พิมพ์หน้านี้ - จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: JUPJIB ที่ 22-02-2013 19:36:45

หัวข้อ: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 22-02-2013 19:36:45
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 22-02-2013 19:45:42
นิยายเรื่องอื่นๆของ JUPJIB
 ♥  จอมไตรซีรี่ส (ไม้) คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16605)คุณnolirinลงให้ ขอบคุณค่า
♥  จอมไตรซีรีส์ (ดิน) ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33103)
 ♥  จอมไตร ซีรีส์ (ปฐพี) เห็นได้ด้วยตา รักได้ด้วยใจ (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25950)
 ♥  จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก (จบ) ♥  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36948)
 ♥  เรื่องสั้นตอนเดียวจบ V.1 by JUPJIB  ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16206) คุณnolirinลงให้ ขอบคุณค่า
 ♥  เรื่องสั้นตอนเดียวจบ V.2 by JUPJIB  ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=26270)
 ♥  man and child ซีรี่ส์ Love Just Ain't Enough(แนวM-Preg) (จบ) ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42983)
 ♥  man and child ซีรี่ส์ Hard For Heart(แนวM-Preg) (จบ) ♥ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45955)

(http://i68.photobucket.com/albums/i34/JUPJIB/E080E2D0E210E440E150E230.jpg)


 ไม่ได้เข้ามาโพสนานเลย แหะๆ :กอด1:

เรื่องนี้เป็นเรื่องของตาหวาน น้องชายคนเล็กค่ะ

พระเอกนิสัยไม่ดี โง่ งี่เง่า โปรดอย่าด่าพี่ท่านมากเลยนะคะ ><  :sad11:

นายเอกมึน ใจง่ายอีกด้วย  :monkeysad:

ลิงค์เรื่องเก่าๆค่ะ
จอมไตรซีรี่ส์ คนมืดมนที่หลงรักคุณหมดใจ (ไม้-กลอน) (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16605.0)

จอมไตรซีรี่ส์ ความรักไม่ใช่แค่คนสองคน (ดิน-ปาม) (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33103.0)

จอมไตร์ซีรี่ส์ เห็นได้ด้วยตา รักได้ด้วยใจ (ปฐพี-จิตริน) (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25950.0)

[Short Story] by JUPJIB (มีหลายเรื่อง ทุกเรื่องจบในตอน ตอนเดียวจบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16206.0)

[Short Story] by JUPJIB V.2 (มีหลายเรื่อง ทุกเรื่องจบในตอน ตอนเดียวจบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=26270.0)

ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยคะ

ปล.โพสยังไงให้มันย่อหน้าอัตโนมัติได้บ้างคะ ใครรู้บอกหน่อยน้า


หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: toye ที่ 22-02-2013 19:53:16
 :z13: มาเจิมเรื่องใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 22-02-2013 19:54:10
ตอนที่1
 
ลูกหมาตัวน้อยนอนอยู่กลางวงล้อมของเหล่าเด็กเกเรที่กำลังใช้เท้าเขี่ยราวกับมันไม่มีชีวิต ทำให้เด็กชายตัวเล็กที่เดินผ่านมาไม่สามารถทนเห็นภาพนั้นต่อไปได้ เด็กชายเดินตรงไปยังกลุ่มคนและแทรกไปตรงกลางพลางอุ้มเจ้าหมาน้อยขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด
“เฮ้ย! มายุ่งทำไมว่ะ”
เด็กตัวโตที่สุดในกลุ่ม ตะโกนลั่น อีกสามคนที่เหลือก็มองจ้องเด็กชายผู้เข้ามาขวางการเล่นสนุกของพวกเขาด้วยความไม่พอใจ
“มันไม่สบาย อย่าแกล้งมัน”
ลูกหมาในอ้อมกอดตัวสั่นเทาและปิดตาแน่น มันตัวเย็นจนน่าใจหาย แถมยังมีทีท่าหวาดกลัว เพราะโดนทำร้าย แต่เด็กเกเรเหล่านั้นไม่สนใจ พวกเขาเป็นนักเรียนชั้น ป.3 ของที่นี่ และเป็นกลุ่มที่พวกที่เด็กกว่าหรือรุ่นเดียวกันไม่มีใครกล้ามาต่อกรเพราะรู้ดีว่าจะเกิดอะไร แต่เด็กชายตัวเล็กที่คงไม่อยู่เกินป.2คนนี้กลับกล้า แถมยังมาพูดสั่งสอนพวกเขาอีก
“มันจะมากไปแล้ว”
เด็กตัวโตที่สุดเอ่ย พลางจ้องมองราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ในเมื่ออยากปกป้องลูกหมา งั้นก็เจ็บตัวแทนลูกหมามันดีไหม ?”
สิ้นเสียง ก็ยื่นมือไปผลักเด็กชายตัวเล็กตรงหน้าจนล้มลง เด็กชายตัวสั่นด้วยความกลัว แต่มือก็ยังกอดลูกหมาไว้แน่น เขาจะไม่ปล่อยให้มันต้องโดนทำร้ายอีก
เด็กตัวโตและพรรคพวกย่างสามขุมเข้าหา ตั้งใจจะเข้าทำร้ายให้มากกว่านี้
หากเสียงเรียบๆที่เอ่ยขึ้นเบื้องหลังทำให้เท้าหยุดชะงัก
“โอ๊ะ! มีเรื่องหรือ ครูพนาคงชอบใจ”
ชื่อคุณครูแสนดุของโรงเรียนทำให้ไม่มีใครกล้าขยับตัว ต่อให้เกเรมากมายแค่ไหน แต่ทั้งสี่คนก็ยังเป็นเด็กประถมเท่านั้น
ทั้งสี่หันไปมองต้นเสียงที่ทำหน้าเรียบเฉยจนน่าโมโห
“ชิ”
ขัดใจแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ในที่สุดก็ต้องล่าถอยไป

.......................................

ปาฏิหาริย์ หรือตาหวาน สะอื้นร้องไห้ทันทีที่รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว พลางเงยหน้ามองผู้ช่วยเหลือ ตั้งใจจะกล่าวของคุณ แต่สายตาเอือมระอาส่งตรงมาก่อนจะได้พูดคำนั้น
“นายบ้ารึไง”
น้ำเสียงที่ยังคงความเรียบเฉย เหมือนใบหน้าที่ตีไว้นิ่งสนิทเหมือนทุกครั้ง ปาฏิหาริย์จำได้ดี เพราะคนๆนี้เรียนอยู่ห้องเดียวกัน แต่ช่างมีโลกที่ต่างจากตนมากนัก
กีรติ เด็กผู้ชายผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตนเอง เพราะเจ้าตัวเก่งในทุกๆด้าน ทั้งการเรียน กีฬา และดนตรี ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นแต่กลับมีเพื่อนน้อย ....จนดูเหมือนว่าไม่มีเลยจะถูกกว่า ไม่มีใครสนิทกับกีรติ ถึงจะทักทายบ้าง พูดคุยบ้าง แต่แค่นั้นไม่เรียกว่าเพื่อนหรอกมั้ง
สำหรับปาฏิหาริย์ ถึงแม้จะเป็นคนเรียนไม่เก่ง และทำอะไรงุ่มง่าม แต่กลับมีเพื่อนเยอะ และเป็นที่รักของคนอื่น ด้วยนิสัยที่ร่าเริง สดใส เอาใจใส่ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทำให้มีแต่คนรัก
ทั้งสองคนแทบไม่เคยพูดกันเลย เพราะรอบๆตัวปาฏิหาริย์มักมีคนรายล้อมเสมอ
“เอ้า ลุกสินั่งบื่ออยู่ได้”
เสียงดุๆพร้อมร่างที่ก้าวเข้ามาหาทำให้คนที่นั่งอยู่จะลุกขึ้นตามที่อีกคนบอก แต่ยังไม่ทันลุกได้ เสียงเข้มก็ดังมาจากอีกทางดึงความสนใจไปซะก่อน
“นายทำอะไรตาหวาน”
เสียงรอดไรฟันพร้อมทั้งการเดินเข้าหารวดเร็วจนไม่มีใครสักคนที่ตั้งตัวทัน หมัดลุ้นๆชนเข้าที่ใบหน้าคนยืนอยู่อย่างแรงจนเซล้มไปอีกคน
ปาฏิหาริย์อ้าปากค้าง ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้มาใหม่เดินเข้าไปหาคนโดนชกอีกครั้ง ใบหน้าคมนั้นยังบ่งบอกอารมณ์โกรธว่ายังไม่จางไป เด็กชายกำลังจะตะโกนห้าม แต่แล้วภาพคนที่นั่งอยู่เมื่อครู่ใช้มือยันตัวเป็นหลักส่งเท้าเข้ากลางท้องผู้มาใหม่ก็ทำเอาเสียงแห้งหายไปหมด อีกฝ่ายหลบทันก็จริงแต่ก็ยังโดนถึงแม้จะไม่จังๆก็ตาม
ทั้งสองคนมองกันอย่างไม่ยอมแพ้ ฟัดกันด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่ปาฏิหาริย์กลับรู้ดีว่าผลมันจะเป็นไง ในเมื่อ คนหนึ่ง...กีรติ...เพื่อนร่วมชั้นป.1ของตน รูปร่างแม้จะสูงกว่าปาฏิหาริย์ แต่ก็คงไม่มากกว่า 5 เซนติเมตร ความหนาบางก็ไม่ต่างจากตนนัก แม้จะเล่นกีฬา และท่าทางชำนาญการวิวาท แต่จะสู้อีกฝ่ายได้อย่างไร....ในเมื่อ
ผู้มาใหม่นั้น....พี่นินหรือธรณิน.....เรียนอยู่ชั้นป.5....ร่างกายที่ได้รับการออกกำลังและฝึกฝนสม่ำเสมอ ทำให้มีความสูงใหญ่เกินกว่าเพื่อนๆ ...หลายคนคิดว่าธรณินนั้นเป็นเด็กม.ต้นเสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ ธรณินเรียนศิลปะการต่อสู้ทุกแขนงมาตั้งแต่จำความได้ แล้วกับแค่เด็กป.1ตัวเล็กๆอย่างกีรติจะทำอะไรได้เท่าไหร่
แล้วผลเป็นอย่างที่ปาฏิหาริย์คาดจริงๆ เมื่อกีรติที่มีแรงน้อยกว่าทรุดลงไปกองบนพื้นอีกครั้ง แต่ที่ไม่มีใครคาดคิดคือ เสียงเรียบๆเย็นๆของคุณครูพนา และเสียงจอแจของนักเรียนที่เห็นเหตุการณ์เข้า
“ทั้งสามคน ตามครูมาเดี๋ยวนี้”
ธรณินเดาะลิ้นอย่างหัวเสีย แล้วเดินตามครูพนาไป ไม่ลืมที่จะเข้าไปประคองปาฏิหาริย์ให้ลุกขึ้นไปกับตนด้วย เหลือเพียงกีรติที่ต้องรวบรวมแรงกำลังอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นได้ และตอนเดินยังเซไปเซมาเพราะขาอ่อนแรง แต่เหล่าคนที่มองดูอยู่นั้น ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือสักคน แถมยังส่งเสียงนินทาแสนเบาจนเจ้าตัวได้ยินไล่หลังมาอีกว่า
“สมน้ำหน้า”

...................................

“ใครจะเล่าให้ครูฟังได้บ้าง”
เงียบ ทั้งสามคนไม่มีใครตอบ แน่นอนแต่ละคนก็คิดต่างกันออกไป
ธรณินเงียบเพราะยังโมโหอยู่ ถึงจะดูเหมือนเขาชนะ แต่ไม่เคยมีใครกล้าหือสู้กับตนมาก่อน จึงยังคงความไม่ชอบใจไว้เต็มที่
ปาฏิหาริย์เงียบเพราะไม่สามารถเล่าความจริงได้ ถ้าเล่าความจริงออกไป ธรณินจะเป็นฝ่ายผิดเต็มๆ ถึงอย่างไรธรณินก็คือพี่ชาย จะให้พูดอะไรที่ทำให้พี่ชายเดือดร้อน เด็กชายไม่สามารถพูดได้ แต่จะให้โกหกก็ทำไม่ได้เหมือนกัน
กีรติเงียบเพราะรู้ดีว่าพูดไปก็ไม่มีใครรับฟัง
ความคิดของกีรติออกจะแปลกสักหน่อย ในเมื่อกีรติเป็นเด็กเรียนดี ถึงแม้จะไม่ใช่คนเพื่อนเยอะ ยังไงก็ย่อมดูดีในสายตาคุณครู แต่ต่อให้คนโง่แค่ไหนก็ยังรู้เลยว่าคราวนี้จะไม่มีใครฟังตนก็ในเมื่อคนที่มีเรื่องด้วยน่ะ คือเด็กชายธรณิน......ธรณิน จอมไตร!
 
เมื่อไม่มีใครพูด ครูใหญ่จึงสรุปเอาว่าเป็นความผิดของกีรติ ก็แน่ล่ะ เกิดบอกว่าธรณินผิดมีหวังอาจโดนเด้งออกจากเก้าอี้ก็ได้ แม้ครูพนาจะไม่เห็นด้วย แต่ก็ขัดครูใหญ่ไม่ได้
ผู้ปกครองถูกเชิญมาให้ทราบเรื่อง กีรติโดนคาดโทษไว้ ในขณะที่ธรณินและปาฏิหาริย์ ไม่โดนอะไรเลย….

……………

“ขอโทษจริงๆค่ะ ดิฉันผิดเองที่ไม่สั่งสอนแกให้ดีกว่านี้”
ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปกครองของกีรติกล่าวกับผู้ปกครองของธรณินด้วยสีหน้ารู้สึกผิดสุดแสน ต่างจากเด็กชายที่นั่งทำหน้าเซ็งเต็มที่
“เอ้า แกก็ขอโทษด้วยสิ”
หากแต่ก็ไม่ต่างจากเดิม กีรติยังนั่งนิ่งไม่ไหวติง ด้วยรู้ตัวดีว่าตนไม่ผิด คนที่ต้องขอโทษไม่ใช่ตน
“ดื้อจริงๆเด็กคนนี้”
พูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสารราวกับเป็นแม่ผู้ถูกลูกชายทำตัวร้ายๆใส่ แต่ในใจคิดว่า กลับบ้านไปเด็กนี่เจอดีแน่
 
ปารมีมองเด็กชายตรงหน้าที่มีร่องรอยการทะเลาะวิวาทเต็มตัว ใบหน้าบวมช้ำและมีเลือดกรังบริเวณมุมปากด้วยใจเป็นห่วง ตัวเล็กกว่าธรณินมากมายขนาดนั้นแต่ยังกล้าสู้กับทางนี้นับว่าใจกล้ากว่าตัวอยู่มาก ธรณินเองแม้สภาพจะไม่ย่ำแย่เท่าฝ่ายนั้นแต่ก็เจ็บไปหลายที่อยู่เหมือนกัน
แต่ที่ทำให้ปรามีเป็นห่วงจริงๆคือ การที่ผู้ใหญ่ฝั่งนั้นดูเหมือนจะไม่สนใจสภาพของเด็กชายสักนิด เอาแต่ขอโทษตนอยู่ได้

......................

“คุณหนูเป็นอะไรมากไหมครับ”
ทันทีที่เดินออกมาจากห้องครูใหญ่ ผู้ชายร่างสูงใหญ่ก็เดินตรงมายังกีรติพลางย่อตัวลงสำรวจร่างกายเด็กชายทันที ปารมีมองแล้วคิดว่านี้ไม่ใช่หรือที่ควรทำ ไม่ใช่การเอาแต่ขอโทษขอโพยเขา
“ขอโทษอีกทีจริงๆนะคะ เอาไว้จะกลับไปจัดการที่บ้านให้แล้วกัน อย่าถือโทษเลยนะคะ”
ขนาดนึกค่อนขอดในใจ เจ้าตัวยังไม่รู้สึกสักนิด
“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่เด็กๆทะเลาะกันเท่านั้นเอง”
ปารมีหมายความอย่างที่พูดจริงๆ แต่ดูฝั่งนั้นจะไม่ได้เข้าใจแบบนั้น ยังคงทำหน้าราวกับบอกว่ายังไงก็คงต้องลงโทษเด็กชายให้จงได้
ปารมีทนอยู่ไม่ไหวจึงขอตัวกลับ พร้อมพาเด็กชายทั้งสองกลับไปด้วย
พอเหลือกันสามคน แววตาที่ตีหน้าราวกับเศร้าเสียใจของหญิงคนนั้นก็วาวโรจน์ไปด้วยความโกรธและหันมาลงที่ต้นเหตุทันที
“งามหน้าไหมล่ะ มีเรื่องกับใครไม่มี ดันไปมีกับลูกหลานจอมไตร ช่างหาเรื่องจริงนะแก”
น้ำเสียงดุดันไม่ได้ทำให้เด็กชายรู้สึกกลัวสักนิด จ้องกลับไปด้วยสายตาครุกรุ่นไม่แพ้กัน
“แก.....กลับไปลุงแกเอาตายแน่”
ขู่สั้นๆก่อนเดินจากไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้เด็กชายกลัวอะไรอยู่ดี
“ไม่เป็นไรนะครับ”
ชายคนเดิมถามอีกครั้ง หากครั้งนี้เมื่ออยู่กันสองคนมันต่างไป เพราะเด็กชายกีรติตัวน้อยคลี่ยิ้มหวานสดใสอย่างที่ไม่ทำให้ใครได้เห็นบ่อยนักส่งกลับไปให้
“ไม่เป็นไร สบายมาก”
ว่าแล้วทำท่าเบ่งกล้ามโชว์จนคนที่เป็นห่วงอดหัวเราะเบาๆไม่ได้
“งั้นกลับกันเถอะครับ”
ลุกขึ้นจูงมือออกเดินไป โดยไม่ทันได้เห็นว่า เด็กชายนั้นหน้าหงอยลงอีกครั้ง ดวงตาที่สนุกสนานเมื่อครู่คลอไปด้วยน้ำตาที่พยายามกั้นเอาไว้ ริมฝีปากขบแน่นเข้าหากัน
ไม่ร้อง .....จะไม่ร้องเด็ดขาด กีรติท่องในใจ และก้าวเดินไปตามแรงจูงอย่างมั่นคง

...............................

“แกมันตัวซวยจริงๆ หาเรื่องให้ไม่เว้นวัน”
ชายสูงวัยผู้เป็นเจ้าของบ้านตะเบ็งเสียงใส่เด็กชายตัวเล็กที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับเสียงอันดังนั้นเป็นเพียงลมพัดผ่าน
“อย่ามาทำเหมือนไม่ได้ยินนะ ฉันจะทำยังไงกับแกดี”
ว่าพลางจ้องมองราวกับเป็นสิ่งน่ารังเกียจ เด็กชายกีรติเองมองตอบกลับไปด้วยสายตาเฉกเช่นเดียวกัน จนอีกฝ่ายทนไม่ได้เงื้อมือขึ้นตั้งใจจะฟาดลงที่ตัวหรือใบหน้าสักที แต่กีรติกลับไวกว่า เจ้าตัวกระโจนลงจากโซฟาให้ห่างระยะมือและเหลียวกลับไปจ้องหน้าชายคนนั้นอีกครั้ง
มือเล็กคว้าแจกันที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาถือไว้ แน่นอน ว่าตั้งใจใช้มันเป็นอาวุธ หากตนถูกทำร้าย
“ลองดูสิ”
ว่าพลางกำแจกันไว้แน่น ยังไม่ทันที่เรื่องราวจะใหญ่โตกว่านั้น ประตูก็ถูกเปิดออก แล้วร่างหนึ่งก็ปรากฏตัว
“นั่นพี่จะทำอะไรน่ะ”
น้ำเสียงบอกชัดถึงความไม่พอใจทำให้มือชายคนนั้นลดลงทันที
“สั่งสอนลูกหลาน มันผิดหรือ”
ถึงจะรามือ แต่ยังไม่ยอมแพ้ซะทีเดียว
“ไม่ได้!”
เสียงดังชัดถ้อยชัดคำ
“กี มาหาอา”
กีรติเดินตามเสียงเรียก แต่ยังไม่ปล่อยแจกัน
“เจ็บมากไหมครับ”
ก้มลงถามเด็กชาย พลางไล้มือไปตามรอยแผลที่ปรากฏบนใบหน้า และได้รับการส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ผมจะเอากีไปพักด้วยสักระยะ แล้วจะมาคุยด้วยอีกที”
“ไม่ได้นะ”
ชายคนนั้นรีบร้องห้าม
“ไม่ครับ ผมจะมาคุยอีกที ถ้าพี่อยากมีเรื่องถึงศาลก็ลองขัดขวางผมดูสิ”
เท่านั้น ชายคนนั้นก็ยอมเงียบไปโดยดี แต่ไม่วายมองด้วยสายตาไม่พอใจ
กีรติหันไปยิ้มเยาะพลางขว้างแจกันใบสวยลงบนพื้นจนแตกกระจาย ใช่ แจกันใบสวย ....สวย....เก่าแก่....และราคาแพง....

..........................................

“เรานี่ก็นะ ไม่ดูคนมีเรื่องด้วยเล๊ย”
กีรติยิ้ม เพราะรู้ดีว่าตนกำลังโดนล้ออยู่
“อากานต์ก็รู้ว่ากีไม่ทำใครก่อน”
ผู้เป็นอาพยักหน้าแล้วเหลียวมองไปรอบๆตัว ราวกับกำลังหาใคร
“มองหาจ้าวหรือครับ”
กานต์ก้มมองหลายชายแล้วโยกหัวอย่างขัดใจ
“รู้มาก”
สิ้นคำ ร่างใหญ่โตของชายที่ชื่อว่าจ้าวก็เดินลงมาจากชั้นบน พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางสองใบ
กานต์ยิ้มสวยให้ชายหนุ่ม หากได้รับใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึกส่งกลับมาให้เช่นทุกครั้ง ทำเอาคนส่งยิ้มเก้อย่นจมูกด้วยความขัดใจ
“เชอะ! ไปกันเถอะกี”
กีรติมองใบหน้าอาที่ทำท่างอนแล้วหันไปมองชายหนุ่มที่เดินตามมาข้างหลัง ก่อนส่ายหัวอย่างระอาใจ คนโง่ยังดูรู้ว่าอากานต์ชอบจ้าว แถมทอดสะพานให้เต็มที่ แต่จ้าวนี่สิไม่รู้ว่าไม่รู้จริงๆ แกล้งไม่รู้ หรือไม่สนใจจะรู้กันแน่ เดาทางไม่ออกเลย กีรติชักสงสารอาของตนขึ้นมา และหมายมั่นว่า ต้องช่วยอาให้สมหวังให้ได้ ถึงต้องบังคับจ้าวก็เถอะ

..........................

หลังจากพาลูกหมาตัวน้อยไปโรงพยาบาล ปารมีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมในรถถึงได้มีแต่ความเงียบ ธรณินยังทำสีหน้าไม่สบอารมณ์เช่นเดิม ในขณะที่ปาฏิหาริย์ยังแอบร้องไห้เบาๆ
ทันทีที่เข้าตัวบ้าน ทุกคนต่างพากันมารุมล้อมเด็กชายทั้งสองด้วยความเป็นห่วง กว่าจะไล่ให้กลับไปทำงานกันได้ก็นานอยู่ หลังจากทำแผลทายาให้ทั้งคู่ ปารมีก็เอ่ยถาม
“เล่าได้รึยังครับ ว่าเกิดอะไร”
ธรณินกำลังจะอ้าปากเล่า แต่ปาฏิหาริย์ก็ลุกขึ้นมาก่อน
“พี่นินใจร้ายที่สุด”
ว่าแล้วร้องไห้โฮก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนห้องทำเอาทั้งปารมีและธรณิน รวมถึงผู้ที่กำลังจะเดินเข้ามาอีกสามคนตกใจไปตามๆกัน
“นินไปแกล้งอะไรน้อง”
เสียงเข้มตามแบบฉบับของวสุธาผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม
“ปะ...เปล่านะครับ”
ธรณินรีบปฏิเสธ และได้รับการพยักหน้าจากปารมีเป็นเครื่องยืนยัน
“แล้วทำไม.....”
นั่นสิ แล้วทำไม ทั้ง 5 คนที่อยู่ข้างล่างไม่มีใครรู้คำตอบ นอกจากตัวปาฏิหาริย์เองเท่านั้นที่รู้

...................................

“กีรติ....เอ่อ....”
ปาฏิหาริย์รวบรวมความกล้าเดินเข้ามาหากีรติที่โต๊ะเรียน แต่ได้รับการมองราวกับตนเป็นตัวน่ารังเกียจตอบกลับมา
“มีอะไร”
ขึ้นเสียงอย่างไม่พอใจ แน่นอน เมื่อวานการที่ปาฏิหาริย์ซึ่งรู้เรื่องจริงทุกอย่างปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรนั้น เท่ากับตั้งใจโยนความผิดมาให้กีรติเต็มๆ ทั้งๆที่รู้ ทั้งๆที่กีรติไปช่วย แต่ที่ได้รับกลับมาไม่ต่างจากการถูกหักหลังสักนิด กีรตินึกถึงสุภาษิตที่เพิ่งเรียนไป ทำคุณบูชาโทษ มันเป็นแบบนี้นี่เองสินะ
“คือ เมื่อวาน....”
“นี่....จะทำอะไรตาหวานอีกน่ะ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นเมื่อมีคนหนึ่งสังเกตเห็นทั้งคู่คุยกัน เสียงนี้ทำให้คนอื่นๆในห้องหันมาให้ความสนใจตามไปด้วย ทุกคนต่างส่งเสียงทำนองว่ากีรตินั้นกำลังรังแกปาฏิหาริย์ กีรติส่ายหน้า นึกฉุนที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่า ตอนนี้เขานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเอง ปาฏิหาริย์ต่างหากที่เดินเข้ามาหาเขา ถ้าจะมีใครหาเรื่องคงต้องเป็นอีกฝ่ายมากกว่า
แต่กีรติก็รู้ดีว่าแก้ตัวไปก็คงไม่มีใครสนใจฟัง ก็ปาฏิหาริย์เป็นที่รักของเพื่อนๆ แถมยังนามสกุลจอมไตรอีก อย่างเขาจะไปสู้อะไรได้ เด็กชายลุกขึ้นและเดินออกจากห้องอย่างเอือมระอา เขาไม่แคร์หรอกที่โดนเกลียด เพราะชินเสียแล้ว แต่ที่เดินหนีมาเพราะรำคาญมากกว่า

…………..

“ว่าไง”
น่ารำคาญจริงๆด้วย... กีรตินึกในใจที่ทำยังไงก็หนีพวกงี่เง่าไม่พ้นสักที
เด็กเกเร ป.3 เมื่อวานสี่คนเข้ามาขวางทั้งซ้ายขวาหน้าหลัง ไม่บอกยังรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไร การตะลุมบอลเกิดขึ้นทันทีที่กีรติโดนผลักอกแล้วเจ้าตัวก็ส่งรองเท้าคู่สวยไปประทับรอยบนเสื้อนักเรียนตัวขาวของคนผลักเป็นการตอบกลับไป
หลังโรงเรียนและในเวลาเรียนแบบนี้คงไม่มีใครมาเห็นหรอก ยกเว้นปาฏิหาริย์ซึ่งตามกีรติออกมา พอเห็นว่ากีรติโดนรุมทำร้ายก็วิ่งกลับไปทางเก่าเพื่อบอกอาจารย์ทันที
“เธออีกแล้วหรือ”
ใบหน้าของครูพนาเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อวานเพิ่งมีเรื่องไป แถมท่าทางเจ้าตัวยังไม่หายดี กลับมามีเรื่องใหม่อีกแล้ว ครูพนามองกีรติสลับกับเด็กนักเรียน ป.3 สี่คน ทั้งๆที่ดูก็รู้ว่าสี่รุมหนึ่ง แต่แผลที่ได้มากลับไม่ค่อยต่างกันเลย

..................................

“นี่หาเรื่องไม่เว้นวันเลยนะกีรติ”
ครูใหญ่ว่าพลางทำหน้าระอามองมายังกีรติ
“เกเรจริงๆนะ เรียกผู้ปกครองมาอีกทีซิ หาเรื่องคนอื่นทุกวันแบบนี้แย่จริงๆ”
ครูพนาทำตาโต ครูใหญ่ไม่ถามเด็กสักคำ แถมขนาดคนโง่ยังดูรู้เลยว่าใครโดนหาเรื่อง แต่คำตัดสินกลับเป็นไปอีกทาง
“ครูใหญ่ค่ะ ดิฉันว่า”
“ พอเลยครูพนา”
ครูใหญ่รีบเบรก เขาไม่สนว่าใครผิด แต่ที่ตัดสินง่ายๆเพราะกลัวว่าหากตัดสินว่ากีรติซึ่งเพิ่งมีเรื่องกับธรณินเป็นฝ่ายถูก บ้านจอมไตรจะไม่ชอบใจเอาได้ ถึงอย่างไรโรงเรียนนี้ก็มีจอมไตรเป็นหุ้นใหญ่
“เด็กแบบนี้น่ะ พ่อแม่คงไม่เคยสั่งสอน”
ครูใหญ่ยังบ่นต่อ แต่คำพูดนั้นทำเอาคนที่ทำหน้าเรียบเฉยตั้งแต่เมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นดวงตาวาวโรจน์อย่างคนโมโหสุดชีวิตได้ กีรติกำลังมองหาอาวุธที่จะทำให้ครูใหญ่หัวแตก แต่ก็ช้าไปกว่าเสียงรองเท้าส้นสูงที่เดินไปทางครูใหญ่พร้องเสียงโครมของเก้าอี้ที่ถูกขาเรียวสวยนั้นเตะจนล้ม
“นี่เธอ”
ครูใหญ่ชี้หน้าครูพนาที่ไม่มีทีท่าหวาดกลัวสักนิด
“จะมากไปแล้วนะคะ ว่าถึงผู้ปกครองเด็กแบบนั้น แย่ที่สุด”
เธอไม่สนอีกแล้วหน้าที่การงานอะไร นอกจากความไม่ถูกต้องไม่เป็นกลางของครูใหญ่แล้วการว่าร้ายพ่อแม่ของเด็กนักเรียนทำให้ความอดทนของครูพนาขาดลงทันที
เธอเดินออกจากห้องครูใหญ่ไปทันที โดยไม่สนเสียงเกรียวกราดจากครูใหญ่แม้แต่น้อย
กีรติรู้สึกรักครูพนาที่สุดก็วันนี้เอง

........................

พักการเรียน 1 อาทิตย์คือบทลงโทษของกีรติ ในขณะที่อีกฝ่าย....สี่คนนั้นกลับไม่โดนอะไรเลย อ่า....มันน่ากระทืบซ้ำครูใหญ่จริงๆ กีรติคิดเล่นๆสนุก...แต่อยากทำจริงๆ
กานต์ที่มารับตัวกีรติไปมองเด็กชายอย่างไม่เข้าใจที่เห็นใบหน้านั้นอมยิ้มนิดๆ แต่ก็คิดว่าดีแล้วที่กีรติไม่ซึมเศร้า กานต์ไม่ได้ส่งเสริมให้กีรติก้าวร้าว แต่คิดว่าหากกีรติว่านอนสอนง่าย จะไปทันพวกเลวๆรอบๆตัวได้อย่างไร จึงดุกีรติเท่าที่สมควร อย่างเรื่องวันนี้ เขารู้ว่ากีรติไม่ผิดแน่ๆ ก็มันเห็นชัดๆว่าสี่รุมหนึ่ง แต่คนของเขากลับถูกบอกว่าหาเรื่องก่อน
กานต์ก็รู้แล้วว่าการที่ไปมีเรื่องกับเด็กบ้านจอมไตรนั้นทำให้อะไรๆแย่กว่าที่คิดไว้ และนั่นยิ่งทำให้เขาต้องเร่งทำเรื่องของกีรติให้จบโดยเร็วที่สุด

..................

จ้าวนั่งทำแผลให้กีรติ โดนมีกานต์มองอยู่ห่างๆ ผู้ชายตัวโตๆที่เป็นห่วงเด็กชายตัวเล็กๆคนนี้เสมอทำให้เขาอดอิจฉานิดๆไม่ได้ ทั้งที่กับกานต์จะเฉยชาไร้ความรู้สึก แต่ไหงกับกีรติถึงได้อ่อนโยนนัก เพราะรักกีรติจริงๆ หรือเพราะว่ากีรติเป็นลูกของพี่สาวกันแน่ พอคิดถึงตรงนี้กานต์ก็โมโหขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เดินเข้าไปแย่งสำลีมาถือไว้ แล้วลงมือทำแผลให้หลานชายด้วยตัวเอง
“เอ่อ.....”
จ้าวยังไม่เข้าใจ กีรติเองก็งง แต่รอยยิ้มอ่อนโยนก็ส่งตรงมายังกีรติซะก่อน
“อาแค่อยากทำให้”
กีรติยิ้มรับความหวังดีนั้น ใช่ กานต์แค่อยากทำให้ เขาอิจฉาก็จริงที่จ้าวอ่อนโยนกับหลายชาย แต่เขาไม่ชอบใจมากกว่าเมื่อคิดว่าจ้าวอ่อนโยนเพราะกีรติเป็นลูกของพี่สาวผู้ล่วงลับ
ทั้งไม่ชอบที่จ้าวให้ความสำคัญกับพี่สาว แต่ที่ไม่ชอบมากกว่าคือ การที่กีรติตัวน้อยๆนี้ไม่ได้รับความรักความหวังดีจากใจจริง เขาต้องการให้จ้าวรักกีรติที่ตัวกีรติเช่นเดียวกับที่เขารู้สึก ไม่ใช่รักเพราะกีรติเป็นลูกของพี่สาว! แบบนั้นกีรติก็น่าสงสารเกินไป

.....................................

ปาฏิหาริย์เอาแต่นั่งซึม ไม่พูดไม่จากับใคร จนปารมีอดเอ่ยถามไม่ได้เมื่อมีโอกาสได้อยู่กันสองคน
“มีอะไรเล่าให้ปามฟังไหม”
เมื่อได้รับคำพูดอ่อนโยนแบบนั้น ปาฏิหาริย์ก็ไม่สามารถกักเก็บอะไรไว้ได้อีก เด็กชายพรั่งพรูคำพูดออกมาพร้อมน้ำตา
ทั้งเรื่องเด็กเกเรสี่คนที่ทำร้ายลูกหมาแล้วตนเข้าไปช่วย ทั้งเรื่องที่กีรติเข้ามาช่วยตนไว้อีกที ทั้งเรื่องที่ธรณินเข้าใจผิด แล้วก็เรื่องวันนี้ที่ตนตั้งใจไปตามอาจารย์เพื่อไปช่วยกีรติ แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้กีรติโดนลงโทษแทน
“ทั้งที่กีรติเขา...ฮึก...ไม่ผิดเลย”
คำนี้ปาฏิหาริย์ย้ำไปย้ำมา ก่อนจะโผเข้ากอดปารมีเอาไว้ ปารมีลูบหัวหลานชายด้วยความเข้าใจ
ถึงปาฏิหาริย์จะทำผิด เรื่องที่ไม่พูดความจริง แต่เพราะเด็กชายยังเล็กและกลัวว่าธรณินผู้เป็นพี่ชายจะโดนลงโทษจึงไม่กล้าเอ่ย  แต่ที่เรื่องมันยุ่งมากขึ้น ก็เพราะเด็กๆนามสกุลใช้จอมไตรเนี่ยแหละ ความยุติธรรมเลยหายไปหมด
“แบบนี้เองหรือ”
วสุธาที่เข้ามาตอนไหนไม่รู้เอ่ยด้วยเสียงเรียบเย็น ก่อนจะเดินออกจากห้องไปจัดการเรื่อง เขาอาจจะตามใจลูกๆทุกคนก็จริง แต่เมื่อใครทำผิดถึงจะไม่ได้รับการลงโทษ ก็ต้องรู้ตัวว่าผิดและยอมรับให้ได้ และถ้าตั้งใจที่จะทำผิด ต้องไม่รู้สึกผิดไปการกระทำนั้น อาจเป็นคำสอนที่แปลกแต่การทำธุรกิจซึ่งต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมมากมาย  การสอนแบบนี้เป็นการปลูกฝังให้รู้จักเด็ดขาดกับการตัดสินใจของตน แน่นอน ไม่ว่ามันจะถูกจะผิดหรือจะทำให้ใครเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม

...................................

“ว่าไงนิน”
“ครับ ผมผิดเอง”
ธรณินยอมรับอย่าง่ายดายเมื่อฟังเรื่องทั้งหมด และเข้าใจทันทีว่าทำไมตนถึงได้ถูกน้องโกรธ
“การตัดสินใจทั้งที่ไม่ได้ดูให้ดีก็เป็นแบบนี้แหละ เข้าใจนะ”
เด็กชายพยักหน้าให้พ่อ
“แต่พ่อไม่ลงโทษ เพราะรู้ว่าลูกทำไปด้วยความเป็นห่วงตาหวาน”
เด็กชายส่งเสียงครับ อีกครั้ง ใช่แล้ว บ้านจอมไตรสอนลูกแปลก สอนให้รักกัน เชื่อใจกัน และแน่นอน เข้าข้างกัน ไม่ว่าฝ่ายตนจะถูกหรือไม่ก็ตาม
 
ธรณินขึ้นไปชั้นบนเพื่อขอโทษปาฏิหาริย์ ตอนแรกอีกฝ่ายก็ยังมึนๆตึงๆใส่แต่พอรับปากว่าจะไปขอโทษกีรติด้วยเขาก็ได้น้องชายตัวน้อยน่ารักกลับคืนมาทันที

...............................

แต่ธรณินก็ไม่ได้ไปขอโทษอย่างที่รับปากปาฏิหาริย์ไว้ ใช่ว่าเขาไม่อยากทำแต่เพราะกีรติถูกลงโทษพักการเรียน 1 อาทิตย์ แม้หลังจากนั้น วสุธาจะดำเนินเรื่องเพื่อปลดครูใหญ่คนเก่าออกและตั้งครูพนาขึ้นเป็นครูใหญ่แทน โทษของกีรติถูกยกเลิกไปเพราะสอบสวนแล้วกีรติไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่กีรติก็ไม่ได้มาที่โรงเรียนอีกเลย ....

...........................................................................................

 TBC

หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Black Orlov ที่ 22-02-2013 20:06:12
ต้อนรับเรื่องใหม่ น่าสนใจดี ตามๆๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: roitra ที่ 22-02-2013 20:09:07
เรื่องมัน :o12:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 22-02-2013 20:17:15
ตามโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-02-2013 20:18:34
ไชโย... เอามาลงแล้ว


รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-02-2013 20:36:04
รอเอามาลงที่นี่นานมากกกก

หมั่นไส้คุณตาหวานแต่ก็รักนะ >..<
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 22-02-2013 20:44:11
มาแล้วววววววววว
พอเห็นชื่อ และ คำว่าตาหวาน
แทบร้องอะ
ไม่คิดว่าจะได้อ่านคู่นี้นะเนี่ย
555555+++

+1
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Anonymus ที่ 22-02-2013 20:44:45
ตามมาจิ้มด้วยคน จิ๊กๆๆๆ

จอมไตรรุ่นลูกมาแล้ว เย้ๆ

ปล. คิดถึงคุณจุ๊บจิ๊บ กอดๆๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 22-02-2013 20:59:41
ขอต้อนรับกลับมาอีกครั้ง

อ่านแล้วปวดหัวใจ

สงสารกีรติ...ทำไมๆๆๆๆ โดนอยู่คนเดียวเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: nemonoy ที่ 22-02-2013 21:38:15
ดีใจได้อ่านจอมไตรอีกแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: BBnuna ที่ 22-02-2013 21:42:26
กรี๊ด ให้น้องตาหวาน  :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: mujika_keita ที่ 22-02-2013 21:49:25
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 22-02-2013 21:49:54
ตาหวาน!!!!~ :-[

อ๊าย~ มารออ่านค่ะ เรื่องอื่น ๆ ตามคอมเมนท์ไม่ทัน เรื่องนี้จะตามตั้งแต่ต้นเรื่องเลย  o13

สู้ ๆ ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 22-02-2013 21:52:32
กีรติโดนเต็มๆ เฮ้อ o22 :a5:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 22-02-2013 22:03:54
 ตาหวานมาแล้วๆๆ o13
รอตอนต่อไปคะ :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: 7th SensE ที่ 22-02-2013 22:09:10
อยากอ่านต่อแล้วอ่ะค่ะ น่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 22-02-2013 22:51:08
 :-[ :-[ :-[ :-[กรี้ดดดดดดดดดดตาหวานมาแล้วอิอิ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


รออออออออออออออออออจ้า :bye2: :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 22-02-2013 23:08:39
มีเรื่องใหม่มาอีกแล้ว

ทำไมกีรติไม่ได้มาโรงเรียนอีกแล้วอ่ะ หายไปไหน ตาหวานน่าจะบอกความจริงไปอ่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 22-02-2013 23:18:46
กรี๊ดดดดดด มาอีกแล้ว :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: nut_ml ที่ 22-02-2013 23:26:21
ซีรีส์เรื่องยาวแห่งทศวรรษมาภาคใหม่แล้วคร๊าบบบบบบ ตามติดๆ กว่าจะจบทุกคู่นี่คนแต่งหมดแรงเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 22-02-2013 23:42:03
รอตอนต่อปายยยยยยยยยยยยย( วิบัติเพื่อเสียง) คงได้เจอกันอีกทีตอนโตสินะ!  :man1:
สามคำ>>>รอ ตอน โต  (อิอิ)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-02-2013 00:03:08
สงสารกีรติ
เดี๋ยวไปตามอ่านคู่อื่น ๆ ด้วย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 23-02-2013 02:30:16
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่จิ๊บมาแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-02-2013 07:38:51
ความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหนนะ :เฮ้อ:
แต่ครูใหญ่ก็โดนลงโทษแล้วล่ะ สมน้ำหน้า :laugh:
ตอนโตจะเจอกันไหมนะ กีเหมือนจะเป็นพระเอกเลย แต่ดูจากผังมันไม่ใช่อ่า หรือว่าโตแล้วจะเปลี่ยนชื่อกันนะ
รออ่านตอนต่อไปค่า :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 23-02-2013 07:47:24
และแล้ว บ้านจอมไตร ก็กลับมาให้ได้ติดตามกันต่อ  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 23-02-2013 09:56:44
เย้ๆ ยินดีต้อนรับบ้านจอมไตร
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 23-02-2013 10:55:49
ให้กำลังใจตาหวานค่ะ อิอิ ใจอยากอ่านคู่ของคุณอาทั้งหลายมากอ่ะ ติดใจตอนไม้กะกลอน ฟาดฟันนน นน กันหน้าดูเชียว :z1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 23-02-2013 11:58:39
ตาหวานๆๆๆ มาแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 23-02-2013 12:53:24
สงสารน้องกี ไม่น่าล่ะ โตมาถึงจะนิสัยไม่ค่อยดี และงี่เง่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-02-2013 16:21:08
ครูแบบนี้ให้ออกไปเถอะ สงสารกีรติ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-02-2013 17:27:02
ตอนแรกมาก็ดราม่าเลย  สงสารกีรติจัง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 23-02-2013 18:00:47
มันส์ได้อีก.....นี่แค่ตอนแรกเองนะเนี่ย!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 1 22/2/56 p.1
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 23-02-2013 18:35:55
...ตาหวาน น่าจะเป็นนายเอกที่ขี้แย หน่อยๆเนอะ ส่วนพระเอกน่าจะเป็นคนสองบุคคลิก
...นี่ท่าจะเจอกันอีกทีตอนโตแน่เลย เพราะกีย้ายโรงเรียนไปแล้ว ยังไงก็จะติดตามอ่านต่อไปนะจ๊ะขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆให้อ่าน :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 25-02-2013 11:02:38
ตอนที่2
“ขอโทษครับ”
น้ำเสียงภาษาอังกฤษทุ้มไพเราะส่งมาเมื่อเจ้าตัวเดินชนอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง ด้วยมัวแต่มองหาป้ายเลขที่บ้านตามที่อยู่บนกระดาษในมือ
“ไม่เป็นไรครับ”
อีกฝ่ายตอบกลับด้วยใบหน้าเรียบเฉย และทำท่าจะเดินหลีกเลยไป
“อ๊ะ....เดี๋ยวก่อนครับ”
ว่าพลางจับแขนอีกฝ่ายไว้
“กีรติรึเปล่า”
ภาษาพูดที่เปลี่ยนจากอังกฤษเป็นไทย และชื่อตัวเองที่ออกมาจากปากอีกฝ่ายทำเอาคนที่ตั้งใจจะเดินผ่านไปหยุดชะงักและเงยหน้ามองคนพูดเต็มที่
กีรติพยายามเพ่งมองและประมวลในหัวคราวๆว่าเขาเคยเจอคนตัวสูงๆหน้าตาคมเข้มแบบนี้ที่ไหน แต่ไม่ เขาไม่เคยเจอแน่ๆ
สายตาที่ส่งไปเต็มไปด้วยความสงสัยและหวาดระแวง
“เราเอง จำไม่ได้หรือ ตาหวาน....ปาฏิหาริย์ไง”
“เฮ้ย!”
หลังจากรำลึกได้ว่าชื่อเสียงเรียงนามอันคุ้นหูนี่เป็นใครกีรติก็ร้องเสียงหลง....ด้วยไม่คิดว่าจะเจออีกฝ่ายที่นี่
พอลองมองแล้วนึกดีๆ ก็พอที่จะนึกออกลางๆถึงใบหน้าเจ้าของชื่อนั้น เท่าที่จำได้ ดวงตากลมโตสีเทา ขนตายาวงอน ทำให้ดูตาหวานสมชื่อ คิ้วไม่หนาไม่บางกำลังพอดี จมูกโด่งสวย และริมฝีปากรูปกระจับ ใบหน้าที่มองยังไงก็สวยหวาน......อ่า ใช่จริงๆด้วย ....แต่มีบางอย่างเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน...ก็รูปร่างเล็กบางสมัยเด็กนั่นบัดนี้กลายเป็นรูปร่างสูงหนาสมชาย อย่างที่กีรติไม่สามารถเป็นได้...ทั้งที่พยายามแทบตาย
“จำได้รึยัง”
อีกฝ่ายเร่งเร้าด้วยรอยยิ้ม กีรติถอนหายใจ เพราะพอเจอรอยยิ้มนี่เข้าไป ก็รู้ได้ทันทีว่าใช่แน่ๆ แต่พอมาคิดทบทวนถึงตอนเด็กที่ว่า ยุ่งเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ทีไร ตนก็มีเรื่องต้องซวยตลอดนั้นทำให้กีรติไม่ค่อยอยากจะจำได้เท่าใดนัก
“เอ่อ...โทษที...”
ตอบแบบคลุมเครือ ไม่ได้ระบุว่าโทษทีเพราะฝั่งนั้นทักคนผิด โทษทีที่จำไม่ได้ หรือโทษทีที่ไม่อยากยุ่งด้วย พยายามดึงแขนออกจากมืออีกฝ่าย แต่คงยากเกินไปด้วยรูปร่างที่แตกต่าง
“จำไม่ได้หรอกหรือ”
ปาฏิหาริย์ทำหน้าเศร้า ทั้งๆที่ในใจตัวเองก็แน่ใจว่ากีรตินั้นจำตนได้แน่ๆ
“เปล่า แต่เรารีบ ปล่อยก่อน”
ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด แต่ปาฏิหาริย์ไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆอย่างที่กีรติคิด
“รีบหรือ...งั้นเราไปด้วย”
ปาฏิหารตอบราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ในขณะที่กีรติหน้าเหวอไปทันที แต่เขาจะทำอะไรได้ รีบก็รีบ
ก็ได้แต่คิดในใจว่าอะไรนักหนา แต่ก็ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายตามมา

.....................

 “เกือบสายเลยนะกีเหลือนายคนสุดท้ายแล้วเนี่ย”
กีรติพยักหน้าก่อนจะส่งเอกสารให้วันนี้กีรติต้องมาทำเรื่องขอจบที่มหาวิทยาลัยนี้
“พี่ภาคล่ะ ทำวิจัยเสร็จแล้วหรือ ถึงได้มีเวลามาช่วยงานเนี่ย”
“อ่า....อย่าพูดสิ”
สองคนหัวเราะกันโดยที่ลืมไปเลยว่า ข้างหลังกีรตินั้นมีคนยืนอยู่ด้วย
“แล้วใครนะ แฟน?”
“พี่ภาค!”
กีรติขึ้นเสียงเบาๆเมื่ออีกฝ่ายแซวในเรื่องที่ตนคิดว่าเป็นปมด้อย กีรติตัวเล็ก ยิ่งที่อเมริกาผู้ชายที่อายุเท่ากันไม่มีใครตัวเล็กกว่าเขาเลย แม้ตัวเองจะมั่นใจว่าหน้าตาก็ธรรมดาในแบบของผู้ชายปกติทั่วไป แต่ดูเหมือนคนอื่นๆจะไม่คิดแบบนั้น นั่นทำให้ตัวกีรติมันมีผู้ชายมาจีบอยู่เสมอๆ แน่นอนว่าไม่ได้รังเกียจอะไร ในเมื่อกานต์กับจ้าวที่เลี้ยงดูเขามาก็เป็นคนรักกันถึงจะเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่กีรติไม่เคยนึกพิสวาสผู้ชายคนไหน เขาคิดว่าเขาชอบผู้หญิง ถึงจะไม่เคยนึกชอบผู้หญิงคนไหนที่นี่ กีรติก็แก้ตัวให้ตัวเองว่า เป็นเพราะผู้หญิงที่นี่ไม่ตัวเท่ากันก็สูงกว่ากีรติไปเลย จะให้คบก็เลยทำใจไม่ได้
“อ๊ะ....จริงสิ”
กีรติหันขวับ ทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ภาคนิพนธ์ ก่อนจะเริ่มแนะนำให้ปาฏิหาริย์รู้จัก
“นี่พี่ภาคนิพนธ์ แล้วก็นี่ ปาฏิหาริย์ครับ”
ภาคนิพนธ์ที่มองเห็นรุ่นน้องทำหน้าตาไม่น่าไว้ใจ ก็ระวังตัวเต็มที่ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
“ตาหวานน่าจะจำได้นะ คนนี้ไงที่เป็นหัวโจกรุมแกล้งลูกหมาตัวนั้นน่ะ”
แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ ภาคนิพนธ์สะดุ้งตั้งแต่ได้ยินชื่อเล่นของอีกฝ่าย ส่วนตาหวานก็ไม่ต้องใช้เวลาในการรำลึกนานอะไรในเรื่องที่กีรติพูดถึง
“ขอให้สนิทกันไว้นะครับทั้งสองคน”
ยิ้มอย่างภูมิใจที่ทำให้ทั้งคู่ตื่นตะลึงได้ ก่อนจะอาศัยจังหวะนั้นเองชิ่งหนีออกมา
“.......”
“.......”
ทุกอย่างตกใจอยู่ในความเงียบยาวนาน จนเมื่อเจ้าหน้าที่คนอื่นมาเตือนภาคนิพนธ์ให้รวบรวมเอกสารไปส่งได้แล้วนั้นหละ สภาพอันน่าตึงเครียดนั่นจึงจางไป

.......................

“อะ!”
เสียงอุทานอย่างตกใจ เมื่อเดินออกมาจากมหาวิทยาลัย แล้วมีใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั้น
“เดี๋ยวสิ”
พอคิดได้ว่า ไม่มีอะไรต้องเกี่ยวของกัน ภาคนิพนธ์จึงเลี่ยงที่จะเดินไปอีกทาง แต่ปาฏิหาริย์กลับเดินตามมา
“มะ...มีอะไร”
อาการพูดติดขัดนี้เกิดขึ้นเสมอเวลาที่ตื่นเต้นมาก เป็นปฏิกิริยาน่าอายที่ภาคนิพนธ์ไม่ชอบ และพยายามฝืนปกปิดเสมอ
“พาไปบ้านกีรติหน่อย”
ปาฏิหาริย์พูดห้วนๆกับอีกฝ่าย น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าไม่อยากเป็นมิตรด้วยเท่าไหร่นั้นทำเอาคนฟังต้องก้มหน้าหลบ
“ครับ”
ตอบรับเพียงเท่านั้นแล้วก็ออกเดินนำหน้าไปยังทางที่เป็นบ้านพักของกีรติตามที่อีกฝ่ายต้องการ
ภาคนิพนธ์ย้ายมาจากเมืองไทยตอนที่ขึ้นมัธยมต้น และมาเจอกีรติอีกครั้งตอนที่เรียนอยู่ม.3  ในขณะที่กีรติเพิ่งจะเข้าม.1 ตอนนั้นเขากำลังเดินกลับบ้าน และเจอเข้ากับกลุ่มอันธพาลของโรงเรียน พวกนั้นลากเขาไปโดยไม่บอกจุดประสงค์ แต่ภาคนิพนธ์รู้ว่าตนต้องโดนทำร้ายแน่ๆ เป็นโชคดีที่กีรติและอาสองคนมาเห็นเข้าพอดีและช่วยไว้ได้ทัน พวกอันธพาลโดนสั่งสอนจนกลับใจ ตอนนี้ก็ยังคบกันในฐานะเพื่อน หรือเรียกอีกที ในฐานะลูกไล่ของกีรติ ทั้งๆที่พวกนั้นอายุเท่าภาคนิพนธ์แท้ๆ.....จากนั้น คุยกันไปคุยกันมาถึงได้รู้ว่า กีรติคือเด็กชายที่เขาเคยรุมทำร้ายเมื่อครั้งอยู่ประถม ภาคนิพนธ์ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ที่เป็นสาเหตุให้ชีวิตของกีรติต้องยุ่งยาก แต่ว่ากีรตินั้นกลับไม่ถือโทษโกรธเคือง แถมยังบอกว่าเรื่องมันแล้วก็แล้วไป ทำให้ทั้งคู่สนิทกันมาได้จนถึงทุกวันนี้
ทั้งๆที่อายุห่างกันสองปี แต่ตอนนี้ทั้งคู่ก็เป็นนักศึกษาปี4 ที่กำลังจะจบเหมือนกัน เหตุผลก็เพราะภาคนิพนธ์หยุดเรียนไป 2 ปีหลังจากจบม.6.....เขาต้องหางานทำเพื่อนำเงินมาเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพราะเขาอยากหาเงินด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินจะส่ง แต่เป็นเพราะที่บ้านของภาคนิพนธ์ยืนยันจะให้ภาคนิพนธ์เลิกเรียนและกลับไปช่วยงานที่บ้าน แน่นอนว่าที่ตอบกลับไปเป็นคำปฏิเสธ เมื่อเจ้าตัวรู้ดีว่า กลับไปคงไม่พ้นได้ไปเป็นเมียน้อยของพ่อเลี้ยงแน่ๆ
“ที่นี่แหละครับ”
ภาคนิพนธ์พาปาฏิหาริย์มาหยุดที่หน้าห้องของกีรติ และกดกริ่งเรียกให้เสร็จสรรพ์ ก่อนจะขอตัวลากลับบ้าน แต่มือหน้าก็คว้าไว้ได้ทัน
“อยู่ด้วยกันก่อน”
ปาฏิหาริย์ไม่ไว้ใจภาคนิพนธ์ ในหัวมีแต่ความคิดด้านลบเกี่ยวกับคนๆนี้ คนที่เคยทำร้ายลูกสุนัขตัวน้อยๆ คนที่เคยจะทำร้ายเขาทั้งที่ตอนนั้นตัวใหญ่กว่ามาก และคนๆนี้กับเพื่อนเคยรุมทำร้ายกีรติที่สำคัญแม่ของคนๆนี้ยัง............
“ครับ”
คนที่มาเปิดประตูคือจ้าว ภาคนิพนธ์ยกมือไหว้ ปาฏิหาริย์ก็ไหว้ตาม
“ว่าไงภาคเขามาก่อนสิ”
ทักและเชื้อเชิญตามความคุ้นเคย แต่พอมองเลยไปถึงคนเบื้องหลังก็ทำหน้าแปลกใจนิดๆ
“นี่ปาฏิหาริย์ครับ เขาอยากพบกี”
จ้าวพยักหน้ารับรู้และเอ่ยชวนคนตัวสูงตามเข้ามาในบ้านอีกคน
“หวา.....”
กีรติร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าที่เดินตามหลังภาคนิพนธ์เข้ามาคือใคร
“กี ทำตัวดีๆสิ”
กานต์ปรามหลานชายพลางส่งยิ้มให้ปาฏิหาริย์ เพราะรู้ว่าคนๆนี้กำลังจะมาที่นี่ แน่นอน ด้วยที่อยู่ซึ่งเขาเป็นคนบอกให้
“ผมอยากมาขอโทษเรื่องเมื่อสมัยก่อนน่ะครับ”
ปาฏิหาริย์พูดทันทีที่นั่งลง
“เพราะผมเป็นห่วงพี่ชาย เลยไม่กล้าพูดความจริง ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำใหกีรติต้องเดือดร้อนจริงๆนะครับ”
ทั้งสี่คนนั่งฟังด้วยความคิดแตกต่างกัน
จ้าว.....รู้สึกชื่นชมเด็กคนนี้ที่แม้เวลาจะผ่านมานานก็ยังไม่ลืมเรื่องที่น่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยในชีวิต และดั้นด้นมาถึงที่นี่เพื่อขอโทษ
กานต์.....กำลังรู้สึกสนุกที่ตอนนี้โจทย์เก่ามาอยู่รวมกันที่นี่ตั้งสามคน
กีรติ.....กำลังคิดว่าไม่ได้โกรธแต่ที่ไม่อยากเข้าใกล้เพราะว่าเกี่ยวข้องกับฝ่ายนั้นทีไรมีเรื่องทุกที และตอนนี้ไม่อยากมีเท่าไหร่
ภาคนิพนธ์.....คิดว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่เพื่ออะไร....ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยแท้ๆ
“พี่นินเองกะ....”
“หยุดก่อน”
กีรติรีบเบรกอีกฝ่ายด้วยความรวดเร็ว ชื่อที่ไม่อยากได้ยินที่สุดในโลกดันลอดเข้ามาในหูซะแล้ว
“โอเค เราไม่โกรธแล้ว ช่วยเก็บชื่อพี่นายไว้ไกลๆเรานิดนึง นะ ขอร้อง”
ปาฏิหาริย์พยักหน้างงๆ ส่วนกานต์นั่งกลั้นหัวเราะเต็มที่ กีรติเป็นภูมิแพ้ชื่อนี้เอามากๆ ตั้งแต่สมัยเด็ก จนตอนนี้ก็ยังไม่หาย ที่เป็นแบบนั้นเพราะตัวกีรติมั่นใจในฝีมือการวิวาทของตนอยู่มาก หากแต่เมื่อเทียบกับอีกฝ่ายแล้ว เรียกว่าไม่สามารถสู้ได้เลย ก็ต้องเจ็บใจเป็นธรรมดา
“งั้นผมขอตัวก่อน”
ภาคนิพนธ์ที่คิดตัวเองไม่ได้มีธุระด้วยซักหน่อยขอตัวกลับทันทีที่มีโอกาส
“ฉันไปด้วย”
ร่างสูงใหญ่ลุกตามมาทำเอาภาคนิพนธ์ผวา ไม่อยากอยู่กับคนๆนี้สองคนเท่าไหร่...กานต์ยิ้มทันทีที่เห็นแบบนั้น...ถ้ากีรติเป็นภูมิแพ้ชื่อของธรณิน ภาคนิพนธ์ก็คงเป็นภูมิแพ้ปาฏิหาริย์ล่ะมั้ง
“สนุกจังนะครับ”
เสียงเหน็บเล็กๆจากร่างสูงใกล้ๆตัวทำให้กานต์ละสายตาสองคนนั้น
“นั่นสินะ”
ตอบแบบกลางๆก่อนจะยิ้มหวานให้คนรัก จ้าวได้แต่ส่ายหัวไปมา สิ่งที่กานต์โปรดปรานคือการเจ้ากี้เจ้าการและเข้าไปยุ่งยากในชีวิตของกีรติและภาคนิพนธ์นี่ล่ะมั้ง
คิดแล้วก็ชักเป็นห่วง กีรติยังพอว่า แต่ภาคนิพนธืนี่สิ จะรับมือกับกานต์ยังไง จ้าวยังคิดไม่ออกเลย
 
.....................
 
            “คุณจะตามไปถึงไหน”
                ภาคนิพนธ์หันมาถาม เมื่อใกล้จะถึงห้องพักของตนแล้วแต่ปาฏิหาริย์ที่เดินตามมาข้างหลังยังไม่มีทีท่าว่าจะแยกไปทางอื่น
                “ไปบ้านนาย”
                “จะ....จะบ้าหรือ”
                “หืม?”
                ภาคนิพนธ์มองใบหน้าไม่รู้สึกรู้สาของปาฏิหาริย์ด้วยความเหนื่อยใจ เขาคงทำเวรทำกรรมไว้มากจริงๆ ถึงได้มีคนมาตามจองล้างจองพลาญแบบนี้ไม่หยุดหย่อน
                “บ้านผมไม่มีอะไรดีหรอกครับ”
                พูดเลี่ยงๆแล้วออกเดินต่อ
            “ไม่เหมาะสมที่คนระดับคุณจะไป”
            “นาย...ใช้อะไรตัดสินรึ”
                ปาฏิหาริย์ยังคงไว้ซึ่งความเรียบเฉยในน้ำเสียงและใบหน้า ยากที่อีกฝ่ายจะคาดเดาได้ว่าคนพูดนั้นรู้สึกอย่างไร
            “ห้องผมเล็ก และแคบ ไม่เหมาะกับคนระดับคุณ”
            ไม่ได้ประชด ไม่ได้ต้องการชวนทะเลาะ ที่ต้องการคือไปให้พ้นๆจากคนที่เดินตามมาข้างหลัง แต่ภาคนิพนธ์ก็คือภาคนิพนธ์ คนที่คิดอะไรก็พูด ไม่รู้จักเลือกถ้อยคำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ หากพูดกับคนที่รู้จักกันดีอย่างกีรติก็คงไม่เกิดปัญหา แต่กับปาฏิหาริย์ซึ่งไม่เข้าใจธรรมชาตินิสัยของภาคนิพนธ์ คำพูดพวกนั้นถือว่าเป็นการประชดประชันดีๆนี่เอง
                “หืม...ไม่จริงมั้ง บ้านนายเองก็รวยใช่ย่อยที่ไหน”
                คนฟังได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่ชอบพูดถึงเรื่องที่บ้าน ยิ่งกับปาฎิหาริย์ด้วยแล้ว ไม่มีทาง
                “ตามใจคุณ”
                พอเริ่มปลง ก็ปล่อยให้คนตัวสูงเดินตามมาตามสบาย
            ตึกที่เดินเข้ามาทำให้ปาฏิหาริย์แอบยิ้มหยัน ด้วยความที่มองว่าตนคิดไม่มีผิด ก็ตัวตึกที่สร้างใหม่ แถมการรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมอย่างที่อยู่หรูๆในเมืองทั่วไป ไม่มีทางที่ห้องของภาคนิพนธ์จะเป็นเพียงห้องเล็กๆอย่างที่ว่า
                แต่ห้องที่ภาคนิพนธ์พาเข้าไปนั้น กลับเล็กจริงๆ  ห้องที่มีแค่โต๊ะ ตู้ เตียง ก็เต็มห้อง แทบไม่มีที่ให้เดิน มีห้องน้ำแต่ไม่มีครัว ห้องน้ำก็เป็นห้องน้ำเล็กๆ ปาฏิหาริย์มองที่อยู่ของภาคนิพนธ์ด้วยความแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีออกไป
                สำหรับภาคนิพนธ์ที่ไม่ค่อยได้อยู่ห้องไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องมีห้องหรูๆ และที่สำคัญเงินเขาไม่ได้มากมายขนาดนั้น เขาทำงานพิเศษ 4 ที่ แตกต่างกันไปในแต่ละวันแต่ละเวลา แต่ทุกวันตอนเช้า เขาต้องทำความสะอาดตึกนี้ ทำแค่เพียงตามระเบียงทางเดิน ในลิฟท์ ล็อบบี้ ซึ่งกินเวลาไม่มากนักหากตื่นเช้าสักหน่อย เงินเดือนที่ได้รับไม่มาก แต่ห้องนี้เขาได้อยู่ฟรี แค่นี้ก็เกินพอ
                “เห็นแล้วพอใจรึยังครับ”
                พูดผ่านๆ พยายามไม่สนใจคนที่ตามเข้ามานั่งในห้องโดยที่เขาไม่ได้เชิญสักคำ มือกับตาง่วนอยู่กับการหาเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนไปทำงานในตอนค่ำของวันนี้ แต่สมาธิที่พยายามรวบรวมแทบไม่มี เมื่อต้องมาอยู่ในห้องแคบๆแบบนี้กับปาฏิหาริย์แค่สองคน
                “หืม...นี่บ้านนายตกต่ำขนาดนี้เชียว”
                ปาฏิหาริย์พูดพลางใช้สายตากวาดมองไปรอบๆห้อง เขารู้ว่าสถานการณ์ของครอบครับภาคนิพนธ์ไม่สู้ดีนัก แต่ก็เป็นเพียงข่าววงในเล็กๆ น้อยคนนักที่จะรู้ และสาเหตุที่ทำให้ทางนั้นย่ำแย่ก็มาจากการที่กรมสรรพากรกำลังตรวจสอบหาความผิดปกติจากการจ่ายภาษีของบริษัท
                “คุณพูดบ้าอะไร”
                อย่างที่บอก ภาคนิพนธ์ไม่ชอบพูดเรื่องที่บ้าน พอคิดถึงบ้านนั้นที่ไร ก็อดที่จะคิดถึงเรื่องอดสูที่เกิดขึ้นกับตนไม่ได้
                “อ้าวก็บ้านนาย.....”
                “อย่ามาพูดเรื่องที่บ้านผมนะ”
                “หืม?”
                ปาฏิหาริย์ค่อนข้างแปลกใจกับอาการของคนตรงหน้า จากที่เห็นหงิมๆ พอพูดเรื่องที่บ้านปุ๊บก็ออกอาการควบคุมตัวเองไม่อยู่แบบนี้.....สงสัยจะมีเรื่องที่ไม่สามารถบอกให้ใครรู้ได้อยู่แน่ๆ....รอยยิ้มเย็นปรากฏขึ้นบนริมฝีปากสวยทันที ....เรื่องที่ต้องปิดบังคงหนีไม่พ้นความเน่าเฟะของที่บ้านนั้น ทั้งของแม่ตัวเอง พ่อ...หรือจะพูดให้ถูกพ่อเลี้ยง เผลอๆ....ยังมีความเน่าเฟะของตัวเองที่ไม่อยากให้พูดถึงอีกด้วยล่ะมั้ง....ถ้าแบบนั้นข่าวลือที่เขารู้เกี่ยวกับบ้านนี้ก็คงจะเป็นความจริงซินะ
                “ฉันไม่สนใจเรื่องของนายขนาดนั้นหรอก อย่าสำคัญตัวผิดไป”
                พูดแล้วยิ้มหยันส่งไปให้ ก่อนจะพาตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้อง โดยไม่กล่าวอำลาใดๆ
                “ฉันเอง สืบเรื่องบ้าน ทำนองพัน ให้หน่อยนะ เอาอย่างละเอียดที่สุด โดยเฉพาะเรื่องของผู้หญิงคนนั้นกับลูกชาย!”
                ถึงแม้ปาฏิหาริย์จะพูดว่าไม่ได้สนใจอะไร แต่ก็พอใจที่จะเข้าไปยุ่งในเรื่องนี้.....ความแค้นเล็กๆทั้งหลายอาจมีทางได้แก้แค้นส่งคืนไปบ้างก็คราวนี้แล้วล่ะมั้ง
                “ภาคนิพนธ์หรือ....จะบอกว่าเพราะโลกกลม....เพราะโชคชะตา....หรือเพราะความบังเอิญดีล่ะ ....”
                ปาฏิหาริย์พูดแล้วหัวเราะกับตัวเองด้วยความพอใจ

................................

จบตอนที่ 2 ค่ะ

ปล.ทำไมมันย่อหน้าบ้างไม่ย่อหน้าบ้างละเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 25-02-2013 11:27:07
...555 หัวเราะก่อนเลย สงสัยจะเดาตัวละคร ผิดซะแล้ว ทำไมตาหวานหน้าหวานแต่ตัวสูงหว่า นี่มันลุคพระเอกมิใช่หรือ
...กีรติ ทำไมดันตัวเล็กกว่าหว่า หรือว่ากรีติ ต้องคู่กับอริเก่าอย่างพี่ชายของน้ำหวาน แล้วน้ำหวานคู่กับภาคนิพนธ์
...ตาหวานโหดเหมือนกันนะเนี่ย ไม่ใช่ขี้แย เหมือนตอนเด็กๆแล้ว สั่งสืบประวัติบ้านของภาคกันเลยที่เดี่ยว สนุก และน่าติดตามจริงๆๆ
...ล็อคอินนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆๆ :m5:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 25-02-2013 11:46:53
ตาหวาน....น่ากลัวจัง...จอมไตร จริงๆ สินะ 555+
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 25-02-2013 11:49:52
มาอีกแล้วซีรีย์จอมไตร  :กอด1:

อ่านแล้วงงๆ ตอนเด็กๆรู้สึกตาหวาน จะเคะมาก
ไหงโตมาเหมือนเปลี่ยนไปเป็นเมะอย่างงั้นละ เพราะไปสะดุดกับคำว่า ร่างหนา  :a5:

อย่าบอกนะ หนูตาหวานเป็น พระเอก **ช๊อคซ้ำ  :a5:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 25-02-2013 12:13:54
สลับขั้วกันซะอย่างงั้น

ตาหวานซึมซับการเป็นจอมไตรอย่างเต็มตัวซินะ

ตอนแรกนึกว่าจะคู่กะกี คู่กะพี่ภาคซินะ กีนี่กะพี่นินรึ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 25-02-2013 12:17:14
เจอการบรรยายลักษณะตัวละครเข้าไป เดาทางเรื่องไม่ออกเลยทีเดียว ท่าทางจะมีพลิกล๊อครึปล่าวเนี่ย  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 25-02-2013 12:26:37
เอิ่มมมมมมมมม พลิกไปหมดเลยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 25-02-2013 13:10:18
พลิกล็อก ตาหวานโตขึ้นเป็นพระเอกหรอเนี่ย O o
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 25-02-2013 13:12:10
ตาหวานแลดูจะเมะในทันทีที่โต เฮ้ยไหงมันสลับกับงี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 25-02-2013 14:01:47
สงสัยจะไม่หวานตามชื่อแล้วสิ  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: minyoung ที่ 25-02-2013 14:21:00
ช็อคโลก เข้าใจว่าตาหวานเป็นเคะมาตั้งแต่ภาคก่อน ๆ ส่วนพี่ภ่คนี่รู้สึกว่าจะบอกมานานแล้วตั้งแต่คู่ของปฐพีนะ







ไหงกลายเป็นเมะได้หว่า สงสัยบ้านนี้เค้าสืยเชื้อสายเมะอย่างเดียวแน่เลย น่ากลัวว่ะ






ส่วนที่เราสงสัยที่สุด คือ ปมเรื่องที่บ้าน เรารู้ว่า ภาคต้องมีปัญหากับที่บ้านเรื่องพ่อเลี้ยง






แต่ตาหวานมีปัญหาอะไรกับแม่ของภาคกันแแน่ หรือคุณดินมีปัญหากับคุณปามหรอ คุณดินนะ เดีย๋วโดน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Kray ที่ 25-02-2013 15:12:42
โอ้มายก๊อดดดดดดด พลิกล็อคค่าา =[]=

โตมากลายเป็นตาหวานแมนมากกก

ยังงี้ต้องรอตอนที่กีได้เจอนิน จะเป็นไง 55

ชอบมากค่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 25-02-2013 15:31:43
อ่านไปแล้วรู้สึกงงๆอ่ะ   o22

สรุปว่าตาหวานเป็นพระเอกหรอ?
ไม่น่าเชื่อ
ตอนเด็กออกจะเคะมากๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 25-02-2013 15:46:30
ชื่อตาหวานแต่หุ่นนี่พระเอกเลย คู่กับภาคนิพนธ์
มิน่าตอนเห็นผังรายชื่อ ยังงงใครคือภาคนิพนธ์ที่คู่ตาหวาน
อ่านตอนแรกเข้าใจว่ากีรติเป็นพระเอกด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Black Orlov ที่ 25-02-2013 15:56:42
พระเอกชื่อตาหวาน หน้าหวานและตาก็หวาน อุอิ น่ารักนะ แนวดี
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Masochism ที่ 25-02-2013 19:09:24
ทำไมตาหวานตอนแรกๆออกจะน่ารักใสๆ

ตอนนี้ชักจะน่ากลัวน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-02-2013 19:22:27
ช็อกตามกันไปติดๆ o22
ตาหวานอ่า ทำไมดูน่ากลัวอย่างนี้ล่ะ เรื่องในอดีตเอามาตัดสินปัจจุบันไม่ได้หรอกนะ :sad4:
ขนาดตาหวานยังเปลี่ยนไปเลย ตัวสูง เสียงทุ้ม ก๊ากก นึกว่าจะน่ารักบอบบางจริงๆนะเนี่ย :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 25-02-2013 20:16:24
 :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 25-02-2013 21:28:08
 o22 o22 o22 o22ตาหวานร้ายกาจมากกกกกกกกกกกกอะ o22 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 25-02-2013 22:49:31
อรั้ย ใครคู่ใครล่ะนั่นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-02-2013 23:22:34
โอววว คิดว่าตาหวานเป็นนายเอกตลอดเลย
ตั้งแต่เรื่องปามและ ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนสรีระถึงเพียงนี้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 25-02-2013 23:25:23
 :mc4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 26-02-2013 01:26:10
ตอนเด็กกับตอนโตต่างกันจริงจัง ฉายแววจอมไตรมากเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Tuna Omega ที่ 26-02-2013 02:03:58
นึกว่าจะโตมาตาหวานจะหวานเหมือนปาม...แมนแบบนี้ได้ไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: maii ที่ 26-02-2013 02:36:26
 o13
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-02-2013 02:41:38
     เห็นแผนผังตอนต้นเรื่อง ก็ว่ามันแปลกๆ ที่เห็นแต่ตาหวานเกียวข้องกับกีรติตลอด
แต่ไอ้ที่ทำให้รู้สึกช็อคสุดๆ ก็คือ ตาหวานเป็นพระเอก โอ้มายก็อด เด็กน้อยตัวเล็กขี้แยไปไหนแล้ว
     พลิกโพลกันอย่างนี้ กีรติหนุ่มน้อยก็คงจะคู่กับนินแน่ๆเลย มีอาการแพ้ชื่อกันด้วย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 26-02-2013 06:27:52
ถ้าเอาความแค้นในสมัยเด็ก มาแก้แค้นตอนโตเนี่ย
มันยิ่งกว่าเด็กอีกนะตาหวาน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 26-02-2013 09:31:05
รอลุ้นตอนต่อไป :z3:มาต่อเร็วนะ :call:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 26-02-2013 10:17:48
เดาถูก 5555

เมื่อตอนที่แล้วยังคิดเล่น ๆ เลยว่าถ้าตาหวานโตขึ้นมาเป็นเมะก็คงจะดี ดูท่าฝันจะเป็นจริง 55

ว่าแต่...ความน่ากลัวของจอมไตรนี่มันติดต่อกันได้รึเปล่าหว่า? โตขึ้นมาน่ากลัวผิดจากตอนเด็กเยอะเลยนะไอ้หนู
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 27-02-2013 00:07:50
พออ่านตอนนี้จบแล้วถามตัวเองว่า?
"ใครคู่ใครวะ?"5555555555 ;)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-02-2013 01:39:16
พี่ภาคหัวโจกนักเลงเด็ก กลายเป็นนายแหย เคะชัวร์ ๆ
กีรติผู้ทรนง กลายเป็นคนตัวเล็กบอบบาง นี่ก็เคะแน่ ๆ
ส่วนคนบ้านจอมไตร ครองความเป็นเมะตลอดกาล แม้แต่เด็กน้อยตาหวานขี้แย ยังกลายเป็นชายหนุ่มตัวโต
ผู้จะมาทวงความแค้นแทนลูกหมา กร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 2 25/2/56 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Bani-Kote ที่ 27-02-2013 10:12:51
มาแล้วๆๆ  จอมไตรมาแล้ว  กรี๊ดดด
ภาคนี้ของตาหวานซินะ  แต่เอ...กีรตินี้...

ช่างเถอะ  ไม่น่าเชื่อว่าตาหวานจะโตมาแล้ว...ไม่หวาน
เข้ม  แถมผูกใจเจ็บอีก  ภาคเสร็จแน่งานนี้  หุๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 27-02-2013 14:16:32
 :กอด1:

ตอนที่ 3

ครอบครัวของภาคนิพนธ์เคยเป็นบ้านที่สงบสุข อย่างน้อยๆก็ในความคิดของเจ้าตัว จนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อที่เป็นที่รักของภาคนิพนธ์ตัดสินใจยิงตัวตาย ….
 
ภาคนิพนธ์ไม่รู้สาเหตุของการกระทำของพ่อ จนไปเจอไดอารี่ ไดอารี่ซึ่งเขียนถึงความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ตั้งแต่เริ่มคบกันใหม่ๆ..........ในขณะที่พ่อสุดแสนจะรักแม่นั้น แม่กลับไม่เคยพอใจอยู่ที่พ่อเลย เนื่องจากพ่อไม่ใช่คนฐานะดีอะไร จนกระทั่งพ่อสู้อุตส่าห์ทำงานและฐานะดีขึ้นมาได้ ถึงไม่มากก็มั่นคง แม่จึงยอมแต่งงานด้วย เพราะเหตุผลที่ว่าแม่กำลังท้อง ต้องการคนรับผิดชอบ และพ่อก็เต็มใจ ......แน่นอน เด็กในท้องคือตัวภาคนิพนธ์เอง ตอนนั้นเองที่เขาได้รู้ รู้ว่าตนเองนั้นไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อ พ่อซึ่งทำทุกอย่างเพื่อเขาเสมอ รักและดูแลเอาใจใส่เขายิ่งกว่าแม่ที่มักออกไปสังสรรค์กับเพื่อนตลอดเวลา  เพราะตัวเองหน้าเหมือนแม่จึงไม่เคยนึกเอะใจเรื่องพ่อเลย
 
เหตุผลที่พ่อยิงตัวตาย ก็ไม่พ้นเรื่องของแม่ ในไดอารี่ พ่อของภาคนิพนธ์รู้อยู่ตลอกเวลาว่าแม่นั้นนอกใจ แต่เพราะรักมากจึงอยากให้อยู่ด้วย สักนิดพ่อของภาคนิพนธ์ก็ไม่เคยบ่นไม่เคยว่าให้ แต่แล้ว เมื่อแม่เจอเข้ากับคนที่ต้องการอย่างแท้จริงจึงมาขอหย่า ไม่ว่าพ่อจะพยายามแค่ไหนแม่ก็ยืนยันที่จะหย่า นั่นเองที่ทำให้พ่อตัดสินใจจบชีวิตลง
 
ภาคนิพนธ์ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย ไม่เคยสักนิด เขาคิดมาตลอดว่าครอบครัวของตนถึงไม่ใช่ครอบครัวที่อบอุ่น แต่พ่อและแม่ที่ไม่เคยทะเลาะกันนั้นก็รักกัน พอมารู้ความจริงหลังพ่อตายไม่นานแบบนี้ ด้วยอายุเพียง 9 ขวบ ทำให้อดที่จะช๊อคกับเรื่องนี้ไม่ได้
 
หลังจากตอนนั้นเองที่เขาทำตัวเปลี่ยนไป จากเดิมที่เป็นเด็กเรียบร้อยก็เริ่มเกเรและใช้กำลังกับคนที่ตัวเล็กกว่า ยิ่งไม่นานนักแม่ของภาคนิพนธ์ได้แต่งงานใหม่กับ มานิช ทำนองพัน ผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของเมืองไทย นั่นยิ่งทำให้ภาคนิพนธ์ดูยิ่งใหญ่จนไม่ค่อยมีใครกล้าห้าม หรือว่ากล่าวในสิ่งที่ทำผิดไป พ่อเลี้ยงเองไม่เคยสนใจ แม่ก็ไม่สนใจ  ภาคนิพนธ์จึงกลายเป็นเด็กไม่ดีเอาแต่ใจไปเต็มๆ
 
เรื่องมันมาเลวร้ายสุดขีดในความคิดภาคนิพนธ์เมื่อตอนที่กำลังจะจบ ป.6  อย่างที่บอกว่าเขาหน้าเหมือนแม่ เลยกลายเป็นเด็กผู้ชายหน้าสวย แต่ด้วยส่วนสูงที่เลยเกินเพื่อนวัยเดียวกันไปเยอะก็เลยทำให้เด็กๆด้วยกันมักมองข้ามใบหน้าของเขาไป .....แต่กับผู้ใหญ่ มันไม่ใช่เลย ใบหน้าหวานๆและผิวขาวๆของภาคนิพนธ์เริ่มเป็นที่สังเกตเห็นของพ่อเลี้ยง และเขาเริ่มเข้ามาลวนลาม จากที่แค่จับบ้างกอดบ้างก็มากขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ เด็กป.6ที่ต้องมาเจออะไรแบบนั้นก็หวาดกลัวจนไม่กล้าออกไปไหน ยังดีที่แม่บังคับให้ไปเรียนจนจบ จากนั้นแม่เขาก็พูดหว่านล้อมจนกระทั่งพ่อเลี้ยงยอมส่งเขามาเรียนต่อที่อเมริกา ด้วยคำสัญญาของแม่ที่ว่า ถ้าหากภาคนิพนธ์เรียนจบม.ปลาย แม่ยินดียกภาคนิพนธ์ให้
 
เขารู้ว่าที่แม่ขอแบบนั้นไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เพื่อตัวของแม่เอง พัลลภา แม่ของเขาไม่ต้องการให้ลูกตัวเองเสียเปล่า การที่ต้องปล่อยตัวลูกให้กับผู้ชายคนเดียวกับตนมันได้อะไรไม่มากพอเท่ากับการรอให้ลูกได้คนอื่นๆที่ดีกว่านี้ เธอคิดว่าเธอสามารถบังคับลูกชายหัวอ่อนคนนี้ได้ แต่เปล่าเลยนั้นแหละที่เธอคิดผิด
 
ภาคนิพนธ์เรียนจนจบม.ปลาย และไม่กลับบ้านตามคำสั่งของแม่และพ่อเลี้ยง ที่บ้านจึงตัดเงินส่งเสีย ภาคนิพนธ์จึงต้องหยุดเรียนไปทำงาน 2 ปี และกลับเข้าเรียนใหม่ จนตอนนี้ใกล้ๆจะจบก็ยังมีโทรศัพท์จากแม่มาบอกให้เขากลับบ้านอยู่เรื่อยๆ แต่ภาคนิพนธ์บอกตัวเองเสมอว่าไม่มีทาง ไม่ว่าเขาจะลำบากแค่ไหน เขาจะไม่ยอมตกไปเป็นของพ่อเลี้ยง หรือคนอื่นๆที่แม่เขาหามาให้แน่ๆ
...........................................................
ปาฏิหาริย์กลับถึงที่พักในอเมริกาด้วยอารมณ์ค่อยข้างเบิกบาน นอกจากจะดีใจที่ได้เจอกีรติแล้ว เขายังพอใจในตัวเองอย่างมากที่ได้เจอภาคนิพนธ์  ซึ่งว่ากันตามตรง ไม่ใช่ความพอใจที่ส่งผลดีอะไรต่อภาคนิพนธ์เลย
 
เขาเดินทางมาที่นี้เพื่อเข้าร่วมงานแต่งงานของธรณินพี่ชายกับแฟนสาวชาวอเมริกา ถึงเธอจะเข้าไปเรียนและทำงานที่ประเทศไทยนานแล้ว แต่พ่อแม่ของฝ่ายเจ้าสาวก็ยืนยันที่จะให้มีการแต่งงานขึ้นที่นี่  ปาฏิหาริย์ดีใจที่มาไม่เสียเที่ยวเพราะว่าได้รับที่อยู่ของกีรติมาเมื่อไม่นานนี้และเป็นเมืองที่อยู่ใกล้ๆกันกับเมืองของพี่สะใภ้
 
“ว่าไง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไปเจออะไรถูกใจมาล่ะสิ”
 
ปฐวีซึ่งเดินทางมาร่วมงานนี้ด้วยเช่นกันถามเมื่อเห็นรอยยิ้มไม่น่าไว้วางใจของน้องชาย
 
“นั่นสินะครับ ก็หลายอย่าง”
 
ว่าแล้วก็เดินไปทางห้องของตน
 
“ผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า”
 
แล้วก็ผลุบเข้าไปในห้องนอน เขาไม่ต้องการให้พี่ๆรู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่ใช่เพราะกลัวพี่ๆจะห้าม แต่เพราะกลัวว่าพี่ๆจะมาแย่งจัดการแทนต่างหาก เรื่องสนุกๆแบบนี้เขาไม่ยอมให้พี่มาแย่งเล่นหรอก
 
......................................................
 
ตอนเช้าของวันถัดมา  ปาฏิหาริย์เดินทางมายังบ้านของกีรติอีกครั้ง และแน่นอนว่ากานต์ ออกมาต้อนรับชายหนุ่มด้วยความเต็มใจ ซึ่งดูออกจะมากไปหน่อยสำหรับหลานชาย
 
“ผมอยากชวนกีไปงานแต่งงานพี่ณินด้วยกันน่ะครับ”
 
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ อย่างที่บอกว่ากีรติแพ้ชื่อนี้ แต่พอมาได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะเข้าพิธีแต่งาน ไม่รู้ทำไมกีรติถึงได้รู้สึกราวกับว่าหัวใจมันตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มได้
 
“ทำไมฉันต้องไป”
 
ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดๆ ไม่สนใจสายตาห้ามปรามจากน้าชายที่มองมา
 
“ก็เราคิดว่าพี่ณินน่าจะดีใจ”
 
“อย่ามาขำน่า เรากับพี่นายลืมๆกันไปหมดแล้วด้วยซ้ำนะ”
 
“แต่ว่า......”
 
“ไปกับเพื่อนหน่อยสิกี อย่าทำตัวเป็นเด็กๆน่า”
กีรติคิดผิดไปที่ไม่เชื่อสายตาห้ามปรามที่น้าชายส่งมา หากว่าเขาสงบปากสงบคำไว้ บางทีกานต์อาจเข้าข้างเขา และช่วยพูดปัดให้ แต่เพราะว่ากีรติดื้อที่จะพูดเอง ด้วยคำพูดที่น้าชายคิดว่ามันไม่สมควร ก็เลยทำให้กานต์ไม่ยอมช่วย แถมยังหันไปช่วยฝ่ายปาฏิหาริย์อีก
 
“นะ คุณน้าก็อนุญาตแล้ว”
 
“.............”
 
กีรติไม่เคยขัดใจกานต์ได้ ใครก็รู้ เพราะว่ารักน้ายิ่งกว่าใคร แม้ตัวเขาจะเจ้าเล่ห์ชอบแกล้งคนอื่นเล่นแค่ไหน แต่ก็มีเพียงแค่กานต์เท่านั้นทีเขาต้องยอมให้ทุกที
 
“ช่วยไม่ได้ ไปก็ไป”
.........................................
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นที่โบสถ์ค่อนข้างห่างจากตัวเมือง แต่สวยมากๆ กีรติที่เข้างานมาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมาผิดที่ เมื่อสายตาที่มองมาที่เขาเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าสงสัยเพราะไม่เคยเห็นหน้า สงสัยเพราะเขาเดินเข้ามาพร้อมปาฏิหาริย์ หรือว่าทั้งสองอย่างรวมกันกันแน่ ยังดีที่ปาฏิหาริย์ไม่ได้ทิ้งเขาไปไหน อยู่เป็นเพื่อนตลอดกีรติเลยไม่ต้องยื่นเซ่ออยู่คนเดียวอย่างที่กลัว
 
ธรณินสวมชุดเจ้าบ่าวเข้ามาในงาน และยืนรอเจ้าสาวตามธรรมเนียมของคริสต์ เจ้าสาวของธรณินเดินเข้ามาพร้อมพ่อของเธอ เธอเป็นผู้หญิงชาวอเมริกาที่กีรติคิดว่าสวยมาก และยิ่งสวยมากขึ้นไปอีกเมื่อเธออยู่ในชุดเจ้าสาวแบบนี้
 
กีรติลุกออกมาตอนนี้เอง เขาขอตัวออกมาห้องน้ำทั้งๆที่ไม่ได้อยากเข้าห้องน้ำสักนิด เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาต้องหลบออกมาด้วย แต่พอเห็นภาพพวกนั้นมันรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ เป็นความรู้สึกในแบบที่เขาเองก็ไม่เข้าใจ
 
หลังจากนั้น คู่บ่าวสาวก็ออกมาพูดคุยกับบรรดาแขกในงาน และเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่ธรณินจะต้องเข้ามาทักน้องชายของตัวเองที่ยืนอยู่ข้างๆเขา  กีรตีเลยต้องยิ้มแย้มทักทายไปด้วย
 
“นี่กีรติครับ”
 
ธรณินยิ้มทักทายมาให้เมื่อได้รับการแนะนำ และกีรติก็ยิ้มกลับไป ถึงแม้ว่าความจริงในใจจะไม่ได้เต็มใจยิ้มนักก็เหอะ
 
“มาไม่ทันไรก็หาแฟนได้ นายนี้น้า”
 
พี่ชายพูดหยอกเล่นขำๆ ก่อนจะพาเจ้าสาวตัวเองเดินไปทักทายแขกคนอื่นๆต่อ ทิ้งให้กีรติที่ไม่ได้เข้าใจความหมายของคำพูดนั้นทันทียืนนิ่งคิดอยู่นาน ส่วนปาฏิหาริย์ได้แต่ส่ายหัวกับคำพูดของพี่ชาย  ก่อนจะคิดในใจว่า เอาเถอะ อยากทำอะไรก็ทำ กีรติคิดอยู่นานก่อนจะเข้าใจได้ในที่สุดว่า ธรณินคิดว่าเขาเป็นแฟนของปาฏิหาริย์  พอคิดได้จึงมองหาคนพูด ตั้งใจจะส่งสายตาพิฆาตไปให้สักทีสองที่ โทษฐานไม่ถามสักคำ เดามั่วไปเรื่อย แต่เอาเข้าจริงๆ กลับต้องมองภาพธรณินประคองเจ้าสาวคนสวยด้วยความรู้สึกแปลกๆในใจแทน
 
ไหนปาฏิหาริย์บอกว่าอีกฝ่ายน่าจะดีใจไง นี่อะไร จำเขายังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ที่จริงกีรติเองก็รู้และเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนไม่เจอกันมากกว่า10 ปีจะจำกันไม่ได้ แถมเมื่อก่อนก็ใช่ว่าจะสนิทสนมกลมเกลียวอะไรกันสักหน่อย แต่ไม่รู้ทำไม มันก็อดรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังน้อยใจแบบนี้ไม่ได้ กีรติไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของตัวเองมากนัก พอเป็นเรื่องของธรณินทีไรก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองทุกที .......ซึ่งที่จริงกีรติไม่รู้เลยว่า ที่ไม่เข้าใจนั้นเป็นเพราะไม่อยากทำความเข้าใจต่างหาก
.................................................
เย็นวันเดียวกันนั้นเองที่ภาคนิพนธ์ต้องตัดสินใจกลับเมืองไทย
 
หลังจากที่ไปทำงานพิเศษตามปกติ ภาคนิพนธ์ก็กลับมาบ้าน พร้อมได้รับโทรศัพท์ฝากข้อความจากเมืองไทยว่า แม่ของเขาประสบอุบัติเหตุเข้าโรงพยาบาล ภาคนิพนธ์ไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่เช็คว่าข้อความที่ได้รับนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงแค่ข้อความลวงเพื่อเรียกตัวเขากลับไป
 
และเพราะแม่ของเขาเป็นภรรยาของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเมืองไทยจึงต้องมีข่าวแน่ๆถ้าเกิดอุบัติเหตุจริง  ......ภาคนิพนธ์โทรหาเพื่อนที่เมืองไทย ซึ่งเป็นคนที่พ่อแม่ไม่รู้ว่าเขาสนิทและติดต่อด้วย  และเพื่อนก็ยืนยันว่าแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุรถชนและตอนนี้ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และยังบอกอีกว่าช่วงก่อนหน้านี้มีข่าวแม่และพ่อเลี้ยงกำลังมีเรื่องระหองระแหงเหมือนกับว่ากำลังจะแยกกันอยู่ และเป็นเรื่องจริงที่พ่อเลี้ยงไม่ใช่เจ้าของไข้ของแม่เขา สำหรับภาคนิพนธ์ตอนนี้....เรื่องเรียนไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้วเหลือแต่พิธีจบการศึกษาเท่านั้น....มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร.... เขาจึงตัดสินใจจะกลับไทยให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
......................แล้วภาคนิพนธ์ก็ได้รู้ว่า  ชีวิตเลวร้ายที่แท้จริงน่ะ มันเริ่มตั้งแต่เขาเดินทางกลับไปเมืองไทยต่างหาก
....................................................
..............................................
..................................................
TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 27-02-2013 16:17:36
 :z13:

ติดตามตอนต่อไป












รีบมาต่อด่วนๆ เลยนะคะ ค้างมาก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-02-2013 16:41:42
หนักใจแทนภาคไม่รู้จะไปเจออะไรแย่ ๆ บ้าง
ส่วนธรณิน ไหงหนีไปแต่งงานกับแหม่มซะได้ อุตส่าห์จองไว้ให้กีรติ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 27-02-2013 16:48:21
อร้าย อย่าให้ภาครันทดมากนะคะ
อิฉัน สงสาร ปล. อยากได้รวมเล่มเรื่องนี้ :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 27-02-2013 16:54:34
หลังจากนี้มาม่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-02-2013 17:13:41
สงสารภาคจัง เจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ แถมยังจะเจอเรื่องร้ายๆกว่านี้อีกเหรอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 27-02-2013 17:34:54
อั๊ยยะ!!! ตาหวานเปี๊ยนไป๋ ตอนเด็กๆเป็นเคะน่ารักๆอยู่ดีๆ ไหงโตมาเป็นเมะร่างใหญ่ได้ล่ะเนี่ยยยยยยยยยยยย

ส่วนกีกับภาคกลับตัวเล็กหน้าหวานซะงั้น ยังไงๆ ตาหวานก็อย่าโหดกับภาคนักเลยนะ แค่เรื่องที่บ้านพี่เค้าก็เครียดมากๆอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 27-02-2013 18:16:17
มาต่อเร็วนะๆๆๆ :z3:อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับภาค :z10:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 27-02-2013 18:41:13
จะดราม่าไหมนะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 27-02-2013 19:17:10
แหม่...เศร้าจริง...กีรติ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 27-02-2013 19:19:22
แหม่...เศร้าจริง...กีรติ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 27-02-2013 21:05:31
 :a5: :a5: :a5:สรุปว่ามีสองคู่ใช่ไหมอะ :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 27-02-2013 21:36:20
เราแอบสงสารภาคนะ กลับเมืองไทยจะเจออะไรบ้าง
พอเลี้ยงก้อหวังเคลม ตาหวานก้อนะ หึหึ
สู้ๆนะภาคนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Masochism ที่ 27-02-2013 22:49:44
ภาคจะรอดไหมหว่า

อยากอ่านตอนต่อไปจังเลยค่ะ

อัพไวๆน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 27-02-2013 23:15:37
กรี๊ดส์ แผนไอ้พ่อเลี้ยงชัวร์ จะล่อภาคนิพนธ์กลับไทย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 28-02-2013 01:31:06
ภาคน่าสงสารอ่ะ ดูแล้วชีวิตโคตรน่ารันทดอ่ะ ตาหวานโกรธแค้นอะไรภาคอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 28-02-2013 01:48:06
เรื่องตั้งแต่เด็กๆ  จะผูกใจเจ็บแค้นอะไรนักหนาตาหวาน
โตแล้วก็น่าจะคิดได้ว่ามันก็แค่เด็กทะเลาะกัน   เอามาเป็นความแค้นเรื้อรังแบบนี้  ไม่ดีเลยนา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Bani-Kote ที่ 28-02-2013 09:13:09
เข้มข้นๆ  แม่เข้าโรงบาลเพราะพ่อเลี้ยงรึเปล่าน่อ
 
รอตามตอนต่อไปค่ะ 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 28-02-2013 10:38:50
อ้าวไหงพี่ณินหนีไปแต่งงานซะงั้นอ่ะ แล้วน้องกีล่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-03-2013 08:15:45
ภาคนี้ ทำให้คนอ่าน งง เป็นไก่ตาแตกกันไปเลย เดาทางกันไม่ถูก
เอาเป็นว่า อ่านไปแบบเงียบ ๆ ดีกว่า รักษาไก่ในเล้าไว้ไม่ให้หลุดออกนอกเล้า  :z2:
+1 เป็นกำลังใจให้นะครับ จุ๊บจิ๊บ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 01-03-2013 11:23:32
ปมของภาคก็ว่าน่าสงสารอยู่แล้ว ผู้ชายบ้านจอมไตรนี้ยังไง ชอบทำร้ายจิตใจคนอื่นก่อนที่จะหลงรักเอง ทั้งวสุธา ไม้ ปฐพี ที่กำลังตามมาติดๆก็คงเป็นอีตาธรนินทร์ ตาหวาน นี้คงเป็นคอนเซ็ปการหาแฟนของบ้านจอมไตรซินะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 3 27/2/56 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: mooh_p ที่ 01-03-2013 12:14:55
รักผู้ชายบ้านจอมไตรทุกคน :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 02-03-2013 20:51:35
ตอนที่4
ภาคนิพนธ์ตรงไปโรงพยาบาลทันที่ที่ลงจากเครื่อง โรงพยาบาลขนาดกลางๆซึ่งถ้าเป็นช่วงที่ภาคนิพนธ์ยังอยู่ที่เมืองไทย เขาคงไม่มีทางเห็นแม่เข้าโรงพยาบาลเล็กๆในความคิดของแม่แบบนี้แน่ๆ
เขาไปคุยกับหมอทันที และหมอก็บอกว่ามีโอกาสมากที่แม่เขาจะเดินไม่ได้ ซึ่งแม่เขาเองก็ทราบเรื่องนี้แล้ว ภาคนิพนธ์ไม่อยากจะคิดว่าปฏิกิริยาของแม่เขาจะเป็นยังไงตอนรู้เรื่อง
 
“ไงมาแล้วเหรอ ถ้าฉันไม่จะเป็นจะตายแกก็คงไม่กลับมาซินะ”
คำพูดเจ็บแสบส่งตรงมาทันทีที่แม่เห็นหน้าเขา  ภาคนิพนธ์เลือกที่จะเงียบ ไม่ต่อความยาวสาวความยืดกับแม่ พูดไปก็มีแต่จะเข้าตัวเท่านั้น
 
“เพราะแกแท้ๆ ฉันเลยต้องเป็นแบนี้ ต้องตกต่ำขนาดนี้”
พัลลภาตะเบ็งเสียงด่าลูกชายด้วยความโมโห ต่างจากอีกฝ่าย ที่นิ่งเงียบ เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ อย่างกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูดออกไปเลย
 
“นั่นมันเพราะตัวแม่เองต่างหากล่ะครับ”
อึ้งไปทันที พัลลภานิ่งอึ้งไปกับคำพูดของลูกชาย เธอรู้ดีว่าลูกชายคนนี้ไม่ได้รักเธอนัก ไม่ได้ผูกพัน และก็ไม่ค่อยนับถือเธอ แต่ภาคนิพนธ์เป็นเด็กว่าง่าย สักคำก็ไม่เคยเถียงใครให้ได้ยินมาก่อน แม้ภาคนิพนธ์จะทำตัวเกเร แต่ก็ไม่เคยปริปากเล่าเรื่องใดๆให้เธอรับรู้
 
“ถ้าคิดว่าผมจะยอมให้แม่เอาทุกอย่างมาลงที่ผมล่ะก็ บอกได้เลยครับว่าไม่อีกแล้ว”
ราวกับรู้ว่าแม่ตัวกำลังคิดเรื่องอะไร ภาคนิพนธ์พูดออกไปทันที นี่คือเจตนาของเขา เขาจะไม่ยอมให้ชีวิตตัวเองต้องเดินไปตามทางที่แม่ขีดให้เด็ดขาด นี่คือความตั้งใจที่คิดไว้หลังจากตัดสินใจกลับมาที่นี้
 
“แก.... หึ เลี้ยงมาเสียข้าวสุกชะมัด”
เธอว่าก่อนจะหันหน้าหนีไป เป็นการจบบทสนทนา และนั่นเป็นการดีสำหรับภาคนิพนธ์
 
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นสาเหตุให้แม่ต้องยุ่งยากใจแค่ไหน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุแห่งความตกต่ำของแม่  แต่เขาก็อดคิดไม่ได้ว่า ทั้งหมดนั้น เพราะใจของแม่ที่ใฝ่ฝันแต่สิ่งที่สูงเกินเอื้อมไปทุกครั้งไม่ใช่หรือ ถ้าแม่เพียงแค่พอใจกับสิ่งที่ตนมี แม่ก็จะไม่คิดว่าตัวเองตกต่ำ
 
เขาไม่ถามว่านายมานิชพ่อเลี้ยงของเขาไปไหน จากสภาพของแม่ที่ยังคงความสวยไว้ แต่ก็ไม่ใช่แบบสวยสดอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ ข่าวลือเรื่องที่ว่ากำลังจะเลิกกันนั้นคงเป็นความจริง
 
ที่แม่ต้องมาอยู่โรงพยาบาลขนาดกลางแบบนี้ก็พอยืนยันได้แล้ว และก็สามารถยืนยันได้อีกอย่างว่าตอนนี้แม่เขามีเงินไม่มากพอจะพาตัวเองไปรักษาที่โรงพยาบาลใหญ่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ภาคนิพนธ์แปลกใจเลย
 
แม่เขาได้เงินจากนายมานิชมากก็จริง แต่ว่าแม่ก็ใช้เงินมากไม่แพ้กันเลย ทั้งดื่ม กิน เที่ยว เลี้ยงผู้ชาย การพนัน ซื้อของแพงๆ แม่เขาเอาหมด แม่ทำตัวหรูหรา ฟุ้งเฟ้อตลอดเวลา
 แล้วเห็นว่าอุบัติเหตุคราวนี้เป็นเพราะเมาแล้วขับรถไปชนรถที่จอดไว้ข้างถนน หลายคันซะด้วย ดีว่าไม่มีใครคนอื่นได้รับบาดเจ็บอีก แต่ค่าซ่อมรถพวกนั้นก็มากพอให้เงินแม่ลดลงจนเหลือไม่ถึงครึ่งของบัญชีเลยล่ะแถมยังมีค่ารักษาที่ไม่รู้ว่าเท่าไหร่นี่อีก
 
ภาคนิพนธ์ทำโน้นทำนี้ในห้องพักแม่ไม่นานก็ขอตัวออกมาก่อน เมื่อเพื่อนแจ้งว่าได้มาถึงที่โรงพยาบาลแล้ว เขาไม่อยากให้แม่รู้จักเพื่อนเขา ไม่ต้องการให้เพื่อนเขาต้องมาเกี่ยวข้องกับเรื่องเน่าเฟะในบ้านของตน
 
“ชา”
“ภาค”
สองร่างกอดกันโดยไม่อายสายตาใครต่อใครต่อใครที่มองอยู่สักนิด
เรือชาเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาตั้งแต่สมัยประถม คบกันมาตั้งแต่พ่อของภาคนิพนธ์ยังไม่เสีย เป็นคนเดียวที่คอยตักเตือนเมื่อตอนเขาทำตัวเป็นเด็กเกเร เป็นคนเดียวที่เขากล้าเล่าเรื่องน่าอายอย่างการโดนพ่อเลี้ยงลวนลามให้ฟัง
“คิดถึงจัง”
“คิดถึงแต่ไม่เคยกลับมาหาเนี่ยนะ”
คำต่อว่าที่เหมือนเป็นคำหยอกทำเอาภาคนิพนธ์อดหัวเราะไม่ได้ ก็รู้อยู่แล้วแท้ๆว่าเขากลับมาไม่ได้
“แล้วนายพักที่ไหน คงไม่ใช่บ้านนั้นหรอกนะ”
“อืน นั่นสิ แต่ไม่อยากรบกวนนาย”
“ถ้าพูดว่ารบกวนอีกครั้งจะชกให้คว่ำเลย ไปนอนที่คอนโดฉันนี่ล่ะ ดีแล้ว”
ภาคนิพนธ์อยากจะปฏิเสธ แต่เอาเข้าจริงมันไม่ง่ายขนาดนั้นเลย ก็ตอนนี้เขาอยากประหยัดได้ให้มากที่สุด ไม่รู้ว่าจากนี้จะต้องเจออะไรอีกบ้าง ถ้าทำได้ก็อยากเก็บเงินไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ
 
“ก็คงต้องยอมไปล่ะนะ ขอรบกวนด้วยแล้วกัน”
 
ระหว่างที่เดินกลับไปเอากระเปาเดินทางบนห้องของแม่และออกมาหาเรือชาที่หน้าโรงพยาบาลนั้น ภาคนิพนธ์ไม่รู้เลยว่าตนกำลังตกเป็นเป้าสายตาของคนสองคน จากคนล่ะที่ ถึงแม้ทั้งสองคนจะมองภาคนิพนธ์ด้วยสายตาที่แตกต่างกัน แต่ว่าทั้งสองฝ่ายก็มองด้วยสายตามุ่งร้ายพอกัน
.............................................
วันถัดมาภาคนิพนธ์แทบลมจับ ก็เมื่อเขามาหาแม่ที่โรงพยาบาล แต่ภายในห้องกลับไม่ได้มีแต่แม่เขาเพียงคนเดียว
 
ชายผู้มาเยือนแนะนำว่าตนเป็นทนายความจากพ่อเลี้ยง มาเพื่อจัดการเรื่องหย่า ทั้งๆที่มันไม่น่าจะมีอะไร แต่ฝ่ายนั้นกลับพูดออกมาง่ายดายว่า แม่ของตนนั้นเป็นฝ่ายโดนฟ้อง รูปมากมายของแม่กับผู้ชายอื่นถูกยื่นมาตรงหน้า ตั้งแต่รูปตามห้างสรรพสินค้า ไปยันรูปกอดจูบหน้าห้องในโรงแรมที่ไม่บอกยังรู้เลยว่าคนทั้งคู่ตั้งใจจะเข้าไปทำอะไรกัน ภาคนิพนธ์มองรูปเหล่านั้น อ้าปากค้าง ไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงเขาจะมาไม้นี้ เขารู้ว่าแม่นอกใจพ่อเลี้ยง แต่แน่นอน พ่อเลี้ยงเขาเองก็มีบ้านเล็กบ้านน้อยมากมาย แล้วทำไมถึงยังกล้ามาฟ้อง พอมานึกดูๆ ก็เพราะอีกฝ่ายมีหลักฐาน และเงินหนากว่า เรื่องที่จะหาหลักฐานและหาทนายดีๆไม่ใช่เรื่องยากเลย
 
“ทำไมเขาต้องทำแบบนี้”
 
พัลลภาครวญครางออกมาทันทีที่ทนายความกลับไป ต่อหน้าคนอื่น เธอจะยังทำตัวราวกับเป็นนางพญาด้วยการตีหน้านิ่ง ทั้งๆที่ในความเป็นจริง เธอกำลังจะคลั่งตาย
 
ฝ่ายภาคนิพนธ์ไม่พูดอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าทำไม พ่อเลี้ยงของเขาคงรู้ตัวแล้วว่าเขากลับมา ที่ยื่นเรื่องฟ้องหย่าเรียกเงินมากมายทั้งที่รู้ว่าแม่เขาไม่มีให้เพราะอะไรเขาก็รู้ ภาคนิพนธ์ไม่ใช่คนเจนโลก แต่ไม่ได้โง่ แค่เรื่องที่ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายทำ ทำไปเพื่อต้องการบีบเขาให้จนมุมและให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการนั้น เขาเองรู้ดี แต่เขาจะต้องยอมอย่างนั้นหรือท่าทางนิ่งเงียบต่อหน้ามารดาช่างแตกต่างจากในใจที่รุ่มร้อนนัก นอกจากใบหน้าก็นี่ล่ะมั้งที่เขาเหมือนแม่ การที่สามารถตีหน้าเรียบเฉยไม่ทุกข์ไม่ร้อนทั้งที่ใจแตกต่างนี่ล่ะมั้ง
ในขณะที่ผู้เป็นแม่ยังโวยวายไม่เลิก ภาคนิพนธ์ต้องพยายามคิดอย่างหนักว่าจะทำยังไงต่อไป
...................................
 
เรื่องการฟ้องหย่าของพ่อเลี้ยงกับแม่ภาคนิพนธ์เป็นข่าวดังพอดู ด้วยฝ่ายพ่อเลี้ยงต้องการขอความเห็นใจจากคนอื่นๆ
ผู้ชายที่ถูกเมียสวมเขาคงดูน่าสงสาร และมานิชคงหวังให้มันน่าสงสารมากพอจะกลบข่าวไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขาและบริษัทได้ แต่ที่ไม่เป็นข่าวคือจำนวนเงินที่ฝ่ายพ่อเลี้ยงเรียกจากแม่เขา  ....20 ล้าน....เงินจำนวนมากนี้พ่อเลี้ยงเขาอ้างว่าเป็นเงินที่แม่และเขาใช้ตลอดเวลาที่แต่งงานกับแม่เขามา ภาคนิพนธ์ไม่รู้ว่าแม่ใช้เงินไปมากขนาดนี้จริงไหม แต่เขามั่นใจว่าตัวเขาไม่ได้ใช้เงินของผู้ชายคนนั้นขนาดนั้นแน่ เงินที่พ่อเขาทิ้งไว้ให้ หากตีเป็นค่าเรียนแล้ว พ่อเลี้ยงเขาแทบไม่ต้องจ่ายอะไรเลย
 
“มันจะไม่มากไปหน่อยหรือครับ”
“อันนี้คงต้องคุยกันในศาลนะครับ”
ให้ตายเหอะ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าทนายต้องว่ามาแบบนั้น แต่ยังอดเอ่ยปากไปไม่ได้
 
“แต่หากคุณภาคนิพนธ์อยากคุยกับคุณมานิชล่ะก็ คุณมานิชแจ้งว่ายินดีคุยด้วยเป็นการส่วนตัวนะครับ”
ทนายความทิ้งข้อความไว้แค่นั้นก่อนจากไป
 
แค่คิดถึง เป็นการส่วนตัว ที่อีกฝ่ายพูดทิ้งไว้เมื่อครู่เขาก็แทบจะอาเจียน ดีที่เขาไม่ได้คุยในห้อง ไม่งั้นแม่เขาต้องไล่ให้เขาไปคุยกับพ่อเลี้ยงแน่ๆ ทั้งๆที่แม่เองก็คงรู้ไม่ต่างกันว่ามันจะเกิดอะไร ภาคนิพนธ์ไม่อยากกลับห้องเลยเดินเรื่อยเปื่อยอยู่ข้างล่างเป็นนานกว่าจะกลับขึ้นไป ออกแปลกใจเมื่อขึ้นมาแล้วเห็นใบหน้าของผู้เป็นแม่ยิ้มแย้มอย่างสบายใจ
 
“อ้าวมาแล้วเหรอภาค มานี่สิ มานั่งใกล้ๆแม่”
ภาคนิพนธ์ระวังตัวขึ้นมาทันทีเมื่อแม่มาพูดดีด้วยแบบนี้ ไม่ธรรมดาแล้ว เขาคิดในใจแต่ก็ยังตีหน้านิ่งเดินไปนั่งลงข้างแม่
 
“แหม ลูกนี่มีอะไรไม่บอกแม่เลยนะ”
เงียบ....สิ่งที่เขาทำมีเพียงความเงียบเท่านั้น หรือว่าเมื่อกี้ หลังจากที่แยกกับตน ทนายความคนนั้นขึ้นมาหาแม่ แล้วบอกว่าความต้องการของพ่อเลี้ยงไปแล้ว ไม่จริงน่า
 
“ถ้าเป็นแบบนี้ แม่ค่อยสบายใจหน่อย”
นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย ก่อนที่ภาคนิพนธ์จะได้ร้องออกไปแบบนั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ร่างที่ปรากฏตรงหน้าทำเอามาดนิ่งของภาคนิพนธ์หลุดไปทันที ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่ตั้งใจทำเอาคนเข้ามาใหม่อดขำเบาๆไม่ได้
 
“นี่ครับ ที่คุณแม่อยากทาน”
“.................”
“ขอบใจมากนะจ๊ะ”
“..................”
 
บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วแหงๆ นี่มันต้องบ้าเท่านั้นแหละทำไมคนๆนี้ถึงมาอยู่ที่นี้ ทำไมคนๆนี้ถึงมาทำดีกับแม่เขา
 
“อะไรกันเล่าภาค ไปรับของที่คุณปาฏิหาริย์สิลูก”
อ่า ชื่อที่แม่เขาเรียกเป็นชื่อของคนๆนั้นจริงๆ แปลว่าไม่ผิดตัวแน่
“ไปสิ เอ๊ะ ลูกคนนี้นิ่”
ภาคนิพนธ์ขยับลุกไปรับสาลี่ถุงใหญ่ในมืออีกฝ่าย งงที่บนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
 
“เดี๋ยวก็จะย้ายคุณแม่ไปที่โรงพยาบาลในเครือของที่บ้านผมแล้วนะครับ ติดต่อหมอเรียบร้อยแล้วด้วย”
“หา?.....โอ๊ย”
ภาคนิพนธ์ที่กำลังปอกสาลี่นั้นร้องขึ้นมาด้วยความสงสัย พร้อมกับความไม่ทันระวังทำให้มีดผลไม้โดนมือเข้าอย่างจัง
 
“บ้าจริง ทำอะไรน่ะ”
ปาฏิหาริย์ที่หันมาตามเสียงร้องพอมองเห็นลางๆว่าเกิดอะไรรีบเดินเข้าไปกุมมือภาคนิพนธ์ไว้ ล้างและกดปากแผลจากมีดเมื่อกี้ไว้เป็นการห้ามเลือด
“ระวังหน่อยสิ”
พูดแล้วยิ้มให้ ราวกับขำ ราวกับเอ็นดูภาคนิพนธ์เสียเต็มประดา
“คุณมาที่นี้ทำไม”
ถามห้วนๆไปพยายามชักมือกลับ ถึงแม้จะไม่เป็นผลนักก็ตาม
 
“ภาค!”
ผู้เป็นแม่รีบปรามเมื่อเห็นว่าลูกชายพูดไม่ดี แต่ไม่ได้ทำให้ภาคนิพนธ์สนใจสักนิด เขาไม่เคยคิดจะฟังแม่ของเขาอยู่แล้ว
“แม่ไม่เกี่ยว”
โต้แม่ทันควันก่อนจะหันมาจ้องผู้มาเยือนอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ ผมบอกแล้วว่าเขากำลังงอน”
ภาคนิพนธ์ถลึงตาใส่ เขาเคยไปงอนนายนี่เมื่อไหร่กัน จำไม่เห็นได้
“เอาเถอะ แม่ก็ไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องของวัยรุ่นหรอก ตามสบายเลยนะคุณ”
“ครับ”
เมื่อแม่เขาเปิดไฟเขียว ปาฏิหาริย์ก็จูงกึ่งลากอีกคนออกจากห้องมาทันที
“ปล่อยนะนี่จะทำอะไร”
คนโดนลากโวยวายไปตลอดทางแบบไม่สนใจใครจะมอง ปาฏิหาริย์ลากมาไกลจนกระทั่งไม่มีใครแล้วจึงเริ่มพูด
“นายนี่มันลูกอกตัญญูจริงนะ พูดแบบนั้นกับแม่ได้”
ภาคนิพนธ์อ้าปากพะงาบๆ อยากจะพูดอยากจะเถียง แต่ทำไมเขาต้องมาชี้แจงเรื่องการกระทำของตัวเองให้คนตรงหน้าฟังด้วยเล่า
“คุณไม่เกี่ยว”
“คงไม่เกี่ยวมั้ง เอ๊ะ หรือเกี่ยวกันนะ”
สายตายียวนที่ส่งมา ทำเอาภาคนิพนธ์เริ่มรู้สึกว่า น่าสงสัย
“คุณมาทำอะไร”
“มาเยี่ยมแม่นาย”
“มาทำไม ไม่ใช่คนรู้จักกันสักหน่อย”
“หึ”
เสียงเยาะขึ้นจมูกอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบที่ดีนัก
“นั่นสิ แต่พอดีฉันเป็นคนรักของนายก็เลยต้องมาเยี่ยม”
“.............”
“............”
“............”
“จะ....จะ....บ้าเหรอ!”
 
หลังจากอึ้งไปสามวิ คำพูดที่พอๆจะนึกได้ก็มีเท่านี้ คนรัก ปาฏิหาริย์นึกบ้าอะไร อย่าบอกว่าเกิดพิศวาสเขาขึ้นมากะทันหัน เป็น-ไป-ไม่-ได้-
 
“ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้นทำหน้าแบบนั้น”
คนถูกถามกลับตีสีหน้าไม่พอใจราวกับเด็กๆกำลังงอน ภาคนิพนธ์มองใบหน้าแบบนั้นเหมือนไม่เคยเห็น....ที่จริง.....ก็ไม่เคยเห็นจริงๆนั่นล่ะ
 
“คุณต้องการอะไรกันแน่ จะมาย้ายแม่ผมไปที่ไหน ผมไม่มีเงินจ่ายให้โรงพยาบาลของคุณหรอก ยกเลิกซะ”
เขาทำเป็นมองข้ามในหน้าแบบเด็กงอนนั้นไป แล้วพูดเรื่องโรงพยาบาลแทน ใช่แล้ว แค่ค่าทนายยังไม่รู้จะไปหาที่ไหน ถ้าโดนฟ้องแล้วแพ้คดีขึ้นมาอีกคงยิ่งแย่
 
“เรื่องนั้นไม่เป็นไรน่า”
“แล้วฉันยังจะหาทนายให้นายด้วย คดีก็จะดูให้”
 ภาคนิพนธ์มองอีกฝ่ายอย่างประเมิน พูดตรงๆเขาไม่ไว้ใจคนๆนี้สักนิด
 
“คุณต้องการอะไร”
 
“ฉัน....ก็แค่ชอบนาย”
 
คำตอบที่ได้รับทำเอาเงียบไปอีกครั้ง ภาคนิพนธ์ได้คิดว่าผู้ชายคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพ่อเลี้ยงของเขาสักนิดต้องการตัวเขาสินะ คิดจะใช้เงินซื้อเขาล่ะสิ
 
“ฉันแค่อยากได้นายมาเป็นคนรัก จะไม่ล่วงเกินนายเด็ดขาด ถ้านายไม่อนุญาต หรือไม่เต็มใจ...แค่อยากให้นายรัก”
“.............”
ภาคนิพนธ์เงยหน้ามองตาคนที่บอกว่าชอบเขาและกำลังขอเขาไปเป็นคนรัก เขาไม่ค่อยอยากเชื่อ แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่หลบตาไปเลยสักนิด ก็แปลว่าไม่ได้โกหก....ใช่ไหม
“แล้วทำไมต้องบอกแม่ไปแบบนั้น ไม่จำเป็นสักหน่อย”
“ฉันคิดว่าแม่นายอาจจะทำให้นายยอมรับฉันง่ายขึ้น”
คำพูดพร้อมสีหน้าเด็กๆจากปาฏิหาริย์ที่ส่งมาให้ ทำเอาภาคนิพนธ์อดยกโทษให้ในคำโกหกที่บอกแม่เค้าไปนั้นไม่ได้
“แม่ไม่มีอิทธิพลกับผมขนาดนั้นหรอกนะ”
แต่ถึงแม้จะคิดยังไง หวั่นไหวแค่ไหน สิ่งที่ตอบกลับไปก็เป็นเพียงคำพูดเย็นชาเท่านั้น
“อย่าพูดจาถึงแม่แบบนี้สิ ไม่น่ารักเลยน้า”
“เอ๊ะ”
อยากจะเถียงอยู่หรอกว่า ไอ้ไม่น่ารักเนี่ยไม่เหมาะที่จะใช้กับคนอายุมากกว่าอย่างตน แต่พอหันไปเจอสายตาหวานๆที่ส่งมา ก็เลยต้องรีบเบี่ยงหน้าหนีแทบไม่ทัน ภาคนิพนธ์ได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายคงไม่เห็นความหวั่นไหวในดวงตา และใบหน้าที่พยายามซ่อนนี้คงไม่เผลอแดงออกไป แม้จะรู้สึกได้ว่ามันร้อนๆอยู่ก็ตามที
 
“เอาล่ะไปย้ายแม่ของนายออกมาได้รึยังทีนี้”
“แต่ที่นี้ก็ดีอยู่แล้ว”
“ไม่หรอก ฉันอยากดูแลแม่นายให้ดี ให้นายได้รู้ว่าฉันน่ะชอบนายจริงๆ”
“แต่ว่า...”
“นายอาจยังไม่รู้ แต่แม่นายน่ะมีอาการแทรกซ้อนนะ ฉันถึงได้รีบย้ายไปไง”
“ว่าไงนะ!”
ปาฏิหาริย์ที่เห็นว่าภาคนิพนธ์ไม่ยอมสักทีงัดไม่สุดท้ายมาใช้ พร้อมเล่าให้ฟังว่าหมอมาบอกถึงอาการแทรกซ้อนที่ว่า ภาคนิพนธ์ถอนใจยาว แบบนี้ ภาคนิพนธ์ก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง ทั้งที่ความจริง หากตรองดูดีๆก็จะสามารถหาเหตุผลมาปฏิเสธได้ร้อยแปด แต่ด้วยความเป็นห่วงแม่ที่มากเกินไป ถึงแม้จะทำเป็นเย็นชาใส่แต่อีกฝ่ายก็จับความรู้สึกนี้ได้จึงใช้มาต่อรอง
 
“ก็ได้”
 
“ดีจัง”
 
ปาฏิหาริย์พูดอย่างยินดี พูดไม่พูดเปล่า  ยังมากระโดดกอดภาคนิพนธ์แบบไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวอีกด้วย
 
“ปะ....ปล่อย”
รีบดันตัวเองออกแล้วเดินหนีไป ทิ้งให้คนตัวโตกว่ายืนอยู่คนเดียวเบื้องหลัง ภาคนิพนธ์ไม่ได้เห็นเลยว่าสีหน้า ยิ้มแย้มราวกับเด็กๆดีใจอย่างที่ตัวเองเห็นนั้น  ได้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหมาดหมายอย่างมีชัย แทบจะทันที
...............................................
 
หลังจากส่งแม่ภาคนิพนธ์เข้าโรงพยาบาลจอมไตรเรียบร้อย สิ่งต่อมาที่ปาฏิหาริย์ต้องการคือจะให้เขาย้ายออกจากคอนโดเรือชาและย้ายไปอยู่ที่คอนโดของปาฏิหาริย์แทน
 
“ไม่เอาหรอก”
ถึงเขาจะยืนยันหนักแน่นแบบนั้น แต่พออีกฝ่ายตีหน้าเศร้า และพูดว่า
“แค่อยากอยู่ใกล้ๆ ได้เห็นหน้าทุกวัน”
น้ำเสียงสลดปนออดอ้อนนิดๆ  ภาคนิพนธ์ก็ใจอ่อนยวบ แต่ไม่ได้ๆ ภาคนิพนธ์ไม่ยอมไปง่ายๆหรอก
“และอีกอย่างเราก็เป็นคนรักกัน”
ถึงจะจำไม่ได้ว่าไปตกลงตอนไหน แต่อีกฝ่ายก็ยืนยันว่าเขาตอบตกลง ที่ตกลงมีแค่ให้แม่ย้ายโรงพยาบาลเท่านั้น แต่ปาฏิหาริย์กลับเหมาเอาว่าเขาตกลงเป็นคนรักไปด้วยได้ยังไง
“ผมไม่ไปอยู่หรอก”
“อย่าให้ต้องบังคับนะ”
พอใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผล ปาฏิหาริย์ก็เลยเริ่มงัดไม้แข็งมาใช้
“ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง ฉันจะลากไปอยู่ด้วยให้ได้เลย”
ตามฉบับจอมไตร ไม่เคยมีใครทนใช้ลูกอ้อนได้นานสักคน มีอันต้องบังคับกันไปเสียทุกที
“ไม่กลัวเพื่อนเดือดร้อนรึไง”
และยังไม่ลืมตบท้ายด้วยการขู่กลายๆอีก
แล้วอย่างภาคนิพนธ์จะไปสู้รบปรบมืออะไรได้เล่า  ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำตามไปก็เท่านั้น แม้เรือชาออกจะแปลกใจกับการตัดสินใจของเพื่อน แต่ก็ไม่ได้ทัดทาน ภาคนิพนธ์รู้จักคิดเรือชาคิดแบบนั้น แต่ว่าเรือชาจะลืมสังเกตไปนิด ว่าเพื่อนตนตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความหวั่นไหว กำลังหวั่นใจ และที่สำคัญความเกลียดและกลัวพ่อเลี้ยงมันฝั่งลึกลงไปจนทำให้คิดหรือทำอะไรโดยไม่รอบคอบเท่าที่ควร สำหรับภาคนิพนธ์ อะไรก็ได้ขอให้รอดพ้นมือพ่อเลี้ยงให้ได้ก่อน  แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ว่าภายในใจตัวเองกำลังคิดแบบนี้ แล้วเรือชาจะรู้หรือ
..................................
............................................
..............................................

TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: thisispom ที่ 02-03-2013 21:06:30
น้องตาหวานคิดอะไรอยู่??
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 02-03-2013 21:09:37
สงสารภาคอ่ะะ :z3: :z3: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 02-03-2013 21:10:54
ตาหวานทำอะไรไปมาเสียใจทีหลังไม่ได้นะ :sad4:รูสึกลางร้ายจะมาหาภาค :z3:
 :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Kray ที่ 02-03-2013 21:38:32
ชอบจริงหรือลวงเนี่ยตาหวาน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-03-2013 21:44:52
หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าเนี่ย
ตาหวานถ้าทำไม่ดีจะฟ้องคุณปาม
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 02-03-2013 21:57:24
กลัวใจตาหวานจังแฮะ = =''

อย่าให้อะไรมันเลวร้ายมากมายเลยนะ สงสารภาค คิดว่าการที่ตาหวานมาทำแบบนี้ คงเพราะต้องการแก้แค้นเรื่องสมัยยังเป็นละอ่อนแน่ ๆ เลย เฮ้อ~ ต้องฟ้องปามให้ตีเสียให้เข็ด!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Masochism ที่ 02-03-2013 22:00:05
ตาหวานที่น่ารักหายไปแล้ว

ม่ายยยยยยยยยยย  :serius2:

สงสารภาคจะโดนอะไรก็ไม่รู้ ตาหวานร้ายกาจ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 02-03-2013 22:59:31
เข้ามาอ่านตาหวานนนนนนน

ตาหนาวที่น่ารักหายไปไหนเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 02-03-2013 23:46:38
เห็นรางร้ายเหมือนกันแต่ที่ตาหวานนะ ดูท่าจะร้ายไม่เบาเชียว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 03-03-2013 00:10:57
ตาหวานจะทำอะเไรภาคอ่าาาาาาาาาา

ภาคน่าสงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 03-03-2013 00:14:22
ตาหวานจะแกล้งอะไรภาค
จะหลอกให้รักรึไง
อย่าเล่นกับความรู้สึกคนนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 03-03-2013 00:47:41
อย่าบอกนะว่านายตาหวานจะมาหลอกให้พี่ภาคหลงรักแล้วก็สลัดทิ้งอ่ะ

ตาหวาน นายมันเด็กมากกกกกกกกกกกกก คิดได้ไง น้ำเน่าสุดๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 03-03-2013 01:42:24
โหย...ตาหวาน โตมาร้ายกาจเป็นบ้า....
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 03-03-2013 14:35:30
 o22 o22 o22 o22 o22ตาหวานทำมัยน่ากลัวขนาดนี้อะ o22 o22
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 03-03-2013 16:43:11
....เพราะตาหวาน แสบอย่างนี้สิ ถึงต้องซื้อความรักจากภาคนิพนธ์ ด้วยใจ
....ถ้าภาครู้ตอนหลังว่าตาหวานต้องการแก้แค้ จะว่ายังไงนะ
....แปลกๆๆตาหวานกลายเป็นพระเอกเนี่ย แล้วดันชื่อตาหวาน แถมเด็กๆก็ขี้แยซะด้วย  พลิกล๊อคจริงๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-03-2013 21:29:07
ตามแบบฉบับของ จอมไตร  ไม่ผิดเพี้ยน  :z2:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 03-03-2013 23:50:40
ขอบคุณครับ
แต่วันนี้สั้นไปหน่อยน่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 04-03-2013 02:30:36
ตาหวานนายคิดจะทำอะไรกันแน่  :m16:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 04-03-2013 02:40:45
ตาหวานอย่าทำอะไรรุนแรงกับภาคนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Bani-Kote ที่ 04-03-2013 11:40:24
มีแผนอะไรอีกล่ะตาหวาน
สงสารภาคนะ  เค้าก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร
เด็กเป็นไง ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่โตมาเป็นอย่างงั้นสักหน่อย  หยวนๆหน่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่4 2/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-03-2013 13:22:23
หลอกให้ไปอยู่ด้วย แล้วปล้ำแน่ๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 07-03-2013 04:00:56
ตอนที่ 5
 
“กลับมาแล้ว”
ปาฏิหาริย์ยิ้มกริ่มเดินเข้ามาหาภาคนิพนธ์แล้วก้มลงหอมแก้มเบาๆอย่างที่ทำเป็นประจำ
แรกๆภาคนิพนธ์ก็ออกจะตกใจอยู่ แต่ไม่นานก็เริ่มชิน ชินในที่นี้หมายความว่าเขาไม่ได้โวยวายหรือผงะหนีอย่างที่ทำแรกๆ แต่ที่แก้ไม่ได้ก็คือเรื่องอายนี่ล่ะ ทำยังไงเขาก็ไม่เลิกหน้าแดงสักที
 
กว่าสองอาทิตย์แล้วที่ภาคนิพนธ์ย้ายมาอยู่ที่นี่  ปาฏิหาริย์ไม่ยอมให้ภาคนิพนธ์ออกไปไหนคนเดียวเลย ไม่ยอมให้ทำงานด้วย ถึงแม้จะไม่เต็มใจ แต่ภาคนิพนธ์ไม่สามารถขัดขืนความต้องการของอีกฝ่ายได้ตามเคย
 
ปาฏิหาริย์ไม่ได้พาภาคนิพนธ์เข้าบ้าน แต่กลับเลือกที่จะมาอยู่ที่คอนโดแห่งนี้ ภาคนิพนธ์เองก็ออกจะโล่งใจที่ไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับคนบ้านนั้น เขาไม่รู้ว่าคนที่นั่นจะต้อนรับเขารึเปล่า และถ้าทำได้ก็ไม่อยากเสี่ยง  แม้ว่าปาฏิหาริย์จะทำดีกับเขามากแค่ไหน แต่ไม่รู้ทำไม ความหวั่นใจที่มีมันไม่จางหายไปเลย กลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ”
ปาฏิหาริย์ว่าแล้วเดินเข้าไปในห้อง ที่นี่มีห้องนอนห้องเดียว และเขาต้องนอนร่วมกับปาฏิหาริย์ ทั้งที่แรกๆเขาออกหวั่นใจ หวาดกลัว แต่อีกฝ่ายกลับไม่เคยทำอะไรเขาเลย นอกจากจูบแผ่วเบาในบางครั้งและหอมแก้มบางคราวแล้ว ปาฏิหาริย์ก็แทบจะไม่แตะต้องเขา.........ไม่ใช่ว่ารอคอยหรอกนะ ก็แค่........นึกแปลกใจเฉยๆ
 
“พรุ่งนี้ไปงานด้วยกันได้ไหม”
 
ระหว่างมื้ออาหารปาฏิหาริย์ก็เอ่ยขึ้นมา ภาคนิพนธ์มองอีกฝ่ายอย่างค้นหาว่าต้องการอะไรจากการเอ่ยปากครั้งนี้ แต่เมื่อลืมตาขึ้นมอง สิ่งที่ปรากฏก็มีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนที่ส่งมาให้เหมือนเคย  นั่นทำให้เขาต้องรีบเสตาหันไปมองทางอื่นอย่างรวดเร็ว เขารู้ตัวเองเลยว่าใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างที่เป็นเสมอเมื่อมองเห็นสายตาของคนตรงหน้านี้
 
“ว่าไง ไปได้ไหม”
 
ปาฏิหาริย์ถามย้ำทำให้อีกคนพยักหน้ารับ  จากนั้นการกินข้าวก็เป็นไปอย่างทุกวัน แม้ทั้งสองคนจะพูดอะไรกันไม่มาก แต่ภาคนิพนธ์กลับไม่รู้สึกอึดอัดเลย ปาฏิหาริย์จะชวนพูดบางบางครั้ง แล้วก็ตักอาหารใส่จานภาคนิพนธ์อยู่เสมอ ความเงียบที่ปกคลุมโต๊ะอาหาร ไม่ใช่บรรยากาศลำบากใจ ภาคนิพนธ์มาลองคิดทบทวนดูแล้ว ก็เห็นว่าที่ตนหวาดระแวงปาฏิหาริย์ ไม่ไว้ใจในการกระทำของเขานั้นดูจะใจร้ายไปสักหน่อย ทั้งๆที่มีโอกาสอยู่ตลอดเวลา แต่ปาฏิหาริย์ไม่เคยล่วงเกินตนเลย ความจริงข้อนี้ทำให้ภาคนิพนธ์อดคิดไม่ได้ว่าตนเองนั้นใจแคบเกินไปรึเปล่า เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองปาฏิหาริย์อีกครั้ง และใช่ รอยยิ้มอ่อนโยนที่อีกฝ่ายส่งมาให้นั้นยังคงเดิม ดวงตาคู่นี้จับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลาเขารู้  คงมองด้วยความอ่อนโยน มองด้วยความรักอย่างที่อีกฝ่ายคอยพร่ำบอกเขาอย่างนั้นใช่ไหม ภาคนิพนธ์ถามตัวเองในใจ เขายิ้มกับจานข้าว เอาเถอะ ขอหลงตัวเองสักนิดคงไม่เป็นไรนะ พอคิดแบบนั้น ไหล่ที่เกร็งเขม็งอยู่ตลอดเวลาก็ผ่อนคลายลงโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัว แต่สำหรับคนที่ถูกสั่งสอนให้สังเกตคนอื่นอย่างปาฏิหาริย์มีรึจะไม่สังเกตเห็น เขายิ้ม เปล่า ไม่ใช่รอยยิ้มอย่างที่เขาแสดงให้ภาคนิพนธ์เห็น แต่เป็นรอยยิ้มด้วยความพึงพอใจที่สามารถทลายกำแพงของภาคนิพนธ์ออกไปได้ อย่างน้อยๆตอนนี้ปาฏิหาริย์ก็รู้ดีว่า อีกฝ่ายไว้ใจเขามากพอดู และหากว่ามันเป็นไปตามที่เขาคาดการณ์แล้วล่ะก็ พรุ่งนี้นี่แหละที่จะทำให้ภาคนิพนธ์ไว้ใจเขาอย่างหมดหัวใจ
 
..........................................................
 
“นี่มันเยอะเกินไปแล้วมั้งครับ”
ภาคนิพนธ์มองถุงในมืออีกฝ่าย แล้วอดไม่ได้ที่จะร้องประท้วงขึ้นมา เขาทราบว่าบ้านจอมไตรรวยแค่ไหน แต่จะให้มองคนอื่นเอาเงินมาทิ้งขว้างแบบนี้ยังไงๆก็ทำใจไม่ได้
 
“เถอะน่า นานๆมาซื้อที”
คนหิ้วของและจ่ายเงินก็ยังคะยั้นคะยออีกฝ่ายให้ซื้อของเยอะๆ นอกจากจะซื้อให้ภาคนิพนธ์แล้ว ยังมีสำหรับพัลลภาแม่ของภาคนิพนธ์ด้วย
 
แม้ทุกครั้งภาคนิพนธ์จะร้องประท้วง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ปาฏิหาริย์สนใจ เขายังคงตั้งหน้าตั้งตาที่จะซื้อของต่อไป
 
ทั้งที่ตั้งใจจะออกมาซื้อชุดสำหรับไปงานคืนนี้ให้ภาคนิพนธ์เท่านั้นแท้ๆ แต่พอมองของรอบๆตัวไม่รู้ทำไม ปาฏิหาริย์ถึงอดใจไม่ได้ที่จะซื้อให้อีกฝ่าย แถมยังคิดเลยไปถึงพัลลภาอีกด้วย ปาฏิหาริย์ส่ายหัวตัวเองเบาๆ ก่อนจะย้ำในใจว่า ไม่ใช่ ทั้งหมดนี่ไม่ใช่แบบนั้น...มันก็แค่หนึ่งในแผนการณ์
 
............................................................
 
งานเลี้ยงที่ปาฏิหาริย์พามาเป็นงานเลี้ยงที่มีนักธุรกิจชั้นนำมามากมาย ปาฏิหาริย์บอกว่างานนี้เขาเป็นตัวแทนของที่บ้าน ถึงแม้จะไม่อยากมาแต่ก็เลี่ยงไม่ได้เลยพาภาคนิพนธ์มาด้วย งานจะได้ไม่น่าเบื่อ
 
แต่พอมาถึงงานเลี้ยงจริงๆ ปาฏิหาริย์กลับเป็นที่จับตามองและโดนคนโน่นคนนี้รั้งตัวไปคุยด้วยเสมอ นั่นทำให้ภาคนิพนธ์ต้องยืนแกร่วอยู่คนเดียว
 
“ไงลูกภาค ไม่เจอกันนานนะ”
 
ภาคนิพนธ์ที่หลบออกมายืนในสวนคนเดียวหันไปตามเสียงอย่างตกใจ ไม่...เขาไม่ได้จำเสียงนี้ได้  แต่เขาก็นึกออกทันทีว่าคนพูดเป็นใคร ขาของร่างบางถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ใกล้มากแค่ไหน มันไม่ได้ใกล้ขนาดประชิดตัว แต่มันก็ยังใกล้มากอยู่ดีสำหรับภาคนิพนธ์ที่ไม่ต้องการอยู่ร่วมโลกกับคนๆนี้ด้วยซ้ำ
 
“ดีใจจังที่ได้เจอภาค พัลลภาเป็นยังไงบ้างล่ะ”
 
พอได้ยินชื่อแม่ ภาคนิพนธ์ก็ยืนไหล่ตั้งตรง ขึ้นมาทันที
 
“แม่สบายดีมากเลยครับ อย่างที่ไม่เคยเป็นมากก่อน”
 
คนฟังคำตอบหน้าตึง...แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวก่อนเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเช่นเดิม
 
“เหรอ งั้นว่างๆฉันจะไปเยี่ยมล่ะกันนะ”
“ไม่ต้อง !”
ภาคนิพนธ์สวนไปทันควัน
 
                “แหม ใจร้ายจัง แต่เอาเถอะ ความจริงฉันเองก็อยากเจอเธอมากกว่าอยู่แล้ว”
 
คนพูดพูดพร้อมกับเดินเข้าประชิดไม่ให้ภาคนิพนธ์ได้ตั้งตัวมือหยาบกร้านขวาแขนคนที่จะถอยหนีไม่ให้หนีไปไหนได้
 
“ปล่อยครับ”
ภาคนิพนธ์พูดเสียงรอดไรฟัน ความทรงจำเก่าๆสมัยเป็นเด็กค่อยๆผุดย้อนขึ้นมา นั่นทำให้ร่างกายสั่นออกมาเองด้วยความหวาดกลัว ใช่ เขาไม่เคยลืมได้เลยถึงสิ่งเลวร้ายที่คนๆนี้ได้ทำต่อเขา เรื่องน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงพวกนั้น เขาจำได้ไม่เคยลืม  คนที่จับไว้รับรู้ถึงแรงสั่นได้ก็ยิ้มกริ่ม มืออีกข้างเข้าโอบรอบลำตัวร่างบาง  ยิ่งเห็นอีกฝ่ายกลัว เขาก็ยิ่งพอใจ
 
ภาคนิพนธ์หลับตาปี๋ ไม่อยากจะคิดว่าอะไรจะเกิดต่อจากนั้น.........................แต่แล้วอยู่ๆ สัมผัสต่างๆกลับหายไป ภาคนิพนธ์ลืมตามองก็เห็นมีชายชุดดำสองคนยืนยึดแขนนายมานิช อดีตพ่อเลี้ยงของเขาไว้ ข้างหน้าเขามีร่างสูงใหญ่ของปาฏิหาริย์ยืนบังไว้ คลายจะปกป้อง
 
“คุณไม่ควรมายุ่งกับคนของผม คุณมานิช”
 
เสียงเข้มพูดอย่างไม่พอใจ ไม่บอกก็รู้ว่าคนข้างหน้าเขากำลังโกรธเป็นอย่างมาก
 
“คนของคุณ?”
 
มานิชทวนคำอย่างงงงวย ก่อนจะเริ่มเข้าใจในที่สุด
 
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมก็แค่มาทักทายลูกเลี้ยงผมเท่านั้นแหละ ไม่เชื่อก็ถามคนของคุณดูสิ”
 
ปาฏิหาริย์หันมามองคนที่ถูกพูดถึงเพียงแวบเดียวเท่านั้น แล้วหันกลับไปที่มานิชอีกครั้ง และครั้งนี้ทำเอาคนถูกมองอดร้อนๆหนาวๆไม่ได้ มานิชเองแม้จะคิดในใจว่าปาฏิหาริย์ก็เป็นเพียงเด็กบ้านจอมไตรที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แต่บรรยากาศคุกคามเหล่านี้ก็ทำเอาเสียวสันหลังเหมือนกัน
 
“ผมขอสั่งห้ามคุณมายุ่งกับคนของผมอีก”
 
คนพูดพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบก็จริง แต่ก็จริงจังมาก มานิชที่ได้ยินคนที่เด็กกว่าพูดคำว่า ผมสั่ง กับเขาก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมาบ้าง.....
 
“หึ คนของคุณงั้นเหรอ ถ้านับกันตามความจริง เด็กภาคนั้น เป็นคนของผมมากกว่ามั้ง”
 
น้ำเสียงเยาะเย้ยถากถาง ทำเอาคนที่โกรธอยู่แล้วยิ่งโกรธมากขึ้น และคนที่ยืนฟังอยู่ข้างหลังต้องก้มหน้าลงกับฝ่ามือตัวเอง เพราะไม่สามารถเงยหน้ามองคนที่ยืนปกป้องเขาอยู่นี้โดยไม่ละอายได้
 
“อยากรู้ไหมล่ะว่าเด็กนั่นเป็นไงบ้าง ผมเล่าให้ฟังได้นะ.............โอ๊ย”
 
ยังไม่ทันได้พร่ำจบประโยค ชายชุดดำคนหนึ่งก็ทำหน้าที่อย่างรู้ใจเจ้าหน้า เขาจับแขนนายมานิชหักดังกร๊อบโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ
 
“กะ...แก”
มานิชหันไปมองชายชุดดำที่ส่งยิ้มเยือกเย็นมาให้อย่างเคืองแค้น ปาฏิหาริย์เดินเข้าไปหามานิชที่ทรุดตัวลงพื้นไปเรียบร้อยแล้วกระซิบแผ่วเบา
 
“คุณอย่างมายุ่งกับคนๆนี้ ตราบที่เขายังเป็นคนของผม ไม่งั้นเจอมากกว่านี้แน่”
 
จากนั้นเขาก็สั่งให้ลูกน้องปล่อยแขนจากชายผู้นั้น ปาฏิหาริย์เดินกลับมาโอบตัวภาคนิพนธ์ที่ยังยืนนิ่งไม่ไหวติงแล้วพาเดินออกจากงานไปที่รถ ตัวภาคนิพนธ์ยังไม่หยุดสั่น แต่ปาฏิหาริย์ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคลายกังวลลงมากเมื่ออยู่ใกล้ๆเขา ใช่ นี่แหละที่ปาฏิหาริย์ต้องการ เขาพาร่างบางขึ้นรถและสั่งพากลับคอนโดทันที
 
เบื้องหลังชายที่ถูกหักแขนทิ้งไว้กลางสวนคนเดียวนั้น รอยยิ้มชั่วร้ายเริ่มปรากฏบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อเพราะเจ็บที่แขน
 
ปาฏิหาริย์ ไม่ได้บอกว่าห้ามยุ่งกับภาคนิพนธ์อีก แต่บอกว่าตราบใดที่อีกฝ่ายยังเป็นของปาฏิหาริย์เท่านั้น เขาอดคิดไม่ได้ว่าเจ้าหนุ่มบ้านจอมไตรนี่ฉลาด อย่างนี้ก็เท่ากับบอกชัดเจนว่าภาคนิพนธ์ไม่เป็นของยืนนานถาวรของอีกฝ่าย แล้วยังการที่ปาฏิหาริย์มาบอกตนอย่างนี้ มานิชก็คิดได้อย่างเดียวว่าปาฏิหาริย์เองก็คงคิดหวังอะไรบางสิ่งจากภาคนิพนธ์ และเมื่อได้แล้วก็จะล่ะทิ้งภาคนิพนธ์แน่นอน เขาระเบิดหัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ สิ่งที่ภาคนิพนธ์ทำไว้กับเขาไม่ใช่น้อยๆ ไหนจะที่พัลลภาทำอีก แค่คิดว่าอีกฝ่ายจะต้องเจออะไรบ้าง ความเจ็บแขนก็แทบจางหายไปหมดในทันที
 
...................................
......................................................
....................................................................
 
“ใจเย็นๆนะ ไม่เป็นอะไรแล้ว”
ปาฏิหาริย์เอ่ยปลอบร่างในอ้อมกอดที่ยังสั่นไม่เลิก เขาหยิบนมอุ่นที่บอดี้การ์ดคนสนิททำไว้ให้ก่อนจะกลับออกไปส่งให้อีกฝ่าย
“ผม...ผม”
ภาคนิพนธ์ยังไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าตัวเองต้องการจะพูดว่าอะไร หรือเรื่องอะไร เหมือนความคิดมันกระจัดกระจายหายไปหมด ปาฏิหาริย์มองอาการของอีกฝ่ายแล้วก็ตั้งถ้วยนมลงบนโต๊ะ แล้วจึงโอบอีกฝ่ายไว้อย่างปลอบประโลม
 
“ไม่เป็นไรนะ อยู่กับฉัน ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
มือหนาลูบหลังอีกฝ่ายแผ่วเบาอ่อนโยน ภาคนิพนธ์เองก็กอดอีกฝ่ายไว้แน่นอย่างต้องการที่พึ่งพิง ที่พึ่งพิงที่เขาไม่เคยมีมาก่อน ร่างบางสะอื้นออกมาเบาๆกับอกกว้าง ร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเหนื่อยแล้วหลับไป
 
ปาฏิหาริย์อุ้มร่างนั้นขึ้นช้าๆก่อนจะพาไปยังห้องนอน เขาวางร่างที่หลับพริ้มไว้บนเตียงก่อนจะปัดปอยผมไม่ให้ระใบหน้าอีกฝ่าย มือหนาอดไม่ได้ที่จะสัมผัสลูบไล้ไปทั่วใบหน้าเนียน คนตรงหน้าดูอ่อนแอ ไม่มีทางสู้ ต่างจากที่เคยเห็น ปกติแม้ภาคนิพนธ์จะไม่ได้แสดงออกถึงความแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่แสดงความอ่อนแอออกมาเด็ดขาด มือนั้นลูบไปจนทั่วใบหน้าจนมาหยุดชะงักตรงริมฝีปากอิ่มที่มีรอยกัดจนห้อเลือด ปาฏิหาริย์ลูบบริเวณแผลแผ่วเบาราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ็บ ใบหน้าคมเคลื่อนต่ำลงมาอย่างตั้งใจจะสัมผัสริมฝีปาก โดยที่เขาไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ......
 
ตี๊ดดดดดดดด..........ตี๊ดดดดดดดด
 
แต่ก่อนที่อะไรๆมันจะเหนือการควบคุมของปาฏิหาริย์ เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น ทำให้เขารู้สึกตัว ปาฏิหาริย์เด้งตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เข้าใจตัวเองว่ากำลังหงุดหงิดเสียดาย หรือว่ากำลังดีใจกันแน่ที่มีโทรศัพท์เข้ามาตอนนี้ เขามองดูชื่อคนโทรมาแล้วไม่รู้ว่าจะขอบคุณหรือด่าอีกฝ่ายดีที่โทรมาได้จังหวะ  แต่ปาฏิหาริย์ก็เลือกที่จะไม่ทำทั้งสองอย่างและปัดความสับสนในตัวเองทิ้งไป
 
“ครับพี่วี”
เขารู้ว่าปฐวีโทรมาตามความคืบหน้า และเขาก็เล่าเรื่องงานเลี้ยงวันนี้และแผนต่อไปให้อีกคนฟัง
 
ใช่แผน..... ไม่ว่าจะเป็นการบอกว่าชอบภาคนิพนธ์ ทำดีด้วยต่างๆนาๆ ทำทุกอย่างให้อีกฝ่ายเชื่อใจ และเรื่องวันนี้ แน่นอนปาฏิหาริย์คาดว่ามันจะเกิดขึ้น เขารู้ว่ามานิชจะไปงาน จึงตั้งใจทิ้งภาคนิพนธ์ให้อยู่คนเดียว............ ปาฏิหาริย์ทำทุกอย่างก็เพื่อแผนการเท่านั้น....ไม่มีอย่างอื่น.......เขาสลัดความคิดตัวเองทิ้งอีกครั้ง........... แล้วจึงเล่าให้พี่ชายฟังถึงแผนการต่อไป.....เล่าให้ฟัง..... เท่าๆกับย้ำความตั้งใจของตัวเอง
 
...............................................
 
ภาคนิพนธ์ตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ไม่เจอปาฏิหาริย์แล้ว...คงไปทำงาน....เขานึกในใจก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอน ..............อาบน้ำแล้วนึกย้อนถึงเรื่องเมื่อวาน เขาเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนเด็กๆยังมีอิทธิพลต่อเขาอยู่มากมายแค่ไหน......ภาพเหตุการณ์ตอนนั้นวิ่งเข้ามาในความทรงจำราวกับนำหนังเก่ามาฉายใหม่.........ภาคนิพนธ์แค่12ขวบ.....เขานึกถึงมือที่น่ารังเกียจนั่นมาจับต้องร่างกายตัวเองแล้วก็เผลอถูสบู่จนแรง สกปรก ภาคนิพนธ์นึกในใจและยิ่งเพิ่มแรงถูให้มากขึ้น ถูจนผิวบอบบางนั้นแดงขึ้นมา แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นภาคนิพนธ์ก็รู้ดีว่ามันไม่ได้ทำให้ตัวของตนเองนั้นสะอาดขึ้นมาเลย..........ไม่ว่าจะทำยังไง สัมผัสที่น่ารังเกียจนั้นก็ไม่มีทางจางหายไปจากห้วงความทรงจำ ไม่ว่าจะทำยังไง ความรู้สึกว่าตัวเองสกปรก ก็ยังคงเดิม
 
หลังจากใช้เวลาอาบน้ำมากกว่าที่เคยภาคนิพนธ์ก็แต่งตัวเรียบร้อย วันนี้เขาตั้งใจจะไม่ไปหาแม่เพราะเขาคงไม่มีอารมณ์ไปนั่งปั้นหน้าธรรมดาไม่ให้แม่สงสัยได้ อาจจะดูเป็นลูกที่ไม่ดีนักหากจะบอกว่าเขากลัว กลัวว่าหากแม่รู้ว่ามานิชยังต้องการเขาอยู่ แม่จะยกเขาให้นายมานิชอย่างง่ายดาย ถ้าเป็นแบบนั้นเขาคงทนอะไรๆไม่ได้อีกแล้ว
 
 
บนโต๊ะกินข้าว กลางห้องครัว.....มีข้าวต้มตั้งอยู่ พร้อมกระดาษโน้ตที่บอกให้เวฟก่อน........ภาคนิพนธ์มองกระดาษแผ่นนั้นแล้วไม่รู้ทำไม ทั้งความรู้สึกกังวลใจ ไม่สบายใจ หนักใจ กลับหายออกไป แล้วความรู้สึกอบอุ่นใจ สบายใจ ก็เข้ามาแทนที่
ภาคนิพนธ์หยิบถ้วยข้าวต้มใส่ไมโครเวฟ แล้วเดินไปเปิดตู้เย็น ในตู้มีซุปไก่สกัด ตั้งเด่นอยู่กลางตู้เย็นหนึ่งขวด พร้อมกระดาษที่แปะไว้ว่าดื่มซะ พอเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะต้องอมยิ้ม.............
“ทำเป็นพระเอกโฆษณาไปได้”
บ่นขำๆกับตัวเอง แต่ก็หยิบออกมาดื่ม ทั้งๆที่เขาไม่ชอบซุปไก่เลยแท้ๆ แต่เมื่อปาฏิหาริย์บอกให้ดื่ม ภาคนิพนธ์ก็จะดื่ม
 
พอดื่มเสร็จ ข้าวต้มที่อุ่นไว้ก็เสร็จพอดี
 
ภาคนิพนธ์สบายใจขึ้นมาก ผ่อนคลายกว่าเมื่อวาน เขาเดินไปรดน้ำต้นไม้ แล้วเปลี่ยนใจว่าวันนี้จะไปพบแม่ ก็สบายใจแล้วนี่
 
“นี่ต้นไม้ ต้องออกดอกเร็วๆนะ ฉันจะรอดู”
 
ระหว่างที่รดน้ำต้นไม้ ภาคนิพนธ์ก็พูดคุยกับต้นไม้ไปตามเรื่องตามราว เป็นสิ่งที่เขาทำเป็นประจำทุกวัน ภาคนิพนธ์ไม่รู้เลยว่า  ปาฏิหาริย์กลับเข้ามาตอนไหน ปาฏิหาริย์มองอีกฝ่ายคุยกับต้นไม้อย่างสบายใจก็ไม่รู้ทำไมเขาต้องพลอยโล่งใจไปด้วย วันนี้พอประชุมเช้าเสร็จเขาก็งดงานที่บริษัททั้งหมด เพราะตั้งใจจะกลับมาดูแลคนตรงหน้า  ภาคนิพนธ์ที่คุยกับต้นไม้อยู่นานในที่สุดก็เริ่มรู้ตัวว่ากำลังถูกมอง แล้วพอหันไปเห็นว่าเป็นใครก็ต้องยิ้มออกมา ปาฏิหาริย์ยืนอยู่ตรงนั้นและกำลังมองมาที่ตนเองจริงๆ เขารีบวางบัวรดน้ำและเดินกลับเข้ามายังตัวห้อง
 
“มานานแล้วเหรอครับ”
ปาฏิหาริย์ส่ายหน้าแล้วหันหลังกลับเพื่อเดินไปนั่งบนโซฟา แต่ที่จริงแล้วต้องการหลบคนตรงหน้ามากกว่า ไม่รู้ทำไม พอเห็นรอยยิ้มอ่อนหวานของภาคนิพนธ์ที่ปกติมีน้อยมากแล้ว ใจก็รู้สึกราวกับถูกบีบ และไม่กล้าสบตาด้วยขึ้นมาซะเฉยๆ
 
“ฉันเป็นห่วง”
ภาคนิพนธ์ที่เดินเข้าไปหยิบน้ำมาให้ ยิ้มรับกับคำบอกเล่าสั้นๆนั้น
 
“วันนี้ไม่ไปเยี่ยมแม่เหรอ”
“ไปสิครับ”
“ดีเดี๋ยวฉันไปด้วย ขอเปลี่ยนชุดก่อน”
 
ว่าแล้วก็ลุกเดินไปเปลี่ยนชุดในห้อง ภาคนิพนธ์เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติก็ตรงนี้เอง ถึงแม้ปาฏิหาริย์จะพูดสั้นๆเป็นปกติ แต่ก็ไม่พูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ ราวกับกำลังมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ
 
ภาคนิพนธ์ตั้งใจจะเดินตามเข้าไปถาม แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อนึกได้ว่าเรื่องที่ไม่สบายใจอาจเป็นเรื่องของเขาก็เป็นได้ เมื่อวานนี้คนของปาฏิหาริย์หักแขนมานิชซะด้วย อาจจะเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา เขารู้ว่าบ้านจอมไตรมีอิทธิพลมากแค่ไหน แต่ทางมานิชเองก็มีอิทธิพลเหมือนกัน อาจจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ได้ บางทีปาฏิหาริย์อาจโดนคนที่บ้านต่อว่าที่ไปมีเรื่องมีราว.............แต่แล้วพอนึกถึงคำพูดของมานิชเมื่อคืนนี้....................
 
‘คนของคุณงั้นเหรอ ถ้านับกันตามความจริง เด็กภาคนั่น เป็นคนของผมมากกว่ามั้ง’
 
คำพูดที่เหมือนตั้งใจจะบอกให้รู้ว่าภาคนิพนธ์เป็นของมีตำหนิ เป็นของสกปรก ปาฏิหาริย์ที่รับรู้เรื่องนี้อาจจะไม่พอใจ ไม่ต้องการเขาอีกต่อไป ..................................ถ้าเป็นเรื่องแรก อาจพอมีทางแก้ไข แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สอง ภาคนิพนธ์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เขานั่งนิ่งอยู่นานจนไม่รู้เลยว่าปาฏิหาริย์ออกมาจากห้องตอนไหน ปาฏิหาริย์มองภาพตรงหน้าอย่างแปลกใจเล็กน้อย คนที่ส่งยิ้มอ่อนโยนให้เขาจนถึงเมื่อครู่ ตอนนี้นั่งกำลังกำมือแน่น ก้มหน้าลงต่ำราวกับกำลังคิดเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจมากๆอยู่
แบบนี้เขาเรียกว่าสับสนใช่หรือเปล่านะ เวลาที่เห็นอีกฝ่ายยิ้ม เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่พอเวลาเห็นอีกฝ่ายซึมไป ความรู้สึกไม่สบายใจก็เท่ากัน ....แต่ความไม่สบายใจทั้งสองอย่างนั้นปาฏิหาริย์รู้ว่ามันต่างกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันต่างกันอย่างไร
โดยไม่ทันรู้ตัว ร่างหนาก็เดินเข้าไปโอบกอดอีกฝ่ายไว้จากทางด้านหลัง แล้วมือบางที่กำไว้แน่นก็คลายออกเพื่อกอดแขนอีกฝ่ายไว้ตอบกลับไป...... ใช่โดยไม่ทันรู้ตัว นั่นหมายถึงทั้งสองคน ภาคนิพนธ์ไม่รู้ตัวว่าปาฏิหาริย์มาตอนไหน ในขณะที่ปาฏิหาริย์ไม่รู้ตัวว่าทำไมตัวเองถึงเดินเข้ามาทำอะไรที่เป็นเหมือนการปลอบใจอีกฝ่ายแบบนี้ เขารู้แต่ว่าไม่อยากปล่อยให้ภาคนิพนธ์จมอยู่ในความคิดตัวเองนานเกินไป......จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นแผน....ก็.....ใช่...............คง....คงจะใช่
 
ทั้งสองคนกอดกันนิ่งนาน ต่างฝ่ายต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ทั้งสองคนไม่รู้เลยว่า อ้อมกอดของทั้งคู่ที่กอดกันอยู่นั้น ลดความไม่สบายใจของกันและกันไปได้มากเลยทีเดียว
 
.........................................
 
“ทานนี่สิครับ ภาคเขาบอกว่าคุณแม่ชอบ”
ปาฏิหาริย์ส่งจานแอปเปิ้ลที่ภาคนิพนธ์ปอกไว้ให้พัลลภาอย่างเอาใจ คนถูกเอาใจก็ยิ้มแย้มหยิบแอปเปิ้ลกินด้วยความสบายใจ ภาคนิพนธ์มองผู้เป็นแม่แล้วส่ายหัว เขารู้ว่าแม่ชอบปาฏิหาริย์มาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะปาฏิหาริย์คอยเอาใจแม่เขาสารพัด หรือเป็นเพราะความรวยของบ้านปาฏิหาริย์ แต่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นทั้งสองอย่างรวมกัน  แต่จะว่าแม่ก็ไม่ได้เรื่องนี้ ปาฏิหาริย์ก็ทำดีกับแม่เขามากจริงๆ ต่อให้คนเย็นชาแค่ไหน มีคนมาทำดีด้วยแบบนี้ก็คงอดไม่ได้ที่จะชอบ
 
พัลลภาสังเกตเห็นว่าทั้งลูกชายและปาฏิหาริย์ดูเงียบๆไปทั้งคู่ แต่ก็คิดแค่ว่าทั้งสองคนนี้อาจขัดใจกันตามประสาคนรัก และคิดเอาว่าปาฏิหาริย์ที่รักลูกชายตนมาก ขนาดทุ่มเทให้ขนาดนี้คงไม่ปล่อยให้เรื่องมันคาราคาซังอยู่นานแน่ๆ และเธอก็ดูรู้ว่าลูกชายของเธอเองก็คงรักปาฏิหาริย์ไม่แพ้กัน....ก็ภาคนิพนธ์น่ะคอยลอบมองปาฏิหาริย์บ่อยๆ...........แม้จะไม่ค่อยสนิทกับลูกชาย  แต่ถึงยังไงเธอก็เป็นแม่ ทำไมจะดูไม่รู้ว่าลูกชายตนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแบบไหน
 
..................................................
ไม่ว่าจะระหว่างขาไปหรือขากลับ ในรถก็มีแต่ความเงียบเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง
 
“คือ เรื่องเมื่อวาน มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ.........................ที่เอ่อ ที่ไปหักแขน...”
ในที่สุดภาคนิพนธ์ก็ทนไม่ไหว ต้องไขข้อข้องใจของตัวเองซะก่อน
 
ปาฏิหาริย์หันมามองหน้าคนถามเล็กน้อย
 
“ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาอะไร”
แม้จะโล่งใจไปหนึ่งเปราะ แต่ก็เหมือนจะได้คำตอบให้ตัวเองว่าทำไมปาฏิหาริย์ถึงได้เงียบไป ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น งั้นก็คงเพราะอีกเรื่องแน่ๆ......................................
 
.............................................

มีต่อด้านล้างค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 07-03-2013 04:01:23
“เป็นอะไรไปน่ะหือ”
ปาฏิหาริย์อาบน้ำเสร็จแล้วออกมาก็เห็นว่าอีกคนกำลังนั่งนิ่งอยู่ปลายเตียง เขาก็รู้อยู่หรอกว่าวันนี้อีกฝ่ายเงียบลงไปเยอะ แต่เพราะจมอยู่กับความคิดตัวเองจึงไม่ได้ถามไถ่ออกมา
 
ร่างบางที่ได้ยินคำถามก็เงยหน้าขึ้นมอง ในดวงตาใสนั่นคลอไปด้วยน้ำตาที่บอกให้รับรู้ว่าพร้อมจะไหลลงมาได้ทุกเมื่อแต่เจ้าตัวก็พยายามกลั้นไว้
 
ปาฏิหาริย์เดินเข้าไปนั่งและกอดอีกฝ่ายได้อย่างปลอดประโลม
 
“เป็นอะไรไป”
 
คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ ทำให้ปาฏิหาริย์ยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
 
“ผม...เอ่อ....เรื่องที่พ่อเลี้ยงผมพูดเมื่อวานนี้ทำให้คุณไม่พอใจรึเปล่า”
ปาฏิหาริย์นิ่งเงียบต่อคำถามนั่น เมื่อวานเขาแทบไม่ได้ฟังเลยด้วยซ้ำว่านายมานิชพูดว่าอะไรบ้าง  แต่ก็พอจับได้ว่า นายมานิชตั้งใจจะบอกว่าคนในอ้อมกอดของเขาเคยเป็นของตนมาก่อน
 
แต่เรื่องนั้นปาฏิหาริย์รู้อยู่แล้ว ความสัมพันธ์อันเน่าแฟะของคนในบ้านทำนองพันเขาให้คนไปสืบรู้จนหมด เพราะงั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่เขาแปลกใจอะไร แล้วก็ไม่แคร์ด้วย....เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
 
“เรื่องนั้นฉันไม่สนใจหรอก”
 
ถึงพูดไปก็ใช่ว่าคนฟังจะเชื่อ ร่างบางพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอด แต่ก็ขยับได้เพียงนิดเดียว เพราะปาฏิหาริย์ไม่ยอมคลายอ้อมกอดนั้น
 
“แต่ว่าผม...สกปรก...น่าขยะแขยง”
“........”
“คุณถึง...เอ่อ...ถึงไม่ต้องการผมในแบบนั้นใช่ไหมครับ”
 
ภาคนิพนธ์นึกถึงการที่ปาฏิหาริย์ไม่เคยแตะต้องตนเลยมากกว่าจูบ หอมแก้ม ก็เลยคิดว่าอาจเป็นเพราะว่าเรื่องนี้ ปาฏิหาริย์อาจไม่ต้องการร่างกายสกปรกๆแบบเขาก็เป็นได้
 
“เคยบอกแล้วไงว่าฉันไม่อยากบังคับ จะไม่ล่วงเกินนายเด็ดขาดถ้านายไม่อนุญาต ไม่เต็มใจ.....แล้วที่มาถามแบบนี้ เพราะว่าอนุญาตแล้วใช่ไหม”
 
 ภาคนิพนธ์กำลังเรียบเรียงความคิดให้กลับเข้าที่เข้าทาง พยายามคิดว่าที่ปาฏิหาริย์พูดหมายถึงเรื่องอะไรอยู่ ยังไม่ทันได้เข้าใจ หลังก็สัมผัสเข้ากับเตียงนุ่มซะแล้ว
 
“บอกสิว่านายอนุญาต”
ปาฏิหาริย์ที่คร่อมตัวอีกฝ่ายไว้ก้มหน้าลงมายังแก้มใสที่บัดนี้แดงเรื่อ เขาพูดอยู่ข้างๆริมฝีปากบางนั้น แล้วจึงเคลื่อนไปสูดเอาความหอมจากแก้มนวลซ้ำๆอย่างชอบใจ
 
“เอ่อคือ...แต่ผม”
 
ภาคนิพนธ์พยายามจะพูดให้เข้าใจ แต่ปาฏิหาริย์ก็ไม่ให้ความร่วมมือสักนิด ใบหน้าคมฝั่งลงตรงซอกคอขาวฝากรอยทิ้งไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ กลิ่นหอมของแป้งเด็ก และสบู่ที่ติดตัวภาคนิพนธ์นั่น ราวกับเป็นสิ่งยั่วเย้าให้ปาฏิหาริย์ต้องฝั่งจมูกลงไปซ้ำๆในทุกๆที่ที่ใบหน้าเคลื่อนผ่าน
 
“คือ...เรื่องนั้น..อ๊ะ..”
 
คำพูดที่ตั้งใจจะพูดให้รู้เรื่องถูกกลืนหายลงไปในคอแทบจะหมด เมื่อมือหนาสอดเข้าใต้เสื้อนอนโดยไม่สนคนร้องประท้วง หรืออาการดันอกกว้างออกสักนิด
 
“พูดสิว่านายอนุญาต”
 
คลอเคลียที่ติ่งหูสวยแล้วพูดเสียงแผ่วข้างหูราวกับร่ายมนต์ และหากเป็นมนต์จริงๆ ก็คงเป็นมนต์ที่ทำภาคนิพนธ์ลุ่มหลงเป็นแน่
 
“ครับอนุญาต”
 
คำตอบที่ราวกับเพ้อไร้สตินั้น ทำให้ปาฏิหาริย์หมดความเกรงใจในตัวอีกฝ่ายทันที กระดุมเสื้อตัวบางถูกปลดออกอย่างรวดเร็วก่อนที่เสื้อจะถูกถอดออกและโดนทิ้งลงข้างเตียง มือของปาฏิหาริย์ลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกและหน้าท้องเนียนอย่างแผ่วเบาและมาหยุดตรงยอดอกที่ตั้งชัน
 
“อ๊ะ...คุณ...อ๊ะ”
เหมือนตั้งใจจะร้องห้าม แต่ปาฏิหาริย์ก็ทำเอาความตั้งใจของอีกฝ่ายหายไปเสียสิ้น มือหนาหยอกล้อเล่นกับยอดอกข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างก็มีริมฝีปากคอยชิมความหวานนั้น
 
“อือ....พอ”
ภาคนิพนธ์พยายามดันปาฏิหาริย์ให้ออกห่างเมื่อไม่รู้เลยว่าความรู้สึกของตนตอนนี้เป็นแบบไหน ทรมาน แต่ก็ต้องการ
 
ปาฏิหาริย์ยอมถอนใบหน้าออกมาจริงๆ จนคนที่ดันออกต้องถอนหายใจแผ่วเบา ไม่อยากยอมรับ แต่ว่าภาคนิพนธ์ยังต้องการ และต้องการมากกว่านี้ด้วย
 
“คุณ....อือ”
 
สายตาหวานเชื่อมที่มองมาและมือที่คล้องคอปาฏิหาริย์ไว้ไม่ยอมปล่อย บ่งบอกความต้องการของร่างข้างใต้ได้เป็นอย่างดี นั้นทำให้ปาฏิหาริย์ยิ้มบนใบหน้าก่อนจะก้มลงหาซอกคอขาวนั้นอีกครั้ง ปาฏิหาริย์จูบไล่ไปจนถึงไหล่ขาว ตลอดทางที่เขาได้สัมผัส เต็มไปด้วยรอยมาร์ก สัมผัสเจ็บนิดๆนั้นทำให้ร่างบางครางออกมาได้ทุกครั้งจนคนฟังชอบใจ และยิ่งทำมันมากขึ้น
 
 
แก่นกายของภาคนิพนธ์กำลังก่อตัวขึ้นช้าๆ และปาฏิหาริย์รับรู้ได้ถึงการขยายตัวของมัน เขาเอื้อมมือลงไปลูบไล้
 
“อือ........อ๊ะ...อย่า”
 
กางเกงนอนถูกดึงลงอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งชั้นใน และมือหนาก็กอบกุมเอาส่วนนั้นไว้อย่างรวดเร็ว  ในขณะที่อีกมือเลื่อนลงจากยออกสู่สะโพกมน
 
“อ๊ะ...อย่า...อย่า”
 
มือขยับรูดรั้งให้แก่นกายนั้นมีปฏิกิริยามากขึ้น จนหยาดหยดแห่งความต้องการของอีกฝ่ายค่อยๆรินไหลออกมาทีล่ะน้อย นิ้วเรียวเคล้นคลึงที่ช่องทางด้านหลัง ก่อนจะกดแทรกเข้าสู้ส่วนลึกช้าๆ
 
“อ๊ะ.....อย่า....จะทำอะไรน่ะ”
 ภาคนิพนธ์สะดุ้งสุดตัว เขากระเถิดตัวหนีโดยอัตโนมัติ นั่นทำให้ทุกอย่างหยุดลงกะทันหัน
 
“คุณๆ จะทำอะไรผม”
 
ปาฏิหาริย์มองหน้าอีกฝ่ายที่ฉายแววสงสัยมาอย่างชัดเจนด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย แน่ล่ะเขาไม่อยากให้ใครมาขัดจังหวะตอนนี้ ตอนที่อารมณ์ของทั้งเขาและภาคนิพนธ์น่าจะเตลิดไปถึงไหนต่อไหน
 
“ทำไมถามแบบนั้น”
 
น้ำเสียงห้วนๆที่ส่งไปทำเอาคนฟังหน้าเสียลง และเริ่มสำนึกได้ว่าตนได้ขัดจังหวะอะไรไป แต่ว่าการทำแบบนั้น มันเพื่ออะไรกันล่ะ
 
“ผมก็แค่ไม่เข้าใจ ว่าคุณกำลังจะทำอะไร”
 
ปาฏิหาริย์ไม่เข้าใจว่าภาคนิพนธ์กำลังพยายามทำเป็นไม่เข้าใจ หรือว่าไม่เข้าจริงๆกันแน่ แต่เขาไม่คิดจะถาม  เขาเลือกที่จะเลื่อนกายเข้าหาร่างนั้นอย่างแผ่วเบา  ภาคนิพนธ์ขยับหนี แต่คราวนี้ปาฏิหาริย์ก็ไวพอจะตรึงร่างนั้นไว้
 
“ไม่จำเป็นต้องหนีหรอก”
เขาปรับน้ำเสียงให้นุ่มลง ร่างข้างใต้ไร้อาภรณ์นี้มันช่างยั่วตายวนใจนัก แล้วยังกลิ่นหอมอ่อนๆนี่อีก แต่ไม่ถ้าหากภาคนิพนธ์ไม่เต็มใจ เขาก็จะไม่ทำ
 
“จำได้ไหม ถ้านายไม่เต็มใจฉันจะไม่ทำ”
ปาฏิหาริย์พูดแล้วกอดอีกฝ่ายไว้แนบอก พยายามสกัดความพลุ่งพล่านของตัวเองไว้อย่างสุดความสามารถ จริงอยู่ว่าตอนนี้เขาต้องการร่างตรงหน้านี้เป็นอย่างมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะหักหาญน้ำใจอีกฝ่ายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
 
ภาคนิพนธ์เกร็งตัวแน่นก่อนจะเริ่มผ่อนคลายเมื่ออ้อมกอดที่ได้รับไม่ได้ทำให้รู้สึกแปลกๆอีกแล้ว....แต่เขาก็รับรู้ได้เช่นกันถึงความต้องการของร่างสูงที่ก่อตัวขึ้นภายในกางเกงนอน ใบหน้าเนียนแดงซ่าน ก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนไม่เคยคิดจะทำ
 
มือเล็กนั้นกอดตอบปาฏิหาริย์ก่อนจะจุมพิตที่ข้างแก้มอีกฝ่าย
 
“นี่ ทำแบบนี้จะยั่วกันเหรอ”
 
ภาคนิพนธ์รีบหยุดการกระทำทันทีเมื่อน้ำเสียงอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
 
“ปะ...เปล่าครับ ...ผมก็แค่...เออ...ถ้าคุณต้องการ”
 
ปาฏิหาริย์ถอนหายใจอย่างอ่อนใจ ทั้งๆที่เขาพยายามจะหยุด แต่ดูเหมือนภาคนิพนธ์จะทำให้ความพยายามนั้นสูญเปล่าไปอย่างง่ายดาย
 
“นายจะบอกว่าอนุญาตเหรอ”
ใบหน้าหวานแดงซ่าน ก่อนจะพยักหน้าถี่ๆ
 
“เต็มใจ?”
ยังคงพยักหน้าอยู่แบบนั้น
 
“คราวนี้ต่อให้ร้องขอฉันก็ไม่หยุดแล้วนะ”
คราวนี้ภาคนิพนธ์นิ่งไปเหมือนกำลังคิด ก่อนที่ในที่สุดเขาจะพยักหน้าอีกครั้ง
 
ปาฏิหาริย์ยิ้ม เขาจูบเบาๆที่ขมับของร่างข้างใต้ ก่อนจะยันตัวขึ้นเล็กน้อย และถอดเสื้อนอนของเขาออก ภาคนิพนธ์มองร่างกายอีกฝ่ายด้วยความทึ่ง ร่างกายแบบที่เขาไม่มีและอยากได้ คนๆนี้ อายุน้อยกว่าเขาแท้ๆ แต่กลับมีกล้ามเนื้อที่สวยงามบ่งบอกถึงการดูแลรักษา และสุขภาพที่ดีของเจ้าตัว
 
“ต่อให้นายร้องไห้ ฉันก็จะทำจริงๆนะ”
ปาฏิหาริย์พร่ำขู่ แต่เมื่อภาคนิพนธ์ยังนิ่งอนุญาต ใบหน้าคมนั้นจึงเลื่อนลงมาอีกครั้ง  เขาจูบที่ขมับอีกที ก่อนจะละเรื่อยลงไปยังใบหู ล่ามลงไปถึงซอกคอและลาดไหล่ ปาฏิหาริย์เห็นรอยที่ตนทำไว้ก็ยิ้มอย่างพอใจ และไม่ลืมที่จะทิ้งไว้เพิ่มอีก
 
เขาก้มต่ำลงมา ก่อนจะหยุดที่ยอดยกอันแดงก่ำและชูชันจากการหยอกเย้าก่อนหน้านี้
 
“อ๊ะ......อึก”
 
ฟันคมงับเข้าตรงส่วนปลายเบาๆ มันไม่ได้ทำให้เจ็บ แต่ก็ทำเอาร่างบางไม่สามารถควบคุมตัวเองให้อยู่ติดที่นอนได้
 
“อึก....อึก”
 
แก่นกลางลำตัวถูกกระตุ้นให้ขยายตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมๆกับที่นิ้วมือ ถูกส่งเข้าไปสำรวจยังช่องทางด้านหลัง
ทั้งๆที่เจ็บ แต่เมื่อโดนกระตุ้นไปพร้อมๆกัน เขาก็ชักแยกไม่ออกว่าอันไหนรู้สึกมากกว่ากัน
 
“อ๊ะ......เดี๋ยว..เดี๋ยวก่อน”
 
ถึงแม้เสียงร้องอ่อนระโหยจะดังขึ้น แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ ร่างสูงยังคงสอดใส่นิ้วเข้าไปและเริ่มขยับเมื่อรู้สึกได้ถึงการตอบรับที่มากขึ้น
 
“อ๊ะ...อา”
จำนวนนิ้วเพิ่มจากหนึ่งเป็นสองและเป็นสามในที่สุด
 
“อา....พอที...พอก่อน”
แก่นกายด้านหน้ายังคงมีหยาดน้ำรินไหล และหยาดน้ำเหล่านี้เองที่เป็นตัวช่วยในการหล่อลื่นของนิ้วมือในช่องทางปาฏิหาริย์มองดูร่างกายที่น่าจะพร้อมสำหรับตนเองแล้วก็ถอนนิ้วออกมา
 
เขาถอดกางเกงอย่างช้าๆไม่รีบร้อน ส่วนแข็งแกร่งขยายตัวเต็มที่บอกความต้องการอย่างล้นเหลือ ปาฏิหาริย์ทาบทับร่างกายลงมาอีกครั้ง  ก่อนจะค่อยๆสอดใส่ร่างกายเข้าสู่ช่องทางร้อน
 
“อ๊ะ....อย่า”
คนถูกรุกรานน้ำตาซึ่ม ความเจ็บมากมายเข้าจู่โจม ภาคนิพนธ์รู้สึกมึนหัว เวียนหัวราวกับกำลังจะหมดสติ แต่ดูแล้วคนที่กำลังทำตามความพอใจของตัวเองจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นง่ายๆ
 
ปาฏิหาริย์ก้มลงจูบที่ขมับขออีกฝ่ายไว้ราวกับต้องการปลอบใจ มือที่กอบกุมแก่นกายก็ขยับเพื่อเพิ่มอารมณ์ให้มากขึ้น เขารับรู้ว่าร่างกายนี้เจ็บมากแค่ไหนที่โดนรุกราน แต่ว่าสำหรับปาฏิหาริย์แล้วเขาคงทนมากกว่านี้ไม่ไหว
 
“อ๊ะ....อึก”
เมื่อช่องทางเริ่มผ่อนคลาย การขับเคลื่อนจึงเริ่มต้น สะโพกแกร่งขยับช้าๆเบาๆให้ภาคนิพนธ์ได้ปรับตัวมากขึ้น และเมื่อความเจ็บปวดเริ่มจางหายไปจากใบหน้า  เขาจึงเริ่มขยับเร็วขึ้น
 
“อ๊ะ....อ๊ะ....”
โดยไม่เข้าใจ แต่ภาคนิพนธ์กลับขยับรับจังหวะนั้นอย่างง่ายดาย ตอนนี้สติแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ได้แต่คล้อยตามอีกฝ่ายไปเท่านั้น
 
“อ๊ะ....อา”
จังหวะยิ่งถี่กระชั้นมากขึ้น เมื่ออารมณ์พุ่งสูงขึ้น
 
“อึก....อ๊ะ...ไม่ไหวแล้ว...อา...”
 
ของเหลงขุ่นถูกปลดปล่อยออกมาเปรอะเต็มหน้าท้องเนียน รวมไปถึงมือใหญ่ที่กอบกุมส่วนนั้นอยู่ด้วย  ช่องทางร้อนบีบรัดให้อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ปาฏิหาริย์ฟุบลงบนตัวร่างบ่างอย่างเหนื่อยหอบ สองเสียงหายใจประสานกัน ก่อนที่ร่างหนาจะพลิกตัวลงมาเพราะกลัวว่าร่างข้างใต้จะแบนไปซะก่อน
 
“คุณ...จูบผมหน่อย.....ได้ไหม”
 
เสียงเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจ ปนอาการเหนื่อยหอบดังขึ้น ปาฏิหาริย์มองหน้าคนถาม แล้วแนบริมฝีปากลงไปแผ่วเบา ภาคนิพนธ์ยิ้มพอใจกับสัมผัสที่ได้รับ เขาต้องการแค่จูบอ่อนโยนเล็กน้อย เพราะเมื่อครู่ พูดไม่ได้เลยว่าปาฏิหาริย์อ่อนโยน แม้สติเลือนรางแต่เขาก็รับรู้ และที่สำคัญปาฏิหาริย์ไม่ได้จูบเลยแม้สักครั้ง
เขากำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้วตอนที่ริมฝีปากนั้นแนบลงมาอีกที
“อืมมมม”
แต่คราวนี้มันต่างไป ลิ้นร้อนเข้ารุกรานภายในเรียวปาก สำรวจชิมความหวานในทุกซอกทุกมุม  เรียกร้องให้ภาคนิพนธ์ตอบสนองซึ่งเขาก็ตอบกลับไปอย่างเงอะงะ แต่ดูท่าอีกฝ่ายจะพอใจกับการตอบรับนั้น เพราะดวงตาคู่สวยยิ้มอย่างพอใจเต็มที่
มือหนาเริ่มเปะปะไปทั่วร่างกายขาวเนียนอีกครั้งอย่างบอกความต้องการ ภาคนิพนธ์พยายามขยับหนี เขารู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ และตอนนี้ก็เจ็บมากจนไม่อยากทำเรื่องที่เพิ่งผ่านพ้นมาอีก แต่เขาจะขยับได้ไงในเมื่อร่างสูงใหญ่กักเขาไว้ใต้ร่างแบบนี้ ปาฏิหาริย์ถอนริมฝีปากออกมาเล็กน้อยให้ร่างบางได้พักหายใจ แต่ก็เพียงชั่วครู่เรียวปากนั้นก็โดนครอบครองอีกครั้ง ราวกับกลัวเสียงประท้วงที่กำลังจะดังขึ้น
 
 
“อือ....อืม”
 
เสียงจากลำคอเบาบางเมื่อยามที่ช่องทางด้านหลังถูกรุกรานอีกครั้งด้วยนิ้ว นิ้วมือเรียวเข้ากวาดเอาสิ่งที่คั่งค้างเมื่อครู่ออกมา น้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาปะปนกับสีแดงของเลือด จากนั้นปาฏิหาริย์ก็เข้ารุกรานอีกครา  แต่คราวนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยน ปาฏิหาริย์รุกรานอย่างอ้อยอิ่ง เชื่องช้า มือที่เข้าสัมผัสแก่นกายด้านหน้ากระตุ้นแผ่วเบาให้ภาคนิพนธ์มีอารมณ์ร่วมแบบค่อยเป็นค่อยไป
 
“อา....อืม.....”
 
สะโพกแกร่งขยับด้วยจังหวะช้าๆ รอให้ภาคนิพนธ์ตามอารมณ์ได้ทัน ริมฝีปากที่ผละออกมาจากเรียวปากอิ่มก็ชิมความหวานของผิวเนียนอย่างไม่เร่งร้อน แต่ยังคงไม่ลืมที่จะทิ้งรอยเอาไว้
 
จังหวะเริ่มเพิ่มเร็วขึ้นเมื่อมีการตอบสนองจากร่างบางมากขึ้น
 
“อึก...อา”
“อา...”
 
ภาคนิพนธ์ไปถึงจุดหมายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่ไปถึง ร่างที่กำลังเหนื่อยหอบหลังจากปลดปล่อยถูกจับให้คว่ำลงทั้งที่ด้านหลังยังเชื่อมต่อ
 
“อึก...อึก”
ใบหน้าซบลงกับผ้าปูที่นอนมือกำผ้าไว้แน่นราวกับต้องการระบายอารมณ์ จังหวะรักยังคงดำเนินไปพร้อมกับเสียงเนื้อกระทบกันและเสียงเฉอะแฉะน่าอายดังไปทั่วห้อง สติของภาคนิพนธ์เริ่มเลือนหายไปทุกที ทุกที เขารับรู้ถึงสายน้ำร้อนที่ถูกฉีดพ้นเข้าสู่ภายในร่างกายของตนเป็นสิ่งสุดท้าย แล้วทุกอย่างก็ดับวูบไป
.............................
…………….
……………….
……………………
……………………..
 tbc
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 07-03-2013 04:56:40
ตาหวานนนนน!!! มีแผนไรหงะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 07-03-2013 07:21:53
เ้กิดความผิดพลาดทางอารมณ์ขึ้นแล้ว ส่วนแผนการที่วางไว้กับปัฐวีจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ......
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ จุ๊บจิ๊บ
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 07-03-2013 08:30:55
ได้แล้วจะทิ้งกันเหรอ!!!
โกรธนะ โกรธๆ :m16: :m31:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 07-03-2013 09:25:29
 o22 o22 o22 o22ตาหวานจะทำอะไรภาคอะ :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 07-03-2013 09:39:38
ถ้าทำให้ภาคเสียใจไปมากกว่านี่โดน  :beat: :z6: แน่
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 07-03-2013 10:00:41
แผนอะไร
ฮือ เค้าสงสารภาคอ่า
ตาหวานอย่าใจร้ายกับภาคอีกเลย
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 07-03-2013 11:54:14
อร๊ายยยยยยย อย่าทำร้ายภาคได้ไม
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ares_jum ที่ 07-03-2013 12:13:54
เฮ้ !!! ตาหวาน  :z6:

ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าตาหวานโตขึ้นจะเป็นคนแบบนี้

นิสัยไม่ดีเลยอ่ะ แย่จริงๆ

แค่เรื่องตอนเด็กๆ ถึงกับผูกใจเจ็บขนาดนี้ มันเว่อร์ไปนะ   :angry2:

คิดว่าน่าจะเป็นคนดีกว่านี้แท้ๆ ผิดหวังนะ . . .
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 07-03-2013 15:28:35
อย่าทำร้ายภาคนะ ฮือๆๆ แค่นี้ภาคก็น่าสงสารจะแย่อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 07-03-2013 15:52:40
ยังคงไม่รู้ว่าตาหวานต้องการอะไร

ที่แน่ ๆ ...สงสารภาค

ตาหวานเอ๊ย!!! จะทำอะไรก็ทำไป ขออย่างเดียว อย่าเชรี้ย!!!! เหมือนจอมไตรคนอื่น ๆ นะ!!!!!

อ่านแล้วปวดใจจริง ๆ เฮ้อ~
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 07-03-2013 16:13:39
ภาคน่าสงสารอะ TT^TT

ตาหวานอย่าทิ้งภาคไปเลยนะ
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 07-03-2013 17:21:35
ทำไมแก้แค้นรุนแรงอย่างนี้อ่ะตาหวาน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 07-03-2013 18:48:29
...โห....เผด็จศึกกันเร็วไปไหม คู่นี้
...นี่มัน..แผนรัก..แผนร้ายยยยยยย ชัดๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: Kray ที่ 07-03-2013 19:01:34
ภาคเจอเรื่องร้ายๆมาตั้งแต่เด็ก
ถ้าตาหวานมาทำให้ภาคเจอฝันร้ายอีก

ภาคจะแย่ขนาดไหน

ตาหวานเอ๊ยยยยยยยย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: MaYoonHo ที่ 08-03-2013 00:10:01
ตาหวานคนนั้นหายปไหน คน ี่น่ารักๆอ่อนโยนขี้กลัวตอนต้นเรื่องหายไปไหนแล้ววววว งื้อ
ตอน แรกที่อ่าน ดิน*ปาม นึกว่าตาหวานจะคู่กัพี่นินสะแล้ว 5555 ไหงผลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไดัล่ะนี่
อยากรู้ว่าตาหวานจะทำอะไรวาฃแผนอะไรอยู่ ออบสงสารภาคนิพนธ์นะที่เหมือนถูกหลอก
ถามจริงตกหลุมรักกันและกันแล้วแต่แค่ยังไม่รู้ตัวใช่มั้ย? แค่ยังไม่อยากยอมรับ ยังไม่อยากทำความเข้าใจ ใช่ป่ะ?
งื้ออออออออ ตามต่อค่าาาา   รอร   เห ออ
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 08-03-2013 09:47:50
ใครสอนตาหวานนะเนี่ย 555+
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-03-2013 03:34:47
ยังไงก็ไม่เข้าใจความคิดของตาหวาน  :เฮ้อ:

กะอีแค่เรื่องทะเลาะกันในสมัยเด็ก 
ถึงกับต้องมาวางแผน ทำลายชีวิตคน คนนึง ถึงขนาดนี้เลยหรอ  :เฮ้อ:

ทำไมถึงคิดได้แบบนี้อ่ะ  ถ้าเป็นคนรู้จักนี่จะด่าถึงเหง้าเลยนะ 
ที่บ้านสอนกันยังไงไม่ทราบเนี่ย  เพราะ ตรรกะความคิดแบบตาหวานเนี่ย  เรียกว่า  เลว เลยเหอะ
หัวข้อ: Re: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 5 7/3/56 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 10-03-2013 09:05:26
ตาหวานอย่าทิ้งภาคนะ ภาคน่าสงสารออก ไอ้พ่อเลี้ยงนั่นก็คอยจ้องจะงาบอยู่

ถ้าภาคเป็นอะไรขึ้นมา คนที่จะเสียใจและจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ก็คือตาหวานเองนะ

การล้อเล่นกับความรู้สึกคนอื่นน่ะมันมีแต่จะเจ็บด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายนะ



ปล. ขอตีพี่วีซักทีได้ป่ะ ตัวเองเป็นพี่แท้ๆ แทนที่จะห้ามน้อง กลับส่งเสริมน้องซะอีกแน่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 10-03-2013 16:41:49
ตอนที่6
 
“คงไปทำงานมั้ง”
ภาคนิพนธ์พูดกับตัวเองเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าที่นอนข้างตัวว่างเปล่า 10 โมงกว่าแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ปาฏิหาริย์จะไม่อยู่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไม ทำไมในใจมันถึงรู้สึกหวิวๆ ชอบกล ราวกับกำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
 
ภาคนิพนธ์รีบส่ายหัวไล่ความคิดไร้สาระเหล่านั้นทิ้งไป หลังจากเกิดเรื่องเมื่อคืนขึ้น คงเป็นธรรมดาล่ะมั้งที่จะเกิดความรู้สึกแปลกๆ ก็เมื่อคืน เมื่อคืน…..
 
ใบหน้าเนียนแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ เขารีบพาร่างตัวเองลงจากเตียงไปอาบน้ำ ....แม้ร่างกายจะไม่เอื้ออำนวย แต่ภาคนิพนธ์ก็คิดว่าการมานั่งแกร่วอยู่บนเตียงแบบนี้มันไม่เหมาะซักเท่าไหร่
 
หลังจากอาบน้ำชำระล้างร่างกายแล้ว เขาก็กินข้าวตามปกติ รดน้ำต้นไม้ตามปกติ
 
แต่แล้วภาคนิพนธ์ก็ต้องแปลกใจ........โทรศัพท์มือถือถูกปิดไว้ เขาจำได้ว่าไม่ได้เป็นคนปิด และแบตก็เพิ่งชาร์ตไป เขาคิดเอาว่าคงเป็นตัวเองที่ลืมตัวเผลอไปโดนเข้า
 
หลังจากเปิดเครื่อง ข้อความที่ส่งเข้ามามากมายก่ายกอง เป็นการบอกว่าตลอดเวลาที่ปิดเครื่องมีคนโทรมามากขนาดไหน เบอร์เดิม ซ้ำๆ เป็นเบอร์ที่ภาคนิพนธ์ไม่คุ้นตา ความหวั่นใจเริ่มมีมากขึ้นเมื่อคิดได้ว่าเบอร์ที่โทรเข้ามานี้เป็นตู้โทรศัพท์สาธารณะ และที่สำคัญ เบอร์ช่างใกล้เคียงกับเบอร์โรงพยาบาลเหลือเกิน ความหวาดกลัวเริ่มถาโถมเข้าใส่ภายในใจอีกครั้ง  ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะกดโทรไปยังเบอร์โรงพยาบาล
 
“ผมภาคนิพนธ์ครับ ไม่ทราบว่าคุณแม่”
“ค่ะ พอดีเลยค่ะ เชิญคุณภาคนิพนธ์แวะเข้ามาหน่อยนะคะ”
“ไม่ทราบว่าคุณแม่”
“ไม่ค่ะ ไม่ได้มีอาการน่าเป็นห่วง แต่มีเรื่องสำคัญค่ะ”
“ครับ แล้วผมจะแวะ”
 
ภาคนิพนธ์สบายใจขึ้นมาหน่อยเมื่ออาการของแม่ไม่ได้แย่ลง แต่มีเรื่องสำคัญอะไรกันนะ
 
.................................................
“ค่ารักษา 1 ล้าน 2 แสนบาท”
ภาคนิพนธ์หยิบกระดาษบิลค่ารักษาพยาบาลมาดูด้วยความตกใจ
 
“ครับ เราผ่าตัดโดยแพทย์มือหนึ่ง เครื่องมือทันสมัยที่สุดสั่งตรงมาจากนอกโดยใช้กับคุณพัลลภาเป็นคนแรก ยาที่ใช้ก็เป็นยาที่ดีที่สุดเช่นกันครับ แล้วก็ค่าห้องพัก ค่าอาหาร รวมทั้งหมดก็ราวๆนี้แหละครับ”
 
มือบางยกกุบขมับเบาๆ อยากจะถามว่าแล้วปาฏิหาริย์ล่ะ ว่าอย่างไรบ้าง แต่ว่าก็ละอายใจเกินกว่าจะถามออกไป จำนวนเงินไม่ใช่น้อยๆ ถึงที่นี้จะเป็นโรงพยาบาลของบ้านจอมไตร แต่การจะรบกวนปาฏิหาริย์ขนาดนั้นคงไม่ดีแน่
 
“ครับ ผมจะรีบจัดการเลย”
ภาคนิพนธ์มองดูใบเสร็จที่ระบุวันครบชำระในหนึ่งอาทิตย์นี้แล้วก็ขอตัวออกมาจากห้องนั้น
 
เขาไม่รู้เลยว่าค่ารักษาของแม่จะมากขนาดนี้ ตอนแรกภาคนิพนธ์ไม่ตั้งใจจะไปหาแม่ แต่แล้วเขากลับเจอแม่ตัวเองยืนอยู่ที่ตู้โทรศัพท์ พร้อมกับที่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
 
“แม่ครับ”
เขาเดินไปหาแม่ที่ตู้โทรศัพท์ ภาคนิพนธ์สังเกตเห็นว่าแม่ตนนั้นสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียก แล้วใบหน้าที่ซีดขาวกว่าปกติอยู่แล้วก็ยิ่งซีดขาวมากขึ้นไปอีก
 
“แม่เป็นอะไรครับ”
เขารีบเข้าประคองแม่ไว้ ก่อนจะพยุงร่างนั้นกลับไปในห้อง
 
“ภาค...แม่ขอโทษนะลูก”
ทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง พัลลภาก็ปล่อยโฮ  แล้วพร่ำแต่ขอโทษลูกชาย ภาคนิพนธ์ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็ปล่อยให้แม่ร้องไห้จนพอใจ พัลลภาร้องไห้อยู่นาน จนในที่สุด เธอก็เริ่มสงบลง
 
“วันนี้ ปาฏิหาริย์เขามาหาแม่”
น้ำเสียงที่เค้นออกมาอย่างยากลำบาก ทำเอาภาคนิพนธ์ที่นิ่งฟัง รู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
 
“เขาบอกว่า.....”
พัลลภาหยุดพูดไปแค่นั้น เธอไม่รู้ว่าจะเรียบเรียงคำพูดออกมาได้อย่างไรให้ทำร้ายจิตใจของลูกชายน้อยที่สุด ส่วนด้านภาคนิพนธ์นั้น แค่ดูอาการของแม่ก็รู้แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ใบหน้าเนียนเกร็งแน่น พยายามหายใจให้สม่ำเสมอ เขาจะต้องทนให้ได้ ไม่ว่าสิ่งที่แม่ตนจะบอกนั้นจะเป็นเรื่องแบบไหน
 
“บอกแม่ว่าที่ผ่านมาทั้งหมด เขาหลอกพวกเรา”
“.....”
“เขาไม่เคยรักลูก ที่ทำไปทั้งหมดเพื่อทำลายชีวิตลูกและแม่เท่านั้น”
“.....”
“เพราะว่า เพราะว่าแม่เคยเกือบทำลายครอบครัวของเขา”
“.....”
พัลลภานิ่งเงียบมองใบหน้าลูกชายที่ยังคงนิ่งเฉย แต่แววตาที่แสดงออกมานั้นมันบอกได้ดีว่าเจ้าตัวรู้สึกเสียใจมากแค่ไหนกับเรื่องที่ได้ยิน ภาคนิพนธ์ยังไม่เชื่อร้อยเปอร์เซ็น เขาแอบคิดว่าแม่ตนอาจจะเข้าใจอะไรผิด หรือว่าโกหกตนเพื่ออะไรสักอย่าง แต่เมื่อพัลลภาพูดต่อ ภาคนิพนธ์ก็ปฏิเสธไม่ได้อีกแล้ว ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง
 
“เขาบอกว่า ได้สิ่งที่ต้องการแล้ว พอใจแล้ว”
พัลลภาพูดเสียงเบา เธอไม่รู้ว่าปาฏิหาริย์หมายถึงเรื่องอะไร แต่ภาคนิพนธ์รู้ดี เรื่องเมื่อคืน การที่เขายอมเป็นของอีกฝ่ายด้วยความเต็มใจ มันเป็นเหมือนการยอมรับว่าเขารักปาฏิหาริย์ และหากปาฏิหาริย์ต้องการทำให้เจ็บละก็ ไม่มีช่วงเวลาไหนจะดีเท่าเวลานี้อีกแล้ว ตอนที่ภาคนิพนธ์ไว้ใจอีกฝ่ายอย่างที่สุด รักอีกฝ่ายเต็มหัวใจ และมอบร่างกายให้ด้วยความเต็มใจ
 
“เราน่าจะรู้”
ภาคนิพนธ์บ่นกับตัวเองเบาๆ ใช่ตัวเขาเองน่าจะรู้ คนไม่มีอะไรดึงดูดคนอื่น ไม่มีเสน่ห์ ไม่มีความน่าสนใจ จะเอาอะไรไปให้คนอย่างปาฏิหาริย์มาหลงรักด้วยการเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งได้
 
ตอนนั้นทำไมไม่คิดให้ดีนะ
 
พัลลภามองดูลูกชายที่เงียบไป แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้ หรือแสดงอารมณ์ใดๆออกมาด้วยความเป็นห่วง เธอไม่รู้เลยว่าลูกชายกำลังคิดอะไร แต่ก็อดโล่งใจไม่ได้ที่ได้บอกลูกชายออกไปแล้ว
 
..................................................
 
ในห้องไม่มีของๆปาฏิหาริย์หลงเหลืออยู่เลย ที่จริง มันไม่มีอะไรอยู่เลยมากกว่า เป็นการยืนยันว่าสิ่งที่แม่ของภาคนิพนธ์พูดนั้นเป็นเรื่องจริงแน่ๆ  ก่อนเดินขึ้นมา เจ้าหน้าที่ข้างล่างบอกเรื่องการเลิกเช่าห้องให้ภาคนิพนธ์รู้ กำหนดการย้ายออกภายในหนึ่งอาทิตย์ ภายในหนึ่งอาทิตย์ ภาคนิพนธ์ต้องหาเงินมาจ่ายค่าโรงพยาบาลของแม่ ต้องหาที่อยู่ใหม่ ต้องหาโรงพยาบาลใหม่ ต้องหางานทำ....................ในหัวที่ยุ่งเหยิงค่อยๆเรียบเรียงสิ่งที่ต้องทำต่อๆกันออกมา......ร่างบางทรุดตัวลงนั่งยังกลางห้องอันว่างเปล่า .....ไม่มีอะไรเหลือ เฟอร์นิเจอร์ ถ้วยชามหรืออะไรก็ไม่เหลือทั้งนั้น......ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยนอกจากตัวเขาเพียงคนเดียว
 
หยาดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้มานานค่อยๆรินไหล
 
อกหัก โดนหักหลัง โดนหลอก โดยคนที่เขาคิดว่าสามารถไว้ใจได้มากที่สุดในโลก ภาคนิพนธ์ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเองด้วย ...
 
“ทำไมเรื่องนี้ต้องมาเกิดกับเรา....”
เสียงสะอื้นดังก้องไปทั่วทั้งห้องที่ว่างเปล่า ร่างบางชันเข่าขึ้นมากอดตัวเองไว้ ซบหน้าร้องไห้
 
ถ้าเรื่องไม่ดีที่เกิดขึ้นมาตลอดชีวิตของภาคนิพนธ์ทำให้ภาคนิพนธ์เจ็บแล้วล่ะก็ เรื่องพวกนั้นก็คงเป็นแค่หนามเล็กๆตำมือเท่านั้น ภาคนิพนธ์ก็เพิ่งจะเข้าใจวันนี้เองว่าคำว่าเจ็บเจียนตายมันเป็นอย่างไร
............................................
เงินที่เหลือเก็บเพียงน้อยนิดนั้นทำให้ภาคนิพนธ์สามารถหาที่อยู่ใหม่ได้ในวันรุ่งขึ้น สภาพห้องห่างไกลจากคำว่าดูดี แต่เมื่อคิดถึงราคาแล้ว คงหาที่ถูกขนาดนี้ได้ยาก
 
ห้องเช่าที่แต่เดิมเป็นเพียงอาคารพานิชสามชั้นธรรมดา ถูกกั้นเป็นห้องเล็กๆ ถึงชั้นล่ะ 5 ห้อง ด้วยผนังไม้อัดบางๆ  ห้องน้ำรวมชั้นล่ะสามห้องเล็กๆ ถึงแม้จะดูไม่ดีนัก แต่โดยรวมที่นี้ก็สามารถเป็นที่หลับที่นอนสำหรับภาคนิพนธ์เพียงคนเดียวได้
 
ภาคนิพนธ์ไม่คิดจะกลับไปรบกวนเรือชาเพื่อนของตนอีก เขาไม่อยากให้เพื่อนต้องโดนร่างแหไปด้วย เขาไม่รู้เลยว่าปาฏิหาริย์จะพาลใส่เรือชาตอนไหน และเขาไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น
 
และทั้งๆที่ยังมีเวลาให้หาที่อยู่ใหม่อีก 6 วัน แต่ภาคนิพนธ์ไม่อยากรอถึงตอนนั้น เขาไม่ต้องการอยู่ในสถานที่ๆเป็นความทรงจำ จะเรียกว่าดีหรือไม่ดีดีล่ะ เอาเป็นว่า ภาคนิพนธ์ไม่อยากอยู่ในสถานที่ๆเป็นความทรงจำจอมปลอมเหล่านั้น  ออกมาได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
 
..................................................................
ปัญหาต่อมา.......เงินตั้งล้านกว่า ภาคนิพนธ์จะไปหามาจากที่ไหน นั่นสิ จะไปหามาจากที่ไหนได้เล่า
 
ร่างบางหยุดยืนที่หน้าบ้านหลังใหญ่โต ที่ซึ่งไม่ได้มาเยือนนับตั้งแต่ก้าวเท้าออกมา
 
บ้านทำนองพัน
 
ยามเฝ้าประตูรีบเปิดประตูทันทีที่เห็นว่าผู้มาเยือนเป็นใคร
 
นายมานิชรอโอกาสนี้มานานแสนนานแล้ว
 
เขารู้ว่าไม่ช้าก็เร็ววันนี้จะต้องมาถึงแน่ๆ วันที่ภาคนิพนธ์โดนปาฏิหาริย์ทิ้ง และสิ่งต่อมาที่ภาคนิพนธ์จะทำเป็นเรื่องที่สามารถเดาได้ไม่ยากเลย
 
จากการสืบของมานิช เขารู้ดีว่าค่ารักษาพยาบาลของพัลลภาน่ะแพงแค่ไหน ปาฏิหาริย์ตั้งใจให้ราคามันสูง ข้อนี้เขาก็รู้ และที่รู้ดีไปกว่านั้น ปาฏิหาริย์ไม่คิดจะจ่ายค่ารักษาให้ตั้งแต่แรก แต่ก็คงไม่ได้บอกออกไป รอจนแผนการอะไรซักอย่างสำเร็จ แล้วจึงเฉลยทุกสิ่งออกมา
 
แล้วภาคนิพนธ์ก็จะอับจนหนทาง ไม่สามารถหาเงินมากมายมาจ่ายค่ารักษาของแม่
 
ทางแรกที่ภาคนิพนธ์จะเลือก จึงเป็นการเดินเข้ามาหาตนไม่ผิดแน่ ......และวันนี้เอง ที่นายมานิชมีรอยยิ้มอย่างสะใจ
 
ภาคนิพนธ์มาหาเขาจริงๆ
 
.........................................
................................................
.....................................................
tbc
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 10-03-2013 17:20:21
ตาหวานนายมันซาตานนน :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 10-03-2013 17:28:55
 :pigangry2: :beat: :beat: :z6: :z6:
ฉานว่าแล้วไง ตาหวาน...แล้วเธอจะเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
บอกตรงๆ ถึงแม้จะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกบีบหัวใจเหลือเกิน :o12:
เค้าเป็นกำลังใจให้ภาคนะ แต่ถ้าตาหวานมาง้อจะต้องเล่นคืนหนักๆ เลยนะ
โอ้ย อยากจะร้องไห้ อยากอ่านตอนต่อไปแล้วคร้าาาา :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-03-2013 17:56:58
สาแก่ใจหรือยังล่ะตาหวาน ภาคเจ็บเจียนตายขนาดนี้ แถมยังต้องจนใจมาหาพ่อเลี้ยงใจทรามแบบนี้ เหมือนตายทั้งเป็นไปแล้วล่ะ :angry2:
เป็นกำลังใจให้ภาคนะ สู้ๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-03-2013 18:01:27
พ่อแม่บ้านนั้น ได้สอนลูกมั่งป่าว  อยากจะรู้
ทำไมถึงได้มีความคิดเสื่อมๆแบบนี้ได้วะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 10-03-2013 18:07:49
เหอะๆใจร้ายจังนะตาหวาน
แอบโกรธแถมเสียใจแทนภาคจริ้ง!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-03-2013 18:17:09
ตระกูลตบหัวแล้วลูบหลัง :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: fangjunk ที่ 10-03-2013 18:21:20
 :m16:  แค่เคยแล้งกันตอนเด็กๆ  แล้วรู้ทั้งรู้ว่าภาคต้องเจออะไรบ้างยังไปแกล้งอีก  แกมาช่วยภาคไม่ทันแก  o18  เตรียมตัวเลยตาหวาน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 10-03-2013 19:18:04
....ทำไว้เจ็บแสบ ก็ขอให้ภาคตอบแทนตาหวานให้สาสมเหมือนกันนะ
....นิสัยไม่ดีนี่หว่าตาหวานเนี่ย แล้วภาคมันไปรู้เรื่องของพ่อแม่ที่ทำไว้หรือเปล่าล่ะ
....มานี่ซิตาหวาน :z6: :beat: นายเอกเรื่องนี้โดนสาหัสอีกแล้ว ถ้าเค้ามาซื้อด้วยใจ ก็ไม่ต้องขายเค้าละภาคนิพนธ์ให้เค้าทุกข์ทรมานเยอะๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ChiOln ที่ 10-03-2013 19:23:51
โอ๊ยอะไรเนี้ย ทำไมใจร้าย

ทำไมทำลายชีวิตคน ๆ นึงได้ ToT  :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 10-03-2013 19:24:51
ขอให้คนที่เจ็บปวดมากที่สุด คือตาหวาน :amen: :amen: :amen:
มันสั้นไปไหม??? :sad4:
มาต่อเร็วๆนะ :call:
 :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 10-03-2013 20:03:06
เข้าใจว่าพัลลภา อาจจะไปทำอะไรผิดไว้ แต่เอามันมาลงที่ภาค ภาคผิดอะไรกัน

ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ เกลียดบ้านจอมไตรแล้ว ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

เราเข้าใจความรู้สึดของคนที่ถูกบ้านจอมไตรเล่นงานแล้ว แต่เล่นงานแบบนี้

ยังมีหัวใจอยู่รึเปล่า ไม่คิดหน้าคิดหลัง คิดแต่จะเอาคืน ผู้ใหญ่ก็ปรึกษาแล้วด้วยนี่ ความดีในภาคอื่นๆหายไปไหนหมด

เราเข้าใจนะ ว่าถ้ามายุ่งกับบ้านจอมไตรต้องได้รับการแก้แค้น

แต่ไม่เห็นความจริงใจที่ภาคมอบให้เลยหรือ? ไม่คิดจะรักภาคสักนิดเลยหรือ?

สืบมาหมดแล้วนี่ ก็น่าจะรู้ว่าภาคย่ำแย่แค่ไหน น่าสงสารปานใด

ไม่มีหัวใจ หึ!

วันใดที่คิดจะมาง้อ ไม่ขอเชียร์ให้ภาคให้อภัย ต่อให้ไปตาย (ซึ่งคนบ้านจอมไตรไม่ทำจริงๆหรอก)

ก็ไม่ต้องการให้ภาคใจอ่อนให้

ไม่มาง้อยิ่งดี! อ่อ ทรมานภาคแค่นีิ้ กลั่นแกล้งกันขนาดนี้ก็พอแล้วนะ ปล่อยภาคไปเถอะ.

ส่วนภาคก็ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาจ่านค่ารักษาพยาบาล ต้องฝืนใจตัวเองไปหาคนที่กลัวที่สุด ขยะแขยงที่สุด หึ สะใจแล้วใช่ไหมปาฏิหาริย์

เสียใจมาก ถึงจะเดาได้อยู่แล้ว แต่มันก็แอบหวังให้เปลี่ยนใจไม่ได้

เชอะ!! เกลียดขี้หน้า เกลียดปฐวี เกลียดปาฏิหาริย์!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 10-03-2013 20:22:26
ขอบคุณนะ....ที่ทำให้เหตุการณ์เป็นแบบนี้...มันไม่สมเหตุสมผลเลย.....ไม่เข้าใจ....แต่คงสะใจนายแล้วใช่ใหม??...นายปาฎิหาริย์
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 10-03-2013 20:29:04
สงสัยมากว่า ยังจะจ่ายเงินอีกหรอ  ไม่รู้จักหรือไง ไม่มี ไม่หนี้ ไม่จ่าย หน่ะ 

ในเมื่อพวกจอมไตร มันทำกับเราถึงขนาดนี้แล้ว  ยังจะไปหาเงินมาให้มันอีกหรือไง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 10-03-2013 21:42:53
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:ตาหวานใจร้ายที่สุดเลย :m16: :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: thisispom ที่ 10-03-2013 22:03:04
ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ สงสารภาค T_T
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 10-03-2013 22:14:52
ตาหวานโหดร้ายกับภาคไปนะ T____T
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 10-03-2013 23:28:53
บอกได้คำเดียวว่าใจร้ายที่สุด
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Masochism ที่ 10-03-2013 23:49:47
ตาหวานนิสัยไม่ดี

น้องภาคน่าสงสาร  :o12:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 11-03-2013 01:18:40
เลวมาก!!!
ลูกก็ส่วนลูก แม่ก็แม่ คนละคน
(อินไปติดส์555)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 11-03-2013 01:42:04
ขอให้ตาหวานแข็งใจได้อย่างปากว่านะ ถ้าภาคจะต้องไปเป็นของคนอื่นจริงๆ ก็อย่ามาโวยวายทีหลังล่ะ

ส่วนภาคก็ถือว่าฟาดเคราะห์ทำทานไปละกันนะ แล้วก็ขอให้หนูแคล้วคลาดจากไอ้พ่อเลี้ยงหื่นนั่นด้วย

ตาหวานมาง้อก็อย่าใจอ่อนนะลูก คนแบบนั้นต้องให้รู้สึกซะมั่ง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 11-03-2013 07:34:09
อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้อ่าน ตรองดูแล้วพิจารณา ชื่อปาฏิหาริย์ มันแปลว่าอะไร หึ หึ หึ ......
+1 ให้เป็นกำลังใจ แม้ตอนนี้จะได้รับก้อนอิฐ มากกว่ากำลังใจก็ตาม  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 11-03-2013 10:08:38
หวานหมูนายวานิชเลยซิ  เฮ้อ กรรมของเจ้าภาคมัน   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: เทพมังกร ที่ 11-03-2013 10:36:02
อยากจะด่าตาหวาน แต่ตอนนี้ตาหวานก็มีคนด่ามามากแล้ว ก็เลยขอให้กำลังภาคแทน :m15:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 11-03-2013 11:43:03
ชอบมากๆมาต่อไวไวน้า o13

โคตรอินเลยอ่ะ

ติดตามจอมไตรทุกภาค ชอบภาคนี้ที่สุดเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 11-03-2013 13:35:44
ทั้ง ๆ ที่พอจะคาดเดาได้ แต่พออ่านตอนนี้แล้ว...ผิดหวังกับตาหวานที่สุด

ตอนของไม้กับกลอนที่ว่าบีบคั้นอารมณ์สุดขีด อ่านแล้วยังเจ็บใจน้อยกว่าตอนของคู่นี้

เืชื่อว่าหลังจากนี้ตาหวานอาจจะแทรงทำเป็นยื่นมือเข้ามาช่วย แล้วรังแกภาคต่อไปแน่ ๆ

เฮ้อ~ สงสารภาค สู้ต่อไปนะทาเคชิ!!!

สาบส่งไอ้พวกจอมไตรจริง ๆ เลวกันทุกคน = =''
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-03-2013 13:47:13
ทำเกินกว่าเหตุ ซ้ำเติมคนที่กำลังลำบาก
ชีวิตคงหาความสุขได้ยาก
โตมาด้วยความรัก ทำไมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นไปได้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 11-03-2013 14:58:05
ถึงจะอ่านเรื่องนี้จบไปแล้ว
แต่พอกลับมาอ่านในเล้าอีกรอบ
ก็เกลียดตาหวานที่ทำแบบนี้กับภาคทุกครั้งที่อ่านอยู่ดี
สงสารภาค T T
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: pooy ที่ 11-03-2013 17:29:44
มาลงคืนนี้เลยนะครับ  สงสารภาค มากๆๆเลย เกลียดคนใจร้ายแบบตาหวาน  :z10: :z10: :z13: :z6:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Kray ที่ 11-03-2013 17:58:01
เม้นไม่ออกเลย

ทำไมร้ายได้ขนาดนี้ ชีวิตเขาก็ไม่ค่อยมีความสุขอยู่แล้ว ยังมาซ้ำเติมกันแบบนี้อีก

หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: 7th SensE ที่ 11-03-2013 19:48:52
เจ็นจนจุกอ่ะ ตาหวานใจร้าย มาอัพต่อเร็วๆนะคะสงสารภาค
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 12-03-2013 02:56:56
จาก ฉากรัก แล้วมา ฉากเรียก น้ำตาเลยเหรอ


 :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 12-03-2013 09:22:10
ร้ายไม่แพ้จอมไตรคนอื่นๆ
สงสารภาค โกรธตาหวานมากๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: pooy ที่ 13-03-2013 16:23:05
เมื่อไหร่จะมาต่อเนี้ย ได้แต่รอๆ ๆๆๆๆๆๆๆ  รอแล้วรออีกๆๆๆๆ   :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 13-03-2013 17:11:08
ตาหวานใจร้ายจัง TT^TT

สุดท้ายแล้วรักนี้ก็ต้องจบ
ได้คบได้พบก็เพื่อลาจาก
ต่อให้ทำมาดีแค่ไหน มันก็ต้องเจ็บ
เก็บรักที่เหลือไว้ให้ตัวเอง
จะเหงาเคว้งคว้างก็ต้องทนอยู่
ให้ใจมันเรียนรู้ ว่ารักแท้ไม่มีจริง

(รักแท้ไม่มีจริง - Muzu มูซู)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-03-2013 19:29:32
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 15-03-2013 23:32:18
ตะกูลจังไร  เอ้ย!!  จอมไตรนี่เป็นแบบนี่ทุกคนคนสสินะ !ตั้งแต่พ่อยันลูกเลย-3- ไม่นับปาล์มและกลอน และอาของนิน นะ,เห้อลูกๆของคุณดิน('.')
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 16-03-2013 15:27:58
ตอนที่7


“สวัสดีภาค”
ใบหน้าอมยิ้มเจ้าเล่ห์ อย่างคางคกที่ภาคนิพนธ์เกลียดนักเกลียดหนาแสะยิ้มด้วยความพอใจ แขนข้างหนึ่งยังคงใส่เฝือกเอาไว้ ทำให้ภาคนิพนธ์อดคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้น

“มาหาลุงวันนี้มีอะไรรึเปล่าเอ่ย”

“ผมจะมาขอยืมเงิน”

ใบหน้านิ่งเฉย น้ำเสียงไร้อารมณ์ทำให้มานิชหงุดหงิดนิดหน่อย เขาอยากเห็นคนตรงหน้าร้อนรนมากกว่านี้ อยากต้อนให้ภาคนิพนธ์ดูย่ำแย่มากกว่านี้

“เฮ.....เท่าไหร่กันจ๊ะ”
“ล้านห้า”

ภาคนิพนธ์พูดออกไปโดยกะแล้วว่า ระยะเวลาที่แม่ตนยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลนั้น ค่ารักษาคงพุ่งขึ้นมาอีกตามเคย

“เงินไม่ใช่น้อยๆเลยนะนั่น”

“ผมยินดีทำทุกอย่าง”

มานิชพอใจเป็นอย่างมาก เขายิ้มอย่างยินดี เดินเข้าไปใกล้ร่างผอมบางขาวเนียน ก่อนจะแตะที่ใบหน้านั้นอย่างพึ่งพอใจ

“หึดี งั้นก็ได้ แต่ฉันคงต้องขอนิดหน่อยเป็นการมัดจำไว้ก่อน”

ใบหน้าที่ยิ้มราวกับปิศาจร้ายไม่ได้ทำให้ภาคนิพนธ์สั่นไหวสักนิด

จริงอยู่ว่าภาคนิพนธ์กลัวคนๆนี้มาตลอด กลัวมากมาย แต่ว่าตอนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไรภาคนิพนธ์ก็คงไม่รู้สึกเจ็บมากกว่านี้อีกแล้ว ไหนๆก็ไหนๆ ก็ปล่อยให้มันเลวร้ายเพิ่มขึ้นอีกซักนิดจะเป็นไร

เสื้อเชิ้ตตัวบางถูกถอดออกเผยแผ่นอกเปล่าเปลือย อวดสายตา มานิชกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะลูบไล้ไปทั่วผิวบางนั้น

รอยจางๆเล็กๆกระจายเต็มหน้าอกเนียนบ่งบอกได้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ นายมานิชไม่โกรธสักนิดที่เห็นรอยเหล่านั้น กลับยิ้มอย่างพอใจเสียอีก

ก็เขารู้ได้เลยว่าเจ้าของรอยนี้ ทำให้คนตรงหน้าเจ็บมามากแค่ไหน นี่แหละที่เขาต้องการ และต่อไป มานิชจะทำให้ภาคนิพนธ์เจ็บมากขึ้นไปอีก เจ็บจนนึกเสียใจที่ไม่สามารถตายได้เลยเชียว

มืออวบอูมลูบไล้ไม่หยุด ภาคนิพนธ์รังเกียจสัมผัสเหล่านั้น แต่ก็ยังคงยืนเฉยและตีหน้านิ่ง มือนั้นลดลงต่ำหมายจะแกะกางเกงร่างบางออก แต่แล้วอยู่ๆ ร่างของนายมานิชก็ทรุดลงไปต่อหน้าต่อตาภาคนิพนธ์

“แม่!!!”

พัลลภายืนอยู่ข้างหลังร่างที่ทรุดลง ในมือถือแจกันประดับห้องไว้ก่อนจะรีบปล่อยทิ้งทันที

“แม่มาทำอะไรเนี่ย!”
ผู้เป็นแม่ไม่ตอบคำถาม แต่วิ่งเข้ามาคว้าเสื้อยัดใส่มือเป็นเชิงบอกว่าให้ใส่ซะ ซึ่งภาคนิพนธ์ก็ยอมใส่แต่โดยดี
ภาคนิพนธ์ก้มลงดูอาการนายมานิชแล้วก็เห็นว่ายังคงหายใจอยู่จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาใช้โทรศัพท์โทรไปเรียกรถพยาบาลก่อนจะเก็บแจกันที่มีลายนิ้วมือแม่ออกมาด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการออกมาของทั้งสองคนเป็นไปอย่างง่ายดาย เมื่อพัลลภาตีหน้าตาย บอกยามว่า จะพาภาคนิพนธ์ไปเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ที่นี้ และพัลลภายังฝากจดหมายอะไรบางอย่างไว้ให้นายมานิชอีกด้วย

................................

“ลูกไม่ควรทำแบบนี้”
ทันทีที่ขึ้นรถแท็กซี่ พัลลภาก็พูดเสียงเบา น้ำเสียงสั่นไหวและใบหน้าเปื้อนน้ำตาของผู้เป็นแม่ทำให้ภาคนิพนธ์รู้สึกผิดขึ้นมานิดหน่อย ทั้งๆที่พัลลภายังเจ็บขาอยู่ แต่ก็ฝืนออกมาคนเดียว เพื่อห้ามเขา

“ลูกไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้นนะภาค”
พัลลภาร้องไห้เบาๆไม่สะอึกสะอื้นใดๆ เธอยังคงความเป็นผู้ดีเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้

“แต่ว่าค่ารักษา”
“ช่างมัน แม่ยอมนอนคุก ดีกว่าให้ลูกไปทำแบบนั้น”
เธอพูดพร้อมกับกำมือลูกชายไว้แน่น ใช่เธอเคยทำผิดมามาก ทั้งกับลูกชายของเธอเอง และคนที่ลูกชายของเธอเรียกว่าพ่อ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าคนๆนั้นฆ่าตัวตายเพราะเธอ

แต่เธอก็ยังไม่รู้สำนึก จนกระทั่ง ก่อนหน้านี้

ลูกชายที่ปฏิเสธการกลับมาอย่างเด็ดขาดเสมอกลับบินมาทันทีที่รู้ว่าเธอประสบอุบัติเหตุ ในขณะที่คนอื่นๆพากันถอยห่างสภาพย่ำแย่ของเธอ

พัลลภาเพิ่งรู่เดี๋ยวนั้นเองว่า เธอต้องการความห่วงใยอย่างจริงใจแบบนี้มากมายแค่ไหน

เธอจึงดีใจมากที่ปาฏิหาริย์มาบอกว่ารักลูกชายเธอ เธออยากให้ลูกได้ดี เธอไม่คิดว่าเด็กคนนั้นจะเอาเรื่องเมื่อหลายปีก่อนมาคิดแค้น และแก้แค้นเอากับลูกชายของเธอ ผู้ซึ่งไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยเลย

“แม่ขอโทษนะภาค แม่ขอโทษ”
พัลลภาร้องไห้ยิ่งขึ้น และยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อลูกชายของเธอดึงเธอเข้าไปกอดไว้ เธอไม่รู้เลยว่าอ้อมกอดเล็กๆจากภาคนิพนธ์นี่เอง เป็นสิ่งที่เธอควรจะโหยหามาตลอดชีวิต ไม่ใช่ชื่อเสียง เงินทอง หรือชีวิตที่สุขสบาย

แต่ตอนนี้ที่เธอได้มันมา มันกลับเป็นช่วงเวลาที่เธอไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นความสุข มือซีดบางกอดตอบลูกชายอย่างรักใคร่ และขอลุแก่โทษ

.....................................................

ก่อนหมดอาทิตย์นั้นเงินล้านกว่าก็ถูกนำมาจ่ายให้โรงพยาบาล และภาคนิพนธ์ก็รับตัวแม่ออกมา และพาเข้าโรงพยาบาลเล็กๆ ซึ่งอยู่ห่างไกลตัวเมืองออกไป โรงพยาบาลเพียงแห่งเดียวที่ยอมรับพัลลภาเข้าเป็นคนไข้ หลังจากที่ภาคนิพนธ์พยายามติดต่อมาเกินกว่า 20 แห่ง....ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นฝีมือใครที่ทำให้ไม่มีโรงพยาบาลไหนกล้ารับ

พัลลภาไม่รู้ว่าลูกชายไปนำเงินมาจากที่ไหน ภาคนิพนธ์เองก็ไม่ได้บอกผู้เป็นแม่ บอกแต่เพียงว่า

“ยืมเพื่อนมา”

ซึ่งภาคนิพนธ์ก็ยืนยันหนักหนาว่าจะไม่คิดสั้นๆอย่างการยอมมอบร่างกายกายนี้ให้ใครอีกแล้ว

โรงพยาบาลเล็กๆ แต่กลับมีคนไข้แน่นเอี๊ยดเพราะที่นี้ค่ารักษาถูกยิ่งกว่าโรงพยาบาลรัฐบางแห่งเสียอีก หมอและพยาบาลกว่าครึ่งเป็นอาสาสมัคร และรับเงินค่าจ้างเพียงเล็กน้อย นั่นทำให้ที่นี้รักษาได้ถูกกว่าที่อื่น

หมอบอกว่าการผ่าตัดของโรงพยาบาลจอมไตรนั้นดีมาก ทำให้อาการพัลลภาดีขึ้นนั่นทำให้ภาคนิพนธ์เบาใจได้เยอะ อย่างน้อยๆเขาก็รู้สึกว่าการเสียเงินเป็นล้านนั้นไม่ได้สูญเปล่าเสียทีเดียว

แต่ปัญหามันหลังจากนี้ต่างหาก

ภาคนิพนธ์หางานทำไม่ได้ ทั้งๆที่เขาจบเมืองนอกมา มหาวิทยาลัยที่จบนั้นก็เป็นที่รู้จัก แถมเกรดที่ได้มาก็อยู่ในเกณฑ์ดี แต่กลับไม่มีใครรับเข้าทำงานสักราย

นี่ก็คงเป็นหนึ่งในอิทธิพลของบ้านจอมไตรใช่ไหม เขากุมขมับอย่างเหนื่อยล้า เงินที่มีอยู่ก็น้อยนิดเสียจนไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะพอกินไหม ถ้ายังไม่ได้งานตอนนี้ต้องแย่แน่ๆ ไอ้จะโทรไปยืมคนอื่นอีกก็เห็นจะไม่ไหว

ตอนนั้นเองที่ป้ายรับสมัครงานเด่นขึ้นมาตรงหน้า

ไม่ว่างานอะไรก็ต้องทำ ในเมื่อเขาไม่สามารถเลือกงานได้
“ใช่ว่าไม่เคยลำบากที่ไหน”
ภาคนิพนธ์พูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนตัดสินใจเดินเข้าไปสมัครงาน

“ที่นี่เราจะล้างจานสองรอบนะ สามทุ่ม กับตอนเที่ยงคืน ให้ค่าจ้างวันล่ะร้อย จ่ายทุกวัน หลังล้างรอบที่สอง เลี้ยงข้าวก่อนล้างรอบสามทุ่ม อยากกินอะไรก็บอกพ่อครัวได้”

ภาคนิพนธ์พยักหน้าทำความเข้าใจ และรู้สึกดีใจที่อย่างน้อยๆก็แน่นอนแล้วว่าในแต่ล่ะวันนั้นเขาจะมีข้าวกินแน่ๆ

เขาเดินไปตามทางและได้งานอีกสองที่
พนักงานทำความสะอาดที่ต้องเริ่มทำตั้งแต่ตีสี่ของทุกวันจนถึง 8 โมงเช้า และพนักงานที่ร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง

แม้ว่ารายได้จากทั้งสามที่รวมกันแล้ว มันจะยังไม่เท่าเงินที่ภาคนิพนธ์สมควรจะได้หากได้ทำงานตามวุฒที่เรียนมา แต่สำหรับตอนนี้ ภาคนิพนธ์คิดว่าแค่นี้ก็ดีแล้ว

..................................................
ภาคนิพนธ์ตื่นตั้งแต่ตีสี่ทำงานทำความสะอาดตึก และเลิกตอนแปดโมงเช้า ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ร้านสะดวกซื้อต่อจนถึงห้าโมงเย็น โดยไม่มีเวลาพัก จากนั้นเขาจะไปหาแม่ ก่อนจะไปทำงานล้างจานที่ร้านอาหารตอนสามทุ่ม และภาคนิพนธ์จะกินข้าวตอนนั้นเพียงมื้อเดียว ล้างเสร็จประมาณสี่ทุ่มครึ่งเพราะจานรอบแรกมีไม่มากนัก ภาคนิพนธ์จะเข้าไปงีบหลับในห้องพักพนักงาน ซึ่งเจ้าของร้านอนุญาตทันทีเมื่อรู้ว่าภาคนิพนธ์ทำงานสามที่ในแต่ละวัน จากนั้นเขาจะลุกขึ้นมาตอนเที่ยงคืนเพื่อล้างจานอีกครั้ง รอบหลังนี้จานมากหน่อยเพราะงั้นกว่าภาคนิพนธ์จะได้กลับถึงบ้านก็เกือบจะตีสองเข้าไปแล้ว เขาได้นอนเพียงชั่วครู่ก่อนจะตื่นมาทำงานอีกครั้งตอนตีสี่

ทุกวันวนเวียนไปแบบนี้ จะดีหน่อยก็ตรงที่ร้านสะดวกซื้อนั้นมีวันหยุดให้อาทิตย์ล่ะวัน ภาคนิพนธ์จะได้นอนเต็มที่ในวันนั้นเท่านั้น

ทั้งนอนน้อย แถมยังกินน้อย นั้นทำให้ร่างกายของภาคนิพนธ์ที่ผอมบางอยู่แล้วยิ่งผอมจนเห็นได้ชัด ทั้งๆที่เพิ่งผ่านไปแค่เดือนเดียวเองแท้ๆ พัลลภามองดูลูกชายด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่ว่าจะเตือนอย่างไรภาคนิพนธ์ก็มักจะบอกว่าทำไหว เธอจึงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้

ไม่สิ มันต้องมีอะไรที่ตนทำได้........................

..........................................................
“มาพบใครครับ”
“มาพบคุณปารมีค่ะ”
พัลลภาแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าบ้าน ก่อนที่เธอจะโดยสารรถกอล์ฟเข้ามายังตัวบ้าน เธอคิดมาอย่างดีแล้ว ในเมื่อเธอเป็นคนผิด คนที่สมควรรับกรรมก็คือเธอไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเธอจะต้องทนดูลูกชายของเธอลำบากด้วยเล่า

“สวัสดีครับ เชิญนั่งก่อนครับ”
“สวัสดีค่ะคุณปารมี ดิฉันพัลลภา คิดว่าคุณคงจำดิฉันได้”
ปารมีพยักหน้าเล็กน้อย เขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ แม้จะไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้วก็ตาม

ตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ วางแผนแย่ๆทำให้เขากับวสุธเกือบต้องแยกทางกัน หากตอนนั้น เขาเองไม่เชื่อใจวสุธาแล้วล่ะก็ เขา...ไม่อยากจะคิดเลย

ปารมีระวังตัวมากยิ่งขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องที่พัลลภาเคยทำ แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งตกใจเป็นที่สุด เมื่อร่างของเธอทุ่มตัวลงบนพื้น พัลลภาคุกเข่าก้มหน้าติดพื้น

“ขอร้องล่ะคะ เลิกทำลายชีวิตลูกชายดิฉันที”
ปารมีอึ้งไป เขากำลังงงว่าพัลลภาพูดเรื่องอะไร แต่ปารมีก็ลุกขึ้นยืน และพยายามบอกให้พัลลภาลุกด้วย เขารู้ว่าเธอร้องไห้ เพราะแรงสั่นของเสียงนั้น แต่เธอก็ไม่ได้ฟูมฟายออกมา

“เรื่องที่ดิฉันเคยทำ เป็นความผิดของดิฉันเอง ถ้ามีอะไรก็มาลงที่ดิฉันเถอะ อย่าทำลูกชายดิฉันอีกเลย”
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนครับ ลุกขึ้นมาพูดกันดีๆเถอะครับ”
ปารมีพยายามร้องแทรก แต่ดูเหมือน จะไม่ได้รับความสนใจ พัลลภายังคงก้มหน้าพูดในสิ่งที่อยากจะพูด

“จะเอาดิฉันไปฆ่าไปแกงที่ไหนก็ได้ ขอร้อง อย่าทำลายชีวิตลูกชายดิฉันอีกเลย แค่นี้แกก็เจ็บมากเกินพอแล้ว ดิฉันไม่อยากให้ลูกชายคิดโง่ๆ อย่างการยอมนอนกับมานิชเพื่อแลกกับเงินอีก ขอร้องล่ะค่ะ”
ปารมียังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรไปมากกว่านั้น

ร่างบอบบางที่ปารมีคุ้นตาก็ปรากฏที่หน้าห้อง

“แม่!!!”
ภาคนิพนธ์รีบวิ่งเข้าไปประคองผู้เป็นแม่ให้ลุกขึ้น ริมฝีปากสวยเม้มแน่นอย่างอดสู่ใจ เขาไม่คิดเลยว่าพัลลภาจะยอมทำถึงขนาดนี้
“ขอร้อง อย่างทำลายชีวิตลูกชายฉันอีกเลย”

เธอยังคงพร่ำพูดต่อ ภาคนิพนธ์กลืนก้อนสะอื้นลงคอ กลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา ต่อหน้าคนที่ได้ชื่อว่า เป็นพวกจอมไตร

“กลับเถอะครับแม่ อย่าทำแบบนี้”
ภาคนิพนธ์รู้ดีว่าแม่ตนนั้นรักศักดิ์ศรีมากแค่ไหน เขาไม่ต้องการให้แม่ต้องโดนดูถูกเหยียดหยามมากไปกว่านี้อีกแล้ว

“เดี๋ยวผมจะให้รถไปส่ง”
ปารมีพูดเสียงเบา เขามองภาพตรงหน้าด้วยความหม่นหมอง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่สภาพของภาคนิพนธ์และพัลลภา ห่างไกลจากคำว่าคนที่มีความสุขเป็นที่สุด เห็นแบบนั้นแล้ว ปารมีก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากไปส่งให้

“ไม่ต้องหรอกครับ”
ภาคนิพนธ์สวนมาทันควัน ใบหน้าเนียนขาวที่เคยมีเลือดฝาด บัดนี้มีเพียงสีขาวซีดและตอบลงไปมากจนแม้แต่ปารมีที่ไม่เคยได้ใกล้ชิดยังรู้สึกได้
“ผมไม่กล้ารับน้ำใจจากพวกคุณหรอกครับ เพราะผมรู้ซึ่งดีแล้วว่า น้ำใจเพียงแค่หนึ่งหยดเล็กๆของพวกคุณนั้น มันต้องแลกกับน้ำตาของผมและคนที่ผมรักมากมายมหาศาลแค่ไหน”

พูดจบ ร่างนั้นก็ประคองผู้เป็นแม่ออกไป

ปารมีทรุดลงนั่งกับเก้าอี้อย่างอ่อนเพลีย....เขายังจำพัลลภาได้ เธอเป็นผู้หญิงที่รักษาภาพพจน์อยู่ตลอดเวลา...แต่วันนี้ เธอคนนั้นกลับคุกเข้าต่อหน้าเขา ร้องไห้ไปพร้อมๆกับขอร้องไม่ให้เขาทำลายชีวิตลูกชายของเธอ...เขาไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น..... แต่ก็รู้ได้เลยว่าจะสามารถรู้เรื่องทั้งหมดได้จากใคร
...................................
.....................................
.........................................

TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Violet Rose ที่ 16-03-2013 15:41:22
 :z3: :z3: :z3: ค้างหง่าาาา
มาต่อไวๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 16-03-2013 15:54:47
เชรี้ย!!ได้ใจมากเลยนะตาหวาน

อ่านแล้วหงุดหงิด (ด้วยความที่อินมาก)

รอวันที่ตาหวานจะโดนจับตีก้น!!!

รีบมาต่อนะคะ รอค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 16-03-2013 16:02:54
อ่านแล้วนำ้าตาไหล คนแต่งสุดยอดอ่ะ รีบมาต่อนะค่ะๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 16-03-2013 16:13:28
...ภาค เข้มแข็งขึ้นเยอะเลย ประโยคสุดท้ายนี่ ทิ่มแทงใจคนฟังดีแท้ๆๆ
..ตาหวานคงต้องโดนปารมี เล่นงานแน่ๆ เพราะปารมีเป็นคนที่จิดใจดี และไม่เคียดแค้นคนอื่นนานๆๆ เหมือนตาหวาน จริงปล่าว
..กว่าแม่จะรู้ว่าลูกรัก และห่วงใยแม่มากแค่ไหน ก็เกือบ................................สาย :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 16-03-2013 16:41:23
อ่านแล้วว ตาหวานนายไปหดหัวอยู่ที่ไหนนน  :beat: :beat: :beat: :z3: :z13: :fcuk:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 16-03-2013 17:00:44
เรื่องเมื่อตอนอนุบาล. เจ้าคิดเจ้าแค้นได้ขนาดนี้. ถ้าคนแบบบ้านจอมไตรมีอยู่จริงก็ไม่ควรจะไปคบหาด้วยมากที่สุด
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 16-03-2013 17:09:55
มันเศร้า :sad4:อ่านไปน้ำตาคลอไป :o12:
อยากบอกว่ามันสั้นไปไหม? :z3:
 :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-03-2013 17:17:32
ภาคเข้มแข็งมากๆ สู้ต่อไปนะ :กอด1:
เกลียดตาหวานแล้ว ไร้เหตุผลสิ้นดี ขอให้เจ็บหนักๆเลยเถอะ เคือง :m16:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mujika_keita ที่ 16-03-2013 17:39:49
อิตาหวานอิเหี้________________ :m31:
@%%&*()%$#$%&*()_*&%$#@  :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Kray ที่ 16-03-2013 19:33:22
สงสารภาค แต่ชอบที่ภาคเป้นแบบนี้ ไม่ฟูมฟายเสียแล้วเสียไป ฮึดทำงานให้แม่กับตัวเองอยู่รอด
เข้มแข็งมาก

ส่วนตาหวาน ....ไปตายเถอะไป ลูกผู้ชายมากกกกกก ทำคนไม่มีทางสู้ได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 16-03-2013 19:54:03
ขอบคุณมากที่กรุณามาต่อใหทราบข่าวคราว....แต่ยิ่งอ่าน....ยิ่งช้ำใจ!!!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 16-03-2013 19:58:55
ย๊ากกกกก พ่นไฟ
ปวดหัวใจ ตาหวานนะตาหวาน
อย่ามาง้อละกันนนน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Masochism ที่ 16-03-2013 20:51:57
ภาคสู้ๆ โบกธงเชียร์ขาดใจ  :mc4:

มาต่อไวๆน่ะค่ะ อยากอ่านมากๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: finray ที่ 16-03-2013 21:01:54
โอ๊ย...อ่านแล้วเศร้าจริงไรจริง

แต่อยากอ่านต่อเร็ว ๆ ค่ะ  จะรอนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 16-03-2013 22:04:14
ชอบความใจสู้ ของภาค และดีใจมากที่แม่สำนึกได้ซะที
คุณปารมีใจดี้ ใจดี ตีก้น ตาหวานแรง เพราะนิสัยไม่ดีเกินไปแล้ว !!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 16-03-2013 22:40:07
ภาคสู้ๆน้า ขอให้ปารมีหาทางช่วยสองแม่ลูกนี้ด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 17-03-2013 01:40:13
จาดที่เคยชอบตาหวาน ตอนนี้เกลียดมาก!!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 17-03-2013 01:52:44
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:สงสารภาคอะตาหวานใจร้ายที่สุด :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 17-03-2013 02:08:36
เหอๆ  ก็นะ  ที่บ้านจอมไตรก็น่าจะมีความสุขดีหนิ
แต่ทำไม เด็กแต่ละคนทำตัวเหมือนไม่เคยมีพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ มาสั่งสอนแบบนี้ได้ก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 17-03-2013 11:55:04
อยากจะสมน้ำหน้านังพัลลภาแต่ก็สงสารภาค
หวังว่าปามคงจะเค้นความจริงจากตาหวานได้
แล้วจัดการให้มันถูกต้อง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 17-03-2013 12:14:36
ถ้าตาหวานได้ปารมีเลี้ยงคนเดียวคงไม่มีนิสัยแบบนี้
ปารมีจัดการตาหวานให้รู้จักคิดไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นทีเถอะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 17-03-2013 16:39:25
 :o12: :o12:   สงสารภาค   อิตา ตาหวานไปตายซะ  ชิ 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 17-03-2013 20:03:59
ฮื้อออออออออออ

ตาหวานแกไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ไสหัวมาเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!

มารับผิดชอบในสิ่งที่แกทำ เร็วๆเลย!!!!!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 17-03-2013 21:42:45
ตาหวานทำอะไร ทำไมผลมันเป็นแบบนี้
ดราม่าจัดมาก ภาคสู้ชีวิตยังกับดาวพระศุกร์
ต้องอย่าให้ตาหวานมันง้อสำเร็จ
แต่ว่ามันจะง้อเหรอ ท่าทางจะยังไม่สำนึกมั้ง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 17-03-2013 21:50:38
อยากอ่านต่ออออออออออ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-03-2013 22:51:11
ถ้าภาคต้องตกเป็นของมานิช
ถ้าภาคต้องทำงานหนักจนเจ็บป่วย
อยากทราบว่าคุณตาหวานไม่รู้สึกอะไรเลยใช่ไหม
กับคนที่คุณเหยียบย่ำในวันที่เขาก็เดือดร้อนหนักอยู่แล้ว
คุณจะเอาอะไรมาไถ่บาปที่ทำ ภาคอาจจะไม่ถือโทษโกรธ แต่ฉันไม่...(อินจัด)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 17-03-2013 23:35:42
อินจัดน้ำตาคลอเบ้า,
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 18-03-2013 10:43:26
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 18-03-2013 16:11:19
อัยยะห์!!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 18-03-2013 19:15:29
ตามอ่านทันแล้ว
ตาหวานเคยเคะน้อยสมัยเด็ก
โตมาเป็นเมะหล่อล่ำใจร้ายไปซะได้
และใจร้ายมากๆเลยด้วย
สงสารภาค   ปามรู้เรื่องแล้วจะช่วยอะไรได้มั๊ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 19-03-2013 00:41:16
 :m15: :m15:
สนุกมากๆ ครับ
อยากรู้ว่าตอนง้อ ภาคเนี้ย
ตาหวานจะง้อนานมั้ย
 :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 6 10/3/56 p.5
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 22-03-2013 19:46:00
มารอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-03-2013 21:41:38
รับก้อนอิฐไปอีกคันโต ๆ สำหรับตอนนี้
ปารมี คงกำลังหาคำตอบกับสิ่งที่ได้ยิน ..... คงไม่พ้นจากหลานชายตัวดี
เมื่ออะไร ๆ มันกระจ่างขึ้น  นายตาหวาน คราวนี้แหละ เพราะจอมไตรมีกฏของจอมไตรว่า ถ้าผิดคงต้องรับผิดชอบ
กับสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไป  :z1:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ จุ๊บจิ๊บ
ปล. หายไปนานเลยคราวนี้ มาต่อไว ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: shenta ที่ 22-03-2013 21:52:46
ในที่สุดก็อ่านทัน

ตาหวานโหดอะ แต่ก็ชอบ

 :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 22-03-2013 23:08:15
ตาหวานชั่วจริงๆเลยอ่ะ
สงสารภาค
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 23-03-2013 15:23:18
น่าจะมีอะไรมากว่าความแค้นของเด็กๆ
ถ้าตาหวานทำถึงขนาดนี้ แสดงความอ่อนด้อยด้านวุฒิภาวะมากๆ
บ้านจอมไตร โดยเฉพาะคุณปาม ไม่น่าสอนลูกหลานเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 23-03-2013 18:37:39
เข้ามารอคะ :call:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 23-03-2013 22:32:42
ลืมโพสมาสองตอนค่ะ  :-[

ตอนที่8


“นายอาจจะลืมตัวคิดว่าตัวเองเป็นเครื่องจักรอยู่นะตาหวาน”
เสียงจากห้องทำงานภายในบ้าน เป็นน้ำเสียงตำหนิเชิงหยอกเล่นของปฐพีฝาแฝดคนพี่ทำให้ปารมีชะงักเท้าที่จะเดินไปเข้าไปไว้

“ผมเปล่า”
คนพูดดูหงุดหงิดเกินความจำเป็นทำให้ปารมีแปลกใจไม่น้อย

“นายทำงานมากไป ตั้งแต่เรื่องนั้น”
ปฐวี ฝาแฝดอีกคนเอ่ยขึ้น

“ไม่ใช่!...ผมไม่เคยรู้สึกอะไรกับเรื่องนั้น!”

เสียงที่บ่งบอกว่า อีกฝ่ายตีได้ตรงจุด แต่อีกคนก็ยังปากแข็งไม่ยอมรับ

“เรื่องนั้นที่ว่า ใช่เรื่องลูกชายคุณพัลลภาหรือเปล่า”

ทั้งสามคนในห้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อเสียงปารมีดังขึ้นโดยไม่ได้คาดหมาย

แถมยังถามในเรื่องที่ปารมีไม่สมควรจะรู้อีกด้วย ทั้งสามคนต่างมองหน้ากันเป็นคำถาม ก็รู้กันอยู่แค่สามคน หากปารมีรู้เรื่อง ก็ต้องเป็นใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่ทั้งสามคนกลับส่ายหน้าให้กันเป็นเชิงบอกว่าไม่ได้พูด

“ไม่ต้องสงสัยหรอกครับ เอาเป็นว่าคุณปามรู้ก็แล้วกัน ว่าแต่ใครจะเป็นคนเล่าเรื่องนี้ให้คุณปามฟังดีล่ะ”
เมื่อยังคงเงียบไม่ตอบ ปารมีจึงเดินไปนั่งที่โซฟา

“มานี้สิ คุณตาหวาน”

ปาฏิหาริย์ลุกขึ้นแต่โดยดี เดินไปนั่งลงยังโซฟาตัวเดียวกันกับปารมี

“คุณปามคิดว่าเคยเห็นเด็กคนนั้นเดินกับคุณในห้างนะ”
ปาฏิหาริย์ส่ายหัวอย่างไม่มีทางออก ทำไมเขาไม่เช็คให้ดีก่อนนะว่าปารมีจะไปไหนวันไหน ทำไมดันไปจ๊ะเอ๋กันได้พอดีขนาดนั้น ทั้งๆที่เป็นเพียงครั้งเดียวแท้ๆที่ปาฏิหาริย์พาภาคนิพนธ์ไปห้างสรรพสินค้า

“ผม.....”

“อย่าว่าตาหวานเลยครับคุณปาม”
สองพี่น้องฝาแฝดรีบออกตัวแทนปาฏิหาริย์ แต่ก็พูดได้เพียงเท่านั้นเพราะปารมีส่งสายตาดุๆมาให้

“ว่าไงคุณตาหวาน”

ปาฏิหาริย์ยังคงเงียบ .... เค้าไม่ได้ไม่กล้าเล่าให้ปารมีฟัง แม้จะหวั่นใจในสายตาอยู่มาก แต่ที่ไม่พูดเพราะไม่รู้จะเริ่มยังไง

ปารมีมองปาฏิหาริย์ที่ตะกุกตะกักไม่เหมือนช่วงเวลาปกติก็ถอนหายใจออกมา

“เอาเป็นว่าคุณตาหวานไปทำอะไรเค้าบ้าง”

“เอ่อ.....”

“อะไรกันนั่งทำหน้าเครียดกันเชียว”

ยังไม่ทันได้เล่าอะไร วสุธาที่เพิ่งกลับจากทำงานก็เดินเข้าซะก่อน

สองฝาแฝดผ่อนลมหายใจออกมาเล็กน้อย เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรพ่อของพวกตนก็คงไม่ว่าอะไรนัก และก็คงช่วยเบรกปารมีได้บ้าง.....คงได้บ้าง....ไม่มากก็น้อยแหละนะ

“คุณดิน มาก็ดี มาฟังเรื่องลูกชายคนเล็กของคุณหน่อยแล้วกัน”

วสุธา มองหน้าฝาแฝดที่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือ แล้วเหลือบสายตาไปมองปาฏิหาริย์ผู้ถูกกล่าวถึงนั่งก้มหน้าราวกับรอการชำระความ เขานั่งลงข้างๆปารมี แล้วโอบกอดร่างปารมีไว้เป็นเชิงบอกว่าให้ใจเย็น

“ว่ามาสิคุณตาหวาน”

ปาฏิหาริย์สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็เล่าเรื่อง ตั้งแต่ไปเจอภาคนิพนธ์ที่อเมริกา ตอนไปงานแต่งของธรณิน จนถึงหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้

และแน่นอนว่าเหตุผลที่ปาฏิหาริย์ทำลงไป ไม่บอกปารมีก็รู้

“คุณทำเกินไปนะคุณตาหวาน”

ปารมีพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิชัดเจน

“เดี๋ยวก่อนสิปาม ที่ลูกทำน่ะ....”
“คุณดินไม่ต้องพูดเลยนะครับ”

ปารมีหันมาทำเสียงดุใส่วสุธา
“แต่ผมไม่เห็นว่าที่ลูกทำมันจะผิดเลยนะ”
“เฮ้อ........ตาต่อตาฟันต่อฟันสินะครับ”
ปารมีพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
ตัวเค้าเองอยู่ที่บ้านจอมไตรมากว่า 10 ปี เห็นวิธีการที่ผู้ชายบ้านนี้สอนลูกหลานแล้วก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนถึงได้ทำธุรกิจได้ดีกันนัก ความเมตตาสงสารจะมีให้เฉพาะผู้ที่สมควรได้รับจริงๆ ลงโทษคนผิดโดยไม่ปราณี ใครที่คิดเป็นศัตรูกับคนเพียงคนเดียวของบ้านนี้ ก็ต้องเตรียมใจเป็นศัตรูกับทุกคนในบ้านได้เลย

ปารมีเห็นด้วยกับเรื่องที่สอนให้รักกันในครอบครัว แต่ว่าเรื่องการต่อสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และการชดใช้อย่างเท่าเทียม ในความคิดของพวกเขา แต่มันดูมากไปสำหรับคนอื่น เป็นสิ่งที่เถียงกันเสมอกับวสุธา

“แต่ผมคิดว่ามันเกินไป เด็กผู้ชายคนนั้นไม่ได้มารู้เห็นอะไรด้วยเลย แต่ต้องมารับกรรมไปเต็มๆ.....นี่ก็เห็นว่าถึงขนาดยอมไปหาพ่อเลี้ยงที่เกลียดนักเกลียดหนาเชียว คงหมดหนทางจริงๆ”

ปารมีพูดแล้วก็ลอบมองใบหน้าของปาฏิหาริย์ที่กระตุกขึ้นมาทันที เป็นปฏิกิริยาที่มีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้นที่จะสังเกตเห็น
“ก็ยังดีที่คุณพัลลภาเค้าไปพาออกมาทัน ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง”
คราวนี้ปาฏิหาริย์ลอบถอนหายใจเบาๆคล้ายโล่งอก ปารมีเห็นแล้วต้องแอบส่ายหน้า พร้อมหันไปมองหน้าวสุธา อีกฝ่ายเองก็คงสังเกตเห็นเหมือนกันเลยได้แต่พยักหน้ารับ

“ยังไงก็ตาม คราวนี้คุณปามโกรธจริงๆ เรื่องมันตั้งแต่สมัยไหน แก้แค้นไป เค้าแค้นมาไม่จบไม่สิ้น คุณปามไม่เอาหรอกนะ”

“มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะครับ เค้าเกือบทำให้ครอบครัวเราแตกแยก เกือบทำลายครอบครัวเราเชียวนะครับ”

ปฐวีพูดขึ้นมาอย่างอดรนทนไม่ได้

“เค้าแค่เกือบทำลายครอบครัวเรา แต่เราไปทำลายชีวิตเค้า ซึ่ง คนที่โดนทำลายชีวิตเต็มๆน่ะ เค้าไม่ได้ทำอะไรให้เราเลยใช่ไหม”

“..............”
“.............”
“..............”

“คุณปามไม่ได้บอกให้ไปแก้แค้นคุณพัลลภานะ ถ้าจะเอาคืนเล็กๆน้อยๆ คุณดินเองก็เคยทำไปแล้ว....ใช่รึเปล่าครับ?”

วสุธาจำต้องพยักหน้ารับ ตอนนั้นเค้าเองที่กดดันพัลลภาทุกทาง และเป็นต้นเหตุใหญ่ที่ทำให้พัลลภากับนายมานิชแยกจากกันโดยเด็ดขาด....อย่างน้อยๆก็ทางพฤตินัยล่ะนะ

“ และการที่ไปหลอก แล้วหักหลังความเชื่อใจของคนอื่นน่ะ คุณปามเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าขออย่าได้ทำ”

“แต่ว่า.......”
“พอที ถ้ายังคิดกันไม่ได้ คุณปามก็ไม่มีอะไรจะพูด”

ปารมีว่าแล้วลุกขึ้น โดยไม่ฟังคำทัดทานจากใคร

วสุธาเองก็ได้แต่ส่ายหน้าให้ลูกๆเป็นเชิงว่าไม่สามารถช่วยได้

“ผมไม่เคยเห็นคุณปามโกรธขนาดนี้เลย”

ปฐวีแฝดคนพี่ถอนหายใจแรงๆอย่างเหนื่อยใจ แม้ปารมีจะดุจะเตือนพวกเค้าตามประสาที่คนเป็นแม่(?)สมควรจะทำ แต่ว่าไม่มีครั้งไหนที่ปารมีจะโกรธมากขนาดนี้

“ปามไม่ชอบคนทรยศหักหลัง ตัวปามเองน่ะโดนแม่ทอดทิ้งหักหลังมาตั้งกี่ครั้ง ทั้งๆที่รักและไว้ใจแม่ตัวเองที่สุด”
วสุธาเฉลยเรื่องให้ฟังคร่าวๆ ชายหนุ่มทั้งสามคนเคยได้ยินเรื่องมาบ้างแล้ว ก็เข้าใจในทันที

“แล้วผมต้องทำยังไงต่อไปล่ะครับเนี่ย”

ปาฏิหาริย์กุมขมับ ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรเพื่อให้ปารมีหายโกรธ

“เรื่องนั้น ลูกต้องคิดเองนะตาหวาน คุณปามของลูกสอนเสมอไม่ใช่หรือว่า เรียนผูกต้องรู้จักเรียนแก้น่ะ”

วสุธาพูดแบบนั้นพร้อมกับตบบ่าอย่างให้กำลังใจ แม้จะอยากช่วยลูกชายคนเล็กเพียงใด แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะหากปารมีรู้ ต้องโกรธเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแน่ๆ

...........................................
.......................................
...................................
...........................

TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 23-03-2013 22:34:20
ตอนที่ 9

ภาคนิพนธ์ถูไม้ม๊อบไปตามพื้นเช่นทุกวัน แม้วันนี้เค้าจะรู้สึกว่าไม้ที่ถืออยู่มันหนักกว่าเดิมก็ตาม ส่ายหัวไล่ความคิดไร้สาระนี้ออกไป ก็ไม้ม๊อปมันจะไปหนักกว่าทุกวันได้ยังไงล่ะ

เลิกคิดไร้สาระได้ก็จริง แต่พอไม่คิดเรื่องอะไรเลยความรู้สึกปวดตุบๆในหัวกลับเด่นชัดขึ้นมาแทน ภาคนิพนธ์หยุดเคลื่อนไหวพร้อมเดาะลิ้นด้วยความรำคาญใจ อาการแบบนี้เป็นมาหลายวันแล้ว และตัวเค้าเองก็รู้ว่ามันเกิดจากการนอนไม่พอ.....แต่ทำยังไงได้ล่ะเค้ายังจำเป็นต้องใช้เงินอยู่นี่

ร่างบางเริ่มถูไม้ออกไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันกลับไปโดนเท้าของคนที่มายืนตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ขอโท......”

คำขอโทษถูกกลืนหายเข้าไปในคอทันทีที่ภาคนิพนธ์เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร ปาฏิหาริย์มองใบหน้าซูบเซียวตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย

เค้าไม่ได้เห็นภาคนิพนธ์เลยตั้งแต่วันนั้น ตัวเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องทำเหมือนหลบหน้าไม่กล้าเจออีกฝ่ายด้วย แต่นั่นก็คือความจริง แค่คิดว่าต้องเจอภาคนิพนธ์ เขาก็รู้สึกเหมือนมีอะไรแหลมๆมาแทงในอก หากแต่ตอนนี้สำหรับปาฏิหาริย์แล้วมันดูเหมือนจะไม่มีทางเลือกอื่นอีก

“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

“แต่ผมไม่มี”

ภาคนิพนธ์หันหลังตั้งใจจะเดินหนีให้ห่างจากคนตรงหน้าทันที แต่ข้อมือแกร่งก็คว้าแขนร่างบางไว้ให้หยุดอยู่กับที่

“อ๊ะ....ปล่อยนะ”

“ฉันบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย นายอาจจะไม่ได้ยิน”

“ผมได้ยิน แล้วผมก็บอกคุณไปแล้วด้วยว่าผมไม่มี”

ภาคนิพนธ์ตอบกลับออกไป ทั้งสองคนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร..... ในที่สุด ปาฏิหาริย์เองที่เป็นคนทนไม่ไหว ยอมปล่อยมือจากร่างบาง

“ผมไม่อยากเจอหน้าคุณอีก คุณเองก็คงไม่อยากเจอผมเท่าไหร่ หวังว่าเราจะไม่ต้องเจอกันอีก”

ภาคนิพนธ์ทิ้งท้ายไว้ก่อนจะหันหลังเดินออกมา แม้ว่าขอบตาจะร้อนผ่าวเพราะต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ แต่ภาคนิพนธ์ก็ท่องไว้ในใจ ว่าจะไม่ยอมร้องไห้ต่อหน้าปาฏิหาริย์เป็นอันขาด

แม้ว่าจะรู้สึกเวียนหัวแทบขาดใจ แต่ภาคนิพนธ์ก็ยังพยายามฝืนเดินให้ตรงทางโดยไม่โซเซ ปาฏิหาริย์มองร่างที่ไม่แม้แต่คิดจะหันกลับมาอย่างตัดใจ พอเอาเข้าจริงๆก็ไม่สามารถบังคับภาคนิพนธ์ให้รับฟังและทำตามเค้าได้ ทั้งที่คิดว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้อีกฝ่ายยอมให้ได้แท้ๆ ปาฏิหาริย์ยิ้มให้ตัวเองอย่างสมเพชก่อนจะหมุนตัวกลับไปทางที่ตนมา



ตุ๊บ.....



เสียงอะไรกระแทกพื้นไม่ไกลนักเรียกความสนใจของปาฏิหาริย์ได้อีกครั้ง และนั่นทำให้เค้าต้องรีบถลาเข้าไปทางต้นเสียงทันที

ร่างที่ยังเดินหนีเค้าอยู่เมื่อครู่กองอยู่ที่พื้นอย่างหมดสภาพ คนที่ยังต่อร้องต่อเถียงกับเค้าก่อนหน้านี้หมดสติไปเสียแล้ว ปาฏิหาริย์รีบอุ้มร่างบางขึ้นมาและตรงไปยังรถของตนทันที



...................................

“ไม่เป็นอะไรมากครับ แค่ผักผ่อนไม่พอ ผลการเอ็กซเรย์ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ไม่มีตรงไหนแตกหัก แค่ฟกช้ำเท่านั้นครับ น้ำเกลือหมดก็กลับได้แล้วครับ”

หมอรายงานอาการของภาคนิพนธ์ที่นอนให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงอย่างค่อนข้างหวาดหวั่นเล็กน้อย

ก็ท่าทางนิ่งขรึมของปาฏิหาริย์ที่แสดงออกมานั้นถึงจะนิ่งเฉย แต่รัศมีกดดันที่แผ่ไปทั่วบริเวณนี้ ทำให้คุณหมออดหวาดหวั่นไม่ได้ เพราะถึงจะอายุน้อยกว่าหมอเกือบสองรอบ แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายคนหนึ่ง แล้วก็หันไปมองคนไข้ของตนพลางนึกถึงตอนที่ปาฏิหาริย์อุ้มร่างคนที่นอนบนเตียงมาด้วยความเร่งรีบและบอกให้เรียกหมอมาตรวจโดยด่วนนั้น ทำเอาเจ้าหน้าที่ทั้งโรงพยาบาลแตกตื่นกันเป็นการใหญ่ นั่นพอจะบอกได้ดีถึงความสำคัญของคนไข้คนนี้

“ขอบคุณคุณหมอมากครับ”

ปาฏิหาริย์เอ่ยหลังจากเงียบไปนาน คุณหมอจึงได้โอกาสขอตัวออกไปทำงานต่อ

ร่างสูงมองร่างบนเตียงแล้วถอนหายใจออกมา ไม่มีใครรู้ได้ว่าการถอนหายใจครั้งนี้ของปาฏิหาริย์เป็นเพราะอะไร หรือมีความหมายว่าอย่างไร ไม่มีใครเข้าใจ แม้แต่ตัวปาฏิหาริย์เอง ก็อาจจะไม่เข้าใจตัวเองด้วยเช่นกัน



..............................



ภาคนิพนธ์ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องไม่คุ้นตาห้องหนึ่ง เค้าพยายามเรียบเรียงความคิดว่าที่นี่คือที่ไหน แต่ไม่ว่าจะพยายามค้นในซอกความทรงจำใด ก็ไม่มีเลย ร่างบางลุกขึ้นช้าๆเพื่อไล่อาการมึนหัวเล็กๆออกไปให้หมด เป้าหมายคือชั้นวางหนังสือที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงที่เค้านอนนัก ที่นั่นมีกรอบรูปเล็กๆตั้งอยู่

ภาคนิพนธ์เอื้อมมือไปหยิบมาดูก่อนจะปล่อยมือทันทีราวกับเจอของร้อน



กรอบรูปหล่นลงพื้นแต่มันไม่แตก.. ใช่ ...ไม่แตก เพราะพื้นห้องนี้บุด้วยพรมอย่างดีทั้งห้อง แม้มันจะเดินได้นุ่มเท้าเพียงใด แต่ภาคนิพนธ์ก็ไม่อยากอยู่ที่ห้องนี้นานไปกว่านี้อีกแล้ว



“ตื่นแล้วหรือ”



เสียงดังขึ้นจากด้านหลัง ใกล้ๆตัว ทำเอาภาคนิพนธ์สะดุ้งและกระเถิบหนีทันที ปาฏิหาริย์มองกิริยาของคนตรงหน้าด้วยอาการวางเฉย เพราะเค้ารู้อยู่แล้ว่าอาการของภาคนิพนธ์จะต้องเป็นแบบนี้ และเพราะเค้าเองที่ทำให้ร่างบางมีอาการแบบนี้เวลาที่อยู่กับเค้า



ร่างสูงก้มลงเก็บรูปครอบครัวที่หล่นลงพื้น และนำกลับมาวางที่เดิมอย่างเงียบเชียบ ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งห้อง ไม่มีใครเอ่ยคำใดออกมา



ภาคนิพนธ์ยังคงสับสนมึนงงไม่เข้าใจ



ปาฏิหาริย์ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องเริ่มพูดยังไง ตรงไหน



“ที่นี่ที่ไหน”

ในที่สุด ก็ต้องมีฝั่งหนึ่งที่หมดความอดทนก่อน

“บ้านฉันเอง บ้านจอมไตร”

“ผมจะกลับ”

ทันทีที่รู้ว่าเป็นที่ไหน นี่คือสิ่งแรกที่ภาคนิพนธ์คิดได้ และพูดออกมา

“ฉันมีเรื่องต้องพูดกับนาย”

“แต่ผมไม่มี”

ประโยคเถียงกันเดิมๆก่อนหน้านี้ก็เป็นแบบนี้สินะ ปาฏิหาริย์คิดในใจอย่างสมเพชตัวเองที่ไม่สามารถพูดอะไรที่ดีไปกว่านี้ได้ ทั้งๆที่เค้าสามารถเจรจาธุรกิจหลายล้านได้ตั้งแต่อยู่ม.ปลายแท้ๆ แต่ทำไมแค่พูดเรื่องสั้นๆกับคนตรงหน้ามันถึงได้ยากได้เย็นนัก

“เฮ้อ......ฉันว่านายน่าจะลองฟังดูก่อน”

ในทีสุด ปาฏิหาริย์ก็เริ่มพยายามอีกครั้ง

“.........”

“ฉันอยากให้นายกลับมาคบกับฉันอีกครั้ง”

“.................................”

“..................................”

“.....................................”

“.......................................”

“คุณต้องบ้าไปแล้วแน่”

หลังจากที่เงียบกันไปชั่วอึดใจ ในที่สุด ภาคนิพนธ์ก็พูดออกมา

“............”

ปาฏิหาริย์ไม่ตอบ แต่ใช่ แม้แต่เจ้าตัวก็คิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแล้วแน่ๆ

“ตอนนี้นายกำลังลำบากใช่ไหม ฉันจะช่วยนาย แต่นายต้องกลับมาคบกับฉัน”

“................”

ภาคนิพนธ์มองปาฏิหาริย์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม จะช่วย ? ก็ที่เค้าลำบากอยู่ทุกวันนี้มันเป็นเพราะปาฏิหาริย์เองไม่ใช่หรือไง แล้วเค้าไม่คิดว่าคนที่ทิ้งเค้าไป และทำร้ายเค้าอย่างเลือดเย็นตรงหน้านี้จะอยากกลับมาคบกับเค้าจริงๆหรอก......หรือว่ามันจะเป็นไปได้....

“แม่นายมาหาคุณปามใช่ไหม นั่นทำให้คุณปามไม่พอใจฉันมาก”

เหตุผลสั้นๆที่พูดออกมาทำให้ภาคนิพนธ์หยุดความคิดใดๆไว้ รอยยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นบนใบหน้า เค้าไม่ได้เหยียดอะไรปาฏิหาริย์ แต่กำลังเยาะเย้ยตัวเองต่างหาก เยาะเย้ยที่ทั้งๆที่โดนคนตรงหน้านี้ทำร้ายมาเท่าไหร่ แต่ก็ยังไปเผลอใจคิดอะไรเข้าข้างตัวเองเมื่อปาฏิหาริย์มาขอให้คบด้วยอีกครั้งเมื่อครู่นี้ได้



“ผมไม่ตกลง”

“นายจะสบายขึ้น ฉันจะหางานที่เหมาะสมให้นายทำ และแน่นอนว่าหลังจากเลิกกันแล้ว จะไม่มีการสั่งแบนนายอีก”

“...............”

ที่ภาคนิพนธ์เงียบ ไม่ใช่เพราะว่ากำลังคิดตามข้อเสนอของปาฏิหาริย์ แต่ที่เงียบ เพราะว่ากำลังอึ้งกับสิ่งที่ออกจากปากผู้ชายคนนี้ คนที่ตนรัก ยังรักอยู่แม้เค้าจะทำร้ายตนเองมากมาย รักทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่เคยสนใจใยดีตนเองเลย คนที่พูดจาราวกับดูถูกกัน ราวกับตัวเค้าสามารถนำไปทำอะไรก็ได้ ราวกับเค้าเป็นสิ่งของ หาซื้อได้ด้วยเงิน ด้วยหน้าที่การงาน ...........แต่ทั้งๆที่โดนดูถูกเหยียดหยามมากขนาดนี้ ทำไมนะ ทำไม ทำไมเค้าถึงยังรักอีกฝ่ายไม่เปลี่ยนแปลง

ความเงียบเข้าครอบคลุม เมื่อปาฏิหาริย์ยังไม่ได้คำตอบ และภาคนิพนธ์ยังไม่สามารถจะคิดหาคำตอบได้ ความรู้สึกมันตีกันยุ่งไปหมด

“นายอาจจะอยากได้เวลาคิด แต่ช่วงนี้ขอให้อยู่ที่นี่ไปก่อน”

นั่นมันมัดมือชกกันไม่ใช่หรือไง

แม้จะอยากพูดอย่างนั้น แต่เมื่ออีกฝ่ายเดินหนีออกไปแล้ว ภาคนิพนธ์จะทำอะไรได้ ... หรือไม่ก็ไม่อยากจะทำอะไร

ร่างสูงยืนพิงกำแพงข้างประตูหน้าห้องตนเองแล้วหลับตาอย่างคนอ่อนแรง ปาฏิหาริย์ไม่ได้เดินไปไหนไกลกว่าหน้าห้องเลย ใช่เขายืนรออยู่ตรงนี้ รอ...หากว่าภาคนิพนธ์ขัดข้อง ไม่ต้องการอยู่ที่นี่ ปาฏิหาริย์ก็พร้อมจะพาอีกฝ่ายไปส่งในที่ๆอยากไป ... ถึงแม้จะอยากรั้งไว้และบังคับอย่างไร แต่ปาฏิหาริย์รู้ตัวเองดีว่าไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำอย่างนั้นได้เลย

สิ่งที่ทำให้ปาฏิหาริย์ตัดสินใจไปรับภาคนิพนธ์กลับมาคือการที่ได้พูดคุยกับวสุธาผู้เป็นพ่อซึ่งเข้ามาคุยกับปาฏิหาริย์เพียงลำพังเมื่อเช้านี้

................................

“บางครั้งคนเราก็รักทั้งที่คิดว่าตัวเองเกลียด และมันคงจะแย่ถ้าคิดว่าเกลียดจนทำให้อีกฝ่ายเกลียดเราไปด้วย ทั้งๆที่ที่จริง เรารักเขาต่างหาก”

ปาฏิหาริย์เข้าใจว่าวสุธาหมายความว่าอย่างไร ชายหนุ่มอ้าปากคล้ายจะค้านความคิดของผู้เป็นพ่อแต่วสุธาก็พูดขึ้นมาก่อนที่เขาจะได้เอ่ยปาก

“ ... พ่อเคยพลาดที่ใช้กำลังกับคุณปาม กว่าจะทำให้อะไรๆมันลงตัวมันต้องอาศัยทั้งความมั่นคง จริงใจ สถานการณ์ เวลา และคนอื่น โดยเฉพาะตาหวานหากไม่มีลูก พ่อกับคุณปามคงไม่มีทางมีวันนี้”

ปาฏิหาริย์รู้เรื่องของคุณพ่อ คุณปาม และตัวเองดีอยู่แล้วเพราะว่าพี่ๆกรอกหูให้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ทำไมวสุธาถึงได้พูดเรื่องนี้ขึ้นมา

“ลูกน่ะเป็นเด็กที่พิเศษกว่าใครในบ้าน ทุกคนจึงรักและตามใจมาก บางครั้งพ่อเองก็คิดว่ามันมากจนเกินไป ... แต่พ่อก็ว่าอะไรใครไม่ได้เพราะหากจะถามว่าใครที่ตามใจตาหวานมากที่สุด ก็คงเป็นพ่อเอง”

จริงอย่างที่สุด วสุธาและทุกคนในบ้านจอมไตรรักและเอาใจใส่ปาฏิหาริย์มาก ไม่ว่าจะอะไรหากอยากได้ก็ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งรีบหามาให้ทันที โดยเฉพาะวสุธาที่ไม่เคยขัดเลยไม่ว่าลูกชายคนนี้จะอยากทำอะไรหรืออยากได้อะไร จะมีก็เพียงปารมีคนเดียวที่ไม่ค่อยตามใจ หากแต่ปารมีแค่คนเดียวจะขัดคนทั้งบ้านได้อย่างไร

“เพราะอย่างนั้นไม่ว่าลูกอยากทำอะไรก็เลยไม่ค่อยมีใครทัดทาน จนลูกมั่นใจในความคิดตัวเองไปเสียหมด แต่คราวนี้พ่ออยากให้ลูกคิดดีๆ พ่อจะไม่เป็นคนตัดสินความรู้สึกของลูกหรอกนะว่ามันคืออะไร แต่ก่อนที่ลูกจะสรุปมันด้วยอคติ ความน่าจะเป็น แผนการ หรืออะไรก็ตาม พ่ออยากให้ลูกลองใช้หัวใจตัวเองตัดสินดูบ้าง แม้ลูกจะตัดสินไปแล้วพ่อก็อยากให้ลูกลองคิดดูใหม่ คิดอย่างรอบคอบไม่ใช่แค่สมองแต่ด้วยหัวใจ แล้วไม่ว่ามันจะเป็นยังไง ลูกก็ยังเป็นลูก เป็นตาหวานของบ้านที่ทุกคนรักและตามใจเหมือนเดิม”

ปาฏิหาริย์มองใบหน้าของบิดาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มล้อเลียนในตอนท้าย แต่ทุกคำพูดนั้นแฝงเอาไว้ซึ่งความอบอุ่น เจ้าตัวอดดีใจไม่ได้ที่ได้เกิดมาและเติบโตในบ้านจอมไตรแห่งนี้ ชายหนุ่มคิดและคล้อยตามในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูด ... ที่จริงปาฏิหาริย์อาจจะกำลังรอให้ใครสักคนมาพูดแบบนี้กับตนก็ได้ ใครสักคนที่จะบอกกับปาฏิหาริย์ว่าปาฏิหาริย์สามารถที่จะคิดกับภาคนิพนธ์ยังไงก็ได้ ใครสักคนที่จะบอกว่าแม้ว่าจะหลงรักภาคนิพนธ์ยังไงครอบครัวก็ยังจะเป็นครอบครัว

หลายคนอาจจะมองว่าปาฏิหาริย์เลือดเย็นทำร้ายได้แม้แต่กับคนที่รักตนเองและดูเหมือนจะมีแค่ตนเท่านั้นที่ทำอย่างนั้นกับภาคนิพนธ์ได้

ปาฏิหาริย์เองก็อยากจะเป็นคนเลือดเย็นอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องรู้สึกอะไร เพราะสิ่งที่ทำไปถือว่าให้บทลงโทษแก่คนที่เคยทำร้ายครอบครัวของตน แม้จะต้องลากเอาคนไม่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วยก็ไม่เป็นไร เจ้าตัวพร้อมที่จะเป็นคนใจร้าย

แต่คนใจร้ายคนนี้กลับไม่ได้ไม่รู้สึกอะไรอย่างที่อยากจะให้เป็น ต้องคอยหลอกตัวเองและคนอื่นว่าไม่เป็นไร ต้องคอยหาอะไรทำเพื่อให้ลืมความรู้สึกเหล่านั้น ความรู้สึกส่วนลึกที่ไม่อยากเอื้อมมือไปแตะเพราะกลัวว่ามันจะเจ็บ จะเกิดแผล กลัวว่ามันจะมีอิทธิพลต่อตัวเองมากจนเกินไป กลัว ปาฏิหาริย์กลัวเหลือเกินว่าความรู้สึกเหล่านั้นจะนำพาทำให้ครอบครัวแตกแยก ... สำหรับคนที่รักครอบครัวมากที่สุดอย่างปาฏิหาริย์แล้ว แม้จะมีความเสี่ยงเพียงน้อยนิดเขาก็ไม่มีทางจะทำให้มันเกิดโดยเด็ดขาด

“เมื่อลูกรักใคร เชื่อเถอะว่าทุกคนก็พร้อมจะรักกับลูกด้วย เพราะงั้นทำตามหัวใจตัวเองเรียกร้องบ้างก็ได้นะ”

ราวกับแสงไฟที่ถูกจุดขึ้นในค่ำคืนมืดมิด หนทางที่จะก้าวเดินปรากฏขึ้นมาหลังจากที่ได้หยุดนิ่งเพราะมองไม่เห็นทางไป

“ค่อยๆคิดก็ได้ ลูกไม่จำเป็นต้องคิดมันให้ได้ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องตัดสินมันในเวลานี้”

“แต่ผมก็ทำเรื่องแย่ๆลงไปแล้ว”

ราวกับพูดออกมาโดยยังไม่ทันคิด แม้จะบอกว่ามันไม่ผิดที่จะแก้แค้น แต่เมื่อรู้ว่ามันเป็นเรื่องแย่ ก็แปลว่าเจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้สึกดีสักเท่าไหร่ที่ทำๆลงไป

“ถ้าลูกคิดว่ามันผิด ก็ต้องขอโทษและไถ่โทษ จริงไหม แล้วค่อยลองมองอย่างจริงจังว่าเขาสำคัญกับลูกหรือเปล่า”

“แล้วเขา...จะยอมกลับมาหรือครับคุณพ่อ”

วสุธาส่งรอยยิ้มให้กับลูกชายคนเล็กของตัวเอง ปาฏิหาริย์กังวลใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นเด็กเอาแต่ใจและมีแต่คนตามใจ รอบข้างมีแต่คนที่พร้อมจะให้ปาฏิหาริย์ด้วยกันทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้ปาฏิหาริย์เชื่อมั่นในความคิดตัวเอง เพราะน้อยนักที่จะมีใครขัด และเพราะเชื่อมั่นจึงกลับลำได้ยาก ที่จริงปาฏิหาริย์อาจจะรอมานานแล้วก็ได้ที่จะให้มีใครสั่งหรือบอกให้ทำแบบนี้

ปาฏิหาริย์เชื่อมั่นจนทำลายความคิดตัวเองไม่ได้

และก็รอที่จะให้ใครมาแนะนำชี้ทาง

โชคดีที่ปาฏิหาริย์มีพ่อที่เข้าใจและตามใจ หากปาฏิหาริย์ต้องการให้วสุธาช่วยตัดสินใจ แม้ไม่ต้องเอ่ยปาก เจ้าตัวก็พร้อมจะเข้าช่วยเหลือ

“พ่อเชื่อว่าลูกมีวิธีอยู่แล้ว”

ตบบ่าให้กำลังใจลูกชายเบาๆ แม้จะอยากช่วยเหลือมากกว่านี้ แต่หากช่วยไปเสียหมด ลูกชายคนเล็กก็จะไม่ได้เรียนรู้ วสุธาออกมาจากห้องทำงานของลูกชายคนเล็ก ปล่อยให้เจ้าตัวได้นั่งคิดอะไรเงียบๆคนเดียว ... อย่างที่ปารมีบอก เรียนผูกเองก็ต้องรู้จักเรียนแก้เอง

........................................

ภาคนิพนธ์ดื้อจนสามารถออกมาเยี่ยมแม่ได้ในวันถัดมา ...

เมื่อวานนี้หลังจากนั้นภาคนิพนธ์ก็ไม่ได้เจอปาฏิหาริย์อีก มีคนยกข้าวมาให้ภาคนิพนธ์ในห้อง ภาคนิพนธ์จึงไม่ได้ก้าวเท้าออกไปไหน และเจ้าตัวก็หยิ่งเกินกว่าที่จะเอ่ยปากถามถึงเจ้าของห้อง

มาเจอปาฏิหาริย์อีกครั้งในตอนเช้า ดูเหมือนเจ้าตัวจะไปนอนที่ห้องอื่นแต่ชุดที่จะใช้คงอยู่ในห้องนี้ ร่างบางบอกกับปาฏิหาริย์ว่าจะไปหาแม่ แม้ตอนแรกจะโดนค้าน แต่เมื่อยืนยันหนักแน่นปาฏิหาริย์ก็ยอมมาส่งให้ที่โรงพยาบาล

เจ้าตัวไม่ได้ถามเอาคำตอบ แต่ภาคนิพนธ์ก็รู้ว่าปาฏิหาริย์กำลังรอคำตอบอยู่อย่างเงียบๆ

“เป็นอะไรไปหรือลูกภาค”

พัลลภาถามลูกชายเมื่อเห็นลูกยืนเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง ซึ่งผิดวิสัยที่ลูกชายจะทำ

“เขามาขอให้ผมช่วยคบกับเขาครับแม่ เพราะดูเหมือนเขาจะเดือดร้อนที่แม่ไปบ้านจอมไตรคราวนั้น”

ไม่ต้องเอ่ยชื่อพัลลภาก็รู้ว่าลูกชายพูดถึงใคร เธอวางมือจากการถักไหมพรมซึ่งเธอเริ่มทำเป็นงานอดิเรกตามคำแนะนำของแพทย์แล้วเงยหน้ามองลูกชายอย่างจริงจัง

“แล้วลูกตอบเขาไปว่ายังไง”

“ผมปฏิเสธไปแล้ว แต่เขาบอกให้ผมมาคิดดูใหม่ แต่ผมคงปฏิเสธเขาอีกอยู่ดี”

พัลลภาถอนหายใจ ใบหน้าลูกชายแม้จะยังคงความนิ่ง แต่เธอรู้ว่าลูกชายเธอเจ็บมากเหลือเกิน ... และความเจ็บครั้งนี้ มันไม่ใช่เพราะใครเลย มันเป็นเพราะเธอเอง เพราะเรื่องแย่ๆที่เธอเคยทำเอาไว้ในอดีต

“ภาค มานั่งตรงนี้สิลูก”

เรียกพลางตบลงบนเตียงข้างตัวเอง เธอคิดว่า บางทีเธอควรเล่าเรื่องในอดีตให้ลูกชายเธอได้รู้ พัลลภาเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงมันมาโดยตลอดเพราะกลัวว่าหากลูกชายเธอรู้อาจจะเกลียดเธอ ความสัมพันธ์ที่เริ่มจะกลับมาดีนี้อาจจะเปลี่ยนไป แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว หากเธอไม่พูดภาคนิพนธ์ก็จะไม่รู้ ไม่รู้เลยว่าทำไมตัวเองต้องโดนทำร้าย หากคนที่เจ็บจากการกระทำเมื่อครั้งอดีตของเธอคือลูกชาย เธอคิดว่ามันก็สมควรที่จะให้ลูกชายเธอได้รู้

.....................................



“....ตกลง ผมจะยอมกลับไปคบกับคุณ”

ภาคนิพนธ์พูดขึ้นเมื่ออีกฝ่ายมารับตัวเองในเย็นวันนั้น......ที่ตกลง...... ไม่ใช่เพราะเงื่อนไขที่อีกฝ่ายให้มา ไม่ใช่เพราะเงินหรือเพราะอะไร แต่เพราะพัลลภาเล่าเรื่องให้ฟัง แล้วภาคนิพนธ์ก็คิดว่าตัวเองต้องมีส่วนช่วยชดใช้ให้ครอบครัวนี้ด้วย ที่สำคัญภาคนิพนธ์รู้ตัวดีว่าไม่สามารถใจร้ายกับอีกฝ่ายได้ แม้จะเสียใจที่โดนหักหลัง แต่เมื่อรับรู้เรื่องราวความหลังแล้วความโกรธที่เคยมีกลับหมดไป แม้จะเจ็บแต่ภาคนิพนธ์คิดว่าตัวเองควรทำอะไรให้อีกฝ่ายบ้าง ... ถือว่าได้ชดใช้ความผิดในอดีตของผู้เป็นแม่ ... ถือว่าได้ทำอะไรบ้างให้คนที่ตนเองรัก แม้มันจะเจ็บและอาจจะต้องเจ็บมากขึ้น เจ้าตัวก็จะทน ... อีกอย่างก็ใช่ว่าภาคนิพนธ์จะไม่ได้อะไรจากการกระทำครั้งนี้ อย่างน้อยๆก็ได้กลับไปอยู่ข้างๆ ...คนโง่ที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่รักตน แต่ก็ยังดีใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ ภาคนิพนธ์ได้แต่ด่าตัวเอง ว่า งี่เง่า งี่เง่า งี่เง่า อยู่ในใจ

คำตอบที่ได้รับทำเอาปาฏิหาริย์หลุดรอยยิ้มเบาบางออกมา รอยยิ้มที่ทำให้ภาคนิพนธ์ต้องหันหน้าหนี เพราะแม้มันจะเป็นเพียงรอยยิ้มบางๆ แต่สายตาของปาฏิหาริย์บอกอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวยินดีแค่ไหน ร่างบางเมินมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนจะเอ่ยคำถัดมา ... คำที่ทำให้รอยยิ้มและความยินดีของปาฏิหาริย์จางไป

“ผมจะต้องคบกับคุณนานแค่ไหน”

คำถามที่ปาฏิหาริย์หาคำตอบไม่ได้ ไม่ใช่สิ คำตอบมันไม่สามารถบอกออกไปได้ต่างหาก เมื่อเจ้าตัวตอบตัวเองได้ในทันทีเลยว่าเขาไม่อยากจำกัดเวลาที่จะคบกับอีกฝ่ายเลยสักนิด

“นายคิดว่า....นานเท่าไหร่ดีล่ะ”

เสียงแผ่วเบาไม่เข้ากับนิสัยเจ้าตัวแบบนี้ทำให้ภาคนิพนธ์สงสัยอารมณ์คนพูดเล็กน้อย แต่ก็ปัดความสงสัยนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

“ผมไม่รู้หรอก แต่คุณควรกำหนดให้แน่นอน”

เพื่อผมจะได้รู้ตัวตลอดเวลา และทำใจไว้เสมอ ภาคนิพนธ์ต่อประโยคในใจเพราะไม่คิดจะพูดให้อีกฝ่ายได้ยิน อย่างน้อยๆก็จะได้รู้ตัวก่อน เมื่อต้องจากกันจริงๆ ภาคนิพนธ์ก็ได้แต่หวังว่าตัวเองคงทำใจได้มากพอ

“หกเดือน...คงได้ใช่ไหม”

“ครับ ...หกเดือน”

“อืม”

ปาฏิหาริย์รับคำเสียงเบา เบาเกินกว่าปกติ เบาเกินไปสำหรับคนที่มั่นใจในตัวเองเสมออย่างปาฏิหาริย์ แต่ภาคนิพนธ์ไม่ได้สังเกตเห็น เพราะว่ากำลังจมอยู่กับความคิดตัวเองเช่นกัน

“แล้วแม่นาย”

“ผมบอกแม่ไว้แล้ว”

ปาฏิหาริย์ก็ได้แต่พยักหน้า เค้าเองแม้จะไม่ค่อยชอบพัลลภาเท่าไหร่ ด้วยหลายๆเรื่อง แต่ถึงยังไงอีกฝ่ายก็เป็นแม่ของภาคนิพนธ์ ทำให้เค้าไม่อยากโกหกเธออีกครั้ง...........................

ทั้งสองคนจมอยู่กับความเงียบ มีเพียงเสียงแอร์และเพลงจากซีดีเบาๆเท่านั้น ต่างฝ่ายต่างเมินมองกันไปคนละทาง หากแม้จะเหลียวมองกันสักนิด คงมองเห็นความทรมานใจของอีกฝ่ายได้ชัดเจน

.......................................................

“ลูกเป็นเด็กดี เข้มแข็ง และอ่อนโยน เหมือนคุณเลย อยากให้คุณได้เห็นจริงๆ”

พัลลภาพูดกับรูปของสามีตามกฏหมายคนแรกของเธอ คนที่ภาคนิพนธ์เรียกว่าพ่อ เธอน้ำตาคลอเล็กน้อยยามคิดถึงผู้ชายในรูป คนที่รักเธออย่างจริงใจแม้เธอจะทำผิดและทำให้เขาต้องเจ็บหลายต่อหลายครั้ง ผู้ชายที่รักลูกของเธอราวกับลูกของตนเอง และคงเป็นคนถ่ายทอดเอาความอ่อนโยนส่งมาให้ลูกชายเธอ

ยามเมื่อเล่าเรื่องในอดีตให้ฟังจบ พัลลภาดีใจที่ภาคนิพนธ์ไม่โกรธหรือเกลียดตนไป ลูกชายของเธอบีบมือให้กำลังใจเธอเบาๆ ให้เธอรู้ว่าแม้จะเคยทำเรื่องเลวร้ายในอดีตมามากแค่ไหน แต่ลูกชายเธอก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอในเวลานี้

“ผมจะยอมกลับไปคบกับเขานะครับแม่”

“ลูกคิดดีแล้วหรือภาค”

พัลลภาถามลูกชายถามด้วยความเป็นห่วง ที่เล่าให้ฟังเพราะเธออยากให้ลูกชายเข้าใจว่าทำไมเรื่องร้ายๆถึงได้เกิดกับตนเอง แต่เธอไม่ได้ต้องการให้ลูกชายใช้ตัวเองชดใช้ความผิดแทนเธอ

“ครับ ผมคิดดีแล้ว”

ภาคนิพนธ์ย้ำเสียงหนักแน่น

ถึงจะไม่ค่อยได้คลุกคลีกันนักตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่เพราะเป็นแม่ลูกกัน ทำไมพัลลภาจะดูไม่ออก

ประกายตาของลูกชายยามพูดถึงปาฏิหาริย์นั้น แม้จะดูเศร้าไปบ้าง แต่มันก็เต็มไปด้วยความรัก ... รักและพร้อมจะเจ็บได้เพื่ออีกฝ่าย เหมือนที่พ่อของภาคนิพนธ์ยอมเจ็บเสมอเพื่อเธอ

เธอก็ได้แต่หวัง หวังว่าปาฏิหาริย์จะไม่ทำร้ายจิตใจภาคนิพนธ์อีก และหวังว่าภาคนิพนธ์จะไม่ทำร้ายหัวใจตัวเองด้วยเช่นกัน อย่าให้เหมือนเธอที่มาคิดได้เมื่อสายไป เมื่ออีกฝ่ายไม่อยู่ตรงนี้แล้ว มือเล็กๆจับกรอบรูปไว้อย่างทะนุถนอม

“ขอให้ลูกมีความสุขสักที คุณเองก็คอยช่วยลูกด้วยนะคะ”

..............................................


มีต่อข้างล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 7 16/3/56 p.6
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 23-03-2013 22:34:49
“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน แถมคราวก่อนยังเสียมารยาทกับคุณอีก”

ภาคนิพนธ์พูดกับปรามีด้วยความเกรงใจ เมื่อปาฏิหาริย์สั่งคนไปขนของจากห้องเช่าเล็กๆของเค้ามาไว้ที่บ้านจอมไตรจนหมด แถมยังมีข้าวของใหม่ๆที่ปาฏิหาริย์ซื้อมาเพิ่มอีก แน่นอนว่าเมื่อภาคนิพนธ์ไม่อยู่คนที่มาจัดของไว้ให้ก็คือปรามี

“ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่กลับมาดีกันจริงๆหรือ ตาหวานคงไม่ได้ไปบังคับมาใช่ไหมครับนี่”

ภาคนิพนธ์ยิ้มแต่ไม่ยอมสบตาด้วย เจ้าตัวเสไปมองทางประตู พลางคิดอยากให้ปาฏิหาริย์โผล่มาเสียที

แต่เปล่าเลย ไม่มีแม้แต่เงาของร่างสูง ... เพราะงั้น เมื่อคนถามยังนิ่งรอฟังคำตอบ ภาคนิพนธ์จึงเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่ายพลางตอบอย่างหนักแน่น

“ไม่ได้บังคับหรอกครับ แต่เพราะ...รัก”

คำพูดบางเบาในช่วงท้ายประโยคเรียกรอยยิ้มพอใจจากปารมีได้เต็มใบหน้า คำพูดที่พูดออกมาว่ารักนั้น แม้จะเบาเหมือนกลัวใครจะมาได้ยินเข้า แต่แววตาที่แสดงออกมาก็บอกปารมีได้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก และก่อนที่ปารมีจะได้ถามอะไรมากกว่านั้น คนตัวสูงที่ภาคนิพนธ์ภาวนาให้ช่วยมาขัดจังหวะเมื่อครู่ก็เดินเข้ามาในห้องพอดี ... ถึงแม้จะมาช้าไปนิดสำหรับภาคนิพนธ์ก็เถอะ

“คุณปามครับ คุณพ่อถามว่าเนคไทสีฟ้าที่มีลายตัวอักษรอยู่ตรงไหนน่ะครับ”

ปาฏิหาริย์ถามปารมีตามที่วสุธาใช้ให้มา แล้วเลยมองเลยไปยังอีกคนในห้องซึ่งกำลังมองมาที่เขาอย่างค้อนๆ นั่นทำให้ปาฏิหาริย์ได้แต่งง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองได้ไปทำอะไรให้อีกฝ่ายเมื่อไหร่

“งั้นขอตัวก่อนนะ”

ปารมีบอกกับภาคนิพนธ์ด้วยรอยยิ้มแล้วรีบเดินออกไปเพราะคุณเจ้าของบ้านที่ดูเหมือนว่าตั้งแต่มีปารมีเข้ามาในชีวิต จะเป็นโรคหาอะไรไม่เจอตลอด แล้วก็ต้องเป็นปารมีที่หาให้เท่านั้น ทั้งๆที่บางครั้ง ปารมีไม่ใช่คนเก็บเสียหน่อย

“มีอะไรรึเปล่า”

ปาฏิหาริย์เอ่ยถามเมื่อปรามีเดินออกไปแล้ว

“เปล่าครับ”

ว่าแล้วก็หันไปให้ความสนใจกับการจัดข้าวของต่อไป

ปาฏิหาริย์นั่งลงตรงขอบเตียง มองคนตรงหน้าจัดข้าวของด้วยความเพลินใจอย่างไม่รู้ตัว เค้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไมร่างตรงหน้าถึงได้สะกดตาสะกดใจเค้านัก

“จะจ้องผมอีกนานไหมครับ”

ภาคนิพนธ์ที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามอง ถามด้วยเสียงสะบัดๆราวกับกำลังไม่พอใจเต็มที่ทั้งๆที่ใบหน้าเนียนนั้นขึ้นสีอย่างเห็นได้ชัด

ปาฏิหาริย์อมยิ้ม เค้าชอบจัง บรรยากาศแบบนี้ เหมือนกลับไปเมื่อครั้งยังอยู่ที่คอนโดด้วยกัน

แม้จะหวั่นใจว่าภาคนิพนธ์อาจจะยังโกรธอยู่ แม้จะข้องใจในการตอบรับอย่างง่ายดายของภาคนิพนธ์ แต่ที่เจ้าตัวแสดงออกมาก็ทำเอาเค้าเบาใจได้ไปได้เยอะ ภาคนิพนธ์อาจจะยังมึนๆตึงๆใส่เค้า แต่ก็เฉพาะตอนที่นึกได้ แต่ตอนเผลอๆลืมๆ ภาคนิพนธ์ก็ทำตัวเหมือนเดิม เหมือนก่อนเกิดเรื่องไม่มีผิด

“ถ้าว่างมานั่งจ้องผม คุณมาช่วยจัดของจะดีกว่าไหมครับ”

ร่างบางต่อว่ากลายๆ ไม่ได้ตั้งใจให้ทำตามที่พูด แค่อยากประชด แค่อยากให้ปาฏิหาริย์เลิกมอง แต่ที่ไหนได้อีกฝ่ายกลับลุกขึ้นจากที่นอน หยิบเอาของจากกล่องออกมาอย่างต้องการจะช่วยจริงๆ

แล้วภาคนิพนธ์ก็เริ่มสำนึกว่าไม่ควรไปประชดปาฏิหาริย์แบบนั้น

คนตัวโตเข้ามาช่วย แต่...มาช่วยให้ยุ่งซะมากกว่า

“คุณ ตั้งไว้ตรงนั้นมันเกะกะนะครับ”

“แต่ฉันว่าตั้งตรงนี้สวยดีออก”

“แต่มันเกะกะนะครับ”

ทั้งสองคนยังคงเถียงกันเรื่องการจัดห้องเล็กๆน้อยๆไปเรื่อยๆ ทำเอาปรามีที่เดินกลับมาเพื่อจะช่วยจัดของอดอมยิ้มไม่ได้ เจ้าตัวมองภาพทั้งสองคนเถียงกันก่อนจะค่อยๆเดินจากไปอย่างเงียบๆ ปรามีไม่รู้ว่าทำไมภาคนิพนธ์ถึงได้ยอมกลับมาดีกับปาฏิหาริย์ จะเพราะรักอย่างที่เจ้าตัวพูดออกมาจริงๆหรือไม่ แต่ไม่ว่ามันจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตามเค้าก็คิดว่านี่เป็นโอกาสอันดีของทั้งสองคน

.......................................................

“ทำไมต้องนอนเตียงเดียวกันด้วย”

ภาคนิพนธ์ถามเสียงสูงอย่างไม่ชอบใจ เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้านอนแล้วเพิ่งนึกได้ว่าในห้องนี้ไม่ได้มีเครื่องนอนที่ไหนอีก

“หืม....”

คนโดนถามหันหน้ามามองร่างบางที่อยู่ในชุดนอน แล้วก็รีบหันกลับมาเพราะกลัวว่าจะเผยรอยยิ้มออกไป ภาคนิพนธ์อยู่ในชุดนอนที่เขาเป็นคนซื้อให้ อันที่จริงปาฏิหาริย์สังเกตเห็นตั้งแต่ตอนเก็บของเมื่อกลางวันแล้วว่าภาคนิพนธ์ยังคงเก็บของที่ตนซื้อให้ไว้อยู่ไม่ได้ทิ้งไปอย่างที่ปาฏิหาริย์คิด แต่ดูแล้วระหว่างที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันสิ่งของเหล่านั้นคงไม่เคยถูกนำมาใช้เลย เพราะมันยังคงดูใหม่และทั้งหมดเก็บรวมกันไว้ในกล่องที่ปิดสนิทมาตั้งแต่แรก

“นี่คุณ ผมถามคุณอยู่นะ”

พอไม่ได้รับคำตอบแล้วอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีไปยิ้มๆ ภาคนิพนธ์ก็เข้าใจว่าปาฏิหาริย์อาจจะกำลังดูถูกว่าตนโวยวายเหมือนเด็กที่ต้องนอนเตียงเดียวกันทั้งๆที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ว่าสำหรับผู้ชายที่เคยมีอะไรๆกันมาก่อน จะระแวงมันก็ไม่ผิดใช่ไหม

“ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกน่า”

พูดเหมือนภาคนิพนธ์กลัว ... ซึ่งจริงๆเจ้าตัวก็กลัวอยู่มาก แต่เหตุผลที่สำคัญกว่าคือภาคนิพนธ์คิดว่ามันน่าอายแปลกๆอย่างไรก็ไม่รู้

แต่ยังไม่ทันจะคิดออกว่าจะเอาอย่างไร ปาฏิหาริย์ก็เปิดโคมไฟที่หัวเตียงแล้วเดินไปปิดโคมไฟใหญ่กลางห้องเสียแล้ว

“พอเถอะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานแต่เช้านะ”

แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนยังฝั่งซ้ายของเตียง ทำให้ภาคนิพนธ์ต้องเดินอ้อมเพื่อไปนอนยังอีกฝั่งของเตียงที่เป็นฝั่งว่าง ก็ไม่อยากคิดถึงหรอก แต่มันเป็นรูปแบบเดียวกันกับตอนอยู่ที่คอนโดเลยนี่สิ คนที่พยายามไม่คิดมันอดคิดไปถึงตอนนั้นไม่ได้

ส่วนคนที่เอ่ยปากว่าจะนอนแล้วเพราะต้องตื่นเช้านั้นก็หลับลงไปได้ง่ายๆเสียเมื่อไหร่ ไออุ่นจากร่างกายคนข้างๆที่ส่งมาโดยที่เจ้าตัวคงไม่ได้ตั้งใจนี้ทำเอาร่างสูงอยากจะพลิกตัวไปดึงอีกฝ่ายเข้าสู่อ้อมกอดนัก ใช่ว่าคิดเกินเลยไปไกล ปาฏิหาริย์ก็แค่รู้สึกว่าอยากจะสามารถแตะต้องอีกฝ่ายได้ตามใจตนต้องการเหมือนเมื่อก่อนก็เท่านั้น

ต่างฝ่ายต่างก็จมอยู่กับความหลัง ทั้งๆที่ปัจจุบันก็มีคนที่ตนกำลังนึกถึงอยู่ข้างๆแท้ๆ

................................

TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 23-03-2013 22:44:55
กรี้ดดดดดดดด มาซักที.
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: treerat002 ที่ 23-03-2013 23:06:02
รู้สึกว่ามันง่ายไปยังไงก็ไม่รู้...

ตาหวานอย่าได้หลงคิดเด็ดขาดนะว่าแค่นี้จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองทำลงไปถูกลืมได้ง่าย ๆ เค้าไม่ลืมหรอกนะ ฮื้ย!!!~ เจ็บใจ!!! (กัดผ้าเช็ดหน้า)

ภาคก็ยอมเค้าง่ายเกิ๊น~ ถ้าเป็นไอ้เรารึจะเล่นตัวอีกซักหน่อย แต่คิดอีกที..ถ้าเล่นตัวมาก ๆ ตาหวานมันจามาตามง้อรึเปล่าเนี่ย = =''

6 เดือนรึ...รอสมน้ำหน้าพ่อคนปากแข็งค่ะ!!!!



 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 23-03-2013 23:17:24
เห้ออ, ข้อเสนอของตาหวานแมร่มมม  พออ่านแล้วแม่มมเจ็บใจ  อยากตื้บบบบบบ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 23-03-2013 23:22:51
มารอเรื่องนี้หลายวันเลย ได้อ่านแย้ว อยากอ่านอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 23-03-2013 23:26:24
ตอนนี่มาต่อยาวเลยยย  o13 o13
ตาหวาน อย่ารังแกภาค อีกน่ะะะ :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-03-2013 23:32:19
ไหงตั้งเงื่อนไขแค่ 6 เดือนอ่าาาาาา
แล้วมันจะไปรอดไหมน้อ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: rabbit-orange ที่ 24-03-2013 00:02:16
 :-[ ดีใจจังมาต่อ ให้อ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-03-2013 00:07:55
น้องภาคจ๊ะ หนูเปลี่ยนชื่อเป็นสีทนได้แล้วเหรอคะ
หูย...ไปรักทำไม๊ คนใจร้ายใจดำ
ที่กลับมาขอคืนดี ก็เพราะคุณปามโกรธหรอก สำนึกเองที่ไหน
อยากให้ถึง 6 เดือนไวไว ให้ใครบางคนอกแตกตายเพราะคำพูดของตัวเอง
พอถามถึงกำหนดเวลา บอกไปเลยสิว่าตลอดชีวิต พูดได้ไม่พูด เชอะ...(ฉันอินตลอด)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 24-03-2013 00:45:29
ตอนนี้รู้สึกจุใจ..หลังจากที่หายไปนาน....ขอให้ราบรื่นไปเรื่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Kray ที่ 24-03-2013 00:49:18
อยากให้ตาหวานเจอหนักเหมือนที่ภาคเจอตอนโดนตาหวานทำร้ายอ่า T T
แถมไม่ได้สำนึกด้วยตัวเองอีก
ภาคอย่าเพิ่งใจอ่อนนะ เจ็บแล้วต้องจำให้แม่นนน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 24-03-2013 01:15:50
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:มาทีอ่านจุใจเลย :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-03-2013 07:18:50
ช่วงเวลาหกเดือนที่อยู่ด้วยกัน ก็ใช้มันสำรวจหัวใจกันและกันเลยนะจ๊ะหนุ่มๆ :z1:
จะได้บอกรักกันอย่างเต็มปากซะที ต่างคนต่างคิดแต่ไม่ยอมบอกอะไร อีกฝ่ายไม่มีทางรู้แน่นอน :เฮ้อ:
จะหวานแล้วสินะเนี่ย ลุ้นๆ :o8:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: minchy ที่ 24-03-2013 10:13:18
ยังไม่เข็ดกับตระกูลนี้อีกหรอ เจ็บแล้วไม่จำจะเจ็บซ้ำเจ็บซากนะภาค
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 24-03-2013 11:21:49
แอบสมน้ำหน้าตาหวานแฮะ อยากกอดก็กอดไม่ได้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 24-03-2013 11:31:55
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: devilpoo ที่ 24-03-2013 15:31:10
อ๊ายยยยยยยยยยยยยย  ตามมาอ่าน ตาหวานอ่ะ

กรี๊ดอย่างแรงส์ค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: Masochism ที่ 24-03-2013 15:52:59
น้องภาคสู้ๆ  :mc4:

คนแต่งสู้ๆ  :mc4:

ตาหวาน  :beat:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 24-03-2013 15:54:57
หมั่นไส้ตาหวาน
ภาคอ่า อย่าใจอ่อนเร็วนักซี่ =_=
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 24-03-2013 20:09:12
เหมือนจะหวานแต่ก็แอบขม
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: nut28phat ที่ 24-03-2013 20:28:27
น้องภาคอย่าไปยอมค่ะ
คราวนี้เราต้องทำให้รักเราแล้วก็สะบัดบ๊อบใส่บ้าง ฮึ่ย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 24-03-2013 22:56:51
ใจจด ใจจ่อ กับการรอ ในที่สุดวันนี้ก็สมหวัง

ขอบคุณมากๆครับ


หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 25-03-2013 02:43:26
 :angry2:ตาหาน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 25-03-2013 10:21:30
...คุณน้องภาค คะ แสดงตัวกับว่าที่แม่ซะมี เอ๊ะ หรือพ่อซะมี ซะแบบ ไม่ปิดบังเลยนะ(คุณปามนี่เป็นอะไรกับตาหวานหว่า) :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 25-03-2013 11:42:26
ทำตามที่หัวใจเรียกร้อง แต่ก็ยังมีแผ่นบาง ๆ ที่ทำให้ทั้งสอง ยังต้องระแวงต่อไปอีก
แล้วถ้า ถึง 6 เดือนเมื่อไหร่ ปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรม ก็ต้องนำกลับมาสะสางใหม่  :เฮ้อ:
แต่อย่างน้อย ก็มีคุณปามที่มองเห็นว่า คนทั้งสองมีใจให้กัน  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ จุ๊บจิ๊บ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: devilpoo ที่ 25-03-2013 18:25:57
สงสารภาคอ่า  ตาหวาน แกช่างทำได้นะ อย่างนี้มันน่าจะให้ภาคหนีไปให้ไกล ให้สะใจไปเลย ชิส์
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: devilpoo ที่ 25-03-2013 18:28:00
แต่ยังคาใจ พี่ณิน แต่งงานไปแล้ว กีรติอ่ะ ทำยังไงอ่า

หรือว่ามีหักมุมให้แม่ศรีภรรเมีย ของพี่ณิน เป็นอะไรไป

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก อยากรู้เรื่้อง มันคาใจ นอนไม่หลับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 8-9 23/3/56 p.7
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 25-03-2013 19:48:07
ครบ 6 เดือนเมื่อไร ภาคจะตัดใจได้หรอ

ตาหวานก็ไม่น่าพูดอย่างนั้นเลยอ่ะ ภาคก้เข้าใจว่าที่ต้องมาอยู่อย่างนี้ก็เพราะปารมีซินะ

เฮ้อ เมื่อไรจะเข้าใจกันซักทีเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 27-03-2013 02:13:50
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

คำเตือน อ่านๆไป(ตอนหลังๆ)ระวังจะตกหลุมรักเรือชานะคะ (บทน้อยแต่ก็นะ :o8:)

ตอนที่ 10

ปารมีไม่ชอบใจเลยสักนิดเมื่อสังเกตเห็นว่าภาคนิพนธ์ดูเหมือนจะเกรงใจคนในบ้านอยู่ตลอดเวลา ก็รู้หรอกว่าการสร้างความคุ้นเคยมันไม่ได้ง่ายและรวดเร็วได้อย่างใจ แต่ภาคนิพนธ์ก็ทำตัวเหมือนกันตัวเองไว้ ไม่ก้าวเข้ามาและไม่ปล่อยให้ใครก้าวเข้าไปหา ซึ่งหากยังคงเป็นอยู่อย่างนี้มันจะไม่มีทางเกิดความคุ้นเคยกันได้เลย และที่น่าหนักใจที่สุดก็คือ คนที่ภาคนิพนธ์ดูจะเกรงและตีตัวออกห่างที่สุดคือปาฏิหาริย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักกัน ปารมีเห็นแล้วกลุ้มใจจนต้องเอาไปปรึกษากับวสุธา และคุณพ่อของบ้านก็บอกเพียงแค่ว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคน ถึงแม้เราจะเป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่ปารมีคิดว่าบางครั้งคนสองคนที่อยู่ในปัญหาก็มองปัญหาเหล่านั้นไม่ชัดและไม่สามารถที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาได้มีแต่จะทำให้ปัญหามันยิ่งผูกปมใหญ่ขึ้น

บางครั้งก็จำเป็นต้องมีบุคคลที่สาม สี่ ห้า เพื่อช่วยในการแก้ปัญหาเหล่านั้น

พอบอกไปแบบนี้วสุธาก็บอกว่าหากปาฏิหาริย์เอ่ยปากขอเราถึงจะยื่นมือเข้าไป แต่ปารมีคิดว่ามันคงไม่ทันการณ์หากต้องรอจนถึงวันนั้น

บรรยากาศระหว่างภาคนิพนธ์กับปาฏิหาริย์ว่ามันอึมครึมขนาดเด็กชายตัวน้อยอย่างน้องเอิร์ธยังมองออก ปารมีเคยได้ยินน้องเอิร์ธถามปาฏิหาริย์ว่าทะเลาะกับอาภาคหรือ

มันดูหนักหนาขนาดนี้แล้วจะไม่ให้ปารมีต้องยื่นมือเข้าไปได้ยังไง

....................................

ภาคนิพนธ์นั่งเหม่ออยู่ข้างสระน้ำ ตอนนี้ เวลานี้คนบ้านนี้ไปทำงานกันหมด ไม่มีใครอยู่สักคน ภาคนิพนธ์ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ทั้งๆที่ทุกคนทำงานแต่เขากลับเป็นคนเดียวที่ไม่ต้องทำ

“คุณภาคค่ะอาหารเที่ยงพร้อมแล้วนะคะ”

แม่บ้านเดินมาบอกภาคนิพนธ์เลยพยักหน้าให้แล้วเดินตามแม่บ้านไปกินข้าว ภาคนิพนธ์กินข้าวช้าๆ เขาบอกตัวเองว่าคงทนสถานการณ์ตอนนี้ไปได้ไม่มากกว่านี้อีกแล้ว

ภาคนิพนธ์รู้เรื่องเกี่ยวกับคนในบ้านคร่าวๆเพราะชวนแม่บ้านคุย

ในบ้านจอมไตรนี้แต่ล่ะคนมีงานในส่วนของตัวเองด้วยการสานต่อและขยายงานจากของเดิม

มีแต่ปารมีกับจิตรินที่เป็นส่วนลงทุนใหม่ รวมไปถึงคนรักของปฐวีที่ถือว่าทำงานอิสระแม้จะต้องไปช่วยปฐวีบ้างเป็นครั้งคราวแต่ก็ไม่บ่อยนัก

ภาคนิพนธ์ไม่ได้อยากเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจการของครอบครัวจอมไตร แล้วก็ไม่ได้อยากลงทุนทำอะไรใหม่ แน่นอนว่าสาขาที่ตัวเขาเรียนมาย่อมไม่สามารถจะทำงานอิสระอะไรได้

แต่เขาก็ไม่อยากอยู่เฉยๆ

ถ้าจะให้นับว่าการที่เขาตกลงยอมมาเป็นคนรักชั่วคราวของปาฏิหาริย์คืองาน แต่มันก็เป็นงานที่ว่างเกินไป

สักวันคงว่างจนเฉาตาย แม้ปาฏิหาริย์จะบอกให้เขาไปเยี่ยมแม่ ไม่อยู่เป็นเพื่อนแม่ แต่มันยิ่งทำให้เขาดูไร้แก่นสารไม่ใช่หรือ

แล้วเมื่อวันไหนที่ช่วงเวลานี้สิ้นสุดลง

หากเขากลายเป็นคนเอื่อยเฉื่อยไปเสียแล้ว

เขาจะรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้อย่างไร

...............................

“ผมจะทำงาน”

สามวันมานี้ ปาฏิหาริย์แทบต้องกุมขมับ เจ้าตัวไม่เคยเจอส่วนดื้อดึงของภาคนิพนธ์มาก่อน ตอนที่อยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้ ภาคนิพนธ์ว่าง่ายเหลือเกิน หากปาฏิหาริย์เอ่ยปากยืนยันเป็นครั้งที่สองแล้วล่ะก็ไม่มีเสียล่ะที่ร่างบางจะกล้าขัด แต่ครั้งนี้ ทั้งๆที่ทัดทานจนเหนื่อย ภาคนิพนธ์ก็ยังไม่ยอม ยืนกรานที่จะไปทำงานให้ได้

“ทำตัวว่างง่ายๆแล้วอยู่แต่บ้านไม่ได้หรือไงกันนะ”

ปาฏิหาริย์มองอาการเม้มปากจ้องหน้าตนของอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

“ผมเรียนจบมา ไม่ได้จะมานั่งอยู่เฉยๆหรอกนะคุณ”

“แต่ฉันชอบให้นายอยู่เฉยๆมากกว่า”

“ความรู้ผมมันจะได้ละลายหายไปกับสายลมน่ะสิ ผมอุตส่าห์ตั้งใจเรียนมา จะไม่ให้ผมได้ใช้ความรู้หน่อยหรือไง”

ดื้อ ... ปาฏิหาริย์คิดในใจ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป เพราะที่ภาคนิพนธ์พูดมาก็จริง หากเป็นเขา เรียนมาขนาดนี้แต่ต้องมานั่งๆนอนๆอยู่เฉยๆ ปาฏิหาริย์ก็ไม่คิดว่าตนเองจะยอม ... แต่ปาฏิหาริย์ก็อยากให้อีกฝ่ายอยู่แต่ที่บ้านจริงๆ

“เฮ้อ...งั้นก็ได้...”

พอปาฏิหาริย์ตอบตกลง รอยยิ้มดีใจเหมือนเด็กๆก็แสดงขึ้นมาบนใบหน้าอีกฝ่ายทันที พอเห็นรอยยิ้มแบบนั้นแล้ว ปาฏิหาริย์ค่อยรู้สึกว่าคุ้มแล้วที่ยอมลงให้ภาคนิพนธ์ในครั้งนี้

.........................

งานที่ปาฏิหาริย์ให้ภาคนิพนธ์ไปทำมันไม่ได้ตรงกับสายที่เจ้าตัวเรียนมาเลยสักนิด ทั้งๆที่จบวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมมา แต่กลับต้องมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของปาฏิหาริย์ ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเกือบทั้งสิ้น แต่ถึงอยากจะบ่น ปาฏิหาริย์ก็ดักทางไว้เรียบร้อยแล้วว่า

“อยากจะทำงานนี้ หรือนั่งอยู่เฉยๆกับบ้านล่ะ”

แค่นั้น ภาคนิพนธ์ก็เก็บปากเก็บคำ คิดแค่ว่าทำงานนี้ไปอีกสักไม่กี่เดือนก็คงไม่เป็นไร อย่างน้อยๆ เขาก็ได้เห็นปาฏิหาริย์ในสายตาเกือบตลอดเวลา ถือว่าใช้ช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับอีกฝ่ายให้คุ้มค่าแล้วกัน

“อันนี้กับอันนี้เอาไปให้ที่ฝ่ายบัญชีทีนะ”

ปาฏิหาริย์ชี้ไปที่แฟ้มงานที่ตนเองเซ็นชื่อแล้ว

ที่จริงถึงแม้ภาคนิพนธ์จะไม่เคยเรียนมา แต่เพราะต้องช่วยงานจิปาถะของมหาวิทยาลัยตามหน้าที่ของเด็กทุนจึงทำให้เรียนรู้เรื่องการทำเอกสารต่างๆได้อย่างรวดเร็ว

ถึงไม่ได้เอ่ยปากชม แต่คนอื่นๆก็รู้ว่าภาคนิพนธ์ทำงานใช้ได้ แม้จะดูเป็นเด็กเส้นแต่ก็ไม่มีใครนึกว่าอะไร เพราะจะเส้นใหญ่แค่ไหนหรือปาฏิหาริย์อยากเก็บไว้กับตัวเองยังไง หากทำงานไม่ได้เรื่องแล้ว คงไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้เกินสองวัน

“ผมเอาเอกสารมาส่งครับ”

เอ่ยกับคนที่นั่งตรงโต๊ะแรกของแผนกบัญชี แต่พออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง ภาคนิพนธ์ก็เบิ่งตาขึ้นกว้างอย่างตกใจ

“ภาค”

อีกฝ่ายเรียกชื่อภาคนิพนธ์ด้วยความยินดี เรือชารีบลุกขึ้นจากโต๊ะมาสำรวจร่างกายเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ก็หลังจากที่ออกจากห้องเรือชาไป เรือชาก็ไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้อีกเลย ติดต่อไปที่โรงพยาบาลที่แม่ภาคนิพนธ์รักษาอยู่ก็ได้รับแจ้งว่าย้ายออกไปเสียแล้ว แถมโรงพยาบาลเก่ายังไม่สามารถให้ข้อมูลที่ใหม่ได้อีก

“นายมาทำอะไรที่นี่”

ภาคนิพนธ์ถามด้วยความแปลกใจ เรือชายิ้มให้เพื่อนอย่างขำๆ

“ก็มาทำงานน่ะสิ”

ถามได้ อันหลังนี่พูดแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ คนโดนหัวเราะพยักหน้ากลายๆ เขารู้แค่ว่าเรือชาเป็นนักตรวจสอบบัญชี แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำงานตรวจสอบบัญชีให้กับจอมไตรด้วย

“ฉันไม่เห็นรู้ว่านายทำงานที่นี่ด้วย”

“อืม นิดหน่อย ดูเหมือนคนเก่าที่ออกไปจะทำระบบรวนไปเยอะ ฉันเลยมาช่วยๆรุ่นพี่น่ะ”

พูดพลางชี้ไปทางด้านในที่ซึ่งมีหญิงสาวอีกคนนั่งอยู่ เจ้าหล่อนกำลังหน้าดำคร่ำเครียดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์

“เดี๋ยวเย็นนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะ”

เรือชาเอ่ยชวน และภาคนิพนธ์ก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธ เพราะตัวเองก็คิดถึงเพื่อนไม่ต่างกัน

“อืม เอาสิ”

ยิ้มให้เพื่อนแล้วเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเอง

.....................

“ไปกับใคร”

ปาฏิหาริย์เอ่ยถามเป็นคำแรกทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นจากแฟ้มเอกสาร เมื่อภาคนิพนธ์บอกว่าเย็นนี้จะไปกินข้าวกับเพื่อน

“ไปกับเรือชาครับ”

“คนที่เคยไปอยู่ด้วยหรือ”

“ครับ”

ทั้งที่ภาคนิพนธ์ตั้งใจจะบอกแค่ให้อีกฝ่ายรับรู้ ซึ่งมันไม่ใช่การขออนุญาต แต่ไม่รู้ทำถึงอยากได้คำตอบกลับเป็นเชิงอนุญาตจากปาฏิหาริย์อย่างไม่มีเหตุผล

ปาฏิหาริย์นิ่งอยู่อย่างนั้น ในหัวเขากำลังประมวณความคิด พูดตรงๆว่าเขาไม่อยากให้ภาคนิพนธ์ไป แต่เขาจะเอาอะไรไปห้ามล่ะ คิดอยู่ในใจแล้วก็หงุดหงิดตัวเองที่ถ้าเป็นเรื่องของภาคนิพนธ์ในตอนนี้แล้วปาฏิหาริย์รู้สึกราวกับมีอะไรหนักๆมาถ่วงขาเขาไว้ตลอดเวลา

“คุณ...”

เสียงเรียกเบาๆนั้นทำให้ปาฏิหาริย์หยุดความคิดต่างๆของตัวเองแล้วพยักหน้าให้

“ไปเถอะ ถ้าจะให้ไปรับก็โทรมาแล้วกัน”

ภาคนิพนธ์ขยับปากจะเอ่ยค้าน แต่ก็โดนโบกมือไล่ให้ไปทำงานจึงต้องถอนหายใจออกมาเบาๆแทน ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะและเริ่มลงมือทำงานอีกครั้ง

ทุกอย่างทุกปฏิกิริยาของภาคนิพนธ์อยู่ในสายตาของคนตัวสูงที่นั่งก้มหน้าทำท่าเหมือนทำงานแต่ที่จริงลอบสังเกตอาการของอีกฝ่ายอยู่ต่างหาก

พอเห็นท่าทางเหนื่อยอกเหนื่อยใจของภาคนิพนธ์ที่แสดงออกมาความหงุดหงิดก็ยิ่งเพิ่มขึ้น ปาฏิหาริย์กดปากกาลงเซ็นชื่อแรงๆ ปิดแฟ้มลงแรงๆ แล้วก็เลื่อนเก้าอี้เพื่อลุกขึ้นจากที่นั่งแรงๆ

“เอ่อ”

คนที่สะดุ้งทุกครั้งที่อีกฝ่ายทำเสียงดังเงยหน้าขึ้น ตั้งใจจะถามเมื่อเห็นว่าร่างสูงนั้นกำลังเก็บเอกสารบางอย่างลงกระเป๋าแล้วเดินผ่านหน้าโต๊ะตัวเองไป

“ฉันจะไปข้างนอก เจอกันที่บ้านเลยแล้วกัน”

พูดจบก็เปิดประตูออกไป ยังดีที่เป็นระบบปิดอัตโนมัติ ไม่อย่างนั้นเสียงปิดประตูคงดังสนั่นหวั่นไหวให้ใครต่อใครด้านนอกได้แปลกใจเป็นแน่

ภาคนิพนธ์มองอาการเหล่านั้นแล้วก็เอนตัวพิงเก้าอี้ตัวเองอย่างอ่อนแรง

ถ้าจะมาทำท่าทางแบบนี้ใส่ ทำไมปาฏิหาริย์ไม่พูดออกมาตรงๆเลยล่ะว่าไม่ให้ไป คิดแล้วก็นึกถึงเมื่อก่อน ตอนที่ยังอยู่ด้วยกันที่คอนโดภาคนิพนธ์เคยบอกปาฏิหาริย์ว่าอยากไปพบเรือชา แต่อีกฝ่ายก็ห้ามไม่ไห้ไป ปาฏิหาริย์แสดงถึงความเอาแต่ใจชัดเจนเสียจนภาคนิพนธ์ตอนนั้นทั้งนึกขำและก็โมโหที่ปาฏิหาริย์เผด็จการซะเหลือเกิน สุดท้ายก็จำต้องยอมไม่ไปหาเพื่อน แต่ตอนนี้ทั้งๆที่ทำหน้าตาแบบนั้น แต่กลับยอมให้ไป

“ไม่เข้าใจเลย”

รำพึงกับตัวเอง ด้วยไม่เคยจะตามปาฏิหาริย์ทันสักที

................................

ปาฏิหาริย์โทรนัดคู่ควงคนหนึ่งออกมาเพื่อหวังว่าจะสามารถแก้อารมณ์หงุดหงิดของตัวเองไปได้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว ....

“คุณปาฏิหาริย์ค่ะ กุ๊กกิ๊กอยากได้ตัวนี้จังเลยค่ะ”

ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเบื่อหน่ายสุดขีด เสียงออดอ้อนกับการเกาะแขนออเซาะไม่ได้ทำให้ปาฏิหาริย์รู้สึกพึงใจสาวเจ้าเลยสักนิด แล้วก็ให้นึกไปถึงใครคนหนึ่งที่ปาฏิหาริย์เคยพามาซื้อของด้วยกัน ทั้งๆที่เขาพาร่างเล็กๆนั้นเข้าออกร้านโน้นร้านนี้อย่างสนุกสนาน แต่ของที่ได้มากลับน้อยจนไม่น่าเชื่อเมื่อเทียบกับการเข้าไปไม่กี่ร้านของหญิงสาวคนนี้ เสียงที่ปาฏิหาริย์ได้ยินคือเสียงประท้วงไม่ซื้อเพราะข้าวของมันราคาแพงเกินไป ไม่ใช่เสียงหวานๆขอให้ซื้อของให้อย่างผู้หญิงตรงหน้านี่

“บ้าจริง!”

ด่าตัวเองเบาๆเมื่อตนเองเอาคนสองคนมาเปรียบเทียบกัน

ปาฏิหาริย์พยักหน้าเป็นเชิงตกลงว่าจะซื้อเสื้อที่อยู่ในมือของหญิงสาวให้ตามคำขอ แล้วเบนสายตาไปด้านนอกด้วยความเซ็ง กำลังหาเหตุผลจะขอตัวกลับก่อนอยู่ก็ให้พอดีไปสบเข้ากับดวงตากลมแสนคุ้นเข้า

อีกฝ่ายดูเหมือนจะมองเข้ามาอยู่นานแล้ว เมื่อเขาหันไปมองจึงสะดุ้งเล็กน้อยเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวก่อนจะรีบจ้ำเท้าเดินจากไป มองจนลับสายตาแล้วจึงหันกลับมาเมื่อถูกเรียกโดยพนักงานขาย

“อะไรจะพอดีปานนี้”

พูดให้ตัวเองได้ยินคนเดียวพลางส่งเครดิตการ์ดให้พนักงาน

............................

ภาคนิพนธ์จ้ำเท้าเดินออกมาให้ไกล ในหัวตื้อไปหมด เขามองเข้าไปในร้านนั้นด้วยความไม่ตั้งใจ แค่เพียงเป็นการมองไปเรื่อยๆระหว่างทางเดินกลับมาจากห้องน้ำ แต่สายตากลับไปสะดุดเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่ภาคนิพนธ์จำได้ดี ข้างกายชายหนุ่มมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยเกาะแขนและยิ้มหวานให้อย่างสนิทสนม มันดูเหมาะกันอย่างเหลือเชื่อ เหมาะกันจนภาคนิพนธ์เกลียดตัวเองขึ้นมาที่เกิดมาเป็นผู้ชายที่ไม่มีอะไรคู่ควรแบบนี้ เกลียดตัวเองที่อิจฉาขึ้นมาเมื่อมองเห็นภาพเหล่านั้น

เพราะแบบนี้ใช่ไหมปาฏิหาริย์ถึงได้ไม่เหมือนเดิม เหมือนตอนที่ยังอยู่ที่คอนโดด้วยกัน เพราะมีตัวจริงอยู่แล้วและไม่มีความจำเป็นต้องทำเป็นรักภาคนิพนธ์อีก ... ที่กลับมาเหมือนจะคบกันมันก็แค่ข้อตกลง เหมือนเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งเท่านั้น

มันก็แหงอยู่แล้ว ไม่ว่าถามใครก็คงตอบได้โดยไม่ต้องคิด

แล้วทำไมภาคนิพนธ์ถึงคิดอะไรโง่ๆหลงตัวเองอยู่เรื่อยว่าคงมีความสำคัญกับอีกฝ่ายอยู่บ้าง

ภาคนิพนธ์กัดริมฝีปากตัวเอง ด่าตัวเองว่าโง่ๆๆให้คำๆนี้มันซึมเข้าสู่สมอง ...

................

มีต่อข้างล่างนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 27-03-2013 02:15:02
การมาเจอกันนี้ทำเอาปาฏิหาริย์นึกกร่นด่าโชคชะตาและความบังเอิญ

ทำไมนะ ทั้งๆที่ห้างก็มีตั้งมากมายไม่เลือกจะไปทั้งเขาและภาคนิพนธ์ จำเพาะเอาต้องมาห้างนี้ แถมต้องมาเจอกันอีก

หลังจากจ่ายเงินค่าชุดให้หญิงสาวแล้ว ปาฏิหาริย์ก็เอ่ยขอตัวแยกออกมาทันที

สองขาก้าวเดินมาตามทางที่ร่างบางเดินหายไปเมื่อครู่ สายตาสอดส่องเข้าไปในร้านอาหารเพื่อมองว่ามีภาคนิพนธ์นั่งอยู่ในร้านเหล่านั้นหรือไม่

และเป็นโชคดีที่เจอ

ร่างสูงก้าวเข้าไปในร้าน ตรงไปยังโต๊ะเป้าหมาย และนั่งลงตรงข้างๆภาคนิพนธ์โดยไม่ได้เอ่ยขออนุญาตใครในโต๊ะเลยสักคำ

“.....”

“....”

สองร่างที่กำลังนั่งคุยกันเบาๆต่างก็ตกใจต่อการปรากฏตัวของอีกฝ่าย แม้จะด้วยความคิดที่ต่างกันไป

“เอ่อ...สวัสดีครับคุณปาฏิหาริย์”

และเป็นเรือชาที่ได้สติก่อน เอ่ยทักทายผู้ที่อายุน้อยกว่าตน แต่ดำรงตำแหน่งสูงกว่า

“สวัสดีครับ วันนี้ขอกินข้าวด้วยคนนะครับ”

อีกฝ่ายก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตรพร้อมทั้งเอ่ยขอ เรือชาเลยยิ้มกว้างพยักหน้ารับพลางเรียกพนักงานมาเพื่อสั่งอาหารเพิ่ม

“ต้องขอบคุณมากเลยนะครับ ที่เข้าไปช่วยจัดการเรื่องบัญชียุ่งๆ”

พอสั่งอาหารเสร็จปาฏิหาริย์ก็หันมาคุยกับเรือชา

“ไม่เป็นไรครับ ผมเองก็ได้เครดิตมากอยู่จากการเข้าไปช่วยที่นั่น”

และการพูดคุยก็ผูกขาดอยู่ที่สองคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงาน ภาคนิพนธ์นั้นนอกจากจะเออออไปตามเรื่องตามราวแล้ว สติก็ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่นัก

ทั้งสงสัยว่าทำไมปาฏิหาริย์ถึงได้มานั่งกินข้าวด้วยกันและยังความรู้สึกขุ่นๆในใจยามที่คิดภาพร่างสูงอยู่กับผู้หญิงเมื่อครู่ แต่ถึงจะคิดอย่างนั้น ถึงจะไม่ได้มีส่วนพูดคุยมากเท่าใดนัก หากมือเรียวก็ยังตักอาหารใส่จานให้คนตัวโตอยู่ตลอดเวลาจนเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยังอดยิ้มไม่ได้ที่เห็นการกระทำนั้น เรือชาไม่ได้เอ่ยทัก ด้วยความที่คบกันมานานถึงจะห่างๆกันไปบ้างเมื่อภาคนิพนธ์ไปอยู่ที่ต่างประเทศ แต่ท่าทางเงียบๆของภาคนิพนธ์เรือชาก็รับรู้ได้ว่าเพื่อนไม่ปกติ

ส่วนปาฏิหาริย์แม้จะพูดคุยกับเรือชาและไม่ได้หันมาชวนคนนั่งข้างๆคุยเลยสักนิด แม้จะเพียงแค่นั่งกินอาหารที่อีกฝ่ายตักให้ไปเรื่อยๆ และตักอาหารใส่จานให้อีกฝ่ายกลับไปบ้างเท่านั้น แต่ปาฏิหาริย์ก็มองเห็นบรรยากาศอย่างที่เคยเป็น เหมือนเมื่อตอนที่เคยอยู่ด้วยกัน ทั้งสองคนที่นั่งกินข้าวเงียบๆ แต่ก็ผลัดกันตักอาหารให้กันและกัน รอยยิ้มจุดขึ้นที่ริมฝีปากของร่างสูง คิดว่าตัวเองคิดถูกจริงๆที่แยกจากหญิงสาวมาแล้วตามมาหาภาคนิพนธ์อย่างนี้

“คุณปาฏิหาริย์”

เสียงเรียกดังขึ้นที่ข้างโต๊ะทำให้บทสนทนาที่ดำเนินมาหยุดชะงัก คนโดนเรียกเงยหน้าขึ้นมองผู้ที่เข้ามาทักแล้วต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจ

“ยังไม่กลับไปอีกหรือครับ”

เป็นคำถามที่ทำเอาหญิงสาวหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะปรับให้เป็นรอยยิ้มดังเก่า

“พอดีกุ๊กกิ๊กหิวน่ะค่ะ”

“ครับ”

แม้ว่าจะรู้จุดประสงค์ในการบอกว่าหิวของหญิงสาว แต่ปาฏิหาริย์ก็แค่รับฟังและตอบรับไปเฉยๆ จากนั้นสายตาก็เลื่อนกลับมายังเพื่อนร่วมโต๊ะ และชวนเรือชาคุยต่อโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆอีก

เมื่อปาฏิหาริย์ที่เป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้จักกับหญิงสาวไม่เอ่ยแนะนำ ไม่เอ่ยชวน แล้วสองคนที่เหลือจะชวนได้อย่างไร

เรือชาที่คุยกับปาฏิหาริย์แอบเหลือบตามองหญิงสาวที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงนิดๆพร้อมทั้งยิ้มขำๆอย่างโจ่งแจ้งไม่ปิดบังให้เธอได้เห็น

ส่วนภาคนิพนธ์นั้นมองหญิงสาว มองปาฏิหาริย์ มองเพื่อนตัวเอง แล้วกลับไปมองหญิงสาวอีกครั้ง พอเห็นเหตุการณ์แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยรู้ว่าเพื่อนตัวเองไม่ชอบผู้หญิงมาแต่ไหนแต่ไร ผู้หญิงที่เรือชาคบค้าสมาคบด้วยนั้นมีน้อยจนนับคนได้ ยิ่งคนที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะยิ่งใกล้แบบที่เรือชาไม่ชอบที่สุดแบบนี้ด้วย นี่ยังดีว่าปาฏิหาริย์ไม่ใช่เพื่อนทำให้เรือชาต้องเกรงใจบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วหญิงสาวคงไม่ได้แค่รอยยิ้มยียวนส่งไปให้เท่านั้นแน่

ในที่สุด เมื่อมองไม่เห็นทางว่าจะทำให้ปาฏิหาริย์หรือคนในโต๊ะเชิญเธอนั่งด้วยอย่างที่ต้องการ หญิงสาวจึงส่งเสียง หึ แล้วสะบัดตัวเดินลงส้นเท้าแรงๆจากไป

เมื่อเธอเดินจากไปแล้ว ภาคนิพนธ์ก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดังขึ้นกว่าเดิมจนเรียกสายตาคนนั่งข้างๆให้หันมามองได้

“เป็นอะไร”

ถามแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ ภาคนิพนธ์เพียงแค่ส่งค้อนเล็กๆให้แล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตากินข้าวต่อเงียบๆ

สำหรับภาคนิพนธ์แล้วถ้าถามว่าตัวเองโกรธปาฏิหาริย์ไหมที่เห็นร่างสูงอยู่กับผู้หญิงในวันนี้ ถ้าบอกว่าไม่โกรธเลยก็ดูเหมือนจะเป็นการโกหก เพราะว่ารักเมื่อเห็นครั้งแรกจึงทั้งโกรธและไม่พอใจ แต่เมื่อมาคิดคำนึงถึงสถานะของตัวเองในตอนนี้ก็รู้ดีว่าไม่สามารถโกรธอีกฝ่ายจนออกนอกหน้าได้ ตอนนี้ความรู้สึกที่หลงเหลืออยู่คงเป็นเพียงแค่ความน้อยใจ

“วันนี้ขอบคุณมากเลยนะครับ เลยกลายเป็นว่าต้องมาให้จ่ายให้เลย”

เรือชาเอ่ยด้วยรอยยิ้มเมื่อจะแยกตัวไปที่รถของตัวเอง

“ไม่เป็นไรครับ ถือว่าเป็นการขอโทษที่มาเอาเองโดยไม่ได้รับเชิญ”

ปาฏิหาริย์ก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มพอกัน

“คิดอย่างนี้ ผมจะตกงานไหมเนี่ย .. แยกกันตรงนี้แล้วกันนะครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ไปก่อนนะภาค”

“อืม บาย”

เมื่อเพื่อนแยกตัวไปแล้ว ทั้งสองคนก็เดินไปชั้นจอดรถเงียบๆ

หลังจากขึ้นรถ ภายในรถก็มีแต่ความเงียบ

ปาฏิหาริย์อยากจะพูดอยากจะบอกเรื่องของกุ๊กกิ๊ก แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ถามอะไรออกมา เขาก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นพูดที่ตรงไหน

ภาคนิพนธ์อยากถามออกไปในเรื่องที่ตนข้องใจ แต่เพราะไม่รู้ว่าตัวเองมีลิมิตถามอีกฝ่ายได้แค่ไหน พอนึกว่าจะล้ำเส้นมากเกินไปจึงไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมาสักคำ

ต่างคนต่างความคิด ในรถจึงมีเพียงแค่ความเงียบไปตลอดทาง

.................................

ไม่ใช่แค่ในรถ แม้แต่ในห้องนอนเองทั้งสองคนก็เงียบพอกัน หลายวันที่ผ่านมาภาคนิพนธ์นอนเตียงเดียวกับปาฏิหาริย์มาโดยตลอด เจ้าตัวไม่ได้เดือดร้อนอะไรในเรื่องนี้เพราะปาฏิหาริย์ไม่ได้มีท่าทางคุกคามและเตียงก็ใหญ่พอให้ผู้ชายสองคนสามารถนอนห่างๆกันได้

ระหว่างทั้งสองคนมีแต่ความเงียบ ความเงียบที่ทำให้อึดอัดใจแต่ก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ความเงียบและตึงเครียดระหว่างกันที่คนอื่นๆก็สามารถสัมผัสได้ แล้วก็พลอยทำให้คนอื่นๆเงียบตามไปด้วย

ปารมีไม่ชอบบรรยากาศระหว่างทั้งคู่ แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะพูดยังไงให้ทั้งคู่เลิกทำเงียบๆใส่กัน ไม่ทันได้คิดออกก็มีคนทำลายความเงียบขึ้นมาเสียก่อน

“อาตาหวานคับ”

น้องเอิร์ธเรียกอาของตนพลางปีนลงมาจากเก้าอี้เดินไปหาอา วันนี้เป็นเสาร์ที่เด็กชายไม่ต้องไปเรียนจึงมีเวลามากินข้าวเช้าพร้อมกับเขา คนถูกเรียกยิ้มให้หลานชายตัวน้อยก่อนจะยกอีกฝ่ายขึ้นมานั่งตัก

“ว่าไงครับ”

น้องเอิร์ธไม่ตอบแต่หันไปจ้องภาคนิพนธ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ปาฏิหาริย์ก็เพิ่งรู้สึกตัวตอนนี้เองว่ายังไม่ได้แนะนำภาคนิพนธ์อย่างเป็นทางการ แม้ว่าทุกคนจะรับรู้แล้วก็เถอะว่าภาคนิพนธ์เข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยฐานะคนรักของเขา แต่ก็ยังไม่ได้แนะนำจริงๆจังๆเลย

“นี่อาภาคครับ แฟนอาเอง”

เอิร์ธยิ้มส่งไปให้และภาคนิพนธ์เองก็ยิ้มกลับมาให้เด็กชาย

“เอิร์ธชื่อเอิร์ธฮับ เป็นลูกของคุณพ่อกะหม่าม้า”

ภาคนิพนธ์ยิ้มแบบงงๆ เพราะยังไม่เห็นใครในที่นี้จะเป็นหม่าม้าอย่างที่เด็กชายเรียกได้สักคน

“น้องเอิร์ธ!”

เสียงเรียกดุๆที่ดังมาทำให้ภาคนิพนธ์หันกลับไปมองอย่างสงสัย

“แต่อาภาคเป็นแฟนอาตาหวานนะฮับ ต้องนับเป็นครอบครัวด้วยสิ”

เด็กชายเถียงงอนๆพร้อมๆกับกอดอาตัวเองไว้แน่น จิตรินที่ได้ฟังคำก็ได้แต่ถอนหายใจ แน่นอนเพราะเถียงไม่ได้

ปาฏิหาริย์เห็นภาคนิพนธ์งงๆเลยช่วยอธิบายให้

“น้องเอิร์ธเขาเรียกพี่ตรินว่าหม่าม้าน่ะครับ แต่พี่ตรินบอกไว้ว่าให้เรียกเฉพาะเวลาอยู่กันในครอบครัวเท่านั้น”

ภาคนิพนธ์พยักหน้าแม้จะยังงงๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าปาฏิหาริย์เคยบอกว่าพี่ชายสองคนมีคนรักแล้ว พอมองตำแหน่งที่นั่งก็พอเข้าใจได้ว่าคนที่นั่งข้างๆพี่ชายทั้งสองของปาฏิหาริย์ตอนนี้คือคนรักของทั้งคู่นั่นเอง

“วันนี้เอิร์ธไปทำงานกับอาตาหวานได้ไหมคับ”

ปาฏิหาริย์หันไปมองหน้าพี่ชายแล้วเลยไปมองจิตริน เมื่อทั้งสองพยักหน้าให้จึงได้ตอบตกลงกับหลายชาย

..............................

ในรถที่เคยมีแต่ความเงียบเมื่อมีเด็กชายอยู่ด้วยก็เริ่มมีการพูดคุยบ้าง แม้จะเป็นการพูดคุยของเด็กชายเป็นส่วนใหญ่ก็เถอะ

เอิร์ธนั่งตักภาคนิพนธ์แล้วก็เล่าจ้อยๆถึงเรื่องที่โรงเรียน เรื่องที่ไปเที่ยวสวนสนุกกับปาฏิหาริย์ เรื่องที่คุณพ่อกับหม่าม้างอนกัน ไอ้เรื่องสุดท้ายนี่แหละที่ทำเอาผู้ใหญ่สองคนแอบสะอึก

“หม่าม้านะไม่ยอมพูดว่าโกรธคุณพ่อเรื่องอะไร คุณพ่อก็ไม่ยอมถามก่อนเหมือนกัน คุณพ่อบอกว่าแน่ใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เอิร์ธโมโหเลยบอกว่าถ้าไม่คุยกันที่ไม่เข้าใจกันมันก็จะไม่เข้าใจกันไปเรื่อยๆ เอิร์ธเป็นเด็กยังรู้เลย แล้วคุณพ่อกับหม่าม้าทำไมไม่รู้”

เด็กชายพูดจบก็มองหน้าอาตัวเองทีแฟนอาตัวเองทีแล้วถอนหายใจ น้องเอิร์ธพูดขนาดนี้แล้ว ทำไมทั้งสองคนยังเงียบได้อีกนะ พวกผู้ใหญ่นี่ทำไมชอบเงียบใส่กันนัก เอิร์ธไม่เข้าใจจริงๆ

...............................

ที่จริงตอนแรกปาฏิหาริย์บอกว่าวันนี้ให้ภาคนิพนธ์ช่วยดูแลเอิร์ธไม่ต้องทำงาน แต่น้องเอิร์ธเป็นเด็กดีมาก พอมาถึงก็นั่งลงตรงพื้นของชุดรับแขกและเริ่มทำการบ้าน เสร็จแล้วก็ระบายสีอะไรไปเรื่อย ไม่กวน ไม่งอแงเลยสักนิด ภาคนิพนธ์จึงสามารถทำงานได้ พอบ่ายๆหน่อยเด็กชายก็หลับ ภาคนิพนธ์ก็แค่มาช่วยอุ้มให้เด็กชายนอนสบายๆบนโซฟาก็เท่านั้น

เด็กชายที่ดูอย่างไรก็ยังเป็นแค่เด็กเล็กๆนอนหลับอย่างสบาย พอนั่งมองแล้วก็ให้คิดถึงสิ่งที่เด็กน้อยพูดในรถ ภาคนิพนธ์เหลือบมองคนที่จดจ่อกับเอกสารแล้วก็ต้องแอบถอนหายใจ บางทีอะไรๆมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้นทำให้ไม่สามารถพูดทุกอย่างอย่างที่คิดออกมาได้ บางทีก็ไม่รู้ต้องพูดยังไงเรื่องทั้งหมดมันถึงจะดีขึ้น และบางทีสิ่งที่ได้ฟังมันก็เชื่อไม่ได้เสมอไป

................................   

“คุณตาหวาน”

ปารมีเอ่ยเรียกคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงาน ซึ่งเจ้าตัวก็เงยหน้าขึ้นมาแต่โดยดี

ผู้มาเยือนวางถ้วยชาร้อนให้แล้วลงนั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ เป็นการแสดงออกกลายๆว่ามีเรื่องจะพูดด้วย

“คุณปามมีอะไรหรือครับ”

ยอมรับว่าแอบกังวล ปาฏิหาริย์อดที่จะเกร็งร่างกายไม่ได้ ตามประสาคนมีความผิดติดตัว

ปารมีมองชายหนุ่มที่ตัวเองเลี้ยงมาตั้งแต่เจ้าตัวยังแบเบาะแล้วยิ้มบางๆเพื่อให้อีกฝ่ายหายเกร็งไปบ้าง ซึ่งมันก็ช่วยได้ไม่น้อย

“คุณตาหวานมีปัญหาอะไรกับคุณภาคหรือเปล่า”

ปาฏิหาริย์เสหลบตา ถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาไม่อยากตอบอะไรปารมี พูดตรงๆว่าไม่อยากโกหก ไม่อยากโกหกคนที่สามารถจับโกหกตัวเองได้อย่างง่ายดาย

“คุณปามรู้ว่าเรื่องเมื่อคราวก่อนทำให้ทั้งสองคนกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ยาก”

ปารมีเอื้อมมือไปกุมมือของหลานชายตัวเองไว้

“แต่มันไม่ต้องเป็นเหมือนเดิมก็ได้ เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ถ้าทั้งสองคนเปิดใจ คุณตาหวานเองก็รู้ ก่อนที่คุณตาหวานจะจำความได้ คุณปามกับคุณดินก็เคยต้องเริ่มต้นกันใหม่ มันจะเป็นไปอย่างช้าๆ เราทั้งสองคนเปิดใจยอมรับความเป็นไปอย่างช้าๆนั้น มันไม่สามารถทำได้โดยทันที แต่เวลาสามารถช่วยได้มาก”

“แต่ผมไม่ได้มีเวลามากอย่างคุณพ่อกับคุณปาม”

ปารมียิ้ม ปาฏิหาริย์แม้จะตัวโตกว่าเขาไปมากแล้วแต่สำหรับปารมี เจ้าตัวยังเหมือนเด็กน้อยเมื่อตอนก่อนๆ ปาฏิหาริย์ที่มักจะแสดงออกมาอย่างที่คิด บางทีเจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองได้แสดงมันออกมา

อย่างตอนที่ปารมีแอบไปเห็นปาฏิหาริย์กับภาคนิพนธ์ในห้างก่อนจะเกิดเรื่องนั้นไง

แม้จะไม่ได้เห็นรอยยิ้มกว้างขวางราวกับเด็กน้อยเหมือนตอนที่อยู่กับพวกพี่ชาย แต่รอยยิ้มมุมปากบางเบายามเจ้าตัวจ้องมองคนที่เดินข้างกันนั้นมันเต็มไปด้วยความอบอุ่น ห่วงใย อ่อนโยน และรัก

ใช่รัก

แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเลยว่าได้แสดงออกมามากขนาดนั้น ... หรือไม่ก็ไม่อยากจะรู้ตัว

“เราไม่มีทางรู้ว่าเวลาของเรามีมากแค่ไหน คุณปามกับคุณดินไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าจะสามารถอยู่ด้วยกันมาได้นานขนาดนี้ ตอนนั้นบางทีเวลาของเราอาจจะสะดุดและหยุดชะงักจนต้องแยกกันไปก็ได้ แม้มันจะไม่เกิดขึ้นจริงก็เถอะ แต่มันก็เกิดขึ้นได้ใช่ไหม”

ปาฏิหาริย์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

มันก็จริงที่ว่าไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตเรื่องอะไรจะเกิดขึ้น

“แต่ในเวลานั้นเราทั้งสองคนเปิดใจรับมัน คุณดินรู้ตัวว่าทำผิดและเปิดใจยอมรับความผิดนั้น เปิดใจรับคุณปามทั้งๆที่ตอนนั้นเขาไม่ได้รัก”

“แต่คุณพ่อเคยบอกว่าคุณปามพิเศษกว่าใครและสำคัญมาตั้งแต่แรกแล้ว”

ใบหน้าของปารมีเรื่อขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

“โอเค แต่มันก็แค่ถูกตาถูกใจ อาจจะชอบ อาจจะสำคัญ แต่มันยังไม่สามารถเรียกว่ารักได้ เพราะอย่างนั้นถึงเป็นพิเศษและสำคัญ ไม่ใช่รักไงล่ะ และคุณดินก็ยอมเปิดใจรับความรู้สึกเหล่านั้นเข้ามา สานต่อความรู้สึกเหล่านั้น พร้อมกับที่พยายามทำให้คุณปามเชื่อใจ”

เพราะสิ่งที่วสุธาทำนั้นร้ายแรงนักในความรู้สึก แม้ปารมีจะเปิดใจและยอมให้อภัย แต่มันก็ยังมีเศษเสี้ยวที่ยังไม่ไว้ใจ และที่สำคัญ ปารมียังกลัว

วสุธายอมรับความผิดของตัวเองและทำพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ปารมีเชื่อใจตน และเขาก็รอ

แต่มันไม่มีอะไรมายืนยันได้เลยว่าจะมีวันที่ปารมีเลิกกลัว และก็ไม่มีอะไรมายืนยันได้เช่นกันว่าวสุธาจะไม่เลิกรอ หากทั้งสองคนก็ยังประคับประคองความสัมพันธ์นั้นเรื่อยมา เพราะทั้งสองคนต่างมองเห็นเส้นใยเล็กๆที่เชื่อมความรู้สึกของทั้งคู่เอาไว้ด้วยกัน ต่างคนต่างรู้สึกว่าอีกฝ่ายมีความพิเศษในใจตน ทั้งสองคนเชื่อและเปิดใจรับความรู้สึกนั้นจึงก้าวผ่านมันมาได้ จนเส้นใยเล็กๆนั้นกลายเป็นสายสัมพันธ์อันแข็งแกร่งมาจนถึงทุกวันนี้

“แล้วคุณตาหวานเปิดใจหรือยัง อย่างน้อยๆ เคยเปิดใจยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นเป็นความผิดรึยัง ถึงแม้จะบอกว่าทำไปเพื่ออะไรก็ตามที่ยุติธรรมในความคิดของคุณตาหวาน แต่คุณตาหวานลองคิดดูหรือยังว่ามันผิดต่อตัวเองไหม แล้วมันผิดต่อคุณภาคหรือเปล่า ตัดสินจากความรู้สึกของคุณในฐานะคนรักของคุณภาคดูนะ ลองตัดความรู้สึกทางอื่นทิ้งไป ลองคิดแค่ในฐานะคนๆหนึ่งที่รักและหวังดีกับคุณภาค”

ปาฏิหาริย์รู้ว่าเขาเองพยายามไม่คิดว่าสิ่งที่ตนทำไปนั่นมันผิด คิดแค่ว่ามันเป็นสิ่งที่พัลลภาสมควรได้รับ

พัลลภาที่แกล้งมาตีสนิทกับปารมีเพื่อเข้าหาวสุธา พัลลภาที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองไม่มีทางแย่งปารมีมาจากวสุธาได้ พัลลภาที่หลอกให้ปารมีเชื่อใจ หลอกเอาเงินไป พัลลภาที่พยายามทำลายความเชื่อใจของปารมีที่มีต่อวสุธา แถมยังตั้งใจหลอกไปให้ผู้ชายรุมทำร้าย พัลลภาที่ไม่รู้ว่ากว่าปารมีจะก้าวผ่านความกลัวในใจที่เกิดจากวสุธามาได้ต้องใช้เวลาและความพยายามของวสุธามากแค่ไหน

หากไม่เพราะพัลลภาประเมินความรักและเชื่อใจของคนทั้งคู่ต่ำเกินไปอะไรจะเกิดขึ้น

หากไม่เพราะวสุธารักและเป็นห่วงปารมีมากขนาดวางกำลังไว้ติดตามเจ้าตัวอย่างลับๆด้วยจำนวนคนกว่าสิบจะสามารถเข้าช่วยเหลือปารมีได้ทันไหม

หากไม่เพราะปารมีเชื่อใจวสุธาว่าไม่มีทางหักหลังตนไม่ว่าทางไหนทั้งสองคนจะยังคงอยู่ด้วยกันอย่างนี้หรือเปล่า

พัลลภาทำในสิ่งที่ร้ายแรงในความรู้สึกของปาฏิหาริย์

แม้วสุธาจะทำให้เธอแทบไม่มีที่ยืนแต่มันก็ให้เธอแค่เจ็บใจและไม่สะดวกสบายอย่างเคย

ปาฏิหาริย์อยากให้เธอได้รู้สึกบ้างว่าการโดนคนที่เชื่อใจทรยศนั้นมันทำให้เสียใจมากแค่ไหน แม้คุณปามจะบอกว่าไม่ได้เสียใจมาก แต่มันก็มากพอให้ปาฏิหาริย์จำฝั่งใจ

พัลลภาสมควรที่จะต้องได้รับความเสียใจ

ภาคนิพนธ์คือหนทางที่จะทำให้เธอเสียใจอย่างที่สุดได้

ปาฏิหาริย์คิดมาตลอดว่าตัวเองก็แค่ทำในสิ่งที่สมควรทำเท่านั้น

“นอกจากนี้ คุณตาหวานพูดเองว่าตัวเองไม่ได้มีเวลามาก แล้วในช่วงเวลาอันน้อยนิดนี้ คุณได้ลงมือทำอะไรหรือยัง พยายามทำให้มันดีขึ้นรึยัง”

ปารมีลุกขึ้นมองสบตากับหลานชายและยิ้มอย่างอ่อนโยนส่งไปให้ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

ปารมีไม่ได้อยากให้ปาฏิหาริย์สำนึกผิด หากปาฏิหาริย์ทำร้ายภาคนิพนธ์แล้วมีความสุขปารมีอาจจะตำหนิแต่ไม่มีทางบอกว่าอีกฝ่ายทำผิด เพราะอย่างน้อยๆสิ่งที่ทำก็ไม่ผิดต่อความรู้สึกตัวเอง

แต่นี่ปาฏิหาริย์ไม่ได้มีความสุขในสิ่งที่ตัวเองทำ

ปารมีก็แค่อยากให้คนที่เปรียบเสมือนลูกชายคนเล็กของตัวเองมีความสุข

ถึงจะต้องยื่นมือเข้าไปยุ่งมากกว่านี้เจ้าตัวก็พร้อมจะทำ

.....................................................

TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 27-03-2013 02:22:12
รักเรื่องนี้รักคนเขียนนน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 27-03-2013 07:07:16
ความสับสน ความไม่พยายามหาทางออก ทำให้ยังคงวนเวียนอยู่กับความผิดของผู้อื่น
โดยไม่คิดหาทางออกให้กับปัญหาของตัวเอง สิ่งที่คุณปาม พูดและแสดงความคิดเห็นออกมา
คงทำให้ ตาหวาน ตาสว่างขึ้นได้บ้าง ไม่มากก็น้อย  :mew5:
ส่วนหลานชายตัวน้อย ออกมาแสดงตัวตนของจอมไตร อย่างหมดเปือก  :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ จุ๊บจิ๊บ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-03-2013 08:13:22
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: silw ที่ 27-03-2013 11:09:49
มาลงชื่อกะบวกเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 27-03-2013 11:20:52
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:แม่ของภาคร้ายมากกกกกกกกกกอะ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 27-03-2013 12:34:54
ยังโกดตาหวานอยู่เชอะ!!!!!!
กล้ามาก...บอกไม่มีเวลาแต่ไปควงชะนีเนี่ยนะ?
เหอะ!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 27-03-2013 18:49:33
คุณปามจะทำหน้าที่กามเทพสำเร็จรึป่าวหนอ   :m22:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 27-03-2013 22:56:45
ตาหวานกับภาคเนี่ยปากแข็งทั้งคู่เลยซินะ

สงสัยจะต้องมีผู้ช่วยหลายคนน่าดูเลย ถึงจะเข้าใจกันได้ซักที
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 28-03-2013 04:21:13
รักมากมาย ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: Kray ที่ 28-03-2013 09:09:46
ชอบคุณปามมาก  :mew2:

ตอนนี้ตาหวานกับภาคเราว่าความสัมพัมธ์ก็ดีขึ้นๆเรื่อยๆ
เพียงแต่เงียบเก่งทั้งคู่
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 29-03-2013 22:59:38
ลงทุนหน่อยสิ ตาหวานนนนน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 31-03-2013 18:07:34
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 31-03-2013 20:10:21
อ่านแล้ว ไม่อยากเจอ TBC เลยอ่ะ
ตอนนี้สงสารภาคที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 10 27/3/56 p.8
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 02-04-2013 01:17:28
หายไปนาน คึคึ :katai2-1:

อีกสามตอนก็จบแล้วค่ะ

ตอนที่ 11

วันเสาร์เป็นวันหยุดงานและภาคนิพนธ์ตั้งใจว่าจะไปอยู่กับแม่ทั้งวัน

แต่มีสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายไปซักหน่อยคือ ปาฏิหาริย์ที่บอกว่าจะไปด้วย

ภาคนิพนธ์ไม่คิดว่าแม่อยากเจอปาฏิหาริย์ พอ ๆ กับที่คิดว่าปาฏิหาริย์ไม่คิดอยากเจอแม่ อย่างเมื่อคราวก่อนที่ไป ปาฏิหาริย์กับแม่ก็ไม่ได้พูดกันสักคำ

เหม่อมองประตูห้องน้ำที่มีเสียงฝักเบา ๆ แว่วออกมาอย่างไม่เข้าใจ

สองสามวันมานี้ปาฏิหาริย์ทำตัวดี เรียกว่าทำตัวดีกับภาคนิพนธ์มากจนน่าแปลกใจ ความเงียบที่อยู่รอบ ๆ ตัวเขาทั้งสองไม่ใช่ความเงียบที่น่าอึดอัดอย่างที่เป็นในช่วงที่ผ่านมา

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ภาคนิพนธ์ก็ยังไม่กล้าคาดหวัง

เขายังจำได้ถึงความเจ็บยามที่โดนอีกฝ่าย ‘ทิ้ง’ เมื่อคราวที่แล้ว แม้จะไม่ได้โกรธเคือง แม้จะอยากอยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยใจตัวเองให้คาดหวังสิ่งใด เพราะความเจ็บจากคราวที่แล้วยังคงย้ำเตือน

“คุณจะแวะซื้ออะไรไหม”

นี่ก็อีกเรื่องที่ภาคนิพนธ์ไม่เข้าใจ ปกติแล้วปาฏิหาริย์จะแทนภาคนิพนธ์ว่า ‘นาย’ และแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ แต่ช่วงนี้เป็น ‘คุณ’ กับ ‘ผม’ แม้มันจะดูสุภาพและเป็นทางการขึ้น แต่ก็ไม่ได้ฟังดูห่างไกล หากกลับอ่อนโยนจนน่าแปลกใจเสียด้วยซ้ำ

“ไม่ล่ะครับ โทรไปถามแล้วแม่ไม่ได้อยากได้อะไร”

ปาฏิหาริย์พยักหน้าก่อนจะเดินไปแต่งตัว

สำหรับปาฏิหาริย์ที่สองสามวันมานี้ทำตัวดีกับภาคนิพนธ์ ไม่ใช่เพราะอยากเอาใจ หรือเสแสร้งแกล้งทำ แต่เพราะเจ้าตัวคิดได้แล้วว่าควรทำตัวอย่างไรเพื่อให้อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ความสับสนตึงเครียดอย่างหลาย ๆ วันที่ผ่านมาจึงลดลงตามไปด้วย แม้ภาคนิพนธ์จะยังดูงง ๆ กับสิ่งที่ปาฏิหาริย์แสดงออก แต่คิดว่าไม่นานภาคนิพนธ์คงจะเข้าใจและชินไปเอง

ปาฏิหาริย์อยากจะพูดอยากจะบอกให้ภาคนิพนธ์ทำตัวผ่อนคลายกว่านี้ อยากจะบอกให้อีกฝ่ายเลิกระแวงเพราะเขาไม่ได้คิดไม่ดี อยากให้เชื่อใจมั่นใจในกัน แต่ก็รู้ว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

ที่เขาทำเอาไว้มันไม่ใช่ว่าจะลืมกันได้ง่าย ๆ เขาควรทำให้ภาคนิพนธ์เชื่อใจให้ได้เสียก่อนในระดับหนึ่ง ไม่อย่างนั้นสิ่งที่พูดออกไปคงไม่ต่างกับคำลวงสำหรับภาคนิพนธ์

ร่างสูงถอนหายใจเบา ๆ รับรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย แต่ปาฏิหาริย์ก็ต้องพยายาม อย่างน้อย ๆ ก็ต้องพยายามให้ภาคนิพนธ์มั่นใจว่าสามารถเชื่อใจตัวเขาได้อย่างแท้จริง

................................

พัลลภาค่อนข้างแปลกใจที่เห็นร่างสูงใหญ่อีกร่างเดินตามลูกชายตัวเองเข้ามา เธอไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมา ไม่คิดแต่เธอก็หวังให้มาอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

ที่เธอไม่คิดว่าปาฏิหาริย์จะมาเพราะเธอรู้ว่าการกลับมาคบกันของทั้งคู่เป็นแค่ข้อตกลง คล้าย ๆ การทำธุรกิจ ซื้อไปขายมา

ปาฏิหาริย์ต้องการให้ภาคนิพนธ์ไปแสดงตัวว่าเป็นคนรักเพื่อลดการขัดแย้งในบ้าน

ภาคนิพนธ์ต้องการเงินและงานที่ดี

การมาเยี่ยมเธอไม่ใช่สิ่งจำเป็น และไม่ได้ส่งผลดีอะไรให้ปาฏิหาริย์ ด้วยเหตุนี้เธอจึงหวังให้เขามา เพราะการที่เขามาปรากฏตัวที่นี่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อตกลง มันไม่ได้ให้ผลประโยชน์อะไร เหมือนการกระทำที่สูญเปล่าสำหรับปาฏิหาริย์...ถ้าเขาไม่เห็นลูกชายเธอมีความสำคัญเลยสักนิดน่ะนะ แต่การที่เขามานี้มันคล้ายจะบอกว่า บางทีภาคนิพนธ์อาจจะสำคัญและเขาอาจจะจริงใจกับลูกชายของเธอ

เธอเงยหน้ามองคนที่ยกมือขึ้นสวัสดีเธออย่างค้นหา อีกฝ่ายก็สบสายตาเธอด้วยความจริงจัง ไม่หลบเลี่ยง และไม่ใช่ด้วยรอยยิ้มที่เธอคิดได้แล้วว่าเขาคงเสแสร้งเอาอย่างในตอนแรก ๆ

“ภาคไปซื้อของให้แม่หน่อยสิ แม่ลืมโทรบอกลูกก่อนหน้านี้”

พัลลภาหยิบกระดาษขึ้นมาจดรายชื่อข้าวของ จำเป็นจริงบ้างไม่จำเป็นบ้าง แต่ก็จดเยอะมากพอที่จะให้ลูกชายเธอไปซื้อจนกว่าเธอกับปาฏิหาริย์จะคุยกันเสร็จ

“เดี๋ยวผมมานะคุณ”

ภาคนิพนธ์มองปาฏิหาริย์สลับกับแม่อย่างไม่ค่อยสบายใจ ถ้าเลือกได้ไม่อยากปล่อยทั้งสองคนไว้ด้วยกัน แต่ของที่แม่จดมาบางอย่างเป็นของใช้สำหรับผู้หญิงซึ่งเขาว่ามันดูจะเสียมารยาทหากให้ปาฏิหาริย์ออกไปซื้อด้วยกัน สุดท้ายภาคนิพนธ์ก็จำใจเดินออกไปจากห้องคนเดียว

“..............”

“...................”

ความเงียบเข้าครอบคลุมอยู่หลายนาทีก่อนที่พัลลภาจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นก่อน

“คุณมาถึงนี่ต้องการอะไรหรือเปล่า”

ถามว่าเธอโกรธไหมเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกชาย เธอก็ยอมรับว่าโกรธอีกฝ่าย แต่เธอโกรธแล้วได้อะไร มีแต่จะทำให้ลูกชายเธอหมดความสุขไปมากขึ้นเรื่อย ๆ เสียด้วยซ้ำ

“ผมอยากมาขอโทษ”

ครั้งสุดท้ายที่พบและพูดคุยกันระหว่างทั้งสองคน เป็นการพูดคุยที่ไม่ดีนัก

ปาฏิหาริย์ที่มาบอกว่าหลอกลูกชายเธอ ตั้งใจจะหักหลังลูกชายเธอ เพราะสิ่งที่เธอเคยทำในอดีต มันเป็นการพบกันที่พัลลภาอยากจะลบมันทิ้งทุกครั้งที่นึกถึง แต่มันทำไม่ได้

“มันไม่ใช่เรื่องที่จะมาขอโทษแล้วก็จบไป”

เธอพูดแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ปาฏิหาริย์ก็นั่งเงียบฟังในสิ่งที่เธอจะพูดต่อ

“แต่คุณก็ยังมาขอโทษ ต่างกับฉันที่ไม่เคยขอโทษเลย”

พัลลภาทำผิดกับปารมีไว้มาก แต่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้สึกผิด มีแต่ความโกรธแค้นว่าสิ่งที่ตัวเองวางไว้ไม่เป็นไปตามแผน จนกระทั่งเกิดเรื่องกับลูกชายตัวเอง เธอถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปมันช่างร้ายกาจ

และมันคงร้ายกาจมากไปกว่านี้หากแผนนั้นไม่ผิดพลาด

บอกตามตรงว่าตอนนี้เธอรู้สึกสบายใจทีเดียวที่ปารมีไม่เป็นอะไร

“ถ้าหากไม่รักภาคก็ขอให้คุณจากไปเสีย แต่หากรัก ช่วยดีกับเขาให้มาก ๆ ช่วยดูแลเขาดี ๆ และขอร้องว่าอย่าทำร้ายเขาอีก”

ปาฏิหาริย์สบสายตากับเธอแววตาที่ส่อความรู้สึกอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นจริงจัง

“ผมจะดูแลเขาอย่างดี และจะไม่ทำร้ายเขา”

เพียงเท่านี้พัลลภาก็ยิ้มออกมาได้

แม้ไม่ได้พูดว่ารักลูกชายเธอออกมาตรง ๆ แต่สิ่งที่ปาฏิหาริย์เลือก คือสิ่งที่เธอขอให้เขาทำหากเขารักลูกชายเธอ เพราะอย่างนั้น ถึงเขาจะไม่พูดคำว่ารักก็ไม่เป็นไร

.............................

ภาคนิพนธ์กลับมาก็เจอแม่และปาฏิหาริย์นั่งดูโทรทัศน์อยู่ ทั้งสองคนไม่ได้พูดคุยกัน แต่ไม่น่าจะมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นเพราะแม่ยังยิ้มให้ภาคนิพนธ์อยู่

“คุณดื่มอันนี้ไหม”

อันนี้ที่ว่าคือชาเขียวที่ภาคนิพนธ์ซื้อติดมือมาด้วย ปาฏิหาริย์พยักหน้าแล้วหันไปสนใจโทรทัศน์ต่อ ข่าวการตรวจจับการเลี่ยงภาษีและการฟอกเงินทำให้เขาต้องหันกลับมามองสองแม่ลูกที่กำลังนั่งคุยกันเบา ๆ ถึงไม่ได้ออกชื่อแต่เขาเชื่อว่าหนึ่งในคนที่จะถูกตรวจสอบคือนายมานิชไม่ผิดแน่

“ไปโทรศัพท์นะ”

เข้าบอกกับภาคนิพนธ์ก่อนจะออกมาโทรศัพท์ไปถึงทนายความ

“ต้องรีบจัดการเรื่องนี้ไห้เสร็จก่อนทางนั้นจะหนีไป”

จากข่าววงในปาฏิหาริย์ค่อนข้างแน่ใจว่านายมานิชไม่มีทางดิ้นหลุด และหนทางที่เขาจะทำก็คือเดินทางหนีไปนอกประเทศก่อนหมายจับจะออก แล้วถึงตอนนั้นหากเรื่องของพัลลภายังค้างคาอยู่มันก็จะไม่จบไม่สิ้นกันเสียที

........................................

ดูเหมือนปาฏิหาริย์จะอารมณ์ดี ภาคนิพนธ์มองคนที่ขับรถแล้วคิดอย่างนั้น เพราะถึงจะไม่ได้ถึงขนาดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แต่ก็ฮัมเพลงและร้องคลอไปเบา ๆ กับเครื่องเล่น แถมยังเคาะนิ้วบนพวงมาลัยตามไปด้วยอีกต่างหาก

“มองอะไรคุณ”

พอจ้องมาก ๆ เข้าก็เป็นธรรมดาที่คนโดนจ้องจะรู้สึกตัว ปาฏิหาริย์หันมาถามภาคนิพนธ์ยิ้ม ๆ แต่เพราะต้องขับรถอยู่ จึงไม่ได้หันมาสบตาอย่างเต็มที่

“ปะ...เปล่า”

ภาคนิพนธ์ที่ไม่ทันคิดว่าตัวเองจะจ้องเพลินขนาดนี้รีบเบือนหน้าหนีออกไปมองทางอื่น

“หึ”

เสียงหัวเราะในลำคอทำให้ภาคนิพนธ์ต้องหันกลับมา แต่ปาฏิหาริย์ก็แค่ยิ้มมุมปากแล้วมองทางไปเรื่อย ๆ

“คุณคุยอะไรกับแม่ผม”

พอเห็นอีกฝ่ายอารมณ์ดีมาก ๆ ภาคนิพนธ์ก็ชักจะไม่ไว้ใจ เริ่มห่วงว่าปาฏิหาริย์ไปทำอะไรแม่อีกหรือเปล่า

คงไม่ใช่ปาฏิหาริย์ไปพูดว่าอะไรร้าย ๆ ใส่แม่เจ้าตัวถึงได้มาอารมณ์ดีแบบนี้หรอกนะ

ไม่สิ

ถ้าเป็นแบบนั้นแม่ต้องเครียดสิ แต่แม่เองก็ท่าทางอารมณ์ดีอยู่เหมือนกัน

ภาคนิพนธ์สั่นหัวพลางนึกต่อว่ามันเป็นเพราะอะไร

หรือว่าปาฏิหาริย์จะไปหลอกอะไรแม่อีก แม่ถึงได้อารมณ์ดี และปาฏิหาริย์ก็อารมณ์ดี

ยิ่งคิดภาคนิพนธ์ก็ยิ่งมองไปในทางร้าย ๆ

“นี่คุณคิดอะไร ทำไมขมวดคิ้วซะแบบนั้นล่ะ”

ช่วงติดไฟแดง ปาฏิหาริย์หันกลับมามองภาคนิพนธ์ แล้วทันได้เห็นอีกฝ่ายทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเลยออกปากถาม ภาคนิพนธ์เห็นช่องจะไขข้อข้องใจเลยหันมาจ้องหน้าคนตัวโตกว่าด้วยความจริงจัง

“คุณคุยอะไรกับแม่ผม”

คนโดนถามเลิกคิ้วแล้วอมยิ้ม แต่ไม่ยอมตอบ

“คงไม่ได้ไปหลอกอะไรแม่อีกนะ”

คราวนี้รอยยิ้มเจื่อนลงไป ภาคนิพนธ์ลืมตัวพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกไปอีกแล้ว

แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนตอนที่เจอกันครั้งแรกที่ต่างประเทศ ปาฏิหาริย์เริ่มเข้าใจภาคนิพนธ์มากขึ้น ภาคนิพนธ์ถามเพราะข้องใจเขา และไม่ไว้ใจ ซึ่งมันก็สมควรแล้ว เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาเคยทำมา

แม้จะเข้าใจแต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี อันที่จริงจะบอกว่าเขาน้อยใจก็ไม่ผิดนัก

“ผมไม่ได้ไปหลอกอะไรแม่คุณหรอกน่า”

น้ำเสียงที่หมดวี่แววล้อเล่นทำให้ภาคนิพนธ์รู้ตัวว่าที่ถามไปนั้นทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียพอควร

“ผมก็แค่ถาม”

“ใช่คุณก็แค่ถาม”

ถามคำถามที่แสดงถึงความไม่ไว้ใจ

ปาฏิหาริย์อยากจะพูดต่อให้หมด แต่ก็คิดว่าเก็บไว้ไม่พูดออกไปจะดีกว่า เพราะหากโดนย้อนมาว่าที่ไม่สามารถไว้ใจได้ มันเป็นเพราะการกระทำของเขาเองไม่ใช่หรือ ปาฏิหาริย์คงรู้สึกแย่ไปกว่านี้

“คุณก็บอกผมมาสิว่าคุยอะไรกับแม่”

“แม่คุณแค่ฝากผมดูแลคุณ”

“หา!”

คำตอบที่ได้ยินนั้นภาคนิพนธ์บอกได้เต็มปากเลยว่าไม่เชื่อ ด้วยคิดว่าแม่กับปาฏิหาริย์ไม่มีทางญาติดีกันได้ แล้วมันจะไปมีการฝากให้ดูแลอย่างนั้นได้อย่างไร

“เอ๊ะ! ทำไมต้องทำหน้าไม่เชื่อถือแบบนั้นด้วย ผมพูดความจริงนะ”

“เป็นคุณ คุณจะเชื่อเหรอ แม่ผมเนี่ยนะฝากให้คุณดูแลผม ไม่มีทาง”

ปาฏิหาริย์ยักไหล่ก่อนตอบ
“เชื่อสิ ถ้าเป็นคุณปามล่ะก็คงทำแบบเดียวกับแม่คุณนี่แหละ”

ปาฏิหาริย์พูดอย่างคนที่รู้จักคนที่เลี้ยงตัวเองมาเป็นอย่างดี

ในขณะที่ภาคนิพนธ์เงียบไปเพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว เขาเองไม่ได้รู้จักแม่ดีขนาดนั้น แล้วยิ่งแม่ในตอนปัจจุบันจะคิดอะไรนั้นภาคนิพนธ์ก็เดาไม่ค่อยออก

“ทำไมต้องมาดูแลผมด้วย ผมโตแล้วนะ อายุมากกว่าคุณด้วย”

พูดพลางหันไปค้อนให้คนข้าง ๆ อารมณ์ดีขึ้นมาอีกครั้ง แค่เห็นว่าภาคนิพนธ์เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ ความหงุดหงิดที่มีก่อนหน้านี้ก็หายไปจนหมด

“แล้วไม่ใช่คนอายุน้อยกว่าคนนี้หรือไงที่ไปเจอคุณเป็นลมน่ะ หึ!”

ภาคนิพนธ์เลยหันไปค้อนอีกรอบ อยากจะเถียงนักว่าก็ไม่ใช่เพราะคนที่อายุน้อยกว่านี้หรือไงที่กดดันจนเขาต้องไปทำงานหามรุ่งหามค่ำจนน็อคน่ะ แต่บรรยากาศกำลังดี ๆ หากพูดเรื่องนี้ออกไปบรรยากาศแย่ ๆ คงมาเยือนอีกรอบเป็นแน่

หกเดือน...เวลาแค่ไม่นานนี้สมควรจะทำตัวให้มีความสุขมากกว่ามัวแต่ทะเลาะหรือมึนตึงใส่กัน ภาคนิพนธ์บอกตัวเองว่าควรเก็บเกี่ยวความสุขไว้กับตัว เพื่อว่าสักวันหนึ่ง เมื่อต้องอยู่คนเดียว ยังจะมีช่วงเวลาที่ดีอยู่ในความทรงจำ อย่างน้อย ๆ ก็คงจะรู้สึกดีเมื่อนึกถึงคนที่รัก ... แต่ถึงจะบอกตัวเองอย่างนั้น ภาคนิพนธ์ก็ยังกลัว กลัวว่าปาฏิหาริย์จะมาหลอกกันอีก

“ผมดูแลตัวเองได้”

ปาฏิหาริย์พยักหน้า

“ผมรู้”

ใช่เขารู้ ภาคนิพนธ์อยู่คนเดียว ต้องหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เรียนจบม.ปลาย แถมก่อนหน้านี้ที่เขากดดันจนไม่มีงานดี ๆ ทำ ภาคนิพนธ์ก็ยังอยู่ได้ ภาคนิพนธ์เอาตัวรอด และดูแลตัวเองได้ แต่ปัญหาคือ ทำได้แต่ไม่ค่อยทำ ภาคนิพนธ์มักปล่อยปละละเลยเรื่องของตัวเองไป โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องอื่นต้องใส่ใจมากกว่า ลืมดูแลตัวเองหรือบางครั้งก็จงใจละเลย

เขายังจำภาพที่เห็นภาคนิพนธ์นอนกองอยู่ที่พื้นวันนั้นได้ติดตา

ยังจำความรู้สึกเจียนคลั่งด้วยความเป็นห่วงได้ชัด

เขาไม่อยากคิดว่าวันนั้นหากเขาไม่ได้ไปหาภาคนิพนธ์ หากไม่มีใครเห็นว่าภาคนิพนธ์หมดสติอยู่ตรงนั้น แล้วภาคนิพนธ์จะต้องนอนไม่ได้สติอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน อาจจะทำให้อาการหนักมากขึ้นกว่านั้นก็ได้

ถึงวันนั้นหมอจะบอกว่าไม่เป็นอะไรมากแต่เขาก็ใจเสียอยู่ดี

ปาฏิหาริย์ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก และบอกกับตัวเองแล้วว่ามันจะต้องไม่เกิดขึ้นอีก!

“ผมรู้ .... แต่ก็ยังอยากดูแล”

ปาฏิหาริย์เอ่ยแผ่วเบา แต่เพราะอยู่แค่ในรถ และเพลงก็เปิดไม่ดัง ภาคนิพนธ์จึงได้ยินชัดเจน

ที่พูดเบา ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่ปาฏิหาริย์รู้ดีว่าไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดได้เต็มปากนัก...เมื่อยังไม่สามารถทำให้ภาคนิพนธ์เชื่อใจได้เลย ภาคนิพนธ์เองได้ยินก็จริง แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่เมินมองไปทางอื่นเท่านั้น

หากบรรยากาศรอบ ๆ ตัวภาคนิพนธ์กลับผ่อนคลายลงกว่าที่เคย

ปาฏิหาริย์ยิ้มให้ตัวเอง

ทีล่ะนิด ทีล่ะนิด

ขอแค่ระยะห่างค่อย ๆ ลดลง ถึงจะทีล่ะนิด...ก็ไม่เป็นไร

.............................................


TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 02-04-2013 07:30:45
อย่างน้อยในตอนนี้  มีการเปิดใจให้กันและกัน ไม่ต้องคิดระแวงอีกฝ่าย  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ จุ๊บจิ๊บ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 02-04-2013 09:35:42
 :-[ :-[ :-[ :-[เริ่มจะเข้าใจกันแล้วนะ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-04-2013 09:51:17
เอ๊า!.... สู้ๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-04-2013 17:21:43
ในที่สุด ตาหวานก้อทำอะไรสักที
เย้~~~~~~!!!! ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 02-04-2013 19:33:10
ค่อยๆ รักกันเบาเบา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 03-04-2013 10:33:22
ย้ำคำเดิม หมั่นไส้ตาหวาน!!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: rabbit-orange ที่ 03-04-2013 12:05:38
ตาหวานสู้ๆ o13
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 03-04-2013 22:49:04
ตาหวานน่ารักขึ้นเยอะอ่ะ ภาคจะรู้เมื่อไรน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: yaninjinna ที่ 04-04-2013 02:01:25
ไม่รู้สิ รู้สึกยังไม่สาสมกับที่พ่อพระเอกเคยทำ
อยากให้ตาหวานได้บทเรียนที่เจ็บกว่านี้
ให้ภาคกลับไปอยู่เมืองนอกดีมะ??
หมันไส้ตาหวาน เช๊อะ :z6:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 04-04-2013 10:11:33
บรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดีขึ้นกว่าเดิมมาก แอบหวานเบาๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 04-04-2013 13:37:43
รักเขา แ่ต่ไม่กล้า เมื่อไหร่จะพบความสุข
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-04-2013 15:11:37
พูดกันตรงๆ ก็ไม่ได้นะคู่นี้ จะได้เข้าใจกันเร็วขึ้น
อย่างว่าใครจะไปกล้าไว้ใจง่ายๆ อีก เพราะเคยโดนหลอกมาแล้วหนิ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 04-04-2013 20:34:48
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ตอนที่ 12

จอมไตรในรุ่นของวสุธาแบ่งงานกันค่อนข้างชัดเจนว่าใครควบคุมดูแลกิจการในส่วนไหน

โดยมากแล้วแต่ล่ะคนจะรับผิดชอบงานในทางที่ตัวเองถนัดหรือทำได้ดี บางส่วนที่เหมือนจะคาบเกี่ยวกันก็จะแบ่งกันไปเลยว่าใครดูแลที่ไหน แน่นอนว่าก็เข้าไปช่วยกันบ้าง สามารถทำงานแทนหรือตัดสินใจแทนกันได้ทุกอย่าง แต่ก็ไม่ค่อยได้ทำเพราะแต่ล่ะคนมักจะรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองอย่างเต็มที่ อาจจะมีปรึกษากันบ้างแต่การตัดสินใจเด็ดขาดก็อยู่ที่คนที่ดูแลโดยตรง

ส่วนถ้าถามว่าใครเป็นเจ้าของกิจการแต่ล่ะที่ ก็ตอบได้เลยว่าทุกคน

หุ้นในบริษัททุกแห่งหากคิดเป็น 100 เปอร์เซ็น

พี่น้องในจอมไตรแต่ล่ะคนจะถือหุ้นคนล่ะ 15 เปอร์เซ็น และทุกบริษัทก็จะมีส่วนของหมอเออีก 5 เปอร์เซ็น

นอกนั้นจะเปิดขายให้บุคคลภายนอก ซึ่งต่อให้มีคนกว้านซื้อจนถือครองหุ้นที่เหลือทั้งหมดก็ยังไม่สามารถเข้ามายึดครองบริษัทได้

เรื่องนี้มีคนเคยลองทำมาแล้วในตอนที่พ่อของพวกวสุธาเพิ่งเสีย ช่วงที่ไม้เพิ่งเข้ามาอยู่กับพี่ ๆ ในบ้านจอมไตร ตอนนั้นพวกเขายังเรียนไม่จบกันซักคน และดินก็เพิ่งเข้าไปบริหารงานในบริษัทอย่างเต็มตัว

หากแต่ความพยายามนั้นไม่เป็นผล ของ ๆ จอมไตรถึงยังไงก็จะยังเป็นของจอมไตรวันยังค่ำ เพราะจอมไตรจะไม่มีวันยอมเสียของ ๆ ตัวเองไปโดยไม่เต็มใจ

ส่วนธุรกิจที่แต่ล่ะคนนำเงินส่วนตัวของตัวเองไปลงทุน อย่างบริษัทของไม้ที่เปิดทำกับกลอนหรือร้านอาหารที่วสุธาเปิดให้ปารมี ก็เป็นของส่วนตัวของแต่ล่ะคนจะไม่ข้องเกี่ยวกัน จะโอนให้ใคร จะขายทิ้งไม่ทำต่อ หรือจะเอาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทก็ตามแต่ใจแต่ล่ะคน

พอมาในรุ่นของปฐพี ตอนแรกการแบ่งงานไม่ชัดเจนเท่ากับรุ่นของพ่อและอา อาจจะเพราะยังไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบกันเต็มตัว ยังไปแค่เรียนรู้งานหรือช่วยแบ่งเบาพ่อและอา ๆ เท่านั้น แม้อาแต่ล่ะคนเหมือนจะวางตัวไว้แล้วว่าจะให้หลานคนไหนดูแลงานในส่วนของตน ซึ่งจะดูได้จากการพาหลานคนนั้นไปทำงานในบริษัทที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่บ่อย ๆ

จนเมื่อหลาน ๆ เรียนจบเหล่าคุณอาก็มัดมือชกด้วยการโอนหุ้นคนล่ะ 10 เปอร์เซ็นให้หลาน แล้วยกหน้าที่การจัดการงานเกือบทั้งหมดให้ เรียกว่าแทบจะยกเก้าอี้ท่านประธานในแต่ล่ะบริษัทให้เลยก็ไม่ผิดนัก แม้จะยังไม่ได้ยกให้จริง ๆ ก็เถอะ เพราะทุกคนทราบดีว่า เด็กจบใหม่ความน่าเชื่อถือยังน้อย จึงยังคงไปทำงาน ยังคงเป็นประธานบริษัท แต่โอนงานส่วนใหญ่ให้หลานชายเป็นคนตัดสินใจ

ปาฏิหาริย์นั้นเข้ามาช่วยงานในส่วนของไม้ ซึ่งหากเทียบกับส่วนอื่น ๆ แล้ว งานในส่วนนี้ค่อนข้างน้อย ไม้จึงมักต้องไปช่วยงานวสุธาซึ่งดูแลบริษัทใหญ่ ที่จริงอมฤตเองก็เป็นอีกคนที่เข้ามาช่วยทางนี้ ส่วนเวหากับอนลมาช่วยไม่บ่อยนักเพราะงานของสองคนนั้นค่อนข้างเยอะ ด้วยเหตุนี้ปาฏิหาริย์เองก็ต้องไปช่วยปฐพีซึ่งดูแลงานที่บริษัทใหญ่ด้วยเช่นกัน เขาจึงทำงานในหลายที่ บางทีก็ต้องเดินทางหลาย ๆ ครั้งในแต่ล่ะวัน

ภาคนิพนธ์เพิ่งรู้ว่าปาฏิหาริย์ต้องทำงานหนักขนาดไหน ทั้งที่อายุเพียงเท่านี้ บางคนอาจจะมองว่างานบริหารเป็นงานสบาย แต่ภาคนิพนธ์ของบอกเลยว่ามันไม่ใช่ ในเมื่อการที่คุณเพียงแค่ลงชื่อในเอกสารก็สามารถกำหนดชีวิตคนได้เป็นร้อยเป็นพัน การตัดสินใจในแต่ล่ะครั้งมันจึงต้องคิดให้ดี ๆ คิดอย่างถี่ถ้วน

ตัวเขาเองเมื่อก่อนก็คิดว่าคงสบาย แต่พอได้มาเป็นผู้ช่วยของปาฏิหาริย์ถึงได้รู้ งานเอกสารจากหลาย ๆ ที่ต้องตรวจอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะนอกจากจะป้องกันการผิดพลาดจากความไม่ตั้งใจแล้ว ยังต้องระวังไม่ให้มีการผิดพลาดโดยความตั้งใจเกิดขึ้นด้วย การจะอ่านเอกสารผ่าน ๆ แล้วลงชื่ออย่างเดียวอย่างที่เคยเห็นในละคร จึงไม่สามารถทำได้

ปาฏิหาริย์ทำงานเยอะมาก บางวันเจ้าตัวแทบลืมกินข้าวกลางวัน แล้วก็อาจจะพาลไปถึงข้าวเย็น ยังดีที่ถ้าภาคนิพนธ์เตือน ปาฏิหาริย์ก็จะยอมหยุดมือ

ส่วนตัวภาคนิพนธ์นั้นกลับไม่ได้ทำงานหนักเท่าไหร่นัก เพราะแม้จะทำงานที่เรียกว่าผู้ช่วยของปาฏิหาริย์ แต่ปาฏิหาริย์ก็มีผู้ช่วยคนอื่นอยู่แล้ว และภาคนิพนธ์ก็ทำงานน้อยกว่าพวกเขาที่อยู่ประจำในแต่ล่ะบริษัท เรียกว่าภาคนิพนธ์คอยช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการดูตารางนัดหมายแล้วเตือนให้ปาฏิหาริย์ไปตามนัด การพิมพ์จดหมายที่ต้องการเร่งด่วน หรือการหอบเอกสารไปมา เป็นต้น

พอเห็นปาฏิหาริย์ทำงานอย่างจริงจัง ภาคนิพนธ์ก็อดจะชื่นชมไม่ได้ ปาฏิหาริย์ที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุจริง การตัดสินใจก็ค่อนข้างเด็ดขาด ในกรณีที่เกิดปัญหาเจ้าตัวก็สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้แทบจะทันที ปาฏิหาริย์จึงดูน่าเชื่อถือมากเวลาทำงานแม้จะอายุยังน้อยก็ตาม

คนที่ทำงานคงไม่มีใครคิดออกเลยว่าเวลาอยู่กับบ้าน ปาฏิหาริย์คนนั้นจะกลายเป็นเด็กน้อยขึ้นมาได้

ภาคนิพนธ์เองตอนที่เห็นครั้งแรกก็ยอมรับว่ายังไม่อยากเชื่อ ด้วยเวลาที่อยู่ด้วยกันปาฏิหาริย์มักจะทำตัวเป็นผู้นำ ทั้งที่อายุน้อยกว่าแล้วก็ชอบทำหน้าเคร่งขรึม แต่ตอนที่ปาฏิหาริย์อยู่กับครอบครัว เจ้าตัวก็กลายร่างเป็นน้องคนเล็กในทันที

ถ้าถามว่าชอบแบบไหนมากกว่า ภาคนิพนธ์คงตอบว่าชอบปาฏิหาริย์ที่อยู่กับครอบครัวมากกว่า แต่ก็ชื่นชมปาฏิหาริย์ที่ทำงานอย่างตั้งใจจริงจังไม่แพ้กัน

ครืด~ ครืด~

เสียงโทรศัพท์ที่สั่นขึ้นดึงภาคนิพนธ์ให้หลุดจากห้วงความคิด เงยหน้ามองคนที่หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นดูเบอร์ ก่อนจะเหลือบมองมาทางนี้เล็กน้อยแล้วกดรับ

“ว่าไง”

ปาฏิหาริย์พูดแค่นั้นและรับฟังเสียงในโทรศัพท์อย่างเงียบ ๆ ส่งเสียง อืม ตอบรับเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา มันดูแปลก ๆ แต่ก็ภาคนิพนธ์ก็พยายามไม่คิดอะไรมาก เพราะงานบางส่วนของปาฏิหาริย์ภาคนิพนธ์เองก็ไม่ได้ไปรู้เรื่องด้วย

“ตามดูต่อไปแล้วเร่งหาหลักฐานแล้วกัน”

เสียงเข้มสั่งก่อนวางสาย หลังจากนั้นก็ก้มหน้าทำงานตามเดิม

.........................................

โทรศัพท์ที่โทรเข้ามานั้นไม่ใช่เรื่องานอย่างที่ภาคนิพนธ์เข้าใจ

ปาฏิหาริย์ให้คนคอยติดตามการเคลื่อนไหวของนายมานิช และโทรศัพท์สายนั้นก็เป็นสายที่โทรเข้ามารายงานว่านายมานิชให้คนสืบเรื่องของภาคนิพนธ์ตลอด และคงจะได้ยินเรื่องที่ปาฏิหาริย์กลับมาดีกับภาคนิพนธ์แล้ว

“ทางนายมานิชนั่นคงต้องเอาเรื่องหย่าของพัลลภามาต่อรองอะไรกับลูกแน่ ๆ ”

“ใช่ทั้งเรื่องโกงการประมูล เรื่องหนีภาษี คงคิดจะต่อรองให้ช่วยเรื่องคดี และอาจจะถึงขั้นให้ช่วยหนีออกนอกประเทศ”

ในวันที่อยู่กันค่อนข้างพร้อมหน้าอย่างวันอาทิตย์ปาฏิหาริย์ก็เลือกเวลาที่ปกติจะคุยกันเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบริษัท ปรึกษากับบิดา อา ๆ และพี่ ๆ เรื่องของภาคนิพนธ์

ถึงแม้จะสามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้ทั้งหมด แต่ปาฏิหาริย์ก็อยากรอบคอบที่สุด ด้วยนายมานิชไม่ได้เป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา เจ้าตัวเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าไม่ค่อยเลือกวิธีการในการให้ได้มาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

ถ้ามันแค่ทางธุรกิจทางการเงินก็ไม่เท่าไหร่ แต่ที่ปาฏิหาริย์กังวลคือความปลอดภัยของภาคนิพนธ์และแม่มากกว่า

“ถึงมันจะเป็นทางที่ง่ายที่สุด แต่ผมไม่คิดจะช่วยคนแบบนั้นหรอก”

ปาฏิหาริย์กล่าวอย่างหนักแน่น

การทำตามข้อเสนอหากนายมานิชเสนอมาย่อมง่ายที่สุด และคงสามารถจบเรื่องได้รวดเร็วที่สุด

แต่ปาฏิหาริย์ไม่คิดจะรับข้อเสนออะไรของฝ่ายนั้นแม้แต่น้อย

ด้วยนายมานิชไม่จ่ายเงินภาษีที่สมควรจะจ่ายให้กับประเทศ แล้วยังโกงการประมูลการก่อสร้างทั้งการก่อสร้างบ้านตามโครงการของรัฐ การสร้างสถานีอนามัย การสร้างสถานีตำรวจ และยังมีที่เล็ก ๆ น้อย ๆ อีก โดยนายมานิชจะร่วมประมูลงานเหล่านั้น เมื่อมีคู่แข่งก็มักจะข่มขู่ให้อีกฝ่ายถอนตัว จนตัวเองไม่มีคู่แข่ง เมื่อได้งานก็รับเงินแต่ไม่ยอมก่อสร้างตามสัญญา

การโกงของนายมานิชทำให้คนเดือดร้อนมากมาย แล้วมันไม่ใช่การโกงเงินของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เรียกว่าเป็นการโกงเงินของประเทศเลยก็ว่าได้

ซึ่งมันขัดกับหลักการของจอมไตรอย่างที่สุด

บ้านจอมไตรสอนลูกเสมอว่าเราทำธุรกิจ อาจจะมีซิกแซ็กอะไรบ้างเพื่อความสะดวก หรือเพื่อความคล่องตัวในการประกอบการ แต่เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้องเสมอ เพื่อเวลามีการตรวจสอบเราก็ไม่ต้องกังวล เวลามีคนถามเราก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำ พูดด้วยความมั่นใจได้ว่า บริษัทเราโปร่งใสแน่นอน

แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ปาฏิหาริย์ไม่คิดจะช่วยนายมานิชคือ สิ่งที่นายมานิชเคยทำกับภาคนิพนธ์ แม้เขาจะทราบความจริงแล้วว่า ที่นายมานิชทำนั้นคงเป็นแค่การลวนลามภายนอกอย่างกอด จูบ ลูบ คลำ ไม่ได้ถึงขั้นมีอะไร ๆ กันอย่างที่ปาฏิหาริย์เข้าใจในทีแรก

แต่แค่การกอด จูบ ลูบ คลำ มันก็มากพอที่จะทำให้ปาฏิหาริย์ไม่พอใจแล้ว

และมันไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยเลยสำหรับภาคนิพนธ์

ตอนที่ภาคนิพนธ์โดนลวนลาม เจ้าตัวยังเด็กอยู่มาก ความคิดความอ่าน ความเข้าใจในโลก ประสบการณ์ในการใช้ชีวิตยังน้อยนิดนัก ภูมิต้านทานต่อเรื่องร้าย ๆ จึงน้อยตามไปด้วย และคนที่ลวนลามตนเองยังเป็นคนที่อยู่ในบ้าน อยู่ในฐานะพ่อ ถึงจะไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ถึงจะไม่ได้เรียกว่าพ่อ ถึงจะไม่เคยทำหน้าที่ของพ่อเลย แต่ก็ยังอยู่ในฐานะของพ่ออยู่ดี

จิตใจของเด็กชายซึ่งยังเยาว์วัยที่สมควรจะได้แจ่มใส ร่าเริง กลับต้องหวาดกลัว และหวั่นผวาแค่ไหนปาฏิหาริย์ไม่อาจคาดเดา แต่รู้ว่ามันต้องส่งผลต่อจิตใจของภาคนิพนธ์มาก และปาฏิหาริย์ก็แน่ใจว่ามันไม่ได้หายไปไหน มันยังคงส่งผลต่อจิตใจของภาคนิพนธ์มาจนทุกวันนี้ เพราะมันค่อนข้างจะเห็นได้ชัด

แม้ภาคนิพนธ์จะพยายามเก็บอาการ แม้ภาคนิพนธ์จะพยายามทำเหมือนกับว่าไม่เป็นอะไร

แต่เจ้าตัวคงไม่รู้หรอกว่าทุกครั้งที่พูดถึงนายมานิช ภาคนิพนธ์จะเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าจะนิ่งสนิท และริมฝีปากเม้มแน่น หากสังเกตดูจะรู้ว่ามือของเจ้าตัวสั่นน้อย ๆ

คนอื่นไม่รู้ว่าภาคนิพนธ์รู้ตัวหรือไม่ แต่คนรอบ ๆ ตัวภาคนิพนธ์ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี

และนี่คือเหตุผลสำคัญ

 “ผมจะให้ผู้ชายคนนั้นได้ชดใช้ ไม่ให้ลอยนวลไปได้หรอก ถึงจะไม่สามารถลงโทษจากความผิดที่ทำไว้กับภาคได้ แต่ความผิดส่วนที่สามารถจับมาลงโทษได้ก็ต้องให้ได้รับโทษอย่างสาสม”

นายมานิชที่ทำให้ภาคนิพนธ์มีแผลฝั่งใจนั้นปาฏิหาริย์จะไม่มีวันให้อภัย...แม้ว่าเขาเองก็ได้สร้างบาดแผลในใจให้ภาคนิพนธ์ไม่ต่างกันก็เถอะ....

.............................................

มานิชวางเอกสารในมือลงบนโต๊ะแรง ๆ ด้วยความไม่พอใจ รายงานเรื่องของภาคนิพนธ์ที่ให้คนไปสืบทำให้อารมณ์ไม่ดีนัก

“ทั้งที่คิดว่ากำลังจะจนตรอกอยู่แล้วเชียว”

ว่าแล้วก็กำมือแน่นด้วยความโกรธแค้น

ทั้งแขนที่หักซึ่งยังไม่สมานตัว แล้วตอนนี้ยังมีแผลที่หัวซึ่งเย็บมาหลายเข็ม เขาจะไม่มีทางยอมเจ็บตัวฟรี ต้องให้สองแม่ลูกนั่นชดใช้อย่างสาสม ที่จริงต้องรวมปาฏิหาริย์ไปด้วย แต่ตอนนี้เขากำลังจะฟ้องหย่าและยังโดนเพ่งเล็งเรื่องอื่น ๆ จึงยังไม่สามารถจัดการอะไร ๆ ได้ถนัดนัก

“พวกตรวจภาษีบ้า ๆ นั่นด้วย”

สบถอย่างแค้นใจ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้จึงแสยะยิ้ม

ทำไมเขาไม่ใช่ประโยชน์จากภาคนิพนธ์กับพัลลภาล่ะ

เท่าที่เขาคิด เมื่อสองคนนั้นกลับมาดีกัน ก็แปลว่าไอ้เด็กปาฏิหาริย์นั่นติดใจภาคนิพนธ์อยู่มาก

“เด็กนั่นจอมไตรเชียวนะ”

และแล้ว รอยยิ้มอย่างหมาดหมายก็ปรากฏขึ้นเต็มใบหน้า

.....................................


“คุณว่าสีขาวกับสีดำอันไหนสวยกว่ากัน”

เพราะใกล้เทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่แล้ว วันหยุดนี้ปาฏิหาริย์เลยชวนภาคนิพนธ์มาซื้อของขวัญให้คนที่บ้าน

“คุณจะซื้อให้ใครล่ะครับ”

“อาน้ำ”

ปาฏิหาริย์ตอบโดยที่ยังไม่ล่ะสายตาจากแก้วมัคซึ่งพิมพ์ลายเรียบ ๆ สองใบนั้น แล้วทำท่าคิดมาก เลือกไม่ถูกจริง ๆ

“ทำไมไม่ซื้อสองใบครับ”

ปาฏิหาริย์หันมามองแล้วยิ้มให้

“ผมก็ตั้งใจซื้อทั้งสองใบนั่นแหละ”

“อ้าว”

คนตัวโตกว่ายิ้ม ๆ กับท่าทางที่เหมือนจะบอกว่าแล้วถามทำไมของภาคนิพนธ์

“ของอาเอกับอาน้ำคนล่ะใบ ตอนแรกว่าจะซื้อสีเหมือนกันไปให้ คิดอีกทีซื้อคนล่ะสีไปให้ก็ดี”

สรุปเจ้าตัวเลยเลือกสองใบห่อของขวัญรวมกัน แล้วก็ลากภาคนิพนธ์ไปซื้ออย่างอื่น ซึ่งส่วนมาดูเหมือนปาฏิหาริย์จะเล็งไว้แล้วว่าจะซื้ออะไรให้ใคร

ที่ซื้อไปมีหนังสือ พวงกุญแจ สมุดภาพ ซึ่งปาฏิหาริย์ก็บอกให้ฟังทุกชิ้นว่าอันไหนให้ใคร แต่ของเล่นนี่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสำหรับน้องเอิร์ธ

ที่ภาคนิพนธ์แปลกใจมากคือ ของทุกชิ้นราคาไม่เกิน 500 บาทซักชิ้น มันดูราคาถูกเกินไปหากจะบอกว่าซื้อให้เป็นของขวัญของใครในจอมไตร พอถามไปอย่างที่สงสัย ปาฏิหาริย์เลยบอกว่าปีใหม่นั้นไม่ถือเป็นเทศกาลสำคัญของที่บ้าน แต่ก็มีการซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กัน


“ถ้าซื้อของแพง วันสำคัญอย่างวันเกิด หรือวันครบรอบต่าง ๆ ก็ต้องซื้อของที่ดีกว่า แพงกว่าให้ คุณพ่อเลยบอกว่าให้เลือกของที่ราคาเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอ เพราะความสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ราคา มันอยู่ที่ว่าเราได้ให้ และเขาได้รับ”

“งั้นผมซื้อให้แม่ด้วยดีกว่า”

แล้วก็นึกได้ว่าแม่กำลังเริ่มทำงานฝีมือ ภาคนิพนธ์เลยซื้อหนังสือการถักโครเชต์กับชุดถักโครเชต์ชุดใหญ่มาหนึ่งชุด ตอนแรกภาคนิพนธ์จะซื้อชุดเล็กและจะจ่ายเอง แต่ปาฏิหาริย์บอกว่าจะจ่ายให้เพราะภาคนิพนธ์จ่ายค่าหนังสือไปแล้ว เถียงกันไปมาสุดท้ายเลยได้ชุดใหญ่แล้วออกกันคนล่ะครึ่งแทน

“สรุปแล้วของแม่ผมแพงสุดเลยนะเนี่ย”

ภาคนิพนธ์บ่นอย่างไม่จริงจังนัก ส่วนตาหวานก็แค่ยักไหล่ เมื่อกี้ภาคนิพนธ์ไม่ได้อยู่ด้วยทุกครั้งตอนจ่ายเงิน เจ้าตัวเลยไม่รู้ว่า ไอ้ที่แพงที่สุดน่ะ ของเล่นของน้องเอิร์ธต่างหาก

..........................................

นายมานิชยิ้มเมื่ออ่านเอกสารที่เขียนขอยื่นฟ้องหย่า ถึงจะบอกเรื่องนี้กับพัลลภาไปนานแล้วแต่ก็เพิ่งเริ่มดำเนินการเพราะในตอนแรกยังรั้งรอท่าทีของภาคนิพนธ์

แต่ตอนนี้การฟ้องร้องเรื่องหย่าจะเป็นทางสำคัญที่จะทำให้รอดพ้นจากการถูกฟ้องในเรื่องฉ้อโกงและหนีภาษี

อย่างน้อย ๆ นายมานิชก็มั่นใจอย่างนั้น

“ส่งเรื่องยื่นฟ้องเลย แล้วก็หาทางแจ้งกับทางนั้นเร็ว ๆ ล่ะ แจ้งที่คนลูกนะ ไม่ต้องแจ้งที่คนแม่แล้ว เสียเวลา”

สั่งการเสร็จก็ลุกเดินออกจากสำนักงานทนายความทันที

ทนายความเองก็ต่อโทรศัพท์แจ้งเรื่องการฟ้องกับคู่กรณีของนายมานิชทันทีเช่นกัน แต่มันจะไม่ตรงกับที่สั่งก็ตรงที่ คนที่ทนายความต่อสายถึงคือปาฏิหาริย์ไม่ใช่ภาคนิพนธ์

................................


TBC
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: pilar ที่ 04-04-2013 21:03:58
เอ? หรือว่าทนายของนายมานิชก็เป็นคนของตาหวาน???
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 04-04-2013 21:12:30
ตาหวานอ้อนเยอะๆสิ ภาคจะได้ใจอ่อนนนน  :ling1: :ling1: :mew2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-04-2013 21:17:50
สงสัยงานนี้ต้องขอบคุณคุณทนายนะ ที่ต่อสายถึงผิดคน :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 04-04-2013 21:59:16
เด่วก็ใจอ่อน อิอิ
มานิชนี่เลวไปนะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 04-04-2013 22:04:53
ลุ้นให้สองคนเปิดใจให้กันเต็มร้อยเร็ว ๆ คุณตาหวานเปิดแล้ว แต่ให้เวลาภาคอีกนิดนะ
เรื่องที่เจอมามันหนักหนาจัง แล้วคุณตาหวานก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนจนจะเชื่อใจได้เต็มที่
เค้าแสดงออกด้วยการกระทำมากกว่า
เรื่องมานิชของให้พระเอกเราทำสำเร็จละกัน ซึ่งต้องสำเร็จอยู่แล้ว ร้ายนักอีตามานิชนี่ เลวหลายเรื่องเกิ้น

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nut28phat ที่ 04-04-2013 22:07:17
ตาหวานวางคนไว้แน่ๆ
ที่โทรมา คือคุณทนายหรือเปล่านะ

แต่ว่า...
แต่ว่าที่ทำก็ยังไม่สาสมอยู่ดี
อะไรกัน ตาหวานจะได้อย่างใจทุกอย่างเลยเหรอ
คิดจะหลอกก็หลอก พออยากให้รักก็รัก
งอนแทนคุณภาค  :o12:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 04-04-2013 22:12:47
ใกล้จบแล้วหรอ สนุกมาก  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 04-04-2013 23:38:09
สนุกอ่ะยังอ่านไม่จุใจเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11 2/4/56 p.9(ทำลิงค์เรื่องอื่นแล้วนะค
เริ่มหัวข้อโดย: asmar ที่ 05-04-2013 04:49:11
มารอนานนนนนนมากกกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: name ที่ 05-04-2013 09:05:53
เอาตาหวานคนเดิมคืนมา  :sad4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-04-2013 11:10:38
พ่อเลี้ยงโฉด ยังไม่รู้ตัวอีกว่า กำลังเดินเข้ากับดัก .......... :katai3:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ จุ๊บจิ๊บ  :z2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 05-04-2013 11:49:26
...อ้าว สรุปว่าทนายความนี่ก็ของ..บ้านจอมไตร หรือ
...คุณพ่อเลี้ยงนี่ก็กัดไม่ปล่อยเนอะ ...จะเอาให้ได้ ว่างั้น
...ดูเหมือนตอนนี้ทั้งคู่ก็มีความสุขดีนะ แต่คงต้องดูตอนครบ 6 เดือนอีกที
...นายเอก รักเค้าก็จริง แต่คงต้องมีศักดิ์ศรีกันบ้างหละ ใช่เปล่า :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: jubujubu ที่ 05-04-2013 21:03:05
รออ่านจ้า :hao3:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-04-2013 21:24:13
จัดไปเรยตาหวาน
เอาให้ อิมานิช ร้องไห้ไม่เป็นไปเรย~~~~~!!!!
 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3 o3
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 05-04-2013 21:45:55
 :fire: :m31:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 06-04-2013 01:41:56
ภาคเริ่มเปิดใจให้ตาหวานแล้ว

นายมานิชจะทำอะไรนะ ไม่เป็นไรมีตาหวานอยู่ด้วยทั้งคน ทำอะไรภาคไม่ได้อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 06-04-2013 12:46:25
รู้สึกถึงบรรยากาศแบบครอบครัวแล้ว ตาหวานสู้ๆน๊ำ   :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 06-04-2013 15:00:30
ลุ้นจริงๆ คู่นี้!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 06-04-2013 18:53:25
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:

กำลังจะไปได้ด้วยดี

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 14-04-2013 19:45:05
คนแก่ตามอ่านทันแล้ว

แต่พอมาดูแผนผัง คิดคิคดูแล้ว มันขาดคู่น้ำกับเออ่ะ

ตามอ่านได้ที่ไหนอ่ะ

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 14-04-2013 23:04:52
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ


ตอนที่13

ปาฏิหาริย์แจ้งทนายของตนให้ติดต่อนายมานิชผ่านทนายความของฝั่งนั้นว่าต้องการเจรจานอกรอบ ซึ่งตรงตามกับที่นายมานิชต้องการพอดี ปาฏิหาริย์ไม่ได้ไปเอง แต่ให้ตัวแทนไปคุยซึ่งเป็นไปตามที่คาด นายมานิชต้องการเงิน และการช่วยเหลือ ซึ่งตัวแทนก็บอกว่าต้องรายงานกับปาฏิหาริย์ก่อน ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ แน่นอนมันทำให้นายมานิชอารมณ์เสียมากเพราะเขาใจร้อนอยากออกนอกประเทศเร็ว ๆ แต่ก็ต้องยอมไปก่อนเท่านั้น แม้ก่อนกลับยังมิวายขู่ว่าถ้าชักช้าจะยื่นเรื่องฟ้องเร็ว ๆ นี้แน่

ที่นายมานิชเข้าใจผิดคือ เขาคิดว่าปาฏิหาริย์ไม่อยากให้เกิดการฟ้องร้อง และต้องการให้มีการหย่าร้างกันอย่างเงียบ ๆ ซึ่งปาฏิหาริย์ไม่ได้คิดจะทำอย่างนั้น พัลลภาเองก็ตกลงยอมให้มีการฟ้องร้องได้ แม้จะรู้ดีว่าต้องแพ้คดีก็ตาม

มานิชเข้าใจผิดเพราะรู้ศักยภาพของบ้านจอมไตรดีว่าสามารถทำให้ได้ในเรื่องที่ตนเองเรียกร้อง โดยไม่ลำบากอะไรสันิดด้วยซ้ำ ยิ่งท่าทีการแสดงออกของฝ่ายปาฏิหาริย์ที่ต้องการให้การประนีประนอม ประกอบกับมั่นใจว่าตนต้องชนะคดีแน่ ๆ จึงไม่ได้รู้สึกตัวเลยว่าทั้งหมดนั้นล้วนเป็นการตบตาเพื่อยื้อเวลาการหาหลักฐานเอาผิดนายมานิชฐานฉ้อโกงและเลี่ยงภาษี แล้วเพราะความที่นายมานิชชะล่าใจนี้เองส่งผลให้เขาไม่ได้มองหาทางอื่นในการหลบหนีสำรองไว้อย่างจริงจังเลย

..................................

ภาคนิพนธ์มองปาฏิหาริย์ที่มีโทรศัพท์เข้ามาเกินกว่าสิบครั้งแล้วในวันนี้ด้วยความสงสัย

จริงอยู่ว่าเขาช่วยงานแค่บางส่วน รู้เนื้องานแค่บางส่วน แต่การที่มีโทรศัพท์เข้ามาติด ๆ กันหลาย ๆ ครั้งแบบนี้มันต้องเป็น ‘ธุระด่วน’ ใช่ไหม แล้วถ้ามัน ‘ปกติ’ ปาฏิหาริย์ก็ควรจะบอกภาคนิพนธ์ให้ช่วยไปแล้ว แต่กลับไม่มีเลย ซึ่งหมายความได้อย่างเดียวว่ามัน ‘ไม่ปกติ’

แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าบางทีปาฏิหาริย์อาจจะแค่ลืมคิดหรืออาจจะไม่มีตรงไหนให้ภาคนิพนธ์ไปช่วย ปาฏิหาริย์จึงไม่ได้บอกอะไร แต่มันก็แอบสงสัยไม่ได้อยู่ดี

“คุณช่วยดูเอกสารนี้ให้ที ถ้าไม่มีอะไรต้องแก้แล้วก็เอาไปให้ฝ่ายบัญชีจัดการเลยนะ เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอกสักสองชั่วโมง แล้วจะกลับมารับ ถ้ามีอะไรก็โทรหาผมได้”

พูดเสร็จก็ปุบปับออกไป ไม่ให้ภาคนิพนธ์ได้ซักได้ถาม ทำให้มันน่าสงสัยมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อยังหาคำตอบไม่ได้ สุดท้ายเลยได้แต่เก็บความสงสัยไว้แล้วทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จก็เท่านั้น

............................

“สวัสดีครับ”

ภาคนิพนธ์กล่าวสวัสดีกับพยาบาลที่ประจำอยู่ที่แผนกของแม่ซึ่งเห็นหน้าเห็นตากันบ่อย ๆ

 “วันนี้ผลัดกันมานะคะ”

“ครับ?”

คำทักกึ่งแซวทำให้ภาคนิพนธ์ตอบกลับไปด้วยความสงสัย

“แหม ก็คุณภาคกับคุณปาฏิหาริย์ไงค่ะ ทุกทีเห็นคุณปาฏิหาริย์มาพร้อมคุณภาคอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ผลักกันแล้วหรือค่ะ”

ปาฏิหาริย์มาที่นี่? มาทำไม?

ด้วยพักหลังมานี้ปาฏิหาริย์มาที่โรงพยาบาลกับภาคนิพนธ์เกือบทุกครั้ง ทำให้เหล่าพยาบาลคุ้นหน้า รวมถึงรู้กันดีทุกคนว่าปาฏิหาริย์เป็นคนรักของภาคนิพนธ์ เป็นโชคดีที่ดูเหมือนจะยังไม่มีใครรู้ว่าปาฏิหาริย์ คือคนเดียวกับปาฏิหาริย์ จอมไตร

แต่ถึงจะยังไม่รู้ว่าคือจอมไตร ถึงจะรู้ว่ามีคนรักอยู่แล้ว มันก็ไม่ได้ทำให้เสน่ห์ของปาฏิหาริย์ลดลงไปเลยจริง ๆ ภาคนิพนธ์สังเกตเห็นว่า วันไหนที่ปาฏิหาริย์มาด้วยเหล่าพยาบาลจะเข้ามาตรวจความเรียบร้อยบ่อยครั้งกว่าเดิม เรื่องนี้ดูเหมือนเจ้าตัวเองก็คงรู้สึก แต่ก็เห็นแค่ยิ้ม ๆ ภาคนิพนธ์เองก็ไม่ได้ว่าอะไร คืออาจจะแอบหวั่นใจอยู่บ้างที่เห็นมีคนมาสนใจปาฏิหาริย์เยอะ แต่ก็ไม่ได้มากมาย อาจจะเพราะปาฏิหาริย์ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจอีกฝ่ายด้วยก็เป็นได้

แต่ที่ได้ยินวันนี้มันน่าแปลกใจนัก

ปาฏิหาริย์มาหาพัลลภาโดยที่ภาคนิพนธ์ไม่รู้ และดูเหมือนนี่จะไม่ใช่ครั้งแรก

ทำไมถึงไม่มีใครบอกอะไรภาคนิพนธ์ซักคน

ภาคนิพนธ์เดินเข้าไปหาแม่ด้วยความไม่สบายใจ

“อ้าวภาค”

พัลลภาดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นลูกชาย นั่นยิ่งทวีความสงสัยของภาคนิพนธ์มากยิ่งขึ้นไปอีก

“แม่มีอะไรหรือเปล่า ทำไมทำท่าแบบนั้น”

พัลลภามองหน้าลูกชายก่อนจะส่ายหัว

“ไม่มีหรอก แม่แค่แปลกใจ”

“คุณตาหวานมาหาแม่หรือครับวันนี้”

เมื่อสงสัยจนเก็บเอาไว้ไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจว่าถามพัลลภาไปเลยคงจะดีกว่า

“อ้อ ใช่แล้ว มาเมื่อบ่าย”

“เขามาคุยอะไรกับแม่”

ภาคนิพนธ์เริ่มเครียดเมื่อคิดไปแต่ในทางเลวร้าย

“ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่ผ่านทางนี้เลยแวะมาก็เท่านั้น”

“ทางนี้มันกลับต้องไปหรือกลับจากชานเมืองนะครับ เขาไม่ได้มีธุระอะไรแถวนี้เลยวันนี้”

พัลลภาเงียบไปเพราะลืมคิดไปว่าภาคนิพนธ์ทำงานกับปาฏิหาริย์ ย่อมจะรู้ตารางกัน

“หรือเขามาทำอะไรแม่อีกหรือเปล่า เขาไม่ได้มาขู่มากดดันอะไรแม่ใช่ไหม ถ้ามีแม่ก็บอกผมมาเถอะ ไม่ต้องปิดบังกลัวผมเสียใจหรืออะไร ผมน่ะ....”

“ภาค”

พัลลภารีบเรียกให้ภาคนิพนธ์ให้หยุดพูดเมื่อเห็นว่าคนที่กำลังถูกพูดถึงยืนค้างอยู่หน้าประตูและได้ยินทุกสิ่งที่ลูกชายเธอพูด

“คุณตาหวาน”

พัลลภาเรียกเสียงเบา เมื่อได้ยินภาคนิพนธ์ก็หันไปมองด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบปรับสีหน้าตัวเองเมื่อคิดได้ว่าไม่จำเป็นต้องตกใจเพราะตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด และที่ตัวเองพูดไปก็เป็นสิ่งที่ควรคิดแล้ว

“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะภาค ที่จริง...”

“ช่างเถอะครับ”

ปาฏิหาริย์ตัดบทไม่ให้พัลลภาพูดอะไร เขามองไปทางภาคนิพนธ์ด้วยสายที่ทำเอาคนที่มั่นใจว่าตัวเองไม่ผิดต้องหลบตา

ความเจ็บช้ำ เสียใจ ตัดพ้อ ที่ส่งมาทางสายตานั้นทำให้ภาคนิพนธ์รู้สึกผิดอย่างอดไม่ได้ แม้จะย้ำว่าตัวเองไม่ผิด ๆ

เพราะมันก็มีทางที่จะเป็นไปอย่างที่ภาคนิพนธ์คิดได้ เขาไม่อยากเสียใจเพราะเชื่ออีกฝ่ายอย่างหมดใจอีก

เรื่องที่เขาจะระแวง สงสัย ในการกระทำที่เหมือนจะปกปิดไว้มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดไม่ใช่หรือ

ฝ่ายปาฏิหาริย์ ที่เขามาที่โรงพยาบาลอีกทั้งที่กลับไปและเข้าเมืองไปแล้วก็เพราะเมื่อโทรไปบอกว่าจะไม่เข้าบริษัทแล้ว ให้ภาคนิพนธ์กลับกับรถบริษัทเลย เจ้าตัวก็บอกว่าจะมาเยี่ยมแม่ เขาไม่ได้พูดอะไรในตอนนั้น แค่บอกให้มากับคนรถ ให้รถมาส่ง

แต่ธุระที่ต้องไปจัดการเสร็จเร็วกว่าที่คิด ปาฏิหาริย์เลยขับรถมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งอย่างตั้งใจจะมารับภาคนิพนธ์กลับบ้านไปพร้อมกัน เลยพอดีมาได้ยินเรื่องที่ไม่อยากได้ยินเข้า

“ถ้าไม่มีอะไรทำไมไม่บอกกันล่ะ”

ภาคนิพนธ์ยืนยันความคิดตัวเอง เจ้าตัวยังไม่ยอมหันไปสบตากับปาฏิหาริย์อยู่เหมือนเดิม

“ภาค”

พัลลภาเรียกลูกชายอย่างปราม ๆ ก่อนจะมองไปทางปาฏิหาริย์อย่างเห็นใจ

“ลูกไม่น่ามอง ‘คนรัก’ ของลูกในแง่ร้ายนัก ทำไมไม่เชื่อใจเขาบ้าง”

ภาคนิพนธ์หลับตาสูดลมหายใจเข้าก่อนจะมองแม่แล้วพูดอย่างที่ใจคิด แม้รู้ว่าพูดไปแล้วจะทำให้คนถูกพูดถึงเสียความรู้สึก แต่พูดออกไปตรงนี้ เดี๋ยวนี้ จะได้รู้กันไปเลยว่าอะไรเป็นอะไร

“ผมเคยเชื่อเขาอย่างที่ไม่เคยเชื่อใคร และเขาก็ทรยศต่อความเชื่อใจนั้นของผมไปแล้ว แม่คิดว่าผมจะกลับไปเชื่อเขาได้ง่ายนักหรือครับ”

ที่จริงหากปาฏิหาริย์ไม่ทำลับ ๆ ล่อ ๆ บอกภาคนิพนธ์ตรง ๆ ว่ากำลังทำอะไร ภาคนิพนธ์คงไม่ระแวงและสงสัยในตัวปาฏิหาริย์ขนาดนี้

แต่เมื่อมีเรื่องปิดบังกันทั้ง ๆ ที่ยังไม่สามารถเชื่อใจกันได้ มันก็มีแต่ต้องระแวงสงสัยไว้ก่อนเท่านั้น

พัลลภาส่ายหัวกับความคิดของลูกชาย เธอเข้าใจว่าลูกชายเธอรู้สึกอย่างไร แต่ภาคนิพนธ์ได้เลือกแล้วที่จะกลับไป แม้จะบอกกับเธอว่ามันเป็นข้อตกลงที่ใช้ระยะเวลาแค่ 6 เดือน แต่ลูกชายเธอก็รักอีกฝ่ายจริง ๆ เพราะงั้นถึงปาฏิหาริย์ไม่บอกอะไร ลูกชายเธอก็ไม่ควรออกอาการไม่ไว้ใจขนาดนี้

“ผมเข้าใจภาคดีครับ คุณพัลลภาไม่ต้องคิดมากหรอก เพราะมันจริงอย่างที่ภาคเขาพูด”

ปาฏิหาริย์พูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ เขารู้ว่าเขาผิดที่เคยทรยศต่อความเชื่อใจของภาคนิพนธ์ แต่เขาก็พยายามทำเพื่ออีกฝ่าย ทำทุกอย่างด้วยความจริงจังและตั้งใจจริงเพื่อให้อีกฝ่ายกลับมาเชื่อเขาอีกครั้ง

เขาเพิ่งรู้นี่แหละว่า ที่เขาเคยคิดไปว่าภาคนิพนธ์เริ่มที่จะเชื่อใจเขาบ้างแล้วนั้นเป็นเรื่องที่เขาคิดไปเองคนเดียว

หากใครจะบอกว่าเพราะภาคนิพนธ์ไม่รู้ความจริงจึงต้องระแวงเป็นธรรมดา แต่มันก็มีไม่ใช่หรือ คนที่ไม่รู้ความจริงแต่เชื่อใจคนที่รักอย่างหมดหัวใจน่ะ

อย่างน้อย ๆ เขาก็เคยเห็นมาแล้วในกรณีของวสุธาและปารมี

ปาฏิหาริย์รู้สึกท้อและล้าอย่างที่ไม่เคยเป็น

หรือที่เขาคิดว่าภาคนิพนธ์เริ่มเปิดใจแล้วมันจะไม่ใช่อย่างนั้น

หรือที่เขาหวังไว้ว่าทั้งเขาและภาคนิพนธ์จะไปด้วยกันได้ดีนั้นมันไม่มีทางเป็นไปได้

หรือว่าบางที ปาฏิหาริย์สมควรที่จะปล่อยภาคนิพนธ์ไป

“กลับกันเถอะ แล้วไปคุยกันให้รู้เรื่อง คุณตาหวานเองก็บอกภาคไปเถอะ บางทีมันอาจจะทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น และคุณเองจะได้ไม่ต้องทำแบบนี้อีก”

ไม่ต้องปกป้องลูกชายเธอจากความเจ็บปวดอย่างหนึ่งจนกระทั่งมันก่อให้เกิดความเจ็บปวดอีกอย่างหนึ่งแทน

เจ็บทั้งภาคนิพนธ์ที่ไม่สามารถเชื่อใจคนที่ลึก ๆ แล้วตัวเองอยากจะเชื่อ

เจ็บทั้งปาฏิหาริย์ที่โดนระแวงสงสัยทั้ง ๆ ที่กำลังปกป้องอีกฝ่ายแท้ ๆ

และเจ็บที่เธอที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด

เธอมองคนสองคนที่เดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ แล้วก็ได้แต่หวัง

หวังว่าทั้งสองคนจะคุยกันให้เข้าใจ

หวังว่าเรื่องมันจะไม่จบโดยที่ทำให้ทุกคนต้องเสียใจ

เธอไม่กลัวด้านภาคนิพนธ์เพราะเธอมั่นใจว่าเมื่อรู้เรื่องทั้งหมด ภาคนิพนธ์ต้องเข้าใจและรู้สึกตัว

แต่ทางปาฏิหาริย์นี่สิ

เธอเห็นสีหน้าท้อแท้ของเขาแล้วเธอกลัว กลัวว่าเขาจะหมดกำลังใจจนเลิกล้มการเริ่มต้นใหม่กับภาคนิพนธ์อย่างที่กำลังทำอยู่ตอนนี้

เธอไม่อยากให้ลูกชายเธอต้องมาเสียใจจากความไม่รู้และอคติของตัวเอง

แต่พัลลภาก็ทำอะไรไม่ได้ เธอได้แต่หวังให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีเท่านั้นเอง

......................

ภาคนิพนธ์นั่งมองไปนอกหน้าต่างห้องนอน ในขณะที่ปาฏิหาริย์ยืนถอดกระดุมเสื้อเงียบ ๆ

ตลอดทางที่กลับมา ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยกันแม้ซักคำ

ภาคนิพนธ์กำลังรอ รอว่าปาฏิหาริย์จะคุยกับเขาไหม

ในขณะที่ปาฏิหาริย์กำลังคิดอย่างชั่งใจว่าจะบอกภาคนิพนธ์ไปเลยดีหรือเปล่า

การที่ไม่เล่าเรื่องคดีความของพัลลภากับนายมานิชให้ภาคนิพนธ์ฟัง เป็นความเห็นที่ตรงกันของพัลลภาและปาฏิหาริย์ ด้วยทั้งสองคนทราบดีว่าภาคนิพนธ์จะเครียดมากหากรู้เรื่อง

ปาฏิหาริย์จำได้ว่าคราวก่อนตอนที่ชวนภาคนิพนธ์ไปอยู่ด้วยกันได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งก็เพราะมีเรื่องของนายมานิชเข้ามา ภาคนิพนธ์อาจจะไม่รู้ตัว แต่ว่าเจ้าตัวเหมือนต้องการที่พึ่งพิง เลยตัดสินใจอะไรง่าย ๆ โดยที่ไม่คิดให้ดีเสียก่อน ไม่อย่างนั้นภาคนิพนธ์คงคิดให้ถี่ถ้วนและละเอียดกว่านั้น อาจจะไม่ตกหลุมพรางแรกของปาฏิหาริย์ แล้วอะไร ๆ คงไม่เป็นไปตามแผนการอย่างง่ายดายตามที่ปาฏิหาริย์คิดอย่างนี้

ปาฏิหาริย์จึงสรุปได้ว่า ถ้ามีนายมานิชมาเกี่ยวข้อง ความรอบคอบในการตัดสินใจของภาคนิพนธ์จะลดลงจนเกือบไม่มีเหลือ

ใคร หรืออะไรก็ตามที่ดูเหมือนจะทำให้สามารถถอยห่างจากผู้ชายคนนั้นได้ภาคนิพนธ์จะคิดทันทีว่ามันเป็นทางที่ถูกที่ควรโดยไม่คำนึงเลยว่าจะหนีเสือปะจระเข้

ที่สำคัญอาการเครียดของภาคนิพนธ์ที่สามารถเห็นได้และที่เก็บซ่อนเอาไว้ก็น่าเป็นห่วง

ด้วยความหวังดีจึงพยายามกันภาคนิพนธ์ให้ห่างจากเรื่องนี้

ด้วยความเป็นห่วงจึงไม่อยากให้ภาคนิพนธ์รับรู้ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนายมานิช

แต่ไม่ว่าจะหวังดีหรือเป็นห่วงซักแค่ไหน ปิดบังมันก็คือปิดบัง

ที่โดนภาคนิพนธ์ระแวงปาฏิหาริย์ก็รู้ตัวว่าเป็นความผิดของตัวเองทั้งนั้น

ปาฏิหาริย์ไม่ได้โกรธ แค่เสียใจ เสียใจที่ตัวเองทำให้ภาคนิพนธ์เชื่อใจได้ไม่มากพอ

“คุณจะเงียบอีกนานไหม”

ในที่สุดภาคนิพนธ์ก็เป็นฝ่ายทนไม่ได้

ปาฏิหาริย์พับแขนเสื้อขึ้นพลางเดินมานั่งข้างภาคนิพนธ์บนเตียง

“ผมมันคงไม่น่าเชื่อถือเลยสักนิดสำหรับคุณ”

กล่าวขึ้นลอยแต่ทำเอาคนฟังต้องเม้มปากแน่นกับคำตัดพ้อ

“เอาเถอะ ผมทำตัวเอง ผมไม่โทษคุณหรอก”

ว่าแล้วก็ล้มตัวนอนหงายอย่างคนหมดแรง

“เรื่องที่คุณสงสัย มันไม่มีอะไรมากมายนักหรอก ก็แค่ผมกำลังตามเรื่องหย่าของแม่คุณให้ก็เท่านั้น”

“แล้วทำไมไม่บอกผม ทำไมต้องทำเหมือนปิดบังกัน”

ปาฏิหาริย์ถอนหายใจเบา ๆ อย่างตัดสินใจ

“เพราะมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้น บอกตามตรงนะ ผมไม่อยากให้คุณเข้ามารับรู้อะไรด้วย คิดว่าจะจัดการให้เสร็จโดยที่ไม่ต้องให้คุณวุ่นวายใจ”

“นี่คุณ....”

ภาคนิพนธ์ที่ได้ฟังเหตุผลแล้วก็พอจะเข้าใจได้ ด้วยอาการของตัวเองนั้นใช่ว่าเจ้าตัวจะไม่รู้ แต่ไม่คิดว่าคนอื่นก็ดูรู้ด้วยเหมือนกัน

“ผมควรจะปล่อยให้คุณเผชิญหน้ากับความจริงมากกว่าปกป้องคุณไว้ข้างหลังไม่ให้ได้เห็นอะไรสินะ”

ปาฏิหาริย์พูดด้วยความท้อแท้ สายตาที่มองเพดานห้องนั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวเริ่มหมดกำลังใจลงไปทุกที

“คุณควรยืนเคียงข้างผมในขณะที่ผมเผชิญหน้ากับความจริงต่างหาก ไม่ใช่ปล่อยและไม่ใช่ปกป้องจนเหมือนปิดตากันแบบนั้น”

คำที่ตอบกลับมาทำให้ปาฏิหาริย์ดีดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับมองไปทางภาคนิพนธ์อย่างแปลกใจ

ความท้อแท้เริ่มมลายหายไปเมื่อเห็นสีหน้าเรื่อ ๆ ของคนที่หันไปมองทางอื่น ไม่ยอมสบตาด้วย

มันไม่ใช่การหลบตาด้วยความไม่พอใจ ไม่ใช่เพราะโกรธหรือโมโห ที่ภาคนิพนธ์ไม่สบตาตอนนี้ เป็นเพราะกำลังเขินในสิ่งที่ตัวเองพูด

ปาฏิหาริย์ถามตัวเองว่ายังหวังได้ใช่ไหม

อย่างน้อย ๆ ที่ภาคนิพนธ์พูดออกมามันก็ไม่ใช่การตัดรอน และดูเหมือนจะอยากให้เขาอยู่ข้าง ๆ

เป็นแบบนั้นใช่ไหม?

“ผมขอโทษที่สงสัยคุณ แล้วก็พูดไม่ดี แต่คุณก็ไม่ควรปิดบังผม”

“ผมเข้าใจ ที่ผมทำไว้มันก็น่าระแวงจริง ๆ ”

“ไม่ใช่นะ ผมต่างหากผิด ผมขอโทษ”

ภาคนิพนธ์หันมาพูดอย่างรวดเร็ว เพราะถึงปาฏิหาริย์จะเคยทำไม่ดีจริงอย่างที่ว่า แต่ภาคนิพนธ์เองก็ไม่สมควรจะระแวงสงสัยมากขนาดนั้น ... ถึงอีกฝ่ายจะทำตัวน่าสงสัยขนาดไหนก็เถอะ

“แล้วอีกอย่าง ผมไม่ควรพูดเหมือนปรักปรำคุณไปก่อนทั้งที่ยังไม่รู้อะไร”

“ไม่หรอก ผมเองที่ทำให้คุณเชื่อไม่ได้”

ยิ่งพูด ภาคนิพนธ์ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองผิด ในขณะที่ปาฏิหาริย์ก็คิดว่าตัวเองผิดเช่นเดียวกัน

แล้วทั้งสองคนจะต้องจมอยู่กับความคิดเหล่านี้ของตัวเองอีกนานแค่ไหน ทั้งที่ก็ทรมานใจกันทั้งสองฝ่าย

“ถ้าผมเชื่อใจคุณ คุณสัญญาได้ไหมว่าจะไม่หักหลังผมอีก”

อยู่ ๆ ภาคนิพนธ์ก็พูดขึ้นมาทามกลางความเงียบ

ปาฏิหาริย์แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ด้วยไม่คิดว่าภาคนิพนธ์จะเป็นคนพูดขึ้นมาเองว่าจะเชื่อใจเขา

สำหรับภาคนิพนธ์ เขารู้ตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าเขารักผู้ชายตรงหน้านี้ ทั้ง ๆ ที่โดนทรยศความไว้ใจ ทั้ง ๆ ที่เคยโดนอีกฝ่ายทำร้าย ทั้ง ๆ อย่างนั้น เขาก็ยังรัก

แล้วในเมื่อเขารักได้ ทำไมเขาจะเชื่อใจคนที่เขารักไม่ได้ล่ะ

ขอแค่ปาฏิหาริย์สัญญาเท่านั้น ไม่ว่าสัญญาแล้วปาฏิหาริย์จะทำตามสัญญาได้หรือไม่ได้ ขอแค่คำสัญญาไว้เป็นหลักไว้ให้ภาคนิพนธ์ได้ยึดในตอนนี้ก็เพียงพอ

“คุณจะปิดบังผมบ้าง โกหกผมบางที ผมก็ไม่ว่าอะไร แค่อย่าทรยศหักหลังกันอีก ได้ไหมครับ”

ภาคนิพนธ์มองหน้าปาฏิหาริย์อย่างร้องขอ ปาฏิหาริย์จึงขยับเข้าใกล้ พลางดึงมือภาคนิพนธ์มากุมไว้

“ถ้าคุณสามารถเชื่อใจผมได้อีกครั้ง ผมจะไม่มีวันทรยศคุณอีกเป็นครั้งที่สองแน่ ผมสัญญา ขอแค่คุณเชื่อผม แค่เท่านั้นจริง ๆ ”

ภาคนิพนธ์มองตาอีกฝ่ายแล้วบีบมือกลับไปเบา ๆ

“ครับ ผมเชื่อคุณ”

.............................



ตอน 14 ต่อด้านล่างนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 14-04-2013 23:07:33
บทที่ 14


 

นายมานิชนั่งจิบไวน์ราคาแพงพลางอ่านเอกสารรายงานที่ส่งมาบอกว่า ในแต่ล่ะวันปาฏิหาริย์ทำอะไรบ้างด้วยรอยยิ้มพอใจ

เอกสารรายงานที่ให้คนของตนคอยตามสืบบอกให้รู้ว่าปาฏิหาริย์วิ่งวุ่นไปในหลายที่เพื่อพยายามดิ้นรนเรื่องคดีความ ทั้งยังพยายามสืบหาบ้านเล็กของมานิช แต่เขาป้องกันเรื่องพวกนั้นอย่างดีแล้ว ปาฏิหาริย์ไม่มีทางสืบเจอแน่ๆ

“ร้อนรนน่าดู”

ในความคิดของมานิช ปาฏิหาริย์คงอยากจะลองหาทางอื่นดูก่อนจะยอมตอบรับข้อเสนอ ซึ่งเขาก็ปล่อยให้ปาฏิหาริย์ดิ้นรนได้ตามใจชอบเพราะมันไม่มีทางไหนอีกแล้วที่จะทำให้เขายอมความ นอกจากทำตามที่เสนอไปเท่านั้น

“อยากจะลองพยายามก็เอา ให้เวลาอีกนิดล่ะกัน ให้เหนื่อยมาก ๆ หน่อย จะได้รู้ว่าทำไปแล้วเสียเงินเปล่า เสียเวลาเปล่าเป็นยังไง”

ว่าแล้วก็ลูบเฝือกที่แขนซึ่งได้มาจากคนของปาฏิหาริย์เบา ๆ  รอยยิ้มสาสมใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างช้า ๆ  ถือว่าได้แก้แค้นทางอ้อมก็แล้วกัน

 



 

สิ่งที่ไม่มีอยู่ในรายงานของนายมานิชคือการเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ ของปาฏิหาริย์ที่กำลังสืบหาหลักฐานเอาผิดนายมานิชให้ได้มากที่สุด และเร่งให้ได้เร็วที่สุด

ไม่ใช่ว่าทางกรมสรรพากรหรือตำรวจทำงานไม่ดี แต่บางทีมันก็มีเรื่องอื่นให้ต้องจัดการด้วย และหากพูดกันตามตรง เรื่องคดีของนายมานิชไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน จึงต้องเลือกเรื่องที่เร่งด่วนกว่าขึ้นมาทำก่อน

แต่ปาฏิหาริย์ไม่อยากรอ

เขาอยากให้เรื่องนี้จบไม่ต้องให้มีอะไรค้างคาโดยเร็ว จึงประสานงานกับทางหน่วยงานเพื่อช่วยสืบหาหลักฐาน ซึ่งในกรณีเลี่ยงภาษีที่ไม่ได้มีแค่นายมานิชคนเดียว เขาก็รับปากจะสืบหามาให้ทั้งหมด เพื่อไม่ให้ใครว่าได้ว่าเจ้าหน้าที่มีการเลือกปฏิบัติ

ปาฏิหาริย์จึงค่อนข้างยุ่งในช่วงนี้ ด้วยเป็นช่วงแรกของการมอบหมายงานให้ลูกน้องไปกระจายกำลังสืบ อะไร ๆ จึงยังไม่ค่อยลงตัวเท่าที่ควร แม้จะเหนื่อยไปบ้างแต่ก็สามารถคืบหน้าไปได้อย่างน่าพอใจ

นายมานิชประมาทเพราะคิดว่าปาฏิหาริย์เป็นแค่เด็ก เล่ห์เหลี่ยมและประสบการณ์ย่อมมีไม่มาก หากแต่นายมานิชลืมนึกไปว่า ปาฏิหาริย์ไม่ได้ตัวคนเดียว

เขามีทั้ง พ่อ อา และพี่ ๆ คอยให้คำปรึกษา และถึงประสบการณ์ในชีวิตจะน้อยจริง แต่ปาฏิหาริย์ก็ไม่ใช่เด็กไม่ประสาอย่างที่นายมานิชเข้าใจ

 



 

 “คุณน่าจะพักบ้าง”

ภาคนิพนธ์บ่นเมื่อใกล้เที่ยงคืนเข้าไปทุกทีแล้วแต่ปาฏิหาริย์ก็ยังนั่งดูเอกสารซึ่งน่าจะเป็นบัญชีรายรับรายจ่ายของบริษัทแห่งหนึ่งที่โดนตรวจสอบการเลี่ยงภาษีอยู่

“อีกนิดเดียวก็เสร็จแล้วครับ”

ปาฏิหาริย์เงยหน้ามาตอบพร้อมรอยยิ้มแล้วก้มลงอ่านเอกสารต่อ

“ผมว่าน่าจะย้ายโต๊ะทำงานออกจากห้องนอน เผื่อมันจะทำให้คุณพักผ่อนมากขึ้น”

คำบ่นที่เหมือนบ่นลอย ๆ ทำเอาคนขะมักเขม้นอ่านเอกสารยิ้มไม่หุบมากขึ้นไปอีก ภาคนิพนธ์จะรู้ไหมนะว่าแค่คำบ่นทำนองว่าเป็นห่วงปาฏิหาริย์พวกนี้แค่คำเดียวก็ทำเอาความเหนื่อยล้าที่มีมลายหายไปเกือบสิ้น

หลังจากที่ได้ให้สัญญากันในวันนั้น ภาคนิพนธ์ก็เหมือนจะเลิกเกร็ง เลิกคิดมาก เจ้าตัวดูเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ยิ้มมากขึ้น และดูมีความสุขมากขึ้น ไม่ใช่แค่ตอนอยู่กับปาฏิหาริย์ แต่เป็นตลอดเวลา

ขนาดปารมียังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพอใจที่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นไปได้ด้วยดี

ส่วนปาฏิหาริย์ไม่ต้องพูดถึง ก็ขนาดนั่งอ่านเอกสารที่แสนจะน่าเครียดและน่าเบื่ออยู่อย่างตอนนี้ เจ้าตัวยังอ่านไปยิ้มไป จะมีใครมีความสุขกว่านี้อีก

แต่แน่ใจได้จริง ๆ หรือว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดี...

 



 

“ทางนั้นเริ่มไม่พอใจและเร่งเรื่องมาแล้วนะครับ”

ทนายความของปาฏิหาริย์แจ้งให้ทราบเป็นเรื่องแรกเมื่อปาฏิหาริย์มาติดตามงาน

“ส่วนหลักฐานต่าง ๆ  ผมดูรายละเอียดประกอบทุกอย่างเสร็จแล้ว เหลือแต่ส่งเรื่องให้ทางหน่วยงานครับ”

ปาฏิหาริย์พยักหน้าก่อนจะหยิบเอกสารมาเปิดดู

“ยังไงตรวจสอบให้แน่ใจได้ว่าหลักฐานมัดแน่นหนา เอาให้ไม่มีทางดิ้นหลุด แล้วค่อยส่งไปล่ะกัน”

“ได้ครับ”

“ส่วนทางมานิช ถ้ายืดเวลาได้ก็ยืดอีกสักสองสามวัน แต่ถ้ายืดไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ปล่อยให้ฟ้องเลย เราก็ทำเรื่องทุกอย่างให้มันถูกต้องก็พอ”

“ครับ”

ปาฏิหาริย์พยักหน้าอย่างพอใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่วางไว้

และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน การฟ้องร้องเรื่องหย่าระหว่างพัลลภาและมานิชก็ตกเป็นข่าวสังคมกรอบเล็ก ๆ  แม้คนยื่นฟ้องจะอยากให้มันเป็นข่าวใหญ่โตเพื่อเรียกร้องความเห็นใจเหมือนเมื่อตอนแถลงข่าวว่าแยกกันอยู่และกำลังจะฟ้องหย่า แต่เมื่อจอมไตรเข้ามาและยืนอยู่ข้างพัลลภา การจะทำให้เป็นข่าวใหญ่แบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

 



 

 “จะไปเที่ยวหรือ?”

“ครับ อีกสองอาทิตย์ ไปค้างหนึ่งวัน พอดีเรือชามีตรวจงานแถวชะอำ เลยมาชวนผมไปด้วย ผมไปนะครับ”

ปาฏิหาริย์มองท่าทางตื่นเต้นของภาคนิพนธ์แล้วก็จำใจพยักหน้าอนุญาต ตอนที่ได้ยินวันที่จะไป ปาฏิหาริย์ก็เปิดดูตารางของตัวเองแล้ว ช่วงนั้นเขามีงานคงไม่สามารถไปด้วยได้ ใจจริงนั้นไม่ได้อยากให้ภาคนิพนธ์ไปโดยไม่มีตนเองไปด้วยเลยสักนิด แต่เมื่อมาคิดดูแล้ว ภาคนิพนธ์มีเพื่อนที่ไทยเพียงคนเดียว เขาก็ควรจะปล่อยให้เพื่อนได้อยู่ด้วยกันบ้าง และเรือชาก็ไว้ใจได้ ยิ่งหลัง ๆ มานี้ ปาฏิหาริย์ ภาคนิพนธ์ และเรือชา ไปกินข้าวด้วยกันค่อนข้างบ่อย  จึงทำให้เขาสนิทกับทางนั้นไปด้วย

“ยังไงก็ไปพักที่โรงแรมของเรานะ แล้วก็เอารถที่บ้านไป”

“เรื่องที่พักก็ได้อยู่หรอกครับ แต่รถนี่เห็นว่าชาเขาจะเอารถไปเองนะครับ”

“เดี๋ยวผมไปคุยกับคุณชาเอง ถือว่าผมขอเถอะ ยังไงก็อยากให้รถที่บ้านไปส่งมากกว่า”

ไม่ใช่ว่าปาฏิหาริย์ไม่ไว้ใจให้เรือชาขับรถไปเอง แต่เพราะเป็นห่วงภาคนิพนธ์ในหลาย ๆ ทาง การที่ให้เอารถของที่บ้านไปนั้นเขาจะสามารถให้คนคอยคุ้มกันภาคนิพนธ์อย่างใกล้ชิดได้อย่างน้อยหนึ่งหรือสองคน

แน่นอนว่าไม่นับที่คอยดูแลอยู่ห่าง ๆ อีกหลายคน

ที่ภาคนิพนธ์กังวลก็คือความรู้สึกของเรือชา การให้คนขับรถให้แถมยังต้องไปพักในโรงแรมของจอมไตรอาจจะทำให้เรือชาอึดอัด ไม่สบายใจ

ครั้งนี้ตั้งใจจะไปเที่ยวพักผ่อนกันจึงไม่อยากให้มีอะไรมาทำให้ไม่สนุก

“ถ้าชาเขาไม่ว่าอะไร ผมก็ไม่ว่าอะไรครับ”

สุดท้ายก็เลยตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้

ปาฏิหาริย์เองก็ไม่ได้บังคับหรือหว่านล้อมอะไรอีก ด้วยค่อนข้างมั่นใจว่าเรือชาต้องตกลง เท่าที่ได้คุยกันมาต้องนับว่าเพื่อนของภาคนิพนธ์คนนี้ค่อนข้างทันคนและคุยกันถูกคอกับปาฏิหาริย์ เรียกว่าเป็นคนประเภทเดียวกันเลยคุยกันรู้เรื่อง

“คุณเอาเอกสารนี่ไปให้แล้วชวนคุณชาไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันนะ ผมจะได้คุยกับเขา”

ภาคนิพนธ์พนักหน้ารับเอกสารแล้วออกไปจากห้อง

และก็เป็นไปตามที่ปาฏิหาริย์คิด เมื่อภาคนิพนธ์เกริ่นกับเพื่อนดูก่อน เรือชาก็ดูเหมือนจะสามารถเข้าใจได้โดยไม่ต้องอธิบายเหตุผลและตกลงให้เอารถของที่บ้านจอมไตรไปอย่างง่ายดาย

“ถ้าชาไม่สะดวกใจก็บอกได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“โธ่ภาค ถ้าไม่สะดวกเราก็บอกว่าไม่สะดวกสิ อย่าคิดมาก รถฟรี น้ำมันฟรี แถมที่พักยังฟรี ดีจะตาย”

พอเห็นเพื่อนตอบด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ  ภาคนิพนธ์จึงคลายใจลงไป

“บางทีภาคก็คิดมากไปนะเราว่า”

เรือชาพูดขึ้นมาลอย ๆ  แต่กระทบใจเพื่อนอย่างจัง

หลังจากที่สัญญากันว่าภาคนิพนธ์จะเชื่อใจ แลกกับที่ปาฏิหาริย์จะไม่หักหลัง ภาคนิพนธ์ยอมรับว่าไว้วางใจปาฏิหาริย์มากขึ้น แต่ถ้าถามว่าเชื่อใจเต็มร้อยไหม คำตอบคือไม่เต็มร้อย

ทั้ง ๆ ที่บอกตัวเองว่าปาฏิหาริย์จะไม่หลอกลวงอีกแน่นอน ทั้ง ๆ ที่ย้ำกับตัวเองหลายครั้ง

แต่ความเคลือบแคลงสงสัยมันยังคงมีอยู่ตลอดเวลา

ภาคนิพนธ์อยากขจัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไป หากมันก็ทำไม่ได้ ก็คล้าย ๆ กับที่ภาคนิพนธ์มีอาการเครียดทุกครั้งที่เจอนายมานิชนั่นแหละ ทั้ง ๆ ที่พยายามไม่แสดงอาการอะไรออกไป แต่มันก็อดจะตื่นกลัวไม่ได้ทุกที

คงต่างตรงที่ภาคนิพนธ์ไม่ได้กลัวปาฏิหาริย์ เขาก็แค่ระแวง และไม่ไว้ใจนิดหน่อยก็เท่านั้น

“เราว่าเราก็คิดมากไปจริง ๆ  แต่บางทีมันก็อดคิดมากไม่ได้จริง ๆ นะ”

เรือชาไม่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ก็พอจะรู้สถานการณ์ตอนนี้ว่าปาฏิหาริย์คงเคยทำผิดอะไรสักอย่าง ทำให้ภาคนิพนธ์ไม่ค่อยไว้ใจนัก

“คิดแล้วทุกข์ คิดแล้วเหนื่อย คิดแล้วตัวเองไม่สบายใจ คิดแล้วคนอื่นก็พลอยไม่สบายใจตามไปด้วย ถ้ามันเป็นอย่างนั้นเราว่า ภาคเลิกคิดเรื่องแย่ ๆ ดีกว่าไหม”

ภาคนิพนธ์ฟังเพื่อนแล้วถอนหายใจออกมา มันก็เป็นอย่างที่เรือชาพูดทุกอย่างจริง ๆ

“ถ้ามันทำได้ง่าย ๆ นะชา เราทำไปนานแล้ว”

“โอย... ยากง่าย อยู่ที่ตัวเรากำหนด เข้าใจ? แล้วก็กลับไปทำงานได้แล้วคุณผู้ช่วย กระผมก็ต้องทำงานต่อแล้ว”

เรือชายิ้มกวน ๆ ให้เพื่อน ด้วยรุ่นพี่ที่ออกไปซื้อกาแฟกลับเข้ามาแล้ว ถึงเรือชาจะสนิทกับเธอพอประมาณแต่ภาคนิพนธ์ไม่ได้สนิทด้วย จะคุยเรื่องของภาคนิพนธ์กับปาฏิหาริย์ให้เธอได้ยินก็คงไม่ดีนัก

“อืม เจอกันเที่ยงครึ่งนะ”

ภาคนิพนธ์เองก็เข้าใจเจตนาของเพื่อนดีจึงไม่ได้ต่อความอะไรอีก

หลังจากนั้นตลอดทั้งวัน ภาคนิพนธ์ก็เอาแต่คิดถึงสิ่งที่เรือชาพูด คิด คิด คิด และคิด

และแล้วภาคนิพนธ์ก็รู้ตัวว่า ตัวเองเป็นคนคิดมากจริง ๆ

 



 

“เหอะ ไอ้เด็กบ้านั่น คิดจะงัดกับฉันงั้นเหรอ!”

มานิชทุบโต๊ะอย่างโมโหเมื่อทนายความแจ้งมาว่าทางปาฏิหาริย์ไม่ยื้อเรื่องการยื่นฟ้องหย่า และไม่ตกลงในข้อเสนอของนายมานิชแม้แต่ข้อเดียว

“นึกว่ามันจะจริงจังกับไอ้เด็กภาค นี่มันคงเลี้ยงไว้แก้เซ็งแก้เบื่อเท่านั้นล่ะสิ โธ่เว้ย!”

เพราะไม่ได้หาทางเผื่อเอาไว้ ตอนนี้มานิชจึงร้อนใจเป็นอย่างมาก แม้จะคิดว่าตัวเองต้องชนะคดีและได้เงิน 20 ล้านมาไว้ในมือ

แต่กว่ากระบวนการศาลจะเสร็จล่ะ

ถ้ารอถึงตอนนั้นเขาไม่ต้องเข้าไปอยู่ในคุกก่อนหรือไง

“ไม่ได้ เราจะให้มันเกิดขึ้นไม่ได้”

ว่าแล้วก็ยกโทรศัพท์ต่อหาทนายความของตัวเองทันที

“ฟ้องหย่าให้เร็วทีสุด อย่าให้เรื่องยืดเยื้อ เงินไม่ต้องได้เต็มจำนวนก็ได้ แต่ขอให้ได้มากที่สุดเร็วที่สุด!”

 



 

 “ปล่อยให้ฟ้องไป”

ปาฏิหาริย์สั่งการพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่จ้องมาทางตนด้วยความสนใจ ทันทีที่รู้ว่าโทรศัพท์สายนี้โทรมาด้วยเรื่องอะไร

“ใช่ ถ้ามีอะไรคืบหน้าก็โทรมาแจ้งผมโดยตรงได้เลยนะ”

หลังจากวางสาย ปาฏิหาริย์ก็ยิ้มให้ภาคนิพนธ์และบอกเรื่องที่ฝ่ายนายมานิชยื่นฟ้อง

“ผมใจไม่ดีเลย”

ภาคนิพนธ์ไม่คุ้นชินกับอะไรแบบนี้ เล่ห์เหลี่ยมต่าง ๆ  การชิงไหวชิงพริบ ไม่ใช่สิ่งที่ภาคนิพนธ์ถนัดหรือเคยเจอมาก่อน

กลับกันปาฏิหาริย์ที่อายุน้อยกว่ากลับเคยชินกับเรื่องเหล่านี้ แม้จะไม่ใช่การเผชิญหน้าโดยตรงทั้งหมด แต่ปาฏิหาริย์ก็เรียนรู้จากพ่อ อา และพี่ๆมาโดยตลอด เขาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วเดินไปคุกเข่าหน้าเก้าอี้ของภาคนิพนธ์ พลางวางมือไว้บนเข่าทั้งสองข้างของอีกฝ่าย

“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมไม่ปล่อยให้อะไรไม่ดีเกิดขึ้นแน่ ๆ ”

ภาคนิพนธ์รับฟังคำนั้น แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เจ้าตัวเพียงแค่มองปาฏิหาริย์นิ่งอยู่อย่างนั้นด้วยดวงตาเหม่อลอย

ไม่มีความเชื่อถือในคำพูดของปาฏิหาริย์อยู่ในดวงตาคู่นั้น

มันไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่คิดอย่างนั้นหรือ

ปาฏิหาริย์ลอบถอนหายใจ ก่อนจะบอกกับตัวเองว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เขายังมีเรื่องที่ต้องจัดการให้เสร็จก่อน

เสร็จจากเรื่องนายมานิชแล้วค่อยมาทบทวนเรื่องนี้ก็แล้วกัน

 



 

 “ศาลวินิจฉัยแล้วว่า...........................”

หลังจากฟังคำตัดสินทั้งสองฝ่ายมีอาการแตกต่างกันไป

ทางที่แพ้คือพัลลภาและปาฏิหาริย์ที่มาร่วมฟังด้วยมีท่าทีนิ่งเฉย

แม้คำตัดสินจะไม่ได้เป็นไปตามที่ทนายของปาฏิหาริย์คาดการณ์ แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้

ส่วนมานิชทั้งที่ชนะคดีแต่ก็แทบจะตะโกนโวยวายประท้วงคำตัดสินของศาล ดีที่ทนายความดึงตัวไว้ และแนะนำให้ยื่นอุทธรณ์ แทนการโวยวายจะดีกว่า

แต่นายมานิชไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะไม่มีเวลามากพอให้ทำเรื่องยื่นอุทธรณ์

คดีเลี่ยงภาษีของนายมานิชได้ถูกยื่นให้อัยการตรวจดูเพื่อตัดสินว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะโดนสั่งฟ้องมากกว่าเพราะหลักฐานชัดเจน นอกจากนี้แม้คดีโกงเงินและผิดสัญญาบางคดีจะหมดอายุความไปแล้ว แต่ที่ฟ้องได้ก็ยังมีอยู่ โทษที่ได้รับอาจจะไม่เยอะแต่ก็ทำให้นายมานิชดิ้นไปไหนไม่ได้และลำบากมากพอดู

นายมานิชที่พอรู้ชะตากรรมตัวเองแล้วก็ได้แต่เจ็บใจ ถึงไม่ได้ออกหน้าชัดเจนแต่มานิชก็รู้ว่าปาฏิหาริย์ต้องมีส่วนในเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มากก็น้อย

เขาประเมินเด็กบ้านจอมไตรต่ำไปจริง ๆ

 



 

“สองล้าน!”

ภาคนิพนธ์ดูจำนวนเงินที่ปาฏิหาริย์จ่ายให้มานิชตามคำสั่งศาลแล้วต้องอุทานออกมาอย่างตกใจ

“นี่ยังมีค่าจ้างทนายขอคุณ ค่าดำเนินการต่าง ๆ  ค่าจ้างคนที่คุณให้ช่วยหาหลักฐานอะไรพวกนั้นอีก”

ไม่อยากจะนึกถึงตัวเลข ภาคนิพนธ์พึมพำแล้วทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างท้อใจ

หนี้เก่าที่ยืมมาจ่ายค่าโรงพยาบาลยังไม่ได้คืนเขาซักบาท ตอนนี้เพิ่มเจ้าหนี้ขึ้นมาอีกคนแถมจำนวนเงินก็ไม่ใช่น้อย ๆ

ทั้ง ๆ ที่ภาคนิพนธ์กำลังเครียด แต่ปาฏิหาริย์กลับเอาแต่อมยิ้ม เลยโดนขว้างค้อนใส่ไปหลายทีหากก็ไม่ได้ทำให้รอยยิ้มที่มีจืดจางลงสักนิด

“คุณยิ้มอะไรของคุณ ดีใจที่ผมเป็นหนี้ใช่ไหม จะซ้ำเติมกันงั้นสิ”

ด้วยความไม่สบายใจ ภาคนิพนธ์ก็เลยพาล แล้วก็เป็นคำพูดของภาคนิพนธ์นี่แหละที่ทำให้ปาฏิหาริย์ต้องหุบยิ้มแล้วเปลี่ยนเป็นถอนหายใจแทน

ภาคนิพนธ์เองก็ดูเหมือนจะเพิ่งคิดได้ว่า พูดคำที่ไม่สมควรจะพูดออกไปเสียแล้ว

“ก็ผมกำลังกลุ้มใจ แต่คุณตาหวานเล่นยิ้มเหมือนพอใจอะไรสักอย่าง”

ดูเหมือนคำแก้ตัวไปหน่อยแต่ภาคนิพนธ์คิดอย่างนั้นจริง ๆ

“ผมไม่ว่าคุณหรอก”

รอยยิ้มกลับขึ้นปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง แม้มันจะดูฝืน ๆ ไปบ้าง

“ผมก็กำลังยิ้มอย่างพอใจจริง ๆ นั้นแหละ”

“นี่คุณ”

ภาคนิพนธ์ผุดลุกขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่อยากเชื่อ

นี่เขาจะโดนทรยศอีกแล้วหรือ

ปาฏิหาริย์กำลังจะทำเหมือนเดิมใช่ไหม หลอกให้เขาไว้ใจ ทำตัวเป็นหลักให้เขาได้พึ่งพา จากนั้นก็ปล่อยลอยแพเขาตอนที่เขาไม่สามารถหันไปทางไหนได้อีก

ทั้ง ๆ ที่เขาคิดว่าจะเชื่ออีกฝ่ายแล้วแท้ ๆ

“คุณยังระแวงผมอยู่มากจริง ๆ ”

ก็แน่ล่ะสิ ภาคนิพนธ์คิด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ แล้วก็เป็นตอนนี้เองที่ภาคนิพนธ์รู้สึกตัว

สำหรับภาคนิพนธ์แล้วถึงแม้จะอยากเชื่อใจปาฏิหาริย์มากแค่ไหนมันก็เป็นเรื่องยากที่จะทำ

และที่ภาคนิพนธ์คิดไว้ว่าถึงตัวเองจะไม่เชื่อใจปาฏิหาริย์ได้เต็มร้อย แต่ก็เชื่อในระดับหนึ่งนั้น มันไม่จริงเลย...

ภาคนิพนธ์ไม่เคยเชื่อใจปาฏิหาริย์เลยต่างหาก

ที่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นมากนั้น มันไม่ใช่เพราะการเชื่อใจ

มันก็แค่เพราะภาคนิพนธ์อภัยให้ และปาฏิหาริย์ก็แน่ใจแล้วว่าภาคนิพนธ์ไม่ได้ถือโทษ

แต่การให้อภัยก็ส่วนการให้อภัย และความเชื่อใจก็ส่วนความเชื่อใจ

การให้อภัยมันง่ายมาก ยิ่งอีกฝ่ายเป็นคนที่เรารู้สึกดี ๆ ด้วย มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะอภัย

แต่การเชื่อใจนี่สิ ภาคนิพนธ์ไม่สามารถทำมันได้ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหน เพราะเจ็บจากครั้งนั้นยังฝังแน่นในความรู้สึก

มันไม่สามารถลืมและทำใจไม่ให้นึกถึงได้ง่าย ๆ

แล้วปาฏิหาริย์ก็คงดูออกในสิ่งที่ภาคนิพนธ์เป็น

“ผมรู้ว่ามันเร็วไปนะภาค”

ปาฏิหาริย์เมินมองไปทางอื่นในขณะที่พูด ทั้ง ๆ ที่คู่สนทนาเองก็ไม่ได้มองมาที่ตน ปาฏิหาริย์ไม่อยากจะมองอีกฝ่ายในตอนนี้ ในตอนที่เขาไม่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้แสดงความเจ็บช้ำ และพ้ออีกฝ่ายผ่านสีหน้าและแววตาได้

“มันต้องใช้เวลาผมรู้ แต่เชื่อเถอะว่าผมไม่ได้ยิ้มพอใจเพราะคุณจะต้องเดือดร้อนเลยจริง ๆ ”

ภาคนิพนธ์ไม่ชอบแบบนี้เลย เขาไม่ชอบความอึดอัดนี้ ไม่ชอบที่ปาฏิหาริย์ทำหน้าแบบนี้ และไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้

เจ้าตัวก้มหน้าเม้มริมฝีปากแน่น น้ำตาเหมือนจะท้นเอ่อขึ้นมาด้วยความเสียใจ ไม่รู้จะต้องพูดอย่างไรเรื่องถึงจะดีขึ้น ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรบรรยากาศแบบนี้มันจึงจะหายไป

ไม่ใช่แค่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่ทรมานใจ ภาคนิพนธ์เองก็ทรมานใจไม่แพ้กัน

 “คุณ....”

อ้อมกอดที่ไม่คาดว่าจะได้รับทำเอาภาคนิพนธ์ตกใจเล็กน้อย

“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ ไม่เป็นไรนะ”

ปาฏิหาริย์เพิ่งหันมาเห็นว่าคนตัวเล็กกว่ากำลังร้องไห้ ซึ่งเขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น และจะไม่ปล่อยให้ภาคนิพนธ์ร้องไห้อยู่แบบนี้

ปาฏิหาริย์โอบร่างตรงหน้าเข้าสู่อ้อมกอดเพื่อปลอบโยน คิดว่าจะช่วยให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ได้ หารู้ไม่ว่ายิ่งมาโดนกอดแบบนี้ น้ำตาก็ดูเหมือนจะยิ่งไหล เหมือนจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

มันเจ็บปวดและไม่สามารถหาทางออกได้

ทั้ง ๆ ที่อยากเชื่อกลับเชื่อไม่ได้

ทั้ง ๆ ที่อยากให้เชื่อแต่กลับทำให้เชื่อไม่ได้

มันคงจะจริงอย่างที่เรือชาเคยพูด ไม่มีใครมีความสุขเลยสักคน มีแต่ทุกข์ใจกันทั้งนั้น

ตอนนี้มันก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้ว

ภาคนิพนธ์เสียใจ ....ปาฏิหาริย์เองก็เสียใจ

หากยังเป็นอยู่อย่างนี้ มันคงไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะแย่ลงไปเรื่อย ๆ

ควรถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาคนิพนธ์จะลองเสี่ยงดูอย่างจริงจัง

ควรถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาคนิพนธ์จะพาตัวเองออกมาจากกำแพงที่ตั้งกั้นไว้โดยบอกตัวเองว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ต้องเจ็บอย่างที่เคยเจ็บอีก

ควรจะลองเสี่ยง เพื่อความสุข แม้มันอาจจะต้องผิดหวัง และเจ็บอีกครั้ง

หรือจะทิ้งความเสี่ยงเหล่านั้น เพื่อป้องกันให้ไม่ต้องเจ็บปวดที่โดนหักหลังอีก แต่ก็ไม่มีทางจะมีความสุขได้เลย

ภาคนิพนธ์ไม่อยากเจ็บและอยากมีความสุข

แต่มันก็ต้องเลือก

แขนเรียวยกขึ้นกอดตอบปาฏิหาริย์อย่างตัดสินใจ และมันทำให้อ้อมกอดของปาฏิหาริย์แน่นขึ้น

แน่นแต่ไม่อึดอัด

หากมองเห็นได้ภาคนิพนธ์ก็คงได้เห็นว่าปาฏิหาริย์กำลังยิ้มอย่างยินดี เขารู้ว่าภาคนิพนธ์ได้ตัดสินใจแล้ว เขาดีใจที่ภาคนิพนธ์เลือกที่จะกอดเขาตอบ และเขาจะไม่ทำให้คนในอ้อมกอดนี้ต้องเจ็บอีกแน่ ๆ

ปาฏิหาริย์ได้เรียนรู้แล้วว่าอีกฝ่ายคือความสุขของตัวเอง หากทำร้ายไปก็เท่ากับทำลายความสุขของตัวเองก็เท่านั้น และปาฏิหาริย์ไม่โง่พอจะทำมันอีกเป็นครั้งสอง

ทางภาคนิพนธ์ที่ตัดสินใจอย่างนี้ก็เพราะเขาอยากมีความสุข และอยากให้ปาฏิหาริย์มีความสุขด้วยเช่นกัน

แม่ของเขาเคยบอกว่าชีวิตคนเรามันสั้นนัก อย่าปล่อยโอกาสในชีวิตไปจนต้องมานั่งเสียดายภายหลัง

ภาคนิพนธ์จึงเลือกทางที่ตัวเองจะมีความสุข มีความสุขไปกับคนที่ตนรัก

เลือกที่จะลองเสี่ยงเพื่อความสุข แม้มันอาจจะต้องผิดหวังและเจ็บอีกครั้งก็ไม่เป็นไร

 

มีต่อข้างล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์ (ตาหวาน) ***ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*** ตอนที่ 11และ12 2,4/4/56 p.9
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 14-04-2013 23:07:57
 “สรุปว่าคุณปาฏิหาริย์จ่ายเงินให้ไปก่อนเรียบร้อยหมดแล้ว”

เรือชาที่กำลังม้วนเส้นสปาเก็ตตี้พูดสรุปหลังจากที่เพื่อนเล่าเรื่องคดีให้ฟัง

“ใช่แล้วล่ะ แล้วก็เห็นว่าจะหักจากเงินเดือนเราเอาน่ะ”

“ตั้งสองล้าน ต้องทำงานใช้กี่ปีล่ะนั่น”

 

จริงอย่างที่เรือชาพูด ภาคนิพนธ์เองตอนที่ได้ยินปาฏิหาริย์บอกเมื่อคืนว่าให้เขาใช้เงินด้วยวิธีนี้ก็แย้งไปอย่างนั้น แถมปาฏิหาริย์ยังบอกด้วยว่าจะหักเงินแค่ครึ่งเดียวต่อเดือนเท่านั้นเพราะอยากให้ภาคนิพนธ์เก็บเงินไว้ใช้จ่ายบ้าง ด้วยเข้าใจว่าเขาคงอึดอัดหากจะต้องให้ปาฏิหาริย์ออกเงินค่าทุกอย่างให้

แล้วมันต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ถึงจะคืนเงินให้ได้หมดกัน

เรือชายักไหล่แล้วนั่งกินต่อไปแม้จะเห็นว่าเพื่อนเริ่มกลุ้มใจกับการเป็นหนี้ ก็เรือชาเป็นคนประเภทเดียวกัน คิดออกได้ไม่ยากเลยว่าปาฏิหาริย์มีจุดประสงค์อะไร

เมื่อเป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน ภาคนิพนธ์ติดหนี้ปาฏิหาริย์ ก็ต้องใช้คืนปาฏิหาริย์ไปจนกว่าจะหมด จะไปจากปาฏิหาริย์ไม่ได้ตราบใดที่หนี้ยังอยู่ ยิ่งมีหนี้มากเท่าไหร่ ภาคนิพนธ์ก็ต้องอยู่กับปาฏิหาริย์ไปนานมากขึ้นเท่านั้น

เรียกว่าปาฏิหาริย์หาทางรั้งภาคนิพนธ์ไว้ทุกทางจริง ๆ  ถึงเรือชาจะมองไม่เห็นว่าภาคนิพนธ์อยากจะไปจากปาฏิหาริย์ตรงไหน ดูยังไงภาคนิพนธ์ก็รักอีกฝ่ายมากแท้ ๆ  แต่ก็คงเพื่อความมั่นใจแหละนะ

เรื่องบ้า ๆ ของคู่รัก เรือชากลอกตาอย่างเซ็ง ๆ  เอาเถอะ แค่รักกันแล้วภาคนิพนธ์มีความสุขได้ แค่นั้นก็พอ

 



 

 “อะไรนะครับ!”

ภาคนิพนธ์ตะเบ็งเสียงอย่างไม่อยากเชื่อ

“ผมบอกว่าผมเพิ่งโอนเงินให้คุณอาของกีรติ คืนไปแทนคุณ”

ปาฏิหาริย์แกะกระดุมเสื้อไปแล้วก็พูดไปด้วย

เมื่อเช้าธรณินโทรมาบอกว่าดูเหมือนภาคนิพนธ์จะยืมเงินอาของกีรติมาจ่ายค่าโรงพยาบาลในคราวก่อน ทางนั้นไม่เร่งให้ใช้คืนก็จริง แต่ถ้าอยากจะจ่ายให้ก็ให้ปาฏิหาริย์จ่ายให้เสีย ‘เผื่อเอาไว้อีกหน่อยไง’ เป็นคำแนะนำที่ปาฏิหาริย์เต็มใจจะทำตามอย่างยิ่ง เขาจึงติดต่อกานต์และใช้เงินคืนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ค่อยมาบอกภาคนิพนธ์ทีหลังอย่างที่เห็น

“คุณ คุณ คุณ ทำไมไม่บอกผมก่อน!”

ภาคนิพนธ์เริ่มหงุดหงิดกับอาการติดอ่างของตัวเองอีกครั้ง หลังจากทีไม่ได้นึกหงุดหงิดมันมานาน หงุดหงิดจนลืมถามอีกฝ่ายไปเลยว่ารู้ได้อย่างไรว่าตนไปยืมเงินอากานต์มา

“บอกคุณก่อนแล้วไง คุณจะให้ผมใช้ให้แทนไหมล่ะ”

คนพูดไม่ยอมสบสายตาด้วย แต่ก็รู้ได้โดยไม่ยากว่าตอนนี้ภาคนิพนธ์กำลังส่งสายตาแบบไหนมาให้

“ไม่ให้แน่นอน ทั้ง ๆ ที่ ทั้ง ๆ ที่คุณรู้ว่าผมไม่เต็มใจ ไม่อยากให้คุณทำ แต่คะ.. คุณ คุณก็ยังทำ”

“ก็ผมไม่อยากให้คุณเป็นหนี้ใคร”

“ตะ ตะ แต่ผมก็ยังเป็นหนี้คุณอยู่ดี”

ภาคนิพนธ์หงุดหงิด หงุดหงิดที่ตัวเองพูดติด ๆ ขัด ๆ  หงุดหงิดที่ปาฏิหาริย์ไม่ยอมหันมาสบตาด้วย หงุดหงิดที่อีกฝ่ายทำอะไรตามใจตัวเอง และหงุดหงิดที่ไม่สามารถหาเงินไปคืนได้จนปาฏิหาริย์ต้องจ่ายให้ไปก่อนอีกแล้ว

“กับผมไม่นับว่าเป็นหนี้สักหน่อย”

เสียงอ้อมแอ้มพูดเบาจนภาคนิพนธ์แทบไม่ได้ยิน โดยเฉพาะตอนที่หูอื้อตาลายด้วยความโมโหแบบนี้

“อะ อะไรนะ โธ่เว้ย!”

คำสบถที่ไม่เคยได้ยินทำให้ปาฏิหาริย์ยอมหันกลับมามองคนพูด เขาไม่ชอบใจเลยที่อีกฝ่ายสบถออกมาอย่างนี้ แต่นี่คงไม่ใช่เวลาที่จะไปว่าเจ้าตัว ยิ่งพอเห็นท่าทางทำอะไรไม่ถูกมองซ้ายมองขวาเหมือนจะหาอาวุธแบบนั้นแล้ว ปาฏิหาริย์ยิ่งแน่ใจว่าข้ามเรื่องคำสบถไปก่อนเป็นดีที่สุด

เขาถอนหายใจเบา ๆ  ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้และดึงมืออีกฝ่ายมากุมไว้

ไม่ใช่ว่าป้องกันไมให้ภาคนิพนธ์หยิบอะไรมาขว้างใส่หรอกนะ ถึงจะคิดอย่างนั้นนิดนึงแต่ที่สำคัญคือเขาอยากให้ภาคนิพนธ์ใจเย็นลงกว่านี้ และคิดว่าวิธีนี้อาจจะช่วยได้

และมันก็ได้ผลจริง ๆ  ภาคนิพนธ์สงบลง จนแม้แต่เจ้าตัวเองยังตกใจที่สามารถสงบใจได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

“ผมบอกว่า ผมไม่นับว่าเงินที่ผมจ่ายแทนคุณไปเป็นหนี้สักหน่อย ไม่ว่าจะที่จ่ายคืนให้อาของกีรติ หรือที่จ่ายให้นายมานิชไป ผมก็ไม่นับทั้งนั้น”

ภาคนิพนธ์เงยหน้ามองคนพูด ก่อนจะส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย

“คุณเอาเงินมาจ่ายส่วนที่ผมสมควรจะต้องเป็นคนจ่าย ถ้าไม่นับว่าผมเป็นหนี้คุณ แล้วมันจะเป็นอะไรละ”

“ถือว่าเป็นค่าจ้างล่วงหน้าไง”

“เงินเดือนผู้ช่วยของผมเนี่ยนะ”

ปาฏิหาริย์สบตาคนที่เงยหน้ามองตัวเองอย่างจริงจังแล้วคนตัวโตกว่าก็เสไปมองทางอื่นเหมือนไม่กล้าสบตาด้วย

“เงินเดือนผู้ช่วย กับที่ผมจะขอต่อสัญญาให้คุณอยู่กับผมต่อไปเรื่อย ๆ...เงินไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ผมรู้ แต่ถ้ามันจะทำให้คุณต้องติดอยู่กับผมตลอดไป มากกว่านี้ผมก็จะจ่าย”

“คุณนี่มัน....”

ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี ภาคนิพนธ์เริ่มแน่ใจแล้วว่า ปาฏิหาริย์เด็กกว่าตัวเองจริง ๆ อย่างน้องก็มีบางเรื่องที่ยังทำตัวเหมือนเด็ก เช่นที่กำลังหลบตาเหมือนเด็กทำความผิดตอนนี้ไง  เขายิ้มบางก่อนจะกุมมืออีกฝ่ายกลับไป

“ตามนั้นก็ได้”

ปาฏิหาริย์หันกลับมามองภาคนิพนธ์อย่างรวดเร็ว ด้วยไม่อยากเชื่อว่าภาคนิพนธ์จะยอมรับง่าย ๆ อย่างนี้

ที่ยอมรับง่าย ๆ ก็เพราะภาคนิพนธ์ตัดสินใจไปแล้วว่าจะเชื่ออย่างหมดใจ เขาอยากจะมีความสุข สุขโดยไม่ต้องตั้งเงื่อนไขให้กับตัวเอง

ภาคนิพนธ์บอกกับตัวเองไปแล้วว่าจะเชื่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้ต้องเจ็บปวดอีกก็ไม่เป็นไร

พอคิดได้แบบนั้นก็เหมือนได้ยกอะไรหนัก ๆ ออกไปจากใจ

มันรู้สึกถึงความสบายใจและสุขใจอย่างที่ไม่เคยเป็น

ภาคนิพนธ์ตระหนักได้ว่าความสุขมันก็มีได้ง่าย ๆ แค่นี้ ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจ

“จนกว่าคุณจะไม่ต้องการ หรือจนกว่าคุณจะหักหลังผมอีกครั้ง ผมต่อสัญญาให้คุณจนถึงตอนนั้นก็แล้วกัน”

พูดแล้วก็มองใบหน้าที่แสดงออกมาชัดเจนว่าคาดไม่ถึงของปาฏิหาริย์อย่างขำ ๆ

“แต่คุณต้องหักเงินผมทุกเดือนอย่างที่ตกลงกันไว้นะ”

“ได้สิได้ แค่คุณยอมอยู่กับผมแบบนี้ แค่นั้นได้อยู่แล้ว”

ปาฏิหาริย์พูดแล้วกอดภาคนิพนธ์ไว้แน่น และตัวภาคนิพนธ์เองก็กอดอีกฝ่ายกลับไปด้วยเช่นกัน

ระหว่างทั้งสองคนไม่มีใครเอ่ยคำว่ารักออกมา

แต่แค่การกระทำของทั้งคู่ก็คงบอกได้แล้วว่าแต่ละคนรู้สึกเช่นไร

ปาฏิหาริย์คงไม่อยากให้ภาคนิพนธ์อยู่ข้าง ๆ เพราะไม่ได้คิดอะไรหรือเพราะเกลียดหรอก

และแน่นอน ภาคนิพนธ์ไม่ตอบตกลงเพราะเหตุผลอื่นนอกจาก ‘รัก’ อยู่แล้ว

ในเมื่ออีกฝ่ายใช้เงินจ่ายเพื่อซื้อเวลาด้วยหัวใจ เขาเองก็จะขายเวลาเหล่านั้นให้ด้วยความรักตอบแทนไปเหมือนกัน

แม้มันจะดูเป็นธุรกิจไปหน่อย แต่ทั้งสองคนต่างก็มีความสุขดี แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว



... THE END ...

มีตอนพิเศษอีก 2 ตอนค่ะ ส่วนคู่น้ำเอจะมาลงให้หลังจากลงตอนพิเศษนะคะ ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 14-04-2013 23:44:12
กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้

ตาหวานเอ๋ยภ้าจะให้ภาคเชื่อใจมันยากนะเเต่สุดท้ายก็ทำจนได้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 15-04-2013 00:02:47
 :o8: :ling2:   ฟิน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 15-04-2013 00:05:39
กรี้ดดดดด จบแล้วว รอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 15-04-2013 00:40:27
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-04-2013 07:15:12
กว่าจะเชื่อใจกันได้ ทำเอาคนอ่านลุ้นจนเหนื่อย :katai1:
รอตอนพิเศษค่า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: maiouar ที่ 15-04-2013 08:25:54
ปรบมือกึกก้องงงงง  ชอบบ้านจอมไตรจัง คิคิ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 15-04-2013 09:08:14
 :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 15-04-2013 12:53:49
จบลงแล้วสำหรับจอมไตรภาคนี้......
ชอบทุกภาคเลยนะ ยิ่งของกลอนกับไม้...
ชอบมากที่สุด   พอมาถึงภาคตาหวานบ้าง..
รู้สึกว่าทำไมตอนจบมันดูแปลก ๆ เหมือน
คนอื่นมานั่งเล่า และบรรยายให้ฟัง....
หรือว่าอิป้าเองอาจจะไม่ใช่นักอ่านตัวยง
เลยไม่รู้ว่าบทสรุปต้องเป็นแบบไหน...
เอาเป็นว่ารอตอนพิเศษดีกว่านะ...
แล้วยังอยากให้แต่งตอนของกีรติด้วย.... :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 16-04-2013 20:10:10
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 16-04-2013 22:21:32
เย้ ภาคกับตาหวานดีกันแล้ว แต่จบแล้วหรอนายมานิชจะโดนอะไรบ้างเนี่ยจะมีกลับมาแก้แค้นภาคอีกไหมอ่าาาาา

รอตอนพิเศษฮับบบบ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 16-04-2013 23:29:55
 :pig4: อ่านรวดเดียวจบ สนุกเช่นเคย แล้วจะติดตามผลงานต่อไปนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 17-04-2013 00:50:43
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 17-04-2013 07:26:19
วิธีของ จอมไตร  :z1:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจครับ จุ๊บจิ๊บ และติดตามตอนต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 17-04-2013 16:22:34
อร๊ายยยยยยยย ถูกใจๆๆ น่ารักและซึ้งมากค่ะ รอตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 17-04-2013 18:53:51
จบแล้ว  รออ่านคู่ต่อไปนะจ๊ะ

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: BBnuna ที่ 17-04-2013 19:34:55
จบแล้ววววว รอตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 19-04-2013 03:55:54
อ่านมาถึงหน้านี้ อยากบอกว่า

ผมรักคนเขียนมากๆๆ

 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 19-04-2013 19:58:34
 :katai2-1: :katai2-1:
 :mew1: ในที่สุดก็เข้าใจกันจนได้ อิอิ

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 20-04-2013 11:23:37
จบแบบหวานๆไปอีก1คู่
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*13-14END 14/04p.10 อย่าเพิ่งย้ายนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 02-05-2013 05:21:48
ขอลบตอนพิเศษเพื่อการรวมเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 02-05-2013 06:28:43
รอตอนต่อไปจ้าาาา  :mew1: :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-05-2013 06:36:35
ให้เรือชาโดนจับแทนดีกว่าจริง ๆ
น้องเอิร์ธนี่ความจำดีทีเดียว ไปเที่ยวววว~~~
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 02-05-2013 07:03:24
เรือชา นี่ ..... o13
ส่วนจอมไตร .............. :a9:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ จุ๊บจิ๊บ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Tuna Omega ที่ 02-05-2013 08:05:08
 :katai2-1:
เรือชาเก่งจุงเบย

ตอนหน้าขอภาคกะตาหวาน หวาน หวาน นะเค๊อะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: na-au ที่ 02-05-2013 18:17:20
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เก่งจังหลานเรือชา 

อ่านแล้ัวขอตอนของเรือชาเป็นตัวเอกหน่อยซิจ๊ะ

 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 02-05-2013 19:13:09
เคนอิจิ....ก็คือเรือชานี่เอง....เก่งสวดๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: BBnuna ที่ 02-05-2013 22:33:17
 o13 o13
อยากให้มีเรื่องของเรือชาจัง
รอตอนต่อไปค่า :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 03-05-2013 00:04:09
เรือชาสุดยอดมากอ่ะ ขอ  o13 ให้เลย

แต่ก็อย่างที่ว่าเรือชาโดนจับไปแทนภาคดีกว่าจริงๆนั่นแหละ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 03-05-2013 00:22:01
 :-[ :-[ :-[ :-[เรือาเก่งมาก้ลยอะ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 03-05-2013 13:22:54
รอตอนต่อไปค่ะ :mew2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 03-05-2013 18:56:12
รอจ้ารอ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 16-05-2013 01:52:10
มาต่อไวๆน้าา 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 16-05-2013 06:15:36
 :z1: :z1: :z1: :z1:
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 16-05-2013 09:59:18
โห....เรือชาเมพค่อด!!!!!
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 16-05-2013 11:05:19
แมะ ทำเอาอยากอ่านเรื่องของเรือชา^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 22-06-2013 15:47:00
ชอบเรื่องนี้มากๆ เลยค่ะ อิอิ สนุกกก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 23-06-2013 22:38:45
 :mew1: :impress2: :-[ :กอด1:

น่ารัก สนุกมากค้าา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: npsp2555 ที่ 26-06-2013 00:19:38
นิยายคุณจุ๊บจิ๊บ  สนุกทุกเรื่องเลยคะ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 09-07-2013 13:18:09
อยากอ่านของ .กีรติ .บ้างอ่ะ .ต้นเรื่องมาแปลกๆแล้วหายไปเลย 
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 10-07-2013 21:56:17
 o13 o13 o13
รออ่านตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 14-07-2013 13:54:04
ขอลบตอนพิเศษเพื่อการรวมเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ1 02/05/56 P.11
เริ่มหัวข้อโดย: JUPJIB ที่ 14-07-2013 13:54:42
ขอลบตอนพิเศษเพื่อการรวมเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: evanescence_69 ที่ 14-07-2013 17:53:44
คู่ต่อไปต้องเป็น  ธรนิน-กีรติ แน่นอน

เชียร์คู่นี้อยู่
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 14-07-2013 19:50:05
ฮาตัวเองอ่ะคุณนักเขียน จะเมนท์ที่ตาหวาน
แต่ดันไปเมนท์ที่คุณดินแทนซะงั้น(คิดว่าใช่นะ)
ดีนะเมนต์นั้นเป็นกลางๆ
บ้านจอมไตรเหมือนมีปัญหาเหมือนกันอยู่อย่าง
คือความไม่เชื่อใจ เหมือนจะมั่นใจแต่กับคนรัก
แต่พอรักแล้วไม่มีความมั่นใจเอาซะเลย
รอคู่ต่อไป
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-07-2013 20:03:19
ตาหวานสบายใจแล้วล่ะสิ สิ่งที่รบกวนใจลดน้อยลง
อีกคู่น่าจะเป็น นินกะกีรติ อยากอ่านจังเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 14-07-2013 21:11:06
น่ารัก อิอิ ที่แท้ก็เข้าใจผิด 555
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-07-2013 21:57:29
ตาหวานคงโดนกรรมตามสนองจริงๆแหละ :laugh:
เพิ่งจะหวานกันได้แป๊บเดียว ภาคไม่หนีหายไปไหนหรอกจ้า :z1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: 2thesky ที่ 14-07-2013 22:51:28
ตาหวานคิดเองเออเอง
แต่ก็ดีแล้ว ตาหวานจะได้เข้าใจภาคมากขึ้น

อ๊ายยย จอรอคู่ของธรณินกับบุคคลปริศนา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-07-2013 06:27:47
แง๊ๆๆๆๆๆ คู่นี้เศร้ามาก สงสารภาคอ่ะ
ถึงจะจบด้วยดี แต่ยังหมั่นไส้ตาหวานอยู่เลย ชิส์ๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 17-07-2013 21:21:54
จบแล้ววววววว
รออ่านคู่ต่อไป
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: story ที่ 19-07-2013 17:34:24
อ่านจบแล้วรวดเดี๋ยวจบ สนุกมากจริงๆ
รออ่านคู่ต่อไปน๊า~~~~~  :laugh5: :laugh5: <แอบเชียร์คู่กีรติ-ธรณิน>
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 19-07-2013 20:42:03
แอบสมน้ำหน้าตาหวานเหมือนกัน55555555
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 23-07-2013 11:40:47
ธรนิน กับ กีรติ แน่นอนเลย
รอลุ้นคู่ต่อไป
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 24-07-2013 00:17:00
เข้าใจผิดกันแบบหวานๆนะเนี่ย
แอบขำตาหวานอยู่เหมือนกัน คิดเป็นตุเป็นตะไปตั้งขนาดนั้นเลย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 19-10-2013 21:08:10
เย่ๆ อ่านแล้ววว
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-10-2013 19:18:51
กลับมาอ่านอีกครั้งในรอบ 3 เดือน
ยังเรียกน้ำตาได้เหมือนเดิม
สงสารภาคอ่ะ ถ้าเป็นเราจะให้อภัยตาหวานได้หรือ????

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับเรื่องดีๆ ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Kaewkaew ที่ 23-10-2013 00:39:41
คอมเม้นหลังตอนที่5เป็นอะไรที่ใช่มาก..
ทิ้งกันได้ลงหรือ?
เกิดความผิดพลาดทางอารมณ์ ชอบคอมเม้นนี้มากเลยค่ะ

+1ให้ -.-
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Kaewkaew ที่ 23-10-2013 00:52:40
6
เลวที่สุดบอกเลย ชั่ววววววววววววววสิ้นดี
ใจรักหายไปไหน ความรู้สึกหายไปไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Kaewkaew ที่ 23-10-2013 01:27:54
9
บอกเลยว่าโกรธภาคนิพนธ์... รู้ว่ารัก แต่มันจะง่ายไปม้ายยยยย
ให้อภัยง่ายเกิน รักเกินไปปป ขออีกนิดได้มะ เจ็บปวดใจไม่พอออ #แกเขาแต่งจบแล้ว...
อยากแบบเจ็บบบบบบบบบบบ เอาให้หนักกกกกกกกกกก ฮึ่ยยย
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 26-10-2013 20:32:10
  :mew1:

จบไปอีก หนึ่ง จอมไตร

ขอบคุณครับ

หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 01-11-2013 20:37:55
หึ....ภาคอ่ะ
ไม่ล่ายหลั่งใจเลยยย -3-
คืนดีง่ายไปนะ รู้น่าว่าเพราะรัก
แต่แบ่บ...เค้ายังไม่สะใจอ่ะ ยังแค้นแทนภาคอยู่นะนี่ ชริ๊!!
 :m16:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 05-11-2013 08:01:48
ไม่ชอบตาหวานเลยอ่ะ!
ตอนเด็กๆ น่ารัก แต่ทำไมพอโตมาถึงได้นิสัยร้ายกาจขนาดนี้นะ!
ครอบครัวจอมไตรส่วนมากจะใช้อำนาจให้คนอื่นตกต่ำ
แต่ตาหวานกลับใช้ความไว้ใจของอีกฝ่าย เรื่องนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่า คุณพีทำกับตรินอีกซะอีก
ภาคยกโทษให้ง่ายไป อยากให้ตาหวานเจ็บกว่านี้อ่ะ ((โหดไปไหมเนี่ย))
ต่อไปเรื่องของคุณไฟหรือเปล่า
จะรอติดตามค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-01-2014 06:27:47
ฮือๆๆๆๆๆๆ มาอ่านอีกครั้ง ก็ร้องไห้อีกแล้ว
สงสารภาคอ่ะ  T__T
อ่านหลายรอบแล้วก็ยังทำใจให้อภัยตาหวานเต็ม100ไม่ได้ซะที เฮ้อๆๆ
ไม่รู้ดิ รึเราจะเป็นพวกอาฆาตพยาบาท วางไม่ลง ไม่ยอมปลงนะ 555
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Julytastic ที่ 13-01-2014 10:17:35
ตอนแรกนี่คิดว่าตาหวานจะเป็นเคะซะอีก ที่ไหนได้   :katai5:
สงสารภาค  :o12: เราว่าตอนนั้นตาหวานทำเกินไปจริงๆ หักหลังเขาไม่พอ ยังสั่งแบนเขาทุกช่องทางทำมาหากิน
เป็นเราเราให้อภัยตาหวานยากอะ คือภาคไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วย เป็นเรื่องสมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่แต่ตาหวานกลับเอามาล้างแค้นที่รุ่นลูก
แต่ก็เข้าใจภาคนะ เหมือนเพราะภาคไม่เคยได้เติมเต็มความรักแบบสมบูรณ์ตั้งแต่เด็กๆ พอมีคนมาทำดีด้วย ภาคก็เลยรัก
ชอบตอนช่วงที่ตาหวานไปง้อภาคให้กลับมาคบกันแล้วภาคถามว่าต้องคบกันนานแค่ไหน ตาหวานเลยจ๋อย กร้ากกก รู้สึกสะใจ 55555
แต่ตอนหลังๆ ตาหวานทำตัวน่ารัก ให้อภัยก็ได้ :hao7:
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ o13
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 01-06-2014 18:18:40
ง่ะ ชอบเรือชา 5555
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 02-06-2014 23:25:15
จบไปอีกหนึ้งคู่ สนุกจริง ๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 15-06-2014 02:50:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 06-01-2015 14:57:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 08-03-2015 17:42:40
ขอบคุณนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 29-04-2015 15:48:44
เราไม่คิดว่าตาหวานจะโตขึ้นมาเป็นเด็กแบบนี้เลยนะคะ ผิดคาดมากกก..(มองบน) คืออยากจะแก้แค้นก็พอเข้าใจค่ะ แต่แบบ..ช่วยอย่าดึงคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเข้ามาในเกมส์แค้นครั้งนี้ด้วยจะดีมากๆ ยกนิ้วให้ตาหวานเลยค่ะ o13 ที่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของเราจากที่เอ็นดู กลายเป็นชิงชังตาหวานได้ในพริบตาขนาดนี้

สงสารก็แต่ภาคนั่นล่ะ ที่ต้องมากลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของใครต่อใครเขาไปเสียทุกคน ทั้งแม่ ทั้งพ่อเลี้ยง แล้วยังจะมีตาหวานที่เข้ามาเหยียบย่ำซ้ำเติมให้บาดแผลในใจยิ่งฝังลึกลงไปกันใหญ่อีก เฮ้อ~ เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นก็ต้องได้รับผลแบบนี้ล่ะนะตาหวาน อยากบอกว่าช่วงแรกๆ ที่ภาคปฏิเสธตาหวานนี่ถูกใจเรามากเลยค่ะ

แต่ก็ดีแล้วนะคะ..ที่สุดท้ายต่างคนต่างปล่อยวาง แล้วเลือกที่จะข้ามผ่านความทรงจำร้ายๆ แบบนั้น เพื่อการเริ่มต้นใหม่ที่มีความสุขมากกว่า ..เราคิดว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ Happy กันทุกๆ ฝ่ายเลย ..เน้อ~ :-[
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 04-05-2015 19:52:06


  ตอนแรกนึกว่าตาหวานจะเป็นเคะ ตัวเล็ก น่ารัก ตาหวาน สมชื่อ  แต่ไหงกลายเป็นเมะตัวใหญ่ซะได้  :hao3:

  สนุกมากกกกกกกกกก   :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 10-05-2015 20:09:16
 o22 อึ้งกับตาหวานมากโตมากลายเป็นเมะร่างบึกได้ไงเนี่ยะ

ถ้ามาอ่านตอนยังลงไม่จบคงได้ร่วมกันด่าตาหวานแน่ โหดร้ายเกินไปแล้วหนู

และสุดท้าย กีรจะไปคู่กับใครอ่ะ ตอนต้นเรื่องนินแต่งงานที่เมกาไปแล้วนี่  :m21:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 10-05-2015 22:29:23
เมื่อไหร่จะเชื่อใจกันสักทีน้าาคู่นี้เนี่ย แต่ได้เท่านี้ก็ดีแล้วแหละ แต่เราว่าภาคใจอ่อนไปนะ ง้อยากอีกนิดตาหวานจะได้หัวหมุนบ้าง ขอบคุณนะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 20-05-2015 17:14:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 20-05-2015 20:57:44
นิยายซีรี่นี้ไม่ว่าเรื่องใหนก็ทำเราน้ำตาลคลอเบ้าในช่วงฉากเศร้าได้ทุกตอนสิน่ะ  สนุกมากค่ะ เป็นกำลังใจให้แต่งภาคต่อไปนะคะ อยากอ่านเร็วๆ ฮุฮุ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 01-06-2015 06:11:08
กีรติธรณินใช่ไหมคะ อยากอ่านๆๆๆๆๆๆ
ตาหวานกับภาคน่ น่าจะสลับกันนะ ชื่ ชื่อตาหวานแบบว่า
เคะมากๆผิดกับชื่อภาค เมะสุดๆ ถ้ ถ้าไม่เห็นหน้า นี่ นี่ต้องคิดว่า
 ตาหวานกับภาคสลับบทกันแน่ๆ อยากเห็น อยากเห็นเรือชา มี มีคู่ด้วยจัง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 19-06-2015 12:47:32
ขอบคุณครับ สนุกมาก ๆ ครับ เฮ้อ กว่าจะลงเอยกันได้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 01-07-2015 12:12:09
นิยายน่ารัก แอบเดาคู่ผิด แต่สนุกมากรอเรื่องต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: chocoberry ที่ 04-07-2015 08:31:03
น่ารักมากกก เรื่องนี้ก็ชอบเหมือนเรื่องอื่นๆ
ฮาตอนพิเศษ ดูท่าทุกคนแอบซะใจที่ตาหวานโดนแกล้ง
แต่ก็นะ ภาคก็บอกแล้ว แต่ตัวเองไม่สนใจ ช่วยไม่ได้
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 05-07-2015 04:52:33
อ่านไป น้ำตาไหลไปหลายตอนเลยค่ะ ฮือออ
อยากเบิ้ดกระโหลกเจ้าตาหวานจริงๆ ความฟรุ้งฟริ้งของแกตอนเด็กหายไปไหนห๊า ให้ตายสิ
สงสารภาคอะ คือคนอ่าน(สมมติตัวเอง)ว่าถ้าเป็นแบบภาค ก็ทำใจเชื่อลำบากจริงๆค่ะ ถึงอยากจะเชื่อใจก็เถอะ
ยังดีที่จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง กู้ดเวิค

ขอบคุณมากค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 06-07-2015 14:44:23
บ้านจอมไตรนี่ถ้าไม่ได้ทำร้ายคนที่รักก่อนจะตายตาไม่หลับใช่มั้ยคะ 5555555
ตาหวานนี่โตขึ้นมาไม่น่ารักเลยยยย ชิๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 07-07-2015 02:49:31
อ่านจบแล้วววว
ขอบคุณสำหรับผลงานค่าาาา
ตาหวานกลายมาเป็นพระเอกเฉยเลยยย
แต่ก็น่ารักอยู่ดี ไม่โหดเหมือนพ่อตัวเอง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 11-07-2015 00:09:10
โธ่ ตาหวาน หนูไปเอานิสัยต่ำๆ เเบบนี้มาจากไหนคะลูก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 22-07-2015 18:48:17
คำว่า"จำฝังใจ" นี่มันร้ายกาจมากมายนะ
มันลบออกจากใจได้ยากแสนยาก..
หรืออาจจะไม่มีวันลบออกไปได้เลย..
แต่..มันก็ทำให้ได้คิดหลังจากได้อ่านตอนของตาหวาน..

หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 23-07-2015 12:34:43
จริงๆน้องตาหวานเติบโตมาเป็นเมะว่าแปลกใจแล้ว
ที่ผิดคาดกว่าคือนึกว่าจะคู่กับกี เห็นตามหากันถึงบ้าน แต่กีกลับหมดบทตั้งแต่งานแต่งพี่ชาย แล้วอยู่ๆคนที่เหมือนจะเป็นตัวประกอบ(?)อย่างพี่ภาค ก็กลายเป็นนายเอกซะงั้น จะยังไงดีล่ะ..  รู้สึกหักมุมในความคิดน่ะค่ะ ฮาาาาาาาา :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 27-07-2015 10:35:15
ขอบคุณมากครับ สนุกมากเลย  คิดไว้เหมือนกันว่าน่าจะมีเรื่องของตาหวาน....  ได้อ่านสมใจละ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 10:45:30
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :impress2: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 15-08-2015 19:52:55
ตาหวานเปลี่ยนไป!!!! :a5: :a5: :a5:
แต่ก็ยังรักษาความเป็นจอมไตรไว้ได้ดีมากอ่ะ

ชอบมากนะ
อยากให้มีเรื่องของคนอื่นๆอีกจัง :mew2:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 16-08-2015 22:12:04
รอเรื่องคุณนิน และน้อง เอิรธ์ อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 23-08-2015 01:45:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 28-01-2016 14:50:05

ว่าบทธรณิณโตขึ้นพลิกแล้ว เจอบทตาหวานเข้าไป..มิวสิค!

พลิกล็อคกันน่าดู ถล่มทลาย
พลิกล็อคกันมากมาย แบบเทกระเป๋า~
พลิกล็อคกันอย่างงี้ ฉันเสียจนเต็มเปา
จะให้ฉัน นั้นเอาคืน ที่ครายยยยยยยยย~~

ไม่ชินกับลุคเมะของตาหวาน แต่เลือดสาดตอนเอ็นซี กรี๊ดดด ตาหวานลูกแม่ตาหวานน
#คนอ่านสติแตกไปแล้วค่ะ  o22
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-08-2016 12:35:27
กลับมาอ่านอีกแล้ววววววววว
เรื่องนี้อ่านบ่อยมากกกกก
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*พิเศษ2 14/07/56 P.11-12(END)
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 11-08-2016 03:46:31
ชอบเรือชาอ่ะทำไงดี555555
ส่วนคู่หลักขอไม่พูดถึง ง่ายเกิ๊น #เสียงสูง
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: smileduck007 ที่ 06-10-2017 23:32:49
ตาหวานควรเป็นเคะราชินีมากเด้อ ทุกคนสปอยมากขนาดนั้น โตมาเมะเฉย แต่ก็สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: zzcors ที่ 08-11-2017 13:31:35
อยากอ่านคู่อื่นๆของบ้านจอมไตร
นุ้งเอิร์ทลูกปฐพี วันแรมเพื่อนกลอน ไฟจอมไตร :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: zzcors ที่ 08-11-2017 15:30:13
รู้สึกตาหวานได้อะไรง่ายๆไป ไม่อยากให้ภาคกลับมาคบตาหวานเลย อยากให้เจอคนที่ดีๆ แล้วสะบัดบ๊อบเชิดหนีใส่ ไม่ต้องเจ๊อะเจออีก อี๋ยยยยยย เกลียดอิหวาน
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: zzcors ที่ 08-11-2017 17:31:35
เกาะชายขอบรอตอนพิเศษกะคู่น้ำเอ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 10-08-2018 16:51:30
ก็เพราะรักไง เลยต้องใช้เงิน
โอย...จากตาหวานเด็กน้อย โตมาแข็งเกร่งมาก  o13

ขอบคุณนิยายดีๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 30-04-2022 09:57:26
กบับมาอ่านอีกครั้ง  ก็ยังหมั่นไส้ตาหวาน  ชิๆ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 26-06-2022 22:08:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-11-2023 19:53:59
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 03-03-2024 12:27:04
ทรู ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps(เม็ก) เน็ตอย่างเดียว นาน 30 วัน ราคา 482 บาท

https://www.youtube.com/watch?v=c8Z68L98B70 (https://www.youtube.com/watch?v=c8Z68L98B70)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 10-03-2024 20:51:35
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 27-03-2024 20:28:24
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 04-04-2024 18:02:22
ทรู ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตทรู 1 เม็ก 27บ./1วัน กด *900*3704*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 49บ./2วัน กด *900*3709*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 59บ./3วัน กด *900*3783*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 65บ./3วัน กด *900*3765*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 129บ./7วัน กด *900*3714*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 129บ./7วัน กด *900*8880*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 139บ./7วัน กด *900*3767*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 268บ./15วัน กด *900*3769*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 375บ./30วัน กด *900*3720*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 375บ./30วัน กด *900*8886*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 407บ./30วัน กด *900*3771*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 803บ./90วัน กด *900*1794*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 1,284บ./180วัน กด *900*9959*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 1,926บ./365วัน กด *900*9960*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 24บ./1วัน กด *900*1307*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 30บ./1วัน กด *900*3705*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 81บ./3วัน กด *900*3784*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 129บ./7วัน กด *900*1318*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 161บ./7วัน กด *900*8881*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 161บ./7วัน กด *900*3715*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก+โทรทรู 139บ./7วัน กด *900*1323*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 482บ./30วัน กด *900*3721*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 482บ./30วัน กด *900*8887*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก+โทรทรู 380บ./30วัน กด *900*8561*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 1,070บ./90วัน กด *900*8346*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 1,605บ./180วัน กด *900*9738*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 2,782บ./365วัน กด *900*9737*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 35บ./1วัน กด *900*3706*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 35บ./1วัน กด *900*3888*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 64บ./2วัน กด *900*3710*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 102บ./3วัน กด *900*3785*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 107บ./3วัน กด *900*3766*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 236บ./7วัน กด *900*3716*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 193บ./7วัน กด *900*8882*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 246บ./7วัน กด *900*3768*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 391บ./15วัน กด *900*3770*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 149บ./30วัน กด *900*9954*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 696บ./30วัน กด *900*3722*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 696บ./30วัน กด *900*8888*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 470บ./30วัน กด *900*8562*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทุกค่าย 150บ./30วัน กด *900*9840*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทุกค่าย 165บ./30วัน กด *900*9836*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 1,284บ./90วัน กด *900*1795*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 2,247บ./180วัน กด *900*9961*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 3,852บ./365วัน กด *900*9962*17907808#
เน็ตทรู 5 เม็ก 107บ./5วัน กด *900*1962*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 49บ./1วัน กด *900*3707*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 91บ./2วัน กด *900*3711*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 81บ./3วัน กด *900*1328*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 252บ./7วัน กด *900*1324*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 289บ./7วัน กด *900*3717*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 289บ./7วัน กด *900*8883*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 910บ./30วัน กด *900*3723*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 910บ./30วัน กด *900*8889*17907808#
เน็ตทรู 8 เม็ก 150บ./30วัน กด *900*1207*17907808#
เน็ตทรู 8 เม็ก+โทรทุกค่าย 175บ./30วัน กด *900*9750*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 59บ./1วัน กด *900*3708*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 107บ./2วัน กด *900*3712*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 300บ./7วัน กด *900*8884*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 354บ./7วัน กด *900*3718*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก+โทรทุกค่าย 220บ./30วัน กด *900*9837*17907808#
เน็ตทรู 12 เม็ก 193บ./7วัน กด *900*8565*17907808#
เน็ตทรู 12 เม็ก 482บ./30วัน กด *900*8566*17907808#
เน็ตทรู 15 เม็ก+โทรทุกค่าย 200บ./30วัน กด *900*1243*17907808#
เน็ตทรู 20 เม็ก 161บ./3วัน กด *900*8118*17907808#
เน็ตทรู 20 เม็ก 354บ./7วัน กด *900*8119*17907808#
เน็ตทรู 20 เม็ก 200บ./30วัน กด *900*1005*17907808#
เน็ตทรู 30 เม็ก 240บ./30วัน กด *900*1338*17907808#
เน็ตทรู 30 เม็ก 300บ./30วัน กด *900*1103*17907808#
ยกเลิกเน็ต  กด  *190*1#  โทรออก
เช็คเน็ตทรูมูฟคงเหลือ  กด  *900#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเองทรูมูฟ  กด  *933#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ ทรูมูฟ กด  1242  โทรออก
#โปรเน็ตทรูมูฟเอชทั้งเติมเน็ตและโทรถูกๆคุ้มสุดๆ #prothaiphonetrue #pronetkaideeโปรเน็ตทรูมูฟเอชทั้งเติมเน็ตและโทรถูกๆคุ้มสุดๆ #prothaiphonetrue #pronetkaidee #โปรเน็ตรายวัน #โปรเน็ตทรูมูฟเอช #เน็ตทรูไม่ลดสปีด #สมัครเน็ตทรู #โปรเน็ตทรูไม่ลดสปีด #เน็ตไม่อั้นทรูมูฟ #เน็ตไม่อั้นสำหรับซิมเก่าทรูมูฟ ​#เน็ต10mbpsไม่อั้นไม่จำกัดจำนวน #เน็ต4mbpsไม่อั้นไม่จำกัดจำนวน #เน็ตไม่อั้นทรูมูฟ #เน็ตถูก
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.2343011569300198 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.2343011569300198)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว True ทรู ระบบเติมเงิน   เมษายน   2567
https://www.youtube.com/watch?v=2pK1LldEjmc (https://www.youtube.com/watch?v=2pK1LldEjmc)


ทรู ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=0YeTqGL-B4s (https://www.youtube.com/watch?v=0YeTqGL-B4s)


เน็ตไม่อั้น  ไม่ลดความเร็ว  true  ทรู  ระบบเติมเงิน  เมษายน  2567
https://www.facebook.com/100063871243003/posts/903736818432018/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v (https://www.facebook.com/100063871243003/posts/903736818432018/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 06-04-2024 21:04:43
เอไอเอส  ระบบเติมเงิน  #ได้ทุกเบอร์
เน็ตไม่อั้น  #เน็ตไม่ลดความเร็ว  (เน็ตอย่างเดียว)
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  43  บาท  นาน  1  วัน
*777*7721*117010#  แถมโทรฟรีทุกค่าย  10  นาที
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  75  บาท  นาน  2  วัน
*777*7724*117010#
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  113  บาท  นาน  3  วัน
*777*7719*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  59  บาท  นาน  1  วัน
*777*7722*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  97  บาท  นาน  2  วัน
*777*7725*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  140  บาท  นาน  3  วัน
*777*7720*117010#
เร็ว  10 Mbps(เม็ก)  ราคา  70  บาท  นาน  1  วัน
*777*7723*117010#
ต่ออายุอัตโนมัติ
#ไม่ลดความเร็ว  #ห้ามใช้โหลดบิท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์  สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์  sarawutcomputer
เฟซบุ๊ก  sarawutcomputer
www.sarawutcomputer.lnwshop.com
เปิดทุกวัน  09.00 – 20.00  น.
ท่านเต็มใจมา  ร้านฯ  เต็มใจบริการ
#AIS5G #AISOne2Call5G #AISเติมเงิน #เน็ตไม่อั้น #โปรเน็ตส่งท้ายปี #เน็ตไม่ลดสปีด
http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757 (http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757)
.
https://web.facebook.com/photo/?fbid=902402371898796&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo/?fbid=902402371898796&set=a.496909265781444)
หัวข้อ: Re: จอมไตร ซีรีส์(ตาหวาน)*ซื้อด้วยใจ ขายด้วยรัก*(END)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 17-04-2024 20:50:17
เอไอเอส  ระบบเติมเงิน  #ได้ทุกเบอร์
เน็ตไม่อั้น  #เน็ตไม่ลดความเร็ว  (เน็ตอย่างเดียว)
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  43  บาท  นาน  1  วัน
*777*7721*117010#  แถมโทรฟรีทุกค่าย  10  นาที
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  75  บาท  นาน  2  วัน
*777*7724*117010#
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  113  บาท  นาน  3  วัน
*777*7719*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  59  บาท  นาน  1  วัน
*777*7722*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  97  บาท  นาน  2  วัน
*777*7725*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  140  บาท  นาน  3  วัน
*777*7720*117010#
เร็ว  10 Mbps(เม็ก)  ราคา  70  บาท  นาน  1  วัน
*777*7723*117010#
ต่ออายุอัตโนมัติ
#ไม่ลดความเร็ว  #ห้ามใช้โหลดบิท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์  สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์  sarawutcomputer
เฟซบุ๊ก  sarawutcomputer
www.sarawutcomputer.lnwshop.com
เปิดทุกวัน  09.00 – 20.00  น.
ท่านเต็มใจมา  ร้านฯ  เต็มใจบริการ
#AIS5G #AISOne2Call5G #AISเติมเงิน #เน็ตไม่อั้น #โปรเน็ตส่งท้ายปี #เน็ตไม่ลดสปีด
http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757 (http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757)
.
https://web.facebook.com/photo?fbid=909129034559463&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo?fbid=909129034559463&set=a.496909265781444)