พิมพ์หน้านี้ - ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: GukakST ที่ 09-10-2018 23:29:10

หัวข้อ: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 09-10-2018 23:29:10
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0) 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0) 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 
 
 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 
 
 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
 หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
 หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
 และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
 ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   
 
 เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 
 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 
 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 
 5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 
 6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 
 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 
 8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 
 9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 
 10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 
 11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
 
 บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
 นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 
 12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 
 13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 
 14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 
 15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
 (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
 (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
 - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
   (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
 - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
 - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
 - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
 - ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail   
 16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข  17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
  เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................                                                             
 วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย 
 
 
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ Intro [09-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 09-10-2018 23:36:44
>….บทนำ….<

“อ่านการ์ตูน...ปัญญาอ่อน!” ชายหนุ่มผิวคล้ำคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย

“มึงว่าใคร” คนโดนกล่าวหาเงยหน้ามาจากการ์ตูนเล่มโปรด เขาทอดสายตาดุดันมองอีกฝ่าย

“ว่ามึงไง โตเป็นควายแล้วยังอ่านการ์ตูน ฮ่าๆ สมองแม่งมีแต่การ์ตูน” โดนหัวเราะเยาะเย้ยแบบนี้คนฟังก็อดไม่ได้ที่จะอารมณ์เสีย

‘ริท’ วางการ์ตูนเรื่องโปรดของตัวเองลง เขาจำหน้าที่อ่านค้างได้โดยไม่ต้องพับมุมกระดาษ จากนั้นยืนเต็มความสูงเพื่อเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมสถานบันอาชีวะศึกษา ถึงเรียนที่เดียวกันแต่คนละสาย บางครั้งมันก็วนเวียนเอาปากมาลองความอึดถึกทนของรองเท้า

“มึงไม่ชอบการ์ตูนมันก็เรื่องของมึงนะเว้ย อย่าเสือกเรื่องของกูดีกว่า” นอกจากเขาจะลุกยืนแล้ว เพื่อนในกลุ่มอีกสี่ห้าคนก็ลุกขึ้นตามเป็นแถบๆ กลายเป็นคนเด็กวัยรุ่นสองกลุ่มกำลังยืนประจันษ์หน้ากันอยู่ที่โต๊ะกินข้าวกลางโรงอาหาร

“กูจะเสือก มึงทำไมอ๋อ แล้วดูชื่อการ์ตูน นินจาโอ้โหแฮะ เหี้ย! คนตั้งนี่ไม่มีสมองเหมือนคนอ่านเลยเนอะ ฮ่าๆ” เขาไม่คิดจะทนอีกต่อไป

ริทเอากำปั้นเปื้อนน้ำมันของตัวเองอัดใส่หน้าอีกฝ่ายจนหงายท้อง เมื่อมีคนเปิด คนอื่นๆ ก็รีบตามไปกระทืบคนล้มอย่างเมามัน กลายเป็นการทะเลาะวิวาทในโรงอาหารของโรงเรียน แน่ล่ะ...การชกต่อยกันในสถานศึกษานั้นถือเป็นเรื่องร้ายแรง

แต่...ไม่มีใครคิดห้ามในตอนนี้

เด็กหัวร้อนฟาดฟันกันจนเลือดตกยางออก นอนหมดแรงและพ่ายแพ้ให้กับเด็กบ้าการ์ตูนอย่างริท นั่นแหละ เหล่าอาจารย์ถึงได้เข้ามาลากพวกเขาไปยังห้องปกครองและสั่งทำโทษพวกเขาทุกคน โดยเฉพาะคนเริ่มอย่างริทเอง

แล้วไง...ต้องแคร์ปะ?

ไม่เลย!!!

ริทเป็นเด็กช่างกล เรียนอาชีวะสาขายานยนต์ รูปร่างสันทัดได้มาตรฐานชายไทย ผิวขาวไปนิด หน้าตาจิ้มลิ้มไปหน่อยเพราะเชื้อทางแม่มันแรง เขามีแม่เป็นหัวหน้าแม่บ้าน ทำงานให้กับนายที่โคตรจะรวย

ไม่ใช่ว่าเจ้านายแม่รวยแล้วเขาจะกร่างแบบนี้นะ เปล่าเลย ริทน่ะไม่ยอมให้ใครมาเหยียดหยามความชอบของตัวเองก็เท่านั้น เขาแตกต่างจากเพื่อนๆ คนอื่นพอสมควร คนอื่นน่ะจะยึดศักดิ์ศรีไว้ที่สถาบัน ใครหยามสถาบันพวกเขาไม่ได้ ที่ตีกันก็เพราะหยามกัน แย่งอาม เหยียบธง ริทว่ามันบ้าบอ แต่ก็ไปตีกับเขานะ นานๆ ทีอะ ส่วนริทนั้นห้ามใครหยามการ์ตูนเขาเด็ดขาด!

‘มึงหยามสถาบันกูได้ กูไม่ว่า แต่อย่าหยามการ์ตูนกู...กูไม่ยอม’

ช่างเป็นสโลแกนที่ควรย้ายจากการเรียนอาชีวะไปอยู่ในหมวดโอตาคุเสียจริงๆ ริทรักการ์ตูนเพราะริทคิดว่าการ์ตูนนั้นคือสิ่งบันเทิงที่แจ่มแมวที่สุดในโลกใบนี้ โดยเฉพาะนารูโตะ นินจาจอมคาถา คนมองว่าเขาปัญญาอ่อน มองได้แต่อย่าพูดไม่งั้นเลือดจะกลบปากเหมือนเจ้าเข้มบนพื้นนี่

เขาผิดเหรอที่รักนารูโตะมาก เขาโตมากับมันเลยนะ ริทรู้จักและติดตามนารูโตะมาตั้งแต่เขาอายุเก้าขวบ จนทุกวันนี้เขาเรียนจะจบ ปวส. อยู่แล้ว เรียกว่าหมกมุ่นมาสิบกว่าปี ไม่ให้เขารักได้ไง

กระเป๋ามีที่ห้อยเป็นรูปคาคาชิ เคสมือถือเป็นรูปซาสึเกะ แถมที่ห้อยเป็นนารูโตะปนกับดาบคุซานากิ เขาทั้งรัก ทั้งหลง ทั้งอยู่แต่ในวังวนของนารูโตะไม่ไปไหน หรือเรียกว่าไปก็ไปได้แค่ฉากหน้า ลึกๆ ยังคงมีใจให้นารูโตะเสมอมาและเสมอไป

ใครหยามนารูโตะก็เท่ากับหยามความเป็นตัวตนของเขา เด็กบ้านนอกที่รักการ์ตูนยิ่งชีพ!

ริทริทเดินเข้ามาในบริเวณบ้านด้วยใบหน้ายับเยิน คิ้วแตก ปากก็แตก โหนกแก้มก็ช้ำ ลุงยามเห็นลุงยามยังร้องเฮ้ย! แม่บ้านคนอื่นเห็นแม่บ้านคนอื่นยังร้องว้าย! ริทได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งให้ทุกคนที่ตกใจ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปกติที่เขาชกต่อยกับคนอื่น ทว่าคนรอบด้านไม่ได้ชอบแบบนี้เลย ธรรมดาที่ผู้ใหญ่จะเป็นห่วงเขาแหละนะ

“หน้าไปโดนอะไรมา” เขากำลังถอดรองเท้าเพื่อจะเดินเลาะเข้าห้องพักกลับต้องชะงัก ขอเงยหน้าแบบสโลว์โมชั่นเพื่อสบตากับนายใหญ่แห่งบ้านหลังนี้

นิรันดร์ หรือคุณรัน เป็นเจ้านายที่เพิ่งมารับหน้าที่ต่อจากพ่อแม่ของเขาเมื่อไม่ถึงปีที่ผ่านมา ริทไม่คุ้นชินมากนัก เพราะคุณนิรันดร์มักจะไปทำงานอยู่ทุกวันไม่ค่อยอยู่บ้าน จะกลับก็ดึก ริทเข้านอนก่อนพร้อมนารูโตะตัวน้อยในอ้อมแขนเสมอ

“เอ่อ...” แต่วันนี้คุณนิรันดร์กลับอยู่บ้านแฮะ ด้วยความไม่คุ้นกับนาย ทำให้ริทถึงกับเกร็งไปไม่น้อย

“ว่าไงครับริท?” คุณนิรันดร์กอดอกจ้องหน้า

“ต่อยกับเพื่อนมาครับ”

“อ่าว ทำไมถึงไปต่อยกันล่ะ” ยิ่งกว่าโดนแม่สอบอีกมั้งเนี่ย ริทแอบปาดเหงื่อเล็กน้อย สูดหายใจลึกๆ ด้วย

“ก็เขามาว่าการ์ตูนที่ผมอ่านอะครับ ว่าปัญญาอ่อนทั้งคนแต่งและคนอ่าน ผมยอมไม่ได้จริงๆ เขาไม่ชอบเขาก็ไม่ต้องมายุ่งสิครับถูกไหม แต่นี่จงใจเดินมาด่าผมชัดๆ ผมก็เลยซัดมันปากแตกเลย”

“ตัวเองก็ปากแตกด้วย คิ้วก็แตก เจ็บตัวด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องนะ”

“ไม่ได้ครับ ด่าผมยังไงก็ได้ แต่มาหยามการ์ตูนผม ผมไม่โอเค คนพูดปากไม่ดีต้องเอาสักทีมันถึงจะจำครับ”

“นักเลงจริง” จู่ๆ คุณนิรันดร์ก็กระตุกยิ้มมุมปาก

โห...เหมือนซาสึเกะตอนยิ้มให้นารูโตะเลยอะ!

“ผมเปล่านะ เขาหาเรื่องผมก่อน” เสียงริทอ่อนลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อกี้ยังของขึ้น นึกแล้วแทบจะถลาไปต่อยปากคนหยามเขาอีกสักทีสองที

“ริทตีปากหมาที่เห่าตัวเองทุกตัวหรือเปล่า” คุณนิรันดร์สาวเท้าเข้ามาใกล้ เขาส่ายหน้าเบาๆ

“หมามันแค่เห่านี่ครับ?” หมาเห่าต้องตีปากเหรอ แปลกใจ งงในงง

“นั่นแหละ คนที่ด่าสิ่งที่เราชอบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับหมาที่เห่าอยู่ข้างทางหรอกครับ คราวหลังก็ยิ้ม แลบลิ้นใส่มันด้วยก็ได้ แต่ไม่ต้องไปตบปากมันหรอก รู้ไหม...นารูโตะไม่ได้สอนให้คนอ่านเป็นนักเลงนะ” ร่างสูงเดินมาเคาะหัวทุยของริทเบาๆ

แต่เอ๊ะ...คุณรันรู้ได้ไงว่าเขาอ่านนารูโตะวะ!!!

“คือ...” ริทตั้งใจจะถามว่าทำไมถึงรู้จักการ์ตูนที่เขาอ่าน ทว่าร่างสูงนั้นสาวเท้ากลับเข้าไปข้างในแล้ว ทิ้งให้ริทลูบหัวบริเวณที่คุณนิรันดร์เคาะเมื่อครู่นี้ด้วยความแปลกใจ

….จบตอน….

ณ เวลานี้ที่เราอัปจัดว่าดีกมาก สติเราก็เหลือน้อยมาก เพราะฉะน้านเราจะบอกสั้นๆ ว่า…ฝากติดตามผลงานใหม่ด้วยนะค้า เลิฟๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ Intro [09-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 09-10-2018 23:48:27
สนุก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ Intro [09-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 09-10-2018 23:54:12
เอ๊....ยังไงกันน๊าคุณรัน รู้ได้ไงว่าน้องอ่านอะไร  :-[
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ Intro [09-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 10-10-2018 12:29:16
อะไรยังไงค่ะคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ Intro [09-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-10-2018 19:51:06
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ Intro [09-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-10-2018 20:09:26
คุณรัน ชอบริทใช่มั้ย   o18
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ Intro [09-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 10-10-2018 23:11:42
หรือคุณรันอาจจะอ่านนารูโตะเหมือนริทก็ได้น้า
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-10-2018 22:40:30
>….ตอนที่ 1 [100%]….<

ทำไมคุณนิรันดร์ถึงรู้ว่าเขาอ่านนารูโตะกันนะ?

คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวแม้กระทั่งกำลังจะเดินไปร้านคาราโอเกะกับเพื่อน ก็ตั้งใจจะถามคุณนิรันดร์อยู่หรอกนะ แต่หลังจากโดนเคาะหัวไปหนึ่งทีก็ไม่เห็นคุณนิรันดร์ลงมาจากชั้นสองของบ้านเลยอะสิ ในเวลากลางวันของวันธรรมดายิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะคุณนิรันดร์จะทำแต่งานกลับบ้านที่ดึกดื่นค่อนคืน ให้เขาไปนั่งรอถามคำถามที่ดูไร้สาระแบบนั้นเขาทำไม่ได้หรอก

ไม่ใช่รอไม่ได้ แต่ไม่อยากรบกวน

ริทรู้สึกว่าเขากับคุณนิรันดร์ไม่ใช่เพื่อนเล่นกัน ออกจะอยู่ห่างกันคนละชนชั้น นั่นเจ้านาย นี่ลูกแม่บ้าน ต่างกันแบบท้องฟ้ากับก้นเหว แค่คุณนิรันดร์มาพูดคุยด้วยวันนั้นก็นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับริทแล้วล่ะ

“วันเสาร์นี้ไปปาร์ตี้บ้านไอ้โจกัน” เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถามริทขึ้นมา คนฟังคำถามส่ายหน้าให้ไว

“ไม่ได้วะ กูมีงาน” เห็นแบบนี้เขาก็มีงานมีการทำนะ เพราะเสาร์อาทิตย์ช่วงนี้ริทต้องหัดขับรถ เดี๋ยวจะต้องไปขับรถให้คุณนิรันดร์แทนลุงช่วยที่แก่มากแล้ว

“ไรว้า ช่วงนี้ไม่ได้เมากันเลยนะมึง เรียนก็ใกล้จบ มันต้องเก็บเกี่ยวความมันกันหน่อยสิวะ” ก็เข้าใจเพื่อน แต่เพื่อนเอ๋ย มึงเข้าใจกูบ้าง กูไม่ว่าง กูต้องทำตัวเป็นลูกที่ดี ทำงานหาเงินช่วยเหลือแม่นะเฮ้ย

“เออหน่า เดี๋ยวสอบจบแล้วกูจะไปปาร์ตี้กับมึงยาวๆ เลย” ริทกอดคอเพื่อน อีกมือก็ตบอกราวกับให้สัญญาอะไรทำนองนั้น

นี่แอบติดนิสัยนารูโตมาอย่างด้วยนะ เขาน่ะชอบสัญญาแล้วรักษาสัญญายิ่งชีพ แบบว่า...นารูโตะเป็นคนรักษาสัญญาของตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด ริทรับอิทธิพลมาจากการ์ตูนที่ตัวเองอ่านค่อนข้างมาก ดีแค่ไหนที่เดี๋ยวนี้ไม่นั่งประสานอินเหมือนนารูโตะ

แบบว่า...เมื่อก่อนชอบทำ

นึกแล้วก็ตลก ตามประสาเด็กน้อยที่เห็นตัวละครที่ชอบทำท่าวิชาคาถาแล้วจะเลียนแบบ มันรู้สึกเท่ รู้สึกเหมือนได้กลายเป็นนินจากับเขาจริงๆ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วนินจาไม่ได้มีวิชาคาถาอะไรแบบในการ์ตูนที่อ่านเลยแม้แต่นิด แต่เชื่อไหม...ริทอะเคยคิดว่านินจาอย่างนารูโตะเปรียบได้เหมือนกับหมอผีของไทย เรียกภูตผีปีศาจออกมาสู้รบ มีคาถาอาคมเหมือนพวกเสือในสมัยก่อนที่สะเดาะกลอนได้ด้วยการท่องคาถา

เออเนอะ...เมื่อก่อนบ้ามากเลยทีเดียว

เที่ยวเล่นเสร็จแล้วริทก็กลับบ้าน ด้วยความที่วันนี้เป็นศุกร์ เขาก็เลยอยู่เที่ยวกับเพื่อนฝูงดึกไปหน่อย กว่าจะถึงบ้านก็เกือบสองทุ่ม พอเดินมาถึงหน้าบ้านก็เห็นลุงช่วยยืนไอค่อกแค่กอยู่หน้าประตูใหญ่ ด้วยความเป็นคนดี ริทตรงเข้าไปหาเพื่อให้ความช่วยเหลือทันที

“ลุงเป็นอะไรอะ ไม่สบายเหรอ ผมไปเอายาให้เอาไหมลุง” หล่อแล้วยังนิสัยดีอีก ดีขนาดนี้แฟนทิ้งได้ไง?

“ไม่ต้องหรอกไอ้ริท เอ็งไปรับคุณรันแทนลุงทีดิ ลุงปวดหัววะ” ขอแอบมองไปที่โรงจอดรถแป๊บ ไปรับนี่คงไม่ใช่เอาลีมูซีนไปนะ ยังขับไม่คล่องนะลุง!

“เอ่อ เอาคันไหนไปรับอะ ไม่ใช่เจ้าลีนะ ผมขับลีไม่เป็นนะลุงน้า” ลีก็คือลีมูซีน เรียกแบบย่อๆ ประหยัดคำดี

“เอาเก๋งไปดิ อะนี่กุญแจ คุณอยู่ที่โรงแรม...” โรงแรมอะไรนี่มันอยู่ไหนนะ?

“ผมต้องไปรับจริงดิ? ผมจะไปถูกไหมอะลุง มันอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้”

“เปิดมือถือดิวะ ไอ้นี่...” ลุงช่วยมีอายุอานามไปหกสิบนิดๆ หยิบมือถือขึ้นมากดหาโลเคชั่นให้เด็กหนุ่มเสร็จสรรพ เห็นแล้วริทถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย ลุงนี่สุดยอดไปเลย

“อ่อ ไปแล้วยังไงต่ออะ ให้ผมจอดรถไว้เฉยๆ แล้วคุณรันแกจะมาที่รถเองไหม”

“ไม่ๆ ถึงแล้วไปที่ประชาสัมพันธ์ บอกเขามารับคุณนิรันดร์ห้องหนึ่งหนึ่งศูนย์สอง คุณรันแกเมา เดินมาไม่ไหว ไปประคองแกกลับมาด้วย” ลุงแกคงขี้เกียจอธิบายแล้ว เล่นยัดกุญจใส่มือให้เด็กหนุ่มก่อนจะเดินเข้าบ้านไปเฉยเลย

โหลุง...ให้กระผมใช้สมองคิดประมวลผลหน่อยก็ไม่ได้

ริทยืนทวนคำสั่งลุงช่วยอยู่ครู่หนึ่ง ทวนอยู่สองรอบ เข้าใจแล้วถึงได้เอากระเป๋านักเรียนของตัวเองไปเก็บที่ห้อง เขาใส่ชุดนักเรียนของตัวเองไปรับคุณนิรันดร์ที่โรงแรม รถเก๋งคันนี้หรูหรา เกียร์ออโต้ขับง่ายแต่ไม่มันมือ สำหรับริท เขามองว่ารถที่เป็นเกียร์ธรรมดาเวลาเข้าเกียร์มันสนุกกว่า แถมยังเร่งรอบได้ง่ายกว่าพวกรถออโต้แบบนี้ นี่รถคุณรันเอามาแต่งเป็นรถซิ่งนะมันต้องมันส์มากแน่นอนเลย

ริทขับรถไปตามทาง ระหว่างทางก็เอาไดรฟ์เพลงนารูโตะมาเปิดฟังไปพลางๆ กรุงเทพในค่ำว่าศุกร์นั้นรถราแน่นขนัด แน่นชนิดที่ว่าเลี่ยงออกจากบ้านได้ก็ควรเลี่ยง ไม่งั้นนั่งรถไฟฟ้าเถอะจะได้ไม่เสียเวลาชีวิตไปเปล่าๆ ริทอยากจะเอาการ์ตูนออกมาอ่านแก้ขัด ติดที่มันทำแบบนั้นไม่ได้ ต้องคอยดูว่าไฟเขียวหรือยัง คันหน้าขยับหรือยัง แบบว่า...คนกรุงเขาใจร้อน หากอยู่คันหน้าสุด ไฟเขียวแล้วออกตัวช้าคันหลังจะบีบแตรไล่ในบัดดน คิดแล้วก็หมั่นไส้ จะรีบไปไหนกันนักหนา อ๋อ...ไฟเขียวสามวิไงเลยต้องรีบ เห่อๆ

รถติดหนักหนาสาหัสแต่เจ้าตัวยังฮัมเพลงประกอบอนิเมชั่นนารูโตะอย่างเมามัน เพลงเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ริทก็ร้องไห้ ร้องแบบถูกไม่ถูกไม่รู้ ขยับปากตรงเป็นพอ ที่สำคัญเขารู้เนื้อหา พอดีไปเสิร์จมา รักมากก็ต้องทุ่มเทมากเป็นเรื่องธรรมดา

ริทมาถึงที่หมายราวๆ สี่ทุ่ม คืออีกห้านาทีก็สี่ทุ่ม ทั้งที่โรงแรมนี้ไม่ได้ไกลจากบ้านเท่าไหร่แต่รถมันติดหนักมากจนอยากจะร้องเฮียดังๆ นี่ถ้าคุณนิรันดร์ไม่ติดหรู คราวหลังจะเสนอให้ลุงช่วยขับมอเตอร์ไซก์ไปรับไปส่ง ไม่ก็เขาจะขับเอง รับรองเลยจะไม่เสียเวลาอย่างไร้ประโยชน์บนท้องถนนอย่างแน่นอน

ริททำตามที่ลุงช่วยบอกทุกอย่าง พนักงานเองก็เหมือนกับจะได้รับคำสั่งเอาไว้แล้วเธอถึงได้พาริทมาส่งที่ห้องเป้าหมาย แต่มาส่งเสร็จเธอก็เดินจากไป ทิ้งให้ริทเป็นคนเปิดประตูเข้าไปข้างในเอง

“คุณรันครับ” ริทเคาะสองสามที อยากเคาะเป็นจังหวะสามช่าแต่กลัวนายด่าเลยเคาะแบบคนธรรมดาแทน

“...” เงียบกริบ ไม่มีใครส่งเสียงอะไร

“คุณรัน ผมริทนะฮะ..ผมมารับกลับบ้านครับ” คนขับรถมันพูดงี้กันเปล่านะ? ไม่รู้อะ ไม่เคยเป็นคนขับรถ

แม้จะบอกว่าตัวเองเป็นใครและมาที่นี่ทำไม แต่คุณนิรันดร์ก็ยังเงียบอยู่ ริทเคาะอีก เรียกอีก เคาะอีก เรียกอีก เกาหัวตัวเองอีกทีแล้วครุ่นคิดว่าควรเคาะและเรียกอีกดีไหม หรือถ้าทำมากไปคนข้างห้องจะออกมาด่าหรือเปล่า

เอ...ลุงบอกว่าคุณรันเมา?

อ๋อ ที่ไม่ออกมาเปิดประตูนี่ต้องเมาหลับแน่นอนเลยสินะ ริทได้กุญแจสำรองมาจากพนักงานแล้ว เขาได้มาตั้งแต่แรกแหละแต่ไม่ใช้เพราะรู้สึกว่ามันเสียมารยาท ควรเรียกให้เจ้าของห้องเขาออกมาเปิดให้มากกว่าถือวิสาสะเข้าไปทั้งแบบนี้ แต่เอาวะ ในเมื่อเรียกอยู่นานแล้วไม่ออกมา ก็ต้องเปิดเข้าไปเอง

ไขกุญแจแผ่วเบาราวกับเป็นโจรมาขโมยของ แง้มประตูอีกนิดๆ ส่งเสียงเรียกเจ้านายอีกหน่อย แต่ก็ยังเงียบ ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกในขณะนี้ แอร์เย็นฉ่ำกระทบโดนใบหน้าขาวใสของเด็กหนุ่มเป็นอย่างแรก ตามด้วยกลิ่นของแอลกอฮอล์และกลิ่นน้ำหอมของ...ของใครวะ?

ริทปิดประตูลง ล็อกห้องเรียบร้อยเพราะกลัวว่าจะมีโจรบุกเข้ามา จริงๆ โรงแรมหรูขนาดนี้ปล่อยโจรเข้ามาได้คงไม่ได้เปิดอยู่นานขนาดนี้หรอกมั้งเนอะ ระดับคุณรันแล้ว ไม่เข้าโรมแรมกระจอกหรอก การตกแต่งข้างในหรูหรา ดูโมเดิลและคลาสสิกในเวลาเดียวกัน ช่างเป็นการตกแต่งที่งดงามประล้ำประเหลือจริงๆ ริทคิดขณะเงยหน้ามองเชนเดอร์เรียบนเพดาน

ขวามือเขาเป็นห้องน้ำ กระจกรอบด้านขนาดนี้อาบทีคงเห็นมันทุกอย่าง อ่างขนาดใหญ่มีทีวีในตัว โอ้โห...หรูหราจริงๆ ริทเข้าไปอีกหน่อยก็เจอกับเตียงสี่เสาขนาดใหญ่ ร่างสูงของคุณนิรันดร์นอนอยู่บนนั้นไม่ได้สติ

ถึงว่าเรียกไม่ได้ยิน

“คุณรันครับ!” ริทเดินไปเรียกใกล้ๆ เขาไม่กล้าแตะเนื้อต้องตัวอีกฝ่าย

แต่แหม...คุณรันน่ากินนะครับเนี่ย!

คุณนิรันดร์ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสเเล็ก ซึ่งตอนนี้ซิปกางเกงไม่ได้รูดเลย โล่งโจ้งจนเห็นชั้นในสีดำ เสื้อเชิ้ตไม่ต้องพูดถึง เพราะมันไม่ได้ติดกระดุมสักเม็ด กล้ามเนื้อเป็นลอนสวยที่เห็นได้จากหน้านิตยาสารแจ่มชัดอยู่ในสายตาของริท เขามองตั้งแต่ใบหน้าขึ้นสีของคุณนิรันดร์ ลากโฟกัสต่ำลงไปที่แผงอกกำยำ คุณนิรันดร์ไม่ค่อยมีขน แต่กล้ามอกน่าซบเป็นที่สุด

อื้อหือ...เลียปากแป๊บเลย

ไม่ต้องแปลกใจที่ริทมองคุณนิรันดร์น่ากินขนาดนี้ เพราะเขาไม่ได้ชอบผู้หญิง กลับชอบเรือนร่างของผู้ชายมากกว่า คนทั่วไปจะเรียกว่าเกย์ใช่ไหม นั่นแหละ...ริทเป็นแบบนั้น แฟนเก่าที่เลิกรากันไปก็เป็นผู้ชาย แต่ริทจะไม่นึกถึง เพราะมันช่างชอกช้ำระกำใจจริงๆ

โดนบอกเลิกเพราะเป็นลูกแม่บ้าน ถามจริง? นี่ต้องเสียใจหรือต้องแค้นอะ!

นึกแล้วอยากไปต่อยหน้ามัน!!!

“คุณรันครับ คุณรันตื่นเถอะครับ ผมมารับกลับบ้านแล้วนะครับ” เอ่อ...พูดแบบนี้ถูกปะวะ? หรือการเป็นลูกน้องนี่ต้องอยู่เฉยๆ ปล่อยให้นายตื่นเอง?

“ยังไม่กลับเหรอ...” เสียงทุ้มละมุนนั้นเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ริทได้ยินไม่ชัด เขาโน้มเข้าไปใกล้มาขึ้นด้วยความไม่คิดอะไร

“ว่าอะไรนะครับ”

“งั้นผมต่อนะ...” อะไรต่อวะ?

“คือ...เฮ้ย!!!” ไม่ทันได้ถามอีกตามเคย คุณนิรันดร์เล่นดึงต้นแขนของริทอย่างแรงจนร่างโปร่งล้มลงบนกายใหญ่

โอ้โห...เจ้านายพกงูตัวใหญ่เหมือนกันนะ

หน้าเด็กหนุ่มเห่อแดงขึ้นมาโดยที่คนกระทำไม่ได้รับรู้อะไรเลย ก็จะไม่ให้เขินได้ไงวะ ร่างกายแบบนี้นะ เป็นร่างกายที่ชายรักชายมักใฝ่ฝัน..วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ อุ้ยน่าจะกัดแขนเล่นเบาๆ กลิ่นกายคุณนิรันดร์ก็สะอาดสะอ้าน น้ำหอมยี่ห้ออะไรไม่รู้แต่คิดว่ามันน่าจะแพงฟุ้งเข้าจมูก มันน่าเคลิ้มอะ...แต่มันก็ไม่น่าจะเกิดอะไรแบบขึ้น

ริทพยายามจะยื้อร่างกายของตัวเองออกจากอ้อมแขนของเจ้านาย แต่ดูเหมือนคนเมาจะคิดว่าริทขัดขืนเพราะเล่นตัว ก็เลยจับร่างโปร่งให้นอนอยู่ใต้ร่างของตัวเอง แรงเยอะกว่าทำให้อะไรๆ มันดูง่ายดายไปหมด ยกเว้นกับริทที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมจนเกินจะบรรยาย

ไม่นะ! อย่างแทรกเข้ามที่กลางกายเขาเซ่!!!

“คุณรัน! คุณรันอย่าครับ” ริทใช้สองแขนของตัวเองผลักอีกร่างออก ถึงจะยกเครื่องยนต์ไหวแต่นั่นมันมีรอกเอาไว้ทุ่นแรง นี่ร่างกายคนไซซ์บึ้ม มันดันไม่ได้เลยเว้ยเฮ้ย!

“...” เจ้านายผู้เมามายไม่รู้ไม่ชี้ ตาก็ไม่ลืม ริทสังเกตเห็นแล้ว

“คุณรัน! คุณรันลืมตาก่อน คุณรันผมริทเอง...ผมริท เฮ้! คุณรันครับ!!!” ตะโกนกรอกหูมันเข้าไป เผื่อว่าเสียงดังๆ นี่จะสะเทือนสติสัมปชัญญะของเจ้านายให้ฟื้นคืนมา

“โอย...แรงเยอะไปไหน คุณรันโว้ยยยยยย!!!” ไม่สนความเหมาะสมใดๆ ทั้งสิ้น ริทตะโกนกรอกหูเข้าไปเต็มๆ

ไม่พอ ริทจะถองเข่าใส่สีข้างของนิรันดร์เข้าจังๆ เล่นเอาร่างใหญ่ของเจ้านายนั้นเซล้มออกไปจากตัวเขาได้ ริทไม่รอช้า เขากลิ้งหลุนๆ ไปอีกฝากของเตียงแล้วลงไปยืนหอบตัวโยน คุณนิรันดร์นอนหงาย มือหนึ่งจับสีข้างที่โดนถองเข่า อีกมือกุมขมับ

“ชิบหาย...” ริทสบถเบาๆ มันไม่มีทางเลือกนี่ คุณนิรันดร์จะมาปล้ำผมไม่ได้ วันนี้ผมไม่พร้อม เอ้ย! ไม่ใช่...ปล้ำไม่ได้ก็คือไม่ได้

“ริท?” เหมือนว่าจะมองเห็นอะไรๆ บ้างแล้ว ริทชะโงกหน้าข้ามฝากเตียงมามองหน้าเจ้านาย

“ครับคุณรัน ผมริทเอง ไม่ใช่แฟนคุณรันนะฮะ คุณรันโอเคไหม อ่า...เจ็บมากเปล่าครับ” กล้าๆ กลัวๆ แต่ต้องถามด้วยความเป็นห่วง เขาไม่ผิด แต่คุณรันเขาเมานี่...คนเมาก็ไม่ผิดเนอะ

“อ่าว ริทเหรอ...โทษที” คุณนิรันดร์ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง อาการปวดหัวอย่างรุนแรงคงรุมเร้าเพราะเล่นเมามากไปหน่อย ริทเข้าใจความรู้สึกนี้เพราะเคยเมามาก่อน เมาแบบเมามาก เมาจนเละเทะ นึกแล้วสยอง

“คุณรันไหวไหมครับ นอนต่อไหม? คือ...ลุงช่วยให้ผมมารับ ไม่คิดว่าคุณรันจะเมาขนาดนี้ คุณรันนอนต่อก็ได้นะ เดี๋ยวผมรอ...” รอเนี่ยนะ? บ้าเปล่า เออ...แต่ไม่เป็นไรนี่ห้องออกจะกว้าง นอนในนี้ก็ได้เนอะ

“ไหวๆ” คุณนิรันดร์ตอบไหว แต่สิ่งที่ริทเห็นคือคุณนิรันดร์โคตรจะไม่ไหวเลย

“ให้ผมช่วยไรไหมครับ”

“ไม่” คุณนิรันดร์โบกมือเบาๆ ริทดูอีกฝ่ายค่อยๆ ขยับตัวนั่งตรงๆ

ไม่ต้องช่วยจริงเหรอนั่น ใส่กระดุมเชื่องช้าเป็นเต่ากินผักบุ้งเลย ริทเดินอ้อมกลับมายินตรงหน้าคุณนิรันดร์แต่ไม่ได้ใกล้มากกลัวจะโดนลากลงเตียงอีก ถึงจะเป็นผู้ชาย และคุณนิรันดร์จะน่ากิน แต่เขาก็ไม่คิดว่าเรื่องแบบนั้นควรเกิดขึ้นง่ายๆ หรอกนะ เดี๋ยวมันมองหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ

“เอ่อ...ผมช่วยติดกระดุมดีไหมครับ” แต่เห็นแล้วมันขัดลูกตาอะ ติดอะไรช้าปานนั้น เข้าใจคนเมา มันโฟกัสยากนิดหนึ่ง ตามันจะลายๆ หัวมันจะปวดๆ แล้วมันก็อยากจะอ้วกออกมา คิดว่าคุณนิรันดร์น่าจะมีอาการราวๆ นี้นี่แหละ

“อืม” คุณนิรันดร์หรี่ตาพยายามมอง ริทไม่สนแล้ว เขาเข้าไปจับสาบเสื้อของผู้เป็นเจ้านายของตัวเองแล้วกลัดกระดุมให้ทีละเม็ด

คนไม่เมาใส่ให้ยังไงมันก็เรียบร้อยกว่า แต่ว่านะ ไอ้ซิปกางเกงนี่เขาต้องบ๊ายบายเพราะไม่เหมาะที่จะไปคุกเข่าแล้วใส่ให้ มันดูล่อแหลมเกินไป ริทต้องให้นิรันดร์ใส่กางเกงเองอย่างช่วยไม่ได้ งูเจ้านายตัวใหญ่ไปเขากลัวมันจะฉก

กว่าจะแต่งตัวเสร็จริทก็ลุ้นแล้วลุ้นอีก มันนานมากเหมือนผ่านค่ำคืนนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ อันนั้นก็เวอร์ไป เอาจริงๆ ริทมองมันอย่างเพลิดเพลินเลยล่ะ เห็นชายหนุ่มหุ่นในฝันมาแต่งตัวตรงหน้ามันระทึกใจอย่างบอกไม่ถูก

ท่องคาถาในใจเลยนะ นารูโตะเอย สาซึเกะเอย ซากุระเอย คาคาชิเอย ชิกามารุเอย โอโรจิมารุเอย แทบจะยกมาทั้งหมู่บ้านนินจาอยู่แล้วเพื่อสงบจิตใจใฝ่ใต้สะดือของตัวเองให้อยู่กับที่กับทาง โชคดีที่คุณนิรันดร์แต่งตัวเสร็จก่อนจะยกมาทั้งหมู่บ้าน

ริทประคองนิรันดร์ออกจากห้องพักชั่วคราวอันหรูหราตระการตา พาเข้าลิฟต์แล้วลากไปที่รถ ก็ไม่เชิงลาก แต่ต้องออกแรงนิดหนึ่งเมื่อสภาพของคุณนิรันดร์นั้นเหมือนไม่ไหวเต็มที นี่เมาขนาดนี้ไม่น่ากลับบ้านอะนะเขาว่า ควรจะนอนพักมันที่โรมแรมนั้นนั่นแหละ

กว่าจะมาถึงที่พักของคุณนิรันดร์ได้เล่นเอาหลังริทแทบเดาะ แต่ไม่เป็นไร พอดีแบกเพื่อนสายเมากลับบ้านบ่อยๆ เรียกว่าลากเพื่อนกลับบ้านเป็นงานประจำ ส่วนเมาเองนั้นเป็นงานรอง

“ผมว่าคุณรันควรอาบน้ำก่อนค่อยมานอน แต่เอ่อ…” ริทมองดูคุณนิรันดร์แล้วเกาท้ายทอย สภาพนี้…นอนต่อไปเถอะเนอะ

“อาบพรุ่งนี้ไม่เป็นไรหรอกเนอะ ผมไปล่ะ ฝันดีครับ” ริทพูดทั้งที่ดูยังคนฟังก็ไม่ได้ฟัง คุณนิรันดร์นี่โดนปล่อยตัวลงบนเตียงได้ก็เหมือนจะหลับลึกไปเลย

เมาแล้วเป็นงี้สงสารลุงช่วยเลยเนอะ ถึงว่าลุงช่วยให้เขาไปรับแทน แล้วก็อยากจะให้เขามาทำงานคนขับรถแทนตัวเอง เข้าใจและ ริทเข้าใจท่านลุงอย่างท่องแท้เลยทีเดียวเชียว ก็ถ้าได้มาทำงานแล้วหวังว่าคุณนิรันดร์จะไม่เมามายอย่างนี้ทุกวันนะ ไม่งั้นมีหวังกล้ามขึ้นเป็นกล้ามปูแน่นอน

เอาล่ะ จบวันนี้แล้วไปอาบน้ำแล้วนอนดูนารูโตะให้ฉ่ำอารมณ์ดีฟ่า~
***………***
นิรันดร์ปรือตาขึ้นเมื่อเสียงประตูดังแผ่วเบา ริมฝีปากได้รูปขยับเป็นรอยยิ้มพร้อมกับร่างใหญ่นอนเหยียดด้วยท่วงท่าสบาย ตอนแรกที่เขาลากริทลงเตียงนั้นเมาจริงไม่ได้แกล้ง แต่หลังจากนั้นน่ะ…แกล้งล้วนๆ

ท่าทีงกๆ เงิ่นๆ ของริทยามทำอะไรไม่ถูกมันน่ารักน่าเอ็นดูดี ถึงหน้าตาตอนนี้จะเต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแตกจากการชกต่อยก็เถอะ แต่มันไม่ได้ลดความน่ามั่นเขี้ยวในตัวเด็กหนุ่มลงเลยแม้แต่นิด

นิรันดร์มีความสนใจในตัวของริทตั้งแต่ย้ายมาอยู่นี่ใหม่ๆ ริทเป็นเด็กเหนือ ผิวขาวตาโต ดูรวมๆ หน้าหวานแต่ห้าวเป้งเป็นที่สุด แม่ของริทมักบ่นลูกชายไปชกต่อยกับคู่อริประจำ บางทีก็บ่นกับเพื่อนร่วมงานแล้วนิรันดร์ไปได้ยิน เสียงบ่นนี่แหละที่ทำให้นิรันดร์ได้เรียนรู้นิสัยเด็กหนุ่มริทคร่าวๆ

น่าเสียดายที่ช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่บ้านมากนัก จากการย้ายมาดูแลกิจการต่อทำให้เขาต้องเรียนรู้งาน บางอย่างนิรันดร์ก็ต้องงมเองอยู่เป็นอาทิตย์กว่าจะเข้าใจ ทำให้เวลาที่เขาจะได้เจอเด็กหนุ่มคนนี้แทบไม่มีเลย

อะไรหลายๆ อย่างลงตัวจนเกือบหมดแล้ว นิรันดร์จัดการวางแผนงานอย่างดีจนเริ่มมีเวลาว่างมาอยู่บ้านในช่วงเย็น ทำให้เมื่อวันก่อนเจอริทที่หน้าบ้าน เด็กนี่ช่างสมคำเลื่องลือ ชกต่อยกับเขาจนหน้าตาดูแทบไม่ได้ ที่สำคัญ…ต่อยกันเรื่องการ์ตูน
นึกแล้วก็ตลกดี…

ตลกที่ริทต่อยกับเพื่อนด้วยเรื่องการ์ตูนน่ะมันใช่ แต่ที่ตลกกว่าคือใบหน้าของริทตอนที่เล่าว่าเพราะอะไรถึงไปต่อยคนอื่นน่ะ ตาจะโตขึ้น คิ้วขมวดหน่อย ริมฝีปากเชิดๆ ท่าทางดูเอาเรื่องแต่ก็ช่างเหมือนแมวน้อยพองขนขู่ศัตรูไม่มีผิด

….100%….

ช่วงต้นๆ เราอาจจะมาอัปช้าหน่อยนะคะ พอดีเคลียร์ต้นฉบับกับปั่นเก็บสำรองเอาไว้นิดหน่อย ไว้ปั่นได้เยอะแล้วจิมาถี่กว่านี้น้า

คุณรันต้องหวังฟันริทแน่เลยเนอะ คิดว่าริทรอดไหม…เราว่ากระดูดมันคนละเบอร์กัน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 18-10-2018 23:33:54
คุณรันแกล้งน้องงงงงง :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 19-10-2018 00:55:32
คุณรันเอานารูโตะมาล่อซิเผื่อริทตกหลุมกับดัก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-10-2018 16:50:53
เนียนๆไป

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: lemonphug ที่ 24-10-2018 18:59:56
ชูป้ายไฟคุณรัน :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 24-10-2018 22:11:11
คุณรันจะกินเด็กหรอคะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-10-2018 00:42:27
แหน๊ น้องอายุเท่าไหร่เอง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 1 - 100% [18-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-10-2018 12:21:50
ว่าและ...........
คุณรัน จะเมาไม่รู้ตัวจริงรื้อ ?   :z3:

คุณรัน  ริท   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 25-10-2018 22:24:07
>….ตอนที่ 2 [100%]….<
แฟนคือสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญ!

นิรันดร์เป็นพวกฟรีเซ็กซ์ เขาไม่ชอบการผูกมัด ไม่ชอบการครอบครองที่คนอื่นมีต่อตัวเขาเอง หลายครั้งที่ตัดสินใจคบใครสักคนหนึ่งตามครรลองของคนหมู่มาก เขามักพบว่าแฟนจะเข้ามาจุ้นจ้านกับชีวิตส่วนตัวของเขามากเป็นพิเศษ

มีแฟนก็ต้องแชร์โลกส่วนตัวงั้นเหรอ?

งั้นไม่มี!

วันไหนอยากนอนอยู่ห้องคนเดียวเงียบๆ ย้ำว่าคนเดียวเงียบๆ แฟนก็มักจะเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะ เข้ามากวน มาชวนทำเรื่องอย่างว่าบ้าง มาชวนไปเที่ยวบ้าง ถ้านิรันดร์ไม่ตอบสนอง แฟนก็จะเหวี่ยงบ้าง ไม่งั้นก็เดินหนีแล้วงอนเงียบหายไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่บอกนะว่าเขาต้องการอยู่คนเดียว แต่เหมือนฟังจะไม่เข้าใจความต้องการของเขา

บางทีก็อยากจะไปนั่งดื่มคนเดียวชิวๆ ปิดมือถือ หรือช่องทางสื่อสารทุกชนิดเพื่อไม่ให้ใครติดต่อ โดยเขาไม่ลืมที่จะบอกคนรักว่าเขาไปไหนและทำอะไร แต่ก็ไม่วายกลับมาโดนคนรักงอนทุกที

“ถ้าอยากอยู่คนเดียวมาก รักโลกส่วนตัวของตัวเองมากจะมามีแฟนทำไม”

แฟนคนไหนสักคนบอกกับเขาแบบนั้น ทั้งที่แฟนหนุ่มคนนี้ก็เป็นคนโลกส่วนตัวสูงไม่ต่างอะไรกับเขา แรกๆ เข้ากันดี เข้าใจกันทุกอย่าง แต่พอเวลาผ่านไปก็กลายเป็นแบบนี้ นิรันดร์ถอนใจและตัดสินใจบอกเลิกในทันที

ได้! มีแล้วเป็นแบบนี้ มีแล้วเอาแต่พูดว่าเข้าใจในตัวตนเขาแต่กลับไม่เข้าใจจริงๆ เขาไม่มีก็ได้แฟนน่ะ เซ็กซ์เฟรนด์ก็พอ ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้วสำหรับเขา การนอนคนเดียว กินข้าวคนเดียว ไปดื่มคนเดียวหรือเที่ยวคนเดียวไม่ได้ทำให้เขาตายสักหน่อย

แต่กว่าเขาจะคิดอย่างนั้นได้มันก็ผ่านความผิดหวังมามากมาย ไม่ว่าใครเริ่มต้นมาเข้าใจเขายังไง สุดท้ายก็จะกลายเป็นแบบนี้เสียทุกคน มากน้อยต่างกันไป แต่ยังไงมันก็มี ดีไม่ดี บางคนยังมองว่านิรันดร์ไม่ใส่ใจคนรักอีก

ก็บอกเองว่าอยากอยู่คนเดียวบ้าง อยากเที่ยวคนเดียวบ้าง นิรันดร์เป็นคนเข้าใจอะไรง่ายๆ ยิ่งคำว่าอยากอยู่คนเดียวบ้างเนี่ย เป็นสิ่งที่เขาเข้าใจอย่างที่สุด เขาเลยไม่เคยกวนแฟนคนไหนสักคนที่ขอเวลาอยู่กับตัวเอง ทว่านั่นกลายเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนไม่พอใจ? บ้างก็ว่าไม่ห่วงเลยเหรอ ไม่โทรหาเลย ไม่ส่งข้อความเลย เอ้า การไม่จุกจิกก็ผิดเหรอ?

เออ...พอล่ะไอ้ชีวิตที่มีแฟนเนี่ย!

กาลเวลาไม่อาจเปลี่ยนนิสัยเบื่อความจุกจิกของนิรันดร์ แม้อายุจะล่วงเลยเข้ามาใกล้เลขสามแล้วก็ตามที เขากลับมาดูแลกิจการต่อจากพ่อแม่ที่เหนื่อยอ่อนกับการทำงาน ต้องมาเรียนรู้งานที่นี่ เรียนรู้สังคมของที่นี่และนิสัยของผู้คนรอบกาย

มาแรกๆ ก็เบื่อหน่ายอย่างที่สุด

คนไทยบางจำพวกชอบจุ้นจ้าน โดยเฉพาะคำถามที่ว่าหล่อเหลาขนาดนี้มีแฟนหรือยัง บ้างจะเสนอตัวมาเป็นแฟน บ้างจะเอาลูกตัวเองมายกให้เขา ในใจนิรันดร์ตอบว่าเอามาเป็นคู่นอนอะได้ แต่จะเอามาแต่งงานคงไม่ นิรันดร์ต้องปรึกษากับแม่เพื่อจะหาทางหลีกเลี่ยงคนเหล่านี้ ซึ่งทางที่ดีก็คือปั้นหน้ายิ้มๆ แล้วปฏิเสธแบบนุ่มนวลไป

น่าเบื่อหน่ายจริงๆ

นิรันดร์ตัดสินใจซื้อหญิงหรือชายมาร่วมหลับนอนเป็นบางครั้งคราวเพื่อระบายความเครียด ส่วนเวลาปกติก็จะตั้งใจอยู่กับงานในมือ รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองไป โชคยังดีสำหรับนิรันดร์ที่ได้เหล่าคนใช้ไม่จุ้นจ้านหรือสอดรู้สอดเห็นเรื่องของเจ้านาย นั่นทำให้เขาอยู่บ้านได้อย่างสงบสุข

เจ้านายใหม่ของบ้านที่เก็บตัวมากกว่าเดินเล่นในสวนอย่างนิรันดร์แทบไม่รู้เลยว่าในบ้านนี้มีเด็กหนุ่มอาศัยอยู่ด้วย คิดว่ามีแต่แม่บ้าน ลุงคนสวนและลุงคนขับรถที่มีอายุแล้วเท่านั้นเสียอีก

จนวันหนึ่ง...นิรันดร์ลงมานั่งเล่นริมสระน้ำในช่วงเย็นของวันหยุด

ขอบสระน้ำอีกฝาก ตรงข้ามกับที่ที่เขาจะเดินไปนั่งนั้นมีเด็กหนุ่มใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงบอลนั่งขัดสมาธิอ่านการ์ตูนอยู่ หน้าปกนั้นเป็นหน้าปกที่คุ้นเคยอยู่บ้าง เพราะถึงเขาจะรักสันโดษมากแค่ไหนก็ผ่านตาการ์ตูนมาไม่น้อย แต่เด็กหนุ่มคนนี้ต่างหากที่ไม่คุ้นเคย

นิรันดร์ยืนครุ่นคิดถึงตอนที่มีการแนะนำตัวคนใช้ในบ้าน วันนั้นดูเหมือนจะมีคนหนึ่งไม่ได้มาเพราะติดเรียน คร่าวๆ ที่รู้ก็คือเป็นลูกของป้าออมหัวหน้าแม่บ้าน ตอนนั้นหัวหน้าแม่บ้านบอกว่าจะให้ลูกชายตัวเองมาแนะนำตัวทีหลังแต่นิรันดร์ไม่ว่างอยู่เจอ คงเป็นเด็กคนนี้ล่ะสินะ

ขณะที่มองเด็กหนุ่มผิวขาวกระจ่างอีกฝากสระน้ำ คนที่ถูกมองก็เงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาเข้าพอดี และเด็กหนุ่มคนนั้นก็มีท่าทีตกใจ เจ้าตัวรีบปิดหนังสือ ยืนขึ้นยกมือไหว้เขาแล้วรีบหายไปจากตรงนั้น

จากวันนั้นเป็นต้นมานิรันดร์ก็แทบไม่เจอลูกป้าแม่บ้านคนนี้อีกเลย

วันเสาร์อาทิตย์เป็นวันที่นิรันดร์หยุดทำงานแล้วนอนอยู่บ้านอย่างเดียว เป็นการนั่งๆ นอนๆ อยู่ในห้องนอนส่วนตัว เขาขี้เกียจออกไปไหน วันธรรมดาก็ทำงานมากอยู่แล้ว วันหยุดจะให้ไปนั่นไปนี่อีกมันก็น่าเบื่อเกินไป

“น้า...แม่คร้าบ ริทขอตังก์ซื้อฟิกเกอร์หน่อยน้า” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มดังแว่วมาจากชั้นล่าง นิรันดร์กำลังจะลงมากินข้าวเที่ยงแทนการให้แม่บ้านยกขึ้นไปให้อย่างทุกครั้ง

“โอ้ย ฟิกกงฟิกเกอร์อะไรของแกไอริท ตัวหนึ่งตั้งเป็นพัน มันไม่ใช้เงินเปลืองไปหน่อยหรือไงเล่า” ป้าออมไม่ยอมให้เงินจำนวนมากแก่ลูกชาย นิรันดร์ก็พอเข้าใจ ฟิกเกอร์แท้ตัวหนึ่งราคาไม่ใช่น้อยๆ นอกจากราคาตัวมันเองที่สูงแล้วยังมีการบวกภาษีอีกเพราะต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น

“เดี๋ยวริททำงานแล้วจะเอาเงินมาคืนแม่น้า”

“ทำงานแล้วค่อยซื้อค่ะลูก” คนเป็นแม่ตัดบท เงินไม่ใช้น้อย จะเอาไปซื้อตุ๊กตุ่นตุ๊กตามันไม่ได้จริงๆ

นิรันดร์ลงมาเห็นท่าทีง้องอนแม่ของเด็กหนุ่มเข้าพอดี ริมฝีปากสีชมพูอ่อนนั้นกำลังเชิดขึ้น สองมือก็กอดแขนแม่ที่กำลังจัดจานบนโต๊ะอาหาร ดูแล้วคนเป็นแม่น่าจะรำคาญ แต่เด็กหนุ่มก็ยังตื้ออยู่ไม่ยอมไปไหน

นิรันดร์ว่ามันก็น่ารักดีนะ...ท่าทางแบบนั้นน่ะ

“ตายแล้วคุณรัน” ป้าออมหันมาเห็นเขา เธอรีบดันลูกชายออกจากแขนและริทก็พร้อมใจปล่อยมือแม่ของตนเอง

“งุ้งงิ้งกันแต่วันเลยนะครับแม่ลูก” นิรันดร์เอ่ยยิ้มๆ เขามองหน้าริท ดูสีหน้าที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก สงสัยจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนนี้ล่ะมั้ง

“เจ้าริทน่ะสิคะคุณรัน งอแงอยากได้ของเล่นเป็นเด็กๆ เลย”

“แม่” พอโดนฟ้องก็รีบทักท้วง นิรันดร์ขำเบาๆ งอแงเหมือนเด็กอย่างที่ป้าออมว่าจริงๆ นั่นแหละนะ

“ผมว่าริทก็ยังเป็นเด็กอยู่นะครับ ไม่งั้นคงไม่ไปต่อยกับคนอื่นเรื่องการ์ตูนหรอก” ริทเผลอเงยหน้าสบตากับหยอกเย้าของนิรันดร์ ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ไม่ฟ้องแบบนี้สิ ริทแอบแค้นเล็กๆ ที่ไม่มีใครเข้าข้างเขาเลย

“อ๋อ ที่หน้าแหกมาคราวก่อนคือต่อยกับเพื่อนเรื่องการ์ตูน” เอาแล้ว แม่ดุขึ้นมาทันที

“ผมไปทำการบ้านล่ะ” ชิ่งดีกว่า อยู่ต่อมีแต่โดนบ่น

ริทรีบหันหลังแล้วสาวเท้าไวๆ จากไปทันที ปล่อยให้คนเป็นแม่บ่นเสียงเบากับเจ้านายตนเองไป

คงเพราะความเป็นกันเองที่มีมาตั้งแต่รุ่นคุณท่าน ทำให้แม่บ้านและเจ้านายของที่นี่ค่อนข้างจะสนิทกันพอสมควร นิรันดร์ไม่ถือคำบ่นของหัวหน้าแม่บ้านอย่างป้าออม เธอเองก็รู้ดีว่าบ่นมากไปจะสร้างความรำคาญ ดังนั้นนิรันดร์จึงได้ยินคำบ่นลูกชายเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น

ระหว่างทานอาหารเที่ยงเพียงลำพัง นิรันดร์นั่งเลื่อนหน้าจอมือถือดูเพจขายของต่างๆ ทั้งในเฟซบุ๊คและอินสตาร์แกรม กล่องข้อความมีข้อความที่ไม่ได้อ่านของหลายคน นิรันดร์ไม่ได้สนใจ เขากำลังดูฟิกเกอร์ในเพจขายของเกี่ยวกับนารูโตะอยู่ เลื่อนดูไปมามันก็เพลินดี

ไหนๆ ก็ทำรุ่มร่ามกับเด็กหนุ่มไป ซื้อของมาขอโทษเสียหน่อยก็ดีเหมือนกัน นิรันดร์ไม่รู้ว่าริทอยากได้ฟิกเกอร์ของนารูโตะตัวไหน เขาเลยเลือกมาครบทุกตัวเท่าที่ในร้านนี้มีขาย จากที่เด็กหนุ่มอยากตัวเดียวราคาพันสองนิดๆ กลายเป็นเซตฟิกเกอร์ราคาหลายหมื่นไปเสียได้

นิรันดร์โอนเงินผ่านแอพของธนาคารอย่างไม่เสียดายเงิน นึกถึงหน้าเด็กหนุ่มตอนของมาส่งแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ มันคงทั้งตกตะลึงและดีใจมากจนหุบยิ้มไม่อยู่แน่นอน เขาว่าริทเป็นเด็กหนุ่มที่มีเสน่ห์นะ รอยยิ้มสวย นัยน์ตาก็หวานได้แม่ไปเต็มๆ ผิวขาวกระจ่างแต่บางจุดก็แอบคล้ำตามประสาเด็กหนุ่มซนๆ ทั่วไป

ทานมื้อเที่ยงเสร็จนิรันดร์ก็ไปนั่งเล่นอยู่ที่ริทสระน้ำ ริทกำลังล้างสระอยู่เผลอชะงักไปนิดหน่อยที่เห็นเจ้านายมานั่งเล่น มันแอบกดดัน เหมือนตอนทำข้อสอบแล้วอาจารย์มายืนจ้องนั่นแหละ มันจะมีอาการเกร็งขึ้นมาและทำข้อสอบไม่ได้ในทันที นิรันดร์แค่มองก็เข้าใจในปฏิกิริยาของลูกแม่บ้านคนนี้ เขายิ้มให้อีกฝ่าย ผายมือเชื้อเชิญให้ริททำงานของตัวเองต่อไปโดยไม่ต้องสนใจเขา

แต่ใครจะละความสนใจได้ในเมื่อโดนจ้องแบบนี้…

ริทไม่ได้ใส่เสื้อล้างสระน้ำ อากาศมันร้อนมาก ขนาดมีหลังคาผ้าใบป้องกันแสงแดดแล้วแท้ๆ ว่ากันตามตรง ไม่มีอะไรสู้แดดในประเทศไทยได้หรอก อีกอย่าง ล้างสระน้ำนี่ยังไงก็ต้องเปียกไหม ใส่เสื้อผ้าเปียกๆ มันน่ารำคาญเหมือนกันนะ กางเกงบอลขาสั้นโดนน้ำในสระจนชุ่ม มันลู่ลงจนแนบไปกับร่างกายของริท

เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าเขาได้กลายเป็นอาหารตาให้กับเจ้านายของเขาไปแล้ว

ทำงานออกแรงบวกกับอากาศร้อนๆ ทำให้ร่างกายขาวผ่องของริทแดงระเรื่อขึ้น ตัวเขากลายเป็นสีชมพู ริทหยุดหอบหายใจ เขาไม่ได้มองไปอีกฝั่งหนึ่งที่มีนิรันดร์นั่งอยู่ แต่เขากำลังก้มหน้ามองลำตัวของตัวเอง

“โห...” จับพุงซึ่งก็ไม่เชิงเป็นพุงออกมาดูความชมพูของตัวเอง

“ตัวแดงหมดแล้ว” นิรันดร์เห็นภาพนั้น และเขาก็ส่งเสียงบอกออกไป

“อ่า...ครับ มันร้อนอะ ตัวแดงเพราะร้อน จริงๆ ผมว่าผมไม่น่าเป็นคนขาวเลย ขึ้นสีง่ายชะมัด” เผลอนึกถึงคำพูดของแฟนหนุ่มในสมัยที่คบกัน คำที่บอกว่าริทกำลังแดงไปทั้งตัว...มันน่ากิน ยึ้ย! คิดแล้วแค้น แค้นแล้วถูพื้นมันเข้าไป!

ริทเอาความแค้นไปลงกับการล้างสระว่ายน้ำที่ไม่เคยมีใครคิดจะใช้มันเลย ไม่เกรงใจจะแอบมากระโดดเล่น เสียดายสระน้ำที่ไม่เคยได้ทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ดูเหมือนเขาจะลงแรงมากไป น้ำชุ่มโชกตรงพื้นใต้เท้าทำให้เขาลื่นและ...

ตู้ม!!

เรียบร้อย…สระน้ำได้ทำหน้าที่ของมันแล้วล่ะ

“ฮ่าๆ ซุ่มซ่ามจัง” เสียงทุ้มละมุนหัวเราะร่าเมื่อริทโพล่หัวเปียกๆ ของตัวเองขึ้นมาจากสระ เขาขมวดคิ้ว

“ง่า...คุณรันอะ” หน้าหงิกแป๊บ มาแซวเขาแบบนี้ไม่น่ารักเลย

“ท่าเมื่อกี้นี่สวยมากเลยนะ” นิรันดร์เอ่ยยิ้มๆ

“คุณรันก็กระโดดลงมาด้วยท่าเมื่อกี้นี้สิครับ” ริทพูดงอนๆ ไปงั้นแหละ เขาว่ายน้ำกลับเข้าหาฝั่งเพื่อจะขึ้นไปทำความสะอาดสระต่อ

แต่ยังไม่ทันได้ว่ายน้ำไปไหนได้ไกล คนโดนท้าก็ยืนขึ้นเต็มความสูง สองมือจับที่ปลายเสื้อแล้วถลกมันขึ้นมาจนเห็นมัดกล้ามเป็นลอนสวยงาม โอ้โห หุ่นแซ่บเกินจะทานทน ริทมองร่างกายนิรันดร์อย่างตกตะลึง เลื่อนสายตาจากกล้ามท้องไปที่ขอบกางเกงสามส่วน ในหัวเผลอคิดไปว่าคุณรันควรถอดกางเกงตัวนั้นออกแล้วใส่แต่ชั้นในลงมา

สองมือนิรันดร์ยกขึ้นเสยผม ริทมองตามไม่วางตา พอเสยผมจนเรียบร้อยสองมือนั้นก็เลื่อนลงมาที่ขอบกางเกง จับมันขยับให้กระชับเข้าที่เข้าทาง เด็กหนุ่มมองจนแทบจะเรียกว่าจ้อง

คือถ้าเป็นคนที่หลงใหลในรูปลักษณ์เรือนกายของผู้ชายจะเข้าใจ เวลาที่เห็นร่างกายสมบูรณ์เพอร์เฟ็กอย่างนี้มันอดที่จะรู้สึกชื่นชมไม่ได้ เหมือนผู้หญิงเห็นของสวยๆ งามๆ มันจะต้องมองมันอยู่อย่างนั้น จะให้ดีต้องได้สัมผัสด้วยนะ...ลูบไล้ บีบบี้ขยี้ขย้ำ

โอ้ยใจ!

ตู้ม!!!

กำลังหลงใหลได้ปลื้มกับหุ่นของเจ้านายอยู่ดีๆ นิรันดร์ก็กระโดดลงสระน้ำที่ยังทำความสะอาดไม่เสร็จ เขาเลือกจุดลงใกล้กับร่างโปร่งของเด็กหนุ่มเพื่อให้น้ำมันกระเซ็นเข้าตาหวานๆ คู่นั้น

“เฮ้ย” ริทร้อง เจ้าตัวตั้งรับไม่ทันก็เลยหนีน้ำที่กระเซ็นเข้าหน้าตัวเองไม่พ้น ไอ้เข้าหน้ามันพอทน แต่เข้าตาริทจะไม่ทน!

“น้ำเข้าตาเหรอ?” นิรันดร์โพล่ขึ้นมาเบื้องหน้า ใบหน้าหล่อเหลานั้นอยู่ห่างกับริทไปแค่คืบหนึ่ง

“เอ่อ...ครับ” ใบ้กินไปดิ ใครจะคิดว่าโพล่มาใกล้ขนาดนี้

ได้โปรดถอยออกไปห่างๆ หน่อย หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแบบนี้ พูดเลยนะ แดงกว่าหน้ากับตัวของริทก็คือมะเขือเทศอะตอนนี้ เด็กหนุ่มเตรียมจะหงายไปด้านหลังเพื่อขยับหนี ทว่านิรันดร์ใช้แขนข้างหนึ่งงช้อนเอวคอดของริทเอาไว้เสียก่อน

“ระวังสิ เดี๋ยวก็ล้มลงไปในน้ำหรอก”

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะว่ายขึ้นฝั่งอะ หนาว” พูดตะกุกตะกัก เอวโดนโอบอยู่เลยนะ ให้พูดด้วยน้ำเสียงปกติไม่ไหวจริงๆ

“รีบเหรอ ผมอุตส่าห์กระโดดท่าเดียวกับริทลงมาตามคำท้าทายเลยนะ”

“โหย ใครให้ทำจริงล่ะครับ ผมก็แค่ท้าไปงั้นไหมล่ะ คุณรันนี่ก็ ไม่ต้องจริงจังกับคำพูดของเด็กอย่างผมได้นะ” ริทอยากจะแงะมือของนิรันดร์ออก เล่นดึงเข้าหาตัวจนช่วงล่างเสียดสีกันแบบนี้...ใจไม่ดีเลย

“ไม่รู้ล่ะ เล่นน้ำด้วยกันก่อนสิ”

“เล่นน้ำเนี่ยนะ? ผมนึกไม่ออกเลยว่าคนอายุอย่างคุณรันจะเล่นน้ำยังไง ว่ายน้ำไล่จับ? หรือเล่นบอลน้ำล่ะ แต่บอกเลยนะว่าถ้าว่ายน้ำไล่จับนี่ผมไม่สู้จริงๆ ผมว่ายน้ำไม่แข็ง แต่ถ้าให้ผมวิ่งแข่ง ผมสู้ตายเลยนะ” ริทเริ่มพูดอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าคุณรันเบียดตัวเองเข้ามาหาตัวเขาหนักขึ้น

“ริทวิ่งเก่งเหรอ” นิรันด์ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าท่อนขาของเขากับเด็กหนุ่มกับสีกันไปสีกันมา

“เก่งสิ ผมวิ่งหนีเท้าบ่อยๆ เวลากลับบ้านหรือไปร้านหนังสือแล้วเจอคู่อริ ผมนี่กระชับเชือกรองเท้าแล้วสับเท้าแตกเลยนะครับ บอกเลย...ระดับริทแล้ว ไม่ว่าใครก็วิ่งตามไม่ทันเว้นแต่มันขี่จักรยานมานะ ฮ่าๆ” ริทหัวเราะร่า เขานึกถึงตอนวิ่งหนีแล้วมันก็ตลกดี เขานี่ช่างหาเรื่องให้ตัวเองได้ทุกวันจริงๆ

“เคยหนีไม่ทันไหม” นิรันด์อาศัยจังหวะที่เด็กหนุ่มเล่าเรื่องตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติดันร่างโปร่งจนมาติดกับขอบสระด้านตรงข้ามกับที่เขานั่ง แผ่นหลังขาวแนบไปกับขอบสระแล้วแต่เอวคอดยังคงอยู่ในอ้อมแขนของเขา

“เคยสิครับ” ริทมองซ้ายมองขวาเล็กน้อย รู้สึกตัวเองโดนรุกหนัก หรือเปล่าวะ? เขาไม่ได้กำลังโดนเจ้านายรุกอยู่ใช่ปะ ไม่หรอก...คนอย่างคุณนิรันดร์ไม่มาสนใจเขาหรอกเนอะ

“รอดไหม”

“ไม่รอดจะมาอยู่ในอ้อมแขนของคุณรันเหรอครับ แฮ่ๆ แต่ว่านะ...ปล่อยผมก็ได้ ผมยืนถึงนะ” ใช่ๆ คุณนิรันดร์กอดเอวเขาไว้เพราะคิดว่าเขาจะยืนไม่ถึงก้นสระล่ะมั้ง

“เตี้ยขนาดนี้ยืนถึงจริงดิ”

“นี่ ผมไม่เตี้ยนะครับ ผมสูงได้มาตรฐานชายไทยนะ คุณรันแหละที่ตัวสูงเกินไปก็เลยมองว่าผมเตี้ย” นิรันดร์ยิ้มหวาน

“ครับ ริทไม่เตี้ย” ขาข้างหนึ่งสอดเข้าไปที่หว่างขาของเด็กหนุ่ม มันโดนจุดสำคัญจังๆ จนริทสะดุ้งโหยง

“เอ่อ...”

“มีบางอย่างกำลัง...”

“ผมว่า...เราว่ายน้ำแข่งกันก็ได้ครับ” ริทรีบดันตัวเองอย่างจริงจังไปทางกลางสระ แต่ไม่พ้นนิรันดร์คว้าข้อเท้าเขาเอาไว้แล้วลากกลับมาที่เดิม

เอ่อ...มันดูง่ายเนอะ ฮื่อ!

ริทกลับมาอยู่ใน้ออมแขนของนิรันดร์อีกครั้ง รอยยิ้มของเจ้านายเขาในตอนนี้ดูทะเล้นทะลึ่งน่าตีเป็นที่สุด ทั้งที่รอยยิ้มของคุณนิรันดร์มันก็แค่มุมปาก แต่แววตามันแพรวพราวเกินไป ริททำตัวไม่ถูก เหมือนโดนสะกดให้อยู่นิ่งๆ แล้วปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ...

“ริทเอ้ย ล้างสระเสร็จยังลูก ลุงช่วยแกรออยู่” เสียงแม่ดังมาจากทางตัวบ้าน ริทรีบดีดตัวออกจากนิรันดร์แล้วปีนขึ้นขอบสระก่อนที่ร่างของผู้เป็นแม่จะโพล่มาตรงขอบประตู

โอ้ยใจ...กระหน่ำขนาดนี้จะเหนื่อยตายไหม?

….100%….

คุณรันรุกรุนแรงมากเค่อะ สงสารน้อง น้องตั้งตัวม่ายทัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 26-10-2018 00:03:35
ทำเอาน้องริทหัวใจสั่นเชียวคุณนิรันดร์ร้ายเนียนถึงเนื้อถึงตัวจริง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 26-10-2018 00:38:35
คุณรันนี้ร้ายไม่เบาเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 26-10-2018 12:43:13
กี๊ดดดดดดด น้องยังเด็กกกกก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 26-10-2018 13:23:31
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 26-10-2018 20:12:54
คุณรันขี้อ่อย 55555 :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: lemonphug ที่ 26-10-2018 21:32:56
 o13
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 27-10-2018 08:42:35
น่ารักดีนะเจ้าหนูริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 2 - 100% [25-10-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 29-10-2018 07:59:35
น้องริทลูกกกกกกก เจ้านายหนูอันตรายมากกกกก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 02-11-2018 22:20:44
>….ตอนที่ 3 [100%]….<

มีอะไรสามารถใช้ลบความทรงจำออกจากสมองได้บ้างไหม ริทรู้สึกอยากจะลบภาพเหตุการณ์ที่สระน้ำวันนั้นมากเลย แววตาของคุณนิรันดร์ที่มองมาในระยะประชิดมันยังแจ่มชัดอยู่ในสมองเขาทุกวัน ขนาดไม่เจอหน้าคุณนิรันดร์มาสามวันเต็มๆ แล้วนะ ยังลืมไม่ลงเลย เขาควรทำยังไงดี

อ่อย...แค่คิดก็ระทึกแล้วใจ

“ริท”

“ครับแม่” ริทตะโกนตอบแม่ที่เรียกอยู่หน้าห้อง เขากำลังนอนอ่านการ์ตูนอยู่เพลินๆ เป็นการอ่านที่นึกถึงแววตาคุณนิรันดร์ไปด้วยเนี่ยสิ

“คุณรันให้ไปหาที่ห้อง”

“ฮะ!” ร่างโปร่งของเด็กหนุ่มกระเด้งลุกขึ้นมาอย่างฉับไว หัวใจนี่เต้นกระหน่ำอยู่ในอกด้วยความตื่นตระหนก

ไม่ใช่ว่าคุณรันจะเรีกยเขาไปทำรุ่มร่ามปะวะ เอ...หรือแบบนั้นเขาไม่เรียกรุ่มร่าม แบบแค่บังเอิญเอาขามาโดน แค่บังเอิญคว้าเอวเขาไว้เพราะคิดว่าเขาจะหงายหลังจมน้ำ หงายหลังจมน้ำเนี่ยนะ? เออ ช่างมันเถอะ มันคงไม่มีอะไรหรอกเพราะคุณนิรันดร์คงไม่มาสนใจเด็กบ้านนอกอย่างเขาอยู่แล้วล่ะเนอะ เขามันก็แค่เผลอคิดบ้าคิดบอไปคนเดียวเท่านั้นแหละ

“เร็วๆ ให้นายรอนานมันไม่ดีนะ คุณรันแกก็เหนื่อยๆ ต้องมานั่งรอเอ็งอีก” แม่บ่นสองสามประโยคแล้วเสียงค่อยๆ หายไป คงเดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อนั่นแหละ

ริทวางการ์ตูนเรื่องโปรดของตัวเองลงกับที่นอน คว้าเอาเสื้อยืดลายนารูโตะขึ้นมาสวม แอบมองกางเกงนิดหน่อย คงไม่เป็นไรมั้งที่เขาใส่กางเกงบอลขาสั้นแบบนี้อะ ริทคิ้วขมวด ยืนนิ่งคิดถึงคำว่าเหมาะสม...

แค่ไปหาที่ห้องนอนต้องคิดถึงความเหมาะสมเลยเหรอ?

ช่างแม่ง!

ริทยีหัวตัวเองเล็กน้อย จัดทรงให้มันเข้าที่เข้าทางนี่แหละแล้วก็เดินฉับๆ ไปยังห้องนอนของคุณนิรันดร์ เขารู้จักดีเพราะหลายครั้งเขาต้องขึ้นมาช่วยแม่ทำความสะอาดห้องนอนของเจ้านายคนนี้

ทว่ายิ่งเดินเข้าไปใกล้หัวใจก็ยิ่งกระหน่ำระรัวหนักเข้าไปอีก การอยู่ใกล้คนหล่อและหุ่นน่ากินมากมันก็ไม่ดีต่อใจอยู่แล้ว ดันไปนึกถึงภาพที่ใกล้ชิดกันอีก ไม่ดีต่อหัวใจของเด็กน้อยไร้เดียงสาอย่างเขาเลยจริงๆ

เห็นริทแก่นเซี้ยวแบบนี้เขาก็ยังเป็นเด็กหนุ่มใสๆ ซื่อๆ อยู่นะ มีแฟนก็จริง แต่กับแฟนนี่เคยแค่ใช้มือร่วมกันไม่เคยแบบสอดใส่อะไรทำนองนั้นหรอก แล้วกับแฟนมันมีความใกล้ชิด สนิทสนมกันมาก่อน มันก็เลยทำได้ เอ...ตอนทำครั้งแรกก็เขินหน้าแดงไปหมดเหมือนกันนี่นา

แล้วทำไมต้องมาคิดเรื่องใต้สะดือเนี่ย!!!

สูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจให้นิ่งสงบ แม่บอกว่าความสงบจะสยบทุกความเคลื่อนไหว เอาล่ะ เขามาถึงหน้าห้องเจ้านายผู้มีหุ่นน่ากินมากแล้ว ริทชั่งใจอีกนิด มันต้องเคาะห้อง แต่ก็...เกร็งๆ

ก๊อกๆ

“คุณรันครับ” ทำใจเคาะลงไปแล้ว โอ้ย ตื่นเต้นๆ

“เข้ามาเลยไม่ได้ล็อก” ไม่ดีนะเนี่ย คุณรันจะไม่ล็อกห้องแบบนี้มันไม่ปลอดภัยนะฮะ ริทแอบคิด แต่ก็คิดไปอีกแหละว่าใครจะกล้าบุกเข้ามาในห้องของคุณรันกัน กว่าจะฟ่ามาถึงห้องคุณรันได้นี่คงต้องผ่านด่านพี่ยามหน้าโหดมาก่อนอะนะ

“ขออนุญาตนะครับ” ริทเปิดประตู พาตัวเองเข้าไปเสร็จแล้วก็ต้องปิดประตูให้เรียบร้อย

อะจะเฮ้ย!

เงยหน้าขึ้นมาหลังปิดประตูก็พบว่าคุณนิรันดร์มีเพียงผ้าขนหนูพันเอวเท่านั้น สีดำนั่นตัดกับสีขาวของผิวคุณนิรันดร์ไม่ใช่น้อยๆ ไหนจะหยดน้ำบนร่างกายนั่นอีก...คุณรันจะแซ่บต้องเกรงใจเด็กหนุ่มวัยกลัดมันอย่างเขาบ้างนะเนี่ย!

“หน้าแดงเชียว เขินผมเหรอ” นิรันดร์ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดเส้นผมของตัวเองพลางมองใบหน้าของเด็กหนุ่มยิ้มๆ

“เอ่อ...ก็ใช่ครับ ไม่รู้ทำไม อยู่กับคุณรันแล้วผมเขินจัง ต้องเพราะคุณรันหุ่นดีมากแน่ๆ เลยฮะ” ริทพูดออกไปตรงๆ ถือว่าเป็นการชื่นชมหุ่นของเจ้านายของตนเองไป

“ผมชอบเวลาริทเขินนะ” ริทถึงกับนิ่งงันไปเมื่อเจ้านายผู้มีหุ่นดีจนน่าลากไปกินในน้ำนั้นขยิบตาให้เขาหนึ่งทีถ้วน เป็นการขยิบตาที่มากมายไปด้วยเสน่ห์ ดาเมจแรงมาก เปรี๊ยงหัวใจทะลุเลยทีเดียว

“ผมว่าเวลาผมเขินมันตลกนะฮะ แก้มมันจะแดง แดงไปทั้งตัวเลยอะฮะ”

“จริง ตอนนี้แดงไปถึงคอแล้ว” นิรันดร์ชี้นิ้วไปที่ลำคอขึ้นสีชมพูของริท

“น่านไง” ริทเผลอลูบคอตัวเองป่อยๆ

“เอาเป็นว่าก่อนที่ริทจะเขินผมมากไปกว่านี้ ริทเข้ามาเอาของนี่ไปสิ” นิรันดร์เดินไปที่เตียงนอนหลังโตสีดำของตน บนนั้นมีกล่องไปรษณีย์กล่องใหญ่อยู่หนึ่งกล่อง เขาดันมันมาทางริทพร้อมกับรอยยิ้มเชิญชวนให้เดินเข้าไป

“เอาไปไหนครับ” ริทคิดว่านิรันดร์จะให้ตนเอากล่องนี้ไปให้ใคร เขาก็เลยเดินเข้าไปคว้ากล่องนั้นเอาไว้

“ให้ริทนั่นแหละ”

“เอ๊ะ?” เด็กหนุ่มกำลังจะอ่านชื่อคนส่งตามประสาสายเผือกเล็กๆ เงยหน้ามองคุณนิรันดร์ขวับ

“เป็นการขอโทษที่ทำรุ่มร่ามกับริทในโรงแรมวันนั้น คิดว่าริทน่าจะชอบนะ ลองเปิดดูสิ” ในโรงแรมวันนั้นที่คุณนิรันดร์เมาสินะ ริททบทวนความทรงจำ

“จริงๆ ไม่เป็นไรก็ได้นะครับ ผมเข้าใจว่าคุณรันเมา”

“ไม่ได้หรอก ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบ ลองดูนะ ไม่ชอบจะหาแบบที่ริทชอบก็ได้” นิรันดร์เอาผ้าขนหนูเช็ดผมพาดไว้ที่บ่า เขาจ้องมาทางเด็กหนุ่มเพื่อรอดูปฏิกิริยา

“คุณรันนี่เป็นคนดีจังครับ” ริทตัดสินใจนั่งลงที่พื้น เขาค่อยๆ แกะตรงเชือกของมันออกก่อนที่งัดแงะสก๊อตเทปที่แปะมันทั่วกล่อง

เมื่อฝากล่องถูกงัดแงะออกก็พบเจอบับเบิลชุดใหญ่ ริทต้องค่อยๆ หยิบมันออกมาทีละห่อ เรียงกันไว้บนพื้นแล้วเริ่มแกะบับออก รู้สึกมันจะห่อทับกล่องนะ เจ้าตัวเริ่มมีความสงสัยจนต้องแกะมันออกไวๆ

แล้วสิ่งที่เขาพบมันก็คือ...

“เฮ้ยยยยยยยย” ตัวแรกคือกาอาระกับน้ำเต้าทรายอาวุธประจำกาย ดวงตาริทเปร่งประกายแวววาวขึ้นมาในทันที เจ้าตัวพลิกกล่องไป พลิกกล่องมา ปากก็ฉีกจนมันกว้างเกือบจะถึงใบหูอยู่แล้ว

“ชอบหรือเปล่า”

“ชอบครับ ชอบมากๆ เลย หูย...มันหล่อสุดๆ ไปเลยฮะ” อยากจะจุ้บๆ หนึ่งที แต่ไม่ดี ห่ออื่นยังรอการแกะอยู่

นิรันดร์นั่งมองเด็กหนุ่มแกะของที่ตนเองซื้อให้ เขาเคยซื้อของให้คนรัก เคยเห็นสีหน้ามีความสุขเวลาแกะกล่องของขวัญมานับไม่ถ้วน แต่แปลกที่รอยยิ้มของเด็กคนนี้มันดูสดใสและจริงใจกว่าทุกคนที่เคยเห็นมา มันเป็นความดีใจที่เหมือนกับว่าริทพร้อมกระโดดโลดเต้นไปกับฟิกเกอร์เหล่านี้ได้เลย และเมื่อบับเบิลถูกแกะออกจนหมด ริทก็เอากล่องที่มีตัวละครต่างๆ มาวางเรียงกันตรงหน้า

ยิ้มนั่นน่ะ...จะกว้างไปไหนนะ

นิรันดร์พลอยยิ้มตามไปกับริท ก็เล่นมีความสุขจนล้นปรี่ขนาดนั้น เขาเป็นคนให้จะไม่มีความสุขไปด้วยได้ยังไงล่ะ เมื่อเทียบกับของชิ้นก่อนๆ ที่เขาเคยซื้อให้แฟน สิ่งที่เรียงรายอยู่ตรงหน้าริทตอนนี้มีมูลค่าน้อยกว่าของใครๆ แต่ความสุขที่ริทมีนั้นมากกว่าทุกคนเลย

“ยิ้มแก้มปริแล้ว” นิรันดร์ส่งเสียงเย้า ริทเงยหน้าจากกล่องฟิกเกอร์มาส่งยิ้มหวานจนตาปิดให้

“ผมมีความสุขมากเลยอ่า...มากๆ เลย ผมต้องบรรยายไงอะ ไม่คิดว่าจะได้ขนาดนี้ นี่ถ้าผมเก็บเงินเองยังไม่รู้เลยว่าจะซื้อเซทนี้ได้ครบตอนอายุเท่าไหร่ ผมขอบคุณคุณรันมากนะครับ ผมจะดูแลมันอย่างดีเลย ดีมากๆ มากๆ เลย” เหมือนเด็กเห่อของเล่นจริงๆ ริทเล่นยิ้มกว้างไม่หุบขนาดนั้น

“ริทชอบผมก็ดีใจ”

“ชอบมากเลยล่ะครับ โคตรชอบเลย ชอบแบบ...ชอบสุดๆ ของสุดๆ เลยอะ” นี่สินะที่เรียกว่ามีความสุขมากจนพูดอะไรไม่ถูก นิรันดร์แอบขำกับความใสซื่อนี้

“ว่าแต่...คุณรันรู้จักนารูโตะด้วยเหรอครับ” ปากถามแต่ริทไม่ได้มองนิรันดร์ เขากำลังลูบไล้กล่องซาสึเกะอย่างมีความสุขมากมาย

“ก็รู้จักนะ เคยอ่านอยู่”

“จริงดิ แม่เจ้า...เจ้านายผมโคตรเท่เลย”

“เวอร์น่ะ นารูโตะก็การ์ตูนเก่าพอๆ กับวันพีช ใครบ้างไม่รู้จัก”

“ก็เยอะนะ เพื่อนผมหลายคนไม่รู้จักหรอก บางคนรู้จักแค่ดราก้อนบอลเอง”

“ดราด้อนบอลก็สนุกนะ แต่ภาคหลังๆ มันเวอร์ไปน่ะ”

“คุณรันดร์รู้เรื่องการ์ตูนเยอะนะเนี่ย” ริทเงยหน้ายิ้มหวาน เหมือนเจอเพื่อนที่คุยเรื่องเดียวกันได้ทั้งที่ตอนแรกคิดว่านิรันดร์เป็นนักธุรกิจจ๋า ไม่น่ามาสนใจเรื่องเด็กน้อยพวกนี้

“ไม่เยอะหรอกนะ สมัยก่อนก็อ่านบ้างเป็นบางเรื่อง แต่พอเรียนหนักขึ้นก็เริ่มห่างๆ ไปน่ะ แต่เรานี่...การเรียนไม่ได้ทำให้ห่างหายจากการ์ตูนเลยเนอะ” นิรันดร์เอนกายพิงหัวเตียงขณะมองหน้าเด็กหนุ่มบนพื้นข้างเตียง

“จริงๆ ผมมารู้จักการ์ตูนเยอะๆ นี่ก็ตอนย้ายมาอยู่นี่แหละครับ ตอนอยู่ต่างจังหวัดรู้จักแค่นารูโตะเอง แล้วก็ไม่เชิงว่าหมกมุ่นอยู่กับการ์ตูน เรียนก็ตั้งใจเรียนฮะ การบ้านก็ทำ ช่วยงานแม่ก็ช่วยนะ ยกพวกไปตีกับเพื่อนก็ยังทำอยู่ ฮ่าๆ” ริทหัวเราะปากกว้าง ดูขำขันกับเรื่องที่ตัวเองเล่าซึ่งนิรันดร์ก็พลอยหัวเราะตามไปด้วยเบาๆ

“ถามหน่อยสิ ไอ้ยกพวกตีกันนี่มันได้อะไร ผมเห็นตามข่าวบ่อยๆ ไม่เคยเข้าใจเลย” ริทเอากล่องฟิกเกอร์วางเรียงตามลำดับตัวละครที่ชอบไว้ตรงหน้า เรียบร้อยแล้วก็เงยหน้าสบตากับนิรันดร์ที่ตั้งคำถาม

“ศักดิ์ศรีไงฮะ มันเริ่มจาก...เราโดยฝ่ายนั้นมาใช้คำพูดคำจาหยามก่อน ไม่ก็เจอพวกนั้นเข้ามาหาเรื่องก่อน หลังจากนั้นเราก็จะรวบรวมคนแล้วไปเอาคืน วนเวียนไปแบบนี้แหละฮะ หมดรุ่นนี้ เราก็เสี้ยมรุ่นน้องต่อ แต่ผมไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นอีกฝ่ายหาเรื่องเรานะ บางครั้งทางเราก็ไปหาเรื่องเขา หรือเปล่า? เอาตรงๆ คุณรัน ทุกวันนี้ผมไปตีกับเขาผมยังไม่รู้เลยว่าต้นเหตุจริงๆ มันเป็นเพราะอะไร รุ่นพี่เสี้ยมมาแบบนี้ ไม่ไปก็โดนประณาม ทำนองนั้น” สีหน้าริทมีความงงงวยในเรื่องที่เล่า ออกแนวระอาใจเล็กน้อยเพราะถึงเขาจะเรียนอาชีวะ แต่เขาก็ไม่ค่อยชอบเรื่องต่อยตีนัก

“ดูเป็นอะไรที่ไร้สาระนะ”

“ก็ใช่ครับ ผมคิดว่างั้น”

“เราไปต่อยกับคนอื่นเพราะการ์ตูนก็ไร้สาระพอกันแหละ” นิรันดร์แอบแขวะริทเล็กน้อย ซึ่งคนโดนก็ย่นคิ้ว

“ไม่ดิ เขาหยามคนอ่านการ์ตูนแบบนี้มันยอมไม่ได้!”

“นี่ไง เหตุผลที่คนอื่นยกพวกตีกัน” ย้อนมาแบบนี้ริทก็เถียงไม่ถูก เพราะมันจริงอย่างที่คุณนิรันดร์ว่า

“นั่นสิฮะ แต่ไม่เป็นไร อีกเดือนกว่าๆ ผมก็เรียนจบแล้ว ทีนี้ผมก็ไม่ต้องไปยกพวกตีกับใคร แถมยังได้ทำงานหาเงินซื้อการ์ตูนเองซักที ทุกวันนี้ขอตังแม่ไปซื้อนะ แม่บ่นประจำเลยอะ” ริทบ่นกระปอดกระแปด แต่นิรันดร์มองว่าเด็กคนนี้ก็ดีอย่างที่คิดเองได้ว่าควรทำงานหาเงินเพื่อสิ่งที่ตัวเองชอบ

“จะมาเป็นคนขับรถให้ผมถูกไหม”

“ใช่ครับ”

“แล้วไปหัดขับรถมาเป็นไงบ้าง ลุงช่วยสอนงานเข้าใจไหม”

“ก็ดีฮะ ลุงช่วยสอนงานเข้าใจ แต่ตอนเย็นทีไรลุงแกชวนดื่มทุกทีเลย แล้วจะดื่มทั้งทีต้องสี่สิบดีกรี ผมไม่ไหวง่ะ” หน้าเบ้ๆ ของริทมันตลก นิรันดร์ก็เลยขำ

“งั้นคราวหลังมาดื่มวิสกี้กับผมสิ รับรองว่ารสชาติดีกว่าเหล้าขาวลุงช่วยแน่ๆ” ริทพยักหน้าเห็นด้วย

ทั้งสองคนยังคุยกันเรื่องสัพเพเหระไปตามเรื่อง ริทเป็นคนคุยเก่ง บางทีเขาก็เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ที่ดูจะไร้สาระให้นิรันดร์ฟังตามประสาคนช่างจ้อ ก็เห็นท่าทางผ่อนคลายของคุณนิรันดร์แล้วริทคิดว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ได้รำคาญอะไรตัวเองจึงพูดคุยได้เรื่อยเปื่อย

ก็จริง...นิรันดร์คุยกับริทเพลินจนลืมเวลาไปเลย

กว่าทั้งคู่จะแยกย้ายกันไปก็คุยกันไปร่วมสองชั่วโมง ริทสังเกตเห็นว่ามันดึกแล้วจึงขอตัวกลับห้อง เด็กหนุ่มหอบเอากล่องฟิกเกอร์แปดกล่องกลับห้องตัวเองด้วยสีหน้าแฉ่มชื่น วันนี้ช่างเป็นวันที่มีความสุข เมื่อมาถึงห้องตัวเองก็ไม่วายถ่ายรูปฟิกเกอร์ต่างๆ ลงเฟซบุ๊กตัวเอง เพื่ออวดเหล่าเพื่อนฝูงที่เป็นคอเดียวกันอีก ก็ของดีมีไว้อวดหนิหนา

นิรันดร์เปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากนั่งคุยกับริทในผ้าขนหนูผืนเดียว เขาหยิบมือถือขึ้นมาเช็กข่าวสารตามปกติก่อนจะเข้านอน ระหว่างที่เผลอเข้าเพจขายของเกี่ยวกับการ์ตูนเขาก็เห็นการแนะนำเพื่อนซึ่งมันเป็นภาพของริท นิรันดร์ไม่ลังเลที่จะกดเข้าไปแอดเพื่อน เด็กหนุ่มรับแอดอย่างไว คงกำลังเล่นเฟซบุ๊กอยู่ นิรันดร์ถือโอกาสนี้ส่องเฟซเด็กหนุ่มจนได้เห็นว่าเจ้าตัวเอาฟิกเกอร์ที่ตนซื้อให้ไปอวดอยู่เต็มเฟซไปหมด

เห่อขนาดไหนไม่ต้องถามเลยล่ะ เพื่อนๆ เข้ามาอิจฉากันเต็มไปหมด มีคนถามด้วยว่าได้มาได้ยังไง ใครซื้อให้ ริทตอบเพื่อนคนนั้นว่ามีป๋าซื้อให้ นิรันดร์เผลอขำ ป๋าเนี่ยนะ...นี่เขาดูแก่จนกลายเป็นป๋าแล้วเหรอ

แต่ก็ไม่แย่นะ...ถ้าริทยอมให้เขาเปย์ เขาเป็นป๋าให้ริทก็ได้

นิรันดร์คิดกับตัวเองขำๆ เขากดหัวใจให้กับโพสต์และคำตอบนั้นก่อนจะปิดมือถือแล้วนอนอย่างมีความสุข นิรันดร์รู้สึกว่าที่เขามีความสุขมากขนาดนี้เพราะคนรับของที่เขาให้ไปนั้นพึงพอใจกับมันมากทั้งที่มันก็ไม่ใช่สิ่งของที่มีมูลค่ามากมายอะไรเลย

นี่ถ้า...สั่งทำแบบลิมิเตดมาให้ริทจะแฮปปี้ขนาดไหนนะ?

ก็แค่คำถามที่นิรันดร์ตั้งขึ้นเอาไว้ในหัวเท่านั้น รุ่งเช้าวันต่อมา ที่บริษัทมีปัญหาจนเขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เขาต้องวิ่งวุ่นเคลียร์งานที่บริษัทจนดึกดื่น ไม่วายยังต้องไปงานเลี้ยงสังสรรค์ทั้งที่ไม่อยากไป

นิรันดร์เข้าสู่วงจรงานเยอะเหมือนเคยอีกแล้ว เขากลับบ้านดึกเกือบเที่ยงคืนแทบทุกวัน ตื่นตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพื่อจะเข้างานให้ทันก่อนเก้าโมง เสาร์อาทิตย์จากที่คิดว่าจะลงไปหยอดเด็กเล่นให้กระชุ่มกระชวยหัวใจก็พบว่าริทไม่อยู่บ้าน ถามจากหัวหน้าแม่บ้านก็รู้ว่าริทไปหัดขับรถกับลุงช่วย ตอนเย็นไปติวหนังสือบ้านเพื่อนอีก

ริทกำลังจะเรียนจบแล้วนี่นะ...

ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง นิรันดร์จะเห็นความเคลื่อนไหวของริทก็ต่อเมื่อเขาเข้าเฟซบุ๊กเท่านั้น ริทมักจะโพสต์ทุกวัน แชร์การ์ตูนบ้าง แชร์เพลงบ้าง หรือไม่ก็อัปรูปลีมูซีนที่ตัวเองไปหัดขับในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา

สิ่งหนึ่งที่นิรันดร์ไม่เห็นริทโพสต์เลยคือเรื่องเกี่ยวกับแฟน สถานะในเฟซเป็นโสด ไม่มีแชร์เกี่ยวกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ คำคมชอกช้ำอะไรพวกนี้ไม่ต้องหาเลย มีแต่คำคมนารูโตะเนี่ยแหละ ช่างเป็นเด็กที่หมกมุ่นกับการ์ตูนจริงๆ

ยิ่งใกล้สอบมากเท่าไหร่ เวลานอนยิ่งน้อยลงมากเท่านั้น นี่เป็นแค่สายอาชีพนะไม่ใช่พวกเรียนมหาลัย ริทยังต้องเรียนหนักขนาดนี้เลย ไอ้สอบภาคปฏิบัติไม่กลัวหรอก กลัวสอบข้อเขียนเนี่ยแหละ คำตอบไม่แน่นอน แล้วตอบยังไงให้ถูกใจอาจารย์ ทางที่ดีคืออ่านให้เยอะๆ และทำความเข้าใจกับมันให้มากที่สุด เวลาต้องตอบคำถามจริงๆ มันจะได้ไม่ยากเกินไป

ใกล้สอบวันหนึ่งริทโพสต์ว่าพรุ่งนี้แล้ว...ขอให้ผ่านทีเถอะ

นิรันดร์เห็นโพสต์นี้ในตอนที่เขาแยกตัวมาเอาเครื่องดื่มขณะอยู่ในงานปาร์ตี้สังสรรค์ เพื่อนๆ ริทเข้าไปอวยพร บ้างก็บอกว่ากูก็ภาวนาเช่นกัน นิรันดร์แปลกกว่าคนอื่น เขาไม่คิดว่าตัวเองจะตอบอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่มันอดไม่ได้

‘ถ้าสอบผ่านอยากได้อะไรจะซื้อให้’

ริทเข้าไปเห็น เจ้าตัวกดหัวใจให้คอมเมนต์ของนิรันดร์ก่อนจะตอบกลับว่า ‘ผมไม่ต้องการอะไรนอกจากผ่านทุกวิชา’ ตามด้วยอิโมชั่นยิ้มพร้อมน้ำตา จากนั้นริทก็ปิดหน้าจอมือถือเพื่ออ่านหนังสือทวนอีกรอบ โหย...พรุ่งนี้ไม่ต่างอะไรกับวันตาย อย่างน้อยๆ การอ่านนี่ก็จะเพิ่มอัตราการรอดของเขาได้บ้างอะน้า

….100%….

ในขณะที่ริทกำลังพยายามที่จะสอบให้ผ่าน เราน้านกำลังพยายามเคลียร์งานที่ทำงานให้เสร็จเช่นกาน จิบอกว่าสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ งานจิเยอะไปไหนค้าหัวหน้าาาาาา (ใช่เวลาโอดครวญไหมเนี่ย?)

ถึงเราจะไม่ว่าง แต่ก็หวังว่าจะมีคนคอยติดตามต่อไปนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งเรานะ เราปั่นอยู่~
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 02-11-2018 23:23:48
ริทเตรียมสอบ คนอ่านก็เตรียมสอบเช่นกันค่ะ แต่แวปมาอ่านก่อน อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-11-2018 10:28:18
คราวหน้าป๋ารันจะเปย์อะไรให้น้องริทอีกนะ สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-11-2018 12:56:34
ค่อยเป็นค่อยไป

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: aha_aha ที่ 03-11-2018 14:16:07
รอวันที่ป๋าจะได้เปย์จริงๆสักที 555
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: lemonphug ที่ 03-11-2018 16:28:24
คุณรันนี้สายเปย์เหมือนคุณอีธานเลย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 04-11-2018 07:51:23
อื้อหือ ต้องตาต้องใจกันขนาดนี้
ไม่น่าจะรอดนานนะริท

คุณรันนี่สายเปย์มากนะ ทุ่มเทเบอร์นี้
ถึงขั้นจะสั่งทำเฉพาะให้เลยหรอ

นี่ขนาดยังไม่ค่อยได้เจอกัน
คุณรันใจยังร่ำๆ จะอยากเจอ
ถ้าเป็นลิโมบอยเต็มตัว ริทจะรอดไหม
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 04-11-2018 23:39:46
เปย์เก่งมากจ้ะคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 06-11-2018 09:24:36
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 3 - 100% [02-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 06-11-2018 10:31:48
รอดูสายเปย์ :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 08-11-2018 22:43:36
>….ตอนที่ 4 [100%]….<

การสอบผ่านพ้นไปได้...อยากบอกว่าด้วยดีแต่ก็ไม่แน่ใจว่าดีไหม ผลสอบยังไม่ออก ตอนนี้เป็นการอยู่บ้านที่ลุ้นละทึกยิ่งกว่านารูโตะตอนต่อไปจะเป็นยังไงเสียอีก ช่วงนี้ริทอ่านการ์ตูนเรื่องอื่นฆ่าเวลาไปพลางๆ ไม่ก็ดูการ์ตูนจากในยูทูปแทนไปเรื่อยเปื่อย ด้วยความที่ยังไม่ได้ทำงานกับคุณนิรันดร์อย่างเป็นทางการเขาก็เลยว่างมากเป็นพิเศษ งานแม่บ้านเขาก็ช่วยจนไม่มีอะไรจะให้เขาทำแล้ว ถึงขั้นแม่บ่นว่าถ้าเขาจะทำมากกว่านี้ก็นู้น...ทำอาหาร นั่นทำให้ริทต้องโบกมือบ๊ายบาย

แกร่วอย่างนั้นไปสามวัน ลุงช่วยมาบอกให้เขาเอาลีมูซีนไปหัดขับที่สนามเดิม โดยจะมีผู้ฝึกสอนเฉพาะทางมาฝึกให้ทุกวันจะได้คล่องเร็วๆ ซึ่งการไปหัดขับรถนี้เป็นคำสั่งจากคุณนิรันดร์นั่นเอง ทีนี้ในแต่ละวันริทก็ไม่ว่างอีกต่อไป

กระทั่งผลสอบออก เพื่อนต่างโพสต์หน้าเฟซอย่างเศร้าใจที่สอบตกในบางวิชา ส่วนริทน้าน...ผ่านแบบเส้นยาแดงผ่าแปด คือถ้าได้น้อยกว่านี้อีกคะแนนเดียวเท่ากับตก เจ้าตัวถึงกับกระโดดไชโยตัวลอยอยู่ในห้องก่อนจะโพสต์เยาะเย้ยเพื่อนตนเอง

เล่นเอาเพื่อนๆ หัวเสียกันใหญ่!

เย็นวันรู้ผลสอบ ริทแต่งหล่ออกจากบ้านเนื่องจากเพื่อนของเขาชวนไปปาร์ตี้ อันที่จริงริทรู้แหละว่าเพื่อนกำลังแค้น ค่ำคืนนี้เขาอาจโดนเพื่อนมอมจนเมาเป็นหมาและไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ แต่ไม่ต้องห่วง การเป็นเด็กผู้ชายเรื่องเมามายมันเป็นของคู่กัน

ริทไม่ลืมที่จะบอกแม่ไว้ว่าวันนี้เขาอาจจะไม่ได้กลับบ้านเพราะไปฉลองกับเพื่อน แม่ฟังแล้วก็บ่นๆ เวลานี้ห้ามเดินหนีเด็ดขาด ไม่งั้นคุณจะพลาดแบงก์สีแดงๆ ที่แม่ยื่นมาให้หลังบ่นเสร็จ อิอิ นี่แหละแม่...ถึงจะบ่นถึงจะว่าแต่ก็ให้เงินตลอด

“กว่าจะเสด็จมาได้นะมึง” เพื่อนริทคนหนึ่งเข้ามากอดคอ ตรงหน้าเป็นร้านเหล้าชิวๆ เปิดเพลงฟังสบาย กลุ่มริทเลือกจะนั่งชั้นสองของร้านซึ่งมันเปิดโล่ง อากาศดีๆ กับเสียงเครื่องบินผ่านไปมา

“กูไม่ได้นั่งๆ นอนๆ เหมือนพวกมึงนะครับ” ริทผลักหัวเพื่อนก่อนจะนั่งริมสุด ติดกับราวรั้วระเบียง สามารถมองเห็นเวทีสำหรับนักร้องชั้นล่างได้

“แต่ก็ดีนะเว้ย นี่ได้วุฒมามึงก็ได้งานทันที พวกกูดิยังไม่รู้เลยว่าจะไปทำงานที่ไหน รุ่นพี่แม่งให้ไปสมัคเป็นช่างอยู่ร้านเจเจมอเตอร์แถวซอยบ้านมึงอะ” เพื่อนเขาแต่ละคนมีเป้าหมานเป็นร้านซ่อมรถเสียส่วนใหญ่ อีกส่วนหนึ่งก็จะเข้าไปทำงานโรงงาน แต่ก็อยู่ที่ว่าจะสมัคได้ไหมเท่านั้นแหละ

“ก็นะ พอดีกูแม่งโชคดีอะ” ก็โอ้อวดกันไป

“โชคดีได้งานไม่พอ โชคดีไม่สอบตกด้วยนะมึง ฮ่าๆ” เจ้าตัวทับถมลงไปอีก พร้อมทั้งหัวเราะเอิ้กอ๊ากสุดปาก แต่ไม่ได้สุดเสียง ยังมีความเกรงใจคนอื่นอยู่บ้าง

“โทษฐานที่มึงทิ้งเพื่อนสอบผ่านอยู่คนเดียว มึงต้องโดนไอ้ริท” นั่นไง เพื่อนเขาเริ่มแล้ว เหล้าเพียวถูกใส่มาเต็มแก้วน้ำ แค่เห็นก็....ขนลุกไปทั้งตัว!

“เหี้ย โหดไป!!!”

“ไม่สน ไม่หมดพวกกูจะทิ้งมึงให้จ่าย” แล้วทุกคนก็ช่างพร้อมใจกันกดดันเขา จริงๆ นี่เตรียมการเป็นอย่างดีเลยสินะ เขาไม่น่ามาช้าจะได้รู้ถึงแผนการ เอ๊ะ หรือว่าต่อให้มาก่อนก็ไม่สามารถทำอะไรได้วะ

ฮื่อ...ร้องไห้

ริทไม่มีทางเลือก เขาจำต้องดื่มแก้วนี้ให้หมด ดีที่ไม่ต้องซัดโฮ้กรวดเดียวหมดแก้วไม่งั้นจะอ้วกแทนเมา เพื่อนใจดีมาก ให้เขาค่อยๆ ดื่มได้ แต่จนกว่าจะหมดแก้วนี้ห้ามดื่มน้ำและกับแกล้มที่ถูกสั่งมาเด็ดขาด โอ้ย อยากลุกไปตบกะบาลเพื่อนเรียงตัวจริงๆ ติดที่ถ้าตบเรียงตัวไปแล้วเขาอาจจะโดนตบกลับหนักกว่าที่ได้กระทำลงไปมาก

กว่าจะกินหมดแก้วได้ก็ผ่านไปสามเพลงแล้ว ในที่สุด ริทดื่มน้ำเปล่าได้สักที กระอักกระอ่วนจะแย่ แถม...มึนแล้ว อย่านะ อย่าว่าเขาคออ่อน ใครไม่โดนเหล้าเพียวหนึ่งแก้วถ้วนอย่างเขาไม่มีทางเข้าใจ  ที่สำคัญไม่ได้กินข้าวมาด้วย เรียกว่าท้องโคตรว่าง

วิธีการกินเหล้าไม่ให้เมาเร็วคือ อย่าดื่มเยอะ ฮั่นแหนะ พวกบอกอันนี้รู้อยู่แล้วปะวะ หมายถึงอย่ายกเร็วน่ะ ค่อยๆ จิบไปเรื่อยๆ ชงอ่อนๆ หรือกินข้าวมาก่อน การมีอาหารรองอยู่ในท้องจะทำให้แอลกอฮอล์มันซึมผ่านผนังกระเพาะไปได้ยากยิ่งขึ้น เป็นไง ดูเชี่ยวชาญไหม ก็นะ...เขาดื่มบ่อย

“ว่าแต่เจ้านายที่มึงต้องไปขับรถให้นี่เขานิสัยดีปะวะ” คุยไรไปเรื่อยแล้ววนมาที่เรื่องนี้ ริทผู้มีแก้มแดงๆ กำลังชงเหล้าให้ตัวเอง

“เท่าที่เจอกับตัวก็ดีอะ หุ่นดีด้วยมึง โคตรน่าเสียตัว”

“อย่ามาเกย์แถวนี้ไอ้เหี้ย!” เพื่อนปาน้ำแข็งใส่หัวเขา ขณะที่คนพูดนั้นเอาแต่หัวเราะ

“เขานิสัยดี คนที่ซื้อฟิกเกอร์ให้กูไง ที่กูบอกว่าป๋าซื้อให้” ริทเล่าแบบดีๆ ให้เพื่อนฟัง

“อ๋อ ป๋าจริงวะ งี้มึงไม่ถวายตัวให้เขาไปเลยเหรอ”

“ถวายแล้วเขาไม่เอา ฮ่าๆ” แล้วก็ขำกร๊ากต่อ เพื่อนๆ เองก็พากันหัวเราะกับความเล่นมุกใต้สะดือนี้

ริทโชคดีที่เพื่อนเขาแต่ละคนไม่ได้รังเกียจในเรื่องรสนิยมทางเพศ อาจเพราะริทเองไม่ได้มีท่าทีตุ้งติ้งอะไร ก็ยังแมนๆ ยกพวกตีกับคนอื่นไปเรื่อย เจ็บไหน เจ็บกัน อีกทั้งเรียนร่วมกันมาตั้งหกปี มันเลยซี้กันเกินกว่าจะมากลัวว่าเพื่อนคนนี้จะจับตนเองสอยตูด

เอิ่ม...เพื่อนเขาไม่น่าเอาสักคนอะนะ

ผู้ที่สอบผ่านเป็นเป้าหมายอันโอชะของเหล่าฮายีน่าผู้น่ากลัว ริทโดนเพื่อนแกล้งมอมเหล้าจนเริ่มเมามายทั้งที่ยังไม่ถึงเที่ยงคืนเลยด้วยซ้ำ พอร้านปิดริทก็แทบไม่มีสติสตางค์แล้ว เพื่อนที่แสนดีทั้งหลายก็ต้องแบกริทกลับไปยังบ้านใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนี้กลายเป็นที่นอนของเหล่าขี้เมาทั้งหลายแหล่

คิดว่าการมอมเหล้าริทคือจุดพีคของเรื่องแล้ว บอกเลยว่าไม่! งานนี้ริทโดนรังแกเสียจนน่าสงสาร พอมาถึงบ้าน ริทเริ่มมีสติสตางก์ เพื่อนก็เอาอีก มอมเหล้าต่อทั้งยังชวนกันเล่นเกมต่างๆ นาๆ ท้ายที่สุดคนเมาจนรั้งสติตัวเองไม่อยู่ก็กลายเป็นผู้แพ้และถูกถ่ายรูปที่นอนหมดสภาพอัปเฟซ

เพื่อนคนหนึ่งถ่ายรูปริทที่ไม่ได้ใส่เสื้อด้วยมือถือของริท จากนั้นอัปเฟซ แฮชแท็กตัวโตๆ ว่า...ป๋าครับผมเมา ตามด้วย ปล.สอบผ่านทิ้งเพื่อนเอ็งต้องโดน หลายคนเข้ามาคอมเมนต์สงสารริท บ้างก็บอกว่าเพื่อนริทใจร้าย ซึ่งมันก็คือคนที่เรียนโรงเรียนเดียวกันและเป็นเพื่อนๆ กันนี่แหละ ต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าริทโดนเพื่อนในกลุ่มแกล้งเอา

ขณะที่เพื่อนริทยังไม่เมาและไม่หลับกำลังไล่ตอบคอมเมนต์ด้วยมือถือของริทอยู่นั่น สายเรียกเข้าที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขึ้น มันเป็นชื่อภาษาอังกฤษ อ่านจากดวงตาลายๆ แล้วรู้สึกว่ามันจะเป็น...นิรันดร์

“ครับ ผมเพื่อนริท” เพื่อนริทที่รับสายแนะนำตัว

(ตอนนี้ริทอยู่ที่ไหน ส่งโลเคชั่นให้ผมหน่อย)

“เอ่อ...คุณเป็นใคร”

(ไม่เกี่ยวกับคุณ บอกผมมา ผมจะไปรับริท)

“มึงๆ ใครไม่รู้โทรมาวะ บอกว่าจะมารับมึงอะ” ความเป็นเพื่อนมันน่าถีบมาก ริทเมาจนเสียงอ้อแอ้แล้วยังจะถามอีกว่านี่ใคร

“ป๋ากูมั้ง” แต่ริทก็ยอมตอบทั้งที่ป๋านี่คือใครก็ไม่รู้

“อ๋อ เออๆ ฮัลโหล...เดี๋ยวผมส่งโลเคชั่นให้ในข้อความนะครับ”

(เร็วๆ)

“ครับๆ” เพื่อนริทจัดการส่งโลเคชั่นให้อีกฝ่ายตามคำขอ หลังจากนั้นก็หันมามองริทที่หลับอยู่ตรงพื้น

หลับแบบ...หลับจริงจังจริงๆ นะ

เหล่าคนเมาก็คือเหล่าคนเมา พวกยังเฮฮาต่อไปแม้ว่าเพื่อนคนใดคนหนึ่งจะหมดสภาพนอนหลับคาพื้นบ้านไปแล้วเรียบร้อยก็ตาม แถมยังหลับแบบไม่ได้ใส่เสื้ออีกต่างหาก ก็เหล้ามันหกใส่ หนาวเลยถอดทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ

เสียงเฮฮาต่อเนื่องมาราวชั่วโมงเศษ จู่ๆ เสียงกระดิ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้นทำให้ทุกอย่างชะงักลง บางคนมีสติก็เดินออกไปเปิดประตู กะจะแซวว่ามาเก็บค่าส่วนกลางเหรอ แต่พอดีว่าคนที่มากดกริ่งนั้นอารมณ์ไม่เล่นด้วยจนเด็กหนุ่มที่เมายังรู้สึกตัวได้

“ผมมารับริท” นิรันดร์บอกเสียงเข้ม เขามองเด็กหนุ่มคนนี้ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยความไม่พอใจ

นิรันดร์เห็นโพสต์ของริทตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วที่ว่าสอบผ่าน เขาไปหาดูของขวัญที่จะเอามาให้ริทโดยส่องในเพจขายของต่างๆ ระหว่างนั้นก็ต้องเดินทางไปทำงานและสังสรรค์ตามนัด กว่าอะไรๆ จะเสร็จเรียบร้อยดีก็ปามาเที่ยงคืนกว่าได้แล้ว

ร่างสูงกำลังเดินเข้าบ้านด้วยอาการอ่อนเพลีย เมื่อมาถึงห้องก็โยนมือถือทิ้งไว้บนที่นอน กะจะอาบน้ำแล้วมาหลับให้สนิทจนถึงเช้า ทว่าหน้าจอมือถือของเขาดันสว่างวาบขึ้นมาพร้อมแจ้งเตือนว่ามีการอัปเดตรูปของริท นิรันดร์เลื่อนไปเปิดดู ริทในสภาพที่นอนถอดเสื้อบนพื้นไม่มีสติทำให้เขาเป็นห่วง อีกทั้งแฮชแท็กทำให้รู้ว่าริทโดนเพื่อนแกล้ง

เป้าหมายในการอาบน้ำนอนหมดไป นิรันดร์เกิดความเป็นห่วงริทอย่างมาก เขารีบคว้ามือถือและเดินไปเอากุญแจรถขณะโทรหาริทไปด้วย ยิ่งเสียงคนที่รับสายอ้อแอ้ พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างยิ่งเป็นกังวล เขาเกือบเหยียบคันเร่งจมเท้าเพื่อจะไปให้ถึงที่หมายให้เร็วที่สุด

นิรันด์ไม่ตั้งคำถามอะไรกับตัวเองทั้งนั้น เป็นห่วงก็คือเป็นห่วง เดินเข้ามาในบ้านที่มืดมิดแล้วยิ่งรู้สึกไม่โอเคเข้าไปใหญ่เลย ที่นี่เหมือนแหล่งมั่วสุมมากๆ แล้วริทก็นอนมันท่ามกลางขวดโซดาและเหล้า อยากจับตีให้เลิกเที่ยวกันเลย

คอยดูนะ ถ้าได้ทำงานกับเขาเมื่อไหร่ เขาจะไม่ให้ริทว่างมาทำตัวแบบนี้เลย!

นิรันดร์แย่งมือถือเคสลายนารูโตะมาจากเพื่อนของริท ตามด้วยเอาเสื้อริทพาดบ่าแล้วอุ้มริทเดินออกไปมา ท่าทางเอาเรื่องของเขาน่าหวั่นจนเพื่อนริทแต่ละคนไม่กล้าแม้แต่จะตั้งคำถาม

บ้านลังใหญ่เวลานี้มืดมิด มีเพียงยามหน้าบ้านเท่านั้นที่ยังตื่นทำงานอยู่ นิรันดร์ไม่สนใจ เจ้าตัวขับรถไปจอดไว้ที่โรงรถแล้วอุ้มริทเข้าไปส่งที่ห้องของริทเอง โดยตลอดระยะทางกลับบ้าน เขาเอาริทนอนไว้เบาะหลัง เอาเสื้อริทเองคลุมกายร่างโปร่งเอาไว้เพื่อกันหนาว

ร่างกายขาวผ่องของริทกำลังแดงจัด นิรันดร์เพิ่งจะเห็นมันได้ชัดๆ หลังเอาริทวางลงบนเตียงในห้องนอนก่อนเปิดไฟ ในห้องริทเต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูน ตุ๊กตาตัวการ์ตูนที่ริทชอบ และยังมีเครื่องประดับจากการ์ตูนอีกหลายต่อหลายชิ้น ที่โดดเด่นคงจะเป็นฟิกเกอร์ที่เขาซื้อให้ มันอยู่ในกล่องของมัน แถมถูกเรียงไว้อย่างสวยงาม

“อื้อ...” เสียงครางแผ่วดังขึ้น นิรันดร์ละสายตาจาการสำรวจห้องเล็กๆ ของเด็กหนุ่ม เดินไปนั่งข้างริทบนเตียง

เรียวนิ้วไล้ตั้งแต่แก้มร้อนผ่าวแดงซ่านของเด็กหนุ่มไปจนถึงลำคอ คนเมาขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างกำลังแตะต้องตัวเอง ริทเอื้อมมือมาคว้าสิ่งนั้นเอาไว้ มันไม่ต่างอะไรกับเอามือนิรันดร์ไปกุมเท่าไหร่นัก แต่นิรันดร์ไม่สน มืออีกข้างยังว่าง

“อื้อ!” ยอดอกสีน้ำตาลอ่อนโดนสะกิด ริทสะดุ้งและส่งเสียงครางเบาๆ ในลำคอ

รู้ไหม...นั่นทำให้นิรันดร์ได้ใจ

นิรันดร์กดนิ้วลงไปอีก เพิ่มความรุนแรงอีกหน่อยตามด้วยสะกิดมันรัวๆ คนเมาก็ได้แต่ขยับกายไปตามความรู้สึกที่ถูกปลุก ในมโนสำนึกคิดว่าเพื่อนกำลังแกล้ง ริทก็เลยอยากจะปัดมือนั้นออก ทว่าเรี่ยวแรงน้อยนิดอย่างนี้แม้แต่ยุงสักตัวริทก็ฆ่ามันไม่ได้หรอก

“อย่า” เสียงห้ามกระเส่า แต่ยิ่งห้ามมันก็เหมือนยิ่งยุมากกว่า

“อื้อ อ๊ะ..ไอ้เพื่อนเลว กูบอกว่าอย่าไงวะ” ตั้งใจจะพลิกกายนอนคว่ำเพื่อให้เพื่อนในฝันแตะต้องหัวนมเขาไม่ได้อีก แต่นิรันดร์แค่ออกแรงกดแผ่นอกของริทเอาไว้ ริทก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

“เพื่อนเขาเล่นกันอย่างนี้เหรอริท” นิรันดร์ก้มลงไปถาม กลิ่นกายเด็กหนุ่มในเวลานี้มีแต่กลิ่นเหล้าเต็มไปหมด ยอมรับว่าเหล้าพวกนนี้มีกลิ่นที่ไม่จรรโลงใจเลย

“ฮ่า...ซี้ด...พอแล้ว” ได้ นิรันดร์เลิกกัดหัวนมน้อยๆ นี่ก็ได้ แต่เขาไม่หยุด เขาไล้นิ้วไปที่กลางแผ่นอกช้าๆ จากนั้นลากยาวจนไปถึงสะดือ วนมันรอบหนึ่งแล้วก็เลื่อนลงไปต่ำกว่านั้น

เสียงหายใจของริทเต็มไปด้วยอารมณ์วาบหวาม เขาก่นด่าเพื่อนแกล้งได้เลวร้ายมาก ด่าแบบ...คนฟังอย่างนิรันดร์ยังฟังไม่เข้าใจเลย จากนิ้ว กลายเป็นฝ่ามือ นิรันดร์ยังวนเวียนลูบไล้ร่างกายร้อนผ่าวของริทด้วยความอยากแกล้ง

แกล้งเหรอ เรียกว่าลงโทษเด็กนิสัยไม่ดีจะดีกว่า!

ด้วยความที่อารมณ์ตอนนี้มันเตลิดแล้ว ริทพยายามปัดมือนั้นออก ซึ่งทำยังไงก็ไม่ออกไปเสียที เขาก็เลยปลดตะขอกางเกงของตัวเองออก นิรันดร์มองภาพคนเมาล้วงมือเข้าไปในกางเกงยีนส์ขายาวของตัวเองด้วยรอยยิ้ม ดูซิ ริทตัวน้อยของเขากำลังจะทำอะไรกันแน่

ก็...ไม่ต่างกับที่คิดไว้มาก

“เพื่อนเหี้ย” ริทยังด่า ในขณะที่เจ้าริทน้อยโพล่ออกมารับอากศข้างนอกเป็นที่เรียบร้อย

นิรันดร์รู้สึกได้เลยว่าเขาเองก็อยากตามไปด้วย เห็นริททำร้ายตัวเองพร้อมครางเบาๆ มันเร้าใจยังไงบอกไม่ถูก แต่เขาก็ไม่ได้แตะต้องส่วนอ่อนไหวของริท แค่มองมือขาวๆ จับตนเองขยับขึ้นลง เสียงริทเร่าร้อนยิ่งขึ้น ปลุกความดิบในร่างกายของเขามากกว่าเดิมจนมันเริ่มพองขับกางเกง

เขาไม่ทำอะไรมากไปกว่าการเล่นยอดอกสีคล้ำของริท ดวงตาจับจ้องฝ่ามือน้อยทำร้ายตัวเองพร้อมกวาดมองไปทั่วเรือนร่างของริทอย่างเพลิดเพลิน แผ่นอกสะท้อนขึ้นลงรุนแรง ร่างกายของริทกำลังแอ่นขึ้นเบาๆ เมื่อเจ้าตัวใกล้ถึงเต็มที

“ซี้ด...อะ...อ่าห์” ในที่สุดริทก็รีดเอาความต้องการออกมา จากนั้น...นอน

“หึ” นิรันดร์นึกอะไรสนุกๆ ได้ เขาเอามือถือของริทมากดถ่ายรูป

เหล่าหยาดน้ำสีข้นขลักบนหน้าท้องขาวผ่องถูกบันทึกภาพเอาไว้ จากนั้นนิรันดร์ก็กดส่งภาพนั้นมาที่กล่องข้อความของตัวเอง ถึงเห็นอะไรไม่มาก แค่นี้ก็หวิวได้ใจ เขาสำรวจเด็กน้อยอีกหน คิดอยู่ว่าควรจะทำความสะอาดให้ริทหรือปล่อยให้ริทนอนหมดสภาพอย่างนี้ต่อ

พอนึกว่าเขาจะแกล้งริทได้มากกว่าถ้าทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เขาก็เลยจำใจปล่อยเด็กหนุ่มนอนไปทั้งอย่างนั้น ก่อนจะออกจากห้อง...นิรันดร์แอบชิมเหล้าในโพรงปากเล็กของริทไปนิดหนึ่ง รู้สึกได้เลยว่า...เหล้าขมแต่เมาจริง

นิรันดร์อาบน้ำถูตัวฟอกสบู่เรียบร้อย เขาควรตนอนหลังจากภารกิจนี้ ทว่ามีอีกหนึ่งภารกิจที่แทรกเข้ามานั่นก็คือการเอาของตัวเองออกบ้าง ระหว่างที่ปลายนิ้วของตัวเองขยับเคลื่อนไหวไปตามความต้องการ ในหัวของเขาเต็มไปด้วยสีหน้าเร้าอารมณ์ของเด็กหนุ่ม แล้วเขาก็ปลดปล่อยด้วยภาพที่ริทกำลังครางสะท้านตอนเสร็จกิจ
**___**
“ชิบหาย!!!” นั่นคือคำแรกหลังมีสติ ตามมาติดๆ ด้วยอาการปวดหัวจี๊ดเหมือนมีเข็มทิ่มแทงสมองอยู่

ริทลูบหน้าตัวเองเบาๆ นอนนิ่งครู่ใหญ่แล้วค่อยลุกขึ้นนั่ง แต่มันโหวงเนอะ...เหมือนร่างกายมันโล่งแปลกๆ จนตื่นเต็มตาถึงได้เห็นว่าตัวเองอยู่ในสภาพไหน ชิบหายยิ่งกว่าชิบหาย คราบน้ำบนหน้าท้องนี่มัน...บ้าเอ้ย!

“เพื่อนเลว ไอ้เหี้ย...ไอ้เพื่อนเหี้ย!” ความแฮงก์ไม่อาจทำอะไรริทได้ เจ้าตัวคว้ามือถือขึ้นมาเพื่อนจะส่งข้อความไปด่าเพื่อน

แล้วที่หนักกว่าชิบหายสองรอบที่ผ่านมากคือ...หน้าจอค้างไว้ที่กล่องข้อความคุณนิรันดร์!

ริทตาเหลือก ภาพที่เด่นหราในกล่องข้อความมันหน้าท้องเขากับน้ำ...น้ำ...น้ำไอ้นั่น ฮื่ออออ ชีวิตกูบัดซบเหลือเกิน จะลบก็ไม่ทัน เพราะคุณนิรันดร์อ่านแล้วส่งเครื่องหมายคำถามมา เขาต้องตอบว่าอะไรวะ ตอบว่าเพื่อนแกล้งครับ แกล้งแบบไหนส่งนมข้นใส่เจ้านายแบบนั้นเนี่ย

น้ำตาจะไหล...

กูจะร้องไห้ ฮื่อ

ตรึ๊งๆ ๆ ๆ

ตามมาด้วยการแจ้งเตือนคอมเมนต์ มันบอกว่ามีใครบ้างมาคอมเมนค์ภาพของเขา ริทกดเข้าไปดูแจ้งเตือนก่อนจะทิ้งร่างลงกับที่นอน มือถือตกอยู่ข้างตัวพร้อมกับคำที่ว่า...กูไม่น่าตื่นขึ้นมาเลย

เพื่อนเหี้ย!!

แค่สอบผ่านเอง แค่ดีเกินหน้าเกินตาพวกมันต้องทำแบบนี้กับเขาเชียวหรือ โคตรเศร้าเลยให้ตายดิ ริทนอนน้ำตาตกในอยู่ห้านาที จากนั้นเขาฮึ้ดขึ้นมาโทรหาเพื่อนตัวการทันที คนที่รับสายก็ยังไม่ตื่นแต่ตอบกลับ

“ไอ้เหี้ย!!!” เออ คนรับไม่มีทางไม่งงอะ

(ไรวะ ตื่นมาก็มาด่ากู ป๋ามึงเยดุเกินไปเหรอ)

“ป๋าเยดุบ้านพร่องมันเนยสิสัส พวกมึงแม่งแกล้งกูได้เหี้ยมาก มึงถ่ายรูปกูน้ำแตกส่งไปให้คุณนิรันดร์ทำเหี้ยไรวะ” ภาพที่โพสต์มันน่าโกรธจริง แต่คนอื่นรู้ไงว่าเพื่อนแกล้ง มันไม่ใช่ครั้งแรกหรอก รู้ด้วยว่าถ้าเมาเท่ากับพลาดแล้ว แต่ที่ส่งไปในข้อความนั่นน่ะไม่โอเค

(ฮะ? บ้า…กูแค่อัปเฟซ แล้วป๋าไรมึงก็มารับมึงกลับบ้าน ไม่เอะใจเลยไงตื่นมาบนที่นอนน่ะ โอะ มึงเมาแล้วว้าวเองเปล่า มึงทำตัวเองอย่ามาด่าพวกกูนา)

“กูไม่เชื่อ!”

(ไปถามป่ามึงดิ) แล้วเพื่อนก็ตัดสายเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี

บัดซบ นี่เขาส่งน้ำว้าวให้คุณนิรันดร์เนี่ยนะ โอ้ม่าย...จิตใต้สำนึกกูมันบัดซบเกินไปแล้ว!

….100%….

เด็กเมาคือของหวานของนิรันดร์ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 08-11-2018 23:33:57
คูมนิรันนนนนนนนนนนน แกล้งน้องอ้ะ //ตบตี  :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 09-11-2018 04:33:27
ป๋ารันแกร้าย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-11-2018 05:49:02
ริทเอ้ยยย ถ้ามีรอยบนตัวนี่ไม่ยิ่งงงไปใหญ่หรอ

คุณรันนี่ร้ายนะคะ รังแกคนเมา แล้วดูสิ เนียนขนาดไหน
ตอบอินบอกซ์ตัวเองได้ด้วย ไม่ธรรมดานะคนเรา

หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 09-11-2018 08:34:57
ฮึ้ยๆ ริทน้ำแตกแล่วววว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-11-2018 09:22:08
โดนเล่นแล้วน้องงง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-11-2018 12:06:17
หลอกน้อว หน่อววว

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 09-11-2018 22:03:52
โอ้ยยยย น้องโดนรังแกอ่ะ ทำไมคุณรันร้ายอย่างนี้ จะไปฟ้องคุณตำรวจจจจจจ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-11-2018 02:43:09
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 4- 100% [08-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: lemonphug ที่ 10-11-2018 05:26:01
โอ้ยชอบความเนียนของคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 14-11-2018 16:10:41
>....ตอนที่ 5 [100%]....<

ริทไม่สามารถทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เขาไม่โพล่หน้าออกไปไหนทั้งยังไม่ยอมตอบข้อความของนิรันดร์อีกด้วย ก็ไม่รู้ว่าเขาต้องตอบยังไง จะบอกว่าเพื่อนแกล้ง มันต้องลากยาวไปอธิบายถึงว่าทำไมแกล้งแบบนั้นเหรอ แล้วถ้าบอกว่าไอ้น้ำข้นๆ บนหน้าท้องของเขามันคือแชมพูล่ะ นิรันดร์จะเชื่อไหม

โอ้ยปวดกะบาล

แต่แล้วริทก็ต้องทลายความตั้งใจของตัวเองลงเมื่อหลังหายแฮงก์ท้องมันโล่งจนใจหาย หิวจนแทบจะกินมือถือเข้าไปได้ เขานี่มองแต่กล่องข้อความของนิรันดร์ ตอกย้ำความจังไรของตัวเองเข้าไป ทำลงไปได้ไงวะ ตัวเขาเองเนี่ยนะมาทำอะไรน่าเกลียดแบบนี้ เฮ้อ...ร้องไห้

“อ่าวไอ้ริท กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” เข้าครัวปุ้บก็เจอแม่ทักปั้บ แล้วจะตอบแม่ว่าอะไรเมื่อไม่รู้เหมือนกันว่ากลับมาตอนไหน

“เมื่อคืนอะแม่” คาดว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นตามที่เพื่อนบอก

“แล้วเพิ่งตื่นเนี่ยนะ ไอ้ลูกคนนี้หนิ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน เอกสารเรียนจบล่ะจะได้ตอนไหน จะได้เอามายื่นให้คุณรันเขา” ชื่อนี้ทำเอาน้ำตาตกใน

“อีกอาทิตย์อะแม่”

“งั้นเอกสารอื่นๆ ก็เตรียมเอาไว้ด้วยนะ”

“ครับๆ”

“ครับแล้วทำด้วย” แม่ชี้หน้าเขาก่อนจะเดินออกจากห้องครัว เขาต้องหาอะไรปะทังกระเพาะตัวเองไป

คนเพิ่งหายเมานี่มันจะหิวของร้อนเป็นพิเศษ แล้วอยากจะซดน้ำอะไรที่มันรสชาติจี๊ดจ๊าดได้ใจ แต่ริทไม่ใช่คนทำอาหาร เขาก็เลยเลือกอะไรง่ายๆ อย่างการต้มมาม่ารสต้มยำกุ้ง ใส่ไข่และเครื่องเทศอื่นๆ ลงไป จากนั้นนั่งกินหน้าตาบอกบุญไม่รับสุดๆ

เพื่อนทักเขามาพอดี ทางนั้นเพิ่งจะฟื้นตัวเต็มที่นั่นแหละถึงได้มีสติติดต่อกลับมาหาริท ริทก็เอ่ยถามเรื่องราวเมื่อคืนนี้ว่าคุณนิรันดร์ไปรับได้ยังไง กลับตอนไหนแล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งพอรู้เรื่องทั้งหมดแล้วริทก็ไม่เห็นว่ามีส่วนไหนที่เพื่อนแกล้งส่งภาพทุเรศๆ ของเขาไปให้นิรันดร์เลย เพื่อนสรุปให้ว่าริทหื่นแล้วส่งภาพนั้นไปอ่อย

ไม่นะม่ายยยย

ริทเหนื่อยที่จะเศร้า เขาไปอาบน้ำแล้วนอนอ่านการ์ตูนคลายเครียด กะว่าระหว่างที่เขายังไม่สามารถหาคำอธิบายดีๆ ให้กับนิรันดร์ได้เขาก็จะนิ่งและเลี่ยงการเจอหน้ากันไปก่อน แต่ว่ามันจะดีเหรอ เขาต้องอธิบายไหมตามความเป็นจริงแล้วอะ

ทั้งชีวิตนี่แม่งเป็นเรื่องน่าอายมากที่สุดสำหรับเขาเลยนะเว้ย!

กลายเป็นคนขี้ป็อดไปเลยเมื่อทำเรื่องที่ไม่ควรทำ ริทไม่กล้าออกจากห้องอีก ยิ่งหลังจากที่นิรันดร์กลับมาบ้านแล้วเขายิ่งไม่กล้าย่างกรายออกไปหาข้าวกิน กลัวว่าการมีตัวตนของตนเองจะทำให้นิรันดร์พุ่งเข้ามาถามคำถาม

ริทเลี่ยงไม่เจอนิรันดร์ไปสี่วันเต็มๆ ข้อความที่นิรันดร์ส่งมาให้ริทก็ไม่กล้าตอบ ทำใจมาหลายวันแล้วแต่ยังไม่ได้จริงๆ เขาไม่รู้จะอธิบายยังไงในเมื่อเขาทำมันลงไปแล้ว ไอ้จะให้ยอมรับความจริงมันก็...ยังไงอะ เขานึกไม่ออกว่าตอนที่ทำเขาคิดอะไรอยู่จริงๆ

แต่ตอนนี้...ไม่ยอมรับก็ต้องยอมรับ

“หายหน้าหายตาไปเลนะ” นิรันดร์ส่งยิ้มให้ขณะกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง

ริทถูกเรียกตัวมาเหมือนครั้งก่อน จะปฏิเสธก็ไม่ได้ นี่เป็นจ้านายแม่ เป็นเจ้านายในอนาคต ซ้ำยังเป็นเจ้าของบ้านอีกต่างหาก ริทใส่เสื้อยืดลายซาสึเกะหล่อๆ ช่างขัดกับหน้าที่แดงเถือกของเขาในตอนนี้เป็นอย่างมาก เหตุการณ์นั้นยังทำให้เขาอับอายมาถึงทุกวันนี้

“คือ...” ฮื่อ ไม่รู้จะพูดอะไรอ่า

“อ่านข้อความแล้วก็ไม่ตอบด้วย ว่าแต่…ภาพนั้นมันอะไรเหรอ” คุณนิรันดร์ไม่ควรย้อนถามในสิ่งที่ไม่น่ารู้ ริทได้แต่โอดครวญในใจ เขาคิดเองว่ามันอยู่แค่ในใจ

ความเป็นจริงคือสีหน้าเจ้าตัวออกไปหมดอะ แววตาเลิกลั่ก เหงื่อซึมตามไรผม ถ้าริทขโมยของไป อาการแบบนี้ก็จับได้เลยล่ะว่าริทเป็นขโมย นิรันดร์แอบขำกับท่าทีของเด็กหนุ่ม เขารู้ดีเสียยิ่งกว่ารู้ว่าภาพนั้นคืออะไร รู้กระทั่งว่าทำไมริทถึงไม่กล้าสู้หน้า ก็เพราะอับอายที่ตัวเองเลื้อนได้ขนาดนั้นและไม่มีคำอธิบายดีๆ ให้กับเขา

นิรันดร์ขยับกายเพื่อจะมานั่งมองหน้าเด็กหนุ่มตรงปลายเตียง แค่ขยับเปลี่ยนที่ริทก็มีท่าทีไม่ปกติ เจ้าตัวดูรนๆ พยายามถอยเท้าแต่ก็ช่างใจว่าควรถอยหนีดีไหม ในเมื่อนิรันดร์ไม่ได้ทำอะไรเลยแค่ย้ายที่นั่งเท่านั้น

นิรันดร์อยากเห็นหน้าแดงๆ ของหนุ่มเหนือให้ชัดเจน

“คือ...คือ...ผมผมจำไม่ได้ครับ” เสียงมันสั่นโว้ย แต่ไม่ได้โกหกนะ เมาไง จำไม่ได้จีจี

“เมามากเลยเหรอ ทำอะไรกับตัวเองล่ะสิ เอ...หรือทำแล้วกะจะส่งให้แฟน” นิรันดร์หลอกถาม เพราะตัวเองก็ไม่รู้เรื่องส่วนตัวริทมากนัก ได้มือถือมาวันนั้นก็ไม่ได้ก้าวก่ายเข้าไปส่องหรือดูอะไร

“ไม่ๆ ผมไม่ได้ส่งให้แฟนแน่ๆ”

“มั่นใจ?” นิรันดร์ยิ้มบางๆ เป็นท่าทีสบายๆ ที่ทำให้ริทรู้สึกกดดัน

“มั่นใจครับ ผมกับแฟนเราเลิกกันแล้ว ผมไม่ได้ตั้งใจส่งให้เขาแน่ๆ เอ่อ...ผมคงจะกดผิด”

“งั้นแสดงว่าน้ำไอ้นั่นสินะ ข้นจัง ไม่ค่อยเอาออก?” อย่าถามอะไรอย่างเน้ได้ไหมคร้าบ ริทหน้าแดงหนักกว่าเดิม

มันอาจจะเป็นเพราะริทโตมากับแม่ที่เป็นผู้หญิง เรื่องแบบนี้เขาไม่คุ้นเคยกับการพูดถึงมันเท่าไหร่ ยิ่งเขาชอบเพศเดียวกัน ยิ่งไม่ค่อยพูดถึงเรื่องแบบนี้เลย กลับกัน นิรันดร์เติบโตที่เมืองนอก เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติของพวกเขา ไม่ต่างอะไรกับการทานอาหารหรือนั่งดื่มเครื่องดื่มมึนเมาที่มีรสชาติแตกต่างกันไป

“ทำไมคุณรันพูดได้ง่ายดายขนาดนั้นนะ ครับ...ผมไม่ค่อยได้เอาออกหรอก ก็แบบ...อ่านแต่การ์ตูน”

“เด็กผู้ชายกับการ์ตูนเฮ็นไตมันเป็นของคู่กันนะ” นิรันดร์หัวเราะเบาๆ มันก็ทำให้ริทผ่อนคลายขึ้นมาบ้างแหละ ผ่านจุดที่ไม่รู้จะอธิบายเรื่องรูปยังไงไปแล้วหนิ

“นารูโตะโดนซาสึเกะเสียบมันไม่ฟินเท่าไหร่นี่ครับ” ไอ้นี่ก็ปากหนอปาก นิรันดร์ยิ้มกริ่มขณะที่ริทเพิ่งรู้ตัวว่าที่เขาพูดไปมันแปลกๆ

“อ่านชายชายเหรอ” หูแดงแล้วล่ะ ร้อนไปทั้งหน้า...ไม่ไหว ตอบไงดี หรือการยอมรับสภาพไปเลยมันง่ายกว่าวะเนี่ย!!

“อ่า...ครับ”

“ชอบผู้ชายด้วยสิ” พยักหน้าล่ะกันง่ายดี

“แล้วแบบผมชอบไหม” อันนี้ก็พยักหน้า จากนั้นเงยหน้าสบตากับนิรันดร์พร้อมปากที่อ้าค้าง

“ฮ่าๆ ริทดูออกง่ายมากเลยนะ เรื่องชกต่อยคงเจนจัด แต่เรื่องแบบนี้กลับไม่ประสีเนี่ยน้า ไม่สมเป็นเด็กสมัยนี้เท่าไหร่เลย เอาหน่า ไม่ต้องเกร็งหรอก ผมยังไงก็ได้ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดามากๆ เลยนะริท” นิรันดร์ลุกเดินมาหา ริทไม่ได้ตั้งตัวอะไร ไม่กี่ก้าวนิรันดร์ก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกับลูบหัวเขาเบาๆ

“คุณรันนี่ใจดีจังครับ”

“ผมใจดีกับเด็กผู้ชายน่ารักๆ เท่านั้นแหละ” เขาเข้าค่ายน่ารักปะวะ คุณนิรันดร์ถึงใจดี หรือเขาเข้าค่ายแค่เป็นเด็กผู้ชาย

“ยังไงผมต้องขอโทษด้วยนะครับสำหรับรูปนั้น ผมแม่งเลื้อนจนจำไม่ได้เลยอะว่าทำอะไรลงไปบ้าง ผมแค่สอบผ่าน เพื่อนก็แกล้งมอมเหล้าผมจนสติสตางค์หายหมด นี่ผมว่าคราวหลังผมไม่ไปดื่มกับพวกมันแล้ว ไม่ไหว...ทำอะไรลงไปได้ทุเรศมาก เอ่อ แล้วผมก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้อธิบายให้คุณรันฟัง ผม...ผมป็อดอะ แฮ่ๆ” ริทเงยหน้าส่งยิ้มแฮ่ๆ ให้ ซึ่งนิรันดร์ก็ยิ้มรับง่ายๆ

“คิดมาก ผมเข้าใจ เด็กวัยรุ่นก็แบบนี้แหละ ยินดีด้วยนะที่สอบผ่าน อ๋อใช่ ป๋าซื้อของมาให้ด้วยนะ” ว่าจบนิรันดร์ก็หัวเราะกับคำว่าป๋า ริทหน้ามุ่ย แต่ก็ยิ้มขำเพราะรู้ว่าคุณนิรันดร์หยอกตนเองเล่น

นิรันดร์เดินไปยังโต๊ะสำหรับอ่านหนังสือ บนนั้นมีกล่องของขวัญอยู่หนึ่งใบ ข้างในก็เป็นของที่ริทชอบนั่นแหละ และหวังว่าตัวนี้ริทจะยิ่งชอบ นิรันดร์ให้คนไปสืบค้นหาคอเลกชั่นฟิกเกอร์ของนารูโตะเซทใหม่มา ซึ่งมันมีแค่ตัวเดียวที่เป็นที่ฮือฮาในญี่ปุ่น นั่นคือตัวนี้

“จริงๆ มันไม่จำเป็นนะฮะคุณรัน”

“บอกแล้วไง ถ้าสอบผ่าน อยากได้อะไรจะให้ รู้ว่าริทไม่ขอหรอกก็เลยหามาให้เอง อะเอาไปสิ ตัวนี้ทีเด็ดเลยนะ” ริทรับมาถือก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณงามๆ หนึ่งที

ร่างโปร่งยืนแกะห่ออยู่พักหนึ่ง มันแกะลำบากก็เลยต้องนั่งลงที่พื้นห้อง กล่องใบนี้ใหญ่ไม่ต่างกับครั้งก่อนนัก ริทเลยคิดว่ามันมีหลายตัว แต่พอแกะเสร็จ เห็นของข้างในดวงตาคู่นี้ก็แวววาวราวกับจะกลายเป็นกระจกสะท้อนใบหน้าคนได้

ก็...นี่มันนารูโตะกับจิ้งจอกเก้าหางขนาดสี่สิบห้าเซ็น!!!

“กรี๊ด!!!” ผู้ชายกรี๊ดไม่ผิดใช่ไหม ตอนนี้ขอกรี๊ด...กอดด้วย โอ้ยใจ ละลายหมดแล้ว ฮื่อรักเลย ตัวนี้รักมาก รักโคตรๆ

“ฮ่าๆ ถึงกับกรี๊ดเลยเหรอ ของแค่นี้เอง”

“แค่นี้ที่ไหนล่ะคุณรัน นี่มันลิมิเต็ดอิดิชั่นเลยนะ งานปั้นมือ ผมตามงานนี้อยู่แต่ราคามันโหดมาก แถมราคาในตลาดมือสองหนักกว่ามือหนึ่งอีก โอ้ย...รักเลยอะ”

“รักผม?”

“ครับ รักเลย” เงยหน้าส่งยิ้มหวานตาหยีด้วย อารมณ์มันดีใจน่ะ เข้าใจกันใช่ไหม

“รักผม แต่กอดฟิกเกอร์แน่นเลย” นิรันดร์หัวเราะ เขามองริทกอดของชิ้นนั้นด้วยความรู้สึกฟูในหัวใจ

เขาชอบที่จะให้ของริท...ชอบเพราะริทมีความสุขที่ได้รับมัน

นิรันดร์ปล่อยให้ริทชื่นชมฟิกเกอร์ที่ตนเองชอบไปได้สักพักก็ชวนคุยเรื่องการทำงาน สอบถามเรื่องริทไปหัดขับรถมาเป็นยังไงบ้าง เอกสารต่างๆ พร้อมไหม พอคุยไปคุยมาก็ได้ผลสรุปว่านิรันดร์จะให้ริทเข้ามาทำงานให้ตนเองก่อนที่เอกสารสมัคงานจะครบ ยังไงริทก็พักอยู่ที่นี่ คงไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะทำก่อนจะเป็นลูกจ้างอย่างเป็นทางการ

ริทด้วยอารมณ์ปลื้มปริ่ม เขาตกปากรับคำอย่างง่ายดาย จากนั้นนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระไปอีกราวๆ ชั่วโมงก็แยกย้ายไปนอน พรุ่งนี้เช้าริทต้องเริ่มงาน เขาจะต้องไปกับลุงช่วยก่อน เรียนรู้เส้นทางและการทำงานของคุณนิรันดร์

บอกเลยว่ามันง่ายมาก!

ริทเป็นคนมีความจำดีเยี่ยม ระหว่างที่นิรันดร์เข้างานในบริษัทริทก็จะอยู่ที่รถ ไม่ก็อยู่ในบริษัท มันจะมีที่พักให้กับพนักงานขับรถ ลุงช่วยอธิบายเกี่ยวกับงานของนิรันดร์คร่าวๆ รวมถึงเส้นทางที่นิรันดร์จะไปเป็นประจำ กิจวัตประจำของนิรันดร์นั้นค่อนข้างจะเป็นแบบแผน ริทเลยจำมันได้ไว อาจมีจุดเล็กๆ น้อยๆ บางจุดที่เขายังไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก

โดยปกติแล้วนิรันดร์จะใช้รถเก๋งสี่ประตูสำหรับวิ่งงานประจำวัน ทว่าในช่วงเย็นของวันศุกร์จะต้องใช้ลิมูซีน มันเป็นวันที่จะมีงานเลี้ยงสังสรรค์ที่สถานที่หรูหราเสมอ บางครั้งไปกับลูกค้า บางครั้งก็ต้องไปส่งลูกค้าบางคนด้วยเช่นกัน

ริทจำส่วนนี้ได้ง่าย หนึ่งวันในหนึ่งสัปดาห์ขับเจ้าลี แค่นี้เอง นอกนั้นแยกเป็นกรณี หากได้รับคำสั่งก็แค่ทำตาม ระหว่างการทำงานริทต้องติดตามนิรันดร์ไปด้วยทุกที่ และแต่ละที่ก็มีที่พักให้คนขับรถอยู่แล้ว

สำหรับเรื่องอาหารการกินนั้น ริทจะได้เบี้ยเลี้ยงต่อไว้ให้ซื้อ ไม่ว่าจะน้ำหรืออาหารหรือขนมนมเนยตามแต่ที่ริทต้องการ ซึ่งเงินเบี้ยเลี้ยงนี้เขาได้ช่วงสิ้นเดือน ต้องเจียดใช้เอาเอง แต่ไม่น่าห่วงมากเพราะเบี้ยเลี้ยงถือว่าเยอะทีเดียว ลุงช่วยยังบอกว่าบางทีก็แทบไม่ได้ใช้เงินตัวเองเลย เพราะนิรันดร์มักจะเลี้ยงอาหาร

ริทไปทำงานพร้อมกับลุงช่วยอยู่สามวัน วันที่สี่เขาต้องเดินทางไปกับนิรันดร์เพียงสองต่อสอง ก็ไม่ยากนัก ตอนเช้าไปส่งที่บริษัท นิรันดร์อยู่ทำงานที่นี่อย่างมากสุดก็ถึงบ่ายสาม จากนั้นจะเดินทางไปพบลูกค้า แค่ขับไปตามที่นิรันดร์บอกก็จบ

งานมันง่ายจริมๆ

ยิ่งนิรันดร์เป็นคนอัธยาศัยดีด้วยแล้ว ริทยิ่งไม่มีความเกร็งยามต้องทำงานร่วมกับนิรันดร์ แต่อย่าคิดว่าพวกเขาจะคุยกันทั้งวัน เวลาทำงานคือตั้งแต่สตาร์ทรถออกจากบ้าน นิรันดร์จะเริ่มอ่านเมลที่เลขาทั้งสองส่งมาให้เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานในวันนั้นๆ นั่นทำให้ระหว่างการขับรถ ภายในนั้นจะเงียบเฉียบเพื่อให้นิรันดร์ได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงาน

จะว่าไปอีกเรื่องที่ริทยังไม่รู้ก็คือลุงช่วยบอกว่าเรื่องของนายอย่าจุ้นมาก รู้อะไรไว้ต้องเงียบโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง ตอนลุงช่วยบอกว่าเรื่องผู้หญิงแกชะงักไปนิดหนึ่ง สีหน้าลังเลนิดหน่อยว่าจะบอกอีกส่วนไหม ก็แค่เสี้ยววิ สุดท้ายก็บอกว่าเรื่องผู้ชายด้วย

หมายความว่า...นิรันดร์เป็นไบงั้นสินะ

ริทเก็บความสงสัยนั้นเอาไว้ อาจจะหมายถึงพาคู่นอนหรือแฟนไปเข้าโรงแรมก็ได้ พอพาเข้าโรงแรมเสร็จแล้วเขาต้องมารอรับเจ้านายกับแฟนเพื่อพาไปส่งที่พัก ว่าแต่...ถ้าเป็นแฟนต้องเข้าโรงแรมเหรอ ริทก็ไม่เคยเห็นคุณนิรันดร์พาใครเข้าบ้านเลยแม้แต่คนเดียวนะ

และแล้ววันศุกร์ก็มาถึง...

ช่วงเช้าริทจะเอารถเก๋งไปส่งนิรันดร์ที่บริษัท จากนั้นก็กลับมาเปลี่ยนเอาเจ้าลีไปรับนิรันดร์ในตอนเที่ยงวัน ไม่ว่ากี่ครั้งที่ริทขับเจ้าลี เขาจะรู้สึกเท่ยังไงบอกไม่ถูก รถมันหรูหราและดึงดูดสายตาผู้คนเป็นอย่างมากจริงๆ คงเพราะว่านี่เมืองไทย คนใช้ลิมูซีนมันมีน้อยมากเลยน่ะสิ

ก่อนริทจะขับเจ้าลีออกมาจากรั้วบ้าน ข้อความจากนิรันดร์ก็เด้งขึ้นมาในกล่องข้อความเฟซบุ๊ก โดยมีสถานที่และประโยคที่บอกให้เขาไปรับคนที่นี่ก่อนมารับเขา ริทแอบแปลกใจแต่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย

แหม...นี่ไม่ใช่คำสั่งของแม่ที่จะดื้อด้านด้วยได้นะ

เจ้าลีเป็นรถขนาดใหญ่ มันไม่สามารถทำความเร็วได้มากนักยามเคลื่อนตัวอยู่บนท้องถนนเมืองหลวงอย่างนี้ ถ้าเก๋งยังปาดซ้ายขวาได้บ้าง นี่ปาดหน้าใครไม่ได้ทั้งนั้น จะเปลี่ยนเลนทีต้องเปิดไฟเลี้ยวและรอวนไปเรื่อยๆ ค่อยๆ หาจังหวะในการแทรกรถแต่ละคัน และต้องขับอยู่เลนกลางเป็นหลัก ทั้งที่ถ้าอยู่เลนขวาจะเคลื่อนตัวได้เร็วกว่า ก็เพื่อให้การขยับซ้ายขวาเปลี่ยนเลนนั้นง่ายดายขึ้น

ริทมาถึงหมู่บ้านที่นิรันดร์บอกในตอนเที่ยงครึ่ง ด้วยความขับช้าและรถติดเนี่ยแหละเลยทำให้มาถึงเอาตอนนี้ มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เขามาถึงหน้าหมู่บ้านแล้วก็ส่งข้อความบอกนิรันดร์ มันเข้าไปยาก ถอยเข้าถอยออกลำบาก นิรันดร์อ่านข้อความก่อนตอบว่ารอสักครู่

ก๊อกๆ

รอด้วยการดูนารูโตะเพลินๆ ก็มีคนมาเคาะที่กระจก เป็นผู้ชายร่างบางในชุดนักเรียน? ฮะ! ชุดนักเรียน ด้วยความที่นิรันดร์ไม่ได้แจ้งว่าคนที่จะมาเป็นใคร มีรูปร่างลักษณะอย่างไร ริทเลยงงปนลังเลว่านี่ใครหว่า?

“ครับ? มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” ริทลดกระจกลงแล้วหันไปถาม

“สิ่งที่คุณต้องช่วยคือเปิดประตูรถให้ผมครับ” คิ้วขมวด เขาล็อกรถเอาไว้กลัวขโมยวิ่งขึ้นมาน่ะนะ

“เอ่อ?”

“เร็วๆ คนขับรถใหม่นี่ไม่เป็นงานเหรอ” อ่าว ก็กระผมไม่รู้ว่าคุณเป็นครายไงครับ!

เด็กหนุ่มน่าตาน่ารักแสดงท่าทางไม่พอใจ เจ้าตัวหยิบมือถือออกมากดโทรหานิรันดร์ อีกทางกดรับ เสียงที่เอ่ยออกมาก็ต่างจากเสียงตอนพูดกับริทอย่างกับคนล่ะคน มันออดอ้อน อ่อนหวาน บอกว่าคนขับรถไม่ยอมให้ตัวเองขึ้นรถ ฟ้องๆ อยู่สักพักก็ส่งมือถือมาให้ริท

“ครับ” ริทส่งเสียงเข้าไป

(ผมรันนะริท รับเด็กคนนั้นมาหาผมทีนะ โทษทีที่ไม่ได้บอกริทว่าต้องรับใคร)

“อ๋อ ได้ครับคุณรัน” ว่าจบก็ส่งมือถือคืนเด็กหนุ่มที่ดูยังไงก็ไม่น่าอายุเกินสิบแปด

ริทปลดล็อกแล้วลงไปเปิดประตูให้เด็กหนุ่มเข้าไปนั่งอยู่ในห้องโดยสาร เด็กคนนั้นมีท่าทางเชิดหน้าเชิดตาใส่เขาราวกับเขาเป็นคนใช้ เออ เขาก็คนใช้นี่หว่า ไม่มีสิทธิ์อะไรไปเถียงหรือเกรี้ยวกราดอะไร ถือเสียว่าเขาไม่รู้ เพิ่งหัดทำงานก็งี้แหละ

ริทเห็นอีกฝ่ายนั่งเล่นมือถือ ถ่ายรูปในท่าทางที่เรียกว่า...ยั่วเย โอ้โห ยั่วผู้ชายชัวร์ๆ เลยท่าทางอย่างนี้เนี่ย ถึงไม่เคยยั่วแต่รู้ได้โดยสัญชาตญาณ ริทเก็บความสงสัยของตัวเองแล้วมาโฟกัสที่ท้องถนน เขาต้องไปรับนิรันดร์ต่ออีก รู้สึกว่าบ่ายสามหรือสี่นิรันดร์ต้องไปงานเลี้ยง ชุดสำหรับเปลี่ยนก็อยู่ในรถนี่แหละ แม่เขาเป็นคนเตรียมเอาไว้ให้

ลีมูซีนคันหรูเคลื่อนตัวช้าๆ เข้าสู่หน้าบริษัท ร่างสูงใหญ่เป็นสง่ายืนอยู่กับเลขาอีกสองคนตรงด้านหน้า มีเลขาคนหนึ่งกางร่มให้ผู้เป็นนาย ริทรีบเอารถเข้าไปจอด เมื่อรถจอดสนิทแล้ว หน้าที่ต่อไปคือลงไปเปิดประตูรถให้กับนิรันดร์

แต่พอประตูเปิดปุ้บ...เด็กหนุ่มนี่ก็พุ่งออกไปกอดแขนนิรันดร์ทันที!

....100%....

ตอนนี้เอื่อยๆ ดูน่าเบื่อกันไหมอ่า...แอบกังวลนิดหนึ่ง แฮ่ๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 14-11-2018 20:06:09
ท่าทางเด็กป๋าจะเยอะ

ไม่เอื่อยค่ะ  คงกำลังจะเข้าเรื่อง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-11-2018 22:28:07
น้องเขาแรงสสสสสสสส์

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-11-2018 00:05:13
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 15-11-2018 09:36:14
เห้อมมมมมมมมมมมมม คุณนิรันดร์เลี้ยงเด็ก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 15-11-2018 20:07:08
เด็กคุณรันดร์นี่แรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 16-11-2018 01:17:21
ไม่เบื่อ น้องริทน่ารักสดใส คุณรันก็คอยตอดเล็ก ผสมน้อย รอรวบหัวรวบหางน้อง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 16-11-2018 22:16:18
จ้า อ่านได้เรื่อยๆ ค่ะ ไม่เบื่อ ให้มีเนื้อหาความเป็นไปค่ะ

อื้อหื้อ ไม่ได้แกล้งน้องเลยใช่ไหมคุณรัน
ให้ไปหาที่ห้อง แกล้งไปโน่น แถมยังให้ไปรับคู่อีก

ริทตอนนี้ยังไม่คิดมากนะ แต่อย่าได้เผลอ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-11-2018 23:13:12
คุณรันด์นี่ยังงัยกันนะ ตอดเล็กตอดน้อย แกล้งน้องตลอด นี่ก็จะแกล้งพาเด็กมายั่วอีกล่ะสิ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-11-2018 10:04:04
คุณรันร้ายนะ แกล้งริทได้ไง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 5 - 100% [14-11-61]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-11-2018 10:21:34
โอ๊ยคุณรัน  :fire:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 06-01-2019 00:04:22
>….ตอนที่ 6 [100%]….<

“เดี๋ยวขับตามคันหน้าไปนะ” นิรันดร์เอ่ยกับคนขับรถหนุ่มของเขาขณะก้าวขึ้นห้องโดยสารของลีมูซีนคันหรู

“ครับ” ริทพยักหน้ารับ รอจนทั้งคู่ขึ้นมาในรถแล้วก็เริ่มออกตัวตามเบนซ์สีดำคันหน้าไป

นิรันดร์มีเลขาสองคน ช่วยกันจัดแจงตารางงานและรายงานต่างๆ เป็นยิ่งกว่าแขนหรือขาให้กับนิรันดร์ บางครั้งก็จัดการกระทั่งเรื่องส่วนตัว ตามจริงแล้วการให้ริทเอารถมารับเวลาไหน เอาคันไหนมาเลขาของนิรันดร์จำเป็นต้องเป็นคนประสานงาน แต่นิรันดร์สั่งเอาไว้เป็นพิเศษว่าคนคนนี้เขาจะดิลงานด้วยตัวเอง

“คนขับรถคนใหม่เหรอครับ” เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนนั่งเกาะแขนนิรันดร์ไม่ยอมปล่อย เขาเอาหัวซบไซ้ไหล่แกร่งนั้นด้วยท่าทางออดอ้อน

“อืม ลุงคนเก่าแก่มากแล้วน่ะ” นิรันดร์มองหน้าริทผ่านกระจกมองหลัง เขาเห็นว่าเด็กหนุ่คนขับรถของเขากำลังสนใจเขาอยู่

“แต่คนนี้เด็กมากเลยนะครับ น่าจะอายุยี่สิบต้นๆ ใช่ไหม” ได้ยินแบบนี้ริทก็อยากจะบอกกับอีกฝ่ายว่า คุณก็เด็กเหมือนกันนี่นา

“ใช่ ใครจะเหมือนเราล่ะ...เกินยี่สิบห้าแล้วยังหน้าเด็กอยู่เลย” ตาโตไปสิไอ้คนฟัง เกินยี่สิบห้าแล้วเหรอ ใส่ชุดนักเรียนมัธยมเนี่ยนะ...โอ้ก๊อด นึกว่าแฟนคุณนิรันดร์จะเป็นเด็ก แบบว่าชอบเลี้ยงเด็กเป็นชีวิตจิตใจ

“ก็คุณรันชอบเด็กๆ หนิ ผมก็ต้องดูแลตัวเองหน่อย เกิดปล่อยให้ดูแก่คุณรันได้ทิ้งผมแหงเลย” นิรันดร์ไม่ตอบอะไรแค่ยิ้มให้

รถเบนซ์ข้างหน้าขับค่อนข้างช้า ค่อยๆ เลาะไปเรื่อยในความเร็วไม่เกินหกสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้องโดยสารของลีมูซีนเริ่มมืดทึบ มีแสงสลัวจากหลอดไฟเข้ามาเสริมสร้างบรรยากาศให้มันหวือหวาราวกับอยู่ในห้องนอน การปรับแสงไฟเหล่านั้นมีทั้งปรับจากตรงคนขับหรือจากห้องโดยสารก็ได้ ริทคิดว่านิรันดร์เป็นคนทำ

ริทขัดใจกับคันหน้านิดหน่อย แต่มันไม่นานนักเมื่อเห็นว่าคนที่เขาคิดว่าเป็นเด็กในชุดนักเรียนคนนั้นขึ้นคร่อมตักนิรันดร์

หน้างี้แทบสะบัด หันแบบพรึ่บๆ สองสามทีเพื่อมองให้ชัดว่าที่เขาเห็นนั้นมันของจริงหรือตาฝาด ชายหนุ่มในชุดนักเรียนกำลังปลดกระดุมเสื้อตนเองลงแล้วปล่อยให้นิรันดร์ใช้ริมฝีปากโลมเลียแผ่นอก เสียงครางเบาๆ ของเขาดังแข่งกับแอร์ ไม่คิดจะเปิดเพลงกลบเสียงตัวเองสักหน่อยหรือ

หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำอยู่ในอก บอกไม่ถูกว่าเป็นความตื่นเต้นหรือความรู้สึกอะไรกันแน่ มันปนเปกันทั้งอยากรู้อยากเห็น แต่กลับมีความปวดหนึบปะปนเข้ามาด้วย ริทพยายามสั่งให้ตัวเองมองไปยังท้องถนนอย่างเดียว ไม่ควรหันไปสนใจเรื่องของเจ้านาย โดยเฉพาะเรื่องแบบนี้

“อ๊า...ซี้ด...คุณรัน...ผมเสียวจังเลย” แต่ได้ยินเสียงแบบนี้ใครมันจะไม่มองวะครับ!

กิจกรรมเข้าจังหวะเหมือนกับหนังโป๊ที่เคยเปิดดูกำลังเด่นชัดอยู่ในห้องโดยสาร ริทอาจไม่เห็นภาพมันแบบฟูลเอชดี เพราะต้องมองผ่านช่องเล็กๆ ที่กั้นระหว่างโซนคนขับและโซนคนโดยสารเอาไว้ แต่เสียงคราง เสียงเนื้อกระทบเนื้อและไอ้การสั่นไหวที่กระเทือนแม่งทั้งรถนี่ไม่ต่างอะไรกับการนั่งดูหนังโป๊แบบโฟล์ดีเลย

ว่าก็ว่าเถอะ...เจอแบบนี้น้องใครไม่ตื่นมั้งวะ!

ริทเป็นเพียงเด็กหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ เจอเรื่องกระตุ้นเข้าหน่อยก็เผลอมีอารมณ์ไปด้วยอย่างง่ายดาย อีกทั้งการมีเซ็กซ์ในรถแบบนี้นอกจากเว็บโป๊แล้วเขาก็ไม่เคยเห็นจากที่ไหนเลย ต้องบอกว่าไม่เคยเห็นหนังสดแบบนี้มากกว่า

ชายหนุ่มสองคนด้านหลังนัวเนียกันอย่างถึงพริกถึงขิง ริทคิดว่าถ้ามีข่ากับตะไคร้มาใส่ด้วย รถคันนี้คงกลายเป็นต้มยำที่แซ่บน่าดู นิรันดร์ยังคงอยู่ในชุดแม้ว่ากางเกงจะหลุดออกไปแล้ว แต่ชายหนุ่มอีกคนนั้นเปล่าเปลือย ร่างกายขาวสะอาดและอ้อนแอ้นกว่าชายหนุ่มทั่วไปมีเสน่ห์เย้ายวน เสียงครวญครางที่ติดหวานออกแหบพร่าเล็กน้อยเซ็กซ์ซี่มากในความรู้สึกของริท

นี่ไม่คิดเลยนะว่าเจ้านายของเขาจะชอบทำอะไรแบบนี้กับแฟนตัวเองบนรถ นึกถึงสิ่งที่ลุงช่วยเคยบอกว่าเรื่องของนายนั้นอย่ายุ่ง รู้เห็นอะไรมาให้เงียบเสีย ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วล่ะว่ามันหมายถึงอะไร มันต้องเป็นเรื่องนี้แน่นอน ไม่น่ามีทางเป็นเรื่องอื่น

ว่าแต่...เขาต้องทำงานไปดูหนังโป๊สดๆ แบบนี้ไปตลอดเหรอ?

ไม่ดีมั้งแบบนี้น่ะ ไม่ว่าเขาจะเป็นพวกรักเพศเดียวกันหรือรักต่างเพศ การต้องมาอยู่เป็นมือที่สามของกิจกรรมตัวๆ เสื้อผ้าไม่เกี่ยวแบบนี้มันก็น่าอึดอัดเกินไป รู้งี้นะ เขาถามลุงช่วยเอาไว้ก่อนก็น่าจะดี ว่าไอ้เรื่องที่รู้แล้วอย่ายุ่งของคุณนิรันดร์มันคืออะไร จะได้เตรียมตัวเตรียมใจเตรียมหางานใหม่เอาไว้รอ

ริทนั่งอึดอัดฟังเสียงการมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งและเร่าร้อนอยู่ครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเสียงหวีดร้องของชายหนุ่มร่างบางก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงพ่นลมหายใจหนักๆ ของนิรันดร์ ริทเฝ้ามองมันผ่านช่องว่างระหว่างคนขับกับห้องโดยสารมาตลอด รู้เห็นหมดทุกการกระทำ ไม่ว่าจะขั้นตอนเริ่มต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้าย บอกตามตรงว่าบจุดสุดยอดของพวกเขาทำให้ริทเสียวไส้สุดๆ

มันเป็นอารมณ์แบบโหวงหวิวในท้องน้อย เขามีอารมณ์เพราะคุณนิรันดร์ ตอนนี้น้องชายตื่นตัวจนปวดหนึบไปหมด ผู้ชายทุกคนต้องเข้าใจดี ถ้าตื่นแล้วไม่จัดการกับมัน มันจะปวดหนึบๆ อยู่ตรงนั้นไม่หาย และตอนนี้ริทอยากเข้าห้องน้ำชะมัดเลย

“คุณนี่ยังเร่าร้อนไม่เปลี่ยนเลย” ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยพลางคลอเคลียริมฝีปากกับปากนิรันดร์

“คุณด้วย” นิรันดร์เหลือบตามองคนขับรถของเขา สบเข้ากับดวงตาแวววาวคู่นั้นแล้วก็อดส่งยิ้มให้ไม่ได้ ริทรีบหันหน้าแดงๆ หนีเขาไป

ชายหนุ่มร่างบางถอดถุงยางอนามัยให้กับนิรันดร์ ตามด้วยเอาทิชชู่เปียกมาเช็ดทำความสะอาดให้ นิรันดร์เอ่ยขอบคุณเล็กน้อย เขาเอื้อมไปเอาชุดใหม่มาสวมใส่ ส่วนชายหนุ่มก็จัดการกับตัวเองไป นิรันดร์ไม่ได้ช่วยทำความสะอาดหรือแต่งตัวให้กับคู่นอนของตัวเอง

ชายหนุ่มคนนี้เป็นเพียงชายขายบริการที่นิรันดร์ซื้อเอาไว้ ทุกครั้งที่เขาเรียกต้องมาหา ส่วนจะทำให้เขาพอใจได้ด้วยการแต่งตัวแบบไหน ทำตัวยังไงนั้นเป็นหน้าที่ของชายหนุ่ม นิรันดร์ไม่เอาใจคู่นอน เขาเสพเซ็กซ์เหมือนอาหารจานด่วน ที่รีบกินแล้วรีบไปทำงาน

“ผมอยากไปนอนเล่นบ้านคุณบ้าง” ชาหยนุ่มแต่งตัวเสร็จก็มานั่งออดอ้อนเอาใจ

“เราคุยเรื่องนั้นกันแล้ว”

“รู้หน่า ก็แค่อยากมีเวลากับคุณมากๆ หน่อย จัดกันแต่ในนี้บางทีผมก็เบื่อ” เด็กหนุ่มงอแง

“ไว้ครั้งหน้าค่อยไปโรงแรม”

“ถามจริงๆ แฟนคุณอาศัยอยู่ที่บ้านกับคุณใช่ไหม”

“เปล่า ผมไม่มีแฟน และผมก็ไม่ชอบให้ใครมาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวนัก ทางที่ดี ถ้าอยากบริการผมต่อก็หยุดถามเรื่องพวกนี้” ชายหนุ่มหน้าเสีย เขารีบซบหน้ากับแขนนิรันดร์ซ่อนสีหน้าของตนเองเอาไว้

แต่คนขับนี่หูผึ่งเลยล่ะ! อะไรนะ ไม่ใช่แฟน ไม่ใช่แฟน!!! ริทคิดว่านี่เป็นแฟนนิรันดร์ แต่เรื่องมันกลับมีหักมุมในตอนท้ายว่าไม่ใช่ซะอย่างนั้น โอ้โห...นี่คุณนิรันดร์เป็นคนอย่างนี้เองเหรอเนี่ย ไม่ได้ ริทจะตาโตไปกว่านี้ไม่ได้เพราะนิรันดร์กำลังมองมาที่เขาอยู่ในตอนนี้

โอเค ริทต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ การซื้อผู้ชายกินมันไม่ได้แย่อะไรสำหรับคนมีอันจะกิน แต่ก็คงจะทำให้คนอื่นมองนิรันดร์ไม่ดีได้เหมือนกัน ถือเสียว่าเขาไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น แถมไม่ตั้งเพราะฉากหนังสดเมื่อครู่ด้วย

ฮื่อ...โกหกตัวเองไปไม่ช่วยให้น้องน้อยหดนะวุ้ย!

“ริทครับ จอดรถด้วย” นิรันดร์สั่งขึ้นมาดื้อๆ จากนั้นก็โทรหาใครสักคนตามด้วยรถคันหน้าเลี้ยวเข้าข้างทาง

ริทเลี้ยวจอดริมถนนตามคันหน้า ชายหนุ่มในชุดนักเรียนจูบปากนิรันดร์ก่อนจะลงจากรถ ริทเห็นว่าคนคนนั้นเดินไปขึ้นรถอีกคัน อะไรกันนะ? นี่มันเป็นเรื่องน่างงที่สุดสำหรับวันนี้เลย

“เดี๋ยวไปที่โรงแรม...นะครับ” นิรันดร์บอกเป้าหมาย มันแปลกไปจากรอบแรกเพราะก่อนหน้านี้ให้ขับตามคันหน้า

“ครับ” ริทไม่กล้าถามในสิ่งที่อยากรู้ เขาเลี้ยวออกขวาเข้าเลนกลางโดยนำหน้าเบนซ์สีดำนั่นไป

เขามองกระจกหลังเล็กน้อย ดูว่าคันนั้นตามมาไหม ซึ่งเบนซ์เลี้ยวออกเลนขวาสุดแล้วก็ขึ้นยูเทิร์นไปคนละทางกับที่เขากำลังจะพานิรันดร์ไป ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบ นอกจากเสียงแอร์ก็มีแค่เสียงลมหายใจนี่แหละที่คลอเคลียอยู่ในบรรยากาศ

ความเงียบเดินทางร่วมกับคนทั้งสองจนกระทั่งมาถึงหน้างาน เป็นธรรมเนียมที่ริทจะจอดให้นิรันดร์ลงตรงทางเข้า จากนั้นเขาก็เอาเจ้าลีไปจอดในที่จอดรถระดับวีไอพี ถ้าถามว่ารู้ได้ไงว่าต้องจอดตรงไหน ง่ายๆ มียามชี้จุดให้ตลอดทาง

หลังจากนี้ทำอะไร...รอไงล่ะ

ริทต้องนั่งรอนิรันดร์ไปงานเลี้ยง จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับนิรันดร์ไม่ใช่เขา มันก็ปกติ ไปไหนมาไหนริทก็มีหน้าที่รออย่างนี้เสมอ ระหว่างนี้เขาก็ต้องหาที่นั่งพักรอเจ้านาย ในลานจอดรถมีศาลาเอาไว้นั่งเล่น ไม่ไกลจากจุดที่จอดลีมูซีนเอาไว้นัก ริทตรงไปที่มัน ตอนเดินนี่ยังนึกฉากเรตไม่ยอมหยุด เขาต้องหาอะไรทำ โดยเฉพาะการนั่งดูการ์ตูนที่ตัวเองชอบ

รถหรูมากมายเลี้ยวเข้ามาจอดคันแล้วคันเล่า ริทมองมันบ้าง ไม่มองมันบ้าง ไหนจะคนขับรถที่หาจุดพักของตัวเองไปเรื่อยเปื่อย บ้างก็เป็นพนักงานต้อนรับหน้าทางเข้านั่นแหละที่เอารถหรูเข้ามาจอดให้ มีหนึ่งคันที่คุ้นตา เป็นเบนซ์ที่เอาไปส่งชายหนุ่มคนนั้นมานั่นแหละ

พระอาทิตย์เริ่มตกดิน อาการศเริ่มเย็นและยุงเริ่มมา ให้ตายเถอะ เขาไม่ได้พกยากันยุงมาด้วย ทีนี้ล่ะก็...ตบยุงวนไป! ตบมันตายแล้วเอามากองๆ ไว้ที่โต๊ะ เผลอแป็บเดียวยุงก็กองเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ นี่ถ้ามีไฟแช็กริทจะทำการบูชายันยุงเหล่านี้ แบบว่า...ตอนเรียนทำบ่อย

[นิรันดร์ : ทำอะไรอยู่เอ่ย] จู่ๆ ข้อคววามในเฟซบุ๊กก็เด้งขึ้น เป็นนิรันดร์ที่ส่งข้อความมาเขา ตามจริงชื่อนิรันดร์ต้องเป็นภาษาอังกฤษแต่ริทไปเปลี่ยนมันให้อ่านง่ายขึ้น

[ริท : นั่งตบยุงครับ] ตามด้วยรูปยุง

[นิรันดร์ : นี่ว่างมากจนตบยุงมากองกันได้ขนาดนี้เลยเหรอ สนใจเข้ามาเดินเล่นในงานไหม]

[ริท : ไม่เอาครับ]

[นิรันดร์ : ก็ได้ งั้นรออีกแป็บนะ จะกลับแล้วล่ะ] ริทยิ้มกับข้อความของนิรันดร์

[ริท : ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ ผมแค่รอจนยุงกินเลือดไปใกล้หมดตัวแล้วเท่านั้นเอง] ริทหยอกกลับเล็กน้อย อีกฝ่ายก็หัวเราะกลับมา

[นิรันดร์ : เดี๋ยวผมเติมเลือดให้เอาไหม] ริทขมวดคิ้ว เติมเลือดยังไง...แบบนอนให้เลือดงั้นเหรอ

[ริท : ทำไงเหรอครับ]

[นิรันดร์ : ส่งรูป] อ่า...ริทถึงกับนิ่งงันไปเมื่อนิรันดร์ถ่ายรูปตัวเองมาให้ แถมยังเป็นรูปที่ยิ้มกว้างเสียด้วย

[นิรันดร์ : หน้าแดงแล้วใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ] ริทเกาแก้มตัวเองนิดหน่อย

[ริท : ใครบอก ผมหาวอยู่ต่างหากล่ะ] ริทโกหก หน้าแดงจริงๆ แหละ สบตากับคนหล่อใครบ้างไม่เขิน ที่สำคัญเพิ่งเห็นคนนี้เล่นหนังสดแบบอื้ออ้ามาด้วย

[นิรันดร์ : ง่วงก็ไปนอนในรถ อยู่ในรถยุงก็ไม่กัด แต่ไม่ต้องแล้วก็ได้ ผมกำลังออกไป ริทเอารถมารับผมเลยดีกว่าเนอะ จะได้กลับบ้านไปพักผ่อน]

[ริท : ครับคุณรัน] ริทงงๆ นิดหน่อย บทจะกลับก็ไวเลยแฮะ

ริทไม่รู้ตัวเลยว่าเขานั่งรอนิรันดร์มานานถึงสามชั่วโมงเข้าไปแล้ว ตอนเขาดูการ์ตูนมันเพลินก็เลยไม่ได้สนใจเวลา มาสนก็ตอนที่นิรันดร์บอกจะกลับแล้วเนี่ยแหละ

ริทเดินไปเอารถ เขาหาวออกมาเบาๆ ก็ไม่เชิงว่าง่วงแต่น่าจะเพลียกับการขับรถทั้งวันมากกว่า เขาวนรถช้าๆ มาที่ทางออก ตาคอยมองไปด้วยว่าคุณนรันดร์ออกมาจากอาคารหรือยัง แล้วเขาก็เห็นว่าคุณนิรันดร์กำลังคุยกับใครบางคนอยู่ เคลื่อนตัวเชื่องช้าไปอีกพักถึงได้เข้าไปจอด

นิรันดร์เอ่ยลาลูกค้าก่อนจะขึ้นรถ เขานั่งเบาะที่อยู่ติดหลังคนขับ เอนกายพลางถอนหายใจ มือปลดเน็กไทออกเล็กน้อยเพื่อผ่อนคลายตัวเอง งานสังสรรค์พวกนี้ดูเหมือนจะสบาย มีเครื่องดื่ม อาหารการกินที่หรูหรา แสงสีเสียงและผู้คนมากมาย ทว่าสำหรับนิรันดร์แล้วเขาไม่ชอบเท่าไหร่เลย มันออกจะเวียนหัว น่าเบื่อและเหนื่อยใจ ต้องไหลไปกับผู้คน คุยเรื่องอะไรก็ต้องตามเขาให้ทัน ไม่งั้นก็จะดูแปลกแยก การอยู่รวมเป็นสังคมมันเป็นตัวเองได้น้อยนิด

แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้เขาได้พักแล้ว เขาขยับมานั่งตรงช่องว่างระหว่างคนขับรถและห้องโดยสาร ริทเงยหน้ามองเขาผ่านกระจก เขาส่งยิ้มให้เด็กหนุ่มผู้ที่น่าจะเหนื่อยกว่าเขาเพราะต้องนั่งตากยุงรอตั้งนาน

“หิวไหม เราแวะหาอะไรกินกันดีเปล่า” นิรันดร์เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“คุณรันหิวเหรอครับ” แต่ริทถามกลับ

“เปล่า ผมไม่หิวหรอก แต่ถ้าริทหิวก็แวะหาอะไรกินกัน ผมปล่อยให้ริทรอตั้งนานนะ” ใจจริงอยากนั่งข้างๆ คนขับด้วยซ้ำ แต่ตรงนี้ก็เห็นหน้าริทชัดดีแค่แตะต้องลำบากหน่อย

ทำไมต้องอยากแตะต้องริท ก็...อยากแตะต้องเฉยๆ เนี่ยแหละ นิรันดร์ค่อนข้างชอบเด็กคนนี้ ริทเป็นคนที่น่าเอ็นดูในสายตานิรันดร์ หรือไม่ก็เพราะเขามีรสนิยมชอบเด็กมากกว่า ทั้งที่เด็กมีนิสัยขัดต่อตัวตนของเขามากเลยก็ตามที นิรันดร์รักความเงียบสงบ แต่เด็กส่วนใหญ่ชอบการสังสรรค์และแสงสีเสียง อืม...เขาเนี่ยชอบอะไรที่ขัดแย้งชะมัด

“มันหน้าที่ผมนี่ครับ ผมกลับไปกินข้าวก็ได้ แม่ทำไว้รอแน่นอน” เพราะเดี๋ยวนี้กลับบ้านตอนไหนก็ไม่ต้องห่วงว่าแม่จะปล่อยให้ริทหิว ริททำงานแล้ว เลิกงานก็ไม่เป็นเวลา คนเป็นแม่เป็นห่วงลูกเสมอ

“อืม งั้นกลับไปกินอาหารฝีมือป้าออมก็ได้”

“ครับ”

รถเคลื่อนตัวไปยังที่พักเร็วกว่าขามา ด้วยรถราบนท้องถนนเริ่มโล่งบ้างแล้ว เวลานี้คนส่วนใหญ่เลิกงานกันหมด จะมีก็แต่ออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ เท่านั้นแหละ ริทเอาเจ้าลีขับชิดเลนขวา ความเร็วร้อยนิดๆ ถ้าเป็นรถตัวเองจะซิ่งมากกว่านี้แต่นี่ไม่ใช่ ต้องถนอมเอาไว้มันรถเจ้านาย

ถึงบ้านนิรันดร์กึ่งขอกึ่งบังคับให้ริททานมื้อค่ำเป็นเพื่อน เขาบอกว่าการนั่งกินข้าวคนเดียวมันเหงา ริทก็ใจอ่อนยอมนั่งกินกับเจ้านายทั้งที่มันเกร็งไปหมด ระหว่างมื้ออาหารก็มีพูดคุยนั่นนี่ไปตามประสา ส่วนใหญ่ริทจะเป็นฝ่ายพูดเพราะนิรันดร์เอาแต่ตั้งคำถาม

ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร นิรันดร์ถามเรื่องการ์ตูนเป็นส่วนใหญ่ เรื่องพวกนี้ริทถนัด จะให้พูดทั้งวันยังได้ ท่ามกลางความสนุกในการเล่าเรื่องของริท นิรันดร์รู้สึกชอบที่จะได้นั่งมองริทพูดเรื่อยเปื่อย สีหน้า ท่าทางและแววตาของเด็กหนุ่มเป็นที่ต้องตาต้องใจของเขา

แต่ถึงอย่างนั้น...เขาก็ไม่สามารถนั่งมองริทไปทั้งคืนได้

ทั้งคู่แยกย้ายกันไปห้องใครห้องมันในตอนห้าทุ่มกว่า ริทอาบน้ำได้ก็หลับใหลเป็นตาย ตุ๊กตาซาสึกเกะอยู่ในอ้อมกอดของเด็กช่างตัวโตๆ ริทซุกหน้าไปกับมัน เริ่มฝันเป็นเรื่องเป็นราวเกี่ยวกับการ์ตูนที่เขาชื่นชอบ

แต่...ฝันของเด็กหนุ่มก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป

มันทำไมอะเหรอ มันติดเรตมากขึ้นน่ะสิ!!!

ริทกำลังฝันเห็นนิรันดร์ ไม่ใช่นิรันดร์ในโหมดเจ้านายที่ใส่ชุดสูทและมีรอยยิ้มหวานๆ ประดับใบหน้า แต่เป็นนิรันดร์ในเวอร์ชั่นเสื้อเชิ้ตไม่ติดกระดุม กางเกงสแล็กไม่ได้รูดซิบ แบบนี้เรียกว่าอยู่ในสภาพพร้อมฟันดาบ ริทอยู่บนที่นอน เขามองร่างสูงใหญ่นั้นคลืบคลานขึ้นมาหาบนเตียง พอร่างใหญ่คร่อมทับ จากเตียงก็กลายเป็นพานทอง...

ยังไม่ได้นอน...ตอนนี้ยังไม่ได้นอนเลยจะสิบโมงเช้า ฮื่อ ร้องไห้ผสมร้องเพลงด้วยหน้าตาอันมึนเบลอและไร้โฟกัสอย่างสิ้นเชิง ริทหลับสนิทได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเขาก็สะดุ้งตื่นเพราะฝันนั้น เป็นการตื่นที่มาพร้อมกับเจ้าหนูน้อยในกางเกงตั้งโด่ แม่เอ้ย อายตัวเองจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด นี่มัน...นี่มัน...นี่มันอะไรก๊านนนนน

ไม่ต้องถามว่าสำเร็จโทษตัวเองไหม หึ จะไปเหลืออะไรล่ะ!

“เอ้าดูหน้าสินั่น” หน้าริทมันทำไม ริทล่ะอยากจะถามแม่แบบนี้จริงๆ ตามันโหลล่ะสิไหม จะเอากี่โหลไหนว่ามาเลย เอ๊อะ...มุกน่ะมุก

“ฝันร้ายอะแม่”

“อายุปูนนี้แล้วยังจะฝันร้ายอีก ฝันว่าอะไรไหนเล่าสิ” ป้าออมยกอาหารเช้ามาให้ลูกชายที่กว่าจะลุกจากที่นอนก็ปาไปสิบเอ็ดโมง

“ฝันว่านารูโตะตาย” โกหกแม่เป็นบาป แต่ถ้าบอกแม่...น่าจะทำให้ริทมองหน้าแม่ไม่ติดอีกเลย

“โอ้ย พระเอกไม่มีวันตายหรอกหน่า” แม่เคาะหัวริททีหนึ่งแล้วเดินออกไป ก็ใช่ นารูโตะเป็นพระเอก เพราะงั้นนารูโตะไม่มีวันตาย

แต่เขาจะตาย...เขาง่วงจะตายแล้วฮื่อ

ริทนั่งกินข้าวกับความง่วง ตามันจะเบลอๆ หน่อย หัวก็จะตกๆ นิดหนึ่ง เผลอครู่เดียวริทหลับใน นั่งกินข้าวที่หัวสัปหงกหงึกๆ นิรันดร์ลงมาที่ครัวในเวลานี้เข้าพอดี กะว่าจะมาหาผลไม้ไปกินบนห้องโดยที่ไม่เรียกแม่บ้าน ก็นะ แอบกะว่าจะเจอริท แล้วเขาก็เจอ...สภาพนี่เลย สัปหงก

นิรันดร์ค่อยๆ ย่องเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับริท เขาเลื่อนเกาอี้อย่างเงียบเชียบ แอบมองไปรอบๆ ดูด้วยว่ามีใครเห็นการกระทำแปลกๆ ของเขาไหม เมื่อไม่มีคน นิรันดร์ก็นั่งเท้าคางมองเด็กหนุ่มถือช้อนค้างไว้ตรงขอบชามข้าวต้ม

คนอะไร...กินไปหลับไปก็ได้ด้วย

….100%….

ก่อนอื่นต้องขออภัยที่หายหน้าหายตาไปนานเป็นเดือนๆ เรามีปัญหาส่วนตัวจนทำให้ไม่มีกะจิตใจจะเขียนนิยายเท่าไหร่ค่ะ แล้วที่เรามาอัปวันนี้ก็จะมาแจ้งด้วยว่าเราจะหยุดอัปลิโม่บอยสักระยะ เพื่อจะปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาบางส่วนที่เรารู้สึกว่ามันยังไม่ดีค่ะ เราต้องขอโทษจริงๆ ที่ทำให้ทุกคนรอคอยกันนานนะคะ ยังไงเราจะอัปเรื่องนี้จนจบแน่นอนค่ะ จะไม่มีทางปล่อยทิ้งค้างเอาไว้แล้วไม่มาต่อแน่ๆ แค่ขอเวลาหน่อยนะคะ

สุดท้ายยยยย สวัสดีปีใหม่ทุกคนนะคะ มาช้าดีกว่าไม่มาเน้อ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมากๆ สมปรารถนาทุกประการกันเลยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 06-01-2019 02:18:45
อื้มมมม เอางี้เลยนะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 06-01-2019 15:13:05
จร้า จะรออ่าน. หนูริทจะโดนงาบ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 06-01-2019 18:08:08
อิพี้ทำอะไรไม่เกรงใจน้องเลยยย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 06-01-2019 19:15:44
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งเด้อ  :L1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-01-2019 23:02:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-01-2019 00:19:13
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-01-2019 02:00:43
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-01-2019 20:44:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 6- 100% [06-01-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 14-02-2019 06:29:05
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ รอติดตามจ้า

เออนั่น แล้วรันก็ไม่ได้สนใจเลยว่าริทยังเด็กยังน้อย
ให้เรียนรู้ไว้ จะได้ชินหรอ แล้วอะไรคือสนใจเป็นพิเศษ

ริทก็ยังเป็นเหมือนเด็กน่ะ สงสารที่ต้องเห็นฉากร้อนแรง
แต่การ์ตูนช่วยได้เนาะ 55555
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 07-03-2019 19:42:17
>….ตอนที่ 7 [100%]….<

“ริท!” เรียกไม่พอ คนเป็นแม่ตบหลังริทเข้าให้ป๊าบใหญ่เพื่อเรียกสติลูกที่หลับไปกินไป

“โอ้ยแม่ ริทเจ็บน้า”

“คนบ้าไรกินไปหลับไปฮะ รีบกินรีบไปนอนเลยไป เกะกะครัว” มันอนาถใจจนต้องไล่ให้ไปนอนเสียให้รู้แล้วรู้รอด

ริทบ่นแม่งุ้งงิ้งขณะตักข้าวต้มที่หมดความร้อนไปแล้วเข้าปากรัวๆ มันช่างน่ารักน่าเอ็นดูจนแม่ต้องลูบหัวริทแรงๆ จนหัวนี่ทิ่มเกือบลงชามข้าวต้ม ดีที่ริทงัดหัวตัวเองขึ้นได้ทัน ไม่งั้นเช้านี้เขาคงได้ล้างหน้าด้วยน้ำข้าวต้มแม่แน่นอน

มีส้มผลหนึ่งวางอยู่ข้างถ้วยข้าวของเขา ริทคิดว่าแม่เป็นคนวางเอาไว้ให้ เจ้าตัวส่งเสียงเย้าแม่ว่าถึงจะดุแต่ก็ห่วงเขาใช่ไหมล่า ให้ส้มเขาไว้แบบนี้ แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นนิรันดร์ต่างหากที่วางเอาไว้ให้

อ่าวแล้ว...งี้คุณรันเห็นตอนเขาหลับไปกินไปล่ะสิ!

และใช่ นิรันดร์นั่งมองมันอยู่นานเชียวล่ะก่อนจะขึ้นห้องไปพักผ่อนเป็นการส่วนตัวบ้าง ริทแอบเขินนิดหน่อย สภาพเขามันไม่ได้น่ามองเอาเสียเลย ดูตลกมากๆ น่าขายหน้าเป็นที่สุด แต่ช่างมัน เขาหลับเว้ย เขาไม่รู้ตัวถือเสียว่าไม่มีอะไรต้องอับอายอะเนอะ

วันทั้งวัน ริทและนิรันดร์ต่างก็อยู่ส่วนใครส่วนมัน นิรันดร์เป็นแบบนี้อยู่แล้ว วันหยุดเขาไม่ค่อยโพล่หน้าออกมานอกห้องหรือออกไปที่อื่นถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ส่วนริทก็ช่วยงานแม่บ้าง นอนบ้าง ดูการ์ตูนบ้างไปเรื่อยเปื่อยตามประสา
เช้าแห่งการทำงานมาถึงอย่างรวดเร็ว เพราะว่าวันหยุดนั้นผ่านไปไวเสมอ ริทตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันเพราะบ้านหลังนี้ไม่ได้เลี้ยงไก่เอาไว้ เขาต้องไปเช็กรถที่นิรันดร์ใช้อยู่เป็นประจำ

Jaguar XJ เป็นรถยนต์สปอร์ตซีดานหรู มันให้ความดุดัน แข็งแกร่งแต่ก็เรียบหรู ริทคิดว่าเจ้านี่เหมาะกับนิรันดร์มากกว่าลีมูซีนที่เป็น Rolls Royce Phantom Limo คือเจ้าลีมันหรูไง มันเน้นหรูมากกว่าดุดันน่ะนะ แต่ถึงอย่างนั้น...ริทก็ซ่อมจริงจังไม่ได้สักคัน รถทั้งสองนี้มีร้านซ่อมประจำ แต่การตรวจสอบพื้นฐานก่อนวิ่งบนท้องถนนนั้นริททำได้สบายมาก

ประมาณเจ็ดโมงริทเคลื่อนรถไปจอดไว้ที่หน้าบ้าน ชอบการขับจากัวร์คันนี้มาก ริทว่าถ้าเอามันไปซิ่งบนสนามได้คงเมามันอย่างน่าดู แรงม้าและการทำความเร็วเจ้านี่ไม่ใช่เล่นๆ นาจา ติดที่ไม่ใช่รถเขา และถนนในเมืองกรุงทำความเร็วได้ถึงร้อยยี่สิบก็เก่งแล้วอะนะ

“นึกว่าบ้านหลังนี้ไม่มีริทแล้วนะเนี่ย” ขึ้นรถมาถึงนิรันดร์ก็เอ่ยแซวเด็กขับรถของเขาในทันที

“ใครกันแน่ที่เหมือนไม่อยู่บ้านครับคุณรัน บ้านตั้งใหญ่ อยู่แค่ในห้อง แบบนี้เขาเรียกใช้พื้นที่ไม่คุ้มนะครับ” บรรยากาศแบบนี้ริทคุยเล่นกับนิรันดร์ได้ เมื่อไหร่ที่นิรันดร์เริ่มเอางานขึ้นมานั่นแหละคือเวลาที่ห้ามคุย

“บ้านนี้แม่บ้านคุมริทไม่รู้เหรอ”

“ฮ่าๆ คุณรันก็ ถ้าแม่บ้านไม่คุมทั่วทุกพื้นที่บ้านหลังนี้คงมีแต่ฝุ่นล่ะครับ”

“นั่นสิเนอะ แล้วริททำอะไรบ้างในวันหยุด นั่งกินข้าวไปหลับไป...งี้?” คนฟังคิ้วถึงกับผูกโบว์

“คุณรันก็ไม่ใจดีปลุกผมหน่อยเลยเนอะ ปล่อยให้ผมกินข้าวทั้งที่นั่งหลับแบบนั้นได้ไงอ่า” งอแงเบาๆ พอเป็นพิธี ยอกเย้ากับเจ้านายมันก็จะราวๆ นี้

“มันตลกดีเลยดูเพลินลืมปลุก”

“นั่นคือเหตุผลหรือ โอ้นารูโตะช่วยด้วย”

“ฮ่าๆ ไหนว่าฝันว่านารูโตะตาย” ยัง นิรันดร์ยังไม่หยุดเย้าเด็กหนุ่มของเขา ก็นะ...เช้านี้เขาอารมณ์ดีเพราะพักผ่อนไปเต็มที่มากๆ

ที่จริงนิรันดร์ก็ลงมาข้างล่างบ้าง เห็นริทช่วยแม่ถูบ้าน ตัดหญ้าแล้วก็รดน้ำต้นไม้อยู่บ่อยๆ เขาแค่ไม่ได้ทักทายอะไร แค่ลงมาเอาของนิดหน่อยแล้วขึ้นห้อง เหมือนกับว่าที่จริงแล้วเขาแค่ต้องการเห็นว่าริทยังอยู่ที่นี่ อยู่ใกล้ๆ แค่นั้นก็สบายใจมากพอจะกลับไปพักผ่อนต่อ

“โหย...แม่ฟ้องคุณรันอะ” นี่ถ้าบอกความจริงของการนอนไม่หลับแม่จะฟ้องนิรันดร์ไหมนะ ริทแอบคิด แต่ดีแล้วที่ไม่บอกแม่ มันน่าอายเกินไป

“เขาเรียกเล่าสู่กันฟังครับริท” นิรันดร์ยักคิ้วให้เล็กน้อย จากนั้นเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเลขาคนสนิท

การทำงานของนิรันดร์เริ่มขึ้นแล้ว เริ่มทันทีที่ต่อสายหาอีกคนได้นั่นแหละ ริทเงียบเสียงไปตามระเบียบ เรียกว่ารู้หน้าที่ของตัวเองดีน่าจะเหมาะสมที่สุด เมื่อรถเคลื่อนตัวไปถึงบริษัท ริทก็แค่เข้าไปข้างในตามนิรันดร์ จากนั้นหาที่นั่งพักนั่งเล่นอะไรไปเรื่อยเปื่อย

ทำงานห้าวันก็เป็นแบบนี้ทั้งหมดห้าวัน เขาต้องนั่งรอนิรันดร์ทำงาน บางทีจะได้ขึ้นไปนั่งเล่นอยู่หน้าห้องทำงานของนิรันดร์ ซึ่งจะมีเลขาสองคนประจำตำแหน่งซ้ายและขวา ริทไม่เคยเห็นสองคนนั้นว่างเลย จับมือถือ ปากกา ไม่ก็พิมพ์งานอยู่ทั้งวัน อย่าว่าแต่เลขา คนเป็นนายก็ใช่ว่าจะว่างงาน ริทเห็นแล้วปวดหัวแทน

พอใกล้ชิดก็เห็นมุมต่างๆ ของนิรันดร์มากขึ้น ริทเริ่มที่จะเข้าใจธรรมชาติการทำงานของนิรันดร์แล้วโดยที่ไม่ต้องทำความเข้าใจเลย เขาเห็นมันจนชิน เวลาทำงาน นิรันดร์จะจริงจังมากๆ แทบไม่สนใจสิ่งอื่นรอบด้านเลยด้วยซ้ำ เขาสองคนคุยกันน้อยในเวลาทำงาน เพราะงานคืองาน นิรันดร์ทำให้ริทเข้าใจได้แบบนั้น

แต่...นอกเหนือจากงานยังมีเรื่องอื่น

เรื่องนี้บอกเลยว่าเป็นปัญหาน้อยๆ สำหรับริท ทุกคนน่าจะรู้จักคำว่าอาหารจานด่วน ที่เป็นพวกข้าวผัดกะเพรา ข้าวไข่เจียว ข้าวราดแกง ริทรู้จักดีเพราะกินแทบทุกมื้อ และเชื่อว่าถ้าพูดคำว่าอาหารจานด่วนใครๆ ก็ต้องรู้ทั้งนั้น

แต่สำหรับนิรันดร์ นอกจากอาหารต้องเป็นจานด่วนแล้วมันยังมีสิ่งอื่นนอกเหนือเพิ่มเติมเข้ามา นั่นก็คือ...เซ็กซ์จานด่วน!

แน่นอนว่าคุณไม่ได้อ่านผิด เห็นนิรันดร์บ้างานแบบนี้ คู่ควงไม่มี แฟนไม่มี แต่เรื่องใต้สะดือนิรันดร์ไม่เคยขาด วันไหนที่ที่นิรันดร์สั่งให้ริทกลับไปเอาลีมูซีน วันนั้นจะเป็นวันผลาญน้ำมันอย่างไร้ค่าเพื่อให้เจ้านายได้กินตับกับชายหนุ่มบนรถจนท้องตึง

น้ำตาตกในมากเลย...พี่น้องเอ้ย เห็นแล้วเสียวไส้

ริทจะไม่สนใจ จะทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็น แต่ความเป็นจริงก็คือเขารู้เขาเห็นไงล่ะ ในรถมันก็มีพื้นที่แค่นี้ เจ้าลีคันนี้ไม่ได้มีพื้นที่ยาวใหญ่เป็นพิเศษขนาดนั้นนะ แค่เหมือนห้องนอนห้องหนึ่งเคลื่อนที่ได้เท่านั้นเอง ประตูทุกด้านเมื่อปิดเสียงก็ก้องมันอยู่ในนั้น สุดท้ายมันจะวิ่งจู๊ดเข้าหูริท เอื้อะ...

เรียกว่าทุกครั้งที่มีจานด่วนเปลื้องผ้า เมื่อนั้นริทจะรู้สึกกระอักกระอ่วนและปวดหัวมาก หัวล่างนะไม่ใช่หัวบน ปกติดูหนังโป๊ในห้องยังมีต้มยำทำแกงกับตัวเองได้ นี่บนรถ แถมเป็นบนรถที่เจ้านายกำลังฟรีสไตล์อยู่ด้วย มันไม่ได้จริงๆ

อืม...เขาควรหาหูฟังบลูธูทมาใส่เนอะ เปิดเพลงอัดเวลาที่เกิดกิจกรรมเข้าจังหวะ ตัวเสียงเนี่ยมันกระตุ้นเร้าได้ง่ายที่สุด แต่ไม่ดี ห้ามเสียงได้แต่ห้ามสายตาไม่ได้อะสิ ริทเผลอไปมองบ่อยๆ พยายามห้ามตาตัวเองล่ะ ไม่สำเร็จ

การทำงานกับนิรันดร์ดีหมด งานสบายๆ ที่เพลียแค่ต้องฝ่าดงรถติดในทุกๆ วัน ปัญหาอย่างเดียวสำหรับริทตอนนี้คือเขาใจเต้นไม่เป็นส่ำทุกครั้งที่เกิดการกินตับบนรถ ยิ่งต้องลงรถทันทีหลังเจ้านายกินตับเสร็จนะ ริทนี่เดินตรงๆ ไม่ได้เลย

จุ้ๆ อย่าว่าริททะลึ่งเลย เป็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองเองโดยไม่สามารถห้ามปรามมันได้จริงๆ

วันนี้เป็นอีกวันที่ริทต้องเอาลีมูซีนมารับคู่ขาของนิรันดร์ เขาคุ้นหน้าชายหนุ่มคนนี้ดีแล้ว แต่ก็มีความรู้สึกว่าชายคนนี้ชอบมองตนเองแปลกๆ มองแบบเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันมาก ริทก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไม อาจจะไม่พอใจริทตั้งแต่ครั้งแรกที่ริทไม่ได้เปิดประตูให้ก็ได้ แต่คราวนั้นเขาไม่รู้นี่ ใครจะไปรู้ว่าเจ้านายให้มารับเด็กมัธยม เอ่อ...ไม่ใช่ แค่คลอสเพลเป็นเด็กมัธยมเพื่อเอาใจ

“นายไม่ได้อ้าขาให้คุณรันใช่ไหม” จู่ๆ คนคนนั้นก็พูดขึ้นมา ริทขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ปากพยายามยิ้มเพราะคนคนนั้นมองเห็นเขาได้จากกระจกมองหลัง

“ผมไม่เข้าใจครับ” ตีโง่เข้าไว้ ริทคิดว่าที่คนนี้พูดอาจหมายถึงว่าเขาเนี่ยนอนกับคุณนิรันดร์ในฐานะคู่นอนไปด้วย

“โง่มากเหรอ เรียนมาก็ไม่น้อยหนิ ผมหมายถึงนายน่ะได้เอากับคุณรันด้วยไหม คุณรันน่ะชอบเด็กๆ เป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม คงเพราะมันดูสดใสแล้วก็ออดอ้อนเก่งดีล่ะมั้ง นายน่าจะสเปกคุณรันเลย” หน้าตาเขาดูเหมือนคนขายเนื้อเหรอ? ไม่น้า เขาออกจะย่าเยิงหยดไหย

“ผมเป็นแค่คนขับรถครับ” ริทตอบแล้วก็ยิ้มหวาน

“แค่นั้น?”

“ครับผม” สีหน้าอีกฝ่ายดูสบายใจขึ้น อย่าบอกนะว่ากลัวเขาแย่งความดีความเด่นจากคุณนิรันดร์น่ะ

เห่อๆ ถึงอยากเอาตัวใส่พานถวายนิรันดร์แค่ไหนริทก็ไม่คิดทำหรอก แค่อารมณ์แบบ...ถ้าได้ไอดอลมามาเป็นแฟนมันคงฟินเนอะ มโนน่ะเข้าใจไหม เพ้อเจ้อบ้างตามเรื่องตามราว แต่ถ้าจะให้ดีนะ...เขาชอบซาสึเกะ หล่อกระชากสุดๆ

คนคนนั้นยิ้มร่าทันทีที่นิรันดร์ขึ้นมาบนรถ ริทเฝ้ามองพวกเขาจากกระจกมองหลัง เหมือนทุกครั้ง เล้าโลมกันไป สวบสาบๆ กันไป เขาก็แค่ขับรถตามคันหน้า ริทเริ่มรู้จังหวะมากขึ้น ต้องขับช้าๆ ไปตามทางเรื่อยเปื่อย แต่ต้องเลี่ยงถนนเส้นที่รถติด ไม่งั้นมันอาจจะเห็นได้ว่ารถสะเทือนอยู่ข้างใน คือเป็นความระแวงนะ โช๊กของเจ้าลีไม่ธรรมดา กระโดดบนรถมันยังไม่สะเทือนเลย

เนื่องจากวันนี้นิรันดร์เลือกจานด่วนตอนเลิกงานเลี้ยงสังสรรค์ ทำให้เวลานี้รถราบนท้องถนนเริ่มโล่ง เจ้าลีเคลื่อนที่ได้เรื่อยๆ ไม่มีสะดุดหรือต้องแตะเบลกเท่าไหร่นัก ท้องฟ้ามืดมิดยิ่งทำให้บรรยากาศดูเป็นใจ แสงภายในรถถูกตกแต่งเอาไว้เพื่อเพิ่มบรรยากาศจนครบสูตร วันนี้แถมเสียงเพลงด้วย...จอดข้างทางไหม? ริทอยากถามแบบนี้เหลือเกิน แต่คิดว่าการเมามันบนรถก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ ดีไม่ดีนิรันดร์คงชอบแบบนี้ก็ได้

“อื้อ...อ่าห์...ดี...ดีจังเลยครับ” เสียงหวานครางออดอ้อนยามที่นิรันดร์สอดใส่เข้าไปข้างใน

รู้ได้ไงว่ากำลังสอด เอ้า...ไม่มองอยู่จะรู้ไหมล่ะ เอ้อ ไม่น่าต้องให้อธิบาย แฮ่กๆ แอบดู แอบดูวววว

!!!

ริทสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเพราะนิรันดร์ดันเงยหน้าจากคู่นอนใต้ร่างมามองเขา สายตาปะทะสายตาเข้าพอดิบพอดีอย่างไม่ตั้งใจ ริทรีบหันหนี มองท้องถนน ทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้แอบมองอะไรเล้ย แต่หางตาเนี่ยก็เห็นว่านิรันดร์ยิ้มบางๆ ส่งมาให้

ไม่นะไม่...ไม่นะม่ายยยยยย!

กุมใจได้ไหม ตอนนี้ละมือจากเจ้าลีมากุมหัวใจตัวเองได้หรือเปล่า ไม่ไหวแล้ว กระหน่ำเกินไป แบบว่า มันเซ็กซี่มาก ริทคิดนะ เจ้านายของเขาไปถ่ายแบบเซ็กซี่จะต้องดังเปรี้ยงปร๊างแน่นอนเลย คาริสม่าเด่นหราขนาดนี้ สาวน้อยใหญ่สบตาต้องตาย อย่าว่าแต่สาวๆ หนุ่มๆ ก็ไม่น่ารอด เช่นเขาเป็นต้น

“อ๊ะ อ๊ะ...อื้มมมมฮ๊า” เออ ครางมันเข้าไป เสียงดังกว่าเพลงแล้วพี่น้องเอ้ย

นี่มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น บนท้องถนนที่รถราแทบไม่มีอยู่นี้จะทอดยาวไปอีกไกลแสนไกล ตราบใดที่เขาสองคนนั้นยังไม่เพียงพอ ริทต้องตั้งแบบนี้ต่อไปจนกลายเป็นความทรมานยากจะบรรยาย

ริทมองไปที่นิรันดร์บ่อยครั้ง สายตาคู่นี้ไม่เคยมองไปยังร่างบางที่นิรันดร์กำลังโยกกายใส่อยู่เลย ก็...มีบ้าง แต่ไม่บ่อย ถึงริทจะชอบผู้ชายด้วยกัน แต่เขาไม่ได้ชอบพวกนุ่มนิ่มแบบนั้น คงพอเข้าใจกันดีว่าริทหมายปองอะไรอยู่

บ้า...คิดแล้วทะลึ่งชะมัด!

ร่างโปร่งไม่ได้อิจฉาหุ่นนิรันดร์ ไม่ได้อิจฉาร่างบางที่โดนควบอยู่ เขาแค่รู้สึกว่านิรันดร์มีบางอย่างดึงดูดสายตา อาจเป็นสีหน้า อาจเป็นรูปร่าง หรืออาจเป็นแค่จังหวะการพ่นลมหายใจหอบกระเส่านั้นก็ได้

แล้วไอ้ที่ทำให้เขามีอารมณ์ก็นิรันดร์นี่แหละ!

ราวชั่วโมงครึ่งกับจานด่วนในวันนี้ ในที่สุดริทก็ได้ฤกษ์เลี้ยวรถเข้าข้างทางเพื่อให้ร่างบางคู่นอนคนสนิทของนิรันดร์ลงจากรถ แปลกที่วันนี้นิรันดร์ลงตามไปด้วย ริทไม่ได้คิดอะไรมาก เขาใช้ช่วงเวลาที่นิรันดร์เดินไปส่งอีกฝ่ายนั้นกุมส่วนอ่อนไหวของตัวเอง ประมาณบีบๆ นวดๆ ให้มันเจ็บหน่อยมันจะได้นอนหลับไป

แต่ให้ตาย...ทำไมยิ่งตื่น!

ขณะกำลังเครียดๆ กับส่วนตื่นตัวของตนเองอยู่นั้น ร่างสูงของเจ้านายก็เดินกลับมที่รถ ริทรีบละมือออกจากเป้ากางเกงไม่งั้นมันจะดูเหมือนเขาเป็นไอโรคจิตที่กำลังจุ๊กกรู๊อยู่ก็เป็นได้ ทว่ามันไม่จบที่นิรันดร์เดินมาที่รถ แต่...

“นั่งด้วยนะ...” ฮื่อ...กลับไปนั่งข้างหลังเถอะคร้าบ มานั่งทำไมตรงเน้!!!

“ริทเป็นอะไรหรือเปล่า หน้าแดงๆ นะ” นิรันดร์เอื้อมมือมาแตะเข้าที่ข้างแก้ม ใช้หลังมือวัดอุณภูมิซึ่งมันน่าจะร้อนมาก ขนาดริทยังรู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองร้อนขนาดไหน

“อะเอ่อ...เปล่าครับ” ยิ้มเข้าใว้ ได้แค่ยิ้มแฮ่ๆ เป็นยิ้มแหยที่ไม่น่ามองเอาเสียเลย

“อืม...แต่ริทดูไม่สบาย” ฝ่ามืออุ่นนั้นไล้จากข้างแก้มไปที่ลำคอ ริทเบี่ยงตัวแต่ไม่พ้น แขนเจ้านายเขายาวมาก ยาวจนเขาตัวติดประตูแล้วนิรันดร์ก็ยังสามารถอังหลังมือกับลำคอเขาได้

“ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ครับ แค่...เขินๆ กับคุณรันมั้ง” ริทอยากเอามือดันมือนิรันดร์ออก แตะเนื้อต้องตัวกันแบบนี้ใจไม่ดีจริงๆ

“เขินที่ผมทำกับคู่นอนน่ะเหรอ จริงดิ นึกว่าริทชินแล้ว” ชินได้ไงล่ะ มันไม่ใช่ของที่สามารถชินได้นะเอ้อ

ริทไม่เห็นว่านิรันดร์กำลังเลื่อนสายตาลงต่ำไปยังเป้ากางเกง เขาพยายามมองไปข้างหน้า ดูรถเบนซ์สี่ประตูของเลขานิรันดร์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ไปส่งคู่นนอนนิรันดร์ตามเดิมเหมือนทุกที ฝ่ามืออุ่นๆ นั้นเคลื่อนออกไป ริทหายใจโล่งขึ้นได้แต่ไม่กล้าหันมาเจอหน้านิรันดร์อยู่ดี

“ริทมีอารมณ์เหรอ มีเพราะผม...หรือมีเพราะคู่ของผม” จ๊ากกกก ไม่นะ ไม่ถามเด็กน้อยกันตรงๆ แบบนี้สิครับคุณนิรันดร์ ริทหน้าร้อนฉ่ายิ่งกว่าเตาไฟย่างหมู

“ผมไม่ตอบได้ไหมอ่า” เอาตัวรอดจากตรงยังไง ใครก็ได้ช่วยเขาที

ริทลนลานอย่างหนัก เหมือนหนูติดจั่นที่ไม่รู้จะหาทางหนีรอดไปได้อย่างไร แล้วเก็บอาการก็ไม่เป็น หน้าเน่อแดงก่ำลามไปยันคอ ริทรู้ว่าไม่ใช่แค่คอหรอกที่แดงอะ ตอนนี้แดงไปยันพุงได้แล้วมั้ง เพราะเป็นคนขาวจัด เลือดลมสูบฉีดทีนี่ไม่ต้องไปโกหกใครว่าเปล่าเขินเลยนะ ไม่รอด หมามันยังจับได้เลยคิดดูเถอะ

“ถึงริทไม่ตอบแต่อาการมันก็ฟ้องนะ มา...ผมช่วยดีกว่า ริทจะได้สบายตัว” เสียงทุ้มละมุนนั้นอยู่ใกล้กับใบหูมาก ริทไม่ยอากมองแต่ก็ต้องหันไปพิสูจน์ให้ตัวเองรู้ว่านิรันดร์ไม่ได้กำลังเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้

ไม่ก็บ้าแล้ว!

ใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายอยู่ห่างจากริทไม่ถึงคืบ ลมหายใจหอมๆ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตีจมูกเข้าจังๆ ริทนิ่งเป็นหิน ขยับตัวไม่ถูกและไม่รู้เลยว่าตอนนี้หายใจมันทำกันยังไง

“มะมะไม่...ไม่เป็นอะไรจริง...” หางเสียงหายไปเมื่อปลายจมูกของนิรันดร์แตะเข้าใบหูที่ตอนนี้มันไม่ใช่สีขาวของผิวหนัง แต่กลับแดงระเรื่ออย่างกับเลือดเข้าไปคั่งอยู่ข้างใน

“ผมทำริทมีอารมณ์ ผมต้องรับผิดชอบสิครับ” ไม่จำเป็นเว้ยครับ ฮื่อ ดูหนังเอวีก็มีอารมณ์ แต่ดาราในนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรเลย

ลมหายใจร้อนๆ รินรดทั้งใบหูและต้นคอ ขนในกายริทลุกซู่ซ่าไปหมด แถมยังหายใจสะดุดไม่เป็นจังหวะ มือไม้แข็งเก้งก้าง ทั้งที่เคยใช้งานได้ดี ตอนนี้มันกลายเป็นลืมวิธีใช้ไปหมดแล้ว นี่ร่างกายเขานะ เขาต้องควบคุมมันได้สิ!

ก่อนที่กลีบปากดูสุขภาพดีนั้นจะเม้มเข้าที่ติ่งหู ริทตัดสินใจใช้มือน้อยๆ อันอ่อนแรงแล้วอ่อนแรงอีกดันหน้าอกนิรันดร์ออก ริทคิดว่านิรันดร์จะยื้อตัวเอง แต่ก็ไม่ เมื่อออกแรงดันหน้าอกนั้น นิรันดร์ก็ค่อยๆ เคลื่อนกายออกห่างจากเขา แววตาคู่นั้นเหมือนคนกำลังสำนึกผิดอะไรบางอย่าง

เอ่อ...ไม่เอาสิ ไม่มองแบบนั้นสิ

“ริทรังเกียจสินะ”

“เปล่าๆ ไม่ใช่แบบนั้น...คือ..ผมไม่เป็นไรจริงๆ ครับ ผมจัดการกับมันเองได้ ไม่ต้องห่วงหรอก ผมแค่ตัวแดงง่ายเท่านั้นเอง แฮ่ๆ คุณรันทำงานมาเหนื่อยๆ คุณรันพักดีกว่าเนอะ” ริทไม่รู้ว่าตัวเองเบี่ยงประเด็นถูกไหม เขาไม่รู้จะพูดยังไง แค่รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม

“แต่ผมควรรับผิดชอบที่ทำให้ริทมีอารมณ์สิ” นิรันดร์ยังจ้องหน้าริทด้วยสายตาสำนึกผิด

“บ้าหน่า ผมดูหนังเอวีก็ตั้งนะ แต่ก็ไม่คิดว่าดาราในนั้นจะต้องมารับผิดชอบผมสักหน่อย มันก็แค่เรื่องธรรมดาๆ น่ะคุณรัน อย่าไปคิดมากนะ มันตั้งเองเดี๋ยวมันก็นอนของมันเองแหละเนอะ” เหมือนกำลังปลอบเด็กเลยวะ อารมณ์มันเหมือนนะ แต่สถานการณ์มันไม่ใช่

“ผมแค่อยากรับผิดชอบ...” นิรันดร์หันหน้าหนีไปเสียดื้อๆ เล่นเอาริทใจระส่ำระส่ายยิ่งกว่าโดนรุกใกล้อีก

เขาผิดอารายยยยย!!!

“งั้นๆ...เอ่อ เลี้ยงข้าวผมสิ นะนะ ผมหิวจังเลย” ริทส่งเสียงอ้อนๆ แล้วมันก็ได้ผล นิรันดร์หันกลับมาด้วยสีหน้าสำนึกผิดเช่นเคย แต่ก็มีรอยยิ้มบางๆ

“ก็ได้” เฮ้อ..ก็ได้นี่ทำให้ริทโล่งใจมาก

แต่...ไอ้ข้างล่างนี่มันก็ยังปวดหนึบเหมือนเดิม!

….100%….

กูกากกลับมาละจ้าาาาา กลับมาสำนึกผิดที่หายหน้าหายตาจนเหมือนตายไปแล้ว ซึ่งก็ยังไม่ได้ตายแต่อย่างใด ต่อไปนี้น้องจะกลับมาอัปนิยายตามปกติเด้อจ้า อาจจะเว้นระยะในการอัปห่างหน่อย แต่จะมาแบบไม่ให้ลืมกันได้อย่างแน่นวน

ฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้งและขออภัยที่ทำให้ทุกท่านรอนาน เอ๊ะ หรือไม่มีคนรอ ฮื่อออออ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-03-2019 19:55:03
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-03-2019 22:08:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-03-2019 00:22:56
 :pig4: :pig4: :pig4:

 :pig2: back
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 08-03-2019 00:33:57
ไม่ปลอดภัยเล้ยยยยยยยยยยยย  :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-03-2019 01:54:11
ไรท์กลับมาแล้ว แต่น้องริทหนีไปปปปปปป หนีไปเลยลูก คุณรันอันตรายมาก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 08-03-2019 05:28:00
ขำๆ ริท และคุณรัน เป็นคนตลก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-03-2019 07:36:52
คุณรันแกล้งน้องงงงงงง.
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-03-2019 21:54:54
แล้วคุณรันจะเลิกทำแบบนี้เมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 7 - 100% [07-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 09-03-2019 23:24:06
รอเรื่องนี้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 23-03-2019 21:26:00
>….ตอนที่ 8  [100%]….<

หลังจากเหตุการณ์ที่เกือบโดนนิรันดร์ออกตัวช่วยชักวู้ ริทเริ่มหันมาคิดค้นหาวิธีรับมือกับการตื่นตัวของตัวเองอย่างจริงจัง! ถ้าโดนถามว่าเรื่องเรื่องเรียนจริงจังขนาดนี้ไหม ตอบเลยแมนๆ ไม่! คนไม่เคยอยากแล้วต้องนั่งอดทนกับความอยากกระหายนั้นไม่มีทางเข้าใจ

เหนือกว่าความอยากที่เกิดขึ้นแล้วจัดการอะไรกับมันไม่ได้คือมันปวด! มันจะปวดหน่วงที่ตรงนั้นไม่หายจนกว่ามันจะสงบลง แล้วคิดดูสิ ถ้าวันไหนมื้อด่วนของนิรันดร์เป็นหลังงานเลี้ยงแล้วก็ทนไม่นานมาก ประมาณสองชั่วโมง แต่ถ้าวันไหนจัดก่อนไปงานเลี้ยง เขาต้องอดทนจนกว่าจะเลิกงานซึ่งนั่นอาจกินเวลาหลายชั่วโมงกับความทรมาน

คงมีคนพูดแหละว่ามันไม่ตั้งหลายชั่วโมงหรอก ใช่ แต่ค้างคาอะแน่นอน ตอนที่เขาทำกันเป็นชั่วโมงนั่นจะปวด หลังจากนั้นคือค้างคาล้วนๆ อาการมันก็จะหงุดหงิดงุ่นง่าน กระส่ำกระส่ายคล้ายคนปวดมวลท้องมองหาห้องน้ำอะ จะจัดการในรถระหว่างรอก็กระอ่วนใจ ห้องน้ำสาธารณะยิ่งแล้วใหญ่เลย

โอ้ยเครียด!

แล้ววิธีที่ริทไปค้นเจอในอากู๋แต่ละอันก็ช่างมีประโยชน์มาก ยิ่งพวกที่มาจากหลักสูตรสุขศึกษายิ่งเครียดหนักเข้าไปใหญ่ ให้ออกไปเตะบอลงี้ ตีแบดงี้ ออกกำลังกายอะไรไปตามเรื่อง เอ่อ...ในลานจอดรถอย่างมากก็กระโดดเชือกลมอะ แล้วที่หนักเลยคือให้นั่งสมาธิไม่ก็สวดมนต์ เห่อๆ สวดมนต์ทั้งที่ไอ้ตั้งอะนะ ส่วนที่ดูจะประโยชน์ไม่ได้มาจากหนังสือเรียนแต่มาจากกระทู้ในพันทิป เช่น...ก็เอาออกดิครับ ทนทำเชี่ยไร อืม...ประโยชน์

ส่วนใหญ่ก็แนะนำให้เบี่ยงเบนความสนใจกับการเอาออกเท่านั้น ซึ่งแม่งทำไม่ได้เมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์จริง หรือเขาต้องรอจนกว่าตัวเองจะชินไปเอง นี่รอจนชินเขาอาจจะไม่มีอารมณ์กับสิ่งใด หรือกลายเป็นคนตายด้านเลยนะ!

“ริทครับ เดี๋ยวส่งผมเสร็จริทกลับบ้านเลยนะ ค่ำๆ ค่อยเอาลีมารับผม ส่วนมารับที่ไหนยังไงผมจะแจ้งไปอีกทีเนอะ” ก่อนจะลงรถไปทำงาน นิรันดร์ก็เอ่ยสั่งงานกับริทพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

“ครับคุณรัน”

“แล้วเจอกันครับ” นิรันดร์เอื้อมมือมาลูบหัวริทเบาๆ ก่อนจะออกไป

ริทเลี้ยวรถกลับออกมาทันที ในเมื่อได้รับคำสั่งชัดเจนแล้วก็ไม่จำเป็นต้องอยู่รอ แต่รู้อะไรไหม คำสั่งนี้ชวนเครียดสิ้นดี วันนี้อีกแล้วสินะ เขาต้องไปหาวิธีการรับมือกับความอยากของตัวเองให้ได้ ต่อให้หามาทั้งอาทิตย์และไม่ได้อะไรเลยก็ต้องค้นหาอีก เพื่อสุขภาพจิตของเขาเว้ย!

แต่ก่อนจะไปหาวิธีนั้น ขอแวะห้างก่อน!

ริทไม่ได้เข้าห้างมาได้พักใหญ่แล้ว เนื่องจากว่าเล่มใหม่ของนารูโตะยังไม่ออกมาให้เขาได้สอยเก็บ ริทมักจะมาต่อเมื่อครบสองเดือนหรือสามเดือน การ์ตูนอื่นๆ ที่อ่านก็จะซื้อพร้อมกันตอนเขามาดูนารูโตะเล่มใหม่นั่นแหละ และนี่ก็ถึงเวลานั้นแล้ว

ร่างโปร่งนั่งเล่นรอจนห้างเปิด ความขี้เกียจทำให้เขาไม่อยากวนรถกลับเข้าบ้านแล้วออกมาอีกที นี่ซื้อเสร็จก็ได้กลับไปนอนอ่านให้สบายใจเฉิบแค่รอนิดรอหน่อยเขาทำได้สบายมาก ตอนนี้ริทหาเงินเองได้ เงินเดือนของเขาแบ่งให้แม่ไปแล้ว ส่วนที่เหลือมากอยู่สำหรับเอาไว้ใช้ซื้อนั่นนี่ให้ตัวเอง

เมื่อห้างเปิดก็ตรงไปร้านหนังสือ ดิ่งไปยังช่องที่มีนารูโตะก่อน เล่มใหม่มาแล้วรวมถึงการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ที่เขาอ่านด้วนเช่นวันพีชเอย โทริโกะเอย หรือแม้แต่วันพันช์แมนเอย นอกจากนี้ยังจะมีของจุกจิกเกี่ยวกับการ์ตูนขาย อย่างพวงกุญแจ แม่เหล็กติดตู้เย็น เข็มกลัด ริททำไง...หึหึ กวาดให้เรียบ!

กวาดแบบกวาดจริงจังมาก ไม่ปล่อยให้อันไหนที่เกี่ยวกับนารูโตะเล็ดรอดไปแม้แต่ปากกาด้ามเล็กๆ กระเป๋าเงินที่ซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ ริทชอบของพวกนี้ ไม่รู้สิ อะไรที่เกี่ยวกับการ์ตูนเรื่องโปรดเขาชอบหมดเลย และมีเงิน เงินก็จะหมดไปกับของเหล่านี้ แม่ถึงว่าเขาใช้เงินสิ้นเปลืองและไม่มีประโยชน์ไง

ริทเดินเล่นอยู่ในห้างอีกสักพักถึงเดินทางกลับเข้าบ้านหลังใหญ่ แม่ทักทายนิดหน่อย ประมาณว่าทำไมกลับเร็ว ริทอธิบายคร่าวๆ ก็เป็นอันจบเรื่อง เข้าห้องนอนไปอ่านการ์ตูนได้อย่างที่ใจอยาก

แล้วจากที่จะค้นคว้าหาวิธีรับมือกับความอยากของตัวเองก็กลายเป็นอ่านการ์ตูนยาวจนหลับไป ตื่นอีกทีก็บ่ายกว่า ไปกินข้าว ช่วยแม่ทำนั่นทำนี่กลับเข้าห้องนั่งดูการ์ตูนต่อ ชีวิตริทถ้าไม่มีงาน ไม่มีเพื่อนก็วนเวียนอยู่แค่นี้ นั่นมันสำคัญเหรอ? สำคัญที่เขาต้องหาวิธีรับมือกับฉากเรตที่ต้องเจอหรือเปล่า อืม...ช่างเถอะ ตอนนี้สมองมีแต่การ์ตูนไม่จบไม่สิ้นสักที ออกแนวว่าถ้าดูไม่จบกูไม่เลิกดู!

“เดินหน้าเครียดเลยไอ้ริท เป็นอะไรหืม แล้วป่านนี้ทำไมไม่ไปรับคุณรันอีกล่ะเนี่ย” ริทเดินออกมาจากห้องตอนทุ่มครึ่ง นิรันดร์ยังไม่ส่งอะไรมาหาเขาเลยกะว่าจะมานั่งรอข้างนอกบ้าง

“ไม่รู้ดิแม่ ริทก็รอคุณรันเรียกเนี่ย แกบอกว่าจะบอกอีกทีว่าจะให้ไปรับที่ไหนอะ” เอาคางวางไว้บนโต๊ะในครัว การ์ตูนจบหมดแล้ว ไม่มีแล้วทำแล้ว อยากนอนอีกแต่ถ้านอนก็กลัวจะไม่ได้ตื่นไปรับเจ้านาย

“ป่านนี้คงเมาอยู่ที่ไหนสักที่มั้ง” ลุงช่วยเดินเข้ามาพร้อมกับบ่นเบาๆ

“คุณรันแกน่าจะหาเมียเนอะลุง เผื่อจะขยันกลับบ้าน มีลูกมีหลานหน่อยนี่ดีเลยบ้านจะได้ไม่เหงาแบบนี้” แม่ริทบ่นไปเรื่อยเปื่อย

“ก็จริง แต่คุณรันเนี่ยนะจะมีลูก” ลุงช่วยพูดแล้วมองหน้าริท เป็นอันว่ารู้กันว่าคุณรันเจ้าของบ้านแกกินผู้ชายเป็นอาหารหลักนั่นเอง

กลายเป็นความเงียบงันอย่างไม่ทราบสาเหตุ ริทเองก็ไม่อยากจะจุดประเด็นอะไรให้แม่ถามขึ้นมาจึงเงียบตามๆ ไป สายตาจับจ้องอยู่แค่มือถือ ประหนึ่งว่ามันโคตรน่าสนใจสุดๆ ไปเลยในตอนนี้ โดยที่ริทไม่รู้ว่าผู้เป็นแม่ก็พอจะรู้เรื่องของนิรันดร์อยู่แล้ว

ขณะที่จ้องอ่านอะไรไร้สาระอยู่ในมือถือ ข้อความจากนิรันดร์ก็เด้งขึ้นพร้อมโลเคชั่นที่จะให้ริทไปรับ

ด้วยความที่รถลีมูซีนนั้นมันใหญ่ มันไม่สามารถซิกแซกเปลี่ยนเลนซ้ายขวาได้ง่ายๆ เหมือนรถเก๋งทั่วไป ริทจึงต้องอดทนกับรถราที่ติดหนึบบนท้องถนน จากบ้านไปถึงที่หมายเล่นเอากินเวลาไปชั่วโมงครึ่ง นี่วันๆ เสียเวลาไปกับการอยู่บนท้องถนนที่รถโคตรติดเนี่ยนะ

ริทเข้าไปที่ล็อบบี้ แจ้งกับพนักงานว่ามารับใคร ทางพนักงานก็ส่งกุญแจให้เขา นี่คือการให้ไปรับเอง อย่าบอกนะว่าคุณนิรันดร์เมาอีกแล้ว ริทนี่แทบจะตบกบาลตัวเองแรงๆ เมามากไม่น่าให้ลากกลับบ้านหรอก น่าจะนอนที่นี่ไปแหละ โรงแรมนี่ก็ไม่ได้กระจอกซะด้วย

“คุณรันคร้าบ...” ริทเคาะห้องสองสามที ไม่มีคนส่งเสียงก็ไขเข้ามาพร้อมกับเรียกอีกรอบ

เหมือนเดจาวูมาก เมื่อเข้ามาแล้วนิรันดร์นอนในสภาพเกือบเปลือยอยู่บนที่นอน โต๊ะเล็กข้างหัวเตียงมีขวดเหล้าหรูวางเอาไว้ ข้างกันมีแก้วที่เหลือเหล้าแค่ก้นเท่านั้น เมากับคู่ขา ดูจากที่นอนแล้ว สงครามครั้งนี้เร่าร้อนฉึกๆ ไปเลยเนอะ

“เฮ้อ...” เท้าเอวมองสภาพเจ้านายตัวเองแป็บ นี่ถ้าคนอื่นเข้ารู้ว่านักธุรกิจหนุ่มมีสภาพยังไงหลังจากซั่มกับคู่ขาเสร็จแล้ว มีหวังความน่าเชื่อถือลดลงไปเยอะแน่เลย

“คุณรันครับ ริทมารับกลับบ้านครับคุณรัน” ริทเดินเข้าไปสะกิดที่แขน

“อื้อ…” เฮ้ยๆ รอบนี้ตื่นง่ายเว้ย!

“นึกว่าผมต้องปลุกนานอีก ตื่นครับคุณรัน กลับไปนอนบ้านครับ” ริทเข้าไปช่วยพยุงนิรันดร์ให้นั่ง แม้สภาพเกือบล่อนจ้อนของนิรันดร์จะไม่น่าเอาตัวเข้าไปใกล้เท่าไหร่

“โทษทีนะ ต้องให้ริทมาลากกลับบ้านอีกแล้ว” นิรันดร์เงยหน้าส่งสายตาเยิ้มๆ ให้กับริท

“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ผม” ริทค่อยๆ แกะมือนิรันดร์ที่จับแขนของตัวเองเพื่อลุกนั่งออก จากนั้นก็ใส่กระดุมเสื้อให้กับนิรันดร์โดยที่อีกฝ่ายไม่ต้องเอ่ยปากขอ

นี่ก็เหมือนครั้งนั้นที่เขาไปรับนิรันดร์อีกโรงแรมหนึ่ง เมาแบบนี้เลย สภาพหนักยิ่งกว่านี้เพราะรอบนั้นนิรันดร์คิดว่าเขาเป็นคู่นอนที่ยังไม่กลับไป เกือบตกเป็นของเจ้านายตั้งแต่ครั้งนั้นแล้วไหมล่ะ แต่ครั้งนี้คงไม่มีอะไร ที่สำคัญ ไม่ต้องอยู่ในฉากเรตของนิรันดร์กับคู่ขาอีกด้วย โอ้ย...กระโดดไชโยสักทีนิรันดร์จะเตะเปรี๊ยงเขาไหมนะ

“กางเกงคุณรันต้องใส่เองนะ” ติดกระดุมเสื้อเสร็จ ริทละมือแล้วถอยหลังออกมาประมาณหนึ่ง

วันนี้นิรันดร์แปลกไปจากปกติเล็กน้อย มือนิรันดร์กำลังสั่นเทา ใบหน้าแดงก่ำทั้งยังมีเหงื่อซึม คราวก่อนเมาก็แค่หน้าแดง แขนขาอ่อนปวกเปียกเท่านั้นนี่นา ไม่ได้มีอาการมือไม้สั่นอย่างนี้ หรือว่าคราวนี้อาจไม่เมามาก แค่เพิ่งเสร็จกิจเลยยังเหนื่อยๆ แขนล้าอะไรทำนองนั้น

นิรันดร์ไม่ได้ยืนใส่เพราะเจ้าตัวยืนไม่ไหว ร่างสูงพยายามจะใส่ซิปกางเกงในท่านั่งดูยากเย็นจนริทรู้สึกหงุดหงิด อยากเข้าไปช่วยใส่จะได้เสร็จเร็วๆ เขาไม่ได้ขี้เกียจยืนรอแค่รู้สึกว่าการต้องมานั่งมองเจ้านายหุ่นแซ่บใส่กางเกงที่ตุงนูนของตัวเองนี่มันชวนหน้าร้อนฉิบ

“ผมว่ายืนใส่ง่ายกว่าไหมครับคุณรัน หรือว่าคุณรันยืนไม่ไหว?” ริทตั้งข้อสังเกต ผู้เป็นนายเงยหน้ามองเขาก่อนจะพยยักหน้าเบาๆ

“ขาไม่มีแรงเลยริท” อย่าว่าแต่ขา เสียงท่านก็ไม่มีแรงเช่นกัน อะไรจะแหบพร่าปานนั้นนะ

“งั้นผมพยุงให้นะครับ” นิรันดร์พยักหน้ายินยอม

ริทขยับเข้าไปใกล้ๆ ใช้สองแขนสอดเข้าไปใต้รักแร้ของนิรันดร์เพื่อพยุงให้นิรันดร์ยืนขึ้น ดีที่นิรันดร์ยังพอมีแรงจะยืนเองได้บ้างไม่งั้นริทได้ล้มลงไปนอนกองบนตัวนิรันดร์แน่นอน เพราะนิรันดร์เป็นคนตัวใหญ่ พอนิรันดร์ยืนได้นิรันดร์ก็เริ่มจัดการกับตัวเองโดยมีริทยืนเหมือนกอด กายกับกายเกือบจะชิดกันอยู่รอมร่อ

ตรงๆ ตอนนี้ใจริทไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย เขาเผลอมองต่ำไปที่มือทั้งสองของนิรันดร์ ไม่ต้องเดาว่ามันอยู่ตรงไหน มีแค่เป้ากางเกงเท่านั้นแหละก็นิรันดร์กำลังจะรูดซิบหนิ ตรงนั้นของเจ้านายเขาไม่หดลงเลย มีอารมณ์? ซัดกันจนอ่อนปวกเปียกแบบนี้ไม่น่าจะยังค้างคาสิ

“ขอบคุณริทนะ ไม่มีริทผมแย่เลย” ริทเอาแขนนิรันดร์คล้องคอของตัวเอง ประคองด้วยร่างกาย

“ให้ทิปผมสิ ฮ่าๆ คราวหลังก็อย่าเมาแบบนี้สิครับ ไม่งั้นก็นอนพักที่นี่เลย” ริทเอื้อมมือที่ว่างไปหยิบมือถือ กระเป๋าเงินและกระเป๋าใส่ของสำหรับไปทำงานของนิรันดร์

“ผมอยากกลับไปนอนบ้านมากกว่านี่นา นอนที่อื่นแล้วมันแปลกๆ” นิรันดร์อธิบายเสียงอ้อแอ้

“อีกอย่างก็เช็กอินแค่ไม่กี่ชั่วโมงด้วยน่ะ”

“อ๋อ” ข้าวของทุกอย่างถูกริทพยายามเก็บจนหมด ได้เวลาลากเจ้านายตัวใหญ่กลับบ้านแล้ว

“คุณรันนี่ติดบ้านเหมือนกันนะครับ ไมไม่ดื่มที่บ้าน ไม่มีใครห้ามคุณรันเสียหน่อย” ริทถามไปเรื่อยตามประสาคนหาเรื่องคุย ไหล่ซ้ายสะพายกระเป๋านิรันดร์ ไหล่ขวารับน้ำหนักนิรันดร์ วันนี้งานหนักไม่ธรรมดาจริงๆ

“บ้านเป็นพื้นที่ส่วนตัวของผม ผมไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่งย่ามน่ะ ถึงพวกนี้จะรู้กฎของการเป็นคู่นอนผมดี แต่ผมก็รู้ว่าคนเราน่ะ มันไม่รู้จักพอหรอก พอได้ไปก็อยากไปอีก” ถ้าไม่ได้อยู่ชิดตัวติดกัน ริทคงไม่มีทางฟังสิ่งที่นิรันดร์พูดรู้เรื่อง มันทั้งเบาและแหบพร่า

“อ๋อ เข้าใจแล้วครับ” ริทเข้าใจว่านิรันดร์กลัวคู่ขาจะล้ำเส้น มีครั้งหนึ่งที่คู่ขาคนสนิทขอนิรันดร์ไปที่บ้าน แต่นิรันดร์ก็ปฏิเสธเสียงแข็ง ดูท่าจะหวงห้องนอนและพื้นที่ของตัวเองมาก

เอ...หวงมากแล้วให้เขาเข้าไปทำไม? หรือว่าเพราะเขาเป็นแค่ลูกคนใช้เลยไม่คิดมาก น่าจะแบบนั้น ริทหันไปมองคนที่มีสติก็เหมือนไม่มีข้างกาย นิรันดร์อาการแย่มากเลยทั้งที่แค่เมา มือที่อยู่ตรงไหล่ข้างซ้ายสั่นเทา ขาของนิรันดร์ก็เช่นกัน

“คุณรันโอเคไหมอะ ผมว่าวันนี้คุณรันแปลกๆ นะ ตัวสั่นไปหมดเลย หนักเหรอฮะ” ริทถามติดตลก แต่ก็ไม่ได้ขำขนาดนั้นหรอก

“คือ...ไม่เชิง” อ่าว ไม่เชิงนี่คือยังไง หนักหรือไม่หนัก?

ช่างเถอะ ริทรู้สึกว่านิรันดร์ลำบากที่จะพูด เขาก็เลยพานิรันดร์ไปที่รถเงียบๆ รู้สึกคิดผิดเหมือนกันที่จอดรถเอาไว้ไกลก็เลยต้องลากนิรันดร์นานหน่อย ริทเริ่มเหนื่อยนิดๆ หอบหน่อยๆ ตัวเจ้านายเขาใหญ่เกินไป น้ำหนักก็มาก แต่มันมากเพราะกล้ามเนื้อไม่ใช่ไขมัน

กว่าจะมาถึงรถริทก็รู้ว่าตัวเองเริ่มสั่นเหมือนกัน เป็นการสั่นของความล้า มันเหนื่อยมันเกร็งตอนประคองนั่นแหละ ริทเอานิรันดร์เข้าไปนอนที่เบาะห้องโดยสาร จากนั้นรีบไปประจำที่ตัวเองเพื่อจะพานิรันดร์ไปพักผ่อนที่บ้าน

ทว่า...ระหว่างทางที่ขับไปนั้นนิรันดร์มีอาการแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด!

ริทเป็นห่วงนิรันดร์มาก เขาคอยมองผ่านกระจกหลังไปดูอาการของนิรันดร์อยู่ตลอดเวลา ร่างสูงหอบหายใจรุนแรง มือของนิรันดร์สั่นแม้จะมองจากตรงคนขับก็ยังเห็น ตอนแรกนิรันดร์ก็เอามือวางไว้บนหน้าอกตัวเองนิ่งๆ สักพักปลดกระดุมตนเองออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลอนสวยงามที่ตอนนี้มันเป็นสีชมพูอ่อนและมีเหงื่อซึม

“ริท...แฮ่ก..แฮ่ก....ผม...ผมไม่ไหวแล้ว” ริทแทบจะเหยียบเบรกทันทีที่นิรันดร์ส่งเสียงบอกแบบนั้น

“คุณรันทำใจดีๆ ไว้นะ ผมจะพาไปโรงพยาบาล”

“ไม่ จอดรถ...มาหาผมหน่อย” เสียงนั้นเจือไปด้วยลมเสียส่วนใหญ่ นิรันดร์เปิดเสื้อออกพร้อมกับค่อยๆ แกะซิปกางเกง ส่วนพองนูนด้านในนั้นเด่นตระหง่านจนน่าตกใจ

แต่ริทที่กำลังเลี้ยงรถเข้าข้างทางมืดเปลี่ยวไม่ทันได้เห็น ร่างโปร่งรีบร้อนจอดรถ เจ้านายเขาเป็นอะไรไม่รู้ ที่แน่ๆ ต้องไปดูอาการตามที่นิรันดร์บอก ริทลงจากรถ วิ่งอ้อมมายังประตูโดยสาร เปิดได้ก็ถลาขึ้นไปไม่คิดหน้าคิดหลังใดๆ ทั้งสิ้น

แล้วก็พบ...นิรันดร์กำลังเปลื้องผ้า!!!

“เอ่อ...คือ....” ถอยทันไหม?

“ผมโดนยาริท” นิรันดร์มองหน้าริทอย่างเว้าวอน ดูรู้เลยว่าความต้องการในตัวนิรันดร์สูงมากขนาดไหน เขากำลังทรมาน และเขาต้องการให้ริทรู้ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือด่วนเลย

“หมายถึง?” ริทเอ๋อไปชั่วขณะ ตอนนี้เขากำลังอยู่กับนิรันดร์ในสภาพล่อแหลมยิ่งกว่าที่โรงแรม

“มันวางยาผม อึ้ก...ริทครับ...ช่วยผมหน่อย” นิรันดร์เอื้อมมือมาทางเขา มันห่างกันแค่นี้เขาเอื้อมมือตอบเท่านั้น

“ผมขอร้อง...” ท่าทางทรมานอย่างรุนแรงของนิรันดร์น่าสงสารมาก ริททำอะไรได้ เขา...เขาควรจะทำอะไรวะ!

“ผมโทรหาคู่นอนคุณให้ดีกว่า เอ่อๆ เอาเป็นเลขาก็ได้เนอะ เขา...เขาน่าจะรู้ว่า...”

“ริท...”เสียงเรียกมันระโหยโรยแรงมาก และริทก็นิ่งงันไปกับเสียงนั้น

“ผมไม่ไหวแล้ว...” นิรันดร์กลืนน้ำลายลงคอจนเกิดเสียงเบาๆ ริมฝีปากแห้งผากราวกับร่างกายกำลังขาดน้ำอย่างรุนแรง

 ริทคิดอะไรไม่ออกเลย เขาพยายามจะหลีกเลี่ยงสายตาของนิรันดร์ แต่เสียงหายใจอันทรมานของอีกฝ่ายก็ทำให้ความตั้งใจของริทพังทลาย ร่างโปร่งขยับเข้าไปใกล้ช้าๆ คลานเข่าเข้าไปทีละน้อย นิดเดียวก็โดนนิรันดร์ดึงแขนอย่างแรงจนร่างโปร่งขึ้นไปเกยอยู่บนตัว

“ผะ...ผม...ผมไม่เคยนะครับ” ริทกำลังหวาดกลัว ในขณะเดียวกันก็สงสารอยากจะช่วย การโดนวางยานี่มันต้องทรมานยิ่งกว่าการที่รู้สึกขึ้นมาเองแน่ๆ เลย

“จริงเหรอ”นิรันดร์ฝั่งปลายจมูกลงที่ซอกคอของริท ดอมดมกลิ่นกายหอมๆ มันเป็นแค่กลิ่นสบู่ราคาถูก ไม่มีน้ำหอมเจือปน แต่มันกลับชื่นใจสำหรับนิรันดร์

“อื้อ...ครับ” แค่โดนปลายจมูกแตะต้องเข้าหน่อยริทก็ตัวแข็งทื่อ สองมือดูเกะกะไม่รู้จะเอาไปไว้ไหน เอาไปทำอะไรได้ นิรันดร์เล่นกอดริทเอาไว้แน่น ไม่ต้องค้ำยันร่างตัวเองให้เหนื่อยเลย

“งั้นผมจะเบาๆ นะ ถ้าทำได้” นิรันดร์พูดเหมือนไม่แน่ใจกับตัวเอง แล้วรู้ไหม...คนฟังกลัวยิ่งกว่าเดิมอีก

ร่างใหญ่ที่ดูไม่มีเรี่ยวไม่มีแรงเมื่อครู่จับริทพลิกกลับมานอนใต้ร่าง ริมฝีปากแห้งผากประกบลงที่ปากของเด็กหนุ่มที่แสนจะนุ่มนิ่มเหมือนเยลลี่ เขากดปากแนบปาก สลับกับใช้ริมฝีปากขบเม้มกลีบปากนั้นก่อนจะค่อยๆ สอดลิ้นเคลือบเหล้าดีกรีแรงเข้าไปทีละน้อย

ริทไม่ประสีประสากับเรื่องแบบนี้นัก แต่ใช่ว่าเขาไม่เคยจูบกับใครมาก่อน เขารู้ว่าต้องเปิดปากออก แล้วต้องตอบสนองต่อเรียวลิ้นอีกฝ่าย มันช่างดูเงอะงะในความรู้สึกของเขาเอง เพราะเมื่อนิรันดร์ไล่ต้อน เขาก็จนมุม ปล่อยให้นิรันดร์เป็นฝ่ายรุกไล่เขาจนลมหายใจสะดุดเป็นห้วงๆ

สองมือของริทจิกเสื้อของนิรันดร์เอาไว้แน่น ร่างกายแนบชิดเสียยิ่งกว่าแนบชิด เขารับรู้ถึงสัดส่วนของนิรันดร์ รับรู้ถึงความตื่นตัวตรงต้นขาอ่อน แล้วยิ่งกว่านั้นคือเขารับรู้ถึงการตื่นตัวของตนเอง

นิรันดร์ลากมือจากลำคอมาที่เสื้อ เขาใช้เพียงมือเดียวปลดกระดุมทุกเม็ดของริทออกจนหมดก่อนจะลูบไล้ร่างกายที่เนียนละเอียด ทั้งที่ริทเป็นเด็กช่างกล แต่ผิวกายกับเหมือนเด็กนานาชาติไม่มีผิด ทว่ามันก็ไม่ลดความเป็นผู้ชาย กล้ามเนื้อของริทมีพอประมาณ หนั่นแน่นสมกับวัย

“ฮะ...อื้อ...คุณรัน” ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ กลายแก้มร้อนผ่าวจนถึงลำคอที่กำลังโดนโลมเลีย

นิรันดร์ทำมันอย่างเชื้องช้า ค่อยๆ จูบซับไปทีละน้อย แลบลิ้นเลียชิมรสชาติของเด็กหนุ่มคนขับรถตนเองอย่างหลงใหล ร่างกายนี้...ร่างกายที่ขึ้นสีชมพูอ่อนอย่างง่ายดายเพียงเกิดอารมณ์ มันหอมหวานและเร้าอารมณ์ให้ตื่นตัวยิ่งกว่าเดิม

“ฮะ?!” ริทสะดุ้งโหยงเมื่อความชื้นแฉะแตะลงที่ส่วนอ่อนไหวบนหน้าอก นิรันดร์ชักลิ้นกลับก่อนจะแตะลงอีกครั้ง อีกครั้งและอีกครั้ง

ปฏิกิริยาตอบสนองที่ไม่ประสีประสาของริทช่างเหมือนเหล้าดีกรีแรง มันมอมเมาเขา มันทำให้เขาโงหัวจากร่างกายนี้ไปไหนไม่ได้ เขาชอบที่กายริทสั่นเทา ชอบที่ลมหายใจริทแหบพร่า ชอบที่ริทจิกเสื้อของเขาจนบางทีมันก็โดนเนื้อของเขา แล้วเขาก็ชอบ...ที่ริทมีอารมณ์เหล่านี้เพราะเขาเอง

เรียวลิ้นตวัดกับยอดอกเล็กๆ รุนแรงขึ้น หน้าท้องของเด็กหนุ่มหดเกร็ง นิรันดร์เห็น และก็ยิ่งทำให้มันเกร็งหนักมากขึ้น ความปรานีเมื่อครู่นี้เริ่มหดหายเมื่อความปรารถนาที่จะทำให้เด็กหนุ่มใต้ร่างทรมานมันปะทุขึ้นอย่างหนัก

“คุณรัน...อื้อ...ผม...เสียว...เกินไป” ริทบอกได้แค่กระท่อนกระแท่น เขาอยากให้นิรันดร์ใจเย็นกับเขา แต่...ก็ใช่ว่าที่เป็นอยู่นี้มันไม่ดี

แค่รู้สึกว่า…มันกำลังจะทนไม่ไหวแล้ว!

….100%….

หนูริทหนีไปพ้นแน่นอนจ้าาาาาา

ปล.หลังงานหนังสือจะลงถี่กว่านี้นะคะ ขออภัยด้วยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-03-2019 23:29:52
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-03-2019 00:24:18
 :pig4: :pig4: :pig4:

เสียซิงซะแล้ว นุ้งริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 24-03-2019 02:55:08
น้องงงงงงงงงม่ายยยยยยยยยยยยยยยย  :z3: :z3:
ทำไมถึงโดนยาล่ะคุณรั๊นนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-03-2019 06:17:29
โดนจนได้ริท :z1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-03-2019 14:39:04
กำ เด็กน้อยไม่รอดมือหมาป่าก็คราวนี้
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 24-03-2019 16:06:38


เอ..โดนยาจริงหรือโดนปลอมๆ


หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 24-03-2019 17:55:25
วางยาตัวเองรึเปล่า นะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: pan19891990 ที่ 25-03-2019 01:09:29
หนูริทลูกกกกก เหมืิอนหนูโดนหลอกล่อให้ยอมยังไงก็ไม่รู้ อิคุณนิรันดร์ก็ร้ายจริงๆ แอบหมั่นไส้คุณนิรันดร์แต่ก็อยากเห็นตอนหนูริทโดนรังแก/ใจบาปมากกก
รอติดตามค่าา
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-03-2019 14:40:46
โถ่ น้องริทคงหนีไม่ทันแล้ว คุณรันวางแผนอะไรไว้รึป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 8 - 100% [23-03-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-04-2019 20:49:02
คุณรันคือตัวร้าย ทำเนียนโดนยา
วางยาตัวเองหรือเปล่านะคนเรา เดานะคะ 5555

ริทเอ้ยย ไม่รอดชัวร์ ไม่พ้นมือคนเนียนแน่นอนค่ะ
ริทก็ยุบหนอมานาน มาตกหลุมซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 02-04-2019 21:26:50
>….ตอนที่ 9 [100%]….<

เทียบประสบการณ์ นิรันดร์มีมากกว่าริทเยอะ เขาอ่านคู่นอนตัวเองได้ เขารู้ว่าคู่นอนกำลังต้องการอะไร และตอนนี้ริทก็กำลังเรียกร้องอะไรที่มากกว่าปลายนิ้วและปลายลิ้น นิรันดร์หยุดโลมเลียริทด้วยลิ้น เขาปลดกางเกงสแล็กของเด็กหนุ่มออก แทบจะเป็นกระชากเมื่อเขาเองก็ทนแทบไม่ไหวที่จะสานต่อกิจกรรมเข้าจังหวะ

ร่างกายขาวผ่องเกือบเปลือยนอนหอบอยู่ใต้ร่าง นี่มันยิ่งกว่าฝันไป นิรันดร์สำรวจร่างกายริทด้วยดวงตาฉ่ำอารมณ์ได้แค่ครู่เดียว เขาโน้มกายกลับลงมาอีกครั้ง จุดหมายในหนนี้ต่ำกว่ายอดอกไปไกลหลายคืบมาก เพียงแค่ประทับริมฝีปากลงไป เสียงหวีดครางหวานก็ดังออกมา

ริทมีเสียงที่ทุ้มกว่าคู่นอนคนสนิท ยามครวญครางมันจะอื้ออึงอยู่ในลำคอมากกว่า นิรันดร์ว่านี่เป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหล เขาอยากจะให้ริทครางดังๆ อยากให้ริทร้องไห้และบอกให้เขาพอ แล้วเขาก็จะทำในสิ่งที่ต้องการ

“ไม่ๆ คุณรัน...อื้อ!” ร่างโปร่งแอ่นจนสะโพกลอยขึ้นจากเบาะ ปากนุ่มนิ่มที่ร้อนรุ่มมันแตะลงที่ความอ่อนไหวของเขาโดยไม่มีการบอกกล่าวให้เตรียมตัวเตรียมใจ

นิรันดร์ลากความนุ่มนิ่มไปตามลำกาย ลากลง...และขึ้นมาด้วยเรียวลิ้น สะโพกคอดสั่นเทาอย่างหนัก น่าสงสาร เสียงเครืออยู่ในคออย่างกับแมวเหมียวของริทมันน่าเอ็นดูแรงๆ นิรันดร์เริ่มจะใช้ปากครอบลงไป ทำช้าๆ ค่อยๆ เลียและเร้าให้ริทมีความต้องการสูงขึ้นยิ่งกว่านี้

ว่าง่ายๆ...อยากเห็นริททรมานมากกว่านี้

“ฮะ...ฮ่า...อื้อ...คุณรัน...คุณรันพอ ไม่ คุณรันพอแล้วอะ...ซี้ด....” เพียงขยับโพรงปากขึ้นลงไม่กี่ที เด็กหนุ่มก็ดิ้นเร่าๆ ก่อนความคาวจะคละคลุ้งในโพรงปาก

นิรันดร์คายมันใส่มือ นำไปป้ายที่ช่องทางขณะที่อีกมือก็ควานหาเจลหล่อลื่นจากเก๊ะใต้เบาะนั่ง ดวงตาคู่คมจับจ้องไปที่ริท มองดูอีกร่างหอบหายใจอย่างหนักกับการปลดปล่อยด้วยปากของเขา เมื่อเจอเจลแล้ว นิรันดร์ไม่รีรอที่จะเทมันลงไปสมทบกับน้ำขาวขุ่น จากนั้นเขาก็โน้มกายไปมอบจูบดูดดื่มอีกหน

“ฮื่ออออออ!” จูบนี้คล้ายเหยื่อล่อ เพราะของจริงมันคือนิ้วที่กำลังแทรกเข้ามาในร่างกาย

ทั้งที่มีเจลและน้ำสีขุ่น แต่มันก็ช่วยลดทอนความเจ็บไม่ได้ทั้งหมด ริทอึดอัดปนเจ็บเสียดนิดๆ เขาเผลออ้าขา คิดว่ามันจะทำให้ไม่เจ็บ ซึ่งมันก็ช่วยได้นิดหน่อยเท่านั้น เจลกับความคุ้นชินเท่านั้นที่จะทำให้ริทไม่เจ็บปวด

นิรันดร์หลอกล่อริทด้วยรสจูบที่รุ่มร้อน เขาไล่ต้อนจนเด็กหนุ่มทำได้แค่หอบหายใจไม่เป็นจังหวะ ขณะที่นิ้วทำการผ่อนคลายช่องทางของริทไปเรื่อยๆ จากหนึ่งเป็นสอง และสามในที่สุด เขารู้ว่าริทไม่หลงกลจูบมอมเมาของเขา แต่ก็เชื่อว่าเด็กหนุ่มไม่ได้เจ็บปวดกับสิ่งที่สอดใส่เข้าไปมากขนาดนั้น

เขากำลังจะอดทนไม่ไหวแล้ว...

แค่รู้สึกว่ามันอ่อนนุ่มลงมาบ้าง นิรันดร์ก็จับความเป็นชายของตนเองสอดใส่เข้าไปข้างในนั้น ค่อยๆ คืบคลานไปทีละน้อยด้วยหวังว่ามันจะไม่ทำให้ริททรมานกับความเจ็บปวดจนหมดความต้องการไปในที่สุด

“อื้อ...ฮึ้ด ฮึ้ก...อื้อ!” เสียงสะอื้นดังอยู่ในลำคอ นิรันดร์ปล่อยปาก มองสีหนาที่เจ็บปวดแต่ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ของริทในระยะประชิด

ร่างโปร่งสั่นสะท้าน ข้างในผนังอ่อนนุ่มตอดรัดสิ่งแปลกปลอมอย่างหนักหน่วงจนนิรันดร์แทบจะทนต่อไปไม่ได้ อยากกระแทกมันแรงๆ อยากสอดใส่ให้หนำใจ แต่ก็อดทน นิรันดร์รวบรวมสติที่มีเพียงน้อยนิดถนอมเด็กหนุ่มเอาไว้ รู้ดีว่าคำว่าครั้งแรกมันจะฝังใจขนาดไหน

หากครั้งแรกมันดี...ครั้งต่อไปมันจะง่ายมาก!

“ฮ่า...ฮ่า...ฮื่อ...” เสียงพ่นลมหายใจหนักๆ ดังออกมา เห็นได้ชัดว่าริทค่อยๆ ผ่อนคลายเมื่อความเป็นชายของนิรันดร์เข้าไปนอนนิ่งอยู่ในนั้นได้หมดแล้ว

“เด็กดี....” เขาจูบซับที่กกหูเรื่อยลงมาที่แก้มและจบที่ริมฝีปาก

นิรันดร์คุกเข่าอยู่บนโซฟาดีๆ จับขาทั้งสองของริทวางไว้บนหน้าขาตัวเอง เขาจ้องมอง เฝ้ารอให้ริทปรับตัวได้อีกพักหนึ่ง ต้องใจเย็นขนาดไหนที่มาอดทนกับการตอดรัดหนักหน่วงทั้งที่ความต้องล้นเอ่อขนาดนี้ แต่ไม่เป็นไร...เขาทนได้

“ซี้ด...คุณรัน...” ริทจิกแขนนิรันดร์แน่นเมื่อร่างใหญ่เริ่มดึงส่วนนั้นออกไป

“ฮื่อออออ” นิรันดร์ดันกายกลับเข้าไป เสียงครางฮือก็ดังออกมา

เขายินยอมที่จะให้ริทจิกตัวเองแบบไหนก็ได้ จะสร้างรอยเล็บ รอยแผล หรือรอยอะไรบนตัวเขาก็ได้ทั้งนั้น ทั้งที่ปกติกับคนอื่นเขาจะไม่ยอม แต่กับริทมันไม่เหมือนกัน ริทไม่ใช่เด็กขาย ริทเป็คนขับรถที่แสนจะน่ารักน่าเอ็นดูของเขา

นิรันดร์กำลังถนอมริทอย่างสุดความสามารถของเขา...

กายใหญ่เคลื่อนไหวเชื่องช้า สอดเข้าและออกเบาๆ เฝ้าดูว่าเด็กหนุ่มที่ตนกำลังมีสัมพันธ์อยู่นี้อยู่ในอารมณ์แบบไหน เขาไม่เพียงมอง แต่ยังใช้มือข้างหนึ่งกอบกุมความเป็นชายริทเอาไว้ บีบมัน นวดมัน ทำให้มันมีความต้องการเหมือนๆ กับที่เขามี

“ฮึ้ก...อึก อึก อึก...อื้อ” เริ่มเข้าที่นิรันดร์ก็ไม่รีรอที่จะใส่จังหวะแบบที่ตัวเองต้องการ เสียงครางของริทไม่เหมือนเสียงของคู่นอนเขา ริทกัดฟัน และปล่อยให้เสียงอื้ออึงในคอหลุดลอดออกมาเพียงแผ่วเบา

“ริทครางสิครับ” นิรันดร์โน้มกายเข้าไปใกล้ กระซิบเสียงพร่าที่ใบหูเพียงกระตุ้นให้ริทครางหวานๆ ให้เขาฟัง เขากระหายมัน เขาอยากให้ริทปล่อยอารมณ์ตัวเองออกมา อยากให้ริทเป็นตัวเองเมื่ออยู่ใต้ร่างของเขา

“ฮื่อๆ อึก..” แต่ริทก็ไม่ยอมทำ จังหวะกระชั้นขึ้นอีก หนักหน่วงยิ่งขึ้น นิรันดร์ต้องการ...นิรันดร์จะรีดเร้นมันให้หลุดจากลำคอขาวผ่องนี้ให้ได้

“อ๊ะ...ฮ่า...ฮ่ะฮ่ะฮ่ะอื้อ...” ร่างกายริทไหวโยกอย่างรุนแรงขึ้น นิรันดร์ยืดตัวตรง จับข้อเท้าทั้งสองข้างของริทชูสูงแล้วกระแทกความเป็นชายเข้าไปหนักๆ

เสียงเนื้อกระทบกันดังไม่ต่างกับเสียงครางเท่าไหร่นัก ต้องดังกว่านี้ ริทต้องโอดครวญให้มากกว่านี้ นิรันดร์มองเด็กหนุ่ม มองสีหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความต้องการนั้น ริทยังกัดปากตัวเองไม่เลิก เขาจึงทวีความหนักหน่วงขึ้นไปอีก!

“อ๊ะ...อ๊า...คุณรัน...คุณฮ่า...อ๊ะอ๊ะรัน” ริทไม่รู้จะยึดเหนี่ยวสิ่งใดเอาไว้ได้ เขาตะเกียกตะกายด้วยแรงที่มีน้อยนิดจับหน้าขาของนิรันดร์เอาไว้อีกมือดันไว้ที่หน้าท้องน้อยของร่างใหญ่ แต่มันหยุดยั้งอะไรไม่ได้

เพียงครู่เดียว...นิรันดร์ก็ได้สิ่งที่อยากได้

“อ๊า อ๊ะอ๊ะอ๊า...” เสียงครวญครางของริท ร่างกายที่ดิ้นเร่าๆ ด้วยความซาบซ่านจากการกระทำของเขา

นิรันดร์ชอบมัน หลงใหลมัน และมันก็ทำให้เขาโหมกระหน่ำความกระหายลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง จากนั้นเฝ้ามองร่างโปร่งบิดกายไปมาอย่างสุขสม ดูสีชมพูบนกายขาวนั่นสิ ดูสีหน้าที่หยาดเยื้อมและน้ำตาที่รินไหลนั่นสิ...

นี่....นี่มันเหมือนฝันชัดๆ

สัตว์ร้ายในตัวนิรันรด์แหกกรงออกมาอย่างไม่อาจห้าม เขาจับร่างโปร่งนอนคว่ำหน้าบนเบาะก่อนกระแทกไม่ยั้งที ฟังเสียงครวญครางกับความทรมานที่หอมหวาน นิรันดร์อดไม่ได้ที่ฝากฝังรอยจูบของตนเองเอาไว้ตามแผ่นหลังของริท บ้างก็กัดมัน...บ้างก็จูบมัน

เขาเหมือนคนบ้าไปเต็มที คลั่งไปกับร่างกายที่ไม่เคยโดนใครแตะต้อง เขาเป็นคนแรก เขาเป็นครอบครอง ริทกลายเป็นของเขาแล้ว เขากอดริทเอาไว้แนบแน่นเมื่อความต้องการของเขาเดินทางมาถึงจุดหมาย ทว่าร่างโปร่งในอ้อมกอดเสร็จสมไปก่อนเขา

“อะ..อื้อ!!” การตอดรัดภายในรุนแรง นิรันดร์พยายามกลั้นแต่ไม่สำเร็จ...

“อ่าห์...ริท” เขาฝังหน้าลงกับซอกคอของริท พ่นลมหายใจใส่ผิวอ่อนขณะที่ความต้องการหลั่งรินเข้าไปในอีกร่างหนึ่ง

ฤทธิ์ยาของนิรันดร์มีมากกว่าครั้งเดียวจะปลดมันได้ เมื่อถึงจุดหมายแรกไปแล้ว มันก็ยังไม่ยอมลดขนาด กลับต้องการมากขึ้นไปอีก นิรันดร์ไม่ยับยั้งชั่งใจเพราะสติที่เคยมีมันหายไปหมด เขา...จัดการกับริทอีกครั้ง

อีกครั้ง...

และอีกครั้ง...

***________***

“แน่ใจนะว่ายานี่ได้ผลดี” นิรันดร์มองยาในมือขณะเอ่ยถามเลขามือขวาของเขา

“ครับท่าน นี่เป็นยาที่ดี ผลข้างเคียงแทบไม่มี ออกฤทธิ์ได้สองถึงสามชั่วโมง”

“โอเค ขอบใจมาก มีอะไรให้ช่วยยังไงจะบอกนะ”

“ครับท่าน” เลขาโค้งหัวให้ก่อนจะเดินออกไป

นิรันดร์เสร็จธุระจากงานสังคมของเขาตอนหนึ่งทุ่ม จากนั้นให้เลขาพามาที่โรงแรมแห่งนี้เพื่อเริ่มแผนการบางอย่าง บอกไปมันคงดูตลก ไอ้แผนการของเขามันก็คือการมอมยาตัวเองเนี่ยแหละ!

นิรันดร์เอนกายพิงหัวเตียงพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทั้งหมด ข้างกายมียาปลุกเซ็กซ์สำหรับผู้ชายวางเอาไว้ ขั้นตอนของมันก็ไม่ได้ยากเย็นเท่าไหร่นัก แค่ใส่เข้าไปในเหล้าแล้วดื่ม จากนั้นรอให้มันออกฤทธิ์

ทำไมเขาถึงอยากทำกับริทถึงขั้นมอมยาตัวเอง? เพราะสายตาอันเร่าร้อนของริทยามมองเขากับคู่ขามีสัมพันธ์ทางกายกันน่ะสิ คิดว่าเขาดูไม่ออกหรือว่าริทมีอารมณ์เพราะเขาไม่ใช่เพราะคู่ขาร่างบาง ริทมักจะมองมาที่เขา ใบหน้าแดงเรื่อกับดวงตาพราวระยับ แม้ว่าริทจะพยายามปกปิดมันแต่ก็ไม่เกิดผล

ริทจะรู้ตัวไหมว่าตนเองนั่นอ่านออกง่ายขนาดไหน...

นิรันดร์อยากครอบครองริท เขาปรารถนาเด็กขับรถที่ดูไม่มีอะไรเลยของตัวเองได้อย่างไรก็ไม่แน่ใจนัก จะว่าเพราะสายตาที่เร่าร้อนและปฏิกิริยาพวกนั้นมันก็คงไม่ใช่ทั้งหมด มันมีมากกว่านั้น รอยยิ้มเหรอ...ความสดใสของริทเหรอ หรือว่าเพราะมันเป็นริทกันล่ะ?

ไม่สิ...เพราะเขาต่างหากที่ ‘ชอบ’ ริท

นิรันดร์รู้ดีว่าการที่เขาอยากได้ริทมาครองนั้นมันจะง่ายขึ้นหากเขามอมยาริทแทนตัวเอง แต่แบบนั้นเขาจะได้ร่างกายแบบไม่เต็มใจ คล้ายกับว่าริทจำเป็นต้องมีอะไรกับเขาอย่างไม่มีทางเลือก ไม่ใช่เพราะริทอยากจะมีเอง ซึ่งนิรันดร์ไม่โอเคหากเป็นเช่นนั้น

หากเขามอมตัวเองยังไงซะ...ริทก็ยังมีทางเลือกได้มากกว่า

นิรันดร์หันไปเทวิสกี้ใส่แก้ว ตามด้วยยาปลุกในปริมาณที่เขียนแนะนำเอาไว้ ยามันต้องรอให้ออกฤทธิ์ประมาณครึ่งชั่วโมง แต่ถ้ามีแอลกอฮอล์ช่วยด้วยมันก็จะไว้กว่านั้นมาก นิรันดร์ยังไม่ได้ดื่มมันได้ในทันที เขาต้องส่งข้อความบอกให้ริทมารับ จากนั้นคำนวณเวลาให้เหมาะสมก่อนจะดื่มเหล้าผสมยาปลุกเข้าไป

ถ้าเลขาเขารู้ว่าเขาเอายานี่มามอมตัวเอง สองคนนั้นคงได้มองหน้าเขาแปลกๆ แน่นอน อย่างว่า มอมคู่นอนหรือคนที่หมายปองเอาไว้มันง่ายกว่ามาก นิรันดร์ยิ้มขำกับตัวเองก่อนจะเอนกายนอนลงไป

ไม่นานยาก็ออกฤทธิ์...

และต่อจากนั้นไม่นาน...ริทก็มา

ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ ริทอาจจะกระอักกระอ่วนอยู่บ้างแต่ก็ยินยอมให้เขาล่วงล้ำร่างกาย เขาว่าแล้ว ริทเองก็ปรารถนาในตัวของเขาเช่นเดียวกัน ทว่าสิ่งที่นอกเหนือจากการคาดการณ์คือ เขาไม่คิดว่าเด็กหนุ่มวัยอย่างริทจะยังไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อน

เป็นไปไม่ได้ นิรันดร์คิดแบบนั้น จนกระทั่งเขาได้เห็นปฏิกิรยาคนใต้ร่าง รสจูบเงอะงะ มือไม้ที่เก้งก้างไม่รู้จะจัดวางไว้ตรงไหน ผู้ชายมันดูจากการเสียบแล้วเลือดออกไม่ได้เหมือนผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดูไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เคยหรือไม่เคย

กว่ายาจะหมดฤทธิ์ เด็กหนุ่มในอ้อมกอดเขาก็ตัวอ่อนปวกเปียก ริทหอบหายใจระส่ำไม่เป็นจังหวะ เหมือนคนวิ่งทางไกลมาเป็นระยะเวลานาน เขาเองก็เช่นกัน นิรันดร์เหนื่อยแต่ก็รู้สึกคุ้มค่าและอิ่มเอม

“ริทนอนพักนะ เดี๋ยวผมขับกลับเอง” นิรันดร์คลอเคลียริมฝีปากตนเองกับซอกคอที่มีรอยแดงเป็นจ้ำ

“มะไม่...ไม่เป็นไรครับ คุณรันพักเถอะ” ริทพยายามเอ่ยบอกอย่างกระท่อนกระแท่น นิรันดร์ยิ้ม เขาหอมแก้มเด็กหนุ่มเบาๆ

“ไม่ขัดคำสั่งผมตอนนี้นะ นอนพักซะ”

“อ่า...” ริทพยักหน้าเบาๆ

“ดีมาก เด็กดี...” นิรันดร์จูบที่หน้าผากริทอีกครั้ง

นิรันดร์ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดคราบน้ำต่างๆ บนร่างกายของริทให้ แม้ว่าริทจะทำท่าปฏิเสธ แต่ด้วยเรี่ยวแรงที่หมดลงไปกับกิจกรรมเข้าจังหวะทำให้ริทไม่สามารถขัดนิรันดร์ไม่ได้เลย พอเช็ดจนสะอาด นิรันดร์ก็แต่งตัวให้ริทก่อนจะใส่เสื้อผ้าตนเองดีๆ

เขาเห็นว่าริทมองเขา แค่พอเขามองกลับริทจะหลบสายตาไปทางอื่น เนื้อตัวริทเต็มไปด้วยรอยแดงจากริมฝีปากของเขาบ้าง ฟันของเขาบ้าง ไม่ก็มาจากมือของเขาเอง ก็ไม่คิดว่าริทจะเป็นรอยได้ง่ายขนาดนี้

ดูไปดูมา...ก็นุ่มนิ่มดีจัง

นิรันดร์เกลี่ยแก้มเนียนของริทก่อนจะไปขับรถกลับบ้าน เขาไม่คุ้นเคยกับเจ้าลิโม่คันนี้เท่าไหร่นัก นี่เป็นรถที่พ่อของเขาทุ่มเงินจำนวนมหาศาลซื้อมา เพียงเพราะพ่อชอบรถของโรลสรอยด์ ไม่ดูเลยว่ารถคันนี้มีมูลค่ามากกว่าบ้านที่อาศัยอยู่นี่เสียอีก

ถึงจะดูไร้สาระไปบ้าง ใช้เงินกับของสิ้นเปลืองมากไปหน่อย แต่ต้องยอมรับว่าการมีเจ้าลิโม่คันนี้ไว้ในครอบครองทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือในบริษัทมากยิ่งขึ้น พ่อบอกว่าการซื้อรถก็เหมือนกับการลงทุน ลูกค้าเห็นว่าเราใช้รถอะไรพวกเขาก็จะเชื่อถือเรา เป็นเหมือนภาพลักษณ์อย่างหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งนิรันดร์เห็นด้วยกับข้อนี้ แม้จะไม่ได้ใช้งานิโม่ในเชิงนั้นเท่าไหร่

ดึกแล้วรถราบนท้องถนนแทบจะไม่มี นิรันดร์ใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบนาทีก็พาลิโม่และริทมาถึงบ้าน ยามมีสีหน้าตกใจเมื่อเห็นว่านิรันดร์เป็นคนขับรถไม่ใช่ริทอย่างเคย แต่นิรันดร์ก็ไม่ได้ไขข้อข้องใจของลุงยาม เขารีบนำรถไปจอดไว้ประจำที่

“ริทครับ ถึงบ้านแล้วนะ” นิรันดร์ส่งเสียงเรียก ดับเครื่องแล้วนั่นแหละถึงได้เงยหน้าไปมองอีกคน

“อ่าวหลับซะละ” เขาควรจะทำยังไงดี ปลุกริทหรือว่าอุ้มริทกลับห้องตัวเอง

ร่างสูงเดินอ้อมมายังประตูผู้โดยสาร เปิดเข้าไปดูเด็กหนุ่มในระยะประชิด พรุ่งนี้วันเสาร์ เขาหยุด ริทก็หยุด งั้นการจะพาริทไปนอนที่ห้องก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นิรันดร์คิดว่าถ้าอุ้มเข้าบ้านแล้วเจอแม่ริทก็จะเอาริทกลับเข้าห้องของริทเอง แต่ถ้าไม่เจอ...ก็นอนห้องเขา

ผลปรากฏว่า...นิรันดร์ไม่เจอป้าหัวหน้าแม่บ้าน!

“อื้อ...” ร่างโปร่งพลิกกายเบาๆ เมื่อถูกวางลงที่นอนนุ่มของนิรันดร์ เจ้าของห้องนั่งลงข้างๆ ปัดเส้นผมที่ปรกหน้าผากนั้นแผ่วเบา

“ขี้เซาเหมือนกันนะเนี่ยริท ก็นะ...เราหนักไปนี่หว่า” เขาโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง ก็ใครจะไปรู้ว่าริทจะน่าเอาซ้ำขนาดนั้นล่ะ เขาเองก็ประครองสติตัวเองได้น้อย เลยหนักไปหน่อยจริงๆ

นิรันดร์จับริทถอดเสื้อผ้าออกอย่างแผ่วเบา ตามด้วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวด้วยผ้าชุบน้ำเพื่อให้ร่างกายของริทสะอาดมากขึ้น เขาอยากให้ริทนอนหลับให้สบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะ พรุ่งนี้เช้าอารมณ์ก็จะได้ดีๆ ทว่าชุดของเขาไม่สามาถให้ริทใส่ครบชุดได้ มันก็เลย...มีแค่เสื้อยืดตัวใหญ่เพียงตัวเดียวบนร่างกายริท

อยากจัดอีก...

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เดินหนีจากริทไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย เปลี่ยนชุดใส่นอนสบายๆ ตอนแรกก็คิดว่าการอาบน้ำมันจะทำให้เขาเย็นลง อืม...ก็เย็นแต่ข้างในร้อนรุ่มไม่หายเนี่ยสิ นิรันดร์ก้าวขึ้นเตียงช้าๆ เอนกายลงข้างกับริท

จะว่าไป...ไม่มีใครนอนในห้องของเขามานานแล้วนะ

ฝ่ามือหนาไล้จากต้นแขนของริทไปจรดที่ฝ่าหลังมือเล็ก เขาวางทาบมือลงไป ประสานปลายนิ้วกับปลายนิ้ว ทำให้ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับนิรันดร์กำลังกอดริทที่นอนตะแคงข้างอยู่

ความอุ่นจากตัวของเด็กหนุ่มแผ่กระจายมายังเขา กลิ่นกายอ่อนๆ ที่เจือไปด้วยกลิ่นเหงื่อจางๆ อบอวลอยู่ตรงจมูก นิรันดร์สูดดมมันพลางหลับตาลง ปกติเขาจะไม่ชอบการมีคนอื่นมานอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ยิ่งเป็นแค่คู่นอนยิ่งไม่มีทางที่เขาจะนอนข้ามคืนในเชิงนี้ด้วย

ก็...ริทไม่ใช่แค่คู่นอนหนิ

“ฝันดีนะครับริท” นิรันดร์ขยับกายไปหอมแก้มเนียนเบาๆ มองใบหน้ายามหลับใหลนั้นด้วยความอิ่มเอม

นิรันดร์ขยับกายนอนดีๆ ริทพลิกกายจากนอนตะแคงหันหน้าไปอีกฝั่งมายังอกแกร่ง ริทคว้าเอวนิรันดร์ไว้ด้วยความไม่รู้ตัว เพราะปกติจะได้นอนกอดตุ๊กตาในห้อง วันนี้ริทไม่รู้เลยว่าตุ๊กตาตัวนี้ใหญ่กว่าที่ตนเองมี ที่สำคัญ...มันกำลังยิ้มหวานให้เขาอยู่

….100%….
นี่สิน้า ที่เขาว่าถ้าไม่ได้ด้วยเล่ก็ต้องเอาด้วยกล ริทตัวน้อยจะไปทันคุณรันเขาได้ยังไง นั่นน่ะหมาป่าในคราบหมาบ้านชัดๆ

ปล.มีคนรู้ทันคุณรันด้วยแฮะ!
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: greenapple ที่ 02-04-2019 21:43:18


ก็ถึงว่าดูแปลกๆ

คุณรันนี่ร้ายจัง

ไม่สงสารน้องหรืองัยกัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-04-2019 22:16:24
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 02-04-2019 22:32:28
เจ้าเล่ห์สุดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 02-04-2019 22:47:49
 :pig4: :pig4: :pig4:

โถๆๆๆๆๆ ลูกแกะตัวน้อย  เสร็จเจ้าหมาป่าไปหลายรอบเลย  อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-04-2019 00:17:43
ร้ายมาก!!!!!  :ling3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-04-2019 01:03:39
ริทเสร็จคุณเจ้านายเจ้าเล่ห์จนได้. ช่างไม่ถนอมน้องเลย ครั้งแรกก็จัดเต็มในรถแระ   :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-04-2019 02:54:13
 :pighaun: :haun4: :jul1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-04-2019 12:57:53
 o13 o13 o13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-04-2019 23:36:16
 คุณรันร้ายยยย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 9 - 100% [02-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 04-04-2019 17:25:29
ร้ายมาก!!!!!
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 12-04-2019 13:55:09
>….ตอนที่ 10 [100%]….<

ความไม่สบายเนื้อสบายตัวปลุกให้ริทตื่นจากฝันแปลกประหลาด เขาปรือตาขึ้นมาเพื่อพบกับนิรันดร์ที่โอบกอดเขาไว้อย่างแนบแน่น ริทไม่รู้ว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง แต่การตั้งคำถามไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย

แต่ว่า...เขามีอะไรกับเจ้านายไปแล้ว!

อื้อหือ ความเครียดพรุ่งปรี๊ดเข้าสมองทันทีทันใด ไม่ทงไม่ถามสุขภาพกันเลย ปวดเนื้อปวดตัว ระบมที่สะโพกจนเรียกได้ว่าขยับนิดหน่อยยังยาก เอาเป็นว่า เขาควรจะเอาตัวเองออกไปจากห้องนี้ก่อน ไม่ว่าตอนนี้ตนจะกลายเป็นเด็กของนิรันดร์แล้วหรือไม่ ที่นี่ก็ไม่ใช่สถานที่เอาไว้คร่ำครวญ

ริทขยับกายที่ระบมด้วยความแผ่วเบาสุดๆ นี่เกือบจะกลายร่างเป็นแมวย่องออกจากห้องของนิรันด์อยู่แล้ว นอกจากต้องระวังไม่ให้นิรันดร์ตื่น ริทยังต้องระวังแม่บ้านอีก คือ...คนอื่นไม่เท่าไหร่ไง แต่ถ้าเจอแม่ก็น้ำท่วมปากน่ะ อธิบายไรมันคงอึกๆ อักๆ ทางที่ดีอย่าให้แม่รู้ว่าเขามานอนห้องนิรันดร์เป็นดีที่สุด

ย่องปานขโมยจากห้องชั้นสองลงมาที่ห้องนอนตัวเอง ในที่สุด ริทก็ได้นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยตุ๊กตา จะว่าไป...เขาสวมเสื้อของนิรันดร์อยู่หนิ กรรมเลย ลืมไปว่าควรจะค้นหาเสื้อผ้าตัวเองมาเปลี่ยนก่อน ช่างเหอะ...

ตอนนี้เครียดโว้ย!

เรื่องเมื่อคืนมันก็ดีแหละ สำหรับริทแล้ว นั่นถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจ๋งสุดๆ ไปเลย แต่ต่อจากนี้ล่ะ? ต่อจากนี้เขาจะมองหน้านิรันดร์ติดได้ยังไง นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ทำงานร่วมกันแต่มองหน้ากันไม่ได้เนี่ย

เป็นไปได้ไหมที่นิรันดร์จะจำอะไรไม่ได้?

ก็พวกที่โดนมอมยาส่วนใหญ่จะจำไม่ได้หหนิว่าตัวเองทำอะไรลงไป ถึงจำได้ก็น่าจะเลือนรางไม่ชัดเจน เหมือนคนเมามากๆ ทำอะไรไปตอนเช้าแม่งจะจำไรไม่ได้ทุกที เฮ้อ ก็ได้แต่หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น

ด้วยความที่ริทนั้นปกติสุดๆ ในกิจกรรมเมื่อคืน เขาจำได้หมดทุกการกระทำ แล้วภาพเหล่านั้นก็วนเวียนกลับมาในสมองของเขา มันก็แปลกดี จากที่เห็นเจ้านายทำกับคนอื่นมาตลอด แล้วกลายเป็นว่าตัวเองก็ได้ไปนอนใต้ร่างใหญ่นั้น

คิดไปคิดมา...ริทก็หลับไปอีกครั้ง

กว่าจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาได้ก็ล่อไปบ่ายโมงแล้ว ริทลืมตาได้ลำบากกว่าตอนเช้าเยอะ ตอนนี้ขี้ตาเกอะกรังเต็มไปหมด ลมหายใจร้อนผ่าวพร้อมกับอาการคันลำคอ แน่นอน...ไม่ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“แค่กๆ อื้อ...อ่อนแอขนาดนี้เลยเหรอกูเนี่ย” ริทบ่นกับตัวเองเบาๆ เขาอยากนอนต่อ อยากหลับแต่ก็หิว

สุดท้ายความหิวก็ชนะ ริทลากสังขาลของตัวเองเข้าครัว แม่กับป้าๆ คนอื่นนั่งเตรียมอาหารพลางพูดคุยนั่นนี่กันไป แต่เสียงสนทนาเหล่านั้นหยุดชะงักลงเมื่อริทโพล่หน้าให้พวกเธอได้เห็น

“นั่นอะไร...” อะไรคืออะไร? ริทสงสัย มือก็เกาหัวเบาๆ ยิ่งทำให้หัวของริทฟูฟ่องเป็นรังนก

“อะไรล่ะแม่ ไม่มีอะไรหนิ” คนเป็นแม่เดินตรงเข้ามาใกล้ จับริทหันหน้าไปด้านซ้ายสลับด้านขวา จากนั้นถอยเท้าออก ยืนมองลูกตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

“เห็นสภาพตัวเองไหมเนี่ย คอไปโดนอะไรมาทำไมช้ำเป็นจ้ำขนาดนั้น แล้วเสื้อเนี่ย...เสื้อนี่มันของคุณรัน?” ด้วยความเป็นคนดูแลนิรันดร์ ป้าออมจึงจำเสื้อผ้าของนิรันดร์ได้

“เอ่อ...” นั่นแหละ รู้แล้ว่าทำไมคนอื่นมองเขาแปลกๆ เขาลืมไปเลยว่ายังอยู่ในเสื้อของนิรันดร์ แถมคอของเขายังแดงก่ำไปด้วยรอยจูบ

“ไปทำอะไรมา!” คนเป็นแม่จี้ถาม แล้วจะให้ตอบยังไง..ผมนอนกับนายมาครับแม่ งี้เหรอ บ้า เป็นไปไม่ได้เว้ย

“คุณรันแกให้เสื้อมาอะ ริทก็ใส่นอน มันใส่สบายนะแม่” ยิ้มแหยส่งให้นหนึ่งที

“แล้วคอแกไปโดนอะไรมา แมลงไม่กัดแบบนี้แน่ไอ้ริท” ท่าทางแม่เอาเรื่องน่าดู เขาไม่ได้เด็กน้อยอายุสิบห้าสิบหกนะ เขายี่สิบกว่าแล้ว

แต่อืม...จะไปเถียงแบบนั้นก็ไม่ถูกอีกอะ

“โอ้ยป้า รอยแบบนั้นดูก็รู้แล้วไหม เรื่องของเด็กวัยรุ่นมันน่ะอย่าใส่ใจเล้ย คิดเสียว่ามันก็ยังมีปัญหาเอาเมีย ฉันยังคิดเลยนะ ไอ้ริทมันอ่านแต่การ์ตูน หน่วยก้านดีแต่ไม่มีทีท่าจะหาเมียได้ ป้าก็ปล่อยๆ มันไปเหอะ มันโตแล้ว” ป้าแม่บ้านคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาขัดท่าทีดุดันของหัวหน้าแม่บ้านที่มีต่อลูกชาย

“คนสมัยนี้นี่มันเอากันทีมันต้องทำรอยขนาดนี้เรอะ แล้วไปทำเขาเนี่ยป้องกันไหม เกิดเขาทงเขาท้องขึ้นมาทำไงไอ้ริท” ป้าออมยังไม่จบกับลูกชาย แม้จะคิดว่าที่เพื่อนเธอพูดก็มีเหตุผล

แม่...แม่ควรรู้ว่าริทไม่ได้เอาเมีย

“เขาไม่ท้องหรอกแม่” นิรันดร์ท้องเพราะเสียบเขามันก็ไม่ใช่แล้ว จริงมะ ส่วนเขาจะท้องก็ไม่ได้อยู่ดี

“แน่ใจได้ไง ป้องกันดีไหม ใส่ถุงยงถุงยางหรือเปล่า ข่าวออกโครมๆ เด็กสมัยนี้ไม่ป้องกัน ท้องแล้วก็โยนให้พ่อให้แม่เลี้ยง”

“แม่...ริทดูเป็นคนแบบนั้นเหรอไงล่ะ เชื่อริทดิ ไม่ท้อง” ริทหน้าง้ำหน้างอไปหมด ก็แม่เอาแต่ว่าเขาน่ะ เข้าใจ ผู้ใหญ่ไม่ไว้ใจเด็กวัยรุ่นกันหรอก แต่ก็เพราะแบบนี้เด็กมันมีไรเลยไม่ค่อยบอกไง

“มันต้องรอบคอบสิริท แกเป็นผู้ชาย แกต้องรับผิดชอบถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมา” ริทพยักหน้า เขาต้องรับผิดชอบต่อคุณรันใช่ไหม?

“ครับแม่ ริทรู้แล้ว แม่ไม่ต้องห่วงริทไม่ทำให้ผิดหวังหรอกหน่า อีกอย่างริทก็โตแล้วนะแม่”

“โตเท่าลูกหมาอะสิ ไปๆ กับข้าวกับปลาอยู่นั่น ทำบัดสีบัดเถลิงกันจนเช้าเลยหรือไง ป่านนี้ถึงได้ตื่นมากินข้าวกินปลาได้ โอ้ย ปวดหัว” คนเป็นแม่บ่นๆ แล้วเดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ

ริทเข้าใจที่แม่เป็นห่วง พ่อของเขาทำแม่ท้องแล้วก็ทิ้งไป แม่ต้องเลี้ยงเขามาคนเดียวตั้งแต่เล็กยันโต โชคดีที่คุณหญิงท่านเอ็นดูแม่และเขา ก็เลยได้อยู่ที่นี่โดยไม่ต้องลำบากระหกระเหินไปหางานโรงงานทำ แม่เลี้ยงเขาได้ และแม่ก็ดูแลบ้านหลังนี้ไปด้วย

แต่ว่าแม่น้าแม่...เขาเพิ่งเคยครั้งแรกเอง คิดดู อายุยี่สิบต้นๆ เพิ่งมีประสบการณ์เรื่องนี้นับว่าช้ากว่าเด็กสมัยนี้ไปไกลโขเลยนา เด็กๆ เดี๋ยวนี้มันริลองกันแต่ไอ้นั่นตั้งได้แล้วมั้ง คิดแล้วก็เขินๆ ครั้งแรกกับเจ้านายหุ่นในฝัน เห่อๆ

กินข้าวเสร็จรีบกลับเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำด้วย ไม่อาบไม่ได้ ป่านนี้แล้วเขาจะเน่าได้อยู่แล้วเนี่ย ริทยังไม่ลืมเรื่องของนิรันดร์ ยังคิด และวนเวียนนึกถึงเรื่องของเมื่อคืนนี้ไม่ยอมหยุด นี่ยังกังวลเลยว่า คิดมากๆ จะประสาทกินไหม

คือถ้าเขามีอะไรกับแฟน เขาไม่คิดมากแบบนี้แน่นอน อย่างกรณีแฟนเก่าที่สกินชิพกันดุเดือดนั่นก็มีความสุขกันทั้งคู่ นี่มันไม่ใช่ นี่มันห่างไกลมาก เออถ้าว่าเขาโดนยาแล้วทนไม่ได้ปลุกปล้ำเจ้านายก็ว่าไปอย่าง

เครียด! นอน!!!

ก๊อกๆ

เฮือก!

เสียงเคาะประตูกะทันหันทำให้ริทสะดุ้งเฮือกขึ้นมาจากที่นอน เขามองไปทางประตู ตอนนี้จะเป็นใครมาเคาะห้อง แม่เหรอ ไม่...แม่ต้องเสียงมาก่อนตัว อาจจะเป็นลุงๆ ให้ไปช่วยงาน อ่อย ตอนนี้เขาช่วยงานใครไม่ได้ สะโพกตัวเองยังช่วยไม่ได้เลยครับ

ก๊อกๆ

“คร้าบๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกรอบ ริทจำต้องลุกจากที่นอนไปประตูอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่โปรดดูหน้าคนเปิดด้วย...หน้าเหมือนศพแล้วตอนนี้ ซีดเชียว

“ไง...” คำทักทายสั้นง่ายมาพร้อมกับรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าเจ้านาย

เออ ให้มันได้อย่างนี้ คนปลดปล่อยมันก็จะสบายๆ หน่อยอะนะ คนรองรับมันก็จะป่วยๆ หน่อย โห โลกไม่ยุติธรรม ความแตกต่างมันมากกันเกินไปจนอยากจะร้องไห้เลย ริทยิ้มแหยให้นิรันดร์ หน้าเน่อแดงก่ำเพราะภาพจำยังเด่นชัด

“ผมขอเข้าไปได้ไหม” อันที่จริงนิรันดร์ไม่จำเป็นต้องขอเลย นี่เป็นบ้านของนิรันดร์นี่

“เชิญครับ” ริทถอยให้นิรันดร์เดินเข้ามาในห้อง เขาปิดประตูก่อนจะเดินตามไปยืนอยู่ตรงข้างเตียง ก็นิรันดร์อยู่บนเตียงเขาอะ เขาไม่กล้านั่งข้างๆ หรอก ทำตัวไม่ถูก มองหน้าก็ไม่ติด

“ริทโอเคไหม หน้าซีดเชียวไม่สบายหรือเปล่าครับ” ริทเงยหน้ามองคนถาม เห็นแววตาเป็นห่วงแล้วก็รีบหลบสายตา แบบว่า...หน้าร้อนยิ่งกว่าเดิมอีก

“นิดหน่อยครับคุณรัน เดี๋ยวก็หาย”

“เพราะผมเลย...” นิรันดร์เอื้อมมือคว้ามือริทไว้ จะให้ดึงออกก็ไม่ได้ มันน่าเกลียด ไม่มีมารยาทอะไรทำนองนั้น ริทเลยต้องยืนนิ่งให้นิรันดร์กุมมือ

“ไม่หรอกครับ อ่อนแอเองแหละ เดี๋ยวก็หายแล้ว ผมเป็นไข้ไม่ได้นานหรอกครับคุณรันไม่ต้องห่วง” เขาพูดทั้งที่ไม่ได้มองหน้าคู่สนทนา

“ไม่ให้ห่วงเหรอ ทำไม่ได้หรอก ก็ผมทำแบบนั้นกับริท...ผมต้องเป็นห่วงริทสิ ผมขอโทษน้า” นิรันดร์ออกแรงดึงร่างโปร่งเบาๆ เพียงไม่กี่ก้าวริทก็ยืนอยู่เบื้องหน้า

“เอ่อ...” มันยิ่งกว่าทำตัวไม่ถูก เหงื่อผุดซึมขึ้นมาที่มือและหน้าผากที่แดงก่ำ

“ขอผมดูรอยที่คอได้ไหม” ขอแบบนี้ใครจะปฏิเสธลง แต่ริทก็ไม่รู้ว่าจะให้ดูยังไง

นิรันดร์ดึงให้ริทมานั่งข้างกันบนเตียงขนาดสามจุดห้าฟุต เขานั่งประชิดเพื่อจะดูรอยแดงบนลำคอขาว มันเริ่มช้ำและบางจุดก็ออกสีม่วงกล่ำ ต้องยอมรับว่าตอนทำมันสะใจล้วนๆ ไม่ได้คิดว่ามันจะทิ้งร่องรอยเอาไว้มากมายขนาดนี้

จะว่าน่าเกลียดมันก็...น่าเกลียด แต่มันก็คือรอยจารึกของเขา รอยที่ย้ำว่าริทถูกเขากลืนกินไปทั้งตัว กลิ่นกายและรสสัมผัสอันมากมายเหล่านั้นยังเด่นชัดอยู่ในความรู้สึก เขาอยากจะกินริทอีกด้วยซ้ำถ้าทำได้ แต่นี่ริทก็ไม่สบายเสียแล้ว เขาหนักมือไปจริงๆ

“ผมทำริทช้ำไปหมดเลย” น้ำเสียงนิรันดร์เศร้าสร้อย และนั่นทำให้ริทกระวลกระวาย

“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ นะ คุณรันไม่ต้องคิดมากหรอก” ก็ถ้ายิ่งคิดมากเขาก็ยิ่งทำตัวไม่ถูกน่ะเซ่ โอย...ใจบาง

“ริทต่อว่าผมได้นะ” ใครมันจะไปต่อว่าลง ก็กระโจนลงไปให้เขากินเองอะ

“ไม่หรอก คุณรันอย่าทำแบบนี้เลยครับ ผมทำตัวไม่ถูกนะ อีกอย่างคุณรันก็ไม่ได้อยากทำแบบนั้นสักหน่อยหนิ มันเป็นเหตุสุวิสัยที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ผมไม่คิดมากหรอก ผมเป็นผู้ชายยังไงก็ไม่มีอะไรเสียหาย เนอะๆ” ริทพยายามยิ้ม เขาต้องมานั่งทำให้เจ้านายไม่รู้สึกแย่ทั้งที่ตัวเองโดนเสียบจนเอวคราดเนี่ยนะ

เอ...แต่ว่าโดนยานี่มันจำทุกอย่างได้สินะ โฮ่!

“ริทไม่คิดอะไรจริงๆ...”

“ครับ ผมไม่คิดอะไรหรอก ชิวๆ” นิรันดร์ยังพูดไม่ทันจบริทก็แทรกขึ้น

เขาไม่ใช่ผู้หญิง โดนปล่อยในเท่าไหร่ยังไงก็ไม่ท้องน่ะถูกไหมล่ะ เพราะงั้นก็ไม่ต้องไปคิดอะไรมากมาย เอ่อ...นอกจากโรค? ไม่หรอกมั้ง คุณนิรันดร์ไม่น่ามีโรคอะไรมาติดเขา ทุกครั้งที่เห็นนิรันดร์มีอะไรกับคนอื่นก็ใช้ถุงยางตลอด มาเขานี่แหละที่ไม่ได้ใช้อาจจะเพราะว่าโดนมอมยามา

จู่ๆ ร่างริทก็โดนนิรันดร์ดึงเข้าไปกอดแนบแน่น เด็กหนุ่มทำตัวไม่ถูกหนักยิ่งกว่าเดิม เพราะมันไม่เข้าใจไงว่าทำไมเจ้านายเขาต้องมากอดด้วย? ที่ทำไปเมื่อคืนมันก็แค่อดทนไม่ไหว ยามันกระตุ้นเร้าเกินไปไม่ใช่เหรอ

เฮ้อ...ทำแบบนี้ไม่ดีต่อใจเขาน้า

“ให้ผมดูแลริทนะ” นิรันดร์เอ่ยเบาๆ

“ไม่เอา คุณรันดูแลผมแม่ผมต้องบ่นแน่ๆ เลย” ริทพูดจริง แม่รู้เรื่องเข้านะ ตายกับตาย

“นั่นสินะ แม่ริทอยู่นี่นี่นา แล้วแม่เห็นรอยพวกนี้ไหม แม่ว่าอะไรหรือเปล่า” นิรันดร์ถอนกอด เขาปัดปรอยผมให้ริทนิดหน่อยก่อนจะนั่งมองหน้า

“ก็บ่นอะครับ แม่สงสัยว่าทำไมผมใส่เสื้อคุณรัน แฮ่ๆ เมื่อบ่ายผมรีบออกไปกินข้าวทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำเลยอะ แล้วก็ว่ากลัวผมทำผู้หญิงท้อง” พูดแล้วก็หน้าแดงหนัก กลับกัน นิรันดร์ยิ้มชื่นมื่น

“งี้ริทต้องรับผิดชอบสิถูกไหม เกิดทิ้งไปแล้วเธอท้องขึ้นมา...”

“บ้า คุณรันท้องได้ที่ไหนล่ะ อีกอย่างนะ...ผมไม่ได้เสียบเหอะ” เสียงอ่อนป้อแป้ไปหมดเลยจ้า ก็อย่าบีบให้พูดสิ พูดแล้วก็เขินสิ แม้มันจะคือความจริงก็เถอะนะ

“ฮ่าๆ งี้ผมต้องรับผิดชอบ เพราะผมอาจจะทำริทท้อง”

“พอเลยคุณรัน!”

“ฮ่าๆ” อะเข้าไป สั่งให้พอก็ดันขำ เขามันดูตลกขนาดนั้นเลยเหรอไงล่ะ

ริทเบ้หน้าเล็กน้อย เขากระเถิบตัวหนีขึ้นไปอยู่ตรงหัวเตียงติดผนังห้อง นิรันดร์มองตามแต่ริทก็ไม่อธิบายอะไร ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นิรันดร์พูดอะไรออกมาทีมันก็เข้าตัวเขาหมดอะ เขาไม่อยากโดนล้อนะ อันที่จริงถ้านิรันดร์ทำเหมือนจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้มันจะดีกว่านี้เยอะ

“อยากดูการ์ตูนมั้งจัง” นิรันดร์ส่งสายอ้อนๆ มาให้

“ผมเปิดให้ไหมครับ คุณรันดูนารูโตะไหมล่ะ”

“ดูกับริทอะ เรื่องไหนก็ได้”

“ก็ปากหวานแบบนี้ หนุ่มน้อยสาวน้อยถึงได้อยากครอบครองคุณรัน” ริทว่าแล้วกระดื้บไปเปิดการ์ตูนที่อยู่ตรงปลายเตียง นิรันดร์กึ่งนั่งกึ่งนอนฝั่งขอบเตียงรอเรียบร้อย

“ริทก็ด้วยเหรอ” ริทหันไปมองหน้านิรันดร์ คิ้วขมวดหน่อยๆ ก่อนส่ายหน้า

“เรื่องเมื่อวานมันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เฉยๆ” เขาไปนอนที่เตียงบ้าง มันเป็นเตียงขนาดเล็กก็เลยตัวติดกันไปหน่อย

“ริทคิดแบบนั้นได้จริงๆ ใช่ไหม”

“จะให้ผมคิดอะไรล่ะ”

“เปล่า” ริทไหวไหล่ ในมือถือรีโมตเพื่อกดข้ามโฆษณา

ริทไม่คิดมาก เป็นอย่างที่พูดเลยว่าเรื่องเมื่อวานมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เขาเองลิ้มรสเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก นับว่าไม่แย่ที่ได้คู่ทดลองเป็นเจ้านายสุดหล่อ เขารู้ เขาอยู่ในสถานะไหน ไม่อาจเอื้อมหรอก

แม้จะชอบ...ก็ขอแค่ชอบในใจพอ

ริทร้องเพลงประกอบการ์ตูนนารูโตะเบาๆ เขาร้องมันได้ทุกเพลง และชอบมันเกือบทุกเพลง สีหน้าเริ่มดีขึ้น ได้เห็นตัวละครที่ชอบ ได้ดูในสิ่งที่รัก เขาก็แฮปปี้ แต่ก็ไม่คิดนะว่านิรันดร์จะมานอนในห้องเล็กๆ เพื่อดูการ์ตูนกับเขาอย่างนี้

“นี่ตอนแรกเลยปะ” นิรันดร์เอ่ยถามขึ้นมา

“ครับ กลัวเปิดไปตอนอื่นเลยคุณรันจะดูไม่รู้เรื่อง”

“แล้วไม่เบื่อเหรอที่ต้องดูตอนแรกใหม่” ได้ยินคำถาม ริทเงยหน้ามองนิรันดร์

“ผมไม่ได้แค่ชอบ แต่ผมรักมัน เมื่อเรารัก...เราจะไม่มีวันเบื่อสิ่งที่เรารักหรอกครับ ผมอะดูจนท่องบทได้หมด จำได้ว่าตัวไหนจะพูดอะไร หรือรายละเอียดอย่างวันเกิด อายุ สิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ ก็นะ...รักแล้วมันเก็บรายละเอียดไปเองอะเนอะ” ริทยิ้มหวานส่งให้

นิรันดร์หลบสายตา...เพราะถ้ามองมันต่ออาจไม่ได้นอนดูการ์ตูน

แต่จะรวมร่างกันแทน!

….100%….

กะจะอัพตั้งหลายวันแล้วแต่ข้าน้อยลืม แงงงงง อย่าเพิ่งเทเค้าเลยน้า
ปล.ลิโม่บอยเปิดพรีออเดอร์แล้วนะคะ สามารถสั่งซื้อได้ที่เพจ Product Y น้าค้า ฝากอุดหนุนด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-04-2019 14:07:49
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-04-2019 16:52:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 12-04-2019 18:43:41
คุณรันคนบ้ากามมมมมมมมม :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-04-2019 20:44:09
คุณรันขี้หื่น นี่กะจะมาดูผลงาน หรือหวังว่าจะได้กินเด็กอีกล่ะเนี่ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-04-2019 20:47:55
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 13-04-2019 01:01:06
คุณรันฮึ้บเร็ว ฮึ้บบ
น้องช้ำหมดแล้ววว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 13-04-2019 10:13:23
คุณรันก็จะรวมร่างกับริทอย่างเดียวเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 13-04-2019 12:38:09
คุณรันขี้อ่อย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 13-04-2019 14:30:15
คุณรันเจ้าเล่ห์แสนกล
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 10 - 100% [12-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 13-04-2019 19:36:14
น่ารักทั้งคู่เลย ต่างคนต่างเขินกันไปมา
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-04-2019 22:30:15
>….ตอนที่ 11 [100%]….<

การนอนดูการ์ตูนร่วมกันจบลงที่นิรันดร์เผลอหลับ คนป่วยอย่างริทยังสามารถดูการ์ตูนต่อได้จนรู้สึกว่ามันดึกเกินไปแล้ว เขาปลุกนิรันดร์ ให้นิรันดร์ไปกินข้าวแล้วเข้านอนได้แล้ว ซึ่งตอนแรกนิรันดร์อิดออดนิดหน่อยแต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี

    อาการป่วยของริทดีขึ้นในวันถัดมา เขาต้องออกไปล้างรถทั้งหลายแหล่ในโรงจอดเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานของนิรันดร์ในวันพรุ่งนี้ กว่าจะล้างเสร็จก็เลยบ่ายโมงไปแล้ว ก็ไม่ได้ล้างลวกๆ แต่ล้างจริงจัง ขัดสีฉวีวรรณมันซะทุกจุด เอาให้เอี่ยม ให้เหมือนไปล้างมันที่ร้านล้างรถ

จบงานล้างรถก็ไปช่วยลุงๆ แกทำสวน รู้สึกการออกมาทำงานกลางแจ้งจะไล่พิษไข้ได้ดีมาก อาจเพราะเหงื่อมันออก ร่างกายก็เลยกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ระหว่างที่ช่วยลุงๆ ริทก็โดนแซวเรื่องร่องรอยบนตัว แอบเขิน แต่ทำไรได้นอกจากยิ้มแฮ่ๆ ใส่ลุง มีการบอกเอาเมียมาแนะนำบ้างด้วยนะ

ริทไม่รู้ตัวเลยว่าวันทั้งวันที่ริททำแต่งานอยู่ในบริเวณบ้านนั้น จะมีสายตาคู่หนึ่งคอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลา และคนที่คอยมองนั้นก็ไม่ใช่ใครนอกจากคนที่เปิดซิงเขาไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

นิรันดร์แอบดูริทจากชั้นสองบ้าง จนมุมนั่งเล่นในบ้านบ้าง เขาไม่ได้เข้าไปทักทายหรือเข้าไปพูดคุย เพราะคิดว่าการทำแบบนั้นมันจะดูผิดปกติของเขาไปเสียหน่อย นิรันดร์พอใจที่ได้แค่มอง ไม่ต้องคุยก็ได้ เห็นอยู่ในสายตาและรู้ว่าอยู่ในบริเวณบ้านเขาก็พึงพอใจมากแล้ว

อย่างน้อยๆ มันก็เป็นความรู้สึกที่ว่าอีกคนยังอยู่ใกล้ๆ อยู่ในบ้านเดียวกัน ประมาณนั้นแหละ เขายังคงรักอิสระในวันหยุด ยังชอบที่จะได้อยู่คนเดียว แค่เพิ่มการแอบดูเด็กหนุ่มเข้ามาอีกอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง

เผลอแป๊บๆ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็จากไปแล้ว เช้าวันจันทร์เดินทางมาถึงแบบที่ริท และนิรันดร์เองต่างก็ไม่ต้องการ ทำไงได้ ชีวิตยังต้องทำงานก็ต้องตื่นขึ้นมาในวันจันทร์เป็นเรื่องปกติ หลายครั้งนิรันดร์แอบคิดว่าเขาควรเปลี่ยนวันทำงานแรกของสัปดาห์เป็นวันอื่น อย่างย้ายมาหยุดวันจันทร์อังคารแทน แล้วก็เปิดงานแรกของสัปดาห์เป็นวันพุธ แต่คิดไปคิดมา ทำแบบนั้นท้ายที่สุดเขาก็จะเปลี่ยนไปไม่ชอบวันพุธอยู่ดี

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณรัน” ริทเอ่ยทักทายทันทีที่นิรันดร์ก้าวขาขึ้นรถ

“อรุณสวัสดิ์ครับริท เมื่อวานเป็นไงบ้าง อาการดีขึ้นไหม” วันนี้ริทใส่คอเต่าสีดำ ทับด้วยเสื้อโปโลสีดำสำหรับใส่ขับรถ

“ครับ ผมหายไข้ล่ะ บอกแล้วว่าแข็งแรงสุดๆ ไปเลยล่ะฮะ” รอยยิ้มของริทสดใส ทำให้เชื่อได้ว่าริทกลับมาแข็งแรงแล้วจริงๆ

“น่าอิจฉาจัง ผมนี่ถ้าไข้ขึ้นก็เป็นอาทิตย์เลยนะกว่าจะหาย” รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจากหน้าบ้านเชื่องช้า

“คุณรันลองออกกำลังกายตอนป่วยสิฮะ ผมทำแล้วหายนะ” พ้นประตูออกมาได้ระยะหนึ่ง รถก็เริ่มทำความเร็วเพื่อจะไปเผชิญกับรถติดด้านนอก

“นั่นสิ เขาว่าถ้าป่วยให้ออกกำลังกาย มันจะดีขึ้น แต่ผมป่วยแล้วขี้เกียจน่ะ” รินิรันดร์ยิ้มบางๆ ให้ขณะตอบ แต่ริทแอบคิดในใจว่าทีเรื่องอย่างว่าเขาไม่เห็นคุณรันขี้เกียจเลยนี่นา คือแบบ...เห็นว่างที่ไรก็ฟัดกับคู่ขาตลอดเลย

“งั้นคราวหลังก็ลองฮึ้ดๆ ดูครับ มันช่วยได้เยอะ”

“ก็ได้ เห็นเป็นริทแนะนำนะเนี่ยถึงจะทำตาม” รอยยิ้มนั้นดูกรุ้มกริ่ม ริทไม่กล้าสบตา เขาเบี่ยงความสนใจไปที่ท้องถนนแทนรอยยิ้มของนิรันดร์

เสียงเรียกเข้าดังขึ้น แน่นอนไม่ใช่ของริทเพราะไม่มีใครโทรหาริทในเวลานี้แน่ๆ หลังจากรับสายนิรันดร์ก็ต้องหันมาสนใจกับการทำงานทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเข้างานของตนเองเลยด้วยซ้ำ ริทมักจะลอบมองนิรันดร์อยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะตอนรถติด

สีหน้านิรันดร์จริงจังกับสิ่งที่ทำ แววตาคู่นั้นมุ่งมั่นและจดจ่ออยู่ที่หน้าจอแม็กบุ๊ก ไม่มีความล่อกแล่กแม้ว่ารถจะเคลื่อนที่อยู่ก็ตาม บางครั้งรถเบรกนิรันดร์ก็ยังไม่สะทกสะท้านอะไรเลย

เก่งเนอะ...

ริทรู้สึกอยู่เสมอว่านิรันดร์มีเสน่ห์ มองกี่ทีกี่ทีก็รู้สึกชอบ เรียกว่าเขาเพลินอยู่กับการมองนิรันดร์ทำงานเลยก็ว่าได้ แค่ต้องพยายามกะจังหวะดีๆ อย่ามองให้รู้ว่ามอง ไม่งั้นมันคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆ เลย

ก่อนลงจากรถ นิรันดร์สั่งกับริทไว้ว่ามื้อเที่ยงให้พาตนไปกินข้าวที่ห้างซีด้วยนะ ริทแค่พยักหน้ารับ เอารถเข้าที่จอดจากนั้นก็กลับมานั่งรอนิรันดร์ในโถงบริษัท เขามีที่ประจำ เป็นมุมเล็กๆ กับเก้าอี้นวมสำหรับนั่งคนเดียว ข้างๆ เก้าอี้ตรงกำแพงมีปลั๊กสามตาอยู่ เห็นไหม...นี่น่ะสวรรค์ของคนติดมื้อถือเลยล่า

ริทนั่งดูการ์ตูน อ่านการ์ตูนหรือแชตคุยกับเพื่อนๆ ที่ตอนนี้ยังไม่เริ่มงานกันเสียทีไปเรื่อยเปื่อย พวกนั้นถ่ายรูปมาอวดเขาด้วย คิดว่านี่ใคร? นี่ริทนะเว้ย ผู้ที่ได้งานทำสบายที่สุดในหมู่เพื่อนๆ ทั้งผอง เพราะงั้นริทจะยอมไมได้ เจ้าตัวถ่ายรูปหล่อๆ ของตัวเองส่งกลับไปบ้าง ตามติดด้วยข้อความง่ายๆ ว่าว่างยันเที่ยง!

หึหึ...บอกแล้ว ริทน่ะวันๆ แทบไม่ต้องอะไร ขับรถไป ขับรถมา แล้วก็นั่งรอ ชิลล์โคตร ในกลุ่มก้อนของเขาไม่มีใครได้ดีเท่านี้ ที่สำคัญ เจ้านายก็ใจดีมากอีกด้วย ขออนุญาตไม่คิดถึงเรื่องเกินเลย มันไม่ดีไม่งาม ขอเข้าศิลสมาธิเพื่อตัดเรื่องใต้สะดือที่เกิดขึ้นออกไป

เราเป็นคนดี...เราเป็นคนดี....เราเป็นคนดี....

ท่องมันอยู่ในใจอย่างนั้นแหละ ว่าแต่การกินตับกับเจ้านายหมายถึงเขาไม่เป็นคนดีตรงไหนวะ? เออเนอะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ ก็แค่ช่วยเจ้านายให้พ้นทุกข์ โอ้โห ซุปเปอร์คนดีเลยงานนี้ ไม่มีใครทุ่มเทได้ขนาดนี้อีกแล้ว

ริทนั่งแชตอยู่กับเพื่อนๆ ในกลุ่มจนถึงเก้าโมง พวกนั้นก็แยกย้ายไปทำงานจนหมด ความเงียบเหงาไม่มีคนคุยไม่ได้ทำให้ริทรู้สึกแย่เลย เขารีบเข้าเกมและเล่นมันอย่างไว นี่แหละ ช่วงเวลาฟรีสไตล์ที่แท้จริง

เมื่อก่อนนี้ไม่ใช่คนติดเกมเลยนะ เกมในมือถือก็มีแค่เกมหรือสองเกมเท่านั้นเอง ทว่าเดี๋ยวนี้พอมันว่างมากอะ ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยโหลดมาไว้หลายๆ เกม อันนี้ก็ชอบ อันนี้ก็เล่นสนุก เล่นแบบสับเปลี่ยนไปเรื่อยเปื่อย เบื่ออันนี้ไปเล่นอันนู้น เบื่ออันนู้นก็มาเล่นอันนี้วนไป

การเล่นเกมนั้นผลาญเวลาได้อย่างรวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อ เข็มสั้นชี้ไปที่เลขสิบสองพร้อมข้อความที่ส่งตรงมาจากนิรันดร์ว่ากำลังลงไป ริทกดสติ้กเกอร์ตอบกลับก่อนจะรีบเดินไปที่รถ เขาต้องเอารถมาจอดเทียบหน้าทางเข้า ช่วงเวลาไปเอารถและวนกลับมา นิรันดร์ก็ลงมาจากชั้นบนยืนรอเขาอยู่ก่อนแล้ว

“เหนื่อยไหมครับเนี่ย” ริทเอ่ยถาม สีหน้านิรันดร์ดูสบายๆ แต่ก็...ไม่รู้ดิ คนทำงานมันก็ต้องเหนื่อยปะ

“นิดหน่อยนะ หิวด้วย ว่าแต่ริทอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม ผมไม่รู้เลยว่าเที่ยงนี้จะกินอะไรดี” ได้ยินคำถามก็นิ่งคิดไปเล็กน้อย จะว่าริทหิวไหมริทก็หิวแหละ มันได้เวลาแล้ว แต่เขาคิดไอเดียอะไรเจ๋งๆ ไม่ได้นอกจาก...ผัดกะเพรา

“โทษทีฮะ ผมคิดออกแต่ผัดกะเพรา” ริทยิ้มอ่อนใจ ความคิดเห็นเขาไม่น่าช่วยเหลืออะไรคุณรันเจ้านายเขาได้เลย

“อืม...กะเพราะก็ดีนะ” เอ้า ดีซะงั้น เออ...คุณรันอาจแบบหิวมาก พูดอะไรขึ้นมาก็อยากกินไปเสียหมด

ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เข้ามาสู่ตัวห้างซีที่นิรันดร์ต้องการจะมากินมื้อเที่ยง ริทตั้งใจจะจอดรถทางเข้าเพื่อให้นิรันดร์เข้าไปหาอะไรกินในห้างตามลำพัง ทว่านิรันดร์ไม่ยอม จะให้ริทไปด้วยกัน ริทก็ต้องทำความต้องการของผู้เป็นเจ้านาย

นิรันดร์เดินนำหน้าริทไปยังโซนอาหาร มองซ้ายมองขวาดูร้านอาหารไทยที่รสชาติดีๆ สักร้านหนึ่ง แล้วก็จบที่ร้านดังอยู่ใกล้กับบันไดเลื่อน นิรันดร์ตรงเข้าไปโดยไม่ดูว่าริทนั้นยืนรออยู่ด้านนอก จนกระทั่งพนักงานร้านถามนั่นแหละว่ามากันกี่ท่าน นิรันดร์จะบอกว่าสองแต่คนที่สองดันไม่ยอมเข้ามาเสียนี่

“ริทเข้ามากินด้วยกันสิ” นิรันดร์เดินออกมาตาม เรียกอย่างเดียวไม่พอแต่จูงมือริทเข้าไปในร้านด้วย

“แต่เอ่อ...”

“กินคนเดียวมันเหงานะ” เอ ประโยคนี้ริทว่ามันแปลกๆ ปกติเจ้านายเขากินข้าวคนเดียวตลอดนี่นา หรือว่าไอ้ที่กินคนเดียวมาตลอดก็เหงามาตลอด

นิรันดร์สั่งกะเพราะหมูสับไข่ดาวไซซ์จัมโบ้สองจาน แล้วก็กับอย่างอื่นอีกนิดหน่อย ระหว่างที่นิรันดร์สั่งริทก็ทำได้แค่นั่งตัวลีบอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนิรันดร์ มาเดินเล่นอะบ่อยนะ แต่ไม่เคยเข้าร้านอาหารแบบนี้หรอก อย่างมากก็พวกร้านเคเอฟซี เอมเค แม็คโดนัล อะไรทำนองนั้นอะ ไม่ใช่ว่าแพงจนสู้ราคาไม่ไหว แค่รู้สึกว่า...อาหารไทยๆ อย่างนี้ซื้อข้างทางเอาก็ได้น่ะ

ยิ่งกะเพราะนะ ฟู๊ดคอร์ดเลยครับผม ที่นั่นห้าสิบบาท พิเศษเพิ่มข้าวแล้วด้วยนะ รับรองว่าจะอิ่มจุใจ แต่ดีกว่าฟู๊ดคอร์ดก็ต้องร้านข้างนอกเลย พวกร้านอาหารตามสั่งข้างทางน่ะ พวกนั้นจะถูกและได้เยอะ

“เดี๋ยวริทพาผมไปส่งที่ทำงานแล้วก็กลับบ้านไปเอาลีมูซีนมาหน่อยนะ ช่วงเย็นๆ ผมมีงานนิดหนึ่งน่ะ” ระหว่างรออาหารนิรันดร์ก็เอ่ยสั่งงานที่ริต้องทำในวันนี้

“ได้เลยครับคุณรัน”

ถ้าเป็นเพื่อก็จะเถียงหรือจะเรียกว่าหยอกก็ได้ว่า...งานนิดหนึ่งหรือหื่นนิดหนึ่งอะเอาตรงๆ เจ้าลีออกจากที่จอดทีไรได้กินตับคนทุกที ก็คิดว่าน่าจะเป็นคนเดิมที่เคยพามานั่นแหละเนาะ เขาไม่เห็นนิรันดร์เปลี่ยนคนเลย ดูออกแนวแบบ...พอใจที่คนนี้ก็ใช้บริการคนนี้ต่อไปนั่นแหละ

มื้อเที่ยงผ่านไปแบบปกติสุดๆ นั่งคุยกันเรื่องนั่นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อย ที่ต้องใช้คำนี้เพราะมันหาสาระอะไรไม่ได้ ริทคิดว่านิรันดร์เองก็คงเหนื่อยกับงานจนไม่อยากคุยอะไรที่หนักสมอง ผู้เป็นนายบอกกับเขาว่าไม่น่าหลับเมื่อวาน ทั้งที่การ์ตูนสนุกมากแท้ๆ ริทเข้าใจนะ คนถ้ามันง่วงมากๆ ต่อให้สิ่งที่ดูอยู่สนุกแค่ไหนมันก็หลับได้อะ เจ้านายเขาคงเหนื่อยเกินไปจริงๆ

จบมื้ออาหารด้วยที่นิรันดร์เลี้ยงเรียบร้อย ริทก็โดนนิรันดร์คว้าข้อมือไปจับแล้วพาเดินไปยังโซนของเล่น มันดูเหมาะกับผู้ชายอย่างพวกเขาไหมเนี่ย ริทน่ะไม่ค่อยสนหรอกเพราะเขามาเดินบ่อย แต่กับนิรันดร์นี่เหมือนมาซื้อของเล่นให้ลูกอย่างไรก็อย่างนั้น

ริทได้แต่มองมือใหญ่ที่กุมข้อมือเขาเอาไว้ ในใจเกิดเป็นคำถามว่าบอกให้เขาเดินตามดีๆ ไม่ได้เหรอ ทำไมต้องจูงล่ะ เขาไม่ใช่เด็กสี่ห้าขวบแล้วเสียหน่อย อีกอย่าง...มันชวนให้คิดลึกเหมือนกันเนอะ ก็การกระทำแบบนี้มันไม่ได้มีไว้ให้พนักงานขับรถอย่างเขา

เขาก็ได้แค่ตั้งคำถามกับแผ่นหลังใหญ่ของนิรันดร์เท่านั้น ไม่กล้าเอ่ยปากถาม ไม่กล้าแม้กระทั่งจะดึงมือตัวเองกลับมา แม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าการที่นิรันดร์ทำแบบนี้กับเขามันสร้างความหวั่นไหวและคิดมาก

แหม...เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะที่จะไม่รู้สึกอะไรเลยน่ะ

ก็แค่บอกตัวเองว่าห้ามรู้สึกเท่านั้น

คุณนิรันดร์ไม่ใช่คนที่เขาจะเอื้อมถึง

“โห...ฟิกเกอร์นารูโตะที่นี่เต็มเลยเนอะ” นิรันดร์พาริทมาหยุดยืนหน้าชั้นวางโมเดลต่างๆ ซึ่งโซนนี้ได้แบ่งให้กับนารูโตะจนเกือบยกชั้น ถัดไปอีกหน่อยก็เป็นโมเดลของวันพีช

“ครับ ที่นี่มีฟิกเกอร์เยอะมาก ผมเองก็ชอบมาเดินดูบ่อยๆ แต่บอกตรงๆ ราคามันโหดไม่ใช่เล่นเพราะเมคอินเจเปนทั้งนั้นเลย” มันอาจจะเป็นฟิกเกอร์ที่สาวกส่วนใหญ่มีกันหมดแล้ว แต่สำหรับริท นอกจากที่นิรันดร์เคยซื้อให้เขาก็ไม่เคยมีตัวอื่นอีก ก็อาจจะมีแบบ...ตัวละไม่กี่สิบบาทตามตลาดนัดอะนะ

“ริทอยากได้ไหม” นิรันดร์คว้าเอาตัวซาสึเกะในร่างที่ใช้อักขระเต็มตัวครั้งแรก ข้างหลังเป็นมือนับพันเรียงร้อยต่อๆ กันจนเป็นรูปทรงของปีกค้างคาว ร่างสูงพลิกดูรายละเอียดงานทั้งที่ยังไม่ปล่อยมือริท

“อยากได้สิครับ ผมเป็นสาวกหนิ ไม่มีสาวกคนไหนไม่อยากได้พวกนี้หรอก” ตัวที่นิรันดร์ถืออยู่นั้นริทก็ชอบ มันจะมีคู่ของมันก็คือนารูโตะที่อยู่ในร่างอาภรณ์ปีศาจครั้งแรก เป็นหางเดียว

“ตัวนี้มาจากฉากไหน” นิรันดร์หันมามองหน้างงๆ ของริท

“มาจากฉากต่อสู้กันของนารูโตะและซาสึเกะที่หน้าผาสิ้นสุด ตอนนั้นสาซึเกะจะหนีออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหาโอโรจิมารุและนารูโตะมาขวางไว้ ฉากในตำนานเลยฮะ เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสู้กันอย่างรุนแรงขนาดนั้น บอกตรงๆ โคตรเศร้า ผมร้องไห้เลยอะ ตอนที่ซาสึเกะบอกว่านายเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุด แม่ง...รักที่สุดก็เลยคู่ควรที่จะโดนฆ่าตาย” ริทเอานารูโตะในร่างจิ้งจอกมาถือบ้าง พูดอย่างกับคนแก่ที่ระลึกถึงความหลังในวันวาน

“ริทจำแม่นจริงๆ ด้วย แล้วทำไมซาสึเกะต้องฆ่าเพื่อนที่ตัวเองรักที่สุดล่ะ” ขณะที่นิรันดร์ถามริทไปเรื่อยๆ เขาก็ได้คว้าเอากล่องฟิกเกอร์มาจากชั้นนั้นสองกล่อง ซึ่งก็คือสองตัวที่เขาและริทต่างก็ถืออยู่

“ซาสึเกะเขาแค้นพี่ชาย อยากฆ่าพี่ชายตัวเอง เขาทำทุกอย่างเพื่อจะเอาพลัง การฆ่าเพื่อนที่ตัวเองรักที่สุดจะทำให้เขาได้เนตรวงแหวนหมื่นบุปผา” ริทเอาฟิกเกอร์นารูโตะในมือไปวางไว้ที่เดิม

“ว่าแต่...ถามไปนี่คุณรันเข้าใจเหรอเนี่ย” ริทมองหน้านิรันดร์ เขาไม่ไดสังเกตเห็นเลยว่านิรันดร์ถือกล่องเอาไว้

“เข้าใจนะ ผมไม่แฟนบอยแต่ก็พอรู้คร่าวๆ แหละ อีกอย่าง เวลาริทเล่าถึงสิ่งที่ริทชอบแววตาริทเป็นประกายมากเลยนะ” นิรันดร์ยิ้มให้กับเด็กหนุ่ม เป็นรอยยิ้มที่แสนจะจริงใจและ...ริทไม่ค่อยชอบมัน

ก็...มันทำให้เขาหวั่นไหว

“พูดแบบนี้แอบเขินนะครับ ฮ่าๆ เพื่อนผมน่ะไม่ค่อยชอบให้ผมเล่าหรอก มันบอกว่ามันฟังไม่รู้เรื่อง” ริทพยายามจะหาเรื่องกลบเกลื่อนความรู้สึกตัวเอง

“นั่นเพื่อนริทนี่ แต่ผมรู้เรื่อง แล้วก็ชอบที่ริทเล่า” นิรันดร์ประสานสายตากับเด็กหนุ่มข้างกาย แม้จะได้ไม่นานเพราะริทเบี่ยงสายตาไปทางอื่นก่อน

ร่างสูงลากริทไปที่อื่น ที่ที่ริทเองก็แปลกใจเพราะว่ามันเป็นเคาน์เตอร์แคชเชียร์ ตอนนี้เองที่ริทเพิ่งจะเห็นว่านิรันดร์วางกล่องฟิกเกอร์สองใบลงบนเคาน์เตอร์ ตามด้วยส่งบัตรเครดิตให้พนักงาน

เอ่อ...ซื้อให้?

นิรันดร์ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เขาจ่ายเงินและรับของ จากนั้นจูงมือริทกลับมาที่รถ ไม่ต้องสั่งการริทก็รู้ว่าหน้าที่ของตัวเองคืออะไร ทั้งรถตกอยู่ในความเงียบ เป็นความเงียบที่ไม่รู้ว่าจะอึดอัดดีหรือจะอบอุ่นดี เพราะนิรันดร์ดันนั่งมองริทผ่านกระจกจนกระทั่งมาถึงที่ทำงาน

“ผมรู้ว่าริทไม่มีทางขอ แต่ผมอยากให้...” ก่อนลงจากรถ นิรันดร์มอบถุงที่ใส่ฟิกเกอร์สองตัวให้กับริท

“แต่มัน...”

“ห้ามปฏิเสธเจ้านาย เข้าใจนะ”

“อ่า...ขอบคุณครับ” ริทยกมือไหว้นิรันดร์ อยากจะบอกว่ามันก็ดีนะ...ดีใจที่ได้สองตัวนี้ สองตัวที่เขารักและมันก็มากไปด้วยเรื่องราว

แต่ว่า...มันเหมาะสมแล้วจริงเหรอ?

ด้วยความไม่รู้ว่าทำไมนิรันดร์ถึงได้ซื้อให้ มันเลยเกิดเป็นความเกรงใจขึ้นมา ฟิกเกอร์สองตัวนี้ราคารวมกันแล้วก็หมื่นกว่า นั่นไม่ใช่เงินน้อยๆ แม้แต่เงินเดือนเขา เขาอาจจะยังไม่กล้าจ่ายรวดเดียวแบบนี้เลยด้วยซ้ำ

หรือว่าคุณนิรันดร์ให้เขาครั้งนี้ชดเชยคืนนั้น…

พอคิดอย่างนี้ก็แอบจุกในอกเบาๆ แบบนี้เขาก็คงไม่ได้ต่างอะไรกับชายหนุ่มคนนั้นที่นิรันดร์รับมาระบายอารมณ์ทุกวันศุกร์น่ะสิ เขาบอกแล้วว่าเขาไม่เป็นไร เขาช่วยด้วยความยินดี เขาทำแบบนั้นไปไม่ได้หมายความว่าเขาต้องการอะไรจากนิรันดร์เลย

แต่นั่นอาจไม่สำคัญแล้วหากนิรันดร์คิดกับเขาเหมือนที่คิดกับคู่ขาตัวเอง

ริทมองถุงฟิกเกอร์ตรงเบาะข้างคนขับ เขาเคยดีใจที่นิรันดร์ให้สิ่งนี้ เคยรู้สึกว่ามีเจ้านายใจดีมากๆ อืม…นี่ก็ไม่หมายความว่านิรันด์ใจร้ายหรอก นิรันดร์ก็ยังคงใจดีต่อเขา แค่อะไรๆ มันไม่ได้เหมือนก่อนหน้านี้เท่านั้นเอง

เอาวะ! ทำตัวให้เหมือนก่อนก็แล้วกัน…ทำได้เท่านี้แหละ

ริทปลอบตัวเองว่าบางทีคุณนิรันดร์อาจจะรู้สึกผิดมากๆ ที่ล้ำเส้นเขาในวันนั้น ของสิ่งนี้ก็คือของขอโทษเหมือนครั้งก่อน มันสบายใจขึ้น แม้ไม่มากแต่ก็ดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมองของข้างๆ ต่อจากนี้ฟิกเกอร์นี่คงไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการ์ตูนเพียงอย่างเดียวอีกแล้ว แต่ยังบอกด้วยว่าเพราะอะไรเขาถึงได้มันมา

กลับถึงบ้าน ริทเอารถเข้าจอดแล้วเอากล่องฟิกเกอร์ทั้งสองกลับไปเก็บที่ห้องของตัวเอง ของชิ้นเก่าๆ เรียงรายอยู่โดยไม่มีการแกะออกมา ก็ไม่เชิง แค่แกะมาสัมผัสลูบไล้จากนั้นก็ใส่กลับเข้าไปอย่างเดิม ริทรักพวกมันมาก ริทไม่อยากให้แม้แต่ฝุ่นมันมาเกาะฟิกเกอร์ของเขา

ก่อนจะเอาสองตัวนี้ขึ้นไปวางเรียงรวมกับตัวอื่น ริทถ่ายรูปทั้งคู่โดยวางเอาไว้บนเตียงนอน จัดฉากดีๆ อย่างน้อยต้องให้สองกล่องนี้โดดเด่น พอได้ภาพที่ตัวเองชอบค่อยเอาสองกล่องนี้ไปวางเรียงไว้ จากนั้นเอนกายลงบนที่นอนเพื่อจะอัปเฟซ

ครั้งนี้ริทไม่ใส่ข้อความใดๆ ลงไปเหมือนครั้งก่อน อาจเพราะเขาคิดมากอะไรอยู่ก็ได้ เขาจึงใส่อีโมติค่อนรูปหัวใจเพียงอันเดียวเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่ไม่สามารถอธิบายด้วยตัวอักษรได้

ถ้าคุณนิรันดร์ให้สองกล่องนี้เพราะรู้สึกผิดต่อเหตุการณ์วันนั้นจริง หลังจากนี้คุณนิรันดร์คงไม่ซื้ออะไรแบบนี้ให้แล้วล่ะมั้ง เอาเป็นว่าเขาทำได้แค่รอดู ก็จะให้ถามไปตรงๆ เขาก็ไม่กล้า ไม่รู้จะถามออกไปยังไงด้วย…

“ไอริทกลับบ้านเร้อะ กินข้าวยัง แม่ทำขนมจีนน่ะกินไหม” เสียงแม่ดังมาจากหน้าห้อง คงเห็นรถที่เข้าไปจอดประจำที่

“น้ำยาไรอะแม่” ริทลุกขึ้นจากที่นอนโดยไม่ลืมเอามือถืออกมาด้วย

คิดมากไปก็ไม่ประโยชน์ เพราะงั้นก็แค่...ช่างแม่ง!

….100%….

ความไม่ชัดเจนของนิรันดร์ทำน้องคิดมากน้า~ แต่เรามาทุกอาทิตย์แน่นอน ชัดเจนไม่ทำให้นักอ่านคิดมากชัวร์!
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-04-2019 23:00:29
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-04-2019 23:27:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 18-04-2019 23:55:31
ในมุมน้อง
นก็จริงที่น้องจะคิดแบบนี้ได้ ถ้าเป็นเรา เราก็คิด

ในมุมพี่
อยากให้ก็คือยากให้ ไม่ว่าสถานการณ์ไหน ก็คืออยากให้


ย้องแย้ง สรุป พี่ต้องชัดเจน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-04-2019 00:07:05
ตามน้ำไปเรื่อยๆแหละริท 5555
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-04-2019 00:08:16
ริทคิดมากก็ไม่แปลก เพราะเจ้านายก็ทำตัวแปลกๆ ขึ้นทุกวัน อาจจะเริ่มชอบเด็กในบ้าน แต่ไม่รู้จะออกหน้ายังงัยล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-04-2019 00:38:04
จะช่างแม่งได้กี่วันลูกกกกกกกก  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-04-2019 00:47:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 19-04-2019 09:18:50
ช่างแม่ง เนอะน้องริท คิดได้ก็สบายใจ ส่วนคุงพี่ ก็ยังรักอิสระ ขอแค่คุงน้องอยู่ในสายตาก็พอ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 11 - 100% [18-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-04-2019 13:47:24
เอ็นดูความคิดบวกของริท พยายามคิดไม่ให้ตัวเองเสียใจ
และน้องค่อนข้างซื่อตรงกับตัวเองมากเลยนะ
แค่ไม่เปิดเผยกับคนรอบข้างแค่นั้นเอง

คุณรัน นั่นไง ร้ายกาจที่สุดเลยจ้า คนเรา ทำไปได้นะ
ไม่รู้จะหลอกล่อยังไง เลยเนียนมาก และแผนสูงมากจ้า

ทำริทคิดมาก นอยด์ไปอีก ตอนซื้อของให้
น้องก็คิดบวกว่าที่ทำไปเพราะอยากช่วย
ที่ไหนได้ คุณรันของขึ้นต่างหาก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 24-04-2019 21:44:45
>….ตอนที่ 12 [100%]….<

ก่อนห้าโมงเย็นนิรันดร์ส่งข้อความไปหาริทให้มารับตนเองที่บริษัท จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งเพื่อเข้างานเลี้ยงทางสังคมที่ต้องมาเกือบทุกวัน จะไม่มาก็ไม่ได้เพราะมันหมายถึงคอนเน็กชั่นที่จะได้กับคนอีกมากมาย

ริทไปนั่งรอนิรันดร์แถวลานจอกรถเหมือนเคย ระหว่างรอก็ไม่มีอะไรมากมายนอกจากเล่นเกม ดูคลิป คุยกับเพื่อน มีเพื่อนคอมเมนต์เรื่องฟิกเกอร์สองตัวนั้นที่เขาเพิ่งได้มาวันนี้ มีคนบอกว่าป๋าซื้อให้อีกแล้วนะ อิจฉาคนมีป๋าเลี้ยง

เมื่อก่อนริทไม่คิดมากกับคำนี้เท่าไหร่นัก เพราะเขากับนิรันดร์ยังเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง ทว่าพอมันเกินเลยกันไป ความคิดและความรู้สึกมันก็ผกผันเสียอย่างนั้น นี่แหละหนาที่เขาว่า เมื่อความสัมพันธ์เกินเลยไปแล้วมันไม่มีทางที่จะคิดอะไรเหมือนเดิมได้

ริทไม่ได้ตอบคอมเมนต์นั้นของเพื่อน คิดไม่ซื่อแล้วจะให้ตอบยังไง คำแซวเหล่านั้นเป็นจริงและเขาก็ไม่ได้อยากให้ใครมารู้ด้วยว่ามันเกิดขึ้น ก็...เซ็กซ์กับเจ้านายไม่ใช่สิ่งที่น่าอวดสำหรับริท มันดูเป็นการไม่เหมาะด้วยซ้ำ

กว่าเจ้านายของเขาจะเสร็จธุระในงานเลี้ยงทางสังคมนี้ได้ก็ปาไปสี่ทุ่มกว่าเกือบจะห้าทุ่มเต็มที ริทวนรถไปรอรับหลังได้รับข้อความทางเฟซบุ๊ก อืม เขาก็เกือบลืมไปเลยนะว่านิรันดร์เป็นเพื่อนเขาในเฟซ แบบนี้เท่ากับนิรันดร์เห็นที่เพื่อนๆ ของเขาแซวด้วยสินะ ดีที่นรันดร์ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่ติดหยอกติดแซว ไม่งั้นก็คงโดนแซวเรื่องพวกนี้อยู่แหละมั้ง

“เดี๋ยวริทขับกลับบ้านเส้นนี้นะ” ขึ้นมาบนรถได้ริทก็ได้รับคำสั่ง พร้อมกับโลเคชั่นในกล่องข้อความ

“เอ...แต่เส้นนี้มันเปลี่ยวมากเลยนี่ครับคุณรัน เราไม่น่าไปทางนี้นะ” พอดูเส้นทางแล้วก็ร้องอ๋อ มันเป็นทางลัดแต่เปลี่ยวมากเพราะต้องทะลุซอยโรงงาน แถวนั้นมีบ้านพักพนักงานอยู่แต่ไม่มากเท่าไหร่ ไม่ขนาดเป็นเขตชุมชนด้วยซ้ำ กลางคืนที่ริทเคยผ่านมันเงียบมาก

“รถมันไม่ติดดี” นิรันดร์ปลดเน็กไทตัวเองลงและถอดเสื้อสูทด้านนอกออกมาวางไว้ที่เบาะข้างกาย

“อืม...ก็ได้ครับ” ก็ในเมื่อเจ้านายต้องการแบบนั้นเขาจะทำอะไรได้นอกจากทำตามล่ะ

“แล้วหัวใจดวงเดียวนี่หมายความว่าไงเหรอ” นิรันดร์มองริทผ่านกระจกมองหลัง คนโดนถามเงยหน้ามองสบตาผ่านกระจก

“หมายถึงในเฟซเหรอฮะ” ก็ไม่น่ามีอย่างอื่นนี่นา

“ใช่ ผมเห็นที่ริทโพสต์น่ะ แต่สงสัยมากเลย” สงสัยอย่างเดียวไม่พอ เปิดวิสกี้ที่ถูกเก็บเอาไว้ในรถมาดื่มด้วย นี่นิรันดร์ติดลมมาจากในงานใช่ไหมเนี่ย

“ผมอยากโพสต์น่ะ แต่ไม่รู้จะบรรยายภาพว่ายังไงก็เลยใส่แค่อิโมติค่อนอันเดียว รูปหัวใจก็ให้ความหมายว่าชอบว่ารักนั่นแหละครับ”

“รักสิ่งของอะเหรอ” เอ...ถามแบบนี้มีความหมายอะไรหรือเปล่า ริทมองหน้านิรันดร์อีกครั้ง สีหน้าอีกฝ่ายราบเรียบเหมือนถามไปเรื่อยเปื่อย

“ผมรักทุกตัวที่คุณรันให้นั่นแหละ” ริทยิ้มบางๆ ส่งให้ เพื่อให้รู้ว่าเขาไม่ได้รักสิ่งของเท่านั้นหรอก แต่ที่รักพวกนั้นและทะนุถนอมพวกนั้นก็เพราะมันมีคุณค่าสำหรับริทต่างหาก นอกจากราคาแล้ว...ยังเพราะคนให้ด้วย

“น่าอิจฉา”

“ฮะ? เมื่อกี้คุณรันว่าอะไรนะครับ โทษที ผมได้ยินไม่ชัด” อาจจะเพราะกำลังเลี้ยวออกถนนใหญ่ก็เลยจับจ้ออยู่กับรถที่สวนมา

“เปล่าครับ” ในเมื่อนิรันดร์ไม่พูดซ้ำริทก็แค่พยักหน้ารับแล้วขับรถต่อไป

ช่วงเวลาแบบนี้รถราบนท้องถนนไม่ค่อยมากแล้ว รถลีมูซีนสามารถไหลไปได้เรื่อยๆ อาจจะน่ารำคาญที่ไฟแดงมันอยู่ติดๆ กันเยอะไปหน่อย แต่เขาคิดว่าเวลานี้ไม่จำเป็นต้องใช้ทางลัดก็ได้ มันไม่น่าจะถึงบ้านในเวลาที่ต่างกันมากสักเท่าไหร่

ริทนำเจ้าลีไปตามทางที่นิรันดร์ได้ส่งโลเคชั่นให้ ไม่ต้องเปิดค้างไว้ด้วยเพราะเขาจำเส้นทางนี้ได้อยู่ สมัยเรียนแวะมาบ่อยๆ หนีพวกอริเข้าทางลัดตรงนี้แล้วส่วนใหญ่จะรอด บางครั้งก็แวะตีกันในซอยนี้ก็มี ตำรวจมันไม่ค่อยมา คนอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ก็ไม่ค่อยมี เรียกว่าทางสะดวกสำหรับการทำเรื่องอุกอาจท้าทายอำนาจตำรวจมากๆ

จะว่าไปก็เคยได้ยินข่าวข่มขืนกันแถวนี้ ว่ากันว่ามีคนเมายาป้วนเปี้ยนเยอะ ดูสภาพสิ ถนนคอนกรีดอย่างดี มีสองเลนให้รถสวนกันไปมาได้ แต่ข้างทางเนี่ยเป็นป่าปรือทั้งนั้นเลย ถ้ามีใครวิ่งเข้าป่าปรือตรงนี้ เชื่อได้เลยว่าหากันไม่เจอแน่นอน ดีไม่ดี ไอ้คนลงไปก้หาทางขึ้นไม่เจอเช่นกัน

“ริทเลี้ยวเข้าข้างทางหน่อยสิ” มองทางด้วยความหวาดหวั่นอยู่ดีๆ นิรันดร์ก็สั่งให้เขาเอารถเข้าข้างทางเนี่ยนะ?

“แต่คุณรันครับ ผมว่าถ้าไม่จำเป็นไม่น่าเอารถจอดข้างทางนะ คือตรงนี้มันอันตรายน่ะครับ เกิดมีพวกขี้ยามาดักปล้นทำไงอะ ถ้าคุณรันปวดฉี่เดี๋ยวอดทนอีกหน่อยได้ไหมครับ ครึ่งทางก็จะทะลุไปถึงถนนใหญ่แล้ว” ด้วยความรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเส้นนี้ทำให้ริทเป็นห่วง

โรลสรอยด์แฟนธ่อมลิโม่คันนี้ไม่มีทางโดนเจาะจากข้างนอกได้แน่ๆ เพราะมันเป็นรถที่กันกระสุนปืนรวมถึงระเบิดขนาดเล็กจนถึงกลาง ไอ้มือเปล่าหรือพวกถือไม้หน้าสามมาทุบ ยังไงก็ไม่แตก ไม่มีรอยด้วยซ้ำ แต่ถ้าลงไป...อันนี้เรียบร้อยแน่นอน โดนฟาดเข้าหัวปุ้บนะ แม่งเข้ามาเอารถไปได้เลย

“ผมไม่ลงหรอก แค่อยากให้จอดก่อน” นิรันดร์พูดอะไรไม่เคลียร์ ทำให้ริทไมเข้าใจแต่ก็ทำตาม

“ไม่ลงใช่ไหมฮะ โอเค...” เลี้ยวเข้าข้างทาง หลอดไฟส่องถนนนี่มีเหมือนไม่มี ถ้าจะแสงริบหรี่ขนาดนี้อย่าเปิดให้เปลืองไฟเลยเถอะ

“รถล็อกอยู่ใช่ไหม” จอดแล้วนิรันดร์ก็เอ่ยถาม

“ครับคุณรัน รถล็อกอัตโนมัติอยู่” ตอนนี้หน้าริทมีแต่คำถาม ซึ่ง...เมื่อไหร่จะได้คำตอบ?

“งั้นริทข้ามเบาะมาหาผมหน่อย ผมอยากได้เพื่อนดื่ม” หา? เพื่อนดื่ม? ในรถ? และข้างทาง?

“เอ่อ...ไปดื่มที่บ้านดีกว่าไหมครับ” มันจะปลดภัยกว่านะ ตอนนี้เขาแคร์ความปลอดภัยสุดๆ เพราะกลัวว่าเขาจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ไหว

“ไม่เอา อยากดื่มกับริทบนรถเนี่ยแหละ นะครับ...ข้ามมาหาผมหน่อย” ริทเงยหน้ามองนิรันดร์ผ่านกระจก เผลอไปมองทางเมื่อครู่นี้ หันมาอีกทีนิรันดร์ก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกไปแล้วสามเม็ด

สถานการณ์แปลกๆ นะ?

ริทดึงเบรกมือขึ้นก่อนเป็นอย่างแรก ช่องว่างระหว่างที่คนขับและผู้โดยสารนั้นไม่ได้กว้างมากนัก ริทต้องค่อยๆ ข้ามมาโดยพยายามเหยียบเครื่องตกแต่งภายในรถให้น้อยที่สุด พอดีว่าเจ้านี่ราคาไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ เกิดทำอะไรเสียหายไปเชื่อได้เลยว่าเขาจะไม่มีปัญญาชดใช้มันได้อย่างแน่นอน เมื่อชดใช้ไม่ได้ก็อย่าทำพัง แค่นั้น ง่ายดายซะไม่มี

นิรันดร์ตบเบาะข้างๆ เพื่อส่งสัญญาณให้ริทรู้ว่าริทต้องนั่งข้างกายเขา ทันทีที่ร่างโปร่งนั่งลงจนไหล่เกือบจะชิด นิรันดร์ก็รินวิสกี้แบบออนเดอะร็อกส่งให้ คิดว่ามันเหมาะไหมที่จะให้คนขับรถดื่มเหล้า แหงล่ะ ไม่ต้องคิดยังรู้เลยว่าไม่เหมาะอย่างแรง

“ริทถอดเสื้อโปโลออกก็ได้นะ วันนี้ริทใส่เสื้อซ้อนกันสองตัวทั้งวันเลย นี่ถ้าไม่ได้อยู่แต่ในรถหรือห้องแอร์ ผมว่าริทน่าจะร้อนจนเป็นลมไปแล้วล่ะ” นิรันดร์ถือวิสาสะดึงชายเสื้อโปโลสีดำของริทให้ออกมาจากกางเกง ซึ่งเด็กหนุ่มก็ห้ามอะไรเขาไม่ทัน

“เอ่อ ก็ได้ครับ ว่าแต่วันนี้คุณรันแปลกๆ นะ มีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่าครับ?” คนที่เอะอะมุ่งตรงกลับบ้านอย่างนิรันดร์ให้จอดรถดื่มกันข้างทางเปลี่ยวแบบนี้ นี่มันปกติตรงไหน อีกอย่าง ถ้าจะหาคนดื่มด้วย ส่วนใหญ่แล้วนิรันดร์จะให้เขาไปรับคู่นอนมา ก็คนเดิมที่แม้กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่รู้จักชื่ออยู่ดี

“ผมแค่รู้สึกยังไม่อยากกลับบ้านน่ะ กลับไปริทก็แยกย้ายไปนอน ผมจะให้ริทมานั่งดื่มเป็นเพื่อนมันก็คงจะดูไม่เหมาะ ป้าออมแกหวงลูกนะ แกต้องดุผมแน่ๆ เลยที่พาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอเมา” นิรันดร์พูดอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนริทก็ถอดเสื้อโปโลสิดำออกจนเหลือเสื้อคอเต่าข้างใน

“ไม่หรอกครับ แม่ผมไม่ว่าหรอกถ้าผมนั่งดื่มกับคุณรันน่ะ ขนาดผมนั่งดื่มอยู่กับลุงๆ แกแม่ยังปล่อยเลย อาจจะบ่นนิดหน่อย แบบ..ขี้เมากันจริงๆ นะพวกแกเนี่ย” ริทดัดเสียงให้เหมือนแม่ นิรันดร์หัวเราะกับความพยายามนั้น

“ฮ่าๆ เลียนเสียงได้เหมือนมาก แล้วถ้าป้าออมรู้ว่าริท...กับผม...” นิรันดร์จ้องเข้าไปในดวงตาของเด็กหนุ่ม เพียงแค่ถาม ใบหน้าขาวใสนั้นก็เกิดสีแดงระเรื่อ

“ก็อย่าให้รู้สิครับ มันก็เป็นเรื่องสุวิสัยนี่...”

“แล้วถ้าเกิด...ผมตั้งใจล่ะ” นิรันดร์โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ริทอยากจะถอยแต่เหมือนกับว่าร่างกายของเขาไม่ยอมทำตามคำสั่ง

“เอ่อ...”

“งั้นก็อย่าให้แม่รู้” รอยยิ้มนิรันดร์มาพร้อมกับแววตาที่เจ้าเล่ ริทมองมันไม่ได้นานเพราะมันหายไปจากสายตา

“อื้อ!” นิรันดร์ยังคงถือแก้วเหล้าไว้ด้วยมือขวา แต่มือซ้ายโอบเอวกอคของเด็กหนุ่ม ดึงให้กายโปร่งแนบชิดกับร่างกายของเขา

ริมฝีปากของนิรันดร์แนบริมฝีปากของริทจนแทบจะไม่มีช่องว่าง เขาค่อยๆ ขบเม้มมันทีละน้อย กวาดลิ้นไปตามกลีบปากล่างและลนสลับกันไปเรื่อยๆ จนน้ำเคลือบคล้ายกับลิปมันที่เอาไว้ทาตอนหน้าหนาว จากนั้น...เจ้าลิ้นซุกซนก็เคลื่อนเข้าไปในโพรงปากเล็กที่รุ่มร้อน

“แฮ่ก..ฮื่อ...” เสียงลมหายใจกระเส่านิดๆ ถูกพ่นออกมาตามรอยแยกของริมฝีปาก นิรันดร์พยายามจะเกี่ยวลิ้นของริท เจ้าลิ้นเล็กๆ ที่ดื้อไม่ยอมให้เขาเกี่ยวเข้าปากได้ง่าย นิรันดร์ยิ้มเล็กๆ ซนแบบนี้ก็ดี เวลาไล่ต้อน...มันสนุกอย่างบอกใคร

ใช้เวลาไปเกือบนาที ในที่สุด เจ้าลิ้นเล็กที่แสนซนก็ตกเป็นของนิรันดร์ เขาดูดมันแรงๆ ให้เข้ามาในปากตัวเอง จากนั้นก็ดูดแรงขึ้นไปอีกเพื่อลงโทษที่เอาแต่หนีไม่ยอมกันง่ายๆ ความเจ็บปวดเกิดขึ้น แม้ไม่มากแต่ก็ทำให้ริทร้องประท้วงออกมาเบาๆ

“อื้อ!” ฝ่ามือข้างหนึ่งของริทจิกเสื้อเชิ้ตของนิรันดร์เอาไว้แน่น ร่างกายเกร็งเฮือกขึ้นมาเพื่อจะหนีความเจ็บแปล๊บนั้น

“แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...” นิรันดร์ยอมผ่อนแรงลง เขาใช้ความนุ่มนวลมากขึ้นเพื่อให้เด็กน้อยในอ้อมแขนมีความรู้สึกร่วมไปกับสิ่งที่เขากำลังทำ เขาวางแก้วเหล้าลงบนพื้นรถ จากนั้นใช้มือสอดเข้าไปในเสื้อคอเต่าผ่านทางชายเสื้อ

เด็กดีของเขากำแก้วเหล้าที่เขารินเอาไว้ให้แนบแน่น นิรันดร์ก็อยากจะรู้ว่าริทนั้นมีความสามารถในการถือมันเอาไว้ได้นานแค่ไหน เมื่อต้องเจอกับความซาบซ่านที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วนี้

เรียวนิ้วไหลลลื่นไปตามผิวกาย ริทมีกล้ามหน้าท้องน้อยๆ ไม่ชัดแต่ก็สัมผัสได้ว่ามี นิรันดร์จิกมันเล็กน้อย ความเจ็บเล็กๆ จะกระตุ้นความต้องการของเด็กหนุ่มได้ ดูจากกายที่ร่างกายสั่นเกร็งในทุกครั้งที่ปลายเล็บเขากดลงไป

“ฮะ..อื้อ!” กล้ามเนื้อในร่างแข็งขึ้นอย่างไร้จังหวะเมื่อนิรันดร์แตะต้องที่ยอดอกอันเล็ก สายตาคมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าหวานขึ้นสี ริมฝีปากยังไม่ถูกปล่อย นั่นทำให้ริททรมานกับการต้องหายใจอยากยากลำบาก

มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างหนึ่งของกิจกรรมเข้าจังหวะไร้เสื้อผ้า การทำให้คู่ของตนทรมานได้ ทำให้ร้องครวญครางออกมาได้ มันเป็นความรู้สึกฮึกเฮิม อดรีนารีนสูบฉีดอย่างหนักพร้อมกับความต้องการที่ทะยานขึ้นสูง

แต่แปลกยิ่งกว่าเมื่อ...นิรันดร์รู้สึกแบบนี้กับคนที่เขา ‘รัก’ เท่านั้น

กับริท เรื่องความรู้สึกอ่อนไหวนั้นไม่ได้ชัดเจน แต่การอยากทำให้ริททรมานและดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่างนั้นเป็นสิ่งที่นิรันดร์ปรารถนาอย่างแรงกล้า เขาถึงไม่ทำแบบนี้ในช่วงเวลาที่เร่งรีบเหมือนคู่นอนปกติ ไอ้แบบนั้นน่ะ...แค่ปลดปล่อยก็เพียงพอแล้ว

“อ๊า...ซี้ด...คุณรัน” นิรันดร์ละริมฝีปากออกมา เขาปล่อยให้ริทได้หายใจอย่าถนัดเพื่อจะไปจูบที่ลำคอ สูดดมกลิ่นและซุกไซ้สร้างความกระสันให้กับเด็กหนุ่ม

ท่วงท่าลำบากไปนิด เขาตัดสินใจจับริทขึ้นมานั่งเกยตักตนเอง มือของริทยังคงถือแก้วเหล้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แม้อีกมือจะกอดรอบลำคอของเขาเพื่อรั้งไว้เป็นหลักยึด นิรันดร์ต้องใช้ปากตัวเองในการลากเจ้าคอเต่าลง ไม่งั้นเขาจะไม่สามารถสัมผัสส่วนอ่อนไหวตรงนี้ได้ น่ารำคาญนิดๆ แต่ก็ให้อารมณ์หวิวไหวในอีกรูปแบบ

“ดื่มให้หมดสิริท” นิรันดร์กระซิบคำสั่งเสียงแผ่ว และเด็กหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่าย

เหล้าไหลผ่านลำคอ สร้างความร้อนผ่าวข้างในจนวูบวาบ ส่วนหนึ่งของเหล้าราคาแพงไหลซึมจากมุมลงมาที่คาง นิรันดร์ลากลิ้นของตนเองตั้งแต่ลำคอไปจนถึงหยาดหยดอันขมปร่านั้น เขาเลียมัน กลืนกินมันเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อย อาจจะเพราะ...มันมีกลิ่นกายของริทปะปนเข้ามา

“จับของผมหน่อย...นะครับ” ครั้งนี้ไม่เชิงสั่ง แต่เป็นคำขอ ริทก้มหน้าแดงก่ำของตนเองมาสบตา มีความลังเลแต่ก็มีความต้องการปนเปกันไป

นิรันดร์จับมือของริทไปวางไว้ที่เป้ากางเกง แล้วชักนำให้มันถูไถตามความยาวที่นูนดันเนื้อผ้าออกมา ข้างในนั้นเกรี้ยวกราด อยากออกมาอาละวาดแต่เขาระงับมันเอาไว้ เพียงเพื่อต้องการกระตุ้นริทให้ทรมานกับความวาบหวามมากยิ่งกว่านี้

ริทยอมทำตามในที่สุด มือเล็กนั้นปลดเข็มขัด ตะขอและซิปกางเกงลงตามลำดับ นิรันดร์แอบมองมันผ่านแสงริบหรี่จากข้างทางขณะที่เขาถลกเสื้อเด็กหนุ่มขึ้นไปคอตรงลำคอ นิรันดร์แลบลิ้นเลียยอดอกเล็กๆ ระรัวกับมันบ้าง เกร็งลิ้นแล้วกดคลึงมันบ้าง รู้เลยว่าริทรู้สึกมากจนมือไม้มันอ่อนยวบไปหมด

ฝ่ามือร้อนผ่านสัมผัสความอ่อนไหวของชายชาตรี นิรันดร์พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เพื่อบอกกับเด็กหนุ่มว่านั่นน่ะดีแล้ว เธอทำดีแล้ว เชื่อว่าริทรู้ได้ เพราะริทสัมผัสมมันมากขึ้นโดยเฉพาะตรงส่วนปลายที่รู้สึกไวเป็นพิเศษ

ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าริทไม่ใช่คนที่ชำนาญการในเรื่องนี้ เด็กคนนี้ทำตามที่เขาบอกได้แค่นั้น จะให้เริ่มเองเลยก็คงยังไม่เป็น ขนาดแตะต้องแกนกายเขา ริทยังทำได้แค่เงอะๆ งะๆ นิรันดร์ว่า..นี่เป็นเสน่ห์อันเย้ายวนที่ริทมี

ความใสซื่อ

ความบริสุทธิ์

ความไม่เคย

เขาไม่เคยได้สิ่งเหล่านี้มาจากใครเลย ทุกคนเก่งกาจ อาจจะด้วยหลายๆ เหตุผลและปัจจัย ยิ่งเป็นชาย คนเหล่านี้จะกระตุ้นเขาได้ดีกว่าที่ริททำ คงเพราะเขาไม่ใช่คนแรก หรือไม่…ก็กล้าที่จะทำในสิ่งที่คิดว่าเขาจะรู้สึกดี

“คะ..คุณรันครับ...” เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกเขาที่กำลังง่วนอยู่กับยอดอก

“ครับริท”

“ผม...ผม...อึดอัด” คนฟังยิ้มกริ่ม เข้าใจดีว่าริทหมายถึงอะไร

“อึดอัดตรงไหน” นิรันดร์เงยหน้ามองสบตา ริทกัดปากตัวเองเล็กน้อย ทำหน้าเหมือนไม่อยากบอกแต่ก็ทนทรมานแทบไม่ไหว

“ตะ..ตะตรงนี้ครับ” ริทจับมือข้างหนึ่งของนิรันดร์ไปสัมผัสกับส่วนพองนูนของตัวเองบ้าง

“ผมช่วยนะ” นิรันดร์ไม่ลังเลที่จะปลดเปลื้องมันออกมา แล้วสัมผัสมันอย่างอ่อนโยน

ทว่ากางเกงไม่เหมือนเสื้อ มันน่ารำคาญกว่ากันเยอะ นิรันดร์จึงจับริทถอดกางเกงออกให้หมดก่อนจะจับนั่งในท่าเดิม เขาชะงักทุกอย่างลง หยิบเจลที่ถูกพกเอาไว้ติดกับรถขึ้นมาเทใส่มือ ความเย็นของมันทำให้ร่างโปร่งส่งเสียงครางเครืออยู่ในลำคอ

“ฮื้อ...อ๊ะ...อื้อ” สะดุ้งได้เพียงครู่ เรียวนิ้วชุ่มเจลก็ถูกสอดเข้ามาในร่างกาย นิรันดร์แช่นิ้วไว้กับความอบอุ่นก่อนจะเริ่มขยับขยายเพื่อเตรียมความพร้อม แต่คงเพราะเขากระหายอยากกินเด็กมากเกินไป การเบิกทางจึงเร่งเร้าไปเสียหน่อย

“ฮ๊ะ...อ่าห์...คุณรัน...อื้อ...อื้อ” ริทก้มมาฝังหน้าไว้ที่ลำคอ นิรันดร์สอดใส่นิ้วเข้าไปสองนิ้ว และกำลังจะเพิ่มมันอีกเดี๋ยวนี้ ถึงรีบแต่ก็ไม่รุนแรง เขาค่อยๆ เทเจลให้เจอเพื่อให้มันหล่อลื่นได้ดีที่สุด ขยับอีกเล็กน้อย วนมันอยู่ข้างใน ทำให้มันนุ่ม ขณะเดียวกันอีกมือก็ทำการใส่ถุงยางให้ตัวเองโดยใช้ปากกัดถุงออกแล้วสวมด้วยมือเดียว

“อ๊า...ฮื่อ...คุณรัน!” เมื่อทุกอย่างพร้อม นิรันดร์ก็จับริทยกตัวขึ้นเล็กน้อยให้กลืนกินลำกายของเขาเข้าไป มันเข้าไปได้ไม่ยากนัก ถึงริทจะบีบรัดเขามากแค่ไหน แต่เจลและการเตรียมความพร้อมก็ทำให้ริทรวมเป็นหนึ่งกับเขาอย่างง่ายดาย

นิรันดร์ดึงริทมาจูบปากอีกหน ข้างในนั้นร้อนและบีบรัดอย่างไร้จังหวะ เขารอแค่ริทผ่อนคลาย ไม่นาน...มอบจูบไปเรื่อยๆ ไล่ต้อนพร้อมกับสัมผัสความเป็นชายของริท กระตุ้นมัน ทำให้ความต้องการทยานขึ้นสูงกว่าความอึดอัดในช่องทาง

จากนั้น...ร่างโปร่งก็แทบไม่ได้พักหายใจ มีแต่ส่งเสียงครวญคราง ร่างกายบิดเร่าๆ อยู่บนตักที่กระแทกสวนขึ้นมาระรัว ยิ่งตนเองต้องร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงของโลก ก็ยิ่งเพิ่มความลึกที่ส่วนนั้นจะแทรกซึมเข้ามา

จังหวะผ่อนหนักเบามีแค่ช่วงแรก หลังจากที่ความต้องการเดินมาได้ครึ่งทาง นิรันดร์ก็จับร่างของริทให้นอนราบไปกับเบาะ สะโพกสอบทำงานเต็มกำลัง ส่งความเป็นชายเข้าสู่ร่างกายของริทจนสุดความยาว กระแทกจุดเร้าด้านในนั้นพร้อมๆ กับที่กล้ามเนื้อหน้าท้องเสียดสีกับแกนกายสีอ่อน

นิรันดร์จับจ้องไปที่หน้าของริท มองดูริมฝีปากสีแดงก่ำเผยอคราง มองดูลิ้นเล็กๆ ที่อยู่ในนั้น และ...มองดูสีหน้าที่ทรมานกับความซาบซ่านนี้จนถึงที่สุด ยามที่ริทเสร็จสมกับการกระทำของเขา สีหน้านั้นกระตุ้นเร้าจนเขาไม่อาจทนได้อีกต่อไป...

นิรันดร์รู้สึกเหมือนตัวเองได้ปลดปล่อยความอยากกระหายใส่เข้าไปในตัวของริท แม้ว่าความเป็นจริงนั้นเขาจะปล่อยมันเข้าไปในถุงยางบางพิเศษก็ตาม นั้นไม่สำคัญเลย สำคัญที่เขามีความสุขกับร่างโปร่งนี้ นิรันดร์โน้มกายเข้าไปกอด ริมฝีปากพรมจูบที่ปาก ไปแก้มและจรดจุมพิตสุดท้ายของกิจกรรมนี้ไว้ที่หน้าผาก

“กลับกันเถอะครับ” เขากระซิบบอก

“ครับ” และริทก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนเพลีย...

.…100%….

คนพิเศษทั้งที ก็ต้องจัดกันยาวๆ จนครบตอนหน่อยอะเนาะ!
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-04-2019 23:18:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-04-2019 23:29:14
 :pighaun: :haun4: :jul1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-04-2019 23:42:12
 :pig4: :pig4: :pig4:

ริทใจแตกไปแล้ว  อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-04-2019 23:49:48
ขับรถไหวไหมคะ 55555
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 25-04-2019 00:05:25
ริทถูกจับกินอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: YBlood ที่ 25-04-2019 02:08:42
พี่รันอย่ากินน้องง 


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 25-04-2019 05:16:38
เจ้านายใจร้าย ชื่อนี้น่าจะเหมาะกว่านะ ทำไมชอบเอาเปรียบริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 25-04-2019 10:48:15
คุณตำหนวดคะ!!!!  :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 25-04-2019 19:59:37
น้องริทโดนกินอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 25-04-2019 22:06:41
อ๊ายๆ  คุณรันดร์ติดเซ็กส์บนรถ ถึงใจถึงอารมณ์ ริทโดนกินอีกล๊าว ชอบบทบรรยายพอหอมปากหอมคอ นอกนั้นจินตนาการสุดโต่ง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-04-2019 02:48:37
ยังไงก็อยากให้คุณรันดูแลน้องริทดี ๆ นะครับ ส่วนคนอื่น ๆ ที่ผ่านมาของคุณรัน ก็รบกวนช่วยจัดการให้หมดด้วยนะครับ เดี๋ยวน้องริทจะมีปัญหา //สงสารน้อง T^T
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 26-04-2019 09:49:15
พี่กินน้องอีกแล้ววววว  :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-04-2019 21:40:57
คุณรันชอบหรือรักน้องก็บอกด้วย อย่าพาน้องไปกินโดนไม่บอกอะไรเลยเดี๋ยวน้องคิดมากแล้วจะหาว่าไม่เตือน :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 12 - 100% [24-04-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-04-2019 21:20:15
คุณนิรันดร์คะ ทำไมเนียน ทำไมแผนสูง มาเหนือไปอีก
ชวนน้องดื่ม ที่ไหนได้ หลอกให้ก๊ง แล้วจับกิน

โอ๊ยยย ริท ลูก ทำไมยอมง่ายดายแบบนี้คะ
จะว่าเอ็นดูก็ด้วย สงสารก็ด้วย น้องสับสนแย่แล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 02-05-2019 22:31:38
>….ตอนที่ 13 [100%]….<

กล่องไปรษณีย์ไซซ์ใหญ่จำนวนสองกล่องถูกนำมาวางไว้ในห้องของเขา มีโน้ตกำกับไว้อย่างชัดเจนว่าผู้ให้ก็คือนิรันรด์ เจ้านายของริท เจ้าตัวเดินไปเอากล่องเหล่านั้นวางไว้ที่พื้น ไม่คิดจะแกะมันออกมาเพราะรู้ดีว่าข้างในนั้นจะมีอะไรอยู่บ้าง ดูได้จากกล่องก่อนๆ ที่วางไว้บนพื้นไม่ต่างกับกล่องใหม่ที่ได้มา

มันจริงอย่างที่ใครเขาว่า เมื่อมีครั้งแรกแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยว่าจะไม่มีครั้งต่อไป

ยอมรับว่าครั้งแรกที่เกินเลยเป็นเพราะเหตุสุวิสัย แต่ครั้งที่สองเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธนิรันดร์ไป ทำให้ครั้งที่สามและสี่ตามมาอย่างช่วยไม่ได้ ทุกครั้งที่เกินเลย สถานที่มันจะคือข้างทางในตอนกลางคืน บนลีมูซีนคันหรู และวันต่อไปสิ่งที่เขาจะได้ก็คือฟิกเกอร์ราคาแพงจำนวนมาก

มัน...แย่

ริทขึ้นไปบนเตียง นอนแผ่หลาอยู่บนนั้นทั้งที่ร่างกายนี้เพิ่งจะตกเป็นของเจ้านายเขาเมื่อไม่กี่สิบนาทีที่ผ่านมาบนลีมูซีน รสสัมผัส ความเร่าร้อนและอารมณ์อันวาบหวามยังติดคล้ายกลิ่นกายไม่จางหาย ก็ติดจนกว่าเขาจะลุกไปอาบน้ำล้างมันออกนั่นแหละ แต่เขาไม่มีแรงและก็...เครียด

ปฏิเสธไม่ได้ว่านิรันดร์เป็นชายหนุ่มที่น่าหลงใหลไม่ว่ากับเพศไหน เขาเองเป็นคนหนึ่งที่คิดเกินเลยกับเจ้านายตัวเอง อารมณ์แบบ...ชอบไอดอลสักคน ก็ไม่คิดว่าจะต้องมามีสัมพันธ์เกินเลยกับไอดอลตัวเองหรอกนะ ที่สำคัญทุกครั้งที่มีอะไรกันยังได้ของเหล่านี้อีก

แบบนี้มันต่างอะไรกับการเป็นเด็กเสี่ยวะ?

อ่อ ต่างสิ ต่างตรงที่เขาไม่ได้เอ่ยขอ นิรันดร์เป็นคนมอบมันให้กับเขาเองโดยใช้วิธีคาดเดาจากความชื่นชอบของเขา ริทอยู่ในสถานะที่น้ำท่วมปาก มันเหมือนกับว่า ถ้าจะพูด หรือจะห้ามเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ควรห้ามตั้งแต่ครั้งที่สองแล้ว ก็ครั้งแรกมันเหตุสุวิสัย แต่ครั้งที่สองเขายินยอมเอง มันเลยกลายเป็นว่าต้องยินยอมไปเรื่อยๆ

รู้ไหม...อะไรแย่กว่าการที่มีอะไรกับเจ้านายตัวเอง?

ความรู้สึกที่ไปไกลจนกู่ไม่กลับไง!

มนุษย์น่ะ แค่ได้เจอคนที่คุยถูกคอ เข้ากันได้ แล้วคุยกันไปเรื่อยๆ ยังเกินเลยได้เลย แล้วนี่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่าการนั่งคุย มันเป็นเรื่องยากที่จะไม่ถลำลึกลงไปแบบนี้ ริทก็พยายามบอกตัวเองว่าเขากับนิรันดร์เป็นได้แค่เจ้านายกับลูกน้อง มันเป็นมากกว่านี้ไม่ได้ แต่ก็นะ...ถ้ามันทำง่ายมันคงไม่รู้สึกแย่อย่างนี้

ข้าวของทุกอย่างที่นิรันดร์ให้มันเหมือนเป็นค่าตัวของเขา เซ็กซ์เพื่อแลกกับฟิกเกอร์เนี่ยนะ? โคตรบัดซบ แล้วไม่คิดว่าชีวิตหนึ่งจะต้องอยู่ในโมเมนต์บัดซบแบบนี้ด้วย จะถอยห่างก็ไม่ได้ เดินหน้าก็ไม่ได้ จมอยู่กับที่อย่างทรมานแบบนี้อะเหรอ

อาจจะมีคนมากมายที่คิดว่านี่ก็ดีออก ได้มีอะไรกับชายในฝันมันแย่ตรงไหน ได้ของที่ชอบด้วย มันแย่ตรงเขากลายเป็นสิ่งที่มีราคาค้าขายน่ะสิ เป็นสินค้าที่หาซื้อได้ ถึงไม่ได้รับเงินสดตรงๆ แต่ข้าวของพวกนี้เอาไปขายก็ได้ราคาไม่น้อยเลย บางชิ้นยังขายได้แพงกว่ามือหนึ่งอีกด้วย

นับเป็นเงินจริงๆ ก็ร่วมแสนเข้าไปแล้ว นี่แค่...อาทิตย์เดียว

ทำยังไงถึงจะออกไปจากวังวันนี้ได้น้า...

ริทคิดมากจนกระทั่งหลับไปทั้งชุดทำงาน วันต่อมาเป็นวันหยุดของเขา ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่เชิงหยุดอย่างเป็นทางการ แค่นิรันดร์ไม่ชอบออกไปไหนในวันเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ริทตื่นตั้งแต่เก้าโมงเพราะนอนเร็วไปหน่อย

แต่ดี...เขาว่าเขาจะไปเที่ยวสักหน่อย

“ตื่นเช้าได้ด้วยเหรอเอ็ง”

“แหม ตอนเรียนริทก็ตื่นเช้าเถอะแม่” ร่างโปร่งเดินไปหาอะไรกินตรงเคาน์เตอร์ครัว ก็มีอาหารที่แม่เขาเตรียมเอาไว้ให้นิรันดร์เหลืออยู่ ริทตักเอาส่วนนั้นใส่จานรวมๆ กันมานั่งกิน

“เสาร์อาทิตย์ปกติเอ็งตื่นเช้าที่ไหน ไม มีเรื่องเครียดหรือว่าสาวนัดล่ะ” ถามจริง แม่ไม่เอะใจบ้างเหรอว่าวันๆ เขาไปทำงานแค่กับนิรันดร์ ไม่น่าจะมีเวลาไปคั่วสาวที่ไหนอะ

“ว่าจะไปเที่ยวบ้างเฉยๆ ริทอยากดูหนังง่ะ แม่ไปดูกับริทไหมล่ะ หนังเรื่องใหม่ที่เข้าน่าดูมากเลยนา เป็นหนังผี” ริททำตาโตๆ ใส่แม่ที่เดินมานั่งฝั่งตรงข้าม

“โอ้ย ไม่ดูหรอก ไปดูคนเดียวเถอะ แล้วเงินออกก็ผลาญเลยนะ อย่าไปซื้อตุ๊กตุ่นตุ๊กตาไรมาเยอะล่ะ เก็บๆ ไว้บ้างเงินน่ะ” ก็นะ ทำงานจนครบเดือนแล้วจะมีเงินบ้างก็ไม่แปลก

ก็...หมายถึงโดนกินมาร่วมเดือนแล้วเหมือนกัน

“ไม่ซื้อด้วยเงินตัวเองหรอก ริทว่าจะขอตังแม่ไปซื้อน่ะ”

“มะแหงก!”

“ฮ่าๆ ล้อเล่น ริทไม่ซื้อ ช่วงนี้ไม่มีตัวที่อยากได้เท่าไหร่” ก็นิรันดร์เล่นซื้อมาให้ซะเยอะ บางตัวมาไกลถึงญี่ปุ่นด้วยซ้ำ เขาไม่รู้เลยว่าเงินเดือนตอนนี้จะไปซื้อตัวไหนได้ดีกว่าของนิรันดร์บ้าง

“แล้วไปเที่ยวนี่บอกคุณรันแกยัง เกิดแกจะไปไหนทำไงล่ะ”

“ลุงช่วยไง” ลุงช่วยเคยบอกว่าถ้าเขาจะหยุดหรือมีธุระไปไหนให้บอกแกไว้เพราะแกจะมาแทนให้

“สร่างเมายังตานั่น”

“ฮ่าๆ ริทก็ไม่รู้นะ แต่ฝากแม่บอกแกด้วย ริทไปกลับเย็นๆ อีกอย่างวันนี้คุณรันแกคงไม่ไปไหนหรอก ไม่เห็นแกเที่ยวเลยหนิ” แม่พยักหน้าเห็นด้วย

“อืม คลุกอยู่แต่ในห้อง ดูหนังบ้าง ออกกำลังกาย นอน วันๆ คุณรันทำแค่เนี่ย ไม่รู้ชาตินี้จะเอาเมียกับเขาไหม นิสัยแตกต่างกับผู้ชายเหลือเกิน แต่งานแกคงเยอะอะเนอะ ช่วงนี้เห็นเอาเจ้าลีออกแทบทุกวันเลยหนิ กลับบ้านก็ดึก เมื่อก่อนงานแกยังไม่เยอะขนาดนี้เลย เจ้าลีออกแค่อาทิตย์ล่ะครั้งเอง” ถ้าแม่รู้ว่าเจ้าลีถูกใช้เป็นสถานที่ซั่มลูกตัวเองแม่จะคิดยังไงนะ

เฮ้อ...บ้านแตก!

“ปล่อยๆ แกไปเถอะ”

“อืมๆ” แม่ขานรับแค่นั้นแล้วก็เดินจากไปทำงานต่อ

ริทกวาดข้าวในจานใส่ท้องจนหมดเกลี้ยง เอาจานไปล้างให้เรียบร้อยไม่ต้องเป็นภาระป้าๆ คนอื่นมาเก็บ จากนั้นก็เดินทางไปห้างที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ด้วยความที่เขาไม่มีรถส่วนตัว ดังนั้น...เดินวนไป กว่าจะไปถึงหน้าหมู่บ้านได้ร่างกายก็เต็มไปด้วยเหงื่อ เห่อๆ เล่นออกจากบ้านตอนสิบโมง พระอาทิตย์นี้เจิดจรัสอยู่บนฝากฟ้าไปเลยจ้า

ริทตรงไปยังชั้นโรงหนังทันทีที่นั่งรถเมล์มาถึง เขามีหนังที่อยากจะดู เป็นหนังที่ปกติแล้วเขาไม่คิดดูเท่าไหร่นัก ก็...ส่วนใหญ่ผู้ชายไม่ถูกกับหนังสยองขวัญน่ะ เขาแค่คิดว่าถ้าได้ดูหนังอะไรแบบนี้บ้างมันน่าจะเพิ่มรสชาติให้กับชีวิต จะได้ไม่เครียด

ใครสอนให้คิดงี้วะ?

กว่าหนังจะเข้าฉายก็อีกชั่วโมงหนึ่ง เขาตัดสินใจไปเดินเล่นแถวโซนของเล่นที่เคยมาเดินบ่อยๆ ไม่รู้เพราะว่าตอนเด็กๆ ไม่ค่อยมีของเล่นหรืออย่างไร เขาถึงได้สนใจของเล่นเหล่านี้มาก ทุกครั้งที่มาเดิน เขาอยากจะสอยมันกลับไปปเล่นที่บ้านมากๆ ยิ่งของเล่นเด็กสมัยนี้มันดูไฮเทคก็อยากจะลองบ้าง แค่ไม่กล้าจ่ายให้กับมัน ราคาไม่ใช่ร้อยสองร้อยนะ เป็นพัน โฮ้ก...พ่อแม่ต้องมีกะตังหน่อยถึงจ่ายได้

“ริท...” เดินเล่นเพลินๆ เสียงเรียกที่แสนคุ้นหูก็ดังขึ้น

เจ้าตัวหันไปมองตามเสียงเรียกก็พบกับชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคนหนึ่ง ใบหน้าขาวตี๋ ตาชั้นเดียวและรอยยิ้มที่น่ารักของฝ่ายนั้นยังเป็นสิ่งที่ริทจำได้เป็นอย่างดี คนคนนี้ชื่อบาส เป็นแฟนเก่าของริทตั้งแต่สมัยเรียน ปวช.ปีสาม แล้วก็...ไม่ถึงปีเลิก

เป็นแฟนหนุ่มคนแรกและคนล่าสุดเลย

“ไง” ริทเอ่ยทักทายเป็นมารยาท ไม่ได้อยากทักด้วยเพราะว่าสำหรับริท การเลิกราครั้งนั้นมันค่อนข้างแย่

บาสเป็นลูกคนจีน การจะคบกับผู้ชายด้วยกันนั้นมันเป็นเรื่องลำบากสำหรับบาส จะไปไหนก็ต้องปกปิด ให้คนอื่นๆ รู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน ใครถามบาสจะบอกเพื่อนสนิทเสมอ แต่เพื่อนริทจะรู้ดีว่าริทกับบาสคบกัน แต่บาสก็ขอไม่ให้บอกต่อ

ปกปิดได้ดีเลย เป็นปีนี่นับว่ายาวนาน ริทก็เข้าใจอยู่บ้าง เขาเองยังไม่กล้าเปิดเผยกับแม่เลยว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง เขาเลยยอมบาสไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบาสมารู้ว่าเขาเป็นลูกแม่บ้านนี่แหละ บาสก็มีท่าทีเปลี่ยนไป สุดท้ายก็บอกเลิกเขาด้วยเหตุผลว่าไม่อยากคบแบบลับๆ อย่างนี้ต่อไป

มันพีคตรงที่...ริทไปได้ยินบาสบอกกับเพื่อนตัวเองว่าเลิกกับแฟนเพราะรับไม่ได้ที่แฟนเป็นลูกแม่บ้าน ก็นะ บาสน่ะเป็นลูกเจ้าของคาร์แคร์เลยนี่นา พ่อแม่มีตัง ส่วนตัวเองมาเรียนอาชีวะก็เพราะไม่อยากเรียนสายสามัญ ตอนหลังบาสก็ไปเรียนต่อในระดับมหาลัย

“ไม่เจอกันนานเลยนะ ริทเป็นไงบ้าง” บาสเดินเข้ามาใกล้ ริทไม่ได้ถอยเท้าหนี จ้องหน้าอีกฝ่ายมันไปตรงๆ นี่แหละ

“ก็ดี นายคงดีกว่า”

“เรียกนายแล้วห่างเหินเนอะ เมื่อก่อนเราออกจะสนิทกัน” สนิทในที่นี้คืออะไรวะ? จู่ๆ ริทก็เกิดคำถามแบบนี้ขึ้นมาเพราะเขาคิดว่าเขาไม่ได้สนิทกับบาส เขาเป็นแฟนที่รู้ใจต่างหากปะ

“ให้เรียกว่าไรล่ะ ไอ้..เฮีย...เหรอ”

“เดี๋ยวดิ ทำไมริทหยาบคายอะ เป็นอะไรหรือเปล่า ริทอารมณ์เสียเหรอครับ” บาสใช้น้ำเสียงดีๆ เพื่อไต่ถาม

“เปล่า”

“แต่ริทดูไม่พอใจไรบาสสักอย่างน้า เอางี้ บาสพาริทไปดูหนังดีมะ นะๆ ถือว่า...เลี้ยงที่ได้เจอกัน” อีกฝ่ายยิ้มหวาน ริทยิ้มบ้าง แต่เป็นยิ้มที่เย้ยเบาๆ

“โทษที ซื้อตั๋วหนังไว้แล้วน่ะ”

“เรื่องอะไรเหรอ บาสก็ซื้อนะ ซื้อเรื่องนี้มา” แล้วร่างสูงตรงหน้าก็หยิบตั๋วหนังเรื่องเดียวกับริทออกมา หนำซ้ำยังเสือกที่นั่งติดกัน

หึ...ชีวิตตรูหนอ

“หน้าริทเหมือนจะบอกว่าดูเรื่องเดียวกันเลย ใช่มะ บาสเดาถูกแน่นอนเลยอะ”

“อืมๆ เรื่องเดียวกัน” ริทจำใจหยิบตั๋วหนังของตัวเองออกมา

“ว้าว ที่นั่งติดกันด้วย โชคดีจังเลย งั้นเราไปโรงหนังกัน หนังใกล้เข้าฉายแล้วน้า” บาสเดินเข้ามาแตะบ่าริทเบาๆ เพื่อกระตุ้นให้เดินไปด้วยกัน

ริทจำใจเดินไปด้วย อย่าบอกว่าให้ทิ้งตั๋วหนังนี่ไปเพราะบัตรราคาสองร้อยกว่าเขาไม่มีทางทิ้งแน่นอน มันมาจากเงินที่เขาหามาเองเลยนะ ไม่ใช่ขอเงินแม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ ไปบ้าง

บาสชวนริทคุยนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย จากตอนแรกที่กระอักกระอ่วนใจ ก็กลายเป็นคุยได้เรื่อยๆ เรื่องบาดหมางในใจมันก็มี แต่ถ้านับว่านี่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เขาเคยรู้จักมักจี่ด้วยมันก็ไม่แย่ คิดเสียว่ามีเพื่อนคุย มีเพื่อนดูหนังก็แล้วกัน

ริทกับบาสแชร์ค่าน้ำและป๊อปคอนร่วมกันคนละครึ่ง ตอนแรกบาสจะเป็นคนเลี้ยงแต่ริทไม่ยอม เขามีตัง และเขาก็อยากใช้เงินตัวเอง อย่าให้ต้องรู้สึกว่าตัวเองไม่มีปัญญาพึ่งพาตัวเองเลย

ก็นิรันดร์เอาแต่ให้เขาทุกครั้งหลังมีอะไรกัน นั่นก็ทำให้เขารู้สึกแย่มากพออยู่แล้วน่ะ ริทสลัดภาพของนิรันดร์ออกจากหัว สนใจแต่คำพูดของอดีตแฟนซึ่งตอนนี้นับเป็นเพื่อนไปก็แล้วกัน ระหว่างที่รอหนังฉาย ทั้งคู่คุยเกี่ยวกับไตเติลหนังเรื่องต่างๆ ว่าเรื่องนี้น่าดู เรื่องนี้ก็น่าดู เรามาดูด้วยกันไหม ตอนที่คุยริทก็ไม่คิดอะไรมาก รับปากไปว่าจะมาดูด้วยอีก ทั้งคู่จึงแลกไลน์กันเพื่อเอาไว้นัดมาดูหนัง

ริทตั้งใจดูหนังมากจนไม่ได้สังเกตบาสเอนกายมาใกล้ ซ้ำยังแตะแขนริทเอาไว้ตลอดเวลา มันอาจเป็นความเคยชิน หรือเป็นความไม่สนใจก็ได้ ถึงริทรู้ตัวแล้วก็ยังปล่อยให้บาสเอนหัวมาซบลงบนบ่าของตนเอง...


นิรันดร์ตื่นตอนบ่ายสอง เรียกว่าตื่นเกือบบ่ายบ่อยครั้ง มีนี่แหละที่ตื่นสายหน่อย คงเพราะช่วงนี้งานเยอะ แถมยังโหมใช้ร่างกายไปกับเด็กหนุ่มคนขับรถของเขาด้วย น่าแปลกที่เขาเหนื่อยขนาดนี้เขาก็ยังอยากกอดริทอยู่ ราวกับเด็กคนนี้เติมความกระชุ่มกระชวยให้เขา

นิรันดร์กดกริ่งเรียกแม่บ้านให้เอาอาหารขึ้นมาให้ ระหว่างรอก็ไปอาบน้ำ ล้างหน้าแปลงฟัน ทำธุระส่วนตัวไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้ตัวเองสดชื่นหลังจากตื่นนอนมาอึนๆ เดินออกมาจากห้องน้ำก็พบกับป้าออม ผู้เป็นแม่ของริท

“อรุณสวัสดิ์ครับป้า”

“บ่ายสองแล้วนะคะคุณรัน” หัวหน้าแม่บ้านเย้าเข้าให้

“ก็เช้าสำหรับผมนะ” นิรันดร์หัวเราะเบาๆ

“ค่าๆ อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

“ว่าแต่...เจ้าริทตื่นหรือยังครับ”

“ริทตื่นตั้งแต่เช้าแล้วค่ะคุณรัน แปลกมากเลยนะที่ตื่นเช้าขนาดนี้ ที่สำคัญ...หนีไปเที่ยวแล้วเรียบร้อย คุณรันมีธุระอะไรจะไปหรือเปล่าคะ ดิฉันจะไปบอกตาช่วยให้ วันนี้ริทคงไม่กลับง่าย” พอหัวหน้าแม่บ้านบอกแบบนั้นรอยยิ้มก็แทบจะหายไปจากใบหน้าหล่อเหลา

“ไปไหนเหรอครับ ไปกับใคร แล้วจะกลับตอนไหน” ป้าออมงงนิดหน่อย เธอมองหน้าเจ้านาย

“ไม่ทราบค่ะ ริทบอกแค่จะไปเที่ยว” นิรันดร์พยักหน้าให้เล็กน้อย เจ้าตัวเดินไปที่เตียง คว้าโทรศัพท์ของตัวเองมากดเข้าโปรแกรมหนึ่ง ส่งข้อความไปหาริทและคาดหวังว่าริทจะตอบเขาในทันที

แต่ไม่...ริทไม่ตอบกลับ

หัวหน้าแม่บ้านเห็นว่าเจ้านายของตัวเองง่วนกับมือถือก็เลิกกวน เสียงปิดประตูไม่สามารถเรียกสายตาของนิรันดร์ที่จับจ้ออยู่ที่จอได้ เขาเห็นว่าริทออน แต่ทำไมริทถึงไม่ตอบเขา นิรันดร์เข้าไปหน้าวอลเพื่อจะดูว่าริทมีอัปเดตอะไรบ้าง เขาอยากรู้ริทไปไหน ไปทำอะไรและไปกับใคร

ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น เงียบกริบเหมือนทุกวันที่ผ่านมา หลายวันมานี้เขาไม่เห็นริทอัปเดตภาพใดๆ ลงบนเฟซตัวเอง แม้เขาจะซื้อฟิกเกอร์ที่ดีขนาดไหนให้ก็ดูเหมือนริทจะไม่แกะมันเลย ปกติริทต้องถ่ายรูปและโพสต์ลงเฟซสิ จะต้องมีแคปชั่นนั่นนี่สิ

หรือว่าริทไม่ชอบที่เขาให้?

ของเหล่านั้นมันเป็นสิ่งที่ริทชอบไม่ใช่เหรอ เขาเลือกเพื่อจะให้ริทมีความสุขกับสิ่งที่ได้รับนะ นิรันดร์ทิ้งตัวลงบนที่นอน เลื่อนดูหน้าเฟซของริทไปเรื่อยๆ ไล่อ่านคอมเมนต์ หรือแม้แต่โพสต์ต่างๆ ของริทที่เขาอ่านบ่อยแล้ว

กระทั่งมีแจ้งเตือนอัปเดตจากริท!

นิรันดร์รีบรีเฟรชหน้าเฟซใหม่เพื่อจะดูสิ่งที่เด็กหนุ่มคนขับรถของตัวเองโพสต์ แล้วเหมือนกับว่าเขาคิดผิดที่ไปดูมันเข้า มันไม่ใช่การอัปเดตโดยริทแต่เป็นการโดนแท็กจากผู้ชายคนหนึ่ง ภาพริทถ่ายคู่กับเด็กหนุ่มหน้าตาดีเด่นหราอยู่ล่าสุด

‘กินข้าวกับเด็กดื้อ!’

เด็กดื้อเหรอ? ใครที่สามารถใช้คำนี้กับริทได้ รูปประโยคพันธ์นี้เอาไว้ใช้กับแฟนไม่ใช่กับเพื่อนสิ หรือว่าเพื่อนริทจะแกล้ง ไม่น่า...นิรันดร์ไม่คิดว่าคนคนนี้เป็นเพื่อนริท ถ้าเพื่อนกันมันต้องหยอกกันแรงกว่านี้ปะ เพราะจากโพสต์ก่อนๆ ที่เพื่อนริทแกล้งมันดูแรงกว่านี้

นิรันดร์พยายามส่งข้อความไปหาริทอีกครั้ง เขาไม่ได้แสดงออกว่าไม่พอใจ แค่ถามไปง่ายๆ ว่าริทอยู่ไหน ทำอะไรกับใคร แต่ริทไม่ตอบเขา ไปตอบแท็กจากเด็กนั่นแทนว่าตนเองไม่ดื้อนะ

ความขุ่นเคืองพุ่งขึ้นสูง นิรันดร์อยากจะปามือถือตัวเองเพื่อระบายอารมณ์แต่เขาก็ไม่ได้ทำ เขาหันไปมองข้าวที่แม่บ้านเอามาให้ ความหิวมันหายไปแล้ว มีแต่ความขุ่นเคืองเท่านั้นที่ปะทุขึ้นมาอยู่ในอก

เขาอยากรู้ คนคนนั้นเป็นใคร ริทอยู่กับเขาทุกวัน มีอะไรกับเขาเกือบทุกคืน แล้วจะมีคนอื่นเพิ่มเข้ามาได้ยังไง เท่าที่เขาเห็น ริทมีแค่การ์ตูนเท่านั้นดิ วันๆ หนึ่งดูแต่การ์ตูน อ่านแต่การ์ตูน หรือไม่ก็ดูฟิกเกอร์ในเพจต่างๆ

แล้วถ้า...ตลอดเวลาที่ผ่านมาริทก็คุยกับหมอนี่ด้วยล่ะ!

คุยกับเจ้านี่ทั้งที่มีอะไรกับเขางั้นเหรอ? บ้าเอ้ย นิรันดร์รู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เมื่อเขารู้สึกว่าริทไม่ใช่เด็กใสซื่ออย่างที่เขาเห็น แต่เด็กคนนี้คุยกับคนอื่น คบกับคนอื่น แล้วก็ยังนอนกับเขาด้วย

นี่มันเลวร้ายยิ่งกว่าการที่เขาจ่ายเงินเพื่อซื้อใครสักคนมานอน!

….100%….

ริทเอ้ย…คุณรันเดือดแล้วล่ะ!
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-05-2019 22:49:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 02-05-2019 23:47:07
 :pig4: :pig4: :pig4:

อีคุณรันมโนเก่งเกิ๊น
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-05-2019 23:57:45
ทีตัวเองเอาไปทั่วยังทำได้เลย อีคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 03-05-2019 00:22:54
หึงโหด
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-05-2019 01:18:39
เป็นตุเป็นตะเลยพ่อ
ใจเย็นก่อนนนนนนนนนนนนนน
เรื่องซื้อฟิกเกอร์ก็ยังไม่เคลียร์  :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 03-05-2019 01:33:04
คิดไปไกลแล้วนะคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: YBlood ที่ 03-05-2019 01:35:53
น้องริทมีชู้แล้วอิคุณพี่รัน..
แหมตัวเองไม่ชัดเจนอะไรกับน้องซักอย่าง แต่กินน้องไม่รู้กี่รอบแล้ว ซื้อแต่ฟิกเกอร์ให้น้อง
ขอความขัดเจนให้น้องริทด้วย ถ้าอิพี้บาสแฟนเก่าน้องไม่เคยปากหมาเมื่อตอนอดีตนี่ย้ายทีมละนะ #ทีมแม่น้องริท


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 03-05-2019 04:03:03
ตัวเองไม่ชัดเจนเองละแล้วยัง มาโกรธน้องอีก :ling1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 03-05-2019 04:10:44
อ้าว คุณรัน ยัดเยียดความผิดให้น้องนะนั่น หึงเกิ๊น
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 03-05-2019 05:03:42
มึสิทธิ์อะไรมาโกรธหะอีตารันเป็นแฟนกะริทเหรอ มีสถานะให้น้องด้วยเหรอ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-05-2019 06:59:28
 อ้าวไหงมาโทษเด็กล่ะคุณรัน เด็กมันก็มีหัวใจป่ะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-05-2019 08:57:13
 :pig4:

มีสิทธิ์อะไรไปว่าริท ชิชิ

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Peterpanmama ที่ 03-05-2019 12:39:00
มีสิทธิ์อะไรมาโมโหน้องอะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 03-05-2019 13:11:02
พาคุณรัน ไปปรับทัศนคติเอ๊ย อารมณ์ด่วนนนนนนน!!!
เป็นเอามากนะนั่น5555
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: kanj1005 ที่ 03-05-2019 18:53:39
ได้ข่าวว่าเป็นวันหยุดน้องนะคุณรัน
ตื่นมาก็มโนหาเรื่องเด็ก  กินเด็กแล้วมโนหาเรื่องจะทิ้งเด็กหรือยังไงคะคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 04-05-2019 00:15:13
ถ้าคุณรันจริงจัง จริงใจ ก็บอกน้องไปตรง ๆ นะครับ อย่าอ้อมค้อม เสียเวลา และสงสารน้อง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 13 - 100% [02-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 09-05-2019 02:22:35
คุณนิรันดร์คะ เป็นเจ้านาย ไม่ใช่เจ้าของนะคะ พึงจำไว้
ถึงเดือดยังไง ก็ต้องอดทนไปก่อนนะ ระวังทำริทเตลิดล่ะ

เข้าใจริทนะ ไม่เคยบอกกล่าวความสัมพันธ์ เหมือนอยากก็มา
แล้วก็ให้ของแลกกัน เหมือนดูถูก และมีค่าน้อยนิดจังเลย
สงสารริทที่น้องต้องมานอยด์เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่ผิดหวัง
แต่ไม่อยากให้ริททำอะไรประชดนะ ถ้าทำก็อยากให้ทำแบบมีความสุข
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 09-05-2019 15:33:47
>….ตอนที่ 14 [100%]….<

“กลับมาสักที...” ทันทีที่เดินเข้ามาในตัวบ้าน แม่ก็ตรงมาดักเขาไว้ เพื่อ?

“ครับ?” ก็วันพักผ่อนของเขาหนิ เขาจะกลับสองสามทุ่มมันก็ไม่ได้แปลกไม่ใช่เหรอ เขาไม่ใช่เด็กน้อยวัยสามสี่ขวบนะ

“คุณรันรออยู่ เขาให้แกขึ้นไปคุยกับเขาที่ห้อง” เอาแล้ว คิ้วขมวดแป็บ

“คุยเรื่องอะไรล่ะครับแม่?”

“ไม่รู้ แกบอกว่าให้แกไปคุยเรื่องงาน รีบๆ ไปเหอะ” คนเป็นแม่ดันหลังลูกให้เดินไปทางบันได

ที่จริงวันนี้ริทตั้งใจจะดูหนังแค่เรื่องเดียวแล้วกลับบ้าน ไปๆ มาๆ ก็ดูไปสามเรื่องเสียอย่างนั้น ก็เพราะบาสนั่นแหละที่วนดูหนังอยู่เรื่อยๆ แล้วเขาเองก็ไม่ได้มาดูบ่อย วันหยุดทั้งทีดูให้สะใจไปเลยมันก็ดีเหมือนกัน

เออใช่ เขาเห็นนิรันดร์ทักมาเหมือนกัน แต่เขาคุยกับบาสอยู่ บวกกับหนังกำลังจะฉายเลยไม่ได้ตอบ ทว่าการดูหนังทำให้เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท ตอบตอนนี้คงไม่มีประโยชร์อะไรนอกจากไปเจอนิรันดร์เองตามที่แม่บอกล่ะมั้ง

“คุณรันครับ” ริทส่งเสียงเรียกเจ้าของห้องหลังเคาะประตูไปสองครั้ง

“เข้ามา” วันนี้เสียงคุณรันเสียงแข็งผิดปกตินะ ริทคิดแบบนั้นชั่วแว้บหนึ่งแล้วเปิดประตูเข้าไป

สิ่งแรกที่เห็นก็เป็นถาดอาหารที่ยังคงมีอาหารอยู่เต็มจาน ไม่ได้รับการแตะต้องแม้แต่คำเดียว อาจจะเป็นข้าวเย็นที่นิรันดร์ยังไม่ได้กินก็ได้ ริทละสายตาจากมันแล้วไปมองคนบนเตียงที่...หน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ

บรรยากาศรอบตัวนิรันดร์บอกกับริทได้อย่างชัดเจนเลยว่าตอนนี้นิรันดร์อารมณ์ไม่ดีมากๆ แต่เรื่องอะไรอันนี้ริทไม่สามารถรู้ได้จริงๆ เขาเพิ่งจะกลับมาจากไปดูหนังเสียด้วย แล้วเมื่อวานก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรที่ทำให้เจ้านายเขาอารมณ์เสียเลยนะ

“ไปไหนมาเหรอ...” นิรันดร์ถาม เสียงเรียบดูเย็นชาแปลกๆ

“ไปดูหนังมาครับ คุณรันมีอะไรหรือเปล่าเอ่ย หรือว่าวันนี้คุณรันจะไปไหน” แต่เขาให้ลุงช่วยขับแทนก่อนแล้วหนิ

“ไปดูกับใคร” นิรันดร์หันมามองหน้า แววตาคู่นั้นกำลังส่งความไม่พอใจมาทางเขาโดยที่เขาไม่เข้าใจ

“ก็กับเพื่อนอะน่ะฮะ มีอะไรหรือเปล่าครับ ผมทำผิดเหรอ ก็ลุงช่วยบอกว่าถ้าผมติดธุระก็ให้บอกแกไว้ เดี๋ยวแกมาทำแทนน่ะฮะ ผมเลยไม่ได้มาบอกคุณรันเอง” ริทตอบแบบคิดไปเอง ก็ไม่น่ามีเรื่องอื่นให้คุณรันโกรธนี่

“แน่ใจเหรอว่าเพื่อน” นิรันดร์ก้าวขาลงจากที่นอน ตรงมายังเขาด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตรนัก ริทไม่เข้าใจอะไรสักอย่างในตอนนี้ คำถามแปลกๆ กับความไม่พอใจเหรอ? มันหมายความว่ายังไงล่ะ

“ครับ เพื่อน อันที่จริงก็ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว เขาไปเรียนต่อมหาลัยน่ะครับ วันนี้บังเอิญไปเจอเขาก็เลยไปดูหนังด้วยกันพอดี” ริทเผลอถอยเท้าหนีนิรันดร์ เพราะท่าทีคุกคามที่นิรันดร์มีต่อตน

“คำหยอกล้อของเพื่อนคนนี้ดู...แปลกๆ เนอะ” ภาพที่บาสถ่ายรูปเขากับเจ้าตัวลงเฟซแว้บเข้ามา อ๋อ แคปชั่นเด็กดื้ออะไรนั่นมั้ง

“แปลกเหรอฮะ ผมไม่คิดว่างั้นนะ ก็อืม...ไม่ได้ชอบคำนี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่น่าจะเรียกว่าแปลกนี่ครับ” ริทตอบกลับอย่างที่คิดไปตรงๆ ไม่มีลูกไม้ แต่นิรันดร์ก็ไม่ได้คิดอย่างนั้น

ตอนนี้จะบอกว่าความไม่พอใจครอบงำนิรันดร์อยู่ก็น่าจะถูกต้องที่สุด!

“แค่ไปดูหนังหรือทำอะไรอีก” ริทถอยเท้าจนสุดแล้ว ข้างหลังเขาเป็นประตูบานใหญ่ นิรันดร์เอื้อมมือผ่านตัวเขาไปล็อกประตูห้อง ขณะที่อีกมือก็คว้าเอวเขาเอาไว้ไม่ให้ไปไหน เอ่อ...ก็ไปไม่ได้แล้วนะ ติดประตูแล้ว

“ก็มีกินข้าว เดินเล่นนิดหน่อย”

“มีความสุขใหญ่เลยนะ“ อ่าว มันเป็นความผิดของเขาเหรอ?

ริทงงไปหมด นี่มันอะไร...เกิดอะไรขึ้น?

“เอ่อ แม่บอกว่าคุณรันมีเรื่องจะคุยกับผม เรื่องงานใช่ไหมครับ” ริทพยายามเบี่ยงหน้าหลบอีกฝ่ายที่กำลังโน้มหน้าเข้ามาใกล้

“ไปคุยกันบนเตียง”

“เดี๋ยวคุณรัน!” เด็กหนุ่มแย้งแล้วตั้งท่าจะหนี แต่นิรันดร์กอดร่างริทเอาไว้แน่นหนา หนำซ้ำยังอุ้มริทไปยังเตียงนอนหลังกว้างของตนเองอีก

ริทไม่ดิ้นรนที่จะตัวรอด เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาต้องเอาตัวรอดจากอะไร จากเรื่องอย่างว่าน่ะเหรอ มันทำได้ที่ไหน ทำได้ก็คงทำไปนานแล้วไม่มานั่งคิดมากหรอก ทว่านิรันดร์กลับจับข้อมือทั้งสองของเขาตรึงเอาไว้เหนือหัว ร่างกายโดนคร่อมจนไม่สามารถขยับหนีไปทางไหนได้

“เด็กคนนั้นชอบริทเหรอ” นิรันดร์ยังตั้งคำถามทั้งที่ใบหน้ากำลังโน้มเข้าประจูบที่ลำคอ ริทเอียงคอเล็กน้อย ไม่เชิงเปิดโอกาสแต่มันเป็นสัญชาตญาณมากกว่า

“ไม่หรอกครับ” ก็เลิกกันไปแล้ว มันไม่น่าจะกลับมาชอบกันได้อีก ที่สำคัญ ตอนนี้เขาก็มีคนที่ชอบอยู่แล้ว...แค่ชอบฝ่ายเดียว

นิรันดร์สอดมือเข้าไปในเสื้อยืดราคาถูก สัมผัสกับผิวกายของริทโดยลูบไล้จากหน้าท้องขึ้นที่แผ่นอก จากนั้นเขาก็ยืดตัวขึ้น ถลกเสื้อของริทจนชายเสื้อไปกองที่อยู่รอบลำคอ เขากวาดสายตาสำรวจดูร่องรอยต่างๆ คิดว่าถ้ามีอะไรกับเด็กคนนั้นเขาต้องรู้

ไม่สิ...มันมีอีกจุดที่สัมผัสไปน่าจะรู้ได้

คิดได้ดังนั้นนิรันดร์ก็ไม่รอช้าที่จะถอดกางเกงของริทออกอย่างไว เจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือทั้งยังส่งเสียงห้ามปรามแต่มันไม่เข้าหัวนิรันดร์เลย กางเกงยีนส์ขายาวกับอันเดอร์แวร์ถูกเหวี่ยงทิ้งไปข้างเตียง ร่างกายริทเกือบเปลือยเปล่าท่ามกลางแอร์เย็นฉ่ำที่ทำให้ริทขนลุกไปทั้งตัว

นิรันดร์จับข้อเท้าทั้งสองข้างของริทยกขึ้นสูง สายตาคู่คมจับจ้องไปยังช่องทางอันน่าอายของริทอย่างละลาบละล้วง ไม่มีความอ่อนโยนหรือแม้แต่คำพูดปลอบใจ เขาทำตามใจตนเองล้วนๆ ความรู้สึกบางอย่างมันร้อนรุ่มอยู่ในอก และมันจะไม่หายไปจนกว่าเขาจะมั่นใจว่าริทไม่ได้ตกเป็นของคนอื่นนาอกจากเขาเพียงคนเดียว

“คุณรันจะทำอะไร ปล่อยผมเถอะครับ...” เสียงริทสั่นเทา ท่าทีแบบนี้ไม่เคยเห็นและมันน่าหวาดหวั่นสำหรับเขา เรียวนิ้วทั้งสิบของนิรันดร์กอบกำข้อเท้าริทอย่างแรง มันแอบเจ็บนิดๆ ไม่มากจนต้องดิ้นรนหนี แต่ที่มันแย่คือท่าทางของเขาในตอนนี้

สภาพแบบนี้มันไม่ได้น่าดูเลยนะ มันน่าอาย ต้องมาโดนจับยกขาขึ้นสูงเพื่อจ้องมองช่องทางนั้นมันทำให้เขาไปไม่เป็นจริงๆ แถมยังจ้องเหมือนค้นหาอะไรบางอย่างซึ่งริทไม่รู้และไม่เข้าใจเลย

“เด็กคนนั้นจีบริทหรือเปล่า” เห็นว่าไม่มีร่องรอยจากสัมพันธ์ทางกาย นิรันดร์ปล่อยขาทั้งสองและกลับมาคร่อมร่างเด็กหนุ่มเอาไว้อีกครั้ง

“ไม่...ไม่มีอะไรจริงๆ ฮะ” ริทกลัวไปหมด นิรันดร์เป็นอะไรไป ทำไมคำถามมันแปลกๆ ท่าทีเหมือนหึงหวงเขาแบบนี้

ไม่ดีหรอก คิดแบบนี้ไม่ได้ ริทพยายามตั้งสติและบอกว่าอย่าเข้าข้างตัวเองนักเลย เขาเป็นได้แค่เด็กขับรถ พ่วงด้วยอาหารจานด่วนบนรถของคุณนิรันดร์เจ้านายเขาเท่านั้น เป็นตัวแทนผู้ชายคนนั้นซึ่งมันน่าจะสะดวกกว่าถ้ามีอะไรกับเขา นิรันดร์ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขาแน่ๆ

ไม่มีทาง...ไม่มีวันเป็นไปได้

ริทมองหน้านิรันดร์ แววตาตัดพ้ออย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ได้ต่อว่านิรันดร์ที่ทำกับเขาแบบนี้ เขาโทษตัวเองต่างหากที่ปล่อยให้อารมณ์มันนำหน้าไปเสียได้ หนำซ้ำยังไม่เคยห้ามร่างกายที่ต้องการนิรันดร์ได้ เพียงแค่นิรันดร์เอ่ยชวน เขาก็ยินยอมพร้อมใจจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับนิรันดร์

เขามันใจง่ายสิ้นดีเลย!

“อย่าโกหกผมรู้ไหมครับ” ใบหน้านิรันดร์เคลื่อนเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นร้อนที่ดูจะถูกพ่นออกมาถี่ๆ รดใส่ใบหน้าของริท ตาสบตา ริทไม่สามารถหลบเลี่ยงสายตาของนิรันดร์ได้

“ผมไม่ได้โกหกนะครับ ผมกับเขาเป็นเพื่อนกัน ไม่เจอกันนานแล้ว เราแค่ไปดูหนัง ก็...ดูเพลินไปหน่อย คือ ผมแค่คิดว่าวันนี้คุณรันคงไม่ได้ไปไหน ผมก็เลยเที่ยวเล่นอยู่นาน” ด้วยความที่ไม่เข้าใจสถานการณ์มากนัก ริทก็ต้องตีความไปทางใดสักทาง แล้วทางที่เขาคิดได้ก็คงเพราะเขา...โดดงานในวันหยุดตัวเองล่ะมั้ง ไม่เมคเซ้นเลย

 “ผมไม่ชอบให้ใครใช้คำว่าเด็กดื้อกับริท” ริมฝีปากนิรันดร์แตะลงที่มุมปากของริท ค่อยๆ จูบเบาๆ เม้มไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแนบปากกับริทเอาไว้ทั้งหมด

“ทำไมล่ะครับ ก็...แค่คำธรรมดา” ริทถามกลับด้วยความไม่รู้จริงๆ ริมฝีปากเฉียดกันยามที่เอ่ยวาจา ริทพยายามจะมองตานิรันดร์แต่ก็ยากเมื่อระยะมันใกล้เกินไป

“ริทไม่ดื้อนะ ริทเป็นเด็กดี” นิรันดร์ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ร่างกายของริทควบคู่ไปกับการจูบปากริทย้ำๆ อยู่อย่างนั้น

“มันแค่คำหยอก” ริทพยายามจะอธิบาย ร่างกายโดนสัมผัสนี้กำลังร้อนรุ่มขึ้นทีละน้อย จากความอับอายที่น่ากังวลเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นอารมณ์แสนลามกทีละน้อยอย่างห้ามไม่อยู่ ลมหายใจของริทกำลังถี่กระชั้น เขารู้...มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากจากนี้

“ผมไม่ชอบให้ใครหยอกริท ไม่ชอบให้ริทไปดูหนังกับใครด้วย”

“แต่...”

“เด็กดีต้องไม่เถียงผมครับริท” นิรันดร์ปิดปากริทให้สนิทจนไม่สามารถพูดได้อีก เขาไม่ได้อยากได้ยินริทเถียง

ทั้งที่...ริทไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่มีสิทธิ์นั้น?

รสจูบนิรันดร์เจือไปด้วยความโกรธ แม้ว่าริทจะพูดออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่ามันไม่มีอะไร แต่เขาก็ไม่อาจหักห้ามความหึงหวงที่ต่อก่อตัวขึ้นระหว่างระยะเวลาที่เขารอริทได้ เขากำลังระบายมันกับร่างกายขาวๆ ที่มีกลิ่นกายคละคลุ้งของริทอย่างกับคนเมา

ฝ่ามือทั้งสองข้างของริทเคลื่อนมาอยู่บริเวณเอวของนิรันดร์ อารมณ์อันร้อนแรงถูกชักนำจนมันคุโชนขึ้นมาในกายของร่างโปร่ง ริทยินดี แม้จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นแค่สิ่งที่ของถูกจ่ายเงินเพื่อซื้อ แต่ต้องยอมรับว่า...ความที่เขาชอบนิรันดร์ ทำให้เขาปฏิเสธสัมผัสเหล่านี้ไม่เคยลงเลย

เสื้อยืดใส่เที่ยงของริทถูกนิรันดร์พรากไป พร้อมๆ กับเสื้อผ้าที่ใส่อยู่บ้านของนิรันดร์ ร่างใหญ่โถมใส่ริทอีกครั้งด้วยกายที่เปลือยเปล่า เนื้อแนบสนิทไปกับเนื้อที่นุ่มกว่า ริทไม่ใช่คนชอบอกกำลังกายมากนัก ที่ร่างกายพอจะมีมัดกล้ามแบบนี้เพราะริททำงานเกี่ยวกับเครื่องกลที่ต้องออกแรงมากหน่อยเท่านั้น

“อื้อ อ๊ะ...ซี้ด...คุณรัน” ยอดอกเล็กๆ โดนนิรันดร์ใช้ฟันครูดลง ความเจ็บจี๊ดแล่นปราบขึ้นมาจนริทสะดุ้งเบาๆ เขามองหน้าอีกฝ่าย เห็นแววตาที่ดุร้ายคู่นั้นแล้วก็ได้แต่อ้อนขอความอ่อนโยนทางแววตา

ถึงมันจะเป็นของเคยๆ แต่เขาไม่อยากให้นิรันดร์รุนแรงใส่เขาทั้งแบบนี้ แบบที่นิรันดร์ดูโกรธเคืองอะไรเขาสักอย่าง มันใจไม่ดี เหมือนโดนเกลียด เหมือนโดนลงโทษด้วยเรื่องแบบนี้

ริทยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองผิดอะไร งั้นจะมาลงโทษเขาด้วยเรื่องอะไรล่ะ...ไม่ได้สิ แบบนั้นมันไม่แฟร์เลยสำหรับเขา เพราะงั้นริทจึงอยากได้ความอ่อนโยนมากกว่าความเกรี้ยวกราด

“ผมเจ็บครับคุณรัน” เพียงแค่นิรันดร์ลูบไล้ขาอ่อนของเขา บีบเนื้อตรงขาอ่อนราวกับต้องการขย้ำมันให้ขาดคามือ นั่นมันเจ็บปวด ริทพยายามเอื้อมมือไปหยุดมือของนิรันดร์แต่มันไม่ถึง

“ต้องเจ็บสิ ก็ผมลงโทษริทอยู่” นิรันดร์ลากริมฝีปากไปจากยอดอกผ่านลิ้นปี่มาหยุดที่รอบสะดือ ร่างกายขาวสะอาดขึ้นสีแดงจางๆ บ้างเป็นสีที่เกิดจากเลือดลมสูบฉีด บ้างก็เป็นรอยจากน้ำมือของนิรันดร์

“ผมผิดอะไรหรือครับ ผมทำอะไรให้คุณรันไม่พอใจ...” เสียงริทสั่นเครือ ส่วนนั้นโดนมือของนิรันดร์กอบกุมเอาไว้ ทั้งบีบ ทั้งนวดและใช้เล็บสะกิดที่ส่วนปลายให้เกิดความเจ็บเล็กๆ

“ริทไม่รู้จริงๆ เหรอว่าริทผิดอะไร” ริทส่ายหน้า น้ำตาซึม

“ผมไม่รู้ครับ คุณรันบอกผมสิ ผมผิดอะไรหรือครับ...” น้ำเสียงเศร้าๆ กับดวงตาแวววาวเพราะน้ำตานั้น...ทำให้นิรันดร์ใจอ่อน

นิรันดร์ละมือจากร่างกายของริท เขาเคลื่อนกายขึ้นมาคร่อมริทเอาไว้อีกครั้ง จรดริมฝีปากที่หน้าผาก ลากลงมาที่แก้มแล้วจบที่ปากสีพีช ดวงตาริทยังคงตั้งคำถามและตัดพ้อน้อยใจ ก็ริทไม่เข้าใจจริงๆ การที่เขาไปเที่ยวในวันหยุดตัวเอง มันเป็นความผิดยังไง ทำไมคุณรันต้องโกรธเขาในเรื่องนี้ด้วยล่ะ

ทั้งคำถามที่นิรันดร์ยิงใส่ ทั้งน้ำเสียงที่เย็นชา ทั้งท่าที่เคืองขุ่น เขาไม่เข้าใจตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้แล้วจริงๆ

“ถ้าผมทำผิด คุณรันบอกผมสิครับ สอนผมได้นะ...ผมขอโทษที่ผมไม่บอกก่อนที่จะออกไป” ริทพยายามอธิบายในส่วนที่เขาก็ไม่เข้าใจ

“ผิดที่ริททำให้ผมหวง” เรียวนิ้วเกลี่ยริมฝีปากที่เห่อช้ำของเด็กหนุ่มใต้ร่าง เห็นได้ชัดว่ามันช้ำก็เพราะเขาเองไม่ใช่ใครที่ไหนเลย

คำตอบที่แสนจะสั้นง่ายนั้นทำให้ริทไปต่อไม่เป็น หัวใจกระหน่ำอย่างรุนแรงอยู่ในอก ทั้งที่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่านิรันดร์จะมาหวงเขาทำไม เขาไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าคู่นอนหรือคนขับรถ แต่ก็ต้องยอมรับว่าคำว่า ‘หวง’ ของนิรันดร์ทำให้หัวใจของริทพองโตจนขับแน่นไปทั้งหน้าอก

“แต่มันไม่มีอะไรจริงๆ” ริทเอื้อมมือมาจับข้อมือของนิรันดร์เอาไว้ ส่งสายตาอ้อนๆ โดยที่เขาก็ไม่ได้รู้ตัวหรอก แค่อยากบอกว่าเขาไม่เคยตั้งใจทำให้นิรันดร์อารมณ์เสีย

“แล้วผมหวงไม่ได้?” นิรันดร์โน้มหน้าเข้าไปใกล้ มือของริทที่เอื้อมมาจับข้อมือของเขาโดนเรียวนิ้วประสานตรึงไปกับเตียงนอน

“ผมห้ามอะไรคุณรันไม่ได้หรอกครับ แค่อยากจะบอกว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ ก็แค่เพื่อนกัน ไปดูหนังกินข้าวแล้วก็เดินเล่นทั่วๆ ไป ผมกับเขาไม่ได้เจอกันนานแล้ว พอเจอกันก็เลยเที่ยวด้วยกันเพลินไปหน่อย”

“เพลินมากจนกระทั่งไม่ตอบแชตผมทั้งที่เข้ามาอ่านแล้วเนี่ยนะ” มันก็แค่น้ำเสียงราบเรียบ ทว่าริทรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจที่ไม่หายไปอยู่ดี

“หนังมันฉายก่อนผมก็เลยไม่ได้ตอบ พอหนังจบผมก็ลืม ผมไม่ได้ตั้งใจอ่านแล้วไม่ตอบจริงๆ นะครับคุณรัน ผมขอโทษ...ผมจะไม่ให้เป็นแบบนี้อีก”

“ยังไงครั้งนี้ริทก็ต้องโดนลงโทษครับ” นิรันดร์จูบที่มุมปากก่อนจะขยับไปแถวลำคอ

“ผมกลัวเจ็บ...” ริทกำมือที่ถูกประสานเรียวนิ้วตรึงไว้กับเตียงแน่น ร่างกายเกร็งเฮือกขึ้นมาเพราะนิรันดร์แลบลิ้นเลียลำคอของเขา ความเย็นชื้นและนุ่มนิ่มนั้นลากไล้ลงไปยังแผ่นอก

“ต้องเจ็บสิ มันคือบทลงโทษ“ นิรันดร์เงยหน้ามามองสบตากับริท ขณะที่เขาแลบลิ้นเลียยอดอกสีคล้ำเล็กๆ ของร่างโปร่ง

“อื้อ! คุณรันอย่าทำผมเจ็บเลยครับ ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว” เหมือนนิรันดร์จะใช้ฟันครูดยอดอกนั้น ริทก็สะดุ้ง กลัวว่าจะโดนกัด

“พรุ่งนี้ผมไม่อนุญาตให้ริทไปไหน”

“ครับ ผมไม่ไปไหน คุณรัน...คุณรันยกโทษให้ผมเถอะนะฮะ” น้ำตาคลอหน่วงไปหมดแล้ว กลัวเจ็บก็กลัว กลัวนิรันดร์ดุก็กลัว

แต่...เขาไม่ลืมหรอกนะว่าสถานการณ์แบบนี้มันไม่สมเหตุสมผลกับเขาเลย

นิรันดร์ไม่ตอบริทด้วยวาจา เขาตอบริทด้วยการกระทำที่เริ่มนุ่มนวลขึ้นเหมือนทุกครั้งที่เขาเล้าโลมเด็กหนุ่ม จูบที่แผนอกเบาๆ ดูดยอดอกเล็กนั้นเล่นก่อนจะเดาะลิ้นระรัว สร้างความหวาบหวามให้กับร่างโปร่งที่อารมณ์ตื่นขึ้นมาได้ง่าย ก็อย่างนี้แหละ เด็กหนุ่มวัยนี้ร่างกายมันไวต่อสัมผัสเสมอ

นิรันดร์ยอกเย้า ไม่เอาความเจ็บมาลงโทษ แต่เอาความเสียวซ่านขึ้นมาทรมานริทให้ดิ้นเร่าๆ อยู่ใต้ร่างแทน เขาดูใบหน้าแดงจัด เหงื่อซึมตามไรผมและริมฝีปากที่บวมเจ่อ ริทที่อยู่กับเขามันยั่วเย้าเขาได้ดีจริงๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่นิรันดร์เอาคนอื่นขึ้นมานอนเตียงตนเอง เตียงที่นิรันดร์ระลึกอยู่เสมอว่ามันคืออณาเขตส่วนตัวที่จะมีเขาแค่คนเดียวบนเตียงนี้ ดวงตาคมกวาดมองร่างโปร่งดด้านใต้ จับจ้องริมฝีปากที่พ่นลมหายใจร้อนผ่าวออกมาอย่างรุนแรง

บนเตียงนี้...ริทเซ็กซี่เป็นบ้าเลย!

ความกว้างของเตียงทำให้กิจกรรมเข้าจังหวะสะดวกสบายกว่าตอนทำกันบนรถ เขาเห็นริทชัดเจนขึ้น สัมผัสริทได้มากขึ้น นิรันดร์ทำให้ริททนไม่ไหว อ้อนวอนและร้องขอการปลดปล่อยซ้ำๆ ด้วยเสียงที่แสนจะสั่นพร่า ดวงตาเว้าวอนกับหยาดน้ำน้อยๆ ตรงขอบตา

สุดท้ายนิรันดร์ก็ใจอ่อน รีดเร้นความทรมานที่อัดแน่นอยู่ในกายของริทให้แตกพล่านออกมาสู่โลกภายนอก แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้ริทนอนหายใจอย่างสบาย เพราะหลังจากทรมานริทจนหนำใจแล้ว ต่อจากนี้จะเป็นเวลาที่เขาเก็บเกี่ยวความสุขจากร่างกายริทด้วยการหลอมรวม

ไม่มีเวลาที่จำกัด ไม่มีใครเพ่นพ่านผ่านไปมา ไม่ต้องกังวลรถราบนท้องถนน บนเตียงนอนหลังกว้างที่นิรันดร์ไม่ชอบใช้ทำอะไรนอกจากนอน กลายเป็นสถานที่ที่เขาคิดว่ามันวิเศษมากๆ สำหรับการมีสัมพันธ์กับริท

เพราะการได้เห็นริทชัดๆ ทุกสัดส่วนมันเร้าใจกว่าในรถที่แสงสลัวนั้นเยอะเลย...

….100%....

บอกกับนักอ่านคนหนึ่งไว้ว่าจะอัปให้อ่านวันจันทร์ แล้วนี่วันอะไร...ฮื่อ เค้าขอโทษน้า ไม่ลืมก็หลับน่ะ วันนี้เลยรีบมาอัปก่อนที่จะลืมหรือหลับอีก

สำหรับตอนนี้เค้าชอบแหละ…ชอบที่ริทอ้อน โง้ยยยยยยน้องจ๋ามาอ้อนพี่มา! พี่ใจดีกว่าคุณรันแน่นอน >_<
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-05-2019 16:26:44
 :pig4: :pig4: :pig4:

"หวง" แล้วลงโทษ  โถ...ก็แค่ข้ออ้างของคนอยากจะซั่ม

ใช่ป่ะอิคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 09-05-2019 16:27:18
คุณรันดร์งอแงงงง แล้วก็มาลงที่น้องงง งือออออ :hao6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 09-05-2019 20:05:34
โอ๊ยยย คุณรัน!!!!  :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 09-05-2019 20:12:04
เป็นอะไรกะเค้าถึงมาหวงฮะอีตารัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-05-2019 21:21:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-05-2019 22:34:48
คุณรันเห็นแก่ตัว ไม่ชัดเจนแต่มาทำเป็นหวงน้อง ลงโทษน้อง  เมื่อไหร่จะรู้ว่าตัวเองมีใจให้เด็กหะ.  :m16:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 10-05-2019 11:09:52
คุณรันอยากหวงก็ชัดเจนหน่อย  :hao3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 10-05-2019 12:46:12
ก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น ระหว่างความซั่มของคุณ และน้อง บนเตียง ต่อไป ต้องห้องน้ำ โซฟา ริมระเบียง ไรงี้ล่ะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 10-05-2019 14:51:50
คุณรันจะทำอะไรก็ต้องชัดเจนด้วยนะ สงสารริท จะมาทำแบบนี้เหมือนริทเป็นเครื่องระบายความใคร่เลย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-05-2019 21:54:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 14 - 100% [09-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 12-05-2019 09:40:55
สงสารน้องริทจังครับ คุณรันไม่ชัดเจนสักที
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 21-05-2019 21:28:21
>….ตอนที่ 15 [100%]….<

วันอาทิตย์นิรันดร์ขังริทไว้กับตนเองในห้องทั้งวัน ไม่ยอมให้เด็กหนุ่มออกไปไหน แม้กระทั่งจะกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้านิรันดร์ก็ยังไม่ยอม ร่างสูงยัดเยียดชุดใส่อยู่บ้านของตนเองให้ริท แล้วก็ชวนริทดูการ์ตูนเรื่องที่ริทชอบอยู่บนเตียงนอนของนิรันดร์ไปแบบนั้นทั้งวัน

ช่างเป็นวันที่อืดเอื่อย...

ริทอยากจะออกไปทำงานของตัวเอง รถมันต้องเช็ดต้องล้าง วันธรรมดาจะแค่เช็ดให้มันกลับมาเงางามแล้วก็ดูฝุ่นบ้างเล็กน้อย แต่วันหยุดริทจะต้องล้างรถทุกคันที่จอดอยู่ในโรงจอดรถนั่น ซึ่งเขามักทำทุกวันเสาร์ แล้วดูตอนนี้สิ...เขาไม่ได้ไปไหนเลย

เอาเป็นว่ามันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอก การได้นอนดูการ์ตูนอยู่ในอ้อมกอดของนิรันดร์มันก็มีความสุขดี แต่ขณะที่มีความสุขมันก็เกิดคำถาม เขามีความสุขในฐานะอะไร? คู่นอนที่ได้รับสิทธิพิเศษในการมาอยู่บนเตียงของนิรันดร์เหรอ? อืม...นึกออกแค่นั้นแหละ

การ์ตูนทำให้ริทผ่อนคลายจากความคิดอันว้าวุ่นของตัวเองไปได้บ้าง แล้วหันมาเศร้ากับฉากดราม่าในการ์ตูนแทนจนนอนน้ำตาไหลอยู่กับอกของนิรันดร์ ขนาดดูซ้ำมาหลายรอบแล้ว แต่มันก็ยังทำร้ายจิตใจของเขาไม่เปลี่ยนไปเลย ริทดูฉากดราม่าไป ร้องไห้ไป พยายามปาดน้ำตาเนียนๆ แต่ก็เหมือนว่านิรันดร์จะรู้อยู่ดี

“นี่ริทร้องไห้เหรอ?” สีหน้านิรันดร์เหมือนจะหยอกล้อ ริทรีบมุดหน้าเข้าอกของนิรันดร์เพื่อไม่ให้เห็นน้ำตาของเขา

“ห้ามล้อผมนะ” เสียงอู้อี้นั้นฟังยากไปหน่อยแต่ก็รู้เรื่อง

“ครับ ไม่ล้อก็ได้” นิรันดร์จูบที่กลุ่มผมสีดำของริทแล้วนอนมองริทนั่นแหละร้องไห้ ส่วนริท...จดจ่อกับการ์ตูนต่อไป

อาหารการกินปกตินิรันดร์จะให้คนอื่นเอาขึ้นมาให้บนห้อง แต่วันนี้เขาลงไปเอาเองกับมือ ไม่อยากให้ป้าหัวหน้าแม่บ้านรู้ว่าริทมีสภาพอย่างไรตอนนอนเล่นอยู่บนเตียงกับเขา อาจไม่โป๊ แต่ก็ไม่สุภาพ เสื้อกล้ามตัวบางที่เขาเอาให้ริทใส่มันเว้าจนเห็นแผ่นอกของเด็กหนุ่ม กางเกงใส่ก็ขาสั้นมาก เป็นกางเกงขอบยางไว้ใส่ออกกำลังกาย ถ้าป้าออมรู้ว่าเขากินลูกชายเธอทั้งตัว เขาอาจได้รับอาหารที่ผสมยาพิษมาก็ได้

วันทั้งวัน...บนเตียงนอนนุ่มๆ ผ่านพ้นไปในที่สุด

ริทขอนิรันดร์กลับไปนอนที่ห้องเพราะกลัวว่าแม่จะบ่นที่หายหน้าหายตาไปเลย ซึ่งนิรันดร์ก็ยินยอมให้ริทกลับไปนอนที่ห้องแต่โดยดี ริทเอาเสื้อผ้าของตนกลับมาด้วย เดี๋ยวชุดนิรันดร์นี่ซักเสร็จก็ว่าจะเอาไปคืน คราวก่อนก็เสื้อเชิ้ต คราวนี้เป็นชุดทั้งชุดอีก

ริทเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของตัวเอง ตอนนี้สองทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว แต่เขายังไม่ได้ล้างรถ เขาเลยกะว่าจะไปล้างรถให้เรียบร้อยก่อนค่อยกลับเข้ามานอน ยังไงวันนี้ก็นอนไปซะเยอะเลย ทำงานให้ร่างกายมันได้ขยับเขยื้อนบ้างก็ดี เพราะเขาโคตรแอบเมื่อยเลย

“น่ะ! หายไปไหนมา” ยังไม่ทันเดินพ้นประตูบ้านแม่ก็ส่งเสียงทักทายขึ้นมาจากด้านหลัง ริทหันไปมอง ส่งยิ้มด้วย เพราะแม่หน้าดุมากตอนนี้

“คือ...”

“ไปคลุกอยู่กับเพื่อนมาอีกเหรอ ทำไมไม่บอกแม่บ้างเนี่ย จู่ๆ ก็หายไปไม่บอกไม่กล่าว มันน่านักไหม เห็นว่าตัวเองโตแล้วเลี้ยงดูตัวเองได้เลยดื้อเหรอ” แม่บ่นเป็นชุด ริทรีบเดินเข้าไปโอบเอวอวบๆ ของแม่เอาไว้ ซบหน้าด้วย อ้อนมันเข้าไป

“แม่คร้าบ ริทไม่ได้ไป ริทอยู่ช่วยคุณรันประกอบของอยู่บนห้องน่ะฮะ”

“ช่วยคุณรันท่าไหนทำไมไม่ลงมากินข้าว”

“ก็คุณรันสั่งว่าไม่ต้องนี่ฮะ ให้ผมพักแล้วเขาก็ลงมาเอาเอง” ทำตาปริบๆ หวังให้แม่เห็นใจเด็กตาดำๆ อย่างเขาบ้าง

“มันประกอบทั้งวันเลยไง”

“ก็ดูหนังกับคุณรันด้วยนิดหน่อยอะแม่”

“กับคุณรันเนี่ยนะ แปลก…ปกติคุณรันไม่ชอบให้ใครเข้าไปอยู่ในห้องของแกนา” ริทไหวไหล่ ข้อนี้เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันแหละ

“ริทเป็นกรณีพิเศษไง” ริทขยิบตาเท่ๆ ให้แม่ แต่ก็โดนดีดหน้าปากไปหนึ่งที

“แล้วนี่จะไปไหน”

“ก็จะไปล้างรถ ริทยังไม่ได้ล้างรถเลยมัวแต่ดูหนังกับคุณรันเพลิน เดี๋ยวริททำความสะอาดเจ้ารถเหล่านั้นเสร็จริทค่อยนอน แม่ไปนอนก่อนก็ได้นะ”

“แต่มันดึกแล้วนา”

“แต่มันเป็นงานนี่แม่ เอาหน่า ริทไปนะ” ริทหอมแก้มแม่ตนเองแรงๆ ไปฟอดใหญ่ มันค่อนข้างจะแรงไปหน่อย ผู้เป็นแม่จึงฟาดหลังริทเบาๆ ก่อนที่ริทจะรีบวิ่งหนีไปทั้งเสียงหัวเราะ

แสงไฟจากโรงจอดรถสว่างวาบขับไล่ความมืดรอบด้าน เวลาแบบนี้ป้าแม่บ้านมักจะดูข่าวไม่ก็เม้าท์กันเรื่องละครที่กำลังจะฉายในอีกไม่นาน ลุงๆ ก็น่าจะเมากันหมด คงมีแค่ลุงยามกับริทเท่านั้นที่กำลังทำงานในเวลาอย่างนี้

ริทเปิดเพลงประกอบการ์ตูนขณะล้างรถ ต้องยอมรับว่าการล้างรถตอนกลางคืนแบบนี้ก็ค่อนข้างจะวังเวงไม่ใช่น้อย ดีที่เขาไม่ใช่คนกลัวผี ไม่งั้นไม่กล้าทำแบบนี้ตอนนี้แน่นอน เด็กหนุ่มก้มๆ เงยๆ อยู่กับรถหรูคันแล้วคันเล่า ริทเลือกจะเก็บลีมูซีนเอาไว้เป็นคันสุดท้ายเพราะนั่นคืองานหนักสุดของเขา

กว่าจะจัดการงานของตนเองเสร็จก็ปาไปเที่ยงคืน ริทเก็บกวาดข้าวของจนเรียบร้อยแล้วถึงได้กลับเข้าบ้านไปอาบน้ำอาบท่าแล้วนอน เจ้าตัวหลับเป็นตาย การล้างรถดูไม่ยากแต่มันก็เหนื่อยเหมือนกัน

นอนดึกตื่นเช้าทำให้ริทในช่วงเช้าของวันจันทร์นั้นตาโหลสุดๆ อันที่จริงมันก็เป็นแบบนี้อยู่ประจำ เวลาที่นิรันดร์ต้องออกไปงานเลี้ยงแล้วกลับดึก ริทก็แทบจะนอนไม่พออยู่ตลอด เขาออกไปข้างนอก ขับรถที่ต้องใช้มาจอดเตรียมเอาไว้เป็นอย่างแรก จากนั้นถึงได้กินข้าวกินปลา ดื่มกาแฟอีกแก้วเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นเต็มตา

การทำงานของริทกับนิรันดร์ก็เหมือนเคย เจ้านายขึ้นรถ เอ่ยทักทายพูดคุยกันเล็กน้อยแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ในโลกส่วนตัว ที่จริง ริทก็ไม่ได้อยากอยู่ในความเงียบขณะที่สมองของเขากำลังฟุ้งซ่านหรอกนะ แต่มันต้องทำ เพราะนิรันดร์กำลังคุยงานกับเลขาของตนอยู่

“ริทครับ เดี๋ยวริทกลับบ้านเลยก็ได้นะ แล้วก็ค่อยเอาลีมูซีนมารับผมตอนบ่ายสามโมง” ก่อนจะลงจากรถ นิรันดร์ก็ไม่ลืมจะเอ่ยสั่งงานให้ริท

“ครับคุณรัน” ริทพยักหน้าเป็นการรับคำ นิรันดร์เคลื่อนกายเข้าใกล้ริทมากขึ้นอีกหน่อยขณะที่ริทจับประตูที่เปิดให้ค้างไว้

“แล้วก็...อย่าหนีเที่ยวไปซนที่ไหนนะครับ” ร่างสูงกระซิบเสียงเบาให้ริทได้ยินเพียงคนเดียว

“เข้าใจแล้วครับ” ปากบอกเข้าใจแต่ริทไม่ได้เข้าใจจริงๆ เนี่ยสิ

“ดีมาก เด็กดี” นิรันดร์ลูบหัวริทก่อนจะเดินเข้าบริษัทไป

ริทนำรถจากัวร์คันหรูออกจากหน้าบริษัทของนิรันดร์ เขาตรงกลับไปที่บ้านโดยไม่มีแวะเวียนไปที่ไหน เขากำลังคิด เมื่อก่อนนี้เวลาที่เขาเครียดเขาทำอะไร? ดื่ม? ใช่สิ เมื่อก่อนเวลาที่เขาเครียดกับอะไรสักอย่าง เฮิร์ตกับบางเรื่อง เขากับเพื่อนๆ จะรวมกลุ่มกันแล้วก็ไปดื่มให้เมาเป็นหมากันไปข้าง

ทว่าตั้งแต่มาทำงานให้กับนิรันดร์ ริทก็ไม่ได้ทำตัวแบบนั้นอีกเลย จะดื่มทียังเป็นเรื่องยาก เขาไม่อยากแฮงก์ในเช้าของอีกวันที่ต้องขับรถให้นิรันดร์ เขานึกถึงเพื่อนๆ นึกถึงวงเหล้า ช่วงเวลาแบบนี้เขาควรหาเรื่องให้ตัวเองคลายเครียดได้บ้างเนอะ

จะบอกว่าเมื่อวันก่อนไปดูหนังมาตั้งหลายเรื่องแล้วยังไม่หายเครียดเหรอ? ใช่ เขาไม่หายเครียด ก็กลับมาเจอนิรันดร์บอกว่าหวง ใครมันจะไปเครียดน้อยลงได้ แค่ต้องรู้สึกว่าตัวเองเป็นเด็กเสี่ยนี่มันก็ยแย่มากอยู่แล้ว ยังมาโดนทำให้หวั่นไหวแบบนี้อีก

จะเลิกเครียดต้องทำไง?

“อ่าวริท มีของมาส่งน่ะ” พอกลับมาถึงบ้าน ป้าแม่บ้านคนหนึ่งก็ตรงเข้ามาพร้อมกล่องใบใหญ่มากหนึ่งใบ

“ของริทเหรอฮะ?”

“ก็มันชื่อริทนี่ อะเอาไป หนักมาก สั่งอะไรมาหืม” สั่งอะไรล่ะ ริทผู้มีชื่ออยู่หน้ากล่องยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นคนสั่ง

“อ่า...” ริทรับกล่องมาแต่ไม่ตอบ

เจ้าตัวยกกล่องใบใหญ่นั้นเข้าไปในห้องนอน บรรจงแกะมันออกทีละน้อยพร้อมกับเดาออกว่าใครที่เป็นคนสั่ง เดี๋ยวนี้พัฒนามาก เมื่อก่อนริทจะไม่รู้ว่ากล่องพวกนี้สุดท้ายจะตกมาถึงมือเขา มันเป็นของที่นิรันดร์สั่งมา และข้างในก็...

ไม่ต่างจากที่คิดเลย

เคยมีความสุขมากๆ กับการได้รับฟิกเกอร์เหล่านี้ คำว่าเคยก็หมายถึงตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นแล้ว ริทมองนารูโตะในร่างเซียนขี่จิ้งจอกเก้าหางขนาดห้าสิบเซ้นตรงหน้า ไม่อยากเดาราคา เขารู้จักฟิกเกอร์ตัวนี้ และรู้ว่าราคามือสองหนักหนาสาหัสขนาดไหน

 ริทได้แต่ถอนหายใจ วางกล่องนั้นทิ้งเอาไว้ที่พื้น ส่วนตัวเองก็กระโดดขึ้นไปบนเตียง นอนมันนิ่งๆ อยู่อย่างนั้นน่ะ ก็มันหาทางออกไม่ได้ แล้วก็ทำให้ตัวเองรู้สึกดีก็ไม่ได้ เหมือนต้องเดินวนเวียนอยู่ในเขาวงกต มันทรมานอยู่ข้างในลึกๆ

ความสัมพันธ์จอมปลอมพวกนี้ทรมานเขาได้มากกว่าการต้องคบกับคนที่มองว่าเขาจนอีก ก็นั่นมันเข้ากันไม่ได้ รับกันและกันไม่ได้ก็เลิกรากันไป มันก็แค่นั้น แต่นี่มันเลิกไม่ได้เพราะความสัมพันธ์นี้มันไม่ชื่อเรียก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสรุปแล้ว...เขาอยู่ตรงนี้ในฐานะอะไร

คนขับรถที่พ่วงงานขายบริการหรือไง!

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น...เขาดันคิดกับนิรันดร์เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว ไม่ใช่การมองนิรันดร์เหมือนไอดอลที่เขาปลื้ม แต่ความรู้สึกมันพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ จนน่ากลัว ริทรู้ใจตัวเองดี และก็รู้ดีว่าเขาอยู่ในจุดไหน ระหว่างเขากับเจ้านายมันต่างกันเกินไป

เฮ้อ...จะบอกว่านี่ยุคไหนแล้ว ไม่มีใครเขามองเรื่องความต่างด้านฐานะแล้ว นั่นน่ะมันเรื่องของจิตใต้สำนึก บางคนก็ไม่ได้คิดมากอะไร ได้รัก ได้ซั่ม ได้สิ่งของและเงินทองก็แฮปปี้ดี แต่ริทไม่คิดอย่างนั้น เขาหาคำว่าคู่ควรกันไม่ได้เลย

เขาควรลาออกไหม? ถ้าจะหนีจากสิ่งที่เป็นอยู่นี้เขาควรลาออกแล้วย้ายไปใช้ชีวิตเองที่อื่นดีหรือเปล่า เขาโตแล้วนะ แม่ไม่มาว่าเขาหรอกแต่ก็คงถามแน่นอนล่ะว่าเพราะอะไรถึงอยากไปอยู่ที่อื่น ดีไม่ดี อาจจะโดนมองว่าหนีไปอยู่กับเมียอีก

แต่เขาไม่อยากอยู่ห่างจากแม่เลยอะ โดนมองว่าเป็นลูกแหง่ก็ได้ แต่ริทไม่เคยใช้ชีวิตห่างจากแม่ตัวเองเลย เขาอยู่กับแม่มาตั้งแต่เล็ก แล้วพอโต มีปัญหา ก็จะหนีแม่อะนะ บ้าเหอะ...เขาทำแบบนั้นไม่ได้

ริทนอนคิดมากจนปวดหัวตุ้บๆ ปวดจริงจังมาก สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับความปวดหัวไม่หาย ริทออกไปหายามากิน จากนั้นกลับเข้าห้องมานอนเล่น ข้างนอกแม่บ้านเขากำลังทำความสะอาดบ้านกันอยู่ แล้วแม่บ้านก็มักคุยแต่เรื่องผู้หญิง ข่าวดาราไม่ก็ละคร ริทไม่รู้เรื่องกับป้าๆ ก็เลยไม่คิดจะอยู่สนทนาด้วย

นั่งๆ นอนๆ ดูการ์ตูน อ่านการ์ตูน ฟังเพลงบวกกลิ้งไปกลิ้งมาจนถึงบ่ายโมงครึ่ง ริทได้เวลาออกไปทำงานอีกครั้งด้วยเจ้าลีมูซีน ทำงานด้วยความเหม่อลอยด้วย พอดี สมองเขายังเออเร่อจากการคิดมากไม่หาย ไม่มีเสียงเพลง ไม่มีเสียงตัวการ์ตูน ไม่มีการเปิดเกมเพื่อบอทเอาไว้ เรียกว่า...ไม่มีความมีชีวิตชีวาอยู่กัยริทเลยในตอนนี้

เขาไปรับนิรันดร์ตามเวลาที่ได้รับแจ้งเอาไว้ นิรันดร์คุยโทรศัพท์ตั้งแต่ขึ้นรถ บอกเขาสั้นๆ แค่ว่าไปที่ที่หนึ่งเพื่อรับคน ริทก็ทำตาม ระหว่างทางมีแค่เสียงนิรันดร์ที่หัวเราะต่อกระซิกกับใครบางคน เสียงที่ริทได้ยินแว่วๆ ออกมาเป็นเสียงผู้หญิง

แล้วริทก็ได้รู้ว่าผู้หญิงในสายคือผู้หญิงที่นรันดร์ให้มารับนั่นเอง

“เชิญครับ” นิรันดร์เป็นคนลงไปเปิดประตูให้หญิงสาวด้วยตัวเอง เธอเป็นคนสูง รูปร่างดี สวยและสง่ามากๆ ยิ่งเธอสวมชุดแซ็กเกาะอกสีดำ ยิ่งขับให้ผิวขาวกระจ่างนั้นโดดเด่นออกมา

“ขอบคุณคุณรันมากเลยนะคะที่มารับปอย ที่จริง ปอบขับรถไปที่นัดหมายเองก็ได้นะคะ ไม่น่ารบกวนคุณรันเลย” หญิงสาวเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองนั่งคู่กัน

โคตรเหมาะสมเลย!

“ไม่ได้หรอกครับ คุณปอยทั้งคน ผมคงปล่อยให้เดินทางไปเองไม่ได้” นิรันดร์จับปรอยผมของหญิงสาวมาดอมดม ดวงตาพราวเสน่ห์

“คิก…บ้า หยุดเลยนะ” หญิงสาวปัดมือนิรันดร์ออก

“เขินเหรอครับ นึกว่าจะคุ้นเคยกับผมจนหมดเขินแล้วน้า” นิรันดร์ใช้ไหล่กระแซะเธอเบาๆ

“คุ้นเคยแล้ว แต่ไม่เจอกันนานก็รู้สึกเก้อๆ กันบ้าง ก็ถ้าคุณรันขี้ริ้วขี้เหร่ ปอยคงเลิกเขินไปเอง”

“น่าเสียดาย ผมมีแต่จะดูดีขึ้นทุกวัน” ริทไม่เห็นแววตาที่ทั้งสองส่งมอบให้กัน แล้วก็คิดว่า...ไม่อยากเห็น

วาจาที่นิรันดร์และผู้หญิงที่ชื่อปอยใช้กันนั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าทั้งคู่สนิทสนมกัน ดีไม่ดี อาจจะกำลังสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันก็เป็นไปได้ ไม่งั้นคงไม่หยอกเล่นกันแบบนั้น

ริทไม่กล้าเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน แต่จากที่เห็นนิรันดร์และคู่นอนคนก่อน นิรันดร์จะไม่พูดจาหวานหยดขนาดนี้ ไม่หยอกล้อด้วยท่าทีซุกซน ถ้าจะทำกิจกรรมอย่างว่า ก็จะทำกันเลยโดยไม่แคร์สิ่งใด เพราะนิรันดร์เห็นเซ็กซ์กับคู่ขาเป็นเพียงอาหารจานด่วน รีบกินแล้วก็รีบไปทำงาน

ตลอดระยะทาง เสียงของสองคนกระหนุงกระหนิงกันไม่ขาดสาย บ้างก็เย้าหยอกกันในเรื่องส่วนตัวที่เป็นอดีของเขาทั้งสองคน ริทฟังทั้งที่ข้างในมันปวดหนึบไปหมด อย่างกับมีอะไรมาบีบหัวใจของเขาเอาไว้ และมันก็ค่อยๆ บีบด้วยแรงที่มากขึ้น

เป้าหมายคือร้านอาหารริมทะเลสาบที่แสนสงบและเป็นส่วนตัว มันเป็นที่ที่นิรันดร์กับปอยมาทานมื้อเย็นด้วยกัน นับว่านิรันดร์กะเวลาได้ดี ให้ริทไปรับตอนบ่ายสาม ไปรับปอยก็ปาไปบ่ายสี่ จบด้วยที่ร้านอาหารตอนห้าโมงเย็นพอดิบพอดี

“ริทครับ ผมรออยู่ที่หน้าร้านนะ ริทจอดรถแล้วรีบมา” ริทเผลอเหลือบตามองคนบอก ปกติเขาจะไม่ลงไปร้านอาหารที่นิรันดร์ไปทาน

“แต่ว่าผมอยู่ที่รถดีกว่านะครับ”

“แป็บนะปอย” นิรันดร์ให้หญิงสาวรอและเขาขึ้นมาบนรถ “ผมจองโต๊ะไว้ให้ริททานข้าว ไปนั่งทานข้าวรอผมดีกว่า”

“ไม่เป็นไรครับ ผมทานมาแล้ว” ริทปฏิเสธ

“ทานมาแล้วก็ทานของอย่างอื่นก็ได้ ริทสั่งได้เลย อย่าลืมตามมานะ ห้ามดื้อรู้เปล่า” นิรันดร์ยีหัวริทก่อนจะลงจากรถไป

แล้วถ้าริทตอบว่า...คุณรันน่ะห้ามทำให้หวั่นไหวได้หรือเปล่า นิรันดร์จะยอมทำให้เขาไหม จะทำเหมือนที่เขาเป็นเด็กดีให้นิรันดร์หรือเปล่าล่ะ เฮ้ โคตรเหนื่อยใจเลย ริทถอนหายใจ ส่ายหน้าเบาๆ แล้วเอารถไปจอด

นิรันดร์ยืนรอริทอยู่หน้าร้านอาหารจริงๆ ริทต้องรีบสาวเท้าไวๆ ไปหาเพราะไม่อยากให้เจ้านายยืนรอตนเองนานไปกว่านี้ เมื่อเข้าใกล้ นิรันดร์ก็เดินนำริทเข้าไปยังโต๊ะอาหารริมทะเลสาบ โต๊ะตั้งอยู่ตรงขอบกั้นระหว่างพื้นกับท้องน้ำ ริทได้นั่งตรงในสุดติดขอบมุม ถัดไปอีกสองโต๊ะก็คือนิรันดร์

ดูเหมือนโต๊ะแถวนี้หนึ่งแถว กับแถวถัดไปจะถูกกันคนเอาไว้ ไม่มีใครเข้าใกล้พวกเขา กลายเป็นพื้นที่ที่มีโต๊ะเกือบสิบตัวมีคนนั่งแค่สองโต๊ะเท่านั้น ริทสามารถมองเห็นใบหน้าของนิรันดร์ได้ชัดเจน ส่วนหญิงสาวนั่งหันหลังมาทางริท

อาหารถูกทยอยมาเสิร์ฟโดยที่ริทไม่ได้เอ่ยปากสั่ง เขานั่งมองไปข้างหน้า มองดูนิรันดร์ยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ใส่หญิงสาวคู่สนทนา มันโคตรแย่เลยอะ ต้องมานั่งดูคนที่ชอบสวีตกับคนอื่น มันเป็นอะไรแย่มาก

ริทเบี่ยงใบหน้าออกไปมองท้องน้ำที่กว้างไกล สายบลมอ่อนพัดผ่านเข้ามา แทนที่มันจะทำให้เขารู้สึกเย็นสบาย มันกลับทำให้ริทรู้สึกหว่าเหว่มากกว่า เขาไม่ได้มาที่นี่ด้วยเป้าหมายกินข้าวคนเดียวไง เขาแค่มาส่ง เขาควรได้กลับไปอยู่ที่รถ อยู่ในที่ตัวเองไม่ใช่ตรงนี้

เสียงหัวเราะของคนสองคนดังแว่วมาเป็นระรอกอย่างกับสายลมพัดสายน้ำจนกลายเป็นคลื่น ถึงไม่เห็นรอยยิ้มของทั้งคู่ แต่ดันมีเสียงตามมาอยู่ดี โทษตัวเองดีไหมที่ไม่เอาหูฟังมาด้วย ไม่งั้นจะเอาหูฟับมาเสียบแล้วฟังเพลงดังๆ จะได้ไม่ต้องได้ยิน

หญิงสาวขยับยืดตัวไปป้องปากกระซิบอะไรสักอย่างที่หูของนิรันดร์ ริทเห็นมันผ่านหางตา แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองตรงๆ พอหญิงสาวกระซิบเสร็จ นิรันดร์ยิ้มกว้าง หัวเราะเบาๆ แล้วกระซิบตอบกับเธอ

รอยยิ้มที่ทั้งคู่มอบให้กันมันหวานมาก...

ต้องบอกว่า หวานโต๊ะนู้น แต่มดมันขึ้นโต๊ะนี้ ขึ้นธรรดาไม่ว่า เหล่ามดพวกนั้นยังกัดที่ใจริทจนปวดตุ้บๆ ไปหมด ดูท่า มันจะเป็นมดตะนอย ตัวใหญ่ กัดเจ็บ แล้วมันจะไม่ใช่แค่เจ็บเท่านั้น มันจะปวดต่อไปเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน

ริทไม่สามารถทนมองภาพนั้นได้ไหว เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่ลึกๆ ก็บอกวว่ามันโคตรเสียมารยาทเลย เขาไม่แตะอาหารแม้แต่คำเดียว ไม่เหลียวแลมัน ไม่มองด้วยซ้ำว่าบนโต๊ะมีอะไรบ้าง เขาลุกขึ้นเบาๆ ทำตัวเองให้จืดจางไปกับอากาศมากที่สุด

ไม่กี่นาทีที่ไม่มีใครสังเกตเห็น...ริทได้หายไป

….100%….

นุ้งริทจะเป็นเด็กดื้อ ถ้าคุณรันไม่ทำอะไรให้มันชัดเจน!

ปล.ขออภัยที่มาอัปช้านะคะ พอดีว่าแอบนอยด์นิดหน่อย นิยายเรื่อง อุบัติรักฟีโรโมนโดนก๊อป แถมนักเขียนท่านยังแอบอ้างว่าเป็นเราอีกด้วยค่ะ เสียใจ…ฮื่ออออ ถ้านักเขียนท่านนั้นอ่านนิยายของเรา เราอยากบอกว่าทำแบบนี้อีกนะคะ ชื่นชอบผลงานกันเราดีใจมากๆ แต่ไม่ควรเอาผลงานของผู้อื่นไปแอบอ้างอย่างนั้นน้า จบเก็บผลงานดีๆ ที่ตนชอบไว้เป็นแรงบันดาลใจ เป็นเป้าหมายที่เราใช้บอกตัวเองว่าสักจะทำให้ได้อย่างเขา แบบนั้นจะดีกว่านะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-05-2019 21:57:57
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 21-05-2019 22:03:38
เห็นแค่ตาก็รู้แล้วว่าสายตาที่เธอมองกันมันคืออะไร?!!!!!!  ริทลูก อย่าไปไกลพี่เค้าน๊าาา เดี๋ยวตามหาไม่เจองานงอก ผิดที่คุณรันทร์ไม่ชัดเจนกับน้อง ชิเชอะ //สู้ๆค่ะเดธ เราทำด้วยรัก แต่งด้วยใจ คนอ่านรับรู้ได้ค่ะ คนทำเขารู้อยู่แก่ใจ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-05-2019 22:30:16
คุณรันทำแบบนี้เพื่ออะไรอ่ะ ลองใจน้องเหรอ สงสารน้องจริงๆ

คนที่ก๊อปงานคนอื่น แอบอ้างเป็นคนอื่น ต้องเป็นคนมีปมในชีวิตแน่ๆ ค่ะ ต้องตักเตือนบ้างนะคะ

สู้ สู้ค่ะ.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: YBlood ที่ 21-05-2019 23:16:10
ระวังน้องริทจะหายไปเถอะ ลองใจหรือเอาจริง .. สงสารน้องอ่ะ ต้องมาทนมองอะไรแบบนี้ถึงจะลองใจหรือยังไง น้องก็มองตัวเองต่ำต้อยมากขนาดนี้แล้ว ชัดเจนกับน้องได้แล้ว ไม่ใช่ซื้อนู่นนี่ให้เหมือนให้เงินหลังเสร็จกิจ ..


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 21-05-2019 23:54:32
ริทต้องเจอแบบนี้อีกกี่ครั้ง  :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-05-2019 00:02:42
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 22-05-2019 01:25:00
 :pig4: :pig4: :pig4:

 :mew4: :mew4: :mew4:


ง่า...สงสารน้องริทอ่ะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 22-05-2019 08:21:33
นุ้งริท จิตใจอ่อนแอลงเรื่อยๆ คุณนิรันดรรรร ขอความชัดเจนให้น้องด่วน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 22-05-2019 09:59:55
คุณรันนนนน :fire:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 22-05-2019 13:50:08
สงสารริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-05-2019 22:46:36
สงสารน้อง ทำไมต้องทำกับน้องแบบนี้ด้วย ไม่ชัดเจนสักที :m16: :m31: :fire: :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-05-2019 17:36:53
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 23-05-2019 22:34:38
โถ่น้องริท สงสารน้องมาก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Philosophy ที่ 26-05-2019 02:03:53
อย่ามาม่านานน๊าาาา หน่วงใจ555
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 15 - 100% [21-05-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 27-05-2019 22:10:45
ให้น้องหนีไปเลยยยสงสาร :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 01-06-2019 22:36:30
>….ตอนที่ 16 [100%]….<

“ปอยว่าเด็กเสิร์ฟคนนั้นตรงสเป็กคุณ” ปอยยืดตัวป้องปากกระซิบกับนิรันดร์

“ฮ่าๆ” นิรันดร์หัวเราะ รอยยิ้มกว้างๆ ของเขาแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่หญิงสาวพูดนั้นตรงใจอย่างที่สุด

“ผมไม่เถียง” เขาว่าอย่างนั้นก่อนลุกขึ้นไปกระซิบข้างหูหญิงสาว

“แต่ผมมีคนที่ชอบมากกว่าเด็กเสิร์ฟคนนั้น” ได้ยินดังนั้นปอยก็ป้องปากตกใจ

“จริงเหรอ คุณเนี่ยนะ?” นิรันดร์พยักหน้าเบาๆ

“ใช่ อันที่จริง...ผมคิดเรื่องที่จะจริงจังกับเขา”

“คนอย่างคุณรันที่ซื้อกินตลอดเนี่ยนะ? นี่คุณคิดดีใช่ไหมที่จะจริงจังกับเด็กที่ตัวเองซื้อมากินน่ะ” ปอยไม่ได้ลุกไปกระซิบ เธอใช้น้ำเสียงแผ่วเบาเพื่อให้ได้ยินกันเพียงลำพัง

“เด็กคนนี้ไม่ใช่เด็กขาย”

“ตายแล้ว ปอยกำลังคิดว่าปอยตื่นหรือยัง”

“ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นนี่ ผมก็เคยคบจริงจังตั้งหลายคน”

“ใช่ แต่ก็เลิกทุกคน”

“อืม แต่คนนี้ผมคิดจริงจังนะ”

“เขาดีขนาดทำให้คุณรันละทิ้งวันว่างบนเตียงนอนของตัวเองเหรอคะ โลกส่วนตัวของคุณน่ะไม่เคยมีใครเข้าไปได้เลยน้า”

“นั่นแหละ ผมถึงยังคิดอยู่ ที่จริง การมีเขาอยู่ในห้องด้วยกันก็ไม่แย่นะสำหรับผม” นิรันดร์คว้าแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาจิบ เขาครุ่นคิดถึงริทก่อนจะมองไปข้างหน้าเพื่อจะดูว่าเด็กหนุ่มของเขาทานอาหารที่เขาสั่งให้หรือเปล่า

ปรากฏว่า...ตรงนั้นไม่มีริท!

“ตอนนี้ไม่แย่สำหรับคุณหรือเปล่า พอเวลาผ่านไปมันก็อาจไม่เป็นอย่างตอนนี้ คุณก็รู้ คำว่าคนรักน่ะ เขาต้องเข้ามาในโลกส่วนตัวของเราอยู่แล้ว ไอ้การรักโดยไม่ยุ่งกับโลกส่วนตัวของกันและกัน แถมยังต้องปล่อยวันว่าง ปล่อยเวลาที่จะใช้ร่วมกันให้คุณได้อยู่คนเดียวน่ะมันแย่อยู่นะ” ปอยรู้ดีถึงลักษณะนิสัยของนิรันดร์ เพราะเธอรู้จักนิรันดร์มานานแล้ว

“เขาอาจไม่งอแงก็ได้” นิรันดร์กวาดสายตาไปทั่วร้าน หรือว่าริทจะไปเข้าห้องน้ำ แต่อาหารบนโต๊ะนั้นเหมือนไม่ได้ถูกแตะเลยนะ

“หืม...” ปอยไม่ต่อบทสนทนา เธอเห็นว่านิรันดร์ไม่ได้สนใจเธอในตอนนี้ เขามองตามสายตาของนิรันดร์ไปเรื่อยๆ แล้วก็พบว่าเด็กหนุ่มคนขับรถของนิรันดร์หายไป เธอหันกลับมามองนิรันดร์อีกหน บนใบหน้าที่เคยมีรอยยิ้มเมื่อครู่นี้หายไป คิ้วขมวดหน่อยๆ เธอเดาได้เลยว่าตอนนี้นิรันดร์แอบอารมณ์ไม่ดีแล้ว

“ของใหม่น่ะไม่งอแงหรอกคุณ พอใช้ไปนานๆ ก็เรียกร้องมากขึ้นทุกทีแหละ”

“ก็อาจเป็นอย่างนั้น” นิรันดร์พยายามตั้งสมาธิให้อยู่กับปอย ทั้งที่เขากำลังสนใจว่าริทหายไปไหน

“งั้นมันก็คงไม่เหมาะกับคุณรันหรอกเนอะ ปอยยังคิดอยู่เลยนะ คุณน่ะจะมีคู่ได้จริงๆ เหรอ” เธอยิ้ม ยกเครื่องดื่มขึ้นจิบเบาๆ

“อยู่คนเดียวก็ได้ ผมไม่ซีเรียสเรื่องคู่หรอก” แต่เขาตั้งสมาธิไม่ได้ เผลอแป็บเดียวนิรันดร์ก็มองหาริทอีกครั้ง

คำพูดของปอยกลายเป็นเสียงแว่วเข้าหูของนิรันดร์ เขาไม่หันมามองหน้าเธอด้วยซ้ำ แต่ปากก็ยังตอบโต้กับเธอเรื่อยๆ เพียงแค่เป็นคำสั้นๆ  ตอบไม่กี่คำแล้วก็เงียบ นิรันดร์หยิบมือถือขึ้นมาหมายจะกดโทรหาริท

“คุณรันมีธุระด่วนเหรอคะ” เพราะเห็นว่านิรันดร์เริ่มไม่สนใจเธอ ปอยก็ยิงคำถามใส่

“เอ่อ....”

“หรือว่าเพราะคนขับรถคุณหายไป” คำนี้เล่นเอานิรันดร์จุกไปที่โดนรู้ทัน

“ก็แค่คนขับรถนี่คะ” ปอยยิ้มหวาน “แต่ถ้าคุณเป็นห่วง คุณไปตามหาเขาก็ได้ วันนี้ปอยพอแค่นี้ดีกว่า โอกาสหน้าเราค่อยคุนกันใหม่”

“ไม่เป็นไรครับ เขาคงอยู่ที่รถ”

“ท่าทีของคุณไม่ได้บอกอย่างที่คุณพูดน้า เอาเถอะ เขาอาจเป็นเด็กคนนั้นที่คุณพูดถึงก็ได้ เชิญคุณไปหาเขา เดี๋ยวทางนี้ปอยจัดการเอง”

นิรันดร์ลังเล เขาควรไปหาริทตอนนี้แล้วปล่อยหญิงสาวไว้กับโต๊ะอาหารคนเดียวไหม ซึ่งที่จริงแล้วคำตอบมันชัดมาก เขาไม่ควรปล่อยให้ปอยนั่งทานอาหารเย็นเพียงลำพัง ทั้งที่เขาไปรับเธอมาเอง แต่ดันกลายว่าจะทอดทิ้งเธอเสียอย่างนั้น

แต่ถ้าเขาไม่รู้ว่าริทไปไหน เขาก็เป็นห่วง ริทอาจจะอยู่ที่รถ ไปดูการ์ตูน ไปฟังเพลง หรือจะไปตอบแชตไอ้หนุ่มคนนั้น? นิรันดร์กระวนกระวายอย่างมาก เห็นชัดเพียงแค่สบตาก็รับรู้ได้

“ไปเถอะ ไม่ต้องคิดมากเรื่องปอยนะคะ ผู้ชายในคลังปอยเยอะ เดี๋ยวปอยหาคนอื่นมาแทนคุณรันก็ได้” รอยยิ้มของเธอเจ้าเล่สิ้นดี นิรันดร์ส่ายหน้ากับความรู้ทันของเธอ

“ที่จริงปอยกับผมก็ไม่ได้ต่างกันเลย”

“ก็ถ้าต่างกันเราคงไม่เป็นเพื่อนกันมั้งคะนิรันดร์ เชิญค่ะ” ปอยผายมือเชิญนิรันดร์ไปทางหน้าร้าน

“อืม ขอโทษนะ ไว้คราวหน้าผมจะเลี้ยงขอโทษแล้วกัน”

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกค่ะ” นิรันดร์ลุกขึ้น จัดเสื้อผ้าให้ดีก่อนจะร่ำลาหญิงสาว

ร่างสูงพุ่งตรงไปที่รถลีมูซีน โดยถามจากพนักงานเอาว่ารถคันดังกล่าวไปจอดอยู่ที่ไหน เมื่อรู้ตำแหน่งนิรันดร์ก็ตรงไปอย่างไม่มีลังเล เรียวขายาวมีประโยชน์ในยามเร่งรีบอย่างนี้เป็นที่สุด นิรันดร์มองซ้ายมองขวาไปด้วยเผื่อว่าริทจะอยู่ข้างนอกรถ เขาจะได้เห็นได้เลยโดยไม่ต้องไปที่รถแล้วไม่เจอริท

ระหว่างนั้นเขาก็โทรหาริท บอกให้ริทเตรียมรถให้พร้อมเพราะเขากำลังจะตรงไปที่รถ ริทขานตอบเขาแค่ครับ น้ำเสียงไม่ค่อยดีจนนิรันดร์รู้สึกได้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุให้ริทมีอาการอย่างนี้

นิรันดร์คิดมากไปต่างๆ นาๆ จะเครียดเรื่องอะไรได้นะ เรื่องความรักเหรอ กับเด็กหนุ่มคนนั้นใช่ไหมนะ หรือว่าจะเรื่องการ์ตูน ดูตลกกับความคิดนี้แต่อย่าลืมว่าริทเป็นเด็กติดการ์ตูน บ่อยครั้งริทก็มีท่าทีไม่สบายใจเพราะการ์ตูนที่ตัวเองอ่านนั้นค้างคาอยู่ในบทที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก เหมือนมีเรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นกับตัวละครที่ชอบ หรือตัวละครที่ชอบสองตัวทะเลาะกัน

นิรันดร์หวังว่าสาเหตุที่ทำให้ริทเป็นแบบนี้จะเป็นอย่างหลัง

ในที่สุดนิรันดร์ก็ตรงมาที่รถ ริทยืนรอเปิดประตูให้เขาอยู่ก่อนแล้วด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ นิรันดร์ไม่ได้เอ่ยถามอะไรในทันที เขาไม่ยอมเข้านั่งประจำที่ห้องโดยสาร แต่เดินเลยริทไปนั่งข้างคนขับแทน ริทก็ไม่ได้ว่าอะไร ปิดประตูห้องโดยสารแล้วเดินไปประจำที่นั่งของตนเอง

เด็กหนุ่มมีท่าทีสงสัยเล็กน้อยถึงปอยที่หายไป ก็ไปรับมา ทำไมไม่ไปส่ง นิรันดร์ไม่ได้บอกเพราะไม่ได้สนใจในข้อนั้น ในหัวของนิรันดร์มีแต่เรื่องสาเหตุที่ทำให้ริทเงียบขรึมแบบนี้อย่างเดียว

“เดี๋ยวกลับบ้านเลย” นิรันดร์บอก

“ครับ” และริทก็ไม่คิดถามถึงหญิงสาว

ในรถอัดแน่นไปด้วยความเงียบงันที่น่าอึดอัด ไม่มีใครพูดอะไร แถมเพลงก็ไม่มีเปิด เลยทำให้มีแค่เสียงแอร์เบาๆ คลอไปตลอดเส้นทาง ด้วยความที่นี่เพิ่งจะเป็นช่วงหกโมงนิดๆ ทำให้รถราบนท้องถนนนั้นแน่นขนัดไม่ยอมขยับเลยตั้งแต่เลี้ยวรถออกมาถึงถนนใหญ่

ริทดูนิ่ง ดูไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับรถราบนท้องถนน ยกเว้นนิรันดร์ที่นั่งกระวนกระวายไม่หายเสียที เขาก็อยากจะถาม อยากจะรู้ว่าริทเป็นอะไร แต่คิดว่าอยากนั่งเงียบๆ ดูสถานการณ์ก่อนสักพักหนึ่ง เผื่อเขาจะหาสาเหตุได้โดยไม่ต้องถามอะไรริท

ก็บางอย่าง...การถามอาจเป็นการละลาบละล้วงก็ได้

นิรันดร์อดทนอยู่กับความเงียบแบบนั้นจนกระทั่งผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมงกว่าๆ เขาก็เริ่มทนไม่ไหว เขามองหน้าริทตลอดเวลา รู้ด้วยว่าริทรู้ตัวแต่ไม่ยอมหันกลับมาสบตากับเขา ไม่แม้แต่จะเอ่ยถามว่าเขาเป็นอะไรอย่างทุกทีที่ผ่านมา

“ริทเป็นอะไรหรือเปล่า ผมว่าริทแปลกๆ ไปนะ” นิรันดร์เอ่ยถามในที่สุด

“เปล่าฮะ” และริทก็ตอบกลับง่าบๆ เสียงราบเรียบดูไร้ซึ่งอารมณ์ร่วม

“แล้วทำไมไม่กินอะไรเลยล่ะ ที่ผมสั่งไว้ให้ริทไม่ชอบเหรอ”

“ผมอิ่มครับคุณรัน”

“อิ่ม แต่ไม่แตะอะไรเลยอะนะ”

“ผมขอโทษครับ ผมไม่หิวจริงๆ” ริทยังตอบเหมือนไม่มีอารมณ์ร่วมต่อไป

“แล้วทำไมออกมาก่อนไม่บอก”

“ผมขอโทษฮะ” ริทไม่ตอบว่าทำไม แค่พูดคำว่าขอโทษแล้วก็ปล่อยเบลอเรื่องนี้

นิรันดร์มองดูท่าที ครุ่นคิดในน้ำเสียงและคำตอบของริท เขาว่าเขาน่าจะเดาได้ว่าริทไม่ได้เครียดเรื่องตัวละครในการ์ตูน งั้นจะเป็นอย่างแรกที่เขาคิดไว้ว่าริทอกหักจากผู้ชายคนนั้น หรือไม่ก็ทะเลาะกัน ไม่จริงหน่า...

คิดให้ออกสิ...ท่าทีแบบนี้น่ะ...

นิรันดร์มองไปยังท้องถนน เขาใช้ทั้งสมองและความรู้สึกอย่างหนักที่จะคิดให้ออกว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ ริทไม่เคยมีท่าทีแบบนี้ใส่เขา ถ้าตัวละครในการ์ตูนมันตาย ริทก็จะบ่น หรือเล่าให้เขาฟัง เพราะระหว่างเขาก็มีดูการ์ตูนด้วยกันบ้าง ริทเองยิ่งเป็นพวกชอบเล่าอยู่แล้ว ไม่มีทางเงียบแล้วเฉยเมยใส่เขาแบบนี้

นี่มันเหมือนคนโกรธกัน...โกรธงั้นเหรอ?

หรือว่า....

“ริทหึงผมกับปอย?” จู่ๆ นิรันดร์ก็พูดขึ้นมาดื้อๆ ริทหันขวับไปมองทันที

“ผมเปล่านะ” ริทโพล่งคำตอบนั้นไป นั่นเผยให้นิรันดร์รู้ว่าคำพูดของเขามันเป็นเรื่องจริง

“จริงเหรอ?” นิรันดร์หันมามองหน้าริท ขณะที่รถยังติดไฟแดงอยู่แบบนี้ เขาสามารถสบตาและพูดคุยกัยริทได้โดยไม่ต้องห่วงอะไรเลย

“ครับ ผมเปล่าหึง...ไม่ได้มีสิทธิ์นั้นสักหน่อย” ริทหันหนี คำพูดตอนท้ายก็พูดเสียงแผ่วเบากับตัวเอง เพราะริทก็พยายามบอกกับตัวเองว่าเขาไม่มีสิทธ์นั้น เขาจะหึงนิรันดร์ในฐานะอะไรล่ะ ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน

แค่คู่นอน...มีสิทธิ์แค่บนเตียงเถอะ!

นิรันดร์ลอบยิ้มบางๆ แต่ริทไม่เห็น ตอนนี้พอรู้ว่าทำไมริทถึงมีอาการอย่างนี้มันก็สบายใจขึ้น อย่างน้อยๆ ก็ไม่ได้หึงคนอื่น การได้รับรู้ว่าคนที่ตัวเองชอบนั้นหึงหวงเขากับคนอื่นนั้นมันเป็นเรื่องที่ดี มันหมายถึงริทเองก็มีปฏิกิริยากับเขา อย่างที่เขาเองก็มีกับริท

นิรันดร์ไม่เอ่ยปากแซว เขาไม่ใช่เด็กๆ ที่เห็นว่าคนที่ตัวเองชอบหึงแล้วต้องหยอกต้องล้อให้อีกฝ่ายเก้อเขิน มันคนละรูปแบบกัน เวลาที่แคร์ความรู้สึกใครสักคน สิ่งที่ต้องทำคือทำยังไงก็ได้ให้เขาสบายใจที่สุด ไม่ใช่การเบี่ยงประเด็นก่อนจะอธิบายเรื่องราว

“ปอยน่ะเป็นเพื่อนผม...” นิรันดร์เปรยขึ้นเบาๆ แม้ว่าไฟจราจรจะเป็นสีเขียวแล้ว แต่เขาก็เห็นมันได้ชัดว่าริทแอบเหลือบตามามองเขา

“ครับ” เด็กหนุ่มขานตอบ เหมือนเป็นเพียงมารยาทแต่ก็บ่งบอกได้ว่าริทกำลังฟังอยู่

“ผมกับปอยเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนแล้วล่ะ ตอนนี้เธอฝึกงานที่แอลเอเพิ่งเสร็จ ก็เลยกลับมามาทำงานที่นี่ในฐานะลูกค้าของผม ที่จริงวันนี้ผมกับเธอต้องคุยกันเรื่องงาน แต่ว่าพอไม่ได้เจอกันนานก็เลยมีเรื่องคุยตามประสาเพื่อนเก่ากันเยอะหน่อย” นิรันดร์เลือกอธิบายความจริงเลย เพราะความจริงจะทำให้ริทวางใจได้ และมันก็จะแสดงให้ริทเห็นว่าเขาแคร์ริทนะ ไม่ใช่ไม่แคร์ แค่บางครั้งเขาอาจจะจัดการกับอะไรไม่ถูกไปบ้าง

“ครับ” ริทก็ขานตอบรับแบบเดิม แต่น้ำเสียงอ่อนลง

“ผมกับเธอไม่เคยคิดอยากจะคบกันเลยล่ะ เพราะเหมือนกับว่า...เราเป็นผีเห็นผี เธอก็โลกส่วนตัวสูง ผมก็ด้วย เราเข้ากันได้ คุยกันได้ดีมากโดยเฉพาะเวลาที่เรามีใครสักคนเข้ามาในชีวิต อันที่จริง ผมก็อยากให้ริทไปนั่งทานข้าวกับเธอพร้อมผม แต่ด้วยความที่มากันเรื่องงาน ตามมารยาทผมก็ต้องทำอย่างนี้ ถ้าเป็นการนัดทานข้าวกันตามปกติ ผมจะต้องแนะนำริทให้เธอรู้จักให้ได้เลย” นิรันดร์เอื้อมมือไปลูบหัวเด็กหนุ่มข้างกาย

“ไม่ต้องหรอก ผมเป็นแค่คนขับรถนะ แนะนำผมในฐานะคนขับรถดูจะไม่เหมาะ” ริทรู้สึกเขินนิดๆ คำพูดที่เหมือนให้คุณค่ากันมันมีดาเมจที่แรงมากต่อใจของเขา

“ริทคิดว่างั้นเหรอ”

“ให้คิดว่าไงล่ะครับ” ก็อยากพูดแหละว่า นอกจากคนขับรถก็มีแค่คู่นอนเท่านั้นที่นิรันดร์จะแนะนำให้เธอรับรู้ได้

“ผมคงยังแสดงออกไม่พอ” นิรันดร์พูดเสียงเบากับตัวเอง

เขาอยากทำให้อะไรมันชัดเจนกว่านี้ ติดที่กำแพงส่วนตัวของเขามันหนาเกินกว่าจะตัดสินใจ เขาต้องการเวลา อยากดูว่าระหว่างเขากับริทจะเข้ากันได้ไหม เขาเองไม่เคยทิ้งความส่วนตัวของตนเองได้ แม้จะเคยพยายามทำเพื่อคนรัก แต่สุดท้ายเขาก็รู้สึกว่าการอยู่คนเดียวบ้างมันดีต่อความรู้สึกของเขา

นิรันดร์ชอบความสงบบนเตียงนอน เตียงที่มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น บ้างก็ดูหนังคนเดียว กินข้าวคนเดียว เขาชอบแบบนั้นมากๆ ราวกับมันมีเสน่ห์ดึงดูดบางอย่าง แล้วถ้ามีคนอื่นเข้ามา มันก็ไม่ใช่คนเดียว เขาไมรู้ว่าเขาจะโอเคกับมันไหมในตอนนี้

ริทอาจให้ความสบายใจกับเขา ตอนที่เขาได้อยู่ริทในห้องนอนของตนเองหรือแม้แต่ห้องของริทก็ตาม เขารู้สึกสบายใจเหมือนตอนอยู่คนเดียวไม่มีผิด แต่ก็นั่นแหละ ไม่รู้ว่ามันจะเป็นแค่ตอนเริ่มต้นเท่านั้นหรือเปล่า

ถ้าเป็นแบบนั้น...เขาว่ามันจะทำร้ายริทเอง

นิรันดร์อยากมีริทอยู่ข้างกาย แต่ติดที่กำแพงของเขามันยังสูงจริงๆ เขาหันไปมองริท เห็นเขาอยู่อย่างสบายๆ แบบนี้เขาก็คิดมากเหมือนกัน คิดไปถึงด้วยว่าริทจะมองเขาเป็นเพียงกระเป๋าเงินหรือเปล่า

คนบางคน ตอนเริ่มต้นดูดี ดูไม่ได้ต้องการเงินทองจากเขา แต่พอเขาให้ก็เริ่มอยากได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีหยุดหรือไม่มีคำว่าพอผุดขึ้นมาให้เขาได้เห็น ริทเองก็ได้ประโยชน์จากเขา ไม่ใช่เงินแต่ก็ได้สิ่งของที่ตัวเองต้องการ

นิรันดร์เอนศีรษะพิงหัวไหล่เด็กหนุ่มคนขับรถ เกียร์ออโต้แบบนี้มันสบายเพราะไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะสร้างความลำบากให้กับริทหรือเปล่า เขาเห็นว่าริทเองมีใบหน้าที่แดงขึ้น นี่เป็นเสน่ห์อีกอย่างของริทเลย เมื่อไหร่ก็ตามที่ริทรู้สึกตื่นเต้น เขิน ทำตัวไม่ถูก ริทจะแสดงออกมาอย่างชัดเจน

“คุณรันเหนื่อยเหรอครับ ไปนอนที่เบาะหลังไหม เดี๋ยวผมจอดรถให้” ริทชะลอรถให้ช้าลงเพื่อจะเบี่ยงเข้าข้างทาง

“ครับ ผมเหนื่อย แต่ผมอยากนอนซบไหล่ริท ได้ไหมล่ะครับ” นิรันดร์เงยหน้า สายตาอ้อนๆ ถูกส่งไปให้ริท

“เอ่อ ถ้ามันไม่ลำบากก็ตามสบายครับ” ริทถึงกับหน้าแดงจัด ทำตัวไม่ถูก

“ขอบคุณนะ ริทนี่ดีจัง ใจดีกับทุกคนแบบนี้หรือเปล่า เอ...แต่ใจดีแบบไหนโดนเพื่อนแกล้งซะแรงแบบนั้น” นิรันดร์ไม่วายเย้าหยอกเรื่องเก่าที่เคยเกิดขึ้น

“คุณรันก็! อย่าไปพูดถึงเรื่องนั้นเลยครับ ผมล่ะไม่อยากจะนึกถึงเลย แบบว่า...เพื่อนแกล้งได้น่าอายมากๆ เลย ที่สำคัญ ผมเมาจนทำอะไรน่าเกลียดแบบนั้นไปด้วย นึกแล้วอับอายชะมัด”

“ฮ่าๆ ไม่เห็นน่าอายเลย น่าจะส่งมาเป็นคลิป...” น้ำเสียงของนิรันดร์ทำให้ริทเขินยิ่งกว่าเดิม

“พอเลยฮะ ไม่เอาๆ ผมไม่ทำอะไรน่าอายแบบนั้นแล้ว”

“ไม่เป็นคลิปก็ได้ แต่ขอเป็นต่อหน้าผม…” ว่าจบนิรันดร์ก็ขยับขึ้นจูบที่แก้มริทเบาๆ เล่นเอาริทเกือบเหยียบแบรกเพราะตกใจ!

….100%….

คุณรันทำพลาดจนน้องนอยด์ไปแล้วยังจะมาหยอกน้องตอนน้องข้บรถอีก ไม่ระวังเด๊ะตีเลยนี่คุณรัน! ที่สำคัญการกระทำต่อให้ชัดเจนแค่ไหน แต่ถ้าไม่พูดเลยบางทีคนรับอาจไม่เข้าใจก็ได้ คุณรันต้องกล้าพูดกล้าตัดสินใจได้แล้ว

ปล.ขออภัยที่ช่วงมาๆ หายๆ เฮ้อ ตั้งใจจะขยันอัพแต่มีงานมีปัญหารุมๆ ทุกที เราขอโทษจริงๆ นะคะ ทำอะไรไม่สม่ำเสมอเลย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Philosophy ที่ 01-06-2019 22:53:14
ฮิ้ววว คุณรันรีบๆชัดเจนได้แล้ว สงสารริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-06-2019 23:40:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-06-2019 00:44:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 02-06-2019 00:48:23
ถ้าคุณรันจะทำอะไรให้มันชัดเจนขึ้น คำพูดก็ต้องชัดเจนด้วยเหมือนกันนะ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องความรู้สึก ถ้าไม่พูดออกไปก็ไม่มีใครเข้าใจหรอก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-06-2019 01:43:37
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 02-06-2019 03:46:40
ก็ดีนะตรงที่เป็นห่วงความรู้สึกน้อง
แต่จะปล่อยไว้แบบนี้เหรอ TT
กว่าจะตัดสินใจเรื่องโลกส่วนตัวสูงของตัวเองน้องจะเจออะไรอีกมั้ย
 :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 02-06-2019 10:05:56
ฮือออออออ พี่อย่าแกล้งน้องเซ้
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 02-06-2019 10:16:59
แค่การกระทำบางทีน้องอาจไม่เข้าใจต้องคำพูดด้วยนะคุณรัน o18
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 02-06-2019 11:36:20
คุณรันยังรักริทไม่มากพอยังคิดถึงแต่ตัวเองอยู่เลย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 02-06-2019 13:20:58
รีบๆทะลายกำแพงที่สร้างไว้เน้อคุณรัน เดี๋ยวน้องริททนไม่ไหวจะมาเสียใจทีหลังเด้อ
ถ้าทะลายเองไม่ไหว แนะนำจ้างบริษัทมาทุบทิ้ง5555
 :z2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-06-2019 07:11:29
รีบๆ นะคุณรัน พยายามเข้าใจน้องเร็วๆ อย่าแกล้งน้องมาก เดี๋ยวหนีเตลิดไปหาคนอื่นนะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 16 - 100% [01-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 07-06-2019 07:15:24
ริทน่าสงสาร น่าเอ็นดู ตอนเค้าง้อก็ชื่นใจ
ตอนเค้ามีใครก็ใจแฟบเลย ต้องเจอกับความสับสน
ความไม่ชัดเจนของคุณรัน หวงแต่ไม่บอกสถานะ
ห่วงแต่ทำตัวเหมือนไม่สนใจ แล้วยังไง
ถ้ายังหวงพื้นที่ตัวเอง ก็ปล่อยน้องไปค่ะคุณรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 07-06-2019 21:48:00
>….ตอนที่ 17 [100%]….<

นิรันดร์ตั้งใจจะรุกหนักและแสดงความต้องการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ของเขากับริทให้ชัดเจนมากขึ้น ทว่า...แค่คิดก็ติดปัญหาแล้ว ไม่ใช่กำแพงที่ตัวเขาเองนั้นไม่กล้าพังมันลงไป แต่มันคือเรื่องงานต่างหาก...

เช้าถัดมานิรันดร์ก็ได้รับสายตรงจากผู้เป็นพ่อให้ไปรับลูกค้ารายใหญ่ที่สนามบิน เขาต้องการมาเที่ยวชมบริษัทของที่นี่ก่อนจะไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียง คำสั่งนี้มีการกำชับไว้ด้วยว่าจะต้องดูแลลูกค้าคนนี้ให้ดีที่สุด

นิรันดร์ทำตามอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง เขาให้ริทเอาลีมูซีนออกตั้งแต่เช้าวันใหม่ ไปรับลูกค้าที่สนามบิน พามาบริษัทและเดินทัวร์ดูนั่นนี่ตลอดทั้งวัน เขาไม่มีเวลาให้ริท ไม่มีแม้แต่จะส่งข้อความไปหา

ริทมีหน้าที่ขับรถ ก็ได้แต่ขับรถให้นิรันดร์จริงๆ อยู่อย่างนั้นทั้งวัน กว่างานจะราบรื่น พาแขกไปส่งโรงแรมก็ปาไปตีหนึ่ง เรียกว่านิรันดร์ขึ้นรถมาได้เจ้าตัวก็หลับเป็นตายเพราะความอ่อนเพลีย

มันไม่จบที่วันแรกแน่นอน เช้าต่อไป เช้าต่อไป และเช้าต่อไป ก็ต้องไปรับลูกค้าคนนี้ พาไปเที่ยวที่ต่างๆ ทั้งสถานที่กลางวัน สถานที่กลางคืน ต้องพาไปนอนโรงแรมหรูหรายามออกนอกเขตกรุงเทพ ริทเองก็ต้องนอนแยกออกไปเพราะเป็นแค่คนขับรถ

การพูดคุยคงมีแค่เหนื่อยไหม หิวหรือเปล่า ทนหน่อยนะ ที่นิรันดร์ได้มอบให้กับริท เด็กหนุ่มยิ้ม แล้วบอกว่าสบายมากๆ แต่นิรันดร์เป็นห่วงริทมาก ริทไม่มีบ่น ไม่มีท่าทีอ่อนล้าอ่อนแรงให้ได้เห็น อาจจะนอนหลับพักตอนที่เขาไปดูแลลูกค้าก็ได้

อยากกอดริทเอาไว้จัง...

นิรันดร์วางแผนเอาไว้ว่าวันเสาร์นี้เขาจะให้ริทมานอนที่ห้อง เขาอยากกอดริทมาก แค่มองริทจากที่นั่งผู้โดยสารก็เหมือนใจจะขาดเพราะอยากเปลี่ยนไปอยู่ข้างๆ เด็กหนุ่ม แต่เขาทำไม่ได้ ลูกค้าอยู่นี่ มีคนติดตามอีกสองคนด้วย ก็ต้องเทคแคร์ดูแลร่วมกับเลขาของเขา แต่เสาร์นี้แหละ...เสาร์นี้จะกอดริทให้หนำใจไปเลย

แต่...ปอยดันนัดนิรันดร์ไปดื่ม

จบลงที่นิรันดร์เมากลับห้อง นอนตากแอร์อยู่คนเดียวในห้องที่เขารักนักรักหนา สัญชาตญาณของนิรันดร์ค่อนข้างแม่นยำมาก มันจะรู้ตัวโดยอัตโนมัติว่าวันไหนวันหยุด ร่างกายจะเข้าสู่โหมดนิทรายาวนานเท่านาน ถ้าท้องไม่ร้อง อย่าหวังว่านิรันดร์จะตื่น

บวกกับเขาเพลียมาทั้งสัปดาห์ ทำให้นิรันดร์นอนนานและอ่อนเพลียอย่างรุนแรง เขาตื่นมาแค่กินข้าว แล้วก็นอนต่อ ได้ยินตัวเองถามหาริทนะ แต่รู้ตัวอีกทีก็หลับไปแล้ว นิรันดร์มาฟื้นจริงๆ เอาตอนดึก ดูเวลาแล้วเขาว่าริทน่าจะหลับก็เลยเลือกดูหนังฟังเพลงไปตามเรื่องตามราวให้ถึงเช้าวันอาทิตย์

“ริทล่ะครับ”

“อ๋อ ริทไม่อยู่หรอกค่ะคุณรัน วันนี้ริทไปจตุจักรกับตารวยน่ะค่ะ ไปช่วยกันซื้อต้นไม้มาลงสวน”

“แล้วจะกลับเมื่อไหร่”

“อืม อันนี้ไม่ทราบนะคะ เพิ่งจะออกไปเมื่อไม่ถึงสิบห้านาทีนี้เองค่ะ ก็คงจะราวบ่ายได้ กว่าจะขับรถไปถึง กว่าจะซื้อของซื้ออะไรอีก คุณรันมีธุระด่วนอะไรหรือเปล่าคะ ใช้ลุงช่วยไหม เดี๋ยวป้าไปบอกแกให้”

“ไม่ครับ ขอบคุณมาก” ถึงจะขัดใจที่ริทไม่อยู่ แต่เบาใจที่ริทไม่ได้ไปไหนกับคนอื่น

นิรันดร์นั่งกินข้าวเช้าของตัวเองให้เรียบร้อย เขานอนดูหนังอีกเรื่อง ออกกำลังกายอีกชั่วโมงกว่าๆ แล้วก็อาบน้ำอาบท่าลงมาข้างล่าง กะว่าจะไปนั่งเล่นในสวนย่อมเพื่อรอริท แต่เขากลับเปลี่ยนใจ เลี้ยวเข้าห้องของเด็กหนุ่มไปเสียอย่างนั้น

นิรันดร์ไม่ได้เข้าห้องนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ถ้าจะมีอะไรเปลี่ยนไป ก็คงจะต้องเป็นฟิกเกอร์ที่เพิ่มเยอะมากขึ้นเป็นเท่าตัวได้ ว่าก็ว่าเถอะ นิรันดร์ซื้อฟิกเกอร์ให้ริทเยอะมาก เยอะจนบางตัวก็ซ้ำกันยังมีเลย เขาถึงขั้นให้เลขาส่วนตัวบันทึกไว้ด้วยว่าตัวไหนเขาซื้อแล้ว ตัวไหนที่เขายังไม่ได้ซื้อ

ก็โดนตั้งคำถามจากเลขา นิรันดร์ไม่ตอบ แค่ให้ทำตามคำสั่งไม่ได้ให้ถามกลับ เท่านั้นก็ไม่มีใครหือกับเขาอีก แต่เขาก็สงสัยนะ ว่าทำไมเดี๋ยวนี้ริทไม่ถ่ายรูปฟิกเกอร์ต่างๆ ที่เขาซื้อให้ลงเฟซเหมือนเคย ตัวสุดท้ายที่ริทถ่ายลงน่าจะเป็นตัวที่เขาซื้อให้หลังมีอะไรกับริทครั้งแรกนั่นหรือเปล่านะ...?

นิรันดร์เปิดประตูเข้าห้องของริทได้เลยโดยไม่ต้องไขกุญแจ เพราะริทไม่ได้ล็อกห้อง นิรันดร์คิดว่าเขามีเรื่องไว้เอ็ดเด็กหนุ่มแล้วล่ะ ถึงในบ้านนี้จะมีระบบรักษาความปลอดภัย แต่ริทก็ควรจะล็อกห้องพักของตัวเองเอาไว้ให้เรียบร้อย

ทว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไป นิรันดร์ก็ได้แต่ยืนนิ่ง...

กล่องไปรษณีย์มากมายถูกแกะเพื่อดูของข้างในแล้วก็วางทิ้งเอาไว้อย่างนั้น บางอันเป็นถุงของห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่เขาพาริทไปซื้อฟิกเกอร์บางตัว มันไม่ได้ถูกแกะนำมาวางเรียงอย่างที่เคยเป็น

สิ่งเดียวที่นิรันดร์คิดได้คือริทไม่ให้ความสนใจกับพวกมันเลย!

หรือว่าริทก็แค่มีความสุขกับการที่เขาให้ของ สนุกกับการเห็นเขาจ่ายเงินเพื่อตุ๊กตุ่นพวกนี้ให้ตนโดยไม่แคร์ว่าคนให้จะรู้สึกอย่างไร เพราะคนให้ไม่มีทางรู้ว่าริทเก็บมันอย่างไร นี่มันต่างอะไรกับพวกเด็กขายที่เขาซื้อมานอนด้วย?

ริททำให้นิรันดร์ผิดหวังเป็นอย่างมาก คิดว่าริทจะแตกต่างกับคนอื่นๆ ที่เขารู้จัก สุดท้ายริทก็ไม่ต่างอะไรกับคนพวกนั้นเลย มีความสุขกับการได้ใช้เงินของเขา ถึงริทไม่ร้องขอแต่สิ่งที่นิรันดร์เห็นนี้ก็ถือว่าชัดเจนมากพอแล้ว

เขาเจ็บปวดกับมัน เจ็บเพราะเขาคิดกับริทมากกว่าคู่นอนอย่างที่เคยๆ ผ่านมา ริทน่าจะเป็นเด็กใสซื่อ ที่เขาเห็นการแสดงออกของริททั้งหมดมันน่าจะเป็นของจริง สุดท้ายเขาก็คิดผิด ริทอาจเป็นแค่...คนคนหนึ่งที่หลอกเขาได้อย่างแนบเนียน

ทั้งที่คิดว่าระหว่างเราจะใจตรงกัน เขาตั้งใจเป็นอย่างมากที่จะพังกำแพงของตัวเองเพื่อเปิดรับริทเข้าสู่โลกส่วนตัว เสียเวลาชะมัด เสียเวลาที่ต้องมารู้สึกดีๆ กับเด็กหนุ่มที่คิดว่าเขาเป็นเพียงกระเป๋าเงิน

ได้...ในเมื่อริททำให้สิ่งของของเขามันไร้ค่า งั้นเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องเห็นค่าเด็กขายแบบนั้น ถือว่านี่คือราคาที่เขาต้องจ่ายเพื่อร่างกายของริทก็แล้วกัน ถ้าถามว่าแพงไหม…เกรดอย่างริทจัดว่าแพงอยู่!

นิรันดร์ตัดสินใจเดินออกมาจากห้องนอนของริท เขากะว่าจะกลับเข้าห้องของตัวเองเพื่อไปนอนพักผ่อน อย่างน้อย ก็ต้องหาอะไรมาดื่มเพื่อให้เขาเลิกรู้สึกแย่กับสิ่งที่ได้เจอในตอนนี้

“อะ...อ่าวคุณรัน” เพียงเปิดประตูออกมาเขาก็พบกับริทที่อยู่ในชุดเสื้อยืดเรียบๆ กับกางเกงยีนส์ เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นิรันดร์มองว่าใสซื่อนักหนากำลังหน้าแดงตัวแดงไปหมด คงเพราะอากาศข้างนอกมันร้อนร่างกายเลยขึ้นสีอย่างนี้

“ว่างไหม” นิรันดร์เอ่ยถามเสียงเย็นชา แววตาแข็งกร้าว ยอมรับว่าโกรธแต่มันเป็นความโกรธที่ปะปนกับความเสียใจ

ก็เขา...ชอบเด็กคนนี้ไปแล้วนี่!

“ผมว่าผมจะไปช่วยลุงรวยจัดสวนน่ะครับ นี่กะว่าจะเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน คุณรันมีอะไรเร่งรีบไหมฮะ” ริทถามกลับซื่อๆ ตามนิสัยเจ้าตัว

“หน้าที่ของริทเหรอ”

“เปล่าครับ ผมแค่ไปช่วย...”. ริทเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกติของนิรันดร์

เขาทำอะไรให้นิรันดร์โกรธอีกนะ?

“ช่วยนอนกับผมดีกว่า เชื่อว่านั่นน่าจะมีประโยชน์กับริทมากกว่าการไปช่วยคนสวน” คำพูดของนิรันดร์จัดว่าแรงมากๆ ริทไม่เคยได้ยินนิรันดร์พูดแบบนี้กับเขา

เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ สีหน้าและแววตาของริทแสดงออกชัดเจนว่าเขาไม่เข้าใจนิรันดร์เลย เขาทำผิดอะไรอีกแล้ว เขาไม่ได้หายไปกับใครเลยนะ เขาแค่ไปช่วยลุงเท่านั้นเอง แล้วอะไรอีกที่ทำให้นิรันดร์ทำกับเขาแบบนี้

ริทเหลือบตาหนี เขาไม่กล้าที่จะสบตากับนิรันดร์ที่โกรธอยู่ แต่แล้วเขาก็เห็นสภาพภายในห้องที่เต็มไปด้วยกล่องฟิกเกอร์มากมาย มันไม่ได้รับการแกะออกอย่างที่ควรจะเป็น แถมยังถูกวางทิ้งเอาไว้ราวกับเป็นสิ่งของที่ไม่มีค่า

คล้ายได้เข้าใจถึงความรู้สึกของนิรันดร์ในทันที ริทเงยหน้ามองสบตาแข็งกร้าวของผู้เป็นเจ้านาย และ...เป็นมากกว่าเจ้านายในความรู้สึกของเขา แต่เขาก็ไม่รู้จะพูดยังไงดี กับข้าวของที่ถูกวางทิ้งไว้อย่างนั้น

เขาก็แค่...ไม่รู้ว่าตัวเองได้มันมาในฐานะอะไร

“เดี๋ยวผมซื้อฟิกเกอร์ตัวใหม่ให้ อยากได้แบบไหนก็บอกนะ” นิรันดร์โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ใช้เสียงที่แข็งกระด้างและท่าทางคุกคามใส่ริท แต่ริทก็ยืนนิ่ง ซ้ำยังพยายามจะมองหน้านิรันดร์

“ผมไม่มีที่อยากได้หรอกครับ”

“เพราะที่อยากได้มันได้ไปแล้วใช่ไหมล่ะ” นิรันดร์สวนกลับอย่างไว

“ผม...”

“ไม่มีเวลาเก็บ? หรือแค่เช็กของก่อนจะเอาออกไปขายต่อล่ะ อยากได้เงินสดบอกผมได้นะ ผมมีให้ริทได้เสมอแหละ ขอแค่บริการผมดีๆ ก็พอ” นิรันดร์พูดมันออกไปด้วยแรงอารมณ์ที่อยากจะประชด อยากจะต่อว่า และอยากให้ริทรู้ว่าเขาไม่พอใจแค่ไหน

แต่ที่นิรันดร์ไม่รู้ คือคำพูดของเขาได้ทำร้ายความรู้สึกของริทอย่างมากมาย...

มันเหมือนการตอกย้ำให้ริทรู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร เขาเป็นแค่คนขับรถ เป็นแค่ที่ระบายความใคร่ เป็นแค่นั้น เป็นเด็กเสี่ยที่ได้รับข้าวของต่างๆ ที่ตัวเองชอบด้วยการไปนอนให้เขาเอา แม่งโคตรเจ็บ และริทก็เก็บมันเอาไว้ไม่อยู่

เขาเพิ่งรู้นะ ว่าเขาอ่อนแอมากจริงๆ เมื่ออยู่ต่อหน้านิรันดร์ ทั้งที่คนอื่นจะด่าเขาแค่ไหน เขาก็แค่เอาหมัดหนักๆ กระแทกปากมันให้แตกไปเลย หรือแม้กระทั่งแฟนเก่า เขาก็ยังไม่รู้สึกแย่เท่านี้ นี่แค่คำพูดง่ายๆ ราบเรียบ เย็นชา แต่มันทำให้เขารู้สึกหมดแรง

“เลิกสำออยได้แล้วริท มุกนี้ใช้มากๆ ก็น่าเบื่อนะ” เพราะสีหน้ามันออกชัด นิรันดร์ก็เลยเห็นว่าเด็กคนนี้มีดวงตาที่เศร้าขนาดไหน แต่นิรันดร์บอกตัวให้อย่าหลงเชื่อ มันก็แค่เรื่องโกหก

“ผมไม่ได้จะเอาของพวกนั้นไปขายนะฮะ” ริทก้มหน้าหนีแววตา ก็เล่นบอกว่าเขาสำออย เขาก็ไม่อยากให้นิรันดร์เห็นว่าเขาอ่อนแอ

นิรันดร์จะมองว่าเขาเป็นแค่คู่นอน อาหารจานด่วน หรือแค่เด็กขายมันก็คงช่วยไม่ได้ แต่เขาไม่ได้จะเอาของเหล่านี้ไปขายต่อ ไม่เคยแม้แต่จะคิด ในสายตานิรันดร์มันอาจมีราคาเป็นแค่ตัวเลข แต่กับริทมันไม่ใช่ และอย่างน้อย...เขาก็อยากบอกว่าเขาไม่ตีค่าของพวกนี้เป็นราคา

“ผมขอโทษที่ไม่ได้เก็บมัน ผมแค่...”

“เบื่อข้ออ้างน่ะ” นิรันดร์พูดขึ้นมาลอยๆ เจ้าตัวสอดมือทั้งสองเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วมองริทเหมือนไม่มีค่า ทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอย่างที่แสดงออก

“คุณรันจะมองว่าเป็นข้ออ้างก็ได้ แต่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองคู่ควรกับของเหล่านั้น ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าผมอยากได้มัน แต่มันต้องไม่ใช่แบบนี้ ถ้าคุณรันไม่พอใจ...ผมขอโทษ ผมขอลาออก” อารมณ์เสียใจกับไม่รู้จะต้องทำยังไงกับสิ่งที่เป็นอยู่ ริทตัดสินใจพูดในสิ่งที่เขาเองคิดว่ามันคือทางออกเดียวของเขาออกไป

อย่างกับโดนริทตบหน้า นิรันดร์ชาไปหมดเพราะไม่คิดว่าริทจะพูดคำคำนี้ออกมา ในหัวเขามีคำประชด อยากจะบอกว่าอย่าเอามุกลาออกมาขู่เขา แต่อะไรบางอย่างในความรู้สึกมันบอกกับเขาว่า ถ้าเขาพูดประชดมันออกไป ทุกอย่างจะแย่ลงอย่างไม่มีทางหวนกลับมาดีขึ้นได้ แต่ก็นั่นแหละ...เขาไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องทำยังไงกับสถานการณ์ตรงหน้า

เพื่อนนิรันดร์มองว่านิรันดร์เย็นชา เลือกความส่วนตัวของตัวเองมากกว่าคนรัก ปากบอกว่ารักยังไง สุดท้ายก็เอ่ยเลิกราได้อย่างง่ายดาย แต่ไม่มีใครรู้ว่านิรันดร์เจ็บปวดแค่ไหนกับการบอกเลิกในแต่ละครั้ง เขาเองก็อยากมีคนรัก เขาเองก็อยากที่จะรักใครสักคนอย่างสบายใจ แต่หลายครั้งมันเลยเถิด ทั้งอารมณ์และความคิดที่ว่ามันไปต่อกันไม่ได้

นิรันดร์ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว เลยวัยนั้นมาก็ไม่น้อย เขาเลยนิ่งงันเมื่อเจอริทพูดแบบนี้ เขาไม่สามารถยอมให้ระหว่างเขากับริทมันแย่ลงไปมากกว่านี้ได้ แม้ว่าเขาจะรู้สึกเหมือนโดนเด็กคนนี้หลอกเอาก็ตามที

ทำไมเป็นแบบนั้น...ทำไมความรู้สึกของเขาถึงได้ขัดกันอย่างนี้

เพราะไม่ว่ายังไงริทก็ดูใสซื่อสำหรับเขาน่ะเหรอ หรือว่าเพราะเขาเอง ’รักริท’ ไปแล้ว

“ผมขอเวลาหางานสักวันสองวัน เดี๋ยวผมจะรีบย้ายออกนะครับ” ริทเก็บกลั้นน้ำตาของตนเอง เขาต้องเข็มแข็ง และเงยหน้าสบตากับนิรันดร์แม้ว่าตาของเขาจะแดงขนาดไหนก็ตาม

“ผมไม่ให้ลาออก” นิรันดร์พูดออกไปโดยไม่ต้องคิด ถึงจะไม่รู้ว่าควรเดินทางไหนต่อ แต่ทางนั้นต้องไม่ใช่การให้ริทลาออกไปอยู่ที่อื่น

“แต่...”

“ใช่ ผมไม่พอใจมากๆ ที่ริทเอาของเหล่านี้มาวางเหมือนมันไร้ค่า แต่ริทต้องอธิบาย ไม่ใช่หนีปัญหาด้วยการบอกว่าลาออก”

“แต่มันเป็นแค่ข้ออ้างนี่ครับ”

“หน้าที่ของริทคือทำให้ผมเชื่อไง” เชื่อไปแล้วได้อะไร ริทถามกับตัวเอง เชื่อแล้วจะได้กลายเป็นเด็กเสี่ยต่อน่ะเหรอ เป็นคนขับรถที่ควบตำแหน่งขายบริการหรือไง

“ว่าไง...ไอ้ที่ว่าอยากได้แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้คือยังไง” นิรันดร์ลากริทเข้ามาในห้อง ปิดประตูและจ้องหน้าเด็กหนุ่มเพื่อรอคำตอบ

ริทก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไง เมื่อสถานะเขาชัดเจนแบบนี้ เขาจะโพล่งออกไปว่าชอบนิรันดร์น่ะเหรอ เขาไม่กล้าหรอก ไม่เคยหวังสูงขนาดนั้นด้วยซ้ำ เขาเป็นแค่ลูกแม่บ้าน เป็นแค่คนขับรถ ที่สำคัญ...ความสัมพันธ์เกินเลยนี้เขาเป็นคนยินยอมให้มันดำเนินมาถึงขนาดนี้เอง เขาจะวกกลับตอนนี้ เขาจะโดนนิรันดร์หัวเราะเยาะไหม

“ผมอยากเก็บเงินซื้อเองครับ”

“หมายความว่าต่อไปต้องให้เป็นเงินไปซื้อเองใช่ไหม” น้ำตาแทบจะร่วง ถ้านิรันดร์นอนกับเขาแล้วจ่ายเป็นเงิน...มันไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้เหรอ

“ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่แบบนั้น”

“แล้วแบบไหนล่ะ อธิบายให้มันได้ดีๆ ได้ไหม” ก็เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไง แล้วมันจะไปจบที่ตรงไหน

ถ้าเกิดขอให้เลิกความสัมพันธ์แบบนี้นิรันดร์จะยอมไหม...

“ผมพูดไม่ได้” ริทรู้สึกกดดันมาก มากจนทำตัวไม่ถูก อึดอัด อยากหนีไปจากตรงนี้ ถึงโดนตราหน้าว่าเป็นคนหนีปัญหาก็ได้ แต่เขาไม่อยากมายืนตรงหน้านิรันดร์แล้ว

“ริทไม่พูด ผมก็ไม่มีทางรู้ แค่คิด ผมไม่สามารถรับรู้มันได้เองหรอกนะริท ที่ริททำอยู่ตอนนี้ ผมตีความได้แค่อย่างเดียว...ริทแค่กำลังมีความสุขกับการปั่นหัวผม มีความสุขกับการที่ผมซื้อนั่นซื้อนี่ให้ แล้วก็เอาของที่ผมซื้อให้มาทำแบบนี้” นิรันดร์ชี้ไปข้าวของตรงพื้น

“วางมันไว้ต่ำๆ เดินเตะมันเล่น อย่างนั้นน่ะเหรอ”

“ไม่ใช่ มันไม่ใช่แบบนั้น...” ริทร้องไห้จนได้ ทั้งที่คิดว่าจะไม่ร้อง แต่เขาไปต่อไม่ถูกแล้ว

นิรันดร์กดดันริทมากเกินไป!

“แล้วมันแบบไหน” นิรันดร์ขยับเข้าใกล้ริทอีกนิด แล้วก็จ้องหน้าเด็กหนุ่มที่ตอนนี้แดงก่ำไปหมด

“ผมไม่เคยเตะมันนะ ไม่เคยคิดว่ามันไม่มีค่าอะไร...ผมแค่ไม่คู่ควรกับมัน มันราคาแพงเกินไป”

“นายกำลังโกหก” นิรันดร์ไม่เคยเรียกริทว่านาย แล้วคำนี้ที่หลุดออกมาก็ทำให้ริทรู้สึกแย่ขึ้นไปอีก

“ก็ได้...ผมยอมแล้ว ผมไม่อยากรู้สึกเหมือนเด็กเสี่ย ไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองขายร่างกายตัวเองอย่างที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ ของทุกชิ้นมันมีค่า แต่มันตอกย้ำผมว่าผมได้มันมาจากการนอนกับคุณรัน ผม...ผม...ผมไม่ชอบเลย” ริทพูดออกไปในที่สุด พร้อมกับน้ำตาอันมากมายที่ไหลอาบหน้า

“ผมอยากลาออก ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว...” ริทยกสองมือขึ้นปิดใบหน้าของตัวเอง ร่างกายของเขากำลังงองุ้มดูไม่ได้เพราะเขารู้สึกแย่กับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้

แต่ทุกคำพูดนั้นมันทำให้นิรันดร์รู้ว่าสุดท้ายจากที่เขาไม่ต้องการทำร้ายริท เขาก็ได้ทำมันลงไปโดยไม่รู้ตัวเลย เขาทำให้ริทคิดมาก เขาทำให้ริทอยู่กับความบั่นทอนของตัวเอง ทั้งๆ ที่เขาก็พอจะรู้ว่าริทรู้สึกอย่างไรกับเขา แล้วข้าวของที่เขาได้มอบให้ริททั้งหมดนั้นมันไม่ใช่ค่าตัว เขาแค่...อยากให้ริทมีความสุข

บางที...นิรันดร์คงใช้เงินซื้อความสุขมากเกินไป

จนหลงลืมว่าความรู้สึกของคนนั้นมันใช้เงินเติมเต็มไม่ได้ แต่มันต้องเติมเต็มด้วยการกระทำที่ชัดเจน และคำพูดที่แสดงออกถึงความรู้สึกที่เขาได้มีต่ออีกฝ่าย เรื่องนี้เขาผิดเต็มๆ เขาเถียงอะไรไม่ได้เลยนอกจากยอมรับความผิดในครั้งนี้เอาไว้เอง

….100%….

ต้องเห็นน้องน้องไห้ก่อนถึงเข้าใจสินะคุณรัน นอกจากเข้าใจแล้วก็ต้องรักษาใจน้องด้วยนะรู้ไหม โอ๋ๆ น้องน้า //กอดนุ้งริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-06-2019 22:17:15
สงสารน้องงงง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-06-2019 22:35:08
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-06-2019 22:37:42
 :sad4: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Philosophy ที่ 07-06-2019 22:49:16
ดีใจ อย่างน้อยคุณรันก็ได้รู้เหตุผลของริท จะได้ไม่เข้าใจริทผิด
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 07-06-2019 23:18:06
โอ๋ สงสารริทมากลูก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 07-06-2019 23:37:03
คุณรันเข้าใจแล้วก็อย่าปากแข็งอีกนะ อธิบายความรู้สึกตัวเองให้น้องรู้บ้าง

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 07-06-2019 23:59:09
แล้วคิดดูว่าน้องได้มานานขนาดไหน
เก็บมานานแค่ไหน
เอาเล้ย คุณรัน จะทำไรอีก  :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 08-06-2019 00:29:23
สงสารน้องริทมากมาย คุณรันควรจะรู้ตัวได้แล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 08-06-2019 01:37:09
อยากจะตีคุณรันแรงๆ ทำน้องร้องไห้เลย แต่ก็ยังดีนะที่รู้สึกตัวได้ว่าทำให้น้องเสียใจขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 08-06-2019 05:13:47
อยากต่อยรัน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-06-2019 08:23:46
 :pig4: :pig4: :pig4:

น้อน  หนีไปเลย  อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-06-2019 11:06:04
คุณรัน คุณมันโง่และหลงตัวเอง หลงกับวัตถุ เชียร์ให้น้องออกไปอยู่ข้างนอก คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก พี่แกมโนเก่งเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 08-06-2019 11:43:47
สงสารริทจัง
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-06-2019 17:15:10
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 09-06-2019 07:33:34
หวังว่าคุณรันจะคิดอะไรได้บ้างนะ ถ้าไม่ได้ริทก็บายเถอะลูก :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 09-06-2019 09:45:32
รู้ซะทีนะคุณร๊านนนนน ปลอบริทให้ดีนะ ให้ริทรู้สึกว่ามีค่า
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 17 - 100% [07-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: YBlood ที่ 10-06-2019 14:08:40
น้องริทหนีปายยยย ให้คนปากเสียสำนึกผิดบ้างมาถึงด่าน้องปาวๆ ชิ


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 14-06-2019 16:06:56
>….ตอนที่ 18 [100%]….<

นิรันดร์ประชิดตัวริททีละน้อย ค่อยๆ ใช้สองแขนนี้โอบเด็กหนุ่มให้เข้ามาสู่อ้อมอกด้วยความรู้สึกผิด เขามันคิดน้อยไปหน่อย แค่อยากจะลองดูใจเด็กหนุ่มคนนี้ต่อไปสักพัก ข้าวของที่มอบให้ก็เพื่ออยากเห็นริทมีความสุข นิรันดร์ถึงแทบไม่ซื้ออะไรอย่างอื่นเลยนอกจากของเกี่ยวกับการ์ตูนที่ริทนั้นชอบ

แต่ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าไม่บอกความรู้สึก ไม่แสดงเจตจำนงของตัวเองให้ชัดๆ การกระทำแบบนี้มันก็ตีความได้แค่ที่ริทคิดจริงๆ นั่นแหละ นิรันดร์ซบหน้าลงกับลาดไหล่ของริท กระชับกอดแน่นๆ เพื่อจะให้ริทคลายสะอื้นลงได้บ้าง

“ผมขอโทษ ผมขอโทษที่ทำให้ริทคิดไปแบบนั้น...” นิรันดร์กระซิบบอกคำขอโทษใกล้กับใบหู ถึงมันจะไม่สวยหรู แต่มันก็ออกมาจากความรู้สึกของนิรันดร์จริงๆ

“ไม่...คุณรันไม่ได้ผิดหรอกครับ”

“แต่ผมทำให้ริทคิดมาก ผมขอโทษจริงๆ ผมไม่เคยคิดว่าริทเป็นเด็กขายเลยนะ แต่พูดไปก็เท่านั้น ต่อไป...ผมจะไม่ทำแบบนี้แล้ว อย่าลาออกเลยนะ” อ้อมแขนรัดร่างโปร่างเอาแน่นขึ้น

ริทก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมาได้ยินคำพูดแบบนี้ ไม่รู้นิรันดร์โกหกเขาหรือว่านิรันดร์พูดความจริง ทว่าสำหรับริท แค่ได้ยินคำว่าขอโทษเขาก็ใจอ่อนแล้ว อยากจะให้อภัยในสิ่งที่นิรันดร์ได้ทำ มันไม่ใช่ความผิดนิรันดร์ทั้งหมด มันเริ่มจากเขาด้วย เขายินยอมก่อน ทำตัวเองก่อน เพียงเพราะอารมณ์มันไหลไปและตัวเขาไม่อาจห้ามความต้องการได้

“เริ่มต้นกันใหม่นะริท” นิรันดร์ถอนกอด ดวงตาคมจ้องสบตากับริทอย่างแน่วแน่

“อืม...ครับ” เมื่อริทขานรับ นิรันดร์ก็เช็ดน้ำตาให้พร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้า

ริทไม่กล้ามองหน้านิรันดร์ เขาเก้อเขินมากเกินไป ทั้งมาร้องไห้ ทั้งคำพูดที่ได้พูดออกไป จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนไม่น่าทำแบบนั้นลงไปเลย แต่ก็ดี เขาจะได้ไม่ต้องอยู่ในห้วงความรู้สึกแย่ๆ เชิงนั้นอีกแล้ว

แต่...จากนี้เขากับนิรันดร์จะเป็นยังไง?

การเริ่มต้นใหม่นี้หมายถึงเขากับนิรันดร์จะกลายเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้องจริงๆ อย่างที่ควรจะเป็นมาตั้งแต่ต้นใช่ไหม นั่นสินะ มันจะไปหมายถึงอะไรได้ล่ะ คู่นอนของนิรันดร์ก็มีอยู่แล้ว เขาแค่ถอนตัวออกมา ยังไงหน้าที่นั้นก็จะมีคนอื่นเข้ามาทำแทน แต่หน้าที่คนขับรถมันเป็นของเขา

บ้าจริง...ถ้าเป็นแบบนั้นมันจะแย่กว่าที่เคยเป็นมาหรือเปล่า?

ตอนนี้ริทไม่ได้คิดกับนิรันดร์แค่เจ้านายกับลูกน้องอย่างที่ควรจะเป็น แม้ว่าเขาจะพยายามหักห้ามใจตัวเองแค่ไหนก็ตาม การแนบชิด การสนิทสนม และการได้รับการดูแลเทคแคร์จากนิรันดร์มันทำให้เขาคิดเกินเลยไปแล้ว

เขาไม่สามารถมองดูนิรันดร์นอนกับคนอื่นได้หรอก มันต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ นี่เขาคิดถูกใช่ไหม แค่โกหกเรื่องของแล้วยื้อความสัมพันธ์นี้เพื่อจะไม่ต้องเจ็บมากกว่านี้ นั่นเป็นสิ่งที่เขาควรทำสิ แต่มันไม่ทันแล้ว...เขาทำมันลงไปแล้ว

ก็แค่ยอมรับความจริง ยังไงซะ เขากับนิรันดร์ก็ไม่มีทางไปได้ไกลกว่าคู่นอนหรอก เขาเป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เป็นแค่ลูกแม่บ้านที่ไม่ได้มียศฐาบรรดาศักดิ์อะไรด้วย ไม่มีอะไรคู่ควรกับนิรันดร์สักอย่างเลย

“คิ้วขมวดอะไรหืม” นิรันดร์โน้มหน้าเข้ามาใกล้ ริทตกใจเผลอถอยเท้าหนีแต่ลืมไปว่าเอวของเขานั้นอยู่ในวงแขนหลวมๆ ของนิรันดร์

“อ๊ะ...เอ่อเปล่าครับ” เกือบล้ม ดีที่นิรันดร์รั้งเอาไว้

“คิดมากอะไรอยู่หรือเปล่า มีอะไรพูดกับผมได้นะ” ท่าทีเปลี่ยนไปเยอะเลย ริทคิด ก่อนหน้านี้ยังดูโกรธ ดูเย็นชาใส่เขา คำพูดคำจาร้ายกาจ อาจเพราะนิรันดร์กำลังไม่พอใจกับการที่เขาวางทิ้งข้าวของไว้บนพื้น

“เปล่าครับ ผมว่าผมเก็บของพวกนี้ให้เข้าที่ดีๆ ดีไหมครับ” ริทเงยหน้าที่ยังคงแดงเรื่อจากการร้องไห้มองนิรันดร์

“เอาสิ ผมช่วยนะ”

“เอ่อ ไม่เป็นไรฮะคุณรัน ผมเก็บเองก็ได้ คุณรันไปพักผ่อนเถอะฮะ คุณรันทำงานเหนื่อยมากทั้งอาทิตย์แล้ว ถ้ามาช่วยผมเก็บของมันก็เท่ากับคุณรันไม่ได้พักน่ะสิครับ” ริทพยายามยิ้มบางให้กับเจ้านาย

“อยู่กับริทก็ถือเป็นการพักผ่อนของผมนะ” แค่คำพูดง่ายๆ ทว่ามันกลับทำให้คนฟังรู้สึกใจพองฟู

ไม่ดีเลยแบบนี้ ถ้านิรันดร์ไม่ได้คิดอะไรก็ไม่ควรทำแบบนี้กับเขานะ หรือว่านี่ก็แค่น้ำใจที่นิรันดร์มีต่อลูกน้องของเขาเอง อาจจะเป็นแบบนั้น เพราะนิรันดร์ใจดีกับลูกน้องเสมอ ขนาดลุงช่วยยังเคยเล่าเรื่องของนิรันดร์ให้ริทฟังบ่อยๆ เลย

จะว่าไปแม่ริทก็เคยเล่าให้ริทฟัง ว่านิรันดร์เป็นคนชอบเก็บเนื้อเก็บตัวมาตั้งแต่เด็ก ทั้งที่ครอบครัวก็อบอุ่น แต่นิรันดร์มักคลุกตัวอยู่บนที่นอนนุ่มๆ ของตนเอง เปิดหนัง เปิดการ์ตูนดูไปตามเรื่องตามราว จะออกมาข้างนอกก็ต่อเมื่อพ่อหรือแม่กลับมา แทบไม่เคยเห็นนิรันดร์ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน

ต้องบอกว่าเป็นคนโลกส่วนตัวสูงและรักความสงบก็ได้ ริทก็เห็นนะ ตอนที่นิรันดร์กลับมาอยู่นี่ วันหยุดนิรันดร์ก็อยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง ข้างๆ ห้องนิรันดร์จะมีห้องสำหรับออกกำลังกาย เรียกว่าไม่ต้องไปไหนแค่อยู่บนห้องก็ทำได้ทุกอย่าง

ริทมองหน้านิรันดร์ที่ช่วยเขาแกะกล่องใบต่างๆ ซึ่งมันบรรจุเหล่าฟิกเกอร์เอาไว้มากมายด้วยสายตาสงสัย ทำไมคนโลกส่วนตัวสูงคนนั้นถึงมาอยู่ในห้องของเขา มาช่วยเขาเก็บของ ทั้งที่นี่เป็นวันหยุดอันแสนมีค่าสำหรับนิรันดร์

“แม่บอกว่าคุณรันชอบอยู่คนเดียว...” จู่ๆ ริทก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ มีความกล้าๆ กลัวๆ เล็กน้อย

“หืม...ก็ใช่นะ ผมชอบอยู่คนเดียว”

“แล้วมาอยู่กับผมแบบนี้ไม่อึดอัดเหรอฮะ ส่วนใหญ่ คนที่ชอบอยู่คนเดียวเขามักใช้เวลาว่างอยู่คนเดียวหนิฮะ” ริทคิดเอาเอง แล้วก็เดาๆ จากพวกการ์ตูนที่เขาเคยอ่าน ในชีวิตจริง ริทไม่เคยเจอคนรักสันโดษแบบนิรันดรหรอก เจอแต่คนชอบดื่มชอบเที่ยวเสียมากกว่า

“ก็จริง ผมอยู่กับใครนานๆ ไม่ค่อยได้หรอกถ้าไม่ใช่คนในครอบครัว ผมจะรู้สึกอึดอัด รำคาญ แล้วก็อยากจะหนีไปนอนเงียบๆ คนเดียวมากกว่า แต่การอยู่กับริทไม่ทำให้ผมรู้สึกอยากหนีไปนะ” รอยยิ้มบางๆ ของนิรันดร์ทำเอาริทใจหายวาบ มัน...เป็นอาการที่อธิบายยากเพราะตอนนี้มือไม้ริทสั่น หัวใจเต้นแรงและหน้าก็แดงไปด้วย

คำพูดพวกนี้...มันหมายถึงว่าอยู่กับเขาแล้วสบายใจหรือเปล่านะ?

“อ๋อ ดีจังครับ กลัวทำให้คุณรันอึดอัด”

“ริทอะคิดมาก ถ้าผมอึดอัดเวลาอยู่กับริท ผมไม่มาหาริทถึงที่ห้องหรอกนะ ไม่นอนดูการ์ตูนกับริทด้วย แล้วก็คงไม่อยากให้ริทอยู่กับผม...” ริทไม่อยากเข้าข้างตัวเอง แม้ว่าคำพูดเหล่านี้มันจะชวนให้คิดมากแค่ไหน เขาพยักหน้าที่แดงระเรื่อของตนแล้วเก็บข้าวของต่อไปไม่ยอมสบตา

มันกลัวน่ะ กลัวจะทำหน้าไม่ถูก สีหน้าเขาจะแย่หรือเปล่า มันจะแดงจัดจนเกินไปไหม ให้ตาย เวลาอยู่กับคนที่ตัวเองชอบมันจะไม่มีอาการประหม่ามั้งเลยไม่ได้เหรอ ทำไมมันต้องรู้สึกเก้งก้างและเกร็งไปหมดแบบนี้ นอนด้วยกันก็ทำมาแล้วนะ! ไม่น่าจะมาเขินอะไรกันแบบนี้เลย

พอเก็บเหล่าฟิกเกอร์เข้าชั้นเรียบร้อย ริทก็ยืนเก้งๆ กังๆ ไม่รู้จะทำอะไรต่อ เขามองนิรันดร์ไล่ถ่ายรูปฟิกเกอร์บนชั้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ใจมันฟูฟ่องอย่างกับฟองสบู่ จริงๆ แค่ได้อยู่ใกล้ๆ แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับเขา

“ผมว่าชั้นวางของของริทมันเล็กไปแล้วนะ เนี่ย...ใส่ฟิกเกอร์ไม่พอแล้ว” ก็ใช่ ริทมีแค่ชั้นราคาไม่กี่ร้อยที่ซื้อมาจากร้านเฟอร์ในตลาด เมื่อก่อนเขาใส่หนังสือการ์ตูน ตอนนี้เอาออกเพื่อจะวางฟิกเกอร์โดยเฉพาะ

“คุณรันซื้อมาให้เยอะเองนี่ครับ เดี๋ยวสิ้นเดือนผมค่อยหาซื้อชั้นใหม่ก็ได้ อยากได้ที่เป็นตู้กระจกมาเก็บเหมือนกัน มันคงสวยน่าดู” ตู้กระจกราคาไม่ใช่เล่นๆ แต่ริทน่าจะซื้อได้เพราะเขาไม่ได้เอาเงินไปใช้อะไรเยอะแยะอยู่แล้ว

“ผม...อื้อ ก็ดี” นิรันดร์เกือบจะบอกว่าเดี๋ยวผมซื้อให้ แต่เขาก็เงียบไปเมื่อคิดได้ว่าริทไม่ชอบที่เขาเป็นฝ่ายให้ไปเสียทุกอย่างแบบนี้

“ครับ” ริทยิ้มกว้าง

“งั้นผมช่วยเลือกนะ ถ้าริทจะไปซื้อ บอกผมด้วย”

“ได้เลยฮะคุณรัน แต่ผมคงไม่ซื้อใหญ่มากหรอก ห้องมันแคบ เดี๋ยวผมไม่มีที่นอน ฮ่าๆ” ริทหัวเราะเบาๆ เขาค่อยๆ เดินไปนั่งริทเตียงข้างกับนิรันดร์ที่กำลังถ่ายรูปฟิกเกอร์อยู่

ถ้าริทอยากได้ห้องใหม่ แค่บอก นิรันดร์จะให้ห้องใหม่กับริท ถ้าริทอยากได้ชั้นวางฟิกเกอร์สวยๆ เขาก็พร้อมที่จะซื้อให้ริท แต่ในเมื่อรู้แล้วว่าริทรู้สึกแย่กับสิ่งที่เขาให้ไป เขาก็ต้องหยุดให้สิ่งของที่มาจากเงินทอง แล้วเปลี่ยนไปมอบความรู้สึกดีๆ ให้กับริทแทน

ตอนมีแฟน...เขาปฏิบัติกับแฟนยังไงนะ?

นิรันดร์หวนนึกถึงวันวานในอดีต แต่ก็ไม่เจออะไรที่เขาทำให้แฟนโดยไม่ใช้เงินเลย ส่วนใหญ่ก็ชอปปิง  เที่ยว ของขวัญวันครบรอบต่างๆ นาๆ โดยจะรู้ว่าอีกฝ่ายอยากได้อะไรจากการที่อีกฝ่ายคอยพูดเรื่องสิ่งของเหล่านั้นเสมอ อย่างเดียวที่ไม่ใช่เงินก็คงเป็นเซ็กซ์

นิรันดร์ขอนอนดูการ์ตูนกับริทที่ห้องเหมือนครั้งก่อนที่เข้ามา ริทก็ยินดีที่จะให้นิรันดร์นอนดูการ์ตูนด้วยกัน ระหว่างที่การ์ตูนกำลังฟาดฟันกันอย่างดุเดือด นิรันดร์ก็เข้าไปส่องเฟซของริทเล่นทั้งที่ยังดูการ์ตูนไปด้วยกัน

ตอนแรกทั้งสองนอนค่อนข้างห่าง เตียงแค่สามจุดห้าฟุต สำหรับริทมันพอดี แต่สำหรับนิรันดร์มันเล็ก นิรันดร์เอาความเล็กของเตียงมาเป็นข้ออ้างให้ตัวเองนอนเบียดเด็กหนุ่มได้อย่างชอบธรรม นอนไปนอนมาก็จับริทนอนหนุนแขนตัวเองแล้วดูการ์ตูนไปด้วยกัน

ตกเย็นท้องของริทร้องดังลั่นห้อง เสียงนี่ดังกว่าการ์ตูนที่เปิดดูกันอยู่ด้วยซ้ำ เล่นเอานิรันดร์หัวเราะไม่หยุด ริทเขินหน้าดำหน้าแดง นิรันดร์ไม่เคยหัวเราะเยาะเขาแบบนี้นี่ แถมยังน่ามองมากๆ ในสายตาของริทด้วย

นิรันดร์ชวนริทกินหมูกระทะกันตอนเย็น เป็นการกินที่ไปช่วยกันเตรียมของในห้องครัวในบ้าน ไม่ใช่ออกไปกินร้านหรูข้างนอกอย่างที่นิรันดร์ทำตามปกติ ริทก็แปลกใจน้า แต่ก็คิดว่าดีเหมือนกัน สวนหน้าบ้านเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการนั่งย่างหมูเป็นที่สุด แถมที่นี่ก็ยังมีเตาหมูกระทะไว้พร้อมด้วย

“คุณรันแน่ใจนะคะว่าจะให้เจ้าริทมันเตรียมของ” ป้าหัวหน้าแม่บ้านมองชายหนุ่มที่คนหนึ่งเป็นเจ้านาย อีกคนเป็นลูกชายด้วยสายตาไม่ไว้วางใจสุดๆ ก็...สภาพแต่ละคนไม่น่าเข้าครัวรอด

“ริทจัดของแค่นี้ไม่ได้เหรอครับป้า” นิรันดร์พูดยิ้มๆ เขามองเย้าริทให้เขินเล่นด้วย

“โถคุณรัน นอกจากกินกับนอนแล้วไอ้ริทมันก็ต้มมาม่าเป็นอย่างเดียวเท่านั้นแหละค่ะ ขนาดให้ล้างผัก ผักยังช้ำไปหมด ให้หั่นผักก็เงอะๆ งะๆ ไม่ได้เรื่องเลย ป้าว่าเดี๋ยวป้าเตรียมให้ดีกว่าค่ะ คุณรันจะทานตรงสวนหน้าบ้านใช่ไหม ป้าจัดให้” ป้าออมเข้าไปแย่งถุงหมูมาจากมือลูกชายที่ทำหน้าเหมือนไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดี

“งั้นผมไปเอาเครื่องดื่ม คุณรันดื่มอะไร”

“ไม่ต้อง เดี๋ยวเหล้าคุณรันร่วงลงมาแตก เอาเตาไปเสียบปลั๊กรออย่างเดียวพอ” คนเป็นแม่ตัดบทเรียบร้อย เธอไม่ไว้ใจลูกชายของเธอ เพราะเหล้าแต่ละขวดนั้นไม่ใช่ราคาหลักร้อย เกิดเสียหายขึ้นมามันจะลำบากชดใช้ไมไหว

“ฮ่าๆ ขนาดแม่ยังไม่ไวใจให้ริททำอะไรเองเลยอะ แบบนี้ริทน่าจะทำได้แค่ต้มมาม่าไปตลอดชีวิต” นิรันดร์โน้มเข้ามากระซิบขำขันกับริทขณะเดินไปที่หน้าสวน

“โห่คุณรัน อย่าตอกย้ำผมสิฮะ ผมไม่ผิดน้าที่ผมมือไม้หนักไปหน่อยอะ แม่เองก็กลัวนั่นกลัวนี่ ผมทำอะไรไม่เคยได้ดั่งใจแม่อะ ขนาดถูบ้านนะคุณรัน แม่ยังบ่นแล้วบ่นอีกว่าผมถูบ้านยังไม่สะอาดแล้วจะไปทำมาหากินอะไรได้ แหม ผมไม่ได้ทำงานถูบ้านไหมล่ะ” ริทบ่นงุ้งงิ้ง ก็เรื่องแม่ เรื่องเพื่อน เรื่องการ์ตูนนี่ขอให้บอก เขาสามารถกลายเป็นตาแก่ขี้บ่นได้ทันทีเลย

“แปลกใจเลยนะเนี่ยที่ขนาดถูบ้านแม่ยังบ่นริท ผมว่าริทก็ทำความสะอาดรถได้เอี่ยมนี่นา”

“ที่แม่บ่นมันเมื่อก่อนครับ ตอนนี้ผมถูบ้านคล่องแล้วไง เรื่องรถเนี่ยก็เพราะแม่บ่นนี่แหละ ก็เลยพยายามทำให้เนี้ยบขึ้น”

“อืม เก่งจังครับ” คำชมตรงๆ กับรอยยิ้มหวานหยดของนิรันดร์ทำเอาริทหน้าแดงอีกแล้ว! บอกแล้ว...อย่ามาทำดาเมจใส่หัวใจเขา มันไม่ดีเลย

“คุณรันเลิกหล่อที” ริทบ่นเบาๆ

“หือ เลิกหล่อเนี่ยนะ ผมไม่ได้หล่อขนาดนั้นซะหน่อย”

“ไม่จริง คุณรันหล่อเกินไป ผมใจบางไปหมดล่ะ”

“ใจบางแปลว่าอะไร” ศัพท์วัยรุ่นมันคงมึนงงไปหน่อยสำหรับชายหนุ่มอายุเกือบสามสิบ เอ๊ะ หรือต้องบอกว่ามันเพราะนิรันดร์ไม่ค่อยได้เสพเรื่องบันเทิงตามโซเชี่ยลมิเดียร์มากกว่า

“เอ่อ...ก็ประมาณใจอ่อนยวบ เอ่อ อ่อนไหวหวั่นไหว เอ่อ...ชอบจนละลายมากๆ อะไรทำนองนั้นอะฮะ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน ผมใช้ตามเขามาอีกที แฮ่ๆ” ริทหัวเราะแหยๆ เขาหาคำตอบที่ตรงจุดมาไม่ได้อะ มันน่าจะราวๆ นี้

“อ๋อ ผมหล่อมากจนริทหวั่นไหวใจละลายเลยงี้” ตรงเกินไปดาเมจก็แรงอยู่ดี ริทนิ่งไปหน่อย…มองหน้าแล้วก็เสหน้าหลบ

“ครับ”

“ริทชอบเพราะผมหล่อเหรอ”

“ก็ไม่เชิงทั้งหมดหรอกฮะ”

“แล้ว...”

“ผมไปเอากระทะก่อนนะครับ” รีบชิ่งก่อนน้า บอกแล้วไง เรื่องบ่นแม่ บ่นเพื่อน บ่นดินฟ้าอากาศน่ะริททำได้สบายมาก แต่กับเรื่องนิรันดร์...มันเป็นแบบนั้นไม่ได้

ริทเอากระทะมาวางไว้ที่กลางโต๊ะหินอ่อนมีที่นิรันดร์นั่งเท้าคางรออยู่ก่อนแล้ว ริทแค่ส่งยิ้มให้ เขาเข้าไปของอื่นๆ จากครัวออกมาวางอีก พวกหมู กุ้ง หมึกหรือแม้กระทั่งผัก ก็เดินอยู่หลายรอบเพราะแม่เขายังเตรียมส่วนอื่นๆ อยู่ และบ้านแม่คนอื่นก็ไม่ได้เข้ามายุ่ง ริทก็งงเหมือนกันว่าทำไม

ทั้งโต๊ะมีแค่ริทกับนิรันดร์เพียงสองคน ป้าออมเอาเครื่องดื่มที่นิรันดร์ชอบมาเสิร์ฟให้ก่อนจะเดินจากไป ริทไม่สามารถไปได้เพราะนิรันดร์ต้องการเพื่อนกินหมูกระทะ เหตุผลก็ง่ายๆ กินคนเดียวมันเหงาเท่านั้นเอง

ที่จริงนิรันดร์ไปเห็นในเฟซว่าริทอยากกินหมูกระทะ เพื่อนของริทแท็กมาให้เมื่อไม่กี่วันก่อนแล้วริทก็บอกว่าอยากกินแต่ไม่มีเวลา บ่นงุ้งงิ้งใส่เพื่อนว่าเพื่อนช่างทำร้ายคนนอนดึกอย่างเขาเสียเหลือเกิน นิรันดร์จึงเลือกหมูกระทะเป็นอาหารเย็นทั้งที่เขาไม่คุ้นเคยกับการกินมันเลย

“คิดไงกินหมูกระทะครับเนี่ย” ระหว่างย่างหมูริทก็ถามนิรันดร์ที่กำลังพลิกกุ้งแม่น้ำตัวโตบนเตา

“ไม่รู้สิ หมูกระทะมันเหมาะกับการกินในสวนหน้าบ้านดีมั้ง”

“แต่หมูกระทะมันไม่น่าเข้ากับวิสกี้นะฮะ ฮ่าๆ” ต้องขออภัยที่ตลกกับเรื่องนี้นิดหน่อย ริทมองว่าหมูกระทะเหมาะกับเบียร์มากกว่า

“แล้วมันเหมาะกับอะไร เบียร์เหรอ”

“ใช่ครับ”

“งั้นริทไปเอามาสิ เอามาดื่มด้วยกัน ผมดื่มวิสกี้คนเดียวก็ว้าเหว่นะ” นิรันดร์หยอดเสียงเหงาหงอยกับดวงตาแพรวพราวใส่ ริทรับรู้มัน และเขาก็เลือกที่จะยืนขึ้นเพื่อเข้าไปเอาเบียร์

“ครับ ผมไปเอามาให้”

นี่นับเป็นการเริ่มต้นใหม่ไหม? เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ริทรู้สึกถึงบรรยากาศหวานๆ ที่ออกมาจากตัวของนิรันดร์ยังไงก็ไม่รู้ เขาบอกกับตัวเองว่ามันแค่ความเพ้อเจ้อส่วนตัว ไม่ได้มีอะไรในรอยยิ้มและน้ำเสียงอ่อนโยนนั้น นิรันดร์แค่เป็นคนแบบนี้ มีแต่เขาเองนั่นแหละที่คิดมากไป

โถ...คิดเกินเลยไปแล้วหนิ!

เบียร์เย็นๆ กับหมูกระทะเข้ากันได้ดีอย่างที่ริทบอก สายลมยามเย็นโชยมาเรื่อยๆ ไม่รุนแรงแต่เย็นสบาย เสียงพูดคุยของริทกับนิรันดร์เป็นเพียงเสียงเดียวที่อยู่ในสวนหน้าบ้าน ไม่มีใครเฉียดกายเข้าไปใกล้เขาทั้งคู่

ก็ใครจะกล้าขัดคำสั่งนิรันดร์ล่ะ!

“คุณรันแกดูเอ็นดูไอ้ริทเนอะป้า” เสียงป้าแม่บ้านคนหนึ่งพูดขึ้น ป้าออมแม่ของริทเฝ้ามองทั้งคู่จากมุมข้างครัว

“อืม” สำหรับเธอแล้ว นี่มันค่อนข้างแปลก นิรันดร์ไม่เคยออกมากินอาหารนอกบ้านกับคนอื่น นอกจากพ่อแม่ของนิรันดร์เอง

“พักนี้ไอ้ริทเองก็คลุกอยู่แต่คุณรัน ฉันเห็นริทเข้าๆ ออกๆ ห้องคุณรันเป็นว่าเล่น ทั้งที่คุณรันแกไม่ค่อยชอบให้ใครเข้าห้องตัวเอง แสดงว่าลูกป้าต้องเป็นคนโปรดของนายแน่ๆ เลย” แม่คนหนึ่งเอ่ย มือก็เช็ดจานเช็ดชามที่เพิ่งล้างเสร็จ

“นี่ถ้าไม่ใช่ผู้ชายทั้งคู่ ฉันคิดว่าลูกป้าจะกลายเป็นเมียคุณรันแล้วนะเนี่ย ฮ่าๆ” แม่บ้านอีกคนเสริมทับคนแรกที่ตั้งข้อสังเกต

“คิดอะไรพิเรนถ์ๆ คุณรันแกคงเจอคนหนุ่มที่คุยกันรู้เรื่องแหละ ที่นี่มีแต่อะไร ลุงแก่ๆ กับป้าแก่ๆ” แม่บ้านที่คนที่เช็ดจานว่า

“ก็ใช่ ฉันแค่คิดเล่นๆ หน่า” ทั้งสองพูดคุยกันเป็นเรื่องสนุก แต่คนฟังอย่างหัวหน้าแม่บ้านคนนี้ไม่ขำเท่าไหร่นัก

หัวหน้าแม่บ้านอย่างเธอรู้ดีว่านิรันดร์มีเรื่องใดปกปิด ถึงแม้ตาช่วยจะไม่ได้พูดพร่ำเพื่อแต่เรื่องแบบนี้มันพ้นหูพ้นตาเธอยาก เธอกำลังระแวงว่าลูกชายของเธอจะตกไปอยู่ในที่นั่งลำบาก ก็ได้แต่หวังว่านิรันดร์จะไม่ได้คิดอะไรกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธออย่างที่ตาช่วยเคยพูดเกี่ยวกับนิรันดร์ยามอยู่บนรถลีมูซีน

เพราะถ้าเป็นแบบนั้น...แม่อย่างเธอคงใจสลายไม่น้อยเลย

....100%....

แม่ของริทกำลังระแคะระคายเรื่องของริทกับนิรันดร์แล้วหรือเปล่านะ? แล้ว...มันจะเกิดอะไรขึ้นกันล่ะ ชักน่าสนุกขึ้นแล้วสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 14-06-2019 16:31:54
กลัวเซ้นคุณแม่แล้วค่า
ถ้ารู้ความจริงแล้วจะเป็นยังไงต่อ  :ling2:
แต่ริท เริ่มต้นใหม่ไม่ใช่กลับไปเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ลู๊กกกกกกกกกกกกกกก
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 14-06-2019 17:01:40
เซนต์ของคนเป็นแม่แรงเสมออออ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 14-06-2019 18:07:12
รู้ความจริงแล้วคงวางตัวกันลำบาก
แม่ริทรู้ไหมนะว่าน้องชอบผู้ชาย..

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-06-2019 19:49:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-06-2019 20:47:02
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-06-2019 20:54:48
เอาแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-06-2019 20:57:51
ถ้าแม่รู้ความจริง จะพาริทลาออกไปอยู่ที่อื่นป่าวนะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-06-2019 21:49:00
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-06-2019 23:47:05
 :sad3: :sad3: :sad3: ไม่นะคุณแม่
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 15-06-2019 00:59:12
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 18 - 100% [14-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 16-06-2019 21:03:36
ແມ່คิดถูกแล้วละค่ะແມ່   :jul1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-06-2019 19:53:25
>….ตอนที่  19 [100%]….<

เมื่อเอ่ยปากว่าจะเริ่มต้นใหม่ นิรันรด์ก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อยในสายตาของริท อีกฝ่ายเข้ามาหาบ่อยขึ้น ส่งข้อความมาถามหรือไม่ก็ชวนกันไปกินมื้อเที่ยงด้วยกันถ้านิรันดร์ไม่ติดภารกิจกับลูกค้า

ไม่มีของแพงๆ ถูกส่งมาให้อีกแล้ว นิรันดร์เปลี่ยนเป็นพาริทไปเดินหาอะไรกินด้วยกันหลังเลิกงานมากกว่า การเลี้ยงข้าวลูกน้องนั้น ไม่ถือว่าทำเกินไปใช่ไหมล่ะ เขาก็แค่เลือกที่จะดูแลเทคแคร์ริทในมุมที่เขาสามารถทำได้โดยริทไม่รู้สึกอึดอัด

นิรันดร์มักสังเกตดูริทเสมอว่าริทโอเคกับสิ่งที่เขาทำไหม ตอนนี้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเด็กหนุ่มบ่อยขึ้น ไหนจะบทสนทนาต่างๆ ที่พวกเขาใช้ร่วมกัน นิรันดร์ยอมรับว่าเขาต้องหันมาดูการ์ตูนบ้างเพื่อจะหาเรื่องพูดคุยกับริท

ปอยถามเขา...เขาจริงจังใช่ไหม

คำตอบมันแน่อยู่แล้ว!

หญิงสาวคนสนิทแอบสงสัยไม่น้อยว่าทำไมเด็กหนุ่มคนขับรถคนนี้ถึงมัดใจเขาได้ ทั้งที่เขาเองไม่คิดจะจริงจังกับใครมานานหลายต่อหลายปีแล้ว นิรันดร์ก็ไม่รู้จะตอบเธอแบบตรงไปตรงมายังไง ในเมื่อความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นมานั้นมันเริ่มต้นอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ พัฒนาจนกลายเป็นความลึกซึ้ง ไม่ใช่จู่ๆ ก็เป็นรักแรกพบ

เขาก็แค่...เอ็นดูเด็กคนนี้

ริทเป็นเด็กที่น่าเอ็นดูเพราะริทมีรูปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างอะไรกับเด็กช่างกลทั่วไป ดูพร้อมจะมีเรื่องอยู่เสมอ แต่กลับไม่ค่อยมีอย่างที่เห็นภายนอก เพราะริทแคร์แม่ของตัวเองมาก เรียกว่าเป็นลูกชายที่รักแม่มาก อาจจะยิ่งกว่าที่เขาเองรักแม่เสียอีก นิรันดร์ว่าจุดนั้นน่ารัก แล้วไปๆ มาๆ

ไอ้เอ็นดู...ก็กลายเป็นพาเด็กมาดูดเอ็น เอ้ย! ดูเอ็น....ไม่ต่างกับดูดเท่าไหร่

นิรันดร์ดูออกว่าเด็กหนุ่มมีใจให้กับเขา แต่สิ่งที่เขาทำก็คือพยายามทำให้ริทหวั่นไหวกับเขาให้มากที่สุด และก็อยากจะมั่นใจว่าริทไม่เหมือนคนอื่นที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตเขา ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า...การเริ่มต้นกับใครสักคนมันหอมหวานเสมอ แต่ประเด็นสำคัญมันคือหลังจากจุดเริ่มต้นต่างหาก

นิรันดร์ไม่พูดถึงสถานะที่ชัดเจนกับริท เขาแค่เลือกที่จะแสดงออกอย่างกับคู่รักทั่วไปเขาทำกัน ไปไหนก็จับจูงมือริท ให้ริทเขามานั่งรอเขาทำงานที่ห้องทำงานแทนที่ล็อปบี้ด้านล่างอย่างที่เคย รถตอนนี้ใช้แค่จากัวร์ ลิโม่ไม่เคยได้ออกจากโรงจอดรถอีกเลยเพราะไม่ต้องการจะกินริทบนรถอย่างเคยแล้ว

มันคงดีกว่าถ้าได้เห็นเรือนร่างของริทใต้แสงไฟ บนที่นอนนุ่มๆ ที่ที่มีแต่กลิ่นกายของเขาและริทติดอยู่แทบทั่วทุกมุมเตียง นิรันดร์ยังคงโหยหายวันหวานที่เคยมีกับริทในห้องนอนของตัวเอง

และนั่นเป็นเรื่องหนักหนาสำหรับเขา เพราะเขาอยากกินริทเหลือเกิน...

นิรันดร์ต้องใช้ความอดทน อดกลั้นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แน่ล่ะ เขามีเงิน และเขาพร้อมที่จะจ่ายเงินให้กับเซ็กซ์จานด่วนอย่างไม่ลังเล  ทำไมล่ะ ก็เขาต้องการ และมันก็คือการระบายความเครียดอีกรูปแบบหนึ่ง ทว่าตอนนี้คนที่เขาอยากนอนด้วยมีแค่ริทคนเดียว

หนึ่งอาทิตย์ผ่านมาแล้วกับการเริ่มต้นใหม่แบบค่อยขยับความสัมพันธ์ ไม่มีเนื้อแนบเนื้อ ไม่มีการให้สิ่งของราคาแพง มีแค่การไปเดินเล่น ดูหนัง ฟังเพลงและกินข้าวด้วยกัน นิรันดร์รู้ว่าริทค่อนข้างจะเกรงใจกับสิ่งที่เขาได้ทำให้ แต่เด็กหนุ่มก็มีความสุขกับการได้อยู่ใกล้เขา เหมือนๆ ที่เขาเองก็รู้สึก

“วันนี้ริทอยากกินอะไรไหม” วันนี้ก็เป็นอีกวันที่นิรันดร์มาเดินเล่นหาอะไรกินกับริทที่ห้างสรรพสินค้า คนเวลาน้อยคงไปเที่ยวที่มีธรรมชาติสวยๆ รายล้อมไม่สะดวกนัก แต่ไม่ต้องห่วง นิรันดร์คิดไว้แล้วว่าจะพาริทไปเที่ยววันพรุ่งนี้

“ผมต้องถามคุณรันมากกว่านะ ผมน่ะกินได้ทุกอย่างแหละฮะ ไม่ค่อยมีอะไรอยากกินเป็นพิเศษหรอก” มือของริทโดนร่างสูงข้างกายกุมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

“จะหาเรื่องเอาใจริท ริทก็เป็นอย่างเนี่ยทุกทีเลย” นิรันดร์แสร้งทำเป็นงอนน้อยๆ เด็กหนุ่มย่นคิ้วหน้ามุ่ย

“โอ้ยคุณรัน ไม่เอาไม่งอนผมหน่า งั้นไปกินข้าวที่บ้านกัน แม่ผมบ่นใหญ่แล้วว่าเดี๋ยวนี้คุณรันไม่ยอมกินข้าวที่บ้านเลย ข้าวของที่ซื้อมาเอาไว้ทำให้คุณรันกินตอนนี้เอามาทำให้แม่บ้านกับลุงๆ กินกันจนจะหมดอยู่แล้วนะฮะ” ก็เล่นกินข้าวนอกบ้านกันทุกวัน คนเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่มีหน้าที่ทำอาหารอยู่ตลอดก็แอบเซ็งนิดหน่อย

“ถ้ากินที่บ้าน ริทจะกินกับผมไหมล่ะ” นิรันดร์หยุดเท้าที่กำลังเดินไปยังโซนอาหาร เขาจ้องมองหน้าของริทด้วยสีหน้าตั้งคำถาม

“คุณรันเป็นคนขี้เหงาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ เมื่อก่อนคุณรันชอบทานอาหารคนเดียวจะตาย แล้วก็ชอบกลับบ้านเลย กลับไปนอนตีพุงอยู่คนเดียวในห้องนั่นน่ะ” เพราะความสนิทสนม ริทจึงพูดคุยได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็แอบเขินๆ นิดหน่อย

“เป็นคนขี้เหงาตั้งแต่มีริทเนี่ยแหละ” เอ่ยจบ สีหน้าของเด็กหนุ่มข้างกายก็ขึ้นสีระเรื่อ เป็นสิ่งที่นิรันดร์ชอบมาก อารมณ์เหมือนอยากแกล้งให้แดงไปทั้งตัว

“ครับๆ ผมทานด้วยก็ได้ ใครจะกล้าขัดคำสั่งเจ้านายกัน”

“ริทไง ริทขัดคำสั่งผม ริทเป็นเด็กดื้อ” นิรันดร์ยีหัวริทจนมันฟูฟ่องไปหมด ริทก็ได้แต่หัวเราะแล้วก็พยายามจะจับผมตัวเองให้เข้าทรงอย่างเคย

“ผมไปดื้อใส่ตอนไหน ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยนะฮะคุณรัน อย่างคุณรันให้ผมเลี้ยวซ้าย...ผมก็เลี้ยวซ้าย คุณรันให้ผมเลี้ยวขวา...ผมก็เลี้ยวขวา เห็นมะ ผมเป็นเด็กดีจะตาย” คนพูดทำหน้าชื่นแก้มบาน เรียกได้ว่าหน้ามั่นเขี้ยวสุดๆ ในสายตาของนิรันดร์

“อย่าทำหน้าแบบนี้บ่อยๆ ผมใจบาง” นิรันดร์หยิบเอาคำว่าใจบางของริทมาใช้บ้าง และคำนี้ก็ดันทำให้ริทเขินเสียเอง

“ใจผมบางกว่าเชื่อสิ” ริทเสหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย ก็ไม่กล้าสบตาแพรวพราวคู่นั้นนี่นา

“ผมเชื่อ ว่าแต่...ใจต้องบางขนาดไหนถึงจะยอมเป็นของผมล่ะ” นิรันดร์เอ่ยขึ้นมาดื้อๆ เสียแบบนั้น เล่นเอาริทเสียหลักไปไม่เป็นเลย

ก็...ไม่รู้หนิว่าพูดจริงหรือแค่ยอกเล่น นิรันดร์ยอกริทบ่อยจะตายไป พูดทีเล่นทีจริงสลับไปมา คนฟังอย่างเขาก็ต้องสับสนบ้างเป็นธรรมดาว่าสรุปแล้วเจ้านายคนนี้แค่ปากหวานไปตามนิสัย หรือว่าใจตรงกันกับเขากันแน่

เฮ้อ ไอ้ข้อหลังริทไม่อยากให้ตัวเองหวังเลย ไม่กล้าจริงๆ คนอย่างเขาเนี่ยนะจะได้รับความรักจากเจ้านายคนนี้ ก็แค่เด็กธรรมดาคนหนึ่งที่การศึกษาไม่สูงแถมยังเป็นแค่ลูกแม่บ้านอีก ต่างกันเกินไปนะระหว่างเขากับนิรันดร์

“คุณรันนี่ก็ช่างยอกนะฮะ ผมว่า ใครๆ ก็ต้องหลงรักคุณรันแน่นอน”

“ใครๆ คนไหน”

“ไม่รู้สิฮะ”

“แล้วคนนี้ล่ะ” นิรันดร์ชี้ไปที่ริท เจ้าตัวจากที่เสหน้ามองไปทางอื่นจำต้องหันมาสบตากับนิรันดร์ เลิกคิ้วด้วยความสงสัยกับเรียวนี้ที่ชี้มาตนเอง

“คุณรัน!” เสียงของบุคคลที่สามแทรกเข้ามา ริทดึงมือตนเองออกแต่นิรันดร์ไม่ยอมปล่อยขณะหันไปมองผู้มาใหม่

คนคนนี้ก็คือเด็กที่นิรันดร์เคยเลี้ยงเอาไว้เป็นอาหารจานด่วนคนประจำ ริทเห็นบ่อยแค่ไม่ใช่ในช่วงนี้เท่านั้นเอง ร่างโปร่งถอยเท้าเล็กน้อยเพื่อจะให้พ้นรัศมีของคนทั้งสอง เขาไม่อยากอยู่ตรงกลางระหว่างนิรันดร์กับคู่นอนของนิรันดร์เอง

ริทรู้ดี หากนิรันดร์จะไปกับเด็กเลี้ยงเขาจะต้องเจ็บมากแค่ไหน ตอนนี้เขาเหมือนอยู่ในฝันแสนหวานที่พร้อมจะมลายหายลับไปได้ทุกเมื่อ เขาไม่อยากยอมรับความจริงเท่าไหร่นัก คงเป็นเรื่องปกติของคนที่กำลังมีความสุขสุดๆ อยู่กับใครสักคน

แต่อย่าลืมสิ...ความสุขผ่านไปไวเสมอนั่นแหละ

“หวัดดี” นิรันดร์เอ่ยทักทาย แต่ดวงตาดันเหลือบมามองริทที่ถอยไปอยู่เกือบข้างหลังเขา

“คุณรันมาหาอะไรทานหรือเปล่าครับ ผมก็กำลังจะไปหาอะไรทานเหมือนกัน คุณรันไปด้วยกันไหม” อีกฝ่ายตรงเข้ามากอดแขนนิรันดร์ ซบศรีษะออดอ้อนอย่างที่เคยทำเป็นประจำ

“ผมไม่สะดวกนะ”

“อะไรกัน เดี๋ยวนี้คุณรันเปลี่ยนไปนะครับ ไม่โทรหาผมเลย ไม่เรียกผมไปหาด้วย เอ...ติดเด็กขับรถไปแล้วเหรอฮะ” ฝ่ายนั้นพูดยิ้มๆ เหมือนมันก็แค่เรื่องปกติที่ป๋าคนนี้จะมีเด็กเลี้ยงหลายคน

“ใช่”

“ใจร้ายจัง คุณรัน...ผมคิดถึงคุณรันนะครับ ทำไมเราไม่ไปหาที่ดีๆ ซัมติงกันสามคนล่ะ” ริทหน้าเสียเมื่อได้ยินคำนี้ เขาใช้แรงมากขึ้นจนมือสามารถหลุดออกมาได้

นิรันดร์หันขวับไปมองริททันที ริทแค่ก้มหัวให้ แล้วก็ถอยเท้าออกไปให้ห่างมากขึ้นเพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่ฟังบทสนทนาเหล่านั้น แค่อีกฝ่ายบอกจะซัมติงสามคน เขาก็รู้สึกไม่โอเคแล้ว มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เขาไปมีอะไรกับนิรันดร์โดยที่นิรันดร์เองก็มีอะไรกับคนอื่นด้วย

เขาไม่มีสิทธิ์หวงนะ! ริทบอกกับตัวเองดังๆ ตอกย้ำกับตัวเองเสร็จก็เงยหน้ายิ้มๆ เพื่อจะไม่ทำตัวให้ผิดสังเกต เขาเห็นแววตาเด็กเลี้ยงของนิรันดร์พุ่งตรงมาที่เขา ส่งความไม่พอใจมาให้ แล้วคำที่อีกฝ่ายเคยถามก็ลอยขึ้นมา

‘นายไม่ได้อ้าขาให้คุณรันใช่ไหม’

หึ...ตอนนั้นเขาปฏิเสธได้เต็มปากเต็มคำ แต่ตอนนี้ สายตาดูถูกที่อีกฝ่ายส่งมาให้เขานั้นมันบาดลึกลงในความรู้สึก เพราะสุดท้าย สิ่งที่คนคนนี้พูดมันก็เป็นเรื่องจริง เขาอ้าขาให้คุณรันเหมือนอีกฝ่ายเลย

ทั้งที่คิดว่าจะไม่คิดเรื่องนี้แล้ว แต่พอเจอสายตาเหยียดหยามแบบนั้นเขามันก็อดคิดขึ้นมาไม่ได้ ถึงตอนนี้นิรันดร์จะเลิกทำแบบนั้นกับเขาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะลืมสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนั้นได้

“ว่าไง ชื่อริทใช่ไหม ไปด้วยกันเถอะ ไปสร้างความสุขให้คุณรันกัน” สีหน้าเหนือกว่านั้นถูกส่งมาให้กับริท ร่างบางข้างกายนิรันดร์เข้าใจดีว่าริทไม่มีชั้นเชิงเก่งเท่าตนเอง เขาจะแสดงให้ริทนั้นได้เห็นว่าตนนั้นตอบสนองนิรันดร์ได้ดีกว่าขนาดไหน

ริทถึงกับหน้าเสีย ความสุขแบบนั้นน่ะนะ เขาให้ได้ถ้าเขาอยู่ในฐานะอื่นไม่ใช่คู่นอน เขาไม่อยากตกลงไปอยู่ในจุดที่เรียกว่าขายตัวเองกิน เขาถึงไม่เคยภูมิใจกับสิ่งที่ได้รับจากนิรันดร์ แต่คนคนนี้ก็ยังมาพูดแบบนี้ อย่างกับว่าริทกับอีกฝ่ายนั้นไม่ได้แตกต่างกัน

“นี่นาย พูดจาอะไรให้เกียรติคนขับรถผมหน่อยนะ” นิรันดร์แอบเคืองที่อีกฝ่ายพูดกับริทอย่างนั้น

“เอ่อ ผมต้องให้เกียรติคนขับรถคุณรันเนี่ยนะครับ?” ร่างบางเหวอไปเล็กน้อย

“ใช่ เป็นแค่เด็กขายก็ต้องให้เกียรติคนขับรถคนสำคัญของผม แล้วการที่ผมไม่ติดต่อคุณไปนั้นหมายความว่าอะไรคุณน่าจะเข้าใจนะ”

“เข้าใจว่าอะไรครับ เข้าใจว่าคุณรันติดใจไอ้เด็กกะโปโลแบบนั้นแทนผมน่ะเหรอ เฮ้ย เอาจริงดิ” แม้จะรู้สึกโกรธ แต่ร่างบางก็ไม่แสดงมันออกมามากนัก เพราะถ้าเหวี่ยงใส่นิรันดร์เขาอาจจะหมดโอกาสวนเวียนมาบริการคนคนนี้อีก

“จริง รู้ไหม...แค่เขายิ้มเขาก็ทำให้ผมมีความสุขกว่าคุณบริการผมทั้งคืนอีก” นิรันดร์ดึงแขนตัวเองออก เขาสาวเท้าเข้าไปหาริท คว้ามือริทมากุมเอาไว้แน่นๆ เพราะริทพยายามจะยื้อมือตัวหนี

นิรันดร์ไม่สนว่าอดีตคู่ขาของเขาจะมีอาการอย่างไร มันไม่สำคัญเลยสักนิดเดียวสำหรับนิรันดร์ ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหน คู่นอนก็คือคู่นอน แบ่งแยกออกจากชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน มันก็แค่ขนมที่กินก็ดี ไม่กินก็ไม่ตาย

ตอนนี้เขามีขนมหวานที่แสนจะอร่อย หวาน นุ่ม ละมุนละไมทั้งทางกายและความรู้สึก นั่นก็คือริท เขาแคร์ริท ไม่อยากให้ริทรู้สึกแย่กับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมา ริทน่ะแสดงออกว่าเข้มแข็ง แต่เขารู้ว่าที่จริงริทไม่ได้เข้มแข็งได้ขนาดนั้นหรอก

ไม่งั้นริทไม่มีทางใจอ่อนให้กับคนที่เคยทำเหมือนตนเองเป็นสินค้าอย่างนิรันดร์

นิรันดร์พาริทที่เอาแต่เงียบกลับไปที่รถ แย่งกุญแจเด็กหนุ่มมาแล้วสั่งให้นั่งที่ข้างคนขับ เขาจะเป็นคนขับรถให้เองในวันนี้ ตอนแรกริทก็ปฏิเสธที่จะให้เจ้านายอย่างนิรันดร์มาทำหน้าที่ตนเอง แต่พอเจอสายตาดุๆ ก็เงียบแล้วนั่งลงตามที่นิรันดร์สั่ง

ตลอดการเดินทางบนท้องถนนที่รถราแน่นขนัดนั้นเต็มไปด้วยความเงียบเหงา บรรกาศอึมครึมเพราะริทเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง นิรันดร์หันไปมองอีกฝ่ายเป็นระยะด้วยความเป็นห่วง ริทคงไม่โกรธเขา แต่คงรู้สึกแย่กับสิ่งที่อดีตคู่นอนเขาพูดใส่

นิรันดร์อดทนจนกระทั่งกลับมาถึงบ้าน เอารถเข้าที่จอดแล้วกะจะพูดคุยกับริทให้เรียบร้อย แต่ริทดันลุกขึ้น เปิดประตูออกไปก่อนที่นิรันดร์จะได้พูดอะไรสักอย่าง นิรันดร์ไม่โกรธนะ ไม่เคืองริทแม้แต่นิดเดียว เข้าใจดีว่าริทอารมณ์ไม่ดีและยังรู้สึกแย่กับสิ่งที่เจอมาไม่หาย

แต่ยังก็ต้องคุยกัน!

นิรันดร์ทิ้งของทั้งหมดเอาไว้ในรถ เขารีบปิดมันอย่างรีบร้อนเพื่อจะเดินตามริทไปยังตัวบ้าน ริทไม่ได้เข้าทางด้านหน้า แต่เลือกจะเดินเลี่ยงแม่บ้านเข้าด้านหลังแทน นิรันดร์เห็น เขาวิ่งเหยาะๆ ตามไปจนทันในที่สุด

“ริท!” ข้อมือเล็กโดนคว้าจับเอาไว้ นิรันดร์ดันร่างของริทเข้ากำแพงใกล้ๆ แล้วกักร่างโปร่งเอาไว้ด้วยวงแขนของเขา

“...” ริทไม่พูดอะไร แค่ยิ้มบางๆ ให้กับนิรันดร์เท่านั้น

“ริทรู้สึกแย่กับสิ่งที่คนนั้นพูดใช่ไหม”

“คนไหนครับ” ริททำเป็นไม่รู้ แค่ไม่อยากพูดถึง กะจะปล่อยให้มันค่อยๆ เจือจางลงไป

“ผมบอกชื่อเขาไม่ได้เพราะไม่เคยจำ แต่ก็คนนั้นแหละ เขาทำให้ริทรู้สึกแย่ใช่ไหม...” นิรันดร์ใช้มือข้างหนึ่งปัดปรอยผมให้ก่อนจะไล้หลังมือไปที่แก้มเนียนของริท

“ก็ไม่ได้ผิดจากที่เขาพูดนัก ผมแค่...ไม่อยากสามพีเท่านั้นเอง” ริททำเป็นขำ ทั้งที่มันก็ไม่ได้ขำ

“ผมก็ไม่ได้อยากทรีซั่มหรอก ผมไม่มีทางให้เขาได้เห็นร่างกายของริท รู้ไหมทำไม”

“ไม่ครับ ผมไม่รู้”

“เพราะผมหวงไง” นิรันดร์เคลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ริทเชื่องช้า ค่อยๆ ประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากสีพีชที่เขาเฝ้ามองอยู่ทุกวันด้วยความแผ่วเบา

ปากกับปากบดเบียดกันเชื่องช้าและนุ่มนวลนิรันดร์พยายามส่งต่อความรู้สึกที่เขามีต่อริทให้ริทได้รับรู้ แม้การจูบเพียงอย่างเดียวมันจะช่วยไม่ได้ทั้งหมด แต่หวังว่าความอ่อนโยนนี้จะทำให้ริทรับรู้ถึงความแตกต่างและความสำคัญที่นิรัดร์ได้มอบให้

“ผมไม่เคยจำชื่อคู่นอนของตัวเองเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร แต่กับริท...ผมไม่อยากแม้แต่จะลืมกลิ่นกายนี้” นิรันดร์สูดดมแก้มสีแดงระเรื่อของเด็กหนุ่ม รับรู้ได้เลยว่าริทหัวใจเต้นแรงแค่ไหน

“ริทครับ”

“ครับ” เมื่อเจอสายตาสื่อความหมาย ริทก็ลนลานไม่รู้จะทำตัวยังไงดี

มันไม่เหมือนเซ็กซ์เพียงชั่วคืน ความตื่นเต้นมันต่างกันลิบลับเพราะความรู้สึกที่นิรันดร์กำลังถ่ายทอดออกมาให้เขา ริทพยายามบอกว่าตัวเองกำลังฝันไป แต่เขากล่อมตัวเองไม่เป็นผล ความคิดมันตีรวนและท้ายที่สุดก็คิดอะไรไม่ออก

“มาเป็นคนรักผมนะ...” เพียงแค่ไม่กี่ประโยค สั้นๆ ง่ายๆ ใจความเน้นชัด ริทก็ไม่อาจละสายตาไปจากนิรันดร์ได้

“แต่...”

“ผมรักริท ไม่ใช่แค่ความต้องการทางกายแน่ๆ ผมรู้ ผมอยากให้ริทมาอยู่ข้างๆ ผม อยากให้ริทเข้ามาอยู่ในโลกส่วนตัวของผม” นิรันดร์เคลื่อนใบหน้ากระซิบบอกเสียงนุ่ม เขาทั้งจูบกกหู ทั้งไล้ริมฝีปากคลอเคลียลำคอตรงจุดชีพจร

“ผมเป็นแค่คนขับรถ”

“ริทก็เป็นริท จะทำงานอะไร เป็นลูกเต้าเหล่าใคร ก็เปลี่ยนริทเป็นคนอื่นไม่ได้” นิรันดร์ถอนริมฝีปากออก มองจ้องเข้าไปในดวงตาเด็กหนุ่ม

“แต่ถ้าริทไม่ชอบผม ก็ปฏิเสธผมได้นะ”

“ไม่ ไม่ใช่แบบนั้น...มันไม่ใช่แบบนั้นเลยฮะคุณรัน ผะผม..ผม...ผมก็...ก็ชอบคุณรัน”

“ใจตรงกันเลย”

“ครับ...”

“งั้น...คบกันนะ” ริทกลืนน้ำลายลงคอ ฝันหวานเป็นจริงหรือไง...บ้าบอที่สุด

“ครับคุณรัน” แล้วเขาก็ปฏิเสธมันไม่ได้

หัวใจเรียกร้องขนาดนี้จะให้ปฏิเสธยังไงลง มันเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้นี่เป็นแค่ฝันหวาน เขาก็ขอฝันให้ถึงที่สุดเท่าที่เขาจะมีโอกาสก็แล้วกัน ริทโอบกอดรอบลำคอของนิรันดร์ ใบหน้าเอียงเล็กน้อยเพื่อให้ได้องศารับจูบอันหอมหวานของนิรันดร์ได้ถนัด

เคยอ่านแต่ในการ์ตูน เรื่องที่แอบชอบใครสักคน แล้วคนคนนั้นก็ดันแอบชอบตัวเอกเช่นกัน ตอนจบแสนหวาน ทั้งสองบอกรักกัน และได้คบกัน ไม่คิดว่าชีวิตจะเป็นอย่างการ์ตูนที่เคยอ่าน เขากับนิรันดร์ต่างกันมาก...มากจนเทียบกันไม่ติดเลยด้วยซ้ำไป

จากที่เคยโดนทิ้งเพราะเป็นลูกแม่บ้าน ตอนนี้...การเป็นลูกแม่บ้านทำให้เขาได้รักกับคนที่แอบรัก

ฝันหวานกว่านี้ไม่มีอีกแล้วล่ะ!

….100%….

ละมุนละไม ในที่สุดนิรันดร์ก็ชัดเจนกับน้องแล้ว น้องจะได้ไม่ต้องสับสน ไม่ต้องคิดมากหรือคิดถ่อมตัวอะไรกับแฟนตัวเองอีก กิ๊วๆ อิจคู่รักจังเลย~
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 18-06-2019 20:28:33
เหลือด่านคุณแม่แล้วสิน๊าาาา
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Philosophy ที่ 18-06-2019 20:44:25
ในที่สุดดดดด

จะมีมาม่าเรื่องแม่ริทรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 18-06-2019 20:52:20
บทจะชัดเจนก็รวดเร็วซะเหลือเกิน​ แม่ริทคงไม่เห็นนะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-06-2019 21:18:00
ตกลงเป็นแฟนกันแล้ว  ทีนี้จะบอกแม่ยังงัยล่ะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 18-06-2019 21:50:21
ยินดีด้วยค่ะ ในที่สุดก็ได้ครบกัน เย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-06-2019 22:23:54
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-06-2019 22:38:03
เป็นแฟนกันแล้วววววววววว
ขอให้ราบรื่นนะทั้งคู่  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-06-2019 22:47:40
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-06-2019 23:06:04
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 19-06-2019 00:58:06
เป็นแฟนกันแล้วจะบอกแม่ไหม
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-06-2019 01:58:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 19-06-2019 22:12:15
ขอเป็นแฟนแบบชัดเจนแล้ว o13
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 23-06-2019 11:43:31
สักทีนะ คงจะไม่มีดราม่าหนักตามมานะคะ
เป็นแฟนกันแล้ว ริทจะได้สบายใจว่าไม่ใช่แค่ของเล่น
แต่คุณรันก็จะได้พกเข้าห้องง่ายอีกนิดใช่ไหมคะ คุณรัน


เอ็นดูริทมาก น้องก็พยายามแล้วนะที่จะไม่วุ่นวาย
แต่คุณรันนี่ก็พยายามวุ่นวายกับน้องจัง
ดีนะที่ริทร้องไห้ก่อน คุณรันเลยใจเย็นลงบ้าง
ไม่งั้นไม่ทันรู้เรื่อง ไม่ทันได้ฟัง ก็เม้งกันอีกรอบล่ะ


หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 23-06-2019 12:49:28
อยากรู้แล้ว ว่าจะผ่านด่านคุณแม่แบบไหนคะน้องริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 19 - 100% [18-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-06-2019 11:18:21
ทีนี้ก็รอบทคุณแม่ของริทล่ะนะว่าจะเอายังไง

เพิ่งได้เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย 555 ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 27-06-2019 12:17:42
>….ตอนที่ 20 [100%]….<

อาหารค่ำดูเหมือนจะไม่จำเป็นอีกแล้วสำหรับนิรันดร์และริท ความหิวโหยแปลเปลี่ยนเป็นความปรารถนาที่มีต่อกันและกัน แสงสลัวจากโคมหัวเตียงตกกระทบลงบนผิวกายขาวดูนวลตา สัมผัสอันอ่อนโยนของริมฝีปากลามไล้ตั้งแต่กลีบปากสีเรื่อไปจนถึงแผ่นอกที่สะท้อนหอบ

จุดเร้าส่วนต่างๆ ในร่างกายถูกแตะต้องด้วยมือของอีกฝ่าย แม้ริทจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้ แต่ความประสีประสาของริทนี่แหละที่เป็นเสน่ห์อันเร้าใจสำหรับนิรันดร์ ร่างโปร่งถูกจับเปลี่ยนตำแหน่ง สุ่มเสียงที่แสนจะนุ่มนวลปนแหบพล่าเอ่ยสอนให้ริททำในสิ่งที่ริทไม่คุ้นเคย แม้มันจะน่าอาย แต่ริทยินดีที่จะน้อมรับคำสอนสั่งนั้นจากนิรันดร์อย่างยินดี

ทุกอย่างเริ่มต้นเชื่องช้านุ่มนวลอ่อนหวาน ทว่าเมื่อเข็มนาฬิกาเดินไปข้างหน้าในแต่ละครั้ง ความอ่อนนุ่มแสนจรรโลงใจก็ได้กลับกลายเป็นความเร่าร้อน คล้ายกับไฟกองเล็กๆ ลามท่อนฟืน กองไฟกองน้อยนั้นก็โหมกระพือขึ้นกลายเป็นความร้อนแรงแผดเผาสองร่างกายที่เชื่อมต่อกัน

ความต้องการภายใต้เบื้องลึกของจิตใจเป็นดั่งพายุลมซัดเข้าเปลวไฟให้โบกสะบัดด้วยความรุนแรง เตียงนอนหลังโตเกือบโดนเผาไหม้ให้กลายเป็นซากเพราะท่วงทำนองอันรุ่มร้อน ผ้าปูยับยู่ไม่เป็นรูปร่าง ทั้งโดนดึง โดนจิกและโดนปลายเท้าเสือกไส หมอนเคลื่อนที่ได้เองอย่างกับมีชีวิต มันหนีลงจากเตียงไปแล้วด้วยเรี่ยวแรงของใครบางคนเหวี่ยงมันทิ้งไป

กายเปลือยเปล่าสองกายหลอมรวมเข้าหาและถอยออกซ้ำๆ หยาดเหงื่อเม็ดแล้วเม็ดเล่าร่วงหล่นลงสู่ผืนผ้าด้านใต้ แอร์คอนดิชั่นดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ใดเลยในเวลานี้ เมื่อมันไม่สามารถดับความร้อนแรงที่เกิดขึ้นบนเตียงนอนหลังโตได้แม้แต่น้อย

เสียงหอบครางสั่นสะท้านก้องอยู่รอบห้อง ความเสียวซาบซ่านที่เกิดขึ้นยากเกินกว่าจะกลั้นเสียงแห่งความสุขนี้ไม่ให้หลุดรอดออกไป ในหัวสมองช่างขาวโพลน มีแค่ความต้องการที่จะถ่ายทอดความรักและความรู้สึกให้กันและกัน

เมื่อจุดสูงสุดเดินทางมาถึง บางอย่างในกายแตกพล่านซ่านกระเซ็นราวกับร่างกายโดนน้ำสาดใส่ วินาทีที่ปลดปล่อย มันช่างเหมือนกับร่างกายล่องลอยอยู่ในความสุขที่แสนจะนุ่มละมุนละไม

วงแขนกอดเรือนร่างอีกฝ่ายจนคล้ายว่ามันจะพันกันดั่งเชือกที่ถูกวางทิ้งเอาไว้เนิ่นนาน เสียงหอบกระเส่ายังคงก้องกังวานไม่จางหาย ลมหายใจเข้าออกถี่รัวก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลงทีละน้อยและเป็นปกติในที่สุด

ห้วงอารมณ์วาบวามไม่ได้หมดไปหลังลมหายใจกลับมาเป็นปกติ จูบอันหวานฉ่ำถูกป้อนให้แก่กันซ้ำๆ ดูไม่น่าเบื่อหน่าย บางอย่างร่ำร้องขึ้นมาจากข้างในกายอีกครั้ง และพวกเขาก็พร้อมที่จะสานต่อมันในทันที

ไฟที่ถูกจุดซ้ำจากเถ้าถ่านเดิมติดได้ง่ายดายกว่าที่คาด พวกเขาพร้อมที่จะช่วยกันโบกสะบัดความรุ่นร้อนนี้ให้โจนทะยานขึ้นไปยังจุดสูงสุดของห้วงอารมณ์ จากนั้นค่อยให้ความวาบหวามแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจ กอดเกี่ยวกันเอาไว้ แชร์ความรู้สึกดีๆ ด้วยกันผ่านสัมผัสจากทุกสัดส่วนที่แนบชิด

ราตรีนี้ดูเหมือนจะยาวนานทว่าไม่เลย มันผ่านไปไวเหลือเกินกับคำว่าความสุข ข้างในจิตใต้สำนึกร่ำร้องว่าไม่พอด้วยซ้ำ ติดที่ร่างกายนั้นอ่อนเพลียเกินกว่าจะสานต่อได้อีกหน บทรักอันเร่าร้อนจึงต้องจบลงด้วยการนอนกอดก่ายซึ่งกันและกัน

นี่มันช่างดูเหมือนเป็นฝันอันแสนหวานสำหรับริท ร่างโปร่งที่เล็กกว่าอยู่ในวงแขนของนิรันดร์ ใบหน้าแนบไปกับแผ่นออก ฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะปกติเป็นเสียงกล่อมนอน กลิ่นกายของนิรันดร์อย่างกับน้ำหอมอโรม่าที่ทำให้ริทรู้สึกผ่อนคลาย

ริทรู้ว่าคืนนี้เขาจะฝันดีมากๆ เลย

และเขาก็หวังว่านอกจากคืนนี้....คืนต่อๆ ไปก็จะเป็นฝันดีเหมือนวันนี้เช่นกัน

นิรันดร์เป็นคนนอนตื่นสายมากๆ ในวันหยุด ริทตื่นก่อน เขารีบไปอาบน้ำอาบท่าแม้ว่าจะปวดเนื้อปวดตัวไปหมด เมื่อเห็นร่างกายตัวเองในกระจกเงา เขาก็เริ่มไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกเหมือนผ่านสงครามมาขนาดนี้ ก็ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามันเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจ้ำแดงปะปนกันไปหมด บางจุดก็แดงระเรื่อเป็นรอยจูบที่เด่นชัด

คนขี้เขินตัวแดงไปหมดแล้ว ริทถึงกับรับตัวเองไม่ได้ เขาเบี่ยงหน้าออกแล้วไปอาบน้ำอย่างที่ควรจะอาบ จากนั้นออกมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ที่จริงแล้ว เขาก็อยากจะนอนกอดนิรันดร์ต่อ แต่ว่าเขาควรจะไปเตรียมอาหงอาหารมาให้นิรันดร์

อ่า...พอขยับสถานะมันก็อยากดูแลอีกฝ่ายล่ะนะ

ริทไม่ได้ห่วงที่ตัวเองเต็มไปด้วยรอยจูบ ไม่ห่วงกระทั่งว่าเขาเจ็บเสียดที่ส่วนนั้นมากขนาดไหนยามที่ก้าวเดินไปข้างหน้า แต่เพราะความเป็นริทเอง เขาไม่ได้แสดงออก ยิ่งคนในบ้านรู้จักกันดีด้วยแล้ว ยิ่งแสดงอาการอื่นๆ ออกไปได้ยาก ไม่งั้นอาจจะโดนจับได้เรื่องเขากับนิรันดร์

ริทไม่คิดอะไรมากมาย ตรงกลับห้อง เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ให้เรียบร้อย เป้าหมายต่อไปเป็นห้องครัว เขามองไปที่รอบห้องนอนของตัวเอง ดูเหล่าฟิกเกอร์ต่างๆ บนชั้นด้วยยิ้มสดใสเต็มใบหน้า

แกร็ก!

“อุ้ย! โอ้ยแม่...ริทตกใจหมด” เสียงเปิดประตูกะทันหันทำให้ริทสะดุ้งไปไม่น้อย ไม่คิดว่าแม่จะเปิดประตูเข้ามาแถมยังทำหน้าเครียดใส่อีก

“แม่มีเรื่องจะคุยกับเอ็งน่ะ” ผู้เป็นแม่เดินไปยังเตียงนอน เธอมองชั้นวางของของริทด้วยสายตาอ่านยาก รู้แค่ว่าตอนนี้เธอไม่ได้อารมณ์ดีแม้แต่นิดเดียว

“เรื่องอะไรเหรอแม่” ริทนั่งลงที่พื้นข้างเตียง เพราะแม่เขานั่งลงบนเตียงนอน

“ของพวกนี้คุณรันเขาซื้อให้แกใช่ไหม” แม่หันมามองหน้าริท สายตาของเธอทำให้ริทรู้สึกหนาวข้างในอย่างบอกไม่ถูก

“ครับแม่ คุณรันเขาซื้อให้”

“แลกกับอะไร” คำพูดแม่แทงจึ้กเข้าสู่หัวใจริท ถ้าไม่นับเรื่องเมื่อคืนที่ตกลงคบกันแล้ว ข้าวของพวกนี้ก็เหมือนกับได้มาโดยแลกด้วยร่างกาย

“เอ็งเอาอะไรไปแลกกับของพวกนี้มาไอ้ริท” เสียงแม่แข็งกระด้างขึ้น ความไม่พอใจหรือ...ต้องบอกว่ามันเป็นความเสียใจเด่นชัดขึ้นบนใบหน้าของแม่

“ไม่...มะ...ไม่มีอะไรนี่ฮะ” เนื้อตัวริทสั่นเทา ขอบตาร้อนผ่าวและเขาไม่กล้ามองหน้าแม่ตนเอง

“เป็นไปไม่ได้ริท แม่รู้จักคุณรันดี แม่รู้ว่าเขาไม่มีทางให้แกโดยที่เขาไม่ได้ต้องการอะไร ริท เอ็งปิดอะไรแม่ เอ็งบอกแม่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ” ถึงจะไม่ใช่เสียงตะคอดต่อว่า แต่ริทรู้ดีว่าแม่รู้สึกแย่แค่ไหน

เขาจะบอกแม่ยังไง เขาจะกล้าพูดได้ยังไงว่า...ว่าเขาได้มันเพราะเขานอนกับนิรันดร์ แม้ตอนนี้เขาจะตกลงคบกันแล้ว แล้วยังไงล่ะ เพิ่งคบกันเองด้วยซ้ำ เขาไม่กล้าเอาคำๆ นั้นมาอ้างกับแม่หรอก

ริทกำลังจนตรอกมากที่สุดในชีวิต เขาไม่คิดว่าต้องมาอยู่ต่อหน้าแม่แล้วโดนซักไซ้ในเรื่องที่เขาเองก็รับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน ริททำได้แค่ก้มหน้า ไม่กล้ามองสบตา ไม่กล้าให้แม่เห็นว่าเขามีสีหน้าย่ำแย่แค่ไหน

แล้วมันต่างอะไรกับการตอกย้ำให้คนเป็นแม่รู้ว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นมันถูกล่ะ ลูกชายของเธอเป็นเหมือนเด็กขายที่คนขับรถคนเก่าเล่าให้ฟัง ลูกชายที่เธอรัก ลูกชายที่เธอไว้ใจ ถ้าจะพูดให้ถูก ความรู้สึกของคนเป็นแม่ตอนนี้คือผิดหวัง...

“แม่สอนให้เอ็งเลี้ยงตัวเองให้รอดใช่ไหม สอนให้เอ็งทำงานหาเงินเอง เอ็งจะเอาเงินที่แม่ให้ไปเรียนเจียดไปซื้อการ์ตูนแม่ก็ไม่เคยว่าเพราะเอ็งจัดการกับเงินที่เอ็งมี อะไรที่เงินมันไม่พอซื้อ แม่ก็บอกอยู่เสมอให้เอ็งอดทนเก็บหอมรอมริบเอา แล้วนี่คืออะไรริท...เอ็งไปขายตัวเพื่อแลกกับของพวกนี้เนี่ยนะ!” เสียงของแม่สั่นจนริทใจหาย กลัวไม่กล้าเงยหน้าแค่ไหนริทก็ต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อมองดูแม่

รู้ทั้งรู้ว่าต้องเห็นน้ำตาแม่...แต่ริทละสายตาจากแม่ไม่ได้

“ริทขอโทษแม่” เสียงของเขาเองก็สั่นไม่แพ้กันเลย เขากำลังร้องไห้ที่ทำตัวแบบนี้ ต่อให้ทั้งหมดไม่ได้เกิดเพราะตัวเขา แต่เขาก็เลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ

เขากลับลำช้าไปเท่านั้นเอง

“คุณรันบังคับเอ็งไหม”

“ไม่ครับ”

“เอ็งยินดีนอนกับเขาเพื่อเงินเองใช่ไหม ทำไมริททำแบบนี้ ที่แม่เห็นร่องรอยพวกนี้ก็ของคุณรันใช่ไหม ตอนนี้ที่เห็นก็ด้วยใช่ไหม” แม่เหมือนจะขาดใจอยู่แล้ว ริทเองก็ยิ่งร้องไห้ตามแม่

“ครับแม่...” ได้ยินแบบนี้คนเป็นแม่ก็พูดอะไรต่อไม่ออก


“ไอ้ริท เอ็งทำแบบนี้ได้ยังไง!” แม่ปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก

ริทรู้สึกเหมือน...ใจจะขาดแล้ว

ร่างโปร่งเคลื่อนกายเข้าใกล้แม่ กอดขาแม่เอาไว้แล้วพร่ำคำว่าขอโทษแม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาผิดไปแล้ว เขาพลาดไปแล้ว เขาทำให้แม่เสียใจกับสิ่งที่เขาได้ทำ เขากลับตัวแล้วนะ เขาไม่ได้ทำเพื่อเงินหรือเพื่อของสิ่งไหนอีกแล้วในตอนนี้ แต่มันก็ไม่รู้จะพูดมันออกมายังไงดี

ริทคิดอะไรไม่ออก เขายอมรับสถาพนี้โดยไม่แก้ตัวใดๆ ไม่โยนความผิดให้ใคร ไม่แม้แต่จะอธิบายว่าเขาไม่ได้ต้องการเอาตัวเองไปแลกของเหล่านี้เลย แต่ถ้าทำแบบนั้น มันก็เหมือนโยนความผิดให้นิรันดร์เพียงฝ่ายเดียวทั้งที่เขาเองกระโจนลงสู่อ้อมกอดของนิรันดร์ด้วยตัวเอง

“แม่ แม่ยกโทษให้ริทนะ แม่อย่าร้อง..แม่พอแล้วแม่อย่าร้อง ฮึ้ก ริทขอโทษ ริทยอมทุกอย่างเลยแม่ครับ” ไม่มีใครบนโลกใบนี้ร้องไห้ได้ทำร้ายเขามากขนาดแม่ แล้วแม่ยิ่งสะเทือนความรู้สึกเพราะเขาเองนี่แหละที่ทำให้แม่ร้องไห้

“กลับไปบ้านซะ กลับไปอยู่กับน้าเอ็ง” คนเป็นแม่พูดทั้งที่ยังสะอื้นไห้

“แม่...” แม่มองหน้าริท สายตาของเธอเศร้าหมองและเสียใจเหมือนกันที่ต้องเลือกทางนี้

เธอเป็นเพียงแม่เลี้ยงเดี่ยวที่รอนแรมมาไกลจากต่างจังหวัดเพื่อหางานทำ เธอได้งานที่นี่ ได้รับการอนุเคราะห์จากคุณท่านทั้งสองให้สามารถเอาลูกน้อยมาเลี้ยงที่นี่ได้ แม้ริทในวันที่เดินทางมาอยู่ที่จะอายุแปดเก้าขวบแล้ว แต่ก็เหมือนริทเติบโตมาที่นี่นั่นแหละ

เธอรักลูกของเธอ อยากอยู่กับลูก อยากเห็นลูกในทุกๆ วัน แต่ถ้าลูกเธอทำตัวแบบนี้ ยอมขายตัวเองเพื่อแลกกับสิ่งของมีราคาเธอก็ไม่อยากให้ลูกอยู่ที่นี่ ร่างกายของเด็กน้อยในวันวานที่เธอเฝ้าทะนุถนอมกลายเป็นเพียงสิ่งของเอาไว้ขาย

เธอทำใจยอมรับมันไม่ได้!


“ผมไม่อยากห่างจากแม่ แม่ครับ ริท...ริทอยากอยู่กับแม่”

“แม่ให้เอ็งอยู่ทำตัวแบบนี้ต่อไม่ได้ริท แม่ทำใจไม่ได้”

“ไม่ๆ ริทจะไม่ทำอีก ริทไม่ทำอีกแล้วแม่ริทขอโทษ แม่อย่าให้ริทกลับไปเลย ริทอยากอยู่กับแม่...แม่ครับแม่อย่าไล่ริท” ริทซบหน้ากับหลังเท้าผู้เป็นแม่ร้องไห้ปานจะขาดใจ

ตอนเด็กโดนทิ้งให้อยู่กับน้าสาว เขาคิดถึงแม่มากรู้ไหม เขาโหยหาแม่มากขนาดไหน เขาเฝ้ารอแม่ทุกวันเพราะน้าบอกว่าเดี๋ยวแม่ก็กลับมา เขาเฝ้ารอแม่เป็นปีๆ ถึงเขาจะเด็ก แต่จำความรู้สึกเหล่านั้นได้ดีมาก ตอนที่แม่มารับ เขาโผกอดแม่แน่นแล้วร้องไห้หนักเหมือนกับตอนนี้

ที่เหมือนอีกอย่าง...เขาขอแม่อย่าทิ้งเขาเลย

คนเป็นแม่เองถึงปวดใจแค่ไหน แต่เลือกที่จะไม่ให้ลูกลดคุณค่าของตัวเองถึงขั้นเอาร่างกายไปขาย เธอต้องใจแข็ง ไม่ยอมอ่อนให้กับน้ำตาอันมากมายที่อาบน้ำเท้าของเธออยู่

“แค่เอ็งไปต่อยตีกับใครเขา แม่ก็เครียดจะแย่อยู่แล้ว แม่เฝ้าถนอมลูกของแม่มาแต่เล็กแต่น้อยด้วยสองมือของแม่ เอ็งรู้ไหม มีคนอยากได้เอ็งไปเป็นลูก เขายอมจ่ายให้แม่จนแม่ตั้งตัวได้ แต่แม่ก็ไม่ขาย...เพราะแม่รักเอ็งไงริท ลูกของแม่ไม่ใช่สินค้า ไม่ใช่สิ่งของ ลูกของแม่เอาเงินทั้งโลกมากองไว้ตรงหน้าแม่ก็ไม่ขายให้ แล้วนี่คือสิ่งที่ลูกทำเหรอ” เธอลุกขึ้น ดึงเท้าของตัวเองออกมาจากร่างคุดคู้ของลูกชาย

“กลับไปอย่าทำตัวแบบนี้ ถือว่าแม่ขอนะริท ถ้าเอ็งอยากขายร่างกายตัวเองนัก ก็รอให้แม่ตายก่อนนะ” เธอทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนจะเดินจากลูกที่กำลังร้องไห้แทบใจจะขาดไป

เธอกลัว...กลัวจะใจอ่อนกับน้ำตานั้น

“แม่! แม่...ริทขอโทษ” เสียงนั้นส่งถึง แต่ผู้เป็นแม่ก็ปิดประตูใส่เขาอยู่ดี

ริทกอดเข่าตัวเองร้องไห้ ปากเอาแต่พร่ำบอกว่าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรี่ยวแรงหดหายจนท้ายที่สุดเขาก็ล้มลงนอนกอดตัวเองท่ามกลางน้ำตาอันมากมาย นี่เขาจะต้องจากแม่ไปอีกแล้วเหรอ ไม่เอาได้ไหม เขาพลาดไปแล้ว...เขาผิดไปแล้ว

ริทได้แต่ภาวนาให้แม่ให้อภัย

ความทรงจำในวัยเด็กหวนกลับมา เขาโดดเดี่ยวแค่ไหนกับการต้องอยู่โดยไม่มีแม่ข้างกาย เขาโดนเพื่อนล้อว่าแม่หนีไปขายตัว แม่ทิ้งเขา คนอื่นมีแม่กันหมดแต่เขาไม่มี เขาไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีก เขายอมให้แม่บ่นเขาจนหูชาก็ได้ บ่นทุกวันสามเวลา หรือแม่จะตีเขายังไงก็ได้ แต่เขาไม่อยากให้แม่ไล่เขาไปแบบนี้เลย

เขาไม่น่าเลย...ไม่น่าปล่อยตัวไปกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น

เขามันเป็นลูกเลวจริงๆ เขาทำแม่ร้องไห้ขนาดนั้น เขาจะทำยังไงดี...เขาจะอ้อนวอนแม่ยังไงให้แม่ให้อภัยและให้เขาได้อยู่กับแม่ต่อไป ใครจะมองว่าเขาเป็นลูกแหง่ก็ได้ เขายอม เขายอมทุกอย่างเพื่อที่จะยังอยู่ข้างๆ แม่ ได้เห็นแม่ในทุกวัน ได้รับรู้ว่าแม่ยังอยู่ใกล้ๆ

แม่เป็นเหมือนโลกทั้งใบของเขา...

แต่ตอนนี้โลกทั้งใบกำลังบอบช้ำเพราะเขาเอง

ริทลากตัวเองขึ้นไปบนเตียง เอาผ้าห่มคลุมกายและร้องไห้อยู่แบบนั้นไม่ยอมออกไปไหนอีก เขาเสียใจ และเขาก็ไม่รู้จะต้องทำยังไงกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้น เขารู้ดีว่าแม่นั่นแหละเจ็บปวดที่สุด แม่รักเขาแค่ไหนทำไมเขาจะไม่รู้

เขาก็แค่คิดสั้นไปหน่อย...คิดถึงแค่ความต้องการของตัวเอง

ไม่สิ เขาก็ไม่คิดว่ามันจะต้องตกอยู่ในสภาวะการณ์แบบนี้ แต่นี่แหละ บทเรียนราคาแพงสำหรับเขา มันแพงยิ่งกว่าเพื่อนเขาตายเพราะยกพวกไปตีกับคู่อริ ก็นั่นมันเพื่อนไม่ใช่แม่เพียงคนเดียวของเขา

ริทจมอยู่กับความเสียใจ จมอยู่กับน้ำตาอันมากมายบนหมอนเน่าของตนเองจนเองกระทั่งหลับไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ร่างกายร้อนผ่าวขึ้นทีละน้อย ขณะเดียวกันก็รู้สึกหนาวสั่นทั้งที่ไม่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว...

หัวหน้าแม่บ้านเตรียมอาหารเช้าทั้งน้ำตา เธอพยายามเช็ดแล้วแต่มันก็ยังไหล หลายคนสงสัย หลายคนยิงคำถาม แต่ทุกคนไม่ได้รับคำตอบ เธอยกอาหารขึ้นไปส่งให้นิรันดร์ที่ห้องอย่างทุกครั้ง มันคือหน้าที่ของเธอที่เธอรับปากกับนายท่านทั้งสองว่าจะดูแลนิรันดร์ให้

เธอรู้จักนิรันดร์เด็กน้อยในอดีต ไม่ใช่นิรันดร์ที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ จะว่าการไปเรียนเมืองนอกมาทำให้นิรันดร์เปลี่ยนไปมันก็ใช่ เขากลายเป็นคนที่ใช้เงินเพื่อซื้อความสุขทางกามแทนที่จะมีคนรักเป็นตัวเป็นตน นั่นไม่ใช่ข้อเสียของนิรันดร์ที่ทำให้เธอรู้สึกแย่หรอก นิรันดร์จะเป็นยังไงนั้นมันเรื่องส่วนตัว แค่ไม่คิดไม่ฝันว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอจะกลายเป็นหนึ่งในคนที่นิรันดร์จ่ายเงินเพื่อหาความสุขเท่านั้นเอง

ที่จริงเธอก็อยากกลับไปอยู่บ้านกับริท ติดที่สัญญากับนายท่านทั้งสองว่าจะอยู่ดูแลนิรันดร์ให้ การที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมันทำให้เธอมองหน้านิรันดร์ได้ไม่สะดวกใจเหมือนเคยแล้ว เธอไม่โทษนิรันดร์ทั้งหมดหรอกนะที่เอาเงินมาซื้อลูกชายเธอกิน ของแบบนั้น เธอเชื่อว่ามันเป็นความตกลงปลงใจของทั้งสองฝ่ายเหมือนการขายของ ถ้าแม่ค้าอยากขาย แต่ลูกค้าไม่ต้องการ มันก็ขายไม่ได้

แต่เธอไม่คิดเลยว่านิรันดร์จะไม่ยับยั้งชั่งใจแม้แต่กับลูกชายเธอ!

หัวหน้าแม่บ้านวัยหกสิบต้นๆ พยายามกลั้นน้ำตาและอารมณ์อันมากมายของตนเองเอาไว้ให้อยู่ลึกที่สุด ทว่ามือของเธอก็ยังคงสั่นเทาด้วยอารมณ์อันหลากหลายนั้น เธอต้องค่อยๆ ประครองมันให้มั่น ขณะที่อีกมือก็เคาะประตูส่งสัญญาณบอกคนข้างในว่าเธอกำลังจะเข้าไปเสิร์ฟอาหารอย่างเคย

เวลาเที่ยงกว่าแบบนี้เป็นเวลาตื่นนอนของนิรันดร์ เสียงเคาะประตูนั่นทำให้เขาตื่นเต็มตาด้วยความตกใจ คิดว่าคนที่เข้ามาจะต้องเห็นริทโป๊แน่เลยรีบเด้งตัวลุกขึ้นหวังห่มผ้าให้กับริท ทว่าข้างกายของเขามันว่างเปล่าและเย็นเฉียบ

จังหวะที่คิ้วขมวดเป็นปมอยู่กลางหน้าผาก ป้าออมหัวหน้าแม่บ้านคนคุ้นเคยก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ขนาดว่าเธอพยายามเก็บอาการแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทั้งหมดอยู่ดี เธอเอาถาดอาหารวางลงบนโต๊ะที่ถูกออกแบบมาให้เคลื่อนที่ได้ เหมาะแก่การนั่งทานอาหารบนที่นอน

เธอมองหน้านิรันดร์ ภาพที่นิรันดร์จูบดูดดื่มกับลูกชายเธอเมื่อคืนนี้มันก็วาบเข้ามาในหัว ใช่ ถ้าเธอไม่เห็นนิรันดร์ทำประเจิดประเจ้อกับริทหลังบ้านเมื่อคืน เธอคงไม่รู้เลยว่าลูกชายของเธอได้ทำเรื่องแย่ๆ แบบนี้

“อรุณสวัสดิ์ครับป้าออม สีหน้าไม่ดีเลย มีอะไรหรือเปล่าครับ...” นิรันดร์ตีเนียนเอ่ยทักทาย ซ่อนความตกใจเอาไว้เสียมิด

“ค่ะ ป้าจะมาลาออกให้ริทมัน” นิรันดร์ที่กำลังยิ้ม มือที่กำลังเอื้อมไปรับอาหารชะงักค้างนิ่งสนิท ราวกับเขาถูกแข่แข็งเอาไว้เสียอย่างนั้น

“เอ่อ ทำไมล่ะครับป้า”

“ป้าอยากให้ริทกลับไปอยู่ช่วยน้องสาวที่ต่างจังหวัดน่ะค่ะ คิดว่าจะให้เดินทางสักพรุ่งนี้เลย” สีหน้าป้าออมในวันนี้ไม่มีแววสดใส ไม่มีความขี้เล่นหรือเป็นมิตรแม้แต่นิดเดียว มีแค่ความจริงจังและเด็ดขาดที่ส่งมาให้กับนิรันดร์

….100%....

ลูกชายจะเป็นเกย์หรือเป็นอะไรมันไม่สำคัญเท่าเขาทำตัวยังไงหรอก และถึงแม้ว่าเขาทั้งสองจะตกลงปลงใจกันแล้ว แต่ดูท่ามันจะช้าจนทำให้เรื่องมันบานปลาย
งานนี้นิรันดร์สู้ไหมนะ?
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 27-06-2019 12:51:40
สงสารน้องริท
คุณรันต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยอย่าให้บานปลายไปมากกว่านี้นะ

 :pig4:

หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 27-06-2019 15:44:11
คุณนรันขาาาาาาาาา  :katai1: ตายแน่ๆป้าออมตีตายแน่
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 27-06-2019 16:24:31
โอยยยยยยยย งานหนัก  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-06-2019 18:34:21
ถ้าคุณนิรันดร์รักน้องต้องรีบเคลียร์กับแม่น้องนะ สู่ขอซะเลย โอกาสมาแล้วรีบคว้าไว้โลด
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-06-2019 23:26:16
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 28-06-2019 02:01:45
บอกแม่ไปเลยยยยยยว่าคบกันจริงจังงงงงแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 28-06-2019 02:29:31
ต้องสู้นะคะ คุณแม่ต้องยอมแน่ๆ ตอนนี้สงสารริท  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 28-06-2019 08:41:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 28-06-2019 12:23:09
สงสารริท แต่ก็เข้าใจแม่ริทนะ งานนี้คุณรันต้องรีบคุยกับแม่ริทให้เข้าใจกันนะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-06-2019 22:57:25
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 20 - 100% [27-06-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-06-2019 12:37:00
บอกแม่ไปซิว่าเป็นแฟนกัน :m15: ริท
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 18-07-2019 15:41:52
>….ตอนที่ 21 [100%]….<

นิรันดร์เก็บอาการตกใจเอาไว้ไม่อยู่ มันแสดงออกทางสีหน้าเพราะสิ่งที่หัวหน้าแม่บ้านอย่างป้าออมบอกมานั้นมันกะทันหันเกินไปจริงๆ เขาเพิ่งจะคุยและตกลงคบกับริทไปเมื่อคืนนี้ เช้านี้กลายเป็นว่าริทจะต้องลาออกไปอยู่ที่อื่นเนี่ยนะ เขาจะตั้งรับยังไงทัน!

“ทำไมมันกะทันหันขนาดนี้ล่ะครับป้า น่าจะแจ้งผมล่วงหน้าสักสามสี่วัน ลุงช่วยแกก็แก่แล้ว ผมหาคนใหม่มาทำไม่ทันนะครับ” นิรันดร์ลองต่อลองกับป้าออม

“ป้าก็ไม่คิดว่าจะต้องกะทันหันขนาดนี้หรอกค่ะคุณรัน แต่มันจำเป็นจริงๆ”

“ป้าพูดแบบนี้ผมก็ลำบากใจ ผมยังไม่อยากให้ลาออกตอนนี้ ทางนั้นเดือดร้อนมากไหมล่ะครับ ให้ผมช่วยเหลือทางอื่นแทนจะได้ไหมเอ่ย” เขาค่อนข้างจะเกรงใจป้าออมคนนี้พอสมควร นอกจากเป็นว่าที่แม่เมียแล้ว ป้าออมแกยังเป็นคนหนึ่งที่คอยดูแลนิรันดร์รวมถึงครอบครัวนิรันดร์มาเป็นสิบๆ ปี

“ถ้าจะช่วยก็ช่วยให้เจ้าริทมันกลับต่างจังหวัดเถอะค่ะคุณรัน” ป้าออมไม่ประนีประนอมกับนิรันดร์เลย ไม่มีแม้ท่าทีอ่อนข้อมีแต่ความเด็ดขาด

“แล้วริทรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหมครับ”

”ค่ะ ป้าบอกเจ้าริทเมื่อเช้านี้”

“อ่า...งั้นผมขอคุยกับริทก่อนแล้วกันนะ”

“ไม่ค่ะ ริทไม่สะดวกคุย เจ้านั่นคงเก็บข้าวของอยู่ คุณรันพักผ่อนเถอะค่ะ ป้าขอตัวนะคะ” นิรันดร์รู้สึกได้ว่ามันไม่ใช่การเดือดร้อนของน้องสาวป้าออม แต่มันเหมือนป้าออมไม่ต้องการให้นิรันดร์เจอริท

เขาคงจะคิดมากไปเอง บางที ป้าออมคงเครียดกับเรื่องเดือดร้อนที่เธอกล่าวมา ท่าทางเคร่งขรึมจริงจังแบบนั้นนิรันดร์เพิ่งจะเคยเห็นป้าแกทำด้วยซ้ำไป มันต้องเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ไม่งั้นป้าคงไม่ยอมให้ลูกชายสุดที่รักไปอยู่ห่างขนาดนั้นหรอกมั้ง

นิรันดร์ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งที่คิ้วเขากำลังขมวดเป็นปม เขากับริทตกลงคบกัน แล้วจะต้องมาแยกไปอยู่ห่างไกลแบบนั้นน่ะนะ นี่มันเรื่องอะไรกัน ตั้งรับไม่ทันเลยจริงๆ เขากินข้าวทั้งที่สมองยังตื่นตัวไม่เต็มที่ พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในตอนนี้

หรือว่าแค่ไปชั่วคราวแล้วจะกลับมา แบบนั้นไม่น่าต้องใช้คำว่าลาออกก็ได้ไม่ใช่เหรอ แค่บอกว่าลาชั่วคราว กลับไปอยู่กับน้าสักระยะ แต่นี่เล่นขอลาออกไปเลย นิรันดร์ทวนความทรงจำอันเลือนรางถึงบ้านต่างจังหวัดของริท

อืม...เดินทางไปกลับน่าจะได้อยู่ แต่ได้แค่วันหยุดน่ะสิ

 นิรันดร์ดื้อรั้นลงไปหาริทที่ห้องหลังทำนั่นนี่เสร็จเรียบร้อย ทว่าประตูห้องนอนที่ไม่เคยใส่กลอนเลยนั้น ตอนนี้มันล็อกสนิทมากๆ นิรันดร์ตะโกนเรียกเบาๆ หวังให้ริทออกมาเปิดประตูแล้วคุยกับริทเรื่องนี้

เสียงเรียกของนิรันดร์ถูกตอบแทนด้วยความเงียบ ไม่มีการขานรับกลับมาอย่างที่ควรจะเป็น ร่างสูงเคาะห้องอีก เรียกอีก ทำซ้ำจนสุดท้ายต้องยกมือถือขึ้นโทรหาริท แต่ว่าเขาก็ยังไม่สามารถติดต่อริทได้เลย

นิรันดร์มองซ้ายมองขวา คิดว่าริทอาจไม่อยู่ในห้องแต่อยู่ที่อื่น เขาตรงไปถามแม่บ้านสักคนแถวบริเวณนั้น ว่าริทไปไหนหรือเปล่า ป้าออมล่ะ นิรันดร์ได้รับคำโกหกโดยไม่รู้ตัวว่าทั้งสองคนนั้นออกไปข้างนอกได้สักพักแล้ว

ได้ยินแบบนั้นนิรันดร์ก็เดินงุ่นหง่านขึ้นห้องนอนของตัวเองไป ความกระวนกระวายทำให้นิรันดร์ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เขาเดินวนไปวนมารอบเตียงนอน ขึ้นไปนอนเล่นก็แล้ว เดินออกไปออกกำลังกายห้องข้างๆ ก็แล้ว เขายังทำใจให้สงบไม่ได้เพราะเขายังไม่ได้คุยกับริทเลย

นิรันดร์เฝ้ารอเวลาที่สองแม่ลูกจะกลับเข้าบ้านมาอีกครั้ง รอแล้วรอเล่า ก็ไม่เห็นวี่แววมาว่าจะกลับมา ถามแม่บ้านคนไหนก็ตอบเหมือนกันหมดว่ายังไม่เห็นสองแม่ลูกนั่นเลย นิรันดร์เองก็ติดต่อริทไม่ได้ จากตอนแรกโทรไม่รับ ตอนนี้กลายเป็นปิดเครื่องไปแล้ว

ทุกคนในบ้านพยายามปกปิดการมีอยู่ของป้าออมและริท ทั้งสองคนนั้นกำลังเก็บข้าวของแล้วก็จะเดินทางกลับต่างจังหวัดโดยไม่ร่ำลาเจ้านายอย่างนิรันดร์ ป้าออมต้องการให้ลูกชายของเธอขาดการติดต่อกับนิรันดร์ไปเลย ไม่ต้องพูดคุยหรือเจอหน้ากันอีกยิ่งดี อาจเพราะเรื่องมันเพิ่งเกิดสดๆ ร้อนๆ เธอจึงยังไม่สามารถทำใจยอมรับมันได้

เช้ามืดวันอาทิตย์ สองแม่ลูกเดินทางออกจากบ้านหลังโตของนิรันดร์ด้วยรถแท็กซี่ มุ่งตรงไปหัวลำโพงเพื่อส่งริทกลับบ้านต่างจังหวัด ระหว่างแม่ลูกนั้นจับมือกันแน่นตลอดเวลา แต่กลับไม่มีการพูดคุยอะไรเลย

ริทไม่อยากไป ถ้าจับมือแม่ไว้ตลอดแบบนี้ได้ก็จะทำ การที่เขาไม่อยากกลับบ้านมันไม่ใช่เพราะเขาเพิ่งได้คบกับนิรันดร์ นับตั้งแต่ที่แม่ต่อว่าเขา แม่ร้องไห้ต่อหน้าเขา ในหัวของริทก็มีแต่แม่คนเดียว มีแต่คำขอโทษ มีแต่คำขอขมา

“ริทไม่อยากไป...” ตอนนี้เด็กหนุ่มตัวโตกลายเป็นเด็กน้อยอ้อนขอแม่ทั้งดวงตาแดงก่ำ ริทเอนหัวซบลงที่ไหล่ของแม่ตนเองขณะที่รอรถทัวร์ไปเชียงราย

“กลับไปก็เป็นเด็กดีของน้า อย่าดื้อ อย่าทำตัวแบบนี้อีก” แม่ไม่มองหน้าเขา มองไปแค่ความว่างเปล่าของอากาศ

“ริทขอโทษ” เสียงขอโทษสั่นเครือจนน่าสงสาร คนเป็นแม่อดไม่ได้ที่จะลูบไล้ศรีษะของลูกชายเธอเองเพื่อปลอบโยน

“เดี๋ยวก็ชิน มีอะไรก็โทรมา แม่อยู่นี่ตลอดแหละ ว่างๆ แม่ก็จะกลับไปหา”

“แต่ริทอยากอยู่กับแม่”

“เลิกงอแงแล้วยอมรับความจริงได้แล้วริท” คำนี้มันช่างเด็ดขาด ริทยอมขยับตัวมานั่งตรงๆ แม้ว่าน้ำตาจะไหลรินอยู่เต็มใบหน้าของเขา

ณ เวลานี้เขาไม่อายใครเลย ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคนอื่นจะมองเขาด้วยสายตาแบบไหน ข้างในมันเจ็บปวดเกินกว่าจะมาใส่ใจคนรอบข้าง สายลมยามเช้าทำเอาเขาที่ไม่สบายหนาวสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ อยู่กับแม่มาตลอด ตอนนี้กลับต้องห่างกัน เพราะเขาทำตัวเอง...เขามันเป็นลูกที่แย่เอง

ไม่ว่าจะอ้อนวอนแค่ไหน ก็ทำให้แม่ใจอ่อนไม่ได้ สุดท้ายริทก็ต้องขึ้นรถทัวร์กลับเชียงรายทั้งน้ำตา เขามองแม่จากที่นั่งข้างหน้าต่างด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์ ต่อไปนี้เขาจะต้องอยู่คนละที่กับแม่ ต้องมาคอยเฝ้าหวังว่าวันไหนแม่จะกลับมาหาเขา

เทคโนโลยีมันก้าวหน้าไปไกล สามารถโทรไลน์โทรเฟซหากันได้แบบเห็นหน้าอันนั้นเขารู้ แต่มันไม่เหมือนกันเลย มันช่วยเยียวยาได้แต่ทดแทนไม่ได้ทั้งหมด เพราอ้อมกอดอุ่นๆ จะได้มาก็ต่อเมื่ออยู่ตรงหน้ากันเท่านั้นเอง

หึ...ตลกชะมัด เขาเพิ่งรู้สึกฝันหวานที่ใจตรงกับนิรันดร์ไปเมื่อวานก่อนเอง แล้วดูวันนี้สิ เขาต้องจากทั้งแม่และคนที่เขารักไปอยู่คนล่ะที่โดยไม่ได้ร่ำลาเลยด้วยซ้ำ นี่มันยิ่งกว่าโดนปลุกให้ตื่นจากฝันอันสวยงาม แต่มันคือความย่ำแย่แสนทรมานในความรู้สึกเขา

ริทร้องไห้จนหลับไป แม้ไม่มีสติ เขาก็ยังคงนั่งกอดตัวเองสะอื้นเบาๆ โชคดีข้างกายเขาว่างเปล่า และไอ้ความว่างเปล่านี้อาจจะกลายเป็นความโชคร้ายระยะยาว เขาต้องคิดถึงแม่มากแน่ๆ ต้องโหยหาแม่เหมือนตอนเป็นเด็กน้อย

เขายังจำสมัยนั้นได้อยู่เลย...ความทรงจำมันชัดเจนและมันกำลังจะหวนกลับมาอีกครั้ง

กว่าริทจะเดินทางไปถึงบ้านที่เชียงรายก็เกือบค่ำมืด น้าสาวทำอาหารเตรียมเอาไว้รอเขาอยู่แล้ว แต่เขาไม่คุ้นชินกับมัน ข้างกายน้ามีน้าแฟนและลูกสาวของน้าอยู่ด้วย ตอนที่ริทจากไป น้าสาวยังอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปหมด เปลี่ยนแม้กระทั่งบ้านที่อยู่อาศัย

น้าสาวสอบถามสารทุกข์สุขดิบ ริทก็ตอบแค่คำต่อคำเท่านั้น น้าสาวเห็นอาการไม่ดีก็ถอนหายใจ ปล่อยให้ริทได้อยู่กับตัวเองในบ้านเดี่ยวชั้นเดียวเล็กๆ หลังนี้ โดยเธอได้เอาเครื่องนอนมาให้ ด้วยความที่บ้านหลังนี้มันมีห้องนอนแค่ห้องเดียว ริทจึงต้องนอนในห้องโถงบ้านตรงโซฟาเก่าๆ ราคาถูก

น้าสาวและน้าชายของริทต่างก็ทำงานโรงงานที่เดียวกัน พวกเขาจะตื่นแต่เช้าไปส่งลูกสาววัยสี่ขวบขึ้นรถโรงเรียน จากนั้นถึงไปรอรถบัสประจำทางของบริษัทมารับไปทำงาน ริทใช้ชีวิตแบบอืดเอื่อยเพราะไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยสักอย่างเดียว แต่การที่เขามาอยู่นี่ เขาก็ต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้เป็นภาระของที่บ้าน

เช้านี้น้าสาวชวนริทไปสมัคงานที่บริษัท เป็นเด็กแพ็กของหรือเด็กรถ แต่ริทไปพร้อมกับน้าทั้งสองไม่ได้ ต้องเดินทางไปเอง รถบัสประจำทางเขาไม่ให้คนนอกขึ้น ริทจำพยักหน้ารับ ขณะที่บ้านไม่เหลือใครแล้วริทก็เตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม ไม่มีกำลังใจยังไงก็ต้องทำงานอยู่ดี

ริทได้รับการเข้าทำงานเพราะน้าเป็นคนขอให้ ทั้งที่จริงทางเขาค่อนข้างจะไม่อยากรับเด็กที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานอย่างริท ต่อให้ริททำงานเป็นคนขับรถให้นิรันดร์มาก่อน แต่เขาไม่มีใบรับรองงาน เล่นออกมาแบบเหมือนหนีหนี้ก็เลยต้องเริ่มต้นใหม่แบบนี้

ก็...ไม่แย่

แค่เหงา!

แม่ขอให้ริทเลิกติดต่อกับนิรันดร์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ริทก็เลยไม่เปิดมือถือหรือเข้าโซเชี่ยลมีเดียเลย ริทพกฟิกเกอร์ตัวน้อยที่นิรันดร์ซื้อให้มาแค่ตัวเดียว นอกนั้นเขาไม่สามารถขนมันมาได้ก็เลยต้องปล่อยทิ้งเอาไว้ แม่บอกว่าแม่จะเอาไปคืนนิรันดร์ให้ แล้วอีกฝ่ายจะเอาไปทำอะไรต่อนั้นก็คงแล้วแต่เขาเลย

ช่างเป็นวันแย่ๆ ที่ต้องดูแลตัวเอง

ด้านนิรันดร์ยังคงเฝ้ารอเจอหัวหน้าแม่บ้านของเขาไม่เลิกรา เช้าวันใหม่ผ่านไปก็แล้ว ไม่เห็นแม้เพียงเงา เขาตื่นเช้ากว่าทุกวันเพื่อลงมาข้างล่าง ถามใครทุกคนยังตอบคำเดิมจนนิรันดร์รู้สึกว่ามันแปลกๆ ไม่มีทางที่คนพวกนี้จะไม่เห็นหัวหน้าของตนเองและริท

นิรันดร์อดทนรอหัวหน้าแม่บ้านจนเกือบเที่ยงวันเธอก็เดินเข้ามาในบ้านพร้อมเหงื่อท่วมกาย สีหน้าเธอตอนที่มองมายังเขาค่อนข้างกระอักกระอ่วนบอกไม่ถูก นิรันดร์ลุกจากโซฟารับแขกตรงเข้าไปหาเธอโดยไม่รีรอ

“ริทล่ะครับป้า” สีหน้านิรันดร์วันนี้ไม่สดใสเพราะเขาไม่สามารถติดต่อริทได้เลยไม่ว่าจะช่องทางใดก็ตาม

“ริทกลับบ้านไปแล้วค่ะ ป้าไปส่งริทมา”

“ผมยังไม่อนุญาตให้ลาออกเลยนะครับ ทำไมป้าทำแบบนี้ล่ะ...” เรียวคิ้วได้รูปขวดเป็นปม ความไม่พอใจแสดงชัดเจนอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของนิรันดร่

“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณรัน ป้าอยากให้ริทรีบกลับไปทำงานที่นั่น น้องสาวป้าบอกว่ามีงานให้ริททำ ถ้าไปไวก็จะได้เข้างานเร็ว ป้าก็เลยรีบส่งริทกลับ”

“ให้ไปทำงานที่นั่น? งานอะไรครับ” หัวหน้าแม่บ้านนิ่งงันไปครู่เหมือนนึกหาคำตอบ

“ทางนั้นเขาเดือดร้อนเรื่องเงินเหรอครับ ทำไมไม่บอกผม ผมจะได้ส่งให้ ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเอาริทไปทำงานช่วยหาเงินที่นั่นเลย ทำงานกับผมมันไม่ดีเหรอครับป้า” นิรันดร์มีท่าทีดุดัน ป้าออมก็พอจะเดาได้แหละว่าเจ้านายไม่พอใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่นี่คือการตัดสินใจของเธอเอง เธอต้องยอมรับความไม่พอใจของเจ้านายในเวลานี้ นิรันดร์ต่างจากคุณท่านทั้งสอง เพราะคุณท่านจะใจดีกว่านิรันดร์มากคงเพราะความผูกพันธ์ที่มีต่อลูกน้อง

“ป้ามีเหตุผลส่วนตัวค่ะคุณรัน ป้าไม่สามารถบอกคุณรันได้จริงๆ”

“แม้แต่ริทก็บอกผมไม่ได้เหรอครับ ป้าใช่ไหมที่สั่งให้ริทไม่รับสายผม มีปัญหาอะไรพูดกับผมตรงๆ สิ” สายตาของคนในบ้านโฟกัสมาที่ทั้งสองคน บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างตรึงเครียดเมื่อผู้อาวุโสในบ้านกำลังปะทะกับเจ้านายเพียงคนเดียวในที่นี่

ป้าออมเป็นหัวหน้าแม่บ้านที่ไม่เคยมีประวัติไม่ดี เธอทำงานดีไม่มีขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อยในรุ่นคุณท่าน แต่ดูเหมือนว่ารอบนี้เธอจะสร้างความขัดใจกับรุ่นลูกของบ้านแทน ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้หัวหน้าแม่บ้านผู้มีอารมณ์ดีอยู่เกือบตลอดเวลาเป็นอย่างนี้ได้ และคงไม่มีทางได้รู้หากป้าออมไม่เป็นคนพูดมันออกมาเอง

“ไปคุยกันที่ห้องริทได้ไหมคะ”

“เชิญ” นิรันดร์ผายมือเชิญป้าออมไปยังห้องนอนของริท จะเรียกว่าอดีตห้องนอนริทคงถูกต้องกว่า

ป้าออมเดินนำนิรันดร์ไปยังห้องนอนของลูกชายเธอ ห้องนอนที่เต็มไปด้วยข้าวของต่างๆ ที่ได้มาจากนิรันดร์เป็นส่วนใหญ่ พอมารู้แบบนี้ เธอก็เหมือนจะนึกออกได้หมดเลยว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามันเพราะนิรันดร์ทั้งนั้น ที่ริทใส่เสื้อนิรันดร์ นิรันดร์ไม่ได้ให้แต่ลูกชายเธอไปนอนกับเจ้านายมา ข้าวของต่างที่มาส่งเป็นชื่อนิรันดร์โดยที่ก่อนหน้านี้นิรันดร์ไม่เคยสั่งซื้อของออนไลน์มาก่อน ที่แท้ก็ซื้อมาให้ลูกชายเธอเป็นค่าตัว

ประตูถูกเปิดออก นิรันดร์เข้าไปข้างใน ป้าออมถึงได้ปิดประตูลงให้ทั้งห้องมีแค่ทั้งคู่ นิรันดร์กวาดสายตามองไปยังฟิกเกอร์ต่างๆ ที่เขาเป็นคนซื้อให้เอง มันยังคงอยู่ที่เดิมไม่ได้นำกลับไปด้วย ต่างอะไรกับทิ้งมันกันนะ?

“ป้าอยากจะคืนของทั้งหมดนี้ให้คุณรัน” นิรันดร์หันขวับมามองหน้าผู้พูด

“ริทไม่ต้องการมันแล้วเหรอครับ”

“ริทคงต้องการมันมากค่ะ แต่ป้าไม่ต้องการมัน คุณรันคะ...ป้าขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ ป้ารู้เรื่องคุณรันกับริทแล้ว และป้าก็ทำใจไม่ได้จริงๆ ที่ต้องให้ริทมาขายตัวแบบนี้” แค่พูดถึงประเด็นนี้เสียงของป้าออมก็สั่นเทา

“ใครบอกป้า”

“ป้าไม่ได้หูตาบอดนะคะคุณรัน ปล่อยเจ้าริทมันไปเถอะค่ะ คุณรันหาเด็กที่ดีกว่าริทมานอนด้วยได้อยู่แล้ว”

“ป้า!” นิรันดร์เผลอขึ้นเสียง

“ริทมันก็แค่เด็กบ้านนอก มันคงตามไม่ทันคุณรัน ป้าไม่โทษใครหรอกนอกจากลูกป้าเอง”

“ป้าก็ตามไม่ทันลูกป้าเหมือนกัน ริทไม่เคยขายตัว ไม่เคยนอนกับผมเพราะสิ่งของเหล่านี้ ป้าเข้าใจริทผิด” นิรันดร์ถึงกับหัวเสีย นี่ริทโดนส่งกลับต่างจังหวัดเพราะแม่ตนเองเข้าใจผิด

“ป้าเข้าใจไม่ผิดหรอก ริทเองมันก็ยอมรับ” ป้าออมจ้องตานิรันดร์อย่างแน่วแน่ เพราะเชื่อว่านิรันดร์อยากได้ลูกของเธอมากจนโกหกเธอ

ทว่านิรันดร์เข้าใจในทันทีว่าทำไมริทถึงยอมรับสภาพนั้นไป เพราะก่อนหน้าที่เขาจะขอริทคบ เขาก็ทำเหมือนริทเป็นแค่เด็กขายโดยไม่รู้ตัวมาก่อน เขาทำริทคิดมาก และริทคงฝังหัวไปแล้วว่าตนเองเป็นแค่คู่นอนของนิรันดร์โดยแลกกับฟิกเกอร์ราคาแพงเหล่านี้

“ป้าฟังผมนะ ที่ผมให้สิ่งของเหล่านี้กับริทเพราะผมอยากจะให้ริทมีความสุข  ผมอาจจะผิดเพราะผมใช้เงินซื้อความสุขมากเกินไปก็เลยไม่ได้นึกถึงใจริท แต่ผมไม่ได้มองว่าริทเป็นเด็กขาย ผมไม่ได้คิดแค่จะตักตวงเรื่องแบบนั้นกับริทเลย” นิรันดร์ยกมือเสยผมด้วยความหัวเสียนิดๆ ที่ริทต้องไปนี่ก็เหมือนเป็นความผิดของเขาเองเช่นกัน

ป้าออมมองหน้านิรันดร์ด้วยสายตาไม่เข้าใจ ในเมื่อไม่ได้ต้องการร่างกายลูกชายของเธอแล้วทำเหมือนลูกชายเธอเป็นเด็กขายทำไม สิ่งที่นิรันดร์ได้ทำอยู่นี้มันมีความหมายอะไรกันแน่ ทั้งที่เธอเคยเห็นคนคนนี้มาตั้งแต่เด็ก ทว่าช่วงเวลาที่ห่างหายกันไปนั้นทำให้เธอไม่รู้จักคนคนนี้ดีพอ

“ผมรักริท” นิรันดร์จ้องหน้าแม่ของคนที่เขารัก สายตาคู่นี้แสดงออกถึงความจริงในคำพูด

แต่คนฟังไม่เชื่อ...

“คู่นอนคุณรันได้ยินคำนี้คงใจอ่อนนะคะ” เสียงเธอแข็งกระด้าง

“ผมพูดจริงๆ ผมรักลูกป้า และผมกับเขาเราตกลงคบกันแล้ว ริทไม่ได้ขายตัวให้ผม ผมต่างหากที่พยายามเอาตัวเองเข้าหาริท ผมพยายามทำให้เขามาชอบผม ทำให้เขาเป็นของผม” คำอธิบายทำให้คนฟังแอบลังเล เธอเชื่อนิรันดร์ได้มากขนาดไหนกัน?

รู้ดีว่าลูกของเธอนั้นเป็นผู้ชายคงไม่มีอะไรให้เสียหายมากนัก แต่ในความเป็นแม่ เธอก็ยังเป็นห่วงลูกชายของเธอ กลัวลูกจะเสียใจหากมารักกับนิรันดร์ บางทีนิรันดร์คงหลอกริทและเธอด้วยคำว่ารักนี่แหละ

นิรันดร์เห็นแววตาคนตรงหน้าก็เดาได้ว่าเธอไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของเขาเท่าไหร่นัก มันก็คงไม่แปลก ทำกับลูกเธอไว้ขนาดนั้นแล้วค่อยมาพูดเอาตอนนี้ว่ารักลูกของเธอ แม่ที่ไหนเขาจะยอมรับกันได้ง่ายๆ

ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ นิรันดร์รอดูท่าทีส่วนป้าออมเองก็ครุ่นคิดถึงสิ่งที่นิรันดร์ได้บอกกับเธอมา ใช่ว่านิรันดร์ขาดความน่าเชื่อถือหรอก แค่ความรู้สึกเป็นห่วงลูกนั้นมันรุนแรงกว่าจะทำใจให้เชื่อ ตลอดระยะเวลาที่นิรันดร์กลับมาเธอก็รับรู้มาตลอดว่านิรันดร์เอาคู่ขามามีอะไรด้วยบนรถ

หนึ่งปีที่นิรันดร์กลับมาอยู่ไทยยังทำให้เธอเข้าใจและรู้จักคนคนนี้ได้ไม่มากพอ คำพูดจริงเท็จแค่ไหนไม่มีใครบอกเธอได้จริงๆ เธอมองหน้านิรันดร์ สบตาคมกล้าคู่นั้นก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ขอโทษที่ป้าไม่เชื่อคำพูดคุณรันค่ะ” ชัดเจน ไม่ใช่แค่มองหน้าก็รับรู้ แต่ป้าออมยังบอกกับนิรันดร์ไปแบบตรงไปตรงมา

“แล้วผมต้องทำไงป้าถึงจะเชื่อผม”

“ไม่ทราบค่ะ”

“เอาริทมาคุยสิ ให้ผมติดต่อริทให้ได้ เรามาคุยกันพร้อมหน้าพร้อมตามันจะง่ายขึ้นก็ได้”

“มันอาจเป็นความหลงใหลก็ได้คุณรัน คุณคงไม่ได้รักเด็กกะโปโลแบบนั้นเข้าให้แล้วหรอกค่ะ ความห่างไกลมันจะทำให้ความรู้สึกคุณรันชัดเจนขึ้นนะคะ ส่วนข้าวของพวกนี้ป้าจะให้คนมาขนเข้าไปไว้ห้องคุณรันนะคะ ป้าขอตัวไปทำงานก่อน” ราวกับคำพูดต่างๆ คำอธิบายเรื่องราวมันจะไม่ได้ทำให้ผู้หญิงอย่างป้าออมยอมเข้าใจและอ่อนข้อให้เลยแม้แต่นิด

นี่คำพูดของเขามันไม่มีน้ำหนักเลยใช่ไหม...?

….100%....

ขอโทษที่หายไปนานนะคะ พอดีไอแพดเราเจ๊ง แงงงง อยากจะร้องไห้ ไฟล์งานเราดันเก็บไว้ในไอแพดทั้งหมดเลย ก็เลยต้องกู้ขึ้นมาใหม่ เดี๋ยวเราจะมาอัปรัวๆ ให้อ่านให้จบเลยนะคะ
ปล.ขออภัยในคำผิดนะคะ พอดีเรายังไม่ได้แก้เลย ไว้เรากลับมาแก้ใหม่อีกทีน้า
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-07-2019 16:26:59
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 18-07-2019 16:36:39
เห้อ  :ling2:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-07-2019 19:41:36
สงสารริท ต้องจากคนที่รักถึงสองคน เพิ่งจะปรับความเข้าใจกับคุณรันดร์ได้แท้ๆ แต่ก็เข้าใจหัวอกแม่ที่รักลูกแหละนะ หวังว่าคุณรันดร์จะรีบทำให้แม่ริทเชื่อมั่นในความจริงใจต่อริทให้ได้เร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 18-07-2019 21:32:58
สงสารริท  :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-07-2019 23:49:02
สงสารริท ริทไม่อยากห่างจากแม่เหมือนตอนเด็กอีกแล้วแต่แม่ก็ห่วงว่าริทจะโดนหลอกเลยตัดสินใจทำแบบนี้ แต่แม่ไม่คิดจะถามเหตุผลมากกว่านี้เลยหรา ตัดสินใจฉับพลันเลย :impress3:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 19-07-2019 00:44:11
สงสารริทมี่สุดดเดเ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-07-2019 00:58:28
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-07-2019 01:40:16
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยัยแม่ออมจอมดื้อ  ชิส์
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 21 - 100% [18-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 19-07-2019 13:43:49
ป้าออมใจแข็งมาก
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 19-07-2019 22:04:05
>….ตอนที่ 22 [100%]….<

นิรันดร์ไม่คาดคิดเลยว่าตัวเองจะมาหัวเสียเพราะป้าหัวหน้าบ้านแม่ตนเอง มันไม่ใช่ความผิดเธอ ไม่ใช่ความผิดริท แต่เป็นความผิดเขา บางที สิ่งที่ควรรู้สึกมากที่สุดก็คงเป็นการหัวเสียให้กับสิ่งที่เขาได้ทำลงไปแล้ว

นิรันดร์พยายามไม่คิดในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ให้สำเร็จ ถ้าเขาพูดเองมันไม่ชัดเจนพอ ไม่สามารถทำให้คนเป็นแม่ของคนที่เขารักนั้นใจอ่อนได้ เขาคงต้องพึ่งพาคนอื่น และคนคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากพ่อแม่ของเขา

พ่อกับแม่ของนิรันดร์ได้ย้ายไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ในต่างแดน พวกท่านรักธรรมชาติและความสงบสุขของที่นั่นมาก นิรันดร์ส่งข้อความไปหา ก่อนจะได้รับสายตรงจากแม่ของเขาในสายวันจันทร์ ซึ่งระหว่างนี้นิรันดร์ได้ให้คนของเขาไปสืบหาที่ทำงานใหม่ของริทเป็นที่เรียบร้อย โดยมีชื่อจริงของริทเป็นต้นทางในการค้นหา

“ครับแม่ รันพูดสาย” เขารีบทิ้งงานทั้งหมดเพื่อรับสายผู้เป็นมารดา

(รันมีเรื่องสำคัญอะไรลูก แม่อ่านข้อความที่ต้องการให้ติดต่อกลับแล้ว แต่หนูไม่ได้ระบุเลยว่าเรื่องสำคัญนั้นมันสำคัญอย่างไร) คุณหญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เธอเองไม่ได้คาดการณ์ว่านิรันดร์จะมีปัญหาที่ตัวเองแก้ไขไม่ได้ เพราะนิรันดร์เป็นคนเก่งในการทำงานมากคนหนึ่ง

“ผม...ผมรักผู้ชายคนหนึ่งครับแม่” พ่อแม่คนอื่นจะตกใจแค่ไหนกับการที่ลูกชายเพียงคนเดียวของบ้านกลายเป็นรักร่วมเพศนิรันดร์ไม่รู้ แต่ที่นิรันดร์รู้คือพ่อแม่ของเขาไม่เป็นเช่นนั้น อาจด้วยรสนิยมของเขามันชัดเจนมาตั้งแต่วัยรุ่น ช่วงเรียนที่ต่างประเทศพ่อแม่ก็รู้ว่าเขาคบหาดูใจกับเพศเดียวกัน

(หือ คนนี้ถึงกับต้องโทรมาบอกพ่อแม่เลยเหรอ จริงจังขนาดนั้นเลยเหรอลูก) คนเป็นแม่ได้ฟังก็แปลกใจ นิรันดร์ไม่เคยพูดกับแม่หรือพ่อว่าตนเองรักใคร ถ้าพูดนี่หมายถึงจริงจังมากใช่ไหมนะ

“ครับแม่ คนนี้ค่อนข้างจริงจัง ไม่รับปากว่าจะเป็นตัวจริงไหมแต่รันอยากลองคบหาดูใจกับคนคนนี้แบบจริงจังน่ะครับแม่”

(เรื่องแค่นี้ทำให้รันโทรหาแม่เลยเหรอ?) คนเป็นแม่เดาว่าคงใม่ใช่แค่นี้หรอกที่ลูกชายต้องการจะสื่อ

“แต่มันมีปัญหาครับ” ร่างสูงลุกขึ้นยืนล้วงกระเป๋า หันหน้าเข้าทางกำแพงกระจกด้านหลังโต๊ะทำงานของตัวเองเพื่อทอดสายตาไปให้ไกลแสนไกล

(เข้าเรื่องเลย ปัญหาที่ทำให้ลูกคนเก่งของแม่ต้องให้พ่อกับแม่ช่วยคืออะไร)

“ผมรักลูกชายป้าออม แต่ป้าออมคิดว่าลูกชายตัวเองขายตัวให้กับผมครับ ตอนนี้ป้าแกส่งลูกกลับไปอยู่ต่างจังหวัด และขอให้ผมปล่อยลูกชายเธอไป ผมแค่อยากได้โอกาสที่จะคบกับเขา ให้มันอยู่สายตาของผู้ใหญ่ก็ได้ พูดตรงๆ เลย ผมพูดกับป้าออมแล้ว เธอไม่เชื่อผม ผมเลยต้องการให้พ่อกับแม่ช่วยพูดให้หน่อย”

(นี่รัน หนูชอบเด็กคนนั้นเหรอเนี่ย อืม ก็นะ...เขาน่ารักดี แต่ไปทำอีท่าไหนออมเขาถึงมองว่าเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะหืม) โดนถามแบบนี้ก็แอบกระดากใจที่จะพูด แต่ถ้าไม่พูดพ่อกับแม่คงไม่ช่วยเขา

มองเผินๆ เรื่องนี้เหมือนเรื่องเด็กน้อยมากๆ แต่ถ้าคิดจะแคร์ใครอย่างจริงจัง สิ่งที่นิรันดร์ต้องทำก็คือทำให้เรื่องระหว่างเขากับริทนั้นเป็นเรื่องทางการ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้ และมันจะง่ายหากพวกผู้ใหญ่ยินยอม นิรันดร์โตจริง เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ริทสิ ริทยังเด็กกว่าเขาร่วมสิบปี แม่ก็เป็นห่วงริทสุดๆ

(เท่าที่แม่ฟังนี่รันก็ร้ายนะลูก แต่ถึงขนาดว่ามาขอความช่วยเหลือพ่อกับแม่แบบนี้ รันคงแคร์เขามากจริงๆ เอาเป็นว่าแม่อยากให้รันทนไปก่อน สักสองอาทิตย์นะ ติดต่อน้องเขาให้ได้ ระหว่างนี้พ่อกับแม่จะเดินทางไปหาที่บ้าน เราไปคุยกันที่นั่นน่าจะเวิร์ก) เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว คนเป็นแม่ก็สรุปออกมาอย่างง่ายดาย

เพราะนิรันดร์ไม่ค่อยได้ขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่เท่าไหร่นัก อะไรที่ทำได้เองเขาก็จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยหนึ่งสมองสองมือ แต่บางที นี่อาจเป็นแผนการหนึ่งในความคิดของนิรันดร์ลูกชายเธอก็ได้ ก็จัดว่าโอเคอยู่ ถือเป็นวิธีที่สันติและน่าจะมีโอกาสได้ลองคบกับเด็กหนุ่มคนนั้นชัวร์ๆ

ยังไงเจ้าของบ้านดั้งเดิมก็มีบุญคุณมากพอที่จะขอให้ป้าออมยอมเปิดใจสักนิด อีกอย่าง เท่าที่ฟังป้าออมก็ไม่ได้แอนตี้ที่ลูกชายเป็นแบบนี้ แค่คิดว่าลูกตัวเองขายตัวบวกกับกลัวนิรันดร์จะมาหลอกลวงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอเอง

นิรันดร์เห็นด้วยกับสิ่งที่แม่บอก เขายอมรับข้อเสนอนั้นก่อนจะโดนแม่ซักไซ้เรื่องที่ว่าทำไมถึงไปหลงรักเด็กน้อยคนนั้นได้ บทสนทนาเครียดๆ ช่วงต้นหายไปเหลือเพียงสองแม่ลูกที่คุยกันกระหนุงกระหนิง

ดูเหมือนความตึงเครียดที่เคยมีเริ่มจะผ่อนคลายลงไปบ้าง ถึงจะไม่มากมายอะไรแต่ก็ยังดีกว่าการต้องมานั่งคิดนั่งเครียดตลอดเวลา แล้วไอ้ความเครียดที่ว่ามันก็ไม่ใช่เพราะแม่ริทกีดกันหรอก แค่อยากติดต่อริทได้ อยากคุยกับริท อยากรู้ว่าริทเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้ ไม่ใช่เงียบหายไปแล้วเขาไม่รู้อะไรเลย

สองแม่ลูกสนทนากันเป็นชั่วโมง ด้วยไม่ค่อยได้มีเวลาให้กันเท่าไหร่นัก พ่อแม่นิรันดร์น่ะว่าง แต่ตัวนิรันดร์เองต่างหากที่ยุ่งกับงานและเรื่องส่วนตัวจนไม่ค่อยได้โทรหาพ่อกับแม่เท่าไหร่ ก่อนจะวางสายจากแม่ นิรันดร์ก็ได้คุยกับพ่อของตนเองอีกเล็กน้อย

นิรันดร์ได้ข้อมูลของริทในตอนห้าทุ่มกว่า ขณะที่เขากำลังกินเลี้ยงอยู่ในงานสังสรรค์ของคนในวงสังคม แต่พอรู้ว่าริทเปลี่ยนเบอร์เปลี่ยนเฟซแล้ว เขาก็ไม่มีสมาธิกับงานเลี้ยงจนถึงขั้นขอตัวกลับก่อนเวลา ระหว่างเดินทางกลับบ้านโดยมีลุงช่วยเป็นคนขับรถ นิรันดร์ก็ติดต่อหาริทจากข้อมูลที่ได้มาในทันที

ความคิดถึงอันแรงกล้าทำให้การรอสายนั้นดูเนิ่นนานเหลือเกิน เสียงสัญญาณรอสายเกือบทำให้นิรันดร์หงุดหงิดจนหัวเสียเพราะเขาต้องการให้ริทรับสายของเขาไวๆ เขาได้แต่ภาวนาให้ริทยอมรับสายเขา

แต่น่าเศร้า...ริทตัดสายทิ้ง

นิรันดร์ไม่ยอมแพ้กับการตัดสายทิ้งของคนรักหมาดๆ เขาโทรหาซ้ำอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้งจนกระทั่งรถเลี้ยวเข้ามาในตัวบ้าน เขาต้องลงจากรถแล้ว แต่เขาก็ยังมานะในการโทรหาริท

“ผมไม่ทานอาหารค่ำนะ” นิรันดร์บอกกับหัวหน้าแม่บ้านหรือป้าออมเสียงเรียบ เขาเดินผ่านหน้าไปทั้งที่ยังกดโทรออกอยู่แบบนั้น

เขาไม่ได้รู้สึกแย่อะไรกับสิ่งที่ป้าออมทำมากนัก ยอมรับว่าหงุดหงิดอยู่บ้างในตอนแรก แต่เขาโทษแม่ของริทไม่ได้ อย่างที่ว่า เขาเป็นคนสร้างปัญหานี้เอาไว้ ตอนนี้ที่เขานิ่งเงียบเพราะเขาคิดถึงริท ต้องการให้ริทรับสายเขาหรือยอมพูดคุยกับเขาบ้าง

ทว่า...ดูท่าแล้วริทจะเชื่อฟังคำสั่งแม่มากกว่าความรู้สึกของตัวเอง

ในห้องของนิรันดร์ยามนี้เต็มไปด้วยฟิกเกอร์มากมายที่เขาเป็นคนซื้อมาให้ริท ป้าออมสั่งให้คนเอาไว้ที่ห้องของเขาเพื่อเป็นการคืนของ ยอมรับนะว่าเสียความรู้สึกมาก การที่ให้ของใครสักคนไป แล้วอีกฝ่ายไม่ต้องการมันเฟลอย่างที่สุด

โทรหาจนเป็นสิบๆ สายก็ไม่ได้รับการตอบรับ นิรันดร์ตัดสินใจส่งทั้งข้อความจากมือถือและข้อความเข้าเฟซบุ๊กเพื่อขอร้องให้ริทรับสายเขาหน่อย เขาบอกว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดแล้วและเขาต้องการจะคุยกับริท เขาเป็นห่วงริทมาก

เวลานี้ คงมีแค่ตัวอักษรเท่านั้นที่พอจะสื่อความรู้สึกของเขาไปถึงเด็กหนุ่มได้ นิรันดร์เฝ้ารอโดยการไปอาบน้ำอาบท่าให้เรียบร้อย หวังให้ตัวเองใจเย็นลงอีกหน่อย ออกมาจากห้องน้ำริทคงจะตอบข้อความของเขาแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันไม่มีแม้แต่จะขึ้นว่าได้รับการอ่าน

มันไม่ง่ายที่เขาจะพุ่งทยานไปหาริทในเวลานี้ ทั้งที่หัวใจมันเรียกร้องแค่ไหนก็ตาม พรุ่งนี้เช้านิรันด์จะมีประชุมใหญ่ของผู้บริหาร เขาทิ้งมันไปหาหัวใจตัวเองไม่ได้ ดังนั้นนิรันดร์จำต้องนอนหลับพักผ่อน ทั้งที่ข้างในใจมันแสนกระวนกระวายอย่างยิ่ง

ความห่างเหินไม่ได้ทำให้นิรันดร์บอกกับตัวเองว่าเขาขาดเด็กหนุ่มคนนี้ได้ ความเป็นจริงนั้นมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาเอาแต่โหยหา กระวนกระวายใจอยากได้ยินเสียงริทสักครั้ง ทุกครั้งที่ว่าง นิรันดร์จะส่งข้อความไปหาริท ไม่ก็โทรหาทั้งที่รู้ดีอยู่เต็มอกว่าริทไม่ยอมรับสายเขา เขาก็แค่ต้องการให้ริทรู้ว่าเขาคิดถึงริทมากนะ

ทว่าหลายครั้งเหลือเกินที่เขารู้สึกน้อยใจ ใช่ ผู้ชายตัวโตๆ คนนี้กำลังน้อยใจที่คนรักไม่ยอมรับสายหรือแม้แต่จะตอบกลับข้อความ แค่ขึ้นอ่านแล้วมันยังไม่ขึ้นเลย มันกลายเป็นคำถามว่าทำไมเหรอ ริทตัดเขาได้ง่ายดายขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่คิดถึงเขาบ้างเหรอ หรือว่าที่จริงริทไม่ได้รักเขาอย่างที่เขารักริทเลย

นั่นคือสิ่งที่นิรันรด์คิดในบางเวลา ก็แค่คิด เพราะเขายังคงมีความอดทนในการติดต่อริทอยู่เสมอ สิ่งหนึ่งที่พอจะเยียวยาเขาได้บ้างคือรูปจากนักสืบที่เขาจ้างไป ฝ่ายนั้นส่งรูปที่ริทเดินทางไปทำงานโรงานให้เขา บ้างก็เป็นรูปที่ริทกำลังเดินทางกลับบ้าน แวะซื้อของกิน หรือแม้แต่รูปที่ริทเดินออกจากบ้านไปซื้อของ

การได้เห็นหน้าค่าตาผ่านรูปถ่ายบ้างนี่มันก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็รู้ว่าริทเป็นอยู่ยังไง ทำงานอะไร และใช้ชีวิตแบบไหน สิ่งหนึ่งที่ทำให้นิรันดร์รู้สึกดีอยู่บ้างคือไม่มีคือเข้ามายุ่งวุ่นวายกับริท การรู้ว่าคนรักไม่มีใครมาจีบมันก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีหวัง

บ้านที่ไม่มีริทนั้นเงียบเหงา กลายเป็นบ้านที่เหมือนไม่มีเจ้าของอยู่เช่นตอนที่นิรันดร์กลับมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ผู้เป็นนายใหญ่ในเวลานี้หมดความสนใจในสิ่งใด เขาคลุกตัวอยู่แต่ในห้องนอน ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกายเงียบๆ เพียงลำพัง ซึ่งเขายังคงหวังอยู่ทุกวันว่าริทจะตอบข้อความของเขา

อาทิตย์กว่าผ่านไปอย่างทุกข์ทรมานในความรู้สึกของคนรอ นิรันดร์กลายเป็นคนดูการ์ตูนนารูโตะจริงจังเพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าริทอยู่ข้างๆ ได้ อารมณ์เหมือนทำให้เขาหายเหงาไปได้บ้าง ทั้งที่เขาเองออกจะชอบการอยู่คนเดียวแท้ๆ

ไม่รู้สิ ถ้าริทอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ไม่ต้องนั่งนอนอยู่ด้วยกันเขาก็ยังรับรู้ได้ว่าริทอยู่ใกล้ ทว่านี้มันไม่มีริท มันหลอกตัวเองไม่ได้ว่าเขากับริทก็แค่อยู่คนละห้อง ข้างในลึกๆ มันเตือนอยู่เสมอว่าริทไม่อยู่ที่นี่ ไม่ได้อยู่ข้างกายเขาหรือแม้แต่จะใกล้กันก็ยังเป็นไปไม่ได้

ขณะที่นิรันดร์กำลังนอนหลับฝันถึงริทอยู่บนเตียงหนานุ่มในห้องนอนอันมืดทึบ คนในบ้านต่างกระวีกระวาดรีบร้อนเอาลิโม่คันหรูออกไปยังสนามบิน วันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้รถราบนท้องถนนว่างโล่ง สะดวกสบายมากกว่าวันธรรมดาสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์สี่ล้อ ส่วนคนที่บ้านก็ตระเตรียมอาหารเอาไว้ต้อนรับนายใหญ่ทั้งสองคนที่กำลังเดินทางมา

“ไหงคุณท่านกลับมาได้ล่ะเนี่ยป้า” แม่บ้านคนหนึ่งถามผู้เป็นหัวหน้าที่มีสีหน้าเคร่งเครียด

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง”

“ท่านอาจจะแค่กลับมาพักผ่อนก็ได้นา” อีกคนเอ่ยขึ้นสบายๆ

“หรือกลับมาดูใจคุณรัน ช่วงนี้คุณรันแกกลับไปหมกตัวอยู่แต่ในห้องอีกล่ะ ตอนไอ้ริทมันอยู่ ยังออกมากินข้าวข้างนอกบ้าง ออกมาเดินเล่นนั่งเล่นริมสระงี้ พอไอ้ริทไปคุณรันก็กลับมาเป็นงี้อีกแล้ว” คนเดิมที่ตั้งคำถามแรกสันนิฐาน

ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงป้าออมอาจจะต้องโดนเรียกไปคุยเรื่องริทอย่างแน่นอน เธอเองก็คิดเหมือนที่ลูกน้องของเธอพูด แต่มันก็ดูจะเป็นความคิดที่เข้าข้างตัวเองไปสักหน่อย ลูกชายของเธอคงไม่ได้มีค่าขนาดทำให้นิรันดร์เหงาหงอยหรอก ถึงขั้นว่านายท่านกลับมาด้วยแล้วยิ่งมีความเป็นไปได้น้อยมาก

“ริทมันคงเป็นเพื่อนเล่นคุณรันได้ล่ะมั้ง วัยต่างกันไปหน่อยแต่ดูคุยกันถูกคออยู่นาเนอะ”

“ใช่ๆ เวลาคุณรันกับไอ้ริทอยู่ด้วยกันแล้วสดใสดี จะว่าไป ไอ้ริทไม่อยู่ก็เหงาๆ เนอะป้า” ป้าออมโดนถาม เธอพยักหน้ารับแล้วสนใจแต่สิ่งที่ทำอยู่กับมือ

เธอดูนิ่งงันแต่คิดมาก เธอได้โทรคุยกับริทอยู่บ้าง เวลาที่ถามถึงคุณรันริทก็เงียบไป เธอเหมือนจะรู้สึกตงิดเล็กๆ ว่าลูกชายโกหก ลูกชายเธอบอกว่าคุณรันไม่ได้ติดต่อไป แต่เธอก็ไม่อยากกล่าวหาอะไรริทนัก แค่ต้องไล่ลูกกลับไปอยู่กับน้าสาวที่มีครอบครัวใหม่นี่ก็ดูใจร้ายมากพออยู่แล้ว

อาหารมากมายถูกจัดเตรียมขึ้นโต๊ะ ทั้งหมดเป็นอาหารไทยฝีมือป้าออมทั้งหมด เพราะป้าออมคือมือครัวอันดับหนึ่งในบ้านหลังนี้ และนายท่านทั้งสองก็ชื่นชอบการทำอาหารของป้าออมเป็นอย่างมาก

ไม่นานนักลิโม่คันหรูก็เคลื่อนตัวเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เหล่าแม่บ้านและคนใช้อื่นๆ ต่างก็กรูกันมารวมตัวรอรับเจ้านายใหญ่ทั้งสอง โดยป้าออมยืนอยู่ตรงกลาง เมื่อรถจอดสนิท เธอเป็นคนเปิดประตูให้กับนายหญิงและนายท่านก้าวลงมาจากรถ คนอื่นๆ ก็เคลื่อนตัวไปเอาของจากท้ายรถ

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ” ป้าออมโน้มศรีษะทำความเคารพ

“ดีใจที่พวกเธอยังแข็งแรงกันดีนะ” นายหญิงยิ้มหวานแจกจ่ายให้ลูกน้อง

“เจ้ารันมันตื่นหรือยังเนี่ย” นายท่านเดินมาขนาบข้างภรรยา ซึ่งคุณหญิงพลอยใสก็คล้องแขนสามีเธอเดินเข้าสู่บ้านที่คุ้นเคย

“คุณรันน่าจะยังไม่ตื่นค่ะนายท่าน เดี๋ยวดิฉันไปเรียกให้”

“ไม่ต้องหรอก” นิลกาลเอ่ยปฏิเสธ

คุณท่านนิลกาลและคุณหญิงพลอยใสมีอายุอานามเกินหกสิบไปหลายปี แต่ความรักและการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันยังคงชัดเจนแม้แต่คนนอกก็ยังรับรู้ได้ คนใช้เห็นท่านทั้งสองกระหนุงกระหนิงพูดคุยกันเสียงเบาราวกับซิบยามเดินเข้าสู่ห้องครัวเพื่อรับประทานอาหาร

แม่บ้านบางคนต้องเอาของใช้ของนายท่านไปจัดเตรียมไว้ที่ห้อง หน้าที่ดูแลนายใหญ่ทั้งสองจึงเป็นของป้าออมผู้เป็นหัวหน้าแม่บ้าน เธอเดินตามทั้งสองไปยังห้องทานอาหาร เมื่อทั้งคู่นั่งลงก็เป็นคนตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานใบสวยทั้งสองจาน

“เจ้าริทไม่อยู่เหรอจ๊ะออม” ยังไม่ทันได้ตักคำแรกเข้าปาก คุณหญิงพลอยใสก็เอ่ยถามทั้งที่ยังยิ้มหวาน

“ริทกลับไปอยู่บ้านนอกแล้วค่ะคุณหญิง”

“อ่าว ทำไมล่ะจ๊ะ อยู่ที่นี่ไม่ดีเหรอ หรือว่ามีปัญหาอะไร” น้ำเสียงเป็นมิตรยิงคำถามที่ตอบยากให้กับหัวหน้าแม่บ้าน เธอลังเลกับคำตอบ ไม่รู้ว่าควรจะแก้ต่างเรื่องนี้อย่างไร การพูดความจริงมันอาจจะเหมือนกับใส่สีตีไข่ให้กับนิรันดร์

“คือน้องสาวดิฉันเดือดร้อนนิดหน่อย เลยให้เจ้าริทกลับไปอยู่ช่วยที่นั่นน่ะค่ะ”

“เอ เท่าที่ฉันจำได้นี่น้องสาวออมแต่งงานมีครอบครัวแล้วนี่นา เธอเดือดร้อนอะไรหรือจ๊ะ” จี้มาแบบนี้ป้าออมก็จนปัญญา

“มีปัญหาส่วนตัวไม่สะดวกบอกท่านจริงๆ ค่ะ” เธอจำต้องตัดบทไปดื้อๆ อย่างนั้น ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ต้องการให้เรื่องที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดเนื้อร้อนใจให้กับเจ้านายทั้งสอง

“เฮ้อ เธอเนี่ยนะ เอาเถอะ ทานข้าวกันค่ะคุณ” เมื่อหัวหน้าแม่บ้านตัดบท คุณหญิงพลอยใสก็จะไม่ดื้อดึงซักไซ้เอาความในตอนนี้

คุณท่านนิลกาลเปลี่ยนเรื่องไปถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบอย่างอื่นบ้าง โดยคุณหญิงพลอยใสเป็นสายสนทนาอยู่แล้ว เรื่องราวกับพูดคุยตามประสาคนคุ้นเคยจึงเกิดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ เต็มแก้มผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้าน

บ้างคุณหญิงก็เล่า บ้างคุณชายก็เล่า เรื่องจากต่างแดน ประสบการณ์การไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลได้ถูกนำมาท่ายทอดให้คนที่นี่ได้ฟังกันเป็นเรื่องสนุก ก็เหมือนกับเพื่อนเก่าได้กลับมาคุยกันนั่นแหละ อาหารคาวหมดตบด้วยอาหารหวาน

บทสนทนาไม่จบลงง่ายดายนัก ป้าออมเป็นผู้ฟังที่ดี และคุณหญิงพลอยใสก็ช่างเป็นนักเล่าที่ดีเสียเหลือเกิน แม้แต่สามีของเธอก็ยังสนุกสนานร่วมบอกเล่าไปกับภรรยาอย่างออกรสชาติ

“คุณหญิงคะ คุณรันตื่นแล้ว ให้ดิฉันไปตามลงมาพบท่านไหมคะ” ระหว่างสนทนาอยู่ แม่บ้านคนหนึ่งก็เดินมาบอกเพราะเธอโดนเรียกไปเตรียมอาหารเช้าให้นิรันดร์

“ฝากทีนะจ๊ะ” คุณหญิงส่งยิ้มหวานให้

นิรันดร์ไปอาบน้ำอาบท่ารออาหารเช้าที่ค่อนข้างสายอย่างทุกวัน โดยปกติแล้ว เมื่อเขาอาบน้ำเสร็จ อาหารก็จะถูกนำมาวางเอาไว้บนโต๊ะสำหรับทานอาหารบนเตียง ทว่าวันนี้มันกลับว่างเปล่า มีเพียงร่างของแม่บ้านคนหนึ่งยืนอยู่มุมประตู

“คุณรันคะ คุณหญิงกับคุณท่านให้มาตามค่ะ” ได้ฟังอย่างนั้นก็คิ้วขมวด ไหงจะมาถึงแล้วไม่บอกไม่กล่าวเขากันนะ

แต่อีกใจก็โคตรยินดีเลย!

การรอคอยของเขาจะสิ้นสุดแล้วใช่ไหม?

นิรันดร์ใส่เสื้อผ้าอย่างไว ผมเผ้าไม่เช็ดให้แห้ง แค่ใช้มือฟัดมันขึ้นลงสะบัดน้ำออกประมาณหนึ่งเท่านั้น ความยาวของช่วงขาช่างมีประโยชน์ในการเร่งรีบลงไปที่ห้องรับรองแขก นิรันดร์สับเท้าฉับๆ ลืมหิว ลืมง่วงไปเสียสิ้น จิตใจตอนนี้มันจดจ่ออยู่ที่แม่กับพ่อเท่านั้น

“แม่” ร่างสูงโผเข้าหามารดาตน เขาใช้สองแขนแข็งแรงโอบกอดผู้เป็นแม่เอาไว้แนบอกขณะที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า

“ไอหนูขี้เซาตื่นสักที” คุณหญิงพลอยใสลูบหัวเปียกๆ ของลูกชายด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

ต่อให้โตยังไง ในสายตาพ่อกับแม่ก็ยังเป็นเด็กน้อยอยู่ดีล่ะนะ

“นี่ถ้าไม่หิวก็ไม่ตื่นสินะไอ้ลูกชาย” นิรันดร์คลายกอดแม่ไปกอดผู้เป็นพ่อบ้าง

“นิดหน่อยครับพ่อ งานมันเยอะ”

“เยอะหรือช้ำใจ เนี่ย...ป้าออมก็อยู่นี่แล้ว” คนในประเด็นก้มหน้าไม่มองสบตานิรันดร์ ป้าออมรู้ดีพอสมควรว่าสร้างความไม่พอใจให้กับนิรันดร์

“จะว่าช้ำใจมันก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เรียกว่าตรอมใจคงถูกต้องที่สุด” นิรันดร์หันไปมองป้าออมด้วยสายตาตัดพ้อ เพราะคำสั่งเฉียบขาดของคนเป็นแม่ ทำให้ริทไม่ยอมรับการติดต่อของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

“ไหนๆ ก็มาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว เราจะคุยเรื่องสำคัญเลย หรือควรปล่อยให้รันไปกินข้าวกินปลาก่อนดีล่ะหืม” คุณหญิงพลอยใสเอ่ย

“ผมไม่หิวแล้วครับ”

“งั้นหมายความว่าจะคุยเรื่องสำคัญเลยสินะ หนูใจร้อนจัง ดูสิออม...ลูกชายเธอทำพิษลูกชายฉันน้า” คุณหญิงพลอยใสพูดเหมือนเย้าหยอก แต่สำหรับป้าออม เธอกระอักกระอ่วน

นี่มันชัดเจนเลยว่าคุณท่านทั้งสองกลับมาเพราะเรื่องริท!

….100%....

เรื่องของผู้ใหญ่ ก็ต้องให้ผู้ใหญ่จัดการอะเน้อ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 19-07-2019 22:13:22
>….ตอนที่ 23 [100%]….<

คุณหญิงสั่งให้สาวใช้คนอื่นๆ ออกไปจากบริเวณนี้ให้หมด แล้วให้ป้าออมนั่งที่โซฟาเดี่ยวข้างคุณหญิงพลอยใส พวกท่านต้องการคุยเรื่องส่วนตัวของสองครอบครัว เธอเห็นว่าคนใช้คนสนิทของเธอมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก จากที่ลูกชายตัวดีเล่าให้ฟัง ออมไม่เชื่อคำพูดของลูกชายเธอเลยแม้แต่น้อย การที่เธอและสามีเธอกลับมานี่คงทำให้ออมเห็นแล้วว่าลูกชายเธอเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน

“ฉันไม่เคยเห็นใครทำให้ลูกชายฉันต้องมาขอความช่วยเหลือจากฉันเลย” นิรันดร์ขยับไปนั่งโซฟาเดี่ยวฝั่งผู้เป็นพ่อ

“ค่ะ” ออมขานรับ

“ฉันได้ฟังเรื่องจากตารันแล้ว ฉันอยากถามเธอบ้างน่ะออม เธอไม่อยากให้ลูกชายเธอมาเกี่ยวดองกับตารันใช่ไหม”

“ไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะคุณผู้หญิง ดิฉันแค่ผิดหวังในตัวลูกชายของดิฉัน ที่เขา...ทำแบบนั้นกับเจ้านายตัวเอง” คำบอกเล่าของหัวหน้าแม่บ้านทำให้คุณหญิงพลอยใสหันไปส่งสายตาเอ็ดลูกชายเธอ

“มองในมุมคนเป็นแม่ฉันก็เข้าใจนะ ฉันไม่แก้ตัวแทนตารันหรอก ฉันแค่อยากขอโอกาสให้ตารันหน่อยได้ไหม ตารันกับริทเขาตกลงคบกันแล้วนา เธอก็น่าจะลองเปิดใจให้ตารันได้ลองพิสูจน์ตัวเองดู ถือว่าฉันขอได้ไหม” ป้าออมนั่งก้มหน้า ไม่กล้าตอบรับและก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ

“นะครับป้าออม เมื่อก่อนผมสร้างความเข้าใจผิดให้ริท มันเป็นความผิดของผม แต่เราสองคนเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วนะครับ” นิรันดร์กล่าวเสริม แต่ดูยังไงป้าออมก็ยังไม่มีท่าทียินยอม

“อย่างน้อยฉันก็อยากให้ริทเป็นคนตัดสินใจ ริทโตแล้วนะออม” คุณหญิงพลอยใสเอาริทขึ้นมาพูดบ้าง ดูจากแววตาแล้ว เธอเดาได้อยู่ว่าออมรู้ดี ลูกชายไม่ได้มีความสุขกับการต้องจากแม่ไปอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเองหรอก

“ออม เธอก็อายุอานามมาขนาดนี้แล้วนะ...” น้ำเสียงราบเรียบของคุณท่านคล้ายจะตำหนิในความบังคับลูกของหัวหน้าแม่บ้าน ท่านไม่ใช่คนประนีประนอมเท่ากับภรรยา ดังนั้นวาจาจึงเสียดแทงไปหน่อย

ทว่าในความราบเรียบนั้นกลับเต็มไปด้วยความกดดันที่ป้าออมรับรู้ได้จากตัวของนายท่าน ปกติแล้ว นายท่านจะไม่ดุ ไม่ต่อว่าต่อขานหากมีใครในบ้านทำผิด ท่านจะแค่ปลายตาไม่พอใจให้เพื่อบอกเป็นนัยยะว่าท่านไม่พอใจนะ นี่เล่นเอ่ยปาก แสดงว่าท่านไม่ชอบใจอย่างมากที่ป้าออมทำแบบนี้กับลูกชายตนเอง

มันลำบากใจ เธอเชื่อว่าเธอควรเอาริทให้อยู่ห่างจากนิรันดร์เพราะริทนั้นไม่คู่ควรกับนิรันด์เลยแม้แต่นิด เป็นแค่เด็กกะโปโลที่เรียนจบ ปวส. ทำงานเป็นคนขับรถธรรมดามากๆ เมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตนิรันดร์แล้ว ริทดูต่ำต้อยไปเลย

เธอห่วงลูกชายในหลายๆ แง่ กลัวว่าวันหนึ่งนิรันดร์จะทอดทิ้งริทไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า แล้วริทก็คงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรเพราะริทเป็นแค่ลูกแม่บ้านกระจอกๆ อย่างเธอ ไม่มองยังไง ระหว่างริกับนิรันดร์มันก็ดูเป็นไปไม่ได้ในสายตาของเธอ

แต่เธอจะบอกนายท่านทั้งสองและนิรันดร์อย่างไรให้เข้าใจความรู้สึกของเธอกัน ป้าออมได้แต่ก้มหน้า ครุ่นคิดถึงคำตอบ การปฏิเสธน่ะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอจะพูด ทว่าคำง่ายๆ คำนั้นกลับหนักอึ้งเมื่อยู่ต่อหน้าผู้มีพระคุณทั้งสอง

ถ้ายินยอม...มันเหมือนขายลูกกินไหม เอาลูกใส่พานให้ผู้มีพระคุณเพียงเพราะต้องตอบแทนบุณคุณ แน่ล่ะ สำหรับเธอการตอบแทนบุญคุณนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ แต่มันต้องไม่ใช่การเอาลูกชายตัวเองมาสังเวย

“ป้าบอกผมได้ไหมครับว่าป้ากลัวอะไร ป้ากลัวผมจะทิ้งริทใช่ไหม...” เมื่อทั้งหมดเงียบสนิท นิรันดร์ก็เอ่ยคำถามที่เขาสงสัย

“....” ป้าออมยังคงเงียบ เพราะมันก็จริงในส่วนหนึ่งที่นิรันดร์ถาม

“ผมคงพูดไม่ได้ว่าผมจะคบริทได้ทั้งชีวิตนะครับป้า อนาคตมันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ถ้าวันหนึ่งผมกับริทไปด้วยกันต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ผมกับริทก็ต้องเลิกรากันไปอยู่ดี ผมว่านั่นเป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่ที่ต้องลองศึกษาดูใจกันไปก่อน แต่ป้าครับ...ผมกับริทยังไม่ได้เริ่มเลย ป้าจะตัดสินตั้งแต่ต้นแบบนี้เลยเหรอครับ” นิรันดร์เครียดมาก ขนาดพ่อกับแม่เขามานั่งอยู่ตรงนี้ ป้าออมก็ยังมีท่าทีนิ่งสงบและไม่ยอมใจอ่อนได้ง่ายนัก

ผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่พวกที่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พูดวนลูปอยู่แต่วลีเดิมๆ มันก็ดูไม่สมเป็นผู้หลักผู้ใหญ่นัก เมื่อนิรันดร์กล่าวจบ ความเงียบก็เข้าครอบงำทั้งสี่คนอีกหนหนึ่ง แน่ล่ะ มันสร้างความขัดใจให้นิรันดร์มาก รวมถึงเจ้าบ้านทั้งสองที่มองว่าหัวหน้าแม่บ้านของพวกเขานั้นช่างดื้อเสียเหลือเกิน

“ชีวิตลูกก็คือชีวิตลูกนะออม เราน่ะเลี้ยงเขาได้แต่ตัว ใจของเขา เขาต้องหาทางไปของมันเอง ฉันกับคุณนิลมาเพื่อยืนยันกับเธอว่าฉันสองคนยินดีที่จะให้ตารันได้คบกับริท การที่คนสองคนคบกันโดยให้ผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายรับรู้ นั่นก็จริงจังมากแล้วนะออม แต่ถ้าเธอยังยืนยันคำเดิม ก็ได้จ้ะ” คุณหญิงพลอยใสยิ้มปลงๆ คนเป็นลูกมองหน้าเธอแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

มันแย่..แย่มากๆ ริทไม่มีสิทธิ์ได้แสดงความคิดเห็น ไม่มีสิทธิ์มีเสียงพูดหรือเรียกร้องอะไรให้ตัวเองเลย เมื่อคนเป็นแม่ตัดใจแบบนี้ ตัดสินให้เขาห้ามรักกับคนที่อยู่สูงกว่าอย่างนิรันดร์

คุณหญิงพลอยใสลุกขึ้นเดินไปทางลูกชาย เธอดึงมือของเด็กน้อยที่วันนี้ตัวใหญ่กว่าเธอไปเยอะให้เดินไปด้วยกัน เหลือเพียงป้าออมและท่านนิลกาลที่ยังนั่งอยู่จุดเดิมไม่ไปไหน

เสียงถอนหายใจทุ้มหนักของผู้เป็นนายใหญ่ของบ้านดังขึ้นเบาๆ ป้าออมไม่กล้าเงยหน้าสบสายตาขอท่าน เพราะรู้ดีอยู่เต็มออกว่ามันจะทิ่มแทงเธอได้มากขนาดไหน ครั้นจะลุกเดินหนีไปก็ไม่สามารถทำได้ มันดูเสียมารยาทมากๆ หากเจ้านายยังไม่ยอมให้เธอไป

ในความกดดันนั้นเธอก็ครุ่นคิดเรื่องของนิรันดร์กับริท ถ้าหาเรื่องราวมันเป็นความผิดพลาดของคนสองคนนั้นจริง เธอก็เหมือนคนที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างเขาทั้งคู่ ซ้ำยังตัดสินเป็นตายให้กับความรักของลูกตัวเองอีก

เธอฟังริทพูดมาหรือยังนะ?

การต้องให้ลูกไปอยู่ห่างกายน่ะมันก็แย่พอสำหรับเธอ ไหนจะความผิดหวัง ความเป็นห่วง ความหวาดกลัวหวาดระแวงตามประสาคนเป็นแม่ มันวุ่นวายในอารมณ์ไม่ใช่น้อย นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะตัดสินใจได้เลย จะล้มเลิกความตั้งใจเพื่อให้เขาทั้งสองได้ลองดูกันสักตั้ง หรือเธอควรจะใจแข็งต่อไปแบบนี้ดี

เธอกำลังพยายามอย่างหนักกับการแก้ปัญหา พยายามทบทวนเรื่องราวต่างๆ นาๆ และคำพูดของทุกคนที่เข้าหู ทั้งลูก ทั้งนิรันดร์ ทั้งคุณหญิงและคุณท่าน แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่ง่ายเอาเสียเลย

“เรื่องของความรักมันควรเป็นเรื่องของคนสองตัดสินใจ ต่อให้เขาเป็นลูก แต่เรื่องนี้เราจัดเป็นคนนอกนะออม” ท่านนิลกาลเอ่ยเสียงนุ่มก่อนจะปล่อยให้ป้าออมเป็นคนตัดสินใจเอาเองว่าจะเอายังไงต่อไป

ถึงแม้ว่านิรันดร์จะถึงขั้นเอ่ยปากขอร้องให้มาช่วยพูด พวกท่านทั้งสองก็พูดแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับป้าออมคนเดียวว่าจะเอายังไงต่อไป การเปลี่ยนแปลงความคิดคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย คิดว่าการเป็นผู้ที่อีกฝ่ายเคารพนั้นเพียงพอต่อการขอโอกาส ทว่าเอาเข้าจริงพวกเขาเจอคนใจแข็งไปเสียหน่อย

สามคนพ่อแม่ลูกมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องรับประทานอาหาร นิรันดร์กำลังทานมื้อเช้าขณะที่พูดคุยกับพ่อแม่ของเขาไปด้วย นิรันดร์เงียบขรึมลงไปมากพอสมควร เขาคิดว่ามันจะไม่ยาก แต่มันไม่เป็นอย่างที่เขาคิด ดังนั้นเขาอาจจะต้องหาทางอื่น

ทั้งพ่อแม่และแม่ต่างก็ให้กำลังใจ อาจมีทางเลือกอื่นเช่นการตัดใจจากเด็กคนนี้เพื่อไปหาคนอื่นที่เข้ากับนิรันดร์ได้มากกว่าริท แต่นิรันดร์ไม่สนใจข้อเสนอเหล่านั้น เพราะถ้ามันเลิกรักได้ง่าย เขาคงไม่คิดถึงริทมากขนาดนี้หรอก

“ลองไปบนดีไหมลูก?” จู่ๆ คนเป็นแม่ก็เสนออะไรที่แสนจะแปลกประหลาดสำหรับนิรันดร์ เขาชะงักช้อน หันมองหน้าแม่ที่ยิ้มแย้มเหมือนกำลังพูดเรื่องทั่วๆ ไป ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องทั่วไปเลยสำหรับนิรันดร์

“แม่ นี่ยุคไหนแล้ว” คนเป็นพ่อเอ่ยท้วงแทนลูกชาย

“ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้หนิคะ เราไปไหว้พระแล้วก็ขอพรท่านดูก็ไม่เสียหายอะไร แม่เองก็อยากไปไหว้พระไหว้เจ้าเหมือนกัน กลับมาเมืองไทยทั้งที ไม่เข้าวัดเสียหน่อยเหมือนกลับมาไม่ถึงบ้านนะ” นิรันดร์ได้ฟังก็ถอนหายใจเบาๆ

“ก็ดีครับ ผมไม่ได้ไหว้พระนานแล้ว”

นิรันดร์ทานมื้อเช้าของตนเองเสร็จก็ขอไปแต่งตัวให้เรียบร้อยกว่านี้ จากนั้นเขาก็ทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้พ่อกับแม่เพื่อเดินทางไปยังวัดประจำของแม่ ระหว่างทางเขายังคิดอยู่ตลอดว่าจะใช้วิธีไหนทำให้ป้าออมใจอ่อนยอมให้เขาได้คบกับลูกชายเธอ กระทั่งเดินทางมาถึงวัดเขาก็ยังไม่เลิกคิด

นิรันดร์เกิดที่เมืองไทย ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยก็สิบกว่าปี วัฒนธรรมต่างๆ ยังคงเข้มข้นในสายเลือด ติดอย่างเดียว เขาไม่เคยบนบานศาลกล่าวมาก่อน อีกทั้งยังมีความคิดว่าทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยก็มาจากตัวเองล้วนๆ ต่างหาก ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

แต่แล้ว...คนไม่เชื่อก็บนบานไปจนได้

อย่างที่แม่ว่าแหละ มันไม่มีอะไรเสียหายหนิถ้าเขาจะพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้างสักครั้งหนึ่ง อย่างน้อยก็เหมือนเติมกำลังใจให้ตัวเองไปในตัว ส่วนถามว่าใจอะเชื่อไหม นิรันดร์ไม่เชื่อแต่ก็หวังว่าจะได้ผลเท่านั้นเอง

พ่อแม่ลูกยังคงเดินทางเที่ยวกันต่อทั้งวัน ไหว้วัดนี้เสร็จก็ไปหาอะไรทานไปตามเรื่องตามราว คนห่างจากเมืองไทยไประยะหนึ่งมันก็จะคิดถึงบรรยากาศบ้าง คิดถึงอาหาร คิดถึงสถานที่ต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ

นิรันดร์ไม่ค่อยชอบเที่ยวนัก ตั้งแต่เด็กแล้ว เขาชอบการอยู่แต่ในห้องมากกว่า ที่นอนนุ่มๆ เครื่องวิดีโอเกม หนัง การ์ตูน หรือแม้แต่ดนตรีภายในห้องนี่แหละคือสวรรค์ของเขา ทว่าหลังจากไม่ได้เที่ยวนาน ครั้งนี้เขารู้สึกดีกับการได้เดินเล่นไปบนทางเท้าที่มีผู้คนมากมาย ข้างหน้าเป็นพ่อกับแม่ ข้างทางเป็นร้านรวงต่างๆ มากมาย

บางทันอาจจะเพราะมีพ่อแม่มาเดินเล่นด้วยก็ได้ มันก็เลยไม่รู้สึกแย่กับการต้องเจอผู้คน เจอควันรถ เจออากาศร้อนๆ เขาคิดถึงริทจัง อยากให้ริทได้มาเดินด้วย ริทคงเจือแจ้วไปตลอดทาง ชวนเขาดูนู้น ดูนี่ไปตามประสาเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง

เนี่ย...คิดถึงมากขนาดนี้จะให้ตัดใจยังไง

คิดแล้วก็ขอถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ๆ ให้กับการจากลาแบบไม่ทันตั้งตัว อย่างน้อย ก็น่าจะยอมให้ติดต่อกันบ้าง ถ้ารักนี้จะต้องเป็นรักระยะไกลก็ยังดีกว่าการไม่ให้รักเลยแบบนี้ นิรันดร์ล่ะอยากให้ริทเป็นเด็กดื้อจัง อยากให้ริทขัดคำสั่งแม่เพื่อเขา ทั้งที่รู้ดีอยู่เต็มอกว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ริทน่ะเป็นเด็กช่างที่นิสัยเนิร์ดมากเลย

“นี่ตารัน หนูไม่ลองส่งเป็นจดหมายไปแทนล่ะลูก ถ้าส่งข้อความทางมือถือกับโทรหาไม่ได้ จดหมายก็น่าสนใจน้า” เดินเล่นอยู่ดีๆ คนเป็นแม่ก็ปิ๊งไอเดียอะไรออกมาแล้วเสนอให้ลูกชาย

“นึกถึงสมัยก่อนเลย” คนเป็นพ่อเปรยขึ้นยิ้มๆ

“ใช่ค่ะ สมัยก่อนนี่ก็ต้องส่งจดหมายเอา หูย แม่นี่มารอจดหมายพ่อทุกอาทิตย์เลยนะ เห็นพี่บุรุษไปษณีย์มาที่บ้านที่ไรเขินไปหมดทุกทีเลย”

“ผมก็รอของคุณทุกอาทิตย์เหมือนกัน แป้งที่คุณใช้สมัยนั้นหอมมาก ผมยังชอบกลิ่นมันอยู่เลยนะ” พ่อกับแม่ยิ้มให้กัน สายตาสื่อความหมายและยืนรำลึกถึงความหวานอันเก่าก่อน

อืม...แต่เป็นวิธีที่น่าสนใจนะ

นิรันดร์กะเลยว่าจะต้องลองส่งจดหมายให้ริทสักหน่อย ระหว่างที่เที่ยวเล่นกับพ่อแม่ เขามองหาโปสการ์ดสวยๆ ไม่ก็ซองจดหมายเพื่อที่กลับบ้านไปเขาจะเขียนแล้วเอามันใส่ซองส่งไปเลย ยุคนี้มีระบบการส่งจดหมายที่ทันสมัยมากขึ้น อีเอมเอสนี่วันเดียวก็น่าจะถึงมือริท เขาจะส่งให้ทั้งทางบริษัทและที่บ้าน ยังไงริทก็ต้องได้รับจดหมายจากเขา

ขอแค่ริทได้รู้ว่าเขาคิดถึงแค่ไหนก็น่าจะเพียงพอ ริทเป็นคนใจอ่อนง่าย ไม่เหมือนแม่ที่ค่อนข้างจะใจแข็งเสียยิ่งกว่าหิน นิรันดร์คิดว่าเขาน่าจะขอให้ริทยอมกลับมาติดต่อกับเขาได้ผ่านตัวหนังสือที่เขาเป็นคนเขียนขึ้นเองกับมือ

ทั้งหมดเที่ยวจดหนำใจ เที่ยวจนเหนื่อยเพลียไปตามๆ กันยกเว้นนิรันดร์ที่ร่างกายยังแข็งแรง เขาส่งให้พ่อกับแม่ลงตรงหน้าบ้าน ส่วนตนเองนั้นก็เอารถเข้าไปเก็บไว้ที่โรงจอดรถตอนสองทุ่มกว่า

เดินกลับมาจะเข้าตัวบ้านเป็นต้องแปลกใจที่ป้าออมยืนเด่นตระหง่านอยู่ตรงประตูใหญ่ สายตาของเธอพุ่งตรงมาที่เขา มันเดาได้ไม่ยากเลยว่าป้าออมมีเรื่องจะคุยกับเขาอย่างแน่นอน ว่าก็ว่าเถอะ...เจอแบบนี้ใครบ้างไม่หวังให้เป็นเรื่องราวดีๆ

“มีอะไรหรือเปล่าครับป้า” นิรันดร์ตรงเข้าไปถาม เขาไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าพ่อกับแม่ของเขาจะไปไหนแล้ว ตอนนี้ใจมันอยู่ที่ป้าออมคนเดียว เพราะเธอเป็นคนที่จะยอมยกริทให้เขาได้

“คุณรันจริงจังกับริทมันจริงๆ เหรอคะ ป้าว่า...ริทไม่ได้เหมาะสมอะไรกับคุณรันเลย”

“ป้าครับ นี่หมดยุคที่จะมาบอกว่าเหมาะสมหรือไม่แล้ว สำหรับผมน่ะ ริทก็คือริท เขาจะเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ยากดีมีจนแค่ไหน นั่นไม่ได้สำคัญนะครับ ริทเป็นเด็กขยันจะตาย งานก็ทำ หาเลี้ยงตัวเองก็ได้ ผมคิดว่าคุณสมบัติของคนคนหนึ่งมันคงไม่ต้องเหมารวมไปถึงชาติตระกูลหรือเงินรองบัญชีหรอกครับ” นิรันดร์เอ่ยอย่างใจจริง เขารู้ว่า ความจริงใจเท่านั้นที่จะทำลายกำแพงของหัวหน้าแม่บ้านสุดใจแข็งคนนี้ได้

“ริทไม่ได้ขายตัวจริงๆ ใช่ไหมคะ”

“ไม่ครับ ริทไม่เคยขายตัว และเขาก็ไม่เคยต้องการขายตัวแน่ๆ เขารักศักดิ์ศรีตัวเองมาก เหมือนที่รักป้ามากจนไม่อยากทำให้ป้าผิดหวังนั่นแหละครับ” หญิงสูงวันตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ

“ก็ได้ค่ะคุณรัน... ป้ายอมให้คุณรันกับริทคบกันก็ได้ค่ะ” เสียงนั้นไม่ได้แข็งแรงมาก มันออกจะเต็มไปด้วยความลังเล ไม่แน่นอน และอัดแน่นไปด้วยความกังวลมากมาย นิรันดร์รับรู้ถึงมันได้ แล้วเขาก็รู้ดีว่าความรู้สึกเหล่านี้ของป้าออมมันขจัดไม่ได้ง่ายนัก การยอมใจอ่อนนี่ก็ถือว่ามากพอแล้วสำหรับครั้งนี้

“ขอบคุณครับป้า ขอบคุณมากๆ” นิรันดร์พนมมือขึ้น เขายกมือไหว้ผู้อาวุโสตรงหน้า จนคนโดนไหว้ตกอกตกใจไม่คิดว่าเจ้านายจะมาไหว้ตนเอง

“คุณรัน! โอ้ยไม่ต้องขนาดนี้ค่ะ”

“ไม่ได้หรอกครับ แม่ของคนรักก็เหมือนแม่ของผมนั่นแหละ ขอบคุณจริงๆ ครับ ขอบคุณสำหรับโอกาสครั้งนี้” นิรันดร์ไม่ยอมลดมือลง ป้าออมถอนหายใจแผ่วเบา เธอเอื้อมมือไปรองมือของนิรันดร์ที่ไหว้เธอเอาไว้

“ค่ะคุณรัน” เธอขานตอบแค่นั้น เพราะลึกๆ ก็ไม่ได้มั่นใจกับการตัดสินใจนี้เท่าไหร่นัก...

....100%....

เชียร์ให้คุณรันรีบไปรับน้องมาเร็วๆ พาน้องกลับบ้านแล้วดูแลน้องน้า
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 19-07-2019 22:14:13
>….ตอนที่ 24 [100%]….<

ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขา...ริทรู้สึกอย่างนั้น

ในทุกๆ วันเขาจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงาน ที่โรงงานมีโอทีเยอะมาก ริทเลือกเข้าโอทีเช้าและเลิกดึกตลอดเพื่อที่จะได้ไม่ต้องกลับไปอยู่ที่บ้านน้าสาวในช่วงเย็น บ้านที่เขาเกิด แต่กลับไม่คุ้นเคย

เขาไม่ค่อยได้พูดคุยกับน้าเขยเท่าไหร่ ยิ่งกับหลานสาวยิ่งอยู่ห่างกันมากด้วยน้าเขยไม่อยากให้ลูกสาวมายุ่งกับคนแปลกหน้าอย่างเขา ก็ไม่ผิดอะไร เขาจากบ้านหลังนี้ไปก่อนที่น้าสาวจะมีแฟนคนนี้เสียอีก

ยามที่พวกเขานั่งกินข้าวกัน ไม่ว่าจะมื้อไหน ริทรู้สึกเหมือนกินข้าวอยู่คนเดียว พวกเขาพูดคุยกันในเรื่องของครอบครัว เรื่องของลูกสาว เรื่องการทำงาน บางทีก็ทะเลาะกันตอนดึกๆ บ้านมันชั้นเดียว ห้องนอนก็ห้องเดียว ทำให้น้าทั้งคู่ออกมาเถียงกันนอกห้องตอนลูกสาวหลับ ริทจำต้องทำเป็นหลับไม่ก็ออกไปนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านประจำ

มันเป็นความว้าเหว่อย่างที่สุด ถึงได้คุยกับแม่ทางโทรศัพท์มันก็ไม่ช่วยคลายเหงาให้เขาเลย ริทอยากไปอยู่กับแม่ อยากอยู่ใกล้ๆ แม่จะได้ไม่โดดเดี่ยวแบบนี้ เพื่อนฝูงก็ไม่มี จะมีก็แต่เพื่อนเก่าจากที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันมา คุยกันในเฟซประปราย

ริทเปลี่ยนเฟซ เปลี่ยนเบอร์ตามคำขอของแม่เขา แม่ไม่อยากให้เขาติดต่อกับนิรันดร์อีก เป็นไปได้ก็อยากให้ตัดกันให้ขาดไปเลย ตอนแรกริทคิดว่ามันง่าย นิรันดร์คงไม่ติดต่อเขามาแล้วแม้ว่าจะตกลงคบกันก็ตาม

แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น...

เพียงไม่ถึงอาทิตย์นิรันดร์ก็หาเขาจนเจอ คอยโทรมาหา คอยส่งข้อความมาบอกคิดถึงอยู่ตลอด ริทเลือกที่จะเชื่อฟังแม่ เพราะอยากให้แม่ให้อภัยในสิ่งที่เขาได้ทำพลาดลงไปแล้ว เขาจึงต้องใจแข็งให้ถึงที่สุดเพื่อจะตัดขาดกับนิรันดร์

รู้ไหมมันยากแค่ไหน อยากตอบข้อความ อยากรับสาย แต่ก็ทำไม่ได้ ต้องบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเขาไม่คู่ควรกับนิรันดร์ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เขากับนิรันดร์ต่างกันเกินไป มันเป็นเหตุผลโง่ๆ เหตุผลของพวกหัวโบราญแต่มันคือสิ่งเดียวที่ริทพอจะคิดได้

ต้องกล่อมตัวเองทุกวัน อย่าอ่านนะ อย่าตอบข้อความนะ อย่ารับสายนะ มันโคตรยากเลยอะ เพราะรัก เลยอยากจะบอกเหมือนกันว่าเขาเองทั้งรักและคิดถึงนิรันดร์แค่ไหน ฝ่ายนั้นไม่เคยย่อท้อที่จะติดต่อหาเขา แม้เขาจะปฏิเสธโดยการเงียบใส่ นิรันดร์ก็ยังมานะจนริทแทบจะใจอ่อนอยู่แล้ว

ช่วงเวลาแห่งความเดียวดายผ่านไปอย่างเชื่องช้า เข้าอาทิตย์ที่สองแล้วที่ริทเอาแต่เงียบงัน ไม่ค่อยยิ้มหรือไม่มีเรื่องมาทำให้เขามีความสุข บางทีก็ต้องเริงร่าไปกับเพื่อนร่วมงาน แต่มันโคตรฝืนเลย ริทยิ้มแบบขอไปที ยิ้มเป็นเพียงมารยาทที่ต้องยิ้มไม่งั้นคงทำงานลำบาก พอถึงเวลาเลิกงาน ริทก็จะรีบกลับบ้าน ไม่สุงสิงกับใครเลยหลังเวลาเลิกงานแล้ว

บนท้องถนนที่รถรามีไม่มากนัก ประอาทิย์หายลับไปจากท้องฟ้า แทนที่ด้วยดวงจันทร์ที่ทอแสงสีดวลตาอยู่ท่ามกลางดวงดาวนับล้านดวง ริทเหม่อมมองมัน เพราะรถรับส่งยังมาไม่ถึง

“เห็นว่าวันนี้รถรับส่งเสียกลางทาง สงสัยจะต้องได้กลับเองล่ะมั้งเนี่ย” หญิงสาวข้างกายริทเปรยขึ้นมาเบาๆ

“งั้นเหรอครับ” ริทขานตอบตามมารยาท เธอคนนั้นขยับกายเข้ามาใกล้

“อากาศก็เริ่มหนาวแล้วเนอะ เราเหมาแท็กซี่กลับกันดีไหมริท บ้านริทอยู่เลยบ้านเราไปหน่อยเดียวเองนี่นา” เธอชะโงกหน้าเข้ามามองสบตา ริทยิ้มๆ ให้แล้วก็ส่ายหน้า

“ครับ อากาศหนาวแล้ว แต่ก็ยังไม่มากเท่าไหร่ ผมว่าผมกลับรถสองแถวดีกว่า” แค่รู้สึกว่ามันเปลืองเงินไปหน่อย แต่ริทกลับไม่ได้รู้สึกเลยว่ากำลังโดนหญิงสาวจีบอยู่

“ก็ได้ พี่กลับด้วยนะ” ริทพยักหน้าเบาๆ แล้วก็ทอดสายตาเฝ้ามองรถสองแถว

ด้วยความที่บริษัทมีรถรับส่งอยู่ตลอดเวลา รถสองแถวจึงไม่ค่อยวนเวียนมาแถวนี้เท่าไหร่ ยิ่งเป็นต่างจังหวัดแบบนี้ยิ่งหารถได้ยาก ส่วนใหญ่เขามีรถมอเตอร์ไซก์กันหมด มันสะดวกยามเดินทาง

“เออริท พี่ไม่เห็นริทคุยกับผู้หญิงคนไหนเลย แฟนหวงเหรอจ๊ะ” หญิงสาวหลอกถาม

“เปล่าครับ ผมไม่มีแฟนหรอก” พูดแล้วก็แอบเศร้า เขามีแฟนนะ...แล้วก็เลือกที่จะปฏิเสธแฟนอย่างนิรันดร์ไปแล้ว

“โสดจริงอะ”

“ครับ”

“สนใจรับพี่เอาไว้นอนกอดไหมจ๊ะ” หญิงสาวเอ่ยออกมาตรงๆ ริทชะงักไปเล็กน้อยเพราะไม่คิดว่าจะโดนจีบไม่ทันตั้งตัว

“เอ่อคือ...”

“พี่ชอบริทมานานแล้วนะ แต่ไม่กล้าคุยด้วยอะ คนมันเขินนี่นา” เธอแสดงท่าทีเขินอายน้อยๆ แต่ริทไม่มองมัน

เขาก็แค่คิด...เขาควรเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนหรือเปล่า?

แต่เขาไม่ได้รักเธอนะ เขาจะเริ่มต้นใหม่กับคนที่เขาไม่รักได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้เลย คนที่เขาคิดถึง คนที่เขาโหยหา มันยังมีแค่คนเดียวนั่นก็คือนิรันดร์ ไม่รู้ป่านนี้นิรันดร์จะเลิกรักเขาหรือยัง อาจจะมีคนใหม่ก็ได้ คิดว่านิรันดร์หาคนใหม่ไม่ยากหรอก

“ริทไม่ต้องรีบให้คำตอบกับพี่ก็ได้นะจ๊ะ พี่รอได้...” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบ รถลีมูซีนสุดหรูสีขาวก็เคลื่อนที่เข้ามาที่ป้ายรอรถโดยสาร

สายตาทุกคู่พุ่งตรงไปที่รถคันนั้นยกเว้นริท เขาไม่ได้ตั้งใจจะมองลีมูซีนสีขาวคันนี้ ก็แค่มันจอดบังทัศนียภาพรอบด้านไปหมด แต่จะว่าไป ก็ไม่คิดว่าจะมีลีมูซีนมาแถวนี้ เห็นแบบนี้แล้วก็นึกถึงเจ้าลีที่บ้านนั้น

“โห นี่มันรถอะไรทำใหญ่จัง สวยด้วย คงนั่งสบายน่าดูเลยเนอะ” หญิงสาวข้างกายตาเป็นประกายแวววาว

“ครับ มันนั่งสบาย ข้างในกว้างขวาง ห้องโดยสารนั่งสักหกคนพอดี” ริทว่าไปตามเรื่องตามราว

“ริทรู้จักรถรุ่นนี้เหรอ”

“ไม่เชิงครับ” ก็แค่เดาเอาจากภายนอก คันนี้มันคนละรุ่นกับที่บ้านหลังนั้น แถมสีก็ยังคนละสีอีกต่างหาก

“อยากนั่งจัง...” เธอยังเพ้อต่อไป ริทตั้งใจจะลุกขึ้นเพื่อเดินเลี่ยงไปรอรถสองแถว ขืนนั่งตรงนี้ต่อคงไม่มีรถคันไหนยอมจอดเพราะติดลีมูซีนคันนี้

ร่างโปร่งลุกขึ้น กระชับสายสะพายกระเป๋าเป้ของตนเองเดินเลี่ยงออกไปทางท้ายรถ ขณะที่หญิงสาวยังมองลีมูซีนสีขาวสุดหรูไม่ละสายตา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าริทได้เดินเลี่ยงออกไปแล้ว

ทว่ายังไม่ทันได้เดินเลยท้ายรถ ข้อมือเล็กก็โดนคว้าเอาไว้ด้วยมือใหญ่ ริทแอบตกใจ เขาสะดุ้งและหันไปมองคนที่จับข้อมือของเขาหมายจะบอกให้ปล่อย แต่...เสียงมันกลับหายไปเมื่อเห็นว่าคนที่จับเขาไว้นั้นเป็นใคร

“ริทจะรีบไปไหนครับ...” เสียงทุ้มละมุนที่แสนคุ้นหู แววตาโหยหาของนิรันดร์พุ่งตรงมาที่เขาโดยไม่มีปิดบัง

เขาควรวิ่งหนีไปหรือเปล่า? แล้วใจเขาล่ะ...ใจเขาต้องการอะไร

“ผมมารับริทกลับบ้าน ริทครับ...กลับบ้านเรากันนะ” นิรันดร์ออกแรงดึงข้อมืองของริทให้เข้ามาใกล้ อีกมือเอื้อมไปลูบหัวทุยเบาๆ

“ผม...ผมอยู่บ้านแล้วครับ”

“บ้านของเรา ไม่ใช่บ้านของริทหนิ ผมคุยกับแม่ริทแล้วนะ แม่ริทก็ยอมให้ผมมารับริทแล้วด้วย กลับบ้านกับผมนะครับ” สายตานิรันดร์ช่างเว้าวอน

แล้ว...เขาจะหนีพ้นได้ยังไง

ริทพยักหน้าเบาๆ ไม่รู้ว่านิรันดร์หลอกเขาไหม แต่เขาใจแข็งเงียบใส่อีกฝ่ายได้แค่นี้แหละ ทันทีที่เจอหน้า หัวใจก็ร่ำร้องให้เข้าไปหานิรันดร์ แล้วนิรันดร์มาใช้น้ำเสียงอ้อนวอนแบบนี้เขาจะปฏิเสธลงอีกได้ยังไง เขาทำไม่ได้หรอก ใจของเขามันไม่เคยแข็งพอที่จะต่อกรกับนิรันดร์เลย

นิรันดร์คว้าร่างโปร่งเข้าสู่อ้อมกอดท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายที่มองมาอย่างสนอกสนใจ เพราะพวกเขาเห็นว่าชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีคนนี้เดินออกมาจากรถหรูสีขาวตรงหน้า ดูยังไงก็เป็นคนรวย แล้วคนรวยคนนั้นมากอดริทที่ทำงานอยู่ที่นี่เนี่ยนะ เป็นใครก็ต้องสนใจเป็นเรื่องธรรมดา

ต่างกับคนสองคนตรงนี้อย่างสิ้นเชิง พวกเขาไม่สนใจอะไรเลย เอาแต่กระชับอ้อมกอดกันไว้แนบแน่น ปล่อยให้หัวใจสองดวงได้อยู่ใกล้กัน ได้แชร์จังหวะที่แสนระรัวให้กันและกันรับรู้

เมื่อได้กลับสู่อ้อมกอดที่แสนคุ้นเคย น้ำตาก็พลันไหลริน อย่างกับเขาขี้แยมากนัก ก็ได้ ขี้แยก็ขี้แย ริทยอมเป็นเด็กขี้แยในยามนี้ เพราะเขารู้สึกว่าเขาจะไม่โดดเดี่ยวอย่างที่ผ่านมาอีกแล้ว

ถ้าช่วงเวลาที่ห่างจากกันมันเป็นเการลงโทษ ริทก็ได้รับบทลงโทษที่โหดร้ายไม่ใช่น้อย ต้องห่างแม่ ต้องห่างคนที่เขารัก มันทรมานเขามากพอแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้รับการให้อภัยเสียที

นิรันดร์ประครองใบหน้าที่แดงซ่านของเด็กหนุ่มในอ้อมกอด รอยยิ้มของนิรันดร์บ่งบอกได้ชัดว่าเจ้าตัวมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้ริทกลับมา เขาค่อยๆ โน้มเข้าหาแล้วประทับจุมพิตอ่อนหวานให้กับริท ส่งผ่านความรัก ส่งผ่านความคิดถึงอันมากมายให้กับริท

ขณะเดียวกันนิรันดร์ก็รับรู้ได้ว่าริทเองรู้สึกไม่ต่างอะไรกับเขาเลย อาจจะแย่กว่าตรงที่ไม่อาจทำตามหัวใจตัวเองได้ ริทต้องอดทนกับการไม่รับสายเขา ไม่อ่านข้อความเขา มันต้องเหงามากแน่ๆ นิรันดร์เชื่อแบบนั้น

“ปะ กลับกัน...พ่อกับแม่ผมรอริทอยู่” รอยยิ้มแสนสดใส ริทเก้อเขินเพราะเขาเพิ่งทำอะไรประเจิดประเจ้อต่อหน้าคนมากมาย ทว่าคำที่นิรันดร์พูดก็ทำให้เขาแปลกใจ

“คุณท่านกลับมาเหรอครับ” นิรันดร์ประครองเอวริทให้ขึ้นไปบนรถสุดหรู คนขับรถในวันนี้ไม่ใช่คนคุ้นเคยเพราะนิรันดร์จ้างรถของโรงแรมมา

“ใช่ ป้าออมใจแข็งมาก ผมก็เลยโทรไปฟ้องพ่อกับแม่เลย” นิรันดร์พูดเหมือนมันเป็นเรื่องตลก แต่ริทคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องตลกเลย มันกลายเป็นเรื่องจริงจังไปแล้ว

“งี้ท่านก็รู้หมดแล้วสิฮะ”

“ใช่ ก็ดีไม่ใช่เหรอ ป้าออมก็จะได้สบายใจที่เราสองคนคบกันภายใต้การรับรู้ของผู้ใหญ่ ป้าออมห่วงริทมากนะ หวงด้วย ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้ริทกลับมาสิ”

“คุณรันลงทุนมากไปแล้วครับ” ริทเขินหน้าแดงก่ำ ก็ใครจะไปคิดว่าคนคนนี้จะจริงจังกับเขาได้มากขนาดนี้กัน แค่ใจตรงกันเขาก็พองฟูไปหมด นี่ยิ่งเหมือนคบกันออกนอกหน้านอกตาไปแล้ว

“ให้รางวัลผมสิ” นิรันดร์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ส่งสายตาอ้อนขอของรางวัลเป็นเด็กๆ

คบเด็กก็ต้องทำตัวลดอายุหน่อยสิ!

“อ่า...” ริทเม้มริมฝีปากเก้อๆ หน้าเน่อแดงจนลามไปถึงหูถึงคอ

แต่เขาก็ทำ...เขาจูบปากนิรันดร์เบาๆ เป็นรางวัลให้คนทุ่มเท

“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่รักผม”

“ใครไม่รักก็บ้าแล้ว น่ารักขนาดนี้...” นิรันดร์ไม่ยอมให้ริทถอนริมฝีปากออกง่ายๆ เขาบดปากนุ่มนิ่มนั้นกลับอย่างดูดดื่มจนร่างโปร่งล้มลงบนเบาะหลังรถ

ม่านสีทึบค่อยๆ เลื่อนมาปกปิดรอบด้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งระหว่างคนขับและห้องโดยสาร ราวกับว่าคนขับรถเขารู้หน้าที่ตัวเองดี ไม่เหมือนริทในตอนทำงาน ไม่สิ นิรันดร์ไม่ให้ริทปิดม่านระหว่างคนขับกับผู้โดยสารเองนี่นา

จากที่เคยเห็นฉากเรตของเจ้าตัวเองกับคู่ขาลีลาศกันบนรถอย่าเมามัน วันนี้มันกลายเป็นเขาแถมมีคนขับรถคนอื่นมาขับให้อีก ริทไม่ได้เจนจัด ดังนั้นเขาเขินเกินกว่าจะมีอารมณ์ไปยั่วยวนเอาใจให้นิรันดร์มีความสุข มือไม้มันเก้งก้าง เข้งขาก็ดูจะเกะกะไปหมด

แต่ไม่ว่าทุกอย่างจะดูสะเปะสะปะยังไง...ทั้งคู่ก็มีความสุขร่วมกันอยู่ดี

ต่อจากนี้ก็จะเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่มีใครรู้ว่าจะดำเนินไปทางไหน แม้แต่นิรันดร์เองก็ยังเดาไม่ได้ว่าเขากับริทจะครองรักนี้ไปได้นานเท่าไหร่ แต่นั่นมันไม่สำคัญเลย ความรักมันไม่ใช่การกำหนดวันเวลาครองรัก แต่ความรักคือความเข้าใจและประคับประครองกันไป

นิรันดร์เชื่อมั่นในตัวริท และเขาเชื่อว่าเขาเปิดใจให้ถูกคนแล้ว ริทเป็นเด็กหนุ่มที่แม้จะมีตัวตนอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ก็ไม่ทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังถูกคุกคามความเป็นส่วนตัว ริทให้ความรู้สึกสบายใจเหมือนไม่มีใครอยู่ทั้งที่มีริทอยู่ข้างๆ นั่นแหละ

“ต่อไปสัญญากับผมนะ มีอะไรขอให้คุยกัน อย่าหนีผมแบบนี้...” นิรันดร์คลอเคลียริมปากอยู่ที่ปากของริท

“ผมสัญญาครับ”

“ดีมาก...เด็กดีของผม”

“คร้าบ ผมเป็นเด็กดีของป๋าครับ” คำพูดคำจาช่างน่าหมั่นเขี้ยว และนิรันดร์ก็พร้อมที่จะฝังเขี้ยวที่ไม่คมเข้าในกายของเด็กหนุ่ม

ฝ่ามือทั้งสองกุมกันยามจังหวะดำเนินต่อไปข้างหน้า รู้ไหม...นี่แหละคือสิ่งสำคัญ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นขอแค่ทั้งสองยังเลือกจะจับมือกันเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทุกปัญหาที่เข้ามามันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเสมอ ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน...พิศวงหน่อยๆ เริ่มยังไงอาจไม่มีใครรู้ จบยังไงก็ไม่มีใครรู้

แต่ความสำคัญของมันจริงๆ คือการเดินไปด้วยกันจนกว่าจะถึงวันที่แยกจากกันไป…

….100%….

นี่คือตอนจบของเรื่องนี้ เป็นตอนจบที่เราก็ไม่มั่นใจ เอ่อ…เราไม่เคยมั่นใจไรเล้ย แต่ถึงเราจะไม่มั่นใจในผลงานของเรา แต่เราก็ตั้งใจกับมันมากนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณหลสำหรับคอมเมนต์ต่างๆ นะคะ ขอบคุณมากค่า

ปล.เจออีกทีในบทส่งท้ายนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-07-2019 22:44:25
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 19-07-2019 23:30:06
ในที่สุดแม่ก็ยอม  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Philosophy ที่ 19-07-2019 23:33:23
Happy ending  o13 o13

 นิรันดร์เหมือนเด็กมีการโทรไปฟ้องพ่อแม่ด้วย
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-07-2019 23:37:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 20-07-2019 00:40:13
ขอบคุณมากๆนะคะเดธ ที่ผลิตนิยายสนุกๆเรื่องนี้ออกมา ชอบมากเลยค่ะ ต่อไปป๋าก็คงต้องเปย์น้องหนักๆแล้วสิ 55555555
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Funnycoco ที่ 20-07-2019 02:08:18
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: angelninae ที่ 20-07-2019 12:25:29
น่ารักมากๆค่ะ ดีใจเค้าได้กลับมาอยู่ด้วยกัน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-07-2019 21:43:31
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-07-2019 06:18:06
ดีใจที่ป้าออมใจอ่อน รักกันมากๆนะ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 21-07-2019 08:43:51
ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ เข้าใจแม่นะคะ แต่ก็สงสารริทมาก
ถึงน้องจะยอมแยกจากคุณรันก็ได้ แต่น้องอยากอยู่กับแม่
ใจหนอใจ ไปอยู่โน่น เค้าก็มีครอบครัว ปัญหาชีวิตไปอีก

คุณรันต้องรีบแล้วนะคะ เคลียร์ใจ เคลียร์ตัวเอง
ให้แม่ริทเข้าใจ จะได้รีบไปพาน้องกลับมา สงสารริท

————————

ว้าววว ดีใจจังเลยค่ะ ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว

เอ็นดูริทมาก ริทมีแต่แม่ แล้วยังต้องมาห่างกันไป
บ้านเกิดก็เป็นบ้านน้า ไม่ใช่บ้านตัวเอง จะให้ไม่รู้สึกอะไร
ก็ทำได้ยากนะ ป้าออมคิดผิดในเรื่องนี้ไปนิดค่ะ

คุณรันถึงขั้นโทรหาแม่ ขอตัวช่วยอย่างด่วน
พ่อแม่คุณรันน่ารักดีค่ะ เข้าใจลูก และเข้าใจโลก

คุณรันก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นคนทั่วไป จะรักตลอดไป
ก็รับปากไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้รักมาก อยากอยู่ด้วย
ขอให้ได้เริ่มต้นก่อน แล้วจะไปต่อทางไหนก็ว่ากันไป
ถือว่าคุณรันหลุดกรอบตัวเองไปเยอะเลยนะคะ
ตั้งแต่มีริทเข้ามา คิดจะรักคิดจะชอบ คุณรันยอมเปิดใจ

อยากบอกว่า ดีใจมาก อีกครั้ง ไม่งั้นก็น้ำตามาอีกแน่
ริทดูท้อ ดูหมดแรงมากแล้ว ไม่อยากให้น้องเศร้า

ขอบคุณมากนะคะสำหรับนิยายดีๆ
เป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ และรอบทส่งท้ายจ้า

หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ 22-24 - 100% [19-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiffany ที่ 21-07-2019 15:38:24
ดีใจกับน้องริท คุณแม่ยอมใจอ่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: GukakST ที่ 22-07-2019 19:44:22
>….บทส่งท้าย [100%]….<

ริทยืนเกร็งอยู่หน้าบ้าน เขารู้เรื่องทุกอย่างจากการบอกเล่าของนิรันดร์ระหว่างการเดินทางกลับมายังที่นี่ ตอนแรกก็ไม่อะไรเท่าไหร่ ทว่าพอต้องเผชิญหน้าจริงๆ เขากลับรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย นี่ไม่ใช่การเผชิญหน้ากับคู่อริที่ไม่พอใจก็แค่ตรงเข้าไปต่อยปากมัน แต่นี่คือการเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่ที่เป็นทั้งแม่ของเขาและนายท่านของบ้านทั้งสองคน

มันโคตรจะไม่ง่ายเลย!

“ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกนะ” นิรันดร์คว้ามืออันเย็นเฉียบของริทมากุมเอาไว้ เด็กหนุ่มเงยหน้าส่งยิ้ม แต่ก็เป็นรอยยิ้มมที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลพอสมควร

“พูดง่ายนะฮะ ผมยังเกร็งๆ อยู่ดี ไม่ได้เจอคุณท่านนานแล้วด้วย ไม่รู้จะต้องพูดอะไรยังไงเลย”

“ก็แค่ทักทาย พูดคุยสารทุกข์สุขดิบธรรมดานั่นแหละครับ” นิรันดร์ออกแรงดึงริทให้เข้าไปในบ้าน

เวลาคุณหญิงพลอยใสกำลังจัดโต๊ะอาหาร เธอเป็นคนลงมือทำอาหารเช้าทั้งหมดด้วยตัวเธอเอง โดยมีหัวหน้าแม่บ้านอย่างออมเป็นลูกมือ แม้ว่าอายุอานามจะมากและได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายที่ต่างประเทศ แต่คุณหญิงพลอยใสก็ไม่ได้ละเลยในการทำอาหารไทย เพราะว่าคุณนิลกาลนั้นชอบอาหารรสมือของเธอเป็นอย่างมาก

เมื่อนิรันดร์และริทเดินเข้ามาในบ้านก็พบกับคุณนิลกาลที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ห้องโถงรับแขก นิรันดร์พาริทตรงเข้าไปสวัสดีพ่อของเขาทันทีด้วยรอยยิ้มสดใส คุณนิลกาลเองเห็นลูกชายยิ้มก็ยิ้มตาม

“สวัสดีครับคุณท่าน” ริทยกมือไหว้คุณท่านด้วยความนอบน้อม

“ไม่เจอกันนานเลยนะริท โตเป็นหนุ่มหน้าตาดีไม่เบานะเราเนี่ย อะๆ นั่งกันก่อนสิ คุณพลอยเขาจัดโต๊ะอาหารอยู่ เดี๋ยวเราไปทานอาหารเช้าด้วยกัน” ริทอยากปฏิเสธมากๆ มันไม่คุ้นชินกับการต้องนั่งทานอาหารร่วมโต๊ะกับคุณท่าน

อดีตนั้นเขาเป็นแค่เด็กน้อยซนๆ วิ่งเล่นอยู่ในบ้าน ไม่เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดคุณท่านทั้งสองนี้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการนั่งทานอาหารร่วมกันเลย แค่เดินผ่านยังแทบนับครั้งได้ มันก็บ้างบางครั้งที่คุณหญิงจะมอบคุกกี้ทำเองให้กับเด็กน้อยอย่างเขากิน แต่มันก็ไม่ได้บ่อยอะไร ส่วนใหญ่จะผ่านแม่ของเขามาทั้งนั้นเลยมากกว่า

คุณนิลกาลมองหน้าลูกชายเล็กน้อยก่อนจะหันไปอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ เวลานี้ริทค่อนเกร็ง แค่เห็นด้วยตาเปล่าก็รับรู้ได้ทันที เล่นนั่งกุมมือก้มหน้าสงบเสงี่ยมขนาดนั้น แล้วดูเจ้าลูกชายของเขาสิ จ้องหน้าริทแล้วยิ้มเหมือนโรคจิตเข้าไปทุกที คุณนิลกาลทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้น จะได้ไม่สร้างบรรยากาศที่อึดอัดให้เด็กทั้งสอง

ราวสิบห้านาทีต่อมา ออมก้เดินเข้ามาบอกกับคุณท่านว่าจัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ริทมองหน้าแม่ตัวเองเล็กน้อย แล้วก็หลบสายตาเพราะยังรู้สึกผิดกับเหตุการณืที่ผ่านมา หากต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้นานๆ เขาต้องรู้สึกไปไม่เป็นยิ่งกว่านี้ ดีที่ทั้งหมดต้องเดินเท้าเข้าห้องอาหาร

คุณพลอยใสเจิสจรัศอยู่ข้างโต๊ะอาหาร รอยยิ้มอันอบอุ่นของเธอละลายบรรยากาศอันอึมครึมเล็กๆ ให้กับริทได้ชะงักนัก แม้อายุอานามจะขนาดนี้แล้ว แต่ริทคิดว่าคุณหญิงยังคงสวยงามเสมอเลย หลังชื่นชมในความงามริทก็ยกมือไหว้คุณหญิงพลอยใส

“เชิญนั่งสิจ๊ะ ออมด้วยนะ นั่งทานด้วยกัน” สองแม่ลูกกระอักกระอ่วนขึ้นมาในทันที ด้วยไม่กล้าที่จะร่วมโต๊ะกับเจ้านาย

“นั่งๆ ฉันหิวแล้ว” คุณนิลกาลตัดบทเร็วๆ เพราะรู้ว่าสองแม่ลูกจะปฏิเสธการร่วมโต๊ะ

อดีตมันเป็นยังไงมันก็คืออดีต ในตอนนี้ริทและนิรันดร์ก็เหมือนคนรักกันไปแล้ว ดังนั้นสองครอบครัวมันก็ต้องดองกันเป็นเรื่องธรรมดา ถึงฐานะจะต่างกันแค่ไหน...นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญเลยแม้แต่นิดเดียว ก็นะ ความเปลี่ยนแปลงนี้มันเร็ว ไม่แปลกหรอกที่จะเกิดการปรับตัวไม่ทันขึ้น ต้องใช้เวลาอีกนิด ละลายพฤติกรรมสองแม่ลูกทีละน้อย

คุณนิลกาลนั่งที่หัวโต๊ะ ขวามือเป็นคุณพลอยใส ซ้ายมือเป็นนิรันดร์ลูกชายตามด้วยริทนั่งติดกับนิรันดร์ ส่วนออมนั่งข้างคุณหญิง แม่บ้านคนอื่นเป็นคนเข้ามาเสิร์ฟข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานคนทั้งห้า

“ริทนี่โตแล้วหล่อเชียวนะลูก” มื้ออาหารเริ่มขึ้นแล้ว คุณหญิงพลอยใสมองหน้าริทแล้วเอ่ยถาม

เธอต้องการให้มื้อเช้านี้เป็นการทานไปสนทนาไป จะได้ผ่อนคลายแล้วก็ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง หากทำให้บรรยากาศดูเป็นทางการมาก ริทคงจะเกร็งยิ่งกว่านี้แน่ๆ แล้วแบบนั้นการสนทนาก็จะไม่ราบรื่นเท่าที่ควรจะเป็น

“ขอบคุณครับ คุณหญิงก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะครับ” ริทยิ้มหวานส่งให้ แม้จะเกร็งๆ อยู่บ้างแต่เขาก็ชมออกไปจากใจจริง

“ตายจริง ปากหวานซะด้วยนะเราเนี่ย ขอบใจนะจ๊ะ” คุณหญิงพลอยใสยิ้มกว้าง กระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันทีเมื่อได้รับคำชมอันน่ารักจากเด็กหนุ่ม

“ช่างฉอเลาะแบบนี้ล่ะสินะ” คุณนิลกาลเอ่ยเรียบๆ สายตาเหลือบมองลูกชายตน ซึ่งก็ได้รับสายตากรุ่มกริ่มตอบกลับมา

“ออมดูสิ ลูกเธอกับลูกฉันนั่งคู่กันแล้วก็เหมาะสมกันดีจังเลยเนอะ” คุณหญิงพลอยใสหันไปสะกิดหัวหน้าแม่บ้านคนสนิท

ออมนั่งมองลูกชายของเธอและผู้เป็นเจ้านายตรงหน้าแล้วก็ปฏิเสธไม่ลงหรอกว่าทั้งสองนั้นดูเข้ากันดี เธอเห็นนิรันดร์ตักอาหารให้พ่อแม่ตัวเอง ให้เธอ และให้ลูกชายของเธอ แววตาที่นิรันดร์ใช้มองริทนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและเอ็นดู มันเป็นภาพค่อนข้างชัดว่าเขาสองคนรู้สึกดีๆ ต่อกัน หลายครั้งริทเองก็หันไปคุยกับนิรันดร์เบาๆ ยิ้มให้กันเล็กๆ มันคงน่าเอ็นดูไม่น้อยในสายตาของนิรันดร์

“ค่ะคุณหญิง แต่...” ออมมไม่กล้าพูดคำที่คิดเอาไว้ในหัว ส่วนหนึ่งเธอก็ตะขิดตะขวงใจกับการที่ลูกชายกลายเป็นแบบนี้ อีกส่วนก็คิดว่ามันจะดีต่อตัวคุณนิรันดร์ไหม

“แต่อะไรจ๊ะ”

“เปล่าค่ะ”

“ไม่เอาหน่า มีอะไรก็พูดก็คุยกัน เราก็เหมือนจะเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้วนะ” คุณหญิงลูบไล้แขนของออมเบาๆ

“ดิฉันแค่คิดว่ามันจะไม่กระทบต่อชื่อเสียงของคุณรันเหรอคะ” หลังคำถาม ทุกอย่างนิ่งเงียบ

นิกาล พลอยใสและนิรันดร์ต่างก็รับเอาวัฒนธรรมตะวันตกมาไม่น้อย ยิ่งนิรันดร์เติบโตในต่างประเทศที่ค่อนข้างจะเสรีมากๆ ในเรื่องรสนิยม ก็จริงที่ว่าการเป็นแบบนี้นั้นยังทำให้ถูกมองไม่ดี แต่การถูกมองไม่ดีในที่นี้ขึ้นอยู่กับว่าวางตัวอย่างไรต่างหาก หากวางตัวดี รู้การละเทศะ การเป็นแบบนี้มันก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อตัวเองและผู้อื่น

นิรันดร์นั้นใช้ชีวิตแบบฟรีสไตล์มากๆ ตอนที่เรียนอยู่ เขาได้ทั้งชายและหญิง และเขาก็ยังดูดีอยู่เสมอ ภาพลักษณ์ การวางตัว หรือแม้กระทั่งการพูดการจา ทำให้เรื่องของรสนิยมนิรันดร์นั้นเป็นเรื่องรองไปเลย คนมองเขาที่เขาเป็นเขาเอง ไม่ได้มองว่าเขาเป็นเกย์หรือเป็นอะไร

ที่นี่อาจไม่เสรีเท่า แต่ด้วยกระแสสิทธิมนุษยชนจากต่างแดนได้เข้ามามีอำนาจในบ้านเมืองนี้ค่อนข้างเยอะ ทำให้เกิดการยอมรับมากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง เมื่อเทียบการยอมรับคนรักเพศเดียวจากเมื่อก่อน ตอนนี้ที่นี่ให้เสรีกับมันไม่น้อยเลย

ปฏิเสธไม่ได้นะว่าคงมีคนไม่ชอบอยู่บ้าง คนที่นินทาลับหลังบ้าง แต่ถ้าเขาวางตัวดี ไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน นิรันดร์เชื่อว่าการที่เขามีคนรักเป็นผู้ชายนั้นจะส่งผลอะไรต่องานหรือหน้าตาทางสังคมของเขา

คนดังๆ ไฮโซมากมายเป็นเกย์กันถมเถไป...

“คุณป้าไม่ต้องห่วงหรอกครับ ประเทศเรากำลังจะมีการจดทะเบียนสมรสในเพศเดียวกันแล้วนะครับ เรื่องที่คบริท ไม่มีทางกระทบชื่อเสียงของผมหรอก ริทเองก็เป็นเด็กน่ารัก มารยาทดี เข้าสังคมเป็น ไม่มีใครกล้าว่าหรือดูถูกเขาแน่ๆ” นิรันดร์สบตาออมก่อนจะหันมาส่งยิ้มบางให้กับริทที่อยู่ข้างกาย

“ใช่ออม ไม่ต้องห่วงหรอก ทุกวันนี้โลกเรามาไกลมาแล้ว มันอยู่ที่ว่าคนในครอบครัวยอมรับได้หรือเปล่าแค่นั้นแหละ ถ้ายอมรับได้ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก คนนอกมันจะมามีบทบาทเท่ากับคนในครอบครัวเราได้ยังไง” คุณนิลกาลกล่าวเสียงเรียบ เขาเองก็ไม่เห็นว่าการที่นิรันดร์เป็นอย่างนี้มันจะแย่ตรงไหน

“แหม คุณพูดถูกใจจัง” คุณหญิงพลอยใสพูดอย่างอารมณ์ดี

เมื่อทั้งหมดต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างนี้ สองแม่ลูกก็ไม่มีเหตุใดจะไปโต้แย้งพวกเขาอีก มื้ออาหารและบทสนทนาอันเรียบง่ายดำเนินต่อไปเรื่อยๆ บรรยากาศค่อยๆ ผ่อนคลายลงทีละน้อย จนกระทั่งถึงของหวาน ทุกคนก็เริ่มจะมีรอยยิ้มประปรายบนใบหน้า บ้างก็คุยเรื่องสมัยเด็กของนิรันดร์หรือริทสลับไปมา ความเป็นเด้กนั้นมันน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาผู้ใหญ่ โดยเฉพาะคนเป็นพ่อเป็นแม่ เมื่อนำกลับมาพุดถึงอีกครั้งมันก็ทำให้หวนคำนึงถึงวันวานได้เป็นอย่างดี

แต่คนโดนพูดถึงเนี่ยสิ หัวเราะแห้งๆ กันทั้งสองคน ริทและนิรันดร์มองหน้ากันในบางครั้ง มีความเก้อเขินในแววตาของทั้งคู่อย่างชัดได้ชัดโดยเฉพาะริทที่เขินแล้วหน้าจะแดงไปหมด ริทโดนคุณหญิงพลอยใสแซวบ่อยมาก เรื่องสีแก้มที่แดงระเรื่อราวกับเติมบลัชออนมา

เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงกับข้อนี้ของตัวเองจริงๆ มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ได้ ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ตาม คนเป็นแม่ก็เริ่มเอ็นดูลูกชายขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหน้านี้

จบจากมื้ออาหาร ทุกคนบนโต๊ะขอตัวออกไปนั่งเล่นกันที่สวนเพื่อเปิดโอกาสให้สองแม่ลูกได้ปรับความเข้าใจกัน ออมพาลูกชายกลับมายังห้องของริทเองที่เคยพักอาสัย กระเป๋าใบโตที่ได้หอบกลับมาด้วยนั้นถูกนำกลับมาไว้ในห้องนี้เป็นที่เรียบร้อย สภาพของมันแตกต่างจากตอนไปเล็กน้อย นั่นคือเหล่าฟิกเกอร์ได้หายไป แต่ริทก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ แม่บอกเองว่าจะเอาคืนคุณนิรันดร์ อีกทั้งนิรันดร์ได้บอกไว้แล้ว่าฟิกเกอร์อยู่ในห้องของเขา

หลังประตูห้องปิดสนิท ริทโผเข้ากอดเอวหนาของแม่ตัวเอง ซบหน้ากับอกราวกับเด็กน้อยแสนขี้แย แต่ริทไม่ได้ร้องไห้ เขาแค่ดีใจที่แม่ให้อภัยเขาเสียที เขานึกว่าเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกับน้าสาวตลอดไปแล้วเสียอีก

“แม่ให้อภัยริทแล้วใช่ไหมครับ” คนเป็นแม่ลูบศีรษะลูกชายแผ่วเบา

“ใช่ ไม่งั้นไม่ยอมให้คุณรันไปรับแกมาหรอก”

“ผม...ดีใจจัง”

“ต้องไปขอบคุณคุณท่านนู้น ท่านลงทุนเดินทางกลับมาเพื่อพูดเรื่องคุณรันกับแก เฮ้อ...มันจะดีใช่ไหม” อยู่ๆ แม่ก็ดึงเขาออกมาจากอ้อมกอด จ้องมองเข้ามาในดวงตาใสซื่อของผู้เป็นลูกชาย

“คำว่าดีมันกว้างนะแม่ เรื่องของความรักมันต้องใช้เวลา ริทคงตอบแม่ไม่ได้ว่าริทกับคุณรันจะไปกันรอดไหม มันก็...ก็ต้องลองอะแม่” ริทว่าไปตามตรง เพราะเขาเองไม่สามารถยืนยันอะไรกับแม่ได้ทั้งนั้น เขากับนิรันดร์ยังไม่ได้เริ่มศึกษาดูใจกันจริงๆ เลยด้วยซ้ำ

“อือ แม่เข้าใจ ในเมื่อตัดสินใจคบกันแล้วก็ดูแลกันดีๆ เราอะอย่าดื้อ อย่าสร้างปัญหาให้คุณรันแก เข้าใจใช่ไหมว่าคุรรันแกเป็นนักธุรกิจ เวลาแกไม่ค่อยมี แล้วงานมันก็สำคัญสำหรับเขามากๆ คิดจะคบกับเขาก็ต้องเข้าใจเขาด้วย” ริทพยักหน้าหงึกๆ ทำงานด้วยกันมาก็เข้าใจอยู่หรอกว่านิรันดร์เป็นยังไง แต่ริทก็ยัง...รักนิรันดร์อยู่ดี

“ริทเข้าใจครับแม่”

“อย่างี่เง่าเอาแต่ใจเป็นเด็กๆ อย่าหึงหวงมั่วซั่วเด็ดขาด ทำอะไรมีสติเยอะๆ หากมีอะไรไม่เข้าใจกันก็ต้องคุยกัน อย่าทิ้งเวลาแย่ๆ ให้มันกัดกินความรู้สึกทั้งเราและคุณรัน ไม่งั้นถ้ามันพังแล้วมันไม่สามารถแก้ได้หรอกนะลูก” ริทพยักหน้าอีก สีหน้าแม่จริงจังสุดๆ

เอ...เขาไม่ได้จะเข้าห้องหอกับคุณรันแกวันนี้น้า

“ริทเข้าใจแล้วครับแม่”

“เข้าใจแล้วก็ทำด้วย” คนเป็นแม่ดันหัวลูกด้วยสีหน้ายุ่งๆ เพราะมั่นไส้ความทะเล้นในแววตาริท

“โอ้ยแม่...แม่อย่าทำริท” ริทส่งเสียงโอดครวญเวอร์วังจนเกินจริง เล่นเอาแม่ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่ทันที

“จัดห้องไปเลยไป แม่ไปทำงานแล้ว” ว่าแล้วแม่ก็ออกไป ริทโบกมือบ๊ายบายด้วยท่าทางกวนประสาท เล่นเอาแม่ปิดประตูห้องใส่เสียงดัง แต่เขาก็ยังนั่งหัวเราะได้อยู่

ก็...มันมีความสุขนี่นา

การกลับมาครั้งนี้ของริทนั้นไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมาก พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายรับรู้และพูดคุยกันเรียบร้อยเรื่องที่จะให้ริทและนิรันดร์คบกัน แต่แม่ของริทอย่างออมยังขอให้ริทนั้นอยู่ห้องตัวเองและทำงานเป็นคนขับรถเช่นเดิม แม้ว่าจะมองตานิรันดร์แล้วรู้สึกว่านิรันดร์ต้องการมากกว่านั้นก็ตาม แต่เธอยังไม่อยากให้ลูกชายไปอยู่กินกับเจ้านายเลยขนาดนั้น

ขัดใจนิรันดร์ไหมมันก็ขัดใจมาก อยากนอนกอดริททุกคืนเลยนี่นา แต่ให้ทำยังไงในเมื่อนี่ก็คือโอกาสแรกที่แม่ริทได้ให้กับเขา มันคงต้องใข้เวลาอีกสักหน่อยเพื่อจะขยับความสัมพันธ์ หรือไม่...ก็แอบทำไม่ให้แม่ริทรู้!

ความคิดชั่วร้ายเริ่มคลืบคลานเข้ามาในหัวของนิรันดร์ทีละน้อย เขาส่งสายตาพราวระยับไปให้ริทรู้แต่ก็โดนเสียงกระแอมไอจากแม่ของริท ความคิดชั่วร้ายก็เลยต้องกลับเข้ากรุมันไป แล้วทำทุกอย่างให้เป็นไปอย่างที่ผู้ใหญ่เห็นสมควร

มาถึงตรงนี้...จากที่ทุกคนในบ้านเห็นว่าริทกับนิรันดร์นั้นสนิทกันเยี่ยงเจ้านายกับลูกน้องก็เป็นอันต้องล้มลง เพราะความจริงคือเจ้านายใหญ่ของพวกเขานั้นได้แอบกินเด็กในบ้าน นี่ที่ผ่านมาพวกเขามองโลกในแง่ดีเกินไปอย่างนั้นเหรอ ไอ้ที่เห็นเข้าๆ ออกๆ ห้องนอนกันนี่...ไม่ได้เป็นเพื่อนกันใช่ไหม

คนหนักใจสุดเห็นจะเป็นลุงช่วย...ลุงถึงกับตบเหล้าขาวเข้าปาก ส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่น่าเล้ยไอริท...”

ความรักบนลีมูซีนหรือยังไง? คิวปิดมันไปสิงอยู่ในนั้น หรือว่า...ผีบ้าผีบอตัวไหนมันดนบันดาน ลุงแกก็ตอบไม่ได้ แกแค่ตกใจเหลือเกินว่าเด็กที่แกปั้นมาทำงานกับมือคนนี้กลายเป็นของหวานให้กับเจ้านายตนไปแล้ว

แต่ไม่ว่าความรักนั้นมันจะเกิดมาจากอะไร…นี่ก็แค่จุดเริ่มต้นของคำว่า ‘คนรัก’ เท่านั้นเอง

….100%….

จบบทส่งท้ายเป็นที่เรียบร้อยค่า สำหรับเรื่องนี้อาจจะเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไปหน่อย ก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่แย่จนเกินไป แล้วที่เราต้องขอโทษมากๆ เลยคือเราอัปนิยายช้ามาก มาๆ หายๆ ไม่สม่ำเสมอเลย ข้อนี้เราต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ขอบคุณทุกๆ คอมเมนต์ ขอบคุณทุกๆ ยอดวิวและการติดตามนะคะ ขอบคุณค่า

เจอกันอีกทีเรื่องหน้านะคะ เลิฟๆ
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 22-07-2019 19:52:33
 :pig4:
 :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 22-07-2019 21:21:40
ลุงช่วย 55555555555555555555
แฮพพิ่กันทุกฝ่าย  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-07-2019 21:24:26
 :L2: :3123: :L1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-07-2019 21:28:55
สุขสันต์กันถ้วนหน้าค่ะ เอ็นดูริทมาก
อะไรไม่ดีใจเท่าแม่ยินดีและกลับมาอยู่ด้วยกัน

คุณรันคือตัวร้ายที่มีความเนียนมาก
ไม่รู้ตอนไปขับรถจะล่อลวงอะไรริทไหม

พ่อแม่คุณรันน่ารักดีค่ะ เข้าใจง่าย และเอ็นดูริท
รักลูกแบบเข้าใจด้วย ไม่บังคับหรือตามใจ

ลุงช่วยเป็นคนส่งเนื้อเข้าปากเสือไหมล่ะคะ 5555

ขอบคุณมากนะคะ มาช้าบ้างไม่ว่ากัน แค่ไม่หายไปก็พอค่ะ
มีคำผิดเยอะอยู่นะคะตอนบทส่งท้าย กลับมาแก้ด้วยก็ดีน้า

เป็นกำลังใจให้นะคะ รอผลงานต่อไปจ้า

หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 22-07-2019 21:43:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 22-07-2019 23:18:27
นี่เป็นจุดเริ่มต้นของทั้งคู่ ไม่รู้ข้างหน้าจะเจออะไร ขอให้ประคับประคองกันผ่านอุปสรรคไปได้ด้วยดี เพราะมีครอบครัวที่เข้าใจ ขอให้มีความสุขนะน้องริท

ลุงช่วยคงต้องทำใจอีกสักพักใหญ่อ่ะนะ.  o18
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-07-2019 01:28:20
เดินเคียงข้างกันไปนาน ๆ นะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 23-07-2019 11:43:14
 o18 ลุงต้องดีใจ เด็กปั้นลุงได้ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 23-07-2019 12:32:16
ลงเอยกันแน้ววววววววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-07-2019 22:36:39
 :mew1: :mew1: :3123: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 29-07-2019 22:29:27
ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ
ริทน่ารักมากเลย ขอให้ทั้งสองคนรักกันไปนานๆ 555

หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 04-08-2019 15:18:50
สนุกดีค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 04-08-2019 20:54:04
 :pig4: :pig4: :L2: ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 05-08-2019 20:29:29
น้องริทได้มีความสุขแล้ว  :mc4: :mc4:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: BM_CBC ที่ 19-10-2019 02:46:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ❤️ Limo Boy ❤️ ตอนที่ บทส่งท้าย - 100% [22-07-62]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 09:25:20
 :pig4: