผัสตัวผมไปทั่ว
.”อ่า........อือออออออ” ร่างบางครางกระเส่า ผมละลิ้นไล่ชิมติ่งหู
ขบกัดเบา ๆ ให้คนด้านล่างสะท้านเล่น  ก่อนจะไล่มาดูดกลืนซอกคอหอม
ผมละปากมาไล่ขบหน้าอก ก่อนจะครอบปากลงบนเม็ดสี ดูดแรง ๆ
กระตุ้นอารมณ์อีกฝ่าย  ตอนนี้ต่างคนต่างไล่ถอดเสื้อผ้าของกันและกันภายใต้ความมืดมิด
“อื๊มมมมมมม” ผมเผลอครางเสียว  เมื่อถูกดันให้ไปอยู่ด้านล่างแทนไม่ขัดศรัทธาครับ
เพราะความเมาจนทำให้ผมแทบไม่มีแรงอยู่แล้ว ริมฝีปากของอีกฝ่ายกดจูบ
ซุกไซร้ที่ซอกคอผมอีกครั้ง ก่อนจะดูดแรง ๆ ที่ยอดอกผม
“อ่าส์.....”  ผมสะท้านเสียว เผลอเด้งตัวรับสัมผัส สองแขนโอบรอบคออีกฝ่าย
ต้องการจะอยู่ด้านบนอีกครั้งแต่แรงไม่ถึง มือบางลูบไล้ผิวเนียนกระชับของผม
ก่อนจะพลิกร่างผมให้คว่ำหน้า  ผมรู้สึกแปลกที่สาวสวยทำเช่นนี้ อยากจะขยับแต่ว่า
ริมฝีปากร้อนที่จูบเบาๆ มาที่หลัง ไล้ลิ้นเลียลากยาวตามแนวสันหลังของผม
ก่อนจะกัดเบา ๆ อีกทีทำผมสะดุ้งเสียว เป็นครั้งแรกที่มีใครทำให้อย่างนี้
“อ่า...อืมมมมมมม” ผมครางกระเส่า ด้วยอารมณ์ปรารถนาปล่อยให้สาวน้อย
พาผมไปสวรรค์ด้วยรสชาติที่แปลกใหม่   ร่างบางไล้มือวนรอบสะโพกผม
ก่อนจะเค้นหนัก ๆ จนน่าแปลกใจ เชอรี่ไล้มือวนที่ท้องน้อยอีกครั้ง
ผมสะดุ้งเสียว จนเผลอแอ่นสะโพกขึ้น เกิดแรงกระแทกแรง ๆ ที่ด้านหลัง
ทำผมเจ็บจนน้ำตาไหล  และรับรู้ว่าไอ้คนข้างหลังนี่คงไม่ใช่เชอรี่อีกต่อไปแล้ว
(เพราะแม่งมีช้างน้อยเหมือนกับผม  แม่ง....ใครปล่อยกุ  ฮือ  ๆๆ)
“โอยย......เจ็บ” ผมร้องด้วยความเจ็บปวด  แต่ราวกับไปกระตุ้นอารมณ์ของอีกฝ่าย
แท่งร้อนสอดเข้าได้แค่ครึ่ง ผมรู้สึกราวร่างกายจะแตกสะลายเป็นเสี่ยง ๆ
น้ำตาไหลพรากเพราะความเจ็บปวด  อีกฝ่ายค่อย ๆ ถอนแท่งร้อน
ก่อนจะกระแทกเข้ามาใหม่จนมิดด้าม ผมกัดฟันแน่นขยับตัวไม่ได้
ความเจ็บปวดพุ่งทะยาน ผมร้องไห้โดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
“อืมมมมมมมม อ่า” เสียงใครบางคนครางเสียว ยังไม่ขยับแท่งร้อน
เอื้อมมือมาดึงหน้าขึ้นไปจูบปลอบใจ นิ้วมือหนา ๆ ลากเช็ดขอบตาที่น้ำตาพร่างพรู
มันลูบไล้สัมผัสจุดอ่อนไหวจนทั่วตัวผมสร้างอารมณ์เสียวสะท้านไปทั่ว
ก่อนจะลากลิ้นร้อน ๆ  ไล้เลีย ขบ จูบ ดูดกลืน จนผมคล้อยตาม รู้สึกแท่งด้านหลัง
ค่อย ๆ คลายความแน่น มันขยับแท่งร้อน เร็วขึ้น ๆ  ๆ จากจุกหน่วง ๆ
กลายเป็นเสียวสะท้าน ผมแอ่นตัวรับสัมผัสที่กระแทกมาอย่างจงใจ
“อื๊อออ  ร...ระ...เร็ว อีก” ผมออกคำสั่ง อีกฝ่ายก็กระแทกมาไม่ยั้ง
ทั้งเสียวซ่าน   และร้อนแรง  มันแปลกใหม่จนผมบอกไม่ถูก 
“อืมมมมมมมมมมม” เราทั้งคู่เกร็งกระตุก ก่อนจะปล่อยน้ำรักออกมา
ก่อนจะทิ้งตัวที่หมดแรงลงบนที่นอน มันจะค่อย ๆ ถอนแท่งร้อนออกจากตัวผม
นอนหอบหายใจที่เร่าร้อนและรุนแรงโอบกอดผมจากด้านหลัง แล้วผลอยหลับไป


.
เช้าอีกวันผมตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจกับสภาพที่เห็นตัวเองเปลือยเปล่าและถูกกอด
(ทั้งที่อยากจะให้เป็นเพียงแค่ความฝัน  ...แต่....มันเป็นความจริง)
“แม่งเอ๊ย.......” ผมสบถ จนปัญญากับปัญหาตรงหน้า เมื่อเห็นแล้วว่าคนที่
ร่วมรักกับผมเมื่อคืนนี้เป็นใคร  ถ้ามันเป็นคนอื่นเรื่องคงจะง่ายกว่านี้
ที่สำคัญผมเป็นคนเริ่มก่อน ... ถ้าผมชิ่งหนีไปตอนนี้มันจะรู้รึเปล่าวะ
ว่าเมื่อคืนคนที่มันนอนด้วยเป็นผม  นี่ผมเป็นเกย์แล้วรึเปล่า
แล้วเมื่อคืนผมทำให้มันเป็นเกย์ไปกับผมด้วยใช่ไหม   (โอยยยยย กุอยากตาย)
ผมตัดสินใจจะหนีก่อนที่ไอ้เอกนี่จะตื่น   แอบเนียน ๆ ว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
ผมพยายามขยับตัวเบาที่สุดให้หลุดออกจากอ้อมกอดไอ้เอก 
เพราะมันดันกอดผมซะแน่นแทบขยับไม่ได้  แต่ไอ้เอกกลับขยับ
เหมือนกับมันตื่นแล้ว ตัวนอนนิ่งตัวแข็งราวกับเป็นหิน
(โอยยย  กุขอเป็นอากาศได้ไหมตอนนี้ หรือเป็นแวมไพร์ที่โดนแดด
แล้วแหลกสลายไปก็ได้  ไม่อยากตื่นมาเจอหน้ามันจริง ๆ )
มันรั้งตัวผมเข้าไปกอดแน่น ๆ กดจูบแรงที่หัว  ผมยังเกร็งเป็นหินพูดอะไรไม่ออก
ภาวนาขอให้มันหลับไปอีกสักครั้ง  แทบจะกลั้นหายใจเสมือนว่ากุไม่มีตัวตน
มันเสือกเอื้อมมือมาลูบไล้หน้าอกผม แล้วชะงักราวกับว่ามันตกใจที่ผมไม่มีหน้าอก
(ห่า...........กุเป็นผู้ชายมีหน้าอกก็แปลกแล้ว มึงจะลูบหาพระแสงเรอะ)
มันยังไม่หยุดไล้มือสัมผัสเอวคอด ๆ แล้วหยุดไปนิดนึงเหมือนกำลังชั่งใจ
(ช่างแม่งเถอะ..............อยากทำไรก็ทำ กุนี่เกร็งจะเป็นหินอยู่แล้ว)
ว่าแล้วมันก็ไล้มือวนที่หน้าท้อง..ก่อนจะ...จะ  จ๊ากกกกกกก จับช้างน้อยกุ
ผมสะดุ้งสิครับไอ้ห่านี่มึง ๆๆ ๆๆจับช้างกุ    แต่ตัวผมยังแข็งเป็นหินหน้าซีดเผือด
นอนหันหลังให้มันนิ่งไม่ไหวติ่ง ได้ยินเสียงไอ้เอกร้องลั่น
“เห้ย” ค่อย ๆจับผมให้หันไป  (หือ  ๆ มึงอย่า  ๆๆ   อย่า....อย่ามองกุ)
“เชี่ยยยยยยยยยยยย” ไอ้เอกตะโกนลั่นดังกว่าเดิม  (มึงจะตกใจทำห่าเหวไรกุนี่ที่ต้องตกใจ)
ผมหันไปส่งสายตาอาฆาตให้แม่งเลย กุที่ต้องอับอายและเสียตรูดดดด  มึงจะตกใจหา
ไรฟะ และเป็นมันที่เอามือกุมขยับไปแล้ว
 (ห่าได้กุแล้วเครียดขนาดนั้นเรอะ... ได้ข่าวว่าเมื่อคืนมึงกระแทกกุไม่ยั้งเลยนะสัด)
“.....................”  เงียบ
“......................” เงียบ
“......................”  และเงียบ
ผมตัดสินใจจัดการกับปัญหาดังกล่าวหลังต่างฝ่ายต่างเงียบอยู่นาน
“กูตัดสินใจแล้ว....”  ผมว่า ดูเหมือนมันจะรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
 “เรา..... จะเป็นเพื่อนกันต่อไป” ผมหันไปบอกมัน
“กุเป็นผู้ชาย ยังไงก็..เอ่อไม่เสียหาย”  อธิบายเหตุผลต่อไป
“ฉะนั้น ...มึงก็ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนซะกูก็จะถือซะ......ว่าให้หมามันแดก” 
ผมว่าเน้นเสียงประโยคสุดท้ายให้ชัด ๆ ก่อนจะเดินหนีไปอาบน้ำแล้ว 
(เห้อ ๆๆๆๆๆ  ผมถอนหายใจยาวๆ  จบไปซะที ผมว่าวิธีนี้คงดีที่สุด
แม่งอยากลืม  ลืม ๆๆๆๆๆ  ใครก้อได้ทำให้กุลืมที อ๊ากกกกกกกกกกก)
_________________________________________________
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Crazily Pretty ที่ 16-01-2012 03:26:45
 :z13: :z13: :z13: จิ้มๆๆๆๆ

หนุกมากค่ะ :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 16-01-2012 08:48:07
สงสารง่ะ  :jul1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 16-01-2012 09:01:58
บอกได้คำเดียวว่า"ชอบ"
ติดตาม ติดตาม นะครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: matilda.taon ที่ 16-01-2012 09:14:54
เอกรีบมาบอกรักเลย นัยยอมชัวร์ :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 16-01-2012 09:33:13
รู้ใจตัวเองกันได้แล้วหนุ่มๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 16-01-2012 09:33:46
ดูท่านัยจะเจ๊บมากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: fox ที่ 16-01-2012 12:42:41
สงสัยนัยแอบน้อยใจเบาๆ นะเนี่ย เอกรีบง้อเลยเชียว...เดี๋ยวงอนไปใหญ่  ^__^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 16-01-2012 13:03:15
หมาเอกลืมไม่ได้ มันติดใจ อาหารหมายี่ห้อนัย แล้ว ต่อไปมันต้องกิน ตลอดๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: biwtiz ที่ 16-01-2012 13:48:01
มาต่อๆ         น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: ryoko_chan ที่ 16-01-2012 13:51:35
มันเป็นอะไรที่แบบว่า...น่าปวดหัว  :z3:

อ๊ากกกกกกก ก็นะคะ เป็นเราคงโคตะระจะสับสนเลยล่ะค่ะ
ก็แหงล่ะค่ะ เพิ่งอกหักมา เพราะเมียมีชู้พออีกวันตื่นมา อ้าว เป็นเมียเพื่อนซะละ ฮ่าฮ่าาา :serius2:

แล้วก็เพื่อนสนิทซะด้วย
อ๊ากกกกก
รอลุ้นค่ะ ว่าคู่นี้จะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่
แต่สำหรับเอก น่าจะรู้ตัวแล้ว....เหลือ ภาคินัย เนี่ยแหล่ะค่ะ
ว่าจะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่

ปล. ชอบชื่อ ภาคินัย จังเลยยยย อ่านแล้วแบบ อ๊ายยยยยยยยย :-[
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 16-01-2012 14:20:10
มุมของนัยนี้น่าสนใจๆ
ชอบครับ ต่อด่วนๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-01-2012 16:11:09
ต่างมุมมอง แต่ก้อเส็ดอยู่ดี 55555

มารออีกเหมือนเดิมน้อ อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 16-01-2012 17:39:49
เมากัน  จนเสียวกันเองเรยเนอะ  อิอิ  อย่าโกรธกันเรยนะ  สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 16-01-2012 19:41:36
 o18 o18 o18
อยากจะบอกว่า เวลาเปิดเข้ามาแล้วเจอคอมเม้นอ่ะ
มีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ
ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นนะคะ
ช่างเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงชีวิต คนเขียนจริง ๆ  อิอิ

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 16-01-2012 20:34:23
อ๊ากนัยไมไม่บอกความคิดแกกะเอกวะฮะ เอกก็น่าสงสารนะ แต่ตอนนี้ผมน่าสงสารสุด!!!!!!!!!!!  รอครับ!!!!
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-01-2012 21:04:03
รอเค้าลงเอยกัน  หรือเปล่า???
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 16-01-2012 21:14:17
ลุ้นๆๆๆ จะได้คบกันมั้ยเนี่ย

 o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 17-01-2012 00:05:32
มารอวันต่อมานะครับ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 17-01-2012 08:14:01


 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 17-01-2012 10:04:23


     เหอๆๆ นัยนี่แอบฮาเล็กๆนะเนี่ย
     เอกหลงนัยไปเรียบร้อยแล้ว
     ต้องรอลุ้นแล้วล่ะว่านัยหลงเอกบ้างไหม



หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 17-01-2012 12:24:03
โปรดรอกันต่อไป :o8:      ฮ่า ๆ  :laugh: :laugh: :laugh:

ตอนนี้ PC เสียค่ะ  จะต้องพิมพ์ใน เน็ตบุค แทน
จะบอกว่าไม่ถนัดโคตร ะ ๆ อ่ะ  (แล้วซื้อเน็ตบุคมาไม = =')
ยังไงทัดก็จะพยายาม เขียนให้เร็ว ๆค่ะ 

รอนหน่อยนะตัวเอง   :impress2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 17-01-2012 12:53:59
รออ่านอยู่นะครับนักเขียนเป็นกำลังใจให้นะครับผม
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 17-01-2012 13:42:00
ใจตรงกันเร็วๆน๊าาา
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 17-01-2012 14:43:18
คนรอมันท้อ~~~  ไม่ใช่แระมารอครับ^^ สู้ต่อปาย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Huasia ที่ 18-01-2012 10:59:55
มารอต่อค่า กำลังสนุก
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 18-01-2012 11:46:21
รอตอนต่อไปนะครับ สนุกดี
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 19-01-2012 08:35:01
 :call: :call: :call: :call:

 :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-01-2012 11:27:12
จะทำไงต่อล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 19-01-2012 20:52:41
ThankS
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-01-2012 01:13:48
รอหน่อยนะคะ เกือบ ๆเสร็จแล้วไม่เกินพรุ่งนี้คุ่ะ 
รอหน่วยพิสูจน์อักษรก่อน  555
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 คืนเสียตัว P.3 16/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: looksorn ที่ 20-01-2012 06:52:54
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
เอก/นัย o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-01-2012 07:27:13
อยากจะบอกมากมายว่าพิมพ์ตอนนี้เหนื่อยสุด  ๆ PC เจ๊งไม่เป็นท่ามาพิมพ์ใน Net Book
ที่ชาติหนึงจะใช้ที  พอนั่งเขียนที่ห้องบ้าง  ที่ทำงานบ้าง  (น่าจะเผลอใช้ MS.office คนละ Version)
Copy data มารวมกัน ดันมีปัญหา  ทำไมไม่รู้ค่ะ เคอเซอร์ ที่เราเลื่อนลูกศรกดไปข้างหน้ามันไปข้างหลัง..
ซะงั้นเซ็งสุด กดลบ (Backspace) ดันไปลบตัวหลังเอง   :m31:
ข้อมูลที่ กอปมา  ดันสลับคำหน้าหลังกันเอง  1 บรรทัด  ประโยคในเครื่องหมายคำพูด
เช่น  "มึงน่ารักว่ะ"==> ว่ะมึงน่ารัก""  เป็นตั้งใจพิมพ์ใหม่  ทั้ง   ===>  งทั้    :angry2:
เลยตัดสินใจพิมพ์ใหม่อีกครั้ง   
 :o12: :o12: :sad4: :sad4:
ที่เห็นหายไปนาน  สำหรับตอน 6 พิมพ์จบแล้วค่ะ ไม่ได้มีแค่นี้นะคะ  เดี๋ยวขอตรวจคำผิดนิสหนึง
เดี๋ยวมาลงเพิ่ม  อันนี้ยังไม่ตรวจ  แต่อยากลงค่ะ  ขอโทษนะคะที่หายไปนาน
พยายามพิมพ์แล้ว เผลอหลับไปก่อนทุกที  เลยต้องตื่นขึ้นมาปิดเครื่องซะเฉย ๆ
เลิกดึกมาก ๆ 4-5ทุ่ม   :really2:กลับมาหมดแรงเลยค่ะ  อย่าโกรธเค้าน๊า   
:impress2:     :o12:


ตอนที่ 6  มากกว่าเพื่อนได้มั้ยวะ (Part 1)


.
ค่ำคืนที่มีความสุขช่างแสนสั้นเวลาผ่านเดินผ่านไปยังกับติดปีก....เผลอแป๊บเดียวก็เช้าแล้ว

 เวลาที่ผมยังลุ้นระทึกว่าไอ้คนนอนข้าง ๆ จะรู้สึกกับผมยังไง  เมื่อคืนช่างเป็นค่ำคืนที่แสนหวาน

ผมไม่ได้ฝันไปหรือเข้าใจผิดว่ามันเป็นผู้หญิง แต่ผมรู้ว่าเป็นมัน

ผมทั้งหลงไหลและผูกพันธ์ไปพร้อม ๆ กัน ผมพูดไม่ถูก ทำไมถึงไม่ได้รู้สึกรังเกียจ

หรือขยะแขยง ไม่ใช่ใครก็ได้แต่เพราะเป็นมัน   มัน....ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้สึกรังเกียจเลย

ที่ผ่านมาถ้าให้นึกถึงมัน ผมก็ตามใจมันตลอดทั้งที่ปกติก็ไม่ได้ชอบตามใจใครสักหน่อย

ไม่เข้าใจเหมือนกัน ความน่ารักของมันคงอยู่ที่ความเอาแต่ใจละมั้ง

เรียกว่าทั้งรั้น ทั้งเอาแต่ใจก็ว่าได้  ไม่ว่าอะไร

ถ้าอยากได้หล่ะก็  ...หึหึ  ..ไม่งอแงก็โวยวายจะเอาให้ได้  มีอยู่ครั้งนึง

พวกเรา 4 คน (ผม ไอ้นัย ไอ้เป้ ไอ้ปิงปอง)  เราไปเที่ยวงานวัดกันที่ต่างจังหวัดครับ

เค้าก็จัดเป็นซุ้ม ๆ น่ารักแหล่ะ ขายขนมไทยบ้าง เกมแบบโบราณ ๆ บ้างหล่ะ

เกมที่มีก็ทั้งโยนห่วงคล้องเหล้า  สอยดาว รถไต่ถัง ตักปลาทองด้วยทิชชู่

หนูชิงโชค ฯลฯ  และสุดท้ายปิดด้วยเกมปาโป่ง ไอ้เกมนี่แหล่ะครับที่เป็นประเด็น

ไอ้คุณหนูเห็นปุ๊บวิ่งไปก่อนเพื่อนเลย ปาลูกโป่งที่ว่านี่คือจะมีลูกดอก 7 ดอก 20 บาท

ถ้าปาลูกโป่งแตกได้ ทั้ง 7 ดอกในช่องที่กำหนดให้หล่ะก็จะได้ตุ๊กตา

“เห้ย....มาปาโป่งกันเถอะ” มันบอก นี่ไม่ใช่คำชวนนะครับอย่าเข้าใจผิด

แต่คล้าย ๆ กับคำสั่งนั่นแหล่ะเพื่อนไม่ทำมีงอนอ่ะ..มันอ่ะ   ไอ้เอกกะไอ้ปิงปอง

มองหน้ากันยิ้ม ๆ  แล้วหันมายักคิ้วหลิ่วตาโบ้ยให้ผม ประมาณว่า มึงไปตามใจลูกมึงสิ

ไอ้นัยหันมาเห็นพอดี มันเลยวีนแต่พองาม (กร๊ากกกกกกกกก ว่าเข้านั่น ว่าที่เมียกุ)

“ไม่ต้องเลย  ๆ....พวกมึงก็มาด้วย ไอ้เป้ ไอ้ปิงปอง มา ๆ กุอยากได้ตัวนี้”  มันว่าแล้วชี้

“ห๊า........มึงอยากได้ตัวนี้เหรอ ฮ่า ๆ” ไอ้ปิงปองอ่ะ  มันว่าหัวเราะตัวงอ

“หึหึ  ทำไมมึงไปหัวเราะมัน  ...เหมาะกับมันดีออก  กร๊ากกกกกก” ไอ้เป้ก็อีกคน

“เอ้อ........นะ หึหึ  เหมาะกับมันจริง ๆ ด้วย ฮ่า ๆๆๆๆๆ กร๊ากกกก”  ผมพูดยิ้ม ๆ

ก่อนจะปล่อยก๊ากกกกกกกกกก  ดังลั่น  ก็มันชี้ที่ตุ๊กตาคิงคองที่ตีฉาบอ่ะครับขนดกมาก ๆ 

ตัวนี่ดำสนิท รับกับปากที่ยื่นออกมาสีแดง เหมาะกับมันมั๊ก ๆ ผมหล่ะทึ่งในความชอบของมัน

(นัย...มึงก็หน้าตาดีนะ รสนิยมการแต่งตัวก็ดี  เสื้อผ้าหน้าผมติดBrand ตลอด

เรียกว่าครบหมด เสียอย่างเดียว ไอ้เรื่องชอบตุ๊กตานี่แหล่ะ 

แต่ละตัวอย่าให้บรรยายไม่แปลก แม่งไม่เอาหรอกครับ ฮ่า ๆ)

“ชิส์ กุไม่สนหรอก กุอยากได้อ่ะ ไป ๆ พวกมึงรีบไปปามา”  ว่าแล้ว   ไอ้นัยก็ทำหน้ามุ่ย

วีนนิดหน่อย เพราะยังไงก็ต้องง้อรอให้พวกผมปาให้ ฝีมือระดับมันอย่าให้เซด

ตั้งใจจะปาแมวยังไปโดนไก่ที่อยู่ข้าง ๆ ตายเลยเหอะ  ฮ่า ๆ  (กรรมของไก่ หึหึ)

“เออ......รับทราบขอรับคุณหนู กระผมจะปฏิบัติตาค่ำสั่ง ณ บัดนาว” ไอ้ปิงปองพูดเสร็จ

ทำท่าเหมือนทหารรับคำสั่ง แทนที่จะเอามือขวายกมาชิดหน้าผากขวา 

แต่สงสัยจะธรรมดาไปสำหรับมัน มันเลยยื่นมือขวาไขว้มาทางด้านซ้าย

ก่อนจะหงายมือจรดหน้าผากซ้ายซะงั้น

(เพื่อนกุจะมีปกติกันสักคนมั้ย ฮ่า ๆ)

เล่นเอาฮาทั้งคุณหนูทั้งพลทหารรับใช้เลยทีเดียว

“ดี ๆ งั้นกุตบรางวัลให้มึงก่อน” ไอ้นัยว่าพร้อมกับโบกหัวไอ้ปิงปองอีกที

พวกที่เหลือก็ขำกันกระจาย มีแต่ไอ้ปิงปองรูปหัวตัวเองป้อย

แล้วเดินชิ่งหนีไปรับสายสุดที่รักมัน......น้องปางครับ

จากนั้นพวกเราทุกคน (ยกเว้นไอ้นัย) ก็ปฏิบัติการปาเป้า เพื่อให้ได้ตุ๊กตาคิงคองถือฉาบ

ตามทีไอ้คุณหนูมันสั่ง จนแล้วจนรอด ปาไปเกือบ ๆ ยี่สิบรอบแล้วก็ยังไม่ได้

“เห้ย...กุว่าเราขอซื้อเค้าจะง่ายกว่ามัย” ไอ้เอกเอ่ยขึ้น ทำท่าว่าจะเหนื่อย

“เออ..กุก็ว่างั้นเสียแรงแถมยังเสียเงินเปล่า   ที่สำคัญอมยิ้มจะเต็มกระเป๋ากุแล้ว

เดี๋ยวกุไปเปิดร้านขายลูกอมแม่งซะเลย ฮ่า ๆ”ไอ้ปิงปองเอ่ยเสริม 

“ชิส์  ทำยังงั้นได้ไง  มันจะมีความภูมิใจอะไร๊ มึงคิดดูดิ ไปขอซื้อตุ๊กตาจาก

ร้านปาลูกโป่งอ่ะ”  ไอ้นัยว่าพร้อมชี้แจงเหตุผล โน้มน้าวให้พวกผมเห็นตามไปด้วย

(นี่มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีลูกผู้ชายสินะ  หึหึ  ว่าแต่พวกกุจะได้ประโยชน์ไรกันวะ

อยากจะถามแม่งหน่อย   ....โน้มน้าวซะพวกกุคล้อยตามเลย  หึหึ)

“งั้นเดี๋ยวกุจะไปซื้อตัวใหม่ที่ร้านให้มึง” ผมว่า  เริ่ม ๆ เหนื่อยแล้วเหมือนกัน

เล็งเห็นว่ามันอาจจะอายที่ซื้อจากร้านปาลูกโป่ง ถ้าไปซื้อที่ร้านขายตุ๊กตา

พวกกุคงไม่เสียศักดิ์ใช่มั้ยวะ...ไอ้นัย

 (ตอนนี้เรื่องศักดิ์ศรีมันพุ่งพล่านครับพึ่งถูกปลุกระดมมา จากไอ้ป่วน)

“ไม่ กุจะเอาตัวนี้อ่ะ  มึงนะแหล่ะปาให้กุให้ได้เลยไอ้เอก”  ไอ้นัยว่า ทำหน้างอสุดๆ

สรุปที่มึงอ้างเรื่องศักดิ์ศรีทั้งหลายแหล่มาเพราะแค่มึงอยากได้ไอ้คิงคอง

ตีฉาบตัวนี้แค่นั้นใช่มั้ย.....................ฟายยยยยยยย  (ขอด่าแม่งหน่อยครับ)

“เออ...มึงน่ะแหล่ะรับผิดชอบเลย  ฮ่า ๆ”  ไอ้เป้ครับแม่งผลักภาระทันที 

“ใช่ ๆ มึงอ่ะ ปาแม่นที่สุดแล้ว”  ไอ้ปิงปองเสริมทัพ  ยกคิ้วกวนตีนผมสองที

(ก็ถ้ามึงจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขุ่ยขนาดนี้หล่ะก้อ  มึงย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยมั้ย...ห่า

สาธุขอให้แม่งได้เป็นผัวเมียกันไปเลย  กร๊ากกกกกกกกสะใจกุ)

ผมทำท่าอิดออดอยู่เล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ต้องยอมไอ้ตัวป่วนอยู่ดี

แม่งเล่นจ้องเขม็งส่งสายตาคาดโทษมาที่ผมคนเดียว (ความผิดกุรึไงเนี่ย ^^’)

 หึหึ  แต่มือขั้นเทพแบบผมก็ทำสำเร็จ  ในอีก 3 ครั้งถัดมา

ไอ้นัยดีใจใหญ่กอดตุ๊กตาที่ว่าอย่างมีความสุข  เพื่อนตบมือให้ผมกันใหญ่

(เพื่อน ๆ ครับไม่ทราบว่าพวกมึงดีใจกะกูหรือว่าสมน้ำหน้ากุกันแน่ 

ที่ต้องแบกภาระยันนาทีสุดท้าย   ได้ข่าวว่ากุเป็นคนปา 

และเสียตังค์ไปตั้งหลายร้อยสุดท้ายมึงเอาตุ๊กตาไป   

...ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน ^^’)

ผมได้แต่อมยิ้ม  นึกถึงเรื่องมันแต่ละเรื่อง ไม่อยากจะบรรยาย 

(มันยาวขี้เกียจอ่ะ  ฮ่า ๆ ล้อเล่นครับ ความประทับใจมันเยอะ

กลัวคนอ่านจะเบื่อ ผมซะก่อน  “ขอแอบอ้อนหน่อยเถอะ”  หึหึ)

.

.

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 20-01-2012 07:41:57
มาต่ออีกนะคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 20-01-2012 07:42:34
^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 20-01-2012 08:17:35
ต่อๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 20-01-2012 08:20:02
อยากรู้แล้วว่าถ้านัยตื่นมาจะเป็นไง
มาต่อด่วนครับ
เอกยังตามใจคุณหนูเสมอ :z2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: matilda.taon ที่ 20-01-2012 08:36:38
 ฮ่าๆๆยอมๆไอ้คุณหนูมันไปเถอะ แกสู้ไม่ได้หรอกไอ้คุณชาย :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: ryoko_chan ที่ 20-01-2012 09:38:31
มันฮาตรงพ่อพระเอกของเราอย่างฮึดน่ะค่ะ
แค่นัยขอให้ทำ ผองเพื่อนก็กันทำแบบไม่คิดชีวิต ฮ่าฮ่า
ปาเข้าไปเสียเงินไปหลายร้อย
นึกภาพตามแล้วฮาน่ะค่ะ ก๊ากกกกกก :laugh: ผู้ชายตัวใหย่ๆสี่คน ยืนหน้าร้ารปาโป่ง แล้วโหวกเหวกโวยวย
ต้องชนะเกมส์ให้ได้เพื่อเอา คิงคองตีฉาบน่ะค่ะ
ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แค่คิดภาพตามก็ฮาไม่ทนแล้วล่ะค่ะ


แล้วสุดท้ายเป็นไงล่ะคะ? แอบคิดว่า พี่เพื่อนชายอีกทั้งสองไม่ยอมปาต่อ...
อาจจะเป็นเพราะกลัวเสียตังค์เพิ่มอีกก็ได้
ดูได้จากกรณีของเอกสินะคะ ก๊ากกก พอปาครบได้ตุ๊กตา...คนที่ชื่อ ภาคินัย...เอาไปเฉยเลยแบบไม่เสียเงินปาโป่งสักสตางค์
ฮ่าาาาา
ฮาได้ใจจริงๆไอ้คู่นี้้


ปล. แสดงว่า...เอกชอบนัยอยู่ก่อนแล้วนี้เอง...จะมีก็แต่นัย ที่หลงใหลได้ปลื้มแต่สาวๆที่มีชื่อเป็นผลไม้น่าแทะน่ากิน ฮ่าาา :laugh3:

ติดตามเรื่องนี้ค่ะ!
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 20-01-2012 09:56:17
เป็นกำลังใจให้คนแต่ง สู้กับ PC ที่เจ๊งนะครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-01-2012 11:50:31
พระเอกของเราทั้งสองคนนี่แมนเว่อร์ ><

ส่วนนายเอกก้อแสบช่ายย่อย อิอิ น่ารักๆ><

อย่าลืมมาต่ออีกน้า

รอรอน้อค๊าฟฟฟ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part 2) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-01-2012 12:13:06
และแล้วกองเซ็นเซอร์คำผิดก็ทำงานเรียบร้อยค่ะ  555+
เร็วมาก ๆ แต่คงไม่ได้ถูกทุกตัวอักษรนะคะ แค่มองผ่าน ๆ
แล้วไม่น่าจะขัดลูกตา  คิคิ  อ่านให้สนุกนะคะ
จบตอนที่ 6 แล้ว  อย่าลืมรอตอนต่อไปนะคะ


ตอนที่ 6  มากกว่าเพื่อนได้มั้ยวะ  (PART 2)

.
ผมนอนมองได้ตัวป่วนของผมหลับตาพริ้ม อยู่ในวงแขนของตัวเอง

ใบหน้าที่น่ารักของมันยู่เล็กน้อย  คงเพราะรู้สึกได้ถึงแรงกอดแน่น ๆ ของผม

ขนตางอนยาวเป็นแพรับกับใบหน้าได้รูป ผิวขาวสะอาดตา

และยังริมฝีปากอวบอิ่มที่แดงระเรื่อดูน่าจูบชะมัด

จนผมเผลอกลืนน้ำลายเข้าไปเอื๊อกใหญ่

ก่อนจะอดทนไม่ไหวกดจูบเบา ๆ ไปยังริมฝีปากอิ่ม

“อืมมมมมม” ไอ้ตัวป่วนส่งเสียงเบาๆ อย่างรำคาญ

ตั้งแต่เมื่อไหร่น๊า  ที่มันน่ารักได้ขนาดนี้  ทำไมถึงได้ทั้งหวงแหน

ทั้งอยากกอด อยากสัมผัส กลัวว่าจะมีใครมาเข้าใกล้

แล้วผมจะทนได้ไหมถ้าจะต้องเลิกสัมผัสมัน  ถ้าเกิดมันไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเรา

แรงปรารถนาทำให้ผมกดจูบลงไปอีกครั้งแทรกลิ้นร้อนควานหาลิ้นหวานของอีกฝ่าย

ไอ้ตัวป่วนค่อย ๆ ลืมตาเบลอ ๆ ขึ้นมา เหมือนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่

สองตากระพริบช้า ๆ อยู่สองสามครั้งเพื่อไล่ความง่วง

หลังจากสมองมันทำงาน มันก็เด้งตัวหนีออกจากอกผมทันที

“เห้ย” ไอ้นัยร้องขึ้นอย่างตกใจ  มองผมตอบแบบงง ๆ ก่อนจะเอ่ยถาม

“มึงตื่นนานแล้วเหรอ” มันว่า  สายตาเฉไปทางอื่นไม่ยอมสบตาผม

ผิวหน้าแดงระเรื่อ  บ่งบอกความอายอย่างชัดเจน

“นานแล้ว  ก็นอนมองมึงอยู่นี่แหล่ะ”   ผมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

ส่งสายตาหวานเชื่อมไปยังคนตรงหน้าทั้งที่มันไม่ยอมหันมามอง

“เอ่อ.เมื่อคืน...มึงกับกู....” ไอ้นัยเกริ่นขึ้น  อยู่ ๆ เสียงของมันกลับ

เงียบหายไปในลำคอเสียเฉย ๆ ราวกับพูดไม่ออก

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อคืนมันไม่รู้ว่าเป็นผม  คงอ้างไม่ได้ว่ามันเมาเหมือน ๆ

ครั้งที่แล้ว  เสียงครางที่เรียกชื่อผมเป็นระยะ เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีอยู่แล้ว

(หรือว่ามึงจะเถียงหล่ะ  ....ไอ้นัย)

“กุกับมึง  ...มีอะไรกัน”  ผมพูดตรง ๆ  ไอ้นัยหันขวับมองมาที่ผมที่จ้องมันอยู่ตาเป็นมัน

ก่อนจะหันกลับไปอย่างรวดเร็ว  นัยตาที่เบิกกว้างของมัน ทำผมอมยิ้มนิด ๆ  ที่มุมปาก

(ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย...มึงจะตกใจทำไมเนี่ย  หึหึ)

มันขยับตัวเล็กน้อยเหมือนพยายามสำรวจร่างกายคร่าว ๆ แบบไม่ให้ผมรู้ตัว

ก่อนจะเอ่ยเรื่องที่มันคงสงสัยอยู่

“แต่กุไม่เจ็บ...เอ่อ ตรงนั้น”  มันพูด ก้มหน้างุดหลบสายตาผม

(หรือมันอยากปฏิเสธ..ความสัมพันธ์ของผมกับมันนะ ผมเริ่มไม่แน่ใจ).

“จะเจ็บได้ไง  กุไม่ได้เอา..ใส่. อุ๊บ...” ไอ้ตัวป่วนเอื้อมมือมาปิดปากผมอย่างรวดเร็ว

มันด่าผมชุดใหญ่

“หยุดพูดเลย  อายเป็นมั่งมั้ยห่านี่  พอเลยนะ...เดี๊ยะ ๆ"  แก้มแดงระเรื่อหันมาทางผม

ชี้นิ้วมาจิ้มหน้าผากผมแรง ๆ จนหน้าหงาย  พร้อมส่งสายตาคาดโทษมาให้

(หึหึ  แค่นี้มึงคิดว่ากุจะกลัวเหรอ.นัย  หึหึ  เดี๋ยวกุทบต้นทบดอกซะนี่)

“หึหึ  ก็กุพูดเรื่องจริงนี่  อายทำไมวะ”  ผมว่าขำ ๆ ส่งสายตาเจ้าชู้ส่ง

ไปให้ไอ้นัยต่อ  ก่อนจะดึงไอ้ตัวป่วนมากอดแน่น ๆ  ให้แผ่นหลัง

ของมันแนบมาที่หน้าอกผม  ไอ้นัยทำหน้าเหวอดิ้นขัดขืน

แต่ผมรัดมันแน่นจนคนตัวบางขยับหนีไม่ไหว

“หรือมึงไม่ชอบ”  ผมกระซิบเบา ๆ ที่ใบหู กดจมูกสูดดมที่ซอกคอหอม

ก่อนจะใช้ริมฝีปากดูดกลืนซอกคอขาว ๆ อีกครั้ง ให้เป็นรอยแดงช้ำ

อย่างอดใจไม่ไหว   (มึงน่ารักว่ะนัย)

ไอ้นัยพยายามเบี่ยงตัวหนีแต่ไม่อาจรอดพ้นสัมผัสของผม

มือแกร่งมุดเข้าใต้เสื้อ ลูบไล้ผิวเนียนอย่างโหยหา

“อย่าเอก...อื๊ออออออ”  มันหันหน้ามาห้ามผมอย่างตระหนก

ผมกดจูบดูดดื่ม ของตัวเองทาบทับริมฝีปากอวบอิ่มของอีกฝ่าย

แทรกลิ้นซอกซอนปากหวานๆ ของอีกฝ่าย รุกเร้าทั้งมือและปาก

จนไอ้ตัวป่วนอ่อนปวกเปียก ครางเบา ๆ อยู่ในอ้อมแขนผม

ใบหน้าแดงกล่ำ นั่งหอบหายใจรวยริน ทิ้งตัวพิงผมเต็มที่

“นัย.......”  ผมเอ่ยขึ้น  (เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะที่เป็นต่อ หึหึ เสร็จกุ)

มันแค่เฉตามองมาที่ผม  ทั้งที่ยังหอบกระเส่าอยู่อย่างนั้น

ผมวางหน้าพาดลงที่ไหล่ไอ้ตัวป่วน ที่ตอนนี้ปวกเปียกจนแทบไร้แรง

“กุ...เป็นมากกว่าเพื่อนได้มั้ยวะ”  ผมแอบมองดู ปฏิกิริยาที่ยังเรียบเฉยของไอ้ป่วน

หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  รู้สึกลุ้นระทึก จนแทบอยากหยุดหายใจ

“มึงจะรังเกียจมั้ยถ้าจะคบกับกุ  กุ...กุพึ่งรู้ว่าต้องการมึงมากแค่ไหน

หวงมึงขนาดไหน  แทบไม่อยากให้ใครเห็นหรือสัมผัสมึง

กุอยากทำให้มึงมองมาที่กุคนเดียว ถ้ามึงจะถามหาเหตุผล

กุก็คงบอกมึงไม่ได้  ตั้งแต่เมื่อไหร่  หรือว่านานเท่าไหร่

มันคงค่อย ๆ  สะสมมานาน รวม ๆ กันจนเป็นวันนี้ 

แต่เรื่องคืนนั้นมันก็ทำให้หัวใจกุ   ปิดบังมันไม่ไหวแล้ว   

นัย......................  กุต้องการมึง คบกับกุนะ”  ผมเอ่ยราวกับร้องขอมัน

หันไปมองคนในอ้อมกอด หัวใจเต้นรัวแทบจะทะลุออกมานอกอก

มันคงรู้แล้ว  หัวใจผมที่เต้นแรงงง...แรงจนส่งแรงกระแทกไปยังหลังของมัน

มันที่ตอนนี้ใบหน้าร้อนผ่าว จนส่งความร้อนมาถึงผมที่ยื่นหน้าไปคลอเคลียใกล้ๆ

สายตาเดี๋ยวหลบ เดี๋ยวลอบมองผมอยู่ตลอดเวลา

(หึหึ  อายสินะ ไอ้ป่วน  หรือมึงแค่สับสนวะ  หรือจริง ๆ แค่โมโหกันแน่ 

พูดซะทีสิ กุอึดอัดจะแย่อยู่แล้ว  ..  พูดทีนัย..มึงช่วยพูดที   กุ...กุขอร้อง)

“กุ...เอ่อ...........”    ในที่สุดไอ้นัยก็เปิดปาก

“กุ........กุไม่รู้  กุก็ไม่เข้าใจเอก  มึงชอบกุจริง ๆ เหรอ กุว่าเราอาจจะแค่เมา

 ที่ผ่านมาตอนที่เรามีอะไรกัน มันก็แค่ตอนมึงกะกูเมาเท่านั้น

มึงจะแน่ใจได้ยังไง  ว่าเรา  ... ..  ว่ามึงรักกุ  มึงอาจจะแค่อยากมีเซ็กกะกุ

มึงอาจจะมองว่ามันแปลกใหม่  แล้วมึงทำให้มึงตื่นเต้น

มันอาจจะไม่ใช่ความรักนะเอก  มึงกะกูก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน

สันดานผู้ชายเป็นยังไงมึงกะกุก็รู้กันดี  พอเวลาผ่านไปมึงก็อาจ

อยากจะทิ้งกุ  อยากจะไปจากกุก็ได้  มึงเข้าใจมั้ย มึงเข้าใจกุมั้ยเอก” 

มันพูดเสียงสั่นน้ำตาร้อน ๆ ค่อย ๆไหลอาบแก้มบาง มันเบือนหน้าหนีไปจากผม

ก้มหน้างุดปิดซ่อนความอ่อนแอที่กำลังค่อย ๆ เปิดเผย

ผมกัดริมฝีปากตัวเองแน่น กระชับกอดคนตรงหน้าแน่นๆ

ราวกับว่ากลัวมันจะจางหาย  กดจูบเบา ๆ ที่แก้มไอ้ตัวป่วนเพื่อปลอบใจ

 รู้สึกโกรธตัวเองที่พูดอะไรง่าย ๆ ไม่ได้คิดถึงจิตใจมัน 

มันเป็นคนอ่อนไหว ยิ่งเรื่องเพื่อนยิ่งอ่อนไหว

ผมที่เป็นเพื่อนที่มันสนิทที่สุด  กำลังพยายามก้าวข้ามความเป็นเพื่อน

ของมัน  มันคงกลัว ว่าถ้าเราข้ามความเป็นเพื่อนไปแล้ว 

ตอนที่เราเลิกกัน  ตอนที่มันเบื่อผม  หรือผมเบื่อมัน 

“เราคงจะกลับไปยืนในสถานะเดิมอีกไม่ได้แล้ว”

(มึงกลัวเรื่องนี้ใช่ไหมนัย  กลัวว่าในที่สุดเราจะต้องเลิกคบกัน)

“นัย.......... กุเข้าใจ  เข้าใจทุกอย่าง  ฟังกุนะ ความรู้สึกกุ

ไม่ใช่แค่ชั่วคราวประเดี๋ยวประด๋าว  แต่มันมีมานานแค่กุไม่แน่ใจ

มึงคบกุมาเป็นสิบ ๆ ปี ผ่านผู้หญิงมามากมายพอ ๆ กับมึง

เคยมีคนไหนที่กุขอคบมั้ย   แค่เซ็กแต่มันก็ไม่ได้ทำให้กุรักมึงเข้าใจมั้ย

กุเคยถามตัวเองว่าทำไมกุต้องยอมมึง  ทั้ง ๆ ทีกุไม่เคยยอมใคร 

ทำไมกุต้องตามใจมึงกุเองก็ตอบไม่ได้ ทำไมต้องสนใจเวลามึงเสียใจ 

ทำไมก็ต้องดีใจเวลาที่มึงมีความสุข เวลากุโกรธมึงกุอยากจะหนีมึง

แม่งไปให้ไกล ๆ มึงรู้มั้ย  กุไม่เคยทำได้สักที ต้องกลับมาหามึง

กุรู้แค่ว่าอยากอยู่ใกล้ ๆ มึงไม่ว่าจะยังไง  ไม่ว่าตอนไหน อยากทำให้มึงยิ้ม

กุชอบรอยยิ้มที่สดใสของมึง ชอบที่มึงเอาแต่ใจ  อยากคอยปกป้องถ้ามึงจะต้องเสียใจ

เซ็กอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกุ  แต่คนที่กุมีเซ็กแล้วกุก็รักมีแค่มึงนะนัย

มึงพอจะยอมรับเหตุผลพวกนี้ได้ไหม  ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง กุคงตอบมึงไม่ได้

กุคงบอกได้แค่ว่า  อย่างน้อยกุกับมึงก็จะยังเป็นเพื่อนกันตลอดไปแน่นอน”

ผมตอบ มองไปยังตาคู่สวยที่กำลังจ้องมองมาที่ผมอย่างตั้งใจ  ผมเห็นความเชื่อมั่น

และศรัทธา ของมัน

“เอก ...เอก ..กุระ ..อืมมมมมม”    ผมกดจูบปิดปากไอ้ตัวป่วนที่ทำหัวใจผมปั่นป่วน

อยากบอกรักมันก่อน  หึหึ

“กุรักมึงนะไอ้ตัวป่วน”  ผมกระซิบเสียงแผ่ว จับไอ้ตัวดีหันหน้ามาหาผม

ส่งยิ้มแสนหวานไปให้มัน ดึงมันมากอดอย่างทนุถนอมแนบอกผม

มันวางคางพลาดไว้บนไหล่ผม ใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“กุก็รักมึงเอก  ...แต่เราเป็นเพื่อนกันอย่างนี้ต่อไปได้ไหม” มันว่า

หัวใจผมชาวาบ ทั้งที่คิดว่าทุกอย่างกำลังจะลงเอยด้วยดี มันเองก็รักผม

แต่มันก็ให้ผมเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น ผมดันไอ้ป่วนออกจากตัวผม

เพื่อที่จะได้สบตามันว่ามันล้อเล่นหรือเปล่า  แววตาที่ส่งยิ้มมาที่ผม

อย่างสดใสไม่มีทีท่าว่าพูดเล่น  แววตาที่ใสซื่อและจริงใจของมันบอกผม

ผมหน้าเจื่อนลงทันที รู้สึกได้โดยไม่ต้องส่องกระจก  มันพูดจริง...

เสียงที่ยังดังก้องอยู่ในหัว  คงต้องยอมรับความจริง  ยอมรับที่มันตัดสินใจ

ผมหลุบตาลงต่ำยังไม่สามารถตอบอะไร

( แค่ตอนนี้กุขอหลบตามึงก่อนได้มั้ยนัย) 

  ทนไม่ไหวจริง ....เพราะผมมั่นใจมากว่ามันจะไม่ปฏิเสธผม แต่ไม่ใช่   

(อย่าพึ่งมองกุนะนัย  .....เดี๋ยวกุทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา กุไม่อยากให้มึงเห็น

ถ้ามึงรู้ว่ากุเสียใจ  มึงจะรู้สึกผิดสินะ ) ผมเงยหน้ามองคนตาแป๋วที่จ้องมาที่ผม

อย่างรอคำตอบ  ผมยิ้มฝืน ๆ ส่งไปให้ (ถ้ามึงต้องการยังงั้น ...ก็ย่อมได้อยู่แล้วนัย)

“อืม...กุจะเป็นเพื่อนกับมึง”  ผมตอบไปในที่สุดดึงคนตรงหน้ามากอด  อย่างหวงแหน

(คงได้แค่นี้สินะ  ความรักครั้งแรก.........ของกุ)  ดวงตาร้อนผ่าวของผมปล่อยให้น้ำตา

ไหลคลอ เพื่อช่วยปลดปล่อยความเจ็บปวด แต่ต้องกลั้นไม่ให้มันไหล

เพราะรู้ว่าถ้าผมร้องไห้ คนในอ้อมกอดของผมก็คงเจ็บปวดไม่แพ้กัน

“เอก..ขอบใจนะ  ที่เข้าใจกุ”  คนในอ้อมกอดยังส่งเสียงสดใสส่งผ่านมาให้ผม

ทั้งที่ผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังหัวใจสลาย  แทบสิ้นแรง ผมได้แต่เงียบ

“เอก..” ไอ้ตัวป่วนว่า

“...........”

“เอ่อ...มึงเข้าใจคำว่าเป็นเพื่อนของกุมั้ยอ่ะ”  มันว่า 

“ทำไม....กุต้องปล่อยมือจากมึงแล้วสินะ”  ผมคลายอ้อมกอด ทำได้แค่ฝืนยิ้ม

ส่งไปให้ไอ้ป่วนตรงหน้า  ไอ้ตัวป่วนส่งสายตางง ๆ มาที่ผม มองซ้ายทีขวาที

“มึงจะร้องไห้เหรอเอก  ทำไมอ่ะ”    หน้าตามันที่สงสัยอย่างมากมาย ทำให้ผมไม่เข้าใจเช่นกัน

“หึหึ  มึงปฏิเสธกุขนาดนี้  ...จะให้กุหัวเราะไหวได้ไงนัย” ผมตอบน้ำเสียงแห้งผาก

ไม่ได้เป็นการต่อว่าแค่อธิบายเหตุผล น้ำเสียงที่ติดจะเศร้าอย่างช่วยไม่ได้

“กุว่า...มึงไม่เข้าใจความเป็นเพื่อนของกุนะเอก”  มันยังยืนยัน คำพูดที่ทำให้ผมเจ็บปวด

“............”  ผมมองตอบอย่างไม่เข้าใจ  ไอ้นัยถอนหายใจยาวๆๆๆๆๆ

“กุหมายถึงให้มึงเป็นเพื่อนแบบ...แบบ..  เอ่อ  แบบเมื่อคืนไง

คือ ...คือเราก็เป็นเพื่อนกันไป และก็ทำ.................ทำอะไรก้อได้” มันพูดเขิน ๆ

ใบหน้าขาว ๆ แดงระเรื่อขึ้นอีกครั้ง    ผมยิ้มแก้มปริพึ่งเข้าใจความหมาย

ดึงไอ้ตัวป่วนมากอดสุดแรง  จนมันดิ้นขลุกขลิกในอ้อมแขนผม

“ห่าเอ้ย.........ทำกุซะเศร้าเลยมึง  ฮ่าๆๆๆๆ”  หัวใจที่พองโตของผมมีความสุขมากมาย

“ฮ่า ๆๆ  มึงโง่เองนะเอก”  มันโบกหัวผมแรง ๆ ไปทีนึง ผมดันตัวมันออก

“ที่มึงบอกว่าเป็นเพื่อนแบบเมื่อวานได้จริงใช่มั้ย”  ผมมองไปที่มันด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

แพรวพราว

“เอ่อ....ใช่”  มันตอบออกลังเล หลังเจอสายตา วิบวับของผม

“งั้นกุขอใช้สิทธิ์เลยแล้วกัน  หึหึ” ผมว่า จับไอ้ตัวป่วนที่ป่วนผม

ได้จนวินาทีสุดท้ายจริง ๆ กดลงที่เตียงนอน

“เห้ย....เดี๋ยว ๆ อืมมมมมมมมมมมมมม”  ผมกดจูบแสนเร่าร้อนไปที่ปากอิ่ม

เลิกเสื้อไอ้ตัวป่วน ก่อนจะลากริมฝีปากร้อน ๆ  ดูดกลืน หน้าอกสวย

“อ๋า ........ เอก อ่ะ......” ไอ้ตัวดีครางเสียงหวาน ผมถอดเสื้อมันพันธนาการ

มือทั้งสองข้างของไอ้นัยไว้  เพื่อไม่ให้ขัดขวาง  หยุดเพื่อหยุดถอดเสื้อผ้าตัวเองทิ้ง

ก่อนจะไล้ลิ้นเสียวลากตามตัวไอ้ป่วน จนมันต้องแอ่นตัวรับ

“อืมมมมมม เอก...”  สายตาไอ้ป่วนหวานเยิ้มด้วยแรงอารมณ์  ผมลากปากหนา ๆ ของผม

ดูดกลืน ทำร่องรอยทั่วตัวไอ้นัย ก่อนจะสอดมือผ่านกางเกงในตัวจิ๋วเพื่อสัมผัสนัยน้อย

ผมแกะกางเกงที่เกะกะของเราทั้งสองทิ้ง ไล้มือลูบขึ้นลงนัยน้อยที่ตื่นเต็มตัว เป็นจังหวะ

ไอ้นัยครางหวาน เด้งตัวรับสัมผัส  ขณะเดียวกันก็ค่อยกระแทรกไอ้ชายน้อยของผม

ไปยังช่องทางหวานเพื่อทำความคุ้นเคย  ผมวนน้องชายรอบช่องหวานอยู่นาน

ไอ้นัยจะหยิบเจลเย็นที่หัวเตียงส่งให้ผม ผมไล้มันรอบช่องหวาน และไอ้ชายน้อยของผม

กดหัวน้องชายตัวเองให้มุดช่องหวาน มือที่ลูบไล้ไอ้นัยน้อยไม่ขาดทำมันส่งเสียงครางไม่เป็น
ภาษา  ถึงจะหยุดไปชั่วครู่เพราะความเจ็บที่ผมมุดเข้า ผมค่อย ๆ ขยับ ไอ้ชายน้อยของผม

จนไอ้นัยคุ้นชิน

“อ่ะ...เอก ระ..เร็วอีก”  เมื่อเสียงสวรรค์สั่ง   (หึหึ  ได้เวลาเช็คบิลแล้วครับ)

ผมกระแทกไม่ยั้ง ทั้งเร็วทั้งรัว ไอ้นัยก็เด้งรับสัมผัสอย่างชำนาญ

แต่ก็แทบหายใจไม่ทัน  เสียงหอบหายใจของเราทั้งคู่ราวกับพึ่งผ่านศึกกันมา

“อ๊ะ....อ่ะ........อ่าส์ ..ซีสสสสสสสสสสสส”  ผมกระแทกแรงๆ สองสามครั้งสุดท้าย

ร่างกายเกร็งกระตุก   ไอ้นัยพ่นน้ำรักก่อน และผมตามมาติด ๆ

ผมค่อย ๆ ถอนไอ้ชายน้อยออกมา  ก่อนจะครอบปากไปที่ไอ้นัยน้อย

ดูดเลีย  ชิมน้ำรักของอีกฝ่ายที่ตกค้าง

“อุ๊ยยยย...เอก   อืมมม”  มันครางเสียวเผลอจิกหัวผมแน่น 

ก่อนจะละปาก ทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ ไอ้ตัวป่วน นอนกอดมันหลับตาพริ้ม

อย่างหมดแรง  .............

“รักนะครับ   เพื่อนที่รัก” ผมกระซิบ

“หึหึ”   ไอ้นัยยิ้มหวานทั้งที่หลับตาปี๋ 

แล้วเราสองคนก็ค่อย ๆ ผลอยหลับไป เพราะความอ่อนเพลีย
 
-----------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 5 มากกว่าเพื่อน (Part1) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 20-01-2012 12:16:35
น่ารักดีแฮ่ะ  ชอบๆๆๆ รอตอนต่อไปนะคร้าบบ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 20-01-2012 12:34:56
เพื่อนที่รัก
ชอบอ่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนเน้อออ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 20-01-2012 13:02:57
ชอบ ชอบ ชอบ  รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 20-01-2012 14:16:55
 :haun4: :haun4: เป็นเพื่อนกันยังไำงเนี่ย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-01-2012 15:02:28
เกือบจะน้ำตาไหลตาม........ดีนะที่แก้ทัน ไม่ัง้นละก้อมีโฮ 555++

ยังไงก้อมาต่ออีกนะค๊าฟฟ

รอรอน้า++
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: eern ที่ 20-01-2012 15:57:59
นี้เค้าไม่รู้เรื่องปิงปองกับเป้เหรอ :z1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-01-2012 16:47:26
ตอนนั้น  เป้ กับ ปิงปองยังไม่ได้เป็นแฟนกันค่ะ  อันนี้ย้อนหลัง ไปเล่าเรื่องนัยกับเอก
อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 20-01-2012 20:17:47
รอครับผม!!!
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-01-2012 20:40:30
รักกันแบบเพื่อนเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 20-01-2012 21:36:47
ในที่สุด นัยกับเอก ก็รักกัน  :-[
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 20-01-2012 22:52:42
ต่อไปยาวๆค่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 21-01-2012 00:21:55
^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 21-01-2012 01:07:56
อยากมีเพื่อนแบบนี้มั่งจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 21-01-2012 01:46:38
เพื่อนก็เพื่อน หึหึ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 21-01-2012 08:57:07
ผมนอนมองได้ตัวป่วน ตรงคำว่าได้คือไอ้หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: MapleZelpaM_68 ที่ 21-01-2012 23:07:24
แสดงว่านัยกับเอก ฟิชเจอริ่งกันก่อน เป้กับปิงปองเหรอเนี่ย .... แหม ไม่บอกไม่กล่าวเลยนะ อิอิ ล้อเล่นจ้า

น่ารักทั้ง2คู่เลย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 24-01-2012 00:57:05
ขอบคุณ คุณ Goosongta ด้วยนะคะ เข้าใจถูกแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 24-01-2012 01:14:42
อื้อหือ เป็นเพื่อนกันได้เนียนมากๆ เลยนะ แสดงว่าทั้งสองคู่นี้เนียนพอๆ กันเลยสิ จะดูซิว่าความลับของใครจะถูกจับได้ก่อนกัน  :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-01-2012 10:45:16
เพื่อนรักจิง :z2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 6 มากกว่าเพื่อน (Part2 จบ) P.4 20/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-01-2012 09:17:55
รอหน่อยนะคะ ภายในวันนี้จะอัพตอนใหม่ ช่วงแรก ๆ อาจจะคล้าย ตอนเก่านะคะ
แต่กรุณาอ่านต่อ  ตอนนี้ส่งกอง เซ็นเซอร์เรท
 (จริง รบกวนน้องเค้าให้เช็คคำผิดให้อ่ะค่ะ)   ภายในวันนี้แน่นอนค่ะ
( ^  ^ )      ^____________^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-01-2012 10:15:40

ตอนที่ 7  เพื่อนรัก
 
 
ผมนอนกอดไอ้ตัวป่วนที่นอนหลับอย่างเพลีย ๆ อยู่ในอ้อมแขน รู้สึกดีใจเหลือเกินที่มันเองก็เปิดใจรับผม
 
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่แอบมีใจให้มันอย่างนี้  มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรกันแล้ว
 
บอกได้เลยถ้าคำตอบของมันคือ...ไม่ ผมคงแทบทนไม่ไหว   
 
ในตอนนั้นแค่เข้าใจผิดก้อเสียใจแทบแย่...ถ้าทำได้ก็แทบอยากจะหายไปซะ
 
แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเพื่อนอยู่ดี....แค่นี้ก็ดีแล้ว   การได้อยู่ใกล้   
 
ได้สัมผัสคนที่เรารักมันดีแค่ไหน  แค่ได้มองเห็นกันและกัน ได้อยู่ด้วยกัน
 
แค่มันยอมรับผมก็ดีเกินพอ ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมาชอบผู้ชายด้วยกัน 
 
โดยเฉพาะกับมัน  เราเป็นเพื่อนกันมานาน
 
จนผมมองข้ามความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ของตัวเอง  บางครั้งก้อเคยคิดสงสัย
 
ว่าเวลาไม่มีมันอยู่ทำไมถึงหงอยเหงาทำไมถึงได้คอยมองหามันอยู่อย่างนั้น 
 
ทุกครั้งที่มันเอาแต่ใจ ผมก็ยอมมันทุกอย่าง  ทั้ง ๆ  ที่กับไอ้เป้  ไอ้ปิงปอง
 
ผมไม่เคยจะยอมพวกมันสักครั้ง   แต่จะว่าไปพวกมันเองก็ไม่เคยจะทำอะไร
 
เอาแต่ใจอย่างไอ้ตัวป่วนเช่นกัน    และทุก ๆ ครั้งคำตอบที่ผมได้รับก็คือ 
 
เพราะความเคยชิน เพราะผมกับมันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก 
 
ถึงต้องคอยยอมและเอาใจมันอยู่อย่างนี้
 
และเพราะ............เพราะอะไรก็ช่างมันเถอะ  รู้เพียงแต่ว่าผมพอใจและ
 
เต็มใจที่จะยอมมันก็น่าจะพอแล้ว  คำถามที่มันวกวนซ้ำไปซ้ำมา   แต่ค้นหาคำตอบไม่เคยเจอ
 
สำหรับวันนี้ทุกอย่างเคลียร์แล้ว ที่แท้ก็แค่...”รัก”  ..      .รักเท่านั้นเอง   
 
(หึหึ  โง่อยู่ได้ตั้งนาน กว่าจะรู้ใจตัวเองก็เกือบสายไปแล้ว
 
อยากขอบคุณเหตุการณ์คืนนั้น... คืนที่เหมือนทุกอย่างผิดพลาด
 
แต่กลับกลายเป็นว่า....มันกลายเป็นกุญแจเปิดหัวใจตัวเอง)
 
 
 
 
.
.
ผมอมยิ้มเล็ก ๆ มองไอ้ป่วนขยับตัวยุกยิกในอ้อมกอด 
 
ปากสีแดงระเรื่อค่อย ๆ ย่นขึ้นมาเหมือนตูดเป็ด
 
ทั้งที่ยังหลับตาพริ้ม แม้ว่าไอ้ป่วนจะตื่นแล้วแต่ก็ไม่ยอมลืมตาขึ้นมาสักที
 
ผมกดจูบหวาน ๆ อย่างรักใคร่ไปที่ไอ้คนที่แกล้งทำเป็นหลับ เกี่ยวลิ้นหวานมาครอบครอง
 
“อือออออออออออ”  ไอ้ป่วนส่งเสียงประท้วงลืมตามามองหน้าผมงอน ๆ
 
“มึงอ่ะ ......ตลอดอ่ะ  ฮึ”  มันว่าทำปากพองลม  (หึหึ  น่ารักชะมัด)
 
“ก็มึงน่ารักอ่ะ  ...หึหึ”    ฟอดดดดดดด  ผมก้มลงไปหอมแก้มไอ้ป่วนอีกที
 
แล้วเงยหน้ามายิ้มกวน ๆ ยักคิ้วหล่อ ๆ ใส่มันอีกทีเผื่อมันจะหลงเสน่ห์ผม
 
(บ๊ะ...ว่าเข้านั่นว่าแต่กุหล่อจริง ๆ ใช่มั้ยเนี่ย  หึหึ)
 
“ตื่นแล้วทำไมไม่ลืมตา.....หืม” ผมว่ามองไอ้ป่วนด้วยสายตาเอ็นดู
 
“ก้อกุไม่ได้อกตัญญูนิ  กุเลยไม่ลืมตาไง  ฮ่า ๆ”   มันว่า ยักคิ้วกวนๆ ตอบผม หัวเราะร่า
 
(อ๋อ...ตาของมันหมายถึงคุณตา  แต่ตาของกุหมายถึงลูกกะตาเว้ย!!! 
 
อย่ามากวนกุบ่อยนะนัย  เดี๋ยวกุจัดเต็ม…จะหาว่าไม่เตือน  กร๊ากกกกกกกก  อยากทำ)
 
“เออ!!.. ว่าแต่ไอ้คนกตัญญูนี่  หิวข้าวรึยังคร๊าบบบบบ”ผมว่า พลางส่ายหน้าขำ ๆ
 
กับมุขโบราณของมัน  ที่ตอนนี้ไอ้ตัวดียังขำจนตัวงอภาคภูมิใจอย่างถึงที่สุด   
 
“หิวดิ....หิวมากกกกกกก    ก็กุโดนไอ้คนต่างด้าวชาวอิงลิชแดกจนหมดแรงข้าวต้ม
 
ขนาดนี้ไม่หิวยังไงไหววะ  ชิส์”   มันว่า หันมามองผมค้อน ๆ ก่อนจะสะบัดหน้างอน ๆ หนีแต่พองาม
 
(ห่า ...มึงไม่ใช่ผู้หญิงนะโว้ย    เอ่อ...ว่าแต่ทำไมน่ารักว่ะ  หึหึ)
 
“ป่ะ ...อาบน้ำกัน”ผมว่า ลุกขึ้นพยายามดึงอีกฝ่ายให้ลุกตาม
 
“อือออออ  ไม่เอามึงอาบก่อนเดี๋ยวกุค่อยอาบต่อ” ไอ้ป่วนต่อรอง
 
“ไม่เอา...อาบด้วยกันนะ...นะ” ผมพูดน้ำเสียงออดอ้อนสุด ๆ
 
“มะเหงกนิ!!  กุอาบกับมึง...อาบไม่เสร็จกันพอดี” มันว่าโวยวาย ทำท่าหงุดหงิดนิดหน่อย
 
“เสร็จดิ...ไมไม่เสร็จอ่ะ  ยังไงกุทำมึงเสร็จชัวร์   ไม่เชื่อลองดิ ”ผมว่า ทำเสียงแหบพร่าแทบจะกระซิบ
 
พร้อมส่งสายตาแพรวพราวส่งไปที่มัน มองตั้งแต่หัวจรดเท้ากัดปากตัวเองเล็ก ๆ แค่พอเซ็กซี่ 
 
อยากขย้ำไอ้คนข้างหน้าแทบขาดใจ
 
“แหวะ...ไอ้โรคจิต  มึงไปเลย.  ห่านี่...หื่นตลอด  กุไม่ได้กินข้าวกันพอดี” มันว่า
 
ทำหน้าแดงซ่าน  รีบดึงผ้าห่มมาปิดบังหน้าอกขาวๆ ของตัวเอง ที่เต็มไปด้วยรอยคิสมาร์ค
 
สีม่วงแดง เป็นหย่อม ๆ ฝีมือผม  ก่อนจะเขวี้ยงหมอนใบโตใส่ผม ไล่ให้ไปอาบน้ำซะที
 
ผมค่อย ๆ ถอดบอกเซอร์ ทิ้งลงตระกล้าผ้า (ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเหลือแค่บอกเซอร์อย่างเดียว
 
 และมันเองก็คงไม่ต่างจากผม)  ไอ้ป่วนนิ่งเงียบเผลอไล้สายตามองตัวผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
 
สายตาที่วูบไหวของมันมาหยุดลงตรงที่เอกน้อยของผม  ที่ตอนนี้กำลังอวบได้ที่กึ่งหลับกึ่งตื่น
 
มันถึงกับดวงตาเบิกกว้าง ปากอ้าค้างไว้ อยู่อย่างนั้น ตะลึงกับสิ่งที่เห็น 
 
(ที่จริงได้สัมผัสแล้วเหอะ  ดังคำโบราณที่ว่า  สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หึหึ ค้างเลยสิมึง)
 
“อะแฮ้ม!! …”  ผมยืนนิ่งให้ไอ้ตัวป่วนสำรวจสักพักเห็นว่ามันค้างนานไปเลยกระแอม
 
ให้เจ้าตัวตื่นจากภวังค์  มันสะดุ้งนิด ๆ เสตาเลี่ยงไปทางอื่นเหรอหรา
 
ใบหน้าที่แดงกล่ำหงิกเป็นมะเหงก ก่อนจะพึมพำเบา ๆ (แต่กุได้ยิน)
 
“ห่า...มิน่าทำไมกุเจ็บ  สัด”  มันว่าเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างอาฆาตแค้น
 
ผมได้แต่อมยิ้มขำ ๆ มองดูอากัปกิริยาของมัน
 
“รีบไปอาบน้ำเลยมึง  กุหิวข้าว” ไอ้ป่วนโวยวายต่อ 
 
ดึงผ้าห่มคลุมหัวซ่อนตัวจากสายตาผม  (หึหึ  อายละสิมึง)
 
ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ยิ้มแก้มปริหยิบผ้าเช็ดตัวจะเข้าห้องน้ำ
 
“คร๊าบ...ว่าแต่มึงจะไม่เปลี่ยนใจแน่เหรอนัย” ผมหันไปยั่วไอ้ตัวป่วนอีกที
 
อยากแกล้งมันขึ้นมาตะหงิด ๆ  หึหึ  มันดึงผ้าห่มลงมาเล็กน้อยแค่พอโผล่พ้นตา
 
ส่งสายตาเย็นชามาที่ผม  ผมยักคิ้วตอบกวน ๆ
 
“ตุ๊บ........โอ๊ย.”  มาแล้วครับ หมอนทั้งใบให้เธอคนเดียว มันหยิบหมอนอีกใบขว้างมาเต็ม ๆ หน้าผม
 
(โอยได้ข่าวว่าเมื่อก่อนมึงจะปาแมว ยังโดนไก่ตาย ตอนนี้เสือกจะมาปาแม่นซะงั้น เวรแท้ ๆ กุ)
 
แค่หมอนปาอ่ะไม่เจ็บหรอกครับ ที่เจ็บเพราะหัวผมไปกระแทกโดนขอบตู้เสื้อผ้า
 
ผมลูบหัวป้อย ๆ หันไปยิ้มเจื่อน ๆให้มันอย่างยอมแพ้  แม้มันจะยังส่งสายตาเย็นชามาที่ผม
 
“ไปอาบแล้วครับ ...แฮ่ ๆ” ผมเลยตัดสินใจชิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะโดนฝ่ามือหรือฝ่าเท้ามัน
 
ไม่ช้าไม่นานผมก็อาบน้ำเสร็จ ...มองเห็นไอ้ตัวป่วนหลับปุ๋ยอย่างมีความสุขอยู่บนเตียง
 
“นัย...กุอาบเสร็จแล้ว ตื่นเร็ว” ผมบอก กระชากผ้าห่มแรง ๆ จนลงมากองที่พื้น
 
“อืม...” มันว่า  ดันตัวลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาเล็กน้อย มองไปรอบๆ อย่างงงๆ เกาหัวแกรก ๆ
 
ก่อนจะลุกเดินมาหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป 
 
ผมจัดเตียงให้เข้าที่ ก่อนจะกลับมาแต่งตัวเสริมหล่อ ตามปกติ
 
แล้วออกมารอไอ้ป่วนที่ห้องดูทีวี  สักพักไอ้ป่วนก็ออกมาจากห้องนอน
 
มันแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
 
“ไปกินไหนดีอ่ะ  กุหิวแล้ว เอาแบบใกล้ อร่อย ๆ อ่ะ ถูก ๆ ก็ดีนะกุชอบ”
 
มันร่ายยาวเสร็จสรรพ  ดีและถูก  (มึงจะเอาให้คุ้มเลยใช่มั้ยนัย)
 
“มึงอยากกินอาหารอะไรอ่ะ  จะได้พาไปให้ถูกใจ” ผมถาม
 
ไอ้ป่วนหันมาหาผม ยกคิ้วสูง นิ่งคิดแป๊บนึง  ก่อนจะบรรยายอาหารที่อยากกิน
 
“มึงว่าหน้าหล่อ ๆ อย่างกุจะอยากกินอะไรได้วะ  นอกเสียจากข้าวเหนียว
 
ส้มตำปูปลาร้า ไก่พันอ้อย ลาบ และซุปหน่อไม้”  มันยกตัวอย่าง
 
ลืมบอกไปไอ้นี่มันเป็นแฟนคลับอาหารอีสานคับ  แต่เสือกกินเผ็ดไม่ได้
 
เห็นมันเคยบอกไว้ว่า  “เผื่อกุจะหล่อเหมือน ณเดช” ที่ผมกลัวว่ามันจะกลายเป็น “ส่งเดช” หึหึ 
 
(แต่กุว่ามึงไม่ต้องหล่อมากหรอกแค่น่ารัก ๆ แบบนี้ กุก็แทบใจละลายแล้วเหอะ เหอๆ)
 
“เออ  งั้นไปเลยสบายใจไก่ย่างเอกมัย อร่อย ถูก ใกล้ ตามคอนเซ็ปที่มึงต้องการ”
 
ผมเลือกสถานที่ตามบรรยาย ลักษณะอาหารที่มันอยากจะกิน ก็เป็นที่ถูกใจไอ้ป่วน
 
“ดี ๆ”  มันยิ้มกว้าง เอามือลูบหัวผมเบา ๆ เหมือนให้รางวัลหมา หึหึ 
 
เราสองคนขับรถออกจากคอนโดไม่นานก็ถึงร้านอาหารที่ว่า  ร้านนี้เค้าแบ่งเป็น 3 โซน
 
โซนแรกเป็นห้องแอร์  โซนที่สองเป็นที่นั่งสำหรับทานไปคุยกันไป  ส่วนใครชอบไปจะฟังเพลง
 
ก็มีโซนที่จะมีนักร้องมาร้องประจำทุกวันศุกร์ตอนเย็น ๆ เท่าที่ผมเคยมา 
 
แต่ไม่รู้วันอื่นมาร้องด้วยรึเปล่า   มันเลือกโซนที่สอง เน้นกินอย่างเดียว
 
มาถึงเด็กเสิร์ฟก็มารอเตรียมพร้อมบริการเป็นอย่างดี มันดูเมนูสักพักก่อนจะสั่งอาหาร
 
“น้องครับ พี่เอา ไก่ย่างครึ่งตัว ส้มตำปูปลาร้าไม่ต้องเผ็ดมากนะครับ
 
ลาบหมู ตับหวาน แหนมซี่โครงหมู ต้มยำกุ้งยอดมะพร้าวอ่อน แล้วก็....
 
แกงเลียง ข้าว 2 ครับ  เอ้อ...มึงเอาไรป่ะ”  ไอ้ป่วนสั่งเสร็จ มังยังมีน้ำใจถามผม
 
(เออ ได้ข่าวมึงสั่งเยอะขนาดนั้นแล้วจะให้กุสั่งอะไรได้อีกมิทราบ  ^^’)
 
“ไม่อ่ะ...แค่ที่มึงสั่งก็กินไม่หมดสองคนแล้วอ่ะ”  ไม่รู้มันหิวมาจากไหนครับ หึหึ
 
“เหรอ...หึหึ  กุลืมตัว หิวมากไปหน่อยอ่ะ  เพราะมึงแหล่ะ” มันว่ายิ้ม ๆ หลังสั่งอาหารอย่างลืมตัว
 
ผ่านไปสักพักอาหารก็ค่อยทยอยมาเสิร์ฟ ผมกับไอ้ป่วนก็สวาปามอย่างเอาเป็นเอาตาย
 
เรียกว่าไม่มีใครยอมใคร เพราะตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องกันเลยสักคน
 
เลยรวบยอดมาเป็นมื้อเช้า+เที่ยงแทนครับ  จัดไปเต็มคราบ ไอ้ป่วนมันเก่งจริง ๆ
 
เลือกอาหารแต่ละอย่างแซ่บ ๆ ทั้งนั้น  (หรือว่าหิวว่ะ )  เมื่อจัดการอาหารมื้อหลักเสร็จ
 
ไอ้ป่วนก็ทำหน้าที่ของมันทันที
 
“น้อง ๆ  .... น้องครับ”มันกวักมือเรียกหยอย ๆ (คงถึงเวลาเช็คบิลแล้วสินะ) 
 
เด็กเสิร์ฟก็รีบกระวีกระวาดวิ่งมาหาทันที  มาถึงก็ยืนยิ้มแป้นแล้นมาให้
 
“ครับพี่” มันว่า พลางยืนอย่างสุภาพรอคำสั่ง
 
ส่วนผมก็ก้มลงกำลังจะล้วงหยิบกระเป๋าตังค์ที่อยู่ในเป้  .... แต่ก็ต้องชะงัก กึกก
 
“ขอเมนูหน่อยครับ” ไอ้ป่วนว่า  ผมเงยหน้ามองมันทันทีเลิกคิ้วเป็นคำถาม
 
(มึงยังไม่อิ่มอีกเหรอว่ะเนี่ย...ไม่ทราบที่haveไปเมื่อกี้เอาไปเก็บไว้ในซอกหลืบตรงไหนของกระเพาะวะ)
 
“ก็กุยังไม่ได้กินของหวานเลยอ่ะ กุอยากกินอ่ะ นะนะ  เลี้ยงกุหน่อย” มันทำหน้างอนิด ๆ
 
“เออ  ...  ลืมไป ๆ มากุสั่งด้วย มึงกินไรอ่ะ  สั่งเผื่อกุเลยนะนัย”ผมบอก  ไอ้ป่วนยิ้มหวาน
 
ที่ผมตามใจมันเรียกว่ายิ้มจนตาปิด  เห็นแล้วน่าหมั่นไส้ชะมัด
 
อยากหอมแก้มมันแรงให้แก้มช้ำเลยทีเดียว  หึหึ  ติดตรงที่ว่าที่นี่มันที่สาธารณะหรอกนะครับ
 
“เอาบัวลอยเผือกไข่หวาน เพิ่มไข่หวาน 2 ลูกได้มั้ยอ่ะ  ”มันว่า
 
“ได้ครับ”
 
“งั้นเอามา 2 ที่ครับ มึงเอาไข่สองฟองป่ะ” มันหันมาถาม ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
 
“ครับเพิ่มไข่หวาน ที่เดียวครับ” มันว่า เด็กเสิร์ฟรับคำพร้อมทวนorder 
 
จากนั้นมันก็ยื่นเมนูกลับไปให้เด็กเสิร์ฟ   ระหว่างรอเราก็คุยหยอกล้อกันไปเรื่อย ๆ
 
หนักไปทางด้านที่ผมพยายามแทะโลมมัน แหะ ๆ ก็ถ้าคุณมาเห็นมันตอนนี้
 
อดใจไหวก็แปลกแล้วครับ ยิ่งอากาศร้อนทานอาหารที่ร้อนและเผ็ด
 
ไอ้คนตรงหน้าที่ผิวขาวราวกับโอโม่  ก็ยิ่งแสดงอากาศตัวแดงปากแดง  ที่ปากไม่ใช่แค่แดงระเรื่อ
 
แต่ยังเห่อขึ้นมาเพราะความเผ็ดร้อนของอาหารอีสาน มองเผิน ๆ ก็เหมือนมันโดนจูบจนปากเจ่อ
 
ผมจ้องมองริมฝีปากอิ่ม สีระเรื่อนั่นจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอ  อยากจะกดจูบไอ้คนตรงหน้า
 
บดขยี้ริมฝีปากระเรื่อนั้นให้บวมเป่งยิ่งกว่านี้ อยากชิมแม้กระทั่งลิ้นหวานที่มันใช้เลียรอบ
 
ริมฝีปากเพื่อบรรเทาความเผ็ด โดยที่ไอ้ป่วนไม่รู้ตัว  แล้วผมก็ต้องหลุบตาลงต่ำเมื่อ
 
เด็กเสิร์ฟยกของหวานมาวางตรงหน้า  ไอ้ป่วนยิ้มแป้น (ช่างดีใจง่ายซะเหลือเกินนะ..ไอ้เด็กน้อย)
 
ผมแอบอมยิ้มกับท่าทางน่ารัก ๆ ของมัน ทั้งผมและมันจัดการขนมหวานตรงหน้า
 
ทั้งที่มันอร่อยมาก  แต่ผมกลับรู้สึกว่าไอ้ตัวป่วนของผม...อร่อยกว่าเยอะ
 
“น้อง....น้องครับ”  ไอ้นัยครับมันเรียกเด็กเสิร์ฟ อีกครั้งและครั้งนี้แน่นอนต้องเป็นการเช็คบิล
 
ผมก้มเตรียมจะหยิบกระเป๋าตังค์    แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้ง
 
“เอาบัวลอยเผือกไข่หวานพิเศษอีก 2 ครับ เอากลับบ้านนะครับ
 
เช็คบิลเลยนะครับน้อง” มันหันไปสั่ง
 
ก่อนจะหันมามองหน้าผม  ที่ตอนนี้มองมันอึ้ง ๆ คือไม่เคยเห็นมันกินเยอะขนาดนี้มาก่อน
 
(ปกติเห็นมันกินเหมือนแมวดม   ไหงวันนี้กลายเป็นสิงโตทะเลไปซะแล้วว่ะ)
 
“น๊า..นะ  กุขอสั่งแค่นี้แหล่ะ ก็มันอร่อยอ่ะมึง  เดี๋ยวกลับห้องกุแบ่งมึงด้วยก็ได้” มันว่า
 
ทำน้ำเสียงออดอ้อน ยื่นมือมาบีบมือผมอย่างเว้าวอน
 
“นะนะ  เอก..นะครับ”  มันอ้อนต่อ (ไอ้ข่าวว่ามึงสั่งน้องเค้าจนเสร็จแล้วจะขอกุทำไมวะเนี่ย)
 
“อืมได้ดิ” ผมตอบ  อมยิ้มนิด ๆ กับท่าทางออดอ้อนของมันที่ทำให้ผมต้องยอมทุกทีสิน่า
 
ไอ้นัยยิ้มปากกว้างส่งมาให้ผม  แล้วเด็กเสิร์ฟคนเดิมก็ส่งขนมหวานที่สั่งมาให้พร้อมบิล
 
ค่าอาหารทั้งหมด  ผมจ่ายตังค์ค่าอาหาร+ทิป อีกเล็กน้อยให้เด็กเสิร์ฟ กำลังเดินกลับไปที่รถ
 
“ครืดด ครืดดด “ โทรศัพท์ไอ้นัยก็ดังขึ้น มันหยิบมาดูชื่อก่อนจะกดรับ
 
“ว่าไงมึง  ไหนจะกลับมาอาทิตย์หน้าไง  ทำไมกลับเร็ว” ผมหันไปมองนิด ๆ แค่อยากรู้ว่ามันคุยกับใคร
 
“กุอยู่เอกมัย กับไอ้เอก  ...อืม  มากินข้าวกัน ...แล้วมึงอยู่ไหน” ใครวะ
 
ผมแอบฟังมันต่อแต่ทำท่าเหมือนไม่สนใจ  ในใจเต้นตึกตัก ท่าทางจะสนิทมาก
 
“ทำไมไม่ให้น้องปางสุดที่รักมึงไปรับหล่ะ หึหึ” อ้อ  ...ถึงบางอ้อแล้วครับไอ้ปิงปองชัวร์
 
“เหรอ  อืม ...ได้ ๆ เดี๋ยวพวกกุไปรับ อือ ประมาณ 30 นาที เออๆ  เจอกัน” ไอ้ป่วนวาง
 
“ไอ้ปิงปองมันกลับมาแล้วเหรอ  ทำไมเร็วอ่ะ”
 
“อ้อ พอดีทางผู้จัดเค้าขอเลื่อนการแข่งขัน แมชของมันมารวมกัน เลยเสร็จเร็ว
 
เดี๋ยวมึงขับรถไปรับมันที่สุวรรณภูมิด้วยนะ” ไอ้ป่วนออกคำสั่ง
“อ้าวแล้วน้องปางอ่ะไมไม่ไปรับมัน” ผมถามด้วยความสงสัย
 
“น้องปางไม่สบายว่ะ ไอ้เป้ดูแลอยู่ วันนี้มันเลยรีบกลับไทยเร็ว ๆ จะได้ไปหาน้องเค้า
 
มันอยากให้ปางพักผ่อนอ่ะ” ไอ้ป่วนตอบ
 
“เออ พูดถึงปางมึงว่าน้องเค้าแปลก ๆ มั้ยช่วงนี้” ผมเปิดประเด็น
 
“แปลกไงว่ะ”
 
“กุรู้สึกว่าช่วงหลัง ๆ เวลาไอ้ปิงปองไม่อยู่น้องปางจะไม่สบายทุกครั้ง แถมไอ้เป้ต้องไปดูแลด้วย
 
ที่สำคัญสายตาที่ปางมองไอ้เป้ กุรู้สึกว่ามันแปลก ๆ มันเหมือนมีอะไรมากกว่าที่เราเห็น
 
ถึงสายตาไอ้เป้จะเฉยๆ ก็เถอะ แล้วเวลาไปไหน ก็เหมือนปางอ้อนให้ไอ้เป้ไปด้วยตลอด
 
ทั้งที่เวลาไอ้ปิงปองกลับมากุไม่เห็นว่าน้องเค้าจะอยากไปไหนเลยสักที
 
กุว่ามันแปลกอ่ะ  มึงรู้สึกเหมือนกุรึเปล่า” ผมว่าไปตามที่ผมเห็น
 
“อืม......กุก็นึกว่ากุคิดมากไปเองคนเดียวซะอีก  กุว่าน้องปางแปลกไปจริงๆ
 
ความจริงวันก่อนกุเดินที่CTW จอน้องปางอยู่กับกลุ่มเพื่อนอยู่ดี ๆ
 
พอน้องเค้าเห็นไอ้เป้เดินกำลังขึ้นบันไดเลื่อนเท่านั้นหล่ะ  เห็นปางหัน
 
มาลาเพื่อนกลับทันทีเลย บอกว่ามีธุระด่วนรีบกลับ  แต่กุเห็นว่าน้องเค้า
 
วิ่งตามไอ้เป้ไป พอไปถึงก็กอดแขนไอ้เป้ทันทีอ่ะ” มันเล่า
 
พวกผมมองหน้ากันครุ่นคิดว่าควรจะบอกไอ้ปิงปองดีหรือเปล่า แล้วพวกเรา
 
ก็ไม่รู้ว่าไอ้เป้กับน้องปางมีอะไรกันจริงมั้ย  เลยตัดสินใจเงียบเพื่อสังเกตุการณ์
 
ต่อไปค้นหาความจริงก่อน  ....ว่าควรจะทำไงดี  จากนั้นพวกเราก็เงียบกันมาตลอดทาง
 
ผมขับตรงไปยังสุวรรณภูมิ วันนี้โชคดีโคตร ๆ ขับรถแค่ 25 นาทีก็ถึงรถไม่ติดเลย
 
(เยี่ยมมาก  ขอให้เป็นอย่างนี้ทุกวันนะครับพี่น้อง  วันเสาร์วันอาทิตย์กรุณาอยู่ให้ติดบ้าน)
 
ได้ข่าวว่าตอนนี้มึงก็ขับรถอยู่นอกบ้าเช่นกันนะ  ....เชี่ยเอก  หึหึ
 
ผมขับตรงไปยังลานจอดรถ จากนั้นก็เดินไปยังที่รอรับผู้โดยสารขาเข้า
 
เห็นไอ้ปิงปองนั่งรอ อย่างสบายอารมณ์ มีกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ๆ ใบหนึ่ง
 
เสียบหูฟังเพลงรออย่างสบายอารมณ์ พอผมกำลังจะเรียก มันก็หันมาทางนี้พอดี
 
(เหมือนมีเซ็นต์ว่ะปิงปอง.... หรือมึงจะเลี้ยงกุมารทองว่ะ  ผมแอบคิด)
 
ไอ้ป่วนโบกมือสะบัดไปมา เพื่อเรียกไอ้ปิงปอง ไอ้ปิงปองก็ยื่นขึ้นลากกระเป๋าตรงมาที่ผมกับไอ้นัย
 
“ไงมึง...ชนะมั้ยวะทริปนี้” ผมเอ่ยถามขณะกำลังขับรถกลับไปส่งมันที่คอนโด
 
“ได้แค่ที่สองว่ะ ... คราวนี้กุสมาธิไม่ดีอะ  กังวลเรื่องปางเกินไป” มันตอบ
 
ผมกับไอ้นับแอบสบตากันแต่ไม่พูดอะไรออกมา 
 
“แล้วแม่มึงไม่ไปด้วยเหรอวะคราวนี้  ทุกทีก็เห็นไปด้วยกันนี่นา” ไอ้นัยถามขึ้นบ้าง
 
“อืม  แม่กุไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน ๆ ว่ะ เห็นบอกว่านานๆ จะรวมตัวกันได้สักที” มันตอบ
 
“กุนอนก่อนนะง่วงว่ะ  เมื่อเช้ารีบขึ้นเครื่องน่ะ  ไม่ค่อยได้นอนเลย”
 
“เออ... นอนเถอะ เดี๋ยวถึงแล้วกุปลุก”  จากนั้นเสียงสนทนาก็หายเงียบไปเลย
 
เพราะพวกผมอยากให้มันได้พักผ่อน ท่าทางจะเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน
 
ขากลับนี่ไม่ได้โชคดีเหมือนขามา รถติดมาก 3 ชั่วโมงแล้วยังไม่ถึงคอนโดไอ้ปิงปอง
 
แต่ก็เกือบแล้วครับ  ไอ้ป่วนชิ่งหลับไปอีกราย เหลือเพียงผมที่ต่อสู้กับรถติดอยู่ลำพัง
 
แต่ก็ไม่เป็นไร  เสียงเพลงที่คลอเบา ๆ ในรถ บวกกลับไอ้ป่วนหน้าหวานที่หลับอยู่ใกล้
 
ทำให้หายเซ็งไปได้เยอะครับ ขณะที่รถติดไฟแดงสุดท้ายก่อนจะถึงคอนโดไอ้ปิงปอง
 
ผมก็ก้มแอบไปหอมแก้มไอ้ป่วนเบา ๆ ดีที่รถติดฟิล์มหนาทำให้คนข้างนอกมองไม่เห็น หึหึ
 
...
 
ไฟเขียวผมขับเลี้ยวเข้าซอยประมาณ 5 นาที รถผมก็เข้าจอดที่ใต้คอนโดไอ้ปิงปองเป็นที่เรียบร้อย
 
“นัย..นัย  ตื่น”  ผมเขย่าตัวไอ้ป่วนที่ตอนนี้ทำหน้างัวเงียสุด ๆ มันมองหน้าผม
 
เป็นคำถามว่าปลุกทำไม
 
“กุรู้สึกไม่ค่อยดีวะ  เดี๋ยวเราขึ้นไปเป็นเพื่อนไอ้ปิงปองดีกว่า” ผมกระซิบเบา ๆ
 
มันพยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย 
 
“ปิงปอง ...ปิงปอง ถึงแล้ว” ไอ้ปิงปองค่อย ๆ ลืมตาขึ้น  ยังตัวลุกขึ้น สั่นศีรษะไล่ความง่วง
 
ก่อนจะเดินลงรถมา
 
“ขอบใจนะ” มันหันมาบอกผม 
 
“เดี๋ยวกุไปด้วย  อยากเข้าห้องน้ำว่ะ” ผมว่า ใช้แผนนี้แหล่ะ ไม่รู้บอกยังไงว่าอยากไปเป็นเพื่อนมัน
 
“กุด้วยอ่ะ  ปวดฉี่” ไอ้ป่วนว่า หน้ามุ่ย
 
 (นี่มึงปวดจริงหรือแกล้งวะนัย  ถ้าแกล้งเหมือนกุ บอกได้คำเดียวเหมือนมาก
 
คงต้องมอบโล่ให้มันงานนี้แหล่ะครับ ในฐานะนักแสดงดีเด่น ดูดิมีกุมเป้าด้วยเว่ย)
 
“อืม  ป่ะไปกัน” ไอ้ปิงปองว่า ท่าทางจะสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากนอน
 
มาตลอด 3 ชั่วโมง  มันเดินนำพวกผมไปที่ลิฟท์กดชั้นที่มันอยู่
 
แล้วลิฟท์ก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่พาพวกเราไปยังจุดหมาย  ทั้งที่ไม่มีอะไรแต่ผมกลับ
 
รู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีอะไรมากระซิบบอกว่าวันนี้ มันต้องมีปัญหา
 
ผมมองหน้าไอ้ปิงปองอยู่ครู่หนึ่งก่อน พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้ตื่นตูม
 
-----------------------------------------------------------------
 

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-01-2012 11:01:24
ค้างงงงงงงงงง
มาต่อด่วนนนนน
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 27-01-2012 11:17:34
ลางสังหรณ์ แม่นซะด้วย อ่ะเอก ปิงกลับมาเจองานพุ่งเข้าใส่ปั๊บเลย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 27-01-2012 11:37:44
เอกนัยมีsomethingก่อนเป้ปิงปองอีกง่า
ไวจริงๆ ตอนต่อไปนี้
เจอะปางกับเป้ใช่ป่าววว
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 27-01-2012 11:41:35
ใช้ขนาดตัวอักษรเล็กกว่ามั๊ยคะ  มันอ่านไม่ถนัดน่ะ
....  รอดูปิงปองโดนเซอร์ไพรส์ตอนหน้า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-01-2012 12:29:34
มาถึงตอนงานงอกแระสินะ แหะๆ!!

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า อยากรู้มุมมองของสองคนนี้ อิอิ^^

รอรอน้ออ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-01-2012 13:11:10
อย่าให้เป็นแบบที่คิดเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 27-01-2012 13:44:42
ค้างๆๆ รีบมาต่อนะคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 27-01-2012 14:00:02
 :a5: :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 27-01-2012 14:44:24
เอกเปนหมอดู ใช่ไหม บอกความจริงมาซะดีๆ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: fox ที่ 27-01-2012 16:16:19
แล้วเหตุการณ์ต่อไปก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องโน้น
ช่ายปะ? ^___^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-01-2012 16:24:29
แล้วต่อไปก็เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องโน้น
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 27-01-2012 16:53:56
โอ๊ะ! เอก นัย ได้กันก่อน เป้ ปิงป่อง อีกเหรอนี้
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 27-01-2012 20:35:50
มันมีที่มาที่ไปอย่างนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 27-01-2012 20:47:00
นายเลี้ยงกุมารชิมิ ทำมาว่าปิงเลี้ยงโด่   รอครับน่าฟัดเอ่อ.....น่ารักดี
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 27-01-2012 21:17:23
ชอบครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: nincja ที่ 27-01-2012 22:29:36
นัยน่ารักมากมากอ่า  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 28-01-2012 00:46:27
^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 28-01-2012 01:01:26
  :z1:o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 7 เพื่อนรัก P.5 27/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-01-2012 01:58:50
จะเจอเหมือนน้องเปิ้ลมั๊ยเนี่ย?  :a5:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-01-2012 13:02:59

ตอนที่ 8  หักหลัง


“ติ๊ง….”  เสียงลิฟท์ดังขึ้น  และแล้วลิฟท์ตัวที่ว่าก็พาเรามาถึงชั้นที่ไอ้ปิงปองอยู่

สีหน้ามันทั้งตื่นเต้นและมีความสุขอย่างมาก มันคงรอที่จะได้เจอปาง

ผมเห็นแล้วได้แต่ลอบถอนใจ ภาวนาอย่าให้สิ่งที่ผมกลัวมันเป็นจริง

ผมหันไปสบตาไอ้ป่วนมันเป็นคนที่ sensitive เรื่องเพื่อนมาก ๆ เป็นที่รู้กันดี

ไม่ว่าเรื่องใครในกลุ่มจะส่งผมกระทบกับมันตลอด ผมยื่นมือไปบีบมือไอ้ป่วนเบา ๆ

ไอ้ป่วนที่หน้าซีดเผือด  บีบมือผมกลับแน่น ๆ มันยังคงมองไปที่ไอ้ปิงปอง

ก่อนจะละมือจากผมแล้วหันไปโอบไหล่ไอ้ปิงปองแทน 

“ไง..มึงปวดฉี่มากเหรอวะ  อดทนอีกนิดเดียวจะถึงห้องกุอยู่แล้ว ” ไอ้ปิงปองว่า

ยิ้มหน้าระรื่นหันมาแซวไอ้นัยอย่างอารมณ์ดี  เดินนำพวกผม

ที่อีกไม่กี่ก้าวจะถึงห้องมันอยู่แล้ว

“ป่าว” ไอ้นัยตอบยิ้มจืด ๆ มันคงยิ้มได้มากสุดแค่นี้   ผมเดินตามทั้งคู่

มองดูอยู่เงียบๆ  พูดอะไรไม่ออก  เพราะไม่รู้จะพูดอะไรจริง ๆ

“ปิงปอง...”  ไอ้นัยเรียก   ดึงไอ้ปิงปองให้หยุดก่อนจะไขกุญแจ

“มึงรู้มั้ยในบรรดาเพื่อนกุเป็นห่วงมึงที่สุด  ฉะนั้นถ้ามึงมีอะไรไม่สบายใจ

ช่วยคิดถึงกุคนแรกได้มั้ยวะ”  ไอ้นัยพูดขึ้น ขยี้มือที่หัวไอ้ปิงปองจนหัวอีกฝ่ายโยกคลอน

“หึหึ.. ห่า   เป็นเชี่ยไรของมึงเนี่ย อย่ามาเข้าโหมดซึ้งโดยไม่มีเหตุผลนะโว้ย

กุไม่ปลื้ม”ไอ้ปิงปองว่าขำๆ  ยื่นมือมาแตะหน้าฝากไอ้ป่วน

“มึงไม่สบายป่ะวะ  กินยาผิดป่ะนัย  ไอ้เอกมึงมาดูเพื่อนมึงดิ๊ว่ามันเป็นอะไร”

ไอ้ปิงปองผลักไอ้นัยหน้าหงาย แล้วกวักมือเรียกผมหย๋อย ๆ  พอผมมาถึง

มันก็จับมือผมไอ้แตะหน้าฝากไอ้นัยซะงั้น  รู้สึกเขินขึ้นมานิดหน่อย

“ไป ๆ รีบมาดูแลลูกมึง ท่าจะอาการหนักแล้ว  ฮ่า ๆ”  ไอ้ปิงปองว่า

“ปิงปองงง.........”ไอ้นัยเรียกเสียงเบา ก่อนเดินเข้าไปใกล้ดึงไอ้ปิงปองมากอดแนบอกแน่น

(จ๊ากกกกกกกกก กอดทำไม  อย่า ๆ  อย่ากอดคนอื่นนอกจากกุ ไอ้ปิงปองมันยิ่งตัวเล็กน่ารัก

ตาโต ปากแดง ผิวขาว  ...ถึงจะขาวไม่เท่ามึง แต่มันก็น่าทนุถนอมที่สุดในกลุ่ม 

แล้วถ้ามึงเกิดไปหลงรักมันขึ้นมากุจะทำไง....ล่ะเว้ยเห้ย  ) 

ผมแอบกัดปากตัวเองแน่น แม้จะเข้าใจสถานการณ์ แต่ทนไม่ไหวจริงๆ

เรียกได้ว่าหึงจนหน้ามืด.............ก็คนเค้าหวงของเค้าอ่ะ  เริ่มคิดหาวิธีแยกไอ้คู่นี้ออกจากกัน

ว่าแล้วผมก็แทรกมือไปตรงกลางระหว่างมันทั้งสองคนแล้วดันให้ทั้งคู่ออกจากกัน

ก่อนแทรกตัวไปกอดไอ้ปิงปองแทนไอ้นัย มันทั้งคู่หันมามองหน้าผมงง ๆ

(มึงจะงงก็เรื่องของพวกมึงดิ  แต่กุแยกพวกมึงออกจากกันได้แล้ว ถือว่าสำเร็จ

กร๊ากกกกกกกกกก  แนบเนียนจริง ๆ กุ)

ผมยิ้มหน้าบานในความฉลาดของสมองตัวเอง โดยลืมเรื่องต่างๆไปซะสนิท

ไอ้ปิงปองดันตัวผมออก ผมหน้ามุ่ยใส่มันพอเป็นพิธีกลัวไอ้นัยมากอดมันอีก

“ทีไอ้นัย...มึงไม่เห็นผลักมันออกเลย” ผมว่างอน ๆ

“ผั๊วะ ...โอ๊ย”  ว่าแล้วมืองาม ๆ ของไอ้ปิงปองก็ประเคนใส่หัวผมทันที

“ห่า...โตเป็นควายแล้วอย่ามาทำเป็นงอนกุ  มึงไม่น่ารักเหมือนไอ้นัยหรอกมึงอ่ะ”

มันว่าขำ ๆ ก่อนจะเรียกเสียงหัวเราะจากพวกเราทั้งสามคน

(ไอ้ปิงปอง จริงๆ มึงไม่รู้ตัวสินะว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน ทั้งเตี้ย ทั้งบาง ตัวขาว

ปากแดง  กุถึงไม่อยากให้ไอ้นัยอยู่ใกล้มึง กลัวมันจะเปลี่ยนใจไปหลงมึงแทน

ดีนะที่มึงมีเมียแล้ว ...หึหึ กุให้อภัย  ยอมให้ไอ้นัยกอดมึงนิด ๆ หน่อยๆ แล้วกัน )

และแล้ววินาทีระทึกก็มาถึง .....ไอ้ปิงปองหยิบกุญแจห้องมาไขที่ลูกบิด

มันดันประตูให้เปิดออกอย่างเบาที่สุด จนพวกผมสงสัยว่าห้องของมันจริงรึเปล่า

รึว่ามันเป็นนักย่องเบากันแน่ ประตูที่เปิดออกเผยให้เห็นพื้นที่ภายในห้องพัก ..

แต่ก็ไม่พบใครอยู่ในห้องรับแขก พวกเราเดินเงียบ ๆ เข้ามาในห้อง

(เลียนแบบไอ้เจ้าของห้องที่มันยังทำท่าเป็นนักย่องเบาไม่หยุด)

“มึงจะเข้าห้องน้ำก็เข้าดิ เบา ๆ นะ เดี๋ยวปางตื่น”  ไอ้ปิงปองหันมาบอกไอ้นัย

เลยทำให้พวกผมถึงบางอ้อ  ที่แท้...กลัวเมีย    ...ตื่น  หึหึ 

(แต่ย่องมาอย่างนี้กุกลัวมึงจะเจออย่างอื่นที่ไม่พร้อมจะเจออ่ะดิ)

ไอ้ป่วนพยักหน้ารับแต่กลับไม่เดินไปเข้าห้องน้ำ  ยังคงเดินตามไอ้ปิงปองเข้ามาที่ห้องรับแขก

ไอ้ปิงปองวางของสัมภาระทิ้งไว้ที่ห้องดูทีวีก่อนจะดิ่งตรงไปที่ห้องนอน

โดยมีผมกับไอ้นัยเดินตามไปติด ๆ มันเองไม่แม้แต่จะสนใจ

 สีหน้าระรื่นของมันราวกับว่าจะได้เจอของรัก ที่มันรอมานานแสนนาน

มันค่อยเปิดประตูห้องนอนอย่างเบาที่สุดหวังจะได้เห็นคนรักที่กำลังนอนหลับสบาย

อยู่บนเตียง  แต่ภาพที่เห็นกับเป็นภาพคนรัก (น้องปาง) กำลังหลับตาพริ้ม

กับเพื่อนรัก(ไอ้เป้) ที่บรรจงจุมพิศที่ปากอวบอิ่มแดงระเรื่อของอีกฝ่าย

ผมตกใจจนพูดไม่ออก หันไปมองไอ้ปิงปองที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผม

ใบหน้าขาวที่ยิ้มระรื่นอยู่เมื่อกี้นี้ เปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำบูดบึ้ง กัดกรามจนนูนขึ้นสัน

คิ้วทั้งสองข้างขมวดรวมกันแทบจะเป็นเส้นเดียว

 เหมือนสิงโตที่พร้อมจะกำจัดเหยื่อ

ไอ้ปิงปองตั้งท่าจะกระโจนส่งคนทั้งคู่ที่ขึ้นชื่อได้ว่า “เพื่อนรัก”กับ”คนรัก”

ผมกระโดดจับมันไว้ทันทีก่อนที่จะเกิดอะไรที่คาดไม่ถึง

 “เชี่ยเอก!!  ...ปล่อยกู แม่ง..ไอ้เหี้ยเป้  มึงทำงี้ได้ไงวะ” มันตะโกนด่า

ทั้งที่ผมพยายมจับมันไว้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่....มันก็ดิ้นหลุดจากมือผมไปจนได้  ทั้งที่มันตัวเล็กขนาดนั้น

(แม่ง........มึงเอาแรงมาจากไหนหนักหนาว่ะ   เชี่ยนี่)

“เชี่ย...  เมียกู” มันว่า กระโดดเข้ากระชากคอเสื้อ และตะบันหน้าไอ้เชี่ยเป้ 

“ว๊าย..  พี่ปิงปองอย่า” ปางร้องลั่น ตัวสั่นงันงก ...ตกใจ เข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้น

“ฮือๆ” เสียงปางสะอื้น ปางทำได้แค่นั่งร้องไห้ นั่งจ้องศึกระหว่างคนรัก กับ

คนที่กำลังแอบรัก แล้วปากก็พร่ำแต่ว่า

“ปางขอโทษ ๆ  พี่ปิงปองหยุดเถอะค่ะ ...หยุด..ฮือ ๆ”

“โอ้ย!!....แม่งเอ้ย ฟังกูก่อนไม่ได้รึ งะ.”   ผั๊วะ ไอ้ปิงปองซัดไอ้เป้อุตลุด ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 “ห่า”  เสียงไอ้เป้ตอบกลับ ใช้มือข้างหนึ่งจับแขนไอ้ปิงปองที่กำลังจะต่อยมันไว้ทัน

ก่อนจะสวนหมัดอีกข้างกระแทกหน้าไอ้ปิงปอง

“ โอ๊ย!!...เหี้ยเอ้ย” ไอ้ปิงปองด่า ไอ้เป้ตามมาจะค่อมมันแต่มันถีบไอ้เป้ทัน

และเป็นไอ้เป้ที่ล้มลงเสียเอง ไอ้ปิงปองเลยทำหน้าที่นั่งค่อม

จากนั้นพวกมันก็แลกหมัดกันพันละวัน ทั้งปากแตก คิ้วแตก กลิ้งหลุน ๆ ไปมา

อยู่อย่างนั้น จนหมดแรง พวกผมถึงค่อยแยกมันสองคนออกจากกันไปอยู่คนละมุม

คนอย่างพวกมันทั้งคู่มันไม่เคยยอมใครหัวเด็ดตีนขาดยังไง ถ้าไม่หยุดเอง

ใคร....ก็อย่าหวังไปหยุดมัน  พวกผมถึงต้องรอ...รอให้พวกมันได้ระบายอารมณ์

ที่เดือดดาลไปก่อน  รอจนกว่าว่าพวกมันจะมีสติพอที่จะรับฟังคนอื่นได้

เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถึงพวกผมจะแยกมันได้ตั้งแต่เริ่ม

แต่ถ้าความโกรธที่พุ่งทะยานขนาดนี้ คุยอะไรก็ไม่รู้เรื่องสินะ

พวกมันนั่งหอบเหนื่อยให้พวกผมพยาบาล สายตายังคงจ้องกันไปมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

ผมเข้าใจมันดีทั้งสองคน  ความรู้สึกตอนนี้ยิ่งกว่าคำว่า “พังทลาย” 

ไอ้ปิงปอง...เพราะมันฝากคนที่มันรักไว้กับเพื่อนที่มันไว้ใจ

ไม่ใช่แค่ไว้ใจนะ  แต่ทั้งไว้ใจ เชื่อใจ และศรัทธาต่างหาก ตั้งแต่คบกันมา

ก็มีแต่ไอ้เป้ที่เป็นเพื่อนกับมันมาตลอดคอยดูแล คอยใส่ใจ ทำทุกอย่างให้มันมาตลอด

(มึงคงไม่คิดสินะ...ว่าสักวันมันจะแย่งของรักของมึง   บอกตรงๆ กุก็คาดไม่ถึง)

ใบหน้าที่แดงกล่ำเครียดเขม็ง มึงคงเจ็บปวดสินะปิงปอง สายตาที่เพ่งมอง

มาที่ไอ้เป้มันบ่งบอกว่ามึงเจ็บปวดแค่ไหน  ไอ้นัยมองที่ไอ้ปิงปองตาละห้อย

ผมรู้ว่ามันเจ็บปวดเช่นกัน 

“เจ็บมั้ยวะ” ไอ้นัยเอ่ยถามเสียงเบาด้วยความเป็นห่วง เพราะรูปร่างที่แตกต่างกัน

ไอ้ปิงปองมันสูงแค่ 175 ซม. แต่ไอ้เป้มันสูงตั้ง 188 ซม. ไม่มีคำตอบจากไอ้ปิงปอง

มันส่ายหน้าเบา ๆ จ้องมองไปที่คนรัก และเพื่อนรักสลับไปมา

ไอ้เป้........กุรู้ว่ามึงก็เจ็บ  เจ็บอย่างที่ไม่เคยมาก่อนใช่ไหม เพื่อนที่มึงเคยดูแล

เพื่อนที่มึงเคยใส่ใจ เคยทำให้มันมีความสุข  คนที่มึงปกป้องมัน คนที่มันศรัทธามึง

เชื่อมึง และไว้ใจมึง คนที่ไม่ว่าเพราะอะไรมึงก็อยู่ข้าง ๆ มันมาตลอด

(ถึงกุจะไม่รู้ Background พวกมึง แต่สิ่งที่พวกมึงแสดงให้กุเห็นตลอดมา

คือ พวกมึงรักกัน  และไม่มีวันที่พวกมึงจะทิ้งกันไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน

แต่...ด้วยเหตุผลวันนี้  กุ....ไม่แน่ใจแล้วว่ะ)

 ไอ้เป้แล้วตอนนี้กลับเป็นมึงที่...ทำลาย มันเองกลับมือ  เจ็บใช่ไหมเป้

มึงที่เห็นสายตาเจ็บปวดของไอ้ปิงปอง .....มึงก็เจ็บเหมือนกันใช่ไหม

ผมพยาบาลไอ้เป้แต่ไม่ได้ถามว่ามันเจ็บไหม สีหน้าที่เย็นชาไม่แสดงอารมณ์

แต่ผมรู้ว่ามันคงกำลังเจ็บแสบปวดร้อน เป็นแน่แท้ สายตาที่มองไปยัง

ไอ้ปิงปองยังคงอ่อนโยนเช่นเดิม 

(กุรู้ถ้ามึงเอาจริงไอ้ปิงปองคงลงไปนอนกับพื้นแล้ว   กุรู้ว่ามึงยอมมัน สู้กับมัน

เพื่อให้มันได้ระบายใช่ไหมว่ะ ...... มึงก็ห่วงมันแล้วทำไมมึงต้องทำอย่างนี้ว่ะเป้

กุไม่เข้าใจ.......   ถ้ากุเป็นมัน  คงเจ็บปวดไม่แพ้มันแน่นอน ไม่รู้ชาตินี้

จะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้อีกรึเปล่า)

 “ปาง...ทำยังงี้ได้ไง” ไอ้ปิงปองว่า น้ำเสียงแทบตะคอกส่งไปยังคนรัก

“ปาง... ปาง ขอโทษ ” หญิงสาวสะดุ้งเฮือก พลางตอบเสียงสั่น ๆ

“ปางผิดเองค่ะ ปาง  ฮือ ๆๆๆ   ปาง ชอบพี่เป้” คำตอบของปางเล่นทำเอาพวกผมอึ้งแดก

ไอ้ปิงปองมันแทบทรุดลงกับพื้น สายตาทุกคู่ส่งไปที่มัน

ดวงตาคู่โตแดงกล่ำน้ำใส ๆ คลอหน่วย แต่ไม่ปล่อยให้ไหลออกมา

มันจ้องมองมาที่ไอ้เป้เหมือนเป็นคำถาม  แต่กลับไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมา

ไอ้เป้ยังคงมองตอบด้วยสายตาที่ห่วงใย...

(แต่ช้าไปไหมเป้ ถ้ามึงรู้สึกผิดมึงก็ไม่ควรคิดจะทำอย่างนี้แต่แรกสิ)

“เหี้ย”  ไอ้ปิงปองสบถคำด่า ราวกับแค่ระบายความอัดอั้นในใจของมัน       

ไอ้นัยโอบกอดเบาๆ ที่แผ่นหลังไอ้ปิงปอง ถ้ามันทำได้คงอยากจะกอด

ไอ้ปิงปองไว้ทั้งตัว คงอยากจะแชร์ความเจ็บปวดของเพื่อน

ดวงตาของมันแดงกล่ำไม่ต่างจากไอ้ปิงปอง น้ำตาคลอหน่อยมันพร้อม

จะร้องไห้ไปกับเพื่อนทุกคน  และมันก็เจ็บที่เพื่อนกับเพื่อนต้องมาเป็นอย่างนี้     

“ปาง..ปางขอให้พี่เป้ลองจูบปางดู เพื่อให้ปางแน่ใจตัวเองว่าคิดยังไงกันแน่ ”

ปางพูดพร่ำด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น  ขณะที่ไอ้ปิงปองกัดปากตัวเองแน่นจนเลือดซึม

 “ตั้งแต่เมื่อไหรกัน ปางเอาพี่ไปไว้ไหน?”  เสียงของมันเบาจนแทบไม่ได้ยิน 

ผมเห็นแต่ดวงตาที่ปวดร้าวของมัน แทบจะแหลกสลายอยู่ตรงหน้า

เมื่อความจริงค่อย ๆ เปิดเผยออกมา  ว่าใครเป็นคนเริ่มต้นเหตุการณ์นี้

(ผมคนต้องขอชื่นชมปาง อย่างน้อยน้องเค้าก็มีน้ำใจมากคนหนึ่งไม่คิดจะปิดปัง

ความจริงเอาไว้  ปางที่ผมรู้จักจริง ๆ แล้วน้องเค้าก็เป็นคนดีมากคนหนึ่ง

อาจจะเป็นเพราะความห่าง  และทุก ๆ อย่างมันก็มักจะฝากไอ้เป้ให้ดูแลปาง

ไม่ว่าจะเรื่องความใกล้ชิด ความเห็นใจ ก็มีแต่ไอ้เป้ที่คอยดูแลปาง

ถ้ามาคิดดูให้ดี ๆ ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปางอยู่กับไอ้เป้มากกว่าไอ้ปิงปองซะอีก

ถ้าจะให้ยุติธรรม  ปิงปอง ....มึงก็ผิดเหมือนกัน  ผิดที่มึงไม่เคยมีเวลาให้เค้าไง)

“ปาง  ฮึก ฮึก ขอ...โทษ”  หญิงสาวพร่ำบอก  ผมเห็นไอ้ปิงปองหลับตานิ่ง 

 “งั้นเรา...คงจบแค่นี้” สุดท้ายมันก็เอ่ยคำพูดที่ทำให้ตกใจ  แต่มันก็ไม่เกินความคาดหมาย

มันหันมามองไอ้เป้  ชี้หน้าคาดโทษ ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าดังค์ กุญแจรถ

เหมือนมันไม่สามารถจะทนอยู่ที่ตรงนี้ได้อีกแล้ว

(มึงคงอยากจะลืมและหายไปซะ....จากตรงนี้สินะ )

“มึงจะไปไหน  กูไปด้วย” ไอ้นัยคว้าแขนไอ้ปิงปองไว้ ก่อนจะระร่ำระรักถาม

  ไอ้ปิงปองสะบัดมือมันออก

“เชี่ย!  มึงอย่ายุ่ง   กู.....กูอยากอยู่คนเดียว ...”  มันรีบวิ่งไปขึ้นรถ เหยียบรถด้วยความเร็วสุดตีนนน 

พวกเราทุกคนมองด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะไอ้เป้  แต่คงต้องยอมปล่อยมันไปก่อน

ปางที่ยังคงนั่งร้องไห้ทำตัวลีบอยู่ซอกเตียง  ผมกับไอ้นัยมองตากัน

ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมา ไม่ว่าจะเป็นคำถามของที่มาที่ไป คำปลอบ หรือ แม้กระทั่งคำด่า

“มึงจะเอายังไง” ผมหันไปถามไอ้เป้ที่ยังนั่งทำหน้าเครียด

(มึงรู้ไหมมึงทำหน้าเหมือน  แม่ง...ตายไปแล้วครึ่งตัว)

“พวกมึงกลับไปก่อน เดี๋ยวกุไปตามหามันเอง กุรู้ว่ามันอยู่ไหน

เรื่องปางก็ฝากส่งน้องเค้าด้วย”  มันหันมาตอบผม ดวงตาแดงกล่ำ

มันทำเหมือนตอนนี้มันพร้อมจะร้องไห้แล้ว  เพียงแต่มันอดทนอยู่เท่านั้นเอง

“เออ ... มึงไม่ต้องห่วง เรื่องทางนี้กุจัดการเอง” ไอ้นัยตอบ

“พี่เป้....ปาง  ..ฮึก ฮึก  ปางขอโทษ” เธอว่าส่งสายตาเว้าวอนขอร้องให้มันให้อภัย

“พี่ก็ผิด ปางอย่าคิดมากเลย เรื่องวันนี้เราเองก็ผิดทั้งคู่” มันว่าหันไปสบตาปาง

“พี่ขอโทษนะ  ... แต่พี่คิดกับปางแค่น้องสาวแค่นั้น  ไม่เคยคิดเกินกว่านั้น

เรื่องวันนี้พี่ทำให้ก็เพราะพี่คิดว่าอย่างน้อยถ้าปางได้ทำมันแล้วคงจะได้รู้ใจตัวเอง...

.ว่ากับพี่ปางแค่หวั่นไหว  ..แต่พี่ว่ามันไม่ใช่รัก  ที่พี่ดูแลปางเป็นอย่างดี

เพราะไอ้ปิงปองมันฝากพี่ไว้  เพราะถึงปางจะไม่ได้เป็นแฟนกับมัน 

แต่พี่ก็คง....จะไม่รักปาง อยู่ดี   ไม่ใช่ไม่ดี  แต่แค่...ไม่ได้รัก ขอโทษนะ”  ไอ้เป้ตอบ

หยิบกระเป๋าของมัน ก่อนจะหันมาลาพวกผมแล้วเดินออกไป

“กุไปนะ”  พวกผมพยักหน้าเป็นคำตอบ   ในที่สุดก็เข้าใจโดยไม่ต้องมีคำถาม

ว่าทำไมคนอย่างไอ้เป้ถึงยอมจูบปาง  ... มันไม่ได้หักหลัง  แต่แค่พยายามจะทำให้จบ

(จบจริงว่ะเป้....แต่คงเจ็บไปอีกนาน   ตามหามันให้เจอนะ..สำหรับมัน

คงขอแค่มึงเท่านั้นที่อย่าทำร้าย ทำลาย หรือหักหลังมัน  กุว่ามันคงเจ็บ..

เจ็บยิ่งกว่าเลิกกับปาง   กับคำว่า เพื่อนรักที่คบกันมาเป็นสิบ ๆ หักหลัง และทำลายความไว้ใจ)

“มึงไปส่งปางนะ” ผมหันไปบอกไอ้นัยที่ตอนนี้สติมันเหมือนจะกลับมาแล้ว

แต่มันเงียบจนผมใจหาย  (มึงก็อีกคนช่วยอย่างเงียบอย่างงี้เถอะว่ะ...กุใจไม่ดี)

“อืม”  มันว่าเดินไปหยิบกุญแจรถ แล้วเดินตรงไปที่ปาง

หญิงสาวก้มหน้าลงกับเตียงตัวสั่นระริก  สะอึกสะอื้นจนตัวโยน 

ร้องไห้จนเหมือนไม่มีน้ำตาจะไหล ใบหน้าแดงกล่ำ ดวงตาปูดบวม

เพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อกลั้นสะอื้น

“กลับนะครับเดี๋ยวพี่ไปส่ง” ไอ้นัยแตะเบา ๆ ที่หลังปาง ส่งสายตาอ่อนโยนไปให้

ไม่มีการตำหนิ หรือต่อว่าจากมัน  มีแค่ความสงสาร ที่ส่งไปให้จาง ๆ

(นี่แหล่ะน๊า...ความเหงา  เขาถึงว่า  ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน)

ปางลุกขึ้นช้าๆ แต่ขาก็พับอ่อนลงไป ราวกับไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแล้วตอนนี้

ไอ้นัยประครองปาง ผมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าปางส่งไปให้มันถือ

แล้วมันก็พาน้องเค้าออกจากห้องไป  ทั้งห้องเหลือเพียงผมที่กำลังนั่งจ้องซาก

ข้าวของที่กระจุยกระจายจาฝีมือไอ้สองตัวนั่น  ดีที่มันตีกันในห้องนอน

ถ้าเป็นห้องรับแขกคงมีทีวีพังอ่ะ  ตอนนี้ชั้นเตี้ย ๆที่วางอยู่ชิดผนังทางฝั่งปลายเตียง

ล้มเทกระจาดลงมาอย่างไม่เป็นท่า แผ่นซีดีกระจายหลายแผ่นหักฟังเสียหาย

ไอ้ชั้นที่ว่านี่ก็เหมือนกัน ท่าคงจะได้ซื้อใหม่ เพราะตอนกระแทกล้มลง

มันคงแรงเนื้อไม้ถลอกเป็นทางยาว ประตูด้านล่างสุดคงไม่ได้ล็อคไว้

พอกระแทกลงพื้นมันคงเปิดอยู่ถึงได้ประตูหักอย่างที่เห็น

ผมเริ่มทำการเก็บกวดเช็ดถู  เอาของที่พังแล้วแม่งทิ้งให้หมด

รวมถึงไอ้ชั้นนั้นด้วย  ข้าวของที่เหลือที่พอใช้ได้ก็เก็บใส่ตระกล้าเล็ก ๆ ของมัน

หรือไม่ก็วางกองไว้บนชั้นจนเสร็จเล่นเอาเหงื่อท่วมตัวเลยครับ  เหนื่อยโคตร

ผมกระแทกก้นนั่งพักเหนื่อยที่เตียงไอ้ปิงปอง 

“ติ๊งต่อง ๆๆๆ” ผมเดินไปที่ประตูเปิดออกมาเจอไอ้นัยครับ

(ผมว่า แม่ง...เล่นของชัวร์ กุพึ่งเก็บห้องมันเสร็จตะกี้มึงก็มาถึงเลย

สบายเลยสินะ  เหี้ยนี่  ปล่อยกุเหนื่อยคนเดียว)

มันเดินเข้ามาในห้องสีหน้าเรียบเฉยจนผมรู้สึกตกใจ

ผมเดินเข้าไปกอดมันข้างหลัง

“ 3 ทุ่มแล้ว หิวมั้ย ไปกินข้าวกันนะ” ทั้งที่ความจริงผมก็ไม่หิว

แต่ผมเป็นห่วงมัน  กลัวว่ามันจะเครียดจนเป็นโรคกระเพาะซะก่อน

“กุไม่หิว...”

“แต่กุหิวนิ  กินเป็นเพื่อนกุหน่อยนะ กินคนเดียว กุกินไม่ลงอ่ะ”

ผมอ้อน ซุกหน้าลงที่ซอกคอหอม  อยากปลอบใจมัน

“ครืดดด  ครืดดด”  เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น หน้าจอโชว์ชื่อไอ้เป้

“ฮัลโหล  เจอมันมั้ย”

“อืม เจอแล้วแต่กุยังไม่เข้าไปหามัน มันกินเหล้าอยู่

พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวกุพามันกลับไปเอง

จะกลับเลยก็ได้นะ”  มันว่า น้ำเสียงเหน็ดเหนื่อย

“แล้วมึงจะเข้าห้องนี้ยังไง”  ผมถามขึ้น

“กุมีกุญแจสำรองอยู่แล้ว พวกมึงไม่ต้องห่วง เดี๋ยวให้มันเมาก่อน

กุค่อยลากมันกลับ ไปลากมันตอนนี้มีหวังร้านเค้าพัง”    

“เออ งั้นพวกกุกลับก่อนมีไรค่อยว่ากันทีหลัง”

“อืม” มันตอบกลับ   ผมลากไอ้ป่วนของผมกลับบ้าน เราแวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทาง

ผมเห็นมันกิน ๆ หยุด ๆ จนผมหันไปทำหน้าดุ บอกให้มันกินให้หมด

มันก็ทำตามอย่างว่าง่าย   แล้วเราก็ขับรถกลับมายังคอนโดผม

-----------------------------------------------------------------------------------

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หลักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-01-2012 13:08:25
เรามากินมาม่า  อีกเรื่องกันเถอะค่ะ  หลังจากช่วงนี้หลาย ๆ
เรื่องกินมาม่าไปแล้ว  เราก็มาเตรียมท้องอืดกัน

อ่านให้สนุกนะคะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: toyyou ที่ 29-01-2012 13:16:36
รีบมาต่อ้า หนุกดี
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 29-01-2012 13:25:23
ไม่มีอะไรจะกล่าว  นอกจากอยากบอกว่า  ถ้าชะนีอยากขอให้ทำอะไรเป็นครั้งสุดท้าย
ไม่จำเป็นต้องตอบสนองหล่อน  เพราะเมื่อเกิดอะไรขึ้นจะโทษหล่อนคนเดียวก็ไม่ได้
ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง  และเห็นมั๊ยว่าเรื่องไม่จบ  ถึงจบก็ศพไม่สวยเลย  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: boobooboo ที่ 29-01-2012 14:18:12
สงสัยเป้  กับปิงปองอีกคู่แน่เลย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-01-2012 14:47:35
เจ็บปวดเนอะ มันไม่มีอารายแย่กว่านี้หรอกเนอะถ้าเจอกับตัว

ยังไงก้อมาต่ออีกนะคับ

รอรอน้า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-01-2012 14:49:35
เรื่องของเป้ กับ ปิงปอง จบแล้วค่ะ  จริง ๆ แล้ว นัยกับเอกเป็นภาคต่อ
ถ้าสนใจอ่านเรื่องของเป้ กับ ปิงปอง  ตามอ่านได้ที่ลิ้งข้างล่างค่ะ
เรื่อง (เรื่องไม่สั้น) ยอม.........มึงคนเดียวอ่ะ    ได้เลยค่ะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30509.0

^_____________^   :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 29-01-2012 15:37:45
ไม่น่าเลยนะ  ชะนีนั้นก้อร่านจิงๆ  เฮ้อ....!!
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 29-01-2012 15:57:21
เอกเล่าเรื่องได้ดีมาก o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 29-01-2012 17:43:44
ดีใจจังที่ชอบ   ^__^  ต้องขอโทษที่ช่วงนี้เขียนนานไปหน่อยค่ะ
บอกตรง ๆ หัวไม่แล่นเลย พยายามทุกวัน แต่มันเขียนไม่ออก
แต่เวลาจะเขียนได้นี่ วันเดียวเสร็จ
ขอโทษนะคะ  พักนี้เครียดมากจริง ๆ แต่ยังอยากแต่งอยู่ หุหุหุ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: naiin ที่ 29-01-2012 18:01:12
เพราะความห่างเหรอ ผมว่าเป้มีใจให้เพื่อนมากกว่าเพื่อนธรรมดานะเนี่ย เศร้านะเนี่ย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 29-01-2012 18:23:18
แล้วเรื่องก็เกิดจนได้
คอยดูว่านัยกับเอกจะทำยังไง
ให้สองคนนี้กลับมาคืนดีกัน
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 8 หักหลัง P.5 29/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 29-01-2012 21:07:18
ง่ะ  มาม่า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 30-01-2012 02:12:46

สวัสดีค่ะ หลังพยายามปั่น  ก็พยายามปั่นต่อไป  :really2: :really2: เบลอเล็ก ๆ

เห็นมีหลายคนถามเรื่อง  เป้กับปิงปองมาค่ะ  ต้องขอบอกว่า

จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นภาคต่อ ของเรื่อง

(เรื่องไม่สั้น) ยอม.....มึงคนเดียวอ่ะ  (จบแล้ว)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30509.90

ส่วนในภาคนี้ก็จะกล่าวถึงเฉพาะเหตุการณ์ที่เอกกับนัยเกี่ยวข้องค่ะ
ถ้าสนใจก็ติดตามอ่านเรื่อง เป้กับ ปิงปองได้นะคะ 

 :t3: :t3:  ง่วงแล้วไปนอนก่อนนะคะ  อ่านให้สนุกน๊า


 ตอนที่ 9 สารภาพ

ผมกับไอ้ป่วนขับรถมาถึงคอนโดแล้ว  ไม่มันพูดอะไรตลอดทาง

ได้แต่หันหน้ามองออกไปนอกรถคิดอะไรเรื่อยเปลื่อย

ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนั่งเงียบ ๆ ปล่อยให้มันคิดอะไรเพลิน ๆ

ตอนนี้มาถึงห้องแล้วแต่มันก็ยังคงเงียบ  เลยทำให้บรรยากาศในห้องเงียบไปด้วย

ผมอาบน้ำเสร็จ ออกมาไม่เห็นไอ้ป่วนอยู่ในห้องนอน  เลยเดินออกมาตามหา

มันยืนนิ่งอยู่ที่ริมระเบียง 4 ทุ่มแล้วลมเย็นพัดโชยมา ความมืดของท้องฟ้าเข้าปกคลุม

ท้องฟ้าที่มืดมิด แต่มองไม่เห็นดาวสักดวง มีเพียงพระจันทร์ที่ส่องแสงเป็นประกาย

อวดโฉมให้เห็น  ผมเดินมายืนข้างหลังมันแล้ว  แต่ดูเหมือนมันไม่รู้ตัวเลยสักนิด

สายตาที่ทอดยาวมองไปอย่างไร้จุดหมาย  ราวกับว่ากำลังมองหาสิ่งที่จะมาช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจมัน

(ผมมองไปยังถนนเบื้องล่าง ที่ยังคราคร่ำไปด้วยรถราในเมืองหลวงจะทำให้มึงสงบได้จริง ๆ เหรอวะ)

ผมยังคงมองมันนิ่ง ๆ มันถอนหายใจยาว ๆ ราวกับแบกโลกไว้ทั้งใบ

เหม่อมองแบบไร้จุดหมายเช่นเดิม  ผมตัดสินใจโอบกอดไอ้ป่วนจากด้านหลัง

วางคางเกยไว้ที่ไหล่มัน มันสะดุ้งนิด ๆ หันมามองผมก่อนจะหันกลับไปตามเดิม

“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ.” มันถามขึ้น  กลิ่นสบู่จาง ๆ จากตัวผมคงไปเตะจมูกมันเข้า

ผมที่พึ่งสระเสร็จใหม่ ๆ ยังไม่แห้งดี พอผมวางคางลงไปที่บ่าผมเปียกก็ละคอไอ้ป่วน

ทำให้มันหดคอหนีเพราะความเย็น

“อืม....เสร็จแล้ว  อาบน้ำเลยมั้ย” ผมถามขึ้น ไอ้ป่วนส่ายหน้าแทนคำตอบ

ดูมันเหมือนยังไม่อยากจะขยับไปไหนตอนนี้ คงแค่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้ปล่อยความคิดที่สับสน

ที่ยังวิ่งวนในหัวสมองมันให้หยุดปั่นป่วนซะที  ผมกระชับกอดแน่นขึ้น จนมันต้องหันมามอง

“คิดอะไรอยู่...”ผมถามขึ้นทั้งที่รู้คำตอบดีอยู่แล้ว แต่ไม่อยากรอให้มันพูดเองถามมันเองเลยดีกว่า

ถ้ารออาจเป็นผมที่ทนไม่ไหว ที่ต้องเห็นไอ้ป่วนหน้าอมทุกข์ขนาดนี้   ผมซุกจมูกสูดดมซอกคอ

ไอ้ป่วนเบา ๆ มันยังคงหดคอหนีเช่นเดิม คาดว่าผมเปียก ๆ ของผมคงจะทำให้มันเย็นอีก

“มึงว่า ...ไอ้ปิงปองกะไอ้เป้จะเป็นยังไงต่อไปว่ะ”  มันเอ่ยถามเสียงแผ่ว

“ไม่รู้ดิ...  กุคงตอบมึงไม่ได้  เรื่องที่เกิดขึ้นมันรุนแรง กุเองยังไม่แน่ใจเลย

ว่าพวกมันจะกลับมาเป็นเพื่อนเหมือนเดิมได้รึเปล่า  ถ้ามึงโดนคนที่มึงไว้ใจที่สุด

เชื่อใจที่สุด  และศรัทธาที่สุด  เป็นคนลงมือหลอกมึงเอง 

มึงว่ามึงพอจะยอมฟังเหตุผลเค้ามั้ย   พอที่จะยอมให้อภัยเค้าอีกครั้งได้มั้ย

เพราะสิ่งที่เค้าทำ ....คือการแย่งหัวใจมึงไป  แย่งคนที่มึงรักที่สุดไป

มึงคิดว่า...มึงพอจะอภัยให้คนๆ นั้นได้อีกรึเปล่า   แล้วถ้าเป็นกุทำอย่างนั้นกับมึง

มึงจะให้อภัยกุมั้ยนัย   ถ้าวันนั้นวันที่มึงเปิดประตูไปเจอเป็นเปิ้ลกับกุ มึงจะทำยังไง” 

ผมกอดมันแน่น ๆ อีกครั้ง นึกถึงเรื่องผมกับเปิ้ลเมื่อก่อน อย่างน้อยก็อยากสารภาพ

ให้มันรู้ผมไม่อยากปิดบังอะไรมัน  ผมเลือกที่จะยืนอยู่ข้างมันแล้ว ผมก็อยากจะพูด

เรื่องที่ผมเก็บไว้มานาน ให้ความรู้สึกผิดที่มีมันได้จางหาย ไม่อยากให้มันมารู้ทีหลัง

กลัวว่าถึงวันนั้น  มันคงไม่อยากจะฟังอะไรจากปากผมแล้วเหมือนกัน

.

มันหันมามองผมนิ่งไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ ทั้งสิ้น  จนสุดท้ายเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายพูดก่อน

“กุมีเรื่องจะสารภาพ”    ผมเอ่ยขึ้น มันยังเงียบรอฟัง

“ที่จริงกุกะเปิ้ล   รู้จักกันมาก่อน  ก่อนที่มึงจะพามาเปิดตัวสักเดือนหนึ่ง แล้วก่อนหน้านั้น

 1 อาทิตย์เค้าก็ยังอยู่กับกุ      เอ่อ...อยู่ในห้องนอนกับกุ”มันหันมาสบตาผมคิ้วขมวดติดกัน

สีหน้าท่าทางของมันที่บ่งบอกว่า “สงสัย” 

“ทะ...ทำไมไม่บอกกุ   ทำไม....ไม่เคยบอกกุ”  เสียงมันแหบพร่า  ราวกับว่าไม่อยากจะเชื่อที่ผมพูด

ผมกอดมันไว้แน่น  เป็นมันเองที่เหมือนจะหมดแรงตายอยู่ตรงนั้น

“นัย...กุขอโทษ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก  วันที่มึงพาน้องเค้ามาเปิดตัวว่าเป็น แฟน

กุแทบช็อคเลย กุกะน้องเค้าเลยตัดสินใจ ยุติความสัมพันธ์กันแค่นั้น  ....แค่นั้นจริงๆ ว่ะ

หลังจากที่กุรู้ กุกับเปิ้ลก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก ไม่เคยนัดกันเป็นการส่วนตัว

กุเห็นความรักมึงไปได้ดี   กุก็ดีใจ  รู้สึกได้ว่าทั้งมึงและน้องเค้าก็รักกัน ทุกอย่างกำลังจะดี

กุไม่อยากทำมันพัง  ที่สำคัญกุคิดว่าน้องเค้าคงคิดจะจริงจังกับมึง กุขอโทษ”  ผมเล่า

น้ำเสียงราบเรียบ สำหรับผมมันก็แค่อดีต  ...อดีตที่ผมไม่อยากปิดบังมัน ผู้หญิงที่มันเคยรัก

แล้วผมก็เคยใช้ร่วมกับมัน...อย่างน้อยให้มันรู้จากปากผมจะดีกว่า ...ดีกว่าจะรู้จากปากคนอื่น

“งั้นเป็นกุสินะ...ที่แย่งของรักของมึง  เอกทำไมมึงไม่บอก แค่บอกกุ แค่นั้น

กุจะไม่มีวันคบกับเปิ้ลเด็ดขาด  มึงเจ็บไหมเอก” มันดันมือผมให้คลายอ้อมกอด

หันกลับมากอดผมแทน  ซุกหน้าลงกับอกผม น้ำตาร้อนๆ ไหลเอื่อยๆ ลงบนอกผม

ผมกอดมันแน่น ก้มจูบที่หัวมันเบา ตัวไอ้ป่วนเริ่นสั่นนิดๆ ตามแรงสะอื้นของมัน ผมก็ได้แต่กอดปลอบ

“กุอยากให้มึงมีความสุข  ............  สำหรับมึงแค่ผู้หญิงคนเดียวไม่เป็นไรว่ะ”  ผมจับหน้าไอ้ป่วน

ให้เงยมามองผม  ใบหน้าที่ดูอ่อนล้า ดวงแดงกล่ำและฉ่ำไปด้วยน้ำตาของมัน มองมาที่ผม

สายตาที่วูบไหวเพราะความรู้สึกผิดของมัน  จ้องมองผมราวกับจะขอโทษ

“ไม่เป็นไร นัย ....กุไม่เป็นไรจริง ๆ”  ผมแนบปากตัวเองไปที่ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่าย

อยากปลอบโยนให้มันหายเศร้า ก่อนจะไล้เล็มลิ้นร้อน ๆของตัวเองเลียรอบริมฝีปากระเรื่อนั่น 

อยากครอบครอง ...อยากครอบครองเหลือเกิน

ผมสอดลิ้นแทรกเข้าไปในปากอิ่มของอีกฝ่าย ดูดกลืนลิ้นหวาน ๆ สองแขนกอดรัดที่เอวของอีกฝ่าย

ให้ลำตัวเราชิดกันมากยิ่งขึ้น  ผมมอบจูบที่อบอุ่นและละมุนที่สุดเท่าที่จะได้ให้แก่ไอ้ตัวป่วนของผม

ก่อนจะละออกจากปากหวานของมัน เราส่งยิ้มหวานให้แก่กัน ผมใช้จมูกเขี่ยตามแนวสันจมูกที่ได้รูปของมัน

ก่อนจะกดหอมแรง ๆ ที่แก้มของอีกฝ่าย  มองมันด้วยดวงตาที่ฉ่ำเยิ้ม เป็นประกาย

“แค่กุได้เป็นเพื่อน “รัก” มึง......กุคุ้มแล้วว่ะ”ผมว่า ส่งสายตาเจ้าชู้โลมเลียมันอย่างออกนอกหน้า

ทำให้ไอ้นัยหน้าแดงซ่านอย่างช่วยไม่ได้ มันก้มหน้างุด ๆ ลงกับอกผม ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มจาง ๆ

นี่แหล่ะสิ่งที่ผมปรารถนา  ทั้งที่ผมตั้งใจจะขอโทษมัน  ...แต่ทุกอย่างกับ กลับตาลปัตร กลายเป็นมัน

ที่รู้สึกผิดแทนซะนี่  น่านะ  อย่างน้อยมันก็ลงเอยด้วยดีใช่ไหมครับ ทุกอย่างเคลียร์แล้วสบายใจ

ผมดันตัวไอ้ป่วนทำท่าสูดดมกลิ่นมันตามตัว  แล้วผมก็ย่นจมูก

“ไปอาบน้ำไป   ...เหม็นว่ะ  เดี๋ยวเค้าจะหาว่ากุไม่ยอมอาบน้ำให้หมา” ผมว่ายักคิ้วกวนๆ ใส่มัน

มันหันหน้ามามองผม ย่นปากย่นจมูกอีกแล้ว  (ฮ่าๆๆ น่ารักมาก ๆ อ่ะ)

“รู้สึกช้าว่ะ เมื่อกี้หมาตัวไหนทั้งกอด ทั้งจูบ ทั้งดมกุว่ะ ชิส์”  มันสะบัดหน้างอน ๆ ใส่ผม

“ไม่รู้ว่ะ  ...กุว่ามันคงวิ่งหนีไปแล้วอ่ะ  ฮ่า ๆ ...โอ๊ย”  เต็ม ๆ ครับ ไอ้ป่วนอ้าปากงับแขนผมเต็ม ๆ

และมันเลือกงับบริเวณเนื้อที่โผ่พ้นแขนเสื้อออกมา  ขึ้นรอยแดงเป็นรอยฟันเลยอ่ะ

(อ๊ะ...นี่ผมถูกฟันแล้วเหรอเนี่ย.....เจ็บจัง  หึหึ  เวลาถูกฟันเจ็บอย่างนี้นี่เอง

นัย...กุเข้าใจมึงแล้ว  เพราะกุก็ถูกฟันเหมือนมึง หึหึ แต่ตอนกุฟันไม่ได้ใช้แค่ปากว่ะ

อย่างอื่นก็ใช้ ฮ่า ๆ เจ็บหน่อยนะเพื่อน“รัก” กร๊ากกกกกกกกก)

“สมน้ำหน้า... ฮ่า ๆ”  ไปแล้วครับหลังจากมันกัดผมก็วิ่งหนีเข้าห้องไปอาบน้ำ

ผมเดินกลับเข้ามาห้องดูทีวี เลื่อนม่านปิดส่วนที่เป็นประตูที่เชื่อมไปยังริมระเบียง

เดินไปหยิบเบียร์มาสักสองสามกระป๋อง อยู่ดี ๆ ก็อยากดื่มขึ้นมาซะงั้น

ผมดื่มรวดเดียวหมดไป 3 กระป๋อง  อย่างต่อเนื่องแค่อยากดื่มแก้กระหาย  เพราะวันนี้

แทบจะละลายไปกับอากาศร้อนของกรุงเทพ  ผมเลื่อนช่องทีวีไปเรื่อย ๆ ก่อนจะสะดุดที่

หนังฝรั่งเรื่องหนึ่ง ร่างกายผมที่กำลังเร่าร้อนเพราะแอลกอฮอร์กำลังพาเลือดผมวิ่งพล่าน

มาเจอฉากรักสุดเซ็กซี่ มีอารมณ์ชะมัด ผมเดินไปหยิบเบียร์มาอีก 3 กระป๋องมองดูทีวีตาแป๋ว

พระเอกนางเอกกำลังฟัดกันสุดสวิง ในห้องมืดที่มีเพียงแสงจากภายนอกตึกสาดเข้ามา

พระเอกดันนางเอกชิดประตูกระจกใส ที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั้งเมืองด้วยร่างที่เปลือยเปล่า

ก่อนจะแนบตัวมาข้างหลัง จับสะโพกที่เต็มไม้เต็มมือแน่นก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรัก

กระแทกกระทั้นจากด้านหลัง เสียงครางของนางเอก เล่นทำผมใจหวิว เสียงหอบหายใจของทั้งคู่

เล่นทำเอาผมใจเต้นรัวหอบกระเส่าตามไปด้วย เอกน้อยค่อยแข็งขืนจนผมปวดหนึบ

ผมสอดมือ เข้าไปลูบไล้น้องชายเบา ๆ เผลอไล้ลิ้นเลียรอบริมฝีปากตัวเองอย่างหื่นกระหาย

บทรักที่ว่าจบลง แต่ผม...ยังไม่เสร็จผมเดินไปปิดไฟทั่วทั้งห้อง ดึงม่านตรงประตูที่เชื่อมไปริมระเบียงออก

เปลี่ยนทีวีไปยังช่องที่เป็นดนตรีแบบ Pop ฟังสบายรอเวลา  สักได้ยินเสียงไอ้ป่วนเปิดประตูออกจากห้องน้ำ

มันพันแค่ผ้าเช็ดตัวออกมาเดินมาหาผมที่อยู่ในห้องดูทีวี  มันมาถึงก็นั่งลงข้าง ๆ ใช้มืออีกข้างเช็คหัวตัวเอง 

“ปิดไฟทำไมอ่ะ... เสียสายตานะเว้ย” มันหันมามองหน้าผมงง ๆ ผมไม่ตอบ ทำท่าให้ปกติที่สุดก่อนเหยื่อจะตื่น

ผมยื่นเบียร์ส่งไปให้แต่มันส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่เอาแปรงฟันแล้ว ขี้เกียจแปลงใหม่” มันเลิกสนใจผมหันไปดูทีวี ผมกระดกเบียร์เข้าปาก

ดึงไอ้ป่วนมาจูบแทรกลิ้นร้อน ๆ พร้อมกับป้อนเบียร์ที่อยู่ในปาก

“อืมมมมมมมม  ..อย่า” มันดิ้นหลบยุกยิก  ผมกระหวัดเกี่ยวลิ้นหวานของมัน ดูดกลืน

ทั้งที่ปากมันร้องห้าม แต่ร่างกายกับตอบสนองผมอย่างดีเยี่ยม  ริมฝีปากอิ่มกำลังยั่วยวนผม

“อือออ  อ่ะ  เอก...”  มันส่งเสียงครางเบา ๆ เมื่อผมไล่ชิมจนทั่วโพลงปาก มันเผลอไผลหลับตาพริ้ม

จูบตอบผมอย่าเร่าร้อน ริมฝีปากที่ดูดกลืนกันและกัน ทั้งเร่าร้อนและอ่อนหวาน 

มีเสียงดังเป็นระยะยามที่ริมฝีปากละออกจากกัน  ผมกดจมูกสูดดมที่แก้มหอม ๆ ของมัน 

เขี่ยเรื่อย ๆจนไปถึงใบหู  ผมไล้ลิ้นอ่อนละเล็มใบหู ไอ้ป่วนหดคอหนี ครางกระเส่า

ช่างเร้าอารมณ์ผมเหลือเกิน   ผมครอบปากที่หน้าอกไอ้ป่วนดูดแรง ๆ ทำมันเสียว

จนต้องแอ่นอกรับสัมผัส ผมลากจูบหวาน ๆ  ลงมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าท้อง

“อ๊ะ..  อ่ะ เอกกกกก” มันครางเสียงแหบพร่า สองมือจิกที่ไหล่ผมแน่น 

เมื่อมือผมกำลังหยอกเย้าที่ไอ้นัยน้อย มันเด้งรับสัมผัสมือผม

ก่อน ที่ผมจะครอบปากชิมไอ้ติมแท่งร้อนของอีกฝ่าย ทั้งดูด ทั้งเม้ม  ตวัดลิ้นพันไปทั่วแท่ง

แล้วครอบปากลงอีกครั้งลูดขึ้นลงเป็นจังหวะ 

“อ่า...ซีสสสสส”  มันครางหอบ เหมือนใกล้จะเสร็จ ผมละปากออก ไอ้นัยมองหน้าผม

อย่างเคือง ๆ เอื้อมมือจะช่วยลูกมันต่อ แต่ผมจับไว้ริมฝีปากยกยิ้ม ยักคิ้วกวน ๆ ให้มัน

“อื๊อออ  ปล่อยยยยย”  เสียงมันแหบพร่าทั้งเซ็กซี่และเย้ายวน  แต่ก็บ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างถึงที่สุด

“เดี๋ยวครับรอก่อน”  เอื้อมมือไปกดรีโมทย์ปิดทีวี  ห้องทั้งห้องมืดสนิท มีเพียงแสงสว่างจากไฟนอกห้อง

สาดส่องมาจากทางระเบียง (รู้สึกคุ้น ๆ รึยังครับ)

“มานี่สิ. นัย...... มาเร็วครับที่รัก” ผมว่าค่อยรั้งคนร่างบางให้ลุกขึ้น ทั้งที่ร่างกายเราทั้งคู่เปลือยเปล่า

ผมประกบริมฝีปากจูบมันอย่างเร่าร้อน ค่อย ๆ ดันไอ้ป่วนให้ถอยไปเรื่อยๆ จนชิดประตูกระจก

“อะ...เอก  ไม่เอา...ตรงนี้”  ไอ้ป่วนหน้าแดงกล่ำ ด้วยความเขินอาย ใช่ครับผมไม่ได้ปิดม่าน

“นัย..นัยครับ   เอกขอได้มั้ย” ผมกระซิบที่หูของอีกฝ่าย ไม่รอคำตอบจับไอ้ป่วนหันหน้าเข้ากระจก บดเบียน

เจ้าลูกชายตัวดีที่อดทนมานานค่อย ๆแทรกเข้าด้านหลัง ของอีกฝ่าย จนสุด

“อ่า............อืมมมมมมมมมม” ผมกัดฟันแน่น ครางเสียงต่ำ ช่องหวานของไอ้ป่วน

ที่ตอดรัดผม จนแทบขยับไม่ไหว ผมลูบไล้ทั่วตัวไอ้ป่วน ก่อนจะช่วยลูดไอ้ติมร้อน

ขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ก้นมันกระดกตามจังหวะมือผมน้อย ๆ ทั้งที่ของผมคาอยู่ด้านใน

“อ่า..........อ๊ะ” ผมกับมันครางแข่งกัน ระหว่างที่มันขยับตามมือผมอยุ่นั้น ด้านหลังก็ค่อย ๆ

เข้าออกตามแรงขยับของมันเพราะผมยืนอดทนอยู่นิ่ง เสียวววจนผมเผลอกลั้นหายใจ

(โอยยเสียววววววววว  .ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย)

“ม่ะ...ไม่ไหวแล้วครับ จะไปแล้วนะ” ผมเลื่อนมือทั้งสองข้างมาจับที่สะโพกไอ้ป่วน

กระแทกทั้งแรงและรัว จนไอ้ป่วนตัวโยกทั้งตัว ไม่สนอะไรแล้ว  ถี่ยิบจนแม้แต่ผมแทบหายใจไม่ทัน

มีแต่เสียงครางสลับกับเสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะ ที่ไม่สามารถนับครั้งได้

ไอ้ป่วนยื่นมือถอยหลังมาบีบก้นผมแน่น ๆ  ด้วยแรงอารมณ์ของมัน

“ระ.... ระ...แรงอีก อืออออ”  มันหอบหายใจแรงๆ หันมาสั่ง ก่อนจะกัดปากตัวเองแน่น

“ อ่ะ...อ๊ะ... อืมมมมมมมมมมม” ผมกระแทกแรง ๆ เน้น ๆ อีกสองสามครั้ง

ร่างทั้งร่างเกร็งกระตุก ก่อนที่ทั้งผมและมันจะปล่อยน้ำสีขาวออกมาทั้งคู่

ไอ้ป่วนเข่าอ่อนทำท่าจะล้ม  จนผมต้องโอบกอดมันไว้  เราทั้งคู่หอบกระเส่า

ด้วยความเหนื่อย ราวกับวิ่งแข่งกันซัก 1500 เมตร ผมดึงมันมาจูบอีก

เราแลกลิ้นกันสักพัก ผมค่อย ๆประครองไอ้ป่วนมานั่งตรงโซฟา

มันทิ้งตัวนอนอย่างหมดแรง 

(ปกติจะนอนตอนมีอะไรกัน  แต่วันนี้ยืนไอ้ป่วนเลยดูเหนื่อยกว่าปกติ)

“เสียวมั้ย...”ผมก้มลงไปถาม ซุกหน้าหอมแก้มมันอีกครั้ง

มันหลบตาแต่ในที่สุดมันพยักหน้าตอบแบบอาย ๆ

“แล้วชอบรึเปล่า” ผมจ้องไอ้ป่วนตาไม่กระพริบ มันพยักหน้าตอบ

หน้าขาวแดงระเรื่อ ริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้บวมเป่ง จากสัมผัสที่ควบคุมไม่ไหว

“ไปจำมาจากไหนวะ...หรือเคยทำกับใคร”  มันหันมามองผม จากตาแป๋ว ๆ

อาย ๆ กลายเป็นสายตาดุคาดโทษซะงั้น  หึหึ เล่นทำเอาผมหลุดยิ้มเลยทีเดียว

(หวงกุก็เป็นเหรอ  ไอ้ป่วน...หึหึ  นึกว่ากุหวงมึงอยู่คนเดียว)

ผมลูบหัวไอ้ป่วน กดจูบเบา ๆ ที่เปลือกตาของมัน

“ดูจากทีวีเมื่อกี้ แค่ดูยังมีอารมณ์เลยอ่ะ เลยลองทำดู เสียววะ

มากกว่าทุกครั้ง  มึงรู้มั้ย ขนาดข้างหลังมึงยังเซ็กซี่เลย

ทั้งขาว ทั้งเนียน มองแต่ละทีของขึ้นเลย  หึหึ” ผมไล้มือที่แกล้มของมัน

ส่งสายตาโล้มโลมมันตั้งแต่หัวจรดเท้า อยากจะกลืนกินแม่งทั้งตัว

“มึงอ่ะ ..”  ไอ้ป่วนว่าอาย ๆ ผมหัวเราะหึหึ

“ป่ะไปอาบน้ำ” ดึงไอ้ป่วนลุกขึ้นนั่ง ผมคุกเข่าหันหลัง ให้มันขี่หลัง

“ขี่หลังสิ” ผมว่า มันก็ทำตามอย่างว่าง่าย คงจะเหนื่อยมาก ยื่นไม่ไหวเลยมัน

เราทั้งคู่ก็อาบน้ำไป ผมก็ลวนลามมันไป แทะโลมเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ

ก่อนจะกลับมาที่เตียงนอน ไอ้ห้องดูทีวี พรุ่งนี้ค่อยทำความสะอาดกระจก

ที่ไอ้ป่วนไปพ่นนมเปรี้ยวไว้ ฮ่า ๆ  ไอ้ป่วนยิ้มน้อย ๆ ผมชอบมองมันอย่างนี้

ผมดึงมันมากอด มันเองก็ดูเต็มใจจะซุกหน้ากับอกกว้างของผม

ริมฝีปากบาง ๆ ของมันกดจูบ หยอกเย้าบนอกกว้าง

(จริง  ๆแล้วมึงอยากทำรอยอ่ะดิ  กุรู้  หึหึ ทำก็ทำไปสิกุไม่อาย  ฮ่า ๆ

ดีซะอีกใครถามกุจะบอกว่า  “เมียกัด”  ไม่ใช่ “เพื่อนรักกัด” นะโว้ย ขอเตือน)

วันนี้เราเจออะไรมาเยอะจนทำมันเครียด  ..ผมอยากทำให้มันลืมไปก่อน

กินให้อิ่ม นอนให้หลับ พรุ่งนี้ค่อยสู้ปัญหา ค่อย ๆหาทางแก้ไขกันใหม่

อย่างน้อยถึงจะทุกข์ก็ขอให้มีเวลา ที่มีความสุขมาคั่นมั่ง ให้รอยยิ้มเข้ามาเติม

และแทนที่ความทุกข์ให้มันค่อย ๆ น้อยลง และจางหายไป

อย่าให้ความทุกข์มันเกาะกินหัวใจเรา ทีละเล็ก ทีละน้อย จนมันไม่เหลือ

พื้นที่จะให้เรามีความสุขเลยนะครับ  ไม่อย่างนั้น...ชีวิตที่เหลือจะมีค่าอะไร

ถ้าเราแค่มีความสุข  ...ความสุขก็จะกระจายในอากาศ  ไม่เชื่อเหรอครับ

ลองถามตัวเองดู เวลาคนที่คุณรักมีความสุข  ...แล้วคุณมีความสุขไหม

เวลาที่เค้าเสียใจ......แล้วคุณเสียใจไปกับเค้าไหม ดังนั้นแค่เรามีความสุข

มันก็จะทำให้คนข้างๆ อีกหลายคนมีความสุขไปกะเราด้วยนะครับจำไว้

(ฮ้าว~  ง่วงแล้วไปนอนก่อนนะครับ  ราตรีสวัส)

------------------------------------------------------------------------------------------

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: sasaijk ที่ 30-01-2012 02:37:14
หวัดดีค่ะ เพิ่งเข้ามาอ่านอ่ะค่ะ ไม่เคยอ่านเลย แต่มาอ่านตอนนี้ตอนเดียวอ่านไปได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ
ตอนแรกก้อกะอ่านคราวๆ แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ ก้อได้แต่นั่งยิ้ม
จากยิ้มเฉยๆ ก้อกลายเป็นหัวเราะ
แล้วก้อยิ้มไม่หุบ
พออ่านจบทำไมถึงกลับมาหน้าแดงก้อไม่รู้
ฮิฮิ
(มีโอกาสจะตามเรื่องนะค่ะ..... :bye2:)
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 30-01-2012 02:42:40
 :bye2:  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 30-01-2012 03:48:09
อย่าให้ความทุกข์มันเกาะกินหัวใจเรา ทีละเล็ก ทีละน้อย จนมันไม่เหลือ

พื้นที่จะให้เรามีความสุขเลยนะครับ  ไม่อย่างนั้น...ชีวิตที่เหลือจะมีค่าอะไร

ถ้าเราแค่มีความสุข  ...ความสุขก็จะกระจายในอากาศ  ไม่เชื่อเหรอครับ

ลองถามตัวเองดู เวลาคนที่คุณรักมีความสุข  ...แล้วคุณมีความสุขไหม

เวลาที่เค้าเสียใจ......แล้วคุณเสียใจไปกับเค้าไหม ดังนั้นแค่เรามีความสุข

มันก็จะทำให้คนข้างๆ อีกหลายคนมีความสุขไปกะเราด้วยนะครับ

ชอบมากอ่ะประโยคนี้
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 30-01-2012 07:15:17
กด LIKE ทุกคำพูดของพี่เอกพี่นัยเลย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: fox ที่ 30-01-2012 07:28:39
หวานปนหื่นนนนน  :-[
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: naiin ที่ 30-01-2012 07:42:06
อ่านไปอิจฉาไปอ่ะตอนนี้
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 30-01-2012 08:06:17
เอก พูดดีอีกแล้ว o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-01-2012 08:34:22
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 30-01-2012 08:56:28
เอกน่ารักได้อีก คนเขียนเขียนได้ดีจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 30-01-2012 09:18:03
พระเอกนี่โครตหื่นเลย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 30-01-2012 09:26:38
ชอบเอกอ่า
ดูเป็นผู้ใหญ่ดี
ชอบทุกคำพูดของคนเขียนเลย
+1 ให้ัเน้ออ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 30-01-2012 10:29:27
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-01-2012 14:13:30
คำพูดโดน o13
กด+เป็ดจ๊า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-01-2012 20:35:53
 o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 30-01-2012 20:46:37
หยา อ่านมาแล้วนะเรื่อเป้อ่ะ น่ารัก แต่เรื่องนี้ก็สุดๆ รอต่อปาย ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 30-01-2012 20:56:55
โดนเลย(คำพูด) เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 31-01-2012 00:21:41
กรี๊ดดดดดด ><~ ร้อนแรงไปนะ แย่งซีนอีกคู่เฉย อิอิ

คู่นี้เลิศม๊วกก เพื่อนพ้องท้องชนกัน 555++

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า

ีรอรอน้าค๊าฟฟ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 31-01-2012 02:21:32
 :jul1:

เลือดท่วม

แล้วปิงปองจะเสร็จเป้มั๊ยเนี่ย ?  :oo1:

 แก๊งนี้หื่นมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 31-01-2012 07:30:17
ตอบ คุณ PetitDragon   เป้กับปิงปองเป็นคู่กันค่ะ
แต่อยู่ในเรื่องที่จบไปแล้วค่ะ  ยังไงถ้าสนใจอ่านเรื่องของเป้กับปิงปอง
ก็คลิกลิ้งที่อยู่ กับหัวเรื่อง ตอนที่ 9 ได้เลยค่ะ

ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ  ^___^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 31-01-2012 07:44:02
น่ารัก
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 31-01-2012 11:46:12
สุดยอดจิงๆๆ ดูเสร็จก็ทำตายเลยเนอะ  ฮ่าๆๆ

เสียวน่าดูเลยอ่ะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Huasia ที่ 31-01-2012 14:37:44
มารอต่อค่ะ  น่ารักมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 01-02-2012 01:42:16
 o13 สุโค่ย  สนุกมั่กๆ
ตามมาอ่านจากเรื่องนู้นเลยนะเนี่ย
อ่านเรื่องแรกจบก็ว่าอารมณ์มันยังค้างๆคาๆอยู่
ที่ไอ้เพื่อนสองคนนี้(นัย+เอก)มันต้องมีซัมธิงรองอะไรกันอยู่แน่ๆ
แล้วก็ใช่จริงๆด้วย คนเขียนมาเฉลยให้แล้วเขียนต่อให้อีก
ดีใจๆ อยากอ่านต่ออีกค่ะ จะมีเรื่องใหม่อีกมั้ยค่ะ
แล้วเรื่องนี้จบหรือยัง?

 :pig4: มากๆค่ะ
เป็นกำลังใจให้แต่งเรื่องต่อไปสนุกๆ+หื่นๆด้วยนะค่ะ  :z1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 02-02-2012 05:35:01
^_____^  ขอบคุณค่ะ สำหรับการติดตาม

ทัดตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะแต่งตอนของ เอก+นัย

ตั้งใจทำเป็นตอนพิเศษไม่กี่ตอน แต่มันจบไม่ลง 

มีคน ขอให้แต่งเป็นอีกเรื่องเถอะ  เลย เลยตามเลยค่ะ ย ( ^___^)

ส่วนเรื่องใหม่ก็มีคิด ๆ อยู่บ้างค่ะ  แต่ยังไม่แ่น่ใจ  หึหึ


หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 03-02-2012 00:40:01
ปิงปอง กะ เป้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 9 สารภาพ P.6 30/1/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 04-02-2012 10:39:24
รอหน่อยนะคะ  คาดว่าวันนี้คงจะเสร็จอีกตอน  ^______^ 
ขอไปธุระก่อน  หุหุ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน(1) P.7 4/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 04-02-2012 23:51:42
และแล้วก็ได้เวลาคลอด บทใหม่
รอนานหน่อยนะคะ  ตอนนี้สติพินาศไปแล้ว
ฮ่า ๆ คนทำงานก็อย่างนี้แหล่ะค่ะ
อารมณ์พอ ๆ กับคนกำลังสอบ  แค่กำลังย้ายออฟฟิศ
ต้องติดตามเรื่องย้ายที่อยู่ ในส่วนราชการทั้งหลาย
ต้องทำเรื่องวีซ่า เวิร์คเพอมิทนาย ต้องดูแลช่างโทรศัพท์ที่มาติดต่อ
ต้องโทรหาองค์การโทรศัพท์ที่โทรไปต่างประเทศไม่ได้
ฯลฯ   เรียกได้ว่าสติแตกดี ๆ นี่เองค่ะ 


บทที่ 10 ซ่อน
 
เช้าวันจันทร์ผมตื่นขึ้นมามองไอ้ตัวป่วนของผม

(ที่เมื่อคืนผมทำมันขาอ่อนปวกเปียกจนแทบยืนไม่ไหว หึหึ)

มันยังคงหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของผม ลมหายใจสม่ำเสมอบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวยังหลับสนิท

กลิ่นตัวไอ้ป่วน หอมจาง ๆ ส่งมาถึงจมูกผม จนอดไม่ได้ที่จะสูดดมกลิ่นหอมนั่น

น่าปรารถนานัก  ผมไม่เคยเข้าใจ.....กับมันเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ มีแต่ต้องการมากขึ้นๆ

จนแม้แต่ผมก็เริ่มกลัวตัวเอง...ว่าจะขาดมันไม่ได้   ผมจ้องริมฝีปากอิ่มที่แดงระเรื่อนั่น

ช่างดูเย้ายวนซะเหลือเกิน ผมเส้นเล็กนุ่มสลวยยุ่งเหยิงเพราะมันดิ้นยุกยิกไปมา

ผมค่อย ๆ เกลี่ยผมที่ปิดบังใบหน้าไอ้ป่วนออก หน้าขาว ๆ ของมันที่ทั้งนุ่มทั้งหอม

จนน่ากัดเบา ๆ  ก่อนจะไล้มือเบาๆ ไปตามแขนไอ้ป่วนกลัวมันจะตื่น  ผิวที่เนียนลื่นซะจน

ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นผู้หญิงซะมากกว่า ไม่มีขนสักเส้นตามแบบฉบับของผู้ชาย 

(นี่มึงเป็นผู้ชายจริง ๆ ป่าวว่ะนัย)  ผมไล้มือลงไปเรื่อย ๆ  จนถึงเอวคอด ก่อนจะลาก

ต่อไปถึงสะโพกกลมกลึงของมัน เน้นคลึงอยู่สักพัก  มันไม่ได้มีมากเหมือนผู้หญิง

แต่ก็มีนิด ๆ ก้นที่นิ่มกว่าผู้ชายปกติ ก้นที่ทำผมแทบคลั่งเวลาได้สัมผัส

แค่มองก็ทำผมเริ่มร้อนขึ้นมาตะหงิด ๆ ซะแล้ว  ทั้งที่ไอ้ป่วนยังนอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น

จนผมต้องเผลออมยิ้มให้กับความน่ารักของมัน  ไม่ว่าจะมองตรงไหนก็..น่ารักจริง ๆ หึหึ

ดีจังที่มันหลับสนิทได้ขนาดนี้  ...  ถ้าเป็นเมื่อก่อน (ตอนที่ผมกับมันเป็นแค่ “เพื่อนธรรมดา”)

ถ้ามีปัญหาขนาดนี้ คงไม่ได้เห็นมันหลับลงง่าย ๆ มันมักจะมานอนกับผมเสมอ

แล้วแกล้งทำเป็นหลับไปก่อน พอผมหลับมันก็มักจะกอดผมเบา ๆ ซุกหน้ากับอกผม

ปล่อยน้ำตาร้อน ๆ ให้ไหลไปเรื่อย ๆ ไม่มีเสียงสะอื้น มีแต่เพียงความเงียบกับน้ำตา

กว่าผมจะรู้สึกตัวไอ้ป่วนก็หลับไปทั้งคาบน้ำตาที่อกผมแล้ว   ผมมักจะกอดมันไว้

ในเวลาแบบนั้น แค่รู้สึกว่าอยากปกป้องมัน...ถึงไม่เคยขัดใจ  ตัวมันบางจนผมคิดว่า

มันคงไม่อาจทนกับเรื่องหนัก ๆ ไหว แม้จะเคยเจอเรื่องหนัก ๆ มาหลายเรื่อง

แต่มันก็ทำให้ผมกลัวทุกครั้งว่าร่างบาง ๆ ตรงหน้าจะแหลกสลาย อยากกอดมันไว้

ป้องกันมันจากทุกสิ่งที่จะทำให้มันเจ็บรวมถึงเรื่องเมื่อวานนี้ ถึงสายตาของมันจะกังวล

แต่ความเจ็บปวดของมันก็เบาบางลง  อย่างน้อยผมก็ได้เห็นรอยยิ้มของมันที่ไม่ใช่แค่...แกล้งยิ้ม

แค่ความสุขเล็ก ๆ ที่เข้ามาแทรก ระหว่างที่ร้อนใจ  แค่นี้......ก็ดีแล้ว ให้มันรู้ว่ายังมีใครเป็นห่วงอยู่

“โอ๊ย...” ไอ้ป่วนพลิกตัวซกหน้าเข้ากับอกผมแล้วกัดหยอก ๆ เล่นทำเอาผมสะดุ้งทันที

ไม่ทันคิดว่าจะโดนไอ้คนที่มันหลับตาพริ้มเมื่อกี้แกล้งเอาได้

“หึหึ...เจ็บมั้ย” มันหัวเราะ...ยิ้มหวาน ๆ ส่งมาให้ผม  ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

ก้มลงจูบที่ปากไอ้ป่วนเบา ๆ มันยังหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี 

“แกล้งคนอื่นระวังจะโดนทำโทษนะ”  ผมว่าส่งสายตาเจ้าชู้ไปให้

“ชิส์....กลัวที่ไหน” มันย่นปาก ทำท่าอยากลองดี   (หึหึ  ...จัดให้อีกสักทีดีมั้ย)

“อย่าเก่งแต่ปากแล้วกันนะ” ผมว่า   ขยี้หัวไอ้ป่วนเบา

“กุไม่เคยเก่งแต่ปากหรอก.......อืมมมม” ผมประกบปากไอ้คนปากดี  แทรกลิ้นหวานเร่าร้อน

มือไล้มันทั้งตัว ไอ้ป่วนดิ้นยุกยิกขัดขืนเหมือนพยายามต่อรองกับผม แต่ผมไม่อยากฟัง

แค่นั่งมองมันตอนเช้านี้ผมก็อดทนมาพอแล้ว  มันดันจนปากผมหลุดจากปากมัน

“อะ..เอก   เดี๋ยววันนี้มีเรียน     อืมมมม” ผมสอดมือตรึงท้ายทอยไอ้ป่วนก่อนจะก่อนจูบเร่าร้อน

อีกครั้ง  เลื่อนตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่ายที่พยายามดิ้นยุกยิกหลบหนี  (หึหึ  ไม่แน่จริงนี่หว่า)

“อ่ะ..”  ไอ้ป่วนดีดตัวผึง  มื่อลิ้นร้อน ๆ ของผม ไล้เลียวนรอบเม็ดสีจนแข็งไต เม็ดสีที่แสนหวาน

ก่อนจะกดปากดูดแรง ๆ แล้วดึงขึ้น  จนไอ้ป่วนของผมต้องแอ่นตัวขึ้นตาม 

มันครางกระเส่าหอบหายใจแรง ๆ พอกับผมที่ใจเต้นรัวเป็นกลองชุด   ผมสอดมือเข้าไป

ในบอกเซอร์ของอีกฝ่ายลูบไล้ไอ้นัยน้อยที่ตัวพองเต็มมือผม ใช้ปลายนิ้วนวดคลึงเบาที่ส่วนหัว

“อ๊ะ....อือออออ” มันครางเสียว ผมดึงบอกเซอร์ไอ้ป่วนทิ้งไป ยกขาสองข้างให้พลาดไหล่ผม

ก่อนจะครอบปากชิมไอติมรสหวาน ลิ้นละเล็มไปทั่วแท่ง ก่อนจะเน้นคลึงยอดที่มีน้ำเยิ้ม ๆแสนหวาน

ให้ผมได้ชิมรส ไอ้ป่วนจิกไหล่ผมแน่น ก่อนจะกระแทกน้องชายมันเข้าปากผม

แรง ๆ ทำหน้าเสียวปานจะขาดใจ   ผมคลายความแน่นของแรงดูด ปล่อยให้ไอ้ป่วน

กระแทกแรงได้ตามอัธยาศัย   ไอ้ป่วนเลื่อนมืออีกข้างกดหนักที่หัวผม เดินเครื่องเต็มที่

สักพักร่างกายได้ป่วนก็บิดเกร็ง  กระตุกเล็ก แล้วปล่อยน้ำรักในปากผมจนหมด

ผมจนมันปล่อยน้ำจนหมด แล้วค่อย ๆ ดูดกลืนน้ำรักที่แสนหวานของมัน ส่งท้ายด้วยการเม้มปากแน่นๆ

ที่โคนไอติมร้อน ก่อนจะกระชากออกเร็ว ๆ ทั้งที่ยังเม้มอยู่

“อ่าส์ ...ซีสสสสสสส   เอก”  ไอ้ป่วนเสียวจนตัวงอ  สองมือจิกแน่นที่ไหล่ผม  ก่อนจะทิ้งตัวล้มลง

ไปนอนหอบจนหมดแรง  ผมเอื้อมมือหยิบเจลเย็นป้ายไปที่ทางหวานของไอ้ป่วน

ก่อนจะชะโลมที่แท่งร้อนของผม  จับไอ้ป่วนนอนคว่ำ สอดมือเข้าใต้เอวแล้วยกตัวมันขึ้น

เพื่อให้ไอ้ป่วนชันเข่า  ค่อย ๆ กด หัวน้องชายมุดไปยังช่องหวาน อย่างอดทน

กลัวจะเผลอกระแทกแรงๆ จนคนตรงหน้าต้องเจ็บปวด

“อ๊ะ ...เอก  เบา ๆ ”ไอ้ป่วนว่า ผมค่อย ๆสอด  ค่อย ๆสอดอย่างใจเย็นจนหัวมุดเข้าไปได้

“อืมมมมมมม  ซีสสสส แน่น...โคตร ๆ .ว่ะ.”  ผมกัดฟันแน่น พยายามข่มอารมณ์ที่พุ่งพล่าน

ค่อย ๆ ดันเข้าจนสุด

“อ่าส์......นัย”  ผมครางเสียงต่ำ  ก้มลงไปดึงหน้าไอ้ป่วนขึ้นมาจูบ สูดดมซอกคอหอม ๆ นั่น

ไล่จูบไปทั่ว  ขบกัดเบา ๆ สองมือก็พลางลูบไล้  จนได้นัยผ่อนคลาย ผมค่อย ๆ ขยับ

เข้าออก เบา ๆ  จนไอ้คนข้างล่างก็เริ่มครางเสียว มันแอ่นสะโพกรับสัมผัสเต็มที่

ผมขยับเร็วขึ้น ๆ  เริ่มกระแทกจนคนข้างหน้าตัวโยน 

“อ่ะ  ซีสสสสสสสสส  อืมมมม  นัย”  ผมครางเรียกไอ้ป่วนดึงขึ้นมาจูบอีก

“ระ....เร็วอีก อืมมมมมม  แรง ๆ ... เอก”  และแล้วความอดทนทั้งหมดก็ขาดผึง

สองมือผมเลื่อนมากระชับแน่นที่สะโพกกลมกลึงนั่น   กระแทกทั้งเร็ว  และแรงใส่ไม่ยั้ง

“เอก..”

“อะ”

“อะ”

“อะ”   ไอ้นัยบิดเกร็งอีกครั้ง พ่นน้ำรักของมันอีกครั้ง ช่องด้านหลังมันบีบรัดแน่น

“อืมมมมมมมมมมมม  นัย”  ผมเสียวแทบกลั้นหายใจ ก่อนจะกระแทกแรง ๆ

แรงจนตัวทั้งตัวของไอ้ป่วนเซไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง มันหันมามองเคือง ๆ

ผมไม่สนใจกระแทกต่อ แรง ๆ อีกดอกสองดอก  เกร็งกระตุกปล่อยน้ำรักใส่ไอ้ป่วน

แล้วค่อย ๆ ถอนตัวออก ทิ้งตัวลงไปนอนหอบ แล้วดึงไอ้ป่วนมากอด  มันย่นปากใส่ผมเคือง ๆ

ที่ผมกระแทกแรงเกินไป ผมรีบอ้อนไอ้ป่วน  หอมแก้มแรง ๆ

“ขอโทษคร๊าบ...อย่าโกรธนะ ...นะ...นะครับ”   ผมอ้อน  ไอ้ป่วนไม่มองหน้าผม

ตวัดหางตาใส่  ผมดึงมันมากอดแน่น ๆ ขบที่คางมันเบา ๆ

“นะ..นะ  เดี๋ยวกุพาไปเลี้ยงข้าว ” ผมว่า  มันเหล่หางตามามองนิดนึง

ทำผมอมยิ้ม  รู้แล้วว่ามันเริ่มสนใจ

“อาหารอีสานที่มึงชอบไง  ร้านนั้นน่ะ  ที่มีไก่ย่าง แกงเรียง ชื่อร้านอะไรน๊า” 

ผมเกริ่นถึงร้านที่มันชอบ    แต่มันยังเงียบไม่ตอบ แต่สายตาเหมือน ๆ กำลังครุ่นคิด

“ร้านอะไรน๊า...ตรงเอกมัยอ่ะ  ชื่อร้าน  สบาย...สบาย” ผมว่า แกล้งจำชื่อร้านไม่ได้

“สบายใจไก่ย่าง”  ไอ้ป่วนว่า  (หึหึ..  ในที่สุดมันก็หลงกล  อยากกินหล่ะสิ)

“นะนะ  ไปด้วยกันนะ”  ผมอ้อนต่อ ซุกจมูกบนหัวไอ้ป่วนไปมา อย่างหยอกเย้า

“อืม” มันว่าพยายามทำหน้าตึง ทั้งที่หลุดยิ้มออกมาแล้วแท้ ๆ ยังแกล้งเก๊กไปงั้น

“ป่ะ ...อาบน้ำกัน”  มันเด้งตัวผึงวิ่งไปห้องน้ำเลย  เล่นทำผมขำพรืดดดดดดด

(หึหึ  ท่าทางมึงไม่อยากไปเลยใช่ไหม   ไอ้ป่วน)  ผมเปลี่ยนผ้าปูที่นอนก่อนจะตามเข้าไป

รีบอาบน้ำกับไอ้ป่วน  มันหันมามองหน้าผม แล้วทำสีหน้าไม่พอใจ

“เร็ว ๆ ดิมึงอ่ะ”

“ทำไมหิวแล้วเหรอ”  ผมว่าขำ ๆ มันยักคิ้วตอบกวน ๆ

“กินกุก่อนมั้ย...นัย”  ผมว่าส่งสายตากรุ้มกริ่มอีกรอบ  มันหันมามอง ก่อนจะกระแทกศอกใส่

เบา ๆ  (เบา ๆ แต่ทำไมกุจุกว่ะ)  มันก็หน้าแดงหูแดงกันไป  (หึหึ น่ากินกว่าสบายใจไก่ย่างอีกนะมึง)

ว่าแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัว  ไปร้านที่ประทับจิตของไอ้ป่วนกัน  ทานอาหารเที่ยงเสร็จตอน 11 โมง

ก็ตรงไปที่มหาลัย วันนี้เป็นวันจันทร์ครับมีเรียนช่วงบ่าย ไปถึงประมาณเที่ยงครึ่ง

กำลังจะไปนั่งโต๊ะประจำหน้าคณะ  ก็เหลือบไปเห็นไอ้ปิงปองเดินมาเลยเดินไปหา 

"ไงมึง...ดีขึ้นยังวะ  อ่า..เอ่อทำใจได้รึยัง " ไอ้นัยทักขึ้นเสียงขาดช่วง น้ำเสียงมันเป็นกังวล

ผมแอบบีบมือมันแน่น ๆ มือไอ้ป่วนเย็นเฉียบ ส่วนไอ้ปิงปองอีกคนดูหน้ามันซีด ๆ   พอทัก

มันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หน้ามันก็แดงขึ้น  คงเป็นเพราะความโกรธ มันคงไม่อยากจะเอ่ย

ถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ 
 
"เออ ...พูดยากว่ะ   อย่าพูดได้มั้ยวะ กูอยากลืม  แต่แค่นี้กูไม่ตายหรอกเว่ย  " ไอ้ปิงปองตอบ

ทั้งที่สีหน้าและแววตาของมัน กำลังบอกว่า  มันอยากจะตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอดไป ชัด ๆ

ยังจะทำปากดี ตีฝีปากว่ามันไม่เป็นอะไร

"พวกมึง.........ช่วยไรกูหน่อยดิ" ไอ้ปิงปองเอ่ยปากขึ้น  ผมกะไอ้นัยมองหน้ากัน

เลิกคิ้วเป็นเครื่องหมาย Question Mark? มันจะให้ช่วยอะไรว่ะ

หรือว่า...หรือว่า  มึงจะให้พวกกุเก็บไอ้เป้   (ว่าแต่กุจะเอามันไปเก็บไว้ไหนดี)

ไอ้นัยหน้าเจื่อน สีหน้ามันไม่สู้ดีนัก  ผมเองก็ไม่อยากจะฮามากไปกว่านี้

พอเห็นหน้ามันทีไร ขำไม่ออกทุกที  ไอ้ความเป็นห่วงมันพุ่งขึ้นมาชนที่หัวใจ

ซึ่งตอนนี้พลอยเต้นแรงไปด้วยกับมัน

"กูยังไม่อยากเจอหน้ามัน  มึงช่วยกูหน่อย"  ไอ้ปิงปองบอกวัตถุประสงค์ หรืออีกอย่างคือ

แจ้งความจำนงค์ให้พวกผมรับทราบกัน  ได้ฟังแล้วเล่นเอายืนไม่ติดที่เลยทีเดียว

จะถึงขนาดต้องตัดเพื่อนเลยรึเปล่าวะ  ผมไม่กล้าคิด  แต่ผมว่าไอ้คนข้าง ๆ ผม แม่งคงคิดไปแล้ว

มือมันสั่นนิด ๆ บีบมือผมกลับแน่น ๆ ก่อนจะปล่อยเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตุมากนัก

"เหี้ยไรวะ........เพื่อนกัน กูรู้ว่ามึงเสียใจ แต่มึงก้อให้อภัยมันไม่ได้เลยเหรอ คบกันมาเป็นสิบปี

แม่งจะมาเลิกคบกันเรื่องผู้หญิงคนเดียวอ่ะ อ่า...ยังไงซะก้อไม่ใช่ความผิดไอ้เป้ซะทีเดียว อ่ะนะ "

ผมเอ่ยขึ้น พอนึกได้ว่าไม่น่าพูด ก็เลยหน้าเจื่อนนิด ๆ หันไปมองไปป่วนที่มองมาตาเขียว

พร้อมกับคำด่าทางสายตาที่ว่า  “แล้วมึงจะไปย้ำทำเหี้ยไร” ส่งกลับมาให้ผม แต่มันไม่มองเฉย ๆ

“จิ๊  เหี้ยนี่ ...”  ไอ้ป่วนด่า  แล้วฟาดแฟ้มที่มันถืออยู่มาเต็ม  ๆ ที่หัวผม 

(กุว่าแล้ว...ทำไรเจ็บตัวฟรีตลอดศก   )

“โอ๊ย........... เชี่ยเจ็บ” ผมร้องเสียงหลง เอามือลูบหัวตัวเองป้อย ๆ หันมามองหน้าไอ้นัย ค้อนน้อย ๆ

“อ้าว!!  ก้อปากดีทำไมอ่ะมึง”  ไอ้ป่วนว่า  ก่อนจะโอบมือวางบนไหล่ไอ้ปิงปอง แบบให้กำลังใจ

(ขอเน้นครับ  ...แค่ให้กำลังใจเฉย ๆ  หึหึ  อย่ามากกว่านี้นะมึง  ไอ้ปิงปองยิ่งน่ารักอยู่)

“มีไรให้พวกกูช่วยบอกมาได้เลย... แต่กูเตือนไรมึงอย่าง มึงจะทำใจนานแค่ไหนก้อได้ แต่มึงต้องกลับมา

เป็นเหมือนเดิม  มึงเข้าใจนะ”  ไอ้ป่วนของผมบอก จ้องหน้าไอ้ปิงปองเขม็ง มันที่ทั้งมือสั่น หน้าซีดเมื่อกี้นี้

ยังมีสติได้ขนาดนี้  มันพยายามทุกอย่างที่เห็นว่าพอจะทำได้  ทำให้เราทุกคนกลับมาเป็นเหมือนเดิม

แม้ว่าจะต้องใช้เวลาหรือวิธีไหน  สิ่งที่อยู่ในใจมัน  ...ก็คงเป็นสิ่งนี้ เพื่อน ...ก็คือเพื่อน  และ

คงอยากจะอยู่เป็นเพื่อนกันตลอดไป เมื่อมันส่งเจตนาที่ดีขนาดนี้ผมจะไม่สนับสนุนมันได้ไง

ถึงยังไงทั้งไอ้เป้และไอ้ปิงปองมันก็เป็นเพื่อนผมเช่นกัน  อย่างน้อยผมเองก็หวังลึก ๆ

ว่าอยากให้พวกเราทุกคนรักกันเหมือนเดิม  ถึงผมกับไอ้นัยจะรักกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว

เพราะตอนนี้ผมรักมัน...มากกว่าเดิม   และไม่ได้รักมันในฐานะเดิม  แต่อย่างน้อย ๆ

ผมก็อยากให้ทุกคนยังคงเป็นเหมือนเดิมเป็นเพื่อนรักกันอย่างนี้ต่อไป

“เออ .. กูเห็นด้วย  มึงอย่าลืมหล่ะ พวกเราสี่คนคบกันมานานแค่ไหน  ยังไงกูก้อยังอยากให้พวกเรา

กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม” ผมย้ำ เอื้อมมือไปกอดคอไอ้ปิงปองอีกข้าง มันพยักหน้ารับรู้

แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะรับปาก  คงกำลังพยายาม   ถ้าเป็นผมก็คงยากเช่นกัน

ไม่ใช่แค่มันหรอก   ความไว้เนื้อเชื่อใจ  ความศรัทธา  มันค่อย ๆ สร้างขึ้นมาด้วยเวลา

และการกระทำ  ในเมื่อวันนี้การกระทำต่างๆ ได้ทำลายความศรัทธาที่สั่งสมมาเป็นสิบๆ ปี

ให้พังทลายลงไป   ก็ไม่ใช่ว่ามันจะกลับคืนมาได้ในคืนเดียวซะหน่อย 

ผมเองยังคิดไม่ออกว่า ไอ้เป้มันจะทำยังไงให้ไอ้ปิงปองกลับมาเป็นเหมือนเดิม

เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหตุผลที่มากมาย   ไม่ว่าจะสมเหตุสมผลหรือเปล่าก็ไม่สำคัญ

สำคัญที่ว่าไอ้คนตรงหน้านี้มันพร้อมจะฟังรึเปล่า  พร้อมที่จะฟังเหตุผลจริง ๆ

หรือจะคิดว่านี่คือคำแก้ตัวกันหล่ะ    แค่คิดก็ปวดหัวแล้วครับ  เรื่องของจิตใจจะห้าม

จะบังคับกันมันคงไม่ได้จริง ๆ 

“อืม ขอเวลากูหน่อย  กู..จะพยายาม”  ไอ้ปิงปองตอบในที่สุด  หลังจากเงียบอยู่นาน

ผมกับไอ้นัยส่งยิ้มให้กัน  อย่างน้อยนี่ก็เป็นสัญญาณที่ดีที่สุดแล้วตอนนี้ 

แค่มันบอกว่าจะพยายาม ก็ทำให้สีหน้าไอ้ป่วนของผมดีขึ้นมากกว่าเดิมเยอะ

หน้าทีซีดเมื่อกี้ดูปกติขึ้น มันยิ้มออกนิด ๆ นั่นก็ทำให้ผมสบายใจขึ้นมาก

“อืมม......ถ้างั้นตกลง” ผมตอบ ก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้นัยเลิกคิ้วเป็นคำถาม                           

“อ่ะ...เอ่อ ...อืมมมม  ช่วยก้อช่วยว่ะ”  ไอ้นัยตอบลังเลเล็กน้อย หันหน้าไปมองไอ้ปิงปอง

มันคงคิดว่าถ้าช่วยหลบขนาดนี้  แล้วพวกมันจะคืนดีกันได้ไหม ผมเองก็แอบหวั่น ๆ

แต่ในใจหนึ่งก็กลับคิดว่า  อย่างนี้คนเราก็คงต้องการพื้นที่ส่วนตัวในการคิดทบทวน

หรือแม้แต่ทำใจ  ...การจะก้าวไปข้างหน้า  ก็ต้องเดินข้ามอุปสรรคที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ได้ก่อน

เวลา...อาจจะเป็นยาที่ดีที่สุดในการรักษาคราวนี้ก็ได้  อย่างน้อย สิ่งดี ๆ หลายๆ อย่างที่ผ่านมา

ก็คงจะทำให้มันพอที่จะอภัย  และเิดินข้ามอดีตอันเจ็บปวดไปได้ (กุหวังให้เป็นยังงั้นว่ะ ...ไอ้ปิงปอง)

“ขอบใจว่ะ” ไอ้ปิงปองส่งยิ้มตอบ  เหมือนๆ กับว่ามันโล่งอก

จากนั้นก็แยกกันไปห้องเรียน ไอ้นัยกับไอ้ปิงปองเรียนห้องเดียวกันมันก็แยกไป

ส่วนผมก็ไปที่ห้องผม  ไปถึงก็เจอได้เป้รออยู่แล้ว  ... มันนั่งหน้าเครียด 

คล้าย ๆ กับอดนอนมาหลายวัน

“ไงมึง...หน้าโทรมเชียว”  ผมทักขึ้น

“เออ...นอนไม่หลับว่ะ” มันตอบ

“มึงเคลียร์กับไอ้ปิงปองไม่จบสินะ” ผมว่า

“อืม...มันหลายๆ อย่างว่ะ กุไม่รู้จะพูดยังไง  ว่าแต่มึงเจอมันรึยัง” ไอ้เป้เอ่ยถายขึ้น

“อืม  เจอ  ก็คุยอะไร ๆ กันหลายอย่าง  เฮ้อ....”ผมถอนหายใจยาวเริ่มรู้สึกเหนื่อยแทนไอ้เป้

เสียอย่างนั้น  ผมมองมันนึกไม่ออกว่าควรจะบอกมันยังไง แล้วจะบอกมันดีรึเปล่า

เรื่องที่ไอ้ปิงปองมันขอความช่วยเหลือ ถึงยังไงมันก็เพื่อนทั้งสองคน 

“มันหลบหน้ากุ...มึงรู้ใช่ไหม”  ไอ้เป้ว่า  หันมาสบตาผมคาดคั้นเอาความจริง

“เฮ้อ.....”  ผมถอนหายใจอีกครั้ง หันไปมองตอบมันก่อนจะพยักหน้าแทนคำตอบ

“มันขอให้พวกมึงช่วยสินะ...” ไอ้เป้  เดาถูกทุกอย่าง  สมแล้วที่พวกมึงเป็นเพื่อนสนิทกัน

ผมมองตอบได้แต่พยักหน้าแทนคำตอบ  รู้สึกผิดนิด ๆ ที่แพร่งพรายความลับ

ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าอย่างน้อยกุก็ไม่ได้ พูดมันคิดของมันเองทั้งนั้น 

แค่บังเอิญ...ไปพยักหน้าตอนมันถามพอดี  (เป็นเรื่องบังเอิญสุด ๆ อ่ะ จริง ๆ นะ)

“แล้วพวกมึงก็ช่วย..” มันยกคิ้วเป็นคำถาม

“อืม...แล้วพวกกุมีทางเลือกไหม”ผมว่า  หันไปถามมันตรง ๆ

“คราวนี้มึงผิด  หรือมึงจะเถียง” ผมต่อว่ามันอีก

“อืม...กุไม่เถียง  คราวนี้ผิดจริงๆว่ะ”  ไอ้เป้ตอบก้มหน้าก้มตา มองเท้าตัวเองที่เขี่ยพื้นไปมา

สีหน้าสลดอย่างบอกไม่ถูก  เหมือนกับจนหนทางที่จะแก้ปัญหา

“กุยังเป็นเพื่อนมึงอยู่รึเปล่า” ไอ้เป้ถามขึ้น  ผมพยักหน้าตอบ

“แล้วมึงจะช่วยกุบ้างได้ไหม” มันว่า น้ำเสียงเหมือนขอความเห็นใจ กึ่ง ๆ ขอร้อง

ผมหล่ะแปลกใจ ตั้งแต่คบกันมาไม่เคยมีครั้งไหนที่มันจะยอมขอร้องใคร 

มันคนที่ไม่เคยพึ่งใครมีแต่เป็นที่พึ่งของคนอื่น  ยอมลงทุนขอร้องผม 

(แล้วกุจะไม่ช่วยมึงได้ไงว่ะ....มึงเล่นขอมางี้ ก็ต้องกล้าช่วยดิเนี่ย  จะโดนไอ้ปิงปองด่าป่ะว่ะ)

“มึงจะให้กุช่วยยังไง” ผมยกคิ้วเป็นเครื่องหมายคำถาม  สีหน้าก็ยังคงแสดงความแปลกใจไม่น้อย

กับการขอร้องในครั้งนี้  (มึงยอมขนาดนี้...เพื่อไอ้ปิงปองเลยเหรอว่ะ)

“แค่บอกกุว่ามันอยู่ไหน...แค่นั้นก็พอ”  มันตอบ ยังส่งสีหน้าขอความเห็นใจมาที่ผม

“เฮ้อ.............งานเข้ากุหล่ะทีนี้  นกสองหัวของจริง”  ผมรำพึงรำพันกับตัวเอง

หันไปมองหน้ามันเซ็ง ๆ นึกถึงตอนโดนไอ้ป่วน กับไอ้ปิงปองจับได้

(โดนหนักแน่กุ................คิดแล้วเหมือน ๆ ตัวเองจะชะตาขาด แต่เพื่อให้พวกมันคืนดีกัน

ผมยอมครับ  ^^’)

“เออ  ..กุจะช่วยแต่มึงต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ” ในที่สุดก็ตอบตกลงไปจนได้

“อืม”  ไอ้เป้พยักหน้าตอบ  หน้าเศร้า ๆ เมื่อกี้มันหายไปไหนว่ะ  มีแต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ผมเริ่มรู้สึกว่า ตัวเองหลงกลมันรึเปล่าที่รับปากไปอย่างนั้น สีหน้าและแววตา ที่ดีใจสุดๆ

และดูจะโอเวอร์ไปหน่อย  เหงื่อผมเริ่มตกนิด ๆ ไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อท่านอาจารย์ที่เคารพ

ก็เดินเข้ามาในห้อง แล้วสติสัมปชัญญะทั้งหมดที่ผมมีก็พุ่งไปที่ท่านอาจารย์ทั้งสิ้น

แม้จะเกิดความงงงวยสงสัยขึ้นเล็ก ๆ ในใจก็ตาม

------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (1) P.7 4/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 05-02-2012 00:57:57
เป้สู้ๆๆนะ ขอให้เคลียร์กันได้หละ

เป้รักปิงปองอ่ะป่าวน๊าาาา.....อิอิอิ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-02-2012 07:45:18

ตอนที่ 10 ซ่อน  (Part 2)

จบคลาสที่อาจารย์ที่เคารพรัก  เพราะท่านเข้มงวดมาก ถ้าเกิดไม่สนใจ

ชีวิตนี้อาจจะหาไม่ได้  แต่คงต้องยกเว้นไอ้เป้  ไอ้นี่เป็นศิษย์รักของท่านครับ

เรียกได้ว่ามีอภิสิทธิ์พิเศษอย่างเห็นได้ชัด  ไม่ว่าจะทำอะไร

ท่านไม่เคยจะตำหนิ  อาจจะเพราะแม่งเก่งเทพเหลือเกิน 

คาดว่าเรียนจบคงไม่พ้นเกียรตินิยมเหรียญทอง ผมมองหน้ามันที่อมยิ้มนิด ๆ

อย่างแปลกประหลาดใจ  ดีใจอะไรหนักหนาว่ะ 

“มึงโทรไปบอกมันได้เลย  ...ว่ากุกำลังไป”มันหันมาสั่ง

เก็บของวิ่งตัวปริวออกนอกห้องเรียบร้อยแล้ว  ผมกดโทรหาไอ้ปิงปองทันที

หน้าเสียนิด ๆ ไม่รู้ไอ้เป้มันคิดอะไรอยู่  ได้ยินเสียงรอสาย

..

“เธอมีคนนั้นแต่ชั้นไม่เหลือใคร เธออยู่กับเขาฉันเหงาสุดหัวใจ ลืมตาก็คิดหลับตาก็ฝัน

มันทรมานเหมือนตาย ในคืนเดียวกันฉันเหงาสุดหัวใจ เธอคงกอดเค้าจนความหนาวคลาย

ทนกอดตัวเองแต่กอดยังไงกอดไปก้อไม่อุ่น

“อืม...ว่าไง”มันรับสาย

“มันกำลังไป...เอาไง” ผมบอก ในใจก็ลุ้นระทึก แม่งมันไปถึงรึยังวะ

“อืม..ขอบใจ กูกลับก่อนแล้วกัน ค่อยเจอกันพรุ่งนี้”  ไอ้ปิงปองว่า

“เออ” ผมตอบ   ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร เหมือน ๆ มันจะเข้าตัวตลอด

ผมไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไร  จนไอ้นัยมาเล่าให้ฟังทีหลังว่าพอไอ้ปิงปองวางสายผมปุ๊บ

ไอ้เป้ก็โผล่มาพอดี แต่ไอ้ปิงปองมันไหวตัวทัน  ชิ่งหนีแบบเฉียดฉิว

เห็นแต่ไอ้เป้ทำหน้าเศร้า แล้วก็หนีกลับไปทันที  ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น 

แต่ถ้าให้พวกผมเดา  มันก็คงไปตามหาไอ้ปิงปองที่คอนโดนั่นแหล่ะผมว่า

ผมกดเบอร์ไอ้ปิงปอง  ....คาดว่าตอนนี้มันคงถึงคอนโดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ฮัลโหล” ไอ้ปิงปองรับสาย

“ไง...มึงอยู่ไหน” ผมถามด้วยความรู้สึกเป็นห่วง

“อยู่ห้องว่ะ...วันนี้ขอบใจนะ” มันตอบเสียงแผ่ว  ผมเดาไม่ถูกว่ามันดีใจ หรือเสียใจ

กันแน่  ที่คอยหลบไอ้เป้ 

“อืม” ผมตอบเสียงเนือย ๆ 

“มึงแน่ใจแล้วเหรอ  ที่ซ่อนตัวแบบนี้”  ผมถามมันต้องการความแน่ใจ

“อืม...ขอเวลากุหน่อยว่ะ”  มันตอบ  ทั้งที่เงียบเสียงไปนาน เหมือนมันค่อย ๆ

กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก  ถ้าผมเดาไม่ผิดน้ำเสียงมันดูสั่น ๆ

(ก็ถ้ามึงเสียใจขนาดนั้น ทำไมมึงไม่คุยกันให้รู้เรื่องเลยว่ะ ปิงปอง)

ผมได้แต่คิด แต่ก็ไม่มีความกล้าพอที่จะพูดอย่างนั้น

มันอาจจะเป็นแค่ความคิดของผมคนเดียวเท่านั้นเองก็ได้ แต่ผมว่าผมคิดไม่ผิด

“อืม...ถ้ามึงแน่ใจอย่างนั้น   ก็ตามใจ ถ้ามีอะไร  อย่าลืมมึงยังมีกุกะไอ้นัยอยู่นะเว้ย”

ผมย้ำเสียงเข้ม  จริงจังรู้สึกเป็นห่วงมันอยู่เหมือนกัน

“เออ...ขอบใจพวกมึงมาก  กุไม่เป็นไร  ไม่ต้องห่วง” มันตอบน้ำเสียงแผ่วเบา

“อืม ...แค่นี้แหล่ะ” ผมว่า  และกดวางสายในที่สุด 

และกดอีกเบอร์ที่คุ้นเคย  รอไม่นานปลายสายก็รับสายอย่างรวดเร็ว

ราวกับรออยู่ก่อนแล้ว

“มึงอยู่ไหน” 

“กำลังขับรถไปคอนโดไอ้ปิงปอง  มันอยู่ที่นั่นใช่มั้ย”

“หึหึ ...มึงก็รู้อยู่แล้วนิ” ผมตอบ รู้สึกขำที่มันโคตรจะรู้ใจไอ้ปิงปอง แต่ยังมาขอร้องผม

“กุแค่อยากแน่ใจ ..ขอบใจว่ะเพื่อน”  มันกรอกเสียงมา

“อืม ...มึงมีแผนแล้วเหรอเป้”ผมถามอย่างสงสัย

“ยัง” มันตอบสั้น ๆ

“เอ๊า...แล้วมึงจะทำยังไง”

“ไม่รู้...กุรู้แต่กุจะรอ   รอจนกว่ามันพร้อมจะฟังกุ” มันตอบในที่สุด

“แล้วมึงจะรอถึงเมื่อไหร่กันวะ” ผมสงสัย กับการรอคอยแบบไร้จุดหมายเช่นนั้น

“จนกว่ามันจะฟังกุ  นานแค่ไหนกุก็จะรอ”  มันตอบเสียงหนักแน่น

“มึงว่ามันจะยอมฟังมึงเหรอว่ะ เป้” ผมถามขึ้นอย่างสงสัย  เรื่องที่เกิดไม่ใช่เล็ก ๆ

ถ้าเป็นผม  ...  ผม...จะยอมฟังมันรึเปล่านะ  คำตอบเหรอ...ยากว่ะ

“ฟัง...มันต้องฟังกุแน่ ๆ  ถ้ามันยังเห็นกุเป็นเพื่อนมันอยู่” ไอ้เป้ตอบน้ำเสียงค่อนข้างเชื่อมั่น

ผมหล่ะกลัวว่าสิ่งที่มันคิดจะไม่เป็นจริง   กลัวความเชื่อมั่นของมันถ้าไม่สมหวังแล้วจะพังไม่เป็นท่า

แต่ในใจก็หวังให้เป็นอย่างที่มันคาดหวังเช่นกัน    ผมลอบถอนใจน้อย ๆ

(เร็ว ๆ นะเป้ กุอยากได้เพื่อนคนเดิมกุกลับมาเร็ว ๆ)

“อืม  ...โชคดีว่ะเป้”  ผมว่า  และวางสายไปในที่สุด ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้อง เห็นไอ้ป่วน

กำลังวางแผนอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ภูเขา, น้ำตก,  +มิตรภาพ

ผมมองงง ๆ ดูแล้วไอ้อันสุดท้ายไม่ค่อยจะเกี่ยวกัน มิตรภาพระหว่างเพื่อน  ผมนั่งลงข้าง ๆ

เอื้อมมือไปหยิบหนังสือเล่มที่ว่ามาดู แล้วก็ดูไอ้สถานที่ท่องเที่ยวที่ไอ้ป่วนเพียรหา

มึงไม่ดูสถานการณ์เลยมั้ย จะไปเที่ยวกันตอนนี้  เพื่อนแม่งทะเลาะกันจนไม่มองหน้าอยุ่แล้ว

“ทำอะไรว่ะ ..นัย”  ผมถามขึ้นอย่างสงสัย  เงยหน้ามองไอ้ป่วนที่ดูจริงจังเกินไปกับเรื่องเที่ยว

“กุกำลังวางแผน...และมึงก็ต้องช่วยกุด้วย” มันว่าหน้าตาขึงขัง จนผมแปลกใจ

“แผนอะไรของมึงว่ะ ...แผนท่องเที่ยวนี่นะ” ผมว่า ทำหน้าสงสัยส่งไปอีก

“มึงยังไม่ต้องรู้หรอก  ...มึงรอไปก่อน กุยังตัดสินใจไม่ถูก”ไอ้ป่วนหันมาตอบทิ้งปริศนาไว้ให้ผม

(ว่าแต่ แค่ไปเที่ยวมึงถึงขนาดทำหน้าซีเรียสขนาดนี้เลยเหรอวะนัย  ทั้งที่ตอนกลางวัน

มึงยังทำหน้าเครียดเรื่องเพื่อนอยู่เลย  ตอนนี้หันไปสนเรื่องเที่ยวซะแล้ว  =.= )

“เหรอ...เออมึงตัดสินใจได้ก็บอกกุแล้วกัน” ผมตอบ แล้วเลิกสนใจ

เดินไปอาบน้ำเสร็จไอ้ป่วนก็ยังวนเวียนอ่านหนังสือที่ว่า วนไปวนมา

เดี๋ยวหยิบเล่มนั้นอ่านเล่มนี้ อยู่อย่างนั้น    จนผมต้องลากมันไปอาบน้ำ

และบังคับให้นอน  มันถึงยอม แต่ก็หันมามองผมค้อน ๆ   ผมแกล้งไม่สนใจ

นอนกอดไอ้ป่วนอยู่ในอ้อมกอด 

“มึงว่าไอ้ปิงปองจะยอมให้อภัยไอ้เป้มั้ย” มันถามทั้งที่ซุกหน้าอยู่กับอกผม

วันนี้ไม่มีน้ำตา  แต่ว่าคำถามคำนี้วนมาอีกแล้ว  ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไหร่

แต่ไม่มีครั้งไหนที่มันไม่กังวล น้ำเสียงสั่นเล็ก ๆ จนผมสับสน

(เมื่อกี้มึงยังตั้งอกตั้งใจหาที่ท่องเที่ยวอยู่แท้ ๆ พอนอนกอดกุนี่เครียดขึ้นมาทันที)

แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ตอบ แต่เปลี่ยนเป็นกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

กดจูบเบา ๆ ที่หัวไอ้ป่วน  ลูบหัวมันเบา ๆ ทำได้แค่ปลอบใจจริง ๆ ครับ

เพราะผมไม่รู้คำตอบจริง ๆ ผมไม่ใช่ไอ้ปิงปอง  คงมีแค่มันที่จะตอบได้ว่า

ในที่สุด คำว่า”เพื่อน”  จะสิ้นสุด  หรือ จะยังมีมันต่อไป

“นอนเถอะนัย  มึงเครียดไปก็เท่านั้น พวกมันเครียดกันเองก็จะแย่อยุ่แล้ว

ยังจะต้องมาเห็นหน้าเครียด ๆ ของมึงอีก แทนที่พวกมันจะดีขึ้น

กุว่าพวกมันคงจะรู้สึกผิดมากขึ้นที่ต้องทำให้มึงเป็นแบบนี้

มึงยิ้มได้มั้ยวะนัย  มีความสุขเผื่อพวกมัน  มาช่วยกันหาทางให้

พวกมันคืนดีกันดีกว่า  ถ้าแม้แต่มึงก็ยังหมดหวังหมดกำลังใจ

แล้วจะมีใครมาคอยช่วย ให้ไอ้สองตัวนั่นคืนดีกัน  หายโกรธกันล่ะวะ”  ผมว่า

กอดไอ้ป่วนแน่น ๆ โน้มน้าวให้มันเห็นด้วย  อยากให้มันใจเย็นลงอีกสักนิด

“อืม...กุก็รู้ แต่...”มันตอบเสียงแผ่ว

“ไม่มีแต่...มึงต้องทำให้ได้ด้วย” ผมว่า ดันตัวไอ้ป่วนออกให้เงยหน้ามามองผม

ผมกดจูบเบา ๆ ที่หน้าผากมันส่งสายตาที่แสนห่วงใยไปให้ 

มันมองผมนิ่งก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ  ราวกับเป็นเรื่องยากหนักหนาที่จะรับปากผม

“อืม” ไอ้ป่วนตอบเสียงเบา   ซุกหน้ากับอกผม  ผมกอดมันแน่น ๆ เช่นเดิม

“กุรักมึงนะนัย   และกุก็ไม่มีความสุขที่เห็นมึงทำหน้าทุกข์ใจอย่างนี้

เวลามึงเจ็บกุก็เจ็บ  เวลามึงปวดกุก็ปวด เวลามึงเสียเศร้าใจ

มึงรู้ใช่มั้ยว่ากุ ก็ไม่ต่างจากมึง  กุก็รู้สึกเป็นนะนัย  แค่กุไม่แสดงมันออกมา

มึงอย่าแคร์แต่คนอื่น  แค่รักตัวเองบ้าง..จะได้มัยวะนัย” ผมพูดเสียงแผ่ว

อยากให้คนในอ้อมกอดรับรู้ความรู้สึกผมบ้าง

“ขอโทษ...” มันตอบเสียงอู้อี้ น้ำตาร้อน ๆ ซึมพอให้รู้สึก มันกอดผมแน่นขึ้น

แค่นี้ก็ดีใจแล้ว  ...ผมก็แค่รักมันมาก  และไม่อยากเห็นมันเศร้าเป็นหมาเหงาขนาดนี้

รู้ทั้งรู้ว่ามันห้ามตัวเองไม่ได้  แต่อย่างน้อยช่วยรักตัวเองกว่านี้ได้มั้ยวะนัย....กุขอร้อง
.
.
.
2 อาทิตย์ผ่านไป  ทุก ๆ อย่างเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทุกวัน ๆ เหมือนเป็นวงจรชีวิตสัตว์โลก

-ตอนเช้า  ผมกับไอ้นัยจะนัดเจอไอ้ปิงปองที่ม้าหินอ่อนที่เรานั่งกันประจำ

              โดยที่ไอ้เป้จะตรงไปที่ห้องเรียนและนั่งรอผมที่นั่น  ถามคำถามเดิม ๆ ทุกวัน

              “ไอ้ปิงปองเป็นไง? สบายดีมั้ย? มันถามถึงกุรึเปล่า?กินเข้าเช้ารึยัง? กินกับอะไร? “

              พร้อมกับคำตอบเดิม ๆ “ปกติ-ก็ดี-ปล่าว-กินแล้ว-ไม่รู้”

-ตอนเที่ยง  เป็นไอ้ปิงปองที่หนีไปกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มอื่น นอกมหาลัย

                ไอ้เป้ได้แต่ชะเง้อหา  กับคำถามที่ 

                 “มันไปกินข้าวที่ไหน? กับใคร? นัยทำไมมึงไม่ไปเป็นเพื่อนมัน?”

              พร้อมกับคำตอบเดิม ๆ เช่นเคย “ข้างนอก-กับเพื่อนกลุ่ม บลา~บลา~บลา~-

               มันบอกไม่ต้องก็ได้”

-ตอนเย็น    “ไอ้เป้จะหันมาสั่งมึงโทรไปบอกมันได้เลยว่ากุกำลังไปหา” พร้อมกับวิ่งหางจุกตูดออกไป

                  ผมกดโทรศัพท์โทรหาไอ้ปิงปอง “มันไปแล้วนะ”  “อือ..ขอบใจ เจอกันพรุ่งนี้”

                  ไอ้ปิงปองวิ่งหนี ทันบ้าง ไม่ทันบ้างแต่มีไอ้นัยช่วยขวาง ซึ่งมันก็รอดตัวทุกที

                    ไอ้เป้ทำหน้าเศร้าเป็นหมาหงอย ออกไปขับรถตามกลับไปที่คอนโดไอ้ปิงปอง

ตอนค่ำ  ผมกดโทรไปหาไอ้ปิงปอง  “มึงอยู่ไหน” “อยู่ห้อง วันนี้ก็ขอบใจนะ” “อืม”

             ผมวางสาย  กดโทรหาไอ้เป้  “มันอยู่ไหน” “มันอยู่ห้องอ่ะมึง”

            ไอ้เป้ไปยืนเฝ้าหน้าห้องไอ้ปิงปองทุกวัน  อยู่อย่างนั้น จนทุกวันนี้

   
ไอ้สเต็ปที่ว่าทำผมเบื่อจนแทบคลื่นไส้  พวกมึงเป็นอะไรกันมากมั้ย  กุเหนื่อย

แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องยุติ  เมื่ออีก 2 อาทิตย์จะถึงเวลาสอบ mid term

ทุกคนไม่เว้นแม้แต่ไอ้สองตัวนั่น ต่างคนต่างวุ่นเรื่องสอบ ผมกับไอ้นัย

ติวหนังสือกันอย่างวุ่นวาย  เรื่องอย่างว่านะเหรอครับ หึหึ ก็มีบ้าง

แต่น้อยมาก 2 อาทิตย์นี่ แค่ 2-3 ครั้งเท่านั้นครับ  สงสารไอ้ป่วนดูมันเหนื่อย

ผมเองก็เหนื่อย ๆ เช่นกัน  ส่วนไอ้เป้กับไอ้ปิงปองที่ปกติจะติวหนังสือด้วยกัน

ก็ขอติวเดี่ยวๆ กันไป ผมกับไอ้นัยเองก็ต้องเลิกสนใจพวกมันไปสักพัก

จนถึงเวลาสอบ แล้วก็ปิดเทอม  ผมถูกเรียกตัวให้กลับบ้านด่วนครับ

เพราะคุณปู่ไม่สบาย  สอบเสร็จก็ตรงกลับบ้านปู่ที่เชียงใหม่เลย 

ทำได้แค่จูบลาไอ้ตัวป่วนอย่างเสียดาย

 (ในใจนี่คิดจะจัดเต็มซะหน่อย เฮ้อ..........เสียดาย)

 ผมบอกให้มันตามไปที่เชียงใหม่ด้วย แต่มันก็ต้องกลับบ้าน 

พ่อกับแม่มันไปเที่ยวต่างประเทศ เหลือน้องสาวน่ารัก ๆ อยู่บ้านคนเดียว

มันก็ต้องกลับไปอยู่เป็นเพื่อนด่วนเช่นกัน น้องสาวมันติดครอบครัวมากๆ

ถ้าพ่อกับแม่ไม่อยู่  ยังไงพี่อย่างมันต้องไปสแตนด์บายเป็นเพื่อนครับ

และแล้วทุกอย่างก็ผ่านไป ปิดเทอม 2 เดือน  เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ก็จะเปิดแล้ว

ช่วงปิดเทอมผมกับไอ้นัย โทรคุยกันทุกวัน ผมก็แอบลวนลามทางคำพูด

ยิ่งพูดยิ่งคิดถึงครับอยากกอดไอ้ป่วนของผมเหลือเกิน 

“เป็นไงสบายดีมั้ย?  คิดถึงกุป่าว? กินข้าวรึยัง? 

นอนเร็ว ๆ นะเดี๋ยวไม่สบาย อย่าลืมห่มผ้าหล่ะ?”

คำถามมากมายที่ผมกับมันผลัดกันถามผลัดกันตอบ

และมักจะลงท้ายด้วยคำว่า  “อยากกอดมึงว่ะ , อยากจูบว่ะ” จากผมเสมอ

พ่อแม่ไอ้นัยกลับมาแล้ว หลังจากไปตะลุยทั่วญี่ปุ่น

ช่างเป็นการฮันนีมูนที่มีความสุขเหลือเกิน  พ่อกับแม่มันน่ารักครับ

ชอบแอบหนีลูก ๆ ไปเที่ยวกันสองคน  แล้วก็ทิ้งน้องสาวไว้ให้ไอ้ป่วนผมดูแล

แต่กลับมาก็จะมีของฝาก ๆ ที่ลูก ๆ เห็นแล้ว ลืมเรื่องงอนไปเลยหล่ะครับ หึหึ

ส่วนคุณปู่ผม  ตอนนี้สบายดีแล้วท่านเป็นโรคหัวใจครับ ช่วงที่แล้วพักผ่อนไม่พอ

เลยทำให้อาการกำเริบ แต่พักนิดหน่อยก็หายครับ ปกติคุณปู่ท่านดูแลตัวเองดีมาก

ที่สำคัญ เหล่าบรรดาน้า  ๆ ทั้งหลายก็ดูแลท่านเป็นอย่างดี  ผมตั้งใจจะกลับ กทม.

พรุ่งนี้  และแน่นอนไอ้ป่วนก็กลับมาเช่นกัน  ส่วนเรื่องไอ้เป้กับไอ้นัย ไม่ต้องพูดถึงครับ

แม่งหายหัวยกแพ็คเกจเลย โทรหาใครไม่มีคนรับสักคน แม่งตายกันหมดแล้วป่ะวะ

ทั้งผม ทั้งไอ้นัยนึกฉุน  ที่ไม่สามารถรู้ชะตากรรมเพื่อนสนิทได้  ทั้ง ๆที่เป็นห่วงมาก ๆ

แต่สุดท้ายก็เลิกโทรพวกมัน  กะว่าจะไปบุกห้องแม่งเลย ปกติไอ้สองคนนี้ไม่กลับบ้านอยู่แล้ว

ไอ้ปิงปองมักจะไปซ้องแบต ไอ้ปิงปองก็ตามไป หรือไปออกค่าย  อะไรก็แล้วแต่ที่ทำได้

พวกมันทำหมด 

.
.
ผมนั่งเครื่องบินมาถึง กทม. บ่าย 3.30 น.  ยังไม่ได้เช็คเอ๊าไปไหน  รออีก 20 นาที

โทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น 

“ฮัลโหล...อยู่ชั้นไหน  อืม  ได้เดี๋ยวกุไปหา”  ผมวางสาย เดินไปหาไอ้ป่วนที่พึ่งมาถึง

ก่อนจะตรงไปที่แท็กซี่มิเตอร์ที่ให้บริการที่สุวรรณภูมิครับ  ขับตรงไปยังคอนโดผม

เราสองคนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  ไปหาข้าวกิน...  วันนี้ผมกับมันไปที่ตลาดนัด

แถว ๆ ในซอย เค้ามีอะไรขายเยอะแยะครับเราก็เดินเล่นเพลิน ๆ ก่อนจะซื้อนั่นซื้อนี่กินจนอิ่ม

กลับมาห้อง ก็มานั่งดูหนังที่ห้องดูทีวี จิบเบียร์เย็นกัน จนดึก  ผมหันไปจูบไอ้ป่วนเบาๆ

ดูเหมือนมันเองก็รอสัมผัสผมเช่นกัน  คิดถึงเหลือเกิน  ไม่เจอเกือบ ๆ สองเดือน

ใจแทบขาด  ริมฝีปากอุ่นกำลังดูดดื่มกันอย่างเร่าร้อนไม่มีใครยอมใคร

สัมผัสที่เหมือนกับไฟ ทว่าเป็นไฟแห่งแรงปรารถนา  ที่เปลวเพลิงโหมกระหม่ำ

ราวกับจะทำให้อีกฝ่ายมอดไหม้ ไปเพียงเพราะสัมผัสเร่าร้อน ก่อนจะกระชาก

สวรรค์ให้มาอยู่ตรงหน้า  พันธนาการที่เกี่ยวกัน ก่อนจะพ่นน้ำรักอย่างสุขสม


ผมกับไอ้ป่วน กระพือไฟแห่งแรงปรารถนาครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกือบเช้า

ก่อนจะผลอยหลับลง  ...จากความเหนื่อยล้า แต่หรรษาเกินจะบรรยาย

อ้อมโอบกอดคนร่างบางตรงหน้า ที่ต่างฝ่ายต่างหอบหายใจถี่ ๆ ราวกับเพิ่งผ่านสงครามมา

ก่อนจะค่อย ๆ สูดหายใจหนัก ๆ ราวกับคนขาดอ๊อกซิเจน  ดวงตาหนักอึ้งก็ค่อยปิดลง

--------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-02-2012 08:16:50
รบกวน ขอให้คอมเม้นต์บ้างนะคะ

หึหึ  ขอกำลังใจหน่อย  หุหุหุ

^__________________^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 05-02-2012 09:01:17
คนแต่งไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้กำลังใจนะครับ
คนอ่านมีกำลังใจให้เสมอ ทุกเมื่อเชื่อวันนะครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 05-02-2012 09:38:46
แอบสงสารแฮะ ปิงปองคงลืมง่ายๆไม่ได้
เป้เองก็พยายามอีกมาก

แต่หายไปคู่ๆ แบบนี้มีอะไรแน่เลยใช่มะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 05-02-2012 10:38:03
ยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกก ถึงมากที่สุด
คู่นึงสมหวังมีความสุข อีกคู่หายไปไหนเนี่ย
เพื่อน ๆ และคนอ่านแอบเป็นห่วง
ที่หายไปนี่เค้าแอบไปตกลงกันอยู่ใช่มะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 05-02-2012 10:58:08
เอกน่ารัก เป็นผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยน อยากได้มาไว้ในอ้อมกอด
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 05-02-2012 11:15:53
เวลานัยอยู่กับเอกแล้วดูอ้อนๆจัง น่ารักมากๆเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-02-2012 11:46:45
นัยโชคดีเนอะ ที่ได้คนรักอย่างเอก
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-02-2012 12:59:58
เอากำลังใจไปเลยจ๊า :L2:
กด+เป็ดเลี้ยงให้ดีดีล่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 05-02-2012 13:24:29
น่ารักดีครับ ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-02-2012 13:28:27
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ

พอเห็นคอมเม้นน้อย ๆ ก็แอบคิดนิดๆ ว่าไม่อยากอ่านกันแล้วรึเปล่า

ง่อย ไปเลยค่ะ  ฮ่า ๆ ยังไงก็ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ 

รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก  ถึงวันนี้จะยังเขียนได้ไม่ดี  แต่จะพยายามค่ะ 
^____________^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-02-2012 13:47:37
เอกหื่นนนนนนนนน ><

แต่ก้อสองเดือนแหนะ ยกประโยชน์ให้จำเลย(รัก) อิอิ

อย่าลืมมาต่ออีกน้า อิอิ รอรอค๊าฟฟ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 05-02-2012 14:25:04
สู้ๆๆนะคนเขียน
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 05-02-2012 14:41:21
กลับมาก้อจัดหนักเรยนะ นัยกะเอก  อิอิ!!   รอตอนเป้กะปิงปองอ่ะ  ขอให้รักกันๆๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: nincja ที่ 05-02-2012 15:15:58
เอกหืื่ืนตลอดๆ :haun4:
นัยก้อน่าหยิกแก้มจริงๆ

เป็นกำลังใจให้นะคร่า^^
 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 05-02-2012 15:44:21
รักคู่นี้จนหัวทิ้มแล้ว
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 10 ซ่อน (2) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 05-02-2012 16:40:04
ปวดหัวแทนเอกจริงๆ
ต้องมายุ่งกับ คู่รัก มหาปรัย :z3:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-02-2012 22:20:41
ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ :กอด1:
ตอนนี้มีแรงใจ  และไอเดียก็แต่ง ๆ กันไปเยอะ ๆ
เวลาต้องหายจะได้ชดเชยกันได้ o22  จริงรึเปล่าคะ  อิอิ
 อ่านให้สนุกนะคะ  ^_________^

 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:


บทที่ 11  มิตรภาพ (1) 


ผมตื่นขึ้นมาในเที่ยงอีกวันหนึ่ง  ควานมือหาไอ้ป่วน....แต่ไม่เจอ

ผมหลี่ตาขึ้นมามองหา แต่ไม่เจอใคร   ผมยันตัวลุกขึ้นเดินไปดูที่ห้องน้ำ

แต่ก็ไม่เจอมันหายไปไหนว่ะ   ผมเกาหัวแกรก ๆ  เดินไปเปิดประตูห้องนอน

มองเห็นไอ้ป่วน ก้ม ๆ เงย ๆ ขีด ๆ เขียนๆ  ในสมุดโน๊ต  เล่มหนึ่ง

พร้อมกับเปิดหนังสือ อยู่สองเล่มไปมา  ไอ้เล่มเดิมที่ผมเคยเห็น

หนังสือที่มีชื่อว่า  “มิตรภาพ” กับ “ภูเขา” สถานที่ท่องเที่ยว

ดูมันจริงจังเกินไปอีกแล้ว  ศึกษาเส้นทางอย่างดี  อุปกรณ์และช่วงเวลา

มันวงวันที่ในสมุดโน๊ต เป็นช่วงอาทิตย์หน้า โทรไปสอบถามที่สถานที่ที่มันเลือก

ทำการจอง เลือกวันเวลาเรียบร้อย  เหมือน ๆ กับว่ามันจะไป”ภูกระดึง”

ผมไม่ได้ใส่ใจมาก  เดินไปอาบน้ำเสร็จก็กลับออกมาอีกครั้ง เห็นไอ้ป่วนยังยุ่ง

อยู่กับแผนที่ท่องเที่ยว  ผมเดินมาหยุดยืนเท้าสะเอวมองมันตรงหน้า

มันเงยหน้ามามองนิดนึง ก่อนจะก้มลงไปเหมือนเดิม เหมือนเช็คอุปกรณ์

สำหรับปีนเขาที่ว่านี่ 

“หิวรึยัง...”  ไอ้ป่วนถามขึ้นทั้งที่ไม่มองหน้าผมเลยสักนิด

“ก็...ก็นิดหน่อย” จริง ๆ ก็หิวมากอยู่ครับ  (แทบจะแด๊กไอ้นัยได้ทั้งตัว  หึหึ)

“กับข้าวอยู่ในตู้อ่ะ ...กุไปซื้อมาเมื่อเช้านี้  แค่เวฟก็กินได้เลย” มันว่า  ไม่เงยหน้ามามองสักนิดเลย

“อืม..” ผมตอบเบา ๆ เดินเลี่ยงไปในห้องครัวก่อนจะเวฟอาหารที่ว่า

“น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋ก็มีนะ  ขนมหวานกับผลไม้อยู่ในตู้เย็นอ่ะ

อ้อ...โจ๊กหมูเจ้าที่มึงชอบก็อยู่ในตู้เย็นนะเวฟแล้วกินได้เลย

อ้อ....ข้าวมันไก่ 2 กล่อง ,ข้าวหมูกรอบ กับข้าวไก่ทอดด้วย  อย่ากินนะ

เอาไว้กินตอนเที่ยง  กุขี้เกียจออกไป”  ไอ้ป่วนตะโกนบอกตามหลังมา

นึกภาพไม่ออกที่มันถือของพลุงพลังแบบนี้  ขึ้นมาที่ห้อง 

ขนมาไหวได้ไงว่ะ  ผมแอบทึ่งในใจ เพราะของกินเต็มไปหมด ทั้งตู้กับข้าว

ทั้งตู้เย็น ถือคนเดียวคงลำบากน่าดู  ปกติมันไม่ชอบถืออะไรพลุงพลังแบบนี้

“มึงกินรึยังอ่ะ...” ผมถอยหลังไปตะโกนถาม เห็นไอ้ป่วนยังก้มหน้างุดอยู่ที่หนังสือ

“ยัง  ..รอมึงน่ะแหล่ะ” มันตอบ  ทำผมอมยิ้ม  ...มันน่ารัก  น่ารักมาก ๆ ครับ

ทั้งที่หิวแต่ก็ยังรอสินะ  อยากหอมแก้มมันแรง ๆ จังครับ

ผมเวฟของกิน ยกเว้นที่มันห้าม  หยิบผลไม้มาเทใส่จาน น้ำเต้าหู้ก็ใส่แก้วแล้ว

ร้อนกำลังดี  เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็เหลือแต่ไอ้ป่วนที่จะเสด็จมา

“นัย...กุเทเสร็จแล้ว” ผมว่า ตะโกนบอกมันไป

“อืม  เดี๋ยวไป”มันตอบ  ผมนั่งรอ ยิ้มหน้าบาน  ผ่านไปสักพัก มันยังไม่มา

ผมเดินไปชะเง้อมอง มันยังขลุกอยู่กับเหล่าบรรดาหนังสือท่องเที่ยวที่ว่า

“นัยมากินก่อน.. มา” ผมบอกอีกครั้งนั่งรอ  น้ำเสียงเข้มขึ้นเล็กน้อย

 “อืม  เดี๋ยวไป”ไอ้ป่วนตะโกนตอบ คำตอบเดิม ๆ แต่ยังนิ่งอยู่กับที่

ผมเริ่มหิวตะหงิด ๆ ก็เพราะได้กลิ่นของอาหารที่หอมฉุยมาเตะจมูกผม

ผมกลืนน้ำลายลงคอ อยากจะกิน แต่ก็....อยากกินพร้อมไอ้ป่วนนี่นา

พอเห็นว่ามันไม่ยอมลุกมาง่าย ๆ แน่ ผมเดินกลับไปหามันที่ห้องดูทีวี

ยืนเท้าสะเอวมองไอ้ป่วนนิ่งรู้สึกฉุนขึ้นมานิด ๆ ที่มันสนใจแต่เรื่องเที่ยวอยู่ได้

“เฮ้ย...”  ไอ้ป่วนร้องลั่นเมื่อผมดึงหนังสือท่องเที่ยวออกจากมือมัน

มันมองมาที่ผมอย่างอารมณ์เสีย  เซ็งเลยผม ....ผมทำหน้าเครียดตอบ

เริ่มไม่พอใจเหมือนกัน  ที่มันปล่อยให้ผมรอ

“เอาคืนมา”มันว่า หน้าตาหาเรื่อง

“ไปกินข้าวก่อน”ผมบอก สีหน้านิ่ง 

“มึงก็กินก่อนดิ  กุไม่ค่อยหิว”มันย่นปาก ทำหน้าเซ็งจะแย่งหนังสือกลับ

“ไม่เอาอ่ะ  ...กุจะกินพร้อมมึง” ผมเอาหนังสือไปซ่อนไว้ข้างหลัง มันยื่นมือมา

แย่งหนังสือคืนเป็นพัลวัน   เหมือน ๆ มันโอบกอดรอบตัวผมไว้

“ชิส์  ปากกุกะมึงติดกันรึไง” มันว่าส่งสายตางอน ๆ มาให้ พยายามแย่งผมสุดฤทธิ์

“ติด” ผมว่า ดึงเอวไอ้ป่วนมาชิดแนบลำตัว ทำเอามันที่ไม่ทันตั้งตัวเซมาทั้งตัว

กดจูบดูดดื่มที่ทำให้ไอ้ป่วนหน้าแดงได้ทุกครั้ง   ลิ้นหวานที่แทรกไปหาอีกความหวาน

มันยืนนิ่งให้ผมจูบ เผลอจูบตอบเป็นพัก ผมละจูบก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยไปกว่านี้

ผมยิ้มหวานมองไอ้ป่วนที่ตอนนี้ส่งสายตาหวานเชื่อมมาให้ผม

“ไง ปากกุกะมึงติดกันยัง  แล้วจะทีนี้จะไปกินข้าวได้รึยัง”ผมถาม

แต่ก็ไม่ได้รอคำตอบสักเท่าไหร่ โยนหนังสือที่ว่าทิ้งลงบนโต๊ะ

มันตวัดตามามองผมฉุน ๆ กัดริมฝีปากตัวเองแน่นอย่างขัดใจ  แค่ขัดขืนไม่ไหว

แล้วผมก็ลงมือลากไอ้ป่วน ให้มากินข้าวกับผมก่อนที่อาหารที่เตรียมไว้จะเย็นซะก่อน

มาถึงไอ้ป่วนก็ลงมือสวาปามอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว  เล่นเอาผมงง

(เมื่อกี้มึงใช่ไอ้คนที่กุพึ่งบังคับเพื่อจะลากมากินข้าวใช่มั้ยว่ะ ก็ถ้ามึงหิวขนาดนั้น

แล้วจะนั่งทนหิวหาพระวิหารอะไรของมึงเนี่ย )

กลายเป็นผมเองที่ยังไม่ได้ลงมือกินอะไร มัวแต่มองไอ้ป่วนอึ้ง ๆ

“ไมไม่กินว่ะ  แล้วลากกุมาเพื่อ?”  มันหยุดกินกระทันหันเงยหน้ามาถามผม

“เออ ..ๆ” ผมสะดุ้งเริ่มมีสติ เมื่อกี้กุนี่หว่าที่หิวข้าวจนทนไม่ไหวเลยต้องไปลากมันมา

ผมลงมือกินแข่งกับมัน  ซึ่งแม่งไม่รู้จะรีบไปไหน  รีบซะ 

“อิ่มแล้ว” ไอ้ป่วนว่า พร้อมกระดกน้ำเปล่าแก้วสุดท้ายในมือ เข้าปาก 

ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบแก้วน้ำเต้าหู้ร้อนๆ เดินถือกลับไปที่ห้องดูทีวี 

“มึงล้างด้วยนะ” มันว่า ส่งท้าย ผมที่กินข้าวไอ้แค่ครึ่งจานได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ

มองหน้ามันงง ๆ รีบติดสปีดกินตามไป   เก็บจานทำความสะอาด ตามไปนั่งลงข้าง ๆ ไอ้ป่วน

ที่ตอนนี้ตาดูหนังสือ แต่มือถือแก้วน้ำเต้าหู้กระดกไม่ขาดปาก

(มึงเลือกทำสักอย่างดีมั้ยนัย  จะกินก็กิน จะอ่านก็อ่าน เอาสักอย่างกุตาลาย)

และแล้วความอดทนที่พยามยามมองดูการกระทำของอีกฝ่ายมาตั้งนานก็หมดลง

“มึงทำอะไรอยู่นัย...”  ผมถามออกไปในที่สุด

“กุกำลังพยายามให้ไอ้เป้กับไอ้ปิงปองคืนดีกัน” มันตอบ  ยังคงทั้งอ่านทั้งลิสอุปกรณ์

“ยังไง....กุไม่เข้าใจ”

“กุกำลังจะทำให้มิตรภาพระหว่างเพื่อนมันกลับคืนมา” มันเงยหน้ามาสนใจผมเป็นครั้งแรกของวัน

“แล้วเกี่ยวอะไรกับที่มึงอ่านหนังสือท่องเที่ยวอยู่นี่”

“กุอ่านหนังสือเรื่องมิตรภาพ ส่วนมากเวลาคนพูดถึงเพื่อนก็มักจะพูดถึงแต่เรื่องเที่ยวกัน

ความประทับใจ ในการช่วยเหลือกันมันก็ยิ่งทำให้มิตรภาพระหว่างเพื่อนยิ่งแน่นแฟ้น

ความลำบากมันเป็นตัวพิสูจน์ในการซื้อใจกันไงหล่ะ  ถ้ามึงจริงใจพอ

จากที่เป็นแค่เพื่อนก็จะกลายเป็นเพื่อนรัก  เพื่อนตาย หรือจะกลายเป็นแค่เพื่อนกิน

ก็ยังได้  เพราะเวลาคนเราเหนื่อยจนถึงที่สุดก็มักจะแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา

และถ้าไอ้เป้มันดีจริง และตั้งใจจริงที่จะขอโทษไอ้ปิงปอง  กุว่างานนี้ไอ้ปิงปองหายโกรธชัวร์

แล้วไอ้ระหว่างทะเล กับภูเขา สถานที่ที่เดินทางลำบากก็คงจะเป็นภูเขาว่ะ 

ยังไงถ้าไอ้ปิงปองลำบากมึงคิดเหรอว่าไอ้เป้จะอยู่เฉย  มันต้องวิ่งรี่หน้าตั้งไปช่วยไอ้ปิงปอง

แล้วมีเหรอคนใจอ่อนอย่างไอ้ิปิงปองถ้าไอ้เป้ช่วยแล้ว มีเหรอที่มันจะใจแข็งอยู่ได้

อย่างน้อยก็คงทำให้มันนึกถึงเรื่องที่ผ่าน ๆ มาที่ไอ้เป้คอยอยู่ข้าง ๆ มันไอ้บ้างน่ะแหล่ะ

มึงว่ามั้ย  สรุปแล้วยังไงอาทิตย์นี้ พวกเราก็ต้องลากไอ้สองตัวนี้ไปเที่ยวให้ได้กุจองที่

ที่ภูกระดึงไว้แล้ว”

ไอ้ป่วนร่ายยาวแล้วสรุปในตัวเอง  เออ...ง่ายดีบอกกุตั้งแต่แรกก็จบแล้ว

“แล้วไมมึงไม่บอกกุสักคำหล่ะ” ผมเอ่ยถาม

“บอกแล้วไง...ว่าตอนนั้นกุยังตัดสินใจไม่ได้  แล้วถ้าบอกมึง ..มึงจะช่วยกุหาเหรอ” มันว่า

“เอ๊า.......ช่วยดิคร๊าบบบบบ” ผมตอบอ้อน  นั่งลงข้าง ๆ ไอ้ป่วน ฉกหอมแก้มมันทีนึง

ก่อนจะนั่งมองตาแป๋ว ...น่ารักไปเลยกุนี่  หึหึ 

“มึงไม่ต้องช่วยหรอก  ...กุเตรียมของและสถานที่ที่จะไปหมดแล้ว

แต่เรื่องที่กุอยากให้ทำก็คือ ...เราจะทำยังไงให้ไอ้ปิงปองยอมไปกับไอ้เป้ได้ว่ะ” มันทำหน้าครุ่นคิด

ซึ่งผมเองก็ว่านี่แหล่ะที่ยากที่สุด การที่จะลากคนที่แม่งเกลียดกันจนไม่มองหน้า 

พาไปเที่ยวกัน  ...เพื่อให้คืนดีกัน  (กุว่าทัวร์นี้ คงมีมาม่า~ กันตลอดทาง)

แต่ที่ยากกว่านั้นคือ  พวกแม่งสองตัวนี่มันไปอยู่ไหนกันวะ ติดต่อไม่ได้ ไม่รับสายและไม่โทรกลับ

“นั่นแหล่ะประเด็น ติดต่อพวกแม่งก็ไม่ได้” ผมเอ่ยในที่สุด มองหน้าไอ้ป่วนทำหน้ายุ่ง ๆๆ

เหลือบไปมองไอ้ป่วนที่ทำหน้ายุ่งพอกัน  เฮ้อ.............  ผมกับไอ้ป่วนถอนหายใจยาว ๆ พร้อมกัน

เราหันมามองหน้ากัน อมยิ้มนิด...ขำกับเรื่องบัญเอิญ    ผมเอื้อมมือไปจับแก้มไอ้ป่วนลูบเบา ๆ

มันน่ารักจริง ๆ ครับ ยิ่งเวลาที่มันยิ้มยิ่งน่ารัก  ผิวขาวๆ นั่น ริมฝีปากอิ่มที่แดงระเรื่อ

ดวงตากลมโตที่จ้องมองตอบผมซะตาแป๋ว  ทำผมแทบจะจับมันซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็นเลย

แต่ก็ทำได้แค่คิด   ....ถ้าทำอย่างนั้นแล้วมันเศร้าผมก็แย่น่ะสิ  หึหึ ได้แต่เผลออมยิ้มกับความคิดตัวเอง

“ยิ้มไรอ่ะ  ....บ้าป่าว” ไอ้ป่วนถาม มองผมยิ้ม ๆ คิดว่ามันน่าจะรู้ว่าผมคิดอะไร

“ป่าว”ผมตอบ

“ป่าว....ป่าวแล้วยิ้มทำไมอ่ะ”มันว่า

“ก็แค่...” ผมหยุดพูดแค่นั้น .....  แต่จ้องมองคนตรงหน้า ขณะที่นิ้วผมยังเกลี่ยบนแก้มไอ้ป่วน

ไม่หยุด  (น่าสัมผัส...มึงน่าสัมผัส  น่ามอง ...น่าหลงไหล  )  ผมยิ้มตอบ แต่ไม่มีคำตอบ

“ก็แค่อะไรหล่ะ  ...พูดมาดิ  ชิส์”  ไอ้ป่วนเริ่มหงุดหงิดเล็ก ๆ ทำปากพองหันมาสบตาผมนิ่ง

เริ่มทำตัวปั่นปวนอีกแล้วครับ  (ชอบจริง ๆครับ  ชอบทุกอย่าง ทุกท่าทางที่มันแสดงออก)

ผมเลื่อนตัวเข้าไปใกล้ แนบริมฝีปากชิดหูของอีกฝ่ายกระซิบแผ่วเบา

“ก็แค่......มึงน่ารัก....จนกุอยากรัก” ผมถอยตัวออกอยากเห็นปฏิกิริยาคนตรงหน้า

ที่ทำผมอมยิ้ม  ไอ้ป่วนหน้าแดงจนถึงหู ก้มหน้างุด ทำปากพองไม่เลิก

ใบหน้าที่เหรอหราแบบทำตัวไม่ถูก อาจจะเพราะเขินจัด ได้แต่เอามือจิ้มไปจิ้มมา

บนหมอนอิงบนโซฟาแอบเงยหน้ามาสบตาผมเป็นระยะ  เริ่มโยกตัวเล่นไปมา

คงแค่ทำอะไรแก้เขิน  ผมมองท่าทางของไอ้ป่วนอย่างเผลอไผล

อยู่ไอ้ป่วนก็ยื่นหน้ามาชิดหูผม เล่นเอาผมสะดุ้งเพราะมัวแต่ดูมันเพลิน

มือข้างหนึ่งของไอ้ป่วนวางพิงไหล่ผมเพื่อทรงตัว ก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

แต่กลับดังกึกก้องในหูผม คำๆ นั้น  คำ....ที่ผมรอมานาน  ....

“มึงก็น่ารัก  จนกุอยากให้มึงเป็นคนรัก...ที่รักกุแค่คนเดียว”

ผมรวบตัวไอ้ป่วนเข้ามากอด ไอ้ป่วนของผมหน้าแดงมากขึ้นกว่าเดิม

มันวางหัวที่ไหล่ผมและกอดผมตอบแน่น ๆ

“แน่ใจแล้วใช่มั้ย...นัย” ผมถามอีกครั้ง  อยากแน่ใจกับคำตอบนั้น

“อืม...    ไม่รักมึงแล้วจะให้กุไปรักใครได้อีก”  ไอ้ป่วนตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“หึหึ ครับ... รักกุนะ  รักแค่กุคนเดียวกุพอ” ผมตอบ ดีใจที่สุด

ไม่อยากจะเห็นหน้าตัวเองตอนนี้เลย ไม่รู้ว่ายิ้มกว้างขนาดไหน

คิดว่าแก้มแทบปริแล้ว  .

(แม่ง...อยากปิดร้านฉลอง อยากตะโกนบอกไอ้เพื่อนสองตัวที่ยังทะเลาะกัน

หน้าดำหน้าแดงว่า  กุมีแฟนแล้ว  ...กุเจอคนที่กุรักแล้ว  ถ้าเป็นไปได้

อยากจะวิ่งถือโทรโข่งประกาศบอกทุกคนที่เดินผ่านว่าผม 

“มีแฟนแล้วครับ”  แล้วมีป้ายไฟเป็นลูกศรชี้ไปที่ไอ้ป่วน คนนี้แฟนผม)

ในที่สุด ก็มากกว่าเพื่อนแล้ว.........  ไม่ใช่แค่ “เพื่อนรัก” 

ผมกำลังจะกลายเป็น...”คนรัก”   อย่างเต็มตัวของไอ้ป่วน

“คนรัก” ทีไม่ใช่มีแค่ผมคิดแค่ฝ่ายเดียว  แต่มันก็กำลังลงมาใช้คำนี้กับผมด้วย

ผมกอดไอ้ป่วนแน่นขึ้นอีก เหวี่ยงมันไปมาเบาๆ อย่างดีใจ

ไอ้ป่วนโวยวายขำ ๆ  ทุบเบา ๆ ที่ไหล่ผมให้หยุดเหวี่ยงมันบอกเวียนหัว

มันคงคิดว่าผมจะดีใจอะไรหนักหนา  แต่ดูหน้าตามันสิ ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม

ยิ้ม....จนตาปิด หน้าแดงระเรื่อเพราะความเขินอายนั่น    น่ามองจริง ๆ

(ดีใจใช่มั้ยหล่ะ.....มึงก็ดีใจไม่ต่างจากกุใช่มั้ย...ฮ่า ๆๆๆๆๆ  อารมณ์ดีเป็นพิเศษครับ)

ผมมองสบตากับมัน   เหมือนกับมันที่มองกลับมาที่ผม สายตาที่ประสานกัน

ไม่หวั่นไหว  มีแต่ความโหยหา  และเรียกร้องต้องการซึ่งกันและกัน

ผมไม่ต้อง “รักมันข้างเดียว”  อีกต่อไปแล้วใช่มั้ย  .....

ผมใช้คำว่า  “มันเป็นของของผม”  ได้แล้วใช่รึเปล่า...

ผมจะ “หึง หวง มัน”  ได้ตามสิทธิ์ของคนรักใช่มั้ย...

และที่สำคัญ  “ผมเขี่ยไอ้คนทุกคนที่มาตามวุ่นวายกับคนรักของผม”  โดยไม่ผิดใช่รึเปล่า

ไอ้ป่วนค่อย ๆ โน้มใบหน้าขาวๆ ของมันใกล้เข้ามาชิดใบหน้าผมเรื่อย ๆ

จนริมฝีปากเราจรดกัน มันแตะจูบเบาก่อนละออก สบสายตาในระยะประชิด

 สองมือของมันตรึงใบหน้าผมเอาไว้ ขณะที่สองมือของผมก็เกาะเอวไอ้ป่วนแน่น.

ให้มันทรงตัวได้  ไอ้ป่วนก้มลงจูบผมอีกครั้ง แทรกลิ้นหวาน ๆ ของมัน

มาลองชิมลิ้นหวาน ๆ ของผม  ผมดึงตัวมันให้มาแนบชิดตัวผม กดจูบตอบ

ด้วยสัมผัสที่นุ่มนวลอ่อนหวาน แต่เนิ่นนาน  เราละจูบออกจากกัน

แต่กลับนั่งกอดกันอยู่อย่างนั้น  ....อยากจะอยู่อย่างนั้น ตลอดไป

.

.

.
เวลาผ่านไปสักพัก ไอ้ป่วนดันตัวขึ้นส่งยิ้มมาให้ผม ผมมองหน้ามันแล้วยิ้มตอบ

“เมื่อพวกเรารักกันแล้ว  ก็มาทำให้ไอ้สองตัวนั่นคืนดีกันซะทีนะ” มันว่าไม่ละความพยายาม

ผมพยักหน้าตอบ  รู้สึกดี ...คำว่า “เพื่อน” ไม่ว่าตอนไหน

เวลาไหน ก็อยู่ในใจมึงเสมอสินะ...........นัย   ไอ้ป่วนยิ้มกว้างตอบผม

“งั้นพรุ่งนี้เราไปหามันกันทั้งไอ้เป้ และไอ้ปิงปอง”  ไอ้คนน่ารักที่สุดของผมสรุป

“อืม....ได้สิ   พวกเราไปทำให้พวกมันคืนดีกันซะที มึงจะได้มีเวลาคิดถึง

แต่เรื่องของกุ  โดยที่ไม่ต้องมีเรื่องไอ้เพื่อนสองตัวนั่นมาแทรกตลอดเวลาแบบนี้”

ผมแอบแซวขำ  ๆ  ไอ้ป่วนหน้างอ  ย่นหน้าใส่ผม

“ชิส์”  มันทำปากพองแล้วหนี ไปอาบน้ำ เมื่อเช้ามันแค่ล้างหน้าแปรงฟัน หึหึ

ผมรอไอ้ป่วนอาบน้ำเสร็จพวกเรามาช่วยวางแผนการเดินทางกันต่อ

สรรหาวิธีที่จะทำให้ไอ้สองตัวนี้ต้องช่วยเหลือกัน จนกลับมาคืนดีกัน

ผมทำหน้าที่ศึกษาเส้นทางต่อ  เนื่องจากว่าเป็นทางที่ไม่คุ้นเคย

และคิดว่าผมคงต้องได้รับหน้าที่สารถีแน่นอน  ถึงไอ้ป่วนจะช่วยแต่ยังไงซะ

ผมว่าคนขับ 80% เป็นผม ฉะนั้น ดูมันตั้งแต่ตอนนี้แหล่ะครับ

พวกเราวางแผนกันไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าเรื่องเวลาออกเดินทาง  ระหว่างทางที่จะแวะ

สถานที่ที่เราจะพัก จริงๆ ก็โทรเพื่อจองที่พัก   พอตกเที่ยงก็เอาข้าวกล่องต่างๆ

ที่ไอ้ป่วนเตรียมไว้ มาเวฟกินกัน เมื่อวางแผนกันเสร็จสรรพ  ก็เย็นย่ำ

ผมกับไอ้ป่วนออกไปนั่งชิว ๆ ร้านเบียร์ริมทาง ดื่มกันแก้เมื่อย  วันนี้ไม่ได้ไปร้าน

ที่เป็นผลับประจำ  พวกผมแค่อยากจิบเบียร์เย็น ริมทางแก้วสองแก้วเท่านั้น

หาอาหารอีสานกินกันบ้างอะไรบ้าง เดินเล่นไปเรื่อย ๆ จน 2 ทุ่ม ก็เดินกลับคอนโด

พ่วงของกินมาอีกมากมาย  กินกันไปหยอกกันไปตามประสา

ผมทิ้งตัวลงบนโซฟาทั้งตัว พาดขาไปตามแนวยาวของโซฟา  โดยมีไอ้ป่วนแทรก

กลางตรงหว่างขา อิงหลังมันมาพิงตัวผม  นอนดูทีวีสบายใจเฉิบ 

จนเวลาล่วงเข้า 5 ทุ่ม  ผมกับมันก็พาร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยจากการใช้สมองอย่างหนัก

ไปอาบน้ำนอนกอดกันจนหลับ  ....และฝันดี 
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-02-2012 23:51:47
 :mc4:  เย้ ในที่สุดเอกกับนัยก็ได้เป็นแฟนกันสักที
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 06-02-2012 01:25:40
 :mc4:ในที่สุดก้อเป็นแฟนกันแล้วววววว

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 06-02-2012 03:22:56
 :กอด1:

เอาใจช่วยให้แผนสำเร็จนะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 06-02-2012 12:11:09
ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้  นักเขียนส่วนใหญ่  แจกมาม่ากันกระจาย
แถมยังพร้อมใจกันหายตัวอีกตะหาก 
เศร้า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 06-02-2012 23:17:19
^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: nincja ที่ 06-02-2012 23:24:57
 :o8: :o8: :o8:
นัยเนี้ยยิ่งอ่านก้อยิ่งน่ารักนะจ๊ะ ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: i-love-you ที่ 06-02-2012 23:55:31
ขอให้สำเร็จ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 07-02-2012 00:37:36
เป็นแฟนกันสักที :o8:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 07-02-2012 01:54:59
เย้ๆๆ เปงแฟนกันแล้วอ่ะ  ดีใจจังเรยยยย  อิอิ!!
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: naiin ที่ 07-02-2012 15:57:22
หวังว่าภูกระดึงจะช่วยละลายใจได้น้อ รักกันดีกว่านะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (1) P.7 5/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 07-02-2012 16:40:40
หวานซ่าาาา า
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 08-02-2012 12:13:06
เรียกน้ำย่อยกันไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ 
 :o8: :-[ :impress2:


บทที่ 11  มิตรภาพ (2)

เช้าอีกวันผมกับไอ้นัย...ตื่นมาประมาณ 11 โมง  เราหาอะไรกินง่าย ๆ 

เริ่มดำเนินการตามแผนคือล่า....ไอ้เพื่อนที่หายสาบสูญ  ผมกับไอ้นัยตัดสินใจไปหาไอ้เป้ก่อน

ผมขับรถตรงไปที่คอนโดไอ้เป้ พอไปถึงก็กดลิฟท์ชั้นที่ไอ้เป้อยู่และตรงไปยังห้องเป้าหมาย

“ก๊อก ๆ ก๊อกๆ ”  ผมเคาะประตูห้องไอ้เป้ โดยมีไอ้ป่วนทำหน้าระรื่นเกินเหตุ รู้สึกตื่นเต้นกับแผนการ

ที่มีตัวมันเองชักใยอยู่เบื้องหลัง (ฟังแล้วเหมือนคดีฆาตรกรรมว่ะ) ยืนอยู่ข้าง ๆ ผม

“.................”   เงียบบบ

“กุว่ามันยังไม่ตื่น” ไอ้เจ้าแผนการแสดงความเห็น ผมหันไปมองหน้าพยักหน้ารับทราบ แต่ไม่ได้เห็นด้วย

“ก๊อก ๆ ก๊อก ๆ”  ผมเคาะประตูอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ  แต่ก็สิ่งที่ตอบกลับมา

“...............”  เงียบบบบบบ  ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก

ผมหันมามองไอ้ผู้บัญชาการสูงสุดว่ามันจะเอาไงต่อ  มันทำครุ่นคิดมือข้างนึงล้วงกระเป๋า

ขณะที่อีกข้ากำลังไล้คางตัวเองไปมาราวกับว่าตัวเองมีเครา ผมได้แต่ขำกับไอ้คนที่ทำท่าเป็นผู้มีภูมิ

ซึ่งผมขอเดาได้เลยว่ามันจะต้องบอกให้ไปคอนโดไอ้ปิงปอง 100% ไม่ต้องคิดให้มากความ

เพราะมันไม่มีที่อื่นจะไปอีกแล้ว ตั้งใจมาหาเพื่อนสองคน คนหนึ่งไม่อยู่ ก็ต้องไปหาคนที่สองดิ

(ว่าแต่นัย...มึงจะเก๊กท่านี้อีกนานมัย  ??)

“กุว่าไอ้เป้...แม่งไม่อยู่” มันเอ่ยในที่สุดหลังจากเดินวนไปวนมาอยู่หลายรอบ

(จริง ๆ มึงไม่ต้องบอกก็ได้นะ  ...กุรู้ตั้งนานแล้ว ไอ้ป่วน)  ผมยังคงมองไปที่มันนิ่ง ๆ

หันหลังไปพิงผนังลอบอมยิ้มนิด ๆ ไม่พูดอะไร  อยากรู้ว่ามันจะทำยังไงต่อไป

“ฉะนั้นกุว่า ......” ไอ้ป่วนเอ่ย

“พวกเราไปหาไอ้ปิงปองกัน”  ผมกับมันพูดขึ้นพร้อมกัน  มันมองหน้าผมงงๆ

(หึหึ.........  กุว่าแล้ว  แล้วมึงจะคิดนานทำไมวะ  ไอ้นัย  อันนี้ได้แต่คิดในใจ)

“มึงรู้ได้ไงว่ากุจะพูดอย่างงี้” ไอ้ป่วนถามขึ้น

“หึหึ....ก็...มึงเป็นแฟนกุ” ผมว่า แถไปงั้นแหล่ะครับเพราะถ้าบอกมันว่ารู้ตั้งนานแล้วเดี๋ยวมันก็งอนอีก

“เกี่ยว?” มันยกคิ้วถาม แบบเซ็ง ๆ

“เกี่ยวดิ” ผมยังแถคำตอบเดิมไปเรื่อย ๆ มันเบื่อคงหยุดซัก

“งั้นกุจะพูดอะไรต่อไป?” มันว่า ทำหน้าเซ็งได้อีก

(อยากจะกวนกะกุว่างั้น....  ได้ครับเดี๋ยวพี่จัดให้)

“มึงจะพูดว่า  เอก...คืนนี้ขอชุดใหญ่นะ    ไม่ครบโหลอย่าหยุดนะครับ”ผมว่า

แกล้งทำนัยตาหวานเยิ้ม สองมือลูบไล้ตามเนื้อตัวตัวเองทำท่าหวาบหวาม

“โอ๊ย............เจ็บ” ผมว่าคลำหัวตัวเองป้อย ๆ ก็ไอ้ป่วนมันฟาดมาเต็ม ๆ

“ห่า.......ใครจะไปพูดยังงั้น  มีแต่มึงสิ  ต้องขอกุ” มันว่า

“หึหึ    งั้นถ้ากุขอ....มึงจะยอมใช่ป่ะ “  ผมว่านัยตาเป็นประกายวิบวับ

“เชี่ยนี่ ...หื่นจริง ๆนะมึง”  ไอ้ป่วนว่ามันไม่ตอบคำถาม ย่นหน้าใส่ผมอีกแล้ว

(บอกกี่ทีแล้วเนี่ย ว่ามึงอ่ะ...น่ารัก หึหึ  ไม่ตอบอย่างนี้แสดงถ้ากุขอก็ให้สินะ กร๊ากกกกกกก)

 “ป่ะ ไปกันได้แล้ว”  ผมสอดมือเข้าโอบเอวไอ้ป่วนมันดิ้นยุกยิกขัดขืน  แต่ผมกระชับแน่น

“ตอนนี้ไม่มีคน ขอกอดนิดเดียวเอง” ผมก้มลงไปกระซิบ  มันหันม ามองหน้าเขิน ๆ

ทำปากขมุบขมิบบ่นอะไรไม่รู้ แต่ก็ยอมให้ผมโอบแต่โดยดี  เมื่อเห็นว่ามันเป็นเด็กดี

ผมก็เลยใจดีแถมหอมแก้มมันไปอีกที  (ฮ่าๆ ถ้าถามว่าเกี่ยวมั้ย ตอบได้เลยว่า..ไม่รู้แต่กุอยากหอม)

“เห้ย..เดี๋ยวมีเคยเห็น” มันร้องโวยวาย

“มึงอายเหรอ...ที่กุทำยังงี้กับมึง”  ผมถามขึ้น

“ป๊าววววววว” ไอ้ป่วนปฏิเสธเสียงแข็ง  (แน๊...........มีหน้ามาเถียงนะมึง)

“แล้วมึงโวยวายทำไม” ผมถามต่อด้วยความสงสัย ถ้าไม่อายแล้วโวยเพื่อ??

“เอ๊า..ต่อไปถ้ากุเลิกกะมึง กุก็หลีหญิงไม่ติดอ่ะดิ ชิส์  ...ไม่รู้เรื่องเลยมึงนี่” มันว่า

ยังทำปากขมุบขมิบต่ออีก เดินหนีผมไปแล้วครับ ผมรีบตามไปคว้าแขนไอ้ป่วน

กระชากเบาๆ ไอ้ป่วนก็เซหงายหลัง  จนต้องพิงมาที่ผมที่คอยรองรับไว้อยู่แล้ว

ผมโอบกระชับกอดจากด้านหลัง แนบริมฝีปากจรดใบหูของอีกฝ่าย ก่อนกระซิบแผ่วเบา

“หึหึ  ฝันไปเถอะนัย......

 ของๆ กุ ก็ต้องเป็นของกุคนเดียว

ไม่ใช่แค่ตอนนี้นะ.....แต่ต้องตลอดไป

....จำไว้นะครับ........ที่รัก”  ผมยกยิ้มที่มุมปาก สายตาจับจ้องไปยังไอ้ป่วนแน่วแน่

ให้รู้ว่าผมพูดจริงๆ  ถึงมันจะแค่พูดเล่น ๆ ตามอารมณ์ แต่เรื่องนี้ผมถือ

(ถึงมึงจะพูดเล่น  ..แต่ .....กุจริงจังว่ะ)

ไอ้ป่วนหันมามองหน้าผมอย่างคาดไม่ถึง  หน้าขาว ๆ ส่งสีระเรื่อโชว์ผม ก่อนริมฝีปากบางจะขยับตอบ

“บ้า...กุพูดเล่น” มันว่า ทำแก้มป่องแก้เขิน  เท้าก็เขี่ยไปมาเล่นที่พื้น

“นัย...” ผมเอ่ยเรียกเสียงแผ่ว  ไอ้ป่วนที่ยังคงทำแก้มป่องหน้าแดง หันมามองช้า ๆ

ผมทาบริมฝีปากร้อนไปที่ปากหวาน ๆ ของอีกฝ่าย แทรกลิ้นควานทั่วทั้งปาก

ดูดกลืนลิ้นของอีกฝ่ายที่ตอนนี้เริ่มตอบสนอง ผมละริมฝีปากอย่างเสียดาย

ถ้าที่นี่เป็นที่ห้องผม.....คงไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอก ผมสบตากับอีกฝ่ายที่ตอนนี้

ผิวแก้มแดงแปร๊ด เหมือนมันจะแตกได้ ไอ้ป่วนยังคงมองตอบมาที่ผม

“กุ...รักมึงนะนัย”  ผมว่า น้ำเสียงหนักแน่น และจริงใจ

“อืม....รู้แล้ว” มันว่า  แอบอมยิ้มก่อนจะก้มหน้าหลบผม และ

“ผัวะ........โอ๊ย” ผมร้องลั่นตัวงอ โดนไอ้ป่วนกระแทกศอกเต็ม ๆ ท้อง

“โทษฐานประเจิดประเจ้อว่ะ   ....ที่รัก” มันว่า ยื่นหน้ามาใกล้ ๆ กระซิบเสียงแผ่วเบา

ก่อนจะหอมแก้มผมดัง ฟอดดดดดดดดดดดดด  แล้ววิ่งหนีไปรอที่ลิฟท์

(หึหึ  ผมยิ้มปากกว้างงง  หายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง  ดีใจสุดๆ น่ารักได้อีกนะนัย แต่มือก็หนักว่ะ

แต่ไม่เป็นไรเจ็บก็ยอม  ขอแค่ได้จูบ  ...เอ้เมื่อกี้มันแค่หอมเฉย ๆป่ะวะ  ขาดทุนว่ะ

ไม่เป็นไรเดี๋ยวคืนนี้เอาคืน   สักโหลลลลลลล  กร๊ากกกกกกกกกกกก ^O^)

“เร็ว ๆ ดิ..ลิฟท์จะมาแล้ว” ไอ้ป่วนเร่ง  ยืนรอหน้าลิฟท์  ผมรีบวิ่ง...มาถึงลิฟท์ก็เปิดพอดี

ข้างในลิฟท์มี หญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งอยู่ด้านใน ผมกับไอ้ป่วนก็รีบเข้าไปด้านใน

ด้าน...ในสุด ด้านหลังเธอคนนั้น  ผมเริ่มสอดมือเข้าโอบเอวไอ้ป่วน มันหันมามองตาเขียว

แกะมือผมออก อลม่าน  แต่ผมก็ยังไม่ยอมปล่อย

“ปล่อย..เร็วดิ  น้องเค้าเห็น”  ไอ้ป่วน กระซิบเสียงเบา แค่ได้ยินกันสองคน

“หันหลังขนาดนี้จะเห็นได้ไงว่ะ” ผมตอบ  มึงอย่ามาเนียนนัย

“ไม่เห็นเหี้ยไร  มึงเห็นมั้ยลิฟท์มันมีกระจกเงาอ่ะ  กุยังเห็นหน้าน้องเค้าเลยสัด ปล่อยได้ยัง”

“เออ จริงด้วย”  ผมยิ้มแก้เขิน ค่อยละมือจากเอวไอ้ป่วน เกาหัวแกรก ๆ มองไอ้คนหน้าตูม

ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สักพักก็ถึงชั้นที่น้องเค้าจะลง

“ติ๊ง....” ลิฟท์ร้องดังขึ้นเตรียมจะเปิด ผมเลยแกล้งฉกหอมไอ้ป่วนโชว์น้องเค้าซะเลย

กันไว้เผื่อมันมาจีบน้องเค้า ( ฮ่าๆ  ฉลาดอีกแล้วกุ)  ไอ้ป่วนทำหน้าตื่น

ขณะที่น้องเค้าหันมาส่งยิ้มให้พวกผม เหมือน ๆ จะชอบฉากเลิฟซีนของผมกับมัน 

ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ก็แปลกนอกจากจะไม่ตกใจแล้ว ยังหันมายิ้มตอบอีก งง ครับงง

ผมกับไอ้ป่วนตรงไปที่รถขับตรงไปยังคอนโดไอ้ปิงปองทันที  โดยตลอดทางมีไอ้ป่วน

ทำปากยื่นแก้มป่องตลอดทางอ่ะ  มันงอนที่ผมไปหอมแก้มมันต่อหน้าน้องเค้า

(ไหนมึงบอกไม่อายไง...เชี่ยนี่ งอนอยู่ได้)  ขณะที่ผมยิ้มปากกว้างไปตลอดเส้นทาง

ดีใจที่กันท่ามันได้ น้องเค้าน่ะสเป็คมันเลยทีเดียว 

(หึหึ  ไม่ได้เกิดแล้วว่ะ นัยต้องบอกว่า....แจ้งดับกันเลยทีเดียว  กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: naiin ที่ 08-02-2012 12:27:44
หวานกันได้ตลอดคู่นี้  เจ้าแผนการจะกร่อยป่าวเนี่ย ตามหาคนเที่ยวไม่เจอ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 08-02-2012 15:49:58
โอ้ย จะน่ารักไปไหนกัน....อิจฉานะเนี่ย   อิอิ!!

เขินแทนนัยเลยอ่ะ  ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: PrAeW ที่ 08-02-2012 16:13:31
หวานๆๆๆๆ
 :-[
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 08-02-2012 17:46:23
 :-[คู่นี้หวานกันได้ตลอดเลยอ่ะ

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 08-02-2012 18:34:01
ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: sz4music ที่ 08-02-2012 19:42:29
ฮิ้ววววว น่ารัก

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-02-2012 19:46:07
หวานกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 08-02-2012 20:30:58
คู่นี้ก็หวานต่อเนื่อง
อีกคู่ไปซ่อนอยู่ไหนเนี่ย ระหว่างตามหาเพื่อน
ก็หวานกันให้คนรอบข้างอายไปทั่ว :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: MapleZelpaM_68 ที่ 08-02-2012 23:19:11
คู่นี้น้ำตาลเรียกพี่เลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: maxsextex ที่ 08-02-2012 23:29:32
มาต่ออีกกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: zaferianight ที่ 09-02-2012 01:11:34
หวานไปมั๊ยเอกกกก :o8: อิจฉาอ่ะอยากมีคนรักเราขนาดนี้บ้างสักคนจัง555
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-02-2012 02:06:25
น่ารักง่าคู่นี้ ถึงจะมาที่ละนิดก้อชีวิตก้อเบิกบาน อิอิ

น่ารักจิงๆนะนี่ อิอิ

ยังไงก้ออย่าลืมมาต่ออีกน้า รอรอค๊าฟ!!
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-02-2012 02:15:37
คู่นี้หวานตลอดดด  :impress2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: fox ที่ 09-02-2012 08:33:54
อย่างงี้นัยก็ไปไหนไม่รอดอ่ะดิ เอกต้องดูแลไปตลอดชีวิตเลยน้าาา คึคึ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 09-02-2012 08:54:17
รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 09-02-2012 14:35:56
กร๊ากกกกก

คู่นัยกะเอก็ลงตัวแล้ว

มาจับคู่ให้เป้กับปิงปองต่อหึหึหึ

สองคนนี้จะได้เวลาเป็นของกันและกันหรือยังหว่า :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 11 มิตรภาพ (2) P.8 8/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 09-02-2012 15:36:28
รอต่อปาย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (1) P.8 11/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-02-2012 00:10:57
สวัสดีค่ะ เพิ่มอีกตอนแล้วนะคะ  ตอนนี้ก็ยังไม่จบค่ะ กำลังเขียนอยู่
แต่คิดว่าน่าจะ Part 1 มาให้อ่านก่อน ส่วนอีก Part มันยังไม่เสร็จ
แต่น่าจะเสร็จวันนี้อ่ะ ค่ะ  อ่านให้สนุกนะคะ
อย่าลืมเม้นนะคะ  ... เรื่องคะแนนไม่เป็นไรค่ะ แค่อยากอ่านความคิดเห็น
คิคิ :bye2: :bye2: :bye2:



บทที่ 12   ซักฟอก

พวกผมขับรถมาถึงหอไอ้ปิงปอง  เราก็ตรงรี่ไปยังจุดมุ่งหมายทันที 

…..สถานที่เกิดเหตุ ..จำได้มั้ยครับ  เรื่องวันนั้นที่ทำให้เพื่อนผมทั้งสองคนเป็นแบบนี้

บางครั้งน้ำตาก็ไม่ช่วยอะไร ที่สิ่งผ่านมาแล้วก็ได้แต่ปล่อยให้มันผ่านไปชีวิตจริงไม่ใช่ละคร

สิ่งที่ทำไปแล้วไม่มีทางที่เราจะกลับไปแก้ไขได้  บางครั้งผมก็คิดว่าถ้าชีวิตจริงเป็นเหมือนละครบ้างก็คงจะดี

 ถึงจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นในชีวิตของพระเอกนางเอกสักเท่าไหร่ ....แต่สุดท้ายแล้ว

มันก็มาลงเอยตรงที่ได้อยู่ด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน  ถึงเหตุผลมันจะน่ายอมรับหรือไม่

แต่สุดท้ายก็เป็นอย่างนี้  ให้อภัยกันได้ง่าย ๆ ลืมเรื่องเลวร้ายที่ยากแสนยาก  ทั้ง ๆที่ความจริง

มันเจ็บปวดขนาดนั้นแท้ๆ  .....แต่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม  กลับมายืนที่เดิม ๆ  ใช้ชีวิตอย่างเดิม

เริ่มนับหนึ่งใหม่โดยที่ไม่มีใครหวาดระแวงกัน  ...    ถ้าขอได้ผมก็อยากจะขอให้เพื่อนผมทั้งคู่

ของผมรีเซ็ทตัวเองใหม่  กลับมาเป็นเพื่อน ...เพื่อนที่รัก   ไว้ใจ เชื่อใจ  และศรัทธากันเช่นเดิม

อยากเห็นรอยยิ้ม ...มากกว่าสีหน้ากังวล  มากกว่าสีหน้าที่เศร้าสร้อย

ราวกับว่าชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรให้มีความสุขอีกแล้ว  ผมหยุดความคิดที่คงเป็นไปได้.....ยาก

หันจะกุมมือไอ้ป่วนที่ตอนนี้ระริกระรี้มีความสุขมากขนาดไหน 

แผน....ที่ช่วงกันคิดทั้งคืนจะสำเร็จมั้ยนะ?  มันยังเป็นแค่คำถาม....   

แล้วถ้าไม่สำเร็จหล่ะ ไอ้ป่วนข้าง ๆ ผมคงไม่พ้นน้ำตานอง

“นัย....มึงคิดว่าจะสำเร็จมั้ย?” ความกังวลอันเปี่ยมล้นของผม เริ่มก่อตัวขึ้นช้า ๆ

เมื่อเราเดินมาถึงหน้าห้องไอ้ปิงปอง   ผมอยากทำความเข้าใจกับมันก่อนเพราะดูไอ้ป่วน

จะเชื่อมั่นเหลือเกินว่าสิ่งวางแผนมานั้นจำสัมฤทธิ์ผล

“สำเร็จดิ....มึงไม่เชื่อความคิดกุเหรอ?” ไอ้ป่วนถามกลับ สีหน้าที่มุ่งมั่นทำเอาผมเป็นห่วงมากขึ้นอีก

“แล้ว......ถ้าไม่สำเร็จหล่ะ?” ผมลองแยบถามมันดู ไอ้ป่วนหน้าเจื่อนลงนิดหน่อย คงไม่ได้คิดเผื่อไว้

“ต้องสำเร็จดิ ...ยัง...ยังไงมันก็ต้องดีกันแหล่ะกุว่า.” มันตอบเสียงแผ่วลงก้มหน้ามองพื้นหน่อย ๆ

เริ่มกังวลอีกครั้ง ผมเอื้อมมือไปบีบไหล่ไอ้ป่วน มันเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม

“สัญญากับกุก่อนไม่ว่าผลจะออกมายังไง ...มึงก็จะไม่เสียใจ

มึงทำดีที่สุดแล้วนะนัย...จำไว้ ...มึงทำดีที่สุดแล้ว  อย่าพึ่งท้อและเสียกำลังใจ

ยังไงมึงต้องทำพวกมันกลับมาคืนดีให้ได้นะนัย  ..สัญญาสิ ว่ามึงจะยังไม่ท้อ”  ผมย้ำกับมันอีกครั้ง

“อือ..กุสัญญา.” มันพยักหน้ารับ ย่นปาก สูดลมหายใจเข้าปอดแรง ๆ เรียกกำลังใจ

“พร้อมนะ” ผมว่า ถามมันอีกครั้ง

“อืม...กุพร้อมแล้ว” ไอ้ป่วนตอบอีกครั้งสีหน้ามันดีขึ้นมาก  อย่างน้อยผมก็อยากให้มันเผื่อใจไว้

เผื่อใจสำหรับความไม่สมหวัง เหรียญยังมีสองด้าน  แล้วมึงจะหวังผลด้านเดียวได้ยังไงหล่ะนัย

ถ้าไม่ใช่อย่างที่หวัง อย่างน้อย...........ก็ควรทำใจรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นบ้าง

“ก็อก ๆ ก็อก ๆ” ไอ้ป่วนลงมือเคาะเองกะมือ มันสูดลมหายใจอีกครั้ง

“แกร๊ก ๆ  แอ๊ดดดดดดดดดด”  เสียงประตูห้องไอ้ปิงปองเปิด...

“เห้ยยยยยยย” เราสามคนตะโกนพร้อมกัน ไอ้ป่วนดึงประตูปิดหันไปอ่านเลขห้องอีกครั้งให้แน่ใจ

“A1209  ก็ห้องไอ้ปิงปองนี่หว่า”  มันว่า  ผมพยักหน้าหงึก ๆ

“เออใช่ห้องไอ้ปิงปอง แล้วเมื่อกี้มึงเห็นเหมือนกุใช่มั้ย” ผมเอ่ยถามขึ้น ต้องการยืนยันกับไอ้ป่วน

เช่นกัน  (กุตาไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ยว่ะ.....ไอ้เป้ มันคือ....ไอ้เป้ คร๊าบบบบบบบบบบ)

“เออ..กุว่า เมื่อกี้กุเห็นไอ้เป้เดินมาเปิดประตู” มันตอบ  พยักหน้าหงึก น้ำเสียงร้อนรน แล้วดันประตูเปิด

ไอ้เป้ยืนอยู่จริง ๆ ด้วย   ผมกับไอ้ป่วนอ้าปากค้าง  ก่อนจะพูดซะพร้อมเพียงกันยังกะนัดกันมา

“ไอ้เป้...มึงจริงๆ ด้วย”  ผมกับไอ้ป่วนหันมามองหน้ากัน ประมาณว่า แล้วมึงจะพูดพร้อมกุทำไม

ก่อนจะหันไปมองไอ้เป้ต่อ  มันหัวเราะขำ ๆ กับท่าทางของพวกผม

“เออ กุเองไม่ใช่ผีอย่างที่พวกมึงคิดหรอก ฮ่า ๆ แล้วแม่งจะตกใจทำไมวะ”  ไอ้เป้ตอบ ยังขำไม่หยุด

แต่ก็หลบให้พวกผมเดินเข้าไปข้างใน  แต่พวกผมยังนิ่งไม่ขยับ   แถมรัวคำถามไม่ยอมหยุด

โดยไอ้ป่วน  .....

“นี่ห้องไอ้ปิงปอง?” ไอ้ป่วนชี้นิ้วไปที่ห้อง

“เออ” ไอ้เป้ตอบ  ยืนพิงผนังไปเรียบร้อยแล้ว

“แล้วมึงไอ้เป้?”  ไอ้ป่วนชี้นิ้วไปที่ไอ้เป้อีกที

“เออ กุชื่อเป้ จำกุไม่ได้?” มันยักคิ้วถามกลับกวน ๆ

“แล้วมึงแก้ผ้า?”  มันจิ้มมือไปที่อกไอ้เป้

“กุแค่ถอดเสื้อ.. ไม่ได้แก้ผ้าซะหน่อย   มึงอย่าเยอะไอ้นัย” ไอ้เป้ว่า ยังยียวนกวนประสาทไม่เลิก

“แล้ว...แล้ว..” ไป้ป่วนอ้าปากจะถามต่อ  แต่ไม่ทันจะจบ

“แล้วมึงจะถามกุอีกนานมั้ย? กุเมื่อย และตอนนี้กุมีทางเลือกให้พวกมึงสองทาง 

หนึ่งถ้าจะถามต่อ ก็ขออัญเชิญพวกมึงเข้ามาในห้องซะ  กับ

สองถ้ามึงไม่อยากเข้า ก็เชิญไสหัวกลับ กุจะปิดประตูเพื่อไม่ให้ยุงเข้า

แล้วกุจะอัญเชิญตัวเองไปนั่งรอในห้อง 

ส่วนพวกมึงถ้ายังอยากจะถามอะไรกุ ก็โทรถามกุเอาแล้วกันนะ ” ไอ้เป้ว่า ยิ้มๆ

ก่อนจะเดินนำพวกผมเข้าไปในห้องไอ้ปิงปอง 

ไอ้ป่วนยังอ้าปากค้างหันหน้ามาหาผมเป็นคำถามว่า ”มันเกิดอะไรขึ้น?”

ผมยกทั้งมือยกทั้งไหล่แทนคำตอบ “กุไม่รู้”  ก่อนจะเดินตามไอ้เป้เข้าห้องไป

พวกผมนั่งลงที่โซฟาขนาบข้างไอ้เป้ที่มันนั่งอยู่ตรงกลาง  ไอ้เป้มามองซ้ายทีขวาที

แล้วถอนหายใจแรง ๆ ประมาณทำใจว่า “กุต้องเหนื่อยแน่ๆ”

“จะถามไรก็ถามมา” ไอ้เป้เอ่ยขึ้นเหล่ตาไปมองไอ้ป่วนที่จ้องมันเขม็งแบบไม่ให้คาดสายตา

“กุว่ามึงเล่ามาน่าจะง่ายกว่าให้กุถามมึงทีละคำถาม มึงว่ามั้ย?” ไอ้ป่วนว่า

ผมอ้าปากค้าง ทึ่งนิด ๆ  (เออนัย...ความคิดมึงนี่ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ หึหึ) 

และเหมือนไอ้ป่วนมันจะรู้ความคิดผม มันส่งสายตาโหดส่งมาให้ ทำเอาผมหุบปากแทบไม่ทัน

แล้วมันก็หันไปซักฟอกไอ้เป้ต่อ 

“เออ กุก็ว่างั้น” ผมเอ่ยสนับสนุนในที่สุดหลังจากเงียบมานาน ไอ้ป่วนเหล่หางตามามองนิดนึง

ประมาณว่า”ตอบซะช้า..แม่งไม่ตอบพรุ่งนี้เลยหล่ะ” (หึหึ ...กุรู้หรอกนัยว่ามึงคิดอะไร)

ไอ้เป้ก็หันมามองผมด้วยสายตาประมาณว่า ”มึงกุเอากะเค้าด้วย?”

“ก็...” ไอ้เป้เอ่ย แล้วหันมามองผมที ไอ้ป่วนที ที่กำลังตั้งใจฟังมันอยู่ตอนนี้

“ก็อะไร...เร็ว ๆ ดิมึง อย่าลีลา  กุไม่ชอบ” ไอ้ป่วนว่า 

(แหม..เก่งใหญ่นะมึง หึหึ ลองเก่งกะกุดิ เดี๋ยวจัดเต็ม) ผมได้แต่อมยิ้ม ชะอุ้ย ... ไอ้ป่วนส่งสาย

ตาโหดส่งมาให้อีกแล้ว แม่งรู้ทันความคิดผม ...ผมเลยหลบตามัน แม่งดุอ่ะ  ...ชิ่งหนีด้วยการ

กระแทกศอกใส่ไอ้เป้เบาๆ เร่งให้มันเล่า

“มึงอ่ะ...เร็ว ๆ ดิ”  ผมว่า และตั้งใจฟังต่อไป

“ก็ไม่มีอะไร  พวกมึงก็รู้ กุตามง้อไอ้ปิงปองอยู่  แล้วตอนช่วงสอบกุก็ยังมาอยู่

มาเรื่อย ๆ จนปิดเทอม ก็ยังมา ...มาทุกวัน  แต่มีวันหนึ่ง..กุกำลังรอมันอยู่ที่หน้าห้อง

พี่กระเทยห้องท้ายสุดก็เดินมา ตรงดิ่งมาหากุเลย  กุไม่ได้คิดไปเองนะสายตาแม่งส่อมากๆ

ส่งยิ้มสายตาหื่น ๆ มาให้กุ ไม่พอยังแลบลิ้นเลียรอบปากตัวเองอีก บรื้ออ... สยอง

พวกมึงก็รู้ใช่มั้ยว่าพี่เค้าเคยจะลากกุเข้าห้อง   กุก็ทุบห้องไอ้ปิงปองรัวเลย

แม่ง......ไม่สนใจห้องข้างๆ แล้ว เดี๋ยวอีกระเทยนั่นลากกุไปอีกไม่มีใครช่วย 

แล้วก็เหมือนไอ้ปิงปองมันก็รู้อยู่แล้ว...  สักพักมันก็เปิดห้อง นั่งเงียบกันอยู่นาน

จนกุว่ามันน่าจะพร้อม  ...ที่จะฟังกุแล้ว กุก็เลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้มันฟัง

มันคงมีสติมากพอแล้ว  ที่สำคัญกุไม่เคยโกหกมัน พวกมึงก็รู้” ไอ้เป้ว่า

“แล้วมันก็ให้อภัยมึงงั้นเหรอ..??” ไอ้ป่วนซักต่อ

“ก็อะไรหลาย ๆ อย่าง บวกกับที่ปางเค้าพูดตอนนั้นก็ช่วยได้เยอะเลยแหล่ะ

มันก็คิดอยู่นานเหมือนกัน กุแทบจะขอร้องมันเลยทีเดียว

แต่สุดท้ายมันก็เข้าใจอ่ะนะ....  แล้วจากนั้นน้องปางก็มาขอคืนดีกับมัน

แล้วมันก็เคลียร์อะไรหลายๆ อย่าง ทุกๆอย่างที่กุพูดกับน้องเค้าพูด

มันคงจะตรงกันอ่ะ  มันเลยกลับมาเหมือนเดิมกับกุไง” ไอ้เป้อธิบายจนจบ

“พวกมึงมีอะไรสงสัยอีกมั้ย?”  มันถามต่อ  พวกผมส่ายหน้า จริงๆ ก็ควรเป็นแบบนั้น

บอกตามตรงขนาดผมกับไอ้นัยยังเชื่อไอ้เป้เลย ถึงจะคบกับพวกมันไม่นานเหมือนกับไอ้ปิงปอง

แต่ไอ้เป้มันก็แสดงความจริงใจออกมาให้เห็นเสมอ แทบจะไม่มีครั้งไหนที่มันจะโกหก 

(ยกเว้นเรื่องที่มันล้อเล่น...อ่ะนะ  ไอ้นี่มันช่างอำ)

ไอ้ป่วนกับผมยิ้มแป้น  แต่ไอ้ป่วนท่าจะอาการหนักว่ายิ้มกว้างจนแทบไม่เห็นตาแล้ว

“มึงเก่งว่ะเป้  ...กุรักมึงจริง ๆ เล้ย..”  ไอ้ป่วนว่า  แล้วบรรจงกอดไอ้เป้แน่น ๆ

ไอ้เป้ก็ยิ้มหน้าบาน..อย่างโล่งใจ    มึงจะโล่งใจทำไม พวกกุไม่ได้มาจับผิดมึงซะหน่อยแค่ถาม

(ว่าแต่...ฉิบหายแล้ว  แล้วมึงจะกอดเค้าทำม้ายยยยย ไอ้นัย  ปล่อยยเซ่)

“มึงพอเลย  ตากุกอดมั่ง  ชิส์” ผมว่า ผลักไอ้ป่วนหน้าหงาย  แต่มันยังยิ้มหน้าบาน

ด้วยอาการอารมณ์ดี ผมยื่นมือกำลังจะกอดไอ้เป้แทนไอ้ป่วนก็ต้องชะงัก ..กึกกก

“พอ...พอเลยมึง  กอดกุฟ้าผ่าตายพอดี” ไอ้เป้ว่า ทำหน้าเหวอ  (ประมาณว่ารังเกียจกุมาก)

ผลักผมจนหน้าหงาย   และกลายเป็นผมที่ทำหน้างอซะเอง 

“ทำไมทีไอ้ปิงปองกับไอ้นัย กอดมึงไอ้อ่ะ” ผมถามขึ้นด้วยความสงสัยมานานมากแล้ว

“มึงอย่าเอาตัวเองมาเทียบกับไอ้ปิงปอง กะ ไอ้นัยดิว่ะ  มึงมันแค่ดอกหญ้า

ส่วนไอ้พวกนี้ ..มันเทวดาตัวน้อย ๆ เว้ย  .. หน้าปลวก ๆ แบบมึง

ไปไกลๆ เลยไป ชิ้วๆ” ไอ้เป้ว่า ยกมือมันไล่ผมไปไกล ๆ เล่นเอาฮากันยกก๊วน

ยกเว้นผมคนเดียว งุงิ....งอนอ่ะครับ...งอน

“กุไม่ได้หน้าปลวก    แต่กุ....หน้าหล่อว่ะเชี่ยเป้ หึหึ” ผมยืมท่าถูกต้องแล้วครับ ของคุณปัญญา

เอามาใช้  วาดมือท่าถูกต้องแล้วครับมาไว้ใต้คาง ส่งยิ้มหล่อ ๆ บวกยักคิ้วให้ไอ้สองตัวนั่น 

เล่นทำเอามันขำกร๊ากกกลงไปนอนกับพื้นโซฟา (แม่งจะฮาไปไหน ..กุเสีย self)

“ฮ่าๆ  เออ ๆ กุยอมมึงแล้ว...ไอ้หล่อ” ไอ้เป้ว่า  ขำไม่เลิก แต่ผมพอใจแล้วครับยิ้มหน้าบาน

(คึคึ  ในที่สุดพวกมึงก็ยอมรับว่ากุหล่อ  ....  ยอมรับความจริงซะทีนะ  กุให้อภัยไอ้พวกหล่อน้อยกว่ากุ)




หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-02-2012 02:03:12

บทที่ 12 ซักฟอก (2)

“เออ ...ไอ้ปิงปองไปไหนอ่ะ” ผมถามขึ้น

“มันอาบน้ำอยู่ใกล้เสร็จแล้วมั้ง...อืม พวกมึงกินข้าวกันยังอ่ะ?” ไอ้เป้ถามขึ้น

“ยังอ่ะ พวกกุซื้อกับข้าวมาด้วย...มึงเอากับข้าวออกมาจากเป้ดิว่ะ  ช้าว่ะ..ชิส์” ไอ้นัยตอบแทนผม

ยังไม่พอครับยังหันมาสั่งผมอีกตะหาก ผมมองตอบมันตาขวาง...

(ห่า...เมื่อกี้กุยังไม่คิดบัญชีมึงเลยนะ  อย่า...อย่าให้กุเอาคืน  หึหึ คางเหลืองแน่มึง)

ผมรีบหยิบกับข้าวออกจากเป้  ...มันซื้อมาเยอะจัด  ครับผมหมายถึงไอ้ป่วนแม่ง

เห็นอะไรอยากกินซะหมด มึงเป็นคนจริงป่ะว่ะ หรือว่ามนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมา...

จะถือขึ้นมาคนเดียวคงไม่ไหว  คาดว่าไอ้ป่วนแม่งคงไม่น่าจะช่วยอะไร

ฉะนั้นใส่เป้ถือขึ้นมาดีที่สุดแล้วครับ  ว่าแล้วพวกผมก็จัดการเอาอาหารออกมาเท

.......และไอ้ปิงปองก็เหมือนมันเป็นหมากลับชาติมาเกิด ดีนะที่ชาตินี้แม่งเป็นคน

ไม่ใช่ชาติที่เกิดเป็นหมา เดี๋ยวจะกลายเป็นชาติ..... (จงเติมคำในช่องว่าง  หึหึ)

เพราะแค่เทอาหารบุ๊ป  แม่งเดินออกมาทันทีเลยครับ จมูกแม่งหมาจริง ๆ

ไอ้ปิงปองสะดุดไปนิดนึง เหมือนกับตกใจว่าพวกผมมาได้ไง แล้วค่อยพุ่งตรงมาที่โต๊ะอาหาร

“ไง ไอ้ตัวดี  ดีกันนี่ไม่คิดจะบอกพวกกุเลยไง ทีตอนทะเลากันนี่

อยากจะหลบมันหล่ะก้อ ขอร้องพวกกุเชียว กุโทรหาก้อไม่ยอมรับนะครับมึง” ผมเอ่ยขึ้น

น้ำเสียงไม่พอใจชัดเจนแต่ก็ไม่ได้จริงจังอ่ะไรมาก  ชี้นิ้วคาดโทษไปที่ไอ้ปิงปอง ขู่แม่งเลย ฮ่าๆ

“ใช่... ไอ้ปิงปอง  ชิส์..แม่งทำกุกลุ้มแทบแย่  กุกะไอ้เอกคิดกันแทบตายว่าจะทำไงให้พวกมึงคืนดีกัน

กลับมายั๊ง..ไม่ได้ใช้แผนการที่วางไว้เลย ...แม่งงงง เสือกคืนดีกันแล๊ะ” ไอ้นัยว่า จิ๊ปากอย่างขัดใจ

ส่งเสียงแหลมๆ ไปทิ่มแทงไอ้ปิงปองต่อทั้งที่เมื่อกี้มันยิ้มหน้าบานแล้ว ยังมีสติพอจะเก๊กหน้า

มาแกล้งไอ้ปิงปองได้ทันนะมึง  ไอ้เป้ก็เอาแต่ยิ้มหวาน ขำคิกๆ ไอ้ปิงปอง เพราะมันพึ่งผ่านการซักฟอกมา

ไอ้ปิงปองส่งสายงอนๆ ไปให้ไอ้เป้ ขณะที่ไอ้เป้ทำปากพยักเพยิดตอบ “กุโดนแล้วตามึง”

“เชี่ย ชิ่งเลยนะมึง” ไอ้ปิงปองทำปากตอบกลับ  (นี่พวกมึงคิดว่า...พวกกุอ่านปากมึงไม่ออกเลยมั้ง..)

และแล้วมันก็หันมาสนใจที่พวกผม  เพื่อทำการซักฟอกแม่งอีกรอบ  ทั้งๆ ที่ซักไปแล้วรอบนึง

“เออ ๆ กุขอโทษ พอดีมีเรื่องยุ่งว่ะ  เลยไม่ได้รับโทรศัพท์พวกมึง โทษทีว่ะ 

พอดีพึ่งเคลียร์กับปางจบ”  ไอ้ปิงปองตอบ เบี่ยงประเด็นทันที พวกผมก็รู้เพราะฟังมาจากไอ้เป้แล้ว

แต่ที่อยากรู้มากกว่าคือ  มันเคลียร์กับน้องปางว่ายังไง  แล้วสรุปเป็นยังไงบ้างงงงงง

พวกผมเลยแกล้งไหลตามันไป (กร๊ากกกกกกกกก กุฉลาดอีกแล้ว  ฮ่า ๆ )

“เห้ย  จริงอ๊ะ” ผมพูดขึ้น  ทำท่าตื่นเต้น  เพราะกุอยากรู้เรื่องชาวบ้าน 

“ชิส์  จริงดิ” คนที่คุณก้อรู้ว่าใคร ไอ้นัยครับมันว่าต่อ  แต่ไอ้นี่มันคงตกใจจริงๆ

เซ็นซิทีฟอ่ะ เข้าใจมั้ยครับว่ามันน่ะ  เซ็นซิทีฟเรื่องเพื่อนมั๊ก ๆ

“อืม   ปางมาขอคืนดีอ่ะ เลยเรียกมาเคลียร์กัน  แต่กุปฏิเสธไปแล้ว” ไอ้ปิงปองมันเล่า

สั้น กระชับ เคลียร์ตอนจบ   แต่ที่ไม่เคลียร์คือแม่ง ไม่มีDetailห่าอะไรเลย มึงสั้นไปมั้ยปิงปอง

ไอ้เป้ที่นั่งอยู่ข้างหลังพวกผมมันคงเห่าอะไรสักอย่างใส่ไอ้ปิงปอง  ผมเห็นไอ้ปิงปองเหลือกตากลับไป

ก่อนที่จะทำหน้าเศร้า..เหมือนไม่อยากเอ่ยถึง  พวกผมก็ไม่อยากจะซักต่อ

“เออ..มึงไม่เป็นไร ๆ อย่างมึงอ่ะ หาใหม่ไม่อยากหรอกปิงปอง” ผมเอ่ยขึ้นเพื่อปลอบใจไอ้ปิงปอง

เอื้อมมือมากอดคอมันเป็นการให้กำลังใจ

“เอ๊อ ..กุก้อว่างั้นแหล่ะ เตี้ย ๆอย่างมึง หาไม่ยากหรอก ฮ่า ๆ” ไอ้ป่วนครับ มันว่า

แล้วขยี้หัวไอ้ปิงปองซะยุ่งเหยิง  เล่นเอาฮากันไปยกใหญ่ ไอ้ปิงปองหน้ามุ่ยนิดหน่อย

“ป๊ะ...กินข้าวได้แล้ว  เดี๋ยวไม่สูงนะเว่ย กร๊ากกก” ไอ้ป่วนว่า ปากดีเหลือเกิน  .ที่รักผม

ก่อนมันจะเอามือไปลูบหัวไอ้ปิงปองป้อยๆ เหมือนกับจะจัดทรงผมให้เข้าที่

(แต่กุว่า...มันนอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังยุ่งกว่าเดิมอีกอ่ะ  นัย)

“ห่า.....” ไอ้ปิงปองด่ามันคงทนไม่ไหวแล้วครับ ฮ่าๆ

.

.

พวกเราทั้งหมดไปที่โต๊ะกินข้าว กินกันไปคุยกันไป เรื่องปิดเทอม เรื่องมหาลัย ทั้งหลายแหล่

รวมไปถึงทริปนี้ที่ตั้งใจจะให้เกิด แต่ไอ้ปิงปองกะไอ้เป้ดันมาดีกันซะก่อน 

เหมือนทริปจะล่มแต่....  เหมือนว่ามันจะจบได้ง่าย ๆ ......ได้ยังงั้นแหล่ะ

“กุว่าอ่ะ ...ยังไงกุกะไอ้เอกก็เตรียมของกันแล้ว อย่าให้เสียเที่ยวดีกว่า” ไอ้ป่วนสำแดงเดชแล้วครับ

“แล้วมึงจะไปไหนอ่ะ” ไอ้ปิงปองถามขึ้น

“พวกกุแพลนว่าจะไปปีนเขาอ่ะ” เป็นผมที่ตอบให้

“ที่ไหนล่ะ” ไอ้เป้ถามอย่างสนใจ  อย่างนี้ก็เข้าทางไอ้ป่วนของผมสิคร๊าบบบบบบบ

“ภูกระดึง” ไอ้ป่วนฟันธง (หวังว่าคงไม่ฟันแล้วทิ้งหรอกนะ  คุคุ) แน่นอนว่านี่คือคำประกาศิษ

“ทำไมต้องภูกระดึงอ่ะ”  ไอ้ปิงปองถามอย่างสงสัย

“เพราะกุอยากถ่ายรูปกะป้าย ครั้งหนึ่งในชีวิตข้าฯคือผู้พิชิตภูกระดึง” ไอ้นัยว่า

พวกผมอึ้งแดกสิครับเงียบสักพัก  แล้วปล่อยฮากันท้องขดท้องแข็ง

แม่งคิดมาได้  กร๊ากกกกกก ขำต่อ  แม้แต่ผมก็พึ่งรู้ความจริงเช่นกัน  ฮ่าๆ

“ไมอ่ะ  กุเห็นเค้าถ่ายลงเฟชบุคอ่ะ กุอยากถ่ายมั่ง” ไอ้ป่วนหน้าบูดเป็นตูดเป็ด งอน ๆๆ แต่น่ารักอ่ะ

พวกผมก็พยายามกลั้นหัวเราะก่อนเจ้าที่แถวนี้จะมาสิงไอ้ป่วนของผม

“กุที่ไหนก็ได้อ่ะ  เพราะไม่ได้มีแพลนอะไร มึงอ่ะ” ไอ้ปิงปองว่าสนับสนุนเพื่อให้ไอ้ป่วนอารมณ์ดีขึ้น

“อืม  กุเหมือนกันอ่ะ”ไอ้เป้ตอบ

“งั้นดี ไปภูกระดึงกัน” ผมสรุปในที่สุด  จริงๆ ไม่ต้องพูดทุกคนก็พร้อมจะตามใจไอ้ป่วนอยู่แล้ว

เพราะมันขี้งอนครับ แต่ก็น่ารัก ทุกๆ ก็ยอมมันกันทั้งนั้นแหล่ะ  แต่จะมีก็แต่ผมที่ยอมมัน....

ยอมแบบถึงที่สุดจริงๆ   ไม่ว่าอะไรสุดท้ายก็ใจอ่อนจนได้สิน่า~

“หึ๋ยจริงดิ งั้นกุไปเตรียมของก่อนนะ” ไอ้นัย ยิ้มหน้าบานใครจะไปกล้าขัดมึงหน้างอขนาดนั้น หึหึ

“เออ ...งั้นกุกลับด้วยจะได้ไปเตรียมของเหมือนกันงั้นพรุ่งนี้เจอกัน 9 โมงนะ

เดี๋ยวกุโทรเป็นเช็คก่อนว่าคนขึ้นเต็มรึยัง ตอนเย็นโทรมาบอกเอารถกุไปแล้วกัน” ผมสรุป

“อืม เจอกัน” ไอ้ปิงปองกะไอ้เป้พูดพร้อมกัน

ส่วนพวกผมก็ชิ่งกลับคอนโด จริงๆ ก็เตรียมไว้ทุกอย่างแล้วหล่ะ แค่เลื่อนวันเร็วขึ้น 2-3 วัน

ผมกับไอ้ป่วนก็โทรไปแจ้งที่พัก รวมถึงภูกระดึงทันที  ทุกอย่างสมใจไอ้ป่วนของผม

ที่ตอนนี้มันหน้าบานเป็นจานเชิงร้องเพลงลั้นลา อย่างคนอารมณ์ดี ไปแล้วครับ เห็นแล้วก็มีความสุข

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ผมกับไอ้ป่วนก็เก็บเสื้อผ้าใส่เป้เฉพาะที่จำเป็น แต่หลัก ๆ น่าจะเป็นเสื้อกันหนาว

เพราะตอนนี้ที่ภูกระดึงยังหนาวมาก ๆ อยู่  เมื่อเตรียมอะไรเรียบร้อยไอ้ป่วนก็หยิบผ้าเช็ดตัวเพื่ออาบน้ำ

เสียงน้ำจากฝักบัวไหลสาดกระเซ็นอยู่ในห้องน้ำ 

(นัย...มึงพลาดว่ะ  มึงลืมล็อคประตูห้องน้ำ  และวันนี้มึงก็ควรจะโดนลงโทษที่แกล้งกุหลายๆ อย่าง

หึหึ...ข้ออ้างทั้งนั้นแหล่ะครับ คนมันจ้องจะทำ กร๊ากกกกกกกกกก)

ผมรีบถอดเสื้อผ้าทิ้งลงตระกล้า  เปิดประตูห้องน้ำอย่างเบามือ ก่อนจะค่อยๆ แทรกตัวเข้าไป

ไม่ให้ไอ้ป่วนรู้ตัว  ผมยืนมองไอ้คนที่ยังไม่รู้ตัวใต้ฝักบัว ร่างผอมสูงสมส่วน

มีมักกล้ามเนื้อเล็กๆ ตามตัว หน้าท้องแบบราบ ผิวขาว ๆ ที่วิ้งจนทำผมกลืนน้ำลาย

ผมเส้นเล็กที่ลู่ตามโครงหน้าได้รูปเนื่องจากสายน้ำ แลดูเซ็กซี่ไปอีกแบบ 

ริมฝีปากแดงระเรื่อ  และอิ่มเอิบนั้น ทำผมอยากจะเข้าไปดูดปากบางๆ ให้แตก

สะโพกกลมมน ที่ทำผมปั่นป่วนจนแทบทนไม่ไหว  แทรกตัวกอดไอ้ป่วนด้านหลัง

“อ๊ะ...” ไอ้ป่วนสะดุ้งโหยง  ....ไม่คิดว่าผมจะตามเข้ามาในห้องน้ำด้วย 

จริง ๆ ปกติมันอาบน้ำก็ไม่เคยล็อคประตูอยู่แล้ว ...

แต่.......มึงลืมไปนะนัยว่าตอนนั้นมึงกะกุ...   เป็นแค่เพื่อนกัน  หึหึ 

ไอ้ป่วนทำหน้าเลิกลัก  ...รู้อยู่แล้วว่าต้องเกิดอะไรขึ้น

“กุอาบด้วยคนนะ” ผมว่ากระซิบเสียงแผ่วข้างหูไอ้ป่วน  กดจูบเบา ๆ ที่หูมัน ไอ้ป่วนหดคอหนี

ผมกดจูบที่ขมับไอ้ป่วน ใช้จมูกตัวเองเล่นเขี่ยจมูกไอ้ป่วนเล่น ก่อนจะประทับจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปากอีกฝ่าย

ไอ้ป่วนหลับตาพริ้มรับสัมผัส ก่อนจะลืมตาขึ้นมาประท้วง

“หืออ......จะอาบก็อาบอย่างเดียวดิ”  ไอ้ป่วนดิ้นยุกยิก ย่นปากเริ่มรู้ตัวว่าต้านทานไม่ไหวแล้ว

“ก็ช่วยอาบอยู่นี่ไงหล่ะมะ  กุ..ถูตัวให้” ผมกระซิบต่อ หยิบฟองน้ำ บีบครีมอาบน้ำค่อยไล้บนตัวไอ้ป่วน

“อื๊ออออ  ดะ ..เดียว กุอาบเอง”  ไอ้ป่วนระร่ำระรัก  แต่มีหรือผมจะยอม ผมไล้มือบนหน้าอกไอ้ป่วน

ทำมันครางเสียว จมูกก็ซุกไซร้ซอกคอหอม มืออีกค้างดันหน้าไอ้ป่วนให้หันมาหา ผมฉกริมฝีปากมันเบาๆ

ก่อนจะกดริมฝีปากหนักๆ แทรกลิ้นดูดลิ้นอีกฝ่าย    ไล้มือไปที่ไอติมแท่งร้อนของอีกฝ่ายที่โตเต็มมือ

“อือออออ”  ไอ้ป่วนครางแอ่นตัวไปข้างหน้า ตามจังหวะมือของผม ผมสอดเอกน้อยของผม

ไถลผ่านช่องหวาน ที่เต็มไปด้วยฟองครีมอาบน้ำก่อนจะไปสัมผัสไอติมแท่งร้อนของอีกฝ่าย

“อ่ะ...เอก” ไอ้ป่วนหอบหายใจถี่ ขณะที่ผมเริ่มครางเสียงต่ำ  ผมรวบไอติมกับเอกน้อยเข้าด้วยกัน

“อืมมมมม นัย..อ่ะ”  ผมเริ่มขยับเข้าออกจากช้า ๆ เป็นเร็วขึ้น ๆ เล่นเอาเสียวกันทั้งคู่

ก่อนจะสอดเอกน้อย เข้าสู่ช่องหวานของอีกฝ่าย ไอ้ป่วนสะดุ้งเล็กน้อย

“อ๊ะ...อะ..เอก” มันครางเสียว ตัวกระตุกหน่อย ๆ เพราะความเจ็บแต่น่าจะไม่มาก

“อ่ะ.........นัย........ซีสสสสส”   ผมครางเสียงต่ำ   ไล้มือทั่วตัวไอ้ป่วนกระตุ้นอีกฝ่าย

จนไอติมร้อน...ฟูฟ่องตัวอ้วนดังเดิม  ผมขบเบาๆ ที่หลังอีกฝ่าย ค่อยๆ ขยับ

ผมดันไอ้ป่วนจนชิดผนัง ชักเข้าชักออก เร็วขึ้น  ๆ  เลื่อนมือมาจับสะโพกของอีกฝ่าย

กระแทกแรงๆ ย้ำ ๆ  ไอ้ป่วนครางหวาน แอ่นสะโพกรับแรงกระแทก

“เอก...เร็ว...เร็ว..เร็วอีก..อ่ะ...”   ไอ้ป่วนสั่งเสียงขาดช่วง น้ำเสียงที่แหบพร่า ช่างกระตุ้นอารมณ์เสียเหลือเกิน

ผมกระชับมือที่สะโพกอีกฝ่ายแน่นขึ้น ก่อนจะกระแทกรัวจนแทบหายใจกันไม่ทัน

“เอกกกกกกกกกกกกก” ไอ้ป่วนร้องเสียงหลง ร่างกายบิดเกร็ง ด้านหลังก็บีบรัดแน่นจนผมขยับไม่ได้

“อืมมมมมมมมมม  นัย” ผมครางเสียว  ไอ้ป่วนกระตุกก่อนจะพ่นนมเปรี้ยวราดผนังไป

มันหอบหายใจแรง ๆ ทิ้งตัวพิงผนัง หันมามองหน้าผมเป็นเชิงอนุญาตให้ทำต่อ

ผมกดจูดไอ้ป่วนแรง กระชับมือให้แน่นตามเดิม

“ชิสสสสสสสสส”  ค่อยดึงเอกน้อยจากช่องหวานที่บีบรัดจนแทบขยับไม่ไหว  สักพัก

ที่อย่างก็คลายตัว ผมขยับเร็วขึ้น ๆ ไอ้ป่วนแอ่นตัวรับสัมผัสเต็มที่  ผมกระแทกด้วยแรงทั้งหมดที่มี

“อ๊ะ....นัยยย  อื๊ออออออออออออ” ผมกระแทกอีกครั้ง ร่างกายเกร็งกระตุก ก่อนจะปล่อยลาวา ใส่ไอ้ป่วน

ผมพิงตัวทาบทับตัวไอ้ป่วน หอบหายใจถี่ๆ พอกัน กดจูบหวานไอ้ป่วนอีกครั้ง ค่อย ๆ ถอนเอกน้อย

ออกจากตัวไอ้ป่วน  ไอ้ป่วนทรุดขาอ่อนลงไปกองกับพื้นนั่งหอบหายใจเป็นกิจลักษณะ ใบหน้าขาวแดงซ่าน

ริมฝีปากอิ่มบวมเจอ ด้านหลังมีรอยคิสมาร์ค เป็นระยะ ผมนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าไอ้ป่วน

“ม่ะ เดี๋ยวอาบน้ำให้นะครับ” ผมส่งยิ้มหวานไปให้ไอ้ป่วน  แต่มันกลับย่นจมูกตอบกลับ

ผมฉกหอมเบาๆ ที่แก้มมัน

“น่ารักว่ะ..แฟนใครวะโชคดีชะมัด” ผมพูดล้อ ๆ  ไอ้ป่วนเผลอยิ้มออกมา

“บ้า...ไม่มีแฟนซะหน่อย” มันย่นปาก ชกเบาๆมาที่อกผม แก้เขิน

“มีไม่มีไม่รู้...แต่กุจองแล้ว   ไม่ให้ใครหรอก น่ารักขนาดนี้อ่ะ” ผมไล้สายตา

และไล้มือไปทั่วหน้าไอ้ป่วน  ที่ตอนนี้แดงซ่านกว่าเดิม

“เออ...รักให้มันตลอดไปแล้วกัน” มันว่า ประชดนิด ๆ แต่ก็อมยิ้มหน่อย ๆ

“แล้วมึงหล่ะ...ไม่รักกุบ้างเหรอ นัย” ผมอ้อนเสียงแผ่ว

“อือออออออออออ” มันตอบ

“อือ...อะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลยตอบมาดี ๆ”  ผมเริ่มเค้นคอไอ้คนปากหวาน ที่ปากแข็งที่สุด

“ก็....................รักไง” มันว่าก้มหน้างุดมองพื้นไปแล้ว หึหึ ใครจะยอมว่ะคำตอบแค่นี้ แล้วชื่อกุหายไปไหน

“รักใคร?”  ผมซักต่อ

“มึง” มันหันมามองหน้าผม 

“กุชื่อไร”ผมถามต่อ

“เชี่ยเอก”มันตอบ ยักคิ้วกวน ๆ แม่งจัดไปอีกทีดีมั้ยคร๊าบบบบบบบ

“งั้นมึงบอกมา มึงรักไอ้คนที่ชื่ออะไร” ผมว่า มันยกยิ้มมุมปาก  ผมรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล

“กุรักมึงนะ...........เชี่ยเอก” มันพูดในที่สุดแต่เน้นคำสุดท้าย ไมอ่ะ.....ไมเน้นคำท้ายอ่ะ
.
“หึหึ  ก็ยังดีว่ะ” ผมตอบในที่สุดรีบอาบน้ำให้ตัวเองและไอ้ป่วน  ก่อนที่หวัดจะถามหา

แล้วรีบไปนอนเอาแรงเดินทางต่อพรุ่งนี้

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 12-02-2012 02:24:25
ร้อนแรงตลอดคู่นี้
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 12-02-2012 09:37:58
หลังจากสบายใจ เพื่อนดีกันแล้ว
เตรียมตัวลัลล้าภูกระดึง ก็ร้อนแรงกันในห้องน้ำ
หวานจนน่าหมั่นไส้ทีเดียว
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: naiin ที่ 12-02-2012 09:40:31
จบปัญหาไปสำหรับคู่เป้ แต่เหมือนมีอะไรปิดๆอยู่นาคู่นี้
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 12-02-2012 10:55:33
ชอบคู่เป้กะปิงปองง่ะอ่านเรื่องแรกมาง่ะ คู่นี้ก็ บ่อยเกิ๊น~
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 12-02-2012 11:04:11
คู่นี้ รักกันตลอด
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 12-02-2012 11:24:55
เอกนี่จัดหนักตลอดเรยนะคะ คริคริ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-02-2012 12:26:42
เอกจัดเต็มตลอด :z1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 12-02-2012 16:46:31
เสร็จอีกจนได้น้องนัย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-02-2012 20:08:57
ขอบคุณค่ะสำหรับคอมเม้นท์
 :-[ :-[ :-[ :-[
อ่านแล้วมีความสุข

สำหรับคู่เอก+นัย
เดี๋ยวจะพยายามลด เลิฟซีนนะคะ เพราะเยอะไปจริง ๆ
พอดีเป็นเรื่องที่เขียนต่อ เลยต้องคิด พ็อตเรื่องกันใหม่
บางทีเลยเดินเรื่่องที่ค่อนข้างขัด ๆ หน่อย ค่ะ

แต่เรื่อง เป้+ปิงปอง
เป็นเรื่องแรกที่วางพ็อตไว้จนจบแล้ว  เวลาอ่านเลยน่าจะสมูทกว่า
ยังไงก็ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ
 :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 12-02-2012 21:10:59
^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: runningout ที่ 12-02-2012 22:42:15
เนื้อเรื่องติดจะงง ๆ นิดนึงค่ะ นิดนึงจริง ๆ ;)แต่ก็สนุกเบา ๆ แต่เอ่อเป็นไปได้รบกวนเปลี่ยนสีตัวอักษรให้เป็นสีดำและตัวเล็กลงกว่านี้นะคะ
คือว่า ขอโทษนะคะที่ขอมากเกินไป >,< T.T
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 12-02-2012 22:51:39
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ  เดี๋ยวจะปรับปรุงด่วน
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Rouk_Uknow ที่ 12-02-2012 22:54:53
จัดเต็มตลอด คู่นี้  :z10:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 16-02-2012 20:09:35
ขอโทษนะคะ ไม่ได้เขียนเรื่องนี้นานเลย  ยังไงว่าง ๆ ก็ไปอ่าน คู่เป้กับปิงปองรอก่อนนะคะ
^_____^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 16-02-2012 20:20:29
อ่า นึกว่ามาต่อเรื่องนี้ซะอีก
เรื่องปิงปอง สงสารอ่า ไม่รู้ตอนต่อจะเป็นยังไง
อ่านไปร้องไห้ตามไป

เลิฟซีนไม่ต้องลดก็ได้ เพราะเข้าใจว่าคนมันรักอะนะ
ก็อยากจะเลิฟ เลิฟ  :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-02-2012 22:20:49
ไม่เก็บแรงไว้ขึ้นภูกระดึงหน่อยหรอเอก?

 :z1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 17-02-2012 20:19:15
ร้อนแรงกันจริงๆ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 17-02-2012 20:56:22
ติมตามกันต่อไป สำหรับเรื่องนี้ครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 12 ซักฟอก (2) P.8 12/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 18-02-2012 10:18:56
รู้สึกผิดเหลือเกินที่ต้องให้รอกันอย่างนี้  ....
ยังไงก็แวะไปอ่านเรื่องเป้กับปิงปองก่อนนะคะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30509.msg1770481#msg1770481

หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู P.9 18/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 19-02-2012 08:55:53
หายหน้าหายตาไปนาน...หึหึ
เค้าขอโทดดดดดดดดดดด  งุงิ :impress2: :impress2:
มาต่อให้แล้ว อ่านให้สนุกนะคะ
อยากเห็นรอยยิ้ม  (จิ้นเอาเองอยู่คนเดียว)  ของทุกคน
 :bye2: :bye2:

บทที่ 13 ปีนภู



9โมงเป๊ะ ๆ  ผมกับไอ้ป่วนก็ขับรถมาถึงคอนโดไอ้ปิงปอง เห็นมันสองตัวหอบหิ้วสัมภาระ

เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไอ้ปิงปองยืนโบกมือไหว ๆ ให้สัญญาณ

ฟอร์จูนเนอร์สีดำของผมก็มาเข้าจอดเทียบท่าเพื่อรับไอ้ตัวดีทั้งคู่ที่แม่งทำชีวิตคู่ผมปั่นป่วน

ข้าง ๆ ก็มีไอ้ป่วนไม่แพ้กันนั่งยิ้มแป้นรับเพื่อนอย่างหน้าชื่นตาบาน ทีเมื่อเช้ากว่าจะตื่น

ขอย้อนกลับไปเมื่อเช้านี้  ....   เมื่อเวลา 7นาฬิกาเป๊ะ ๆ

“นัยตื่น...นัย  ตื่นครับ” ผมเขย่าตัวไอ้ป่วน

“อื๊ออออออออ อย่ากวนกุง่วง” มันดิ้นหนีผม มุดหัวเข้าใต้หมอน แถมมือก็เขี่ยลากผ้าห่มมาคลุมตัวซะมิด

“นัยสายแล้ว...มึงจะไปมั้ยภูกระดึงอ่ะ” ผมดึงผ้าห่ม แข่งกับไอ้ป่วน ที่ตอนนี้งอแงใหญ่แล้ว

“ไม่ไป...กุไม่ไปไหนทั้งนั้น  กุจะนอนอ่ะ..ฮึก ๆ”  ไอ้ป่วนโวยวาย มีแต่เสียงสะอื้นร้องไห้

แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด  (มารยาจริง ๆ เมียกุ จะยังไงกับแม่งดีครับ)

“มึงจะไม่ไปได้ไง...มึงเป็นคนอยากไปเองนี่นา” ผมกระชากผ้าห่มออกได้แล้ว   เหลือแต่เพียงหมอน

ใบนั้นที่มันเอาหัวมุดไว้ด้านล่าง  (นี่มึงจะไม่ขาดใจตายแน่ใช่มั้ย...นัย)

“อื๊อออออ  ไม่ไป ..ไม่ไป ฮึกๆ  เพราะมึงแหล่ะ ฮึก ๆ”  มันยังเถียงทั้งที่ไม่ลืมตามามองผมด้วยซ้ำ

“กุเกี่ยวตรงไหน...มึงลุกมาอธิบายกุดี ๆ ซิ มึงอ่ะมันมั่ว” ผมว่านั่งบนเตียงมองไอ้ตัวป่วนที่สำแดงเดช

ได้ผลครับ ไอ้ป่วนเด้งตัวลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าอาฆาตพยาบาท  (เอ่อ..มากไปมั้ยนัยนี่ผัวมึงนะ)

ผมไม่ได้กลัวหรอกครับ ออกแนวฮามากกว่า ดูมันสิ นั่งหันมามองหน้าผม คิ้วขมวดจนแทบจะเป็นเส้นเดียว

แต่ตามันครับตามัน.. ฮ่าๆ    ลืมขึ้นมาได้ประมาณ 10%  ทั้งที่พยายามจะส่งสายตาอาฆาตมาให้ผมแท้ ๆ

เรียกได้ว่าตามันก็แทบปิดอยู่แล้ว เหมือนไม่ลืมตานั่นเอง ผมอมยิ้มขำ ๆ รอฟังมันเล่า

(หึหึ  นัย...ถ้ามึงแค้นกุขนาดนั้น  งั้นมึงช่วยลืมตาโต ๆ ของมึงให้ได้ก่อนดีม่ะ

 ก่อนจะมองกุด้วยสายตาอาฆาต)

“เพราะมึงนั่นแหล่ะ  เสือกเอากุทั้งที่รู้ว่าวันวันนี้จะไปเที่ยว มึงก็รู้ว่ากุจะเหนื่อย

ที่สำคัญทำที่ห้องน้ำอย่างเดียวไม่พอเสือกมาต่อที่เตียงอีก 

มึงจะให้กุเอาแรงที่ไหนหนักหนา  กุเหนื่อย กุเพลีย กุนอนไม่พอ มึงเข้าใจป่ะ

ถ้ามึงทำครั้งเดียวกุจะไม่ว่าเลย ชิส์ กุนอนแหล่ะ”  มันร่ายยาวเสร็จกะจะทิ้งตัวลงนอน

“เดี๋ยว” ผมเอื้อมมือมาดึงไอ้ป่วนไว้ให้มันยังนั่งต่อไป  ปากยิ้มกว้างส่งไปให้มัน

มันหันมามองตาเขียว  (อันนี้ผมเดาเอา ...เพราะแม่งตาจะปิดอีกแล้ว)

“ไรอีก  กุจะนอนอ่ะ  ฮึก ๆ” เอาอีกแล้วมีแต่เสียงสะอื้นตาไม่มีน้ำตาสักหยดของมัน หึหึ

“กุยอมรับว่ากุผิดที่เอามึง  เพราะมึงน่าเอา แต่แค่ครั้งเดียวว่ะ

ครั้งที่สองมึงทำเองตะหาก ใครที่มันแม่งขย่มบนตัวกุ  กุเคยว่าสักคำมั้ย 

เมื่อคืนกุบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าเดี๋ยวเหนื่อย  .....มึงก็บอกว่าไม่เป็นไรไม่เหนื่อยหรอก

ขออีกที ..ขออีกที  แล้วก็ขึ้นมาขย่มเองอ่ะ  แล้วจะมาโทษกุได้ไง กุมันส์กุก็เอาต่อดิ

ใครแม่งจะไปหยุดได้ว่ะ มึงเล่นขย่มไปแล้วอ่ะ สรุปผิดกันคนละครั้ง ป่ะไปอาบน้ำ”ผมบอก

สรุปประเด็นเสร็จสรรพ พร้อมลากไอ้ป่วนไปอาบน้ำด้วยกัน

“มึง...มึง ไอ้เอก มึง....” ในที่สุดไอ้ป่วนลืมตาโตๆ ของมันมามองผมเต็มตา เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน

พร้อมแด๊กหัวกุได้ทุกเมื่อ หน้าแดงแปร๊ดด้วยความอาย  หึหึ ...(คิดจะเล่นกะพี่เหรอน้องเร็วไปร้อยปี)

ทำท่าเหมือนจะด่า...แต่มันคงนึกคำด่าไม่ออกเพราะยังเช้าอยู่ ที่สำคัญ มันคงอึ้งไม่นึกว่าผม

จะเอาเรื่องจริงมาพูดเล่น  กร๊ากกกกกก สะใจ  แต่สุดท้ายแม่งก็ยอมไปอาบน้ำกับผมโดยดี


ผมก็ออดอ้อนตามประสาคนรักกัน  ทั้งกอด หอม ซุกไซร้  ถูสบู่ให้ แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะครับ

ผมแค่อยากให้มันอารมณ์ดี  อ้อ มีจูบดูดดื่มอีกเล็กน้อยจูบที่ไอ้ป่วนมักเผลอไผลคล้อยตามผม

สีหน้ามันนี่  น่าจะจัดหนักอีกซักหลาย ๆ รอบครับ   พอมันเขินมันก็หายโกรธผมไปโดยปริยาย

เราถึงได้มาอยู่ใต้คอนโดไอ้ปิงปองในเวลานี้ครับ งั้นกลับมาสู่ปัจจุบันกัน

พอผมจอดรถได้ ไอ้สองตัวนั่นก็กระโจนขึ้นรถทันที  และแล้วการเดินทางก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ผมขับจนมาถึงโคราชไอ้ป่วนก็เริ่มหิว  หน้ามุ่ยขึ้นมาอีกแหล่ะ  มองผมตาขวางเชียว

(เชี่ยนี่  ... แม่งโดนกุมารทองสิงระหว่างทางป่ะว่ะ  ทำหน้ามุ่ยได้ตลอด)

“กุหิว...” และแล้วคำประกาศิษ ก็เริ่มทยอยออกจากปากไอ้ป่วนมันครับ  หันหน้ามองจ้องผมแบบไม่พอใจ

(แล้วความผิดกุรึไง  ...ที่มึงไม่ยอมตัดสินใจเลือกร้านซะที) ผมหันไปยิ้มตอบ ชี้นิ้วมาที่ตัวเอง 

พร้อมกับเลิกคิ้วเป็นคำถามว่า   “ความผิดกุงั้นสิ?”    ไอ้ป่วนไม่ตอบเพียงแต่พยักเพยิด... อย่างเห็นด้วย

“หิว...หิวแล้ว” ไอ้ป่วนเน้นย้ำ  มากมาย

“แล้วจะกินร้านไหน  มึงอ่ะ...เลือกให้ได้เถอะ กุร้านไหนก็ได้” ผมตอบ

ไอ้ป่วนหน้ามุ่ยต่อแต่ไม่ยอมตัดสินใจเลือกสักที  ผมเลยหันไปตะโกนถามไอ้พวกข้างหลัง ที่แม่งเงียบเป็นป่าช้าไปแล้ว

 “ร้านไหนดีอ่ะ”

“เออ  แล้วแต่มึงอ่ะ กุร้านไหนก็ได้” ไอ้เป้ตอบ เห็นม่ะ ใครๆ เค้าก็ร้านไหนก็ได้ทั้งนั้น

ผมหันไปมองไอ้ป่วนพร้อมพยักเพยิด ประมาณว่า “มีแต่มึงที่เรื่องมาก.....เลือกไม่ได้ซะที”

“ชิส์” มันไม่เถียงแต่ทำหน้างอน  ซึ่งก็หน้ารักดี  หึหึ 

 “กูว่ากินร้านนี้แหล่ะ  ...หิวแล้ว มึงจอดเลยไอ้เอก” แล้วไอ้ป่วนก็สั่งแบบเฉียบพลันเล่นเอากุนี่จอดแทบไม่ทัน

“คร๊าบบบบบบบบบ ทราบแล้วครับคุณหนู” ผมตอบมันหยอกๆ  หน้ามันขึ้นสีนิด ๆ เหมือนโมโห

“ปึก...” มันหันจะชกท้องผมเบา ๆ เบาที่ว่าเล่นเอาตัวงอเลยอ่ะ ผมเลยต้องจอดทันที ก็พอดีตรงหน้าร้านที่เราจะกิน

“มึงอ่ะ...เล่นแรงตลอด  กุเจ็บนะเว้ย” ผมหันไปบ่นงอน ๆ ไปให้  แต่มันแลบลิ้นตอบกลับมาแถมยักคิ้วกวน ๆ ตอบผม

(ห่า........เคยอยากจะง้อกุมัยเนี่ย  อุตส่าห์แกล้งงอนแล้ว) ว่าแล้วก็ลงจากรถไปในทันที

เมื่อยังไม่เห็นไอ้เป้กับไอ้ปิงปองลงมา ไอ้ป่วนก็ทำหน้าที่แผงฤทธิ์เดชด้วยการ

“ปัง...ปัง” ทุบกระจกรถผมครับ (จ๊ากกกกก แล้วรถกุจะพังมั้ยเนีย)

“แกร๊ก” ไอ้นัย เปิดประตูแล้วยื่นหน้าเข้าไปมองไอ้สองตัวนั่น

“คุยกันอยู่นั่นแหล่ะ จะแดกมั๊ย ข้าวอ่ะ เร็ว ๆ เลยกุหิว” ไอ้คุณหนู

หลังจากแด๊กข้าวกันอิ่มแล้วไอ้ป่วนของผมก็ดูอารมณ์ดีขึ้นทันตา มันเสนอที่เที่ยวตรงโน้นตรงนี้

เราตะเวนเที่ยวไร่องุ่น โรงเพาะเห็ด อุทยาน ฟาร์มกล้วยไม้

ทุ่งทานตะวัน ร้านกาแฟ Cup of Love จิมทอมป์สันฟาร์ม

จบทริปวังน้ำเขียว พวกเราก็ถ่ายภาพที่ระลึก และระทึก


กันไว้มากมาย ประมาณ 4 โมงเย็น พวกผมก็เดินทางมาถึงชัยภูมิ

เลยแวะไปถ่ายภาพร่วมกับมอหินขาว ส่วนดอกกระเจียว

เดินทางต่อไปถึงจังหวัดเลย ประมาณ 6โมงครึ่ง

แวะหาข้าวเย็นทานเสร็จ ก็ขับรถตรงไปมาถึงที่พักตอน 2 ทุ่มครึ่ง

เราเลือกพักที่เป็นสไตร์แบบบ้าน ๆก็ได้ที่นี่ครับ

Baan Rai Jit Thaboon   แน่นอนผมกับไอ้นัยพักด้วยกัน

ไอ้ป่วนหน้างอ  เมื่อผมกับมันอยู่ด้วยกันสองคน สงสัยยังงอนเรื่องเมื่อเช้ากับเมื่อกลางวันไม่หาย

มันถอดเสื้อผ้ามีผ้าเช็คตัวผืนเดียวเตรียมจะไปอาบน้ำ ผมก็รีบถอดวิ่งไปห้องน้ำตามทันที

“เห้ย...มาไมให้กุอาบก่อน  ....เดี๋ยวอาบไม่เสร็จกันพอดีคืนนี้กุขอเตือนถ้ามึงเอากุ  ...โดน” มันว่าตีหน้าโหดใส่ผม

และไอ้โดนที่ว่าก็คืน  ....เบื้องล่างครับ สิ่งทีใช้เดิน และสวมรองเท้าได้  ใช่ครับ ตีนมันน่ะแหล่ะที่ยกมาโชว์ผม

“ไม่ทำไรหรอกครับ  .....เมื่อวันทำกักตุนไว้เยอะแล้ว เดี๋ยวบางคนไม่มีแรงปีนภูอ่ะ” ผมพุดน้ำเสียงออดอ้อน

สายตาวิบวับ หันไปเอาใจไอ้ป่วน  ไม่อยากให้มันงอนครับเดี๋ยวมันจะไม่ยอมให้ผมกอด หอมมัน หึหึ

“ม๊ะ..กุถูให้”  ผมดึงฟองน้ำสำหรับถูตัวที่ตอนนี้เป็นฟองฟอดจากครีมอาบน้ำที่เราพกมาด้วย ถูไปบนตัวสุดที่รัก

ไอ้นัยไม่ตอบอะไรส่งสายตางอน ๆ ส่งมาให้แต่ก็ยอมให้ผมอาบน้ำให้โดยดี มิมีขัดขืน  ผมเอาอกเอาใจสารพัด

จนไอ้ป่วนหายงอน กลับมาดิ๊ด้าตามเดิม  อาบน้ำเสร็จก็มานอนกัน ผมห่มผ้าให้ไอ้ป่วนพร้อมกับดึงมันมากอด

“ดูดาวกันไหม?” เพราะเห็นว่ามันยังหัวค่ำเกินไปสำหรับการนอน

“ยังมีเวลาดูอีกเยอบนภูอ่ะ  รีบนอนเถอเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า”  ผมทำหน้าเซ็งทันที  ไม่รับมุขความโรแมนติกเลยไอ้นี่

ทำมาเป็นจริงจัง  พรุ่งนี้คงเป็นผมที่ต้องปลุกมันอยู่ดี  ผมหลับตาลงแต่นอนไม่หลับเหมือนผมลืมอะไรบางอย่าง

ครึ่งชั่วโมงผ่านไปทุกอย่างดูปกติ----ยกเว้นตัวผม และแล้วทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลายเมื่อไอ้เอกน้อยของผม

กำลังยืนตรงเคารพธงชาติอยู่  เชี่ยแล้ว______ไอ้นัยห้ามมิให้ผมล่วงเกินมัน ไม่งั้นโดนตรีน จ๊าก

ผมปวดหนึบที่เอกน้อย รู้สึกโมโหตัวเองที่ไม่ว่าครั้งไหนเหนื่อยเท่าไหร่ก็ยังต้องการคนข้าง ๆอยู่เสมอ

ผมค่อย ๆ ละกอดจากไอ้ป่วน เขยิบถอยห่างออกมาเรื่อย ๆ จนอยู่สุดเตียงอีกด้าน ผมหันหลังล้วงมือมาลูบ

ลูกชายตัวเอง อีกคนบนเตียงขยับมันคงตื่น  ผมหันไปมองเห็นหน้ามันสงสัยว่าไปทำอะไรตรงนั้น—

ทำไมไม่กอดกุ (อันนี้ไม่รู้ผมคิดเอาเองรึเปล่า  แต่คาดว่าจะใช่)

“ไปทำอะไรตรงนั้น” ไอ้ป่วนเอ่ยถามในที่สุด

“ป่าวอ่ะ  ร้อนนิดหน่อย” ผมบอกยังคงนอนตะแคงหันหลังให้อีกฝ่าย  ไม่ได้โกรธแต่กลัวโดนด่า ผมพยายาม

ลูบคลำเอกน้อยให้ไปถึงฝั่งฝัน  แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะได้ตัวป่วนขยับมาประชิดตัวผมเมื่อไหร่ไม่รู้

“อยากเหรอ?” ไอ้นัยเอ่ยถามเพราะเห็นเอกน้อยของผมที่ตุงกางเกงนอน

“อือ.....”   ผมบอกในที่สุด เห็นหมดแล้วนี่นาปิดไปก็แค่นั้น

“ทำไมไม่บอก?”   ไอ้ป่วนถามสีหน้าปกติ

“จะให้ทำเหรอ” ผมหันหน้าไปถ้าคนข้างหลังเริ่มมีความหวังนิด ๆ  (หึหึ  .... น่ารักอ่ะ)

“เปล่า.....ดูหน่อย” ไอ้ป่วนกดผมนอนหงาย ผมได้แต่นึกในใจ ว่าไม่ให้ทำแล้วถามทำไม

“อืมมมม อ๊ะ......นัย”  ผมครางกระเส่า หันไปมองเห็นได้ป่วนกำลังครอบปากคลุมเอกน้อยของผม

ปากสีแดงสดที่กำลังลูดขึ้นลงทำผมเสียวจนต้องขยับตามจังหวะ   ผมรุ้สึกได้ถึงลิ้นเล็ก ๆ ที่ไล้สัมผัสไปทั่ว

“อ่าสสสสสสส์”  ผมครางแบบไม่เป็นภาษา ก่อนจะอดใจไม่ไหวกระทุ้งสวนเข้าในปาก อีกมือก็กดหัวไอ้ป่วนแน่น

“อึก  อือออ” ไอ้ป่วนส่งเสียงประท้วง  แต่กลับลงมือดูดหนัก ๆ ละลิ้นร้อนอย่างหื่นกระหาย ขยับขึ้นลงอย่างชำนาญ


ผมเกร็งกระตุกในที่สุด   

“อืมมมมมมมม  นะ.....นัย”  พ่นน้ำรักให้อีกฝ่ายกลืนกิน แล้วนอนแผ่หลาหอบหายใจ..... แต่เอกน้อยไม่มีทีท่าว่าจะหลับ

ยังคงยืนตรงเช่นเดิม ไม่มีผิดเพี้ยน  ................  ไอ้นัยมองมาที่เอกน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอน ถอนหายใจยาว ๆ

“หื่นว่ะ  เสร็จแล้วรอบหนึ่งยังไม่พออีก  มึงทำเองแล้วกันกุขี้เกียจ” ไอ้ป่วนว่าพร้อมถลกเสื้อนอนขึ้นสูง เผยให้เห็นหัวนม

สีชมพู  ทำเอาอารมณ์ผมตื่นพึงพรืดไปใหญ่ ผมเลื่อนปากไปดูดเม็ดสีสวยตรงหน้า ทั้งดูดทั้งคลึงจนแข็งเป็นไต

กลิ่นครีมอาบน้ำอ่อน ๆ หอมหวนเย้ายวนเหลือเกิน  ผมไล้ฝ่ามือไปทั่วลำตัวไอ้ป่วน สอดมือสัมผันไอติมแท่งหวาน

ที่ตื่นตัวเต็มที่  ผมครอบริมฝีปาก  ทั้งดูดกลืน เม้มดึง และขยับอย่างรวดเร็วจนคนด้านล่างต้องแอ่นตัวรับสัมผัส

โยกตามจังหวะที่ผมนำพา  ไม่นานก็เกร็งกระตุก ก่อนจะปล่อยน้ำสีข่าวขุ่นทะลักเต็มปากผม ผมดูดกลืนด้วยความคลั่งไคล้

ไล้ลิ้นวนรอบไอติมร้อน ก่อนจะดูดเอาน้ำหยดสุดท้ายออกมา ไอ้ป่วนนอนหอบหายใจใบหน้าแดงกล่ำยั่วเย้าผมสิ้นดี

ผมจับไอ้ป่วนพลิกคว่ำยกสะโพกสูง ค่อยๆ เสียดสีเอกน้อยกับหว่างขา ก่อนจะเลยไปเสียดสีไอติมร้อนของอีกฝ่าย

“อ๊ะ...”  ไอ้ป่วนร้องเสียว เพราะมันพึ่งเสร็จไอ้ติมร้อนจึงเสียวเป็นพิเศษ  ผมรวบเอกน้อยของผมกับไอติมร้อนเข้าด้วยกัน

ดันขาสองข้างของไอ้ป่วนให้หุบเข้า เพื่อเวลาผมขยับมันจะได้เสียดสี เริ่มขยับซอยถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เกือบ ๆ จะเสร็จ

“สอดเข้าได้ไหม?” ผมเอ่ยถามเสียงแผ่ว  ไอ้นัยพยักหน้าตอบ ผมสอดเข้าไป

“อืออ  อืมมมมมมมมมมมม” กระแทกแรง ๆ สองสามทีก็เกร็งกระตุกและปล่อยออกมาในที่สุด

“อ่าสสส์  ซีสสสสสส”  มือผมจับสะโพกอีกฝ่ายแน่น ด้วยความเสียวซ่าน  ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนกอดคนข้าง ๆ

หยิบผ้ามาเช็ดคราบน้ำรักที่กำลังไหลออกมาตรงขาของไอ้ป่วนไม่ให้  เปรอะเปื้อนห้อง

แล้วค่อย ๆ ผลอยหลับไป ........................................................

___________________________________________________
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 19-02-2012 09:39:50
อั้ยย๊ะ! จัดหนักก่อนขึ้นเขา
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 19-02-2012 10:14:20
จะขึ้นภูไหวไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-02-2012 11:59:14
แล้วจะปีนภูไหวป่าวเนี่ย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-02-2012 12:34:49
โอ้ยยย++ พระเอกหื่นทั้งคู่ 555++ ร้ายกาจ

แต่ก้อน่ารักจิงๆน้อ ใกล้จะจบอีกแล้วสินะ

ไม่อยากให้จบเยยT^T
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยว่ะ ประกาศลาหยุด---- 19/2/2012
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 19-02-2012 14:33:16
ประกาศลาหยุด  ...... ค่ะ

 :m15: :monkeysad: :sad11:

ช่วงนี้ต้องทำการปิดงบปีของบริษัท  จะมี Audit มาตรวจ ด้วย
คาดว่าคงจะเริ่มหายไป ตั้งแต่ช่วงนี้  ปิดงบเสร็จประมาณ มีนาคมค่ะ 
ยื่นงบประมาณ เมษายน  แต่ถ้ามีเวลาว่างจะแอบแต่งตอนสั้น ๆ มาซ่อนเรื่อย

ขออภัยมา ณ ที่นี้   

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 19-02-2012 18:27:35
รับแซ่บ
รอรอได้ :n1:
บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: runningout ที่ 19-02-2012 19:04:51
จะขึ้นภูไหวมั้ยเนี่ยย ? >,<  :haun4: :haun4:  :call: :call:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 19-02-2012 19:18:39
สุดท้ายก้อเอากัันจนได้นะคร๊าบบบ  อิอิ

น่ารักที่สุดเลยยยย

 :oo1: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 19-02-2012 20:53:21
รับทราบแต่แอบเสียดายอ่ะ หยุดนานเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 19-02-2012 21:57:59
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู P.9 18/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 19-02-2012 22:40:51
เอก~นัย ก็......วี๊ดวิ๊วววว.....ไม่แพ้คู่เป้กะปิงปองเหมือนกันนะเนี่ย :m10: :m10: :m10:
ทั้งปิงปอง ทั้งนัย ปากห้าม แต่ก็ไม่เห็นห้ามกันได้จริงๆซักกะทีอ่ะนะ  หุหุ :m12: :m12:  2 หนุ่มเค้าจัดหนักให้ตลอดทุกทีที่ห้ามแหละ 55

รับทราบ ข่าวที่คุณทัดแจ้งค่าาา  สู้ๆกับงานที่ทำนะคะ ว่างแล้วค่อยมาต่อ รอเสมอค่ะ
รัก 2 คู่นี้ มากๆ(เพื่อนสนิท ท้องติดกัน ช๊อบชอบ :z1: :z1:)

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: เหมือนเดิมค่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-02-2012 01:01:07
วันนี้เลิกงานเร็ว  (ทั้งที่เป็นวันหยุดแต่ก็ยังไปสิงที่ออฟฟิศ)
เลยกลับมาแต่งอำลา ...จะได้ไม่ค้างคา่ค่ะ
พรุ่งนี้ตอนพักกลางวันจะมาแต่งต่อ คงลงได้ประมาณ เที่ยง ๆ บ่าย ค่ะ
จบตอนปีืนภูกระดึงอ่ะค่ะ รอกันอีกนิด อยากให้จบเป็นตอนๆ

เห้อออออออออ   เสียดายจัง อยากแต่งอีกง่ะ

รอหน่อยนะคะ  ^_______________^

รักคนอ่านทุกคนเลยค่ะ  จุ๊บบบบบบบบบบบบ จ๊วบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู () P.9 19/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-02-2012 01:28:23
คู่นี้ก็หื่นไม่แพ้กันเลย  :z1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-02-2012 12:22:53
ขอโทษนะคะ  ขอจบเรื่องไว้เพียงเท่านี้ก่อน
ส่วนเรื่องไปทะเลจะมีตอนพิเศษมาแน่นอนค่ะ
เอาไว้มีเวลาก่อนนะคะ
ทิ้งไว้ให้คิดถึง......(หุหุ  คิดเอาเองตลอด)


บทที่ 14  ปีนภู  (2)



ตื่นเช้ามาพวกเราก็ทั้งสี่คนก็มาทานอาหารเช้าทีทาง Baan Rai Jit Thaboon จัดไว้ให้

แลพร้อมออกเดินทาง 7 นาฬิกา   วันนี้ไอ้เอกเป็นคนขับครับผมเองก็เหนื่อยที่เมื่อวานขับทั้งวัน

ขับมาได้ประมาณ 20 นาทีก็ถึง ทางขึ้นภูกระดึงที่เป็นเป้าหมายครับ พวกเราฝากสัมภาระบางส่วนให้ลูกหาบ

ทำหน้าที่แบกขึ้น พวกผมเดินทางกันทันทีจุดที่เรียกว่า “ซำแฮก” ดูเหมือนไอ้เตี้ย(ปิงปอง) เพื่อนตัวเล็ก

ที่แสนน่ารัก ของพวกผมออกอาการขาสั่นพึบพับ  ไม่นึกว่ามันจะอ่อนขนาดนี้  ปกติก็เหมือนแข็งแรงดี

แข่งกีฬาทีไร แม่งวิ่งซะรอบสนามไม่เห็นมันจะเหนื่อยวันนี้ขึ้นเขานิดหน่อยล้าซะแล้วเหรอว่ะ

พวกเราหันไปมองไอ้ปิงปองเป็นระยะ จนต้องตะโกนไปถาม ด้วยความเป็นห่วงว่าไหวไหม

สรุปว่ามั้ยให้พวกผมล่วงหน้าไปกันก่อน ส่วนมันกับไอ้เชี่ยเป้จะค่อยไต่ขึ้นมาทีหลัง

ผมกับไอ้เอกเดินๆ หยุด  เน้นไม่ทางถ่ายรูปธรรมชาติ  (รวมถึงท่าที่ธรรมชาติ)

เช่นท่าลิงปีนต้นไม้  ท่าหมาฉี่  ท่าหมีเกาะเสา  ซึ่งทั้งหมดเป็นท่าที่ผม Design.เองล้วน ๆ

แต่ก็มีท่าหล่อ ๆ อยู่บ้างรวมถึงรูปคู่ระหว่างผมกับไอ้เอก ที่มันแอบเนียนกระแซะผมจะล้ม

แล้วเอื้อมมือมาโอบเอวผม ...เหมือนๆ ไม่ได้ตั้งใจ แต่กล้องก็แชะได้ภาพที่มันโอบเอวผมพอดี

ท่าที่มันยืนกอดคอผมด้วย  ....  พวกผมไปถึงหลังแปลนั่งรอไอ้คู่สูงเตี้ย..ที่ยังมาไม่ถึง

ไอ้เอกตั้งขากล้องเตรียมเสร็จสรรพรอ มันก็ถ่ายนั่นถ่ายนี่ไปเรื่อยสุดท้าย มันแอบตั้งเวลากล้อง

ขณะที่ผมยังมองหาไอ้ปิงปองกับไอ้เป้  ไอ้เอกก็เรียกผมซะดังทั้งที่มันนั่งอยู่ข้าง ๆ

“นัย!!” ผมตกใจรีบหันไปมองด้วยความตกใจ

“จุ๊บ ...แชะ!! แชะ!! แชะ!!”   ริมฝีปากผมแตะริมฝีปากไอ้เอกพอดี แล้วกดจูบ ขณะที่กล้องก็รันถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ 3 แอค

“เห้ย...เอก  เดี๋ยวมีคนเห็น”  ผมโวยวายด้วยความตกใจมากกว่าโกรธ

“ไหนใคร...ไม่เห็นมี”  ไอ้เอกลอยหน้าลอยตาตอบ  แถมยังส่งยิ้มระรื่นมาให้ผมอีก ก่อนจะวิ่งไปดูผลงานตัวเอง

มันเรียกผมไปดูเล่นผลงาน ผมก็เลยเดินไปดูซะหน่อย  ภาพที่ออกมาทำผมเขินหน้าแดงแปร๊ดดดด

ภาพแรก ผมลืมตาจ้องมองไปที่ไอ้เอกท่าทางตกใจเหมือนไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากแค่แตะกัน

ภาพสอง ผมหลับตาพริ้มเหมือนรอรับสัมผัสของอีกฝ่าย ไอ้เอกกำลังดูดปากผมเบาๆ

ภาพที่สาม มือที่ผมเอื้อมมาดันตัวไอ้เอกออกกลายเป็นเหมือนผมกำลังโอบกอดคอมัน หลับตาพริ้ม ไอ้อารมณ์

ขณะที่มันก็มองมาที่ผม ....อารมณ์เหมือนคนที่รักกันมากๆ  ผมเดินชิ่งหนีหน้าแดงแปร๊ดดดดขึ้นมาอีก

ไอ้เอกก็ถ่ายภาพบรรยากาศอื่น ๆ ก่อนจะมานั่งลงข้างผม กระซิบถามเบาๆ

“ชอบมั้ย ” มันว่ายิ้มๆ รู้ทั้งรู้ว่าผมอาย  แต่ผมก็พยักหน้าช้าๆ   จริง ๆ ก็ชอบเหมือนกัน หึหึ

สักพักไอ้เพื่อนสุดที่รักทั้งสองก็ถ่อสังขารมาถึง ไม่รั้งรออะไรทั้งนั้น พวกเราก็เริ่มถ่ายรูปที่ระรึก

สารพัดท่า อย่าให้พูดทั้งฮา ทั้งหล่อ  ทั้งบ้า ทำแม่งทุกอย่างอ่ะครับ  ก็สนุกสนานเลยทีเดียวก่อนจะเดินต่อไปที่พัก

กางเต็นท์จัดของเรียบร้อยความหิวก็มาเยือนพวกเรามุ่งไปร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ไม่ไกล

 “เอากระเพราไก่ ไม่เผ็ดครับ” ผมสั่งส่งสายตาอ้อนๆ ไปที่สาวสวยที่รับออเดอร์ หมั่นไส้ไอ้เอกเห็นมองน้องเค้

“คนสวยครับ  พี่ขอกระเพราหมูเผ็ด ๆ ครับ”  ไอ้เอกว่า (กุคิดแล้วไม่มีผิด )ส่งสายตาคม ๆ ไปที่น้องเค้า

 “ค่ะ” น้องเค้าก็ยิ้ม ๆ รับออเดอร์ครับ

“พี่ขอกระเพราทะเลครับ” ไอ้ปิงปองสั่ง ผมหันไปมองหน้ามันงง ๆ ก่อนจะก้มดูเมนู...เออมีด้วยว่ะ

“2 เลยครับน้อง พิเศษทั้ง 2 จานเลยนะ”  ไอ้เป้สั่งต่อ

จากนั้นผมกับไอ้เอกก็แข่งกันโปรยเสน่ห์แข่งกันจีบน้องเค้าไม่มีใครยอมใคร  แม่งหมั่นไส้หว่ะ

.

.

ตกเย็นนั้นไปก็ไม่ได้ไปไหนหรอกคับ นั่งกินเบียร์ นั่งผิงไฟ และคุยกันที่เต็นท์

ที่ภูกระดึงกลางคืนบรรยากาศดีมากครับ ท้องฟ้าถูกประดับประดาด้วยดวงดาว นับร้อยนับพันดวง

“สวยว่ะ”  ไอ้ปิงปองเอ่ยขึ้น ตอนนี้พวกผมสี่คนปูเสื่อใกล้ เต็นท์

นอนเรียงเป็นแผง ไอ้เอก ไอ้นัย ผม และไอ้เป้ ห่มผ้าห่ม

ผืนเดียวกัน รอบ ๆ ตัวมืดมิด เหลือเพียงแสงไฟน้อย ๆจากกองไฟ

ต่างคนต่างจ้องไปที่ท้องฟ้ากว้างตรงหน้า ตาไม่กระพริบ

“อืมม  ถ้ากุทำได้กุอยากมาที่นี่ทุกปี มานอนมองดาวสวย ๆ

ธรรมชาติที่สวยงาม กับพวกมึงอ่ะ” ผมพูดลอยๆ

“ถ้ามึงอยากมาก็มาดิ  กุมากับมึงทุกปีได้อยู่แล้ว” ไอ้เอกว่า ยื่นมาลูบหัวผมเบาๆ

ผมรู้ว่าพวกมันเป็นห่วงผมที่ผมอ่อนไหวเรื่องเพื่อน ๆ เสมอ แต่จะทำไงได้หล่ะก็ผมรักพวกมันทุกคนนี่นา

มันเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมาเลยก็ได้ 

“ห่า ... อย่ามาทำซึ้ง มึงกะพวกกุอ่ะ ก็เป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตน่ะแหล่ะ” ไอ้เป้ว่าแซวๆ

ก่อนพลิกตัวข้ามไอ้ปิงปอง ก่อนจะยื่นมือข้ามไปขยี้หัวผม

 “ชิส์...เชี่ยนี่ หัวกุยุ่งหมด  หมดหล่อเลยกุ” ผมด่ากลบเกลื่อนทั้งที่ซาบซึ้งในความห่วงใยของพวกมัน

แล้วพวกผมก็ขำกันไป เลิกซึ้งครับขุดเรื่องขายหน้าของแต่ละคนมาเผาซะงั้น

มีความสุขจริงๆ บรรยากาศที่สวยงาม สุดท้ายก็แยกย้ายกันไปนอน

ผมนอนในเต้นท์กับไอ้เอก นอนกอดกัน   กอดแน่นๆ  ที่แสนอบอุ่น.... ความหนาว แทบไม่มีผล

เพราะความอบอุ่นทางใจ  และร่างกายของคนข้างๆนี้ ทำให้ผมมีความสุขอย่างเหลือเชื่อ

“หนาวเหรอ...จมูกเย็นเชียว” ไอ้เอกถาม เอาจมูกมันมาเขี่ยเล่นที่จมูกผม จนต้องอมยิ้ม

“ไม่หนาวหรอก ....กอดมึงอุ่นขนาดนี้จะหนาวได้ไง” ผมยิ้มหวานไปให้ มันแตะจูบเบาๆที่ริมฝีปากผม

“หึหึ...ปากหวานก็เป็นเหรอเนี่ย”  มันแซวขำๆ  ยิ้มปากกว้างไปแล้ว  (ดีใจจนออกนอกหน้านะมึงอ่ะ)

“ก็แค่กับมึงน่ะแหล่ะ” ผมหยอดต่อ  ...นานๆจะพูดกับมันสักที ไอ้เอกส่ายหัว

“ตอแหล...เมื่อกี้ยังจีบน้องร้านข้าวอยู่เลย” มันว่าขำๆ

“หมั่นไส้มึงแหล่ะ มองอยู่ได้  กุเลยจีบเผื่อ”  ผมตอบประชดเล็ก ๆ ทำแก้มพองใส่

“กุดุไว้ก่อน ...กลัวว่าจะเป็นสเป็คมึงก็จะได้กำจัด....ไม่ให้เข้าใกล้มึงได้” มันตอบยักคิ้วกวนๆ ส่งมาให้

“หรอออออออออออออ  นอนได้แล้ว.กุง่วงแล้ว”  ผมหลับตาพริ้มซุกอกคนตรงหน้า แอบอมยิ้ม ขำๆ

เหมือนวันนั้นที่มันจูบผมในลิฟท์..เพราะมันรู้ว่าน้องผู้หญิงคนนั้นอ่ะ สเป็คผมเลย...  แต่มันไม่รู้ว่าตอนนี้

ผมมีคนที่ชอบยิ่งกว่านั้นแล้ว....   คนที่ผมไม่อยากละสายตาไปไหน  และไม่อยากให้มันมองใคร

อยากให้มองแค่ผม ...แค่คนเดียว....

.
.
พวกผมตื่นขึ้นมาตอนตีห้า พอเห็นแต่ไอ้เป้ที่ตื่นแล้วมันบอกว่าไอ้ปิงปิงเป็นไข้

เดี๋ยวมันจะอยู่ดูแลเป็นเพื่อนเองให้พวกผมไปเที่ยวก่อนเลย พวกเรากางแผนที่ซึ่งจริงๆ แล้วเดินตามเขาไปง่ายดี

(http://travel.kapook.com/view477.html)

ผมกับไอ้เอกเดินจับมือกันบ้าง กอดคอกันบ้าง แอบโอบเอวกันบ้าง  กินลมชมวิวที่สวยงามไปเรื่อยๆ

ที่นี่ยังมีธรรมชาติที่สวยงามอยู่มาก  ต้นเมเปิ้ล ต้องไม้อีกหลายชนิด หลายพันธุ์ที่ผมไม่รู้จัก

ลมเย็นๆ พัดเอื่อยๆ เสียงนกร้อง  ท้องฟ้าสีครามสดใจ  หมู่มวลต้นไม้ที่มองเห็นจนสุดลูกหูลูกตา

ทำให้ผมสบายใจอย่างบอกไม่ถูก  นอกเสียจากหลงรักที่นี่ ...รักธรรมชาติ รักความสงบ

ที่ไม่เคยหาได้ในกรุงเทพฯ  รักช่วงเวลานี้.....ที่มีมันอยู่ข้างๆ ยิ้มให้ผม  หัวเราะกับผม และเดินไปกับผม

..... ผมละสายตาจากไอ้คนหล่อตรงหน้า มองหาธรรมชาติที่สุขสงบ.. ทำไมรู้สึกโรแมนติกขนาดนี้

ไม่ต้องมีคำพูดใดๆ ..............แค่มีกันและกัน....มันก็เกินพอ...ผมได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข

....    ไม่นานพวกเราก็มาถึงที่พัก   แต่ไอ้เป้กับปิงปองยังไม่กลับ ค่ำแล้วตะวันลับขอบฟ้า

แต่ก็ยังไม่เห็นหัวมันสองคน  ....ผมกับไอ้เอกไม่ได้กังวล ซื้ออาหารเครื่องดื่มมานั่งรอ

ผมเชื่อว่าไอ้เป้ไม่มีทาง..ที่จะหลง คนอย่างมันฉลาดแทบทุกอย่าง มันรู้วิธีแก้ไขเสมอ

และครั้งนี้ก็เช่นกัน  ...พวกผมเชื่ออย่างนั้นถึงไม่ได้มีอาการร้อนรนแต่อย่างใด

ผ่านไปประมาณชั่วโมงก็เห็นเงาไอ้เพื่อนรักที่สอง ที่เดินตรงดิ่งกลับมาที่เต้น พวกมันน่าจะหนาวน่าดู

 “ไงพวกมึง กลับซะช้าเชียว กุนี่แทบจะเรียกเจ้าหน้าที่ ออกตามหาเด็กดอยที่หลงป่าซะแล้ว”

ผมแซวพวกมันขำๆ ที่เด็กบ้านป่าจะมาหลงป่า กัน  (แต่เป็นป่าคอนกรีตว่ะ) พวกมันยิ้มตอบไม่มีทีท่าจะอารมณ์เสียสักนิด

“แล้วไม พวกมึงไม่ไปตามเองอ่ะ  ไม่รักพวกกุจริงนิ” ไอ้เป้ตอบกลับ

“ห่า ...พวกกุไปตามมึง เดี๋ยวก็หลงอีกคู่เจ้าหน้าที่วุ่นวายตายเสียเวลาตามหาไอ้พวกเด็กดอย  ที่เสือกหลงป่า

มึงว่าป่ะเอก ฮ่าๆ”  ผมเถียงเอาฮา  ฮ่าๆ

“อืม  ใช่ครับ” ไอ้เอกทำท่าตะเบะ เหมือนตำรวจรับคำสั่งจากนาย

“ดีมาก ๆ เดี๋ยวเย็นนี้ให้เพ็ดดีกรีแดก” ผมชื่นชมมัน พร้อมเอามือลูกหัวไอ้เอกเลยฮากันไปทั้งหมด 

พวกเรานอนดูดาวกันนิ่ง ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศสวยงาม ร้องเพลงเบา ๆ ด้วยกันไปเรื่อย ๆ จนถึง 4 ทุ่ม

“พรุ่งนี้ต้องกลับแล้ว กุขอนอนตื่นสาย ๆ แล้วกัน” ไอ้เอกว่า

“เกี่ยวไรวะกลับพรุ่งนี้กะนอนตื่นสายอ่ะ” ผมขมวดคิ้วเป็นปม

“ก็กุต้องขับรถอ่ะ  มึงอ่ะอย่ามากวนกุเลย” ไอ้เอกว่า

“เชี่ยนี่  กุกวนไรมึง แม่งไอ้ปิงปองกุนอนด้วยนะ ไม่นอนกะแม่งแล้วเซ็ง”  ผมเริ่มงอน ๆ

(ในหัวคิดวกวน..เมื่อคืนกุทำไรวะ  ไม่ได้ทำไรสักหน่อย ....แอบเขินหรือละเมอว่ะ)

“เพี๊ยะ.. อย่าดื้อนอนกะกุดีแล้วไม่ใช่เด็กแล้วนะมึง” ไอ้เอกว่าดุๆ  มันก็ตีเบา ๆ ที่หน้าผากผม

“เออ ๆ เชี่ยนี่ บอกดี ๆ ก้อได้” ผมบ่นเล็กน้อยครับสักพักต่างคนต่างแยกย้านกันไปนอน

พอเข้าเต็นท์ผมก็เริ่มซักว่าเมื่อคืนผมกวนไรมัน ...ซักไปซักมามันก็ปริปากว่าเมื่อคืนผมนอนละเมอ

แล้วล้วงมือไปลูบ ...ลูกมัน  มันบอกว่านอนปวดอยู่ทั้งคืน เล่นนอนไม่หลับเลยทีเดียว

ผมก็ขำจนปวดท้องเลยทีเดียว 

“ถ้ากุทำมึงตื่นมึงก็บอกดิ เดี๋ยวกุทำให้” ผมชี้มือมาที่ปาก  ไอ้เอกยิ้มหวาน 

“ไม่เป็นไรกุจะอดทน  ...ยังไม่ถึงเวลาที่มึงควรจะเหนื่อยว่ะ” มันว่ายิ้มๆ โอ๊ยกุหลอน  จะจับกุพิงกระจกอีกมั้ยเนี่ย

แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ  ..............ใจหายเลยครับ  ยังไม่อยากกลับตอนนี้

พวกเราไปกินข้าวร้านเดิม ผมอดไม่ไหวที่จะถามน้องคนสวยว่าจะเลือกใคร จะได้ชี้ชัดกันไปเลย

ว่าผมหรือไอ้เอกมีดีกว่ากัน  น้องเค้าดันเลือกไอ้เป้เล่นเซ็งกันทั้งแถบ มีแต่ไอ้ปิงปองที่ขำจนท้องแข็ง

พวกเราเดินกลับไปที่หลังแปลอีกครั้ง ท่ามกลางอากาศที่สดใส รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่

ลมเย็น ๆ กระทบผิวชื่นใจ ผมวิ่งไปมาอย่างสดชื่นอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งที่สนุกโดยไม่ต้องกังวลอะไร

ก่อนจะนึกสนุกวิ่งไปด้านหลังไอ้เป้ แล้วเตะเข้าที่ขามันแรง ๆ   จากนั้นวิ่งหนีไปหลบหลังไอ้เอก 
ไอ้เป้วิ่งไล่ตามมาเตะผม   แต่ดันเตะโดนแต่ไอ้เอกแทน เพราะหลังกระโดดหลบซ้ายหลบขวาโดยมีไอ้เอกเป็นกำบัง

ไอ้เอกเริ่มโมโหเอามือดันหัวผมกับไอ้เป้ ให้หนีห่างจากตัวเอง   ผมกับไอ้เป้ก็ยังยื่นมือ..ยื่นเท้า ตีหัว เตะหลังกัน

อยู่รอบตัวไอ้เอก ก่อนที่ผมจะวิ่งไปหาไอ้ปิงปอง  หมั่นไส้ที่มันยืนมองหัวเราะอยู่คนเดียว

ผมโบกหัวไอ้ปิงปองแรง ๆ  อย่างหมั่นไส้ เรียกได้ว่าหน้าทิ่มกันเลย ฮ่าๆ

“เพี๊ยะ หัวเราะนักนะเตี้ย เดินไว ๆ คลานอยู่ได้        กร๊ากกกกก” แล้ววิ่งหนีไปตามฟอร์ม แต่ไม่รอดครับ

ไอ้เป้ที่รออยู่แล้วก็ล็อคคอผมไว้ได้ แม่งมันเป็นไรไม่รู้ ใครแตะไอ้ปิงปองไม่เคยได้...ไอ้นี่ร้อนตัวแทนตลอด

“ปิงปอง ..มึงมาจัดการมันเลย ฮ่า ๆ”  ไอ้เป้เรียกไอ้ปิงปองมาช่วย  โดยมีไอ้สุดที่รักผมครับมาร่วมแจม

ช่วยจับขาไม่ได้ผมดิ้น  (รักกุเหลือเกินนะ ...เชี่ยเอก)  ไอ้ปิงปองวิ่งมาถึงก็โบกหัวผมคืนแรงๆ ไ

ไอ้เป้ก็เตะตูดมาทีนึง มันก็ปล่อยมือแล้ววิ่งหนี ผมเลยล้มตะครุบไอ้เอกไว้ทันแค่คนเดียว

(หึหึ...รักกุมากใช่มั้ยเอก  ถึงไปร่วมมือกับพวกมันมาจัดการที่รัก..เช่นกุ  มึงได้รับความรักคืนสนองแน่ ๆ เชี่ย)

ผมรัวกำปั้นทุบไอ้เอก ไอ้เอกร้องโวยวายมันไม่ได้ต่อสู้  ....ทำได้แค่หนี

“ช่วยกุด้วยยยยยยย”  ไอ้เอกหลุดได้   วิ่งหนีไอ้สองตัวนั่นไป  ผมแม่งโมโห อย่าให้จับได้นะมึง กุจัดหนัก

(ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  อย่าหนีนะโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย)

“พวกกกกมึงงงงงงงงงงงง”  ผมตะโกนตามไปด้วยเสียงอาฆาต ไล่ขย้ำไอ้เพื่อนเวร ที่วิ่งหนีตายกันอลหม่าน

.

.


จนไปถึงหลังแปลครับต่างคนต่างหมดแรง นั่งหอบหน้าดำหน้าแดง เหมือนหมาหอบแดดลิ้นห้อย

ด่ากันบ้างแซวกันบ้างตามภาษา ขำ ๆ

“เห้ย ...ปีหน้าเรามาเที่ยวด้วยกันอีกนะ” ไอ้ปิงปองว่า

“อืม  กุสัญญาเลยปิงปอง” ผมรับคำมั่น อยากจะมาที่นี่ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่อยากกลับด้วยซ้ำ

“กุด้วย...ยังไงก็มาแน่นอน” ไอ้เป้ว่า ส่งยิ้มมาให้

“ได้อยู่แล้ว กะพวกมึงอ่ะ” ไอ้เอกยืนยันอีกที

พวกเราเดินมาถึงชั้นล่าง ไอ้เอกสารถีประจำวันนี้ก็ขับพาเราเดินทางสู่กรุงเทพฯ

ทุกคนนั่งประจำที่เดิม....ผมมองวิวอย่างเสียดาย หันมาพูดคุยกับไอ้หล่ออย่างฉอเราะ

มือทั้งสองข้างที่แอบกุมมือกันอยู่ไม่ห่าง  .....สายตาหยาดเยิ้มที่ไอ้หล่อส่งมาให้ทำผมแทบละลายทุกครั้ง

“รักว่ะ”  ผมทำปากเป็นคำนั้น  แต่ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมา  ไอ้หล่อยิ้มกว้างยื่นมือมาขยี้หัวผม

“รักมากกว่าว่ะ”  มันทำปากตอบ  ทำผมอมยิ้มแก้มแทบปริ สองมือลูบไล้มือกันและกัน

ยิ้มหวานกันไปตลอดทาง .......  คิดเอาไว้ว่ากลับไปคงได้ฉลองความหวานกันทั้งคืน

หลังจากที่บนภูกระดึงมันไม่ได้แตะต้องผมอย่างที่สัญญาไว้   .

............ “รัก”........  คำสั้น ๆ  ทั้งๆ ที่เป็นเพียงคำพูดคำเดียวแท้ ๆ แต่กลับมีความหมายมากมายมหาศาล

ทำให้เราอยู่  หรือแทบตายไปได้เพราะคำนั้น   ความรู้สึกดีๆ ที่เรามีให้กันตอนนี้ ....มันดีเกินกว่าที่ผมคาดหวัง

ก็แค่...อยากจะเก็บรักษาความสัมพันธ์ตอนนี้ไว้ให้ยังอยู่........ตลอดไป

-----------------------------------------------------------จบ  อวสาน ----------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 20-02-2012 12:56:13
คนแรก อ๊ะป่าว น่ารักงะน่ารัก ชอบมาก ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: runningout ที่ 20-02-2012 14:23:39
อั๊ยยะ . มิตรภาพเพื่อน >,< T.T อยากไปขึ้นภูกระดึงจังเลยย .  :L2: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 20-02-2012 14:38:03
อยากไปขึ้นภูมั้ง ได้แต่ผ่าน :sad4:

สนุกมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-02-2012 22:19:05
ความรักที่เต็มไปด้วยมิตรภาพ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 21-02-2012 17:45:52
ว้า จบแล้วเหรอ  :เฮ้อ:

ขอบคุณนะค่ะ ที่มาลงเรื่องดีๆให้อ่าน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Huasia ที่ 23-02-2012 22:05:33
ว้า  เสียดายจัง

สนุกมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: lovelypolly ที่ 26-02-2012 19:08:05
จบแล้ว เสียดายๆ  :monkeysad:
แต่อยากอ่านตอนพิเศษเร็วๆ เอาแบบจัดหนักทั้งคู่เลยหึๆ
แล้วสรุปก๊วนนี้มันจะรู้กันเมื่อไหร่ว่า เอกรักกับนัย แล้วก็ เป้รักกับปิงปองอยู่อะ???
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 26-02-2012 19:40:00
จบซะแล้ว ขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนสู้ๆต่อไปค้า


หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: day9day ที่ 26-02-2012 20:59:08
จบซะงั้น
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: หมูกระต่าย ที่ 26-02-2012 22:13:24
รอตอนทะเลนะคะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 27-02-2012 08:04:44
จบแลหรอ :impress3:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 27-02-2012 18:39:45
อยากแต่งต่อจัง  ยังต้องนั่งทำงานอยู่อ่ะค่ะ  ฮือๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ++ตอนทะเล (1)+++ 1/3/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 01-03-2012 16:41:04
ตอนพิเศษ ทะเล (1)

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=30509.420
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-03-2012 11:34:42
 :catrun:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 11-04-2012 02:27:37
เอกกับเป้ช่างสมเป็นเพื่อนกันจริง ๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 06-08-2012 19:17:57
น่าร๊ากกกกกกกก สุดๆอ่ะ ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 15-09-2012 18:02:01
ThankS
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 15-09-2012 20:42:43
สนุกมากค่ะ ชอบมากๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 05-11-2012 15:05:36
น่ารักจังเลยยยยยยยยยยยยยยย  :mc4: ชอบมาก ๆ ค่ะ แต่ก้อจริงอย่างที่คุณทัดว่าเรื่องนี้เหมือนดำเนินเรื่องแบบสะดุด ๆ น่ะ เพราะเป็นเรื่องที่แต่งตอนหลังเพิ่มเติมเข้ามาน่ะ เลยไม่สมบูรณ์แบบคู่ของเป้กับปิงปอง แต่ก้อชอบมาก ๆ น่ะ เข้าไปแอดเฟรนด์แล้วน่ะจ้ะ ยังไงจะรอติดตามความคืบหน้าน่ะว่าจะแต่งเรื่องใหม่เรื่องอะไรน่ะ ยังไงฝากให้พิจารณารวมเล่มด้วยน่ะจ้ะ :impress3:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: tagloveX-Mark ที่ 29-11-2012 10:28:21
สนุกดีนะคับ เรื่องราวน่ารักดี ทั้งเอกและนัย บรรยายซะเห็นภาพนัยเลยอ่ะ คงน่ารักน่าดู อิอิ ^^ ขอบคุณนะค้าบ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 31-03-2013 14:04:31

งงและมึน กับ timeline

อ่านเรื่องนี้ คู่ เอก+นัย ..... กันก่อนคู่ของ เป้+ปิงปอง

อ่านเรื่องนั้น คู่ของ เป้+ปิงปอง ..... กันก่อนคู่ของ เอก+นัย

สรุป คู่ไหนได้กันก่อน?
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 10-04-2013 21:53:45
ขอตอบค่า


>>>   DrSlump

อย่างแรกขอบคุณที่อ่านผลงานนะคะ  ดีใจจริงๆ  ค่ะ   ส่วนเรื่อง time line  ที่ทับซ้อนกันนั้น เป็นความตั้งใจของทัดเองค่ะ

ทั้งสองคู่นี้  ต่างคู่ ต่างก็ได้กัน ในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน อาจจะเป็นช่วงเดียวกันเลย 

แต่เนื่องจาก แต่ละคู่ไม่รู้ว่า  อีกคู่หนึ่งก็มีอะไรกันแล้ว  ฉะนั้นเวลาเล่าก็จะเล่าเฉพาะในมุมของตัวเอง เลยเหมือน

ว่าคู่ของตัวเองมีอะไรกันก่อน  ที่จริงมันเป็นเวลาไล่เลี่ยกันเท่านั้นเองค่ะ 


ไม่รู้ยิ่งอธิบายจะยิ่งงงรึเปล่า  ฮ่าๆ 
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: moodyfairy ที่ 22-09-2013 10:29:57
 :hao6: :hao7: น่ารักมากๆๆๆ ตามมาจากยอมมมึงคนเดียวอะ อิอิอิ ขอบคุณมากค่าา :mew1:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 23-09-2013 02:58:57
ขอบคุณมากค่าาา สนุกๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 26-09-2013 18:00:43
คู่นี้เค้่าก็น่ารักไม่แพ้คู่เป้ปิงปองนะเนี่ยะ >.<
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 26-09-2013 21:27:43
ขอบคุณค่ะที่ติดตาม  มีอีกสามเรื่องนะคะ  จบแล้ว

มรดกทาส
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32551.270


กอด
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33355.new;topicseen#new

รัก...ที่ขาดหาย
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33937.570
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 06-10-2013 21:32:06
เอกหื่นตลอดๆอ่ะ
เป้ก็น่าจะเหมือนกันมั้ง :hao6:
ส่วนนัยนับวันก็ราศีเคะกระจายอ่ะ
คู่นี้นี่เอะอะก็ขึ้นเตียงตลอดๆ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 11-10-2013 07:53:38
สนุกมากเบยยยย น่ารักอ่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุก ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: GF_pp ที่ 29-01-2014 10:01:21
2  คู่นี้ต่างมีความลับของกันและกันนะ 5555+   :laugh:

คู่เอก+นัยนี้ก็หวานไม่แพ้กัน เสียดายจบเร็วไปหน่อย (น่าจะมีต่อน้าาา)    :mew1:

จากที่อ่าน (เรื่องไม่สั้น) ยอม...มึงคนเีดียวอ่ะ++  มา 

ชอบตอนที่เอกไปตามนัยที่ห้องน้ำแล้วเจอนัย กับน้องแตงโมแล้วเอกหึง นัยเลยง้อ  น่าร๊ากกกกก :o8:    :-[

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ  ><    :pig4:    :pig4:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-03-2014 22:52:21
โอ๊ยๆๆๆๆ อ่านจบแล้ว คู่นี้ก็น่ารักมากๆๆๆๆ
เอกนี่หื่นไม่แพ้เป้เล้ยยย สมเป็นเพื่อนกันจริงๆ
นู๋นัยของเจ้รับบทหนักตลอดๆ แต่ชอบคร่าาา อิอิ

ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องสนุกๆ  ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 23-03-2014 12:32:04
 o13
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 14-09-2015 13:07:34
น่ารักมากครับ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: choinudee ที่ 14-09-2015 15:49:33
น่ารักอะ เอกหื่นตลอดๆ แต่ไอ้ป่วนนัยก็หื่นยามหลับ555

ชอบอะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-09-2016 18:37:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-02-2018 06:57:19
ขอบคุณค่ะ กลับมาอ่านอีกรอบแลัว ^^
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 06-03-2022 00:17:52
ไอ้ที่นัด ๆ กันล่มไปเลย
(มึงอดแดกไปเชี่ยเป้ หึหึหึ)
ผมกับไอ้นัยเมากันพอสมควร (แค่แทบจะกลิ้งลงโต๊ะ+_+)
 
ผมแทบจะทนความง่วงไม่ไหว  (จริง ๆ ก็เมามากน่ะแหล่ะ)
 แม่ง จูบปากกะสาวร้อน (ที่ร้อนจริง ๆครับ อ่า...)
 แต่ลำตัวที่เสียดสีกันอย่างเมามัน
(ได้ข่าวว่ามึงอกหักอยู่...ไอ้ฟายยยย  ไวไฟจริงนะ )
 
ถ้าไม่มีข้อความวงเล็บทั้งหมดจะดูจริงจังและน่าสนใจกว่านี้
หัวข้อ: Re: มากกว่าเพื่อน...ได้มั้ยวะ ตอนที่ 13 ปีนภู (2) P.10 20/2/11
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 20-07-2022 02:31:02
ขอบคุณมากค่ะ