พิมพ์หน้านี้ - [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-12-2006 16:18:57

หัวข้อ: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-12-2006 16:18:57
ขอบคุณ คุณ Yo เองครับ ที่อนุญาตให้นำเรื่องราวดีๆ มาให้อ่านกัน

ขอความกรุณาเพื่อนๆ อย่านำเอาเรื่องราวในเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ก่อนได้รับอนุญาตจากคุณ "Yo เองครับ" ก่อนนะครับ

เพราะ เรื่องนี้มีบางส่วนมากจากชีวิตจริง ตัวละครทุกตัวมีชีวิตอยู่จริง

ขอบคุณครับ

หมูพูห์ :teach:


**********************************************************************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขอนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://thaiboylovestory.ueuo.com/webboard/index.php?topic=459.0


**********************************************************

 “เอ่อ...โยเป็นแฟนกับผมนะครับ” บูมหนุ่มรูปงาม ขาว ตี๋ สูง 178 หนัก 68 พูดขณะกำลังก้มลงจูบผม

“ครับ” ผมหลับตาพริ้มเพื่อรอการจูบของชายหนุ่มรูปงามซึ่งผมแอบหลงรักมานาน

โย! โย! โย! ตื่นได้แล้วลูก นี่มันจะ เก้าโมงแล้ว จะไป มหาวิทยาลัยทันเหรอลูก เพิ่งเปิดเทอมวันแรกก็จะสายเลยนะ อ้าวนี่ ทำอะไรน่ะ นี่แม่นะไม่ใช่สาว ๆ จะมาจูบอะไรกันจ๊ะ แม่พูดขณะปลุกผม

“อ้าว แม่เองเหรอครับ” ผมตื่นขึ้นมา และ ผิดหวังกับภาพที่ปรากฎ อยู่ตรงหน้า

“ก็แม่เองสิ แล้วจะมีใครมาปลุกคนขี้เซาแบบนี้ ไม่เอาละรีบ ๆ ไปอาบน้ำ ไปเรียนเถอะลูก”แม่พูดพร้อมกับส่ายศีรษะกับความขี้เซาของผม

“ขอนอนต่ออีกหน่อยนะครับแม่”ผมอ้อน

“ได้จ๊ะ ถ้าไม่กลัวว่าไปแล้วจะโดนอาจารย์ดุก็ตามใจ เห็นบอกว่าวิชานี้ อาจารย์ดุมากเลยไม่ใช่หรอ” แม่พูดยิ้ม ๆ

“เออ ใช่ วันนี้เรียนกับไอ้โหดนี่หว่า” ผมพูดพร้อมลุกขึ้นมากหยิบเสื้อผ้าด้วยความรวดเร็วและวิ่งเข้าห้องน้ำ

หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีผมก็แต่งตัวเสร็จและเดินลงบันไดมาชั้นล่างเพื่อใส่รองเท้า

“อ้าวไม่ทานข้าวเช้าหรอลูก” แม่ถาม ขณะตั้งโต๊ะทานข้าวเช้า

“ไม่ล่ะครับแม่ เดี๋ยวไปไม่ทัน แม่หวัดดีครับ” ผมในชุดมหาวิทยาลัยตอบ ขณะใส่รองเท้า

“จ๊ะ”หญิงวัยกลางคน อมยิ้มและส่ายหน้ากับพฤติกรรมของผมด้วยความเอ็นดู


เวรแล้วกู กูจะไปทันไหมเนี่ย ทำไมซวยอย่างงี้วะ ดันลืมตั้งนาฬิกาปลุก แถมมือถือก็ปิดอีก เฮ้ออออ

แต่เมื่อคืนฝันดีจัง แฮะ ผมคิด และอมยิ้มออกมาขณะโบกรถแท็กซี่ไปมหาลัย แต่แม่ไม่น่าปลุกเร็วเลยไม่งั้นละก็....ผมเพ้อและจินตนาการต่อ


รถแท็กซี่ขับผ่านประตูมหาวิทยาลัยแล้วมาจอดเทียบที่ตึกเรียน ผมจ่ายเงินและวิ่งหน้าตาตื่นไปยังห้องเรียน

อ๊อดดดดดดดดด อ๊อดดดดดดดดดดดดดด เสียงอ๊อดดัง เป็นสัญญาณให้นักศึกษาเข้าห้องได้แล้ว

ประตูห้องเรียนกำลังปิดโดยชายวัยกลางคนท่าทางดุดัน

“เดี๋ยวครับอาจารย์ รอเดี๋ยว” ผมวิ่งกระหืด กระหอบมาอย่างรวดเร็ว แต่ดูเหมือนว่า อาจารย์จะไม่ได้ยินเสียงผม และประตูก็ถูกปิดลง

“โห ไรวะ แม่ง”ผมสบถ ขณะวิ่งมาหยุดที่หน้าห้องเรียน

“อ้าว ไอ้โหดมันล็อคห้องแล้วหรอ” เสียงชายหนุ่มผู้หนึ่งดังขึ้นมาทางข้างหลังของผม เป็นเสียงที่ผมเคยได้ยินและ แอบประทับใจมาตลอด

ผมหันหลังไปมองพร้อมกับหยุดสายตาไว้กับ บูมชายหนุ่มผู้ซึ่งผมแอบหลงรักมาตั้งแต่เข้ามหาลัยปีหนึ่ง

“บูมมาไม่ทันเหมือนกันหรอ” ผมเริ่มการสนทนาขณะที่หัวใจผมเต้นแรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะยืนไม่ติด

“อืมม พอดีเราไปจอดรถตรงซาฟารีน่ะ เลยเดินมาไกล มาไม่ทันไอ้โหดเลย” ชายหนุ่มรูปงามพูดพร้อมกับส่ายหน้า “แล้วนี่ว่างตั้งเกือบ 3 ชั่วโมงจะไปไหนดีเนี่ย แม่งเอ๊ยยยย ไม่น่าเลย” บูมพูดและแสดงท่าทีหัวเสีย

ผมได้แต่นิ่งและมองกับท่าทีกระฟัดกระเฟียดของชายหนุ่มตรงหน้า แต่ยิ่งมองเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผมหลงรักชายผู้นี้มากเท่านั้น

“เออ แล้วเจอกันนะ” บูมพูดแล้วขณะโบกมือให้แสดงการลา

อืมมม ผมได้แต่นิ่งไม่กล้าพูดอะไรมากไปกว่านี้ทั้ง ๆ ที่อยากจะชวนบูมไปไหนต่อไหนใจแทบขาด

แต่ปากผมเหมือถูกก้อนหินก้อนยักษ์มาถ่วงเอาไว้

เฮ้อออ แล้วกูจะทำอะไรดีวะ ผมคิดในใจ ไปเล่นเน็ตดีกว่า ผมคิดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปหาเพื่อน

ออฟ หรอ อื้อ....มาไม่ทันว่ะ ไอ้โหดปิดประตูก่อน จดเล็กเชอร์ให้ด้วยนะ เราไปรอห้องเน็ต มุมเดิมนะ ผมพูดและวางสายโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงของผม

จากนั้นผมก็เดินไปยังห้องเน็ต ซึ่งคนก็ไม่ได้พลุกพล่านมากนักเพราะยังเป็นชั่วโมงเช้าอยู่ ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะมุมสุดซึ่งเป็นที่นั่งประจำของผมและพวกกลุ่มเพื่อนของผม

ผมเล่นเน็ต เช็คเมล์ ไปได้สักครู่ใหญ่ ก็เริ่มเบื่อเพราะไม่มีอะไรทำ จึงเดินออกมาหาหนังสืออ่านด้านนอกซึ่งเป็นห้องสมุด

ผมมองหานิตยสารหลายเล่มที่น่าสนใจ โดยที่สายตาไม่ได้มองเลยว่ามีคนมาแอบหลับอยู่ด้านหลัง

“โอ๊ยยยยยย จะฆ่ากันหรือไงวะ คนกำลังหลับสบาย ๆ อยู่”เสียงชายผู้หนึ่งดังขึ้นมาทางด้านข้าง ๆ ผม

“โทษครับ พอดีเลือกหนังสือเพลินเลยไม่ได้มอง”ผมรีบขอโทษ

“อ้าวบูมเองหรอ นึกว่าใคร”ผมพูดขณะมองไปยังชายหนุ่มซึ่งกำลังยืนขึ้นมา

“ถ้าเป็นเราแล้วจะไม่ขอโทษหรือไง เหยียบมาได้ เจ็บนะโว๊ย” บูมพูดพร้อมกับทำท่าทางอารมณ์เสีย

“เปล่า ก็...ก็เราขอโทษแล้วไง แล้วจะให้เราทำไงอีก” ผมพูดไม่เป็นคำ (กลัวบูมจะโกรธจริง ๆ)

“ให้ทำยังไงหรอ มาให้เหยียบทีดิ มาเลยยยยย”บูมกวนผมพร้อมกับทำท่ายียวน แล้วยกขาข้างนึงขึ้นมาเหมือนจะเหยียบผม

“เฮ้ยยยยย”ผมอุทานออกมา

“555 ล้อเล่นน่าแค่นี้ตกใจไปได้ คนไรวะ ขวัญอ่อนชิบเป๋งเลย ตัวก็โตแล้วยังขวัญอ่อนอีก เราล้อเล่น แต่นายต้องชดใช้ที่ทำให้เราตื่น ดูดิเนี่ยอีกตั้ง ชั่วโมงกว่าถึงจะหมดคาบไอ้โหด

นายต้องเลี้ยงข้าวเราเป็นการชดเชย”บูมพูดพร้อมกับชี้ไปด้านโรงอาหาร

“ได้ดิ เราเลี้ยงนายก็ได้”ผมพูดพร้อมกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

“ไปเหอะเราหิวแล้ว”บูมชวนขณะเอามือลูบไปที่ท้อง

จากนั้นเราสองคนก็เดินไปยังโรงอาหารและเลือกซื้ออาหารโดยผมให้บูมเป็นคนเลือก ส่วนผมเป็นจ่ายเงิน ก็ผมได้สํญญาไว้แล้วนิ

พอได้อาหารครบแล้วผมกับบูมก็เลือกหาโต๊ะตัวนึงทางด้านนอกของโรงอาหาร เพื่อชมวิวภายนอกไปด้วยขณะทานข้าว

“เออ โยรู้จักแพทไหม ที่หน้าตาหมวย ๆ นั่งอยู่ใกล้ ๆ กลุ่มนายอ่ะ เราเห็นนายเคยคุยด้วยนิ เค้ามีแฟนหรือยังวะ”บูมเริ่มบทสนทนาในขณะที่ผมกำลังจะตักอาหารเข้าปาก

มันเป็นการเริ่มบทสนทนาที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมาก ทั้ง ๆ ที่คนที่ผมแอบชอบมานั่งทานอาหารด้วย

“อ๋อ แพทหรอ รู้จักดิ แต่ไม่ค่อยสนิทนะ ทำไมหรอ บูมชอบหรอ”ผมถามทั้งๆ ที่ใจจริงอยากให้เค้าตอบว่า ไม่ แต่แล้ว...........

“อืมมม เราแอบชอบเค้าอยู่อ่ะ แต่เราไม่กล้าไปคุยด้วย เราอายว่ะ ไม่กล้าเข้าไปจีบ”บูมพูดพร้อมกับตักอาหารเข้าปาก

“จริงดิ แล้วจะให้เราช่วยยังไงล่ะ”ผมถามแบบไม่ค่อยเต็มเสียง ภายในใจรู้สึกเจ็บแปล็บ ๆ ยังไงบอกไม่ถูก

“นายขอเบอร์โทรแพทให้เราหน่อยได้ป่ะ แต่อย่าบอกใครนะว่าเราขอ เราอายว่ะ” บูมเอ่ยขณะจ้องมาที่ผมด้วยสายตาวิงวอน

“ได้ดิ ทำไมจะไม่ได้ เดี๋ยวตอนเย็นเราขอให้เลย แต่จะให้เอาเบอร์ให้ที่ไหนล่ะ หลังเรียนวิชาสถิติ ได้ป่ะ”ผมพูดและพยายามเบือนหน้าไปที่อื่นเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกเจ็บปวด

“เฮ้ยยยย ไม่ได้ เพราะเราจะโดดไปเที่ยวกับเพื่อนว่ะ นายโทรมาหาเราตอนประมาณ สองทุ่มละกันนะ อ่ะนี่เบอร์บ้านเรา 02-xxxxxxx”บูมพูดและยิ้มอย่างดีใจ

“อืมมม ได้ แล้วเราจะขอให้นะ”ผมพูดพร้อมกับมองมายังชายหนุ่มอีกครั้ง

“อย่าลืมนะ ... อืมมม ขอบใจสำหรับอาหารเช้า เราต้องไปแล้วเดี๋ยวเพื่อนเราตามหา แล้วโทรมานะ” บูมพูดขณะลุกขึ้นยืน

“โอเค ตามนั้นแหละ”ผมตอบ

หลังจากบูมเดินจากไปสักพักนึง ความรู้สึกเศร้าใจ เสียใจ ที่เมื่อสักครู่นี้ผมได้แอบซ้อนเอาไว้ได้เริ่มแสดงออกมาด้วยสีหน้าและแววตาผม

ซึ่งในขณะนี้มันเริ่มก่อตัวด้วยน้ำใส ๆ ที่ตอนนี้เอ่อล้นออกมาจนผมห้ามไม่ได้

ทำไม ทำไม...ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย เมื่อคืนผมยังฝันดีอยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้ในใจผมเริ่มที่จะแตกสลาย จากคำพูดเพียงไม่กี่คำของเค้าคนนั้น ผมคิดพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตา

หลังจากผมได้ยินคนที่ผมแอบรักขอร้องให้ผมทำในสิ่งที่ผมปฏิเสธไม่ได้ มันทำให้ทั้งวันผมเรียนอะไรไม่รู้เรื่องเลยได้แต่เฝ้าคิดว่า ผมจะทำอย่างไรต่อไปดีกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบนี้

แต่สุดท้ายผมก็ขอเบอร์โทรของแพท เพื่อที่จะได้โทรไปพูดคุยกับชายหนุ่มที่ผมเฝ้าแอบมองอยู่ทุกวัน มันเป็นความรู้สึกที่ทรมาน ทั้งๆ ที่ผมรู้ว่า เค้าไม่ได้ชอบผม

 และผมต้องทำหน้าที่เป็นสื่อกลางให้เค้ากับผู้หญิงอีกคนนึงรักกันโดยที่ผมได้แต่แอบเจ็บลึก ๆคนเดียวโดยไม่ได้บอกใคร เพราะมีเพียงเพื่อนสนิทไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ว่าผมเป็นเกย์

และผมก็ไม่เคยบอกใครว่าผมแอบชอบใคร เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ผมอยากเก็บไว้ โดยที่ไม่ให้ใครรู้

“หวัดดีครับ ขอพูดกับบูมหน่อยครับ” ผมพูดโทรศัพท์ ขณะที่มองไปยังนาฬิกาที่ห้องนอน ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาประมาณ สองทุ่มกว่า ๆ แล้ว

“อืมมม พูดอยู่ครับใครน่ะ”บูมตอบ

“เราเอง โย จำไม่ได้หรอ อย่างงี้ไม่เอาเบอร์ให้แล้วแค่นี้นะ”ผมตอบอย่างงอน ๆ นิด ๆครับ

“555 ล้อเล่นน่า จำได้คร๊าบบบบบบ แล้วเบอร์อ่ะ”บูมถาม

“โหหหหห รีบเชียวนะ นี่เบอร์ 01-xxx-xxxx”ผมบอกทั้ง ๆ ที่ใจจริงไม่อยากจะให้แต่......

“เออ แล้วโยกลับบ้านนานแล้วหรอ”บูมถามผมหลังจากที่ผมบอกเบอร์แพทเสร็จ

“นานแล้ว แล้วบูมล่ะ แล้วจดเบอร์ยังเนี่ยะ ไม่มีให้รอบสองนะ ของดีมีครั้งเดียว”ผมถามด้วยความแปลกใจว่าทำไม เค้าไม่ต้องขอเวลาเพื่อเตรียมปากกา กระดาษมาจดเบอร์เลย

 แต่แล้วผมก็ได้รับคำตอบที่ทำให้ผมปวดร้าวมากขึ้นไปอีก

“ไม่ต้องจดหรอก เบอร์คนสำคัญเราก็ต้องจำได้ขึ้นใจอยู่แล้วว่าแต่ว่าโยช่วยเป็นพ่อสื่อให้เราหน่อยได้เปล่า เราไม่กล้าว่ะ”บูมเอ่ยถาม

“เฮ้ย มากไปป่าว จะให้เราเป็นพ่อสื่อได้ยังไง ไม่เอาหรอก เราไม่เคยเป็น”ผมตอบปฏิเสธด้วยความรู้สึกที่ปวดร้าว

“ไรวะแค่นี้ก็ไม่ได้ งั้นช่วยถามเรื่องเกี่ยวกับแพทให้เราหน่อยได้ไหม ประมาณว่ามีแฟนหรือยัง ชอบคนแบบไหน บ้านอยู่ไหนอารายเงี๊ยะ”บูมยิงคำถามมาเป็นชุด

“เออ ๆ ๆ ได้ แต่ต้องเป็นพรุ่งนี้นะเราจะถามให้”ผมตอบรับคำขอแบบเสียไม่ได้ทั้ง ๆ ที่ในใจเจ็บปวดจนแทบจะระเบิดออกมา

“ขอบใจเว้ยยยยย”บูมแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า “เออ แล้ววันนี้เรียนเป็นไงบ้างอ่ะ ยากป่ะ เราไม่ค่อยเข้าใจ สถิติเลย เลยไม่เข้าเรียนดีกว่า ขี้เกียจ”บูมเอ่ยถาม

“เราก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ยังดีที่ไปเรียน ไม่เหมือนใครบางคนที่ไม่เข้าใจยังไม่ไปเรียนอีก แล้วจะสอบได้ป่าวเนี่ย”ผมตอบด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับหยอกเล็ก ๆ

“โหหห ไร เราไม่ตกหรอก เดี๋ยวก็มีคนมาติวให้”บูมพูด

“ใครเหรอ แพทหรอ แพทก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันยังถามเราตลอดคาบเลย”ผมเดาว่า คนที่บูมพูดถึง คงจะเป็นแพทแน่ ๆ

“อ้าวก็โยไง ไหน ๆ ก็ช่วยเรามาแล้ว ช่วยเรื่องนี้อีกหน่อยไม่ได้หรอ นะ นะ นะ นะ”บูมอ้อน

“ไม่ได้”ผมแกล้งกลับไป ทั้งที่ใจผมอ่อนยวบ จากลูกอ้อนเมื่อตะกี้

“โห ไรวะ อ๊ะจ้างก็ได้ นะ นะ นะ”บูมอ้อนต่อด้วยน้ำเสียงที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน มันทำให้ผมยิ่งหลงรักผู้ชายคนนี้เพิ่มขึ้น

“เราคิดค่าจ้างแพงนะ บูมไม่มีเงินจ้างเราหรอก”ผมพูดพลางหัวเราะ

“ไม่มีเงิน เอาตัวเข้าแลกได้ป่าว”บูมตอบกลับมา ทำให้ผมเริ่มแอบมีหวังในใจเล็กๆ แต่แล้ว “ล้อเล่นน่า โยไปสอนแพทให้หน่อยดิ เราจะได้ไปเรียนจากแพทไง เจ๋งป่ะความคิดเรา”บูมพูดพร้อมกับทำเสียงหล่อ

“เออ”ผมหุบยิ้มพร้อมตอบกลับไปอย่างงอน ๆ “เราง่วงแล้วล่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ บาย” ผมรีบชิงตัดบทก่อนที่ผมจะรู้สึกแย่ไปกว่านี้จากบทสนทนาต่อจากนี้ไป

“อ้าวไรวะ เด็กอนามัยนี่หว่า ยังไม่สี่ทุ่มเลย เออ ๆ ๆ ไปเหอะ บาย อ้อแล้วอย่าลืมเรื่องที่ขอไว้นะ”บูมตอบกลับมาอย่าง งง ๆ

“ได้....บายนะ”ผมตอบพร้อมกับวางหูไป

หลังจากผมวางหูโทรศัพท์ไป ผมก็ทิ้งตัวลงนอนที่เตียงในใจก็คิดอยู่ว่า กูโง่หรือฉลาดที่ทำแบบนี้ ทั้ง ๆที่รู้ดีว่าผมต้องเจ็บปวดแต่ทำไมผมไม่ปฏิเสธกับคำขอ ของบูมชายคนที่ผมหลงรัก

แต่แล้วแว๊ปนึงที่ผมนึกไปถึงน้ำเสียงที่ขี้อ้อนของบูม ผมก็อดอมยิ้มไม่ได้ แล้วผมก็หลับไปโดยที่ยังไม่รู้คำตอบว่าผมควรจะทำหน้าที่ของผมต่อไปดีหรือไม่

..........................................
จบตอนที่ 1 จริงๆ นี่เป็นงานเขียนชิ้นแรกของผม ได้แรงบันดาลใจมาจากพวกพี่ ๆนักเขียนในบอร์ดนี้ เลยเอาชีวิตจริงของผมส่วนหนึ่งมาดัดแปลงทำเป็นนิยายเรื่องนี้

ยังไงก็ขอให้ติดตามนะครับ ผมจะพยายามเขียนให้ดีที่สุดครับผม
..............................................
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 06-12-2006 16:47:30
มาหั้ยกำลังใจพี่พูห์........... :angellaugh2: :angellaugh2:

จารออ่านต่อนะ.....มาต่อเร็วด้วย........... :laugh: :laugh:

ว่าแต่.......... :confuse:.........ชื่อเรื่องชื่อนี้จิงหรอ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-12-2006 16:56:27
มาให้กำลังใจคนเก่ง
เพื่อนๆที่ชอบเรื่องมันๆ เร้าจายต้องเรื่องนี้ครับ
 :like6:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 06-12-2006 17:01:47
                                                                     :yeb:  เรื่องนี้นี่เอง สู้สู้ๆจ้ะพูห์ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 06-12-2006 18:13:01
รออ่านด้วย  เอาแบบซาดิสม์ ตบจูบเลยนะ ชอบอะ 55555   (ล้อเล่นเน้อ  มะช่ายยยย  :-[ )

เป็นกำลังใจให้โยคนแต่ง  กับหมูพูห์คนโพสคับผม  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sak ที่ 06-12-2006 19:52:08
,=มาตามอ่านด้วยคน   
         
                 จะรอดูครับ ว่า มันส์ หยดย้อยขนาดไหน
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 06-12-2006 20:58:20
แค่เริ่มเรื่องก็มีมรสุมเล็ก ๆ แล้ว อิอิ น่าสนุก จะติดตามต่อไปนะคับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-12-2006 10:08:17
"ตอนที่ 2"

   
แม้ว่าจะต้องเสียความรักไป แม้ว่าจะไม่เหลือใครสักคน
    มันจะเจ็บจะช้ำกี่หน แต่คนคนนี้ไม่ท้อใจ
    แม้ว่าในวันนี้มีน้ำตา จะข่มมันให้ไหลอยู่ข้างใน
    ความฝันนั้นจบไป แต่ยังเหลือตัวฉัน
    อดทนแล้วปลอบใจ จะไม่ยอมหมดหวัง


    เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับย้อนถามตัวเองว่า เราควรจะทำหน้าที่พ่อสื่อที่แสนจะทรมานนี้ต่อไปหรือไม่

คิดไปคิดมา ผมก็คิดได้ว่า ถ้าผมไม่ใช้โอกาสนี้ที่จะได้เข้าใกล้คนที่ผมรักแล้ว ผมจะยังมีโอกาสดี ๆแบบนี้อีกไหม

โอกาสแบบนี้ไม่ได้หามาได้ง่าย ๆ แม้ว่าผมจะต้องเสียใจกับเหตุการณ์ที่ผมจะได้รับรู้ต่อไปจากนี้ ก็ไม่เป็นไร

ขอแค่ผมได้ใกล้ชิดและได้แอบรักเค้าคนนั้นต่อไปแค่นั้นผมก็พอใจ ผมขอแค่นั้นจริง ๆ

    หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว ในชั่วโมงเรียนผมก็ได้แอบถามเพื่อนของแพท เรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตัวแพทมากมาย เพราะผมสนิทกับเพื่อนของแพทมากกว่า และเพื่อนน่าจะเป็นแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด

ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะผมได้ข้อมูลมากมายสำหรับที่จะคุยกับบูมในคืนนี้

    แต่ผมจะยังไม่บอกเค้าทั้งหมดหรอกเพราะผมอยากได้ยินเสียงเค้าทุกวัน มันเป็นความสุขเล็ก ๆ น้อยๆ ที่ผมผู้ซึ่งทำหน้าที่พ่อสื่อคนนี้จะยังพอหาได้ในขณะนี้

    หลังเลิกเรียนผมกลับบ้านและทำกิจกรรมต่างๆ จนได้เวลาที่ผมนัดกับบูมเอาไว้ ผมจึงได้โทรศัพท์ไปหา

    “บูมหรอ เราโยนะ เรื่องเมื่อวานเราถามให้เรียบร้อยแล้วนะ”ผมถามและพยายามปรับน้ำเสียงที่ดูเศร้าให้เป็นปกติ

    “เรื่องไรหรอ”บูมถามอย่าง งง ๆ

    “อ้าวเวร ก็เรื่องแพทไง ไม่อยากรู้แล้วเหรอ ทำไมเปลี่ยนใจง่ายอย่างนี้วะ”

    “เออ ๆ ๆ ตกลงว่าไงบ้าง...”บูมถามอย่างสนใจ
   
    “เอาเรื่องไหนก่อนดีวะ เออ...ตกลงแพทมีแฟนแล้วนะ แต่เพิ่งเลิกกันไปเมื่อ สองเดือนก่อนเองตอนนี้ยังไม่มีใคร”ผมบอกข้อมูลที่ผมได้รับมาเมื่อเช้าจากปากของเพื่อนแพท

    “อ้าวหรอ คิดอยู่แล้วเชียว...เคยเห็นเดินอยู่ที่สยามกับผู้ชายคนนึงเมื่อสามเดือนที่แล้ว แต่เค้าเลิกกันแน่หรอ ข้อมูลไม่ผิดแน่นะคร๊าบบบบ คุณพ่อสื่อ”บูมถามเพื่อความแน่ใจ

    “ไม่ผิดหรอกน่ามือชั้นนี้แล้ว”ผมพูดด้วยความมั่นใจในข้อมูลที่มีมา

    “ชั้นนี้น่ะชั้นไหน”บูมกวน

    “เออ น่ะ กวนแบบนี้ไม่บอกให้รู้แล้วดีกว่าไปสืบเองเถอะ”ผมเริ่มงอน

    “ไรวะ แค่นี้ก็ต้องงอนด้วย บอกหน่อยน่า นะ นะ นะ นะ บอกหน่อยนะครับ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงขี้อ้อน

    “เอามา ห้าร้อยค่าจ้างแล้วจะบอก”ผมพูดปนหัวเราะ เพราะผมชอบเวลาที่บูมมาอ้อนด้วยเสียงน่ารักๆ ทำให้ผมยิ่งรักเค้ามากขึ้นไปอีก

    “โหไรวะ หน้าเลือดชิบเป๋งเลย เงินไม่มีหรอก ติดไว้ก่อนได้ป่าวแล้วชาติหน้าค่อยคืน” บูมเริ่มบ่น

    “ชาติหน้ายังจะเจอกันอีกหรอ แค่ชาตินี้ก็เกินพอแล้ว” ผมพูดพร้อมกับคิดว่า อย่าให้ผมต้องมีสภาพแบบนี้ในชาติหน้าหรือชาติไหน ๆ อีกเลย

    “ก็อยากเจอโยอีกชาติหน้าไม่ได้หรอ” บูมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ดูจริงจัง

    “......................”ผมอึ้งพูดไม่ถูกกับมุขที่บูมปล่อยออกมาไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนกันแน่

    “555 แค่นี้มีอึ้งด้วย อยากเจอโยเพราะจะได้มีพ่อสื่ออีกไง”บูมรีบเปลี่ยนเรื่องพูด

    “โธ่เอ้ย นึกว่า”ผมแอบเสียใจที่คำตอบไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิด

    “นึกว่าไร”

    “เปล่า เออ เอาที่อยู่บ้านแพทหรือเปล่าเราจดมาให้แล้วนะ”ผมเอ่ยถามเพื่อกลบเกลื่อน

    “เอาดิ แต่ไว้ก่อนดีกว่า เพราะมีที่อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ เราคงไม่ตามไปเฝ้าเค้าที่หน้าบ้านหรอก แค่รู้ว่าตอนนี้เค้าเลิกกับแฟนเราก็ดีใจแล้ว

    ขอบใจนะ เพื่อน!” บูมพูดเน้น คำว่า เพื่อน จนผมอดรู้สึกไม่ได้ว่าเค้าต้องการสื่อให้ผมรู้หรือเปล่าว่าเราคงเป็นได้แค่เพียงเพื่อนกันเท่านั้น

    “ไม่เป็นไร แล้วเมื่อไหร่จะคุยกับเค้าสักทีล่ะ เราจะได้ไม่ต้องคอยเป็นพ่อสื่ออีก” ผมพูดทั้ง ๆ ที่อดสะท้อนใจไม่ได้

เพราะเมื่อวันนั้นมาถึง ผมนั้นแหละที่จะเจ็บปวด และผมก็จะไม่ได้ยินเสียง บูมชายหนุ่มที่ผมแอบรักอีกต่อไป

    “ยังหรอก รอให้เราแน่ใจและมีข้อมูลมากกว่านี้ก่อนเว้ย เค้าบอก รู้เค้ารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”บูมบอก ซึ่งผมก็แอบดีใจอยู่ลึก ๆที่จะได้โทรคุยกับบูมอีก

    “เออ เอาไว้เราจะหาข้อมูลมาให้อีกนะ อยากรู้ไรก็บอกมา”ผมเอ่ยถาม

    “ถ้าคิดได้แล้วจะบอก แล้วนี่โยกินข้าวหรือยังอ่ะ เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก”บูมเอ่ยถามผมด้วยความเป็นห่วง (แอบเข้าข้างตัวเองนิดหน่อย)

    “เรียบร้อยแล้ว บูมล่ะ”ผมตอบ

    “เรียบร้อยก่อนหน้าที่โยจะโทรมาแป๊ปนึง เออ แล้วพรุ่งนี้โยว่างหรือเปล่า พอดีเพื่อนเราต้องกลับไปทำธุระช่วงบ่าย เราเลยว่าง ไ

ปกินข้าวด้วยกันไหม เราเป็นเจ้ามือเอง ตอบแทนที่โยช่วยให้ข้อมูลเราไง”บูมเอ่ยปากชวน

    ผมยิ้มและดีใจที่มีโอกาสได้ไปทานข้าวกับบูม แต่แล้วผมก็ต้องหุบยิ้มเมื่อได้ยินประโยคที่ว่า

    “แต่ว่า อย่าลืมถามเรื่องแพทมาให้เราด้วยนะ”บูมพูดต่อ

    “เออ ๆ ๆ ขาดไม่ได้เลยนะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มให้เป็นปกติ พลางคิดว่าทำไมจะต้องมี แพท แพท แพท ต่อท้ายด้วยนะ ทำไม

    “555555”บูมหัวเราะ

    “เออ แล้วพรุ่งนี้กี่โมงล่ะ หลังเรียนจิตวิทยาคาบเช้าหรือเปล่า”ผมตัดบทก่อนที่ความน้อยใจจะมากกว่านี้

    “แม่นแล้วคร๊าบบบบบบ”บูมตอบอย่างอารมณ์ดี “เจอกันที่ห้องสมุดตรงที่นายจะเหยียบเรานะ โอเคนะ บายครับ”บูมพูดและวางสายโทรศัพท์

    หลังจากที่บูมวางสายโทรศัพท์มันทำให้ผมสับสนว่า ทำไมเค้าไม่นัดเจอกับผมหน้าห้องเรียนทั้ง ๆที่ผมและเค้าก็เรียนด้วยกัน

    ทำไมต้องเป็นห้องสมุดที่ผมกับบูมได้พบกันและไปกินข้าวด้วยกันครั้งแรก ทำไม..... ผมได้แต่แอบคิดอยู่ในใจแล้ววางโทรศัพท์ลงไป

    จบตอนที่ 2 แล้วครับ ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่านกัน
***********************************************

][GobGab][       ชื่อเรื่องนี้จริงๆ ตอนแรกก็งเหมือนกันครับ ว่าชื่อนี้จริงเหรอ ต้องอ่านไเรื่อยๆ นะครับ

b|ueB[o ]YhUb   ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคร้าาาาาาาาบ

[{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]   เรื่องไหนเหรอ แน๋ว

มูมู่น้อย    ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ เรื่องนี้รับรองความมันส์ครับ

sak ต้องติดตามต่อไปครับ

Tantalum ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 07-12-2006 11:33:44

   
แม้ว่าจะต้องเสียความรักไป แม้ว่าจะไม่เหลือใครสักคน
    มันจะเจ็บจะช้ำกี่หน แต่คนคนนี้ไม่ท้อใจ
    แม้ว่าในวันนี้มีน้ำตา จะข่มมันให้ไหลอยู่ข้างใน
    ความฝันนั้นจบไป แต่ยังเหลือตัวฉัน
    อดทนแล้วปลอบใจ จะไม่ยอมหมดหวัง


แอบรักเขานี่น่าสงสารเนอะ...................โยจะทนได้แค่ไหนกัน :impress:

ป.ล.....ว่าแต่เพลงนี้เพลงไรนะคับพี่พูห์.........ลืมอ่ะ.......กลายเป็นปลาทองไปเมื่อไหร่ไม่รู้ :try2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 07-12-2006 14:38:25
ลุ้นโคตรๆ ทำไมบูมถึงไม่มองตาคนตรงหน้าหนอ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 07-12-2006 14:52:00
มาแย้ววว   ตอดไว้โย  หมาหยอกไก่ไปเรื่อยๆ  อย่างน้อยก็ได้ใกล้บูมอะเนอะ  ว่าแต่ชื่อเรื่องเหมือนเศร้าหง่า  รออ่านอยู่เน้อ   :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-12-2006 17:45:23
" ตอนที่ 3"

    หลังจากที่ผมที่ผมตื่นนอนในวันรุ่งขึ้นอย่างอารมณ์ดีเพราะวันนี้ผมมีนัดกับคนที่ผมรัก ผมพยายามแต่งตัวให้ดูดีที่สุด รวมทั้งฉีดน้ำหอมด้วย

    ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะพิถีพิถันกับเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับวันพิเศษแบบนี้มันก็ต้อง นิดนึง.....

    “อ้าววันนี้ฉีดน้ำหอมด้วยเหรอลูก เห็นท่าวันนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่เลย”แม่พูดพลางอมยิ้ม

    “เปล่าหรอกครับแม่ แค่มีนัดกินเข้านิดหน่อยน่ะครับ”ผมตอบอย่างอารมณ์ดี

    “กับใครหรือลูก ทำไมไม่พามาให้แม่รู้จักบ้างล่ะ”แม่ถาม

    “ยังไม่ขนาดนั้นครับแม่ แค่ไปกินข้าวกับเพื่อนธรรมดาเองครับ”ผมรีบกลบเกลื่อน

    “ยังไงก็ขอให้มีความสุขนะจ๊ะ อย่าลืมพามาให้แม่เห็นล่ะ”แม่ยิ้มอย่างรู้ทัน

    “ไม่เอาแล้วไม่พูดดีกว่า ผมไปแล้วนะครับแม่ หวัดดีครับ”ผมรีบชิงตัดบทแล้วเดินออกจากบ้านไป

    หลังจากนั้นผมก็ไปมหาวิทยาลัยและเดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเข้าไปทักกับเพื่อน ๆ ของผมที่อยู่ในห้องเรียน...

    “อ้าวโย...แหม...วันนี้มีอะไรมาดลใจให้คุณโยของเราใส่น้ำหอมมามหาลัยได้เนี่ย ดูดิฟุ้งทั้งห้องเลย”ออฟ ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนสนิทของผมเริ่มแซว

    “เออใช่ ตั้งแต่คบกับมันมาเคยเห็นมันใส่น้ำหอมมามหาลัยที่ไหน วันนี้มีอะไรพิเศษวะ”กายเพื่อนชายอีกคนหนึ่งของผมเอยถามด้วยเหมือนกัน

    “ไม่มีอะไรหรอก พอดีวันนี้มีนัดนิดหน่อย เราคงจะไปโยนโบว์ลิ่งด้วยไม่ได้นะ”ผมรีบออกตัว

    “ไรวะมีนัดแล้วทิ้งเพื่อนเลยหรอ ใครวะ ใครที่มันโชคร้ายได้มึงไป”โบเพื่อนที่เป็นเกย์ของผมเริ่มแขวะ

    “ไม่เอาละ ขี้เกียจพูดละ ไป ไป...ไป นั่งที่ได้แล้วจะได้เริ่มเรียน”ผมตัดบท

    หลังจากผมนั่งลงกับโต๊ะแล้ว ผมก็เริ่มสอดส่ายสายตาของผมไปหาชายหนุ่มที่ผมแอบรัก แต่เอ...วันนี้ทำไมถึงไม่เห็นเค้าละ หรือว่าเค้าจะไม่มาเรียนวะ

    “โย โย โย”ไอ้โบที่นั่งข้าง ๆสะกิดผม

    “อะไรวะ สะกิดอยู่ได้”ผมหันหน้ากลับมาสนใจไอ้โบ

    “มองหาใครวะ”โบถามหยั่งเชิง

    “ป่าว ถามแค่เนี๊ยะ ทำไมต้องมาสะกิดด้วยวะ”ผมหงุดหงิดนิดหน่อย

    “ไม่ใช่ ก็แค่อยากรู้ว่า นัดกับใครบอกเราบ้างดิ เราอาจช่วยได้นะ”มันเสนอความช่วยเหลืออย่างจริงใจ (รึเปล่าวะ)

    “บอกแล้วไงไม่มีอะไรหรอกน่า ถ้ามีแล้วจะบอก (คำยอดฮิต)”ผมพยายามบิดบัง

    “เออ ตามใจ แต่สัญญานะ ว่าจะบอก”แน๊ะยังจะถามอีกไอ้โบนี่มันน่า.....

    “เออ”ผมพูดเพื่อตัดความรำคาญ แต่จริง ๆ แล้วผมแค่ไม่ต้องการให้มันรู้ว่า ผมนัดกับใครไว้หรอก เพราะผมได้สัญญาไว้แล้วว่าจะแอบรักคนๆนั้นต่อไป เลยไม่อยากทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่

    “นักศึกษา พอแค่นี้นะครับ ใครมีคำถามอะไรถามได้นะครับ เชิญครับ”อาจารย์พูดเป็นสัญญาณหลังจากหมดคาบ

    “เฮ้ย เราไปก่อนนะแล้วเจอกัน”ผมพูดแล้วรีบลุกขึ้นเดินหลังจากอาจารย์ปล่อยแล้ว

    ขณะเดินออกไปทางด้านหลังห้อง ผมก็ยังพยายามเหลียวหลังมามองหาบูม ว่าเค้าอยู่ตรงไหนและกำลังทำอะไรอยู่ แต่ก็ไม่เห็น....

    “มันต้องมีอะไรแน่ ๆ เลยวันนี้ไอ้โยมาแปลก รีบมารีบไป ปกติถ้านัดกันไปโยนโบว์ลิ่งมันเคยพลาดสักที่ไหน”ออฟเริ่มสงสัย

    “ปล่อย ๆ มันบ้างเหอะ มันจะได้มีแฟนกับเค้าสักที”โบเอ่ยขึ้นแล้วมองตามหลังผม

    หลังจากนั้นผมก็เดินออกจากห้องเรียนเพื่อไปยังห้องสมุดที่อยู่อีกตึกทางด้านนึงของมหาลัย ตามที่ได้นัดแนะกับบูมไว้ ผมรีบเดินด้วยการก้าวอย่างรวดเร็วจนขาแทบจะสะดุดกันเอง

    หลังจากนั้น ไม่ถึง ห้านาที ผมก็มาถึงที่ห้องสมุด ผมหยุดถอนหายใจ เฮือกใหญ่ พลางพูดกับตัวเองว่า...

    “เอาวะเป็นไงเป็นกัน”ผมพูดเบา ๆ เพื่อเรียกความมั่นใจออกมา

    ผมผลักประตูของห้องสมุดพลางยื่นบัตรนักศึกษาให้กับบรรณารักษ์ และเดินเข้าไปมองหาบูม แต่ก็หาไม่เจอ พลางคิดไปว่าเราอาจจะรีบมาเร็วไป

    ผมเลยเดินเลือกหานิตยสารมาอ่านเพื่อเป็นการฆ่าเวลาไปพลาง ๆก่อน...

    หลังจากที่ผมเลือกนิตยสารได้แล้วผมก็กำลังจะเดินออกจากคอกหนังสือที่จัดไว้เป็นล็อค ๆ ออกมานั่งที่โต๊ะ แต่แล้วสายตาของผมก็มองไปเห็น.....

    บูมกับแพทเดินมาด้วยกัน จากห้องอินเตอร์เนตซึ่งอยู่ถัดเข้าไปด้านในจากโซนล็อคนิตยสาร แถมทั้งคู่ยังคุยกันอย่างกระหนุงกระหนิงราวกับว่าเป็นแฟนกันมานานแล้ว ....

    ผมรู้สึกปวดใจอย่างรุนแรง กับภาพของเค้าสองคนที่อยู่ตรงหน้าผม น้ำตาของผม เริ่มที่จะไหลรินออกมาอย่างมากมาย ขาที่เคยแข็งแรงของผม

   แต่ทำไมบัดนี้ผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันกำลังจะอ่อนแรงลงไปทุกที มือที่ถือนิตยสารอย่างแน่นหนากลับปล่อยมันตกลงมา พร้อม ๆ กับร่างของผมที่ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

   ทำไมผมถึงไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่จะยืน ทำไมผมถึงอ่อนแอแบบนี้ ทำไม.....

    ผมทรุดตัวอยู่กับพื้นด้วยความเศร้า จนกระทั้งผมมองเค้าทั้งคู่เดินหายออกไปจากห้องสมุดพร้อม ๆ กัน ความคิดของผมเริ่มที่จะประเดประดัง ถาโถมเข้ามาอย่างมากมาย

    ทำไมเค้าทั้งสองคนถึงได้สนิทสนมกันอย่างรวดเร็วเช่นนี้? แค่ผมบอกบูมเมื่อวานว่า แพทเพิ่งเลิกกับแฟน แล้วเค้าไปรู้จักสนิทสนมกันตอนไหน? ทำไมมันช่างรวดเร็วเช่นนี้? แล้วที่สำคัญ

    ทำไมบูมชายหนุ่มผู้ซึ่งผมแอบหลงรักอย่างจริงใจมาตลอด กับลืมสัญญาที่ให้ไว้กับผมลงได้อย่างง่ายดายเช่นนี้? ผมเป็นแค่ตัวอะไรในสายตาเค้า? ผมมันไม่มีค่าเลยใช่ไหม? ทำไม? ทำไม?.......


    ผมไม่รู้ว่านั่งจมอยู่กับความคิด และความเศร้าแบบนี้ไปนานเท่าไหร่ จนกระทั้งเวลาผ่านไป บรรณารักษ์เดินผ่านมาหยุดมองและถามผมว่า...

    “ทำไมนักศึกษามานั่งตรงนี้คะ ไม่มีเรียนหรอ”บรรณารักษ์ถามอย่างแปลกใจ

    “........................”ไร้ซึ่งเสียงและความรู้สึกในหัวใจของผมที่จะรับรู้กับสิ่งใดๆ ทั้ง ๆ ที่บรรณารักษ์ก็ยืนอยู่ตรงหน้า

    ผมไม่ตอบคำถามบรรณารักษ์สาวแต่กลับลุกขึ้นยืนจากนั้นผมก็เดินออกจากที่ตรงนั้นไปด้วยความรู้สึกว่างเปล่า มันเหมือนราวกับว่ามีรูโหว่ขนาดใหญ่อยู่ที่กลางหัวใจของผม

   ผมเดินไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ไร้ซึ่งความคิดและความรู้สึก มีเพียงแต่รอยคราบน้ำตาที่บัดนี้มันเหือดแห้งอยู่ภายในดวงตาของผม

    “โย .... โย ใช่ไหม มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ จะไปด้วยกันหรือเปล่าพอดีเรากลับมาเอาของ พอดีลืมไว้ในล็อคเกอร์”ไอ้โบวิ่งเข้ามาถามผม

    “...................................”ผมเงียบ

    “เป็นไรวะ แล้วเรื่องนัดเดทล่ะทำไมยังไม่ไป”โบถามเมื่อนึกขึ้นได้

    “.............................”ผมเงียบ และยิ่งรู้สึกจุกกับคำถามที่เพื่อนรักของผมถามมาเมื่อสักครู่นี้

    “เป็นไรวะ ร้องไห้มาหรอ เฮ้ยเป็นไร ใครทำอะไรแกวะ”โบถามขณะมองเห็นคราบน้ำตาของผม

    “ไม่มีอะไรหรอก มันจบแล้ว....ใช่มันจบแล้ว.....จบแล้วจริง ๆ”ผมพูดด้วยความรู้สึกว่างเปล่าพร้อมกับเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไรจุดหมาย แต่แล้วโบมันก็ยังตามมาสะกิดผม

    “มีอะไรบอกเราได้นะ หรือว่าโยไม่ไว้ใจเรา”โบถามด้วยความเป็นห่วง

    “ป่าว ไม่มีอะไรหรอก”ผมพูดพลางปรับเสียงให้เป็นปกติ

    “ไม่มีอะไรก็แล้วไป แต่ถ้ามีอย่าลืมสัญญาที่จะบอกเรานะ เราอาจช่วยนายได้”โบพูดอย่างจริงใจ จริง ๆ

    “ขอบใจว่ะ โบรีบไปเหอะขืนช้าไม่ทันพวกมันเล่นโบว์ลิ่ง เดี๋ยวเราจะกลับแล้ว เหนื่อยนิดหน่อยว่ะ แล้วเจอกันนะ”ผมพูดลา เพราะไม่อยากให้เพื่อนเห็นสภาพผมในเวลาแย่ ๆ แบบนี้

    “อ้าวไม่ไปด้วยกันหรอ อืมม ๆ ๆ เราเข้าใจว่ะ แล้วเจอกัน”โบเอ่ยอย่างเข้าใจ

    จริง ๆ แล้วโบ ก็เป็นเพื่อนที่ดีของผมมากๆ เลยครับ เพราะมันจะคอยเอาใจใส่เพื่อนๆ ทุกคนเหมือน ๆ กัน แต่ไม่ต้องเชียร์ผมให้คู่กับโบหรอกครับ เพราะเดี๋ยวฟ้ามันจะผ่าเอา 555

    หลังจากที่ผมแยกกับโบแล้วผมก็กลับมาบ้านโชคดีที่แม่ยังไม่กลับจากไป shopping ไม่อย่างงั้นผมก็คงต้องตอบคำถามของแม่อีกมากมาย

    ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะสะกดอารมณ์เพื่อตอบคำถามของแม่ไปได้นานขนาดไหน ผมไม่อยากให้แม่เห็นภาพที่อ่อนแอของผมเลย

    ผมจึงรีบขึ้นไปขังตัวเองอยู่บนห้องโดยที่เขียนโน้ตทิ้งไว้ว่า

    ทานข้าวแล้วครับ อิ่มจัง ปวดหัวนิดหน่อย ทานยาแล้วนอนก่อนนะครับแม่


    จบตอนที่ 3 ขอบคุณครับที่ติดตาม

**************************************
][GobGab][                นึกไม่ออกอะน้องถุง  ปลาทองเหมือนกัน


b|ueB[o ]YhUb         บูมอาจจะมีความในใจอะไรก้ได้นะหนูบลู


มูมู่น้อย                           เศร้าไม่เศร้า ก็ต้องตามดูกันต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 08-12-2006 02:53:45
                                            :yeb: อ๋อ ก้อแน๋วเคยเหงเรื่องนี่ที่บอร์ดปาล์มไงพูห์ :yeb:

                                                            แต่ไงก้อจะตามรออ่านที่พูห์โป๊ดนะ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-12-2006 15:00:12
ตอนที่ 4
ผมนอนขังตัวเองอยู่กับความเศร้าภายในห้องนอนของผม ความสับสนว้าวุ่นภายในจิตใจทำให้ผมไม่สามารถข่มตัวเองให้หลับลงได้

มีแต่คำถามมากมายตลอดเวลาว่าทำไมบูมถึงผิดนัดผม และทำไมเค้ากับแพทถึงได้สนิทกันเร็วเช่นนี้

ผมคิดวนไปวนมา อยู่หลายรอบก็ยังหาบทสรุปไม่ได้ จนกระทั้งผมลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปหยิบโทรศัพท์เพื่อต่อสายไปยัง.......

“สวัสดีครับ บ้าน.... ขอสายใครครับ”เสียงชายหนุ่มที่คุ้นเคยดังออกมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง

“บูมหรอนี่เราเองนะ”ผมพูดกับชายหนุ่มที่ทำให้ผมรู้สึกปวดร้าวเมื่อตอนกลางวันนี้

“โยหรอ ทำไมไม่ไปตามนัด รู้ไหมเราไปรอตั้งนาน ทำไมเป็นคนผิดสัญญาแบบนี้วะ ถ้าจะไม่ไปนายน่าจะบอกเราก่อน เราจะได้ไม่ไปรอ คนอะไรวะนัดแล้วผิดคำพูด”บูมต่อว่าผมด้วยน้ำเสียงโกรธจัด

“เอ่อ....คือ”ผมงงกับคำพูดที่บูมพูดออกมาพลางนึกย้อนกลับไปเหตุการณ์เมื่อตอนกลางวัน

“ทีหลังไม่อยากไปกินข้าวกับเราก็บอกมาดีๆก็ได้ ทำไมนายทำแบบนี้”บูมพูดด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ

“คือว่า เราไปแล้ว เราไม่เห็นบูมไง เราเลยเดินกลับออกมา”ผมพูดโกหก (ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมผมต้องโกหกไปอย่างนั้น)

“แล้วทำไมไม่นั่งรอเราล่ะ เราไปสายแค่ สิบนาทีเอง แค่สิบนาที นายรอเราไม่ได้หรอ อะไรวะ”บูมเริ่มโมโหนิด ๆ

“พอดีเรามีนัดกับเพื่อนด้วยไง เพื่อนเราเลยขึ้นมาตาม ยังไงก็ขอโทษด้วยแล้วกัน”ผมโกหกต่อ

“โห อะไรวะคนเรานัดกันแล้วยังทำแบบนี้อีก เอางี้นายต้องเป็นคนเลี้ยงข้าวเราเพื่อเป็นการไถ่โทษเลย แล้ววันหลังอย่าผิดสัญญากับเราอีกนะ”บูมเริ่มอารมณ์เย็นลงแล้ว

“ก็ได้ ๆ เอาอย่างงี้ก็ได้ วันไหนล่ะ นายนัดมาแล้วกัน”ผมพูดและแอบยิ้มอยู่ในใจ

“วันอาทิตย์พรุ่งนี้แล้วกัน เดี๋ยวเราขับรถไปรับ เอาเบอร์มือถือนายมาหน่อยดิ เรายังไม่มีเบอร์นายเลยจะโทรไปหาก็ลำบาก

แล้วจดเบอร์มือถือเราด้วยนะ เวลาเลื่อนนัดจะได้โทรมาบอกเราไม่ใช่ให้เราไปนั่งรอตั้ง สองชั่วโมง อ่ะนี่ 0x-xxx-xxxx เบอร์เรา”บูมเริ่มบ่นอีกแล้วครับ

“เอ้า เบอร์เรา 0x-xxx-xxxx แล้วจะนัดกันที่ไหนล่ะ”ผมถาม

“ก็บ้านนายนั่นแหละจะได้ไม่ผิดนัดเราอีก บ้านนายอยู่แถวไหนล่ะ”บูมถามกลับมา

หลังจากนั้นผมก็อธิบายทางมาบ้านผมให้บูมรู้ ซึ่งมันก็เป็นทางผ่านระหว่างทางกลับบ้านของเค้าพอดี ผมเลยไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก

แค่นัดแนะกันว่าจะมารับตอนสิบโมงเช้าไปกินข้าวกลางวันกันแค่นั้นเอง แต่บูมก็ไม่วายทำให้ผมต้องสะอึกกับคำขอของเค้าอีกเช่นเคย.....

“อย่าลืมสืบข้อมูลของแพทมาให้เราด้วยล่ะ เราจะได้มีข้อมูลเพิ่ม โอเคตามนี้ละกันนะครับ ไว้เจอกันบายครับ”บูมพูดจบก็วางสายลง

หลังจากที่ผมวางหูโทรศัพท์ลงแล้ว ผมกลับยิ่งสับสนและสงสัยเพิ่มขึ้นอีกว่าทำไมบูมไม่บอกผม ว่าเค้ากับแพท สนิทกันแล้ว

ทำไมเค้ายังต้องพึ่งข้อมูลจากผมอยู่ ทำไมเค้าไม่ถามแพทเอง คิดวนไปวนมาหลายรอบแล้วผมก็เผลอหลับไป

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตกใจตื่นตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงเช้าเลย ทั้ง ๆ ที่ปกติกว่าผมจะลุกจากเตียงก็ปาเข้าไป เที่ยงกว่าแล้ว

ก็วันนี้ผมมีนัดสำคัญนิจะตื่นสายได้ไงล่ะจริงไหมครับ ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำ แปรงฟัน และเลือกชุดที่จะใส่ไปทานข้าวกับบูม

เลือกอยู่พักใหญ่กว่าจะเลือกได้ และไม่ลืมที่จะฉีดน้ำหอมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ

หลังจากนั้นผมก็เดินลงมาข้างล่างประมาณ เก้าโมงครึ่ง เห็นแม่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่พอดี....

“แม่ครับวันนี้แม่กับพ่อ ไม่ต้องรอทานข้าวนะครับแม่ ผมจะออกไปทานข้างนอกกับเพื่อน ค่ำ ๆ ผมถึงจะกลับครับ”ผมพูดพลางนั่งลงบนโซฟาข้าง ๆ แม่ผม

“นั่นแน่ มีเดทอีกแล้ว ใครล่ะลูกไม่พามาให้แม่กับพ่อดูตัวสักทีล่ะ”แม่ถามยิ้ม ๆ

“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ เพื่อนจริง ๆ ครับ นี่ใกล้เวลานัดแล้วผมไปยืนรอข้างนอกบ้านดีกว่า”ผมยิ้ม และ ลุกเดินออกไปยืนคอยที่สวนหน้าบ้าน

สักพักไม่นานผมก็เห็นรถสปอร์ตสีแดง มาจอดที่หน้าบ้าน และบีบแตรเรียก ผมจึงเดินออกไปดูก็เห็นว่าเป็นบูม

ซึ่งวันนี้บูมใส่เสื้อเชิ้ตสีดำตัดกับผิวสีขาวน่ารักมาก ผมยิ้ม ๆ แล้วเดินออกไปเปิดประตูขึ้นรถ

“ทำไมวันนี้แต่งตัวแบบนี้อ่ะ”บูมถามผมยิ้ม ๆ

“ทำไมหรอ น่าเกลียดหรอ ไม่เข้ากับเราหรือไง”ผมลุกลี้ลุกลนขยับไปมาพลางส่องกระจกส่องหลังรถยนต์สำรวจดูตัวเอง

“55555555 ป่าวหรอกล้อเล่น แค่ไม่เคยเห็นโยแต่งตัวแบบนี้ไง ถ้าเห็นข้างนอกคงจำไม่ได้”บูมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

จริง ๆ แล้วผมก็แต่งตัวไม่ได้น่าเกลียดอะไรหรอกครับ ก็แค่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำเงิน กับกางเกนยีนส์

แค่นี้เองอ่ะครับแต่คงเป็นเพราะ ปกติเวลาผมกับบูมเจอกัน ก็มีแต่ใส่ชุดเครื่องแบบมหาวิทยาลัยแค่นั้นเอง เลยรู้สึกแปลกตา

“มาขำแต่เรา แล้วบูมล่ะ 5555555555555”ผมแกล้งขำกลับไป

“ทำไม เราทำไมหรอ”เอาละครับได้ผล บูมเริ่มสำรวจตัวเองบ้างแล้ว

“เฮ้ย ๆ ๆ ขับรถดี ๆ ดิ อย่ามัวแต่ส่องดูตัวเอง เราล้อเล่น”ผมขำกับพฤติกรรมของชายหนุ่มตรงหน้า

“อะไรใครส่องอะไร เรามั่นใจอยู่แล้ว”บูมพูดกลบเกลื่อน แล้วเราสองคนก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน

“ตกลงไปกินที่ไหนดีล่ะ”ผมถาม

“ขับไปเรื่อย ๆ ดีป่ะ เจอที่ไหนน่าสนใจแล้วค่อยแวะ”บูมเสนอความคิด

“ก็ได้ แต่อย่างให้ถึง สุไหงโกลกนะ เดี๋ยวเราหิวข้าวตายซะก่อน”ผมแซว

“ไม่ถึงหรอก เดี๋ยวถึงแค่ชุมพรก็เลี้ยวกลับแล้ว”ดูดิครับยังจะมาแหย่อีก

“แล้วสรุปพวกเราจะไปกันแถวไหนดีล่ะ”ผมถามอย่างเป็นจริงเป็นจัง

“เดี๋ยวก็รู้”บูมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

หลังจากผมนั่งรถต่อไปได้สักพักนึง ผมก็มองสำรวจหาซีดีเพลงเพื่อหยิบขึ้นมาฟังฆ่าเวลา

“นายเลือกเอาดิ เรามีเป็นสิบ ๆ แผ่นเลยอยู่ในเก๊ะน่ะ”บูมถามเมื่อหันมามองเห็นผมกำลังดูซีดีเพลง

“ขอบใจ”ผมตอบ

หลังจากที่ผมเปิดเพลงไปได้สักพักนึง (ก็เพลงที่มีเนื้อหาประมาณ รัก ๆ อะไรแบบนี้แหละจำไม่ได้) บูมก็เริ่มถามคำถามผม

 แต่แปลกตรงที่ทำไมเค้าถามแต่เรื่องราวต่างๆ ของผม ไม่ยักกะมีเรื่องของแพทบ้างเลย

“เฮ้ย โย ปกติวันอาทิตย์นายทำอะไรวะ”บูมถาม

“วันอาทิตย์ ถ้าเราไม่มีนัดกะเพื่อนเราก็จะอยู่ที่บ้านว่ะ เราไม่ค่อยชอบเดินห้าง เมื่อยขา”ผมตอบพลางเหลือบไปมองหน้าชายหนุ่ม

“เออ เหมือนกันเลยว่ะ แต่เราชอบดีดกีตาร์อยู่บ้านมากกว่า แต่วันไหนเซ็ง ๆ อยากออกไปข้างนอกก็นัดกับเพื่อนแต่ส่วนใหญ่เพื่อนเรามันมีแฟนหมดแล้วนี่สิ

แม่งเวลานัดเลยไม่ค่อยว่าง”บูมพูดไปพลางหันหน้ามามองผม

“บูมเล่นกีตาร์เป็นด้วยหรอ เราก็อยากเล่นเป็นนะ แต่เรียนยังไงก็หัดไม่เป็นสักที”

“ไว้เราสอนให้ แต่ต้องมีข้อแม้นะ ถ้าเรานัดโยออกไปเที่ยวข้างนอกห้ามปฏิเสธนะ เป็นการตอบแทนที่เราช่วยสอนกีตาร์ไง”บูมพูดขณะจ้องหน้าผม

“โห อะไรวะ ถ้านายนัดทุกวันเราไม่แย่หรอ”ผมแกล้งพูดไปอย่างงั้นเอง แต่ใจจริงก็อยากให้เค้านัดทุกวันอยู่แล้ว

“ไม่ขนาดนั้นหรอก นะ นะ นะ นะ ได้ป่าวล่ะ”เริ่มอ้อนอีกแล้วครับ มาไม้นี้ทุกที เวลาที่ผมเห็น หนุ่มตี๋ คนนี้อ้อนทีไร

ผมอยากจะเข้าไปฟัด อยากไปหอมแก้มเค้าทุกครั้งเลย คนอะไรน่ารักมาก ๆ

“เออ ก็ได้ ทำเป็นเด็กไปได้”ผมหัวเราะ

“เย้ สัญญานะ”บูมแสดงอาการดีใจเหมือนเด็ก ๆ

“ครับสัญญาครับ”ผมตอบรับ

หลังจากที่รถมาจอดที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งบนถนน ศรีนครินทร์

ผมกับบูมก็ลงจากรถและเดินเข้าไปในร้านเพื่อสั่งอาหาร สวนอาหารแห่งนี้ ค่อนข้างร่มรื่น มีซุ้มต่าง ๆ แยกเป็นสัดส่วน ผมกับบูมก็เดินไปเลือกซุ้มเพื่อนั่งรับประทานอาหาร

จากนั้นบริกรก็มารับออเดอร์รายการอาหาร เราสั่งอาหารกัน 3-4 อย่าง แล้วบริกรก็เดินออกไป

“บูมเคยมาทานที่นี่หรอ บรรยากาศดีเนอะ”ผมถามพลางมองไปรอบ ๆ

“อืมม มากับที่บ้านครั้งนึง เห็นว่าดีเลยพาโยมาไง”บูมบอกพลางมองไปรอบ ๆ เช่นกัน

“แล้วนี่ เมื่อไหร่ บูมจะสอนกีตาร์เราล่ะ” ผมถามพลางจ้องหน้าชายหนุ่ม

“แล้วแต่โยละกันเราว่างตลอดแหละ”บูมบอก

“ได้แล้วเราจะบอกอีกทีนะ เออ ไหนว่าจะถามข้อมูลของแพทไง จะเอาเรื่องอะไรล่ะ”นั่นดูสิครับ ปากผม ดันมาพูดทำไมกับเรื่องแพท บรรยากาศแบบนี้ด้วยไม่น่าปากบอนเลย

“เออ เกือบลืม ตกลงนายได้ข้อมูลอะไรบ้างล่ะ”บูมรีบถามเมื่อนึกขึ้นได้

“ก็เยอะพอสมควร เช่น แพทชอบดอกกุหลาบสีขาว เคยมีคนให้แล้วแพทประทับมากเลยนะ”ผมบอกกลับไป

“จริงหรอ แล้วโยชอบดอกอะไร”บูมถามผม

“เราหรอ เราชอบกุหลาบสีแดงมากกว่า”

“อ่ะงั้นนี่เราให้”บูมพูดพลางหยิบดอกกุหลาบที่ปักบนแจกันตรงโต๊ะอาหารมาให้ผม

“เฮ้ยยยยยย จะบ้าหรอนี่มันของร้านเค้านะ”ผมรีบห้าม

“555555 ล้อเล่น”บูมหัวเราะ

หลังจากนั้น บริกรก็มาเสิร์ฟอาหาร เราสองคนทานไปได้สักพักก็อิ่ม เลยนั่งต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อชมบรรยากาศ

“บูมน่าจะชวนแพทมาที่นี่นะ”เอาอีกละครับท่าน ทำไมปากผมชอบแกว่งไปหาเสี้ยนจริง ๆ

“อืมมมม”บูมตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

“กลับกันหรือยัง”ผมถามเพราะนี่ก็จะเกือบบ่าย สองแล้วครับ จริง ๆ ก็อยากอยู่ต่อ แต่กลัวบูมเค้าเบื่อน่

“อืมมม ไปสิ มื้อนี้เราเลี้ยงนะ”บูมพูด

“เฮ้ย ไหนว่าจะให้เราเลี้ยงไง”ผมเริ่มโวยวาย

“ก็โยค่อยเลี้ยงเราอาทิตย์หน้าอีกทีไง อาทิตย์นี้เราเลี้ยงไปก่อน โอเคนะ สัญญานะ”บูมรีบชิงตัดบท

“...................”ผมได้แต่พยักหน้าและยิ้มอย่างอารมณ์ดี

หลังจากนั้นเราก็เรียกบริกรมาเช็คบิล และเดินขึ้นไปบนรถ

“ยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ ไปต่อได้ป่าว”บูมถามขณะกำลังสตาร์ทรถ

“ไปไหนต่อละ”ผมถามกลับ พลางแอบดีใจอยู่ในที

“เราอยากขับรถไปเรื่อย ๆ อ่ะ โยจะเบื่อไหม”บูมบอก

“ไม่เบื่อหรอก (ถ้ามีบูมอยู่ด้วยใครจะไปเบื่อ)”ผมพูดและแอบคิด

หลังจากนั้นเราก็ขับรถกันไปตามถนนเรื่อย ๆ และคุยกันตลอดทาง ทำให้ผมกับบูมรู้สึกสนิทสนมกันมากขึ้น

มันทำให้ผมรู้ว่าบูมเป็นลูกชายคนที่สามจากพี่น้องสี่คน แถมบูมยังเป็นคนขี้เหงาอีก

เวลาเหงา ๆ บูมมักจะหยิบกีตาร์ขึ้นมาเกาเล่นเป็นประจำ เพราะที่บ้านทำแต่งานเลยไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกันเท่าไหร่

พวกเราต่างถามนั่นถามนี่กันตลอดจนเวลาใกล้ค่ำ บูมจึงขับรถพาผมกลับมาที่บ้าน

“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ”ผมเอ่ยลาขณะรถมาจอดที่หน้าบ้านผม

“อืมมม เจอกัน”บูมพูด

หลังจากนั้นผมก็เดินเข้าไปในบ้าน ทักทายพ่อกับแม่ และเดินขึ้นห้องไป

จบตอนที่ 4 แล้วครับ ตอนนี้ไม่ค่อยเศร้าเท่าไหร่ เพราะอยากเบรกอารมณ์เศร้ากันบ้าง ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามครับ

************************************************
[{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]                 เจอสาวกปาล์มอีคนแล้น
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 08-12-2006 15:54:20
มาต่อที 2 ตอนเลย...... :impress:กะลังสนุก

ว่าแต่จะเศร้าแล้วหรอ............. :try2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 08-12-2006 16:41:44
จะเศร้าแล้วหรอ  :impress:
เพิ่งจะได้ว่างอ่านเนี่ย อย่าเศร้ามากนะ เป็นเด็กอ่อนไหว  :monkeysad:

ว่าแต่ เป็นเด็กปาล์มเหมือนกันหรอเนี่ย  ไม่ได้เข้าไปนานแล้ว  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-12-2006 18:49:23
ใจตรงกัน แต่กรรมมาบัง
 :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 08-12-2006 19:21:57
อ้างถึง
“ไม่เบื่อหรอก (ถ้ามีบูมอยู่ด้วยใครจะไปเบื่อ)”ผมพูดและแอบคิด


ทำไมไม่พูดออกไปล่ะ :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sak ที่ 08-12-2006 21:10:13
 :impress2: :impress2:


            สงสัยว่า บูมเนี่ย    น่าจะเริ่มมีใจซะแล้วสิเนี่ย  :kikkik: :kikkik: :seng2ped:

       :sad4: :sad4: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 08-12-2006 21:51:31

ยังไม่เคยแอบรักใครซักที

มีแต่รักแล้วลุยโลด  สุดท้ายก้อบัวแล้งน้ำ

สงสารโยจัง  ได้ข่าวมาว่าแอบรักนี้มันเจ็บลึกๆ นะ   :monkeycry2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-12-2006 11:22:51
"ตอนที่ 5"

เช้านี้ผมตื่นไปมหาวิทยาลัยด้วยความเบิกบานใจเป็นที่สุด นั่งรถไปก็อมยิ้มไป ทำไมโลกใบนี้ถึงช่างสดใสเช่นนี้ผมคิดในใจ

ผมเดินเข้าไปทักทายเพื่อน ๆ ในกลุ่มซึ่งมากันพร้อมหน้าพร้อมตาที่ซุ้มที่นั่งด้านหน้าตึกเรียน

“เฮ้ย เป็นไงบ้าง โยนโบว์เมื่อวันเสาร์หนุกป่าววะ”ผมเอ่ยถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี

“ก็งั้น ๆ แหละ แล้วโยเป็นไงบ้าง เห็นโบบอกว่าท่าทางแกดูเศร้า ๆ นิเมื่อวันเสาร์”ออฟถามขึ้น

“เออ ใช่”เพื่อน ๆ ผมพูดขึ้นมาเกือบจะพร้อม ๆ กัน

“ป่าว ไม่มีอะไร มันแค่เรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยน่ะ อย่าคิดมาก”ผมพูดพลางหันหน้าไปจ้องโบเป็นเชิงตำหนิ

“อ้าวเป็นงั้นไป เพื่อนก็อุตส่าห์ห่วง”โบพูดโดยที่ไม่กล้ามองผม

“เออ ยังไงก็ขอบใจเว้ย”ผมยิ้ม

“แล้ววันนี้มีโปรแกรมไปไหนหรือเปล่าวะ”ผมถามขึ้น

“ไม่ว่ะ วันนี้เราต้องรีบกลับบ้าน พอดีที่บ้านเราต้องไปธุระ ไม่มีใครอยู่ดูแลบ้าน”ออฟเอ่ยขึ้นมา

“งั้นก็ไปถล่มบ้านแกเลยดีกว่า ไปป่ะ”โบถามความเห็นเพื่อน ๆ

“เออ ไปดิ ไม่มีอะไรทำเหมือนกัน”กายเพื่อนอีกคนนึงสนับสนุน

“ตกลงตามนี้แล้วกันนะ”อ้าวเวร ไอ้โบด่วนสรุปโดยที่ไม่ถามความเห็นผมเลยสักนิด แต่พอมันมองเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของผมมันเลยถาม

“หรือว่าโยไปไม่ได้ มีเดทอีกหรือไง”โบถามอย่างกับรู้ใจผมอย่างนั้นแหละ

“เปล่าไม่มี ไปก็ไปสิ”ผมต้องจำใจรับปาก แม้ใจจริง ๆ แล้วอยากจะแอบไปเจอกับบูมมากกว่า

หลังจากที่พวกผมตกลงกันเสร็จแล้วก็ทยอยกันเดินเข้าไปนั่งในห้องเรียน เพราะใกล้เวลาเข้าห้องเรียนแล้ว แต่ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน

ผมเดินไปที่ห้องน้ำซึ่งตั้งอยู่ระหว่างตึกพอดี จังหวะที่ผมกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ ผมเห็นบูมเดินมากับเพื่อน ๆ ของเค้าพอดี ผมเลยตะโกนทักเค้า.....

“เฮ้ย บูมมมมมมมม”ตะโกนเสียงดังนิดหน่อย

“...............................”เงียบ

“บูมมมมมม”เรียกอีกทีเผื่อไม่ได้ยิน แต่จริง ๆ แล้วผมว่าเค้าน่าจะได้ยินนะ

“..............................”เงียบอีกครับ แล้วกลุ่มของบูม ก็เดินผ่านผมไปโดยที่บูมไม่ได้สนใจผมเลยแม้แต่นิดเดียว

“รู้จักเค้าหรอ ทำไมเค้าเรียกแล้วไม่ตอบล่ะ”ผมแอบได้ยินเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มบูม พูดกับบูมหลังจากที่กลุ้มเค้าเดินผ่านผมไป

แต่แล้วคำตอบของชายคนที่ผมหลงรักตอบกลับมา มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าฟ้าได้ผ่าลงมาตรงกลางศีรษะของผมอย่างแรงพอดี

“ไม่รู้จักนิ อย่าไปสนใจเลย ทักผิดคนมั้ง”บูมพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยที่ไม่ได้มองมาที่ผมแม้แต่เล็กน้อย

ผมรู้สึกงงกับคำพูดของชายหนุ่มคนที่พาผมไปทานข้าวเมื่อวานนี้ แต่วันนี้กลับบอกว่าผมทักคนผิดและเค้าก็ไม่รู้จักผม ผมสงสัยว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น นี่มันอะไรกัน

ทำไมเมื่อวานเราสองคนยังดีกันอยู่เลยแต่ทำไมวันนี้กลับเป็นแบบนี้ ผมได้แต่คิด ๆ ๆ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

หลังจากที่ผมเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินกลับไปที่ห้องเรียน และนั่งลงตรงมุมหนึ่งซึ่งเพื่อน ๆ เหลือที่ว่างไว้ให้

ตลอดทั้งชั่วโมงเรียน ผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย เพราะมัวแต่คิดว่านี่มันเกิดอะไรกันขึ้น สลับกับการมองไปยังบูม จนไอ้โบเริ่มสังเกตุเห็น

“เฮ้ยเป็นอะไรวะ เห็นจ้องบูมอยู่ได้”ไอ้โบถามผม (จริง ๆ แล้วบูมค่อนข้างที่จะ hot พอสมควรเพราะหน้าตาดี แถมเคยประกวดเดือนคณะด้วย

แต่ไม่ได้รับคัดเลือกเพราะไม่สนิทกับรุ่นพี่เลยชวดไป ทำให้คนรู้จักเค้าเกือบทั้งคณะ ผิดกับตัวผมที่ดูธรรมดา ๆ เลยไม่มีคนรู้จักมากนัก)

“เปล่า ๆ ๆ แค่มองไปเฉย ๆ ไม่ได้มองบูม”ผมรีบปฏิเสธ แต่ดูเหมือนโบจะไม่ค่อยเชื่อที่ผมบอกเท่าไหร่ ก็มันเล่นจ้องผมตลอดเลยว่าผมกำลังทำอะไรจนผมเริ่มที่จะรำคาญ

“จะจ้องอีกนานไหม”ผมเริ่มหงุดหงิด

“ไม่ได้จ้อง ก็บอกมาก่อนดิว่ามองบูมทำไม”อ้าวไอ้นี่เสื..ก อีกละ

“ก็บอกแล้วไงว่าเปล่า”ผมเริ่มเสียงเข้มขึ้นมา

“เออ ๆ ๆ ไม่มองก็ไม่มอง”มันเริ่มรู้ตัวแล้วครับ จากนั้นมันก็หันไปสนใจในสิ่งที่อาจารย์สอน

ส่วนผมก็นั่งคิดแต่เรื่องนี้อยู่ตลอดทั้งคาบเหมือนเดิม จนกระทั้งอาจารย์พักเบรค

ผมก็เห็นบูมกำลังเดินออกไปข้างนอกคนเดียว ผมรอสักพักนึงแล้วรีบเดินตามออกไป เพราะไม่ต้องการให้ไอ้โบจับได้

ผมเดินไปจนทันบูมแล้ว เลยเอ่ยถามขึ้นว่า

“ทำไมนายทำแบบนี้”ผมถามแบบโมโหนิดหน่อย

“แบบนี้แบบไหน”บูมตอบด้วยน้ำเสียงปกติ

“ก็ทำไมเราทักแล้วไม่ตอบเรา ที่หน้าห้องน้ำเมื่อตอนเช้าไง”ผมพูดลำดับเหตุการณ์

“เราไม่เห็น”บูมพูดแล้วเดินหนีไปเลย ผมพยายามจะเดินตามไปถามเพื่อให้ได้คำตอบ

แต่เพื่อนผมก็ดันมาเรียกเอาไว้ซะอีกทำให้ผมต้องเดินเข้าไปในห้องอย่างเซ็ง ๆ

หลังจากเลิกเรียนเสร็จแล้ว ผมก็พยายามหาโอกาสแอบหนีออกมาเพื่อที่จะได้พูดคุยกับบูมสองต่อสอง

แต่โอกาสไม่ค่อยจะเป็นใจเท่าไหร่นัก เพราะอะไรนะหรือครับ ก็เพราะพวกเพื่อน ๆ ตัวดีของผมไง คอยจะลากผมไปไหนมาไหนอยู่นั่นแหละอย่างกับจะรู้ว่าผมไม่ค่อยอยากจะไปด้วย

ทำให้ผมกับบูมไม่ได้มีโอกาสคุยกันสองต่อสองเลยจนกระทั่งเลิกเรียนคาบบ่าย ผมเลยต้องไปบ้านออฟต่อ ด้วยความเซ็ง ๆ

พอไปถึงบ้านออฟผมก็แทบจะไม่มีเวลาคิดเรื่องนี้เลยเพราะมัวแต่ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ ทั้งร้องคาราโอเกะ ทำกับข้าวกินกัน และอะไรต่อมิอารายมากมายจนกระทั่งได้เวลากลับบ้าน

ผมกลับมาถึงบ้านตอนประมาณ 3 ทุ่มกว่า ๆ พอเข้ามาในตัวบ้าน แม่ก็พูดขึ้นมาว่า

“มีคนโทรมาหาลูกน่ะ ชื่ออะไรก็ไม่ยอมบอก แม่ถามแล้วเค้าก็บอกจะโทรมาอีกที โทรมาตั้งสามรอบบอกว่า โทรศัพท์มือถือลูกไม่ได้เปิด”แม่ผมบอกพลางหันไปกดรีโมตทีวีเพื่อเปลี่ยนช่อง

“อ้าวหรอครับ พอดีแบตผมหมดน่ะครับแม่ แล้วเค้าว่าจะโทรมาอีกหรือเปล่าครับ”ผมถามต่อพลางสงสัยว่าใครโทรมา

“ไม่รู้สิจ๊ะ เค้าไม่ยอมบอกอะไรเลย”แม่พูดขณะดูละคร

“ถ้างั้นผมขึ้นไปข้างบนแล้วนะครับแม่ เดี๋ยวเค้าคงจะโทรเข้ามือถือผมเอง”ผมพูดพลางถอดรองเท้าแล้วเดินขึ้นไปข้างบน

หลังจากที่ผมเสียบที่ชาร์ตถ่านมือถือ แล้วเปิดเครื่องสักพักก็มีโทรศัพท์ดังขึ้น

“โย นี่โบนะ ถามจริง ๆ เหอะทำไมเมื่อเช้านายเอาแต่จ้อง บูมวะ หรือว่า นายชอบบูม”โอ้โห ไอ้นี่ ถามตรงไม่มีอ้อมค้อมเลยครับ

“นี่โทรมาตั้งหลายครั้งด้วยเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ เมื่อกี้อยู่บ้านออฟเราก็บอกแล้วไงว่า ไม่มีอะไร บ้าหรือป่าววะ

ถามซ้ำถามซากได้ทั้งวัน หรือว่า แกชอบบูม”ผมถามด้วยความสงสัยเพราะเห็นมันสนใจเหลือเกิน

“เปล่า ๆ ๆ ไม่ได้ชอบ แค่อยากรู้แค่นั้นเอง”โบรีบแก้ตัว ซึ่งจริง ๆ ผมก็รู้ว่ามันไม่ได้ชอบหรอก

เพราะถ้ามันชอบจริงๆ แฟนมันที่อยู่ที่หอเดียวกันกับมันคงจะตามมาเช็คบิลแน่ ๆ แฟนมันขี้หึงจะตายไป

ไม่ว่ามันจะพูดกับผู้ชาย เกย์หรือว่า ผู้หญิง ขนาดแรก ๆ แฟนมันเกือบจะวางมวยกันกับผมแล้ว ดีนะที่ผมกับมันเป็นแค่เพื่อนกันจริง ๆ เลยไม่มีอะไร ผ่านได้สบายมาก

“เออ ๆ ๆ แค่นี้แหละจะไปอาบน้ำแล้ว เจอกันนะโว๊ยยยย”ผมตัดบท

“เฮ้ย ๆ ๆเดี๋ยว”มันรีบพูดแต่ผมไม่สนใจหรอก กดปิดมือถือซะเลยขี้เกียจอธิบาย

คืนนั้นหลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จ กำลังจะเข้านอนก็อดคิดไม่ได้เรื่องที่บูมทำกับผมเมื่อเช้าและท่าทีที่เปลี่ยนไปของชายหนุ่มระหว่างพักเบรค

นั่นมันเป็นสัญญาณของอะไรกันแน่ ผมคิดอยู่นานก็คิดไม่ออก เลยเผลอหลับไป

จบตอนที่ 5 ขอบคุณครับที่ติดตาม

****************************************

][GobGab][                              รีบมาต่อให้ครับ เพราะจะไม่อยู่เมืองไทย หนีเที่ยวสักสองวันนะครับ

Pompparazzi                          ขอบคุณครับป้อมสำหรับการติดตาม เพิ่งจะรู้ว่าป้อมก็เด็กปาล์มเหมือนกัน

b|ueB[o ]YhUb                       เหมือนเราสองคนงัย หนูบลู

[{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]                           นั้นสิแน๋ว คนปากแข็งเป็นแบบนี้ทุกคนรึป่าวนะ

sak                                            ต้องติดตามตอนต่อไปนะครับ

oaw_eang                              เจ้ไม่เคยแอบรักใครจริงๆ เหรอ แล้วเจ้รู้ได้ยังงัยละครับ ว่ามันเจ็บลึกๆ เอิ๊กๆๆ


หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-12-2006 11:52:24
"ตอนที่ 6"

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงแม่เคาะประตูเรียกผม ในตอนเช้า
 
“ลูกตื่นหรือยังจ๊ะ......โยตื่นเร็วลูก แม่มีธุระจะคุยด้วย เร็ว ๆ หน่อยจ๊ะ....โยยยยยย”แม่เรียกผมเสียงดัง

“อะไรรรร ครับแม่ ยังเช้าอยู่เลยผมมีเรียนบ่ายครับวันนี้”ผมงัวเงียไม่ค่อยอยากจะตื่นเพราะวันนี้ผมมีเรียนคาบบ่ายวิชาเดียวเองเลยไม่ต้องไปมหาวิทยาลัยแต่เช้า

“โย แม่จะให้ลูกขึ้นไปเยี่ยมลุงกะป้าที่อยู่เชียงใหม่แทนแม่หน่อย

พอดีลุงเค้าไม่ค่อยสบายนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แม่จองตั๋วเครื่องบินให้แล้วนะจ๊ะ”แม่บอกเหตุผลที่ทำให้ต้องปลุกผมในเวลาเช้าแบบนี้

แล้วผมก็เดินมาเปิดประตูห้องให้แม่พลางถามด้วยความงัวเงียเป็นที่สุดว่า

“วันไหนครับแม่”ผมยังงัวเงียอยู่เลยไม่ได้ยินว่าแม่จองตั๋วเครื่องบินให้แล้ว

“วันนี้เลยจ๊ะพอดีป้าอ้อเพิ่งโทรมาบอก แม่กับพ่อก็เป็นห่วงลุงเค้า แต่พอดีพ่อติดธุระต้องไปงานแต่งงานลูกชายเพื่อนสนิทของพ่อกับแม่เลยไปไม่ได้

ยังไงลูกก็ไปเยี่ยมแทนแม่หน่อยนะจ๊ะ พรุ่งนี้หรืออีกสองวันค่อยกลับก็ได้”แม่ผมมัดมือชกเลยครับ

“ครับ ๆ ๆ แม่ แล้วเที่ยวบินออกกี่โมงครับ”ผมตอบรับคำ

“10.25 จ๊ะ เร็ว ๆ เข้า รีบล้างหน้าแต่งตัวได้แล้วเดี๋ยวตกเครื่อง”แม่เดินเข้ามาพร้อม ๆ กับช่วยผมจัดของเอานั่นเอานี่ใส่ในกระเป๋าเดินทาง

“คร๊าบบบบบบบ”ผมเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยท่าทีอิดออดนิดหน่อย

“ลูกกะจะไปกี่วันจ๊ะ แม่ไม่ได้จองตั๋วขากลับไว้ให้นะ”แม่ตะโกนถามพลางจัดการกับที่นอนผม

“พรุ่งนี้ก็คงกลับแล้วครับแม่ขี้เกียจไปอยู่นาน น่าเบื่อออก แล้วนี่ก็เพิ่งเปิดเรียนยังไม่อยากขาดเรียนอ่ะครับแม่”

ผมตะโกนกลับมาจากห้องน้ำพลางคิดในใจที่จริงเราไม่อยากจากบูมไปต่างหากอิอิ

“ตามใจ งั้นแม่ไปรอข้างล่างนะจ๊ะ ”แม่พูดแล้วเดินออกไป

“เดี๋ยวแม่จองไฟท์กลับให้ผมด้วยนะครับ เอาเย็น ๆ สักหกโมงเย็นพรุ่งนี้นะครับแม่”ผมตะโกนตามหลัง

“จ๊ะ”แม่ตอบสั้น ๆ แล้วเดินลงไป

หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วผมก็เดินถือกระเป๋าลงมาข้างล่าง จริง ๆ แล้วผมไปแค่วันเดียวไม่ต้องเอากระเป๋าเดินทางไปหรอกครับ

มันจะดูเว่อร์เกินไป แต่ของฝากนี่สิครับ เต็มกระเป๋าเลย ผมละกลุ้มไม่รู้จะพูดยังไงดี หลังจากลาแม่แล้วผมก็นั่งรถไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องไป เชียงใหม่

หลังจากที่เครื่องผมลงจอดก็เกือบเที่ยงพอดี ผมเดินลงจากเครื่องเข้ามายังสนามบิน ผ่านด่านต่าง ๆ แล้วมองหาป้าผม กับ พี่น้อยคนขับรถของป้าที่มารับผมที่สนามบิน

ทันทีที่ป้าเห็นผมก็รีบเดินเข้ามากอดแล้วลูบหัวผมอย่างเอ็นดู ผมทักทายสวัสดีป้าแถมด้วยของฝากที่เต็มกระเป๋า ป้ายิ้มอย่างใจดีแล้วให้พี่น้อยยกกระเป๋าขึ้นรถไป

ผมนั่งรถกับป้าผมไปที่บ้านของป้าซึ่งอยู่นอกตัวเมืองเชียงใหม่ไปนิดหน่อย พอถึงบ้านของป้าผม ท่านก็สั่งคนงานเอาของ ๆ ผมไปเก็บ

แล้วสั่งงานนิดหน่อยหลังจากนั้นก็พาผมไปเยี่ยมลุงที่โรงพยาบาลในตัวเมืองเชียงใหม่

พอผมถึงโรงพยาบาลก็แปลกใจที่อยู่ ๆ ก็มีผู้ชายหน้าตาดี ผิวขาว คิ้วเข้ม แบบไทยเหนือ อายุน่าจะมากกว่านิดหน่อยมารอรับผมกับป้าที่ด้านหน้าโรงพยาบาล

“สวัสดีครับคุณน้าอ้อ(ชื่อป้าผมครับ) คุณอาเป็นอย่างไรบ้างครับ”ชายหนุ่มผิวขาวเอ่ยถามหลังจากที่ทักทายกับป้าผมเสร็จ

“ไม่เป็นไรมากหรอกจ๊ะ วิทย์ โรคคนแก่น่ะ แล้ววิทย์ไม่ไปเรียนหรอวันนี้”ป้าผมพูดกับชายหนุ่มเหนือหน้าตาดีคนนั้น

“ไม่ได้ไปครับ วันนี้ผมไม่มีเรียนครับ พ่อเลยให้ผมมาเยี่ยมคุณอาแทน เพราะพ่อผมติดงานที่รีสอร์ตมาไม่ได้ครับ”ชายหนุ่มตอบ

พอป้าผมเห็นผมยืน งง ๆ อยู่ก็เลยแนะนำให้ผมรู้จักกับชายหนุ่มคนนั้น

“นี่โยหลานน้าเองมาจากกรุงเทพฯมาเยี่ยมลุงเค้าน่ะ พอดีแม่กับพ่อของโยติดธุระมาไม่ได้”ป้าผมเริ่มแนะนำผมให้ชายหนุ่มคนนั้นรู้จัก

“นี่พี่วิทย์ ลูกชายเพื่อนลุงที่เป็นหุ้นส่วนทำรีสอร์ตด้วยกันในเชียงราย ที่ป้าเคยพาเรากับแม่ไปเมื่อปีก่อนไง”ป้าเริ่มแนะนำพี่วิทย์มั่ง

หลังจากที่ป้าแนะนำตัวผมกับพี่วิทย์เสร็จผมก็สวัสดีทักทายตามมารยาท แต่ที่ผิดสังเกตุคือ ทำไมพี่วิทย์เอาแต่จ้องหน้าผมอยู่นั่นแหละ จ้องนานมาก จนผมเขินทำอะไรไม่ถูก

หลังจากนั้นผมก็ไปเยี่ยมลุงคุยกันได้พักใหญ่ก็กำลังจะกลับ แต่ป้าเค้าอยากจะอยู่เฝ้าลุงมากกว่าเพราะเดี๋ยวหมอจะเข้ามาดูอาการลุงอีกที

ป้าเลยฝากฝังผมไว้กับพี่วิทย์ให้ช่วยพาผมกลับไปที่บ้านของป้าผมแทน

“ยังไงฝากวิทย์ด้วยนะ พอดีน้องเค้าจะกลับกรุงเทพฯพรุ่งนี้น่ะ ยังไงก็ฝากด้วยนะจ๊ะ

กลับบ้านกับพี่เค้านะลูกป้าต้องขอโทษด้วยที่ไปส่งไม่ได้แล้วเจอกันเย็น ๆ นะจ๊ะ”ป้าฝากผมกับพี่วิทย์ แล้วหันมาบอกผม

“ได้เลยครับคุณอา ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจอยู่แล้ว”พี่วิทย์รับปากเป็นมั่นเหมาะ

แต่ผมนี่สิไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่เลย เพราะผมไม่รู้จักพี่วิทย์เลยแถมพี่วิทย์ยังชอบมาจ้องผมอีก

“ครับคุณป้า ไม่เป็นไร ยังไงก็ขอให้คุณลุงหายไว ๆ นะครับ คุณแม่กับคุณพ่อก็ฝากความระลึกถึงมาด้วย”ผมพูดกับคุณลุงของผมที่นอนอยู่บนเตียง

“เอ่อออ ไว้ลุงหายจะไปเยี่ยมที่กรุงเทพนะ จะได้ไปปล่อยแก่ซะหน่อย เหอะ ๆ ๆ จะได้ไม่ต้องมาเป็นโรคคนก่งคนแก่แบบนี้”ลุงผมหัวเราะ

“นี่แน่ะ จะไปปล่อยแก่ที่ไหน จะเข้าโลงอยู่แล้ว ตาแก่นี่”ป้าตีแขนลุงเบา ๆ ผมได้แต่อมยิ้ม แล้วขอตัวออกไปกับพี่วิทย์

หลังจากนั้นผมกับพี่วิทย์ก็เดินไปยังที่จอดรถของโรงพยาบาล พี่วิทย์ก็ได้เอ่ยถามผม...

“ทำไมมาแค่วันเดียวเองล่ะครับโย พี่ยังไม่ได้พาโยเที่ยวเลย”อ้าวพี่ เพิ่งรู้จักกันแท้ ๆ

“พอดีเพิ่งเปิดเทอมอ่ะครับ เลยไม่อยากขาดเรียนนานๆ”ผมตอบ

“น้องโยเรียนที่ไหนครับ ปีอะไร”พี่วิทย์ถามพลางจ้องหน้าผมอีกละ

“ปี 2 ครับพี่ คณะ.......ที่มหาวิทยาลัย...... ตรงรังสิตน่ะ”ผมตอบพี่วิทย์พลางเดินให้เร็วขึ้น

“จริงดิครับ พี่ก็มีเพื่อนเรียนที่เดียวกันกับน้องด้วยนะ ชื่อพี่โน้ต รู้จักป่ะครับ”พี่วิทย์ถามยิ้ม ๆ แล้วเดินไปไขกุญแจเพื่อเปิดประตูขึ้นรถ

“โห ไม่รู้จักหรอกครับพี่ คนชื่อโน้ตมีเป็นสิบคน ที่คณะใครจะไปรู้จักครับว่าคนไหน”ผมพูดขณะกำลังก้าวขึ้นไปบนรถของพี่วิทย์

“เออ นั่นสิ แต่พี่ว่า โน้ตน่าจะรู้จักโยนะ รุ่นน้องน่ารักแบบนี้ ใคร ๆ ก็น่าจะรู้จัก”เอาแล้วสิครับ หางเริ่มโผล่แล้วพี่วิทย์

“ไม่หรอกพี่ ผมหน้าตาธรรมดาจะตาย ไม่มีใครรู้จักหรอกครับ”ผมตอบพลางคิดในใจ มาไม้ไหนวะ

“5555555 อย่าถ่อมตัวเลยครับ เออ เดี๋ยวอีกสองเดือนพี่จะไปที่กรุงเทพ น้องโยมาเจอพี่ได้ป่ะ

พอดีพี่ต้องไปทำธุระให้พ่อตั้งอาทิตย์นึง”พี่วิทย์ถามผม พลางจ้องหน้าผมอีก

“ก็ได้ครับพี่ แล้วไว้เจอกันครับ”ผมอึกอัก ๆ เพราะบอกตามตรงว่าตอนนี้ผมไม่ได้ชอบพี่วิทย์เลย ตอนนี้ในใจผมมีแต่บูมเท่านั้น

“งั้นขอเบอร์มือถือ น้องโยหน่อยได้หรือเปล่าครับจะได้ติดต่อกัน”พี่วิทย์เริ่มรุกหนักขึ้นแล้ว

“ครับ ๆ 0x-xxx-xxxx”ผมตอบ

หลังจากนั้นพี่วิทย์ก็ถามอะไรผมอีกมากมาย จนผมเริ่มรู้สึกเบื่อไม่อยากจะตอบ

แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดีพอดีนึกขึ้นได้ว่าต้องโทรไปบอกเพื่อนผมเรื่องผมไม่ไปมหาวิทยาลัย เลยได้โอกาส.....

“พี่เดี๋ยวแป๊ปนึงนะครับ พอดีผมลืมโทรบอกเพื่อนว่าผมไม่ได้ไปมหาวิทยาลัยวันนี้อ่ะครับ”ผมรีบชิงพูดก่อนที่พี่วิทย์จะเริ่มถามอะไรผมอีกมากมาย

“เฮ้ย ออฟหรอ (ไม่ต้องงงครับผมจำเบอร์ออฟได้คนเดียว ก็เบอร์มันจำง่ายที่สุดเลยอ่ะ) วันนี้เราไม่ไปเรียนนะ

ตอนนี้เราอยู่เชียงใหม่เพิ่งเยี่ยมลุงของเราเสร็จ จะกลับพรุ่งนี้ ยังไงจดเล็คเชอร์ให้ด้วยนะ แค่นี้นะ บาย”ผมวางสายจากออฟ พี่วิทย์ก็รีบถามมาทันทีเลยครับ

“แฟนโยหรอ ออฟน่ะ”พี่วิทย์ถามแล้วทำหน้าเศร้า

“แฟนที่ไหนกันพี่ เพื่อนผม ผมยังไม่มีแฟนเลยครับ”ผมตอบกลับไป พี่วิทย์นี่หน้าบานเลยครับ

“จริงหรอครับ ไม่หลอกพี่นะ พี่จะได้มีหวัง”พี่วิทย์พูดพลางทำหน้าดีใจ

“จะหลอกพี่ไปทำไมครับ แล้วพี่วิทย์หวังอะไร”ผมถามกลับพลางทำสีหน้าไม่ค่อยจะดี

“เปล่า ๆ ๆครับ “พี่วิทย์รีบปฏิเสธ

หลังจากนั้นไม่นาน รถก็ขับไปจอดที่หน้าบ้านของป้าผม ผมเลยหันไปขอบคุณพี่วิทย์ที่มาส่ง แล้วกำลังจะเดินลงไป
 
“คืนนี้ออกไปเที่ยวกับพี่ไหมครับ น้องโย พี่เลี้ยงเอง จะพาไปทัวร์ให้รอบเมืองเลย”พี่วิทย์เสนอ

“ผมก็อยากไปนะครับพี่ แต่ผมเหนื่อยมากเลยครับ พรุ่งนี้ต้องกลับกรุงเทพฯ อีก เอาไว้โอกาสหน้านะครับ”ผมตอบปฏิเสธอย่างนิ่มนวล

“ก็ได้ครับ แต่ถ้าคราวหน้าน้องโยมาเชียงใหม่อย่าลืมบอกพี่นะครับ สัญญานะ”พี่วิทย์หน้าเจือนไป แต่ก็ยังยิ้มอยู่

“แล้วพรุ่งนี้พี่จะมารับ ไปส่งที่สนามบินนะครับ เครื่องออกกี่โมงครับ”พี่วิทย์เสนอ

“ไม่ต้องมารับก็ได้ครับพี่ ผมเกรงใจน่ะ เดี๋ยวป้าผมก็ให้พี่น้อยไปส่งผมก็ได้ครับ”ผมพูดอย่างเกรงใจ

“ไม่เป็นไรครับ พี่อยากไปส่งจริง ๆ”พี่วิทย์ทำหน้าอ้อน ผมเลยใจอ่อนครับ บอกเวลาที่เครื่องจะออกไป

“แล้วเจอกันนะครับ พรุ่งนี้ตอน 4 โมงเย็น”พี่วิทย์ยิ้ม

“ครับแล้วเจอกัน ขอบคุณนะครับ บายครับ”ผมตอบแล้วโบกมือให้ แล้วก็หันหลังเดินขึ้นบ้านไป

หลังจากที่ผมเข้ามาในห้องที่ป้าผมเตรียมไว้ให้ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงบูม ถ้าบูมทำกับผมแบบที่พี่วิทย์ทำอยู่ขณะนี้

ผมคงจะมีความสุขที่สุดเลย แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิด ผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า

ตกลงแล้วผมเป็นตัวอะไรกันแน่ วันไหนที่เค้าต้องการก็เข้ามาพูดคุยด้วย

วันไหนที่เค้าไม่สนใจก็ทำเป็นไม่รู้จัก คิดแล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะต้องมานั่งเสียใจกับโชคชะตาของตัวเอง จนเวลาผ่านไป เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว

ผมกำลังจะเดินลงไปดูว่าป้าผมกลับมาหรือยังแต่แล้วโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น

“ทำไมวันนี้ไม่ไปมหาลัย รู้ไหมว่าคนเค้าเป็นห่วง”เสียงชายหนุ่มที่ผมคุ้นเคยและเพิ่งคิดถึงเมื่อสักครู่นี้ดังขึ้นมาจากปลายสายอีกสายหนึ่ง

“นายสนใจเราด้วยหรอว่าเราจะไปไม่ไปน่ะ นึกว่าไม่เห็นเราแล้วนายจะสบายใจซะอีก”ผมพูดกับบูมด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่สุด

“ใครบอก เราเป็นห่วงนะ โยอย่าคิดมากสิ เอาเป็นว่าให้นายจำไว้ว่าเราเป็นห่วงนายก็พอ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“บูมห่วงเราจริง ๆ นะ”ผมพูดแล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจเป็นที่สุดที่ได้ยินคำนี้

“อืมมมม เราห่วงว่าถ้าไม่มีนายเราก็จะไม่ได้ข้อมูลของแพทเพิ่มน่ะสิ”เอาอีกละครับ แพทอีกแล้วเบื่อจริง ๆ คำแสลงประจำตัวผมในตอนนี้

“เออ ๆ ๆ เรามันก็ทำได้แค่นี้แหละ”ผมหุบยิ้มลงทันที

“5555555555555555555555555 แล้วตอนนี้โยทำอะไรอยู่ล่ะ”บูมหัวเราะแล้วถามผม

“เรามาเยี่ยมลุงที่เชียงใหม่ พอดีลุงเค้าไม่ค่อยสบายแล้วแม่กับพ่อเราก็ไม่ว่างเลยส่งเรามาเยี่ยมแทน พรุ่งนี้เราก็กลับแล้ว

แต่คงไปมหาวิทยาลัยอีกวันนึงนะเพราะเรากลับไฟท์เย็น”ผมตอบ

“จะให้เราไปรับไหม พอดีพรุ่งนี้เย็นเราว่าง”บูมเสนอ

“ไม่เป็นไรหรอก เรากลับเองได้”ผมแกล้งปฏิเสธ แต่ใจจริง อยากให้บูมมารับมาก ๆ อิอิ

“ไม่เป็นไร เราว่างจริง ๆ แล้วเครื่องจะลงกี่โมงล่ะเราจะได้ไปรอ”โอ้โห ประทับใจจังเลย อิ อิ

“เครื่องลง ตอนประมาณหกโมงเย็น”ผมพูดกับชายหนุ่มขณะที่ผมอมยิ้มด้วยความปลื้มใจเป็นที่สุด

“ดีเลย พอรับโยเสร็จแล้วไปทานข้าวกันนะ คราวนี้โยเลี้ยงเรามั่ง”บูมพูดกับผม

“โหหหหห ไรวะ คนอุตส่าห์มาจากเชียงใหม่นึกว่าจะมีคนเลี้ยงข้าว”ผมแกล้งแหย่บูมเล่น ๆ

“5555555555 ก็เราเลี้ยงไปแล้วไง แล้วอย่าลืมของฝากเรานะ”บูมทวง

“งกว่ะ เออ ๆ ๆเดี๋ยวเราซื้อให้ เอาช้างไปฝากเชือกนึงเลยมะ”ผมแหย่บูม

“ถ้าแบกมาได้ก็แบกมานะครับ”ดูดิบูมท้า

“จัดให้”ผมยังไม่เลิก แล้วเราก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน

“เออ....โย วันเสาร์หน้าวันเกิดแพทใช่ไหม โยอย่าลืมช่วยเราคิดนะว่าเราจะซื้ออะไรให้แพทดี”บูมเอ่ยถามผม

“.......................................”ผมเงียบ ไม่ใช่เงียบเพราะผมหึงแพทหรอกนะ แต่เพราะผมไม่เคยบอกบูมต่างหากว่าวันเกิดแพทวันไหน

“อย่าลืมนะ ช่วยคิดด้วย แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ บายครับ”บูมเอ่ยลาแล้ววางโทรศัพท์ไป

ส่วนผมก็ งง สิครับ เพราะผมไม่เคยบอกเรื่องวันเกิดแพทกับบูมเลย แล้วเค้ารู้ได้ยังไงว่าวันเกิดแพทมันวันไหนกันแน่

ผมเลยมานั่งคิดย้อนกลับไปก็นึกไม่ออกว่าผมเคยบอกเรื่องวันเกิดของแพทกับบูมวันไหน คิด ๆ ๆอยู่นาน

พอดีป้าผมให้คนรับใช้เดินขึ้นมาเรียกไปทานเข้า ผมเลยเลิกคิดแล้วเดินลงไปทานข้าวกับป้าผม

จบตอนที่ 6 ขอบคุณครับที่ติดตามเนื้อเรื่องเริ่มที่จะสลับซับซ้อนขึ้นนิดหน่อยพร้อม ๆ กับตัวละครที่เพิ่มขึ้นยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับ

อาจจะไม่ได้มา update กันทุกวันเพราะช่วงนี้ ติดธุระนิดหน่อยแต่ก็จะพยายามครับผม

************************

จบตอนที่ 6 แล้ว คุณ Yo เองครับ เขามีธุระ ทิ้งช่วงไปนาน

ส่วนตัวผม นายพูห์ เอง ขอลาเพื่อนๆ หนีเที่ยวสัก 2 วันนะครับ

พูห์ครับ :teach:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-12-2006 15:09:10


ทำไมคนชื่อวิทย์มันถึงได้ชอบหน้าหม้อจังวะ

เห็นมาหลายคนแระ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 09-12-2006 17:06:01
เรื่องราวสลับซับซ้อนดีจัง มีหลายปมให้แก้ หุหุ ท่าทางความวุ่นวายจะมาเร็ว ๆ นี้
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 09-12-2006 17:12:41
หัวใจจะบอกคุณเอง มันจะเต้นตามจังหวะของมัน
โดยที่คุณไม่อาจควบคุมมันได้
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: need_not2know ที่ 11-12-2006 12:03:12

ลำบากใจน่าดู เป็นพ่อสื่อให้คนที่ตัวเองรักเนี่ย

ไม่เข้าใจพฤติกรรมคุณบูมเท่าไหร่ คงต้องติดตามตอนต่อๆและต่อๆไป

มาต่อเร็วๆนะ รออยู่ สนุกจริงๆ (>.<)
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 11-12-2006 14:14:21
รอด้วย  บูมแอบรักโย แล้วเอาแพทมาเป็นข้ออ้างเปล่าเนี่ย   :like6:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-12-2006 14:30:43

ถ้าบูมทำกับผมแบบที่พี่วิทย์ทำอยู่ขณะนี้ ............ผมคงจะมีความสุขที่สุดเลย

แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิด ผมยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า.....ตกลงแล้วผมเป็นตัวอะไรกันแน่

การยอมเป็นตัวอะไรสักตัว................เพื่อคนที่เรารัก...............

ถึงแม้มันจะเจ็บ........แต่ก็ยอม....................... :impress:

มารออ่านต่อนะคับพี่พูห์...........หนีเราไปเที่ยวซะและ :teach:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-12-2006 11:56:14
"ตอนที่ 7"

ผมเดินลงไปทานข้าวกับป้าผม ซึ่งนั่งรอผมอยู่ที่โต๊ะอาหาร ผมเดินอ้อมมานั่งด้านข้างของป้าผมพลางเอ่ยขอโทษ

“ขอโทษนะครับคุณป้า ที่ต้องทำให้รอนาน” ผมเอ่ยขอโทษที่ทำให้ผู้ใหญ่ต้องมานั่งคอย

“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะลูกป้าก็เพิ่งมาถึงเอง”ป้าผมบอกอย่างไม่ถือสา

“ทานข้าวครับคุณป้า”ผมเอ่ยเป็นมารยาท

“ทานเถอะลูกตามสบายนะจ๊ะ”ป้าผมพูดอย่างอ่อนโยน

“ทานแล้วนะครับ”หลังจากที่ผมพูดจบก็เริ่มรับประทานอาหาร หลังจากที่ผมกับป้าทานอิ่มกันแล้ว ป้าผมก็พูดกับผมว่า

“วันนี้เป็นยังไงบ้างลูก กับพี่วิทย์น่ะ”ป้าถามยิ้ม ๆ”ดูท่าพี่วิทย์คงจะถูกชะตากับเรามากนะ ปกติป้าเห็นเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร

แต่วันนี้มาแปลก รับอาสาพาเรามาส่งถึงบ้าน”ป้าผมพูดด้วยความแปลกใจ แต่ผมคิดว่าผมรู้แล้วล่ะครับว่าเป็นเพราะอะไร

“พี่วิทย์ก็ดีครับ อัธยาศัยก็ดี”ผมตอบสั้น ๆ

“อืมมมม วิทย์เค้าเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดีมากเลยนะจ๊ะ เวลาที่รีสอร์ตมีปัญหาก็ได้วิทย์นี่แหละคอยทำเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ตลอด

เราน่ะต้องดูแบบพี่เค้าไว้เป็นตัวอย่างนะ ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่ป้าจองตัวเรากับแม่และพ่อเราแล้ว ว่าจะมาให้ช่วยทำรีสอร์ตต่อ

เพราะป้ากับลุงไม่มีลูก มีแต่โยคนเดียวแหละจ๊ะ ยังไงก็พยายามเรียนรู้จากพี่เค้านะ”

ป้าผมเริ่มหว่านล้อมเพราะจริง ๆ แม่ผมก็พูดอยู่ประจำว่าจะให้ไปทำงานที่รีสอร์ตของป้าผมที่เชียงราย

แต่ผมไม่ชอบอ่ะครับ เลยพยายามเลี่ยงไม่ไป

“ครับ ๆ ๆป้า ไว้ผมจะคิดอีกที”ผมตอบรับคำเพื่อให้ป้าไม่เสียกำลังใจ แต่ในใจคิดว่าไม่เด็ดขาด

“ไม่ต้องคิดแล้วล่ะ แบบที่ป้าบอกน่ะดีแล้ว เออนี่ โย พรุ่งนี้ลูกจะกลับไปที่กรุงเทพฯ ป้าฝากพี่วิทย์ด้วยสิลูก

เห็นพ่อพี่วิทย์เค้าโทรมาบอกป้าว่า วิทย์มีธุระที่กรุงเทพฯต้องทำ สักสองสามวันน่ะ”ป้าเอ่ยฝากฝังพี่วิทย์กับผม

ทำให้ผมประหลาดใจอย่างมากที่อยู่ดี ๆ พี่วิทย์ก็จะไปกรุงเทพกับผมทั้ง ๆ ที่พี่เค้าเพิ่งบอกผมว่าจะไปอีกสองเดือนข้างหน้า

“อ้าวพี่วิทย์เค้าไม่ได้ไปอีกสองเดือนข้างหน้าหรอครับคุณป้า”ผมถามอย่างสงสัย

“ไม่รู้สิจ๊ะ เห็นพ่อพี่วิทย์บอกว่า ตาวิทย์เค้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องไปทำเรื่องอะไรสักอย่างที่กรุงเทพฯนี่ล่ะ

เลยรีบบินไป พอดีเจอจังหวะโยจะกลับพอดี พ่อพี่วิทย์เลยมาฝากฝังไว้กับป้า”ป้าตอบผมถึงเหตุผลที่ทำไมพี่วิทย์ถึงจะไปกับผม

“หรอครับ ... ได้ครับคุณป้า แต่พี่วิทย์จะไปกี่วันครับ”ผมถามกลับแต่สีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะผมนัดกับบูมไว้น่ะสิครับ

“สัก สอง สาม วันจ๊ะ เค้าจองโรงแรมเรียบร้อยแล้ว แต่ป้าอยากให้โยไปส่งพี่เค้าหน่อยที่โรงแรม ป้าจะได้วางใจ”ป้าบอก

“.........................”ผมอึ้งอยู่นานเพราะคิดว่าจะทำยังไงดีที่นัดบูมเอาไว้

“ได้ไหมจ๊ะ”ป้าเริ่มคะยั้นคะยอ

“ครับ ๆ ๆได้ครับ เดี๋ยวผมจะพาไปส่ง”ผมรับคำอย่างเซ็ง ๆ แต่ต้องทำสีหน้าปกติเพื่อกลบเกลื่อน

“ขอบใจจ๊ะ โยรีบขึ้นไปนอนเถอะลูก นี่ก็ดึกมากแล้ว ป้าก็จะเข้านอนละ เพราะพรุ่งนี้ป้าจะไปเยี่ยมลุงแต่เช้า จะไปด้วยกันไหมจ๊ะ”ป้าผมเอ่ยถามพลางลุกขึ้น

“ไปครับผมจะได้ไปลาคุณลุงด้วย งั้นผมไปนอนแล้วนะครับคุณป้า ราตรีสวัสดิ์ครับ”ผมพูดพลางขอตัวไปนอน

“จ๊ะหลับฝันดีนะลูก”ป้าผมพูดแล้วเดินเข้าห้องนอนไป

ผมเดินขึ้นมายังห้องที่ผมพัก แล้วล้มตัวลงหา พลางคิดหาวิธีที่จะแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าเพื่อไม่ให้บูมกับพี่วิทย์ต้องเจอกัน

คิดอยู่นานจนในที่สุดผมก็คิดออก เลยกดโทรศัพท์ไปหาบูม...

“สวัสดีครับ นี่บ้าน...... ขอสายใครครับ”เสียงชายหนุ่มที่ผมหลงรักตอบกลับมาเมื่อรับสาย

“บูม เราเอง”ผมพูด

“เราน่ะใคร เราไม่รู้จักใครที่เชียงใหม่ นอกจากจะเอาของฝากติดมาด้วยเราถึงจะนึกออก”บูมตอบกลับมา

“งกว่ะ เดี๋ยวเราซื้อให้ แต่ต้องส่งทางขนส่งนะ เพราะเครื่องบินเค้าไม่ให้โหลดช้างลงเครื่อง”ผมตอบกลับไปยิ้ม ๆ

“โหหหหห คนเรา ไปเชียงใหม่ไม่บอก แล้วยังไม่ยอมซื้อของมาฝากอีก”บูมพูดแบบงอนนิด ๆ

“ครับบบบ ซื้อให้อยู่แล้ว แต่บูม พอดีเราอาจจะเลื่อนไฟท์นะ ยังไงไม่ต้องมารอเราหรอก

เพราะเรายังไม่ชัวร์ว่าจะกลับมาไฟท์ไหนกันแน่ ยังไงไว้เจอกันที่มหาวิทยาลัยก็ได้”ผมเริ่มแผนการที่เพิ่งคิดมาได้

“ไรวะ เราอุตส่าห์วางโปรแกรมเรียบร้อยแล้วนะ ไม่เลื่อนไม่ได้หรอ”บูมพูดแบบงอน ๆ

“พอดีติดธุระนิดหน่อยน่ะ ยังไงก็ขอโทษนะ”ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่โกหกบูม

แต่ผมคงทำใจไม่ได้ที่จะให้ชายหนุ่มคนที่ผมหลงรักต้องมาเจอผมขณะกำลังกลับมาพร้อมกับชายหนุ่มอีกคน แม้ว่าบูมจะไม่ได้รักผมก็ตามแต่ผมก็ยังแคร์เค้าอยู่ดี

“เออ เออ เออ ยังไงก็กลับดีๆ แล้วกัน แล้วไว้ไปกินข้าวกันวันอื่นก็ได้”บูมพูดแบบห้วน ๆ สงสัยจะงอน

“เอาน่า ไม่โกรธนะ เราเลี้ยงบูม สองมื้อเลยอ่ะ”ผมเริ่มง้อ

“สามได้ป่ะ”บูมบอก

“ได้ดิ ทำไมจะไม่ได้”ผมเริ่มยิ้มอย่างโล่งอกที่แผนเป็นไปได้ด้วยดี

“ยังไงก็กลับดี ๆ นะครับ เราต้องไปนอนแล้วล่ะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า ไม่ได้ไปเที่ยวเหมือนใครบางคนที่เชียงใหม่”ดูสิครับยังไม่วายว่าผมอีก

“555555 ก็บอกแล้วไงไม่ได้มาเที่ยว ยังไงก็เจอกันที่มหาวิทยาลัยนะ บายครับ”ผมพูดและวางสายลงไป

สำเร็จครับ! แผนที่ผมวางไว้สำเร็จไปได้ด้วยดี ผมยิ้มออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้วเสียง ติ๊ด ๆ ๆ ๆ เสียงมือถือผมดังเพราะมีข้อความเข้า

ดีใจจังพรุ่งนี้จะได้ไปกรุงเทพฯกับน้องโยแล้ว พี่ต้องฝันดีแน่เลย ไว้เจอกันนะครับ ฝันดีครับ.....พี่วิทย์

นี่สิครับตัวปัญหา ผมจะดีใจหรือเสียใจกับข้อความตรงหน้าดีนะ ผมคิดพลางมองไปยังข้อความที่มือถือ แล้วก็ล้มตัวลงนอน

ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าผมก็รีบอาบน้ำ แต่งตัวเพื่อไปเยี่ยมคุณลุงพร้อมกับป้าของผม

พอสาย ๆผมก็ขอตัวไปเดินหาซื้อของฝากให้แม่กับพ่อ รวมถึงเพื่อน ๆตัวดีของผม และที่สำคัญก็บูมไงครับ

ผมเลือกของฝากไปได้เกือบจะครบทุกคนแล้ว เหลือแค่บูมคนเดียวไม่รู้จะซื้ออะไรไปให้ดี บังเอิญสายตาผมหยุดอยู่ที่

งานไม้แกะสลักชิ้นหนึ่งรูปร่างแปลกดี เป็นของเก่าๆ ผมเลยหยิบขึ้นมาดู เพื่อที่จะซื้อไปฝากบูม

เจ้าของร้านเลยเล่าให้ผมฟังว่า งานชิ้นนี้มีตำนานเพราะคนที่แกะสลักงานชิ้นนี้เป็นช่างที่เก่งมาก

แต่ต้องมาจบชีวิตเพราะคนที่เค้าแอบรักไปแต่งงานกับคนอื่นโดยที่ช่างแกะสลักยังไม่ได้บอกรักกัยคนที่ตัวเองแอบชอบเลย

ช่างแกะสลักเลยเศร้าใจและตรอมใจแขวนคอตาย ก่อนตายเค้าได้แกะสลักงานนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ใครก็ตามที่แอบหลงรักใครสักคนนึงอย่าได้เป็นอย่างเค้า

ผมว่ามันตรงกับเรื่องราวระหว่างผมกับบูมเลยแฮะ ผมเลยซื้องานชิ้นนี้ไปฝากเค้า แต่คงจะไม่เล่าเรื่องราวให้เค้าฟังหรอกครับ รู้แค่คนเดียวก็พอ

หลังจากที่ผมเลือกซื้อของเสร็จก็ใกล้เวลาที่ผมจะต้องกลับแล้ว ผมนั่งรถกลับไปที่บ้านคุณป้าเพื่อเอาของฝากเก็บใส่กระเป๋า

แล้วนั่งรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อร่ำลา คุณลุงกับคุณป้า แล้วผมก็ได้เจอกับพี่วิทย์ที่นั่งยิ้มรอผมอยู่ในห้องของคุณลุงพร้อมด้วยกระเป๋าใบเล็ก ๆ อีกหนึ่งใบ

“ป้าฝากน้องด้วยนะลูก”ป้าฝากฝังผมกับพี่วิทย์อีกแล้วครับ

“อย่าพาเจ้าโยไปซิ่งล่ะ เดี๋ยวใจมันจะแตกซะก่อน”ลุงผมก็ด้วยอีกคน

“ครับผมจะดูแลอย่างดีเลยครับ”พี่วิทย์รับคำพลางหันมายิ้มให้ผมแถมยักคิ้วให้อีก

“ผมลาแล้วนะครับคุณลุงหายไว ๆ นะครับ คุณป้าผมไปแล้วนะครับ สวัสดีครับ”ผมร่ำลาแล้วก็เดินออกมาเพื่อไปขึ้นรถกับพี่วิทย์

“เดี๋ยวน้องโย นั่งข้างหลังกับพี่นะ พอดีพ่อพี่ให้คนขับรถมาส่ง”พี่วิทย์บอกพลางทำท่าจะช่วยผมหิ้วกระเป๋า

“ไม่เป็นไรครับพี่ผมถือเองได้ครับ ขอบคุณ”ผมขอบคุณพลางคิดแล้วจะรอดไหมเนี่ยกู

หลังจากที่ผมกับพี่วิทย์ ไปถึงสนามบินก็เช็คอิน เอกสารต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว (ก็พี่วิทย์นั่นแหละที่คอยทำทุกอย่างให้) แล้วเราก็ขึ้นเครื่องไป

ขณะอยู่บนเครื่องพี่วิทย์ก็ถามนั่นถามนี่ผม จนผมเริ่มรู้สึกรำคาญ แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี คิดว่าจะแอบหลับสักหน่อย

แต่พี่วิทย์ก็ปลุกผมให้ตื่นอยู่ได้ ดีนะที่นั่งเครื่องแค่ไม่กี่นาที ถ้าหลายชั่วโมงผมคงเป็นบ้าแน่ ๆ
 
“น้องโยพรุ่งนี้ว่างไหม ไปเที่ยวกับพี่หน่อยสิ”พี่วิทย์ถามผม หลังจากที่ถามมาประมาณ 100 กว่าคำถาม

“ผมต้องไปเรียนครับพี่ ผมมีเรียนตลอดทั้งวันเลยพรุ่งนี้”ผมตอบ

“ว้าแย่จังอย่างงี้พี่ก็นั่งเหงาอยู่ที่โรงแรมคนเดียวสิเนี่ย”พี่วิทย์บ่น

“อ้าว...แล้วพี่ไม่ไปทำธุระหรอครับ เห็นว่ามีธุระที่จะต้องทำอย่างเร่งด่วนเลยรีบมากรุงเทพฯ”ผมถามแบบไม่ค่อยเชื่อ ที่พี่วิทย์บอกว่ามีธุระ เลยต้องรีบมาที่กรุงเทพฯ

“เออ พอดีพี่นัดไว้อีกวันนึงน่ะ พอดีคนที่พี่จะติดต่อด้วยเค้าไม่ว่าง”พี่วิทย์รีบแก้ตัว

“แล้วทำไมพี่วิทย์ไม่มากรุงเทพฯพรุ่งนี้ละครับ จะได้ไม่ฉุกละหุกแบบนี้”ผมแกล้งถามจี้ไป

“ก็......555....พี่ก็อยากมากับโยไง”ดูสิครับคำตอบของพี่วิทย์ งง ไหมละเนี่ย

หลังจากนั้นเครื่องก็ลงมาแตะพื้นที่กรุงเทพฯ ผมกับพี่วิทย์เลยหยุดการสนทนาที่ดูเหมือนว่าจะมีพี่วิทย์คอยถามอยู่ฝ่ายเดียวลง

เราเดินออกมายังตัวอาคารขาออก พี่วิทย์อาสาหิ้วกระเป๋าให้พลางดึงกระเป๋าผมไปถือ เราเดินออกมาด้านนอก

ผมรู้สึกกระหายน้ำมาก ๆ พี่วิทย์เลยอาสาเป็นคนไปซื้อน้ำมาให้ดื่ม หลังจากที่ผมดื่มน้ำเสร็จแล้ว

เราก็เรียก taxi หน้าอาคารเพื่อไปส่งพี่วิทย์ที่โรงแรมตามสัญญาที่ให้ไว้กับป้า โดยที่ผมไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีใครแอบดูพฤติกรรมของผมกับพี่วิทย์อยู่


หลังจากที่รถ taxi จอดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กับ ห้างเกสรพล่าซ่า

ผมกับพี่วิทย์ก็ลงจาก taxi เพื่อไปเช็คอินในโรงแรม ขณะที่พี่วิทย์กำลังกรอกเอกสารอยู่ ผมก็จะขอตัวกลับ

แต่พี่วิทย์ไม่ยอม เพราะพี่วิทย์จะชวนผมไปเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการตอบแทน

“เดี๋ยวผมกลับแล้วนะครับพี่ นี่ก็เย็นมากแล้ว”ผมขอตัวลากลับ

“เดี๋ยวสิครับน้องโย อยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนพี่ก่อน พี่ยังไม่ได้เลี้ยงโยเป็นการตอบแทนเลยที่มานั่งคุยเป็นเพื่อนพี่บนเครื่อง”พี่วิทย์ชวน

“ไม่เป็นไรครับพี่”ผมตอบและทำท่าจะกลับ

“ยังไงก็ทานข้าวเป็นเพื่อนพี่ก่อน นะ นะ นะ พี่ไม่อยากทานคนเดียว”พี่วิทย์เริ่มอ้อน

โดนไม้นี้ผมก็เลยต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่วิทย์ ไม่ได้เพราะชอบพี่เค้าหรอกครับแต่ผมเกรงใจน่ะ

ทีพี่เค้ายังพาผมไปส่งที่บ้านป้าได้เลยตอนที่ผมอยู่ที่เชียงใหม่ ผมเลยต้องไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่เค้า

ผมเลือกที่จะไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ ๆ โรงแรมเพื่อตัดปัญหาจะได้รีบกินรีบชิ่งกลับ

พอทานอาหารเสร็จผมก็ขอตัวกลับโดยไม่ฟังคำขอของพี่วิทย์ ที่จะให้ผมพาไปนั่นไปนี่อีก (ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าก็ไม่รู้)

จริง ๆ แล้วผมยังไม่ได้โทรหาบูมเลย เพราะวันนี้ที่จริงผมต้องนัดทานข้าวกับบูมแต่ต้องเลื่อนออกไป เลยรู้สึกไม่ค่อยดี ผมจึงขอตัวรีบกลับบ้านไป

จบตอนที่ 7 แล้วครับ ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านกัน

*********************************

oaw_eang                                ที่ผ่านมา แฟนเจ้มีแต่คนชื่อวิทย์เหรอครับ

Tantalum                                  นี้เพียงแค่บทเริ่มต้นนะครับ ยังมีอีกเยอะ

b|ueB[o ]YhUb                       แต่บางที่หัวใจก็ไม่ตรงกันนะ

need_not2know                     ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

มูมู่น้อย                                         ต้องตามต่อไปนะครับ อาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด คริคริ

<<--Yาย_โO-->>                       ไม่กล้าเอามาลงหรอกครับ กลัวอะ

][GobGab][                             เคยทำบ่อยสิครับ น้องถุง อิอิอิอิ



หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-12-2006 14:02:23
มาอ่านต่อแล้วนะคับ.......... :angellaugh2:

นั่งรอมาตั้ง 2 วัน...........  :impress:

ป.ล.........พี่พูห์คับ....ไร่เรื่องจะยอมเป็นตัวอะไรที่มีเขาอ่ะ....ไม่เอานะ

คนมันหยิ่งศักดิ์ศรีอ่ะ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 12-12-2006 18:32:39
รออ่านต่อด้วยคับ  พี่วิทย์ทำเสียเส้นหมดเลยค๊าบบบ  กะจะอ่านอะไรกุ๊กกิ๊ก ๆ ซะหน่อย  :haun6:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pim ที่ 12-12-2006 21:37:19
หงะ  มีสายตาที่แอบมองด้วย

เฮ้ออ บูมคิดอะไรอยู่เนี่ย   
ถ้าชอบโย ทำไมต้องอ้อมค้อมด้วย  ไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-12-2006 22:47:13
ไม่พูดตรงๆแบบนี้แหละ ปัญหายิ่งตามมา
ตรงเกินไปบางทีก็ทำให้เรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก
ตรงไหนคือพอดี  :really2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 13-12-2006 02:08:57
ตามอ่านอยู่ครับ แต่อ่านไม่ทันเลยอ่ะ :try2:

เหอๆงานเยอะเกิน อ่านไม่ทันซักที พึ่งอ่านได้ 2หน้าอ่ะ ขอโพสต์ก่อนล่ะกัน

เรื่องน่ารักดีนะครับ ลุ้นดีอ่ะ แอบมีน่ารักกุ๊กกิ๊กกันด้วย อิอิ อ่านไปก็จิ้นไป :like6:

เป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ :yeb:

หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-12-2006 10:55:36
" ตอนที่ 8"

ทันทีที่ผมเข้าบ้านไป พ่อกับแม่ผมก็เข้ามาทักทายและไถ่ถามอาการของคุณลุงกับผม

ผมได้เล่าเกี่ยวกับอาการของคุณลุงให้ฟังสักครู่นึง ผมก็ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำนอน

“เออ โย เมื่อสักครู่นี้ ก่อนที่โยจะมา มีคนโทรมาหาลูกน่ะจ๊ะ แม่ถามชื่อก็ไม่ยอมบอก”แม่บอกผมขณะที่ผมกำลังจะก้าวขึ้นบันได
 
“ใครครับแม่ ใช่เพื่อนผมหรือเปล่า”ผมถามไปด้วยความสงสัยพลางนึกว่าเป็นพี่วิทย์ แต่มาคิดอีกทีพี่วิทย์ไม่รู้เบอร์บ้านผมนิ

“ไม่รู้สิจ๊ะ เสียงไม่คุ้นเลยเป็นผู้ชายน่ะ”แม่ตอบกลับมา

“หมู่นี้มีโทรศัพท์ลึกลับมาหาเราบ่อยเลยนะ ไปแอบแย่งแฟนใครหรือเปล่า”แม่ถามยิ้ม ๆ

“จะมีใครที่ไหนมาสนใจผมครับแม่ ผมขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า”ผมตอบเลี่ยง ๆ แล้วเดินขึ้นไปบนห้อง

พอเข้าไปในห้องนอน ผมก็วางสัมภาระทุกอย่างลง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดไปหาบูม เพื่อบอกว่าผมเดินทางมาถึงแล้ว

“ฮัลโหล บูมหรอ เราเองนะ”ผมพูด

“ทำไมหรอ โยมีอะไรรึเปล่า”บูมพูดด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ชอบกลจนผมชะงัก

“เออ เออ เปล่า พอดีเรามาถึงกรุงเทพฯแล้วน่ะ เราเลยโทรมาบอกนาย”ผมพูดตะกุกตะกักนิดหน่อย

“มาบอกเราทำไม มีอะไรอีกหรือเปล่า เรากำลังยุ่งอยู่”บูมตอบ

“เออ (เริ่มไปไม่เป็นซะแล้วสิเรา โกรธเราเรื่องอะไรก็ไม่รู้) เอ่อ คือ เรามีของมาฝากด้วยนะพรุ่งนี้จะเอาไปให้”ผมตอบแบบไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี

“ไม่ต้องหรอก ขอบใจ แค่นี้นะ”บูมพูดแล้ววางสายลงไป

งงสิครับท่าน ผมวางหูลงไปอย่าง งง ๆ ว่าตกลงมันเกิดอะไรกันขึ้น เมื่อวานยังดี ๆ กันอยู่เลย

ทำไมมาวันนี้บูมแปลกไปนะ ผมคิดพลางเสียงมือถือเตือนว่ามีข้อความก็ดังขึ้น

ถึงบ้านหรือยังครับน้องโย วันนี้พี่มีความสุขมาก ๆ เลย ที่ได้ทานข้าวกับน้องโย หลับฝันดีนะครับ.....พี่วิทย์

หลังจากอ่านข้อความจบ ผมก็อดนึกไม่ได้ว่า ทำไมการที่เรารักใครสักคนโดยที่เค้าไม่รักเราตอบมันช่างทรมานแบบนี้

เจ็บแบบซ้ำ ๆ เงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ หรือว่าการที่ถูกรักจะดีกว่านะ อย่างน้อยเค้าก็ไม่ทำให้เราต้องมาเจ็บแบบนี้

ผมคิดอยู่นาน แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ยังคงสลัด บูม ออกจากหัวใจของผมไม่ได้อยู่ดี

ทำไมมันช่างเป็นความรักที่รุนแรงแบบนี้ ตัวผมเองก็ไม่เข้าใจ ผมคิดพลางเดินเข้าไปอาบน้ำอย่างเซ็ง ๆ แล้วก็ล้มตัวลงนอน....

ภาพชายหนุ่มสองคน ปรากฏขึ้นในความฝันของผม

ฝ่ายหนึ่งคือบูมชายหนุ่มคนที่ผมหลงรัก กำลังตะโกนอยู่ตรงหน้าผมว่า โทรมาทำไม มีอะไรไหม เรายุ่งอยู่ ด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร

กับอีกชายหนึ่งเป็นพี่วิทย์คนที่เค้ามาหลงรักผม กำลังยิ้ม ๆ พลางยื่นดอกไม้มาให้ผมแล้วพูดว่า พี่มีความสุขมากจริง ๆ นะ ที่ได้อยู่กับโย

มันเป็นภาพที่หลอนจิตใจผมอยู่ไม่ใช่น้อยจนทำให้ผมต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาในกลางดึกคืนนั้น

โห คิดมาจนหลอนเลยหรอวะ ท่าจะเป็นเอามาแฮะ ผมคิดแล้วล้มตัวลงนอนอีกทีพลางคิดในใจ ตกลงจะเอายังไงดี

เช้าวันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาด้วยความไม่สดชื่น ในใจมีแต่คำถามตลอดเวลา

ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะไม่คิดมากแบบนี้ แต่ยิ่งนับวันที่ผมอยู่กับพี่วิทย์นานเข้า

ความดีที่พี่วิทย์ทำมันก็เริ่มที่จะรุกล้ำพื้นที่ว่างในใจผมเข้ามาได้ทุกที

อาจจะเป็นเพราะผมเองยังไม่แน่ใจในตัวบูมด้วยว่าเค้าจะมีใจให้ผมหรือเปล่า

แต่ที่แน่ๆ คือพี่วิทย์เค้าคอยเอาใจใส่ดูแลผมทุกอย่าง จนผมไม่กล้าที่จะปฏิเสธคำขอของพี่เค้าเลย

ผมแต่งตัวออกจากบ้านไปด้วยความเซ็ง ๆ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเอาของที่ซื้อมาฝากไปให้กับเพื่อน ๆ รวมถึงบูมด้วย

ผมมองของฝากที่ผมซื้อให้บูมพลางคิดย้อนไปถึงตำนานของของฝากชิ้นนี้

เอ หรือว่ามันจะเป็นคำสาปนะ ผมคิดแล้วเดินไปขึ้นรถเพื่อไปมหาวิทยาลัย

ผมมาถึงมหาวิทยาลัย และเดินเข้าไปหาเพื่อน ๆ ที่ซุ้มหน้าตึกเรียน พลางยื่นของฝากให้กับ เพื่อน ๆ ทุกคน

“ไปเชียงใหม่ไม่มีชวนกันเลยนะ จะโดดก็โดด”ไอ้โบเริ่มกัดผมแล้วครับ

“เออใช่ ว่าจะไปแอ๋วดอยเจียงใหม่สักหน่อย เลยบ่ได้ไปเลย”ออฟจีบปากจีบคอสนับสนุน

“แล้วตกลงพวกแกจะเอาของฝากหรือเปล่าวะ พูดมาก”ผมพูดพลางทำท่าจะหยิบของฝากคืน

“ได้ไงวะ ให้มาแล้วไม่ให้คืนว้อยยยยย”กายพูดพลางทำท่าตลก

“เออ เออ เออ ล้อเล่น”ผมยิ้ม ขำ ๆท่าทีของไอ้กาย

“แล้วนี่อะไรเนี่ย ไหนดูสิ”โบเหลือบไปเห็นของฝากที่ผมซื้อให้บูมพลางจะหยิบออกมา

“เฮ้ย ไม่มีอะไร ไปเข้าเรียนกันเหอะ”ผมรีบปัดมือมันแล้วเดินนำไปที่ห้องเรียน

ส่วนพวกเพื่อนผมก็งง ๆ แต่ไม่คิดอะไรมาก นอกจากไอ้ตัวปัญหา (ก็ไอ้โบนั่นแหละครับ)

ผมเดินเข้าไปในห้องเรียนพลางส่งสายตามองหาบูม ซึ่งตอนนี้ผมเห็นว่าบูมเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะเรียนแถวหน้าห้อง

ผมรู้สึกแปลกใจมาก เพราะปกติกลุ่มของบูมจะนั่งท้าย ๆ หรือแค่มากก็ไม่เกินกลาง ๆ ห้องแต่ไหงวันนี้กลุ่มเค้าไปนั่งแถวหน้าสุดเลย

ผมเดินมาหยุด อยู่ตรงโต๊ะแถวกลาง ๆ ห้อง ถัดจากแถวที่บูมนั่งประมาณ 6 แถว ซึ่งเวลานั่งลงแล้ว มองไปข้างหน้าจะสามารถสังเกตพฤติกรรมของบูมได้

ผมเลือกที่นั่งด้านหลังบูมพอดี หลังจากนั้นเพื่อน ๆ ผม ก็ทยอย ๆ เข้ามานั่งตามผมอีกที

ตลอดระยะเวลาที่อาจารย์สอนผมสังเกตเห็นว่าวันนี้ทำไมบูมไม่ค่อยพูดไม่ค่อยคุยกับเพื่อน ๆ เลย ได้แต่นั่งยิ้ม เจือน ๆ ตลอดเวลา

ผมเอาแต่คิดว่าตกลงเค้าเป็นอะไรกันแน่นะ แพทหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ จนเลิกเรียนคาบเช้า

ผมกับกลุ่มเพื่อนก็เดินไปหาอะไรทานที่โรงอาหารเพื่อรอเรียนคาบบ่ายอีกที แต่แล้ว.....

“น้องโยยยยยยยยยยยย น้องโยยยยยยยยยยยยย”เสียงใครคนหนึ่งเรียกผมไว้ทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง

เฮ้ยนั่นมัน พี่วิทย์นี่หว่า มาทำอะไรที่มหาวิทยาลัยผมเนี่ย

“หวัดดีครับน้องโย โชคดีจังที่วันนี้มาไม่เสียเที่ยวได้เจอน้องโยด้วย”พี่วิทย์เอ่ยทักหลังจากผมปล่อยให้เพื่อนผมแยกไปทานข้าวล่วงหน้ากันก่อน

“แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่ล่ะครับ อย่าบอกนะว่ามาทำธุระที่นี่”ผมถามพลางพาพี่วิทย์ไปนั่งที่โต๊ะตัวหนึ่งระหว่างทางเดินไปโรงอาหาร

“อ๋อออ แหะ แหะ พี่ก็ มาหา..... เออมาหาเพื่อนพี่ไง ที่ชื่อโน้ตน่ะ”พี่วิทย์หัวเราะแห้ง ๆ กลบเกลื่อน

“แล้วพี่เจอเพื่อนพี่หรือยังครับ”ผมถาม

“ยังเลยเนี่ย พอดีมาเจอน้องโยซะก่อนไงเลยรีบวิ่งมาทัก เดี๋ยวน้องโยกจะหายไปซะก่อน”พี่วิทย์ตอบพลางยิ้ม ๆ เขิน ๆ

แต่แล้วก็เหมือนฟ้าไม่เป็นใจ กลุ่มของบูมดันเดินมาทางที่ผมกับพี่วิทย์กำลังนั่งคุยกันอยู่พอดี....

ผมเห็นบูมจ้องมายังผมกับพี่วิทย์ด้วยสีหน้าที่ราบเรียบจนหน้ากลัว แล้วเดินจากไป

แต่ผมในตอนนี้สิ เสียวสันหลัง ขนลุกไปหมดเลย ไม่รู้จะทำยังไงดีเพราะไม่สามารถหลบไปไหนได้ ได้แต่ก้มหน้าไม่กล้ามองเค้า

“น้องโย น้องโยครับ เป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีด ๆ พี่พาไปห้องพยาบาลไหม

หรือว่าหิวข้าว พี่นี่ก็แย่จริงตอนนี้มันพักเที่ยงนิ”พี่วิทย์พูดขึ้นหลังจากเห็นผมนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด เอาแต่ก้มหน้า

“เปล่าครับพี่ ผมขอตัวไปทานข้าวกับเพื่อนก่อนนะครับ บายครับ”ผมตอบด้วยอารมณ์ที่บอกไม่ถูก แต่ที่แน่ใจตอนนี้หัวใจผมเริ่มเต้นช้า ลง ๆ ไปทุกที

“เดี๋ยวสิครับ วันนี้เลิกเรียนไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่ได้ไหม พี่จะได้แนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก เผื่อเรามีอะไรไม่เข้าใจจะได้ถามไง”พี่วิทย์เสนอ

“ไม่ดีกว่าครับพี่ วันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยอ่ะครับ คิดว่าจะรีบกลับ”ผมตอบพี่วิทย์ พลางมองไปยังกลุ่มบูมที่ตอนนี้เดินเข้าโรงอาหารไปแล้ว

“ถ้างั้นก็ได้ครับ กลับถึงบ้านอย่าลืมทานยานะ แล้วดึก ๆ พี่จะโทรหา”พี่วิทย์พูดอย่างห่วงใย

หลังจากนั้นผมก็ขอตัวเดินออกมา และเข้าไปในโรงอาหารเพื่อไปนั่งทานข้าวกับเพื่อน ๆ ผม

“เฮ้ย เดี๋ยวกินข้าวเสร็จเรากับกายจะไปทำธุระที่ห้างฟิวเจอร์นะ แล้วเจอกันในห้องเลยนะจองที่ให้ด้วย”โบบอกขณะที่พวกเรากำลังทานอาหารกันอยู่

“อืมมม ๆ ๆ ฉันก็ว่าจะไปเช็คเมล์ซะหน่อย คอมที่บ้านเสียยังไม่ได้เอาไปซ่อมเลย โยจะไปด้วยกันหรือเปล่า”ออฟถามผม

“เราขอตัวนะ ไม่ค่อยสบายว่ะ เราไปรอในห้องเรียนเลยแล้วกันนะ จะได้จองที่ไว้ให้ด้วย”ผมตอบกลับไปด้วยความรู้สึกที่แย่เอามาก ๆ ในตอนนี้

“เออ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเช็คเมล์เสร็จแล้ว จะรีบตามไปนะ”ออฟบอกขณะมองเห็นสีหน้าที่ไม่สู้ดีของผม

“แล้วผู้ชายเมื่อตะกี้นี้ใครวะ โย น่ารักชิบเป๋งเลย”ไอ้โบถาม

“ใช่ ๆ ๆ รู้จักคนหน้าตาน่ารักแบบนี้แล้วปิดบังเพื่อนเลยนะ”ออฟสนับสนุน

“ไม่มีอะไรหรอก ลูกชายเพื่อนป้าเราเองที่อยู่เชียงใหม่น่ะเค้ามาทำธุระที่กรุงเทพ

พอดีเจอกันเลยทักทายกันตามปกติ”ผมอธิบายเหตุผลแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีคนเชื่อนะ

“จริงหรอ แค่ทักกันแค่นี้เองหรอ”โบกระแซะถามอีก

“เออ จริง ทำไมวะ หรือแกสนใจ ถ้าแกสนใจเราจะได้โทรไปฟ้อง....”แค่ผมเอ่ยแค่นี้ไอ้โบก็โบกไม้โบกมือแสดงความกลัวแฟนมันออกมาแล้วครับ

“55555 ไอ้ขี้ขลาด”ผมหัวเราะออกมาพร้อม ๆ กับพวกเพื่อน ๆ ผม

หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันไป มีผมกับออฟเดินไปทางตึกเรียน

แต่ออฟก็แยกออกไปทางห้องอินเตอร์เนต หลังจากที่ผมเดินแยกกับโบและกายไม่เท่าไหร่ ผมจึงเดินเข้าห้องไปคนเดียว

ผมเดินไปหาที่นั่งหลังห้องซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครมาเลยเพราะยังไม่ถึงเวลาเรียน

แต่ผมขี้เกียจออกไปข้างนอกเลยมานั่งรอเงียบ ๆ คนเดียวดีกว่า

“เป็นไง มีคนมาคอยรับคอยส่ง แถมมาเอาอกเอาใจกันอย่างงี้ ไม่อายคนอื่นบ้างหรือไง”เสียงชายหนุ่มดังขึ้นด้านหลังผมขณะที่ผมฟุบตัวลงนอนกับโต๊ะ

“ดูท่าเมื่อคืนจะเพลียมากนะ วันนี้เลยไม่มีเรี่ยวแรงเลยนิ วันนี้นัดกันไปไหนต่อล่ะ ระวังจะเพลียมากจนมามหาลัยไม่ได้นะ”

ผมเริ่มหันไปมองบูมซึ่งบัดนี้ดูจากสายตาที่เย็นชาแล้วทำให้ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเค้าไปโกรธผมเรื่องอะไร

“นายพูดถึงใครน่ะ”ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย

“ก็จะใครซะอีกล่ะ เมื่อวานแกล้งทำเป็นบอกว่าเลื่อนเที่ยวบิน แต่ที่ไหนได้ แอบไปจู๋จี๋กับผู้ชายที่สนามบิน”บูมพูดด้วยน้ำเสียงโกรธ

“เออ คือ เราอธิบายได้”ผมตอบกลับแต่ดูเหมือนบูมจะไม่ฟังผมเลยเอาแต่ถากถางผมสารพัด

“ไม่ต้องมาอธิบายหรอก เราเข้าใจว่านายเป็นคนยังไง ไม่ต้องมาแก้ตัวหรอก พฤติกรรมมันฟ้อง”บูมต่อว่าผม

“แล้วนายรู้ได้ไงว่าเราเป็นคนแบบไหน แล้วนายรู้ได้ไงว่าเรากลับมากับคนอีกคนนึง”ผมเอ่ยถามอย่างสุดจะกลั้น

“เรารู้ก็แล้วกันแหละ ต่อไปนี้นายไม่ต้องโทรมาหาเราอีกนะ

เราไม่อยากคบกับคนสำส่อนอย่างนาย เราไม่อยากมีพ่อสื่อแบบนายหรอก”บูมตอบโต้ออกมาด้วยเสียงที่รุนรงกว่าเดิม

“ได้เราจะไม่โทรไปหานายอีก ถ้าเรารู้ว่านายเป็นคนแบบนี้เราจะไม่......”ผมตวาดกับไปพร้อม ๆ กับน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างมากมายในเวลานี้

“จะไม่อะไร จะไม่ทำไม นายมันก็สำส่อนไปเรื่อยไม่ต้องมาแก้ตัวหรอก”บูมยังคงถากถางผมอยู่แต่สีหน้าเค้ากลับแสดงความตกใจนิด ๆ เมื่อเห็นผมร้องไห้

“เราจะได้ไม่แอบรักนายอีกต่อไปไง........ทำไมนะ ความรักที่เรามีให้นาย ไม่เคยส่งผ่านไปถึงนาย ให้นายได้รับรู้เลยหรอว่า ตลอดเวลาหัวใจเรามีแต่นายคนเดียว

แม้ว่านายจะให้เราเป็นพ่อสื่อระหว่างนายกับแพทแล้วเราก็ต้องมานั่งเจ็บปวด

แต่เราก็ยังเลือกที่จะรักนายต่อไป แม้ว่าเราจะต้องทนทุกข์มากแค่ไหนก็ตาม.....”ผมพูดออกมาอย่างไม่อายเพราะมันสุดที่จะทนแล้วครับ

น้ำตาที่ไหลออกมามากอยู่แล้วยิ่งไหลออกมามากขึ้นพร้อม ๆ กับร่างผมที่ค่อย ๆ ทรุดตัวลงอย่างช้า ๆ


“…………………” บูมอึ้งเลยครับ

“แต่จากนี้ไป ความรักที่เรามีให้นายมันได้ขาดสะบั้นลงพร้อม ๆ กับสัญญาที่เราเคยมีให้ไว้กับนาย”ผมพูดพร้อม ๆ กับลุกขึ้นมาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

ดูเหมือนว่าความทุกข์ที่ผมได้รับมันคงจะกลายเป็นพลังให้ผมกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

“เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”บูมเอ่ยขึ้นหลังจากอึ้งไปนาน

“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น แต่การที่นายมาว่าเรา ว่าสำส่อน มักมากเนี่ยนะ”ผมตอบด้วยเสียงราบเรียบพลางเช็ดน้ำตา

“คือเรา เรา”บูมอึกอัก

“นายทำไม นายทำไมอีก”ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงดุดันในที

“เราก็ชอบนายเหมือนกัน ตลอดเวลาที่เราคุยกับนายเราพยายามที่จะบอกแล้วว่าเราชอบนาย แต่ปากมันสั่นไม่กล้าบอก”บูมพูดขึ้นมา

“อะไรนะ นายว่ายังไงนะ”ผมอึ้ง พูดไม่ถูกกับเหตุการณ์ตรงหน้า

“บูมเก่งนะที่ทำให้เราแทบจะเป็นบ้าได้เมื่อสักครู่นี้แล้วจู่ ๆ ก็มาทำให้เราสับสน นี่ตกลงนายกำลังทำอะไรของนายอยู่ แล้วแพทล่ะ แพทจะว่าไง

เราเห็นนายเดินจู๋จี๋กับแพทตอนวันที่นายนัดเราไปทานข้าว นายจะเอาแพทไปไว้ไหน”ผมพูดขำ ๆรู้สึกสมเพชตัวเอง

“เราขอโทษที่โกหกนาย จริง ๆ แล้ว เรากับแพทเป็นญาติกัน

เราไม่รู้ว่าจะเข้ามาทำความรู้จักนายได้ยังไง เราเลยต้องเอาเรื่องนี้ขึ้นมาอ้าง

แต่จริง ๆ แล้วเราชอบโยตั้งแต่แรกเห็นแล้วตอนปีหนึ่ง แต่เราไม่กล้าบอก

เพราะไม่แน่ใจว่านายจะเป็นเกย์หรือเปล่า จนมาตอนนี้เรามั่นใจแล้วเราเลยบอกให้นายรู้”บูมพูดพลางเอามือมาโอบไหล่ผมทั้งสองข้าง

“นายยกโทษให้เราได้ไหม”บูมถามผม

“...............................”ไม่มีเสียงตอบใด ๆ จากผม

เพราะตอนนี้ปากของผมกับบูมได้ผสานกันจนเหมือนกับเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว

“นายยังไม่บอกเลยนะ ว่านายจะยกโทษให้เราได้ไหม ได้ไหมครับ นะ นะ นะ นะ นะครับคนดีของบูม”เอาอีกแล้วครับ เจอลูกอ้อนทีไรผมใจอ่อนทุกทีเลย

“ไม่มีวันหรอก”ผมตอบยิ้ม ๆ

“โหหหหห ไรวะ ใจร้ายจัง โยใจร้ายอ่ะ”บูมทำหน้าเบ้

“ไม่มีวันหรอก นอกจากบูมจะยอมมาเป็นแฟนกับเราก่อน”ผมตอบยิ้ม ๆ

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เย้ ๆ”บูมตะโกนอย่างดีใจ พลางจูบผมอีกครั้งหนึ่ง

“นี่เป็นคำสัญญาที่เราจะให้ไว้ว่าเราจะไม่มีวันรักใครอื่นนอกจากโยคนเดียว”บูมพูดได้ซึ้งมาก ๆๆๆๆๆๆๆ

“..........................”เขินสิครับ

“แล้วโยล่ะ ไม่ให้สัญญาเราบ้างหรอ”บูมเอ่ยทวงอย่างเด็ก ๆ

“เราไม่ต้องสัญญาหรอกเพราะตอนนี้หัวใจเราทั้งหมดมันได้กลายเป็นของบูมไปตั้งนานแล้ว”ผมพูดเขิน ๆ

“เราจะรักษาหัวใจของโยเอาไว้ด้วยหัวใจของเรา”บูมตอบพลางหมอที่แก้มผมหนึ่งที

“สัญญานะ”ผมเอ่ยถามเขิน ๆ

“ครับ สัญญา”บูมตอบด้วยความมั่นใจ

หลังจากที่เราสองคนสารภาพความในใจของกันและกันแล้ว

บูมก็เสนอความคิดที่จะพาผมออกไปเที่ยวข้างนอกเหมือนกับเป็นการไปเที่ยวครั้งแรกของเราในฐานะแฟน

ผมและบูมจึงโทรไปบอกเพื่อน ๆ ของพวกเราว่าติดธุระต้องรีบไป

จากนั้นเราสองคนก็เดินไปขึ้นรถของบูมและพากันออกมาจากมหาวิทยาลัย โดยมีสายตาเศร้า ๆ คู่นึงคอยมองตารถเราที่แล่นออกไป

จบตอนที่ 8 ขอบคุณครับที่ติดตาม หวังว่าตอนนี้คงทำให้ใครหลาย ๆ คนที่ตามเชียร์มีความสุขนะครับ

*************************************************************

][GobGab][                              มีเขาหรือมีหนอเอาให้แน่น้องถุง

มูมู่น้อย                                          อย่าเพิ่งรมณ์เสียมูมู่ ต้องตามต่อไปครับ

pim                                              พวกปากไม่ตรงกะใจอะครับ

b|ueB[o ] YhUb                        บางทีพูดตรงไปก้มีปัญหาได้นะหนูบลู

meemewkewkaw                  ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ค่อยๆ อ่านไปเรื่อยๆ นะครับ
 
                                                    ผมจะพยามลงวันละตอนแล้วกันครับ จะได้ตามกันทัน
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GoneOn ที่ 13-12-2006 11:27:29
ในที่สุดก้อเข้าใจกันซะที   :-[

แล้วพี่วิทย์ทำไงล่ะทีนี้  :untrust:

จะรออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 13-12-2006 12:10:54
ในที่สุดโลกก็เข้าข้างโย................... :impress3:


“เราจะรักษาหัวใจของโยเอาไว้ด้วยหัวใจของเรา“


ถ้าคนเรารักษาหัวใจของกันและกันไว้ได้ตลอด...ก็คงดี :impress:

หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 13-12-2006 16:38:45
มารายงานตัวครับผม :yeb:
เพิ่งมาเริ่มอ่านวันนี้ น่าติดตามอีกแล้วครับผม


ในที่สุดนายบูมก็พูดความในใจอกมา ดีใจด้วยนะครับ.......แต่ก็แอบสงสารพี่วิทยเหมือนกัน หัวอกเดียวกะโยตอนต้นเรื่องเลย เหอๆๆๆ :monkeysad2:


พี่วิทย์ค้าบบบ หันมาทางนี้ก็ได้ค้าบบบ อิอิ :haun6:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 13-12-2006 18:14:53
โฮะ โฮะ สารภาพจนได้   ให้มันได้อย่างงี้สิน่า   ทำไมแต่ละเรื่องเวลาจะสารภาพรักกันแต่ละทีต้องมีเรื่องกดดันกันมาก่อน  แล้วก็มาระเบิดอารมณ์สารภาพรักกันแบบนี้ทู้กที  เรื่องไหนเรื่องนั้นเลย   แต่ก็ดี  มันส์ดี   :laugh:

รออ่านตอนเที่ยวกุ๊กกิ๊กๆ นะหมูพูห์   :interest:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yo_angkrub ที่ 14-12-2006 00:08:15
สวัสดีครับทุกท่าน ผม Yo ครับ ก่อนอื่นเลยขอขอบคุณ คุณหมูพูห์ที่นำเรื่องนี้มาโพสให้ที่บอร์ดนี้  :monkeysad2:...และต้องขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้นะครับ  :myeye:

หวังว่าทุกท่านคงจะติดตามและอยู่เป็นเพื่อนกันไปจนจบเรื่องนะครับ... :impress:

ปล. ชอบหรือไม่ชอบยังไงติ-ชมกันได้นะครับ ขอบคุณทุกท่านครับ  :pigangry2: ล้อเล่นครับ ติ ได้ ชม ได้ครับ

Yo เองครับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 14-12-2006 00:11:42
                                                    :yeb:   โอ้วววว    เจ้าของเรื่องมาปรากฎตัวแย้ววว :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-12-2006 09:21:04
 :seng2ped: ยินดีต้อนรับครับคุณโยเองครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ

แวะมาทักทายกัรบ่อยๆ นะครับ

พูห์ :teach:


ปล.

โยหลายคนจัง :confuse:

สับสน :serius2:


หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-12-2006 12:12:17
"ตอนที่ 9"

บูมกับผมเราขับรถมากันเรื่อย ๆ ทีแรกบูมเสนอให้ไปดูหนังกันที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

แต่ผมปฏิเสธด้วยเหตุว่าตอนนี้คนพลุกพล่านและที่สำคัญ ถ้าเจอ ไอ้โบกับ กายหรือเพื่อนกลุ่มของบูมละก็จบเหตุแน่ ๆ

เราเลยตกลงกันไปนั่งเล่นที่สวนหลวง ร 9 จะได้เลยไปทานข้าวที่สวนอาหาร ที่บูมเคยพาผมมาทานข้าวด้วยกัน จะได้รื้อฟื้นความหลังกันด้วย

เราสองคนเลยตกลงตามนั้น เพราะที่นั่นคนไม่พลุกพล่านดี และมีมุมสงบ ๆ ให้เราสองคนได้คุยอะไรต่อมิอะไรกันมากมาย
 
เมื่อรถมาจอดที่ยังที่จอดรถของสวนหลวง ร 9 แล้ว เราสองคนก็เดินกันไปเรื่อย ๆเพื่อหามุมสงบ ๆ นั่งคุยกัน

“แล้วตกลง พี่คนนั้นใครอ่ะโย บอกหน่อยดิ เราหึงนะครับ”บูมเริ่มก่อนเลยครับ

“อ๋อ พี่วิทย์ เค้าเป็นญาติของญาติเราที่เชียงใหม่อีกทีน่ะ พอดีเค้ามาทำธุระที่กรุงเทพไงเลยมาเจอกันไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากสิ”

ผมพูดโกหกเพื่อไม่ให้สถานการณ์มันเลวร้าย เพราะ ความสัมพันธ์ของเราเพิ่งเริ่มจะดีเองอ่ะ

“โธ่...นึกว่ามีคนมาจีบโยซะอีก อุตส่าห์หึงแทบแย่ ดูดิเมื่อกลางวันยังไม่กินข้าวเลย กินข้าวไม่ลง ท้องร้องใหญ่เลยอ่ะ จับดูดิ”

บูมพูดพร้อมกับเอามือผมไปจับที่ท้อง (ท้องนะครับไม่ใช่อย่างอื่น)

“แล้วทำไมบูมไม่ถามเราล่ะ แต่ก็ดีนะ อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ทำให้เราสองคนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น”ผมพูดพลางเอามือออกก่อนจะอดใจไม่ไหว

“แล้วทำไมโยต้องโกหกเราด้วยล่ะเรื่องเปลี่ยนไฟท์น่ะ เราอุตส่าห์ไปดักรอกะว่าจะได้เซอร์ไพล์

แต่ที่ไหนได้กลับเห็นโยเดินออกมากับผู้ชายคนนึง แถมยังมีการไปซื้อน้ำให้กันด้วย เราแทบจะทนไม่ไหวเดินเข้าไปเอาเรื่องแล้ว”บูมบอกในสิ่งที่ตัวเองเห็น

“ทีแรกเราก็จะไม่โกหกแล้วล่ะ แต่เรารู้สึกเกรงใจบูมไง ถ้าบูมเห็นว่าเรามากับคนอื่น เรากลัวว่าบูมจะคิดมาก และมองเราไม่ดีด้วย” ผมพยายามอธิบาย

“ถ้าโยบอกเราสักนิดเราคงไม่คิดมากหรอก แต่ที่ไหนได้......เฮ้ออ...ช่างมันเหอะ แค่เราสองคนได้เป็นแฟนกันก็พอแล้วเนอะ”บูมพูดยิ้มๆ

“อืมมม....แต่เราสองคนจะทำยังไงต่อไปดีล่ะ เวลาที่เราสองคนอยู่มหาวิทยาลัยคงจะแปลกนะที่อยู่ดี ๆ เราสองคนก็มาสนิทกันแบบนี้”ผมเริ่มวิตก

“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมากสิ หรือว่าโยอายที่จะมาเป็นแฟนเรา”บูมเริ่มไม่ค่อยพอใจ

“ใครอาย เราดีใจซะอีกที่พิชิตใจหนุ่มหล่อประจำคณะได้ 555555”ผมพูดจบบูมก็ยิ้มออกมา

“5555555 แต่เดี๋ยวต้องหาทางให้กลุ่มของเราสองคนสนิทกันก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง”บูมเริ่มวางแผน

“อืมมม ก็ดีเหมือนกันนะเราสองคนจะได้ไม่ลำบากเวลาเจอกันไง”ผมสนับสนุน

“เรื่องนั้นไว้ทีหลังเหอะ แต่ตอนนี้อ่ะ โยคร๊าบบบ บูมหิวจังเลยอ่ะ

ไปซื้ออะไรรองท้องที่ เอสแอนด์พีก่อนดีไหม ทางนั้นน่ะ”บูมอ้อนพลางชี้ไปทางร้านเอสแอนด์พี่ที่อยู่ใน สวนหลวง ร 9

“ได้คร๊าบบบบ คุณบูมม”ผมพูดพลางหัวเราะในท่าทางของบูม

ผมกับบูมเดินไปซื้อขนมปังกันนิดหน่อยจากร้าน เอสแอนด์พี เพื่อนั่งกินรองท้องก่อนจะไปนั่งทานข้าวเย็นกัน

“ป้อนหน่อยดิ อ้า…..”บูมพูดพลางชี้ขนมปังมาที่ปากตัวเอง

“แมลงวันบินเข้าไปแล้ว ระวังเป็นอหิวาห์นะ”ผมพูดแหย่เล่น

“อะไรกัน แค่คบกันวันเดียวก็แช่งให้แฟนตายละ อยากเป็นหม้ายหรอ”บูมพูดบ่นเล็ก ๆ

“555555 ก็เห็นอ้าปากซะกว้างเลย อ๊ะนี่”ผมหยิบขนมปังป้อน (น่าจะเรียกว่ายัดมากกว่า)ไปที่ปากของบูม

“กินมือโยด้วยได้ป่าว หรือว่ากินทั้งตัวดี ยิ่งหิว ๆ อยู่”บูมพูดพลางยิ้มแบบเจ้าเล่ห์

“555555555555555”ผมหัวเราะเขิน ๆ

และแล้วเวลาที่มีความสุขของผมก็หมดไปเพราะ............

*******************************************
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-12-2006 12:24:54
ดีจายจังเห็นคุณโยตัวเป็นๆ  :o
ติดตามอ่านมานานแล้วครับ
ต้องขอบคุณพูห์ด้วยนะที่เอาเรื่องนี้มาฝากเพื่อนๆ
ไม่อยากให้เรื่องดีถูกลบไป
เพราะเก็บไว้บอร์ดนี้คงอยู่ได้นานหน่อย
 :interest:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 14-12-2006 12:31:19
อย่าจบอย่างนี้ดิพี่พูห์................... :pigangry2:

อ้อ..........หวัดดีคุณโยเองด้วยนะคับ..........เรื่องนี้สนุกดี

ขอบคุณนะคับ..............ทั้ง 2 คนเลย :angellaugh2: :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 14-12-2006 13:05:48
โอ้ยย หวานแหวน กระนุ๋งกระนิ๋ง ได้ใจมากกกกก :like6:


น่ารักกันจังเลย...........เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไหนะ แอบลุ่นครับ มาต่อไวๆนะคร้าบบบบ :impress3:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-12-2006 15:07:36
“น้องโย!”เสียงพี่วิทย์ดุดันมากเลยครับ “ไหนบอกว่ามีเรียนไง ไป! กลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้”พี่วิทย์มาจากไหนไม่รู้อยู่ดี ๆ ก็เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผมกับบูม

“สวัสดีครับพี่ ผมชื่อบูมครับ เอ่อออ”บูมทักทายพี่วิทย์แบบหน้าเจือน ๆ เพราะนึกว่าพี่วิทย์เป็นญาติผมจริง ๆ

“นายจะเป็นใคร ผมไม่สนหรอก แต่นายไม่มีสิทธิ์มาชวนโยให้เสียคนโดยการมาเที่ยวที่ไร้สาระแบบนี้”พี่วิทย์หันไปตวาดบูมซึ่งทำหน้าจ๋อย ๆ

“…………..”บูมอึ้งพูดไม่ออกเลยครับ

“เอ่อคืออ พี่วิทย์ ผม”ผมกำลังจะแก้ตัว

“ไม่ต้องมาพูดเลย เราน่ะตัวดี อย่าให้พี่บอกเรื่องนี้กับคุณป้านะ”พี่วิทย์เอาคุณป้ามาขู่

จริง ๆ แล้ว ผมไม่กลัวคุณป้าหรอกครับ แต่ที่ผมกลัวก็คือ ถ้าพี่วิทย์หลุดออกมาว่าเป็นแค่ลูกเพื่อนป้าผมและยังมาแอบชอบผมอีกคราวนี้

ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะแก้ตัวกับบูมยังไงดี ผมเลยต้องตามน้ำไปเรื่อย ๆ โหหหไม่น่าโกหกเลยเรา

“ไม่มีอะไรหรอกพี่ พี่วิทย์กลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมกับเพื่อนก็จะกลับแล้ว”ผมพูดพลางทำตาดุใส่พี่วิทย์เป็นเชิงปราม แต่ไม่ได้ผล

“ไม่ โยต้องกลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้”พี่วิทย์ยังไม่ยอมเลิก

“เอ่อ คือพี่ครับ ผมอธิบายได้ครับ”บูมที่หายอึ้งแล้วเริ่มที่จะช่วยพูด

“นายไม่ต้องมาพูด”พี่วิทย์ตวาดบูม

“ไป! โย ถ้าไม่อยากให้อะไรมันยุ่งยากกว่านี้ ไปกับพี่ซะดี ๆ”พี่วิทย์พูดจบก็ลากข้อมือผมไปเลยครับ

“บูมแล้วคืนนี้เราจะโทรหานะ”ผมตะโกนบอกบูม

“เอออ ๆ ๆเราจะรอ”บูมบอก งง ๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น

พอพ้นจากบูมมาได้สักระยะ ผมก็เริ่มจะสะบัดข้อมือที่พี่วิทย์จูงผมไว้ แล้วตวาดพี่วิทย์กลับไป

“พี่วิทย์ทำอะไรน่ะ รู้ไหมว่าพี่วิทย์กำลังทำอะไรอยู่”ผมเริ่มทนไม่ไหว

“พี่...............”พี่วิทย์หน้าเริ่มเจือน ๆ ไป หลังจากเห็นผมเริ่มโมโห

“ทำไมพี่วิทย์ต้องมายุ่งวุ่นวายอะไรกับผมด้วย ผมไม่ได้เป็นอะไรกับพี่นะ ทำไมพี่มาทำแบบนี้”ผมเริ่มมีอารมณ์มากขึ้น

“คือ พี่.........”หน้าพี่วิทย์เริ่มเศร้าลง

“ถ้าพี่ยังทำอย่างวันนี้อีก เราสองคนไม่ต้องมาพูดกันเลย

ผมไม่ชอบ ผมจะกลับบ้านเอง ผมกลับละ”ผมพูดพลางจะเดินกลับแต่พี่วิทย์มาฉุดแขนผมไว้

“โย....โยไม่รู้ตัวเลยหรอว่า พี่แอบชอบโยมาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว

ยิ่งพี่ได้พูดคุย ได้ใกล้ชิดกับน้องโยพี่ก็ยิ่งห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ อย่าทำแบบนี้กับพี่เลยนะ”พี่วิทย์เริ่มทำท่าจะร้องไห้

“แต่ผมไม่ได้ชอบพี่นะ ผมชอบพี่วิทย์แค่ในฐานะพี่ชายเท่านั้นเอง”ผมตอบความจริงแม้จะทำให้พี่วิทย์เจ็บปวดก็ดีกว่ามานั่งทุกข์ทีหลัง

“ไม่เป็นไร แค่น้องโยให้โอกาสพี่ พี่มั่นใจว่าจะทำให้น้องโยมารักพี่ให้ได้ ขอแค่อย่าเกลียดพี่ก็พอ”พี่วิทย์พูดพลางดึงผมมากอด

“ผมมม...............”ใจอ่อนอีกแล้วเรา “ผมไม่ได้เกลียดพี่วิทย์หรอก แต่ว่าผม........”ผมกำลังจะพูดต่อแต่

“เฮ้ยยยย นายสองคนทำอะไรกัน กลางวันแสก ๆ”

เอาละสิครับ บูมเดินมาเห็นเข้าพอดี ผมกับพี่วิทย์เลยผละออกจากกัน (ผมเป็นฝ่ายดันตัวออกซะมากกว่า)

“หนอย ทีแรกก็บอกเป็นญาติทางป้า ไม่มีอะไรกัน ญาติที่ไหนเค้ามากอดกันอย่างนี้วะ ถูกแล้วที่กูเรียกมึงว่าสำส่อน”บูมพูดด้วยความโมโหจัด

“เฮ้ย มึงพูดอะไรเกรงใจโยเค้าบ้างนะ”พี่วิทย์ตวาดกลับไปอย่างฉุนเฉียว

“ทำไมกูต้องมาเกรงใจกับคนสำส่อนแบบนี้ด้วยวะ คล้อยหลังกูแป๊ปเดียวก็มาแอบกอดกับชู้”บูมสวนกลับไป

หลังจากนั้นพี่วิทย์ก็เดินเข้ามาชกบูมจนล้มลงไป ขณะที่พี่วิทย์กำลังเงื้อหมัดจะชกบูม ผมก็ตะโกนออกมา

“หยุด....หยุดได้แล้ว ....”ผมตะโกน

“พี่วิทย์กลับไปก่อนเดี๋ยวผมจะเคลียร์ทางนี้เอง”ผมรีบไปห้ามพี่วิทย์ แล้วรีบไล่พี่วิทย์กลับ

“ไปสิพี่ ถ้าพี่ยังอยากจะเจอผมอยู่”ผมเอาไม้ตายมาขู่

“ได้ ๆ ๆ แต่มึงจำไว้นะว่า น้องโยเค้าไม่ได้เป็นแบบที่มึงคิด

ถ้ามึงยังคิดแบบนี้อยู่ มึงก็ไม่สมควรจะได้เป็นเจ้าของหัวใจของน้องโย”พี่วิทย์พูดกับบูมแล้วเดินจากไป

ผมมาช่วยพยุงร่างที่ล้มลงของบูมให้ลุกขึ้นมายืน พลางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเลือดที่มุมปากให้บูม แต่เค้าก็สะบัดมือผมออกไป

“ไม่ต้อง”บูมพูดอย่างโมโห

“ไม่ต้องได้ยังไง มาเราเช็ดให้”ผมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางเอาผ้าไปเช็ดหน้าให้

“ทำไมนายทำกับเราแบบนี้ ไหนนายบอกว่ารักเราไง ทำไมนายทำแบบนี้”บูมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจ
 
“ทำไมนายต้องโกหกเรา นายนึกว่าเราโง่ใช่ไหมถึงทำแบบนี้”บูมพูดพลางน้ำตาชายหนุ่มก็เริ่มไหล

“บูมมม เรา....เราไม่ได้ตั้งใจ เราแค่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเราที่เพิ่งจะเริ่มดีต้องมีอันเป็นไปด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้ บูม...เราขอโทษ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น

“นายคิดว่าทำแบบนี้แล้วถูกแล้วหรือ นายทำแบบนี้ นายดูถูกเราเกินไป นายตีค่าความรักของเราต่ำไป

เราคิดว่าเราสองคนยังไม่พร้อมที่จะเป็นแฟนกันหรอก ถ้านายยังคงคิดแบบนี้ และตีค่าความรักที่เรามีให้แบบนี้”บูมเช็ดน้ำตาและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เอ่อ คือเราไม่รู้จะแก้ตัวยังไง แต่เราไม่เคยตีค่าความรักที่นายมีให้เราต่ำเลยนะ เราแค่แคร์ความรู้สึกนายเท่านั้นเอง”ผมพูดแก้ตัวด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ
 
“เอาละ พอ พอ พอ....หยุดแก้ตัวได้แล้ว เราคิดว่าเราสองคนต้องเริ่มมามองแล้วว่า ตกลงเราสองคนควรจะเป็นแฟนกันหรือเปล่า

ถ้านายยังไม่เชื่อใจเรา และทำให้เราเชื่อใจนายไม่ได้ เราก็ต้องจบกัน”บูมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แต่เรา...........เรารักบูมจริง ๆ นะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ

“...........................”เงียบไม่มีเสียงตอบจากบูม

“ก็ได้ถ้าบูมยังไม่แน่ใจในความรักที่เรามีให้ เราจะพยายามทำให้บูมได้เห็นว่าเรารักบูมมากแค่ไหน

ไม่ว่าจะนานกี่ปีเราก็จะพยายาม อาจจะใช้เวลา หนึ่งปี สองปี หรือ สิบปี เราก็จะทำ ทำให้บูมเห็นว่า เราไม่เคยมีใครอื่นนอกจากบูมคนเดียว”ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ได้แล้วเราจะคอยดู ไปเราพานายไปส่งที่บ้าน”บูมพูดพลางเดินนำผมไปที่รถ

ตลอดทาง เราสองคนนั่งอยู่บนรถยนต์ที่แล่นไป โดยที่ไม่มีเสียงสนทนาเล็ดรอดออกมาแม้แต่นิดเดียว

มีเพียงผมคนเดียวที่แอบมองเวลาที่บูมขับรถ ส่วนบูมไม่แม้แต่เพียงมองกลับมาดูผมแม้กระทั้งตอนที่ผมกำลังจะเดินลงจากรถเพื่อเดินเข้าบ้านไป

“นี่บูมจะไม่เอ่ยลาเราเลยหรอ”ผมบอกอย่างน้อยใจ

“อืมม เจอกัน”บูมพูดสั้น ๆ

“ครับเจอกัน”ผมเดินคอตกเข้าบ้านไป

หลังจากที่กลับมาถึงบ้าน แม่ผมก็เรียกตัวผมไปนั่งคุยเพราะป้าผมที่อยู่ที่เชียงใหม่โทรทางไกลมาเพื่อให้ผมรีบขึ้นไปที่เชียงใหม่

แต่ไม่บอกเหตุผลว่าทำไม ผมรู้แค่ว่า มีเรื่องเร่งด่วน สำคัญมากทำให้ผมต้องรีบแพคกระเป๋าเพื่อเดินทางไปเชียงใหม่อีกครั้งนึง

จบตอนที่ 9 แล้วครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม ช่วงนี้คงไม่ได้มาอัพเดททุกวันนะครับ เพราะติดธุระนิดหน่อย แต่ยังไงจะมาอัพให้บ่อย ๆ รับรองว่าไม่หายไปอย่างแน่นอนครับ

********************************************************

GoneOn                                         ต้องติดตามต่อไปครับ เรื่องมันเพิ่งเริ่มต้นเองครับ

][GobGab][                                   แต่ในโลกของความจริง จะมีสักกี่คู่ที่ทำได้ครับ/ มาต่อให้แล้วนะครับ

MyLoveMyBabe                        ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ

มูมู่น้อย                                             ไอ้ตอนกุ๊กิ๊กนี้ มันแบบไหนเหรอครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะครับ

Yo_angkrub                               ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ แบบนี้นะครับ

[{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]                                :yeb:

หมูพูห์                                             ขอบคุณที่เอามาลง

b|ueB[o ]YhUb                         ขอบคุณที่สร้างคลับดีๆ ขึ้นมา

<<--Yาย_โO-->>                          แฝดคนละฝาหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 14-12-2006 16:06:52

ถ้านายยังไม่เชื่อใจเรา และทำให้เราเชื่อใจนายไม่ได้ เราก็ต้องจบกัน”


จะมีสักกี่คู่ที่รักกันแล้วเชื่อใจกันจิงๆ  :impress:

เข้าโหมดเศร้าอีกแล้วคับ...........เพิ่งจาสุขได้ไม่นาน :impress3:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 14-12-2006 17:44:24
หนุกดี หนุกดี  ชอบอ่านตอนใส่อารมณ์กัน  แรงดี  ว่างเมื่อไหร่มาต่อเรยค๊าบ หมูพูห์   :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-12-2006 09:26:31
เพิ่งจะดีกันได้ไม่เท่าไหร่ ต้องมาเจออุปสรรคซะแล้ว  :monkeysad2:

รัก 3 เส้า  แบบนี้ ยังไงก้ต้องมีคนต้องเจ็บอย่างน้อยก็ 1 คน ....แย่จัง....


มาต่อเร็วๆนะครับ กำลัง อิน....

โดยเฉพาะประโยคนี้ "ถ้านายยังไม่เชื่อใจเรา และทำให้เราเชื่อใจนายไม่ได้ เราก็ต้องจบกัน”  ทำให้ผมต้องคิดทบทวนเรื่องของผมเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-12-2006 11:03:37
"ตอนที่ 10"

หลังจากที่ผมรีบแพคกระเป๋าเสร็จและเดินลงมาข้างล่าง ผมก็เจอกับพี่วิทย์นั่งอยู่บนโซฟาและกำลังสนทนากับแม่ผมอยู่

“อ้าว พี่วิทย์มาได้ไงครับเนี่ย”ผมพูดพลางรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาตะหงิด ๆ

“จ๊ะลูก พอดีป้าเค้าบอกว่าพี่วิทย์กำลังจะกลับไปที่เชียงใหม่เลยให้เราไปเชียงใหม่พร้อมพี่เค้าเลย”แม่ผมตอบแทนพี่วิทย์ ส่วนพี่วิทย์ก็พยักหน้ารับ

“บังเอิญจริง ๆ เลยนะครับ แล้วพี่ไม่อยู่ทำธุระต่อแล้วหรอครับ เห็นว่ามีธุระด่วนนี่ แต่นี่พี่เพิ่งมาได้ สองสามวันเองนะ”ผมถามอย่างไม่ค่อยไว้ใจกับสถานการณ์ตรงหน้าแล้วครับ

“พอดีพ่อพี่ไม่ค่อยสบายน่ะ เลยโทรมาให้พี่รีบกลับ เพราะว่าไม่มีคนช่วยดูแลรีสอร์ต”พี่วิทย์อธิบาย แต่ผมก็ไม่เชื่ออยู่ดี

“รีบไปเถอะจ๊ะ เดี๋ยวจะไม่ทันเครื่องนะ”แม่ผมบอกอย่างเป็นห่วง

“ครับแม่ งั้นผมไปแล้วนะครับ แล้วผมจะรีบกลับ”ผมเอ่ยลาแม่

“ผมลาแล้วครับ คุณน้า สวัสดีครับ”พี่วิทย์บอกลาแม่ผม

“โชคดีนะจ๊ะเด็ก ๆ”แม่ผมอวยพรพวกเราสองคน

“ขอบคุณครับ”พี่วิทย์ตอบพร้อมกับผม

ผมกับพี่วิทย์นั่งแท็กซี่ออกมาจากบ้านด้วยกัน โดยที่ผมไม่พูดกับพี่วิทย์เลยตลอดทาง

จะว่าผมโกรธพี่เค้าหรือ ก็เปล่า ผมไม่ได้โกรธเพียงแต่ไม่รู้จะคุยอะไรดี  และกำลังคิดหาหนทางทำให้ผมกับบูมกลับมาเป็นแบบเดิม

จนกระทั่งแท็กซี่มาถึงสนามบิน ผมกับพี่วิทย์ก็เดินลงมาและไปที่เคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อที่จะได้ยื่นเอกสารขึ้นเครื่อง

“นี่โยจะไม่พูดกับพี่เลยเหรอครับ พี่ทำตัวหน้าเกลียดมากใช่ไหม โยถึงไม่ให้อภัยพี่”พี่วิทย์พูดขณะที่เราเดินออกจากเคาน์เตอร์เช็คอินเพื่อไปรอด้านใน

“เปล่าครับ ผมไม่ได้โกรธพี่วิทย์ ผมแค่เหนื่อยแค่นี้เอง”ผมตอบ

“ถ้าน้องโยไม่โกรธพี่นะ แล้วเรื่องทีพี่ถามน้องโยไว้ น้องโยจะว่ายังไงครับ”พี่วิทย์ถามอย่างตื่นเต้น

“เรื่องไหนครับ”ผมตอบทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าพี่วิทย์ต้องการสื่อถึงอะไร

“ก็เรื่องที่พี่ชอบน้องโยไง จะเป็นไปได้ไหมที่น้องโยจะมารับรักพี่”พี่วิทย์ถามพลางจ้องหน้าผม

“เอาไว้ทีหลังเถอะครับพี่วิทย์ ผมเหนื่อยมามากแล้ว”ผมตอบไปอย่างเซ็ง ๆ

“ก็ได้ครับ ก็ได้ แต่พี่อยากให้น้องโยจำไว้ว่าพี่จะไม่ท้อแท้ แต่พี่จะทำให้น้องโยรักพี่ให้ได้คอยดู ไม่ว่าพี่จะทำวิธีไหนก็ตาม”พี่วิทย์พูดอย่างมั่นใจ จนผมเริ่มหวั่นใจ


หลังจากที่เรามาถึงเชียงใหม่ก็เกือบจะค่ำแล้ว วันนี้มีแต่รถของพี่วิทย์มารับ เพราะป้าผมต้องไปอยู่ดูแลลุงผมที่โรงพยาบาลเลยจะไปเจอผมที่บ้านเลย ผมเลยต้องอาศัยรถพี่วิทย์กลับบ้านของป้าผม

“นายทัด กลับไปก่อนนะ เดี๋ยวผมจะพาน้องเค้าไปเที่ยวในตัวเมืองหน่อย แล้วฝากบอกคุณพ่อด้วยว่าผมจะกลับดึก”พี่วิทย์หันไปสั่งนายทัดคนขับรถ พลางยื่นมือไปขอกุญแจจากคนขับรถ

“ได้ครับคุณวิทย์”นายทัดพูดพร้อมกับยื่นกุญแจรถให้และเดินออกไปนั่งรถกลับบ้านไป

“พี่วิทย์ผมยังไม่อยากไปไหน ผมอยากไปบ้านของคุณป้าแล้วครับ”ผมพูดกับพี่วิทย์ด้วยสีหน้าที่อ่อนแรงเป็นที่สุด

“ไปเถอะนะครับน้องโย ไปนั่งที่ร้านอาหารของเพื่อนพี่แป๊ปนึง ดีมากเลยนะ บรรยากาศดีเลยล่ะ”พี่วิทย์เอ่ยชวน

“คือผม.....................”ผมกำลังจะบอกปฏิเสธแต่

“น้องโยไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ นะครับ นะ นะ พี่ไม่อยากไปนั่งคนเดียว”พี่วิทย์ชวนด้วยน้ำเสียงอ้อน ๆ

“แต่................”

“ไม่มีแต่นะครับ นะ นะ นะ แค่ ชั่วโมงสองชั่วโมงเอง”พี่วิทย์รีบชิงพูดก่อนและรีบเดินนำหน้าไปเปิดประตูพลางฉุดผมขึ้นรถ

“แค่แป๊ปเดียวเองนะครับพี่”ผมพูดขณะนั่งในรถกับพี่วิทย์

“ครับ แล้วพี่จะรีบไปส่งเลยนะ”พี่วิทย์ยิ้มหน้าบาน

หลังจากที่เราออกจากสนามบินใช้เวลาประมาณ สิบห้านาที ก็มาถึงร้านอาหารของเพื่อนพี่วิทย์ (จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าเป็นของพ่อของเพื่อนพี่วิทย์มากกว่า)

บรรยากาศน่านั่งจริง ๆครับ แถมมีดนตรีเบา ๆ มีฝรั่งค่อนข้างเยอะเลยครับ ผมกับพี่วิทย์ก็เดินเข้าไปในร้าน พี่วิทย์มองหาเพื่อนเค้าแล้วโบกมือทักทาย

“เฮ้ยยย ว่าไงวะไอ้วิทย์ แม่งตามเด็กไปกรุงเทพฯเชียวนะมึง ไหนวะดูหน่อยดิ๊ว่าเด็กมึงหน้าตาแบบไหน”เพื่อนพี่วิทย์ตะโกนทักทายพร้อมหันมาจ้องดูผม

“ไอ้ห่า พูดไปกูไปทำธุระโว๊ยยยย”พี่วิทย์พูดเสียงดุๆ

“เฮ้ยนี่หรอเด็กมึง ไม่เท่าไหร่เลยนี่หว่า 555555”

อ้าวเวร หน้าไม่หล่อแถมปากไม่ค่อยสร้างสรรค์อีก ผมคิด

“พี่ชื่อ จอห์น นะ เป็นเพื่อนไอ้วิทย์มัน ตามจีบมันมาหลายปีมันก็ไม่เอาจนต้องมาเป็นเพื่อนมันนี่แหละ แล้วน้องชื่ออะไรครับ”พี่จอห์นพูดกับผมพลางจ้องหน้าผม

“ผมชื่อโยครับ ผมไม่ได้เป็นเด็กใครนะ แล้วก็ไม่มีวันเป็นเด็กของพี่วิทย์ด้วย”ผมพูดอย่างอารมณ์ไม่ค่อยจะดี

“อย่าไปถือสามันเลยนะ น้องโย มันก็ปากแบบนี้แหละถึงไม่มีใครเอา”พี่วิทย์เอ่ยขอโทษแทนเพื่อน

“ไอ้ห่า ว่ากูซะเสียเลย แล้วน้องโยมีแฟนหรือยังครับเป็นแฟนกับพี่มะ”พี่จอห์นหันไปว่าพี่วิทย์แล้วหันมาบอกผม

“เฮ้ย คนนี้กูจองโว๊ยยย ไอ้ห่าหม้อไม่เลือกคนเลย”พี่วิทย์หันไปด่าเพื่อนเค้าที่กำลังจ้องผมอยู่

“ใครดีใครได้วะ”พี่จอห์นไม่สนใจกับคำด่าของพี่วิทย์

“เอ่อ.....คือว่า ผมขอตัวกลับบ้านดีกว่านะครับ พอดีผมเพิ่งเดินทางมา รู้สึกเพลีย ๆ พี่วิทย์กลับกันเถอะ ขอโทษนะครับพี่จอห์น”ผมเอ่ยขึ้นขณะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจยังไงไม่รู้

“อ้าว....ยังไม่ได้นั่งทานข้าวกันเลย จะกลับแล้วหรอครับน้องโย เห็นมั้ยมึงทำให้กูอดกินข้าวกับน้องโยเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้มึงเจอดีแน่ไอ้จอห์น”พี่วิทย์พูดกับผมพลางหันไปว่าพี่จอห์น

“วันหลังแวะมาเยี่ยมที่ร้านมั้งนะครับ น้องโย พี่จะได้คอยเทคแคร์และได้รู้จักกันมากขึ้น”พี่จอห์นพูดพลางยิ้มกรุมกริ่ม

“ครับ”ผมรับคำแบบเซ็ง ๆ “ก็ไหนว่ากูหน้าตาธรรมดา แล้วจะมาจีบกูทำไมวะ” ผมคิดในใจ

“ไปก่อนนะเว้ย เจอกัน มึงโดนแน่พรุ่งนี้ไอ้ตัวดี”พี่วิทย์เอ่ยลาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์

“555555555555 อย่างกับกูจะกลัว”พี่จอห์นหัวเราะชอบใจ

“ผมไปนะครับ”ผมเอ่ยลาพี่จอห์น แล้วเดินออกมากับพี่วิทย์เพื่อนนั่งรถกลับบ้าน

ขณะที่เรานั่งรถกลับบ้านป้าผม พี่วิทย์ก็เอาแต่จ้องมองผมไปสลับกับการดูทางไปขณะขับรถ แล้วพี่วิทย์ก็พูดขึ้นว่า

“โยเสน่ห์แรงนะ ดูดิ ไอ้จอห์นมันยังชอบเลย อย่างนี้พี่ต้องดูแลไม่ให้คลาดสายตาเลย”พี่วิทย์เอ่ยขึ้นมา

“ไม่หรอกครับพี่ พี่จอห์นเค้าล้อเล่นน่ะ”ผมตอบไปอย่างเซ็ง ๆ เหนื่อย ๆ

“ดูน้องโยเหนื่อยจังนะ มีอะไรหรือเปล่า”พี่วิทย์ถามอย่างเป็นห่วงหลังจากที่เห็นสีหน้าผมไม่ค่อยดี

“ไม่เป็นไรครับพี่แค่ผมรู้สึกเหนื่อย ๆ แค่นั้นเอง”ผมตอบเลี่ยง ๆ เพราะไม่อยากให้พี่เค้ารื้อฟื้นเรื่องเมื่อกลางวันนี้ออกมา

“งั้นกลับถึงบ้านก็พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ แล้วพรุ่งนี้พี่จะรับไปที่รีสอร์ทตอนเย็น”พี่วิทย์พูดพลางหันมามองหน้าผม

“ไปทำไมครับที่รีสอร์ท”ผมพูดอย่างสงสัย

“อ้าว คุณน้าอ้อไม่ได้บอกหรอครับว่า จะให้น้องโยไปช่วยดูแลรีสอร์ทเป็นเพื่อนพี่ไปพลาง ๆ ก่อนสัก สองอาทิตย์

เพราะคุณพ่อพี่กับคุณลุงไม่สบาย เลยไม่มีใครดูแล แล้วนี่ใกล้จะเป็นช่วง high season แล้ว

คุณพ่อพี่กะคุณลุง คุณป้าของน้องโย กลัวว่าพี่จะดูแลไม่ไหวเลยให้น้องโยมาช่วยไปพลาง ๆก่อน”พี่วิทย์อธิบาย

“ผมเนี่ยนะดูแล ตกลงนี่เป็นของต้องการของคุณลุง คุณป้าผมจริง ๆ หรือเปล่า”ผมตกใจ พลางมองหน้าพี่วิทย์อย่างรู้ทัน

“ก็.............”พี่วิทย์เห็นสายตาที่ผมมองแล้วพูดไม่ออก เลยบอกความจริงออกมา

“ก็พี่อยากอยู่กับน้องโยนี่ครับ อยู่รีสอร์ทคนเดียวมันเบื่อน่ะจะได้มีเพื่อนคุยด้วย เลยโกหกท่านไปว่าดูแลไม่ไหว ไม่งั้นพี่คงจะเหงาตายแน่เลย

ต้องไปอยู่เชียงรายคนเดียว”พี่วิทย์เฉลยออกมาแล้ว ว่าที่จริงก็เป็นแผนของพี่วิทย์นั่นเอง เพราะถ้าป้าผมพูดเหตุผลนี้ผมคงไม่รีบขึ้นมาที่เชียงใหม่หรอก

“พี่ไม่อยากอยู่คนเดียว พี่เลยให้ผมขาดเรียนตั้งสองอาทิตย์เนี่ยนะ”ผมพูดอย่างโมโหนิด ๆ

“ก็พี่..............”พี่วิทย์พูดไม่ออกเพราะพี่วิทย์ผิดจริง ๆ อ่ะครับ

“ผมก็นึกว่าคุณลุงเป็นอะไรซะอีก พี่วิทย์นะพี่วิทย์....ผมจะกลับพรุ่งนี้ละ”ผมเริ่มโมโห

“น้องโยเพิ่งมาเองอ่ะ นึกว่าพี่ขอร้องนะ นะครับ อยู่เป็นเพื่อนพี่สักอาทิตย์นะ แค่อาทิตย์เดียวเอง นะครับ นะ”พี่วิทย์อ้อน

“เฮ้อออ แค่อาทิตย์เดียวนะ ผมไม่อยากขาดเรียน”ผมเริ่มใจอ่อน เพราะมาคิดดูอีกทีรอให้เรื่องผมกับบูมเริ่มที่จะซาลงก่อนดีกว่า

ขืนผมไปตามง้อช่วงนี้ บูมก็คงจะยังไม่ให้อภัยผมหรอก ผมคิดอย่างงั้น

“ไชโย น้องโยใจดีจัง ขอหอมทีได้ป่ะ”พี่วิทย์ยิ้มอย่างดีใจพลางจะยื่นหน้ามาจูบผม

“เฮ้ยยย พี่วิทย์มากไป มากไป เดี๋ยวผมก็กลับพรุ่งนี้ซะเลย”ผมพูดพลางเอามือไปดันหน้าพี่วิทย์

“แต่พี่ต้องสัญญาว่าจะไม่ไปเที่ยวบอกใครว่าผมเป็นเด็กพี่ เพราะผมคิดกับพี่แค่พี่ชายแค่นั้น”ผมพูดทำให้พี่วิทย์ดูเศร้าลงอย่างชัดเจน

“ก็ได้ครับ แต่ยังไงพี่ก็จะไม่ท้อ พี่จะทำให้น้องโยเป็นของพี่ให้ได้ทั้งตัวและหัวใจ พี่สัญญา”พี่วิทย์พูดอย่างจริงจัง

ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วนั่งรถต่อไปอีกสักพักก็มาถึงบ้านของป้าผม ซึ่งป้าผมก็มายืนรอรับผมอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เราทักทายกันนิดหน่อยแล้วผมก็ขอตัวขึ้นไปนอนเพราะผมรู้สึกเพลียมาก ๆ

ผมขึ้นมาบนห้องนอนแล้วหยิบเสื้อผ้าเพื่อเดินเข้าไปอาบน้ำ พออาบน้ำเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน ยังไม่ทันจะได้หลับ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งเป็นเบอร์แปลก ๆ ที่ผมไม่รู้จัก

“สวัสดีครับ ต้องการพูดกับใครครับ”ผมถามขณะรับสายโทรศัพท์

“เราแพทนะ พอดีวันเสาร์หน้าเป็นวันเกิดเรา โยอย่าลืมงานวันเกิดเราด้วยนะ”แพทพูดด้วยน้ำเสียงสดใส

“เออ หรอ แล้วแพทรู้เบอร์เราได้ยังไงล่ะ”ผมถามอย่างสงสัยเพราะแพทไม่เคยรู้เบอร์มือถือของผมเลย

“อ้อ เราก็โทรไปขอมาจากเพื่อนโยไง แล้วตกลงว่ายังไงล่ะ ไปงานวันเกิดเราได้ไหม”แพทแก้ตัวอย่างน่าสงสัยเพราะแพทก็ไม่มีเบอร์เพื่อนผมอีกเช่นกัน

“ไปสิ แต่แพท เอ่อ คือ...................”ผมจะถามว่าเอาเบอร์มาจากบูมหรือเปล่า หรือว่าบูมให้ถามให้แต่ผมก็หยุดความคิดไว้แค่นั้นเอง

“ดีใจจังเลย แล้วนี่โยอยู่ที่ไหนล่ะ พรุ่งนี้มีเรียนกับอาจารย์โหด(ฉายาอาจารย์ประจำคณะผม)นะ”แพทถามผม

“เราอยู่เชียงใหม่ อาทิตย์หน้าค่อยกลับพอดีเราติดธุระนิดหน่อย”ผมตอบกลับไปอย่างลืมตัว

เพราะถ้าบูมให้แพทโทรมาถามผม นั่นหมายความว่า ผมทำให้บูมเริ่มสงสัยอีกละ เพราะบูมรู้ว่าพี่วิทย์ก็อยู่ที่เชียงใหม่ด้วยเช่นกัน

“โยไปทำอะไรที่เชียงใหม่อ่ะ ตั้งอาทิตย์นึง”แพทตะโกนออกมาอย่างกับจะให้คนรอบข้างได้ยิน

“เอ่อ..........”ยังไม่ทันที่ผมจะบอกถึงเหตุผลเลยก็มีเสียงชายหนุ่มที่ผมคุ้นเคยดังขึ้นมา

“ไปทำอะไรที่เชียงใหม่ ทำไมนายทำแบบนี้ ไหนโยบอกว่าไม่มีอะไรกับมันไง หนีตามมันไปเลยหรอ”บูมถามมาเป็นชุดเลยครับ

“เอ่อ.... ไม่มีอะไรพอดีเราต้องมาช่วยป้าดูแลรีสอร์ทน่ะ ลุงเราไม่สบาย จริง ๆ นะ ถ้าไม่เชื่อ บูมจะมาที่เชียงใหม่ก็ได้”ผมแก้ตัว

“อย่าท้านะ”บูมบอก

“เราไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ทำไมต้องกลัวด้วย ดีซะอีกเราสองคนจะได้ปรับความเข้าใจกันไง”ผมพูดไปอย่างงั้นเพราะไม่คิดว่าบูมจะเอาจริงหรอก

“งั้นเราจองตั๋วพรุ่งนี้เลยมารับเราที่สนามบินด้วย”บูมบอกผม

“เฮ้ยยยยย จริงดิ!”ผมอุทานออกมาอย่างคาดไม่ถึง

“ตกใจอะไร หรือว่ามีอะไรปกปิดเราที่เชียงใหม่”บูมถามอย่างไม่พอใจ

“เปล่า เราแค่ดีใจที่บูมยกโทษให้เรา”ผมพูดกลบเกลื่อน

“ไม่ได้ยกโทษให้ แต่เราต้องตามไปควบคุมความประพฤติจำเลยที่นั่น”บูมตอบมาด้วยน้ำเสียงงอนนิด ๆ

“ถ้าตามมาควบคุมต้องตามมาดูในห้องนอนด้วยนะ นอนห้องเดียวกันเลยนะ นะ นะ นะ”ผมแหย่บูมอย่างอารมณ์ดีที่อย่างน้อยบูมก็ไม่ได้โกรธผมจริง ๆ

“ไม่ต้องทำมาเป็นพูดดี ยังมีคดีค้างเก่าอยู่เลยนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นแล้ว

“นะ นะ นะ ไม่อยากนอนคนเดียวเลยอ่ะ”ผมอ้อนบูม

“555555”บูมหัวเราะแล้วครับ

“อยากให้มีคนมานอนหนุนตักแบบวันนั้นอีกอ่ะ”ผมพูดค่อย ๆ แบบเขินนิด ๆ

“ไม่ต้องมาพูดดีเลย ยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ เที่ยวไปกอดใครต่อใคร ถ้าไปเชียงใหม่แล้วเจอแบบนั้นละก็ น่าดู!”บูมพูดอย่างหมั่นไส้

“ไม่กล้าแล้วครับ กลัวแล้วครับ...แต่ไม่มานอนด้วยกันจริง ๆ หรอ เดี๋ยวให้คนอื่นมานอนแทนนะ”

“ก็ลองดูสิ”บูมตะโกนออกมา

“ไม่อายแพทหรอ เค้ารู้กันหมดแล้วมั้งน่ะ”ผมถามบูมด้วยความสงสัย

“ก็เพราะเค้ารู้น่ะสิ เราถึงได้เลิกโมโหโยไง เพราะเราไปปรึกษาแพท แล้วแพทก็เลยช่วยพูดให้ ไม่งั้นไม่มีทาง”บูมบอกถึงสาเหตุที่ทำให้บูมเลิกโมโหผม

ขอบใจนะแพท ผมคิด “เออ แล้วนี่แพทไปไหนล่ะ”ผมถาม

“อ๋อ แฟนเค้ามารับเมื่อกี้เอง ไม่ได้ยินเราคุยกันหรอก”บูมบอก

“โหหหห คนเราวางแผนมาได้แนบเนียนมาก ต้มเราซะเปื่อยเลยนะ”ผมร้องออกมา

“55555555 ก็ใครใช้ให้มาเข้าทางล่ะ”บูมตอบ

“ก็ได้ ๆ เรายอมโดนต้ม แต่แค่ครั้งเดียวนะ”ผมตอบอย่างอารมณ์ดี

“แล้วเดี๋ยวเราจะโทรไปบอกเที่ยวบินกับเวลานะ เดี๋ยวเราต้องขับรถกลับบ้านละ เดี๋ยวโทรกลับไปใหม่นะครับ”

“อ้าว บูมยังไม่กลับบ้านอีกหรอ ดึกแล้วนะ”ผมถามอย่างสงสัย

“ก็ยังอ่ะดิ เรานั่งคุยกับแพทตั้งนาน กว่าจะรู้สึกดีขึ้นแล้วให้แพทโทรไปถามโยนั่นแหละ”บูมบอก

“ยังไงเราก็ขอโทษนะ เราสัญญาว่าเราจะไม่โกหกบูมอีก ด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง”ผมสัญญากับบูมพลางชูสองนิ้ว

“5555555 แค่ไม่โกหกเราก็พอแล้ว แล้วเดี๋ยวเราโทรไปหาอีกทีนะครับ บายครับ”บูมพูดจบก็วางสายโทรศัพท์

“ได้ ๆ บายครับ”

หลังจากที่คุยกับบูมเสร็จผมก็รู้สึกว่ากระปรี้กระเปร่าขึ้นมากะทันหัน คิดว่าน่าจะได้ยาดีมารักษาตรงจุด ตรงอาการพอดี

แต่พอมาคิดดูอีกที ผมก็เริ่มจะรู้สึกหวั่นใจ กับเหตุการณ์ที่กำลังจะมาถึง เพราะว่าบูมจะมาที่เชียงใหม่เพื่อมาเฝ้าผม พร้อม ๆ กับ พี่วิทย์ที่ยังคงตามจีบไม่เลิก

ไหนจะพี่จอห์นอีกซึ่งดูท่าจะตื้อไม่เลิกเช่นกัน ผมว่าตอนที่ผมไปเชียงรายผมคงจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ๆ เลย

พอผมคิดได้แบบนั้นความสุขเมื่อสักครู่นี้ ก็เริ่มจะแปรเปลี่ยนเป็นความกลุ้มใจแทน ทำไมชีวิตผมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะเนี่ย ผมคิดในใจ..............

จบตอนที่ 10 แล้วนะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน และต้องขอโทษด้วยที่ทำให้รอ เพราะช่วงนี้มีธุระนิดหน่อย ยังไงก็จะพยายามมาอัพเดทให้นะครับ


*******************************************************
<<--Yาย_โO-->>                           เอาแบบนั้นเลยเหรอครับ


][GobGab][                                นั้นนะสิครับ ว่าแต่น้องถุงเชื่อได้มั้ยละครับ


MyLoveMyBabe                     เราต้องทำให้เขาเชื่อใจครับ และเราก็ต้องเชื่อใจในตัวเขาครับ ถ้ามีแต่หวาดระแวง รักมันคงต้องพังครับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 15-12-2006 12:42:24
คนรักกัน................มันโกรธกันไม่ลงจิงๆเนอะ......... :impress: :impress:

เอาใจช่วยหั้ยบูมและโยผ่านมันไปได้......... :impress2: :impress2:

ป.ล.........ตัวผมอ่ะเชื่อใจได้เสมอคับพี่พูห์ :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ScAreD:SAcreD~ ที่ 15-12-2006 12:57:52
เฮ้อ กว่าจะตามอ่านทัน

ไม่ค่อยได้เข้าก้องี้แหละ อ่านที เล่นเอาเหนื่อยเลย   :pigha2:

ความเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญจิงๆ เฮ้อ จะตามอ่านต่อไปเรื่อยๆนะคับ ชอบจัง

อย่าเศร้ามากเลยนะ  :monkeysad:

ป.ล. ถุงหยอดตลอดเลยนะ เชื่อใจได้หรอ เหอ เหอ :kikkik:

หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 15-12-2006 13:12:27
 :monkeylove2: ตามอ่านทันแย้ว ชอบ ชอบ ชอบ จิงๆเยยครับ  :monkeylove2:

ขอบคุณ คุณ หมูพูห์ ด้วยกัฟ หนุกดดี

หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pim ที่ 15-12-2006 14:25:21
อืมม ตัวละครดูวุ่นๆ กันจัง :o

จะมีเรื่องอีกปะเนี่ย
ว่าแล้วก็รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-12-2006 15:42:46
คนรักกัน................มันโกรธกันไม่ลงจิงๆเนอะ.........

ใช่จริงๆครับ คนรักกันโกรธกันไม่ลงจริงๆ ด้วย  งั้นที่ใครบางคนเค้ายังไม่ยอมคุยกับผมนี่ แสดงว่าว่าเค้าโกรธ แล้วเค้าไม่ได้รักเราหรือเปล่า :monkeycry2:

แต่ผมซิ แปบเดียวก้หายโกรธแล้วอ่ะ ทั้งๆที่เป็นความผิดมาจากเค้าแท้ๆๆ ฮืออๆๆ :monkeysad2:



มาพูดเรื่องของนายโยดีกว่า กำลังสนุกเลยครับ คนรักกำลังจะได้เจอกัน แถมมีตัวขัดขวางรออยู่....น่าลุ้นจริงๆๆเลยครับ มาต่อเร็วๆนะครับ :kikkik:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-12-2006 11:16:51
"ตอนที่ 11"

    เสียงนาฬิกาปลุกในตอนเช้าทำให้ผมตื่นขึ้นมาทั้ง ๆ ที่ผมเพิ่งจะหลับลงไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง เพราะผมมัวแต่กังวลใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้

   วันที่เรา 3 คน ผม บูม และ พี่วิทย์ต้องมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ซึ่งผมเองก็ยังรู้สึกขยาดกับเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไปได้ไม่นาน
 
    ทำให้ผมไม่สามารถข่มตานอนลงได้ เช้านี้ผมจึงรู้สึกไม่ค่อยแจ่มใสนัก ผมลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วเดินไปเดินมาอย่างกับหนูติดจั่น พลางคิดหาทางออกว่าควรจะทำอย่างไรดี

     จนกระทั่งคุณป้าผมให้คนงานเดินขึ้นมาเคาะประตูเรียกให้ลงไปข้างล่าง ผมจึงเดินลงไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้อาบน้ำแต่งตัวเลย

    “จริงอ่ะ แล้วบูมบอกที่บ้านแล้วหรอว่าจะมาที่เชียงใหม่”ผมถาม

    “บอกแล้ว แต่ไม่ได้บอกเหตุผลหรอก เพราะเค้าไม่ถามเราอยู่แล้ว เราเลยเฉย ๆ”บูมอธิบาย

    “อืมมม ก็ดีนะ แล้วนี่บูมเตรียมตัวหรือยัง ที่จะต้องมานอนห้องเราน่ะ”ผมถามอย่างเจ้าเล่ห์

    “เตรียมอะไรหรอ....แต่ว่า เออ โย เราพกถุงยางไปแค่ 3 โหลพอไหม หรือว่าเอาไปสัก 5 โหลดี”บูมพูดไปหัวเราะไป

    “จะฆ่ากันหรอไงเนี่ย 5555”ผมแกล้งแซว

    “ล้อเล่น แต่ถ้าให้เราไปนอนจริง ๆ ก็ดีนะ ให้เราไปนอนด้วยคนดิ นะ นะ นะ นะ นะ”บูมเริ่มอ้อน

    “555 ไว้มาก่อนเถอะ แล้วค่อยมาขอ..... รีบไปได้แล้วเดี๋ยวตกเครื่องนะ”ผมขำกับท่าทีการอ้อนของบูม

    “คร๊าบบบบบบ ผม แฟนที่เคารพ”บูมตอบ

    “555 แล้วเจอกันนะครับ เดินทางปลอดภัยนะ เราจะรอ”ผมเอ่ยลา

    “คร๊าบบบบบ จะรีบไปให้ไว ๆ เลย บายครับผม”บูมพูดจบก็วางโทรศัพท์ไป

    หลังจากที่บูมวางโทรศัพท์ไปแล้ว ผมก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าเพื่อเข้าไปอาบน้ำ ขณะที่ผมกำลังอาบน้ำก็ได้ยินเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้ามา ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร

    รอจนกระทั่งอาบน้ำเสร็จก็ใส่ชุดคลุมอาบน้ำเดินมาหยิบโทรศัพท์เพื่อกดอ่านข้อความ

    ดีใจจังได้อยู่กับน้องโย ที่เชียงราย ตั้งอาทิตย์นึง อยากให้ถึงเวลานั้นเร็ว ๆ จัง คิดถึงนะครับ ..... พี่วิทย์

    ผมอ่านข้อความพร้อมกับรู้สึกกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะผมไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    แต่ที่แน่ ๆ ผมคงจะไม่ยอมให้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับบูมต้องมีอันเป็นไปหรอกครับ เพราะผมรู้ตัวผมเองดีว่า ผมต้องการใคร

    แต่ที่ผมกังวลคือ อารมณ์ของบูมที่ค่อนข้างจะรุนแรง และความดีของพี่วิทย์ที่ผมไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าในบางขณะก็ทำให้ผมหวั่นไหวได้เช่นกัน คิดแล้วก็กลุ้ม

    ผมจึงทิ้งโทรศัพท์ลงบนเตียงและเดินกลับเข้าไปแต่งตัวอีกครั้งนึง

    หลังจากที่ผมแต่งตัวเสร็จ ผมก็นั่งมองดูนาฬิกาอย่างใจจดใจจ่อ จนคิดว่าได้เวลาแล้วผมก็เดินลงไปข้างล่างเพื่อบอก ตาน้อยคนขับรถให้ไปส่งผมที่สนามบิน

    ตลอดทางที่ผมนั่งรถไปสนามบินผมพยายามคิดหาวิธีที่จะอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆที่กำลังจะเกิดขึ้นให้บูมฟัง ผมคิดแล้วคิดอีก ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี

    จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะบอกความจริงไปตรง ๆ ดีกว่า เพราะผมเพิ่งจะสัญญากับบูมไว้ว่าจะไม่โกหก คิดได้แบบนั้นแล้วผมก็โล่งใจในระดับนึงครับ

    พอรถผมมาถึงสนามบิน ผมก็ลงจากรถ และสั่งให้คนขับรถกลับไปเลย เพราะผมจะนั่งรถไปที่โรงพยาบาลกับบูมเองตามลำพัง เพื่อที่เราจะได้มีเวลาคุยกันอย่างเป็นการส่วนตัว

    หลังจากนั้นผมก็ไปยืนรอบูมตรงช่องทางออกของสนามบิน ผมรอสักประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้

    ผมก็เห็นชายหนุ่มใส่แว่นกันแดดสีดำในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ กับกางเกงยีนส์ เดินยิ้มออกมาจากช่องทางออก

    ผมแทบจะเดินตรงเข้าไปกอดให้สมกับความคิดถึง แต่ก็คงทำได้แค่เพียงโบกมือทักทายธรรมดา เพื่อเป็นการไม่น่าเกลียดจนเกินไปนัก

    “โห ทำไมหอบของมาเยอะแบบนี้ล่ะ นึกว่าจะมาอยู่สักปีนึง”ผมแซวบูมพร้อม ๆ กับจะช่วยขนกระเป๋า

    “ก็เราตัดสินใจกะทันหันน่ะ เลยยัด ๆ มา เห็นอะไรได้ก็คว้ามาเลย”บูมพูดอาย ๆ

    “แล้วใครใช้ให้มาล่ะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเราก็กลับแล้ว”ผมพูดยิ้ม ๆ

    “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวมีคนมาจีบโย เราก็แย่สิ เพิ่งจะเป็นแฟนกันได้ไม่กี่วันเอง”บูมพูดพลางเอื้อมมือมาจับมือผมเพื่อที่จะจูง

    “ทำอะไรน่ะ ไม่อายเค้าหรอที่นี่สนามบินนะ”ผมรีบบอกและมองไปรอบ ๆ

    “อายทำไมก็คนเป็นแฟนกันนี่ ดีซะอีกจะได้ไม่มีใครกล้ามาจีบโยไง”บูมไม่สนใจคำพูดผมกลับยังคงจูงมือผมอยู่ จนผมรู้สึกอบอุ่นใจกับการกระทำของชายหนุ่มที่ผมเฝ้าหลงรักอยู่ตรงหน้า

    “ตามใจ”ผมพูดยิ้ม ๆ

    เราเดินออกมาจากสนามบิน แล้วโบกรถแท็กซี่เพื่อไปทานข้าวกลางวันกันก่อนที่จะไปที่โรงพยาบาลเพื่อเจอกับคุณป้าผม คุณลุงผม และก็พี่วิทย์ด้วย เฮ้อออออ กลุ้ม

    เรามานั่งทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งนึงไม่ไกลจากสนามบินมากนัก หลังจากที่ผมกับบูมสั่งอาหารเสร็จ และบริกรก็เดินจากไป ผมก็เริ่มที่จะเล่าความจริงที่ผมได้ตัดสินใจที่จะเล่าให้บูมฟัง

    “เออ บูม คือเราต้องไปทำงานที่เชียงรายแทนคุณลุงเราน่ะ บูมไปด้วยกันนะ”ผมเริ่มบทสนทนา

    “อืมม ก็ไปดิ ยังไงเราก็มาหาโยอยู่แล้ว แฟนไปไหนเราก็ตามไปทุกที่แหละ”บูมพูดไปดูดน้ำไป

    “แต่..............”ผมอึกอัก

    “แต่อะไร มีอะไรอ๊ะป่าว เห็นอึกอักตั้งแต่เมื่อกี้ละ”บูมพูด

    “คือว่า พี่วิทย์ บูมจำพี่วิทย์ได้ใช่ไหม”ผมถาม

    “ทำไมจะไม่ได้ ไอ้น่าจืดที่จะมาแย่งโยไปจากเราไง มันทำไม”บูมพูดอย่างเคียดแค้น

    “คือเราต้องไปทำงานร่วมกับเค้าน่ะ แต่ถ้าบูมว่าเราไม่สมควรไป เราไม่ไปก็ได้นะ”ผมรีบออกตัวไว้ก่อน

    “...............................”เงียบครับ บูมเงียบเหมือนกำลังจะคิดอะไรอยู่

    “ว่าไงอ่ะ”ผมถามต่อ

    “ก็ไปดิ แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องไปกับโยทุกที่นะ และ เราต้องนอนห้องเดียวกับโยด้วยเพราะเราไม่ไว้ใจมัน”บูมบอกพลาง หยุดเพราะ บริกร เริ่มนำอาหารมาเสิร์ฟ

    “ได้ แต่บูมแน่ใจนะว่าจะนอนห้องเดียวกันน่ะ .... 555… เราชอบละเมอตอนกลางคืนนะ”ผมแกล้งพูดไปเรื่องอื่นพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

    “555 ดีสิ เราจะได้ทำให้โยหายละเมอเลย กลายมาเป็นร้องแทน”บูมหัวเราะชอบใจ

    “555 ว่าแต่บูมไม่ว่าเราจริง ๆ นะ เรื่องพี่วิทย์น่ะ”ผมถามเพื่อความแน่ใจ

    “ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าโยไปคลุกคลี อี๋อ๋อ กับมันละก้อน่าดู”บูมพูดด้วยแววตาดุดัน

    ทันใดนั้นสิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น จากเสียงที่เราไม่ค่อยจะคุ้นจากทางด้านหลังของเรา

    “โยยยย น้องโยใช่ไหมครับ จำพี่ได้หรือเปล่า พี่จอห์นเพื่อนไอ้วิทย์ไง”เสียงชายหนุ่มตะโกนมาจากทางด้านหลังผม

    “เอ่อออ คือ จำได้ครับพี่ พี่จอห์นสวัสดีครับ มาได้ยังไงครับเนี่ย”ผมเอ่ยทักตามมารยาท แต่ก็แอบดูพฤติกรรมของบูมที่ตอนนี้เริ่มไม่ค่อยปกติละ

    “พี่มีอะไรกับแฟนผมหรือเปล่าครับ”บูมเน้นคำว่าแฟนจนสังเกตได้

    “อ้าว น้องโยมีแฟนแล้วหรอ น่ารักดีนิ แล้วแฟนน้องโยชื่ออะไรครับ”พี่จอห์นไม่สนใจในสิ่งที่บูมพูดแล้วหันมาถามผมเหมือนกับเป็นการยั่วบูม

    “เอ่อ ชื่อบูมครับพี่”ผมรู้สึกอึดอัดมาก อยากให้พี่จอห์นไปพ้น ๆ

    “อ๋อ น้องบูม เอ่อ ว่าแต่ น้องบูมครับจะว่าอะไรไหม ถ้าพี่จะขอจีบน้องโยอีกคน”พี่จอห์นพูดหน้าตาเฉยเลย

    “ผมไม่มีญาติที่เชียงใหม่ครับ เลยไม่ได้เป็นน้องใคร แล้วเรื่องแฟน ถ้าพี่คิดว่าพี่จีบได้ก็เชิญเลยครับ

    แต่คงจะหมดหวังแล้วล่ะ เพราะเราสองคนเป็นมากกว่าแฟนกันแล้ว”บูมพูดโกหกหน้าตาเฉยเลยครับ ผมได้แต่มองตาปริบ ๆ

    “ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ถือ ขอแค่ให้น้องโยยอมรับพี่ก็พอ”พี่จอห์นยังคงยั่วบูมต่อไป

    “เอ่ออ คือ พี่จอห์น คือว่า ผมกับเพื่อนจะกลับแล้วครับ แล้วเจอกันนะครับ”ผมพูดพลางเรียกคนมาเก็บเงิน

    “อ้าวเพิ่งเจอกันเอง ทำไมรีบไปล่ะ พี่ไปส่งไหมครับ”พี่จอห์นพูดยิ้ม ๆ

    “ไม่ต้อง พวกเรากลับเองได้”พอบูมพูดจบก็วางเงินแล้วฉุดผมออกไปพรอ้มกับกระเป๋าจากร้านทันที

    หลังจากที่เราเดินออกจากร้านมาได้สักระยะนึง บูมก็ปล่อยมือผมแล้วหันมาตวาดใส่ผมทันที

    “ทำไมโย บอกไอ้นั่นว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน ทำไม ทำไมเป็นแฟนเรามันน่าอายมากใช่ไหม”บูมเริ่มระเบิดอารมณ์ใส่ผม

    “เปล่าคือเราแค่ไม่อยากเรื่องมันบานปลายมากไปกว่านี้”ผมเริ่มอธิบาย

    “โดยการบอกไอ้หมอนั่นว่า เราเป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อที่มันจะได้มีโอกาสใช่ไหม ขนาดเราบอกมันว่าเราเป็นมากกว่าแฟนมันยังหน้าด้านบอกไม่สนเลย”บูมเริ่มพูดเสียงดังขึ้น

    “บูมเลิกโมโหได้ไหม พี่จอห์นเค้าก็เป็นแบบนี้แหละ เค้าแค่อยากยั่วบูมแค่นั้นเอง”ผมรีบอธิบาย

    “ดูโย สนิทสนมกับมันจนรู้ถึงนิสัย สันดานของมันเลยนะ นี่ดีนะที่เราขึ้นมาที่เชียงใหม่ ไม่อย่างงั้น..........”เอาอีกละครับ ผมก็ไม่เข้าใจทำไมบูมถึงขี้หึงแบบนี้

    “บูมอย่าคิดมากสิ เราไม่ได้สนิทกับใครทั้งนั้นแหละ เราอยากสนิทแค่กับบูมคนเดียวเท่านั้น นะ นะ นะ อย่าโมโหนะ นะครับคนดี นะครับ นะ โอ๋ ๆ ๆ แต่ช้าแต่”

     ผมอ้อนพลางทำมือทำไม้คล้าย กับ โอ๋เด็ก ๆ

    “หึ ให้จริงเหอะ”บูมเริ่มหายโมโห

    “จริงสิ เราชอบบูมคนเดียวจริง ๆ ชอบมานานแล้วด้วย แล้วก็จะยังคงชอบแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”ผมพูดอย่างจริงจัง

    “จริง ๆ นะ”บูมเริ่มอารมณ์ดีขึ้น

    “จริงสิครับ นะ นะ นะ ไม่โกรธนะ”ผมเริ่มเอาวิธีแบบบูมมาใช้บ้างซึ่งก็ได้ผลเพราะบูมหัวเราะออกมา

    “ไม่โกรธก็ได้ แต่กับพี่วิทย์โยต้องบอกจากปากโยเองนะว่าเป็นแฟนเรา”เอาละสิครับหาเรื่องลำบากใจมาให้ผมอีกแล้ว “ว่าไงได้ไหม”บูมเริ่มคะยั้นคะยอ

    “อืมมม ๆๆ แฟนว่าไงก็ว่าตามนั้นแหละ”ผมตอบอย่างไม่ค่อยสบายใจนะ

    หลังจากนั้นเราก็นั่งรถเพื่อไปยังโรงพยาบาลที่คุณลุงของผมนอนพักรักษาตัวอยู่ ตลอดทางผมเอาแต่คิดว่านี่ขนาดแค่พี่จอห์น ผมยังเอาตัวเกือบไม่รอด แล้วถ้าเป็นพี่วิทย์ล่ะ ผมคงจะแย่กว่านี้มาก
 
     ผมคิดอยู่ในใจอย่างกังวล และแล้วรถก็มาจอดที่หน้าโรงพยาบาลที่คุณลุงผมอยู่ เราสองคนก้าวลงมาจากรถ

    ผมมองไปยังตึกเบื้องหน้าอย่างอึดอัด และกลุ้มใจอย่างมาก

   จนกระทั้งเราสองคนเดินขึ้นไปจนถึงหน้าห้องของคุณลุงผม และเปิดประตูห้องเข้าไป.............

    จบตอนที่ 11 แล้วครับ ขอบคุณที่ติดตามผลงานของผมนะครับ


   *********************************************************************

    ][GobGab][                              ใช่ครับ คนรักกัน มันโกรธกันไม่ลงจริง ถึงแม้ว่าจะทำผิดมากมายแค่ไหน เราก็ให้อภัยคนที่เรารักได้เสมอ


   Pompparazzi                            ว่าแต่น้องถุง คุณป้อมละครับ เชื่อใจได้หรือเปล่าครับ

   
   ๐๐หมาน้อยไม่กลัวฝน๐๐                ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ


   pim                                               ต้องดูกันไปเรื่อยๆ ครับ ยังไม่ถึงครึ่งของภาคหนึ่งเลยครับ


   MyLoveMyBabe                     โกรธ แล้วไม่คุย ไม่ได้หมายความว่าไม่รักนะครับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 16-12-2006 15:27:28
จุดเชื่อมต่อของเรื่องตอนต่อไป อยู่ที่ประตูห้องโรงพยาบาล 555+

หลังจากเปิดประตู จะเกิดไรขึ้นนะ หุหุ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-12-2006 15:29:07
มีหึง เมื่อไหร่จะมีคนตามหึงแบบนี้บ้างหนอ เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 17-12-2006 05:02:14
อ่านทันแล้วววววววววว. . .เย้!!!
ชอบอ่ะ บูมน่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกก
ช้อบชอบคนขี้หึง ตั้งกะมีแฟนมาจนอายุป่านนี้
ยังไม่เคยมีใครหึงใส่แบบนี้เลยอ่า อยากได้แบบบูมบ้างจัง
จะเอาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
รีบมาต่อนะครับ
สู้ๆ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 17-12-2006 10:14:00
                                                       :myeye:  ชอบบูมจังเร๊ยยย ขี้หึงได้น่ารักดี อยากได้แบบนี้มั่งอ่า :impress:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-12-2006 11:15:47
นายบูมขี้หึงได้ใจดีจังเลย   อบากมีคนหึงแบบนี้บ้าง มันทำให้ร้ว่าเคารักเราเหมือนกันนะ  :kikkik:



เรื่องราวต่อไปจะเป็นไงนะ พี่วิทย์จะอยู่ให้ห้องคุณลุงหรือเปล่า พี่จอห์นคงโทรมารายงานแล้วแน่เลย  :seng2ped:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sak ที่ 17-12-2006 13:49:09
   บูมหึงจังเลย  แสดงว่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

                          น่ากลัวจัง หึงมากเกิน ไป ก็จะทำให้ชีวิตรักมีปัญหา เรื่อยๆ เลย
  ส่วน โย ก็ยังไม่กล้าตัดขาด กับ พี่วิทย์ ซะงั้น   

                        เก็บไว้เป็นเยื่อไยที่มีปัญหา   แต่ถ้ารีบตัดให้ขาด ก็เกรงใจ อีก  รักนี้ มีปัญหาจนได้ ลุ้นต่อคับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-12-2006 18:03:46
"ตอนที่ 12"

    ทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในห้องของลุงผม ผมก็เห็นพี่วิทย์นั่งอยู่ที่โซฟาข้าง ๆเตียงของลุงผม
   
    พอพี่วิทย์เห็นผมก็ยิ้มให้แล้วกำลังจะลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อเดินเข้ามาหาผม แต่พอพี่วิทย์เห็นบูมซึ่งเดินตามหลังเข้ามา

    พี่วิทย์ก็หุบยิ้มในทันที แล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม ผมสังเกตเห็นว่าหน้าพี่วิทย์ดูเศร้ามากๆ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเลยต้องปล่อยเลยตามเลย

    ผมเดินเข้าไปหาลุงผมที่กำลังนอนอยู่บนเตียงเพื่อสวัสดีทักทาย คุณลุงและคุณป้าผม พร้อมด้วยแนะนำตัวบูมให้คุณลุงคุณป้าผมรู้จัก

    “คุณลุง คุณป้าครับ นี่บูมเพื่อนผมครับ เค้าจะไปอยู่ที่เชียงรายเป็นเพื่อนผมครับ”ผมแนะนำตัวบูมอย่างเป็นทางการกับคุณลุงคุณป้าผม

    “สวัสดีครับ คุณลุงคุณป้า ผมบูมครับ รบกวนด้วยนะครับ”บูมแนะนำตัวเองด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมมาก ๆ จนผมไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่า บูมจะทำได้ขนาดนี้

    “เอ่อ ดีแล้วล่ะ จะได้ไปเป็นเพื่อนกัน ตาโยจะได้ไม่เหงา ลุงฝากบูมดูแลเจ้าโยด้วยนะ”คุณลุงผมพูดกับบูม

    “จ๊ะ ดีแล้วล่ะ ป้าก็จะได้หมดห่วง”ป้ายิ้มอย่างใจดี

    “ครับ ผมจะดูแลโยอย่างดีเลยครับ” บูมพูดยิ้ม ๆ แล้วหันไปมองพี่วิทย์ที่ตอนนี้หน้าเริ่มที่จะบูดแล้ว

    “เออ แล้วโยแนะนำเพื่อนเราให้ตาวิทย์รู้จักหรือยังล่ะ”คุณป้าหันมาถามผม

    “เอ่อ คือ..............”ยังไม่ทันที่ผมจะตอบเลย พี่วิทย์ก็พูดสวนขึ้นมาทันที

    “ผมรู้จักน้องเค้าแล้วครับคุณป้า รู้จักดีด้วยตอนไปที่กรุงเทพก็เคยเจอครับ”พี่วิทย์พูดแบบไม่ค่อยพอใจแต่พยายามทำเสียงให้เป็นปกติ

    “อ้าวหรอจ๊ะ ดีเลยจะได้มีเพื่อนคุยกันหลาย ๆ คน”ป้าผมพูดโดยที่ไม่รู้เลยว่าผมรู้สึกอึดอัดขนาดไหน

    “แล้ววันนี้คุณลุงเป็นอย่างไรบ้างครับ ผมว่าคุณลุงอาการดีขึ้นมากแล้วนะครับ คงใกล้จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องพูดก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้

    “อืมมม ลุงก็ว่าจะออกไปพักที่บ้านแล้วล่ะ แต่ป้าเราน่ะสิ ไม่ยอมให้ลุงไป ลุงละเบื่อไอ้ห้องสี่เหลี่ยมนี่จะแย่แล้ว อยากจะรีบไปซิ่งกับหลานเต็มที”คุณลุงบ่น

    “หยุดเลย อาการก็ยังไม่ได้เป็นปกติแล้วจะออกจากโรงพยาบาลได้ไง ถ้าพี่เป็นอะไรไปอีกอ้อจะทำยังไง”คุณป้าหันมาว่าคุณลุงซึ่งทำหน้าจ๋อย ๆ

    “พี่ไม่เป็นอะไรแล้ว อ้อก็คิดมาก หรือว่าไม่อยากให้พี่ไปซิ่งกับตาโย...โยดูสิลูก ลุงแก่จนหัวงอกแล้วป้าเรายังขี้หึงไม่เลิกอีก”คุณลุงหันมาพูดกับผมเพื่อหาพวก

    “ใครหึง นี่พี่ก็เพิ่งจะดีขึ้นไม่กี่วันอยู่ต่อสักอาทิตย์เถอะ ยังไงรีสอร์ตก็มีโยกับตาวิทย์ดูแลแทนได้”ป้าผมอธิบาย

    “เออ พูดถึงตาวิทย์ แล้วพ่อเราเป็นไงบ้างล่ะตาวิทย์”คุณลุงหันไปถามพี่วิทย์ที่กำลังจ้องผมกับบูมอยู่

    “เอ่อ ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ ผมให้ท่านพักผ่อนอยู่กับบ้าน อาทิตย์หน้าก็คงจะทำงานที่รีสอร์ตเหมือนเดิมได้แล้วครับ”พี่วิทย์ละสายตาหันมาคุยกับลุงผม

    “เออ ดีแล้วละ ยังไงลุงก็ฝากตาวิทย์ดูแลโยกับเพื่อนด้วยนะ มีวิทย์อยู่ลุงก็เบาใจ”คุณลุงพูด

    “ครับ ผมจะดูแลอย่างดี ไม่ให้คลาดสายตาเลยครับ ถ้ามีใครมาวุ่นวายกับโย ผมจะจัดการเอง”พี่วิทย์พูดจบประโยคก็หันไปมองบูมที่ตอนนี้เริ่มหน้าตึง ๆ แล้ว

    “คงจะไม่มีอะไรหรอกครับ คุณลุง ถ้าอย่างนั้นผมขอลาไปที่รีสอร์ตเลยละกันนะครับเดี๋ยวจะไปถึงดึกเกินไป”ผมพูดตัดบทและขอลากลับเพราะท่าทางจะไม่ดีแล้ว

    “อืมมม ป้าก็ว่าอย่างนั้นแหละจ๊ะ แล้วนี่ตาวิทย์จะขับรถไปเองหรือว่าให้คนขับรถของน้าไปส่งดีจ๊ะ”ป้าผมเอ่ยถาม

    “ผมขับรถมาครับคุณป้า เดี๋ยวผมขับรถไปเอง”พี่วิทย์พูด

    “อืมมม เอาอย่างงี้ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะขับรถไปอีกคันนึงเผื่อมีอะไรฉุกเฉิน จะได้ไม่ต้องรบกวนพี่วิทย์ขับรถไปรับไปส่งบ่อยๆ”บูมพูดขึ้นมา

    “อ้าวแล้วเราเอารถมาหรอจ๊ะ”ป้าผมถามอย่างสงสัย

    “เอามาครับ”บูมตอบป้าผมแล้วหันไปยักคิ้วใส่พี่วิทย์ ผมมองบูมด้วยความงุนงง ว่าบูมไปเอารถมาจากที่ไหน

    “อืมมม งั้นก็ตามใจนะจ๊ะ แล้วเราล่ะว่าไงตาโย เตรียมตัวหรือยังจ๊ะที่จะมาทำรีสอร์ตแทนลุง นี่เป็นการเตรียมตัวก่อนนะ ก่อนที่จะต้องมาทำจริง ๆ อีก สามปีข้างหน้า”ป้าผมหันมาพูดกับผม

    “ครับๆ ผมจะลองดู”ผมพูดเสียงอ่อย ๆ เพราะไม่ค่อยอยากจะทำงานที่รีสอร์ตนัก พลางคิดในใจว่านี่ขนาดเริ่มต้นบูมกับพี่วิทย์ยังงัดกันขนาดนี้ มีหวังไปถึงเชียงราย รีสอร์ตได้ลุกเป็นไฟแน่

    “แต่ผมว่าไปรถคันเดียวกันดีกว่านะครับ เพราะบูมไม่ชำนาญเส้นทางเดี๋ยวเกิดเป็นอะไรขึ้นมา ผมไม่ไว้ใจ ยิ่งต้องขึ้นไปบนเขาด้วย”พี่วิทย์พูดแทรกขึ้นมาหลังจากนิ่งไปนาน

    “ไม่เป็นไรครับพี่วิทย์ ผมชอบไปแข่งพวกแรลลี่อยู่แล้วแค่นี้สบายมาก จริงไหมโย”บูมสวนกลับไปพลางหันมาที่ผมเพื่อหาพวก

    “เอ่อออ คือ เอายังไงก็ได้”ผมพูดไม่ออกเพราะสายตาที่ดุดันของบูมกำลังจ้องผมอยู่ “แต่ว่า ไปสองคันก็ได้ครับ”ในที่สุดผมก็ต้องพูดออกมา

    “ตามใจน้องโยนะ แต่ถ้าน้องโยเป็นอะไรขึ้นมาละก็ พี่ไม่ปล่อยเราไว้แน่”พี่วิทย์หันไปมองบูมอย่างเคียดแค้น

    ส่วนคุณลุงกับคุณป้าผมก็คงจะงง ๆ กับท่าทีและอาการของเราทั้งสามคนจนผมต้องรีบตัดบท

    “งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า”ผมรีบชิงตัดบทแล้วเดินนำออกไปเลย

    หลังจากที่ผมเดินออกมา พี่วิทย์ก็รีบร่ำลาป้ากับลุงผมแล้วเดินตามออกมาปล่อยให้บูมซึ่งกำลังเก็บของอยู่อย่างรีบร้อนเดินตามมา

    “เดี๋ยวน้องโย ทำไมน้องโยต้องเอามัน เอ่อ บูมไปที่เชียงรายกับพวกเราด้วยล่ะ น้องโยก็รู้ว่าพี่ไม่ค่อยชอบมัน”พี่วิทย์พูดกับผมหลังจากที่ออกมาจากห้องของลุงผม

    “คือว่า................”ผมกำลังจะตอบ แต่บูมซึ่งเดินตามออกมาก็พูดสวนออกมาแทน

    “ก็คนมันเป็นแฟนกัน จะไปฮันนีมูนด้วยกันมันผิดตรงไหน อิจฉาละสิ”บูมเริ่มก่อนเลย

    “พี่ไม่ได้คุยกับบูม พี่คุยกับโย”พี่วิทย์พยายามพูดสุภาพกับบูม แต่ก็คงจะไม่เป็นผล

    “มันก็เหมือนกันแหละพี่ เพราะผมกับโยเป็นคนๆเดียวกันแล้ว จะคุยกับใครก็เหมือนกันจริงไหมครับโย”บูมสวนกลับไปพลางแกล้งพูดอ้อนผมเพื่อให้พี่วิทย์อิจฉา

    “คือว่า..............เรารีบไปกันดีกว่านะ เดี๋ยวจะดึก”ผมพูดเพราะรู้สึกอึดอัดมากในตอนนี้

    “น้องโยนั่งรถไปกับพี่นะ”พี่วิทย์ชวน

    “ไม่ได้ โยต้องนั่งไปกับผม พี่นี่ก็แปลกคน แฟนกันก็ต้องไปด้วยกันสิ”บูมรีบปฏิเสธแทนผม

    “ตั้งแต่ที่พูดมา น้องโยยังไม่เคยพูดเลยนะ ว่านายเป็นแฟนกับน้องโย นายฝันไปคนเดียวหรือเปล่า ไปเถอะน้องโย”พี่วิทย์พูดกับบูมและหันมาจูงมือผม

    “เอ่อ คือ พี่วิทย์ไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมไปกับบูมเองครับ”ผมสะบัดมืออย่างนิ่มนวลเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเสียหน้ามากนัก แต่กระนั้น พี่วิทย์ก็เริ่มทำสีหน้าสลดและเศร้าลง

    “พี่เข้าใจแล้วล่ะ พี่จะไปรอที่รีสอร์ตนะ”พี่วิทย์ก้มหน้าแล้วเดินจากไป

    “ดี รีบไปเลยไป สะใจจริง ๆ ขอบใจมากนะจ๊ะที่รัก”บูมพูดกับผมพลางทำหน้าประจบ

    “พอเลย พี่วิทย์เค้าทำอะไรให้ทำไมต้องไปทำกับเค้าแบบนี้ด้วยล่ะ แล้วนี่จะเอารถที่ไหนไป”ผมพูดพลางเดินไปเรื่อย ๆ

    “ก็ ก็มันอยากมาจีบแฟนคนอื่นทำไมล่ะ หาแฟนเองไม่ได้หรอไง .... ส่วนเรื่องรถ สบายมาก เดี๋ยวเราออกไปหาเช่ารถกันไง แค่นี้จิ๊บจ๊อย”บูมพูดพลางจูงมือผมเดินไปตลอดทาง

    “เฮ้ออออ”ผมได้แต่ถอนหายใจ แต่ก็รู้สึกดีใจและอบอุ่นอย่างประหลาดที่บูมรักผมมากขนาดนี้ เพราะทีแรกผมนึกว่าผมแอบรักเค้าอยู่ฝ่ายเดียว

    เราเดินออกมาจากโรงพยาบาล แล้วก็เดินมาหยุดถามยามที่อยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลถึงบริษัทรถเช่า ว่าอยู่ที่ไหน

    ซึ่งพี่ยามก็ใจดีพาเดินออกมาชี้บริษัทรถเช่าบริษัทนึง ซึ่งอยู่เยื้อง ๆกับ โรงพยาบาลพอดี เราเลยเดินไปยังบริษัทรถเช่าแห่งนั้นเพื่อติดต่อขอเช่ารถกันไป

    หลังจากที่เราสองคนเลือกรถ และกำหนดจำนวนวัน จ่ายตังค์แล้ว เจ้าหน้าที่ก็ยื่นกุญแจให้บูม แล้วเราก็เดินออกมาเพื่อรับรถและขับไปที่รีสอร์ต

    “เดี๋ยวบูม เรายังไม่โทรไปหาเพื่อนเราเลยป่านนี้คงเป็นห่วงเราแย่แล้ว เดี๋ยวเราโทรศัพท์แป๊ปนึงนะ”ผมพูดกับบูมขณะกำลังจะขึ้นไปบนรถ

    “เฮ้ย ออฟหรอ เดี๋ยวเราไม่อยู่อาทิตย์นึงนะ เราอยู่เชียงราย ต้องมาช่วยงานที่รีสอร์ตญาติเรา ยังไงฝากจดเล็กเชอร์ด้วยนะ”ผมพูดโทรศัพท์กับออฟขณะนั่งอยู่บนรถกับบูม


    “เดี๋ยวแยกนี้ไปทางไหนอ่ะโย”บูมถามขณะขับรถถึงทางแยก

    “ตรงไปเรื่อย ๆ เลย จนกว่าจะเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา”ผมพูดกับบูมพลางเอามือปิดโทรศัพท์

    “นี่โยคุยกับใครน่ะ เสียงคุ้น ๆ”ออฟถามหลังจากได้ยินเสียงบูม

    “เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไร คนขับรถน่ะ”ผมรีบปฏิเสธ แล้วหันไปมองบูมที่ยิ้ม ๆ อยู่ “เออ งั้นแค่นี้นะ เราจะบอกทางต่อแล้วเดี๋ยวหลง แล้วเจอกันนะ”ผมพูดพลางกดปิดโทรศัพท์

    “ว่าไงครับคุณโย จะให้คนขับรถคนนี้ขับรถไปทางไหนก็เชิญสั่งได้เลยนะครับ”บูมพูดแซวยิ้ม ๆ

    “ดีมาก ถ้าอย่างงั้น.......”ผมพูดด้วยสายตาเจ้าเล่ห์พลางจี้เอวบูม “นี่แน่ะแซวดีนัก”ผมแหย่บูม

    “เฮ้ย นี่ขับรถอยู่เดี๋ยวก็รถคว่ำหรอก”บูมพูดพลางกระเถิบตัวหนีและบิดเอวไปอีกฝั่ง

    “555 บ้าจี้แสดงว่ารักแฟนนะเนี่ย ดี ๆ ๆ”ผมพูดยิ้ม ๆ แล้วพยักหน้าขึ้นลง

    “โหหห คนเราเข้าข้างตัวเองชะมัดเลย”บูมพูด

    “ใครว่าเข้าข้างตัวเอง ก็จริงหรือเปล่าล่ะ”ผมบอกหน้าตาเฉย

    “จริงก็ได้คร๊าบบบบบบบ ถ้าไม่รักแฟนแล้วจะให้บูมไปรักใครที่ไหน”บูมพูดยิ้ม ๆ

    “......................”ผมยิ้มเขิน ๆ

    แล้วเสียงโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะพอดี หลังจากที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอผมเห็นเบอร์ก็หันไปมองหน้าบูม เพราะเป็นเบอร์ของพี่วิทย์

    จนบูมเริ่มสงสัยว่าใครโทรมาแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

    “ครับ มีอะไรครับพี่”ผมกดรับสายแต่ก็พยายามเลี่ยงชื่อพี่วิทย์เพื่อไม่ให้บูมรู้

    “น้องโยครับ เดี๋ยวน้องโยล่วงหน้าไปรอที่รีสอร์ตก่อนเลยนะครับ พอดีพี่จะไปรับไอ้จอห์นไปที่รีสอร์ตด้วย”พี่วิทย์พูดอย่างมีเลศนัย

    “เอ่อ ครับพี่”ผมรับคำงง ๆ ว่าพี่วิทย์เอาพี่จอห์นไปด้วยทำไม

    “งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับ บายครับ”พี่วิทย์พูดจบก็วางโทรศัพท์

    “ใครโทรมาอ่ะโย อย่าบอกนะว่าไอ้พี่วิทย์โทรมา”บูมพูดด้วยน้ำเสียงโมโหนิด ๆ

    “อืมมม พอดีพี่เค้าโทรมาบอกว่าจะไปรับพี่จอห์นคนที่เราเจอเมื่อเช้าไปเชียงรายด้วยน่ะ”ผมตอบไปตามความจริงแต่ในใจรู้สึกกังวลกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

    “เชอะ แม่งสู้ไม่ได้ ก็ไปเอาพวกมา เราไม่กลัวมันหรอก จะมาซะกี่คนเราก็ไม่สน”บูมเค้นเสียงออกมา

    “อย่าไปสนใจเลยบูม ยังไงเราก็ไม่ได้สนใจเค้าหรอก”ผมพูดเตือน ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเรื่อง

    “ก็ลองไปสนใจสิ น่าดู”บูมหันมามองผมและหันกลับไปขับรถ

    “ทำไมบูมขี้หึงแบบนี้อ่ะ ทีแรกเรานึกว่าบูมจะเฉย ๆ ซะอีก”ผมแกล้งแซวเล่น

    “ก็ไม่ได้จะขี้หึงหรอก พอดีแฟนเราดันมีคนมาสนใจเยอะ อุตส่าห์เลือกที่หน้าตาไม่ดีแล้วนะ ซวยจริงๆ”ดูสิครับ ดูบูมพูด พอบูมพูดเสร็จก็หัวเราะออกมา อย่างงี้มันน่า.....นัก

    “หน้าตาไม่ดีแล้วมาเลือกทำไม ไปหาคนที่หน้าตาดี ๆ ไป”ผมเริ่มงอน

    “อ่ะนะ ล้อเล่นนิดเดียวเอง ถึงหน้าตาไม่ดีแต่จะรักใครจะทำไม”บูมพูดเป็นจริงเป็นจังจนผมรู้สึกเขิน

    “พูดใหม่อีกทีซิ”ผมแกล้งทำไม่ได้ยิน

    “เรา.....รัก.....โย ดังพอไหม”บูมตะโกนออกมา

    “55555 อยู่แค่สองคน ทำไมต้องตะโกนด้วย”จากนั้นเราก็หัวเราะพร้อมกัน

    หลังจากที่รถของเรามาถึงที่รีสอร์ตของคุณลุงคุณป้าผมที่จังหวัดเชียงราย ผมก็พาบูมเข้าไปเก็บของโดยใช้บ้านพักรับรองของรีสอร์ตซึ่งเป็นบังกะโลหลังนึงอยู่ติดกับน้ำตกเป็นที่พักชั่วคราว

     บรรยากาศยามค่ำคืนของวันนี้ดูสวยงามกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อาจจะเป็นเพราะผมมากับคนที่ผมรักก็เป็นได้

    เราเดินเอาของไปเก็บด้วยกันที่บ้านพักรับรองซึ่งในหนึ่งหลังจะมีสองห้องสามารถเดินไปมาหาสู่กันได้เนื่องจากมีประตูเชื่อมต่อกันด้านในที่เค้าเรียกว่า connecting room

    บูมแสดงท่าทีอิดออดนิดหน่อยเหมือนเด็ก ๆ เพราะไม่ยอมไปนอนอีกห้องนึงทั้ง ๆ ที่สามารถเดินผ่านไปมาได้อยู่แล้ว

    “ไหนบอกว่าจะให้นอนห้องเดียวกันไง นอนด้วยคนนะครับ นะ นะ นะ เรากลัวผีง่ะ”บูมอ้อน

    “555 ไม่เอาหรอก ผีมีที่ไหน อย่างอแงดิ”ผมไม่ยอมอ่อนข้อให้

    “คนเป็นแฟนกันก็ต้องนอนด้วยกันดิ เราขี้หนาวอ่ะ”บูมยังคงดื้อ

    “หนาวก็ห่มผ้าสิ เดี๋ยวเราขอมาเพิ่มให้”ผมพูดอย่างรู้ทัน

    “คนอะไรใจร้ายว่ะ นะ นะ นะ ให้นอนด้วยนะ แค่คืนเดียวก็พอ”บูมอ้อน

    “แน่ใจหรือว่าจะได้นอนน่ะ”ผมพูดอย่างรู้ทัน

    “อ้าวก็จะได้ไม่ต้องไปโกหกใครเค้าไง เรื่องที่เป็นมากกว่าแฟนน่ะ”บูมเผยความลับออกมาแล้ว

    “555 เห็นไหมล่ะที่แท้ก็.........”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดต่อบูมก็เดินเข้ามาโอบกอดผมทางด้านหลัง

    “นะครับ คนดี ขอบูมนอนด้วยคนนะ คนอุตส่าห์นั่งเครื่องมาจากกรุงเทพฯ ขอรางวัลหน่อยดิ”บูมพูดข้าง ๆ หูผม

    “...............”ผมเริ่มเขินและขนลุก

    “ว่าไงอ่ะครับ นะ นะ โยคนดี ขอบูมนอนกอดสักคืนนะ จะได้หายคิดถึงไง”บูมพูดและจูบลงที่แก้มของผม

    “เราก็อยากให้บูมมานอนกับเรานะ แต่เราว่ามันยังไม่ถึงเวลา ขอเราพร้อมกว่านี้ก่อนได้ไหม”ผมพูดไปอย่างตรึกตรองแล้วว่า อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักจะไม่มีคุณค่าเสมอ

    “ทำไม หรือว่ากลัวไอ้พี่วิทย์กับไอ้คนหัวแดง(พี่จอห์น)มันจะรู้”บูมปล่อยตัวผมแล้วหันตัวผมกลับมาเพื่อคุย

    “ทำไมต้องไปว่าคนอื่นด้วยนะ เราบอกว่าเราขอเวลาหน่อย พวกเราเพิ่งเริ่มจะคบกันเองนะ”ผมพยายามอธิบาย

    “เพิ่งคบกันแล้วทำไม หรือว่าโยกำลังคิดนอกใจเรา อยากมีคนอื่นใช่ไหมล่ะ ใครมันเป็นใคร”บูมเริ่มมีโมโหอีกแล้ว

    “ก็บูมเป็นแบบนี้ไง เราถึงได้ทะเลาะกัน เราบอกแล้วว่าเราขอเวลาหน่อย ไม่ได้เหรอ”ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

    “เราก็เป็นขอเราอย่างงี้แหละจะทำไม ใครใช้ให้โยมีคนมาจีบเยอะล่ะ”บูมเริ่มงอน

    “เราก็ไม่ได้อยากให้มีใครมาจีบเรา เราไม่เคยมองคนอื่นเลยบูมก็น่าจะรู้”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจแล้ว

    “ใครจะไปรู้ ถ้าโยไม่เล่นด้วยทำไมไม่บอกไอ้พวกนั้นมันไปว่า เรามีอะไรกันและเป็นแฟนกัน”บูมพูดต่อ

    “ก็เราบอกแล้วไง ทำไมเราต้องเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าเรามีอะไรกันทั้ง ๆ ที่เราก็ยังไม่ได้มีอะไรกัน

     มันเป็นเรื่องที่สมควรพูดเหรอ ไม่จำเป็นเลย พูดเพื่อให้มันได้อะไรขึ้นมาหรอ”ผมเริ่มไม่พอใจแล้วครับ

    “ถ้าไม่พูดแบบนั้นพวกมันก็ไม่ยอมเลิกซะที”บูมยังคงเถียงต่อ

    “โอเค เราจะไปตะโกนบอกทุกคนเลยดีไหมว่า พวกเรามีอะไรกัน”ผมพูดประชด

    “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ แค่บอกไอ้พวกนั้นก็พอ”บูมเริ่มอ่อนลง

    “เราไม่จำเป็นต้องบอกใครหรอกนะ ว่าเรามีอะไรกัน ทำไมบูมถึงไม่เชื่อใจเราล่ะ เราไม่เคยคิดนอกใจบูมเลยนะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง

    “เอ่อ เราแค่อยากให้พวกมันไปพ้น ๆ จากเราสองคนสักที แค่นี้เอง”บูมเริ่มสำนึกผิด

    “เราว่าอีกหน่อยพวกเค้าก็คงจะไปกันเอง เพราะว่าเราไม่เคยสนใจคนอื่นอยู่แล้ว ขอแค่ให้บูมเข้าใจและรับรู้ก็พอ”ผมพูด

    “โอเค เราจะเชื่อใจคนที่เรารัก แต่ถ้ามีเหตุการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจอีก เราก็ไม่รู้ว่าเราจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้มากแค่ไหน”บูมเริ่มยอมรับในเหตุผล

    “เราขอแค่ให้บูมจำไว้ว่า เราจะไม่มีวันทรยศบูม และความรู้สึกตัวเองหรอก เราสัญญา”ผมพูดอย่างจริงจัง

    จากนั้นบูมก็ก้มลงมาจูบผมอีกที ผมรู้สึกเขินมาก ๆ หน้าแดงก่ำเลย แถมยังรู้สึกร้อนแบบวูบวาบ ๆ

    “แต่ยังไงวันนี้ โยก็ต้องให้เรานอนด้วยนะ นะครับ นะ”บูมพูดขึ้นหลังจากถอนฝีปากออกจากปากของผม

    “นี่ยังไม่เลิกอีกหรอ”ผมแซว

    “ไม่ใช่ แค่อยากนอนกอดเฉย ๆ จริงๆ สาบานได้ ด้วยเกียรติของลูกเสือสำรอง”บูมพูดพลางยกนิ้วขึ้นสองนิ้ว

    “555 ไม่ต้องสาบานหรอก แต่สัญญานะ ห้ามทำอย่างอื่นไม่งั้นถ้าเราหน้ามืดไม่รู้ด้วยนะ”ผมพูดไปหน้าแดงไป

    “ก็ยิ่งดีดิ มามะมาให้เรามัดจำก่อน”บูมพูดพลางทำท่าจะจูบ

    “ไม่”ผมรีบผละตัวผมออกจากแขนบูมแล้ววิ่งหนี

    “มามะ มาเร็ว ๆ”บูมยังคงวิ่งตามเหมือนเด็ก ๆ

    “ไม่”ผมร้องขึ้นอีก จากนั้นเราก็เอาหมอนมาไล่ฟาดกันจนเหนื่อยแล้วนั่งหัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข

    จบตอนที่ 12 แล้วครับ ตอนนี้ก็น่าจะเป็นอีกตอนที่น่าประทับใจ ....ต้องขอโทษด้วยที่หยุดไปหลายวัน ก็วันหยุดยาวทั้ง ๆ ยังไงก็ขอบคุณครับที่ติดตาม

    **************************************************

   Tantalum                                      รู้คำตอบแล้วนะครับ ว่าอะไรอยู่หลังประตู ขอบคุณที่ติดตามครับ

    b|ueB[o ]YhUb                          เอ่อ หนูบลู แน่ใจนะว่ายังไม่มี แล้วที่เล่นเอาเล้าป่วนไปหมดละคับ หมายฟายว่าไร

   meemewkewkaw                      เหอเหอ ชอบคนขี้หึงจริงๆ เหรอครับ

    [{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]                              ชมรมชอบคนขี้หึง

   MyLoveMyBabe                      นีก็อีกหนึ่ง สมาชิชมรม

   sak                                                อืมมม ก็ต้องรอดุต่อไปนะครับ ว่าจะใช้ปัญหาที่สำคัญหรือเปล่า
   
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pim ที่ 17-12-2006 19:29:47
โห บูมขี้หึงมากๆเลยอะ
มีคนมาหึงมันก็ดีอยู่หรอกนะ
แต่หึงบ่อยๆ นี่ก็ไม่ไหวนะ

อะ รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 17-12-2006 19:30:26
ตามอ่านทันแร้ววว   ตอนหน้าท่าจะมันส์  ขี้หึงกันดีจริงๆ  รออ่านต่อค๊าบ  หมูพูห์  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 17-12-2006 19:52:47
                                    อุตส่าห์รอตั้งนานมาต่อตอนเดียวเองเย๋อ พูห์จายร้าย จายร้ายที่สุด  :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 17-12-2006 20:26:58
ง่ะ ตอนเดียวเองอ่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรมาน้อยๆแต่ลงบ่อยๆนะครับ

รักบูมจังอ่ะ น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก

ขี้หึงได้ใจมาก ชอบจริงๆคนขี้หึงเนี่ย

แต่ถ้าขี้งอนด้วยจะดีมากๆเลยนะ ตรงสเปค :-[
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 17-12-2006 20:36:43
 :confuse:แล้วตรงลงว่าจะได้นอนกันหรือป่าวนั้น สงสัยต้องไปแอบดูหน้าประตูห้องนอนสักหน่อย หลังจากตะกี้ไปแอบดูที่ห้องพยาบาล
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-12-2006 21:25:12
พี่วิทย์และพี่จอห์นกำลังตามมา งานนี้สนุกแน่ๆเลย :haun2:


เหมือนติดตามละครซะน เหอๆๆ.............


คนขี้หึงก็ชอบนะครับ แต่มากปก็ไม่ดีเหมืดนกัน เอาเป็นว่าหึงแต่พองาม อิอิ :angellaugh2:  จะมีมั้ยน้ออออ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-12-2006 11:15:44
" ตอนที่ 13"

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก...เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาขัดจังหวะความสุขของผมกับบูม

    “ใครครับ”ผมตะโกนถาม

    “พี่เองครับน้องโย ขอพี่เข้าไปหน่อยได้ไหม”เสียงพี่วิทย์ดังขึ้นมาจากทางด้านนอก

    “มีธุระอะไรครับพี่”ผมถามหลังจากหันไปมองหน้าบูม ที่ตอนนี้บึ้งยิ่งกว่าไปกินรังแตนมาซะอีก

    “ขอพี่เข้าไปคุยหน่อยได้ไหม”พี่วิทย์ยังคงถามต่อ

    “เอ่อ คือ.........ก็ได้ครับ”พูดจบผมก็เดินไปเปิดประตูห้อง “มีอะไรครับพี่”ผมพูดกับพี่วิทย์หลังจากที่เปิดประตูห้องแล้ว

    “คือ วันนี้พี่กับพี่จอห์น ขอนอนด้วยคนนะครับ พอดีวันนี้แขกมาพักเต็มหมดทุกห้องเลยอ่ะ ขนาดห้องข้าง ๆ นี่ยังต้องเอาไปใช้เลย”พี่วิทย์พูด

    “................................”อึ้งสิครับ ผมหันไปมองหน้าบูมที่ตอนนี้แทบจะกินเลือดพี่วิทย์ได้แล้วมั้ง

    “ถ้าน้องโยลำบากใจ ก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่กับพี่จอห์นไปนอนกับรวมกับพนักงานก็ได้”พี่วิทย์พูดสีหน้าเศร้า ๆ เชิงตัดพ้อ

    “อืมมม.....ไม่เป็นไรครับพี่ นอนด้วยกันก็ได้ห้องออกจะใหญ่”ผมพูดกับพี่วิทย์โดยที่ไม่กล้ามองหน้าบูมเลย

    “ถ้าน้องโยไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ”พี่วิทย์ตีสีหน้าเศร้า

    “ไม่สะดวก”บูมตะโกนออกมาทางด้านหลัง จนพี่วิทย์หันไปมองหน้า

    “ถ้างั้นพี่ไปก่อนนะครับ เดี๋ยวน้องบูมจะหาว่าพี่มารบกวน”พี่วิทย์ทำท่าจะเดินออกไป

    “ไม่เป็นไรครับพี่ แค่วันเดียวเอง จริงไหมบูม”ผมพูดเสร็จก็หันหน้าไปทำสีหน้าขอร้องบูม

    “น้องโยใจดีจัง แถมยังน่ารักอีกด้วย ไปไอ้วิทย์รีบเข้าไปเหอะ”พี่จอห์นมาจากไหนไม่รู้รีบลากพี่วิทย์เข้ามาในห้องเลยครับ

    “งั้นเดี๋ยวพี่กับไอ้วิทย์นอนเตียงด้านนี้นะครับ”พี่จอห์นเดินนำมาชี้เตียงอีกด้านนึง

    “ครับ ๆ ๆ”ผมตอบแล้วหันกลับไปมองบูมอีกครั้ง

    หลังจากนั้น พวกเราสี่คนก็ต้องนอนห้องเดียวกันโดยพี่จอห์นกับพี่วิทย์นอนเตียงเดียวกัน ส่วนผมกับบูมนอนเตียงถัดไป
   
    แต่บรรยากาศตอนก่อนที่จะนอนนี่ผมรู้สึกอึดอัดมาก เพราะบูมเอาแต่ทำหน้าบึ้งตลอดเลย แล้วพี่จอห์นกับพี่วิทย์ก็ชวนผมคุยนั่นคุยนี่ตลอดเวลา ทิ้งให้บูมนั่งอยู่คนเดียว

    สักพักบูมก็นอนหลับไปก่อน ด้วยเหตุผลนี้เองมั้งที่ วันนี้ตื่นเช้ามาผมก็ไม่เห็นบูมนอนอยู่บนเตียงแล้ว ผมเลยเดินออกไปมองหาบูมทางด้านนอก

    “มาทำอะไรที่นี่คนเดียวอ่ะ”ผมถามบูมขณะเดินตามบูมมาเจอตรงสวนดอกไม้

    “อกหัก เมื่อวานแฟนทิ้งไปคุยกับคนอื่น”บูมบอกด้วยน้ำเสียงงอน ๆ

    “ไม่ได้ทิ้ง ใครจะไปทิ้งบูมลงล่ะ”ผมพูดยิ้ม ๆ

    “ก็เมื่อคืนไง ปล่อยให้เรานั่งบื้ออยู่คนเดียว”บูมพูดตัดพ้อ

    “เราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันอ่ะ ก็พี่เค้าชวนเราคุยตลอดเลยจะขอตัวก็ไม่ได้ เอางี้ไหมวันนี้ เราออกไปเที่ยวกันเพื่อเป็นการชดเชย”ผมชวนบูม

    “จริงอ่ะ”บูมพูดอย่างดีใจ

    “จริงดิ ไปป่ะ”ผมถาม

    “ไปดิ”บูมตอบด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นมาก

    “งั้นเรารีบไปเหอะ เดี๋ยวพวกเค้าตื่นขึ้นมา แล้วจะมาวุ่นวายอีก”ผมพูดและรีบเดินนำบูมไปเอาเสื้อผ้าและแอบออกมาจากห้อง

     โดยที่เราสองคนต้องไปใช้ห้องน้ำในห้องทำงานเพื่ออาบน้ำกัน เพราะกลัวว่า พี่วิทย์กับพี่จอห์นจะตื่นขึ้นมาเจอ

    หลังจากที่พวกเราขับรถออกมาจากรีสอร์ต ผมกับบูมก็ตกลงกันไปเดินหาซื้อของในเมือง

    โดยที่ผมกับบูมต่างก็ปิดมือถือด้วยกันทั้งคู่เพราะถ้าเราเปิดมือถือมีหวังได้มีคนโทรมาตามเรากลับไปแน่ ๆ จนกระทั่งตอนเย็นเราสองคนก็ขับรถกลับไปที่รีสอร์ทอีกครั้งนึง

    ทันทีที่รถเราแล่นไปจอดยังด้านหน้าทางเข้าไปยัง front office ก็มีพนักงานผู้หญิงวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาผมกับบูมทันที

    “คุณโยคะ นายวิทย์เรียกหาอยู่ที่ออฟฟิศด้านในค่ะ”พนักงานผู้หญิงพูดกับผม

    “อืมม ได้ เดี๋ยวผมไป”ผมพูดกับผู้หญิงคนนั้นพลางมองมาที่บูมเป็นเชิงบอกว่าให้ไปรอที่ห้องก่อน

    “งั้นเราไปรอที่ห้องนะ แล้วเจอกัน”จากนั้นบูมก็เดินไปอีกทางนึง

    ผมเดินเข้าไปหาพี่วิทย์กับพี่จอห์นที่นั่งอยู่ในห้องทำงานด้านในท่าทางเครียด ๆ ทันทีที่ผมเข้าไป พี่วิทย์ก็ให้พี่จอห์นออกไปรอด้านนอก

    “ทำไมน้องโยทำแบบนี้ครับ พี่เสียใจมากเลยนะ รู้ไหมว่าพี่ตามหาเราทั้งวันเลย มือถือก็ไม่เปิด”พี่วิทย์ต่อว่าผมด้วยสีหน้าที่จริงจัง

    “เอ่อ คือ ผมไปเดินเล่นมานิดหน่อยครับพี่”ผมได้แต่แก้ตัวด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

    “แล้วทำไมไม่บอกใครไว้ล่ะ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วนี่ไหนว่ามาช่วยงานพี่ไง”พี่วิทย์พูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

    “เอ่ออออ คือ”ผมไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดีครับ มันพูดไม่ออก จากนั้นพี่วิทย์ก็อบรมผมไปประมาณ สาม สี่ กัณฑ์เทศก์ ประมาณว่าเป็นห่วงอะไรแบบนั้นอ่ะครับ

     พอพี่วิทย์พูดจบ ผมก็ขอตัวออกมาเพื่อกลับไปพักผ่อนที่ห้อง แต่พอผมไปถึงที่ห้อง ผมก็ต้องตกใจที่ขณะนี้

    บูมกับพี่จอห์นกำลังตะลุมบอนกันใหญ่เลย ผมเห็นท่าทางไม่ดีเลยรีบเข้าไปแยกคนทั้งสองออกมา

    “หยุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”ผมตะโกนห้ามพร้อมเอาตัวไปขวางทางหมัดของบูม

    “โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”โดนเต็ม ๆ เลยครับ ก็บูมเล่นออกหมัดฮุกขวาเข้ากลางลำตัวผมพอดี เล่นเอาจุกเลยอ่ะ

    “เฮ้ย โยเป็นอะไรหรือเปล่าเราไม่ได้ตั้งใจ”บูมรีบเข้ามาประคองผมที่ตอนนี้ตัวงอเหมือนกุ้งแล้วครับ

    “แม่ง ทำน้องโยได้ไงวะ”พี่จอห์นง้างหมัดจะต่อยบูมอีก

    “พอได้แล้ว พี่จอห์นออกไปก่อนเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว”ผมห้ามพี่จอห์น

    “แต่ว่า...............”พี่จอห์นกำลังจะพูดต่อแต่ผมก็ตัดบทไปเลย

    “ไม่ต้องแต่หรอกพี่ เดี๋ยวผมเคลียร์เอง พี่ไปหาพี่วิทย์เถอะ”ผมพูดกับพี่จอห์นเป็นเชิงขอร้อง

    “ถ้าน้องโยพูดแบบนั้น พี่ก็ไม่ว่าอะไร แต่มึงจำไว้นะ มึงโดนกูแน่”พี่จอห์นอาฆาตบูม

    “กูไม่กลัวมึงหรอก ไอ้ผมแดง”บูมเถียงไม่ลดละ จนผมต้องทำตาดุใส่
   
    หลังจากที่พี่จอห์นออกไปจากห้องแล้ว บูมก็ประคองผมมานั่งบนเตียง แล้วเดินไปหยิบน้ำมาให้ผม

    “อ่ะ กินน้ำก่อนจะได้หายจุก ดีนะที่เรายั้งมือทัน”บูมพูดยิ้ม ๆ

    “ไม่ต้องมายิ้มเลย หมัดหนักจะตาย ดีนะไส้ไม่แตกไปซะก่อน”ผมพูดขณะกำลังจะดื่มน้ำ

    “แล้วมาขวางเราทำไมล่ะ”บูมพูดต่อ

    “ก็ลองคิดดูว่า ถ้าต่อยกันจริงๆ บูมจะสู้เค้าได้ไหมล่ะ ฝ่ายนั้นตัวออกจะใหญ่ ล่ำอีกต่างหาก เดี๋ยวก็ได้แพ้น้อคหรอก”ผมพูดขำ ๆ

    “ใคร ๆ ๆ ที่แพ้น้อค”บูมเถียงไม่ลดละ

    “555 ใครแถวนี้ไง แล้วไปมีเรื่องอะไรกันล่ะ”ผมถาม

    “ก็มันอ่ะดิ อยู่ ๆ ก็มาเคาะประตูเรียกเรา แล้วมาพูดจากวนตีน บอกว่าเราเป็นส่วนเกินของที่นี่ แถมยังไล่เราออกไปอีก

     แต่ที่เจ็บใจกว่านั้น มันเสือกบอกว่ายังไงก็จะแย่งโยไปจากเราให้ได้ เราเลยทนไม่ไหวอ่ะ”บูมกัดฟันด้วยความแค้น

    “แล้วจะไปสนใจเค้าทำไมล่ะ เราบอกแล้วไงว่า อย่าไปใส่ใจคนอื่น ขอแค่เรากับบูมเข้าใจกันก็พอแล้ว แล้วนี่พรุ่งนี้เราต้องเริ่มไปช่วยงานพี่วิทย์จริง ๆ แล้วนะ”ผมพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดปนกังวลนิด ๆ

    “อืมมมม เราจะพยายาม ว่าแต่ว่าให้เราไปช่วยด้วยคนได้ป่ะ เราไม่ไว้ใจไอ้คุณพี่สองคนนั้นเลยอ่ะ นี่ขนาดเจอกันไม่กี่วันยังขนาดนี้เลย”บูมพูดด้วยสีหน้าที่กังวลไม่แพ้กัน

    “เราก็กะว่าจะชวนอยู่เหมือนกัน แต่บูมห้ามไปต่อยแขกที่มาพักนะ 555”ผมเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น

    “เราไม่ได้ใจร้อนขนาดน้านนนนน แต่ถ้าเค้ามาเกาะแกะกับโยก็ไม่แน่”บูมทำหน้าทะเล้น

    “เฮ้ออ เอายังไงก็เอา ทำไมต้องมาเป็นแฟนกับคนใจร้อนแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้”พูดจบผมก็ส่ายหัวยิ้ม ๆ

    “เราดิ ทำไมโชคร้ายที่เป็นแฟนกับคนหน้าตาธรรมด๊า ธรรมดา แต่ดันมีคนมาจีบซะเยอะอีก กลุ้ม รู้งี้ไปจีบ.....”

    “จีบใคร.......................บอกมานะ จีบใคร”ผมพูดแทรกก่อนที่บูมจะพูดจบ

    “เปล่าไม่มี จะบอกว่าไปจีบผู้หญิงดีกว่า”บูมพูดแก้ตัว

    “อย่านะ อย่าให้รู้นะ หึ หึ หึ”ผมเสยะยิ้มด้วยความหน้ากลัว

    “กลัวแล้วคร๊าบบบบ ไม่กล้าแล้วคร๊าบบบบ ใครจะกล้าไปนอกใจแฟนสุดที่รักได้ล่ะครับ”บูมรีบเข้ามาอ้อนด้วยการบีบนวดแขนผมเบา ๆ

    “ให้จริงเหอะ ทีตัวเองยังหึงขนาดนี้ ถ้าเราจับได้บ้างล่ะ น่าดู”ผมพูดไปมองหน้าบูมไป

    “จะดูอะไรเรา จะดูจริงอ๊ะเปล่า เดี๋ยวเราถอดให้ดูเลย”ดูดิครับความคิดของบูม พูดจบก็ทำท่าจะถอดกางเกงออก

    “เฮ้ยยยยยยย ทำอะไรน่ะ”ผมตกใจที่เห็นบูมแกล้งจะถอดกางเกงออก แต่ก็รีบรับมุกกลับไป “มา มาให้ดูดิ๊ว่าเป็นไงบ้าง เห็นชอบโชว์ดีนัก”ผมพูดพลางแกล้งเดินไปจะดึงกางเกงบูมลง

    “เอาจริงดิ ไม่เอา ห้องยังไม่ล็อคเลย เดี๋ยวคนมาเห็น”บูมก้าวถอยหลัง

    “อ้าวก็อยากโชว์ไม่ใช่หรอ มาให้ดูเลย”พูดจบผมก็จะเดินเข้าไปหา

    “จะดูจริงอ่ะ เดี๋ยวไปปิดประตูก่อนนะ”บูมรู้ทันว่าผมคงจะไม่เข้าไปทำอะไรหรอกเลยแกล้งแหย่ผมต่อ

    “ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นละ.....เออ บูมโทรไปหาที่บ้านบ้างหรือเปล่า”ผมถามอย่างเป็นห่วง

    “เรียบร้อยแล้ว เราบอกว่าจะมาฮันนีมูนกะแฟน”บูมพูดล้อเล่น

    “เอาจริง ๆ ดิ เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วงนะ”ผมถามย้ำ

    “อือ บอกแล้ว เออ....ลืมบอกไปว่า เมื่อกี้ โบโทรมานะ พอดีโยไม่อยู่เราเผลอรับไป เค้าซักเราใหญ่เลย เราเลยรีบตัดบทวางไปเลย”บูมพูด

    “เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ้โบหรอ แย่แน่คราวนี้ มันต้องไปป่าวประกาศแน่เลย ยิ่งกำลังสงสัยพวกเราอยู่”ผมพูดด้วยสีหน้ากังวล

    “ช่างมันเหอะ เพราะยังไงสักวันพวกเค้าก็ต้องรู้อยู่ดี”บูมเดินเข้ามาปลอบผม

    “อืมมมม ว่าแต่เพื่อนบูมจะว่ายังไงล่ะ เค้ารู้หรือเปล่า”ผมถามด้วยความเป็นห่วง

    “น่าจะนะ แต่ไม่มีใครกล้าถามหรอก แต่ช่างเหอะ เพราะเราไม่แคร์อยู่แล้ว”บูมตอบโดยที่ไม่รู้สึกกังวลอะไร

    จากนั้นผมก็โทรไปหาพ่อกับแม่ผมเพื่อรายงานเรื่องลุงกับป้าผม หลังจากที่ผมวางสายไป

    ผมก็รีบปิดมือถือทิ้งเพราะผมรู้ดีว่า ไอ้โบ รวมทั้ง เหล่าเพื่อน ๆ มิตรสหายที่น่ารักของผมคงจะโทรมาเช็คข่าวให้วุ่นไปหมด เลยปิดมือถือหนีไปเลยดีกว่า อิอิ

    พอผมปิดมือถือเสร็จก็เห็นบูมเดินออกมาจากห้องน้ำ โดยที่ไม่ใส่เสื้อมีแต่เพียงผ้าขนหนูผันเอวไว้และผ้าอีกผืนที่เช็คหัวอยู่

    ผมเพิ่งจะได้เห็นรูปร่างของบูมอย่างชัด ๆ (จะเรียกว่าจ้องก็ได้นะครับ 555) หุ่นบูมดีมาก ผิวขาวมาก หัวนมสีแดง มีกล้ามนิดหน่อยแต่ไม่มาก

    “โย โย โย จ้องอยู่ได้ คิดไรอยู่ บอกมานะ”บูมพูดล้อ ๆหลังจากที่เห็นผมจ้องเค้าอยู่

    “...........................”สติผมยังไม่กลับมาเลยครับ

    “โยยยยยยยยย “บูมเรียกยิ้ม ๆ

    “เออ เปล่า ไม่ได้คิดอะไร แค่กำลังมองคนมีพุง”ผมแก้ตัวหน้าแดง ๆ

    “ใครมีพุง มาจับดูดิว่ามีที่ไหน”บูมพูดยิ้ม ๆ

    “ไม่เอาหรอก เดี๋ยวอดใจไม่ไหว 555”ผมหัวเราะกลบเกลื่อน

    “โยมาช่วยเช็ดหัวให้หน่อยดิคร๊าบบบบ นะ นะ นะ”บูมอ้อนอีกแล้วครับ

    “เช็ดเองดิ”ผมตอบไปอย่างงั้นแหละครับ แต่ผมก็ลุกขึ้นไปช่วยบูมเช็ดอยู่ดี

    “ทำไมมีแผลเป็นที่หลังด้วยล่ะ”ผมถามขณะช่วยบูมเช็ดหัวอยู่

    “อ๋อ ตอนเด็ก ๆ เราซนมากไง เลยได้มาเป็นของขวัญ ตั้งแต่เกิดมามีแค่ไม่กี่คนเองนะที่เห็นแผลเป็นอันนี้”บูมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

    “ขอบใจนะ ขอบใจจริง ๆ”ผมพูดออกไปด้วยความรู้สึกที่เต็มในหัวใจ

    “มาขอบใจอะไรเราอ่ะ”บูมถามอย่าง งงๆ

    “เราขอบใจที่บูมทำให้ความรัก และความรู้สึกดี ๆของเราที่ส่งไปให้ไม่สูญเปล่า ทีแรกเรานึกว่าเราคงจะได้แต่แอบชอบบูมฝ่ายเดียว มันทำให้หัวใจเราห่อเหี่ยวแทบจะไม่มีแรง

     แต่ตอนนี้เรารู้สึกถึงความรักที่เราส่งไปมันย้อนกลับมาหาเรา เราขอบใจจริง ๆ”ผมพูดจบก็ก้มลงจูบบูมด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายจริง ๆ

    “เราก็ขอบใจโยนะ เราไม่เคยคิดเลยว่า เราจะสามารถรักใครได้เท่านี้ เพราะความรักของเราไม่เคยมั่นคงเลย ตั้งแต่ครอบครัว เพื่อนฝูง

   แต่สิ่งเดียวที่เรารู้สึกมั่นคงคือความรักของเรา”พอบูมพูดจบบูมก็เข้ามากอดผม ซึ่งตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมบูมถึงเป็นคนขี้หึงและใจร้อนขนาดนี้

   อาจเป็นเพราะตั้งแต่เด็กมาบูมแทบจะไม่ได้รับความรักที่เพียงพอจากครอบครัวที่เอาแต่ทำงานก็ได้ เลยทำให้เค้าทุ่มเทกับความรักครั้งนี้มาก

   ซึ่งจะพูดไปก็ได้ว่าอาจจะเป็นความโชคดีของผมมั้ง ที่ได้เป็นแฟนกับบูม

    หลังจากนั้นเราก็นั่งคุยกันต่อสักพักนึง ผมก็ขอตัวไปอาบน้ำบ้าง พอผมออกมาจากห้องน้ำ บูมก็ชวนผมออกไปเดินเล่นข้างนอก

    “ไปเดินเล่นกันเปล่า”บูมถามขณะที่ผมกำลังเช็ดผมเหมือนกัน

    “ไปก็ได้ แต่ต้องมาช่วยเราเช็ดผมบ้างดิ”ผมยื่นข้อเสนอ ซึ่งบูมก็ไม่ปฎิเสธเดินเข้ามาหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมให้ แต่แทนที่จะเช็ดดี ๆ กลับมาขยี้หัวผมซะยุ่งไปหมด

    “เฮ้ย แกล้งกันหรอ”ผมถาม

    “ใช่แล้วทำไม”บูมตีสีหน้าทะเล้น

    “จำไว้เลย.....วันหลังไปให้คนอื่นเช็ดให้ก็ได้”ผมแกล้งกลับ

    “อ่ะโอ๊วววว มาเช็ดให้ดี ๆ ก็ได้ครับคุณโย เดี๋ยวกระผมจะตกกระป๋องไปซะก่อน”บูมยังคงทะเล้นต่อ

    “พอแล้ว พอแล้ว เดี๋ยวก็ไม่ได้ไปเดินเล่นกันพอดี”ผมยิ้ม ๆ

    “ไปได้ยังอ่ะ ไม่ต้องแต่งตัวหรอก แต่งไปก็ไม่มีใครมองนอกจากเราคนเดียว”โห ดูบูมพูดดิ ไม่ให้กำลังใจกันเลย

    “เออ เดี๋ยวจะแก้ผ้าออกไปเลยดีมะ”ผมพูดงอน ๆ

    “ดี ดี ดี อยากเห็น”บูมพูด

    “เฮ้อออออออออออออออออออ”ผมขี้เกียจเถียงละครับ ได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินนำออกไปข้างนอก

    จบตอนที่ 13 ที่กินเวลายาวนาน ต้องขอโทษจริง ๆ ที่มาโพสช้ามาก เพราะตอนนี้มีเรื่องบางเรื่องที่ทำให้ผมไม่สามารถมาโพสได้ ต้องขอโทษด้วย

    อาจจะรอนานสักหน่อย แต่จะพยายามมาโพสจนจบนะครับ

   ********************************************

   pim                                              ใช่ครับ บูมหึงแบบน่ากลัวมาก

   มูมู่น้อย                                          ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

   [{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]                             ลงวันละตอนแล้วกันนะครับ เพราะตอนนี้นิยายเยอะมาก ผมเองยังตามอ่านมะค่อยจะทันเลย

   meemewkewkaw                   บูมขี้หึง โยขี้งอน ต้องตามกันต่อไปครับ ที่แน่ๆ บูมก็ขี้งอนใช่ย่อยครับ

   Tantalum                                  เหอเหอ ต้องแปลงร่างแล้วละครับ ให้เลือกว่าจะเปงตุ๊กแก หรือจิ้งจก

    MyLoveMyBabe                  รับประกันความมันส์ โดยพี่วิทย์ และพี่จอห์นครับ                                       
 
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 18-12-2006 12:04:57

    “เราขอบใจที่บูมทำให้ความรัก และความรู้สึกดี ๆของเราที่ส่งไปให้ไม่สูญเปล่า
     แต่ตอนนี้เรารู้สึกถึงความรักที่เราส่งไปมันย้อนกลับมาหาเรา เราขอบใจจริง ๆ”          
 

ถ้าความรักที่เราส่งไปมันย้อนกลับมาหาเราก็ดี..............แต่ถ้ามันไม่ย้อนกลับมาก็ก็จงดีใจที่ได้หั้ยเขาไปแล้ว

ป.ล.  ทำไมอ่านไปแล้วไอ้นิสัยทั้งขี้หึง...ขี้งอน...และขี้อ้อนของทั้งบูมและโยมันอยู่ในตัวเราหมดเลยหว่า :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-12-2006 16:29:48
ไม่ทันไรก็มีวางมวยกันซะแล้วววว....ดีที่นางเอกมาห้ามไว้ทัน อิอิ :angellaugh2:


เรื่องราวน่าติดตามมากกมาย พี่จอห์นต้องจ้องหาจังหวะแก้แค้นแน่ๆเลยอ่า ระวังตัวด้วยนะคร้าบบบ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 18-12-2006 18:01:51
คบคนพาล พาลพาไปหาผิด
 :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 19-12-2006 01:12:01
^
^
^
คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล (ต่อจากข้างบนครับ)

มาต่อไวๆนะครับ ชอบครับ สนุกดี บูมน่ารักม้ากมาก

แต่ไม่ค่อยชอบชื่อเรื่องเลยอ่ะครับ หดหู่ยังไงก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 19-12-2006 01:21:42
                                                   :yeb:   ก้อดีจ้าพูห์ลงทีละตอน คนอ่านกะคนโป๊ดจาด้ายม่ายเหนื่อยด้วย :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: luvdisc ที่ 19-12-2006 05:09:54
อ่านทันแล้ว มาเม้นท์ให้ตามสัญญาแล้วนะพู เขาอยากมีแฟนขี้หึงแบบบูมอ่า เคยมีแต่แฟนขี้งอน ขี้หึงกะขี้งอนแบบไหนน่าเหนื่อยใจ
มากกว่ากันอ่า
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 19-12-2006 08:13:40
โย นี่เสน่ห์แรงนะครับ สงสัยจาน่ารัก คิกคิก  :kikkik:
โดนรุมจีบถึง 3 คน แต่ละคนแรง ๆ ทั้งน้าน ฮิ๊ว... :try2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GoneOn ที่ 19-12-2006 09:24:52
โห พี่จอห์นมาแรง  ต่อไปต้องมันส์แน่ๆเลย   :kikkik:

มารออ่านต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-12-2006 10:36:04
อ่านทันจนได้  :try2:

ตอนแรกกะว่าจะไม่อ่านแล้วเชียวนา เห็นชื่อเรื่องแล้วคิดว่าคงเศร้าน่าดู

แต่เท่าที่อ่านมาตอนนี้ ก็สนุกดี  :yeb:

รออ่านอยู่ค่า  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sak ที่ 19-12-2006 10:42:04
โยนี่ ก็น่ารักดีนะ :like2: :like2: :like2: :teach: :haun5: :try2: :sad5:

                หนักใจเนอะ มีแต่อุปสรรค  
                        พี่วิทย์ นี่ก็นะ   เห็นเค้ามีเจ้าของแล้ว ก็ยังจะมาแย่ง ไม่พอแถมพาพวกมาอีก  น่ากลัวมากๆ

      แล้วอย่างงี้ จะทำให้โยชอบได้ไงเนี่ย  
                  
         อ่านไปอ่านมา บูมก็น่ารัก นะ  แต่ก็แอบน่ากลัวเหมือนกัน  :like2: :like2: :like2:  
          
          
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-12-2006 15:28:49
วันนี้อากาศเย้นดีจัง พี่วิทย์ พี่จอห์นมาช่วยให้ความอบอุ่นผมหน่อยค้าบบบ    :haun6:

อย่าไปรังควานคนเค้าจะรักกันเลยค้าบเพ่  :monkeylaugh2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-12-2006 16:40:05
แงแง :serius2:
 
คอมเจ๊งอะ

ที่พิมพ์ไว้หายหมดเลย

 :serius2: :serius2: :serius2:

พูห์ :sad4:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 19-12-2006 17:14:18
                                                                              :pigangry2:   :3125:    :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sak ที่ 19-12-2006 19:18:16
ใจเย็นครับ พูห์
              อย่าซีเรียส มากนะ    เพื่อนๆในเล้า รอได้ครับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 20-12-2006 02:10:25
ใจเย็นครับ ใจเย็น
ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ :pigangry2:
แฮะๆ สู้ๆ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-12-2006 10:29:29
"ตอนที่ 14"

    หลังจากที่ผมกับบูมออกมาเดินเล่นนอกห้อง เราสองคนก็คุยกัน เรื่อย ๆ จิปาถะ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของ ทัศนียภาพของรีสอร์ท ซะมากกว่า

    ผมละหงุดหงิดใจมาก ๆ เพราะแทนที่บูมจะพูดหวาน ๆ ในบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกแบบนี้ ยิ่งอยู่กันสองต่อสองด้วยแล้ว พูดแล้วมันน่าโมโหจริง ๆ

    พูดแต่เรื่องรีสอร์ทอยู่ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด หน้าผมเลยค่อนข้างจะหงิกจนผิดสังเกตุ ทำให้บูมเริ่มที่จะรู้สึกผิดสังเกตุ

    “โย เป็นอะไรหรือเปล่าทำไม ทำหน้าแบบนั้นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เราพูดอะไรผิดหรอ” เฮ้อออ บูมน่ะไม่ผิดหรอก แต่ทำไมไม่เฉลียวใจบ้างเลย

    “เปล่านี่ แค่เราหนาวนิดหน่อยอ่ะ”ผมต้องจำใจพูดแบบนี้ ก็ใครจะไปบอกได้ว่าให้ช่วยพูดหวาน ๆ หน่อย จริงป่ะครับ

    “หนาวหรอ มานี่ดิ”บูมเดินเข้ามาใกล้ ๆ แล้วโอบเอวผมไว้ (หน้าหงิกใช้ได้ผลแล้วครับ)
 
     “หายหนาวหรือยัง”บูมถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ

    “ยังเลยอ่ะ ทำไมวันนี้มันหนาวจังเนอะ”ผมพูดพลางถูมือไปมา (555 มีกี่เล่มเกวียนต้องงัดมาใช้ให้หมด)

    “งั้นเดินไปนั่งที่ศาลาทางนั้นดีกว่าเนอะ”บูมพูดพลางชี้ไปที่ศาลาเรือนไม้ด้านหน้า

    “อืมมม ไปดิ”ผมตอบอย่างว่าง่าย แล้วก็โอบเอวบูมเดินไปด้วยกัน

    หลังจากที่เราเดินไปถึงศาลาเรือนไม้แล้ว ผมกำลังจะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับบูม บูมก็พูดขึ้นว่า

    “โยมานั่งฝั่งเดียวกันดิ จะได้ไม่หนาว”บูมพูดพลางเขยิบตัวเข้าไปด้านใน

    “อืมม..........”ผมพยักหน้ารับ

    “หายหนาวหรือยัง”บูมพูดพลางโอบกอดผม

    “อืมมมม ไม่ค่อยหนาวแล้วล่ะ”ผมพูดแล้วก็เอาหัวไปซบที่ไหล่ของบูม

    “อยากอยู่อย่างนี้นาน ๆ จัง จะได้ไม่มีคนมายุ่งวุ่นวายกับพวกเรา”บูมพูดขึ้น

    “อืมมมม..........”ผมได้แต่พยักหน้ารับ ไม่พูดอะไร

    “โย...............โย.............”บูมเรียกผม

    “ฮืมมมมมมมม”

    “โย.............. โย.............”บูมเรียกผมอีกครั้ง

    “อะไรหรอ”ผมถามขณะที่ยังซบที่ไหล่ของบูมอยู่

    “สระผมมาหรือเปล่าเนี่ย หัวเหม็นจัง” ดูดิครับกำลังบรรยากาศดี ๆ เริ่มกวนอีกแล้ว

    “บ้าดิ”พูดจบผมก็ลงไม้ลงมือกับบูมนิดหน่อย แล้วเราก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน

    “ไม่ซบแล้วหรอ”อ่ะนะ แล้วมากวนทำไมล่ะเนี่ย

    “ไม่เอาแล้วเดี๋ยวมีคนเป็นลมเพราะเราหัวเหม็น”ผมพูดอย่างงอน ๆ

    “ล้อเล่นนนน หอมออกอย่างงี้” 555 แผนสูงนะครับ บูมเนี่ย แอบมาหอมแก้มผมจนได้

    “โหหหหหห เล่นงี้เลยหรอ”ผมถามหลังจากที่บูมหอมแก้มผม

    “อ่ะงั้นเราให้ล้างแค้น”บูมพูดพลางก็ยื่นหน้ามาให้ผม

    “เรื่องอะไร หอมก็กลัวดิ”ผมพูดพลางเอามือดันแก้มบูมออกไป

    “หอมหน่อยน่า นิดเดียวเอง นะ นะ นะ”บูมอ้อน

    “ไม่”ผมเล่นตัวนิด ๆ ก็อยากให้บูมอ้อนอีกนี่ครับ

    “นะ นะ นะ ทีเดียวเอง”ได้ผล บูมอ้อนจริง ๆด้วย อิอิ

    “อ่ะก็ได้”พูดจบผมก็หอมแก้มบูมเบา ๆ แล้วเราสองคนก็เริ่มหน้าแดงด้วยกันทั้งคู่เลยอ่ะครับ

    “แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยอ่ะ โย”บูมถาม

    “แล้วตัวเองก็แดงเหมือนกันแหละ”ผมถามกลับอย่างเขิน ๆ

    “ถ้าอย่างงั้นเอาอีกข้างได้ป่ะ จะได้แดงเท่ากัน”บูมยื่นหน้าอีกด้านเข้าใกล้ผม

    “บ้า...............”ผมพูดอย่างอาย ๆ แล้วก็ลุกเดินหนีบูมออกมา

    “จะรีบกลับไปทำไม เพิ่งออกมาได้แป๊ปเดียวเองนะ”บูมตะโกนตามหลังผมแล้วก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ

    หลังจากที่ผมเดินหนีบูมกลับมาที่ห้อง สักครู่ก็มีเสียงเคาะประตูทีแรกผมก็นึกว่าเป็นบูม เลยตะโกนบอกไปว่าให้เข้ามาเลยไม่ได้ล็อค แต่คนที่เข้ามากลับเป็น.............

    “เฮ้ย พี่จอห์น เข้ามาได้ยังไงครับ”ผมพูดพร้อมกับได้กลิ่นเหล้าที่ออกมาจากตัวพี่จอห์น

    “ก้อเพ่ คิดดดถึงงง น้องโยอ่ะครับ อยากเห็นหน้าเลยเดินมาหา”พี่จอห์นพูดด้วยสำเนียงคนเมา

    “ผมว่าพี่เมามากแล้วนะครับ กลับห้องไปนอนได้แล้วนะครับ”ผมพูดพร้อมกับพยายามผลักตัวพี่จอห์นออกไป แต่ดูเหมือนจะสูญเปล่าเพราะพี่จอห์นกลับล็อคมือผมแล้วทำท่าว่าจะจูบผม

    “เฮ้ยยยย พี่จะทำอะไรครับ”ผมพูดด้วยสีหน้าตกใจ

    “ขอจูบบบบ แบบไอ้บูมเมื่อกี้หน่อยดิ”พี่จอห์นยื่นปากออกมาจะจูบผม

    “อย่าพี่ ผมว่าพี่รีบออกไปเถอะก่อนที่ผมจะทนไม่ไหว”ผมพูดเพราะหมดความอดทนแล้วครับ

    “ทนไม่ไหววว ก็มาเลยดิคร๊าบบบบบ พี่พร้อมแล้ววววว โยมาเป็นของเพ่มา...”พี่จอห์นพูดพลางทำท่าจะถอดเสื้อผ้าออก

    “เฮ้ย ไอ้หัวแดงมึงจะทำอะไรแฟนกู” เหมือนกับเสียงพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยไว้ได้ทัน บูมเดินตรงเข้ามาห้ามเอาไว้

    “แล้วมึงเสือกอะไร ไอ้ตี๋”พี่จอห์นทำท่ากวนตีนใส่บูม

    “เสือกหรอ นี่ไงเสือก”บูมพูดพร้อมกับเหวี่ยงหมัดใส่หน้าพี่จอห์นจนล้มไปอีกด้านหนึ่ง

    “มึงจำไว้นะว่า มึงและเพื่อนมึงไม่มีสิทธิ์มาทำอะไรแฟนกูทั้งนั้น”บูมพูดพร้อมกับกัดฟันด้วยความแค้น

    หลังจากนั้นพี่จอห์นก็หลับไป เอ....หรือว่า สลบไปก็ไม่รู้ ผมกับบูมไม่รู้จะทำยังไงดี เลยตกลงกันว่าให้ลากพี่จอห์นออกไปแล้วก็ให้ผมเดินไปตาม

    พนักงานมาช่วยพยุงพี่จอห์นไปที่ห้องนอน จากนั้นเราสองคนก็เดินกลับเข้ามาในห้อง

    “โย เราทนไม่ไหวแล้วนะ กลับกรุงเทพฯกันเถอะ เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก เราไม่ไว้ใจใครเลยจริง ๆ ดูอย่างวันนี้สิ ถ้าเรามาไม่ทันอะไรจะเกิดขึ้น”บูมเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงกังวลและไม่ค่อยพอใจ

    “แต่ว่า......ป้ากับลุงเราเค้าให้เราอยู่ช่วยงานทางนี้อ่ะ เราก็ไม่รู้จะปฎิเสธยังไง”ผมตอบไปด้วยสีหน้ากังวลพอ ๆ กัน

    “แล้วจะให้เราทำยังไง รอมันมาปล้ำแฟนตัวเองอีกหรอ”บูมพูดพร้อมกับแสดงท่าทีโมโห

    “อีกแค่ ห้าวันเอง เราจะพยายามหลีก ๆ เค้าละกันนะ”ผมพยายามหาทางแก้ไข

    “แล้วจะหลีกได้เหรอ รีสอร์ทก็แค่นี้”บูมพูดอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจ

    “งั้นบูมก็อยู่ใกล้ ๆ เราสิ ถ้ามันมาทำอะไรจะได้จัดการไง”ผมพูดพลางเดินเข้าไปกอดบูมไว้

    “เฮ้ออออออออออ”บูมได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเช่นกัน

    หลังจากเรื่องคืนนั้นแล้ว ผมกับบูมก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะต้องเผชิญหน้ากับพี่จอห์นไม่ใช่เพราะกลัวนะครับ แค่ไม่อยากมีเรื่องแค่นั้นเอง จนพี่วิทย์เริ่มผิดสังเกตุ

    “น้องโยมีเรื่องอะไรกับไอ้จอห์นหรือเปล่าวันนี้ดูแปลก ๆ”พี่วิทย์ถามผมขณะเดินดูงานรอบ ๆ รีสอร์ทพร้อมกับผม (บูมก็เดินมาด้วยเช่นกัน)

    “ไปถามเพื่อนตัวดีของพี่เหอะ”บูมตอบแทนด้วยสีหน้าไม่พอใจ

    “จอห์นไปทำอะไรเรา หรอน้องโย”พี่วิทย์ถามด้วยความเป็นห่วง

    “อ๋อออ เปล่าครับพี่ ไม่มีอะไร”ผมตอบไปเพราะไม่อยากให้เค้าสองคนต้องทะเลาะกัน แต่บูมอ่ะดิ แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

    “คงไม่ละมั้ง เห็นท่าทางบูมก็ไม่ค่อยพอใจ ไอ้จอห์นเหมือนกัน”พี่วิทย์พูดกับผมพร้อมกับชี้มือไปที่บูมเป็นเชิงว่าให้ดูหน้าของบูมสิ อะไรประมาณนั้น

    “ช่างเถอะครับอย่าไปคิดมาก เออพี่วิทย์บ่ายนี้จะมีทัวร์มาลงหรือเปล่าครับพี่”ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องพูด

    “ไม่มีครับ จะมีอีกทีก็อีก สาม วันจะมีคณะของชาวต่างชาติมา”พี่วิทย์ตอบ

    หลังจากที่พี่วิทย์พาผมกับบูมไปตรวจดูรอบ ๆ รีสอร์ทแล้วก็เดินมาที่ออฟฟิศด้านในเพื่ออ่านรายงานของผู้จัดการที่เขียนเอาไว้

    พี่วิทย์อธิบายวิธีการทำงานให้ผมฟังแบบละเอียดมากจนผมทึ่งในความสามารถของพี่วิทย์ที่สามารถทำได้ขนาดนี้

    หลังจากนั้นไม่นาน พี่จอห์นก็เดินเข้ามาท่ากลางสายตาที่เคียดแค้นของบูม

    “เฮ้ยยย ไอ้วิทย์ เดี๋ยวกูกลับมานะ กูจะไปในเมืองหน่อย”พี่จอห์นพูดพลางหันหน้ามามองผม

    “เออ ๆ ๆ แล้วหน้ามึงไปโดนอะไรมาวะ”พี่วิทย์พูดเพราะเห็นรอยเขียว ๆที่แก้มของพี่จอห์น

    “เฮ้ยยย ไม่มีอะไรหรอกกูหกล้มชนขอบโต๊ะแค่นี้เอง”พี่จอห์นปฎิเสธเสียงอ่อย ๆ โดยไม่กล้าสบตาของผมกับบูม

    “เออ ๆ ๆ เดี๋ยวกูไปด้วยนะจะไปทำธุระพอดี”พี่วิทย์พูด พร้อมกับหันหน้ามาสั่งงานผม

    “น้องโยพอจะเข้าใจแล้วนะครับ พี่ฝากรีสอร์ทแป๊ปนึง พอดีพี่ต้องไปทำธุระเดี๋ยวช่วงบ่ายพี่กลับมา”พี่วิทย์หันมาบอกผม

    “ครับ ๆ ได้ครับ”ผมตอบรับ


    จบตอนที่ 14 ครับ ตอนนี้อาจจะจบแบบห้วน ๆ ไปหน่อย พอดีตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงแย่ ๆ อ่ะครับเลยมาลงให้ช้าหน่อยครับ ต้องขอโทษด้วยครับ

************************************************

   ][GobGab][                                                                   อืมมมม... น่ากลัวนะครับน้องถุง ทั้งขี้งอนทั้งขี้หึง ว่าแต่ไปดูเอรากอนสองรอบสนุกมั้ยครับ


   MyLoveMyBabe                                                         เหอเหอ... ยังมีให้ลุ้นอีกเยอะครับ


   b|ueB[o ]YhUb                                                            บางครั้งคนดี ก็ทำชั่วได้นะครับหนูบลู


   meemewkewkaw                                                       ถ้าลองอ่านดี จะเห็นนะครับทำไมถึงชื่อนี้ คุณYOเองคับ เขาเแลยเอาไว้แล้ว


   [{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}]                                                                ยังงัยก็อย่าลืมติดตามของนักเขียนท่านอื่นด้วยนะครับ


   luvdisc                                                                          ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ ผมว่าขี้หึงน่ากัวกว่านะครับ ขี้งอนยังพอง้อได้ครับ


  forsaken                                                                        หุหุ ยังมีให้ติดตามอีกเยอะครับ

 
  GoneOn                                                                        ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ


  shell                                                                                เรื่องนี้มีหลายอารมณ์นะครับ อย่าลืมมาตามต่อนะครับ

 
  sak                                                                                 ตัวละครแต่ละตัว เขาก็มีเหตุผลของเขานะครับ


  MyLoveMyBabe                                                      แล้วจะรู้ว่าพี่วิทยืกะพี่จอห์นไม่ธรรมดา


  หมูพูห์                                                                             พูห์บ้า  ไม่ยอมเซฟไว้ เปงงัยละ อิอิ


  [{ตะแน๋วกิ๋วกิ้ว}] / sak /meemewkewkaw            มาต่อให้แล้วนะครับ

หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 20-12-2006 14:34:32
ยิ่งอ่านเหมือนยิ่งเห็นนิสัยตัวเองเข้าไปทุกที........... :try2:

แต่มะมีคนตามง้อเหมอนโยเลย.............. :laugh: :laugh: :laugh:

รออ่านต่ออยู่นะคับพี่พูห์...............กะลังหนุก :impress:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sak ที่ 20-12-2006 15:27:17
เหมือนตกอยู่ในถ้ำ เสือไงก็ไม่รู้ 
               :o :laugh: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
                        กลัวจะเป็นเรื่องไม่ดีๆ เกิดมาผิดใจกันแน่ๆ เลย เจ้ารีสอร์ต ตัวดี  :like2: :like2: :like2: :like2: :like2: :like2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-12-2006 16:10:09
อืม ดีมากบูม ชกมันเลย ไม่ต้องไปเกรงใจ  :laugh:

คนแบบนี้พูดด้วยดี ๆ ไม่ได้หรอก :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 20-12-2006 17:05:22
....วันนี้เพิ่งได้เข้ามา เพราะไปดู site งานมา....นั่งรถเหนื่อยๆๆๆ :try2:


เรื่องนี้เริ่มจะเข้มข้นเข้าทุกทีเลย สนุกจัง จะเกิดอะไรขึ้นนะ....


ที่จริงน่าจะบอกเรื่องพี่จอหืนให้พี่วิทย์รู้นะครับ จะได้ทะเลาะกัน อิอิ :kikkik: จะได้กำจัดพี่จอห์นไปได้หนึ่ง เหลือรับมือพี่วิทยืคนเดียว เหอๆๆ :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 20-12-2006 18:10:02
จริง ๆ ด้วย  น่าจะบอกเรื่องพี่จอห์นนี่ให้พี่วิทย์รู้เนอะ  เอาวงแตกกันไปเรย  กำจัดคู่แข่ง    รออ่านต่อคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 20-12-2006 20:37:07
ผมสงสารบูมหง่ะ มีแฟนที่มีคนมาตามจีบเยอะงี้  คริคริ~
เป็นผมก้อคงมีเหนื่อยม้างอ่าครับ นี่แค่ 2 คนยังขนาดนี้
แล้วจะมีตามมาจีบอีกอ่าป่าวนี่!!  :o 
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 21-12-2006 00:22:20
อ่านไปก็ลุ้นไป เฮ้อ...เหนื่อยแทนจัง เอาใจช่วยโยกะบูมเน้อ

คุณพูห์ครับ ไว้สบายใจก่อนแล้วค่อยกลับมาโพสต์ต่อก็ได้นะครับ
ยังง้ยยังไงก็จะรอ สู้ๆนะครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: No_ProMises ที่ 21-12-2006 00:52:32
มาต่อไวๆ นะค๊าบบบ

หุหุ...
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-12-2006 16:45:59
"ตอนที่ 15/1"
   
      หลังจากที่พี่วิทย์ กับพี่จอห์น เดินทางเข้าไปในเมืองแล้ว

      ผมกับบูมก็เดินออกมา ตรวจดูความเรียบร้อยด้านนอก ซึ่งมันก็ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก เพราะกรุ๊ปทัวร์ที่จองไว้ยังไม่มาถึง

      ผมกับบูมจึงเหมือนกับมาเดินเล่น หยอกล้อกันมากกว่า

     พอตกบ่ายแก่ ๆ เราสองคนก็เดินกลับเข้าไปในออฟฟิศ เห็นพี่วิทย์นั่งอยู่คนเดียวในห้องท่าทางเศร้า ๆ

    “เอ่อ...น้องโยครับพี่มีอะไรจะปรึกษาหน่อยได้ไหมครับ”พี่วิทย์ถามเสียงเศร้า

    “มีอะไรครับพี่ ว่ามาได้เลยครับ”

    “น้องบูมครับ พี่ขอคุยกับน้องโยตามลำพังได้ไหมครับ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรน้องโยหรอก”พี่วิทย์หันไปถามบูม ซึ่งตอนนี้บูมก็มองหน้าพี่วิทย์อย่าง งง ๆ

    “ได้ครับ โยเดี๋ยวเราไปรอที่ห้องนะ”บูมพูดกับผมแล้วเดินออกไป

    “มีอะไรครับพี่ทำไมต้องมีความลับด้วย”ผมถามอย่างสงสัย

    “คือ พี่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี พี่ขอโทษเรื่องไอ้จอห์นมันด้วย คือไอ้จอห์นมันสารภาพมาหมดแล้ว

    พี่ก็เลยทะเลาะกับมันและไล่ให้มันกลับบ้านไป”พี่วิทย์พูดพลางถอนหายใจ

    “อ๋อ ถ้าเรื่องนั้นช่างมันเถอะครับพี่ มันผ่านไปแล้ว”ผมพูดอย่างจริงใจ

    “ขอบใจน้องโยมาก ๆ เลยนะครับที่ไม่เอาเรื่องไอ้จอห์นมัน”พี่วิทย์ยิ้มให้แล้วพูดต่อ “พี่มีเรื่องจะรบกวนน้องโยหน่อยได้ไหมครับ”พี่วิทย์ถาม

    “รบกวนเรื่องอะไรครับ”

    “คืองี้ครับ พอดีมีเพื่อนพี่ ไม่เชิงเพื่อนหรอกครับ คือพี่รู้จักเค้าที่ผับอ่ะครับ ทีนี้เค้ามาตามเกาะแกะพี่ตลอดเลยอ่ะ

    พี่ไม่รู้จะทำยังไงดี”พี่วิทย์พูดพลางมองหน้าผม

    “ก็ดีสิครับพี่ แล้วน่ารักหรือเปล่าครับ”ผมแซว

    “ก็ดีครับ แต่ไม่ดีตรงที่มันเป็นแฟนของเพื่อนไอ้จอห์นที่เป็นนักเลงใหญ่ของเชียงใหม่อ่ะครับ แล้วทีนี้พอเพื่อนไอ้จอห์นรู้เข้าพี่ก็เกือบมีเรื่องกัน

    ดีนะที่มันเป็นเพื่อไอ้จอห์น ไม่งั้นพี่คงเป็นศพไปแล้ว แต่พี่ไม่ได้ชอบเค้านะ เค้าเป็นฝ่ายตามตื้อพี่เองอ่ะครับ

    พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน”พี่วิทย์อธิบาย

    “แล้วพี่จะให้ผมช่วยยังไงล่ะครับ”

    “น้องโยช่วยแสดงเป็นแฟนพี่ทีได้ป่ะครับ แค่วันเดียวเอง ให้เค้ารู้ว่าพี่มีแฟนแล้วจะได้เลิกตอแยพี่ซะที”

    “เอ่อ........คือ”ผมเริ่มอึกอักเพราะไม่รู้ว่าจะตอบยังไง ใจนึงก็คิดว่านี่เป็นแผนหรือเปล่า

    แต่ใจนึงก็คิดว่าคงไม่ใช่หรอก เพราะดูจากสีหน้าแล้วพี่วิทย์ไม่ได้เสแสร้งเลย

    “ถ้าน้องโยไม่สบายใจ บอกบูมด้วยก็ได้นะ เดี๋ยวเค้าจะไม่สบายใจ”พี่วิทย์แสดงความจริงใจ

    “คือว่า ผม.............”ผมเริ่มจะสับสนไม่รู้ว่าจะ ตกลง หรือ ไม่ตกลงดี

    “ได้ไหมครับ คิดซะว่าช่วยพี่ นะครับ นะครับน้องโย”พี่วิทย์ขอร้องด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร

    “เอ่อ.........ก็ได้ครับพี่ แต่พี่ต้องไปบอกบูมกับผมด้วยนะครับ”ผมตอบตกลง

    “ได้ครับ ขอบใจน้องโยมาก ๆเลยครับ”พี่วิทย์ดีใจอย่างออกนอกหน้า

    “แล้วจะให้ผมแสดงให้เค้าเห็นวันไหนอ่ะครับ”

    “นี่แหละ พรุ่งนี้เค้าก็จะมาแล้ว พี่ก็กำลังกลุ้มใจอยู่เนี่ย แต่พอน้องโยช่วย พี่ก็โล่งอก ไปเราไปบอกบูมด้วยกัน”พี่วิทย์ยิ้มแล้วเดินนำผมไปที่ห้องเพื่อคุยกับบูม

    “อะไรนะ...............เล่นเป็นแฟนกันเหรอ ไม่ได้”เสียงชายคนนึงโวยวายออกมาลั่นห้อง ไม่ใช่ใครหรอกครับ ก็บูมนั่นแหละ

    “แค่เล่นละครเอง วันเดียวเท่านั้นนะ ขอร้องล่ะ คิดว่าช่วยพี่ได้ไหม อีกอย่างน้องโยก็ตกลงแล้วด้วย”พี่วิทย์พยายามขอร้องบูม

    “อะไรนะ ตกลงแล้วหรอ....”สายตาเพชฌฆาตมองมาทางผมจนเสียววาบไปถึงหลัง

    “เอ่อ...........คือเรา เราแค่”ผมพูดตะกุกตะกักเพราะเกรงใจสายตาที่น่ากลัวของบูม

    “แค่อะไร บอกมาสิ”บูมตะคอกเสียงดัง

    “แค่ช่วยพี่เค้าวันเดียวเองอีกอย่างบูมก็อยู่ด้วยอ่ะ ได้ไหม สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย จริง ๆ นะ”ผมพยายามพูดเพื่อให้บูมสงบลง

    “พี่ก็สัญญา รับรองแค่เล่นละคร วันเดียวจริง ๆ”พี่วิทย์สัญญาอีกคน

    “จะวันเดียว ครึ่งวันก็ช่างเถอะ แล้วถ้าเรื่องมันไม่จบล่ะจะว่าไง”บูมเริ่มสงบลงได้บ้าง

    “พี่สัญญา ถ้ามันไม่จบ พี่จะไม่ให้น้องโยมายุ่งกับเรื่องนี้อีก คิดว่าช่วยพี่ได้ไหม”พี่วิทย์พยายามพูด

    “เห็นไหมแค่วันเดียวเอง นะ นะ นะ”ผมช่วยพูดด้วยอีกคนนึงเพราะสงสารพี่วิทย์

    “เออ ได้แต่เราต้องอยู่ด้วยตลอดนะ”บูมเริ่มใจอ่อน

    “ขอบใจน้องบูม กับ น้องโยมากที่ช่วยชีวิตพี่จากมาเฟีย”พี่วิทย์ยิ้ม

    หลังจากนั้นเราก็นัดแนะกันว่าจะต้องทำยังไงกันบ้าง รวมถึงวิธีการแสดงต่าง ๆ และทุกครั้งที่พี่วิทย์พยายามพูดว่าให้ผมทำท่าเหมือนคนที่เป็นแฟนกัน

    ก็บูมนั่นแหละที่โวยวายพาลจะไม่ให้แสดงอยู่เรื่อยกว่าจะลงตัวก็เล่นเอาเหนื่อยมาก ๆ เลยครับ หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันเข้าไปนอน

    พอวันรุ่งขึ้น ผมตื่นขึ้นมาก็เห็นบูมนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ จ้องมองมาทางผม จนผมอดที่จะถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้

    “ทำไมมานั่งจ้องเราแบบนี้ล่ะ ไม่สบายใจหรอครับ”ผมถามอย่างเป็นห่วง

    “เปล่า ก็แค่รู้สึกมันวูบ ๆ เหงา ๆ ยังไงไม่รู้”บูมตอบ

    ผมเดินเข้าไปใกล้ ๆ บูมพลางเสยผมที่ตกลงมาปิดตาขึ้นไป แล้วก็ก้มลงจูบบูมหนึ่งทีเพื่อเป็นปลอบ

    “ไม่เป็นไรหรอก แค่เล่นละครแป๊ปเดียวเอง”ผมพูดเบา ๆ

    “............................”ไม่มีเสียงตอบจากบูม

    “ยังไงชีวิตจริง หัวใจเราก็อยู่กับบูมตลอดอยู่แล้ว เหมือนที่เราเคยบอกไง”ผมพูดพลางจะก้มลงหอมแก้มบูมอีกที

    “ไม่เอาแล้ว ปากเหม็นยังไม่แปรงฟันเลย”พูดจบบูมก็หัวเราะ แสดงว่าเริ่มสบายใจขึ้นมาแล้ว

    “ง่ะ ไม่หอมก็ได้ ไปอาบน้ำดีกว่า”ผมพูดอย่างงอน ๆ แล้วทำท่าจะเดินไปอาบน้ำ แต่บูมก็ดึงผมกลับไปนั่งที่ตักบูมแล้วเอาหน้าซบที่ไหล่ผม

    “......................................”ผมและบูมต่างก็ไม่พูดอะไร

    หลังจากนั้นเราก็เดินออกมาเพื่อไปหาพี่วิทย์ในออฟฟิศ ซึ่งนั่งรอเราอยู่แล้ว

    พอพวกเราไปถึงพี่วิทย์ก็บอกให้รีบ ๆ เพราะ คนที่ตามตื้อพี่วิทย์ใกล้จะมาแล้ว ยังไม่ทันที่เราจะนั่งลงเลย เสียงผลักประตูก็เข้ามา

    “วิทย์จ๋า...........”เสียงหวานมาแต่ไกลเลยครับ

    “วิทย์นี่ใครน่ะ”ชายหนุ่มรูปร่างอ้อนแอ่น ผิวขาว หน้าตาค่อนข้างดี เอ่ยถาม

    “ก็เราเคยบอก มิก ไปแล้วนิ นี่โยแฟนเรา”พี่วิทย์แนะนำผมแล้วเดินมาโอบเอวผมไว้ซึ่งผมก็งง ๆ เพราะมันไม่มีในบท

     ผมเลยหันไปมองบูมซึ่งตอนนี้สีหน้าเริ่มจะไม่ค่อยดีแล้ว แต่ทำไงได้ the show must go on

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”เสียงแหลมแสบแก้วหูมากครับ

    “มิกไม่เชื่อ มิกไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลยนะวิทย์ อย่ามาโกหก”หูยขึ้นมันเลยนะ

    แถมมิกยังหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบเหยียด ๆ จนผมเริ่มเคืองเพราะไม่มีมารยาทมาก

    “เราไม่ได้โกหก นี่แฟนเราจริง ๆ เค้ามาเยี่ยมเราจากกรุงเทพ”พี่วิทย์พูดเสียงเรียบแต่กระชับเอวผมไว้

    “อีเนี่ยนะ หน้าแบบนี้ วิทย์ยังจะเอามันมาเป็นแฟนอีก มิกไม่เชื่อหรอก แล้วนี่ใครล่ะ อย่าบอกนะว่าแฟนอีกคน” คิดดูดิครับขึ้นอีขึ้นไอ้แถมยังปากไม่ดีอีก

    “สวัสดีครับ ผมชื่อโย เป็นแฟนพี่วิทย์ครับ แล้วนี่ลูกพี่ลูกน้องผม มีปัญหาอะไรหรอครับ คุณ............”ผมถามอย่างสุภาพทั้ง ๆ ที่เคืองมาก ๆ

    “ชั้นชื่อ มิก ย่ะ เธอน่ะไม่มีปัญญาหาแฟนหรอไงยะ วิทย์น่ะชั้นจองแล้วนะ เชิญไปหาเอาข้างหน้าเถอะ”มิกพูดพลางมองผมด้วยหางตา แบบเหยียดสุด ๆ

    “ผมว่าคุณนั่นแหละ ไม่มีปัญญาหาแฟนหรอไงครับ คนเค้าเป็นแฟนกันตั้งนานแล้ว ยังมาทึกทักเอาอีก”ผมตอกกลับไปเพราะเริ่มทนไม่ไหว

    “ต๊ายยยยยย ปากกล้านักนะ แต่ช่างเถอะ ชั้นไม่สนใจวิทย์แล้วก็ได้ แต่ว่า..........”มิกพูดเป็นนัย ๆ

    “เฮ้ออออ........”ผมลอบถอนหายใจ แต่ก็คิดว่าทำไมอะไร ๆมันดูง่ายจังผิดปกติหรือเปล่า และก็จริงตามคาดครับ

    “แต่ ลูกพี่ลูกน้องเธอน่ะ ชั้นขอนะ..........”มิกพูดพลางเดินเข้าไปเกาะแกะกับบูม

    “เฮ้ยยยยยยย…………”ยังไม่ทันที่ผมจะร้องห้ามพี่วิทย์ก็สะกิดเตือนผม ผมเลยต้องปล่อย (ไปก่อน)

    “ชื่ออะไรจ๊ะ น่ารักจัง มีแฟนหรือยัง มิกสมัครสักคนได้ไหม”มิกเข้าไปเจ๊าะแจ๊ะกับบูม ซึ่งบูมก็พยายามสลัดออกแต่แล้ว..........

    “บูมยังไม่มีแฟนหรอก มิก”พี่วิทย์ตะโกนบอกไป ผมหันขวับมามองพี่วิทย์ตาเขียว แต่พี่วิทย์ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

    “ต๊ายยยยย ชื่อบูมน่ารักจัง ไปเที่ยวด้วยกันนะ ไปเหอะ ปล่อยคนตาต่ำอยู่ด้วยกันไปเถอะ”ว่าแล้วมิกก็ลากบูมออกไปข้างนอก

     ผมทั้งตกใจ และสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะเหตุการณ์มันเร็วมาก จนตั้งตัวไม่ทัน

    หลังจากที่ผมได้สติกลับมาก็หันไปเล่นงานพี่วิทย์ที่เป็นตัวตั้งตัวดีในเรื่องนี้.........

    “พี่วิทย์ทำอะไรน่ะ ปล่อยบูมไปกับคนแบบนั้นได้ยังไง”ผมว่าพี่วิทย์แล้วจะวิ่งออกไปหาบูม แต่พี่วิทย์รั้งแขนผมไว้

    “ปล่อยเค้าไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก บูมดูแลตัวเองได้”พี่วิทย์ล็อคตัวผมไว้

    “ปล่อยผม......ถ้าพี่ไม่ปล่อยได้เห็นดีกัน”ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากพี่วิทย์ จนผมต้องเอาศอกกระทุ้งใส่ท้องพี่วิทย์จนตัวงอแล้ววิ่งออกไป

    ผมพยายามมองหาบูม แต่ก็ไม่เห็นเลยวิ่งตามไปที่ลานจอดรถ ซึ่งผมก็เห็นบูมนั่งรถไปกับมิกผ่านหน้าผมออกไป ผมงงมาก สับสนไปหมด

   ไม่รู้ว่าทำไมบูมถึงยอมไปกับมิกได้ง่าย ๆแบบนี้ หรือว่าบูมเองก็มีใจให้มิกเหมือนกันเพราะหน้าตามิกก็จัดว่าดีทีเดียว

   ผมคิดไปคิดมาน้ำตาพาลจะไหลออกมา เรี่ยวแรงแทบจะไม่เหลือพยุงตัว ความคิดความน้อยใจพุ่งขึ้นมาจนแทบจะระเบิดออกมา

   จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจกลับห้องเพื่อเก็บกระเป๋ากลับบ้านด้วยความน้อยใจ

    หลังจากผมเก็บของใส่กระเป๋าเดินทางของผมเสร็จ สติเริ่มที่จะกลับเข้ามาบ้างแล้ว ผมคิดว่าถ้าผมไปตอนนี้แล้วป้ากับลุงผมล่ะ

    ผมจะหาเหตุผลไปบอกท่านยังไงดี เพราะท่านก็ขอร้องให้มาอยู่ช่วยงานที่นี่ คิดไปคิดมา ด้วยความโกรธและความน้อยใจที่บูมไปกับไอ้มิกอะไรนั่น

    ทำให้ผมตัดสินใจโทรไปหาคุณป้าผมเพื่อขอลากลับกรุงเทพฯ

    “สวัสดีครับคุณป้า ผมโยนะครับ เอ่อ...............................

    พอดี ผมมีเทสต์อ่ะครับผมคงจะอยู่ช่วยงานที่เชียงรายไม่ได้แล้วนะครับต้องขอโทษด้วยครับ”ผมหาเหตุผลที่คิดว่าดีที่สุดแล้วเพื่อหนีไปจากที่นี่

    “อ้าวหรอจ๊ะ ไม่เป็นไรจ๊ะลูก กลับไปสอบก่อนก็ได้นะ เพราะคุณลุงก็หายดีแล้ว พ่อของตาวิทย์ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะจ๊ะ

      ยังไงก็ขอบใจมากนะจ๊ะที่ช่วยดูแลรีสอร์ทให้”น้ำเสียงที่มีเมตตาส่งผ่านสายโทรศัพท์มา ทำให้ผมสำนึกผิดที่โกหกคุณป้าผม แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี

    “เอ่อ.....ครับ ขอบคุณครับ งั้นเดี๋ยวผมกลับเลยนะครับ ฝากสวัสดีคุณลุงด้วยนะครับ”

    “จ๊ะ แล้วถึงบ้านแล้วโทรบอกป้าด้วยนะลูก ป้าเป็นห่วง ดูน้ำเสียงเราไม่ค่อยดีเลย”

    “ครับผม แล้วผมจะโทรหาครับ สวัสดีครับคุณป้า”แล้วผมก็วางสายไป

    จากนั้นผมก็จองตั๋วเครื่องบินเอาที่เร็วที่สุดเพื่อกลับไปกรุงเทพฯ

    ผมสั่งให้คนรถเอารถออกไปส่งเพราะไม่อยากเห็นหน้าพี่วิทย์ ได้แต่ฝากข้อความให้ พนักงานต้อนรับ เอาไปให้ แล้วก็นั่งรถออกมา

    ระหว่างที่ผมนั่งรถไปได้สักระยะนึง ผมมองออกมาด้านหน้า ผมเห็นชายร่างสูงคนนึงเดินสวนทางกลับมา ท่าทางคุ้น ๆ

    ยิ่งรถขับเข้าไปก็ยิ่งคุ้น จนรถที่ผมนั่งมาแล่นเกือบจะถึงชายร่างสูงนั้น ผมก็ต้องตกใจ เอ๊ะ นั่นมัน บูมนิ.......................................

    จบตอนที่ 15/1 แล้วครับ ขอบคุณครับที่ติดตาม ตอนนี้อะไร ๆ ก็ค่อนข้างจะคลี่คลายไปได้บ้างยังไงก็จะพยายามมา อัพให้นะครับ

  *****************************
   ][GobGab][                                          งั้นเปลี่ยนจากโย เป็นน้องถุงดีมั้ยครับ

   sak                                                        ส่วนตอนนี้คงเหมือนอยู่ในดงเสือสิงห์กระทิง และ แรดดดดดด

   shell                                                      โหมดโหดครับ

   MyLoveMyBabe                                  ต้องติดตามความรักของคนทั้งคู่ต่อไปครับ

   มูมู่น้อย                                                   เขาอาจจะร่วมมือกันก้ได้นะ มูมู่

   forsaken                                               ไม่บอกหรอกครับ ต้องรอดูเอาเอง
   
   meemewkewkaw                                 เหอเหอ  ผมสบายดีครับ แต่อาจะเบลอไปหน่อย ช่วงนี้งานเยอะครับ

   ↔ Hey N ↔                                          ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 21-12-2006 17:03:49
มาต่อด่วน :pigangry2: :pigangry2:

กะลังมันเลย.............. :laugh: :laugh:

อีตาวิทย์นี่ก็แผนเยอะเนอะ..........ทำไปได้... :try2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 21-12-2006 17:28:31
กว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก...อย่าหยุดแบบนี้ :serius2: :serius2: :serius2:

โอ้ยยยยยย ไม่ไหวแล้ว อ่านแล้วของขึ้น :3125: :pigangry2: :3125: :pigangry2: :3125: :pigangry2:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 21-12-2006 17:51:32
นึกว่าจะมีคนมาจีบโยสะอีก กลายเป็นบูมสะได้  :o ฮิฮิ
วิทย์นี่แผนสูงเหมือนกันนะเนี่ย   :pigangry2:
มาต่อเร็ว ๆ น๊าครับ กะลังหนุกหนานเลยค๊าบ... :serius2:

หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 21-12-2006 19:06:56
อีตาพี่วิทย์นี่แผนสูงจริงๆ  ดิ  ปวดหัวแทนบูม  เจอคนแบบนี้ประสาทกินพอดี  รออ่านต่อคับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [novel]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-12-2006 19:21:01
ซับซ้อนซ่อนเงื่อน  :really2:

เดี๋ยวก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร บูมเดินกลับมาแล้วนี่

รออ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-12-2006 20:48:19
แง่วๆๆๆ กำลังมันส์เลย สนุกกว่าดูละครอีกอ่ะค้าบบบ :like2:

พี่วิทย์นีได้ทีก็รีบส่งบูมไปเลยนะ คนเรา ไม่รู้แผนหรือเปล่า ไม่ไว้ใจ  :sad4:  แม่ไม่ปลื้มคับ  :pigangry2:

มีตัวร้ายเพิ่มมาอีกหนึ่ง ดูท่าจะกริ๊ดกร๊าดน่าดู หนุกๆๆ  :laugh:

โยเจอบูมแล้ว คุญกันนะ อย่างอนนะคร้าบบบ ดีกันนะ เอาใจช่วย :piglove2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 22-12-2006 12:34:27
"ตอนที่ 15/2"

    “พี่ ๆ จอด ๆ”ผมเรียกพี่คนขับรถให้จอดเมื่อแน่ใจว่าชายร่างสูงที่เดินอยู่ริมทางเดิน คือ บูม จริง ๆ

    จากนั้นรถก็แล่นมาจอดข้าง ๆ บูม ผมปรับกระจกลงเพื่อเรียกชายหนุ่มที่กำลังเดินอยู่ซึ่งขณะนี้ทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

    “มาเดินทำไมแถวนี้ แล้วคนเมื่อกี้ที่นั่งรถมาด้วยไปไหน นึกว่าจะไปสวีทกันสองต่อสองซะอีก”ผมพูดประชด

    แต่พอดูจากลักษณะท่าทางที่เหนื่อยล้าของบูม ผมก็อดแปลกใจไม่ได้

    “ให้เราขึ้นไปก่อนได้มะ ค่อยพูดกัน”บูมพูดพลางเปิดประตูรถมานั่งข้าง ๆ ผม

    “พี่ช่วยไปส่งเราในเมืองหน่อยนะครับ”บูมพูดกับพี่คนขับรถ

    “ใครบอกว่าจะไปในเมือง เราจะกลับบ้าน พี่ไปส่งผมที่สนามบินก่อนนะ”ผมพูดแบบงอน ๆ แล้วหันไปบอกคนขับรถ

    “เอ่อ......ตกลงจะให้ผมไปส่งที่ไหนกันแน่ครับ คุณโย”พี่คนขับรถบอกแบบ งง ๆ

    “ไปสนามบิน” “ไปในเมือง” ผมกับบูมพูดพร้อม ๆ กัน

    “ครับ?????”พี่คนขับรถอุทานออกมาด้วยความงง

    “ตกลงไปในเมืองครับพี่ เดี๋ยวผมเคลียร์เอง”บูมบอกคนขับรถพลางทำตาดุ ๆ ใส่ผม

    “เดี๋ยวเรามีเรื่องต้องคุยกัน” บูมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ดูน่ากลัวจนผมต้องทำตาม

    หลังจากที่พี่คนขับรถ ขับรถมาส่งผมกับบูมที่ในเมือง
   
    บูมให้พี่คนขับรถจอดส่งที่สวนอาหารแห่งนึงซึ่งไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก และกำชับอีกว่า ประมาณ อีก สองชั่วโมงให้มารับด้วย

   จากนั้นบูมก็ฉุดข้อมือผมลากลงจากรถ ผมเลยต้องเดินตามลงมาทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยจะเต็มใจนัก

    “ทำไมเรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกหรือ เห็น ๆ กันอยู่ พอเค้ามาลากไปก็รีบไปกับเค้าเลยนะ

    เห็นคนหน้าตาดีหน่อยไม่ได้”ผมพูดประชดขณะเดินตามบูมมาด้วยความรู้สึกน้อยใจเป็นที่สุด

    “..................................”เงียบครับบูมไม่พูดอะไรตอบโต้ยิ่งทำให้ผมคิดว่า ผมพูดแทงใจดำเข้า ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ผมน้อยใจบูมเข้าไปอีก

    จากนั้นเราสองคนก็มานั่งที่มุมสงบ ๆ มุมนึงภายในร้าน หลังจากที่บูมสั่งอาหาร และแสดงท่าทางไม่สนใจผมอีก

    ผมก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจเข้าไปอีก จนตอนนี้ตาผมเริ่มจะแดง ๆ แล้วอ่ะ

    “เราไม่กินนะ ไม่หิว”ผมพูดพลางหันหน้าไปทางอื่น

    “ไม่กินก็ตามใจ ไม่สนใจหรอก”บูมพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียน แถมยังอมยิ้มที่มุมปากอีก

    “ใช่สิ เจอคนใหม่แล้วนิ”ผมประชดและตอนนี้ผมก็เริ่มมีน้ำตาออกมานิดหน่อยแล้วด้วย

    “อืมมมมใช่ ขาวๆ หุ่นดี น่ารักๆ แบบนั้นด้วยนะ ไม่เหมือนบางคน ยิ่งดูยิ่งโทรม”บูมพูดพลางเบะปากใส่ผมเป็นการล้อเลียน

    “เออ สิ เรามันหน้าตาไม่ดี หุ่นก็ไม่ดี งั้นเราไปละ”พูดจบผมก็ลุกขึ้นจะเดินออกไปจากโต๊ะ แต่บูมก็ฉุดผมเอาไว้ จนผมต้องร้องออกมา

    “ปล่อยนะ บอกให้ปล่อยไง” ผมตะโกน

    “ไม่ปล่อย”บูมพูดนิ่ง ๆ

    “บอกให้ปล่อยไง ได้ยินไหม”ผมเริ่มดิ้น โชคดีที่ไม่มีคนเห็นเพราะบูมเลือกอยู่มุมที่ค่อนข้างสันโดษ

     ไม่มีคนอื่นอยู่เลยอ่ะครับ ไม่งั้นได้เป็นละครน้ำเน่าให้คนดูแน่

    “ไม่ปล่อย”บูมยังไม่ยอมปล่อยแต่ตอนนี้น้ำเสียงดูดุดันขึ้นนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่แคร์แล้ว

    “จะปล่อยไหม ....ไม่ปล่อยใช่ไหม”ตอนนี้อารมณ์น้อยใจ เสียใจ

      สารพัดประเดประดังเข้ามาอยู่ในหัวสมองของผมจนผมทนไม่ไหวเริ่มจะลงไม่ลงมือกับบูมแล้ว ก็เพราะบูมไม่ยอมปล่อยมือผมนี่นา

    “โอ๊ยยย.....เจ็บนะ เราไม่ยอมปล่อยโยหรอก เราเสียโยมาครั้งนึงแล้วนะ

     เราจะไม่ยอมเสียโยไปอีกเป็นครั้งที่สองหรอก”บูมตะโกนบอกผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    “..................................................” อึ้ง ผมอึ้ง ตอบไม่ถูก ว่าตอนนี้ ความคิดน้อยใจ เสียใจ
   
    หรือดีใจที่ได้ยินคำพูดนี้มันมากกว่ากันเพราะมันตีกันไปหมดแล้ว ผลสุดท้ายสิ่งที่ได้รับคือ

    “..........ฮืออ ฮืออ ..........”น้ำตาที่ผมพยายามกลั้นเอาไว้ ระเบิดออกมาอย่างมากมาย เพราะความรู้สึกดีใจมันโดดเด่นออกมานั่นเอง

    “เราเคยเสียโยไปเพราะความใจร้อนของเรามาครั้งนึงแล้ว เราจะไม่ยอมใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหาอีกเป็นครั้งที่สอง

      เพราะเราทนไม่ได้ที่เราจะต้องเสียคนที่เรารักที่สุดไปให้กับคนเลว ๆ อย่างพวกมัน”บูมพูดกับผม

     พร้อม ๆกับฉุดผมให้ไปนั่งที่ตักแล้วเอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาให้ผม

    “อย่าร้องไห้เลยนะ เราไม่เคยคิดว่าจะทิ้งโยไปหรอก เราแค่แกล้งยั่วโยเล่น ๆเอง ก็ใครจะไปนึกว่าจะร้องจริง ๆ อ่ะ

    ขอโทษนะครับ นะ นะ คนดี”บูมพูดพลางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาให้ผม

    “ฮือออ ฮือออ จริง ๆ นะ วันหลังอย่าพูดแบบนี้อีกนะ”ผมพูดพร้อมๆ กับพยายามรวบรวมสติให้หยุดร้องไห้

    “ครับ ไม่พูดแล้ว แต่พูดก็ดีนะ เราจะได้รู้ว่าโยรักเรามากแค่ไหนไง”บูมยิ้มให้อย่างอบอุ่มพร้อม ๆ กับเสยผมที่ปรกหน้าผมขึ้นไป

    “ดูสิ ร้องไห้ ขี้แย จนดูไม่ได้แล้วนะ” แน่ะ ยังจะมาแหย่ผมอีก

    “นี่แน่ะ ดูไม่ได้”ผมตีที่แขนบูมเบา ๆ แล้วลุกขึ้นกลับไปนั่งที่อย่าง งอน ๆ

    “555 อ้าว ก็มันจริงนี่” ดูดิยังจะมาแหย่อีก คนยิ่งอารมณ์อ่อนไหวอยู่

    “ไม่พูดด้วยแล้ว......เออ แล้วที่บอกว่า พวกคนเลว ๆ พวกไหนหรอ”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องพูด

    “ก็ไอ้พวกนั้นไง ไอ้วิทย์ ไอ้จอห์น แล้วก็ไอ้มิกไง มันรวมหัวกันมาหลอกพวกเรา มันจะให้พวกเราทะเลาะกัน จะได้เลิกกันไง

    ไอ้วิทย์มันก็จะได้จีบโยได้สะดวกไง “บูมพูดอย่างเคียดแค้น

    “พี่วิทย์เนี่ยนะ แล้วกับไอ้พี่จอห์น ไอ้มิกนั่นด้วย มันมาเกี่ยวกันได้ยังไง เรางง อ่ะ”ผมอึ้ง ๆ สับสนไปหมด

    “ก็พวกมันวางแผนกันไง ทีแรกก็แกล้งให้ไอ้หัวแดงมาปล้ำโย แล้วก็เอาไอ้มิกมายั่วเรา เพื่อจะให้เราทะเลาะกัน เพราะมันรู้ว่าเราเป็นคนขี้โมโห

     ถ้าเห็นภาพที่โยกับไอ้พี่วิทย์แกล้งเล่นละคร อาจจะเดือดจนทำประชดไง แต่พวกมันผิดคาด เราเดาถูกตั้งแต่ทีแรกแล้ว เลยซ้อนแผนมันไง

     ว่าจะหาเรื่องกลับไปจากรีสอร์ทบ้า ๆ นี้อยู่ด้วย ขี้เกียจเจอหน้าไอ้พี่วิทย์

     ชอบมาเกาะแกะโยอยู่เรื่อย”บูมอธิบายจนผมเริ่มที่จะตาสว่างแต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าทำไมพี่วิทย์ที่ดูไม่มีเล่ห์เหลี่ยมจะคิดแผนนี้ขึ้นมาได้

    “แต่เราว่า พี่วิทย์ไม่น่าจะเกี่ยวด้วยนะ”แน่ะ ผมยังออกรับแทนอีก ทีนี้บูมเริ่มทำตาดุใส่ผมแล้ว ก็ไหนบอกจะไม่ใช้อารมณ์แล้วไง แค่สงสัยไม่ได้หรอ

    “มันแหละตัวดี ถ้ามันไม่ไปลากไอ้หัวแดง กะไอ้ขี้ก้าง(มิก)นั่นมา เรื่องก็ไม่เกิดหรอก”บูมเริ่มใส่อารมณ์

    “เฮ้อออออออออออออออออ” ผมได้แต่ถอนหายใจ “แล้วบูมรู้ได้ไงอ่ะ ทำไมเราไม่ผิดสังเกตุเลย”

    “ทีแรกก็ไม่ชัวร์หรอก แต่พอเห็นไอ้มิกอะไรนั่นแหละถึงได้รู้ เพราะเราเห็นมันที่ร้านไอ้หัวแดงไง โยคงไม่สังเกตุ”

    “แล้วบูมไปสังเกตุอะไรเค้า......หา........ตอนนั้นเราก็อยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ”ผมหลี่ตาลงแสดงอาการสงสัย

    “เปล่า........อย่าคิดมากดิครับ ก็แค่มองไปรอบ ๆ แล้วเจออ่ะ”บูมรีบปฎิเสธพัลวัน

    “จริงหรอ???........ท่าจะไม่แค่มองมั้ง เล่นจำได้ขนาดนี้ เดี๋ยวเถอะจะจิ้มให้ตาบอดเลย ตาซุกซนดีนัก”พูดเสร็จผมก็ทำท่าจะจิ้มตาบูม

    “จริง ๆ ใครจะกล้าล่ะ แฟนดุขนาดนี้”บูมหลบจากนิ้วเพชรฆาตไปได้ แล้วทำท่ากลัว

    “ให้มันจริงเหอะ ถ้ารู้นะ หึ หึ หึ”ผมหัวเราะแบบน่ากลัว

    “คร๊าบบบบบ อ่ะต่อนะ ถึงไหนแล้วล่ะ....อ๋ออออ พอเราเห็นไอ้มิก เราเลยเดาแผนเค้าได้ไง จากนั้นเราก็เลยคิดแผนตลบหลังมันกลับ

     พอดีเจอจังหวะมันลากเราออกมา เราเลยซ้อนแผนมันเลย เพราะถ้าเราไม่ไปกับมัน โยก็ไม่ยอมไปจากรีสอร์ทนี้สักที

     เรารู้อยู่แล้วว่ายังไงโยก็ต้องน้อยใจหนีกลับกรุงเทพฯ” โห แฟนผมคิดได้ไงเนี่ย เล่นแบบนี้เลยหรอ

    “แล้วรู้ได้ไงว่าเราจะหนีกลับกรุงเทพฯ”ผมถาม

    “อ้าว ก็เพราะโยเคยหนีมาเชียงใหม่ทีนึงแล้วไงจำไม่ได้หรอ” บูมพูดจนผมงง ว่า ตอนไหนวะ แต่ก็มาถึงบางอ้อ....

    “เฮ้ยยยย เราไม่ได้หนี เราต้องมาเชียงใหม่เพราะมีธุระจริง ๆ”ผมแก้ตัว

    “ไม่จริงหรอก ถ้าโยไม่โกรธ ไม่งอนน่าจะมีเหตุผลในการแก้ตัวกับญาติของโยมากกว่านี้

     แต่ที่โยไม่ปฎิเสธเพราะตัดสินใจด้วยอารมณ์ส่วนหนึ่งจริงไหม” โห แฟนผม จิตวิทยาสุด ๆ

    “จะว่ายังไงก็ช่างเหอะ แล้วนี่บูมหนีจากเงื้อมือของมิกมาได้ไง ท่าทางไม่ใช่เล่นนะเนี่ย”ผมถามอย่างสงสัยสุด ๆ

    “ก็ง่าย ๆ หลังจากที่เรายอมนั่งรถไปกับมัน สักพักเราก็ขอมันลง แต่มันไม่ยอม ตื้ออยู่นั่นแหละ ยังจะมาแสดงละครต่ออีก

     กว่าจะลงจากรถมันได้เล่นเอาเหนื่อยเลย ต้องตั้นหน้ามันไปหมัดนึงแล้วหนีลงมาจากรถ”บูมพูดขำ ๆ

    “จริงดิ แล้วมันเป็นไรมากหรือเปล่า”ผมถามอย่างเป็นห่วงกลัวเรื่องจะลุกลามใหญ่โตเพราะไอ้เจ้ามิกนี่มันเป็นแฟนมาฟียเลยนะ

    “ไม่มีอะไรหรอก แล้วเรื่องมาฟงมาเฟียอะไรเนี่ยไม่จริงหรอก เพราะเราแกล้งถามมัน

    มันบอกยังไม่มีแฟนเลย เราเลยล้วงความลับมันออกมาเยอะเลย จนถึงบางอ้อ”บูมทำท่าภูมิใจ

    “เฮ้อออออออออออ พี่วิทย์นะ พี่วิทย์ ทำกันได้ แล้วนี่จะเอายังไงต่อไปดีล่ะ”ผมถามอย่างเซ็ง ๆ

    “เลือดต้องล้างด้วยเลือด ตาต่อตาฟันต่อฟัน”บูมพูดอย่างมาดมั่นทำท่าทางอย่างกับหนังจีนจนผมอดขำไม่ได้

    “พอเลย เว่อร์ไปละ ทำอย่างกับ หนังจีนกำลังภายใน”ผมปรามขำ ๆ

    “จริง ๆ มานี่เลย เราจะบอกวิธีให้...............................”

    จากนั้นบูมก็กระซิบถึงแผนการณ์ ขั้นตอน ต่าง ๆ ที่บูมคิดขึ้น จนผมร้องออกมาด้วยความไม่แน่ใจ

    “จะเอาแบบนั้นเลยหรอ”


    จบตอนที่ 15/2 ตอนที่15 ยังมีตอนย่อย ๆ อีกตอนนึงนะครับ แล้วจะมาต่อให้ครับ

   ************************************************

  ][GobGab][                                                    มาต่อให้แล้วครับ อย่าทำอะไรผมเลยน้องถุง

  meemewkewkaw                                         มาแล้วครับ ก็ลงวันละตอนงัยครับ ของดีต้องอดใจรอกันหน่อยนะครับ

  forsaken                                                        พี่วิทย์แผนสูง แถมร้ายอีกต่างหาก

  มูมู่น้อย                                                            เหอเหอ แผนพี่วิทย์ยังมีอีกเยอะครับ

  shell                                                               เรื่องมาถึงครึ่งทางแล้วครับผม

  MyLoveMyBabe                                          แฟนคลับบูมกะโยตัวเป็นๆ คริคริ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 22-12-2006 13:16:16
มาอ่านต่อแล้ว..............ขอบคุณคับ :angellaugh2: :angellaugh2:

ว่าแต่บูมนี่ลมปราณแก่กล้าเหมือนกันเนอะ......... :laugh:

พี่วิทย์ก็ลมปราณกล้าแข็งไม่ต่างกัน....แต่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว :try2:

แล้วสองยอดฝีมือจะสู่กันด้วยวิชาใด.............เพื่อแย่งชิงแม่นางโยกันเอ่ย............... :impress: :impress:

.....................มาต่อเร็วๆนะคับ..................... :teach:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 22-12-2006 14:40:42
ฮิฮิ  :interest: โดนเอาคืนสะบ้างก้อดี แต่วิธีใดหง่ะ
เอาให้เจ็บ ๆ เลยเน้อ กิกิ  :pigangry2:
หวังว่าจะไม่โดนแผนซ้อนแผนอีกนะ ซ้อนกันไปซ้อนกันมา (เอ๊ะ!! ยังไง)  :really2: แหะ ๆ
ซานุกดีครับ เด๋วพรุ่งนี้มาตามอ่านต่อ...  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-12-2006 15:30:58
ให้มันได้อย่านี้ศิครับ ถูกใจจริงๆ อิอิ........ :yeb:

ว่าแล้วไอ้พี่วิทยืไม่น่าไว้ใจเลยยยยยย  อย่างนี้หนับหนุนให้ตลบหลังค้าบบบ :laugh:

อยากรู้แผนจริงๆเลยคับ มาต่อไวๆนะคับพูห์  :impress2:

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 22-12-2006 15:48:05
น่านไง ให้มันได้อย่างนี้ซิบูม  :like2:

โอเค...ผมปลื้มล่ะ

ติดตามต่อครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 22-12-2006 18:39:58
ปลื้มด้วย  ค่อยรู้สึกว่าบูมเป็นฝ่ายรุกได้บ้าง  เอาแต่รับอย่างเดียว  ไม่อาวววว  :laugh:

เล่นอีตาพี่วิทย์นี่เจ็บ ๆ เลย  ท่าจะมันส์ดี  รอต่อนะหมูพูห์   :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-12-2006 18:50:26
ดีมากบูม  :like2:

เอาละตัดสินใจแล้ว เรื่องนี้เชียร์บูมละกัน  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yo_angkrub ที่ 22-12-2006 22:45:30
แวะมาขอบคุณที่คนที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้กันนะครับ...หวังว่าคงจะชอบกันนะครับ.... :try2:

ปล. ขอบคุณ คุณหมูพูห์ ที่นำเรื่องนี้มาลงให้ด้วยครับ  :love2:

Yo เองครับ

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-12-2006 09:43:52
อ้าวววว :interest:

เจ้าของเรื่องมาเอง

เขิลลลลจัง :-[

พูห์ :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 23-12-2006 11:25:08
ฮิฮิ คุณโยเจ้าของมาเอง เรื่องสนุกมากครับ แวะเข้ามาบ่อย ๆ น๊าครับ :yeb:
 :impress: พูห์ค๊าบ อย่าลืมมาต่อด้วยน๊าค๊าบ ... ^^
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 23-12-2006 15:35:51
 :serius2:รีบเอาแผนมาบอกนะ จะได้เตรียมตัวเตรียมใจทัน 555+
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 23-12-2006 19:40:35
 :laugh: ดีอาวคืนให้หนักเรย ชอบๆๆ




เรื่องหนุกมากเรยคุณโยเองครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: frank ที่ 25-12-2006 07:31:37
มารอติดตามตอนต่อไปนะคับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 26-12-2006 10:49:01
 :yeb:  มารอตอนต่อไปกับผม ขอบคุณครับคุณโย อิอิ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 26-12-2006 11:00:53
เพื่อนๆ คร้าบบบบบ

ช่วงนี้ผม Peak Seasons ครับ ยุ่งมากๆ

 หลังปีใหม่จะมาต่อให้นะครับ

ขอโทาด้วยจริงๆ ครับ

พูห์  :sad4:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 28-12-2006 01:30:19
^^ พูห์ค๊าบ ว่างแล้วกลับมาโพสต่อน๊าค๊าบ จารออ่านน๊าค๊าบ...   :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tantalum ที่ 28-12-2006 19:10:23
 :yeb:ยังไงก็จะมารออ่านนะ อิอิ ขอให้สู้ตาย ๆ แหละกัน
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-01-2007 17:49:07
แวะมาสวัสดีปีใหม่ครับ :impress3:

รออ่านเรื่องต่ออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-01-2007 01:02:08
"ตอนที่ 15/3"

หลังจากที่รับทราบแผนการณ์ต่างๆ ที่พ่อคนหัวหมดวางแผนเอาไว้

พวกเราสองคนก็จัดการกับอาหารที่พนักงานนำมาเสิร์ฟด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส

รอจนได้เวลาที่คนขับรถมารับ ผมกับบูมจึงนั่งรถกลับไปที่รีสอร์ทพร้อมกัน

ทันทีที่รถแล่นเข้ามายังรีสอร์ท พี่วิทย์ก็มายืนรออยู่ด้านหน้าทางเข้า ตรงตามที่บูมคาดเดา

( ระหว่างที่อยู่บนรถ บูมถามพี่คนขับรถว่า พี่วิทย์โทรมาเช็คหรือเปล่าว่า ผมกลับกรุงเทพ ไปหรือยัง และกลับไปกับใคร

ซึ่งพี่คนขับรถไม่ได้รู้เรื่องด้วยจึงรายงานไปตามความจริง) ทำให้บูมสามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้

“อ้าวเราสองคนเจอกันได้ยังไงเนี่ย พี่นึกว่าน้องโยกลับกรุงเทพฯแล้วซะอีก”พี่วิทย์โกหกหน้าตายมาก ๆ

“เอ่อ............”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรเลย เจ้าบูมตัวดีก็รีบชี้แจง

“ยังหรอกครับพี่ พอดีเราสองคนเพิ่งรู้ความจริงบางอย่าง และเพิ่งปรับความเข้าใจกันได้

แล้วกะว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน สองต่อสอง ตามลำพังกันต่อ

เพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ใครบางคนอิจฉาให้กลับมาแนบแน่นเหมือนเดิมน่ะครับ”

บูมพูดช้า ๆ แถมยังมาโอบเอวผมไว้แน่น

“อ้าวแล้วงานที่รีสอร์ทล่ะ น้องโยจะว่ายังไงครับ”พี่วิทย์ถามด้วยสีหน้าไม่พอใจนิด ๆ

“พี่ก็ทำไปสิครับ โยเค้าโทรไปคุยกับคุณป้าแล้ว พอดีพวกเราจะมีสอบกัน

เลยกะว่าจะไปติวกันในห้อง สองต่อสอง ตามลำพัง” โห แต่ละคำ สองแง่สองง่ามมาก แถมบูมยังส่งตาหวานมาที่ผมอีก

“………………”พี่วิทย์อึ้ง แต่พยายามเก็บอารมณ์ไว้

“โย เมื่อกี้เรารีบอ่ะ เลยใส่กางเกงในของโยสลับกับของเราอ่ะ

เดี๋ยวกลับไปที่ห้องแล้วโยช่วยถอดมาเปลี่ยนให้หน่อยนะ”บูมพูดกระซิบที่หูผมแต่ใช้เสียงค่อนข้างดังเพื่อให้พี่วิทย์ได้ยิน

ถึงตอนนี้ผมสังเกตเห็นพี่วิทย์เริ่มกำหมัดแน่นแล้วครับ คิดว่าน่าจะโมโหน่าดู

“ขอบคุณนะครับพี่วิทย์”บูมพูดยิ้ม ๆ

“เรื่องอะไร”พี่วิทย์ตอบแบบห้วน ๆ

“ก็เพราะพี่นั่นแหละ ทำให้ผมกับแฟนผม เข้าใจกันมากขึ้น แถมยังแนบแน่นกันมากขึ้น

ไม่อย่างนั้นโยก็เอาแต่อิดออดอยู่ได้”บูมพูดพลางยิ้มกรุ่มกริ่ม...... อืมมม น่ะ ดูดิครับพูดมาได้ บูมนะบูม

“เอ่อ......ผมก็ต้องขอบคุณพี่วิทย์เหมือนกันที่ทำให้ผมรู้ใจตัวเองว่า คนที่ผมแคร์จริง ๆ คือใคร”

ผมพยายามใช้คำที่ไม่ทำร้ายจิตใจพี่วิทย์มากนัก เพราะดูจากสีหน้าพี่วิทย์ในตอนนี้ดูแย่มากพอสมควรแล้ว

“งั้นเดี๋ยวผมกับแฟน เอ้ย โยน่ะ ไปที่ห้องก่อนนะครับ พอดียังมีอะไรทำค้างต่อ แล้วถือโอกาสลาเลยนะครับพี่”

บูมพูดพลางกระชับเอวผมเป็นเชิงว่าให้เดินตามไป ผมกับบูมเลยเดินออกไปจากตรงนั้น

หลังจากที่เราเดินเข้าไปในห้องแล้ว บูมก็หัวเราะออกมาเสียงดัง จนผมอดที่จะปรามไม่ได้

“หัวเราะอะไร ชอบนักที่จะเอาความรู้สึกคนอื่นมาเล่น”ผมตีแขนบูมเบา ๆ

“อ้าวก็มันดันมายุ่งกับแฟนคนอื่นทำไม โยเห็นหน้ามันไหม สะใจว่ะ”บูมหัวเราะชอบใจ

แต่ผมมาคิดอีกที บูมทำแค่นี้ก็ดีแล้ว เพราะสิ่งที่บูมคิดในตอนแรกมันร้ายมากจนผมต้องปรามเพราะไม่อยากมีเรื่อง

แค่นิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอ บูมเลยยอมทำตามผม

แต่มีข้อแม้ว่าให้ผมพูดกับพี่วิทย์ประมาณว่า รักบูมที่สุดอะไรประมาณนี้เพราะจะได้ทำให้พี่วิทย์ตัดใจจากผม

“บูมน่ากลัวมากเลยอ่ะ ถ้าวันนึงเกิดเราทะเลาะกัน เราไม่โดนบูมตามเก็บหรอ”

ผมพูดขำ ๆ แต่ใจจริงก็แอบหวั่นเล็ก ๆ เพราะบูมเนี่ยร้ายไม่ใช่เล่น

“ไม่หรอกน่า แต่ก็ไม่แน่นะ ถ้าโยมีชู้เมื่อไหร่ คอยดูเถอะ”บูมยิ้มน่ากลัว

หลังจากนั้นผมก็ช่วยบูมแพคกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ระหว่างที่ผมนั่งรออยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นมา

“จะกลับได้หรือยัง หลงเสน่ห์หนุ่มเชียงรายจนไม่เป็นอันเรียนเลยนะ มีงานรออยู่เต็มไปหมดเลย”

เสียงไอ้โบกระแนะกระแหนดังออกมาจากปลายสายด้านหนึ่ง

“เออ จะกลับแล้ว เราไม่ได้หลงเสน่ห์หนุ่มเชียงรายโว๊ยยยย มาทำธุระ เดี๋ยวก็เอาไปปล่อยข่าวมั่ว ๆ อีก”ผมพูดอย่างรู้ทัน

“โยคุยกับใครอยู่หรอ มานี่หน่อยได้ป่ะครับ” บูมร้องเรียกผม

“นั่นไง ไหนบอกไม่มีหนุ่ม ชักแปลก ๆ แล้ว เดี๋ยวนี้ปิดบังนะ จำไว้”ไอ้โบมันดันได้ยินเสียงบูมแต่โชคดีที่มันจำเสียงไม่ได้

“เออ ว่าไงก็ช่างเหอะ แล้วค่อยคุยกันนะ”จากนั้นผมก็วางหูและเดินไปหาบูม

หลังจากที่ผมกลับมาถึงกรุงเทพฯ

ผมกับบูมก็นั่งรถแท็กซี่กลับด้วยกันเพราะบ้านผมเป็นทางผ่านเลยแวะให้แท็กซี่จอดส่งผมที่บ้านก่อนแล้วค่อยไปส่งบูมอีกทีนึง

“พรุ่งนี้บูมมารับนะครับ แล้วเดี๋ยวบูมโทรมาหานะ”

“………….”ผมพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ แล้วผมก็เดินเข้าบ้านไป

ผมเดินเข้าไปสวัสดีพ่อกับแม่ผม พร้อม ๆ กับ เล่าเรื่องราว ต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้น เกือบทั้งหมดให้ฟัง

แล้วก็ขอตัวขึ้นไปบนห้องเพื่อเก็บของและอาบน้ำ

ทันทีที่ผมขึ้นไปบนห้องมือถือของผมก็ดังขึ้น

“น้องโยหรือครับ คือว่า พี่อยากจะขอโทษเราในสิ่งที่พี่ทำลงไป พี่อาจจะเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย

แต่พี่ทำเพราะพี่ชอบน้องโยจริง ๆ นะครับ”เสียงพี่วิทย์ดังขึ้นทันทีที่ผมรับสาย

“ไม่เป็นไรครับพี่ แต่ผมก็ต้องขอโทษจริง ๆ คือผม.......”

“พี่เข้าใจ ว่าน้องโยชอบบูม แต่พี่ขอได้ไหมว่า ยังไงเราก็ยังคงเป็นพี่เป็นน้องกันได้ ใช่ไหมครับ”

“ได้ครับพี่ ได้แน่นอน”ผมยิ้มอย่างดีใจ

“แต่ถ้าวันไหนที่ บูมทำให้น้องโยเสียใจ พี่ขอแค่ให้น้องโยคิดถึงพี่คนแรกจะได้ไหมครับ

พี่จะรอ รอจนกว่าน้องโยจะหันมามองพี่บ้าง”พี่วิทย์พูดเสียงเศร้าจนผมอดสงสารไม่ได้

“พี่วิทย์อย่ามารอผมเลยครับ พี่ยังมีคนดี ๆ อีกเยอะที่มาสนใจพี่ ผมไม่อยากให้พี่วิทย์ต้องมาเจ็บปวดกับผมอีก

เราเป็นพี่เป็นน้องกันก็ดีแล้วเนอะ”ผมพยายามพูดให้พี่วิทย์ตัดใจ

“พี่จะพยายาม แต่ยังไงพี่ก็จะไม่มีวันลืมน้องโยหรอกครับ ไม่ว่าจะอีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปีก็ตาม”

พี่วิทย์พูดอย่างหนักแน่น จนผมต้องถอนใจ

“พี่ไม่กวนเราแล้ว ถ้ามีโอกาสพี่จะไปเยี่ยมนะครับ”

“ครับพี่”

หลังจากที่ผมวางสายจากพี่วิทย์แล้วผมก็เดินเข้าไปอาบน้ำ และล้มตัวลงนอน

ผมต้องสะดุ้งตื่นอีกครั้งเพราะเสียงมือถือผมที่ดังขึ้น ผมลุกขึ้นไปหยิบมือถือมาดู

ตายแน่ ๆ 37 missed calls เบอร์เดียวกันเด๊ะ จะใครที่ไหนละครับ ก็บูมนั่นแหละมีหวังชีวิตผมต้องจบสิ้นแน่ ๆ

จบตอนที่ 15/3 ครับ
**********************************

ขออนุญาตไม่โพสต์ตอบทุ้เพื่อนๆ นะครับ

เราจะได้ไปกันแบบว่องๆ

พูห์ :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-01-2007 01:15:50
"ตอนที่ 16"

…………….ผมกดรับสายอย่างหวั่น ๆ แล้วก็เป็นจริงดังคาด ผมต้องเอาหูออกมาจากมือถือทันที

    “ทำไมไม่มารับสาย คุยกับใครอยู่ @#$%*()(*&&^%^%$####$%^^&&**^%&&”

บูมพูดมาเป็นชุดเลยครับ จนผมรับแทบจะไม่ทัน

    “ป่าว เราแค่เผลอหลับไปอ่ะ ก็มันเหนื่อยนิ”ผมพูดตอบกลับไปหลังจากที่โดนเทศก์หลายกัณฑ์

    “อ้าวหลับหรอกหรอ นึกว่าคุยกับหนุ่มที่ไหนไม่ยอมรับสาย งั้นไม่กวนแล้วนะครับ

พรุ่งนี้บูมจะไปรับตอน แปดโมงเช้านะครับ ถ้ายังไม่ตื่นเดี๋ยวจะขึ้นไปปลุกด้วยตัวเองเลยนะ”

โอ้โห ทำไมเปลี่ยนอารมณ์เร็วอย่างนี้ก็ไม่รู้ ผมละงงจริง ๆ

    “อืมมม บูมก็ไปนอนเถอะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ฝันดีนะครับ”

    “ครับ ฝันดีครับ”

    ผมตื่นขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัวไปมหาวิทยาลัยในตอนเช้า ด้วยความรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ เพราะอะไรน่ะหรือครับ

ก็เพราะว่าวันนี้จะมีคนมารับไปมหาลัยด้วยกันอ่ะดิ อิอิ

    ผมลงมาชั้นล่าง ทักทายพ่อกับแม่ที่อยู่พร้อมกันบนโต๊ะอาหารแล้ว

แม่ผมคงสังเกตุเห็นว่า ทำไมวันนี้ผมอารมณ์ดีผิดปกติ เลยอดแซวไม่ได้

    “วันนี้มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ เห็นยิ้มร่าลงมาตั้งแต่เช้าเลยนะ”แม่แซวผม

    “ไม่มีอะไรครับแม่ แค่ตื่นขึ้นมาแล้วสดชื่นแค่นั้นเอง”ผมตอบและยิ้มให้

    “เออ วันนี้มาแปลก ปกตินอนขี้เซาต้องปลุกแล้วปลุกอีกแทบทุกวัน วันนี้มันยังไงกันถึงตื่นเช้าได้ละเนี่ย”พ่อผมแซวอีกคน

    “...................”ผมไม่ตอบอะไรได้แต่อมยิ้มเฉย ๆ

    นั่งทานอาหารเช้าไปสักพักนึง เสียงมือถือก็ดังขึ้น ผมกดรับสาย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน บูมนั่นเอง

บูมบอกว่าเค้ากำลังเลี้ยวรถเข้ามาแล้วให้ไปยืนรอได้เลย ผมเลยเอ่ยลาพ่อกับแม่ แล้วเดินออกไปยืนรอบูมข้างนอกบ้าน

    หลังจากที่ผมขึ้นไปบนรถบูมแล้ว บูมก็ยื่นขนมปังให้ผมบอกว่ากลัวผมจะหิวเลยซื้อมาฝาก

ผมยิ้มอย่างดีใจ ที่บูมก็ห่วงผมเหมือนกัน เราคุยกันไปตลอดทาง จนเกือบจะถึงมหาวิทยาลัยแล้ว ผมเลยนึกขึ้นได้ว่า


    “เออ บูม จอดส่งเราที่หน้ามหาวิทยาลัยนะ เดี๋ยวเราเดินไปที่ตึกเอง”ผมบอกบูม

    “อ้าวจะเดินทำไมล่ะ ไกลออก ยังไงก็ต้องเรียนด้วยกันอยู่แล้วนิ ไปด้วยกันเลยดีกว่า”บูมถามอย่างสงสัย

    “เอ่อ...คือเราว่า เรื่องของเรา อย่าเพิ่งให้ใครรู้เลยนะ เอาไว้หาโอกาสเหมาะ ๆ

ก่อนดีกว่านะ”ผมพยายามอธิบายเหตุผลให้บูมฟัง แต่ดูเหมือนบูมจะไม่สนใจเลย

    “อ้าวทำไมล่ะ ไม่เห็นจะแคร์เลย คนจะคิดยังไงก็ช่าง ยังไงวันนึงเค้าก็ต้องรู้อยู่ดี” บูมพูดจริงจัง

    “เถอะน่า นะ รอให้ถึงวันนั้นก่อนนะ แล้วค่อยให้เค้ารู้”ผมยังคงยืนกราน เพราะหวั่นใจเหมือนกัน

ก็บูมออกจะป๊อปปูล่า ขนาดนั้น

    “ตามใจแล้วกัน แต่เราจะทำตัวตามปกติ ไม่ปิดนะ” โห...ไม่ให้ความร่วมมือเลยอ่ะ

    “โหหหหห ถ้าบูมทำแบบนั้นก็ถือว่าประกาศเลยอ่ะดิ คนคงจะรู้ทั้งคณะ ก็บูมอ่ะใช่ย่อยที่ไหน” ผมเริ่มวิตก

    “ไม่สนหรอก อย่าไปแคร์คนอื่นเลยโย ขอแค่เราเข้าใจกันก็พอ” บูมพูดพลางจับมือผมแล้วบีบมือผมเบา ๆ

    “อืมมมม......ก้ได้ตามใจ”

    รถของบูมแล่นไปจอดที่ลานจอดรถ และเราก็ลงจากรถมาพร้อมกัน สิ่งที่ผมคิดไว้ก็เกิดขึ้นจริง ๆ

    “เฮ้ย........บูม หายหัวไปไหนตั้งหลายวันวะ”ชายคนนึงซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มของบูมตะโกนเรียก

    “ไปทำธุระมาว่ะ”บูมหันไปตอบ

    “อ้าว โยมาได้ไงเนี่ย มากับบูมหรอ” ก็เห็น ๆ อยู่ว่าลงจากรถมาด้วยกันดันมาถามอีกตอนนี้ผมเลยทำหน้าไม่ถูกเลย

    “อืมมม พอดีเราขออาศัยรถบูมมาน่ะปิ๊ก”ผมตอบเลี่ยง ๆ

    “กูขับไปรับมาเองแหละ”อ้าวบูม ตรงไปไหมเนี่ย ตอนนี้ปิ๊กเริ่มมองดูบูมกับผมแปลก ๆ

    “ไม่มีอะไรหรอก พอดีบ้านเราอยู่ใกล้กันน่ะ”ผมรีบหาข้อแก้ตัว

    “เออ ไม่ยักรู้ว่ามึงสนิทกับโยด้วย ไม่เคยเห็นพวกมึงคุยกันเลยนิ”ปิ๊กถามอย่างสงสัย

    “แล้วมึงจะไปเห็นได้ไงวัน ๆ เอาแต่หม้อหญิงไปเรื่อย”บูมแซวเพื่อนสนิท

    “เออ จริงว่ะ นี่กูมีอะไรเด็ด ๆ เล่าให้ฟัง”ปิ๊กพูดพร้อมกับลากบูมเดินนำไปด้วยกัน

    ผมเลยตัดสินใจชิ่งก่อนดีกว่าเลยตะโกนตามหลังไป “เราไปก่อนนะ เดี๋ยวต้องไปหาเพื่อนที่โต๊ะอ่ะ”

ผมตะโกนบอก แล้วบูมก็หันมาส่งยิ้ม พยักหน้าแล้วเดินต่อไปกับไอ้เจ้าเพื่อนสุดแสบ

    พอผมเดินไปถึงที่ซุ้มประจำของกลุ่มผม สายตาของเพื่อน ๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ก็จับจ้องมาที่ผม

ผมคิดอยู่ในใจว่า ไอ้โบ แน่ ๆ มันต้องเอาเรื่องที่ได้ยินเสียงผู้ชายคุยกับผมมาป่าวประกาศแน่ ๆ

และก็เป็นจริงแบบที่ผมคาดการณ์ไว้ คำถามแรกที่ผมได้รับจากพวกมัน.......

    “ตกลงเค้าเป็นใคร”ออฟถาม

    “เค้าน่ะใคร”ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แต่ตาผมน่ะหันไปจ้องไอ้โบที่ตอนนี้ทำสีหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    “ไม่ต้องมาแกล้งเลย ใคร.......”ออฟพยายามคาดคั้น แต่ไม่มีวันซะหรอก ก็จับไม่มั่นนี่ ใครจะบอก

    “อ๋อออ ก็พี่วิทย์ไง ลูกเพื่อนป้าไง”

    “คิดว่าเราจะเชื่อหรอ อย่ามาไก๋หน่อยเลย จะบอกดี ๆ หรือจะบอกทั้งน้ำตา”

คราวนี้ไอ้โบมันทนไม่ไหวจนต้องถามออกมา

    “ไม่เชื่อก็ตามใจดิ ได้เวลาเข้าเรียนแล้ว ไปเถอะ”ผมพยายามเลี่ยงคำถามทั้งหลายและเดินนำไปยังตึกเรียน

    ผมเดินไปที่ห้องเรียน ก่อนจะเข้าห้อง ดันมาเจอเจ้าปิ๊ก ยืนอยู่หน้าห้องเรียนกับกลุ่มเพื่อนของบูม

แต่ไม่ยักกะเห็นบูม ผมพยายามหลบปิ๊กเพราะถ้าปิ๊กพูดเรื่องที่เจอผมนั่งรถมากับบูมในตอนเช้า

เพื่อนในกลุ่มผมจะต้องรู้แน่เลย ผมเลยต้องพยายามเดินเลี่ยง ๆ แต่ว่า

    “โย โย ไอ้บูมมันบอกให้ไปเจอที่ซุ้มนั่งด้านหลังตึกอ่ะ บอกว่ามีธุระจะคุยด้วย”

ไอ้เจ้าปิ๊กตัวดีดันมองเห็นผมและตะโกนเรียก

    “อืม....ขอบใจนะ”ผมตอบพร้อม ๆ กับหลบหน้าเพื่อน ๆ ทั้งกลุ่มที่ตอนนี้จ้องมองผมเป็นตาเดียวกัน

แล้วผมก็เดินแยกออกไป


    ผมเดินมาหาบูมที่นั่งอย่างสบายอารมณ์ด้านหลังตึกเรียน พอเห็นผมเดินมา บูมก็กวักมือเรียกผมให้มานั่งที่ซุ้มด้วยกัน

    “โย เดี๋ยวตอนคาบเช้าเราจะไปทำธุระเป็นเพื่อนปิ๊กนะ ไม่ต้องรอกินเข้ากลางวันนะ

เพราะเราจะกลับมาเรียนคาบบ่าย แล้วค่อยกลับด้วยกันนะครับ”บูมพูดและยิ้มอย่างอารมณ์ดี

    “โหหห เรื่องแค่นี้ ทำไมไม่โทรมาบอกล่ะ”ผมพูดแบบน้ำเสียงขุ่นนิด ๆ

ที่เพราะแค่สาเหตุเล็ก ๆ ทำให้ผมเป็นเป้าสายตาของเพื่อน ๆ

    “ก็โยไม่เปิดมือถืออ่ะ เราไม่อยากไปเจออาจารย์หน้าห้องเดี๋ยวจะเรื่องมากอีก เลยฝากไอ้ปิ๊กไปบอก”บูมบอกเหตุผล

    “เออ จริงด้วย เฮ้ออออ”ผมมองที่มือถือ พร้อมกับถอนหายใจ

    “มีอะไรหรือเปล่า ไม่อยากให้เราไปหรอ งั้นเราไม่ไปก็ได้”บูมพยายามเอาใจผม

    “เปล่าไม่มีอะไร บูมก็ไปกับปิ๊กเถอะ”ผมยิ้มอย่างฝืด ๆ

    “อืมมม แล้วเจอกันนะครับ”บูมเอ่ยลาพร้อมกับยื่นแก้มข้างนึงออกมา

    “อะไร ไม่เอาหรอก เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”ผมรีบห้ามบูม

    “ไม่เอา หอมก่อน ไม่งั้นไม่ให้ไปนะ”บูมยังตื้อแถมทำท่าจะมากอดผมอีกจนผมต้อง

    “อ๊ะ.....xxx”ผมจูบบูมไปทีนึงเพราะตอนนั้นไม่เห็นมีใครอยู่รอบ ๆ

    “แล้วเจอกันนะครับ”บูมยิ้มและขโมยจูบผมทีนึง ผมตกใจทำท่าจะตีแขนบูม แต่บูมก็รีบวิ่งหนีไป

    ผมเดินเข้าห้องมาด้วยรอยยิ้ม เพราะยังคงขำกับท่าทีของบูมเมื่อสักครู่นี้อยู่

แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อรู้สึกถึงรังสีแปลก ๆ แผ่ออกมาจากกลุ่มผมเอง

    “ไปสนิทกับบูมตั้งแต่เมื่อไหร่ ร้ายนะ ทีแรกก็นึกว่าใคร เสียงคุ้น ๆ

ที่หายไปน่ะ หายไปด้วยกันใช่ไหม”ไอ้โบแอบกระซิบผม แต่ผมก็ยังคงแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้

    “ใครสนิทกับใคร ก็แค่เดินไปคุยธุระนิดหน่อยเอง”ผมรีบแก้ตัว

    “ธุระนี่ต้องจูบกันด้วยหรือเปล่า”โบทำสีหน้าล้อเลียน คราวนี้ผมใจหายวาบไม่นึกว่าไอ้เจ้าตัวแสบจะตามผมไปด้วย

    “บ้า ใครจูบใคร”ผมถามกลับไปอย่างเคือง ๆที่พลาดให้ไอ้โบเจ้าโทรโข่งมันเห็น

    “จะใครซะอีกล่ะ.....”มันถามพลางเหล่ตามาทางผม

    “แล้วโบบอกพวกเพื่อน ๆ หรือยัง”ผมต้องยอมจำนนด้วยพยาน

    “ยัง...........กำลัง”ดูมันดิครับ ไอ้ตัวความลับรั่วไหล

    “อย่าเพิ่งบอกนะ สัญญานะโบ เรายังไม่อยากให้ใครรู้ในตอนนี้”ผมกระซิบบอกโบ แต่ดูท่ามันจะไม่เป็นผล

เพราะมันไม่เข้าใจอะไรเลย ตอนนี้มันเลยหันหน้าไปกระซิบให้ไอ้กายฟังแล้ว

จากนั้นพวกมันก็กระซิบต่อไปเรื่อย ๆ จนทุกคนหันมาทางผม

    “ไอ้โบมึงตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”ผมทำท่าจะบีบคอไอ้โบจนมันต้องรีบลุกหนีแถมยังแลบลิ้นใส่ผมอีก

    “จำไว้เลยนะ”ผมอาฆาตไอ้โบ แต่ก็ต้องตัวลีบเมื่อเห็นสายตาของเพื่อน ๆ ทุกคนหันมาทางผม

    “ตอนกลางวันพวกเรามีเรื่องต้องซักจำเลยแล้วล่ะ อย่าแอบหนีไปนะ ไม่งั้นจะป่าวประกาศให้ทั่วเลย”

ออฟตัวดี พูดด้วยสีหน้าเรียบ ๆ แถมทำท่าอย่างกับผมเป็นจำเลยแล้วพวกมันเป็นตำรวจยังไงอย่างงั้นเลยอ่ะ

ผมเลยได้แต่ทำหน้าจ๋อย ๆ แล้วพยักหน้ารับ

    ทันทีที่อาจารย์ปล่อย ผมก็โดนเพื่อน ๆ ดึงตัวออกมา น่าจะเรียกว่าลากออกมามากกว่า

เพราะพวกมันทั้งฉุดทั้งกระชาก ยิ่งกว่านักโทษซะอีก พวกมันทำกับผมอย่างกับว่าผมเป็นจำเลยจริง ๆอย่างงั้นแหละ

พอลากผมไปถึงที่ซุ้ม พวกมันแต่ละคนก็เรียงหน้ากระดานเล่นงานผม เอ๊ยไม่ใช่ ซักฟอกผมทุกเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ

ผมก็ต้องเล่า ๆ ๆ ๆให้พวกมันฟัง เกือบทุกเรื่อง จนพวกมันพอใจ

    “สรุปว่า แกกับบูมก็เป็นแฟนกันแล้วล่ะสิ” ออฟสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด

    “เออ....แต่ห้ามบอกใครนะ ไม่งั้นเลิกคบ”ผมใช้ดาบประกาศิตเพื่อพิชิตพวกปากหอยปากปู

    “เออ ๆ ๆ ไม่บอกหรอก”พวกมันยอมรับคำเสียงอ่อย ๆ

    “ไม่ได้พูดเล่นนะโว๊ยยยยยย”ผมย้ำคำ จนพวกมันพยักหน้ารับ

    “แล้วที่รักมึงไปไหนซะล่ะ”ไอ้กายกวนตีนเลยนะ

    “มึงก็ไปถามไอ้โบสิ ไปแอบฟังมาไม่ใช่หรอ”ผมประชดมันแต่แทนที่มันจะสลดเสือกเสร่อตอบเสียงใสแจ๋ว

    “ไปทำธุระเป็นเพื่อนปิ๊ก เดี๋ยวเค้าจะกลับมารับโยกลับบ้านด้วยกัน”

พอไอ้โบพูดจบเสียงวี๊ดวิ๊วก็ดังออกมาจากพวกเพื่อน ๆ ผม

    “เออ เราหิวข้าวแล้ว ไปกันได้หรือยัง หรือจะไม่กิน อิ่มทิพย์หรือ????”

ผมพูดแบบงอน ๆ จริง ๆ อายมากกว่า แล้วก็เดินนำออกไป

    ตลอดทั้งอาทิตย์ บูมทำตัวเป็นปกติเหมือนตอนที่พวกเราอยู่ที่เชียงใหม่

คือ บูมจะคอยเข้ามาแหย่ผม เข้ามาพูดหวานๆ บ้าง เข้ามาแกล้งบ้าง จนคนในกลุ่มผมเริ่มสนิทกับบูมมากขึ้น

 เลยแซวกลับไปตลอดผมละอายจริง ๆ

ส่วนผมเองก็เริ่มสนิทกับกลุ่มของบูมเช่นกันเพราะเจ้าปิ๊กเวลาเดินอยู่กับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม

พอเจอผมก็จะมาทักทายพูดคุยด้วยทุกครั้งจนผมเริ่มที่จะสนิทกับคนในกลุ่มเค้ามากขึ้น

แพทเองก็มีส่วนอยู่มากเพราะจะคอยเรียกผมไปนั่งคุยเป็นเพื่อนในกลุ่มบูมตลอด

 (ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าแพทก็สนิทกับกลุ่มบูมเช่นกันจนเกือบเป็นกลุ่มเดียวกัน

แต่พวกแพทชอบที่อยู่ด้วยกันเองมากกว่า เพราะเป็นผู้หญิงด้วยกัน) จะมีก็แต่สิ่งที่ทำให้ผมรำคาญใจอยู่เสมอ

ก็คือความป๊อปปูล่าของบูมซะมากกว่า เวลาเดินไปไหนมาไหนก็มักจะมีคนเข้ามาทัก เข้ามาคุยตลอด

ทั้ง ๆ ที่รู้จักและไม่รู้จักกัน ซึ่งบางครั้งผมก็อยู่กับเค้าด้วย หรือเพื่อนผมคาบข่าวมาบอก ทีแรกผมก็ไม่คิดอะไร

แต่หลัง ๆ มันมากขึ้น เพราะเป็นประจำเลยเวลาอยู่ด้วยกันมักจะมีผู้หญิงเอาของมาให้ เอาขนมมาฝาก ส่งจดหมายมาบ้าง

อะไรต่อมิอะไรบ้าง จนผมเริ่มคิดว่า ผมไม่เหมาะกับบูมเลย เพราะแต่ละคนที่เข้ามาหาหลายคนหน้าตาดีมาก ๆ

แต่ตัวผมเองกลับหน้าตาธรรมดามาก จะดีหน่อยก็ตรงที่ ขาวและ ตี๋แค่นั้นเอง

ส่วนเรื่อง แต่งตัวผมไม่ค่อยจะถนัดนัก ทำให้ผมดูเฉย มาก ๆ จนไอ้โบและเพื่อน ๆ ผม มันทนไม่ไหว..........

    “นี่โย เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวแบบนี้ซะทีวะ”ไอ้โบเอ่ยขึ้นขณะนั่งทานข้าวกลางวันด้วยกัน

    “ทำตัวแบบไหนวะ.........”ผมพูดไปโดยที่ไม่ได้สนใจคำพูดของมันยังคงตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต่อ

    “ก็เมื่อไหร่ ไอ้คุณโย จะเลิกเฉย และเลิกโทรมแบบนี้ซะที เห็นเป็นแบบนี้ตั้งแต่ มัธยมแล้ว

 น่าจะเปลี่ยนตัวเองบ้างไอ้โบพูด ทำให้พวกเพื่อน ๆ ผมพยักหน้ายอมรับ

    “แล้วจะให้เราทำยังไง ก็มันเป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ช่างมันเถอะ”ผมไม่สนใจ กินข้าวต่อ

    “ไม่ได้.......... พวกเราตกลงกันแล้วว่า พวกเราทุกคนจะต้อง โมดิฟายด์ตัวเองกันใหม่หมด

ซึ่งโยเองก็ต้องทำ เพื่อความเสมอภาค” ออฟพูด ก็มันนั่นแหละตัวตั้งตัวต

ี โธ่รู้หรอกน่าอยากให้แฟนตะลึงกับลุคใหม่ของตัวเองแต่ไม่กล้าทำคนเดียว

เลยต้องเอาคนอื่นมาทำด้วยจะได้ไม่เก้อ ไม่เขิน

    “จะทำไรก็ทำเหอะ แต่เย็นนี้เราไม่ว่างนะ”ผมพูดเพราะเย็นนี้มีนัดกับบูม แต่ใจจริงไม่อยากไปทำมากกว่า

    “ไม่ได้ แกต้องไปทำด้วยกัน นี่เป็นคำสั่ง (เป็นใครวะมาสั่ง)........นั่นไงเดี๋ยวเราไปขอบูมให้

(เฮ้ยย ไปขอทำไมวะ)”ออฟเห็นบูมเดินมากับเพื่อน ๆ เค้าเลยรีบวิ่งไปหาบูม

แล้วคุยกันสักพัก บูมก็พยักหน้ารับ แล้วมันก็เดินกลับมา

    “แกไปคุยอะไรกับบูมวะ”ผมถามหลังจากที่ออฟนั่งลงตรงที่เดิม

    “ก็ไปขออนุญาตที่จะนำตัวแฟนที่รักของเค้าไปเที่ยวกันน่ะสิ”ออฟตอบกระแนะกระแหน

    “แล้วเค้าว่าไง”ผมถาม

    “ก็จะว่ายังไงก็โอเคสิคะ ระดับนี้แล้ว เดี๋ยวเค้าก็มา

นั่นไงเดินมาด้านหลังแล้ว”ออฟชี้มือไปที่บูมซึ่งเดินแยกออกจากกลุ่มมาที่ผม

    “โย เดี๋ยวไปธุระเสร็จ ตอนจะกลับบ้านโทรหาเรานะ เราจะไปดูหนังคอย”บูมเดินมาพูดกับผม

    “ไม่ต้องหรอกเรากลับเองก็ได้”ผมพูดเพราะเกรงใจบูมที่ต้องมานั่งรอซึ่งไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่

    “ไม่เป็นไรหรอก พอดีเพื่อนเราชวนไปดูหนังพอดี แล้วเจอกันนะครับ”บูมพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินจากไป

    “โอ๊ยยยย ตกหลุมรักบูมแล้วอ่ะ คนอะไรน่ารักจัง จะนั่งดูหนังรอ ถ้าไม่ใช่แฟนโย เราเอาแล้วนะเนี่ย”ไอ้โบปากหมาอีกละ

    “ก็เอาสิ แต่เดี๋ยวให้เราถาม............”ยังไม่ทันจะพูดจบไอ้โบก็ตีที่แขนผมจนผมร้อง

“มึงกลัวเค้ามากเลยหรอวะ ทีงี้ทำเป็นหงอ”ผมพูดขำ ๆ

    “ของกูเอาไว้ขึ้นหิ้งโว๊ยยยยยยยยย” จากนั้นพวกเราก็หัวเราะเพราะขำกับท่าทีของไอ้โบที่กลัวแฟนขึ้นสมอง

    “แล้วมึงขออนุญาต ผู้ปกครอง เอ้ย แฟนมึงหรือยังวะโบ”ผมถามกวน ๆ

    “เออ.....น่า กูทำอะไรทำไมต้องขอด้วยวะ”ไอ้โบพูดด้วยความมาดมั่น

    “อย่าไปเชื่อ มันให้เราโทรไปขอตั้งแต่เมื่อวาน มันกล้าที่ไหน” สมน้ำหน้า ออฟเผามันจนไหม้เลยครับ

แล้วพวกเราก็หัวเราะกัน จนไอ้โบหันไปดุใส่ออฟที่ตอนนี้หัวเราะท้องแข็งแล้ว

    หลังจากเลิกเรียนตอนเย็น ผมกับเพื่อน ๆ ก็ไปเดินที่สยาม เพื่อเข้าไปที่ร้านทำผม

ซึ่งออฟกับโบไปสืบมาแล้วว่าที่ไหนดีบ้าง เราเดินเข้าไปที่ร้านที่มีชื่อเสียงร้านนึง

แล้วไอ้โบ กับ ออฟก็เริ่มที่จะจุ้นจ้าน บอกช่างทั้งหลาย ว่าให้ช่วยปรับลุคใหม่

ทำนั่นทำนี่ตามที่ได้สืบมา ทั้งทรงผม สีผม ต่าง ๆ ให้ดูดีขึ้น

โดยเฉพาะผม มันให้คนที่ดูท่าทางอาวุโสที่สุดเป็นคนจัดการ.............

    ผมนั่งตัดผม เปลี่ยนสีผม ซึ่งกินเวลาหลายชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ใจจริงผมก็ไม่ค่อยชอบเข้าไปนั่งที่ร้านทำผมแบบนี้หรอก

 เพราะขี้เกียจนั่งนาน ๆ แต่ก็ต้องจำใจทำเพราะไหน ๆ ก็มาแล้ว ผมต้องทนนั่งรอ กัดสีผมเป็นชั่วโมง ๆ

จนเริ่มเบื่อและหงุดหงิดมาก ๆ จนเวลาผ่านไปนานพอสมควร

ผมนึกขึ้นได้เลยรีบโทรไปบอกบูมว่าให้กลับไปก่อนเลยเพราะยังทำธุระไม่เสร็จ

ซึ่งบูมก็เข้าใจและบอกว่าจะโทรหาผมตอนก่อนนอน จากนั้นผมก็ต้องมานั่งทนรอ ต่อไป จนกระทั่งเสร็จ............

    เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย นี่มัน......................... ผมอุทานอยู่ในใจ

    จบตอนที่ 16 เมื่อคืนกะว่าจะมาต่อให้ในตอนดึก ๆ แต่พอดีเผลอหลับไปซะก่อน อ่ะคับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 03-01-2007 01:41:57
"ตอนที่ 17"

    ผมตกใจกับลุคใหม่ที่เพิ่งจะเคยเห็น เพราะตั้งแต่จำความได้ ผมแทบจะไม่เคยเปลี่ยนทรงผม

หรือ กัดสีผมเลยสักครั้งเดียว การปรับเปลี่ยนลุค ในครั้งนี้เลยทำให้ผมถึงกับอึ้งเลยทีเดียว

    “โห โยตัดผมกับเปลี่ยนสีผมแบบนี้ดูดีขึ้นตั้งเยอะเลยนะ เห็นไหมละ

เชื่อหรือยังเอ็กซ์ตรีมเมคโอเวอร์จริง ๆ”ออฟแซวผมหลังจากทำผมเสร็จเช่นกัน

    “ไหน ๆ ๆ ขอดูบ้างดิ เฮ้ย โยเปลี่ยนไปจริง ๆ ว่ะ แล้วบูมจะจำได้หรอวะ

อย่างนี้ต้องขอบใจเรานะที่ชวน”ไอ้โบพูดตามหลังพร้อมกับพยักหน้าอย่างภูมิใจ

    “แม่งรู้งี้เราให้พี่คนนี้ตัดดีกว่า ดูดิช่างเราตัดผมเราซะสั้นเลย”ไอ้กายบ่น จนพวกผมอดขำไม่ได้

    หลังจากที่พวกเราออกมาจากร้านตัดผมแล้วก็เดินไปเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ พอเหนื่อยสักพักก็ไปหาอะไรกินกันต่อ

    “เฮ้ย หิวแล้ววะ ไปหาอะไรกินกันก่อนเหอะ”กายบ่นพร้อมกับลูบที่ท้องเป็นสัญญาณ

    “กินอะไรดีล่ะ”ผมถามเพราะปกติแล้วผมมักจะกินอะไรก็ได้ไม่ค่อยเรื่องมากเท่าไหร่

    “ไปกิน สุกี้ดีกว่า ไม่ได้กินด้วยกันตั้งนานแล้ว”โบออกความเห็นซึ่งทุกคนก็พยักหน้าตกลง

    เราเดินต่อกันไปยังร้าน MK เลือกไปนั่งด้านบน จริง ๆ ก็ไม่ได้เลือกเองหรอกครับ

เพราะ คนจัดคิวบอกเหลือโต๊ะ สำหรับ สี่ พอดีที่ชั้นบน พวกผมเลยต้องขึ้นไปนั่งที่ชั้นบน

โดยผมนั่งอยู่ริมด้านใน โบนั่งด้านนอก อีกฝั่งก็จะมี ออฟนั่งตรงข้ามผม แล้วก็กาย

    ระหว่างที่พวกเรารออาหารอยู่ ก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาหาที่ โต๊ะ

ซึ่งดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็นนักศึกษา เพราะยังใส่ชุดนักศึกษาอยู่เลย

    “เอ่อ สวัสดีครับ พอดีมีคนฝากมาขอเบอร์โทรศัพท์อ่ะครับ”นักศึกษาชายคนนั้นเอ่ยมาทางไอ้โบกับผม

    “คนไหนครับ”ไอ้โบตาลุกวาวเลยมองหาใหญ่ว่าคนไหน เดี๋ยวเหอะจะไปบอกแฟนแล้วจะรู้สึก

    “คนนั้นอ่ะครับ”ชายหนุ่มชี้ไปยัง ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเยื้อง ๆ กับโต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่

หน้าตาก็ดูดีพอสมควร ออกไทย ๆ ไม่ขาวมาก แต่คิ้วเข้มรับกับใบหน้าดีเหมือนกัน

 พอหนุ่มคนนั้นเห็นว่าเพื่อนกำลังชี้ไปที่ตัวเองก็พยักหน้ารับ พร้อมกับเสยผมให้ดูเท่ห์ (ใจจริงผมคิดว่าทำไมเห่ย อย่างงี้วะ)

    “หน้าตาน่ารักดีนะแก ให้ไปเลยสิ อย่าปล่อยให้พลาดนะ”ออฟหันไปมองชายหนุ่มพร้อมสะกิดส่งเสียงเชียร์

    “เฮ้ย พวกแกอย่าไปบอกใครนะ อ่ะนี้เบอร์ครับ”ไอ้โบเน้นคำ ซึ่งพวกผมก็รับมุขและเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร

พร้อม ๆ กับเอาปากกามาเขียนเบอร์ใส่กระดาษที่เค้ายื่นมาให้

    จากนั้นชายหนุ่มคนนั้นก็เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรต่อ หลังจากคิดอะไรเพลิน ๆ

ชายหนุ่มคนนั้นก็เดินกลับมาอีกทีนึงด้วยสีหน้า เอ๋อ ๆ นิด ๆ แถมเกาหัวด้วย

    “ขอโทษครับเมื่อกี้นายให้เบอร์ใครมาอ่ะ”ชายหนุ่มคนนั้นถามไอ้โบ

    “อ้าวก็เบอร์ของเราอ่ะดิ ถามได้”ไอ้โบตอบยิ้ม ๆ

    “เฮ้ยยยย เพื่อนเราไม่ได้ขอเบอร์นาย เค้าขอเบอร์คนนี้ต่างหาก”ชายหนุ่มคนนั้นชี้มาทางผม

ซึ่งกำลังจะกินลูกชิ้นอยู่พอดีเลยอ่ะ ผมแทบจะสำลักออกมา

    “ไอ้โย เค้าขอเบอร์นายแน่ะ”ไอ้โบพูดแบบไม่ค่อยพอใจเพราะเพิ่งหน้าแตกมาหมาด ๆ

    “เบอร์เราหรอ............”ผมถามอึ้ง ๆ

    “ครับผม เบอร์นายอ่ะดิ ชื่อโยหรอ ชื่อน่ารักนะ”ชายหนุ่มยิ้มให้

ผมหันกลับไปมองหนุ่มคิ้วเข้มที่นั่งอยู่อีกด้าน คราวนี้เค้าพยักหน้ายิ้ม ๆ ให้ผมด้วย

    “เอ่อ คือ..............”ยังไม่ทันที่ผมจะตอบปฎิเสธ ไอ้เจ้ากายตัวดี

รับกระดาษมาจดเบอร์ผมแล้วยื่นให้จนผมต้องร้องออกไป

    “จะบ้าหรือไงวะ กาย เรามีแฟนแล้วนะ บูมยิ่งอารมณ์ร้าย ๆ อยู่

เดี๋ยวก็โดนปาดคอหรอก”ผมตวาดไอ้กายอย่างอารมณ์เสียหลังจากที่ชายหนุ่มที่มาขอเบอร์แทนเพื่อนเดินกลับไป

    “ไม่เห้นจะเป็นอะไรเลย โยดูที่ ออฟชั่นของไอ้หมอนั่นดิ ฟูลออฟชั่นเลยนะ ท่าทางก็ดีกว่าบูมซะอีก”

อ้าวเวร ไอ้กายเริ่มจะหาเรื่องสร้างความร้าวฉานมาแล้ว

    “เราไม่สนใจหรอก ถ้าเรามีปัญหากับบูม คนแรกที่จะโดน คือนายนะ”

รังสีอาฆาตเริ่มฉายออกมาจากตัวผม จนไอ้กายเริ่มหนาว ๆ ร้อน ๆ

    “เฮ้ย ไม่มีอะไรหรอก แค่ขำ ๆ น่า อย่าซีเรียสดิ”กายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กินสุกี้ต่อแต่ผมดินั่งแทบไม่ติดแล้ว

    หลังจากที่เรากินสุกี้เสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ผมต้องโบกแท็กซี่กลับเพราะมันค่อนข้างดึกพอสมควร

ส่วน ออฟกับโบไปทางเดียวกัน ส่วนไอ้เจ้ากายตัวดี ไปต่อกับเพื่อนมันที่ สีลม

    ขณะที่ผมกำลังรอแท็กซี่อยู่ ก็มีรถสปอร์ตสีดำ แล่นมาด้วยความเร็ว มาหยุดจอดที่หน้าผมพอดี

ผมสังเกตเห็นชายหนุ่มคนนึงกำลังกดกระจกลง แล้วตะโกนเรียกผม

    “โยครับ บ้านอยู่ไหน ให้เราไปส่งไหมครับ”ชายหนุ่มคนนั้นตะโกนออกมาจากในรถ

    “นายเป็นใครน่ะ...........”ผม งง ๆ เพราะไม่เคยรู้จักเค้ามาก่อนทำไมถึงรู้จักชื่อผมได้ก็ไม่รู้

    “เราชื่อ ปอนด์ ครับ เมื่อกี้เจอกันใน MK ไง จำไม่ได้หรอ ว๊า...แย่จัง ไม่มีคนสนใจเลยเรา”

ชายหนุ่มพูดแบบงอน ๆ จนผมอดสงสัยไม่ได้ แล้วมันจะมาเกี่ยวอะไรกัน คนไม่รู้จักกันจะไปจำหน้าตาทำไม จริงป่ะครับ

    “เออ ขอโทษนะเราจำไม่ได้จริง ๆ ไม่เป็นไรนายกลับไปเถอะ เดี๋ยวเรากลับเองได้”ผมตอบไปแบบสุภาพ

    “ไม่เป็นไรครับ ปอนด์ อยากไปส่งโยจริง ๆ นะครับ ไปด้วยกันเถอะ เนี่ยรถติดแล้วนะ”ปอนด์เริ่มหาเหตุผลเข้ามาอ้าง

    “ไม่หรอก เดี๋ยวเพื่อนเรามารับแล้วนั่นไง”ผมแกล้งทำเป็นชี้ ๆไปส่งเดช

เพราะไม่อยากไปกับคนแปลกหน้า แล้วก็เดินหนีไป

    ปิ๊น ปิ๊น แตรรถดังตามหลังผมมา พร้อมกับเสียงตะโกนของชายหนุ่ม

    “ดึก ๆ จะโทรไปหานะ อยากรู้จักจริง ๆ อ่ะ”ปอนด์ตะโกนออกมา

โดยไม่แคร์สายตาชาวบ้านประมาณ หมื่นกว่าคนที่สยาม (เว่อร์ไปนิด)

    “....................”ผมไม่ตอบเอาแต่เดินจ้ำหนีแบบสุดชีวิต พลางคิดไปในใจ ซวยแล้วกู

    ปิ๊น ปิ๊น ปิ๊น เสียงแตรรถดังไล่รถของปอนด์ทำให้ชายหนุ่มต้องรีบขึ้นไปขับรถออกไปจากตรงนั้นทันที

    “เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออออออ ถึงบ้านซะที”ผมอุทานออกมาเมือ่เดินขึ้นมาถึงห้องนอนของผม

จากนั้นผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วโทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น

    “ถึงบ้านแล้วหรอครับ ปอนด์บอกจะไปส่งก็ไม่ยอมดูดิ ถูกรถบีบแตรไล่หลังเลย”เสียงตัดพ้อแปลกๆ

ของชายหนุ่มที่ผมไม่คุ้นเคยดังขึ้นจนผมรู้สึกอึดอัด

    “เอ่อ คือ.............”ผมอึกอักทันทีตั้งแต่รู้ว่าเป็นเจ้าหมอนั่น

    “ทำไมต้องอึกอักด้วยอ่ะ

ไม่อยากคุยกับปอนด์หรอครับ”เจ้าของเสียงดูจะเข้าใจความหมายจากลักษณ์ของเสียงที่ผมพูดออกไป

    “เอ่อ คือ เปล่าหรอก แค่เราเหนื่อย ๆ น่ะ”เอาอีกแล้วทำไมผมต้องเกรงใจเค้าด้วยนะ ไม่กล้าปฎิเสธออกไปอีกแล้ว

    “วันนี้เรียนหนักหรอครับ โยเรียนคณะอะไรที่ไหนอ่ะ”ปอนด์ถาม

    “เราเรียน......... ที่..........”

    “โหหหห ตั้งไกลทำไมมาเดินกันที่สยามล่ะ”

    “พอดีเพื่อน ๆ เค้าอยากจะเปลี่ยนลุคกันน่ะ เราเลยโดนลากมาทำด้วย” ผมละสงสัยตัวเองจริง ๆ ไปบอกเค้าทำไม


    “อืมมม เราว่าสีผมกับทรงผมตอนนี้ก็เข้ากับโยมาก ๆ เลยนะ น่ารักออก ดูดิเรายังชอบเลย”

ปอนด์พูดพร้อมกับหัวเราะออกมา มันทำให้ผมอึดอัดมาก ๆ แต่ไม่รู้จะหาวิธียังไงให้เค้าวางสาย

    “หรอ ขอบใจนะ”ผมคิดได้ว่า ถามคำตอบคำนั้นอาจจะทำให้เค้าเบื่อก็ได้ เอาวิธีนี้แหละ

    “จริง ๆ เราชอบจริง ๆ พรุ่งนี้มีเรียนป่ะ”ปอนด์ถาม

    “มี”ผมตอบสั้น ๆ

    “เรียนกี่โมง เดี๋ยวเราไปหาที่มหาวิทยาลัยได้ไหม อยากชวนโยไปทานข้าว ดูหนังอ่ะคับ”ปอนด์ยังคงถามต่อไป

    “ไม่ได้หรอก เรามีนัด” แผนเริ่มจะไม่เข้าเค้าก็มันเล่นถามมาหลายคำถาม ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ซะแล้ว

    “ไม่เป็นไร นัดกับเพื่อนก็ cancle ได้ มาเดทกับเราดีกว่านะ หรือไม่งั้นโยให้เพื่อนมาด้วยก็ได้

 เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”ไอ้ปอนด์ทำไมไม่เข้าใจเลยนะว่าเราอึดอัด

    “ไม่หรอก พอดีเราต้องทำรายงานน่ะ ไม่ว่างจริง ๆ”ผมพยายามปฎิเสธ

    “รายงานอะไรหรอ เราช่วยได้ป่ะ เราเก่งนะ”ปอนด์เสนอตัว ถึงตอนนี้ผมเริ่มมองนาฬิกาแล้วครับ

เพราะใกล้จะได้เวลาที่ หนุ่มซาดิสต์ (บูม) จะโทรมาหาแล้ว ผมต้องพยายามหาทางวางสายให้เร็วที่สุดจนต้องตัดสินใจ

    “อืมมม ไม่ได้หรอก เดี๋ยวแฟนเราว่าอ่ะ เค้ายิ่งขี้หึงอยู่ด้วย เนี่ยเค้าโทรมาแล้วเราต้องวางก่อนนะ

 แล้วค่อยคุยกันใหม่”ผมพูดออกไปตามตรง ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้นเพราะนี่ 1missed calls แล้ว

มีสายเรียกซ้อนแต่ไม่ได้รับ ตายแน่ ๆ

    “อ้าวมีแฟนแล้วหรอ อืมมม ก็น่าจะมีแล้วอ่ะนะ เพราะน่ารักแบบนี้ใครจะปล่อยไป

เราน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้ โยว่าไหม” โหหหห นี่ปอนด์นายไม่ได้ สลดเลยนี่หว่า คิดผิดหรือเปล่าเนี่ย

    “อืมมม เรามีแล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะ”ผมพยายามเน้นเสียงให้รู้ว่า มีแฟนจริง ๆ

ขณะนั้น 3 ครั้งแล้วครับท่าน missed calls

    “ไม่เป็นไรไม่ได้ความผิดของโยสักหน่อย มีแฟนแต่ยังไม่ได้แต่งงานก็ไม่เป็นไรยังถือว่ามีสิทธิ์อยู่”

เอาอีกละทำไมผมต้องเจอแต่คนอย่างนี้ด้วยวะ

    “เออ ปอนด์แฟนเราโทรมาแล้วล่ะ ไว้คุยกันนะ”ผมต้องรีบวางสายเพราะเท่าที่นับ ๆ น่าจะ 6-7 missed calls แล้ว

    “ก็ได้แล้วเราจะโทรหาอีกนะครับ ฝันดีครับ”จากนั้นปอนด์ก็วางสายไป

    ผมรออีกสักพักนึงเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก ผมจึงรีบกดรับสาย

    “ทำไมมารับสายช้าจังเลย เราโทรไปหาตั้ง 6-7 ครั้งกว่าจะรับ”เสียงตัดพ้อมาจากปลายสายดังออกมา

    “เราอาบน้ำอยู่อ่ะ เลยมารับไม่ทัน” เฮ้ออออ ต้องโกหกอีกละ

    “ทำอะไรในห้องน้ำหรือเปล่ามารับช้าจัง ให้เราไปช่วยเอาป่ะ”โหหหหหห ความคิดคนเรา ผมงี้อายเลย

    “ใครจะไปทำอะไรในห้องน้ำ ในห้องน้ำก็ต้องอาบน้ำดิ”ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้

    “จริงอ่ะ วันหลังเดี๋ยวจะไปทำอะไรในห้องน้ำด้วย”ผมพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

    “ทำอะไร”ผมถามกลับไป

    “อ้าวห้องน้ำก็ต้องอาบน้ำดิ 555”ดูความกวนของบูมดิครับ

    “บ้า........แล้ววันนี้ดูหนังสนุกหรือเปล่า”

    “อืมมม ไม่สนุกหรอก ในโรงหนังอ่ะหนาวจะตายไม่มีคนในจับมือเลย”ผมพูดอ้อน ๆ

    “ก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าดิ จะได้อุ่น”ผมตอบ

    “วันหลังเวลาดูหนังกัน เราจะเอามือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงโยนะ จะได้อุ่น” ทำไมบูมทะลึ่งจังวะ ผมคิด

    “ลามกว่ะ.........”ผมตอบกลับไปขำ ๆ

    “5555……….เออ วันนี้โยไปทำอะไรมาอ่ะ นานเชียว ถามไปออฟก็ไม่บอก บอกว่าธุระสำคัญให้รอดูพรุ่งนี้จะรู้”บูมถาม

    “ไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวมารับก็เห็นเองแหละ”ผมกะจะเซอร์ไพส์บูมนิดหน่อย

    “หรอ ว๊า อยากรู้อ่ะเดี๋ยวนอนไม่หลับ บอกหน่อยได้ป่ะ นะ นะ นะครับ”บูมอ้อนอีกครั้ง

    “ไม่ได้หรอก เดี๋ยวไม่เซอร์ไพส์”ผมใจแข็ง

    “ไม่รู้ก็ได้ เชอะ”บูมเริ่มงอน

    จากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อย จนเวลาเกือบห้าทุ่มแล้วผมก็วางสาย และล้มตัวลงนอน.......

    จบตอนที่ 17
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 03-01-2007 02:48:15
ลงมาให้อ่านจุใจเลยนะครับ พูห์ ทีเดียว 3 ตอนเลย ฮิฮิ
อิอิ ว่าแล้วว่าโยต้องน่ารัก :like6:
บูมมารับโย ต้องมีตะลึ่ง! แหง่ม ๆ   :kikkik:
หลุดจากพี่วิทย์มาได้ ไหงมีมือที่ 3 มาอีกอ่าครับ  :interest:
รออ่านตอนต่อไปดีก่า... ^^
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-01-2007 09:09:51
โธ่เอ๊ย บูมนึกว่าจะมีแผนเด็ดอาราย  :haun5: ไม่สะใจกองเชียร์เลย

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 03-01-2007 11:37:13
มาทีตาลายเลยแฮะ :really2:

ว่าแต่เปลี่ยนลุคตัวเองแล้วบูมจะชอบมั้ยน้อ

รออ่านต่อครับ ชอบจังเลยมีมือที่3อีกแว้ววววววววว :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 03-01-2007 12:56:18
โอ้วมาทีเป็นชุด สะใจคนอ่านเลยคับผม...อารมรืลื่นไหลดี...มาต่อไวๆนะครับ :yeb:

นายโยเปลี่ยนลุคแล้ว บูมเห้นแล้วจะตะลึงแค่ไหนนะนี่... :kikkik:

มีมือที่สามมาสร้างสีสันให้ชีวิตอีกแล้ว อิอิ ลุ้นๆๆ :angellaugh2:



หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 03-01-2007 13:30:51
โยนี่ท่าทางจะน่ารักนะเนี่ย  มีแต่คนมาชอบ  แต่ว่าขี้เกรงใจไปหน่อย  ไม่ไหว ไม่ไหว  รออ่านต่อคับผม  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 03-01-2007 14:47:41
โอ๊ะ.... :o......มาทีเดียวเป็นชุดเลย

อ่านกันจนตาลายเลย............. :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-01-2007 13:52:39
"ตอนที่ 18"

    เช้านี้ผมกระสับกระส่ายแต่งตัวตั้งแต่เช้า เพราะอยากให้บูมเซอร์ไพส์ กับลุคใหม่ที่ผมเพิ่งจะเปลี่ยนมา

ทันทีที่บูมขับรถมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านผม ผมก็ขึ้นรถไปนั่งที่ประจำของผมพลางจ้องบูม เพราะอยากจะรู้ว่า บูมจะคิดยังไงกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของผม

    “.....................................”ผมจ้องมองบูม เพื่อลุ้นว่าจะพูดอะไร

    “อ่ะนี่ขนมปังเราซื้อมาฝาก” แป๋วววววว ไม่เห็นบูมพูดอะไรเลย

    “เอ่อ คือ วันนี้อากาศดีเนอะ” ผมพูดแก้เขิน พลางจับที่ผมเป็นการส่งซิกส์

    “หรอ เราว่า มันก็ร้อนแบบนี้ทุกวันแหละ”บูมตอบหน้าตาเฉยไม่สนใจเลยอ่ะ

    “หรอ แต่เราว่าอากาศดีจริง ๆ นะ” ผมพูดพลางเอาหน้ายื่นไปดูกระจกส่องหลังรถแล้วจับที่ผม

    “ไปเถอะ เดี๋ยวสายนะ” ฮือออออ ไม่สนเราเลย

    ผมนั่งงอนบูมตลอดทางที่รถขับไปยังมหาวิทยาลัย บูมพูดด้วยผมก็ไม่ยอมพูดด้วย แถมหันหน้าออกไปด้านนอกรถบ้าง แกล้งหลับบ้าง จนมาถึงมหาวิทยาลัย

    พอรถจอดที่ลานจอดรถปุ๊ป ผมก็ก้าวเดินลงจากรถไปโดยไม่รอบูมเลย ผมเดินจ้ำ ๆ ๆ ๆ จนไปถึงที่ซุ้มประจำของผมอย่างหงุดหงิด

    “เฮ้ยย โยไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ ทำไมหน้าอย่างกะตูด”ไอ้โบ ปากหมาแต่เช้าเลยนะ คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่

    “ป่าว อย่าถามมากได้ไหม คนกำลังอารมณ์หงุดหงิดอยู่”ผมตอบกลับไปตาขวาง ๆ

    “ทะเลาะกับแฟนอ่ะดิ ท่าทางแบบนี้” กายถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้หรอก

    “เออสิ ถามได้”ผมยิ่งหงุดหงิดไปกันใหญ่

    “เออ โย เมื่อวานไอ้นั่นที่เจอที่ MK มันโทรมาหาเราล่ะ มันถามว่าโยมีแฟนจริง ๆ หรือเปล่า เราเลยบอกไปว่ามีแล้ว”ไอ้โบรีบบอกข่าว

    “เออ ดีแล้วแหละ เมื่อวานก็โทรมาตื้อมากเลยว่ะ ขนาดบอกมีแฟนแล้วนะ”ผมเลยสงบสติอารมณ์ลงหน่อยแล้ว

    “แต่มันบอกว่าไม่สนใจว่ะ นี่มันถามเราว่า เลิกเรียนกี่โมง เรียนตึกไหนด้วย”ไอ้โบเล่าต่อ

    “แล้วโบบอกไปหรือเปล่า”

    “โทษทีว่ะ พอดีเราอยู่กะแฟน ถ้าไม่บอกมันไม่ยอมวางสายอ่ะ โยก็รู้ถ้าแฟนเรารู้เราตายแน่ ๆ เลย” โธ่ ไปบอกมันทำไมวะไอ้โบบบบบบบบบ

    “แล้วมันว่าไงอีก”ผมรีบถาม

    “มันว่าจะมาหาว่ะ ตอนเลิกเรียน”

    “เฮ้ยยยยยยยยย ทำไงดีวะ เราไม่อยากเจอกับมันนะ งั้นเดี๋ยวคาบบ่ายเราแอบออกมาก่อนดีกว่า”

    “ว่าไงกันจ๊ะ ใครจะแอบออกมาก่อน” ออฟยิ้มร่าเดินเข้ามาที่ซุ้มแล้ววางของลงกับโต๊ะ

    “ก็ไอ้โยนั่นแหละ แค่ตัดผมใหม่เปลี่ยนสีนิดหน่อยเสือกมีคนจะตามมาหาที่มหาวิทยาลัย” ไอ้กายรีบประชด

    “หรอจริงดิ ขนาดนั้นเลยหรอ เออ โย เมื่อกี้เราเดินสวนกับแอนนี่ที่อยู่กลุ่มต้าร์ที่เป็นดาวคณะน่ะ เค้าเข้ามาขอเบอร์โยแน่ะ

เห็นว่าโยทำผมใหม่แล้วน่ารักดี แต่เราไม่ได้ให้ไปหรอกนะ เพราะเราบอกว่าโยมีแฟนแล้ว”ออฟบอก

    “เออ ดีแล้วล่ะ แค่นี้เราก็จะตายแล้วล่ะ เฮ้อออ”ผมถอนหายใจ

    “แต่ท่าทางจะจริงอย่างที่ไอ้กายว่าว่ะโย ลองถ้าแอนนี่มาขอเบอร์แสดงว่าแกเข้าขั้นแล้วนะโว๊ยยยยยยย”ไอ้โบแซวผม

ซึ่งจริง ๆ แล้ว แอนนี่จะเป็นพวกผู้หญิงที่บ้าผู้ชายอะไรพวกนั้นอ่ะครับ

    “เฮ้อออออ ช่างเหอะขี้เกียจคิดแล้วปวดหัว จำไว้เลยนะไอ้กาย ถ้าเรามีปัญหากับบูม แกตายยยยยยยย”ผมหันไปมองไอ้กายอย่างโมโหนิด ๆ

    “กลัวหรอ.........”ไอ้กายทำท่าไม่สนใจแล้ววิ่งมาตีผมทีนึงแล้วรีบหนีไปที่ห้องเรียน

    ผมเดินไปที่ห้องเรียนพร้อม ๆ กับกลุ่มผมซึ่งปกติเวลาเดินไปไหนมักไม่ค่อยมีใครสนใจ

แต่ทำไมวันนี้ สายตาหลายคู่เอาแต่ จ้อง กับ จ้องมองผมด้วยสายตาแปลก ๆ พลางซุบซิบไปมา จนผมเริ่มรำคาญ

    “นี่พวกนั้นมันเป็นอะไรวะ ทำไมมันต้องกระซิบกันด้วยวะเวลาเราเดินผ่าน”ผมพูดออกมาอย่างหงุดหงิดหลังจากนั่งลงที่โต๊ะแล้ว

    “ก็คงเห็นของแปลกมั้งแก อย่าไปคิดอะไรมากเลย ก็เล่นโมดิฟายด์กันทั้งกลุ่มนิ” เออ อาจจะจริงวันนี้ทุกคนในกลุ่มผมมีสีสันกันหมดเลย

    “เฮ้อออ หวังว่ามันคงจะเป็นแบบนี้ไม่นานนะ พูดตามตรงรำคาญว่ะ”ผมพูดอย่างหงุดหงิดซึ่งทุกคนก็เข้าใจ

    “เฮ้ยยยยย โย แฟนแกมานั่นแล้วไง”ออฟชี้ให้ผมดูบูมซึ่งเดินเข้ามากับกลุ่มเค้า ผมยิ้มให้เพื่อน ๆ ในกลุ่มของบูมตามปกติ

แต่ที่ไม่ปกติ เอ๊ะทำไมวันนี้บูมไม่มองผมเลยอ่ะ .... เออ ใช่เรางอนกันอยู่นิ ถ้างั้นไม่สนใจก็ได้ ผมคิด

    “ทำไมบูมไม่มองแกเลยวะ ปกติต้องเดินมาหาแล้วนะ แกไปทำอะไรเค้าวะ”ออฟถามเพราะยังไม่รู้เรื่อง

    “นี่ออฟไปจี้มัน โยมันทะเลาะกับบูมอยู่”โบแอบกระซิบออฟ

    “อ้าวหรอ โทษที”ออฟบอกแล้วหันกลับไป

    คาบเช้าทั้งคาบผมเรียนแทบจะไม่รู้เรื่องเลยครับ เอาแต่มองบูมตลอดเลยอ่ะ อยากรู้ว่าเค้ามองมาที่ผมบ้างหรือเปล่า

แต่เปล่าเลยบูมไม่มองมาเลย มีแต่เพื่อน ๆ เค้ามองมาที่ผมแล้วก็ยิ้มให้ซึ่งผมก็ยิ้มตอบกลับไปแค่นั้น เป็นอย่างนี้ตลอดทั้งคาบเลย จนหมดคาบเช้า

    “ไปเหอะว่ะ เริ่มมึนแล้ว แล้วแกต้องไปกินข้าวกับบูมหรือเปล่า อุ๊ป.......โทษทีลืมไป”ออฟถามอย่างลืมตัว

    “ช่างเหอะ ไปเถอะ”ผมพูดพลางหันไปมองบูมอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้เค้าเดินออกไปกับเพื่อน ๆ เค้าแล้ว

    ผมเดินไปกินข้าวกลางวันด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายทำให้กินอาหารไม่ค่อยลง กินไปได้ไม่กี่คำก็อิ่มจนเพื่อน ๆ ต้องปลอบ

    “ทะเลาะกันแค่นี้แป๊ปเดียวก็คืนดีกันแล้ว ไม่มีอะไรหรอก”ไอ้โบปลอบผม

    “อืมมม ใช่ งอนกันวันละนิดจิตแจ่มใสนะ”ออฟพยายามพูดให้ผมสบายใจ (หรือเปล่า)

    “โยก็ไปขอโทษเค้าดิ จะได้หายงอนกัน”กายแนะนำ

    “เราไม่ผิดนะกาย ทำไมเราต้องขอโทษก่อน คิดดูดิ อุตส่าห์เปลี่ยนตัวเองใหม่แต่ไม่สนใจเราเลย”

ผมบอกเหตุผลอย่างลืมตัว (ไม่กล้าบอกเหตุผลให้เพื่อน ๆ รู้เพราะกลัวว่าเราขี้ใจน้อยอ่ะครับ)

    “โห เรื่องแค่นี้เอง นี่แกจะบ้าหรือเปล่าวะ”ไอ้กายเริ่มทับถม เห็นมะไม่น่าหลุดปากเลยอ่ะ

    “นี่ไม่ใช่แค่นี้นะ โยเราเข้าข้างแก เพราะถ้าเป็นเรา เราก็โมโหเหมือนกัน”เย้ ออฟเป็นวันเดอร์วูแมนมากๆที่มาเข้าข้างเรา

    “เรื่องแค่นี้อย่าไปคิดมากดิวะ รีบไปคุยกับเค้าเหอะ อย่าให้เรื่องแค่นิดหน่อยทำให้ชีวิตคู่มีปัญหาดิ”ไอ้โบพูดอย่างกับผู้มากประสบการณ์

    “เออ ๆ ๆ เดี๋ยวตอนเย็นเราไปคุยกับเค้าก็ได้”ผมตอบอย่างยอมจำนน

    “หวัดดีครับ นั่งด้วยคนได้ไหมครับ”เสียงชายหนุ่มคนนึงดังมาจากด้านข้าง ๆ ผมเสียงคุ้น ๆ แหะ

    “ผมมาขัดจังหวะหรือเปล่าครับ อยากคุยด้วยจังเลยอ่ะเห็นพวกโยคุยกันสนุกดี” ปอนด์พูด

    “เฮ้ยปอนด์ มาได้ไงอ่ะ”ผมอุทาน แต่ยังไม่ทันที่ผมอนุญาต ปอนด์ก็มานั่งข้าง ๆ ผมแล้วครับ

    “ก็คิดถึงไงเลยมาหา แหะ แหะ”ปอนด์หัวเราะแห้ง ๆ

    “เฮ้ยยยย ไอ้ปอนด์กูไปรอนี่ห้องนะ”ชายหนุ่มคนนึงตะโกนเรียกปอนด์

    “เออ เดี๋ยวกูตามไป”ปอนด์ตอบกลับ พร้อม ๆ กับสายตาของพวกผมที่จ้องไปยังเค้า

    “อ้าวทีแรกก็นึกว่าเรียนคนละมหาวิทยาลัย เห็นว่าเราเรียนไกลแต่ไปเดินสยาม”ผมแขวะปอนด์ที่ตอนนี้ได้แต่ยิ้ม

    “เออใช่ แถมยังมาล้วงความลับกับเราอีก นายจะเอาไงกันแน่”ไอ้โบเสริม

    “ไม่ได้เอาอะไรหรอกครับ แค่อยากรู้จักโยก็แค่นั้นเอง”ปอนด์พูดยิ้มอาย ๆ

    “เค้ามีแฟนแล้วยังจะไปตามราวีเค้าอีก”ออฟพูดกับปอนด์ “นี่ไงมีคนที่ว่างอยู่ไม่ไปจีบละ”ออฟพูดจบก็เหล่ตาไปที่กาย

    “เฮ้ยเราไม่ได้เป็นเกย์โว๊ย”กายส่ายหัวพัลวัน

    “ถึงเป็นผมก็ไม่จีบหรอกครับ จีบโยดีกว่าเนอะ”ปอนด์พูดยิ้ม ๆ แถมทำตาเชื่อม ๆ ใส่ผม จนขนลุกซู่เลย

    “เฮ้ยยยย เกี่ยวอะไรกับเรา”ผมบอกปัดเพราะไม่อยากยุ่ง

    “ถึงมีแฟนแล้ว เป็นกิ๊กก็ได้ แต่จะให้ดีเลิกกับแฟนแล้วมาเป็นแฟนเราจริง ๆ เลยดีกว่า”ปอนด์พูดพร้อมกับจับมือผมไปถือไว้

    “เฮ้ยยยยยยยยยยย”ผมร้องและชักมือออก

    “ไอ้โย นั่น ตรงนั้น”ไอ้โบหรี่ตาพลางพยักเพยิดให้หันไปมองด้านหลัง

    “บูม” ผมอุทาน “เอ่อ......คือ”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดแก้ตัวอะไรเลย บูมซึ่งยืนอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ร

ู้ มองผมด้วยสายตาเย็นชาน่ากลัวแล้วเดินจากไป

    “เราว่าปอนด์นายกลับไปก่อนดีกว่านะ”กายพูดกับปอนด์เพราะน่าจะเดาความรู้สึกผมในตอนนี้ได้

    “นั่นแฟนโยหรอ ท่าทางโหดว่ะ”ไอ้เจ้าปอนด์ปากเสียไม่เลือกเวลาอีกละ

    “เออ ปอนด์ไปก่อนเถอะ”โบพูดพร้อมกับดึงตัวไอ้ปอนด์ออกจากโต๊ะ

    “รีบไปอธิบายให้บูมฟังสิโย เดี๋ยวเราช่วยพูดให้ก็ได้”ออฟพยายามช่วยผมแก้ปัญหา

    “................................”ผมยังคงอึ้งอยู่ เพราะไม่รู้ว่าจะหาคำแก้ตัวอย่างไรดี ที่จริงผมก็ไม่ได้ผิดอะไรหรอกครับ

แต่เวลาที่บูมโกรธมักจะไม่ค่อยมีเหตุผลพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ผมเลยคิดว่าน่าจะรอให้อารมณ์เย็นก่อนแล้วค่อยคุยกันดีกว่า

    “รอให้เค้าอารมณ์เย็นกว่านี้ดีกว่า แล้วค่อยคุย เดี๋ยวเราเคลียร์กับเค้าเองตอนเย็นไม่มีอะไรหรอก”ผมบอกออฟเสียงอ่อย

    “ถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็บอกนะ”ออฟลูบหลังผมเพื่อปลอบ

    “ขอบใจ”

    หลังจากที่เรากินข้าวเสร็จก็ใกล้จะได้เวลาเข้าเรียนคาบบ่ายแล้ว พวกเราจึงเดินไปรอที่ห้องเรียนเลย

พวกผมเข้าห้องเรียนไปนั่งได้สักพักนึง กลุ่มของบูมก็เดินเข้ามาในห้อง

แต่พอบูมเห็นว่าผมนั่งอยู่ในห้องก็กระซิบอะไรกับเจ้าปิ๊กไม่รู้แล้วปิ๊กก็บอกเพื่อน ๆ ว่าให้ไปที่ห้องสมุดกันก่อน

พวกเค้าเลยเอาหนังสือจองไว้แล้วเดินออกนอกห้องไป

    ผมเห็นท่าทีที่บูมทำแล้ว อดรู้สึกเสียใจไม่ได้ ทำไมเค้าไม่เฉลียวใจเลยสักนิดนะ

 น่าจะนึกถึงตอนพี่วิทย์บ้างว่าพวกเราผ่านอะไรมาเยอะน่าจะเข้าใจกันถึงจะถูก นี่กลับโมโหแล้วเดินออกไป

ยิ่งคิดผมก็ยิ่งเสียใจ น้ำตาเริ่มจะไหลออกมาจนพวกเพื่อน ๆ ผมต้องปลอบใจ

    หลังจากที่เราเรียนไปได้สักพักนึง ผมก็สังเกตเห็นว่ามีโทรศัพท์เข้ามาหาบูม ทำให้บูมต้องเดินออกไปข้างนอก ผมจึงตัดสินใจเดินตามออกไป

    ผมเดินหาบูมอยู่สักพักนึงก็หาไม่เจอ ไม่รู้ไปโทรศัพท์ที่ไหน ผมจึงตัดสินใจเดินไปหาที่หลังตึกเรียน

 แล้วภาพที่ผมเห็นตรงหน้ามันทำให้ผมแทบจะหมดเรี่ยวแรงทรุดตัวลงไป สิ่งที่ผมเข้าใจไปเอง สิ่งที่ผมคิดว่าผมผิด มันไม่ใช่เลย..............

    จบตอนที่ 18 รีบเอามาลงให้ก่อนเพราะอาจจะต้องไปทำธุระหลายวันครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับ ขอบคุณครับ

**********************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 04-01-2007 14:35:48
 :impress2: จุใจจุใจ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 04-01-2007 16:14:40
ง่ะ ค้างคาอีกแล้ว :serius2:

ขอบคุณมากครับที่มาต่อให้อ่าน
ปูเสื่อนอนรอต่อไป :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-01-2007 18:00:16
จะเกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 05-01-2007 13:15:00
โอ้ยๆๆๆ พูห์จะมาหยุดอยู่แบบนี้ไม่ได้นะ :serius2:

เรื่องจะเป็นยังไงต่อนี่ โยไปเจออะไรเข้าถึงกะเข้าอ่อนหมดเรี่ยวหมดแรง.... :sad5:

มาเร็วๆๆนะพูห์ ....นะ นะ นะ นะ  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-01-2007 14:13:44
"ตอนที่ 19"

    ..............ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้ คือ ภาพที่ชายหนุ่มคู่รักสองคนกำลังกอดกันอยู่ แต่มันผิดตรงที่ ชายหนุ่มคนนั้น

ก็คือบูม คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนผม และผู้ชายอีกคนนั้น ผมไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซึ่งตอนนี้เค้ากำลังซบลงตรงอกของบูมอยู่

ผมทนเห็นภาพที่บาดตาบาดใจแบบนี้ไม่ไหว ผมกำลังจะก้าวถอยหลังกลับไป จังหวะเดียวกันนั้นเอง บูมเริ่มสังเกตเห็นว่าผมมายืนอยู่ที่ตรงนั้นแล้ว

แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้มีท่าทีแสดงอาการผิดปกติอะไรเลย ราวกับว่าผมเป็นอากาศธาตุอย่างไงอย่างงั้น

แถมเจ้าตัวยังกระชับอ้อมแขนกับชายอีกคนเอาไว้ให้แน่นกว่าเดิม และยังยิ้มให้ผมเหมือนกับไม่แคร์เลยว่าผมจะรู้สึกอย่างไร

    ผมมองภาพตรงเบื้องหน้าได้สักครู่นึง จนตอนนี้ผมเริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้ว ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดเรื่องผมนึกว่า ผมเองที่เป็นคนผิด งอนอะไรไม่รู้เรื่อง

แต่มาตอนนี้ผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว ทำไมเค้าไม่สนใจผม ทำไมเค้าไม่แคร์ผม ผมเข้าใจหมดแล้ว หมดแล้วจริง ๆ .... แต่ทำไมนะ

ทำไมตอนนี้ผมถึงไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่พูดอะไรออกมา ขาสองข้างของผมในตอนนี้ทำไมถึงต้องสั่น น้ำตาที่ถูกเก็บกักไว้ทำไมจะต้องไหลออกมา

ตอนนี้ผมต้องพยายามฝืนตัวเองเพื่อไม่ให้ชายที่อยู่ตรงหน้ารับรู้ว่าผมกำลังเสียใจและเจ็บปวดกับสิ่งที่เค้าทำ

ผมพยายามรวบรวมกำลังที่มีเหลือทั้งหมด แม้จะน้อยนิดก็ตามตัดสินใจก้าวเดินออกไปอย่างช้า ๆ

เหมือนผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับภาพที่เค้าสองคนกำลังกอดกันอยู่

ทันทีที่ผมเดินก้าวพ้นออกมาจากภาพที่ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดที่สุดแล้ว ผมก็เริ่มเดินไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ โดยไร้จุดหมาย เหมือนกับร่างที่ไร้วิญญาณ

ขณะที่ร่างของผมเดินมาไกลจนเกือบจะถึงถนนใกล้ ๆ กับทางออกของมหาวิทยาลัยแล้ว...............

“โย โย เป็นอะไรหรือเปล่า.....โย ให้เราไปส่งไหม”เสียงชายหนุ่มดังแว่ว ๆ

เข้ามาในโสตประสาทการรับฟังของผมแต่ดูเหมือนว่าเสียงที่ดังอยู่นี้จะไม่ได้ไปกระทบกับความรู้สึกอะไรของผมเลย

เพราะผมยังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนคนไร้วิญญาณ

“โยเป็นอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวปอนด์ขับรถไปส่ง”ปอนด์ฉุดผมที่เดินอยู่ ให้ขึ้นไปบนรถที่จอดอยู่ด้านข้าง ๆ

ทันทีที่ผมเข้าไปในรถ เหมือนกับความรู้สึกของผมที่ถูกเก็บเอาไว้ ความอดทน อดกลั้นของผมได้สิ้นสุดลง

ตอนนี้ทั้งน้ำตาและอารมณ์ของผมถูกระเบิดออกมาอย่างสุดทนแล้ว

“ฮือออออออ ฮือออออออออออ”ผมร้องไห้พลางเอาหน้าไปซบไว้ที่คอนโซลหน้ารถของปอนด์

    “โยเป็นอะไรหรือเปล่า ไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวเรื่องร้าย ๆ มันก็จะผ่านไปเอง”ปอนด์พูดปลอบผมราวกับว่าเค้ารู้ในสิ่งที่ผมได้พบเจอมา

    “ฮืออออออ ไม่มีวันนั้นแล้ว ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีแล้วจริง ๆ เราสองคนไม่มีวันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว...ฮือ ๆๆๆ”

ผมร้องไห้ฟูมฟายอย่างไม่อายทั้ง ๆ ที่ผมเองก็ไม่ได้สนิทกับปอนด์เลย

    “ไม่เป็นไรนะครับ แค่คน ๆ เดียวอย่าไปเสียใจเลยนะ”ปอนด์ลูบที่หลังผมเพื่อปลอบ

    “ฮืออออออ ฮืออออออ ปอนด์ พาเราไปจากที่นี่ได้ไหม เราไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”ผมหันไปบอกชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    “ได้ครับ ไป ไป เราไปที่อื่นกัน”ปอนด์บอกผมพร้อม ๆ กับสตาร์ทรถแล้วขับออกไป

    หลังจากรถแล่นออกไปแล้ว ปอนด์ก็ได้พาผมไปที่สวนสาธารณะแห่งนึงเพื่อสงบสติอารมณ์

    “ตอนนี้สบายใจขึ้นหรือยังอ่ะครับ”ปอนด์ถามผมด้วยความเป็นห่วง

    “เราผิดเองแหละ เราผิดที่เป็นฝ่ายไปรักเค้าก่อน ผิดที่ไปสารภาพรักเค้าก่อน เราผิดเองจริง ๆ”ผมตอบไปคนละเรื่องเลยครับ

ตอนนี้ประสาทการรับรู้ของผมเริ่มจะเพี้ยนๆไปบ้างแล้ว

    “โยไม่ผิดหรอก เราผิดเองมากกว่าที่เราไปยุ่งวุ่นวายกับโย ทำให้โยต้องเลิกกับแฟน เราขอโทษนะ”ปอนด์ขอโทษเสียงอ่อย

    “นายไม่ผิดหรอก ถึงไม่มีนาย เราก็ไม่มีความหมายในสายตาเค้าอยู่ดี เพราะฉะนั้นนายไม่ผิดหรอก”ผมพูดย้ำไปย้ำมา

 แล้วก็ก้มลงไปร้องไห้ที่คอนโซลหน้ารถยนต์เหมือนเดิม

    “ลงไปรับอากาศดี ๆข้างนอกดีกว่านะ จะได้สงบสติอารมณ์ได้ไง”ปอนด์ชวนผมลงจากไปข้างนอก

    ผมเดินเข้าไปที่สวนสาธารณะอย่างคนเหม่อลอย เดินชนนั้นชนนี่ตลอดจนปอนด์ต้องจูงมือผมเดินไปหามุมสงบ ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์

    เราสองคนเดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวนึงด้านหน้าสระน้ำ ผมนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้คุยกับปอนด์นานแค่ไหนก็ไม่รู้ จนกระทั่งเสียงมือถือของผมดังขึ้น

ผมรู้สึกเหมือนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะรับโทรศัพท์ จนผมต้องบอกให้ปอนด์ช่วยรับสายแทน...

    “เอ่อ ไม่ใช่ครับ ผมปอนด์ครับ พอดีโยมีเรื่องนิดหน่อยผมเลยมาอยู่เป็นเพื่อน”ปอนด์พูดสายกับคนที่โทรมาหาผม

    “ครับ ๆ แล้วโบจะมาที่นี่หรอ”ไอ้โบนั่นเองที่โทรมาคงเห็นผมหายไปนานมั้ง

    “เราอยู่ที่สวน.........ด้านในใกล้ ๆกับศาลาจีน ใกล้ ๆ สระน้ำน่ะ อือ อือ ครับ บายครับ”ปอนด์วางหูไป แล้วส่งมือถือมาให้ผม

    “เดี๋ยวโบกับเพื่อน ๆ ของโยจะมาหานะ เดี๋ยวเราอยู่รอเป็นเพื่อนนายก่อน แล้วค่อยกลับแล้วกัน”ปอนด์พูดกับผม

    “ขอบใจนายมากนะที่มาอยู่เป็นเพื่อนเรา ขอบใจจริง ๆ”ผมเอ่ยขอบใจปอนด์ด้วยความรู้สึกดีกับความมีน้ำใจของชายหนุ่ม

    “ไม่เป็นไรหรอก เราดีใจที่เราได้อยู่ใกล้ ๆ โยนะ”ปอนด์พูดกับผม แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไร

เพราะผมไม่อยากจะคิดเรื่องแบบนั้นในตอนนี้ ซึ่งปอนด์ก็น่าจะเข้าใจ

    เรานั่งด้วยกันอีกสักพักนึง ไอ้โบกับเพื่อน ๆ ของผมก็มาถึง พอปอนด์เห็นเพื่อน ๆ ของผมมา ก็จะขอตัวกลับ

    “เพื่อนๆโยมาแล้ว เรากลับละ เดี๋ยวคืนนี้เราโทรหานะครับ”ปอนด์พูดแล้วเดินออกไป ผมได้แต่ยิ้มให้

    “ขอบใจนะปอนด์”ผมยิ้มให้ปอนด์อีกครั้ง ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกเป็นมิตรกับชายหนุ่มคนนี้มากขึ้นกว่าเดิม

    “เฮ้ย โยมีอะไรหรือเปล่าวะ ทำไมมานั่งอยู่ที่นี่กับไอ้นั่นสองต่อสองวะ”ไอ้กายพูดจี้ใจดำผม

    “ฮือออออออ กายยย เรา เราเลิกกับบูมแล้ว เราเห็นเค้ายืนกอดกับผู้ชายอีกคนด้านหลังตึก ตอนที่เราเดินตามเค้าออกมา”ผมร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

    “จริงดิ ไม่จริงมั้ง เพื่อนเค้าหรือเปล่า”ออฟถามผม

    “จริงสิเราเห็นมากับตา แถมพอรู้ว่าเราเดินมาเจอเข้า เจ้าตัวยังมายิ้มเยาะเย้ยเราอีก เรา เรา เรา...........”ผมร้องไห้ออกมาจนพูดไม่รู้เรื่องแล้ว

    “แม่งเอ้ยยยย ทีแรกก็นึกว่าจะรักเพื่อนกูจริงที่ไหนได้”กายหัวเสีย

    “นายแน่ใจหรอโยว่าเค้ามีคนอื่น นายไม่ได้คิดไปเองแน่นะ”โบถามผมอย่างมีเหตุมีผล

    “เราไม่ได้คิดไปเอง แกลองคิดดูนะ ถ้าเค้ารู้ว่าเรายืนอยู่ตรงนั้น ทำไมเค้าไม่อธิบายล่ะว่าไม่ใช่แฟน เป็นเพื่อนหรืออะไรก็ได

้ แต่นี่เปล่าเลยกลับกอดกันแน่นขึ้น เหมือนกับเป็นสัญญาณให้เรารู้ว่านี่ล่ะแฟนเค้า แล้วยังมีหน้ามายิ้ม เยาะเย้ยเราอีก”ผมอธิบายเหตุผล

พร้อมเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลอยู่

    “เออ มันก็จริง”โบเริ่มคล้อยตามผม

    “แล้วแกจะทำไงต่อไปอ่ะโย”ออฟถามด้วยความเป็นห่วง

    “ไม่รู้เหมือนกัน ออฟเราคงไม่ไปเรียนสักสองสามวันนะ ช่วยจดเล็กเชอร์แทนเราด้วย เราขอเวลาทำใจและตั้งสติหน่อย”ผมบอกออฟ

    “ได้ เราช่วยโยเรื่องนี้ได้เสมอ แต่สิ่งที่เราช่วยไม่ได้ก็คือความรู้สึกของโยเอง แกต้องช่วยตัวเองนะ ไม่มีใครช่วยแกได้

ถ้าแกไม่ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ตัดใจด้วยตัวเอง ถึงพวกเราจะปลอบไปก็ไม่มีความหมาย”ออฟพยายามพูดให้ผมตัดใจ

    “เราจะพยายามนะออฟ ขอบใจ”ผมตอบกลับไป

    ผมนั่งอยู่ที่นั่นอีกสักพักนึงก็ขอตัวกลับบ้าน พอผมกลับมาถึงที่บ้าน ผมไม่อยากให้แม่ผมเห็นผมในสภาพแบบนี้เลย

ผมเลยทิ้งโน้ตเอาไว้ว่า ผมรู้สึกเพลียมากอยากนอนพัก แล้วผมก็ขึ้นไปบนห้องนอน

   
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-01-2007 14:17:03
ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวบนห้องนอนของผม ภาพต่าง ๆ ที่ผมมีความสุขกับบูมมันเหมือนจะ รีวายด์

กลับเข้ามาในหัวสมองของผม ผ่านมาผ่านไปหลายรอบ
 
จนมาถึงภาพที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวด ผมยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดกับภาพที่ผมเห็นบูมยืนกอดกับคนอื่น และภาพที่เค้ายิ้มเยาะเย้ยผม

จนผมต้องร้องไห้ออกมา แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น………

    “โยหรอครับ ปอนด์นะ เป็นไงบ้างดีขึ้นหรือยัง”ปอนด์ถามผมด้วยความเป็นห่วง

    “อืมมม ขอบใจนะ เราดีขึ้นมากแล้ว”ผมแกล้งตอบออกไปเพราะไม่อยากให้ใครเป็นห่วง

    “ดีขึ้นเราก็ดีใจแล้วล่ะ เราต้องไปทำรายงานแล้วนะ แล้วเราค่อยโทรไปคุยกับโยใหม่นะครับ”ปอนด์พูดแล้ววางสายไป

    ผมรู้สึกดีอีกครั้งที่ปอนด์โทรมาแสดงความห่วงใยผม แต่พอผมกลับมานั่งคนเดียวอีกครั้ง

ความรู้สึกเดิม ๆ ก็เริ่มกลับเข้ามาอีก มันเหมือนกับการรีวายด์ ภาพกลับไปกลับมา ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ผมได้แต่ร้องไห้ ร้องไห้อย่างคนไม่มีสติ จนกระทั่งหลับไป………..

    ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า แล้วเดินมานั่งขดตัวอยู่ที่มุม ๆ นึงในห้อง น้ำตาที่ดูเหมือนเพิ่งจะเหือดแห้งไปกลับเริ่มไหลออกมาอีกครั้งโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

ทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่ทันเริ่มคิดอะไรเลย แค่ภาพแรกที่เข้ามาในหัวของผมคือ บูมยืนกอดกับคน ๆ นั้นอยู่อย่างมีความสุข

 แค่ภาพตรงนั้นก็ทำให้น้ำตาผมหยดลงมาเองได้ ผมนั่งร้องไห้อยู่ที่ตรงนั้นจนกระทั้งแม่ขึ้นมาเรียกผม

    “โย โย ตื่นได้แล้วลูก วันนี้มีเรียนไม่ใช่หรือจ๊ะ”แม่ตะโกนถามผมจากด้านนอก

    “ครับแม่เดี๋ยวผมไปเรียนตอนบ่ายครับ”ผมพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติซึ่งดูเหมือนจะไร้ผล

    “โย เป็นอะไรหรือเปล่าลูก เสียงลูกเหมือนกำลังร้องไห้อยู่เลยจ๊ะ”แม่ผมถามด้วยความเป็นห่วง

    “ไม่มีอะไรครับแม่ ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ”ผมตอบกลับไป

    “ไม่มีอะไรจริง ๆนะจ๊ะ มีอะไรก็บอกแม่ได้นะลูก”แม่ถามผมอีกครั้งด้วยความห่วงใย

    “ครับแม่ ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ”ผมตอบย้ำอีกครั้งนึง เพื่อให้แม่ไม่เป็นห่วงผม

    “งั้นแม่ไปก่อนนะจ๊ะ”

    “ครับ สวัสดีครับ”

    หลังจากได้ยินเสียงแม่เดินลงไปแล้ว ผมก็มานั่งขดตัวอยู่บนเตียง ตอนนี้น้ำตาผมหายไปหมดแล้ว

อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกอบอุ่มและเป็นห่วงเป็นใย ที่แม่ส่งผ่านมาถึงตัวผมละมั้งที่ทำให้น้ำตาที่กำลังไหลอยู่ กลับเหือดแห้งลงไป

 มีแต่เพียงความรู้สึกเหงาว้าเหว่เข้ามาแทนที่ ผมมองไปที่มือถือ พยายามนึกรายชื่อเพื่อน ๆ ว่าจะโทรไปหาใครดี

แต่จนแล้วจนรอดผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรกับใครดี นี่อาจจะเป็นแบบที่เค้าพูดกันละมั้งว่า

 บางครั้งเรามีเพื่อนเป็นร้อยคนแต่กลับไม่มีใครสักคนที่เราสามารถระบายอะไร ๆ ได้ในตอนที่เรารู้สึกทุกข์ใจมาก ๆ

ไม่ใช่เพราะผมไม่สนิทกับเพื่อน ๆ ผมหรอกนะครับ แต่ไม่รู้สิเวลานี้มันคิดได้แค่นี้จริง ๆ สมองมันตื้อไปหมด

ผมขดตัวอยู่บนเตียงสัพักนึง เสียงมือถือผมก็ดังขึ้น………….

    “เฮ้ยโย เป็นไงบ้าง เราเป็นห่วงว่ะเลยโทรมาหา”ไอ้โบโทรมาได้จังหวะพอดีเลยครับ

    “โบ เราเหนื่อย เราเหนื่อยมากจริง ๆ การมีชีวิตอยู่มันเหนื่อยจริง ๆ นะ”ผมตอบกลับไปอย่างหมดแรง

    “เฮ้ย อย่าพูดแบบนั้นสิ แกต้องเข้มแข็งนะ อย่าเป็นแบบนี้ เดี๋ยวเรากับเพื่อน ๆจะไปหานะ”โบพูดปลอบผม

    “เออ แค่นี้นะ เราไม่ไหวจริง ๆ วะ เราอยากจะพัก”ผมพูดแล้วก็วางหูไปอย่างหมดแรง

    หลังจากที่ผมวางสายไม่นานนักโบก็มาถึงบ้านผมพร้อมกับ ออฟและกาย ผมเปิดประตูให้พวกมันเข้ามาในห้องแล้วก็มานั่งขดตัวอยู่ที่เตียงตามเดิม

    “โย อย่าทำแบบนี้ได้ไหม เราเข้าใจนะว่าตอนนี้แกรู้สึกยังไง แต่ฉันเห็นสภาพแกตอนนี้แล้ว อยากจะร้องไห้ตามว่ะ”ออฟพูดน้ำตาซึม

    “เออใช่ แกไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ แกต้องเข้มแข็งสิ แกยังมีพวกเรานะ แกยังมีเพื่อน โยได้ยินไหม”ไอ้โบตะโกนใส่หูผม

 ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยเพราะตอนนี้ใจผมถูกปิดตายซะแล้ว

    “ปล่อยมัน มันจะเป็นอะไรก็ช่างมัน ให้มันเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว”กายพูดอย่างโมโห

    “ทำไมแกพูดแบบนี้วะกาย เพื่อนกำลังแย่นะโว๊ย”ไอ้โบเดินไปผลักอกไอ้กาย

    “ใช่ ทำไมกายพูดแบบนี้ล่ะ”ออฟเสริม

    “ก็ถ้ามันคิดว่าทำแบบนี้แล้วดีก็ช่างมัน ปล่อยให้พ่อกับแม่มันเสียใจไงที่ลูกเป็นแบบนี้”กายพูดต่อ

    “หยุดได้ไหม ขอเราอยู่คนเดียวสักพักเถอะ เราเหนื่อยจริง ๆ ถือว่าเราขอร้องเถอะ”ผมตะโกนออกมาอย่างสุดทน

    “เห็นไหม เราบอกแล้วว่าปล่อยมัน มันคิดว่าเพื่อนสำคัญที่ไหน คนที่สำคัญที่สุดสำหรับมัน นั่นไงตอนนี้มันมีแฟนใหม่ไปแล้ว”กายพูดอย่างเหลืออด

    “............................”ผมนิ่งไม่โต้ตอบอะไรมีแต่เพียงน้ำตาที่ไหลออกมาอีกครั้ง

    “จะไปร้องไห้ให้มันทำไม ......ได้ยินไหมโย แกยังมีเพื่อน แกยังมีพวกฉัน ไอ้โย ..... ได้ยินไหม ได้ยินเสียงพวกฉันบ้างไหม”กายเดินเข้ามาเขย่าตัวผม

    “……………” ผมได้แต่ร้องไห้

    “อย่าทำแบบนี้โย แกยังมีพวกฉัน ฮือออออ แกยังมีพวกฉันนะ เราเป็นเพื่อนกันนะโย อย่าทำแบบนี้”กายกอดผมแล้วร้องไห้ออกมา

ทั้ง ๆ ที่ปกติ กายเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุดในกลุ่ม แต่ต้องกลับมาเสียน้ำตาให้กับสภาพผมในตอนนี้

    “เรา เรา เรา.............เราขอโทษ”ผมบอกกายเสียงแผ่ว ๆ

    “แกยังมีพวกฉันนะโย”ออฟกับโบเดินเข้ามากอดผมด้วย

    “โย แกไม่เป็นไรแล้วนะ วันนี้พวกเราจะอยู่เป็นเพื่อนนะ”ออฟบอกผม

    “ขอบใจจริง ๆ ขอบใจมาก ๆ”ผมพูดแล้วก็ร้องไห้ออกมาอีก แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องของบูม แต่เพราะตื้นตันใจที่มีเพื่อนที่ดี ๆ แบบนี้

    สรุปว่าวันนี้พวกผมโดดเรียนมาอยู่ที่บ้านผมกันหมด วันนี้ทั้งวัน ออฟกับโบช่วยทำอาหารให้ผมทาน กายคอยนั่งอยู่เป็นเพื่อนคุยนั่นคุยนี่ตลอด

 ทำให้ผมคลายความเสียใจลงไปได้บ้าง จนถึงตอนเย็นพวกมันก็ยังคงเป็นห่วงผมเลยให้ไอ้โบมาอยู่เป็นเพื่อน

โดยให้ออฟโทรไปบอกแฟนมันว่า ผมป่วยต้องมาช่วยดูแล ไอ้โบจึงมานอนค้างกับผมที่บ้านได้

    “โบว่าเราโง่หรือเปล่าวะ ที่จริงจังกับความรักมากไป”ผมพูดกับโบขณะนอนอยู่บนเตียง

    “อะไรนะ ไม่หรอกว่ะ ใคร ๆ ก็เป็นแบบนี้”โบตอบผม

    “หรอ แต่เรามาคิดดูอีกทีนะ เราอาจจะจริงจังมากไปไง”ผมพูดเป็นนัย เพราะตอนนี้ผมตัดสินใจที่จะเปลี่ยนนิสัยตัวเองอีกครั้งเพื่อจะได้ไม่เจ็บแบบนี้อีก

    “อย่าไปคิดมากเลยว่ะโย อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ปล่อยมันผ่านไปเถอะ คิดว่าเริ่มต้นใหม่ละกันนะ

ชีวิตมันยังอีกยาวไกล คนดี ๆ ยังมีอีกเยอะว่ะโย”โบปลอบผม

    “อืมมม เราคิดว่าเราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่จริง ๆนะ เราจะไม่เป็นแบบเดิมอีก เราจะไม่จริงจังกับใครอีกแล้ว”ผมพูดพึมพำเบา ๆ

    “นอนเถอะเพรุ่งนี้จะได้ไป มหาวิทยาลัยกัน”โบบอกแล้วก็เงียบไป ไม่รู้ว่ามันได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่า

    “ต่อจากนี้ไปเราจะไม่รักใครอีกแล้ว เพราะเราไม่อยากเจ็บปวดอีก”ผมพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แล้วก็หลับไป

จบตอนที่ 19 แล้วครับ ขอโทษด้วยครับที่หายไปนานพอดีเพิ่งกลับมาจากธุระเมื่อวาน ทีแรกว่าจะมาอัพให้

แต่พอมา rewrite อีกทีคำผิดเพียบเลยอ่ะ  เลยเอามาโพสให้วันนี้แทน.....

หลังจากตอนนี้ไป เพื่อน ๆ อาจจะได้เห็นด้านมืดในตัวโยมากขึ้น ยังไงก็อย่าเพิ่งเกลียดกันนะครับ ขอให้เป็นกำลังใจให้โยด้วย

*******************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 05-01-2007 14:23:03
"ตอนที่ 20"

    เช้านี้ผมไปมหาวิทยาลัยพร้อม ๆ กับโบ ซึ่งที่จริงแล้ววันนี้คาบเช้าผมไม่มีเรียนหรอกครับ แต่ที่อยากจะไปมหาวิทยาลัยตอนเช้าๆ

เพราะผมอยากที่จะเริ่มลองเปลี่ยนตัวเองในแบบที่ผมคิดไว้ ซึ่งวิธีนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอกครับนอกจากตัวผมคนเดียว

ผมเลยลากไอ้โบไปเป็นเพื่อนด้วย เพราะยังประหม่านิดหน่อย

    เรานั่งรถตู้มาถึงมหาวิทยาลัย จากนั้นผมกับโบก็ไปนั่งที่ซุ้มประจำของพวกเรา

ตอนนี้ไอ้โบแอบไปหาที่โทรคุยกับแฟนมัน เหลือผมนั่งอยู่คนเดียว ผมเริ่มลังเลที่จะทำในสิ่งที่ผมคิดเมื่อคืนนี้ คิดว่ามันถูกหรือเปล่า

 แต่จะทำไงได้ในเมื่อตัดสินใจแล้ว ต้องเดินหน้าอย่างเดียวแล้วล่ะ

    “สวัสดีครับ ผมชื่อโยนะ นายชื่ออะไรครับ นั่งด้วยคนได้ไหม”

ผมเดินเข้าไปทักชายหนุ่มหน้าตาดีคนนึงที่นั่งอยู่ที่ซุ้มถัดออกไปประมาณ 2 ซุ้มเป็นเป้าหมายแรก

    “ผมชื่อตี๋ครับ”ชายหนุ่มคนนั้นตอบด้วยอาการ งง ๆ

    “นั่งด้วยคนได้ป่ะ อยากมีเพื่อนคุยด้วยอ่ะ นายมานั่งรอใครหรอ”ผมยิ้มให้และรีบทำการผูกมิตรทันที

    “เรามานั่งรอแฟนครับ เดินมานั่นไง”ตี๋ชี้ไปที่ผู้หญิงคนนึงซึ่งกำลังเดินมาหา

    “อ้าวมีแฟนแล้วหรอครับ ขอโทษครับ ผมไม่กวนละ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระอ่ะครับ”

ผมพูดอาย ๆ เพราะหน้าแตกหมอไม่รับเย็บที่ดูคนผิดได้ไงไม่รู้ เลยรีบเดินก้มหน้าออกมา

    “ไอ้โยเมื่อกี้มึงไปคุยอะไรกับเค้าวะ”โบถามผมหลังจากที่ผมเดินมาถึงที่ซุ้มแล้ว

    “เปล่า เราแค่อยากรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ จะได้ลืมเรื่องเก่า ๆ ไง”ผมบอกพลางหลบสายตาโบที่จ้อมมองผมอยู่ด้วยความแปลกใจ

    “นี่แกจะบ้าไปแล้วหรอ ทำไมถึงทำแบบนี้วะ นี่หรอที่แกว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง พอเลยอย่าบ้าไปหน่อยเลย”ไอ้โบว่าผมอย่างรุนแรง

    “โบ แกไม่รู้หรอกว่า ตอนนี้ความรู้สึกเรามันเป็นยังไง แกอย่ายุ่งเรื่องนี้เลยนะ เราสัญญาว่าจะไม่ให้กระทบเรื่องการเรียน”ผมบอกโบด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ

    “ตามใจแกนะ ถ้าแกคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้ลืมเรื่องของบูมลงไปได้ก็ตามใจ”ไอ้โบพูดประชด

    “แต่อย่างน้อยถ้าเรามีใครในตอนนี้ เราอาจจะลืมเค้าได้นะโบ”ผมบอกด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด จนโบได้แต่ส่ายหน้า

    “สวัดดีครับโย เป็นไงดีขึ้นแล้วใช่ป่ะ เราเป็นห่วงแทบแย่ เมื่อคืนทำรายงานเสร็จกะว่าจะโทรไปหา แต่กลัวจะรบกวนน่ะ เพราะมันดึกแล้ว

โชคดีจังวันนี้เจอโยตั้งแต่เช้าเลย”ปอนด์เดินเข้ามาเอ่ยทักทายผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

    “ไม่รบกวนหรอกครับ สำหรับปอนด์น่ะ จะโทรมาดึกแค่ไหนก็ได้เราไม่ว่าหรอก ตอนนี้เราว่าง”ผมพูดเปิดทางให้ปอนด์

ทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับปอนด์เลย นอกจากคำว่าเพื่อน

    “จริง ๆ นะ ว๊า.....แย่จัง ไม่มีเวลาคุยด้วยเลย เดี๋ยวปอนด์ไปเรียนก่อนนะครับ เดี๋ยวตอนกลางวันปอนด์โทรหานะ”

ปอนด์แสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า แล้วขอตัวจากไป

    หลังจากที่ปอนด์เดินพ้นไปแล้วไอ้โบก็ดึงผมเข้าไปคุยในซุ้มทันที

    “เฮ้ยยย โยเอาจริงหรอวะ ถ้าแกไม่คิดอะไรอย่าไปดึงปอนด์มาเกี่ยวด้วยเลยนะ”โบถามผมเพราะรู้สึกเป็นห่วง

    “เราก็แค่ลองเปิดใจดู ใครจะเข้ามาตอนนี้เราจะรับหมด เผื่อจะมีคนที่แทน......”ผมพูดได้แค่นั้นเพราะไม่อยากเอ่ยถึงคนที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวด

    “เฮ้อออออออออ”โบถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะไม่รู้ว่าจะห้ามผมได้อย่างไร

    ตลอดช่วงเช้านี้ผมได้ทำความรู้จัก (ก็จีบนั่นแหละ) กับคนไปทั่วไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย เกย์ ซึ่งมีบางคนที่ผมแห้วรับประทาน

แต่หลาย ๆ คนที่คิดว่าน่าจะมีโอกาส แล้วยังมีคนที่เดินเข้ามาหาผมเองก็มีบ้าง

ส่วนมากจะเป็น คนที่อยู่ในคณะเดียวกับผมซะมากกว่า ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง รวมไปถึง แอนนี่ หญิงร้อนแรงประจำคณะที่ ออฟเคยบอกว่าสนใจผมรวมอยู่ด้วย

แต่พวกเพื่อน ๆ ผมรีบห้ามเอาไว้เพราะรู้ดีว่าคนนี้แหละตัวอันตรายห้ามเข้าไปยุ่งเด็ดขาด

    “โยมันจะดีหรอ ที่แกไปให้ท่ายัยแอนนี่อ่ะ มันมากไปนะ เดี๋ยวก็ซวยหรอก แกก็รู้นี่ว่า แอนนี่ น่ากลัวแค่ไหน”ออฟพูดเตือนผม หลังจากได้ฟังคำบอกเล่าของโบ

    “ไม่เห็นจะเป็นไรเลย ก็แค่เปิดใจรับคนอื่นบ้างไม่เสียหายนิ จริงป่ะ”ผมพูดแบบไม่ใส่ใจในสิ่งที่ทำ

แต่มาคิด ๆ ดูแล้วผมก็เห็นด้วยนะครับที่จะไม่เข้าไปยุ่งด้วย เพราะแอนนี่น่ากลัวจริง ๆ เคยมีเรื่องกับกายด้วยอ่ะ

ผมเลยไม่ยุ่งดีกว่า แล้วเริ่มหันไปหาเหยื่อรายใหม่ต่อไป

    “สวัสดีครับพี่ พี่น่ารักจังเลย เป็นพี่รหัสให้ผมได้ป่ะคับ”ผมเดินไปป้อรุ่นพี่หนุ่มคนนึงซึ่งเรียนอยู่คณะเดียวกันที่นั่งอยู่ที่ซุ้มฝั่งตรงข้าม

    “ได้สิครับ น้องรหัสน่ารัก ๆ แบบนี้หาง่าย ๆ ซะที่ไหน พี่ชื่อ น้อต นะครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ น้องโย”ชายหนุ่มเอ่ยทักชื่อผมขึ้นมาทั้ง ๆ

ที่ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลยอ่ะ ทำให้ผมแปลกใจมาก ๆ

    “พี่รู้จักชื่อผมได้ไงอ่ะครับ”ผมถามอย่างสงสัย

    “ไม่รู้จักได้ไง เราอ่ะดังจะตาย”พี่น้อตพูดยิ้ม ๆ ยิ่งทำให้ผมสงสัยมากขึ้นไปอีก แถมยังคุ้น ๆ กับชื่อนี้ยังไงก็ไม่รู้

    “ผมเนี่ยนะดัง ไม่จริงหรอกครับ”ผมตอบ

    “อืมม....เอาเป็นว่าพี่รู้จักน้องโยแล้วกัน แต่เรื่องพี่รหัสนี่ น้องโยสัญญาแล้วนะ ว่าให้พี่เป็นพี่รหัสเราจริง ๆ นะ”พี่น้อตยิ้มอย่างมีเลศนัย

    “จริงดิครับ อ่ะนี่เบอร์ผม 0xxxxxxxx”

    “งั้นพี่ขอถ่ายรูปเราเป็นที่ระลึกได้ป่ะ”พี่น้อตพูดพลางถ่ายรูปผมด้วยมือถือซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร

    “พี่น้อตยังไม่ให้เบอร์ผมเลยอ่ะ ไหนว่าจะเป็นพี่รหัสผมไง”ผมทวงเบอร์โทรพี่น้อตด้วยน้ำเสียงแบบอ้อน ๆ

    “อ่ะครับพี่ลืม พอดี พี่กำลังดีใจที่ได้น้องรหัสน่ารัก ๆ ไง”พี่น้อตพูดพลางกดมือถือเพื่อยิงเข้ามาที่เบอร์ผม

    “งั้นเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของเรา พี่ขอเลี้ยงข้าวน้องโยได้ไหมครับ”พี่น้อตชวนผมไปทานข้าว

    ระหว่างที่ผมกำลังคิดว่าจะตอบรับคำชวนของพี่น้อตดีหรือไม่ ผมก็เห็นบูมกำลังเดินมากับไอ้หนุ่มคนนั้นสองต่อสอง

มันทำให้ผมรู้สึกแปลบ ๆที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ผมจึงต้องรวบรวมสติ และตอบพี่น้อตว่า......

    “ได้ครับพี่ เราไปทานข้าวกันดีกว่าครับ ผมหิวแล้วอ่ะ”ผมตอบรับคำชวน ทั้ง ๆ ที่ทีแรกกะว่าจะขอตัวกลับไปที่ซุ้ม

    “ครับ ๆ ไปกัน”พี่น้อตลุกขึ้นยืน ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับบูม ที่เดินมาถึงที่ซุ้มที่ผมนั่งพอดี

ซึ่งผมก็รีบเดินเข้าไปควงแขนพี่น้อตโดยที่ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจบูม ซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าผม

แต่ผมกลับยิ่งเอาตัวเข้าไปประชิดกับตัวพี่น้อต จนพี่น้อตเริ่มรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไร แล้วเราสองคนก็เดินออกมานำหน้าบูมออกไป

    ผมรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันจะได้ไปกระทบกระเทือนใจของบูมบ้างหรือเปล่า หรืออาจจะไม่เลยก็ตาม

 แต่การที่ผมทำให้เค้าเห็นว่า ผมเองก็มีดีพอที่จะมีคนมาจีบเหมือนกัน ไม่ใช่ว่ามีแต่บูมคนเดียวที่มีคนอื่นได้ ก็ทำให้ผมสะใจมากพอสมควร

    หลังจากที่ผมเดินควงมากับพี่น้อตได้สักระยะนึงผมก็รีบผละตัวออกจากพี่น้อต จนพี่น้อตแซว

    “เมื่อกี้ยังควงพี่อยู่เลย ใกล้ถึงโรงอาหารกลัวแฟนมาเห็นหรอไงครับรีบชิ่งเลยนะ”พี่น้อตแซวยิ้ม ๆ

    “เปล่าครับพี่ ผมไม่มีแฟน ผมแค่............”ผมกำลังจะพูดต่อ พอดีปอนด์โทรเข้ามาพอดี

    “ครับโยพูดครับ”

    “ตอนนี้โยอยู่ไหนครับ ปอนด์เลิกเรียนแล้ว อยากไปหาจัง”ปอนด์เริ่มหยอดคำหวาน จนผมเริ่มที่จะอึกอัก

    “เรามากินข้าวกับพี่รหัสที่โรงอาหารน่ะ”

    “หรอครับ ปอนด์ไปกินด้วยคนได้ป่ะ จะได้แนะนำตัวให้พี่รหัสโยรู้จักไง”

    “เอ่อ คือ เราต้องขอพี่รหัสเราก่อนนะ”

    “ครับ ปอนด์อยากไปหาจริง ๆ นะ”

    “พี่น้อตครับคือ เพื่อนของโยเค้าอยากมาทานข้าวด้วย พี่จะว่าอะไรไหมครับ”ผมถามพี่น้อตที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

    “เพื่อนหรือว่าแฟนครับ ถ้าแฟนพี่ไม่ยอมนะ”พี่น้อตแซวผม

    “เพื่อนครับ เพื่อนจริง ๆ ตอนนี้ผมโสดนะ”ผมพูดแล้วหัวเราะ

    “ได้สิครับ แต่ใจจริงพี่อยากนั่งทานกับโยสองต่อสองมากกว่านะครับ”พี่น้อตมองผมด้วยสายตาหยาดเยิ้มเลยอ่ะ

    “แฮะ แฮะ แฮะ”ผมหัวเราะแห้ง ๆ แล้วผมก็บอกให้ปอนด์มาหาที่โรงอาหาร

    หลังจากที่ผมนั่งทานข้าวกับพี่น้อตได้สักครู่นึง ปอนด์ก็เดินเข้ามาหา และเอ่ยทักทายพี่น้อต

แต่ดูเหมือนพี่น้อตจะรู้ว่า ปอนด์ไม่ใช่เพื่อนผมธรรมดาแต่เป็นคนที่เข้ามาจีบผมต่างหากเลยแกล้งถามหยั่งเชิง...........

    “ปอนด์รู้จักกับโยตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”พี่น้อตถามหยั่งเชิง

    “อ๋อออ เพิ่งรู้จักเองครับพี่ แต่อีกไม่นานก็คงจะสนิทกันมากขึ้น”ปอนด์พูดพลางยิ้มหวานมาที่ผม

    “อ้าวไม่สนิทกันหรอกเหรอ อย่างนี้พี่ก็มีคู่แข่งแล้วอ่ะสิ”พี่น้อตพูดจนปอนด์หันมาจ้องพี่น้อตอย่าง งง ๆ จนผมต้องรีบแก้สถานการณ์

    “แล้วปอนด์ทำรายงานเสร็จแล้วหรอ มีอะไรให้เราช่วยไหม”ผมรีบเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะท่าทางฤกษ์จะไม่ค่อยดีแล้ว

    “เสร็จแล้วครับ...เออ โยเย็นนี้ว่างไหม ไปดูหนังกันป่ะ”ปอนด์หันมาสนใจในสิ่งที่ผมพูด

    “เย็นนี้พี่ก็ว่างนะครับ น้องโยไปด้วยกันสิ พี่จะได้ไปด้วย”เอาสิครับทีนี้ ปอนด์หันไปจ้องพี่น้อตแบบไม่สบอารมณ์ แต่พี่น้อตก็ยักไหล่ไม่สนใจ

    “เอ้อ เย็นนี้ผมไม่ว่างครับ พอดีนัดกับเพื่อน ๆ เอาไว้ครับ

 ไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะ”ผมรีบหาทางออกเพราะไม่งั้นผมจะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างแน่นอน

    “ว้า....เสียดายอ่ะ”ปอนด์บ่นเสียดาย

    พวกเราคุยกันต่ออีกสักพักนึงแล้วพี่น้อตก็ขอแยกตัวออกไปเพราะเพื่อน ๆ พี่น้อตโทรมาตาม ทำให้ผมต้องอยู่กับปอนด์ สองต่อสอง......

    “เราไม่ค่อยชอบพี่รหัสของโยเลยอ่ะ”ปอนด์บอกแล้วเบ้ปาก

    “อ้าว ทำไมล่ะ พี่น้อตก็น่ารักดีนี่”ผมพูดยิ้ม ๆ

    “ใครว่า กับโยก็ดีหรอก แต่เวลาพูดกับเรา พี่เค้าชอบมากวนอ่ะ”ปอนด์บอก

    “ไม่ละมั้ง ปอนด์อ่ะคิดมาก ไม่มีอะไรหรอก”ผมบอกปอนด์

    ทันใดนั้นผมก็สังเกตเห็นบูมเดินมากับเพื่อน ๆในกลุ่ม แต่ไม่ยักกะเห็นไอ้เจ้าคนนั้นเดินมาด้วยเลย

 ประจวบกับมีเศษอะไรไม่รู้ลอยมาติดที่ผมของปอนด์พอดี ผมเลยเอามือไปดึงออกให้โดยลุกขึ้นยืนเอาตัวเอี้ยวเข้าไปใกล้ ๆ

จนหน้าผมกับปอนด์เกือบจะติดกัน อันที่จริงผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ก็ได้ แต่ผมต้องการให้บูมเห็นในสิ่งที่ผมทำ

ผมจึงต้องแสดงแบบ โอเวอร์แอคชั่นไปนิดนึง แล้วโชคก็ดูเหมือนจะเข้าข้างผมเพราะบูมหันมาเห็นพอดี แถมปอนด์ก็ดูเหมือนจะเป็นใจด้วย

 เพราะปอนด์เอามือมาจับมือผมเอาไว้ ผมจึงยิ้มให้ แล้วแอบเหล่ไปสังเกตอาการของบูม แต่ก็ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่ได้สนใจอะไรเลย (หรือเปล่าไม่รู้)

เพราะเค้าหันกลับไปสั่งอาหารกับเพื่อนเค้า จนผมเริ่มรู้สึกเจ็บใจมากขึ้น.........

    “โยเป็นอะไรหรือเปล่าอยู่ ๆ ก็ทำสีหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรขึ้นมา

ปอนด์ทำอะไรให้โยโกรธหรือเปล่าครับ”ปอนด์บอกหลังจากสังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของผม

    “ปะ ปะ เปล่า เราแค่ไม่ค่อยสบายนิดหน่อยอ่ะปอนด์”ผมรีบแก้ตัว

    “เป็นอะไรมากหรือเปล่า ไปห้องพยาบาลไหม เดี๋ยวเราพาไป”ปอนด์พูดด้วยความเป็นห่วง

    “ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ ปอนด์ไปนั่งที่ซุ้มกับเราไหม”ผมเอ่ยชวนชายหนุ่มตรงหน้า

    “ไม่ดีกว่าครับ เพราะเรามีเรียนต่ออ่ะ เดี๋ยวเราต้องไปหาเพื่อนเราด้วย”

    “อ้าวหรอ....งั้นเดี๋ยวเราไปหาเพื่อน ๆ ก่อนนะ”

    “ให้ปอนด์ไปส่งนะ”ปอนด์เสนอ

    “ไปสิ”ผมยิ้มให้แล้วเดินไป

    จากนั้นผมกับปอนด์ก็เดินไปที่ซุ้มด้วยกัน แต่ก่อนที่จะถึงซุ้มประจำของผม ปอนด์ก็ขอตัวกลับแล้วบอกว่าคืนนี้จะโทรหาผม

ซึ่งผมก็พยักหน้ารับรู้ แล้วเราก็แยกจากกันไป

    ทันทีที่ผมเดินมาถึงที่ซุ้ม ผมก็เริ่มรู้สึกถึงรังสีแปลก ๆ แผ่ออกมาจากเพื่อน ๆ ของผมแต่ละคน จนผมทนไม่ไหว....

    “เป็นอะไรกันหา เห็นจ้องอยู่ได้”ผมถามพวกเพื่อน ๆ ผม

    “พวกฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอก มีแต่แกน่ะคนเดียวที่เป็น แกเป็นบ้าไปแล้วหรอไงโย แกรู้ตัวไหมว่าแกกำลังทำอะไรอยู่”ออฟถามผมอย่างทนไม่ไหว

    “เราไปทำอะไร ก็แค่เราไปกินข้าวมา แค่นั้นเอง”ผมตอบไปอย่างหน้าตายทั้ง ๆ ที่ผมก็รู้ว่าพวกมันหมายถึงอะไร

    “อย่ามาทำเป็นเซ่อ แล้วไอ้พี่คนนั้นนั่นมันใคร นี่แกจะบ้าไปแล้วหรอไง ระวังจะกู่ไม่กลับนะ”โบบอกผมอย่างห่วงใย

    “เรารู้น่ะว่าเรากำลังทำอะไรอยู่นะโบ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกแกก็ด้วย ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เราจะไม่มีทางเป็นแบบเดิมอีกแล้ว เชื่อเราสิ”

ผมบอกพวกเพื่อน ๆ ผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนพวกมันได้แต่ส่ายหน้า

    “เออ เห็นเหยื่อรายใหม่แล้ว เดี๋ยวมานะ”ผมเห็นรุ่นน้องในคณะคนนึงหน้าตาน่ารักดี ตี๋ ๆ หน่อย ผมเลยขอตัวไปจีบน้องเค้า


    ผมทำตัวแบบนี้ คือ จีบคนเค้าไปทั่ว ให้ท่าคนโน้นทีคนนี้ที ใครมาจีบก็เล่นด้วย จนตอนนี้ ผมรู้จักคนมากขึ้นเยอะเลยทั้ง รุ่นพี่ รุ่นน้อง ในคณะ ต่างคณะ

 มีคนที่เดินเข้ามานั่งในซุ้มเพื่อคุยกับผมค่อนข้างเยอะในแต่ละวัน จนบางครั้งผมแทบจะไม่มีเวลาให้เพื่อน ๆ ผมเลย

จนกระทั่งเข้าสู่เทอมที่สอง ผมก็ยังทำตัวในลักษณะเดิม การเรียนที่เคยอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็เริ่มตกลงไป เพื่อน ๆ ผมก็แทบจะไม่มีเวลาให

้ จนพวกมันอดน้อยใจผมไม่ได้ จนโบเคยว่าผมมาแรง ๆ ทีนึง

แต่ผมก็กลับไปทำตัวแบบเดิมอีก จนพวกมันทนไม่ไหว เลิกสนใจผมเลย ไม่มาตามตื้อ ไม่มาสนใจผมเหมือนเคย ผมก็อดที่จะรู้สึกเสียใจไม่ได้นะ

 แต่ในเมื่อผมเลือกที่จะทำในรูปแบบนี้แล้ว ผมก็ต้องทำใจยอมรับในสิ่งที่ผมตัดสินใจ

    ตลอดระยะเวลาหลายเดือน ปอนด์ก็ยังคงโทรมาหาผมทุกวัน ๆ ถามผมอย่างห่วงใยสม่ำเสมอ เรานัดกันออกไปทานข้าวบ้าง

ไปดูหนังบ้างจนผมเริ่มที่จะสนิทและผูกพันกับปอนด์มากขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้วปอนด์นิสัยดีมาก ๆ ผิดกับทีแรกที่เห็นว่าขี้เก็ก

แต่ลึก ๆ แล้วปอนด์ค่อนข้างเป็นคนที่อ่อนโยนเอามาก ๆ เอาอกเอาใจผมตลอด เทคแคร์ ดูแลผมดีมาก ๆ

แต่แม้ว่าผมจะรู้สึกดีกับปอนด์มากแค่ไหนหรือแม้ผมจะสนิทกับปอนด์มากเท่าไรก็ตาม

แต่สิ่งที่ผมให้ปอนด์ได้ก็เพียงแค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น เพราะคำอื่นที่นอกเหนือจากนี้ผมได้ยกให้คนอื่นไปแล้ว แม้ว่าเค้าจะไม่เคยเห็นคุณค่าของมันก็ตาม

 แต่ปอนด์สิ ดูเหมือนว่านับวีนจะยิ่งถลำลึกลงไป ลึกลงไปมากขึ้น เรื่อย ๆ ที่จริงต้องโทษที่ตัวผมเอง เพราะเวลาที่ผมเห็นบูมเดินผ่านมา

 ไม่ว่าผมจะอยู่กับใครก็ตาม ผมจะเข้าไปคลอเคลีย ลูบหัว เข้าไปกอดบ้าง โอบเอวบ้าง เป็นอย่างนี้เสมอ ๆ จนดูเหมือนเป็นกิจวัตรไปแล้ว

ซึ่งหลัง ๆ มานี้ผมไม่ค่อยเห็นบูมเดินกับเค้าคนนั้นแล้ว แต่ผมก็ยังคงแสดงกริยาแบบนั้นอยู่ ปอนด์เองก็โดนผมทำแบบนี้ค่อนข้างบ่อย

จนบ้างครั้งปอนด์เกือบที่จะมาจูบผม ดีที่ว่าผมไหวตัวทันเลยแก้สถานะการณ์ไว้ได้

พี่น้อตที่ตอนแรกผมกะจะจีบในตอนนี้กลับกลายเป้นว่า พี่น้อตเหมือนจะเป็นพี่ชายจริง ๆ ที่แสนดีมาก ๆ ด้วย

เพราะพี่น้อตไม่ได้มาคิดจะจีบอะไรผมตั้งแต่ทีแรกแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงรับเป็นพี่รหัสผมก็ไม่รู้ แล้วอีกอย่างคือพี่เค้ามีแฟนอยู่แล้ว

แต่พี่น้อตก็ยังคงคอยมาให้คำปรึกษา มาเตือนผมบ้าง มาดุผมบ้าง มาลากผมเข้าไปเรียนบ้าง จนทุกคนที่เห็นต่างนึกว่าพี่น้อตเป็นพี่ชายของผมจริง ๆ นะเนี่ย

    ตอนนี้ชีวิตผมก็ยังคงอยู่ในวังวนแบบนี้ ต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั้ง สอบmid-term ผ่านพ้นไป คะแนนที่ผมได้รับเรียกได้ว่า ล้ำเส้นมานิดหน่อย

บางตัวก็แทบจะไม่ถึงครึ่ง บางตัวก็ต่ำกว่าครึ่ง จนเพื่อน ๆ ผมเริ่มจะทนพฤติกรรมของผมไม่ไหว

จึงนัดคุยกับผมที่ห้องประชุมในห้องสมุดของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นห้องส่วนตัวอย่างจริงจังสักที

    “โย นี่แกบ้าพอหรือยัง หา.........หา แกบ้าพอหรือยัง”ออฟพูดกับผมอย่างเหลืออด เมื่อเห็นผมเดินเข้ามาหา

    “เรียนก็ไม่ใส่ใจ นัดกับเพื่อนก็หายหัว นี่แกรู้ไหมแกทำอะไรอยู่”โบเสริม

    “ใช่ นี่แกจะบ้าเพราะผู้ชายคนเดียวแบบนี้นี่นะ แกเอาชีวิตแกไปแลกกับมันทำไม ทำตัวเหมือนคนไร้ค่า”กายบอกผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    “.....................................”ผมเงียบเพราะตกใจไม่คิดว่าพวกเพื่อน ๆ ผมจะโมโหมากมายแบบนี้

    “ดูคะแนนแกสิ เทอมที่แล้วก็แทบจะไม่ถึง สอง นี่กลางภาคก็เกือบไม่ผ่านสักตัว แกเป็นอะไรโย”ออฟถามย้ำอีกครั้ง

    “ออฟอย่าไปพูดกับมันเลย ตอนนี้มันสติแตกไปแล้ว ปล่อยให้มันบ้าผู้ชายแบบนี้ไปเถอะ อย่าไปสนใจมันเลย”โบบอกออฟ

พลางมองผมอย่างดูถูก ซึ่งตั้งแต่ที่ผมรู้จักโบมาหลายปี ไม่เคยที่โบจะมองผมด้วยสายตาแบบนี้เลยทำเอาผมอึ้งไปจริง ๆ

    “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง หา...........บอกฉันสิ จะให้ฉันทำยังไง”ผมตะโกนบอกพวกมันอย่างเหลืออด

    “แกก็น่าจะรู้ดี...เลิกบ้าซะที กลับมาเป็นโยคนเดิมได้แล้ว”กายพูด

    “กาย ก็รู้ว่าเราทำแบบนั้นไม่ได้ เรายังตัดใจไม่ได้”ผมพูดเสียงอ่อยพลางหลบสายตาเพื่อน ๆ

    “งั้นแกก็จริงจังไปเลยสักคนสิ ใครก็ได้ ปอนด์ก็ได้ พี่น้อตก็ได้”โบบอก

    “พี่น้อตมีแฟนแล้วเค้าไม่คิดอะไรกับเราหรอก ส่วนปอนด์ เราไม่ได้คิดอะไรเกินเลยด้วยจริง ๆ นอกจากความเป็นเพื่อน”

    “แล้วที่แกไปลูบหน้าลูบตาเค้า กอดเค้าบ้างล่ะ โอบเอวบ้างล่ะ นี่มันหมายความว่าอะไรมิทราบ”ออฟถามอย่างสงสัยแกมประชด

    “ก็เรา........เราแค่อยากประชดบูมแค่นั้นเอง”ผมตอบไปตามความจริง

    “ประชดด้วยการแสดงอาการให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าแกชอบเค้าเนี่ยนะ ทำไมแกเป็นคนแบบนี้วะ

 แกเคยคิดถึงปอนด์บ้างไหมว่าปอนด์เค้าจะคิดยังไง”กายถามผมอย่างไม่ค่อยพอใจ

    “เราไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น........อย่ามาคาดคั้นอะไรกับเราได้ไหม”ผมตะโกนออกมาแล้วเอามือปิดหู

    “เฮ้อออออออ โยเอ๋ย เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ด้วยนะ”โบพูดอย่างปลง ๆ

    หลังจากการสนทนาในครั้งนี้ พวกเพื่อน ๆ ผมก็ให้ผมสัญญาว่าผมจะกลับไปตั้งใจเรียนแบบเดิม เพราะก่อนหน้านี้ผมมีคะแนนอยู่ในกลุ่มผู้นำมาโดยตลอด

 แต่พอระยะหลังจากเกิดเหตุการณ์ทำให้คะแนนผมตกลงไปอย่างมาก และที่สำคัญคือ พวกมันให้ผมเลิกการติดต่อกับพวกที่ผมไปขายขนมจีบทั้งหลายให้หมด

 แถมให้ผมเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ และนัดเจอกันที่ใหม่แทนที่จะเป็นซุ้มเดิม จะได้ไม่มีคนเดินเข้ามาหาอีก ทีแรกผมก็จะไม่ยอมพวกมันหรอก

 แต่ที่ผมต้องจำใจยอมรับเพราะมันจะเอาเรื่องผลการเรียนของผมไปเป็นตัวประกัน ถ้าผมไม่ทำตามมันจะคาบข่าวไปเล่าให้พ่อกับแม่ผมฟังเรื่องการเรียน

 ผมเลยต้องยอมจำนน เพราะถ้าพวกมันไปบอกแม่ หรือ พ่อผมจริง ๆ ผมต้องโดนเทศน์แน่ ๆเลย

ดีไม่ดีอาจจะถูกจับไปทำงานที่เชียงใหม่แทนที่จะได้เรียนที่หรุงเทพฯอีกต่างหาก ผมเลยต้องยอมอ่อนข้อให้ก่อน......

    ระหว่างนั้นผมเริ่มกลับมาเรียนอีกครั้งนึง โดยที่เรียนรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้างเพราะผมห่างไปนาน ต้องคอยอาศัยเพื่อน ๆ ในกลุ่มคอยช่วยเหลือ ติวให้บ้าง

 ให้ยืมเล็คเชอร์บ้าง ถ้าไม่เข้าใจจริง ๆ ก็ไปขอยืมเล็คเชอร์มาจากเพื่อนอีกกลุ่มนึง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็กลุ่มของแพทนั่นแหละครับ

 ผมเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง มาเรียน ไปเดินห้างกับพวกไอ้โบตอนเย็น มีคนที่ผมเคยจีบ ๆ มาหาบ้างประปลาย มีที่สม่ำเสมอก็คือ

 ปอนด์ที่ยังคงโทรมาหาผมทุกวัน ก็จะให้ทำไงได้เค้ารู้เบอร์โทรที่บ้านผมแล้วนิ จะให้ปฎิเสธก็เป็นไปไม่ได้ อีกอย่างปอนด์ก็เป็นคนที่น่าคบด้วยจริง ๆ

 ส่วนพี่น้อตก็ยังคงเป็นพี่ชายที่แสนดีอย่างสม่ำเสมอ อาจจะดูดุไปบ้างแต่ก็เป็นห่วงผมอย่างจริงใจจริง ๆ

ส่วนเรื่องบูมผมก็เริ่มจะทำใจขึ้นมาได้อีกติ๊ดนึงแล้ว แม้ว่าจะเป็นแค่เศษเล็ก ๆ

 แต่ก็ยังดีที่ตอนนี้ผมไม่ต้องไปกังวลว่าจะต้องคอยทำให้บูมเห็นว่าผมกำลังกอดกับใครอยู่

ผมได้ก้าวผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่ผมก็ยังคงแอบมองเค้าอยู่ตลอดเวลา ส่วนพวกเพื่อน ๆ เค้าก็ยังคงยิ้มให้ผมเหมือนเดิมซึ่งผมเองก็ไม่ได้อะไร

ก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน จนเวลาล่วงเลยไปใกล้จะสอบ final เพื่อขึ้นไปปีสามแล้ว .....

    “ฮัลโหล นี่พี่วิทย์นะครับ น้องโยสบายดีหรือเปล่าครับ”สิ้นเสียงกับปลายสายผมตกใจจนโทรศัพท์แทบหล่น............


    จบตอนที่ 20 แล้วครับ ช่วงท้าย ๆ เรื่องผมจะพยายามกระชับเนื้อเรื่องให้ได้มากที่สุดนะครับ เพราะกะว่าจะไม่ให้จบเกินตอนที่ 25 ประมาณนั้น

ยังไงก็ขอให้ติดตามอ่านบทสรุปส่งท้ายความรักในเรื่องนี้ได้นะครับ ขอบคุณครับ

******************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 05-01-2007 14:49:31
ไหงเป็นงี้ไปได้หว่า :sad4:

แล้วบูมเป็นอะไรไปอ่ะ โอ้ยๆๆๆไม่เข้าใจโว้ยยยยยยยยยยยยย เป็นอะไรกันเนี่ย :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-01-2007 14:58:06
ไม่เข้าใจด้วยคน  :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:

อะไรกันนี่ อุตส่าห์ฝ่าฟันอะไรมาหลาย ๆ อย่างด้วยกัน และจะมาเข้าใจผิดกันด้วยเรื่องแค่นี้

ทำไมไม่คุยกันดี ๆ   :serius2:  :serius2:  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 05-01-2007 15:51:57
เฮอจะมีอะไร ทำให้คนสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือเปล่า หรือว่าจะไม่มีวัน ................................. :monkeysad2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 05-01-2007 16:13:22
เฮ้ยๆๆ มันเกิดอะไรขึ้นนี้....บูมทำอะไรอ่ะของบูมนะ ไม่มีปี่มีขลุยเลย :confuse:


น่าสงสารโยจัง ความคิดที่จะประชดคนที่เรารัก มักเกิดขึ้นกับหลายๆคนเลยนะ...ผมก็ด้วยคนนึง


ความเสียใจ อารมณ์ตอนนั้นทำให้เราทำอะไรลงไป ทั้งๆที่ไม่ใช่ตัวเรา..........


แต่ในทึ่สุดสิ่งที่จะทำให้เรากลับมาเป็นคนเดิมก็คงจะเป็นครอบครัว และเพื่อนๆ ที่รักเราจริง...


โยโชคดีที่มีเพื่อนที่รักและเป็นห่วงโยอย่างจริงใจ.....


เรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไง ก็จะรอติดตามต่อนะครับ.....แต่อึดอัดนะ ทำไมบูมไม่พูดไม่ทำอะไรเลย... :untrust:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 05-01-2007 17:56:18
ไม่เข้าใจด้วยคน  บ้ากันไปหมดเลย  งง  โยอ่อนแอจังเลย  เฮ้อ  รออ่านต่อดีก่า  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: box_breathe ที่ 05-01-2007 22:22:08
ตกลงนายบูมนี่เป็นอะไรไปนี่ !!

รีบๆมาต่อเร็วๆน้า....  :monkeycry2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 06-01-2007 09:21:55
"ตอนที่ 21"

    “ฮัลโหล นี่พี่วิทย์นะครับ น้องโยสบายดีหรือเปล่าครับ”สิ้นเสียงกับปลายสายผมตกใจจนโทรศัพท์แทบหล่น............

    “พี่วิทย์...........”ผมตกใจมากๆ ที่อยู่ ๆพี่วิทย์ก็โทรศัพท์เข้ามาที่มือถือใหม่ของผม

เพราะว่าตั้งแต่ผมเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ตามคำสั่งของเจ้าพวกเพื่อน ๆ ตัวดีของผม

ผมก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้พี่วิทย์รู้เลย แล้วอยู่ ๆ พี่เค้าจะรู้ได้ไง

    “ครับน้องโย พี่เองครับ เปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่ไม่ยอมบอกพี่เลยนะ กลัวว่าพี่จะไปวุ่นวายใช่ป่ะ”พี่วิทย์พูดน้ำเสียงตัดพ้อ

    “เปล่าครับพี่ พอดีช่วงนี้มีเรื่องนิดหน่อยอ่ะครับ เลยลืมบอกพี่วิทย์ไป”ผมพูดเพื่อปลอบใจพี่วิทย์

    “ก็แน่ดิครับ เห็นว่าน้องโยมีคนมาจีบเยอะแยะเลย เลยลืมพี่คนนี้แล้วอ่ะดิ”พี่วิทย์พูดเสียงเศร้า

    “ไม่ได้ลืมครับ แต่.........”ผมกำลังจะพูดต่อ แต่ เอ๊ะ ทำไมพี่วิทย์รู้เรื่องนี้ล่ะ “แล้วพี่วิทย์รู้ได้ไงครับ อย่าบอกนะว่า เดา”ผมถามอย่างสงสัย

    “เอาเป็นว่าพี่รู้แล้วกันน่ะ แต่ลุคใหม่น้องโยน่ารักจริง ๆ นะ พี่อยากจะเห็นด้วยสายตาตัวเองจะแย่อยู่แล้ว

เห็นแต่รูปอ่ะ เห็นท่าเดี๋ยวปิดเทอมนี้ต้องลงไปกรุงเทพฯซะแล้ว”

    “เฮ้ยยยยย.....อย่างนี้ไม่ธรรมดาแล้ว มีรูปผมด้วย ตกลงพี่วิทย์จะบอกได้หรือยังว่า พี่วิทย์รู้เรื่องผมได้ยังไง”

 ผมรู้สึกแปลกใจในสิ่งที่พี่วิทย์พูด

    “555 อ่ะ บอกก็ได้ .... จำตอนที่พี่ไปหาน้องโยที่กรุงเทพฯได้หรือเปล่าครับ ที่พี่บอกว่ามีเพื่อนอยู่ที่คณะน้องโยด้วยน่ะ

 คนนั้นแหละ”พี่วิทย์อธิบายแล้วผมก็คิดตาม จนสุดท้าย

    “........ไอ้พี่น้อต........มิน่าละ ทำไมชื่อถึงคุ้น ๆ”ผมอุทานชื่อ ตัวต้นเหตุ ออกมา

    “ใช่แล้วครับ เนี่ยอ่ะ ซี้พี่เลยนะ”

    “แล้วไอ้พี่น้อตมันเผาผมว่ายังไงบ้างอ่ะครับ”

    “ไม่มีอะไรหรอกครับน้องโย ว่าแต่ตอนนี้พี่มีสิทธิ์แล้วใช่ไหมครับ”

    “สิทธิ์อะไรครับพี่”ผมถาม งง ๆ

    “ก็สิทธิ์ที่พี่จะได้จีบน้องโยได้สะดวกไงครับ”พี่วิทย์พูดจนผมอึ้งตอบไม่ถูก

    “เอ่อ ... คือ”ผมไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาแก้ตัวได้ เพราะแม้ว่าผมจะพยายามเปลี่ยนตัวเองแบบไหนก็ตาม

บทสรุปที่ได้ ก็ยังคงเป็นแบบเดิม

    “น้องโยยังไม่ต้องตอบพี่ตอนนี้ก็ได้ พี่รอน้องโยได้เสมอครับ แต่ที่ทำให้พี่เสียใจมาก ๆ ก็คือ

ทำไมเวลาน้องโยมีอะไรไม่สบายใจน้องโยไม่บอกพี่เลย อย่างน้อยพี่ก็เป็นคนนึงที่รักน้องโยด้วยใจจริง

 แม้ว่าพี่จะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก แต่พี่ก็ยินดีที่จะรับฟังความทุกข์ของน้องนะครับ”

พี่วิทย์พูดด้วยความจริงใจ จนผมรู้สึกอบอุ่น

    “ขอบคุณจริง ๆ ครับพี่วิทย์ แต่เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ช่างมันเถอะครับ”ผมบอกด้วยความรู้สึกประทับใจ

    “ถ้าอย่างงั้น เวลามีอะไรน้องโยมีอะไรไม่สบายใจต้องบอกพี่นะครับ ไม่ใช่ให้พี่ตามสืบจากไอ้น้อต”

    “อ้าว ตกลงนี่ที่ไอ้พี่น้อตมันเป็นสปายหรอกหรือเนี่ย โหหหห ที่เค้ายอมรู้จักผมนี่เป็นเพราะพี่วิทย์หรอกหรือ”

    “555 ทีแรกก็ใช่อ่ะครับ แต่พอหลัง ๆ มันบอกว่า มันรักน้องโยเหมือนน้องมันคนนึงเลยนะ

ดีนะที่มันไม่ได้ชอบผู้ชาย ไม่งั้นพี่คงไม่กล้าปล่อยน้องโยให้เป็นน้องมันหรอก”

    “แล้วตอนนี้ที่รีสอร์ตเป็นยังไงบ้างครับพี่วิทย์”

    “ก็เรื่อย ๆ นะครับ กำลังรอผู้บริหารคนใหม่อีกสองปีข้างหน้ามาช่วยบริหารอยู่ไง

เหมือน ๆ กับพี่ทีรอน้องโยให้มาช่วยดูแลหัวใจให้เช่นกัน”

    “โห พี่วิทย์คิดได้ไงเนี่ย.....555”

    “จริง ๆ นะครับ พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ มีแต่โยอ่ะที่ใจแข็ง”

    “คือ ผม.....ผม”

    “ไม่เป็นไรครับน้องโย พี่บอกแล้วว่าพี่รอได้ พี่จะรอจนกว่าน้องโยจะรักพี่จริง ๆ

เออ...นี่ก็ดึกมากแล้วพี่ไม่กวนเรานอนแล้วนะครับ ฝันดีนะครับน้องโย”

    “ครับพี่ ขอบคุณจริง ๆ ครับพี่วิทย์”

    หลังจากที่ผมวางหูจากพี่วิทย์แล้ว กำลังจะเดินไปอาบน้ำ ปอนด์ก็โทรเข้ามาพอดี

    “ว่าไง ทำไมวันนี้โทรมาซะดึกเลยล่ะ”ผมพูดขณะรับสายของปอนด์ ซึ่งพักหลัง ๆ

 มานี้ผมเริ่มที่จะสนิทกับปอนด์มากขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่าตั้งแต่ผมมีเรื่องกับบูม

 และเริ่มที่จะเปลี่ยนตัวเองผมกับปอนด์ก็คุยกันแทบจะทุกวัน

 แถมปอนด์ยังเป็นคนที่คอยให้กำลังใจและคอยปลอบผมอยู่เรื่อย ๆ ทำให้ผมรู้สึกดีกับปอนด์มาก ๆ

    “ใครว่า เราโทรมาตั้งหลายครั้งแล้ว แต่โยนั่นแหละที่ติดสายอยู่อ่ะ คุยกับใครอยู่เหรอ”ปอนด์พูดแบบงอน ๆ

    “คุยกับพี่ที่เชียงใหม่ ทำไมหรอ”ผมตอบไปตรง ๆ เพราะผมไม่ได้คิดอะไรกับปอนด์จริง ๆนอกจากคำว่าเพื่อน

    “โห นี่ขนาดหนุ่มเชียงใหม่ยังมาหลงเสน่ห์โยเลยหรอ ไม่ได้การละ เราต้องเร่งทำคะแนนแล้ว”ปอนด์หยอก

    “ทำคะนงคะแนนอะไร พี่วิทย์เค้าโทรมาถามว่าสบายดีไหมแค่นั้นเอง”

    “ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปกินข้าวเย็นกับเราด้วยนะ”ปอนด์พูดกึ่งบังคับ

    “เรื่องอะไร เชื่อก็กลัวดิ...แต่ถ้าเลี้ยงเราจะไป 555”

    “ก็ได้เราเลี้ยงก็ได้ ว่าแต่ว่าโยต้องไปจริง ๆ นะ ไปคนเดียวด้วย คราวก่อนก็ให้เราเลี้ยง

โยเล่นพาไปยกแก็งค์ คิดดูดิ...ฟูจิ...เราแทบจะกระเป๋าฉีก”ปอนด์พูดติดตลก

    “555 อ้าวก็เราถามแล้วไงว่าอยากพาไปที่ไหน ปอนด์ก็เลือกไปฟูจิเองไม่ใช่หรอ” ผมแซว

    “ก็ทีแรกนึกว่า จะไปกันแค่สองคนอ่ะ นี่เล่นพาเพื่อนไปอีกสามเป็น สี่คน แถมออฟยังพาแฟนไปอีก

โห แต่ละคนอย่างกับไม่ได้กินอะไรมาเป็นปีอย่างงั้นอ่ะ เรานี่เหงื่อตกเลยดีนะที่พกบัตรเครดิตไป”ปอนด์บ่นนิด ๆ

    “เอาน่ะ แค่นิดเดียว ขนหน้าแข็ง นายหัวปอนด์ไม่ร่วงหรอก”ผมแซว

(ลืมบอกไปว่าปอนด์เป็นคนกรุงเทพแต่พ่อแม่มีธุรกิจฟาร์มหอย ฟาร์มกุ้งที่ภาคใต้ ผมเลยแซวปอนด์ว่าเป็นนายหัวบ่อย ๆ)

    “นาน ๆ ทีก็พอได้ แต่ถ้าบ่อย ๆ เราก็ไม่ไหวอ่ะ ตกลงครั้งนี้เราไปสองคนนะ โยนะ

เราไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันสองต่อสองเลย”

    “เอาไว้พิจารณาอีกทีได้ป่ะ ไปกินกันแค่สองคนไม่สนุกหรอก”

    “เราอยากไปไหนกับโยสองต่อสองบ้างอ่ะ นะ นะ ได้ป่าว สัญญาว่าจะขับรถไปส่งถึงบ้านเลย”

    “ก็ได้ แล้วจะไปกินกันที่ไหนล่ะ”

    “เออน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้เอง ความลับ”

    “ถ้าความลับงั้นไม่ไปก็ได้”

    “โห ไรวะ แค่นี้งอน เอาเป็นว่า พรุ่งนี้ก็รู้เองนะ ไปนะ นะครับ”

    “อืม ๆ ๆ”

    “เย้ ตกลงไปจริง ๆ นะ เดี๋ยวปอนด์ไปรับพรุ่งนี้ตอนเย็นที่ห้องสมุดนะครับ งั้นไม่กวนละ แค่นี้นะครับ ฝันดีครับ”


    วันรุ่งขึ้นผมไปเรียนตามปกติ ผมเดินผ่านซุ้มที่ผมเคยนั่งประจำด้วยความรู้สึกหดหู่

ชวนให้นึกถึงวันเวลาเก่า ๆ ที่ผมทำตัวไม่ดี จนเพื่อน ๆ ต่อว่า ดีนะที่ผมยังมีเพื่อนที่ดี

เพื่อนที่คอยประคับประคองผมให้เดินไปในทางที่ดี ถ้าผมไม่มีเพื่อน ๆ แบบนี้ บางทีผมอาจจะเสียคนไปเลยก็ได้

 .....ผมเดินต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงห้องเรียน ซึ่งเพื่อน ๆ ผมก็มานั่งรอกันหมดแล้ว ช่วงใกล้สอบ

อาจารย์ส่วนใหญ่ต้องเร่งสอนให้จบตามหลักสูตรและเนื้อหาที่ตัวเองออกข้อสอบไป ช่วงนี้พวกเราเลยต้องเรียนค่อนข้างหนัก

 ผมเองก็เช่นกัน ตอนนี้ผมเรียนทันเพื่อน ๆ แล้ว แต่ผมต้องขยันมากกว่าพวกมันเป็นพิเศษ

 เพราะว่าคะแนนช่วงกลางภาคผมไม่ดีมาก ๆ เลยต้องทำคะแนนปลายภาคให้ดี ๆ

จริง ๆ แล้วผมไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ แต่ผมไม่อยาก ดร็อปเรียน อยากจะไปเรียนพร้อม ๆ กับพวกมัน

ผมเลยต้องพยายามมากกว่าที่เคยเป็น แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ผมก็ยังคงแอบมองบูมอยู่เสมอ ๆ

 และมีบางครั้งที่สายตาของเรามาประสานกัน แต่ตัวผมเองที่คอยหลบตาเค้าอยู่เสมอ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน

วันนี้เองก็ใช่ ขณะที่ผมจ้องไปยังบูมที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้าผม

 บูมก็หันหลังกลับมาคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ด้านหลังและมองมาที่ผมพอดี แทนที่ผมจะยิ้มให้เค้า

แต่กลับก้มหลบสายตาเค้าแทน มันเป็นแบบนี้เสมอ ๆ จนตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่า นับวันเรายิ่งห่างกันไปไกลขึ้นทุกที ทุกที.....

    ในตอนเย็น ผมกับเพื่อน ๆ มานั่งที่ห้องสมุด ซึ่งตอนนี้กลายเป็นจุดนัดพบของพวกเราแทนซุ้มเดิมที่ผมเคยนั่งประจำ

 ผมนั่งอ่านหนังสือรอปอนด์ไปพลาง ๆ ส่วนพวกเพื่อน ๆ ผมวันนี้มันมีโปรแกรมไปดูหนังกัน

ทีแรกพวกมันก็จะชวนผมไปด้วยแต่ผมดันมาติดธุระกับเจ้าปอนด์นี่แหละ

พวกเพื่อน ๆ ผมเลยมานั่งรอเป็นเพื่อนเพราะพวกมันกะไปดูรอบดึกๆ กัน

แล้วอีกอย่างพวกมันก็ยังไม่ค่อยจะวางใจให้ผมอยู่คนเดียว คงกลัวว่าผมจะยังคิดไม่ได้ละมั้ง เฮ้ออออออออออ..........

    “ว่าไงจ๊ะปอนด์ ชวนโยไปกินข้าวคนเดียวเลยนะ”ออฟแซวปอนด์ที่เดินเข้ามาหาผม

ตอนนี้ปอนด์เริ่มจะสนิทกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มผมมากขึ้นแล้ว

    “แหะ แหะ แหะ”ปอนด์หัวเราะแห้ง ๆ

    “ใครจะไปเลี้ยงแกไหวล่ะออฟ กินอย่างกับเครื่องดูดฝุ่น ไม่อิ่มซักทีแถมยังพาแฟนไปกินอีก

 ถ้าเป็นฉันคงหนีกลับไปให้แกจ่ายกันเองแล้ว”ไอ้โบกัดออฟที่ตอนนี้หันกลับไปจะเอาเรื่องโบเช่นกัน

    “ใช่สิฉันมันกินเยอะนี่ แต่ฉันน่ะกินของถูก ๆ กินเยอะก็ไม่เท่าไหร่ แต่แกสิโบ กินแต่ละจานนี่ไม่คิดว่าเค้าเลี้ยงเลยนะยะ

 เล่นเกือบกระเป๋าฉีก ถ้าเป็นฉัน ฉันคงไล่แกให้ไปนั่งกินคนเดียวแล้ว”ออฟแขวะกลับ

    “พอเลย พอเลย มิน่าเค้าถึงไม่กล้าเลี้ยงพวกแกกัน ว่าแต่ว่า ให้เราไปด้วยได้ป่ะ หิวเหมือนกัน”กายพูด

    “เอ่อ.....วันนี้ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะครับ วันนี้เราขอไปกับโยสองคนนะ

ไว้วันหลังเราจะมาให้ล้มทับอีก จริง ๆนะ เราสัญญา” ปอนด์บอก

    “สัญญาแล้วนะ ได้ยินใช่ไหมแก ปอนด์สัญญาแล้ว”ดูออฟสิครับ

หันไปดีใจกับไอ้โบจนออกนอกหน้ากะอีแค่กินฟรีเฮ้อออออออออ

    “ครับสัญญา ..... ไปกันหรือยังครับโย” ปอนด์พูดพลางหันมาเรียกผม

    “ไปดิไป ไปก่อนนะแล้วเจอกัน” ผมหันไปเอ่ยลาเพื่อน ๆ พลางสะกิดออฟที่กำลังวาดฝันกับอาหารฟรีมื้อเด็ด

    ผมนั่งรถไปกับปอนด์จนถึงที่สยาม ปอนด์นำรถไปจอดและพาผมเดินเข้าไปกินอาหารที่ร้าน MK

    “MK เนี่ยนะ ไม่เห็นต้องปิดเป็นความลับเลย นึกว่าจะพาไปกินที่ไหนซะอีก”ผมบ่นกับปอนด์หลังจากได้ที่นั่งแล้ว

    “ก็ MK นี่แหละ โยจำไม่ได้หรอ ว่าที่นี่เป็นที่แรกที่เราเจอกันเลยนะ ปอนด์อยากมาเลี้ยงอาหารโยที่นี่

เพราะวันนี้เป็นวันเกิดปอนด์อ่ะครับ โยคงไม่ว่าอะไรนะที่ปอนด์เลือกที่นี่แทนที่จะเป็นที่อื่น” ปอนด์พูดยิ้ม ๆ

    “อ้าววันนี้วันเกิดปอนด์หรอกหรอ ไม่เห็นบอกเราเลย แย่จังเราไม่ได้เตรียมอะไรมาให้เลย ข

อโทษจริง ๆ นะ”ผมขอโทษปอนด์อย่างรู้สึกผิดจริง ๆ

    “ไม่เป็นไร ก็ปอนด์ไม่ได้บอกโยนี่ แล้วโยจะรู้ได้ไงอ่ะครับ แค่โยมากินข้าวกับปอนด์

ปอนด์ก็มีความสุขที่สุดแล้ว”ปอนด์ยิ้มกว้าง

    “งั้นวันนี้ให้เราเลี้ยงนะ ห้ามปฎิเสธ ไม่งั้นเราโกรธจริง ๆ ด้วยนะ” ผมขู่แกมบังคับ

    “โห เอางั้นเลยหรอ ได้ครับ งั้นปอนด์ไม่เกรงใจแล้วนะ” ปอนด์ยิ้มอย่างดีใจ แล้วหันไปกวักมือเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร

 ระหว่างนั้นผมก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จริง ๆแล้วผมไม่ได้ตั้งใจจะไปเข้าห้องน้ำหรอกครับ

แต่จะแอบไปซื้ออะไรให้ปอนด์น่ะ เลยรีบแว๊ปไปซื้อของในสยามแทนที่จะไปห้องน้ำ

    ผมเดินหาซื้อของขวัญให้ปอนด์ แต่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ดี เผอิญผมเดินไปเห็นสร้อยคอที่ทำจากทองคำขาว

มีจี้ห้อยรูปตัว P ไว้ด้วยผมเลยตัดสินใจซื้อสร้อยอันนี้ให้ เพราะตัว P แทนคำว่า ปอนด์พอดี

จากนั้นก็รีบไปให้เค้าห่อของขวัญให้

 ผมเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายเพราะกลัวว่าปอนด์จะสงสัยที่ทำไมผมถึงไปเข้าห้องน้ำนาน ๆ

พอได้กล่องของขวัญเสร็จ ผมแทบจะวิ่งไปที่ร้าน MK เลยอ่ะครับ หลังจากที่ผมมาถึงที่ร้านแล้ว

ผมก็เดินเข้าไปที่โต๊ะพลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่มที่นั่งรออยู่ ตอนนี้อาหารถูกนำมาวางเรียบร้อยแล้ว

 ปอนด์เห็นผมเดินมาก็อดแซวไม่ได้

    “โหไปตั้งนาน ทีแรกนึกว่าจะหนีไปซะแล้ว”ปอนด์แซวผม

    “ป่าว พอดีเจอเพื่อนน่ะ เลยทักทายนิดหน่อย”ผมแกล้งโกหกปอนด์เพราะต้องการจะ เซอร์ไพส์เค้า

    “งั้นกินกันเลยนะ”

    จากนั้นผมกับปอนด์ก็นั่งกินสุกี้กันจนอิ่มเรียบร้อยก็เรียกพนักงานมาเช็คบิล

 จากนั้นเราสองคนก็ไปเดินเล่นกันต่อเพื่อย่อยอาหาร เราสองคนเดินเล่นกันสักพัก

ปอนด์ก็ชวนผมไปดูหนัง ซึ่งผมก็ตกลงเพราะวันนี้เป็นวันเกิดเค้านิ ต้องตามใจหน่อย

    เราไปดูหนังกันที่ MBKโดยผมให้ปอนด์เป็นคนเลือก ส่วนผมได้แต่เป็นคนจ่ายเงินเพราะผมขอเป็นเจ้าภาพเอง

 เรานั่งดูหนังกันไปสักพักนึง (ไม่ใช่หนังโรแมนติคนะ แต่เป็นพวก แอคชั่นมากกว่า)

 ผมก็แอบเอากล่องที่ผมซื้อให้เป็นของขวัญไปวางไว้บนตักของปอนด์

ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวหันมายิ้มอย่างดีใจ เหมือนกับเด็ก ๆ ไม่มีผิดเลยครับ

    “โหหห ที่หายไปนี่เป็นซื้อมาให้เราหรอ ขอบใจมาก ๆ เลยนะ”ปอนด์หันมากระซิบผม

    “อืมม....อย่าเขย่าดิ เดี๋ยวค่อยแกะรอให้หนังจบก่อนนะ”ผมเตือนปอนด์เพราะตอนนี้เค้าไม่สนใจหนังที่ดูแล้วอ่ะครับ

 แต่หันไปสนใจของขวัญแทน

    “รอไม่ไหวแล้วอ่ะ แกะเลยได้ป่าว”ปอนด์พูดอย่างกับเด็ก ๆ

    “รอก่อนดิ หนังใกล้จะจบแล้ว”ผมปรามปอนด์อย่างขำ ๆ

    “ก็ได้”ปอนด์พูดแล้วก็ยังคงสนใจกับของขวัญที่ผมซื้อให้อยู่ดี

    พอหนังจบ เราสองคนเดินออกมาจากโรงหนังไปแวะกินไอศกรีมกันก่อนกลับ

    “แกะได้ยังอ่ะ”ปอนด์ถามหลังจากนั่งลงที่โต๊ะ

    “แกะก็แกะสิ”ผมตอบยิ้ม ๆ

    หลังจากที่ปอนด์แกะของขวัญออกดูแล้วเห็นเป็นสร้อยรูปตัว P ยิ่งยิ้มใหญ่เลย

แบบแสดงอาการดีใจมาก ๆ จนผมอดขำไม่ได้

    “ทำไมต้องยิ้มขนาดนั้นด้วยล่ะ”ผมถามอย่างขำขำ

    “จะให้ไม่ดีใจได้ไง วันนี้ปอนด์ได้รับของขวัญชิ้นพิเศษจากคนที่สำคัญมาก ๆ สำหรับปอนด์

ปอนด์ก็ต้องดีใจสิ”ปอนด์พูดยิ้ม ๆ แต่ผมสิ อึ้งเลยครับ เฮ้ออออ ผมคงลืมคิดไปว่าปอนด์เค้าคิดกับผมมากกว่าคำว่าเพื่อน

 แม้ว่าสิ่งที่ผมทำไปจะทำไปเพียงแค่ในฐานะของความเป็นเพื่อน แต่สิ่งที่ปอนด์คิดนี่สิ มันไม่ใช่เลย

    “ไม่เป็นไรหรอก เพื่อเพื่อนแค่นี้จิ๊บจ๊อย”ผมต้องแอบเตือนให้ปอนด์รู้ว่า เราเป็นเพื่อนกันนะ

โดยพยายามถนอมน้ำใจปอนด์ให้มากที่สุด

    “.....................................”ปอนด์อึ้งกับคำพูดของผม ดวงตาที่สดใสกลับสลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด

จนผมต้องแกล้งเปลี่ยนเรื่องพูด

    “แล้วนี่ปอนด์จะใส่เลยหรือป่าว”ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่องพูด

    “ใส่เลย โยช่วยใส่ให้หน่อยได้ป่าว นะ นะ”ปอนด์มีสีหน้าสดใสขึ้นมาหน่อย

    “ก็ได้”ผมรับสร้อยเส้นนั้นมา และก้มลงสวมสร้อยให้ปอนด์

    ทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นมามอง ผมก็ต้องตกใจจนแทบช็อค

    ..................................................................บูม..........................................นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่

    จบตอนที่ 21แล้วครับ ตอนนี้ผมพยายามจะบีบเนื้อเรื่องให้จบตามที่คิดไว้ในตอนแรกให้ได้ แต่ไป ๆ มา ๆ

 ทำไมยิ่งตัดมันยิ่งยืดก็ไม่รู้ 555 เอาเป็นว่าจะพยายามสรุปให้จบละกันนะ อย่าเพิ่งเบื่อกันไปซะก่อนนะครับ

******************************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-01-2007 09:41:18
อ่านแล้วอึดอัด  :monkeysad:

เมื่อไหร่อะไรต่อมิอะไรมันจะลงตัวซะทีน้า  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-01-2007 10:16:35
โอยยย บีบใจคนอ่านจริงๆ  :sad5:  บูมโล่มาจากไหน แล้วจะยังไงกันนี่....


มาต่อไวๆนะคร้าบบพูห์ จุ๊บๆ  :myeye:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 06-01-2007 11:31:19
อารายว๊า  . . .  :serius2: :serius2: :serius2:
ช่างอ้ายบูมมันเต๊อะ มันจะยังไงก็ช่างมัน
เกลียดบูมแล้วอ่ะ :monkeysad:

ตามอ่านไม่เคยเบื่อเลยครับ รีบเอามาลงต่อนะครับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 06-01-2007 14:46:46
 :impress: อย่าปล่อยให้รอนานนะครับ กะลังซาหนุกเลย ลุ้น ๆ บูมมาได้งาย ....
<อยากให้ 2 คนนี้กลับมาคืนดีกานจาง :like2:>
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: _blue_ ที่ 06-01-2007 20:32:24
 :seng2ped: เซ็งบูม
หงะ ..... มา ต่อไวๆ นะกั๊บ .... :monkeylove2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 08-01-2007 10:01:58
"ตอนที่ 22"
..................................................................บูม..........................................นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่

ผมตกใจกับภาพที่ปรากฎเบื้องหน้า เมื่อผมเห็นชายหนุ่มที่ผมรักกำลังจ้องมองดูผม ซึ่งกำลังใส่สร้อยคอให้กับชายหนุ่มอีกคนนึงอยู่

ในตอนนี้ความรู้สึกของผมไม่ได้ต้องการที่จะทำไปเพื่อประชดประชัน หรือต้องการทำไปเพื่อที่จะให้อีกฝ่ายต้องเจ็บปวด

แต่ผมเองกลับรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างประหลาดทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้เป็นอะไรกับบูมแล้วก็ตาม
 
ผมมองตามบูมที่เดินผ่านผมไปด้วยความรู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ จนต้องตัดสินใจลุกขึ้นไปเพื่อไปตามหาเค้า

เพื่อที่จะอธิบายเหตุการณ์ต่างๆให้เค้าได้รับรู้

“ปอนด์เราไปเข้าห้องน้ำแป๊ปนึงนะ เดี๋ยวเรามา”ผมบอกปอนด์ที่ขณะนี้กำลังสนใจกับสร้อยคอที่ผมซื้อให้อยู่อย่างมีความสุข

“อืมมม....อย่าไปนานนะเดี๋ยวไอศกรีมละลาย”ปอนด์บอกผมแล้วก็หันไปให้สนใจกับสร้อยต่อ

ผมเดินออกมาหาบูมอย่างเร่งรีบ เพราะอยากจะเข้าไปอธิบายเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นอย่างไร ผมเดินหาบูมไปได้สักพักใหญ่ก็รู้สึกหมดหวัง

เพราะหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอจนผมเลิกที่จะหาแล้ว ผมเลยเดินเข้าไปที่ห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างมือ ก่อนจะกลับไปหาปอนด์

ขณะที่ผมกำลังล้างมือที่อ่างล้างหน้าอยู่นั้น ผมก็ได้ยินเสียงคนกำลังเปิดประตูเข้ามาในห้องน้ำ

ทีแรกผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าคงจะมีคนมาเข้าห้องน้ำ แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ผมต้องหันหลังกลับไปก็คือ…..

“คนนั้นแฟนโยหรอ น่ารักดีนะ”เสียงชายหนุ่มที่ผมกำลังตามหาอยู่ดังมาจากทางด้านหลังของผมจนผมต้องรีบหันกลับไปมอง

“เปล่านะ เค้าไม่ใช่แฟนเรา บูมอย่าเข้าใจผิดสิ”ผมรีบแก้ตัวอย่างร้อนรนไม่รู้เป็นเพราะสาเหตุอะไรทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว

“ไม่ต้องมาหลอกเราหรอก เห็นคุยกันกระหนุงกระหนิงตั้งแต่ในโรงหนังแล้ว”บูมพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเศร้า

และแววตาที่แสดงอาการเจ็บปวดจนผมเริ่มที่จะทำตัวไม่ถูก

“เพื่อนกันจริง ๆ ... ไม่เชื่อก็ตามใจ เพราะตลอดเวลาบูมก็ไม่เคยเชื่ออะไรเรา ไม่เคยสนใจว่าเราจะทำอะไร เป็นยังไง

 รู้สึกยังไงอยู่แล้วนี่”ผมตอบไปด้วยความรู้สึกน้อยใจมาก ๆ จนน้ำตาเกือบที่จะไหลออกมา

“โยรู้ได้ยังไงว่าเราไม่เคยสนใจโย มีแต่โยนั่นแหละที่ไม่เคยรู้อะไรเลย”บูมมองผมด้วยแววตาที่เจ็บปวด

“ใช่สิ เราไม่เคยรู้อะไรเลย บูมถึงได้มีคนอื่นไงล่ะ”ผมพูดประชดด้วยความรู้สึกอัดอั้นและน้อยใจอย่างที่สุด

“ใครที่มีคนอื่นก่อนกันแน่ ถ้าเราน่ะ ไม่ใช่แน่นอน”บูมตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พอเถอะ เถียงไปก็เท่านั้นมีแต่จะทำให้เสียความรู้สึกมากไปกว่านี้”ผมรีบตัดบทเพราะไม่อยากให้เราต้องรู้สึกแย่มากไปกว่านี้

 “แล้วนี่บูมมาดูหนังกับแฟนหรอ” ผมถามกลับไปบ้าง

“อืมมมม.....ใช่มั้ง”บูมตอบกวน ๆ จนผมเริ่มที่จะโมโหบ้างแล้ว

“ไม่ต้องมาแกล้งฟอร์มหรอกใช่ก็บอกว่าใช่ ตอนนี้โสดแล้วนิ จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ เราไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว เราจะไปหาเพื่อนเราก่อนละ

เค้ารอเรานานแล้ว”ผมพูดจบก็ตัดสินใจเดินออกไป

“โยเองก็เหมือนกันแหละ ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีหรอก เราก็ไม่ได้สนใจโยตั้งนานแล้ว จำไว้ด้วย”บูมตะโกนไล่หลังผมออกมา

ทันทีที่ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ผมก็ต้องชะงัก เมื่อผมเห็น คนที่ทำให้ผมต้องเลิกกับบูม คนที่เป็นมือที่สามระหว่างเรา คนที่บูมยืนกอดด้วยวันนั้น

ยืนรอบูมอยู่ตรงทางออกของห้องน้ำพอดี ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกตบหน้าฉาดใหญ่จนหน้าผมชา ผมพยายามเก็บความรู้สึกเสียใจเอาไว้

 แล้วเดินผ่านออกไป จนถึงที่สเวนเซนต์ ผมตัดสินใจบอกปอนด์ว่าขอตัวกลับบ้านก่อน เพราะติดธุระ ทีแรกปอนด์จะไม่ยอมให้กลับ

 เพราะปอนด์สัญญาว่าจะไปส่งผมที่บ้าน แต่ผมคงให้ปอนด์ไปส่งไม่ได้ เพราะผมเองไม่สามารถที่จะเก็บความรู้สึกเสียใจนั้นไว้ได้นาน

ผมเลยรีบเอ่ยลาและออกไปจากร้านด้วยความรวดเร็วทิ้งปอนด์ที่กำลัง งุนงงเอาไว้

ผมเดินออกมาจากห้าง แล้วเรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน ตลอดทาง คนขับรถคงรู้สึกประหลาดใจ ที่อยู่ดี ๆ คนที่นั่งอยู่ด้านหลังเอาแต่ร้องไห้ ร้องไห้

ไปตลอดทางจนถึงบ้าน ผมเช็ดน้ำตาให้แห้งสนิท เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่ผมเห็นว่าผมกำลังร้องไห้

หลังจากที่ผมเช็ดคราบน้ำตาหมดแล้วผมก็เดินเข้าบ้านไป และรีบขอตัวขึ้นไปนอนโดยอ้างว่ารู้สึกเพลียมาก ๆ ซึ่งทั้งพ่อกับแม่ผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร

 มีแค่เพียงความห่วงใยส่งผ่านมาให้ ว่าให้ผมพักผ่อนมาก ๆ ซึ่งผมก็เอ่ยขอบคุณแล้วเดินขึ้นไปที่ห้อง

พอผมเดินมาถึงที่ห้องนอน ตอนนี้ ความรู้สึกอัดอั้นที่ถูกเก็บเอาไว้ มันระเบิดออกมา น้ำตาที่ผมพยายามข่มไว้ ก็ไหลออกมาอาบแก้มผมทั้งสองข้าง

ทำไมนะ ทำไมบูมถึงต้องมาทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดอย่างนี้อยู่เสมอ ทำไมผมถึงลืมเค้าไม่ได้สักที ทั้ง ๆ ที่ผมเองก็พยายามที่จะเปลี่ยนตัวเอง

และเปิดใจให้กับคนหลาย ๆ คน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาเลย ทำไมผมต้องมานั่งเสียใจอยู่คนเดียวแบบนี้อีก ทำไม ทำไม.........

ผมตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ อย่างกับคนจะเป็นไข้ ผมเลยเดินลงมาข้างล่างเพื่อที่จะหยิบยาแก้ไข้มากิน

ซึ่งโดยปกติตู้ยาบ้านผมจะมีขวดยาค่อนข้างเยอะ เรียกได้ว่าถ้าเป็นอะไรที่ไม่ร้ายแรงมากผมก็จะไม่พยายามไปหาหมอหรอกครับ

ผมจะหยิบยามาทานเองซะมากกว่า ตอนนี้ผมเลยหยิบยาเม็ดเล็ก ๆ สีขาวที่รู้สึกคุ้นตาว่าเป็นยาแก้ไข้ขึ้นมาทานไป 2 เม็ด แล้วก็ขึ้นไปนอนต่อ

 พอผมนอนไปได้สักพักนึง ผมก็รู้สึกตัวว่า ร้อน ๆ หนาว ๆ อึดอัดอย่างบอกไม่ถูก มันค่อย ๆ เริ่มจากอาการไม่ค่อยมากเท่าไหร่ เป็นมากขึ้นไปเรื่อย ๆ

จนผมเริ่มหายใจติดขัดอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกอึดอัดมาก ๆ ผมกำลังจะเดินลงไปปลุกพ่อกับแม่ผมเพื่อให้ท่านพาไปหาหมอ

แต่พอผมยืนขึ้น ก็รู้สึกว่าหัวหมุนไปหมด ทรงตัวแทบจะไม่อยู่ ผมเลยตัดสินใจกดหาชื่อเพื่อนที่ผมเม็มเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือด้วยมือที่สั่นเทา

 และตาผมก็เริ่มพล่ามองไม่ค่อยจะเห็นแล้วด้วย แต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรออกไป ผมก็หายใจไม่ออกจนต้องตะโกนออกมาจนสุดเสียง

ช่วยด้วยเราไม่ไหวแล้ว.................

ผมถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด เนื่องจากผมกินยาแล้วมีอาการแพ้อย่างรุนแรงไปถึงสองเม็ด แล้วผมเองก็ยังมีไข้สูงอีกต่างหาก

 ทำให้ร่างกายผมเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงจนหายใจไม่ออกและหมดสติไป

ผมตื่นขึ้นมาในตอนสาย ๆ ของอีกวันนึง ด้วยความรู้สึกอ่อนเพลียอย่างมาก มองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีใครอยู่ จนสักพักนึง แม่ผมก็เดินเข้ามาหา.....

“เป็นยังไงบ้างลูก”แม่ถามผมด้วยความเป็นห่วง

“ผมหิวน้ำครับแม่”ผมตอบเสียงแผ่ว หลังจากนั้นแม่ก็รินน้ำให้ผมทาน

“ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ”ผมถามแม่ผมด้วยความสงสัย

“อ๋อ เพื่อนลูกเค้าพามาน่ะจ๊ะ ทีแรกเค้ามากดกริ่งเรียก แม่ก็นึกว่ามีธุระอะไรทำไมถึงมาหากลางค่ำ กลางคืน ดึก ๆ ดื่น ๆ พอเค้าบอกว่าโยเกิดเรื่อง

 แม่ตกใจแทบจะหมดสติเลยนะ แต่โชคดีนะที่เค้าอุ้มโยมาส่งที่โรงพยาบาลทันเวลา

 ไม่อย่างนั้นหมอบอกว่าอาจจะแย่ก็ได้นะจ๊ะ”แม่ผมอธิบายเรื่องราวตอนที่ผมไม่ได้สติ

“อ้าวหรอครับ ไม่น่าหยิบยากินซี้ซั้วเลยอ่ะ ทีแรกนึกว่าใช่ยาแก้ปวดนะ เห็นวางไว้อยู่ในขวดยาแก้ปวดที่ผมกินประจำอ่ะครับ”ผมบ่นอุบ

“น่าตีจริง ๆ นะเรานี่ ไม่ได้เปิดไฟอีกแล้วล่ะสิ แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่า เวลาลงมาหยิบยาทานเองให้เปิดไฟแล้วอ่านฉลากทุกครั้ง

 เตือนกี่ครั้งก็ไม่เชื่อ”แม่ผมส่ายหน้าด้วยความระอาที่ผมไม่ค่อยเชื่อฟังคำที่แม่สอนจนเกิดเรื่อง

“ผมขอโทษครับแม่ที่ทำให้เป็นห่วง ว่าแต่ว่า ใครเป็นคนพาผมมาส่งที่โรงพยาบาลอ่ะครับ ตอนนั้นผมกดชื่อใครก็ไม่รู้ จำไม่ได้”

ผมถามอย่างสงสัย นึกว่าจะขอบใจเค้าสักหน่อย

“อ๋อ...................”ยังไม่ทันที่แม่ผมจะบอกเลยว่าใครเป็นคนพาผมมาส่งที่โรงพยาบาล

 เจ้าสามคนสหายรักก็เปิดประตูเจี๊ยวจ๊าวส่งเสียงดังแบบไม่เกรงใจคนที่กำลังป่วยบ้างเลย

หอบเอาถุงขนมเข้ามาเยอะมากอย่างกับจะมาปิกนิกกันอย่างงั้นแหละ

“สวัสดีครับคุณแม่”พวกมันสวัสดีแม่ผมพร้อมกัน

“วันนี้คุณแม่สวยจังเลยครับ”ไอ้โบปากหวานจนแม่ผมยิ้มด้วยความดีใจ

“ปากหวานจริง ๆ นะเราเนี่ย แม่ไม่กวนละ เดี๋ยวแม่จะออกไปทำธุระกับพ่อสักหน่อยฝากโยด้วยนะลูก”แม่ผมตบบ่าไอ้โบแล้วขอตัวออกไปทำธุระกับพ่อผม

“โยมีอะไรก็เรียกนางพยาบาลนะลูก หรือไม่ก็โทรไปหาแม่นะจ๊ะ เดี๋ยวค่ำ ๆ แม่จะมาเฝ้านะ

เพราะวันนี้แม่ต้องออกไปทำธุระกับพ่อเราน่ะ”แม่ผมเดินมาลูบหัวผมแล้วเดินออกไป

หลังจากที่แม่ผมคล้อยหลังออกไป ไอ้พวกเพื่อน ๆ ผมก็เริ่มจะซักจำเลยแล้วอ่ะครับ

“เป็นไง ประชดชีวิตหรือไงแก กินยาฆ่าตัวตายขนาดนี้เลยหรอ”ออฟปากดีเลยนะคนยิ่งไม่สบายอย
ู่
“เรานึกว่าโยจะทำใจได้แล้วซะอีก นี่เล่นกินยาฆ่าตัวตายเลยหรอวะ ทีแรกไอ้โบโทรมาบอกเรา เราตกใจแทบแย่

 ดีนะที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก”กายพูดด้วยความเป็นห่วง

“ทีแรกเราโทรไปที่บ้านก็ไม่มีคนรับสาย ดีนะที่แม่โทรมาบอก ถึงได้รู้ ทำไมแกทำแบบนี้วะโย”ไอ้โบถามผมด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิด ๆ

“นี่พวกแกจะบ้าหรอ คิดว่าเราคิดสั้นหรือไงที่จะต้องมาฆ่าตัวตายเนี่ย เราแค่แพ้ยาอ่ะ พอดีเมื่อวานไม่สบายเลยไปหยิบยากิน

ที่ไหนได้ ดันหยิบยาผิดขวด ดันไปหยิบยาที่ตัวเองแพ้มากินเลยเป็นแบบนี้”ผมอธิบายให้พวกมันเข้าใจก่อนที่มันจะนึกว่าผมกินยาฆ่าตัวตายจริง ๆ

“ไม่เชื่อหรอก แกเนี่ยนะหยิบยาผิด แล้วแพ้ยาอะไรถึงขั้นหมดสติแบบนี้”ออฟคะยั้นคะยอถาม

นี่สรุปจะให้กินยาฆ่าตัวตายให้ได้เลยใช่ไหมเนี่ย เฮ้อออออออออ เพื่อนผม

“ไม่เชื่อก็ตามใจ ว่าแต่ถ้าพวกแกไม่ได้พาเรามาแล้วใครพามาเรามาส่งวะ แถมอุ้มเรามาจากห้องด้วย”ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้

“ไม่รู้ว่ะลืมถามแม่แกไป พอดีกำลังตกใจ เอ....หรือว่าอาจจะเป็นปอนด์ก็ได้นะ”ไอ้โบเดา

“ไม่หรอกมั้ง เมื่อเช้าปอนด์ยังเดินมาถามหาโยกับเราเลย”กายบอก ทำให้ผมยิ่งสงสัยไปกันใหญ่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก.....เสียงคนเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาของพวกเรา

หลังจากนั้นประตูก็ถูกเปิดออกด้วยนักศึกษาสาวคนนึงที่พวกผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี

“แพท............มาได้ไง”ผมถามอย่างสงสัย

“แพท..............”พวกเพื่อน ๆ ผมเดินเข้าไปทักทาย (และลากตัวแพทเข้ามา)

“อ่ะนี่โยเราซื้อ แบรนด์มาฝาก หายเร็ว ๆ นะ”แพทยิ้มให้

“ขอบใจนะ แล้วรู้ได้ไงอ่ะว่าเราอยู่ที่นี่ ไอ้พวกนี้มันไปป่าวประกาศหรอ”ผมถามแพท พลางหันไปทำตาดุใส่พวกเพื่อนผม

“ป่าว....พวกเราไม่ได้บอกนะ”พวกเพื่อน ๆ ผมส่ายหน้าปฎิเสธ

“เปล่าหรอก ก็เมื่อวานโยโทรเข้าไปที่เครื่องเราน่ะ ทีแรกก็ว่าจะไม่รับละเบอร์ใครไม่รู้ แต่พอรับมาเรานี่ตกใจแทบแย่

ดีนะที่จำเสียงโยได้”แพทเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟัง

“อ้าวเราโทรไปเบอร์แพทหรอกหรอ”ผมถาม

“อืมมม....ใช่ ทีแรกเราก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่คิดว่าโยไม่น่าจะล้อเล่น เลยรีบมาที่บ้านโยไง”แพทเล่าต่อ

“อ้าวหรอ ..... แล้วนี่อย่าบอกนะว่าแพทอุ้มเราลงมา”ผมถามเล่นขำขำเพราะยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้

“ใครว่าเราอุ้มโยลงมา คนอื่นต่างหาก เราอุ้มไม่ไหวหรอก”แพทพูดยิ้ม
 
“แล้วตกลงใครอุ้มเราลงมาส่งที่โรงพยาบาลหรอ”ผมถามอย่างสงสัยมาก ๆ

“ก็จะใครซะอีกล่ะ.........บูมไงที่เป็นคนอุ้มโยมาส่งที่โรงพยาบาล.................”แพทพูดจบ ผมกับเพื่อน ๆ ก็ได้แต่อึ้งจนพูดไม่ออก

จบตอนที่ 22 แล้วครับ ขอบคุณที่ติดตาม ผมเห็นท่าจะเป็นไปแบบที่ทุกคนว่า เพราะผมสรุปไม่ลงจริง ๆ

ทั้ง ๆ ที่จะพยายามบีบแล้วแต่ดันมีเหตุการณ์แทรกขึ้นมาอีกทำให้ต้องขยายเรื่องออกไปอีก เฮ้ออ....

***********************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 08-01-2007 10:04:55
 :o    บูมมาทำไมหว่า......................
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-01-2007 10:22:49
ขอบคุณมาก อ่านตอนนี้แล้วค่อยมีความหวังขึ้นมานิดหนึ่ง  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 08-01-2007 12:45:44
เหอะๆ ความรักทำให้คนสิ้นสติไปได้จริงๆ

ตายไปแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร

ไม่ต้องเศร้าอีกต่อไปงั้นหรือ

แล้วคนที่รักเราละ เขาจะทำอย่างไร

 :monkeycry2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 08-01-2007 14:43:32
และแล้วพระเอกก้อมาช่วยนางเอก :impress2: ฮิ้ว ฮิ้ววววววว....
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 08-01-2007 15:14:25
ไม่ว่าจะยังไง....ถ้ายังรักก็คือยังรัก.............

แต่ถ้าไม่รัก......มันก็คือไม่รัก.......... :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 08-01-2007 15:26:56
อ่า . . . อะไรกันเนี่ย
งง ไปหมดแล้ว ตกลงว่ามันเป็นไงมาไงหว่า
แล้วทำไมบูมกะโยต้องเลิกกันด้วยว๊า โอ้ย . . . เป็นปมในใจ
 ตรูล่ะเบื่อพวกไม่มีเหตุผล มีไรทำไมไม่พูดกันซะให้เคลียร์ๆว๊า โอ้ยยยยยย ทำบาปคนอ่าน :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 08-01-2007 20:51:56
สนุกกกกกก เมื่อไรจามาต่ออีกอ่า  รอแทบคลั่งแล้วนะคร๊าบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yo_angkrub ที่ 08-01-2007 23:52:04
ก่อนอื่นต้องขอบคุณ คุณพูห์ด้วยนะครับที่ช่วยเอาเรื่องมาลงให้  :impress:และ ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านเรื่องนี้กันนะครับ  :myeye:

อย่าเพิ่งเบื่อกันไปซะก่อนนะครับ  :try2: อยากให้ติดตามอ่านเป็นเพื่อนกันไปจนจบเรื่องนะครับ  :love2:

ขอบคุณครับ :angellaugh2:

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-01-2007 09:20:18
ขอบคุณ คุณโยเองครับ นะครับ สำหรับเรื่องดีๆ

ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาติดตามกันนะครับ

บ่ายๆ ผมจะมาต่อให้

พูห์ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 09-01-2007 13:33:10
ขอบคุณโยมากนะครับ สำหรับเรื่องราวทั้งตื่นเต้นทั้งมันและเร้าใจแบบนี้

 :monkeylaugh2:

ทำให้โลกนี้สดใสขึ้นแยะเลย กับความรักที่ก่อเกิดจากความสัมพันธ์แบบนี้
แหมชาตินี้คงไม่มีโอกาสแล้วก็ตาม

 :impress3:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-01-2007 14:07:47
โอววว บูมเป้นพระเอกมาเลย ว่าแต่อ่านๆไปแล้วเหมือนมันมีเบื้องหน้าเบื้องหลังนะนี่ :untrust:


ต้องคุยกันแล้วแหละ บางทีต่างคนต่างคิดอะไรกันไปเอง สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่คิดก้ได้....ลุ้นให้รพะเอกนางเออกคืนดีกับคับ :interest:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 09-01-2007 15:25:01
ขำรี 159 อะ

55555

ท่าทางเปงเอามากนะหนูบลู


**********************************************************
"ตอนที่ 23/1"

“ก็จะใครซะอีกล่ะ.........บูมไงที่เป็นคนอุ้มโยมาส่งที่โรงพยาบาล.................”แพทพูดจบ ผมกับเพื่อน ๆ ก็ได้แต่อึ้งจนพูดไม่ออก

“แล้วเป็นบูมได้ไงล่ะ”ผมถามด้วยความสงสัย

“ก็ทีแรกเราตกใจทำอะไรไม่ถูก บ้านโยเราก็ไม่รู้จัก เราเลยโทรไปเรียกบูมให้มารับ”แพทอธิบาย

“อ้าวหรอ แล้วนี่เค้าไม่ได้มาด้วยหรอ เราอยากจะขอบใจเค้าสักหน่อย”

“พอดีวันนี้เค้าติดธุระน่ะ เลยฝากเรามาเยี่ยมแทน”แพทพูดยิ้ม ๆ

“เค้าคงไม่อยากมาเยี่ยมเราหรอก ไม่ต้องมาปลอบใจเราก็ได้ ขอบใจนะแพท”ผมพูดพลางก้มหน้าลงเพื่อซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้

“อืมม.....โบ ออฟ กาย เราขอคุยอะไรกับโยหน่อยได้ไหม”แพทหันไปถามพวกเพื่อน ๆ ผมซึ่งพวกมันก็รับรู้และบอกว่าจะไปหาอะไรทานกันก่อน

แล้วก็เดินออกไปจากห้อง ตอนนี้เหลือแค่ผมกับแพทอยู่กันแค่สองคนเท่านั้น

“โยมีอะไรกับบูมหรือเปล่า ทำไมอยู่ดี ๆ ก็เลิกกันล่ะ เราถามบูม บูมก็ไม่ยอมตอบ”แพทถามอย่างสงสัย

“คือ.....คือเราไม่รู้จะเริ่มยังไงดีล่ะ ช่างมันเถอะนะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว”ผมพูดเพราะไม่อยากรื้อฟื้นให้ตัวเองต้องรู้สึกเจ็บปวดอีก

“เฮ้อออ....เราก็ไม่รู้นะ ว่ามันเป็นเพราะอะไร แต่ที่เรารู้คือ เมื่อคืนพอเราบอกว่าโยเกิดเรื่องเท่านั้นแหละ

บูมรีบบึ่งรถมาที่บ้านเราเลยทั้ง ๆ ที่ใส่ชุดนอนแท้ ๆ แล้วยังเร่งให้เรารีบไปหาโยอีก”

“จริง ๆ หรอแพท”ผมถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“จริงสิ สิ่งนึงที่เราสัมผัสได้ตอนนั้นคือ บูมเป็นห่วงโยจริง ๆ นะ พอบูมเห็นโยหมดสติไป บูมตกใจมากเลย

 เรายังแอบเห็นบูมน้ำตาคลอเบ้าเลยตอนที่อุ้มโยลงมา”

“....................................”ผมได้แต่เงียบ ทั้งเสียใจและดีใจพร้อม ๆ กัน สิ่งที่ผมดีใจก็คือ บูมยังคงรักผมอยู่ แต่ที่ผมเสียใจคือ

ทำไมเค้าต้องหลายใจไปรักคนอื่นด้วย ทำให้เราสองคนต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

“เราถามจริง ๆ เถอะ โยยังชอบบูมอยู่หรือเปล่า”แพทถามย้ำ

“อืมม....มันคงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วล่ะแพท เราสองคนจบกันไปแล้วจริง ๆ”ผมตอบอย่างเจ็บปวด

“เพราะอะไรล่ะ ทำไมคนสองคนที่รักกันมากต้องมาเลิกกันทั้ง ๆ ที่ยังรักกันอยู่”

“....................................”ผมนิ่งไม่ตอบคำถามได้แต่ก้มหน้าซ่อนอารมณ์ไว้

“ตอบเราได้ไหมว่ามันเป็นเพราะอะไร โย ทำไมโยกับบูมถึงได้เลิกกัน”

“ก็เพราะว่าเค้ามีคนอื่นไงแพท ได้ยินไหมว่าเค้ามีคนใหม่”ผมตะโกนออกมาอย่างอดกลั้น

“หา.........บูมเนี่ยนะมีคนใหม่ เราไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมเราไม่เห็นรู้เรื่องเลยล่ะ”

“เราเองก็ไม่ได้รู้สึกระแคะระคายมาก่อนเลย จนวันนั้นเราได้เห็นกับตาตัวเอง เราถึงได้หูตาสว่างไงแพท”ผมอธิบายความจริงที่เกิดขึ้นให้แพทฟัง

“ไม่ได้ละ เราต้องไปจัดการกับบูมซะหน่อยแล้ว ทีแรกเราก็นึกว่าเพราะโยเปลี่ยนไปทำให้ต้องเลิกกับบูม เพราะช่วงเทอมก่อนเรารู้สึกว่าโยเปลี่ยนไปมาก ๆ

ที่ไหนได้ เราเข้าใจแล้วว่าทำไมโยถึงเป็นแบบนี้” แพทพูดอย่างเข้าใจ

“ช่างเค้าเถอะ เราไม่ได้คิดอะไรแล้วล่ะ ขอบใจนะแพท”ผมยิ้มให้หญิงสาวอย่างจริงใจ

“แล้วนี่โยจะทำยังไงต่อไปล่ะ แต่เราว่าบูมเค้าก็ยังรักโยอยู่มากเหมือนกันนะ”แพทถามผม

“เราเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้เราก็พยายามตัดใจอยู่อ่ะแพท เราคิดว่าคงอีกไม่นานหรอก เราก็คงจะสามารถลืมบูมได้จริง ๆ”ผมยิ้มเศร้า ๆ

“เฮ้ออออ......กลุ้มใจจังเนอะ แต่โยก็ยังโชคดีนะที่มีเพื่อนที่ดีน่ะ ตอนนี้มีคนมาจีบเยอะนิเราเห็นนะ”

แพทเปลี่ยนเรื่องเพราะคงไม่อยากทำให้คนป่วยไม่สบายใจ

“อืมม....”ผมยิ้มให้ และหาวออกมาเพราะรู้สึกง่วงมาก ๆ อาจจะเป็นเพราะเพลียก็เป็นได้

“งั้นเราไม่กวนละ โยจะได้พักผ่อน เราไปก่อนนะ”แพทขอลากลับไปเพราะไม่อยากกวนผม

“ขอบใจนะที่มาเยี่ยม ฝากขอบใจบูมด้วยนะ”

“ไม่ได้หรอกเราไม่รับฝาก โยต้องไปบอกด้วยตัวเองสิ...................ล้อเล่น..........เราไปแล้วนะ บายจ๊ะ”แพทเอ่ยลาแล้วเดินออกไป

ผมหลับไปนานแค่ไหนก็ไม่รู้มารู้สึกตัวอีกที เพราะว่าหมอและพยาบาลมาตรวจดูอาการ หมอบอกว่าให้ผมนอนพักรอดูอาการอีกสักคืน

ถ้าไม่มีอะไรพรุ่งนี้ก็ให้ผมกลับไปบ้านได้ แล้วยังกำชับว่าอย่าไปทานอะไรซี้ซั้วนอกจากอาหารอ่อน ๆ ของโรงพยาบาลเท่านั้น

ส่วนเพื่อน ๆ ผมตอนนี้ แต่ละคนก็นอนกลิ้งไปมาบนโซฟาบ้าง กินขนมบ้าง คุยโทรศัพท์บ้าง

ผมมองพวกเพื่อน ๆ ผมด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมากที่พวกมันไม่เคยทิ้งผมให้ผมต้องอยู่คนเดียว แถมยังคอยตักเตือนผมทุกครั้งที่ผมสิ่งที่ผิด

“มองอะไร คิดถึงบูมล่ะสิ แหมแค่เค้ามาช่วยชีวิตหน่อยเดียว ฝันถึงเลยนะ จำซะบ้างว่าเค้าทำกับแกยังไง” นี่ผมคิดกำลังคิดผิดหรือเปล่าเนี่ย

ดูออฟมันพูดกับผมสิ กำลังซาบซึ้งอยู่แท้ ๆ เชียว

“ใครบอก ไม่ได้คิดถึงเค้าสักหน่อย....”ผมตอบกลับไป

“ให้มันจริงเหอะ ฉันยังไม่อยากกินกระเพาะปลาตอนดึก ๆ นะแก”ออฟพูดประชด

“นี่โยอย่าไปใจอ่อนเลยนะ ตัดใจไปเลย”ไอ้โบตะโกนออกมาหลังจากมันโทรไปรายงานตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เออ กำลังทำอยู่....ว่าแต่ว่าพวกแกอ่านหนังสือจบหรือยัง ใกล้สอบแล้วนะ”ผมถามพวกมันจริง ๆ

ผมก็รู้อยู่แล้วว่าคงจะอ่านจบไปหลายรอบแล้วเพราะพวกมันแต่ละคนถึงแม้ว่าจะชอบไปเที่ยวไหนต่อไหน แต่พวกมันก็ตั้งใจเรียนกันมาก ๆ

“จบแล้ว นี่ถ้าโยไม่เข้าใจตัวไหนถามเราได้นะ ปึ๊กครับปึ๊ก”กายตอบ

“ปึ๊กอะไร แป๊กมากกว่า ถามอะไรก็ตอบไม่ได้”ไอ้โบกัด

“ก็แกเล่นถามอย่างกะสแกนไวรัสใครจะไปตอบได้ทุกตัววะ เอาเป็นว่ายังไงเกรดคงไม่พ้น B เป็นอย่างน้อย”กายอวด

“ให้มันจริงเหอะ เทอมที่แล้วก็บอกจะเอา B แต่ที่ไหนได้ C ล้วน ๆ”ออฟแขวะบ้าง

“ใคร C มีแค่ตัวเดียวเนี่ยนะ ทีไอ้โยเทอมที่แล้ว C ตรึมยังไม่บ่นเลย”กายหันมาแขวะผมกลับ

“พอเลย ๆ สู้พวกมันไม่ได้มาลงที่เราอีก

เฮ้อออออออออ...เทอมนี้ท่าทางเกรดเราคงจะแย่แน่เลย”ยิ่งคิดผมก็ยิ่งกลุ้มเพราะผมทำคะแนนตอนกลางภาคได้ไม่ค่อยดี

“เอาน่าเดี๋ยวพวกเราติวให้”โบพูดเพราะคงจะเห็นว่าผมกำลังกลุ้มใจอยู่

“ขอบใจนะ”ผมยิ้มให้

หลังจากที่ผมออกจากโรงพยาบาลซึ่งบูมเองก็ไม่ได้ไปเยี่ยมผมเลย ตอนนี้ใกล้สอบเข้ามาทุกทีแล้ว อาจารย์หลายท่านก็สรุปบทเรียนหมดแล้ว

ผมเลยไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย พวกเพื่อน ๆ ผมบางวันก็นัดกันมาติวให้ผมที่บ้านกัน ซึ่งผมเองพอหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ก็มุมานะอ่านหนังสือและเล็คเชอร์ของเพื่อน ๆ ให้จนจบไปหลายรอบแล้ว จนตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจขึ้นมาก

ว่ายังไงคะแนนตอนปลายภาคน่าจะช่วยทำให้เกรดผมดีขึ้นอย่างแน่นอน

วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของเทอมที่ 2 แล้ว ผมนั่งทำข้อสอบที่เป็น ปรนัย ด้วยความมั่นใจ ก็จะไม่มั่นใจได้ยังไงล่ะ

ก็ผมเล่นอ่านจนเกือบจะท่องได้ทุกตัวอยู่แล้ว เพราะถ้าผมไม่ทำแบบนี้เกรดผมคงจะร่วงมาก ๆ แน่เลย

ผมนั่งทำข้อสอบจนเสร็จเรียบร้อยเลยเดินเอาข้อสอบออกไปส่งให้อาจารย์ที่คุมการสอบแล้วเดินออกนอกห้องไป

ปรากฏว่าครั้งนี้ผมทำข้อสอบเร็วหรือยังไงก็ไม่รู้ ยังไม่มีใครทำข้อสอบเสร็จแล้วมายืนรอเพื่อนที่หน้าห้องเลย

ซึ่งปกติแล้วผมจะทำข้อสอบเสร็จเป็นคนหลัง ๆ เสมอ ผมเลยเดินไปล้างมือที่ห้องน้ำด้านข้าง ๆ ตัวอาคารเพื่อฆ่าเวลาไปพลาง ๆ ก่อน

“ทำข้อสอบเร็วอย่างนี้แสดงว่าทำได้อ่ะดิ”เสียงชายหนุ่มคุ้นหูดังขึ้นมาทางด้านหลัง

“อ้าว ปอนด์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่”ผมทักปอนด์ที่ตอนนี้ยืนยิ้ม อยู่ด้านหลัง

“ก็เพิ่งมาเนี่ยแหละ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกับโยเลย เหงาจัง คิดถึงด้วย”ปอนด์หยอดผมด้วยคำพูดและรอยยิ้มที่จริงใจ

“โทษที พอดีเราดูหนังสือหนักน่ะเลยปิดมือถือ”ผมตอบกลับไปยิ้ม ๆ

“อืมม เราเข้าใจ วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้วใช่ป่ะ”ปอนด์ถามผม

“อืมมม....แล้วปอนด์ล่ะ เหลืออีกกี่ตัว”

“ตัวสุดท้ายเหมือนกัน….โยวันนี้ว่างป่ะ พอดีเพื่อน ๆ เราชวนไปเลี้ยงกัน

โยไปเป็นเพื่อนเราหน่อยได้ไหม”ปอนด์ชวนผมทำให้ผมรู้สึกอึดอัดเพราะผมรู้ว่าปอนด์อยากจะแนะนำผมให้เพื่อน ๆเค้ารู้จัก

ซึ่งที่จริงแล้วเค้าชวนผมหลายรอบแล้วแต่ผมก็ปฎิเสธแบบนุ่ม ๆ ไปทุกทีโดยอ้างว่า ติดธุระบ้าง มีนัดกับเพื่อนบ้างทุกที

“เอ่อ........คือ”ผมกำลังจะหาทางปฎิเสธแต่ว่า

“ห้ามบอกนะว่าไม่ว่าง เพราะวันนี้เป็น วันสอบวันสุดท้ายแล้ว นะ นะ เราขอร้อง ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยนะ”ปอนด์อ้อนผมด้วยสายตาวิงวอน

“คือว่า.........”

“นะ นะ นะ แป๊ปเดี๋ยวเอง”ปอนด์ยังคงอ้อนผมต่อ

“ถ้างั้นเราเอาเพื่อนไปด้วยนะ เพราะเราไม่รู้จักเพื่อนปอนด์เลยสักคนนอกจากวุธ (วุธคือคนที่มาขอเบอร์ผมที่ร้านสุกี้อ่ะครับ)

“ได้ดิ งั้นตอนห้าโมงครึ่งเจอกันที่ลานจอดรถนะ”ปอนด์ยิ้มอย่างดีใจแล้วเดินออกไป

จบตอนที่ 23/1 แล้วครับ ตอนที่ 23 นี้จะมีตอนย่อยสัก ประมาณ สาม หรือ สี่ ตอนนะครับ

เพราะว่าเนื้อหามันค่อนข้างต่อกันและยาวด้วยเลยซอยให้เป็นตอนย่อย ๆ แทนนะครับ ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะครับ

**********************************


หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-01-2007 15:48:53
ว้ามีลุ้นอยู่นิดเดียว ตาบูมก็หายไปอีกแระ  :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 09-01-2007 19:34:25
มาต่อไวๆนะครับ

สนุกมากมายครับ อิอิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 09-01-2007 21:08:58
บูมปายหนายคร้าบท่านนนนน ....  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-01-2007 09:31:17
แย่งจัง....บุมโพล่มาแล้วก็หายไปซะอีกแล้ว ไมไม่มาปรับความเข้าใจกันนะ (ยังคิดว่าบูมไม่น่านอนกใจ มันต้องมีอะไรซักอย่าง) :untrust:


นายปอนด์ก็ดีนะ แต่แบบว่าอยากลุ้นพระเอกนางเอกมาคืนดีกันมากกว่าอ่า... :yeb:...


มาต่อไวๆนะครับ ช้อบชอบเรื่องนี้ :angellaugh2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 10-01-2007 10:15:55
 :yeb: ชอบๆ ครับผม มาต่อไวไวนะครับ  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-01-2007 11:04:49
"ตอนที่ 23/2"

“นี่ทำไมพวกแกไม่ไปเป็นเพื่อนกันวะ”ผมพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดหวังอย่างแรงที่พวกเพื่อน ๆ ผมไม่ให้ความร่วมมือกับผมเลย

“ก็เราไม่ว่างจริง ๆ นี่ เราต้องไปกินข้าวที่บ้านแฟนเรา แม่เค้าเรียกให้ไปอ่ะ ขัดไม่ได้ เข้าใจไหมหัวอกลูกสะใภ้นะแก”ออฟพูดจีบปากจีบคอ

“เฮ้ย เราก็ไม่ว่างนะ ช่วงก่อนไม่มีเวลาให้แฟนเราเลยอ่ะ ถ้าวันนี้ไม่ออกไปกับมัน เราตายแน่ๆเลย แกก็รู้ ๆ อยู่ว่ามันดุแค่ไหน”โบพูดพลางทำท่าขนลุก

“แล้วแกล่ะ อย่าบอกนะว่าไปแอบมีแฟนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่ยอมไปเป็นเพื่อนกัน”ผมหันไปหากายที่ยืนอยู่เฉย ๆ

“เราไปไม่ได้จริง ๆ วันนี้เราต้องรีบกลับบ้านเพราะที่บ้านจะไปภูเก็ตกันไง จำไม่ได้หรอ เราบอกไปตั้งนานแล้วนิ”กายบอกผม
 
“แกก็ไปกับเค้าสองคนก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย ไปออกจะบ่อยไม่ใช่หรอ”ออฟบอก

“ใครว่าล่ะ ปกติเราเคยไปเที่ยวกับปอนด์สองคนที่ไหนนอกจากมีเหตุสุดวิสัยจริง ๆ นี่ยิ่งไปกับเพื่อน ๆ เค้าอีก เราจะทำตัวยังไงดีวะเนี่ย”ผมพูดอย่างรู้สึกอึดอัด

“แกก็ทำเหมือนตอนที่ปอนด์อยู่กับพวกเราสิ ขำขำไปแค่นั้นเอง ซีเรียสอะไรมากมาย”พูดง่ายนิ โบ แน่จริงลองไปดูบ้างไหม

“แกก็พูดง่ายนิ แล้วทำไมไม่เห็นพาแฟนแกไปเที่ยวกับพวกเรามั้งวะ”ผมถามไอ้โบกลับไปบ้างจนมันทำหน้าไม่ถูก ก็เพราะแฟนมันเหมือนคนปกติที่ไหน

 เรียกได้ว่า ขี้หึง หาคนเทียบยากจริง ๆ เพราะมันเคยพามาเที่ยวกันครั้งนึงนานมากแล้ว ทริปนั้นเกือบล่มเลยอ่ะครับ

“เออ น่า.....เอาเป็นว่ายังไงแกก็ไปคนเดียวละกัน” โห สรุปง่าย ๆ เลยนะไอ้โบ

“ฉันก็ว่าอย่างงั้นแหละ ไว้คราวหน้าฉันจะไปเป็นเพื่อนนะ แต่วันนี้ฉันขอไปทำหน้าที่ว่าที่ลูกสะใภ้ประจำตระกูลก่อนนะจ๊ะเพื่อนรัก”ออฟพูดหน้าระรื่น
 
“เอางี้แกก็บอกไปสิว่าต้องไปภูเก็ตเป็นเพื่อนเรา”กายพยายามจะหาเหตุผลช่วยผม

“แล้วปอนด์จะเชื่อโยเหรอวะกาย”ไอ้โบถาม

“นั่นอ่ะดิ ฉันว่าแกไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องแค่นี้เอง”ออฟพูด

เฮ้ออออ สรุปว่าผมต้องไปกับเพื่อน ๆ ปอนด์คนเดียวใช่ไหมเนี่ย ไม่อยากไปเลยจริงๆ แต่ผมดันไปรับปากเค้าไว้แล้วอ่ะ ทำไงได้ .....

ผมเลยบอกลาพวกเพื่อน ๆ ผมด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยวจริง ๆ จนพวกมันต้องตบไหล่ผมเพื่อปลอบใจ

“เค้าไม่กินแกหรอกน่าไปเหอะ” ไอ้โบตะโกนไล่หลังผมมา ผมมองกลับไปหาด้วยสายตาที่น่าสงสารเป็นที่สุด

ผมเดินมาหาปอนด์ตามที่นัดหมายอย่างเซ็ง ๆ เพราะผมไม่อยากไปเลย

แต่ดันไปรับปากเค้าซะแล้วเฮ้ออออออ....ทันทีที่ปอนด์เห็นผมเดินมาคนเดียวก็ทักขึ้นทันที

“อ้าว แล้วพวกโบ ไปไหนอ่ะโย นี่ได้เวลานัดแล้วนะ”ปอนด์ถามผมพลางมองนาฬิกาอย่างสงสัยที่ไม่เห็นพวกเพื่อน ๆ ผมมาด้วย

“พวกมันติดธุระมาไม่ได้ เราเลยต้องมาคนเดียว”ผมตอบกลับด้วยสีหน้าเซ็งนิดหน่อย

“ก็ดีสิ เราจะได้ไปกับโยแค่สองคน”ดูเหมือนปอนด์จะไม่เข้าใจความรู้สึกผมเลยนะ

“เราไม่ไปได้ป่ะปอนด์”ผมถาม

“ทำไมล่ะ เราไม่ทำอะไรโยหรอก หรือว่าโยรังเกียจไม่อยากไปกับเรา”ปอนด์ถามเสียงเศร้า

“ป่าวหรอก แค่เราไม่รู้จักใครแค่นั้นเอง”

“โยก็รู้จักเราไง ไอ้วุธก็ใช่ เราไม่ทิ้งให้โยอยู่คนเดียวหรอกน่า นะ นะ ไปเป็นเพื่อนกันนะ”ปอนด์อ้อน

“โอเค ไปก็ไป”ผมตอบด้วยอารมณ์แบบว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดละทีนี่

จากนั้นปอนด์ก็ขับรถพาผมไปยังร้านอาหารที่เป็นที่นัดหมายซึ่งตลอดทางผมก็รู้สึกคุ้น ๆ ว่าทำไมทางมันดูคุ้นจังเลยนะ

แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร จนมาถึงบางอ้อว่า มันเป็นร้านอาหารที่ผมเคยมากินกับบูมครั้งแรกนี่หว่า.......

ผมกับปอนด์มาถึงร้านอาหาร หลังจากที่เราลงจากรถ ปอนด์ก็โทรไปถามเพื่อนเค้าว่าจองโต๊ะไว้ที่ซุ้มไหน

ผมเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นร้านอาหารร้านนี้เป็นของเพื่อนปอนด์อีกทีนึง

มิน่าล่ะผมเห็นทั้งผู้จัดการและพวกพนักงานเสิร์ฟมาคอยต้อนรับเยอะแยะไปหมด ยิ่งกว่าโต๊ะ VIP ซะอีก

เราเดินมาถึงที่ซุ้มๆนึงซึ่งมีพวกเพื่อน ๆ ปอนด์นั่งอยู่ รวมทั้งวุธด้วยก็ประมาณ 6 คน ปอนด์แนะนำผมให้พวกเพื่อน ๆ มันรู้จัก

ซึ่งแต่ละคนก็เอาแต่จ้องหน้าผมไม่กระพริบตาเลยอ่ะ จนผมรู้สึกอึดอัดมีก็แต่วุธที่ยิ้มให้และเรียกผมให้ไปนั่งข้าง ๆ ซึ่งเว้นที่ว่างไว้ให้แล้ว

“เป็นไงวะ เหมือนอย่างที่บอกไหมวะ”ปอนด์ตะโกนถามเพื่อน ๆ

“เออ ๆ ๆ....ไอ้ขี้คุย”เพื่อนปอนด์คนนึงตอบกลับมาพลางจ้องมาทางผมอีก

“อะไรหรอปอนด์”ผมกระซิบถามปอนด์อย่างสงสัยเพราะว่ามีแต่คนมองผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด

“ไม่มีอะไรหรอก แค่เราคุยไว้ว่าโยน่ารักประมาณนั้นเองพวกมันเลยอยากเห็น”ปอนด์ตอบยิ้ม ๆ

พอผมรู้เข้าหน้าผมก็รู้สึกชาขึ้นมาทันที เพราะผมไม่ค่อยพอใจที่ปอนด์ทำเหมือนกับว่าพาผมมาให้พวกเพื่อน ๆ เค้าดูตัว และพวกเพื่อน ๆ

 ปอนด์ก็เอาแต่จ้องมองผมอย่างกับผมเป็นตัวประหลาดยังไงอย่างงั้น จนผมรู้สึกอึดอัดมาก

มีแต่วุธคนเดียวละมั้ง ที่น่าจะดีหน่อยเพราะเค้าชวนผมคุยนั่นคุยนี่ตลอดจนผมรู้สึกผ่อนคลายลงมาก

“เฮ้ยยย ปิดเทอมไปไหนดีวะ แม่งเบื่อว่ะ ไม่อยากกลับไปเฝ้าฟาร์มหอยเลยว่ะ”ปอนด์พูด

“ไอ้ห่-มึงยังจะไปเฝ้าหอยอีกเหรอ กูเห็นมึงเอาแต่เดินตามแฟนมึงอยู่นั่นแหละ อย่างเงี๊ยะท่าทางหอยที่บ้านมึงจะเป็นหมันแล้วมั้ง

 555”เพื่อนคนนึงในกลุ่มแซวปอนด์จนผมหันขวับไปหาปอนด์ด้วยสายตาไม่พอใจ

“เฮ้ยยย ฟงแฟนที่ไหน กูกำลังจีบอยู่โว๊ยยย ไอ้ห่-” ปอนด์เห็นสายตาของผมแล้วเลยรีบปรามเพื่อนๆ

“เออ นั่นแหละ ถ้าไม่ใช่แฟนมึง กูจีบนะ สเปคกูเลย”เพื่อนอีกคนของปอนด์แซว ซึ่งพอผมมองหน้าเค้าอย่างจริงจังแล้วก็รู้สึกขำขึ้นมาทันที

 เพราะหน้าเค้าจะออกแนวตลกคาเฟ่ ขำขำอ่ะครับ

“เห็นไหม ไอ้ห่- โยเค้ายังหัวเราะมึงเลย ไม่ได้เจียมตัวเลยไอ้ควาย”ปอนด์ด่าเพื่อนคนนั้นจนผมยิ่งขำเข้าไปอีกแต่ต้องพยายามเก็บอาการเอาไว้

“เออ มึงจำไว้ กูไม่หน้าตาดีแบบมึงบ้างก็แล้วไป แต่อย่างน้อยลีลากูก็เด็ดกว่ามึงแล้วกันแหละไอ้ปอนด์........” เพื่อนคนนั้นพูดเกทับปอนด์

ที่จริงแล้วกลุ่มปอนด์มีแค่ สามคนเองที่ชอบผู้ชายด้วยกัน ก็คือ วุธ ปอนด์ แล้วก็เพื่อนคนที่หน้าเหมือนตลกคาเฟ่คนนี้ นอกนั้นมีแฟนเป็นผู้หญิงหมดเลยครับ

“แล้วโยมีโปรแกรมไปเที่ยวไหนหรือยังครับ ถ้าไอ้ปอนด์ยังไม่ชวน ไปกับผมก็ได้นะครับ ยินดีเป็นที่สุดครับผม”

เพื่อนคนเดิมที่หน้าเหมือนตลกหันมาทำตาหวาน ๆ ใส่ผม จนผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ให้ (พอดีผมจำชื่อเค้าไม่ได้อ่ะ)

“พอเลยมึงไอ้ห่- กูกะว่าจะชวนเค้าอยู่พอดี” ปอนด์พูดกับเพื่อนเค้า

“เดี๋ยวเราขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ผมพูดและขอตัวเดินออกไปจากโต๊ะ เพราะรู้สึกอึดอัดมาก ๆ

ผมออกมาเดินเล่นด้านนอก เพราะไม่ค่อยชอบบรรยากาศบนโต๊ะสักเท่าไหร่ ผมเดินไปเรื่อย ๆ ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามา

“แพทหรอ .... อืมม...เรามากินข้าวกับเพื่อนต่างคณะ มีอะไรหรอ”ผมตอบกลับหลังจากได้ยินเสียงปลายสาย


“แล้วโยจะเลิกดึกหรือเปล่า เรามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”แพทบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เรื่องอะไรหรอ”ผมถามอย่างสงสัย

“แล้วตกลงวันนี้โยจะมาหาเราได้ไหมล่ะ ตอนนี้เราอยู่ที่ร้าน ฟูจิ ที่เซ็นทรัลบางนา นะ”

“โห ทำไมวันนี้มากินไกลจัง แต่เราก็อยู่ไม่ไกลหรอก ไว้ถ้าเสร็จเร็วเราจะไปหาละกันนะ

แพทอยู่นานหรือเปล่า”ผมตอบกลับไปเพราะไม่ได้สนใจอะไรมากนักคิดว่าแพทล้อเล่นอยากให้ไปเจอเฉย ๆ

“ยังไงก็ต้องมานะโย เรื่องสำคัญจริง ๆ เราอยู่แค่ไม่เกินหนึ่งทุ่มนะ”แพทย้ำคำ

“เรื่องอะไรหรอทำไมเราต้องไปด้วยล่ะ”ผมถามอย่างสงสัย

“เรื่องระหว่างโยกับบูมไงล่ะ”แพทตอบ

“เรื่องระหว่างเรากับบูมหรอ....”ผมพูดด้วยความตกใจ............ “ได้ งั้นเดี๋ยวเราจะไปหานะ บายครับ”

จบตอนที่ 23/2 แล้วครับ ตอนที่ 23 ยังมีอีก สองตอนย่อย ยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

*************************************************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 10-01-2007 12:44:29
ขอให้เป็นเรื่องดีๆทีเถ้ออออออ :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-01-2007 12:46:28
สาธุ ขอให้แพทเป็นกาวใจให้บูมกับโยสำเร็จทีเถิด  :call:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 10-01-2007 16:39:49
เพี้ยง...ขอให้แพทมาเป็นกาวใจให้โยกับบูมด้วยนะคับ  :yeb:


แต่ปอนด์ก็ดี๊ดีเนอะ....
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dogdag ที่ 10-01-2007 19:42:50
อิอิ
อยากบอกว่า ตามอ่านที่บอร์ดปาล์มจนจบแล้วคร่ะ (นานแล้วน๊าเรื่องเนี่ย)

ไม่รู้ว่าพี่โยจำ DOGDAG ได้รึปล่าว
คือคำถามที่เคยถามไปตอนจบของเรื่องน่ะ นี่มันเรื่องแต่ง หรือเรื่องจริงคร่ะ
ด็อกแด็กคาใจคร่ะ

ถ้าเป็นเรื่องแต่งก็จะไม่ว่าอะไรเลย
แต่เรื่องจริงนี่ ไม่ไหวนะคร่ะ เป็นด็อกแด็กไม่ยอมหรอก......
...อุ๊ยแอบบบอกกวตอนจบ อิอิอิอิอิอิ


อย่าลืมบอกน๊า...
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 10-01-2007 22:46:50
เรื่องอาไรเอ่ยยย อยากรู้เจงๆ
รีบมาต่อไวๆนะครับ.....................
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 11-01-2007 12:53:10
 :o !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! เรื่องไรอยากรู้จัง  :confuse: หรือว่าบูม.................
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 11-01-2007 15:12:42
"ตอนที่ 23/3"

ผมเดินกลับเข้าไปนั่งข้าง ๆ ปอนด์ และพยายามหาทางที่จะทำให้ตัวเองออกจากร้านอาหารไปโดยที่ไม่น่าเกลียดเกินไปนัก

จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจบอกปอนด์ว่า.......

“ปอนด์ เดี๋ยวเราขอตัวกลับก่อนนะ พอดีเมื่อคืนเราดูหนังสือจนดึกเลย

วันนี้เราเลยรู้สึกเพลียมากๆเลยอ่ะ”ผมพูดและพยายามทำสีหน้าให้ดูเหมือนคนกำลังเพลียสุด ๆ

“อ้าวหรอ ว้า....เพิ่งมาเอง ถ้างั้นเดี๋ยวเราไปส่งนะ”ปอนด์หันกลับมาพูดกับผมพลางทำท่าจะลุกขึ้นจนผมรีบห้ามเอาไว้

“ไม่ต้องหรอก ปอนด์สนุกกับเพื่อนๆต่อเหอะ ปอนด์เพิ่งจะมาเอง เราเกรงใจน่ะ เราต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับ

 วันหลังค่อยเจอกันนะ”ผมรีบชิงตัดบทก่อนที่ปอนด์จะพูดอะไรต่อ “งั้นเราไปก่อนนะ บายครับทุกคน”

ผมยิ้มให้เพื่อน ๆ ของปอนด์ที่ตอนนี้เริ่มกรึ่ม ๆ ด้วยฤทธิ์เหล้าแล้ว

“งั้นเดี๋ยวให้เราเดินไปส่งนะ”ปอนด์พูดแล้วลุกขึ้นเดินออกไป ผมเลยเดินตามออกมา

ผมโบกมือลาปอนด์พร้อมเอ่ยคำขอโทษขณะขึ้นรถแท็กซี่ ซึ่งปอนด์ก็ไม่ได้ว่าอะไร

อาจจะเป็นเพราะเริ่มเมานิดหน่อยประกอบกับกำลังติดลมด้วยละมั้งเลยไม่ได้ว่าอะไร จากนั้นปอนด์ก็เดินกลับเข้าไปที่ร้าน

พอรถขับออกมาได้สักแป๊ปนึงผมก็รีบบอกคนขับรถแท็กซี่ว่าผมจะเปลี่ยนให้ไปส่งที่ เซ็นทรัลบางนาแทน ซึ่งคนขับรถก็พยักหน้ารับรู้.....

ผมโทรศัพท์หาแพทขณะที่รถขับมาใกล้จะถึงห้าง ว่าตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปใกล้จะถึงที่ร้านแล้ว ซึ่งแพทก็บอกว่ากำลังรอผมอยู่พอดี

หลังจากนั้นสักพักนึงผมก็มาถึงร้านที่นัดกับแพทเอาไว้ ผมเดินเข้าไปหาแพทที่นั่งอยู่คนเดียวในร้านก็แปลกใจ.......

“อ้าวทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะ”ผมเอ่ยถามพลางล้มตัวลงนั่ง

“พวกตาลไปกันหมดแล้วล่ะ เนี่ยเราเลยมานั่งรอโยอยู่คนเดียว”แพทพูดพลางยิ้มให้ (ตาลคือเพื่อนในกลุ่มแพทครับ)

“อ้าวหรอ .... แล้วตกลงที่เรียกเรามามีอะไรหรอ”ผมถามด้วยความสงสัยและอดที่จะลุ้นไม่ได้

“รอเดี๋ยวก่อนนะ แป๊ปเดียว เราจะได้เคลียร์ทีเดียวเลย ไม่ต้องพูดหลายรอบ”แพทพูดเป็นปริศนา พลางชะเง้อมองออกไปด้านนอก

“นั่นไงมาแล้ว”แพทพูดแล้วชี้ไปด้านนอกร้าน ทำให้ผมมองตาม

“อ้าว.....บูมมาได้ไงอ่ะ”ผมพูดด้วยสีหน้าตกใจนิด ๆ พลางหันไปมองแพท

“พอดีแพทบอกเราว่ามีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ เลยนัดให้เราออกมา โยมาได้ไงอ่ะ”บูมพูดด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน

“แพทก็นัดเราออกมาเหมือนกัน เออ เรื่องที่ช่วยเราวันนั้นเราขอบใจมากนะ ถ้าไม่ได้บูมเราคงจะแย่ไปแล้ว ขอบใจมากจริง ๆ”ผมพูดยิ้ม ๆ เขินนิด ๆด้วย

“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง แต่ทำไมโยไม่ระวังตัวเลยล่ะ ไม่ห่วงตัวเองก็น่าจะห่วงคนรอบข้างบ้างนะ ถ้าโยเป็นอะไรไปจริง ๆ

 คนรอบข้างจะอยู่ยังไง”บูมพูดด้วยท่าทีเป็นห่วงจริง ๆ จนผมต้องแอบยิ้มอย่างมีความสุข

“เราขอโทษ พอดีวันนั้นเราไม่ค่อยสบายน่ะ เลยประมาทไปหน่อย ขี้เกียจไปเปิดไฟอ่ะ เลยเกิดเรื่องจนได้ ดีนะที่บูมมาช่วยได้ทัน”ผมตอบด้วยสีหน้าจ๋อย ๆ

แต่ก็แอบมีความสุขลึก ๆ ที่บูมเป็นห่วง

“แหม เป็นห่วงกันขนาดนี้ ยังจะเล่นตัวกันอีก”แพมพูดยิ้ม ๆ จนผมและบูมหันไปมอง

“เล่นตัวอะไรหรอ”ผมถามด้วยความสงสัย

“งั้นเราจะอธิบายให้ฟังเลยนะ เพราะถ้าปล่อยให้คนใจร้อนอย่างบูมพูดคงจะไม่ได้เรื่องแน่ ๆ มีแต่พังกับพังลูกเดียว”แพทพูดยิ้ม ๆ

พลางมองไปทางบูมซึ่งตอนนี้นั่งอยู่ข้าง ๆ แพทแล้ว

“ก็เรื่องที่ทำให้โยเข้าใจผิดน่ะ ที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องเอาซะเลยนะ จริง ๆแล้วก็เพราะอีตาบูมเนี่ยแหละที่ผิด ที่เค้าจะแก้เผ็ดโยไง

 เพราะตอนที่โยไปทำผมใหม่เปลี่ยนลุคน์โดยที่ไม่บอกเค้า แล้วยังมีคนเข้ามาจีบเยอะอีก เลยเกิดอาการหึงไง แถมยังอะไรนะ

ที่บูมบอกเราว่าแอบไปเจอโยนั่งคุยกับผู้ชายอีกคนท่าทางสนิทสนมกันมากๆด้วยน่ะ เลยยิ่งไปกันใหญ่

เรื่องมันก็แค่เนี่ยะแหละ กลายเป็นเรื่องใหญ่จนได้ ”แพทพูดยิ้ม ๆ

“แล้วคนที่เราเห็นเค้ากอดกันอยู่ที่ด้านหลังตึกล่ะ”ผมถามด้วยความสงสัย

“อ๋อ อาร์ทหรอ...คนนี้เรารับประกันได้ เค้าไม่มีอะไรหรอก จริง ๆ แล้วเป็นเพื่อนเก่ากันน่ะ เราก็รู้จักเค้านะ พอดีที่บ้านเค้าเกิดเรื่องไง

เค้าเลยเรียกบูมออกไปหา มันไม่มีอะไรจริง ๆ ไม่เชื่อถามบูมดูสิ”แพทพูดพลางเอาศอกกระแซะไปทางบูม

“อืมม... เค้าเป็นแค่เพื่อนเก่าเราแค่นั้นเอง พอดีวันนั้นพ่อแม่เค้าประสบอุบัติเหตุน่ะ เราเลยปลอบเค้าไปแค่นั้นเอง”บูมพูดพลางก้มหน้าไม่กล้าสบตาผม

“แล้วทำไมบูมไม่บอกเรา บูมรู้หรือเปล่าว่าเราคิดยังไง รู้สึกยังไง เสียใจแค่ไหนที่ตอนนั้นบูมทำสีหน้าแบบนั้นกับเรา บูมไม่เคยเข้าใจอะไรเลย

 ไม่เคยเข้าใจจริง ๆ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด

“เรา เราขอโทษ เราแค่อยากจะแกล้งโยแค่นั้นเอง แต่พอเราเห็นว่าโยเดินออกมา เราก็เลยรีบวิ่งไปตาม

 แต่เรากลับเห็นโยนั่งรถออกไปกับไอ้ผู้ชายคนนั้นแล้ว”บูมพูดด้วยสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวด

“ผู้ชายคนนั้นเป็นแค่เพื่อนเรา ก็เพราะบูมนั้นแหละที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย”

“เราขอโทษนะ ยกโทษให้เรานะ ได้ไหมโย”บูมพูดด้วยท่าทีสำนึกผิด

“งั้นเราไม่กวนแล้วนะ เรากลับละ เธอสองคนจะได้ปรับความเข้าใจกันซะที ฝากจ่ายเงินให้ด้วยนะ”แพทพูดพลางลุกขึ้นยืน

“ขอบใจนะแพท”บูมพูดพร้อม ๆ กับผม

“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้เอง โชคดีนะ บายจ๊ะ”แพทโบกมือลา พร้อมสะกิดไหล่บูม เบา ๆ “สู้ ๆ นะ” แล้วเดินออกไป

“นะได้ไหม ได้ไหมครับคนดี นะ นะ นะ เรามาดีกันนะ ....เรารักโยนะ รักมากด้วย เราทนไม่ได้ที่เห็นโยไปเดินกับคนอื่น นะ นะ

เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม ได้ไหมครับ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนสุด ๆ จนผมเริ่มที่จะใจอ่อน
“ตกลงว่ายังไงครับ เราเป็นเหมือนเดิมได้ไหมโย นะ นะ ขอร้องล่ะ นะ นะครับ ”บูมยังคงอ้อนผมต่อโดยที่ไม่แคร์สายตาคนอื่นเลยอ่ะ (คนมองเยอะมาก ๆ)

“ขอเวลาเราคิดก่อนได้ป่ะ เราเริ่มไม่แน่ใจว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เราจะเป็นยังไง เราจะทนได้ไหม”

“เราสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ด้วยเกียรติขอลูกเสือสามัญเลยอ่ะ นะ นะ นะ”บูมพูดพลางยกมือขึ้นทำท่าแบบลูกเสือ

“อืมม ขอเราคิดก่อนนะ”ผมขำกับท่าทีของบูมในตอนนี้มาก ๆ เพราะบูมทำท่าเหมือนกับเด็กๆเลย แต่ผมก็ต้องแกล้งวางฟอร์มนิดนึง ไม่งั้นเดี๋ยวจะเหลิง

“โห คนเค้าอุตส่าห์ง้อแล้วนะ ใจร้ายว่ะคนเรา คนเค้าอุตส่าห์ช่วยชีวิตเอาไว้แท้ ๆ วันนั้นน่ะพอเราได้ยินว่าโยเกิดเรื่อง

 เรากำลังนอนอยู่แทบจะกระโดดลงจากเตียงเลยนะ นะ นะ นะ ได้ป่ะ เรามาดีกันนะ นะครับ”บูมอ้อนผมอีก

“ก็ได้ ก็ได้ เฮ้อ.....จะยกให้สักครั้งนึง แต่ห้ามทำแบบนี้อีกแล้วนะ แล้วห้ามโกหกเราอีก ถ้าเราจับได้อีกละก็ เราจะไม่สนใจแล้วนะ”ผมพูดยิ้ม ๆ

“จริง ๆ นะ...ดีใจที่สุดเลยอ่ะ....ถ้าอย่างงั้นอย่างแรกเรา

 ขอเราหอมให้หายคิดถึงหน่อยได้ป่ะ”บูมพูดแล้วลุกขึ้นมานั่งฝั่งเดียวกับผมพลางทำท่าจะจูบผมจนผมต้องรีบห้ามเอาไว้เพราะคนเริ่มมองมาเยอะแล้วอ่ะ

“จะบ้าหรอ คนตั้งเยอะ เดี๋ยวเค้าก็ว่าหรอก”ผมพูดพลางชี้ให้ดูคนใน ฟูจิ ซึ่งเริ่มเยอะแล้ว

“ไม่เห็นจะแคร์เลย เราจะจูบแฟนเรา ผิดตรงไหนอ่ะ”

“ไม่เอา.........”ผมดันหน้าบูมออกไป

“งั้นเดี๋ยวตอนขากลับบ้าน พอขึ้นรถปุ๊ปต้องให้เราหอมทีนึงนะ”บูมพูดด้วยสีหน้ายิ้มแบบเจ้าเล่ห์

“เรื่องอะไร.....”ผมทำท่าทีกวน ๆ กลับไป

“เดี๋ยวเหอะ จะหอมให้เข็ดเลย”ผมกัดฟันพูดด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ไม่สนใจ ไม่รู้ ไม่ให้”ผมแกล้งพูดยิ้ม ๆ พลางหันไปทางอื่น

“555 รอก่อนเถอะ เดี๋ยวรู้....งั้นเดี๋ยวเราเข้าห้องน้ำก่อนนะ จะได้กลับกันเลย จะได้.....ด้วย” บูมพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์พลางเรียกพนักงานมาเก็บเงิน

 แล้วเดินออกไปเข้าห้องน้ำ ผมได้แต่ส่ายหน้ายิ้ม ๆ

ผมนั่งรอบูมได้สักพักนึง มือถือของบูมก็ดังขึ้น ผมรอจนเสียงมันเงียบหายไปโดยที่ไม่ได้รับสาย แต่สักพักนึงเสียงมือถือก็ดังขึ้นอีก ผมจึงตัดสินใจกดรับแทน

“สวัสดีครับ พอดีบูมไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวให้เค้าโทรกลับนะครับ”ผมพูด

“.......................”เงียบครับไม่มีเสียงคนพูดเลยอ่ะ

“ฮัลโหล......ฮัลโหล”ผมย้ำอีกครั้งเพราะเห็นเงียบไป

“ครับ....นายเป็นใครน่ะ”เสียงผู้ชายจากปลายสายดังขึ้นมา

“ผมชื่อโยครับ เป็นเพื่อนของบูมครับ”ผมพูดกลับไป (ไม่กล้าบอกว่าเป็นแฟนเพราะผมไม่รู้ว่าเค้าเป็นใครอ่ะ)

“โย..........”เสียงชายคนนั้นดังขึ้นแล้วหยุดหายไป

“ครับ.....พอดีบูมไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวก็มาแล้ว จะให้บอกว่าใครโทรมาครับ”

“งั้นบอกบูมด้วยว่า อาร์ทโทรมา ตอนนี้เรากำลังนอนรอบูมอยู่ในห้องของบูมนะ”อาร์ทพูดทำให้ผมชะงัก คนๆ นี้ที่ทำให้ผมกับบูมทะเลาะกัน

แล้วเค้าไปนอนเล่นในห้องบูมได้ไงอ่ะ ผมได้แต่คิด

“ฮัลโหล.......”อาร์ทเรียกหลังจากเห็นผมนิ่งไปนาน

“ครับ เดี๋ยวเราจะบอกให้นะ”ผมพูดตะกุกตะกักนิดหน่อย

“เออ...โยยินดีที่ได้รู้จักนะ เราอาร์ทเป็นแฟนบูมนะ เห็นบูมเล่าเรื่องโยให้ฟังบ่อย ๆ”

อาร์ทพูดเน้นเสียงที่คำว่าแฟนจนผมรู้สึกงงมากว่าตกลงเค้าเป็นใครกันแน่ เพื่อนหรือว่าแฟน

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”ผมพูดอย่างเสียไม่ได้

“อืมม เนี่ยโย บอกให้บูมรีบ ๆ กลับมานะ บูมนี่แย่มาก ๆ นัดให้แฟนตัวเองมารอในห้องแล้วกลับบอกว่ามีธุระจะรีบไปจัดการ เรานั่งรอจนหิวแล้วนะ

 นัดกันว่าจะไปกินข้าวกันข้างนอก เราก็อุตส่าห์รอ”อาร์ทพูด ทำให้ผมอึ้งสับสนไปหมด ตกลงมันอะไรกันแน่

“เดี๋ยวเราบอกให้นะ”ผมพูดเสียงอ่อย

“บูมนี่แย่จริง ๆ ให้แฟนตัวเองต้องมานั่งรอแบบนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ ยังไงก็ต้องขอบใจโยมากนะ แล้วยังไงถ้ามีโอกาสเราคงจะได้เจอกันนะ

บายครับ”อาร์ทพูดแล้ววางสายไป

ผมนั่งคิดด้วยความสับสน คิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมด ทั้งเรื่องที่แพทบอกผมว่า อาร์ทกับบูมเป็นแค่คนรู้จักกัน บูมก็พูดว่าเค้าเป็นแค่คนรู้จักกัน

แต่ทำไม อาร์ทกลับบอกว่าตัวเองเป็นแฟนกับบูม แต่ถ้าเค้าเป็นเพื่อนกันจริง ๆ ทำไมเพื่อนต้องกอดแบบนั้นแถมยังซบอกกันอีกด้วย

ผมกับเพื่อนยังไม่เคยทำแบบนั้นกันเลย ผมนั่งคิดจนกระทั่งบูมเดินเข้ามาพอดีจังหวะเดียวกับที่พนักงานเอาบิลมาเก็บเงิน บูมเลยจ่ายเงินไป

 แล้วเราก็เดินออกไปขึ้นรถซึ่งจอดเอาไว้ที่ลานจอดรถ

“บูมเราถามจริง ๆ เถอะว่า ตกลงบูมกับอาร์ทเป็นอะไรกันแน่”ผมถามขณะที่เข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยแล้ว

“ก็เราบอกแล้วไงว่าเป็นเพื่อนกันทำไมหรอ”บูมก้มหน้าพูดโดยที่ไม่กล้าสบตามองผม

“แน่ใจนะว่าเป็นแค่เพื่อนกัน แต่ทำไมเมื่อกี้เค้าโทรมาบอกว่าเค้ารออยู่ในห้องนอนของบูมล่ะ ตกลงเค้าเป็นใครกันแน่”ผมถามด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น

“เอ่อ........คือ”บูมอึกอัก

“เค้าบอกเราเองว่าเค้าเป็นแฟนบูม ตกลงเค้าเป็นใครกันแน่ ตอบเรามาตามความจริงนะ”ผมตะคอกถามบูม

“คือ ที่จริง.......”ยังไม่ทันที่บูมจะพูดอะไรผมก็สวนกลับไป

“เค้าเป็นแฟนบูมจริง ๆ ใช่ไหม”

“ใช่ เค้าเคยเป็นแฟนเรา แต่เราเลิกกับเค้านานแล้ว”บูมกำลังจะพูดต่อแต่พอผมได้ยินแบบนั้นผมก็ทนไม่ไหวเลยตะโกนกลับไป.....

“เราไม่เชื่อ ถ้าเลิกกันแล้วเค้าจะไปรอในห้องบูมได้ยังไง แถมยังกล้ามาบอกกับคนที่ไม่รู้จักได้ยังไงว่าเค้าเป็นแฟนบูม ทำไมบูมทำกับเราแบบนี้

 ยังแกล้งเราไม่พอใช่ไหม เรายังเจ็บไม่พอใช่ไหม เราไม่น่ามาเลยจริง ๆ เรามันโง่เอง

ขอให้เราจบกันแค่นี้นะ”ผมพูดแล้วเปิดประตูออกไปโดยไม่ฟังเสียงบูมเลย

“เดี๋ยวฟังเราก่อนดิ โย”บูมวิ่งมาตาม

“จะมาโกหกอะไรเราอีกล่ะ เราไม่ฟัง ไม่อยากจะฟังคำแก้ตัวอะไรทั้งนั้นแหละ พอกันที”ผมพูดพลางเอามือปิดหูแล้ววิ่งออกไปแต่บูมก็วิ่งมาฉุดมือผมเอาไว้

“โยต้องฟัง เราไม่มีอะไรกับเค้าจริงๆ ได้ยินไหม”บูมตะโกนออกมา

“......................”ผมเงียบ

“ทำไมไม่เชื่อกันมั่งวะ เหนื่อยแล้วนะโว๊ยยยย ทีพอเรื่องของตัวเองกลับบอกให้เราเข้าใจ แต่ทำไมทีเรื่องของเราโยกลับไม่เข้าใจบ้างล่ะ

บอกแล้วไงว่าเลิกกันไปนานแล้ว ไม่มีอะไรกันแล้ว เข้าใจบ้างไหม”บูมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

“แล้วจะให้เราเข้าใจว่ายังไง ในเมื่ออาร์ทไม่รู้จักเรา แล้วจะมาโกหกเราทำไม”ผมเถียงกลับ

“ถ้าไม่เชื่อ ไปพิสูจน์กันเลยว่าเค้ารอเราอยู่ในห้องของเราจริงหรือเปล่า”บูมพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวพลางฉุดผมขึ้นรถแล้วออกรถไปด้วยความเร็ว...........

จบตอนที่ 23/3แล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

*****************************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 11-01-2007 16:11:10
บูมกลับมาแล้ว ฮิฮิ ...
คืนดีกันได้เป๊ปเดียว มีเรื่องอีกแหละ เฮ้อ!...  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-01-2007 16:12:24
หุหุ สำเร็จคืนดีกันแย้ว  :yeb:

แต่ เอ๊ะ  :o อาร์ทโผล่มาจากไหนกันละนี่  :serius2:

มีอะไรก็คุย ๆ กันดีดีเน้อ เอาบทเรียนอดีตมาเตือนใจ อย่าซ้ำรอยเดิม คนอ่านเหนื่อยแทน  :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-01-2007 18:01:20
เย้ๆๆ บูมกลับมาแล้ว :angellaugh2:


แต่อะไรอ่ะ เพิ่งดีกันแหม่บๆๆ มีเรื่องอีกแล้ว.... :seng2ped:


อาร์ทนี่สงสัยจะอยากคืนดีกะบูมมั้ง( คิดว่าบูมไม่โกหก) เลยแกล้งโยแบบนั้น.... :3125:


หวังว่าคงไม่มานอนรอห้องบูมจริงๆนะเนี้ยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 11-01-2007 19:56:43
คืนนี้  ถ้าไม่เจอตาอาร์มนั่น  โยเสร็จบูมแหง่ ๆ  :interest:
ขอให้ไม่เจอใคร  มีแต่เราสองนะ อิอิ (แต่สงสารปอนด์เหมือนกันแฮะ) 
รออ่านจ้า   :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 11-01-2007 22:03:56
ว๊าววววววว มาต่อไวๆนะครับ สนุกแล้วอ่ะคับ
อยากอ่านต่อครับ
เร็วๆนะครับ

 :-[ :-[ :laugh: :laugh: :laugh: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 12-01-2007 10:00:17
:serius2: :serius2: :serius2: กลัว ตาอาร์ท จะไปดักรอที่ห้องบูม จิงจิง เยย  :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-01-2007 10:06:29
ความรักก็ทำให้คนร้ายได้เหมือนกัน

ใครจะร้ายกว่ากันหวา

 :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 12-01-2007 14:10:59
ไรวะเนี่ย วุ่นวายเจงๆ :serius2:
อ่านไปก็เหนื่อยไป . . . เฮ้อ . . .  :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-01-2007 14:13:10

"ขอให้เราจบกันแค่นี้นะ"


การทำร้ายกันเองเนี่ย...มันปวดใจนะ.... :impress3:

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-01-2007 10:33:18
"ตอนที่ 23/4"

ผมกับบูมนั่งมาในรถสีแดงคันเท่ห์ที่ขับมาด้วยความเร็วสูง ตลอดทางมีแต่เพียงความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วรถ เพราะผมเอาแต่มองออกไปทางด้านนอกหน้าต่าง

ส่วนบูมเองก็เอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรสักนิดเลย จนรถขับมาถึงหมู่บ้านแห่งนึงไม่ไกลจากใจกลางกรุงเทพฯมากนัก

บูมขับรถเข้ามาจอดยังบ้านเดี่ยวหลังนึง ทันทีที่บูมขับรถไปจอดที่หน้าบ้านก็มีคนงานมารับกุญแจรถเพื่อเอารถไปเก็บยังที่จอดรถ

ส่วนบูมเองก็เดินนำผมเข้าไปในตัวบ้าน

“ตามมาดิ จะได้รู้ไงว่าใครโกหก”บูมหันมาพูดกับผมพลางเดินนำหน้าขึ้นไปที่ชั้นบน

ผมเดินตามบูมมายังชั้นบน แล้วมาหยุดอยู่ที่ห้อง ๆ นึง พอผมเดินตามมาทันบูมก็ไขกุญแจเพื่อเข้าไปยังห้องนอนของตัวเอง

“เอ้านี่ดูซะมีใครอยู่ในห้องนอนเราหรือเปล่า หาให้เจอนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิด ๆ

ผมเดินเข้าไปในห้องแล้วพยายามมองหา อาร์ท แต่ก็หาไม่เจอ ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย เดินเข้าไปหาที่ห้องน้ำก็ไม่เห็นเช่นกัน

ผมเลยเดินออกมาด้วยสีหน้าสำนึกผิด เมื่อบูมเห็นสีหน้าผมแบบนั้นเลยกดโทรศัพท์ลงไปหาคนงานที่อยู่ด้านล่าง

เพื่อเป็นการตอกย้ำความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า อาร์ทไม่ได้มารอเค้าอยู่จริง ๆ

“ป้าเล็ก ป้าเล็ก....วันนี้มีใครมาหาผมหรือเปล่าครับ”บูมพูดกับคุณป้าแม่บ้าน ขณะเปิดโฟนให้ผมได้ยินเสียงไปด้วย
 
“ไม่มีค่ะ คุณบูม....ว่าแต่ว่าวันนี้คุณบูมกับเพื่อนจะรับอะไรอีกไหมคะ ป้าจะได้เตรียมให้ค่ะ”ป้าเล็กถามกลับมา

“ไม่ต้องครับ พวกผมเรียบร้อยมาแล้ว ขอบคุณครับป้า”บูมหันมายิ้มให้ผมเป็นเชิงล้อเลียน พร้อม ๆ กับกดปิดโทรศัพท์

“เห็นไหม ได้ยินหรือยัง จะหาต่อหรือเปล่าเราจะได้เปิดห้องให้ครบเลย...วันหลังอ่ะหัดเชื่อคนอื่นซะบ้าง”บูมพูดพลางทำท่างอน ๆ

“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ แล้วตอนแรกมาโกหกเราทำไมว่าเป็นแค่เพื่อนเก่า ไม่บอกล่ะว่าเค้าเป็นแฟนเก่า พอกันเลยทั้งแพททั้งบูม”

ผมพยายามจะเถียง (แม้ว่าจะสู้ไม่ได้ก็ตาม)

“ก็ถ้าเราลองบอกว่าอาร์ทเป็นแฟนเก่าเรา โยจะยอมมาคืนดีกับเราไหมล่ะ เดี๋ยวเรื่องก็ยิ่งไปกันใหญ่อ่ะ”บูมพูดพลางตบเตียงเป็นเชิงให้ผมเดินไปนั่งด้วย

“อันนี้มันต้องขึ้นอยู่กับเจตนานะ ใครใช้ให้ตอนนั้นทำหน้าแบบนั้นใส่เราล่ะ แถมยังกอดกันแน่นขนาดนั้น จะให้คิดว่ายังไง ถ่านไฟเก่าคุน่ะสิไม่ว่า”

ผมพูดงอน ๆ พลางเดินไปนั่งข้าง ๆ บูม

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร เรื่องระหว่างเรากับอาร์ทมันจบไปตั้งนานแล้ว ก่อนที่เราจะขึ้นม.ปลายซะอีก แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้ชอบอาร์ทด้วย

เพราะฉะนั้นเรื่องระหว่างเรากับอาร์ทมันจบจริง ๆ”บูมอธิบาย

“ช่างเถอะเราไม่อยากรู้ละ แต่ที่เราอยากรู้ก็คือทำไมอาร์ทจะต้องโกหกเราด้วยล่ะ”ผมถามอย่างสงสัย

“ไม่รู้ดิ อาจจะหึงเรามั้ง คนมันเสน่ห์แรงก็แบบนี้แหละ”บูมพูดยิ้ม ๆ จนผมหมั่นไส้ เอามือบิดเอวไปรอบนึง จนบูมร้องออกมาด้วยความเจ็บ

“โอ๊ย......เจ็บนะทำอะไรอ่ะ”บูมพูดพลางแกะมือผมออกมา

“ก็บิดเอวไง ถามได้....”ผมตอบแบบกวน ๆ

“แล้วมาบิดเราทำไม เจ็บนะ”บูมพูดพลางเอามือไปถูที่เอว

“ก็อยากจะทำอ่ะทำไม”ผมพูดหน้าตาย แต่ในใจแอบสะใจนิดหน่อยที่ได้แกล้งบูมบ้าง

“จำไว้เลย เดี๋ยวจะเอาคืนให้เข็ด”บูมพูดพลางทำสีหน้าเจ้าเล่ห

“ไม่ต้องเลย เรายังมีคดีความกันอีกเยอะ”

“โห....เรื่องอะไรอีกอ่ะ นี่ยังไม่หมดอีกหรอครับ จำเลยทนไม่ไหวแล้วนะ มาขอกอดทีได้ป่ะ คิดถึงจังเลย”บูมพูดพร้อม ๆ กับมาโอบผมเอาไว้

“ไม่ต้องเลย.....ไม่ต้องมาทำพูดดี เรื่องอาร์ทยังไม่เคลียร์เลยนะ”ผมแกะมือบูมออกมา แต่แล้วเสียงโทรศัพท์บูมก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะพอดี

พอบูมมองเบอร์ที่โชว์ขึ้นมาก็ทำหน้าแปลก ๆจนผมถามขึ้น

“ใครโทรมาอ่ะ”ผมถามเมื่อเห็นสีหน้าบูมดูแปลก ๆ

“อาร์ทโทรมา”บูมตอบ

“เอามานิ”ผมแบมือเพื่อขอมือถือจากมือบูม ซึ่งเค้าก็เดินเอามาให้แต่โดยดี

“สวัสดีครับ อาร์ทหรอ เราโยเองนะ”ผมกดรับสายพร้อมกับเองทัก

“โย...บูมอยู่หรือเปล่า”อาร์ทถาม

“บูมไปหยิบของแป๊ปนึงเดี๋ยวมา”ผมแกล้งอาร์ทดูสิว่าจะทำยังไง ซึ่งบูมก็แอบขำกับท่าทางของผม

“อ้าวแล้วโยบอกบูมหรือยังว่าเรารออยู่ที่ห้องอ่ะ เนี่ยนานแล้วนะ จนจะหลับอยู่แล้วเนี่ย”อาร์ทพูดด้วยน้ำเสียงแบบจีบปากจีบคอน่าหมั่นไส้มากๆ

“บอกไปแล้วล่ะ แต่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ”ผมตอบด้วยน้ำเสียงปกติทั้ง ๆ ที่ผมพยายามกั้นหัวเราะเอาไว้

“ดูสิโย บูมทำไมแย่แบบนี้นะ ให้แฟนมารอที่บ้านแล้วแอบไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ยอมกลับ”อาร์ทพูดประชดด้วยการเน้นคำซึ่งคงจะหมายถึงตัวเองเป็นแฟน

แต่ ผมเป็นแค่เพื่อนประมาณนั้น

“เราต้องขอโทษจริง ๆ นะอาร์ท เราไม่รู้ว่าเค้านัดกับแฟนเอาไว้ที่บ้านอ่ะ ไม่งั้นเราคงไม่มาด้วยหรอก”ผมยังคงแกล้งอาร์ทต่อไป

“เราไม่โทษโยหรอก เราเข้าใจ เพราะว่าเวลาที่เค้าให้เพื่อนมันต้องน้อยกว่าแฟนอยู่แล้วนะ เรื่องแค่นี้เอง”อาร์ทยังคงพยายามพูดให้ผมเข้าใจบูมผิด

“อืมมม...ขอบใจนะที่อาร์ทเข้าใจเรา เพราะเราก็รู้ตัวเองดีว่าเราอยู่ในฐานะไหน”พอผมพูดเสร็จผมก็แกล้งตะโกนบอกบูมเพื่อให้อีกฝ่ายได้ยิน

“บูม....บูม เดินลงไปบอกป้าเล็กให้หน่อยสิ ว่าเราขอน้ำเย็นแก้วนึง

เรากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ไม่อยากออกไปนอกห้อง”ระหว่างที่ผมกำลังพูดให้อาร์ทได้ยินผมก็ทำท่าให้บูมรับมุขที่ผมโยนไปด้วย

“รับทราบครับ ที่รัก จะเดินลงไปบอกให้เดี๋ยวนี้แหละ แต่ขอหอมทีนะ”ดูดิครับแผนสูงนะเนี่ย ได้ทีบูมก็เดินมาหอมแก้มผมเลยอ่ะ

“อัลโหล อาร์ทเมื่อกี้ถึงไหนนะ”ผมแกล้งถามอาร์ทอีกครั้ง

“!@#)(*^&%$#*&%^$%&*^%$$$@$@^%^$^*)*(&^$#” โอ้โหมาเป้นชุดเลยครับ แต่ผมไม่ฟังหรอกผมเอาหูออกมาแล้วเค้าก็วางสายไป

ผมได้แต่หัวเราะสะใจ

“ทำไมโยนับวันยิ่งหน้ากลัวขึ้นทุกวันอ่ะ เราว่าเราคิดผิดหรือเปล่าเนี่ยที่ไปชอบโย”ดูบูมพูดสิครับ สรุปว่าผมผิดหรือเนี่ย

“ถ้าคิดผิดก็ไปคบกับอาร์ทเลยไป เดี๋ยวเราโทรไปให้”พูดจบผมก็ทำท่าจะกดโทรศัพท์ไปให้

“เปล่า ๆ ๆ ครับ ล้อเล่นน่ะ แต่จริง ๆ นะ โยน่ากลัวมาก ๆ วันหลังจะมีใครกล้ามาคุยกับเราอีกหรือเปล่าเนี่ย”บูมพูดพร้อมทำท่าขยาด

“คุยปกติก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่อย่าให้รู้นะ ....หึ”ผมยิ้มแบบน่ากลัว

“กลัวแล้วครับ ไม่กล้าแล้วครับ”บูมพูดพลางมาบีบนวดที่แขนผม

“ไม่กล้าแล้วเมื่อกี้อะไร ได้ทีมาหอมแก้มเลยนะ”

“งั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเปรียบโยก็มาหอมแก้มเรากลับทีนึงดิ เรายอมขาดทุนให้หอมสองทีเลยอ่ะ”บูมพูดพลางยื่นแก้มมาให้

“บ้า......ไม่เอาหรอก....เราจะกลับละ”ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน

“ไม่เอาไม่ให้กลับ ไหน ๆ วันนี้ก็มาแล้วอยู่ค้างกับเราที่นี่แหละนะ นะ นะ

จะได้รำลึกความหลังกันไงตอนที่ไปเชียงรายน่ะ”บูมเอามือปิดทางไม่ให้ผมออกจากห้อง

“ไม่ได้ เรายังไม่บอกที่บ้านเลย ไม่เอาหรอก”

“งั้นโยก็โทรไปบอกดิ หรือว่าจะให้เราโทรไปขอให้ แม่โยไม่ว่าหรอก แม่โยใจดีจะตายยิ่งรู้ว่ามาอยู่บ้านเราเค้าไม่ว่าหรอกนะ นะ นะ

ค้างที่นี่ด้วยกันนะ”บูมพูดพร้อม ๆ กับเดินมาโอบผมเอาไว้จากด้านหลัง

“ไม่เอาหรอก เราไม่ได้เอาเสื้อผ้าอะไรมาเลย”ผมพยายามจะตอบปฎิเสธ

“ก็ใส่เสื้อผ้าของเราไง แต่ถ้าไม่ชอบจะไม่ใส่อะไรเลยเราก็ไม่ว่านะ”บูมพูดพร้อมท่าทางลามก

“นั่นไง กะไว้แล้ว .... เอางี้ถ้าเราค้างที่นี่สัญญาได้ไหมล่ะ ว่าห้ามมาทำอะไรเรานะ”

“โหหหหหหหหหห ไรอ่ะ....”บูมบ่น

“งั้นไม่เอาเรากลับละ”ผมพูดพร้อมกับจะเดินออกไป

“อ่ะก็ได้ ๆ ไม่ทำก็ไม่ทำ แต่ถ้าโยมาทำอะไรเราก่อน เราไม่รู้นะ”

“ดีงั้นเดี๋ยวเราโทรไปที่บ้านก่อน”

หลังจากที่ผมโทรไปขออนุญาตจากที่บ้านแล้ว ก็เดินเข้ามานั่งข้างๆบูมบนเตียง ซึ่งตอนนี้บูมเอาแต่จ้องหน้าผมจนผมเขิน

“มาจ้องทำไม...เขินนะ”ผมพูดเขิน ๆ

“ก็อยากจะมองอ่ะ เราไม่เคยคิดว่พวกเราจะได้กลับมาเป็นแบบเดิมอีก ตอนที่ไม่มีโยอ่ะ เราทรมานมากเลยนะ ยิ่งเห็นโยไปเดินกับคนอื่นเรายิ่งเจ็บ ยิ่งเสียใจ

โยอย่าไปจากเราอีกเลยนะเราขอร้อง”บูมพูดเสียงเศร้าพลางกอดผมเอาไว้แน่น

“แล้วใครใช้ให้บูมทำแบบนั้นล่ะ เราเองก็เสียใจนะที่บูมทำเป็นไม่สนใจเรา”ผมพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

“ใครบอกว่าไม่สนใจล่ะ เราแอบมองโยตลอดแหละ แต่เราไม่กล้าทัก ไม่กล้าที่จะคุยเพราะเรากลัวว่าเราจะรู้ว่าโยมีคนอื่น

เราไม่อยากรับรู้ว่าโยมีคนอื่นแล้ว”บูมพูดด้วยน้ำเสียงสะเทือนใจ

“เราไม่เคยมีใคร และไม่คิดว่าจะมีด้วย ขนาดเราประชดบูมแบบนั้น เรายังไม่เคยจริงจังกับใครเลย แค่พูดคุยกันธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ”

“เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำแบบนั้นอีก แต่โยสัญญาได้ไหมว่าโยอย่าประชดเราแบบนั้นอีกนะ เราทนไม่ได้ที่เห็นโยไปเดินกับคนอื่น”

“อืมม...เราสัญญา”

“โย.....ขอหอมทีได้ป่ะ แค่ทีเดียวเองนะ นะ นะ จะได้หายคิดถึงอ่ะ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย ด้วยเกียรติเลยครับ”บูมทำท่าขึงขัง ผมได้แต่พยักหน้ารับ

“..............xxx…………….”

“รักโยนะครับ”บูมพูดยิ้ม ๆ แต่น้ำเสียงจริงจังมาก

“..........................................”ผมได้แต่ยิ้มอาย ๆ

จากนั้นผมก็บอกให้บูมไปอาบน้ำก่อนเพราะใกล้ได้เวลาที่ คณะผองเพื่อนและปอนด์จะโทรมาแล้ว

....เสียงเตือนข้อความเข้ามาดังขึ้น..ผมเลยกดดู...แต่เอ๊ะนั่นมัน....

“น้องโย เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะลงไปหาที่กรุงเทพแล้วนะครับ..แล้วเจอกันนะ หลับฝันถึงพี่บ้างนะครับ...คิดถึงน้องโยจังครับ...พี่วิทย์”

เฮ้อออออ...หลังจากที่ผมอ่านข้อความจบ..จริงอย่างที่ผมคิดเอาไว้ ตายแน่ทีนี้ โจทก์เก่ามาแล้ว ไหนจะปอนด์อีก อาร์ทอีก โอ๊ยยยยยยยยยยยย.....กลุ้ม

 ผมได้แต่คิดในใจแล้วทิ้งตัวลงไปบนเตียงด้วยความกลุ้มใจ......

จบตอนที่ 23/4 แล้วครับ ตอนหน้าจะเป็นตอนที่สำคัญเพราะเป็นตอนที่เริ่มนำเข้าสู่ฉากสุดท้ายของเรื่องนี้แล้วนะครับ

ยังไงก็ขอให้ติดตามกันต่อไปนะครับ ขอบคุณครับ

**********************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-01-2007 11:13:05
โยนี่น่ากลัวไม่ใช่แฮะ แต่เอาเถอะ คืนดีกันแล้ว  :like6:

ปล.ทำไมคนเขียนทิ้งท้ายไว้น่ากลัวอย่างนั้นละ จะเกิดอะไรขึ้นอีกเหรอ  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 13-01-2007 12:21:04
พี่วิทย์จากลับมาอีกแล้วเหรอ จะเกิดไรขึ้นอีกหง่ะ เพิ่งคืนดีกันแท้ ๆ
โยนี่เสน่ห์แรงใช่เล่นเลย ฮิฮิ...  น่าติดตาม ๆ รอ ๆ คร้าบ... :like2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 13-01-2007 13:26:40
 :-[ :-[ :impress2: :impress2: :interest: :like6: :like6:


น่ารักมากมาย ช้อบชอบโยกะบูมจังเลย


ว่าแต่ความวัวเพิ่งจะหายๆผแหม่บ ความควายจะเข้ามาแทรกซะแร้ววว  :serius2: กลุ้มแทนค้าบบ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 13-01-2007 15:44:03
โอ๊ยยยยยย . . . กลุ้มว้อยยยย :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 13-01-2007 22:36:34
เย้ๆ คืนดีกันแล้ว อิอิ
มาต่อไวๆนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-01-2007 17:12:30
ตอนที่ 24/1"
บูมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยรอยยิ้มที่แสนจะเจ้าเล่ห์ แต่พอบูมเห็นผมกำลังนอนทำท่ากลุ้มใจก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เป็นอะไรหรือเปล่าโย หรือว่ากลัวเราจะ.......”บูมพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินมานั่งลงข้าง ๆ ตัวผม
“เปล่าไม่มีอะไรหรอกเราก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ บูมชอบคิดลึกเรื่อยเลยนะ”
“ก็เราเห็นโยทำท่าเหมือนคนกำลังกลุ้มใจอ่ะ เราไม่ทำอะไรหรอกน่า อย่าคิดมาก”
“ทำเราก็ไม่กลัวหรอก แค่เราคิดเรื่องอะไรนิดหน่อยเอง ไม่มีอะไรหรอก เดี๋ยวเราไปอาบน้ำละ ไหนเสื้อผ้าที่จะให้เรายืมล่ะ”ผมพูดพลางลุกขึ้นยืน
“เดี๋ยวเราไปหยิบให้”บูมเดินไปหยิบชุดนอนมาให้ผมชุดนึง แล้วผมก็เดินเข้าไปอาบน้ำ
หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาปิดมือถือ เพราะกลัวว่าปอนด์กับพี่วิทย์จะโทรมาหา จากนั้นผมก็เดินไปนั่งข้าง ๆ บูมที่ตอนนี้กำลังอ่านหนังสืออยู่บนเตียงอย่างสบายอารมณ์
“อ่านอะไรอยู่อ่ะ สอบก็เสร็จแล้วนิ จะขยันไปถึงไหนครับคุณบูม”
บูมเงยหน้าขึ้นมามองผม พลางปิดหนังสือลง แล้ววางไว้ข้าง ๆ โต๊ะข้างเตียง “เราอ่านเล่น ๆ น่ะ รอใครบางคนอยู่ ดูดิเข้าห้องน้ำทีเข้าไปนานมากๆ เนี่ยจนเราจะหลับอยู่ล่ะ”
“ง่วงก็ไม่ไปนอนล่ะ จะรอเราทำไม”
“ก็เราอยากนอนคุยกับโยอ่ะ ไม่ได้คุยกันตั้งนาน คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว เราอยากจะคุยกับโยนาน ๆอ่ะ อยากมองหน้าโย อยากจะกอดโยเอาไว้ ไม่อยากให้โยไปไหนอีกเลย จริง ๆ นะเราไม่ได้พูดเล่น”
“เราก็ไม่ได้ไปไหนนิ”ผมพูดยิ้ม ๆ
“โยมานี่มา”บูมตบที่ข้าง ๆ เตียง
“อะไร...เราจะนอนแล้ว ง่วงอ่ะเมื่อคืนนอนดึก”ผมเดินไปนอนข้าง ๆ บูม
“ขอกอดให้หายคิดถึงหน่อยนะ”บูมคว้าตัวผมไปกอด “เวลาไม่มีโยอยู่ข้าง ๆ เรารู้สึกเหมือนเราอยู่คนเดียวในโลกเลยอ่ะ อย่าไปจากเราอีกนะ”บูมพูดพร้อมกับซบแก้มลงที่ศีรษะของผม
“.............................................”แปลกจริง ๆครับ คำพูดเพียงไม่กี่คำของบูมกลับทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างประหลาด
“ไม่ได้สระผมหรอ หัวเหม็นจัง” ดูบูมดิครับ กำลังอินอยู่เลย เปลี่ยนอารมณ์ไม่ถูกเลยอ่ะ “ไหนมาดมอีกทีซิ” แทนที่บูมจะดมที่หัวของผมกลับมาหอมแก้มผมเฉยเลย
“นั่นว่าแล้ว.... ลีลามากนะ”ผมดันตัวบูมออกมา
“555 ถ้าไม่ใช้มุขนี้ก็ไม่ได้กำไรอ่ะดิ โยอ่ะใจแข็ง”บูมทำท่างอนนิด ๆ
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นเลย เราจะนอนแล้วเอาหมอนข้างมากั้นด้วย”
“โหหหหหหหหหหหหหห”บูมบ่น
“หรือว่าจะให้กลับ”ผมทำท่าจะลุกขึ้น บูมเลยรีบจัดการตามที่ผมสั่ง ผมยิ้มนิด ๆ
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เห็นบูมกำลังนอนหลับสบายอยู่เลยไม่อยากกวน ผมจึงเดินไปเปิดโทรศัพท์มือถือที่ปิดเอาไว้เมื่อคืน สักพักนึง ปรากฏว่าข้อความเข้ามาเกือบ 10 ข้อความ เพราะมีสายที่ไม่ได้รับ จากปอนด์ รวมถึงพวกเพื่อน ๆ ผมด้วย ผมเลยเดินออกไปจากห้องนอน เพื่อโทรกลับไปหาปอนด์
“ฮัล......................”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดทักทายเลยปอนด์ก็สวนกลับมา
“ทำไมเมื่อคืนไม่รับสายอ่ะโย โทรไปที่บ้านก็บอกว่ายังไม่กลับ เราเป็นห่วงแทบแย่เลยนะ”ปอนด์ใส่มาเป็นชุดเลยครับ
“โทษที พอดีเรามาค้างบ้านเพื่อนน่ะ ปอนด์มีอะไรหรือเปล่า”ผมถาม
“อ๋อ คือเราจะชวนไปเที่ยวที่หัวหิน อาทิตย์หน้าน่ะ ไปพักบ้านเพื่อนเรา โยว่างหรือเปล่า ชวนเพื่อนไปด้วยก็ได้นะ”
“เดี๋ยวขอเราดูก่อนนะ เรายังไม่แน่ใจอ่ะ แล้วจะให้คำตอบอีกทีนะ”ผมไม่กล้าที่จะปฎิเสธทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่อยากจะไปเพราะผมไม่สนิทกับใครเลย
“ได้ แต่อย่านานนะ เราจะรอ แล้วโยไปค้างบ้านเพื่อนที่ไหนอ่ะ เดี๋ยวเราไปรับไปทานข้าวกันดีไหม”
“ไม่ต้องหรอกปอนด์ เราอยู่ไกลน่ะ เดี๋ยวเรามีนัดกับเพื่อนต่อด้วย แล้วค่อยคุยกันนะ” ผมเห็นบูมเดินออกจากห้องมาเลยรีบตัดบทวางสายจากปอนด์ไป
“คุยกับใครน่ะตั้งแต่เช้าเลย แถมยังแอบมาคุยข้างนอกอีก อย่าบอกนะว่าคุยกับไอ้พวกคนที่เข้ามาจีบ”บูมพยายามจับผิดผม
“เพื่อน.......ก็เราเห็นบูมนอนหลับสบายอยู่เลยไม่อยากกวน”
“แล้วไป อย่าให้จับได้นะ”บูมเอามือมาขยี้หัวผมแล้วจูงผมพาเข้าไปในห้อง
“เดี๋ยวตอนกลางวันเราออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกนะ”บูมบอกผมหลังจากปิดประตูห้องเรียบร้อยแล้ว
“งั้นบูมไปส่งเราที่บ้านก่อนนะ เราจะได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย”
“โอเคครับผม งั้นไปกันเลยนะ”บูมแอบอมยิ้ม
“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมยิ้มแบบนั้นอ่ะ”ผมถามเพราะรู้สึกว่ามันแปลก ๆ ยังไงไม่รู้
“ไม่มีอะไร อย่าคิดมากดิโยอ่ะ ไปเหอะ”
จากนั้นผมกับบูมก็เดินออกมาขึ้นรถ แต่ผมก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมบูมต้องแบกเอากระเป๋าเดินทางมาด้วยนะ แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไร จนรถเราขับมาถึงบ้านผม เราสองคนเลยเดินเข้าไป สวัสดีแม่ผม แล้วผมก็ขอตัวไปอาบน้ำด้านบน ปล่อยให้บูมคุยกับแม่ผมอยู่ข้างล่าง
ระหว่างที่ผมกำลังอาบน้ำอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก.....
“ใครอ่ะครับ แม่หรอ มีอะไรหรือเปล่าครับ”ผมตะโกนถามขณะกำลังอาบน้ำอยู่
“........................................” เงียบ
“ใครอ่ะ บูมหรอ เดี๋ยวเราอาบน้ำแป๊ปนึง”ผมตะโกนกลับไปอีกรอบ
“.......................................”เงียบอีกแล้ว
“ใครอ่ะ..............”ผมเริ่มชักหงุดหงิดแล้ว ใครนะเคาะประตูแล้วก็ไม่พูด
ก๊อก ก๊อก ก๊อก.......ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ใคร..............ถามว่าใครได้ยินไหม”ผมตะโกนด้วยน้ำเสียงเริ่มไม่พอใจแล้ว
“.....................................”เงียบ
“ไม่เล่นแล้วนะ ถ้าไม่ตอบเดี๋ยวโดนแน่ บูมใช่ป่ะ”ผมเริ่มโมโหนิด ๆ
“....................................”เงียบ
“ตามใจ...........เคาะไปเหอะ”ผมพูดไปอย่างนั้นเองอ่ะครับ แต่ก็รีบเอาผ้าเช็ดตัวมาพันที่เอวไว้แล้วรีบเดินมาที่ประตูห้องน้ำ โดยที่ปล่อยให้น้ำที่ฝักบัวไหลอยู่อย่างงั้น เพื่อที่จะให้คนที่แกล้งผมด้านนอกนึกว่าผมกำลังอาบน้ำอยู่
“ก๊อก...........”แค่ก๊อกเดียวเท่านั้นแหละครับ ผมรีบชิงเปิดประตูห้องน้ำออกมาซะก่อน แต่แล้วผมก็ต้องตกใจ
“เฮ้ย......เข้ามาทำไมอ่ะบูม แล้วทำไม.............”ผมตกตะลึงกับภาพชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังเดินยิ้มเข้ามาในห้องน้ำด้วยสภาพ........................ เปลือยเปล่า.....................
จบตอนที่ 24/1แล้วครับ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ตอบ reply ในตอนนี้ ขอยกยอดอีกที ตอนหน้านะครับ แต่ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ผมจะต้องไปทำธุระนานพอสมควร ยังไงก็ขอให้อดใจรอหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BAPE* ที่ 14-01-2007 17:37:20
ติดตามอ่านอยู่ในมุมมืดมาพักนึง...ฮ่าๆ ทนไม่ไหว ปรากฏตัวดีก่า...คนแต่งคนโพสจะได้มีกำลังใจ


อ๊ายยยย...ตาบูมเล่นมัดมือชกขนาดนี้รุยรึเนี่ย...คาดว่ามาขออยู่ด้วยแน่ๆรุย
คุณแม่นะคุณแม่...ดีแล้วค่ะที่ใจอ่อนเผื่อจะได้อ่านฉากบ้าง...หุหุ
ก้เราเป็นหญิงหื่- อ๊ะหลุดอะไรออกปายยยยยย :myeye:

รีบต่อนะคะ...รออย่างใจจดใจจ่อ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 15-01-2007 02:41:31
ขอให้ตอนต่อไปเป็นเหมือนที่จิ๊นทีเถ้ออออ . . . สาธุ!!!
 :haun1:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: frank ที่ 15-01-2007 06:44:44
เหอ ๆ น่ารัก น่าลุ้น
ติดตามตอนต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-01-2007 09:05:14
เหอ เหอ บูมจาทำอาราย  :haun5:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-01-2007 09:37:50
"ตอนที่ 24/2"
“เฮ้ย......เข้ามาทำไมอ่ะบูม แล้วทำไม.............”ผมตกตะลึงกับภาพชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ากำลังเดินยิ้มเข้ามาในห้องน้ำด้วยสภาพ........................ เปลือยเปล่า.....................
“ขอเราอาบน้ำด้วยคนนะ ยังไม่ได้อาบน้ำเลยอ่ะตั้งแต่เช้า”บูมหันมายิ้มให้ผมพร้อม ๆ กับดันประตูห้องน้ำปิด
“…………………”ผมกำลังตกตะลึงกับภาพชายหนุ่ม ผิวขาว หุ่นดี มีกล้ามเนื้อนิดหน่อย ยืนอยู่ข้างหน้าผมโดยไร้การปกปิด ผมเพิ่งจะได้เห็นร่างกายของชายหนุ่มคนนี้ในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก ทำให้ผมอดที่จะตกตะลึงในความสมส่วนของร่างกายของชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้
“เอาแต่จ้องอยู่ได้ มาอาบน้ำด้วยกันดิ”ชายหนุ่มเดินเข้ามาจูงผมให้ไปอาบน้ำด้วยกัน
“ไม่เอา....ไม่เอา เราอยากอาบคนเดียว บูมออกไปก่อนไป”ผมหายจากการตกตะลึง พยายามรวบรวมสติและกำลังไล่บูมออกไปก่อนที่อารมณ์ผมจะตะเลิดไปซะก่อน
“ไม่เอาหรอก เห็นป่ะว่าเราเปียกแล้วนะ อาบด้วยกันเลยแหละ จะได้ไม่เสียเวลา นะ นะ นะ ไม่เห็นเป็นไรเลย แฟนกันอายทำไมล่ะ”บูมเริ่มอ้อนแล้วเอื้อมมือมาดึงผ้าขนหนูที่พันเอวผมไว้ออกไป
“เฮ้ยยย....ทำไรอ่ะ”ผมอุทานด้วยความตกใจ
“ไม่ต้องอายหรอก เราไม่ทำอะไรหรอกน่า แค่อาบน้ำด้วยกันแค่นี้เอง เรายังไม่อายเลย เห็นป่ะ”บูมยิ้ม ๆ แล้วดึงตัวผมไปที่ฝักบัว (จะไปอายได้ยังไงก็พี่ท่านเล่นแก้ผ้าเข้ามาก่อนซะอย่างงั้น)
“โยมานี่ดิ เดี๋ยวเราถูตัวให้นะ”บูมโอบผมจากด้านหลังแล้วเอามือที่เต็มไปด้วยครีมอาบน้ำลูบไล้มาที่ตัวผม
“ไม่เอาเราจักจี้อ่ะ............555”ผมหัวเราะเพราะมันรู้สึกจักจี้มาก ๆ แต่ดูเหมือนบูมจะไม่สนใจฟังผมสักเท่าไหร่เลยอ่ะแถมบูมยังเริ่มที่จะดันตัวเองเข้ามาชิดตัวผมมากขึ้น ส่วนมือของชายหนุ่มก็ยังคงลูบไล้ไปทั่วตัวผมทุกซอกทุกมุม จนผมแทบจะทนไม่ไหว....
“ไม่ไหวแล้วอ่ะ จักจี้.......”ผมผละออกมาจากบูม แล้วรีบเข้าไปล้างตัวที่ฝักบัว
“เดี๋ยวดิ ยังไม่ได้สระผมให้เลย มานี่มา”บูมทำเป็นเสียงดุนิด ๆ จนผมต้องเดินเข้าไปหา “เดี๋ยวเราจะสระผมให้นะ”จากนั้นบูมก็ค่อย ๆ เทยาสระผมลงบนฝ่ามือ แล้วเริ่มมาขยี้ที่หัวของผมอย่างแผ่วเบาจนทั่ว มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก ๆ แต่ก็มีความสุขและอบอุ่นอย่างประหลาด
“ทีนี้ตาโยทำให้เราบ้างนะ”บูมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่เอาหรอก บูมก็อาบเองสิ เราจะไปเปลี่ยนชุดละ”ผมทำท่าจะรีบเดินออกไป แต่บูมดึงผมเอาไว้ทำให้ผมกลับเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของบูม
“อย่าโกงสิครับ คนดี อาบน้ำให้บูมหน่อยนะ นะ นะ”บูมกระซิบที่ข้างหูผมอย่างแผ่วเบา จนผมรู้สึกเขินๆ และใจเต้นแรงมาก ๆ
“นะครับ นะ นะ นะ อาบน้ำให้บูมนะ”บูมกระซิบข้างหูผมอีกครั้งด้วยน้ำเสียงขี้อ้อนสุด ๆ จนผมใจอ่อน (มือไม้ก็อ่อนตามไปด้วย)
“ก็ได้ แต่ครั้งเดียวนะ”ผมพูดเบา ๆ บูมยิ้มแล้วกอดผมเอาไว้
“กอดเราแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่ต้องอาบกันพอดี”
“ครับ ครับ ยอมแล้วครับ”
จากนั้นผมก็เอาครีมอาบน้ำเทลงบนฝ่ามือ แล้วลูบไล้ไปตามแผ่นอกที่กว้างขวางของบูม จากนั้นผมก็เอานิ้วไปเขี่ยเล่นที่หัวนมทั้งสองข้างของบูมจนมันแข็งขึ้นมา แล้วค่อยไล่ลงมาที่ท้องน้อย ลูบไปมาได้สักพักนึงก็เลื่อนต่ำลงไปถึง xxx จากนั้นก็ไล่ลงมาตามขาทั้งสองข้างและก็แผ่นหลัง บูมได้แต่อมยิ้ม จากนั้นผมก็สระผมให้บูมจนเสร็จ แล้วเราสองคนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากที่ผมและบูมแต่งตัว บูมก็เดินเข้ามาจูบผมที่แก้มเบา ๆ
“แผนสูงนะ มิน่าเห็นหยิบกระเป๋าเดินทางมาด้วย”ผมพูดยิ้ม ๆ
“อ้าว โยไม่ชอบหรอ เรานึกว่าโยชอบซะอีกนะ เห็นจ้องเราตาไม่กระพริบเลย ยิ่งตอนที่เราลูบตัวนะ....อย่าให้บอกเลย”บูมพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“เราทำไม ... พูดดี ๆ นะ ทีตัวเอง ครางออกมาเรายังไม่พูดเลย”ผมพูดยิ้ม ๆ
“ใคร ๆ ๆ มาลองกันอีกทีเลยมะ”บูมทำท่าจะจูงผมเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง
“พอเลย ๆ ไม่พูดด้วยละ”ผมพูดงอน ๆ
“ไม่แกล้งก็ได้ อย่างอนเลยนะ มา มาให้หอมอีกทีนะครับ”บูมหอมแก้มผมแล้วเอนตัวมานอนหนุนตักผม
“วันนี้เรามีความสุขมากเลยนะโย อยากให้เป็นแบบนี้ไปนาน ๆ”บูมพูดพลางหลับตา
“อืมมม....”ผมเอามือลูมผมบูมไปมา
“วันนี้จะไปกินข้าวที่ไหนกันดีอ่ะโย อ่ะเรานึกขึ้นได้ละ เดี๋ยวเราพาไปเองนะ ไปกันเถอะ”บูมลุกขึ้นมาอย่างตื่นเต้นแล้วจูงผมออกมาจากห้อง แล้วเราสองคนก็เดินไปลาแม่ของผมแล้วขับรถออกไป
เราขับรถกันมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ร้าน ๆ นึงซึ่งดูคุ้นตาผมมากเหลือเกิน เอาละสิ ร้านเพื่อนปอนด์อีกแล้วหรอเนี่ย

จบตอนที่ 24/2 แล้วครับ เพิ่งจะกลับมาวันนี้เลยรีบเอาเรื่องมาต่อให้ ขอโทษด้วยครับที่ไม่ได้เอาเรื่องมาลงให้ตอนก่อนจะไป เพราะต้องเลื่อนวันออกเดินทาง ก็อย่างที่ทราบกันนะครับว่า มีเหตุขัดข้องทางการเมือง เลยกลัวว่าถ้าเดินทางตามกำหนดจะมีปัญหาอ่ะครับ
****************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-01-2007 09:51:21
 :serius2:  :serius2:  :serius2:
ปล่อยให้เราลุ้น
อ๊ะ ไม่เป็นไร มีลุ้นให้รถไฟชนกันอีกแล้ว  :haun5:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 15-01-2007 10:35:00
 :sad5:  :sad4: :sad5:เฮอมีปัญหาใหม่ๆ อีกแย้ว
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-01-2007 13:06:39
ว้าวๆๆๆ บูม ทำอารายยยเนี้ยยย ช้อบชอบ อิอิ :haun6:



ทำไมไม่มีใครมาบุกเข้าห้องน้ำอาบน้ำให้มั้งนะ หุหุ :impress2:


ว่าแต่ก็นึกถึงตอนที่อาบน้ำกะแฟนเหมือนกัน ตอนคบกันใหม่ๆ(ตอนนี้ไม่แบบนั้นแว้ววว แงๆๆ)


สระผมให้กันนี่ มันเป็นรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริงๆเลย :interest:   ใครยังไม่เคย ลองดูนะคร้าบซักครั้ง หุหุ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 15-01-2007 14:16:55
โยนี่เป็นกุลเกย์จริงๆ  เป็นเรื่องที่อ่านแล้วนายเอกสมกับเป็นนางเอกมาก ๆ เขินอาย  ไว้เนื้อไว้ตัวจริง ๆ  แต่ขนาดกุลเกย์ก็ใช่ย่อยนะเนี่ย  อิอิ  ว่าแต่ทำไมไม่ต่อไปเลยว้า  กั๊กอะ  :serius2:  :serius2:

รออ่านต่อ  ทำกรรมกับใครไว้  รอรับเลย สงสารปอนด์เหมือนกันนา  :impress:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 15-01-2007 20:19:05
 :-[ อาบน้ำด้วยกานด้วย ฮิฮิ
หวังว่าปอนด์คงไม่มาร้านนี้นะ หรือเพื่อนปอนด์จะคาบข่าวไปบอกหว่า :confuse:  :serius2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BAPE* ที่ 15-01-2007 21:03:29
เหอๆ...จะเจอปอนด์มั้ยเนี่ย...

ถ้าเจอบูมเปลือยเข้ามาในห้องเราคงใจละลาย..ฮ่าๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 15-01-2007 21:54:42
สนุกๆๆๆ มาต่อไวๆเลยนะครับ
อยากรู้ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 16-01-2007 09:11:23
"ตอนที่ 24/3"

เราขับรถกันมาเรื่อย ๆ จนมาหยุดอยู่ที่ร้าน ๆ นึงซึ่งดูคุ้นตาผมมากเหลือเกิน เอาละสิ ร้านเพื่อนปอนด์อีกแล้วหรอ ผมเลยตัดสินใจหันไปบอกบูม
“เปลี่ยนร้านได้ป่ะบูม เราไม่ชอบอาหารร้านนี้เลยอ่ะ”ผมพูด (จะไปชอบได้ไง ถ้าเกิดเพื่อนปอนด์มาเจอเข้าเดี๋ยวเรื่องก็เกิดอีก ยังหาวิธีบอกปอนด์เรื่องระหว่างผมกับบูมโดยไม่ให้ปอนด์รู้สึกเสียใจแล้วก็โกรธไม่ได้เลย)
“ทำไมล่ะ เราว่าบรรยากาศที่นี่ดีออก โยจำได้ไหมว่าพวกเรามากินข้าวด้วยกันที่นี่เป็นครั้งแรกนะ กินที่นี่แหละจะได้รำลึกความหลังกันด้วย”บูมพูดแล้วดับเครื่องเปิดประตูลงไปเลย
“แต่ว่าเรา..........”ผมเดินตามลงมาด้วยสีหน้ากังวลใจ
“ตอนนั้นโยยังบอกบรรยากาศดีเลย กินที่นี่แหละ นะ นะ ไว้คราวหลังเราจะให้โยเป็นคนเลือกบ้าง”บูมพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินมาจูงมือผมเข้าไป
ตลอดทางที่ผมเดินเข้ามาในสวนอาหารผมเอาแต่มองซ้ายที ขวาที เพราะกลัวว่าเพื่อนปอนด์จะมาเห็นเข้า ยิ่งปิดเทอมด้วยแล้ว ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก จนบูมเริ่มสังเกตเห็นและอดที่จะถามไม่ได้
“เป็นอะไรหรือเปล่า เห็นหันซ้ายหันขวามาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ซ่อนเด็กเอาไว้ที่นี่หรือเปล่าเนี่ย น่าสงสัยแหะ”บูมพูดยิ้ม ๆ
“เปล่าไม่มีอะไรหรอก”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ สิ่งที่ผมกังวลที่สุดก็มาถึง
“อ้าวโยมากินข้าวกับเพื่อนหรอครับ บอกแล้วไงว่า ร้านเราอาหารอร่อย”เพื่อนปอนด์ที่เป็นลูกชายเจ้าของร้านเดินเข้ามาทักผม จนบูมหันกลับมามอง
“อืมมม....อร่อย”ผมยิ้มแหย ๆ แล้วก้มลงมองพื้นไม่กล้ามองบูม
“งั้นโยกับเพื่อนมานั่งโต๊ะที่ซุ้มด้านนี้ดีกว่า เดี๋ยวเราให้เด็กจัดให้เป็นพิเศษ”เพื่อนปอนด์ชวนให้ผมกับบูมไปนั่งที่โต๊ะในซุ้มอีกซุ้มนึงเพราะบรรยากาศดีกว่า ผมกับบูมเลยต้องเดินตามไป
“งั้นเดี๋ยวเรามานะ สั่งอาหารกันตามสบายเดี๋ยวเราลดให้พิเศษ”เพื่อนปอนด์หันไปกำชับบอกพนักงานให้ดูแลพวกผมดี ๆ แล้วเดินจากไป
จากนั้นผมกับบูมก็สั่งอาหารมาทานกันนิดหน่อย ระหว่างที่เรากำลังนั่งรออาหารอยู่ บูมก็ยิงคำถามใส่ผมทันที
“ไปรู้จักเจ้าของร้านตั้งแต่เมื่อไหร่ เค้าเป็นใคร มาจีบโยอีกหรือเปล่าเนี่ย มิน่าล่ะทำไมไม่ยอมมากินร้านนี้ตั้งแต่ทีแรก เราล่ะไม่ค่อยจะไว้ใจสักเท่าไหร่เลย ”บูมด้วยด้วยน้ำเสียงที่เริ่มขุ่นนิด ๆ
“อ๋อ เค้าเป็นเพื่อน ของ เพื่อนเราอีกที ไม่มีอะไรหรอก อย่าคิดมากดิ ไม่มีอะไรจริง ๆ”
“ให้มันจริงเถอะ อย่าให้จับได้นะ ไม่งั้นล่ะ...........”บูมยิ้มอย่างเยือกเย็นน่ากลัวมาก
“อะไร นี่ดีกันแค่วันเดียวจะกลับไปเป็นแบบเดิมอีกละ” ผมบ่น
“อ้าวก็มันน่าสงสัยนิ อย่างงี้เราต้องคอยตามติดโยซะแล้ว” บูมพูดงอน ๆ
“อย่ามาว่าแต่เราเลย เอาเรื่องอาร์ทให้รอดก่อนเถอะ เราขี้เกียจจะไปสู้รบปรบมือกับใครเค้านะ ท่าทางน่ากลัวด้วยอาร์ทน่ะ” ผมพูดด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
“อ้าว เราเห็นโยจัดการไปแล้วนิ ดูดิไม่กล้าโทรมาหาเราเลย ดีนะเราจะได้ไม่ต้องรับสาย” บูมพูดยิ้ม ๆ
“ให้มันจริงเหอะ ไม่ใช่ไปแอบคุยกันสองต่อสองละกัน”
“พอ ๆ ๆ เลย อย่าพูดเรื่องคนอื่นเลยเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีกอ่ะ เอาเป็นว่าเราเชื่อใจโยแล้วกันนะ โอเคไหมครับ”
“....................อืมม..........”ผมยิ้มให้
“แล้วปิดเทอมตั้งหลายเดือนจะไปไหนกันดีอ่ะโย แต่ขอไม่ไปเชียงใหม่นะ เราเข็ดแล้วอ่ะ”บูมทำสีหน้าขยาด
“ไม่ต้องไปเค้าก็จะมาหาที่กรุงเทพฯอยู่แล้ว”ผมบ่นพึมพำเบา ๆ
“โยว่าอะไรนะ เอาใหม่ดิ๊” บูมหันมาถามผม
“ไม่มีอะไรหรอก แล้วแต่บูมละกันเรายังไงก็ได้ แต่ต้องบอกเราล่วงหน้านะ” ผมรีบปฎิเสธแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด
เรานั่งคุยกันไปได้สักแป๊ป พนักงานก็เอาอาหารมาเสิร์ฟ พร้อม ๆ กับ ชุดจานช้อนส้อมที่เพิ่มขึ้นมาอีกสองชุด จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเค้าจะเอามาทำไม แต่แล้วผมก็ได้รับคำตอบ เมื่อผมได้ยินเสียงใครคนนึงดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“มากินข้าวไม่ชวนเราเลยนะโย ... ขอเรากินด้วยคนได้ป่ะ”ปอนด์เดินยิ้มเข้ามาทักทายผม แต่แล้วปอนด์ก็ต้องหุบยิ้มลงทันทีเมื่อเค้าต้องเผชิญหน้ากับบูมที่ตอนนี้เริ่มมีสีหน้าไม่พอใจมาก ๆ
“ก็รู้นิว่าเค้าไม่ได้ชวน ยังจะมานั่งอีก”บูมพูดโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจคนที่กำลังเข้ามานั่ง
“สั่งอาหารน่ากินจังเลยอ่ะโย เหมือนกับรู้ใจเราเลยว่าเราจะมา ของที่เราชอบทั้งนั้นเลย”ปอนด์ทำเป็นไม่สนใจบูมหันมาคุยกับผม
“ตกลงใครชวนคุณมาไม่ทราบครับ”เอาแล้วสิครับ มีเรื่องแน่ ๆ บูมลุกขึ้นยืนทันที ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจสุด ๆ
“ไม่มีใครหรอกครับ แค่ผมอยากจะมากินข้าวกับโยทำไมจะไม่ได้ ปกติผมก็มากินข้าวกับโยที่นี่ออกจะบ่อย”ปอนด์ไม่ยอมแพ้ยืนขึ้นท้าทายบูมเช่นกัน
“อ้าว...ยืนกันทำไม กิน ๆ ๆ กัน”เพื่อนปอนด์เดินเข้ามาโดยไม่รู้เลยว่า กำลังเกิดศึกกันอยู่ ส่วนผมได้แต่นั่งเฉย ๆ เพราะไม่รู้จะพูดยังไงดี
“บูมนั่งลงกินข้าวด้วยกันเถอะ นึกว่าเห็นแก่เราละกันนะ ปอนด์ด้วย”ในที่สุดผมก็ตัดสินใจพูดออกมา เพราะอีกฝ่ายก็คนที่ผมรัก และอีกฝ่ายก็เพื่อนคนที่ดีกับผมมาก ๆ
“ใครจะกินก็กินกันไปเหอะ เราไม่กิน”บูมพูดอย่างอารมณ์เสียแล้วทำท่าจะลุกออกไป
“บูม....จะไปไหน”ผมดึงมือบูมเอาไว้
“เราไม่อยากกิน เหม็นหน้าคนแถวนี้”บูมจ้องไปยังปอนด์
“ใคร ๆ ๆ จะเอาไงว่ามาเลย”ปอนด์พูดอย่างไม่กลัว
“พอเลย ๆ ตกลงจะกินไหม ไม่กินเรากลับแล้วนะ ชักโมโหแล้ว จะเอายังไงก็เอาละกัน เบื่อละ”ผมตะโกนออกมาอย่างเหลืออด
“.......................................”เงียบทุกอย่างเงียบลง พร้อม ๆ กับบูมและปอนด์ที่นั่งลงกับที่
“เออ....เราต้องขอตัวไปต้อนรับแขกก่อนนะ แล้วเจอกัน”เพื่อนปอนด์ใช้วิชานินจาหลบไปก่อน
หลังจากที่เพื่อนปอนด์ขอตัวออกไป ความเงียบก็เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาแทนที่ จนทุกคนในโต๊ะเริ่มจะอึดอัด
“แล้วปอนด์รู้ได้ไงว่าเราอยู่ที่นี่”ผมเริ่มบทสนทนา ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเค้าต้องโทรไปบอกแน่ ๆ
“เพื่อนเราโทรบอกว่าโยมากินข้าวกับเพื่อน เราเลยตามมาไง”ปอนด์ยิ้มให้เจือน ๆ
“ใครว่ามากินกับเพื่อน มากินกับแฟนต่างหาก”บูมพูดแทรกขึ้นมา
“แฟนเก่าอ่ะสิไม่ว่า นายนี่ตลกนะ ทำให้เค้าเจ็บแล้วยังมีหน้ามาขอคืนดีกับเค้าอีก”ปอนด์จ้องหน้าบูมเหมือนกับจะเอาเรื่อง เฮ้อออ รู้งี้ผมไม่น่าเริ่มต้นพูดก็ดีแล้ว
“แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย คนเป็นแฟนกันจะมาทะเลาะกันมั่ง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา มันเกี่ยวอะไรกับคนนอกด้วยจริงไหมโย”บูมหันมาผม
“ทำไมจะไม่เกี่ยวในเมื่อเรื่องของนายกับโยมันเป็นอดีตไปแล้ว จะมาวุ่นวายอะไรกับโยอีก”ปอนด์ไม่ลดละ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแกวะ หา.....”บูมเริ่มโมโห
“จะไม่เกี่ยวได้ไง ในเมื่อตอนนี้เราจีบโยอยู่ แล้วก็กำลังจะพัฒนาไปเป็นอย่างอื่นในไม่ช้า”ปอนด์เริ่มไม่พอใจเช่นกัน
“พอเหอะ ทั้งสองคนเลย”ผมพูดด้วยความเหลืออด “ปอนด์เราขอบใจนะที่ปอนด์ดีกับเราทุกอย่างแต่เราคิดกับปอนด์แค่เพื่อนเท่านั้นจริงๆ”ผมตัดสินใจพูดความจริงออกไปทั้ง ๆ ที่ไม่อยากพูดให้ใครต้องเจ็บปวด
“เห็นไหมว่าเค้าคิดกับนายแค่เพื่อน ได้ยินไหม”บูมทำท่าล้อเลียนปอนด์
“หยุดเลยบูม.....”ผมหันมาทำตาดุใส่บูมทำให้เค้าต้องสงบลง
“ปอนด์ เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ ปอนด์เป็นเพื่อนที่ดีมาก ๆ และเป็นเพื่อนที่เรารักมาก ๆ คนนึง อย่าทำให้เราลำบากใจเลยนะ เราไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้เพราะมันจะทำร้ายจิตใจของเพื่อนที่เรารักมาก แต่ความรักที่เรามีให้ปอนด์มันเป็นรักแบบที่เพื่อนมีให้กับเพื่อนแค่นั้นจริง ๆ”ผมยิ้มให้ปอนด์ แต่อีกฝ่ายกลับหน้าเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
“เราเข้าใจละ ถึงแม้ว่าเราจะดีแค่ไหนแต่ก็ไม่มีวันลบไอ้หน้าจืดคนนี้ออกไปจากใจโยได้ใช่ไหม”ปอนด์หันมายิ้มเศร้า ๆ
“แต่เราก็ยังคงเป็นเพื่อนเหมือนเดิมได้นะ”ผมยิ้มให้ปอนด์
“ขอบใจนะสำหรับเวลาดี ๆ ที่โยมีให้เรา เราขอบใจมากจริง ๆ เราจะจำมันเอาไว้ ลาก่อน”ปอนด์เอ่ยลาด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยพร้อมกับรอยน้ำตา ปอนด์เดินออกไปจากโต๊ะ มันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีมาก ๆ ที่ต้องทำร้ายจิตใจคนที่ดีกับผมมาตลอดไป
“ไปซะที.....”บูมตะโกนไล่
“นี่แน่ะ ไปว่าเค้าทำไม รู้ไหมว่าเค้าดีกับเราแค่ไหน ตอนที่บูมแกล้งเรา แล้วเรากำลังเสียใจอยู่......”ผมตีแขนบูมด้วยความหมั่นไส้
“อ้าว........”บูมยังไม่ทันจะพูดผมก็ทำตาดุใส่ จนบูมต้องก้มหน้าก้มตากินข้าวไป
หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จ บูมก็จะชวนผมไปเที่ยวต่อแต่ผมรู้สึกไม่ดีมาก ๆ เลยขอตัวกลับบ้านดีกว่า ซึ่งบูมก็น่าจะเข้าใจ (หรือเปล่าไม่รู้) เลยไม่ว่าอะไร ชายหนุ่มเลยขับรถมาส่งผมที่บ้าน
“บูมกลับบ้านไปเหอะ เดี๋ยวเราเข้าบ้านละ”ผมพูดกับบูมพร้อม ๆ กับจะเปิดประตูลง
“ใครบอกจะกลับ เราเอาเสื้อผ้ามาค้างที่นี่แล้ว อีกอย่างเราขอแม่โยแล้วว่าเราจะมาค้างสักสอง-สามวัน แม่โยก็ไม่ว่าอะไร แถมยังดีใจซะอีก”บูมพูดด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“โห.......นี่ตกลงบูมเตรียมแผนมานานแล้วใช่ไหมเนี่ย ร้ายนะ”ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็นั่งรถเข้าบ้านไปพร้อมบูม
ผมเดินเข้ามาในบ้านโดยมีบูมเดินตามหลังมา ทันทีที่แม่เห็นผมก็กวักมือเรียกให้ผมเดินไปหา
“มีอะไรหรอครับแม่”ผมเดินไปนั่งที่โซฟาข้าง ๆ แม่ผม
“เดี๋ยวตอนเย็นจะมีแขกมาหาลูกนะจ๊ะ”แม่ผมยิ้มให้
“สวัสดีครับแม่”บูมยกมือไหว้แม่ผม
“สวัสดีจ๊ะ บูมนี่น่ารักนะ ไปลามาไหว้ตลอดเลย ดูตาโยสิ แม่สอนก็ไม่จำ”โหหหหหหหห แม่อย่าไปดูแค่เปลือกนอกดิ
“หรอครับ เดี๋ยววันหลังผมจะช่วยเตือนด้วยอีกแรงครับ”บูมพูดยิ้ม ๆ แถมทำหน้าล้อเลียนอีก
“แม่อย่าไปเชื่อ........”ผมกำลังจะพูดต่อแต่แม่ผมกลับตีมือผมเบา ๆ
“เราน่ะเงียบไปเลย แม่คุยกับบูมก็รู้แล้วว่าบูมน่ะ นิสัยดี เรียบร้อย มีสัมมาคารวะ”แม่ผมหันมาว่าผมแล้วยิ้มให้บูม
“เออ.....เดี๋ยวเย็นนี้แม่กับพ่อจะไม่อยู่นะจ๊ะ พอดีมีงานเลี้ยงนิดหน่อย ยังไงถ้าตาวิทย์ลูกเพื่อนป้ามาก็คอยต้อนรับเค้าด้วยนะลูก อย่าทำให้แม่ขายหน้านะ ป้าเค้าฝากฝังเอาไว้ด้วย”
“ใครนะครับแม่”ผมหันมาถามอีกครั้งด้วยความตกใจ
“ก็ตาวิทย์ไงจ๊ะ เห็นว่าเค้าบอกกับโยแล้วนิลูก อย่าลืมนะจ๊ะ ป้าเค้าฝากฝังมาด้วย แม่ต้องไปทำผมแล้วล่ะ แล้วแม่จะเลยไปที่ทำงานพ่อเลยนะ งั้นแม่ไปละนะ อยู่บ้านดี ๆ นะจ๊ะ”แม่พูดแล้วเดินออกไป
“ไอ้คุณพี่วิทย์อีกแล้วหรอ ทำไมหนีมันไม่พ้นสักทีนะ”บูมบ่นอย่างไม่พอใจแล้วเดินขึ้นห้องไป
จบตอนที่ 24/3 วันนี้มาต่อให้แล้วนะครับ พอดีเมื่อวานโพสให้สั้นไปหน่อยเลยเอามาชดเชยให้ครับ
*****************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 16-01-2007 09:33:34
 :confuse: เฮอปัญหาใหม่ๆ มาให้แก้ไข ได้ตลอด ฮิฮิ :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-01-2007 09:45:13
กลุ้มแทนโย ปัญหาเก่าเพิ่งแก้ได้ ปัญหาใหม่ก็มา  :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 16-01-2007 09:53:55
คาราคาซังจริง ๆ เลยคู่นี้  อ่านแล้วขัดจายยยยย  ชวนให้หงุดหงิด  :serius2:

โยขี้ใจอ่อน  ขี้เกรงใจคน  บูมก็อะไรไม่รู้ งง   ว่าแต่น่าสงสารปอนด์เหมือนกันนา  รักเค้าข้างเดียว 

รออ่านต่อจ้า  อีตาพี่วิทย์จะมาไม้ไหนอีก   :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 16-01-2007 14:43:33
สงสารปอนด์ง่ะ . . .  :monkeysad: . . . แต่ก็ดีแล้วล่ะ เฮ้อ

ว่าแต่คลื่นอีกลูกกำลังตามมา จะเป็นไงบ้างน้อ . . .
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BAPE* ที่ 16-01-2007 18:22:11
เฮียวิทย์จะมาทำไมค่ะเนี่ย...ไม่อาววว กลับไปเหอะเฮีย
คนเค้าเพิ่งจะปรับความเข้าใจกานได้หยกๆ

เริ่มติด...มาต่อเร็วๆนะเคอะ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 16-01-2007 20:29:11
โจทย์เก่ามาแล้ว ... อุปสรรคคู่นี้นี่เยอะดีแท้... ฮิฮิ  :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beta ที่ 17-01-2007 00:58:35
กรรมเก่าผ่านไป กรรมใหม่มาอีกแล้ว

เป็นกำลังใจให้ครับ  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-01-2007 13:05:30
 :-[ :impress2:  ชอบเรื่องนี้จังเลยอ่าครับพูห์..... มีเรื่องให้ลุ้นตลอดเวลาเลย...


แต่ถ้าตัวเองเป็นบูมกะโยคงเหนื่อยน่าดู เหอๆๆ :try2:


นี่อาร์ทกับปอนด์ก้แก้ไปได้หน่อยแล้ว มีพี่วิทย์เจ้าเก่ามาอีก หู้ว :sad5:


ๆๆๆ  โยนี่เสน่ห์แรงจริงๆ (จอิจฉาดีมั้ยนี่ :untrust:)
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-01-2007 13:18:23
"ตอนที่ 24/4"

ผมเดินตามบูมขึ้นมาบนห้อง ก็เห็นบูมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ผมเลยเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ

“เป็นอะไรอีกละ”ผมพูดแล้วเอาหน้าไปซบที่ไหล่บูม

“เปล่า ก็แค่อยากมาอ่านหนังสือเงียบ ๆ”บูมพูดโดยไม่ได้ละสายตาจากหนังสือตรงหน้า

“ไม่จริงหรอก เรารู้นะ หึงอ่ะดิ”ผมเอามือไปจี้เอวบูมเบา ๆ

“ใครหึง เราไม่สนหรอก เพราะยังไงโยก็เป็นของตายอยู่แล้ว”บูมวางหนังสือลง พร้อม ๆ กับขยับตัวหนี

“ใครของตาย พูดมาดี ๆ นะ เดี๋ยวโดน”ผมเอามือไปจี้เอวบูมอีกครั้ง

“ไม่แล้วครับ ไม่เป็นของตายแล้ว 555 ยอมแล้ว ยอมแล้ว”บูมหัวเราะ ยอมแพ้


“ดี....”ผมกำลังจะลุกขึ้นไปหยิบรีโมตทีวีมาเปิด แต่ก็โดนบูมดึงตัวเอาไว้

“จะไปไหนมานี่เลย”บูมคว้าแขนผมไว้ทำให้ผมเซล้มลงไปนอนบนเตียง จากนั้นบูมก็กระโดดขึ้นมาคล่อมที่ตัวผมทันที

“ปล่อยเลย เราจะไปเปิด..........”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ บูมก็ก้มลงจูบที่ปากผม จากนั้นบูมก็หันมาไซร้ที่ซอกคอผม

ส่วนมือทั้งสองข้างของบูมก็พยายามดันเสื้อผมออก จนตอนนี้ท่อนบนของผมเปลือยเปล่า บูมค่อย ๆ เลื่อนตัวลงต่ำอย่างช้า ๆ จนไปหยุดที่อยู่หัวนมของผม

บูมค่อย ๆ ใช้ลิ้นเขี่ยหัวนมของผมไปมา จนผมดิ้นไปมาเพราะรู้สึกเสียวมาก ๆ ผมพยายามดันบูมออกไป

แต่บูมก็ยังคงดื้อหันไปเล่นงานหัวนมของผมอีกข้างจนผมครางออกมาเบา ๆ จากนั้นบูมก็ลากลิ้นลงไปตามตัวของผมอย่างช้า ๆ

มือทั้งสองข้างก็พยายามถอดกางเกงของผมออก ตอนนี้อารมณ์ของผมมันเริ่มที่จะเคลิ้มจนหยุดไม่อยู่แล้ว

ผมพยายามดึงตัวบูมให้ลุกขึ้นมา ถอดเสื้อและกางเกงออกอย่างรวดเร็ว ผมจัดการไซร้ไปที่ซอกคอ เรื่อยไปจนถึงซอกหู

ใช้มือทั้งสองข้างบี้หัวนมบูมที่ตอนนี้เริ่มแข็งเป็นไต จนบูมร้องครางออกมาเช่นกัน ผมเริ่มเลียไปที่ร่างกายของบูมอย่างนุ่มนวล

ผมดันตัวบูมให้ล้มลงไปนอนบนเตียงแล้วจัดการปลดปราการสุดท้ายออกมาจากนั้น....................

(แค่นี้พอนะครับเดี๋ยวจะเป็นหนังเอ็กซ์ไปซะก่อน เอาเป็นว่า เรียบร้อยก็แล้วกันครับ)

หลังจากที่ สงครามสงบลง บูมกับผมก็นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนล้า จนลืมไปว่าตอนเย็นนี้ ผมมีนัดที่จะต้องเจอกับพี่วิทย์

ผมตกใจตื่นมาอีกที ก็เกือบจะ หกโมงเย็นแล้ว เพราะเพิ่งจะนึกได้ว่าพี่วิทย์จะมาหา ผมจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินมาปลุกบูม แต่บูมก็ยังไม่ยอมตื่น

ผมเลยต้องลงไปนั่งรอพี่วิทย์ข้างล่างคนเดียว

ผมนั่งรอพี่วิทย์ด้านล่างได้ไม่นานนัก เสียงแตรรถก็ดังขึ้นจากหน้าบ้าน ผมเลยเดินไปเปิดประตู

“พี่วิทย์สวัสดีครับ”ผมยิ้มทักทาย หลังจากที่พี่วิทย์ลงมาจากรถ

“น้องโย สวัสดีครับ สบายดีหรือเปล่าครับ เราน่ารักขึ้นจริง ๆ นะเนี่ย พี่ชักเริ่มจะอดใจไม่ไหวแล้วล่ะ”พี่วิทย์เดินยิ้มมาพร้อมกับหอบของฝากมาเยอะแยะเลย

“พี่วิทย์ทานอะไรมาหรือยังครับ” ผมยิ้มทักทายตอบ

“ยังเลยอ่ะ พี่กะจะชวนน้องโยไปทานข้าวข้างนอกกันน่ะ”

“อืมมม....งั้นเดี๋ยวผมเอาของไปเก็บก่อนนะ พี่วิทย์ไปนั่งรอในบ้านก่อนแล้วกันนะครับ”ผมเชิญพี่วิทย์เข้ามาในบ้าน

“อืมม ไป เราเข้าบ้านกัน” พี่วิทย์พยักหน้ารับ

จากนั้นผมก็เชิญพี่วิทย์ไปนั่งที่โซฟา แล้วเดินไปเก็บของพร้อม ๆ กับหยิบน้ำมาให้ จากนั้นผมก็ขอตัวขึ้นไปบนห้อง โดยอ้างว่าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

 แต่ที่จริงแล้วผมตั้งใจจะขึ้นไปบอกบูมก่อน เดี๋ยวจะมีเรื่องมีราวอีก

“บูม พี่วิทย์มาแล้วนะ เค้าชวนเราไปกินข้าวข้างนอก จะไปด้วยกันไหม”ผมสะกิดเรียก ชายหนุ่มที่กำลังนอนยิ้มอยู่บนเตียง

“บูม..........ได้ยินไหมเนี่ย ตื่น ตื่นเร็ว เราจะออกไปแล้วนะ” ผมสะกิดเรียกชายหนุ่มอีกที

“อะไร โยอ่ะ คนกำลังนอนสบายอยู่เลย หรือว่า....โยจะต่ออีก........”บูมงัวเงียมาจะดึงผมลงไปนอนบนเตียง

“ไม่เอาแล้ว พี่วิทย์มาแล้วนะ”ผมฝืนดันตัวบูมออกไป

“อ้าวมาแล้วหรอ” บูมลุกขึ้นนั่ง

“อืมม พี่เค้าชวนเราไปทานข้าวข้างนอก”

“งั้นเดี๋ยวเราลงไป รอแป๊ปนะ” ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ

“อย่านานนะ เดี๋ยวพี่วิทย์จะคอยนาน”

จากนั้นผมก็ไปหยิบเสื้อผ้าเปลี่ยนชุดแล้วเดินลงไป พอผมเดินลงไปก็เห็นพี่วิทย์นั่งยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อยู่ตรงโซฟาจนอดถามไม่ได้

“พี่วิทย์ยิ้มอะไรครับ ผมมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า” ผมก้มลงสำรวจตัวเองอย่างแปลกใจ

“เปล่า ๆ ๆ ไม่มีอะไรครับน้องโย พี่แค่คิดว่าเราไม่เจอกันไม่กี่เดือนทำไมน้องโยน่ารักขึ้นขนาดนี้ พี่ชักไม่อยากกลับไปเชียงใหม่แล้วซิ” พี่วิทย์ยิ้ม

พร้อม ๆ กับหยอดคำหวานซะจนผมตัวแทบจะลอย

“อ้าว เป็นงั้นไป...ขอบคุณครับพี่ พี่วิทย์ชอบพูดแบบนี้จนผมนึกว่าเป็นเรื่องจริงแล้วนะเนี่ย” ผมยิ้มเขิน ๆ

“ก็พี่พูดเรื่องจริงนิครับน้องโย” หยอดอีกแล้วครับท่าน

“ไม่เอาแล้ว คุยกับพี่วิทย์เดี๋ยวผมตัวลอยไปโน้น”

“555 พี่พูดจริง ๆ ก็หาว่าแกล้งชม”

“จริงครับ พี่วิทย์แฟนผมน่ารักขึ้นจริง ๆ จนผมแทบจะอดใจไม่ไหวเลยครับพี่”บูมเดินลงมาจากชั้นบน

ทำให้ผมกับพี่วิทย์ต้องตกตะลึงเพราะบูมเล่นเดินลงมาด้วยผ้าขนหนูพันเอวแค่ตัวเดียว

“ขอโทษทีครับพี่ พอดีผมหา กางเกงไม่เจออ่ะครับ เลยลงมาตามแฟนให้ไปช่วยหา โยครับขึ้นไปช่วยบูมหาเสื้อผ้าหน่อยดิ ไม่รู้ไปเก็บไว้ไหนอ่ะ”

บูมพูดพร้อมกับมองพี่วิทย์ด้วยสีหน้าสะใจ

“เอ่อ..........คือ.......เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมมานะครับพี่” ผมจ้องบูมด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจแล้วเดินไปหาบูม

จากนั้นบูมก็เดินลงมาจูงผมขึ้นไปบนห้อง ทันทีที่บูมเดินเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังจนผมต้องเดินมาหยิกที่แขนเป็นเชิงปราม

“555 โอ๊ย เจ็บนะ” บูมลูบแขนตัวเองอย่างเร็ว

“เจ็บหรอ ดูดิ๊ทำอะไรลงไป ไม่อายชาวบ้านบ้างหรอไง” ผมต่อว่าบูม

“อายทำไม คนเป็นแฟนกันจะอายทำไม ดูสีหน้าไอ้หน้าจืดนั่นดิ จ๋อยเลย ตาค้างเลยดิ สมน้ำหน้าอยากมายุ่งกับแฟนคนอื่นดีนัก”บูมเบ้ปากสะใจ

“เนี่ยพี่ไม่เห็นน้องโยมาไม่กี่เดือน น่ารักขึ้นนะ เชอะ”บูมแกล้งบีบเสียงเป็นเสียงเล็กเสียงน้อยเป็นเชิงล้อเลียน

“เฮ้อออ.....แล้วตกลงจะไปด้วยกันไหมเนี่ย”ผมถามพร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอา

“ไปดิครับ ใครจะกล้าปล่อยแฟนตัวเองไปกับไอ้คุณพี่วิทย์นั่นได้ล่ะครับ เดี๋ยว มคปด ซะก่อน รอแป๊ปนึงนะ”บูมรีบลุกขึ้นไปหยิบเสื้อผ้า

“ไปเปลี่ยนในห้องน้ำสิ มาแก้ผ้าอะไรแถวนี้”ผมตะโกนบอกแต่คิดว่าไม่ทันซะแล้วก็พี่บูมเล่นถอดผ้าขนหนูออกแถมยังทำท่าส่ายเอวโชว์ซะอย่างงั้น

“ทำไม อดใจไม่ไหวละซิ มาต่ออีกรอบมา”บูมเดินเข้ามาหาจนผมทำหน้าดุใส่ (ถ้าไม่ติดพี่วิทย์น่าดู)

“รีบไปใส่เสื้อผ้าเลย เราไม่รอแล้วนะ เดี๋ยวเราจะลงไปหาพี่วิทย์ก่อนขึ้นมานานแล้ว”ผมพูดจบก็หันหลังเดินลงไปข้างล่าง

พอผมเดินลงมาด้านล่างก็เห็นพี่วิทย์มีสีหน้าที่เศร้าลงไปอย่างถนัด จนผมอดที่จะสงสารพี่วิทย์ไม่ได้

“เป็นอะไรหรือเปล่าครับพี่วิทย์ พี่อย่าทำหน้าแบบนี้ดิครับ ดูไม่หล่อเลยนะ” ผมพูดกับชายหนุ่มที่นั่งก้มหน้าอยู่เบื้องหน้าผม

“ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับน้องโย”ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง

“อะไรครับ เมื่อไหร่ ผมไม่เข้าใจ”ผมถามด้วยความสงสัย

“พี่แค่อยากรู้ว่า น้องกับแฟน เอ่อ...บูม คืนดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่”พี่วิทย์เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยแววตาที่เจ็บปวด

“ก็ไม่กี่วันนี้เองครับ.....”ผมตอบด้วยความรู้สึกสงสารพี่วิทย์จับใจ นี่เป็นอีกคนแล้วสินะที่ต้องมาเจ็บปวดด้วยเรื่องระหว่างผมกับบูม

ผมได้แต่คิดและรู้สึกสงสารมาก ๆ

“งั้นพี่ก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับที่น้องโยได้กลับมาคืนดีกับบูมอีกครั้ง แต่ยังไงความรู้สึกของพี่ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน

ยังไงพี่ก็จะรอ รอจนกว่าน้องโยจะหันกลับมามองพี่และรักพี่จริง ๆ”พี่วิทย์ยิ้มให้ แต่มันเป็นยิ้มที่ดูเศร้ามาก ๆ

“พี่วิทย์ครับ เราเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมได้ไหม ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจใครมากไปกว่านี้ จะเป็นการดีทั้งพี่ และ ก็ผม

ที่เราจะมายืนอยู่บนเส้นของคำว่าพี่-น้อง มากกว่าที่เราจะล้ำเส้นไปเป็นอย่างอื่น

ซึ่งมันอาจจะใช้เวลายาวนานเป็นปี ๆ หรือ อาจจะไม่มีวันนั้นเลยก็ได้ ผมไม่อยากให้พี่รอผมแบบนี้

ผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ ครับพี่”

ผมระบายความอึดอัดออกมาพร้อมน้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่ผมไม่อยากให้ใครต้องมาทนทุกข์เพราะผม

“รู้ไหมครับน้องโย ก็เพราะน้องโยเป็นคนแบบนี้ พี่ถึงได้รักน้องโย ไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาของน้องหรอก

เพราะมีคนผ่านเข้ามาในชีวิตพี่ให้พี่เลือกมากมาย ทั้ง ๆ ที่เค้าเหล่านั้นหน้าตาดีกว่าน้องโยหลายเท่า

แต่น้องรู้ไหมครับว่าทำไมพี่ถึงไม่เลือกที่จะคบกับพวกเค้า.......”พี่วิทย์พูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“.........”ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“พี่จะบอกให้ ก็เพราะความน่ารักที่รู้จักเห็นอกเห็นใจและอ่อนโยนกับผู้อื่นของน้องโยนั่นแหละ แว๊ปแรกที่พี่เห็นน้องโย

 พี่ก็อาจจะเริ่มชอบน้องโยเพราะหน้าตาบ้างนิดหน่อย แต่พอพี่ได้รู้จัก ได้เรียนรู้นิสัยของน้องโยแล้ว

มันทำให้พี่ไม่สามารถที่จะถอนตัวออกจากความรู้สึกนี้ได้ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม จนตอนนี้พี่แน่ใจแล้วว่า พี่รักเราจริง ๆ

พี่จะไม่ขอให้น้องยอมทิ้งบูมมาเป็นแฟนพี่เพราะพี่รู้ว่ามันคงจะยาก แต่พี่อยากจะขอรักน้องโยต่อไปจะได้ไหม

พี่ไม่สนว่าจะอีกนานเท่าไหร่ที่พี่จะได้หัวใจน้องโยมาครอบครอง หรือมันอาจจะใช้เวลาตลอดชีวิตของพี่ก็ได้ แต่พี่ก็เต็มใจที่จะรอ

ขออย่างเดียว ขอให้น้องโยสัญญาว่าจะไม่ลืมพี่ แค่นี้พี่ก็พอใจแล้ว”พี่วิทย์พูดจนผมน้ำตาซึมเลย

“พี่วิทย์ ผมขอบคุณมากครับ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดี ๆ ที่พี่มีให้ผม”

“เอ่อ....งั้นวันนี้พี่ว่า พี่กลับก่อนดีกว่า เอาไว้เรานัดกันวันหลังละกันนะครับ ยังไงพี่ก็มากรุงเทพฯหลายวันอยู่แล้ว” พี่วิทย์พูดและลุกขึ้นยืน

“อ้าว....ไม่ไปทานข้าวกันก่อนหรอครับพี่วิทย์” ผมถามด้วยความสงสัย

“ไม่ดีกว่า....มันไม่สะดวกน่ะ ดูนั่นดิลงมาแล้ว พี่ไปก่อนนะครับ ฝากลาแฟนเราด้วยนะ” พี่วิทย์ทำท่าให้ผมมองกลับไปดูชายหนุ่มที่เพิ่งจะลงมาจากชั้นบน

“ครับได้ครับ......สวัสดีครับพี่วิทย์”

“ครับผม สวัสดีครับน้องโย”

“ไอ้พี่วิทย์กลับไปแล้วหรอ” บูมถามหลังจากเดินลงมาจากชั้นบน

“อืมม...ใครจะไปทนได้ เห็นชีเปลือยเดินลงมาขนาดนั้น” ผมแซวชายหนุ่มยิ้ม ๆ

“อ้าว....คนอุตส่าห์ลงทุนยอมเอาหุ่นตัวเองเข้าแรกขนาดนั้น ยังจะมาว่าเค้าอีก....เออ โย กลับไปบ้านเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ

พอดีแม่เราโทรมาตามน่ะ เราเลยอยากแนะนำโยให้แม่เรารู้จักด้วย” บูมชวนผม

“หา ตอนนี้เลยหรอ.....” ผมถามด้วยความตกใจ

“ก็ตอนนี้อ่ะดิทำไมหรอ....”

“เรายังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย” ผมเริ่มรู้สึกกังวล

“จะเตรียมไปทำไม ไปเหอะน่า”

ก็จะไม่ให้เตรียมใจได้ยังไงล่ะ ก็แม่บูมอ่ะใช่ย่อยที่ไหนเหมือนพวกซูสีไทเฮาอะไรแบบนั้น แบบประมาณว่า ระเบียบจัดมาก

ตั้งแต่ที่ผมรู้จักบูมมาผมยังไม่เคยเจอแม่ของบูมเลยสักที ได้ยินแต่กิตติศัพท์มาจากแพทบ้าง บูมบ้าง แต่ละอย่างชวนขนลุกทั้งนั้น

แล้วอยู่ดีดีบอกวันนี้จะพาไปหา กลุ้มใจจริง ๆ บูมนะบูม.......ผมได้แต่คิดไปคิดมาตลอดทาง

จบตอนที่ 24/4 เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะครับ ยังไงจะพยายามมาต่อให้จบก่อนจะต้องไปทำธุระอาทิตย์หน้า

เพราะเดี๋ยวต้องรออีกตั้งสองอาทิตย์กว่าจะกลับ
*********************************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 17-01-2007 14:37:28
 :try2: หวังว่าแม่บูม คงชอบโย นะ ครับ ฮึฮึ  :try2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 17-01-2007 15:29:24
จามีปัญหาอีกป่าวหว่า (แม่สามีลูกสะใภ้ ฮิฮิ) ... :laugh:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-01-2007 15:39:11
บูมนี่ร้ายจริง ๆ นุ่งผ้าเช็ดตัวลงมาเย้ยวิทย์  :kikkik:  :kikkik:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-01-2007 17:33:38
 :serius2: ตัดฉากนั้นไปทำไม ของชอบเลย อิอิ รอฉากนี้ของโยกะบูมนานแล้ว


ในที่สุดโยก็ตกร้องปล่องชิ้นกับบูมเรียบร้อย หุหุ :haun6:


ว่าไปพี่วิทน์นี่น่าสงสารนะ ปอนด์ก็ด้วย  บูมนี่ร้ายใช่ย่อย แต่ก้นะ แฟนhot ขนาดนั้น ไม่แสดงความเป็นเจ้าชองให้เห็นบ้างก็กะไรอยู่


ทีนี้กต้องว่าลุ้นแม่สามีกะลูกสะใภ้ สู้ตายคับ :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 17-01-2007 22:22:13
อ่า . . . เสร็จสมอารมณ์หมาย :myeye:

พี่วิทย์น่าสงสารจัง มามะมาซบอกหมี
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-01-2007 10:12:06
"ตอนที่ 25/1"

ผมนั่งไม่เป็นสุข กระวนกระวายจนบูมเริ่มสังเกตเห็นเลยเอื้อมมือมาจับมือผมเอาไว้

ผมได้แต่หันไปมองหน้าบูมแล้วก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้ จนรถขับมาจอดยังที่จอดรถที่บ้านบูม

ผมกับบูมเดินเข้าไปยังห้องรับแขกซึ่งแม่ของบูมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว บูมเดินเข้าไปสวัสดีทักทายแม่ของเค้าพร้อมกับแนะนำตัวผมให้แม่รู้จัก

“ม๊าครับ นี่โยเพื่อนสนิทของผมที่คณะครับ” เฮ้อโล่งอก ถ้าบอกว่าเป็นอย่างอื่นมีหวังชะตาขาดแน่ ๆ เลย

“โยนี่แม่เราเอง”บูมหันมาบอกผม

“สวัสดีครับ...ผมชื่อโยครับ ต้องขออนุญาตคุณแม่ที่มารบกวนนะครับ” ผมพูดด้วยท่าทางนอบน้อมสุด ๆ

“.............”แม่ของบูมไม่พูดอะไรได้แต่พยักหน้ารับแล้วก็หันไปพูดกับบูม

“บูม นี่ก็ปิดเทอมแล้วทำไมไม่ไปฝึกงานที่บริษัท ม๊าบอกกี่ครั้งแล้วให้ไปหัดเอาไว้ เวลาทำจริง ๆ จะได้รู้เรื่อง

ไม่ใช่วัน ๆ เอาแต่ไปเที่ยวกับคนโน๊นทีคนนี้ทีแบบนี้ ม๊าไม่ชอบเลยนะ”

ประโยคหลังที่แม่บูมพูดโดยหันมาจ้องผมจนผมเสียวสันหลังวาบ...

งานนี้โดนอย่างจัง จนผมหน้าเจือนลงไป

“ผมเพิ่งจะปิดเทอมไม่เท่าไหร่เอง ขอเวลาพักผ่อนบ้างดิครับม๊า

แล้วโยก็ไม่ได้มาชวนผมไปไหนสักหน่อยมีแต่ผมที่เป็นคนชวนเค้าไปเที่ยว”บูมช่วยแก้ต่างให้ผม

แต่ผมกลับรู้สึกไม่ดียิ่งขึ้นไปอีกเพราะสายตาที่แม่ของบูมมองมาที่ผมไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

“จะยังไงก็แล้วแต่ ม๊าให้เวลาแค่อาทิตย์นี้อาทิตย์เดียว วันจันทร์หน้าต้องไปทำงานที่บริษัทนะ”แม่บูมพูดแบบตัดความ

“โห.....ไม่เอาหรอก ผมขอเวลาเป็นเดือนหน้าแล้วกันนะครับม๊า”บูมทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก

“ได้ ม๊าจะให้เวลาอีกหน่อย เป็นอันว่าเดือนหน้าก็ได้...แล้วนี่จะออกไปไหนกันอีกเห็นเด็กรับใช้บอกว่า บูมขนเสื้อผ้าออกไปข้างนอก”

“อ๋อ วันนี้เดี๋ยวผมจะไปค้างบ้านของโยเค้าอ่ะครับม๊า”บูมตอบ ส่วนผมก็ยิ้มรับ

“ไปค้างทำไม บ้านตัวเองไม่มีหรือไง จะไปรบกวนเค้าทำไมกัน บ้านตัวเองก็ออกจะใหญ่โต

มีห้องตั้งหลายห้องจะไปพักบ้านคนอื่นทำไม”แม่บูมพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยเหมือนซูสีไทเฮาเปี๊ยบเลย

“เอ่อ....................”บูมเริ่มพูดไม่ออกได้แต่สะกิดให้ผมช่วยพูด แต่ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไงมือไม้ก็เริ่มสั่นเหมือนกัน

“ช่างเถอะ ๆ จะไปไหนก็ไป เออ...บูมช่วยไปหยิบกระเป๋าที่วางไว้อยู่บนเตียงในห้องนอนให้ม๊าหน่อยไป ม๊าจะไปธุระต่อ”

“ครับม๊า”บูมพูดแล้วก็เดินออกไปจากห้องรับแขก ทำให้บรรยากาศดูน่ากลัวขึ้นเป็นสองเท่า

“เราชื่อโยใช่ไหม ม๊าเคยได้ยินอาร์ทพูดถึงเราให้ม๊าฟัง”หา....อะไรนะ อาร์ทหรอ เอาละสิงานนี้มีเฮแน่

“ครับ ผมโยครับ”ผมตอบหน้าจ๋อย ๆ

“ม๊าจะไม่พูดอ้อมนะเพราะม๊าไม่ชอบ เอาเป็นว่า โยเลิกคบกับบูมได้ไหม ม๊ารู้ว่าอะไรเป็นอะไร

แต่ม๊าอยากจะให้โยเข้าใจนะว่าคนภายนอกจะคิดยังไงถ้ารู้เรื่องนี้เข้า

ครอบครัวเรามีหน้ามีตาทางสังคมนะ ม๊าเลยอยากขอร้องให้โยเลิกกับลูกชายม๊าได้ไหม

เพราะม๊ารู้ดีว่าถ้าม๊าพูดกับบูมเค้าก็คงจะไม่เชื่อม๊าหรอก”แม่ของบูมพูดจนผมรู้สึกอึ้ง ตัวชาไปหมด

“เอ่อ คือว่าผม........”ความรู้สึกผมในตอนนี้มันเหมือนโดนอะไรมาบีบรัดจนหายใจแทบจะไม่ออก

“ถือว่า ม๊าขอร้องเถอะนะ เราน่ะมีคนเข้ามาอีกมากมาย ขอเว้นลูกม๊าสักคนเถอะนะ จะได้ไหม”

ม๊าพูดด้วยท่าทางจริงจัง จนผมเริ่มรู้สึกเหมือนถูกกดดัน

“เอาเป็นว่า ม๊าขอร้องละกันนะ อย่าทำให้ม๊ากับพ่อของบูมต้องลำบากใจที่จะต้องตัดสินใจทำอะไรลงไปเลยนะ”

“…………………….”ผมได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบอะไร ในใจก็คิดทบทวนในสิ่งที่แม่ของบูมพูด

“ได้ไหมโย จะให้ม๊าทำอะไรก็ได้ ขออย่างเดียว ปล่อยบูมให้เค้าไปมีชีวิตที่ปกติเหมือนคนทั่วไปเถอะนะ”

แม่ของบูมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แถมแววตาที่เคยดุดันกลับอ่อนลงพร้อม ๆ กับน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา จนผมรู้สึกสงสารมาก

“คือ.....ผมขอเวลาหน่อยจะได้ไหมครับ ถ้าอยู่ดี ๆ ผมบอกเลิกกับบูมเค้าคงจะไม่เชื่อหรอก

แต่ยังไงผมสัญญาว่าผมจะยอมเป็นฝ่ายถอยออกไปเองครับ”ผมพูดอย่างตัดสินใจแล้ว ผมไม่รู้ว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะถูกหรือไม่

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับรู้ในตอนนั้นคือความรู้สึกเสียใจของคนที่เป็นแม่คน

มันทำให้ผมต้องยอมที่จะทนเจ็บปวด และ ถอยออกมาทั้ง ๆ ทีใจจริงไม่อยากก็ตาม

“ขอบใจโยมากนะ ม๊ารู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร ม๊าขอโทษแต่โยคงจะเข้าใจม๊านะ”แม่ของบูมถามผม

“ครับผมเข้าใจครับ”

หลังจากที่ผมกับแม่ของบูมพูดกันเสร็จเรียบร้อยแม่ของบูมก็ขอตัวไปเตรียมตัวเพื่อไปทำธุระข้างนอกต่อ

ผมนั่งรอจนกระทั่งบูมถือกระเป๋าลงมา

“อ้าว....ม๊าไปไหนแล้ว”บูมถามผม

“ไปเตรียมตัวน่ะ...บูมเราต้องกลับแล้วนะ พอดีแม่บอกว่าให้เรารีบกลับไปเฝ้าบ้านน่ะ”

ผมโกหกบูมทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วแม่ผมไม่ได้บอกหรอกครับ

“เออ ๆ ๆ ไปดิ ไป กลับกัน”บูมทำท่าจะกลับไปด้วยแต่ผมต้องรีบห้ามเอาไว้

“บูมอยู่ที่นี่แหละ พอดีม๊าบูมเค้าบอกให้รอเค้าก่อนนะ ไว้มีโอกาสค่อยไปค้างด้วยกันก็ได้”ผมพยายามสะกดอารมณ์เศร้าเอาไว้ในใจ

“ไม่เอา โยรอเราแป๊ปนึงดิ เราอยากไปค้างด้วยอ่ะ นะ นะ นะ”

“ไม่ได้.....เรารีบจริง ๆ นะ ไว้วันหลังนะ” ผมพยายามรีบตัดบท

“ก็ได้ ๆ งั้นเราไปส่งที่หน้าหมู่บ้านนะ” บูมพูดงอน ๆ

“.....................”ผมได้แต่ยิ้มตอบ

ผมกลับมาเก็บตัวเงียบ ๆ และนึกทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา เอาทุกอย่างมาเทียบกัน

ระหว่าง ความรักและความรู้สึกระหว่างผมกับบูม และ ความรักและความห่วงใยระหว่างแม่ของบูมกับบูมเอง

รวมไปถึงสิ่งที่บูมจะได้รับถ้าเกิดมีใครรู้เรื่องระหว่างเรา ผมยอมรับว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับมา

เพราะการตัดสินใจในครั้งนี้มันส่งผลกระทบต่อคนที่ผมรักรวมไปถึงตัวผมด้วย ผมอยากจะเป็นคนที่เข็มแข็งที่จะไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไง

ไม่แคร์สายตาคนอื่นเวลาที่มองผมกับบูม แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะผมและบูมยังคงต้องอยู่บนโลกและสังคมแห่งความเป็นจริงใบนี้ 

ซึ่งเป็นสังคมที่ยังไม่เปิดใจกว้างพอที่จะรับในสิ่งที่เราเป็นอยู่

รวมทั้งผมไม่อยากให้บูมกับแม่ของเค้าต้องมาทะเลาะกันและผิดใจกันเพราะเรื่องระหว่างเค้ากับผม ฉะนั้นผมจึงต้องเป็นฝ่ายที่ถอยออกมา

แม้ว่าตัวเองจะต้องเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ผมคิดและร้องไห้ออกมาเพราะความรู้สึกกดดันและเจ็บปวดภายในใจมันมากมายเกินกว่าที่จะบรรยายออกมาได้

“ขอโทษนะบูม เราจำเป็นจริง ๆ เราขอโทษ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกมาเบา ๆ

*************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-01-2007 10:23:06
ผมอยากจะเป็นคนที่เข็มแข็งที่จะไม่แคร์ว่าใครจะคิดยังไง
ไม่แคร์สายตาคนอื่นเวลาที่มองผมกับบูม แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะผมและบูมยังคงต้องอยู่บนโลกและสังคมแห่งความเป็นจริงใบนี้ 
ซึ่งเป็นสังคมที่ยังไม่เปิดใจกว้างพอที่จะรับในสิ่งที่เราเป็นอยู่

 :sad4:  :sad4:  :sad4:
 :monkeysad:  :monkeysad:  :monkeysad:

เข้มแข็งไว้ ทั้งโยและบูม เอาใจช่วยค่ะ

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-01-2007 10:33:28
 :serius2: :sad5: :sad4:

ไม่นะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วยย  คุณแม่ไม่ปลื้มซะงั้น


แต่ก็เข้าใจหัวอกพ่อแม่นะครับ เฮ้อ พูดแล้วพาลให้นึกถึงตัวเอง ถ้าต้องเจอแบบนั้นจะทำไงนะ


เมื่อไหร่นะเราจะเจอแบบนี้ แต่คงปิดไปได้อีกไม่นานนักหรอก กลุ้มๆๆๆ  (ขอให้พ่อแม่เข้าใจ) :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: frank ที่ 18-01-2007 10:58:26
เฮ้อ ความรักช่างมีอุปสรรคเจงๆ
ความเข้าใจกันและกัน น่าจะทำให้ผ่านมันไปได้ สู้ๆ 
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 18-01-2007 18:48:34
เจอเรื่องหนักเข้าแล้ว.... เฮ้อ!!  :try2:

อยากให้พ่อแม่และสังคมยอมรับเรื่องแบบนี้จัง ( :dont2: รวมถึงพ่อแม่ผมด้วยนะคร้าบ...)

อึดอัดเหมือนกันเวลาที่หลบ ๆ ซ่อน ๆ คบกันนี่  :serius2:

หน้าเห็นใจมากมายครับ ๆ (เห็นจัยตัวเองด้วย ถ้าพ่อแม่รู้จะว่าไงดี คิดแล้ว sad  :sad4:)

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BAPE* ที่ 18-01-2007 18:55:43
 :oเอาใจช่วยความรักของโยกับบูมนะ
ม๊ามาแรง...เจอแบบนี้ใครจะกล้าเสี่ยง...แต่ไม่เสี่ยงก็ไม่รู้เนอะ
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 19-01-2007 10:17:39
ไง๋ เป็นงี้อ่ะ . . .  :monkeysad:

เซ็งเรยยยยยย

ที่จริงพ่อแม่น่าจะยอมรับได้นะ เรื่องแค่นี้เอง มันไม่ใช่ความผิดซะหน่อย
อันที่จริงตอนผมบอกพ่อแม่ของผม ก็เล่นเอาอึ้งไปตามๆกันเหมือนกันแฮะ
แต่เค้าก็โอเค ขอแค่ให้ผมเป็นคนดีก็พอ :like6:
รักพ่อกับแม่ที่สุดเล้ยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-01-2007 10:18:21
"ตอนที่ 25/2"

หลังจากคืนนั้นผมก็พยายามหลบหน้าบูมตลอด เวลาเค้าโทรมาผมก็พยายามไม่รับสายบ้าง บอกว่าติดธุระบ้าง เค้าให้โทรกลับผมก็ไม่โทรกลับ

จนกระทั้งใกล้จะถึงวันที่บูมต้องไปฝึกงานที่บริษัทเค้า

“ฮัลโหล โยหรอ แพทเองนะ ว่างอยู่หรือเปล่า”เสียงสาวสวยดังมาจากปลายสายอีกด้านหนึ่ง

“ว่างสิแพท สบายดีหรือเปล่า แพทเป็นไงบ้างปิดเทอมไปเที่ยวไหนมาบ้างล่ะ ไม่เห็นชวนเราเลย”ผมตอบกลับไป

“ก็ไปนั่นไปนี่ไปเรื่อยน่ะ เดี๋ยวนะ เดี๋ยวเรามาคุยต่อ มีคนเค้าอยากจะคุยด้วย”แพทพูดแล้วเปลี่ยนให้อีกคนเข้ามาคุยต่อ

“โยเป็นอะไรไปอีกอ่ะ โกรธอะไรเราหรือเปล่า ทำไมไปหาก็ไม่ยอมมาเจอ โทรไปก็ไม่ยอมคุยด้วย”บูมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าปนน้อยใจ

“เปล่า....ไม่มีอะไร แค่เบื่อ ๆ น่ะ บูมมีอะไรหรือเปล่า ไม่มีเราจะวางสายแล้วนะ”ผมพยายามเก็บความรู้สึกเสียใจเอาไว้ข้างใน แล้วพยายามตัดบท

“เดี๋ยวดิ โยเป็นอะไรไป เราผิดอะไรบอกเราได้หรือเปล่า เราขอโทษ....”

“บูมไม่ผิดหรอก ไม่มีอะไรจริง ๆ แค่เราเหนื่อย ๆ เบื่อ ๆ แค่นี้เอง ไว้เราโทรไปหานะ”ผมพยายามตัดบทจะวางสายเพราะไม่งั้นผมต้องร้องไห้ออกมาแน่ ๆ

“เดี๋ยวดิ มันต้องมีอะไรแน่ ๆเลย อย่าเพิ่งวางสายนะ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนไม่งั้นเราจะไปหาที่บ้านนะ”บูมพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิด ๆ

“บูม...เราว่าตอนนี้เราห่างกันสักพักเถอะ เราว่าบางทีความรู้สึกที่เรามีให้กันมันอาจจะไม่ใช่ความรักก็ได้นะ

เพราะฉะนั้นเราอยากจะขอเวลาให้เรากับบูมอยู่ห่าง ๆ กันสักพัก

แล้วต่างคนต่างคิดทบทวนให้ดีก่อนจะดีกว่ามั้ย”ผมพยายามพูดไม่ให้บูมรู้สึกเสียใจมากเกินไป

“ทำไมต้องขอเวลา เท่าที่ผ่านมามันยังพิสูจน์ไม่ได้ใช่ไหมว่าเราคิดยังไงกับโย

เราว่าคุยอย่างงี้ไม่รู้เรื่องหรอกเอาเป็นว่าเดี๋ยวเราไปหาละกันนะ”บูมพูดแล้ววางสายลงไป

ผมพยายามสะกดอารมณ์สะเทือนใจเอาไว้ แล้วพยายามคิดหาวิธีทางออกของเรื่องนี้ เพราะผมไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกของบูม

เพราะผมรู้ดีว่าบูมเป็นคนยังไงเค้าคงจะไม่ยอมรับเรื่องนี้แน่ ๆ ผมจึงตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือจากพี่วิทย

ผมเล่าทุกอย่างที่แม่ของบูมพูดกับผม รวมไปถึงสิ่งที่ผมคิดให้พี่วิทย์ฟัง ทีแรกพี่วิทย์ก็จะคัดค้านแล้วให้ผมทำตามสิ่งที่ใจผมและบูมต้องการ

แต่ผมก็ยังคงยืนยันในความคิดของผมซึ่งอาจจะดูงี่เง่า แต่ผมคิดและตัดสินใจแล้ว พี่วิทย์จึงยอมช่วยผม และรีบนั่งรถมาที่บ้านผม

ดีนะที่พี่วิทย์อยู่บ้านเพื่อนที่ไม่ไกลจากบ้านผมนัก จึงมาทันเวลาพอดี

ทันทีที่รถบูมมาจอดที่บ้านผมแผนการณ์ต่าง ๆ ที่ถูกเตรียมไว้แล้วก็เริ่มขึ้น ผมเดินเข้าไปหาแล้วพาบูมไปที่ห้องรับแขก

“ตกลงโยจะบอกได้หรือยังว่า เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะอะไร”บูมพูดขณะกำลังจะนั่งลงที่โซฟา

“ก็อย่างที่เราบอกไง เราบอกไปหมดแล้ว”ผมตอบด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“เราไม่เข้าใจ ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่”บูมลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผมพร้อม ๆ รวบตัวผมไปกอด

“เอาเป็นว่าเราห่างกันสักพักเถอะ อย่าให้เราต้องบอกอะไรมากไปกว่านี้เลย”ผมตอบพร้อมกับผละตัวเองออกมา

“เพราะอะไร เราไม่เข้าใจ มันเป็นเพราะอะไรกัน”บูมเดินตามผมมาหยุดอยู่ที่บันได

“เอ้า ยังไม่เข้าใจอีกหรือไง นี่รับไป...กระเป๋านาย แล้ววันหลังอย่ามาตามตื้อน้องโยอีกนะ

จำไว้ด้วย”พี่วิทย์โยนกระเป๋าให้บูมแล้วเดินลงมาจากห้องผมตามแผนที่วางไว้

“นี่มันอะไรกันเนี่ยเราไม่เข้าใจ”บูมตกใจกับสิ่งที่เห็น

“ก็ไม่ยังไงหรอก ตอนนี้โยกับพี่ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว ส่วนนายก็น่าจะรู้นะว่าต้องทำยังไง 5555555” พี่วิทย์หัวเราะออกมาอย่างสะใจ

บูมได้แต่กัดฟันมองหน้าผม

“ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกัน มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่ามาอำซะให้ยากเลย”บูมพูดอย่างไม่เชื่อในสายตาตัวเอง

“ใครอำ...คนเค้าไม่สนใจแล้วยังจะมาตามตื้อเค้าทำไม ไม่เชื่อไปถามน้องโยดูดิ เค้าอุตส่าห์พูดดี ๆ แล้วนะ

หรือว่าจะให้เค้าพูดตามตรง”พี่วิทยพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน (สมบทบาทมาก ๆ)

“ถอยไป กูไม่ได้พูดกับมึง” บูมต่อยพี่วิทย์ไปหมัดนึงจนผมต้องรีบเข้าไปขวาง

“หยุด...พอได้แล้ว...บูมไปเถอะ ....เราเลิกกันเถอะนะ”ผมห้ามเอาไว้ แล้วตะโกนใส่บูมเพราะไม่งั้นพี่วิทย์ต้องโดนต่อยอีกแน่ ๆ

“ไม่จริงหรอก โยแกล้งเราใช่ไหม เรายอมแล้ว วันหลังเราจะไม่แกล้งใครแบบนี้แล้ว เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”

บูมพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ พร้อม ๆ กับน้ำตาที่เอ่อออกมา

“บูมฟังเรานะ ใช่แต่ก่อนเราอาจจะรักบูม แต่พอเราเลิกกันตอนนั้น ความรู้สึกของเรามันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว เรามารู้ใจตัวเองจริง ๆ

ก็ตอนที่บูมไปแกล้งพี่วิทย์วันก่อน เราเลยแน่ใจตัวเองว่าที่จริงเรารักใคร เราขอโทษ

แต่เราไม่อยากหลอกตัวเองไม่อยากหลอกบูม...หวังว่าบูมคงจะเข้าใจเรานะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติทั้ง ๆ ที่ในใจผมมันสั่นไม่เป็นจังหวะแล้ว

“ได้ยินไหมว่าโยพูดยังไง...นายไปเหอะ นายยังมีโอกาสได้เจอคนดี ๆ อีกเยอะ ปล่อยโยไปเถอะนะ”

พี่วิทย์ช่วยเสริม พลางจะลุกขึ้นยืน ผมเลยรีบเข้าไปช่วยประคอง

“โอเค เราเข้าใจแล้ว เราจะไม่มาวุ่นวายกับโยอีก เราขอโทษ.....”บูมกัดฟันแน่นแล้วเดินออกไป

ผมเดินเข้าไปขอโทษพี่วิทย์ที่ทำให้พี่เค้าต้องมาเจ็บตัวกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องของผม พี่วิทย์ยิ้มอย่างเข้าใจ ไม่ว่าอะไร

ผมเลยเสนอตัวเลี้ยงอาหารเป็นการตอบแทนในวันรุ่งขึ้น เพราะมันจะเป็นแผนตอกย้ำส่งท้ายแผนการณ์นี้ด้วย แล้วพี่วิทย์ก็ขอตัวกลับ

หลังจากที่พี่วิทย์กลับไปแล้ว ผมก็โทรไปที่บ้านบูมเพื่อขอเบอร์มือถือของแม่ของบูม

“สวัสดีครับ ผมโยนะครับ เรื่องที่ม๊าขอไว้ผมทำตามสัญญาแล้ว แต่อยากจะขอร้องม๊าให้ช่วยผมหน่อยนึง

พรุ่งนี้ผมจะไปทานข้าวกับคนที่บูมคิดว่าเป็นแฟนใหม่ผมที่.....ตอนหกโมงเย็น นะครับ

ผมอยากจะขอให้ม๊าช่วยพาบูมไปนั่งทานข้าวที่นั่นด้วยนะครับ เค้าจะได้เชื่ออย่างสนิทใจ”

“ได้ ม๊าขอบใจเรามากนะที่เข้าใจ แล้วม๊าจะพาเค้าไปตามนั้น”

“ขอบคุณครับ”

ผมเดินไปนั่งบนเตียงผมอย่างอ่อนแรง มันยากมากกับการที่เลิกกับใครสักคนที่เรารักทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ทะเลาะกัน และต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีคนอื่น

ยิ่งผมต้องเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมาเองด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกเจ็บปวดยิ่งกว่าบูมเป็นทวีคูณ

เพราะบูมเองคงจะเข้าใจว่าผมมีคนอื่น เค้าอาจจะเจ็บปวดในตอนนี้ แต่เวลาก็คงจะเป็นสิ่งที่เยียวยาเค้าได้ในที่สุด

ผิดกับผมที่แม้ว่าจะผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่ก็ตาม ตราบาปและสิ่งที่ผมทำก็ยังคงจะคอยตามมาหลอกหลอนทำให้ผมรู้สึกแย่ลงไปเรื่อย ๆ

เพราะผมเองก็ยังคงรักบูมต่อไป ซึ่งมันก็คงจะไม่ได้ลดน้อยลงไปตามเวลา
 
เย็นวันรุ่งขึ้นพี่วิทย์มารับผมไปทานข้าวที่ร้านที่ผมนัดแนะกับแม่ของบูมเอาไว้ เรามาถึงที่ร้านและเลือกนั่งโต๊ะที่ผมคิดว่าน่าจะสังเกตได้ง่าย

ผมกับพี่วิทย์สั่งอาหารมานั่งทาน สักพักก็เห็นแม่ของบูมเดินเข้ามาพร้อม ๆ กับคนที่ผมรอคอยอยู่ แม่ของบูมเห็นผมแล้วพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้

พี่วิทย์ซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็น่าจะเดาออกว่าเพราะอะไรผมถึงเลือกมานั่งโต๊ะตัวนั้นทั้ง ๆ ที่ปกติผมจะเลือกโต๊ะที่เป็นมุมสงบ ๆ ที่สุดของร้าน

“พี่เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมโยต้องมาเลือกนั่งที่นี่ แต่พี่ว่าสิ่งที่น้องโยทำกับบูมมันจะไม่มากไปหรอครับน้องโย”พี่วิทย์พูดเตือน

“ไม่หรอกครับพี่ ผมว่าไหน ๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว พี่วิทย์ช่วยผมอีกสักครั้งได้ไหม

ถือว่าผมขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย”ผมขอร้องด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เศร้าลงไป

“อันที่จริง ๆ พี่ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจน้องโยเลยนะครับ ถ้าเป็นพี่ พี่จะไม่ทำกับแฟนแบบนี้ แต่ยังไงพี่ก็จะเคารพในการตัดสินใจของน้องโยนะครับ”

“ขอบคุณครับ”

“แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ ถ้าวันไหนน้องโยลืมบูมได้จริง ๆ พี่จะขอจีบน้องโยอีกครั้งนะครับ”พี่วิทย์ยิ้มให้

“ครับ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่นะครับ ผมว่า.......”ยังไม่ทันที่ผมจะพูดประโยคต่อไปพี่วิทย์ก็รีบพูดแทรก

“ไม่เป็นไรพี่รอได้ พี่จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ขอแค่ให้มีโอกาสสักนิดพี่ก็พร้อมที่จะรอ”พี่วิทย์เอื้อมมือมาจับมือผมไว้

ผมกำลังจะเอามือออกแต่พี่วิทย์ทำตากระพริบเป็นเชิงว่าบูมเห็นผมกับพี่วิทย์แล้ว...

ผมเลยจำเป็นต้องเล่นละครต่อไปให้จบ ผมตักอาหารไปป้อนให้พี่วิทย์ สลับกับพี่วิทย์ตักอาหารมาให้ผม

จนสักพักนึง แม่ของบูมเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับกล่าวขอบใจเพราะบูมรีบลุกเดินหนีออกไปแล้ว

หลังจากนั้นตลอดช่วงปิดเทอมผมก็ไม่ค่อยได้เจอและติดต่อพูดคุยบูมอีกเลย....

จนกระทั่งเปิดเรียนตอนปี 3 ผมกับบูมก็ดูเหมือนจะกลายเป็นคนที่เคยรู้จักกันเท่านั้น....

เป็นอันว่าในตอนนั้นผมกับบูมได้เลิกกันอย่างจริงจังแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เราทั้งคู่ต้องการ แต่มันเป็นสิ่งที่โลกใบนี้และสังคมแห่งนี้ต้องการ

 ผมขอยอมแพ้ต่อโชคชะตา ใครจะว่า ว่าผมอ่อนแอ ผมก็ยอมรับ

แต่สิ่งที่ผมตัดสินใจมันเป็นประโยชน์กับคนหลายฝ่าย ไม่ใช่แค่แม่ของบูมเท่านั้น ผมคิดว่าผมได้ทำในสิ่งที่ถูกแล้ว....

ขอบคุณฟ้าที่ทำให้เราได้มาพบกัน ได้รักกัน แต่ต้องโทษที่โชคชะตาที่ทำให้เราต้องมีอันต้องแยกจากกัน

สิ่งที่เหลือไว้มีแต่เพียงน้ำตาแห่งความพ่ายแพ้และเสียใจ....

ผมอยากจะขอโทษบูมจริงๆ ถึงแม้ว่ารักของผมจะส่งผ่านไปถึงจิตใจบูมแล้ว

แต่ความรักระหว่างเรามันยังเข้มแข็งไม่พอที่จะทำลายอุปสรรคที่ได้ชื่อว่า สังคม ไปได้....

ผมจะไม่โทษแม่ของบูมหรือใครทั้งนั้น แต่คนที่ผมจะโทษคือตัวของผมเอง

ขอโทษด้วยที่เราไม่เข้มแข็งพอ ขอโทษจริง ๆ....

ไม่ว่าจะนานแค่ไหนอยากให้รับรู้เอาไว้ว่าเรารักบูมเสมอ....

จบแล้วครับสำหรับ คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงใจเธอบ้างไหม.......

อาจจะไม่ได้เป็นเหมือนใครหลายคนคาดคิด แค่น่าจะมีหลายท่านที่เดาเรื่องถูกนะครับ...

ที่ผมว่าเรื่องนี้จบได้ถูกที่เพราะ ช่วงนี้นิยายหลายเรื่องจบด้วยความ happy ending ไปเยอะแล้ว

ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้เสียความรู้สึกไปบ้างนะครับ

***************************************THE END**************************************************************
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meemewkewkaw ที่ 19-01-2007 10:35:46
ง่ะ  :monkeysad:
มีอะไร ทำไมไม่คุยกันน๊า . . . ทำไมต้องปล่อยอะไรๆให้เป็นแบบนี้ด้วย
ถ้าผมเป็นโย ผมจะไม่ทำแบบนั้นกับแฟนของผมเด็ดขาด อย่างน้อยๆเค้าต้องได้รับรู้ทุกอย่าง
และช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ใช่สรุป ตัดสินใจเอาเองแบบนี้ . . .  :monkeysad:

ขอบคุณมากนะครับที่ได้สร้างเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน มันทำให้ผมได้คิดอะไรเยอะเลยครับ
ขอบคุณคุณคนโพสต์ด้วยครับ ที่เอาเรื่องนี้มาลงที่บอร์ดแห่งนี้ ทำให้ผมได้อ่านเรื่องนี้
ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-01-2007 15:34:15
 :monkeycry2: :monkeycry2: :monkeycry2:

อ่านจบแล้วแทบจะไม่มีคำพุดอะไร เพราะน้ำตามันซึมออกมา


ได้แต่เพียงภาวนาว่าเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดกับผม เพราะผมก็คงไม่เข้มแข็งพอเช่นกัน...


ขอบคุณครับที่เอาเรื่องนี้มาให้อ่านกัน.... :monkeysad:


การที่ต้องจากการคนที่เรารักทั้งๆที่ยังรักกัน แล้วเราเป็นฝ่ายที่ต้องสร้างเรื่องขึ้นมา มันช่างน่าเจ็บปวดจริงๆ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BAPE* ที่ 19-01-2007 20:02:34
แงง...เศร้าอ่ะ
ไอเราก็แอบลุ้นอยู่ว่าเออ...ท่านแม่คงจะเข้าใจ
แต่ไหง...กลายเป็นแบบเน้...จะบร้าตาย
มีสเปเชี่ยลมั้ยค่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: forsaken ที่ 20-01-2007 12:23:52
ทำไมยอมแพ้ด้วยกานทั้งคู่นี่  ขัดจัย ๆ  :like2:
น่าจะคุย ๆ กันนะ เรื่องแบบนี้ โยม่ะน่ายอมแพ้เลย...  :no2:
อยากให้กลับมาคืนดีกันจาง... :impress:

ขอบคุณนะคร้าบ เรื่องสนุกมากเลย ^^...  :yeb:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-01-2007 22:05:53
แต่ความรักระหว่างเรามันยังเข้มแข็งไม่พอที่จะทำลายอุปสรรคที่ได้ชื่อว่า สังคม ไปได้....
ขอโทษด้วยที่เราไม่เข้มแข็งพอ ขอโทษจริง ๆ....

 :impress3:  :impress3:  :impress3:

อุปสรรคที่ชื่อว่าสังคมนี่ยากที่ฟันฝ่าจริง ๆ ต้องใช้กำลังใจมหาศาลทั้งจากตัวเองและคนที่เรารัก
หวังว่าซักวันเมื่อความรักมีอำนาจพอ โยจะเข้มแข็งและฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านี้ไปได้ และเมื่อถึงเวลานั้นเชื่อเหลือเกินว่าโยจะมีบูมอยู่ข้างกายอีกครั้งหนึ่ง  :monkeysad:  :monkeysad:

ขอบคุณคนแต่ง สำหรับเรื่องราวดี ๆ
ขอบคุณคนโพสต์ ที่นำเรื่องราวมาให้ได้อ่านกัน
ขอบคุณมากค่ะ  :impress3:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BlackySheep ที่ 22-01-2007 18:49:33
โหยยยยย จบแบบคนอ่านจะร้องไห้ตาม  :monkeysad:

อาม๊านะอาม๊า...แต่อย่างว่าแหละเรื่องแบบนี้ในสังคมยังไม่ใช่เรื่องที่เปิดกว้างอะนะ

ขนาดพูดเรื่องแนวๆนี้กะเพื่อนที มันยังมองหน้าแปลกๆเลยอ่ะ  :serius2:

ขอบคุณสำหรับเรื่องซึ้งๆอีกหนึ่งครับ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: box_breathe ที่ 28-01-2007 23:07:26
       ขอบคุณค้าบ .. สำหรับเรื่องราวดีๆ  ถึงแม้ตอนจบจะยังไม่ค่อยถูกใจผมซะเท่าไหร่ (เพราะ บูม น่าสงสารมากมายอ่ะ)  แต่มันก็สะท้อนความเป็นจริงในสังคมได้ดีเลยทีเดียว !!

       เพราะแม่ของแฟนผมก็เป็นแบบนี้อ่ะ  เค้าโคดเกลียดผมเลย   เจอกันทีไร ... ด่ากันทุกที  แต่ผมก็ไม่สนใจอ่ะ ในเมื่อผมรักแฟนผมนี่นา  ผมก็ต้องยอมโดนด่า ... แต่ผมเองก็ไม่ได้ยอมให้เค้าด่าอย่างเดียวหรอกนะคับ  ผมก็ตอกกลับเค้าไปเหมือนกัน แต่ก็ไม่รุนแรงอะไร เพราะยังไงเค้าก็เป็นผู้ใหญ่กว่าเรา

                                                                 :monkeysad:

       
 

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dokebi ที่ 30-01-2007 15:33:21
:sad4: เศร้า แต่มันเป็นเรื่องจริงที่ ต้องเจอ  :sad4:

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LiliLiN ที่ 07-03-2007 19:48:11
คือว่า อยากรู้ว่าสุดท้ายของท้ายสุดเนี่ย บูมเป็นยังไงต่ออ่ะ

แบบว่า ยังรักมั่นคงต่อโยเหมือนเดิม  หรือกลับไปคบกะอาร์ท หรือกลับใจไปใช้ชีวิตแบบปกติล่ะ (ไม่น่าเป็นไปได้)

แล้วม๊าอ่ะ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ แต่ยอมญาติดีกะอาร์ทเหรอ  :pigangry2:  (หมายความว่าไงเนี่ย)

แล้วในเมื่อโยก็ยังรักบูมอยู่ ทำไม ทำไม ทำไม ต้องทำแบบนี้ด้วยอ่ะ ใจร้ายจังเลย

แต่ก็เห็นใจล่ะนะ จริงๆถ้าเปิดอกคุยไปเลย แล้วบูมพิสูจน์ความรักตัวเองให้ม๊าเห็น ม๊าก็น่าจะเข้าใจนี่นา ยังไม่ได้ลองทำอะไรกันเลย แค่ม๊ามาพูดบั่นทอนนิดหน่อย ก็...... :อกหัก:

ยังไงก็ตาม ขอบคุณคุณโย ที่นำเรื่องราวดีดี (แต่...ไม่ประทับใจตอนจบ) มาให้อ่านกัน
มันอาจจะเป็นชีวิตจริงๆของใครหลายๆคน แต่เราก็มั่นใจนะ ว่าถ้าความรักที่ทั้งสองมีต่อกันเป็นเรื่องจริงและมีมากพอ ก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคใหญ่ที่เรียกว่า สังคม ได้
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Oḇlivïaté℠ ที่ 10-06-2007 23:19:45
 :sad4: :dont2: :sad4: :dont2: o9 :serius2: o9 :serius2: o9 :serius2: :monkeysad: :monkeysad: :monkeycry2: :monkeycry2: :monkeycry2: :โฮๆ1: :โฮๆ1: :3024: :monkeycry4:

ม่ายน้า....บูมจะต้องอยู่กะโย

ม่าย

ม่าย

ม่าย

-
-
-

จบได้เศร้ากินจัยจิงเรยคับ

น้ำตาหลายหยดและ

ยังงัยสังคมก้อยังเปนกำแพงสำหรับพวกเราอยู่เสมอ

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ม่าย

ม่าย

ปล.ขอบคุณผู้เขียน
ขอบคุณผู้โพสต์
ขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องคับ

T^T
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 11-06-2007 16:43:09
-*-  ง่ะ....ไมอ่า...อ๊ากกกกกกกก ((สติหลุดไปแล้ว))  :serius2:

น่าสงสารบูมนะที่ต้อง....เจ็บ....เพราะว่าโยหวังดี....แล้วโยก็เจ็บด้วยอ่ะ

ถ้าเปนเราๆ เลือกท่จะเห็นแก่ตัวมากกว่านะ....ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้แม่เขายอมรับเราให้ได้

แต่เรื่องมันก็ผ่านมาแล้วก็ช่างมันเถอะ....ขอให้ชีวิตของโยได้เริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่ดี  และรักจริง  ร่วมถึง...รักเขามากจนกล้าที่จะเห็นแก่ตัวเพื่อความรักบ้างนะ

ไม่ว่ายังไงก็จะเเป็นกำลังใจให้ค่า   o15
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: cargo ที่ 07-09-2007 03:29:20


                    เห็นด้วยกับคุณ CaribbeaN อะ เราไม่ควรทำลายความรักที่บริสุทธิ์ของเรา เพื่อแค่ตอบสนองต่อสังคมที่มันแคบ ๆ  นี้         ชีวิตเรานั้นมันกว้างใหญ่และมีคุณค่ามาก    :a5: :a2:   

         เรื่องติดตามดี ประทับใจมาก   มาติดที่สังคมอันเน่าแฟะ แท้ ไม่นั้น ประทับใจตายเลย  :seng2ped: :a5: :o12:

                                                                            Cargo Boy  :a9: :a1:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: audreyjunk ที่ 16-09-2007 18:16:19
เอ่อ...คือว่า...ไหงเป็นงี้อ่ะ :a10:
งงไปเลยทีเดียวพี่น้องงงงงงงงงง
เราว่าโยมีจิตใจที่คล้ายผู้หญิงมากเลยนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nara ที่ 04-10-2007 20:17:26
อยากไห้สองคนนี้

มีสุขด้วยกัจังง

แต่จะว่าล่ะในเมื่อแม่และสังคมมันบังคับ

ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

แต่เต็มไปด้วยขวากหนามที่เราต้องผเชิญ o7
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tsuya ที่ 13-10-2007 19:01:06
อ่านจบแล้ว เป็นกำลังใจให้คุณโยนะคะ
แต่อยากรู้ว่าหลังจากนั้นบูมเป็นไงบ้างอ่ะคะ
จบม่ายเหมือนที่คิดไว้อ่า ...
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 28-10-2007 16:06:49
จริงๆอ่านเรื่องนี้จบมาประมาณเดือนนึงได้แล้ว  :o12: แต่ไม่รู้ว่าจะเขียนความคิดเห็นตรงไหน โง่มาพักใหญ่ พึ่งจะมีคนมาชี้ทางสว่าง  เป็นเรื่องที่สนุกมากค่ะ   :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: นางคุ้ม ที่ 14-12-2007 17:10:42
เสียดายจังผู้ชายรักจริงแบบบูมหายากมากๆ ถ้าเป็นนางนะชนดะชีวิตเดียวจะหาคนที่เรารักแล้วก็รักเราแบบนี้ได้อิกปะ   o12แต่อย่างว่าละเนอะ ต่างคนต่างเหตผลคนที่เจ็บปวดที่สุดคงจะเป็น บูม โยยังมีข้ออ้างว่าทำเพื่อบูม ทำเพื่อม๊าบูม แต่บูมเค้าต้องเสียใจโดยไม่รูเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเค้า กับแฟนของเค้า  เราว่าโยเห็นแก่ตัว (ใครอยากด่าก็ตามสะบายนะอันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัว) อย่างน้อยบูมน่าจะได้รับรู้ความจริงทั้งหมด ชีวิตเป็นของบูมเค้าจะตัดสินใจยังไงก็เรื่องของเค้า พ่อแม่ให้กำเนิด แต่คนที่ต้องรับทุกข์เป็นลูกมันใช้ไม่ได้คับ อย่างน้อยก็ควรให้บูมได้มีโอกาสเลือกว่าจะเป็นลูกที่ดี หรือทรพีเพราะความรัก   แค้นใจ... :a6:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Demonstrate ที่ 19-12-2007 12:33:41
ถ้านี่คือเรื่องจริง ยังไงก็ขอให้คุณทั้งคู่
ได้มีวันที่จะได้กลับมามีความสุข
ร่วมกัน
อีกครั้งนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 01-02-2008 11:36:33
อ่านเรื่องนี้ผมอยากจะตายลงให้ได้เสียตรงนี้ ทำไม ทำไม ทำไม  :m15:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: __ .iMzii3 ที่ 21-02-2008 01:19:25
ขอร้องไห้อยู่ตรงนี้เลยอ่ะ
ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ T^T
ไม่เอาอ่า อุส่าลุ้นตั้งนาน U U





.
ขอบคุณมากๆเลยนะฮะ ^^*
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 23-02-2008 15:56:48
  :เฮ้อ: จบแบบเศร้าๆ  :m15: o7 :o12:

แต่มันก็จริงอย่างพี่โยพูดอะน่ะ  ว่ามันดีกับแม่ของพี่บูมแล้วก็คนรอบข้าง

แต่คนที่เราเห็นใจเค้านะเค้าจะมาเห็นใจเราหรือเปล่า เค้าจะรู้มั้ยว่าเราจะรู้สึกอย่างไง

การที่เราคิดเห็นใจคนรอบข้างนะเป็นสิ่งดี แต่มันอาจจะไม่ดีสำหรับเราน่ะสิ

คิดแล้วก็สงสารพี่บูม  ถ้าพี่โยสงสารพี่บูมจริงๆก็น่าจะบอกพี่เค้าไปตรงๆไม่น่าไปโกหกพี่เค้าเลย

อย่างน้อยเค้าก็จะได้รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าที่พี่โยเลิกคบกับพี่เค้านะมันคืออะไร

ดีกว่าเก็บไว้เป็นตราบาปให้ชีวิตหม่นหมองเปล่าๆ  ถ้าพี่โยบอกพี่เค้าไปอย่างน้อยพี่เค้าก็จะได้รู้เหตุผลที่แท้จริง

แล้วพี่โยก็จะได้รู้สึกดีขึ้นมาด้วย ดีกว่าเก็บมันไว้ให้มันกัดกินหัวใจตัวเองไปเปล่าๆ

การที่เราจะได้พบใครสักคนที่รักเราจริงมันยากยิ่งกว่างมเข็มไปมหาสมุทรซะอีก

อย่าไปคิดถึงคนรอบข้างมากเกินไปสิคับพี่   คนรอบข้างเค้าทำให้เรามีความสุขมั้ย เค้าทำให้หัวใจเราชุ่มชื่นขึ้นมั้ย

มีแต่จะทำให้เราหม่นหมองแล้วดิ่งลงไปในเหวลึกซะมากกว่า 

สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าพี่คงเข้าใจสิ่งที่ผมพูดมานะคับ  ใจจริงแล้วถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้พวกพี่คืนดีกัน  คนอื่นจะคิดยังไงก็ช่างเค้าไม่ได้มาให้เรารู้สึกรัยดีขึ้นซะหน่อย   หรือถ้าพี่ไม่คืนดีกันก็ขอให้พี่บอกความจริงเรื่องที่ทำให้พี่ต้องเลิกกันกับพี่บูมด้วย   อย่างน้อยพี่ก็จะได้หลับได้สบายๆซะที   (โชคดีนะคับพี่โย)
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: reu_aha ที่ 15-03-2008 01:14:25
ถ้าเป็นริว
ริวจะทำยังไงเนี่ย?


พี่โยคงลำบากน่าดู
ชีวิตมันไม่ได้สมหวังตลอดเวลา


ขอบคุณนะ ;p
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pazon ที่ 20-04-2008 22:32:42
โอ้ยทำไมอ่านนิยายมาสามวันแล้วไม่มีเรื่องไหนจบ แฮปปี้เลย
ทิชชู่บ้านผมมานจาหมดแล้ว น้าคับ
 :sad2:
อ่านแล้วก็ซะเทือนใจ
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yepp_Mang ที่ 17-06-2008 07:50:11
โยเลิกกับบู
แล้วมันทำให้บูหายเป็นเกย์รึป่าว
โยนึกถึงตัวเองตอนที่คิดว่าบูมีคนอื่นซิ
บูคงทรมานไม่แพ้กัน

ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยู่กับเราไปจนตายหรอกครับ
ถ้าบูตัดสินใจอะไรๆในชีวิต ก็ควรเคารพการตัดสินใจนั้น
อย่าไปตัดสินใจแทนเค้า

ยิ่งพูดยิ่งแค้น รักแท้หายากแค่ไหน ยังไปทำลายมันอีก

เซ็งโว๊ยยยยยยยยยยยยยย :angry2:

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆาสีน้ำเงิน ที่ 24-06-2008 01:45:26
แล้วบููมเค้าผิดไรอ่ะ

แบบนี้ มันแกล้งกันชัด ๆๆ

แบบนี้ เล่นกับความรู้สึกของคนนี่นา

เข้าใจมั้ยว่ามันละเอียดอ่อนเกินกว่าจะคาดเดา

ขอร้องน่ะคับ คนที่มีความรัก

อย่าได้ไปคิดแทนใครน่ะคับ

ถึงเค้าจะจบ ป เอก

ก็อย่าคิดว่าเค้าจะเข้าใจทุก ๆ อย่าง

คุณอย่าทำร้ายใครโดยการที่ไม่ให้เค้ารับรู้ เรื่องที่มันควรรู้น่ะคับ

ความสัมพันมันอาจจะดีขึ้น ถ้าเราเลือกทีจะไว้ใจกันและกัน




หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 24-08-2008 17:02:46
จบไปกับความเศร้า

ถึงเเม้จะจากกันเเต่ไม่ใช่เพราะมีมือที่ 3

เพราะงั้นก็ถือว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเเล้ว

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: torto ที่ 25-08-2008 14:36:12
อ่านแล้วเศร้าใจจริงๆ

ความจริงน้องโยน่าจะให้โอกาสบูมได้ตัดสินใจนะ  ขอความเป็นธรรมหน่อยจ้า ความรักไม่ว่าจะเป็นรักแบบไหนมันก็ขึ้นอยู่กับคน 2 คนนะ ไม่ใช่คนอื่น

ถึงจะเป็นผู้ให้กำเนิดก็เถอะนะ 

ทุกอย่างที่โยทำไปน่ะเข้าใจนะว่าเพราะบูมทุกอย่างแต่อย่างว่าพี่อยากให้บูมเค้าตัดสินใจเองมากกว่าว่าสิ่งไหนดีที่สุดสำหรับเค้า

เป็นกำลังใจให้แล้วกันนะจ๊ะ :oni2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ThyRist ที่ 26-08-2008 19:14:51
ไม่จริงใช่มั๊ย T-T

เ้ศร้าง่ะ ฮื้อ ๆ ๆ

..
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Benibear ที่ 26-08-2008 21:19:59
เอ่อ อย่าหาว่าเราสะเหร่อเลยนะ // อันนี้อ่ะ เราเคยอ่านนะ คือมีแบบเป็นWordเลยง่ะ เพื่อนส่งมาให้ แบบฉบับเรา มันจบแบบHappy Endingนะ สุดท้าย โยกะบูมอ่ะมาคบกันอีก ม๊าของบูมก็ยอมรับโยได้ แล้วก็คบกันต่อไปอ่ะ // มันมะได้จบแบบนี้ง่า  // ตกลงว่ามันฉบับเดียวกันเป่าอ่ะ  เหอๆ  :oni3: งงๆๆแฮะ
คือถ้ายังไงใครอยากลองอ่านฉบับเราก็บอกได้นะ เราจะส่งเมล์ให้อ่านละกัน
ปล. ไม่ได้ตั้งใจจะมาสร้างสถานการณ์ไรนะ แค่แบบว่า ฉบับที่มี ก็ฉบับนี้ไม่ตรงกันอ่ะ  ก็แค่อยากจะถามดูว่าตกลงแบบไหนกันแน่อ่า
ถ้าไม่พอใจเรา  เราต้องขอโทษพวกคุณจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sho_Wa ที่ 26-08-2008 22:16:03
ขออนุญาติ มาชี้แจงนะครับที่คุณ Benibear พูดก็ถูกครับเพราะเรื่องนี้มีด้วยกันสองภาค แต่ภาคสองที่คุณ Benibear เอ่ยถึงยังไม่จบนะครับเรียกว่ายังจบไม่สมบูรณ์เนื่องจากยังแต่งค้างอยู่ แต่อีกไม่นานตอนจบก็คงจะได้มาลงให้สมบูรณ์ในบอร์ดแห่งนี้

ผู้ที่อ่านจบภาคแรกแล้วจะตามอ่านภาคสองหาได้จากในบอร์ดแห่งนี้นะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Doodleberry® ที่ 28-08-2008 15:59:04
ถ้าภาค 2 จบสมบูรณ์แล้วอย่าลืมเอามาลงนะงับ

จะรออ่านคร๊าบบบบ

 :m13:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-08-2008 16:38:56
ภาคสองของเรื่องนี้ อยู่ที่บอร์ดนิยายไม่จบค่ะ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1184.0

หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: i-tatae ที่ 05-09-2008 17:14:25
 :o12: :o12: :o12: :o12:]
เหมือนจะเข้าใจ เหตุผลที่เป็นยังงี้ เลย  T^T

แต่ถ้าเป็นเรา 
เราก็จะบอกเหตุผลที่จะเลิกกันจริงๆ
แล้วก้ค่อยตกลงกันว่าจะเอาไงต่อ  เอิ๊กๆๆๆ    :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:



เรื่อง สนุกมากครับ  เข้าใจความรู้สึก  เข้าถึงตัวละคร ดีครับ


ยอดไปเลยคร๊าบบบบบ   :a3: :a3: :a3: :a3:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: echisen ที่ 07-09-2008 01:57:51
อ่านจบแล้วฮับ  :sad2: :o12: o7 เศร้าอีกแล้ว ช่วงนี้เจอแต่เรื่อเศร้าๆๆอ่ะ เสียจัย นึกว่าจะจบดีสะแล้ว
 :sad2: :o12: o7 เศร้าฮับบ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Benibear ที่ 07-09-2008 21:27:18
อ้าวของเราเองที่ได้มา ก็ยังมะจบหรอกเหรอ มิน่าล่ะ ว่ามันค้างๆ จบแปลกๆอ่ะ // ที่แท้ก็ยังไม่สมบูรณ์ ขอบคุณ คุณShowaนะ ครับ ที่บอกว่าเรื่องของเราที่อ่านไปยังไม่จบ
จะได้ตามหาอ่านต่อ  สนุกดี เห็นคนโพสต์ บอกว่ามีทั้งเรื่องจริง แล้วก็เรื่องแต่งเสริมด้วย แต่ไม่เฉลยว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนเสริม
แต่ไม่ว่ายังไง ชีวิตจริงจะเศร้า หรือ มีความสุข  เราก็ขอเป็นกะลังใจให้ทุกๆคนนะ //  :pig4: :pig4: ขอบคุณมากจ้ะ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tenjoin ที่ 19-09-2008 23:42:57
พึ่งจะเข้ามาอ่านคับ

เดียวมาอ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 22-09-2008 00:28:06
ไม่อยากให้จบแบบนี้เรยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


จิงๆๆๆๆๆๆๆๆนะ


ทำไม่หม่าม๊า ไม่ยอมเข้าใจลูกล่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทามมายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อิง ที่ 23-11-2008 16:19:34
จบพาร์ทแรกได้ปวดใจมาก ๆ เลยค่ะ

ตามมาอ่านแล้วนะคะ  :man1:

เดี๋ยวจะตามไปอ่านพาร์ทต่อไปค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 15-01-2010 13:31:16
 :sad4: :sad4:
เศร้าอ่ะ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ปลาทองสีชมพู ที่ 27-01-2010 04:52:06
--เป็นอันว่าในตอนนั้นผมกับบูมได้เลิกกันอย่างจริงจังแล้ว แม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งที่เราทั้งคู่ต้องการ แต่มันเป็นสิ่งที่โลกใบนี้และสังคมแห่งนี้ต้องการ--

ชอบตรงนี้มากๆ ทำไมน้อออออ?
ความรักทำไมจึงต้องมีเพศ อ่านจบพาร์ทแรกแล้วเศร้า
ขอไปอ่านพาร์ทสองต่อ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 05-02-2011 00:28:08
 :o12: เจ็บอ่ะ ต้องเลิกกันทั้งที่ยังรักกันอย่างนี้ เจ็บปวดที่สุดเลย  :sad4:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 21-05-2011 16:42:46
 :m15: :monkeysad: :sad11:ไม่โทษใครครับ เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 21-05-2011 21:39:24
ไม่รู้ว่าอันนี้เป็นเรื่องจริงหรือหรือเค้าโครงมาจากชีวิตจริงรึเปล่า....แต่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ถึงแม้ว่ามันจะไม่จบแบบ Happy แต่มันจบเพราะ ตัวนายเอก เอาความรู้สึกคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง (กลัวคนอื่นจะเสียใจ มากกว่ากลัวตัวเอง หรือคนที่เรารักเสียใจ) สุดท้ายมันก็เป็นแบบนี้แหละ ถ้ามีความมั่นใจสักนิดก็นะ สามารถจัดการพวกปลาซิวปลาสร้อยไปได้ตั้งแต่ที่แรกแล้ว

ปล.ความคิดเห็นส่วนตัว :z6:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: watop ที่ 22-05-2011 00:29:47
 :กอด1: :pig4: :3123: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 21-02-2012 16:04:07
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีื ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟฟ
ตามอ่านภาค 2 ต่อดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 05-08-2012 14:52:24
ขอบคุณที่แต่งนิยายให้ผมได้อ่านจนจบ ครับ


(ขออภัยสำหรับ คอมเม้นต์ก่อนอีดิต ครับ)


-------------ก่อนอีดิต (สำนึกได้ว่าแรง  o22 ทีหลัง เลยแก้) ---------------

แรกๆ แต่งไม่เนียน อ่ะ ครับ เหตุผลน้อยไป สำหรับนิยายแนวนี้

บรรยายไม่เข้าถึงอารมณ์


หลังๆ ค่อยเข้าที่เข้าทาง แต่ก็ยังคงบรรยายหลังคำพูดมากไปอยู่ดี (ให้คิดเองบ้างก็ได้นะ)
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: l6duh ที่ 12-06-2013 04:37:52
โอยยยยยยย อ่านจบตอนแรก เศร้าอย่างแรง กับคำว่า "สังคม (ในสมัยนั้น)" จนทำให้เกิดแบบนี้
 :sad4: :o12: โยเองก็ใจเด็ดมากที่ทำแบบนั้น บูมเองก็คงงงมากกกกกกกกก


เดี๋ยวค่อยอ่านพาร์ทที่ 2 ต่อ ดูแล้วน่าจะมาหักล้างกับพาร์ทแรกได้
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 15-06-2013 19:47:32
ดีแล้วหละครับที่บูมเลิกกับโยได้ ้าคบกับโยต่อไปก็ไม่รุ่งหรอกดูจากการทำตัวประชดบูม และก็ยังไม่มีความเข้มแข็งอีก คนเราเป็นเกย์ต้องเข้มแข็งร่วมกันผ่านไปให้ได้คนแบบโยไม่เหมาะที่บูมจะใช้ชีวิตด้วย

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันนะครับ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 27-12-2014 21:25:27
สนุกมากเลยค่ะชอบมากเลย
ตามอ่านภาคต่อแล้วน่ะคะ
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 24-06-2017 21:29:56
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 13-04-2020 02:05:21
 :o12:
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 13-04-2020 19:36:43
ใครดันเรื่องนี้ขึ้นมาเนี่ยะ
ขอบคุณคร้าบบบบบบ

จะอ่านอีกรอบ(จำเนื้อเรื่องไม่ได้แล้ว)
แต่จำได้ว่า..สนุกมากกกกกก


ขออ่านอีกนะ

อรรถรส
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: [story]"คำว่ารักของฉัน เคยส่งผ่านไปถึงเธอบ้างไหม" By Yo เองครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 14-03-2024 20:20:20
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)